• โฆษกอัยการสูงสุด แถลงสั่งฟ้อง ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก 17 ราย แต่สั่งไม่ฟ้อง แซม ยุรนันท์ - มีน พีชญา ดาราสาว เหตุพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอ ส่งอธ.ดีเอสไอเห็นแย้งหรือไม่
    .
    วันนี้ (8 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงข่าวว่า ตามที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 คดีระหว่าง นายณัฏฐ์ ธนาพิพัฒน์ดลภัค กับพวก ผู้กล่าวหาบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด โดยนายวรัตน์พล วรัทย์รกุล ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวกรวม 19 คน ข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรง ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการใน ลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าวซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต" เหตุเกิดระหว่างวันที่ 12 สิงหาคม 2563 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ใน ท้องที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร และหลายท้องที่ทั่วราชอาณาจักรต่อเนื่องกัน คิดเป็นค่าเสียหายรวมประมาณ 649,912,290 บาท นั้น
    .
    เนื่องจากคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมากและเป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ ถือเป็นคดีสำคัญตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด จึงได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานร่วมกันพิจารณา บัดนี้สำนักงานคดีพิเศษได้พิจารณาสำนวนดังกล่าวแล้วมีความเห็นและคำสั่ง ดังนี้
    .
    1. สั่งฟ้อง บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด โดยนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล กรรมการผู้มีอำนาจ ผู้ต้องหาที่ 1,นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้ต้องหาที่ 2, นายจิระวัฒน์ แสงภักดี หรือบอสแล็ป ผู้ต้องหาที่ 3,นายกลด เศรษฐนันท์ หรือบอสปีเตอร์ ผู้ต้องหาที่ 4, น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือบอสปัน ผู้ต้องหาที่ 5,นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ หรือบอสหมอเอก ผูตองหาที่ 6, น.สนัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ หรือบอสสวย ผู้ต้องหาที่ 7,น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกชิสนุพงศ์ หรือบอสโซดา ผู้ตองหาที่ 8, นายนันทธรัฐ เชาวนปรีชา หรือบอสโอม ผู้ต้องหาที่ 9,นายธวิณทรภัส ภูพัฒนรินทร์ หรือบอสวิน ผูตองหาที่ 10, น.ส.กนกธร ปูรณะสุคนธ์ หรือบอสแม่หญิง ผู้ต้องหาที่ 11,น.ส.เสาวภา วงษ์สาขา หรือบอสอูมมี ผู้ต้องหาที่ 12, นายเชษฐ์ณภัฏ อภิพัฒนกานต์ หรือบอสทอมมี่ ผู้ต้องหาที่ 13,นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ หรือบอสป๊อบ ผู้ต้องหาที่ 14, นางวิไลลักษณ์ ยาวิชัย หรือบอสจอย ผู้ต้องหาที่ 15,นายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์ หรือบอสออฟ ผู้ต้องหาที่ 16 และนายกันต์ กันตถาวร หรือบอสกันต์ ผู้ต้องหาที่ 19ตามข้อกล่าวหา
    .
    ฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็ง โดยประการ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบ ธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าวซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต" ตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 19, 20, 38, 46, 47, 54, พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 มาตรา 3, 6, 18, 23 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91, 341, 343 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติแก้ไขเพามเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4 พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527มาตรา 3, 4, 5, 9, 11/1, 12, 15 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนพ.ศ. 2534 มาตรา 3 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (ฉบับที่ 2)
    พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 4, 5 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวกับความรับผิดในทางอาญาของ ผู้แทนนิติบุคคล พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 8 ตามความเห็นพนักงานสอบสวน
    .
    2. สั่งไม่ฟ้อง นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือบอสแชม ผู้ต้องหาที่ 17 และ น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือบอสมีน ผู้ต้องหาที่ 18 ตามข้อกล่าวหา ฐาน "ร่วมกันน้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้า สู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรง ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นโดยผ่าฝืนต่อกฎหมาย, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต" ตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 19, 20, 38, 46, 47, 54,พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 มาตรา 3, 6, 18, 23 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91, 341, 343 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4พระราชบัญญัติแก่ไขเพามเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4 พระราชกำหนดการกูยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 3, 4, 5, 9, 11/1, 12, 15 พระราชบัญญัติแก่ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2534 มาตรา 3 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการ กูยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 4, 5 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวกับความรับผิดในทางอาญาของผู้แทนนิติบุคคล พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติวาด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 8 แย้งความเห็นพนักงานสอบสวนผู้ต้องหาที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ มีคำสั่งฟ้องตามความเห็นของพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ จะได้ดำเนินการยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 17 ต่อศาลอาญาใน วันนี้
    .
    ส่วนผู้ต้องหาที่ 17 และ 18 ซึ่งพนักงานอัยการสำนักคดีพิเศษ มีคำสั่งไม่ฟ้องนั้น พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ จะได้ดำเนินการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวผู้ต้องหาต่อศาลอาญาและจะดำเนินการส่งสำนวนพร้อมความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้องไปยังอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาว่าจะมีความเห็นแย้งในคำสั่งไม่ฟ้องหรือไม่ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ต่อไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000002167
    .........
    Sondhi X
    โฆษกอัยการสูงสุด แถลงสั่งฟ้อง ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก 17 ราย แต่สั่งไม่ฟ้อง แซม ยุรนันท์ - มีน พีชญา ดาราสาว เหตุพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอ ส่งอธ.ดีเอสไอเห็นแย้งหรือไม่ . วันนี้ (8 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงข่าวว่า ตามที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 คดีระหว่าง นายณัฏฐ์ ธนาพิพัฒน์ดลภัค กับพวก ผู้กล่าวหาบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด โดยนายวรัตน์พล วรัทย์รกุล ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวกรวม 19 คน ข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรง ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการใน ลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าวซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต" เหตุเกิดระหว่างวันที่ 12 สิงหาคม 2563 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ใน ท้องที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร และหลายท้องที่ทั่วราชอาณาจักรต่อเนื่องกัน คิดเป็นค่าเสียหายรวมประมาณ 649,912,290 บาท นั้น . เนื่องจากคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมากและเป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ ถือเป็นคดีสำคัญตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด จึงได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานร่วมกันพิจารณา บัดนี้สำนักงานคดีพิเศษได้พิจารณาสำนวนดังกล่าวแล้วมีความเห็นและคำสั่ง ดังนี้ . 1. สั่งฟ้อง บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด โดยนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล กรรมการผู้มีอำนาจ ผู้ต้องหาที่ 1,นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้ต้องหาที่ 2, นายจิระวัฒน์ แสงภักดี หรือบอสแล็ป ผู้ต้องหาที่ 3,นายกลด เศรษฐนันท์ หรือบอสปีเตอร์ ผู้ต้องหาที่ 4, น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือบอสปัน ผู้ต้องหาที่ 5,นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ หรือบอสหมอเอก ผูตองหาที่ 6, น.สนัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ หรือบอสสวย ผู้ต้องหาที่ 7,น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกชิสนุพงศ์ หรือบอสโซดา ผู้ตองหาที่ 8, นายนันทธรัฐ เชาวนปรีชา หรือบอสโอม ผู้ต้องหาที่ 9,นายธวิณทรภัส ภูพัฒนรินทร์ หรือบอสวิน ผูตองหาที่ 10, น.ส.กนกธร ปูรณะสุคนธ์ หรือบอสแม่หญิง ผู้ต้องหาที่ 11,น.ส.เสาวภา วงษ์สาขา หรือบอสอูมมี ผู้ต้องหาที่ 12, นายเชษฐ์ณภัฏ อภิพัฒนกานต์ หรือบอสทอมมี่ ผู้ต้องหาที่ 13,นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ หรือบอสป๊อบ ผู้ต้องหาที่ 14, นางวิไลลักษณ์ ยาวิชัย หรือบอสจอย ผู้ต้องหาที่ 15,นายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์ หรือบอสออฟ ผู้ต้องหาที่ 16 และนายกันต์ กันตถาวร หรือบอสกันต์ ผู้ต้องหาที่ 19ตามข้อกล่าวหา . ฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็ง โดยประการ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบ ธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าวซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต" ตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 19, 20, 38, 46, 47, 54, พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 มาตรา 3, 6, 18, 23 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91, 341, 343 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติแก้ไขเพามเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4 พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527มาตรา 3, 4, 5, 9, 11/1, 12, 15 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนพ.ศ. 2534 มาตรา 3 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 4, 5 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวกับความรับผิดในทางอาญาของ ผู้แทนนิติบุคคล พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 8 ตามความเห็นพนักงานสอบสวน . 2. สั่งไม่ฟ้อง นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือบอสแชม ผู้ต้องหาที่ 17 และ น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือบอสมีน ผู้ต้องหาที่ 18 ตามข้อกล่าวหา ฐาน "ร่วมกันน้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้า สู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรง ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นโดยผ่าฝืนต่อกฎหมาย, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต" ตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 19, 20, 38, 46, 47, 54,พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 มาตรา 3, 6, 18, 23 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91, 341, 343 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4พระราชบัญญัติแก่ไขเพามเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4 พระราชกำหนดการกูยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 3, 4, 5, 9, 11/1, 12, 15 พระราชบัญญัติแก่ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2534 มาตรา 3 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการ กูยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 4, 5 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวกับความรับผิดในทางอาญาของผู้แทนนิติบุคคล พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติวาด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 8 แย้งความเห็นพนักงานสอบสวนผู้ต้องหาที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ มีคำสั่งฟ้องตามความเห็นของพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ จะได้ดำเนินการยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 17 ต่อศาลอาญาใน วันนี้ . ส่วนผู้ต้องหาที่ 17 และ 18 ซึ่งพนักงานอัยการสำนักคดีพิเศษ มีคำสั่งไม่ฟ้องนั้น พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ จะได้ดำเนินการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวผู้ต้องหาต่อศาลอาญาและจะดำเนินการส่งสำนวนพร้อมความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้องไปยังอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาว่าจะมีความเห็นแย้งในคำสั่งไม่ฟ้องหรือไม่ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ต่อไป . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000002167 ......... Sondhi X
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1030 มุมมอง 0 รีวิว
  • อธิบดีดีเอสไอ เผยที่ประชุมมีมติแจ้ง 4 ข้อหา กลุ่มบอส "ดิไอคอน" ฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน-แชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.คอมฯ-พ.ร.บ.ขายตรง ส่งสำนวนอัยการ 23 ธ.ค.67

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000122192

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    อธิบดีดีเอสไอ เผยที่ประชุมมีมติแจ้ง 4 ข้อหา กลุ่มบอส "ดิไอคอน" ฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน-แชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.คอมฯ-พ.ร.บ.ขายตรง ส่งสำนวนอัยการ 23 ธ.ค.67 อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000122192 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 858 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขีดเส้น สคบ.30 วัน เร่งเพิกถอนใบอนุญาต ธุรกิจขายตรง 'ดิ ไอคอน'
    .
    ความคืบหน้าในการตรวจสอบการกระทำผิดของบริษัท ดิ ไอคอน มีความคืบหน้าเป็นระยะ โดยเวลานี้มีเสียงวิจารณ์ว่าเหตุใดหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องจึงยังไม่ดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจของบริษัทดังกล่าว ทำให้ในเรื่องนี้นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า เวลานี้ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือ (สคบ.) แสวงหาข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาว่าสมควรถอนใบอนุญาตหรือไม่ ซึ่ง บริษัทดิไอคอนจดทะเบียบแบบขายตรง การถอนใบอนุญาตต้องทำด้วยความรัดกุม และให้ความเป็นธรรม
    .
    "ที่ผ่านมาได้เข้าพิจารณาอนุฯกรรมการข้อกฎหมายของ สคบ. และมีมติเมื่อวันที่ 25 ต.ค. ให้หารือคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งช่วงระหว่างนั้น สคบ. ทำงานร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ สำนักงานเศรษฐกิจการคลังและพอมีการแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่เพิ่มเติม สคบ.จึงนำข้อมูลไปให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะประชุมเรื่องดังกล่าวในวันที่ 20 พ.ย. ซึ่งเราจะรอฟังข้อสรุป รวมถึงนำมาประกอบการดำเนินคดีต่อไป ส่วนคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ทำงานครบกำหนด 30 วันแล้วแต่เเพื่อให้เกิดความรัดกุมมากที่่สุด จึงขยายเวลาเพิ่มเติม 30 วัน"
    .
    ขณะเดียวกัน ในส่วนของกรณีที่มีคลิปเสียงสนทนาระหว่างชายหญิง ที่มีการอ้างว่าเคยจ่ายเงิน 10 ล้านบาท แก่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ผ่านทนายความคนกลาง เพื่อเป็นค่าดำเนินการทางคดีนั้น พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยว่า ผู้แทนดีเอสไอ รับมอบหลักฐานคลิปเสียงสนทนาดังกล่าวแล้ว จากนั้นจะได้นำส่งคลิปเสียงเข้ากระบวนการตรวจพิสูจน์โดยผู้เชี่ยวชาญของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และภายหลังจากได้ข้อมูลแล้วจะประสานทัณฑสถานหญิงกลาง เข้าไปสอบสวนปากคำผู้ต้องหา ทั้งนี้ต้องก่อนบอสพอล ก็เพราะว่าเจ้าตัวเป็นคนพูดประโยคดังกล่าว รวมทั้งพนักงานสอบสวนจะได้สอบประเด็นอื่น ๆ คู่ขนานไปด้วยให้เร็วที่สุด
    .
    พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ส่วนการเตรียมเข้าไปสอบสวนปากคำเพิ่มเติมแก่บรรดา 11 บอสชายภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในวันที่ 20-21 พ.ย. เนื่องมาจากครั้งที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้เข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนปากคำ แต่ทางผู้ต้องหาผู้ชายไม่ได้มีการให้การใด ๆ โดยประสงค์ขอยื่นเป็นเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน และขอยื่นบัญชีรายชื่อพยานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองแทนเท่านั้น
    ..............
    Sondhi X
    ขีดเส้น สคบ.30 วัน เร่งเพิกถอนใบอนุญาต ธุรกิจขายตรง 'ดิ ไอคอน' . ความคืบหน้าในการตรวจสอบการกระทำผิดของบริษัท ดิ ไอคอน มีความคืบหน้าเป็นระยะ โดยเวลานี้มีเสียงวิจารณ์ว่าเหตุใดหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องจึงยังไม่ดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจของบริษัทดังกล่าว ทำให้ในเรื่องนี้นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า เวลานี้ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือ (สคบ.) แสวงหาข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาว่าสมควรถอนใบอนุญาตหรือไม่ ซึ่ง บริษัทดิไอคอนจดทะเบียบแบบขายตรง การถอนใบอนุญาตต้องทำด้วยความรัดกุม และให้ความเป็นธรรม . "ที่ผ่านมาได้เข้าพิจารณาอนุฯกรรมการข้อกฎหมายของ สคบ. และมีมติเมื่อวันที่ 25 ต.ค. ให้หารือคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งช่วงระหว่างนั้น สคบ. ทำงานร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ สำนักงานเศรษฐกิจการคลังและพอมีการแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่เพิ่มเติม สคบ.จึงนำข้อมูลไปให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะประชุมเรื่องดังกล่าวในวันที่ 20 พ.ย. ซึ่งเราจะรอฟังข้อสรุป รวมถึงนำมาประกอบการดำเนินคดีต่อไป ส่วนคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ทำงานครบกำหนด 30 วันแล้วแต่เเพื่อให้เกิดความรัดกุมมากที่่สุด จึงขยายเวลาเพิ่มเติม 30 วัน" . ขณะเดียวกัน ในส่วนของกรณีที่มีคลิปเสียงสนทนาระหว่างชายหญิง ที่มีการอ้างว่าเคยจ่ายเงิน 10 ล้านบาท แก่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ผ่านทนายความคนกลาง เพื่อเป็นค่าดำเนินการทางคดีนั้น พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยว่า ผู้แทนดีเอสไอ รับมอบหลักฐานคลิปเสียงสนทนาดังกล่าวแล้ว จากนั้นจะได้นำส่งคลิปเสียงเข้ากระบวนการตรวจพิสูจน์โดยผู้เชี่ยวชาญของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และภายหลังจากได้ข้อมูลแล้วจะประสานทัณฑสถานหญิงกลาง เข้าไปสอบสวนปากคำผู้ต้องหา ทั้งนี้ต้องก่อนบอสพอล ก็เพราะว่าเจ้าตัวเป็นคนพูดประโยคดังกล่าว รวมทั้งพนักงานสอบสวนจะได้สอบประเด็นอื่น ๆ คู่ขนานไปด้วยให้เร็วที่สุด . พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ส่วนการเตรียมเข้าไปสอบสวนปากคำเพิ่มเติมแก่บรรดา 11 บอสชายภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในวันที่ 20-21 พ.ย. เนื่องมาจากครั้งที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้เข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนปากคำ แต่ทางผู้ต้องหาผู้ชายไม่ได้มีการให้การใด ๆ โดยประสงค์ขอยื่นเป็นเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน และขอยื่นบัญชีรายชื่อพยานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองแทนเท่านั้น .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1451 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลายเป็นประเด็นในโลกออนไลน์ หลังจากที่ “อุ๋ย บุดดาเบลส” นที เอกวิจิตร ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่าเพิ่งรู้ว่า “8 ปีที่แล้วคนที่ร้องเรียนให้ผมเปลี่ยนชื่อเพลงเพื่อนหายเพราะขายตรงก็คือเจ๊พัชนี่เอง มิน่าหน้าโคตรคุ้น”

    อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ (18 พ.ย.) รายการกรรมกรข่าวนอกจอ โดย “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” และ “ไบรท์ พัชญทัฬห์” ได้เล่าย้อนไป เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 59 “อุ๋ย บุดดาเบลด” และเพื่อนสนิท “ซัว โปรโตซัว” ได้มาร้องเพลงโปรโมตในรายการชื่อเพลงว่า “เพื่อนหายเพราะขายตรง” ซึ่งเนื้อหาเล่าเรื่องขายตรง เพื่อนหดหาย การปลุกใจ ชักชวนว่านั่งนับเงินจนตาลาย ขยันผิดที่ มาอยู่เครือข่ายเดียวกับพี่ จะได้ขับลัมโบกินี่ ได้เที่ยวเมืองนอกฟรีๆ ซึ่งเป็นเพลงเมื่อ 8 ปีก่อน

    โดยในตอนนั้นอุ๋ย ถูก “เจ๊พัช กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์” ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ ที่กำลังถูกออกหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ข้อหากรรโชกทรัพย์ และเป็นตัวกลางเรียกรับสินบน ถูกจับกุมตัวได้ที่บ้านพักย่านคลอง 5 จ.ปทุมธานี ซึ่งขณะนั้นอยู่ในแวดวงขายตรง ได้โพสต์เฟซบุ๊กฟาดทำนองว่าทำแบบนี้มันเสียหาย กระทบอาชีพขายตรง เข้าใจว่าเนื้อเพลงเปลี่ยนยาก แต่ขอเปลี่ยนชื่อเพลงได้ไหม ทุกอาชีพมีทั้งดีและไม่ดีถ้าจะแต่งเพลงเอ่ยอาชีพคนอื่น ช่วยแต่งมุมดีๆ ของขายตรงบ้าง รวมทั้งมีการประท้วงล่ารายชื่อเรียกร้องให้อุ๋ย หยุดด้อยค่าอาชีพขายตรง เพราะมีทั้งคนดีและไม่ดี

    ในเวลานั้น อุ๋ย ยังได้โพสต์เฟซบุ๊กขอบคุณ “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่ ที่ได้ให้กำลังใจ ส่วนเรื่องเปลี่ยนชื่อจะรับไปพิจารณา ส่วนที่ถูกเจ๊พัชด่าเลวให้อภัย ถ้าท้อเป็นแค่ถ่าน ถ้าผ่านได้ผมจะเป็นเพชร

    ซึ่งต่อมา อุ๋ย ก็ได้เปลี่ยนชื่อเพลงดังกล่าวเป็น “เพื่อนหายเพราะขายอ้อม” แทน ซึ่งสรยุทธเผยว่าโลกเราอะไรมันจะกลมขนาดนี้ ยกให้เป็นผู้มาก่อนกาลเลยทีเดียว

    #MGROnline #อุ๋ยบุดดาเบลส #เจ๊พัช
    กลายเป็นประเด็นในโลกออนไลน์ หลังจากที่ “อุ๋ย บุดดาเบลส” นที เอกวิจิตร ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่าเพิ่งรู้ว่า “8 ปีที่แล้วคนที่ร้องเรียนให้ผมเปลี่ยนชื่อเพลงเพื่อนหายเพราะขายตรงก็คือเจ๊พัชนี่เอง มิน่าหน้าโคตรคุ้น” • อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ (18 พ.ย.) รายการกรรมกรข่าวนอกจอ โดย “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” และ “ไบรท์ พัชญทัฬห์” ได้เล่าย้อนไป เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 59 “อุ๋ย บุดดาเบลด” และเพื่อนสนิท “ซัว โปรโตซัว” ได้มาร้องเพลงโปรโมตในรายการชื่อเพลงว่า “เพื่อนหายเพราะขายตรง” ซึ่งเนื้อหาเล่าเรื่องขายตรง เพื่อนหดหาย การปลุกใจ ชักชวนว่านั่งนับเงินจนตาลาย ขยันผิดที่ มาอยู่เครือข่ายเดียวกับพี่ จะได้ขับลัมโบกินี่ ได้เที่ยวเมืองนอกฟรีๆ ซึ่งเป็นเพลงเมื่อ 8 ปีก่อน • โดยในตอนนั้นอุ๋ย ถูก “เจ๊พัช กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์” ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ ที่กำลังถูกออกหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ข้อหากรรโชกทรัพย์ และเป็นตัวกลางเรียกรับสินบน ถูกจับกุมตัวได้ที่บ้านพักย่านคลอง 5 จ.ปทุมธานี ซึ่งขณะนั้นอยู่ในแวดวงขายตรง ได้โพสต์เฟซบุ๊กฟาดทำนองว่าทำแบบนี้มันเสียหาย กระทบอาชีพขายตรง เข้าใจว่าเนื้อเพลงเปลี่ยนยาก แต่ขอเปลี่ยนชื่อเพลงได้ไหม ทุกอาชีพมีทั้งดีและไม่ดีถ้าจะแต่งเพลงเอ่ยอาชีพคนอื่น ช่วยแต่งมุมดีๆ ของขายตรงบ้าง รวมทั้งมีการประท้วงล่ารายชื่อเรียกร้องให้อุ๋ย หยุดด้อยค่าอาชีพขายตรง เพราะมีทั้งคนดีและไม่ดี • ในเวลานั้น อุ๋ย ยังได้โพสต์เฟซบุ๊กขอบคุณ “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่ ที่ได้ให้กำลังใจ ส่วนเรื่องเปลี่ยนชื่อจะรับไปพิจารณา ส่วนที่ถูกเจ๊พัชด่าเลวให้อภัย ถ้าท้อเป็นแค่ถ่าน ถ้าผ่านได้ผมจะเป็นเพชร • ซึ่งต่อมา อุ๋ย ก็ได้เปลี่ยนชื่อเพลงดังกล่าวเป็น “เพื่อนหายเพราะขายอ้อม” แทน ซึ่งสรยุทธเผยว่าโลกเราอะไรมันจะกลมขนาดนี้ ยกให้เป็นผู้มาก่อนกาลเลยทีเดียว • #MGROnline #อุ๋ยบุดดาเบลส #เจ๊พัช
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 597 มุมมอง 0 รีวิว
  • สรุปคดี “ตั๊กเบียร์” บริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด 1. ความคืบหน้าคดี • สำนักงานอัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องบริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด กับพวกในหลายข้อหา โดยพนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 2. ข้อกล่าวหาสำคัญ • ฉ้อโกงประชาชน • นำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย • โฆษณาหลอกลวง สร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสินค้า • ขายสินค้าควบคุมฉลากโดยไม่มีฉลากหรือฉลากผิดกฎหมาย • ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต 3. ฐานความผิดตามกฎหมาย • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343, 83, 91 • พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1) • พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 22, 30, 47, 52 • พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 27, 47 4. ข้อหาไม่ฟ้อง • ขายของโดยหลอกลวงให้เข้าใจผิดในแหล่งกำเนิดหรือคุณภาพ (มาตรา 271) 5. ขั้นตอนต่อไป • ยื่นฟ้องต่อศาลอาญา • สำหรับข้อหาที่สั่งไม่ฟ้อง จะเสนอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตรวจสอบตามขั้นตอนคดีนี้สะท้อนถึงการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงผู้บริโภคและการละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคในรูปแบบธุรกิจ.
    สรุปคดี “ตั๊กเบียร์” บริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด 1. ความคืบหน้าคดี • สำนักงานอัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องบริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด กับพวกในหลายข้อหา โดยพนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 2. ข้อกล่าวหาสำคัญ • ฉ้อโกงประชาชน • นำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย • โฆษณาหลอกลวง สร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสินค้า • ขายสินค้าควบคุมฉลากโดยไม่มีฉลากหรือฉลากผิดกฎหมาย • ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต 3. ฐานความผิดตามกฎหมาย • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343, 83, 91 • พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1) • พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 22, 30, 47, 52 • พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 27, 47 4. ข้อหาไม่ฟ้อง • ขายของโดยหลอกลวงให้เข้าใจผิดในแหล่งกำเนิดหรือคุณภาพ (มาตรา 271) 5. ขั้นตอนต่อไป • ยื่นฟ้องต่อศาลอาญา • สำหรับข้อหาที่สั่งไม่ฟ้อง จะเสนอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตรวจสอบตามขั้นตอนคดีนี้สะท้อนถึงการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงผู้บริโภคและการละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคในรูปแบบธุรกิจ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 331 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษกอัยการ เผย สั่งฟ้อง "แม่ตั๊ก-ป๊าเบียร์" คดีไลฟ์"ขายทอง"ไม่ตรงปก ข้อหา ฉ้อโกงประชาชน -นำข้อมูลเท็จเข้าสู่คอมพิวเตอร์- โฆษณาโดยไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค ไม่มีฉลาก และประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่สั่งไม่ฟ้องข้อหาเดียว ร่วมกันขายของโดยหลอกลวง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000110096

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    โฆษกอัยการ เผย สั่งฟ้อง "แม่ตั๊ก-ป๊าเบียร์" คดีไลฟ์"ขายทอง"ไม่ตรงปก ข้อหา ฉ้อโกงประชาชน -นำข้อมูลเท็จเข้าสู่คอมพิวเตอร์- โฆษณาโดยไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค ไม่มีฉลาก และประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่สั่งไม่ฟ้องข้อหาเดียว ร่วมกันขายของโดยหลอกลวง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000110096 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Yay
    21
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1780 มุมมอง 0 รีวิว
  • “กรรชัย” เปิดอีกคลิปเสียงคล้ายนักร้องเรียนสาว คุยกับ “บอสพอล” อ้าง “รมต.น้ำ” ให้อำนาจคุม สคบ.ดูแลขายตรง โดยให้เงินพ่อตอบแทน ด้าน “จิราพร” ยันเท็จ 100% ให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมข้อมูลดำเนินคดี

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000109650

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “กรรชัย” เปิดอีกคลิปเสียงคล้ายนักร้องเรียนสาว คุยกับ “บอสพอล” อ้าง “รมต.น้ำ” ให้อำนาจคุม สคบ.ดูแลขายตรง โดยให้เงินพ่อตอบแทน ด้าน “จิราพร” ยันเท็จ 100% ให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมข้อมูลดำเนินคดี อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000109650 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Sad
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1707 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทนายบอสพอล" ระบุ 18 บอส "ดิไอคอน" ถูกดีเอสไอแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรง ในเรือนจำ ชี้แจงได้ มีหลักฐานยืนยัน เตรียมส่งคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรใน 15 วัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000108614

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ทนายบอสพอล" ระบุ 18 บอส "ดิไอคอน" ถูกดีเอสไอแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรง ในเรือนจำ ชี้แจงได้ มีหลักฐานยืนยัน เตรียมส่งคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรใน 15 วัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000108614 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Angry
    15
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1330 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนักใจ ข้อกล่าวหาแชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรงฯ (11/11/67) #news1 #ดิไอคอน #18บอส #แชร์ลูกโซ่ #ทนายบอสพอล
    หนักใจ ข้อกล่าวหาแชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรงฯ (11/11/67) #news1 #ดิไอคอน #18บอส #แชร์ลูกโซ่ #ทนายบอสพอล
    Like
    Haha
    Wow
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1011 มุมมอง 412 0 รีวิว
  • DSI แจ้งข้อหา18บอส แชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรงฯ (11/11/67) #news1 #เเจ้งข้อหา18บอส #ดิไอคอน #แชร์ลูกโซ่
    DSI แจ้งข้อหา18บอส แชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรงฯ (11/11/67) #news1 #เเจ้งข้อหา18บอส #ดิไอคอน #แชร์ลูกโซ่
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 955 มุมมอง 202 0 รีวิว
  • “รองอธิบดีดีเอสไอ“ นำคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 119/2567 เข้าเรือนจำฯ แจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรงฯ 18 บอส พร้อมประสานทนาย นำหลักฐานชี้แจง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000108417

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “รองอธิบดีดีเอสไอ“ นำคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 119/2567 เข้าเรือนจำฯ แจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรงฯ 18 บอส พร้อมประสานทนาย นำหลักฐานชี้แจง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000108417 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1149 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ร.ต.อ.สุรวุฒิ" เผยจัดพนักงานสอบสวน 18 ทีม เตรียมแจ้งข้อหา "แชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรงฯ" 18 บอสดิไอคอนในเรือนจำฯ 11 พ.ย.นี้ ยันมีผู้ต้องหามีสิทธิ์ชี้แจง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000107646

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ร.ต.อ.สุรวุฒิ" เผยจัดพนักงานสอบสวน 18 ทีม เตรียมแจ้งข้อหา "แชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรงฯ" 18 บอสดิไอคอนในเรือนจำฯ 11 พ.ย.นี้ ยันมีผู้ต้องหามีสิทธิ์ชี้แจง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000107646 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2105 มุมมอง 0 รีวิว
  • รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ เผย ประชุมร่วม บช.ก. ทำสำนวนคดีแชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรงฯ มีความรัดกุมและเป็นประโยชน์ แจงตามยึดที่ดิน 78 แปลง เกี่ยวข้องผู้บริหาร "ดิไอคอน"

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000107016

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ เผย ประชุมร่วม บช.ก. ทำสำนวนคดีแชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรงฯ มีความรัดกุมและเป็นประโยชน์ แจงตามยึดที่ดิน 78 แปลง เกี่ยวข้องผู้บริหาร "ดิไอคอน" อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000107016 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Yay
    10
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 2612 มุมมอง 0 รีวิว
  • 4 พฤศจิกายน 2567-พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะพนักงานสอบสวน มีการประชุมร่วมกันแล้ว มีมติเอกฉันท์เตรียมแจ้งข้อหาผู้ต้องหา 18 ราย ดิไอคอนกรุ๊ป คือบอส 18 คน และนิติบุคคล 1 ราย ข้อหาคือ ความผิดตาม พ.ร.ก.กู้ยืมเงินว่าด้วยการฉ้อโกงประชาชน หรือข้อหา แชร์ลูกโซ่ และความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรง

    โดยจะไปแจ้งข้อกล่าวหาภายในสัปดาห์นี้ต่อเนื่องสัปดาห์หน้า เพราะความพร้อมของทนายความผู้ต้องหาแต่ละคนไม่เท่ากัน ร่วมถึงพิจารณาจัดตั้งศูนย์ในการประกอบกำลังคดีนี้ให้เกิดประสิทธิภาพ โดยตั้งเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรัฐอื่นมาสอบปากคำด้วย และผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ในการดูงบดุล บัญชี และตั้งอัยการเป็นที่ปรึกษาด้วย ส่วนผู้ต้องหาล็อต 2 ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน

    ส่วนกรณีที่ ทนายบอสพอล อ้างว่า มีพยานกว่า 2,400 คน และอาจมากถึงหลักหมื่นคนนั้น ต้องสอบปากคำทั้งหมดหรือไม่นั้น พ.ต.ต.ยุทธนา ระบุว่า ก็คงต้องพิจารณาก่อนว่าเป็นพยานฝ่ายผู้ต้องหาหรือไม่ และต้องดูด้วยว่ามีประเด็นที่เราได้ข้อเท็จจริงหรือไม่ ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอบทั้งหมด

    #Thaitimes
    4 พฤศจิกายน 2567-พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะพนักงานสอบสวน มีการประชุมร่วมกันแล้ว มีมติเอกฉันท์เตรียมแจ้งข้อหาผู้ต้องหา 18 ราย ดิไอคอนกรุ๊ป คือบอส 18 คน และนิติบุคคล 1 ราย ข้อหาคือ ความผิดตาม พ.ร.ก.กู้ยืมเงินว่าด้วยการฉ้อโกงประชาชน หรือข้อหา แชร์ลูกโซ่ และความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรง โดยจะไปแจ้งข้อกล่าวหาภายในสัปดาห์นี้ต่อเนื่องสัปดาห์หน้า เพราะความพร้อมของทนายความผู้ต้องหาแต่ละคนไม่เท่ากัน ร่วมถึงพิจารณาจัดตั้งศูนย์ในการประกอบกำลังคดีนี้ให้เกิดประสิทธิภาพ โดยตั้งเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรัฐอื่นมาสอบปากคำด้วย และผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ในการดูงบดุล บัญชี และตั้งอัยการเป็นที่ปรึกษาด้วย ส่วนผู้ต้องหาล็อต 2 ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนกรณีที่ ทนายบอสพอล อ้างว่า มีพยานกว่า 2,400 คน และอาจมากถึงหลักหมื่นคนนั้น ต้องสอบปากคำทั้งหมดหรือไม่นั้น พ.ต.ต.ยุทธนา ระบุว่า ก็คงต้องพิจารณาก่อนว่าเป็นพยานฝ่ายผู้ต้องหาหรือไม่ และต้องดูด้วยว่ามีประเด็นที่เราได้ข้อเท็จจริงหรือไม่ ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอบทั้งหมด #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 550 มุมมอง 0 รีวิว
  • รรท.อธิบดีดีเอสไอ เผย ผลประชุมมีมติเอาผิด 18 บอส "ดิไอคอน" ข้อหาแชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรงฯ ส่วนฟอกเงินอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน

    วันนี้ (4 พ.ย.) เวลา 14.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 115/2567 และคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณีพิจารณาแจ้งข้อหา พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2560 กับผู้ต้องหาคดี "ดิไอคอน"

    พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวเปิดเผยหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า วันนี้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 119/2567 ได้ประชุมร่วมกันและมีมติเอกฉันท์เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย และนิติบุคคล 1 ราย ในความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 หรือแชร์ลูกโซ่ รวมทั้งความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2560 โดยจะแจ้งข้อกล่าวหาภายในสัปดาห์นี้และต่อเนื่องสัปดาห์ เพราะความพร้อมของผู้ต้องหาและทนายความแต่ละคนไม่เท่ากัน ทั้งนี้ ยังมีการพิจารณาจัดตั้งศูนย์เพื่อปฏิบัติหน้าที่และแบ่งมอบหมายงานเพิ่มประสิทธิภาพ และอาจมีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นมาร่วมสอบสวนด้วย ตาม ม.33 หรือ ตั้งที่ปรึกษาคดีพิเศษ ตาม ม.30 ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เรื่องงบดุล งบบัญชี รวมถึง แต่งตั้งอัยการเป็นที่ปรึกษาด้วย

    พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ในชั้นนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานต่อเนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งสำนวนมา รวมทั้งมีการสอบพยานเพิ่มเติมจนมีหลักฐานตามสมควร ผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย และนิติบุคคล 1 ราย เข้าข่ายการกระทำความผิดทั้ง 2 ข้อหาดังกล่าว ส่วนรายละเอียดผู้ต้องหาแต่ละบุคคลยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยบอสดาราแม้อาจจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับโครงการสร้างธุรกิจแต่ก็มีการแบ่งหน้าที่กันทำชัดเจน และแต่ละคนมีจุดประสงค์เดียวกันจึงเข้าความผิดตามองค์ประกอบ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000106265

    #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    รรท.อธิบดีดีเอสไอ เผย ผลประชุมมีมติเอาผิด 18 บอส "ดิไอคอน" ข้อหาแชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรงฯ ส่วนฟอกเงินอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน • วันนี้ (4 พ.ย.) เวลา 14.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 115/2567 และคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณีพิจารณาแจ้งข้อหา พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2560 กับผู้ต้องหาคดี "ดิไอคอน" • พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวเปิดเผยหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า วันนี้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 119/2567 ได้ประชุมร่วมกันและมีมติเอกฉันท์เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย และนิติบุคคล 1 ราย ในความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 หรือแชร์ลูกโซ่ รวมทั้งความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2560 โดยจะแจ้งข้อกล่าวหาภายในสัปดาห์นี้และต่อเนื่องสัปดาห์ เพราะความพร้อมของผู้ต้องหาและทนายความแต่ละคนไม่เท่ากัน ทั้งนี้ ยังมีการพิจารณาจัดตั้งศูนย์เพื่อปฏิบัติหน้าที่และแบ่งมอบหมายงานเพิ่มประสิทธิภาพ และอาจมีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นมาร่วมสอบสวนด้วย ตาม ม.33 หรือ ตั้งที่ปรึกษาคดีพิเศษ ตาม ม.30 ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เรื่องงบดุล งบบัญชี รวมถึง แต่งตั้งอัยการเป็นที่ปรึกษาด้วย • พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ในชั้นนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานต่อเนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งสำนวนมา รวมทั้งมีการสอบพยานเพิ่มเติมจนมีหลักฐานตามสมควร ผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย และนิติบุคคล 1 ราย เข้าข่ายการกระทำความผิดทั้ง 2 ข้อหาดังกล่าว ส่วนรายละเอียดผู้ต้องหาแต่ละบุคคลยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยบอสดาราแม้อาจจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับโครงการสร้างธุรกิจแต่ก็มีการแบ่งหน้าที่กันทำชัดเจน และแต่ละคนมีจุดประสงค์เดียวกันจึงเข้าความผิดตามองค์ประกอบ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000106265 • #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 686 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลเร่งสอบเทวดาสคบ. ขีดเส้นขอเวลา 30 วัน พร้อมจัดการคนผิด
    .
    ท่ามกลางความสนใจของสังคมที่มีต่อกรณีของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด มีอีกเรื่องหนึ่งที่เกือบลืมไปแล้ว คือ กรณีของผู้บริหารระดับสูงในสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเรียกรับประโยชน์ หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า เทวดาสคบ. ปรากฎว่าในที่ประชุมวุฒิสภาได้มีการตั้งกระทู้สอบถามถึงความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว โดยมีนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาเป็นผู้ตอบคำถาม
    .
    นายสุนทร พฤกษพิพัฒน์ ส.ว.ในฐานะผู้เสนอกระทู้ได้อภิปรายและสอบถามว่า ในกรณีดิไอคอน ล่าสุดนี้ มีคำว่าเทวดา ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเทวดาตบทรัพย์หรืออย่างไร หรือเป็นซาตาน ผีปอบ สุดท้ายเราไม่รู้ว่าเทวดาจะหนีรอดอีกหรือไม่ มาจนถึงพระ หลอกลงทุนไปที่แชร์แครอท ต้องบอกว่าถึงเวลาที่จริงจังหรือยัง ทำอย่างไรไม่ให้เกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้นมา ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดขึ้นมาแล้วไปไล่จับ ทุกกรณีมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง มีคนมีศักดิ์มีศรีเข้าไปเกี่ยวข้อง รัฐบาลมีวิธีการจัดการอย่างไร เทวดามีจริงหรือไม่ และมีแนวทางการป้องกันก่อนเกิดเหตุอย่างไร
    .
    นางสาวจิราพร ชี้แจงว่า นายกฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง โดยได้มีข้อสั่งการถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน เพื่อช่วยเร่งสางปมคดีที่เกิดขึ้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้เปิดศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา เปิดให้ทุก สน.รับแจ้งข้อหา ได้ระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ช่วยร่วมสนับสนุนข้อมูลให้สอบสวนโดยเร็ว ส่วนเรื่องเทวดา สคบ.นั้น ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยมีการเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่ามีกรณีนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ มีการปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ ได้เสนอเรื่องไปยังนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลอยู่ ซึ่งได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง
    .
    "ถ้าท่านดูไทม์ไลน์ จะเห็นว่าใช้ระยะเวลาไม่ถึง 1 อาทิตย์ ในการตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ ซึ่งตามโครงสร้างของคณะกรรมการนี้จะเห็นได้ว่าเป็นคนนอกทั้งหมด เราไม่ได้ให้คนในตรวจกันเอง เราใช้กรรมการจากคนนอกที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะอาญาเข้ามาอยู่ในโครงสร้าง มีทั้งตัวแทน อัยการ ปปง. ดีเอสไอ ตร. เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายมากที่สุด ระหว่างกรอบเวลาที่จะสืบหาข้อเท็จจริงนี้ 30 วัน และคณะกรรมการก็ประชุมทันที โดยคณะกรรมการชุดนี้ยังตั้งอนุกรรมการขึ้นมา 2 คณะ ได้แก่ คณะในการสืบหาข้อเท็จจริง และคณะที่ศึกษาปัญหาข้อจำกัดในการทำธุรกิจขายตรงหรือแบบตรง ซึ่งจะเข้ามาดูตั้งแต่ขั้นตอนการขอใบอนุญาต ข้อบังคับต่างๆ" นางสาวจิราพร กล่าว
    .......
    Sondhi X
    รัฐบาลเร่งสอบเทวดาสคบ. ขีดเส้นขอเวลา 30 วัน พร้อมจัดการคนผิด . ท่ามกลางความสนใจของสังคมที่มีต่อกรณีของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด มีอีกเรื่องหนึ่งที่เกือบลืมไปแล้ว คือ กรณีของผู้บริหารระดับสูงในสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเรียกรับประโยชน์ หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า เทวดาสคบ. ปรากฎว่าในที่ประชุมวุฒิสภาได้มีการตั้งกระทู้สอบถามถึงความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว โดยมีนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาเป็นผู้ตอบคำถาม . นายสุนทร พฤกษพิพัฒน์ ส.ว.ในฐานะผู้เสนอกระทู้ได้อภิปรายและสอบถามว่า ในกรณีดิไอคอน ล่าสุดนี้ มีคำว่าเทวดา ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเทวดาตบทรัพย์หรืออย่างไร หรือเป็นซาตาน ผีปอบ สุดท้ายเราไม่รู้ว่าเทวดาจะหนีรอดอีกหรือไม่ มาจนถึงพระ หลอกลงทุนไปที่แชร์แครอท ต้องบอกว่าถึงเวลาที่จริงจังหรือยัง ทำอย่างไรไม่ให้เกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้นมา ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดขึ้นมาแล้วไปไล่จับ ทุกกรณีมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง มีคนมีศักดิ์มีศรีเข้าไปเกี่ยวข้อง รัฐบาลมีวิธีการจัดการอย่างไร เทวดามีจริงหรือไม่ และมีแนวทางการป้องกันก่อนเกิดเหตุอย่างไร . นางสาวจิราพร ชี้แจงว่า นายกฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง โดยได้มีข้อสั่งการถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน เพื่อช่วยเร่งสางปมคดีที่เกิดขึ้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้เปิดศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา เปิดให้ทุก สน.รับแจ้งข้อหา ได้ระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ช่วยร่วมสนับสนุนข้อมูลให้สอบสวนโดยเร็ว ส่วนเรื่องเทวดา สคบ.นั้น ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยมีการเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่ามีกรณีนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ มีการปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ ได้เสนอเรื่องไปยังนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลอยู่ ซึ่งได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง . "ถ้าท่านดูไทม์ไลน์ จะเห็นว่าใช้ระยะเวลาไม่ถึง 1 อาทิตย์ ในการตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ ซึ่งตามโครงสร้างของคณะกรรมการนี้จะเห็นได้ว่าเป็นคนนอกทั้งหมด เราไม่ได้ให้คนในตรวจกันเอง เราใช้กรรมการจากคนนอกที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะอาญาเข้ามาอยู่ในโครงสร้าง มีทั้งตัวแทน อัยการ ปปง. ดีเอสไอ ตร. เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายมากที่สุด ระหว่างกรอบเวลาที่จะสืบหาข้อเท็จจริงนี้ 30 วัน และคณะกรรมการก็ประชุมทันที โดยคณะกรรมการชุดนี้ยังตั้งอนุกรรมการขึ้นมา 2 คณะ ได้แก่ คณะในการสืบหาข้อเท็จจริง และคณะที่ศึกษาปัญหาข้อจำกัดในการทำธุรกิจขายตรงหรือแบบตรง ซึ่งจะเข้ามาดูตั้งแต่ขั้นตอนการขอใบอนุญาต ข้อบังคับต่างๆ" นางสาวจิราพร กล่าว ....... Sondhi X
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1172 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทนายรัชพล ศิริสาคร เผย ไม่หนักใจกระแสข่าว ทนายตั้มเรียกรัยเงินบอสพอล ชี้ เป็นเรื่องปกติ ทนายเรียกเงินให้ลูกความ แคลงใจ ทำไมตำรวจไม่ตั้งข้อหา แชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรง

    วันนี้ (28 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทนายรัชพล ศิริสาคร เปิดใจถึงกรณีกระแสข่าวทนายต้้มเรียกรับเงินบอสพอล ว่า เบื้องต้นตนไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน มาทราบอีกทีเมื่อมีข่าว แต่ถึงอย่างไรพอทราบเรื่อง ก็ไม่ได้รู้สึกตกใจ หรือคิดอะไรมาก เพราะทราบว่าเป็นการเรียกเงินเพื่อนำมาให้ผู้เสียหาย เพราะว่ามันเป็นการทำงานของทนายความในการที่จะไกล่เกลี่ยให้คู่กรณีสามารถที่จะตกลงกันได้ หรือว่าชดใช้ค่าเสียหายเป็นเรื่องปกติ แต่ว่าถ้าเกินกว่านี้ก็ต้องดูเป็นเป็นรายละเอียดไป

    และสำหรับประเด็นตอนที่ทนายตั้ม ประสานมาช่วยงาน ตอนนั้นตนอยู่ต่างประเทศ ก็ได้รับการประสานจากทนายตั้ม พอเดินทางกลับมาจากต่างประเทศก็ได้เดินทางไปช่วยทันที เพราะทนายตั้มแจ้งว่าเป็นเคสใหญ่ มีผู้เสียหายกว่า 100 คน จึงได้ไปช่วยดูแลให้คำแนะนำผู้เสียหายว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปบ้าง

    ทนายรัชพล ยังบอกอีกว่า มีประเด็นที่น่ากังวลใจ คือ เรื่องการแจ้งข้อกล่าวหา บอสแต่ละคนซึ่งมีการแจ้งข้อกล่าวหา ข้อหาฉ้อโกง ประชาชน และข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งแต่ละบอสออกมาแถลงข่าวว่าตนเองเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์ แต่เมื่อใดถ้าเกิดขึ้นศาล แล้วพิสูจน์ทราบได้ว่าเป็นบอสจริง ก็อาจจะหลุดข้อหาได้ และตั้งข้อสงสัยว่าทำไมกรณีนี้เจ้าหน้าที่ไม่ตั้งข้อหาเอาผิดเรื่อง แชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ขายตรง ซึ่งเป็นประเด็นที่เห็นชัดอยู่แล้ว

    #MGROnline #ทนายรัชพล #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    ทนายรัชพล ศิริสาคร เผย ไม่หนักใจกระแสข่าว ทนายตั้มเรียกรัยเงินบอสพอล ชี้ เป็นเรื่องปกติ ทนายเรียกเงินให้ลูกความ แคลงใจ ทำไมตำรวจไม่ตั้งข้อหา แชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรง • วันนี้ (28 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทนายรัชพล ศิริสาคร เปิดใจถึงกรณีกระแสข่าวทนายต้้มเรียกรับเงินบอสพอล ว่า เบื้องต้นตนไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน มาทราบอีกทีเมื่อมีข่าว แต่ถึงอย่างไรพอทราบเรื่อง ก็ไม่ได้รู้สึกตกใจ หรือคิดอะไรมาก เพราะทราบว่าเป็นการเรียกเงินเพื่อนำมาให้ผู้เสียหาย เพราะว่ามันเป็นการทำงานของทนายความในการที่จะไกล่เกลี่ยให้คู่กรณีสามารถที่จะตกลงกันได้ หรือว่าชดใช้ค่าเสียหายเป็นเรื่องปกติ แต่ว่าถ้าเกินกว่านี้ก็ต้องดูเป็นเป็นรายละเอียดไป • และสำหรับประเด็นตอนที่ทนายตั้ม ประสานมาช่วยงาน ตอนนั้นตนอยู่ต่างประเทศ ก็ได้รับการประสานจากทนายตั้ม พอเดินทางกลับมาจากต่างประเทศก็ได้เดินทางไปช่วยทันที เพราะทนายตั้มแจ้งว่าเป็นเคสใหญ่ มีผู้เสียหายกว่า 100 คน จึงได้ไปช่วยดูแลให้คำแนะนำผู้เสียหายว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปบ้าง • ทนายรัชพล ยังบอกอีกว่า มีประเด็นที่น่ากังวลใจ คือ เรื่องการแจ้งข้อกล่าวหา บอสแต่ละคนซึ่งมีการแจ้งข้อกล่าวหา ข้อหาฉ้อโกง ประชาชน และข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งแต่ละบอสออกมาแถลงข่าวว่าตนเองเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์ แต่เมื่อใดถ้าเกิดขึ้นศาล แล้วพิสูจน์ทราบได้ว่าเป็นบอสจริง ก็อาจจะหลุดข้อหาได้ และตั้งข้อสงสัยว่าทำไมกรณีนี้เจ้าหน้าที่ไม่ตั้งข้อหาเอาผิดเรื่อง แชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ขายตรง ซึ่งเป็นประเด็นที่เห็นชัดอยู่แล้ว • #MGROnline #ทนายรัชพล #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 560 มุมมอง 0 รีวิว
  • ย้อน 7 ปีที่แล้ว “บอสมิน” ไม่รู้จักขายตรง ถามกลับขายตรงคืออะไร หลังเจอข่าวพุ่งเป้าอักษรย่อมาที่ตน คือนางเอกคุณหนูบ้านรวย มีธุรกิจใหญ่โตที่ต่างจังหวัดอยู่แล้ว ใช้ชื่อเสียงหวังอัปความรวยทำธุรกิจขายตรง จนเพื่อนๆ ร่วมวงการพากันยี้ ถึงขนาดแฟนคลับ คนใกล้ชิดก็โดนไปด้วย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000102254

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ย้อน 7 ปีที่แล้ว “บอสมิน” ไม่รู้จักขายตรง ถามกลับขายตรงคืออะไร หลังเจอข่าวพุ่งเป้าอักษรย่อมาที่ตน คือนางเอกคุณหนูบ้านรวย มีธุรกิจใหญ่โตที่ต่างจังหวัดอยู่แล้ว ใช้ชื่อเสียงหวังอัปความรวยทำธุรกิจขายตรง จนเพื่อนๆ ร่วมวงการพากันยี้ ถึงขนาดแฟนคลับ คนใกล้ชิดก็โดนไปด้วย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000102254 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    17
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 3161 มุมมอง 0 รีวิว
  • บวชมาเล่นแชร์ ขายตรง ขายออนไลน์ บวชไม่ได้ศรัทธามาพักหาที่พิง เรียนสูงเรียนทางโลก ไม่เรียนทางธรรม มีแต่กิเลส กับโลภ ตัณหา
    บวชมาเล่นแชร์ ขายตรง ขายออนไลน์ บวชไม่ได้ศรัทธามาพักหาที่พิง เรียนสูงเรียนทางโลก ไม่เรียนทางธรรม มีแต่กิเลส กับโลภ ตัณหา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดโปงคลิปตบทรัพย์"บอสพอล ดิ ไอคอน"
    .
    เรื่องคลิปเสียงนี้มี 2 แง่มุมให้คิดคือ 1.-นายพอลต้องการจะเบรกไม่ให้กลุ่มคน นักร้อง ทนาย นักการเมือง วิ่งเข้ามากระทืบซ้ำ หรือตบทรัพย์ซ้ำสอง และ2.-ล็อกคอคนที่เคยวิ่งตบทรัพย์ว่าในระยะยาวต้องช่วยเหลือตัวเองและ"ดิ ไอคอน"ให้รอดพ้นจากคดีความ มิฉะนั้นอาจจะมีคลิปเสียงลับของใครหลุดออกมาอีกก็เป็นได้
    .
    คลิปเสียงไถเงินค่าดูแลแชร์ลูกโซ่ในคราบขายตรง "ดิ ไอคอน" ที่ฉาวโฉ่นี้ นายพอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ออกมายอมรับเองกลางรายการโหนกระแส ทางช่อง 3ว่าเป็นเสียงตนเอง ดังนั้นจึงเป็นคลิปจริง ไม่ได้มีการตัดต่อ ขณะที่คู่สนทนายังไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่นายสามารถ เจนชัยจิตรวณิชออกมาปฏิเสธ ขู่ฟ้องหากถูกพาดพิง
    .
    ความน่าสนใจคลิปเสียง นอกจากเรื่องตบทรัพย์เพื่อเคลียร์คดีเรียกเงิน 30 ล้านบาทและรายเดือนอีกหลักแสนบาทแล้ว ยังอวดอ้างเสนอแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง สคบ. ก่อนถึงท่อนที่ว่าปลายสายที่เป็นนักการเมือง ก็หล่นชื่อ "ประทีป”ตัวละครลับที่ถูกขนานนามว่าเป็น "เทวดา" ของ สคบ. ออกมา
    .
    พูดตรงๆ ชื่อเสียงของ "จ๊อบ สามารถ" ในวงการขายตรง แชร์ลูกโซ่ ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน บังเอิญช่วงที่สามารถ อุปโลกน์ตัวเองเป็นพ่อพระ ช่วยเหลือเหยื่อธุรกิจขายตรง ก็เป็นช่วงที่ พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ จับงานด้านนี้ในตำแหน่งผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง แหม ช่างพอดิบพอดีเลย
    .
    ผมนี่ไม่รู้และไม่เชื่อเลยจริงๆที่เขาว่า สามารถ กับ ประทีป นั้นคือหมาล่าเนื้อที่ช่วยกันล่าเหยื่อบรรดาแก๊งแชร์ลูกโซ่ พอได้เหยื่อแล้วก็คาบเศษเนื้อไปถวาย "เทวดาบ้านป่าฯ" ที่ยืนจังก้ารับส่วนแบ่งอยู่ข้างหลัง ท่านผู้ชมครับ พฤติกรรมอย่างนี้ถ้าเป็นจริง ต้องถือว่าชั่วช้าเลวทรามเกินกว่าที่ใครจะรับได้จริง
    .
    อย่างไรก็ตาม เมื่อวันอังคารที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา "พอล" ออกมาเปลี่ยนคำพูด กลับลำว่าไม่เคยให้เงิน "นักการเมือง ส." แม้แต่บาทเดียว
    .
    ตรงนี้ผมต้องเห็นใจ"คุณจ๊อบ" สามารถ เจนชัยจิตรวณิช รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ที่หลายคนไปจับว่าเสียงคล้ายในคลิปเป็นอย่างมาก ผมว่านะ คุณสามารถครับ เอาคลิปเสียงส่งไปให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเลยดีกว่าไหม จะได้รู้กันไปเลยว่า ถ้าคุณสามารถไม่ใช่คนในคลิป จะได้พ้นมลทิน ผมเชื่อว่าตำรวจจะทำงานเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว โปร่งใส และสุดซอยแน่นอน ไม่ต้องห่วงครับคุณสามารถ
    เปิดโปงคลิปตบทรัพย์"บอสพอล ดิ ไอคอน" . เรื่องคลิปเสียงนี้มี 2 แง่มุมให้คิดคือ 1.-นายพอลต้องการจะเบรกไม่ให้กลุ่มคน นักร้อง ทนาย นักการเมือง วิ่งเข้ามากระทืบซ้ำ หรือตบทรัพย์ซ้ำสอง และ2.-ล็อกคอคนที่เคยวิ่งตบทรัพย์ว่าในระยะยาวต้องช่วยเหลือตัวเองและ"ดิ ไอคอน"ให้รอดพ้นจากคดีความ มิฉะนั้นอาจจะมีคลิปเสียงลับของใครหลุดออกมาอีกก็เป็นได้ . คลิปเสียงไถเงินค่าดูแลแชร์ลูกโซ่ในคราบขายตรง "ดิ ไอคอน" ที่ฉาวโฉ่นี้ นายพอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ออกมายอมรับเองกลางรายการโหนกระแส ทางช่อง 3ว่าเป็นเสียงตนเอง ดังนั้นจึงเป็นคลิปจริง ไม่ได้มีการตัดต่อ ขณะที่คู่สนทนายังไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่นายสามารถ เจนชัยจิตรวณิชออกมาปฏิเสธ ขู่ฟ้องหากถูกพาดพิง . ความน่าสนใจคลิปเสียง นอกจากเรื่องตบทรัพย์เพื่อเคลียร์คดีเรียกเงิน 30 ล้านบาทและรายเดือนอีกหลักแสนบาทแล้ว ยังอวดอ้างเสนอแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง สคบ. ก่อนถึงท่อนที่ว่าปลายสายที่เป็นนักการเมือง ก็หล่นชื่อ "ประทีป”ตัวละครลับที่ถูกขนานนามว่าเป็น "เทวดา" ของ สคบ. ออกมา . พูดตรงๆ ชื่อเสียงของ "จ๊อบ สามารถ" ในวงการขายตรง แชร์ลูกโซ่ ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน บังเอิญช่วงที่สามารถ อุปโลกน์ตัวเองเป็นพ่อพระ ช่วยเหลือเหยื่อธุรกิจขายตรง ก็เป็นช่วงที่ พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ จับงานด้านนี้ในตำแหน่งผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง แหม ช่างพอดิบพอดีเลย . ผมนี่ไม่รู้และไม่เชื่อเลยจริงๆที่เขาว่า สามารถ กับ ประทีป นั้นคือหมาล่าเนื้อที่ช่วยกันล่าเหยื่อบรรดาแก๊งแชร์ลูกโซ่ พอได้เหยื่อแล้วก็คาบเศษเนื้อไปถวาย "เทวดาบ้านป่าฯ" ที่ยืนจังก้ารับส่วนแบ่งอยู่ข้างหลัง ท่านผู้ชมครับ พฤติกรรมอย่างนี้ถ้าเป็นจริง ต้องถือว่าชั่วช้าเลวทรามเกินกว่าที่ใครจะรับได้จริง . อย่างไรก็ตาม เมื่อวันอังคารที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา "พอล" ออกมาเปลี่ยนคำพูด กลับลำว่าไม่เคยให้เงิน "นักการเมือง ส." แม้แต่บาทเดียว . ตรงนี้ผมต้องเห็นใจ"คุณจ๊อบ" สามารถ เจนชัยจิตรวณิช รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ที่หลายคนไปจับว่าเสียงคล้ายในคลิปเป็นอย่างมาก ผมว่านะ คุณสามารถครับ เอาคลิปเสียงส่งไปให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเลยดีกว่าไหม จะได้รู้กันไปเลยว่า ถ้าคุณสามารถไม่ใช่คนในคลิป จะได้พ้นมลทิน ผมเชื่อว่าตำรวจจะทำงานเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว โปร่งใส และสุดซอยแน่นอน ไม่ต้องห่วงครับคุณสามารถ
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 892 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถอดหน้ากาก "ดิ ไอคอน" อภิมหาแชร์ลูกโซ่
    .
    ตลอดระยะเวลาห้าสิบกว่าปีที่ผมเป็นสื่อมวลชนมา แม้ว่าผมทำข่าวแชร์พวกนี้มาก็มาก ไม่ว่าจะเป็นแชร์แม่ชม้อย 2520-2528 หรือแชร์ชาร์เตอร์ 2526-2528 คนไทยไม่เข็ด คดี "เมจิกสกิน" แชร์ลูกโซ่รูปแบบใหม่ หลังสุดเป็นเรื่องคดีอื้อฉาวโด่งดังมาก คือคดี Forex-3D
    .
    แต่ผมไม่เคยเห็นจำนวนเหยื่อ ตัวเลขเหยื่อ ผู้เสียหายมากมายเท่ากรณี "ดิ ไอคอน"ซึ่งนายพอล วรัตน์พล เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เครือข่าย "ดิ ไอคอน" สามารถดึงดูดผู้คนให้หลงเข้ามาเป็นสมาชิกได้มากถึง 368,257 ราย นั่นหมายความว่า "ดิ ไอคอน" ได้กลายเป็นแชร์ลูกโซ่ขนาดมหึมา ถ้าเราคิดแค่จำนวนเงินชั้นต้น เฉพาะการเปิดบิล เป็นเงินความเสียหายกว่า 10,130 ล้านบาท
    .
    นั่นเป็นเรื่องที่น่ากลัว เพราะว่าเขาไม่ได้ซื้อของมาให้คุณขาย เขาซื้อเป็นสต๊อกลม ให้คุณจ่ายเงินค่าสต๊อกลมไป ที่ ดิ ไอคอน อ้างว่าปกติจะบอกว่าจ่ายเงินก่อน เบิกเมื่อไรค่อยเอาของไปและนี่คือ "แชร์ลูกโซ่" โดยรับเงินจากค่าสมาชิก เอาเงินใหม่ที่หลงเชื่อเข้ามาเอามาโปะแทนเงินเก่า ได้เงินหมุนมาเป็นพันๆ ล้าน ไปปั่นสร้างภาพตัวเองซื้อทรัพย์สิน ซื้อโฆษณาจ่ายพรีเซนเตอร์ รถหรู ที่ดิน สร้างภาพว่ารวยสุดๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนที่เข้ามาซื้อสต๊อกลมกันให้มากๆ ถ้าดูออกก็เข้าใจเกมนี้
    .
    ที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้ ประเด็นมันอยู่ที่ว่า หลักการตั้งแต่อดีตจนถึงทุกวันนี้ ของทุกๆ แชร์เลยนะ อ้างเรื่อง MLM (Multi Level Marketing) ทุกคนเลย ตั้งแต่แชร์แม่ชม้อย ,แชร์ชาร์เตอร์, แชร์ทองคำแม่ตั้ก, แชร์ FOREX อภิรักษ์ โกฎฐิ มาจนถึง "ดิ ไอคอน" ทั้งหมดอ้างเป็นรูปแบบการขายตรงแบบ MLM ซึ่งแอมเวย์ก็ทำ กิฟฟารีนก็ทำ แต่จุดที่ต่างคือ เขามีของ มีคุณภาพ มีชื่อเสียงมายาวนาน คนไม่ได้เป็นสมาชิกก็ใช้สินค้าเขา แต่ "ดิ ไอคอน" ไม่ใช่เช่นนั้น
    ถอดหน้ากาก "ดิ ไอคอน" อภิมหาแชร์ลูกโซ่ . ตลอดระยะเวลาห้าสิบกว่าปีที่ผมเป็นสื่อมวลชนมา แม้ว่าผมทำข่าวแชร์พวกนี้มาก็มาก ไม่ว่าจะเป็นแชร์แม่ชม้อย 2520-2528 หรือแชร์ชาร์เตอร์ 2526-2528 คนไทยไม่เข็ด คดี "เมจิกสกิน" แชร์ลูกโซ่รูปแบบใหม่ หลังสุดเป็นเรื่องคดีอื้อฉาวโด่งดังมาก คือคดี Forex-3D . แต่ผมไม่เคยเห็นจำนวนเหยื่อ ตัวเลขเหยื่อ ผู้เสียหายมากมายเท่ากรณี "ดิ ไอคอน"ซึ่งนายพอล วรัตน์พล เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เครือข่าย "ดิ ไอคอน" สามารถดึงดูดผู้คนให้หลงเข้ามาเป็นสมาชิกได้มากถึง 368,257 ราย นั่นหมายความว่า "ดิ ไอคอน" ได้กลายเป็นแชร์ลูกโซ่ขนาดมหึมา ถ้าเราคิดแค่จำนวนเงินชั้นต้น เฉพาะการเปิดบิล เป็นเงินความเสียหายกว่า 10,130 ล้านบาท . นั่นเป็นเรื่องที่น่ากลัว เพราะว่าเขาไม่ได้ซื้อของมาให้คุณขาย เขาซื้อเป็นสต๊อกลม ให้คุณจ่ายเงินค่าสต๊อกลมไป ที่ ดิ ไอคอน อ้างว่าปกติจะบอกว่าจ่ายเงินก่อน เบิกเมื่อไรค่อยเอาของไปและนี่คือ "แชร์ลูกโซ่" โดยรับเงินจากค่าสมาชิก เอาเงินใหม่ที่หลงเชื่อเข้ามาเอามาโปะแทนเงินเก่า ได้เงินหมุนมาเป็นพันๆ ล้าน ไปปั่นสร้างภาพตัวเองซื้อทรัพย์สิน ซื้อโฆษณาจ่ายพรีเซนเตอร์ รถหรู ที่ดิน สร้างภาพว่ารวยสุดๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนที่เข้ามาซื้อสต๊อกลมกันให้มากๆ ถ้าดูออกก็เข้าใจเกมนี้ . ที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้ ประเด็นมันอยู่ที่ว่า หลักการตั้งแต่อดีตจนถึงทุกวันนี้ ของทุกๆ แชร์เลยนะ อ้างเรื่อง MLM (Multi Level Marketing) ทุกคนเลย ตั้งแต่แชร์แม่ชม้อย ,แชร์ชาร์เตอร์, แชร์ทองคำแม่ตั้ก, แชร์ FOREX อภิรักษ์ โกฎฐิ มาจนถึง "ดิ ไอคอน" ทั้งหมดอ้างเป็นรูปแบบการขายตรงแบบ MLM ซึ่งแอมเวย์ก็ทำ กิฟฟารีนก็ทำ แต่จุดที่ต่างคือ เขามีของ มีคุณภาพ มีชื่อเสียงมายาวนาน คนไม่ได้เป็นสมาชิกก็ใช้สินค้าเขา แต่ "ดิ ไอคอน" ไม่ใช่เช่นนั้น
    Like
    Angry
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 853 มุมมอง 0 รีวิว
  • แชร์ลูกโซ่ = ขายตรงสีเทา
    วิธีดูง่ายๆ อันไหนขายตรง อันไหนแชร์ลูกโซ่?
    แชร์ลูกโซ่ = ขายตรงสีเทา วิธีดูง่ายๆ อันไหนขายตรง อันไหนแชร์ลูกโซ่?
    Like
    Love
    Haha
    Yay
    Wow
    35
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 4433 มุมมอง 1668 2 รีวิว
  • 🔥🔥 แอดมินนั่งอ่านข่าว หลายๆท่าน
    นำเงินเก็บก้อนสุดท้าย ไปกู้ทั้งนอกระบบ
    กู้สหกรณ์ หยิบยืมมา เพื่อมาลงทุนในธุรกิจขายตรง
    ที่เน้นการชักชวนสมาชิก ไม่เน้นการขายสินค้า
    โดยมีเป้าหมายเดียวกัน คือ "หวังรวยเร็วๆ" และ
    เปลี่ยนชีวิต ให้มันดีขึ้น

    แต่สุดท้าย ไม่เป็นอย่างหวัง หลายๆคนขาดทุน
    บางคนหมดตัว เพราะสินค้าขายไม่ได้
    บางท่านถึงกับฆ่าตัวตาย

    สิ่งนี้ เพราะการรู้ไม่เท่าทัน เหล่ห์เหลี่ยมของการชักจูง
    ชักนำ โดยใช้ "ความโลภ" เข้ามากระตุ้น สิ่งที่เปราะบาง
    ที่สุดในตัวมนุษย์ทุกคน ทำให้เราอยากรวยให้เร็ว
    อยากรวยให้ไว โดยขาดการไตร่ตรองให้รอบครอบ

    ดังนั้น การรู้ให้เท่าทัน เล่ห์เหลี่ยมของการชักจูง ชักนำ
    ให้เข้าไปลงทุน ในธุรกิจ หรือ การลงทุนใดๆ เราต้อง
    ศึกษาข้อมูลให้กระจ่างแจ้ง ให้รอบด้าน
    ในทุกแง่ทุกมุม ก่อนเสมอ อย่าเชื่อเพียงเพราะ
    คนมีชื่อเสียง หรือ ดารา มาชักชวน ชักนำ

    เพราะทุกการลงทุนที่ขาดความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง
    และใช้ ความโลภ เป็นตัวนำ
    สุดท้าย เรามักตกเป็นเหยื่อ และ ขาดทุน หมดตัวได้เสมอ

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    🔥🔥 แอดมินนั่งอ่านข่าว หลายๆท่าน นำเงินเก็บก้อนสุดท้าย ไปกู้ทั้งนอกระบบ กู้สหกรณ์ หยิบยืมมา เพื่อมาลงทุนในธุรกิจขายตรง ที่เน้นการชักชวนสมาชิก ไม่เน้นการขายสินค้า โดยมีเป้าหมายเดียวกัน คือ "หวังรวยเร็วๆ" และ เปลี่ยนชีวิต ให้มันดีขึ้น แต่สุดท้าย ไม่เป็นอย่างหวัง หลายๆคนขาดทุน บางคนหมดตัว เพราะสินค้าขายไม่ได้ บางท่านถึงกับฆ่าตัวตาย สิ่งนี้ เพราะการรู้ไม่เท่าทัน เหล่ห์เหลี่ยมของการชักจูง ชักนำ โดยใช้ "ความโลภ" เข้ามากระตุ้น สิ่งที่เปราะบาง ที่สุดในตัวมนุษย์ทุกคน ทำให้เราอยากรวยให้เร็ว อยากรวยให้ไว โดยขาดการไตร่ตรองให้รอบครอบ ดังนั้น การรู้ให้เท่าทัน เล่ห์เหลี่ยมของการชักจูง ชักนำ ให้เข้าไปลงทุน ในธุรกิจ หรือ การลงทุนใดๆ เราต้อง ศึกษาข้อมูลให้กระจ่างแจ้ง ให้รอบด้าน ในทุกแง่ทุกมุม ก่อนเสมอ อย่าเชื่อเพียงเพราะ คนมีชื่อเสียง หรือ ดารา มาชักชวน ชักนำ เพราะทุกการลงทุนที่ขาดความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง และใช้ ความโลภ เป็นตัวนำ สุดท้าย เรามักตกเป็นเหยื่อ และ ขาดทุน หมดตัวได้เสมอ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 488 มุมมอง 0 รีวิว
  • แชร์ลูกโซ่ คือ Paper Company อย่างหนึ่ง พึงระวังได้อย่างไร
    .
    โดย ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
    สาขาวิชาสถิติศาสตร์
    สาขาวิชาพลเมืองวิทยาการข้อมูล
    สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
    คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
    .
    Paper company หรือบริษัทกระดาษ เป็นบริษัทที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่ได้ดำเนินกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หรือพูดง่าย ๆ ว่าเป็นบริษัทที่เป็นมิจฉาชีพเพื่อโกงโดยเฉพาะ Paper company เหล่านี้อาจจะโกงได้ตั้งแต่

    1. การหลบเลี่ยงภาษี ซึ่งมีหลายรูปแบบ เช่น การจ้างพนักงานปลอม แล้วนำไปเป็นค่าใช้จ่าย โดยยอมเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding tax) ของค่าจ้างเงินเดือน และอื่น ๆ
    2.การฟอกเงิน (นำเงินที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมายมาแปลงให้เป็นเงินที่ถูกกฎหมาย)
    3. การสวมรอยในการกระทำผิดกฎหมายเพื่อแสวงหารายได้ที่ไม่ถูกต้อง
    4. การพักเงินเพื่อส่งต่อผ่องถ่าย (Siphon) จากธุรกิจหนึ่งไปยังอีกธุรกิจหนึ่ง ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ผิดกฎหมาย
    5. การขอคืนภาษีอันเป็นเท็จ (Fraudulent tax refund) ได้แก่ การขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเท็จ การขอคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเท็จ เป็นต้น
    6. การออกใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเท็จ เพื่อนำไปใช้ในการสร้างค่าใช้จ่ายเท็จสำหรับลงบัญชีเพื่อลดการจ่ายภาษีหรือหลบเลี่ยงภาษี เป็นต้น
    7. การยืมเงินโดยอ้างว่าเป็นการลงทุน การสมัครหาสมาชิก อันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ในลักษณะของแชร์ลูกโซ่ แต่ไม่ได้ประกอบกิจการจริง เช่น อ้างว่าเป็นธุรกิจขายตรงออนไลน์ ที่รับบริหารสินค้าคงเหลือให้เป็นศูนย์ (Zero-inventory) ได้ เป็นต้น
    8. การตั้ง paper company เพื่อใช้ยืมเงินระหว่างบริษัทหรือตั้งราคาโอน (Transfer pricing) เพื่อสร้างค่าใช้จ่ายสูง ๆ ผิดปกติ หรือสร้างยอดขายปลอม ก็เป็นสิ่งที่ทำกันเพื่อตบตานักลงทุนหรือเพื่อหลบกรมสรรพากร
    และมีรูปแบบอื่น ๆ อีกมาก

    บริษัทกระดาษเหล่านี้ หาได้ประกอบกิจการจริงไม่ หาได้ทำธุรกิจจริง แต่ตั้งขึ้นอย่างถูกต้องเพื่อโกงและกระทำผิดกฎหมายสารพัดวิธีการที่จะคิดสร้างสรรค์อย่างผิดวิธี เพื่อโกงประเทศชาติหรือหลอกลวงประชาชน ......
    .
    คลิกอ่านต่อ >> https://mgronline.com/daily/detail/9670000100823
    แชร์ลูกโซ่ คือ Paper Company อย่างหนึ่ง พึงระวังได้อย่างไร . โดย ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ สาขาวิชาสถิติศาสตร์ สาขาวิชาพลเมืองวิทยาการข้อมูล สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ . Paper company หรือบริษัทกระดาษ เป็นบริษัทที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่ได้ดำเนินกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หรือพูดง่าย ๆ ว่าเป็นบริษัทที่เป็นมิจฉาชีพเพื่อโกงโดยเฉพาะ Paper company เหล่านี้อาจจะโกงได้ตั้งแต่ 1. การหลบเลี่ยงภาษี ซึ่งมีหลายรูปแบบ เช่น การจ้างพนักงานปลอม แล้วนำไปเป็นค่าใช้จ่าย โดยยอมเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding tax) ของค่าจ้างเงินเดือน และอื่น ๆ 2.การฟอกเงิน (นำเงินที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมายมาแปลงให้เป็นเงินที่ถูกกฎหมาย) 3. การสวมรอยในการกระทำผิดกฎหมายเพื่อแสวงหารายได้ที่ไม่ถูกต้อง 4. การพักเงินเพื่อส่งต่อผ่องถ่าย (Siphon) จากธุรกิจหนึ่งไปยังอีกธุรกิจหนึ่ง ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ผิดกฎหมาย 5. การขอคืนภาษีอันเป็นเท็จ (Fraudulent tax refund) ได้แก่ การขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเท็จ การขอคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเท็จ เป็นต้น 6. การออกใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเท็จ เพื่อนำไปใช้ในการสร้างค่าใช้จ่ายเท็จสำหรับลงบัญชีเพื่อลดการจ่ายภาษีหรือหลบเลี่ยงภาษี เป็นต้น 7. การยืมเงินโดยอ้างว่าเป็นการลงทุน การสมัครหาสมาชิก อันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ในลักษณะของแชร์ลูกโซ่ แต่ไม่ได้ประกอบกิจการจริง เช่น อ้างว่าเป็นธุรกิจขายตรงออนไลน์ ที่รับบริหารสินค้าคงเหลือให้เป็นศูนย์ (Zero-inventory) ได้ เป็นต้น 8. การตั้ง paper company เพื่อใช้ยืมเงินระหว่างบริษัทหรือตั้งราคาโอน (Transfer pricing) เพื่อสร้างค่าใช้จ่ายสูง ๆ ผิดปกติ หรือสร้างยอดขายปลอม ก็เป็นสิ่งที่ทำกันเพื่อตบตานักลงทุนหรือเพื่อหลบกรมสรรพากร และมีรูปแบบอื่น ๆ อีกมาก บริษัทกระดาษเหล่านี้ หาได้ประกอบกิจการจริงไม่ หาได้ทำธุรกิจจริง แต่ตั้งขึ้นอย่างถูกต้องเพื่อโกงและกระทำผิดกฎหมายสารพัดวิธีการที่จะคิดสร้างสรรค์อย่างผิดวิธี เพื่อโกงประเทศชาติหรือหลอกลวงประชาชน ...... . คลิกอ่านต่อ >> https://mgronline.com/daily/detail/9670000100823
    MGRONLINE.COM
    แชร์ลูกโซ่ คือ Paper Company อย่างหนึ่ง พึงระวังได้อย่างไร
    Paper company หรือบริษัทกระดาษ เป็นบริษัทที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่ได้ดำเนินกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หรือพูดง่าย ๆ ว่าเป็นบริษัทที่เป็นมิจฉาชีพเพื่อโกงโดยเฉพาะ Paper company เหล่านี้อาจจะโกงได้ตั้งแต่
    Like
    9
    1 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 918 มุมมอง 0 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.91 : จีน-ญี่ปุ่น คุมกำเนิด “ธุรกิจเครือข่าย-ขายตรง” อย่างไร?
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=d37KGmNfzoo
    บูรพาไม่แพ้ Ep.91 : จีน-ญี่ปุ่น คุมกำเนิด “ธุรกิจเครือข่าย-ขายตรง” อย่างไร? . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=d37KGmNfzoo
    Like
    Love
    10
    1 ความคิดเห็น 3 การแบ่งปัน 671 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts