• ประวัติ ศาลเจ้าไต้เสี่ยฮุกโจ้ว วัดสามจีน-ไตรมิตร
    ศาลเจ้าไต้เสี่ยฮุกโจ้ว หรือ ศาลเจ้าพ่อเห้งเจีย วัดสามจีน มีองค์ไต้เสี่ยฮุกโจ้ว หรือเจ้าพ่อเห้งเจียปางสำเร็จอรหันต์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย
    โดยก่อตั้งขึ้นในช่วงรัชสมัยรัชกาลที่ 2 ซึ่งแต่เดิมเจ้าพ่อเห้งเจียได้ถูกอัญเชิญมาจากประเทศจีนโดยเรือสำเภา ล่องมาตามแม่น้ำนครชัยศรีและขึ้นเทียบท่าที่วัดนางสาว จากนั้นมีผู้อัญเชิญประดิษฐาน ณ วัดสามจีน หรือ วัดไตรมิตรววิทยารามวรวิหาร ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่ตึกทรงเก๋งจีนบนถนนพระราม4 สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ ดังเช่นในปัจจุบัน
    องค์เจ้าพ่อเห้งเจีย หรือปางไต้เสี่ยฮุกโจ้ว ที่ศาลเจ้าแห่งนี้
    ประทับนั่งขัดสมาธิบนดอกบัว แกะสลักขึ้นจากไม้มงคลโบราณพร้อมลงรักปิดทอง มีอายุยาวนานหลายร้อยปี
    และถือเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของผู้คนเชื้อสายจีนทั้งในและต่างประเทศ ต่างพากันเดินทางมาขอพรทั้งในเรื่องการงาน การเงิน และการเรียน
    โดยผู้ศรัทธามักจะเรียกท่านว่า "อากง" เสมือนท่านคือญาติผู้ใหญ่ที่เราเคารพนับถือ
    ประวัติ ศาลเจ้าไต้เสี่ยฮุกโจ้ว วัดสามจีน-ไตรมิตร ศาลเจ้าไต้เสี่ยฮุกโจ้ว หรือ ศาลเจ้าพ่อเห้งเจีย วัดสามจีน มีองค์ไต้เสี่ยฮุกโจ้ว หรือเจ้าพ่อเห้งเจียปางสำเร็จอรหันต์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย โดยก่อตั้งขึ้นในช่วงรัชสมัยรัชกาลที่ 2 ซึ่งแต่เดิมเจ้าพ่อเห้งเจียได้ถูกอัญเชิญมาจากประเทศจีนโดยเรือสำเภา ล่องมาตามแม่น้ำนครชัยศรีและขึ้นเทียบท่าที่วัดนางสาว จากนั้นมีผู้อัญเชิญประดิษฐาน ณ วัดสามจีน หรือ วัดไตรมิตรววิทยารามวรวิหาร ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่ตึกทรงเก๋งจีนบนถนนพระราม4 สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ ดังเช่นในปัจจุบัน องค์เจ้าพ่อเห้งเจีย หรือปางไต้เสี่ยฮุกโจ้ว ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ ประทับนั่งขัดสมาธิบนดอกบัว แกะสลักขึ้นจากไม้มงคลโบราณพร้อมลงรักปิดทอง มีอายุยาวนานหลายร้อยปี และถือเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของผู้คนเชื้อสายจีนทั้งในและต่างประเทศ ต่างพากันเดินทางมาขอพรทั้งในเรื่องการงาน การเงิน และการเรียน โดยผู้ศรัทธามักจะเรียกท่านว่า "อากง" เสมือนท่านคือญาติผู้ใหญ่ที่เราเคารพนับถือ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวบยอด ความเหี้ยของยิว ก่อนคศ. จนถึงปัจจุบัน 0-2568(2025)

    ความเหี้ยของยิว : ปีคศ. 1967 ทำสงคราม 6 วัน เพื่อยึดแผ่นดินปาเลสไตน์ ทั้งๆ ที่ไปขออาศัยเค้าอยู่

    ความเหี้ยของยิว : ปีพศ. 2547 ส่งเหี้ย C ท่อน้ำเลี้ยง จ้างกลุ่มก่อการร้ายป่วน 3 จังหวัดชายแดนใต้ แผนกินรวบ ประสานเพื่อนบ้านเหี้ยมาเลย์ หวังแตกดินแดนไทย เพื่อเอาแหล่งแก็ส นอกชายฝั่งอ่าวไทย

    ความเหี้ยของยิว : ปีคศ.1990 สงครามอ่าวเปอร์เซีย เสี้ยมมุสลิมให้เข่นฆ่ากันเอง เพื่อขายอาวุธ และปล้นบ่อน้ำมันตะวันออกกลาง ยิ่งน้ำมันขาดแคลน ราคายิ่งพุ่ง อียิวกินรวบ ส่งดอลล่าร์แข็งโป๊ก เพราะผูกกับน้ำมัน

    ความเหี้ยของยิว : ปีพศ. 2550 ส่งอีเหลี่ยมชาติหมา เสี้ยมไทยให้แตกเป็น 2 แดง เหลือง

    ความเหี้ยของยิว : ก่อน เกิดคศ. อียิว ในนามอิสราเอล ร้องขอพระเจ้า ให้ช่วยปลดแอกความเป็นทาสจากอียิปต์ พระเจ้าส่งโมเสส มานำชาวอิสราเอล ทั้งหมด ออกจากอียิปต์ แล้วพบรรพบุรุษมันก็หักหลังพระเจ้า ทรยศ บูชารูปเคารพอื่น จึงถูกพระเจ้าสาปแช่ง ไร้ดินแดน เดินวนในทะเลทรายกว่า 40 ปี มาจนวันนี้ ยังไม่มีแผ่นดินเป็นของตัวเอง ถูกทั่วโลกขับไล่มานานนับ 1000 ปี

    ความเหี้ยของยิว : ปีคศ.1638 สงครามครูเสด อียิวเอาศาสนาบังหน้า ชูคริสต์ ประกาศเป็นศัตรูกับมุสลิม เปิดหน้าเข้าสู่ตะวันออกกลาง แอฟริกา ยิวคือยูดาส ผู้ทรยศพระเจ้า และเป็นขี้ข้าลูซิเฟอร์ แน่นอนว่า ต้องเสี้ยมให้โลกเข่นฆ่ากัน ทำลายแผนการพระเจ้า เสี้ยมโลกให้แตก ไม่ให้เกาะกลุ่มกันได้ นี่คือคีย์ของยิว

    ความเหี้ยของยิว : ปี 2544-2564 ส่งเหี้ยมะกันมาทำสงครามยาวที่อัฟกานิสถาน เป้าหมายคือจุดยุทธศาสตร์โลจิสติคโลก เปลี่ยนอัฟกานิสถานเป็นโรงงานผลิตฝิ่นที่ใหญ่ที่สุดในโลก ส่งออกยาเสพติด เพื่อมอมเมาเยาวชนโลก ให้ติดบ่วงทาสยา เครื่องมือควบคุมมนุษย์ เหมือนที่มันทำสงครามฝิ่นกับจีน สูตรเดียวกัน

    ความเหี้ยของยิว : ปีพศ. 2475 ส่งอีคณะร่าน มาปล้นบังลังก์พ่อ เปลี่ยนระบบการปกครอง นับจากนั้น ไทยหยุดความเจริญทันที

    ความเหี้ยของยิว : ปี 1939 กดขี่ กดหัว ประเทศแพ้สงครามอย่างอีเบียร์ จนประชาชนลุกฮือ ธุรกิจยิวเฟื่องฟู จากการเอาเปรียบ ก่อเกิดลุงหนวด ปฎิวัติประเทศใหม่ มาจากเลือกตั้ง แต่เปลี่ยนจากรับเป็นรุก ปลดแอกอินทรีเหล็ก จากยิวระยำ

    ความเหี้ยของยิว : ปี 2568 กำลังจะได้ชดใช้กรรมเก่าที่สะสมมายาวนานนับ 1000 ปี ความเหี้ยบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไร้ดีปน เลว จัญไร ชาติชั่ว อัปรีย์ เดรัจฉาน ไร้ที่ติ ปีนี้ อียิวกำลังจะสิ้นชาติ ตายอย่างหมา อยู่อย่างผี

    ความเหี้ยของยิว : ปี 1914-1918 จุดไฟสงครามโลก สั่งอีสิงโตเหี้ยเสี้ยมยุโรปทะเลาะกันเอง เป้าหมายทำลายราชวงศ์ทั่วยุโรป สร้างความขัดแย้ง นำมาซึ่ง WWI

    ความเหี้ยของยิว : ปีพศ. 2540 ส่งอีจอร์จ โซรอส มาถล่มค่าเงินบาทไทย กว้านซื้อสินทรัพย์ไทยในราคาโคตรถูกบัดซบ โดยมีบางพรรคการเมืองขี้ข้าสหรัฐ อำนวยการขายชาติให้สะดวกโยธิน "สัญญาขายชาติแดร๊กปี 40"

    ความเหี้ยของยิว : ปีคศ. 2001 สั่งเปิด 9/11 ระเบิดตึกเวิร์ดเทรด เพื่อหาเรื่องเบิกงบแสนล้านเหรียญ และหาช่องปล้นน้ำมัน ทองคำ ซัดดัม

    ความเหี้ยของยิว : ปี 2478 สั่งระเบิดฮิโรชิม่า ทั้งๆ สงครามยุติแล้วเพื่อทดสอบปรมาณู เอาไว้ขู่ควาย ธุรกิจอาวุธยิวเติบโต หลังจากนั้น
    รวบยอด ความเหี้ยของยิว ก่อนคศ. จนถึงปัจจุบัน 0-2568(2025) ความเหี้ยของยิว : ปีคศ. 1967 ทำสงคราม 6 วัน เพื่อยึดแผ่นดินปาเลสไตน์ ทั้งๆ ที่ไปขออาศัยเค้าอยู่ ความเหี้ยของยิว : ปีพศ. 2547 ส่งเหี้ย C ท่อน้ำเลี้ยง จ้างกลุ่มก่อการร้ายป่วน 3 จังหวัดชายแดนใต้ แผนกินรวบ ประสานเพื่อนบ้านเหี้ยมาเลย์ หวังแตกดินแดนไทย เพื่อเอาแหล่งแก็ส นอกชายฝั่งอ่าวไทย ความเหี้ยของยิว : ปีคศ.1990 สงครามอ่าวเปอร์เซีย เสี้ยมมุสลิมให้เข่นฆ่ากันเอง เพื่อขายอาวุธ และปล้นบ่อน้ำมันตะวันออกกลาง ยิ่งน้ำมันขาดแคลน ราคายิ่งพุ่ง อียิวกินรวบ ส่งดอลล่าร์แข็งโป๊ก เพราะผูกกับน้ำมัน ความเหี้ยของยิว : ปีพศ. 2550 ส่งอีเหลี่ยมชาติหมา เสี้ยมไทยให้แตกเป็น 2 แดง เหลือง ความเหี้ยของยิว : ก่อน เกิดคศ. อียิว ในนามอิสราเอล ร้องขอพระเจ้า ให้ช่วยปลดแอกความเป็นทาสจากอียิปต์ พระเจ้าส่งโมเสส มานำชาวอิสราเอล ทั้งหมด ออกจากอียิปต์ แล้วพบรรพบุรุษมันก็หักหลังพระเจ้า ทรยศ บูชารูปเคารพอื่น จึงถูกพระเจ้าสาปแช่ง ไร้ดินแดน เดินวนในทะเลทรายกว่า 40 ปี มาจนวันนี้ ยังไม่มีแผ่นดินเป็นของตัวเอง ถูกทั่วโลกขับไล่มานานนับ 1000 ปี ความเหี้ยของยิว : ปีคศ.1638 สงครามครูเสด อียิวเอาศาสนาบังหน้า ชูคริสต์ ประกาศเป็นศัตรูกับมุสลิม เปิดหน้าเข้าสู่ตะวันออกกลาง แอฟริกา ยิวคือยูดาส ผู้ทรยศพระเจ้า และเป็นขี้ข้าลูซิเฟอร์ แน่นอนว่า ต้องเสี้ยมให้โลกเข่นฆ่ากัน ทำลายแผนการพระเจ้า เสี้ยมโลกให้แตก ไม่ให้เกาะกลุ่มกันได้ นี่คือคีย์ของยิว ความเหี้ยของยิว : ปี 2544-2564 ส่งเหี้ยมะกันมาทำสงครามยาวที่อัฟกานิสถาน เป้าหมายคือจุดยุทธศาสตร์โลจิสติคโลก เปลี่ยนอัฟกานิสถานเป็นโรงงานผลิตฝิ่นที่ใหญ่ที่สุดในโลก ส่งออกยาเสพติด เพื่อมอมเมาเยาวชนโลก ให้ติดบ่วงทาสยา เครื่องมือควบคุมมนุษย์ เหมือนที่มันทำสงครามฝิ่นกับจีน สูตรเดียวกัน ความเหี้ยของยิว : ปีพศ. 2475 ส่งอีคณะร่าน มาปล้นบังลังก์พ่อ เปลี่ยนระบบการปกครอง นับจากนั้น ไทยหยุดความเจริญทันที ความเหี้ยของยิว : ปี 1939 กดขี่ กดหัว ประเทศแพ้สงครามอย่างอีเบียร์ จนประชาชนลุกฮือ ธุรกิจยิวเฟื่องฟู จากการเอาเปรียบ ก่อเกิดลุงหนวด ปฎิวัติประเทศใหม่ มาจากเลือกตั้ง แต่เปลี่ยนจากรับเป็นรุก ปลดแอกอินทรีเหล็ก จากยิวระยำ ความเหี้ยของยิว : ปี 2568 กำลังจะได้ชดใช้กรรมเก่าที่สะสมมายาวนานนับ 1000 ปี ความเหี้ยบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไร้ดีปน เลว จัญไร ชาติชั่ว อัปรีย์ เดรัจฉาน ไร้ที่ติ ปีนี้ อียิวกำลังจะสิ้นชาติ ตายอย่างหมา อยู่อย่างผี ความเหี้ยของยิว : ปี 1914-1918 จุดไฟสงครามโลก สั่งอีสิงโตเหี้ยเสี้ยมยุโรปทะเลาะกันเอง เป้าหมายทำลายราชวงศ์ทั่วยุโรป สร้างความขัดแย้ง นำมาซึ่ง WWI ความเหี้ยของยิว : ปีพศ. 2540 ส่งอีจอร์จ โซรอส มาถล่มค่าเงินบาทไทย กว้านซื้อสินทรัพย์ไทยในราคาโคตรถูกบัดซบ โดยมีบางพรรคการเมืองขี้ข้าสหรัฐ อำนวยการขายชาติให้สะดวกโยธิน "สัญญาขายชาติแดร๊กปี 40" ความเหี้ยของยิว : ปีคศ. 2001 สั่งเปิด 9/11 ระเบิดตึกเวิร์ดเทรด เพื่อหาเรื่องเบิกงบแสนล้านเหรียญ และหาช่องปล้นน้ำมัน ทองคำ ซัดดัม ความเหี้ยของยิว : ปี 2478 สั่งระเบิดฮิโรชิม่า ทั้งๆ สงครามยุติแล้วเพื่อทดสอบปรมาณู เอาไว้ขู่ควาย ธุรกิจอาวุธยิวเติบโต หลังจากนั้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 355 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สวดมนต์ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ…ถ้าสวดด้วยใจถวาย ไม่ใช่ด้วยใจขอ”

    มีคนมากมายเคยสวดมนต์
    แต่จำนวนน้อยเท่านั้น…ที่รู้จัก
    “สวดแล้วจิตเป็นบุญจริงๆ”

    ส่วนใหญ่สวดไปตามหนังสือ
    บางทีก็สวดเพราะถูกบอกให้สวด
    บางทีก็สวดเพราะอยากขอสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
    แต่สุดท้าย…ก็รู้สึกว่า

    > “ทำไมมันน่าเบื่อ?”
    “ทำไมจิตไม่สงบ?”
    “ทำไมไม่รู้สึกถึงอะไรเลย?”

    ---

    คำตอบคือ เพราะเราสวดด้วยความคาดหวัง ไม่ใช่ด้วยความถวายใจ

    ถ้าคุณเคยสวดมนต์ด้วยใจที่อยาก “ขอ”
    ก็เท่ากับว่าคุณเอาความทุกข์ไปใส่มือพระ
    แต่ไม่ได้ใส่ “ความสุข” ลงในถ้อยคำที่เปล่งออกไป

    แท้จริงแล้ว

    > การสวดมนต์ที่ดีที่สุด
    ไม่ใช่การเปล่งเสียงด้วยความหวัง
    แต่คือการถวายเสียงด้วยความรัก

    ---

    เสียงสวดของคุณ…คือดอกไม้ในใจที่วางไว้เบื้องหน้าองค์พระ

    ไม่ต้องขอพร ไม่ต้องภาวนาให้ได้อะไร
    แค่คิดว่า

    > “ขอถวายเสียงนี้เพื่อบูชาท่าน
    ด้วยจิตที่แค่อยากสรรเสริญความดีงามของพระองค์”

    แค่นั้นเอง…จิตจะเบา
    จิตจะเป็นอิสระ
    และคุณจะเริ่มรู้สึกถึงสิ่งที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนว่า

    > “นี่แหละ…คือความสุขที่เกิดจากจิตเป็นมหากุศล”

    ---

    ในทางวิทยาศาสตร์…ก็ไม่ต่างกัน

    การสวดมนต์อย่างสม่ำเสมอ
    โดยเฉพาะแบบที่มีเสียงเปล่งจากใจจริง
    จะทำให้สมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความเครียด
    ลดการทำงานลงภายในไม่กี่นาที
    ร่างกายจะเข้าสู่โหมดผ่อนคลาย
    จิตใจจะสงบเหมือนได้รับการปลอบโยน
    จากถ้อยคำที่ตนเองเป็นผู้เปล่งออก

    ---

    ถ้าฟุ้งซ่าน…ไม่ต้องด่าใจตัวเอง

    ฟุ้งแค่ไหน ก็แค่รู้
    รู้แล้ว…ก็แค่กลับมาตั้งใจสวดอีกครั้ง
    รอบแรกฟุ้งเยอะ รอบสองฟุ้งน้อย
    รอบสามเริ่มนิ่งขึ้น
    สวดไปเรื่อยๆ เหมือนเดินใจเข้าวัดทีละก้าว

    ---

    บทสรุปของการสวดมนต์แบบพุทธแท้

    > สวดมนต์ให้ได้ผล ไม่ใช่สวดด้วยความหวัง
    แต่คือสวดด้วยความสุข…ในจิตที่อยากถวาย

    เมื่อจิตถวายความสว่างด้วยเสียง
    จิตก็ได้รับความสว่างเป็นของตอบแทน

    ---
    “สวดมนต์ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ…ถ้าสวดด้วยใจถวาย ไม่ใช่ด้วยใจขอ” มีคนมากมายเคยสวดมนต์ แต่จำนวนน้อยเท่านั้น…ที่รู้จัก “สวดแล้วจิตเป็นบุญจริงๆ” ส่วนใหญ่สวดไปตามหนังสือ บางทีก็สวดเพราะถูกบอกให้สวด บางทีก็สวดเพราะอยากขอสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่สุดท้าย…ก็รู้สึกว่า > “ทำไมมันน่าเบื่อ?” “ทำไมจิตไม่สงบ?” “ทำไมไม่รู้สึกถึงอะไรเลย?” --- คำตอบคือ เพราะเราสวดด้วยความคาดหวัง ไม่ใช่ด้วยความถวายใจ ถ้าคุณเคยสวดมนต์ด้วยใจที่อยาก “ขอ” ก็เท่ากับว่าคุณเอาความทุกข์ไปใส่มือพระ แต่ไม่ได้ใส่ “ความสุข” ลงในถ้อยคำที่เปล่งออกไป แท้จริงแล้ว > การสวดมนต์ที่ดีที่สุด ไม่ใช่การเปล่งเสียงด้วยความหวัง แต่คือการถวายเสียงด้วยความรัก --- เสียงสวดของคุณ…คือดอกไม้ในใจที่วางไว้เบื้องหน้าองค์พระ ไม่ต้องขอพร ไม่ต้องภาวนาให้ได้อะไร แค่คิดว่า > “ขอถวายเสียงนี้เพื่อบูชาท่าน ด้วยจิตที่แค่อยากสรรเสริญความดีงามของพระองค์” แค่นั้นเอง…จิตจะเบา จิตจะเป็นอิสระ และคุณจะเริ่มรู้สึกถึงสิ่งที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนว่า > “นี่แหละ…คือความสุขที่เกิดจากจิตเป็นมหากุศล” --- ในทางวิทยาศาสตร์…ก็ไม่ต่างกัน การสวดมนต์อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะแบบที่มีเสียงเปล่งจากใจจริง จะทำให้สมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความเครียด ลดการทำงานลงภายในไม่กี่นาที ร่างกายจะเข้าสู่โหมดผ่อนคลาย จิตใจจะสงบเหมือนได้รับการปลอบโยน จากถ้อยคำที่ตนเองเป็นผู้เปล่งออก --- ถ้าฟุ้งซ่าน…ไม่ต้องด่าใจตัวเอง ฟุ้งแค่ไหน ก็แค่รู้ รู้แล้ว…ก็แค่กลับมาตั้งใจสวดอีกครั้ง รอบแรกฟุ้งเยอะ รอบสองฟุ้งน้อย รอบสามเริ่มนิ่งขึ้น สวดไปเรื่อยๆ เหมือนเดินใจเข้าวัดทีละก้าว --- บทสรุปของการสวดมนต์แบบพุทธแท้ > สวดมนต์ให้ได้ผล ไม่ใช่สวดด้วยความหวัง แต่คือสวดด้วยความสุข…ในจิตที่อยากถวาย เมื่อจิตถวายความสว่างด้วยเสียง จิตก็ได้รับความสว่างเป็นของตอบแทน ---
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

    เดือนนี้ มีเรื่องมงคลงานชื่นชมสิริมงคลในบ้าน หากขอพรจากองค์พระโพธิสัตย์กวนอิมปางอุ้มเด็ก จะได้ อภิชาตบุตรอยู่ในโอวาท แต่จะชอบเอาชนะ ก้าวร้าว อารมณ์ร้าย หรือลูกหลานที่ห่างหายไปนานจะกลับมา เยี่ยมเยียน ส่วนธุรกิจการทำงานจะมีการขยับขยาย ต้องแข่งขันขัดแย้งก่อนจึงจะพบประสบความสำเร็จได้ ส่งผลให้หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า ที่ลุ้นตำแหน่งมานานจะได้ปรับเลื่อนขั้นเพิ่มเงินเดือน นักวิชาการจะมี ตำแหน่งหน้าที่ดี จะมีผู้มีบารมีช่วยเหลือให้ได้รับตำแหน่งใหม่ๆให้มีชื่อเสียง การเงินดีจะมีเงินทองเก่าเก็บที่ หลงลืม ไปแล้วจะกลับได้คืนมาให้ดีใจ ควรใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกายที่ตับและระบบประสาท รู้สึกร้อนที่แขนขา ชายจะปวดตา หญิงจะปวดที่ขา
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เดือนนี้ มีเรื่องมงคลงานชื่นชมสิริมงคลในบ้าน หากขอพรจากองค์พระโพธิสัตย์กวนอิมปางอุ้มเด็ก จะได้ อภิชาตบุตรอยู่ในโอวาท แต่จะชอบเอาชนะ ก้าวร้าว อารมณ์ร้าย หรือลูกหลานที่ห่างหายไปนานจะกลับมา เยี่ยมเยียน ส่วนธุรกิจการทำงานจะมีการขยับขยาย ต้องแข่งขันขัดแย้งก่อนจึงจะพบประสบความสำเร็จได้ ส่งผลให้หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า ที่ลุ้นตำแหน่งมานานจะได้ปรับเลื่อนขั้นเพิ่มเงินเดือน นักวิชาการจะมี ตำแหน่งหน้าที่ดี จะมีผู้มีบารมีช่วยเหลือให้ได้รับตำแหน่งใหม่ๆให้มีชื่อเสียง การเงินดีจะมีเงินทองเก่าเก็บที่ หลงลืม ไปแล้วจะกลับได้คืนมาให้ดีใจ ควรใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกายที่ตับและระบบประสาท รู้สึกร้อนที่แขนขา ชายจะปวดตา หญิงจะปวดที่ขา ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🎆 ฉลองปีใหม่ 2026 แบบไม่ซ้ำใครที่ "ไต้หวัน" 🎉
    ✨ ร่วมนับถอยหลัง Countdown สุดตระการตา ณ ตึกไทเป 101
    🌸 เที่ยวหมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น 🍵 ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา
    🌲 เช็คอินอาลีซาน 🍍 ปล่อยโคมลอยสุดประทับใจที่ผิงซี

    🛫 เดินทางโดย : ไชน่าแอร์ไลน์ (CI)
    📅 วันที่เดินทาง : 31 ธ.ค. 68 - 4 ม.ค. 69
    👜 5 วัน 4 คืน ครบทุกไฮไลท์

    🗺️ โปรแกรมเที่ยวเด่นๆ
    ➤ ไถจง – ฟาร์มดอกไม้จงเซ่อ 🌼 – ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา 🚤
    ➤ วัดเหวินหวู่ – สิงโตหินอ่อน – หมู่บ้านสายรุ้ง 🎨 – ตลาดเหวินฮั่ว
    ➤ ชิมชาอู่หลง 🍃 – เที่ยวอุทยานอาลีซาน 🍁 – ช้อปปิ้งซีเหมินติง
    ➤ หมู่บ้านจิ่วเฟิ่น – ถนนสือเฟิ่น – ปล่อยโคมขอพรที่ผิงซี 🎈
    ➤ ถ่ายรูปสุดปังกับตึกไทเป 101 🏙️

    📸 เก็บความทรงจำดีๆ ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่


    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/ed8679

    ดูทัวร์ไต้หวันทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/b999ee

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #Countdown2026 #Taipei101 #เที่ยวไต้หวัน #ปีใหม่ไต้หวัน #จิ่วเฟิ่น #ผิงซี #ทะเลสาบสุริยันจันทรา #อาลีซาน #ซีเหมินติง #เที่ยวกับเราไม่มีเหงา
    🎆 ฉลองปีใหม่ 2026 แบบไม่ซ้ำใครที่ "ไต้หวัน" 🎉 ✨ ร่วมนับถอยหลัง Countdown สุดตระการตา ณ ตึกไทเป 101 🌸 เที่ยวหมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น 🍵 ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา 🌲 เช็คอินอาลีซาน 🍍 ปล่อยโคมลอยสุดประทับใจที่ผิงซี 🛫 เดินทางโดย : ไชน่าแอร์ไลน์ (CI) 📅 วันที่เดินทาง : 31 ธ.ค. 68 - 4 ม.ค. 69 👜 5 วัน 4 คืน ครบทุกไฮไลท์ 🗺️ โปรแกรมเที่ยวเด่นๆ ➤ ไถจง – ฟาร์มดอกไม้จงเซ่อ 🌼 – ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา 🚤 ➤ วัดเหวินหวู่ – สิงโตหินอ่อน – หมู่บ้านสายรุ้ง 🎨 – ตลาดเหวินฮั่ว ➤ ชิมชาอู่หลง 🍃 – เที่ยวอุทยานอาลีซาน 🍁 – ช้อปปิ้งซีเหมินติง ➤ หมู่บ้านจิ่วเฟิ่น – ถนนสือเฟิ่น – ปล่อยโคมขอพรที่ผิงซี 🎈 ➤ ถ่ายรูปสุดปังกับตึกไทเป 101 🏙️ 📸 เก็บความทรงจำดีๆ ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/ed8679 ดูทัวร์ไต้หวันทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/b999ee LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #Countdown2026 #Taipei101 #เที่ยวไต้หวัน #ปีใหม่ไต้หวัน #จิ่วเฟิ่น #ผิงซี #ทะเลสาบสุริยันจันทรา #อาลีซาน #ซีเหมินติง #เที่ยวกับเราไม่มีเหงา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 420 มุมมอง 0 รีวิว
  • การฆ่าคน ถือเป็นบาปหนักในศาสนาอิสลาม
    บาปความผิดที่ยิ่งใหญ่และถือเป็นความชั่วร้ายที่สุดทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺ รองลงมาจากการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ คือ การฆ่าชีวิตที่บริสุทธิ์
    .
    อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสว่า…
    “และบรรดาผู้ที่ไม่วิงวอนขอพระเจ้าอื่นใดคู่เคียงกับอัลลอฮ และพวกเขาไม่ฆ่าชีวิตซึ่งอัลลอฮทรงห้ามไว้เว้นแต่เพื่อความยุติธรรม และพวกเขาไม่ผิดประเวณี และผู้ใดกระทำเช่นนั้นจะได้พบกับความผิดอันมหันต์ การลงโทษในวันกิยามะฮฺจะถูกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าสำหรับเขา และเขาจะอยู่ในนั้นอย่างอัปยศ” (อัลฟุรกอน: 68-69)
    .
    ทั้งนี้ พระองค์ได้ทรงกำหนดไว้ว่าบทลงโทษสำหรับผู้ที่ฆ่าผู้ศรัทธาโดยเจตนานั้น คือ การพำนักอยู่ในนรกตลอดกาล ความโกรธกริ้วและการสาปแช่งของอัลลอฮฺ ตลอดจนการลงโทษที่เจ็บแสบสาหัสซึ่งพระองค์ทรงเตรียมไว้
    .
    อัลลอฮฺ ตรัสว่า…
    “และผู้ใดฆ่าผู้ศรัทธาโดยจงใจ การตอบแทนแก่เขาก็คือนรกญะฮันนัม โดยที่เขาจะอยู่ในนั้นตลอดกาล และอัลลอฮฺก็ทรงกริ้วโกรธเขา และทรงสาปแช่งเขา และได้ทรงเตรียมไว้สำหรับเขาซึ่งการลงโทษอันใหญ่หลวง” (อันนิสาอ์: 93)
    .
    อนัส บิน มาลิก เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า…
    "บาปที่ใหญ่ที่สุดได้แก่ การตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ การฆ่าผู้อื่น การเนรคุณต่อบุพการี และคำพูดเท็จ (หรือ) การเป็นพยานเท็จ"
    (บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ หะดีษเลขที่ 6871 และมุสลิม หะดีษเลขที่ 88)
    .
    ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ยังได้บอกอีกว่า ผู้ศรัทธานั้นจะยังคงอยู่ในสภาพหรือสถานะที่ปลอดภัย ตราบใดที่เขาไม่คร่าชีวิตผู้อื่นโดยไม่ชอบธรรม
    .
    อิบนุ อุมัรฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า…
    “ศาสนาของผู้ศรัทธาคนหนึ่งจะยังคงอยู่ในสภาพที่ปลอดภัย ตราบใดที่เขามิได้คร่าชีวิตผู้อื่นโดยปราศจากความชอบธรรม”
    (บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ หะดีษเลขที่ 6862)
    .
    ความผิดที่เกี่ยวกับการเข่นฆ่าระหว่างหมู่มนุษย์นั้น คือสิ่งแรกที่จะได้รับการพิพากษาตัดสินในวันกิยามะฮฺ อิบนุ มัสอูด เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า…
    “สิ่งแรกที่มนุษย์จะถูกพิพากษาในวันกิยามะฮฺ คือ ความผิดที่เกิดจากการฆ่าผู้อื่น”
    (บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ หะดีษเลขที่ 6862 และมุสลิม หะดีษเลขที่ 1678)
    .
    ในหะดีษอีกบทหนึ่ง อบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า…
    “พวกท่านทั้งหลายจงหลีกห่างจากสิ่งที่ทำให้พินาศเจ็ดประการ (และหนึ่งในนั้นคือ) การฆ่าชีวิตผู้อื่นที่อัลลอฮฺทรงห้ามฆ่านอกจากด้วยสิทธิอันชอบธรรม”
    (บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ หะดีษเลขที่ 6857 และมุสลิม หะดีษเลขที่ 89)
    .
    อิบนุ อัมรฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า…
    “ผู้ใดฆ่า ผู้ที่อยู่ภายใต้พันธสัญญา เขาจะไม่ได้กลิ่นอายของสรวงสวรรค์ ทั้งที่กลิ่นของสวรรค์นั้นสามารถสัมผัสได้แม้จะอยู่ห่างออกไปเป็นระยะทางเท่ากับการเดินทางสี่สิบปีก็ตาม”
    (บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ หะดีษเลขที่ 6914)
    .
    ในหะดีษอีกบทหนึ่ง อิบนุ อับบาส เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า…
    “พวกท่านทั้งหลายอย่าได้เป็นดังเช่นผู้ปฏิเสธศรัทธาภายหลังจากที่ฉันตายไป ด้วยการที่พวกท่านประหัตประหารฆ่าฟันกัน”
    (บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ หะดีษเลขที่ 1739 และมุสลิม หะดีษเลขที่ 1679)
    .
    ท่านนบียังได้บอกอีกว่า การฆ่ากันนั้นเป็นหนึ่งในสัญญาณวันสิ้นโลก อบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า…
    “ความรู้จะถูกยึด ความโง่เขลาและความวุ่นวายจะปรากฏขึ้น และจะเกิดการฆ่าฟันกันอย่างมากมาย” (บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ หะดีษเลขที่ 85 และมุสลิม หะดีษเลขที่ 2672)
    .
    =============================================
    อัลลอฮฺ ไม่สถิตอยู่กับคนขี้ขลาดอย่างพวกแกที่ลอบเข่นฆ่าคนบริสุทธิ์
    และบังอาจกล่าวอ้างพระนามพระเป็นเจ้าด้วยใจที่ชั่วช้าของพวกแก
    ขอให้พระเจ้าลงโทษฆาตกรทุกตัว
    อามีน
    .
    การฆ่าคน ถือเป็นบาปหนักในศาสนาอิสลาม บาปความผิดที่ยิ่งใหญ่และถือเป็นความชั่วร้ายที่สุดทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺ รองลงมาจากการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ คือ การฆ่าชีวิตที่บริสุทธิ์ . อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสว่า… “และบรรดาผู้ที่ไม่วิงวอนขอพระเจ้าอื่นใดคู่เคียงกับอัลลอฮ และพวกเขาไม่ฆ่าชีวิตซึ่งอัลลอฮทรงห้ามไว้เว้นแต่เพื่อความยุติธรรม และพวกเขาไม่ผิดประเวณี และผู้ใดกระทำเช่นนั้นจะได้พบกับความผิดอันมหันต์ การลงโทษในวันกิยามะฮฺจะถูกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าสำหรับเขา และเขาจะอยู่ในนั้นอย่างอัปยศ” (อัลฟุรกอน: 68-69) . ทั้งนี้ พระองค์ได้ทรงกำหนดไว้ว่าบทลงโทษสำหรับผู้ที่ฆ่าผู้ศรัทธาโดยเจตนานั้น คือ การพำนักอยู่ในนรกตลอดกาล ความโกรธกริ้วและการสาปแช่งของอัลลอฮฺ ตลอดจนการลงโทษที่เจ็บแสบสาหัสซึ่งพระองค์ทรงเตรียมไว้ . อัลลอฮฺ ตรัสว่า… “และผู้ใดฆ่าผู้ศรัทธาโดยจงใจ การตอบแทนแก่เขาก็คือนรกญะฮันนัม โดยที่เขาจะอยู่ในนั้นตลอดกาล และอัลลอฮฺก็ทรงกริ้วโกรธเขา และทรงสาปแช่งเขา และได้ทรงเตรียมไว้สำหรับเขาซึ่งการลงโทษอันใหญ่หลวง” (อันนิสาอ์: 93) . อนัส บิน มาลิก เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า… "บาปที่ใหญ่ที่สุดได้แก่ การตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ การฆ่าผู้อื่น การเนรคุณต่อบุพการี และคำพูดเท็จ (หรือ) การเป็นพยานเท็จ" (บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ หะดีษเลขที่ 6871 และมุสลิม หะดีษเลขที่ 88) . ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ยังได้บอกอีกว่า ผู้ศรัทธานั้นจะยังคงอยู่ในสภาพหรือสถานะที่ปลอดภัย ตราบใดที่เขาไม่คร่าชีวิตผู้อื่นโดยไม่ชอบธรรม . อิบนุ อุมัรฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า… “ศาสนาของผู้ศรัทธาคนหนึ่งจะยังคงอยู่ในสภาพที่ปลอดภัย ตราบใดที่เขามิได้คร่าชีวิตผู้อื่นโดยปราศจากความชอบธรรม” (บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ หะดีษเลขที่ 6862) . ความผิดที่เกี่ยวกับการเข่นฆ่าระหว่างหมู่มนุษย์นั้น คือสิ่งแรกที่จะได้รับการพิพากษาตัดสินในวันกิยามะฮฺ อิบนุ มัสอูด เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า… “สิ่งแรกที่มนุษย์จะถูกพิพากษาในวันกิยามะฮฺ คือ ความผิดที่เกิดจากการฆ่าผู้อื่น” (บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ หะดีษเลขที่ 6862 และมุสลิม หะดีษเลขที่ 1678) . ในหะดีษอีกบทหนึ่ง อบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า… “พวกท่านทั้งหลายจงหลีกห่างจากสิ่งที่ทำให้พินาศเจ็ดประการ (และหนึ่งในนั้นคือ) การฆ่าชีวิตผู้อื่นที่อัลลอฮฺทรงห้ามฆ่านอกจากด้วยสิทธิอันชอบธรรม” (บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ หะดีษเลขที่ 6857 และมุสลิม หะดีษเลขที่ 89) . อิบนุ อัมรฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า… “ผู้ใดฆ่า ผู้ที่อยู่ภายใต้พันธสัญญา เขาจะไม่ได้กลิ่นอายของสรวงสวรรค์ ทั้งที่กลิ่นของสวรรค์นั้นสามารถสัมผัสได้แม้จะอยู่ห่างออกไปเป็นระยะทางเท่ากับการเดินทางสี่สิบปีก็ตาม” (บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ หะดีษเลขที่ 6914) . ในหะดีษอีกบทหนึ่ง อิบนุ อับบาส เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า… “พวกท่านทั้งหลายอย่าได้เป็นดังเช่นผู้ปฏิเสธศรัทธาภายหลังจากที่ฉันตายไป ด้วยการที่พวกท่านประหัตประหารฆ่าฟันกัน” (บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ หะดีษเลขที่ 1739 และมุสลิม หะดีษเลขที่ 1679) . ท่านนบียังได้บอกอีกว่า การฆ่ากันนั้นเป็นหนึ่งในสัญญาณวันสิ้นโลก อบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า… “ความรู้จะถูกยึด ความโง่เขลาและความวุ่นวายจะปรากฏขึ้น และจะเกิดการฆ่าฟันกันอย่างมากมาย” (บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ หะดีษเลขที่ 85 และมุสลิม หะดีษเลขที่ 2672) . ============================================= อัลลอฮฺ ไม่สถิตอยู่กับคนขี้ขลาดอย่างพวกแกที่ลอบเข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ และบังอาจกล่าวอ้างพระนามพระเป็นเจ้าด้วยใจที่ชั่วช้าของพวกแก ขอให้พระเจ้าลงโทษฆาตกรทุกตัว อามีน .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 211 มุมมอง 0 รีวิว
  • ๔ พฤษภาคม "วันฉัตรมงคล"
    "เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป"
    พระปฐมบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
    ๔ พฤษภาคม "วันฉัตรมงคล" "เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป" พระปฐมบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • 4 พฤษภาคม วันฉัตรมงคล
    #ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
    4 พฤษภาคม วันฉัตรมงคล #ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • ๔ พฤษภาคม วันฉัตรมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน 🙏🏼✨

    วันฉัตรมงคล เป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ์ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

    หลังจากเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ต่อจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ และดำรงพระอิสริยยศเป็น “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” 🙏🏼✨
    ๔ พฤษภาคม วันฉัตรมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน 🙏🏼✨ วันฉัตรมงคล เป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ์ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ต่อจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ และดำรงพระอิสริยยศเป็น “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” 🙏🏼✨
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 0 รีวิว
  • ๔ พฤษภาคม วันฉัตรมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน 🙏🏼✨

    วันฉัตรมงคล เป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ์ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

    หลังจากเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ต่อจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ และดำรงพระอิสริยยศเป็น “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” 🙏🏼✨
    ๔ พฤษภาคม วันฉัตรมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน 🙏🏼✨ วันฉัตรมงคล เป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ์ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ต่อจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ และดำรงพระอิสริยยศเป็น “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” 🙏🏼✨
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • ๔ พฤษภาคม วันฉัตรมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน 🙏🏼✨

    วันฉัตรมงคล เป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ์ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

    หลังจากเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ต่อจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ และดำรงพระอิสริยยศเป็น “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” 🙏🏼✨
    ๔ พฤษภาคม วันฉัตรมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน 🙏🏼✨ วันฉัตรมงคล เป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ์ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ต่อจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ และดำรงพระอิสริยยศเป็น “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” 🙏🏼✨
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨ ฮ่องกงสายมู เที่ยวครบจบในทริปเดียว ✨
    #ทัวร์ฮ่องกง #นองปิง #สายมูต้องมา

    📅 เดินทาง 9-11 พ.ค. 68
    ✈️ บินหรูโดย *การบินไทย* (TG)
    ⏳ ทริปสั้น 3 วัน 2 คืน กำลังดี
    👥 เหลือ 4 ที่สุดท้ายเท่านั้น!
    💰 ราคาเพียง 30,900 บาท

    📍 ไฮไลท์ทริป
    🚡 นั่งกระเช้านองปิง 360 องศา
    🛕 ไหว้พระวัดดัง วัดโป่หลิน - แชกงหมิว - หวังต้าเซียน - เจ้าแม่กวนอิมฮองฮำ - กวนไท
    🎡 The Hong Kong Observation Wheel
    🛍️ ช้อป Citygate Outlet
    🌊 เดินชิล Repulse Bay
    🌄 วิวปัง Victoria Peak
    💎 เยี่ยมชมโรงงานจิวเวอร์รี่ & ร้านหยก
    🛒 ปิดท้ายจุใจที่ย่านจิมซาจุ่ย

    🙏 สายมูห้ามพลาด! เที่ยวครบ ขอพรเฮงๆ ตลอดปี!
    📲 ทักแชทจองเลยก่อนเต็มน้าาาา

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/ef486d

    ดูทัวร์ฮ่องกงทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/485b3e

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #เที่ยวฮ่องกง #ไหว้พระฮ่องกง #ฮ่องกง2025 #ขอพรเสริมดวง #สายมูฮ่องกง #ทัวร์ต่างประเทศ #thaitimes
    #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสน
    ✨ ฮ่องกงสายมู เที่ยวครบจบในทริปเดียว ✨ #ทัวร์ฮ่องกง #นองปิง #สายมูต้องมา 📅 เดินทาง 9-11 พ.ค. 68 ✈️ บินหรูโดย *การบินไทย* (TG) ⏳ ทริปสั้น 3 วัน 2 คืน กำลังดี 👥 เหลือ 4 ที่สุดท้ายเท่านั้น! 💰 ราคาเพียง 30,900 บาท 📍 ไฮไลท์ทริป 🚡 นั่งกระเช้านองปิง 360 องศา 🛕 ไหว้พระวัดดัง วัดโป่หลิน - แชกงหมิว - หวังต้าเซียน - เจ้าแม่กวนอิมฮองฮำ - กวนไท 🎡 The Hong Kong Observation Wheel 🛍️ ช้อป Citygate Outlet 🌊 เดินชิล Repulse Bay 🌄 วิวปัง Victoria Peak 💎 เยี่ยมชมโรงงานจิวเวอร์รี่ & ร้านหยก 🛒 ปิดท้ายจุใจที่ย่านจิมซาจุ่ย 🙏 สายมูห้ามพลาด! เที่ยวครบ ขอพรเฮงๆ ตลอดปี! 📲 ทักแชทจองเลยก่อนเต็มน้าาาา ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/ef486d ดูทัวร์ฮ่องกงทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/485b3e LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #เที่ยวฮ่องกง #ไหว้พระฮ่องกง #ฮ่องกง2025 #ขอพรเสริมดวง #สายมูฮ่องกง #ทัวร์ต่างประเทศ #thaitimes #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 638 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอพรแม่4พระองค์ปกป้องสยามประเทศแผ่นดินธรรมด้วย
    ขอพรแม่4พระองค์ปกป้องสยามประเทศแผ่นดินธรรมด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เหรียญไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ รุ่นแรก ปี2526
    เหรียญไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ รุ่นแรก ปี2526 // “ขอได้ ไหว้รับ” ชาวบ้านที่ไปกราบไหว้ขอพร ขอลาภ ขอให้ประสบความสำเร็จต่างๆ ฯลฯ” ก็ได้ประสบความสำเร็จเสมอ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก จัดสร้างน้อยครับ พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ “ขอได้ ไหว้รับ” ขอพร ขอลาภ ขอให้ประสบความสำเร็จต่างๆ ก็ได้ประสบความสำเร็จเสมอ บนบานขอโชคลาภและให้ประสบผลสำเร็จในการประกอบธุรกิจ >>

    ** “ไอ้ไข่” เป็นรูปเด็กอายุประมาณ ๑๐ ขวบ สวมแว่นตาดำ ชาวบ้านเรียกว่า “ไอ้ไข่” หรือ “ตาไข่” ตั้งอยู่ในศาลาหลังใหญ่ ปัจจุบันมีรูปจำลองหลายรูป ชาวบ้านให้ความเคารพกราบไหว้ทุกรูป โดยเชื่อกันว่าเป็นรูปเคารพ “ไอ้ไข่” ของวัดเจดีย์ ย่อมมีความขลังและศักดิ์สิทธิ์เหมือนๆ กันเพราะจิตวิญญาณของท่านสถิตอยู่ที่วัดเจดีย์แห่งนี้ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก จัดสร้างน้อยครับ พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ รุ่นแรก ปี2526 เหรียญไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ รุ่นแรก ปี2526 // “ขอได้ ไหว้รับ” ชาวบ้านที่ไปกราบไหว้ขอพร ขอลาภ ขอให้ประสบความสำเร็จต่างๆ ฯลฯ” ก็ได้ประสบความสำเร็จเสมอ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก จัดสร้างน้อยครับ พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ “ขอได้ ไหว้รับ” ขอพร ขอลาภ ขอให้ประสบความสำเร็จต่างๆ ก็ได้ประสบความสำเร็จเสมอ บนบานขอโชคลาภและให้ประสบผลสำเร็จในการประกอบธุรกิจ >> ** “ไอ้ไข่” เป็นรูปเด็กอายุประมาณ ๑๐ ขวบ สวมแว่นตาดำ ชาวบ้านเรียกว่า “ไอ้ไข่” หรือ “ตาไข่” ตั้งอยู่ในศาลาหลังใหญ่ ปัจจุบันมีรูปจำลองหลายรูป ชาวบ้านให้ความเคารพกราบไหว้ทุกรูป โดยเชื่อกันว่าเป็นรูปเคารพ “ไอ้ไข่” ของวัดเจดีย์ ย่อมมีความขลังและศักดิ์สิทธิ์เหมือนๆ กันเพราะจิตวิญญาณของท่านสถิตอยู่ที่วัดเจดีย์แห่งนี้ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก จัดสร้างน้อยครับ พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 271 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญเจริญพร หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา
    เหรียญเจริญพร หลวงพ่อเฉลิม เนื้อทองแดง ( ตอกโค๊ต ) วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา //พระดี พิธีใหญ๋ ที่ระลึกสมทบทุนสร้างโบสถ์ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณมหาอุตม์ อยู่ยงคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดเมตตามหานิยม กันผี-กันคุณไสยต่างๆ เมตตามหานิยม ส่งเสริมการทำมาค้าขาย ประกอบธุรกิจให้ร่ำรวย เจริญรุ่งเรือง อีกทั้งส่งเสริมหน้าที่การงาน พลิกหนุนเสริมดวงชะตาเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งแก่ผู้ครองครองบูชา >>

    ** หลวงพ่อเฉลิม เกจิดังกรุงเก่า เกจิอาวุโส พระนครศรีอยุธยา พระเกจิที่โด่งดังอาคมขลังหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทายาทสืบสานพุทธาคมสายตรงหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ เหรียญเจริญพร เอาไว้ขอพรให้สมหวัง รูปแบบสวยงาม เจตนาการสร้างก็ดี..... >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญเจริญพร หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา เหรียญเจริญพร หลวงพ่อเฉลิม เนื้อทองแดง ( ตอกโค๊ต ) วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา //พระดี พิธีใหญ๋ ที่ระลึกสมทบทุนสร้างโบสถ์ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณมหาอุตม์ อยู่ยงคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดเมตตามหานิยม กันผี-กันคุณไสยต่างๆ เมตตามหานิยม ส่งเสริมการทำมาค้าขาย ประกอบธุรกิจให้ร่ำรวย เจริญรุ่งเรือง อีกทั้งส่งเสริมหน้าที่การงาน พลิกหนุนเสริมดวงชะตาเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งแก่ผู้ครองครองบูชา >> ** หลวงพ่อเฉลิม เกจิดังกรุงเก่า เกจิอาวุโส พระนครศรีอยุธยา พระเกจิที่โด่งดังอาคมขลังหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทายาทสืบสานพุทธาคมสายตรงหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ เหรียญเจริญพร เอาไว้ขอพรให้สมหวัง รูปแบบสวยงาม เจตนาการสร้างก็ดี..... >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 287 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพระแก่หลังหลวงพ่อเลียบ วัดก้างปลา จ.นครศรีธรรมราช ปี2536
    เหรียญพระแก่หลังหลวงพ่อเลียบ วัดก้างปลา ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ปี2536 //“ขอได้ ไหว้รับ” แม่แก่ หรือ พระแก่ หรือ หลวงพ่อแก่ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ อายุกว่า 700ปี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    **** พุทธคุณ “ขอได้ ไหว้รับ” เมตตามหานิยม โชคลาภและแคล้วคลาด เสริมศิริมงคล ทำมาหากินรุ่งเรือง มีแต่ความร่ำรวย ประกอบธุรกิจ เงินๆทองๆ จะเจริญขึ้น มีเงินใหลมาเทมา การงานรับราชการ จะได้เลื่อนตำแหน่ง คุ้มครองป้องกัน แคล้วคลาดปลอดภัย >>

    ** ที่เรียกกันไปหลายชื่อก็เพราะสาเหตุดังนี้
    ** แม่แก่ เรียกตามสมัยโบราณ เพราะเมื่อมีคนบนบานศาลกล่าวขอพรเมื่อได้สำเร็จสมตามปรารถนาก็เรียกตามความ รู้สึกของตนด้วยความเคารพ ว่าแม่แก่ ( แม่เฒ่า )เพราะอยู่มานานไม่มีใครรู้จักชื่อ

    ** พระแก่ เรียกว่าพระแก่เพราะนั้นเพราะชาวบ้านมีความรู้สึกว่าท่านเป็นผู้ทรงศีลทรง ธรรมมีความบริสุทธิ์เช่นเดียวกับพระ เป็นที่พึ่งได้ในยามเขามีทุกข์ จึงเรียกว่าพระแก่

    ** หลวงพ่อแก่ ที่เรียกว่าหลวงพ่อแก่นั้นเป็นชื่อที่เรียกกันในสมัยที่พระครูวิฑิตธรรมโสภณ ( มหาเลียบ ฐิตธมฺโม ) อดีตเจ้าอาวาสชึ่งเป็นพระที่เก่งในทางไสยศาสตร์วิชาอาคมมีคนมาสักการะท่าน มากและก็ถามถึงเรื่องพระแก่ แม่แก่ ท่านจึงสร้างวิหารและเขียนไว้ที่หน้าวิหารว่า วิหารหลวงพ่อแก่ เพื่อให้เป็นสากลเพราะเป็นชื่อที่เรียกง่ายและเป็นคำพูดที่ไพเราะ คนสมัยปัจจุบันจึงเรียกว่า หลวงพ่อแก่ กันทั่วหน้า
    ของแก้บนในสมัยก่อน ใช้เผือก มัน กล้วย ปิดทอง ถ้าบนหนัก ๆ และสำเร็จส่วนใหญ่ก็จะเป็นมโนราห์ ปิดทอง สตางค์ใส่ตู้
    ปัจจุบันของแก้บน ประทัด บนบวช >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระแก่หลังหลวงพ่อเลียบ วัดก้างปลา จ.นครศรีธรรมราช ปี2536 เหรียญพระแก่หลังหลวงพ่อเลียบ วัดก้างปลา ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ปี2536 //“ขอได้ ไหว้รับ” แม่แก่ หรือ พระแก่ หรือ หลวงพ่อแก่ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ อายุกว่า 700ปี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> **** พุทธคุณ “ขอได้ ไหว้รับ” เมตตามหานิยม โชคลาภและแคล้วคลาด เสริมศิริมงคล ทำมาหากินรุ่งเรือง มีแต่ความร่ำรวย ประกอบธุรกิจ เงินๆทองๆ จะเจริญขึ้น มีเงินใหลมาเทมา การงานรับราชการ จะได้เลื่อนตำแหน่ง คุ้มครองป้องกัน แคล้วคลาดปลอดภัย >> ** ที่เรียกกันไปหลายชื่อก็เพราะสาเหตุดังนี้ ** แม่แก่ เรียกตามสมัยโบราณ เพราะเมื่อมีคนบนบานศาลกล่าวขอพรเมื่อได้สำเร็จสมตามปรารถนาก็เรียกตามความ รู้สึกของตนด้วยความเคารพ ว่าแม่แก่ ( แม่เฒ่า )เพราะอยู่มานานไม่มีใครรู้จักชื่อ ** พระแก่ เรียกว่าพระแก่เพราะนั้นเพราะชาวบ้านมีความรู้สึกว่าท่านเป็นผู้ทรงศีลทรง ธรรมมีความบริสุทธิ์เช่นเดียวกับพระ เป็นที่พึ่งได้ในยามเขามีทุกข์ จึงเรียกว่าพระแก่ ** หลวงพ่อแก่ ที่เรียกว่าหลวงพ่อแก่นั้นเป็นชื่อที่เรียกกันในสมัยที่พระครูวิฑิตธรรมโสภณ ( มหาเลียบ ฐิตธมฺโม ) อดีตเจ้าอาวาสชึ่งเป็นพระที่เก่งในทางไสยศาสตร์วิชาอาคมมีคนมาสักการะท่าน มากและก็ถามถึงเรื่องพระแก่ แม่แก่ ท่านจึงสร้างวิหารและเขียนไว้ที่หน้าวิหารว่า วิหารหลวงพ่อแก่ เพื่อให้เป็นสากลเพราะเป็นชื่อที่เรียกง่ายและเป็นคำพูดที่ไพเราะ คนสมัยปัจจุบันจึงเรียกว่า หลวงพ่อแก่ กันทั่วหน้า ของแก้บนในสมัยก่อน ใช้เผือก มัน กล้วย ปิดทอง ถ้าบนหนัก ๆ และสำเร็จส่วนใหญ่ก็จะเป็นมโนราห์ ปิดทอง สตางค์ใส่ตู้ ปัจจุบันของแก้บน ประทัด บนบวช >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 357 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทักษิณ" ให้คนเชียงใหม่ รดน้ำขอพร 26 เม.ย. จ่อขึ้นเวทีปราศรัยช่วยหาเสียงเลือกตั้ง "นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่" 27 เม.ย.
    https://www.thai-tai.tv/news/18179/
    "ทักษิณ" ให้คนเชียงใหม่ รดน้ำขอพร 26 เม.ย. จ่อขึ้นเวทีปราศรัยช่วยหาเสียงเลือกตั้ง "นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่" 27 เม.ย. https://www.thai-tai.tv/news/18179/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเพณีรดน้ำขอพรผู้อาวุโส "สายสัมพันธ์ผกากรอง" ครั้งที่ ๑๙ วันที่ ๑๔ เมษายน
    ประเพณีรดน้ำขอพรผู้อาวุโส "สายสัมพันธ์ผกากรอง" ครั้งที่ ๑๙ วันที่ ๑๔ เมษายน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 246 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงศึกษาว่าสามารถจะข้ามห้วงน้ำใหญ่คือกิเลส
    สัทธรรมลำดับที่ : 593
    ชื่อบทธรรม : -สามารถจะข้ามห้วงน้ำใหญ่คือกิเลส
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=593
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --สามารถจะข้ามห้วงน้ำใหญ่คือกิเลส
    ...
    อุปสีวมาณพทูลถามปัญหาว่า ข้าแต่พระองค์ผู้ศากยะ
    ข้าพระองค์ผู้เดียวไม่อาศัยธรรมหรือบุคคลอะไรแล้ว
    ไม่สามารถจะข้ามห้วงน้ำใหญ่คือกิเลสได้ข้าแต่พระองค์ผู้สมันตจักษุ
    ขอพระองค์จงตรัสบอกที่หน่วงเหนี่ยว อันข้าพระองค์พึงอาศัยข้ามห้วงน้ำคือกิเลสนี้
    แก่ข้าพระองค์เถิด ฯ
    พระผู้มีพระภาค(พ.) ตรัสพยากรณ์ว่า
    อุปสีวะ(อุ.)
    ท่านจงเป็นผู้มีสติ เพ่งอากิญจัญญายตนสมาบัติ อาศัยอารมณ์ว่า ไม่มี
    ดังนี้แล้วข้ามห้วงน้ำคือกิเลสเสียเถิด ท่านจงละกามทั้งหลายเสีย เป็น
    ผู้เว้นจากความสงสัย เห็นธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งตัณหาให้แจ่มแจ้ง
    ทั้งกลางวันกลางคืนเถิด ฯ
    อุ. ผู้ใดปราศจากความกำหนัดยินดีในกามทั้งปวงละสมาบัติอื่นเสีย อาศัย
    อากิญจัญญายตนสมาบัติ น้อมใจลงในสัญญาวิโมกข์ (คืออากิญจัญญา
    ยตนสมาบัติ ธรรมเปลื้องสัญญา)เป็นอย่างยิ่ง ผู้นั้นเป็นผู้ไม่หวั่นไหว
    พึงตั้งอยู่ในอากิญจัญญายตนพรหมโลกนั้นแลหรือ ฯ
    พ. ดูกรอุปสีวะ ผู้ใดปราศจากความกำหนัดยินดีในกามทั้งปวงละสมาบัติ
    อื่นเสีย อาศัยอากิญจัญญายตนสมาบัติ น้อมใจลงในสัญญาวิโมกข์เป็น
    อย่างยิ่ง ผู้นั้นเป็นผู้ไม่หวั่นไหวพึงตั้งอยู่ในอากิญจัญญายตนพรหมโลก
    นั้น ฯ
    อุ. ข้าแต่พระองค์ผู้มีสมันตจักษุ ถ้าผู้นั้นเป็นผู้ไม่หวั่นไหว พึงตั้งอยู่ใน
    อากิญจัญญายตนพรหมโลกนั้นสิ้นปีแม้มากไซร้ ผู้นั้นพึงพ้นจากทุกข์
    ต่างๆ ในอากิญจัญญายตนพรหมโลกนั้นแหละ พึงเป็นผู้เยือกเย็น
    หรือว่าวิญญาณของผู้เช่นนั้น พึงเกิดเพื่อถือปฏิสนธิอีก ฯ
    พ. ดูกรอุปสีวะ มุนีพ้นแล้วจากนามกาย ย่อมถึงการตั้งอยู่ไม่ได้ไม่ถึงการ
    นับ เปรียบเหมือนเปลวไฟอันถูกกำลังลมพัดไปแล้ว ย่อมถึงการตั้งอยู่
    ไม่ได้ ไม่ถึงการนับ ฉะนั้น ฯ
    อุ. ท่านผู้นั้นถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ ท่านผู้นั้นไม่มีหรือว่าท่านผู้นั้นเป็นผู้ไม่มีโรค
    ด้วยความเป็นผู้เที่ยง ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นมุนี ขอพระองค์จงตรัส
    พยากรณ์ความข้อนั้นให้สำเร็จประโยชน์แก่ข้าพระองค์เถิด เพราะว่า
    ธรรมนั้นพระองค์ทรงรู้แจ้งแล้วด้วยประการนั้น ฯ
    พ. ดูกรอุปสีวะ ท่านผู้ถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ ไม่มีประมาณ ชนทั้งหลายจะ
    พึงกล่าวท่านผู้นั้นด้วยกิเลสมีราคะเป็นต้นใด กิเลสมีราคะเป็นต้นนั้น
    ของท่านไม่มี เมื่อธรรม (มีขันธ์เป็นต้น)ทั้งปวง ท่านเพิกถอนขึ้นได้
    แล้ว แม้ทางแห่งถ้อยคำทั้งหมดก็เป็นอันท่านเพิกถอนขึ้นได้แล้ว ฯ
    http://etipitaka.com/read/pali/25/539/?keywords=อุปสีวมาณวกปญฺหา
    ...
    ประมาณเครื่องกำหนด (คือเกณฑ์ที่ใช้วัดสอบทุกชนิด)
    ไม่มีทางที่จะเอามาใช้ แก่บุคคลผู้ถึงซึ่งความดับแห่งการยึดถือตัวตน,
    ท่านผู้เป็นเช่นนั้น เป็นคนที่ไม่มีเหตุหรือคุณลักษณะอะไรๆ ที่ใครๆ
    จะกล่าวว่าท่านเป็นอะไร ได้อีกต่อไป.
    เมื่อสิ่งทั้งปวงถูกเพิกถอนความยึดถือเสียแล้ว
    วาทบถ คือ คลองแห่งถ้อยคำสำหรับเรียกสิ่งนั้นทั้งหมด
    ก็พลอยถูกเพิกถอน คือไร้ความหมายไปด้วยทั้งสิ้น.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สุตฺต. ขุ. 25/402/430.
    http://etipitaka.com/read/thai/25/402/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%93%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สุตฺต. ขุ. ๒๕/๕๓​๘/๔๓๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/25/538/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%93%E0%B9%90
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=593
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=40&id=593
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=40
    ลำดับสาธยายธรรม : 40​ ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_40.mp3
    อริยสาวกพึงศึกษาว่าสามารถจะข้ามห้วงน้ำใหญ่คือกิเลส สัทธรรมลำดับที่ : 593 ชื่อบทธรรม : -สามารถจะข้ามห้วงน้ำใหญ่คือกิเลส https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=593 เนื้อความทั้งหมด :- --สามารถจะข้ามห้วงน้ำใหญ่คือกิเลส ... อุปสีวมาณพทูลถามปัญหาว่า ข้าแต่พระองค์ผู้ศากยะ ข้าพระองค์ผู้เดียวไม่อาศัยธรรมหรือบุคคลอะไรแล้ว ไม่สามารถจะข้ามห้วงน้ำใหญ่คือกิเลสได้ข้าแต่พระองค์ผู้สมันตจักษุ ขอพระองค์จงตรัสบอกที่หน่วงเหนี่ยว อันข้าพระองค์พึงอาศัยข้ามห้วงน้ำคือกิเลสนี้ แก่ข้าพระองค์เถิด ฯ พระผู้มีพระภาค(พ.) ตรัสพยากรณ์ว่า อุปสีวะ(อุ.) ท่านจงเป็นผู้มีสติ เพ่งอากิญจัญญายตนสมาบัติ อาศัยอารมณ์ว่า ไม่มี ดังนี้แล้วข้ามห้วงน้ำคือกิเลสเสียเถิด ท่านจงละกามทั้งหลายเสีย เป็น ผู้เว้นจากความสงสัย เห็นธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งตัณหาให้แจ่มแจ้ง ทั้งกลางวันกลางคืนเถิด ฯ อุ. ผู้ใดปราศจากความกำหนัดยินดีในกามทั้งปวงละสมาบัติอื่นเสีย อาศัย อากิญจัญญายตนสมาบัติ น้อมใจลงในสัญญาวิโมกข์ (คืออากิญจัญญา ยตนสมาบัติ ธรรมเปลื้องสัญญา)เป็นอย่างยิ่ง ผู้นั้นเป็นผู้ไม่หวั่นไหว พึงตั้งอยู่ในอากิญจัญญายตนพรหมโลกนั้นแลหรือ ฯ พ. ดูกรอุปสีวะ ผู้ใดปราศจากความกำหนัดยินดีในกามทั้งปวงละสมาบัติ อื่นเสีย อาศัยอากิญจัญญายตนสมาบัติ น้อมใจลงในสัญญาวิโมกข์เป็น อย่างยิ่ง ผู้นั้นเป็นผู้ไม่หวั่นไหวพึงตั้งอยู่ในอากิญจัญญายตนพรหมโลก นั้น ฯ อุ. ข้าแต่พระองค์ผู้มีสมันตจักษุ ถ้าผู้นั้นเป็นผู้ไม่หวั่นไหว พึงตั้งอยู่ใน อากิญจัญญายตนพรหมโลกนั้นสิ้นปีแม้มากไซร้ ผู้นั้นพึงพ้นจากทุกข์ ต่างๆ ในอากิญจัญญายตนพรหมโลกนั้นแหละ พึงเป็นผู้เยือกเย็น หรือว่าวิญญาณของผู้เช่นนั้น พึงเกิดเพื่อถือปฏิสนธิอีก ฯ พ. ดูกรอุปสีวะ มุนีพ้นแล้วจากนามกาย ย่อมถึงการตั้งอยู่ไม่ได้ไม่ถึงการ นับ เปรียบเหมือนเปลวไฟอันถูกกำลังลมพัดไปแล้ว ย่อมถึงการตั้งอยู่ ไม่ได้ ไม่ถึงการนับ ฉะนั้น ฯ อุ. ท่านผู้นั้นถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ ท่านผู้นั้นไม่มีหรือว่าท่านผู้นั้นเป็นผู้ไม่มีโรค ด้วยความเป็นผู้เที่ยง ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นมุนี ขอพระองค์จงตรัส พยากรณ์ความข้อนั้นให้สำเร็จประโยชน์แก่ข้าพระองค์เถิด เพราะว่า ธรรมนั้นพระองค์ทรงรู้แจ้งแล้วด้วยประการนั้น ฯ พ. ดูกรอุปสีวะ ท่านผู้ถึงความตั้งอยู่ไม่ได้ ไม่มีประมาณ ชนทั้งหลายจะ พึงกล่าวท่านผู้นั้นด้วยกิเลสมีราคะเป็นต้นใด กิเลสมีราคะเป็นต้นนั้น ของท่านไม่มี เมื่อธรรม (มีขันธ์เป็นต้น)ทั้งปวง ท่านเพิกถอนขึ้นได้ แล้ว แม้ทางแห่งถ้อยคำทั้งหมดก็เป็นอันท่านเพิกถอนขึ้นได้แล้ว ฯ http://etipitaka.com/read/pali/25/539/?keywords=อุปสีวมาณวกปญฺหา ... ประมาณเครื่องกำหนด (คือเกณฑ์ที่ใช้วัดสอบทุกชนิด) ไม่มีทางที่จะเอามาใช้ แก่บุคคลผู้ถึงซึ่งความดับแห่งการยึดถือตัวตน, ท่านผู้เป็นเช่นนั้น เป็นคนที่ไม่มีเหตุหรือคุณลักษณะอะไรๆ ที่ใครๆ จะกล่าวว่าท่านเป็นอะไร ได้อีกต่อไป. เมื่อสิ่งทั้งปวงถูกเพิกถอนความยึดถือเสียแล้ว วาทบถ คือ คลองแห่งถ้อยคำสำหรับเรียกสิ่งนั้นทั้งหมด ก็พลอยถูกเพิกถอน คือไร้ความหมายไปด้วยทั้งสิ้น.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สุตฺต. ขุ. 25/402/430. http://etipitaka.com/read/thai/25/402/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%93%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สุตฺต. ขุ. ๒๕/๕๓​๘/๔๓๐. http://etipitaka.com/read/pali/25/538/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%93%E0%B9%90 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=593 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=40&id=593 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=40 ลำดับสาธยายธรรม : 40​ ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_40.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ประมาณเครื่องกำหนด (คือเกณฑ์ที่ใช้วัดสอบทุกชนิด) ไม่มีทางที่จะเอามาใช้ แก่บุคคลผู้ถึงซึ่งความดับแห่งการยึดถือตัวตน
    -ประมาณเครื่องกำหนด (คือเกณฑ์ที่ใช้วัดสอบทุกชนิด) ไม่มีทางที่จะเอามาใช้ แก่บุคคลผู้ถึงซึ่งความดับแห่งการยึดถือตัวตน, ท่านผู้เช่นนั้น เป็นคนที่ไม่มีเหตุหรือคุณลักษณะอะไรๆ ที่ใครๆ จะกล่าวว่าท่านเป็นอะไร ได้อีกต่อไป. เมื่อสิ่งทั้งปวงถูกเพิกถอนความยึดถือเสียแล้ว วาทบถ คือ คลองแห่งถ้อยคำสำหรับเรียกสิ่งนั้นทั้งหมด ก็พลอยถูกเพิกถอน คือไร้ความหมายไปด้วยทั้งสิ้น.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 292 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌸 14 เมษายน “วันเนา” วันอยู่บ้าน วันว่างสงกรานต์ ตำนานความเชื่อ… ห้ามทะเลาะ! เผลอด่าใคร ซวยไปทั้งปี!

    ✍️ "วันเนา" มีความหมายลึกซึ้งกว่าเป็นเพียงวันว่าง กลางเทศกาลสงกรานต์ เพราะวันนี้คือวันแห่งการทำสิ่งดีงาม งดด่าทอ งดทะเลาะ และตระเตรียมทำบุญ เพื่อสิริมงคลตลอดปี เจาะลึกตำนานวันที่ห้ามด่า ห้ามทะเลาะ หากฝ่าฝืนจะพบเคราะห์ทั้งปี พร้อมเล่าความเชื่อ วิถีชีวิต และกิจกรรมจาก 4 ภาค ทั่วไทย 🌈

    🧘‍♀️ วันเนา… ไม่ใช่แค่วันว่าง แต่คือ “วันสำคัญที่ต้องสำรวมใจ” 🕊️ ทุกๆ วันที่ 14 เมษายนของทุกปี คนไทยจำนวนมาก รู้จักกันว่าเป็น "วันว่าง" กลางเทศกาลสงกรานต์ แต่ทราบหรือไม่ว่า วันนี้เรียกว่า "วันเนา" และซ่อนความหมาย ความเชื่อ และพิธีกรรมที่ลึกซึ้งไว้มากมาย ตั้งแต่ความเชื่อโบราณ โหราศาสตร์ ไปจนถึงวิถีชีวิตคนไทย ที่แสดงความรักต่อครอบครัว 💖

    📚 คำว่า “เนา” เป็นภาษาเขมร แปลว่า “อยู่” หรือ “ตั้งอยู่” ดังนั้น "วันเนา" จึงหมายถึง วันที่ดวงอาทิตย์ “อยู่ประจำที่” ภายหลังย้ายจากราศีมีน เข้าสู่ราศีเมษตามคัมภีร์สุริยยาตร์ ซึ่งตรงกับวันที่ 14 เมษายนพอดี 🔍

    โดยในทางโหราศาสตร์ วันเนาคือวันที่ “พระอาทิตย์ยังไม่เปลี่ยนศักราชใหม่ อย่างสมบูรณ์” เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจุลศักราช ที่คนโบราณให้ความสำคัญอย่างมาก 🌓

    💡 “วันเนา” ถือว่าเป็นวันมงคล ต้องงดเว้นสิ่งอัปมงคล เช่น การด่าทอ การทะเลาะวิวาท และการพูดคำหยาบ

    🔮 ความเชื่อโบราณเกี่ยวกับวันเนา ห้ามทะเลาะ ห้ามด่า ไม่งั้น...ปากเน่า! 😷

    ❗ ห้ามด่าทอ หรือทะเลาะกับใคร ในวันนี้ ความเชื่อหนึ่งที่โด่งดังมากในวันเนา คือ ห้ามพูดคำหยาบ ห้ามทะเลาะวิวาท เพราะเชื่อกันว่า หากฝ่าฝืนจะพบเคราะห์ร้ายตลอดทั้งปี และบางตำนานถึงกับบอกว่า “ปากจะเน่า” จริงๆ! 🧟

    🌱 ทำบุญให้มากในวันเนา จะได้เก็บบุญไว้ใช้ตลอดปี ในช่วงบ่ายของวันเนา ชาวบ้านจะร่วมกันขนทรายเข้าวัด เพื่อก่อ “เจดีย์ทราย” สื่อถึงการนำสิ่งไม่ดีออกจากบ้าน และทดแทนทรายที่ติดเท้าออกมาจากวัด ซึ่งถือว่าเป็นการ “คืนของ” ด้วยความเคารพ

    🧘‍♂️ วันเนากับการเตรียมทำบุญ ความเชื่อในชีวิตประจำวัน กิจกรรมหลักที่ควรทำในวันเนา ทำความสะอาดบ้าน งดการใช้คำหยาบมเตรียมอาหาร ขนม และเครื่องไทยธรรม ขนทรายเข้าวัด สร้างเจดีย์ทราย ตระเตรียมของเพื่อทำบุญในวันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นวันเถลิงศก

    🌟 เคล็ดความเชื่อเสริมมงคล ผู้ที่ต้องการปลูกบ้านด้วยไม้ไผ่ ให้ตัดไม้ในวันเนา เพราะเชื่อว่า “ไม้จะไม่เน่า และปลวกไม่กิน” ถือเป็น “วันเตรียมของทำบุญ” หรือ “วันดา” ชาวบ้านจะ “ดา” หรือ “จัดเตรียม” ของเพื่อความพร้อมในวันพญาวัน

    👨‍👩‍👧‍👦 “วันครอบครัว” สร้างความอบอุ่น เริ่มต้นปีใหม่ด้วยใจที่มั่นคง ในปี พ.ศ.2532 รัฐบาลไทยได้กำหนดให้วันที่ 14 เมษายนของทุกปีเป็น “วันครอบครัว” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ สนับสนุนความสัมพันธ์ในครอบครัว 👪 ให้คนไทยใช้วันหยุดเทศกาลรวมญาติ กลับบ้าน และอยู่พร้อมหน้ากัน ส่งเสริมการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ การกราบขอพร และการทำกิจกรรมร่วมกัน

    🌸 ความรัก ความเคารพ และความผูกพันในครอบครัว จึงถูกยกระดับให้เป็นคุณค่าหลักในวันเนา

    📆 ปฏิทินสงกรานต์ จากมหาสงกรานต์ สู่วันเนา และวันเถลิงศก

    13 เมษายน วันมหาสงกรานต์ ดวงอาทิตย์เริ่มเข้าสู่ราศีเมษ
    14 เมษายน วันเนา ดวงอาทิตย์ตั้งอยู่ในราศีเมษ
    15 เมษายน วันเถลิงศก วันขึ้นปีใหม่ไทยแบบจุลศักราช

    บางปี วันเถลิงศกอาจเลื่อนเป็น 16 เมษายน ขึ้นกับการคำนวณทางโหราศาสตร์

    🌍 สงกรานต์ 4 ภาค กับความเชื่อเกี่ยวกับ “วันเนา”

    🏔️ ภาคเหนือเรียกว่า “วันดา” มีพิธีขนทรายเข้าวัด และทำตุงสีสันสวยงาม ห้ามทะเลาะหรือมีปากเสียง เตรียมตัวทำบุญในวันพญาวัน

    🛕 ภาคอีสานเรียกว่า “มื้อเนา” ชาวบ้านจะแต่งกายงดงาม ออกไปทำบุญ รดน้ำพระ ฟังธรรมตอนกลางคืน มีการบายศรีสู่ขวัญผู้ใหญ่

    🏙️ ภาคกลางเรียกวันเนา เตรียมของทำบุญ ตักบาตร สรงน้ำพระ กิจกรรมดัง เช่น สงกรานต์มอญ และสงกรานต์พระประแดง มีขบวนแห่นางสงกรานต์ สวยงามตระการตา 💃

    🌴 ภาคใต้เรียกว่า “วันว่าง” ห้ามทำงาน ห้ามฆ่าสัตว์ ห้ามตัดผม วันสำหรับทำบุญใหญ่ เรียกว่า “ทำขวัญข้าวใหญ่” ถือเป็นวันสำคัญของการอุทิศส่วนกุศล ให้บรรพบุรุษ

    🚿 ถนนสายสงกรานต์ ความสนุกที่ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม 🎉 "ถนนข้าวสาร" กรุงเทพฯ ถือเป็นถนนสายสงกรานต์แห่งแรกของไทย ที่จัดงานสงกรานต์ในรูปแบบใหม่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว 🎈 และต่อมาจังหวัดต่าง ๆ ได้พัฒนาแนวคิด ถนนสายสงกรานต์ของตนเอง เช่น ถนนข้าวเหนียวขอนแก่น ถนนข้าวแช่ปทุมธานี ถนนข้าวกล่ำกาฬสินธุ์ ถนนข้าวหมากนราธิวาส

    🧠 วันเนา วันว่าง หรือวันศักดิ์สิทธิ์? อยู่ที่จะเลือก “อยู่” อย่างไร?

    📌 สิ่งที่ควรทำในวันเนา
    ✅ พูดจาไพเราะ
    ✅ ทำบุญ ขนทรายเข้าวัด
    ✅ อยู่กับครอบครัว
    ✅ เตรียมของทำบุญ
    ✅ ขอพรผู้ใหญ่

    ❌ สิ่งที่ควรเลี่ยงในวันเนา
    🚫 ด่าทอคนอื่น
    🚫 ทะเลาะวิวาท
    🚫 ใช้คำพูดไม่สุภาพ
    🚫 ทำร้ายสัตว์
    🚫 ตัดเล็บ ตัดผม

    วันเนาไม่ใช่แค่วันหยุดธรรมดา แต่คือวันแห่งการ “พักใจ” และ “ทำดี” เพื่อสะสมสิ่งมงคลรับปีใหม่แบบไทยๆ 🧡

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 141313 เม.ย. 2568

    📌 #วันเนา #สงกรานต์ #วันครอบครัว #วันว่าง #ไม่ทะเลาะวันเนา #เจดีย์ทราย #รดน้ำดำหัว #ปีใหม่ไทย #วัฒนธรรมไทย #ประเพณีสงกรานต์

    🌸 14 เมษายน “วันเนา” วันอยู่บ้าน วันว่างสงกรานต์ ตำนานความเชื่อ… ห้ามทะเลาะ! เผลอด่าใคร ซวยไปทั้งปี! ✍️ "วันเนา" มีความหมายลึกซึ้งกว่าเป็นเพียงวันว่าง กลางเทศกาลสงกรานต์ เพราะวันนี้คือวันแห่งการทำสิ่งดีงาม งดด่าทอ งดทะเลาะ และตระเตรียมทำบุญ เพื่อสิริมงคลตลอดปี เจาะลึกตำนานวันที่ห้ามด่า ห้ามทะเลาะ หากฝ่าฝืนจะพบเคราะห์ทั้งปี พร้อมเล่าความเชื่อ วิถีชีวิต และกิจกรรมจาก 4 ภาค ทั่วไทย 🌈 🧘‍♀️ วันเนา… ไม่ใช่แค่วันว่าง แต่คือ “วันสำคัญที่ต้องสำรวมใจ” 🕊️ ทุกๆ วันที่ 14 เมษายนของทุกปี คนไทยจำนวนมาก รู้จักกันว่าเป็น "วันว่าง" กลางเทศกาลสงกรานต์ แต่ทราบหรือไม่ว่า วันนี้เรียกว่า "วันเนา" และซ่อนความหมาย ความเชื่อ และพิธีกรรมที่ลึกซึ้งไว้มากมาย ตั้งแต่ความเชื่อโบราณ โหราศาสตร์ ไปจนถึงวิถีชีวิตคนไทย ที่แสดงความรักต่อครอบครัว 💖 📚 คำว่า “เนา” เป็นภาษาเขมร แปลว่า “อยู่” หรือ “ตั้งอยู่” ดังนั้น "วันเนา" จึงหมายถึง วันที่ดวงอาทิตย์ “อยู่ประจำที่” ภายหลังย้ายจากราศีมีน เข้าสู่ราศีเมษตามคัมภีร์สุริยยาตร์ ซึ่งตรงกับวันที่ 14 เมษายนพอดี 🔍 โดยในทางโหราศาสตร์ วันเนาคือวันที่ “พระอาทิตย์ยังไม่เปลี่ยนศักราชใหม่ อย่างสมบูรณ์” เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจุลศักราช ที่คนโบราณให้ความสำคัญอย่างมาก 🌓 💡 “วันเนา” ถือว่าเป็นวันมงคล ต้องงดเว้นสิ่งอัปมงคล เช่น การด่าทอ การทะเลาะวิวาท และการพูดคำหยาบ 🔮 ความเชื่อโบราณเกี่ยวกับวันเนา ห้ามทะเลาะ ห้ามด่า ไม่งั้น...ปากเน่า! 😷 ❗ ห้ามด่าทอ หรือทะเลาะกับใคร ในวันนี้ ความเชื่อหนึ่งที่โด่งดังมากในวันเนา คือ ห้ามพูดคำหยาบ ห้ามทะเลาะวิวาท เพราะเชื่อกันว่า หากฝ่าฝืนจะพบเคราะห์ร้ายตลอดทั้งปี และบางตำนานถึงกับบอกว่า “ปากจะเน่า” จริงๆ! 🧟 🌱 ทำบุญให้มากในวันเนา จะได้เก็บบุญไว้ใช้ตลอดปี ในช่วงบ่ายของวันเนา ชาวบ้านจะร่วมกันขนทรายเข้าวัด เพื่อก่อ “เจดีย์ทราย” สื่อถึงการนำสิ่งไม่ดีออกจากบ้าน และทดแทนทรายที่ติดเท้าออกมาจากวัด ซึ่งถือว่าเป็นการ “คืนของ” ด้วยความเคารพ 🧘‍♂️ วันเนากับการเตรียมทำบุญ ความเชื่อในชีวิตประจำวัน กิจกรรมหลักที่ควรทำในวันเนา ทำความสะอาดบ้าน งดการใช้คำหยาบมเตรียมอาหาร ขนม และเครื่องไทยธรรม ขนทรายเข้าวัด สร้างเจดีย์ทราย ตระเตรียมของเพื่อทำบุญในวันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นวันเถลิงศก 🌟 เคล็ดความเชื่อเสริมมงคล ผู้ที่ต้องการปลูกบ้านด้วยไม้ไผ่ ให้ตัดไม้ในวันเนา เพราะเชื่อว่า “ไม้จะไม่เน่า และปลวกไม่กิน” ถือเป็น “วันเตรียมของทำบุญ” หรือ “วันดา” ชาวบ้านจะ “ดา” หรือ “จัดเตรียม” ของเพื่อความพร้อมในวันพญาวัน 👨‍👩‍👧‍👦 “วันครอบครัว” สร้างความอบอุ่น เริ่มต้นปีใหม่ด้วยใจที่มั่นคง ในปี พ.ศ.2532 รัฐบาลไทยได้กำหนดให้วันที่ 14 เมษายนของทุกปีเป็น “วันครอบครัว” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ สนับสนุนความสัมพันธ์ในครอบครัว 👪 ให้คนไทยใช้วันหยุดเทศกาลรวมญาติ กลับบ้าน และอยู่พร้อมหน้ากัน ส่งเสริมการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ การกราบขอพร และการทำกิจกรรมร่วมกัน 🌸 ความรัก ความเคารพ และความผูกพันในครอบครัว จึงถูกยกระดับให้เป็นคุณค่าหลักในวันเนา 📆 ปฏิทินสงกรานต์ จากมหาสงกรานต์ สู่วันเนา และวันเถลิงศก 13 เมษายน วันมหาสงกรานต์ ดวงอาทิตย์เริ่มเข้าสู่ราศีเมษ 14 เมษายน วันเนา ดวงอาทิตย์ตั้งอยู่ในราศีเมษ 15 เมษายน วันเถลิงศก วันขึ้นปีใหม่ไทยแบบจุลศักราช บางปี วันเถลิงศกอาจเลื่อนเป็น 16 เมษายน ขึ้นกับการคำนวณทางโหราศาสตร์ 🌍 สงกรานต์ 4 ภาค กับความเชื่อเกี่ยวกับ “วันเนา” 🏔️ ภาคเหนือเรียกว่า “วันดา” มีพิธีขนทรายเข้าวัด และทำตุงสีสันสวยงาม ห้ามทะเลาะหรือมีปากเสียง เตรียมตัวทำบุญในวันพญาวัน 🛕 ภาคอีสานเรียกว่า “มื้อเนา” ชาวบ้านจะแต่งกายงดงาม ออกไปทำบุญ รดน้ำพระ ฟังธรรมตอนกลางคืน มีการบายศรีสู่ขวัญผู้ใหญ่ 🏙️ ภาคกลางเรียกวันเนา เตรียมของทำบุญ ตักบาตร สรงน้ำพระ กิจกรรมดัง เช่น สงกรานต์มอญ และสงกรานต์พระประแดง มีขบวนแห่นางสงกรานต์ สวยงามตระการตา 💃 🌴 ภาคใต้เรียกว่า “วันว่าง” ห้ามทำงาน ห้ามฆ่าสัตว์ ห้ามตัดผม วันสำหรับทำบุญใหญ่ เรียกว่า “ทำขวัญข้าวใหญ่” ถือเป็นวันสำคัญของการอุทิศส่วนกุศล ให้บรรพบุรุษ 🚿 ถนนสายสงกรานต์ ความสนุกที่ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม 🎉 "ถนนข้าวสาร" กรุงเทพฯ ถือเป็นถนนสายสงกรานต์แห่งแรกของไทย ที่จัดงานสงกรานต์ในรูปแบบใหม่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว 🎈 และต่อมาจังหวัดต่าง ๆ ได้พัฒนาแนวคิด ถนนสายสงกรานต์ของตนเอง เช่น ถนนข้าวเหนียวขอนแก่น ถนนข้าวแช่ปทุมธานี ถนนข้าวกล่ำกาฬสินธุ์ ถนนข้าวหมากนราธิวาส 🧠 วันเนา วันว่าง หรือวันศักดิ์สิทธิ์? อยู่ที่จะเลือก “อยู่” อย่างไร? 📌 สิ่งที่ควรทำในวันเนา ✅ พูดจาไพเราะ ✅ ทำบุญ ขนทรายเข้าวัด ✅ อยู่กับครอบครัว ✅ เตรียมของทำบุญ ✅ ขอพรผู้ใหญ่ ❌ สิ่งที่ควรเลี่ยงในวันเนา 🚫 ด่าทอคนอื่น 🚫 ทะเลาะวิวาท 🚫 ใช้คำพูดไม่สุภาพ 🚫 ทำร้ายสัตว์ 🚫 ตัดเล็บ ตัดผม วันเนาไม่ใช่แค่วันหยุดธรรมดา แต่คือวันแห่งการ “พักใจ” และ “ทำดี” เพื่อสะสมสิ่งมงคลรับปีใหม่แบบไทยๆ 🧡 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 141313 เม.ย. 2568 📌 #วันเนา #สงกรานต์ #วันครอบครัว #วันว่าง #ไม่ทะเลาะวันเนา #เจดีย์ทราย #รดน้ำดำหัว #ปีใหม่ไทย #วัฒนธรรมไทย #ประเพณีสงกรานต์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 903 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เท้ง” เข้าสักการะพระอุปคุต เสี่ยงโชคซื้อล็อตเตอรี่ ขอพรหลวงพ่อให้ประสบความสำเร็จที่ได้ทำเพื่อบ้านเมือง
    https://www.thai-tai.tv/news/18155/
    “เท้ง” เข้าสักการะพระอุปคุต เสี่ยงโชคซื้อล็อตเตอรี่ ขอพรหลวงพ่อให้ประสบความสำเร็จที่ได้ทำเพื่อบ้านเมือง https://www.thai-tai.tv/news/18155/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • 24 ปี ประหารชีวิต ‘สมคิด นามแก้ว’ นักโทษคดียาบ้าคนแรก ที่ถูกประหาร ด้วยการยิงเป้า” เสียงครวญสะท้านใจ “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต มันไม่คุ้มเลย” แง่คิดที่เตือนให้รู้คุณค่าของชีวิต

    “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้า คนแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านไป ภายใต้บรรยากาศอันน่าสะเทือนใจ ของการเปลี่ยนแปลงสังคม การปราบปรามยาเสพติด ชีวิตมีค่ามากกว่าเงินทอง และความจำเป็นในการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด อย่างเด็ดขาด

    ในโลกที่ความมีค่าแห่งชีวิต ศีลธรรม ถูกท้าทายด้วยความโลภ และความอยากรวย เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมานั้น ยังคงสะเทือนใจคนไทยทุกวันนี้ 😢

    ย้อนไปเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมา ในบ่ายวันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 ที่แดนประหาร เรือนจำกลางบางขวาง เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศ ต้องจ้องมองและตั้งคำถาม ถึงความหมายของความถูกต้อง และความยุติธรรมในสังคม อย่างลึกซึ้ง

    ยาบ้าและปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติดทุกชนิด ต่างก็เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบในทุกชั้นสังคม แต่ยาบ้าในสมัยนั้นเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้เกิดอาชญากรรมร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมที่คลุ้มคลั่ง และทำให้ผู้เสพมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อตัวเองและสังคมทั่วไป

    นายสมคิด นามแก้ว ได้ถูกจับในคดีมียาเสพติด โดยมีหลักฐานแน่ชัดว่า ต้องขนส่งยาบ้าปริมาณมหาศาล ซึ่งสืบเนื่องมาจากการสืบสวน ที่เชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายค้ายาเสพติด ทั้งในประเทศและในต่างประเทศ และในขณะที่ระบบการปราบปรามยาเสพติด เริ่มเข้มงวดขึ้น เพื่อยับยั้งอาชญากรรม และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหายาบ้าในสังคม 👮‍♂️

    ประเทศไทยมีกฎหมายที่เข้มงวด เกี่ยวกับคดียาเสพติด โดยหลักฐานและการรับสารภาพ มักนำไปสู่โทษที่ร้ายแรงที่สุดในบางกรณี โดยเฉพาะในคดียาบ้า ที่มักจะมีมาตรการประหารชีวิต สำหรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีจุดประสงค์ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณเตือน ให้กับผู้ที่คิดจะเข้ามามีส่วนร่วมกับการค้า และเสพติดยาเสพติด

    ในคดีของสมคิด ศาลชั้นต้นเห็นว่า ความผิดไม่ได้เกิดจาก ความประมาทเลินเล่อเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการกระทำ ที่บ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยของสังคม และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า การกระทำความผิดในฐานะที่เป็น “นักโทษคดียาบ้า” นั้น จะต้องได้รับโทษในระดับสูงสุด ซึ่งก็คือการประหารชีวิต ตามที่ได้เกิดขึ้นจริงในวันนั้น

    ในช่วงเวลานั้น ยาบ้าเป็นที่แพร่หลายในสังคมในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นชั้นคนทำงานข้างนอก หรือแม้แต่ในวงการขบวนการอาชญากรรมขนาดใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ของเครือข่ายค้ายาเสพติด ทำให้การปราบปรามเป็นเรื่องท้าทาย และต้องใช้ความพยายามอย่างมาก จากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ยังทำให้เกิดความรู้สึกสับสนในสังคม ที่มองเห็นภาพของความยุติธรรม ที่อาจไม่ชัดเจนในบางครั้ง

    เหตุการณ์ของคดีนี้ เริ่มต้นในกลางดึกวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2540 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับข้อมูล เกี่ยวกับการลำเลียงยาบ้าปริมาณมาก จากพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงราย เข้าสู่กรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางผ่านทางหลวงหมายเลข 103

    เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กองบังคับการทางหลวง 5 จังหวัดพะเยา ได้ตั้งด่านสกัด ที่ตู้ยามตำรวจทางหลวงร้องกวาง ตำบลร้องเข็ม อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ตามข้อมูลที่ได้รับ และมีรถเก๋งโตโยต้า โคโรน่าสีน้ำตาล ทะเบียน 3ว-8505 กทม. วิ่งเข้ามาที่จุดสกัด เมื่อเจ้าหน้าที่สั่งให้รถหยุด เพื่อทำการตรวจค้น

    ในขณะตรวจค้น นายสมคิด ซึ่งในตอนนั้นอายุ 31 ปี พักอาศัยอยู่ที่หมู่ที่ 10 ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้แสดงออกถึงพิรุธ ด้วยการกล่าวว่า “ในรถไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย” และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ตนเองเกลียดยาบ้ามากที่สุด” แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการค้นอย่างละเอียด พบยาบ้าบรรจุในห่อพลาสติก ซุกซ่อนอยู่ตามที่ต่าง ๆ ในรถ ทั้งที่ประตูรถและใต้เบาะนั่ง พบว่ามียาบ้าปริมาณถึง 203 ห่อ ๆ ละ 2,000 เม็ด รวมเป็นจำนวน 406,000 เม็ด ซึ่งมีสีสันปรากฏเป็นสีส้มและเขียว ประทับตัวอักษรว่า “wy” โดยมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท จึงติดสินบนตำรวจ 5 ล้านบาท แต่ตำรวจไม่เล่นด้วย🚔

    หลังจากจับกุม ในขั้นตอนการสอบสวน นายสมคิดได้ให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างขนยาบ้าจากพ่อค้ายาเสพติด ด้วยค่าจ้าง 50,000 บาท เพื่อนำส่งให้ลูกค้าที่ปั๊มน้ำมัน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

    เหตุการณ์ที่น่าสลดใจนี้ เผยให้เห็นว่า แม้จะมีกำไรในทางการค้ายาเสพติด แต่ในความเป็นจริงแล้ว “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” นั้นไม่คุ้มค่าเลย เพราะชีวิตที่ถูกประหารนั้น เป็นชีวิตที่จบลงไปในพริบตา ไม่มีวันได้กลับคืน หรือแก้ไขได้หลังจากนั้น

    นายสมคิดถูกส่งเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี ในศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยในชั้นต้นศาลเห็นว่า แม้จะมีการรับสารภาพ แต่การกระทำของนายสมคิดนั้นทำให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรง ต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม จึงได้พิพากษาให้ลงโทษในระดับสูงสุด นั่นคือโทษประหารชีวิต

    หลังจากคำพิพากษาของศาลชั้นต้น นายสมคิดได้ดำเนินการอุทธรณ์ ต่อศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา พร้อมทั้งได้ยื่นหนังสือถวายฎีกา ทูลเกล้าขอพระราชทานอภัยโทษ ในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2543

    นายสมคิดได้ให้เหตุผลว่า “ตนมีการรับสารภาพมาตั้งแต่แรก และไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน” รวมทั้งระบุว่า ตนได้กระทำเ พราะต้องการหาเงินมารักษาพยาบาลพี่สาว ที่ป่วยเป็นโรคสมองฝ่อ เนื่องจากฐานะทางการเงินที่ยากจน แต่ข้ออ้างเหล่านี้ถู กศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาปฏิเสธ โดยให้ความสำคัญกับความมั่นคงของประเทศชาติ และความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยกล่าวว่าเรื่องส่วนตัว ไม่สามารถเปรียบเทียบ กับประโยชน์ส่วนรวมของสังคมได้

    ในกระบวนการพิจารณา ศาลได้พิจารณาหลักฐาน และพฤติกรรมของนายสมคิด ที่ชัดเจนว่าเป็นผู้รับจ้างขนยาบ้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้า และการค้ายาเสพติด ที่สร้างความไม่สงบเรียบร้อยในสังคม การที่นายสมคิดพยายามให้สินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็น ที่เน้นย้ำถึงความจริงที่ว่า ระบบค้ายาเสพติด มีการแทรกซึมลึกในสังคม

    ศาลอุทธรณ์จึงตัดสินยืน ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น และเมื่อเรื่องนั้นถูกส่งต่อมายังศาลฎีกา คำพิพากษาก็ยังคงยืนหยัด นำมาซึ่งวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 เป็นวันที่ประหารชีวิตเกิดขึ้นจริง

    วันประหารชีวิตของนายสมคิด นามแก้ว ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดความสลดใจ และสะเทือนใจคนไทยอย่างแท้จริง โดยรายละเอียดในวันนั้นถูกบันทึกไว้ในหลาย ๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นบันทึกของเจ้าหน้าที่ หรือรายงานของนักข่าว ภาพความทุกข์ และความหวาดกลัวของนักโทษที่ต้องรอประหาร ได้สะท้อนให้เห็นถึงความหนักแน่น ในการปราบปรามยาเสพติดในสมัยนั้น

    ในช่วงบ่ายของวันประหาร ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ต่างเข้ามาจัดเตรียมสิ่งของ ที่จำเป็นสำหรับการประหารชีวิต ทั้งนี้เพื่อให้ขั้นตอนทั้งหมด เป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นความลับ เมื่อถึงเวลาที่นายสมคิด ถูกเบิกตัวออกจากห้องคุม ทุกอย่างดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความเงียบสงัด และบรรยากาศที่หนักอึ้ง

    นายสมคิดในวันนั้น แสดงอาการที่ชัดเจนว่า รู้สึกกลัวและทุกข์ทรมาน ทั้งทางร่างกายที่เริ่มอ่อนแรง และจิตใจที่สั่นคลอน ถึงแม้ว่าในช่วงท้ายของการเดิน จากห้องคุมไปสู่หลักประหาร นายสมคิดยังคงตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับความรู้สึกและความคิดของตนเอง “ผมเป็นคนแรกที่ถูกประหาร เพราะคดียาบ้าใช่ไหมครับ” และยังได้เตือนผู้อื่น เกี่ยวกับการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ที่อาจนำมาซึ่งความทุกข์ และความเสียหายต่อชีวิต 😔

    ระหว่างทาง ในขณะที่นายสมคิดถูกนำไปประหาร มีการสนทนาที่บ่งบอกถึงความทรงจำ และความเจ็บปวดภายในจิตใจของเขา รวมถึงการแฉข้อเท็จจริงของเครือข่ายค้ายาเสพติด ที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองในระดับท้องถิ่น “ถ้าจะปราบยาเสพติดให้หมดไปจริงๆ ก็ต้องเอาคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในทุกระดับออกไป” นายสมคิดกล่าว ในช่วงเวลาที่อารมณ์ผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยความจริงใจ และความรู้สึกที่อยากจะบอกต่อสังคม

    ผู้คุมในวันนั้น ได้พยายามปลอบใจนายสมคิดว่า “อย่างน้อยสมคิดยังได้ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคม เป็นครั้งสุดท้าย” แม้ว่าจะมองในแง่ของการเป็นบทเตือน สำหรับผู้ที่คิดจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่คำพูดเหล่านี้ ก็สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งของจิตใจ ระหว่างความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และความเห็นอกเห็นใจในความทุกข์ของมนุษย์

    ในห้องประหาร ที่จัดเตรียมขึ้นอย่างเคร่งครัด นายสมคิดถูกนำเข้ามาในห้องที่แสงไฟสลัว ๆ และบรรยากาศเงียบสงัด ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ทำการเตรียมเครื่องมือ และตรวจสอบความพร้อมในทุกขั้นตอน ก่อนที่หัวหน้าชุดประหารจะโบกธงแดง เพื่อเริ่มกระบวนการประหาร

    ในช่วงเวลานั้น ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ทุกคน ต่างมีความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างหน้าที่ และความสำนึกในความทุกข์ทรมานของนายสมคิด ขณะที่นายสมคิดเอง ก็ได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ ในการรำลึกถึงชีวิตที่ผ่านมา ทั้งความรัก ความฝัน และความผิดพลาด ที่ไม่อาจย้อนกลับได้อีกต่อไป

    คำบอกลาและพินัยกรรมของนายสมคิด เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงข้อคิดที่ว่า “ชีวิตมนุษย์มีค่า เกินกว่าจะถูกแลกด้วยเงินเพียงเพราะความจน หรือความสิ้นหวัง” เขาได้ฝากท้ายจดหมายถึงญาติพี่น้องว่า “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด” ซึ่งเป็นคำเตือนที่หวังว่า จะช่วยป้องกันไม่ให้คนอื่น เดินตามรอยเท้าของเขาในอนาคต

    แม้คดีของนายสมคิด นามแก้ว จะเกิดขึ้นเมื่อกว่า 24 ปี ที่ผ่านมา แต่ผลกระทบ และบทเรียนที่ได้รับจากเหตุการณ์นี้ ยังคงสะท้อนอยู่ในสังคมไทยในหลายมิติ ทั้งในแง่ของการปราบปรามยาเสพติด และการตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตมนุษย์

    คดีนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญให้กับนโยบาย และวิธีการปราบปรามยาเสพติดในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับบทเรียนอันทรงคุณค่าจากการจับกุม และการดำเนินคดีที่เป็นแบบอย่าง แม้ว่าจะมีความท้าทาย จากเครือข่ายอาชญากรรมที่ซับซ้อน แต่การดำเนินการที่เข้มแข็ง และเด็ดขาดในคดีนี้ ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า ไม่มีทางที่ผู้กระทำผิด จะหลุดพ้นไปจากกฎหมาย

    นอกจากนี้ ความเข้มงวดในการลงโทษสูงสุด อย่างการประหารชีวิต ได้เป็นเครื่องมือทางจิตวิทยา ที่ทำให้ผู้ค้ายาเสพติดต้องคิดทบทวนถึงความเสี่ยง และผลที่ตามมา หากตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางอาชญากรรมดังกล่าว

    หนึ่งในแง่คิดที่ทรงพลัง จากเหตุการณ์ของนายสมคิด คือ “ชีวิตมนุษย์มีค่าเกินกว่าจะแลกด้วยเงิน” เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ นายสมคิดได้รับเงินค่าจ้างเ 50,000 บาท เพื่อการขนส่งยาบ้า แต่ท้ายที่สุดค่าใช้จ่ายนั้น กลับสูงกว่ามาก เมื่อชีวิตของเขา ถูกสังหารไปในพริบตา

    เหตุการณ์ครั้งนี้เตือนใจให้กับทุกคนว่า ไม่ว่าเราจะเผชิญกับความยากจน หรือความท้าทายใด ๆ ในชีวิต การก้าวเข้าสู่เส้นทางผิดกฎหมาย ด้วยเงินทองเพียงไม่กี่บาทนั้น ไม่สามารถชดเชยค่าของชีวิต และความมีคุณค่าที่แท้จริงได้

    ในมุมมองของสังคม สิ่งนี้ยังเป็นการเผยให้เห็นถึง ความจำเป็นในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ในระบบเศรษฐกิจ และสวัสดิการสังคม เพื่อให้คนไทยทุกคน มีโอกาสได้รับความช่วยเหลือ และการสนับสนุนที่เหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิต หรือกระทำความผิดเพื่อความอยู่รอด

    นอกจากความเสียหาย ที่เกิดกับตัวนายสมคิดแล้ว คดีนี้ยังส่งผลกระทบต่อครอบครัว และญาติพี่น้องของเขาอีกด้วย ภาพของคนในบ้าน ที่ต้องสูญเสียสมาชิกอันมีค่าไป จากการกระทำที่นำไปสู่การประหารชีวิต สะท้อนให้เห็นถึงความสูญเสีย ทั้งทางด้านอารมณ์ และชื่อเสียงในสังคม

    การที่คนรอบข้าง ต้องเผชิญกับความสลด จากการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวนั้น ทำให้เราได้ตระหนักถึงความสำคัญ ของการมีคุณค่าชีวิต และความจำเป็นในการสนับสนุน และช่วยเหลือกันในสังคม ไม่ว่าจะเป็นผ่านนโยบายสังคมที่เข้มแข็ง หรือการให้ความรู้แก่ประชาชน เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด

    ในหลายช่วงของเรื่องราวนี้ อารมณ์และความรู้สึก ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างละเอียด ทั้งความกลัว ความเสียใจ และความหวาดกลัวของนายสมคิด ในนาทีสุดท้าย และความเหงาเศร้าใจของผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ที่ต้องเผชิญกับการปฏิบัติหน้าที่หนักอึ้ง เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องหันมาสำรวจ และตั้งคำถามว่า “เราจะทำอะไร เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้ เกิดขึ้นอีก?”

    สังคมไทยในปัจจุบัน ยังคงต้องรับมือกับปัญหายาบ้า และปัญหาอาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆ จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีมาตรการส่งเสริมคุณค่าชีวิต การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ และโอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิต ให้กับผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรมเหล่านั้น โดยที่ไม่ใช่แค่การลงโทษเท่านั้น แต่ยังเป็นการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้น

    เหตุการณ์ของนายสมคิด นามแก้ว ได้เปิดเผยประเด็นสำคัญทางจริยธรรม ที่สังคมไทยต้องเผชิญ โดยเฉพาะในแง่ของการให้คุณค่ากับชีวิตมนุษย์ และการตัดสินใจที่มีผลตามมาตลอดชีพ

    ในสังคมที่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ยังคงมีอยู่ ความจนหรือความจำเป็นบางครั้ง ถูกใช้เป็นข้ออ้างในการกระทำผิด แต่เหตุการณ์ของนายสมคิด สอนเราให้เห็นว่า การกระทำผิดไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ แม้จะมีเหตุผลส่วนตัว ที่น่าสงสารเพียงใดก็ตาม

    “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” เป็นวาทะที่ชัดเจนที่เตือนใจว่า ค่าใช้จ่ายในชีวิตนั้น สูงเกินกว่าที่จะวัดด้วยเงินทอง ใครที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ควรได้รับความช่วยเหลือจากสังคม มากกว่าที่จะถูกผลัก ให้เข้าสู่เส้นทางที่ไร้ทางออก

    การลงโทษประหารชีวิตในคดียาเสพติด อาจดูเหมือนเป็นการลงโทษที่รุนแรง แต่ในมุมมองของสังคมไทยในขณะนั้นแล้ว ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนภัยอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เครือข่ายค้ายาเสพติด เติบโตและแพร่กระจาย

    อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกัน ก็มีความถกเถียงกันในหลายมุมมอง เกี่ยวกับความถูกต้องของการลงโทษสูงสุดนี้ ว่าจะสามารถช่วยลดอาชญากรรมในระยะยาว ได้จริงหรือไม่ แต่ข้อเท็จจริงที่เห็นจากคดีของนายสมคิดคือ การลงโทษอย่างเด็ดขาดนั้น เป็นการยืนยันถึงความเข้มงวด ของระบบยุติธรรมในยุคนั้น

    หากเรามองในแง่ของการป้องกัน การลงโทษที่รุนแรง ไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของการกระทำผิด ได้ในระยะยาว สังคมจำเป็นต้องหันมาสนับสนุนการศึกษา สวัสดิการ และระบบช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในภาวะเสียเปรียบ

    ในบทเรียนจากคดีนี้ เราได้รู้ว่าการแก้ไขปัญหาความยากจน และปัญหาสังคมในมิติ ที่ลึกกว่าเพียงการลงโทษนั้น สำคัญมาก การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้ทุกคน มีโอกาสทางการศึกษา และการพัฒนาตนเอง อาจเป็นกุญแจสำคัญ ในการป้องกันไม่ให้เกิดคดี ที่คล้ายคลึงกันในอนาคต

    เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต 24 ปีที่ผ่านมา คดีของนายสมคิด นามแก้ว ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจให้กับสังคมไทย ถึงความเปราะบางของชีวิตมนุษย์ และความรับผิดชอบ ที่เราต้องมีต่อกันในฐานะสมาชิกของสังคม

    แม้ว่าในนาทีสุดท้ายของชีวิต นายสมคิดจะต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมาน และความกลัวที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่คำพูดและการกระทำของเขา กลับเป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า สำหรับคนไทยทุกคน “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด” คือคำเตือนที่เกิดจากความเจ็บปวดส่วนตัว ที่สุดท้ายแล้ว กลับกลายเป็นเสียงเตือนถึงความผิดพลาด ที่อาจส่งผลให้ชีวิตของเรา และคนที่เรารักต้องจบลงในพริบตา

    การประหารชีวิตในคดีนี้ ทำให้เราได้ตระหนักว่า การเลือกทางเดินในชีวิตนั้น สำคัญมากกว่าเงินทอง หรือสิ่งของวัตถุใด ๆ เพราะเมื่อชีวิตถูกใช้ไปแล้ว เราจะไม่มีทางหวนคืนกลับมาได้อีก 😔

    สังคมไทยในปัจจุบัน ย่อมต้องหันมาสนับสนุนกัน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อม ที่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตที่มีคุณค่าแ ละถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด การสนับสนุนให้ผู้ที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง รวมถึงการส่งเสริมค่านิยมในด้านความซื่อสัตย์ และความมีคุณธรรม

    ในมุมมองนี้ คดีของนายสมคิด ไม่ได้เป็นเพียงคดีของนักโทษ ที่ถูกประหารชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนสำหรับทุกคน ที่ต้องคิดทบทวน ถึงความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ชีวิตมีค่า” เมื่อชีวิตของเราถูกกีดกันด้วยความผิดพลาด ในเส้นทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีสิ่งใดสามารถทดแทนความเสียหาย ที่เกิดขึ้นได้ในภายหลัง

    เพื่อป้องกันไม่ให้มีคดีที่คล้ายคลึงกัน เกิดขึ้นอีกในอนาคต จำเป็นต้องมีการสร้างระบบ ที่ช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรม อย่างครบวงจร ตั้งแต่การศึกษาเรื่องผลกระทบของยาเสพติด การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ ไปจนถึงการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจ ให้กับกลุ่มคนที่อาจตกเป็นเหยื่อของความยากจน และการล่อลวงของเครือข่ายค้ายาเสพติด

    นอกจากนี้ การให้ความรู้ และสร้างจิตสำนึกในสังคมว่า “การแลกเปลี่ยนชีวิตมนุษย์เพื่อเงิน” นั้นไม่มีค่าเทียบเท่ากับความมีชีวิตอยู่ และความสมบูรณ์ของจิตใจ จะช่วยลดโอกาสให้คนเข้าสู่แนวทางที่ผิด และนำไปสู่การพัฒนาสังคมที่ดีขึ้น อย่างแท้จริง

    เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความจริง ที่บางครั้งเราอาจมองข้ามไป ในแง่ของคุณค่าชีวิต และผลกระทบที่เกิดขึ้น จากการกระทำผิดกฎหมาย 🤔 ชีวิตที่ถูกแลกด้วยเงินเพียงเล็กน้อยนั้นไม่มีค่า เมื่อเทียบกับความรักและความสัมพันธ์ของคนรอบข้า งที่สูญเสียไปไปพร้อมกัน

    ทั้งนี้ คดีนี้เป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า ที่สังคมไทยไม่ควรลืม และเป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้จะอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก หรือมีความยากจน แต่ทางออกที่ถูกต้องคือ การมองหาแนวทางช่วยเหลือ และการพัฒนาชีวิตให้ดีกว่าเดิม ไม่ใช่การเลือกเส้นทาง ที่นำพามาซึ่งความผิดพลาด และจุดจบที่น่าเศร้า

    เหตุการณ์ประหารชีวิต “สมคิด นามแก้ว” ในคดีคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจอันทรงคุณค่าให้กับคนไทยในทุกยุคสมัย แม้จะผ่านไปนาน 24 ปี แต่บาดแผลจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ยังคงปรากฏให้เห็นในแง่มุมของการต่อสู้กับยาเสพติด และการรักษาคุณค่าของชีวิตมนุษย์

    จากคดีนี้เราได้เรียนรู้ว่า "ชีวิตมีค่า" และไม่ควรนำมาแลกเปลี่ยนกับเงินทอง แม้เพียงเล็กน้อย เพราะผลที่ตามมาหลังจากนั้น คือความสูญเสีย ที่ไม่อาจชดเชยได้ทั้งในทางกายและจิตใจ

    สิ่งที่เราได้จากเรื่องราวของสมคิด คือการตระหนักในความสำคัญ ของการเลือกเส้นทางชีวิตที่ถูกต้อง การช่วยเหลือ และสนับสนุนกันในสังคม ในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทาย และความยากจน เราควรเลือกที่จะอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง และมีความหมาย แม้ทางเดินจะยากลำบาก แต่ความมีคุณค่าในชีวิตและความจริงใจ จะนำเราไปสู่อนาคตที่ดีกว่า เส้นทางที่ไม่ต้องแลกเปลี่ยนชีวิตอันมีค่า เพื่อเงินทองที่ว่างเปล่า

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121635 เม.ย. 2568

    #24ปีประหาร #สมคิดนามแก้ว #นักโทษคดียาบ้า #ปราบยาเสพติด #ชีวิตมีค่า #คดียาบ้า #ยับยั้งอาชญากรรม #สังคมปลอดภัย #อาลัยในชีวิต #ความจริงที่ไม่ควรลืม
    24 ปี ประหารชีวิต ‘สมคิด นามแก้ว’ นักโทษคดียาบ้าคนแรก ที่ถูกประหาร ด้วยการยิงเป้า” เสียงครวญสะท้านใจ “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต มันไม่คุ้มเลย” แง่คิดที่เตือนให้รู้คุณค่าของชีวิต “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้า คนแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านไป ภายใต้บรรยากาศอันน่าสะเทือนใจ ของการเปลี่ยนแปลงสังคม การปราบปรามยาเสพติด ชีวิตมีค่ามากกว่าเงินทอง และความจำเป็นในการต่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด อย่างเด็ดขาด ในโลกที่ความมีค่าแห่งชีวิต ศีลธรรม ถูกท้าทายด้วยความโลภ และความอยากรวย เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” นักโทษคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ที่ถูกประหารชีวิตเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมานั้น ยังคงสะเทือนใจคนไทยทุกวันนี้ 😢 ย้อนไปเมื่อ 24 ปี ที่ผ่านมา ในบ่ายวันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 ที่แดนประหาร เรือนจำกลางบางขวาง เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศ ต้องจ้องมองและตั้งคำถาม ถึงความหมายของความถูกต้อง และความยุติธรรมในสังคม อย่างลึกซึ้ง ยาบ้าและปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติดทุกชนิด ต่างก็เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบในทุกชั้นสังคม แต่ยาบ้าในสมัยนั้นเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้เกิดอาชญากรรมร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมที่คลุ้มคลั่ง และทำให้ผู้เสพมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อตัวเองและสังคมทั่วไป นายสมคิด นามแก้ว ได้ถูกจับในคดีมียาเสพติด โดยมีหลักฐานแน่ชัดว่า ต้องขนส่งยาบ้าปริมาณมหาศาล ซึ่งสืบเนื่องมาจากการสืบสวน ที่เชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายค้ายาเสพติด ทั้งในประเทศและในต่างประเทศ และในขณะที่ระบบการปราบปรามยาเสพติด เริ่มเข้มงวดขึ้น เพื่อยับยั้งอาชญากรรม และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหายาบ้าในสังคม 👮‍♂️ ประเทศไทยมีกฎหมายที่เข้มงวด เกี่ยวกับคดียาเสพติด โดยหลักฐานและการรับสารภาพ มักนำไปสู่โทษที่ร้ายแรงที่สุดในบางกรณี โดยเฉพาะในคดียาบ้า ที่มักจะมีมาตรการประหารชีวิต สำหรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีจุดประสงค์ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณเตือน ให้กับผู้ที่คิดจะเข้ามามีส่วนร่วมกับการค้า และเสพติดยาเสพติด ในคดีของสมคิด ศาลชั้นต้นเห็นว่า ความผิดไม่ได้เกิดจาก ความประมาทเลินเล่อเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการกระทำ ที่บ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยของสังคม และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า การกระทำความผิดในฐานะที่เป็น “นักโทษคดียาบ้า” นั้น จะต้องได้รับโทษในระดับสูงสุด ซึ่งก็คือการประหารชีวิต ตามที่ได้เกิดขึ้นจริงในวันนั้น ในช่วงเวลานั้น ยาบ้าเป็นที่แพร่หลายในสังคมในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นชั้นคนทำงานข้างนอก หรือแม้แต่ในวงการขบวนการอาชญากรรมขนาดใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ของเครือข่ายค้ายาเสพติด ทำให้การปราบปรามเป็นเรื่องท้าทาย และต้องใช้ความพยายามอย่างมาก จากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ยังทำให้เกิดความรู้สึกสับสนในสังคม ที่มองเห็นภาพของความยุติธรรม ที่อาจไม่ชัดเจนในบางครั้ง เหตุการณ์ของคดีนี้ เริ่มต้นในกลางดึกวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2540 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับข้อมูล เกี่ยวกับการลำเลียงยาบ้าปริมาณมาก จากพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงราย เข้าสู่กรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางผ่านทางหลวงหมายเลข 103 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กองบังคับการทางหลวง 5 จังหวัดพะเยา ได้ตั้งด่านสกัด ที่ตู้ยามตำรวจทางหลวงร้องกวาง ตำบลร้องเข็ม อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ตามข้อมูลที่ได้รับ และมีรถเก๋งโตโยต้า โคโรน่าสีน้ำตาล ทะเบียน 3ว-8505 กทม. วิ่งเข้ามาที่จุดสกัด เมื่อเจ้าหน้าที่สั่งให้รถหยุด เพื่อทำการตรวจค้น ในขณะตรวจค้น นายสมคิด ซึ่งในตอนนั้นอายุ 31 ปี พักอาศัยอยู่ที่หมู่ที่ 10 ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้แสดงออกถึงพิรุธ ด้วยการกล่าวว่า “ในรถไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย” และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ตนเองเกลียดยาบ้ามากที่สุด” แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการค้นอย่างละเอียด พบยาบ้าบรรจุในห่อพลาสติก ซุกซ่อนอยู่ตามที่ต่าง ๆ ในรถ ทั้งที่ประตูรถและใต้เบาะนั่ง พบว่ามียาบ้าปริมาณถึง 203 ห่อ ๆ ละ 2,000 เม็ด รวมเป็นจำนวน 406,000 เม็ด ซึ่งมีสีสันปรากฏเป็นสีส้มและเขียว ประทับตัวอักษรว่า “wy” โดยมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท จึงติดสินบนตำรวจ 5 ล้านบาท แต่ตำรวจไม่เล่นด้วย🚔 หลังจากจับกุม ในขั้นตอนการสอบสวน นายสมคิดได้ให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างขนยาบ้าจากพ่อค้ายาเสพติด ด้วยค่าจ้าง 50,000 บาท เพื่อนำส่งให้ลูกค้าที่ปั๊มน้ำมัน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เหตุการณ์ที่น่าสลดใจนี้ เผยให้เห็นว่า แม้จะมีกำไรในทางการค้ายาเสพติด แต่ในความเป็นจริงแล้ว “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” นั้นไม่คุ้มค่าเลย เพราะชีวิตที่ถูกประหารนั้น เป็นชีวิตที่จบลงไปในพริบตา ไม่มีวันได้กลับคืน หรือแก้ไขได้หลังจากนั้น นายสมคิดถูกส่งเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี ในศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยในชั้นต้นศาลเห็นว่า แม้จะมีการรับสารภาพ แต่การกระทำของนายสมคิดนั้นทำให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรง ต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม จึงได้พิพากษาให้ลงโทษในระดับสูงสุด นั่นคือโทษประหารชีวิต หลังจากคำพิพากษาของศาลชั้นต้น นายสมคิดได้ดำเนินการอุทธรณ์ ต่อศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา พร้อมทั้งได้ยื่นหนังสือถวายฎีกา ทูลเกล้าขอพระราชทานอภัยโทษ ในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2543 นายสมคิดได้ให้เหตุผลว่า “ตนมีการรับสารภาพมาตั้งแต่แรก และไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน” รวมทั้งระบุว่า ตนได้กระทำเ พราะต้องการหาเงินมารักษาพยาบาลพี่สาว ที่ป่วยเป็นโรคสมองฝ่อ เนื่องจากฐานะทางการเงินที่ยากจน แต่ข้ออ้างเหล่านี้ถู กศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาปฏิเสธ โดยให้ความสำคัญกับความมั่นคงของประเทศชาติ และความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยกล่าวว่าเรื่องส่วนตัว ไม่สามารถเปรียบเทียบ กับประโยชน์ส่วนรวมของสังคมได้ ในกระบวนการพิจารณา ศาลได้พิจารณาหลักฐาน และพฤติกรรมของนายสมคิด ที่ชัดเจนว่าเป็นผู้รับจ้างขนยาบ้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้า และการค้ายาเสพติด ที่สร้างความไม่สงบเรียบร้อยในสังคม การที่นายสมคิดพยายามให้สินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็น ที่เน้นย้ำถึงความจริงที่ว่า ระบบค้ายาเสพติด มีการแทรกซึมลึกในสังคม ศาลอุทธรณ์จึงตัดสินยืน ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น และเมื่อเรื่องนั้นถูกส่งต่อมายังศาลฎีกา คำพิพากษาก็ยังคงยืนหยัด นำมาซึ่งวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 เป็นวันที่ประหารชีวิตเกิดขึ้นจริง วันประหารชีวิตของนายสมคิด นามแก้ว ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดความสลดใจ และสะเทือนใจคนไทยอย่างแท้จริง โดยรายละเอียดในวันนั้นถูกบันทึกไว้ในหลาย ๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นบันทึกของเจ้าหน้าที่ หรือรายงานของนักข่าว ภาพความทุกข์ และความหวาดกลัวของนักโทษที่ต้องรอประหาร ได้สะท้อนให้เห็นถึงความหนักแน่น ในการปราบปรามยาเสพติดในสมัยนั้น ในช่วงบ่ายของวันประหาร ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ต่างเข้ามาจัดเตรียมสิ่งของ ที่จำเป็นสำหรับการประหารชีวิต ทั้งนี้เพื่อให้ขั้นตอนทั้งหมด เป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นความลับ เมื่อถึงเวลาที่นายสมคิด ถูกเบิกตัวออกจากห้องคุม ทุกอย่างดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความเงียบสงัด และบรรยากาศที่หนักอึ้ง นายสมคิดในวันนั้น แสดงอาการที่ชัดเจนว่า รู้สึกกลัวและทุกข์ทรมาน ทั้งทางร่างกายที่เริ่มอ่อนแรง และจิตใจที่สั่นคลอน ถึงแม้ว่าในช่วงท้ายของการเดิน จากห้องคุมไปสู่หลักประหาร นายสมคิดยังคงตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับความรู้สึกและความคิดของตนเอง “ผมเป็นคนแรกที่ถูกประหาร เพราะคดียาบ้าใช่ไหมครับ” และยังได้เตือนผู้อื่น เกี่ยวกับการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ที่อาจนำมาซึ่งความทุกข์ และความเสียหายต่อชีวิต 😔 ระหว่างทาง ในขณะที่นายสมคิดถูกนำไปประหาร มีการสนทนาที่บ่งบอกถึงความทรงจำ และความเจ็บปวดภายในจิตใจของเขา รวมถึงการแฉข้อเท็จจริงของเครือข่ายค้ายาเสพติด ที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองในระดับท้องถิ่น “ถ้าจะปราบยาเสพติดให้หมดไปจริงๆ ก็ต้องเอาคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในทุกระดับออกไป” นายสมคิดกล่าว ในช่วงเวลาที่อารมณ์ผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยความจริงใจ และความรู้สึกที่อยากจะบอกต่อสังคม ผู้คุมในวันนั้น ได้พยายามปลอบใจนายสมคิดว่า “อย่างน้อยสมคิดยังได้ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคม เป็นครั้งสุดท้าย” แม้ว่าจะมองในแง่ของการเป็นบทเตือน สำหรับผู้ที่คิดจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่คำพูดเหล่านี้ ก็สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งของจิตใจ ระหว่างความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และความเห็นอกเห็นใจในความทุกข์ของมนุษย์ ในห้องประหาร ที่จัดเตรียมขึ้นอย่างเคร่งครัด นายสมคิดถูกนำเข้ามาในห้องที่แสงไฟสลัว ๆ และบรรยากาศเงียบสงัด ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ทำการเตรียมเครื่องมือ และตรวจสอบความพร้อมในทุกขั้นตอน ก่อนที่หัวหน้าชุดประหารจะโบกธงแดง เพื่อเริ่มกระบวนการประหาร ในช่วงเวลานั้น ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ทุกคน ต่างมีความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างหน้าที่ และความสำนึกในความทุกข์ทรมานของนายสมคิด ขณะที่นายสมคิดเอง ก็ได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ ในการรำลึกถึงชีวิตที่ผ่านมา ทั้งความรัก ความฝัน และความผิดพลาด ที่ไม่อาจย้อนกลับได้อีกต่อไป คำบอกลาและพินัยกรรมของนายสมคิด เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงข้อคิดที่ว่า “ชีวิตมนุษย์มีค่า เกินกว่าจะถูกแลกด้วยเงินเพียงเพราะความจน หรือความสิ้นหวัง” เขาได้ฝากท้ายจดหมายถึงญาติพี่น้องว่า “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด” ซึ่งเป็นคำเตือนที่หวังว่า จะช่วยป้องกันไม่ให้คนอื่น เดินตามรอยเท้าของเขาในอนาคต แม้คดีของนายสมคิด นามแก้ว จะเกิดขึ้นเมื่อกว่า 24 ปี ที่ผ่านมา แต่ผลกระทบ และบทเรียนที่ได้รับจากเหตุการณ์นี้ ยังคงสะท้อนอยู่ในสังคมไทยในหลายมิติ ทั้งในแง่ของการปราบปรามยาเสพติด และการตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตมนุษย์ คดีนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญให้กับนโยบาย และวิธีการปราบปรามยาเสพติดในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับบทเรียนอันทรงคุณค่าจากการจับกุม และการดำเนินคดีที่เป็นแบบอย่าง แม้ว่าจะมีความท้าทาย จากเครือข่ายอาชญากรรมที่ซับซ้อน แต่การดำเนินการที่เข้มแข็ง และเด็ดขาดในคดีนี้ ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า ไม่มีทางที่ผู้กระทำผิด จะหลุดพ้นไปจากกฎหมาย นอกจากนี้ ความเข้มงวดในการลงโทษสูงสุด อย่างการประหารชีวิต ได้เป็นเครื่องมือทางจิตวิทยา ที่ทำให้ผู้ค้ายาเสพติดต้องคิดทบทวนถึงความเสี่ยง และผลที่ตามมา หากตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางอาชญากรรมดังกล่าว หนึ่งในแง่คิดที่ทรงพลัง จากเหตุการณ์ของนายสมคิด คือ “ชีวิตมนุษย์มีค่าเกินกว่าจะแลกด้วยเงิน” เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ นายสมคิดได้รับเงินค่าจ้างเ 50,000 บาท เพื่อการขนส่งยาบ้า แต่ท้ายที่สุดค่าใช้จ่ายนั้น กลับสูงกว่ามาก เมื่อชีวิตของเขา ถูกสังหารไปในพริบตา เหตุการณ์ครั้งนี้เตือนใจให้กับทุกคนว่า ไม่ว่าเราจะเผชิญกับความยากจน หรือความท้าทายใด ๆ ในชีวิต การก้าวเข้าสู่เส้นทางผิดกฎหมาย ด้วยเงินทองเพียงไม่กี่บาทนั้น ไม่สามารถชดเชยค่าของชีวิต และความมีคุณค่าที่แท้จริงได้ ในมุมมองของสังคม สิ่งนี้ยังเป็นการเผยให้เห็นถึง ความจำเป็นในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ในระบบเศรษฐกิจ และสวัสดิการสังคม เพื่อให้คนไทยทุกคน มีโอกาสได้รับความช่วยเหลือ และการสนับสนุนที่เหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิต หรือกระทำความผิดเพื่อความอยู่รอด นอกจากความเสียหาย ที่เกิดกับตัวนายสมคิดแล้ว คดีนี้ยังส่งผลกระทบต่อครอบครัว และญาติพี่น้องของเขาอีกด้วย ภาพของคนในบ้าน ที่ต้องสูญเสียสมาชิกอันมีค่าไป จากการกระทำที่นำไปสู่การประหารชีวิต สะท้อนให้เห็นถึงความสูญเสีย ทั้งทางด้านอารมณ์ และชื่อเสียงในสังคม การที่คนรอบข้าง ต้องเผชิญกับความสลด จากการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวนั้น ทำให้เราได้ตระหนักถึงความสำคัญ ของการมีคุณค่าชีวิต และความจำเป็นในการสนับสนุน และช่วยเหลือกันในสังคม ไม่ว่าจะเป็นผ่านนโยบายสังคมที่เข้มแข็ง หรือการให้ความรู้แก่ประชาชน เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด ในหลายช่วงของเรื่องราวนี้ อารมณ์และความรู้สึก ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างละเอียด ทั้งความกลัว ความเสียใจ และความหวาดกลัวของนายสมคิด ในนาทีสุดท้าย และความเหงาเศร้าใจของผู้คุมและเจ้าหน้าที่ ที่ต้องเผชิญกับการปฏิบัติหน้าที่หนักอึ้ง เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องหันมาสำรวจ และตั้งคำถามว่า “เราจะทำอะไร เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้ เกิดขึ้นอีก?” สังคมไทยในปัจจุบัน ยังคงต้องรับมือกับปัญหายาบ้า และปัญหาอาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆ จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีมาตรการส่งเสริมคุณค่าชีวิต การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ และโอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิต ให้กับผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรมเหล่านั้น โดยที่ไม่ใช่แค่การลงโทษเท่านั้น แต่ยังเป็นการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้น เหตุการณ์ของนายสมคิด นามแก้ว ได้เปิดเผยประเด็นสำคัญทางจริยธรรม ที่สังคมไทยต้องเผชิญ โดยเฉพาะในแง่ของการให้คุณค่ากับชีวิตมนุษย์ และการตัดสินใจที่มีผลตามมาตลอดชีพ ในสังคมที่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ยังคงมีอยู่ ความจนหรือความจำเป็นบางครั้ง ถูกใช้เป็นข้ออ้างในการกระทำผิด แต่เหตุการณ์ของนายสมคิด สอนเราให้เห็นว่า การกระทำผิดไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ แม้จะมีเหตุผลส่วนตัว ที่น่าสงสารเพียงใดก็ตาม “เงินห้าหมื่นแลกกับชีวิต” เป็นวาทะที่ชัดเจนที่เตือนใจว่า ค่าใช้จ่ายในชีวิตนั้น สูงเกินกว่าที่จะวัดด้วยเงินทอง ใครที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ควรได้รับความช่วยเหลือจากสังคม มากกว่าที่จะถูกผลัก ให้เข้าสู่เส้นทางที่ไร้ทางออก การลงโทษประหารชีวิตในคดียาเสพติด อาจดูเหมือนเป็นการลงโทษที่รุนแรง แต่ในมุมมองของสังคมไทยในขณะนั้นแล้ว ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนภัยอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เครือข่ายค้ายาเสพติด เติบโตและแพร่กระจาย อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกัน ก็มีความถกเถียงกันในหลายมุมมอง เกี่ยวกับความถูกต้องของการลงโทษสูงสุดนี้ ว่าจะสามารถช่วยลดอาชญากรรมในระยะยาว ได้จริงหรือไม่ แต่ข้อเท็จจริงที่เห็นจากคดีของนายสมคิดคือ การลงโทษอย่างเด็ดขาดนั้น เป็นการยืนยันถึงความเข้มงวด ของระบบยุติธรรมในยุคนั้น หากเรามองในแง่ของการป้องกัน การลงโทษที่รุนแรง ไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของการกระทำผิด ได้ในระยะยาว สังคมจำเป็นต้องหันมาสนับสนุนการศึกษา สวัสดิการ และระบบช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในภาวะเสียเปรียบ ในบทเรียนจากคดีนี้ เราได้รู้ว่าการแก้ไขปัญหาความยากจน และปัญหาสังคมในมิติ ที่ลึกกว่าเพียงการลงโทษนั้น สำคัญมาก การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้ทุกคน มีโอกาสทางการศึกษา และการพัฒนาตนเอง อาจเป็นกุญแจสำคัญ ในการป้องกันไม่ให้เกิดคดี ที่คล้ายคลึงกันในอนาคต เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต 24 ปีที่ผ่านมา คดีของนายสมคิด นามแก้ว ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจให้กับสังคมไทย ถึงความเปราะบางของชีวิตมนุษย์ และความรับผิดชอบ ที่เราต้องมีต่อกันในฐานะสมาชิกของสังคม แม้ว่าในนาทีสุดท้ายของชีวิต นายสมคิดจะต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมาน และความกลัวที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่คำพูดและการกระทำของเขา กลับเป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า สำหรับคนไทยทุกคน “อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด” คือคำเตือนที่เกิดจากความเจ็บปวดส่วนตัว ที่สุดท้ายแล้ว กลับกลายเป็นเสียงเตือนถึงความผิดพลาด ที่อาจส่งผลให้ชีวิตของเรา และคนที่เรารักต้องจบลงในพริบตา การประหารชีวิตในคดีนี้ ทำให้เราได้ตระหนักว่า การเลือกทางเดินในชีวิตนั้น สำคัญมากกว่าเงินทอง หรือสิ่งของวัตถุใด ๆ เพราะเมื่อชีวิตถูกใช้ไปแล้ว เราจะไม่มีทางหวนคืนกลับมาได้อีก 😔 สังคมไทยในปัจจุบัน ย่อมต้องหันมาสนับสนุนกัน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อม ที่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตที่มีคุณค่าแ ละถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ เกี่ยวกับผลกระทบของยาเสพติด การสนับสนุนให้ผู้ที่ตกอยู่ในภาวะยากจน ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง รวมถึงการส่งเสริมค่านิยมในด้านความซื่อสัตย์ และความมีคุณธรรม ในมุมมองนี้ คดีของนายสมคิด ไม่ได้เป็นเพียงคดีของนักโทษ ที่ถูกประหารชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนสำหรับทุกคน ที่ต้องคิดทบทวน ถึงความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ชีวิตมีค่า” เมื่อชีวิตของเราถูกกีดกันด้วยความผิดพลาด ในเส้นทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีสิ่งใดสามารถทดแทนความเสียหาย ที่เกิดขึ้นได้ในภายหลัง เพื่อป้องกันไม่ให้มีคดีที่คล้ายคลึงกัน เกิดขึ้นอีกในอนาคต จำเป็นต้องมีการสร้างระบบ ที่ช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในวงจรอาชญากรรม อย่างครบวงจร ตั้งแต่การศึกษาเรื่องผลกระทบของยาเสพติด การให้คำปรึกษาด้านจิตใจ ไปจนถึงการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจ ให้กับกลุ่มคนที่อาจตกเป็นเหยื่อของความยากจน และการล่อลวงของเครือข่ายค้ายาเสพติด นอกจากนี้ การให้ความรู้ และสร้างจิตสำนึกในสังคมว่า “การแลกเปลี่ยนชีวิตมนุษย์เพื่อเงิน” นั้นไม่มีค่าเทียบเท่ากับความมีชีวิตอยู่ และความสมบูรณ์ของจิตใจ จะช่วยลดโอกาสให้คนเข้าสู่แนวทางที่ผิด และนำไปสู่การพัฒนาสังคมที่ดีขึ้น อย่างแท้จริง เรื่องราวของ “สมคิด นามแก้ว” ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความจริง ที่บางครั้งเราอาจมองข้ามไป ในแง่ของคุณค่าชีวิต และผลกระทบที่เกิดขึ้น จากการกระทำผิดกฎหมาย 🤔 ชีวิตที่ถูกแลกด้วยเงินเพียงเล็กน้อยนั้นไม่มีค่า เมื่อเทียบกับความรักและความสัมพันธ์ของคนรอบข้า งที่สูญเสียไปไปพร้อมกัน ทั้งนี้ คดีนี้เป็นบทเรียนอันทรงคุณค่า ที่สังคมไทยไม่ควรลืม และเป็นเครื่องเตือนใจว่า แม้จะอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก หรือมีความยากจน แต่ทางออกที่ถูกต้องคือ การมองหาแนวทางช่วยเหลือ และการพัฒนาชีวิตให้ดีกว่าเดิม ไม่ใช่การเลือกเส้นทาง ที่นำพามาซึ่งความผิดพลาด และจุดจบที่น่าเศร้า เหตุการณ์ประหารชีวิต “สมคิด นามแก้ว” ในคดีคดียาบ้าคนแรกของประเทศไทย ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจอันทรงคุณค่าให้กับคนไทยในทุกยุคสมัย แม้จะผ่านไปนาน 24 ปี แต่บาดแผลจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ยังคงปรากฏให้เห็นในแง่มุมของการต่อสู้กับยาเสพติด และการรักษาคุณค่าของชีวิตมนุษย์ จากคดีนี้เราได้เรียนรู้ว่า "ชีวิตมีค่า" และไม่ควรนำมาแลกเปลี่ยนกับเงินทอง แม้เพียงเล็กน้อย เพราะผลที่ตามมาหลังจากนั้น คือความสูญเสีย ที่ไม่อาจชดเชยได้ทั้งในทางกายและจิตใจ สิ่งที่เราได้จากเรื่องราวของสมคิด คือการตระหนักในความสำคัญ ของการเลือกเส้นทางชีวิตที่ถูกต้อง การช่วยเหลือ และสนับสนุนกันในสังคม ในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทาย และความยากจน เราควรเลือกที่จะอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง และมีความหมาย แม้ทางเดินจะยากลำบาก แต่ความมีคุณค่าในชีวิตและความจริงใจ จะนำเราไปสู่อนาคตที่ดีกว่า เส้นทางที่ไม่ต้องแลกเปลี่ยนชีวิตอันมีค่า เพื่อเงินทองที่ว่างเปล่า ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121635 เม.ย. 2568 #24ปีประหาร #สมคิดนามแก้ว #นักโทษคดียาบ้า #ปราบยาเสพติด #ชีวิตมีค่า #คดียาบ้า #ยับยั้งอาชญากรรม #สังคมปลอดภัย #อาลัยในชีวิต #ความจริงที่ไม่ควรลืม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1311 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขออธิบายให้ความรู้นิดนึงนะครับในหลวงพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ครูที่เสียชีวิต ไม่ทอดทิ้งนักเรียน เมื่อรถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้ จำนวนสามท่านไม่มีผู้รับสนองพระบรมราชโองการ!!!! อันนี้ชัดเจนว่า หน่วยราชการหรือรัฐบาลไม่ได้กราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานให้จึงเป็นราชการส่วนพระองค์ (Royal affair) ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 15 ต้องไม่มีผู้รับสนองพระบรมราชโองการไม่ใช่ราชการแผ่นดิน (Government affair) ซึ่งต้องมีผู้รับสนองพระบรมราชโองการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 182การพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้ครูสามท่านนี้ จึงเป็นพระมหากรุณาธิคุณจากในหลวง เป็นการส่วนพระองค์ ให้แก่ผู้วายชนม์ และครอบครัว ไม่ใช่ว่ารัฐบาลหรือกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้กราบบังคมทูลพระมหากรุณาขอพระราชทานให้นับว่าเป็นเกียรติยศสูงสุดแก่ผู้วายชนม์ และครอบครัว ที่ในหลวง ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานให้เป็นส่วนพระองค์ ด้วยพระองค์เอง แสดงว่าทรงเห็นคนเล็กคนน้อย ที่ทำงานด้วยความเสียสละ ทุ่มเทในหน้าที่ ไม่ทอดทิ้งหน้าที่ จึงทรงอยากจะยกย่อง พระราชทานเกียรติยศให้ด้วยพระองค์เอง ผมคิดว่านี่เป็นสิ่งที่คนไทยควรรู้ฟ้ามีตา แผ่นดินมีใจขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ที่มา : เพจเฟซบุ๊ก Arnold Sakworawich
    ขออธิบายให้ความรู้นิดนึงนะครับในหลวงพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ครูที่เสียชีวิต ไม่ทอดทิ้งนักเรียน เมื่อรถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้ จำนวนสามท่านไม่มีผู้รับสนองพระบรมราชโองการ!!!! อันนี้ชัดเจนว่า หน่วยราชการหรือรัฐบาลไม่ได้กราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานให้จึงเป็นราชการส่วนพระองค์ (Royal affair) ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 15 ต้องไม่มีผู้รับสนองพระบรมราชโองการไม่ใช่ราชการแผ่นดิน (Government affair) ซึ่งต้องมีผู้รับสนองพระบรมราชโองการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 182การพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้ครูสามท่านนี้ จึงเป็นพระมหากรุณาธิคุณจากในหลวง เป็นการส่วนพระองค์ ให้แก่ผู้วายชนม์ และครอบครัว ไม่ใช่ว่ารัฐบาลหรือกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้กราบบังคมทูลพระมหากรุณาขอพระราชทานให้นับว่าเป็นเกียรติยศสูงสุดแก่ผู้วายชนม์ และครอบครัว ที่ในหลวง ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานให้เป็นส่วนพระองค์ ด้วยพระองค์เอง แสดงว่าทรงเห็นคนเล็กคนน้อย ที่ทำงานด้วยความเสียสละ ทุ่มเทในหน้าที่ ไม่ทอดทิ้งหน้าที่ จึงทรงอยากจะยกย่อง พระราชทานเกียรติยศให้ด้วยพระองค์เอง ผมคิดว่านี่เป็นสิ่งที่คนไทยควรรู้ฟ้ามีตา แผ่นดินมีใจขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ที่มา : เพจเฟซบุ๊ก Arnold Sakworawich
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 472 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอพระบารมีคุ้มปกป้องสยามประเทศ ขอศัตรูของแผ่นดินสิ้นเชื้อจากการกระทำของตนพร้อมผู้ร่วมคิด ปวงราษฎรมีสุขสงบเจริญทั่วแดนสยาม
    ขอพระบารมีคุ้มปกป้องสยามประเทศ ขอศัตรูของแผ่นดินสิ้นเชื้อจากการกระทำของตนพร้อมผู้ร่วมคิด ปวงราษฎรมีสุขสงบเจริญทั่วแดนสยาม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇲🇾 GRANDZ MALAYSIA 4วัน 3คืน 🌄
    #วันแรงงานเที่ยวไหนดี #เที่ยวมาเลเซียสุดคุ้ม

    📅 เดินทาง 1-4 พ.ค. 68
    🔥 ลดทันที 1,000 บาท
    💸 เหลือเพียง 14,999 บาท

    📍 เส้นทางสุดปัง:
    - เที่ยวคาเมร่อน เยือนน้ำตกอีสกานด้า
    - ขึ้นกระเช้า CABLE CAR สู่ GENTING HIGHLAND 🎡
    - ขอพรที่วัด CHINSWEE 🙏
    - ชมวัดถ้ำบาตู BATU CAVE
    - แวะถ่ายรูปมัสยิดสีชมพู PUTRAJAYA 🕌
    - ตะลุยเมืองมะละกาและกัวลาลัมเปอร์
    - ถ่ายรูปคู่ตึกแฝด PETRONAS TOWER 🏙️

    #GrandzMalaysia #มาเลเซีย4วัน3คืน #แรงงาน #GentingHighland #คาเมร่อนมะละกา #เที่ยวมาเลย์สุดฟิน

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e9d99c

    ดูทัวร์มาเลเซียทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/5077d6

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์มาเลเซีย #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    🇲🇾 GRANDZ MALAYSIA 4วัน 3คืน 🌄 #วันแรงงานเที่ยวไหนดี #เที่ยวมาเลเซียสุดคุ้ม 📅 เดินทาง 1-4 พ.ค. 68 🔥 ลดทันที 1,000 บาท 💸 เหลือเพียง 14,999 บาท 📍 เส้นทางสุดปัง: - เที่ยวคาเมร่อน เยือนน้ำตกอีสกานด้า - ขึ้นกระเช้า CABLE CAR สู่ GENTING HIGHLAND 🎡 - ขอพรที่วัด CHINSWEE 🙏 - ชมวัดถ้ำบาตู BATU CAVE - แวะถ่ายรูปมัสยิดสีชมพู PUTRAJAYA 🕌 - ตะลุยเมืองมะละกาและกัวลาลัมเปอร์ - ถ่ายรูปคู่ตึกแฝด PETRONAS TOWER 🏙️ #GrandzMalaysia #มาเลเซีย4วัน3คืน #แรงงาน #GentingHighland #คาเมร่อนมะละกา #เที่ยวมาเลย์สุดฟิน ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e9d99c ดูทัวร์มาเลเซียทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/5077d6 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์มาเลเซีย #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 689 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts