• สารคดีฟังเพลินๆ
    https://youtu.be/WDurIJdCx6E?si=m2paV8WVwdp2oYio
    #abdulthaitube
    #ความรู้รอบตัว
    #ประวัติศาสตร์
    #สารคดี
    #ช่องแคบ
    #ขนส่งทางทะเล
    สารคดีฟังเพลินๆ https://youtu.be/WDurIJdCx6E?si=m2paV8WVwdp2oYio #abdulthaitube #ความรู้รอบตัว #ประวัติศาสตร์ #สารคดี #ช่องแคบ #ขนส่งทางทะเล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรือใบขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดในโลกข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกสำเร็จเป็นครั้งแรก! จุดเปลี่ยนของโลจิสติกส์สีเขียว

    เรือใบขนส่งสินค้า “Canopée” ซึ่งเป็นเรือใบขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกสำเร็จเป็นครั้งแรก โดยใช้พลังงานลมเป็นหลักในการขับเคลื่อน ถือเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมขนส่งที่มุ่งสู่ความยั่งยืนและลดการปล่อยคาร์บอน

    Canopée เป็นเรือใบขนส่งสินค้าขนาด 121 เมตร ที่ติดตั้งระบบใบเรือแบบอัตโนมัติชื่อ “Oceanwings” จำนวน 4 ใบ ซึ่งสามารถปรับมุมและพับเก็บได้ตามสภาพลม โดยการข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกครั้งนี้เริ่มต้นจากฝรั่งเศสไปยังเฟรนช์เกียนา ใช้เวลาหลายวันโดยลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลลงอย่างมาก

    เรือลำนี้ถูกออกแบบมาเพื่อขนส่งชิ้นส่วนของจรวด Ariane 6 ของ European Space Agency โดยมีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการขนส่งทางทะเล ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งปล่อยคาร์บอนที่ใหญ่ที่สุดในโลก

    จุดเด่นของเรือ Canopée
    เป็นเรือใบขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (121 เมตร)
    ใช้ระบบใบเรือ Oceanwings แบบอัตโนมัติ 4 ใบ
    ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกจากฝรั่งเศสไปเฟรนช์เกียนาสำเร็จ
    ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและการปล่อยคาร์บอน
    ขนส่งชิ้นส่วนจรวด Ariane 6 ให้กับ ESA
    เป็นตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยีสีเขียวในโลจิสติกส์
    ได้รับการสนับสนุนจากโครงการขนส่งยั่งยืนของยุโรป

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    การใช้ใบเรือยังขึ้นอยู่กับสภาพลมและภูมิอากาศ
    ความเร็วและระยะเวลาการเดินทางอาจไม่เทียบเท่าเรือขนส่งทั่วไป
    ยังต้องใช้เครื่องยนต์เสริมในบางช่วงของการเดินทาง
    การขยายเทคโนโลยีนี้ไปยังเรือขนาดใหญ่ทั่วโลกยังต้องใช้เวลาและงบประมาณสูง

    Canopée ไม่ใช่แค่เรือใบธรรมดา แต่เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตที่โลจิสติกส์สามารถเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างแท้จริง ใครที่สนใจเรื่องพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีทางทะเล นี่คือเรื่องราวที่ควรจับตามอง!

    https://www.marineinsight.com/shipping-news/worlds-largest-cargo-sailboat-completes-historic-first-atlantic-crossing/
    ⛵ เรือใบขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดในโลกข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกสำเร็จเป็นครั้งแรก! จุดเปลี่ยนของโลจิสติกส์สีเขียว เรือใบขนส่งสินค้า “Canopée” ซึ่งเป็นเรือใบขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกสำเร็จเป็นครั้งแรก โดยใช้พลังงานลมเป็นหลักในการขับเคลื่อน ถือเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมขนส่งที่มุ่งสู่ความยั่งยืนและลดการปล่อยคาร์บอน Canopée เป็นเรือใบขนส่งสินค้าขนาด 121 เมตร ที่ติดตั้งระบบใบเรือแบบอัตโนมัติชื่อ “Oceanwings” จำนวน 4 ใบ ซึ่งสามารถปรับมุมและพับเก็บได้ตามสภาพลม โดยการข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกครั้งนี้เริ่มต้นจากฝรั่งเศสไปยังเฟรนช์เกียนา ใช้เวลาหลายวันโดยลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลลงอย่างมาก เรือลำนี้ถูกออกแบบมาเพื่อขนส่งชิ้นส่วนของจรวด Ariane 6 ของ European Space Agency โดยมีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการขนส่งทางทะเล ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งปล่อยคาร์บอนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ✅ จุดเด่นของเรือ Canopée ➡️ เป็นเรือใบขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (121 เมตร) ➡️ ใช้ระบบใบเรือ Oceanwings แบบอัตโนมัติ 4 ใบ ➡️ ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกจากฝรั่งเศสไปเฟรนช์เกียนาสำเร็จ ➡️ ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและการปล่อยคาร์บอน ➡️ ขนส่งชิ้นส่วนจรวด Ariane 6 ให้กับ ESA ➡️ เป็นตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยีสีเขียวในโลจิสติกส์ ➡️ ได้รับการสนับสนุนจากโครงการขนส่งยั่งยืนของยุโรป ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ การใช้ใบเรือยังขึ้นอยู่กับสภาพลมและภูมิอากาศ ⛔ ความเร็วและระยะเวลาการเดินทางอาจไม่เทียบเท่าเรือขนส่งทั่วไป ⛔ ยังต้องใช้เครื่องยนต์เสริมในบางช่วงของการเดินทาง ⛔ การขยายเทคโนโลยีนี้ไปยังเรือขนาดใหญ่ทั่วโลกยังต้องใช้เวลาและงบประมาณสูง Canopée ไม่ใช่แค่เรือใบธรรมดา แต่เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตที่โลจิสติกส์สามารถเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างแท้จริง ใครที่สนใจเรื่องพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีทางทะเล นี่คือเรื่องราวที่ควรจับตามอง! https://www.marineinsight.com/shipping-news/worlds-largest-cargo-sailboat-completes-historic-first-atlantic-crossing/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • **อ่าวไทย** มีทั้งผลกระทบทางบวกและลบต่อ**ประเทศจีน** โดยขึ้นอยู่กับมุมมองทางเศรษฐกิจ การเมือง และยุทธศาสตร์ ดังนี้:

    ---

    ### **ผลกระทบทางบวก (ประโยชน์ต่อจีน):**
    1. **เส้นทางขนส่งทางทะเลที่สำคัญ:**
    - อ่าวไทยเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเดินเรือระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและอินเดีย ซึ่งจีนพึ่งพาเพื่อการค้าและนำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง/แอฟริกา (กว่า 80% ของน้ำมันดิบของจีนขนส่งทางทะเลผ่านช่องแคบมะละกา)
    - โครงการพัฒนาคลองกระ (Kra Canal) ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต (แม้ยังไม่มีความชัดเจน) อาจช่วยลดระยะทางขนส่งและลด "กับดักช่องแคบมะละกา" ซึ่งเป็นจุดอ่อนยุทธศาสตร์ของจีนได้

    2. **ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ:**
    - จีนลงทุนมหาศาลในประเทศรอบอ่าวไทย (ไทย, กัมพูชา, เวียดนาม) ผ่านโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) เช่น ท่าเรือน้ำลึกศรีราชา (ไทย) เขตเศรษฐกิจพิเศษเสียมราฐ (กัมพูชา)
    - อ่าวไทยเป็นแหล่งประมงและพลังงาน (ก๊าซธรรมชาติ) ที่สำคัญ ซึ่งจีนมีส่วนร่วมในการสำรวจและพัฒนา

    3. **ความมั่นคงในภูมิภาค:**
    - จีนร่วมมือกับกองทัพเรือไทย/กัมพูชา ผ่านการฝึกรบร่วมและการสนับสนุนด้านเทคนิค เพื่อรักษาเสถียรภาพในอ่าวไทย ซึ่งส่งผลดีต่อความปลอดภัยของเส้นทางเดินเรือ

    ---

    ### **ผลกระทบทางลบ (ความท้าทายต่อจีน):**
    1. **ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้:**
    - แม้อ่าวไทยไม่ใช่พื้นที่พิพาทโดยตรง แต่ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ (โดยเฉพาะกับเวียดนาม) ส่งผลต่อความสัมพันธ์ในภูมิภาค ซึ่งอาจกระทบต่อเสถียรภาพของอ่าวไทย

    2. **อิทธิพลของสหรัฐฯ:**
    - ไทยเป็นพันธมิตรทางทหารกับสหรัฐฯ การมีฐานทัพเรืออู่ตะเภาและการฝึกคอบร้าโกลด์ (Cobra Gold) อาจทำให้จีนกังวลเรื่องการขยายอิทธิพลของสหรัฐฯ ในอ่าวไทย

    3. **ภัยคุกคามทางทะเล:**
    - การโจรกรรมทางทะเล การค้ามนุษย์ และการลักลอบทำประมงผิดกฎหมายในอ่าวไทยอาจกระทบต่อเรือสินค้าของจีน

    4. **ปัญหาสิ่งแวดล้อม:**
    - มลภาวะและการกัดเซาะชายฝั่งในอ่าวไทยอาจส่งผลต่อระบบนิเวศที่จีนมีส่วนได้ส่วนเสีย เนื่องจากจีนลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานชายฝั่ง

    ---

    ### **สรุป:**
    อ่าวไทยมี**ผลดีต่อจีน**ในด้านเศรษฐกิจและการขนส่งทางทะเล แต่ก็มี**ความเสี่ยง**ด้านความมั่นคงและภูมิรัฐศาสตร์ โดยจีนพยายามสร้างสมดุลผ่าน:
    - การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
    - ความร่วมมือทางทหารกับประเทศอ่าวไทย
    - การส่งเสริม BRI เพื่อขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจ

    ทั้งนี้ ผลกระทบที่แท้จริงขึ้นอยู่กับ**นโยบายของจีน** และ**สถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้** โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับไทย เวียดนาม และกัมพูชา
    **อ่าวไทย** มีทั้งผลกระทบทางบวกและลบต่อ**ประเทศจีน** โดยขึ้นอยู่กับมุมมองทางเศรษฐกิจ การเมือง และยุทธศาสตร์ ดังนี้: --- ### **ผลกระทบทางบวก (ประโยชน์ต่อจีน):** 1. **เส้นทางขนส่งทางทะเลที่สำคัญ:** - อ่าวไทยเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเดินเรือระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและอินเดีย ซึ่งจีนพึ่งพาเพื่อการค้าและนำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง/แอฟริกา (กว่า 80% ของน้ำมันดิบของจีนขนส่งทางทะเลผ่านช่องแคบมะละกา) - โครงการพัฒนาคลองกระ (Kra Canal) ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต (แม้ยังไม่มีความชัดเจน) อาจช่วยลดระยะทางขนส่งและลด "กับดักช่องแคบมะละกา" ซึ่งเป็นจุดอ่อนยุทธศาสตร์ของจีนได้ 2. **ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ:** - จีนลงทุนมหาศาลในประเทศรอบอ่าวไทย (ไทย, กัมพูชา, เวียดนาม) ผ่านโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) เช่น ท่าเรือน้ำลึกศรีราชา (ไทย) เขตเศรษฐกิจพิเศษเสียมราฐ (กัมพูชา) - อ่าวไทยเป็นแหล่งประมงและพลังงาน (ก๊าซธรรมชาติ) ที่สำคัญ ซึ่งจีนมีส่วนร่วมในการสำรวจและพัฒนา 3. **ความมั่นคงในภูมิภาค:** - จีนร่วมมือกับกองทัพเรือไทย/กัมพูชา ผ่านการฝึกรบร่วมและการสนับสนุนด้านเทคนิค เพื่อรักษาเสถียรภาพในอ่าวไทย ซึ่งส่งผลดีต่อความปลอดภัยของเส้นทางเดินเรือ --- ### **ผลกระทบทางลบ (ความท้าทายต่อจีน):** 1. **ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้:** - แม้อ่าวไทยไม่ใช่พื้นที่พิพาทโดยตรง แต่ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ (โดยเฉพาะกับเวียดนาม) ส่งผลต่อความสัมพันธ์ในภูมิภาค ซึ่งอาจกระทบต่อเสถียรภาพของอ่าวไทย 2. **อิทธิพลของสหรัฐฯ:** - ไทยเป็นพันธมิตรทางทหารกับสหรัฐฯ การมีฐานทัพเรืออู่ตะเภาและการฝึกคอบร้าโกลด์ (Cobra Gold) อาจทำให้จีนกังวลเรื่องการขยายอิทธิพลของสหรัฐฯ ในอ่าวไทย 3. **ภัยคุกคามทางทะเล:** - การโจรกรรมทางทะเล การค้ามนุษย์ และการลักลอบทำประมงผิดกฎหมายในอ่าวไทยอาจกระทบต่อเรือสินค้าของจีน 4. **ปัญหาสิ่งแวดล้อม:** - มลภาวะและการกัดเซาะชายฝั่งในอ่าวไทยอาจส่งผลต่อระบบนิเวศที่จีนมีส่วนได้ส่วนเสีย เนื่องจากจีนลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานชายฝั่ง --- ### **สรุป:** อ่าวไทยมี**ผลดีต่อจีน**ในด้านเศรษฐกิจและการขนส่งทางทะเล แต่ก็มี**ความเสี่ยง**ด้านความมั่นคงและภูมิรัฐศาสตร์ โดยจีนพยายามสร้างสมดุลผ่าน: - ✅ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน - ✅ ความร่วมมือทางทหารกับประเทศอ่าวไทย - ✅ การส่งเสริม BRI เพื่อขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ผลกระทบที่แท้จริงขึ้นอยู่กับ**นโยบายของจีน** และ**สถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้** โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับไทย เวียดนาม และกัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 656 มุมมอง 0 รีวิว
  • การคาดการณ์ว่าประเทศใดในเอเชียจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสงครามโลกครั้งต่อไปเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย **แต่ต้องย้ำว่า สงครามโลกไม่ใช่เรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และประชาคมโลกต่างมุ่งมั่นที่จะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก**

    อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ปัจจุบันและความเปราะบางในภูมิภาค ประเทศหรือพื้นที่ต่อไปนี้อาจมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบทางตรงหรือทางอ้อม **หากเกิดความขัดแย้งขนาดใหญ่**:

    1. **คาบสมุทรเกาหลี**:
    - เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้: อยู่ในแนวหน้าความตึงเครียด โดยเฉพาะหากเกาหลีเหนือมีส่วนเกี่ยวข้องในความขัดแย้งใหญ่
    - ฐานทัพสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้อาจเป็นเป้าหมาย

    2. **ไต้หวันและพื้นที่ใกล้เคียง**:
    - ความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวันอาจขยายตัว หากเกิดวิกฤตระหว่างจีนและสหรัฐฯ
    - ญี่ปุ่น (โดยเฉพาะเกาะทางใต้เช่น โอกินาวา) และฟิลิปปินส์ อาจถูก波及เนื่องจากพันธมิตรทางทหาร

    3. **ประเทศที่มีฐานทัพสหรัฐฯ**:
    - ญี่ปุ่น (ฐานทัพในโอกินาวา/โยโกสุกะ)
    - เกาหลีใต้
    - อาจรวมถึงฟิลิปปินส์ (ภายใต้ข้อตกลง EDCA)

    4. **จุดยุทธศาสตร์ทางทะเล**:
    - ประเทศควบคุมช่องแคบสำคัญ เช่น มะละกา (สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย) หรือช่องแคบฮอร์มุซ (ไม่ใช่เอเชียแต่ส่งผลต่อการขนส่งน้ำมันสู่เอเชีย)
    - หากการขนส่งทางทะเลถูกขัดขวาง ประเทศพึ่งพาการนำเข้า เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจรุนแรง

    5. **พื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้**:
    - เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน อาจถูกดึงเข้าไปในความขัดแย้งหากเกิดการปะทะ

    6. **ประเทศที่พึ่งพาการค้าทางทะเลอย่างหนัก**:
    - สิงคโปร์: ศูนย์กลางการค้าโลก
    - ญี่ปุ่น เกาหลีใต้: พึ่งพาการนำเข้าพลังงานและวัตถุดิบ

    7. **ประเทศใกล้รัสเซีย**:
    - ญี่ปุ่น (พิพาทหมู่เกาะคูริล) และมองโกเลีย อาจได้รับผลกระทบหากความขัดแย้งขยายสู่ไซบีเรีย

    ### ปัจจัยเพิ่มความเสี่ยง:
    - **การแข่งขันสหรัฐฯ-จีน**: การเผชิญหน้าทางเศรษฐกิจ/การทหารอาจลุกลาม
    - **อาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาค**: ปากีสถาน อินเดีย เกาหลีเหนือ จีน
    - **ความไม่มั่นคงภายใน**: ความขัดแย้งในเมียนมา กลุ่มติดอาวุธในปากีสถาน/อัฟกานิสถาน

    ### ข้อควรจำ:
    - **การทูตคือทางออก**: องค์กรเช่น ASEAN และ UN ทำงานเพื่อระงับความขัดแย้ง
    - **ผลกระทบจะไม่จำกัดเฉพาะสมรภูมิ**: เศรษฐกิจโลก ระบบขนส่ง และเสบียงอาหารจะสั่นคลาย
    - **ไม่มีผู้ชนะในสงครามนิวเคลียร์**: ทุกฝ่ายจะสูญเสียอย่างมหาศาล

    แทนที่จะจินตนาการถึงสงคราม สิ่งที่สำคัญกว่าคือสนับสนุนกลไกสันติภาพ ความร่วมมือระหว่างประเทศ และการแก้ไขความขัดแย้งโดยสันติวิธี เพื่อไม่ให้โศกนาฏกรรมในอดีตเกิดขึ้นอีก
    การคาดการณ์ว่าประเทศใดในเอเชียจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสงครามโลกครั้งต่อไปเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย **แต่ต้องย้ำว่า สงครามโลกไม่ใช่เรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และประชาคมโลกต่างมุ่งมั่นที่จะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก** อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ปัจจุบันและความเปราะบางในภูมิภาค ประเทศหรือพื้นที่ต่อไปนี้อาจมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบทางตรงหรือทางอ้อม **หากเกิดความขัดแย้งขนาดใหญ่**: 1. **คาบสมุทรเกาหลี**: - เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้: อยู่ในแนวหน้าความตึงเครียด โดยเฉพาะหากเกาหลีเหนือมีส่วนเกี่ยวข้องในความขัดแย้งใหญ่ - ฐานทัพสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้อาจเป็นเป้าหมาย 2. **ไต้หวันและพื้นที่ใกล้เคียง**: - ความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวันอาจขยายตัว หากเกิดวิกฤตระหว่างจีนและสหรัฐฯ - ญี่ปุ่น (โดยเฉพาะเกาะทางใต้เช่น โอกินาวา) และฟิลิปปินส์ อาจถูก波及เนื่องจากพันธมิตรทางทหาร 3. **ประเทศที่มีฐานทัพสหรัฐฯ**: - ญี่ปุ่น (ฐานทัพในโอกินาวา/โยโกสุกะ) - เกาหลีใต้ - อาจรวมถึงฟิลิปปินส์ (ภายใต้ข้อตกลง EDCA) 4. **จุดยุทธศาสตร์ทางทะเล**: - ประเทศควบคุมช่องแคบสำคัญ เช่น มะละกา (สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย) หรือช่องแคบฮอร์มุซ (ไม่ใช่เอเชียแต่ส่งผลต่อการขนส่งน้ำมันสู่เอเชีย) - หากการขนส่งทางทะเลถูกขัดขวาง ประเทศพึ่งพาการนำเข้า เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจรุนแรง 5. **พื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้**: - เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน อาจถูกดึงเข้าไปในความขัดแย้งหากเกิดการปะทะ 6. **ประเทศที่พึ่งพาการค้าทางทะเลอย่างหนัก**: - สิงคโปร์: ศูนย์กลางการค้าโลก - ญี่ปุ่น เกาหลีใต้: พึ่งพาการนำเข้าพลังงานและวัตถุดิบ 7. **ประเทศใกล้รัสเซีย**: - ญี่ปุ่น (พิพาทหมู่เกาะคูริล) และมองโกเลีย อาจได้รับผลกระทบหากความขัดแย้งขยายสู่ไซบีเรีย ### ปัจจัยเพิ่มความเสี่ยง: - **การแข่งขันสหรัฐฯ-จีน**: การเผชิญหน้าทางเศรษฐกิจ/การทหารอาจลุกลาม - **อาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาค**: ปากีสถาน อินเดีย เกาหลีเหนือ จีน - **ความไม่มั่นคงภายใน**: ความขัดแย้งในเมียนมา กลุ่มติดอาวุธในปากีสถาน/อัฟกานิสถาน ### ข้อควรจำ: - **การทูตคือทางออก**: องค์กรเช่น ASEAN และ UN ทำงานเพื่อระงับความขัดแย้ง - **ผลกระทบจะไม่จำกัดเฉพาะสมรภูมิ**: เศรษฐกิจโลก ระบบขนส่ง และเสบียงอาหารจะสั่นคลาย - **ไม่มีผู้ชนะในสงครามนิวเคลียร์**: ทุกฝ่ายจะสูญเสียอย่างมหาศาล แทนที่จะจินตนาการถึงสงคราม สิ่งที่สำคัญกว่าคือสนับสนุนกลไกสันติภาพ ความร่วมมือระหว่างประเทศ และการแก้ไขความขัดแย้งโดยสันติวิธี เพื่อไม่ให้โศกนาฏกรรมในอดีตเกิดขึ้นอีก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 580 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ ประกาศคว่ำบาตรเครือข่ายระหว่างประเทศในการขนส่งน้ำมันดิบจากอิหร่านมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ไปยังจีน ในนามของเสนาธิการทหารของอิหร่านและบริษัทบังหน้า Sepehr Energy

    โดยที่รายได้จากน้ำมันจะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลและยานบินไร้คนขับ การแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ และกลุ่มก่อการร้ายที่เป็นตัวแทนของอิหร่าน รวมถึงการโจมตีของกลุ่มฮูตีต่อการขนส่งทางทะเลแดง กองทัพเรือสหรัฐฯ และอิสราเอล

    กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ ประกาศคว่ำบาตรเครือข่ายระหว่างประเทศในการขนส่งน้ำมันดิบจากอิหร่านมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ไปยังจีน ในนามของเสนาธิการทหารของอิหร่านและบริษัทบังหน้า Sepehr Energy โดยที่รายได้จากน้ำมันจะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลและยานบินไร้คนขับ การแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ และกลุ่มก่อการร้ายที่เป็นตัวแทนของอิหร่าน รวมถึงการโจมตีของกลุ่มฮูตีต่อการขนส่งทางทะเลแดง กองทัพเรือสหรัฐฯ และอิสราเอล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 348 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีบุคคลสูญหาย 1 รายในวันจันทร์ (10 มี.ค.) หลังเกิดเหตุเรือสินค้าลำหนึ่งพุ่งชนเรือบรรทุกเชื้อเพลิงเครื่องบินที่เช่าโดยกองทัพสหรัฐฯ ในทะเลเหนือ ก่อความกังวลเกี่ยวกับอันตรายจากสารพิษต่างๆ นอกชายฝั่งของอังกฤษ
    .
    ปฏิบัติการกู้ภัยครั้งใหญ่ที่ประสานงานโดยยามชายฝั่งสหรชอาณาจักร สามารถช่วยเหลือผู้ประสบเหตุหลายสิบคน ในขณะที่ภาพถ่ายพบเห็นกลุ่มควันสีดำลอยพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและเปลวไฟกำลังโหมกระพือขึ้นจากที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่นอกชายฝั่งทางตะวันออกของอังกฤษราว 16 กิโลเมตร
    .
    "เรือบรรทุกน้ำมัน Stena Immaculate ที่ทอดสมออยู่นอกชายฝั่งทะเลเหนือใกล้เมืองฮัลล์ ถูกชนโดยเรือบรรทุกตู้สินค้า Solong" โครว์ลีย์ (Crowley) บริษัทผู้ปฏิบัติการเรือ Stena ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลง
    .
    ทั้งนี้ เรือ Stena อยู่ระหว่างการเช่าระยะเวลาสั้นๆ ของกองทัพสหรัฐฯ โดยกองบัญชาการขนส่งทางทะเล อ้างอิงข้อมูลจากจูเลียน มอร์ริส โฆษกของกองบัญชาการแห่งนี้ ซึ่งเป็นผู้ดูแลปฏิบัติการของเรือต่างๆ ที่มีลูกเรือเป็นพลเรือนและทำหน้าที่ขนส่งทางทะเลให้แก่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
    .
    โครว์ลีย์ เผยว่าแรงกระแทกของการชนกัน ทำให้เรือบรรทุกน้ำมันที่บรรทุกเชื้อเพลิงอากาศยาน A1-jet เกิดรอยแตกและโหมกระพือไฟลุกท่วม ท่ามกลางรายงานว่ามีเชื้อเพลิงรั่วไหลออกมา
    .
    เรือลำนี้บรรทุกเชื้อเพลิงอากาศยานราว 220,000 บาร์เรล ส่วนเรือ Solong บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์บรรจุโซเดียมไซยาไนด์ 15 ตู้ อย่างไรก็ตามไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีสารประกอบไวไฟใดๆ รั่วไหลออกมาหรือไม่
    .
    เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เรียกสถานการณ์นี้ว่า "น่ากังวลอย่างยิ่ง" ในขณะที่หน่วยฉุกเฉินระบุในถ้อยแถลงว่าเจ้าหน้าที่ทีมฉุกเฉินเข้าประเมินผู้ได้รับบาดเจ็บ 36 คน ณ ที่เกิดเหตุและพบว่าไม่มีใครที่จำเป็นต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล
    .
    ลูกเรือ 13 จาก 14 คนของเรือ Solong ถูกพาขึ้นฝั่งและพวกเจ้าหน้าที่ยังคงพยายามตามหาลูกเรืออีกคนที่ยังสูญหาย ส่วนลูกเรือที่อยู่บนเรือ Stena Immaculate ทั้งหมดได้รับการยืนยันว่ายังมีชีวิต
    .
    พอล จอห์นสัน นักวิทยาศาสตร์ระดับอาวุโสแห่งห้องปฏิบัติการวิจัยกรีนพีซ ณ มหาวิทยาลัยเอ็กเซเตอร์ บอกว่า "เรามีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับอันตรายจากสารพิษต่างๆ สารเคมีเหล่านี้อาจก่อความเสียหายร้ายแรงแก่วิถีชีวิตทางทะเล"
    .
    สมาคมท่าเรือแห่งสหราชอาณาจักร (ABP) เปิดเผยว่าความเคลื่อนไหวของเรือทุกลำถูกระงับในปากน้ำฮัมเบอร์ ที่ไหลสู่ทะเลเหนือ ส่วนกองบัญชาการกลางด้านสถานการณ์ฉุกเฉินทางทะเลของเยอรมนี ระบุว่าพวกเขากำลังส่งเรือลำหนึ่งที่มีศักยภาพดับเพลิงและเก็บกู้น้ำมัน ไปเข้าช่วยปฏิบัติการกู้ภัยครั้งใหญ่
    .
    นอกเหนือจากนี้ ยามชายฝั่งสหราชอาณาจักร ระบุว่าเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่ง เครื่องบินอีกลำ เรือชูชีพหลายลำจาก 4 เมืองและเรืออื่นๆ ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการกู้ภัยครั้งใหญ่ในครั้งนี้
    .
    พอล แลนคาสเตอร์ อดีตกะลาสีเรือ ให้ความเห็นกับเอเอฟพี "ผมไม่เข้าใจว่าเรือ 2 ลำที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ถึงชนกันได้" เขากล่าว "มันคงต้องมีปัญหาใหญ่ด้านวิศวกรรมแน่ๆ"
    .
    เหตุเรือชนกันในทะเลเหนือที่พลุกพล่านเกิดขึ้นน้อยครั้งมากๆ โดยหนหลังสุดย้อนกลับไปในเดือนตุลาคม 2023 เรือสินค้า 2 ลำ ชนกันใกล้เกาะเฮลิโกแลนด์ของเยอรมนี ในทะเลเหนือ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และสูญหาย 2 คน ซึ่งถูกมองว่าคงเสียชีวิตแล้ว
    .
    ก่อนหน้านั้นต้องย้อนกลับไปถึงเดือนตุลาคม 2015 เรือสินค้า Flinterstar บรรทุกดีเซล 125 ตัน และน้ำมันเชื้อเพลิง 427 ตัน จมลงสู่ก้นทะเล หลังชนเข้ากัยเรือบรรทุกน้ำมัน Al Oraiq นอกชายฝั่งเบลเยียม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000023257
    ..............
    Sondhi X
    มีบุคคลสูญหาย 1 รายในวันจันทร์ (10 มี.ค.) หลังเกิดเหตุเรือสินค้าลำหนึ่งพุ่งชนเรือบรรทุกเชื้อเพลิงเครื่องบินที่เช่าโดยกองทัพสหรัฐฯ ในทะเลเหนือ ก่อความกังวลเกี่ยวกับอันตรายจากสารพิษต่างๆ นอกชายฝั่งของอังกฤษ . ปฏิบัติการกู้ภัยครั้งใหญ่ที่ประสานงานโดยยามชายฝั่งสหรชอาณาจักร สามารถช่วยเหลือผู้ประสบเหตุหลายสิบคน ในขณะที่ภาพถ่ายพบเห็นกลุ่มควันสีดำลอยพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและเปลวไฟกำลังโหมกระพือขึ้นจากที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่นอกชายฝั่งทางตะวันออกของอังกฤษราว 16 กิโลเมตร . "เรือบรรทุกน้ำมัน Stena Immaculate ที่ทอดสมออยู่นอกชายฝั่งทะเลเหนือใกล้เมืองฮัลล์ ถูกชนโดยเรือบรรทุกตู้สินค้า Solong" โครว์ลีย์ (Crowley) บริษัทผู้ปฏิบัติการเรือ Stena ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลง . ทั้งนี้ เรือ Stena อยู่ระหว่างการเช่าระยะเวลาสั้นๆ ของกองทัพสหรัฐฯ โดยกองบัญชาการขนส่งทางทะเล อ้างอิงข้อมูลจากจูเลียน มอร์ริส โฆษกของกองบัญชาการแห่งนี้ ซึ่งเป็นผู้ดูแลปฏิบัติการของเรือต่างๆ ที่มีลูกเรือเป็นพลเรือนและทำหน้าที่ขนส่งทางทะเลให้แก่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ . โครว์ลีย์ เผยว่าแรงกระแทกของการชนกัน ทำให้เรือบรรทุกน้ำมันที่บรรทุกเชื้อเพลิงอากาศยาน A1-jet เกิดรอยแตกและโหมกระพือไฟลุกท่วม ท่ามกลางรายงานว่ามีเชื้อเพลิงรั่วไหลออกมา . เรือลำนี้บรรทุกเชื้อเพลิงอากาศยานราว 220,000 บาร์เรล ส่วนเรือ Solong บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์บรรจุโซเดียมไซยาไนด์ 15 ตู้ อย่างไรก็ตามไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีสารประกอบไวไฟใดๆ รั่วไหลออกมาหรือไม่ . เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เรียกสถานการณ์นี้ว่า "น่ากังวลอย่างยิ่ง" ในขณะที่หน่วยฉุกเฉินระบุในถ้อยแถลงว่าเจ้าหน้าที่ทีมฉุกเฉินเข้าประเมินผู้ได้รับบาดเจ็บ 36 คน ณ ที่เกิดเหตุและพบว่าไม่มีใครที่จำเป็นต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล . ลูกเรือ 13 จาก 14 คนของเรือ Solong ถูกพาขึ้นฝั่งและพวกเจ้าหน้าที่ยังคงพยายามตามหาลูกเรืออีกคนที่ยังสูญหาย ส่วนลูกเรือที่อยู่บนเรือ Stena Immaculate ทั้งหมดได้รับการยืนยันว่ายังมีชีวิต . พอล จอห์นสัน นักวิทยาศาสตร์ระดับอาวุโสแห่งห้องปฏิบัติการวิจัยกรีนพีซ ณ มหาวิทยาลัยเอ็กเซเตอร์ บอกว่า "เรามีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับอันตรายจากสารพิษต่างๆ สารเคมีเหล่านี้อาจก่อความเสียหายร้ายแรงแก่วิถีชีวิตทางทะเล" . สมาคมท่าเรือแห่งสหราชอาณาจักร (ABP) เปิดเผยว่าความเคลื่อนไหวของเรือทุกลำถูกระงับในปากน้ำฮัมเบอร์ ที่ไหลสู่ทะเลเหนือ ส่วนกองบัญชาการกลางด้านสถานการณ์ฉุกเฉินทางทะเลของเยอรมนี ระบุว่าพวกเขากำลังส่งเรือลำหนึ่งที่มีศักยภาพดับเพลิงและเก็บกู้น้ำมัน ไปเข้าช่วยปฏิบัติการกู้ภัยครั้งใหญ่ . นอกเหนือจากนี้ ยามชายฝั่งสหราชอาณาจักร ระบุว่าเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่ง เครื่องบินอีกลำ เรือชูชีพหลายลำจาก 4 เมืองและเรืออื่นๆ ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการกู้ภัยครั้งใหญ่ในครั้งนี้ . พอล แลนคาสเตอร์ อดีตกะลาสีเรือ ให้ความเห็นกับเอเอฟพี "ผมไม่เข้าใจว่าเรือ 2 ลำที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ถึงชนกันได้" เขากล่าว "มันคงต้องมีปัญหาใหญ่ด้านวิศวกรรมแน่ๆ" . เหตุเรือชนกันในทะเลเหนือที่พลุกพล่านเกิดขึ้นน้อยครั้งมากๆ โดยหนหลังสุดย้อนกลับไปในเดือนตุลาคม 2023 เรือสินค้า 2 ลำ ชนกันใกล้เกาะเฮลิโกแลนด์ของเยอรมนี ในทะเลเหนือ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และสูญหาย 2 คน ซึ่งถูกมองว่าคงเสียชีวิตแล้ว . ก่อนหน้านั้นต้องย้อนกลับไปถึงเดือนตุลาคม 2015 เรือสินค้า Flinterstar บรรทุกดีเซล 125 ตัน และน้ำมันเชื้อเพลิง 427 ตัน จมลงสู่ก้นทะเล หลังชนเข้ากัยเรือบรรทุกน้ำมัน Al Oraiq นอกชายฝั่งเบลเยียม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000023257 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Wow
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1953 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภายใต้แรงบีบจากทรัมป์ บริษัท CK ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ ของเจ้าสัวฮ่องกง ลีกาชิง วันอังคาร (4 มี.ค.) แถลงยอมขายทิ้งหุ้น 90% คุมท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆ ใน 23 ประเทศทั่วโลกที่อาจรวมถึงท่าเรือแหลมฉบังของไทยไปให้บริษัทกิจการค้าร่วมอเมริกันของ BlackRock ตามข้อตกลงมหาศาลมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์
    .
    เอเอฟพีรายงานวันอังคาร (4 มี.ค.) ว่า บริษัทบริหารท่าเรือข้ามชาติชื่อดังของฮ่องกง CK Hutchison Holdings แถลงว่า ทางบริษัทยอมตกลงที่จะขายทิ้งหุ้น 90% ที่ถือในบริษัทการท่าปานามา (Panama Ports Company) และท่าเรืออื่นๆ เป็นจำนวนมากที่ไม่ได้อยู่ในจีนไปให้บริษัทบริหารอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังสหรัฐฯ BlackRock เป็นมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์
    .
    บลูมเบิร์กชี้ว่า การขายทิ้งที่ท่าเรือปานามาของเจ้าสัวลีกาชิงครั้งนี้เป็นเสมือนการหยิบยื่นชัยชนะให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์
    .
    ขณะที่ CNBC ของสหรัฐฯ รายงานว่า ข้อตกลงจะเห็นกิจการค้าร่วมอเมริกันภายใต้การนำของบริษัท BlackRock และรวมบริษัท Global Infrastructure Partners และบริษัท Terminal Investment จะเข้าควบคุม 80% ของผลประโยชน์ในท่าเรือปานามา 2 ท่าของ CK ฮัตชิสันคิดเป็นมูลค่า 14.21 พันล้านดอลลาร์
    .
    นอกจากนี้ กิจการค้าร่วมอเมริกันจะเข้าควบคุมท่าเรืออื่น 43 ท่าประกอบด้วยท่าเทียบเรือ 199 ท่าในทั้งหมด 23 ประเทศทั่วโลกโดยทั้งหมดตามข้อตกลงที่ 19 พันล้านดอลลาร์
    .
    CNBC ชี้ว่า ข้อตกลงการขายทิ้งการบริหารท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆ ใน 23 ประเทศของ CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ นี้ไม่เกี่ยวข้องใดๆ ต่อผลประโยชน์ของ 'ฮัตชิสัน พอร์ท โฮลดิ้งส์ ทรัสต์' (Hutchison Port Holdings Trust) ที่ควบคุมท่าเรือต่างๆ ในฮ่องกงและเมืองเซินเจิ้นในทางใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่หรือ ท่าเรืออื่นๆ ภายในจีน อ้างอิงจากแถลงการณ์บริษัท CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์
    .
    ทั้งนี้พบว่า CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ เป็นผู้บริหารท่าเรือในภาคตะวันออกของประเทศไทย อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการของบริษัทพบว่ามีชื่อเป็นผู้บริหารเทอร์มินอล A2 ของท่าเรือแหลมบังในไทยมาตั้งแต่ปี 2006 ภายใต้ชื่อบริษัท Hutchison Ports Thailand แต่อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การควบคุมพอร์ตท่าเรือแหลมฉบังนี้รวมอยู่ในข้อตกลง 19 พันล้านดอลลาร์ที่ทำไว้กับ BlackRock ของสหรัฐฯ หรือไม่
    .
    เว็บไซต์ของ Hutchison Ports Thailand กล่าวว่า
    .
    “ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2006 เพื่อควบรวมการบริหารจัดการท่าเทียบเรือภายใต้การปฏิบัติการของบริษัท Hutchison Ports ในท่าเรือแหลมฉบังเข้าด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วยบริษัท Thai Laemchabang Terminal (TLT) และบริษัท Hutchison Laemchabang Terminal (HLT)”
    .
    และเสริมว่า
    .
    “โดยท่าเทียบเรือและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดของเราที่ท่าเรือแหลมฉบัง ตั้งอยู่บนทำเลที่เป็นเขตอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศไทย เช่น เขตอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และจังหวัดระยอง ซึ่งถือเป็นที่ตั้งของบริษัทและโรงงานผู้ผลิตสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทยหลายแห่ง”
    .
    เอเอฟพีรายงานต่อว่า CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ ได้บริหารท่า Balboa และท่า Cristobal ที่มหาสมุทรแปซิฟิกและที่ปลายสุดของมหาสมุทรแอตแลนติกของคลองเชื่อมมหาสมุทรทั้ง 2 เข้าด้วยกัน
    .
    แต่ทว่านับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่มกราคมที่ผ่านมา เขาได้ออกมาอ้างว่าจีนเข้าควบคุมคลองปานามาเส้นเลือดหลักของการขนส่งทางทะเลของโลกที่สำคัญ
    .
    เอเอฟพีชี้ว่า ทรัมป์ถึงขั้นปฏิเสธที่จะไม่ทิ้งช่องทางการใช้กำลังทหารเพื่อเข้ารุกรานปานามาเพื่อให้สหรัฐฯ กลับมาควบคุมคลองปานามาที่สหรัฐฯ เป็นผู้ขุดได้อีกครั้งหลังเคยส่งมอบกลับคืนให้เจ้าของประเทศในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จิมมี คาร์เตอร์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021234
    ..............
    Sondhi X
    ภายใต้แรงบีบจากทรัมป์ บริษัท CK ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ ของเจ้าสัวฮ่องกง ลีกาชิง วันอังคาร (4 มี.ค.) แถลงยอมขายทิ้งหุ้น 90% คุมท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆ ใน 23 ประเทศทั่วโลกที่อาจรวมถึงท่าเรือแหลมฉบังของไทยไปให้บริษัทกิจการค้าร่วมอเมริกันของ BlackRock ตามข้อตกลงมหาศาลมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์ . เอเอฟพีรายงานวันอังคาร (4 มี.ค.) ว่า บริษัทบริหารท่าเรือข้ามชาติชื่อดังของฮ่องกง CK Hutchison Holdings แถลงว่า ทางบริษัทยอมตกลงที่จะขายทิ้งหุ้น 90% ที่ถือในบริษัทการท่าปานามา (Panama Ports Company) และท่าเรืออื่นๆ เป็นจำนวนมากที่ไม่ได้อยู่ในจีนไปให้บริษัทบริหารอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังสหรัฐฯ BlackRock เป็นมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์ . บลูมเบิร์กชี้ว่า การขายทิ้งที่ท่าเรือปานามาของเจ้าสัวลีกาชิงครั้งนี้เป็นเสมือนการหยิบยื่นชัยชนะให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ . ขณะที่ CNBC ของสหรัฐฯ รายงานว่า ข้อตกลงจะเห็นกิจการค้าร่วมอเมริกันภายใต้การนำของบริษัท BlackRock และรวมบริษัท Global Infrastructure Partners และบริษัท Terminal Investment จะเข้าควบคุม 80% ของผลประโยชน์ในท่าเรือปานามา 2 ท่าของ CK ฮัตชิสันคิดเป็นมูลค่า 14.21 พันล้านดอลลาร์ . นอกจากนี้ กิจการค้าร่วมอเมริกันจะเข้าควบคุมท่าเรืออื่น 43 ท่าประกอบด้วยท่าเทียบเรือ 199 ท่าในทั้งหมด 23 ประเทศทั่วโลกโดยทั้งหมดตามข้อตกลงที่ 19 พันล้านดอลลาร์ . CNBC ชี้ว่า ข้อตกลงการขายทิ้งการบริหารท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆ ใน 23 ประเทศของ CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ นี้ไม่เกี่ยวข้องใดๆ ต่อผลประโยชน์ของ 'ฮัตชิสัน พอร์ท โฮลดิ้งส์ ทรัสต์' (Hutchison Port Holdings Trust) ที่ควบคุมท่าเรือต่างๆ ในฮ่องกงและเมืองเซินเจิ้นในทางใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่หรือ ท่าเรืออื่นๆ ภายในจีน อ้างอิงจากแถลงการณ์บริษัท CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ . ทั้งนี้พบว่า CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ เป็นผู้บริหารท่าเรือในภาคตะวันออกของประเทศไทย อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการของบริษัทพบว่ามีชื่อเป็นผู้บริหารเทอร์มินอล A2 ของท่าเรือแหลมบังในไทยมาตั้งแต่ปี 2006 ภายใต้ชื่อบริษัท Hutchison Ports Thailand แต่อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การควบคุมพอร์ตท่าเรือแหลมฉบังนี้รวมอยู่ในข้อตกลง 19 พันล้านดอลลาร์ที่ทำไว้กับ BlackRock ของสหรัฐฯ หรือไม่ . เว็บไซต์ของ Hutchison Ports Thailand กล่าวว่า . “ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2006 เพื่อควบรวมการบริหารจัดการท่าเทียบเรือภายใต้การปฏิบัติการของบริษัท Hutchison Ports ในท่าเรือแหลมฉบังเข้าด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วยบริษัท Thai Laemchabang Terminal (TLT) และบริษัท Hutchison Laemchabang Terminal (HLT)” . และเสริมว่า . “โดยท่าเทียบเรือและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดของเราที่ท่าเรือแหลมฉบัง ตั้งอยู่บนทำเลที่เป็นเขตอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศไทย เช่น เขตอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และจังหวัดระยอง ซึ่งถือเป็นที่ตั้งของบริษัทและโรงงานผู้ผลิตสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทยหลายแห่ง” . เอเอฟพีรายงานต่อว่า CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ ได้บริหารท่า Balboa และท่า Cristobal ที่มหาสมุทรแปซิฟิกและที่ปลายสุดของมหาสมุทรแอตแลนติกของคลองเชื่อมมหาสมุทรทั้ง 2 เข้าด้วยกัน . แต่ทว่านับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่มกราคมที่ผ่านมา เขาได้ออกมาอ้างว่าจีนเข้าควบคุมคลองปานามาเส้นเลือดหลักของการขนส่งทางทะเลของโลกที่สำคัญ . เอเอฟพีชี้ว่า ทรัมป์ถึงขั้นปฏิเสธที่จะไม่ทิ้งช่องทางการใช้กำลังทหารเพื่อเข้ารุกรานปานามาเพื่อให้สหรัฐฯ กลับมาควบคุมคลองปานามาที่สหรัฐฯ เป็นผู้ขุดได้อีกครั้งหลังเคยส่งมอบกลับคืนให้เจ้าของประเทศในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จิมมี คาร์เตอร์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021234 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    Sad
    Angry
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2975 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานพิเศษจากเพจAround the World เมื่อ5 มีนาคมระบุว่าบีบสำเร็จ! “CK ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์” ของเจ้าสัว “ลีกาชิง” ยอมตัดใจขายทิ้งหุ้น 90% คุมคลองปานามาและในอีก 23 ประเทศทั่วโลกให้บ.อเมริกัน BlackRock มีสิทธิ์สะเทือน "แหลมฉบัง" ของไทย
    .
    .
    .
    .
    .
    เอเอฟพี/รอยเตอร์/MGRออนไลน์ – ภายใต้แรงบีบจากทรัมป์ บริษัท CK ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ ของเจ้าสัวฮ่องกง ลีกาชิง วันอังคาร(4 มี.ค) แถลงยอมขายทิ้งหุ้น 90% คุมท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆใน 23 ประเทศทั่วโลกที่อาจรวมถึงท่าเรือแหลมฉบังของไทยไปให้บริษัทกิจการค้าร่วมอเมริกันของ BlackRock ตามข้อตกลงมหาศาลมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์
    .
    เอเอฟพีรายงานวันอังคาร(4 มี.ค)ว่า บริษัทบริหารท่าเรือข้ามชาติชื่อดังของฮ่องกง CK Hutchison Holdings แถลงว่า ทางบริษัทยอมตกลงที่จะขายทิ้งหุ้น 90% ที่ถือในบริษัทการท่าปานามา (Panama Ports Company) และท่าเรืออื่นๆเป็นจำนวนมากที่ไม่ได้อยู่ในจีนไปให้กับบริษัทบริหารอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังสหรัฐฯ BlackRock เป็นมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์
    .
    บลูมเบิร์กชี้ว่า การขายทิ้งที่ท่าเรือปานามาของเจ้าสัวลีกาชิงครั้งนี้เป็นเสมือนการหยิบยื่นชัยชนะให้กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์
    .
    ขณะที่ CNBC ของสหรัฐฯรายงานว่า ข้อตกลงจะเห็นกิจการค้าร่วมอเมริกันภายใต้การนำของบริษัท BlackRock และรวมบริษัท Global Infrastructure Partners และบริษัท Terminal Investment จะเข้าควบคุม 80% ของผลประโยชน์ในท่าเรือปานามา 2 ท่าของ CK ฮัตชิสันคิดเป็นมูลค่า 14.21 พันล้านดอลลาร์
    .
    นอกจากนี้กิจการค้าร่วมอเมริกันจะเข้าควบคุมท่าเรืออื่น 43 ท่าประกอบด้วยท่าเทียบเรือ 199 ท่าในทั้งหมด 23 ประเทศทั่วโลกโดยทั้งหมดตามข้อตกลงที่ 19 พันล้านดอลลาร์
    .
    CNBC ชี้ว่า ข้อตกลงการขายทิ้งการบริหารท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆใน 23 ประเทศของ CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ นี้ไม่เกี่ยวข้องใดๆต่อผลประโยชน์ของฮัตชิสัน พอร์ท โฮลดิ้งส์ ทรัสต์ (Hutchison Port Holdings Trust) ที่ควบคุมท่าเรือต่างๆในฮ่องกงและเมืองเซินเจิ้นในทางใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่หรือ ท่าเรืออื่นๆภายในจีน อ้างอิงจากแถลงการณ์บริษัท CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์
    .
    ทั้งนี้พบว่า CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ เป็นผู้บริหารท่าเรือในภาคตะวันออกของประเทศไทย อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการของบริษัทพบว่ามีชื่อเป็นผู้บริหารเทอร์มินอล A2 ของท่าเรือแหลมบังในไทยมาตั้งแต่ปี 2006 ภายใต้ชื่อบริษัท Hutchison Ports Thailand แต่อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การควบคุมพอร์ทท่าเรือแหลมฉบังนี้รวมอยู่ในข้อตกลง 19 พันล้านดอลลาร์ที่ทำไว้กับ BlackRock ของสหรัฐฯหรือไม่
    .
    เว็บไซต์ของ Hutchison Ports Thailand กล่าวว่า
    .
    “ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2006 เพื่อควบรวมการบริหารจัดการท่าเทียบเรือภายใต้การปฏิบัติการของบริษัท Hutchison Ports ในท่าเรือแหลมฉบังเข้าด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วยบริษัท Thai Laemchabang Terminal (TLT) และบริษัท Hutchison Laemchabang Terminal (HLT)”
    .
    และเสริมว่า
    .
    “โดยท่าเทียบเรือและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดของเราที่ท่าเรือแหลมฉบัง ตั้งอยู่บนทำเลที่เป็นเขตอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศไทย อาทิ เขตอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และจังหวัดระยอง ซึ่งถือเป็นที่ตั้งของบริษัทและโรงงานผู้ผลิตสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทยหลายแห่ง”
    .
    เอเอฟพีรายงานต่อว่า CKฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ ได้บริหารท่า Balboa และท่า Cristobal ที่มหาสมุทรแปซิฟิกและที่ท้ายสุดของมหาสมุทรแอตแลนติกทของคลองเชื่อมมหาสมุทรทั้ง 2 เข้าด้วยกัน
    .
    แต่ทว่านับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่มกราคมที่ผ่านมา เขาได้ออกมาอ้างว่าจีนเข้าควบคุมคลองปานามาเส้นเลือดหลักของการขนส่งทางทะเลของโลกที่สำคัญ
    .
    เอเอฟพีชี้ว่า ทรัมป์ถึงขั้นปฎิเสธที่จะไม่ทิ้งช่องทางการใช้กำลังทหารเพื่อเข้ารุกรานปานามาเพื่อให้สหรัฐฯกลับมาควบคุมคลองปานามาที่สหรัฐฯเป็นผู้ขุดได้อีกครั้งหลังเคยส่งมอบกลับคืนให้กับเจ้าของประเทศในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จิมมี คาร์เตอร์
    รายงานพิเศษจากเพจAround the World เมื่อ5 มีนาคมระบุว่าบีบสำเร็จ! “CK ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์” ของเจ้าสัว “ลีกาชิง” ยอมตัดใจขายทิ้งหุ้น 90% คุมคลองปานามาและในอีก 23 ประเทศทั่วโลกให้บ.อเมริกัน BlackRock มีสิทธิ์สะเทือน "แหลมฉบัง" ของไทย . . . . . เอเอฟพี/รอยเตอร์/MGRออนไลน์ – ภายใต้แรงบีบจากทรัมป์ บริษัท CK ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ ของเจ้าสัวฮ่องกง ลีกาชิง วันอังคาร(4 มี.ค) แถลงยอมขายทิ้งหุ้น 90% คุมท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆใน 23 ประเทศทั่วโลกที่อาจรวมถึงท่าเรือแหลมฉบังของไทยไปให้บริษัทกิจการค้าร่วมอเมริกันของ BlackRock ตามข้อตกลงมหาศาลมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์ . เอเอฟพีรายงานวันอังคาร(4 มี.ค)ว่า บริษัทบริหารท่าเรือข้ามชาติชื่อดังของฮ่องกง CK Hutchison Holdings แถลงว่า ทางบริษัทยอมตกลงที่จะขายทิ้งหุ้น 90% ที่ถือในบริษัทการท่าปานามา (Panama Ports Company) และท่าเรืออื่นๆเป็นจำนวนมากที่ไม่ได้อยู่ในจีนไปให้กับบริษัทบริหารอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังสหรัฐฯ BlackRock เป็นมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์ . บลูมเบิร์กชี้ว่า การขายทิ้งที่ท่าเรือปานามาของเจ้าสัวลีกาชิงครั้งนี้เป็นเสมือนการหยิบยื่นชัยชนะให้กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ . ขณะที่ CNBC ของสหรัฐฯรายงานว่า ข้อตกลงจะเห็นกิจการค้าร่วมอเมริกันภายใต้การนำของบริษัท BlackRock และรวมบริษัท Global Infrastructure Partners และบริษัท Terminal Investment จะเข้าควบคุม 80% ของผลประโยชน์ในท่าเรือปานามา 2 ท่าของ CK ฮัตชิสันคิดเป็นมูลค่า 14.21 พันล้านดอลลาร์ . นอกจากนี้กิจการค้าร่วมอเมริกันจะเข้าควบคุมท่าเรืออื่น 43 ท่าประกอบด้วยท่าเทียบเรือ 199 ท่าในทั้งหมด 23 ประเทศทั่วโลกโดยทั้งหมดตามข้อตกลงที่ 19 พันล้านดอลลาร์ . CNBC ชี้ว่า ข้อตกลงการขายทิ้งการบริหารท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆใน 23 ประเทศของ CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ นี้ไม่เกี่ยวข้องใดๆต่อผลประโยชน์ของฮัตชิสัน พอร์ท โฮลดิ้งส์ ทรัสต์ (Hutchison Port Holdings Trust) ที่ควบคุมท่าเรือต่างๆในฮ่องกงและเมืองเซินเจิ้นในทางใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่หรือ ท่าเรืออื่นๆภายในจีน อ้างอิงจากแถลงการณ์บริษัท CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ . ทั้งนี้พบว่า CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ เป็นผู้บริหารท่าเรือในภาคตะวันออกของประเทศไทย อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการของบริษัทพบว่ามีชื่อเป็นผู้บริหารเทอร์มินอล A2 ของท่าเรือแหลมบังในไทยมาตั้งแต่ปี 2006 ภายใต้ชื่อบริษัท Hutchison Ports Thailand แต่อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การควบคุมพอร์ทท่าเรือแหลมฉบังนี้รวมอยู่ในข้อตกลง 19 พันล้านดอลลาร์ที่ทำไว้กับ BlackRock ของสหรัฐฯหรือไม่ . เว็บไซต์ของ Hutchison Ports Thailand กล่าวว่า . “ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2006 เพื่อควบรวมการบริหารจัดการท่าเทียบเรือภายใต้การปฏิบัติการของบริษัท Hutchison Ports ในท่าเรือแหลมฉบังเข้าด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วยบริษัท Thai Laemchabang Terminal (TLT) และบริษัท Hutchison Laemchabang Terminal (HLT)” . และเสริมว่า . “โดยท่าเทียบเรือและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดของเราที่ท่าเรือแหลมฉบัง ตั้งอยู่บนทำเลที่เป็นเขตอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศไทย อาทิ เขตอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และจังหวัดระยอง ซึ่งถือเป็นที่ตั้งของบริษัทและโรงงานผู้ผลิตสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทยหลายแห่ง” . เอเอฟพีรายงานต่อว่า CKฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ ได้บริหารท่า Balboa และท่า Cristobal ที่มหาสมุทรแปซิฟิกและที่ท้ายสุดของมหาสมุทรแอตแลนติกทของคลองเชื่อมมหาสมุทรทั้ง 2 เข้าด้วยกัน . แต่ทว่านับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่มกราคมที่ผ่านมา เขาได้ออกมาอ้างว่าจีนเข้าควบคุมคลองปานามาเส้นเลือดหลักของการขนส่งทางทะเลของโลกที่สำคัญ . เอเอฟพีชี้ว่า ทรัมป์ถึงขั้นปฎิเสธที่จะไม่ทิ้งช่องทางการใช้กำลังทหารเพื่อเข้ารุกรานปานามาเพื่อให้สหรัฐฯกลับมาควบคุมคลองปานามาที่สหรัฐฯเป็นผู้ขุดได้อีกครั้งหลังเคยส่งมอบกลับคืนให้กับเจ้าของประเทศในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จิมมี คาร์เตอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 954 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ ออกมายินดีหลังปานามาจะไม่ต่ออายุโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง BRI ของจีนหลังข้อตกลงหมดอายุเพื่อถอยห่างจากปักกิ่ง และยินยอมให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านตลอดไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่ผู้เชี่ยวชาญออกมาชี้ ทรัมป์อาจบีบปานามาให้ออกจาก BRI ได้ แต่อาจยังไม่ได้กับชาติในเอเชียที่หวังพึ่งทุนจีนพัฒนาประเทศหลังนายกฯ ไทยเพิ่งแสดงความยินดี ครม.อนุมัติไฮสปีดเทรนโคราช-หนองคาย 357 กม.เชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ คาด เสร็จปี 73 ชี้เร่งเฟส 1 ยังช้ากว่าแผน
    .
    รอยเตอร์รายงานวันอังคาร (4 ก.พ.) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) วานนี้ (3) ได้แสดงความยินดีต่อการตัดสินใจของผู้นำปานามาที่จะถอนตัวออกจากโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน BRI ด้วยการไม่ต่ออายุข้อตกลงหลังหมดอายุ
    .
    รูบิโอกล่าวชื่นชมว่า เป็นความเคลื่อนไหวที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างยิ่งใหญ่เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯ
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า เป็นความเคลื่อนไหวใดๆของปานามาในการถอยห่างจากโครงการ BRI ของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิงนั้นเป็นชัยชนะของวอชิงตัน ซึ่งสหรัฐฯ นั้นยืนยันมาโดยตลอดว่า ปักกิ่งใช้ยุทธวิธีกับดักเงินกู้ทางการทูต (debt trap diplomacy) เพื่อสร้างอิทธิพลระดับโลกของตัวเอง
    .
    หลังการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประธานาธิบดีปานามา โฮเซ ราอูล มูลิโน (Jose Raul Mulino) ออกมาแถลงยืนยันว่า สหรัฐฯ ตกลงปานามาในข้อตกลงแบบกว้างที่ปานามาจะไม่ต่อสัญญาข้อตกลงโครงสร้างพื้นฐานจีน BRI และสามารถยกเลิกได้ก่อนกำหนด
    .
    เขาเปิดเผยว่า ข้อตกลงนั้นมีกำหนดจะสิ้นสุดในอีกราว 2-3 ปีข้างหน้า
    .
    ทั้งนี้ ปานามากลายเป็นชาติแรกในดินแดนละตินอเมริกากระโดดเข้าร่วมโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของปักกิ่งเมื่อพฤศจิกายนปี 2017 หรือ 5 เดือนหลังจากตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันและเป็นพันธมิตรกับจีนแทน
    .
    เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่ ศาสตราจารย์ เหยียนจง ฮวง (Yanzhong Huang) ผู้เชี่ยวชาญประจำ Council on Foreign Relations สถาบันธิงแทงก์ชื่อดังของสหรัฐฯ ออกมาฟันธงว่า สหรัฐฯ และจีนกำลังเล่นเกมทางการทูตอยู่ และการที่ปานามาประกาศตัวจะถอนตัวจากโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของประธานาธิบดีสีได้ถือเป็นชัยชนะเริ่มแรกของรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ชุดใหม่ในการทูตแบบใครกะพริบตาก่อนแพ้
    .
    “สหรัฐฯ ปัจจุบันดูเหมือนให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นไปที่หลังบ้านตัวเองคือละตินอเมริกาซึ่งประเทศเหล่านี้ยังคงต้องพึ่งการสนับสนุนและการค้ากับสหรัฐฯ”
    .
    พร้อมเสริมว่า “แต่ผมไม่มั่นใจว่าอเมริกาจะสามารถใช้อิทธิพลที่คล้ายกันในการบีบประเทศเอเชีย ตัวอย่างเช่น เพื่อให้มีการยอมอ่อนข้อในลักษณะที่คล้ายกัน จากการที่จีนได้กลายเป็นผู้เล่นทรงอิทธิพลในภูมิภาคนั้น”
    .
    ทั้งนี้ ปักกิ่งได้ออกมาปฏิเสธเสียงวิจารณ์จากโลกตะวันตกเกี่ยวกับโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของจีน โดยชี้ว่ามีมากกว่า 100 ประเทศได้เข้าร่วมที่จะเป็นการกระตุ้นการพัฒนาระดับโลกที่มีทั้งท่าเรือใหม่ สะพาน ทางรถไฟและโปรเจกต์อื่นๆ
    .
    เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีวันอังคาร (4) ออกมาเปิดเผยคณะรัฐมนตรีไทยได้ไฟเขียวอนุมัติรถไฟความเร็วสูงเฟส 2 โคราช-หนองคาย 357 กม. โดย เรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟเพื่อเชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ ให้สามารถเดินทางเข้าจีน คาดสามารถเสร็จสิ้นลงในปี 2573 MGRออนไลน์รายงาน
    .
    โดยเรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ
    .
    เกิดขึ้นหลังวันที่ 4 กันยายน ปี 2017 ระหว่างการประชุมสุดยอดเซียะเหมิน BRICS ที่มีประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีไทยในเวลานั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่วมกันเป็นสักขีพยาน อดีตกระทรวงการรถไฟจีน ปัจจุบันเป็นในเครือของบริษัท การรถไฟแห่งชาติจีน กรุ๊ป จำกัด (China National Railway Group Limited) และบริษัทในเครือบริษัทในเครือของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ลงนามในสัญญาจ้างออกแบบวิศวกรรมโยธาระยะแรก (เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา) และสัญญาจ้างเป็นที่ปรึกษา อ้างอิงจากเว็บไซต์สถานทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง
    .
    นอกจากนี้ ในชัยชนะพบว่าปานามายอมอนุญาตให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านคลองปานามาโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม สื่อด้านขนส่งทางทะเล maritime executive รายงานโดยอ้างอิงจากบลูมเบิร์กที่รายงานเป็นเจ้าแรกในวันอาทิตย์ (2)
    .
    รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ ได้ไปเยือนคลองปานามาวันอาทิตย์ (2) และสังเกตการปฏิบัติการด่าน Miraflores locks ภายในคลองปานามา
    .
    และหลังการเยือนเจ้าหน้าที่ปานามาได้ออกมายืนยันว่า จะให้ความสำคัญสูงสุดต่อการเรือรบสหรัฐฯ ในการล่องผ่านตลอดคลองปานามา
    .
    แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อเมริกันได้เปิดเผยกับบลูมเบิร์กตามการรายงานของสื่อ TradeWinds วันจันทร์ (3) ว่า ประธานาธิบดีปานามารับปากรูบิโอว่า เรือรบอเมริกันสามารถผ่านคลองปานามาได้โดยเสรีไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011539
    ..............
    Sondhi X
    รัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ ออกมายินดีหลังปานามาจะไม่ต่ออายุโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง BRI ของจีนหลังข้อตกลงหมดอายุเพื่อถอยห่างจากปักกิ่ง และยินยอมให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านตลอดไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่ผู้เชี่ยวชาญออกมาชี้ ทรัมป์อาจบีบปานามาให้ออกจาก BRI ได้ แต่อาจยังไม่ได้กับชาติในเอเชียที่หวังพึ่งทุนจีนพัฒนาประเทศหลังนายกฯ ไทยเพิ่งแสดงความยินดี ครม.อนุมัติไฮสปีดเทรนโคราช-หนองคาย 357 กม.เชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ คาด เสร็จปี 73 ชี้เร่งเฟส 1 ยังช้ากว่าแผน . รอยเตอร์รายงานวันอังคาร (4 ก.พ.) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) วานนี้ (3) ได้แสดงความยินดีต่อการตัดสินใจของผู้นำปานามาที่จะถอนตัวออกจากโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน BRI ด้วยการไม่ต่ออายุข้อตกลงหลังหมดอายุ . รูบิโอกล่าวชื่นชมว่า เป็นความเคลื่อนไหวที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างยิ่งใหญ่เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯ . รอยเตอร์รายงานว่า เป็นความเคลื่อนไหวใดๆของปานามาในการถอยห่างจากโครงการ BRI ของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิงนั้นเป็นชัยชนะของวอชิงตัน ซึ่งสหรัฐฯ นั้นยืนยันมาโดยตลอดว่า ปักกิ่งใช้ยุทธวิธีกับดักเงินกู้ทางการทูต (debt trap diplomacy) เพื่อสร้างอิทธิพลระดับโลกของตัวเอง . หลังการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประธานาธิบดีปานามา โฮเซ ราอูล มูลิโน (Jose Raul Mulino) ออกมาแถลงยืนยันว่า สหรัฐฯ ตกลงปานามาในข้อตกลงแบบกว้างที่ปานามาจะไม่ต่อสัญญาข้อตกลงโครงสร้างพื้นฐานจีน BRI และสามารถยกเลิกได้ก่อนกำหนด . เขาเปิดเผยว่า ข้อตกลงนั้นมีกำหนดจะสิ้นสุดในอีกราว 2-3 ปีข้างหน้า . ทั้งนี้ ปานามากลายเป็นชาติแรกในดินแดนละตินอเมริกากระโดดเข้าร่วมโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของปักกิ่งเมื่อพฤศจิกายนปี 2017 หรือ 5 เดือนหลังจากตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันและเป็นพันธมิตรกับจีนแทน . เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่ ศาสตราจารย์ เหยียนจง ฮวง (Yanzhong Huang) ผู้เชี่ยวชาญประจำ Council on Foreign Relations สถาบันธิงแทงก์ชื่อดังของสหรัฐฯ ออกมาฟันธงว่า สหรัฐฯ และจีนกำลังเล่นเกมทางการทูตอยู่ และการที่ปานามาประกาศตัวจะถอนตัวจากโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของประธานาธิบดีสีได้ถือเป็นชัยชนะเริ่มแรกของรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ชุดใหม่ในการทูตแบบใครกะพริบตาก่อนแพ้ . “สหรัฐฯ ปัจจุบันดูเหมือนให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นไปที่หลังบ้านตัวเองคือละตินอเมริกาซึ่งประเทศเหล่านี้ยังคงต้องพึ่งการสนับสนุนและการค้ากับสหรัฐฯ” . พร้อมเสริมว่า “แต่ผมไม่มั่นใจว่าอเมริกาจะสามารถใช้อิทธิพลที่คล้ายกันในการบีบประเทศเอเชีย ตัวอย่างเช่น เพื่อให้มีการยอมอ่อนข้อในลักษณะที่คล้ายกัน จากการที่จีนได้กลายเป็นผู้เล่นทรงอิทธิพลในภูมิภาคนั้น” . ทั้งนี้ ปักกิ่งได้ออกมาปฏิเสธเสียงวิจารณ์จากโลกตะวันตกเกี่ยวกับโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของจีน โดยชี้ว่ามีมากกว่า 100 ประเทศได้เข้าร่วมที่จะเป็นการกระตุ้นการพัฒนาระดับโลกที่มีทั้งท่าเรือใหม่ สะพาน ทางรถไฟและโปรเจกต์อื่นๆ . เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีวันอังคาร (4) ออกมาเปิดเผยคณะรัฐมนตรีไทยได้ไฟเขียวอนุมัติรถไฟความเร็วสูงเฟส 2 โคราช-หนองคาย 357 กม. โดย เรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟเพื่อเชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ ให้สามารถเดินทางเข้าจีน คาดสามารถเสร็จสิ้นลงในปี 2573 MGRออนไลน์รายงาน . โดยเรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ . เกิดขึ้นหลังวันที่ 4 กันยายน ปี 2017 ระหว่างการประชุมสุดยอดเซียะเหมิน BRICS ที่มีประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีไทยในเวลานั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่วมกันเป็นสักขีพยาน อดีตกระทรวงการรถไฟจีน ปัจจุบันเป็นในเครือของบริษัท การรถไฟแห่งชาติจีน กรุ๊ป จำกัด (China National Railway Group Limited) และบริษัทในเครือบริษัทในเครือของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ลงนามในสัญญาจ้างออกแบบวิศวกรรมโยธาระยะแรก (เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา) และสัญญาจ้างเป็นที่ปรึกษา อ้างอิงจากเว็บไซต์สถานทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง . นอกจากนี้ ในชัยชนะพบว่าปานามายอมอนุญาตให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านคลองปานามาโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม สื่อด้านขนส่งทางทะเล maritime executive รายงานโดยอ้างอิงจากบลูมเบิร์กที่รายงานเป็นเจ้าแรกในวันอาทิตย์ (2) . รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ ได้ไปเยือนคลองปานามาวันอาทิตย์ (2) และสังเกตการปฏิบัติการด่าน Miraflores locks ภายในคลองปานามา . และหลังการเยือนเจ้าหน้าที่ปานามาได้ออกมายืนยันว่า จะให้ความสำคัญสูงสุดต่อการเรือรบสหรัฐฯ ในการล่องผ่านตลอดคลองปานามา . แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อเมริกันได้เปิดเผยกับบลูมเบิร์กตามการรายงานของสื่อ TradeWinds วันจันทร์ (3) ว่า ประธานาธิบดีปานามารับปากรูบิโอว่า เรือรบอเมริกันสามารถผ่านคลองปานามาได้โดยเสรีไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011539 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Angry
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3295 มุมมอง 0 รีวิว
  • วางแผนเดินทาง กลับ..ถึง สหรัฐฯ ในวันเดียวกัน - ECONOMY CLASS

    กลับสหรัฐฯ ในรอบนี้ ดิฉันพบสายการบินใหม่ ซึ่ง มโนคิดว่า น่าจะใช้เครื่องบินรุ่นใหม่ๆ ปลอดภัย-สะอาด บินไว-รอเปลี่ยนเครื่องไม่นาน เงียบ เย็น นั่งสบาย-นอนหลับ บริการดี อาหารอร่อย ราคาปานกลาง ไม่ถูกเกินไป และ ไม่แพง..เว่อร์

    ฉันค้นคว้า อ่านข่าวซุบซิบ บนโลกออนไลน์ พบว่า ในโลกนี้มีสายการบินน้องใหม่ "สตาร์ลักษณ์" STARLUX 星宇航空 เป้นสายการบินเอกชน สัญชาติไต้หวัน เป็นชาวจีนเหมือนกับฉัน จึง ให้คะแนน 1 แต้ม

    เจ้าของ คือ Chang Kuo-wei อดีต CEO สายการบิน EVA Air แห่งไต้หวัน เป็นลูกชายของ Chang Yung-fa เจ้าพ่อแห่งวงการขนส่งทางทะเล EVERGREEN โอ้..มาย ก๊อด ยอดมาก แสดงว่า..เค้า คร่ำหวอดประสบการณ์ ในยุทธจักรมานาน สายป่าน....ยาวไกล เข้าใจในเรื่องขนส่งข้ามน้ำ-ข้ามทะเลมาเป็นอย่างดีเยี่ยม ให้คะแนน อีก 1 แต้ม

    เพื่อนๆ..ชาวไต้หวัน ส่วนมากนับถือพุทธศาสนา ที่ เน้นหลักแห่งความเมตตา ไม่กินเนื้อสัตว์ ทำให้อาหารมังสวิรัติ บนเครื่อง EVA Air มีหลากหลายชนิดให้เลือก และ ฉันได้เลือกมังสวิรัติ(ทุกประเภท) ในขณะที่จองตั๋ว STARLUX ไปแล้ว ซึ่งหวังว่าจะ อิ่ม อร่อย.. ถึงปลายทางค่อยให้คะแนน

    แวะ จอด เปลี่ยนเครื่อง 1 ชั่วโมง 20 นาที ในราคาประหยัด หาได้ยากมาก ปกติจะเจอ 5-8ชั่วโมง นานที่สุดคือ Philippines Airlines 19 ชั่วโมง35 นาที (แต่ตั๋วเค้า..ราคาถูกที่สุด-รองจากสายการบินจีนใหญ่)

    ปัจจุบันวงการ..การบิน มีคำกล่าวขวัญ ว่า If it's BOING I'm not going เนื่องจากปัญหา บริษัทโบอิ้งเน้นกำไร(มากกว่า)ความปลอดภัย

    STARLUX Airlinesซึ่งเป็นสายการบินใหม่ ไม่มี ไม่ใช้เครื่องบิน Boeing จึงปลอดภัยที่สุด

    ฟรี เลือกที่นั่ง ล่วงหน้า 48 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
    เนื่องจาก ฉันมีส่วนสูง 173 ซม. ต้องการที่นั่งเหยีดขาได้สุดๆ นั่นคือ จะต้องเป็นที่นั่งทางออกฉุกเฉิน-บริเวณปีก ซึ่งเป็นส่วนของเครื่องบินที่แข็งแรงที่สุด และ นั่งสบายที่สุด(ไม่เหวี่ยง-ไม่ส่าย-ไม่โยนตัว) ถ้าเครื่องตก..มีโอกาสรอด(บ้าง) 55 555

    สำคัญที่สุด คือ เร็ว-ประหยัดเวลามากที่สุด
    บินวันนั้น ถึงที่หมาย วันนั้นเลย (รายละเอียดตามภาพ)
    .
    .
    พัชรี ว่องไววิทย์
    25 พฤษภาคม 2567
    กรุงเทพมหานคร.
    ✈️วางแผนเดินทาง กลับ..ถึง สหรัฐฯ ในวันเดียวกัน - ECONOMY CLASS กลับสหรัฐฯ ในรอบนี้ ดิฉันพบสายการบินใหม่ ซึ่ง มโนคิดว่า น่าจะใช้เครื่องบินรุ่นใหม่ๆ ปลอดภัย-สะอาด บินไว-รอเปลี่ยนเครื่องไม่นาน เงียบ เย็น นั่งสบาย-นอนหลับ บริการดี อาหารอร่อย ราคาปานกลาง ไม่ถูกเกินไป และ ไม่แพง..เว่อร์ ✅ ฉันค้นคว้า อ่านข่าวซุบซิบ บนโลกออนไลน์ พบว่า ในโลกนี้มีสายการบินน้องใหม่ "สตาร์ลักษณ์" STARLUX ✈️ 星宇航空 เป้นสายการบินเอกชน สัญชาติไต้หวัน เป็นชาวจีนเหมือนกับฉัน จึง ให้คะแนน 1 แต้ม ✅เจ้าของ คือ Chang Kuo-wei อดีต CEO สายการบิน EVA Air แห่งไต้หวัน เป็นลูกชายของ Chang Yung-fa เจ้าพ่อแห่งวงการขนส่งทางทะเล EVERGREEN โอ้..มาย ก๊อด ยอดมาก แสดงว่า..เค้า คร่ำหวอดประสบการณ์ ในยุทธจักรมานาน สายป่าน....ยาวไกล เข้าใจในเรื่องขนส่งข้ามน้ำ-ข้ามทะเลมาเป็นอย่างดีเยี่ยม ให้คะแนน อีก 1 แต้ม ✅เพื่อนๆ..ชาวไต้หวัน ส่วนมากนับถือพุทธศาสนา ที่ เน้นหลักแห่งความเมตตา ไม่กินเนื้อสัตว์ ทำให้อาหารมังสวิรัติ บนเครื่อง EVA Air มีหลากหลายชนิดให้เลือก และ ฉันได้เลือกมังสวิรัติ(ทุกประเภท) ในขณะที่จองตั๋ว STARLUX ไปแล้ว ซึ่งหวังว่าจะ อิ่ม อร่อย.. ถึงปลายทางค่อยให้คะแนน ✅ แวะ จอด เปลี่ยนเครื่อง 1 ชั่วโมง 20 นาที ในราคาประหยัด หาได้ยากมาก ปกติจะเจอ 5-8ชั่วโมง นานที่สุดคือ Philippines Airlines 19 ชั่วโมง35 นาที (แต่ตั๋วเค้า..ราคาถูกที่สุด-รองจากสายการบินจีนใหญ่) ✅ ปัจจุบันวงการ..การบิน มีคำกล่าวขวัญ ว่า If it's BOING I'm not going เนื่องจากปัญหา บริษัทโบอิ้งเน้นกำไร(มากกว่า)ความปลอดภัย STARLUX Airlinesซึ่งเป็นสายการบินใหม่ ❌ไม่มี ❌ไม่ใช้เครื่องบิน Boeing จึงปลอดภัยที่สุด ✅ฟรี เลือกที่นั่ง ล่วงหน้า 48 ชั่วโมงก่อนเดินทาง เนื่องจาก ฉันมีส่วนสูง 173 ซม. ต้องการที่นั่งเหยีดขาได้สุดๆ นั่นคือ จะต้องเป็นที่นั่งทางออกฉุกเฉิน-บริเวณปีก ซึ่งเป็นส่วนของเครื่องบินที่แข็งแรงที่สุด และ นั่งสบายที่สุด(ไม่เหวี่ยง-ไม่ส่าย-ไม่โยนตัว) ถ้าเครื่องตก..มีโอกาสรอด(บ้าง) 55 555 👉สำคัญที่สุด คือ เร็ว-ประหยัดเวลามากที่สุด บินวันนั้น ถึงที่หมาย วันนั้นเลย (รายละเอียดตามภาพ) . . พัชรี ว่องไววิทย์ 25 พฤษภาคม 2567 กรุงเทพมหานคร.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 770 มุมมอง 0 รีวิว
  • Gazprom มุ่งขยายอุปทานก๊าซและโครงการ LNG ในแอฟริกา

    Gazprom มองว่าแอฟริกาเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับก๊าซของรัสเซีย, Dmitry Khandoga ผู้แทน Gazprom Export CEA กล่าวในฟอรั่มนานาชาติ Russian Energy Week ที่กรุงมอสโกวว่า

    "เรามองว่าทวีปแอฟริกาเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย ด้วยปริมาณสำรองก๊าซขนาดใหญ่และวิธีการส่งมอบทั่วโลกที่มีประสิทธิภาพ, โดยเฉพาะ LNG และการขนส่งทางทะเล," เขากล่าวในการประชุม ‘รัสเซีย - แอฟริกา: ปลดล็อกศักยภาพของความร่วมมือด้านพลังงาน’

    Khandoga ยังได้เน้นย้ำถึงความสนใจของ Gazprom ในการใช้ความเชี่ยวชาญในการส่งมอบก๊าซธรรมชาติให้กับผู้บริโภคในแอฟริกา ขณะเดียวกันก็สำรวจโครงการเชื้อเพลิงที่ขับเคลื่อนด้วยก๊าซ, LNG ขนาดเล็ก, และไฟฟ้าที่ผลิตด้วยก๊าซ เขาหวังว่าจะสามารถระบุชื่อประเทศและโครงการเฉพาะเจาะจงได้ในช่วง African Energy Week ที่เมืองเคปทาวน์ในเดือนพฤศจิกายน

    Russian Energy Week จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๖-๒๘ กันยายน ที่กรุงมอสโกว
    .
    Gazprom looks to expand gas supply and LNG projects in Africa

    Gazprom views Africa as a potential market for Russian gas, Gazprom Export CEA Dmitry Khandoga told the Russian Energy Week international forum in Moscow.

    "We see the African continent as a potential market for Russian natural gas. With our large gas reserves and effective global delivery methods, especially LNG and maritime transport," he said at the ‘Russia – Africa: Unlocking the Potential of Energy Cooperation’ session.

    Khandoga also highlighted Gazprom's interest in applying its expertise in delivering natural gas to consumers in Africa while exploring projects for gas-powered fuel, small-scale LNG, and gas-powered electricity. He hoped to name specific countries and projects during African Energy Week in Cape Town in November.

    Russian Energy Week runs from September 26-28 in Moscow.
    .
    12:07 AM · Sep 28, 2024 · 5,432 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1839713455030538449
    Gazprom มุ่งขยายอุปทานก๊าซและโครงการ LNG ในแอฟริกา Gazprom มองว่าแอฟริกาเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับก๊าซของรัสเซีย, Dmitry Khandoga ผู้แทน Gazprom Export CEA กล่าวในฟอรั่มนานาชาติ Russian Energy Week ที่กรุงมอสโกวว่า "เรามองว่าทวีปแอฟริกาเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย ด้วยปริมาณสำรองก๊าซขนาดใหญ่และวิธีการส่งมอบทั่วโลกที่มีประสิทธิภาพ, โดยเฉพาะ LNG และการขนส่งทางทะเล," เขากล่าวในการประชุม ‘รัสเซีย - แอฟริกา: ปลดล็อกศักยภาพของความร่วมมือด้านพลังงาน’ Khandoga ยังได้เน้นย้ำถึงความสนใจของ Gazprom ในการใช้ความเชี่ยวชาญในการส่งมอบก๊าซธรรมชาติให้กับผู้บริโภคในแอฟริกา ขณะเดียวกันก็สำรวจโครงการเชื้อเพลิงที่ขับเคลื่อนด้วยก๊าซ, LNG ขนาดเล็ก, และไฟฟ้าที่ผลิตด้วยก๊าซ เขาหวังว่าจะสามารถระบุชื่อประเทศและโครงการเฉพาะเจาะจงได้ในช่วง African Energy Week ที่เมืองเคปทาวน์ในเดือนพฤศจิกายน Russian Energy Week จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๖-๒๘ กันยายน ที่กรุงมอสโกว . Gazprom looks to expand gas supply and LNG projects in Africa Gazprom views Africa as a potential market for Russian gas, Gazprom Export CEA Dmitry Khandoga told the Russian Energy Week international forum in Moscow. "We see the African continent as a potential market for Russian natural gas. With our large gas reserves and effective global delivery methods, especially LNG and maritime transport," he said at the ‘Russia – Africa: Unlocking the Potential of Energy Cooperation’ session. Khandoga also highlighted Gazprom's interest in applying its expertise in delivering natural gas to consumers in Africa while exploring projects for gas-powered fuel, small-scale LNG, and gas-powered electricity. He hoped to name specific countries and projects during African Energy Week in Cape Town in November. Russian Energy Week runs from September 26-28 in Moscow. . 12:07 AM · Sep 28, 2024 · 5,432 Views https://x.com/SputnikInt/status/1839713455030538449
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 305 มุมมอง 0 รีวิว