• รองนายกฯ สุชาติ ดัน “Zero Food Waste” วาระแห่งชาติ สั่งอุทยานฯ ทั่วประเทศ ตั้งเป้าลดขยะอาหาร 50% ภายใน 4 เดือน
    https://www.thai-tai.tv/news/22078/
    .
    #ไทยไท #ZeroFoodWaste #สุชาติชมกลิ่น #ลดขยะอาหาร #วิกฤตโลกร้อน #ก๊าซมีเทน

    รองนายกฯ สุชาติ ดัน “Zero Food Waste” วาระแห่งชาติ สั่งอุทยานฯ ทั่วประเทศ ตั้งเป้าลดขยะอาหาร 50% ภายใน 4 เดือน https://www.thai-tai.tv/news/22078/ . #ไทยไท #ZeroFoodWaste #สุชาติชมกลิ่น #ลดขยะอาหาร #วิกฤตโลกร้อน #ก๊าซมีเทน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศดาวยูเรนัสจากข้อมูล 20 ปีของ Hubble
    นักดาราศาสตร์ใช้ข้อมูลจาก กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล (Hubble Space Telescope) ที่รวบรวมมาตลอด 20 ปี เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศดาวยูเรนัส ซึ่งเป็นดาวเคราะห์น้ำแข็งที่มีลักษณะพิเศษคือ โคจรรอบดวงอาทิตย์ในแนวเอียง

    ยูเรนัสมีฤดูกาลที่ยาวนานมาก โดย แต่ละฤดูใช้เวลาประมาณ 42 ปี เนื่องจากวงโคจรของมันรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลาถึง 84 ปีโลก ข้อมูลจาก Hubble แสดงให้เห็นว่า มีการเปลี่ยนแปลงของละอองลอยและหมอกในบรรยากาศ ซึ่งจะสว่างขึ้นในบริเวณขั้วเหนือเมื่อถึง ครีษมายันของซีกโลกเหนือในปี 2030

    นักวิจัยพบว่า มีการกระจายตัวของก๊าซมีเทนที่ไม่สม่ำเสมอ โดยบริเวณขั้วของดาวยูเรนัสมีปริมาณก๊าซมีเทนต่ำกว่าบริเวณอื่น ซึ่งแตกต่างจากดาวเคราะห์แก๊สยักษ์อื่น ๆ เช่น ดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์

    ข้อมูลจากข่าว
    - นักดาราศาสตร์ใช้ข้อมูลจาก Hubble ที่รวบรวมมาตลอด 20 ปี เพื่อศึกษาบรรยากาศของยูเรนัส
    - ยูเรนัสมีฤดูกาลที่ยาวนานมาก โดยแต่ละฤดูใช้เวลาประมาณ 42 ปี
    - ละอองลอยและหมอกในบรรยากาศจะสว่างขึ้นในบริเวณขั้วเหนือเมื่อถึงครีษมายันในปี 2030
    - ก๊าซมีเทนในบรรยากาศของยูเรนัสมีการกระจายตัวที่ไม่สม่ำเสมอ โดยบริเวณขั้วมีปริมาณต่ำกว่าบริเวณอื่น
    - การศึกษานี้ใช้ข้อมูลจาก Hubble ที่บันทึกในปี 2002, 2012, 2015 และ 2022

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาครอบคลุมเพียง 4 ช่วงเวลาในรอบ 20 ปี อาจยังไม่เพียงพอในการสรุปแนวโน้มระยะยาว
    - ต้องรอการสังเกตเพิ่มเติมจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศ James Webb เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ละเอียดขึ้น
    - การเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศอาจมีผลต่อการศึกษาดาวบริวารของยูเรนัส เช่น Miranda
    - ยังไม่มีการสำรวจโดยยานอวกาศที่เข้าใกล้ยูเรนัสตั้งแต่ Voyager 2 ในปี 1986

    ผลกระทบต่อการศึกษาดาวเคราะห์
    การศึกษานี้ช่วยให้เราเข้าใจ การเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศดาวยูเรนัส และอาจช่วยให้เราคาดการณ์สภาพอากาศของดาวเคราะห์น้ำแข็งอื่น ๆ ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ James Webb Space Telescope อาจให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับองค์ประกอบของบรรยากาศและการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

    https://www.techspot.com/news/108115-astronomers-use-hubble-data-explore-uranus-atmosphere-afar.html
    🔭 การเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศดาวยูเรนัสจากข้อมูล 20 ปีของ Hubble นักดาราศาสตร์ใช้ข้อมูลจาก กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล (Hubble Space Telescope) ที่รวบรวมมาตลอด 20 ปี เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศดาวยูเรนัส ซึ่งเป็นดาวเคราะห์น้ำแข็งที่มีลักษณะพิเศษคือ โคจรรอบดวงอาทิตย์ในแนวเอียง ยูเรนัสมีฤดูกาลที่ยาวนานมาก โดย แต่ละฤดูใช้เวลาประมาณ 42 ปี เนื่องจากวงโคจรของมันรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลาถึง 84 ปีโลก ข้อมูลจาก Hubble แสดงให้เห็นว่า มีการเปลี่ยนแปลงของละอองลอยและหมอกในบรรยากาศ ซึ่งจะสว่างขึ้นในบริเวณขั้วเหนือเมื่อถึง ครีษมายันของซีกโลกเหนือในปี 2030 นักวิจัยพบว่า มีการกระจายตัวของก๊าซมีเทนที่ไม่สม่ำเสมอ โดยบริเวณขั้วของดาวยูเรนัสมีปริมาณก๊าซมีเทนต่ำกว่าบริเวณอื่น ซึ่งแตกต่างจากดาวเคราะห์แก๊สยักษ์อื่น ๆ เช่น ดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - นักดาราศาสตร์ใช้ข้อมูลจาก Hubble ที่รวบรวมมาตลอด 20 ปี เพื่อศึกษาบรรยากาศของยูเรนัส - ยูเรนัสมีฤดูกาลที่ยาวนานมาก โดยแต่ละฤดูใช้เวลาประมาณ 42 ปี - ละอองลอยและหมอกในบรรยากาศจะสว่างขึ้นในบริเวณขั้วเหนือเมื่อถึงครีษมายันในปี 2030 - ก๊าซมีเทนในบรรยากาศของยูเรนัสมีการกระจายตัวที่ไม่สม่ำเสมอ โดยบริเวณขั้วมีปริมาณต่ำกว่าบริเวณอื่น - การศึกษานี้ใช้ข้อมูลจาก Hubble ที่บันทึกในปี 2002, 2012, 2015 และ 2022 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาครอบคลุมเพียง 4 ช่วงเวลาในรอบ 20 ปี อาจยังไม่เพียงพอในการสรุปแนวโน้มระยะยาว - ต้องรอการสังเกตเพิ่มเติมจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศ James Webb เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ละเอียดขึ้น - การเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศอาจมีผลต่อการศึกษาดาวบริวารของยูเรนัส เช่น Miranda - ยังไม่มีการสำรวจโดยยานอวกาศที่เข้าใกล้ยูเรนัสตั้งแต่ Voyager 2 ในปี 1986 🚀 ผลกระทบต่อการศึกษาดาวเคราะห์ การศึกษานี้ช่วยให้เราเข้าใจ การเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศดาวยูเรนัส และอาจช่วยให้เราคาดการณ์สภาพอากาศของดาวเคราะห์น้ำแข็งอื่น ๆ ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ James Webb Space Telescope อาจให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับองค์ประกอบของบรรยากาศและการเปลี่ยนแปลงในอนาคต https://www.techspot.com/news/108115-astronomers-use-hubble-data-explore-uranus-atmosphere-afar.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Hubble reveals 20-year time-lapse of Uranus' changing atmosphere
    An international team used 20 years of data and photos taken by the Hubble Space Telescope to study Uranus' atmosphere and its seasonal changes. The icy world...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 488 มุมมอง 0 รีวิว
  • Elon Musk ได้เปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า Colossus ซึ่งใช้ GPU Nvidia H100 จำนวน 100,000 ตัว ในการประมวลผล AI อย่างไรก็ตาม ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้เผชิญกับข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการปล่อยมลพิษจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนที่ใช้ในไซต์งาน Memphis รัฐเทนเนสซี

    ในช่วงแรก Colossus ใช้พลังงานเพียง 7 MW ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งาน GPU เพียง 4% ของทั้งหมด เพื่อแก้ไขปัญหานี้ Musk ได้ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดใหญ่หลายตัวเพื่อรองรับความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น โดยขณะนี้ไซต์งานยังคงใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนกว่า 30 ตัว ซึ่งปล่อยสารมลพิษที่เชื่อมโยงกับโรคหอบหืด โรคทางเดินหายใจ และมะเร็งบางชนิด

    Southern Environmental Law Center (SELC) ได้ร่วมมือกับ South Wings ในการถ่ายภาพไซต์งานด้วยกล้องถ่ายภาพความร้อน และพบว่ามีจุดร้อนกว่า 30 จุด ซึ่งบ่งชี้ถึงจำนวนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่

    แม้ว่า Colossus จะได้รับการอนุมัติให้ใช้พลังงาน 150 MW แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าต้องการพลังงานอย่างน้อย 155 MW เพื่อใช้งาน GPU ทั้งหมด และหาก Musk ขยายการใช้งาน GPU เป็น 200,000 ตัว จะต้องการพลังงานถึง 310 MW

    การออกแบบและการใช้งาน
    - ใช้ GPU Nvidia H100 จำนวน 100,000 ตัว
    - ต้องการพลังงานอย่างน้อย 155 MW เพื่อใช้งาน GPU ทั้งหมด

    การแก้ไขปัญหาพลังงาน
    - ใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนกว่า 30 ตัวเพื่อรองรับความต้องการพลังงาน
    - เครื่องกำเนิดไฟฟ้าปล่อยสารมลพิษที่เชื่อมโยงกับโรคหอบหืดและมะเร็ง

    การตรวจสอบจาก SELC
    - พบจุดร้อนกว่า 30 จุดในไซต์งานด้วยกล้องถ่ายภาพความร้อน
    - SELC กำลังยื่นคำร้องต่อ Shelby County Health Department เพื่อปฏิเสธการใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้า

    การขยายการใช้งาน GPU
    - หากขยายการใช้งาน GPU เป็น 200,000 ตัว จะต้องการพลังงานถึง 310 MW

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/elon-musks-nvidia-powered-colossus-supercomputer-faces-pollution-allegations-from-under-reported-power-generators
    Elon Musk ได้เปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า Colossus ซึ่งใช้ GPU Nvidia H100 จำนวน 100,000 ตัว ในการประมวลผล AI อย่างไรก็ตาม ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้เผชิญกับข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการปล่อยมลพิษจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนที่ใช้ในไซต์งาน Memphis รัฐเทนเนสซี ในช่วงแรก Colossus ใช้พลังงานเพียง 7 MW ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งาน GPU เพียง 4% ของทั้งหมด เพื่อแก้ไขปัญหานี้ Musk ได้ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดใหญ่หลายตัวเพื่อรองรับความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น โดยขณะนี้ไซต์งานยังคงใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนกว่า 30 ตัว ซึ่งปล่อยสารมลพิษที่เชื่อมโยงกับโรคหอบหืด โรคทางเดินหายใจ และมะเร็งบางชนิด Southern Environmental Law Center (SELC) ได้ร่วมมือกับ South Wings ในการถ่ายภาพไซต์งานด้วยกล้องถ่ายภาพความร้อน และพบว่ามีจุดร้อนกว่า 30 จุด ซึ่งบ่งชี้ถึงจำนวนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่ แม้ว่า Colossus จะได้รับการอนุมัติให้ใช้พลังงาน 150 MW แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าต้องการพลังงานอย่างน้อย 155 MW เพื่อใช้งาน GPU ทั้งหมด และหาก Musk ขยายการใช้งาน GPU เป็น 200,000 ตัว จะต้องการพลังงานถึง 310 MW ✅ การออกแบบและการใช้งาน - ใช้ GPU Nvidia H100 จำนวน 100,000 ตัว - ต้องการพลังงานอย่างน้อย 155 MW เพื่อใช้งาน GPU ทั้งหมด ✅ การแก้ไขปัญหาพลังงาน - ใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนกว่า 30 ตัวเพื่อรองรับความต้องการพลังงาน - เครื่องกำเนิดไฟฟ้าปล่อยสารมลพิษที่เชื่อมโยงกับโรคหอบหืดและมะเร็ง ✅ การตรวจสอบจาก SELC - พบจุดร้อนกว่า 30 จุดในไซต์งานด้วยกล้องถ่ายภาพความร้อน - SELC กำลังยื่นคำร้องต่อ Shelby County Health Department เพื่อปฏิเสธการใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ✅ การขยายการใช้งาน GPU - หากขยายการใช้งาน GPU เป็น 200,000 ตัว จะต้องการพลังงานถึง 310 MW https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/elon-musks-nvidia-powered-colossus-supercomputer-faces-pollution-allegations-from-under-reported-power-generators
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 470 มุมมอง 0 รีวิว
  • Elon Musk’s xAI กำลังเผชิญกับข้อวิจารณ์เกี่ยวกับการใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ไม่ได้รับอนุญาตเพื่อให้พลังงานแก่ Colossus Supercomputer ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี โดยเหตุการณ์นี้สร้างความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพในพื้นที่

    การใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้า:
    - xAI ใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนจำนวน 35 เครื่องเพื่อให้พลังงานแก่ Colossus Supercomputer ซึ่งมี GPU Nvidia H100 มากกว่า 100,000 ตัว
    - เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเหล่านี้สามารถผลิตพลังงานได้ถึง 420 MW ซึ่งเพียงพอสำหรับการจ่ายไฟให้กับเมือง

    ปัญหาด้านการอนุญาต:
    - xAI ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพียง 15 เครื่อง แต่มีการใช้งานมากกว่านั้นโดยไม่มีการอนุมัติ
    - บริษัทใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายที่อนุญาตให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำงานได้โดยไม่ต้องมีใบอนุญาต หากไม่ได้ติดตั้งในที่เดียวเกิน 364 วัน

    ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม:
    - เครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนเป็นแหล่งมลพิษที่สำคัญและละเมิดกฎคุณภาพอากาศของรัฐบาลกลาง
    - กลุ่ม Southern Environmental Law Center เรียกร้องให้หน่วยงานด้านสุขภาพในพื้นที่หยุดการดำเนินงานและปรับบริษัท $25,000 ต่อวัน

    การตอบสนองของชุมชน:
    - ชาวบ้านและกลุ่มสิ่งแวดล้อมในพื้นที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/elon-musks-xai-allegedly-powers-colossus-supercomputer-facility-using-illegal-generators
    Elon Musk’s xAI กำลังเผชิญกับข้อวิจารณ์เกี่ยวกับการใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ไม่ได้รับอนุญาตเพื่อให้พลังงานแก่ Colossus Supercomputer ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี โดยเหตุการณ์นี้สร้างความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพในพื้นที่ ✅ การใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้า: - xAI ใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนจำนวน 35 เครื่องเพื่อให้พลังงานแก่ Colossus Supercomputer ซึ่งมี GPU Nvidia H100 มากกว่า 100,000 ตัว - เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเหล่านี้สามารถผลิตพลังงานได้ถึง 420 MW ซึ่งเพียงพอสำหรับการจ่ายไฟให้กับเมือง ✅ ปัญหาด้านการอนุญาต: - xAI ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพียง 15 เครื่อง แต่มีการใช้งานมากกว่านั้นโดยไม่มีการอนุมัติ - บริษัทใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายที่อนุญาตให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำงานได้โดยไม่ต้องมีใบอนุญาต หากไม่ได้ติดตั้งในที่เดียวเกิน 364 วัน ✅ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม: - เครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนเป็นแหล่งมลพิษที่สำคัญและละเมิดกฎคุณภาพอากาศของรัฐบาลกลาง - กลุ่ม Southern Environmental Law Center เรียกร้องให้หน่วยงานด้านสุขภาพในพื้นที่หยุดการดำเนินงานและปรับบริษัท $25,000 ต่อวัน ✅ การตอบสนองของชุมชน: - ชาวบ้านและกลุ่มสิ่งแวดล้อมในพื้นที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/elon-musks-xai-allegedly-powers-colossus-supercomputer-facility-using-illegal-generators
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Elon Musk’s xAI allegedly uses illegal generators to power Colossus supercomputer facility
    A loophole enables the generators to be used for 364 days without a permit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 403 มุมมอง 0 รีวิว
  • บิ๊กดาต้า-เอไอ ขับเคลื่อนเมืองเก่าภูเก็ต

    ปัจจุบันมีหน่วยงานขับเคลื่อนประเทศด้วยข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที่ชื่อว่า "สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน)" หรือบีดีไอ (BDI) หน่วยงานในกำกับของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนสายเทคโนโลยี 80% ที่มีเป้าหมายขับเคลื่อนประเทศด้วยข้อมูล แม้จะเป็นหน่วยงานใหม่ที่ก่อตั้งไม่นาน แต่ก็ได้มีความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชนเชื่อมโยงและส่งเสริมข้อมูล โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต ที่ภาคเอกชนและภาครัฐเข้มแข็ง

    ที่ผ่านมาบีดีไอพัฒนา 3 แพลตฟอร์ม ใช้ภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่อง ได้แก่ แพลตฟอร์มบริการข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Envi Link) แพลตฟอร์มข้อมูลอัจฉริยะด้านท่องเที่ยวแห่งชาติ (Travel Link) และแพลตฟอร์มข้อมูลเมืองอัจฉริยะ (City Data Platform) โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อขับเคลื่อนจังหวัดภูเก็ตอย่างมีทิศทาง และประยุกต์ใช้แก่จังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ โดยได้แถลงทิศทางการดำเนินงานและความร่วมมือไปเมื่อวันก่อน

    แพลตฟอร์ม Envi Link ได้นำมาใช้กับโครงการของมูลนิธิพัฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืน ภายใต้ชื่อ “Phuket Old Town Carbon Neutrality 2030” เพื่อผลักดันย่านเมืองเก่าภูเก็ต ให้ก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2573 โดยตั้งเป้าลดปริมาณคาร์บอน 30% ภายใน 3 ปี ที่ผ่านมาได้จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมในด้านต่างๆ และประมวลผลกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งผลสำคัญของคาร์บอนฟุตพรินท์ ทั้งไฟฟ้า ประปา ขยะ และเชื้อเพลิง

    พร้อมกันนี้ บีดีไอยังได้นำเทคโนโลยีเอไอมาใช้กับกล้องซีซีทีวีในการประมาณการต่างๆ เช่น การใช้เอไอนับจำนวนรถและคัดแยกประเภทรถ ประเภทเชื้อเพลิง ก่อนคำนวณเป็นคาร์บอนฟุตพรินท์ การใช้เอไอนับจำนวนคนที่เข้ามาย่านเมืองเก่าภูเก็ต เพื่อประมาณการความหนาแน่นของนักท่องเที่ยว บริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสม และร่วมกับ บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด (PKCD) ใช้เอไอนับจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการรถเมล์ฟรี Smart Bus EV เพื่อจัดตารางเดินรถให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

    ล่าสุด มูลนิธิพัฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืน จัดซื้อเครื่องย่อยขยะอินทรีย์ โดยนำขยะเศษอาหารและไขมันจากถังดักไขมันในชุมชนมาแปลงให้เป็นก๊าซชีวภาพ คิดเป็นกระแสไฟฟ้าได้ 33.75 กิโลวัตต์ และน้ำหมักใช้กับต้นไม้ พืชผลทางการเกษตรวันละ 500 ลิตร ช่วยลดปริมาณขยะอินทรีย์ที่นำไปฝังกลบซึ่งก่อให้เกิดก๊าซมีเทน หรือนำเข้าสู่เตาเผาขยะที่ย่านสะพานหิน ทำให้เตาเผาขยะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ข้อมูลเหล่านี้จะนำมาเชื่อมโยงเพื่อวางแนวทางลดปริมาณคาร์บอนต่อไป

    #Newskit
    บิ๊กดาต้า-เอไอ ขับเคลื่อนเมืองเก่าภูเก็ต ปัจจุบันมีหน่วยงานขับเคลื่อนประเทศด้วยข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที่ชื่อว่า "สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน)" หรือบีดีไอ (BDI) หน่วยงานในกำกับของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนสายเทคโนโลยี 80% ที่มีเป้าหมายขับเคลื่อนประเทศด้วยข้อมูล แม้จะเป็นหน่วยงานใหม่ที่ก่อตั้งไม่นาน แต่ก็ได้มีความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชนเชื่อมโยงและส่งเสริมข้อมูล โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต ที่ภาคเอกชนและภาครัฐเข้มแข็ง ที่ผ่านมาบีดีไอพัฒนา 3 แพลตฟอร์ม ใช้ภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่อง ได้แก่ แพลตฟอร์มบริการข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Envi Link) แพลตฟอร์มข้อมูลอัจฉริยะด้านท่องเที่ยวแห่งชาติ (Travel Link) และแพลตฟอร์มข้อมูลเมืองอัจฉริยะ (City Data Platform) โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อขับเคลื่อนจังหวัดภูเก็ตอย่างมีทิศทาง และประยุกต์ใช้แก่จังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ โดยได้แถลงทิศทางการดำเนินงานและความร่วมมือไปเมื่อวันก่อน แพลตฟอร์ม Envi Link ได้นำมาใช้กับโครงการของมูลนิธิพัฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืน ภายใต้ชื่อ “Phuket Old Town Carbon Neutrality 2030” เพื่อผลักดันย่านเมืองเก่าภูเก็ต ให้ก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2573 โดยตั้งเป้าลดปริมาณคาร์บอน 30% ภายใน 3 ปี ที่ผ่านมาได้จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมในด้านต่างๆ และประมวลผลกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งผลสำคัญของคาร์บอนฟุตพรินท์ ทั้งไฟฟ้า ประปา ขยะ และเชื้อเพลิง พร้อมกันนี้ บีดีไอยังได้นำเทคโนโลยีเอไอมาใช้กับกล้องซีซีทีวีในการประมาณการต่างๆ เช่น การใช้เอไอนับจำนวนรถและคัดแยกประเภทรถ ประเภทเชื้อเพลิง ก่อนคำนวณเป็นคาร์บอนฟุตพรินท์ การใช้เอไอนับจำนวนคนที่เข้ามาย่านเมืองเก่าภูเก็ต เพื่อประมาณการความหนาแน่นของนักท่องเที่ยว บริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสม และร่วมกับ บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด (PKCD) ใช้เอไอนับจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการรถเมล์ฟรี Smart Bus EV เพื่อจัดตารางเดินรถให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ล่าสุด มูลนิธิพัฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืน จัดซื้อเครื่องย่อยขยะอินทรีย์ โดยนำขยะเศษอาหารและไขมันจากถังดักไขมันในชุมชนมาแปลงให้เป็นก๊าซชีวภาพ คิดเป็นกระแสไฟฟ้าได้ 33.75 กิโลวัตต์ และน้ำหมักใช้กับต้นไม้ พืชผลทางการเกษตรวันละ 500 ลิตร ช่วยลดปริมาณขยะอินทรีย์ที่นำไปฝังกลบซึ่งก่อให้เกิดก๊าซมีเทน หรือนำเข้าสู่เตาเผาขยะที่ย่านสะพานหิน ทำให้เตาเผาขยะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ข้อมูลเหล่านี้จะนำมาเชื่อมโยงเพื่อวางแนวทางลดปริมาณคาร์บอนต่อไป #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1181 มุมมอง 0 รีวิว
  • 1 ตุลาคม 2567-อ.สนธิ คชวัตรได้โพสต์ถึง มาตรฐานรถบัสทัศนศึกษาในยุโรปกับโศกนาฎกรรมไฟไหม้รถบัสนักเรียนจากจ.อุทัยธานี

    1.กรณีรถบัสทัศนศึกษาจากโรงเรียนใน จ.อุทัยธานี เกิดไฟไหม้ ทั้งคัน ที่ถนนวิภาวดีรังสิต
    1.1.สิ่งพบในเหตุการณ์คือ ไฟไหม้จากล้อหน้ายางแตก นักเรียนได้กินแก๊สในห้องโดยสาร รถบัสดังกล่าวใช้แก๊ส NGV เป็นเชื้อเพลิง ประตูทางออกฉุกเฉินไม่สามารถเปิดได้ นักเรียนและคุณครูเสียชีวิตหลายคนส่วนใหญ่อยู่ทางด้านหลังรถบัส
    1.2.เชื้อเพลิงNGVของรถบัส (ส่วนใหญ่เป็นก๊าซมีเทนนำมาอัดจนมีความดันสูง ประมาณ 3,000 ปอนด์/ตารางนิ้วแล้วนำไปเก็บในถังบรรจุที่มีความแข็งแรงทน ทานสูงเป็นพิเศษ) ลักษณะจะเบากว่าอา กาศหากมีการรั่วไหลก็อาจจะลอยสะสมขึ้นบนที่ฝ้าเพดานรถและอาจเกิดไฟไหม้ได้เมื่อมีความร้อนหรือไฟที่ระดับหนึ่งมีช่วงของการติดไฟที่ร้อยละ 5-15 ของปริมาตรในอากาศ อาจเป็นสาเหตุของไฟไหม้รถบัสได้

    2.กรณีระบบความปลอดภัยของรถบัสในประเทศยุโรป
    2.1.ระบบความปลอดภัยของตัวรถบัสเพื่อใช้ทัศนศึกษาในประเทศแถบยุโรป..
    2.1.1.ติดเซ็นเซอร์ป้องกันประตูปิดขณะผู้โดยสารขึ้นและลงจากรถ
    2.1.2 ตัวถังเป็นโครงสร้างเหล็ก galvanized ซึ่งมีความแข็งแกร่งมากกว่าเหล็กทั่วไป
    2.1.3.กระจกผ้าม่านในรถและพื้นยางปูรถต้องทำจากวัสดุป้องกันไฟลามตามมาตร ฐานของ EU
    2.1.4.ในแต่ละที่นั่งมีเข็มขัดนิรภัย 2 จุด
    2.1.5.มีระบบเบรกอัจฉริยะ Anti-Lock Braking System. (ABS)
    2.1.6.ทางออกฉุกเฉินของรถบัสให้มีถึง 3 ที่ ได้แก่ ท้ายรถด้านขวามีประตูฉุกเฉินพร้อมป้าย EXIT บานกระจกเป็นกระจกนิร ภัยTempered glass ซึ่งสามารถใช้เป็นทางออกฉุกเฉินได้ ช่องพัดลมดูดอากาศใช้เป็นทางออกฉุกเฉินได้ด้วย

    2.2.ความปลอดภัยด้านป้องกันไฟไหม้ของยุโรป
    2.2.1.มีระบบดับเพลิงอัตโนมัติในห้องเครื่องยนต์
    2.2.2. ถังดับเพลิง 2 ถัง
    2.3.3 ค้อนทุบกระจก 4-6 อัน

    2.3.เชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับรถบัสยุโรป จะใช้น้ำมันดีเซลEuro5 ไม่ใช่แก๊ส เพราะปลอด ภัยกว่าและไม่ปล่อยฝุ่น2.5

    2.4.ยางรถยนต์รถบัสยุโรปต้องยึดเกาะถนนได้ดีตามมาตรฐานEuro

    2.5.พนักงานขับรถในยุโรปต้องมีใบขับขี่รถบัสหรือได้ Certificated และมีประสบ การณ์ขับขี่ สามารถยืนยันตัวตนได้

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/svH6f69WqCVLtQPQ/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    1 ตุลาคม 2567-อ.สนธิ คชวัตรได้โพสต์ถึง มาตรฐานรถบัสทัศนศึกษาในยุโรปกับโศกนาฎกรรมไฟไหม้รถบัสนักเรียนจากจ.อุทัยธานี 1.กรณีรถบัสทัศนศึกษาจากโรงเรียนใน จ.อุทัยธานี เกิดไฟไหม้ ทั้งคัน ที่ถนนวิภาวดีรังสิต 1.1.สิ่งพบในเหตุการณ์คือ ไฟไหม้จากล้อหน้ายางแตก นักเรียนได้กินแก๊สในห้องโดยสาร รถบัสดังกล่าวใช้แก๊ส NGV เป็นเชื้อเพลิง ประตูทางออกฉุกเฉินไม่สามารถเปิดได้ นักเรียนและคุณครูเสียชีวิตหลายคนส่วนใหญ่อยู่ทางด้านหลังรถบัส 1.2.เชื้อเพลิงNGVของรถบัส (ส่วนใหญ่เป็นก๊าซมีเทนนำมาอัดจนมีความดันสูง ประมาณ 3,000 ปอนด์/ตารางนิ้วแล้วนำไปเก็บในถังบรรจุที่มีความแข็งแรงทน ทานสูงเป็นพิเศษ) ลักษณะจะเบากว่าอา กาศหากมีการรั่วไหลก็อาจจะลอยสะสมขึ้นบนที่ฝ้าเพดานรถและอาจเกิดไฟไหม้ได้เมื่อมีความร้อนหรือไฟที่ระดับหนึ่งมีช่วงของการติดไฟที่ร้อยละ 5-15 ของปริมาตรในอากาศ อาจเป็นสาเหตุของไฟไหม้รถบัสได้ 2.กรณีระบบความปลอดภัยของรถบัสในประเทศยุโรป 2.1.ระบบความปลอดภัยของตัวรถบัสเพื่อใช้ทัศนศึกษาในประเทศแถบยุโรป.. 2.1.1.ติดเซ็นเซอร์ป้องกันประตูปิดขณะผู้โดยสารขึ้นและลงจากรถ 2.1.2 ตัวถังเป็นโครงสร้างเหล็ก galvanized ซึ่งมีความแข็งแกร่งมากกว่าเหล็กทั่วไป 2.1.3.กระจกผ้าม่านในรถและพื้นยางปูรถต้องทำจากวัสดุป้องกันไฟลามตามมาตร ฐานของ EU 2.1.4.ในแต่ละที่นั่งมีเข็มขัดนิรภัย 2 จุด 2.1.5.มีระบบเบรกอัจฉริยะ Anti-Lock Braking System. (ABS) 2.1.6.ทางออกฉุกเฉินของรถบัสให้มีถึง 3 ที่ ได้แก่ ท้ายรถด้านขวามีประตูฉุกเฉินพร้อมป้าย EXIT บานกระจกเป็นกระจกนิร ภัยTempered glass ซึ่งสามารถใช้เป็นทางออกฉุกเฉินได้ ช่องพัดลมดูดอากาศใช้เป็นทางออกฉุกเฉินได้ด้วย 2.2.ความปลอดภัยด้านป้องกันไฟไหม้ของยุโรป 2.2.1.มีระบบดับเพลิงอัตโนมัติในห้องเครื่องยนต์ 2.2.2. ถังดับเพลิง 2 ถัง 2.3.3 ค้อนทุบกระจก 4-6 อัน 2.3.เชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับรถบัสยุโรป จะใช้น้ำมันดีเซลEuro5 ไม่ใช่แก๊ส เพราะปลอด ภัยกว่าและไม่ปล่อยฝุ่น2.5 2.4.ยางรถยนต์รถบัสยุโรปต้องยึดเกาะถนนได้ดีตามมาตรฐานEuro 2.5.พนักงานขับรถในยุโรปต้องมีใบขับขี่รถบัสหรือได้ Certificated และมีประสบ การณ์ขับขี่ สามารถยืนยันตัวตนได้ ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/svH6f69WqCVLtQPQ/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1848 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำหรับวันนี้ นายTechTips ก็มีข่าวสารวงการไอทีมานำเสนออีกเเล้วครับ
    วันนี้อาจจะเป็นข่าวแปลกๆเกี่ยวกับการลงทุนใหม่ของมหาเศรษฐีไอทีบื่อดังที่สุดของโลกนี้ คุณ Bill Gates นั่นเอง

    Bill Gates ลงทุนในสตาร์ตอัปพัฒนาอาหารวัวเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจาก ‘เรอวัว’
    บิลล์ เกตส์ (Bill Gates) มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้ง Microsoft ลงทุนใน Rumin8 สตาร์ตอัปสัญชาติออสเตรเลียที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซมีเทนจากการเรอของวัว

    Rumin8 ตั้งอยู่ในเมืองเพิร์ท เน้นการพัฒนาอาหารวัวทำจากสาหร่ายแดง ที่จะช่วยลดก๊าซมีเทน โดยได้เงินระดมทุนไปกว่า 12 ล้านเหรียญ (ราว 393 ล้านบาท) จาก Breakthrough Energy Ventures กลุ่มองค์กรด้านพลังงานสะอาดที่เกตส์ก่อตั้งขึ้นในปี 2015

    ก๊าซมีเทนเป็นก๊าซเรือนกระจก โดยสัตว์อย่างวัว แพะ และกวาง จะปล่อยมีเทนเวลาที่กระเพาะกำลังย่อยใยอาหารจากพืช ในรูปแบบของการเรอหรือผายลม ซึ่งนักวิจัยจากหลายมหาวิทยาลัยพบว่าการให้วัวกินสาหร่ายจะช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนได้อย่างมาก

    กว่าครึ่งของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในโลกนั้นมาจากการทำเกษตรกรรม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นก๊าซมีเทน มีการพบว่าโมเลกุลของมีเทนมีศักยภาพในการเพิ่มอุณหภูมิของสภาพบรรยากาศโลกมากกว่าโมเลกุลของคาร์บอนไดออกไซด์

    นักวิทยาศาสตร์พบว่าในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา มีเทนเพิ่มอุณหภูมิโลกมากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ระหว่าง 28 ถึง 34 เท่าเลยทีเดียว

    นี่คงเป็นตัวอย่างของคำว่าการเเก้ปัญหาแบบนอกกรอบเเต่ได้ผลจริงๆเลยทีเดียว
    หากใครมีคำถามฝากถามผ่าน นายTechTips มาได้เลยนะครับ
    #TechTips
    สำหรับวันนี้ นายTechTips ก็มีข่าวสารวงการไอทีมานำเสนออีกเเล้วครับ วันนี้อาจจะเป็นข่าวแปลกๆเกี่ยวกับการลงทุนใหม่ของมหาเศรษฐีไอทีบื่อดังที่สุดของโลกนี้ คุณ Bill Gates นั่นเอง Bill Gates ลงทุนในสตาร์ตอัปพัฒนาอาหารวัวเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจาก ‘เรอวัว’ บิลล์ เกตส์ (Bill Gates) มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้ง Microsoft ลงทุนใน Rumin8 สตาร์ตอัปสัญชาติออสเตรเลียที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซมีเทนจากการเรอของวัว Rumin8 ตั้งอยู่ในเมืองเพิร์ท เน้นการพัฒนาอาหารวัวทำจากสาหร่ายแดง ที่จะช่วยลดก๊าซมีเทน โดยได้เงินระดมทุนไปกว่า 12 ล้านเหรียญ (ราว 393 ล้านบาท) จาก Breakthrough Energy Ventures กลุ่มองค์กรด้านพลังงานสะอาดที่เกตส์ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 ก๊าซมีเทนเป็นก๊าซเรือนกระจก โดยสัตว์อย่างวัว แพะ และกวาง จะปล่อยมีเทนเวลาที่กระเพาะกำลังย่อยใยอาหารจากพืช ในรูปแบบของการเรอหรือผายลม ซึ่งนักวิจัยจากหลายมหาวิทยาลัยพบว่าการให้วัวกินสาหร่ายจะช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนได้อย่างมาก กว่าครึ่งของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในโลกนั้นมาจากการทำเกษตรกรรม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นก๊าซมีเทน มีการพบว่าโมเลกุลของมีเทนมีศักยภาพในการเพิ่มอุณหภูมิของสภาพบรรยากาศโลกมากกว่าโมเลกุลของคาร์บอนไดออกไซด์ นักวิทยาศาสตร์พบว่าในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา มีเทนเพิ่มอุณหภูมิโลกมากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ระหว่าง 28 ถึง 34 เท่าเลยทีเดียว นี่คงเป็นตัวอย่างของคำว่าการเเก้ปัญหาแบบนอกกรอบเเต่ได้ผลจริงๆเลยทีเดียว หากใครมีคำถามฝากถามผ่าน นายTechTips มาได้เลยนะครับ #TechTips
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 982 มุมมอง 0 รีวิว