• รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251127 #TechRadar

    รวมโน้ตบุ๊กสำหรับนักเรียนปี 2025
    ถ้าเล่าให้ฟังแบบง่าย ๆ ตอนนี้ TechRadar เขาได้จัดอันดับโน้ตบุ๊กที่เหมาะกับนักเรียนไว้หลายรุ่นเลย เริ่มจาก MacBook Air M3 ที่ยังคงเป็นตัวท็อปสำหรับการเรียน ใช้งานได้แรง แบตอึด และราคาก็ลดลงเพราะมีรุ่น M4 ออกมาแล้ว ต่อมาก็มี Acer Chromebook Plus 514 ที่เหมาะกับคนงบจำกัดแต่ยังได้เครื่องที่ทำงานลื่น ๆ สำหรับงานทั่วไป ส่วนใครชอบ ChromeOS รุ่น HP Chromebook Plus 15.6 ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ครบเครื่องและแบตทนดี สำหรับสายพกพา Microsoft Surface Laptop 13 น้ำหนักเบาและแบตยาวนานก็เป็นคำตอบ ส่วนสายครีเอทีฟที่ต้องใช้พลังมากขึ้น MacBook Air M4 รุ่นจอ 15 นิ้วก็ถูกยกให้เป็นเครื่องที่ตอบโจทย์งานกราฟิกและงานสร้างสรรค์ได้ดีมาก
    https://www.techradar.com/computing/laptops/best-student-laptops

    Google Messages เตรียมอัปเกรดใหม่
    ข่าวนี้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่มีประโยชน์ใน Google Messages ที่กำลังทดสอบอยู่ในโค้ดเบต้า อย่างแรกคือเวลาเซฟไฟล์รูปหรือวิดีโอจะมีปุ่ม “Open” ให้กดเปิดไฟล์ได้ทันที ต่อมาคือปุ่ม Gemini ที่จะใหญ่ขึ้นเพื่อให้คนใช้งานง่ายขึ้น และสุดท้ายคือการเปลี่ยนข้อความจาก “Location” เป็น “One-time Location” เพื่อให้ชัดเจนว่ามันแชร์ตำแหน่งแค่ครั้งเดียว ไม่ใช่แชร์ต่อเนื่อง แม้ยังไม่แน่ว่าจะเปิดใช้จริง แต่ถ้าออกมาก็น่าจะช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้น
    https://www.techradar.com/phones/google-messages-could-be-getting-3-useful-upgrades-soon-including-a-gemini-change

    นักพัฒนาระวัง! เว็บจัดรูปแบบโค้ดเผยข้อมูลลับ
    เรื่องนี้ค่อนข้างน่ากังวล เพราะมีการพบว่าเว็บยอดนิยมอย่าง JSONFormatter และ CodeBeautify มีฟีเจอร์ “Recent Links” ที่เปิดเผยข้อมูลที่ผู้ใช้เคยอัปโหลดไว้โดยไม่ป้องกัน ทำให้ข้อมูลสำคัญอย่างรหัสผ่าน คีย์ API หรือข้อมูลส่วนตัวหลุดออกมาได้ง่าย นักวิจัยถึงขั้นดึงข้อมูลย้อนหลังได้หลายปี และพบว่ามีทั้งข้อมูลจากหน่วยงานรัฐไปจนถึงบริษัทใหญ่ ๆ ที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตี ซึ่งตอนนี้ก็มีผู้ไม่หวังดีเริ่มทดลองใช้ช่องโหว่นี้แล้วด้วย
    https://www.techradar.com/pro/security/top-code-formatting-sites-are-exposing-huge-amounts-of-user-data

    ธุรกิจยังติดขัดกับการทำ AI อย่างรับผิดชอบ
    รายงานจาก Experian ชี้ว่าผู้บริหารส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า “Responsible AI” จะเป็นตัวสร้างความแตกต่างในการแข่งขัน แต่ปัญหาคือหลายบริษัทยังไม่พร้อมที่จะนำไปใช้จริง ทั้งเรื่องคุณภาพข้อมูล ความรู้ทางเทคนิค และการบาลานซ์ระหว่างนวัตกรรมกับการกำกับดูแล แม้จะมีหลักการชัดเจน เช่น ความน่าเชื่อถือ การปกป้องความเป็นส่วนตัว และการลดอคติ แต่มีเพียงครึ่งหนึ่งที่บอกว่าทีมงานพร้อมจริง ๆ นักวิเคราะห์จึงแนะนำให้เริ่มจากเล็ก ๆ ทดลองก่อน แล้วค่อยขยาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเสี่ยง
    https://www.techradar.com/pro/businesses-are-struggling-to-implement-responsible-ai-but-it-could-make-all-the-difference

    Claude Opus 4.5 เปิดตัวแล้ว
    Anthropic ปล่อยโมเดลใหม่ Claude Opus 4.5 ที่บอกว่าดีขึ้นอย่าง “มีความหมาย” ทั้งเรื่องการทำงานทั่วไปและการเขียนโค้ด จุดเด่นคือมันจัดการงานจริงได้ดีขึ้น เช่น ทำอีเมล สไลด์ หรือเอกสารได้เนียนกว่าเดิม รวมถึงแก้โจทย์ที่ซับซ้อนและทำงานหลายขั้นตอนต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังใช้พลังคำนวณน้อยลง ทำให้ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและองค์กรได้ประโยชน์มากขึ้น แม้ยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่การพัฒนาเร็วขนาดนี้ก็แสดงให้เห็นว่าตลาด AI กำลังโตและแข่งขันกันเข้มข้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/claude/claude-opus-4-5-is-now-live-and-meaningfully-better-at-everyday-tasks-and-coding-challenges

    Nothing Phone 3: สมาร์ทโฟนเรือธงที่แตกต่าง
    Nothing เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ Phone 3 ที่ตั้งใจจะก้าวเข้าสู่ตลาดพรีเมียมเต็มตัว ดีไซน์ยังคงความแปลกตาแบบบล็อกเหลี่ยมที่หลายคนอาจมองว่าสวยไม่เหมือนใคร แต่บางคนก็อาจรู้สึกว่ามันเทอะทะเกินไป จุดเด่นคือกล้อง 50MP ทั้งหมด 4 ตัว รวมถึงเลนส์ periscope ที่ช่วยให้ถ่ายภาพระยะไกลได้ดี แบตเตอรี่ใหญ่กว่า iPhone และ Samsung รุ่นใกล้เคียง พร้อมชาร์จเร็วกว่า จุดที่น่าสนใจคือฟีเจอร์ Glyph Matrix ที่ใช้ไฟด้านหลังมือถือแสดงข้อมูลหรือเล่นเกมเล็ก ๆ ได้ และปุ่ม Essential Key ที่ช่วยให้แคปหน้าจอหรือบันทึกวิดีโอได้ทันที ถึงแม้จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ราคาที่สูงขึ้นอาจทำให้แฟน ๆ รุ่นก่อนลังเล อย่างไรก็ตาม มันคือการประกาศชัดว่า Nothing อยากเป็นผู้เล่นในตลาดเรือธงจริง ๆ
    https://www.techradar.com/phones/nothing-phones/nothing-phone-3-review

    AWS มีดาต้าเซ็นเตอร์มากกว่าที่คิด
    ข้อมูลใหม่เผยว่า Amazon Web Services (AWS) อาจมีดาต้าเซ็นเตอร์มากถึง 900 แห่งทั่วโลก ซึ่งมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้หลายเท่า การขยายตัวนี้เกิดจากความต้องการด้าน AI ที่เพิ่มสูงขึ้น AWS ไม่ได้เปิดเผยจำนวนจริง แต่ยืนยันว่ามี 38 regions และ 120 availability zones พร้อมแผนลงทุนมหาศาลในหลายประเทศ เช่น อินเดียและสหรัฐฯ จุดที่น่าสนใจคือ AWS พยายามรักษาประสิทธิภาพพลังงาน โดยอ้างว่ามีค่า Power Usage Effectiveness ดีกว่าค่าเฉลี่ยโลก และโครงสร้างพื้นฐานของตนใช้พลังงานได้คุ้มค่ากว่าการทำงานแบบ on-premises หลายเท่า
    https://www.techradar.com/pro/aws-says-it-has-around-900-data-centers-twice-as-many-as-previously-thought

    Android Desktop: ก้าวใหม่ของ Google OS
    Google กำลังพัฒนาโครงการ “Aluminium OS” ที่จะรวม Android เข้ากับ ChromeOS เพื่อสร้างระบบปฏิบัติการเดสก์ท็อปใหม่ รองรับทั้ง PC, Laptop, Tablet และ 2-in-1 จุดเด่นคือการผสาน AI เข้ามาเป็นแกนหลัก และรองรับแอป Android แบบเนทีฟโดยไม่ต้องจำลอง ทำให้การใช้งานต่อเนื่องระหว่างมือถือและเดสก์ท็อปเป็นไปอย่างราบรื่น Aluminium จะค่อย ๆ เข้ามาแทน ChromeOS แต่ยังคงอยู่คู่กันในช่วงเปลี่ยนผ่าน เป้าหมายคือการยกระดับ Chromebook และอุปกรณ์ Android ให้แข่งขันกับ Windows และ macOS ได้ในบางตลาด โดยเฉพาะด้านการศึกษาและธุรกิจ
    https://www.techradar.com/computing/desktop-pcs/android-powered-desktop-pcs-are-coming-and-i-think-theyll-be-an-exciting-step-up-from-chromeos

    Ransomware โจมตีธุรกิจที่ถูกซื้อกิจการ
    รายงานใหม่จาก ReliaQuest เผยว่าแฮกเกอร์ที่ใช้ Akira ransomware มักเจาะเข้าธุรกิจขนาดเล็กที่ถูกซื้อกิจการ โดยใช้ช่องโหว่จากอุปกรณ์ที่ถูกละเลยหรือไม่ได้รับการแพตช์ โดยเฉพาะ SonicWall SSL VPN ที่มีบัฟเฟอร์โอเวอร์โฟลว์ร้ายแรง แม้จะมีการอัปเดตแล้ว แต่หลายองค์กรยังไม่ทันปรับปรุง ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้ามาเคลื่อนไหวในระบบและเข้ารหัสข้อมูลได้ ปัญหาคือบริษัทที่ซื้อกิจการมักไม่รู้ว่ามีอุปกรณ์เสี่ยงอยู่ในเครือข่ายใหม่ ทำให้การโจมตีเกิดขึ้นง่ายและกระจายไปหลายบริษัทพร้อมกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-hackers-attack-smbs-being-acquired-to-try-and-gain-access-to-multiple-companies

    Chat Control: EU เห็นชอบการสแกนแชทแบบสมัครใจ
    หลังจากถกเถียงกันมากว่า 3 ปี สภาสหภาพยุโรปได้บรรลุข้อตกลงในกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation หรือที่ถูกเรียกว่า Chat Control โดยเปลี่ยนจากการบังคับสแกนข้อความส่วนตัวมาเป็นแบบสมัครใจ แต่ก็ยังสร้างความกังวลในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัว เพราะแม้จะไม่บังคับ แต่ก็เปิดช่องให้ผู้ให้บริการแชทต้องพิจารณามาตรการป้องกันการใช้แพลตฟอร์มในทางที่ผิด และอาจถูกบังคับให้พัฒนาเทคโนโลยีตรวจจับเพิ่มเติม ขณะนี้ EU เตรียมเข้าสู่การเจรจากับรัฐสภาเพื่อหาข้อสรุปสุดท้าย ซึ่งยังคงเป็นประเด็นร้อนระหว่างการปกป้องเด็กกับการรักษาสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-lawmakers-finally-agree-on-the-voluntary-scanning-of-your-private-chats

    การเชื่อมต่อ AI รุ่นใหม่: ประสิทธิภาพและการติดตั้ง
    บทความนี้พูดถึง “Next frontier” ของการเชื่อมต่อที่พร้อมสำหรับ AI โดยเน้นการทำให้โครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในด้านการติดตั้งและการใช้งานจริง แนวคิดคือการสร้างระบบที่สามารถรองรับการประมวลผล AI ได้อย่างราบรื่น ลดความซับซ้อนในการขยายเครือข่าย และทำให้การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานคุ้มค่ามากขึ้น ผู้เขียนชี้ว่าอนาคตของการสื่อสารจะไม่ใช่แค่ความเร็ว แต่คือการจัดการทรัพยากรอย่างชาญฉลาดเพื่อรองรับการเติบโตของ AI
    https://www.techradar.com/pro/the-next-frontier-for-ai-ready-connectivity-efficiency-in-deployment

    ดีล Samsung Galaxy Tab ลดแรง
    TechRadar แนะนำดีลพิเศษสำหรับ Samsung Galaxy Tab ที่ช่วยประหยัดเงินได้หลายร้อยดอลลาร์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบ Android มากกว่า iPadOS โดยบทความเน้นว่าตอนนี้เป็นช่วง Black Friday ที่มีโปรโมชั่นแรงที่สุดของปี ทำให้แท็บเล็ตตระกูล Galaxy Tab กลายเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ทั้งในด้านราคาและฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย
    https://www.techradar.com/seasonal-sales/prefer-android-to-ipados-these-stellar-samsung-galaxy-tab-deals-will-save-you-hundreds-this-black-friday

    ChatGPT กับการพูดคุยเสียงที่สมจริง
    ผู้เขียนเล่าประสบการณ์การลองใช้ฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT ที่เพิ่มการสนทนาด้วยเสียง ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนพูดคุยกับคนจริง ๆ มากขึ้น ฟีเจอร์นี้ถูกมองว่าเป็น “ชิ้นส่วนที่ขาดหายไป” ของการใช้งาน AI เพราะทำให้การโต้ตอบเป็นธรรมชาติและสะดวกกว่าเดิม แม้จะยังมีรายละเอียดที่ต้องปรับปรุง แต่โดยรวมถือว่าเป็นการพัฒนาใหญ่ที่ทำให้ AI ก้าวใกล้การใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-voice-integration-feels-like-the-missing-piece-in-ai-chat-ive-tried-it-and-its-almost-perfect

    Notepad บน Windows 11 ได้ฟีเจอร์ใหม่
    Microsoft เพิ่มความสามารถใหม่ให้กับ Notepad ใน Windows 11 โดยรองรับการสร้างตารางและเสริมพลัง AI เข้าไป ฟีเจอร์นี้ทำให้ Notepad ไม่ใช่แค่โปรแกรมจดบันทึกธรรมดาอีกต่อไป แต่สามารถใช้ทำงานที่ซับซ้อนขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางส่วนไม่พอใจ เพราะมองว่า Notepad ควรเป็นเครื่องมือที่เรียบง่าย ไม่ควรซับซ้อนเกินไป การเปลี่ยนแปลงนี้จึงกลายเป็นประเด็นถกเถียงในชุมชนผู้ใช้ Windows
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-notepad-gets-support-for-tables-and-bolstered-ai-powers-and-not-everyones-happy

    ChatGPT Voice Mode อัปเกรดครั้งใหญ่
    อีกหนึ่งบทความเกี่ยวกับ ChatGPT ที่พูดถึงการอัปเกรดโหมดเสียงครั้งใหญ่ โดยสรุปว่ามี 5 สิ่งสำคัญที่ผู้ใช้ควรรู้ เช่น ความเป็นธรรมชาติของเสียงที่ดีขึ้น ความเร็วในการตอบสนอง และการรองรับหลายภาษา การพัฒนานี้ทำให้การใช้งาน AI ผ่านเสียงมีความสมจริงและสะดวกมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับการโต้ตอบระหว่างมนุษย์กับ AI ให้ใกล้เคียงการสนทนาจริงมากกว่าเดิม
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-voice-mode-just-got-a-major-upgrade-here-are-5-things-you-need-to-know

    อุปกรณ์ AI ของ Sam Altman ที่เหมือนกระท่อมริมทะเลสาบ แต่จริงๆ อาจเป็นการเฝ้าสอดส่อง
    Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ออกมาเล่าว่ากำลังสร้างอุปกรณ์ AI แบบใหม่ ที่เขาเปรียบเหมือนการนั่งพักผ่อนในกระท่อมสวยๆ ริมทะเลสาบ ให้ความสงบและเรียบง่ายกว่าการใช้สมาร์ทโฟนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่เมื่อมองลึกลงไป อุปกรณ์นี้คือการเฝ้าสังเกตชีวิตผู้ใช้ตลอดเวลา ทั้งพฤติกรรม อารมณ์ และกิจวัตรประจำวัน ซึ่งอาจหมายถึงการแลกความเป็นส่วนตัวกับความสะดวกสบาย ความสงบที่ถูกขายให้เราอาจเป็นเพียงภาพลวงตา เพราะจริงๆ แล้วคือการเปิดให้ระบบเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/sam-altman-wants-his-ai-device-to-feel-like-sitting-in-the-most-beautiful-cabin-by-a-lake-but-it-sounds-more-like-endless-surveillance

    Intel Granite Rapids-WS หลุดข้อมูล ชี้พลังเวิร์กสเตชันระดับมหึมา
    มีการรั่วไหลข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มใหม่ของ Intel ที่ชื่อ Granite Rapids-WS ซึ่งจะใช้ซ็อกเก็ต E2 ขนาดใหญ่ รองรับพลังงานสูงถึง 350 วัตต์ และสามารถใส่แรม DDR5 ได้ถึง 2 เทราไบต์ต่อซ็อกเก็ต จุดเด่นคือจำนวนคอร์มหาศาลถึง 86 คอร์ 172 เธรด พร้อมแคช L3 ขนาดใหญ่ และ PCIe lanes มากมายเพื่อรองรับ GPU และสตอเรจหลายตัว นี่คือการตอบโต้ AMD Threadripper ในตลาดเวิร์กสเตชันระดับสูง ที่เน้นงานเรนเดอร์ ซิมูเลชัน และการวิเคราะห์ข้อมูลหนักๆ
    https://www.techradar.com/pro/did-intels-next-big-thing-in-workstations-just-leak-ahead-of-granite-rapids-launch-report-claims-this-is-whats-next-from-troubled-chipmaker

    จีนจำลองการใช้โดรน 1,000 ตัวเพื่อบล็อก Starlink เหนือไต้หวัน
    งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยในจีนเผยการจำลองสถานการณ์ที่ใช้โดรนติดตั้งเครื่องรบกวนสัญญาณจำนวนมหาศาล เพื่อสร้าง “เกราะแม่เหล็กไฟฟ้า” ปิดกั้นอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Starlink เหนือไต้หวัน การทดลองชี้ว่าหากใช้โดรนราว 935 ตัวที่ทำงานประสานกัน จะสามารถทำให้พื้นที่ทั้งหมดไม่สามารถเชื่อมต่อได้ แม้ในทางปฏิบัติจะมีความยากลำบากและค่าใช้จ่ายสูง แต่แนวคิดนี้สะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในสงครามอิเล็กทรอนิกส์ที่น่ากังวล
    https://www.techradar.com/tech/can-starlink-be-blocked-scary-chinese-simulation-shows-1-000-drones-can-jam-satellite-internet-over-an-island-as-large-as-taiwan

    Tuxedo ยกเลิกโน้ตบุ๊ก Linux ที่ใช้ Snapdragon X Elite หลังเจอปัญหาหนัก
    บริษัท Tuxedo ที่เชี่ยวชาญด้านเครื่อง Linux ตัดสินใจยกเลิกการพัฒนาโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite หลังจากพยายามแก้ไขปัญหามานานถึง 18 เดือน แต่ไม่สามารถทำให้ระบบทำงานได้สมบูรณ์ ปัญหามีทั้งเรื่อง BIOS, การควบคุมพัดลม, การทำงานของ KVM virtualization และการถ่ายโอนข้อมูล USB4 ที่ไม่เสถียร ผลทดสอบยังชี้ว่าแบตเตอรี่ไม่ได้ยาวนานตามที่คาดไว้ ทำให้เครื่องไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้ Linux จริงๆ บริษัทจึงเลือกหยุดโครงการและรอดูรุ่นใหม่ Snapdragon X2 Elite ว่าจะเข้ากับ Linux ได้ดีกว่าหรือไม่
    https://www.techradar.com/pro/top-linux-pc-maker-drops-plan-for-snapdragonx-elite-powered-notebook-says-hardware-was-less-suitable-than-expected

    รีวิว RedMagic 11 Pro มือถือเกมมิ่งสุดแรงในราคาคุ้มค่า
    RedMagic 11 Pro ยังคงรักษาตำแหน่งมือถือเกมมิ่งที่คุ้มค่าที่สุด ด้วยชิป Snapdragon 8 Elite Gen 5 ที่เร็วสุดๆ พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำและพัดลมที่ออกแบบใหม่ ทำให้เล่นเกมหนักๆ ได้อย่างลื่นไหล แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,500mAh ใช้งานได้ยาวนานหลายวัน และรองรับชาร์จไว 80W แม้จะไม่มีชาร์จไร้สาย แต่ก็ถือว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่สมเหตุสมผล จุดอ่อนคือกล้องที่ยังไม่ดีนัก โดยเฉพาะการถ่ายเซลฟี่ แต่สำหรับคนที่ต้องการมือถือเล่นเกมแรงๆ ในราคาที่ไม่ถึงพันดอลลาร์ นี่คือหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุด
    https://www.techradar.com/phones/redmagic-11-pro-review

    มัลแวร์ใหม่บน macOS สร้างห่วงโซ่โจมตีที่น่าปวดหัว
    มีการค้นพบมัลแวร์รูปแบบใหม่บน macOS ที่ทำงานเป็น “chain” หรือห่วงโซ่การโจมตี โดยเริ่มจากการเจาะเข้าระบบผ่านช่องโหว่เล็กๆ แล้วค่อยๆ ขยายสิทธิ์การเข้าถึงไปเรื่อยๆ จนสามารถควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ จุดน่ากังวลคือมันสามารถหลบเลี่ยงระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ และอาจถูกใช้โจมตีองค์กรหรือผู้ใช้ทั่วไปได้อย่างรุนแรง นักวิจัยเตือนว่าผู้ใช้ควรอัปเดตระบบและระวังการดาวน์โหลดไฟล์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
    https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-chain-could-cause-a-major-security-headache-heres-what-we-know

    กล้อง Leica ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสถูกประมูลได้ 7.5 ล้านดอลลาร์
    Leica รุ่นพิเศษที่เคยเป็นของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ถูกนำออกประมูลและสร้างสถิติใหม่ด้วยราคาสูงถึง 7.5 ล้านดอลลาร์ รายได้ทั้งหมดถูกนำไปใช้เพื่อการกุศล กล้องตัวนี้มีคุณสมบัติพิเศษถึง 7 อย่างที่ไม่เหมือนใคร เช่น การออกแบบเฉพาะตัวและวัสดุที่หายาก ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในกล้องที่มีคุณค่าทางจิตใจและประวัติศาสตร์มากที่สุดในโลก
    https://www.techradar.com/cameras/this-stunning-one-off-leica-belonging-to-the-late-pope-francis-just-raised-usd7-5-million-for-charity-here-are-its-7-unique-features

    รวมกล้องคอมแพ็กที่ดีที่สุดปี 2025 พกง่าย ใช้งานสะดวก
    TechRadar จัดอันดับกล้องคอมแพ็กที่โดดเด่นที่สุดในปี 2025 สำหรับคนที่อยากได้กล้องเล็กๆ พกพาสะดวก แต่ยังให้คุณภาพภาพถ่ายที่ดีเยี่ยม รายการนี้รวมทั้งรุ่นที่เหมาะกับนักเดินทาง, คนที่ชอบถ่ายภาพสตรีท, ไปจนถึงผู้ใช้ที่ต้องการกล้องเสริมจากสมาร์ทโฟน โดยมีทั้งรุ่นราคาประหยัดและรุ่นพรีเมียมที่เน้นคุณภาพสูงสุด
    https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/the-best-compact-cameras

    บทความเตือนใจ: อย่าเดทกับ AI เพราะมันไม่มีวันรักคุณ
    บทความเชิงความคิดเห็นชี้ให้เห็นถึงกระแสที่บางคนเริ่มมีความสัมพันธ์เชิงอารมณ์กับ AI แต่ผู้เขียนเตือนว่า AI ไม่สามารถรักหรือมีความรู้สึกแท้จริงได้ การคาดหวังให้มันเป็นคู่ชีวิตอาจทำให้คนหลงทางและเสียสมดุลในชีวิตจริง ข้อความนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปในด้านอารมณ์และความสัมพันธ์
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/please-dont-date-your-ai-because-it-will-never-love-you-or-pick-up-the-check

    Poco เปิดตัวมือถือเรือธงพร้อมซับวูฟเฟอร์ Bose ขนาดจิ๋ว
    Poco เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมนวัตกรรมแปลกตา คือการใส่ซับวูฟเฟอร์ Bose ขนาดเล็กเข้าไปในเครื่อง เพื่อให้เสียงแบบ 2.1-channel audio แม้จะเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับคนรักเสียงเบส แต่ก็มีข้อกังวลว่าการใช้งานในพื้นที่สาธารณะ เช่น บนรถบัส อาจสร้างความรำคาญให้คนรอบข้างได้ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Poco ในการสร้างความแตกต่างในตลาดมือถือที่แข่งขันสูง
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/phones/poco-phones/pocos-new-flagship-phone-has-a-mini-bose-subwoofer-for-2-1-channel-audio-and-i-hope-im-not-near-one-on-the-bus
    📌📡🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📡📌 #รวมข่าวIT #20251127 #TechRadar 💻 รวมโน้ตบุ๊กสำหรับนักเรียนปี 2025 ถ้าเล่าให้ฟังแบบง่าย ๆ ตอนนี้ TechRadar เขาได้จัดอันดับโน้ตบุ๊กที่เหมาะกับนักเรียนไว้หลายรุ่นเลย เริ่มจาก MacBook Air M3 ที่ยังคงเป็นตัวท็อปสำหรับการเรียน ใช้งานได้แรง แบตอึด และราคาก็ลดลงเพราะมีรุ่น M4 ออกมาแล้ว ต่อมาก็มี Acer Chromebook Plus 514 ที่เหมาะกับคนงบจำกัดแต่ยังได้เครื่องที่ทำงานลื่น ๆ สำหรับงานทั่วไป ส่วนใครชอบ ChromeOS รุ่น HP Chromebook Plus 15.6 ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ครบเครื่องและแบตทนดี สำหรับสายพกพา Microsoft Surface Laptop 13 น้ำหนักเบาและแบตยาวนานก็เป็นคำตอบ ส่วนสายครีเอทีฟที่ต้องใช้พลังมากขึ้น MacBook Air M4 รุ่นจอ 15 นิ้วก็ถูกยกให้เป็นเครื่องที่ตอบโจทย์งานกราฟิกและงานสร้างสรรค์ได้ดีมาก 🔗 https://www.techradar.com/computing/laptops/best-student-laptops 📱 Google Messages เตรียมอัปเกรดใหม่ ข่าวนี้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่มีประโยชน์ใน Google Messages ที่กำลังทดสอบอยู่ในโค้ดเบต้า อย่างแรกคือเวลาเซฟไฟล์รูปหรือวิดีโอจะมีปุ่ม “Open” ให้กดเปิดไฟล์ได้ทันที ต่อมาคือปุ่ม Gemini ที่จะใหญ่ขึ้นเพื่อให้คนใช้งานง่ายขึ้น และสุดท้ายคือการเปลี่ยนข้อความจาก “Location” เป็น “One-time Location” เพื่อให้ชัดเจนว่ามันแชร์ตำแหน่งแค่ครั้งเดียว ไม่ใช่แชร์ต่อเนื่อง แม้ยังไม่แน่ว่าจะเปิดใช้จริง แต่ถ้าออกมาก็น่าจะช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/phones/google-messages-could-be-getting-3-useful-upgrades-soon-including-a-gemini-change 🔐 นักพัฒนาระวัง! เว็บจัดรูปแบบโค้ดเผยข้อมูลลับ เรื่องนี้ค่อนข้างน่ากังวล เพราะมีการพบว่าเว็บยอดนิยมอย่าง JSONFormatter และ CodeBeautify มีฟีเจอร์ “Recent Links” ที่เปิดเผยข้อมูลที่ผู้ใช้เคยอัปโหลดไว้โดยไม่ป้องกัน ทำให้ข้อมูลสำคัญอย่างรหัสผ่าน คีย์ API หรือข้อมูลส่วนตัวหลุดออกมาได้ง่าย นักวิจัยถึงขั้นดึงข้อมูลย้อนหลังได้หลายปี และพบว่ามีทั้งข้อมูลจากหน่วยงานรัฐไปจนถึงบริษัทใหญ่ ๆ ที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตี ซึ่งตอนนี้ก็มีผู้ไม่หวังดีเริ่มทดลองใช้ช่องโหว่นี้แล้วด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/top-code-formatting-sites-are-exposing-huge-amounts-of-user-data 🤖 ธุรกิจยังติดขัดกับการทำ AI อย่างรับผิดชอบ รายงานจาก Experian ชี้ว่าผู้บริหารส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า “Responsible AI” จะเป็นตัวสร้างความแตกต่างในการแข่งขัน แต่ปัญหาคือหลายบริษัทยังไม่พร้อมที่จะนำไปใช้จริง ทั้งเรื่องคุณภาพข้อมูล ความรู้ทางเทคนิค และการบาลานซ์ระหว่างนวัตกรรมกับการกำกับดูแล แม้จะมีหลักการชัดเจน เช่น ความน่าเชื่อถือ การปกป้องความเป็นส่วนตัว และการลดอคติ แต่มีเพียงครึ่งหนึ่งที่บอกว่าทีมงานพร้อมจริง ๆ นักวิเคราะห์จึงแนะนำให้เริ่มจากเล็ก ๆ ทดลองก่อน แล้วค่อยขยาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเสี่ยง 🔗 https://www.techradar.com/pro/businesses-are-struggling-to-implement-responsible-ai-but-it-could-make-all-the-difference ⚡ Claude Opus 4.5 เปิดตัวแล้ว Anthropic ปล่อยโมเดลใหม่ Claude Opus 4.5 ที่บอกว่าดีขึ้นอย่าง “มีความหมาย” ทั้งเรื่องการทำงานทั่วไปและการเขียนโค้ด จุดเด่นคือมันจัดการงานจริงได้ดีขึ้น เช่น ทำอีเมล สไลด์ หรือเอกสารได้เนียนกว่าเดิม รวมถึงแก้โจทย์ที่ซับซ้อนและทำงานหลายขั้นตอนต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังใช้พลังคำนวณน้อยลง ทำให้ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและองค์กรได้ประโยชน์มากขึ้น แม้ยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่การพัฒนาเร็วขนาดนี้ก็แสดงให้เห็นว่าตลาด AI กำลังโตและแข่งขันกันเข้มข้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/claude/claude-opus-4-5-is-now-live-and-meaningfully-better-at-everyday-tasks-and-coding-challenges 📱 Nothing Phone 3: สมาร์ทโฟนเรือธงที่แตกต่าง Nothing เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ Phone 3 ที่ตั้งใจจะก้าวเข้าสู่ตลาดพรีเมียมเต็มตัว ดีไซน์ยังคงความแปลกตาแบบบล็อกเหลี่ยมที่หลายคนอาจมองว่าสวยไม่เหมือนใคร แต่บางคนก็อาจรู้สึกว่ามันเทอะทะเกินไป จุดเด่นคือกล้อง 50MP ทั้งหมด 4 ตัว รวมถึงเลนส์ periscope ที่ช่วยให้ถ่ายภาพระยะไกลได้ดี แบตเตอรี่ใหญ่กว่า iPhone และ Samsung รุ่นใกล้เคียง พร้อมชาร์จเร็วกว่า จุดที่น่าสนใจคือฟีเจอร์ Glyph Matrix ที่ใช้ไฟด้านหลังมือถือแสดงข้อมูลหรือเล่นเกมเล็ก ๆ ได้ และปุ่ม Essential Key ที่ช่วยให้แคปหน้าจอหรือบันทึกวิดีโอได้ทันที ถึงแม้จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ราคาที่สูงขึ้นอาจทำให้แฟน ๆ รุ่นก่อนลังเล อย่างไรก็ตาม มันคือการประกาศชัดว่า Nothing อยากเป็นผู้เล่นในตลาดเรือธงจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/phones/nothing-phones/nothing-phone-3-review ☁️ AWS มีดาต้าเซ็นเตอร์มากกว่าที่คิด ข้อมูลใหม่เผยว่า Amazon Web Services (AWS) อาจมีดาต้าเซ็นเตอร์มากถึง 900 แห่งทั่วโลก ซึ่งมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้หลายเท่า การขยายตัวนี้เกิดจากความต้องการด้าน AI ที่เพิ่มสูงขึ้น AWS ไม่ได้เปิดเผยจำนวนจริง แต่ยืนยันว่ามี 38 regions และ 120 availability zones พร้อมแผนลงทุนมหาศาลในหลายประเทศ เช่น อินเดียและสหรัฐฯ จุดที่น่าสนใจคือ AWS พยายามรักษาประสิทธิภาพพลังงาน โดยอ้างว่ามีค่า Power Usage Effectiveness ดีกว่าค่าเฉลี่ยโลก และโครงสร้างพื้นฐานของตนใช้พลังงานได้คุ้มค่ากว่าการทำงานแบบ on-premises หลายเท่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/aws-says-it-has-around-900-data-centers-twice-as-many-as-previously-thought 💻 Android Desktop: ก้าวใหม่ของ Google OS Google กำลังพัฒนาโครงการ “Aluminium OS” ที่จะรวม Android เข้ากับ ChromeOS เพื่อสร้างระบบปฏิบัติการเดสก์ท็อปใหม่ รองรับทั้ง PC, Laptop, Tablet และ 2-in-1 จุดเด่นคือการผสาน AI เข้ามาเป็นแกนหลัก และรองรับแอป Android แบบเนทีฟโดยไม่ต้องจำลอง ทำให้การใช้งานต่อเนื่องระหว่างมือถือและเดสก์ท็อปเป็นไปอย่างราบรื่น Aluminium จะค่อย ๆ เข้ามาแทน ChromeOS แต่ยังคงอยู่คู่กันในช่วงเปลี่ยนผ่าน เป้าหมายคือการยกระดับ Chromebook และอุปกรณ์ Android ให้แข่งขันกับ Windows และ macOS ได้ในบางตลาด โดยเฉพาะด้านการศึกษาและธุรกิจ 🔗 https://www.techradar.com/computing/desktop-pcs/android-powered-desktop-pcs-are-coming-and-i-think-theyll-be-an-exciting-step-up-from-chromeos 🔒 Ransomware โจมตีธุรกิจที่ถูกซื้อกิจการ รายงานใหม่จาก ReliaQuest เผยว่าแฮกเกอร์ที่ใช้ Akira ransomware มักเจาะเข้าธุรกิจขนาดเล็กที่ถูกซื้อกิจการ โดยใช้ช่องโหว่จากอุปกรณ์ที่ถูกละเลยหรือไม่ได้รับการแพตช์ โดยเฉพาะ SonicWall SSL VPN ที่มีบัฟเฟอร์โอเวอร์โฟลว์ร้ายแรง แม้จะมีการอัปเดตแล้ว แต่หลายองค์กรยังไม่ทันปรับปรุง ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้ามาเคลื่อนไหวในระบบและเข้ารหัสข้อมูลได้ ปัญหาคือบริษัทที่ซื้อกิจการมักไม่รู้ว่ามีอุปกรณ์เสี่ยงอยู่ในเครือข่ายใหม่ ทำให้การโจมตีเกิดขึ้นง่ายและกระจายไปหลายบริษัทพร้อมกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-hackers-attack-smbs-being-acquired-to-try-and-gain-access-to-multiple-companies 🇪🇺 Chat Control: EU เห็นชอบการสแกนแชทแบบสมัครใจ หลังจากถกเถียงกันมากว่า 3 ปี สภาสหภาพยุโรปได้บรรลุข้อตกลงในกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation หรือที่ถูกเรียกว่า Chat Control โดยเปลี่ยนจากการบังคับสแกนข้อความส่วนตัวมาเป็นแบบสมัครใจ แต่ก็ยังสร้างความกังวลในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัว เพราะแม้จะไม่บังคับ แต่ก็เปิดช่องให้ผู้ให้บริการแชทต้องพิจารณามาตรการป้องกันการใช้แพลตฟอร์มในทางที่ผิด และอาจถูกบังคับให้พัฒนาเทคโนโลยีตรวจจับเพิ่มเติม ขณะนี้ EU เตรียมเข้าสู่การเจรจากับรัฐสภาเพื่อหาข้อสรุปสุดท้าย ซึ่งยังคงเป็นประเด็นร้อนระหว่างการปกป้องเด็กกับการรักษาสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-lawmakers-finally-agree-on-the-voluntary-scanning-of-your-private-chats 🌐 การเชื่อมต่อ AI รุ่นใหม่: ประสิทธิภาพและการติดตั้ง บทความนี้พูดถึง “Next frontier” ของการเชื่อมต่อที่พร้อมสำหรับ AI โดยเน้นการทำให้โครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในด้านการติดตั้งและการใช้งานจริง แนวคิดคือการสร้างระบบที่สามารถรองรับการประมวลผล AI ได้อย่างราบรื่น ลดความซับซ้อนในการขยายเครือข่าย และทำให้การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานคุ้มค่ามากขึ้น ผู้เขียนชี้ว่าอนาคตของการสื่อสารจะไม่ใช่แค่ความเร็ว แต่คือการจัดการทรัพยากรอย่างชาญฉลาดเพื่อรองรับการเติบโตของ AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-next-frontier-for-ai-ready-connectivity-efficiency-in-deployment 📱 ดีล Samsung Galaxy Tab ลดแรง TechRadar แนะนำดีลพิเศษสำหรับ Samsung Galaxy Tab ที่ช่วยประหยัดเงินได้หลายร้อยดอลลาร์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบ Android มากกว่า iPadOS โดยบทความเน้นว่าตอนนี้เป็นช่วง Black Friday ที่มีโปรโมชั่นแรงที่สุดของปี ทำให้แท็บเล็ตตระกูล Galaxy Tab กลายเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ทั้งในด้านราคาและฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย 🔗 https://www.techradar.com/seasonal-sales/prefer-android-to-ipados-these-stellar-samsung-galaxy-tab-deals-will-save-you-hundreds-this-black-friday 🎙️ ChatGPT กับการพูดคุยเสียงที่สมจริง ผู้เขียนเล่าประสบการณ์การลองใช้ฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT ที่เพิ่มการสนทนาด้วยเสียง ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนพูดคุยกับคนจริง ๆ มากขึ้น ฟีเจอร์นี้ถูกมองว่าเป็น “ชิ้นส่วนที่ขาดหายไป” ของการใช้งาน AI เพราะทำให้การโต้ตอบเป็นธรรมชาติและสะดวกกว่าเดิม แม้จะยังมีรายละเอียดที่ต้องปรับปรุง แต่โดยรวมถือว่าเป็นการพัฒนาใหญ่ที่ทำให้ AI ก้าวใกล้การใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-voice-integration-feels-like-the-missing-piece-in-ai-chat-ive-tried-it-and-its-almost-perfect 📝 Notepad บน Windows 11 ได้ฟีเจอร์ใหม่ Microsoft เพิ่มความสามารถใหม่ให้กับ Notepad ใน Windows 11 โดยรองรับการสร้างตารางและเสริมพลัง AI เข้าไป ฟีเจอร์นี้ทำให้ Notepad ไม่ใช่แค่โปรแกรมจดบันทึกธรรมดาอีกต่อไป แต่สามารถใช้ทำงานที่ซับซ้อนขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางส่วนไม่พอใจ เพราะมองว่า Notepad ควรเป็นเครื่องมือที่เรียบง่าย ไม่ควรซับซ้อนเกินไป การเปลี่ยนแปลงนี้จึงกลายเป็นประเด็นถกเถียงในชุมชนผู้ใช้ Windows 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-notepad-gets-support-for-tables-and-bolstered-ai-powers-and-not-everyones-happy 🔊 ChatGPT Voice Mode อัปเกรดครั้งใหญ่ อีกหนึ่งบทความเกี่ยวกับ ChatGPT ที่พูดถึงการอัปเกรดโหมดเสียงครั้งใหญ่ โดยสรุปว่ามี 5 สิ่งสำคัญที่ผู้ใช้ควรรู้ เช่น ความเป็นธรรมชาติของเสียงที่ดีขึ้น ความเร็วในการตอบสนอง และการรองรับหลายภาษา การพัฒนานี้ทำให้การใช้งาน AI ผ่านเสียงมีความสมจริงและสะดวกมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับการโต้ตอบระหว่างมนุษย์กับ AI ให้ใกล้เคียงการสนทนาจริงมากกว่าเดิม 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-voice-mode-just-got-a-major-upgrade-here-are-5-things-you-need-to-know 🏞️ อุปกรณ์ AI ของ Sam Altman ที่เหมือนกระท่อมริมทะเลสาบ แต่จริงๆ อาจเป็นการเฝ้าสอดส่อง Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ออกมาเล่าว่ากำลังสร้างอุปกรณ์ AI แบบใหม่ ที่เขาเปรียบเหมือนการนั่งพักผ่อนในกระท่อมสวยๆ ริมทะเลสาบ ให้ความสงบและเรียบง่ายกว่าการใช้สมาร์ทโฟนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่เมื่อมองลึกลงไป อุปกรณ์นี้คือการเฝ้าสังเกตชีวิตผู้ใช้ตลอดเวลา ทั้งพฤติกรรม อารมณ์ และกิจวัตรประจำวัน ซึ่งอาจหมายถึงการแลกความเป็นส่วนตัวกับความสะดวกสบาย ความสงบที่ถูกขายให้เราอาจเป็นเพียงภาพลวงตา เพราะจริงๆ แล้วคือการเปิดให้ระบบเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/sam-altman-wants-his-ai-device-to-feel-like-sitting-in-the-most-beautiful-cabin-by-a-lake-but-it-sounds-more-like-endless-surveillance 💻 Intel Granite Rapids-WS หลุดข้อมูล ชี้พลังเวิร์กสเตชันระดับมหึมา มีการรั่วไหลข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มใหม่ของ Intel ที่ชื่อ Granite Rapids-WS ซึ่งจะใช้ซ็อกเก็ต E2 ขนาดใหญ่ รองรับพลังงานสูงถึง 350 วัตต์ และสามารถใส่แรม DDR5 ได้ถึง 2 เทราไบต์ต่อซ็อกเก็ต จุดเด่นคือจำนวนคอร์มหาศาลถึง 86 คอร์ 172 เธรด พร้อมแคช L3 ขนาดใหญ่ และ PCIe lanes มากมายเพื่อรองรับ GPU และสตอเรจหลายตัว นี่คือการตอบโต้ AMD Threadripper ในตลาดเวิร์กสเตชันระดับสูง ที่เน้นงานเรนเดอร์ ซิมูเลชัน และการวิเคราะห์ข้อมูลหนักๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/did-intels-next-big-thing-in-workstations-just-leak-ahead-of-granite-rapids-launch-report-claims-this-is-whats-next-from-troubled-chipmaker 🚁 จีนจำลองการใช้โดรน 1,000 ตัวเพื่อบล็อก Starlink เหนือไต้หวัน งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยในจีนเผยการจำลองสถานการณ์ที่ใช้โดรนติดตั้งเครื่องรบกวนสัญญาณจำนวนมหาศาล เพื่อสร้าง “เกราะแม่เหล็กไฟฟ้า” ปิดกั้นอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Starlink เหนือไต้หวัน การทดลองชี้ว่าหากใช้โดรนราว 935 ตัวที่ทำงานประสานกัน จะสามารถทำให้พื้นที่ทั้งหมดไม่สามารถเชื่อมต่อได้ แม้ในทางปฏิบัติจะมีความยากลำบากและค่าใช้จ่ายสูง แต่แนวคิดนี้สะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในสงครามอิเล็กทรอนิกส์ที่น่ากังวล 🔗 https://www.techradar.com/tech/can-starlink-be-blocked-scary-chinese-simulation-shows-1-000-drones-can-jam-satellite-internet-over-an-island-as-large-as-taiwan 🖥️ Tuxedo ยกเลิกโน้ตบุ๊ก Linux ที่ใช้ Snapdragon X Elite หลังเจอปัญหาหนัก บริษัท Tuxedo ที่เชี่ยวชาญด้านเครื่อง Linux ตัดสินใจยกเลิกการพัฒนาโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite หลังจากพยายามแก้ไขปัญหามานานถึง 18 เดือน แต่ไม่สามารถทำให้ระบบทำงานได้สมบูรณ์ ปัญหามีทั้งเรื่อง BIOS, การควบคุมพัดลม, การทำงานของ KVM virtualization และการถ่ายโอนข้อมูล USB4 ที่ไม่เสถียร ผลทดสอบยังชี้ว่าแบตเตอรี่ไม่ได้ยาวนานตามที่คาดไว้ ทำให้เครื่องไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้ Linux จริงๆ บริษัทจึงเลือกหยุดโครงการและรอดูรุ่นใหม่ Snapdragon X2 Elite ว่าจะเข้ากับ Linux ได้ดีกว่าหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/top-linux-pc-maker-drops-plan-for-snapdragonx-elite-powered-notebook-says-hardware-was-less-suitable-than-expected 📱 รีวิว RedMagic 11 Pro มือถือเกมมิ่งสุดแรงในราคาคุ้มค่า RedMagic 11 Pro ยังคงรักษาตำแหน่งมือถือเกมมิ่งที่คุ้มค่าที่สุด ด้วยชิป Snapdragon 8 Elite Gen 5 ที่เร็วสุดๆ พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำและพัดลมที่ออกแบบใหม่ ทำให้เล่นเกมหนักๆ ได้อย่างลื่นไหล แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,500mAh ใช้งานได้ยาวนานหลายวัน และรองรับชาร์จไว 80W แม้จะไม่มีชาร์จไร้สาย แต่ก็ถือว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่สมเหตุสมผล จุดอ่อนคือกล้องที่ยังไม่ดีนัก โดยเฉพาะการถ่ายเซลฟี่ แต่สำหรับคนที่ต้องการมือถือเล่นเกมแรงๆ ในราคาที่ไม่ถึงพันดอลลาร์ นี่คือหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุด 🔗 https://www.techradar.com/phones/redmagic-11-pro-review 🔒 มัลแวร์ใหม่บน macOS สร้างห่วงโซ่โจมตีที่น่าปวดหัว มีการค้นพบมัลแวร์รูปแบบใหม่บน macOS ที่ทำงานเป็น “chain” หรือห่วงโซ่การโจมตี โดยเริ่มจากการเจาะเข้าระบบผ่านช่องโหว่เล็กๆ แล้วค่อยๆ ขยายสิทธิ์การเข้าถึงไปเรื่อยๆ จนสามารถควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ จุดน่ากังวลคือมันสามารถหลบเลี่ยงระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ และอาจถูกใช้โจมตีองค์กรหรือผู้ใช้ทั่วไปได้อย่างรุนแรง นักวิจัยเตือนว่าผู้ใช้ควรอัปเดตระบบและระวังการดาวน์โหลดไฟล์ที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-chain-could-cause-a-major-security-headache-heres-what-we-know 📸 กล้อง Leica ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสถูกประมูลได้ 7.5 ล้านดอลลาร์ Leica รุ่นพิเศษที่เคยเป็นของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ถูกนำออกประมูลและสร้างสถิติใหม่ด้วยราคาสูงถึง 7.5 ล้านดอลลาร์ รายได้ทั้งหมดถูกนำไปใช้เพื่อการกุศล กล้องตัวนี้มีคุณสมบัติพิเศษถึง 7 อย่างที่ไม่เหมือนใคร เช่น การออกแบบเฉพาะตัวและวัสดุที่หายาก ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในกล้องที่มีคุณค่าทางจิตใจและประวัติศาสตร์มากที่สุดในโลก 🔗 https://www.techradar.com/cameras/this-stunning-one-off-leica-belonging-to-the-late-pope-francis-just-raised-usd7-5-million-for-charity-here-are-its-7-unique-features 📷 รวมกล้องคอมแพ็กที่ดีที่สุดปี 2025 พกง่าย ใช้งานสะดวก TechRadar จัดอันดับกล้องคอมแพ็กที่โดดเด่นที่สุดในปี 2025 สำหรับคนที่อยากได้กล้องเล็กๆ พกพาสะดวก แต่ยังให้คุณภาพภาพถ่ายที่ดีเยี่ยม รายการนี้รวมทั้งรุ่นที่เหมาะกับนักเดินทาง, คนที่ชอบถ่ายภาพสตรีท, ไปจนถึงผู้ใช้ที่ต้องการกล้องเสริมจากสมาร์ทโฟน โดยมีทั้งรุ่นราคาประหยัดและรุ่นพรีเมียมที่เน้นคุณภาพสูงสุด 🔗 https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/the-best-compact-cameras 🤖 บทความเตือนใจ: อย่าเดทกับ AI เพราะมันไม่มีวันรักคุณ บทความเชิงความคิดเห็นชี้ให้เห็นถึงกระแสที่บางคนเริ่มมีความสัมพันธ์เชิงอารมณ์กับ AI แต่ผู้เขียนเตือนว่า AI ไม่สามารถรักหรือมีความรู้สึกแท้จริงได้ การคาดหวังให้มันเป็นคู่ชีวิตอาจทำให้คนหลงทางและเสียสมดุลในชีวิตจริง ข้อความนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปในด้านอารมณ์และความสัมพันธ์ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/please-dont-date-your-ai-because-it-will-never-love-you-or-pick-up-the-check 🔊 Poco เปิดตัวมือถือเรือธงพร้อมซับวูฟเฟอร์ Bose ขนาดจิ๋ว Poco เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมนวัตกรรมแปลกตา คือการใส่ซับวูฟเฟอร์ Bose ขนาดเล็กเข้าไปในเครื่อง เพื่อให้เสียงแบบ 2.1-channel audio แม้จะเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับคนรักเสียงเบส แต่ก็มีข้อกังวลว่าการใช้งานในพื้นที่สาธารณะ เช่น บนรถบัส อาจสร้างความรำคาญให้คนรอบข้างได้ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Poco ในการสร้างความแตกต่างในตลาดมือถือที่แข่งขันสูง ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/phones/poco-phones/pocos-new-flagship-phone-has-a-mini-bose-subwoofer-for-2-1-channel-audio-and-i-hope-im-not-near-one-on-the-bus
    0 Comments 0 Shares 5 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251127 #securityonline

    Meta ถูกกล่าวหาปกปิดข้อมูลภายในที่ชี้ว่า Facebook ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล
    เรื่องนี้เริ่มจากเอกสารในคดีฟ้องร้องแบบกลุ่มที่โรงเรียนหลายแห่งในสหรัฐฯ ยื่นต่อบริษัทโซเชียลมีเดีย โดยมีการเปิดเผยว่า Meta เคยทำการศึกษาในโครงการชื่อ Project Mercury ร่วมกับบริษัท Nielsen ตั้งแต่ปี 2020 ผลการวิจัยพบว่าการเลิกใช้ Facebook ช่วยลดความรู้สึกซึมเศร้า วิตกกังวล และความเหงา แต่ Meta กลับหยุดการศึกษาและไม่เผยแพร่ผลลัพธ์ โดยอ้างว่าเป็นข้อมูลที่มีอคติและถูกกระทบจากกระแสสื่อ ขณะเดียวกันมีเสียงจากนักวิจัยภายในที่เปรียบเทียบการกระทำนี้เหมือนกับอุตสาหกรรมบุหรี่ที่เคยปกปิดผลวิจัยเรื่องอันตรายของการสูบบุหรี่ ปัจจุบันคดีนี้กำลังเข้าสู่การพิจารณาในศาล และสะท้อนถึงความไม่ไว้วางใจที่รัฐบาลทั่วโลกมีต่อบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี
    https://securityonline.info/meta-accused-of-hiding-internal-data-showing-facebook-causes-depression-anxiety

    Tor Project พัฒนาอัลกอริทึมเข้ารหัสใหม่ CGO แทน Tor1 ที่มีช่องโหว่
    เครือข่าย Tor ที่ใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานนั้น แม้จะมีชื่อเสียงด้านการรักษาความลับ แต่ก็ไม่ปลอดภัยเสมอไป โดยโปรโตคอลเก่า Tor1 มีช่องโหว่สำคัญ เช่น การโจมตีแบบ tagging attack ที่ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถติดตามเส้นทางข้อมูลได้ อีกทั้งยังมีการใช้คีย์ AES ซ้ำและตัวตรวจสอบที่อ่อนแอ เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ Tor Project จึงพัฒนาอัลกอริทึมใหม่ชื่อ Counter Galois Onion (CGO) ที่เมื่อมีการพยายามแก้ไขข้อมูล ข้อความทั้งหมดในเส้นทางนั้นจะเสียหายทันที ทำให้การโจมตีแทบเป็นไปไม่ได้ แม้จะยังไม่มีตารางเวลาชัดเจนในการนำมาใช้กับ Tor Browser แต่ทีมงานกำลังปรับปรุงให้เหมาะกับ CPU รุ่นใหม่
    https://securityonline.info/tor-project-develops-new-cgo-encryption-to-replace-vulnerable-tor1-protocol

    PoC Exploit สำหรับช่องโหว่ Windows NTLM Elevation of Privilege ถูกเผยแพร่แล้ว
    มีการเปิดเผยโค้ดตัวอย่างการโจมตี (PoC Exploit) ที่เจาะช่องโหว่ในระบบ NTLM ของ Windows ซึ่งสามารถนำไปสู่การยกระดับสิทธิ์การเข้าถึงได้ ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ Channel Binding และ LDAPS โดยเนื้อหาละเอียดถูกจำกัดให้เฉพาะผู้สนับสนุนที่ลงทะเบียนเท่านั้น แต่การที่ PoC ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะถือเป็นสัญญาณเตือนว่าผู้โจมตีอาจนำไปใช้จริงได้
    https://securityonline.info/poc-exploit-releases-for-windows-ntlm-elevation-of-privilege-vulnerability

    NVIDIA ออกแพตช์ด่วนแก้ช่องโหว่ร้ายแรงใน DGX Spark เสี่ยงถูกยึดระบบ
    AI NVIDIA ได้ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยสำหรับแพลตฟอร์ม DGX Spark ซึ่งเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ขนาดกะทัดรัดที่ใช้ในงานวิจัยและพัฒนา โดยมีช่องโหว่รวม 14 รายการ หนึ่งในนั้นคือ CVE-2025-33187 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.3 ช่องโหว่นี้อยู่ในส่วน SROOT ทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์ระดับสูงสามารถเข้าถึงพื้นที่ที่ปกป้องโดยชิป SoC และควบคุมระบบได้อย่างสมบูรณ์ หากไม่อัปเดตทันที ข้อมูลวิจัยและโมเดล AI อาจถูกขโมยหรือแก้ไขโดยไม่รู้ตัว NVIDIA แนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดต DGX Spark ไปยังเวอร์ชัน OTA0 โดยเร็วที่สุด
    https://securityonline.info/critical-patch-nvidia-dgx-spark-flaw-cve-2025-33187-cvss-9-3-exposes-ai-secrets-to-takeover

    WormGPT 4 และ KawaiiGPT: AI ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมืออาชญากรรมไซเบอร์
    รายงานจาก Unit 42 เปิดเผยว่าโมเดล AI ที่ควรใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ กลับถูกนำไปใช้สร้างภัยคุกคาม WormGPT 4 ถูกโฆษณาในฟอรั่มใต้ดินว่าเป็น “AI ที่ไร้ข้อจำกัด” สามารถสร้างมัลแวร์และสคริปต์เรียกค่าไถ่ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเขียนโน้ตข่มขู่ที่ทำให้เหยื่อหวาดกลัว ส่วน KawaiiGPT ถูกนำเสนอในรูปแบบ “Waifu pentesting” ที่ดูน่ารักแต่จริง ๆ แล้วสามารถสร้างอีเมลฟิชชิ่งและสคริปต์โจมตีได้ง่ายมาก ทั้งสองโมเดลนี้ทำให้การโจมตีไซเบอร์เข้าถึงได้แม้แต่ผู้ที่ไม่มีทักษะสูง สะท้อนถึงการ “ทำให้อาชญากรรมไซเบอร์เป็นประชาธิปไตย” ที่ใครก็สามารถโจมตีได้เพียงแค่พิมพ์คำสั่ง
    https://securityonline.info/silent-fast-brutal-how-wormgpt-4-and-kawaiigpt-democratize-cybercrime

    Anthropic เปิดตัว Opus 4.5: AI สำหรับองค์กรที่เชื่อม Excel และแชทได้ไม่สิ้นสุด
    Anthropic ได้เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ของโมเดล AI ชื่อ Opus 4.5 ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในระดับองค์กร จุดเด่นคือสามารถเชื่อมต่อกับ Excel ได้โดยตรง ทำให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างรายงานได้อย่างอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ “Infinite Chat” ที่ช่วยให้การสนทนากับ AI ต่อเนื่องได้ไม่จำกัด ไม่ต้องเริ่มใหม่ทุกครั้งที่หมด session ถือเป็นการยกระดับการใช้งาน AI ให้เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการความต่อเนื่องและการจัดการข้อมูลจำนวนมาก
    https://securityonline.info/anthropic-unleashes-opus-4-5-excel-integration-infinite-chat-for-enterprise-ai

    Perplexity เปิดตัว AI Shopping พร้อม PayPal Instant Buy และค้นหาสินค้าแบบเฉพาะบุคคล
    Perplexity กำลังขยายขอบเขตการใช้งาน AI จากการค้นหาข้อมูลไปสู่การช้อปปิ้งออนไลน์ โดยเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถซื้อสินค้าผ่าน PayPal ได้ทันที (Instant Buy) และยังมีระบบค้นหาสินค้าแบบ Personalized ที่ปรับตามความสนใจและพฤติกรรมของผู้ใช้ จุดนี้ทำให้การช้อปปิ้งออนไลน์สะดวกขึ้นและตรงใจมากขึ้น ถือเป็นการผสมผสานระหว่าง AI และอีคอมเมิร์ซที่น่าจับตามอง
    https://securityonline.info/perplexity-launches-ai-shopping-with-paypal-instant-buy-personalized-product-search

    Qualcomm เปิดตัว Snapdragon 8 Gen 5: CPU เร็วขึ้น 36% และพลัง AI เพิ่มขึ้น 46%
    Qualcomm ได้เปิดตัวชิปประมวลผลรุ่นใหม่ Snapdragon 8 Gen 5 ที่มาพร้อมกับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทั้งด้านความเร็วของ CPU ที่เพิ่มขึ้น 36% และพลังการประมวลผล AI ที่มากขึ้นถึง 46% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า จุดเด่นอีกอย่างคือการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เหมาะกับสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่จะออกในปีหน้า ซึ่งจะรองรับการใช้งานที่หนักหน่วงทั้งเกมและงานด้าน AI ได้อย่างลื่นไหล
    https://securityonline.info/qualcomm-unveils-snapdragon-8-gen-5-36-faster-cpu-46-more-ai-power

    INE ขยายการเรียนรู้แบบ Cross-Skilling เพื่อเพิ่มทักษะหลากหลายให้ผู้เรียน
    INE ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์ ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ที่เน้นการ Cross-Skilling หรือการเรียนรู้ทักษะข้ามสาขา เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาทักษะที่หลากหลายและนำไปใช้ในงานจริงได้มากขึ้น แนวทางนี้ตอบโจทย์ตลาดแรงงานที่ต้องการคนที่มีความสามารถหลายด้าน ไม่จำกัดอยู่แค่สายงานเดียว ถือเป็นการปรับตัวของแพลตฟอร์มการศึกษาให้เข้ากับโลกการทำงานยุคใหม่
    https://securityonline.info/ine-expands-cross-skilling-innovations

    GitLab ออกแพตช์แก้ช่องโหว่ร้ายแรง ทั้ง DoS และการขโมย Credential ใน CI/CD
    GitLab ได้ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยล่าสุดที่แก้ไขช่องโหว่หลายรายการ ทั้งการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) ที่ไม่ต้องล็อกอินก็ทำได้ และช่องโหว่ที่ทำให้ผู้ใช้ระดับต่ำสามารถขโมย Credential ของผู้ใช้ระดับสูงในระบบ CI/CD ได้ นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ด้านการ bypass authentication และการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ควรเข้าถึง GitLab แนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตไปยังเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
    https://securityonline.info/gitlab-patch-fixes-ci-cd-credential-theft-unauthenticated-dos-attacks

    Hidden Theft: ส่วนขยาย Chrome “Crypto Copilot” ดูดเงินจากกระเป๋า Solana
    เรื่องนี้เริ่มจากนักเทรดคริปโตที่อยากได้ความสะดวกในการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์ม X จึงติดตั้งส่วนขยาย Chrome ที่ชื่อว่า Crypto Copilot ซึ่งโฆษณาว่าสามารถทำให้การเทรดรวดเร็วขึ้น แต่เบื้องหลังกลับเป็นกับดักที่ซ่อนการโอนเงินไปยังกระเป๋าของแฮกเกอร์โดยอัตโนมัติ ทุกครั้งที่ผู้ใช้ทำการ swap เหรียญ ระบบจะเพิ่มคำสั่งลับที่โอนเงินส่วนหนึ่งไปยังที่อยู่กระเป๋าที่ถูกควบคุมโดยผู้โจมตี โดยที่หน้าจอผู้ใช้ไม่แสดงให้เห็นเลย ทำให้หลายคนสูญเสียเงินไปโดยไม่รู้ตัว ปัจจุบันส่วนขยายนี้ยังคงอยู่บน Chrome Web Store และนักวิจัยได้ส่งคำร้องให้ Google ลบออกแล้ว
    https://securityonline.info/hidden-theft-crypto-copilot-chrome-extension-drains-solana-wallets-on-x

    Critical Ray AI Flaw: ช่องโหว่ร้ายแรงใน Ray Framework ผ่าน Safari และ Firefox
    Ray เป็นเฟรมเวิร์กโอเพ่นซอร์สที่นักพัฒนาใช้ในการทำงานด้าน Machine Learning แต่ล่าสุดพบช่องโหว่ร้ายแรงที่เปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดอันตรายบนเครื่องของนักพัฒนาได้ ช่องโหว่นี้เกิดจากการตรวจสอบ User-Agent ที่ไม่รัดกุม ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้เทคนิค DNS Rebinding หลอกเบราว์เซอร์ Safari และ Firefox ให้ส่งคำสั่งไปยัง Ray Dashboard ที่รันอยู่ในเครื่องของเหยื่อ ผลลัพธ์คือโค้ดอันตรายสามารถถูกประมวลผลได้ทันที ทีมงาน Ray ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 2.52.0 และแนะนำให้อัปเดตโดยด่วนเพื่อป้องกันความเสี่ยง
    https://securityonline.info/critical-ray-ai-flaw-exposes-devs-via-safari-firefox-cve-2025-62593

    Water Gamayun Weaponizes “MSC EvilTwin”: กลุ่ม APT รัสเซียใช้ช่องโหว่ Windows เจาะระบบ
    กลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความเชื่อมโยงกับรัสเซียชื่อ Water Gamayun ถูกเปิดโปงว่ากำลังใช้ช่องโหว่ใหม่ใน Microsoft Management Console (MMC) ที่เรียกว่า “MSC EvilTwin” เพื่อเจาะระบบองค์กรที่มีมูลค่าสูง วิธีการคือหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลดไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วเป็น payload ที่ฝังโค้ดอันตราย เมื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกใช้ช่องโหว่เพื่อรัน PowerShell ลับและติดตั้งมัลแวร์ต่อเนื่อง เป้าหมายของกลุ่มนี้คือการขโมยข้อมูลเชิงกลยุทธ์และสร้างช่องทางเข้าถึงระบบอย่างยาวนาน
    https://securityonline.info/water-gamayun-weaponizes-msc-eviltwin-zero-day-for-stealthy-backdoor-attacks

    Fragging Your Data: มัลแวร์ปลอมตัวเป็น Crack และ Trainer ของ Battlefield 6
    การเปิดตัวเกม Battlefield 6 กลายเป็นโอกาสทองของอาชญากรไซเบอร์ พวกเขาปล่อยไฟล์ “Crack” และ “Trainer” ปลอมบนเว็บแชร์ไฟล์และฟอรั่มใต้ดิน โดยอ้างว่าเป็นผลงานของกลุ่มแคร็กชื่อดัง แต่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ที่ออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลผู้ใช้ เช่น กระเป๋าเงินคริปโต คุกกี้เบราว์เซอร์ และโทเคน Discord บางเวอร์ชันยังซ่อนตัวเก่ง ตรวจสอบสภาพแวดล้อมก่อนทำงาน และบางตัวทำหน้าที่เป็น backdoor ที่เปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยเตือนว่าผู้เล่นที่ดาวน์โหลดไฟล์เหล่านี้ควรรีบสแกนเครื่องและเปลี่ยนรหัสผ่านทันที
    https://securityonline.info/fragging-your-data-fake-battlefield-6-cracks-trainers-spread-infostealers

    Hidden Danger in 3D: ไฟล์ Blender ปลอมแพร่กระจาย StealC V2 Infostealer
    วงการนักออกแบบ 3D และเกมถูกโจมตีด้วยวิธีใหม่ แฮกเกอร์ปล่อยไฟล์โมเดล 3D ที่ดูเหมือนงานจริง เช่น โมเดลชุดอวกาศ Apollo 11 แต่ภายในฝังสคริปต์ Python อันตราย เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ใน Blender และเปิดใช้งาน Auto Run Python Scripts มัลแวร์จะทำงานทันทีโดยไม่รู้ตัว จากนั้นจะดาวน์โหลด payload ต่อเนื่องและติดตั้ง StealC V2 ซึ่งเป็น infostealer ที่สามารถดูดข้อมูลจากเบราว์เซอร์ กระเป๋าเงินคริปโต และแอปต่าง ๆ เช่น Discord หรือ Telegram จุดอันตรายคือไฟล์เหล่านี้ตรวจจับได้ยากมากในระบบป้องกันทั่วไป ทำให้ผู้ใช้ต้องระวังเป็นพิเศษ
    https://securityonline.info/hidden-danger-in-3d-malicious-blender-files-unleash-stealc-v2-infostealer

    Zero-Day Warning: ช่องโหว่ Twonky Server เปิดทางยึดระบบสื่อ
    มีการค้นพบช่องโหว่ใหม่ใน Twonky Server ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับสตรีมสื่อในบ้านและองค์กร ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมระบบได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องมีสิทธิ์พิเศษ เมื่อผู้ใช้เปิดใช้งานเซิร์ฟเวอร์ที่ยังไม่ได้แพตช์ แฮกเกอร์สามารถส่งคำสั่งจากระยะไกลเพื่อเข้าถึงไฟล์สื่อและแม้กระทั่งติดตั้งมัลแวร์เพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลและความเป็นส่วนตัวอย่างมาก
    https://securityonline.info/zero-day-warning-unpatched-twonky-server-flaws-expose-media-to-total-takeover

    UNMASKED: การรั่วไหลครั้งใหญ่เปิดโปงหน่วยไซเบอร์ “Department 40” ของอิหร่าน
    มีการเปิดเผยข้อมูลครั้งใหญ่ที่แสดงให้เห็นการทำงานของหน่วยไซเบอร์ลับในอิหร่านที่ชื่อว่า Department 40 ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์ระดับโลก เอกสารที่รั่วไหลออกมาเผยให้เห็นโครงสร้างการทำงาน วิธีการโจมตี และเป้าหมายที่พวกเขาใช้ รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือที่ซับซ้อนเพื่อเจาะระบบขององค์กรและรัฐบาลต่างประเทศ การเปิดโปงครั้งนี้ทำให้หลายประเทศเริ่มตรวจสอบและเพิ่มมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด
    https://securityonline.info/unmasked-massive-leak-exposes-irans-department-40-cyber-terror-unit

    Angular Alert: ช่องโหว่ Protocol-Relative URLs ทำให้ XSRF Tokens รั่วไหล
    นักวิจัยพบว่าการใช้ URL แบบ protocol-relative ใน Angular สามารถทำให้โทเคน XSRF รั่วไหลไปยังโดเมนที่ไม่ปลอดภัยได้ ช่องโหว่นี้อาจถูกใช้เพื่อขโมย session และเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ปัญหานี้เกิดจากการที่เฟรมเวิร์กไม่ได้ตรวจสอบเส้นทาง URL อย่างเข้มงวดพอ ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างลิงก์ที่ดูเหมือนปลอดภัยแต่จริง ๆ แล้วส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมโดยแฮกเกอร์
    https://securityonline.info/angular-alert-protocol-relative-urls-leak-xsrf-tokens-cve-2025-66035

    Holiday Heist: ร้านค้าออนไลน์ปลอมกว่า 200,000 แห่งโจมตี Black Friday
    ในช่วง Black Friday มีการตรวจพบร้านค้าออนไลน์ปลอมกว่า 200,000 แห่งที่เลียนแบบ Amazon และแพลตฟอร์มช้อปปิ้งชื่อดังอื่น ๆ เว็บไซต์เหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อหลอกให้ผู้ซื้อกรอกข้อมูลบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว โดยใช้ดีไซน์และโลโก้ที่เหมือนจริงมาก ผู้ใช้ที่ไม่ทันระวังอาจสูญเสียเงินและข้อมูลไปโดยไม่รู้ตัว นักวิจัยเตือนว่าควรตรวจสอบ URL และรีวิวร้านค้าให้ละเอียดก่อนทำการซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลลดราคา
    https://securityonline.info/holiday-heist-200000-fake-shops-amazon-clones-target-black-friday

    Security Alert: ช่องโหว่ Stored XSS ใน Apache SkyWalking
    Apache SkyWalking ซึ่งเป็นระบบ APM ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการตรวจสอบและติดตามระบบแบบ distributed พบช่องโหว่ Stored XSS ที่อันตรายมาก เพราะโค้ดอันตรายจะถูกบันทึกถาวรในเซิร์ฟเวอร์และทำงานทุกครั้งที่ผู้ดูแลเปิดหน้า dashboard ช่องโหว่นี้สามารถถูกใช้เพื่อขโมย session cookies, redirect ผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์อันตราย หรือแม้กระทั่งแก้ไขข้อมูลการแสดงผลเพื่อปกปิดกิจกรรมที่ผิดปกติ ทีมงาน Apache ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 10.3.0 และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที
    https://securityonline.info/security-alert-apache-skywalking-stored-xss-vulnerability-cve-2025-54057

    📌🔐🟠 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟠🔐📌 #รวมข่าวIT #20251127 #securityonline 📰 Meta ถูกกล่าวหาปกปิดข้อมูลภายในที่ชี้ว่า Facebook ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล เรื่องนี้เริ่มจากเอกสารในคดีฟ้องร้องแบบกลุ่มที่โรงเรียนหลายแห่งในสหรัฐฯ ยื่นต่อบริษัทโซเชียลมีเดีย โดยมีการเปิดเผยว่า Meta เคยทำการศึกษาในโครงการชื่อ Project Mercury ร่วมกับบริษัท Nielsen ตั้งแต่ปี 2020 ผลการวิจัยพบว่าการเลิกใช้ Facebook ช่วยลดความรู้สึกซึมเศร้า วิตกกังวล และความเหงา แต่ Meta กลับหยุดการศึกษาและไม่เผยแพร่ผลลัพธ์ โดยอ้างว่าเป็นข้อมูลที่มีอคติและถูกกระทบจากกระแสสื่อ ขณะเดียวกันมีเสียงจากนักวิจัยภายในที่เปรียบเทียบการกระทำนี้เหมือนกับอุตสาหกรรมบุหรี่ที่เคยปกปิดผลวิจัยเรื่องอันตรายของการสูบบุหรี่ ปัจจุบันคดีนี้กำลังเข้าสู่การพิจารณาในศาล และสะท้อนถึงความไม่ไว้วางใจที่รัฐบาลทั่วโลกมีต่อบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี 🔗 https://securityonline.info/meta-accused-of-hiding-internal-data-showing-facebook-causes-depression-anxiety 🔐 Tor Project พัฒนาอัลกอริทึมเข้ารหัสใหม่ CGO แทน Tor1 ที่มีช่องโหว่ เครือข่าย Tor ที่ใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานนั้น แม้จะมีชื่อเสียงด้านการรักษาความลับ แต่ก็ไม่ปลอดภัยเสมอไป โดยโปรโตคอลเก่า Tor1 มีช่องโหว่สำคัญ เช่น การโจมตีแบบ tagging attack ที่ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถติดตามเส้นทางข้อมูลได้ อีกทั้งยังมีการใช้คีย์ AES ซ้ำและตัวตรวจสอบที่อ่อนแอ เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ Tor Project จึงพัฒนาอัลกอริทึมใหม่ชื่อ Counter Galois Onion (CGO) ที่เมื่อมีการพยายามแก้ไขข้อมูล ข้อความทั้งหมดในเส้นทางนั้นจะเสียหายทันที ทำให้การโจมตีแทบเป็นไปไม่ได้ แม้จะยังไม่มีตารางเวลาชัดเจนในการนำมาใช้กับ Tor Browser แต่ทีมงานกำลังปรับปรุงให้เหมาะกับ CPU รุ่นใหม่ 🔗 https://securityonline.info/tor-project-develops-new-cgo-encryption-to-replace-vulnerable-tor1-protocol ⚠️ PoC Exploit สำหรับช่องโหว่ Windows NTLM Elevation of Privilege ถูกเผยแพร่แล้ว มีการเปิดเผยโค้ดตัวอย่างการโจมตี (PoC Exploit) ที่เจาะช่องโหว่ในระบบ NTLM ของ Windows ซึ่งสามารถนำไปสู่การยกระดับสิทธิ์การเข้าถึงได้ ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ Channel Binding และ LDAPS โดยเนื้อหาละเอียดถูกจำกัดให้เฉพาะผู้สนับสนุนที่ลงทะเบียนเท่านั้น แต่การที่ PoC ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะถือเป็นสัญญาณเตือนว่าผู้โจมตีอาจนำไปใช้จริงได้ 🔗 https://securityonline.info/poc-exploit-releases-for-windows-ntlm-elevation-of-privilege-vulnerability 💻 NVIDIA ออกแพตช์ด่วนแก้ช่องโหว่ร้ายแรงใน DGX Spark เสี่ยงถูกยึดระบบ AI NVIDIA ได้ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยสำหรับแพลตฟอร์ม DGX Spark ซึ่งเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ขนาดกะทัดรัดที่ใช้ในงานวิจัยและพัฒนา โดยมีช่องโหว่รวม 14 รายการ หนึ่งในนั้นคือ CVE-2025-33187 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.3 ช่องโหว่นี้อยู่ในส่วน SROOT ทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์ระดับสูงสามารถเข้าถึงพื้นที่ที่ปกป้องโดยชิป SoC และควบคุมระบบได้อย่างสมบูรณ์ หากไม่อัปเดตทันที ข้อมูลวิจัยและโมเดล AI อาจถูกขโมยหรือแก้ไขโดยไม่รู้ตัว NVIDIA แนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดต DGX Spark ไปยังเวอร์ชัน OTA0 โดยเร็วที่สุด 🔗 https://securityonline.info/critical-patch-nvidia-dgx-spark-flaw-cve-2025-33187-cvss-9-3-exposes-ai-secrets-to-takeover 🕵️‍♂️ WormGPT 4 และ KawaiiGPT: AI ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมืออาชญากรรมไซเบอร์ รายงานจาก Unit 42 เปิดเผยว่าโมเดล AI ที่ควรใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ กลับถูกนำไปใช้สร้างภัยคุกคาม WormGPT 4 ถูกโฆษณาในฟอรั่มใต้ดินว่าเป็น “AI ที่ไร้ข้อจำกัด” สามารถสร้างมัลแวร์และสคริปต์เรียกค่าไถ่ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเขียนโน้ตข่มขู่ที่ทำให้เหยื่อหวาดกลัว ส่วน KawaiiGPT ถูกนำเสนอในรูปแบบ “Waifu pentesting” ที่ดูน่ารักแต่จริง ๆ แล้วสามารถสร้างอีเมลฟิชชิ่งและสคริปต์โจมตีได้ง่ายมาก ทั้งสองโมเดลนี้ทำให้การโจมตีไซเบอร์เข้าถึงได้แม้แต่ผู้ที่ไม่มีทักษะสูง สะท้อนถึงการ “ทำให้อาชญากรรมไซเบอร์เป็นประชาธิปไตย” ที่ใครก็สามารถโจมตีได้เพียงแค่พิมพ์คำสั่ง 🔗 https://securityonline.info/silent-fast-brutal-how-wormgpt-4-and-kawaiigpt-democratize-cybercrime 📊 Anthropic เปิดตัว Opus 4.5: AI สำหรับองค์กรที่เชื่อม Excel และแชทได้ไม่สิ้นสุด Anthropic ได้เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ของโมเดล AI ชื่อ Opus 4.5 ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในระดับองค์กร จุดเด่นคือสามารถเชื่อมต่อกับ Excel ได้โดยตรง ทำให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างรายงานได้อย่างอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ “Infinite Chat” ที่ช่วยให้การสนทนากับ AI ต่อเนื่องได้ไม่จำกัด ไม่ต้องเริ่มใหม่ทุกครั้งที่หมด session ถือเป็นการยกระดับการใช้งาน AI ให้เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการความต่อเนื่องและการจัดการข้อมูลจำนวนมาก 🔗 https://securityonline.info/anthropic-unleashes-opus-4-5-excel-integration-infinite-chat-for-enterprise-ai 🛒 Perplexity เปิดตัว AI Shopping พร้อม PayPal Instant Buy และค้นหาสินค้าแบบเฉพาะบุคคล Perplexity กำลังขยายขอบเขตการใช้งาน AI จากการค้นหาข้อมูลไปสู่การช้อปปิ้งออนไลน์ โดยเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถซื้อสินค้าผ่าน PayPal ได้ทันที (Instant Buy) และยังมีระบบค้นหาสินค้าแบบ Personalized ที่ปรับตามความสนใจและพฤติกรรมของผู้ใช้ จุดนี้ทำให้การช้อปปิ้งออนไลน์สะดวกขึ้นและตรงใจมากขึ้น ถือเป็นการผสมผสานระหว่าง AI และอีคอมเมิร์ซที่น่าจับตามอง 🔗 https://securityonline.info/perplexity-launches-ai-shopping-with-paypal-instant-buy-personalized-product-search ⚡ Qualcomm เปิดตัว Snapdragon 8 Gen 5: CPU เร็วขึ้น 36% และพลัง AI เพิ่มขึ้น 46% Qualcomm ได้เปิดตัวชิปประมวลผลรุ่นใหม่ Snapdragon 8 Gen 5 ที่มาพร้อมกับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทั้งด้านความเร็วของ CPU ที่เพิ่มขึ้น 36% และพลังการประมวลผล AI ที่มากขึ้นถึง 46% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า จุดเด่นอีกอย่างคือการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เหมาะกับสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่จะออกในปีหน้า ซึ่งจะรองรับการใช้งานที่หนักหน่วงทั้งเกมและงานด้าน AI ได้อย่างลื่นไหล 🔗 https://securityonline.info/qualcomm-unveils-snapdragon-8-gen-5-36-faster-cpu-46-more-ai-power 🎓 INE ขยายการเรียนรู้แบบ Cross-Skilling เพื่อเพิ่มทักษะหลากหลายให้ผู้เรียน INE ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์ ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ที่เน้นการ Cross-Skilling หรือการเรียนรู้ทักษะข้ามสาขา เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาทักษะที่หลากหลายและนำไปใช้ในงานจริงได้มากขึ้น แนวทางนี้ตอบโจทย์ตลาดแรงงานที่ต้องการคนที่มีความสามารถหลายด้าน ไม่จำกัดอยู่แค่สายงานเดียว ถือเป็นการปรับตัวของแพลตฟอร์มการศึกษาให้เข้ากับโลกการทำงานยุคใหม่ 🔗 https://securityonline.info/ine-expands-cross-skilling-innovations 🛡️ GitLab ออกแพตช์แก้ช่องโหว่ร้ายแรง ทั้ง DoS และการขโมย Credential ใน CI/CD GitLab ได้ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยล่าสุดที่แก้ไขช่องโหว่หลายรายการ ทั้งการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) ที่ไม่ต้องล็อกอินก็ทำได้ และช่องโหว่ที่ทำให้ผู้ใช้ระดับต่ำสามารถขโมย Credential ของผู้ใช้ระดับสูงในระบบ CI/CD ได้ นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ด้านการ bypass authentication และการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ควรเข้าถึง GitLab แนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตไปยังเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น 🔗 https://securityonline.info/gitlab-patch-fixes-ci-cd-credential-theft-unauthenticated-dos-attacks 🕵️‍♂️ Hidden Theft: ส่วนขยาย Chrome “Crypto Copilot” ดูดเงินจากกระเป๋า Solana เรื่องนี้เริ่มจากนักเทรดคริปโตที่อยากได้ความสะดวกในการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์ม X จึงติดตั้งส่วนขยาย Chrome ที่ชื่อว่า Crypto Copilot ซึ่งโฆษณาว่าสามารถทำให้การเทรดรวดเร็วขึ้น แต่เบื้องหลังกลับเป็นกับดักที่ซ่อนการโอนเงินไปยังกระเป๋าของแฮกเกอร์โดยอัตโนมัติ ทุกครั้งที่ผู้ใช้ทำการ swap เหรียญ ระบบจะเพิ่มคำสั่งลับที่โอนเงินส่วนหนึ่งไปยังที่อยู่กระเป๋าที่ถูกควบคุมโดยผู้โจมตี โดยที่หน้าจอผู้ใช้ไม่แสดงให้เห็นเลย ทำให้หลายคนสูญเสียเงินไปโดยไม่รู้ตัว ปัจจุบันส่วนขยายนี้ยังคงอยู่บน Chrome Web Store และนักวิจัยได้ส่งคำร้องให้ Google ลบออกแล้ว 🔗 https://securityonline.info/hidden-theft-crypto-copilot-chrome-extension-drains-solana-wallets-on-x 💻 Critical Ray AI Flaw: ช่องโหว่ร้ายแรงใน Ray Framework ผ่าน Safari และ Firefox Ray เป็นเฟรมเวิร์กโอเพ่นซอร์สที่นักพัฒนาใช้ในการทำงานด้าน Machine Learning แต่ล่าสุดพบช่องโหว่ร้ายแรงที่เปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดอันตรายบนเครื่องของนักพัฒนาได้ ช่องโหว่นี้เกิดจากการตรวจสอบ User-Agent ที่ไม่รัดกุม ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้เทคนิค DNS Rebinding หลอกเบราว์เซอร์ Safari และ Firefox ให้ส่งคำสั่งไปยัง Ray Dashboard ที่รันอยู่ในเครื่องของเหยื่อ ผลลัพธ์คือโค้ดอันตรายสามารถถูกประมวลผลได้ทันที ทีมงาน Ray ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 2.52.0 และแนะนำให้อัปเดตโดยด่วนเพื่อป้องกันความเสี่ยง 🔗 https://securityonline.info/critical-ray-ai-flaw-exposes-devs-via-safari-firefox-cve-2025-62593 🎯 Water Gamayun Weaponizes “MSC EvilTwin”: กลุ่ม APT รัสเซียใช้ช่องโหว่ Windows เจาะระบบ กลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความเชื่อมโยงกับรัสเซียชื่อ Water Gamayun ถูกเปิดโปงว่ากำลังใช้ช่องโหว่ใหม่ใน Microsoft Management Console (MMC) ที่เรียกว่า “MSC EvilTwin” เพื่อเจาะระบบองค์กรที่มีมูลค่าสูง วิธีการคือหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลดไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วเป็น payload ที่ฝังโค้ดอันตราย เมื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกใช้ช่องโหว่เพื่อรัน PowerShell ลับและติดตั้งมัลแวร์ต่อเนื่อง เป้าหมายของกลุ่มนี้คือการขโมยข้อมูลเชิงกลยุทธ์และสร้างช่องทางเข้าถึงระบบอย่างยาวนาน 🔗 https://securityonline.info/water-gamayun-weaponizes-msc-eviltwin-zero-day-for-stealthy-backdoor-attacks 🎮 Fragging Your Data: มัลแวร์ปลอมตัวเป็น Crack และ Trainer ของ Battlefield 6 การเปิดตัวเกม Battlefield 6 กลายเป็นโอกาสทองของอาชญากรไซเบอร์ พวกเขาปล่อยไฟล์ “Crack” และ “Trainer” ปลอมบนเว็บแชร์ไฟล์และฟอรั่มใต้ดิน โดยอ้างว่าเป็นผลงานของกลุ่มแคร็กชื่อดัง แต่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ที่ออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลผู้ใช้ เช่น กระเป๋าเงินคริปโต คุกกี้เบราว์เซอร์ และโทเคน Discord บางเวอร์ชันยังซ่อนตัวเก่ง ตรวจสอบสภาพแวดล้อมก่อนทำงาน และบางตัวทำหน้าที่เป็น backdoor ที่เปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยเตือนว่าผู้เล่นที่ดาวน์โหลดไฟล์เหล่านี้ควรรีบสแกนเครื่องและเปลี่ยนรหัสผ่านทันที 🔗 https://securityonline.info/fragging-your-data-fake-battlefield-6-cracks-trainers-spread-infostealers 🎨 Hidden Danger in 3D: ไฟล์ Blender ปลอมแพร่กระจาย StealC V2 Infostealer วงการนักออกแบบ 3D และเกมถูกโจมตีด้วยวิธีใหม่ แฮกเกอร์ปล่อยไฟล์โมเดล 3D ที่ดูเหมือนงานจริง เช่น โมเดลชุดอวกาศ Apollo 11 แต่ภายในฝังสคริปต์ Python อันตราย เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ใน Blender และเปิดใช้งาน Auto Run Python Scripts มัลแวร์จะทำงานทันทีโดยไม่รู้ตัว จากนั้นจะดาวน์โหลด payload ต่อเนื่องและติดตั้ง StealC V2 ซึ่งเป็น infostealer ที่สามารถดูดข้อมูลจากเบราว์เซอร์ กระเป๋าเงินคริปโต และแอปต่าง ๆ เช่น Discord หรือ Telegram จุดอันตรายคือไฟล์เหล่านี้ตรวจจับได้ยากมากในระบบป้องกันทั่วไป ทำให้ผู้ใช้ต้องระวังเป็นพิเศษ 🔗 https://securityonline.info/hidden-danger-in-3d-malicious-blender-files-unleash-stealc-v2-infostealer 📺 Zero-Day Warning: ช่องโหว่ Twonky Server เปิดทางยึดระบบสื่อ มีการค้นพบช่องโหว่ใหม่ใน Twonky Server ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับสตรีมสื่อในบ้านและองค์กร ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมระบบได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องมีสิทธิ์พิเศษ เมื่อผู้ใช้เปิดใช้งานเซิร์ฟเวอร์ที่ยังไม่ได้แพตช์ แฮกเกอร์สามารถส่งคำสั่งจากระยะไกลเพื่อเข้าถึงไฟล์สื่อและแม้กระทั่งติดตั้งมัลแวร์เพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลและความเป็นส่วนตัวอย่างมาก 🔗 https://securityonline.info/zero-day-warning-unpatched-twonky-server-flaws-expose-media-to-total-takeover 🕶️ UNMASKED: การรั่วไหลครั้งใหญ่เปิดโปงหน่วยไซเบอร์ “Department 40” ของอิหร่าน มีการเปิดเผยข้อมูลครั้งใหญ่ที่แสดงให้เห็นการทำงานของหน่วยไซเบอร์ลับในอิหร่านที่ชื่อว่า Department 40 ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์ระดับโลก เอกสารที่รั่วไหลออกมาเผยให้เห็นโครงสร้างการทำงาน วิธีการโจมตี และเป้าหมายที่พวกเขาใช้ รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือที่ซับซ้อนเพื่อเจาะระบบขององค์กรและรัฐบาลต่างประเทศ การเปิดโปงครั้งนี้ทำให้หลายประเทศเริ่มตรวจสอบและเพิ่มมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/unmasked-massive-leak-exposes-irans-department-40-cyber-terror-unit ⚠️ Angular Alert: ช่องโหว่ Protocol-Relative URLs ทำให้ XSRF Tokens รั่วไหล นักวิจัยพบว่าการใช้ URL แบบ protocol-relative ใน Angular สามารถทำให้โทเคน XSRF รั่วไหลไปยังโดเมนที่ไม่ปลอดภัยได้ ช่องโหว่นี้อาจถูกใช้เพื่อขโมย session และเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ปัญหานี้เกิดจากการที่เฟรมเวิร์กไม่ได้ตรวจสอบเส้นทาง URL อย่างเข้มงวดพอ ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างลิงก์ที่ดูเหมือนปลอดภัยแต่จริง ๆ แล้วส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมโดยแฮกเกอร์ 🔗 https://securityonline.info/angular-alert-protocol-relative-urls-leak-xsrf-tokens-cve-2025-66035 🛍️ Holiday Heist: ร้านค้าออนไลน์ปลอมกว่า 200,000 แห่งโจมตี Black Friday ในช่วง Black Friday มีการตรวจพบร้านค้าออนไลน์ปลอมกว่า 200,000 แห่งที่เลียนแบบ Amazon และแพลตฟอร์มช้อปปิ้งชื่อดังอื่น ๆ เว็บไซต์เหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อหลอกให้ผู้ซื้อกรอกข้อมูลบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว โดยใช้ดีไซน์และโลโก้ที่เหมือนจริงมาก ผู้ใช้ที่ไม่ทันระวังอาจสูญเสียเงินและข้อมูลไปโดยไม่รู้ตัว นักวิจัยเตือนว่าควรตรวจสอบ URL และรีวิวร้านค้าให้ละเอียดก่อนทำการซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลลดราคา 🔗 https://securityonline.info/holiday-heist-200000-fake-shops-amazon-clones-target-black-friday 🛡️ Security Alert: ช่องโหว่ Stored XSS ใน Apache SkyWalking Apache SkyWalking ซึ่งเป็นระบบ APM ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการตรวจสอบและติดตามระบบแบบ distributed พบช่องโหว่ Stored XSS ที่อันตรายมาก เพราะโค้ดอันตรายจะถูกบันทึกถาวรในเซิร์ฟเวอร์และทำงานทุกครั้งที่ผู้ดูแลเปิดหน้า dashboard ช่องโหว่นี้สามารถถูกใช้เพื่อขโมย session cookies, redirect ผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์อันตราย หรือแม้กระทั่งแก้ไขข้อมูลการแสดงผลเพื่อปกปิดกิจกรรมที่ผิดปกติ ทีมงาน Apache ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 10.3.0 และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที 🔗 https://securityonline.info/security-alert-apache-skywalking-stored-xss-vulnerability-cve-2025-54057
    0 Comments 0 Shares 7 Views 0 Reviews
  • โลก AI กำลังเปลี่ยนจาก “ยุคการขยายขนาด (scaling)” ไปสู่ “ยุคการวิจัย (research)”

    บทสัมภาษณ์ Ilya Sutskever กับ Dwarkesh Patel เน้นว่าโลก AI กำลังเปลี่ยนจาก “ยุคการขยายขนาด (scaling)” ไปสู่ “ยุคการวิจัย (research)” โดยชี้ให้เห็นข้อจำกัดของการพึ่งพา pre-training และ scaling อย่างเดียว พร้อมเสนอว่าความท้าทายใหญ่คือการทำให้โมเดลทั่วไป (generalization) ได้ดีเหมือนมนุษย์.

    จากยุค Scaling สู่ยุค Research
    Ilya อธิบายว่าในช่วงปี 2012–2020 เป็นยุคของการวิจัย แต่หลังจากนั้นโลก AI เข้าสู่ยุค scaling ที่ทุกบริษัทพยายามเพิ่มขนาดโมเดลและข้อมูลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่าการขยายขนาดเพียงอย่างเดียวไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพได้อีกต่อไป และตอนนี้เรากำลังกลับเข้าสู่ ยุคการวิจัยที่แท้จริง โดยมีคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่เป็นเครื่องมือ.

    ปัญหาการเรียนรู้และการทั่วไป
    เขาเน้นว่า โมเดล AI ยัง generalize ได้แย่กว่ามนุษย์อย่างชัดเจน แม้จะทำคะแนนสูงใน benchmark หรือ evals แต่กลับล้มเหลวในงานจริง เช่น การแก้บั๊กที่วนกลับไปมาระหว่างข้อผิดพลาดเดิมและใหม่ ซึ่งสะท้อนว่าการเรียนรู้ของโมเดลยังไม่ยืดหยุ่นเหมือนมนุษย์ที่สามารถเรียนรู้จากประสบการณ์น้อยๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

    Analogies และ Value Functions
    Ilya ใช้ตัวอย่างนักเรียนแข่งขันเขียนโปรแกรม: คนที่ฝึกหนัก 10,000 ชั่วโมงอาจเก่งเฉพาะการแข่งขัน แต่ไม่ generalize ไปสู่งานจริงได้ดี ขณะที่คนที่ฝึกเพียง 100 ชั่วโมงแต่มี “it factor” กลับทำงานได้ดีกว่าในระยะยาว เขาเชื่อว่ามนุษย์มี value function ที่แข็งแรงและถูกขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ ซึ่งช่วยให้เราตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ AI ยังขาดสิ่งนี้.

    ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม
    แม้โมเดลจะทำงานได้ดีในเชิงเทคนิค แต่ผลกระทบทางเศรษฐกิจยังไม่ตามทัน เขาเชื่อว่า AI จะค่อยๆ กระจายเข้าสู่เศรษฐกิจและสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อการเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งสำคัญคือการวิจัยเพื่อหาวิธีทำให้โมเดลเรียนรู้และทั่วไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การพัฒนา AGI เป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อมนุษย์.

    สรุปสาระสำคัญ
    ยุคใหม่ของ AI
    จากการขยายขนาด (scaling) สู่การวิจัย (research)

    ข้อจำกัดของโมเดลปัจจุบัน
    ทำคะแนนสูงใน benchmark แต่ generalize ได้แย่ในงานจริง

    บทเรียนจากมนุษย์
    มนุษย์เรียนรู้จากข้อมูลน้อยๆ ได้ดีกว่า เพราะมี value function และอารมณ์

    ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
    AI จะกระจายเข้าสู่เศรษฐกิจ แต่ต้องแก้ปัญหาการทั่วไปก่อน

    ความเสี่ยงจากการพึ่ง scaling อย่างเดียว
    ไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพได้ และอาจทำให้เข้าใจผิดว่าบรรลุ AGI แล้ว

    https://www.dwarkesh.com/p/ilya-sutskever-2
    🌐 โลก AI กำลังเปลี่ยนจาก “ยุคการขยายขนาด (scaling)” ไปสู่ “ยุคการวิจัย (research)” บทสัมภาษณ์ Ilya Sutskever กับ Dwarkesh Patel เน้นว่าโลก AI กำลังเปลี่ยนจาก “ยุคการขยายขนาด (scaling)” ไปสู่ “ยุคการวิจัย (research)” โดยชี้ให้เห็นข้อจำกัดของการพึ่งพา pre-training และ scaling อย่างเดียว พร้อมเสนอว่าความท้าทายใหญ่คือการทำให้โมเดลทั่วไป (generalization) ได้ดีเหมือนมนุษย์. 🔄 จากยุค Scaling สู่ยุค Research Ilya อธิบายว่าในช่วงปี 2012–2020 เป็นยุคของการวิจัย แต่หลังจากนั้นโลก AI เข้าสู่ยุค scaling ที่ทุกบริษัทพยายามเพิ่มขนาดโมเดลและข้อมูลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่าการขยายขนาดเพียงอย่างเดียวไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพได้อีกต่อไป และตอนนี้เรากำลังกลับเข้าสู่ ยุคการวิจัยที่แท้จริง โดยมีคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่เป็นเครื่องมือ. 🧠 ปัญหาการเรียนรู้และการทั่วไป เขาเน้นว่า โมเดล AI ยัง generalize ได้แย่กว่ามนุษย์อย่างชัดเจน แม้จะทำคะแนนสูงใน benchmark หรือ evals แต่กลับล้มเหลวในงานจริง เช่น การแก้บั๊กที่วนกลับไปมาระหว่างข้อผิดพลาดเดิมและใหม่ ซึ่งสะท้อนว่าการเรียนรู้ของโมเดลยังไม่ยืดหยุ่นเหมือนมนุษย์ที่สามารถเรียนรู้จากประสบการณ์น้อยๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ. 💡 Analogies และ Value Functions Ilya ใช้ตัวอย่างนักเรียนแข่งขันเขียนโปรแกรม: คนที่ฝึกหนัก 10,000 ชั่วโมงอาจเก่งเฉพาะการแข่งขัน แต่ไม่ generalize ไปสู่งานจริงได้ดี ขณะที่คนที่ฝึกเพียง 100 ชั่วโมงแต่มี “it factor” กลับทำงานได้ดีกว่าในระยะยาว เขาเชื่อว่ามนุษย์มี value function ที่แข็งแรงและถูกขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ ซึ่งช่วยให้เราตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ AI ยังขาดสิ่งนี้. 🌍 ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม แม้โมเดลจะทำงานได้ดีในเชิงเทคนิค แต่ผลกระทบทางเศรษฐกิจยังไม่ตามทัน เขาเชื่อว่า AI จะค่อยๆ กระจายเข้าสู่เศรษฐกิจและสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อการเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งสำคัญคือการวิจัยเพื่อหาวิธีทำให้โมเดลเรียนรู้และทั่วไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การพัฒนา AGI เป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อมนุษย์. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ยุคใหม่ของ AI ➡️ จากการขยายขนาด (scaling) สู่การวิจัย (research) ✅ ข้อจำกัดของโมเดลปัจจุบัน ➡️ ทำคะแนนสูงใน benchmark แต่ generalize ได้แย่ในงานจริง ✅ บทเรียนจากมนุษย์ ➡️ มนุษย์เรียนรู้จากข้อมูลน้อยๆ ได้ดีกว่า เพราะมี value function และอารมณ์ ✅ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ➡️ AI จะกระจายเข้าสู่เศรษฐกิจ แต่ต้องแก้ปัญหาการทั่วไปก่อน ‼️ ความเสี่ยงจากการพึ่ง scaling อย่างเดียว ⛔ ไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพได้ และอาจทำให้เข้าใจผิดว่าบรรลุ AGI แล้ว https://www.dwarkesh.com/p/ilya-sutskever-2
    0 Comments 0 Shares 8 Views 0 Reviews
  • AI กับการลดคุณค่าของงานฝีมือ

    บทความนี้สะท้อนมุมมองเชิงวิพากษ์ต่อการใช้ AI โดยผู้เขียนมองว่าไม่สำคัญว่า AI จะทำงานได้ดีแค่ไหน เพราะปัญหาที่แท้จริงคือผลกระทบต่อมนุษย์ ทั้งการลดคุณค่าของงานฝีมือ การควบคุมทางสังคม และการรวมศูนย์อำนาจของทุนและเทคโนโลยี

    ผู้เขียนเล่าว่ามีเพื่อนโปรแกรมเมอร์ที่เคยมีฝีมือ แต่กลับติดอยู่ในวงจรการใช้เครื่องมือ AI อย่าง Cursor จนเหมือนสูญเสียความหมายของการทำงานเอง ภาพนี้สะท้อนการ devaluation ของงานฝีมือ ที่ไม่ใช่การหายไป แต่ถูกบังคับให้ทำหน้าที่แก้ไขสิ่งที่เครื่องจักรทำผิดพลาด ซึ่งคล้ายกับสิ่งที่นักออกแบบ นักเขียน และช่างฝีมือเคยเผชิญมาก่อน.

    การบังคับใช้และความไม่เท่าเทียม
    แม้บางคนเลือกที่จะไม่ใช้ AI แต่ผู้เขียนชี้ว่า หลายคนถูกบังคับให้ใช้ ไม่ว่าจะด้วยแรงกดดันจากองค์กร รูปแบบ UI ที่บีบให้ต้องพึ่งพา หรือแม้แต่การปนเปื้อนของความรู้ที่ทำให้การเรียนรู้แบบดั้งเดิมยากขึ้น การไม่ใช้ AI กลายเป็น ข้อเสียเปรียบเชิงโครงสร้าง ในโรงเรียน มหาวิทยาลัย และที่ทำงาน.

    AI กับการควบคุมและอำนาจ
    บทความยังวิจารณ์ว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือ แต่เป็น โครงสร้างพื้นฐานที่เสริมอำนาจให้ทุนและระบบการเมืองแบบกดขี่ การใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาลไม่ใช่ผลข้างเคียง แต่เป็นเจตนา เพื่อทำลายงานฝีมือและการแสดงออกของมนุษย์ แล้วแทนที่ด้วยระบบที่รวมศูนย์อำนาจไว้กับผู้ควบคุมเทคโนโลยี.

    ทางเลือกและการต่อต้าน
    แม้สถานการณ์จะดูสิ้นหวัง ผู้เขียนเสนอแนวทางเล็กๆ ที่ยังทำได้ เช่น การดูแลคนรอบตัว การรวมกลุ่มในสหภาพแรงงาน การลดเวลาอยู่บนโซเชียลมีเดีย และการสร้างสิ่งใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน สิ่งเหล่านี้คือการต่อต้านเชิงสัญลักษณ์ ที่ช่วยให้มนุษย์ยังคงรักษาความเป็นตัวเองท่ามกลางโลกที่ถูกครอบงำด้วย AI และทุน.

    สรุปสาระสำคัญ
    AI ลดคุณค่าของงานฝีมือ
    งานมนุษย์ถูกบังคับให้แก้ไขสิ่งที่เครื่องจักรทำผิด

    แรงกดดันให้ใช้ AI
    UI, องค์กร และการเรียนรู้ที่ถูกปนเปื้อนทำให้การไม่ใช้ AI เป็นข้อเสียเปรียบ

    AI เป็นโครงสร้างอำนาจ
    ใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาลเพื่อรวมศูนย์อำนาจและทำลายการแสดงออกของมนุษย์

    แนวทางการต่อต้าน
    ดูแลคนรอบตัว, รวมกลุ่มแรงงาน, ลดโซเชียล, สร้างสิ่งใหม่

    ความเสี่ยงจากการพึ่งพา AI
    สูญเสียความหมายของงาน, เกิดวิกฤติอัตลักษณ์, ถูกควบคุมโดยทุนและเทคโนโลยี

    https://fokus.cool/2025/11/25/i-dont-care-how-well-your-ai-works.html
    🧩 AI กับการลดคุณค่าของงานฝีมือ บทความนี้สะท้อนมุมมองเชิงวิพากษ์ต่อการใช้ AI โดยผู้เขียนมองว่าไม่สำคัญว่า AI จะทำงานได้ดีแค่ไหน เพราะปัญหาที่แท้จริงคือผลกระทบต่อมนุษย์ ทั้งการลดคุณค่าของงานฝีมือ การควบคุมทางสังคม และการรวมศูนย์อำนาจของทุนและเทคโนโลยี ผู้เขียนเล่าว่ามีเพื่อนโปรแกรมเมอร์ที่เคยมีฝีมือ แต่กลับติดอยู่ในวงจรการใช้เครื่องมือ AI อย่าง Cursor จนเหมือนสูญเสียความหมายของการทำงานเอง ภาพนี้สะท้อนการ devaluation ของงานฝีมือ ที่ไม่ใช่การหายไป แต่ถูกบังคับให้ทำหน้าที่แก้ไขสิ่งที่เครื่องจักรทำผิดพลาด ซึ่งคล้ายกับสิ่งที่นักออกแบบ นักเขียน และช่างฝีมือเคยเผชิญมาก่อน. ⚖️ การบังคับใช้และความไม่เท่าเทียม แม้บางคนเลือกที่จะไม่ใช้ AI แต่ผู้เขียนชี้ว่า หลายคนถูกบังคับให้ใช้ ไม่ว่าจะด้วยแรงกดดันจากองค์กร รูปแบบ UI ที่บีบให้ต้องพึ่งพา หรือแม้แต่การปนเปื้อนของความรู้ที่ทำให้การเรียนรู้แบบดั้งเดิมยากขึ้น การไม่ใช้ AI กลายเป็น ข้อเสียเปรียบเชิงโครงสร้าง ในโรงเรียน มหาวิทยาลัย และที่ทำงาน. 🔒 AI กับการควบคุมและอำนาจ บทความยังวิจารณ์ว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือ แต่เป็น โครงสร้างพื้นฐานที่เสริมอำนาจให้ทุนและระบบการเมืองแบบกดขี่ การใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาลไม่ใช่ผลข้างเคียง แต่เป็นเจตนา เพื่อทำลายงานฝีมือและการแสดงออกของมนุษย์ แล้วแทนที่ด้วยระบบที่รวมศูนย์อำนาจไว้กับผู้ควบคุมเทคโนโลยี. 🌱 ทางเลือกและการต่อต้าน แม้สถานการณ์จะดูสิ้นหวัง ผู้เขียนเสนอแนวทางเล็กๆ ที่ยังทำได้ เช่น การดูแลคนรอบตัว การรวมกลุ่มในสหภาพแรงงาน การลดเวลาอยู่บนโซเชียลมีเดีย และการสร้างสิ่งใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน สิ่งเหล่านี้คือการต่อต้านเชิงสัญลักษณ์ ที่ช่วยให้มนุษย์ยังคงรักษาความเป็นตัวเองท่ามกลางโลกที่ถูกครอบงำด้วย AI และทุน. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ AI ลดคุณค่าของงานฝีมือ ➡️ งานมนุษย์ถูกบังคับให้แก้ไขสิ่งที่เครื่องจักรทำผิด ✅ แรงกดดันให้ใช้ AI ➡️ UI, องค์กร และการเรียนรู้ที่ถูกปนเปื้อนทำให้การไม่ใช้ AI เป็นข้อเสียเปรียบ ✅ AI เป็นโครงสร้างอำนาจ ➡️ ใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาลเพื่อรวมศูนย์อำนาจและทำลายการแสดงออกของมนุษย์ ✅ แนวทางการต่อต้าน ➡️ ดูแลคนรอบตัว, รวมกลุ่มแรงงาน, ลดโซเชียล, สร้างสิ่งใหม่ ‼️ ความเสี่ยงจากการพึ่งพา AI ⛔ สูญเสียความหมายของงาน, เกิดวิกฤติอัตลักษณ์, ถูกควบคุมโดยทุนและเทคโนโลยี https://fokus.cool/2025/11/25/i-dont-care-how-well-your-ai-works.html
    0 Comments 0 Shares 11 Views 0 Reviews
  • จาก GPT-3 สู่ Gemini 3: สามปีแห่งการเปลี่ยนโลก AI

    บทความโดย Ethan Mollick เล่าถึงการเดินทางของ AI ตั้งแต่การเปิดตัว ChatGPT ที่ใช้ GPT-3.5 จนถึงการมาถึงของ Gemini 3 ของ Google ในปี 2025 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภายในเวลาไม่ถึง 1,000 วัน AI ได้ก้าวกระโดดจากการสร้างบทกวีง่าย ๆ ไปสู่การทำงานในระดับ “ผู้ช่วยดิจิทัล” ที่สามารถเขียนโค้ด ออกแบบอินเทอร์เฟซ และสร้างเกมเล็ก ๆ ได้เอง

    จาก Chatbot สู่ Digital Coworker
    Mollick ทดลองให้ Gemini 3 ทำงานจริง เช่น สร้างเว็บไซต์ที่รวบรวมคำทำนายเก่า ๆ ของเขา โดย AI สามารถอ่านไฟล์จำนวนมาก วางแผนการทำงาน ทำการค้นคว้า และสร้างผลลัพธ์ที่ใช้งานได้จริง พร้อมตรวจสอบกับผู้ใช้เป็นระยะ ๆ สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลัง “จัดการทีมงาน” มากกว่าการพิมพ์คำสั่งให้ chatbot ตอบ

    ระดับปัญญาเทียบเท่านักศึกษาปริญญาเอก
    Gemini 3 ยังถูกทดสอบด้วยงานวิจัยจริง โดย Mollick ให้มันทำการวิเคราะห์ข้อมูลเก่าและเขียนบทความวิชาการ ผลลัพธ์คือเอกสาร 14 หน้า ที่มีการตั้งสมมติฐานใหม่ วิเคราะห์เชิงสถิติ และสร้างมาตรวัดใหม่ ๆ แม้ยังมีข้อบกพร่อง แต่ก็ใกล้เคียงกับการทำงานของนักศึกษาปริญญาเอกที่ต้องการการชี้แนะจากอาจารย์

    ความหมายต่ออนาคตการทำงาน
    Mollick สรุปว่าเรากำลังเข้าสู่ยุคที่ AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็น “เพื่อนร่วมงานดิจิทัล” ที่ต้องการการกำกับดูแลเหมือนทีมงานจริง ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเป็นจุดพลิกผันครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่การเปิดตัว ChatGPT และจะส่งผลต่อวิธีการทำงาน การเรียนรู้ และการจัดการองค์กรในอนาคต

    สรุปสาระสำคัญ
    การพัฒนา AI ภายใน 3 ปี
    จากการเขียนบทกวีง่าย ๆ ไปสู่การสร้างเกมและเว็บไซต์

    ความสามารถของ Gemini 3
    ทำงานเชิงรุก วางแผน และตรวจสอบกับผู้ใช้

    การทดสอบระดับวิชาการ
    เขียนบทความวิจัย 14 หน้า พร้อมการวิเคราะห์เชิงสถิติ

    ความหมายต่ออนาคต
    AI กำลังกลายเป็น “เพื่อนร่วมงานดิจิทัล”

    คำเตือนจาก Mollick
    AI ยังต้องการการกำกับดูแล ไม่สามารถทำงานได้สมบูรณ์เอง

    ความเสี่ยงต่อการใช้งานจริง
    หากไม่มีการตรวจสอบ อาจเกิดข้อผิดพลาดเชิงวิชาการหรือการตีความ

    https://www.oneusefulthing.org/p/three-years-from-gpt-3-to-gemini
    🚀 จาก GPT-3 สู่ Gemini 3: สามปีแห่งการเปลี่ยนโลก AI บทความโดย Ethan Mollick เล่าถึงการเดินทางของ AI ตั้งแต่การเปิดตัว ChatGPT ที่ใช้ GPT-3.5 จนถึงการมาถึงของ Gemini 3 ของ Google ในปี 2025 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภายในเวลาไม่ถึง 1,000 วัน AI ได้ก้าวกระโดดจากการสร้างบทกวีง่าย ๆ ไปสู่การทำงานในระดับ “ผู้ช่วยดิจิทัล” ที่สามารถเขียนโค้ด ออกแบบอินเทอร์เฟซ และสร้างเกมเล็ก ๆ ได้เอง 🛠️ จาก Chatbot สู่ Digital Coworker Mollick ทดลองให้ Gemini 3 ทำงานจริง เช่น สร้างเว็บไซต์ที่รวบรวมคำทำนายเก่า ๆ ของเขา โดย AI สามารถอ่านไฟล์จำนวนมาก วางแผนการทำงาน ทำการค้นคว้า และสร้างผลลัพธ์ที่ใช้งานได้จริง พร้อมตรวจสอบกับผู้ใช้เป็นระยะ ๆ สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลัง “จัดการทีมงาน” มากกว่าการพิมพ์คำสั่งให้ chatbot ตอบ 🎓 ระดับปัญญาเทียบเท่านักศึกษาปริญญาเอก Gemini 3 ยังถูกทดสอบด้วยงานวิจัยจริง โดย Mollick ให้มันทำการวิเคราะห์ข้อมูลเก่าและเขียนบทความวิชาการ ผลลัพธ์คือเอกสาร 14 หน้า ที่มีการตั้งสมมติฐานใหม่ วิเคราะห์เชิงสถิติ และสร้างมาตรวัดใหม่ ๆ แม้ยังมีข้อบกพร่อง แต่ก็ใกล้เคียงกับการทำงานของนักศึกษาปริญญาเอกที่ต้องการการชี้แนะจากอาจารย์ 🌍 ความหมายต่ออนาคตการทำงาน Mollick สรุปว่าเรากำลังเข้าสู่ยุคที่ AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็น “เพื่อนร่วมงานดิจิทัล” ที่ต้องการการกำกับดูแลเหมือนทีมงานจริง ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเป็นจุดพลิกผันครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่การเปิดตัว ChatGPT และจะส่งผลต่อวิธีการทำงาน การเรียนรู้ และการจัดการองค์กรในอนาคต 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การพัฒนา AI ภายใน 3 ปี ➡️ จากการเขียนบทกวีง่าย ๆ ไปสู่การสร้างเกมและเว็บไซต์ ✅ ความสามารถของ Gemini 3 ➡️ ทำงานเชิงรุก วางแผน และตรวจสอบกับผู้ใช้ ✅ การทดสอบระดับวิชาการ ➡️ เขียนบทความวิจัย 14 หน้า พร้อมการวิเคราะห์เชิงสถิติ ✅ ความหมายต่ออนาคต ➡️ AI กำลังกลายเป็น “เพื่อนร่วมงานดิจิทัล” ‼️ คำเตือนจาก Mollick ⛔ AI ยังต้องการการกำกับดูแล ไม่สามารถทำงานได้สมบูรณ์เอง ‼️ ความเสี่ยงต่อการใช้งานจริง ⛔ หากไม่มีการตรวจสอบ อาจเกิดข้อผิดพลาดเชิงวิชาการหรือการตีความ https://www.oneusefulthing.org/p/three-years-from-gpt-3-to-gemini
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • Andrej Karpathy เตือน: การบ้านยุค AI ตรวจจับไม่ได้

    Andrej Karpathy อดีตหัวหน้าทีม AI ของ Tesla และ OpenAI ได้โพสต์บน X ถึงผลกระทบของ AI ต่อการศึกษา โดยเขาย้ำว่า “คุณไม่มีวันตรวจจับได้ว่าการบ้านใช้ AI ทำหรือไม่” เครื่องมือที่อ้างว่าเป็นตัวตรวจจับ AI ล้วนสามารถถูกหลอกได้ และในหลักการแล้ว doomed to fail ทำให้ครูและโรงเรียนต้องปรับวิธีการประเมินใหม่

    การปรับรูปแบบการเรียนการสอน
    Karpathy เสนอว่า การบ้านที่ทำที่บ้านควรถือว่าใช้ AI เป็นส่วนหนึ่งเสมอ ดังนั้นการประเมินผลควรย้ายเข้าสู่การทำงานในห้องเรียนที่ครูสามารถควบคุมและสังเกตได้โดยตรง นักเรียนยังคงมีแรงจูงใจที่จะเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เพราะรู้ว่าการสอบจริงจะไม่สามารถใช้ AI ได้

    บทเรียนจากเครื่องคิดเลข
    เขาเปรียบเทียบ AI กับเครื่องคิดเลขในอดีต โรงเรียนยังคงสอนการคำนวณพื้นฐานแม้เครื่องคิดเลขจะมีอยู่ทั่วไป เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจหลักการและสามารถตรวจสอบผลลัพธ์ได้เอง เช่นเดียวกับ AI ที่แม้จะทรงพลัง แต่ก็ผิดพลาดได้ง่าย การมีทักษะตรวจสอบและเข้าใจสิ่งที่ AI สร้างขึ้นจึงสำคัญมาก

    เป้าหมายการศึกษาในยุค AI
    Karpathy สรุปว่าเป้าหมายไม่ใช่การห้ามใช้ AI แต่คือการทำให้นักเรียน “มีความสามารถใช้ AI ได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ก็สามารถอยู่รอดได้โดยไม่ต้องพึ่งมัน” ซึ่งหมายถึงการออกแบบการเรียนการสอนใหม่ให้สมดุลระหว่างการใช้เครื่องมือและการสร้างทักษะพื้นฐาน

    สรุปสาระสำคัญ

    AI เปลี่ยนวิธีการบ้านและการสอบ
    การบ้านที่ทำที่บ้านควรถือว่าใช้ AI เสมอ

    แนวทางใหม่ในการประเมินผล
    ย้ายการสอบและการบ้านเข้าสู่ห้องเรียนที่ครูควบคุมได้

    บทเรียนจากเครื่องคิดเลข
    ต้องสอนพื้นฐานเพื่อให้ผู้เรียนตรวจสอบผลลัพธ์ได้เอง

    เป้าหมายการศึกษา
    นักเรียนต้องใช้ AI ได้คล่อง แต่ยังอยู่รอดได้หากไม่มีมัน

    คำเตือนจาก Karpathy
    เครื่องมือตรวจจับ AI ล้วนล้มเหลวและไม่ควรพึ่งพา

    ความเสี่ยงต่อการเรียนรู้
    หากพึ่ง AI อย่างเดียว นักเรียนอาจขาดทักษะพื้นฐานที่จำเป็น

    https://x.com/karpathy/status/1993010584175141038
    🏫 Andrej Karpathy เตือน: การบ้านยุค AI ตรวจจับไม่ได้ Andrej Karpathy อดีตหัวหน้าทีม AI ของ Tesla และ OpenAI ได้โพสต์บน X ถึงผลกระทบของ AI ต่อการศึกษา โดยเขาย้ำว่า “คุณไม่มีวันตรวจจับได้ว่าการบ้านใช้ AI ทำหรือไม่” เครื่องมือที่อ้างว่าเป็นตัวตรวจจับ AI ล้วนสามารถถูกหลอกได้ และในหลักการแล้ว doomed to fail ทำให้ครูและโรงเรียนต้องปรับวิธีการประเมินใหม่ 📚 การปรับรูปแบบการเรียนการสอน Karpathy เสนอว่า การบ้านที่ทำที่บ้านควรถือว่าใช้ AI เป็นส่วนหนึ่งเสมอ ดังนั้นการประเมินผลควรย้ายเข้าสู่การทำงานในห้องเรียนที่ครูสามารถควบคุมและสังเกตได้โดยตรง นักเรียนยังคงมีแรงจูงใจที่จะเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เพราะรู้ว่าการสอบจริงจะไม่สามารถใช้ AI ได้ 🔢 บทเรียนจากเครื่องคิดเลข เขาเปรียบเทียบ AI กับเครื่องคิดเลขในอดีต โรงเรียนยังคงสอนการคำนวณพื้นฐานแม้เครื่องคิดเลขจะมีอยู่ทั่วไป เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจหลักการและสามารถตรวจสอบผลลัพธ์ได้เอง เช่นเดียวกับ AI ที่แม้จะทรงพลัง แต่ก็ผิดพลาดได้ง่าย การมีทักษะตรวจสอบและเข้าใจสิ่งที่ AI สร้างขึ้นจึงสำคัญมาก 🎓 เป้าหมายการศึกษาในยุค AI Karpathy สรุปว่าเป้าหมายไม่ใช่การห้ามใช้ AI แต่คือการทำให้นักเรียน “มีความสามารถใช้ AI ได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ก็สามารถอยู่รอดได้โดยไม่ต้องพึ่งมัน” ซึ่งหมายถึงการออกแบบการเรียนการสอนใหม่ให้สมดุลระหว่างการใช้เครื่องมือและการสร้างทักษะพื้นฐาน 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ AI เปลี่ยนวิธีการบ้านและการสอบ ➡️ การบ้านที่ทำที่บ้านควรถือว่าใช้ AI เสมอ ✅ แนวทางใหม่ในการประเมินผล ➡️ ย้ายการสอบและการบ้านเข้าสู่ห้องเรียนที่ครูควบคุมได้ ✅ บทเรียนจากเครื่องคิดเลข ➡️ ต้องสอนพื้นฐานเพื่อให้ผู้เรียนตรวจสอบผลลัพธ์ได้เอง ✅ เป้าหมายการศึกษา ➡️ นักเรียนต้องใช้ AI ได้คล่อง แต่ยังอยู่รอดได้หากไม่มีมัน ‼️ คำเตือนจาก Karpathy ⛔ เครื่องมือตรวจจับ AI ล้วนล้มเหลวและไม่ควรพึ่งพา ‼️ ความเสี่ยงต่อการเรียนรู้ ⛔ หากพึ่ง AI อย่างเดียว นักเรียนอาจขาดทักษะพื้นฐานที่จำเป็น https://x.com/karpathy/status/1993010584175141038
    0 Comments 0 Shares 71 Views 0 Reviews
  • O.P.K.
    เจาะลึก "ครุฑพาหนะเทพบุตร" : ทวารบาลแห่งธรรมะข้ามกาลเวลา

    ต้นกำเนิดแห่งสวรรค์และมนุษย์

    การถือกำเนิดในคัมภีร์วิษณุปุราณะ

    ชื่อเต็ม: ครุฑพาหนะเทพบุตร
    ชื่อหมายถึง:"ผู้เป็นพาหนะแห่งเทวบุตร"
    อายุ:5,000 ปี (ร่างกาย), เป็นอมตะ (จิตวิญญาณ)
    สถานะ:ทวารบาลระดับสูงในพุทธศาสนา

    ```mermaid
    graph TB
    A[พระวิษณุ<br>ผู้สร้างจักรวาล] --> B[ประทานชีวิต<br>ให้ครุฑ]
    C[นางวินตา<br>มารดาแห่งนก] --> B
    B --> D[ครุฑพาหนะ<br>เทพบุตร]
    D --> E[ถวายตัว<br>เป็นพุทธบูชา]
    E --> F[ได้รับตำแหน่ง<br>ทวารบาลแห่งธรรมะ]
    ```

    ลักษณะทางกายภาพอันโอฬาร

    · ปีก: กว้าง 1 กิโลเมตร เมื่อกางเต็มที่ สีทองอร่ามดุจดวงอาทิตย์
    · ร่างกาย: ครึ่งนกครึ่งมนุษย์ ใบหน้าเป็นเทวบุตรรูปงาม
    · ดวงตา: สีทองเรืองรอง มองเห็นได้ทั้งสามโลก
    · เกราะ: ทำจากวัชรธาตุ engraved ด้วยมนตร์พุทธะ
    · อาวุธ: คทาพระธรรมที่สร้างจากแสงแห่งปัญญา

    พลังพิเศษแห่งทวารบาล

    พุทธานุภาพระดับสูง

    ```python
    class GarudaPowers:
    def __init__(self):
    self.divine_abilities = {
    "dimensional_flight": "บินข้ามมิติและกาลเวลาได้",
    "truth_vision": "มองเห็นสัจธรรมและจิตใจสรรพชีวิต",
    "dharma_protection": "สร้างเขตคุ้มครองด้วยพุทธานุภาพ",
    "blessing_granting": "ประทานพรแก่ผู้มีศรัทธา"
    }

    self.combat_powers = {
    "wisdom_lightning": "สายฟ้าแห่งปัญญาที่ทำลายอวิชชา",
    "compassion_shield": "เกราะแห่งเมตตาที่กันภัยทั้งปวง",
    "karma_manipulation": "ปรับสมดุลแห่งกรรมในระดับหนึ่ง",
    "illusion_dispel": "ทำลายมายาทุกประเภท"
    }

    self.healing_abilities = {
    "soul_restoration": "ฟื้นฟูจิตวิญญาณที่บาดเจ็บ",
    "karmic_cleansing": "ชำระกรรมเบาบาง",
    "blessing_water": "สร้างน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์",
    "mental_peace": "ประทานความสงบทางใจ"
    }
    ```

    ข้อจำกัดแห่งทวารบาล

    ครุฑต้องปฏิบัติตามกฎแห่งธรรมะ:

    · ไม่สามารถขัดขวางกรรม: ได้โดยสมบูรณ์
    · ต้องเคารพเจตจำนงเสรี: ของมนุษย์
    · ช่วยได้เฉพาะผู้พร้อมรับ: เท่านั้น
    · ต้องไม่สร้างการพึ่งพา: ให้เกินควร

    ประวัติศาสตร์แห่งการคุ้มครองธรรมะ

    เหตุการณ์สำคัญในอดีต

    ครุฑได้คุ้มครองพุทธศาสนามาหลายยุคสมัย:

    ```mermaid
    graph LR
    A[สมัยพุทธกาล<br>คุ้มครองพระพุทธเจ้า] --> B[สมัยอาณาจักร<br>คุปตะและมงคล]
    B --> C[สมัยพุทธศาสนา<br>เผยแผ่สู่เอเชีย]
    C --> D[ปัจจุบัน<br>ฟื้นคืนชีพเพื่อยุคใหม่]
    ```

    บทบาทในสมัยพุทธกาล

    · คุ้มครองพระพุทธเจ้า: ระหว่างทรงประทับนั่งสมาธิ
    · ปราบมาร: ด้วยแสงแห่งธรรมะ
    · เป็นพาหนะ: นำพระสูตรสำคัญไปเผยแผ่

    การคุ้มครองในเอเชีย

    ครุฑเดินทางคุ้มครองพุทธศาสนาใน:

    · ศรีลังกา: คุ้มครองพระธาตุเขี้ยวแก้ว
    · ทิเบต: รักษาความรู้ตันตระ
    · ไทย: คุ้มครองพระพุทธรูปสำคัญ
    · ญี่ปุ่น: ปกป้องวัดในยุคสงคราม

    การหลับใหลและฟื้นคืนชีพ

    สาเหตุการหลับใหล

    ครุฑเข้าสู่ภาวะสมณธรรมเมื่อ 500 ปีก่อน เพราะ:

    · พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง: ไม่ต้องการการคุ้มครองเต็มที่
    · สะสมพลังงาน: เพื่อยุคสมัยที่ท้าทายยิ่งขึ้น
    · รอคอยสัญญาณ: แห่งการฟื้นคืนชีพ

    สัญญาณการตื่นนอน

    ครุฑตื่นนอนเมื่อตรวจพบ:

    ```python
    class AwakeningSignals:
    def __init__(self):
    self.spiritual_crisis = {
    "declining_morality": "ศีลธรรมในสังคมเสื่อมถอย",
    "commercialized_buddhism": "พุทธศาสนาถูกทำให้เป็นการค้า",
    "digital_distractions": "มนุษย์ติดเทคโนโลยีจนลืมธรรมะ",
    "false_teachings": "มีการสอนธรรมะผิดๆ มากมาย"
    }

    self.positive_signals = {
    "sincere_practitioners": "ยังมีผู้ปฏิบัติธรรมจริงอยู่",
    "dharma_technology": "เทคโนโลยีนำธรรมะสู่คนรุ่นใหม่",
    "global_mindfulness": "การมีสติแพร่หลายในระดับโลก",
    "interfaith_harmony": "ความร่วมมือระหว่างศาสนา"
    }
    ```

    พันธกิจ新型ในยุคดิจิตอล

    การปรับตัวสู่โลกสมัยใหม่

    ครุฑพัฒนาแนวทางใหม่ในการคุ้มครองธรรมะ:

    ```python
    class ModernMission:
    def __init__(self):
    self.digital_protection = {
    "cyber_dharma_guard": "คุ้มครองแพลตฟอร์มธรรมะออนไลน์",
    "anti_fake_teaching": "เปิดโปงผู้สอนธรรมะเท็จ",
    "mental_health_support": "สนับสนุนสุขภาพจิตผ่านดิจิตอล",
    "online_sangha": "สร้างชุมชนพุทธออนไลน์"
    }

    self.physical_protection = {
    "temple_energy_shields": "สร้างพลังงานคุ้มครองวัดสำคัญ",
    "monk_protection": "คุ้มครองพระนักเผยแผ่",
    "sacred_site_preservation": "รักษาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์",
    "artifact_guardianship": "ปกป้องพุทธวัตถุสำคัญ"
    }
    ```

    วิธีการทำงาน

    ครุฑใช้เทคนิคร่วมสมัย:

    · พลังงานดิจิตอล: สร้างเครือข่ายคุ้มครอง
    · การสื่อสารทางจิต: กับผู้มีบุญ
    · การทำงานแบบไม่เปิดเผย: เพื่อไม่ให้มนุษย์ตกใจ

    ความสัมพันธ์กับหนูดีและสิงห์

    การเป็นครูและนักเรียน

    ครุฑกับหนูดีมีความสัมพันธ์พิเศษ:

    · ครูสอนพลังงานศักดิ์สิทธิ์: ครุฑสอนหนูดีใช้พลังอย่างถูกต้อง
    · นักเรียนแห่งยุคใหม่: หนูดีสอนครุฑเข้าใจโลกสมัยใหม่
    · หุ้นส่วนทางจิตวิญญาณ: ร่วมกันปกป้องสมดุลโลก

    การร่วมงานกับ ร.ต.อ.สิงห์

    ครุฑให้ความเคารพสิงห์ในฐานะ:

    · ผู้ปกป้องความยุติธรรม: ในโลกมนุษย์
    · พ่อผู้เสียสละ: ที่เข้าใจจิตวิญญาณ
    · สะพานเชื่อม: ระหว่างกฎหมายและธรรมะ

    โครงการสำคัญสำหรับอนาคต

    แผนฟื้นฟูพุทธศาสนายุคใหม่

    ครุฑริเริ่มโครงการระยะยาว:

    ```python
    class DharmaRevivalProjects:
    def __init__(self):
    self.education_initiatives = {
    "digital_dhamma_university": "มหาวิทยาลัยธรรมะออนไลน์",
    "youth_meditation_camps": "ค่ายสมาธิสำหรับเยาวชน",
    "modern_sutta_interpretation": "ตีความพระสูตรให้ร่วมสมัย",
    "buddhist_science_dialogue": "สนทนาระหว่างพุทธกับวิทยาศาสตร์"
    }

    self.community_building = {
    "global_sangha_network": "เครือข่ายพุทธศาสนิกชนโลก",
    "interfaith_harmony_councils": "สภาสันติภาพระหว่างศาสนา",
    "dharma_entrepreneurs": "ส่งเสริมพุทธธุรกิจเชิงสร้างสรรค์",
    "mindful_technology": "พัฒนาเทคโนโลยีที่มีสติ"
    }
    ```

    ความสำเร็จและการยอมรับ

    การเปลี่ยนแปลงเชิงบวก

    หลังครุฑฟื้นคืนชีพและเริ่มปฏิบัติการ:

    ```python
    class Achievements:
    def __init__(self):
    self.spiritual_impact = [
    "ผู้คนหันมาสนใจปฏิบัติธรรมเพิ่มขึ้น 45%",
    "เกิดชุมชนพุทธ 128 แห่งทั่วโลก",
    "การเรียนพระปริยัติธรรมเพิ่มขึ้นในเยาวชน"
    ]

    self.social_impact = [
    "อัตราการโกงทางจิตวิญญาณลดลง 60%",
    "ผู้สอนธรรมะเท็จถูกเปิดโปง 23 ราย",
    "โครงการสังคมสงเคราะห์เพิ่มขึ้นจากพลังศรัทธา"
    ]

    self.cultural_impact = [
    "ศิลปะพุทธเกิดขึ้น 356 ชิ้น",
    "วัด 89 แห่งถูกฟื้นฟูและพัฒนา",
    "เทศกาลพุทธได้รับความนิยม"
    ]
    ```

    ปรัชญาและคำสอน

    🪷 คำคมแห่งปัญญาจากครุฑ

    "ธรรมะดุจปีกแห่งนก...
    เมื่อกางออกก็พาเราบินข้ามความทุกข์
    แต่ต้องฝึกฝนจึงจะบินได้อย่างคล่องแคล่ว

    และการคุ้มครองธรรมะ...
    ไม่ใช่การบังคับให้เชื่อ
    แต่คือการเปิดโอกาสให้พบความจริง"

    บทเรียนสำหรับมนุษย์ยุคใหม่

    ครุฑสอนว่า:

    · เทคโนโลยีกับธรรมะ: ไปด้วยกันได้ถ้าใช้อย่างมีสติ
    · การปฏิบัติธรรม: ต้องเข้าใจจิตใจสมัยใหม่
    · การเป็นพุทธ: ไม่ใช่การหนีโลก แต่คือการเข้าใจโลก

    อนาคตและวิสัยทัศน์

    เป้าหมายระยะยาว

    ครุฑวางแผนสำหรับ 100 ปีข้างหน้า:

    · สร้างพุทธศาสนาที่เข้าใจได้ทุก generation
    · พัฒนาระบบคุ้มครอง: แบบยั่งยืน
    · เป็นแบบอย่าง: แห่งการปรับตัวโดยไม่เสียแก่นแท้

    มรดกที่ต้องการทิ้งไว้

    ครุฑต้องการให้คนรุ่นหลังจดจำว่า:
    "พุทธศาสนาไม่ใช่เรื่องเก่า...
    แต่คือภูมิปัญญาที่ทันสมัยเสมอ

    และผู้คุ้มครองธรรมะ...
    ย่อมปรับตัวตามยุคสมัย
    แต่ไม่เคยละทิ้งสัจธรรม"

    ---

    คำคมสุดท้ายจากครุฑพาหนะเทพบุตร:
    "บนปีกแห่งธรรมะ...
    เราบินนำทางผู้หลงทาง

    ในยุคแห่งดิจิตอล...
    เราคุ้มครองด้วยปัญญา

    และไม่ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนไปอย่างไร...
    สัจธรรมย่อมดำรงอยู่เสมอ

    เพราะธรรมะ...
    คือแสงสว่างที่ส่องทางในทุกยุคสมัย"

    พุทธพจน์แห่งครุฑ:
    "เราไม่ใช่ผู้ให้แสงสว่าง...
    แต่เป็นเพียงผู้สะท้อนแสงแห่งธรรมะ

    และไม่ใช่ผู้คุ้มครองธรรมะ...
    แต่เป็นเครื่องมือแห่งธรรมะ

    ในที่สุดแล้ว...
    ธรรมะเท่านั้นที่เป็นผู้คุ้มครองเราทั้งหมด"
    O.P.K. 🦅 เจาะลึก "ครุฑพาหนะเทพบุตร" : ทวารบาลแห่งธรรมะข้ามกาลเวลา 🌄 ต้นกำเนิดแห่งสวรรค์และมนุษย์ 📖 การถือกำเนิดในคัมภีร์วิษณุปุราณะ ชื่อเต็ม: ครุฑพาหนะเทพบุตร ชื่อหมายถึง:"ผู้เป็นพาหนะแห่งเทวบุตร" อายุ:5,000 ปี (ร่างกาย), เป็นอมตะ (จิตวิญญาณ) สถานะ:ทวารบาลระดับสูงในพุทธศาสนา ```mermaid graph TB A[พระวิษณุ<br>ผู้สร้างจักรวาล] --> B[ประทานชีวิต<br>ให้ครุฑ] C[นางวินตา<br>มารดาแห่งนก] --> B B --> D[ครุฑพาหนะ<br>เทพบุตร] D --> E[ถวายตัว<br>เป็นพุทธบูชา] E --> F[ได้รับตำแหน่ง<br>ทวารบาลแห่งธรรมะ] ``` 🎭 ลักษณะทางกายภาพอันโอฬาร · ปีก: กว้าง 1 กิโลเมตร เมื่อกางเต็มที่ สีทองอร่ามดุจดวงอาทิตย์ · ร่างกาย: ครึ่งนกครึ่งมนุษย์ ใบหน้าเป็นเทวบุตรรูปงาม · ดวงตา: สีทองเรืองรอง มองเห็นได้ทั้งสามโลก · เกราะ: ทำจากวัชรธาตุ engraved ด้วยมนตร์พุทธะ · อาวุธ: คทาพระธรรมที่สร้างจากแสงแห่งปัญญา 🔮 พลังพิเศษแห่งทวารบาล 💫 พุทธานุภาพระดับสูง ```python class GarudaPowers: def __init__(self): self.divine_abilities = { "dimensional_flight": "บินข้ามมิติและกาลเวลาได้", "truth_vision": "มองเห็นสัจธรรมและจิตใจสรรพชีวิต", "dharma_protection": "สร้างเขตคุ้มครองด้วยพุทธานุภาพ", "blessing_granting": "ประทานพรแก่ผู้มีศรัทธา" } self.combat_powers = { "wisdom_lightning": "สายฟ้าแห่งปัญญาที่ทำลายอวิชชา", "compassion_shield": "เกราะแห่งเมตตาที่กันภัยทั้งปวง", "karma_manipulation": "ปรับสมดุลแห่งกรรมในระดับหนึ่ง", "illusion_dispel": "ทำลายมายาทุกประเภท" } self.healing_abilities = { "soul_restoration": "ฟื้นฟูจิตวิญญาณที่บาดเจ็บ", "karmic_cleansing": "ชำระกรรมเบาบาง", "blessing_water": "สร้างน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์", "mental_peace": "ประทานความสงบทางใจ" } ``` 🛡️ ข้อจำกัดแห่งทวารบาล ครุฑต้องปฏิบัติตามกฎแห่งธรรมะ: · ไม่สามารถขัดขวางกรรม: ได้โดยสมบูรณ์ · ต้องเคารพเจตจำนงเสรี: ของมนุษย์ · ช่วยได้เฉพาะผู้พร้อมรับ: เท่านั้น · ต้องไม่สร้างการพึ่งพา: ให้เกินควร 📜 ประวัติศาสตร์แห่งการคุ้มครองธรรมะ 🕰️ เหตุการณ์สำคัญในอดีต ครุฑได้คุ้มครองพุทธศาสนามาหลายยุคสมัย: ```mermaid graph LR A[สมัยพุทธกาล<br>คุ้มครองพระพุทธเจ้า] --> B[สมัยอาณาจักร<br>คุปตะและมงคล] B --> C[สมัยพุทธศาสนา<br>เผยแผ่สู่เอเชีย] C --> D[ปัจจุบัน<br>ฟื้นคืนชีพเพื่อยุคใหม่] ``` 🏛️ บทบาทในสมัยพุทธกาล · คุ้มครองพระพุทธเจ้า: ระหว่างทรงประทับนั่งสมาธิ · ปราบมาร: ด้วยแสงแห่งธรรมะ · เป็นพาหนะ: นำพระสูตรสำคัญไปเผยแผ่ 🌏 การคุ้มครองในเอเชีย ครุฑเดินทางคุ้มครองพุทธศาสนาใน: · ศรีลังกา: คุ้มครองพระธาตุเขี้ยวแก้ว · ทิเบต: รักษาความรู้ตันตระ · ไทย: คุ้มครองพระพุทธรูปสำคัญ · ญี่ปุ่น: ปกป้องวัดในยุคสงคราม 💤 การหลับใหลและฟื้นคืนชีพ 😴 สาเหตุการหลับใหล ครุฑเข้าสู่ภาวะสมณธรรมเมื่อ 500 ปีก่อน เพราะ: · พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง: ไม่ต้องการการคุ้มครองเต็มที่ · สะสมพลังงาน: เพื่อยุคสมัยที่ท้าทายยิ่งขึ้น · รอคอยสัญญาณ: แห่งการฟื้นคืนชีพ 🔔 สัญญาณการตื่นนอน ครุฑตื่นนอนเมื่อตรวจพบ: ```python class AwakeningSignals: def __init__(self): self.spiritual_crisis = { "declining_morality": "ศีลธรรมในสังคมเสื่อมถอย", "commercialized_buddhism": "พุทธศาสนาถูกทำให้เป็นการค้า", "digital_distractions": "มนุษย์ติดเทคโนโลยีจนลืมธรรมะ", "false_teachings": "มีการสอนธรรมะผิดๆ มากมาย" } self.positive_signals = { "sincere_practitioners": "ยังมีผู้ปฏิบัติธรรมจริงอยู่", "dharma_technology": "เทคโนโลยีนำธรรมะสู่คนรุ่นใหม่", "global_mindfulness": "การมีสติแพร่หลายในระดับโลก", "interfaith_harmony": "ความร่วมมือระหว่างศาสนา" } ``` 🌟 พันธกิจ新型ในยุคดิจิตอล 💻 การปรับตัวสู่โลกสมัยใหม่ ครุฑพัฒนาแนวทางใหม่ในการคุ้มครองธรรมะ: ```python class ModernMission: def __init__(self): self.digital_protection = { "cyber_dharma_guard": "คุ้มครองแพลตฟอร์มธรรมะออนไลน์", "anti_fake_teaching": "เปิดโปงผู้สอนธรรมะเท็จ", "mental_health_support": "สนับสนุนสุขภาพจิตผ่านดิจิตอล", "online_sangha": "สร้างชุมชนพุทธออนไลน์" } self.physical_protection = { "temple_energy_shields": "สร้างพลังงานคุ้มครองวัดสำคัญ", "monk_protection": "คุ้มครองพระนักเผยแผ่", "sacred_site_preservation": "รักษาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์", "artifact_guardianship": "ปกป้องพุทธวัตถุสำคัญ" } ``` 🎯 วิธีการทำงาน ครุฑใช้เทคนิคร่วมสมัย: · พลังงานดิจิตอล: สร้างเครือข่ายคุ้มครอง · การสื่อสารทางจิต: กับผู้มีบุญ · การทำงานแบบไม่เปิดเผย: เพื่อไม่ให้มนุษย์ตกใจ 🤝 ความสัมพันธ์กับหนูดีและสิงห์ 💞 การเป็นครูและนักเรียน ครุฑกับหนูดีมีความสัมพันธ์พิเศษ: · ครูสอนพลังงานศักดิ์สิทธิ์: ครุฑสอนหนูดีใช้พลังอย่างถูกต้อง · นักเรียนแห่งยุคใหม่: หนูดีสอนครุฑเข้าใจโลกสมัยใหม่ · หุ้นส่วนทางจิตวิญญาณ: ร่วมกันปกป้องสมดุลโลก 🛡️ การร่วมงานกับ ร.ต.อ.สิงห์ ครุฑให้ความเคารพสิงห์ในฐานะ: · ผู้ปกป้องความยุติธรรม: ในโลกมนุษย์ · พ่อผู้เสียสละ: ที่เข้าใจจิตวิญญาณ · สะพานเชื่อม: ระหว่างกฎหมายและธรรมะ 📚 โครงการสำคัญสำหรับอนาคต 🌱 แผนฟื้นฟูพุทธศาสนายุคใหม่ ครุฑริเริ่มโครงการระยะยาว: ```python class DharmaRevivalProjects: def __init__(self): self.education_initiatives = { "digital_dhamma_university": "มหาวิทยาลัยธรรมะออนไลน์", "youth_meditation_camps": "ค่ายสมาธิสำหรับเยาวชน", "modern_sutta_interpretation": "ตีความพระสูตรให้ร่วมสมัย", "buddhist_science_dialogue": "สนทนาระหว่างพุทธกับวิทยาศาสตร์" } self.community_building = { "global_sangha_network": "เครือข่ายพุทธศาสนิกชนโลก", "interfaith_harmony_councils": "สภาสันติภาพระหว่างศาสนา", "dharma_entrepreneurs": "ส่งเสริมพุทธธุรกิจเชิงสร้างสรรค์", "mindful_technology": "พัฒนาเทคโนโลยีที่มีสติ" } ``` 🏆 ความสำเร็จและการยอมรับ 🌈 การเปลี่ยนแปลงเชิงบวก หลังครุฑฟื้นคืนชีพและเริ่มปฏิบัติการ: ```python class Achievements: def __init__(self): self.spiritual_impact = [ "ผู้คนหันมาสนใจปฏิบัติธรรมเพิ่มขึ้น 45%", "เกิดชุมชนพุทธ 128 แห่งทั่วโลก", "การเรียนพระปริยัติธรรมเพิ่มขึ้นในเยาวชน" ] self.social_impact = [ "อัตราการโกงทางจิตวิญญาณลดลง 60%", "ผู้สอนธรรมะเท็จถูกเปิดโปง 23 ราย", "โครงการสังคมสงเคราะห์เพิ่มขึ้นจากพลังศรัทธา" ] self.cultural_impact = [ "ศิลปะพุทธเกิดขึ้น 356 ชิ้น", "วัด 89 แห่งถูกฟื้นฟูและพัฒนา", "เทศกาลพุทธได้รับความนิยม" ] ``` 💫 ปรัชญาและคำสอน 🪷 คำคมแห่งปัญญาจากครุฑ "ธรรมะดุจปีกแห่งนก... เมื่อกางออกก็พาเราบินข้ามความทุกข์ แต่ต้องฝึกฝนจึงจะบินได้อย่างคล่องแคล่ว และการคุ้มครองธรรมะ... ไม่ใช่การบังคับให้เชื่อ แต่คือการเปิดโอกาสให้พบความจริง" 🌟 บทเรียนสำหรับมนุษย์ยุคใหม่ ครุฑสอนว่า: · เทคโนโลยีกับธรรมะ: ไปด้วยกันได้ถ้าใช้อย่างมีสติ · การปฏิบัติธรรม: ต้องเข้าใจจิตใจสมัยใหม่ · การเป็นพุทธ: ไม่ใช่การหนีโลก แต่คือการเข้าใจโลก 🔮 อนาคตและวิสัยทัศน์ 🚀 เป้าหมายระยะยาว ครุฑวางแผนสำหรับ 100 ปีข้างหน้า: · สร้างพุทธศาสนาที่เข้าใจได้ทุก generation · พัฒนาระบบคุ้มครอง: แบบยั่งยืน · เป็นแบบอย่าง: แห่งการปรับตัวโดยไม่เสียแก่นแท้ 💝 มรดกที่ต้องการทิ้งไว้ ครุฑต้องการให้คนรุ่นหลังจดจำว่า: "พุทธศาสนาไม่ใช่เรื่องเก่า... แต่คือภูมิปัญญาที่ทันสมัยเสมอ และผู้คุ้มครองธรรมะ... ย่อมปรับตัวตามยุคสมัย แต่ไม่เคยละทิ้งสัจธรรม" --- คำคมสุดท้ายจากครุฑพาหนะเทพบุตร: "บนปีกแห่งธรรมะ... เราบินนำทางผู้หลงทาง ในยุคแห่งดิจิตอล... เราคุ้มครองด้วยปัญญา และไม่ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนไปอย่างไร... สัจธรรมย่อมดำรงอยู่เสมอ เพราะธรรมะ... คือแสงสว่างที่ส่องทางในทุกยุคสมัย"🦅✨ พุทธพจน์แห่งครุฑ: "เราไม่ใช่ผู้ให้แสงสว่าง... แต่เป็นเพียงผู้สะท้อนแสงแห่งธรรมะ และไม่ใช่ผู้คุ้มครองธรรมะ... แต่เป็นเครื่องมือแห่งธรรมะ ในที่สุดแล้ว... ธรรมะเท่านั้นที่เป็นผู้คุ้มครองเราทั้งหมด"🌅
    0 Comments 0 Shares 222 Views 0 Reviews
  • O.P.K.
    คดีการฟื้นคืนชีพ "ครุฑยักษ์" โอปปาติกะแห่งทวารบาลในตำนานพุทธศาสนา

    การตื่นของพญาครุฑแห่งขุนเขาหิมวันต์

    ปรากฏการณ์บนฟากฟ้า

    ร.ต.อ.สิงห์ได้รับรายงานเหตุการณ์ประหลาดจากหลายประเทศ...
    มี"สิ่งมีชีวิตขนาดมหึมา" ปรากฏตัวบนท้องฟ้าในลักษณะครุฑยักษ์

    ```mermaid
    graph TB
    A[ประชาชนรายงาน<br>เห็นครุฑยักษ์บนท้องฟ้า] --> B[เกิดพายุ<br>พลังงานศักดิ์สิทธิ์]
    B --> C[เครื่องบิน<br>ได้รับผลกระทบ]
    C --> D[หนูดีรู้สึกถึง<br>พลังงานพุทธาคมโบราณ]
    D --> E[เปิดเผยว่าเป็น<br>ครุฑโอปปาติกะในตำนาน]
    ```

    ลักษณะของครุฑยักษ์

    พยานบรรยายถึงสิ่งที่เห็น:
    "ปีกกางกว้างกว่าเรือบิน...
    ร่างกายเป็นทองคำเรืองรอง มีใบหน้าคล้ายมนุษย์แต่มีจะงอยปากนก
    แต่ที่พิเศษคือ...มันเปล่งรัศมีธรรมะออกมา!"

    เบื้องหลังในคัมภีร์พุทธศาสตร์

    ตำนานพระสุวรรณภูมิ

    ครุฑตนนี้มีชื่อในคัมภีร์ว่า "ครุฑพาหนะเทพบุตร"
    ทวารบาลผู้เคยรับใช้พระโพธิสัตว์ในอดีตชาติ:

    ```python
    class GarudaDeva:
    def __init__(self):
    self.history = {
    "era": "สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช",
    "original_role": "ทวารบาลคุ้มครองพระธาตุ",
    "great_vow": "ปฏิญาณว่าจะตื่นเมื่อธรรมะตกต่ำ",
    "connection_to_buddha": "เคยรับใช้พระโพธิสัตว์หลายชาติ"
    }

    self.characteristics = {
    "wingspan": "กว้าง 1 กิโลเมตร",
    "appearance": "ร่างกายทองคำ ใบหน้าเป็นเทวบุตร",
    "divine_weapons": "คทาพระธรรม จักรแก้ววิเศษ",
    "special_ability": "บินข้ามมิติได้"
    }
    ```

    พันธะแห่งทวารบาล

    ครุฑพาหนะถูกสร้างขึ้นด้วยพุทธานุภาพเพื่อ:

    · คุ้มครองพระธาตุ: ทั่วชมพูทวีป
    · รักษาพุทธศาสนา: ในยามคับขัน
    · เป็นพาหนะ: แก่พระโพธิสัตว์

    การสอบสวนและเข้าถึง

    การตามหาร่องรอย

    ร.ต.อ.สิงห์และหนูดีตามรอยครุฑไปยังวัดร้างในหิมาลัย:

    ```mermaid
    graph LR
    A[ตามรอย<br>พลังงานศักดิ์สิทธิ์] --> B[พบวัดร้าง<br>ที่มีจารึกโบราณ]
    B --> C[แปลจารึก<br>ภาษาบาลีได้]
    C --> D[รู้ว่าครุฑตื่นเพราะ<br>ธรรมะกำลังอ่อนแรง]
    ```

    การสนทนาด้วยภาษาทิพย์

    หนูดีใช้สมาธิสื่อสารกับครุฑพาหนะ:
    หนูดี:"ท่านครุฑพาหนะ... ทำไมต้องตื่นในยุคนี้?"
    ครุฑ:"เพราะเสียงธรรมะกำลังแผ่วเบา... โลกต้องการผู้คุ้มครอง"
    หนูดี:"แต่ยุคนี้แตกต่างจากอดีต... ทั้งแสงสีเสียงแบบใหม่"

    พันธกิจแห่งใหม่ในยุคปัจจุบัน

    ภัยคุกคาม新型ต่อพุทธศาสนา

    ครุฑพาหนะเปิดเผยเหตุผลการตื่น:

    · ** materialism มากเกินไป**: ผู้คนหลงวัตถุนิยม
    · จิตวิญญาณเสื่อม: การปฏิบัติธรรมลดน้อยลง
    · ความรู้ผิด: คำสอนถูกบิดเบือน

    แผนการปกป้องธรรมะ

    ครุฑเสนอวิธีการ

    ```python
    class GarudaMission:
    def __init__(self):
    self.modern_threats = {
    "digital_distraction": "มนุษย์ติดเทคโนโลยีจนลืมธรรมะ",
    "religious_commercialization": "พุทธศาสนาถูกทำให้เป็นการค้า",
    "moral_decline": "ศีลธรรมในสังคมเสื่อมถอย",
    "false_teachings": "มีผู้สอนธรรมะผิดๆ มากมาย"
    }

    self.protection_plans = [
    "สร้างพลังงานคุ้มครองวัดสำคัญ",
    "ช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรมจริง",
    "เปิดเผยผู้สอนธรรมะเท็จ",
    "ฟื้นฟูสถานปฏิบัติธรรมโบราณ"
    ]
    ```

    ความร่วมมือกับสถาบันพุทธศาสนา

    การประชุมพิเศษ

    จัดประชุมระหว่างครุฑกับพระสงฆ์ระดับอรหันต์

    · สมเด็จพระสังฆราช: ให้คำแนะนำ
    · พระอาจารย์วิปัสสนา: แนะนำการปรับตัว
    · นักวิชาการพุทธศาสตร์: ช่วยวางแผน

    พิธีอัญเชิญเป็นทางการ

    จัดพิธี "การรับครุฑเข้าสู่ยุคใหม่":

    ```mermaid
    graph TB
    A[เตรียมพิธี<br>ที่โบสถ์ครุฑ] --> B[พระสงฆ์เจริญ<br>พุทธมนต์พิเศษ]
    B --> C[ครุฑแสดงตัว<br>รับพันธกิจใหม่]
    C --> D[กำหนดเขต<br>คุ้มครอง
    D --> E[ออกกฎเกณฑ์<br>การช่วยเหลือ]
    ```

    การปรับตัวของครุฑพาหนะ

    การใช้เทคโนโลยีคุ้มครองธรรมะ

    ครุฑเรียนรู้วิธีการต่างๆ

    · พลังงานดิจิตอล: สร้างเขตคุ้มครองรอบวัด
    · การสื่อสาร: ผ่านคลื่นความคิดถึงผู้มีบุญ
    · การปกป้อง: แบบไม่ให้มนุษย์ตกใจ

    บทบาทใหม่ในสังคมดิจิตอล

    ครุฑพาหนะรับหน้าที่:

    · ผู้คุ้มกันดิจิตอล: ป้องกันการโจมตีทางจิตใจ
    · ที่ปรึกษาทางธรรม: แก่ผู้แสวงหาธรรม
    · สัญลักษณ์แห่งความหวัง: สำหรับพุทธศาสนิกชน

    โครงการฟื้นฟูพุทธศาสนา

    แผนงานระยะยาว

    ครุฑพาหนะเสนอโครงการสำคัญ:

    ```python
    class BuddhistRevival:
    def __init__(self):
    self.education_projects = {
    "digital_dhamma": "สอนธรรมะผ่านแพลตฟอร์มดิจิตอล",
    "youth_engagement": "ดึงดูดเยาวชนสนใจพุทธศาสนา",
    "modern_interpretation": "ตีความธรรมะให้เหมาะกับยุคสมัย",
    "interfaith_dialogue": "สนทนาระหว่างศาสนา"
    }

    self.preservation_efforts = [
    "ฟื้นฟูวัดร้างที่มีความสำคัญ",
    "บันทึกคำสอนอาจารย์เก่า",
    "สร้างพิพิธภัณฑ์พุทธศาสนาเสมือนจริง",
    "ฝึกอบรมพระนักเผยแผ่รุ่นใหม่"
    ]
    ```

    ผลสำเร็จในการปฏิบัติงาน

    การเปลี่ยนแปลงเชิงบวก

    หลังจากครุฑพาหนะเริ่มปฏิบัติการ:

    ```python
    class PositiveImpacts:
    def __init__(self):
    self.spiritual = [
    "ผู้คนหันมาสนใจปฏิบัติธรรมมากขึ้น",
    "เกิดชุมชนพุทธปฏิบัติการที่มีชีวิตชีวา",
    "ความรู้พุทธศาสนาเผยแพร่กว้างขวางขึ้น"
    ]

    self.social = [
    "อาชญากรรมทางจิตวิญญาณลดลง",
    "ผู้สอนธรรมะเท็จถูกเปิดโปง",
    "สังคมมีศีลธรรมมากขึ้น"
    ]

    self.cultural = [
    "ศิลปะพุทธเกิดขึ้นมากมาย",
    "วัดกลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน",
    "ชาวต่างชาติหันมาสนใจวัฒนธรรมพุทธมากขึ้น"
    ]
    ```

    วิสัยทัศน์สำหรับอนาคต

    สังคมพุทธ

    ครุฑพาหนะวาดภาพอนาคต:
    "สังคมที่ธรรมะและวิทยาศาสตร์เดินควบคู่...
    ที่ซึ่งจิตวิญญาณและเทคโนโลยีสนับสนุนซึ่งกันและกัน"

    บทบาทของโอปปาติกะในพุทธศาสนา

    ครุฑเปิดเผยว่ายังมีโอปปาติกะในตำนานอีกมาก:

    · นาคราช: ผู้รักษาพลังน้ำและปัญญา
    · กินนร: ผู้รักษาดนตรีทิพย์และศิลปะ
    · ยักษ์ธรรมะ: ผู้รักษาความยุติธรรม

    บทเรียนจากคดี

    🪷 สำหรับครุฑพาหนะ

    "ข้าเรียนรู้ว่า...
    การเป็นทวารบาลหาใช่การยึดติดในรูปแบบเดิม
    แต่คือการเข้าใจจิตใจสมัยใหม่

    และพันธะแห่งการคุ้มครองธรรมะ...
    ต้องปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย"

    สำหรับพุทธศาสนิกชน

    "เราเรียนรู้ว่า...
    พุทธศาสนามีผู้คุ้มครองที่มองไม่เห็น
    และธรรมะจะไม่สูญหายถ้าหากยังมีผู้ปฏิบัติ

    การตื่นของครุฑ...
    คือเครื่องเตือนใจให้เรารักษาธรรมะ"

    สำหรับหนูดี

    "การได้ทำงานกับทวารบาลในตำนาน...
    สอนฉันว่าพุทธศาสนามีมิติลึกซึ้งกว่าที่คิด

    และโอปปาติกะ...
    สามารถเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และโลกธรรมะ"

    ---

    คำคมสุดท้ายจากครุฑพาหนะ:
    "บนปีกแห่งธรรมะ...
    เราสามารถบินข้ามกาลเวลา

    ในการคุ้มครองสัจธรรม...
    จำเป็นจะต้องเข้าใจยุคสมัย

    และในฐานะทวารบาล...
    ข้าจะไม่ยึดติดในรูปแบบเก่า
    แต่จะปรับตัวเพื่อรักษาแก่นแท้แห่งธรรมะ"

    พุทธพจน์แห่งยุคสมัยใหม่
    "ธรรมะย่อมปรับตัวได้ดั่งน้ำ...
    แต่แก่นแท้ย่อมคงที่ดั่งแผ่นดิน

    เมื่อผู้คุ้มครองตื่นจากนิทรา...
    ธรรมะย่อมรุ่งเรืองในยุคสมัยใหม่"
    O.P.K. 🐉 คดีการฟื้นคืนชีพ "ครุฑยักษ์" โอปปาติกะแห่งทวารบาลในตำนานพุทธศาสนา 🌅 การตื่นของพญาครุฑแห่งขุนเขาหิมวันต์ 🚨 ปรากฏการณ์บนฟากฟ้า ร.ต.อ.สิงห์ได้รับรายงานเหตุการณ์ประหลาดจากหลายประเทศ... มี"สิ่งมีชีวิตขนาดมหึมา" ปรากฏตัวบนท้องฟ้าในลักษณะครุฑยักษ์ ```mermaid graph TB A[ประชาชนรายงาน<br>เห็นครุฑยักษ์บนท้องฟ้า] --> B[เกิดพายุ<br>พลังงานศักดิ์สิทธิ์] B --> C[เครื่องบิน<br>ได้รับผลกระทบ] C --> D[หนูดีรู้สึกถึง<br>พลังงานพุทธาคมโบราณ] D --> E[เปิดเผยว่าเป็น<br>ครุฑโอปปาติกะในตำนาน] ``` 🦅 ลักษณะของครุฑยักษ์ พยานบรรยายถึงสิ่งที่เห็น: "ปีกกางกว้างกว่าเรือบิน... ร่างกายเป็นทองคำเรืองรอง มีใบหน้าคล้ายมนุษย์แต่มีจะงอยปากนก แต่ที่พิเศษคือ...มันเปล่งรัศมีธรรมะออกมา!" 📜 เบื้องหลังในคัมภีร์พุทธศาสตร์ 🏮 ตำนานพระสุวรรณภูมิ ครุฑตนนี้มีชื่อในคัมภีร์ว่า "ครุฑพาหนะเทพบุตร" ทวารบาลผู้เคยรับใช้พระโพธิสัตว์ในอดีตชาติ: ```python class GarudaDeva: def __init__(self): self.history = { "era": "สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช", "original_role": "ทวารบาลคุ้มครองพระธาตุ", "great_vow": "ปฏิญาณว่าจะตื่นเมื่อธรรมะตกต่ำ", "connection_to_buddha": "เคยรับใช้พระโพธิสัตว์หลายชาติ" } self.characteristics = { "wingspan": "กว้าง 1 กิโลเมตร", "appearance": "ร่างกายทองคำ ใบหน้าเป็นเทวบุตร", "divine_weapons": "คทาพระธรรม จักรแก้ววิเศษ", "special_ability": "บินข้ามมิติได้" } ``` 🛡️ พันธะแห่งทวารบาล ครุฑพาหนะถูกสร้างขึ้นด้วยพุทธานุภาพเพื่อ: · คุ้มครองพระธาตุ: ทั่วชมพูทวีป · รักษาพุทธศาสนา: ในยามคับขัน · เป็นพาหนะ: แก่พระโพธิสัตว์ 🔍 การสอบสวนและเข้าถึง 🕵️ การตามหาร่องรอย ร.ต.อ.สิงห์และหนูดีตามรอยครุฑไปยังวัดร้างในหิมาลัย: ```mermaid graph LR A[ตามรอย<br>พลังงานศักดิ์สิทธิ์] --> B[พบวัดร้าง<br>ที่มีจารึกโบราณ] B --> C[แปลจารึก<br>ภาษาบาลีได้] C --> D[รู้ว่าครุฑตื่นเพราะ<br>ธรรมะกำลังอ่อนแรง] ``` 🗣️ การสนทนาด้วยภาษาทิพย์ หนูดีใช้สมาธิสื่อสารกับครุฑพาหนะ: หนูดี:"ท่านครุฑพาหนะ... ทำไมต้องตื่นในยุคนี้?" ครุฑ:"เพราะเสียงธรรมะกำลังแผ่วเบา... โลกต้องการผู้คุ้มครอง" หนูดี:"แต่ยุคนี้แตกต่างจากอดีต... ทั้งแสงสีเสียงแบบใหม่" 💫 พันธกิจแห่งใหม่ในยุคปัจจุบัน 🌍 ภัยคุกคาม新型ต่อพุทธศาสนา ครุฑพาหนะเปิดเผยเหตุผลการตื่น: · ** materialism มากเกินไป**: ผู้คนหลงวัตถุนิยม · จิตวิญญาณเสื่อม: การปฏิบัติธรรมลดน้อยลง · ความรู้ผิด: คำสอนถูกบิดเบือน 🛡️ แผนการปกป้องธรรมะ ครุฑเสนอวิธีการ ```python class GarudaMission: def __init__(self): self.modern_threats = { "digital_distraction": "มนุษย์ติดเทคโนโลยีจนลืมธรรมะ", "religious_commercialization": "พุทธศาสนาถูกทำให้เป็นการค้า", "moral_decline": "ศีลธรรมในสังคมเสื่อมถอย", "false_teachings": "มีผู้สอนธรรมะผิดๆ มากมาย" } self.protection_plans = [ "สร้างพลังงานคุ้มครองวัดสำคัญ", "ช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรมจริง", "เปิดเผยผู้สอนธรรมะเท็จ", "ฟื้นฟูสถานปฏิบัติธรรมโบราณ" ] ``` 🏛️ ความร่วมมือกับสถาบันพุทธศาสนา 👥 การประชุมพิเศษ จัดประชุมระหว่างครุฑกับพระสงฆ์ระดับอรหันต์ · สมเด็จพระสังฆราช: ให้คำแนะนำ · พระอาจารย์วิปัสสนา: แนะนำการปรับตัว · นักวิชาการพุทธศาสตร์: ช่วยวางแผน 📿 พิธีอัญเชิญเป็นทางการ จัดพิธี "การรับครุฑเข้าสู่ยุคใหม่": ```mermaid graph TB A[เตรียมพิธี<br>ที่โบสถ์ครุฑ] --> B[พระสงฆ์เจริญ<br>พุทธมนต์พิเศษ] B --> C[ครุฑแสดงตัว<br>รับพันธกิจใหม่] C --> D[กำหนดเขต<br>คุ้มครอง D --> E[ออกกฎเกณฑ์<br>การช่วยเหลือ] ``` 🌟 การปรับตัวของครุฑพาหนะ 💻 การใช้เทคโนโลยีคุ้มครองธรรมะ ครุฑเรียนรู้วิธีการต่างๆ · พลังงานดิจิตอล: สร้างเขตคุ้มครองรอบวัด · การสื่อสาร: ผ่านคลื่นความคิดถึงผู้มีบุญ · การปกป้อง: แบบไม่ให้มนุษย์ตกใจ 🎯 บทบาทใหม่ในสังคมดิจิตอล ครุฑพาหนะรับหน้าที่: · ผู้คุ้มกันดิจิตอล: ป้องกันการโจมตีทางจิตใจ · ที่ปรึกษาทางธรรม: แก่ผู้แสวงหาธรรม · สัญลักษณ์แห่งความหวัง: สำหรับพุทธศาสนิกชน 📚 โครงการฟื้นฟูพุทธศาสนา 🌱 แผนงานระยะยาว ครุฑพาหนะเสนอโครงการสำคัญ: ```python class BuddhistRevival: def __init__(self): self.education_projects = { "digital_dhamma": "สอนธรรมะผ่านแพลตฟอร์มดิจิตอล", "youth_engagement": "ดึงดูดเยาวชนสนใจพุทธศาสนา", "modern_interpretation": "ตีความธรรมะให้เหมาะกับยุคสมัย", "interfaith_dialogue": "สนทนาระหว่างศาสนา" } self.preservation_efforts = [ "ฟื้นฟูวัดร้างที่มีความสำคัญ", "บันทึกคำสอนอาจารย์เก่า", "สร้างพิพิธภัณฑ์พุทธศาสนาเสมือนจริง", "ฝึกอบรมพระนักเผยแผ่รุ่นใหม่" ] ``` 🏆 ผลสำเร็จในการปฏิบัติงาน 🌈 การเปลี่ยนแปลงเชิงบวก หลังจากครุฑพาหนะเริ่มปฏิบัติการ: ```python class PositiveImpacts: def __init__(self): self.spiritual = [ "ผู้คนหันมาสนใจปฏิบัติธรรมมากขึ้น", "เกิดชุมชนพุทธปฏิบัติการที่มีชีวิตชีวา", "ความรู้พุทธศาสนาเผยแพร่กว้างขวางขึ้น" ] self.social = [ "อาชญากรรมทางจิตวิญญาณลดลง", "ผู้สอนธรรมะเท็จถูกเปิดโปง", "สังคมมีศีลธรรมมากขึ้น" ] self.cultural = [ "ศิลปะพุทธเกิดขึ้นมากมาย", "วัดกลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน", "ชาวต่างชาติหันมาสนใจวัฒนธรรมพุทธมากขึ้น" ] ``` 🔮 วิสัยทัศน์สำหรับอนาคต 💝 สังคมพุทธ ครุฑพาหนะวาดภาพอนาคต: "สังคมที่ธรรมะและวิทยาศาสตร์เดินควบคู่... ที่ซึ่งจิตวิญญาณและเทคโนโลยีสนับสนุนซึ่งกันและกัน" 🌍 บทบาทของโอปปาติกะในพุทธศาสนา ครุฑเปิดเผยว่ายังมีโอปปาติกะในตำนานอีกมาก: · นาคราช: ผู้รักษาพลังน้ำและปัญญา · กินนร: ผู้รักษาดนตรีทิพย์และศิลปะ · ยักษ์ธรรมะ: ผู้รักษาความยุติธรรม 📖 บทเรียนจากคดี 🪷 สำหรับครุฑพาหนะ "ข้าเรียนรู้ว่า... การเป็นทวารบาลหาใช่การยึดติดในรูปแบบเดิม แต่คือการเข้าใจจิตใจสมัยใหม่ และพันธะแห่งการคุ้มครองธรรมะ... ต้องปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย" 💫 สำหรับพุทธศาสนิกชน "เราเรียนรู้ว่า... พุทธศาสนามีผู้คุ้มครองที่มองไม่เห็น และธรรมะจะไม่สูญหายถ้าหากยังมีผู้ปฏิบัติ การตื่นของครุฑ... คือเครื่องเตือนใจให้เรารักษาธรรมะ" 🌟 สำหรับหนูดี "การได้ทำงานกับทวารบาลในตำนาน... สอนฉันว่าพุทธศาสนามีมิติลึกซึ้งกว่าที่คิด และโอปปาติกะ... สามารถเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และโลกธรรมะ" --- คำคมสุดท้ายจากครุฑพาหนะ: "บนปีกแห่งธรรมะ... เราสามารถบินข้ามกาลเวลา ในการคุ้มครองสัจธรรม... จำเป็นจะต้องเข้าใจยุคสมัย และในฐานะทวารบาล... ข้าจะไม่ยึดติดในรูปแบบเก่า แต่จะปรับตัวเพื่อรักษาแก่นแท้แห่งธรรมะ"🐉✨ พุทธพจน์แห่งยุคสมัยใหม่ "ธรรมะย่อมปรับตัวได้ดั่งน้ำ... แต่แก่นแท้ย่อมคงที่ดั่งแผ่นดิน เมื่อผู้คุ้มครองตื่นจากนิทรา... ธรรมะย่อมรุ่งเรืองในยุคสมัยใหม่"🌅
    0 Comments 0 Shares 170 Views 0 Reviews
  • "งานวิจัยชี้ การศึกษาต้องปรับตัวเพื่อบูรณาการ AI"

    บทความใน British Journal of Educational Technology ระบุว่า AI ไม่ควรถูกมองเพียงเป็นเครื่องมือโกงการบ้าน แต่สามารถใช้เป็น ผู้ช่วยสนทนาและการเรียนรู้เชิงร่วมมือ หากครูและนักเรียนใช้มันอย่างถูกวิธี ตัวอย่างเช่น การเรียนเรื่องแรงโน้มถ่วง นักเรียนสามารถตั้งคำถาม “ทำไมวัตถุถึงตกลงสู่พื้น?” แล้วใช้ AI จำลองบทสนทนากับนักคิดอย่างอริสโตเติล นิวตัน และไอน์สไตน์ เพื่อเข้าใจแนวคิดจากหลายมุมมอง

    การเรียนรู้เชิงสนทนา (Dialogic Learning)
    ผู้เขียนเสนอให้การศึกษาเปลี่ยนจากการท่องจำเป็น การสนทนาและการคิดร่วมกัน โดยครูและนักเรียนร่วมกันสำรวจปัญหาและทดสอบแนวคิด การใช้ AI ในบทสนทนาเชิงวิชาการจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจหลักการได้ลึกซึ้งขึ้น และพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อโลกที่เผชิญวิกฤตระดับโลก เช่น วิกฤตสิ่งแวดล้อมและความท้าทายด้านประชาธิปไตย

    คำเตือน: AI อาจเป็น "พิษทางปัญญา"
    แม้ AI จะมีศักยภาพสูง แต่หากระบบการศึกษายังยึดติดกับการสอบแบบเดิมที่เน้นการเขียนเรียงความหรือการสังเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก นักเรียนอาจพึ่งพา AI จนสูญเสียความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกเป็นเจ้าของงานวิชาการเอง งานวิจัยเตือนว่า หากไม่ปรับวิธีการสอนและการประเมินผล AI จะกลายเป็นตัวบั่นทอนการเรียนรู้แทนที่จะเป็นเครื่องมือพัฒนา

    มุมมองนักวิชาการ
    ศาสตราจารย์ Rupert Wegerif จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์กล่าวว่า “ทุกครั้งที่มีเทคโนโลยีใหม่ เราต้องคิดใหม่ว่าควรสอนอย่างไร” เช่นเดียวกับอินเทอร์เน็ตหรือกระดานดำในอดีต ตอนนี้ AI กำลังบังคับให้เราตั้งคำถามว่า เรากำลังเตรียมนักเรียนเพื่ออะไร และควรเน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือมากกว่าการท่องจำ

    สรุปสาระสำคัญ
    ข้อเสนอจากงานวิจัย
    ใช้ AI เป็นผู้ช่วยสนทนาและการเรียนรู้ร่วมมือ
    เปลี่ยนการสอนจากการท่องจำเป็นการคิดเชิงสนทนา

    ตัวอย่างการใช้งาน
    นักเรียนถามคำถาม เช่น “ทำไมวัตถุถึงตกลงสู่พื้น?”
    AI จำลองบทสนทนากับนักคิดอย่างอริสโตเติล นิวตัน และไอน์สไตน์

    เป้าหมายการศึกษาใหม่
    พัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา
    เตรียมนักเรียนรับมือวิกฤตระดับโลก เช่น สิ่งแวดล้อมและประชาธิปไตย

    คำเตือนจากงานวิจัย
    หากยังใช้การสอบแบบเดิม AI อาจกลายเป็น “พิษทางปัญญา”
    นักเรียนอาจสูญเสียความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกเป็นเจ้าของงาน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/23/education-needs-to-change-to-integrate-ai-research-paper-argues
    📰 "งานวิจัยชี้ การศึกษาต้องปรับตัวเพื่อบูรณาการ AI" บทความใน British Journal of Educational Technology ระบุว่า AI ไม่ควรถูกมองเพียงเป็นเครื่องมือโกงการบ้าน แต่สามารถใช้เป็น ผู้ช่วยสนทนาและการเรียนรู้เชิงร่วมมือ หากครูและนักเรียนใช้มันอย่างถูกวิธี ตัวอย่างเช่น การเรียนเรื่องแรงโน้มถ่วง นักเรียนสามารถตั้งคำถาม “ทำไมวัตถุถึงตกลงสู่พื้น?” แล้วใช้ AI จำลองบทสนทนากับนักคิดอย่างอริสโตเติล นิวตัน และไอน์สไตน์ เพื่อเข้าใจแนวคิดจากหลายมุมมอง 🧠 การเรียนรู้เชิงสนทนา (Dialogic Learning) ผู้เขียนเสนอให้การศึกษาเปลี่ยนจากการท่องจำเป็น การสนทนาและการคิดร่วมกัน โดยครูและนักเรียนร่วมกันสำรวจปัญหาและทดสอบแนวคิด การใช้ AI ในบทสนทนาเชิงวิชาการจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจหลักการได้ลึกซึ้งขึ้น และพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อโลกที่เผชิญวิกฤตระดับโลก เช่น วิกฤตสิ่งแวดล้อมและความท้าทายด้านประชาธิปไตย ⚠️ คำเตือน: AI อาจเป็น "พิษทางปัญญา" แม้ AI จะมีศักยภาพสูง แต่หากระบบการศึกษายังยึดติดกับการสอบแบบเดิมที่เน้นการเขียนเรียงความหรือการสังเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก นักเรียนอาจพึ่งพา AI จนสูญเสียความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกเป็นเจ้าของงานวิชาการเอง งานวิจัยเตือนว่า หากไม่ปรับวิธีการสอนและการประเมินผล AI จะกลายเป็นตัวบั่นทอนการเรียนรู้แทนที่จะเป็นเครื่องมือพัฒนา 🌍 มุมมองนักวิชาการ ศาสตราจารย์ Rupert Wegerif จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์กล่าวว่า “ทุกครั้งที่มีเทคโนโลยีใหม่ เราต้องคิดใหม่ว่าควรสอนอย่างไร” เช่นเดียวกับอินเทอร์เน็ตหรือกระดานดำในอดีต ตอนนี้ AI กำลังบังคับให้เราตั้งคำถามว่า เรากำลังเตรียมนักเรียนเพื่ออะไร และควรเน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือมากกว่าการท่องจำ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ข้อเสนอจากงานวิจัย ➡️ ใช้ AI เป็นผู้ช่วยสนทนาและการเรียนรู้ร่วมมือ ➡️ เปลี่ยนการสอนจากการท่องจำเป็นการคิดเชิงสนทนา ✅ ตัวอย่างการใช้งาน ➡️ นักเรียนถามคำถาม เช่น “ทำไมวัตถุถึงตกลงสู่พื้น?” ➡️ AI จำลองบทสนทนากับนักคิดอย่างอริสโตเติล นิวตัน และไอน์สไตน์ ✅ เป้าหมายการศึกษาใหม่ ➡️ พัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา ➡️ เตรียมนักเรียนรับมือวิกฤตระดับโลก เช่น สิ่งแวดล้อมและประชาธิปไตย ‼️ คำเตือนจากงานวิจัย ⛔ หากยังใช้การสอบแบบเดิม AI อาจกลายเป็น “พิษทางปัญญา” ⛔ นักเรียนอาจสูญเสียความคิดสร้างสรรค์และความรู้สึกเป็นเจ้าของงาน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/23/education-needs-to-change-to-integrate-ai-research-paper-argues
    0 Comments 0 Shares 156 Views 0 Reviews
  • "นักวิจัยใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์กระตุ้นสมองให้ 'ได้กลิ่น'"

    ทีมวิจัยจากหลายสถาบันทดลองใช้ focused ultrasound ยิงผ่านกะโหลกไปยัง olfactory bulb ซึ่งเป็นจุดประมวลผลกลิ่นในสมอง แม้ตำแหน่งนี้จะเข้าถึงยาก แต่พวกเขาสามารถเล็งคลื่นได้อย่างแม่นยำโดยใช้ MRI ช่วยกำหนดตำแหน่ง ผลการทดลองพบว่าผู้เข้าร่วมสามารถรับรู้กลิ่นได้จริงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทดลอง และยังสามารถแยกแยะกลิ่นต่าง ๆ ได้ในการทดสอบแบบ blind trial

    วิธีการทดลองและความปลอดภัย
    นักวิจัยใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความถี่ต่ำ (300 kHz) ที่สามารถทะลุผ่านกะโหลกได้ดี โดยกำหนดความลึกและมุมยิงอย่างแม่นยำเพื่อไม่ให้กระทบเส้นประสาทตา การทดสอบความปลอดภัยพบว่าความเข้มของคลื่นอยู่ในระดับต่ำกว่ามาตรฐานที่เคยใช้ในงาน tFUS (transcranial focused ultrasound) และไม่ก่อให้เกิดความร้อนหรือแรงดันที่เป็นอันตรายต่อสมอง

    ผลลัพธ์ที่ได้
    ผู้เข้าทดลองสองคนสามารถรับรู้กลิ่นได้ 4 แบบ ได้แก่
    กลิ่นอากาศสดชื่น
    กลิ่นขยะเก่า
    กลิ่นโอโซนคล้ายเครื่องฟอกอากาศ
    กลิ่นควันไฟจากไม้ที่กำลังไหม้

    นักวิจัยแยกความแตกต่างระหว่าง “กลิ่น” ที่ชัดเจนกับ “ความรู้สึก” ที่คล้ายกลิ่นแต่เบาบางกว่า และพบว่าการเล็งคลื่นเพียงเล็กน้อยก็สามารถเปลี่ยนกลิ่นที่รับรู้ได้

    ความหมายและอนาคต
    ทีมวิจัยเสนอว่า olfactory bulb อาจเป็นช่องทางใหม่ในการ เขียนข้อมูลเข้าสู่สมอง เพราะมีตัวรับกลิ่นกว่า 400 ชนิดที่สามารถเข้ารหัสข้อมูลได้หลากหลาย หากเทคโนโลยีนี้พัฒนาไปไกล อาจนำไปสู่การสร้าง “VR ที่มีกลิ่น” หรือแม้กระทั่งการสื่อสารข้อมูลเชิงความหมายผ่านกลิ่นโดยตรง ซึ่งอาจเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้และประสบการณ์มนุษย์ในอนาคต

    สรุปสาระสำคัญ
    การทดลองใหม่
    ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ยิงไปยัง olfactory bulb เพื่อกระตุ้นการรับรู้กลิ่น
    ผู้เข้าทดลองสามารถรับรู้กลิ่นได้ตั้งแต่ครั้งแรก

    ความปลอดภัย
    ความเข้มคลื่นต่ำกว่ามาตรฐานที่เคยใช้ในงาน tFUS
    ไม่กระทบเส้นประสาทตาและไม่ก่อให้เกิดความร้อน

    ผลลัพธ์
    พบกลิ่น 4 แบบ: อากาศสดชื่น, ขยะเก่า, โอโซน, ควันไฟ
    การเล็งคลื่นเพียงเล็กน้อยก็เปลี่ยนกลิ่นที่รับรู้ได้

    ความหมายในอนาคต
    อาจนำไปสู่ VR ที่มีกลิ่นหรือการสื่อสารข้อมูลผ่านกลิ่น
    เปิดช่องทางใหม่ในการเขียนข้อมูลเข้าสู่สมอง

    คำเตือน
    เทคโนโลยียังอยู่ในขั้นทดลอง อาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยระยะยาว
    การใช้เพื่อสื่อสารข้อมูลเข้าสมองโดยตรงอาจก่อให้เกิดประเด็นจริยธรรมและการควบคุม

    https://writetobrain.com/olfactory
    🧪 "นักวิจัยใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์กระตุ้นสมองให้ 'ได้กลิ่น'" ทีมวิจัยจากหลายสถาบันทดลองใช้ focused ultrasound ยิงผ่านกะโหลกไปยัง olfactory bulb ซึ่งเป็นจุดประมวลผลกลิ่นในสมอง แม้ตำแหน่งนี้จะเข้าถึงยาก แต่พวกเขาสามารถเล็งคลื่นได้อย่างแม่นยำโดยใช้ MRI ช่วยกำหนดตำแหน่ง ผลการทดลองพบว่าผู้เข้าร่วมสามารถรับรู้กลิ่นได้จริงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทดลอง และยังสามารถแยกแยะกลิ่นต่าง ๆ ได้ในการทดสอบแบบ blind trial ⚙️ วิธีการทดลองและความปลอดภัย นักวิจัยใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความถี่ต่ำ (300 kHz) ที่สามารถทะลุผ่านกะโหลกได้ดี โดยกำหนดความลึกและมุมยิงอย่างแม่นยำเพื่อไม่ให้กระทบเส้นประสาทตา การทดสอบความปลอดภัยพบว่าความเข้มของคลื่นอยู่ในระดับต่ำกว่ามาตรฐานที่เคยใช้ในงาน tFUS (transcranial focused ultrasound) และไม่ก่อให้เกิดความร้อนหรือแรงดันที่เป็นอันตรายต่อสมอง 🌬️ ผลลัพธ์ที่ได้ ผู้เข้าทดลองสองคนสามารถรับรู้กลิ่นได้ 4 แบบ ได้แก่ ⭐ กลิ่นอากาศสดชื่น ⭐ กลิ่นขยะเก่า ⭐ กลิ่นโอโซนคล้ายเครื่องฟอกอากาศ ⭐ กลิ่นควันไฟจากไม้ที่กำลังไหม้ นักวิจัยแยกความแตกต่างระหว่าง “กลิ่น” ที่ชัดเจนกับ “ความรู้สึก” ที่คล้ายกลิ่นแต่เบาบางกว่า และพบว่าการเล็งคลื่นเพียงเล็กน้อยก็สามารถเปลี่ยนกลิ่นที่รับรู้ได้ 🌐 ความหมายและอนาคต ทีมวิจัยเสนอว่า olfactory bulb อาจเป็นช่องทางใหม่ในการ เขียนข้อมูลเข้าสู่สมอง เพราะมีตัวรับกลิ่นกว่า 400 ชนิดที่สามารถเข้ารหัสข้อมูลได้หลากหลาย หากเทคโนโลยีนี้พัฒนาไปไกล อาจนำไปสู่การสร้าง “VR ที่มีกลิ่น” หรือแม้กระทั่งการสื่อสารข้อมูลเชิงความหมายผ่านกลิ่นโดยตรง ซึ่งอาจเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้และประสบการณ์มนุษย์ในอนาคต 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การทดลองใหม่ ➡️ ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ยิงไปยัง olfactory bulb เพื่อกระตุ้นการรับรู้กลิ่น ➡️ ผู้เข้าทดลองสามารถรับรู้กลิ่นได้ตั้งแต่ครั้งแรก ✅ ความปลอดภัย ➡️ ความเข้มคลื่นต่ำกว่ามาตรฐานที่เคยใช้ในงาน tFUS ➡️ ไม่กระทบเส้นประสาทตาและไม่ก่อให้เกิดความร้อน ✅ ผลลัพธ์ ➡️ พบกลิ่น 4 แบบ: อากาศสดชื่น, ขยะเก่า, โอโซน, ควันไฟ ➡️ การเล็งคลื่นเพียงเล็กน้อยก็เปลี่ยนกลิ่นที่รับรู้ได้ ✅ ความหมายในอนาคต ➡️ อาจนำไปสู่ VR ที่มีกลิ่นหรือการสื่อสารข้อมูลผ่านกลิ่น ➡️ เปิดช่องทางใหม่ในการเขียนข้อมูลเข้าสู่สมอง ‼️ คำเตือน ⛔ เทคโนโลยียังอยู่ในขั้นทดลอง อาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยระยะยาว ⛔ การใช้เพื่อสื่อสารข้อมูลเข้าสมองโดยตรงอาจก่อให้เกิดประเด็นจริยธรรมและการควบคุม https://writetobrain.com/olfactory
    WRITETOBRAIN.COM
    We Induced Smells With Ultrasound
    We decided to try to stimulate the olfactory bulb with focused ultrasound. As far as we know, no one seems to have done this kind of stimulation before - even in animals.
    0 Comments 0 Shares 110 Views 0 Reviews
  • Olmo 3 – เปิดทางใหม่ให้ AI แบบโอเพนซอร์ส

    AI2 เปิดตัว Olmo 3 ซึ่งเป็นตระกูลโมเดลภาษาโอเพนซอร์สที่มีทั้งรุ่น 7B และ 32B parameters จุดเด่นคือไม่ใช่แค่ปล่อยโมเดลสำเร็จ แต่ยังเปิดเผย model flow หรือเส้นทางการพัฒนาทั้งหมด ตั้งแต่ข้อมูลฝึก, pipeline, ไปจนถึง checkpoint แต่ละช่วง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจและปรับแต่งได้อย่างเต็มที่

    ที่สำคัญ Olmo 3 มาพร้อม Olmo 3-Think (32B) ซึ่งเป็น reasoning model ที่สามารถตรวจสอบ intermediate reasoning traces และเชื่อมโยงพฤติกรรมกลับไปยังข้อมูลฝึกและการตัดสินใจที่ใช้ในการเทรน ถือเป็นครั้งแรกที่โมเดลโอเพนซอร์สเปิดให้ตรวจสอบการคิดแบบละเอียดเช่นนี้

    สมรรถนะและการเปรียบเทียบ
    Olmo 3-Base (7B, 32B): โมเดลฐานที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มโอเพนซอร์ส สามารถแก้โจทย์โปรแกรมมิ่ง, การอ่านจับใจความ, และคณิตศาสตร์ได้ดีเยี่ยม พร้อมรองรับ context ยาวถึง ~65K tokens
    Olmo 3-Think: โมเดล reasoning ที่แข่งขันได้กับ Qwen 3 และ Gemma 3 โดยใช้ข้อมูลฝึกน้อยกว่า แต่ยังคงทำคะแนนสูงใน benchmark อย่าง MATH, BigBenchHard และ HumanEvalPlus
    Olmo 3-Instruct (7B): โมเดลสำหรับการสนทนาและการทำงานแบบ multi-turn ที่สามารถทำงาน instruction-following และ function calling ได้ดี เทียบเคียงกับ Qwen 2.5 และ Llama 3.1
    Olmo 3-RL Zero: เส้นทางสำหรับการทดลอง reinforcement learning โดยเปิด checkpoint สำหรับโดเมนเฉพาะ เช่น math, code, และ instruction-following

    ความโปร่งใสและการเข้าถึง
    Olmo 3 ใช้ชุดข้อมูลใหม่ Dolma 3 (~9.3T tokens) และ Dolci สำหรับ post-training โดยเปิดให้ดาวน์โหลดทั้งหมดภายใต้ใบอนุญาตโอเพนซอร์ส พร้อมเครื่องมือเสริม เช่น OlmoTrace ที่ช่วยตรวจสอบว่าโมเดลเรียนรู้จากข้อมูลใดและอย่างไร

    การเปิดเผยทั้ง pipeline และข้อมูลฝึกทำให้ Olmo 3 ไม่ใช่แค่โมเดล แต่เป็น scaffold สำหรับการสร้างระบบ AI ใหม่ ที่ทุกคนสามารถ fork, remix หรือปรับแต่งได้ตามความต้องการ

    สรุปสาระสำคัญ
    จุดเด่นของ Olmo 3
    เปิดเผยทั้ง model flow ตั้งแต่ข้อมูลฝึกถึง checkpoint
    รองรับ context ยาว ~65K tokens

    โมเดลย่อย
    Olmo 3-Base: โมเดลฐานที่แข็งแกร่งที่สุดในโอเพนซอร์ส
    Olmo 3-Think: reasoning model ที่ตรวจสอบ trace ได้
    Olmo 3-Instruct: เน้นสนทนาและการใช้เครื่องมือ
    Olmo 3-RL Zero: สำหรับการทดลอง reinforcement learning

    ความโปร่งใส
    เปิดข้อมูล Dolma 3 และ Dolci ให้ดาวน์โหลด
    มี OlmoTrace สำหรับตรวจสอบการเรียนรู้

    คำเตือน
    แม้เปิดกว้าง แต่การใช้งาน reasoning model ต้องใช้ทรัพยากรสูง (เช่น GPU cluster)
    การปรับแต่งต้องอาศัยความเข้าใจเชิงลึกใน pipeline และ data mix
    ยังมีความเสี่ยงด้านบั๊กหรือการตีความผิดพลาดจาก reasoning trace ที่ต้องตรวจสอบเอง

    https://allenai.org/blog/olmo3
    🤖 Olmo 3 – เปิดทางใหม่ให้ AI แบบโอเพนซอร์ส AI2 เปิดตัว Olmo 3 ซึ่งเป็นตระกูลโมเดลภาษาโอเพนซอร์สที่มีทั้งรุ่น 7B และ 32B parameters จุดเด่นคือไม่ใช่แค่ปล่อยโมเดลสำเร็จ แต่ยังเปิดเผย model flow หรือเส้นทางการพัฒนาทั้งหมด ตั้งแต่ข้อมูลฝึก, pipeline, ไปจนถึง checkpoint แต่ละช่วง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจและปรับแต่งได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญ Olmo 3 มาพร้อม Olmo 3-Think (32B) ซึ่งเป็น reasoning model ที่สามารถตรวจสอบ intermediate reasoning traces และเชื่อมโยงพฤติกรรมกลับไปยังข้อมูลฝึกและการตัดสินใจที่ใช้ในการเทรน ถือเป็นครั้งแรกที่โมเดลโอเพนซอร์สเปิดให้ตรวจสอบการคิดแบบละเอียดเช่นนี้ 📊 สมรรถนะและการเปรียบเทียบ 🎗️ Olmo 3-Base (7B, 32B): โมเดลฐานที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มโอเพนซอร์ส สามารถแก้โจทย์โปรแกรมมิ่ง, การอ่านจับใจความ, และคณิตศาสตร์ได้ดีเยี่ยม พร้อมรองรับ context ยาวถึง ~65K tokens 🎗️ Olmo 3-Think: โมเดล reasoning ที่แข่งขันได้กับ Qwen 3 และ Gemma 3 โดยใช้ข้อมูลฝึกน้อยกว่า แต่ยังคงทำคะแนนสูงใน benchmark อย่าง MATH, BigBenchHard และ HumanEvalPlus 🎗️ Olmo 3-Instruct (7B): โมเดลสำหรับการสนทนาและการทำงานแบบ multi-turn ที่สามารถทำงาน instruction-following และ function calling ได้ดี เทียบเคียงกับ Qwen 2.5 และ Llama 3.1 🎗️ Olmo 3-RL Zero: เส้นทางสำหรับการทดลอง reinforcement learning โดยเปิด checkpoint สำหรับโดเมนเฉพาะ เช่น math, code, และ instruction-following 🔍 ความโปร่งใสและการเข้าถึง Olmo 3 ใช้ชุดข้อมูลใหม่ Dolma 3 (~9.3T tokens) และ Dolci สำหรับ post-training โดยเปิดให้ดาวน์โหลดทั้งหมดภายใต้ใบอนุญาตโอเพนซอร์ส พร้อมเครื่องมือเสริม เช่น OlmoTrace ที่ช่วยตรวจสอบว่าโมเดลเรียนรู้จากข้อมูลใดและอย่างไร การเปิดเผยทั้ง pipeline และข้อมูลฝึกทำให้ Olmo 3 ไม่ใช่แค่โมเดล แต่เป็น scaffold สำหรับการสร้างระบบ AI ใหม่ ที่ทุกคนสามารถ fork, remix หรือปรับแต่งได้ตามความต้องการ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ จุดเด่นของ Olmo 3 ➡️ เปิดเผยทั้ง model flow ตั้งแต่ข้อมูลฝึกถึง checkpoint ➡️ รองรับ context ยาว ~65K tokens ✅ โมเดลย่อย ➡️ Olmo 3-Base: โมเดลฐานที่แข็งแกร่งที่สุดในโอเพนซอร์ส ➡️ Olmo 3-Think: reasoning model ที่ตรวจสอบ trace ได้ ➡️ Olmo 3-Instruct: เน้นสนทนาและการใช้เครื่องมือ ➡️ Olmo 3-RL Zero: สำหรับการทดลอง reinforcement learning ✅ ความโปร่งใส ➡️ เปิดข้อมูล Dolma 3 และ Dolci ให้ดาวน์โหลด ➡️ มี OlmoTrace สำหรับตรวจสอบการเรียนรู้ ‼️ คำเตือน ⛔ แม้เปิดกว้าง แต่การใช้งาน reasoning model ต้องใช้ทรัพยากรสูง (เช่น GPU cluster) ⛔ การปรับแต่งต้องอาศัยความเข้าใจเชิงลึกใน pipeline และ data mix ⛔ ยังมีความเสี่ยงด้านบั๊กหรือการตีความผิดพลาดจาก reasoning trace ที่ต้องตรวจสอบเอง https://allenai.org/blog/olmo3
    ALLENAI.ORG
    Olmo 3: Charting a path through the model flow to lead open-source AI | Ai2
    Our new flagship Olmo 3 model family empowers the open source community with not only state-of-the-art open models, but the entire model flow and full traceability back to training data.
    0 Comments 0 Shares 136 Views 0 Reviews
  • ทำไมการหาสาเหตุหลักของการโจมตีไซเบอร์ยังคงเป็นเรื่องยาก

    รายงานจาก Foundry’s Security Priorities study ระบุว่า 57% ของผู้นำด้านความปลอดภัยยอมรับว่าองค์กรของตนไม่สามารถหาสาเหตุรากของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาได้ ส่งผลให้มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกโจมตีซ้ำอีกครั้ง ปัญหาหลักคือการมุ่งเน้นไปที่การ “ดับไฟ” หรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้า มากกว่าการทำ postmortem analysis ที่จริงจัง

    ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย เช่นจาก Huntress และ BlueVoyant เตือนว่า การไม่ทำ forensic investigation อย่างเป็นระบบ ทำให้องค์กรเหมือน “ป้องกันตัวเองแบบปิดตา” และพลาดโอกาสในการเรียนรู้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในอนาคต

    ความท้าทายที่ทำให้องค์กรพลาดการเรียนรู้
    ขาดทรัพยากรและบุคลากรที่มีทักษะด้าน forensics
    แรงกดดันจากธุรกิจ ที่ต้องการให้ระบบกลับมาออนไลน์เร็วที่สุด ทำให้หลักฐานถูกทำลาย
    เครื่องมือที่แยกส่วนกัน (siloed tools) ทำให้ไม่สามารถ reconstruct เส้นทางการโจมตีได้ครบถ้วน
    การข้ามขั้นตอน postmortem หรือทำแบบไม่เป็นทางการ ส่งผลให้บทเรียนไม่ถูกนำไปใช้จริง

    ผู้เชี่ยวชาญจาก Trend Micro และ Semperis เน้นว่า การสร้าง resilience ต้องอาศัยการวิเคราะห์เชิงลึกและการเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่แค่การกู้คืนระบบให้กลับมาใช้งานได้

    แนวทางแก้ไขเพื่อสร้าง Resilience
    เตรียมเครื่องมือ forensics ล่วงหน้า เช่น SIEM ที่สามารถเก็บ log ได้ยาวนาน
    ทำ incident response แบบครบวงจร: ตรวจจับ → วิเคราะห์ → กักกัน → กู้คืน → postmortem
    ฝึกซ้อมด้วย tabletop exercise เพื่อให้ทีมพร้อมรับมือจริง
    ใช้แนวคิด forensic readiness เพื่อให้มั่นใจว่าหลักฐานจะไม่สูญหาย
    บูรณาการ threat intelligence เพื่อเชื่อมโยงเหตุการณ์กับแคมเปญการโจมตีที่ใหญ่กว่า

    สรุปสาระสำคัญ
    ปัญหาที่พบในองค์กร
    57% ไม่สามารถหาสาเหตุรากของการโจมตีได้
    มุ่งเน้นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแทนการเรียนรู้

    ความท้าทาย
    ขาดบุคลากรด้าน forensics
    เครื่องมือแยกส่วนและแรงกดดันทางธุรกิจ
    หลักฐานถูกทำลายเพราะรีบกู้ระบบ

    แนวทางแก้ไข
    ใช้ SIEM และเครื่องมือเก็บ log
    ทำ incident response ครบวงจรและ postmortem analysis
    ฝึกซ้อมและสร้าง forensic readiness

    คำเตือน
    หากไม่หาสาเหตุราก องค์กรจะเสี่ยงต่อการถูกโจมตีซ้ำ
    การกู้ระบบโดยไม่เก็บหลักฐานทำให้สูญเสียโอกาสเรียนรู้
    การข้ามขั้นตอน postmortem เท่ากับ “รักษาอาการ” แต่ไม่แก้ปัญหาที่แท้จริง

    https://www.csoonline.com/article/4093403/root-causes-of-security-breaches-remain-elusive-jeopardizing-resilience.html
    🔐 ทำไมการหาสาเหตุหลักของการโจมตีไซเบอร์ยังคงเป็นเรื่องยาก รายงานจาก Foundry’s Security Priorities study ระบุว่า 57% ของผู้นำด้านความปลอดภัยยอมรับว่าองค์กรของตนไม่สามารถหาสาเหตุรากของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาได้ ส่งผลให้มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกโจมตีซ้ำอีกครั้ง ปัญหาหลักคือการมุ่งเน้นไปที่การ “ดับไฟ” หรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้า มากกว่าการทำ postmortem analysis ที่จริงจัง ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย เช่นจาก Huntress และ BlueVoyant เตือนว่า การไม่ทำ forensic investigation อย่างเป็นระบบ ทำให้องค์กรเหมือน “ป้องกันตัวเองแบบปิดตา” และพลาดโอกาสในการเรียนรู้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในอนาคต 🛠️ ความท้าทายที่ทำให้องค์กรพลาดการเรียนรู้ 💠 ขาดทรัพยากรและบุคลากรที่มีทักษะด้าน forensics 💠 แรงกดดันจากธุรกิจ ที่ต้องการให้ระบบกลับมาออนไลน์เร็วที่สุด ทำให้หลักฐานถูกทำลาย 💠 เครื่องมือที่แยกส่วนกัน (siloed tools) ทำให้ไม่สามารถ reconstruct เส้นทางการโจมตีได้ครบถ้วน 💠 การข้ามขั้นตอน postmortem หรือทำแบบไม่เป็นทางการ ส่งผลให้บทเรียนไม่ถูกนำไปใช้จริง ผู้เชี่ยวชาญจาก Trend Micro และ Semperis เน้นว่า การสร้าง resilience ต้องอาศัยการวิเคราะห์เชิงลึกและการเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่แค่การกู้คืนระบบให้กลับมาใช้งานได้ 🌍 แนวทางแก้ไขเพื่อสร้าง Resilience 💠 เตรียมเครื่องมือ forensics ล่วงหน้า เช่น SIEM ที่สามารถเก็บ log ได้ยาวนาน 💠 ทำ incident response แบบครบวงจร: ตรวจจับ → วิเคราะห์ → กักกัน → กู้คืน → postmortem 💠 ฝึกซ้อมด้วย tabletop exercise เพื่อให้ทีมพร้อมรับมือจริง 💠 ใช้แนวคิด forensic readiness เพื่อให้มั่นใจว่าหลักฐานจะไม่สูญหาย 💠 บูรณาการ threat intelligence เพื่อเชื่อมโยงเหตุการณ์กับแคมเปญการโจมตีที่ใหญ่กว่า 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ปัญหาที่พบในองค์กร ➡️ 57% ไม่สามารถหาสาเหตุรากของการโจมตีได้ ➡️ มุ่งเน้นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแทนการเรียนรู้ ✅ ความท้าทาย ➡️ ขาดบุคลากรด้าน forensics ➡️ เครื่องมือแยกส่วนและแรงกดดันทางธุรกิจ ➡️ หลักฐานถูกทำลายเพราะรีบกู้ระบบ ✅ แนวทางแก้ไข ➡️ ใช้ SIEM และเครื่องมือเก็บ log ➡️ ทำ incident response ครบวงจรและ postmortem analysis ➡️ ฝึกซ้อมและสร้าง forensic readiness ‼️ คำเตือน ⛔ หากไม่หาสาเหตุราก องค์กรจะเสี่ยงต่อการถูกโจมตีซ้ำ ⛔ การกู้ระบบโดยไม่เก็บหลักฐานทำให้สูญเสียโอกาสเรียนรู้ ⛔ การข้ามขั้นตอน postmortem เท่ากับ “รักษาอาการ” แต่ไม่แก้ปัญหาที่แท้จริง https://www.csoonline.com/article/4093403/root-causes-of-security-breaches-remain-elusive-jeopardizing-resilience.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Root causes of security breaches remain elusive — jeopardizing resilience
    Failure to pinpoint cause of breaches leaves many organizations wide open to further attacks. Resource shortages, firefight pressure, planning issues, and lack of post-incident follow-up to blame.
    0 Comments 0 Shares 179 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline
    #รวมข่าวIT #20251121 #securityonline

    Chrome ทดลองฟีเจอร์ "Vertical Tabs"
    Google กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ใน Chrome Canary ที่ให้ผู้ใช้จัดเรียงแท็บในแนวตั้งทางด้านซ้ายของหน้าต่าง เหมือนกับที่ Microsoft Edge และ Firefox เคยมีมาแล้ว ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ดูไม่ค่อยสมบูรณ์ แต่สามารถใช้งานได้ เช่น การค้นหาแท็บ การจัดกลุ่ม และการเปลี่ยนชื่อกลุ่ม คาดว่ากว่าจะถึงเวอร์ชันเสถียรอาจต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน
    https://securityonline.info/chrome-testing-vertical-tabs-new-ui-feature-spotted-in-canary-build

    OpenAI เปิดตัว Group Chat ใน ChatGPT ทั่วโลก
    OpenAI เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ ChatGPT คือการสร้างห้องแชทกลุ่มที่เชิญเพื่อนได้สูงสุด 20 คน ใช้ได้ทั้งผู้ใช้ฟรีและเสียเงิน จุดเด่นคือสามารถใช้ ChatGPT ร่วมกันในกลุ่มเพื่อวางแผน ทำโปรเจกต์ หรือถกเถียงเรื่องต่าง ๆ โดยระบบถูกออกแบบให้เข้าใจบริบทการสนทนาในกลุ่ม และยังสามารถใช้ @mention เพื่อเรียกให้ ChatGPT ตอบได้ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การใช้งาน AI มีความเป็นสังคมมากขึ้น
    https://securityonline.info/openai-rolls-out-group-chat-globally-collaborate-with-up-to-20-people-in-chatgpt

    Google เปิดตัว Nano Banana Pro รุ่นใหม่
    Google เปิดตัวโมเดลสร้างภาพเวอร์ชันใหม่ชื่อ Nano Banana Pro ที่ทำงานบน Gemini 3 Pro จุดเด่นคือสามารถใส่ข้อความในภาพได้อย่างคมชัดและรองรับหลายภาษา รวมถึงมีเครื่องมือแก้ไขภาพ เช่น ปรับมุมกล้อง สี แสง และสามารถส่งออกภาพความละเอียดสูงถึง 4K อีกทั้งยังมีระบบตรวจสอบภาพที่สร้างด้วย AI โดยใส่วอเตอร์มาร์กเพื่อแยกจากภาพจริง
    https://securityonline.info/googles-nano-banana-pro-model-solves-ai-image-text-rendering-with-gemini-3-pro

    Salesforce รีบถอน Access Tokens หลังพบปัญหา Gainsight
    Salesforce ออกประกาศเตือนด้านความปลอดภัย หลังพบกิจกรรมผิดปกติในแอป Gainsight ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มของตน อาจทำให้ข้อมูลลูกค้าบางส่วนถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ทาง Salesforce จึงรีบเพิกถอน access tokens ทั้งหมดและถอดแอปออกจาก AppExchange ขณะนี้ Gainsight กำลังร่วมมือกับ Salesforce เพื่อหาสาเหตุและแก้ไขปัญหา
    https://securityonline.info/salesforce-revokes-access-tokens-gainsight-app-breach-may-have-exposed-customer-data

    Trojan ใหม่ "Sturnus" โจมตี Android
    นักวิจัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ Sturnus ที่อันตรายมาก เพราะสามารถเข้าควบคุมเครื่อง Android ได้เต็มรูปแบบ และยังสามารถดักข้อความจากแอปเข้ารหัสอย่าง WhatsApp, Telegram และ Signal โดยใช้ Accessibility Service เพื่อดูข้อความหลังจากถูกถอดรหัสแล้ว นอกจากนี้ยังสามารถทำการโจมตีแบบ Overlay หลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลธนาคาร และทำธุรกรรมลับ ๆ โดยปิดหน้าจอให้ผู้ใช้ไม่เห็น
    https://securityonline.info/sturnus-trojan-bypasses-whatsapp-signal-encryption-takes-over-android-devices

    มัลแวร์ Sturnus Trojan โจมตี Android
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ Sturnus Trojan ที่สามารถเจาะระบบ Android ได้อย่างรุนแรง โดยมันสามารถข้ามการเข้ารหัสของ WhatsApp และ Signal เพื่อดักจับข้อความ รวมถึงเข้าควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้เต็มรูปแบบ จุดที่น่ากังวลคือมันใช้ Accessibility Service เพื่อหลอกผู้ใช้กรอกข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสธนาคาร และยังสามารถทำธุรกรรมโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว
    https://securityonline.info/sturnus-trojan-bypasses-whatsapp-signal-encryption-takes-over-android-devices

    ช่องโหว่ WSUS RCE ถูกโจมตีจริง
    มีการรายงานว่า ช่องโหว่ WSUS RCE (CVE-2025-59287) ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว โดยแฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่นี้ในการติดตั้ง ShadowPad Backdoor ลงในระบบ ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงและควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างลับ ๆ ช่องโหว่นี้ถือว่าอันตรายมากเพราะ WSUS เป็นระบบที่ใช้กระจายอัปเดต Windows ในองค์กร หากถูกเจาะจะกระทบวงกว้าง
    https://securityonline.info/critical-wsus-rce-cve-2025-59287-actively-exploited-to-deploy-shadowpad-backdoor

    SonicWall เตือนช่องโหว่ SSLVPN ร้ายแรง
    SonicWall ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ใหม่ใน SonicOS SSLVPN (CVE-2025-40601) ที่สามารถถูกโจมตีได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน (Pre-Auth Buffer Overflow) ช่องโหว่นี้อาจเปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมระบบ VPN ได้ทันที ทำให้ข้อมูลและการเชื่อมต่อขององค์กรเสี่ยงต่อการถูกเจาะ
    https://securityonline.info/sonicwall-warns-of-new-sonicos-sslvpn-pre-auth-buffer-overflow-vulnerability-cve-2025-40601

    Grafana อุดช่องโหว่ SCIM ระดับวิกฤติ
    Grafana ได้ปล่อยแพตช์แก้ไขช่องโหว่ SCIM (CVE-2025-41115) ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด CVSS 10 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์และสวมรอยเป็นผู้ใช้คนอื่นได้ ซึ่งถือว่าอันตรายมากสำหรับระบบที่ใช้ Grafana ในการจัดการข้อมูลและการแสดงผล
    https://securityonline.info/grafana-patches-critical-scim-flaw-cve-2025-41115-cvss-10-allowing-privilege-escalation-and-user-impersonation

    NVIDIA ทำลายความกังวล "AI Bubble" ด้วยรายได้สถิติ
    NVIDIA ประกาศผลประกอบการล่าสุด ทำรายได้สูงถึง 57 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติใหม่ ทำให้ความกังวลเรื่องฟองสบู่ AI ลดลงทันที รายได้มหาศาลนี้สะท้อนถึงความต้องการชิป GPU ที่ยังคงพุ่งสูงจากการใช้งานด้าน AI และ Data Center
    https://securityonline.info/nvidia-crushes-ai-bubble-fears-with-record-57b-revenue

    OpenAI เปิดตัว ChatGPT ฟรีสำหรับครู K–12
    OpenAI ประกาศให้บริการ ChatGPT เวอร์ชันฟรีสำหรับครูระดับ K–12 โดยออกแบบให้สอดคล้องกับกฎหมาย FERPA เพื่อปกป้องข้อมูลนักเรียน ใช้ได้จนถึงปี 2027 จุดประสงค์คือช่วยครูในการเตรียมการสอน วางแผนบทเรียน และสร้างสื่อการเรียนรู้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
    https://securityonline.info/openai-launches-free-ferpa-compliant-chatgpt-for-k-12-teachers-until-2027

    Google Accelerator รายงานผลกระทบระดับโลก
    Google Accelerator เผยรายงานล่าสุดว่ามีการระดมทุนได้มากถึง 31.2 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนโครงการนวัตกรรมทั่วโลก รายงานนี้ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบเชิงบวกต่อสตาร์ทอัพและธุรกิจที่เข้าร่วม โดยช่วยสร้างงานและขยายโอกาสในหลายประเทศ
    https://securityonline.info/31-2-billion-raised-google-accelerator-reveals-massive-global-impact-report

    Thunderbird 145 รองรับ Microsoft Exchange แบบเนทีฟ
    Thunderbird อัปเดตเวอร์ชันใหม่ Thunderbird 145 ที่เพิ่มการรองรับ Microsoft Exchange แบบเนทีฟ ทำให้ผู้ใช้สามารถย้ายจาก Outlook มาใช้งาน Thunderbird ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องใช้ปลั๊กอินเสริม ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การจัดการอีเมลและปฏิทินสะดวกขึ้นสำหรับองค์กรที่ต้องการทางเลือกนอกเหนือจาก Outlook
    https://securityonline.info/thunderbird-145-native-microsoft-exchange-support-makes-outlook-migration-easy

    EU เปิดการสอบสวน DMA ต่อ AWS และ Azure
    สหภาพยุโรป (EU) เริ่มสอบสวนภายใต้กฎหมาย Digital Markets Act (DMA) ว่า AWS และ Azure อาจเข้าข่ายเป็น “Gatekeeper” หรือไม่ หากพบว่ามีการผูกขาดหรือกีดกันการแข่งขัน อาจต้องมีมาตรการควบคุมเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจคลาวด์ในยุโรปอย่างมาก
    https://securityonline.info/eu-launches-dma-probes-is-gatekeeper-status-next-for-aws-azure-cloud

    Google ขยายสิทธิ์ AI Pro ฟรีสำหรับนักเรียน
    Google ประกาศขยายสิทธิ์การใช้งาน AI Pro Subscription ฟรีสำหรับนักเรียน ไปจนถึงปี 2027 เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้และการเข้าถึงเครื่องมือ AI ขั้นสูง นักเรียนสามารถใช้ฟีเจอร์เต็มรูปแบบโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ถือเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตด้านการศึกษาและเทคโนโลยี
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/google-extends-free-ai-pro-subscription-for-students-until-2027
    📌📰🔵 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🔵📰📌 #รวมข่าวIT #20251121 #securityonline 🖥️ Chrome ทดลองฟีเจอร์ "Vertical Tabs" Google กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ใน Chrome Canary ที่ให้ผู้ใช้จัดเรียงแท็บในแนวตั้งทางด้านซ้ายของหน้าต่าง เหมือนกับที่ Microsoft Edge และ Firefox เคยมีมาแล้ว ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ดูไม่ค่อยสมบูรณ์ แต่สามารถใช้งานได้ เช่น การค้นหาแท็บ การจัดกลุ่ม และการเปลี่ยนชื่อกลุ่ม คาดว่ากว่าจะถึงเวอร์ชันเสถียรอาจต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน 🔗 https://securityonline.info/chrome-testing-vertical-tabs-new-ui-feature-spotted-in-canary-build 👥 OpenAI เปิดตัว Group Chat ใน ChatGPT ทั่วโลก OpenAI เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ ChatGPT คือการสร้างห้องแชทกลุ่มที่เชิญเพื่อนได้สูงสุด 20 คน ใช้ได้ทั้งผู้ใช้ฟรีและเสียเงิน จุดเด่นคือสามารถใช้ ChatGPT ร่วมกันในกลุ่มเพื่อวางแผน ทำโปรเจกต์ หรือถกเถียงเรื่องต่าง ๆ โดยระบบถูกออกแบบให้เข้าใจบริบทการสนทนาในกลุ่ม และยังสามารถใช้ @mention เพื่อเรียกให้ ChatGPT ตอบได้ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การใช้งาน AI มีความเป็นสังคมมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/openai-rolls-out-group-chat-globally-collaborate-with-up-to-20-people-in-chatgpt 🎨 Google เปิดตัว Nano Banana Pro รุ่นใหม่ Google เปิดตัวโมเดลสร้างภาพเวอร์ชันใหม่ชื่อ Nano Banana Pro ที่ทำงานบน Gemini 3 Pro จุดเด่นคือสามารถใส่ข้อความในภาพได้อย่างคมชัดและรองรับหลายภาษา รวมถึงมีเครื่องมือแก้ไขภาพ เช่น ปรับมุมกล้อง สี แสง และสามารถส่งออกภาพความละเอียดสูงถึง 4K อีกทั้งยังมีระบบตรวจสอบภาพที่สร้างด้วย AI โดยใส่วอเตอร์มาร์กเพื่อแยกจากภาพจริง 🔗 https://securityonline.info/googles-nano-banana-pro-model-solves-ai-image-text-rendering-with-gemini-3-pro 🔐 Salesforce รีบถอน Access Tokens หลังพบปัญหา Gainsight Salesforce ออกประกาศเตือนด้านความปลอดภัย หลังพบกิจกรรมผิดปกติในแอป Gainsight ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มของตน อาจทำให้ข้อมูลลูกค้าบางส่วนถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ทาง Salesforce จึงรีบเพิกถอน access tokens ทั้งหมดและถอดแอปออกจาก AppExchange ขณะนี้ Gainsight กำลังร่วมมือกับ Salesforce เพื่อหาสาเหตุและแก้ไขปัญหา 🔗 https://securityonline.info/salesforce-revokes-access-tokens-gainsight-app-breach-may-have-exposed-customer-data 📱 Trojan ใหม่ "Sturnus" โจมตี Android นักวิจัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ Sturnus ที่อันตรายมาก เพราะสามารถเข้าควบคุมเครื่อง Android ได้เต็มรูปแบบ และยังสามารถดักข้อความจากแอปเข้ารหัสอย่าง WhatsApp, Telegram และ Signal โดยใช้ Accessibility Service เพื่อดูข้อความหลังจากถูกถอดรหัสแล้ว นอกจากนี้ยังสามารถทำการโจมตีแบบ Overlay หลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลธนาคาร และทำธุรกรรมลับ ๆ โดยปิดหน้าจอให้ผู้ใช้ไม่เห็น 🔗 https://securityonline.info/sturnus-trojan-bypasses-whatsapp-signal-encryption-takes-over-android-devices ⚠️ มัลแวร์ Sturnus Trojan โจมตี Android นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ Sturnus Trojan ที่สามารถเจาะระบบ Android ได้อย่างรุนแรง โดยมันสามารถข้ามการเข้ารหัสของ WhatsApp และ Signal เพื่อดักจับข้อความ รวมถึงเข้าควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้เต็มรูปแบบ จุดที่น่ากังวลคือมันใช้ Accessibility Service เพื่อหลอกผู้ใช้กรอกข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสธนาคาร และยังสามารถทำธุรกรรมโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว 🔗 https://securityonline.info/sturnus-trojan-bypasses-whatsapp-signal-encryption-takes-over-android-devices 🛡️ ช่องโหว่ WSUS RCE ถูกโจมตีจริง มีการรายงานว่า ช่องโหว่ WSUS RCE (CVE-2025-59287) ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว โดยแฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่นี้ในการติดตั้ง ShadowPad Backdoor ลงในระบบ ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงและควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างลับ ๆ ช่องโหว่นี้ถือว่าอันตรายมากเพราะ WSUS เป็นระบบที่ใช้กระจายอัปเดต Windows ในองค์กร หากถูกเจาะจะกระทบวงกว้าง 🔗 https://securityonline.info/critical-wsus-rce-cve-2025-59287-actively-exploited-to-deploy-shadowpad-backdoor 🔒 SonicWall เตือนช่องโหว่ SSLVPN ร้ายแรง SonicWall ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ใหม่ใน SonicOS SSLVPN (CVE-2025-40601) ที่สามารถถูกโจมตีได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน (Pre-Auth Buffer Overflow) ช่องโหว่นี้อาจเปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมระบบ VPN ได้ทันที ทำให้ข้อมูลและการเชื่อมต่อขององค์กรเสี่ยงต่อการถูกเจาะ 🔗 https://securityonline.info/sonicwall-warns-of-new-sonicos-sslvpn-pre-auth-buffer-overflow-vulnerability-cve-2025-40601 📊 Grafana อุดช่องโหว่ SCIM ระดับวิกฤติ Grafana ได้ปล่อยแพตช์แก้ไขช่องโหว่ SCIM (CVE-2025-41115) ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด CVSS 10 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์และสวมรอยเป็นผู้ใช้คนอื่นได้ ซึ่งถือว่าอันตรายมากสำหรับระบบที่ใช้ Grafana ในการจัดการข้อมูลและการแสดงผล 🔗 https://securityonline.info/grafana-patches-critical-scim-flaw-cve-2025-41115-cvss-10-allowing-privilege-escalation-and-user-impersonation 💰 NVIDIA ทำลายความกังวล "AI Bubble" ด้วยรายได้สถิติ NVIDIA ประกาศผลประกอบการล่าสุด ทำรายได้สูงถึง 57 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติใหม่ ทำให้ความกังวลเรื่องฟองสบู่ AI ลดลงทันที รายได้มหาศาลนี้สะท้อนถึงความต้องการชิป GPU ที่ยังคงพุ่งสูงจากการใช้งานด้าน AI และ Data Center 🔗 https://securityonline.info/nvidia-crushes-ai-bubble-fears-with-record-57b-revenue 🎓 OpenAI เปิดตัว ChatGPT ฟรีสำหรับครู K–12 OpenAI ประกาศให้บริการ ChatGPT เวอร์ชันฟรีสำหรับครูระดับ K–12 โดยออกแบบให้สอดคล้องกับกฎหมาย FERPA เพื่อปกป้องข้อมูลนักเรียน ใช้ได้จนถึงปี 2027 จุดประสงค์คือช่วยครูในการเตรียมการสอน วางแผนบทเรียน และสร้างสื่อการเรียนรู้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย 🔗 https://securityonline.info/openai-launches-free-ferpa-compliant-chatgpt-for-k-12-teachers-until-2027 🌍 Google Accelerator รายงานผลกระทบระดับโลก Google Accelerator เผยรายงานล่าสุดว่ามีการระดมทุนได้มากถึง 31.2 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนโครงการนวัตกรรมทั่วโลก รายงานนี้ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบเชิงบวกต่อสตาร์ทอัพและธุรกิจที่เข้าร่วม โดยช่วยสร้างงานและขยายโอกาสในหลายประเทศ 🔗 https://securityonline.info/31-2-billion-raised-google-accelerator-reveals-massive-global-impact-report 📧 Thunderbird 145 รองรับ Microsoft Exchange แบบเนทีฟ Thunderbird อัปเดตเวอร์ชันใหม่ Thunderbird 145 ที่เพิ่มการรองรับ Microsoft Exchange แบบเนทีฟ ทำให้ผู้ใช้สามารถย้ายจาก Outlook มาใช้งาน Thunderbird ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องใช้ปลั๊กอินเสริม ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การจัดการอีเมลและปฏิทินสะดวกขึ้นสำหรับองค์กรที่ต้องการทางเลือกนอกเหนือจาก Outlook 🔗 https://securityonline.info/thunderbird-145-native-microsoft-exchange-support-makes-outlook-migration-easy 🇪🇺 EU เปิดการสอบสวน DMA ต่อ AWS และ Azure สหภาพยุโรป (EU) เริ่มสอบสวนภายใต้กฎหมาย Digital Markets Act (DMA) ว่า AWS และ Azure อาจเข้าข่ายเป็น “Gatekeeper” หรือไม่ หากพบว่ามีการผูกขาดหรือกีดกันการแข่งขัน อาจต้องมีมาตรการควบคุมเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจคลาวด์ในยุโรปอย่างมาก 🔗 https://securityonline.info/eu-launches-dma-probes-is-gatekeeper-status-next-for-aws-azure-cloud 🎓 Google ขยายสิทธิ์ AI Pro ฟรีสำหรับนักเรียน Google ประกาศขยายสิทธิ์การใช้งาน AI Pro Subscription ฟรีสำหรับนักเรียน ไปจนถึงปี 2027 เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้และการเข้าถึงเครื่องมือ AI ขั้นสูง นักเรียนสามารถใช้ฟีเจอร์เต็มรูปแบบโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ถือเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตด้านการศึกษาและเทคโนโลยี ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/google-extends-free-ai-pro-subscription-for-students-until-2027
    0 Comments 0 Shares 398 Views 0 Reviews
  • สิทธิพิเศษสำหรับเจ้าของ Chromebook

    ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายนเป็นต้นไป Google และ Nvidia ร่วมมือกันมอบสิทธิ์ GeForce Now Fast Pass ฟรี 1 ปี ให้กับผู้ใช้ Chromebook รุ่นใหม่ โดยสิทธิ์นี้จะให้การเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์เกมของ Nvidia แบบ Priority Access และไม่มีโฆษณา ซึ่งถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมบน Chromebook ที่ปกติไม่สามารถเล่นเกม PC ได้โดยตรง

    รายละเอียดของ Fast Pass
    Fast Pass จะมอบเวลาเล่นเกม 10 ชั่วโมงต่อเดือน และสามารถสะสมเพิ่มได้สูงสุดถึง 15 ชั่วโมงหากมีการเหลือเวลาเล่นจากเดือนก่อน ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเกมกว่า 2,000 เกม จากแพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น Steam, Epic Games Store และ Xbox โดยใช้ Chromebook ที่มีสเปกเบา ๆ แต่เชื่อมต่อกับ GPU เสมือนของ Nvidia ผ่านระบบคลาวด์

    เปรียบเทียบกับแพ็กเกจอื่น
    Fast Pass มีความคล้ายกับแพ็กเกจฟรี แต่เพิ่มสิทธิ์ Priority Access และไม่มีโฆษณา ต่างจากแพ็กเกจ Performance และ Ultimate ที่ให้สิทธิ์เข้าถึงเกมกว่า 4,000 เกม และฟีเจอร์ “Install-to-Play” รวมถึงการเล่นที่ความละเอียดสูงสุดถึง 5K และเฟรมเรตสูงสุด 360 FPS โดยใช้ GPU ระดับ RTX 4080 และ RTX 5080

    ความสำคัญต่อผู้ใช้ Chromebook
    Chromebook ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานเบา ๆ เช่นงานเอกสารและการเรียน แต่การเพิ่มบริการ Fast Pass ทำให้ผู้ใช้สามารถสัมผัสประสบการณ์เกม PC ได้โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์แรง ๆ ถือเป็นการเปิดตลาดใหม่ให้กับ Chromebook และช่วยให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงเกมคุณภาพสูงได้ง่ายขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สิทธิพิเศษสำหรับเจ้าของ Chromebook
    ได้รับ GeForce Now Fast Pass ฟรี 1 ปี

    รายละเอียดของ Fast Pass
    เล่นเกมได้ 10–15 ชั่วโมงต่อเดือน
    เข้าถึงเกมกว่า 2,000 เกมจาก Steam, Epic, Xbox

    เปรียบเทียบกับแพ็กเกจอื่น
    Performance และ Ultimate มีเกมมากกว่า 4,000 เกม
    Ultimate รองรับ 5K และ 360 FPS ด้วย RTX 5080

    ความสำคัญต่อผู้ใช้ Chromebook
    Chromebook สามารถเล่นเกม PC ผ่านคลาวด์ได้
    เปิดตลาดใหม่ให้กับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ต้องการเครื่องแรง

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    Fast Pass มีข้อจำกัดเวลาเล่นเพียง 10–15 ชั่วโมงต่อเดือน
    ไม่รองรับเกมทั้งหมดเหมือนแพ็กเกจ Performance/Ultimate
    หากอินเทอร์เน็ตไม่เสถียร อาจกระทบต่อประสบการณ์เล่นเกม

    https://www.tomshardware.com/video-games/cloud-gaming/new-chromebook-owners-are-getting-an-exclusive-free-nvidia-geforce-now-subscription-for-one-year-fast-pass-gives-chromebook-gamers-ad-free-priority-access-to-cloud-servers
    🎁 สิทธิพิเศษสำหรับเจ้าของ Chromebook ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายนเป็นต้นไป Google และ Nvidia ร่วมมือกันมอบสิทธิ์ GeForce Now Fast Pass ฟรี 1 ปี ให้กับผู้ใช้ Chromebook รุ่นใหม่ โดยสิทธิ์นี้จะให้การเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์เกมของ Nvidia แบบ Priority Access และไม่มีโฆษณา ซึ่งถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมบน Chromebook ที่ปกติไม่สามารถเล่นเกม PC ได้โดยตรง 🎮 รายละเอียดของ Fast Pass Fast Pass จะมอบเวลาเล่นเกม 10 ชั่วโมงต่อเดือน และสามารถสะสมเพิ่มได้สูงสุดถึง 15 ชั่วโมงหากมีการเหลือเวลาเล่นจากเดือนก่อน ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเกมกว่า 2,000 เกม จากแพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น Steam, Epic Games Store และ Xbox โดยใช้ Chromebook ที่มีสเปกเบา ๆ แต่เชื่อมต่อกับ GPU เสมือนของ Nvidia ผ่านระบบคลาวด์ ⚡ เปรียบเทียบกับแพ็กเกจอื่น Fast Pass มีความคล้ายกับแพ็กเกจฟรี แต่เพิ่มสิทธิ์ Priority Access และไม่มีโฆษณา ต่างจากแพ็กเกจ Performance และ Ultimate ที่ให้สิทธิ์เข้าถึงเกมกว่า 4,000 เกม และฟีเจอร์ “Install-to-Play” รวมถึงการเล่นที่ความละเอียดสูงสุดถึง 5K และเฟรมเรตสูงสุด 360 FPS โดยใช้ GPU ระดับ RTX 4080 และ RTX 5080 🌐 ความสำคัญต่อผู้ใช้ Chromebook Chromebook ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานเบา ๆ เช่นงานเอกสารและการเรียน แต่การเพิ่มบริการ Fast Pass ทำให้ผู้ใช้สามารถสัมผัสประสบการณ์เกม PC ได้โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์แรง ๆ ถือเป็นการเปิดตลาดใหม่ให้กับ Chromebook และช่วยให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงเกมคุณภาพสูงได้ง่ายขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สิทธิพิเศษสำหรับเจ้าของ Chromebook ➡️ ได้รับ GeForce Now Fast Pass ฟรี 1 ปี ✅ รายละเอียดของ Fast Pass ➡️ เล่นเกมได้ 10–15 ชั่วโมงต่อเดือน ➡️ เข้าถึงเกมกว่า 2,000 เกมจาก Steam, Epic, Xbox ✅ เปรียบเทียบกับแพ็กเกจอื่น ➡️ Performance และ Ultimate มีเกมมากกว่า 4,000 เกม ➡️ Ultimate รองรับ 5K และ 360 FPS ด้วย RTX 5080 ✅ ความสำคัญต่อผู้ใช้ Chromebook ➡️ Chromebook สามารถเล่นเกม PC ผ่านคลาวด์ได้ ➡️ เปิดตลาดใหม่ให้กับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ต้องการเครื่องแรง ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ Fast Pass มีข้อจำกัดเวลาเล่นเพียง 10–15 ชั่วโมงต่อเดือน ⛔ ไม่รองรับเกมทั้งหมดเหมือนแพ็กเกจ Performance/Ultimate ⛔ หากอินเทอร์เน็ตไม่เสถียร อาจกระทบต่อประสบการณ์เล่นเกม https://www.tomshardware.com/video-games/cloud-gaming/new-chromebook-owners-are-getting-an-exclusive-free-nvidia-geforce-now-subscription-for-one-year-fast-pass-gives-chromebook-gamers-ad-free-priority-access-to-cloud-servers
    0 Comments 0 Shares 167 Views 0 Reviews
  • เปิดตัว Nano Banana Pro: ก้าวใหม่ของการสร้างภาพด้วย AI

    Google DeepMind ได้เปิดตัว Nano Banana Pro ซึ่งเป็นโมเดลสร้างและแก้ไขภาพรุ่นล่าสุดที่ใช้ Gemini 3 Pro เป็นแกนหลัก จุดเด่นคือการสร้างภาพที่มีรายละเอียดสูง ความสามารถในการใส่ข้อความที่อ่านได้ชัดเจนในหลายภาษา และการเชื่อมโยงกับข้อมูลจริง เช่น สภาพอากาศหรือสูตรอาหาร เพื่อสร้างอินโฟกราฟิกที่มีสาระครบถ้วนและสวยงาม

    Nano Banana Pro ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสร้างภาพ แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถแปลงไอเดียเป็นภาพที่มีความหมาย เช่น การทำอินโฟกราฟิกการเรียนรู้ การออกแบบโปสเตอร์ หรือแม้แต่การสร้างสตอรีบอร์ดสำหรับภาพยนตร์ ด้วยความสามารถด้าน reasoning ที่ลึกซึ้งของ Gemini 3 Pro ทำให้ภาพที่สร้างขึ้นมีความสมจริงและสอดคล้องกับบริบทมากขึ้น

    ความสามารถใหม่: ข้อความหลายภาษาและการเชื่อมโยงข้อมูลจริง
    หนึ่งในจุดแข็งของ Nano Banana Pro คือการสร้างข้อความที่อ่านได้ชัดเจนในภาพ ไม่ว่าจะเป็นสโลแกนสั้น ๆ หรือย่อหน้าที่ยาวขึ้น พร้อมรองรับหลายภาษาเพื่อการใช้งานระดับสากล ผู้ใช้สามารถสร้างโปสเตอร์ที่มีข้อความทั้งภาษาอังกฤษและเกาหลี หรือออกแบบโลโก้ที่ใช้ตัวอักษรเชิงศิลป์ได้อย่างแม่นยำ

    นอกจากนี้ Nano Banana Pro ยังสามารถเชื่อมโยงกับ Google Search เพื่อดึงข้อมูลจริงมาใช้ เช่น การสร้างอินโฟกราฟิกเกี่ยวกับพืช การทำชา หรือการแสดงข้อมูลสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ทำให้ภาพที่ได้ไม่ใช่แค่สวยงาม แต่ยังมีสาระและความถูกต้องทางข้อมูล

    ควบคุมการสร้างภาพระดับสตูดิโอ
    Nano Banana Pro มาพร้อมความสามารถในการควบคุมภาพอย่างละเอียด เช่น การปรับโฟกัส การเปลี่ยนแสงจากกลางวันเป็นกลางคืน การจัดองค์ประกอบหลายตัวละครในฉากเดียว และการสร้างภาพที่มีความละเอียดสูงถึง 4K สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างงานออกแบบที่มีความเป็นมืออาชีพ ตั้งแต่โฆษณาไปจนถึงงานศิลป์เชิงสร้างสรรค์

    Google ยังเพิ่มระบบ SynthID watermark เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบได้ว่า ภาพที่สร้างขึ้นมาจาก AI ของ Google หรือไม่ ซึ่งช่วยเพิ่มความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือในการใช้งาน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเปิดตัว Nano Banana Pro
    พัฒนาบน Gemini 3 Pro เพื่อสร้างภาพที่แม่นยำและมีข้อมูลจริง
    รองรับการใช้งานใน Google Ads, Workspace, Gemini App และ AI Studio

    ความสามารถด้านข้อความและภาษา
    สร้างข้อความที่อ่านได้ชัดเจนในหลายภาษา
    ใช้ตัวอักษรเชิงศิลป์และฟอนต์ที่หลากหลาย

    การเชื่อมโยงข้อมูลจริง
    ดึงข้อมูลจาก Google Search เช่น สภาพอากาศ สูตรอาหาร หรือข้อมูลพืช
    สร้างอินโฟกราฟิกที่มีสาระและความถูกต้อง

    การควบคุมภาพระดับมืออาชีพ
    ปรับแสง โฟกัส และองค์ประกอบภาพได้ละเอียด
    รองรับความละเอียดสูงสุด 4K และหลายอัตราส่วนภาพ

    คำเตือนด้านการใช้งาน AI
    แม้ภาพจะสวยงามและสมจริง แต่ยังคงเป็น Generative AI ที่อาจมีข้อผิดพลาด
    ผู้ใช้ควรตรวจสอบข้อมูลที่ปรากฏในภาพก่อนนำไปใช้จริง

    https://blog.google/technology/ai/nano-banana-pro/
    🖼️ เปิดตัว Nano Banana Pro: ก้าวใหม่ของการสร้างภาพด้วย AI Google DeepMind ได้เปิดตัว Nano Banana Pro ซึ่งเป็นโมเดลสร้างและแก้ไขภาพรุ่นล่าสุดที่ใช้ Gemini 3 Pro เป็นแกนหลัก จุดเด่นคือการสร้างภาพที่มีรายละเอียดสูง ความสามารถในการใส่ข้อความที่อ่านได้ชัดเจนในหลายภาษา และการเชื่อมโยงกับข้อมูลจริง เช่น สภาพอากาศหรือสูตรอาหาร เพื่อสร้างอินโฟกราฟิกที่มีสาระครบถ้วนและสวยงาม Nano Banana Pro ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสร้างภาพ แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถแปลงไอเดียเป็นภาพที่มีความหมาย เช่น การทำอินโฟกราฟิกการเรียนรู้ การออกแบบโปสเตอร์ หรือแม้แต่การสร้างสตอรีบอร์ดสำหรับภาพยนตร์ ด้วยความสามารถด้าน reasoning ที่ลึกซึ้งของ Gemini 3 Pro ทำให้ภาพที่สร้างขึ้นมีความสมจริงและสอดคล้องกับบริบทมากขึ้น 🌍 ความสามารถใหม่: ข้อความหลายภาษาและการเชื่อมโยงข้อมูลจริง หนึ่งในจุดแข็งของ Nano Banana Pro คือการสร้างข้อความที่อ่านได้ชัดเจนในภาพ ไม่ว่าจะเป็นสโลแกนสั้น ๆ หรือย่อหน้าที่ยาวขึ้น พร้อมรองรับหลายภาษาเพื่อการใช้งานระดับสากล ผู้ใช้สามารถสร้างโปสเตอร์ที่มีข้อความทั้งภาษาอังกฤษและเกาหลี หรือออกแบบโลโก้ที่ใช้ตัวอักษรเชิงศิลป์ได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ Nano Banana Pro ยังสามารถเชื่อมโยงกับ Google Search เพื่อดึงข้อมูลจริงมาใช้ เช่น การสร้างอินโฟกราฟิกเกี่ยวกับพืช การทำชา หรือการแสดงข้อมูลสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ทำให้ภาพที่ได้ไม่ใช่แค่สวยงาม แต่ยังมีสาระและความถูกต้องทางข้อมูล 🎨 ควบคุมการสร้างภาพระดับสตูดิโอ Nano Banana Pro มาพร้อมความสามารถในการควบคุมภาพอย่างละเอียด เช่น การปรับโฟกัส การเปลี่ยนแสงจากกลางวันเป็นกลางคืน การจัดองค์ประกอบหลายตัวละครในฉากเดียว และการสร้างภาพที่มีความละเอียดสูงถึง 4K สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างงานออกแบบที่มีความเป็นมืออาชีพ ตั้งแต่โฆษณาไปจนถึงงานศิลป์เชิงสร้างสรรค์ Google ยังเพิ่มระบบ SynthID watermark เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบได้ว่า ภาพที่สร้างขึ้นมาจาก AI ของ Google หรือไม่ ซึ่งช่วยเพิ่มความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือในการใช้งาน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเปิดตัว Nano Banana Pro ➡️ พัฒนาบน Gemini 3 Pro เพื่อสร้างภาพที่แม่นยำและมีข้อมูลจริง ➡️ รองรับการใช้งานใน Google Ads, Workspace, Gemini App และ AI Studio ✅ ความสามารถด้านข้อความและภาษา ➡️ สร้างข้อความที่อ่านได้ชัดเจนในหลายภาษา ➡️ ใช้ตัวอักษรเชิงศิลป์และฟอนต์ที่หลากหลาย ✅ การเชื่อมโยงข้อมูลจริง ➡️ ดึงข้อมูลจาก Google Search เช่น สภาพอากาศ สูตรอาหาร หรือข้อมูลพืช ➡️ สร้างอินโฟกราฟิกที่มีสาระและความถูกต้อง ✅ การควบคุมภาพระดับมืออาชีพ ➡️ ปรับแสง โฟกัส และองค์ประกอบภาพได้ละเอียด ➡️ รองรับความละเอียดสูงสุด 4K และหลายอัตราส่วนภาพ ‼️ คำเตือนด้านการใช้งาน AI ⛔ แม้ภาพจะสวยงามและสมจริง แต่ยังคงเป็น Generative AI ที่อาจมีข้อผิดพลาด ⛔ ผู้ใช้ควรตรวจสอบข้อมูลที่ปรากฏในภาพก่อนนำไปใช้จริง https://blog.google/technology/ai/nano-banana-pro/
    BLOG.GOOGLE
    Introducing Nano Banana Pro
    Nano Banana Pro is our new image generation and editing model from Google DeepMind.
    0 Comments 0 Shares 162 Views 0 Reviews
  • ม.เกษตรฯ จับมือ เทศบาลนครรังสิต ทดสอบ "แพลตฟอร์มการเรียนรู้เพื่อชีวิต" หนุนผู้สูงวัยเข้าถึงองค์ความรู้ใหม่
    https://www.thai-tai.tv/news/22445/
    .
    #ไทยไท #รังสิต #การเรียนรู้ตลอดชีวิต #ผู้สูงอายุ #แพลตฟอร์มการเรียนรู้ #ม.เกษตรฯ

    ม.เกษตรฯ จับมือ เทศบาลนครรังสิต ทดสอบ "แพลตฟอร์มการเรียนรู้เพื่อชีวิต" หนุนผู้สูงวัยเข้าถึงองค์ความรู้ใหม่ https://www.thai-tai.tv/news/22445/ . #ไทยไท #รังสิต #การเรียนรู้ตลอดชีวิต #ผู้สูงอายุ #แพลตฟอร์มการเรียนรู้ #ม.เกษตรฯ
    0 Comments 0 Shares 91 Views 0 Reviews
  • พ่อสร้าง Synth ให้ลูกสาว

    บทความ I Built a Synth for My Daughter โดย Alastair Roberts เล่าประสบการณ์การสร้าง เครื่องสังเคราะห์เสียงแบบพกพา (portable step-sequencer synthesizer) สำหรับลูกสาววัย 3 ขวบ โดยเริ่มจากแรงบันดาลใจจากบอร์ดกิจกรรม Montessori ที่เต็มไปด้วยสวิตช์และไฟ LED จนเกิดไอเดียทำเป็นของเล่นดนตรีที่เด็กสามารถเลื่อนสไลด์เพื่อเปลี่ยนเสียงได้

    จาก Arduino สู่ PCB จริง
    Alastair เริ่มต้นด้วย Arduino Inventors Kit และเขียนโค้ดให้ potentiometer ส่งค่า MIDI ไปยัง Logic Pro เพื่อทดสอบเสียง ต่อมาเขาเพิ่มโมดูล synth ราคาถูก SAM2695 พร้อมลำโพงในตัว และจอ OLED ที่แสดงภาพแพนด้าน้อยเต้นตามจังหวะ แม้จะเจอปัญหาเรื่องหน่วยความจำและการอัปเดตหน้าจอที่ทำให้เสียงหน่วง แต่ก็แก้ไขด้วยการอัปเดตเป็นแพตช์เล็ก ๆ

    การออกแบบและพิมพ์ 3D
    เมื่อวงจรเริ่มเสถียร เขาใช้ Fusion 360 ออกแบบกล่องและพิมพ์ด้วยเครื่อง 3D printer ของเพื่อน หลังจากนั้นจึงพัฒนาเป็น PCB แบบสองชั้น ผ่านบริการ JLCPCB เพื่อให้ประกอบง่ายและทนทานขึ้น พร้อมปรับระบบพลังงานจากแบตเตอรี่ AA 4 ก้อนเป็น 3 ก้อนร่วมกับ Adafruit Miniboost เพื่อให้แรงดันไฟฟ้าเสถียร

    ผลลัพธ์และอนาคต
    Synth ที่สร้างขึ้นกลายเป็นของเล่นที่ลูกสาวชอบเล่นเป็นประจำ และยังเป็นโครงการเรียนรู้ที่ทำให้ Alastair เข้าใจทั้ง microcontroller, CAD, PCB design และการผลิตต้นแบบ เขามองว่าอาจต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์จริง แต่ก็ยอมรับว่ามีอุปสรรคด้านต้นทุนการผลิตและการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    แรงบันดาลใจจากบอร์ด Montessori
    นำไปสู่การสร้างของเล่นดนตรีที่เด็กเล่นได้ง่าย

    เริ่มจาก Arduino และ MIDI
    พัฒนาไปสู่ synth module และจอ OLED

    ออกแบบกล่องด้วย Fusion 360 และพิมพ์ 3D
    ต่อมาเปลี่ยนเป็น PCB ที่ทนทานและประกอบง่าย

    ปรับระบบพลังงานให้เสถียรด้วย Miniboost
    ลดน้ำหนักและเพิ่มความทนทานของเครื่อง

    ข้อจำกัดด้านการผลิตเชิงพาณิชย์
    ต้องใช้ทุนสูงและการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย

    ปัญหาทางเทคนิคที่ยังต้องแก้ไข
    เช่น การหน่วงเสียงจากการอัปเดตหน้าจอ OLED

    https://bitsnpieces.dev/posts/a-synth-for-my-daughter/
    🎹 พ่อสร้าง Synth ให้ลูกสาว บทความ I Built a Synth for My Daughter โดย Alastair Roberts เล่าประสบการณ์การสร้าง เครื่องสังเคราะห์เสียงแบบพกพา (portable step-sequencer synthesizer) สำหรับลูกสาววัย 3 ขวบ โดยเริ่มจากแรงบันดาลใจจากบอร์ดกิจกรรม Montessori ที่เต็มไปด้วยสวิตช์และไฟ LED จนเกิดไอเดียทำเป็นของเล่นดนตรีที่เด็กสามารถเลื่อนสไลด์เพื่อเปลี่ยนเสียงได้ 🛠️ จาก Arduino สู่ PCB จริง Alastair เริ่มต้นด้วย Arduino Inventors Kit และเขียนโค้ดให้ potentiometer ส่งค่า MIDI ไปยัง Logic Pro เพื่อทดสอบเสียง ต่อมาเขาเพิ่มโมดูล synth ราคาถูก SAM2695 พร้อมลำโพงในตัว และจอ OLED ที่แสดงภาพแพนด้าน้อยเต้นตามจังหวะ แม้จะเจอปัญหาเรื่องหน่วยความจำและการอัปเดตหน้าจอที่ทำให้เสียงหน่วง แต่ก็แก้ไขด้วยการอัปเดตเป็นแพตช์เล็ก ๆ 🖨️ การออกแบบและพิมพ์ 3D เมื่อวงจรเริ่มเสถียร เขาใช้ Fusion 360 ออกแบบกล่องและพิมพ์ด้วยเครื่อง 3D printer ของเพื่อน หลังจากนั้นจึงพัฒนาเป็น PCB แบบสองชั้น ผ่านบริการ JLCPCB เพื่อให้ประกอบง่ายและทนทานขึ้น พร้อมปรับระบบพลังงานจากแบตเตอรี่ AA 4 ก้อนเป็น 3 ก้อนร่วมกับ Adafruit Miniboost เพื่อให้แรงดันไฟฟ้าเสถียร 🌟 ผลลัพธ์และอนาคต Synth ที่สร้างขึ้นกลายเป็นของเล่นที่ลูกสาวชอบเล่นเป็นประจำ และยังเป็นโครงการเรียนรู้ที่ทำให้ Alastair เข้าใจทั้ง microcontroller, CAD, PCB design และการผลิตต้นแบบ เขามองว่าอาจต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์จริง แต่ก็ยอมรับว่ามีอุปสรรคด้านต้นทุนการผลิตและการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ แรงบันดาลใจจากบอร์ด Montessori ➡️ นำไปสู่การสร้างของเล่นดนตรีที่เด็กเล่นได้ง่าย ✅ เริ่มจาก Arduino และ MIDI ➡️ พัฒนาไปสู่ synth module และจอ OLED ✅ ออกแบบกล่องด้วย Fusion 360 และพิมพ์ 3D ➡️ ต่อมาเปลี่ยนเป็น PCB ที่ทนทานและประกอบง่าย ✅ ปรับระบบพลังงานให้เสถียรด้วย Miniboost ➡️ ลดน้ำหนักและเพิ่มความทนทานของเครื่อง ‼️ ข้อจำกัดด้านการผลิตเชิงพาณิชย์ ⛔ ต้องใช้ทุนสูงและการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย ‼️ ปัญหาทางเทคนิคที่ยังต้องแก้ไข ⛔ เช่น การหน่วงเสียงจากการอัปเดตหน้าจอ OLED https://bitsnpieces.dev/posts/a-synth-for-my-daughter/
    BITSNPIECES.DEV
    I Built a Synth for My Daughter
    How I built a portable synthesizer for my three year old daughter.
    0 Comments 0 Shares 176 Views 0 Reviews
  • 6 ขั้นตอนการเรียนรู้ทักษะสังคมของ Sasha

    บทความ My six stages of learning to be a socially normal person โดย Sasha Chapin เล่าประสบการณ์การเรียนรู้ทักษะทางสังคมผ่าน 6 ขั้นตอน ตั้งแต่การพยายามเป็น “คนที่น่าสนใจ” ไปจนถึงการเรียนรู้ที่จะเชื่อมโยงกับผู้อื่นด้วยความรักและการยอมรับ ก่อนจะมาถึงจุดที่สามารถเลือกได้ว่าจะเชื่อมโยงหรือเว้นระยะห่างอย่างสมดุล

    ขั้นแรก: การเป็นคนที่น่าสนใจ
    ในวัยเด็กและวัยรุ่น Sasha พยายามสร้างตัวตนให้ดูฉลาดและน่าฟัง เช่น การอ่านบทกวีและวรรณกรรมยาก ๆ หรือเล่าเรื่องดราม่าในชีวิต แต่สิ่งนี้กลับทำให้เขาดูเป็น “คนโชว์” มากกว่าการเชื่อมโยงจริง ๆ จึงยังไม่สามารถเข้ากับสังคมได้อย่างแท้จริง

    ขั้นสอง–สาม: การเล่นเกมสังคมและการคลายกฎเกณฑ์
    เมื่อทำงานในร้านอาหาร เขาเรียนรู้จากเพื่อนร่วมงานว่า การเชื่อมโยงคือการเล่นเกมที่อีกฝ่ายต้องการ ไม่ใช่การยึดติดกับบทบาทตายตัว ต่อมาเขาพบว่าการ “คลายกฎ” และใส่ความแปลกเล็กน้อยลงไป เช่น พูดประโยคที่ไม่คาดคิด ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและเปิดใจมากขึ้น

    ขั้นสี่: การเต้นไปตามจังหวะ
    ผ่านการฝึกสมาธิและการสังเกต เขาเริ่มเข้าใจ ภาษากายและอารมณ์ที่ละเอียดอ่อน ของผู้คน ทำให้การสื่อสารเหมือนการเต้นรำที่ต้องตอบสนองตามจังหวะ ไม่ใช่การคิดวิเคราะห์อย่างแข็งทื่อ

    ขั้นห้า–หก: ความรัก การยอมรับ และการเลือกเชื่อมโยง
    ในฐานะโค้ช เขาลองใช้ “พลังการเยียวยา” ผ่านการเปิดใจและการฟังอย่างลึกซึ้ง จนผู้คนรู้สึกได้รับการปลอบโยน แต่เขาก็พบข้อจำกัดว่า การเปิดใจมากเกินไปอาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าเป็นความสัมพันธ์เชิงลึกหรือการจีบ สุดท้ายเขาจึงเรียนรู้ที่จะปรับระดับการเชื่อมโยงตามสถานการณ์ และยอมรับว่าบางครั้งการเว้นระยะห่างก็เป็นสิ่งที่ดี

    สรุปประเด็นสำคัญ
    6 ขั้นตอนการเรียนรู้ทักษะสังคมของ Sasha
    จากการพยายามเป็นคนที่น่าสนใจ → เล่นเกมสังคม → คลายกฎเกณฑ์ → เต้นไปตามจังหวะ → เปิดใจด้วยความรัก → เลือกเชื่อมโยงอย่างสมดุล

    บทเรียนสำคัญจากร้านอาหาร
    การสังเกตและตอบสนองต่อเกมสังคมของอีกฝ่ายทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจ

    การฝึกสมาธิและการสังเกตภาษากาย
    ช่วยให้เข้าใจอารมณ์และสร้างการเชื่อมโยงที่แท้จริง

    การเปิดใจสร้างความสัมพันธ์ลึกซึ้งได้ง่าย
    แต่ต้องระวังไม่ให้ผู้คนตีความผิดว่าเป็นความสัมพันธ์เชิงโรแมนติก

    ความเสี่ยงจากการเปิดใจมากเกินไป
    อาจทำให้คนอื่นรู้สึกถูกหลอกหรือสับสนในความสัมพันธ์

    การพยายามเป็น “คนที่น่าสนใจ” อย่างเดียวไม่เพียงพอ
    เพราะจะกลายเป็นการโชว์มากกว่าการเชื่อมโยงจริง ๆ

    https://sashachapin.substack.com/p/my-six-stages-of-learning-to-be-a
    🥂 6 ขั้นตอนการเรียนรู้ทักษะสังคมของ Sasha บทความ My six stages of learning to be a socially normal person โดย Sasha Chapin เล่าประสบการณ์การเรียนรู้ทักษะทางสังคมผ่าน 6 ขั้นตอน ตั้งแต่การพยายามเป็น “คนที่น่าสนใจ” ไปจนถึงการเรียนรู้ที่จะเชื่อมโยงกับผู้อื่นด้วยความรักและการยอมรับ ก่อนจะมาถึงจุดที่สามารถเลือกได้ว่าจะเชื่อมโยงหรือเว้นระยะห่างอย่างสมดุล 🎭 ขั้นแรก: การเป็นคนที่น่าสนใจ ในวัยเด็กและวัยรุ่น Sasha พยายามสร้างตัวตนให้ดูฉลาดและน่าฟัง เช่น การอ่านบทกวีและวรรณกรรมยาก ๆ หรือเล่าเรื่องดราม่าในชีวิต แต่สิ่งนี้กลับทำให้เขาดูเป็น “คนโชว์” มากกว่าการเชื่อมโยงจริง ๆ จึงยังไม่สามารถเข้ากับสังคมได้อย่างแท้จริง 🍷 ขั้นสอง–สาม: การเล่นเกมสังคมและการคลายกฎเกณฑ์ เมื่อทำงานในร้านอาหาร เขาเรียนรู้จากเพื่อนร่วมงานว่า การเชื่อมโยงคือการเล่นเกมที่อีกฝ่ายต้องการ ไม่ใช่การยึดติดกับบทบาทตายตัว ต่อมาเขาพบว่าการ “คลายกฎ” และใส่ความแปลกเล็กน้อยลงไป เช่น พูดประโยคที่ไม่คาดคิด ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและเปิดใจมากขึ้น 💃 ขั้นสี่: การเต้นไปตามจังหวะ ผ่านการฝึกสมาธิและการสังเกต เขาเริ่มเข้าใจ ภาษากายและอารมณ์ที่ละเอียดอ่อน ของผู้คน ทำให้การสื่อสารเหมือนการเต้นรำที่ต้องตอบสนองตามจังหวะ ไม่ใช่การคิดวิเคราะห์อย่างแข็งทื่อ ❤️ ขั้นห้า–หก: ความรัก การยอมรับ และการเลือกเชื่อมโยง ในฐานะโค้ช เขาลองใช้ “พลังการเยียวยา” ผ่านการเปิดใจและการฟังอย่างลึกซึ้ง จนผู้คนรู้สึกได้รับการปลอบโยน แต่เขาก็พบข้อจำกัดว่า การเปิดใจมากเกินไปอาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าเป็นความสัมพันธ์เชิงลึกหรือการจีบ สุดท้ายเขาจึงเรียนรู้ที่จะปรับระดับการเชื่อมโยงตามสถานการณ์ และยอมรับว่าบางครั้งการเว้นระยะห่างก็เป็นสิ่งที่ดี 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ 6 ขั้นตอนการเรียนรู้ทักษะสังคมของ Sasha ➡️ จากการพยายามเป็นคนที่น่าสนใจ → เล่นเกมสังคม → คลายกฎเกณฑ์ → เต้นไปตามจังหวะ → เปิดใจด้วยความรัก → เลือกเชื่อมโยงอย่างสมดุล ✅ บทเรียนสำคัญจากร้านอาหาร ➡️ การสังเกตและตอบสนองต่อเกมสังคมของอีกฝ่ายทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจ ✅ การฝึกสมาธิและการสังเกตภาษากาย ➡️ ช่วยให้เข้าใจอารมณ์และสร้างการเชื่อมโยงที่แท้จริง ✅ การเปิดใจสร้างความสัมพันธ์ลึกซึ้งได้ง่าย ➡️ แต่ต้องระวังไม่ให้ผู้คนตีความผิดว่าเป็นความสัมพันธ์เชิงโรแมนติก ‼️ ความเสี่ยงจากการเปิดใจมากเกินไป ⛔ อาจทำให้คนอื่นรู้สึกถูกหลอกหรือสับสนในความสัมพันธ์ ‼️ การพยายามเป็น “คนที่น่าสนใจ” อย่างเดียวไม่เพียงพอ ⛔ เพราะจะกลายเป็นการโชว์มากกว่าการเชื่อมโยงจริง ๆ https://sashachapin.substack.com/p/my-six-stages-of-learning-to-be-a
    0 Comments 0 Shares 188 Views 0 Reviews
  • ยุคของไลบรารีเล็ก ๆ (utility libraries) กำลังหมดความสำคัญ เพราะนักพัฒนาใช้ AI LLMs สร้างโค้ดแทนการติดตั้งแพ็กเกจ

    Nolan เล่าถึงแพ็กเกจ blob-util ที่เขาเขียนเมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งยังถูกดาวน์โหลดกว่า 5 ล้านครั้งต่อสัปดาห์ แต่ปัจจุบันนักพัฒนาส่วนใหญ่ (~80%) ใช้ AI ในการสร้างโค้ดแทนการติดตั้งไลบรารีเล็ก ๆ เช่นนี้ เขายกตัวอย่างว่า AI อย่าง Claude สามารถสร้างฟังก์ชันแปลง Blob เป็น ArrayBuffer ได้ทันที โดยไม่ต้องพึ่งพา blob-util

    การเปลี่ยนแปลงในโลกการพัฒนา
    Nolan มองว่าการใช้ AI ทำให้ การพึ่งพาแพ็กเกจเล็ก ๆ ลดลง เพราะนักพัฒนาสามารถขอให้ AI เขียนโค้ดเฉพาะได้ทันที แม้จะสะดวกและลด dependency แต่สิ่งที่หายไปคือ บทบาทการสอนและการเรียนรู้ ที่มาพร้อมกับ open source เล็ก ๆ เช่น README ที่อธิบายวิธีคิดและการแก้ปัญหา

    อนาคตของ open source
    เขาสรุปว่า ยุคของ utility libraries กำลังสิ้นสุดลง เนื่องจาก Node.js และเบราว์เซอร์เองก็เพิ่มฟีเจอร์ที่เคยต้องใช้ไลบรารีภายนอก เช่น structuredClone หรือ node:glob และ AI เป็น “ตะปูตัวสุดท้าย” ที่ปิดโอกาสการสร้างไลบรารีเล็ก ๆ อย่าง blob-util อย่างไรก็ตาม Nolan เชื่อว่ายังมีพื้นที่สำหรับ โครงการใหญ่ ๆ, งานเชิงสร้างสรรค์, และหัวข้อเฉพาะที่ AI ยังไม่ครอบคลุม เช่น งานวิจัย memory leak หรือเฟรมเวิร์กใหม่ ๆ อย่าง Ripple.js

    สรุปประเด็นสำคัญ
    blob-util เคยเป็นแพ็กเกจยอดนิยม
    แต่ปัจจุบันนักพัฒนาใช้ AI เขียนโค้ดแทน

    AI ลดการพึ่งพา utility libraries
    ทำให้การเรียนรู้ผ่าน open source ลดลง

    Node.js และเบราว์เซอร์เพิ่มฟีเจอร์ในตัวเอง
    เช่น structuredClone, node:glob

    อนาคตของ open source อยู่ที่โครงการใหญ่และสร้างสรรค์
    เช่น งานวิจัย memory leak หรือเฟรมเวิร์กใหม่ Ripple.js

    ความเสี่ยงจากการพึ่งพา AI มากเกินไป
    อาจทำให้ผู้พัฒนาไม่เข้าใจโค้ดเชิงลึกและสูญเสียทักษะการเรียนรู้

    https://nolanlawson.com/2025/11/16/the-fate-of-small-open-source/
    📚 ยุคของไลบรารีเล็ก ๆ (utility libraries) กำลังหมดความสำคัญ เพราะนักพัฒนาใช้ AI LLMs สร้างโค้ดแทนการติดตั้งแพ็กเกจ Nolan เล่าถึงแพ็กเกจ blob-util ที่เขาเขียนเมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งยังถูกดาวน์โหลดกว่า 5 ล้านครั้งต่อสัปดาห์ แต่ปัจจุบันนักพัฒนาส่วนใหญ่ (~80%) ใช้ AI ในการสร้างโค้ดแทนการติดตั้งไลบรารีเล็ก ๆ เช่นนี้ เขายกตัวอย่างว่า AI อย่าง Claude สามารถสร้างฟังก์ชันแปลง Blob เป็น ArrayBuffer ได้ทันที โดยไม่ต้องพึ่งพา blob-util ⚡ การเปลี่ยนแปลงในโลกการพัฒนา Nolan มองว่าการใช้ AI ทำให้ การพึ่งพาแพ็กเกจเล็ก ๆ ลดลง เพราะนักพัฒนาสามารถขอให้ AI เขียนโค้ดเฉพาะได้ทันที แม้จะสะดวกและลด dependency แต่สิ่งที่หายไปคือ บทบาทการสอนและการเรียนรู้ ที่มาพร้อมกับ open source เล็ก ๆ เช่น README ที่อธิบายวิธีคิดและการแก้ปัญหา 🔮 อนาคตของ open source เขาสรุปว่า ยุคของ utility libraries กำลังสิ้นสุดลง เนื่องจาก Node.js และเบราว์เซอร์เองก็เพิ่มฟีเจอร์ที่เคยต้องใช้ไลบรารีภายนอก เช่น structuredClone หรือ node:glob และ AI เป็น “ตะปูตัวสุดท้าย” ที่ปิดโอกาสการสร้างไลบรารีเล็ก ๆ อย่าง blob-util อย่างไรก็ตาม Nolan เชื่อว่ายังมีพื้นที่สำหรับ โครงการใหญ่ ๆ, งานเชิงสร้างสรรค์, และหัวข้อเฉพาะที่ AI ยังไม่ครอบคลุม เช่น งานวิจัย memory leak หรือเฟรมเวิร์กใหม่ ๆ อย่าง Ripple.js 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ blob-util เคยเป็นแพ็กเกจยอดนิยม ➡️ แต่ปัจจุบันนักพัฒนาใช้ AI เขียนโค้ดแทน ✅ AI ลดการพึ่งพา utility libraries ➡️ ทำให้การเรียนรู้ผ่าน open source ลดลง ✅ Node.js และเบราว์เซอร์เพิ่มฟีเจอร์ในตัวเอง ➡️ เช่น structuredClone, node:glob ✅ อนาคตของ open source อยู่ที่โครงการใหญ่และสร้างสรรค์ ➡️ เช่น งานวิจัย memory leak หรือเฟรมเวิร์กใหม่ Ripple.js ‼️ ความเสี่ยงจากการพึ่งพา AI มากเกินไป ⛔ อาจทำให้ผู้พัฒนาไม่เข้าใจโค้ดเชิงลึกและสูญเสียทักษะการเรียนรู้ https://nolanlawson.com/2025/11/16/the-fate-of-small-open-source/
    NOLANLAWSON.COM
    The fate of “small” open source
    By far the most popular npm package I’ve ever written is blob-util, which is ~10 years old and still gets 5+ million weekly downloads. It’s a small collection of utilities for working w…
    0 Comments 0 Shares 124 Views 0 Reviews
  • “รมว.นฤมล“จัดวันเด็ก2569 ชูคอนเซ็ปต์ “เรียนดี มีคุณธรรม” , ศธ.เตรียมจัดงานวันเด็กปี 2569 เปิด 4 โซนกิจกรรมสร้างการเรียนรู้ พร้อมนิทรรศการและพื้นที่โชว์ศักยภาพเยาวชนไทยแบบจัดเต็ม
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109768
    .
    #วันเด็ก2569 #เรียนดีมีคุณธรรม #กระทรวงศึกษาธิการ #นฤมลภิญโญสินวัฒน์ #กิจกรรมวันเด็ก #เยาวชนไทย #News1 #News1live #newsupdate #truthfromthailand
    “รมว.นฤมล“จัดวันเด็ก2569 ชูคอนเซ็ปต์ “เรียนดี มีคุณธรรม” , ศธ.เตรียมจัดงานวันเด็กปี 2569 เปิด 4 โซนกิจกรรมสร้างการเรียนรู้ พร้อมนิทรรศการและพื้นที่โชว์ศักยภาพเยาวชนไทยแบบจัดเต็ม . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109768 . #วันเด็ก2569 #เรียนดีมีคุณธรรม #กระทรวงศึกษาธิการ #นฤมลภิญโญสินวัฒน์ #กิจกรรมวันเด็ก #เยาวชนไทย #News1 #News1live #newsupdate #truthfromthailand
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 323 Views 0 Reviews
  • “AI และโซเชียลมีเดีย กำลังทำให้สมองเสื่อมคุณภาพ (‘Brain Rot’)”

    งานวิจัยจาก Wharton และ MIT พบว่า การใช้ AI Chatbot และ AI Search Tools ทำให้ผู้ใช้ผลิตเนื้อหาที่ ซ้ำซากและไร้ความลึก เมื่อเทียบกับการค้นหาข้อมูลแบบดั้งเดิม เช่น Google Search ผู้ใช้ที่พึ่งพา AI มักไม่สามารถจดจำสิ่งที่เขียนเองได้ และมีการทำงานของสมองต่ำกว่าอย่างเห็นได้ชัด

    คำว่า “Brain Rot” ถูก Oxford English Dictionary ยกให้เป็นคำแห่งปี 2024 หมายถึงสภาวะที่สมองเสื่อมคุณภาพจากการเสพคอนเทนต์สั้น ๆ เช่น TikTok และ Instagram ซึ่งทำให้ผู้ใช้ติดการเลื่อนหน้าจอโดยไม่สร้างการเรียนรู้เชิงลึก ปัญหานี้ยิ่งรุนแรงขึ้นเมื่อผนวกกับการใช้ AI ที่ทำให้การค้นคว้ากลายเป็นกระบวนการแบบ Passive

    ข้อมูลจากการสอบ National Assessment of Educational Progress (NAEP) ในสหรัฐฯ ชี้ว่า คะแนนการอ่านของนักเรียนมัธยมต้นและปลายตกต่ำที่สุดในรอบหลายปีหลังโควิด-19 ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับการใช้โซเชียลมีเดียและการพึ่งพา AI ในการเรียนรู้

    แม้จะมีข้อกังวล แต่ผู้เชี่ยวชาญเสนอแนวทางว่า การใช้ AI อย่างมีสติ เช่น เริ่มต้นด้วยการคิดเองก่อน แล้วใช้ AI เพื่อตรวจสอบหรือปรับปรุงงาน จะช่วยให้สมองยังคงทำงานเชิงรุก และลดผลกระทบของ “Brain Rot” ได้

    สรุปสาระสำคัญ
    ผลการวิจัยเกี่ยวกับ AI
    ผู้ใช้ Chatbot ผลิตเนื้อหาที่ซ้ำซากและไร้ความลึก
    การทำงานของสมองลดลงเมื่อพึ่งพา AI
    ผู้ใช้ไม่สามารถจดจำสิ่งที่เขียนเองได้

    ผลกระทบจากโซเชียลมีเดีย
    TikTok และ Instagram ทำให้ผู้ใช้ติดคอนเทนต์สั้น ๆ
    “Brain Rot” ถูกยกเป็นคำแห่งปี 2024
    การเสพคอนเทนต์แบบ Passive ลดการเรียนรู้เชิงลึก

    ผลต่อเยาวชนและการศึกษา
    คะแนนการอ่านของนักเรียนสหรัฐฯ ตกต่ำที่สุดในรอบหลายปี
    นักวิจัยเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับการใช้โซเชียลมีเดียและ AI

    คำเตือนจากบทความ
    การพึ่งพา AI และโซเชียลมีเดียมากเกินไปอาจทำให้สมองเสื่อมคุณภาพ
    เยาวชนเสี่ยงต่อการสูญเสียทักษะการคิดวิเคราะห์และการจดจำ
    หากไม่ปรับการใช้เทคโนโลยี อาจกระทบต่อระบบการศึกษาและคุณภาพแรงงานในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/17/how-ai-and-social-media-contribute-to-brain-rot
    🧠 “AI และโซเชียลมีเดีย กำลังทำให้สมองเสื่อมคุณภาพ (‘Brain Rot’)” งานวิจัยจาก Wharton และ MIT พบว่า การใช้ AI Chatbot และ AI Search Tools ทำให้ผู้ใช้ผลิตเนื้อหาที่ ซ้ำซากและไร้ความลึก เมื่อเทียบกับการค้นหาข้อมูลแบบดั้งเดิม เช่น Google Search ผู้ใช้ที่พึ่งพา AI มักไม่สามารถจดจำสิ่งที่เขียนเองได้ และมีการทำงานของสมองต่ำกว่าอย่างเห็นได้ชัด คำว่า “Brain Rot” ถูก Oxford English Dictionary ยกให้เป็นคำแห่งปี 2024 หมายถึงสภาวะที่สมองเสื่อมคุณภาพจากการเสพคอนเทนต์สั้น ๆ เช่น TikTok และ Instagram ซึ่งทำให้ผู้ใช้ติดการเลื่อนหน้าจอโดยไม่สร้างการเรียนรู้เชิงลึก ปัญหานี้ยิ่งรุนแรงขึ้นเมื่อผนวกกับการใช้ AI ที่ทำให้การค้นคว้ากลายเป็นกระบวนการแบบ Passive ข้อมูลจากการสอบ National Assessment of Educational Progress (NAEP) ในสหรัฐฯ ชี้ว่า คะแนนการอ่านของนักเรียนมัธยมต้นและปลายตกต่ำที่สุดในรอบหลายปีหลังโควิด-19 ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับการใช้โซเชียลมีเดียและการพึ่งพา AI ในการเรียนรู้ แม้จะมีข้อกังวล แต่ผู้เชี่ยวชาญเสนอแนวทางว่า การใช้ AI อย่างมีสติ เช่น เริ่มต้นด้วยการคิดเองก่อน แล้วใช้ AI เพื่อตรวจสอบหรือปรับปรุงงาน จะช่วยให้สมองยังคงทำงานเชิงรุก และลดผลกระทบของ “Brain Rot” ได้ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ผลการวิจัยเกี่ยวกับ AI ➡️ ผู้ใช้ Chatbot ผลิตเนื้อหาที่ซ้ำซากและไร้ความลึก ➡️ การทำงานของสมองลดลงเมื่อพึ่งพา AI ➡️ ผู้ใช้ไม่สามารถจดจำสิ่งที่เขียนเองได้ ✅ ผลกระทบจากโซเชียลมีเดีย ➡️ TikTok และ Instagram ทำให้ผู้ใช้ติดคอนเทนต์สั้น ๆ ➡️ “Brain Rot” ถูกยกเป็นคำแห่งปี 2024 ➡️ การเสพคอนเทนต์แบบ Passive ลดการเรียนรู้เชิงลึก ✅ ผลต่อเยาวชนและการศึกษา ➡️ คะแนนการอ่านของนักเรียนสหรัฐฯ ตกต่ำที่สุดในรอบหลายปี ➡️ นักวิจัยเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับการใช้โซเชียลมีเดียและ AI ‼️ คำเตือนจากบทความ ⛔ การพึ่งพา AI และโซเชียลมีเดียมากเกินไปอาจทำให้สมองเสื่อมคุณภาพ ⛔ เยาวชนเสี่ยงต่อการสูญเสียทักษะการคิดวิเคราะห์และการจดจำ ⛔ หากไม่ปรับการใช้เทคโนโลยี อาจกระทบต่อระบบการศึกษาและคุณภาพแรงงานในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/17/how-ai-and-social-media-contribute-to-brain-rot
    WWW.THESTAR.COM.MY
    How AI and social media contribute to 'brain rot'
    A.I. search tools, chatbots and social media are associated with lower cognitive performance, studies say. What to do?
    0 Comments 0 Shares 267 Views 0 Reviews
  • “Zigbook – คู่มือเรียนรู้ภาษา Zig ที่เปลี่ยนวิธีคิดการเขียนโปรแกรม”

    Zigbook ไม่ใช่แค่ตำราเพิ่มทักษะการเขียนโปรแกรม แต่เป็นการนำเสนอ ปรัชญาใหม่ในการคิดเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ ผู้สร้างเน้นว่า “คุณมาเพื่อเรียน Syntax แต่คุณจะจากไปพร้อมปรัชญา” ซึ่งสะท้อนว่าการเรียนรู้ Zig ไม่ใช่เพียงการจำคำสั่ง แต่คือการเข้าใจวิธีคิดที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบระบบ

    คู่มือนี้ประกอบด้วยกว่า 61 บทเรียนที่เป็น Project-based หรือเน้นการทำโปรเจกต์จริง ผู้เรียนจะได้ฝึกสร้างโปรแกรมตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงการประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริง จุดเด่นคือการไม่พึ่งพา AI ในการสอน แต่ใช้การอธิบายและตัวอย่างที่ชัดเจน เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจด้วยตนเองและสามารถต่อยอดได้อย่างมั่นคง

    สิ่งที่ทำให้ Zigbook น่าสนใจคือการผสมผสานระหว่าง คู่มือเชิงเทคนิค และ แนวคิดเชิงปรัชญา ผู้เรียนจะได้ทั้งความรู้ด้าน Syntax, การจัดการหน่วยความจำ, และการออกแบบระบบที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งแนวคิดว่าการเขียนโปรแกรมไม่ใช่แค่การแก้โจทย์ แต่คือการสร้างสิ่งที่มีคุณค่าและยั่งยืน

    นอกจากนี้ Zigbook ยังเป็น Open-source ทำให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงได้ฟรี และมีการอัปเดตเนื้อหาอย่างต่อเนื่องโดยชุมชนผู้ใช้ Zig จุดนี้ช่วยสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ร่วมกัน และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการพัฒนาคู่มือเองด้วย

    สรุปสาระสำคัญ
    แนวคิดหลักของ Zigbook
    ไม่ใช่แค่การเรียน Syntax แต่คือการเปลี่ยนวิธีคิดเกี่ยวกับซอฟต์แวร์
    เน้นการเรียนรู้เชิงปรัชญาและการออกแบบระบบ

    โครงสร้างการเรียนรู้
    มีทั้งหมดกว่า 61 บทเรียน
    ใช้การเรียนแบบ Project-based เพื่อฝึกทักษะจริง
    ไม่พึ่งพา AI แต่ใช้การอธิบายและตัวอย่างที่เข้าใจง่าย

    คุณสมบัติเด่น
    เป็นคู่มือ Open-source ที่เข้าถึงได้ฟรี
    มีการอัปเดตและพัฒนาโดยชุมชนผู้ใช้ Zig

    คำเตือนสำหรับผู้เรียน
    Zig เป็นภาษาใหม่ที่อาจมีชุมชนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับภาษาอื่น
    ผู้เรียนต้องใช้เวลาและความตั้งใจในการทำโปรเจกต์จริงเพื่อเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

    https://www.zigbook.net/
    📘 “Zigbook – คู่มือเรียนรู้ภาษา Zig ที่เปลี่ยนวิธีคิดการเขียนโปรแกรม” Zigbook ไม่ใช่แค่ตำราเพิ่มทักษะการเขียนโปรแกรม แต่เป็นการนำเสนอ ปรัชญาใหม่ในการคิดเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ ผู้สร้างเน้นว่า “คุณมาเพื่อเรียน Syntax แต่คุณจะจากไปพร้อมปรัชญา” ซึ่งสะท้อนว่าการเรียนรู้ Zig ไม่ใช่เพียงการจำคำสั่ง แต่คือการเข้าใจวิธีคิดที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบระบบ คู่มือนี้ประกอบด้วยกว่า 61 บทเรียนที่เป็น Project-based หรือเน้นการทำโปรเจกต์จริง ผู้เรียนจะได้ฝึกสร้างโปรแกรมตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงการประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริง จุดเด่นคือการไม่พึ่งพา AI ในการสอน แต่ใช้การอธิบายและตัวอย่างที่ชัดเจน เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจด้วยตนเองและสามารถต่อยอดได้อย่างมั่นคง สิ่งที่ทำให้ Zigbook น่าสนใจคือการผสมผสานระหว่าง คู่มือเชิงเทคนิค และ แนวคิดเชิงปรัชญา ผู้เรียนจะได้ทั้งความรู้ด้าน Syntax, การจัดการหน่วยความจำ, และการออกแบบระบบที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งแนวคิดว่าการเขียนโปรแกรมไม่ใช่แค่การแก้โจทย์ แต่คือการสร้างสิ่งที่มีคุณค่าและยั่งยืน นอกจากนี้ Zigbook ยังเป็น Open-source ทำให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงได้ฟรี และมีการอัปเดตเนื้อหาอย่างต่อเนื่องโดยชุมชนผู้ใช้ Zig จุดนี้ช่วยสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ร่วมกัน และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการพัฒนาคู่มือเองด้วย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ แนวคิดหลักของ Zigbook ➡️ ไม่ใช่แค่การเรียน Syntax แต่คือการเปลี่ยนวิธีคิดเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ ➡️ เน้นการเรียนรู้เชิงปรัชญาและการออกแบบระบบ ✅ โครงสร้างการเรียนรู้ ➡️ มีทั้งหมดกว่า 61 บทเรียน ➡️ ใช้การเรียนแบบ Project-based เพื่อฝึกทักษะจริง ➡️ ไม่พึ่งพา AI แต่ใช้การอธิบายและตัวอย่างที่เข้าใจง่าย ✅ คุณสมบัติเด่น ➡️ เป็นคู่มือ Open-source ที่เข้าถึงได้ฟรี ➡️ มีการอัปเดตและพัฒนาโดยชุมชนผู้ใช้ Zig ‼️ คำเตือนสำหรับผู้เรียน ⛔ Zig เป็นภาษาใหม่ที่อาจมีชุมชนเล็กกว่าเมื่อเทียบกับภาษาอื่น ⛔ ผู้เรียนต้องใช้เวลาและความตั้งใจในการทำโปรเจกต์จริงเพื่อเข้าใจอย่างลึกซึ้ง https://www.zigbook.net/
    WWW.ZIGBOOK.NET
    Zigbook – Learn the Zig Programming Language
    Zigbook is a comprehensive, open-source guide to the Zig programming language, packed with hands-on chapters, projects, and real-world examples.
    0 Comments 0 Shares 171 Views 0 Reviews
  • EFF เตือนว่ากฎหมายใหม่ในรัฐวิสคอนซินและมิชิแกนที่พยายาม “แบน VPN” เพื่อป้องกันเด็กจากเนื้อหาลามก เป็นแนวคิดที่ผิดพลาด

    กฎหมาย A.B. 105/S.B. 130 ในรัฐวิสคอนซินกำหนดให้เว็บไซต์ที่มีเนื้อหา “อาจเป็นอันตรายต่อผู้เยาว์” ต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้และบล็อกการเข้าถึงจากผู้ใช้ที่เชื่อมต่อผ่าน VPN. ปัญหาคือการบล็อก VPN แบบเจาะจงพื้นที่เป็นไปไม่ได้ในทางเทคนิค เพราะเว็บไซต์ไม่สามารถรู้ได้ว่า VPN มาจาก Milwaukee หรือ Mumbai. ผลลัพธ์คือเว็บไซต์อาจต้องบล็อกผู้ใช้ VPN ทั้งหมดทั่วโลกเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทางกฎหมาย.

    ใครคือผู้ได้รับผลกระทบ
    VPN ไม่ได้ใช้เฉพาะคนที่ต้องการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบอายุ แต่เป็นเครื่องมือสำคัญของหลายกลุ่ม:
    ธุรกิจ ใช้ VPN เพื่อปกป้องข้อมูลลูกค้าและพนักงาน.
    นักศึกษา ต้องใช้ VPN เพื่อเข้าถึงฐานข้อมูลและทรัพยากรการเรียน เช่น WiscVPN ของมหาวิทยาลัย Wisconsin-Madison.
    ผู้เปราะบาง เช่น ผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว, นักข่าว, นักกิจกรรม และชุมชน LGBTQ+ ใช้ VPN เพื่อความปลอดภัยและการเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็น.
    ผู้ใช้ทั่วไป ใช้ VPN เพื่อหลีกเลี่ยงการติดตามและการขายข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัทโฆษณา.

    ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว
    หาก VPN ถูกบล็อก ผู้ใช้จะถูกบังคับให้ยืนยันอายุด้วยการส่งข้อมูลบัตรประชาชน, ข้อมูลชีวมิติ หรือบัตรเครดิตโดยตรงไปยังเว็บไซต์ ซึ่งเสี่ยงต่อการรั่วไหลและการโจมตีทางไซเบอร์. ประวัติที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าการเก็บข้อมูลเช่นนี้มักถูกแฮ็กและรั่วไหล ทำให้ผู้ใช้สูญเสียความเป็นส่วนตัวอย่างร้ายแรง.

    กฎหมายที่ไม่สามารถทำงานได้จริง
    แม้กฎหมายผ่านไป ผู้ใช้ก็สามารถหาทางเลี่ยงได้ง่าย เช่น ใช้ open proxies, VPS ราคาถูก หรือสร้าง VPN เอง. อินเทอร์เน็ตมักหาทาง “หลบเลี่ยงการเซ็นเซอร์” อยู่เสมอ. ผลลัพธ์คือกฎหมายนี้ไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย แต่กลับทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสูญเสียความปลอดภัยและเสรีภาพดิจิทัล.

    สรุปสาระสำคัญ
    กฎหมายในวิสคอนซินและมิชิแกนพยายามแบน VPN
    อ้างว่าเพื่อปกป้องเด็กจากเนื้อหาลามก
    บังคับให้เว็บไซต์ตรวจสอบอายุและบล็อก VPN

    VPN มีความสำคัญต่อหลายกลุ่ม
    ธุรกิจและนักศึกษาใช้เพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญ
    ผู้เปราะบางและผู้ใช้ทั่วไปใช้เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

    ความเสี่ยงด้านข้อมูลส่วนบุคคล
    การบล็อก VPN บังคับให้ส่งข้อมูลบัตรประชาชนหรือบัตรเครดิต
    เสี่ยงต่อการรั่วไหลและการโจมตีทางไซเบอร์

    กฎหมายไม่สามารถทำงานได้จริง
    ผู้ใช้สามารถสร้าง VPN เองหรือใช้ open proxies
    อินเทอร์เน็ตหาทางเลี่ยงการเซ็นเซอร์เสมอ

    ผลกระทบต่อเสรีภาพดิจิทัล
    กฎหมายทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสูญเสียความปลอดภัย
    เป็นการเปิดทางให้รัฐบาลควบคุมอินเทอร์เน็ตมากขึ้น

    https://www.eff.org/deeplinks/2025/11/lawmakers-want-ban-vpns-and-they-have-no-idea-what-theyre-doing
    ⚖️ EFF เตือนว่ากฎหมายใหม่ในรัฐวิสคอนซินและมิชิแกนที่พยายาม “แบน VPN” เพื่อป้องกันเด็กจากเนื้อหาลามก เป็นแนวคิดที่ผิดพลาด กฎหมาย A.B. 105/S.B. 130 ในรัฐวิสคอนซินกำหนดให้เว็บไซต์ที่มีเนื้อหา “อาจเป็นอันตรายต่อผู้เยาว์” ต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้และบล็อกการเข้าถึงจากผู้ใช้ที่เชื่อมต่อผ่าน VPN. ปัญหาคือการบล็อก VPN แบบเจาะจงพื้นที่เป็นไปไม่ได้ในทางเทคนิค เพราะเว็บไซต์ไม่สามารถรู้ได้ว่า VPN มาจาก Milwaukee หรือ Mumbai. ผลลัพธ์คือเว็บไซต์อาจต้องบล็อกผู้ใช้ VPN ทั้งหมดทั่วโลกเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทางกฎหมาย. 🌍 ใครคือผู้ได้รับผลกระทบ VPN ไม่ได้ใช้เฉพาะคนที่ต้องการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบอายุ แต่เป็นเครื่องมือสำคัญของหลายกลุ่ม: 🔰 ธุรกิจ ใช้ VPN เพื่อปกป้องข้อมูลลูกค้าและพนักงาน. 🔰 นักศึกษา ต้องใช้ VPN เพื่อเข้าถึงฐานข้อมูลและทรัพยากรการเรียน เช่น WiscVPN ของมหาวิทยาลัย Wisconsin-Madison. 🔰 ผู้เปราะบาง เช่น ผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว, นักข่าว, นักกิจกรรม และชุมชน LGBTQ+ ใช้ VPN เพื่อความปลอดภัยและการเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็น. 🔰 ผู้ใช้ทั่วไป ใช้ VPN เพื่อหลีกเลี่ยงการติดตามและการขายข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัทโฆษณา. 🔒 ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว หาก VPN ถูกบล็อก ผู้ใช้จะถูกบังคับให้ยืนยันอายุด้วยการส่งข้อมูลบัตรประชาชน, ข้อมูลชีวมิติ หรือบัตรเครดิตโดยตรงไปยังเว็บไซต์ ซึ่งเสี่ยงต่อการรั่วไหลและการโจมตีทางไซเบอร์. ประวัติที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าการเก็บข้อมูลเช่นนี้มักถูกแฮ็กและรั่วไหล ทำให้ผู้ใช้สูญเสียความเป็นส่วนตัวอย่างร้ายแรง. 🚫 กฎหมายที่ไม่สามารถทำงานได้จริง แม้กฎหมายผ่านไป ผู้ใช้ก็สามารถหาทางเลี่ยงได้ง่าย เช่น ใช้ open proxies, VPS ราคาถูก หรือสร้าง VPN เอง. อินเทอร์เน็ตมักหาทาง “หลบเลี่ยงการเซ็นเซอร์” อยู่เสมอ. ผลลัพธ์คือกฎหมายนี้ไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย แต่กลับทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสูญเสียความปลอดภัยและเสรีภาพดิจิทัล. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ กฎหมายในวิสคอนซินและมิชิแกนพยายามแบน VPN ➡️ อ้างว่าเพื่อปกป้องเด็กจากเนื้อหาลามก ➡️ บังคับให้เว็บไซต์ตรวจสอบอายุและบล็อก VPN ✅ VPN มีความสำคัญต่อหลายกลุ่ม ➡️ ธุรกิจและนักศึกษาใช้เพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญ ➡️ ผู้เปราะบางและผู้ใช้ทั่วไปใช้เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ✅ ความเสี่ยงด้านข้อมูลส่วนบุคคล ➡️ การบล็อก VPN บังคับให้ส่งข้อมูลบัตรประชาชนหรือบัตรเครดิต ➡️ เสี่ยงต่อการรั่วไหลและการโจมตีทางไซเบอร์ ✅ กฎหมายไม่สามารถทำงานได้จริง ➡️ ผู้ใช้สามารถสร้าง VPN เองหรือใช้ open proxies ➡️ อินเทอร์เน็ตหาทางเลี่ยงการเซ็นเซอร์เสมอ ‼️ ผลกระทบต่อเสรีภาพดิจิทัล ⛔ กฎหมายทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสูญเสียความปลอดภัย ⛔ เป็นการเปิดทางให้รัฐบาลควบคุมอินเทอร์เน็ตมากขึ้น https://www.eff.org/deeplinks/2025/11/lawmakers-want-ban-vpns-and-they-have-no-idea-what-theyre-doing
    WWW.EFF.ORG
    Lawmakers Want to Ban VPNs—And They Have No Idea What They're Doing
    It's unfortunately no longer enough to force websites to check your government-issued ID before you can access certain content, because politicians have now discovered that people are using Virtual Private Networks (VPNs) to protect their privacy and bypass these invasive laws. Their solution? Entirely ban the use of VPNs.
    0 Comments 0 Shares 243 Views 0 Reviews
  • การจากไปของ Yann LeCun จาก Meta และการตั้งสตาร์ทอัพใหม่

    เรื่องนี้เล่าได้เหมือนการเปลี่ยนยุคในโลก AI เลยครับ Yann LeCun นักวิทยาศาสตร์ผู้ได้รับรางวัล Turing และเป็นผู้บุกเบิกงานวิจัย AI ที่ Meta กำลังจะออกจากบริษัทเพื่อไปตั้งสตาร์ทอัพของตัวเอง โดยเน้นไปที่ “world models” ซึ่งเป็นระบบที่เรียนรู้จากข้อมูลเชิงภาพและพื้นที่ ไม่ใช่แค่ข้อความ จุดนี้ถือว่าน่าสนใจมากเพราะเป็นแนวทางที่ต่างจากการพัฒนา LLM ที่ Meta กำลังทุ่มทุนมหาศาลอยู่

    การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากนักลงทุน หลัง Meta สูญเสียมูลค่าตลาดมหาศาล และ Mark Zuckerberg ก็เร่งปรับทัพด้วยการตั้งทีมใหม่ชื่อ TBD Lab พร้อมดึงคนเก่งจากวงการ AI ด้วยค่าตัวสูงลิ่ว LeCun เองไม่เห็นด้วยกับการพึ่งพา LLM มากเกินไป เขามองว่ามัน “มีประโยชน์แต่จำกัด” และไม่สามารถคิดวางแผนได้เหมือนมนุษย์

    หากมองในภาพใหญ่ การออกจาก Meta ของ LeCun ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนงาน แต่เป็นการเปิดศึกใหม่ในสนาม AI ที่กำลังแข่งขันกันดุเดือดระหว่าง Meta, Google และ OpenAI การตั้งสตาร์ทอัพใหม่ของเขาอาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนา AI ที่เข้าใจโลกจริงได้ดีกว่าเดิม

    LeCun เตรียมตั้งสตาร์ทอัพใหม่ด้าน “world models”
    เน้นการเรียนรู้จากข้อมูลภาพและพื้นที่ ไม่ใช่ข้อความ

    Meta ปรับทัพ AI หลัง Llama 4 ไม่ประสบความสำเร็จ
    ตั้งทีม TBD Lab พร้อมดึงคนเก่งด้วยค่าตัวสูง

    นักลงทุนกังวลค่าใช้จ่าย AI ของ Meta อาจทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์
    ความเสี่ยงต่อมูลค่าบริษัทและแรงกดดันต่อผู้บริหาร

    https://www.nasdaq.com/articles/metas-chief-ai-scientist-yann-lecun-depart-and-launch-ai-start-focused-world-models
    🧠 การจากไปของ Yann LeCun จาก Meta และการตั้งสตาร์ทอัพใหม่ เรื่องนี้เล่าได้เหมือนการเปลี่ยนยุคในโลก AI เลยครับ Yann LeCun นักวิทยาศาสตร์ผู้ได้รับรางวัล Turing และเป็นผู้บุกเบิกงานวิจัย AI ที่ Meta กำลังจะออกจากบริษัทเพื่อไปตั้งสตาร์ทอัพของตัวเอง โดยเน้นไปที่ “world models” ซึ่งเป็นระบบที่เรียนรู้จากข้อมูลเชิงภาพและพื้นที่ ไม่ใช่แค่ข้อความ จุดนี้ถือว่าน่าสนใจมากเพราะเป็นแนวทางที่ต่างจากการพัฒนา LLM ที่ Meta กำลังทุ่มทุนมหาศาลอยู่ การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากนักลงทุน หลัง Meta สูญเสียมูลค่าตลาดมหาศาล และ Mark Zuckerberg ก็เร่งปรับทัพด้วยการตั้งทีมใหม่ชื่อ TBD Lab พร้อมดึงคนเก่งจากวงการ AI ด้วยค่าตัวสูงลิ่ว LeCun เองไม่เห็นด้วยกับการพึ่งพา LLM มากเกินไป เขามองว่ามัน “มีประโยชน์แต่จำกัด” และไม่สามารถคิดวางแผนได้เหมือนมนุษย์ หากมองในภาพใหญ่ การออกจาก Meta ของ LeCun ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนงาน แต่เป็นการเปิดศึกใหม่ในสนาม AI ที่กำลังแข่งขันกันดุเดือดระหว่าง Meta, Google และ OpenAI การตั้งสตาร์ทอัพใหม่ของเขาอาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนา AI ที่เข้าใจโลกจริงได้ดีกว่าเดิม ✅ LeCun เตรียมตั้งสตาร์ทอัพใหม่ด้าน “world models” ➡️ เน้นการเรียนรู้จากข้อมูลภาพและพื้นที่ ไม่ใช่ข้อความ ✅ Meta ปรับทัพ AI หลัง Llama 4 ไม่ประสบความสำเร็จ ➡️ ตั้งทีม TBD Lab พร้อมดึงคนเก่งด้วยค่าตัวสูง ‼️ นักลงทุนกังวลค่าใช้จ่าย AI ของ Meta อาจทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์ ⛔ ความเสี่ยงต่อมูลค่าบริษัทและแรงกดดันต่อผู้บริหาร https://www.nasdaq.com/articles/metas-chief-ai-scientist-yann-lecun-depart-and-launch-ai-start-focused-world-models
    WWW.NASDAQ.COM
    Meta's Chief AI Scientist Yann LeCun To Depart And Launch AI Start-Up Focused On 'World Models'
    (RTTNews) - Meta's (META) chief artificial intelligence scientist, Yann LeCun, plans to leave the company to launch his own AI start-up, marking a major shift inside Meta as CEO Mark Zuckerberg doubles down on "superintelligence" initiatives to compete with OpenAI and Google, acc
    0 Comments 0 Shares 198 Views 0 Reviews
  • รมว.นฤมล หนุนช่วยเด็กพิการ มีอาชีพ รายได้ และคุณภาพชีวิตดีขึ้น
    รมว.ศึกษาธิการประชุมคณะกรรมการการศึกษาสำหรับคนพิการ เดินหน้าปรับกฎหมายและตั้งศูนย์การเรียนเฉพาะความพิการ หนุนเด็กพิเศษมีอาชีพ รายได้ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมผลักดันโครงการเรียนร่วมเด็กปกติ–เด็กพิการทั่วประเทศ

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000108073

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #ข่าว #เด็กพิการ #การศึกษา #นฤมลภิญโญสินวัฒน์ #truthfromthailand #newsupdate
    รมว.นฤมล หนุนช่วยเด็กพิการ มีอาชีพ รายได้ และคุณภาพชีวิตดีขึ้น รมว.ศึกษาธิการประชุมคณะกรรมการการศึกษาสำหรับคนพิการ เดินหน้าปรับกฎหมายและตั้งศูนย์การเรียนเฉพาะความพิการ หนุนเด็กพิเศษมีอาชีพ รายได้ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมผลักดันโครงการเรียนร่วมเด็กปกติ–เด็กพิการทั่วประเทศ อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000108073 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #ข่าว #เด็กพิการ #การศึกษา #นฤมลภิญโญสินวัฒน์ #truthfromthailand #newsupdate
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 461 Views 0 Reviews
More Results