• 48 ปี โศกนาฏกรรมกลางรันเวย์ “โบอิง 747” ชนกันที่เตเนริเฟ 🇪🇸✈️ สำเนียงสเปนพ่นพิษ นักบินสื่อสารผิดพลาด 583 ศพ บทเรียนราคาแพงจากท่าอากาศยาน ท่ามกลางหมอกหนา ความเครียด และสำเนียงที่ฟังยาก

    🌫️ โศกนาฏกรรมแห่งเตเนริเฟ 🔥 ย้อนไปเมื่อ 48 ปี ที่ผ่านมา ช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2520 เป็นวันที่โลกต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การบิน เมื่อเครื่องบินโดยสารขนาดยักษ์ โบอิง 747 ของสายการบิน KLM และ Pan Am ชนกันกลางรันเวย์ที่สนามบินโลสโรเดโอส ปัจจุบันคือท่าอากาศยานเตเนริเฟนอร์เต เกาะเตเนริเฟ ประเทศสเปน

    ผลที่ตามมาคือ ผู้เสียชีวิต 583 ราย และบาดเจ็บ 61 คน เป็นอุบัติเหตุทางอากาศ ที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในโลก เหตุการณ์ครั้งนั้น ไม่ได้เกิดจากเทคโนโลยีขัดข้อง หากแต่เป็นผลพวงจากปัจจัยมนุษย์ (Human Error) และการสื่อสารที่ผิดพลาด ท่ามกลางความกดดัน

    ✈️💥 บริบทก่อนเกิดเหตุ ในช่วงบ่ายของวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2520 "สนามบินกรันกานาเรีย" ซึ่งเป็นสนามบินหลักของหมู่เกาะคานารี ถูกขู่วางระเบิด ทำให้ต้องปิดการใช้งานชั่วคราว ✋🔴

    เครื่องบินหลายลำ รวมถึงเที่ยวบิน KLM 4805 และ Pan Am 1736 จำเป็นต้องลงจอดที่สนามบินสำรองอย่าง “โลสโรเดโอส” ซึ่งเป็นสนามบินขนาดเล็ก ที่ไม่มีความพร้อมรองรับ เครื่องบินลำใหญ่จำนวนมาก

    🕰️ จุดเริ่มต้นของหายนะ 🧨
    - KLM 4805 เดินทางจากอัมสเตอร์ดัม พร้อมผู้โดยสาร 234 คน และลูกเรือ 14 คน
    - Pan Am 1736:เดินทางจากลอสแอนเจลิส แวะนิวยอร์ก มุ่งหน้ากรุงมาดริด พร้อมผู้โดยสาร 380 คน และลูกเรือ 16 คน

    หลังจากเครื่องบินหลายลำลงจอด และจอดเรียงรายกันในพื้นที่จำกัด เจ้าหน้าที่ต้องบริหารพื้นที่ อย่างเร่งด่วน ก่อให้เกิดความเครียด ทั้งในหอบังคับการบินและลูกเรือ

    🚧 จุดเปลี่ยนสำคัญคือ กัปตันของ KLM ตัดสินใจเติมน้ำมันให้เต็มถัง เพื่อเลี่ยงเติมที่สนามบินปลายทางเ พราะราคาถูกกว่า ทำให้ต้องจอดนานกว่าเดิม และขัดขวางการเคลื่อนตัวของ Pan Am

    ☁️ หมอกและความสับสน ภัยเงียบแห่งรันเวย์ 🗣️ เมื่อสนามบินกรันกานาเรียเปิดใช้งานอีกครั้ง การจราจรทางอากาศในโลสโรเดโอส วุ่นวายทันที

    📻 หอบังคับการบิน ต้องจัดการเครื่องบินหลายลำ แต่ขาดเรดาร์ภาคพื้นดิน ทำให้พวกเขามองไม่เห็นตำแหน่งเครื่องบิน ต้องอาศัยการสื่อสารวิทยุแทน

    ✋ จุดวิกฤตเกิดขึ้นเมื่อ KLM เข้าใจผิดว่า สามารถนำเครื่องขึ้นได้ทันที ขณะที่ Pan Am ยังอยู่บนรันเวย์เดียวกัน!

    สำเนียงสเปน กับความคลุมเครือของคำว่า “Takeoff” 😓📡

    📌 ขณะที่ KLM กำลังเตรียมนำเครื่องขึ้น นักบินผู้ช่วยพูดว่า

    “We are now at takeoff.”

    ซึ่งไม่ใช่ประโยคขออนุญาตขึ้นบินโดยตรง แต่เป็นการสื่อสารที่ทำให้เข้าใจคลุมเครือ หอบังคับการบินตอบกลับว่า

    “OK, stand by for takeoff, I will call you.”

    แต่...❗เสียงตอบกลับนั้น ถูกกลืนหายไปกับคลื่นรบกวน ทำให้นักบิน KLM ไม่ได้ยินคำสั่งเต็ม ๆ

    🔥 การชนที่ไม่ควรเกิดขึ้น 💔 KLM เร่งนำเครื่องขึ้น โดยเข้าใจว่าได้รับอนุญาต ขณะที่ Pan Am กำลังเคลื่อนผ่านทางแยก วิ่งบนรันเวย์เดียวกัน หมอกหนาทำให้มองไม่เห็น

    ผลลัพธ์คือ ❌

    ✈️ เครื่องบิน KLM ชนเข้ากลางลำ Pan Am อย่างรุนแรง

    💥 ไฟลุกท่วมเครื่องบินทั้งสองลำในทันที

    - เสียชีวิตจาก KLM 248 ศพ (รอด = 0)
    - เสียชีวิตจาก Pan Am 335 ศพ (รอด = 61 คน)

    😢 บทวิเคราะห์: สาเหตุแห่งหายนะ 🔍
    ปัจจัยมนุษย์ (Human Error)
    - ความเครียดของกัปตัน KLM ที่ต้องรับแรงกดดัน จากบริษัทห้ามดีเลย์ 🕒
    - ขาดการสื่อสารชัดเจน ระหว่างนักบินกับหอบังคับการบิน 📻
    - สำเนียงสเปน ทำให้สื่อสารภาษาอังกฤษไม่ชัดเจน 🗣️

    ปัจจัยสิ่งแวดล้อม
    - สนามบินโลสโรเดโอส ไม่มีเรดาร์พื้นดิน ❌
    - หมอกลงจัด มองไม่เห็นปลายรันเวย์ 🌫️
    - พื้นที่สนามบิน ไม่พร้อมรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่หลายลำ 🚫

    📚🛫 หลังเหตุการณ์นี้ อุตสาหกรรมการบินทั่วโลก ได้ปรับปรุงมาตรการอย่างจริงจัง
    ✅ การสื่อสารต้องใช้ภาษามาตรฐาน และชัดเจนมากขึ้น (Standard Phraseology)
    ✅ ห้ามนักบินตีความเอง โดยไม่มีการอนุญาตชัดเจน
    ✅ มีการพัฒนา Cockpit Resource Management (CRM) เพื่อเน้นการทำงานเป็นทีมระหว่างลูกเรือ
    ✅ ระบบเรดาร์พื้นดิน (Ground Radar) ถูกติดตั้งในสนามบินใหญ่ ๆ ทั่วโลก

    😨 เหตุการณ์ที่เกือบซ้ำรอยในปี 2542 🛬
    เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2542 ที่สนามบินโอแฮร์ สหรัฐอเมริกา ✈️
    - Korean Air เที่ยวบิน 36 Boeing 747 พร้อมผู้โดยสาร 340 คน
    - China Airlines เที่ยวบิน 9018 Boeing 747 เช่นกัน

    เกือบชนกันกลางรันเวย์ เนื่องจากความเข้าใจผิด ในการจราจรทางอากาศ แต่โชคดีที่หลีกเลี่ยงได้ทันโดยเครื่องบินอยู่ห่างกันเพียง 75 ฟุตเท่านั้น 😱

    🕯️ 583 ชีวิต กับบทเรียนที่ไม่มีวันลืม ✈️ “โศกนาฏกรรมเตเนริเฟ” เป็นบทเรียนราคาแพงที่สุดครั้งหนึ่งของมนุษยชาติ ที่สอนเราให้ระมัดระวังในการสื่อสาร การจัดการความเสี่ยง และให้ความสำคัญ กับมาตรฐานความปลอดภัยการบิน ✈️🧠

    แม้เวลาจะผ่านไป 48 ปี... แต่ความสูญเสีย และบทเรียนจากเหตุการณ์นี้ ยังคงส่องแสงเป็นคำเตือน ถึงทุกคนในวงการการบินเสมอ

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 271250 มี.ค. 2568

    📲 #TenerifeDisaster #Boeing747 #PlaneCrashHistory #AirlineSafety #KLM4805 #PanAm1736 #AirCrashInvestigation #อุบัติเหตุทางการบิน #โบอิง747ชนกัน #บทเรียนการบิน
    48 ปี โศกนาฏกรรมกลางรันเวย์ “โบอิง 747” ชนกันที่เตเนริเฟ 🇪🇸✈️ สำเนียงสเปนพ่นพิษ นักบินสื่อสารผิดพลาด 583 ศพ บทเรียนราคาแพงจากท่าอากาศยาน ท่ามกลางหมอกหนา ความเครียด และสำเนียงที่ฟังยาก 🌫️ โศกนาฏกรรมแห่งเตเนริเฟ 🔥 ย้อนไปเมื่อ 48 ปี ที่ผ่านมา ช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2520 เป็นวันที่โลกต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การบิน เมื่อเครื่องบินโดยสารขนาดยักษ์ โบอิง 747 ของสายการบิน KLM และ Pan Am ชนกันกลางรันเวย์ที่สนามบินโลสโรเดโอส ปัจจุบันคือท่าอากาศยานเตเนริเฟนอร์เต เกาะเตเนริเฟ ประเทศสเปน ผลที่ตามมาคือ ผู้เสียชีวิต 583 ราย และบาดเจ็บ 61 คน เป็นอุบัติเหตุทางอากาศ ที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในโลก เหตุการณ์ครั้งนั้น ไม่ได้เกิดจากเทคโนโลยีขัดข้อง หากแต่เป็นผลพวงจากปัจจัยมนุษย์ (Human Error) และการสื่อสารที่ผิดพลาด ท่ามกลางความกดดัน ✈️💥 บริบทก่อนเกิดเหตุ ในช่วงบ่ายของวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2520 "สนามบินกรันกานาเรีย" ซึ่งเป็นสนามบินหลักของหมู่เกาะคานารี ถูกขู่วางระเบิด ทำให้ต้องปิดการใช้งานชั่วคราว ✋🔴 เครื่องบินหลายลำ รวมถึงเที่ยวบิน KLM 4805 และ Pan Am 1736 จำเป็นต้องลงจอดที่สนามบินสำรองอย่าง “โลสโรเดโอส” ซึ่งเป็นสนามบินขนาดเล็ก ที่ไม่มีความพร้อมรองรับ เครื่องบินลำใหญ่จำนวนมาก 🕰️ จุดเริ่มต้นของหายนะ 🧨 - KLM 4805 เดินทางจากอัมสเตอร์ดัม พร้อมผู้โดยสาร 234 คน และลูกเรือ 14 คน - Pan Am 1736:เดินทางจากลอสแอนเจลิส แวะนิวยอร์ก มุ่งหน้ากรุงมาดริด พร้อมผู้โดยสาร 380 คน และลูกเรือ 16 คน หลังจากเครื่องบินหลายลำลงจอด และจอดเรียงรายกันในพื้นที่จำกัด เจ้าหน้าที่ต้องบริหารพื้นที่ อย่างเร่งด่วน ก่อให้เกิดความเครียด ทั้งในหอบังคับการบินและลูกเรือ 🚧 จุดเปลี่ยนสำคัญคือ กัปตันของ KLM ตัดสินใจเติมน้ำมันให้เต็มถัง เพื่อเลี่ยงเติมที่สนามบินปลายทางเ พราะราคาถูกกว่า ทำให้ต้องจอดนานกว่าเดิม และขัดขวางการเคลื่อนตัวของ Pan Am ☁️ หมอกและความสับสน ภัยเงียบแห่งรันเวย์ 🗣️ เมื่อสนามบินกรันกานาเรียเปิดใช้งานอีกครั้ง การจราจรทางอากาศในโลสโรเดโอส วุ่นวายทันที 📻 หอบังคับการบิน ต้องจัดการเครื่องบินหลายลำ แต่ขาดเรดาร์ภาคพื้นดิน ทำให้พวกเขามองไม่เห็นตำแหน่งเครื่องบิน ต้องอาศัยการสื่อสารวิทยุแทน ✋ จุดวิกฤตเกิดขึ้นเมื่อ KLM เข้าใจผิดว่า สามารถนำเครื่องขึ้นได้ทันที ขณะที่ Pan Am ยังอยู่บนรันเวย์เดียวกัน! สำเนียงสเปน กับความคลุมเครือของคำว่า “Takeoff” 😓📡 📌 ขณะที่ KLM กำลังเตรียมนำเครื่องขึ้น นักบินผู้ช่วยพูดว่า “We are now at takeoff.” ซึ่งไม่ใช่ประโยคขออนุญาตขึ้นบินโดยตรง แต่เป็นการสื่อสารที่ทำให้เข้าใจคลุมเครือ หอบังคับการบินตอบกลับว่า “OK, stand by for takeoff, I will call you.” แต่...❗เสียงตอบกลับนั้น ถูกกลืนหายไปกับคลื่นรบกวน ทำให้นักบิน KLM ไม่ได้ยินคำสั่งเต็ม ๆ 🔥 การชนที่ไม่ควรเกิดขึ้น 💔 KLM เร่งนำเครื่องขึ้น โดยเข้าใจว่าได้รับอนุญาต ขณะที่ Pan Am กำลังเคลื่อนผ่านทางแยก วิ่งบนรันเวย์เดียวกัน หมอกหนาทำให้มองไม่เห็น ผลลัพธ์คือ ❌ ✈️ เครื่องบิน KLM ชนเข้ากลางลำ Pan Am อย่างรุนแรง 💥 ไฟลุกท่วมเครื่องบินทั้งสองลำในทันที - เสียชีวิตจาก KLM 248 ศพ (รอด = 0) - เสียชีวิตจาก Pan Am 335 ศพ (รอด = 61 คน) 😢 บทวิเคราะห์: สาเหตุแห่งหายนะ 🔍 ปัจจัยมนุษย์ (Human Error) - ความเครียดของกัปตัน KLM ที่ต้องรับแรงกดดัน จากบริษัทห้ามดีเลย์ 🕒 - ขาดการสื่อสารชัดเจน ระหว่างนักบินกับหอบังคับการบิน 📻 - สำเนียงสเปน ทำให้สื่อสารภาษาอังกฤษไม่ชัดเจน 🗣️ ปัจจัยสิ่งแวดล้อม - สนามบินโลสโรเดโอส ไม่มีเรดาร์พื้นดิน ❌ - หมอกลงจัด มองไม่เห็นปลายรันเวย์ 🌫️ - พื้นที่สนามบิน ไม่พร้อมรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่หลายลำ 🚫 📚🛫 หลังเหตุการณ์นี้ อุตสาหกรรมการบินทั่วโลก ได้ปรับปรุงมาตรการอย่างจริงจัง ✅ การสื่อสารต้องใช้ภาษามาตรฐาน และชัดเจนมากขึ้น (Standard Phraseology) ✅ ห้ามนักบินตีความเอง โดยไม่มีการอนุญาตชัดเจน ✅ มีการพัฒนา Cockpit Resource Management (CRM) เพื่อเน้นการทำงานเป็นทีมระหว่างลูกเรือ ✅ ระบบเรดาร์พื้นดิน (Ground Radar) ถูกติดตั้งในสนามบินใหญ่ ๆ ทั่วโลก 😨 เหตุการณ์ที่เกือบซ้ำรอยในปี 2542 🛬 เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2542 ที่สนามบินโอแฮร์ สหรัฐอเมริกา ✈️ - Korean Air เที่ยวบิน 36 Boeing 747 พร้อมผู้โดยสาร 340 คน - China Airlines เที่ยวบิน 9018 Boeing 747 เช่นกัน เกือบชนกันกลางรันเวย์ เนื่องจากความเข้าใจผิด ในการจราจรทางอากาศ แต่โชคดีที่หลีกเลี่ยงได้ทันโดยเครื่องบินอยู่ห่างกันเพียง 75 ฟุตเท่านั้น 😱 🕯️ 583 ชีวิต กับบทเรียนที่ไม่มีวันลืม ✈️ “โศกนาฏกรรมเตเนริเฟ” เป็นบทเรียนราคาแพงที่สุดครั้งหนึ่งของมนุษยชาติ ที่สอนเราให้ระมัดระวังในการสื่อสาร การจัดการความเสี่ยง และให้ความสำคัญ กับมาตรฐานความปลอดภัยการบิน ✈️🧠 แม้เวลาจะผ่านไป 48 ปี... แต่ความสูญเสีย และบทเรียนจากเหตุการณ์นี้ ยังคงส่องแสงเป็นคำเตือน ถึงทุกคนในวงการการบินเสมอ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 271250 มี.ค. 2568 📲 #TenerifeDisaster #Boeing747 #PlaneCrashHistory #AirlineSafety #KLM4805 #PanAm1736 #AirCrashInvestigation #อุบัติเหตุทางการบิน #โบอิง747ชนกัน #บทเรียนการบิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • VMware ได้แก้ไขช่องโหว่ระดับสูงใน VMware Tools สำหรับ Windows ที่อาจทำให้ผู้โจมตียกระดับสิทธิ์และดำเนินการที่อันตรายภายในระบบ การโจมตีนี้มีความซับซ้อนต่ำและเปิดช่องให้เกิดความเสี่ยงที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม แพตช์เวอร์ชัน 12.5.1 ได้ออกมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ผู้ใช้งานจึงควรรีบอัปเดตเพื่อรักษาความปลอดภัยของระบบ

    ผลกระทบที่ร้ายแรง:
    - ช่องโหว่นี้เปิดช่องให้ผู้โจมตีสามารถหลบหนีออกจาก VM เพื่อโจมตีโฮสต์, ขยายการเข้าถึงไปยัง VM อื่น หรือสร้าง VM ที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจส่งผลต่อการรักษาความปลอดภัยในศูนย์ข้อมูลหรือระบบคลาวด์.

    ความสำคัญในการอัปเดต:
    - Broadcom ย้ำว่าช่องโหว่นี้ไม่มีวิธีแก้ไขชั่วคราว ผู้ใช้งานต้องติดตั้งแพตช์เวอร์ชัน 12.5.1 เพื่อแก้ไขปัญหาโดยทันที VMware Tools บน Linux และ macOS ไม่ได้รับผลกระทบ.

    แรงจูงใจของผู้โจมตี:
    - ระบบที่ใช้ VMware นับเป็นเป้าหมายสำคัญสำหรับผู้โจมตี เนื่องจากการใช้งานที่แพร่หลายในองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งการโจมตีสามารถนำไปสู่การรบกวนบริการที่สำคัญและสร้างโอกาสในการเคลื่อนไหวระหว่างระบบเสมือนจริง.

    https://www.csoonline.com/article/3854374/vmware-plugs-a-high-risk-vulnerability-affecting-its-windows-based-virtualization.html
    VMware ได้แก้ไขช่องโหว่ระดับสูงใน VMware Tools สำหรับ Windows ที่อาจทำให้ผู้โจมตียกระดับสิทธิ์และดำเนินการที่อันตรายภายในระบบ การโจมตีนี้มีความซับซ้อนต่ำและเปิดช่องให้เกิดความเสี่ยงที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม แพตช์เวอร์ชัน 12.5.1 ได้ออกมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ผู้ใช้งานจึงควรรีบอัปเดตเพื่อรักษาความปลอดภัยของระบบ ผลกระทบที่ร้ายแรง: - ช่องโหว่นี้เปิดช่องให้ผู้โจมตีสามารถหลบหนีออกจาก VM เพื่อโจมตีโฮสต์, ขยายการเข้าถึงไปยัง VM อื่น หรือสร้าง VM ที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจส่งผลต่อการรักษาความปลอดภัยในศูนย์ข้อมูลหรือระบบคลาวด์. ความสำคัญในการอัปเดต: - Broadcom ย้ำว่าช่องโหว่นี้ไม่มีวิธีแก้ไขชั่วคราว ผู้ใช้งานต้องติดตั้งแพตช์เวอร์ชัน 12.5.1 เพื่อแก้ไขปัญหาโดยทันที VMware Tools บน Linux และ macOS ไม่ได้รับผลกระทบ. แรงจูงใจของผู้โจมตี: - ระบบที่ใช้ VMware นับเป็นเป้าหมายสำคัญสำหรับผู้โจมตี เนื่องจากการใช้งานที่แพร่หลายในองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งการโจมตีสามารถนำไปสู่การรบกวนบริการที่สำคัญและสร้างโอกาสในการเคลื่อนไหวระหว่างระบบเสมือนจริง. https://www.csoonline.com/article/3854374/vmware-plugs-a-high-risk-vulnerability-affecting-its-windows-based-virtualization.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    VMware plugs a high-risk vulnerability affecting its Windows-based virtualization
    Improper access control issues in VMware Tools for Windows could allow privilege escalation on affected virtual machines.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักฟิสิกส์กลุ่มหนึ่งได้เผยแนวคิดเกี่ยวกับการใช้พลังงานจากการหมุนของโลกเพื่อผลิตไฟฟ้า โดยผลการทดลองล่าสุดของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าอาจเป็นไปได้ที่จะสร้างกระแสไฟฟ้าผ่านสนามแม่เหล็กของโลก งานวิจัยนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Physical Review Research และอ้างอิงงานจากปี 2016 รวมถึงแนวคิดที่ย้อนกลับไปถึงปี 1832

    การทดลองใช้กระบอกทรงกระบอกที่ทำจาก manganese-zinc ferrite ในมุมที่เฉพาะเจาะจง และวัดกระแสไฟฟ้าได้ประมาณ 18 ไมโครโวลต์ เมื่อหมุนกระบอกไป 90 องศา กระแสไฟฟ้ากลับกลายเป็นศูนย์ และกลับมาอีกครั้งด้วยสัญญาณตรงข้ามเมื่อหมุนไปอีก 90 องศา อย่างไรก็ตาม หากใช้กระบอกแบบตัน กลับไม่มีแรงดันไฟฟ้าเกิดขึ้นเลย

    ผลกระทบจากการใช้อุปกรณ์อื่น:
    - การทดลองในกรง Faraday ไม่สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้ แสดงให้เห็นว่าผลลัพธ์นี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกปิดกั้น.

    ความแม่นยำของการทดลอง:
    - การทดลองดำเนินการในห้องทดลองใต้ดินที่มีการควบคุมสภาพแวดล้อมอย่างเคร่งครัด เพื่อลดสิ่งรบกวน เช่น คลื่นวิทยุหรือความร้อน.

    ข้อจำกัดและการต่อยอด:
    - แม้ว่าผลลัพธ์จะเป็นที่น่าตื่นเต้น แต่การสร้างกระแสไฟฟ้าที่ได้ยังเล็กมาก และยังต้องการการทดลองซ้ำโดยกลุ่มวิจัยอื่น ๆ เพื่อยืนยันผลลัพธ์.

    ศักยภาพในการประยุกต์ใช้ในอนาคต:
    - หากแนวคิดนี้ได้รับการพัฒนา การใช้พลังงานจากการหมุนของโลกอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการผลิตพลังงานสะอาดและลดการพึ่งพาแหล่งพลังงานฟอสซิล.

    https://www.techspot.com/news/107303-scientists-use-earth-rotational-energy-generate-electricity.html
    นักฟิสิกส์กลุ่มหนึ่งได้เผยแนวคิดเกี่ยวกับการใช้พลังงานจากการหมุนของโลกเพื่อผลิตไฟฟ้า โดยผลการทดลองล่าสุดของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าอาจเป็นไปได้ที่จะสร้างกระแสไฟฟ้าผ่านสนามแม่เหล็กของโลก งานวิจัยนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Physical Review Research และอ้างอิงงานจากปี 2016 รวมถึงแนวคิดที่ย้อนกลับไปถึงปี 1832 การทดลองใช้กระบอกทรงกระบอกที่ทำจาก manganese-zinc ferrite ในมุมที่เฉพาะเจาะจง และวัดกระแสไฟฟ้าได้ประมาณ 18 ไมโครโวลต์ เมื่อหมุนกระบอกไป 90 องศา กระแสไฟฟ้ากลับกลายเป็นศูนย์ และกลับมาอีกครั้งด้วยสัญญาณตรงข้ามเมื่อหมุนไปอีก 90 องศา อย่างไรก็ตาม หากใช้กระบอกแบบตัน กลับไม่มีแรงดันไฟฟ้าเกิดขึ้นเลย ผลกระทบจากการใช้อุปกรณ์อื่น: - การทดลองในกรง Faraday ไม่สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้ แสดงให้เห็นว่าผลลัพธ์นี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกปิดกั้น. ความแม่นยำของการทดลอง: - การทดลองดำเนินการในห้องทดลองใต้ดินที่มีการควบคุมสภาพแวดล้อมอย่างเคร่งครัด เพื่อลดสิ่งรบกวน เช่น คลื่นวิทยุหรือความร้อน. ข้อจำกัดและการต่อยอด: - แม้ว่าผลลัพธ์จะเป็นที่น่าตื่นเต้น แต่การสร้างกระแสไฟฟ้าที่ได้ยังเล็กมาก และยังต้องการการทดลองซ้ำโดยกลุ่มวิจัยอื่น ๆ เพื่อยืนยันผลลัพธ์. ศักยภาพในการประยุกต์ใช้ในอนาคต: - หากแนวคิดนี้ได้รับการพัฒนา การใช้พลังงานจากการหมุนของโลกอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการผลิตพลังงานสะอาดและลดการพึ่งพาแหล่งพลังงานฟอสซิล. https://www.techspot.com/news/107303-scientists-use-earth-rotational-energy-generate-electricity.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Scientists use Earth's rotational energy to generate electricity
    The study, published in the journal Physical Review Research, builds on work the team conducted back in 2016 and an idea dating back to at least 1832....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกาหลีเหนือกำลังมุ่งหน้าพัฒนาอาวุธ AI อย่างจริงจัง โดยล่าสุดได้ทดลองโดรนจู่โจมอัตโนมัติและเปิดตัวเครื่องบิน AEW รุ่นใหม่ที่ช่วยปรับปรุงการป้องกันทางอากาศ ความร่วมมือกับรัสเซียยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอาวุธเหล่านี้ การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของเกาหลีเหนือที่จะก้าวทันเทคโนโลยีทางทหารในระดับโลก

    การเปิดตัวอากาศยานแจ้งเตือนล่วงหน้า (AEW):
    - เกาหลีเหนือเปิดเผยเครื่องบิน AEW รุ่นแรกที่ปรับปรุงจาก Il-76 ของรัสเซีย ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านการป้องกันอากาศในพื้นที่ภูมิประเทศที่ยากลำบาก.

    ความร่วมมือทางการทหารกับรัสเซีย:
    - รัสเซียให้ความช่วยเหลือเกาหลีเหนือในการส่งมอบขีปนาวุธและอุปกรณ์ป้องกันทางอากาศ เพื่อแลกกับการที่เกาหลีเหนือสนับสนุนการส่งกองกำลังเข้าร่วมในสงครามยูเครน.

    ประสบการณ์ในสนามรบ:
    - กองกำลังเกาหลีเหนือที่ถูกส่งไปสนับสนุนรัสเซียมีบทบาทสำคัญในการใช้โดรนในสนามรบ ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญในการพัฒนาอาวุธในอนาคต.

    การพัฒนาเทคโนโลยีสอดแนมและรบกวนทางอิเล็กทรอนิกส์:
    - คิมยังได้ตรวจสอบอุปกรณ์ใหม่สำหรับการรวบรวมข้อมูล การสอดแนม และการรบกวนสัญญาณ ซึ่งเสริมขีดความสามารถในสงครามสมัยใหม่.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/27/north-korea-leader-kim-jong-un-supervises-test-of-ai-suicide-drones
    เกาหลีเหนือกำลังมุ่งหน้าพัฒนาอาวุธ AI อย่างจริงจัง โดยล่าสุดได้ทดลองโดรนจู่โจมอัตโนมัติและเปิดตัวเครื่องบิน AEW รุ่นใหม่ที่ช่วยปรับปรุงการป้องกันทางอากาศ ความร่วมมือกับรัสเซียยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอาวุธเหล่านี้ การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของเกาหลีเหนือที่จะก้าวทันเทคโนโลยีทางทหารในระดับโลก การเปิดตัวอากาศยานแจ้งเตือนล่วงหน้า (AEW): - เกาหลีเหนือเปิดเผยเครื่องบิน AEW รุ่นแรกที่ปรับปรุงจาก Il-76 ของรัสเซีย ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านการป้องกันอากาศในพื้นที่ภูมิประเทศที่ยากลำบาก. ความร่วมมือทางการทหารกับรัสเซีย: - รัสเซียให้ความช่วยเหลือเกาหลีเหนือในการส่งมอบขีปนาวุธและอุปกรณ์ป้องกันทางอากาศ เพื่อแลกกับการที่เกาหลีเหนือสนับสนุนการส่งกองกำลังเข้าร่วมในสงครามยูเครน. ประสบการณ์ในสนามรบ: - กองกำลังเกาหลีเหนือที่ถูกส่งไปสนับสนุนรัสเซียมีบทบาทสำคัญในการใช้โดรนในสนามรบ ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญในการพัฒนาอาวุธในอนาคต. การพัฒนาเทคโนโลยีสอดแนมและรบกวนทางอิเล็กทรอนิกส์: - คิมยังได้ตรวจสอบอุปกรณ์ใหม่สำหรับการรวบรวมข้อมูล การสอดแนม และการรบกวนสัญญาณ ซึ่งเสริมขีดความสามารถในสงครามสมัยใหม่. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/27/north-korea-leader-kim-jong-un-supervises-test-of-ai-suicide-drones
    WWW.THESTAR.COM.MY
    North Korea leader Kim Jong Un touts AI suicide drones, early-warning aircraft
    SEOUL (Reuters) -North Korean leader Kim Jong Un supervised the test of suicide drones with artificial intelligence (AI) technology and said unmanned control and AI capability must be the top priorities in modern arms development, state media reported on Thursday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพชรบุรี - ตื่นเต้น!! นักท่องเที่ยวพบ ‘พยัคฆ์สีนิล ขณะขึ้นเขาพะเนินทุ่ง กม.20 พบเสือดำ เดินอยู่ริมถนนบริเวณชายป่า สร้างความตื่นเต้นให้กับครอบครัวที่ได้ขึ้นมาท่องเที่ยว พบสัตว์ป่าคุ้มครองหายาก แห่งผืนป่ามรดกโลก

    นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ประจำจุดบ้านกร่าง ว่า เมื่อวันที่ 24 มี.ค.68 ที่ผ่านมา ขณะที่ นายสถาพร ธนากรธำรง นักท่องเที่ยว ได้นั่งรถนำเที่ยวขึ้นไปเที่ยวบนเขาพะเนินทุ่ง เมื่อผ่านมาที่ กม.20 ได้พบกับเสือดำ เดินอยู่ริมถนนบริเวณชายป่า สร้างความตื่นเต้นให้กับครอบครัวที่ได้ขึ้นมาท่องเที่ยว และได้พบสัตว์ป่าคุ้มครองหายาก แห่งผืนป่ามรดกโลกแห่งนี้

    สำหรับการพบเจอเสือดำครั้งนี้ พบว่าเสือดำเดินข้ามถนนก่อนจะหายเข้าไปในป่า การพบเสือดำล่าสุดนี้เป็นสัญญาณที่ดี แสดงให้เห็นว่าสัตว์ป่ายังคงใช้พื้นที่อย่างปกติ แม้ก่อนหน้านี้จะมีเหตุการณ์ไกด์และนักท่องเที่ยวตามถ่ายภาพเสือดำจนสร้างความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อพฤติกรรมของสัตว์ป่า โดยจากที่ได้รับรายงานล่าสุด พบว่า รถนำเที่ยวที่พบเสือดำ ได้ค่อยๆเคลื่อนรถช้าๆ จนเสือดำเดินเข้าป่าไปอย่างปลอดภัย และไม่ไปรบกวนพฤติกรรมสัตว์ป่าแต่อย่างใด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9680000028617

    #MGROnline #เพชรบุรี #เสือดำ #พยัคฆ์สีนิล #เขาพะเนินทุ่ง
    เพชรบุรี - ตื่นเต้น!! นักท่องเที่ยวพบ ‘พยัคฆ์สีนิล ขณะขึ้นเขาพะเนินทุ่ง กม.20 พบเสือดำ เดินอยู่ริมถนนบริเวณชายป่า สร้างความตื่นเต้นให้กับครอบครัวที่ได้ขึ้นมาท่องเที่ยว พบสัตว์ป่าคุ้มครองหายาก แห่งผืนป่ามรดกโลก • นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ประจำจุดบ้านกร่าง ว่า เมื่อวันที่ 24 มี.ค.68 ที่ผ่านมา ขณะที่ นายสถาพร ธนากรธำรง นักท่องเที่ยว ได้นั่งรถนำเที่ยวขึ้นไปเที่ยวบนเขาพะเนินทุ่ง เมื่อผ่านมาที่ กม.20 ได้พบกับเสือดำ เดินอยู่ริมถนนบริเวณชายป่า สร้างความตื่นเต้นให้กับครอบครัวที่ได้ขึ้นมาท่องเที่ยว และได้พบสัตว์ป่าคุ้มครองหายาก แห่งผืนป่ามรดกโลกแห่งนี้ • สำหรับการพบเจอเสือดำครั้งนี้ พบว่าเสือดำเดินข้ามถนนก่อนจะหายเข้าไปในป่า การพบเสือดำล่าสุดนี้เป็นสัญญาณที่ดี แสดงให้เห็นว่าสัตว์ป่ายังคงใช้พื้นที่อย่างปกติ แม้ก่อนหน้านี้จะมีเหตุการณ์ไกด์และนักท่องเที่ยวตามถ่ายภาพเสือดำจนสร้างความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อพฤติกรรมของสัตว์ป่า โดยจากที่ได้รับรายงานล่าสุด พบว่า รถนำเที่ยวที่พบเสือดำ ได้ค่อยๆเคลื่อนรถช้าๆ จนเสือดำเดินเข้าป่าไปอย่างปลอดภัย และไม่ไปรบกวนพฤติกรรมสัตว์ป่าแต่อย่างใด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9680000028617 • #MGROnline #เพชรบุรี #เสือดำ #พยัคฆ์สีนิล #เขาพะเนินทุ่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนพัฒนาอุปกรณ์ตัดสายเคเบิลใต้ทะเลที่สามารถทำงานในระดับความลึกถึง 4,000 เมตร อุปกรณ์นี้ถูกออกแบบเพื่อช่วยในงานพลเรือน แต่ศักยภาพการใช้งานที่อาจส่งผลต่อการสื่อสารและพลังงานได้นำมาซึ่งความกังวลระดับโลก นอกจากนี้จีนยังใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อส่งเสริมความแข็งแกร่งในเศรษฐกิจทรัพยากรทางทะเลและสร้างความร่วมมือกับประเทศอื่น ๆ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

    เทคโนโลยีล้ำหน้าเพื่อการทำงานใต้น้ำ:
    - อุปกรณ์นี้ใช้โครงสร้างไทเทเนียมที่มีตราประทับน้ำมันเพื่อทนต่อแรงดันสูงของน้ำลึก และมีเครื่องบดที่เคลือบด้วยเพชรซึ่งสามารถทำลายสายเคเบิลเสริมเหล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยังลดการรบกวนกับตะกอนใต้ทะเล.

    ความสำคัญต่อยุทธศาสตร์ทางทะเล:
    - จีนได้สร้างกองเรือยานใต้น้ำที่มีคนขับและไร้คนขับที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งช่วยขยายอิทธิพลของประเทศในด้านโครงสร้างพื้นฐานใต้ทะเล และสร้างความกังวลเกี่ยวกับการใช้งานแบบลับ ๆ สำหรับแพลตฟอร์มทางไกล.

    ความเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจสีน้ำเงิน:
    - อุปกรณ์นี้สามารถช่วยจีนพัฒนาอุตสาหกรรมทรัพยากรทางทะเล เช่น การสร้างสถานีวิจัยใต้น้ำในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายที่กว้างขึ้นในการพัฒนาทรัพยากรใต้ทะเล.

    การร่วมมือกับประเทศอื่น:
    - จีนได้ร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ เช่น หมู่เกาะคุก เพื่อพัฒนาทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนและกระชับความสัมพันธ์ในการพัฒนาเศรษฐกิจ.

    https://www.techspot.com/news/107269-china-develops-deep-sea-cable-cutting-device-global.html
    จีนพัฒนาอุปกรณ์ตัดสายเคเบิลใต้ทะเลที่สามารถทำงานในระดับความลึกถึง 4,000 เมตร อุปกรณ์นี้ถูกออกแบบเพื่อช่วยในงานพลเรือน แต่ศักยภาพการใช้งานที่อาจส่งผลต่อการสื่อสารและพลังงานได้นำมาซึ่งความกังวลระดับโลก นอกจากนี้จีนยังใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อส่งเสริมความแข็งแกร่งในเศรษฐกิจทรัพยากรทางทะเลและสร้างความร่วมมือกับประเทศอื่น ๆ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เทคโนโลยีล้ำหน้าเพื่อการทำงานใต้น้ำ: - อุปกรณ์นี้ใช้โครงสร้างไทเทเนียมที่มีตราประทับน้ำมันเพื่อทนต่อแรงดันสูงของน้ำลึก และมีเครื่องบดที่เคลือบด้วยเพชรซึ่งสามารถทำลายสายเคเบิลเสริมเหล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยังลดการรบกวนกับตะกอนใต้ทะเล. ความสำคัญต่อยุทธศาสตร์ทางทะเล: - จีนได้สร้างกองเรือยานใต้น้ำที่มีคนขับและไร้คนขับที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งช่วยขยายอิทธิพลของประเทศในด้านโครงสร้างพื้นฐานใต้ทะเล และสร้างความกังวลเกี่ยวกับการใช้งานแบบลับ ๆ สำหรับแพลตฟอร์มทางไกล. ความเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจสีน้ำเงิน: - อุปกรณ์นี้สามารถช่วยจีนพัฒนาอุตสาหกรรมทรัพยากรทางทะเล เช่น การสร้างสถานีวิจัยใต้น้ำในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายที่กว้างขึ้นในการพัฒนาทรัพยากรใต้ทะเล. การร่วมมือกับประเทศอื่น: - จีนได้ร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ เช่น หมู่เกาะคุก เพื่อพัฒนาทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนและกระชับความสัมพันธ์ในการพัฒนาเศรษฐกิจ. https://www.techspot.com/news/107269-china-develops-deep-sea-cable-cutting-device-global.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    China develops deep-sea cable-cutting device with global implications
    The device integrates seamlessly with China's advanced crewed and uncrewed submersibles, such as the Fendouzhe and Haidou series, marking a significant leap in underwater capabilities.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • ASML เริ่มต้นจากโรงงานหลังคารั่วที่เนเธอร์แลนด์ แต่ด้วยวิสัยทัศน์และความทุ่มเท บริษัทนี้กลายมาเป็นผู้นำระดับโลกในเทคโนโลยีลิโทกราฟีสำหรับผลิตชิป ตั้งแต่การเปิดตัวเครื่องจักรรุ่นแรกในปี 1984 ไปจนถึงการพัฒนาเทคโนโลยี EUV ที่ทรงอิทธิพลในปัจจุบัน แสดงถึงการเติบโตที่น่าทึ่งของบริษัท

    บริษัทนี้เริ่มต้นจากการร่วมมือระหว่าง Philips และ Advanced Semiconductor Materials International (ASMI) เพื่อมุ่งสร้างระบบลิโทกราฟีที่ตอบโจทย์การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในอนาคต ปัจจุบัน ASML มีพนักงานกว่า 44,000 คน และสร้างรายได้เกือบ 31 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อปี

    นวัตกรรมตั้งแต่ยุคเริ่มต้น:
    - ASML เปิดตัวผลิตภัณฑ์แรกในชื่อ PAS 2000 stepper โดยทีมงานสามารถแก้ปัญหาเสียงรบกวนจากปั๊มน้ำมันไฮดรอลิกผ่านการติดตั้งคอนเทนเนอร์ในบริเวณโรงงาน ซึ่งกลายเป็นตัวจุดประกายการพัฒนาเทคโนโลยีลิโทกราฟีที่ล้ำหน้าต่อมา.

    ความร่วมมือทางเทคนิคที่ต่อเนื่อง:
    - ความร่วมมือกับบริษัท Carl Zeiss ในด้านการผลิตเลนส์เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1986 และยังคงดำเนินต่อจนถึงปัจจุบัน สร้างมาตรฐานความแม่นยำในเครื่องจักรของ ASML.

    เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า:
    - ในปี 2010 ASML ได้เปิดตัวเครื่อง Twinscan NXE:3100 ที่ใช้เทคโนโลยี EUV (Extreme Ultraviolet Lithography) ซึ่งกลายเป็นหัวใจสำคัญของการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในยุคปัจจุบัน.

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม:
    - ปัจจุบัน ASML เป็นผู้นำในตลาดเครื่องจักรผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งบริษัทใหญ่อย่าง TSMC, Intel, และ Samsung ต่างพึ่งพาเทคโนโลยีของ ASML เพื่อพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ที่ล้ำสมัย.

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/asml-recalls-its-humble-origins-in-a-leaky-shed-in-eindhoven-circa-1984-it-now-makes-the-most-cutting-edge-chipmaking-tools-on-the-planet
    ASML เริ่มต้นจากโรงงานหลังคารั่วที่เนเธอร์แลนด์ แต่ด้วยวิสัยทัศน์และความทุ่มเท บริษัทนี้กลายมาเป็นผู้นำระดับโลกในเทคโนโลยีลิโทกราฟีสำหรับผลิตชิป ตั้งแต่การเปิดตัวเครื่องจักรรุ่นแรกในปี 1984 ไปจนถึงการพัฒนาเทคโนโลยี EUV ที่ทรงอิทธิพลในปัจจุบัน แสดงถึงการเติบโตที่น่าทึ่งของบริษัท บริษัทนี้เริ่มต้นจากการร่วมมือระหว่าง Philips และ Advanced Semiconductor Materials International (ASMI) เพื่อมุ่งสร้างระบบลิโทกราฟีที่ตอบโจทย์การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในอนาคต ปัจจุบัน ASML มีพนักงานกว่า 44,000 คน และสร้างรายได้เกือบ 31 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อปี นวัตกรรมตั้งแต่ยุคเริ่มต้น: - ASML เปิดตัวผลิตภัณฑ์แรกในชื่อ PAS 2000 stepper โดยทีมงานสามารถแก้ปัญหาเสียงรบกวนจากปั๊มน้ำมันไฮดรอลิกผ่านการติดตั้งคอนเทนเนอร์ในบริเวณโรงงาน ซึ่งกลายเป็นตัวจุดประกายการพัฒนาเทคโนโลยีลิโทกราฟีที่ล้ำหน้าต่อมา. ความร่วมมือทางเทคนิคที่ต่อเนื่อง: - ความร่วมมือกับบริษัท Carl Zeiss ในด้านการผลิตเลนส์เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1986 และยังคงดำเนินต่อจนถึงปัจจุบัน สร้างมาตรฐานความแม่นยำในเครื่องจักรของ ASML. เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า: - ในปี 2010 ASML ได้เปิดตัวเครื่อง Twinscan NXE:3100 ที่ใช้เทคโนโลยี EUV (Extreme Ultraviolet Lithography) ซึ่งกลายเป็นหัวใจสำคัญของการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในยุคปัจจุบัน. ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม: - ปัจจุบัน ASML เป็นผู้นำในตลาดเครื่องจักรผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งบริษัทใหญ่อย่าง TSMC, Intel, และ Samsung ต่างพึ่งพาเทคโนโลยีของ ASML เพื่อพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ที่ล้ำสมัย. https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/asml-recalls-its-humble-origins-in-a-leaky-shed-in-eindhoven-circa-1984-it-now-makes-the-most-cutting-edge-chipmaking-tools-on-the-planet
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิดีโอมุมใหม่ความยาวกว่าเดิมของการกำจัดนักเคลื่อนไหวชาตินิยมหัวรุนแรง "เดเมียน กานูล" (Demyan Ganul) ในโอเดสซา

    คลิปเดิม
    https://thaitimes.co/posts/194376

    กานูล เป็นแกนนำของขบวนการชาตินิยมหัวรุนแรงของยูเครนที่มีชื่อเสียงเรื่องความโหดเหี้ยม โดยดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายความมั่นคงของกลุ่ม "Right Sector" นอกจากนี้ เขายังมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในเหตุจลาจลเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2014 ซึ่งคือการวางเพลิงอาคารสหภาพแรงงาน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 50 ราย

    นอกเหนือจากบทบาทของเขาในการสังหารหมู่ที่โอเดสซาแล้ว กานูลยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมชาตินิยมต่างๆ เช่น:
    - การทำลายอนุสรณ์สถาน และสัญลักษณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย
    - การก่อกวนการแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินชาวรัสเซียและการทำร้ายประชาชนที่พูดภาษารัสเซีย
    - สนับสนุนความพยายามระดมพลของยูเครนอย่างแข็งขันหลังจากเริ่มปฏิบัติการทางทหารพิเศษของรัสเซีย รวมถึงการ เข้าร่วมกองกำลังใต้ดินที่คอย "ปราบปราม" ฝ่ายต่อต้านการระดมพลของยูเครน
    - เขายังมีหมายจับจากทางรัสเซียอีกด้วย

    การสังหารกานูลครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างน่าสงสัย เนื่องจากใกล้กับวันครบรอบ 11 ปีของเหตุเพลิงไหม้และการสังหารหมู่ที่ Odessa
    วิดีโอมุมใหม่ความยาวกว่าเดิมของการกำจัดนักเคลื่อนไหวชาตินิยมหัวรุนแรง "เดเมียน กานูล" (Demyan Ganul) ในโอเดสซา คลิปเดิม https://thaitimes.co/posts/194376 กานูล เป็นแกนนำของขบวนการชาตินิยมหัวรุนแรงของยูเครนที่มีชื่อเสียงเรื่องความโหดเหี้ยม โดยดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายความมั่นคงของกลุ่ม "Right Sector" นอกจากนี้ เขายังมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในเหตุจลาจลเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2014 ซึ่งคือการวางเพลิงอาคารสหภาพแรงงาน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 50 ราย นอกเหนือจากบทบาทของเขาในการสังหารหมู่ที่โอเดสซาแล้ว กานูลยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมชาตินิยมต่างๆ เช่น: - การทำลายอนุสรณ์สถาน และสัญลักษณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย - การก่อกวนการแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินชาวรัสเซียและการทำร้ายประชาชนที่พูดภาษารัสเซีย - สนับสนุนความพยายามระดมพลของยูเครนอย่างแข็งขันหลังจากเริ่มปฏิบัติการทางทหารพิเศษของรัสเซีย รวมถึงการ เข้าร่วมกองกำลังใต้ดินที่คอย "ปราบปราม" ฝ่ายต่อต้านการระดมพลของยูเครน - เขายังมีหมายจับจากทางรัสเซียอีกด้วย การสังหารกานูลครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างน่าสงสัย เนื่องจากใกล้กับวันครบรอบ 11 ปีของเหตุเพลิงไหม้และการสังหารหมู่ที่ Odessa
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 680 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดแล้วสถานีขนส่ง TBG มีรถทัวร์รันเตาปันยังไป KL

    สถานีขนส่งผู้โดยสารแบบบูรณาการกอมบัค (ภาษามาเลย์ Terminal Bersepadu Gombak หรือ TBG) เมืองกอมบัค รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย เปิดทดลองให้บริการเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ก่อนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อต้อนรับวันหยุดฮารีรายา อีดิลฟิฏร์ (Hari Raya Aidilfitri) ที่จะมีชาวมาเลเซียเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก

    เบื้องต้นพบว่ามีผู้ประกอบการเดินรถบางบริษัทให้บริการไปยังปลายทางชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรมาเลเซีย เช่น เมืองกัวลาตรังกานู (Kuala Terengganu) รัฐตรังกานู (Terengganu), เมืองโกตาบารู (Kota Bharu) รัฐกลันตัน (Kelantan) และเมืองกวนตัน (Kuantan) รัฐปะหัง (Pahang) โดยช่องทางสำรองที่นั่งมีทั้งช่องทางออนไลน์ของสถานีขนส่ง TBG เว็บไซต์ www.tbg.com.my ช่องทางออนไลน์ของผู้ประกอบการเดินรถ และแพลตฟอร์มจองตั๋วรถบัสออนไลน์ซึ่งมีหลายแห่ง

    เช่น บริษัทปันจารัน มาตาฮาริ (Pancaran Matahari) มีรถจากรัฐกลันตัน แวะส่งผู้โดยสารที่สถานีขนส่ง TBG ก่อนไปต่อที่สถานีขนส่งแบบบูรณาการ TBS (ภาษามาเลย์ Terminal Bersepadu Selatan) และชาห์อลาม (Shah Alam) ส่วนบริษัท ซานิ เอ็กซ์เพรส (Sani Express) จะเริ่มให้บริการระหว่างสถานีขนส่ง TBG ไปยัง 3 เมืองในรัฐกลันตัน ได้แก่ ทานาห์ เมราห์ (Tanah Merah) ปาเซร์มัส (Pasir Mas) และรันเตาปันยัง (Rantau Panjang) ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. โดยเปิดให้สำรองที่นั่งแล้วผ่านเว็บไซต์ www.tbg.com.my และ www.saniexpress.com.my

    การเดินทางจากใจกลางเมือง เช่น สถานีเคแอลเซ็นทรัล (KL Sentral) สถานีเคแอลซีซี (KLCC) สถานีอัมปังพาร์ค (Ampang Park) ไปยังสถานีขนส่ง TBG สามารถใช้บริการรถไฟฟ้ารางเบาสายเกลานา จายา (LRT Kelana Jaya Line) ลงที่สถานีกอมบัค (Gombak) จากนั้นเดินเท้าออกจากสถานีรถไฟฟ้าไปยังด้านหลังสถานีขนส่ง TBG กดลิฟต์ไปที่ชั้น 2 แล้วเดินเข้าอาคารผู้โดยสาร ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวก ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าและร้านอาหารจำนวนมาก

    สำหรับประเทศไทย รถทัวร์ที่จะไปสถานีขนส่ง TBG มีเพียงสถานีขนส่งรันเตาปันยัง ใกล้กับด่าน ICQS รันเตาปันยัง ตรงข้ามด่านพรมแดนสุไหงโกลก จ.นราธิวาส มีรถของบริษัทซานิ เอ็กซ์เพรส ให้บริการวันละ 1 เที่ยว รถออกเวลา 21.00 น. (ตามเวลามาเลเซีย) ถึงสถานีขนส่ง TBG เวลาประมาณ 05.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 82.50 ริงกิต (633 บาท) แต่ที่ท่ารถเป็งกาลันกูโบ (Pengkalan Kubor) ตรงข้าม อ.ตากใบ จ.นราธิวาส มีแต่รถไปสถานี TBS ยังไม่มีรถไปถึงสถานีขนส่ง TBG

    #Newskit
    เปิดแล้วสถานีขนส่ง TBG มีรถทัวร์รันเตาปันยังไป KL สถานีขนส่งผู้โดยสารแบบบูรณาการกอมบัค (ภาษามาเลย์ Terminal Bersepadu Gombak หรือ TBG) เมืองกอมบัค รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย เปิดทดลองให้บริการเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ก่อนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อต้อนรับวันหยุดฮารีรายา อีดิลฟิฏร์ (Hari Raya Aidilfitri) ที่จะมีชาวมาเลเซียเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก เบื้องต้นพบว่ามีผู้ประกอบการเดินรถบางบริษัทให้บริการไปยังปลายทางชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรมาเลเซีย เช่น เมืองกัวลาตรังกานู (Kuala Terengganu) รัฐตรังกานู (Terengganu), เมืองโกตาบารู (Kota Bharu) รัฐกลันตัน (Kelantan) และเมืองกวนตัน (Kuantan) รัฐปะหัง (Pahang) โดยช่องทางสำรองที่นั่งมีทั้งช่องทางออนไลน์ของสถานีขนส่ง TBG เว็บไซต์ www.tbg.com.my ช่องทางออนไลน์ของผู้ประกอบการเดินรถ และแพลตฟอร์มจองตั๋วรถบัสออนไลน์ซึ่งมีหลายแห่ง เช่น บริษัทปันจารัน มาตาฮาริ (Pancaran Matahari) มีรถจากรัฐกลันตัน แวะส่งผู้โดยสารที่สถานีขนส่ง TBG ก่อนไปต่อที่สถานีขนส่งแบบบูรณาการ TBS (ภาษามาเลย์ Terminal Bersepadu Selatan) และชาห์อลาม (Shah Alam) ส่วนบริษัท ซานิ เอ็กซ์เพรส (Sani Express) จะเริ่มให้บริการระหว่างสถานีขนส่ง TBG ไปยัง 3 เมืองในรัฐกลันตัน ได้แก่ ทานาห์ เมราห์ (Tanah Merah) ปาเซร์มัส (Pasir Mas) และรันเตาปันยัง (Rantau Panjang) ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. โดยเปิดให้สำรองที่นั่งแล้วผ่านเว็บไซต์ www.tbg.com.my และ www.saniexpress.com.my การเดินทางจากใจกลางเมือง เช่น สถานีเคแอลเซ็นทรัล (KL Sentral) สถานีเคแอลซีซี (KLCC) สถานีอัมปังพาร์ค (Ampang Park) ไปยังสถานีขนส่ง TBG สามารถใช้บริการรถไฟฟ้ารางเบาสายเกลานา จายา (LRT Kelana Jaya Line) ลงที่สถานีกอมบัค (Gombak) จากนั้นเดินเท้าออกจากสถานีรถไฟฟ้าไปยังด้านหลังสถานีขนส่ง TBG กดลิฟต์ไปที่ชั้น 2 แล้วเดินเข้าอาคารผู้โดยสาร ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวก ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าและร้านอาหารจำนวนมาก สำหรับประเทศไทย รถทัวร์ที่จะไปสถานีขนส่ง TBG มีเพียงสถานีขนส่งรันเตาปันยัง ใกล้กับด่าน ICQS รันเตาปันยัง ตรงข้ามด่านพรมแดนสุไหงโกลก จ.นราธิวาส มีรถของบริษัทซานิ เอ็กซ์เพรส ให้บริการวันละ 1 เที่ยว รถออกเวลา 21.00 น. (ตามเวลามาเลเซีย) ถึงสถานีขนส่ง TBG เวลาประมาณ 05.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 82.50 ริงกิต (633 บาท) แต่ที่ท่ารถเป็งกาลันกูโบ (Pengkalan Kubor) ตรงข้าม อ.ตากใบ จ.นราธิวาส มีแต่รถไปสถานี TBS ยังไม่มีรถไปถึงสถานีขนส่ง TBG #Newskit
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 323 มุมมอง 0 รีวิว
  • คิด-ทำ-ทิ้ง สระมรกตรัฐสภา

    สระมรกต หนึ่งในองค์ประกอบของอาคารรัฐสภา ถนนสามเสน ที่มีชื่อว่า สัปปายะสถาสถาน ก่อสร้างด้วยงบประมาณกว่า 12,280 ล้านบาท กำลังจะเป็นตำนานในเร็ววันนี้ เมื่อนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (21 มี.ค.) ว่า จะมีการปรับปรุงพื้นที่ดังกล่าว โดยสูบน้ำออกแล้วปิดพื้นที่ ปูพื้นใหม่ให้เสมอกับทางเดิน แล้วกั้นห้องกระจกขึ้นมา ทำเป็นห้องสมุด พื้นที่อ่านหนังสือ พื่นที่พักคอย หรือพื้นที่ทำงาน โดยตั้งงบประมาณไว้ 150 ล้านบาท

    สาเหตุเพราะได้รับการร้องเรียนว่า มีผู้เข้าชมรัฐสภาเดินตกน้ำบ่อยครั้ง มียุงจำนวนมากจากสระมรกต เข้ามารบกวนการทำงานข้าราชการที่ปฎิบัติงานภายในอาคาร เสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก อีกทั้งพบว่ามีปัญหาพื้นของบ่อน้ำรั่วซึม มีน้ำจากสระมรกตไหลลงไปที่ชั้นบีหนึ่ง (B1) อยู่เป็นประจำ และเกิดโพรงอยู่ใต้พื้นไม้กระดาน สร้างความไม่ปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้งาน ซึ่งจากการปรึกษากับวิศวกรและฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปว่าจะยกเลิกพื้นที่สระมรกต ให้ใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น

    นอกจากนี้ ยังมีโครงการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารรัฐสภาอีกหลายจุด เช่น ห้องตอบกระทู้แยกเฉพาะที่ ซึ่งมีขนาดเล็กและแออัด จะย้ายไปส่วนอื่นที่ใหญ่ขึ้น ย้ายห้องร้องทุกข์ของประชาชน จากชั้น 10 ลงมาที่ชั้น 1 ย้ายโรงอาหารไปอยู่ชั้น B2 และประมูลใหม่ทั้งหมด รวมทั้งนำร้านอาหารชั้นนำ ร้านสะดวกซื้อ และร้านกาแฟแบรนด์ดังอย่างคาเฟ่ อเมซอน และกาแฟพันธุ์ไทย ขณะเดียวกัน จะก่อสร้างลานจอดรถใต้ดินอาคารรัฐสภา เฟส 2 ฝั่งถนนสามเสน เพื่อแก้ปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพออีกด้วย

    สำหรับแบบก่อสร้างอาคารรัฐสภาที่ชื่อว่าสัปปายะสถาสถาน ออกแบบโดยกลุ่มสถาปนิก สงบ ๑๐๕๑ ภายใต้การนำของนายธีรพล นิยม ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ โดยสระมรกตเป็นสระน้ำสีเขียวเข้มภายในอาคาร ล้อมรอบตัวอาคารเป็นผนังไม้สีมะเกลือดำ ถูกออกแบบมาให้มีความเย็นมากกว่าภายนอก เมื่อมีความร้อนสะสม อากาศยกตัวขึ้น อากาศเย็นจากด้านล่างจะเผื่อแผ่กระจายความเย็นขึ้นไปยังทางเดินรอบๆ ที่เป็นพื้นที่เปิด โถงนี้จะมีสภาวะน่าสบายอยู่เสมอ ถึงแม้ภายนอกจะร้อนมากในฤดูร้อนก็ตาม

    นับตั้งแต่เปิดใช้อาคารรัฐสภาตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา มีอุบัติเหตุคนตกลงไปในสระมรกตแล้วมากกว่า 70 คน ส่วนใหญ่เป็นคนที่ไม่คุ้นชินกับพื้นที่ เนื่องจากสระน้ำมีระดับเสมอกับทางเดิน และพบว่าเคยมีตัวเงินตัวทองเข้ามาเล่นน้ำในสระมรกตอีกด้วย เมื่อแบบก่อสร้างที่สวยหรูกลายเป็นอุปสรรคเมื่อใช้งานจริง สระมรกตในวันนี้จึงกลายเป็นตำนานแบบคิด-ทำ-ทิ้ง เสียเวลาและเสียงบประมาณจากภาษีของประชาชน

    #Newskit
    คิด-ทำ-ทิ้ง สระมรกตรัฐสภา สระมรกต หนึ่งในองค์ประกอบของอาคารรัฐสภา ถนนสามเสน ที่มีชื่อว่า สัปปายะสถาสถาน ก่อสร้างด้วยงบประมาณกว่า 12,280 ล้านบาท กำลังจะเป็นตำนานในเร็ววันนี้ เมื่อนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (21 มี.ค.) ว่า จะมีการปรับปรุงพื้นที่ดังกล่าว โดยสูบน้ำออกแล้วปิดพื้นที่ ปูพื้นใหม่ให้เสมอกับทางเดิน แล้วกั้นห้องกระจกขึ้นมา ทำเป็นห้องสมุด พื้นที่อ่านหนังสือ พื่นที่พักคอย หรือพื้นที่ทำงาน โดยตั้งงบประมาณไว้ 150 ล้านบาท สาเหตุเพราะได้รับการร้องเรียนว่า มีผู้เข้าชมรัฐสภาเดินตกน้ำบ่อยครั้ง มียุงจำนวนมากจากสระมรกต เข้ามารบกวนการทำงานข้าราชการที่ปฎิบัติงานภายในอาคาร เสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก อีกทั้งพบว่ามีปัญหาพื้นของบ่อน้ำรั่วซึม มีน้ำจากสระมรกตไหลลงไปที่ชั้นบีหนึ่ง (B1) อยู่เป็นประจำ และเกิดโพรงอยู่ใต้พื้นไม้กระดาน สร้างความไม่ปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้งาน ซึ่งจากการปรึกษากับวิศวกรและฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปว่าจะยกเลิกพื้นที่สระมรกต ให้ใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีโครงการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารรัฐสภาอีกหลายจุด เช่น ห้องตอบกระทู้แยกเฉพาะที่ ซึ่งมีขนาดเล็กและแออัด จะย้ายไปส่วนอื่นที่ใหญ่ขึ้น ย้ายห้องร้องทุกข์ของประชาชน จากชั้น 10 ลงมาที่ชั้น 1 ย้ายโรงอาหารไปอยู่ชั้น B2 และประมูลใหม่ทั้งหมด รวมทั้งนำร้านอาหารชั้นนำ ร้านสะดวกซื้อ และร้านกาแฟแบรนด์ดังอย่างคาเฟ่ อเมซอน และกาแฟพันธุ์ไทย ขณะเดียวกัน จะก่อสร้างลานจอดรถใต้ดินอาคารรัฐสภา เฟส 2 ฝั่งถนนสามเสน เพื่อแก้ปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพออีกด้วย สำหรับแบบก่อสร้างอาคารรัฐสภาที่ชื่อว่าสัปปายะสถาสถาน ออกแบบโดยกลุ่มสถาปนิก สงบ ๑๐๕๑ ภายใต้การนำของนายธีรพล นิยม ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ โดยสระมรกตเป็นสระน้ำสีเขียวเข้มภายในอาคาร ล้อมรอบตัวอาคารเป็นผนังไม้สีมะเกลือดำ ถูกออกแบบมาให้มีความเย็นมากกว่าภายนอก เมื่อมีความร้อนสะสม อากาศยกตัวขึ้น อากาศเย็นจากด้านล่างจะเผื่อแผ่กระจายความเย็นขึ้นไปยังทางเดินรอบๆ ที่เป็นพื้นที่เปิด โถงนี้จะมีสภาวะน่าสบายอยู่เสมอ ถึงแม้ภายนอกจะร้อนมากในฤดูร้อนก็ตาม นับตั้งแต่เปิดใช้อาคารรัฐสภาตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา มีอุบัติเหตุคนตกลงไปในสระมรกตแล้วมากกว่า 70 คน ส่วนใหญ่เป็นคนที่ไม่คุ้นชินกับพื้นที่ เนื่องจากสระน้ำมีระดับเสมอกับทางเดิน และพบว่าเคยมีตัวเงินตัวทองเข้ามาเล่นน้ำในสระมรกตอีกด้วย เมื่อแบบก่อสร้างที่สวยหรูกลายเป็นอุปสรรคเมื่อใช้งานจริง สระมรกตในวันนี้จึงกลายเป็นตำนานแบบคิด-ทำ-ทิ้ง เสียเวลาและเสียงบประมาณจากภาษีของประชาชน #Newskit
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 331 มุมมอง 0 รีวิว
  • โปรเจกต์ทดลอง Newskit ราคา 20 บาท

    เพจ Newskit ในคอนเซปต์ "ข่าวออนไลน์ อารมณ์หนังสือพิมพ์" ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2567 ยืนหยัดนำเสนอเรื่องราวที่แตกต่างไปจากสื่อกระแสหลักและเพจข่าวทั่วไป ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมืองเพียงเล็กน้อยในประเทศไทย เรื่องราวแปลกใหม่และใกล้ตัวในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับประเทศไทย เผยแพร่ผ่าน 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และ Thaitimes เป็นหลัก ในรูปแบบที่สั้น กระชับ สรุปความในโพสต์เดียว ไม่เกิน 2,200 ตัวอักษร

    ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา เราไม่มีรายได้จากการทำเพจเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่การแสวงหาข้อมูลเพื่อนำมาเขียน โดยเฉพาะการลงพื้นที่บางครั้งย่อมมีค่าใช้จ่ายตามมา ที่ผ่านมาบนโซเชียลฯ มีรูปแบบการหารายได้จากผู้บริโภคสื่อแตกต่างกันไป ทั้งการลงสปอนเซอร์ การทำ Advertorial ซึ่งจะพบเห็นเฉพาะอินฟลูเอนเซอร์รายใหญ่ การขายสินค้า การเป็นนายหน้า การตลาดแบบพันธมิตร (Affiliate) การทำ TIPS BOX ออนไลน์ หรือการระบุเลขที่บัญชีธนาคารโดยตรง ซึ่งเราไม่อยากรบกวนผู้อ่านมากขนาดนั้น

    ด้วยสถานะการเป็นสื่อมวลชน นอกจากไม่ควรการันตีความดีความชั่วของใคร แต่มุ่งยึดถือประโยชน์แก่สาธารณะเป็นที่ตั้งแล้ว ก็ไม่สามารถการันตีได้ว่าการทำหน้าที่ของเราจะตรงใจผู้อ่านได้ตลอดไป จึงไม่อยากถูกกล่าวหาว่าทรยศความเชื่อใจ ในวันที่ผู้อ่านมองว่าเราเปลี่ยนไป การเปิดรับบริจาคหรือโอนเงินโดยตรง อาจเป็นการแบกรับความคาดหวังจากผู้อ่านมากเกินไป กระทั่งไม่เป็นตัวของตัวเอง ขณะที่หนังสือพิมพ์ยังมีการวางจำหน่าย ถือเป็นสินค้าที่ซื้อขายตามความพึงพอใจของผู้อ่าน

    จากเหตุผลดังกล่าว เราจึงมีกิมมิกด้วยการตั้งราคา 20 บาท เหมือนหนังสือพิมพ์ธุรกิจ โดยทดลองใช้พร้อมเพย์คิวอาร์โค้ด (PromptPay QR Code) ปกติแล้วเราจะนำเสนอเรื่องราววันละ 1-2 เรื่อง แต่คิวอาร์โค้ดจะแสดงเฉพาะหน้าปก Newskit ของแต่ละวันเท่านั้น ถ้าผู้อ่านชื่นชอบเรื่องราวของเรา สามารถสแกนจ่ายครั้งละ 20 บาท เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเรา โดยไม่ต้องสมัครสมาชิก ไม่ต้องจ่ายรายเดือน แม้เราคงไม่คาดหวังรายได้จากตรงนี้มากนัก เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ที่เชื่อว่าไม่มีใครทำมาก่อน

    โปรดสังเกตชื่อบัญชีปลายทางเป็น "นายกิตตินันท์ นาคทอง" e-Wallet ID 073-15-xxxxxx-1311 ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH BANK บัญชีเดียวเท่านั้น ระวังมิจฉาชีพแอบอ้าง

    เราจะทดลองติดตั้ง QR Code เป็นเวลา 3 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 24 มี.ค.2568 ถึงวันศุกร์ที่ 11 เม.ย.2568 เว้นแต่จะมีกรณีเป็นอย่างอื่น ขอขอบคุณทุกการติดตามและสนับสนุนเราตลอดมา

    #Newskit
    โปรเจกต์ทดลอง Newskit ราคา 20 บาท เพจ Newskit ในคอนเซปต์ "ข่าวออนไลน์ อารมณ์หนังสือพิมพ์" ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2567 ยืนหยัดนำเสนอเรื่องราวที่แตกต่างไปจากสื่อกระแสหลักและเพจข่าวทั่วไป ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมืองเพียงเล็กน้อยในประเทศไทย เรื่องราวแปลกใหม่และใกล้ตัวในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับประเทศไทย เผยแพร่ผ่าน 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และ Thaitimes เป็นหลัก ในรูปแบบที่สั้น กระชับ สรุปความในโพสต์เดียว ไม่เกิน 2,200 ตัวอักษร ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา เราไม่มีรายได้จากการทำเพจเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่การแสวงหาข้อมูลเพื่อนำมาเขียน โดยเฉพาะการลงพื้นที่บางครั้งย่อมมีค่าใช้จ่ายตามมา ที่ผ่านมาบนโซเชียลฯ มีรูปแบบการหารายได้จากผู้บริโภคสื่อแตกต่างกันไป ทั้งการลงสปอนเซอร์ การทำ Advertorial ซึ่งจะพบเห็นเฉพาะอินฟลูเอนเซอร์รายใหญ่ การขายสินค้า การเป็นนายหน้า การตลาดแบบพันธมิตร (Affiliate) การทำ TIPS BOX ออนไลน์ หรือการระบุเลขที่บัญชีธนาคารโดยตรง ซึ่งเราไม่อยากรบกวนผู้อ่านมากขนาดนั้น ด้วยสถานะการเป็นสื่อมวลชน นอกจากไม่ควรการันตีความดีความชั่วของใคร แต่มุ่งยึดถือประโยชน์แก่สาธารณะเป็นที่ตั้งแล้ว ก็ไม่สามารถการันตีได้ว่าการทำหน้าที่ของเราจะตรงใจผู้อ่านได้ตลอดไป จึงไม่อยากถูกกล่าวหาว่าทรยศความเชื่อใจ ในวันที่ผู้อ่านมองว่าเราเปลี่ยนไป การเปิดรับบริจาคหรือโอนเงินโดยตรง อาจเป็นการแบกรับความคาดหวังจากผู้อ่านมากเกินไป กระทั่งไม่เป็นตัวของตัวเอง ขณะที่หนังสือพิมพ์ยังมีการวางจำหน่าย ถือเป็นสินค้าที่ซื้อขายตามความพึงพอใจของผู้อ่าน จากเหตุผลดังกล่าว เราจึงมีกิมมิกด้วยการตั้งราคา 20 บาท เหมือนหนังสือพิมพ์ธุรกิจ โดยทดลองใช้พร้อมเพย์คิวอาร์โค้ด (PromptPay QR Code) ปกติแล้วเราจะนำเสนอเรื่องราววันละ 1-2 เรื่อง แต่คิวอาร์โค้ดจะแสดงเฉพาะหน้าปก Newskit ของแต่ละวันเท่านั้น ถ้าผู้อ่านชื่นชอบเรื่องราวของเรา สามารถสแกนจ่ายครั้งละ 20 บาท เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเรา โดยไม่ต้องสมัครสมาชิก ไม่ต้องจ่ายรายเดือน แม้เราคงไม่คาดหวังรายได้จากตรงนี้มากนัก เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ที่เชื่อว่าไม่มีใครทำมาก่อน โปรดสังเกตชื่อบัญชีปลายทางเป็น "นายกิตตินันท์ นาคทอง" e-Wallet ID 073-15-xxxxxx-1311 ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH BANK บัญชีเดียวเท่านั้น ระวังมิจฉาชีพแอบอ้าง เราจะทดลองติดตั้ง QR Code เป็นเวลา 3 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 24 มี.ค.2568 ถึงวันศุกร์ที่ 11 เม.ย.2568 เว้นแต่จะมีกรณีเป็นอย่างอื่น ขอขอบคุณทุกการติดตามและสนับสนุนเราตลอดมา #Newskit
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 414 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุณรู้ไหมว่าอินเทอร์เน็ตที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้พึ่งพาสายเคเบิลใต้น้ำถึง 95% แต่การโจมตีสายเคเบิลเหล่านี้เพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวล โดยเฉพาะหลังความขัดแย้งในยูเครน บริษัทเยอรมันพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้ไฟเบอร์ออปติกเพื่อตรวจจับการรบกวน เช่น เรือหรือมนุษย์ที่พยายามโจมตีสายเคเบิล แม้จะยังมีข้อจำกัดในระยะตรวจจับ แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญในความพยายามปกป้องเครือข่ายใต้น้ำที่สำคัญต่อโลก

    การทำงานของเทคโนโลยี DFOS:
    - เมื่อแสงเดินทางผ่านสายไฟเบอร์ออปติก จะเกิดการสะท้อนกลับที่เปลี่ยนแปลงตามแรงสั่นสะเทือน อุณหภูมิ หรือการถูกรบกวน เทคโนโลยีนี้สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นได้ เช่น ตำแหน่งที่สายเคเบิลถูกขยับหรือสัมผัสโดยเรือหรือมนุษย์ใต้น้ำ.

    ข้อดีและข้อจำกัด:
    - สามารถระบุขนาดและตำแหน่งของเรือที่อยู่เหนือสายเคเบิล หรือระบุเมื่อมีนักประดาน้ำสัมผัสสายเคเบิลได้.
    - อย่างไรก็ตาม ระยะการตรวจจับจำกัดอยู่เพียงไม่กี่ร้อยเมตร และต้องติดตั้งสถานีตรวจจับทุก 100 กิโลเมตร.

    การป้องกันที่เพิ่มขึ้น:
    - เทคโนโลยีนี้เริ่มใช้ในทะเลเหนือแล้ว และจะทดลองใช้ในทะเลบอลติกเร็ว ๆ นี้.
    - NATO ได้จัดตั้งโครงการ HEIST เพื่อต่อยอดการปกป้องเครือข่ายเคเบิลใต้น้ำ ซึ่งมีความยาวกว่า 1.2 ล้านกิโลเมตรและรองรับธุรกรรมการเงินมูลค่ากว่า 10 ล้านล้านดอลลาร์ต่อวัน.

    https://www.techspot.com/news/107192-new-acoustic-sensing-technology-could-detect-prevent-undersea.html
    คุณรู้ไหมว่าอินเทอร์เน็ตที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้พึ่งพาสายเคเบิลใต้น้ำถึง 95% แต่การโจมตีสายเคเบิลเหล่านี้เพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวล โดยเฉพาะหลังความขัดแย้งในยูเครน บริษัทเยอรมันพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้ไฟเบอร์ออปติกเพื่อตรวจจับการรบกวน เช่น เรือหรือมนุษย์ที่พยายามโจมตีสายเคเบิล แม้จะยังมีข้อจำกัดในระยะตรวจจับ แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญในความพยายามปกป้องเครือข่ายใต้น้ำที่สำคัญต่อโลก การทำงานของเทคโนโลยี DFOS: - เมื่อแสงเดินทางผ่านสายไฟเบอร์ออปติก จะเกิดการสะท้อนกลับที่เปลี่ยนแปลงตามแรงสั่นสะเทือน อุณหภูมิ หรือการถูกรบกวน เทคโนโลยีนี้สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นได้ เช่น ตำแหน่งที่สายเคเบิลถูกขยับหรือสัมผัสโดยเรือหรือมนุษย์ใต้น้ำ. ข้อดีและข้อจำกัด: - สามารถระบุขนาดและตำแหน่งของเรือที่อยู่เหนือสายเคเบิล หรือระบุเมื่อมีนักประดาน้ำสัมผัสสายเคเบิลได้. - อย่างไรก็ตาม ระยะการตรวจจับจำกัดอยู่เพียงไม่กี่ร้อยเมตร และต้องติดตั้งสถานีตรวจจับทุก 100 กิโลเมตร. การป้องกันที่เพิ่มขึ้น: - เทคโนโลยีนี้เริ่มใช้ในทะเลเหนือแล้ว และจะทดลองใช้ในทะเลบอลติกเร็ว ๆ นี้. - NATO ได้จัดตั้งโครงการ HEIST เพื่อต่อยอดการปกป้องเครือข่ายเคเบิลใต้น้ำ ซึ่งมีความยาวกว่า 1.2 ล้านกิโลเมตรและรองรับธุรกรรมการเงินมูลค่ากว่า 10 ล้านล้านดอลลาร์ต่อวัน. https://www.techspot.com/news/107192-new-acoustic-sensing-technology-could-detect-prevent-undersea.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New acoustic sensing technology could detect and help prevent undersea cable sabotage
    Suspected attacks against undersea cables have increased since Russia's invasion of Ukraine in 2022, including several incidents in the Baltic Sea. The UN takes these acts of...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัจจัตตังแท้เตือนตน
    ไฟ3เผาไหม้ไร้ปรานี
    #ไร้สาระกับลุงทุเรียนกวน
    ปัจจัตตังแท้เตือนตน ไฟ3เผาไหม้ไร้ปรานี #ไร้สาระกับลุงทุเรียนกวน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • รอยเกวียนแผ่นเสียงร่องเดิมใครยัดเยียดให้
    #ไร้สาระกับลุงทุเรียนกวน
    รอยเกวียนแผ่นเสียงร่องเดิมใครยัดเยียดให้ #ไร้สาระกับลุงทุเรียนกวน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • รอยเกวียนแผ่นเสียงร่องเดิมใครยัดเยียดให้#ไร้สาระกับลุงทุเรียนกวน
    รอยเกวียนแผ่นเสียงร่องเดิมใครยัดเยียดให้#ไร้สาระกับลุงทุเรียนกวน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 246 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • วันนี้ในโอเดสซานักเคลื่อนไหวชาตินิยมหัวรุนแรง "เดเมียน กานูล" (Demyan Ganul) ถูกสังหาร


    กานูล เป็นแกนนำของขบวนการชาตินิยมหัวรุนแรงของยูเครนที่มีชื่อเสียงเรื่องความโหดเหี้ยม โดยดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายความมั่นคงของกลุ่ม "Right Sector" นอกจากนี้ เขายังมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในเหตุจลาจลเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2014 ซึ่งคือการวางเพลิงอาคารสหภาพแรงงาน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 50 ราย

    นอกเหนือจากบทบาทของเขาในการสังหารหมู่ที่โอเดสซาแล้ว กานูลยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมชาตินิยมต่างๆ เช่น:

    - การทำลายอนุสรณ์สถาน และสัญลักษณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย

    - การก่อกวนการแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินชาวรัสเซียและการทำร้ายประชาชนที่พูดภาษารัสเซีย

    - สนับสนุนความพยายามระดมพลของยูเครนอย่างแข็งขันหลังจากเริ่มปฏิบัติการทางทหารพิเศษของรัสเซีย รวมถึงการ เข้าร่วมกองกำลังใต้ดินที่คอย "ปราบปราม" ฝ่ายต่อต้านการระดมพลของยูเครน

    - เขายังมีหมายจับจากทางรัสเซียอีกด้วย

    การสังหารกานูลครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างน่าสงสัย เนื่องจากใกล้กับวันครบรอบ 11 ปีของเหตุเพลิงไหม้และการสังหารหมู่ที่ Odessa
    วันนี้ในโอเดสซานักเคลื่อนไหวชาตินิยมหัวรุนแรง "เดเมียน กานูล" (Demyan Ganul) ถูกสังหาร กานูล เป็นแกนนำของขบวนการชาตินิยมหัวรุนแรงของยูเครนที่มีชื่อเสียงเรื่องความโหดเหี้ยม โดยดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายความมั่นคงของกลุ่ม "Right Sector" นอกจากนี้ เขายังมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในเหตุจลาจลเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2014 ซึ่งคือการวางเพลิงอาคารสหภาพแรงงาน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 50 ราย นอกเหนือจากบทบาทของเขาในการสังหารหมู่ที่โอเดสซาแล้ว กานูลยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมชาตินิยมต่างๆ เช่น: - การทำลายอนุสรณ์สถาน และสัญลักษณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย - การก่อกวนการแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินชาวรัสเซียและการทำร้ายประชาชนที่พูดภาษารัสเซีย - สนับสนุนความพยายามระดมพลของยูเครนอย่างแข็งขันหลังจากเริ่มปฏิบัติการทางทหารพิเศษของรัสเซีย รวมถึงการ เข้าร่วมกองกำลังใต้ดินที่คอย "ปราบปราม" ฝ่ายต่อต้านการระดมพลของยูเครน - เขายังมีหมายจับจากทางรัสเซียอีกด้วย การสังหารกานูลครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างน่าสงสัย เนื่องจากใกล้กับวันครบรอบ 11 ปีของเหตุเพลิงไหม้และการสังหารหมู่ที่ Odessa
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 803 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานว่าสหรัฐเตรียมส่งระเบิด GLSDB ไปยังยูเครน ซึ่งรวมอยู่ในความช่วยเหลือที่กลับมาเริ่มใหม่อีกครั้ง

    ระเบิด Ground-Launched Small Diameter Bombs (GLSDB) เป็นอาวุธนำวิถีที่มีความแม่นยำสูง โดยออกแบบมาเพื่อโจมตีระยะไกล ซึ่งจะสามารถสร้างอันตรายต่อฐานที่มั่นของรัสเซียได้

    🔹 พิสัยทำการ: 150 กม. (94 ไมล์)
    🔹 ระบบนำทาง: GPS สามารถยิงเป้าหมายที่เคลื่อนที่ได้
    🔹 ระบบปล่อย: ใช้ร่วมกับเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง HIMARS MLRS
    🔹 น้ำหนักหัวรบ: หัวรบระเบิดแรงสูง 93 กก. (205 ปอนด์)
    🔹 การอัปเกรดล่าสุด: สามารถต่อต้านระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW) และการรบกวนสัญญาณของฝ่ายรัสเซียได้ดีขึ้น
    มีรายงานว่าสหรัฐเตรียมส่งระเบิด GLSDB ไปยังยูเครน ซึ่งรวมอยู่ในความช่วยเหลือที่กลับมาเริ่มใหม่อีกครั้ง ระเบิด Ground-Launched Small Diameter Bombs (GLSDB) เป็นอาวุธนำวิถีที่มีความแม่นยำสูง โดยออกแบบมาเพื่อโจมตีระยะไกล ซึ่งจะสามารถสร้างอันตรายต่อฐานที่มั่นของรัสเซียได้ 🔹 พิสัยทำการ: 150 กม. (94 ไมล์) 🔹 ระบบนำทาง: GPS สามารถยิงเป้าหมายที่เคลื่อนที่ได้ 🔹 ระบบปล่อย: ใช้ร่วมกับเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง HIMARS MLRS 🔹 น้ำหนักหัวรบ: หัวรบระเบิดแรงสูง 93 กก. (205 ปอนด์) 🔹 การอัปเกรดล่าสุด: สามารถต่อต้านระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW) และการรบกวนสัญญาณของฝ่ายรัสเซียได้ดีขึ้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 337 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซิร์ฟเวอร์ที่มีชื่อว่า "Global Special Forces" ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท Chaoyue Technology ได้รับรางวัล iF Design Award ซึ่งถือเป็นรางวัลระดับนานาชาติที่มอบให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นด้านการออกแบบ

    คุณสมบัติเด่นของเซิร์ฟเวอร์นี้ได้แก่:
    - การป้องกันการรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Shielding) ที่ครอบคลุมช่วง 10K-10GHz
    - ความทนทานต่อการสั่นสะเทือนและแรงกระแทกที่สูงถึง 50g
    - กันความชื้นระดับ IP66 พร้อมรองรับความชื้นได้ถึง 95%
    - การทำงานในอุณหภูมิที่หลากหลาย ตั้งแต่ -55°C ถึง 70°C โดยไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพ
    - ทนต่อการกัดกร่อนจากไอเกลือ (Salt Spray) ได้นานถึง 10 ปี

    เซิร์ฟเวอร์นี้ถูกออกแบบให้รองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย เช่น การใช้งานบนยานพาหนะ เครื่องบิน หรือเรือ และสามารถทำงานได้อย่างเสถียร แม้ในพื้นที่ที่มีความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม ตัวเครื่องมีดีไซน์โมดูลาร์ที่สามารถถอดประกอบได้ง่าย พร้อมฟังก์ชันการควบคุมด้วย AI และการจัดเก็บข้อมูลในตัว

    ผลิตภัณฑ์นี้เป็นเซิร์ฟเวอร์ LRM (Lightweight Rackmount) ที่ผลิตในประเทศจีน ซึ่งใช้เทคโนโลยีเฉพาะด้าน เช่น การสลับเมทริกซ์แบบ DVI+USB ซึ่งปัจจุบันมีเพียงสองบริษัทในจีนที่สามารถทำได้ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใช้เวลาถึงหนึ่งปีเต็ม ก่อนเปิดตัวในปี 2023 และได้รับความสนใจจากหลากหลายวงการ

    การออกแบบเซิร์ฟเวอร์ในลักษณะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานความงามและประสิทธิภาพอย่างลงตัว แม้จะเป็นอุปกรณ์ที่เน้นใช้งานในงานด้านเทคนิคและการป้องกันประเทศ แต่ก็สามารถสร้างแรงบันดาลใจในด้านการออกแบบเชิงอุตสาหกรรม

    https://www.techradar.com/pro/ai-server-designed-for-chinese-military-use-wins-major-global-design-award-in-europe
    เซิร์ฟเวอร์ที่มีชื่อว่า "Global Special Forces" ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท Chaoyue Technology ได้รับรางวัล iF Design Award ซึ่งถือเป็นรางวัลระดับนานาชาติที่มอบให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นด้านการออกแบบ คุณสมบัติเด่นของเซิร์ฟเวอร์นี้ได้แก่: - การป้องกันการรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Shielding) ที่ครอบคลุมช่วง 10K-10GHz - ความทนทานต่อการสั่นสะเทือนและแรงกระแทกที่สูงถึง 50g - กันความชื้นระดับ IP66 พร้อมรองรับความชื้นได้ถึง 95% - การทำงานในอุณหภูมิที่หลากหลาย ตั้งแต่ -55°C ถึง 70°C โดยไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพ - ทนต่อการกัดกร่อนจากไอเกลือ (Salt Spray) ได้นานถึง 10 ปี เซิร์ฟเวอร์นี้ถูกออกแบบให้รองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย เช่น การใช้งานบนยานพาหนะ เครื่องบิน หรือเรือ และสามารถทำงานได้อย่างเสถียร แม้ในพื้นที่ที่มีความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม ตัวเครื่องมีดีไซน์โมดูลาร์ที่สามารถถอดประกอบได้ง่าย พร้อมฟังก์ชันการควบคุมด้วย AI และการจัดเก็บข้อมูลในตัว ผลิตภัณฑ์นี้เป็นเซิร์ฟเวอร์ LRM (Lightweight Rackmount) ที่ผลิตในประเทศจีน ซึ่งใช้เทคโนโลยีเฉพาะด้าน เช่น การสลับเมทริกซ์แบบ DVI+USB ซึ่งปัจจุบันมีเพียงสองบริษัทในจีนที่สามารถทำได้ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใช้เวลาถึงหนึ่งปีเต็ม ก่อนเปิดตัวในปี 2023 และได้รับความสนใจจากหลากหลายวงการ การออกแบบเซิร์ฟเวอร์ในลักษณะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานความงามและประสิทธิภาพอย่างลงตัว แม้จะเป็นอุปกรณ์ที่เน้นใช้งานในงานด้านเทคนิคและการป้องกันประเทศ แต่ก็สามารถสร้างแรงบันดาลใจในด้านการออกแบบเชิงอุตสาหกรรม https://www.techradar.com/pro/ai-server-designed-for-chinese-military-use-wins-major-global-design-award-in-europe
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 รีวิว
  • รถไฟ ETS มาเลเซีย ขยายถึงเซกามัต รัฐยะโฮร์

    สิ้นสุดการรอคอยสำหรับการขยายเส้นทางรถไฟ ETS (Electric Train Service) ของการรถไฟมาลายา (KTM Berhad) ประเทศมาเลเซีย จากเดิมสิ้นสุดที่สถานีเกอมัส (Gemas) รัฐเนกรีเซมบีลัน ขยายไปถึงสถานีเซกามัต (Segamat) รัฐยะโฮร์ หลังเจอโรคเลื่อนไปหลายเดือน ล่าสุดประกาศว่าจะเปิดให้บริการในวันที่ 15 มี.ค. 2568 เป็นต้นไป จากต้นทางสถานีปาดังเบซาร์ (Padang Besar) รัฐปะลิส ติดชายแดนไทย-มาเลเซีย จ.สงขลา และสถานีบัตเตอร์เวิร์ธ (Butterworth) รัฐปีนัง

    โดยปรับเปลี่ยนต้นทางและปลายทางจากเดิมสถานีเกอมัส เป็นสถานีเซกามัต โดยไม่มีการปรับเปลี่ยนเวลาเดินรถ ได้แก่ ขบวนที่ EG9420 เซกามัต-ปาดังเบซาร์ ออกจากสถานีเซกามัต 07.55 น. ผ่านสถานีเกอมัส 08.12 น. สถานี KL Sentral 10.41 น. ถึงสถานีปาดังเบซาร์ 16.18 น.

    ขบวนที่ EG9425 ปาดังเบซาร์-เซกามัต ออกจากสถานีปาดังเบซาร์ 15.55 น. (เวลามาเลเซีย เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง) ผ่านสถานี KL Sentral 21.39 น. สถานีเกอมัส 00.05 น. (วันถัดไป) ถึงสถานีเซกามัต 00.20 น. (วันถัดไป)

    ขบวนที่ EG9322 เซกามัต-บัตเตอร์เวิร์ธ ออกจากสถานีเซกามัต 15.35 น. ผ่านสถานีเกอมัส 15.52 น. สถานี KL Sentral 18.22 น. ถึงสถานีบัตเตอร์เวิร์ธ 22.42 น.

    ขบวนที่ EG9321 ออกจากสถานีบัตเตอร์เวิร์ธ 07.50 น. ผ่านสถานี KL Sentral 12.15 น. สถานีเกอมัส 14.42 น. ถึงสถานีเซกามัต 14.57 น.

    ค่าโดยสารช่วงเซกามัต-ปาดังเบซาร์ เริ่มต้นที่ 101 ริงกิต (773 บาท) ส่วนช่วงเซกามัต-บัตเตอร์เวิร์ธ เริ่มต้นที่ 84 ริงกิต (643 บาท) สำรองที่นั่งได้ที่แอปพลิเคชัน KTMB Mobile ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. 2568 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป หรือที่เครื่อง Kiosk ของ KTM Berhad ทุกสถานี รับบัตร VISA และ Mastercard

    จากสถานีเซกามัต มีสถานีขนส่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานี มีรถบัสให้บริการไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) สถานีขนส่งลาร์คิน ยะโฮร์บาห์รู (Larkin, Johor Bharu) มะละกา (Malacca) และกวนตัน (Kuantan) ตั้งแต่เช้าถึงค่ำ แต่หากเดินทางด้วยรถไฟขบวน EG9425 จากปาดังเบซาร์ สามารถต่อรถไฟ KTM Intercity ไปยังสถานีเจบี เซ็นทรัล (JB Sentral) เพื่อไปประเทศสิงคโปร์ โดยขบวนที่ ES41 ออกจากสถานีเซกามัตเวลา 02.36 น. ถึงสถานีเจบี เซ็นทรัล 06.25 น.

    ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bahru Electrified Double-Tracking Rail Project หรือ Gemas - JB EDTP) ระยะทาง 192 กิโลเมตร รัฐบาลท้องถิ่นรัฐยะโฮร์เปิดเผยว่าใกล้เสร็จสมบูรณ์ คาดว่าจะเปิดตัวประมาณเดือน ส.ค.2568

    #Newskit
    รถไฟ ETS มาเลเซีย ขยายถึงเซกามัต รัฐยะโฮร์ สิ้นสุดการรอคอยสำหรับการขยายเส้นทางรถไฟ ETS (Electric Train Service) ของการรถไฟมาลายา (KTM Berhad) ประเทศมาเลเซีย จากเดิมสิ้นสุดที่สถานีเกอมัส (Gemas) รัฐเนกรีเซมบีลัน ขยายไปถึงสถานีเซกามัต (Segamat) รัฐยะโฮร์ หลังเจอโรคเลื่อนไปหลายเดือน ล่าสุดประกาศว่าจะเปิดให้บริการในวันที่ 15 มี.ค. 2568 เป็นต้นไป จากต้นทางสถานีปาดังเบซาร์ (Padang Besar) รัฐปะลิส ติดชายแดนไทย-มาเลเซีย จ.สงขลา และสถานีบัตเตอร์เวิร์ธ (Butterworth) รัฐปีนัง โดยปรับเปลี่ยนต้นทางและปลายทางจากเดิมสถานีเกอมัส เป็นสถานีเซกามัต โดยไม่มีการปรับเปลี่ยนเวลาเดินรถ ได้แก่ ขบวนที่ EG9420 เซกามัต-ปาดังเบซาร์ ออกจากสถานีเซกามัต 07.55 น. ผ่านสถานีเกอมัส 08.12 น. สถานี KL Sentral 10.41 น. ถึงสถานีปาดังเบซาร์ 16.18 น. ขบวนที่ EG9425 ปาดังเบซาร์-เซกามัต ออกจากสถานีปาดังเบซาร์ 15.55 น. (เวลามาเลเซีย เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง) ผ่านสถานี KL Sentral 21.39 น. สถานีเกอมัส 00.05 น. (วันถัดไป) ถึงสถานีเซกามัต 00.20 น. (วันถัดไป) ขบวนที่ EG9322 เซกามัต-บัตเตอร์เวิร์ธ ออกจากสถานีเซกามัต 15.35 น. ผ่านสถานีเกอมัส 15.52 น. สถานี KL Sentral 18.22 น. ถึงสถานีบัตเตอร์เวิร์ธ 22.42 น. ขบวนที่ EG9321 ออกจากสถานีบัตเตอร์เวิร์ธ 07.50 น. ผ่านสถานี KL Sentral 12.15 น. สถานีเกอมัส 14.42 น. ถึงสถานีเซกามัต 14.57 น. ค่าโดยสารช่วงเซกามัต-ปาดังเบซาร์ เริ่มต้นที่ 101 ริงกิต (773 บาท) ส่วนช่วงเซกามัต-บัตเตอร์เวิร์ธ เริ่มต้นที่ 84 ริงกิต (643 บาท) สำรองที่นั่งได้ที่แอปพลิเคชัน KTMB Mobile ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. 2568 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป หรือที่เครื่อง Kiosk ของ KTM Berhad ทุกสถานี รับบัตร VISA และ Mastercard จากสถานีเซกามัต มีสถานีขนส่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานี มีรถบัสให้บริการไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) สถานีขนส่งลาร์คิน ยะโฮร์บาห์รู (Larkin, Johor Bharu) มะละกา (Malacca) และกวนตัน (Kuantan) ตั้งแต่เช้าถึงค่ำ แต่หากเดินทางด้วยรถไฟขบวน EG9425 จากปาดังเบซาร์ สามารถต่อรถไฟ KTM Intercity ไปยังสถานีเจบี เซ็นทรัล (JB Sentral) เพื่อไปประเทศสิงคโปร์ โดยขบวนที่ ES41 ออกจากสถานีเซกามัตเวลา 02.36 น. ถึงสถานีเจบี เซ็นทรัล 06.25 น. ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bahru Electrified Double-Tracking Rail Project หรือ Gemas - JB EDTP) ระยะทาง 192 กิโลเมตร รัฐบาลท้องถิ่นรัฐยะโฮร์เปิดเผยว่าใกล้เสร็จสมบูรณ์ คาดว่าจะเปิดตัวประมาณเดือน ส.ค.2568 #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 404 มุมมอง 0 รีวิว
  • อีลอน มัสก์ ยืนยันจะไม่มีการหยุดให้บริการ Starlink ในยูเครน!

    "ขอกล่าวอย่างชัดเจนที่สุด ไม่ว่าผมจะไม่เห็นด้วยกับนโยบายของยูเครนมากเพียงใด แต่ Starlink จะไม่มีการปิดให้บริการโดยเด็ดขาด

    ผมเพียงแค่ต้องการจะสื่อว่า หากไม่มี Starlink สายโทรศัพท์ของยูเครนจะใช้งานไม่ได้ เนื่องจากรัสเซียสามารถรบกวนการสื่อสารอื่นๆได้ทั้งหมด!

    เราจะไม่ใช้เรื่องนี้เป็นข้อต่อรองเด็ดขาด"
    อีลอน มัสก์ ยืนยันจะไม่มีการหยุดให้บริการ Starlink ในยูเครน! "ขอกล่าวอย่างชัดเจนที่สุด ไม่ว่าผมจะไม่เห็นด้วยกับนโยบายของยูเครนมากเพียงใด แต่ Starlink จะไม่มีการปิดให้บริการโดยเด็ดขาด ผมเพียงแค่ต้องการจะสื่อว่า หากไม่มี Starlink สายโทรศัพท์ของยูเครนจะใช้งานไม่ได้ เนื่องจากรัสเซียสามารถรบกวนการสื่อสารอื่นๆได้ทั้งหมด! เราจะไม่ใช้เรื่องนี้เป็นข้อต่อรองเด็ดขาด"
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยว #มาเก๊า โคตรฟิน 3วัน 2คืน 🥰🔥
    ทัวร์ไม่ลงร้าน🤑

    🗓 จำนวนวัน 3 วัน 2 คืน
    ✈ NX-แอร์มาเก๊า
    🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐⭐

    📍 โบสถ์เซนต์พอล
    📍 ศาลเจ้านาจา
    📍 เซนาโด้ สแคว์
    📍 ย่าน COTAI
    📍 วัดเจ้าแม่กวนอิม
    📍 เจ้าแม่กวนอิมริมทะเล
    📍 วัดอาม่า

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire
    https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    ☎️: 021166395

    #ทัวร์มาเก๊า #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยว #มาเก๊า โคตรฟิน 3วัน 2คืน 🥰🔥 ทัวร์ไม่ลงร้าน🤑 🗓 จำนวนวัน 3 วัน 2 คืน ✈ NX-แอร์มาเก๊า 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐⭐ 📍 โบสถ์เซนต์พอล 📍 ศาลเจ้านาจา 📍 เซนาโด้ สแคว์ 📍 ย่าน COTAI 📍 วัดเจ้าแม่กวนอิม 📍 เจ้าแม่กวนอิมริมทะเล 📍 วัดอาม่า รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์มาเก๊า #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 446 มุมมอง 19 0 รีวิว
  • จีนกำลังก้าวเข้าสู่วงการ EUV Lithography (Extreme Ultraviolet Lithography) ด้วยการพัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีแสงเลเซอร์แบบ LDP (Laser-Induced Discharge Plasma) ซึ่งกำลังทดสอบที่โรงงานของ Huawei ในเมืองตงกวน โดยเป้าหมายคือการเริ่มการผลิตเชิงทดลองในไตรมาส 3 ปี 2025 และผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2026 อุปกรณ์นี้อาจทำให้จีนหลุดพ้นจากการพึ่งพาผู้ผลิตในต่างประเทศ เช่น ASML ที่ครองตลาดด้านเทคโนโลยีนี้มาอย่างยาวนาน

    = วิธีการทำงานของ LDP และข้อได้เปรียบ =
    1) การสร้างแสง EUV: แสง EUV ที่ความยาวคลื่น 13.5 นาโนเมตรถูกผลิตขึ้นโดยการระเหยดีบุกให้กลายเป็นพลาสมา ผ่านกระบวนการปล่อยประจุไฟฟ้าแรงสูง วิธีนี้ต่างจากเทคนิค LPP (Laser-Produced Plasma) ของ ASML ที่ใช้เลเซอร์พลังงานสูงและระบบควบคุมซับซ้อน

    2) ข้อได้เปรียบของ LDP:
    - โครงสร้างเครื่องจักรเรียบง่ายกว่า
    - ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - ลดต้นทุนการผลิตในระยะยาว

    = ความสำคัญในบริบทการคว่ำบาตร =
    ก่อนหน้านี้ จีนประสบปัญหาในการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง เนื่องจากถูกจำกัดการส่งออกอุปกรณ์ EUV จากสหรัฐฯ และพันธมิตร ทำให้การพัฒนาชิปต้องใช้เทคนิค DUV (Deep Ultraviolet) ที่มีข้อจำกัด เช่น การใช้ความยาวคลื่นที่ใหญ่กว่า (193 นาโนเมตร) และการทำการแพทเทิร์นหลายครั้ง (Multi-patterning) ซึ่งเพิ่มความซับซ้อนและต้นทุน แต่เทคโนโลยี LDP ของ Huawei นี้อาจช่วยยกระดับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีนได้อย่างมหาศาล

    อย่างไรก็ตาม มีความท้าทายที่สำคัญ:
    - ความสามารถในการสร้างภาพที่คมชัดและละเอียดเพียงพอ
    - ความคงที่ของระบบในกระบวนการผลิตจำนวนมาก
    - การรวมอุปกรณ์นี้เข้ากับสายการผลิตที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    หากอุปกรณ์ของ Huawei สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดเหล่านี้ได้ จีนอาจกลายเป็นผู้เล่นสำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก และลดอิทธิพลของ ASML ในตลาดนี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเทคโนโลยีนี้อาจเป็น "DeepSeek Moment" ที่จะปฏิวัติวงการการผลิตชิปในประเทศจีน

    https://www.techpowerup.com/333801/china-develops-domestic-euv-tool-asml-monopoly-in-trouble
    จีนกำลังก้าวเข้าสู่วงการ EUV Lithography (Extreme Ultraviolet Lithography) ด้วยการพัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีแสงเลเซอร์แบบ LDP (Laser-Induced Discharge Plasma) ซึ่งกำลังทดสอบที่โรงงานของ Huawei ในเมืองตงกวน โดยเป้าหมายคือการเริ่มการผลิตเชิงทดลองในไตรมาส 3 ปี 2025 และผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2026 อุปกรณ์นี้อาจทำให้จีนหลุดพ้นจากการพึ่งพาผู้ผลิตในต่างประเทศ เช่น ASML ที่ครองตลาดด้านเทคโนโลยีนี้มาอย่างยาวนาน = วิธีการทำงานของ LDP และข้อได้เปรียบ = 1) การสร้างแสง EUV: แสง EUV ที่ความยาวคลื่น 13.5 นาโนเมตรถูกผลิตขึ้นโดยการระเหยดีบุกให้กลายเป็นพลาสมา ผ่านกระบวนการปล่อยประจุไฟฟ้าแรงสูง วิธีนี้ต่างจากเทคนิค LPP (Laser-Produced Plasma) ของ ASML ที่ใช้เลเซอร์พลังงานสูงและระบบควบคุมซับซ้อน 2) ข้อได้เปรียบของ LDP: - โครงสร้างเครื่องจักรเรียบง่ายกว่า - ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น - ลดต้นทุนการผลิตในระยะยาว = ความสำคัญในบริบทการคว่ำบาตร = ก่อนหน้านี้ จีนประสบปัญหาในการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง เนื่องจากถูกจำกัดการส่งออกอุปกรณ์ EUV จากสหรัฐฯ และพันธมิตร ทำให้การพัฒนาชิปต้องใช้เทคนิค DUV (Deep Ultraviolet) ที่มีข้อจำกัด เช่น การใช้ความยาวคลื่นที่ใหญ่กว่า (193 นาโนเมตร) และการทำการแพทเทิร์นหลายครั้ง (Multi-patterning) ซึ่งเพิ่มความซับซ้อนและต้นทุน แต่เทคโนโลยี LDP ของ Huawei นี้อาจช่วยยกระดับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีนได้อย่างมหาศาล อย่างไรก็ตาม มีความท้าทายที่สำคัญ: - ความสามารถในการสร้างภาพที่คมชัดและละเอียดเพียงพอ - ความคงที่ของระบบในกระบวนการผลิตจำนวนมาก - การรวมอุปกรณ์นี้เข้ากับสายการผลิตที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากอุปกรณ์ของ Huawei สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดเหล่านี้ได้ จีนอาจกลายเป็นผู้เล่นสำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก และลดอิทธิพลของ ASML ในตลาดนี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเทคโนโลยีนี้อาจเป็น "DeepSeek Moment" ที่จะปฏิวัติวงการการผลิตชิปในประเทศจีน https://www.techpowerup.com/333801/china-develops-domestic-euv-tool-asml-monopoly-in-trouble
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    China Develops Domestic EUV Tool, ASML Monopoly in Trouble
    China's domestic extreme ultraviolet (EUV) lithography development is far from a distant dream. The newest system, now undergoing testing at Huawei's Dongguan facility, leverages laser-induced discharge plasma (LDP) technology, representing a potentially disruptive approach to EUV light generation. ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 484 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพียงแค่คำคิดถึง
    ก็ซาบซึ้งซ่านใจมิได้หาย
    เห็นภาพงามตามหลอนมิคลอนคลาย
    ให้วุ่นวายหวิวหัวอกคิดวกวน
    โอ้อาวรณ์อ่อนไหวนอนไม่หลับ
    คำนึงนึกคะเนนับให้สับสน
    ภาพวงหน้านวลเนียนมาเวียนวน
    นฤมลมีบ่วงคล้องดวงใจ
    เสียงคนธรรพ์บรรเลงบทเพลงแว่ว
    ท่วงทำนองร้องแผ่วเสียงแว่วไหว
    ยิ่งตอกย้ำคำลาโอ้อาลัย
    รุ่มฤทัยร่าวร่าวอยู่รอนรอน
    พี่พร่ำเพ้อคนดีพี่พร่ำเพ้อ
    คิดถึงเธอเธอจ๋าให้ล้าอ่อน
    แม้ดึกดื่นคืนล่วงไม่ง่วงนอน
    คนึงหาบังอรจนอ่อนใจ
    เพียงแค่คำคิดถึง ก็ซาบซึ้งซ่านใจมิได้หาย เห็นภาพงามตามหลอนมิคลอนคลาย ให้วุ่นวายหวิวหัวอกคิดวกวน โอ้อาวรณ์อ่อนไหวนอนไม่หลับ คำนึงนึกคะเนนับให้สับสน ภาพวงหน้านวลเนียนมาเวียนวน นฤมลมีบ่วงคล้องดวงใจ เสียงคนธรรพ์บรรเลงบทเพลงแว่ว ท่วงทำนองร้องแผ่วเสียงแว่วไหว ยิ่งตอกย้ำคำลาโอ้อาลัย รุ่มฤทัยร่าวร่าวอยู่รอนรอน พี่พร่ำเพ้อคนดีพี่พร่ำเพ้อ คิดถึงเธอเธอจ๋าให้ล้าอ่อน แม้ดึกดื่นคืนล่วงไม่ง่วงนอน คนึงหาบังอรจนอ่อนใจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • #นิสัยเดิมไม่เคยเปลี่ยน
    เวลากวนซ๊นทรีนใครแล้วโดนเค้าโต้กลับ
    ก็ใช้คำว่า กามิน มาเป็นเครื่องมือ
    ไว้ขู่ ไว้ทำเก่ง ทำเจ๋ง ทำเป็นแน่
    เอาทรัพยากรของจีกามินมาใช้
    เพื่อสนองความเฉบติดดราม่าของตัวเอง
    หน้าตา หน้าอัว ยังทำตัวน่าหยะแหย๋งชิ๊บห๋าย
    ฟันหน้ายังพอดัดได้ แต่สมองและจิตใจ ดัดไม่ได้จริงๆ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    #นิสัยเดิมไม่เคยเปลี่ยน เวลากวนซ๊นทรีนใครแล้วโดนเค้าโต้กลับ ก็ใช้คำว่า กามิน มาเป็นเครื่องมือ ไว้ขู่ ไว้ทำเก่ง ทำเจ๋ง ทำเป็นแน่ เอาทรัพยากรของจีกามินมาใช้ เพื่อสนองความเฉบติดดราม่าของตัวเอง หน้าตา หน้าอัว ยังทำตัวน่าหยะแหย๋งชิ๊บห๋าย ฟันหน้ายังพอดัดได้ แต่สมองและจิตใจ ดัดไม่ได้จริงๆ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 329 มุมมอง 0 รีวิว
  • VTT Technical Research Centre of Finland ร่วมกับ IQM Quantum Computers ได้เปิดตัวคอมพิวเตอร์ควอนตัมแบบใหม่ที่มีขนาด 50-qubit เป็นครั้งแรกในยุโรป โดยคอมพิวเตอร์ควอนตัมตัวใหม่นี้จะเปิดให้ใช้งานสำหรับนักวิจัยและบริษัทต่างๆ ผ่านบริการ VTT QX quantum computing service การเปิดตัวครั้งนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับฟินแลนด์ในฐานะประเทศที่สามารถพัฒนาและลงทุนในเทคโนโลยีควอนตัมได้อย่างยิ่งใหญ่

    ย้อนกลับไปในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 รัฐบาลฟินแลนด์ได้ประกาศแผนการพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 50-qubit ด้วยงบประมาณทั้งหมด 20.7 ล้านยูโร และในวันนี้คอมพิวเตอร์ควอนตัมตัวใหม่นี้ก็พร้อมใช้งานแล้ว เพื่อให้บริษัทและนักวิจัยสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันควอนตัมคอมพิวติ้งในด้านต่างๆ อย่างการจำลองและโมเดลลิ่งวัสดุ การแก้ปัญหาการปรับปรุงประสิทธิภาพ และปัญญาประดิษฐ์

    รองประธานบริหารของ VTT, Erja Turunen, กล่าวว่าการพัฒนาและสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 50-qubit แสดงให้เห็นว่าฟินแลนด์เป็นผู้นำระดับโลกในด้านนี้ คอมพิวเตอร์ควอนตัมตัวใหม่นี้จะช่วยให้พัฒนาการแอปพลิเคชันและอัลกอริทึมใหม่ๆ สำหรับการจำลองและโมเดลลิ่งวัสดุ ปัญหาการปรับปรุงประสิทธิภาพ และปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างมาก

    การพัฒนาโครงการนี้แบ่งออกเป็นสามช่วง เริ่มจากการพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 5-qubit ในปี 2021 และต่อมาในฤดูใบไม้ผลิปี 2022 ได้มีการเชื่อมต่อกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ LUMI ของ CSC สำหรับการใช้งานของนักวิจัยชาวฟินแลนด์ และยังเปิดใช้งานให้กับผู้ใช้งานทางธุรกิจอีกด้วย คอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 20-qubit ได้รับการพัฒนาในปี 2023 และในขั้นตอนสุดท้ายได้ถูกยกระดับเป็น 50 qubits ทำให้สามารถทำการคำนวณที่ไม่สามารถทำได้ด้วยคอมพิวเตอร์คลาสสิก

    การเปิดตัวคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 50 qubits เป็นก้าวสำคัญในเทคโนโลยีนี้ โดยทำให้สามารถลดเสียงรบกวนของคอมพิวเตอร์และเพิ่มจำนวน qubits ที่ใช้ในการคำนวณอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    https://www.techpowerup.com/333563/vtt-and-iqm-launch-first-50-qubit-quantum-computer-developed-in-europe
    VTT Technical Research Centre of Finland ร่วมกับ IQM Quantum Computers ได้เปิดตัวคอมพิวเตอร์ควอนตัมแบบใหม่ที่มีขนาด 50-qubit เป็นครั้งแรกในยุโรป โดยคอมพิวเตอร์ควอนตัมตัวใหม่นี้จะเปิดให้ใช้งานสำหรับนักวิจัยและบริษัทต่างๆ ผ่านบริการ VTT QX quantum computing service การเปิดตัวครั้งนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับฟินแลนด์ในฐานะประเทศที่สามารถพัฒนาและลงทุนในเทคโนโลยีควอนตัมได้อย่างยิ่งใหญ่ ย้อนกลับไปในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 รัฐบาลฟินแลนด์ได้ประกาศแผนการพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 50-qubit ด้วยงบประมาณทั้งหมด 20.7 ล้านยูโร และในวันนี้คอมพิวเตอร์ควอนตัมตัวใหม่นี้ก็พร้อมใช้งานแล้ว เพื่อให้บริษัทและนักวิจัยสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันควอนตัมคอมพิวติ้งในด้านต่างๆ อย่างการจำลองและโมเดลลิ่งวัสดุ การแก้ปัญหาการปรับปรุงประสิทธิภาพ และปัญญาประดิษฐ์ รองประธานบริหารของ VTT, Erja Turunen, กล่าวว่าการพัฒนาและสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 50-qubit แสดงให้เห็นว่าฟินแลนด์เป็นผู้นำระดับโลกในด้านนี้ คอมพิวเตอร์ควอนตัมตัวใหม่นี้จะช่วยให้พัฒนาการแอปพลิเคชันและอัลกอริทึมใหม่ๆ สำหรับการจำลองและโมเดลลิ่งวัสดุ ปัญหาการปรับปรุงประสิทธิภาพ และปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างมาก การพัฒนาโครงการนี้แบ่งออกเป็นสามช่วง เริ่มจากการพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 5-qubit ในปี 2021 และต่อมาในฤดูใบไม้ผลิปี 2022 ได้มีการเชื่อมต่อกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ LUMI ของ CSC สำหรับการใช้งานของนักวิจัยชาวฟินแลนด์ และยังเปิดใช้งานให้กับผู้ใช้งานทางธุรกิจอีกด้วย คอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 20-qubit ได้รับการพัฒนาในปี 2023 และในขั้นตอนสุดท้ายได้ถูกยกระดับเป็น 50 qubits ทำให้สามารถทำการคำนวณที่ไม่สามารถทำได้ด้วยคอมพิวเตอร์คลาสสิก การเปิดตัวคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 50 qubits เป็นก้าวสำคัญในเทคโนโลยีนี้ โดยทำให้สามารถลดเสียงรบกวนของคอมพิวเตอร์และเพิ่มจำนวน qubits ที่ใช้ในการคำนวณอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.techpowerup.com/333563/vtt-and-iqm-launch-first-50-qubit-quantum-computer-developed-in-europe
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    VTT and IQM Launch First 50-Qubit Quantum Computer Developed in Europe
    VTT Technical Research Centre of Finland and IQM Quantum Computers, one of the global leaders in superconducting quantum computers, have completed and launched Europe's first 50-qubit superconducting quantum computer, now open to researchers and companies through the VTT QX quantum computing service...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts