• OCCT v15 เพิ่มฟีเจอร์ตรวจจับเสียง Coil Whine โดยไม่ต้องใช้ไมโครโฟน – เปลี่ยนเสียงรบกวนให้กลายเป็นเครื่องมือวิเคราะห์

    OCCT โปรแกรม stress test ยอดนิยมสำหรับพีซี ได้เปิดตัวเวอร์ชัน 15 พร้อมฟีเจอร์ใหม่สุดอัจฉริยะที่ช่วยตรวจจับเสียง “coil whine” โดยไม่ต้องใช้ไมโครโฟนเลย ฟีเจอร์นี้ใช้เทคนิคการโหลดระบบด้วย “สามเสียงที่กำหนดไว้ล่วงหน้า” เพื่อเปลี่ยนเสียงรบกวนจากอุปกรณ์ให้กลายเป็นเสียงที่มีรูปแบบเฉพาะ ทำให้ผู้ใช้สามารถแยกแยะได้ง่ายว่าเสียงนั้นมาจากส่วนไหนของเครื่อง เช่น การ์ดจอ เมนบอร์ด หรือ PSU

    Coil whine (เสียงคอยล์หวีด) คือเสียงแหลมสูงหรือเสียงฮัมที่เกิดจากการสั่นของขดลวด (coil) หรือชิ้นส่วนตัวเหนี่ยวนำ (inductor) ภายในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การ์ดจอ เมนบอร์ด หรือแหล่งจ่ายไฟ (PSU) เมื่อมี กระแสไฟฟ้าความถี่สูง ไหลผ่าน

    ฟีเจอร์นี้เหมาะมากสำหรับผู้ที่ใช้งานในพื้นที่เสียงรบกวนสูง เช่น อินเทอร์เน็ตคาเฟ่ หรือออฟฟิศที่มีหลายเครื่อง เพราะเสียง coil whine จะถูก “ดึงออกมา” ให้เด่นชัดขึ้นจากเสียงแวดล้อม

    ฟีเจอร์ใหม่ใน OCCT v15
    ตรวจจับเสียง coil whine โดยไม่ต้องใช้ไมโครโฟน
    ใช้การโหลดระบบด้วยเสียงที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
    เปลี่ยนเสียงรบกวนให้กลายเป็นเสียงที่มีรูปแบบเฉพาะ
    ช่วยให้แยกแยะแหล่งที่มาของเสียงได้ง่ายขึ้น

    เหมาะกับสถานการณ์แบบไหน
    พื้นที่เสียงรบกวนสูง เช่น อินเทอร์เน็ตคาเฟ่หรือออฟฟิศ
    ผู้ใช้ที่ไม่สามารถใช้ไมโครโฟนได้
    ช่วยตรวจสอบว่าเสียงที่ได้ยินเป็น coil whine หรือปัญหาอื่น

    ความรู้เกี่ยวกับ coil whine
    เกิดจากการสั่นของขดลวดแม่เหล็กไฟฟ้าเมื่อมีไฟฟ้าไหลผ่าน
    มักเกิดในอุปกรณ์ที่มีการโหลดไฟสูง เช่น GPU, PSU, เมนบอร์ด
    เสียงอาจเปลี่ยนไปตามระดับการโหลด เช่น เล่นเกมที่ FPS สูง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/occt-version-15-adds-coil-whine-detection-that-doesnt-require-a-microphone-popular-stress-tester-gets-genius-new-feature-to-silence-your-pc
    🔧 OCCT v15 เพิ่มฟีเจอร์ตรวจจับเสียง Coil Whine โดยไม่ต้องใช้ไมโครโฟน – เปลี่ยนเสียงรบกวนให้กลายเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ OCCT โปรแกรม stress test ยอดนิยมสำหรับพีซี ได้เปิดตัวเวอร์ชัน 15 พร้อมฟีเจอร์ใหม่สุดอัจฉริยะที่ช่วยตรวจจับเสียง “coil whine” โดยไม่ต้องใช้ไมโครโฟนเลย ฟีเจอร์นี้ใช้เทคนิคการโหลดระบบด้วย “สามเสียงที่กำหนดไว้ล่วงหน้า” เพื่อเปลี่ยนเสียงรบกวนจากอุปกรณ์ให้กลายเป็นเสียงที่มีรูปแบบเฉพาะ ทำให้ผู้ใช้สามารถแยกแยะได้ง่ายว่าเสียงนั้นมาจากส่วนไหนของเครื่อง เช่น การ์ดจอ เมนบอร์ด หรือ PSU Coil whine (เสียงคอยล์หวีด) คือเสียงแหลมสูงหรือเสียงฮัมที่เกิดจากการสั่นของขดลวด (coil) หรือชิ้นส่วนตัวเหนี่ยวนำ (inductor) ภายในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การ์ดจอ เมนบอร์ด หรือแหล่งจ่ายไฟ (PSU) เมื่อมี กระแสไฟฟ้าความถี่สูง ไหลผ่าน ฟีเจอร์นี้เหมาะมากสำหรับผู้ที่ใช้งานในพื้นที่เสียงรบกวนสูง เช่น อินเทอร์เน็ตคาเฟ่ หรือออฟฟิศที่มีหลายเครื่อง เพราะเสียง coil whine จะถูก “ดึงออกมา” ให้เด่นชัดขึ้นจากเสียงแวดล้อม ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน OCCT v15 ➡️ ตรวจจับเสียง coil whine โดยไม่ต้องใช้ไมโครโฟน ➡️ ใช้การโหลดระบบด้วยเสียงที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ➡️ เปลี่ยนเสียงรบกวนให้กลายเป็นเสียงที่มีรูปแบบเฉพาะ ➡️ ช่วยให้แยกแยะแหล่งที่มาของเสียงได้ง่ายขึ้น ✅ เหมาะกับสถานการณ์แบบไหน ➡️ พื้นที่เสียงรบกวนสูง เช่น อินเทอร์เน็ตคาเฟ่หรือออฟฟิศ ➡️ ผู้ใช้ที่ไม่สามารถใช้ไมโครโฟนได้ ➡️ ช่วยตรวจสอบว่าเสียงที่ได้ยินเป็น coil whine หรือปัญหาอื่น ✅ ความรู้เกี่ยวกับ coil whine ➡️ เกิดจากการสั่นของขดลวดแม่เหล็กไฟฟ้าเมื่อมีไฟฟ้าไหลผ่าน ➡️ มักเกิดในอุปกรณ์ที่มีการโหลดไฟสูง เช่น GPU, PSU, เมนบอร์ด ➡️ เสียงอาจเปลี่ยนไปตามระดับการโหลด เช่น เล่นเกมที่ FPS สูง https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/occt-version-15-adds-coil-whine-detection-that-doesnt-require-a-microphone-popular-stress-tester-gets-genius-new-feature-to-silence-your-pc
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • Audio-Technica เปิดตัว ATH-ADX7000 – หูฟังระดับออดิโอไฟล์รุ่นใหม่ พร้อมไดรเวอร์ 58 มม. และดีไซน์แม่นยำขั้นสุด

    Audio-Technica แบรนด์เครื่องเสียงชื่อดังจากญี่ปุ่นเปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ ATH-ADX7000 ซึ่งเป็นหูฟังแบบ open-back ที่ออกแบบมาเพื่อผู้ฟังระดับออดิโอไฟล์โดยเฉพาะ จุดเด่นของรุ่นนี้คือการใช้ไดรเวอร์ HXDT ขนาดใหญ่ถึง 58 มม. ที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เสียงมีความชัดเจน ละเอียด และเป็นธรรมชาติที่สุดเท่าที่เคยมีมา

    ตัวไดรเวอร์ถูกติดตั้งด้วยเทคโนโลยี Core Mount ที่วาง voice coil ไว้ตรงกลางของ housing เพื่อให้ตำแหน่งเสียงแม่นยำสูงสุด โครงสร้างของหูฟังใช้วัสดุอลูมิเนียมแบบรังผึ้งและแมกนีเซียมอัลลอยด์ ทำให้มีน้ำหนักเบาเพียง 270 กรัม และช่วยลดการสั่นสะเทือนที่ไม่พึงประสงค์

    ATH-ADX7000 มาพร้อมสายถอดได้ 2 แบบ ได้แก่ สาย balanced แบบ 4-pin XLRM และสาย unbalanced แบบ 6.3 มม. พร้อมกล่องแข็งสำหรับพกพา โดยจะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม ในราคา $3,499 (ประมาณ 126,000 บาท)

    จุดเด่นของ ATH-ADX7000
    ใช้ไดรเวอร์ HXDT ขนาด 58 มม. ที่พัฒนาขึ้นใหม่
    ติดตั้งด้วยเทคโนโลยี Core Mount เพื่อความแม่นยำของเสียง
    โครงสร้างอลูมิเนียมรังผึ้งและแมกนีเซียมอัลลอยด์ น้ำหนักเบาเพียง 270 กรัม
    มาพร้อมสายถอดได้ 2 แบบ: balanced และ unbalanced
    รวมกล่องแข็งสำหรับพกพา และมีหมายเลขซีเรียลเฉพาะแต่ละตัว

    การออกแบบเพื่อคุณภาพเสียงสูงสุด
    ดีไซน์ open-back เพื่อความโปร่งของเสียง
    วัสดุช่วยลดการสั่นสะเทือนและเพิ่มความบริสุทธิ์ของเสียง
    รองรับการใช้งานกับแอมป์ระดับสูงสำหรับผู้ฟังออดิโอไฟล์

    การวางจำหน่าย
    เริ่มวางขายวันที่ 31 ตุลาคม
    ราคา $3,499 หรือประมาณ 126,000 บาท
    ถือเป็นหูฟังระดับไฮเอนด์ที่เหนือกว่าหูฟังทั่วไปในตลาด

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    ราคาสูงมาก เหมาะเฉพาะผู้ใช้งานระดับออดิโอไฟล์จริงจัง
    ต้องใช้แอมป์คุณภาพสูงเพื่อดึงศักยภาพของหูฟังออกมาเต็มที่
    ดีไซน์ open-back ไม่เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่สาธารณะหรือเสียงรบกวนเยอะ
    น้ำหนักเบาแต่ยังต้องพิจารณาความสบายในการใช้งานระยะยาว

    https://www.techradar.com/televisions/japanese-hi-fi-great-audio-technica-just-launched-a-pair-of-hardcore-audiophile-headphones-with-a-new-driver-and-ultra-precise-audio-design
    🎧 Audio-Technica เปิดตัว ATH-ADX7000 – หูฟังระดับออดิโอไฟล์รุ่นใหม่ พร้อมไดรเวอร์ 58 มม. และดีไซน์แม่นยำขั้นสุด Audio-Technica แบรนด์เครื่องเสียงชื่อดังจากญี่ปุ่นเปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ ATH-ADX7000 ซึ่งเป็นหูฟังแบบ open-back ที่ออกแบบมาเพื่อผู้ฟังระดับออดิโอไฟล์โดยเฉพาะ จุดเด่นของรุ่นนี้คือการใช้ไดรเวอร์ HXDT ขนาดใหญ่ถึง 58 มม. ที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เสียงมีความชัดเจน ละเอียด และเป็นธรรมชาติที่สุดเท่าที่เคยมีมา ตัวไดรเวอร์ถูกติดตั้งด้วยเทคโนโลยี Core Mount ที่วาง voice coil ไว้ตรงกลางของ housing เพื่อให้ตำแหน่งเสียงแม่นยำสูงสุด โครงสร้างของหูฟังใช้วัสดุอลูมิเนียมแบบรังผึ้งและแมกนีเซียมอัลลอยด์ ทำให้มีน้ำหนักเบาเพียง 270 กรัม และช่วยลดการสั่นสะเทือนที่ไม่พึงประสงค์ ATH-ADX7000 มาพร้อมสายถอดได้ 2 แบบ ได้แก่ สาย balanced แบบ 4-pin XLRM และสาย unbalanced แบบ 6.3 มม. พร้อมกล่องแข็งสำหรับพกพา โดยจะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม ในราคา $3,499 (ประมาณ 126,000 บาท) ✅ จุดเด่นของ ATH-ADX7000 ➡️ ใช้ไดรเวอร์ HXDT ขนาด 58 มม. ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ➡️ ติดตั้งด้วยเทคโนโลยี Core Mount เพื่อความแม่นยำของเสียง ➡️ โครงสร้างอลูมิเนียมรังผึ้งและแมกนีเซียมอัลลอยด์ น้ำหนักเบาเพียง 270 กรัม ➡️ มาพร้อมสายถอดได้ 2 แบบ: balanced และ unbalanced ➡️ รวมกล่องแข็งสำหรับพกพา และมีหมายเลขซีเรียลเฉพาะแต่ละตัว ✅ การออกแบบเพื่อคุณภาพเสียงสูงสุด ➡️ ดีไซน์ open-back เพื่อความโปร่งของเสียง ➡️ วัสดุช่วยลดการสั่นสะเทือนและเพิ่มความบริสุทธิ์ของเสียง ➡️ รองรับการใช้งานกับแอมป์ระดับสูงสำหรับผู้ฟังออดิโอไฟล์ ✅ การวางจำหน่าย ➡️ เริ่มวางขายวันที่ 31 ตุลาคม ➡️ ราคา $3,499 หรือประมาณ 126,000 บาท ➡️ ถือเป็นหูฟังระดับไฮเอนด์ที่เหนือกว่าหูฟังทั่วไปในตลาด ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ ราคาสูงมาก เหมาะเฉพาะผู้ใช้งานระดับออดิโอไฟล์จริงจัง ⛔ ต้องใช้แอมป์คุณภาพสูงเพื่อดึงศักยภาพของหูฟังออกมาเต็มที่ ⛔ ดีไซน์ open-back ไม่เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่สาธารณะหรือเสียงรบกวนเยอะ ⛔ น้ำหนักเบาแต่ยังต้องพิจารณาความสบายในการใช้งานระยะยาว https://www.techradar.com/televisions/japanese-hi-fi-great-audio-technica-just-launched-a-pair-of-hardcore-audiophile-headphones-with-a-new-driver-and-ultra-precise-audio-design
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google Fi อัปเกรดครั้งใหญ่! เพิ่ม AI, รองรับหลายอุปกรณ์ และโปรแรงสุดครึ่งราคา

    Google Fi Wireless กำลังพลิกโฉมบริการเครือข่ายมือถือด้วยการอัปเกรดครั้งใหญ่ที่เน้นความเร็ว ความสะดวก และการใช้ AI เพื่อยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ โดยเฉพาะผู้ใช้ Android ที่ต้องการเครือข่ายที่ลื่นไหลและฉลาดขึ้น

    หนึ่งในฟีเจอร์เด่นคือการขยายเครือข่าย Wi-Fi Auto Connect+ ไปยังสนามบินและศูนย์การค้าทั่วสหรัฐฯ ซึ่งช่วยให้โทรศัพท์สลับไปยังเครือข่ายที่เร็วกว่าโดยอัตโนมัติเมื่อสัญญาณเริ่มช้า นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานหลายอุปกรณ์ เช่น แท็บเล็ตและแล็ปท็อป ที่สามารถโทร ส่งข้อความ และรับวิดีโอได้โดยไม่ต้องอยู่ใกล้โทรศัพท์

    AI ก็เข้ามามีบทบาทสำคัญ โดยช่วยลดเสียงรบกวนระหว่างการโทรแม้ปลายสายใช้โทรศัพท์บ้าน และยังสามารถสรุปบิลรายเดือน การปรับแผน และค่าใช้จ่ายผ่านแอป Google Fi ได้อีกด้วย

    Google Fi ยังจัดโปรแรงสุดสำหรับผู้ใช้ใหม่: ลด 50% นาน 15 เดือน เมื่อสมัคร Unlimited Essentials ($60/เดือน) หรือ Unlimited Standard ($80/เดือน) ก่อนวันที่ 4 พฤศจิกายน 2025

    การอัปเกรดเครือข่าย
    ขยาย Wi-Fi Auto Connect+ ไปยังสนามบินและศูนย์การค้า
    สลับเครือข่ายอัตโนมัติเมื่อสัญญาณช้า

    รองรับหลายอุปกรณ์
    โทร ส่งข้อความ รับวิดีโอจากแท็บเล็ตหรือแล็ปท็อป
    ไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้โทรศัพท์

    ฟีเจอร์ AI ใหม่
    ลดเสียงรบกวนระหว่างการโทร แม้ปลายสายใช้โทรศัพท์บ้าน
    สรุปบิลรายเดือนและข้อมูลแผนผ่านแอป Google Fi

    โปรโมชันพิเศษ
    ลด 50% นาน 15 เดือน สำหรับผู้ใช้ใหม่
    ใช้ได้กับ Unlimited Essentials ($60/เดือน) และ Unlimited Standard ($80/เดือน)
    หมดเขตวันที่ 4 พฤศจิกายน 2025

    ความเห็นจากผู้ใช้
    WhistleOut ให้คะแนน 4.0/5 สำหรับความเร็วและความคุ้มค่า
    เหมาะกับผู้ใช้ที่เดินทางบ่อยและต้องการเครือข่ายที่ยืดหยุ่น

    คำเตือนจากรีวิว Trustpilot
    คะแนนต่ำเพียง 1.1/5 จากกว่า 400 รีวิว
    ปัญหาด้านบริการลูกค้าและบิลที่สับสน
    ปัญหาการเชื่อมต่อในพื้นที่ที่เคยมีสัญญาณดี

    คำแนะนำก่อนสมัคร
    ตรวจสอบพื้นที่ที่คุณใช้งานว่ารองรับสัญญาณ Google Fi หรือไม่
    อ่านเงื่อนไขโปรโมชันอย่างละเอียดก่อนสมัคร
    เปรียบเทียบกับผู้ให้บริการอื่นเพื่อดูว่าคุ้มค่าจริงหรือไม่

    https://www.slashgear.com/2005515/google-fi-wireless-upgrade-new-ai-features/
    📶 Google Fi อัปเกรดครั้งใหญ่! เพิ่ม AI, รองรับหลายอุปกรณ์ และโปรแรงสุดครึ่งราคา Google Fi Wireless กำลังพลิกโฉมบริการเครือข่ายมือถือด้วยการอัปเกรดครั้งใหญ่ที่เน้นความเร็ว ความสะดวก และการใช้ AI เพื่อยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ โดยเฉพาะผู้ใช้ Android ที่ต้องการเครือข่ายที่ลื่นไหลและฉลาดขึ้น หนึ่งในฟีเจอร์เด่นคือการขยายเครือข่าย Wi-Fi Auto Connect+ ไปยังสนามบินและศูนย์การค้าทั่วสหรัฐฯ ซึ่งช่วยให้โทรศัพท์สลับไปยังเครือข่ายที่เร็วกว่าโดยอัตโนมัติเมื่อสัญญาณเริ่มช้า นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานหลายอุปกรณ์ เช่น แท็บเล็ตและแล็ปท็อป ที่สามารถโทร ส่งข้อความ และรับวิดีโอได้โดยไม่ต้องอยู่ใกล้โทรศัพท์ AI ก็เข้ามามีบทบาทสำคัญ โดยช่วยลดเสียงรบกวนระหว่างการโทรแม้ปลายสายใช้โทรศัพท์บ้าน และยังสามารถสรุปบิลรายเดือน การปรับแผน และค่าใช้จ่ายผ่านแอป Google Fi ได้อีกด้วย Google Fi ยังจัดโปรแรงสุดสำหรับผู้ใช้ใหม่: ลด 50% นาน 15 เดือน เมื่อสมัคร Unlimited Essentials ($60/เดือน) หรือ Unlimited Standard ($80/เดือน) ก่อนวันที่ 4 พฤศจิกายน 2025 ✅ การอัปเกรดเครือข่าย ➡️ ขยาย Wi-Fi Auto Connect+ ไปยังสนามบินและศูนย์การค้า ➡️ สลับเครือข่ายอัตโนมัติเมื่อสัญญาณช้า ✅ รองรับหลายอุปกรณ์ ➡️ โทร ส่งข้อความ รับวิดีโอจากแท็บเล็ตหรือแล็ปท็อป ➡️ ไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้โทรศัพท์ ✅ ฟีเจอร์ AI ใหม่ ➡️ ลดเสียงรบกวนระหว่างการโทร แม้ปลายสายใช้โทรศัพท์บ้าน ➡️ สรุปบิลรายเดือนและข้อมูลแผนผ่านแอป Google Fi ✅ โปรโมชันพิเศษ ➡️ ลด 50% นาน 15 เดือน สำหรับผู้ใช้ใหม่ ➡️ ใช้ได้กับ Unlimited Essentials ($60/เดือน) และ Unlimited Standard ($80/เดือน) ➡️ หมดเขตวันที่ 4 พฤศจิกายน 2025 ✅ ความเห็นจากผู้ใช้ ➡️ WhistleOut ให้คะแนน 4.0/5 สำหรับความเร็วและความคุ้มค่า ➡️ เหมาะกับผู้ใช้ที่เดินทางบ่อยและต้องการเครือข่ายที่ยืดหยุ่น ‼️ คำเตือนจากรีวิว Trustpilot ⛔ คะแนนต่ำเพียง 1.1/5 จากกว่า 400 รีวิว ⛔ ปัญหาด้านบริการลูกค้าและบิลที่สับสน ⛔ ปัญหาการเชื่อมต่อในพื้นที่ที่เคยมีสัญญาณดี ‼️ คำแนะนำก่อนสมัคร ⛔ ตรวจสอบพื้นที่ที่คุณใช้งานว่ารองรับสัญญาณ Google Fi หรือไม่ ⛔ อ่านเงื่อนไขโปรโมชันอย่างละเอียดก่อนสมัคร ⛔ เปรียบเทียบกับผู้ให้บริการอื่นเพื่อดูว่าคุ้มค่าจริงหรือไม่ https://www.slashgear.com/2005515/google-fi-wireless-upgrade-new-ai-features/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Google Fi Wireless Is Adding New Features - Here's What To Expect With The Upgrade - SlashGear
    Budget mobile plans continue to grow as people look to cut costs where they can, and Google Fi is incentivizing customers with some brand-new features.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • Quantum Echoes: Google สร้างประวัติศาสตร์ด้วยอัลกอริธึมควอนตัมที่ “เหนือกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์” 13,000 เท่า

    Google Quantum AI ประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญในโลกควอนตัม ด้วยการเปิดตัวอัลกอริธึมใหม่ชื่อว่า “Quantum Echoes” ซึ่งสามารถรันบนชิปควอนตัม Willow และแสดงให้เห็นถึง “quantum advantage” ที่สามารถตรวจสอบได้จริงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ นั่นหมายความว่าอัลกอริธึมนี้สามารถทำงานได้เร็วกว่าและแม่นยำกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทั่วไปถึง 13,000 เท่า!

    Quantum Echoes ใช้เทคนิคการส่งสัญญาณเข้าไปในระบบควอนตัม แล้วย้อนกลับสัญญาณเพื่อฟัง “เสียงสะท้อน” ที่เกิดจากการรบกวน qubit หนึ่งตัว ซึ่งเสียงสะท้อนนี้จะถูกขยายด้วยปรากฏการณ์ interference ทำให้สามารถวัดผลได้อย่างแม่นยำมาก

    อัลกอริธึมนี้สามารถใช้วิเคราะห์โครงสร้างของโมเลกุลและระบบธรรมชาติ เช่น แม่เหล็กหรือแม้แต่หลุมดำ โดยในงานวิจัยร่วมกับ UC Berkeley ทีมงานได้ใช้ Quantum Echoes เพื่อวิเคราะห์โมเลกุลขนาด 15 และ 28 อะตอม และได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับเทคนิค Nuclear Magnetic Resonance (NMR) แบบดั้งเดิม พร้อมเผยข้อมูลที่ NMR ไม่สามารถให้ได้

    นี่คือก้าวสำคัญสู่การใช้ควอนตัมคอมพิวเตอร์ในโลกจริง เช่น การค้นคว้ายาใหม่ การออกแบบวัสดุ หรือการวิเคราะห์โครงสร้างอะตอมในระดับที่ไม่เคยทำได้มาก่อน

    ความสำเร็จของ Quantum Echoes
    เป็นอัลกอริธึมแรกที่แสดง “verifiable quantum advantage” ได้จริง
    รันบนชิป Willow ของ Google Quantum AI
    เร็วกว่าอัลกอริธึมคลาสสิกบนซูเปอร์คอมพิวเตอร์ถึง 13,000 เท่า

    วิธีการทำงานของ Quantum Echoes
    ส่งสัญญาณเข้าไปในระบบควอนตัม
    รบกวน qubit หนึ่งตัว แล้วย้อนสัญญาณเพื่อฟัง “เสียงสะท้อน”
    ใช้ interference เพื่อขยายผลการวัดให้แม่นยำ

    การประยุกต์ใช้งานจริง
    วิเคราะห์โครงสร้างโมเลกุลและระบบธรรมชาติ
    ใช้ข้อมูลจาก NMR เพื่อวัดโครงสร้างเคมีได้แม่นยำขึ้น
    อาจใช้ในการค้นคว้ายา, วัสดุใหม่, พลังงานแสงอาทิตย์ และฟิวชัน

    ความร่วมมือและการทดลอง
    ร่วมมือกับ UC Berkeley ในการทดลองกับโมเลกุล 15 และ 28 อะตอม
    ผลลัพธ์ตรงกับ NMR และให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ NMR ไม่สามารถให้ได้
    เป็นก้าวแรกสู่ “quantum-scope” ที่สามารถวัดปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

    https://blog.google/technology/research/quantum-echoes-willow-verifiable-quantum-advantage/
    ⚛️ Quantum Echoes: Google สร้างประวัติศาสตร์ด้วยอัลกอริธึมควอนตัมที่ “เหนือกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์” 13,000 เท่า Google Quantum AI ประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญในโลกควอนตัม ด้วยการเปิดตัวอัลกอริธึมใหม่ชื่อว่า “Quantum Echoes” ซึ่งสามารถรันบนชิปควอนตัม Willow และแสดงให้เห็นถึง “quantum advantage” ที่สามารถตรวจสอบได้จริงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ นั่นหมายความว่าอัลกอริธึมนี้สามารถทำงานได้เร็วกว่าและแม่นยำกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทั่วไปถึง 13,000 เท่า! Quantum Echoes ใช้เทคนิคการส่งสัญญาณเข้าไปในระบบควอนตัม แล้วย้อนกลับสัญญาณเพื่อฟัง “เสียงสะท้อน” ที่เกิดจากการรบกวน qubit หนึ่งตัว ซึ่งเสียงสะท้อนนี้จะถูกขยายด้วยปรากฏการณ์ interference ทำให้สามารถวัดผลได้อย่างแม่นยำมาก อัลกอริธึมนี้สามารถใช้วิเคราะห์โครงสร้างของโมเลกุลและระบบธรรมชาติ เช่น แม่เหล็กหรือแม้แต่หลุมดำ โดยในงานวิจัยร่วมกับ UC Berkeley ทีมงานได้ใช้ Quantum Echoes เพื่อวิเคราะห์โมเลกุลขนาด 15 และ 28 อะตอม และได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับเทคนิค Nuclear Magnetic Resonance (NMR) แบบดั้งเดิม พร้อมเผยข้อมูลที่ NMR ไม่สามารถให้ได้ นี่คือก้าวสำคัญสู่การใช้ควอนตัมคอมพิวเตอร์ในโลกจริง เช่น การค้นคว้ายาใหม่ การออกแบบวัสดุ หรือการวิเคราะห์โครงสร้างอะตอมในระดับที่ไม่เคยทำได้มาก่อน ✅ ความสำเร็จของ Quantum Echoes ➡️ เป็นอัลกอริธึมแรกที่แสดง “verifiable quantum advantage” ได้จริง ➡️ รันบนชิป Willow ของ Google Quantum AI ➡️ เร็วกว่าอัลกอริธึมคลาสสิกบนซูเปอร์คอมพิวเตอร์ถึง 13,000 เท่า ✅ วิธีการทำงานของ Quantum Echoes ➡️ ส่งสัญญาณเข้าไปในระบบควอนตัม ➡️ รบกวน qubit หนึ่งตัว แล้วย้อนสัญญาณเพื่อฟัง “เสียงสะท้อน” ➡️ ใช้ interference เพื่อขยายผลการวัดให้แม่นยำ ✅ การประยุกต์ใช้งานจริง ➡️ วิเคราะห์โครงสร้างโมเลกุลและระบบธรรมชาติ ➡️ ใช้ข้อมูลจาก NMR เพื่อวัดโครงสร้างเคมีได้แม่นยำขึ้น ➡️ อาจใช้ในการค้นคว้ายา, วัสดุใหม่, พลังงานแสงอาทิตย์ และฟิวชัน ✅ ความร่วมมือและการทดลอง ➡️ ร่วมมือกับ UC Berkeley ในการทดลองกับโมเลกุล 15 และ 28 อะตอม ➡️ ผลลัพธ์ตรงกับ NMR และให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ NMR ไม่สามารถให้ได้ ➡️ เป็นก้าวแรกสู่ “quantum-scope” ที่สามารถวัดปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่เคยเห็นมาก่อน https://blog.google/technology/research/quantum-echoes-willow-verifiable-quantum-advantage/
    BLOG.GOOGLE
    Our Quantum Echoes algorithm is a big step toward real-world applications for quantum computing
    Our latest quantum breakthrough, Quantum Echoes, offers a path toward unprecedented scientific discoveries and analysis.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple กับคำถามที่ยังค้างคา: “ความใส่ใจในรายละเอียดหายไปไหน?”

    หากคุณเคยหลงรัก Apple เพราะความเรียบง่าย ความสวยงาม และความใส่ใจในรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ คุณอาจรู้สึกเหมือนถูกหักหลังในยุคหลังๆ โดยเฉพาะเมื่อได้สัมผัสกับ iOS 26 และ macOS 26 ที่เต็มไปด้วยความไม่ลงตัว ความไม่สอดคล้อง และประสบการณ์ผู้ใช้ที่ชวนให้หงุดหงิด

    John Ozbay นักพัฒนาและนักออกแบบที่เคยหลงใหลใน Apple ได้เขียนบล็อกที่สะท้อนความผิดหวังอย่างลึกซึ้งต่อการเปลี่ยนแปลงของ Apple ในช่วง 8–10 ปีที่ผ่านมา เขายกตัวอย่างมากมายที่แสดงให้เห็นว่า Apple อาจละเลยหลักการออกแบบที่เคยเป็นหัวใจของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดวาง search bar ที่ไม่สอดคล้องกันในแต่ละแอป การแจ้งเตือนที่รบกวนการทำงาน การออกแบบ UI ที่ไม่เหมาะกับ dark mode หรือแม้แต่การบังคับให้เบราว์เซอร์ third-party ใช้ WebKit ที่เต็มไปด้วยบั๊ก

    สิ่งที่น่าตกใจคือ Apple ไม่เพียงแค่ไม่แก้ไขปัญหาเก่า แต่ยังเพิ่มปัญหาใหม่ๆ เข้ามาอีก เช่น การออกแบบ “liquid glass” ที่ทำให้ข้อความใน iMessage อ่านยาก การจัดวาง UI ที่ไม่สอดคล้องกันระหว่างแอป และการทำให้ control center กลายเป็น “ดิสโก้บอล” ที่ใช้งานยาก

    ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงคำถามสำคัญว่า Apple ยังให้ความสำคัญกับประสบการณ์ผู้ใช้อยู่หรือไม่ หรือกำลังหลงทางไปกับการออกแบบที่เน้นความฉูดฉาดมากกว่าความเรียบง่ายที่เคยเป็นจุดแข็ง

    ความเปลี่ยนแปลงในผลิตภัณฑ์ Apple
    iOS 26 และ macOS 26 มีปัญหาด้าน UI/UX มากมาย
    Search bar ถูกวางไว้ต่างกันในแต่ละแอป ทำให้ใช้งานยาก
    Reminders app รบกวนผู้ใช้ด้วย popup ขอสิทธิ์ซ้ำๆ
    Dark mode ใน Files app ทำให้บางองค์ประกอบมองไม่เห็น
    Share sheet และ Settings มีปัญหาในการแสดงผลไอคอน
    Safari และเบราว์เซอร์อื่นมีปัญหา viewport และปุ่มกระพริบ
    iMessage มีพื้นหลังที่ทำให้ข้อความอ่านยาก
    App Library แสดงไอคอนไม่ครบหรือไม่เสถียร

    ปัญหาด้านเทคโนโลยีและการบังคับใช้
    Apple บังคับให้เบราว์เซอร์ third-party ใช้ WebKit ที่มีบั๊ก
    การเปลี่ยน tab ใน Safari ต้องใช้สองขั้นตอนและมีเอฟเฟกต์รบกวน
    Liquid glass UI ไม่เหมาะกับหน้าจอขนาดเล็ก เช่น iPhone mini

    มุมมองจากนักพัฒนา
    John Ozbay และนักออกแบบหลายคนเริ่มหมดศรัทธาใน Apple
    Nielsen Norman Group ก็วิจารณ์ liquid glass ว่าเป็นการออกแบบที่ไม่เหมาะสม
    การออกแบบที่ไม่สอดคล้องกันสะท้อนถึงการขาดแนวทางร่วมของทีม

    https://blog.johnozbay.com/what-happened-to-apples-attention-to-detail.html
    🍎 Apple กับคำถามที่ยังค้างคา: “ความใส่ใจในรายละเอียดหายไปไหน?” หากคุณเคยหลงรัก Apple เพราะความเรียบง่าย ความสวยงาม และความใส่ใจในรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ คุณอาจรู้สึกเหมือนถูกหักหลังในยุคหลังๆ โดยเฉพาะเมื่อได้สัมผัสกับ iOS 26 และ macOS 26 ที่เต็มไปด้วยความไม่ลงตัว ความไม่สอดคล้อง และประสบการณ์ผู้ใช้ที่ชวนให้หงุดหงิด John Ozbay นักพัฒนาและนักออกแบบที่เคยหลงใหลใน Apple ได้เขียนบล็อกที่สะท้อนความผิดหวังอย่างลึกซึ้งต่อการเปลี่ยนแปลงของ Apple ในช่วง 8–10 ปีที่ผ่านมา เขายกตัวอย่างมากมายที่แสดงให้เห็นว่า Apple อาจละเลยหลักการออกแบบที่เคยเป็นหัวใจของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดวาง search bar ที่ไม่สอดคล้องกันในแต่ละแอป การแจ้งเตือนที่รบกวนการทำงาน การออกแบบ UI ที่ไม่เหมาะกับ dark mode หรือแม้แต่การบังคับให้เบราว์เซอร์ third-party ใช้ WebKit ที่เต็มไปด้วยบั๊ก สิ่งที่น่าตกใจคือ Apple ไม่เพียงแค่ไม่แก้ไขปัญหาเก่า แต่ยังเพิ่มปัญหาใหม่ๆ เข้ามาอีก เช่น การออกแบบ “liquid glass” ที่ทำให้ข้อความใน iMessage อ่านยาก การจัดวาง UI ที่ไม่สอดคล้องกันระหว่างแอป และการทำให้ control center กลายเป็น “ดิสโก้บอล” ที่ใช้งานยาก ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงคำถามสำคัญว่า Apple ยังให้ความสำคัญกับประสบการณ์ผู้ใช้อยู่หรือไม่ หรือกำลังหลงทางไปกับการออกแบบที่เน้นความฉูดฉาดมากกว่าความเรียบง่ายที่เคยเป็นจุดแข็ง ✅ ความเปลี่ยนแปลงในผลิตภัณฑ์ Apple ➡️ iOS 26 และ macOS 26 มีปัญหาด้าน UI/UX มากมาย ➡️ Search bar ถูกวางไว้ต่างกันในแต่ละแอป ทำให้ใช้งานยาก ➡️ Reminders app รบกวนผู้ใช้ด้วย popup ขอสิทธิ์ซ้ำๆ ➡️ Dark mode ใน Files app ทำให้บางองค์ประกอบมองไม่เห็น ➡️ Share sheet และ Settings มีปัญหาในการแสดงผลไอคอน ➡️ Safari และเบราว์เซอร์อื่นมีปัญหา viewport และปุ่มกระพริบ ➡️ iMessage มีพื้นหลังที่ทำให้ข้อความอ่านยาก ➡️ App Library แสดงไอคอนไม่ครบหรือไม่เสถียร ✅ ปัญหาด้านเทคโนโลยีและการบังคับใช้ ➡️ Apple บังคับให้เบราว์เซอร์ third-party ใช้ WebKit ที่มีบั๊ก ➡️ การเปลี่ยน tab ใน Safari ต้องใช้สองขั้นตอนและมีเอฟเฟกต์รบกวน ➡️ Liquid glass UI ไม่เหมาะกับหน้าจอขนาดเล็ก เช่น iPhone mini ✅ มุมมองจากนักพัฒนา ➡️ John Ozbay และนักออกแบบหลายคนเริ่มหมดศรัทธาใน Apple ➡️ Nielsen Norman Group ก็วิจารณ์ liquid glass ว่าเป็นการออกแบบที่ไม่เหมาะสม ➡️ การออกแบบที่ไม่สอดคล้องกันสะท้อนถึงการขาดแนวทางร่วมของทีม https://blog.johnozbay.com/what-happened-to-apples-attention-to-detail.html
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Nvidia H100 เตรียมขึ้นสู่อวกาศ! Crusoe จับมือ Starcloud สร้างศูนย์ข้อมูล AI พลังแสงอาทิตย์นอกโลก”

    Crusoe บริษัทผู้ให้บริการคลาวด์ AI และ Starcloud สตาร์ทอัพจาก Redmond กำลังจะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการเทคโนโลยี ด้วยการส่ง Nvidia H100 GPU ขึ้นสู่วงโคจรโลก เพื่อสร้าง “ศูนย์ข้อมูล AI พลังแสงอาทิตย์ในอวกาศ” เป็นครั้งแรกของโลก

    แนวคิดนี้คือการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่ไม่มีสิ่งกีดขวางในอวกาศ (ไม่มีเมฆ ไม่มีเวลากลางคืน) เพื่อจ่ายไฟให้กับระบบประมวลผล AI ที่ใช้พลังงานสูงอย่าง H100 โดยไม่ต้องพึ่งพาโครงข่ายไฟฟ้าบนโลก ซึ่งมีข้อจำกัดด้านต้นทุนและสิ่งแวดล้อม

    Starcloud จะเป็นผู้สร้างดาวเทียมที่ติดตั้งศูนย์ข้อมูลขนาดเล็ก พร้อมแผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ และระบบระบายความร้อนที่ใช้ “สูญญากาศของอวกาศ” เป็น heat sink แบบไร้ขีดจำกัด ส่วน Crusoe จะเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ AI ที่รันบนระบบเหล่านี้

    ดาวเทียมดวงแรกของ Starcloud จะถูกปล่อยขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2025 และ Crusoe จะเริ่มให้บริการคลาวด์จากอวกาศในช่วงต้นปี 2027 โดยมีแผนขยายกำลังประมวลผลเป็นระดับกิกะวัตต์ในอนาคต

    ความร่วมมือระหว่าง Crusoe และ Starcloud
    ส่ง Nvidia H100 GPU ขึ้นสู่อวกาศเพื่อใช้ในศูนย์ข้อมูล AI
    ใช้พลังงานแสงอาทิตย์จากอวกาศที่ไม่มีสิ่งกีดขวาง
    ลดต้นทุนพลังงานได้ถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับบนโลก
    ใช้สูญญากาศในอวกาศเป็น heat sink สำหรับระบายความร้อน
    ไม่ใช้พื้นที่บนโลกและไม่รบกวนโครงข่ายไฟฟ้า

    แผนการดำเนินงาน
    ดาวเทียมดวงแรกจะปล่อยในพฤศจิกายน 2025
    Crusoe Cloud จะเริ่มให้บริการจากอวกาศต้นปี 2027
    เป้าหมายคือสร้างศูนย์ข้อมูลระดับกิกะวัตต์ในอวกาศ
    Starcloud เป็นบริษัทในโครงการ Nvidia Inception
    Crusoe มีประสบการณ์วางระบบใกล้แหล่งพลังงาน เช่น แก๊สเหลือทิ้ง

    วิสัยทัศน์และผลกระทบ
    เปิดทางให้การประมวลผล AI ขยายสู่พื้นที่นอกโลก
    ลดภาระต่อสิ่งแวดล้อมและโครงสร้างพื้นฐานบนโลก
    อาจเป็นต้นแบบของ “AI factory” ในอวกาศ
    สนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรมที่ต้องการพลังประมวลผลสูง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/first-nvidia-h100-gpus-will-reach-orbit-next-month-crusoe-and-starcloud-pioneer-space-based-solar-powered-ai-compute-cloud-data-centers
    🛰️ “Nvidia H100 เตรียมขึ้นสู่อวกาศ! Crusoe จับมือ Starcloud สร้างศูนย์ข้อมูล AI พลังแสงอาทิตย์นอกโลก” Crusoe บริษัทผู้ให้บริการคลาวด์ AI และ Starcloud สตาร์ทอัพจาก Redmond กำลังจะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการเทคโนโลยี ด้วยการส่ง Nvidia H100 GPU ขึ้นสู่วงโคจรโลก เพื่อสร้าง “ศูนย์ข้อมูล AI พลังแสงอาทิตย์ในอวกาศ” เป็นครั้งแรกของโลก แนวคิดนี้คือการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่ไม่มีสิ่งกีดขวางในอวกาศ (ไม่มีเมฆ ไม่มีเวลากลางคืน) เพื่อจ่ายไฟให้กับระบบประมวลผล AI ที่ใช้พลังงานสูงอย่าง H100 โดยไม่ต้องพึ่งพาโครงข่ายไฟฟ้าบนโลก ซึ่งมีข้อจำกัดด้านต้นทุนและสิ่งแวดล้อม Starcloud จะเป็นผู้สร้างดาวเทียมที่ติดตั้งศูนย์ข้อมูลขนาดเล็ก พร้อมแผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ และระบบระบายความร้อนที่ใช้ “สูญญากาศของอวกาศ” เป็น heat sink แบบไร้ขีดจำกัด ส่วน Crusoe จะเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ AI ที่รันบนระบบเหล่านี้ ดาวเทียมดวงแรกของ Starcloud จะถูกปล่อยขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2025 และ Crusoe จะเริ่มให้บริการคลาวด์จากอวกาศในช่วงต้นปี 2027 โดยมีแผนขยายกำลังประมวลผลเป็นระดับกิกะวัตต์ในอนาคต ✅ ความร่วมมือระหว่าง Crusoe และ Starcloud ➡️ ส่ง Nvidia H100 GPU ขึ้นสู่อวกาศเพื่อใช้ในศูนย์ข้อมูล AI ➡️ ใช้พลังงานแสงอาทิตย์จากอวกาศที่ไม่มีสิ่งกีดขวาง ➡️ ลดต้นทุนพลังงานได้ถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับบนโลก ➡️ ใช้สูญญากาศในอวกาศเป็น heat sink สำหรับระบายความร้อน ➡️ ไม่ใช้พื้นที่บนโลกและไม่รบกวนโครงข่ายไฟฟ้า ✅ แผนการดำเนินงาน ➡️ ดาวเทียมดวงแรกจะปล่อยในพฤศจิกายน 2025 ➡️ Crusoe Cloud จะเริ่มให้บริการจากอวกาศต้นปี 2027 ➡️ เป้าหมายคือสร้างศูนย์ข้อมูลระดับกิกะวัตต์ในอวกาศ ➡️ Starcloud เป็นบริษัทในโครงการ Nvidia Inception ➡️ Crusoe มีประสบการณ์วางระบบใกล้แหล่งพลังงาน เช่น แก๊สเหลือทิ้ง ✅ วิสัยทัศน์และผลกระทบ ➡️ เปิดทางให้การประมวลผล AI ขยายสู่พื้นที่นอกโลก ➡️ ลดภาระต่อสิ่งแวดล้อมและโครงสร้างพื้นฐานบนโลก ➡️ อาจเป็นต้นแบบของ “AI factory” ในอวกาศ ➡️ สนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรมที่ต้องการพลังประมวลผลสูง https://www.tomshardware.com/tech-industry/first-nvidia-h100-gpus-will-reach-orbit-next-month-crusoe-and-starcloud-pioneer-space-based-solar-powered-ai-compute-cloud-data-centers
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Nvidia's H100 GPUs are going to space — Crusoe and Starcloud pioneer space-based solar-powered AI compute cloud data centers
    Space age partners claim the H100 delivers ‘100x more powerful GPU (AI) compute than has been in space before.’
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • รบกวนเรียก "อ.ท่านนั้น" มาฟัง อ.ปานเทพ ด่วน! (22/10/68)

    #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #อปานเทพ #การเมืองไทย #ข่าววิเคราะห์ #ข่าววันนี้ #ข่าวร้อน #newsupdate #ข่าวtiktok
    รบกวนเรียก "อ.ท่านนั้น" มาฟัง อ.ปานเทพ ด่วน! (22/10/68) #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #อปานเทพ #การเมืองไทย #ข่าววิเคราะห์ #ข่าววันนี้ #ข่าวร้อน #newsupdate #ข่าวtiktok
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • “RoBERTa Diffusion: เมื่อ BERT กลายเป็นโมเดลสร้างข้อความผ่านกระบวนการ ‘ลบสัญญาณรบกวน’” — จากภาพสู่ภาษา: การประยุกต์ diffusion model กับการสร้างข้อความแบบใหม่

    บทความจาก Nathan.rs นำเสนอแนวคิดที่น่าสนใจว่า BERT ซึ่งเป็นโมเดลภาษายอดนิยม อาจเป็นเพียง “กรณีย่อย” ของโมเดล diffusion สำหรับภาษา โดยอธิบายว่า masked language modeling (MLM) ที่ใช้ใน BERT มีโครงสร้างคล้ายกับการลบสัญญาณรบกวน (denoising) ใน diffusion model ที่ใช้ในงานสร้างภาพ

    แนวคิดนี้เริ่มจากการศึกษางานของ Google DeepMind ที่เปิดตัว Gemini Diffusion ซึ่งสร้างข้อความโดยเริ่มจาก noise แล้วค่อย ๆ refine ให้กลายเป็นข้อความที่มีความหมาย — ต่างจาก GPT ที่สร้างทีละ token แบบ autoregressive

    Nathan เสนอว่า BERT เองก็สามารถนำมาใช้สร้างข้อความได้ หากเปลี่ยนจากการ mask แบบคงที่ มาเป็นการ mask แบบไล่ระดับ (จากน้อยไปมาก แล้วค่อย ๆ ลดกลับลงมา) ซึ่งคล้ายกับกระบวนการ diffusion ในภาพ

    เขาเรียกแนวทางนี้ว่า “RoBERTa Diffusion” โดยใช้ RoBERTa (เวอร์ชันปรับปรุงของ BERT) มาฝึกแบบใหม่บน WikiText dataset ด้วยการสุ่มระดับการ mask และฝึกให้โมเดลเดา token ที่หายไปในแต่ละขั้นตอน

    ผลลัพธ์ที่ได้คือข้อความที่สร้างขึ้นมีความต่อเนื่องและสมเหตุสมผล แม้จะยังไม่เทียบเท่า GPT-2 แต่ก็ถือเป็น “proof of concept” ที่แสดงให้เห็นว่าโมเดล encoder-only อย่าง BERT ก็สามารถใช้สร้างข้อความได้ หากปรับวิธีการฝึกให้เหมาะสม

    Gemini Diffusion ของ Google DeepMind ใช้ diffusion model สร้างข้อความจาก noise
    ต่างจาก GPT ที่สร้างทีละ token แบบ autoregressive

    BERT ใช้ masked language modeling (MLM) ซึ่งคล้ายกับการ denoise
    เหมาะกับการประยุกต์เป็น diffusion model สำหรับภาษา

    RoBERTa เป็นเวอร์ชันปรับปรุงของ BERT ที่ใช้ MLM อย่างเดียว
    ไม่มีการทำนายประโยคถัดไป (next sentence prediction)

    RoBERTa Diffusion ใช้การ mask แบบไล่ระดับในหลายขั้นตอน
    ฝึกให้โมเดลเดา token ที่หายไปในแต่ละระดับ

    ใช้ WikiText dataset และ HuggingFace library ในการฝึก
    พร้อม diffusion_collator ที่สุ่มระดับการ mask

    ผลลัพธ์ที่ได้มีความต่อเนื่องและสมเหตุสมผล
    แม้จะยังช้ากว่า GPT-2 (~13 วินาที vs ~9 วินาที)

    แนวคิดนี้สามารถต่อยอดด้วยเทคนิคใหม่ เช่น AR-Diffusion และ Skip-Step Diffusion
    เพื่อเพิ่มคุณภาพและความเร็วในการสร้างข้อความ

    https://nathan.rs/posts/roberta-diffusion/
    🧠 “RoBERTa Diffusion: เมื่อ BERT กลายเป็นโมเดลสร้างข้อความผ่านกระบวนการ ‘ลบสัญญาณรบกวน’” — จากภาพสู่ภาษา: การประยุกต์ diffusion model กับการสร้างข้อความแบบใหม่ บทความจาก Nathan.rs นำเสนอแนวคิดที่น่าสนใจว่า BERT ซึ่งเป็นโมเดลภาษายอดนิยม อาจเป็นเพียง “กรณีย่อย” ของโมเดล diffusion สำหรับภาษา โดยอธิบายว่า masked language modeling (MLM) ที่ใช้ใน BERT มีโครงสร้างคล้ายกับการลบสัญญาณรบกวน (denoising) ใน diffusion model ที่ใช้ในงานสร้างภาพ แนวคิดนี้เริ่มจากการศึกษางานของ Google DeepMind ที่เปิดตัว Gemini Diffusion ซึ่งสร้างข้อความโดยเริ่มจาก noise แล้วค่อย ๆ refine ให้กลายเป็นข้อความที่มีความหมาย — ต่างจาก GPT ที่สร้างทีละ token แบบ autoregressive Nathan เสนอว่า BERT เองก็สามารถนำมาใช้สร้างข้อความได้ หากเปลี่ยนจากการ mask แบบคงที่ มาเป็นการ mask แบบไล่ระดับ (จากน้อยไปมาก แล้วค่อย ๆ ลดกลับลงมา) ซึ่งคล้ายกับกระบวนการ diffusion ในภาพ เขาเรียกแนวทางนี้ว่า “RoBERTa Diffusion” โดยใช้ RoBERTa (เวอร์ชันปรับปรุงของ BERT) มาฝึกแบบใหม่บน WikiText dataset ด้วยการสุ่มระดับการ mask และฝึกให้โมเดลเดา token ที่หายไปในแต่ละขั้นตอน ผลลัพธ์ที่ได้คือข้อความที่สร้างขึ้นมีความต่อเนื่องและสมเหตุสมผล แม้จะยังไม่เทียบเท่า GPT-2 แต่ก็ถือเป็น “proof of concept” ที่แสดงให้เห็นว่าโมเดล encoder-only อย่าง BERT ก็สามารถใช้สร้างข้อความได้ หากปรับวิธีการฝึกให้เหมาะสม ✅ Gemini Diffusion ของ Google DeepMind ใช้ diffusion model สร้างข้อความจาก noise ➡️ ต่างจาก GPT ที่สร้างทีละ token แบบ autoregressive ✅ BERT ใช้ masked language modeling (MLM) ซึ่งคล้ายกับการ denoise ➡️ เหมาะกับการประยุกต์เป็น diffusion model สำหรับภาษา ✅ RoBERTa เป็นเวอร์ชันปรับปรุงของ BERT ที่ใช้ MLM อย่างเดียว ➡️ ไม่มีการทำนายประโยคถัดไป (next sentence prediction) ✅ RoBERTa Diffusion ใช้การ mask แบบไล่ระดับในหลายขั้นตอน ➡️ ฝึกให้โมเดลเดา token ที่หายไปในแต่ละระดับ ✅ ใช้ WikiText dataset และ HuggingFace library ในการฝึก ➡️ พร้อม diffusion_collator ที่สุ่มระดับการ mask ✅ ผลลัพธ์ที่ได้มีความต่อเนื่องและสมเหตุสมผล ➡️ แม้จะยังช้ากว่า GPT-2 (~13 วินาที vs ~9 วินาที) ✅ แนวคิดนี้สามารถต่อยอดด้วยเทคนิคใหม่ เช่น AR-Diffusion และ Skip-Step Diffusion ➡️ เพื่อเพิ่มคุณภาพและความเร็วในการสร้างข้อความ https://nathan.rs/posts/roberta-diffusion/
    NATHAN.RS
    BERT is just a Single Text Diffusion Step
    A while back, Google DeepMind unveiled Gemini Diffusion, an experimental language model that generates text using diffusion. Unlike traditional GPT-style models that generate one word at a time, Gemini Diffusion creates whole blocks of text by refining random noise step-by-step. I read the paper Large Language Diffusion Models and was surprised to find that discrete language diffusion is just a generalization of masked language modeling (MLM), something we’ve been doing since 2018. The first thought I had was, “can we finetune a BERT-like model to do text generation?” I decided to try a quick proof of concept out of curiosity.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เสียงที่ช่วยเยียวยา: เครื่องสร้างเสียง Neuromodulator สำหรับผู้มีอาการหูอื้อ (Tinnitus)"

    เว็บไซต์ myNoise ได้เปิดตัวเครื่องมือที่ไม่ธรรมดา—Tinnitus Neuromodulator ซึ่งเป็นเครื่องสร้างเสียงที่ออกแบบมาเพื่อช่วยบรรเทาอาการหูอื้อ (Tinnitus) โดยใช้หลักการ neuromodulation ร่วมกับการปรับแต่งเสียงเฉพาะบุคคล

    เครื่องมือนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Steve Harrison ผู้สร้าง Tinnitus Works และ Stéphane Pigeon ผู้ก่อตั้ง myNoise โดยผสมผสานลำดับเสียงที่ออกแบบมาเฉพาะกับระบบเสียงของ myNoise เพื่อให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งเสียงให้ตรงกับอาการของตนเองได้อย่างละเอียด

    ผู้ใช้สามารถเริ่มต้นด้วยการตั้งค่าทุกตัวเลื่อนไว้ที่ศูนย์ แล้วค่อย ๆ ปรับตามโทนเสียงที่ตนเองได้ยินจากอาการหูอื้อ โดยเน้นให้เสียงกลมกลืนกับเสียงรบกวนในหู ไม่ใช่กลบเสียงทั้งหมด ซึ่งช่วยลดความเครียดและสร้างสภาวะผ่อนคลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    จุดเด่นของ Tinnitus Neuromodulator
    เป็นผลจากความร่วมมือระหว่าง Steve Harrison และ Stéphane Pigeon
    ใช้เทคนิค neuromodulation ผสมกับระบบเสียงของ myNoise
    ปรับแต่งเสียงได้ละเอียดตามอาการเฉพาะบุคคล

    วิธีการใช้งาน
    เริ่มต้นด้วยการตั้งค่าทุกตัวเลื่อนไว้ที่ศูนย์
    ปรับตัวเลื่อนที่ตรงกับโทนเสียงของอาการหูอื้อ
    ใช้ระดับเสียงต่ำพอให้กลมกลืนกับเสียงในหู
    สามารถเปิดหลายตัวเลื่อนพร้อมกันเพื่อสร้างเสียงที่ซับซ้อน
    ใช้ฟีเจอร์ Animation เพื่อเพิ่มความหลากหลายของเสียง

    แนวคิดการใช้งาน
    ไม่จำเป็นต้องกลบเสียงหูอื้อทั้งหมด
    มองเสียงหูอื้อเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์เสียง
    ใช้แนวทางแบบ mindfulness เพื่อสร้างความสงบ

    ฟีเจอร์เสริม
    มี presets ให้เลือก เช่น Neural Hack, Dreamesque, Sinescape
    ปรับความกว้างของเสียง (Stereo Width) และความเร็วของเสียง (Tape Speed)
    รองรับการบันทึกและแชร์การตั้งค่าเสียง
    มีโหมด Guided Meditation สำหรับการผ่อนคลาย

    คำเตือนในการใช้งาน
    ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับผลลัพธ์เหมือนกัน
    บางคนอาจรู้สึกไม่สบายจากเสียงบางประเภท
    ควรใช้ระดับเสียงต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงความล้าทางการได้ยิน

    ความเห็นจากผู้ใช้
    หลายคนรายงานว่าอาการหูอื้อลดลงหลังใช้งาน
    บางคนรู้สึกถึง “ความเงียบที่แท้จริง” หลังถอดหูฟัง
    มีผู้ใช้ที่ไม่มีอาการหูอื้อแต่ใช้เพื่อช่วยโฟกัสหรือผ่อนคลาย
    เสียงที่แปลกและหลากหลายช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ในการฟัง

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก:
    หลักการ neuromodulation ในการบำบัด Tinnitus
    ใช้เสียงเพื่อกระตุ้นระบบประสาทให้ปรับการรับรู้เสียงรบกวน
    ช่วยลดการตอบสนองทางอารมณ์ต่อเสียงหูอื้อ

    ความสำคัญของการปรับแต่งเสียงเฉพาะบุคคล
    อาการหูอื้อมีความแตกต่างกันในแต่ละคน
    การปรับเสียงให้ตรงกับความถี่ของอาการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบรรเทา

    https://mynoise.net/NoiseMachines/neuromodulationTonesGenerator.php
    🎧 "เสียงที่ช่วยเยียวยา: เครื่องสร้างเสียง Neuromodulator สำหรับผู้มีอาการหูอื้อ (Tinnitus)" เว็บไซต์ myNoise ได้เปิดตัวเครื่องมือที่ไม่ธรรมดา—Tinnitus Neuromodulator ซึ่งเป็นเครื่องสร้างเสียงที่ออกแบบมาเพื่อช่วยบรรเทาอาการหูอื้อ (Tinnitus) โดยใช้หลักการ neuromodulation ร่วมกับการปรับแต่งเสียงเฉพาะบุคคล เครื่องมือนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง Steve Harrison ผู้สร้าง Tinnitus Works และ Stéphane Pigeon ผู้ก่อตั้ง myNoise โดยผสมผสานลำดับเสียงที่ออกแบบมาเฉพาะกับระบบเสียงของ myNoise เพื่อให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งเสียงให้ตรงกับอาการของตนเองได้อย่างละเอียด ผู้ใช้สามารถเริ่มต้นด้วยการตั้งค่าทุกตัวเลื่อนไว้ที่ศูนย์ แล้วค่อย ๆ ปรับตามโทนเสียงที่ตนเองได้ยินจากอาการหูอื้อ โดยเน้นให้เสียงกลมกลืนกับเสียงรบกวนในหู ไม่ใช่กลบเสียงทั้งหมด ซึ่งช่วยลดความเครียดและสร้างสภาวะผ่อนคลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ จุดเด่นของ Tinnitus Neuromodulator ➡️ เป็นผลจากความร่วมมือระหว่าง Steve Harrison และ Stéphane Pigeon ➡️ ใช้เทคนิค neuromodulation ผสมกับระบบเสียงของ myNoise ➡️ ปรับแต่งเสียงได้ละเอียดตามอาการเฉพาะบุคคล ✅ วิธีการใช้งาน ➡️ เริ่มต้นด้วยการตั้งค่าทุกตัวเลื่อนไว้ที่ศูนย์ ➡️ ปรับตัวเลื่อนที่ตรงกับโทนเสียงของอาการหูอื้อ ➡️ ใช้ระดับเสียงต่ำพอให้กลมกลืนกับเสียงในหู ➡️ สามารถเปิดหลายตัวเลื่อนพร้อมกันเพื่อสร้างเสียงที่ซับซ้อน ➡️ ใช้ฟีเจอร์ Animation เพื่อเพิ่มความหลากหลายของเสียง ✅ แนวคิดการใช้งาน ➡️ ไม่จำเป็นต้องกลบเสียงหูอื้อทั้งหมด ➡️ มองเสียงหูอื้อเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์เสียง ➡️ ใช้แนวทางแบบ mindfulness เพื่อสร้างความสงบ ✅ ฟีเจอร์เสริม ➡️ มี presets ให้เลือก เช่น Neural Hack, Dreamesque, Sinescape ➡️ ปรับความกว้างของเสียง (Stereo Width) และความเร็วของเสียง (Tape Speed) ➡️ รองรับการบันทึกและแชร์การตั้งค่าเสียง ➡️ มีโหมด Guided Meditation สำหรับการผ่อนคลาย ‼️ คำเตือนในการใช้งาน ⛔ ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับผลลัพธ์เหมือนกัน ⛔ บางคนอาจรู้สึกไม่สบายจากเสียงบางประเภท ⛔ ควรใช้ระดับเสียงต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงความล้าทางการได้ยิน ✅ ความเห็นจากผู้ใช้ ➡️ หลายคนรายงานว่าอาการหูอื้อลดลงหลังใช้งาน ➡️ บางคนรู้สึกถึง “ความเงียบที่แท้จริง” หลังถอดหูฟัง ➡️ มีผู้ใช้ที่ไม่มีอาการหูอื้อแต่ใช้เพื่อช่วยโฟกัสหรือผ่อนคลาย ➡️ เสียงที่แปลกและหลากหลายช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ในการฟัง 📎 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก: ✅ หลักการ neuromodulation ในการบำบัด Tinnitus ➡️ ใช้เสียงเพื่อกระตุ้นระบบประสาทให้ปรับการรับรู้เสียงรบกวน ➡️ ช่วยลดการตอบสนองทางอารมณ์ต่อเสียงหูอื้อ ✅ ความสำคัญของการปรับแต่งเสียงเฉพาะบุคคล ➡️ อาการหูอื้อมีความแตกต่างกันในแต่ละคน ➡️ การปรับเสียงให้ตรงกับความถี่ของอาการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบรรเทา https://mynoise.net/NoiseMachines/neuromodulationTonesGenerator.php
    MYNOISE.NET
    Tinnitus Neuromodulator — Free Tinnitus Masker
    De-stressing and pushing your tinnitus out of your mind are probably among the best pieces of advice you can get. Tinnitus can jump in and play with your nerves, you need to stop letting it do so and teach your brain to tune it out.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • กฎหลักของชีวิตในโฮสเทล

    โฮสเทล (Hostel) คือ ที่พักราคาประหยัด ที่นิยมในหมู่แบ็คแพ็กเกอร์ นักเรียน นักศึกษา หรือผู้ที่เดินทางคนเดียว (Solo Travelers) ให้บริการแตกต่างจากโรงแรมหรือเกสต์เฮ้าส์อย่างชัดเจน เพราะมีห้องพักรวม (Dormitory Rooms) และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ต้องใช้งานร่วมกัน เช่น ห้องน้ำและห้องอาบน้ำรวม พื้นที่ส่วนกลาง ห้องครัว หรือพื้นที่นั่งเล่น

    อีกด้านหนึ่ง ผู้เข้าพักมีโอกาสที่จะได้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทาง ถึงกระนั้น การพักอาศัยกับคนแปลกหน้าร่วมกัน ย่อมมีกฎหลักของการใช้ชีวิตในโฮสเทล เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตในพื้นที่จำกัดได้อย่างมีความสุขและเคารพซึ่งกันและกัน สรุปได้ดังนี้

    1. เคารพเวลาพักผ่อนของผู้อื่น โดยเฉพาะช่วงเวลา 22.00 น. ถึง 08.00 น. ของวันถัดไป ห้ามแพ็คหรือแกะกระเป๋าสัมภาระ ให้เตรียมของไว้ล่วงหน้า หากจำเป็นต้องค้นหาสิ่งของที่ใช้เวลานาน ให้นำกระเป๋าออกไปทำในพื้นที่ส่วนกลาง รวมทั้งใช้แสงไฟอย่างระมัดระวัง ใช้ไฟฉายขนาดเล็กหรือไฟจากโทรศัพท์มือถือ แทนการเปิดไฟส่วนกลาง และห้ามส่งเสียงดัง หลีกเลี่ยงการคุยโทรศัพท์ในห้อง การคุยกระซิบ หรือการส่งเสียงรบกวนใดๆ ส่วนการดูหนัง ฟังเพลง ต้องใช้หูฟังอยู่เสมอ

    2. สุขอนามัยและความเป็นระเบียบ ควรปฎิบัติตามระเบียบของที่พัก เช่น รองเท้าควรวางไว้นอกห้อง ตู้เก็บรองเท้า หรือชั้นวางที่จัดเตรียมไว้ให้ โฮสเทลบางแห่งห้ามสวมรองเท้าเข้าไปในพื้นที่ที่กำหนด เช่น ห้องพัก ทางเดิน หรือห้องน้ำ ห้ามรับประทานอาหารและเครื่องดื่มภายในห้องพักรวม การใช้พื้นที่ส่วนกลาง เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องครัว หรือห้องน้ำ ควรรักษาความสะอาดอยู่เสมอ

    3. เคารพความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น ห้ามแตะต้องสัมภาระผู้อื่น เช่น กระเป๋า ของใช้บนเตียง อาหารในตู้เย็น รวมทั้งเคารพความต้องการที่จะอยู่คนเดียวของผู้อื่น อย่าเข้าไปแทรกแซงหรือชวนคุยหากพวกเขาใส่หูฟัง หรือกำลังทำกิจกรรมส่วนตัว นอกจากนี้ ให้ระวังทรัพย์สินมีค่าของตัวเอง เช่น กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เก็บไว้ในตู้เก็บของ (ล็อกเกอร์) ของตัวเอง แต่ถ้าเก็บในล็อกเกอร์ไม่ได้ ควรพกติดตัวไปด้วย

    4. เป็นมิตรและมีน้ำใจต่อผู้อื่น พร้อมที่จะยิ้ม ตอบรับ หรือเริ่มต้นบทสนทนาเล็กๆ น้อยๆ กับเพื่อนร่วมห้อง ถ้าห้องพักรวมเป็นปลั๊กไฟส่วนกลาง ควรชาร์จแบตเตอรี่อย่างมีน้ำใจ อย่าผูกขาดปลั๊กไฟโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะหากมีผู้พักคนอื่นต้องการใช้งาน รวมทั้งการแบ่งปันเรื่องเล็กน้อย เช่น เครื่องปรุงอาหาร หรือข้อมูลท่องเที่ยว ทำให้การใช้ชีวิตร่วมกันเต็มไปด้วยความสนุก สะดวกสบาย และมิตรภาพ

    #Newskit
    กฎหลักของชีวิตในโฮสเทล โฮสเทล (Hostel) คือ ที่พักราคาประหยัด ที่นิยมในหมู่แบ็คแพ็กเกอร์ นักเรียน นักศึกษา หรือผู้ที่เดินทางคนเดียว (Solo Travelers) ให้บริการแตกต่างจากโรงแรมหรือเกสต์เฮ้าส์อย่างชัดเจน เพราะมีห้องพักรวม (Dormitory Rooms) และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ต้องใช้งานร่วมกัน เช่น ห้องน้ำและห้องอาบน้ำรวม พื้นที่ส่วนกลาง ห้องครัว หรือพื้นที่นั่งเล่น อีกด้านหนึ่ง ผู้เข้าพักมีโอกาสที่จะได้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทาง ถึงกระนั้น การพักอาศัยกับคนแปลกหน้าร่วมกัน ย่อมมีกฎหลักของการใช้ชีวิตในโฮสเทล เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตในพื้นที่จำกัดได้อย่างมีความสุขและเคารพซึ่งกันและกัน สรุปได้ดังนี้ 1. เคารพเวลาพักผ่อนของผู้อื่น โดยเฉพาะช่วงเวลา 22.00 น. ถึง 08.00 น. ของวันถัดไป ห้ามแพ็คหรือแกะกระเป๋าสัมภาระ ให้เตรียมของไว้ล่วงหน้า หากจำเป็นต้องค้นหาสิ่งของที่ใช้เวลานาน ให้นำกระเป๋าออกไปทำในพื้นที่ส่วนกลาง รวมทั้งใช้แสงไฟอย่างระมัดระวัง ใช้ไฟฉายขนาดเล็กหรือไฟจากโทรศัพท์มือถือ แทนการเปิดไฟส่วนกลาง และห้ามส่งเสียงดัง หลีกเลี่ยงการคุยโทรศัพท์ในห้อง การคุยกระซิบ หรือการส่งเสียงรบกวนใดๆ ส่วนการดูหนัง ฟังเพลง ต้องใช้หูฟังอยู่เสมอ 2. สุขอนามัยและความเป็นระเบียบ ควรปฎิบัติตามระเบียบของที่พัก เช่น รองเท้าควรวางไว้นอกห้อง ตู้เก็บรองเท้า หรือชั้นวางที่จัดเตรียมไว้ให้ โฮสเทลบางแห่งห้ามสวมรองเท้าเข้าไปในพื้นที่ที่กำหนด เช่น ห้องพัก ทางเดิน หรือห้องน้ำ ห้ามรับประทานอาหารและเครื่องดื่มภายในห้องพักรวม การใช้พื้นที่ส่วนกลาง เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องครัว หรือห้องน้ำ ควรรักษาความสะอาดอยู่เสมอ 3. เคารพความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น ห้ามแตะต้องสัมภาระผู้อื่น เช่น กระเป๋า ของใช้บนเตียง อาหารในตู้เย็น รวมทั้งเคารพความต้องการที่จะอยู่คนเดียวของผู้อื่น อย่าเข้าไปแทรกแซงหรือชวนคุยหากพวกเขาใส่หูฟัง หรือกำลังทำกิจกรรมส่วนตัว นอกจากนี้ ให้ระวังทรัพย์สินมีค่าของตัวเอง เช่น กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เก็บไว้ในตู้เก็บของ (ล็อกเกอร์) ของตัวเอง แต่ถ้าเก็บในล็อกเกอร์ไม่ได้ ควรพกติดตัวไปด้วย 4. เป็นมิตรและมีน้ำใจต่อผู้อื่น พร้อมที่จะยิ้ม ตอบรับ หรือเริ่มต้นบทสนทนาเล็กๆ น้อยๆ กับเพื่อนร่วมห้อง ถ้าห้องพักรวมเป็นปลั๊กไฟส่วนกลาง ควรชาร์จแบตเตอรี่อย่างมีน้ำใจ อย่าผูกขาดปลั๊กไฟโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะหากมีผู้พักคนอื่นต้องการใช้งาน รวมทั้งการแบ่งปันเรื่องเล็กน้อย เช่น เครื่องปรุงอาหาร หรือข้อมูลท่องเที่ยว ทำให้การใช้ชีวิตร่วมกันเต็มไปด้วยความสนุก สะดวกสบาย และมิตรภาพ #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง 1 ปี 2 เดือน
    เรียนท่านผู้อ่านนิทาน
    ผมเขียนนิทานมาให้อ่านกันประมาณ 1 ปี กับ 2 เดือนแล้ว ด้วยความตั้งใจจะให้นิทานทำหน้าที่เป็นนาฬิกาปลุก ให้ท่านผู้อ่านลุกขึ้นมามองรอบตัว ให้เห็นภาพกว้างขึ้น เข้าใจเรื่องราวลึกขึ้น เผื่อจะทำให้รู้สึกเบื่อที่จะอยู่แต่ในกระป๋องสี่เหลี่ยม ที่เขาตั้งใจเอามาครอบหัวเราไว้ ด้วยการศึกษาที่สอนให้เราเรียนอย่างท่องจำ ให้เรากลายเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร จำได้แต่ไม่รู้เรื่อง แทนที่จะสอนให้เราเรี ยนอย่างรู้จักคิด หรือสำหรับท่านที่เบื่อ ที่จะตามอ่าน ตามดูสื่อ ทั้งในและนอกบ้าน ที่ตั้งอกตั้งใจฟอกย้อม จนเราไม่รู้ว่าอะไรคือเรื่องจริง อะไรคือเรื่องแต่ง หรือเบื่อที่จะฟังจากบางท่าน ที่เรียกตัวเองว่า เป็นนักวิชาการ หรือเป็นผู้รู้ ที่บอกเล่าให้เราฟังจากตำรา ที่ถูกสร้างมาให้ตอนความนึกคิดเรา หรือจากสื่อที่ฟอกมาแล้ว ฯลฯ
    ผมพยายามเขียนเล่าเรื่อง ความเป็นไปของโลกนอกบ้านเรา ที่เต็มไปด้วยการลวง การหลอก ด้วยวิธีการสาระพัด เพื่อที่จะไปครอบครอง ครอบงำ และขโมยทรัพยากรของผู้อื่น โดยการใช้อำนาจ ทั้งด้านการอาวุธทำลาย และอาวุธทางการเงิน แย่งชิงความเป็นใหญ่ ชิงความได้เปรียบกัน เป็นโลกที่แบ่งกันเป็นหลายฝักหลายฝ่าย สลับซับซ้อน
    เรื่องเหล่านี้อาจกระทบถึง เรา สมันน้อย ที่อยู่แต่ในโลกสวยของตัวเอง ไม่สนใจ ไม่เคยรู้หรือไม่รับรู้ว่า เราอยู่โลกใบเดียวกันกับเขาอื่นอีกมากมาย และ ความไม่สนใจรับรู้นี้ มีโอกาสที่อาจทำให้สมันน้อยตกเป็นเหยื่อของเกมการแย่งชิงระหว่างเขาอื่นเหล่านั้น และผจญความยากลำบากอย่างที่สมันน้อยนึกไม่ถึง
    เรื่องที่ผมเขียนมาตลอด 1 ปี 2 เดือน ผมเรียงร้อย ต่อเนื่อง และขยายซึ่งกันและกัน เพื่อให้ท่านผู้อ่านเข้าใจง่ายขึ้น แต่ความที่การเขียนนิทานของผมมันอาจจะฉิวเฉียด เสียดแทง กวนแข้งใครเขาบ้าง นิทานที่เขียนจึงเหลือคาจอเพจอย่างไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ แม้จะทำลิงค์อัพเดทหลายครั้ง ก็ถูกกวนเละถูกลบ ถูกขโมยหายอยู่ดี ท่านผู้อ่านที่เข้ามาอ่านระหว่างทาง ก็เลยจะเหมือนการเดินทาง ที่เส้นทางขาด ตกหลุมตกบ่อ ไม่สนุก ไม่ถึงที่หมายอย่างใจนึก เผลอๆจะตกข้างทางเอา
    วันนี้เลยรวบรวมลิงค์ครบชุด ทุกเรื่อง ทุกบทความ มาให้อ่านกัน เคยอ่านแล้ว ก็อ่านซ้ำได้นะครับ ผมสนับสนุน เพราะบางที อ่านครั้งแรกอาจเห็นเรื่องราวที่เขียนยังไม่ชัด ไม่ครบ คราวนี้เอาให้เห็นภาพชัดมากขึ้น ก่อนเรื่องใหญ่ เหตุการณ์ใหญ่จะมานะครับ
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
31 ธค. 2557
    ########################
ลิงค์นิทาน เรียงตามลำดับเริ่มจากตอนล่าสุดตามนี้ครับ
    ผลัดกันล้วง
https://www.dropbox.com/s/aniibapk83rn5s9/deeply.pdf
    รุกฆาตหรือรุกคืบ
https://www.dropbox.com/s/9d54erugjrh8i90/checkmate.pdf
    แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3
https://www.dropbox.com/s/8hti742ugp3qtul/WW3.pdf
    เชื้อหลอน
https://www.dropbox.com/s/juehq74io8nmqd0/spook_virus.pdf
    หลอนกลางแดด
https://www.dropbox.com/s/cqo7p4331so95ct/spook.pdf
    กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
https://www.dropbox.com/s/j5n01c3yj5ppkl3/stuck.pdf
    เหยื่อติดคอ
https://www.dropbox.com/s/1mksvsxw7triet9/victim2.pdf
    เหยื่อ
https://www.dropbox.com/s/i3psv6qf7v9iqew/victim.pdf
    ลูกครึ่งหรือนกสองหัว
https://www.dropbox.com/s/zmqlfon1mxd9rps/twohead.pdf
    หักหน้า หักหลัง
https://www.dropbox.com/s/uvpcetgi2xf2rzo/faceback.pdf
    Chateau Christophe
https://www.dropbox.com/s/kao813jhkdad982/Chateau.pdf
    แหกคอก
https://www.dropbox.com/s/3e0lwq33uub2g4q/free.pdf
    แกะรอยเก่า
https://www.dropbox.com/s/2vqd3mdj4pkhoj5/old_track.pdf
    แกะรอยนักล่า
https://www.dropbox.com/s/g1439ng2lmds2hd/track.pdf
    คำถามในอากาศ
https://www.dropbox.com/s/lo8nsl83yx2ncwo/air.pdf
    ยุทธการกบกระโดด
https://www.dropbox.com/s/wi5dm5zkcoyhhop/forg.pdf
    เมื่อสิงห์โตหอน
https://www.dropbox.com/s/hvvcwwvatkgspdw/lion.pdf
    ยุทธการฝูงผึ้ง
https://www.dropbox.com/s/zrbj9r4g5oe0qr0/bb.pdf
    มายากลยุทธ
https://www.dropbox.com/s/2caruu9rb7amhnn/maya.pdf
    ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก
https://www.dropbox.com/s/5s81f1s0t3ianz8/sm.pdf
    เรื่องจิ๊กโก่ปากซอย
https://www.dropbox.com/s/wqogwomlgkle262/jk.pdf
    #######################
ลิงค์บทความ
    ดิ้นพล่าน
https://www.dropbox.com/s/q1xqhxzrvvphtf2/fretfully.pdf
    หวังว่าเป็นแค่ข่าวลือ
https://www.dropbox.com/s/b7ksf90dxnyz71z/blackwater.pdf
    ขี้นต้นเป็นมะลิซ้อน
https://www.dropbox.com/s/b2kxw66kswhbqcp/ISIS.pdf
    บันทึกวันฉลอง
https://www.dropbox.com/s/k54szzffk3g3zqk/celebrate.pdf
    Goodbye Mrs Brown
https://www.dropbox.com/s/1y7xh934uuz1kqd/Goodbye%20Mrs%20Brown.pdf
    เรื่อง 1 ปี 2 เดือน เรียนท่านผู้อ่านนิทาน ผมเขียนนิทานมาให้อ่านกันประมาณ 1 ปี กับ 2 เดือนแล้ว ด้วยความตั้งใจจะให้นิทานทำหน้าที่เป็นนาฬิกาปลุก ให้ท่านผู้อ่านลุกขึ้นมามองรอบตัว ให้เห็นภาพกว้างขึ้น เข้าใจเรื่องราวลึกขึ้น เผื่อจะทำให้รู้สึกเบื่อที่จะอยู่แต่ในกระป๋องสี่เหลี่ยม ที่เขาตั้งใจเอามาครอบหัวเราไว้ ด้วยการศึกษาที่สอนให้เราเรียนอย่างท่องจำ ให้เรากลายเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร จำได้แต่ไม่รู้เรื่อง แทนที่จะสอนให้เราเรี ยนอย่างรู้จักคิด หรือสำหรับท่านที่เบื่อ ที่จะตามอ่าน ตามดูสื่อ ทั้งในและนอกบ้าน ที่ตั้งอกตั้งใจฟอกย้อม จนเราไม่รู้ว่าอะไรคือเรื่องจริง อะไรคือเรื่องแต่ง หรือเบื่อที่จะฟังจากบางท่าน ที่เรียกตัวเองว่า เป็นนักวิชาการ หรือเป็นผู้รู้ ที่บอกเล่าให้เราฟังจากตำรา ที่ถูกสร้างมาให้ตอนความนึกคิดเรา หรือจากสื่อที่ฟอกมาแล้ว ฯลฯ ผมพยายามเขียนเล่าเรื่อง ความเป็นไปของโลกนอกบ้านเรา ที่เต็มไปด้วยการลวง การหลอก ด้วยวิธีการสาระพัด เพื่อที่จะไปครอบครอง ครอบงำ และขโมยทรัพยากรของผู้อื่น โดยการใช้อำนาจ ทั้งด้านการอาวุธทำลาย และอาวุธทางการเงิน แย่งชิงความเป็นใหญ่ ชิงความได้เปรียบกัน เป็นโลกที่แบ่งกันเป็นหลายฝักหลายฝ่าย สลับซับซ้อน เรื่องเหล่านี้อาจกระทบถึง เรา สมันน้อย ที่อยู่แต่ในโลกสวยของตัวเอง ไม่สนใจ ไม่เคยรู้หรือไม่รับรู้ว่า เราอยู่โลกใบเดียวกันกับเขาอื่นอีกมากมาย และ ความไม่สนใจรับรู้นี้ มีโอกาสที่อาจทำให้สมันน้อยตกเป็นเหยื่อของเกมการแย่งชิงระหว่างเขาอื่นเหล่านั้น และผจญความยากลำบากอย่างที่สมันน้อยนึกไม่ถึง เรื่องที่ผมเขียนมาตลอด 1 ปี 2 เดือน ผมเรียงร้อย ต่อเนื่อง และขยายซึ่งกันและกัน เพื่อให้ท่านผู้อ่านเข้าใจง่ายขึ้น แต่ความที่การเขียนนิทานของผมมันอาจจะฉิวเฉียด เสียดแทง กวนแข้งใครเขาบ้าง นิทานที่เขียนจึงเหลือคาจอเพจอย่างไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ แม้จะทำลิงค์อัพเดทหลายครั้ง ก็ถูกกวนเละถูกลบ ถูกขโมยหายอยู่ดี ท่านผู้อ่านที่เข้ามาอ่านระหว่างทาง ก็เลยจะเหมือนการเดินทาง ที่เส้นทางขาด ตกหลุมตกบ่อ ไม่สนุก ไม่ถึงที่หมายอย่างใจนึก เผลอๆจะตกข้างทางเอา วันนี้เลยรวบรวมลิงค์ครบชุด ทุกเรื่อง ทุกบทความ มาให้อ่านกัน เคยอ่านแล้ว ก็อ่านซ้ำได้นะครับ ผมสนับสนุน เพราะบางที อ่านครั้งแรกอาจเห็นเรื่องราวที่เขียนยังไม่ชัด ไม่ครบ คราวนี้เอาให้เห็นภาพชัดมากขึ้น ก่อนเรื่องใหญ่ เหตุการณ์ใหญ่จะมานะครับ สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
31 ธค. 2557 ########################
ลิงค์นิทาน เรียงตามลำดับเริ่มจากตอนล่าสุดตามนี้ครับ ผลัดกันล้วง
https://www.dropbox.com/s/aniibapk83rn5s9/deeply.pdf รุกฆาตหรือรุกคืบ
https://www.dropbox.com/s/9d54erugjrh8i90/checkmate.pdf แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3
https://www.dropbox.com/s/8hti742ugp3qtul/WW3.pdf เชื้อหลอน
https://www.dropbox.com/s/juehq74io8nmqd0/spook_virus.pdf หลอนกลางแดด
https://www.dropbox.com/s/cqo7p4331so95ct/spook.pdf กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
https://www.dropbox.com/s/j5n01c3yj5ppkl3/stuck.pdf เหยื่อติดคอ
https://www.dropbox.com/s/1mksvsxw7triet9/victim2.pdf เหยื่อ
https://www.dropbox.com/s/i3psv6qf7v9iqew/victim.pdf ลูกครึ่งหรือนกสองหัว
https://www.dropbox.com/s/zmqlfon1mxd9rps/twohead.pdf หักหน้า หักหลัง
https://www.dropbox.com/s/uvpcetgi2xf2rzo/faceback.pdf Chateau Christophe
https://www.dropbox.com/s/kao813jhkdad982/Chateau.pdf แหกคอก
https://www.dropbox.com/s/3e0lwq33uub2g4q/free.pdf แกะรอยเก่า
https://www.dropbox.com/s/2vqd3mdj4pkhoj5/old_track.pdf แกะรอยนักล่า
https://www.dropbox.com/s/g1439ng2lmds2hd/track.pdf คำถามในอากาศ
https://www.dropbox.com/s/lo8nsl83yx2ncwo/air.pdf ยุทธการกบกระโดด
https://www.dropbox.com/s/wi5dm5zkcoyhhop/forg.pdf เมื่อสิงห์โตหอน
https://www.dropbox.com/s/hvvcwwvatkgspdw/lion.pdf ยุทธการฝูงผึ้ง
https://www.dropbox.com/s/zrbj9r4g5oe0qr0/bb.pdf มายากลยุทธ
https://www.dropbox.com/s/2caruu9rb7amhnn/maya.pdf ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก
https://www.dropbox.com/s/5s81f1s0t3ianz8/sm.pdf เรื่องจิ๊กโก่ปากซอย
https://www.dropbox.com/s/wqogwomlgkle262/jk.pdf #######################
ลิงค์บทความ ดิ้นพล่าน
https://www.dropbox.com/s/q1xqhxzrvvphtf2/fretfully.pdf หวังว่าเป็นแค่ข่าวลือ
https://www.dropbox.com/s/b7ksf90dxnyz71z/blackwater.pdf ขี้นต้นเป็นมะลิซ้อน
https://www.dropbox.com/s/b2kxw66kswhbqcp/ISIS.pdf บันทึกวันฉลอง
https://www.dropbox.com/s/k54szzffk3g3zqk/celebrate.pdf Goodbye Mrs Brown
https://www.dropbox.com/s/1y7xh934uuz1kqd/Goodbye%20Mrs%20Brown.pdf
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • 555,อาสนธิถูกสั่งเก็บนะ.,ใครสั่งเก็บอาสนธิแค่นั้นล่ะ.

    ..โควิดแหกตา ยาพิษชัดเจนในปัจจุบันอีก อีลิทเบี่ยงเบนประเด็นความสนใจชาวโลกด้วยสงครามพันทางนี้ล่ะ,สู่การลดประชากรโลกสุดยอดด้วยสงครามโลกตัวตายแท้จริงรวดเร็วทันใจกว่ากำจัดคนด้วยเข็มฉีดยาอีก.,กระทั่งไทยกับเขมร แท้จริงก็เบี่ยงเบนความสนใจเรื่องเข็มวัคซีนที่ฉีดๆคนไทยหรือคนเขมรเองนั้นล่ะ,พวกคนเมืองนอกมันรู้ดี,

    ..คนไทยเราถูกก่อกวนด้วยสงครามที่เขมรรับใบสั่งมาจากไซออนิสต์ในเขมรนั้นล่ะ,ฮับอาชญากรรมสาระพัดเลวชั่วจะเกิดขึ้นไม่ได้เลวถ้าไม่ได้ไฟเขียวจากอีลิทพวกนี้แต่เริ่มแรก.
    ..คนไทยเราต้องตื่นรับรู้ โดยทหารพระราชาเราต้องยึดอำนาจจากนักการเมืองสถานเดียว เพื่อปลดปล่อยอิสระภาพคนไทยจริง,เปลี่ยนแปลงระบบปกครองของฝรั่งด้วยเลยเป็นแบบธรรมาธิปไตยแทน เพื่อล้างไพ่ในกระดานของฝรั่งทั้งหมด แผ่นดินไทยจะคืนสู่สามัญดังเดิม ทรัพยากรธรรมชาติทัังหมดจะโมฆะคืนแก่เจ้าของเดิมคือประเทศไทยทั้งหมดทันที,กฎหมายจะถูกเขียนใหม่ทั้งหมด.

    https://youtube.com/watch?v=jt3QQZN3_xI&si=zn35XjnsBnzJY-10

    555,อาสนธิถูกสั่งเก็บนะ.,ใครสั่งเก็บอาสนธิแค่นั้นล่ะ. ..โควิดแหกตา ยาพิษชัดเจนในปัจจุบันอีก อีลิทเบี่ยงเบนประเด็นความสนใจชาวโลกด้วยสงครามพันทางนี้ล่ะ,สู่การลดประชากรโลกสุดยอดด้วยสงครามโลกตัวตายแท้จริงรวดเร็วทันใจกว่ากำจัดคนด้วยเข็มฉีดยาอีก.,กระทั่งไทยกับเขมร แท้จริงก็เบี่ยงเบนความสนใจเรื่องเข็มวัคซีนที่ฉีดๆคนไทยหรือคนเขมรเองนั้นล่ะ,พวกคนเมืองนอกมันรู้ดี, ..คนไทยเราถูกก่อกวนด้วยสงครามที่เขมรรับใบสั่งมาจากไซออนิสต์ในเขมรนั้นล่ะ,ฮับอาชญากรรมสาระพัดเลวชั่วจะเกิดขึ้นไม่ได้เลวถ้าไม่ได้ไฟเขียวจากอีลิทพวกนี้แต่เริ่มแรก. ..คนไทยเราต้องตื่นรับรู้ โดยทหารพระราชาเราต้องยึดอำนาจจากนักการเมืองสถานเดียว เพื่อปลดปล่อยอิสระภาพคนไทยจริง,เปลี่ยนแปลงระบบปกครองของฝรั่งด้วยเลยเป็นแบบธรรมาธิปไตยแทน เพื่อล้างไพ่ในกระดานของฝรั่งทั้งหมด แผ่นดินไทยจะคืนสู่สามัญดังเดิม ทรัพยากรธรรมชาติทัังหมดจะโมฆะคืนแก่เจ้าของเดิมคือประเทศไทยทั้งหมดทันที,กฎหมายจะถูกเขียนใหม่ทั้งหมด. https://youtube.com/watch?v=jt3QQZN3_xI&si=zn35XjnsBnzJY-10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • “XTU J9 Plus กล้องกริ่งไร้สายสุดคุ้ม — ปลอดค่ารายเดือน พร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม”

    XTU เปิดตัวกล้องกริ่งไร้สายรุ่น J9 Plus พร้อมระบบ Chime ที่มาพร้อมสโลแกน “Smarter Security, Zero Fees” โดยเน้นจุดขายคือการใช้งานแบบไม่มีค่าบริการรายเดือน ซึ่งแตกต่างจากแบรนด์ใหญ่ที่มักล็อกฟีเจอร์สำคัญไว้หลัง paywall

    กล้องรุ่นนี้รองรับการบันทึกวิดีโอแบบ local storage สูงสุด 128GB และมี cloud storage แบบจำกัด 6 วินาที โดยไม่ต้องสมัครสมาชิกใด ๆ ทั้งสิ้น

    ด้านฟีเจอร์ กล้องมาพร้อม:

    มุมมองกว้าง 180 องศาแบบ head-to-toe
    ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบตั้งค่าโซนได้ ลด false alert จากสัตว์เลี้ยง
    วิดีโอความละเอียด 2K พร้อม night vision
    ระบบเสียงสองทางและ quick response ด้วยข้อความ preset
    กันน้ำระดับ IP66 ใช้งานกลางแจ้งได้สบาย
    ใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จได้ ไม่ต้องเดินสายไฟ
    รองรับ Google Assistant และ Alexa

    XTU J9 Plus วางจำหน่ายผ่าน Amazon ในราคาพิเศษ $49.99 (ลดจาก $69.99) ตั้งแต่วันที่ 16–29 ตุลาคม 2025 พร้อมจัดส่งฟรี

    XTU J9 Plus เป็นกล้องกริ่งไร้สายพร้อมระบบ Chime
    ใช้งานได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าบริการรายเดือน

    รองรับ local storage สูงสุด 128GB และ cloud storage 6 วินาที
    ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

    มุมมองกว้าง 180 องศาแบบเต็มตัว
    เห็นทั้งคนและพัสดุที่วางหน้าประตู

    ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบตั้งค่าโซน
    ลดการแจ้งเตือนผิดพลาดจากสัตว์หรือสิ่งรบกวน

    วิดีโอความละเอียด 2K พร้อม night vision
    มองเห็นชัดแม้ในเวลากลางคืน

    ระบบเสียงสองทางและ quick response
    สื่อสารกับผู้มาเยือนได้ทันที

    กันน้ำระดับ IP66 และใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จได้
    ติดตั้งง่าย ไม่ต้องเดินสายไฟ

    รองรับ Google Assistant และ Alexa
    เชื่อมต่อกับระบบบ้านอัจฉริยะได้ทันที

    วางจำหน่ายในราคา $49.99 บน Amazon
    โปรโมชั่นถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2025

    Cloud storage มีความจุจำกัดเพียง 6 วินาที
    อาจไม่เพียงพอสำหรับการเก็บหลักฐานในเหตุการณ์สำคัญ

    ต้องใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จใหม่
    หากลืมชาร์จอาจทำให้กล้องหยุดทำงานชั่วคราว

    การตั้งค่าโซนตรวจจับต้องปรับให้เหมาะกับบ้านแต่ละหลัง
    หากตั้งไม่ดีอาจยังมี false alert อยู่

    ไม่รองรับการบันทึกต่อเนื่องแบบ cloud เหมือนบางแบรนด์
    ผู้ใช้ที่ต้องการระบบ cloud เต็มรูปแบบอาจไม่เหมาะ

    https://www.slashgear.com/sponsored/1999695/xtu-doorbell-camera-zero-fees-smarter-security/
    🔔 “XTU J9 Plus กล้องกริ่งไร้สายสุดคุ้ม — ปลอดค่ารายเดือน พร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม” XTU เปิดตัวกล้องกริ่งไร้สายรุ่น J9 Plus พร้อมระบบ Chime ที่มาพร้อมสโลแกน “Smarter Security, Zero Fees” โดยเน้นจุดขายคือการใช้งานแบบไม่มีค่าบริการรายเดือน ซึ่งแตกต่างจากแบรนด์ใหญ่ที่มักล็อกฟีเจอร์สำคัญไว้หลัง paywall กล้องรุ่นนี้รองรับการบันทึกวิดีโอแบบ local storage สูงสุด 128GB และมี cloud storage แบบจำกัด 6 วินาที โดยไม่ต้องสมัครสมาชิกใด ๆ ทั้งสิ้น ด้านฟีเจอร์ กล้องมาพร้อม: 🔔 มุมมองกว้าง 180 องศาแบบ head-to-toe 🔔 ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบตั้งค่าโซนได้ ลด false alert จากสัตว์เลี้ยง 🔔 วิดีโอความละเอียด 2K พร้อม night vision 🔔 ระบบเสียงสองทางและ quick response ด้วยข้อความ preset 🔔 กันน้ำระดับ IP66 ใช้งานกลางแจ้งได้สบาย 🔔 ใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จได้ ไม่ต้องเดินสายไฟ 🔔 รองรับ Google Assistant และ Alexa XTU J9 Plus วางจำหน่ายผ่าน Amazon ในราคาพิเศษ $49.99 (ลดจาก $69.99) ตั้งแต่วันที่ 16–29 ตุลาคม 2025 พร้อมจัดส่งฟรี ✅ XTU J9 Plus เป็นกล้องกริ่งไร้สายพร้อมระบบ Chime ➡️ ใช้งานได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าบริการรายเดือน ✅ รองรับ local storage สูงสุด 128GB และ cloud storage 6 วินาที ➡️ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ✅ มุมมองกว้าง 180 องศาแบบเต็มตัว ➡️ เห็นทั้งคนและพัสดุที่วางหน้าประตู ✅ ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบตั้งค่าโซน ➡️ ลดการแจ้งเตือนผิดพลาดจากสัตว์หรือสิ่งรบกวน ✅ วิดีโอความละเอียด 2K พร้อม night vision ➡️ มองเห็นชัดแม้ในเวลากลางคืน ✅ ระบบเสียงสองทางและ quick response ➡️ สื่อสารกับผู้มาเยือนได้ทันที ✅ กันน้ำระดับ IP66 และใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จได้ ➡️ ติดตั้งง่าย ไม่ต้องเดินสายไฟ ✅ รองรับ Google Assistant และ Alexa ➡️ เชื่อมต่อกับระบบบ้านอัจฉริยะได้ทันที ✅ วางจำหน่ายในราคา $49.99 บน Amazon ➡️ โปรโมชั่นถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2025 ‼️ Cloud storage มีความจุจำกัดเพียง 6 วินาที ⛔ อาจไม่เพียงพอสำหรับการเก็บหลักฐานในเหตุการณ์สำคัญ ‼️ ต้องใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จใหม่ ⛔ หากลืมชาร์จอาจทำให้กล้องหยุดทำงานชั่วคราว ‼️ การตั้งค่าโซนตรวจจับต้องปรับให้เหมาะกับบ้านแต่ละหลัง ⛔ หากตั้งไม่ดีอาจยังมี false alert อยู่ ‼️ ไม่รองรับการบันทึกต่อเนื่องแบบ cloud เหมือนบางแบรนด์ ⛔ ผู้ใช้ที่ต้องการระบบ cloud เต็มรูปแบบอาจไม่เหมาะ https://www.slashgear.com/sponsored/1999695/xtu-doorbell-camera-zero-fees-smarter-security/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Discover Smarter Security And Zero Fees With This Video Doorbell Camera - SlashGear
    If you've been shopping around for a wireless video doorbell with no strings or fees attached, look no further than the XTU J9 Plus with a full view and chime.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ชายแดนด้านบ้านหนองจาน วันนี้พบฝั่งกัมพูชามีประชาชน-เจ้าหน้าที่รวมตัว 150-200 คน อ้างตรวจสุขภาพหลังโดนเสียงก่อกวน ด้าน กกล.บูรพาจับคนไทย 55 คนแอบกลับเข้าประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ อ้างโดนแก๊งสแกมเมอร์นำมาปล่อย ขณะ ฉก.อรัญฯ เร่งสร้างสภาพปลอดภัยบ้านหนองหญ้าแก้วพร้อมประสานเอกสารที่ทำกินให้ชาวบ้าน และเตรียมวางแผนกู้ทุ่นระเบิดบ้านหนงจานต่อไป

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000099422

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    กองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ชายแดนด้านบ้านหนองจาน วันนี้พบฝั่งกัมพูชามีประชาชน-เจ้าหน้าที่รวมตัว 150-200 คน อ้างตรวจสุขภาพหลังโดนเสียงก่อกวน ด้าน กกล.บูรพาจับคนไทย 55 คนแอบกลับเข้าประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ อ้างโดนแก๊งสแกมเมอร์นำมาปล่อย ขณะ ฉก.อรัญฯ เร่งสร้างสภาพปลอดภัยบ้านหนองหญ้าแก้วพร้อมประสานเอกสารที่ทำกินให้ชาวบ้าน และเตรียมวางแผนกู้ทุ่นระเบิดบ้านหนงจานต่อไป อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000099422 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    Wow
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 473 มุมมอง 0 รีวิว
  • คงเข้าใจว่าครั้งหน้าจักกลับมาใช้ต่อในรูปใหม่ ... หมาแมวจิ้งจกตุ๊กแก หนูในเรือน
    #ไร้สาระกับลุงทุเรียนกวน
    คงเข้าใจว่าครั้งหน้าจักกลับมาใช้ต่อในรูปใหม่ ... หมาแมวจิ้งจกตุ๊กแก หนูในเรือน #ไร้สาระกับลุงทุเรียนกวน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • โลกสวยน่ากลัวนัก
    หลงไฟ3เพลิน
    #ไม่คิดไม่เกิด
    #ไร้สาระไปวันๆกับลุงแก่ทุเรียนกวน
    โลกสวยน่ากลัวนัก หลงไฟ3เพลิน #ไม่คิดไม่เกิด #ไร้สาระไปวันๆกับลุงแก่ทุเรียนกวน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • “Commodore OS Vision 3.0 ท้าชน Windows 10” — ระบบปฏิบัติการ Linux สไตล์เรโทรที่ชูจุดขาย ‘สงบ ปลอดภัย ไร้รบกวน’

    หลังจาก Microsoft ประกาศยุติการสนับสนุน Windows 10 อย่างเป็นทางการ กลุ่มผู้ใช้จำนวนมากเริ่มมองหาทางเลือกใหม่ และ Commodore — แบรนด์ไอทีในตำนานที่กลับมาอีกครั้ง — ได้เปิดตัวระบบปฏิบัติการ Linux-based ชื่อว่า “Commodore OS Vision 3.0” เพื่อดึงดูดผู้ใช้ที่ไม่พอใจ Windows 11

    Commodore OS Vision 3.0 ถูกออกแบบให้เป็น “พื้นที่สงบ” สำหรับผู้ใช้ที่เบื่อกับระบบที่เต็มไปด้วยโฆษณา การติดตาม และฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็น โดยชูจุดขายว่า “No nags. No noise. No tracking.” พร้อมอินเทอร์เฟซเรโทร-ฟิวเจอร์ริสติกที่ได้แรงบันดาลใจจากยุค Commodore 64

    ระบบนี้มีขนาดไฟล์ติดตั้งถึง 35GB เพราะรวมเกมและเดโมกว่า 200 รายการ ทั้งจากยุค Commodore และเกม Linux สมัยใหม่ นอกจากนี้ยังมี Commodore OS BASIC V1 ที่สามารถเขียนโปรแกรม 3D และฟิสิกส์ได้ในตัว โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่ม

    Commodore ยังเปิดตัว “Commodore OS Central” ซึ่งเป็นศูนย์รวมคู่มือ เกม และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา โดยมีแผนจะพัฒนาเป็นร้านเกมและแพลตฟอร์มชุมชนในอนาคต

    ผู้ใช้สามารถติดตั้งระบบนี้ผ่าน VM หรือเครื่องจริง โดยมีคู่มืออย่างละเอียดในฟอรัมของ Commodore ซึ่งกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

    ข้อมูลในข่าว
    Microsoft ยุติการสนับสนุน Windows 10 ทำให้ผู้ใช้มองหาทางเลือกใหม่
    Commodore เปิดตัว OS Vision 3.0 บนพื้นฐาน Linux
    ชูจุดขาย “No nags. No noise. No tracking.”
    อินเทอร์เฟซเรโทร-ฟิวเจอร์ริสติก ได้แรงบันดาลใจจาก Commodore 64
    ขนาดไฟล์ติดตั้ง 35GB รวมเกมและเดโมกว่า 200 รายการ
    มี Commodore OS BASIC V1 สำหรับเขียนโปรแกรม 3D และฟิสิกส์
    มีศูนย์รวมทรัพยากรชื่อ “Commodore OS Central”
    รองรับการติดตั้งผ่าน VM หรือเครื่องจริง พร้อมคู่มือในฟอรัม

    https://www.tomshardware.com/software/operating-systems/commodore-needles-microsoft-over-end-of-windows-10-tries-to-lure-disgruntled-users-to-its-linux-based-os-vision-3-0-microsoft-may-be-leaving-you-behind-we-wont
    🖥️ “Commodore OS Vision 3.0 ท้าชน Windows 10” — ระบบปฏิบัติการ Linux สไตล์เรโทรที่ชูจุดขาย ‘สงบ ปลอดภัย ไร้รบกวน’ หลังจาก Microsoft ประกาศยุติการสนับสนุน Windows 10 อย่างเป็นทางการ กลุ่มผู้ใช้จำนวนมากเริ่มมองหาทางเลือกใหม่ และ Commodore — แบรนด์ไอทีในตำนานที่กลับมาอีกครั้ง — ได้เปิดตัวระบบปฏิบัติการ Linux-based ชื่อว่า “Commodore OS Vision 3.0” เพื่อดึงดูดผู้ใช้ที่ไม่พอใจ Windows 11 Commodore OS Vision 3.0 ถูกออกแบบให้เป็น “พื้นที่สงบ” สำหรับผู้ใช้ที่เบื่อกับระบบที่เต็มไปด้วยโฆษณา การติดตาม และฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็น โดยชูจุดขายว่า “No nags. No noise. No tracking.” พร้อมอินเทอร์เฟซเรโทร-ฟิวเจอร์ริสติกที่ได้แรงบันดาลใจจากยุค Commodore 64 ระบบนี้มีขนาดไฟล์ติดตั้งถึง 35GB เพราะรวมเกมและเดโมกว่า 200 รายการ ทั้งจากยุค Commodore และเกม Linux สมัยใหม่ นอกจากนี้ยังมี Commodore OS BASIC V1 ที่สามารถเขียนโปรแกรม 3D และฟิสิกส์ได้ในตัว โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่ม Commodore ยังเปิดตัว “Commodore OS Central” ซึ่งเป็นศูนย์รวมคู่มือ เกม และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา โดยมีแผนจะพัฒนาเป็นร้านเกมและแพลตฟอร์มชุมชนในอนาคต ผู้ใช้สามารถติดตั้งระบบนี้ผ่าน VM หรือเครื่องจริง โดยมีคู่มืออย่างละเอียดในฟอรัมของ Commodore ซึ่งกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ Microsoft ยุติการสนับสนุน Windows 10 ทำให้ผู้ใช้มองหาทางเลือกใหม่ ➡️ Commodore เปิดตัว OS Vision 3.0 บนพื้นฐาน Linux ➡️ ชูจุดขาย “No nags. No noise. No tracking.” ➡️ อินเทอร์เฟซเรโทร-ฟิวเจอร์ริสติก ได้แรงบันดาลใจจาก Commodore 64 ➡️ ขนาดไฟล์ติดตั้ง 35GB รวมเกมและเดโมกว่า 200 รายการ ➡️ มี Commodore OS BASIC V1 สำหรับเขียนโปรแกรม 3D และฟิสิกส์ ➡️ มีศูนย์รวมทรัพยากรชื่อ “Commodore OS Central” ➡️ รองรับการติดตั้งผ่าน VM หรือเครื่องจริง พร้อมคู่มือในฟอรัม https://www.tomshardware.com/software/operating-systems/commodore-needles-microsoft-over-end-of-windows-10-tries-to-lure-disgruntled-users-to-its-linux-based-os-vision-3-0-microsoft-may-be-leaving-you-behind-we-wont
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Android Auto 15.2 มาแล้ว” — Gemini และ Call Screening ยกระดับผู้ช่วยในรถให้ฉลาดและปลอดภัยยิ่งขึ้น

    Google เปิดตัว Android Auto เวอร์ชัน 15.2 อย่างเป็นทางการ โดยเพิ่มฟีเจอร์เด่น 2 อย่างคือ Gemini และ Call Screening ซึ่งเคยมีเฉพาะใน Pixel phones ตอนนี้ถูกนำมาใส่ในระบบรถยนต์เพื่อเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยระหว่างขับขี่

    Gemini คือผู้ช่วย AI ที่เข้าใจภาษาธรรมชาติได้ดีกว่า Google Assistant แบบเดิม เช่น คุณสามารถพูดกับ Gemini เพื่อส่งข้อความถึงเพื่อนเป็นภาษาต่างประเทศ และมันจะช่วยแปลข้อความอัตโนมัติทุกครั้งที่คุณคุยกับคนนั้น นอกจากนี้ยังสามารถขอคำแนะนำร้านอาหาร “ระหว่างทาง” โดย Gemini จะเลือกเฉพาะร้านที่อยู่บนเส้นทางที่คุณกำลังขับอยู่

    Gemini Live ก็จะถูกเพิ่มเข้ามาใน Android Auto ซึ่งให้ประสบการณ์สนทนาแบบต่อเนื่องราวกับมีเพื่อนร่วมทางที่เข้าใจคุณตลอดเวลา

    อีกฟีเจอร์สำคัญคือ Call Screening ที่ช่วยกรองสายโทรเข้าโดยอัตโนมัติ ลดจำนวนสายที่ไม่สำคัญหรือรบกวนระหว่างขับรถ พร้อมฟีเจอร์ Call Notes ที่สรุปเนื้อหาสำคัญจากการสนทนาให้คุณหลังจบสาย

    Google ระบุว่าฟีเจอร์ทั้งหมดจะทยอยปล่อยให้ใช้งานภายในสิ้นปีนี้ และแนะนำให้ผู้ใช้อัปเดตแอป Android Auto ผ่าน Play Store หรือดาวน์โหลดไฟล์ APK จากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น APKMirror โดยต้องติดตั้งผ่าน APK bundle ซึ่งมีขั้นตอนพิเศษเล็กน้อย

    ข้อมูลในข่าว
    Android Auto 15.2 เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว
    เพิ่มฟีเจอร์ Gemini และ Call Screening จาก Pixel phones
    Gemini สามารถแปลข้อความอัตโนมัติและแนะนำร้านอาหารตามเส้นทาง
    Gemini Live ให้ประสบการณ์สนทนาแบบต่อเนื่องในรถ
    Call Screening ช่วยกรองสายโทรเข้าอัตโนมัติ
    Call Notes สรุปเนื้อหาสำคัญจากการสนทนา
    ฟีเจอร์จะทยอยปล่อยภายในสิ้นปี 2025
    ผู้ใช้สามารถอัปเดตผ่าน Play Store หรือ sideload ผ่าน APKMirror
    การติดตั้ง APK bundle ต้องใช้แอป Installer และเปิดสิทธิ์ติดตั้งจากแหล่งภายนอก

    https://www.slashgear.com/1994559/android-auto-15-2-update-details/
    🚗 “Android Auto 15.2 มาแล้ว” — Gemini และ Call Screening ยกระดับผู้ช่วยในรถให้ฉลาดและปลอดภัยยิ่งขึ้น Google เปิดตัว Android Auto เวอร์ชัน 15.2 อย่างเป็นทางการ โดยเพิ่มฟีเจอร์เด่น 2 อย่างคือ Gemini และ Call Screening ซึ่งเคยมีเฉพาะใน Pixel phones ตอนนี้ถูกนำมาใส่ในระบบรถยนต์เพื่อเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยระหว่างขับขี่ Gemini คือผู้ช่วย AI ที่เข้าใจภาษาธรรมชาติได้ดีกว่า Google Assistant แบบเดิม เช่น คุณสามารถพูดกับ Gemini เพื่อส่งข้อความถึงเพื่อนเป็นภาษาต่างประเทศ และมันจะช่วยแปลข้อความอัตโนมัติทุกครั้งที่คุณคุยกับคนนั้น นอกจากนี้ยังสามารถขอคำแนะนำร้านอาหาร “ระหว่างทาง” โดย Gemini จะเลือกเฉพาะร้านที่อยู่บนเส้นทางที่คุณกำลังขับอยู่ Gemini Live ก็จะถูกเพิ่มเข้ามาใน Android Auto ซึ่งให้ประสบการณ์สนทนาแบบต่อเนื่องราวกับมีเพื่อนร่วมทางที่เข้าใจคุณตลอดเวลา อีกฟีเจอร์สำคัญคือ Call Screening ที่ช่วยกรองสายโทรเข้าโดยอัตโนมัติ ลดจำนวนสายที่ไม่สำคัญหรือรบกวนระหว่างขับรถ พร้อมฟีเจอร์ Call Notes ที่สรุปเนื้อหาสำคัญจากการสนทนาให้คุณหลังจบสาย Google ระบุว่าฟีเจอร์ทั้งหมดจะทยอยปล่อยให้ใช้งานภายในสิ้นปีนี้ และแนะนำให้ผู้ใช้อัปเดตแอป Android Auto ผ่าน Play Store หรือดาวน์โหลดไฟล์ APK จากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น APKMirror โดยต้องติดตั้งผ่าน APK bundle ซึ่งมีขั้นตอนพิเศษเล็กน้อย ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ Android Auto 15.2 เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ➡️ เพิ่มฟีเจอร์ Gemini และ Call Screening จาก Pixel phones ➡️ Gemini สามารถแปลข้อความอัตโนมัติและแนะนำร้านอาหารตามเส้นทาง ➡️ Gemini Live ให้ประสบการณ์สนทนาแบบต่อเนื่องในรถ ➡️ Call Screening ช่วยกรองสายโทรเข้าอัตโนมัติ ➡️ Call Notes สรุปเนื้อหาสำคัญจากการสนทนา ➡️ ฟีเจอร์จะทยอยปล่อยภายในสิ้นปี 2025 ➡️ ผู้ใช้สามารถอัปเดตผ่าน Play Store หรือ sideload ผ่าน APKMirror ➡️ การติดตั้ง APK bundle ต้องใช้แอป Installer และเปิดสิทธิ์ติดตั้งจากแหล่งภายนอก https://www.slashgear.com/1994559/android-auto-15-2-update-details/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Google Hits 'Go' On Android Auto 15.2 – Here's How You Can Get It - SlashGear
    Android Auto 15.2 is rolling out now bringing new features, UI tweaks, shortcut updates, and better app integration. Here's how to get it today.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดจอง ของเเรง

    สู่สุดยอดวัตถุมงคล

    ง้าวเทพเจ้ากวนอู

    หลวงปู่อิ่ม ปัญญาวุทโธ
    วัดทุ่งนาใหม่ อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช
    ตัวด้ามสร้างจากไม้สักมงคล

    รวมความยาว 25นิ้ว
    จัดสร้าง 399 เล่มเท่านั้น
    ราคาจอง 599 บาท

    พุทธคุณ เป็นมหาอำนาจ เสริมดวง วาสนา บารมี การงานก้าวหน้า เลื่อนยศ เลื่อนตำเเหน่ง
    ปกป้องคุ้มภัยแก่ผู้ที่บูชา
    กลับร้ายให้กลายเป็นดี กันคุณผีคุณคน ลมเพลมพัด ฯลฯ
    🔥เปิดจอง🚩🚩 ของเเรง‼️‼️ ‼️‼️สู่สุดยอดวัตถุมงคล🎯 ‼️🎯ง้าวเทพเจ้ากวนอู🎯⚔️⚔️ 🙏หลวงปู่อิ่ม ปัญญาวุทโธ🙏 วัดทุ่งนาใหม่ อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ‼️‼️ตัวด้ามสร้างจากไม้สักมงคล 🎯รวมความยาว 25นิ้ว 🎯 🇹🇭จัดสร้าง 399 เล่ม‼️เท่านั้น‼️ 💥ราคาจอง 599 บาท💥💥 ⚜️พุทธคุณ เป็นมหาอำนาจ เสริมดวง วาสนา บารมี การงานก้าวหน้า เลื่อนยศ เลื่อนตำเเหน่ง ปกป้องคุ้มภัยแก่ผู้ที่บูชา กลับร้ายให้กลายเป็นดี กันคุณผีคุณคน ลมเพลมพัด ฯลฯ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • รบกวนเรียกนักสิทธิ์ฯ ก๊วนนี้มาฟังหมอดิว ด่วนมาก! (14/10/68)

    #ThaiTimes
    #News1
    #News1short
    #TruthFromThailand
    #shorts
    #หมอดิว
    #นักสิทธิมนุษยชน
    #ชายแดนไทยกัมพูชา
    #การเมืองไทย
    #เทรนด์วันนี้
    #ข่าววันนี้
    #ข่าวtiktok
    #newsupdate
    รบกวนเรียกนักสิทธิ์ฯ ก๊วนนี้มาฟังหมอดิว ด่วนมาก! (14/10/68) #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #หมอดิว #นักสิทธิมนุษยชน #ชายแดนไทยกัมพูชา #การเมืองไทย #เทรนด์วันนี้ #ข่าววันนี้ #ข่าวtiktok #newsupdate
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เมินเสียงผีละเมิดสิทธิ ยิงจรวดใส่ไทยหนักกว่า : [NEWS UPDATE]
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เผยกรณีกองทัพภาคที่ 1 ใช้เครื่องจักรกลรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ชาวกัมพูชารุกล้ำพื้นที่ไทยบริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว กองทัพมีอำนาจตัดสินใจเต็มที่ในพื้นที่ที่เป็นปัญหา ส่วนกรณีโฆษกกระทรวงกลาโหมของกัมพูชามองว่าการเปิดเสียงรบกวนจากฝั่งไทย ละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรง นายกรัฐมนตรีของไทยมองว่า ระเบิดและจรวดที่ยิงเข้ามาในเขตไทยจากฝั่งกัมพูชาก็ทำอันตรายกับประชาชนไทย โดรนที่บินเข้ามาในเขตไทยก็ละเมิดอธิปไตยประเทศไทย ให้กำลังใจแม่ทัพภาคที่ 2 ทหาร เจ้าหน้าที่ และข้าราชการฝ่ายปกครองในพื้นที่พิพาท สนับสนุนทุกอย่างให้สามารถทำงานได้ เพื่อนำชัยชนะ ปกป้องประชาชน และปกป้องอธิปไตยของประเทศ



    ต้องยกเลิก MOU 43-44 ทันที

    มองโลกตามความจริง

    รธน.2560ทำไทยสบวิกฤต

    ยกเลิกกฎหมายขวางทำกิน
    เมินเสียงผีละเมิดสิทธิ ยิงจรวดใส่ไทยหนักกว่า : [NEWS UPDATE] นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เผยกรณีกองทัพภาคที่ 1 ใช้เครื่องจักรกลรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ชาวกัมพูชารุกล้ำพื้นที่ไทยบริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว กองทัพมีอำนาจตัดสินใจเต็มที่ในพื้นที่ที่เป็นปัญหา ส่วนกรณีโฆษกกระทรวงกลาโหมของกัมพูชามองว่าการเปิดเสียงรบกวนจากฝั่งไทย ละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรง นายกรัฐมนตรีของไทยมองว่า ระเบิดและจรวดที่ยิงเข้ามาในเขตไทยจากฝั่งกัมพูชาก็ทำอันตรายกับประชาชนไทย โดรนที่บินเข้ามาในเขตไทยก็ละเมิดอธิปไตยประเทศไทย ให้กำลังใจแม่ทัพภาคที่ 2 ทหาร เจ้าหน้าที่ และข้าราชการฝ่ายปกครองในพื้นที่พิพาท สนับสนุนทุกอย่างให้สามารถทำงานได้ เพื่อนำชัยชนะ ปกป้องประชาชน และปกป้องอธิปไตยของประเทศ ต้องยกเลิก MOU 43-44 ทันที มองโลกตามความจริง รธน.2560ทำไทยสบวิกฤต ยกเลิกกฎหมายขวางทำกิน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 383 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • หัวข้อข่าว: <output> แท็กที่ถูกลืมใน HTML แต่ทรงพลังเกินคาด — ตัวช่วยใหม่เพื่อการเข้าถึงที่แท้จริง

    ลองนึกถึงแท็ก HTML ที่สามารถแสดงผลลัพธ์แบบไดนามิก พร้อมรองรับการเข้าถึง (accessibility) โดยไม่ต้องเขียน ARIA เพิ่มเติม — นั่นคือ <output> แท็กที่อยู่ในสเปก HTML มาตั้งแต่ปี 2008 แต่แทบไม่มีใครพูดถึง

    Den Odell ผู้เขียนบทความนี้เล่าว่าเขาค้นพบแท็ก <output> ขณะทำโปรเจกต์ด้าน accessibility ที่ต้องแสดงคะแนนความเสี่ยงแบบเรียลไทม์ให้ผู้ใช้เห็นและ “ได้ยิน” ผ่าน screen reader เดิมทีเขาใช้ ARIA live region ซึ่งทำงานได้ แต่รู้สึกว่าเป็นการ “แปะ” แก้ปัญหาเฉพาะหน้า จนกระทั่งเขาพบว่า <output> ถูกออกแบบมาเพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะ

    แท็ก <output> จะประกาศค่าที่เปลี่ยนแปลงให้ screen reader โดยอัตโนมัติ โดยไม่รบกวนผู้ใช้ และยังสามารถเชื่อมโยงกับ <input> ได้ด้วย attribute for="" เพื่อระบุว่า output นี้ขึ้นอยู่กับ input ตัวใด

    ตัวอย่างการใช้งานมีตั้งแต่เครื่องคิดเลข, slider ที่แสดงค่าระยะทาง, การแจ้งเตือนความแข็งแรงของรหัสผ่าน ไปจนถึงการแสดงราคาค่าขนส่งที่ดึงมาจาก API แบบเรียลไทม์

    แม้ว่า <output> จะยังมีข้อจำกัด เช่น บาง screen reader ยังไม่รองรับการอ่านค่าที่เปลี่ยนแปลงได้ดีนัก แต่ก็สามารถแก้ได้ด้วยการเพิ่ม role="status" แบบชัดเจน

    สรุปเนื้อหาบทความและข้อมูลเสริม
    <output> คือแท็ก HTML สำหรับแสดงผลลัพธ์แบบไดนามิก
    ใช้แสดงค่าที่คำนวณหรือเกิดจากการกระทำของผู้ใช้
    ถูกแมปไปยัง role="status" ใน accessibility tree โดยอัตโนมัติ

    ความสามารถด้าน accessibility
    screen reader อ่านค่าที่เปลี่ยนแปลงโดยไม่รบกวนผู้ใช้
    อ่านค่าทั้งหมด ไม่ใช่แค่ส่วนที่เปลี่ยน

    การใช้งานร่วมกับ <input>
    ใช้ attribute for="" เพื่อเชื่อมโยงกับ input หลายตัว
    ไม่จำเป็นต้องอยู่ใน <form> ก็ใช้งานได้

    ตัวอย่างการใช้งานจริง
    เครื่องคิดเลขที่แสดงผลลัพธ์ทันที
    การแสดงค่าจาก slider เช่น “10,000 miles/year”
    การแจ้งเตือนความแข็งแรงของรหัสผ่าน
    การแสดงผลลัพธ์จาก API เช่นราคาค่าขนส่ง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    <output> อยู่ในสเปก HTML5 มาตั้งแต่ปี 2008
    รองรับในเบราว์เซอร์หลักและ screen reader ส่วนใหญ่
    ใช้งานร่วมกับ React, Vue และเฟรมเวิร์ก JavaScript อื่นได้ดี
    เป็นแท็ก inline โดยดีไซน์ สามารถจัดสไตล์ได้เหมือน <span> หรือ <div>

    คำเตือนเกี่ยวกับการใช้งาน <output>
    บาง screen reader ยังไม่รองรับการประกาศค่าที่เปลี่ยนแปลง
    ควรเพิ่ม role="status" เพื่อให้แน่ใจว่าค่าจะถูกอ่าน
    ไม่ควรใช้ <output> สำหรับการแจ้งเตือนทั่วไป เช่น toast message หรือ error message

    การกลับมาให้ความสนใจกับ <output> คือการย้ำเตือนว่า HTML ยังมีขุมทรัพย์ที่ถูกลืมซ่อนอยู่มากมาย และบางครั้งคำตอบที่ดีที่สุดก็อาจอยู่ตรงหน้าเรามานานแล้ว โดยไม่ต้องพึ่งพา JavaScript หรือ ARIA เสมอไปครับ

    https://denodell.com/blog/html-best-kept-secret-output-tag
    📰 หัวข้อข่าว: <output> แท็กที่ถูกลืมใน HTML แต่ทรงพลังเกินคาด — ตัวช่วยใหม่เพื่อการเข้าถึงที่แท้จริง ลองนึกถึงแท็ก HTML ที่สามารถแสดงผลลัพธ์แบบไดนามิก พร้อมรองรับการเข้าถึง (accessibility) โดยไม่ต้องเขียน ARIA เพิ่มเติม — นั่นคือ <output> แท็กที่อยู่ในสเปก HTML มาตั้งแต่ปี 2008 แต่แทบไม่มีใครพูดถึง Den Odell ผู้เขียนบทความนี้เล่าว่าเขาค้นพบแท็ก <output> ขณะทำโปรเจกต์ด้าน accessibility ที่ต้องแสดงคะแนนความเสี่ยงแบบเรียลไทม์ให้ผู้ใช้เห็นและ “ได้ยิน” ผ่าน screen reader เดิมทีเขาใช้ ARIA live region ซึ่งทำงานได้ แต่รู้สึกว่าเป็นการ “แปะ” แก้ปัญหาเฉพาะหน้า จนกระทั่งเขาพบว่า <output> ถูกออกแบบมาเพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะ แท็ก <output> จะประกาศค่าที่เปลี่ยนแปลงให้ screen reader โดยอัตโนมัติ โดยไม่รบกวนผู้ใช้ และยังสามารถเชื่อมโยงกับ <input> ได้ด้วย attribute for="" เพื่อระบุว่า output นี้ขึ้นอยู่กับ input ตัวใด ตัวอย่างการใช้งานมีตั้งแต่เครื่องคิดเลข, slider ที่แสดงค่าระยะทาง, การแจ้งเตือนความแข็งแรงของรหัสผ่าน ไปจนถึงการแสดงราคาค่าขนส่งที่ดึงมาจาก API แบบเรียลไทม์ แม้ว่า <output> จะยังมีข้อจำกัด เช่น บาง screen reader ยังไม่รองรับการอ่านค่าที่เปลี่ยนแปลงได้ดีนัก แต่ก็สามารถแก้ได้ด้วยการเพิ่ม role="status" แบบชัดเจน 📌 สรุปเนื้อหาบทความและข้อมูลเสริม ✅ <output> คือแท็ก HTML สำหรับแสดงผลลัพธ์แบบไดนามิก ➡️ ใช้แสดงค่าที่คำนวณหรือเกิดจากการกระทำของผู้ใช้ ➡️ ถูกแมปไปยัง role="status" ใน accessibility tree โดยอัตโนมัติ ✅ ความสามารถด้าน accessibility ➡️ screen reader อ่านค่าที่เปลี่ยนแปลงโดยไม่รบกวนผู้ใช้ ➡️ อ่านค่าทั้งหมด ไม่ใช่แค่ส่วนที่เปลี่ยน ✅ การใช้งานร่วมกับ <input> ➡️ ใช้ attribute for="" เพื่อเชื่อมโยงกับ input หลายตัว ➡️ ไม่จำเป็นต้องอยู่ใน <form> ก็ใช้งานได้ ✅ ตัวอย่างการใช้งานจริง ➡️ เครื่องคิดเลขที่แสดงผลลัพธ์ทันที ➡️ การแสดงค่าจาก slider เช่น “10,000 miles/year” ➡️ การแจ้งเตือนความแข็งแรงของรหัสผ่าน ➡️ การแสดงผลลัพธ์จาก API เช่นราคาค่าขนส่ง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ <output> อยู่ในสเปก HTML5 มาตั้งแต่ปี 2008 ➡️ รองรับในเบราว์เซอร์หลักและ screen reader ส่วนใหญ่ ➡️ ใช้งานร่วมกับ React, Vue และเฟรมเวิร์ก JavaScript อื่นได้ดี ➡️ เป็นแท็ก inline โดยดีไซน์ สามารถจัดสไตล์ได้เหมือน <span> หรือ <div> ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับการใช้งาน <output> ⛔ บาง screen reader ยังไม่รองรับการประกาศค่าที่เปลี่ยนแปลง ⛔ ควรเพิ่ม role="status" เพื่อให้แน่ใจว่าค่าจะถูกอ่าน ⛔ ไม่ควรใช้ <output> สำหรับการแจ้งเตือนทั่วไป เช่น toast message หรือ error message การกลับมาให้ความสนใจกับ <output> คือการย้ำเตือนว่า HTML ยังมีขุมทรัพย์ที่ถูกลืมซ่อนอยู่มากมาย และบางครั้งคำตอบที่ดีที่สุดก็อาจอยู่ตรงหน้าเรามานานแล้ว โดยไม่ต้องพึ่งพา JavaScript หรือ ARIA เสมอไปครับ https://denodell.com/blog/html-best-kept-secret-output-tag
    DENODELL.COM
    HTML’s Best Kept Secret: The output Tag
    Make your dynamic content accessible by default with the HTML tag that time forgot.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายวัชระ เพชรทอง เผยผลตรวจสอบจากกรมอนามัย กรณีโรงเลี้ยงไก่ขนาด 50,000 ตัวบนเกาะสมุย พบก่อกลิ่นเหม็นรบกวนชุมชนจริง แต่ชาวบ้านตั้งคำถาม ทำไมกิจการยังดำเนินการต่อ ทั้งที่ใบอนุญาตถูกเพิกถอนตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2568

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000097546

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    นายวัชระ เพชรทอง เผยผลตรวจสอบจากกรมอนามัย กรณีโรงเลี้ยงไก่ขนาด 50,000 ตัวบนเกาะสมุย พบก่อกลิ่นเหม็นรบกวนชุมชนจริง แต่ชาวบ้านตั้งคำถาม ทำไมกิจการยังดำเนินการต่อ ทั้งที่ใบอนุญาตถูกเพิกถอนตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000097546 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 409 มุมมอง 0 รีวิว
  • เวลาผ่านไปทำให้เข้าใจ ใดๆในโลกนี้ภาพลวงตา ทุก สุก การตายรอหลังการเกิด ล้วน3ลัก
    #ไม่คิดไม่เกิด
    #ไร้สาระไปวันๆกับลุงแก่ทุเรียนกวน
    เวลาผ่านไปทำให้เข้าใจ ใดๆในโลกนี้ภาพลวงตา ทุก สุก การตายรอหลังการเกิด ล้วน3ลัก #ไม่คิดไม่เกิด #ไร้สาระไปวันๆกับลุงแก่ทุเรียนกวน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ใจดีใจเมตตานำนะ ภายนอกวุ่นวาย ใจสงบเงียบๆดีนะ
    ต่างรูปต่างวาระแท้เส้นทางนี้เดินลำพังมิเคยมีรูปใดจุงไปด้วยได้
    #ไม่คิดไม่เกิด
    #ไร้สาระกับลุงทุเรียนกวน
    ใจดีใจเมตตานำนะ ภายนอกวุ่นวาย ใจสงบเงียบๆดีนะ ต่างรูปต่างวาระแท้เส้นทางนี้เดินลำพังมิเคยมีรูปใดจุงไปด้วยได้ #ไม่คิดไม่เกิด #ไร้สาระกับลุงทุเรียนกวน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 0 รีวิว
Pages Boosts