• 12 เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Microsoft

    บทความนี้เล่าถึง 12 เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Microsoft ตั้งแต่การเปิดตัว Windows 95, การเข้าสู่ตลาดเกมด้วย Xbox, ความล้มเหลวของ Zune, ไปจนถึงการซื้อกิจการใหญ่ ๆ อย่าง Skype, LinkedIn และ Minecraft รวมถึงการเปิดตัวบริการสำคัญอย่าง Azure และ Teams

    12 เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Microsoft ตามลำดับเวลา:
    1975 – ก่อตั้ง Microsoft Bill Gates และ Paul Allen ก่อตั้งบริษัทเพื่อพัฒนา software ให้กับ Altair 8800
    1985 – เปิดตัว Windows รุ่นแรก แม้จะยังไม่ประสบความสำเร็จมาก แต่เป็นจุดเริ่มต้นของระบบปฏิบัติการ Windows
    1995 – เปิดตัว Windows 95 จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่ทำให้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลใช้งานง่ายขึ้นและแพร่หลายทั่วโลก
    2001 – เปิดตัว Xbox รุ่นแรก Microsoft เข้าสู่ตลาดเกมคอนโซลและกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ Sony และ Nintendo
    2006 – เปิดตัว Zune พยายามแข่งขันกับ iPod แต่ไม่ประสบความสำเร็จ และยุติในปี 2011
    2008 – เปิดตัว Azure Cloud Services ก้าวเข้าสู่ตลาดคลาวด์ ปัจจุบันเป็นผู้ให้บริการอันดับสองรองจาก AWS
    2009 – เปิดตัว Bing กลายเป็นเครื่องมือค้นหาหลักของ Microsoft และยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
    2010 – เปิดตัว Windows Phone ความพยายามเข้าสู่ตลาดมือถือ แต่ไม่สามารถแข่งขันกับ iOS และ Android ได้
    2011 – ซื้อกิจการ Skype ขยายเข้าสู่ตลาด VoIP และการสื่อสารออนไลน์
    2012 – เปิดตัว Surface Tablet รุ่นแรก เข้าสู่ตลาดแท็บเล็ต แข่งขันกับ Apple iPad
    2014 – ซื้อกิจการ Minecraft (Mojang) เสริมความแข็งแกร่งในตลาดเกม ด้วยเกมยอดนิยมระดับโลก
    2016 – ซื้อกิจการ LinkedIn ขยายเข้าสู่ตลาดเครือข่ายมืออาชีพ มูลค่าการซื้อกว่า $26.2 พันล้าน

    จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่: Windows 95
    Microsoft เริ่มต้นในปี 1975 แต่การเปิดตัว Windows 95 ในปี 1995 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเข้าถึงผู้ใช้ทั่วไปได้ง่ายขึ้น ระบบปฏิบัติการนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานโปรแกรมและอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องมีความรู้เชิงลึกด้านการเขียนโค้ด ถือเป็นการปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ในยุคนั้น

    การเข้าสู่ตลาดเกม: Xbox
    ในปี 2001 Microsoft เปิดตัว Xbox รุ่นแรก ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการแข่งขันกับ Nintendo และ Sony การมาพร้อมระบบดิสก์และความสามารถในการเล่น DVD ทำให้ Xbox ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และต่อยอดไปสู่ Xbox 360, Xbox One และ Xbox Series X|S ที่ยังคงเป็นหนึ่งในคอนโซลเกมหลักของโลก

    ความล้มเหลวและบทเรียน: Zune และ Windows Phone
    ปี 2006 Microsoft เปิดตัว Zune เพื่อต่อกรกับ iPod แต่ไม่ประสบความสำเร็จและถูกยุติในปี 2011 อย่างไรก็ตาม บทเรียนจาก Zune ถูกนำไปใช้พัฒนา Windows Phone ที่เปิดตัวในปี 2010 แม้ Windows Phone จะถูกยุติในปี 2017 แต่ก็ทำให้ Microsoft ได้เรียนรู้ว่าตลาดมือถือไม่ใช่จุดแข็งของบริษัท

    การขยายสู่บริการคลาวด์และซอฟต์แวร์
    ปี 2008 Microsoft เปิดตัว Azure Cloud Services ซึ่งปัจจุบันครองตลาดคลาวด์เป็นอันดับสองรองจาก AWS และในปี 2009 เปิดตัว Bing ที่ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องมือค้นหาหลักของโลก นอกจากนี้ยังมีการพัฒนา Outlook.com (2013) และการเปิดตัว Teams (2017) ที่กลายเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารสำคัญในองค์กรทั่วโลก

    การซื้อกิจการครั้งใหญ่
    Microsoft ใช้กลยุทธ์การซื้อกิจการเพื่อขยายธุรกิจ เช่น:
    Skype (2011) เพื่อเข้าสู่ตลาด VoIP
    Minecraft (2014) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในตลาดเกม
    LinkedIn (2016) เพื่อครองตลาดเครือข่ายมืออาชีพ

    ทั้งหมดนี้ช่วยให้ Microsoft ขยายอิทธิพลไปสู่หลายอุตสาหกรรมและสร้างรายได้มหาศาล

    https://www.slashgear.com/1718888/most-important-moments-microsoft-history/
    💻 12 เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Microsoft บทความนี้เล่าถึง 12 เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Microsoft ตั้งแต่การเปิดตัว Windows 95, การเข้าสู่ตลาดเกมด้วย Xbox, ความล้มเหลวของ Zune, ไปจนถึงการซื้อกิจการใหญ่ ๆ อย่าง Skype, LinkedIn และ Minecraft รวมถึงการเปิดตัวบริการสำคัญอย่าง Azure และ Teams 📆 12 เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Microsoft ตามลำดับเวลา: 1975 – ก่อตั้ง Microsoft Bill Gates และ Paul Allen ก่อตั้งบริษัทเพื่อพัฒนา software ให้กับ Altair 8800 1985 – เปิดตัว Windows รุ่นแรก แม้จะยังไม่ประสบความสำเร็จมาก แต่เป็นจุดเริ่มต้นของระบบปฏิบัติการ Windows 1995 – เปิดตัว Windows 95 จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่ทำให้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลใช้งานง่ายขึ้นและแพร่หลายทั่วโลก 2001 – เปิดตัว Xbox รุ่นแรก Microsoft เข้าสู่ตลาดเกมคอนโซลและกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ Sony และ Nintendo 2006 – เปิดตัว Zune พยายามแข่งขันกับ iPod แต่ไม่ประสบความสำเร็จ และยุติในปี 2011 2008 – เปิดตัว Azure Cloud Services ก้าวเข้าสู่ตลาดคลาวด์ ปัจจุบันเป็นผู้ให้บริการอันดับสองรองจาก AWS 2009 – เปิดตัว Bing กลายเป็นเครื่องมือค้นหาหลักของ Microsoft และยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 2010 – เปิดตัว Windows Phone ความพยายามเข้าสู่ตลาดมือถือ แต่ไม่สามารถแข่งขันกับ iOS และ Android ได้ 2011 – ซื้อกิจการ Skype ขยายเข้าสู่ตลาด VoIP และการสื่อสารออนไลน์ 2012 – เปิดตัว Surface Tablet รุ่นแรก เข้าสู่ตลาดแท็บเล็ต แข่งขันกับ Apple iPad 2014 – ซื้อกิจการ Minecraft (Mojang) เสริมความแข็งแกร่งในตลาดเกม ด้วยเกมยอดนิยมระดับโลก 2016 – ซื้อกิจการ LinkedIn ขยายเข้าสู่ตลาดเครือข่ายมืออาชีพ มูลค่าการซื้อกว่า $26.2 พันล้าน 💻 จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่: Windows 95 Microsoft เริ่มต้นในปี 1975 แต่การเปิดตัว Windows 95 ในปี 1995 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเข้าถึงผู้ใช้ทั่วไปได้ง่ายขึ้น ระบบปฏิบัติการนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานโปรแกรมและอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องมีความรู้เชิงลึกด้านการเขียนโค้ด ถือเป็นการปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ในยุคนั้น 🎮 การเข้าสู่ตลาดเกม: Xbox ในปี 2001 Microsoft เปิดตัว Xbox รุ่นแรก ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการแข่งขันกับ Nintendo และ Sony การมาพร้อมระบบดิสก์และความสามารถในการเล่น DVD ทำให้ Xbox ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และต่อยอดไปสู่ Xbox 360, Xbox One และ Xbox Series X|S ที่ยังคงเป็นหนึ่งในคอนโซลเกมหลักของโลก 📱 ความล้มเหลวและบทเรียน: Zune และ Windows Phone ปี 2006 Microsoft เปิดตัว Zune เพื่อต่อกรกับ iPod แต่ไม่ประสบความสำเร็จและถูกยุติในปี 2011 อย่างไรก็ตาม บทเรียนจาก Zune ถูกนำไปใช้พัฒนา Windows Phone ที่เปิดตัวในปี 2010 แม้ Windows Phone จะถูกยุติในปี 2017 แต่ก็ทำให้ Microsoft ได้เรียนรู้ว่าตลาดมือถือไม่ใช่จุดแข็งของบริษัท ☁️ การขยายสู่บริการคลาวด์และซอฟต์แวร์ ปี 2008 Microsoft เปิดตัว Azure Cloud Services ซึ่งปัจจุบันครองตลาดคลาวด์เป็นอันดับสองรองจาก AWS และในปี 2009 เปิดตัว Bing ที่ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องมือค้นหาหลักของโลก นอกจากนี้ยังมีการพัฒนา Outlook.com (2013) และการเปิดตัว Teams (2017) ที่กลายเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารสำคัญในองค์กรทั่วโลก 🛒 การซื้อกิจการครั้งใหญ่ Microsoft ใช้กลยุทธ์การซื้อกิจการเพื่อขยายธุรกิจ เช่น: 💠 Skype (2011) เพื่อเข้าสู่ตลาด VoIP 💠 Minecraft (2014) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในตลาดเกม 💠 LinkedIn (2016) เพื่อครองตลาดเครือข่ายมืออาชีพ ทั้งหมดนี้ช่วยให้ Microsoft ขยายอิทธิพลไปสู่หลายอุตสาหกรรมและสร้างรายได้มหาศาล https://www.slashgear.com/1718888/most-important-moments-microsoft-history/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    12 Of The Most Important Moments In Microsoft's History - SlashGear
    Microsoft has been a major player in the tech industry for decades. Over those years, it's had a lot of big milestones moments, for better and for worse.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1 มุมมอง 0 รีวิว
  • Raspberry Pi 5 รุ่น 1GB ราคา $45

    Raspberry Pi เพิ่งเปิดตัวรุ่น Pi 5 RAM 1GB ในราคา $45 พร้อมกับการปรับขึ้นราคาของรุ่นอื่น ๆ เช่น Pi 5 รุ่น 8GB ที่ขึ้นจาก $80 เป็น $95 และรุ่น 16GB ที่ขึ้นจาก $120 เป็น $145 สาเหตุหลักมาจาก การขาดแคลนหน่วยความจำ LPDDR4 ที่เกิดจากความต้องการสูงในตลาด AI infrastructure ตามคำกล่าวของ CEO Eben Upton ที่ย้ำว่าการขึ้นราคานี้เป็น “ชั่วคราว” และจะปรับลดลงเมื่อสถานการณ์ตลาดดีขึ้น

    คู่แข่งที่สเปกดีกว่าในราคาใกล้เคียง
    ตลาด Single Board Computer (SBC) มีการแข่งขันสูง โดยบอร์ดหลายรุ่นให้สเปกที่ดีกว่าในราคาใกล้เคียง เช่น:
    ArmSoM Forge1 ราคา $23 มาพร้อม CPU Rockchip RK3506J และ RAM 512MB เหมาะกับงาน IoT และอุตสาหกรรม
    Radxa ROCK 3A ราคาเริ่มต้น $30 มี RAM 2GB, CPU Cortex-A55 Quad-core และรองรับ NVMe, PCIe 3.0
    PINE64 ROCK64 ราคา $44.95 มาพร้อม RAM 4GB และชุมชนผู้ใช้ที่แข็งแกร่ง
    Le Potato AML-S905X-CC ราคา $45 มาพร้อม RAM 2GB และรองรับการเล่นวิดีโอ 4K

    Ecosystem ของ Raspberry Pi ที่ยังเหนือกว่า
    แม้คู่แข่งจะมีสเปกที่ดีกว่า แต่ Raspberry Pi ยังคงได้เปรียบในด้าน Ecosystem ที่ครบวงจร:
    Raspberry Pi OS ที่เสถียรและได้รับการอัปเดตสม่ำเสมอ
    เครื่องมือ Raspberry Pi Imager ที่ทำให้การติดตั้งง่ายสำหรับผู้เริ่มต้น
    HAT Ecosystem ที่มีบอร์ดเสริมหลายร้อยแบบ รองรับการใช้งานหลากหลายโดยไม่ต้องกังวลเรื่องไดรเวอร์
    ชุมชนและเอกสารประกอบ ที่กว้างขวางและเป็นมิตรต่อผู้ใช้ใหม่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเปิดตัว Raspberry Pi 5 รุ่น 1GB
    ราคา $45 แต่ถูกตั้งคำถามเรื่องความคุ้มค่า
    ราคาของรุ่นอื่น ๆ ก็ปรับขึ้นตามภาวะตลาด

    คู่แข่งในตลาด SBC
    ArmSoM Forge1 ($23) สำหรับ IoT
    Radxa ROCK 3A ($30) รองรับ NVMe/PCIe
    PINE64 ROCK64 ($44.95) RAM 4GB
    Le Potato ($45) RAM 2GB และรองรับ 4K

    จุดแข็งของ Raspberry Pi
    Ecosystem ครบวงจร (OS, HAT, Imager)
    ชุมชนและเอกสารประกอบที่แข็งแกร่ง

    คำเตือนต่อผู้ใช้
    รุ่น 1GB อาจไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ให้ RAM มากกว่าในราคาใกล้เคียง
    ราคาที่ปรับขึ้นอาจกระทบต่อเป้าหมายเดิมของ Raspberry Pi ที่ต้องการ democratize เทคโนโลยี

    https://itsfoss.com/news/raspberry-pi-5-1gb-worth-it/
    💻 Raspberry Pi 5 รุ่น 1GB ราคา $45 Raspberry Pi เพิ่งเปิดตัวรุ่น Pi 5 RAM 1GB ในราคา $45 พร้อมกับการปรับขึ้นราคาของรุ่นอื่น ๆ เช่น Pi 5 รุ่น 8GB ที่ขึ้นจาก $80 เป็น $95 และรุ่น 16GB ที่ขึ้นจาก $120 เป็น $145 สาเหตุหลักมาจาก การขาดแคลนหน่วยความจำ LPDDR4 ที่เกิดจากความต้องการสูงในตลาด AI infrastructure ตามคำกล่าวของ CEO Eben Upton ที่ย้ำว่าการขึ้นราคานี้เป็น “ชั่วคราว” และจะปรับลดลงเมื่อสถานการณ์ตลาดดีขึ้น ⚙️ คู่แข่งที่สเปกดีกว่าในราคาใกล้เคียง ตลาด Single Board Computer (SBC) มีการแข่งขันสูง โดยบอร์ดหลายรุ่นให้สเปกที่ดีกว่าในราคาใกล้เคียง เช่น: 💠 ArmSoM Forge1 ราคา $23 มาพร้อม CPU Rockchip RK3506J และ RAM 512MB เหมาะกับงาน IoT และอุตสาหกรรม 💠 Radxa ROCK 3A ราคาเริ่มต้น $30 มี RAM 2GB, CPU Cortex-A55 Quad-core และรองรับ NVMe, PCIe 3.0 💠 PINE64 ROCK64 ราคา $44.95 มาพร้อม RAM 4GB และชุมชนผู้ใช้ที่แข็งแกร่ง 💠 Le Potato AML-S905X-CC ราคา $45 มาพร้อม RAM 2GB และรองรับการเล่นวิดีโอ 4K 🌐 Ecosystem ของ Raspberry Pi ที่ยังเหนือกว่า แม้คู่แข่งจะมีสเปกที่ดีกว่า แต่ Raspberry Pi ยังคงได้เปรียบในด้าน Ecosystem ที่ครบวงจร: 💠 Raspberry Pi OS ที่เสถียรและได้รับการอัปเดตสม่ำเสมอ 💠 เครื่องมือ Raspberry Pi Imager ที่ทำให้การติดตั้งง่ายสำหรับผู้เริ่มต้น 💠 HAT Ecosystem ที่มีบอร์ดเสริมหลายร้อยแบบ รองรับการใช้งานหลากหลายโดยไม่ต้องกังวลเรื่องไดรเวอร์ 💠 ชุมชนและเอกสารประกอบ ที่กว้างขวางและเป็นมิตรต่อผู้ใช้ใหม่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเปิดตัว Raspberry Pi 5 รุ่น 1GB ➡️ ราคา $45 แต่ถูกตั้งคำถามเรื่องความคุ้มค่า ➡️ ราคาของรุ่นอื่น ๆ ก็ปรับขึ้นตามภาวะตลาด ✅ คู่แข่งในตลาด SBC ➡️ ArmSoM Forge1 ($23) สำหรับ IoT ➡️ Radxa ROCK 3A ($30) รองรับ NVMe/PCIe ➡️ PINE64 ROCK64 ($44.95) RAM 4GB ➡️ Le Potato ($45) RAM 2GB และรองรับ 4K ✅ จุดแข็งของ Raspberry Pi ➡️ Ecosystem ครบวงจร (OS, HAT, Imager) ➡️ ชุมชนและเอกสารประกอบที่แข็งแกร่ง ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้ ⛔ รุ่น 1GB อาจไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ให้ RAM มากกว่าในราคาใกล้เคียง ⛔ ราคาที่ปรับขึ้นอาจกระทบต่อเป้าหมายเดิมของ Raspberry Pi ที่ต้องการ democratize เทคโนโลยี https://itsfoss.com/news/raspberry-pi-5-1gb-worth-it/
    ITSFOSS.COM
    Raspberry Pi 5 1GB Variant: Is It Worth $45?
    Other SBCs offer more RAM at this price point. So, should you still pay $45 for a 1 GB Pi?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.38

    กฎหมายแรงงานฉบับลูกจ้าง: เกราะป้องกันที่คุณต้องมีในโลกการทำงาน
    ในโลกของการจ้างงานที่ขับเคลื่อนด้วยการแข่งขันและภาระหน้าที่ เราในฐานะ "ลูกจ้าง" หรือ "คนทำงาน" มักได้ยินคำว่า "กฎหมายแรงงาน" อยู่บ่อยครั้ง จนบางครั้งเกิดความสับสนหรือไม่แน่ใจว่าแท้จริงแล้วสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายของเราครอบคลุมถึงขอบเขตใดบ้าง การตระหนักถึงข้อกฎหมายเหล่านี้จึงไม่ใช่เพียงแค่ความรู้ทั่วไป แต่เป็นเสมือน "เกราะป้องกัน" ที่สำคัญที่สุด ที่จะช่วยให้เราสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมั่นใจ ไม่ถูกเอาเปรียบ และเรียกร้องความเป็นธรรมได้เมื่อเกิดสถานการณ์ที่ไม่เป็นไปตามครรลองที่กฎหมายกำหนดไว้ เราจึงขอสรุปสาระสำคัญของกฎหมายแรงงานที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนจำเป็นต้องทราบ ตั้งแต่เรื่องพื้นฐานของเวลาทำงาน วันหยุด วันลา ไปจนถึงสิทธิค่าชดเชยเมื่อถูกเลิกจ้าง เพื่อให้ทุกคน "รู้ทันสิทธิ" ของตนเองอย่างแท้จริง

    กฎหมายแรงงานได้กำหนดมาตรฐานขั้นต่ำเกี่ยวกับ "เวลาทำงาน" เพื่อให้ลูกจ้างมีเวลาพักผ่อนที่เพียงพอ โดยกำหนดให้งานทั่วไปต้องทำงานไม่เกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน และรวมแล้วต้องไม่เกิน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ส่วนงานที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพหรืออันตรายจะถูกจำกัดเข้มงวดกว่า คือต้องไม่เกิน 5 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่นายจ้างต้องยึดถืออย่างเคร่งครัด หากมีความจำเป็นต้องทำงานล่วงเวลา หรือที่เรียกกันว่า "OT" (Overtime) กฎหมายก็กำหนดอัตราค่าตอบแทนที่เป็นธรรม โดยในวันธรรมดาจะต้องได้รับค่าล่วงเวลาไม่น้อยกว่า 1.5 เท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมง และเพิ่มเป็น 3 เท่าสำหรับวันหยุด และแม้จะเป็นการทำงานเพิ่มในเวลาทำงานปกติก็ตาม ก็ยังคงต้องได้รับค่าตอบแทนในอัตรา 1 เท่า หากแต่การทำงานล่วงเวลาทั้งหมดนี้ก็มีเพดานกำกับไว้ คือต้องไม่เกิน 36 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เพื่อป้องกันการใช้แรงงานเกินควร นอกจากเวลาทำงานแล้ว "วันหยุด" ก็เป็นอีกหนึ่งสิทธิพื้นฐานที่ถูกคุ้มครอง ลูกจ้างมีสิทธิได้รับวันหยุดประจำสัปดาห์อย่างน้อย 1 วัน และที่สำคัญคือสิทธิในวันหยุดตามประเพณี ซึ่งกฎหมายกำหนดไว้ว่าต้องไม่น้อยกว่า 13 วันต่อปี โดยรวมวันสำคัญทางศาสนาและวันหยุดราชการอื่น ๆ เพื่อให้ลูกจ้างมีโอกาสได้พักผ่อนและทำกิจกรรมทางสังคมได้อย่างเต็มที่ สิทธิในการ "ลา" เป็นอีกหนึ่งบทบัญญัติที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในคุณภาพชีวิตของลูกจ้าง เริ่มตั้งแต่ "ลาป่วย" ซึ่งลูกจ้างสามารถลาได้ตามที่ป่วยจริง และหากลาติดต่อกันเกินกว่า 3 วัน นายจ้างมีสิทธิขอ "ใบรับรองแพทย์" เพื่อประกอบการพิจารณา การ "ลาพักร้อน" หรือวันหยุดพักผ่อนประจำปี ก็ถูกกำหนดให้มีขั้นต่ำที่ 6 วันต่อปี หลังจากทำงานครบหนึ่งปี ส่วน "ลากิจธุระอันจำเป็น" นั้น แม้จะถูกกำหนดโดยกฎหมายให้นายจ้างอนุญาต แต่รายละเอียดและจำนวนวันลาที่เกินกว่า 3 วันขึ้นไป อาจขึ้นอยู่กับข้อตกลงหรือระเบียบขององค์กรนั้น ๆ สำหรับสิทธิของลูกจ้างหญิง กฎหมายให้สิทธิ "ลาคลอดบุตร" ได้สูงสุดถึง 120 วัน โดยได้รับค่าจ้างในระหว่างลานั้นไม่เกิน 60 วัน และล่าสุด ยังรวมถึงสิทธิ "ลาตรวจครรภ์" 15 วัน และ "ลาเพื่อช่วยคู่สมรสคลอดบุตร" 15 วัน ซึ่งต้องใช้สิทธิภายใน 90 วันหลังคลอด ซึ่งทั้งหมดนี้คือการยกระดับคุณภาพชีวิตและครอบครัวของแรงงาน

    แต่ประเด็นที่มักจะสร้างความกังวลใจและเป็นข้อพิพาทมากที่สุด คือเรื่องของการ "เลิกจ้าง" และ "ค่าชดเชย" กฎหมายแรงงานได้กำหนดอัตราค่าชดเชยที่ชัดเจนและเป็นไปตามระยะเวลาการทำงานของลูกจ้าง เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อต้องออกจากงาน ลูกจ้างจะได้รับเงินชดเชยที่เหมาะสมตามความทุ่มเทและเวลาที่ได้อุทิศให้แก่องค์กร โดยเริ่มตั้งแต่การทำงานครบ 120 วันแต่ไม่ถึง 1 ปี จะได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้าง 30 วัน ไปจนถึงกรณีที่ทำงานมาอย่างยาวนานตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จะได้รับค่าชดเชยสูงสุดถึง 300 วัน ซึ่งการกำหนดอัตราค่าชดเชยนี้เป็นไปเพื่อคุ้มครองสถานะทางการเงินของลูกจ้างในช่วงเปลี่ยนผ่านการทำงาน การทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในเรื่องเวลาทำงาน ค่าล่วงเวลา วันหยุด วันลา และค่าชดเชยการเลิกจ้าง ตามที่กระทรวงแรงงานได้ประกาศไว้นั้น จึงไม่ใช่เพียงแค่การท่องจำตัวเลข แต่เป็นการติดอาวุธทางปัญญาให้กับตนเองในฐานะลูกจ้าง เพื่อใช้กฎหมายเป็นกลไกในการรักษาสิทธิของตนเองให้ได้รับความเสมอภาคและความเป็นธรรมตามหลักนิติธรรมที่ใช้กำกับดูแลความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง

    ดังนั้น การศึกษากฎหมายแรงงานจึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญสูงสุด ไม่ว่าคุณจะอยู่ในตำแหน่งใดหรือทำงานในอุตสาหกรรมใดก็ตาม การ "รู้ทันสิทธิ" เหล่านี้จะทำให้คุณไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าในโครงสร้างการจ้างงาน และทำให้คุณสามารถก้าวเดินในโลกของการทำงานได้อย่างมั่นคงและมั่นใจ การใช้กฎหมายเป็นหลักในการเจรจาและการปฏิบัติงานคือการแสดงออกถึงความเป็นมืออาชีพและการเคารพในตัวเอง เพราะสิทธิที่เราได้รับตามกฎหมายแรงงานนั้น แท้จริงแล้วคือสิ่งที่สังคมยอมรับว่าเป็นความยุติธรรมขั้นพื้นฐานที่เราพึงได้รับจากการใช้แรงงานและเวลาอันมีค่าของเราในการสร้างสรรค์ผลผลิตให้กับสังคมนั่นเอง
    บทความกฎหมาย EP.38 กฎหมายแรงงานฉบับลูกจ้าง: เกราะป้องกันที่คุณต้องมีในโลกการทำงาน ในโลกของการจ้างงานที่ขับเคลื่อนด้วยการแข่งขันและภาระหน้าที่ เราในฐานะ "ลูกจ้าง" หรือ "คนทำงาน" มักได้ยินคำว่า "กฎหมายแรงงาน" อยู่บ่อยครั้ง จนบางครั้งเกิดความสับสนหรือไม่แน่ใจว่าแท้จริงแล้วสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายของเราครอบคลุมถึงขอบเขตใดบ้าง การตระหนักถึงข้อกฎหมายเหล่านี้จึงไม่ใช่เพียงแค่ความรู้ทั่วไป แต่เป็นเสมือน "เกราะป้องกัน" ที่สำคัญที่สุด ที่จะช่วยให้เราสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมั่นใจ ไม่ถูกเอาเปรียบ และเรียกร้องความเป็นธรรมได้เมื่อเกิดสถานการณ์ที่ไม่เป็นไปตามครรลองที่กฎหมายกำหนดไว้ เราจึงขอสรุปสาระสำคัญของกฎหมายแรงงานที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนจำเป็นต้องทราบ ตั้งแต่เรื่องพื้นฐานของเวลาทำงาน วันหยุด วันลา ไปจนถึงสิทธิค่าชดเชยเมื่อถูกเลิกจ้าง เพื่อให้ทุกคน "รู้ทันสิทธิ" ของตนเองอย่างแท้จริง กฎหมายแรงงานได้กำหนดมาตรฐานขั้นต่ำเกี่ยวกับ "เวลาทำงาน" เพื่อให้ลูกจ้างมีเวลาพักผ่อนที่เพียงพอ โดยกำหนดให้งานทั่วไปต้องทำงานไม่เกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน และรวมแล้วต้องไม่เกิน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ส่วนงานที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพหรืออันตรายจะถูกจำกัดเข้มงวดกว่า คือต้องไม่เกิน 5 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่นายจ้างต้องยึดถืออย่างเคร่งครัด หากมีความจำเป็นต้องทำงานล่วงเวลา หรือที่เรียกกันว่า "OT" (Overtime) กฎหมายก็กำหนดอัตราค่าตอบแทนที่เป็นธรรม โดยในวันธรรมดาจะต้องได้รับค่าล่วงเวลาไม่น้อยกว่า 1.5 เท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมง และเพิ่มเป็น 3 เท่าสำหรับวันหยุด และแม้จะเป็นการทำงานเพิ่มในเวลาทำงานปกติก็ตาม ก็ยังคงต้องได้รับค่าตอบแทนในอัตรา 1 เท่า หากแต่การทำงานล่วงเวลาทั้งหมดนี้ก็มีเพดานกำกับไว้ คือต้องไม่เกิน 36 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เพื่อป้องกันการใช้แรงงานเกินควร นอกจากเวลาทำงานแล้ว "วันหยุด" ก็เป็นอีกหนึ่งสิทธิพื้นฐานที่ถูกคุ้มครอง ลูกจ้างมีสิทธิได้รับวันหยุดประจำสัปดาห์อย่างน้อย 1 วัน และที่สำคัญคือสิทธิในวันหยุดตามประเพณี ซึ่งกฎหมายกำหนดไว้ว่าต้องไม่น้อยกว่า 13 วันต่อปี โดยรวมวันสำคัญทางศาสนาและวันหยุดราชการอื่น ๆ เพื่อให้ลูกจ้างมีโอกาสได้พักผ่อนและทำกิจกรรมทางสังคมได้อย่างเต็มที่ สิทธิในการ "ลา" เป็นอีกหนึ่งบทบัญญัติที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในคุณภาพชีวิตของลูกจ้าง เริ่มตั้งแต่ "ลาป่วย" ซึ่งลูกจ้างสามารถลาได้ตามที่ป่วยจริง และหากลาติดต่อกันเกินกว่า 3 วัน นายจ้างมีสิทธิขอ "ใบรับรองแพทย์" เพื่อประกอบการพิจารณา การ "ลาพักร้อน" หรือวันหยุดพักผ่อนประจำปี ก็ถูกกำหนดให้มีขั้นต่ำที่ 6 วันต่อปี หลังจากทำงานครบหนึ่งปี ส่วน "ลากิจธุระอันจำเป็น" นั้น แม้จะถูกกำหนดโดยกฎหมายให้นายจ้างอนุญาต แต่รายละเอียดและจำนวนวันลาที่เกินกว่า 3 วันขึ้นไป อาจขึ้นอยู่กับข้อตกลงหรือระเบียบขององค์กรนั้น ๆ สำหรับสิทธิของลูกจ้างหญิง กฎหมายให้สิทธิ "ลาคลอดบุตร" ได้สูงสุดถึง 120 วัน โดยได้รับค่าจ้างในระหว่างลานั้นไม่เกิน 60 วัน และล่าสุด ยังรวมถึงสิทธิ "ลาตรวจครรภ์" 15 วัน และ "ลาเพื่อช่วยคู่สมรสคลอดบุตร" 15 วัน ซึ่งต้องใช้สิทธิภายใน 90 วันหลังคลอด ซึ่งทั้งหมดนี้คือการยกระดับคุณภาพชีวิตและครอบครัวของแรงงาน แต่ประเด็นที่มักจะสร้างความกังวลใจและเป็นข้อพิพาทมากที่สุด คือเรื่องของการ "เลิกจ้าง" และ "ค่าชดเชย" กฎหมายแรงงานได้กำหนดอัตราค่าชดเชยที่ชัดเจนและเป็นไปตามระยะเวลาการทำงานของลูกจ้าง เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อต้องออกจากงาน ลูกจ้างจะได้รับเงินชดเชยที่เหมาะสมตามความทุ่มเทและเวลาที่ได้อุทิศให้แก่องค์กร โดยเริ่มตั้งแต่การทำงานครบ 120 วันแต่ไม่ถึง 1 ปี จะได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้าง 30 วัน ไปจนถึงกรณีที่ทำงานมาอย่างยาวนานตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จะได้รับค่าชดเชยสูงสุดถึง 300 วัน ซึ่งการกำหนดอัตราค่าชดเชยนี้เป็นไปเพื่อคุ้มครองสถานะทางการเงินของลูกจ้างในช่วงเปลี่ยนผ่านการทำงาน การทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในเรื่องเวลาทำงาน ค่าล่วงเวลา วันหยุด วันลา และค่าชดเชยการเลิกจ้าง ตามที่กระทรวงแรงงานได้ประกาศไว้นั้น จึงไม่ใช่เพียงแค่การท่องจำตัวเลข แต่เป็นการติดอาวุธทางปัญญาให้กับตนเองในฐานะลูกจ้าง เพื่อใช้กฎหมายเป็นกลไกในการรักษาสิทธิของตนเองให้ได้รับความเสมอภาคและความเป็นธรรมตามหลักนิติธรรมที่ใช้กำกับดูแลความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ดังนั้น การศึกษากฎหมายแรงงานจึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญสูงสุด ไม่ว่าคุณจะอยู่ในตำแหน่งใดหรือทำงานในอุตสาหกรรมใดก็ตาม การ "รู้ทันสิทธิ" เหล่านี้จะทำให้คุณไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าในโครงสร้างการจ้างงาน และทำให้คุณสามารถก้าวเดินในโลกของการทำงานได้อย่างมั่นคงและมั่นใจ การใช้กฎหมายเป็นหลักในการเจรจาและการปฏิบัติงานคือการแสดงออกถึงความเป็นมืออาชีพและการเคารพในตัวเอง เพราะสิทธิที่เราได้รับตามกฎหมายแรงงานนั้น แท้จริงแล้วคือสิ่งที่สังคมยอมรับว่าเป็นความยุติธรรมขั้นพื้นฐานที่เราพึงได้รับจากการใช้แรงงานและเวลาอันมีค่าของเราในการสร้างสรรค์ผลผลิตให้กับสังคมนั่นเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🛳 Paris River Cruise Port — ประตูสู่หัวใจแห่งมหานครปารีส!
    สัมผัสความโรแมนติกของ “เมืองแห่งแสง” จากอีกมุมมองหนึ่ง — บนลำน้ำแซนอันโด่งดังของฝรั่งเศส

    Eiffel Tower หอไอเฟล
    สัญลักษณ์อันดับหนึ่งของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ริม แม่น้ำแซน สามารถขึ้นลิฟต์ชมวิวเมือง ปารีสแบบพาโนรามา จุดถ่ายรูปยอดนิยม คือจากสวน Champ de Mars หรือสะพาน Bir-Hakeim

    Louvre Museum พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์
    พิพิธภัณฑ์ศิลปะขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีภาพ Mona Lisa และผลงานระดับโลกมากมาย โดดเด่นด้วยพีระมิดแก้วกลางลาน และสถาปัตยกรรมสุดอลังการ

    Notre-Dame de Paris มหาวิหารนอเทรอดาม
    จุดเริ่มต้นของศูนย์กลางกรุงปารีสตามหลักกิโลเมตรที่ 0 โบสถ์สไตล์กอทิกอายุกว่า 850 ปี ตั้งอยู่บนเกาะ Île de la Cité กลางแม่น้ำแซน แม้ภายในยังปิดปรับปรุงจากเหตุไฟไหม้ แต่ภายนอกยังงดงามและถ่ายรูปได้

    Sacré-Cœur & Montmartre โบสถ์ซาเครเกอร์ และย่านมงมาร์ต
    ตั้งอยู่บนเนินเขาที่สูงที่สุดของปารีส มองเห็นวิวเมืองได้จากมุมสูง โบสถ์ซาเครเกอร์มีสถาปัตยกรรมโดมสีขาวงดงาม รอบๆ เป็นย่านศิลปิน คาเฟ่ และร้านของ ที่ระลึกบรรยากาศยุโรปคลาสสิก

    สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที!
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696

    #ParisRiverCruisePort #SeineRiver #France #EiffelTower #LouvreMuseum #NotreDamedeParis #SacrCœurMontmartre #port #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #cruisedomain
    🛳 Paris River Cruise Port — ประตูสู่หัวใจแห่งมหานครปารีส! 🌉 สัมผัสความโรแมนติกของ “เมืองแห่งแสง” จากอีกมุมมองหนึ่ง — บนลำน้ำแซนอันโด่งดังของฝรั่งเศส 🇫🇷✨🗼 🅿️ Eiffel Tower 🚗 หอไอเฟล สัญลักษณ์อันดับหนึ่งของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ริม แม่น้ำแซน สามารถขึ้นลิฟต์ชมวิวเมือง ปารีสแบบพาโนรามา จุดถ่ายรูปยอดนิยม คือจากสวน Champ de Mars หรือสะพาน Bir-Hakeim 🅿️ Louvre Museum 🚗 พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ พิพิธภัณฑ์ศิลปะขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีภาพ Mona Lisa และผลงานระดับโลกมากมาย โดดเด่นด้วยพีระมิดแก้วกลางลาน และสถาปัตยกรรมสุดอลังการ 🅿️ Notre-Dame de Paris 🚗 มหาวิหารนอเทรอดาม จุดเริ่มต้นของศูนย์กลางกรุงปารีสตามหลักกิโลเมตรที่ 0 โบสถ์สไตล์กอทิกอายุกว่า 850 ปี ตั้งอยู่บนเกาะ Île de la Cité กลางแม่น้ำแซน แม้ภายในยังปิดปรับปรุงจากเหตุไฟไหม้ แต่ภายนอกยังงดงามและถ่ายรูปได้ 🅿️ Sacré-Cœur & Montmartre 🚗 โบสถ์ซาเครเกอร์ และย่านมงมาร์ต ตั้งอยู่บนเนินเขาที่สูงที่สุดของปารีส มองเห็นวิวเมืองได้จากมุมสูง โบสถ์ซาเครเกอร์มีสถาปัตยกรรมโดมสีขาวงดงาม รอบๆ เป็นย่านศิลปิน คาเฟ่ และร้านของ ที่ระลึกบรรยากาศยุโรปคลาสสิก 📩 สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที! https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #ParisRiverCruisePort #SeineRiver #France #EiffelTower #LouvreMuseum #NotreDamedeParis #SacrCœurMontmartre #port #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #cruisedomain
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลุดผลทดสอบบน Geekbench ของ Intel Core Ultra 7 366H (Panther Lake)

    Intel Core Ultra 7 366H (Panther Lake) ถูกทดสอบบน Geekbench เผยว่า iGPU แบบ Xe3 4 คอร์ ทำคะแนนสูงกว่า GTX 1050 Ti และ Radeon 840M แต่ยังตามหลัง Radeon 860M อยู่ราว 40%

    Core Ultra 7 366H ใช้สถาปัตยกรรม Panther Lake มี 16 คอร์ (4 Performance + 8 Efficient + 4 LP-E) ความเร็วสูงสุด 4.8 GHz พร้อมแคช L3 ขนาด 18 MB ถือเป็นรุ่นที่เน้นตลาดโน้ตบุ๊กระดับกลาง โดยยังคงใช้พลังงาน TDP 25W (Turbo 65–80W)

    iGPU Xe3 4 คอร์ เทียบกับคู่แข่ง
    ผลทดสอบ Geekbench Vulkan แสดงว่า iGPU ทำคะแนน 22,813 ซึ่งสูงกว่า GTX 1050 Ti (21,937) และ Radeon 840M (18,060) แต่ยังตามหลัง Radeon 860M (37,552) อยู่มาก จุดนี้สะท้อนว่า iGPU ของ Intel รุ่นนี้เหมาะกับงานกราฟิกทั่วไปและเกมเบา ๆ แต่ยังไม่สามารถแข่งขันกับ iGPU ระดับสูงของ AMD ได้

    ตำแหน่งในตลาด
    Core Ultra 7 366H ถูกวางไว้สำหรับ โน้ตบุ๊ก mainstream ที่ต้องการสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและราคา โดยรุ่นที่มี iGPU 10–12 คอร์ในตระกูล Panther Lake ได้แสดงผลลัพธ์ใกล้เคียง RTX 3050 แล้ว ทำให้รุ่น 366H เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในกลุ่มกลาง แต่ไม่ใช่ตัวท็อปสำหรับงานกราฟิกหนัก

    แนวโน้มและการแข่งขัน
    แม้ Intel จะพัฒนา iGPU ให้ดีขึ้น แต่ตลาดโน้ตบุ๊กงบกลางยังคงถูกครองโดย AMD ที่มี iGPU แรงกว่าในซีรีส์ Ryzen AI 7 และ Krackan Point การแข่งขันในปี 2026 จะขึ้นอยู่กับว่า Intel สามารถผลักดัน Panther Lake รุ่นสูงให้เข้าถึงตลาดได้เร็วแค่ไหน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Core Ultra 7 366H ใช้สถาปัตยกรรม Panther Lake
    16 คอร์, 4.8 GHz, L3 18 MB, TDP 25W

    iGPU Xe3 4 คอร์ทำคะแนน 22,813 บน Geekbench Vulkan
    สูงกว่า GTX 1050 Ti และ Radeon 840M

    เหมาะกับโน้ตบุ๊ก mainstream
    สมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพ แต่ไม่ใช่ตัวท็อป

    ยังตามหลัง Radeon 860M อยู่ราว 40%
    ไม่เหมาะกับงานกราฟิกหนักหรือเกม AAA ที่ต้องการพลังสูง

    AMD ยังคงครองตลาด iGPU ระดับสูง
    Intel ต้องเร่งพัฒนา Panther Lake รุ่น 10–12 คอร์เพื่อแข่งขัน

    https://wccftech.com/intel-core-ultra-7-366h-benchmarked-on-geekbench/
    📈 หลุดผลทดสอบบน Geekbench ของ Intel Core Ultra 7 366H (Panther Lake) Intel Core Ultra 7 366H (Panther Lake) ถูกทดสอบบน Geekbench เผยว่า iGPU แบบ Xe3 4 คอร์ ทำคะแนนสูงกว่า GTX 1050 Ti และ Radeon 840M แต่ยังตามหลัง Radeon 860M อยู่ราว 40% Core Ultra 7 366H ใช้สถาปัตยกรรม Panther Lake มี 16 คอร์ (4 Performance + 8 Efficient + 4 LP-E) ความเร็วสูงสุด 4.8 GHz พร้อมแคช L3 ขนาด 18 MB ถือเป็นรุ่นที่เน้นตลาดโน้ตบุ๊กระดับกลาง โดยยังคงใช้พลังงาน TDP 25W (Turbo 65–80W) 🎮 iGPU Xe3 4 คอร์ เทียบกับคู่แข่ง ผลทดสอบ Geekbench Vulkan แสดงว่า iGPU ทำคะแนน 22,813 ซึ่งสูงกว่า GTX 1050 Ti (21,937) และ Radeon 840M (18,060) แต่ยังตามหลัง Radeon 860M (37,552) อยู่มาก จุดนี้สะท้อนว่า iGPU ของ Intel รุ่นนี้เหมาะกับงานกราฟิกทั่วไปและเกมเบา ๆ แต่ยังไม่สามารถแข่งขันกับ iGPU ระดับสูงของ AMD ได้ 🖥️ ตำแหน่งในตลาด Core Ultra 7 366H ถูกวางไว้สำหรับ โน้ตบุ๊ก mainstream ที่ต้องการสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและราคา โดยรุ่นที่มี iGPU 10–12 คอร์ในตระกูล Panther Lake ได้แสดงผลลัพธ์ใกล้เคียง RTX 3050 แล้ว ทำให้รุ่น 366H เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในกลุ่มกลาง แต่ไม่ใช่ตัวท็อปสำหรับงานกราฟิกหนัก ⚠️ แนวโน้มและการแข่งขัน แม้ Intel จะพัฒนา iGPU ให้ดีขึ้น แต่ตลาดโน้ตบุ๊กงบกลางยังคงถูกครองโดย AMD ที่มี iGPU แรงกว่าในซีรีส์ Ryzen AI 7 และ Krackan Point การแข่งขันในปี 2026 จะขึ้นอยู่กับว่า Intel สามารถผลักดัน Panther Lake รุ่นสูงให้เข้าถึงตลาดได้เร็วแค่ไหน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Core Ultra 7 366H ใช้สถาปัตยกรรม Panther Lake ➡️ 16 คอร์, 4.8 GHz, L3 18 MB, TDP 25W ✅ iGPU Xe3 4 คอร์ทำคะแนน 22,813 บน Geekbench Vulkan ➡️ สูงกว่า GTX 1050 Ti และ Radeon 840M ✅ เหมาะกับโน้ตบุ๊ก mainstream ➡️ สมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพ แต่ไม่ใช่ตัวท็อป ‼️ ยังตามหลัง Radeon 860M อยู่ราว 40% ⛔ ไม่เหมาะกับงานกราฟิกหนักหรือเกม AAA ที่ต้องการพลังสูง ‼️ AMD ยังคงครองตลาด iGPU ระดับสูง ⛔ Intel ต้องเร่งพัฒนา Panther Lake รุ่น 10–12 คอร์เพื่อแข่งขัน https://wccftech.com/intel-core-ultra-7-366h-benchmarked-on-geekbench/
    WCCFTECH.COM
    Intel Core Ultra 7 366H Leaked iGPU Geekbench Benchmark Reveals 26% Higher Score Vs Radeon 840M
    Intel Panther Lake Core Ultra 7 366H was benchmarked in Geekbench Vulkan test and showed good performance uplift over Radeon 840M.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • EPYC Embedded Venice (Zen 6)

    AMD เตรียมเปิดตัวซีรีส์ EPYC Embedded 9006 Venice ที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 6 ผลิตบนเทคโนโลยี TSMC 2nm โดยรุ่น Embedded จะมีสูงสุด 96 คอร์ พร้อมรองรับ PCIe Gen6 และ DDR5/MRDIMM ถือเป็นรุ่นที่เน้นประสิทธิภาพสูงสำหรับงานที่ต้องการพลังการประมวลผลมาก เช่น Data center ขนาดเล็ก, Edge computing และระบบ AI inference

    EPYC Embedded Fire Range (Zen 5)
    ซีรีส์ Fire Range Embedded 2005 ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 สูงสุด 16 คอร์ รองรับ PCIe Gen5 และ DDR5-5600 โดยใช้ die เดียวกับ Ryzen 9000HX ทำให้เหมาะกับงาน Networking, Storage และ Industrial platforms จุดเด่นคือการนำชิปเดสก์ท็อปมาใช้ใหม่ในตลาด Embedded เพื่อคุมต้นทุนแต่ยังคงประสิทธิภาพสูง

    EPYC Embedded Annapurna
    ตระกูล Annapurna ถูกออกแบบมาเพื่อ Network Control planes โดยเน้น ประสิทธิภาพต่อวัตต์และต่อราคา (perf/Watt, perf/$) เหมาะสำหรับ Switches, Routers, Security appliances และ Optical transport แม้ AMD ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดสถาปัตยกรรม แต่ชัดเจนว่าเป็นรุ่นที่เน้นการใช้งานในระบบเครือข่ายที่ต้องการความเสถียรและต้นทุนต่ำ

    แนวโน้มและการเปิดตัว
    AMD คาดว่าจะเปิดตัวไลน์อัพเหล่านี้ในช่วง ปี 2026–2027 เพื่อขยายตลาด Embedded ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยจะเป็นคู่แข่งสำคัญกับ Intel และ ARM-based solutions ในตลาดที่ต้องการทั้ง พลังการประมวลผลและการประหยัดพลังงาน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    EPYC Embedded Venice (Zen 6)
    สูงสุด 96 คอร์, PCIe Gen6, DDR5/MRDIMM, ผลิตบน TSMC 2nm

    EPYC Embedded Fire Range (Zen 5)
    สูงสุด 16 คอร์, PCIe Gen5, DDR5-5600, ใช้ die จาก Ryzen 9000HX

    EPYC Embedded Annapurna
    เน้น perf/Watt และ perf/$ สำหรับ Switches, Routers และ Security appliances

    ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดสถาปัตยกรรม Annapurna
    ต้องรอติดตามข้อมูลเพิ่มเติมจาก AMD

    การเปิดตัวจริงคาดในปี 2026–2027
    ตลาด Embedded จะเป็นสมรภูมิแข่งขันใหม่กับ Intel และ ARM

    https://wccftech.com/amd-epyc-9006-embedded-venice-cpus-96-zen-6-cores-embedded-2005-fire-range-annapurna/
    🖥️ EPYC Embedded Venice (Zen 6) AMD เตรียมเปิดตัวซีรีส์ EPYC Embedded 9006 Venice ที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 6 ผลิตบนเทคโนโลยี TSMC 2nm โดยรุ่น Embedded จะมีสูงสุด 96 คอร์ พร้อมรองรับ PCIe Gen6 และ DDR5/MRDIMM ถือเป็นรุ่นที่เน้นประสิทธิภาพสูงสำหรับงานที่ต้องการพลังการประมวลผลมาก เช่น Data center ขนาดเล็ก, Edge computing และระบบ AI inference 🔥 EPYC Embedded Fire Range (Zen 5) ซีรีส์ Fire Range Embedded 2005 ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 สูงสุด 16 คอร์ รองรับ PCIe Gen5 และ DDR5-5600 โดยใช้ die เดียวกับ Ryzen 9000HX ทำให้เหมาะกับงาน Networking, Storage และ Industrial platforms จุดเด่นคือการนำชิปเดสก์ท็อปมาใช้ใหม่ในตลาด Embedded เพื่อคุมต้นทุนแต่ยังคงประสิทธิภาพสูง 🌐 EPYC Embedded Annapurna ตระกูล Annapurna ถูกออกแบบมาเพื่อ Network Control planes โดยเน้น ประสิทธิภาพต่อวัตต์และต่อราคา (perf/Watt, perf/$) เหมาะสำหรับ Switches, Routers, Security appliances และ Optical transport แม้ AMD ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดสถาปัตยกรรม แต่ชัดเจนว่าเป็นรุ่นที่เน้นการใช้งานในระบบเครือข่ายที่ต้องการความเสถียรและต้นทุนต่ำ ⚠️ แนวโน้มและการเปิดตัว AMD คาดว่าจะเปิดตัวไลน์อัพเหล่านี้ในช่วง ปี 2026–2027 เพื่อขยายตลาด Embedded ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยจะเป็นคู่แข่งสำคัญกับ Intel และ ARM-based solutions ในตลาดที่ต้องการทั้ง พลังการประมวลผลและการประหยัดพลังงาน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ EPYC Embedded Venice (Zen 6) ➡️ สูงสุด 96 คอร์, PCIe Gen6, DDR5/MRDIMM, ผลิตบน TSMC 2nm ✅ EPYC Embedded Fire Range (Zen 5) ➡️ สูงสุด 16 คอร์, PCIe Gen5, DDR5-5600, ใช้ die จาก Ryzen 9000HX ✅ EPYC Embedded Annapurna ➡️ เน้น perf/Watt และ perf/$ สำหรับ Switches, Routers และ Security appliances ‼️ ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดสถาปัตยกรรม Annapurna ⛔ ต้องรอติดตามข้อมูลเพิ่มเติมจาก AMD ‼️ การเปิดตัวจริงคาดในปี 2026–2027 ⛔ ตลาด Embedded จะเป็นสมรภูมิแข่งขันใหม่กับ Intel และ ARM https://wccftech.com/amd-epyc-9006-embedded-venice-cpus-96-zen-6-cores-embedded-2005-fire-range-annapurna/
    WCCFTECH.COM
    AMD EPYC "9006" Embedded Venice CPUs Rock Up To 96 "Zen 6" Cores & PCIe Gen6, EPYC Embedded 2005 "Fire Range" & Annapurna Families Confirmed Too
    AMD is preparing a range of EPYC Embedded family, such as Venice "Zen 6" series, Fire Range "Zen 5" series & Annapurna lineups.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้นทุนมหาศาลของศูนย์ข้อมูล AI

    CEO ของ IBM เตือนว่า การลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูล AI มูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์อาจไม่ยั่งยืน เพราะต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานสูงเกินไป โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านฮาร์ดแวร์ การเสื่อมราคา และพลังงาน

    Arvind Krishna, CEO ของ IBM กล่าวว่าการสร้างศูนย์ข้อมูล AI ขนาดใหญ่ต้องใช้เงินมหาศาล เช่น 1 กิกะวัตต์ของศูนย์ข้อมูลต้องใช้เงินราว 80 พันล้านดอลลาร์ และเมื่อรวมโครงการที่ประกาศแล้วทั่วโลก ตัวเลขอาจสูงถึง 8 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งต้องการกำไรปีละ 800 พันล้านดอลลาร์เพื่อชดเชยต้นทุนการลงทุน

    ปัญหาการเสื่อมราคาและการเปลี่ยนฮาร์ดแวร์
    Krishna ชี้ว่า GPU และ AI accelerators มีอายุการใช้งานเพียง 5 ปี เพราะต้องเปลี่ยนรุ่นใหม่ตามการพัฒนาโมเดลและสถาปัตยกรรม ทำให้ต้นทุนสะสมสูงขึ้นเรื่อย ๆ นักลงทุนจำนวนมากอาจประเมินค่าการเสื่อมราคาต่ำเกินไป และไม่คำนึงถึงการต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ทั้งชุดในรอบสั้น ๆ

    ความท้าทายด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน
    ศูนย์ข้อมูล AI ขนาดใหญ่ต้องใช้ไฟฟ้าปริมาณมหาศาล เช่น โครงการของบางบริษัทมีแผนสร้างศูนย์ข้อมูลที่ใช้ไฟฟ้า มากกว่า 100 กิกะวัตต์ ซึ่งเทียบเท่ากับการใช้ไฟฟ้าของประเทศขนาดใหญ่ทั้งประเทศ ปัญหานี้ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานจะไม่สามารถรองรับได้

    ความเสี่ยงต่อความยั่งยืนของอุตสาหกรรม
    แม้ AI จะสร้างประโยชน์ด้านผลิตภาพ แต่ Krishna เตือนว่า สัดส่วนระหว่างต้นทุนและผลตอบแทนยังไม่สมดุล หากบริษัทไม่สามารถสร้างรายได้มหาศาลเพื่อชดเชยการลงทุน อุตสาหกรรมอาจเข้าสู่ภาวะฟองสบู่ และเสี่ยงต่อการล้มเหลวในระยะยาว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ต้นทุนสร้างศูนย์ข้อมูล AI สูงถึง 8 ล้านล้านดอลลาร์
    ต้องการกำไรปีละ 800 พันล้านดอลลาร์เพื่อคุ้มทุน

    ฮาร์ดแวร์ AI มีอายุใช้งานเพียง 5 ปี
    ต้องเปลี่ยน GPU และ accelerators ทั้งชุดบ่อยครั้ง

    โครงการศูนย์ข้อมูลบางแห่งใช้ไฟฟ้ามากกว่า 100 กิกะวัตต์
    เทียบเท่าการใช้ไฟฟ้าของประเทศทั้งประเทศ

    นักลงทุนอาจประเมินค่าการเสื่อมราคาต่ำเกินไป
    เสี่ยงต่อการขาดทุนและไม่สามารถคืนทุนได้

    อุตสาหกรรม AI อาจเข้าสู่ภาวะฟองสบู่
    หากรายได้ไม่สมดุลกับต้นทุนมหาศาล

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/ibm-ceo-warns-trillion-dollar-ai-boom-unsustainable-at-current-infrastructure-costs
    💰 ต้นทุนมหาศาลของศูนย์ข้อมูล AI CEO ของ IBM เตือนว่า การลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูล AI มูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์อาจไม่ยั่งยืน เพราะต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานสูงเกินไป โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านฮาร์ดแวร์ การเสื่อมราคา และพลังงาน Arvind Krishna, CEO ของ IBM กล่าวว่าการสร้างศูนย์ข้อมูล AI ขนาดใหญ่ต้องใช้เงินมหาศาล เช่น 1 กิกะวัตต์ของศูนย์ข้อมูลต้องใช้เงินราว 80 พันล้านดอลลาร์ และเมื่อรวมโครงการที่ประกาศแล้วทั่วโลก ตัวเลขอาจสูงถึง 8 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งต้องการกำไรปีละ 800 พันล้านดอลลาร์เพื่อชดเชยต้นทุนการลงทุน 🔄 ปัญหาการเสื่อมราคาและการเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ Krishna ชี้ว่า GPU และ AI accelerators มีอายุการใช้งานเพียง 5 ปี เพราะต้องเปลี่ยนรุ่นใหม่ตามการพัฒนาโมเดลและสถาปัตยกรรม ทำให้ต้นทุนสะสมสูงขึ้นเรื่อย ๆ นักลงทุนจำนวนมากอาจประเมินค่าการเสื่อมราคาต่ำเกินไป และไม่คำนึงถึงการต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ทั้งชุดในรอบสั้น ๆ ⚡ ความท้าทายด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน ศูนย์ข้อมูล AI ขนาดใหญ่ต้องใช้ไฟฟ้าปริมาณมหาศาล เช่น โครงการของบางบริษัทมีแผนสร้างศูนย์ข้อมูลที่ใช้ไฟฟ้า มากกว่า 100 กิกะวัตต์ ซึ่งเทียบเท่ากับการใช้ไฟฟ้าของประเทศขนาดใหญ่ทั้งประเทศ ปัญหานี้ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานจะไม่สามารถรองรับได้ ⚠️ ความเสี่ยงต่อความยั่งยืนของอุตสาหกรรม แม้ AI จะสร้างประโยชน์ด้านผลิตภาพ แต่ Krishna เตือนว่า สัดส่วนระหว่างต้นทุนและผลตอบแทนยังไม่สมดุล หากบริษัทไม่สามารถสร้างรายได้มหาศาลเพื่อชดเชยการลงทุน อุตสาหกรรมอาจเข้าสู่ภาวะฟองสบู่ และเสี่ยงต่อการล้มเหลวในระยะยาว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ต้นทุนสร้างศูนย์ข้อมูล AI สูงถึง 8 ล้านล้านดอลลาร์ ➡️ ต้องการกำไรปีละ 800 พันล้านดอลลาร์เพื่อคุ้มทุน ✅ ฮาร์ดแวร์ AI มีอายุใช้งานเพียง 5 ปี ➡️ ต้องเปลี่ยน GPU และ accelerators ทั้งชุดบ่อยครั้ง ✅ โครงการศูนย์ข้อมูลบางแห่งใช้ไฟฟ้ามากกว่า 100 กิกะวัตต์ ➡️ เทียบเท่าการใช้ไฟฟ้าของประเทศทั้งประเทศ ‼️ นักลงทุนอาจประเมินค่าการเสื่อมราคาต่ำเกินไป ⛔ เสี่ยงต่อการขาดทุนและไม่สามารถคืนทุนได้ ‼️ อุตสาหกรรม AI อาจเข้าสู่ภาวะฟองสบู่ ⛔ หากรายได้ไม่สมดุลกับต้นทุนมหาศาล https://www.tomshardware.com/tech-industry/ibm-ceo-warns-trillion-dollar-ai-boom-unsustainable-at-current-infrastructure-costs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความต้องการทองแดงพุ่งสูงจากศูนย์ข้อมูล AI

    การขยายตัวของ Hyperscale AI campuses ที่ใช้พลังงานมหาศาล (50–150 เมกะวัตต์ต่อไซต์) ทำให้ทองแดงถูกใช้ในปริมาณมหาศาล โดยเฉลี่ย 27–33 ตันต่อเมกะวัตต์ ส่งผลให้ไซต์ขนาด 100 เมกะวัตต์ต้องใช้ทองแดงหลายพันตัน นี่คือแรงกดดันใหม่ที่ทำให้ทองแดงกลายเป็น คอขวดสำคัญของอุตสาหกรรม AI

    ปัญหาการผลิตและเหมืองทองแดง
    หลายเหมืองทั่วโลกกำลังเจอปัญหา เช่น คุณภาพแร่ลดลงกว่า 40% ตั้งแต่ปี 1991 และการขยายเหมืองใหม่ถูกขัดขวางด้วยข้อพิพาททางกฎหมายและสิ่งแวดล้อม เช่น โครงการ Resolution Copper ในรัฐแอริโซนา ที่ถูกชะลอเพราะพื้นที่ถูกมองว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่า Apache ทำให้การผลิตใหม่ยังต้องรออีกนาน

    ราคาทองแดงพุ่งสูงและตลาดตึงตัว
    ราคาทองแดงทะยานขึ้นกว่า 11,000 ดอลลาร์ต่อตัน จากราว 8,500 ดอลลาร์เมื่อสองปีก่อน ขณะที่สหรัฐฯ และยุโรปเริ่มจัดให้ทองแดงเป็น แร่ธาตุวิกฤต (critical mineral) เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอุตสาหกรรม นักวิเคราะห์คาดว่าราคาจะยังสูงต่อเนื่องจนถึงปี 2026 เพราะการหยุดชะงักของเหมืองในอเมริกาใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    การรีไซเคิลและนโยบายใหม่
    เพื่อลดแรงกดดัน ตลาดกำลังหันไปพึ่ง การรีไซเคิลและการทำเหมืองในเมือง (urban mining) รวมถึงการใช้กองขยะเก่าที่เคยไม่คุ้มค่าในการสกัด แต่การสร้างโรงถลุงใหม่ยังคงช้าและมีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้การแก้ปัญหายังไม่ทันต่อความต้องการที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ความต้องการทองแดงจากศูนย์ข้อมูล AI สูงมาก
    ใช้ 27–33 ตันต่อเมกะวัตต์, ไซต์ใหญ่ต้องใช้หลายพันตัน

    เหมืองทองแดงทั่วโลกผลิตไม่ทัน
    คุณภาพแร่ลดลง 40% และโครงการใหม่ถูกขัดขวาง

    ราคาทองแดงพุ่งทะลุ 11,000 ดอลลาร์ต่อตัน
    สหรัฐฯ และยุโรปจัดให้เป็นแร่ธาตุวิกฤต

    เสี่ยงขาดแคลนทองแดงในปี 2025–2035
    ปี 2025 ขาดแคลน 304,000 ตัน และปี 2035 ผลิตได้เพียง 70% ของความต้องการ

    การสร้างโรงถลุงใหม่ยังล่าช้าและแพง
    ทำให้การแก้ปัญหายังไม่ทันต่อความต้องการ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/ai-data-center-buildout-pushes-copper-toward-shortages-analysts-warn
    ⚡ ความต้องการทองแดงพุ่งสูงจากศูนย์ข้อมูล AI การขยายตัวของ Hyperscale AI campuses ที่ใช้พลังงานมหาศาล (50–150 เมกะวัตต์ต่อไซต์) ทำให้ทองแดงถูกใช้ในปริมาณมหาศาล โดยเฉลี่ย 27–33 ตันต่อเมกะวัตต์ ส่งผลให้ไซต์ขนาด 100 เมกะวัตต์ต้องใช้ทองแดงหลายพันตัน นี่คือแรงกดดันใหม่ที่ทำให้ทองแดงกลายเป็น คอขวดสำคัญของอุตสาหกรรม AI 🏭 ปัญหาการผลิตและเหมืองทองแดง หลายเหมืองทั่วโลกกำลังเจอปัญหา เช่น คุณภาพแร่ลดลงกว่า 40% ตั้งแต่ปี 1991 และการขยายเหมืองใหม่ถูกขัดขวางด้วยข้อพิพาททางกฎหมายและสิ่งแวดล้อม เช่น โครงการ Resolution Copper ในรัฐแอริโซนา ที่ถูกชะลอเพราะพื้นที่ถูกมองว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่า Apache ทำให้การผลิตใหม่ยังต้องรออีกนาน 💰 ราคาทองแดงพุ่งสูงและตลาดตึงตัว ราคาทองแดงทะยานขึ้นกว่า 11,000 ดอลลาร์ต่อตัน จากราว 8,500 ดอลลาร์เมื่อสองปีก่อน ขณะที่สหรัฐฯ และยุโรปเริ่มจัดให้ทองแดงเป็น แร่ธาตุวิกฤต (critical mineral) เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอุตสาหกรรม นักวิเคราะห์คาดว่าราคาจะยังสูงต่อเนื่องจนถึงปี 2026 เพราะการหยุดชะงักของเหมืองในอเมริกาใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ♻️ การรีไซเคิลและนโยบายใหม่ เพื่อลดแรงกดดัน ตลาดกำลังหันไปพึ่ง การรีไซเคิลและการทำเหมืองในเมือง (urban mining) รวมถึงการใช้กองขยะเก่าที่เคยไม่คุ้มค่าในการสกัด แต่การสร้างโรงถลุงใหม่ยังคงช้าและมีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้การแก้ปัญหายังไม่ทันต่อความต้องการที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ความต้องการทองแดงจากศูนย์ข้อมูล AI สูงมาก ➡️ ใช้ 27–33 ตันต่อเมกะวัตต์, ไซต์ใหญ่ต้องใช้หลายพันตัน ✅ เหมืองทองแดงทั่วโลกผลิตไม่ทัน ➡️ คุณภาพแร่ลดลง 40% และโครงการใหม่ถูกขัดขวาง ✅ ราคาทองแดงพุ่งทะลุ 11,000 ดอลลาร์ต่อตัน ➡️ สหรัฐฯ และยุโรปจัดให้เป็นแร่ธาตุวิกฤต ‼️ เสี่ยงขาดแคลนทองแดงในปี 2025–2035 ⛔ ปี 2025 ขาดแคลน 304,000 ตัน และปี 2035 ผลิตได้เพียง 70% ของความต้องการ ‼️ การสร้างโรงถลุงใหม่ยังล่าช้าและแพง ⛔ ทำให้การแก้ปัญหายังไม่ทันต่อความต้องการ https://www.tomshardware.com/tech-industry/ai-data-center-buildout-pushes-copper-toward-shortages-analysts-warn
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฉลอง 31 ปี PlayStation ด้วยเมนบอร์ดจิ๋ว

    วันที่ 3 ธันวาคม 1994 คือวันที่ Sony เปิดตัว PlayStation รุ่นแรก และในปีนี้ครบรอบ 31 ปี นักดัดแปลงเครื่องเกม Thedrew ได้สร้างผลงานสุดพิเศษเพื่อฉลอง โดยออกแบบเมนบอร์ดใหม่ของ PS One revision ให้เล็กลงเหลือเพียง 73 x 59 มม. ซึ่งเล็กกว่าของเดิมถึงสี่เท่า แต่ยังคงใช้ชิปดั้งเดิมของ Sony ทั้ง CPU, GPU, SPU, RAM และ BIOS

    ใช้ชิปแท้ ไม่พึ่ง FPGA หรือ Emulator
    สิ่งที่ทำให้โปรเจกต์นี้โดดเด่นคือการเลือกใช้ ฮาร์ดแวร์แท้ของ Sony แทนที่จะใช้ FPGA หรือ SoC ที่จำลองการทำงาน การออกแบบจึงยังคงความเป็น “Original hardware for the win” และสามารถเล่นเกมได้เหมือนเครื่องจริงทุกประการ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความคลาสสิกกับงานวิศวกรรมสมัยใหม่

    ขนาดเล็กกว่าที่เคย
    เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน:
    เมนบอร์ด PlayStation รุ่นแรก: ประมาณ 10 x 7 นิ้ว
    เมนบอร์ด PS One: ประมาณ 7.5 x 5.5 นิ้ว
    เมนบอร์ดใหม่ของ Thedrew: น้อยกว่า 3 x 2.5 นิ้ว

    การย่อขนาดนี้ทำให้สามารถนำไปใช้ในโปรเจกต์ใหม่ ๆ ได้หลากหลาย เช่น เครื่องเกมพกพา หรือการออกแบบเคสที่เล็กกะทัดรัด

    ความท้าทายและอนาคตของโปรเจกต์
    แม้จะเป็นต้นแบบที่ใช้งานได้จริง แต่ Thedrew ยังกล่าวว่าต้องการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต ความท้าทายคือการรักษาความเสถียรและความทนทานของชิปดั้งเดิมเมื่อถูกบีบอัดลงในพื้นที่เล็กมาก อีกทั้งยังต้องหาวิธีจัดการความร้อนและพลังงานให้เหมาะสม

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เมนบอร์ด PS One ถูกย่อเหลือเพียงหนึ่งในสี่ของเดิม
    ขนาดเพียง 73 x 59 มม. เล็กกว่าที่เคย

    ใช้ชิปแท้ของ Sony ทั้งหมด
    CPU, GPU, SPU, RAM และ BIOS ดั้งเดิม

    ยังคงเล่นเกมได้เหมือนเครื่องจริง
    ไม่พึ่ง FPGA หรือ Emulator

    ความท้าทายด้านความทนทานและการจัดการความร้อน
    ต้องพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้ใช้งานได้ระยะยาว

    ยังเป็นเพียงต้นแบบในซีรีส์ Redesign
    อาจมีการปรับปรุงและขยายผลในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/video-games/playstation/enthusiast-modder-celebrates-playstations-31st-anniversary-in-style-creates-smallest-ever-motherboard-using-genuine-chips-redesigned-pcb-is-less-than-a-quarter-size-of-the-already-dinky-ps-one-revision
    🎉 ฉลอง 31 ปี PlayStation ด้วยเมนบอร์ดจิ๋ว วันที่ 3 ธันวาคม 1994 คือวันที่ Sony เปิดตัว PlayStation รุ่นแรก และในปีนี้ครบรอบ 31 ปี นักดัดแปลงเครื่องเกม Thedrew ได้สร้างผลงานสุดพิเศษเพื่อฉลอง โดยออกแบบเมนบอร์ดใหม่ของ PS One revision ให้เล็กลงเหลือเพียง 73 x 59 มม. ซึ่งเล็กกว่าของเดิมถึงสี่เท่า แต่ยังคงใช้ชิปดั้งเดิมของ Sony ทั้ง CPU, GPU, SPU, RAM และ BIOS 🔧 ใช้ชิปแท้ ไม่พึ่ง FPGA หรือ Emulator สิ่งที่ทำให้โปรเจกต์นี้โดดเด่นคือการเลือกใช้ ฮาร์ดแวร์แท้ของ Sony แทนที่จะใช้ FPGA หรือ SoC ที่จำลองการทำงาน การออกแบบจึงยังคงความเป็น “Original hardware for the win” และสามารถเล่นเกมได้เหมือนเครื่องจริงทุกประการ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความคลาสสิกกับงานวิศวกรรมสมัยใหม่ 📏 ขนาดเล็กกว่าที่เคย เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน: 💠 เมนบอร์ด PlayStation รุ่นแรก: ประมาณ 10 x 7 นิ้ว 💠 เมนบอร์ด PS One: ประมาณ 7.5 x 5.5 นิ้ว 💠 เมนบอร์ดใหม่ของ Thedrew: น้อยกว่า 3 x 2.5 นิ้ว การย่อขนาดนี้ทำให้สามารถนำไปใช้ในโปรเจกต์ใหม่ ๆ ได้หลากหลาย เช่น เครื่องเกมพกพา หรือการออกแบบเคสที่เล็กกะทัดรัด ⚠️ ความท้าทายและอนาคตของโปรเจกต์ แม้จะเป็นต้นแบบที่ใช้งานได้จริง แต่ Thedrew ยังกล่าวว่าต้องการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต ความท้าทายคือการรักษาความเสถียรและความทนทานของชิปดั้งเดิมเมื่อถูกบีบอัดลงในพื้นที่เล็กมาก อีกทั้งยังต้องหาวิธีจัดการความร้อนและพลังงานให้เหมาะสม 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เมนบอร์ด PS One ถูกย่อเหลือเพียงหนึ่งในสี่ของเดิม ➡️ ขนาดเพียง 73 x 59 มม. เล็กกว่าที่เคย ✅ ใช้ชิปแท้ของ Sony ทั้งหมด ➡️ CPU, GPU, SPU, RAM และ BIOS ดั้งเดิม ✅ ยังคงเล่นเกมได้เหมือนเครื่องจริง ➡️ ไม่พึ่ง FPGA หรือ Emulator ‼️ ความท้าทายด้านความทนทานและการจัดการความร้อน ⛔ ต้องพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้ใช้งานได้ระยะยาว ‼️ ยังเป็นเพียงต้นแบบในซีรีส์ Redesign ⛔ อาจมีการปรับปรุงและขยายผลในอนาคต https://www.tomshardware.com/video-games/playstation/enthusiast-modder-celebrates-playstations-31st-anniversary-in-style-creates-smallest-ever-motherboard-using-genuine-chips-redesigned-pcb-is-less-than-a-quarter-size-of-the-already-dinky-ps-one-revision
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความสว่างลดลงครั้งแรกหลัง 21 เดือน

    Tim จากช่อง Monitors Unboxed เผยผลทดสอบการใช้งานจอ MSI MPG 321URX QD-OLED ต่อเนื่องกว่า 5,000 ชั่วโมง โดยตั้งค่าความสว่างที่ 200 nits และใช้งานหนักกับแอปเดสก์ท็อปที่มีภาพนิ่ง ผลคือความสว่างสูงสุดลดลงจาก 243 nits เหลือ 238 nits หรือประมาณ 2% ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่พบการลดลงหลังจาก 21 เดือน

    พฤติกรรม Burn-in ที่ค่อย ๆ ชะลอตัว
    แม้จะมีการใช้งานหนัก แต่ อาการ Burn-in ไม่ได้รุนแรงขึ้นมาก ตั้งแต่เดือนที่ 6 จนถึงเดือนที่ 21 โดยยังคงเห็นเส้นกลางจอและรอยตรงตำแหน่ง Taskbar แต่ไม่ได้เลวร้ายกว่าเดิมมากนัก นอกจากนี้ อุณหภูมิสีเปลี่ยนเล็กน้อยจาก 6441K เหลือราว 6350K และคงที่ตั้งแต่เดือนที่ 12 เป็นต้นมา

    ผลทดสอบชี้ถึงความทนทานของ QD-OLED
    แม้จะถูกใช้งานในสภาพที่เรียกว่า “การทรมานจอ” แต่จอยังคงให้ประสบการณ์ใช้งานที่ ยอมรับได้ในชีวิตประจำวัน การลดลงของความสว่าง 2% อยู่ในระดับที่ผู้ใช้ทั่วไปแทบไม่สังเกตเห็น และสะท้อนว่า QD-OLED มีความทนทานกว่าที่หลายคนกังวล

    สิ่งที่ต้องจับตาในอนาคต
    นักรีวิวตั้งข้อสังเกตว่า แนวโน้มการลดลงของความสว่างอาจดำเนินต่อไป ไม่ว่าจะเป็นแบบเส้นตรงหรือรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งยังต้องติดตามต่อไป การทดสอบนี้ชี้ว่าแม้ OLED ไม่ได้ “ปลอดภัยจาก Burn-in” แต่ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ได้ตั้งใจใช้งานหนักเกินไป จะใช้เวลาอีกนานกว่าจะเจอปัญหา

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ความสว่างลดลง 2% หลังใช้งาน 21 เดือน
    จาก 243 nits เหลือ 238 nits ถือเป็นครั้งแรกที่พบการลดลง

    อาการ Burn-in ไม่รุนแรงขึ้นมาก
    มีเส้นกลางจอและรอย Taskbar แต่ไม่เลวร้ายกว่าเดิม

    อุณหภูมิสีเปลี่ยนเล็กน้อยและคงที่
    จาก 6441K ลดลงเหลือราว 6350K ตั้งแต่เดือนที่ 12

    แนวโน้มการลดลงของความสว่างยังไม่แน่ชัด
    อาจลดลงต่อเนื่องหรือเปลี่ยนรูปแบบในอนาคต

    OLED ไม่ปลอดภัยจาก Burn-in อย่างสมบูรณ์
    แต่ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ได้ใช้งานหนักจะใช้เวลานานกว่าจะเจอปัญหา

    https://www.tomshardware.com/monitors/reviewer-records-first-drop-in-overall-brightness-after-21-months-of-burning-in-his-qd-oled-monitor-but-the-2-percent-decrease-isnt-likely-to-be-noticeable
    💡 ความสว่างลดลงครั้งแรกหลัง 21 เดือน Tim จากช่อง Monitors Unboxed เผยผลทดสอบการใช้งานจอ MSI MPG 321URX QD-OLED ต่อเนื่องกว่า 5,000 ชั่วโมง โดยตั้งค่าความสว่างที่ 200 nits และใช้งานหนักกับแอปเดสก์ท็อปที่มีภาพนิ่ง ผลคือความสว่างสูงสุดลดลงจาก 243 nits เหลือ 238 nits หรือประมาณ 2% ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่พบการลดลงหลังจาก 21 เดือน 🔎 พฤติกรรม Burn-in ที่ค่อย ๆ ชะลอตัว แม้จะมีการใช้งานหนัก แต่ อาการ Burn-in ไม่ได้รุนแรงขึ้นมาก ตั้งแต่เดือนที่ 6 จนถึงเดือนที่ 21 โดยยังคงเห็นเส้นกลางจอและรอยตรงตำแหน่ง Taskbar แต่ไม่ได้เลวร้ายกว่าเดิมมากนัก นอกจากนี้ อุณหภูมิสีเปลี่ยนเล็กน้อยจาก 6441K เหลือราว 6350K และคงที่ตั้งแต่เดือนที่ 12 เป็นต้นมา 🖥️ ผลทดสอบชี้ถึงความทนทานของ QD-OLED แม้จะถูกใช้งานในสภาพที่เรียกว่า “การทรมานจอ” แต่จอยังคงให้ประสบการณ์ใช้งานที่ ยอมรับได้ในชีวิตประจำวัน การลดลงของความสว่าง 2% อยู่ในระดับที่ผู้ใช้ทั่วไปแทบไม่สังเกตเห็น และสะท้อนว่า QD-OLED มีความทนทานกว่าที่หลายคนกังวล ⚠️ สิ่งที่ต้องจับตาในอนาคต นักรีวิวตั้งข้อสังเกตว่า แนวโน้มการลดลงของความสว่างอาจดำเนินต่อไป ไม่ว่าจะเป็นแบบเส้นตรงหรือรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งยังต้องติดตามต่อไป การทดสอบนี้ชี้ว่าแม้ OLED ไม่ได้ “ปลอดภัยจาก Burn-in” แต่ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ได้ตั้งใจใช้งานหนักเกินไป จะใช้เวลาอีกนานกว่าจะเจอปัญหา 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ความสว่างลดลง 2% หลังใช้งาน 21 เดือน ➡️ จาก 243 nits เหลือ 238 nits ถือเป็นครั้งแรกที่พบการลดลง ✅ อาการ Burn-in ไม่รุนแรงขึ้นมาก ➡️ มีเส้นกลางจอและรอย Taskbar แต่ไม่เลวร้ายกว่าเดิม ✅ อุณหภูมิสีเปลี่ยนเล็กน้อยและคงที่ ➡️ จาก 6441K ลดลงเหลือราว 6350K ตั้งแต่เดือนที่ 12 ‼️ แนวโน้มการลดลงของความสว่างยังไม่แน่ชัด ⛔ อาจลดลงต่อเนื่องหรือเปลี่ยนรูปแบบในอนาคต ‼️ OLED ไม่ปลอดภัยจาก Burn-in อย่างสมบูรณ์ ⛔ แต่ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ได้ใช้งานหนักจะใช้เวลานานกว่าจะเจอปัญหา https://www.tomshardware.com/monitors/reviewer-records-first-drop-in-overall-brightness-after-21-months-of-burning-in-his-qd-oled-monitor-but-the-2-percent-decrease-isnt-likely-to-be-noticeable
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • Linux บน Steam พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์

    ผลสำรวจ Steam Hardware Survey ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า Linux มีผู้ใช้งานถึง 3.2% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลมา การเติบโตนี้สะท้อนถึงความนิยมของ Steam Deck และการสนับสนุนจากซอฟต์แวร์อย่าง Proton ที่ทำให้เกม Windows เล่นได้บน Linux อย่างราบรื่น นอกจากนี้ ความไม่พอใจต่อ Windows 11 ที่บังคับอัปเกรดและมีการแจ้งเตือนรบกวน ก็ยิ่งผลักดันให้ผู้เล่นหันมาใช้ Linux มากขึ้น

    AMD เดินหน้าท้าชน Intel
    AMD ยังคงเพิ่มส่วนแบ่งตลาด CPU อย่างต่อเนื่อง โดยในกลุ่มเกมเมอร์บน Steam มีสัดส่วนกว่า 43–44% และในบางภูมิภาค เช่น เยอรมนี AMD ครองตลาดร้านค้าปลีกเกือบทั้งหมด ความสำเร็จนี้เกิดจาก Ryzen 7000/8000 series ที่ให้จำนวนคอร์มากต่อราคา และ EPYC server chips ที่ครองรายได้เหนือ Intel ในศูนย์ข้อมูล ทำให้ AMD ไม่ใช่ผู้ตามอีกต่อไป แต่กลายเป็นคู่แข่งที่ท้าทาย Intel อย่างจริงจัง

    NVIDIA RTX 5070 ขึ้นแท่น GPU ยอดนิยม
    ในฝั่งการ์ดจอ NVIDIA RTX 5070 กำลังแซงรุ่นก่อนหน้าอย่าง RTX 4070 และติดอันดับ Top 10 GPU บน Steam ด้วยสัดส่วนราว 2.1–2.2% จุดเด่นคือสถาปัตยกรรม Blackwell ที่ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นและรองรับฟีเจอร์เรนเดอร์สมัยใหม่ ขณะที่ราคาวางตลาดสมเหตุสมผลกว่ารุ่นก่อน ทำให้ผู้เล่นจำนวนมากเลือกอัปเกรดเร็วผิดคาด การเติบโตนี้ยังส่งผลต่อทิศทางการพัฒนาเกม ที่สามารถใช้เทคโนโลยีกราฟิกขั้นสูงได้มากขึ้น

    ความท้าทายและความเสี่ยงในตลาด
    แม้ตัวเลขจะสดใส แต่ก็มีสัญญาณเตือน เช่น AMD RDNA 4 GPUs ยังไม่ปรากฏในผลสำรวจ ซึ่งอาจสะท้อนถึงปัญหาการผลิตหรือการยอมรับของตลาด อีกทั้ง Intel เตรียมเปิดตัว Lunar Lake ที่มุ่งเน้น AI และกราฟิกในปี 2026 ซึ่งอาจพลิกเกมการแข่งขันได้ นอกจากนี้ การแข่งขันด้านราคาอาจทำให้ทั้ง AMD และ Intel ต้องลดกำไรลงเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Linux Usage บน Steam พุ่งสูงสุด 3.2%
    ความนิยม Steam Deck และ Proton ทำให้เกม Windows เล่นได้บน Linux

    AMD เพิ่มส่วนแบ่ง CPU ในตลาดเกมเมอร์
    Ryzen และ EPYC ช่วยให้ AMD แข็งแกร่งทั้งในเดสก์ท็อปและเซิร์ฟเวอร์

    NVIDIA RTX 5070 กำลังขึ้นแท่น GPU ยอดนิยม
    สถาปัตยกรรม Blackwell และราคาที่แข่งขันได้ดึงดูดผู้ใช้จำนวนมาก

    AMD RDNA 4 ยังไม่ปรากฏในผลสำรวจ
    อาจสะท้อนถึงปัญหาการผลิตหรือการยอมรับของตลาด

    การแข่งขันด้านราคาอาจบีบกำไรของผู้ผลิต CPU
    Intel เตรียมเปิดตัว Lunar Lake ที่อาจสร้างแรงกดดันใหม่

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/linux-usage-hits-an-all-time-high-in-steam-hardware-survey-and-amd-processors-continue-their-march-against-intel
    🐧 Linux บน Steam พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ผลสำรวจ Steam Hardware Survey ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า Linux มีผู้ใช้งานถึง 3.2% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลมา การเติบโตนี้สะท้อนถึงความนิยมของ Steam Deck และการสนับสนุนจากซอฟต์แวร์อย่าง Proton ที่ทำให้เกม Windows เล่นได้บน Linux อย่างราบรื่น นอกจากนี้ ความไม่พอใจต่อ Windows 11 ที่บังคับอัปเกรดและมีการแจ้งเตือนรบกวน ก็ยิ่งผลักดันให้ผู้เล่นหันมาใช้ Linux มากขึ้น 🔥 AMD เดินหน้าท้าชน Intel AMD ยังคงเพิ่มส่วนแบ่งตลาด CPU อย่างต่อเนื่อง โดยในกลุ่มเกมเมอร์บน Steam มีสัดส่วนกว่า 43–44% และในบางภูมิภาค เช่น เยอรมนี AMD ครองตลาดร้านค้าปลีกเกือบทั้งหมด ความสำเร็จนี้เกิดจาก Ryzen 7000/8000 series ที่ให้จำนวนคอร์มากต่อราคา และ EPYC server chips ที่ครองรายได้เหนือ Intel ในศูนย์ข้อมูล ทำให้ AMD ไม่ใช่ผู้ตามอีกต่อไป แต่กลายเป็นคู่แข่งที่ท้าทาย Intel อย่างจริงจัง 🎮 NVIDIA RTX 5070 ขึ้นแท่น GPU ยอดนิยม ในฝั่งการ์ดจอ NVIDIA RTX 5070 กำลังแซงรุ่นก่อนหน้าอย่าง RTX 4070 และติดอันดับ Top 10 GPU บน Steam ด้วยสัดส่วนราว 2.1–2.2% จุดเด่นคือสถาปัตยกรรม Blackwell ที่ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นและรองรับฟีเจอร์เรนเดอร์สมัยใหม่ ขณะที่ราคาวางตลาดสมเหตุสมผลกว่ารุ่นก่อน ทำให้ผู้เล่นจำนวนมากเลือกอัปเกรดเร็วผิดคาด การเติบโตนี้ยังส่งผลต่อทิศทางการพัฒนาเกม ที่สามารถใช้เทคโนโลยีกราฟิกขั้นสูงได้มากขึ้น ⚠️ ความท้าทายและความเสี่ยงในตลาด แม้ตัวเลขจะสดใส แต่ก็มีสัญญาณเตือน เช่น AMD RDNA 4 GPUs ยังไม่ปรากฏในผลสำรวจ ซึ่งอาจสะท้อนถึงปัญหาการผลิตหรือการยอมรับของตลาด อีกทั้ง Intel เตรียมเปิดตัว Lunar Lake ที่มุ่งเน้น AI และกราฟิกในปี 2026 ซึ่งอาจพลิกเกมการแข่งขันได้ นอกจากนี้ การแข่งขันด้านราคาอาจทำให้ทั้ง AMD และ Intel ต้องลดกำไรลงเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Linux Usage บน Steam พุ่งสูงสุด 3.2% ➡️ ความนิยม Steam Deck และ Proton ทำให้เกม Windows เล่นได้บน Linux ✅ AMD เพิ่มส่วนแบ่ง CPU ในตลาดเกมเมอร์ ➡️ Ryzen และ EPYC ช่วยให้ AMD แข็งแกร่งทั้งในเดสก์ท็อปและเซิร์ฟเวอร์ ✅ NVIDIA RTX 5070 กำลังขึ้นแท่น GPU ยอดนิยม ➡️ สถาปัตยกรรม Blackwell และราคาที่แข่งขันได้ดึงดูดผู้ใช้จำนวนมาก ‼️ AMD RDNA 4 ยังไม่ปรากฏในผลสำรวจ ⛔ อาจสะท้อนถึงปัญหาการผลิตหรือการยอมรับของตลาด ‼️ การแข่งขันด้านราคาอาจบีบกำไรของผู้ผลิต CPU ⛔ Intel เตรียมเปิดตัว Lunar Lake ที่อาจสร้างแรงกดดันใหม่ https://www.tomshardware.com/tech-industry/linux-usage-hits-an-all-time-high-in-steam-hardware-survey-and-amd-processors-continue-their-march-against-intel
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • แผนชั่ว ตอนที่ 2

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว”
    ตอน 2
    หลังจากพระเอกหนัง มาเดินตีหน้าเศร้าในซูดานใต้ไม่เท่าไหร CNN กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ ก็เริ่มตีข่าวเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ ที่ซูดานใต้
    ฝ่ายอเมริกาโดย คุณนาย Ellen Sauerbrey หัวหน้าฝ่ายศูนย์อพยพ และตรวจคนเข้าเมืองของกระทรวงต่างประเทศอเมริกา
    ก็ออกมาบอกว่า นี่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง เป็นเรื่องที่นานาชาติ และ องค์การสหประชาชาติต้องให้ความสนใจ
    แหม บทมันซ้ำจังคุณนาย ไอ้เรื่องอ้างสิทธิมนุษยชนนี่ ผมอยากจะอ้วก ท่านผู้อ่าน ก็คงเบื่อที่จะอ่านกัน ผมก็เบื่อที่จะเขียน แต่ช่วยทนอ่านนิทานเรื่องนี่หน่อยนะครับ อ่านแล้วจะได้รู้ว่า เรื่องไหนมันน่าสงสารจริง หรือเรื่องไหนมันน่าคลื่นไส้ น่าทุเรศ
    ปรากฏว่า คงเตี้ยมสหประชาชาติไม่ทัน ดันรีบตั้งคณะกรรมาธิการมาตรวจสอบเรื่องนี้ คณะตรวจสอบมี 5 คน มีผู้พิพากษา Antonio Cassese เป็นประธาน
    ซึ่งพิจารณาแล้วก็บอกว่า เรายังไม่เห็นการฆ่าล้างเผ่าพันธ์เกิดขี้น ในดาร์ฟู แต่มีเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นว่ามีการทำร้ายกันรุนแรงเกิดขึ้น อ้าว
    อเมริกา จัดการประคองเอาตัว John Garang นักการเมืองชาวซูดานหัวรุนแรง ที่พยายามก่อกบฏกับรัฐบาลซูดานมานาน แต่ยังไปไม่ถึงไหน มารับการฝึกอบรมจากหน่วยรบพิเศษของอเมริกาที่ Fort Benning รัฐ Georgia
    หลังจากนั้น ก็เลื่อนชั้นให้เป็นผู้อำนวยการกองกำลังใหญ่ กลับมาให้การฝึกอบรมกับพรรคพวก ที่มีการจัดตั้งเตรียมพร้อมไว้ ให้เป็นกองทัพปลดปล่อยซูดาน ชื่อ Sudan Peoples’ Liberation Army
    โดยทางวอชิงตัน อำนวยการจัดทั้งคน จัดทั้งอาวุธ ให้เต็มอัตรา เพื่อจะให้ชาวซูดานตีกันสมใจ (อเมริกา)
    แล้วอเมริกาก็แยงซ้าย เสี้ยมขวา ในที่สุดชาวซูดานก็ทะเลาะกัน ตีกันจริง มีผู้บาดเจ็บล้มตายเรือนแสน และคนหลายล้านไม่มีที่อยู่
    ส่วนนาย Garang เมื่อปฏิบัติหน้าที่ได้ผลตามใบสั่ง อเมริกาก็ตกรางวัลให้เป็น รองประธานาธิบดี แต่ เป็นได้ไม่ถึงเดือน ขณะที่ Garang กำลังเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์
    เครื่องก็ถลาร่อน แกว่งไปมา แล้วก็หล่นกระแทกพื้น และ Garang ก็ตายอยู่กับซากเฮลิคอปเตอร์ สงสัยเป็นรางวัลแบบมีวันหมดอายุ จะรับรางวัลอะไรกัน ก็ดูวันหมดอายุด้วย ไม่ใช่รับปุ๊บ ยังไม่ถึงเดือน หมดอายุเสียแล้ว
    ฝ่ายกบฏที่เมืองดาร์ฟูทางซูดานใต้ มี 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม Justice for Equality Movement (JEM) ส่วนอีกกลุ่มใหญ่กว่าคือ Sudan Liberation Army (SLA) ของ Garang ทั้ง 2 กลุ่ม มีเป้าหมายที่จะขับไล่รัฐบาลซูดานที่กำลังสร้างมิตรภาพกับจีน
    และทั้ง 2 กลุ่ม ได้รับการสนับสนุนทั้งด้านกำลัง และอาวุธจากอเมริกา เพื่อความรอบคอบ อเมริกาซื้อไพ่ทุกใบอย่างเคยๆ
    เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.2006 สภาสูงของอเมริกา ลงมติให้ (อเมริกาสั่ง) นาโต้ ส่งกองกำลังเข้ามาดูแลดาร์ฟู และให้สหประชาชาติ ส่งหน่วยรักษาสันติภาพมาประจำดาร์ฟูด้วย จริงๆก็ให้มาทำอะไรก็ได้ ที่จะเป็นการขัดขวาง ไม่ให้การเข้ามาลงทุน การสำรวจ และ ซื้อน้ำมันในดาร์ฟูของจีน ประสพผลสำเร็จนั่นแหละ
    จะเล่นแต่ที่ซูดาน กลัวจะขวางจีนไม่อยู่ อเมริกาลงทุน “สนับสนุน” Idriss Deby ประธานาธิบดีของชาด Chad ให้เป็นผู้รับผิดชอบส่งกองกำลังจากชาด เข้าไปในซูดานอีกทาง กองกำลังพวกนี้เป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยของประธานาธิบดี Deby เอง ที่ได้รับการฝึกอบรมจากอเมริกา (เหมือนกัน) กองกำลังที่ส่งไปส่วนใหญ่ เป็นคนที่คุ้นเคยกับพื้นที่ในซูดาน พวกนี้เข้าไปดาร์ฟูพร้อมกับอาวุธหนักเบา ที่ได้รับอภินันทนาการจากอเมริกา และด้วยกองกำลังจากชาด รวมทั้งกองกำลังจากยูกันดา เอธิโอเปีย ที่ได้ใบสั่งจาก อเมริกา เข้าตีกระนาบ 3 ด้านใส่ดาร์ฟู ไม่นาน ดาร์ฟูก็กลายเป็นแผ่นดินเดือด ชาวซูดานตายเกลื่อน
    นาย Keith Harmon Snow นักวิจัยเกี่ยวกับอาฟริกา เขียนสรุปเหตุการณ์ที่ซูดานไว้ว่า ขณะที่กองทหารของอเมริกาและนาโต้เข้าไปประจำการณ์อยู่ที่ดาร์ฟู โดยอ้างว่าเพื่อทำหน้าที่รักษาความสงบในภูมิภาคนั้น แต่ในความเป็นจริง ทั้งอเมริกาและนาโต้ ไปให้การสนับสนุนกับกองกำลังร่วมของอาฟริกามากกว่า
    โดยนาโต้รับหน้าที่ดูแลด้านภาคพื้นดิน และการโจมตีทางอากาศ ซูดานจึงอยู่ในสภาวะสงครามจากศึกนอก โดยการยกกำลังมารบ ของเพื่อนบ้าน 3 ประเทศ คือ ชาด ยูกานดา และเอธิโอเปีย ที่มีอเมริกา และนาโต้สนับสนุน
    นอกจากนี้ ซูดานยังต้องต่อสู้กับศึกในที่เป็นพวกกบฏ ที่อเมริกาก็ให้การสนับสนุน เช่นเดียวกันทั้งด้านอาวุธ และคนที่เป็นกองกำลังนอกระบบแบบพวกน้ำดำ Black Water ที่โด่งดังก็มาร่วมด้วย ช่วยกระหน่ำอีกด้วย
    สรุปว่า ซูดานถูกรุมกินโต๊ะจากเพื่อนบ้าน 3 ทาง ที่อเมริกาทั้งยุแยง และ สนับสนุน รวมทั้งกลุ่มกบฏอีก 2 กลุ่ม ที่อเมริกาก็ให้การสนับสนุนอีกเช่นกัน เพราะ ซูดานมีแหล่งน้ำมันใหญ่ และไปตกลงร่วมทุนและขายน้ำมันให้กับกับจีน
    แค่นั้นยังไม่พอ เพื่อให้แน่ใจว่าจีนไม่กล้าเข้ามาแหยม อเมริกาถึงกับส่งกองทหารของตัวร่วมกับนาโต้ มาตีกันจีนอีกด้วย ทำไมไม่ขนมาทั้งประเทศเลยวะไอ้ใบตองแห้ง ผล ซูดาน ใกล้จะแตกเป็น 2 เสี่ยง 2 ประเทศ
    จีนทำอย่างไรหรือ เมื่อเจอกับดัก แผนชั่วขนาดนี้
    เดือนสิงหาคม ค.ศ.2006 จีนเชิญรัฐมนตรีต่างประเทศของชาดไปหารือกันที่จีน รื้อฟื้นสัมพันธไมตรีที่ถูกตัดขาดไป เมื่อปี ค.ศ.1997 ขึ้นมาใหม่ พร้อมทำสัญญาซื้อน้ำมันจากชาด ในเงื่อนไขที่ชาดยอมรับว่าเป็นหุ้นส่วนที่เท่าเทียมกัน และเป็นธรรมกว่าที่ค่ายอื่นเคยมาทำด้วย
    ศึกซูดาน ด้านชาดจึงเบาลงไปบ้าง
    หลังจากนั้น เดือนธันวาคม ค.ศ.2006 จีนจัด African Summit เชิญ 40 ผู้นำจากอาฟริกามาประชุมแบบสุดยอด สุดหรู มีผู้นำจากอัลจีเรีย ไนจีเรีย มาลี แองโกลา อาฟริกากลาง แซมเบีย อาฟริกาใต้ รวมทั้งซูดาน เป็นต้น มาร่วมประชุม เสร็จการประชุม มีการลงนามในสัญญาความร่วมมือสาระพัด ที่สำคัญ จีนแอบจับมือไนจีเรียมาเป็นพวก แถมเข้าไปถือหุ้นในแหล่งพลังงานนอกฝั่งของไนจีเรียอีกด้วย เรื่องนี้มีความหมายมาก เพราะไนจีเรีย อยู่ในอวยของนักล่าใบตองแห้งกับชาวเกาะใหญ่ โดย ExxonMobil, Shell, Chevron ต่างตีตั๋วจองเอาไว้แล้วทั้งนั้น อาเฮียกำลังลองของหรือไงครับ
    จีนเดินหน้าเอาเงินช่วยเหลือนำหน้า ให้อาฟริกาเอาไปพัฒนาประเทศ อาฟริกาซึ่งเคยแต่ถูกพวกนักล่ารุ่นเก่ารุ่นใหม่เอาเปรียบ ขูดเลือดเถือเนื้อ เหลือแต่กระดูกก็คงต้องคิดหนัก รับจ้างเขาทำสงคราม แต่ประเทศจน และประชาชนอดตาย หรือจะค้าขายกับจีนแล้วประเทศมีกิน
    เฉพาะ ค.ศ.2006 ปีเดียว จีนตกลงให้เงินกู้กับไนจีเรีย แองโกลาและโมแซมบิก เป็นจำนวนรวมกันประมาณ 8 พันล้านเหรียญ ขณะที่ World Bank ให้เงินกู้กับกลุ่มประเทศในอาฟริกาทั้งหมด เพียง 2.3 พันล้าน
    เดือนมกราคม ค.ศ.2007 ประธานาธิบดีหูจินเทา เดินทางไปปลอบใจซูดานด้วยตนเอง ไม่รู้คุยอะไรกันบ้าง หลังจากนั้น คุณลุงหูก็บุกเข้าไปจับเข่ากับแคเมอรูน ซึ่งมีท่อส่งน้ำมันต่อกับชาด ดาร์ฟูของซูดาน เป็นเสมือนข้อต่ออยู่ตรงกลาง ด้านหนึ่งมีชาด แคมมารูน อีกด้านหนึ่ง มีลิเบียกับ อียิปต์ จะเชื่อมต่อกัน ให้มันได้ประโยชน์กับทุกฝ่ายไหม หรือคิดแต่จะรบกัน ตามที่เขายุแยง ให้ฉิบหายและจนอยู่อย่างนี้
    นี่ผมเดาเอาว่า คุณลุงหู คงพูดแบบนี้ เพราะจีนไม่มีนโยบายแทรกแซงกิจการภายในบ้านใคร แม้จะเป็นคู่ค้า คู่ลงทุนรายใหญ่อย่างซูดาน และนั่นดูเหมือนจะทำให้จีน ยิ่งเดินเข้าไปยืน อยู่กลางกับดัก โดยไม่รู้ตัว

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    15 ก.ย. 2558
    แผนชั่ว ตอนที่ 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว” ตอน 2 หลังจากพระเอกหนัง มาเดินตีหน้าเศร้าในซูดานใต้ไม่เท่าไหร CNN กระป๋องใส่สีย้อมข่าวใบใหญ่ ก็เริ่มตีข่าวเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ ที่ซูดานใต้ ฝ่ายอเมริกาโดย คุณนาย Ellen Sauerbrey หัวหน้าฝ่ายศูนย์อพยพ และตรวจคนเข้าเมืองของกระทรวงต่างประเทศอเมริกา ก็ออกมาบอกว่า นี่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง เป็นเรื่องที่นานาชาติ และ องค์การสหประชาชาติต้องให้ความสนใจ แหม บทมันซ้ำจังคุณนาย ไอ้เรื่องอ้างสิทธิมนุษยชนนี่ ผมอยากจะอ้วก ท่านผู้อ่าน ก็คงเบื่อที่จะอ่านกัน ผมก็เบื่อที่จะเขียน แต่ช่วยทนอ่านนิทานเรื่องนี่หน่อยนะครับ อ่านแล้วจะได้รู้ว่า เรื่องไหนมันน่าสงสารจริง หรือเรื่องไหนมันน่าคลื่นไส้ น่าทุเรศ ปรากฏว่า คงเตี้ยมสหประชาชาติไม่ทัน ดันรีบตั้งคณะกรรมาธิการมาตรวจสอบเรื่องนี้ คณะตรวจสอบมี 5 คน มีผู้พิพากษา Antonio Cassese เป็นประธาน ซึ่งพิจารณาแล้วก็บอกว่า เรายังไม่เห็นการฆ่าล้างเผ่าพันธ์เกิดขี้น ในดาร์ฟู แต่มีเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นว่ามีการทำร้ายกันรุนแรงเกิดขึ้น อ้าว อเมริกา จัดการประคองเอาตัว John Garang นักการเมืองชาวซูดานหัวรุนแรง ที่พยายามก่อกบฏกับรัฐบาลซูดานมานาน แต่ยังไปไม่ถึงไหน มารับการฝึกอบรมจากหน่วยรบพิเศษของอเมริกาที่ Fort Benning รัฐ Georgia หลังจากนั้น ก็เลื่อนชั้นให้เป็นผู้อำนวยการกองกำลังใหญ่ กลับมาให้การฝึกอบรมกับพรรคพวก ที่มีการจัดตั้งเตรียมพร้อมไว้ ให้เป็นกองทัพปลดปล่อยซูดาน ชื่อ Sudan Peoples’ Liberation Army โดยทางวอชิงตัน อำนวยการจัดทั้งคน จัดทั้งอาวุธ ให้เต็มอัตรา เพื่อจะให้ชาวซูดานตีกันสมใจ (อเมริกา) แล้วอเมริกาก็แยงซ้าย เสี้ยมขวา ในที่สุดชาวซูดานก็ทะเลาะกัน ตีกันจริง มีผู้บาดเจ็บล้มตายเรือนแสน และคนหลายล้านไม่มีที่อยู่ ส่วนนาย Garang เมื่อปฏิบัติหน้าที่ได้ผลตามใบสั่ง อเมริกาก็ตกรางวัลให้เป็น รองประธานาธิบดี แต่ เป็นได้ไม่ถึงเดือน ขณะที่ Garang กำลังเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ เครื่องก็ถลาร่อน แกว่งไปมา แล้วก็หล่นกระแทกพื้น และ Garang ก็ตายอยู่กับซากเฮลิคอปเตอร์ สงสัยเป็นรางวัลแบบมีวันหมดอายุ จะรับรางวัลอะไรกัน ก็ดูวันหมดอายุด้วย ไม่ใช่รับปุ๊บ ยังไม่ถึงเดือน หมดอายุเสียแล้ว ฝ่ายกบฏที่เมืองดาร์ฟูทางซูดานใต้ มี 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม Justice for Equality Movement (JEM) ส่วนอีกกลุ่มใหญ่กว่าคือ Sudan Liberation Army (SLA) ของ Garang ทั้ง 2 กลุ่ม มีเป้าหมายที่จะขับไล่รัฐบาลซูดานที่กำลังสร้างมิตรภาพกับจีน และทั้ง 2 กลุ่ม ได้รับการสนับสนุนทั้งด้านกำลัง และอาวุธจากอเมริกา เพื่อความรอบคอบ อเมริกาซื้อไพ่ทุกใบอย่างเคยๆ เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.2006 สภาสูงของอเมริกา ลงมติให้ (อเมริกาสั่ง) นาโต้ ส่งกองกำลังเข้ามาดูแลดาร์ฟู และให้สหประชาชาติ ส่งหน่วยรักษาสันติภาพมาประจำดาร์ฟูด้วย จริงๆก็ให้มาทำอะไรก็ได้ ที่จะเป็นการขัดขวาง ไม่ให้การเข้ามาลงทุน การสำรวจ และ ซื้อน้ำมันในดาร์ฟูของจีน ประสพผลสำเร็จนั่นแหละ จะเล่นแต่ที่ซูดาน กลัวจะขวางจีนไม่อยู่ อเมริกาลงทุน “สนับสนุน” Idriss Deby ประธานาธิบดีของชาด Chad ให้เป็นผู้รับผิดชอบส่งกองกำลังจากชาด เข้าไปในซูดานอีกทาง กองกำลังพวกนี้เป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยของประธานาธิบดี Deby เอง ที่ได้รับการฝึกอบรมจากอเมริกา (เหมือนกัน) กองกำลังที่ส่งไปส่วนใหญ่ เป็นคนที่คุ้นเคยกับพื้นที่ในซูดาน พวกนี้เข้าไปดาร์ฟูพร้อมกับอาวุธหนักเบา ที่ได้รับอภินันทนาการจากอเมริกา และด้วยกองกำลังจากชาด รวมทั้งกองกำลังจากยูกันดา เอธิโอเปีย ที่ได้ใบสั่งจาก อเมริกา เข้าตีกระนาบ 3 ด้านใส่ดาร์ฟู ไม่นาน ดาร์ฟูก็กลายเป็นแผ่นดินเดือด ชาวซูดานตายเกลื่อน นาย Keith Harmon Snow นักวิจัยเกี่ยวกับอาฟริกา เขียนสรุปเหตุการณ์ที่ซูดานไว้ว่า ขณะที่กองทหารของอเมริกาและนาโต้เข้าไปประจำการณ์อยู่ที่ดาร์ฟู โดยอ้างว่าเพื่อทำหน้าที่รักษาความสงบในภูมิภาคนั้น แต่ในความเป็นจริง ทั้งอเมริกาและนาโต้ ไปให้การสนับสนุนกับกองกำลังร่วมของอาฟริกามากกว่า โดยนาโต้รับหน้าที่ดูแลด้านภาคพื้นดิน และการโจมตีทางอากาศ ซูดานจึงอยู่ในสภาวะสงครามจากศึกนอก โดยการยกกำลังมารบ ของเพื่อนบ้าน 3 ประเทศ คือ ชาด ยูกานดา และเอธิโอเปีย ที่มีอเมริกา และนาโต้สนับสนุน นอกจากนี้ ซูดานยังต้องต่อสู้กับศึกในที่เป็นพวกกบฏ ที่อเมริกาก็ให้การสนับสนุน เช่นเดียวกันทั้งด้านอาวุธ และคนที่เป็นกองกำลังนอกระบบแบบพวกน้ำดำ Black Water ที่โด่งดังก็มาร่วมด้วย ช่วยกระหน่ำอีกด้วย สรุปว่า ซูดานถูกรุมกินโต๊ะจากเพื่อนบ้าน 3 ทาง ที่อเมริกาทั้งยุแยง และ สนับสนุน รวมทั้งกลุ่มกบฏอีก 2 กลุ่ม ที่อเมริกาก็ให้การสนับสนุนอีกเช่นกัน เพราะ ซูดานมีแหล่งน้ำมันใหญ่ และไปตกลงร่วมทุนและขายน้ำมันให้กับกับจีน แค่นั้นยังไม่พอ เพื่อให้แน่ใจว่าจีนไม่กล้าเข้ามาแหยม อเมริกาถึงกับส่งกองทหารของตัวร่วมกับนาโต้ มาตีกันจีนอีกด้วย ทำไมไม่ขนมาทั้งประเทศเลยวะไอ้ใบตองแห้ง ผล ซูดาน ใกล้จะแตกเป็น 2 เสี่ยง 2 ประเทศ จีนทำอย่างไรหรือ เมื่อเจอกับดัก แผนชั่วขนาดนี้ เดือนสิงหาคม ค.ศ.2006 จีนเชิญรัฐมนตรีต่างประเทศของชาดไปหารือกันที่จีน รื้อฟื้นสัมพันธไมตรีที่ถูกตัดขาดไป เมื่อปี ค.ศ.1997 ขึ้นมาใหม่ พร้อมทำสัญญาซื้อน้ำมันจากชาด ในเงื่อนไขที่ชาดยอมรับว่าเป็นหุ้นส่วนที่เท่าเทียมกัน และเป็นธรรมกว่าที่ค่ายอื่นเคยมาทำด้วย ศึกซูดาน ด้านชาดจึงเบาลงไปบ้าง หลังจากนั้น เดือนธันวาคม ค.ศ.2006 จีนจัด African Summit เชิญ 40 ผู้นำจากอาฟริกามาประชุมแบบสุดยอด สุดหรู มีผู้นำจากอัลจีเรีย ไนจีเรีย มาลี แองโกลา อาฟริกากลาง แซมเบีย อาฟริกาใต้ รวมทั้งซูดาน เป็นต้น มาร่วมประชุม เสร็จการประชุม มีการลงนามในสัญญาความร่วมมือสาระพัด ที่สำคัญ จีนแอบจับมือไนจีเรียมาเป็นพวก แถมเข้าไปถือหุ้นในแหล่งพลังงานนอกฝั่งของไนจีเรียอีกด้วย เรื่องนี้มีความหมายมาก เพราะไนจีเรีย อยู่ในอวยของนักล่าใบตองแห้งกับชาวเกาะใหญ่ โดย ExxonMobil, Shell, Chevron ต่างตีตั๋วจองเอาไว้แล้วทั้งนั้น อาเฮียกำลังลองของหรือไงครับ จีนเดินหน้าเอาเงินช่วยเหลือนำหน้า ให้อาฟริกาเอาไปพัฒนาประเทศ อาฟริกาซึ่งเคยแต่ถูกพวกนักล่ารุ่นเก่ารุ่นใหม่เอาเปรียบ ขูดเลือดเถือเนื้อ เหลือแต่กระดูกก็คงต้องคิดหนัก รับจ้างเขาทำสงคราม แต่ประเทศจน และประชาชนอดตาย หรือจะค้าขายกับจีนแล้วประเทศมีกิน เฉพาะ ค.ศ.2006 ปีเดียว จีนตกลงให้เงินกู้กับไนจีเรีย แองโกลาและโมแซมบิก เป็นจำนวนรวมกันประมาณ 8 พันล้านเหรียญ ขณะที่ World Bank ให้เงินกู้กับกลุ่มประเทศในอาฟริกาทั้งหมด เพียง 2.3 พันล้าน เดือนมกราคม ค.ศ.2007 ประธานาธิบดีหูจินเทา เดินทางไปปลอบใจซูดานด้วยตนเอง ไม่รู้คุยอะไรกันบ้าง หลังจากนั้น คุณลุงหูก็บุกเข้าไปจับเข่ากับแคเมอรูน ซึ่งมีท่อส่งน้ำมันต่อกับชาด ดาร์ฟูของซูดาน เป็นเสมือนข้อต่ออยู่ตรงกลาง ด้านหนึ่งมีชาด แคมมารูน อีกด้านหนึ่ง มีลิเบียกับ อียิปต์ จะเชื่อมต่อกัน ให้มันได้ประโยชน์กับทุกฝ่ายไหม หรือคิดแต่จะรบกัน ตามที่เขายุแยง ให้ฉิบหายและจนอยู่อย่างนี้ นี่ผมเดาเอาว่า คุณลุงหู คงพูดแบบนี้ เพราะจีนไม่มีนโยบายแทรกแซงกิจการภายในบ้านใคร แม้จะเป็นคู่ค้า คู่ลงทุนรายใหญ่อย่างซูดาน และนั่นดูเหมือนจะทำให้จีน ยิ่งเดินเข้าไปยืน อยู่กลางกับดัก โดยไม่รู้ตัว สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 15 ก.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) เผย คณะกรรมการธุรกรรมยึดและอายัดทรัพย์สินในคดีสำคัญ มูลค่ารวมกว่า 10,165 ล้านบาท คดีนายเฉิน จื้อ กับพวก ผู้ก่อตั้ง Prince Holding Group คดีนายก๊ก อาน และคดีน.ส.แตงไทย เชื่อมโยงเส้นทางเงินไปยังนายเบน สมิธ ขยายผลคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เครือข่ายฉ้อโกงออนไลน์ ค้ามนุษย์ ฟอกเงินผ่านสกุลเงินดิจิทัล มีฐานใหญ่ในกัมพูชา ฟอกเงินโดยเปลี่ยนสภาพเงินแต่ละประเทศกับสินทรัพย์ดิจิทัล หลอกลวงหลายรูปแบบ หลายขั้นตอน ในลักษณะ ไฮบริดแสกม รวมถึงคดีที่พบข้อมูลการทำธุรกรรม เชื่อมโยงนายเบน สมิธ โดยทรัพย์สินที่ยึดได้มีหลายรายการ อาทิ ที่ดิน เรือยอร์ช และรถยนต์หรู
    นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) เผย คณะกรรมการธุรกรรมยึดและอายัดทรัพย์สินในคดีสำคัญ มูลค่ารวมกว่า 10,165 ล้านบาท คดีนายเฉิน จื้อ กับพวก ผู้ก่อตั้ง Prince Holding Group คดีนายก๊ก อาน และคดีน.ส.แตงไทย เชื่อมโยงเส้นทางเงินไปยังนายเบน สมิธ ขยายผลคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เครือข่ายฉ้อโกงออนไลน์ ค้ามนุษย์ ฟอกเงินผ่านสกุลเงินดิจิทัล มีฐานใหญ่ในกัมพูชา ฟอกเงินโดยเปลี่ยนสภาพเงินแต่ละประเทศกับสินทรัพย์ดิจิทัล หลอกลวงหลายรูปแบบ หลายขั้นตอน ในลักษณะ ไฮบริดแสกม รวมถึงคดีที่พบข้อมูลการทำธุรกรรม เชื่อมโยงนายเบน สมิธ โดยทรัพย์สินที่ยึดได้มีหลายรายการ อาทิ ที่ดิน เรือยอร์ช และรถยนต์หรู
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Google เปิดตัว Code Wiki – ผู้ช่วยเอกสารโค้ดอัจฉริยะ

    Google ได้เปิดตัว Code Wiki ในรูปแบบ Public Preview เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2025 โดยใช้ AI Gemini เพื่อแก้ปัญหาที่นักพัฒนามักเจอ คือการอ่านและทำความเข้าใจโค้ดที่ซับซ้อนและใช้เวลามาก เครื่องมือนี้จะสร้างเอกสารที่อัปเดตตามการเปลี่ยนแปลงของโค้ด ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาเอกสารแบบคงที่ที่มักล้าสมัย

    ฟีเจอร์หลักของ Code Wiki
    Code Wiki สามารถสร้างเอกสารเชิงโต้ตอบที่เชื่อมโยงคำอธิบายระดับสูงกับไฟล์โค้ด คลาส และฟังก์ชันโดยตรง นอกจากนี้ยังสามารถสร้าง แผนภาพสถาปัตยกรรม, แผนภาพคลาส และแผนภาพลำดับ ที่ปรับเปลี่ยนตามโค้ดได้ทันที อีกทั้งยังมี Gemini-powered Chat Agent ที่ใช้ข้อมูลจากเอกสารล่าสุดมาตอบคำถามเกี่ยวกับโค้ด ทำให้การเรียนรู้และสำรวจโค้ดเป็นเรื่องง่ายขึ้น

    การทดสอบและประสิทธิภาพ
    จากการทดสอบกับ Kubernetes Repository พบว่า Code Wiki สามารถแสดงข้อมูลโครงสร้างโปรเจกต์ได้ละเอียด พร้อมทั้งมีวิดีโอ แผนภาพ และคำอธิบายที่เข้าใจง่าย เมื่อถามคำถามผ่านแชทบอท ระบบสามารถตอบได้อย่างเป็นระเบียบและชัดเจน ถือเป็นการยกระดับการจัดการเอกสารโค้ดที่นักพัฒนาหลายคนรอคอย

    แผนในอนาคต
    Google ยังพัฒนา Gemini CLI Extension สำหรับใช้งานกับ Repository ส่วนตัว เพื่อให้ทีมสามารถรัน Code Wiki บนโค้ดภายในองค์กรได้ แม้ยังไม่เปิดให้ใช้งาน แต่ผู้สนใจสามารถลงชื่อใน Waitlist เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์นี้เมื่อเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

    สรุปสาระสำคัญ
    Code Wiki เปิดตัว Public Preview
    ใช้ AI Gemini สร้างและอัปเดตเอกสารโค้ดอัตโนมัติ

    ฟีเจอร์หลักของ Code Wiki
    เอกสารเชิงโต้ตอบ, แผนภาพอัตโนมัติ, และ Gemini Chat Agent

    ผลการทดสอบกับ Kubernetes Repository
    แสดงข้อมูลละเอียด พร้อมตอบคำถามได้ชัดเจน

    แผนในอนาคตของ Google
    พัฒนา Gemini CLI Extension สำหรับ Repository ส่วนตัว

    ข้อควรระวังในการใช้งาน Public Preview
    อาจยังมีข้อจำกัดหรือบั๊กที่ต้องแก้ไขก่อนเปิดตัวเต็มรูปแบบ

    https://itsfoss.com/news/google-code-wiki/
    🤖 Google เปิดตัว Code Wiki – ผู้ช่วยเอกสารโค้ดอัจฉริยะ Google ได้เปิดตัว Code Wiki ในรูปแบบ Public Preview เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2025 โดยใช้ AI Gemini เพื่อแก้ปัญหาที่นักพัฒนามักเจอ คือการอ่านและทำความเข้าใจโค้ดที่ซับซ้อนและใช้เวลามาก เครื่องมือนี้จะสร้างเอกสารที่อัปเดตตามการเปลี่ยนแปลงของโค้ด ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาเอกสารแบบคงที่ที่มักล้าสมัย 📚 ฟีเจอร์หลักของ Code Wiki Code Wiki สามารถสร้างเอกสารเชิงโต้ตอบที่เชื่อมโยงคำอธิบายระดับสูงกับไฟล์โค้ด คลาส และฟังก์ชันโดยตรง นอกจากนี้ยังสามารถสร้าง แผนภาพสถาปัตยกรรม, แผนภาพคลาส และแผนภาพลำดับ ที่ปรับเปลี่ยนตามโค้ดได้ทันที อีกทั้งยังมี Gemini-powered Chat Agent ที่ใช้ข้อมูลจากเอกสารล่าสุดมาตอบคำถามเกี่ยวกับโค้ด ทำให้การเรียนรู้และสำรวจโค้ดเป็นเรื่องง่ายขึ้น 🧪 การทดสอบและประสิทธิภาพ จากการทดสอบกับ Kubernetes Repository พบว่า Code Wiki สามารถแสดงข้อมูลโครงสร้างโปรเจกต์ได้ละเอียด พร้อมทั้งมีวิดีโอ แผนภาพ และคำอธิบายที่เข้าใจง่าย เมื่อถามคำถามผ่านแชทบอท ระบบสามารถตอบได้อย่างเป็นระเบียบและชัดเจน ถือเป็นการยกระดับการจัดการเอกสารโค้ดที่นักพัฒนาหลายคนรอคอย 🔮 แผนในอนาคต Google ยังพัฒนา Gemini CLI Extension สำหรับใช้งานกับ Repository ส่วนตัว เพื่อให้ทีมสามารถรัน Code Wiki บนโค้ดภายในองค์กรได้ แม้ยังไม่เปิดให้ใช้งาน แต่ผู้สนใจสามารถลงชื่อใน Waitlist เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์นี้เมื่อเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Code Wiki เปิดตัว Public Preview ➡️ ใช้ AI Gemini สร้างและอัปเดตเอกสารโค้ดอัตโนมัติ ✅ ฟีเจอร์หลักของ Code Wiki ➡️ เอกสารเชิงโต้ตอบ, แผนภาพอัตโนมัติ, และ Gemini Chat Agent ✅ ผลการทดสอบกับ Kubernetes Repository ➡️ แสดงข้อมูลละเอียด พร้อมตอบคำถามได้ชัดเจน ✅ แผนในอนาคตของ Google ➡️ พัฒนา Gemini CLI Extension สำหรับ Repository ส่วนตัว ‼️ ข้อควรระวังในการใช้งาน Public Preview ⛔ อาจยังมีข้อจำกัดหรือบั๊กที่ต้องแก้ไขก่อนเปิดตัวเต็มรูปแบบ https://itsfoss.com/news/google-code-wiki/
    ITSFOSS.COM
    Google's New AI Tool Solves a Problem for Every Lazy Developer
    Code Wiki uses Gemini to create and maintain up-to-date documentation for code repositories.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251203 #TechRadar

    สภาคองเกรสสหรัฐฯ เตรียมพิจารณากฎหมายตรวจสอบอายุใน App Store
    ตอนนี้สภาคองเกรสของสหรัฐฯ กำลังจะหยิบยกกฎหมายใหม่ที่ชื่อว่า App Store Accountability Act (ASA) มาพิจารณา โดยเป้าหมายคือการเพิ่มมาตรการปกป้องเยาวชนบนโลกออนไลน์ กฎหมายนี้จะบังคับให้ผู้ให้บริการ App Store อย่าง Apple และ Google ต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบอายุผู้ใช้งานและจำกัดการเข้าถึงแอปที่ไม่เหมาะสมกับเด็ก แม้จะมีการสนับสนุนจาก Meta, X และ Pinterest แต่ Apple และ Google กลับกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและการแชร์ข้อมูล ASA เป็นเพียงหนึ่งใน 19 กฎหมายที่ถูกหยิบขึ้นมาหารือในครั้งนี้ ซึ่งรวมถึง Kids Online Safety Act (KOSA) และ SCREEN Act ที่ต่างก็มีข้อถกเถียงว่าจะกระทบต่อเสรีภาพและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานหรือไม่
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-congress-to-consider-app-store-age-verification-measures

    ผู้ใช้ Windows 11 กังวลเรื่อง AI Agents แต่ผู้เชี่ยวชาญบอกอย่าเพิ่งตื่นตระหนก
    Windows 11 กำลังถูกจับตามองอีกครั้งหลัง Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า AI Agents โดยเฉพาะ Copilot Actions ที่สามารถช่วยจัดการไฟล์และงานต่าง ๆ บนเครื่องได้ แต่สิ่งที่ทำให้ผู้ใช้กังวลคือเอกสารที่เตือนถึงความเสี่ยง เช่น การ “หลอน” ของ AI ที่อาจให้ข้อมูลผิด ๆ หรือการโจมตีแบบ cross-prompt injection ที่อาจนำไปสู่การขโมยข้อมูล แม้ Microsoft จะออกแบบระบบให้ AI Agents ทำงานในพื้นที่แยกต่างหากเพื่อความปลอดภัย แต่หลายคนยังไม่มั่นใจว่าจะป้องกันได้จริงเมื่อใช้งานในโลกจริง ความกังวลนี้จึงสะท้อนว่า แม้ AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ก็ยังต้องจับตาดูว่ามันจะปลอดภัยพอหรือไม่
    https://www.techradar.com/computing/windows/i-get-why-some-people-are-suddenly-freaking-out-about-ai-agents-in-windows-11-im-worried-too-but-lets-not-panic-just-yet

    Instagram สั่งพนักงานกลับเข้าออฟฟิศเต็มเวลา
    Adam Mosseri ซีอีโอของ Instagram ประกาศว่าตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2026 พนักงานส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ จะต้องกลับมาทำงานที่ออฟฟิศเต็มเวลา โดยให้เหตุผลว่าการทำงานแบบนี้จะช่วยให้บริษัท “คล่องตัวและสร้างสรรค์มากขึ้น” แม้จะยังมีข้อยกเว้นสำหรับพนักงานที่ทำงานแบบรีโมตเต็มเวลา แต่รูปแบบ hybrid กำลังจะหมดไป นอกจากนี้ Mosseri ยังวางแผนลดจำนวนการประชุมที่ไม่จำเป็น และบังคับให้เอกสารกลยุทธ์ต้องกระชับไม่เกินสามหน้า เพื่อให้ทุกคนมีเวลาไปโฟกัสกับการสร้างผลิตภัณฑ์มากกว่าการเตรียมสไลด์หรือประชุมยืดยาว
    https://www.techradar.com/pro/instagram-ceo-issues-full-time-return-to-office-order

    4.3 ล้านเครื่องติดตั้งส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่กลายเป็นมัลแวร์
    มีการค้นพบว่า ส่วนขยายบน Chrome และ Edge กว่า 145 ตัวที่เคยทำงานปกติมานานหลายปี ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นอันตรายภายใต้แคมเปญที่ชื่อว่า ShadyPanda โดยเริ่มจากการทำ affiliate fraud แอบใส่โค้ดติดตามการซื้อสินค้า จากนั้นพัฒนาไปสู่การขโมยคุกกี้ การเปลี่ยนเส้นทางการค้นหา และล่าสุดถึงขั้นเปิดช่องให้รันโค้ดจากระยะไกล ทำให้ผู้ใช้กว่า 4.3 ล้านเครื่องตกอยู่ในความเสี่ยง แม้ Google จะลบออกจาก Chrome Web Store แล้ว แต่ Microsoft ยังตอบสนองช้ากว่า ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบตรวจสอบว่ามีส่วนขยายเหล่านี้อยู่ในเครื่องหรือไม่
    https://www.techradar.com/pro/security/4-3-million-have-installed-this-malicious-browser-extension-on-chrome-and-edge-heres-how-to-check

    อดีตวิศวกร Microsoft จวก Windows 11 ควรแก้ไขพื้นฐานก่อนใส่ฟีเจอร์ AI
    Dave Plummer อดีตวิศวกรผู้สร้าง Task Manager และเกม Space Cadet Pinball ออกมาแสดงความเห็นว่า Microsoft ควรหยุดเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ โดยเฉพาะ AI แล้วหันมาแก้ไขปัญหาพื้นฐานของ Windows 11 ให้เสถียรและใช้งานได้ดีเสียก่อน เขายกตัวอย่างช่วงที่ Windows XP เจอไวรัส Blaster จน Microsoft ต้องออก Service Pack 2 เพื่อแก้ไขบั๊กและเพิ่มความปลอดภัย โดยไม่สนใจฟีเจอร์ใหม่ ๆ Plummer เชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่ Windows 11 ต้องมีการปรับปรุงแบบเดียวกัน เพื่อให้ระบบ “ไม่ห่วย” ก่อนจะไปต่อยอดด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ
    https://www.techradar.com/computing/windows/ex-engineer-blasts-microsoft-argues-it-must-fix-windows-11-until-it-doesnt-suck-never-mind-about-ai

    ฟีเจอร์ใหม่ Android อาจเปิดช่องให้เจ้านายอ่านข้อความ RCS ของคุณ
    Google กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ใน Android ที่ทำให้ผู้ดูแลระบบขององค์กรสามารถเข้าถึงข้อความ RCS บนมือถือที่ใช้เพื่อการทำงานได้ ซึ่งหมายความว่าหากคุณใช้โทรศัพท์บริษัท ข้อความที่คุณส่งผ่าน RCS อาจถูกเจ้านายหรือฝ่ายไอทีตรวจสอบได้ ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อการจัดการอุปกรณ์และความปลอดภัย แต่ก็สร้างความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวของพนักงาน เพราะ RCS ถูกมองว่าเป็นการสื่อสารที่ทันสมัยและปลอดภัยกว่าข้อความ SMS แบบเดิม
    https://www.techradar.com/phones/android/googles-latest-android-feature-could-let-your-boss-read-your-rcs-texts-on-your-work-phone

    Google ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ Android กว่า 107 จุด
    Google ได้ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยสำหรับ Android ที่แก้ไขช่องโหว่ถึง 107 จุด โดยมีบางจุดที่ถูกจัดว่าเป็นความเสี่ยงระดับร้ายแรง ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกลได้ การอัปเดตนี้ครอบคลุมทั้งระบบ Android และชิปจากผู้ผลิตต่าง ๆ เช่น Qualcomm และ MediaTek ผู้ใช้จึงควรรีบตรวจสอบและติดตั้งแพตช์ล่าสุดเพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ของตนปลอดภัยจากการโจมตี
    https://www.techradar.com/pro/security/107-android-flaws-just-got-patched-by-google-heres-how-to-make-sure-youre-up-to-date

    DeepSeek แจกโมเดล AI ที่ท้าชน GPT-5
    บริษัท DeepSeek ได้สร้างความฮือฮาในวงการ AI ด้วยการปล่อยโมเดลใหม่ที่มีศักยภาพใกล้เคียงกับ GPT-5 และเปิดให้ใช้งานฟรี โมเดลนี้ถูกมองว่าอาจเปลี่ยนแปลงสมดุลของตลาด AI เพราะทำให้ผู้ใช้งานทั่วไปและนักพัฒนาสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมหาศาล การเคลื่อนไหวครั้งนี้ยังสะท้อนถึงการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด AI ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนาและนวัตกรรมที่รวดเร็วขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/deepseek-just-gave-away-an-ai-model-that-rivals-gpt-5-and-it-could-change-everything

    ChatGPT ล่มชั่วคราว แต่กลับมาแล้ว
    วันนี้หลายคนเจอปัญหา ChatGPT ตอบช้า หรือไม่ตอบเลย เหมือนวงกลมหมุนค้างอยู่ตลอดเวลา จนทำให้ผู้ใช้ทั่วโลกเริ่มสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น OpenAI ก็รีบออกมาชี้แจงว่ามี “error rates” สูงผิดปกติ และได้เร่งแก้ไขทันที หลังจากนั้นไม่นานก็ปล่อยการแก้ไขออกมา ทำให้ระบบกลับมาใช้งานได้ตามปกติ แม้บางคนยังเจออาการหน่วงอยู่บ้าง แต่โดยรวมถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่เร็วมาก สุดท้ายสถานะก็กลับมาเป็นสีเขียว แปลว่าระบบทำงานได้แล้ว ใครที่ยังเจอปัญหาก็ลองรีเฟรชหรือเปิดแอปใหม่อีกครั้ง
    https://www.techradar.com/news/live/chatgpt-outage-december-openai

    Apple เปลี่ยนตัวผู้บริหาร AI คนสำคัญ
    John Giannandrea ผู้ที่ดูแลกลยุทธ์ AI ของ Apple มานานเกือบ 8 ปี กำลังจะเกษียณในปี 2026 โดยจะมี Amar Subramanya เข้ามารับตำแหน่งแทน เขาเคยทำงานทั้งที่ Microsoft และ Google ดูแลโครงการ AI ใหญ่ ๆ อย่าง Gemini และ Bard การเข้ามาของ Subramanya ถือเป็นการเสริมทัพครั้งใหญ่ เพราะ Apple กำลังถูกวิจารณ์ว่าตามหลังคู่แข่งในเรื่อง AI การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จึงถูกจับตามองว่าจะทำให้ Siri และบริการ AI ของ Apple ก้าวทันโลกได้หรือไม่
    https://www.techradar.com/pro/microsoft-and-google-ai-veteran-to-replace-outgoing-apple-exec-john-giannandrea

    Android 16 อัปเดตใหม่ เพิ่ม 7 ฟีเจอร์เด็ด
    Google ปล่อยอัปเดตใหญ่ให้ Android 16 แม้ยังใช้ชื่อเดิม แต่เพิ่มความสามารถใหม่ ๆ เพียบ เช่น AI ช่วยสรุปการแจ้งเตือน, ระบบจัดระเบียบ notification ให้ดูง่ายขึ้น, ปรับแต่งไอคอนตามใจ, เพิ่ม parental controls สำหรับควบคุมเวลาเล่นมือถือของเด็ก, ฟีเจอร์ Call Reason ที่บอกว่าโทรด่วนจริงหรือไม่, ระบบตรวจสอบข้อความหลอกลวงด้วย Circle to Search และการปรับปรุง accessibility ให้ใช้งานสะดวกขึ้น โดยตอนนี้ปล่อยให้กับ Pixel ก่อน ส่วนมือถือแบรนด์อื่นต้องรออีกหน่อย
    https://www.techradar.com/phones/android/the-next-android-16-update-has-landed-and-these-are-the-7-biggest-features

    Samsung เปิดตัว Galaxy Z Trifold มือถือพับสามตอน
    Samsung สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว Galaxy Z Trifold มือถือพับได้แบบสามตอน มีจอด้านนอก 6.5 นิ้ว และจอด้านในใหญ่ถึง 10 นิ้ว ใช้การพับแบบ “pamphlet-style” ทำให้เมื่อพับแล้วหนากว่ามือถือทั่วไป แต่ช่วยป้องกันหน้าจอด้านในไม่ให้โดนรอยขีดข่วน ต่างจาก Huawei Mate XT ที่พับแบบ Z แล้วมีส่วนจอโผล่ออกมาเสี่ยงต่อการเสียหาย ถึงแม้ยังไม่มีวันวางขายแน่ชัดในสหรัฐ แต่ดีไซน์นี้ถูกมองว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับการใช้งานจริง
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/the-samsung-galaxy-z-trifolds-folding-mechanism-looks-odd-but-its-the-right-call-on-a-crucial-design-decision

    กลุ่มแฮ็กเกอร์รัสเซีย Tomiris หันโจมตีรัฐบาล
    รายงานจาก Kaspersky เผยว่า Tomiris กลุ่มแฮ็กเกอร์ที่พูดภาษารัสเซีย กำลังเปลี่ยนเป้าหมายจากการโจมตีทั่วไป มาสู่การเจาะระบบหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรระหว่างประเทศ พวกเขาใช้มัลแวร์หลายภาษา ทั้ง Go, Rust, Python และ PowerShell เพื่อทำให้ตรวจจับยากขึ้น รวมถึงซ่อนการสื่อสารผ่าน Telegram และ Discord วิธีเข้าถึงระบบมักเริ่มจาก phishing ก่อนจะฝังมัลแวร์หลายชั้น จุดประสงค์หลักคือการสอดแนมและเก็บข้อมูลเชิงลึกในระดับรัฐ ไม่ใช่แค่การโจมตีเพื่อเงิน
    https://www.techradar.com/pro/security/russian-speaking-hacking-group-now-shifting-focus-to-government-targets

    Amazon ทดลองส่งของภายใน 30 นาที
    Amazon เปิดบริการใหม่ที่ทำให้การสั่งซื้อออนไลน์เร็วขึ้นไปอีกขั้น โดยไม่ต้องรอ Prime หรือบริการพิเศษใด ๆ พวกเขาเริ่มทดสอบการส่งของภายใน 30 นาที เพื่อโชว์ศักยภาพด้านโลจิสติกส์และระบบจัดการคลังสินค้าแบบทันสมัย แนวคิดนี้คือการทำให้ลูกค้าได้ของแทบจะทันทีหลังสั่งซื้อ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการช้อปปิ้งออนไลน์ และอาจเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคในอนาคต
    https://www.techradar.com/computing/software/forget-prime-amazon-starts-30-minute-deliveries-to-show-good-things-come-to-those-with-zero-patience

    สหรัฐทลายเครือข่าย Cryptomixer ยึดเงินกว่า 30 ล้านดอลลาร์
    หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐประสบความสำเร็จในการปิดเครือข่าย Cryptomixer ที่ใช้ฟอกเงินดิจิทัล โดยสามารถยึดเงินได้มากกว่า 30 ล้านดอลลาร์ การดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในปฏิบัติการใหญ่ที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการเงินคริปโต เพราะ Cryptomixer ถูกใช้เพื่อซ่อนเส้นทางการเงินที่ผิดกฎหมาย การยึดเงินครั้งนี้จึงเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลกำลังจริงจังกับการควบคุมตลาดคริปโตและการฟอกเงิน
    https://www.techradar.com/pro/security/huge-cryptomixer-takedown-sees-feds-seize-over-usd30milion

    ออสเตรเลียเตรียมบังคับใช้กฎหมายแบนโซเชียลมีเดีย
    รัฐบาลออสเตรเลียประกาศว่ากฎหมายใหม่ที่จะห้ามการใช้โซเชียลมีเดียบางประเภทจะมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์หน้า มาตรการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องเยาวชนและลดผลกระทบทางสังคมที่เกิดจากการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์มากเกินไป แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าละเมิดเสรีภาพในการสื่อสาร แต่รัฐบาลยืนยันว่าจำเป็นต่อการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยขึ้นสำหรับประชาชน
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/australias-social-media-ban-will-come-into-force-next-week

    อินเดียบังคับให้มือถือทุกเครื่องติดตั้งแอปความปลอดภัยล่วงหน้า
    รัฐบาลอินเดียมีแผนจะบังคับให้สมาร์ทโฟนทุกเครื่องที่ขายในประเทศต้องติดตั้งแอปความปลอดภัยที่รัฐกำหนดไว้ล่วงหน้า ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัวออกมาแสดงความกังวลอย่างมาก เพราะอาจทำให้ข้อมูลผู้ใช้ถูกตรวจสอบหรือเก็บโดยรัฐโดยตรง แม้จะอ้างว่าเพื่อความปลอดภัย แต่หลายฝ่ายมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและอาจกระทบต่อเสรีภาพทางดิจิทัลในระยะยาว
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/experts-deeply-concerned-by-indias-plan-to-force-all-smartphones-to-run-pre-installed-security-app

    EU อนุญาตให้เนเธอร์แลนด์ดำเนินคดี Apple เรื่อง App Store
    ศาลยุโรปตัดสินให้เนเธอร์แลนด์สามารถเดินหน้าคดีต่อต้านการผูกขาดกับ Apple เกี่ยวกับการดำเนินงานของ App Store ได้ โดยก่อนหน้านี้ Apple ถูกกล่าวหาว่ามีการบังคับใช้กฎที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้พัฒนาแอป การตัดสินครั้งนี้ถือเป็นการเปิดทางให้ประเทศสมาชิก EU อื่น ๆ สามารถดำเนินการในลักษณะเดียวกันได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรูปแบบธุรกิจของ Apple ในยุโรปอย่างมีนัยสำคัญ
    https://www.techradar.com/pro/eu-court-gives-the-dutch-the-green-light-to-pursue-apple-app-store-anti-trust-case

    Samsung Galaxy Z TriFold – มือถือพับสามตอนที่แพงที่สุด
    Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy Z TriFold ที่หลายคนคาดว่าจะเป็นมือถือที่แพงที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา นักวิเคราะห์คาดว่าราคาจะอยู่ราวๆ 2,799 ดอลลาร์ ซึ่งแพงกว่ารุ่น Z Fold 7 ประมาณ 1,000 ดอลลาร์ จุดเด่นคือดีไซน์ที่พับได้สามตอน แต่ใช้งานได้แบบโทรศัพท์ 6.5 นิ้ว หรือแท็บเล็ต 10 นิ้วเท่านั้น ไม่เหมือน Huawei Mate XT ที่ซับซ้อนกว่าและราคาเกือบ 3,400 ดอลลาร์ การเลือกใช้ชิป Snapdragon รุ่นปีที่แล้วช่วยลดต้นทุน และที่สำคัญคือผู้ใช้ส่วนใหญ่จะซื้อผ่านสัญญากับเครือข่าย ทำให้จ่ายเป็นรายเดือนแทนที่จะจ่ายเต็มจำนวนทันที
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/how-much-will-the-galaxy-z-trifold-cost-im-a-samsung-expert-and-heres-my-prediction

    Steam บังคับติดป้ายเกมที่ใช้ AI แต่ Epic บอกว่าไร้สาระ
    Steam ได้ออกกฎใหม่ให้ผู้พัฒนาเกมต้องเปิดเผยว่าใช้ AI สร้างเนื้อหาหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นกราฟิก บทสนทนา หรือโค้ด แต่ Tim Sweeney ซีอีโอของ Epic Games มองว่าป้าย “Made with AI” ไม่มีประโยชน์ เพราะอนาคตเกมแทบทุกเกมจะใช้ AI อยู่แล้ว เขาเปรียบเทียบว่ามันเหมือนการติดสติกเกอร์เตือนว่าเกมใช้กราฟิก 3D ซึ่งเป็นเรื่องปกติไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นหลายคนกลับมองว่าป้ายนี้ช่วยให้พวกเขาตัดสินใจได้ว่าจะสนับสนุนเกมที่สร้างโดยมนุษย์หรือใช้ AI มากน้อยแค่ไหน ประเด็นนี้จึงกลายเป็นการถกเถียงเรื่องความโปร่งใสและความเชื่อใจระหว่างผู้เล่นกับผู้พัฒนา https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/steam-requires-ai-game-disclosures-epics-ceo-says-theyre-meaningless

    Wayback Machine เก็บครบ 1 ล้านล้านหน้าเว็บแล้ว
    Wayback Machine ซึ่งเป็นคลังเก็บประวัติหน้าเว็บของ Internet Archive ได้บันทึกครบ 1 ล้านล้านหน้าเว็บแล้ว ถือเป็นหลักไมล์สำคัญของการเก็บรักษาประวัติอินเทอร์เน็ต ทุกวันมีการเพิ่มข้อมูลกว่า 150TB เข้าไปในระบบ จุดเด่นคือช่วยให้เราย้อนดูการเปลี่ยนแปลงของเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นของรัฐบาล บริษัท หรือบล็อกส่วนตัว อีกทั้งยังเก็บสื่ออื่นๆ เช่น หนังสือ เพลงแผ่นเสียง เทป และเกมเก่าๆ ด้วย ผู้ก่อตั้งคือ Brewster Kahle ผู้บุกเบิกยุคแรกของอินเทอร์เน็ต ทำให้ Wayback Machine กลายเป็น “ห้องสมุดดิจิทัล” ที่ช่วยรักษาความทรงจำของโลกออนไลน์
    https://www.techradar.com/computing/internet/the-wayback-machine-recently-captured-its-trillionth-web-page-here-are-5-surprising-facts-about-the-living-history-of-the-internet

    AWS จับมือ Nvidia สร้าง “AI Factories”
    AWS ประกาศความร่วมมือกับ Nvidia เพื่อสร้างสิ่งที่เรียกว่า “AI Factories” หรือศูนย์กลางประมวลผล AI ขนาดใหญ่ โดยจะรวมฮาร์ดแวร์ล่าสุดของ Nvidia เข้ากับชิป Trainium ของ AWS รวมถึงระบบเครือข่ายและฐานข้อมูล เพื่อให้ธุรกิจและรัฐบาลสามารถพัฒนาโมเดล AI ได้เร็วขึ้นและปลอดภัยขึ้น แนวคิดนี้คือการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI แบบครบวงจรที่สามารถติดตั้งในศูนย์ข้อมูลของลูกค้าเอง เปรียบเสมือน AWS Region ส่วนตัว ซึ่งจะช่วยให้การสร้างและใช้งานโมเดลขนาดใหญ่ทำได้ง่ายและเร็วกว่าเดิม
    https://www.techradar.com/pro/aws-wants-to-be-a-part-of-nvidias-ai-factories-and-it-could-change-everything-about-how-your-business-treats-ai

    Netflix ตัดฟีเจอร์ Cast บนมือถือออกไปแบบไม่บอกล่วงหน้า
    Netflix ได้ยกเลิกฟีเจอร์การ Cast จากแอปบนมือถือไปยังอุปกรณ์ Google TV รุ่นใหม่ ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถส่งภาพจากมือถือไปยังทีวีได้เหมือนเดิม โดยเฉพาะผู้ที่ใช้แพ็กเกจราคาถูกแบบมีโฆษณาจะไม่สามารถ Cast ได้เลย แม้แต่กับ Chromecast รุ่นเก่า การเปลี่ยนแปลงนี้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้ที่มักใช้ฟีเจอร์นี้เวลาเดินทางหรือพักในโรงแรม เพราะมันสะดวกกว่าการล็อกอินบนทีวีเครื่องอื่น Netflix อ้างว่าการตัดฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การรับชมมีคุณภาพที่ดีกว่า แต่ผู้ใช้จำนวนมากมองว่าเป็นการลดความสะดวกเพื่อควบคุมการใช้งานอุปกรณ์
    https://www.techradar.com/streaming/netflix/netflix-just-ditched-a-useful-android-and-ios-feature-that-travelers-rely-on-for-hotel-streaming

    รีวิว Prusa Core One L – เครื่องพิมพ์ 3D รุ่นใหม่
    Prusa เปิดตัว Core One L เครื่องพิมพ์ 3D ที่ออกแบบมาเพื่อความแม่นยำและความเสถียรสูง ใช้โครงสร้าง CoreXY ที่ช่วยให้การเคลื่อนไหวรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น จุดเด่นคือการรองรับการพิมพ์ขนาดใหญ่และวัสดุหลากหลาย เหมาะทั้งงานต้นแบบและงานผลิตจริง รีวิวชี้ว่าคุณภาพการพิมพ์ออกมาเนียนละเอียด แต่ราคาก็สูงตามสมรรถนะ ถือเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่จริงจังกับงาน 3D printing และต้องการเครื่องที่เชื่อถือได้ในระยะยาว
    https://www.techradar.com/pro/original-prusa-core-one-l-3d-printer-review

    FiiO FT13 – หูฟังครอบหูแบบมีสาย
    FiiO เปิดตัว FT13 หูฟังครอบหูแบบปิดหลังที่ออกแบบมาเพื่อเติมเต็มช่องว่างในตลาดหูฟังสาย จุดเด่นคือเสียงที่สมดุลและการออกแบบที่สวมใส่สบาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพเสียงจริงจังโดยไม่พึ่งระบบไร้สาย รีวิวระบุว่าแม้จะไม่ใช่หูฟังระดับไฮเอนด์ แต่ก็ให้คุณภาพเสียงที่คุ้มค่ากับราคา และเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ยังชอบหูฟังแบบมีสาย https://www.techradar.com/audio/headphones/fiio-ft13-wired-headphones-review

    ศูนย์ข้อมูลใหม่อาจใช้พลังงานเพิ่มเกือบ 3 เท่าในปี 2035
    รายงานใหม่เผยว่าศูนย์ข้อมูลทั่วโลกจะต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าภายในปี 2035 เนื่องจากความต้องการประมวลผล AI และการเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ปัจจุบันศูนย์ข้อมูลใช้พลังงานมากอยู่แล้ว แต่การเติบโตของโมเดล AI ขนาดใหญ่และการสตรีมมิ่งจะทำให้ความต้องการพุ่งสูงขึ้น นักวิเคราะห์เตือนว่าหากไม่มีการลงทุนในพลังงานสะอาดและโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ อาจเกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/security/new-data-centers-will-need-almost-triple-the-current-energy-demand-by-2035

    มอเตอร์ไฟฟ้าแรงสูงอาจนำการบินเหนือเสียงกลับมา
    นักวิจัยกำลังพัฒนาเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงที่สามารถทำให้เครื่องบินกลับมาบินด้วยความเร็วเหนือเสียงแบบ Concorde ได้อีกครั้ง การออกแบบใหม่นี้ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ทำให้การบินเร็วระดับ Mach 2 มีโอกาสกลับมาในรูปแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น หากสำเร็จจะเป็นการพลิกโฉมการเดินทางทางอากาศ โดยให้ผู้โดยสารเดินทางข้ามทวีปได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/concorde-style-air-travel-could-be-back-soon-these-powerful-ev-motors-are-unlocking-the-secrets-to-supersonic-air-speeds

    AWS CEO มองว่า AI Agents จะใหญ่กว่าอินเทอร์เน็ต
    Adam Selipsky ซีอีโอของ AWS กล่าวว่าการมาของ AI Agents จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กว่าการเกิดขึ้นของอินเทอร์เน็ต เขาเชื่อว่าโลกกำลังเร่งไปข้างหน้าและธุรกิจต้องปรับตัวทันที โดย AWS กำลังลงทุนอย่างหนักในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการใช้งาน AI Agents ในระดับองค์กร มุมมองนี้สะท้อนว่าบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่กำลังเห็น AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่จะเปลี่ยนวิธีการทำงานและการใช้ชีวิตของผู้คน
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/the-world-is-not-slowing-down-aws-ceo-says-ai-agents-will-be-bigger-than-the-internet-so-act-now
    📌📡🟢 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟢📡📌 #รวมข่าวIT #20251203 #TechRadar 🏛️ สภาคองเกรสสหรัฐฯ เตรียมพิจารณากฎหมายตรวจสอบอายุใน App Store ตอนนี้สภาคองเกรสของสหรัฐฯ กำลังจะหยิบยกกฎหมายใหม่ที่ชื่อว่า App Store Accountability Act (ASA) มาพิจารณา โดยเป้าหมายคือการเพิ่มมาตรการปกป้องเยาวชนบนโลกออนไลน์ กฎหมายนี้จะบังคับให้ผู้ให้บริการ App Store อย่าง Apple และ Google ต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบอายุผู้ใช้งานและจำกัดการเข้าถึงแอปที่ไม่เหมาะสมกับเด็ก แม้จะมีการสนับสนุนจาก Meta, X และ Pinterest แต่ Apple และ Google กลับกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและการแชร์ข้อมูล ASA เป็นเพียงหนึ่งใน 19 กฎหมายที่ถูกหยิบขึ้นมาหารือในครั้งนี้ ซึ่งรวมถึง Kids Online Safety Act (KOSA) และ SCREEN Act ที่ต่างก็มีข้อถกเถียงว่าจะกระทบต่อเสรีภาพและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-congress-to-consider-app-store-age-verification-measures 💻 ผู้ใช้ Windows 11 กังวลเรื่อง AI Agents แต่ผู้เชี่ยวชาญบอกอย่าเพิ่งตื่นตระหนก Windows 11 กำลังถูกจับตามองอีกครั้งหลัง Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า AI Agents โดยเฉพาะ Copilot Actions ที่สามารถช่วยจัดการไฟล์และงานต่าง ๆ บนเครื่องได้ แต่สิ่งที่ทำให้ผู้ใช้กังวลคือเอกสารที่เตือนถึงความเสี่ยง เช่น การ “หลอน” ของ AI ที่อาจให้ข้อมูลผิด ๆ หรือการโจมตีแบบ cross-prompt injection ที่อาจนำไปสู่การขโมยข้อมูล แม้ Microsoft จะออกแบบระบบให้ AI Agents ทำงานในพื้นที่แยกต่างหากเพื่อความปลอดภัย แต่หลายคนยังไม่มั่นใจว่าจะป้องกันได้จริงเมื่อใช้งานในโลกจริง ความกังวลนี้จึงสะท้อนว่า แม้ AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ก็ยังต้องจับตาดูว่ามันจะปลอดภัยพอหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/i-get-why-some-people-are-suddenly-freaking-out-about-ai-agents-in-windows-11-im-worried-too-but-lets-not-panic-just-yet 🏢 Instagram สั่งพนักงานกลับเข้าออฟฟิศเต็มเวลา Adam Mosseri ซีอีโอของ Instagram ประกาศว่าตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2026 พนักงานส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ จะต้องกลับมาทำงานที่ออฟฟิศเต็มเวลา โดยให้เหตุผลว่าการทำงานแบบนี้จะช่วยให้บริษัท “คล่องตัวและสร้างสรรค์มากขึ้น” แม้จะยังมีข้อยกเว้นสำหรับพนักงานที่ทำงานแบบรีโมตเต็มเวลา แต่รูปแบบ hybrid กำลังจะหมดไป นอกจากนี้ Mosseri ยังวางแผนลดจำนวนการประชุมที่ไม่จำเป็น และบังคับให้เอกสารกลยุทธ์ต้องกระชับไม่เกินสามหน้า เพื่อให้ทุกคนมีเวลาไปโฟกัสกับการสร้างผลิตภัณฑ์มากกว่าการเตรียมสไลด์หรือประชุมยืดยาว 🔗 https://www.techradar.com/pro/instagram-ceo-issues-full-time-return-to-office-order ⚠️ 4.3 ล้านเครื่องติดตั้งส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่กลายเป็นมัลแวร์ มีการค้นพบว่า ส่วนขยายบน Chrome และ Edge กว่า 145 ตัวที่เคยทำงานปกติมานานหลายปี ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นอันตรายภายใต้แคมเปญที่ชื่อว่า ShadyPanda โดยเริ่มจากการทำ affiliate fraud แอบใส่โค้ดติดตามการซื้อสินค้า จากนั้นพัฒนาไปสู่การขโมยคุกกี้ การเปลี่ยนเส้นทางการค้นหา และล่าสุดถึงขั้นเปิดช่องให้รันโค้ดจากระยะไกล ทำให้ผู้ใช้กว่า 4.3 ล้านเครื่องตกอยู่ในความเสี่ยง แม้ Google จะลบออกจาก Chrome Web Store แล้ว แต่ Microsoft ยังตอบสนองช้ากว่า ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบตรวจสอบว่ามีส่วนขยายเหล่านี้อยู่ในเครื่องหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/4-3-million-have-installed-this-malicious-browser-extension-on-chrome-and-edge-heres-how-to-check 🖥️ อดีตวิศวกร Microsoft จวก Windows 11 ควรแก้ไขพื้นฐานก่อนใส่ฟีเจอร์ AI Dave Plummer อดีตวิศวกรผู้สร้าง Task Manager และเกม Space Cadet Pinball ออกมาแสดงความเห็นว่า Microsoft ควรหยุดเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ โดยเฉพาะ AI แล้วหันมาแก้ไขปัญหาพื้นฐานของ Windows 11 ให้เสถียรและใช้งานได้ดีเสียก่อน เขายกตัวอย่างช่วงที่ Windows XP เจอไวรัส Blaster จน Microsoft ต้องออก Service Pack 2 เพื่อแก้ไขบั๊กและเพิ่มความปลอดภัย โดยไม่สนใจฟีเจอร์ใหม่ ๆ Plummer เชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่ Windows 11 ต้องมีการปรับปรุงแบบเดียวกัน เพื่อให้ระบบ “ไม่ห่วย” ก่อนจะไปต่อยอดด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/ex-engineer-blasts-microsoft-argues-it-must-fix-windows-11-until-it-doesnt-suck-never-mind-about-ai 📱 ฟีเจอร์ใหม่ Android อาจเปิดช่องให้เจ้านายอ่านข้อความ RCS ของคุณ Google กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ใน Android ที่ทำให้ผู้ดูแลระบบขององค์กรสามารถเข้าถึงข้อความ RCS บนมือถือที่ใช้เพื่อการทำงานได้ ซึ่งหมายความว่าหากคุณใช้โทรศัพท์บริษัท ข้อความที่คุณส่งผ่าน RCS อาจถูกเจ้านายหรือฝ่ายไอทีตรวจสอบได้ ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อการจัดการอุปกรณ์และความปลอดภัย แต่ก็สร้างความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวของพนักงาน เพราะ RCS ถูกมองว่าเป็นการสื่อสารที่ทันสมัยและปลอดภัยกว่าข้อความ SMS แบบเดิม 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/googles-latest-android-feature-could-let-your-boss-read-your-rcs-texts-on-your-work-phone 🔒 Google ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ Android กว่า 107 จุด Google ได้ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยสำหรับ Android ที่แก้ไขช่องโหว่ถึง 107 จุด โดยมีบางจุดที่ถูกจัดว่าเป็นความเสี่ยงระดับร้ายแรง ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกลได้ การอัปเดตนี้ครอบคลุมทั้งระบบ Android และชิปจากผู้ผลิตต่าง ๆ เช่น Qualcomm และ MediaTek ผู้ใช้จึงควรรีบตรวจสอบและติดตั้งแพตช์ล่าสุดเพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ของตนปลอดภัยจากการโจมตี 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/107-android-flaws-just-got-patched-by-google-heres-how-to-make-sure-youre-up-to-date 🤖 DeepSeek แจกโมเดล AI ที่ท้าชน GPT-5 บริษัท DeepSeek ได้สร้างความฮือฮาในวงการ AI ด้วยการปล่อยโมเดลใหม่ที่มีศักยภาพใกล้เคียงกับ GPT-5 และเปิดให้ใช้งานฟรี โมเดลนี้ถูกมองว่าอาจเปลี่ยนแปลงสมดุลของตลาด AI เพราะทำให้ผู้ใช้งานทั่วไปและนักพัฒนาสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมหาศาล การเคลื่อนไหวครั้งนี้ยังสะท้อนถึงการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด AI ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนาและนวัตกรรมที่รวดเร็วขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/deepseek-just-gave-away-an-ai-model-that-rivals-gpt-5-and-it-could-change-everything 🖥️ ChatGPT ล่มชั่วคราว แต่กลับมาแล้ว วันนี้หลายคนเจอปัญหา ChatGPT ตอบช้า หรือไม่ตอบเลย เหมือนวงกลมหมุนค้างอยู่ตลอดเวลา จนทำให้ผู้ใช้ทั่วโลกเริ่มสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น OpenAI ก็รีบออกมาชี้แจงว่ามี “error rates” สูงผิดปกติ และได้เร่งแก้ไขทันที หลังจากนั้นไม่นานก็ปล่อยการแก้ไขออกมา ทำให้ระบบกลับมาใช้งานได้ตามปกติ แม้บางคนยังเจออาการหน่วงอยู่บ้าง แต่โดยรวมถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่เร็วมาก สุดท้ายสถานะก็กลับมาเป็นสีเขียว แปลว่าระบบทำงานได้แล้ว ใครที่ยังเจอปัญหาก็ลองรีเฟรชหรือเปิดแอปใหม่อีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/news/live/chatgpt-outage-december-openai 🍏 Apple เปลี่ยนตัวผู้บริหาร AI คนสำคัญ John Giannandrea ผู้ที่ดูแลกลยุทธ์ AI ของ Apple มานานเกือบ 8 ปี กำลังจะเกษียณในปี 2026 โดยจะมี Amar Subramanya เข้ามารับตำแหน่งแทน เขาเคยทำงานทั้งที่ Microsoft และ Google ดูแลโครงการ AI ใหญ่ ๆ อย่าง Gemini และ Bard การเข้ามาของ Subramanya ถือเป็นการเสริมทัพครั้งใหญ่ เพราะ Apple กำลังถูกวิจารณ์ว่าตามหลังคู่แข่งในเรื่อง AI การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จึงถูกจับตามองว่าจะทำให้ Siri และบริการ AI ของ Apple ก้าวทันโลกได้หรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/microsoft-and-google-ai-veteran-to-replace-outgoing-apple-exec-john-giannandrea 📱 Android 16 อัปเดตใหม่ เพิ่ม 7 ฟีเจอร์เด็ด Google ปล่อยอัปเดตใหญ่ให้ Android 16 แม้ยังใช้ชื่อเดิม แต่เพิ่มความสามารถใหม่ ๆ เพียบ เช่น AI ช่วยสรุปการแจ้งเตือน, ระบบจัดระเบียบ notification ให้ดูง่ายขึ้น, ปรับแต่งไอคอนตามใจ, เพิ่ม parental controls สำหรับควบคุมเวลาเล่นมือถือของเด็ก, ฟีเจอร์ Call Reason ที่บอกว่าโทรด่วนจริงหรือไม่, ระบบตรวจสอบข้อความหลอกลวงด้วย Circle to Search และการปรับปรุง accessibility ให้ใช้งานสะดวกขึ้น โดยตอนนี้ปล่อยให้กับ Pixel ก่อน ส่วนมือถือแบรนด์อื่นต้องรออีกหน่อย 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/the-next-android-16-update-has-landed-and-these-are-the-7-biggest-features 📲 Samsung เปิดตัว Galaxy Z Trifold มือถือพับสามตอน Samsung สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว Galaxy Z Trifold มือถือพับได้แบบสามตอน มีจอด้านนอก 6.5 นิ้ว และจอด้านในใหญ่ถึง 10 นิ้ว ใช้การพับแบบ “pamphlet-style” ทำให้เมื่อพับแล้วหนากว่ามือถือทั่วไป แต่ช่วยป้องกันหน้าจอด้านในไม่ให้โดนรอยขีดข่วน ต่างจาก Huawei Mate XT ที่พับแบบ Z แล้วมีส่วนจอโผล่ออกมาเสี่ยงต่อการเสียหาย ถึงแม้ยังไม่มีวันวางขายแน่ชัดในสหรัฐ แต่ดีไซน์นี้ถูกมองว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับการใช้งานจริง 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/the-samsung-galaxy-z-trifolds-folding-mechanism-looks-odd-but-its-the-right-call-on-a-crucial-design-decision 🛡️ กลุ่มแฮ็กเกอร์รัสเซีย Tomiris หันโจมตีรัฐบาล รายงานจาก Kaspersky เผยว่า Tomiris กลุ่มแฮ็กเกอร์ที่พูดภาษารัสเซีย กำลังเปลี่ยนเป้าหมายจากการโจมตีทั่วไป มาสู่การเจาะระบบหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรระหว่างประเทศ พวกเขาใช้มัลแวร์หลายภาษา ทั้ง Go, Rust, Python และ PowerShell เพื่อทำให้ตรวจจับยากขึ้น รวมถึงซ่อนการสื่อสารผ่าน Telegram และ Discord วิธีเข้าถึงระบบมักเริ่มจาก phishing ก่อนจะฝังมัลแวร์หลายชั้น จุดประสงค์หลักคือการสอดแนมและเก็บข้อมูลเชิงลึกในระดับรัฐ ไม่ใช่แค่การโจมตีเพื่อเงิน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/russian-speaking-hacking-group-now-shifting-focus-to-government-targets 🚚 Amazon ทดลองส่งของภายใน 30 นาที Amazon เปิดบริการใหม่ที่ทำให้การสั่งซื้อออนไลน์เร็วขึ้นไปอีกขั้น โดยไม่ต้องรอ Prime หรือบริการพิเศษใด ๆ พวกเขาเริ่มทดสอบการส่งของภายใน 30 นาที เพื่อโชว์ศักยภาพด้านโลจิสติกส์และระบบจัดการคลังสินค้าแบบทันสมัย แนวคิดนี้คือการทำให้ลูกค้าได้ของแทบจะทันทีหลังสั่งซื้อ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการช้อปปิ้งออนไลน์ และอาจเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/computing/software/forget-prime-amazon-starts-30-minute-deliveries-to-show-good-things-come-to-those-with-zero-patience 💰 สหรัฐทลายเครือข่าย Cryptomixer ยึดเงินกว่า 30 ล้านดอลลาร์ หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐประสบความสำเร็จในการปิดเครือข่าย Cryptomixer ที่ใช้ฟอกเงินดิจิทัล โดยสามารถยึดเงินได้มากกว่า 30 ล้านดอลลาร์ การดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในปฏิบัติการใหญ่ที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการเงินคริปโต เพราะ Cryptomixer ถูกใช้เพื่อซ่อนเส้นทางการเงินที่ผิดกฎหมาย การยึดเงินครั้งนี้จึงเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลกำลังจริงจังกับการควบคุมตลาดคริปโตและการฟอกเงิน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/huge-cryptomixer-takedown-sees-feds-seize-over-usd30milion 📵 ออสเตรเลียเตรียมบังคับใช้กฎหมายแบนโซเชียลมีเดีย รัฐบาลออสเตรเลียประกาศว่ากฎหมายใหม่ที่จะห้ามการใช้โซเชียลมีเดียบางประเภทจะมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์หน้า มาตรการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องเยาวชนและลดผลกระทบทางสังคมที่เกิดจากการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์มากเกินไป แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าละเมิดเสรีภาพในการสื่อสาร แต่รัฐบาลยืนยันว่าจำเป็นต่อการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยขึ้นสำหรับประชาชน 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/australias-social-media-ban-will-come-into-force-next-week 📱 อินเดียบังคับให้มือถือทุกเครื่องติดตั้งแอปความปลอดภัยล่วงหน้า รัฐบาลอินเดียมีแผนจะบังคับให้สมาร์ทโฟนทุกเครื่องที่ขายในประเทศต้องติดตั้งแอปความปลอดภัยที่รัฐกำหนดไว้ล่วงหน้า ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัวออกมาแสดงความกังวลอย่างมาก เพราะอาจทำให้ข้อมูลผู้ใช้ถูกตรวจสอบหรือเก็บโดยรัฐโดยตรง แม้จะอ้างว่าเพื่อความปลอดภัย แต่หลายฝ่ายมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและอาจกระทบต่อเสรีภาพทางดิจิทัลในระยะยาว 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/experts-deeply-concerned-by-indias-plan-to-force-all-smartphones-to-run-pre-installed-security-app ⚖️ EU อนุญาตให้เนเธอร์แลนด์ดำเนินคดี Apple เรื่อง App Store ศาลยุโรปตัดสินให้เนเธอร์แลนด์สามารถเดินหน้าคดีต่อต้านการผูกขาดกับ Apple เกี่ยวกับการดำเนินงานของ App Store ได้ โดยก่อนหน้านี้ Apple ถูกกล่าวหาว่ามีการบังคับใช้กฎที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้พัฒนาแอป การตัดสินครั้งนี้ถือเป็นการเปิดทางให้ประเทศสมาชิก EU อื่น ๆ สามารถดำเนินการในลักษณะเดียวกันได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรูปแบบธุรกิจของ Apple ในยุโรปอย่างมีนัยสำคัญ 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-court-gives-the-dutch-the-green-light-to-pursue-apple-app-store-anti-trust-case 📱 Samsung Galaxy Z TriFold – มือถือพับสามตอนที่แพงที่สุด Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy Z TriFold ที่หลายคนคาดว่าจะเป็นมือถือที่แพงที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา นักวิเคราะห์คาดว่าราคาจะอยู่ราวๆ 2,799 ดอลลาร์ ซึ่งแพงกว่ารุ่น Z Fold 7 ประมาณ 1,000 ดอลลาร์ จุดเด่นคือดีไซน์ที่พับได้สามตอน แต่ใช้งานได้แบบโทรศัพท์ 6.5 นิ้ว หรือแท็บเล็ต 10 นิ้วเท่านั้น ไม่เหมือน Huawei Mate XT ที่ซับซ้อนกว่าและราคาเกือบ 3,400 ดอลลาร์ การเลือกใช้ชิป Snapdragon รุ่นปีที่แล้วช่วยลดต้นทุน และที่สำคัญคือผู้ใช้ส่วนใหญ่จะซื้อผ่านสัญญากับเครือข่าย ทำให้จ่ายเป็นรายเดือนแทนที่จะจ่ายเต็มจำนวนทันที 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/how-much-will-the-galaxy-z-trifold-cost-im-a-samsung-expert-and-heres-my-prediction 🎮 Steam บังคับติดป้ายเกมที่ใช้ AI แต่ Epic บอกว่าไร้สาระ Steam ได้ออกกฎใหม่ให้ผู้พัฒนาเกมต้องเปิดเผยว่าใช้ AI สร้างเนื้อหาหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นกราฟิก บทสนทนา หรือโค้ด แต่ Tim Sweeney ซีอีโอของ Epic Games มองว่าป้าย “Made with AI” ไม่มีประโยชน์ เพราะอนาคตเกมแทบทุกเกมจะใช้ AI อยู่แล้ว เขาเปรียบเทียบว่ามันเหมือนการติดสติกเกอร์เตือนว่าเกมใช้กราฟิก 3D ซึ่งเป็นเรื่องปกติไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นหลายคนกลับมองว่าป้ายนี้ช่วยให้พวกเขาตัดสินใจได้ว่าจะสนับสนุนเกมที่สร้างโดยมนุษย์หรือใช้ AI มากน้อยแค่ไหน ประเด็นนี้จึงกลายเป็นการถกเถียงเรื่องความโปร่งใสและความเชื่อใจระหว่างผู้เล่นกับผู้พัฒนา 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/steam-requires-ai-game-disclosures-epics-ceo-says-theyre-meaningless 🌐 Wayback Machine เก็บครบ 1 ล้านล้านหน้าเว็บแล้ว Wayback Machine ซึ่งเป็นคลังเก็บประวัติหน้าเว็บของ Internet Archive ได้บันทึกครบ 1 ล้านล้านหน้าเว็บแล้ว ถือเป็นหลักไมล์สำคัญของการเก็บรักษาประวัติอินเทอร์เน็ต ทุกวันมีการเพิ่มข้อมูลกว่า 150TB เข้าไปในระบบ จุดเด่นคือช่วยให้เราย้อนดูการเปลี่ยนแปลงของเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นของรัฐบาล บริษัท หรือบล็อกส่วนตัว อีกทั้งยังเก็บสื่ออื่นๆ เช่น หนังสือ เพลงแผ่นเสียง เทป และเกมเก่าๆ ด้วย ผู้ก่อตั้งคือ Brewster Kahle ผู้บุกเบิกยุคแรกของอินเทอร์เน็ต ทำให้ Wayback Machine กลายเป็น “ห้องสมุดดิจิทัล” ที่ช่วยรักษาความทรงจำของโลกออนไลน์ 🔗 https://www.techradar.com/computing/internet/the-wayback-machine-recently-captured-its-trillionth-web-page-here-are-5-surprising-facts-about-the-living-history-of-the-internet 🤝 AWS จับมือ Nvidia สร้าง “AI Factories” AWS ประกาศความร่วมมือกับ Nvidia เพื่อสร้างสิ่งที่เรียกว่า “AI Factories” หรือศูนย์กลางประมวลผล AI ขนาดใหญ่ โดยจะรวมฮาร์ดแวร์ล่าสุดของ Nvidia เข้ากับชิป Trainium ของ AWS รวมถึงระบบเครือข่ายและฐานข้อมูล เพื่อให้ธุรกิจและรัฐบาลสามารถพัฒนาโมเดล AI ได้เร็วขึ้นและปลอดภัยขึ้น แนวคิดนี้คือการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI แบบครบวงจรที่สามารถติดตั้งในศูนย์ข้อมูลของลูกค้าเอง เปรียบเสมือน AWS Region ส่วนตัว ซึ่งจะช่วยให้การสร้างและใช้งานโมเดลขนาดใหญ่ทำได้ง่ายและเร็วกว่าเดิม 🔗 https://www.techradar.com/pro/aws-wants-to-be-a-part-of-nvidias-ai-factories-and-it-could-change-everything-about-how-your-business-treats-ai 📺 Netflix ตัดฟีเจอร์ Cast บนมือถือออกไปแบบไม่บอกล่วงหน้า Netflix ได้ยกเลิกฟีเจอร์การ Cast จากแอปบนมือถือไปยังอุปกรณ์ Google TV รุ่นใหม่ ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถส่งภาพจากมือถือไปยังทีวีได้เหมือนเดิม โดยเฉพาะผู้ที่ใช้แพ็กเกจราคาถูกแบบมีโฆษณาจะไม่สามารถ Cast ได้เลย แม้แต่กับ Chromecast รุ่นเก่า การเปลี่ยนแปลงนี้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้ที่มักใช้ฟีเจอร์นี้เวลาเดินทางหรือพักในโรงแรม เพราะมันสะดวกกว่าการล็อกอินบนทีวีเครื่องอื่น Netflix อ้างว่าการตัดฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การรับชมมีคุณภาพที่ดีกว่า แต่ผู้ใช้จำนวนมากมองว่าเป็นการลดความสะดวกเพื่อควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ 🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/netflix-just-ditched-a-useful-android-and-ios-feature-that-travelers-rely-on-for-hotel-streaming 🖨️ รีวิว Prusa Core One L – เครื่องพิมพ์ 3D รุ่นใหม่ Prusa เปิดตัว Core One L เครื่องพิมพ์ 3D ที่ออกแบบมาเพื่อความแม่นยำและความเสถียรสูง ใช้โครงสร้าง CoreXY ที่ช่วยให้การเคลื่อนไหวรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น จุดเด่นคือการรองรับการพิมพ์ขนาดใหญ่และวัสดุหลากหลาย เหมาะทั้งงานต้นแบบและงานผลิตจริง รีวิวชี้ว่าคุณภาพการพิมพ์ออกมาเนียนละเอียด แต่ราคาก็สูงตามสมรรถนะ ถือเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่จริงจังกับงาน 3D printing และต้องการเครื่องที่เชื่อถือได้ในระยะยาว 🔗 https://www.techradar.com/pro/original-prusa-core-one-l-3d-printer-review 🎧 FiiO FT13 – หูฟังครอบหูแบบมีสาย FiiO เปิดตัว FT13 หูฟังครอบหูแบบปิดหลังที่ออกแบบมาเพื่อเติมเต็มช่องว่างในตลาดหูฟังสาย จุดเด่นคือเสียงที่สมดุลและการออกแบบที่สวมใส่สบาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพเสียงจริงจังโดยไม่พึ่งระบบไร้สาย รีวิวระบุว่าแม้จะไม่ใช่หูฟังระดับไฮเอนด์ แต่ก็ให้คุณภาพเสียงที่คุ้มค่ากับราคา และเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ยังชอบหูฟังแบบมีสาย 🔗 https://www.techradar.com/audio/headphones/fiio-ft13-wired-headphones-review ⚡ ศูนย์ข้อมูลใหม่อาจใช้พลังงานเพิ่มเกือบ 3 เท่าในปี 2035 รายงานใหม่เผยว่าศูนย์ข้อมูลทั่วโลกจะต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าภายในปี 2035 เนื่องจากความต้องการประมวลผล AI และการเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ปัจจุบันศูนย์ข้อมูลใช้พลังงานมากอยู่แล้ว แต่การเติบโตของโมเดล AI ขนาดใหญ่และการสตรีมมิ่งจะทำให้ความต้องการพุ่งสูงขึ้น นักวิเคราะห์เตือนว่าหากไม่มีการลงทุนในพลังงานสะอาดและโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ อาจเกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/new-data-centers-will-need-almost-triple-the-current-energy-demand-by-2035 ✈️ มอเตอร์ไฟฟ้าแรงสูงอาจนำการบินเหนือเสียงกลับมา นักวิจัยกำลังพัฒนาเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงที่สามารถทำให้เครื่องบินกลับมาบินด้วยความเร็วเหนือเสียงแบบ Concorde ได้อีกครั้ง การออกแบบใหม่นี้ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ทำให้การบินเร็วระดับ Mach 2 มีโอกาสกลับมาในรูปแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น หากสำเร็จจะเป็นการพลิกโฉมการเดินทางทางอากาศ โดยให้ผู้โดยสารเดินทางข้ามทวีปได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/concorde-style-air-travel-could-be-back-soon-these-powerful-ev-motors-are-unlocking-the-secrets-to-supersonic-air-speeds 🌍 AWS CEO มองว่า AI Agents จะใหญ่กว่าอินเทอร์เน็ต Adam Selipsky ซีอีโอของ AWS กล่าวว่าการมาของ AI Agents จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กว่าการเกิดขึ้นของอินเทอร์เน็ต เขาเชื่อว่าโลกกำลังเร่งไปข้างหน้าและธุรกิจต้องปรับตัวทันที โดย AWS กำลังลงทุนอย่างหนักในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการใช้งาน AI Agents ในระดับองค์กร มุมมองนี้สะท้อนว่าบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่กำลังเห็น AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่จะเปลี่ยนวิธีการทำงานและการใช้ชีวิตของผู้คน ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/the-world-is-not-slowing-down-aws-ceo-says-ai-agents-will-be-bigger-than-the-internet-so-act-now
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251203 #securityonline

    AI กำลังถูกใช้อย่างแพร่หลาย แต่การกำกับดูแลยังตามไม่ทัน
    รายงานใหม่ปี 2025 ชี้ให้เห็นว่าองค์กรกว่า 83% ใช้ AI ในการทำงานประจำวันแล้ว แต่มีเพียง 13% เท่านั้นที่บอกว่ามีการตรวจสอบการจัดการข้อมูลที่ชัดเจน ปัญหาคือ AI เริ่มทำงานเหมือน “ตัวตนใหม่” ที่ไม่เคยหยุดพักและเข้าถึงข้อมูลได้มากกว่ามนุษย์ แต่ระบบการจัดการยังคงใช้โมเดลที่ออกแบบมาเพื่อมนุษย์ ทำให้เกิดช่องโหว่ เช่น AI เข้าถึงข้อมูลเกินสิทธิ์ หรือไม่มีการควบคุมคำสั่งและผลลัพธ์ หลายองค์กรยอมรับว่าพวกเขาแทบไม่มีทีมกำกับดูแล AI และไม่พร้อมต่อกฎระเบียบใหม่ที่กำลังจะมา เสียงเตือนคือ “คุณไม่สามารถปกป้องสิ่งที่คุณไม่เห็น”
    https://securityonline.info/ai-adoption-surges-while-governance-lags-report-warns-of-growing-shadow-identity-risk

    Apple ปรับทีม AI ครั้งใหญ่ เปลี่ยนผู้นำเพื่อเร่งเครื่องตามคู่แข่ง
    John Giannandrea ผู้บริหารระดับสูงด้าน AI ของ Apple ที่เคยเป็นหัวหอกจาก Google จะก้าวลงจากตำแหน่งในปีหน้า หลังถูกวิจารณ์ว่าการพัฒนา AI ของ Apple ล่าช้ากว่าคู่แข่งหลายปี ทั้ง Siri ที่ปรับปรุงไม่ทันและ Apple Intelligence ที่เปิดตัวช้าเกินไป Tim Cook จึงตัดสินใจดึง Amar Subramanya อดีตหัวหน้าทีม Gemini ของ Google เข้ามาแทน โดยจะเน้นการพัฒนาโมเดลพื้นฐานและความปลอดภัยของ AI การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Apple ที่ต้องการผสาน AI เข้ากับทุกผลิตภัณฑ์อย่างจริงจัง แต่ก็ต้องเผชิญกับปัญหาการสูญเสียบุคลากรด้านวิจัยหุ่นยนต์และทีมโมเดลหลักที่ทยอยลาออกไปยังบริษัทคู่แข่ง
    https://securityonline.info/apple-ai-shakeup-giannandrea-out-former-google-gemini-chief-amar-subramanya-hired

    Sonesta Hotels ยกระดับความปลอดภัยบนคลาวด์ด้วย AccuKnox
    เครือโรงแรม Sonesta International Hotels ประกาศความร่วมมือกับ AccuKnox เพื่อนำระบบ Zero Trust CNAPP มาใช้บน Microsoft Azure จุดเด่นคือการตรวจจับการตั้งค่าที่ผิดพลาดในระบบคลาวด์ การป้องกันการโจมตีแบบ Zero-Day และการทำงานร่วมกับ DevSecOps อย่างเต็มรูปแบบ Gartner เคยเตือนว่าหากองค์กรไม่ใช้ CNAPP จะขาดการมองเห็นภาพรวมของความเสี่ยงบนคลาวด์ Sonesta เลือก AccuKnox หลังทดสอบหลายเจ้า เพราะสามารถลดภาระงานวิศวกรได้ถึง 45% และมีฟีเจอร์ด้าน API Security และ AI/LLM Security ที่ตอบโจทย์อนาคต
    https://securityonline.info/sonesta-international-hotels-implements-industry-leading-cloud-security-through-accuknox-collaboration

    Coupang เกิดเหตุข้อมูลรั่วไหลครั้งใหญ่ กระทบผู้ใช้กว่า 33.7 ล้านราย
    แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ Coupang เผชิญเหตุการณ์ร้ายแรงเมื่อข้อมูลผู้ใช้กว่า 33.7 ล้านรายถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งชื่อ อีเมล เบอร์โทร และที่อยู่จัดส่ง แม้ข้อมูลทางการเงินจะไม่ถูกเปิดเผย แต่ก็เสี่ยงต่อการถูกนำไปใช้ทำ Social Engineering หรือหลอกลวงทางออนไลน์ เดิมทีบริษัทคิดว่ามีเพียง 4,500 บัญชีที่ได้รับผลกระทบ แต่การสอบสวนพบว่ามีการเชื่อมต่อฐานข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศตั้งแต่กลางปี 2025 และถูกดูดข้อมูลออกไป ปัจจุบันมีการระบุผู้ต้องสงสัยว่าเป็นอดีตพนักงานที่หลบหนีออกนอกประเทศแล้ว
    https://securityonline.info/alarm-coupang-data-breach-exposes-33-7-million-users-over-half-of-south-korea

    Europol ปิดบริการ CryptoMixer ยึด Bitcoin มูลค่า 25 ล้านยูโร
    หน่วยงาน Europol ประกาศความสำเร็จในการปิดแพลตฟอร์ม CryptoMixer ที่ถูกใช้เพื่อปกปิดเส้นทางการเงินของอาชญากรไซเบอร์ โดยสามารถยึด Bitcoin มูลค่ากว่า 25 ล้านยูโร และข้อมูลกว่า 12TB CryptoMixer เคยประมวลผลธุรกรรมมากกว่า 1.3 พันล้านยูโรตั้งแต่ปี 2016 การทำงานของมันคือรวมเงินฝากของผู้ใช้แล้วกระจายใหม่แบบสุ่ม ทำให้ติดตามเส้นทางได้ยาก แม้บริการลักษณะนี้จะมีผู้ใช้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว แต่ก็ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสำคัญของการฟอกเงิน การปิดครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าบริการแบบรวมศูนย์มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกยึดทรัพย์และปิดระบบ ต่างจากบริการแบบกระจายศูนย์ที่แทบไม่สามารถจัดการได้
    https://securityonline.info/europol-shuts-down-cryptomixer-seizes-e25-million-in-bitcoin-12-tb-of-data

    AWS เปิดตัว Agentic AI ช่วยลดหนี้ทางเทคนิคและปรับปรุงโค้ดเก่า
    AWS ประกาศโครงการใหม่ชื่อว่า Transform ที่ใช้ Agentic AI เพื่อช่วยองค์กรปรับปรุงโค้ดเดิมให้ทันสมัย ลดภาระงานที่สะสมมานานจากระบบเก่า จุดเด่นคือการทำงานอัตโนมัติที่สามารถวิเคราะห์โค้ดและปรับปรุงให้เข้ากับมาตรฐานใหม่ได้ทันที โดยไม่ต้องใช้แรงงานมนุษย์มากเหมือนเดิม สิ่งนี้ช่วยให้ทีมพัฒนาสามารถโฟกัสไปที่นวัตกรรมแทนการแก้ไขงานซ้ำซาก ถือเป็นอีกก้าวที่ AWS พยายามผลักดัน AI ให้เข้าไปอยู่ในทุกมิติของการทำงานด้านเทคโนโลยี
    https://securityonline.info/aws-transform-agentic-ai-automates-legacy-code-modernization-and-reduces-technical-debt

    AWS re:Invent 2025 เปิดตัว Marengo 3.0 และจับมือ Visa
    งานใหญ่ประจำปีของ AWS ครั้งนี้มีไฮไลต์คือการเปิดตัว Marengo 3.0 โมเดลวิดีโอใหม่ที่สามารถสร้างคอนเทนต์ภาพเคลื่อนไหวได้สมจริงมากขึ้น พร้อมทั้งเปิดตัวความร่วมมือกับ Visa ในด้านการชำระเงินดิจิทัล นอกจากนี้ยังมีการนำ Agentic AI มาใช้ในหลายบริการเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำงานอัตโนมัติ การประกาศเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า AWS กำลังเร่งขยายขอบเขต AI จากระบบคลาวด์ไปสู่การสร้างสรรค์คอนเทนต์และการเงินดิจิทัล
    https://securityonline.info/aws-reinvent-2025-agentic-ai-marengo-3-0-video-model-and-visa-payment-partnership

    AWS เปิดตัว Nova Sonic Voice และจับมือ Google Cloud
    อีกหนึ่งประกาศจาก AWS re:Invent คือการเปิดตัว Nova Sonic Voice เทคโนโลยีเสียงใหม่ที่ใช้ Agentic AI เพื่อสร้างเสียงพูดที่เป็นธรรมชาติและตอบสนองได้ทันที พร้อมทั้งจับมือกับ Google Cloud ในด้านระบบเครือข่ายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อ นี่เป็นการขยายความร่วมมือที่น่าสนใจ เพราะสองยักษ์ใหญ่ด้านคลาวด์มักถูกมองว่าเป็นคู่แข่ง แต่ครั้งนี้กลับเลือกทำงานร่วมกันเพื่อผลักดัน AI ให้ก้าวไปอีกขั้น
    https://securityonline.info/aws-reinvent-agentic-ai-launches-with-nova-sonic-voice-partners-with-google-cloud-on-networking

    NVIDIA ลงทุน 2 พันล้านดอลลาร์ใน Synopsys เพื่อพัฒนา AI สำหรับออกแบบชิป
    NVIDIA ประกาศลงทุนมหาศาลกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ใน Synopsys บริษัทซอฟต์แวร์ออกแบบชิป เพื่อผสาน Agentic AI เข้ากับกระบวนการออกแบบฮาร์ดแวร์ จุดมุ่งหมายคือการเร่งการพัฒนาชิปที่ซับซ้อนให้เสร็จเร็วขึ้นและลดข้อผิดพลาด การลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นว่า AI จะเป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบฮาร์ดแวร์ในอนาคต และยังเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้ NVIDIA ในฐานะผู้นำด้าน AI และการประมวลผล
    https://securityonline.info/nvidia-invests-2-billion-in-synopsys-to-integrate-agentic-ai-into-chip-design

    อินเดียบังคับติดตั้งแอป Sanchar Saathi ที่ลบไม่ได้บนสมาร์ทโฟนใหม่
    รัฐบาลอินเดียออกกฎใหม่ให้สมาร์ทโฟนทุกเครื่องที่ขายในประเทศต้องติดตั้งแอป Sanchar Saathi โดยไม่สามารถลบออกได้ แอปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ถูกหลอกลวงหรือถูกขโมย แต่ก็สร้างความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและสิทธิของผู้ใช้ เพราะการบังคับติดตั้งและไม่สามารถลบออกได้อาจเปิดช่องให้เกิดการติดตามหรือควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการที่รัฐบาลพยายามใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหา แต่ก็ต้องแลกมากับคำถามด้านสิทธิและเสรีภาพ
    https://securityonline.info/privacy-alert-india-mandates-undeletable-sanchar-saathi-app-on-all-new-smartphones

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Longwatch ทำให้ระบบเฝ้าระวังถูกยึด
    มีรายงานจาก CISA ว่าพบช่องโหว่ร้ายแรงในระบบ Longwatch ซึ่งใช้สำหรับการเฝ้าระวังและตรวจสอบในอุตสาหกรรม OT ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง HTTP GET โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน และสามารถเข้าถึงสิทธิ์ระดับ SYSTEM ได้ทันที เท่ากับว่าผู้โจมตีสามารถควบคุมเซิร์ฟเวอร์เฝ้าระวังได้ทั้งหมด ปัญหานี้เกิดขึ้นในเวอร์ชัน 6.309 ถึง 6.334 และผู้พัฒนาก็ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 6.335 แล้ว ใครที่ยังใช้เวอร์ชันเก่าจำเป็นต้องอัปเดตโดยด่วนเพื่อป้องกันความเสี่ยง
    https://securityonline.info/cisa-warns-critical-longwatch-rce-flaw-cve-2025-13658-cvss-9-8-allows-unauthenticated-system-takeover-of-ot-surveillance

    แพ็กเกจ Rust อันตราย "evm-units"
    นักพัฒนาที่ทำงานกับ Rust ต้องระวัง เพราะมีการค้นพบแพ็กเกจชื่อ "evm-units" ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อโจมตีแบบลับ ๆ โดยมุ่งเป้าไปที่นักพัฒนาในสายคริปโต ตัวแพ็กเกจนี้ถูกปล่อยออกมาเหมือนเป็นเครื่องมือปกติ แต่จริง ๆ แล้วมีโค้ดแฝงที่สามารถเปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้าถึงระบบได้โดยไม่รู้ตัว ถือเป็นการโจมตีที่ใช้ความไว้ใจของนักพัฒนาเป็นเครื่องมือ
    https://securityonline.info/malicious-rust-package-evm-units-exposes-crypto-developers-to-stealth-attacks

    DOJ ปิดโดเมนแก๊งหลอกลวง "Tai Chang" ในพม่า
    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) ได้เข้ายึดโดเมนที่เชื่อมโยงกับคอมพาวด์หลอกลวงชื่อ Tai Chang ในพม่า ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์กลางของการทำ "Pig Butchering" หรือการหลอกลวงทางการเงินที่ใช้การสร้างความสัมพันธ์หลอกเหยื่อให้ลงทุนก่อนจะเชิดเงินหนี การปิดโดเมนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสกัดกั้นเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ที่กำลังระบาดหนักในภูมิภาค
    https://securityonline.info/doj-seizes-domain-of-burmas-notorious-tai-chang-scam-compound-to-disrupt-pig-butchering-fraud

    Chrome 143 อัปเดตแก้ช่องโหว่ 13 จุด
    Google ได้ปล่อย Chrome เวอร์ชัน 143 ที่มาพร้อมการแก้ไขช่องโหว่ถึง 13 จุด โดยหนึ่งในนั้นคือปัญหาใหญ่ใน V8 ที่ทำให้เกิด Type Confusion ซึ่งมีนักวิจัยด้านความปลอดภัยรายหนึ่งได้รับเงินรางวัลถึง 11,000 ดอลลาร์จากการค้นพบนี้ การอัปเดตครั้งนี้ถือว่าสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ทุกคน เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีผ่านเบราว์เซอร์ที่ใช้งานอยู่ทุกวัน
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/chrome-143-stable-fixes-13-flaws-high-severity-v8-type-confusion-earns-11000-bounty

    Django พบช่องโหว่ SQL Injection ใน PostgreSQL
    เฟรมเวิร์ก Django ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการพัฒนาเว็บ ถูกพบช่องโหว่ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ FilteredRelation ร่วมกับ PostgreSQL ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้เกิด SQL Injection ได้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการโจมตีที่อันตรายที่สุด เพราะสามารถทำให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลในฐานข้อมูลโดยตรง ทีม Django ได้ออกคำเตือนและแนะนำให้อัปเดตเวอร์ชันเพื่อปิดช่องโหว่โดยเร็ว
    https://securityonline.info/django-flaw-cve-2025-13372-allows-sql-injection-in-postgresql-filteredrelation

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Iskra iHUB
    CISA ออกคำเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ในอุปกรณ์ Iskra iHUB ที่ใช้สำหรับระบบสมาร์ทมิเตอร์ ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้ายึดระบบได้โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน ซึ่งหมายความว่าผู้โจมตีสามารถควบคุมการทำงานของระบบสมาร์ทมิเตอร์ได้ทั้งหมด ถือเป็นภัยคุกคามต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่สำคัญ การอัปเดตแพตช์จึงเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน
    https://securityonline.info/cisa-warns-critical-iskra-ihub-flaw-cve-2025-13510-allows-unauthenticated-smart-metering-takeover

    ปลั๊กอิน Elementor มีช่องโหว่ร้ายแรง กำลังถูกโจมตี
    ปลั๊กอินยอดนิยมของ WordPress อย่าง Elementor ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้ายึดสิทธิ์แอดมินได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 9.8 และที่น่ากังวลคือกำลังถูกโจมตีจริงในขณะนี้ ผู้ที่ใช้ปลั๊กอินนี้จำเป็นต้องอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการสูญเสียการควบคุมเว็บไซต์
    https://securityonline.info/critical-elementor-plugin-flaw-cve-2025-8489-cvss-9-8-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-admin-takeover

    Angular พบช่องโหว่ Stored XSS
    เฟรมเวิร์ก Angular ถูกค้นพบช่องโหว่ที่เปิดโอกาสให้เกิดการโจมตีแบบ Stored XSS ผ่านการใช้ SVG และ MathML โดยสามารถหลบเลี่ยงการตรวจสอบได้ ช่องโหว่นี้ถือว่ามีความรุนแรงสูง เพราะทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังโค้ดอันตรายลงในเว็บและส่งผลต่อผู้ใช้งานที่เข้ามาเยี่ยมชมได้ทันที
    https://securityonline.info/high-severity-angular-flaw-cve-2025-66412-allows-stored-xss-via-svg-and-mathml-bypass

    ไลบรารี lz4-java ถูกยกเลิก พร้อมพบช่องโหว่ร้ายแรง
    มีการประกาศว่าไลบรารี lz4-java ถูกยกเลิกการพัฒนา และถูกค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบย้ายไปใช้ community fork โดยทันที ช่องโหว่นี้สร้างความเสี่ยงต่อระบบที่ยังคงใช้งานไลบรารีเวอร์ชันเดิมอยู่ การย้ายไปใช้เวอร์ชันใหม่จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
    https://securityonline.info/discontinued-library-high-severity-lz4-java-flaw-cve%E2%80%902025%E2%80%9012183-forces-immediate-migration-to-community-fork

    สตาร์ทอัพ Frenetik เปิดตัวเทคโนโลยีหลอกลวง AI
    บริษัทสตาร์ทอัพด้านไซเบอร์ชื่อ Frenetik เปิดตัวด้วยเทคโนโลยีการหลอกลวงที่จดสิทธิบัตร โดยตั้งเป้าใช้เทคนิคนี้เพื่อรับมือกับการแข่งขันด้าน AI ที่ทวีความรุนแรงขึ้น เทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างกับดักและทำให้ผู้โจมตีสับสน ถือเป็นแนวทางใหม่ที่น่าสนใจในการป้องกันภัยไซเบอร์
    https://securityonline.info/cyber-startup-frenetik-launches-with-patented-deception-technology-that-bets-against-the-ai-arms-race
    📌🔐🟢 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟢🔐📌 #รวมข่าวIT #20251203 #securityonline 🧠 AI กำลังถูกใช้อย่างแพร่หลาย แต่การกำกับดูแลยังตามไม่ทัน รายงานใหม่ปี 2025 ชี้ให้เห็นว่าองค์กรกว่า 83% ใช้ AI ในการทำงานประจำวันแล้ว แต่มีเพียง 13% เท่านั้นที่บอกว่ามีการตรวจสอบการจัดการข้อมูลที่ชัดเจน ปัญหาคือ AI เริ่มทำงานเหมือน “ตัวตนใหม่” ที่ไม่เคยหยุดพักและเข้าถึงข้อมูลได้มากกว่ามนุษย์ แต่ระบบการจัดการยังคงใช้โมเดลที่ออกแบบมาเพื่อมนุษย์ ทำให้เกิดช่องโหว่ เช่น AI เข้าถึงข้อมูลเกินสิทธิ์ หรือไม่มีการควบคุมคำสั่งและผลลัพธ์ หลายองค์กรยอมรับว่าพวกเขาแทบไม่มีทีมกำกับดูแล AI และไม่พร้อมต่อกฎระเบียบใหม่ที่กำลังจะมา เสียงเตือนคือ “คุณไม่สามารถปกป้องสิ่งที่คุณไม่เห็น” 🔗 https://securityonline.info/ai-adoption-surges-while-governance-lags-report-warns-of-growing-shadow-identity-risk 🍏 Apple ปรับทีม AI ครั้งใหญ่ เปลี่ยนผู้นำเพื่อเร่งเครื่องตามคู่แข่ง John Giannandrea ผู้บริหารระดับสูงด้าน AI ของ Apple ที่เคยเป็นหัวหอกจาก Google จะก้าวลงจากตำแหน่งในปีหน้า หลังถูกวิจารณ์ว่าการพัฒนา AI ของ Apple ล่าช้ากว่าคู่แข่งหลายปี ทั้ง Siri ที่ปรับปรุงไม่ทันและ Apple Intelligence ที่เปิดตัวช้าเกินไป Tim Cook จึงตัดสินใจดึง Amar Subramanya อดีตหัวหน้าทีม Gemini ของ Google เข้ามาแทน โดยจะเน้นการพัฒนาโมเดลพื้นฐานและความปลอดภัยของ AI การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Apple ที่ต้องการผสาน AI เข้ากับทุกผลิตภัณฑ์อย่างจริงจัง แต่ก็ต้องเผชิญกับปัญหาการสูญเสียบุคลากรด้านวิจัยหุ่นยนต์และทีมโมเดลหลักที่ทยอยลาออกไปยังบริษัทคู่แข่ง 🔗 https://securityonline.info/apple-ai-shakeup-giannandrea-out-former-google-gemini-chief-amar-subramanya-hired 🏨 Sonesta Hotels ยกระดับความปลอดภัยบนคลาวด์ด้วย AccuKnox เครือโรงแรม Sonesta International Hotels ประกาศความร่วมมือกับ AccuKnox เพื่อนำระบบ Zero Trust CNAPP มาใช้บน Microsoft Azure จุดเด่นคือการตรวจจับการตั้งค่าที่ผิดพลาดในระบบคลาวด์ การป้องกันการโจมตีแบบ Zero-Day และการทำงานร่วมกับ DevSecOps อย่างเต็มรูปแบบ Gartner เคยเตือนว่าหากองค์กรไม่ใช้ CNAPP จะขาดการมองเห็นภาพรวมของความเสี่ยงบนคลาวด์ Sonesta เลือก AccuKnox หลังทดสอบหลายเจ้า เพราะสามารถลดภาระงานวิศวกรได้ถึง 45% และมีฟีเจอร์ด้าน API Security และ AI/LLM Security ที่ตอบโจทย์อนาคต 🔗 https://securityonline.info/sonesta-international-hotels-implements-industry-leading-cloud-security-through-accuknox-collaboration ⚠️ Coupang เกิดเหตุข้อมูลรั่วไหลครั้งใหญ่ กระทบผู้ใช้กว่า 33.7 ล้านราย แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ Coupang เผชิญเหตุการณ์ร้ายแรงเมื่อข้อมูลผู้ใช้กว่า 33.7 ล้านรายถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งชื่อ อีเมล เบอร์โทร และที่อยู่จัดส่ง แม้ข้อมูลทางการเงินจะไม่ถูกเปิดเผย แต่ก็เสี่ยงต่อการถูกนำไปใช้ทำ Social Engineering หรือหลอกลวงทางออนไลน์ เดิมทีบริษัทคิดว่ามีเพียง 4,500 บัญชีที่ได้รับผลกระทบ แต่การสอบสวนพบว่ามีการเชื่อมต่อฐานข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศตั้งแต่กลางปี 2025 และถูกดูดข้อมูลออกไป ปัจจุบันมีการระบุผู้ต้องสงสัยว่าเป็นอดีตพนักงานที่หลบหนีออกนอกประเทศแล้ว 🔗 https://securityonline.info/alarm-coupang-data-breach-exposes-33-7-million-users-over-half-of-south-korea 💰 Europol ปิดบริการ CryptoMixer ยึด Bitcoin มูลค่า 25 ล้านยูโร หน่วยงาน Europol ประกาศความสำเร็จในการปิดแพลตฟอร์ม CryptoMixer ที่ถูกใช้เพื่อปกปิดเส้นทางการเงินของอาชญากรไซเบอร์ โดยสามารถยึด Bitcoin มูลค่ากว่า 25 ล้านยูโร และข้อมูลกว่า 12TB CryptoMixer เคยประมวลผลธุรกรรมมากกว่า 1.3 พันล้านยูโรตั้งแต่ปี 2016 การทำงานของมันคือรวมเงินฝากของผู้ใช้แล้วกระจายใหม่แบบสุ่ม ทำให้ติดตามเส้นทางได้ยาก แม้บริการลักษณะนี้จะมีผู้ใช้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว แต่ก็ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสำคัญของการฟอกเงิน การปิดครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าบริการแบบรวมศูนย์มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกยึดทรัพย์และปิดระบบ ต่างจากบริการแบบกระจายศูนย์ที่แทบไม่สามารถจัดการได้ 🔗 https://securityonline.info/europol-shuts-down-cryptomixer-seizes-e25-million-in-bitcoin-12-tb-of-data 💻 AWS เปิดตัว Agentic AI ช่วยลดหนี้ทางเทคนิคและปรับปรุงโค้ดเก่า AWS ประกาศโครงการใหม่ชื่อว่า Transform ที่ใช้ Agentic AI เพื่อช่วยองค์กรปรับปรุงโค้ดเดิมให้ทันสมัย ลดภาระงานที่สะสมมานานจากระบบเก่า จุดเด่นคือการทำงานอัตโนมัติที่สามารถวิเคราะห์โค้ดและปรับปรุงให้เข้ากับมาตรฐานใหม่ได้ทันที โดยไม่ต้องใช้แรงงานมนุษย์มากเหมือนเดิม สิ่งนี้ช่วยให้ทีมพัฒนาสามารถโฟกัสไปที่นวัตกรรมแทนการแก้ไขงานซ้ำซาก ถือเป็นอีกก้าวที่ AWS พยายามผลักดัน AI ให้เข้าไปอยู่ในทุกมิติของการทำงานด้านเทคโนโลยี 🔗 https://securityonline.info/aws-transform-agentic-ai-automates-legacy-code-modernization-and-reduces-technical-debt 🎤 AWS re:Invent 2025 เปิดตัว Marengo 3.0 และจับมือ Visa งานใหญ่ประจำปีของ AWS ครั้งนี้มีไฮไลต์คือการเปิดตัว Marengo 3.0 โมเดลวิดีโอใหม่ที่สามารถสร้างคอนเทนต์ภาพเคลื่อนไหวได้สมจริงมากขึ้น พร้อมทั้งเปิดตัวความร่วมมือกับ Visa ในด้านการชำระเงินดิจิทัล นอกจากนี้ยังมีการนำ Agentic AI มาใช้ในหลายบริการเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำงานอัตโนมัติ การประกาศเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า AWS กำลังเร่งขยายขอบเขต AI จากระบบคลาวด์ไปสู่การสร้างสรรค์คอนเทนต์และการเงินดิจิทัล 🔗 https://securityonline.info/aws-reinvent-2025-agentic-ai-marengo-3-0-video-model-and-visa-payment-partnership 🔊 AWS เปิดตัว Nova Sonic Voice และจับมือ Google Cloud อีกหนึ่งประกาศจาก AWS re:Invent คือการเปิดตัว Nova Sonic Voice เทคโนโลยีเสียงใหม่ที่ใช้ Agentic AI เพื่อสร้างเสียงพูดที่เป็นธรรมชาติและตอบสนองได้ทันที พร้อมทั้งจับมือกับ Google Cloud ในด้านระบบเครือข่ายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อ นี่เป็นการขยายความร่วมมือที่น่าสนใจ เพราะสองยักษ์ใหญ่ด้านคลาวด์มักถูกมองว่าเป็นคู่แข่ง แต่ครั้งนี้กลับเลือกทำงานร่วมกันเพื่อผลักดัน AI ให้ก้าวไปอีกขั้น 🔗 https://securityonline.info/aws-reinvent-agentic-ai-launches-with-nova-sonic-voice-partners-with-google-cloud-on-networking 💸 NVIDIA ลงทุน 2 พันล้านดอลลาร์ใน Synopsys เพื่อพัฒนา AI สำหรับออกแบบชิป NVIDIA ประกาศลงทุนมหาศาลกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ใน Synopsys บริษัทซอฟต์แวร์ออกแบบชิป เพื่อผสาน Agentic AI เข้ากับกระบวนการออกแบบฮาร์ดแวร์ จุดมุ่งหมายคือการเร่งการพัฒนาชิปที่ซับซ้อนให้เสร็จเร็วขึ้นและลดข้อผิดพลาด การลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นว่า AI จะเป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบฮาร์ดแวร์ในอนาคต และยังเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้ NVIDIA ในฐานะผู้นำด้าน AI และการประมวลผล 🔗 https://securityonline.info/nvidia-invests-2-billion-in-synopsys-to-integrate-agentic-ai-into-chip-design 📱 อินเดียบังคับติดตั้งแอป Sanchar Saathi ที่ลบไม่ได้บนสมาร์ทโฟนใหม่ รัฐบาลอินเดียออกกฎใหม่ให้สมาร์ทโฟนทุกเครื่องที่ขายในประเทศต้องติดตั้งแอป Sanchar Saathi โดยไม่สามารถลบออกได้ แอปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ถูกหลอกลวงหรือถูกขโมย แต่ก็สร้างความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและสิทธิของผู้ใช้ เพราะการบังคับติดตั้งและไม่สามารถลบออกได้อาจเปิดช่องให้เกิดการติดตามหรือควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการที่รัฐบาลพยายามใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหา แต่ก็ต้องแลกมากับคำถามด้านสิทธิและเสรีภาพ 🔗 https://securityonline.info/privacy-alert-india-mandates-undeletable-sanchar-saathi-app-on-all-new-smartphones 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Longwatch ทำให้ระบบเฝ้าระวังถูกยึด มีรายงานจาก CISA ว่าพบช่องโหว่ร้ายแรงในระบบ Longwatch ซึ่งใช้สำหรับการเฝ้าระวังและตรวจสอบในอุตสาหกรรม OT ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง HTTP GET โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน และสามารถเข้าถึงสิทธิ์ระดับ SYSTEM ได้ทันที เท่ากับว่าผู้โจมตีสามารถควบคุมเซิร์ฟเวอร์เฝ้าระวังได้ทั้งหมด ปัญหานี้เกิดขึ้นในเวอร์ชัน 6.309 ถึง 6.334 และผู้พัฒนาก็ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 6.335 แล้ว ใครที่ยังใช้เวอร์ชันเก่าจำเป็นต้องอัปเดตโดยด่วนเพื่อป้องกันความเสี่ยง 🔗 https://securityonline.info/cisa-warns-critical-longwatch-rce-flaw-cve-2025-13658-cvss-9-8-allows-unauthenticated-system-takeover-of-ot-surveillance 🐍 แพ็กเกจ Rust อันตราย "evm-units" นักพัฒนาที่ทำงานกับ Rust ต้องระวัง เพราะมีการค้นพบแพ็กเกจชื่อ "evm-units" ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อโจมตีแบบลับ ๆ โดยมุ่งเป้าไปที่นักพัฒนาในสายคริปโต ตัวแพ็กเกจนี้ถูกปล่อยออกมาเหมือนเป็นเครื่องมือปกติ แต่จริง ๆ แล้วมีโค้ดแฝงที่สามารถเปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้าถึงระบบได้โดยไม่รู้ตัว ถือเป็นการโจมตีที่ใช้ความไว้ใจของนักพัฒนาเป็นเครื่องมือ 🔗 https://securityonline.info/malicious-rust-package-evm-units-exposes-crypto-developers-to-stealth-attacks ⚖️ DOJ ปิดโดเมนแก๊งหลอกลวง "Tai Chang" ในพม่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) ได้เข้ายึดโดเมนที่เชื่อมโยงกับคอมพาวด์หลอกลวงชื่อ Tai Chang ในพม่า ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์กลางของการทำ "Pig Butchering" หรือการหลอกลวงทางการเงินที่ใช้การสร้างความสัมพันธ์หลอกเหยื่อให้ลงทุนก่อนจะเชิดเงินหนี การปิดโดเมนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสกัดกั้นเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ที่กำลังระบาดหนักในภูมิภาค 🔗 https://securityonline.info/doj-seizes-domain-of-burmas-notorious-tai-chang-scam-compound-to-disrupt-pig-butchering-fraud 🌐 Chrome 143 อัปเดตแก้ช่องโหว่ 13 จุด Google ได้ปล่อย Chrome เวอร์ชัน 143 ที่มาพร้อมการแก้ไขช่องโหว่ถึง 13 จุด โดยหนึ่งในนั้นคือปัญหาใหญ่ใน V8 ที่ทำให้เกิด Type Confusion ซึ่งมีนักวิจัยด้านความปลอดภัยรายหนึ่งได้รับเงินรางวัลถึง 11,000 ดอลลาร์จากการค้นพบนี้ การอัปเดตครั้งนี้ถือว่าสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ทุกคน เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีผ่านเบราว์เซอร์ที่ใช้งานอยู่ทุกวัน ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/chrome-143-stable-fixes-13-flaws-high-severity-v8-type-confusion-earns-11000-bounty 🐘 Django พบช่องโหว่ SQL Injection ใน PostgreSQL เฟรมเวิร์ก Django ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการพัฒนาเว็บ ถูกพบช่องโหว่ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ FilteredRelation ร่วมกับ PostgreSQL ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้เกิด SQL Injection ได้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการโจมตีที่อันตรายที่สุด เพราะสามารถทำให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลในฐานข้อมูลโดยตรง ทีม Django ได้ออกคำเตือนและแนะนำให้อัปเดตเวอร์ชันเพื่อปิดช่องโหว่โดยเร็ว 🔗 https://securityonline.info/django-flaw-cve-2025-13372-allows-sql-injection-in-postgresql-filteredrelation ⚡ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Iskra iHUB CISA ออกคำเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ในอุปกรณ์ Iskra iHUB ที่ใช้สำหรับระบบสมาร์ทมิเตอร์ ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้ายึดระบบได้โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน ซึ่งหมายความว่าผู้โจมตีสามารถควบคุมการทำงานของระบบสมาร์ทมิเตอร์ได้ทั้งหมด ถือเป็นภัยคุกคามต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่สำคัญ การอัปเดตแพตช์จึงเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน 🔗 https://securityonline.info/cisa-warns-critical-iskra-ihub-flaw-cve-2025-13510-allows-unauthenticated-smart-metering-takeover 🖥️ ปลั๊กอิน Elementor มีช่องโหว่ร้ายแรง กำลังถูกโจมตี ปลั๊กอินยอดนิยมของ WordPress อย่าง Elementor ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้ายึดสิทธิ์แอดมินได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 9.8 และที่น่ากังวลคือกำลังถูกโจมตีจริงในขณะนี้ ผู้ที่ใช้ปลั๊กอินนี้จำเป็นต้องอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการสูญเสียการควบคุมเว็บไซต์ 🔗 https://securityonline.info/critical-elementor-plugin-flaw-cve-2025-8489-cvss-9-8-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-admin-takeover 🕸️ Angular พบช่องโหว่ Stored XSS เฟรมเวิร์ก Angular ถูกค้นพบช่องโหว่ที่เปิดโอกาสให้เกิดการโจมตีแบบ Stored XSS ผ่านการใช้ SVG และ MathML โดยสามารถหลบเลี่ยงการตรวจสอบได้ ช่องโหว่นี้ถือว่ามีความรุนแรงสูง เพราะทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังโค้ดอันตรายลงในเว็บและส่งผลต่อผู้ใช้งานที่เข้ามาเยี่ยมชมได้ทันที 🔗 https://securityonline.info/high-severity-angular-flaw-cve-2025-66412-allows-stored-xss-via-svg-and-mathml-bypass 📦 ไลบรารี lz4-java ถูกยกเลิก พร้อมพบช่องโหว่ร้ายแรง มีการประกาศว่าไลบรารี lz4-java ถูกยกเลิกการพัฒนา และถูกค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบย้ายไปใช้ community fork โดยทันที ช่องโหว่นี้สร้างความเสี่ยงต่อระบบที่ยังคงใช้งานไลบรารีเวอร์ชันเดิมอยู่ การย้ายไปใช้เวอร์ชันใหม่จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ 🔗 https://securityonline.info/discontinued-library-high-severity-lz4-java-flaw-cve%E2%80%902025%E2%80%9012183-forces-immediate-migration-to-community-fork 🚀 สตาร์ทอัพ Frenetik เปิดตัวเทคโนโลยีหลอกลวง AI บริษัทสตาร์ทอัพด้านไซเบอร์ชื่อ Frenetik เปิดตัวด้วยเทคโนโลยีการหลอกลวงที่จดสิทธิบัตร โดยตั้งเป้าใช้เทคนิคนี้เพื่อรับมือกับการแข่งขันด้าน AI ที่ทวีความรุนแรงขึ้น เทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างกับดักและทำให้ผู้โจมตีสับสน ถือเป็นแนวทางใหม่ที่น่าสนใจในการป้องกันภัยไซเบอร์ 🔗 https://securityonline.info/cyber-startup-frenetik-launches-with-patented-deception-technology-that-bets-against-the-ai-arms-race
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดื่มด่ำมนต์เสน่ห์ฝรั่งเศส… ผ่านการล่องเรือสุดหรูบนแม่น้ำแซน
    เส้นทางโรแมนติกจากปารีสสู่นอร์ม็องดี พร้อมประสบการณ์ระดับ 6 ดาวบนเรือ S.S. Joie de Vivre ของ Uniworld
    🛳 Paris & Normandy – Uniworld River Cruise เส้นทางไฮไลท์ฝรั่งเศส 8 วัน 7 คืน

    เดินทาง มี.ค. – พ.ย. 2569

    เส้นทางเต็มอิ่มฝั่งแม่น้ำแซน
    ปารีส → ลา โรช-กียง → แวร์นง → ชีแวร์นี่ → รูอ็อง → โกดด์เบค → อองโก (องเฟลอร์–แอตเทรอตา) → รูอ็อง → มงต์-ลา-ฌอลี (พระราชวังแวร์ซาย) → กลับสู่ปารีส

    จาก 4,299 USD → เหลือเพียง 3,869 USD

    ✔ พักบนเรือสำราญหรูหรา 7 คืน
    ✔ เครื่องดื่มทุกมื้อ + Wi-Fi ตลอดการเดินทาง
    ✔ ทัวร์บนฝั่ง & กิจกรรมบนเรือสุดพรีเมียม
    ✔ รวมภาษีท่าเรือ และค่าทิปพนักงานบนเรือ

    รหัสโปรแกรม : UNIP-8D7N-PAR-PAR-2611021
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e79677

    ดูเรือ Uniworld River Cruise ทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/bb9b58

    สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที!
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696

    #เรือUniworldRiverCruise #UniworldRiverCruise #Paris #Normandy #LaRoche #France #Rouen #แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำ #CruiseDomain
    🌟 ดื่มด่ำมนต์เสน่ห์ฝรั่งเศส… ผ่านการล่องเรือสุดหรูบนแม่น้ำแซน เส้นทางโรแมนติกจากปารีสสู่นอร์ม็องดี พร้อมประสบการณ์ระดับ 6 ดาวบนเรือ S.S. Joie de Vivre ของ Uniworld 🛳 Paris & Normandy – Uniworld River Cruise เส้นทางไฮไลท์ฝรั่งเศส 8 วัน 7 คืน 📅 เดินทาง มี.ค. – พ.ย. 2569 📍 เส้นทางเต็มอิ่มฝั่งแม่น้ำแซน ปารีส → ลา โรช-กียง → แวร์นง → ชีแวร์นี่ → รูอ็อง → โกดด์เบค → อองโก (องเฟลอร์–แอตเทรอตา) → รูอ็อง → มงต์-ลา-ฌอลี (พระราชวังแวร์ซาย) → กลับสู่ปารีส 💸 จาก 4,299 USD → เหลือเพียง 3,869 USD ✔ พักบนเรือสำราญหรูหรา 7 คืน ✔ เครื่องดื่มทุกมื้อ + Wi-Fi ตลอดการเดินทาง ✔ ทัวร์บนฝั่ง & กิจกรรมบนเรือสุดพรีเมียม ✔ รวมภาษีท่าเรือ และค่าทิปพนักงานบนเรือ 📌 รหัสโปรแกรม : UNIP-8D7N-PAR-PAR-2611021 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e79677 ดูเรือ Uniworld River Cruise ทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/bb9b58 📩 สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที! https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #เรือUniworldRiverCruise #UniworldRiverCruise #Paris #Normandy #LaRoche #France #Rouen #แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำ #CruiseDomain
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • “HPE จับมือ AMD ใช้ Helios Rack Architecture สำหรับระบบ AI ปี 2026”

    Hewlett Packard Enterprise (HPE) ได้ประกาศความร่วมมือกับ AMD เพื่อนำสถาปัตยกรรม Helios rack-scale AI เข้ามาใช้ในผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ Helios ได้รับการสนับสนุนจาก OEM รายใหญ่ โดยระบบจะประกอบด้วย 72 GPU Instinct MI455X, CPU EPYC รุ่น “Venice” และสวิตช์ HPE Juniper ที่รองรับ Ultra Accelerator Link over Ethernet (UALoE) ซึ่งพัฒนาโดย Broadcom

    Helios ถูกออกแบบให้เป็นแพลตฟอร์ม AI แบบเปิด โดยใช้มาตรฐาน Open Rack Wide ของ Meta และรองรับการเชื่อมต่อ GPU ทั้งหมดใน rack ให้ทำงานร่วมกันเป็น pod เดียว จุดเด่นคือการใช้ Ethernet fabric แทน NVLink ของ Nvidia ทำให้ระบบมีความยืดหยุ่นและเข้ากับมาตรฐานอุตสาหกรรมได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งมีหน่วยความจำ HBM4 ขนาด 31TB ต่อ rack และพลังประมวลผล FP4 สูงสุดถึง 2.9 exaFLOPS

    นอกจากการนำ Helios มาใช้ในเชิงพาณิชย์แล้ว HPE ยังได้รับเลือกจาก High-Performance Computing Center Stuttgart (HLRS) ให้สร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ชื่อ “Herder” โดยใช้ GPU MI430X และ CPU Venice บนแพลตฟอร์ม Cray GX5000 ซึ่งจะส่งมอบในปี 2027 และใช้พลังงานความร้อนจากระบบระบายความร้อนเหลวไปทำความร้อนอาคารในมหาวิทยาลัย Stuttgart

    การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด AI infrastructure ระหว่าง AMD และ Nvidia โดย Helios จะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Nvidia GB200 NVL72 rack ที่ใช้ NVLink และ InfiniBand ในการเชื่อมต่อ GPU และ CPU ภายในระบบ

    สรุปเป็นหัวข้อ
    รายละเอียดสถาปัตยกรรม Helios
    ใช้มาตรฐาน Open Rack Wide ของ Meta
    72 GPU Instinct MI455X + CPU EPYC Venice
    Ethernet fabric (UALoE) แทน NVLink

    สมรรถนะ
    FP4 compute สูงสุด 2.9 exaFLOPS ต่อ rack
    หน่วยความจำ HBM4 ขนาด 31TB
    ทุก GPU เชื่อมต่อเป็น pod เดียว

    โครงการสำคัญ
    HPE Juniper switch พัฒนาโดย Broadcom
    HLRS เลือก HPE Cray GX5000 สำหรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ “Herder”
    ใช้พลังงานความร้อนเหลือทิ้งเพื่อทำความร้อนอาคาร

    ข้อควรระวังและการแข่งขัน
    Nvidia GB200 NVL72 rack ยังครองตลาดด้วย NVLink + InfiniBand
    Helios ต้องพิสูจน์ความเสถียรและการรองรับซอฟต์แวร์ AI ecosystem
    การแข่งขันด้านพลังงานและต้นทุนอาจเป็นตัวแปรสำคัญ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/hpe-adopts-amd-helios-rack-architecture-for-2026-ai-systems
    🖥️ “HPE จับมือ AMD ใช้ Helios Rack Architecture สำหรับระบบ AI ปี 2026” Hewlett Packard Enterprise (HPE) ได้ประกาศความร่วมมือกับ AMD เพื่อนำสถาปัตยกรรม Helios rack-scale AI เข้ามาใช้ในผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ Helios ได้รับการสนับสนุนจาก OEM รายใหญ่ โดยระบบจะประกอบด้วย 72 GPU Instinct MI455X, CPU EPYC รุ่น “Venice” และสวิตช์ HPE Juniper ที่รองรับ Ultra Accelerator Link over Ethernet (UALoE) ซึ่งพัฒนาโดย Broadcom Helios ถูกออกแบบให้เป็นแพลตฟอร์ม AI แบบเปิด โดยใช้มาตรฐาน Open Rack Wide ของ Meta และรองรับการเชื่อมต่อ GPU ทั้งหมดใน rack ให้ทำงานร่วมกันเป็น pod เดียว จุดเด่นคือการใช้ Ethernet fabric แทน NVLink ของ Nvidia ทำให้ระบบมีความยืดหยุ่นและเข้ากับมาตรฐานอุตสาหกรรมได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งมีหน่วยความจำ HBM4 ขนาด 31TB ต่อ rack และพลังประมวลผล FP4 สูงสุดถึง 2.9 exaFLOPS นอกจากการนำ Helios มาใช้ในเชิงพาณิชย์แล้ว HPE ยังได้รับเลือกจาก High-Performance Computing Center Stuttgart (HLRS) ให้สร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ชื่อ “Herder” โดยใช้ GPU MI430X และ CPU Venice บนแพลตฟอร์ม Cray GX5000 ซึ่งจะส่งมอบในปี 2027 และใช้พลังงานความร้อนจากระบบระบายความร้อนเหลวไปทำความร้อนอาคารในมหาวิทยาลัย Stuttgart การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด AI infrastructure ระหว่าง AMD และ Nvidia โดย Helios จะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Nvidia GB200 NVL72 rack ที่ใช้ NVLink และ InfiniBand ในการเชื่อมต่อ GPU และ CPU ภายในระบบ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ รายละเอียดสถาปัตยกรรม Helios ➡️ ใช้มาตรฐาน Open Rack Wide ของ Meta ➡️ 72 GPU Instinct MI455X + CPU EPYC Venice ➡️ Ethernet fabric (UALoE) แทน NVLink ✅ สมรรถนะ ➡️ FP4 compute สูงสุด 2.9 exaFLOPS ต่อ rack ➡️ หน่วยความจำ HBM4 ขนาด 31TB ➡️ ทุก GPU เชื่อมต่อเป็น pod เดียว ✅ โครงการสำคัญ ➡️ HPE Juniper switch พัฒนาโดย Broadcom ➡️ HLRS เลือก HPE Cray GX5000 สำหรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ “Herder” ➡️ ใช้พลังงานความร้อนเหลือทิ้งเพื่อทำความร้อนอาคาร ‼️ ข้อควรระวังและการแข่งขัน ⛔ Nvidia GB200 NVL72 rack ยังครองตลาดด้วย NVLink + InfiniBand ⛔ Helios ต้องพิสูจน์ความเสถียรและการรองรับซอฟต์แวร์ AI ecosystem ⛔ การแข่งขันด้านพลังงานและต้นทุนอาจเป็นตัวแปรสำคัญ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/hpe-adopts-amd-helios-rack-architecture-for-2026-ai-systems
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • “GPU ราคาขึ้น แต่ภาษีเลื่อนช่วยบรรเทา”

    รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจเลื่อนการบังคับใช้ภาษีนำเข้า 25% สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากจีนออกไปอีกหนึ่งปี จากเดิมพฤศจิกายน 2025 เป็นพฤศจิกายน 2026 การเลื่อนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลงหยุดสงครามภาษีชั่วคราว ทำให้ผู้บริโภคและผู้ผลิตฮาร์ดแวร์โล่งใจไปอีกระยะหนึ่ง

    แม้ภาษีจะถูกเลื่อน แต่ราคาการ์ดจอยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากความต้องการมหาศาลจากศูนย์ข้อมูล AI ที่ดึงทรัพยากรไปจากตลาดผู้บริโภค รวมถึงราคาหน่วยความจำ DRAM และ NAND ที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนการผลิตคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เสริมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

    องค์กรอุตสาหกรรม เช่น Consumer Technology Association (CTA) ได้ออกมาเรียกร้องให้เลื่อนภาษีต่อไป เพราะการหาซัพพลายจากนอกจีนยังคงจำกัด และการกระจายห่วงโซ่อุปทานต้องใช้เวลา การเลื่อนภาษีจึงช่วยให้บริษัทมีเวลาปรับตัวและลงทุนในแหล่งผลิตใหม่

    อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีภาษี แต่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์และนักเล่นเกมยังต้องเผชิญกับราคาที่สูงขึ้นในปี 2026 เนื่องจากแรงกดดันจากตลาดโลก โดยเฉพาะการแข่งกันใช้ GPU ในงาน AI ที่ทำให้การ์ดจอสำหรับผู้บริโภคขาดแคลนและแพงขึ้น

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การเลื่อนภาษีนำเข้า
    ภาษี 25% สำหรับ GPU และอุปกรณ์จากจีนเลื่อนถึง พ.ย. 2026
    เกิดจากข้อตกลงหยุดสงครามภาษีระหว่างสหรัฐฯ–จีน
    ช่วยบรรเทาภาระต้นทุนผู้ผลิตและผู้บริโภค

    แรงกดดันด้านราคา
    ความต้องการ GPU จากศูนย์ข้อมูล AI สูงมาก
    ราคาหน่วยความจำ DRAM และ NAND พุ่งขึ้น
    ต้นทุนการผลิตคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้น

    บทบาทขององค์กรอุตสาหกรรม
    CTA เรียกร้องให้เลื่อนภาษีต่อไป
    การหาซัพพลายนอกจีนยังจำกัด
    การกระจายห่วงโซ่อุปทานต้องใช้เวลา

    ข้อควรระวัง
    แม้ไม่มีภาษี ราคาการ์ดจอยังมีแนวโน้มสูงขึ้น
    ตลาดผู้บริโภคอาจขาดแคลน GPU เพราะถูกดึงไปใช้ในงาน AI
    ปี 2026 อาจยังเป็นปีที่ยากสำหรับนักเล่นเกมและผู้สร้างคอมพิวเตอร์

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/gpu-prices-are-threatening-to-climb-but-at-least-tariffs-wont-make-it-worse-25-percent-import-tax-on-chinese-made-electronics-suspended-once-again
    💻 “GPU ราคาขึ้น แต่ภาษีเลื่อนช่วยบรรเทา” รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจเลื่อนการบังคับใช้ภาษีนำเข้า 25% สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากจีนออกไปอีกหนึ่งปี จากเดิมพฤศจิกายน 2025 เป็นพฤศจิกายน 2026 การเลื่อนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลงหยุดสงครามภาษีชั่วคราว ทำให้ผู้บริโภคและผู้ผลิตฮาร์ดแวร์โล่งใจไปอีกระยะหนึ่ง แม้ภาษีจะถูกเลื่อน แต่ราคาการ์ดจอยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากความต้องการมหาศาลจากศูนย์ข้อมูล AI ที่ดึงทรัพยากรไปจากตลาดผู้บริโภค รวมถึงราคาหน่วยความจำ DRAM และ NAND ที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนการผลิตคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เสริมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย องค์กรอุตสาหกรรม เช่น Consumer Technology Association (CTA) ได้ออกมาเรียกร้องให้เลื่อนภาษีต่อไป เพราะการหาซัพพลายจากนอกจีนยังคงจำกัด และการกระจายห่วงโซ่อุปทานต้องใช้เวลา การเลื่อนภาษีจึงช่วยให้บริษัทมีเวลาปรับตัวและลงทุนในแหล่งผลิตใหม่ อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีภาษี แต่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์และนักเล่นเกมยังต้องเผชิญกับราคาที่สูงขึ้นในปี 2026 เนื่องจากแรงกดดันจากตลาดโลก โดยเฉพาะการแข่งกันใช้ GPU ในงาน AI ที่ทำให้การ์ดจอสำหรับผู้บริโภคขาดแคลนและแพงขึ้น 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การเลื่อนภาษีนำเข้า ➡️ ภาษี 25% สำหรับ GPU และอุปกรณ์จากจีนเลื่อนถึง พ.ย. 2026 ➡️ เกิดจากข้อตกลงหยุดสงครามภาษีระหว่างสหรัฐฯ–จีน ➡️ ช่วยบรรเทาภาระต้นทุนผู้ผลิตและผู้บริโภค ✅ แรงกดดันด้านราคา ➡️ ความต้องการ GPU จากศูนย์ข้อมูล AI สูงมาก ➡️ ราคาหน่วยความจำ DRAM และ NAND พุ่งขึ้น ➡️ ต้นทุนการผลิตคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้น ✅ บทบาทขององค์กรอุตสาหกรรม ➡️ CTA เรียกร้องให้เลื่อนภาษีต่อไป ➡️ การหาซัพพลายนอกจีนยังจำกัด ➡️ การกระจายห่วงโซ่อุปทานต้องใช้เวลา ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ แม้ไม่มีภาษี ราคาการ์ดจอยังมีแนวโน้มสูงขึ้น ⛔ ตลาดผู้บริโภคอาจขาดแคลน GPU เพราะถูกดึงไปใช้ในงาน AI ⛔ ปี 2026 อาจยังเป็นปีที่ยากสำหรับนักเล่นเกมและผู้สร้างคอมพิวเตอร์ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/gpu-prices-are-threatening-to-climb-but-at-least-tariffs-wont-make-it-worse-25-percent-import-tax-on-chinese-made-electronics-suspended-once-again
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • “SnoutCover – นวัตกรรมรักแท้เพื่อช่วยสุนัขจากโรค DLE”

    เมื่อ Billie ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรค DLE ซึ่งทำให้ระบบภูมิคุ้มกันโจมตีเซลล์ที่จมูก อาการเริ่มจากการสูญเสียสีผิว กลายเป็นแผลและเจ็บปวดทุกครั้งที่สัมผัส แม้การรักษาด้วยยาขี้ผึ้งและครีมกันแดดจะถูกแนะนำ แต่ก็ไม่สามารถใช้ได้จริง เพราะสุนัขมักเลียออกทันที และการป้องกันด้วยผ้าหรือการกักให้อยู่ในบ้านก็ทำให้คุณภาพชีวิตลดลง

    เจ้าของจึงเริ่มออกแบบอุปกรณ์ใหม่ด้วยเครื่องพิมพ์ 3D โดยผ่านการทดลองหลายครั้ง ตั้งแต่รุ่นแรกที่ใช้ PLA จนถึงรุ่นที่ 6 ที่เปลี่ยนเป็น TPU เพื่อความยืดหยุ่นและสบาย ต่อมาได้เพิ่มช่องระบายอากาศ ปรับสายรัด และทำให้ครอบจมูกมีความทนทานมากขึ้น จนได้รุ่นที่ใช้งานได้จริงและ Billie ยอมใส่โดยไม่รำคาญ

    ผลลัพธ์คือภายใน 5 เดือน Billie หายจากอาการทั้งหมด: เลือดหยุดไหล, แผลหาย, สีผิวกลับมา และเนื้อเยื่อจมูกกลับเป็นปกติ เธอกลับมาเล่นสนุก วิ่งเล่น และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอีกครั้ง เจ้าของจึงเผยแพร่แบบพิมพ์ SnoutCover ให้ฟรีบน MakerWorld เพื่อให้เจ้าของสุนัขคนอื่น ๆ ที่เจอปัญหาเดียวกันสามารถนำไปใช้ได้

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ปัญหาที่ Billie เผชิญ
    โรค DLE ทำให้จมูกสูญเสียสีผิวและเกิดแผล
    การรักษาด้วยยาขี้ผึ้งและครีมกันแดดไม่ได้ผลเพราะถูกเลียออก
    การใช้ผ้าปิดหรือกักอยู่ในบ้านลดคุณภาพชีวิต

    การออกแบบ SnoutCover
    ใช้เครื่องพิมพ์ 3D ทดลองหลายรุ่น
    เปลี่ยนวัสดุเป็น TPU เพื่อความยืดหยุ่นและสบาย
    เพิ่มช่องระบายอากาศและสายรัดปรับได้

    ผลลัพธ์การรักษา
    เดือน 1: เลือดหยุดไหล
    เดือน 2: แผลเริ่มลดลง
    เดือน 3: สีผิวเริ่มกลับมา
    เดือน 5: จมูกกลับมาเป็นปกติและสุขภาพดี

    ข้อควรระวัง
    SnoutCover ไม่ได้ปรับขนาดอัตโนมัติ ต้องใช้การปรับสเกลในซอฟต์แวร์พิมพ์ 3D
    การใช้วัสดุอื่นที่ไม่ใช่ TPU อาจทำให้สุนัขไม่สบายหรือเกิดการบาดเจ็บ
    ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ไม่ปิดกั้นการหายใจหรือการกินน้ำ

    https://snoutcover.com/billie-story
    🐶 “SnoutCover – นวัตกรรมรักแท้เพื่อช่วยสุนัขจากโรค DLE” เมื่อ Billie ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรค DLE ซึ่งทำให้ระบบภูมิคุ้มกันโจมตีเซลล์ที่จมูก อาการเริ่มจากการสูญเสียสีผิว กลายเป็นแผลและเจ็บปวดทุกครั้งที่สัมผัส แม้การรักษาด้วยยาขี้ผึ้งและครีมกันแดดจะถูกแนะนำ แต่ก็ไม่สามารถใช้ได้จริง เพราะสุนัขมักเลียออกทันที และการป้องกันด้วยผ้าหรือการกักให้อยู่ในบ้านก็ทำให้คุณภาพชีวิตลดลง เจ้าของจึงเริ่มออกแบบอุปกรณ์ใหม่ด้วยเครื่องพิมพ์ 3D โดยผ่านการทดลองหลายครั้ง ตั้งแต่รุ่นแรกที่ใช้ PLA จนถึงรุ่นที่ 6 ที่เปลี่ยนเป็น TPU เพื่อความยืดหยุ่นและสบาย ต่อมาได้เพิ่มช่องระบายอากาศ ปรับสายรัด และทำให้ครอบจมูกมีความทนทานมากขึ้น จนได้รุ่นที่ใช้งานได้จริงและ Billie ยอมใส่โดยไม่รำคาญ ผลลัพธ์คือภายใน 5 เดือน Billie หายจากอาการทั้งหมด: เลือดหยุดไหล, แผลหาย, สีผิวกลับมา และเนื้อเยื่อจมูกกลับเป็นปกติ เธอกลับมาเล่นสนุก วิ่งเล่น และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอีกครั้ง เจ้าของจึงเผยแพร่แบบพิมพ์ SnoutCover ให้ฟรีบน MakerWorld เพื่อให้เจ้าของสุนัขคนอื่น ๆ ที่เจอปัญหาเดียวกันสามารถนำไปใช้ได้ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ปัญหาที่ Billie เผชิญ ➡️ โรค DLE ทำให้จมูกสูญเสียสีผิวและเกิดแผล ➡️ การรักษาด้วยยาขี้ผึ้งและครีมกันแดดไม่ได้ผลเพราะถูกเลียออก ➡️ การใช้ผ้าปิดหรือกักอยู่ในบ้านลดคุณภาพชีวิต ✅ การออกแบบ SnoutCover ➡️ ใช้เครื่องพิมพ์ 3D ทดลองหลายรุ่น ➡️ เปลี่ยนวัสดุเป็น TPU เพื่อความยืดหยุ่นและสบาย ➡️ เพิ่มช่องระบายอากาศและสายรัดปรับได้ ✅ ผลลัพธ์การรักษา ➡️ เดือน 1: เลือดหยุดไหล ➡️ เดือน 2: แผลเริ่มลดลง ➡️ เดือน 3: สีผิวเริ่มกลับมา ➡️ เดือน 5: จมูกกลับมาเป็นปกติและสุขภาพดี ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ SnoutCover ไม่ได้ปรับขนาดอัตโนมัติ ต้องใช้การปรับสเกลในซอฟต์แวร์พิมพ์ 3D ⛔ การใช้วัสดุอื่นที่ไม่ใช่ TPU อาจทำให้สุนัขไม่สบายหรือเกิดการบาดเจ็บ ⛔ ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ไม่ปิดกั้นการหายใจหรือการกินน้ำ https://snoutcover.com/billie-story
    SNOUTCOVER.COM
    How I Designed and printed a Custom Nose Guard to Help My Dog with DLE | SnoutCover
    Discover how our pitbull Billie's struggle with Discoid Lupus led to creating SnoutCover - a 3D-printed nose protector that helped her nose fully recover in 5 months.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ปี 2026 – มรดกวรรณกรรมและศิลปะเข้าสู่สาธารณสมบัติ”

    ทุกวันที่ 1 มกราคมของปีใหม่ จะมีผลงานจำนวนหนึ่งหมดอายุลิขสิทธิ์และเข้าสู่สาธารณสมบัติ ทำให้ทุกคนสามารถนำไปใช้ แบ่งปัน หรือดัดแปลงได้โดยไม่ต้องขออนุญาต ปี 2026 ถือเป็นปีที่น่าสนใจ เพราะมีทั้งงานเขียนระดับโลก ภาพยนตร์ และงานดนตรีที่มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมสมัยใหม่

    ในสหรัฐอเมริกา ผลงานที่ตีพิมพ์ในปี 1930 จะเข้าสู่สาธารณสมบัติ เช่น ภาพยนตร์ All Quiet on the Western Front ที่สะท้อนความโหดร้ายของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และหนังสือ As I Lay Dying ของ William Faulkner ที่เป็นหนึ่งในงานเขียนสำคัญของวรรณกรรมอเมริกันสมัยใหม่ นอกจากนี้ยังมี The Maltese Falcon ของ Dashiell Hammett ที่กลายเป็นต้นแบบของนิยายสืบสวนแนว hard-boiled.

    ในยุโรปและประเทศที่ใช้กฎ “ชีวิตบวก 70 ปี” ผลงานของผู้ที่เสียชีวิตในปี 1955 จะเข้าสู่สาธารณสมบัติ เช่น งานของนักเขียนชื่อดังอย่าง Hannah Arendt และนักดนตรีแจ๊ส Charlie Parker ส่วนในประเทศที่ใช้กฎ “ชีวิตบวก 50 ปี” เช่น นิวซีแลนด์และหลายประเทศในเอเชีย ผลงานของผู้ที่เสียชีวิตในปี 1975 จะหมดอายุลิขสิทธิ์เช่นกัน.

    การเข้าสู่สาธารณสมบัติไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้ผู้คนเข้าถึงวรรณกรรมและศิลปะคลาสสิกได้ฟรี แต่ยังช่วยกระตุ้นการสร้างสรรค์ใหม่ ๆ เช่น การตีพิมพ์ฉบับใหม่ การดัดแปลงเป็นภาพยนตร์หรือซีรีส์ และการนำไปใช้ในงานวิชาการหรือการศึกษา ถือเป็นการคืนมรดกทางวัฒนธรรมให้กับสังคมโดยรวม.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ผลงานในสหรัฐอเมริกา (ตีพิมพ์ปี 1930)
    All Quiet on the Western Front (ภาพยนตร์)
    As I Lay Dying – William Faulkner
    The Maltese Falcon – Dashiell Hammett

    ผลงานในยุโรป (ชีวิตบวก 70 ปี)
    Hannah Arendt
    Charlie Parker
    T. S. Eliot – Ash Wednesday

    ผลงานในเอเชียและแอฟริกา (ชีวิตบวก 50 ปี)
    Saadat Hasan Manto
    Roger Mais
    Pierre Teilhard de Chardin

    ข้อควรระวัง
    กฎหมายลิขสิทธิ์แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ
    บางผลงานอาจยังไม่เข้าสู่สาธารณสมบัติในบางภูมิภาค
    การนำไปใช้เชิงพาณิชย์ควรตรวจสอบข้อกฎหมายท้องถิ่นก่อน

    https://publicdomainreview.org/features/entering-the-public-domain/2026/
    📚 “ปี 2026 – มรดกวรรณกรรมและศิลปะเข้าสู่สาธารณสมบัติ” ทุกวันที่ 1 มกราคมของปีใหม่ จะมีผลงานจำนวนหนึ่งหมดอายุลิขสิทธิ์และเข้าสู่สาธารณสมบัติ ทำให้ทุกคนสามารถนำไปใช้ แบ่งปัน หรือดัดแปลงได้โดยไม่ต้องขออนุญาต ปี 2026 ถือเป็นปีที่น่าสนใจ เพราะมีทั้งงานเขียนระดับโลก ภาพยนตร์ และงานดนตรีที่มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมสมัยใหม่ ในสหรัฐอเมริกา ผลงานที่ตีพิมพ์ในปี 1930 จะเข้าสู่สาธารณสมบัติ เช่น ภาพยนตร์ All Quiet on the Western Front ที่สะท้อนความโหดร้ายของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และหนังสือ As I Lay Dying ของ William Faulkner ที่เป็นหนึ่งในงานเขียนสำคัญของวรรณกรรมอเมริกันสมัยใหม่ นอกจากนี้ยังมี The Maltese Falcon ของ Dashiell Hammett ที่กลายเป็นต้นแบบของนิยายสืบสวนแนว hard-boiled. ในยุโรปและประเทศที่ใช้กฎ “ชีวิตบวก 70 ปี” ผลงานของผู้ที่เสียชีวิตในปี 1955 จะเข้าสู่สาธารณสมบัติ เช่น งานของนักเขียนชื่อดังอย่าง Hannah Arendt และนักดนตรีแจ๊ส Charlie Parker ส่วนในประเทศที่ใช้กฎ “ชีวิตบวก 50 ปี” เช่น นิวซีแลนด์และหลายประเทศในเอเชีย ผลงานของผู้ที่เสียชีวิตในปี 1975 จะหมดอายุลิขสิทธิ์เช่นกัน. การเข้าสู่สาธารณสมบัติไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้ผู้คนเข้าถึงวรรณกรรมและศิลปะคลาสสิกได้ฟรี แต่ยังช่วยกระตุ้นการสร้างสรรค์ใหม่ ๆ เช่น การตีพิมพ์ฉบับใหม่ การดัดแปลงเป็นภาพยนตร์หรือซีรีส์ และการนำไปใช้ในงานวิชาการหรือการศึกษา ถือเป็นการคืนมรดกทางวัฒนธรรมให้กับสังคมโดยรวม. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ผลงานในสหรัฐอเมริกา (ตีพิมพ์ปี 1930) ➡️ All Quiet on the Western Front (ภาพยนตร์) ➡️ As I Lay Dying – William Faulkner ➡️ The Maltese Falcon – Dashiell Hammett ✅ ผลงานในยุโรป (ชีวิตบวก 70 ปี) ➡️ Hannah Arendt ➡️ Charlie Parker ➡️ T. S. Eliot – Ash Wednesday ✅ ผลงานในเอเชียและแอฟริกา (ชีวิตบวก 50 ปี) ➡️ Saadat Hasan Manto ➡️ Roger Mais ➡️ Pierre Teilhard de Chardin ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ กฎหมายลิขสิทธิ์แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ⛔ บางผลงานอาจยังไม่เข้าสู่สาธารณสมบัติในบางภูมิภาค ⛔ การนำไปใช้เชิงพาณิชย์ควรตรวจสอบข้อกฎหมายท้องถิ่นก่อน https://publicdomainreview.org/features/entering-the-public-domain/2026/
    PUBLICDOMAINREVIEW.ORG
    What Will Enter the Public Domain in 2026?
    At the start of each year, on January 1st, a new crop of works enter the public domain. Find our highlights of what lies in store for 2026 here.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • “OpenAI Code Red – เร่งพัฒนา ChatGPT รับมือการแข่งขันจาก Google Gemini”

    OpenAI กำลังเผชิญแรงกดดันครั้งใหญ่ในตลาด AI หลังจาก Google เปิดตัว Gemini 3 ที่ทำคะแนนสูงกว่า ChatGPT ในหลาย benchmark และได้รับการยอมรับจากผู้ใช้จำนวนมาก รวมถึงผู้บริหารระดับสูงในอุตสาหกรรมที่ประกาศเปลี่ยนมาใช้ Gemini แทน ChatGPT สิ่งนี้ทำให้ Sam Altman CEO ของ OpenAI ต้องประกาศ “Code Red” เพื่อเร่งปรับปรุง ChatGPT ให้เร็วขึ้น, เชื่อถือได้มากขึ้น และตอบโจทย์ผู้ใช้ได้กว้างกว่าเดิม

    ในบันทึกภายใน Altman ระบุว่า OpenAI จะ เลื่อนโครงการอื่น ๆ เช่นการนำโฆษณาเข้ามาใน ChatGPT, การพัฒนา AI agent สำหรับสุขภาพและการช้อปปิ้ง, และผู้ช่วยส่วนตัว Pulse เพื่อทุ่มทรัพยากรทั้งหมดไปที่ ChatGPT เขายังสั่งให้มีการประชุมรายวันสำหรับทีมที่รับผิดชอบ และสนับสนุนให้มีการโยกย้ายทีมชั่วคราวเพื่อเร่งการพัฒนา

    การประกาศครั้งนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในตลาด AI ที่รวดเร็วมาก เมื่อสามปีก่อน Google เคยประกาศ “Code Red” หลัง ChatGPT เปิดตัวและได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย แต่ปัจจุบันสถานการณ์กลับตาลปัตร Google กำลังไล่ทันและแซงในบางด้าน ทำให้ OpenAI ต้องกลับมาปรับกลยุทธ์อย่างเร่งด่วน

    นอกจากการแข่งขันด้านเทคโนโลยีแล้ว ยังมีแรงกดดันด้านการเงิน เนื่องจาก OpenAI ใช้เงินมหาศาลในการพัฒนาและให้บริการ AI แต่รายได้หลักยังมาจากการสมัครสมาชิกและความร่วมมือกับธุรกิจ หากการนำโฆษณาเข้ามาเลื่อนออกไป ก็ยิ่งทำให้คำถามเรื่องโมเดลธุรกิจและความยั่งยืนของบริษัทชัดเจนขึ้น

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การประกาศ Code Red ของ OpenAI
    Sam Altman สั่งเลื่อนโครงการอื่น ๆ เพื่อโฟกัส ChatGPT
    มีการประชุมรายวันและโยกย้ายทีมเพื่อเร่งพัฒนา
    เป้าหมายคือทำให้ ChatGPT เร็วขึ้น, เชื่อถือได้มากขึ้น, และตอบโจทย์ผู้ใช้กว้างขึ้น

    การแข่งขันกับ Google
    Gemini 3 ทำคะแนนสูงกว่า ChatGPT ในหลาย benchmark
    ผู้ใช้และผู้บริหารบางรายประกาศเปลี่ยนมาใช้ Gemini
    ตลาด AI กลายเป็น “แข่งอาวุธ” ระหว่าง OpenAI และ Google

    ความเสี่ยงและความท้าทาย
    การเลื่อนโครงการโฆษณาและ AI agent อาจกระทบรายได้
    ค่าใช้จ่ายในการพัฒนา AI สูงมาก แต่รายได้ยังจำกัด
    หาก ChatGPT ไม่สามารถปรับปรุงได้เร็วพอ อาจเสียส่วนแบ่งตลาดให้คู่แข่ง

    https://www.theverge.com/news/836212/openai-code-red-chatgpt
    ⚡ “OpenAI Code Red – เร่งพัฒนา ChatGPT รับมือการแข่งขันจาก Google Gemini” OpenAI กำลังเผชิญแรงกดดันครั้งใหญ่ในตลาด AI หลังจาก Google เปิดตัว Gemini 3 ที่ทำคะแนนสูงกว่า ChatGPT ในหลาย benchmark และได้รับการยอมรับจากผู้ใช้จำนวนมาก รวมถึงผู้บริหารระดับสูงในอุตสาหกรรมที่ประกาศเปลี่ยนมาใช้ Gemini แทน ChatGPT สิ่งนี้ทำให้ Sam Altman CEO ของ OpenAI ต้องประกาศ “Code Red” เพื่อเร่งปรับปรุง ChatGPT ให้เร็วขึ้น, เชื่อถือได้มากขึ้น และตอบโจทย์ผู้ใช้ได้กว้างกว่าเดิม ในบันทึกภายใน Altman ระบุว่า OpenAI จะ เลื่อนโครงการอื่น ๆ เช่นการนำโฆษณาเข้ามาใน ChatGPT, การพัฒนา AI agent สำหรับสุขภาพและการช้อปปิ้ง, และผู้ช่วยส่วนตัว Pulse เพื่อทุ่มทรัพยากรทั้งหมดไปที่ ChatGPT เขายังสั่งให้มีการประชุมรายวันสำหรับทีมที่รับผิดชอบ และสนับสนุนให้มีการโยกย้ายทีมชั่วคราวเพื่อเร่งการพัฒนา การประกาศครั้งนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในตลาด AI ที่รวดเร็วมาก เมื่อสามปีก่อน Google เคยประกาศ “Code Red” หลัง ChatGPT เปิดตัวและได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย แต่ปัจจุบันสถานการณ์กลับตาลปัตร Google กำลังไล่ทันและแซงในบางด้าน ทำให้ OpenAI ต้องกลับมาปรับกลยุทธ์อย่างเร่งด่วน นอกจากการแข่งขันด้านเทคโนโลยีแล้ว ยังมีแรงกดดันด้านการเงิน เนื่องจาก OpenAI ใช้เงินมหาศาลในการพัฒนาและให้บริการ AI แต่รายได้หลักยังมาจากการสมัครสมาชิกและความร่วมมือกับธุรกิจ หากการนำโฆษณาเข้ามาเลื่อนออกไป ก็ยิ่งทำให้คำถามเรื่องโมเดลธุรกิจและความยั่งยืนของบริษัทชัดเจนขึ้น 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การประกาศ Code Red ของ OpenAI ➡️ Sam Altman สั่งเลื่อนโครงการอื่น ๆ เพื่อโฟกัส ChatGPT ➡️ มีการประชุมรายวันและโยกย้ายทีมเพื่อเร่งพัฒนา ➡️ เป้าหมายคือทำให้ ChatGPT เร็วขึ้น, เชื่อถือได้มากขึ้น, และตอบโจทย์ผู้ใช้กว้างขึ้น ✅ การแข่งขันกับ Google ➡️ Gemini 3 ทำคะแนนสูงกว่า ChatGPT ในหลาย benchmark ➡️ ผู้ใช้และผู้บริหารบางรายประกาศเปลี่ยนมาใช้ Gemini ➡️ ตลาด AI กลายเป็น “แข่งอาวุธ” ระหว่าง OpenAI และ Google ‼️ ความเสี่ยงและความท้าทาย ⛔ การเลื่อนโครงการโฆษณาและ AI agent อาจกระทบรายได้ ⛔ ค่าใช้จ่ายในการพัฒนา AI สูงมาก แต่รายได้ยังจำกัด ⛔ หาก ChatGPT ไม่สามารถปรับปรุงได้เร็วพอ อาจเสียส่วนแบ่งตลาดให้คู่แข่ง https://www.theverge.com/news/836212/openai-code-red-chatgpt
    WWW.THEVERGE.COM
    OpenAI declares ‘code red’ as Google catches up in AI race
    Google’s own ‘code red’ response to ChatGPT has started paying off.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • Amazon เร่งเครื่องในสนาม ASIC

    Amazon ประกาศเปิดตัว Trainium3 UltraServers ที่สามารถรวมชิปได้สูงสุดถึง 144 ตัวในคลัสเตอร์เดียว ทำให้ได้ ประสิทธิภาพสูงขึ้น 4.4 เท่า และ ประสิทธิภาพพลังงานมากขึ้น 4 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า พร้อมทั้งเพิ่มแบนด์วิดท์หน่วยความจำเกือบ 4 เท่า ถือเป็นการยกระดับครั้งใหญ่ในตลาดชิป AI

    เทคโนโลยีใหม่ใน Trainium3 และ Trainium4
    Trainium3 UltraServers มาพร้อม NeuronSwitch-v1 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเชื่อมต่อใหม่ที่คล้ายกับ NVLink ของ NVIDIA แต่พัฒนาโดย Amazon เอง โดยสามารถขยายการเชื่อมต่อไปถึง 1 ล้านชิปในคลัสเตอร์เดียว เพื่อรองรับการฝึกโมเดลขนาด “trillion-token datasets” ในขณะเดียวกัน Amazon ยังเผยข้อมูลของ Trainium4 ASICs ที่มี ประสิทธิภาพ FP4 สูงขึ้น 6 เท่า และเพิ่มสเปกหน่วยความจำอย่างมหาศาล อีกทั้งยังรองรับ NVIDIA NVLink เพื่อให้ลูกค้าสามารถผสมผสานการใช้งานกับระบบของ NVIDIA ได้ง่ายขึ้น

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    การเปิดตัวนี้ทำให้ Amazon กลายเป็นคู่แข่งที่จริงจังในตลาดชิป AI ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกครองโดย NVIDIA และ Google TPU การที่ Amazonสามารถเชื่อมต่อระบบเข้ากับ NVLink ได้ ทำให้ลูกค้าที่มีโครงสร้างพื้นฐานเดิมสามารถขยายระบบโดยไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด นอกจากนี้บริษัทอย่าง Anthropic รายงานว่าต้นทุนการฝึกโมเดลลดลงอย่างมากเมื่อใช้ Trainium

    มุมมองในอนาคต
    Amazon แสดงให้เห็นว่า “all in” กับการพัฒนา ASIC เพื่อรองรับความต้องการด้าน AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว หาก Trainium4 สามารถพิสูจน์ประสิทธิภาพได้จริง อาจทำให้ตลาดชิป AI มีการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้น และลดการพึ่งพา NVIDIA ในระยะยาว

    สรุปสาระสำคัญ
    Trainium3 UltraServers เปิดตัวพร้อมประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม 4.4 เท่า
    รวมได้สูงสุด 144 ชิปในคลัสเตอร์เดียว

    NeuronSwitch-v1 เชื่อมต่อได้ถึง 1 ล้านชิป
    รองรับการฝึกโมเดล trillion-token datasets

    Trainium4 ASICs มี FP4 performance สูงขึ้น 6 เท่า
    เพิ่มสเปกหน่วยความจำและรองรับ NVIDIA NVLink

    Anthropic รายงานว่าต้นทุนการฝึกโมเดลลดลง
    แสดงถึงความคุ้มค่าของ Trainium

    การแข่งขันในตลาดชิป AI รุนแรงขึ้น
    NVIDIA และ Google TPU ต้องเผชิญแรงกดดันจาก Amazon

    ลูกค้าที่ไม่ปรับตัวอาจเสียโอกาสในการลดต้นทุน
    การไม่ใช้ระบบที่รองรับ NVLink อาจทำให้ขยายโครงสร้างยากขึ้น

    https://wccftech.com/amazon-is-all-in-in-the-race-for-a-competitive-asic-portfolio/
    ⚡ Amazon เร่งเครื่องในสนาม ASIC Amazon ประกาศเปิดตัว Trainium3 UltraServers ที่สามารถรวมชิปได้สูงสุดถึง 144 ตัวในคลัสเตอร์เดียว ทำให้ได้ ประสิทธิภาพสูงขึ้น 4.4 เท่า และ ประสิทธิภาพพลังงานมากขึ้น 4 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า พร้อมทั้งเพิ่มแบนด์วิดท์หน่วยความจำเกือบ 4 เท่า ถือเป็นการยกระดับครั้งใหญ่ในตลาดชิป AI 🔧 เทคโนโลยีใหม่ใน Trainium3 และ Trainium4 Trainium3 UltraServers มาพร้อม NeuronSwitch-v1 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเชื่อมต่อใหม่ที่คล้ายกับ NVLink ของ NVIDIA แต่พัฒนาโดย Amazon เอง โดยสามารถขยายการเชื่อมต่อไปถึง 1 ล้านชิปในคลัสเตอร์เดียว เพื่อรองรับการฝึกโมเดลขนาด “trillion-token datasets” ในขณะเดียวกัน Amazon ยังเผยข้อมูลของ Trainium4 ASICs ที่มี ประสิทธิภาพ FP4 สูงขึ้น 6 เท่า และเพิ่มสเปกหน่วยความจำอย่างมหาศาล อีกทั้งยังรองรับ NVIDIA NVLink เพื่อให้ลูกค้าสามารถผสมผสานการใช้งานกับระบบของ NVIDIA ได้ง่ายขึ้น 🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม การเปิดตัวนี้ทำให้ Amazon กลายเป็นคู่แข่งที่จริงจังในตลาดชิป AI ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกครองโดย NVIDIA และ Google TPU การที่ Amazonสามารถเชื่อมต่อระบบเข้ากับ NVLink ได้ ทำให้ลูกค้าที่มีโครงสร้างพื้นฐานเดิมสามารถขยายระบบโดยไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด นอกจากนี้บริษัทอย่าง Anthropic รายงานว่าต้นทุนการฝึกโมเดลลดลงอย่างมากเมื่อใช้ Trainium 📊 มุมมองในอนาคต Amazon แสดงให้เห็นว่า “all in” กับการพัฒนา ASIC เพื่อรองรับความต้องการด้าน AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว หาก Trainium4 สามารถพิสูจน์ประสิทธิภาพได้จริง อาจทำให้ตลาดชิป AI มีการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้น และลดการพึ่งพา NVIDIA ในระยะยาว 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Trainium3 UltraServers เปิดตัวพร้อมประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม 4.4 เท่า ➡️ รวมได้สูงสุด 144 ชิปในคลัสเตอร์เดียว ✅ NeuronSwitch-v1 เชื่อมต่อได้ถึง 1 ล้านชิป ➡️ รองรับการฝึกโมเดล trillion-token datasets ✅ Trainium4 ASICs มี FP4 performance สูงขึ้น 6 เท่า ➡️ เพิ่มสเปกหน่วยความจำและรองรับ NVIDIA NVLink ✅ Anthropic รายงานว่าต้นทุนการฝึกโมเดลลดลง ➡️ แสดงถึงความคุ้มค่าของ Trainium ‼️ การแข่งขันในตลาดชิป AI รุนแรงขึ้น ⛔ NVIDIA และ Google TPU ต้องเผชิญแรงกดดันจาก Amazon ‼️ ลูกค้าที่ไม่ปรับตัวอาจเสียโอกาสในการลดต้นทุน ⛔ การไม่ใช้ระบบที่รองรับ NVLink อาจทำให้ขยายโครงสร้างยากขึ้น https://wccftech.com/amazon-is-all-in-in-the-race-for-a-competitive-asic-portfolio/
    WCCFTECH.COM
    Amazon Is ‘All-In’ in the Race for a Competitive ASIC Portfolio, Showcasing New Trainium3 Servers and Next-Gen Trainium4 Chips
    Amazon has ramped up the ASIC race by showcasing Trainium3 server configurations and next-generation Trainium4 chips.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple ลดรางวัล Security Bounty บน macOS

    Apple ได้ปรับลดเงินรางวัลสำหรับการค้นพบช่องโหว่บน macOS อย่างรุนแรง โดยเฉพาะในหมวด Transparency, Consent, and Control (TCC) bypasses ที่ลดลงจาก 30,500 ดอลลาร์เหลือเพียง 5,000 ดอลลาร์ ขณะที่ sandbox escapes ลดลงครึ่งหนึ่งจาก 10,000 ดอลลาร์เหลือ 5,000 ดอลลาร์ การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจาก Apple เพิ่งเพิ่มรางวัลสูงสุดในโปรแกรม ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความจริงใจในการสนับสนุนงานวิจัยด้านความปลอดภัย

    รายละเอียดการปรับลด
    TCC bypasses: ลดลง 83%
    Sandbox escapes: ลดลง 50%
    การเข้าถึงข้อมูลที่ป้องกันโดย TCC โดยไม่ใช้ Target Flag: ลดเหลือ 1,000 ดอลลาร์

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยอย่าง Csaba Fitzl ได้โพสต์บน LinkedIn วิจารณ์ว่า Apple กำลัง “ประหยัดผิดที่” และอาจทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยหมดแรงจูงใจในการรายงานช่องโหว่

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และนักวิจัย
    แม้ Apple จะมีมาตรการเสริม เช่น Lockdown Mode, สถาปัตยกรรม Safari ที่อัปเกรดใหม่ และ Memory Integrity Enforcement ในชิป A19 แต่การลดรางวัลอาจทำให้จำนวนรายงานช่องโหว่ลดลง ส่งผลให้ Mac มีความเสี่ยงมากขึ้นในระยะยาว

    มุมมองในอนาคต
    การตัดสินใจครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น “ก้าวถอยหลัง” ของ Apple ในการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย หากบริษัทไม่ปรับปรุงแนวทาง อาจทำให้ผู้ใช้และนักวิจัยหันไปสนใจแพลตฟอร์มอื่นที่ให้การสนับสนุนมากกว่า

    สรุปสาระสำคัญ
    Apple ลดเงินรางวัลใน macOS Security Bounty อย่างมาก
    TCC bypasses ลดจาก $30,500 เหลือ $5,000

    Sandbox escapes ลดลงครึ่งหนึ่ง
    จาก $10,000 เหลือ $5,000

    ยังมีมาตรการเสริม เช่น Lockdown Mode และ Memory Integrity Enforcement
    ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในระดับระบบ

    การลดรางวัลอาจทำให้ผู้เชี่ยวชาญหมดแรงจูงใจ
    ส่งผลให้จำนวนรายงานช่องโหว่ลดลง

    Mac อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีมากขึ้น
    ผู้ใช้ควรระวังและอัปเดตระบบอย่างสม่ำเสมอ

    https://wccftech.com/does-apple-hate-macs-macos-security-bounties-drastically-slashed/
    🍏 Apple ลดรางวัล Security Bounty บน macOS Apple ได้ปรับลดเงินรางวัลสำหรับการค้นพบช่องโหว่บน macOS อย่างรุนแรง โดยเฉพาะในหมวด Transparency, Consent, and Control (TCC) bypasses ที่ลดลงจาก 30,500 ดอลลาร์เหลือเพียง 5,000 ดอลลาร์ ขณะที่ sandbox escapes ลดลงครึ่งหนึ่งจาก 10,000 ดอลลาร์เหลือ 5,000 ดอลลาร์ การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจาก Apple เพิ่งเพิ่มรางวัลสูงสุดในโปรแกรม ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความจริงใจในการสนับสนุนงานวิจัยด้านความปลอดภัย 🔧 รายละเอียดการปรับลด 💠 TCC bypasses: ลดลง 83% 💠 Sandbox escapes: ลดลง 50% 💠 การเข้าถึงข้อมูลที่ป้องกันโดย TCC โดยไม่ใช้ Target Flag: ลดเหลือ 1,000 ดอลลาร์ นักวิจัยด้านความปลอดภัยอย่าง Csaba Fitzl ได้โพสต์บน LinkedIn วิจารณ์ว่า Apple กำลัง “ประหยัดผิดที่” และอาจทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยหมดแรงจูงใจในการรายงานช่องโหว่ 🌍 ผลกระทบต่อผู้ใช้และนักวิจัย แม้ Apple จะมีมาตรการเสริม เช่น Lockdown Mode, สถาปัตยกรรม Safari ที่อัปเกรดใหม่ และ Memory Integrity Enforcement ในชิป A19 แต่การลดรางวัลอาจทำให้จำนวนรายงานช่องโหว่ลดลง ส่งผลให้ Mac มีความเสี่ยงมากขึ้นในระยะยาว 📊 มุมมองในอนาคต การตัดสินใจครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น “ก้าวถอยหลัง” ของ Apple ในการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย หากบริษัทไม่ปรับปรุงแนวทาง อาจทำให้ผู้ใช้และนักวิจัยหันไปสนใจแพลตฟอร์มอื่นที่ให้การสนับสนุนมากกว่า 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Apple ลดเงินรางวัลใน macOS Security Bounty อย่างมาก ➡️ TCC bypasses ลดจาก $30,500 เหลือ $5,000 ✅ Sandbox escapes ลดลงครึ่งหนึ่ง ➡️ จาก $10,000 เหลือ $5,000 ✅ ยังมีมาตรการเสริม เช่น Lockdown Mode และ Memory Integrity Enforcement ➡️ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในระดับระบบ ‼️ การลดรางวัลอาจทำให้ผู้เชี่ยวชาญหมดแรงจูงใจ ⛔ ส่งผลให้จำนวนรายงานช่องโหว่ลดลง ‼️ Mac อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีมากขึ้น ⛔ ผู้ใช้ควรระวังและอัปเดตระบบอย่างสม่ำเสมอ https://wccftech.com/does-apple-hate-macs-macos-security-bounties-drastically-slashed/
    WCCFTECH.COM
    Does Apple Hate Macs? macOS Security Bounties Drastically Slashed
    By arbitrarily curtailing the security bounty for finding vulnerabilities in the macOS, Apple has taken an apparent regressive step.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาราธอนขายหน้าโลก โคตรจะแมนใช้บิบผู้หญิงวิ่ง

    การจัดงานอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน 2025 ที่สนามหลวงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (30 พ.ย.) นอกจากนักวิ่งกว่า 36,000 คน จะประสบปัญหาเรื่องการจัดการด้านเส้นทางวิ่ง จุดปฐมพยาบาล ห้องน้ำ อาหารและของว่างที่ยังบกพร่อง รวมไปถึงเสื้อ Finisher ที่แจกให้กับนักวิ่ง 42.195 และ 21.1 กิโลเมตร กลับมีข้อบกพร่องในการแจก นักวิ่งบางคนเห็นแก่ตัว วนไปรับเสื้อซ้ำแล้วเอาไปขาย ทำให้นักวิ่งที่มาทีหลังจำนวนมากไม่ได้รับแจกเสื้อ ผู้จัดการแข่งขันต้องให้นักวิ่งลงชื่อเอาไว้ แล้วจะส่งอีเมลแจ้งการส่งเสื้อภายหลัง

    แต่ที่หนักที่สุดคือการที่นักวิ่งชายนำบิบ (BIB) หรือป้ายหมายเลขประจำตัวนักวิ่งของผู้หญิง ซึ่งไม่ตรงกับเพศและอายุไปวิ่ง ทำให้ผู้เข้าแข่งขันหญิงคนอื่นที่ทำตามกติกาเสียโอกาสในการเก็บสถิติและรับรางวัล เช่น นักวิ่งชายรายหนึ่ง เอาบิบระยะ 21.1 กิโลเมตร ของเพศหญิง รุ่นอายุ 60 ปีขึ้นไปมาใส่ ติดถ้วยรางวัลหญิงอันดับ 1 ในรุ่นอายุ ทำให้นักวิ่งหญิงที่ทำตามกติกาพลาดโอกาสได้รางวัลที่ 1 เพราะลำดับที่ 1 กลับไม่มารายงานตัว พอไปตรวจสอบเลขบิบย้อนหลังปรากฎว่าเป็นนักวิ่งชาย

    รายต่อมามีทั้งนักวิ่งชายเอาบิบระยะ 21.1 กิโลเมตร ของเพศหญิง รุ่นอายุ 55-59 ปีมาใส่ ติดถ้วยรางวัลหญิงอันดับ 1 ในรุ่นอายุ นักวิ่งหญิงที่วิ่งตามกติกานอกจากพลาดโอกาสในการรับรางวัลแล้ว ในแต่ละอันดับเงินรางวัลก็แตกต่างกันอีกด้วย ภายหลังมีการแก้ไขอันดับใหม่และขยับอันดับขึ้น รายที่สาม นักวิ่งชายเอาบิบระยะ 10 กิโลเมตร ของเพศหญิง รุ่นอายุ 55-59 ปีมาใส่ ติดถ้วยรางวัลอันดับสอง นักวิ่งหญิงอีกคนพลาดโอกาสที่จะได้รางวัลที่สูงขึ้นเช่นกัน

    ที่หนักที่สุด คือนักวิ่งชายรายหนึ่งถอดบิบออก เอาชิปที่ติดด้านหลังบิบใส่ไว้ในเสื้อ แล้ววิ่งโดยไม่ติดบิบ จนติดอันดับ 3 รุ่น Overall Thai female แล้วทำให้นักวิ่งหญิงคนอื่นเดือดร้อน เพราะมีชื่อที่ไม่คุ้น ทีแรกกรรมการอ้างว่าเช็กทุกคนว่าหญิงหรือชาย ไม่ยอมให้ดูรูปตอนเข้าเส้นชัย ภายหลังมีระบบผิดพลาดหลายรุ่นจึงยอมให้ดูรูป พบว่าเป็นผู้ชายเอาบิบผู้หญิงมาวิ่ง แล้วซ่อนบิบไว้ในเสื้อไม่เห็นอะไรเลย แต่เวลาตรงตามชื่อผู้หญิงคนที่เข้าเส้นชัย กรรมการจึงขยับผู้ที่ทำตามกติกาขึ้นมา

    หลังจากที่เรื่องนี้ถูกตีแผ่ หญิงรายหนึ่งอ้างว่าเป็นแฟนของนักวิ่งชาย ส่งข้อความข่มขู่ให้ลบโพสต์ อ้างว่าแฟนเป็นตำรวจจะดำเนินคดี แต่ภายหลังนักวิ่งคนดังกล่าวอ้างว่าแจ้งเจ้าหน้าไปที่แล้วว่าซื้อบิบต่อมา และอ้างว่าไม่ทราบ ถ้ารับบิบต่อจากคนอื่นมาแล้วต้องแกะชิปออก ขอโทษที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ คนที่ข่มขู่จึงมีน้ำเสียงอ่อนลง

    #Newskit
    มาราธอนขายหน้าโลก โคตรจะแมนใช้บิบผู้หญิงวิ่ง การจัดงานอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน 2025 ที่สนามหลวงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (30 พ.ย.) นอกจากนักวิ่งกว่า 36,000 คน จะประสบปัญหาเรื่องการจัดการด้านเส้นทางวิ่ง จุดปฐมพยาบาล ห้องน้ำ อาหารและของว่างที่ยังบกพร่อง รวมไปถึงเสื้อ Finisher ที่แจกให้กับนักวิ่ง 42.195 และ 21.1 กิโลเมตร กลับมีข้อบกพร่องในการแจก นักวิ่งบางคนเห็นแก่ตัว วนไปรับเสื้อซ้ำแล้วเอาไปขาย ทำให้นักวิ่งที่มาทีหลังจำนวนมากไม่ได้รับแจกเสื้อ ผู้จัดการแข่งขันต้องให้นักวิ่งลงชื่อเอาไว้ แล้วจะส่งอีเมลแจ้งการส่งเสื้อภายหลัง แต่ที่หนักที่สุดคือการที่นักวิ่งชายนำบิบ (BIB) หรือป้ายหมายเลขประจำตัวนักวิ่งของผู้หญิง ซึ่งไม่ตรงกับเพศและอายุไปวิ่ง ทำให้ผู้เข้าแข่งขันหญิงคนอื่นที่ทำตามกติกาเสียโอกาสในการเก็บสถิติและรับรางวัล เช่น นักวิ่งชายรายหนึ่ง เอาบิบระยะ 21.1 กิโลเมตร ของเพศหญิง รุ่นอายุ 60 ปีขึ้นไปมาใส่ ติดถ้วยรางวัลหญิงอันดับ 1 ในรุ่นอายุ ทำให้นักวิ่งหญิงที่ทำตามกติกาพลาดโอกาสได้รางวัลที่ 1 เพราะลำดับที่ 1 กลับไม่มารายงานตัว พอไปตรวจสอบเลขบิบย้อนหลังปรากฎว่าเป็นนักวิ่งชาย รายต่อมามีทั้งนักวิ่งชายเอาบิบระยะ 21.1 กิโลเมตร ของเพศหญิง รุ่นอายุ 55-59 ปีมาใส่ ติดถ้วยรางวัลหญิงอันดับ 1 ในรุ่นอายุ นักวิ่งหญิงที่วิ่งตามกติกานอกจากพลาดโอกาสในการรับรางวัลแล้ว ในแต่ละอันดับเงินรางวัลก็แตกต่างกันอีกด้วย ภายหลังมีการแก้ไขอันดับใหม่และขยับอันดับขึ้น รายที่สาม นักวิ่งชายเอาบิบระยะ 10 กิโลเมตร ของเพศหญิง รุ่นอายุ 55-59 ปีมาใส่ ติดถ้วยรางวัลอันดับสอง นักวิ่งหญิงอีกคนพลาดโอกาสที่จะได้รางวัลที่สูงขึ้นเช่นกัน ที่หนักที่สุด คือนักวิ่งชายรายหนึ่งถอดบิบออก เอาชิปที่ติดด้านหลังบิบใส่ไว้ในเสื้อ แล้ววิ่งโดยไม่ติดบิบ จนติดอันดับ 3 รุ่น Overall Thai female แล้วทำให้นักวิ่งหญิงคนอื่นเดือดร้อน เพราะมีชื่อที่ไม่คุ้น ทีแรกกรรมการอ้างว่าเช็กทุกคนว่าหญิงหรือชาย ไม่ยอมให้ดูรูปตอนเข้าเส้นชัย ภายหลังมีระบบผิดพลาดหลายรุ่นจึงยอมให้ดูรูป พบว่าเป็นผู้ชายเอาบิบผู้หญิงมาวิ่ง แล้วซ่อนบิบไว้ในเสื้อไม่เห็นอะไรเลย แต่เวลาตรงตามชื่อผู้หญิงคนที่เข้าเส้นชัย กรรมการจึงขยับผู้ที่ทำตามกติกาขึ้นมา หลังจากที่เรื่องนี้ถูกตีแผ่ หญิงรายหนึ่งอ้างว่าเป็นแฟนของนักวิ่งชาย ส่งข้อความข่มขู่ให้ลบโพสต์ อ้างว่าแฟนเป็นตำรวจจะดำเนินคดี แต่ภายหลังนักวิ่งคนดังกล่าวอ้างว่าแจ้งเจ้าหน้าไปที่แล้วว่าซื้อบิบต่อมา และอ้างว่าไม่ทราบ ถ้ารับบิบต่อจากคนอื่นมาแล้วต้องแกะชิปออก ขอโทษที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ คนที่ข่มขู่จึงมีน้ำเสียงอ่อนลง #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts