• เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าฮาลา – บาลา

    พื้นที่อนุรักษ์แห่งใหม่ของประเทศไทย ได้รับการจัดตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2539 เป็นแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย มีพื้นที่ 270,725 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่เขาสันกาลาคีรี ป่าฮาลาและป่าบาลาเป็นผืนป่าดงดิบที่ไม่ต่อเนื่องกัน แต่ได้รับประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเดียวกัน คือ ป่าฮาลา ในเขตอำเภอเบตง จังหวัดยะลา และอำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส แต่ส่วนที่เปิดให้ประชาชนเข้าไปศึกษาธรรมชาติจะเป็นพื้นที่ป่าบาลาที่ครอบคลุม อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส มีพันธุ์ไม้ต่างๆ ที่หาชมได้ยาก เช่น ต้นยวน ต้นยูคาลิบตัส ต้นสยา เป็นไม้เด่นของป่าฮาลา-บาลา เพราะเป็นแหล่งทำรังที่สำคัญของนกเงือก ยังมีสัตว์ป่าหายากหลายชนิด เช่น ชะนีดำใหญ่ หรือ เซียมัง นอกจากนั้นยังมีกบทูด ซึ่งเป็นกบขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

    ผู้ที่มีความประสงค์เข้าพื้นที่เพื่อศึกษาธรรมชาติ ต้องทำหนังสือแจ้งความประสงค์ล่วงหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา ตู้ ปณ. 3 อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส หรือฝ่ายกิจการเขตรักษาพันธุ์ สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชกรุงเทพฯ โทร 0-2561-0777 ต่อ 1615 ในวันเวลาราชการ หรือเข้าชมเว็บไซต์ที่ www.dnp.go.th

    การเดินทาง สามารถขับไปตามทางหลวงหมายเลข 4057 มุ่งหน้าไปอำเภอแว้ง จนถึงบ้านบูเก๊ะตา จะมีป้ายบอกทางให้ขับต่ไปทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา
    เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าฮาลา – บาลา พื้นที่อนุรักษ์แห่งใหม่ของประเทศไทย ได้รับการจัดตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2539 เป็นแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย มีพื้นที่ 270,725 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่เขาสันกาลาคีรี ป่าฮาลาและป่าบาลาเป็นผืนป่าดงดิบที่ไม่ต่อเนื่องกัน แต่ได้รับประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเดียวกัน คือ ป่าฮาลา ในเขตอำเภอเบตง จังหวัดยะลา และอำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส แต่ส่วนที่เปิดให้ประชาชนเข้าไปศึกษาธรรมชาติจะเป็นพื้นที่ป่าบาลาที่ครอบคลุม อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส มีพันธุ์ไม้ต่างๆ ที่หาชมได้ยาก เช่น ต้นยวน ต้นยูคาลิบตัส ต้นสยา เป็นไม้เด่นของป่าฮาลา-บาลา เพราะเป็นแหล่งทำรังที่สำคัญของนกเงือก ยังมีสัตว์ป่าหายากหลายชนิด เช่น ชะนีดำใหญ่ หรือ เซียมัง นอกจากนั้นยังมีกบทูด ซึ่งเป็นกบขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ผู้ที่มีความประสงค์เข้าพื้นที่เพื่อศึกษาธรรมชาติ ต้องทำหนังสือแจ้งความประสงค์ล่วงหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา ตู้ ปณ. 3 อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส หรือฝ่ายกิจการเขตรักษาพันธุ์ สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชกรุงเทพฯ โทร 0-2561-0777 ต่อ 1615 ในวันเวลาราชการ หรือเข้าชมเว็บไซต์ที่ www.dnp.go.th การเดินทาง สามารถขับไปตามทางหลวงหมายเลข 4057 มุ่งหน้าไปอำเภอแว้ง จนถึงบ้านบูเก๊ะตา จะมีป้ายบอกทางให้ขับต่ไปทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไวรัลตามล่าลายเซ็นูปฉลามของเจ้าหน้าที่อุทยานฯบนพาสปอร์ตท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ

    3 ตุลาคม 2567-เพจประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดที่มาลายเซ็นรูปฉลามสุดไวรัล ของ นายรชพล เสถียรุจิกานนท์ หรือโฟน เจ้าหน้าที่เอราวัณสุดสร้างสรรค์ ที่หลายคนอยากมีไว้ในพาสปอร์ตท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ

    กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ กับการตามล่าลายเซ็นเจ้าหน้าที่บนพาสปอร์ต ซึ่งเป็นลวดลายสุดครีเอทเป็นรูปฉลาม

    กระแสการออกตามล่าลายเซ็นสุดสร้างสรรค์ของเจ้าหน้าที่อุทยานนี้ กำลังได้รับความนิยมใน TikTok มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ไปเที่ยวตามรอย ตามหาเจ้าหน้าที่ที่มีลายเซ็นเป็นรูปฉลาม

    สำหรับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช คนดังกล่าวประจำการอยู่ที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ รับผิดชอบงานด้านการประชาพันธ์และเผยแพร่ ชื่อ นายรชพล เสถียรุจิกานนท์ หรือโฟน

    โฟนได้ทำคลิปตอบคำถามถึงที่มาของลายเซ็นดังกล่าวว่า ไม่เคยคาดคิดว่าลายเซ็นที่ออกแบบไว้มันจะกลายเป็นไวรัลได้ ตอนแรกตั้งใจอยากจะมีลายเซ็นที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวเอง เมื่อก่อนเคยเซ็นเป็นชื่อจริงของตัวเอง คือรชพล แต่เขียน ร.เรือเป็นหัวของฉลามออกมาไม่สวย ก็เลยลองเปลี่ยนเป็นนามสกุล ซึ่งเขียนเป็นภาษาอังกฤษที่ขึ้นต้นด้วยตัว S ซึ่งมันสามารถเขียนวาดเป็นหัวฉลามได้ เริ่มมีการออกแบบมาเรื่อย ๆ เซ็นหมดกระดาษไปหลายแผ่น ตั้งใจให้มันออกมาเป็นรูปฉลามเลย เพราะเป็นสัตว์ทะเลที่ตนเองชอบมากที่สุด

    ก่อนจะมาเป็นเจ้าหน้าที่ตัวเองเคยเป็นนักดำน้ำมาก่อน ชื่นชอบทะเล มีความรู้สึกผูกพันกับทะเลด้วยความที่เราชอบฉลามเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย ก็เลยทำให้อยากออกแบบ Signature ของตัวเอง สิ่งที่มันบ่งบอกความเป็นตัวเรานั่นก็คือลายเซ็น และลายเซ็นที่เซ็นออกมามันจะต้องกลายเป็นรูปฉลามให้ได้ นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมถึงเซ็นให้เป็นรูปฉลาม

    ใครอยากได้ลายเซ็นเท่ๆแบบนี้ โฟนจึงเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวอุทยานแห่งชาติกันเยอะ ๆ สามารถซื้อพาสปอร์ต และนำมาให้เจ้าหน้าที่ประทับตราและเซ็นชื่อได้เลย เห็นโฉมหน้าหล่อๆ เจ้าของลายเซ็นฉลามแล้ว ไปปักหมุดเที่ยวน้ำตก พร้อมล่าลายเซ็นที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี กัน”

    #Thaitimes
    ไวรัลตามล่าลายเซ็นูปฉลามของเจ้าหน้าที่อุทยานฯบนพาสปอร์ตท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ 3 ตุลาคม 2567-เพจประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดที่มาลายเซ็นรูปฉลามสุดไวรัล ของ นายรชพล เสถียรุจิกานนท์ หรือโฟน เจ้าหน้าที่เอราวัณสุดสร้างสรรค์ ที่หลายคนอยากมีไว้ในพาสปอร์ตท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ กับการตามล่าลายเซ็นเจ้าหน้าที่บนพาสปอร์ต ซึ่งเป็นลวดลายสุดครีเอทเป็นรูปฉลาม กระแสการออกตามล่าลายเซ็นสุดสร้างสรรค์ของเจ้าหน้าที่อุทยานนี้ กำลังได้รับความนิยมใน TikTok มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ไปเที่ยวตามรอย ตามหาเจ้าหน้าที่ที่มีลายเซ็นเป็นรูปฉลาม สำหรับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช คนดังกล่าวประจำการอยู่ที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ รับผิดชอบงานด้านการประชาพันธ์และเผยแพร่ ชื่อ นายรชพล เสถียรุจิกานนท์ หรือโฟน โฟนได้ทำคลิปตอบคำถามถึงที่มาของลายเซ็นดังกล่าวว่า ไม่เคยคาดคิดว่าลายเซ็นที่ออกแบบไว้มันจะกลายเป็นไวรัลได้ ตอนแรกตั้งใจอยากจะมีลายเซ็นที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวเอง เมื่อก่อนเคยเซ็นเป็นชื่อจริงของตัวเอง คือรชพล แต่เขียน ร.เรือเป็นหัวของฉลามออกมาไม่สวย ก็เลยลองเปลี่ยนเป็นนามสกุล ซึ่งเขียนเป็นภาษาอังกฤษที่ขึ้นต้นด้วยตัว S ซึ่งมันสามารถเขียนวาดเป็นหัวฉลามได้ เริ่มมีการออกแบบมาเรื่อย ๆ เซ็นหมดกระดาษไปหลายแผ่น ตั้งใจให้มันออกมาเป็นรูปฉลามเลย เพราะเป็นสัตว์ทะเลที่ตนเองชอบมากที่สุด ก่อนจะมาเป็นเจ้าหน้าที่ตัวเองเคยเป็นนักดำน้ำมาก่อน ชื่นชอบทะเล มีความรู้สึกผูกพันกับทะเลด้วยความที่เราชอบฉลามเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย ก็เลยทำให้อยากออกแบบ Signature ของตัวเอง สิ่งที่มันบ่งบอกความเป็นตัวเรานั่นก็คือลายเซ็น และลายเซ็นที่เซ็นออกมามันจะต้องกลายเป็นรูปฉลามให้ได้ นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมถึงเซ็นให้เป็นรูปฉลาม ใครอยากได้ลายเซ็นเท่ๆแบบนี้ โฟนจึงเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวอุทยานแห่งชาติกันเยอะ ๆ สามารถซื้อพาสปอร์ต และนำมาให้เจ้าหน้าที่ประทับตราและเซ็นชื่อได้เลย เห็นโฉมหน้าหล่อๆ เจ้าของลายเซ็นฉลามแล้ว ไปปักหมุดเที่ยวน้ำตก พร้อมล่าลายเซ็นที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี กัน” #Thaitimes
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 678 มุมมอง 0 รีวิว
  • #thaitimesข่าวท่องเที่ยว
    ☆อุทยานแห่งชาติ ถ้ำ ปลา-น้ำตกผาเสื่อ
    》》
    https://www.facebook.com/share/f5NyWhXj8zSiYnPH/?mibextid=qi2Omg
    《《
    เตรียมตัวให้พร้อม‼️
    วันที่ 1 ตุลาคม 2567
    》》"ปางอุ๋ง" เปิดแล้ว《《
    สามารถจอง พื้นที่ลานกางเต็นท์ และ เต็นท์อุทยานฯตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป ผ่านเว็บไซต์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

    https://nps.dnp.go.th

    ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ inbox เพจ หรือ โทร 082-191-1746
    ■■■■■■■■■
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    #thaitimesข่าวท่องเที่ยว ☆อุทยานแห่งชาติ ถ้ำ ปลา-น้ำตกผาเสื่อ 》》 https://www.facebook.com/share/f5NyWhXj8zSiYnPH/?mibextid=qi2Omg 《《 เตรียมตัวให้พร้อม‼️ วันที่ 1 ตุลาคม 2567 》》"ปางอุ๋ง" เปิดแล้ว《《 สามารถจอง พื้นที่ลานกางเต็นท์ และ เต็นท์อุทยานฯตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป ผ่านเว็บไซต์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช https://nps.dnp.go.th ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ inbox เพจ หรือ โทร 082-191-1746 ■■■■■■■■■ #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1320 มุมมอง 0 รีวิว
  • #thaitimesข่าวท่องเที่ยว
    25 กันยายน 2567
    📢 ประกาศอุทยานแห่งชาติภูลังกา
    🟢 เปิดการเข้าศึกษาธรรมชาติและการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูลังกา 🟢
    ตามประกาศอุทยานแห่งชาติภูลังกา ลงวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2567 เรื่อง ปิดการเข้าศึกษาธรรมชาติและการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูลังกา เป็นการชั่วคราว เนื่องจากมีฝนตกหนักปริมาณมาก ส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่
    อุทยานแห่งชาติภูลังกาเพิ่มขึ้น เกิดน้ำเชี่ยว และดินสไลด์ในบางพื้นที่ อาจส่งผลให้เกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวได้ นั้น

    บัดนี้ สถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้ว อุทยานแห่งชาติภูลังกา จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20
    แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ประกอบระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและ พันธุ์พืช ว่าด้วยการเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2563 และมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 จึงประกาศเปิดการเข้าศึกษาธรรมชาติและการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูลังกา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

    ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจะต้องอยู่ในพื้นที่ที่กำหนด และปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติอย่างเคร่งครัด ติดต่อสอบถามข้อมูลหรือข่าวสารเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติภูลังกาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 4253 0766 และเพจเฟซบุ๊ค “อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดนครพนม – Phulangka National Park Thailand”

    จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

    ประกาศ ณ วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2567
    ■เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/4cSoGfwqu9ZeoLyn/?mibextid=qi2Omg
    ■■■■■
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney #อุทยานแห่งชาติภูลังกา
    #thaitimesข่าวท่องเที่ยว 25 กันยายน 2567 📢 ประกาศอุทยานแห่งชาติภูลังกา 🟢 เปิดการเข้าศึกษาธรรมชาติและการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูลังกา 🟢 ตามประกาศอุทยานแห่งชาติภูลังกา ลงวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2567 เรื่อง ปิดการเข้าศึกษาธรรมชาติและการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูลังกา เป็นการชั่วคราว เนื่องจากมีฝนตกหนักปริมาณมาก ส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติภูลังกาเพิ่มขึ้น เกิดน้ำเชี่ยว และดินสไลด์ในบางพื้นที่ อาจส่งผลให้เกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวได้ นั้น บัดนี้ สถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้ว อุทยานแห่งชาติภูลังกา จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ประกอบระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและ พันธุ์พืช ว่าด้วยการเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2563 และมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 จึงประกาศเปิดการเข้าศึกษาธรรมชาติและการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูลังกา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจะต้องอยู่ในพื้นที่ที่กำหนด และปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติอย่างเคร่งครัด ติดต่อสอบถามข้อมูลหรือข่าวสารเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติภูลังกาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 4253 0766 และเพจเฟซบุ๊ค “อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดนครพนม – Phulangka National Park Thailand” จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2567 ■เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/4cSoGfwqu9ZeoLyn/?mibextid=qi2Omg ■■■■■ #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney #อุทยานแห่งชาติภูลังกา
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1051 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประกาศ ณ วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2567
    📢 ประกาศอุทยานแห่งชาติภูลังกา จ.นคพนม
    ❌ ปิดการเข้าศึกษาธรรมชาติและการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูลังกา เป็นการชั่วคราว ❌

    ด้วยสถานการณ์ในช่วงปัจจุบันมีฝนตกหนักปริมาณมาก ส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่
    อุทยานแห่งชาติภูลังกาเพิ่มขึ้น เกิดน้ำเชี่ยว และดินสไลด์ในบางพื้นที่ อาจส่งผลให้เกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวได้

    อุทยานแห่งชาติภูลังกา พิจารณาแล้ว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20
    แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ประกอบระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและ พันธุ์พืช ว่าด้วยการเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2563 และมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 จึงประกาศปิดการเข้าศึกษาธรรมชาติและการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูลังกา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

    ทั้งนี้ สามารถติดต่อราชการได้ตามปกติ และสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลหรือข่าวสารเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติภูลังกาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 4253 0766 และเพจเฟซบุ๊ค “อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดนครพนม – Phulangka National Park Thailand”

    จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
    ■■■■■■■■■■■
    #thaitimes #thaitimesข่าวด่วนท่องเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney #ข่าวด่วน #อุทยานแห่งชาติภูลังกา #นครพนม
    ประกาศ ณ วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2567 📢 ประกาศอุทยานแห่งชาติภูลังกา จ.นคพนม ❌ ปิดการเข้าศึกษาธรรมชาติและการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูลังกา เป็นการชั่วคราว ❌ ด้วยสถานการณ์ในช่วงปัจจุบันมีฝนตกหนักปริมาณมาก ส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติภูลังกาเพิ่มขึ้น เกิดน้ำเชี่ยว และดินสไลด์ในบางพื้นที่ อาจส่งผลให้เกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวได้ อุทยานแห่งชาติภูลังกา พิจารณาแล้ว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ประกอบระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและ พันธุ์พืช ว่าด้วยการเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2563 และมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 จึงประกาศปิดการเข้าศึกษาธรรมชาติและการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูลังกา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ สามารถติดต่อราชการได้ตามปกติ และสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลหรือข่าวสารเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติภูลังกาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 4253 0766 และเพจเฟซบุ๊ค “อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดนครพนม – Phulangka National Park Thailand” จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ■■■■■■■■■■■ #thaitimes #thaitimesข่าวด่วนท่องเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney #ข่าวด่วน #อุทยานแห่งชาติภูลังกา #นครพนม
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1129 มุมมอง 0 รีวิว
  • โครงการปรับปรุงถนนเส้นทางภูทับเบิก – บ้านนาสะอุ้ง – บ้านหมากแข้ง
    กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก เกี่ยวกับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องปัญหาของเส้นทางสัญจรช่วง ภูทับเบิก - บ้านนาสะอุ้ง - บ้านหมากแข้ง ที่มีความชำรุดเสียหายมาเป็นเวลานานทำให้ยากลำบากในการเดินทาง โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝนทำให้เส้นทางดังกล่าวไม่สามารถสัญจรได้ นอกจากนี้ยังเป็นเส้นทางที่ใช้ในการเดินทางท่องเที่ยว จากบ้านภูทับเบิก �อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ไปยังอุทยานเทิดพระเกียรติบ้านหมากแข้ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย โดยปัจจุบันต้องใช้เวลาในการเดินทางถึง 2 ชั่วโมง

    ในการนี้ ผบ.ทบ. จึงมีนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยกองทัพบกได้ดำเนินโครงการปรับปรุงเส้นทางภูทับเบิก - บ.นาสะอุ้ง - บ.หมากแข้ง ร่วมกับกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และขอรับการสนับสนุนงบประมาณบางส่วนจากภาคเอกชนและประชาชนจิตอาสา กองทัพบกมอบให้กองทัพภาคที่ 3 โดยกองพลพัฒนาที่ 3 ดำเนินการส่งทหารช่างพร้อมยุทโธปกรณ์ ปรับปรุงเส้นทางตั้งแต่วัดป่าภูทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ถึง บ้านหมากแข้ง ต.กกสะทอน �อ.ด่านซ้าย ระยะทาง 14.2 กม. เริ่มดำเนินการตั้งแต่ ก.พ.-พ.ค.67

    การดำเนินการโครงการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการสัญจรและใช้เส้นทางขนส่งผลผลิตทางการเกษตรและอื่น ๆ อำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ภาครัฐใช้เป็นเส้นทางในการดูแลรักษาป่าและสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ ให้มีความสะดวกมากขึ้นเพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลสร้างขวัญกำลังใจให้แก่กำลังพลของกองทัพบก และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งเป็นการแสดงความจงรักภักดีตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อกองทัพบกและปวงชนซาวไทย

    #สยามโสภา #สื่อมวลชน #ปรับปรุงถนน #บ้านหมากแข้ง #ภูทับเบิก #เลย #กองทัพบก #thaitimes #thaitimesสยามโสภา
    โครงการปรับปรุงถนนเส้นทางภูทับเบิก – บ้านนาสะอุ้ง – บ้านหมากแข้ง กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก เกี่ยวกับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องปัญหาของเส้นทางสัญจรช่วง ภูทับเบิก - บ้านนาสะอุ้ง - บ้านหมากแข้ง ที่มีความชำรุดเสียหายมาเป็นเวลานานทำให้ยากลำบากในการเดินทาง โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝนทำให้เส้นทางดังกล่าวไม่สามารถสัญจรได้ นอกจากนี้ยังเป็นเส้นทางที่ใช้ในการเดินทางท่องเที่ยว จากบ้านภูทับเบิก �อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ไปยังอุทยานเทิดพระเกียรติบ้านหมากแข้ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย โดยปัจจุบันต้องใช้เวลาในการเดินทางถึง 2 ชั่วโมง ในการนี้ ผบ.ทบ. จึงมีนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยกองทัพบกได้ดำเนินโครงการปรับปรุงเส้นทางภูทับเบิก - บ.นาสะอุ้ง - บ.หมากแข้ง ร่วมกับกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และขอรับการสนับสนุนงบประมาณบางส่วนจากภาคเอกชนและประชาชนจิตอาสา กองทัพบกมอบให้กองทัพภาคที่ 3 โดยกองพลพัฒนาที่ 3 ดำเนินการส่งทหารช่างพร้อมยุทโธปกรณ์ ปรับปรุงเส้นทางตั้งแต่วัดป่าภูทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ถึง บ้านหมากแข้ง ต.กกสะทอน �อ.ด่านซ้าย ระยะทาง 14.2 กม. เริ่มดำเนินการตั้งแต่ ก.พ.-พ.ค.67 การดำเนินการโครงการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการสัญจรและใช้เส้นทางขนส่งผลผลิตทางการเกษตรและอื่น ๆ อำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ภาครัฐใช้เป็นเส้นทางในการดูแลรักษาป่าและสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ ให้มีความสะดวกมากขึ้นเพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลสร้างขวัญกำลังใจให้แก่กำลังพลของกองทัพบก และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งเป็นการแสดงความจงรักภักดีตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อกองทัพบกและปวงชนซาวไทย #สยามโสภา #สื่อมวลชน #ปรับปรุงถนน #บ้านหมากแข้ง #ภูทับเบิก #เลย #กองทัพบก #thaitimes #thaitimesสยามโสภา
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 934 มุมมอง 213 0 รีวิว
  • ถ้ำหลวง - อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน

    สถานที่ท่องเที่ยวในเขตอุทยานฯ ได้แก่ - ถ้ำหลวง เป็นถ้ำที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำใต้ดินเป็นเวลานาน มีขนาดใหญ่และลึกมากเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย มีความยาว 10.3 กิโลเมตร มีความสูงโดยเฉลี่ย 779 เมตร และลาดชันมาทางทิศตะวันออก ปากถ้ำเป็นโถงกว้างและสูงกว่าโถงถ้ำแรก ภายในถ้ำมีเกล็ดหินสะท้อนแสง หินงอกหินย้อย ธารน้ำถ้ำลอด และถ้ำแขนง แนวโถงถ้ำมีเส้นทางคดเคี้ยว บางช่วงเข้าถึงง่าย บางช่วงมีเพดานต่ำ นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่แสดงถึงวิวัฒนาการของถ้ำจำนวนมาก เช่น รอยการไหลของน้ำเป็นริ้วคลื่น ระดับพื้นถ้ำเก่า หินถล่มขนาดใหญ่และเล็กจำนวนมาก รอยแตกแบบมีแรงดึง รอยระดับน้ำหลุมยุบ โพรงเพดานถ้ำและรอยแตกของผนัง เปิดให้เข้าชมในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน ปัจจุบันหลังจากเกิดเหตุการณ์เด็กติดในถ้ำได้งดการเข้าชมถ้ำภายในไว้ก่อน โดยสามารถเข้าชมได้บริเวณปากโถงถ้ำเท่านั้น - ถ้ำพระ เป็นถ้ำขนาดเล็ก

    ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ มีหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตา อากาศบริเวณปากถ้ำเย็นสบาย - ถ้ำพญานาค เป็นถ้ำขนาดเล็ก อยู่ใต้หน้าผาบนภูเขา ภายในถ้ำมีหินงอกขนาดใหญ่คล้ายงูแผ่แม่เบี้ย สูง 2.5 เมตร อยู่ตรงบริเวณปากถ้ำ - ถ้ำเลียงผาเป็นถ้ำที่เกิดจากการยุบตัวของแผ่นดิน จึงทำให้เกิดลักษณะที่เป็นเวิ้ง มีหุบเหวล้อมรอบ กว้างประมาณ 80 เมตร สูงประมาณ 30 เมตร บริเวณถ้ำยังพบฟอสซิลหอยฝาเดียวและหอยสองฝาอายุหลายร้อยล้านปี ในอดีตเลียงผาบนภูเขาจะลงมากินน้ำฝนที่ไหลลงมาขังภายในถ้ำจึงเป็นที่มาของชื่อ “ถ้ำเลียงผา” - ขุนน้ำนางนอน อยู่ห่างจากถ้ำหลวง 2 กิโลเมตร มีธรรมชาติที่สวยงามร่มรื่น มีบึงน้ำจืดขนาดเล็ก บนหน้าผาเหนือบึงน้ำยังเป็นที่ตั้งของถ้ำทรายทอง ซึ่งยังไม่มีการสำรวจภายใน สอบถามข้อมูล อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน โทร. 0 5371 4914 และ 08 0792 5095 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร. 0 2562 0760 เว็บไซต์ www.dnp.go.th

    #อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน
    #ท่องเที่ยว
    ถ้ำหลวง - อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน สถานที่ท่องเที่ยวในเขตอุทยานฯ ได้แก่ - ถ้ำหลวง เป็นถ้ำที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำใต้ดินเป็นเวลานาน มีขนาดใหญ่และลึกมากเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย มีความยาว 10.3 กิโลเมตร มีความสูงโดยเฉลี่ย 779 เมตร และลาดชันมาทางทิศตะวันออก ปากถ้ำเป็นโถงกว้างและสูงกว่าโถงถ้ำแรก ภายในถ้ำมีเกล็ดหินสะท้อนแสง หินงอกหินย้อย ธารน้ำถ้ำลอด และถ้ำแขนง แนวโถงถ้ำมีเส้นทางคดเคี้ยว บางช่วงเข้าถึงง่าย บางช่วงมีเพดานต่ำ นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่แสดงถึงวิวัฒนาการของถ้ำจำนวนมาก เช่น รอยการไหลของน้ำเป็นริ้วคลื่น ระดับพื้นถ้ำเก่า หินถล่มขนาดใหญ่และเล็กจำนวนมาก รอยแตกแบบมีแรงดึง รอยระดับน้ำหลุมยุบ โพรงเพดานถ้ำและรอยแตกของผนัง เปิดให้เข้าชมในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน ปัจจุบันหลังจากเกิดเหตุการณ์เด็กติดในถ้ำได้งดการเข้าชมถ้ำภายในไว้ก่อน โดยสามารถเข้าชมได้บริเวณปากโถงถ้ำเท่านั้น - ถ้ำพระ เป็นถ้ำขนาดเล็ก ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ มีหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตา อากาศบริเวณปากถ้ำเย็นสบาย - ถ้ำพญานาค เป็นถ้ำขนาดเล็ก อยู่ใต้หน้าผาบนภูเขา ภายในถ้ำมีหินงอกขนาดใหญ่คล้ายงูแผ่แม่เบี้ย สูง 2.5 เมตร อยู่ตรงบริเวณปากถ้ำ - ถ้ำเลียงผาเป็นถ้ำที่เกิดจากการยุบตัวของแผ่นดิน จึงทำให้เกิดลักษณะที่เป็นเวิ้ง มีหุบเหวล้อมรอบ กว้างประมาณ 80 เมตร สูงประมาณ 30 เมตร บริเวณถ้ำยังพบฟอสซิลหอยฝาเดียวและหอยสองฝาอายุหลายร้อยล้านปี ในอดีตเลียงผาบนภูเขาจะลงมากินน้ำฝนที่ไหลลงมาขังภายในถ้ำจึงเป็นที่มาของชื่อ “ถ้ำเลียงผา” - ขุนน้ำนางนอน อยู่ห่างจากถ้ำหลวง 2 กิโลเมตร มีธรรมชาติที่สวยงามร่มรื่น มีบึงน้ำจืดขนาดเล็ก บนหน้าผาเหนือบึงน้ำยังเป็นที่ตั้งของถ้ำทรายทอง ซึ่งยังไม่มีการสำรวจภายใน สอบถามข้อมูล อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน โทร. 0 5371 4914 และ 08 0792 5095 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร. 0 2562 0760 เว็บไซต์ www.dnp.go.th #อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน #ท่องเที่ยว
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอย้ำเป็นครั้งที่ 30 ว่า
    สำหรับชาวบ้าน กลุ่ม 1 กลุ่มสอง รวมๆหลักหมื่นไร่
    กรมอุทยาน และสปก.กำลังดำเนินการช่วยเหลือ
    แต่ตัวปัญหาคือ รีสอร์ท นายทุนกว่าหลายร้อยราย
    ที่รุกป่าไปแสนห้าหมื่นไร่นั้น มันถูกสอดไส้
    ในกฏหมายถอนทับลานจากอุทยาน
    เลิกบิดสตอรี่ มูลนิธิสืบฯที่ปกป้องผืนป่า
    ออกตัวปกป้องผืนป่า
    อย่าตะแบ็ง เพื่อนายทุน
    เพราะถ้าถามแบบนี้ คิงส์โพธิ์แดงก็ต้องตอบว่า
    #Saveทับลาน แน่นอน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ขอย้ำเป็นครั้งที่ 30 ว่า สำหรับชาวบ้าน กลุ่ม 1 กลุ่มสอง รวมๆหลักหมื่นไร่ กรมอุทยาน และสปก.กำลังดำเนินการช่วยเหลือ แต่ตัวปัญหาคือ รีสอร์ท นายทุนกว่าหลายร้อยราย ที่รุกป่าไปแสนห้าหมื่นไร่นั้น มันถูกสอดไส้ ในกฏหมายถอนทับลานจากอุทยาน เลิกบิดสตอรี่ มูลนิธิสืบฯที่ปกป้องผืนป่า ออกตัวปกป้องผืนป่า อย่าตะแบ็ง เพื่อนายทุน เพราะถ้าถามแบบนี้ คิงส์โพธิ์แดงก็ต้องตอบว่า #Saveทับลาน แน่นอน #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 354 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพมุมสูงทับลาน
    ชาวบ้านดั้งเดิม 5 หมื่นไร่
    ชาวบ้านรุกล้ำใหม่ 4 หมื่นไร่
    กรมอุทยานและสปก.ดำเนินการแก้ปัญหาให้
    แต่รีสอร์ท นายทุนรุกล้ำ แสนหกหมื่นไร่ สอดไส้ในกฎหมายที่กำลังจะถอนทับลานอย่างหน้าด้ า นๆ
    ถ้ามติครมผ่าน ออกกฏหมายถอนทับลานสำเร็จ
    แสนหกหมื่นไร่ผืนป่า จะเป็นของนายทุนอย่างถูกต้องตามกฏหมายทันที
    ภาพชัดพอมั๊ย อย่าเจาะภาพหมู่บ้านชาวบ้าน
    กล้าๆเอาภาพแสนหกหมื่นไร่ที่นายทุนบุกรุกมาออกบ้าง
    อายเค้า
    หาว่าคนนอกพื้นที่ไม่รู้จริงบ้างแหละ
    แหม่ ด้อมก็เชียร์อวยไส้ปลิ้นไม่ลืมหูลืมตา
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #saveทับลาน
    ภาพมุมสูงทับลาน ชาวบ้านดั้งเดิม 5 หมื่นไร่ ชาวบ้านรุกล้ำใหม่ 4 หมื่นไร่ กรมอุทยานและสปก.ดำเนินการแก้ปัญหาให้ แต่รีสอร์ท นายทุนรุกล้ำ แสนหกหมื่นไร่ สอดไส้ในกฎหมายที่กำลังจะถอนทับลานอย่างหน้าด้ า นๆ ถ้ามติครมผ่าน ออกกฏหมายถอนทับลานสำเร็จ แสนหกหมื่นไร่ผืนป่า จะเป็นของนายทุนอย่างถูกต้องตามกฏหมายทันที ภาพชัดพอมั๊ย อย่าเจาะภาพหมู่บ้านชาวบ้าน กล้าๆเอาภาพแสนหกหมื่นไร่ที่นายทุนบุกรุกมาออกบ้าง อายเค้า หาว่าคนนอกพื้นที่ไม่รู้จริงบ้างแหละ แหม่ ด้อมก็เชียร์อวยไส้ปลิ้นไม่ลืมหูลืมตา #คิงส์โพธิ์แดง #saveทับลาน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 406 มุมมอง 0 รีวิว
  • เลิกอ้างประมูลข้าวเก่าสร้างรายได้บนความเสี่ยง แต่รายได้กรมอุทยานก็แซงกระจุยแล้ว
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #เลิกอ้าง
    #ข้าวเก่า
    #ข้าว10ปี
    #กรมอุทยาน
    เลิกอ้างประมูลข้าวเก่าสร้างรายได้บนความเสี่ยง แต่รายได้กรมอุทยานก็แซงกระจุยแล้ว #คิงส์โพธิ์แดง #เลิกอ้าง #ข้าวเก่า #ข้าว10ปี #กรมอุทยาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 237 มุมมอง 0 รีวิว