• ข่าวเทคโนโลยี: "D7VK – สะพานเชื่อมเกม Direct3D 7 สู่โลก Linux"

    ใครที่เติบโตมากับเกมยุคปลาย 90s ถึงต้น 2000s คงจำได้ว่าหลายเกมใช้ Direct3D 7 ซึ่งปัจจุบันไม่สามารถรันบน Linux ได้โดยตรง แต่ล่าสุดมีโปรเจกต์โอเพ่นซอร์สชื่อ D7VK ที่พัฒนาโดยนักพัฒนานาม WinterSnowfall ซึ่งเคยทำ D8VK มาก่อน และตอนนี้ก็หันมาสร้างตัวแปลคำสั่ง Direct3D 7 ให้ทำงานผ่าน DXVK (Direct3D 9 → Vulkan) บน Wine

    สิ่งที่น่าสนใจคือ D7VK ไม่ได้สัญญาว่าจะทำงานได้กับทุกเกม เพราะเกมที่ผสมการเรียกใช้ DirectDraw หรือ GDI อาจมีปัญหา เช่น ภาพหาย, จอดำ, หรือเกมเด้ง แต่ก็มีบางเกมที่ทำงานได้ดี และผู้ใช้สามารถติดตามสถานะได้จากหน้า Issues บน GitHub ของโปรเจกต์

    นอกจากนี้ D7VK ยังมีฟีเจอร์เสริม เช่น HUD overlay และ การจำกัดเฟรมเรต เพื่อช่วยตรวจสอบประสิทธิภาพและแก้บั๊กกราฟิก เหมาะสำหรับนักเล่นเกมที่อยากทดสอบและช่วยพัฒนาโปรเจกต์ให้สมบูรณ์ขึ้น

    D7VK คือโปรเจกต์ใหม่สำหรับ Linux
    ใช้ Vulkan-based translation layer แปลง Direct3D 7 → Direct3D 9 → Vulkan
    ทำงานร่วมกับ Wine และ DXVK

    นักพัฒนาคือ WinterSnowfall
    เคยทำ D8VK มาก่อน และถูก merge เข้ากับ DXVK
    โปรเจกต์นี้ยังคงเปิดซอร์สและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

    ฟีเจอร์เสริม
    HUD overlay สำหรับดูข้อมูลการทำงาน
    Frame rate limiter เพื่อควบคุมประสิทธิภาพ

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ไม่รองรับทุกเกม โดยเฉพาะเกมที่ใช้ DirectDraw/GDI ร่วมกับ D3D7
    อาจเจอปัญหา texture หาย, crash, หรือจอดำ
    ยังไม่มีลิสต์เกมที่รองรับอย่างเป็นทางการ ต้องลองเอง

    https://itsfoss.com/news/play-d3d7-games-on-linux/
    🎮 ข่าวเทคโนโลยี: "D7VK – สะพานเชื่อมเกม Direct3D 7 สู่โลก Linux" ใครที่เติบโตมากับเกมยุคปลาย 90s ถึงต้น 2000s คงจำได้ว่าหลายเกมใช้ Direct3D 7 ซึ่งปัจจุบันไม่สามารถรันบน Linux ได้โดยตรง แต่ล่าสุดมีโปรเจกต์โอเพ่นซอร์สชื่อ D7VK ที่พัฒนาโดยนักพัฒนานาม WinterSnowfall ซึ่งเคยทำ D8VK มาก่อน และตอนนี้ก็หันมาสร้างตัวแปลคำสั่ง Direct3D 7 ให้ทำงานผ่าน DXVK (Direct3D 9 → Vulkan) บน Wine สิ่งที่น่าสนใจคือ D7VK ไม่ได้สัญญาว่าจะทำงานได้กับทุกเกม เพราะเกมที่ผสมการเรียกใช้ DirectDraw หรือ GDI อาจมีปัญหา เช่น ภาพหาย, จอดำ, หรือเกมเด้ง แต่ก็มีบางเกมที่ทำงานได้ดี และผู้ใช้สามารถติดตามสถานะได้จากหน้า Issues บน GitHub ของโปรเจกต์ นอกจากนี้ D7VK ยังมีฟีเจอร์เสริม เช่น HUD overlay และ การจำกัดเฟรมเรต เพื่อช่วยตรวจสอบประสิทธิภาพและแก้บั๊กกราฟิก เหมาะสำหรับนักเล่นเกมที่อยากทดสอบและช่วยพัฒนาโปรเจกต์ให้สมบูรณ์ขึ้น ✅ D7VK คือโปรเจกต์ใหม่สำหรับ Linux ➡️ ใช้ Vulkan-based translation layer แปลง Direct3D 7 → Direct3D 9 → Vulkan ➡️ ทำงานร่วมกับ Wine และ DXVK ✅ นักพัฒนาคือ WinterSnowfall ➡️ เคยทำ D8VK มาก่อน และถูก merge เข้ากับ DXVK ➡️ โปรเจกต์นี้ยังคงเปิดซอร์สและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ✅ ฟีเจอร์เสริม ➡️ HUD overlay สำหรับดูข้อมูลการทำงาน ➡️ Frame rate limiter เพื่อควบคุมประสิทธิภาพ ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ไม่รองรับทุกเกม โดยเฉพาะเกมที่ใช้ DirectDraw/GDI ร่วมกับ D3D7 ⛔ อาจเจอปัญหา texture หาย, crash, หรือจอดำ ⛔ ยังไม่มีลิสต์เกมที่รองรับอย่างเป็นทางการ ต้องลองเอง https://itsfoss.com/news/play-d3d7-games-on-linux/
    ITSFOSS.COM
    You Can Play Classic D3D7 Games on Linux With This New Project, But Don’t Expect Perfection
    A new Vulkan-based translation layer brings old Windows games to Linux.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่น่าเชื่อ! Hacker เปลี่ยนหลอดไฟราคาถูกให้กลายเป็นเซิร์ฟเวอร์ Minecraft ขนาดจิ๋ว

    นี่คือเรื่องราวสุดเจ๋งของนักพัฒนาอิสระชื่อ Vimpo ที่สามารถเปลี่ยนหลอดไฟ LED ราคาถูกจาก AliExpress ให้กลายเป็นเซิร์ฟเวอร์ Minecraft ได้สำเร็จ โดยใช้เพียงไมโครคอนโทรลเลอร์ RISC-V BL602 ที่มีแรมแค่ 276KB และรันโลกขนาด 90KB ได้อย่างน่าทึ่ง

    Vimpo เริ่มต้นด้วยการผ่าหลอดไฟ LED ออกมาอย่างระมัดระวัง แล้วถอดไมโครคอนโทรลเลอร์ BL602 ออกมา ซึ่งเป็นชิป RISC-V แบบ single-core ความเร็ว 192 MHz พร้อม RAM 276KB และ ROM 128KB จากนั้นเขาเชื่อมสายไฟเข้ากับขา I/O ของชิป และต่อเข้ากับ USB-to-serial adapter เพื่อควบคุมผ่านคอมพิวเตอร์

    แต่ความเจ๋งไม่ได้อยู่แค่ฮาร์ดแวร์ — ซอฟต์แวร์ที่ใช้คือ “Ucraft” ซึ่งเป็น implementation ของ Minecraft server ที่มีขนาดเล็กมาก โดย binary มีขนาดเพียง 46KB (หรือ 90KB หากเปิดระบบ authentication) และสามารถรองรับผู้เล่นได้สูงสุดถึง 10 คน แม้จะมีข้อจำกัดด้านฟีเจอร์เมื่อเทียบกับเซิร์ฟเวอร์ Minecraft แบบปกติ

    นี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างของการนำเกม Minecraft มาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการทดลองทางวิศวกรรมและการเขียนโปรแกรม เช่นเดียวกับที่เคยมีคนรัน Minecraft บน GPU เก่า 8MB หรือใช้โค้ด COBOL อายุ 63 ปีสร้างเซิร์ฟเวอร์ Minecraft มาก่อนหน้านี้

    หลอดไฟ LED ราคาถูกถูกดัดแปลงให้เป็นเซิร์ฟเวอร์ Minecraft
    ใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์ BL602 ที่มี RISC-V core ความเร็ว 192 MHz
    RAM เพียง 276KB และ ROM 128KB

    ซอฟต์แวร์ที่ใช้คือ Ucraft ซึ่งมีขนาดเล็กมาก
    Binary ขนาด 46KB (90KB หากเปิด authentication)
    รองรับผู้เล่นได้สูงสุด 10 คน

    การเชื่อมต่อทำผ่าน USB-to-serial adapter
    ใช้สายไฟเชื่อมขา I/O เพื่อควบคุมการเปิด/ปิดหลอดไฟ
    สร้างระบบควบคุมที่สามารถรันเซิร์ฟเวอร์ได้

    โปรเจกต์นี้เป็นตัวอย่างของการทดลองสุดล้ำในวงการ maker
    คล้ายกับโปรเจกต์ Minecraft บน GPU 8MB หรือเซิร์ฟเวอร์ COBOL
    แสดงให้เห็นว่า Minecraft กลายเป็นเครื่องมือทดลองทางวิศวกรรมที่ทรงพลัง

    เซิร์ฟเวอร์ Ucraft ยังขาดฟีเจอร์จาก Minecraft เวอร์ชันปกติ
    ไม่รองรับระบบ gameplay เต็มรูปแบบ
    เหมาะสำหรับการทดลองมากกว่าการเล่นจริง

    การใช้งานไมโครคอนโทรลเลอร์ต้องมีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์
    ต้องเข้าใจการเชื่อมต่อ I/O และการสื่อสารผ่าน serial
    ไม่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ไม่มีพื้นฐานด้านฮาร์ดแวร์

    https://www.tomshardware.com/maker-stem/microcontrollers/hardware-hacker-installs-minecraft-server-on-a-cheap-smart-lightbulb-single-192-mhz-risc-v-core-with-276kb-of-ram-enough-to-run-tiny-90k-byte-world
    💡 ไม่น่าเชื่อ! Hacker เปลี่ยนหลอดไฟราคาถูกให้กลายเป็นเซิร์ฟเวอร์ Minecraft ขนาดจิ๋ว 🕹️🔧 นี่คือเรื่องราวสุดเจ๋งของนักพัฒนาอิสระชื่อ Vimpo ที่สามารถเปลี่ยนหลอดไฟ LED ราคาถูกจาก AliExpress ให้กลายเป็นเซิร์ฟเวอร์ Minecraft ได้สำเร็จ โดยใช้เพียงไมโครคอนโทรลเลอร์ RISC-V BL602 ที่มีแรมแค่ 276KB และรันโลกขนาด 90KB ได้อย่างน่าทึ่ง Vimpo เริ่มต้นด้วยการผ่าหลอดไฟ LED ออกมาอย่างระมัดระวัง แล้วถอดไมโครคอนโทรลเลอร์ BL602 ออกมา ซึ่งเป็นชิป RISC-V แบบ single-core ความเร็ว 192 MHz พร้อม RAM 276KB และ ROM 128KB จากนั้นเขาเชื่อมสายไฟเข้ากับขา I/O ของชิป และต่อเข้ากับ USB-to-serial adapter เพื่อควบคุมผ่านคอมพิวเตอร์ แต่ความเจ๋งไม่ได้อยู่แค่ฮาร์ดแวร์ — ซอฟต์แวร์ที่ใช้คือ “Ucraft” ซึ่งเป็น implementation ของ Minecraft server ที่มีขนาดเล็กมาก โดย binary มีขนาดเพียง 46KB (หรือ 90KB หากเปิดระบบ authentication) และสามารถรองรับผู้เล่นได้สูงสุดถึง 10 คน แม้จะมีข้อจำกัดด้านฟีเจอร์เมื่อเทียบกับเซิร์ฟเวอร์ Minecraft แบบปกติ นี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างของการนำเกม Minecraft มาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการทดลองทางวิศวกรรมและการเขียนโปรแกรม เช่นเดียวกับที่เคยมีคนรัน Minecraft บน GPU เก่า 8MB หรือใช้โค้ด COBOL อายุ 63 ปีสร้างเซิร์ฟเวอร์ Minecraft มาก่อนหน้านี้ ✅ หลอดไฟ LED ราคาถูกถูกดัดแปลงให้เป็นเซิร์ฟเวอร์ Minecraft ➡️ ใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์ BL602 ที่มี RISC-V core ความเร็ว 192 MHz ➡️ RAM เพียง 276KB และ ROM 128KB ✅ ซอฟต์แวร์ที่ใช้คือ Ucraft ซึ่งมีขนาดเล็กมาก ➡️ Binary ขนาด 46KB (90KB หากเปิด authentication) ➡️ รองรับผู้เล่นได้สูงสุด 10 คน ✅ การเชื่อมต่อทำผ่าน USB-to-serial adapter ➡️ ใช้สายไฟเชื่อมขา I/O เพื่อควบคุมการเปิด/ปิดหลอดไฟ ➡️ สร้างระบบควบคุมที่สามารถรันเซิร์ฟเวอร์ได้ ✅ โปรเจกต์นี้เป็นตัวอย่างของการทดลองสุดล้ำในวงการ maker ➡️ คล้ายกับโปรเจกต์ Minecraft บน GPU 8MB หรือเซิร์ฟเวอร์ COBOL ➡️ แสดงให้เห็นว่า Minecraft กลายเป็นเครื่องมือทดลองทางวิศวกรรมที่ทรงพลัง ‼️ เซิร์ฟเวอร์ Ucraft ยังขาดฟีเจอร์จาก Minecraft เวอร์ชันปกติ ⛔ ไม่รองรับระบบ gameplay เต็มรูปแบบ ⛔ เหมาะสำหรับการทดลองมากกว่าการเล่นจริง ‼️ การใช้งานไมโครคอนโทรลเลอร์ต้องมีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์ ⛔ ต้องเข้าใจการเชื่อมต่อ I/O และการสื่อสารผ่าน serial ⛔ ไม่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ไม่มีพื้นฐานด้านฮาร์ดแวร์ https://www.tomshardware.com/maker-stem/microcontrollers/hardware-hacker-installs-minecraft-server-on-a-cheap-smart-lightbulb-single-192-mhz-risc-v-core-with-276kb-of-ram-enough-to-run-tiny-90k-byte-world
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • “BC-250 กลับมาอีกครั้ง! บอร์ดขุดคริปโตจาก APU PS5 รัน Cyberpunk 2077 ได้จริงในราคาแค่ $120”

    BC-250 ซึ่งเป็นบอร์ดขุดคริปโตที่ใช้ APU จาก PlayStation 5 กลับมาโลดแล่นอีกครั้งในตลาดมือสอง ด้วยราคาประมาณ $120 และสามารถรันเกม Cyberpunk 2077 ได้จริง แม้จะไม่มีพอร์ตแสดงผลหรือระบบเสียงก็ตาม

    BC-250 คือบอร์ดขุดคริปโตที่ใช้ชิป APU แบบเดียวกับที่อยู่ใน PlayStation 5 โดย AMD ผลิตขึ้นสำหรับการขุด Ethereum ในศูนย์ข้อมูลของบริษัทชื่อว่า CTM ซึ่งเคยมีการใช้งานในช่วงปี 2022 ก่อนที่ Ethereum จะเปลี่ยนเป็นระบบ proof-of-stake และทำให้บอร์ดเหล่านี้ถูกปลดระวาง

    ล่าสุด BC-250 กลับมาในตลาดมือสองในราคาประมาณ $120 และกลายเป็นของเล่นใหม่สำหรับนักรีโนเวตฮาร์ดแวร์ เพราะแม้จะไม่มีพอร์ต HDMI หรือระบบเสียง แต่ก็สามารถรันระบบปฏิบัติการ Linux และเกมอย่าง Cyberpunk 2077 ได้จริงผ่านการเชื่อมต่อแบบเครือข่ายและการสตรีมภาพ

    บอร์ดนี้ใช้ APU แบบ semi-custom ที่มี CPU Zen 2 แบบ 8 คอร์ และ GPU RDNA 2 พร้อมแรม GDDR6 ขนาด 16GB ซึ่งเป็นสเปกเดียวกับ PS5 แต่ไม่มีระบบจัดการพลังงานหรืออินเทอร์เฟซผู้ใช้แบบคอนโซล

    นักพัฒนาได้ทดลองติดตั้งระบบ Linux และใช้ Wine เพื่อรัน Cyberpunk 2077 โดยเชื่อมต่อกับจอผ่านระบบสตรีมภาพจากเครื่องอื่น ผลลัพธ์คือเกมสามารถรันได้ที่เฟรมเรตระดับเล่นได้จริง แม้จะไม่สมบูรณ์แบบเหมือนบน PS5

    ลักษณะของ BC-250
    ใช้ APU แบบเดียวกับ PS5 (Zen 2 + RDNA 2)
    มีแรม GDDR6 ขนาด 16GB
    ไม่มีพอร์ต HDMI หรือระบบเสียง
    ออกแบบเพื่อขุด Ethereum โดยเฉพาะ

    การนำกลับมาใช้งานใหม่
    วางขายในตลาดมือสองในราคา ~$120
    ติดตั้ง Linux และรันเกมผ่าน Wine
    ใช้การสตรีมภาพเพื่อแสดงผลบนจอ
    สามารถรัน Cyberpunk 2077 ได้จริง

    ความน่าสนใจของโปรเจกต์
    เป็นการนำฮาร์ดแวร์ระดับคอนโซลมาใช้ในรูปแบบใหม่
    เปิดโอกาสให้นักพัฒนาและนักรีโนเวตทดลองใช้งาน
    แสดงศักยภาพของ APU PS5 ในงานนอกเหนือจากเกมคอนโซล

    https://www.tomshardware.com/video-games/playstation/amds-rare-playstation-5-apu-based-bc-250-mining-board-resurfaces-for-usd120-and-can-actually-run-cyberpunk-2077
    🕹️ “BC-250 กลับมาอีกครั้ง! บอร์ดขุดคริปโตจาก APU PS5 รัน Cyberpunk 2077 ได้จริงในราคาแค่ $120” BC-250 ซึ่งเป็นบอร์ดขุดคริปโตที่ใช้ APU จาก PlayStation 5 กลับมาโลดแล่นอีกครั้งในตลาดมือสอง ด้วยราคาประมาณ $120 และสามารถรันเกม Cyberpunk 2077 ได้จริง แม้จะไม่มีพอร์ตแสดงผลหรือระบบเสียงก็ตาม BC-250 คือบอร์ดขุดคริปโตที่ใช้ชิป APU แบบเดียวกับที่อยู่ใน PlayStation 5 โดย AMD ผลิตขึ้นสำหรับการขุด Ethereum ในศูนย์ข้อมูลของบริษัทชื่อว่า CTM ซึ่งเคยมีการใช้งานในช่วงปี 2022 ก่อนที่ Ethereum จะเปลี่ยนเป็นระบบ proof-of-stake และทำให้บอร์ดเหล่านี้ถูกปลดระวาง ล่าสุด BC-250 กลับมาในตลาดมือสองในราคาประมาณ $120 และกลายเป็นของเล่นใหม่สำหรับนักรีโนเวตฮาร์ดแวร์ เพราะแม้จะไม่มีพอร์ต HDMI หรือระบบเสียง แต่ก็สามารถรันระบบปฏิบัติการ Linux และเกมอย่าง Cyberpunk 2077 ได้จริงผ่านการเชื่อมต่อแบบเครือข่ายและการสตรีมภาพ บอร์ดนี้ใช้ APU แบบ semi-custom ที่มี CPU Zen 2 แบบ 8 คอร์ และ GPU RDNA 2 พร้อมแรม GDDR6 ขนาด 16GB ซึ่งเป็นสเปกเดียวกับ PS5 แต่ไม่มีระบบจัดการพลังงานหรืออินเทอร์เฟซผู้ใช้แบบคอนโซล นักพัฒนาได้ทดลองติดตั้งระบบ Linux และใช้ Wine เพื่อรัน Cyberpunk 2077 โดยเชื่อมต่อกับจอผ่านระบบสตรีมภาพจากเครื่องอื่น ผลลัพธ์คือเกมสามารถรันได้ที่เฟรมเรตระดับเล่นได้จริง แม้จะไม่สมบูรณ์แบบเหมือนบน PS5 ✅ ลักษณะของ BC-250 ➡️ ใช้ APU แบบเดียวกับ PS5 (Zen 2 + RDNA 2) ➡️ มีแรม GDDR6 ขนาด 16GB ➡️ ไม่มีพอร์ต HDMI หรือระบบเสียง ➡️ ออกแบบเพื่อขุด Ethereum โดยเฉพาะ ✅ การนำกลับมาใช้งานใหม่ ➡️ วางขายในตลาดมือสองในราคา ~$120 ➡️ ติดตั้ง Linux และรันเกมผ่าน Wine ➡️ ใช้การสตรีมภาพเพื่อแสดงผลบนจอ ➡️ สามารถรัน Cyberpunk 2077 ได้จริง ✅ ความน่าสนใจของโปรเจกต์ ➡️ เป็นการนำฮาร์ดแวร์ระดับคอนโซลมาใช้ในรูปแบบใหม่ ➡️ เปิดโอกาสให้นักพัฒนาและนักรีโนเวตทดลองใช้งาน ➡️ แสดงศักยภาพของ APU PS5 ในงานนอกเหนือจากเกมคอนโซล https://www.tomshardware.com/video-games/playstation/amds-rare-playstation-5-apu-based-bc-250-mining-board-resurfaces-for-usd120-and-can-actually-run-cyberpunk-2077
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD’s rare PlayStation 5 APU-based BC-250 mining board resurfaces for $120 and can actually run Cyberpunk 2077
    A YouTuber managed to boot and game on AMD’s BC-250 mining board built around PS5 silicon.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • “GameTank – คอนโซล 8-bit สายพันธุ์ใหม่ ใช้ชิป 6502 คู่ ไม่พึ่ง FPGA พร้อมปลุกยุคเกมคลาสสิกในปี 2025”

    GameTank คือคอนโซลเกม 8-bit แบบโอเพ่นซอร์สที่กำลังจะเปิดตัวในปี 2025 โดยใช้ชิป 6502 สองตัวแทน FPGA หรือไมโครคอนโทรลเลอร์ พร้อมสถาปัตยกรรมใหม่หมดจดเพื่อสร้างเกมยุคใหม่ในสไตล์คลาสสิก

    ในยุคที่คอนโซลเกมเต็มไปด้วยกราฟิกระดับ 4K และระบบประมวลผลหลายคอร์ มีโปรเจกต์หนึ่งที่สวนกระแสอย่างน่าทึ่ง—GameTank จาก Clydeware ที่เลือกใช้ชิป 6502 แบบดั้งเดิมสองตัวเพื่อสร้างคอนโซล 8-bit ใหม่หมดจด โดยไม่พึ่ง FPGA หรือไมโครคอนโทรลเลอร์เลยแม้แต่นิดเดียว

    GameTank ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเล่นเกมเก่า แต่เพื่อสร้าง “ยุคใหม่ของเกม 8-bit” ด้วยสถาปัตยกรรมที่เน้นความเรียบง่ายแต่ทรงพลัง เช่น framebuffer ขนาด 128x128 พิกเซล พร้อม RAM กราฟิก 512KB ที่มากกว่าคอนโซลยุคเดียวกันหลายเท่า

    ชิป W65C02S ตัวแรกทำหน้าที่เป็น CPU ความเร็ว 3.5 MHz ส่วนอีกตัวทำหน้าที่ประมวลผลเสียงที่ 14 MHz พร้อม RAM 4KB และอัตราสุ่มเสียง 14 kHz นอกจากนี้ยังมี Blitter สำหรับเร่งการคัดลอกภาพ ทำให้การเคลื่อนไหวบนจอภาพลื่นไหลกว่าคอนโซล 8-bit ยุคก่อน

    คอนโซลนี้ใช้คาร์ทริดจ์แบบใหม่ที่มี USB-C สำหรับแฟลช ROM และมีพอร์ตขยายด้านหลังสำหรับ GPIO และสัญญาณระบบอื่น ๆ นักพัฒนาสามารถใช้ SDK ที่รองรับ CC65 หรือเครื่องมือใดก็ได้ที่สามารถสร้าง assembly สำหรับ 6502

    สถาปัตยกรรมของ GameTank
    ใช้ชิป W65C02S สองตัว—CPU และ Audio
    CPU ความเร็ว 3.5 MHz / Audio 14 MHz
    Framebuffer 128x128 พิกเซล
    RAM กราฟิก 512KB / RAM ระบบ 32KB
    มี Blitter สำหรับเร่งการคัดลอกภาพ
    วิดีโอออกทาง NTSC composite RCA

    การออกแบบเพื่อเกมใหม่
    ไม่รองรับเกมจาก NES หรือ Apple II
    สร้างระบบใหม่เพื่อเกม 8-bit ยุคใหม่
    ใช้คาร์ทริดจ์แบบ custom พร้อม USB-C
    มีพอร์ตขยาย GPIO สำหรับนักพัฒนา

    เครื่องมือสำหรับนักพัฒนา
    รองรับ SDK ที่ใช้ CC65
    รองรับ toolchain ที่สร้าง assembly สำหรับ 6502
    มี emulator บน GitHub สำหรับทดสอบเกม

    ความท้าทายในการพัฒนาเกม
    ต้องเขียน assembly หรือใช้ compiler เฉพาะ
    ไม่สามารถนำเกมเก่ามาเล่นได้โดยตรง
    ต้องเข้าใจสถาปัตยกรรมใหม่ของ GameTank

    ข้อจำกัดของระบบ
    ความละเอียดจอภาพต่ำเมื่อเทียบกับยุคปัจจุบัน
    ไม่มีระบบเชื่อมต่อ HDMI หรือไร้สาย
    ใช้คอนโทรลเลอร์แบบสายเท่านั้น

    https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/clean-sheet-open-source-8-bit-console-surprisingly-preparing-for-launch-in-2025-the-gametank-uses-twin-6502-processors-instead-of-fpgas-or-microcontrollers
    🕹️ “GameTank – คอนโซล 8-bit สายพันธุ์ใหม่ ใช้ชิป 6502 คู่ ไม่พึ่ง FPGA พร้อมปลุกยุคเกมคลาสสิกในปี 2025” GameTank คือคอนโซลเกม 8-bit แบบโอเพ่นซอร์สที่กำลังจะเปิดตัวในปี 2025 โดยใช้ชิป 6502 สองตัวแทน FPGA หรือไมโครคอนโทรลเลอร์ พร้อมสถาปัตยกรรมใหม่หมดจดเพื่อสร้างเกมยุคใหม่ในสไตล์คลาสสิก ในยุคที่คอนโซลเกมเต็มไปด้วยกราฟิกระดับ 4K และระบบประมวลผลหลายคอร์ มีโปรเจกต์หนึ่งที่สวนกระแสอย่างน่าทึ่ง—GameTank จาก Clydeware ที่เลือกใช้ชิป 6502 แบบดั้งเดิมสองตัวเพื่อสร้างคอนโซล 8-bit ใหม่หมดจด โดยไม่พึ่ง FPGA หรือไมโครคอนโทรลเลอร์เลยแม้แต่นิดเดียว GameTank ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเล่นเกมเก่า แต่เพื่อสร้าง “ยุคใหม่ของเกม 8-bit” ด้วยสถาปัตยกรรมที่เน้นความเรียบง่ายแต่ทรงพลัง เช่น framebuffer ขนาด 128x128 พิกเซล พร้อม RAM กราฟิก 512KB ที่มากกว่าคอนโซลยุคเดียวกันหลายเท่า ชิป W65C02S ตัวแรกทำหน้าที่เป็น CPU ความเร็ว 3.5 MHz ส่วนอีกตัวทำหน้าที่ประมวลผลเสียงที่ 14 MHz พร้อม RAM 4KB และอัตราสุ่มเสียง 14 kHz นอกจากนี้ยังมี Blitter สำหรับเร่งการคัดลอกภาพ ทำให้การเคลื่อนไหวบนจอภาพลื่นไหลกว่าคอนโซล 8-bit ยุคก่อน คอนโซลนี้ใช้คาร์ทริดจ์แบบใหม่ที่มี USB-C สำหรับแฟลช ROM และมีพอร์ตขยายด้านหลังสำหรับ GPIO และสัญญาณระบบอื่น ๆ นักพัฒนาสามารถใช้ SDK ที่รองรับ CC65 หรือเครื่องมือใดก็ได้ที่สามารถสร้าง assembly สำหรับ 6502 ✅ สถาปัตยกรรมของ GameTank ➡️ ใช้ชิป W65C02S สองตัว—CPU และ Audio ➡️ CPU ความเร็ว 3.5 MHz / Audio 14 MHz ➡️ Framebuffer 128x128 พิกเซล ➡️ RAM กราฟิก 512KB / RAM ระบบ 32KB ➡️ มี Blitter สำหรับเร่งการคัดลอกภาพ ➡️ วิดีโอออกทาง NTSC composite RCA ✅ การออกแบบเพื่อเกมใหม่ ➡️ ไม่รองรับเกมจาก NES หรือ Apple II ➡️ สร้างระบบใหม่เพื่อเกม 8-bit ยุคใหม่ ➡️ ใช้คาร์ทริดจ์แบบ custom พร้อม USB-C ➡️ มีพอร์ตขยาย GPIO สำหรับนักพัฒนา ✅ เครื่องมือสำหรับนักพัฒนา ➡️ รองรับ SDK ที่ใช้ CC65 ➡️ รองรับ toolchain ที่สร้าง assembly สำหรับ 6502 ➡️ มี emulator บน GitHub สำหรับทดสอบเกม ‼️ ความท้าทายในการพัฒนาเกม ⛔ ต้องเขียน assembly หรือใช้ compiler เฉพาะ ⛔ ไม่สามารถนำเกมเก่ามาเล่นได้โดยตรง ⛔ ต้องเข้าใจสถาปัตยกรรมใหม่ของ GameTank ‼️ ข้อจำกัดของระบบ ⛔ ความละเอียดจอภาพต่ำเมื่อเทียบกับยุคปัจจุบัน ⛔ ไม่มีระบบเชื่อมต่อ HDMI หรือไร้สาย ⛔ ใช้คอนโทรลเลอร์แบบสายเท่านั้น https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/clean-sheet-open-source-8-bit-console-surprisingly-preparing-for-launch-in-2025-the-gametank-uses-twin-6502-processors-instead-of-fpgas-or-microcontrollers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • “TinyGPU v2.0 – GPU ขนาดจิ๋วที่สุดในโลก พร้อมผลิตจริงแล้ว! เรนเดอร์ภาพ 3D ได้แบบเรียลไทม์”

    TinyGPU v2.0 คือชิปกราฟิกขนาดเล็กที่สุดในโลกที่กำลังเข้าสู่สายการผลิตจริง โดยมีเพียง 200,000 ทรานซิสเตอร์ แต่สามารถเรนเดอร์ภาพ 3D ที่ควบคุมด้วยจอยเกมได้แบบเรียลไทม์ถึง 1,000 รูปสามเหลี่ยมต่อเฟรม!

    TinyGPU v2.0 เป็นโปรเจกต์สุดล้ำจากนักพัฒนาชื่อ James Stanley ที่ออกแบบ GPU ขนาดเล็กที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยใช้เพียง 200,000 ทรานซิสเตอร์ ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับ GPU สมัยใหม่ที่มีหลายพันล้านทรานซิสเตอร์

    แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ TinyGPU v2.0 สามารถเรนเดอร์ภาพ 3D แบบเรียลไทม์ได้ถึง 1,000 รูปสามเหลี่ยมต่อเฟรม และรองรับการควบคุมผ่านจอยเกม ทำให้สามารถแสดงภาพเคลื่อนไหวแบบโต้ตอบได้อย่างน่าทึ่ง

    ชิปนี้ถูกออกแบบให้ทำงานแบบ “bare metal” โดยไม่ต้องใช้ระบบปฏิบัติการหรือไดรเวอร์ใด ๆ และสามารถเชื่อมต่อกับจอภาพผ่าน VGA ได้โดยตรง ซึ่งเหมาะกับการเรียนรู้พื้นฐานของกราฟิกคอมพิวเตอร์และการออกแบบฮาร์ดแวร์

    TinyGPU v2.0 ยังสามารถประมวลผลภาพแบบ perspective-correct texture mapping และ shading ได้ในระดับพื้นฐาน ถือเป็นก้าวสำคัญของการออกแบบ GPU แบบ open-source ที่เน้นความเรียบง่ายและการศึกษา

    TinyGPU v2.0 คืออะไร
    GPU ขนาดเล็กที่สุดในโลก
    มีเพียง 200,000 ทรานซิสเตอร์
    เรนเดอร์ภาพ 3D ได้ถึง 1,000 รูปสามเหลี่ยมต่อเฟรม
    รองรับการควบคุมผ่านจอยเกม

    ความสามารถของชิป
    ทำงานแบบ bare metal โดยไม่ต้องใช้ OS
    เชื่อมต่อกับจอภาพผ่าน VGA โดยตรง
    รองรับ texture mapping และ shading แบบพื้นฐาน
    ใช้สำหรับการศึกษาและทดลองออกแบบฮาร์ดแวร์

    การเข้าสู่สายการผลิต
    เตรียมผลิตจริงในเร็ว ๆ นี้
    เปิดโอกาสให้นักพัฒนาและนักเรียนเข้าถึง GPU แบบ open-source
    มีเอกสารและโค้ดให้ศึกษาบน GitHub

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/the-worlds-tiniest-gpu-heads-to-production-200-000-200-000-transistor-tinygpu-v2-0-can-render-gamepad-manipulated-3d-images-with-up-to-1k-triangles-in-real-time
    🧠 “TinyGPU v2.0 – GPU ขนาดจิ๋วที่สุดในโลก พร้อมผลิตจริงแล้ว! เรนเดอร์ภาพ 3D ได้แบบเรียลไทม์” TinyGPU v2.0 คือชิปกราฟิกขนาดเล็กที่สุดในโลกที่กำลังเข้าสู่สายการผลิตจริง โดยมีเพียง 200,000 ทรานซิสเตอร์ แต่สามารถเรนเดอร์ภาพ 3D ที่ควบคุมด้วยจอยเกมได้แบบเรียลไทม์ถึง 1,000 รูปสามเหลี่ยมต่อเฟรม! TinyGPU v2.0 เป็นโปรเจกต์สุดล้ำจากนักพัฒนาชื่อ James Stanley ที่ออกแบบ GPU ขนาดเล็กที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยใช้เพียง 200,000 ทรานซิสเตอร์ ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับ GPU สมัยใหม่ที่มีหลายพันล้านทรานซิสเตอร์ แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ TinyGPU v2.0 สามารถเรนเดอร์ภาพ 3D แบบเรียลไทม์ได้ถึง 1,000 รูปสามเหลี่ยมต่อเฟรม และรองรับการควบคุมผ่านจอยเกม ทำให้สามารถแสดงภาพเคลื่อนไหวแบบโต้ตอบได้อย่างน่าทึ่ง ชิปนี้ถูกออกแบบให้ทำงานแบบ “bare metal” โดยไม่ต้องใช้ระบบปฏิบัติการหรือไดรเวอร์ใด ๆ และสามารถเชื่อมต่อกับจอภาพผ่าน VGA ได้โดยตรง ซึ่งเหมาะกับการเรียนรู้พื้นฐานของกราฟิกคอมพิวเตอร์และการออกแบบฮาร์ดแวร์ TinyGPU v2.0 ยังสามารถประมวลผลภาพแบบ perspective-correct texture mapping และ shading ได้ในระดับพื้นฐาน ถือเป็นก้าวสำคัญของการออกแบบ GPU แบบ open-source ที่เน้นความเรียบง่ายและการศึกษา ✅ TinyGPU v2.0 คืออะไร ➡️ GPU ขนาดเล็กที่สุดในโลก ➡️ มีเพียง 200,000 ทรานซิสเตอร์ ➡️ เรนเดอร์ภาพ 3D ได้ถึง 1,000 รูปสามเหลี่ยมต่อเฟรม ➡️ รองรับการควบคุมผ่านจอยเกม ✅ ความสามารถของชิป ➡️ ทำงานแบบ bare metal โดยไม่ต้องใช้ OS ➡️ เชื่อมต่อกับจอภาพผ่าน VGA โดยตรง ➡️ รองรับ texture mapping และ shading แบบพื้นฐาน ➡️ ใช้สำหรับการศึกษาและทดลองออกแบบฮาร์ดแวร์ ✅ การเข้าสู่สายการผลิต ➡️ เตรียมผลิตจริงในเร็ว ๆ นี้ ➡️ เปิดโอกาสให้นักพัฒนาและนักเรียนเข้าถึง GPU แบบ open-source ➡️ มีเอกสารและโค้ดให้ศึกษาบน GitHub https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/the-worlds-tiniest-gpu-heads-to-production-200-000-200-000-transistor-tinygpu-v2-0-can-render-gamepad-manipulated-3d-images-with-up-to-1k-triangles-in-real-time
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    The world's ‘tiniest GPU’ heads to production — 200,000-transistor TinyGPU v2.0 can render gamepad-manipulated 3D images with up to 1K triangles in real-time
    This standalone 25 MHz GPU outputs at 320 x 240 pixels with 4-bit color, performing 3D rasterization, transformations, and lighting.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • “D7VK มาแล้ว! เล่นเกม DX7 บน Linux ได้แล้ว (บางเกม)”

    D7VK เปิดทางเกมเก่ายุค 90s สู่ Steam Deck และ Linux! แม้ยังมีข้อจำกัด แต่เป็นก้าวสำคัญของวงการอีมูเลชัน นักพัฒนาอิสระเปิดตัว D7VK เครื่องมือแปลง DirectX 7 เป็น Vulkan ผ่าน DXVK ช่วยให้เกมเก่ายุค 1999 เล่นได้บน Steam Deck และ Linux มากขึ้น แม้ยังมีข้อจำกัดด้านความเข้ากันได้

    ในอดีต เกมที่ใช้ DirectX 7 (DX7) ซึ่งเปิดตัวในปี 1999 เช่น Counter-Strike, Deus Ex, Unreal Tournament และ FIFA 2001 มักไม่สามารถเล่นได้บนระบบปฏิบัติการ Linux เนื่องจากไม่มีเครื่องมือแปลง API ที่รองรับ DX7 โดยเฉพาะ

    แต่ตอนนี้ นักพัฒนาอิสระได้เปิดตัว D7VK ซึ่งเป็นเครื่องมือแปลง DX7 เป็น Vulkan โดยอาศัยโครงสร้างของ DXVK ที่เดิมรองรับเฉพาะ DX8 และ DX9 เท่านั้น

    D7VK ทำงานผ่านการแปลงสองชั้น:
    1️⃣ แปลงคำสั่ง DX7 เป็น DX9 โดยใช้ Wine’s DDRAW
    2️⃣ จากนั้น DXVK จะรับช่วงต่อ แปลง DX9 เป็น Vulkan

    แม้จะไม่ใช่การแปลงตรงจาก DX7 → Vulkan แต่แนวทางนี้ช่วยลดภาระการพัฒนาและใช้โค้ดจาก DXVK ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    อย่างไรก็ตาม นักพัฒนาย้ำว่า ไม่ใช่ทุกเกม DX7 จะสามารถใช้งานได้ โดยเฉพาะเกมที่ผสมการเรียกใช้ GDI หรือ DDraw รุ่นเก่า ซึ่งอาจไม่สามารถรองรับได้เลย

    D7VK คือเครื่องมือแปลง DirectX 7 เป็น Vulkan
    ใช้โครงสร้างของ DXVK และ Wine DDRAW
    ทำให้เกม DX7 เล่นได้บน Steam Deck และ Linux
    รองรับเกมยุค 1999 เช่น Counter-Strike, Deus Ex, Unreal Tournament

    แนวทางการแปลงแบบสองชั้น
    DX7 → DX9 (ผ่าน Wine DDRAW)
    DX9 → Vulkan (ผ่าน DXVK)
    ลดภาระการพัฒนาและใช้โค้ดร่วมกับ DXVK

    ความสำคัญต่อวงการเกมบน Linux
    เพิ่มจำนวนเกมเก่าที่เล่นได้บน Steam Deck
    สนับสนุนการอนุรักษ์เกมคลาสสิก
    ช่วยให้ผู้ใช้ Linux มีทางเลือกมากขึ้น

    ข้อจำกัดของ D7VK
    เกมที่ใช้ GDI หรือ DDraw รุ่นอื่นร่วมกับ DX7 อาจไม่ทำงาน
    ยังไม่รองรับ DX6 หรือเก่ากว่านั้น
    ความเข้ากันได้ขึ้นอยู่กับโครงสร้างของเกมแต่ละเกม

    https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/new-directx7-emulation-tool-brings-more-games-to-steam-deck-steamos-and-other-linux-distros-through-vulkan-with-caveats
    🎮 “D7VK มาแล้ว! เล่นเกม DX7 บน Linux ได้แล้ว (บางเกม)” D7VK เปิดทางเกมเก่ายุค 90s สู่ Steam Deck และ Linux! แม้ยังมีข้อจำกัด แต่เป็นก้าวสำคัญของวงการอีมูเลชัน นักพัฒนาอิสระเปิดตัว D7VK เครื่องมือแปลง DirectX 7 เป็น Vulkan ผ่าน DXVK ช่วยให้เกมเก่ายุค 1999 เล่นได้บน Steam Deck และ Linux มากขึ้น แม้ยังมีข้อจำกัดด้านความเข้ากันได้ ในอดีต เกมที่ใช้ DirectX 7 (DX7) ซึ่งเปิดตัวในปี 1999 เช่น Counter-Strike, Deus Ex, Unreal Tournament และ FIFA 2001 มักไม่สามารถเล่นได้บนระบบปฏิบัติการ Linux เนื่องจากไม่มีเครื่องมือแปลง API ที่รองรับ DX7 โดยเฉพาะ แต่ตอนนี้ นักพัฒนาอิสระได้เปิดตัว D7VK ซึ่งเป็นเครื่องมือแปลง DX7 เป็น Vulkan โดยอาศัยโครงสร้างของ DXVK ที่เดิมรองรับเฉพาะ DX8 และ DX9 เท่านั้น D7VK ทำงานผ่านการแปลงสองชั้น: 1️⃣ แปลงคำสั่ง DX7 เป็น DX9 โดยใช้ Wine’s DDRAW 2️⃣ จากนั้น DXVK จะรับช่วงต่อ แปลง DX9 เป็น Vulkan แม้จะไม่ใช่การแปลงตรงจาก DX7 → Vulkan แต่แนวทางนี้ช่วยลดภาระการพัฒนาและใช้โค้ดจาก DXVK ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม นักพัฒนาย้ำว่า ไม่ใช่ทุกเกม DX7 จะสามารถใช้งานได้ โดยเฉพาะเกมที่ผสมการเรียกใช้ GDI หรือ DDraw รุ่นเก่า ซึ่งอาจไม่สามารถรองรับได้เลย ✅ D7VK คือเครื่องมือแปลง DirectX 7 เป็น Vulkan ➡️ ใช้โครงสร้างของ DXVK และ Wine DDRAW ➡️ ทำให้เกม DX7 เล่นได้บน Steam Deck และ Linux ➡️ รองรับเกมยุค 1999 เช่น Counter-Strike, Deus Ex, Unreal Tournament ✅ แนวทางการแปลงแบบสองชั้น ➡️ DX7 → DX9 (ผ่าน Wine DDRAW) ➡️ DX9 → Vulkan (ผ่าน DXVK) ➡️ ลดภาระการพัฒนาและใช้โค้ดร่วมกับ DXVK ✅ ความสำคัญต่อวงการเกมบน Linux ➡️ เพิ่มจำนวนเกมเก่าที่เล่นได้บน Steam Deck ➡️ สนับสนุนการอนุรักษ์เกมคลาสสิก ➡️ ช่วยให้ผู้ใช้ Linux มีทางเลือกมากขึ้น ‼️ ข้อจำกัดของ D7VK ⛔ เกมที่ใช้ GDI หรือ DDraw รุ่นอื่นร่วมกับ DX7 อาจไม่ทำงาน ⛔ ยังไม่รองรับ DX6 หรือเก่ากว่านั้น ⛔ ความเข้ากันได้ขึ้นอยู่กับโครงสร้างของเกมแต่ละเกม https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/new-directx7-emulation-tool-brings-more-games-to-steam-deck-steamos-and-other-linux-distros-through-vulkan-with-caveats
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เมื่อกราฟิกการ์ดกลายร่างเป็นสเก็ตบอร์ด – ความบ้าระห่ำของเกมเมอร์สายโมดิฟาย”

    ลองจินตนาการว่าคุณเดินเล่นอยู่ริมถนน แล้วเห็นใครบางคนกำลังเล่นสเก็ตบอร์ดที่หน้าตาเหมือนกราฟิกการ์ดราคาแพงสุดโหด… ใช่แล้ว! นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้ Reddit นามว่า “u/ashleysaidwhat” ได้โพสต์ภาพของเขาเล่นสเก็ตบอร์ดที่ทำจากกราฟิกการ์ดรุ่น ROG Astral RTX 5080 ซึ่งมีราคาสูงถึง $1,700 หรือราวๆ 60,000 บาท!

    แต่เดี๋ยวก่อน… นี่ไม่ใช่การเอาการ์ดที่ยังใช้งานได้มาทำของเล่นนะ เพราะจากภาพที่เห็น Cooler ของการ์ดนั้นโปร่งจนมองทะลุได้ แปลว่าไม่มีแผงวงจร (PCB) อยู่ข้างใน อาจเป็นการ์ดที่เสียแล้ว หรือเป็นของปลอมที่ไม่มีชิปตั้งแต่แรกก็ได้

    แม้จะไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าเขาทำไปเพื่ออะไร แต่การเปลี่ยนของแพงให้กลายเป็นของเล่นสุดเท่ก็สะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์และความกล้าหาญของชาวเกมเมอร์สายโมดิฟาย ที่ไม่ยึดติดกับการใช้งานแบบเดิมๆ

    นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่น่าสนใจจากวงการฮาร์ดแวร์ที่เกี่ยวข้อง เช่น การ์ดปลอมที่ขายในตลาดมือสอง, การซ่อมแซมการ์ดด้วยเทคนิค BGA หรือแม้แต่การดัดแปลงการ์ดให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วยการ “ชุนต์โมดิฟาย” ซึ่งเป็นเทคนิคที่เสี่ยงแต่ได้ผลจริงในบางกรณี

    การ์ด ROG Astral RTX 5080 ถูกดัดแปลงเป็นสเก็ตบอร์ด
    ผู้ใช้ Reddit ชื่อ “u/ashleysaidwhat” เป็นผู้โพสต์ภาพ
    การ์ดไม่มี PCB อาจเป็นของเสียหรือของปลอม
    ราคาการ์ดอยู่ที่ประมาณ $1,700 ถือว่าแพงมาก
    การใช้งานเป็นสเก็ตบอร์ดดูเหมือนจะได้ผลจริง

    ความคิดสร้างสรรค์ของเกมเมอร์สายโมดิฟาย
    เปลี่ยนของไอทีให้กลายเป็นของใช้หรือของเล่น
    สะท้อนวัฒนธรรม DIY และความกล้าทดลอง

    สาระเพิ่มเติมจากวงการฮาร์ดแวร์
    มีการ์ดปลอมที่ขายในตลาดมือสองโดยไม่มีชิป
    เทคนิค BGA ใช้ซ่อมแซมการ์ดที่เสีย
    “ชุนต์โมดิฟาย” เพิ่มแรงดันไฟฟ้าให้การ์ดแรงขึ้น

    คำเตือนเกี่ยวกับการซื้อการ์ดมือสอง
    อาจเจอของปลอมที่ไม่มีชิปหรือหน่วยความจำ
    ควรตรวจสอบให้ละเอียดก่อนซื้อ

    ความเสี่ยงจากการโมดิฟายฮาร์ดแวร์
    อาจทำให้การ์ดเสียหายถาวร
    การเปลี่ยนแรงดันไฟฟ้าอาจทำให้ระบบพัง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/radical-gamer-repurposes-usd1-700-rog-atral-rtx-5080-into-a-diy-skateboard-rides-graphics-card-down-the-street-while-walking-dog
    🛹 “เมื่อกราฟิกการ์ดกลายร่างเป็นสเก็ตบอร์ด – ความบ้าระห่ำของเกมเมอร์สายโมดิฟาย” ลองจินตนาการว่าคุณเดินเล่นอยู่ริมถนน แล้วเห็นใครบางคนกำลังเล่นสเก็ตบอร์ดที่หน้าตาเหมือนกราฟิกการ์ดราคาแพงสุดโหด… ใช่แล้ว! นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้ Reddit นามว่า “u/ashleysaidwhat” ได้โพสต์ภาพของเขาเล่นสเก็ตบอร์ดที่ทำจากกราฟิกการ์ดรุ่น ROG Astral RTX 5080 ซึ่งมีราคาสูงถึง $1,700 หรือราวๆ 60,000 บาท! แต่เดี๋ยวก่อน… นี่ไม่ใช่การเอาการ์ดที่ยังใช้งานได้มาทำของเล่นนะ เพราะจากภาพที่เห็น Cooler ของการ์ดนั้นโปร่งจนมองทะลุได้ แปลว่าไม่มีแผงวงจร (PCB) อยู่ข้างใน อาจเป็นการ์ดที่เสียแล้ว หรือเป็นของปลอมที่ไม่มีชิปตั้งแต่แรกก็ได้ แม้จะไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าเขาทำไปเพื่ออะไร แต่การเปลี่ยนของแพงให้กลายเป็นของเล่นสุดเท่ก็สะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์และความกล้าหาญของชาวเกมเมอร์สายโมดิฟาย ที่ไม่ยึดติดกับการใช้งานแบบเดิมๆ นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่น่าสนใจจากวงการฮาร์ดแวร์ที่เกี่ยวข้อง เช่น การ์ดปลอมที่ขายในตลาดมือสอง, การซ่อมแซมการ์ดด้วยเทคนิค BGA หรือแม้แต่การดัดแปลงการ์ดให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วยการ “ชุนต์โมดิฟาย” ซึ่งเป็นเทคนิคที่เสี่ยงแต่ได้ผลจริงในบางกรณี ✅ การ์ด ROG Astral RTX 5080 ถูกดัดแปลงเป็นสเก็ตบอร์ด ➡️ ผู้ใช้ Reddit ชื่อ “u/ashleysaidwhat” เป็นผู้โพสต์ภาพ ➡️ การ์ดไม่มี PCB อาจเป็นของเสียหรือของปลอม ➡️ ราคาการ์ดอยู่ที่ประมาณ $1,700 ถือว่าแพงมาก ➡️ การใช้งานเป็นสเก็ตบอร์ดดูเหมือนจะได้ผลจริง ✅ ความคิดสร้างสรรค์ของเกมเมอร์สายโมดิฟาย ➡️ เปลี่ยนของไอทีให้กลายเป็นของใช้หรือของเล่น ➡️ สะท้อนวัฒนธรรม DIY และความกล้าทดลอง ✅ สาระเพิ่มเติมจากวงการฮาร์ดแวร์ ➡️ มีการ์ดปลอมที่ขายในตลาดมือสองโดยไม่มีชิป ➡️ เทคนิค BGA ใช้ซ่อมแซมการ์ดที่เสีย ➡️ “ชุนต์โมดิฟาย” เพิ่มแรงดันไฟฟ้าให้การ์ดแรงขึ้น ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับการซื้อการ์ดมือสอง ⛔ อาจเจอของปลอมที่ไม่มีชิปหรือหน่วยความจำ ⛔ ควรตรวจสอบให้ละเอียดก่อนซื้อ ‼️ ความเสี่ยงจากการโมดิฟายฮาร์ดแวร์ ⛔ อาจทำให้การ์ดเสียหายถาวร ⛔ การเปลี่ยนแรงดันไฟฟ้าอาจทำให้ระบบพัง https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/radical-gamer-repurposes-usd1-700-rog-atral-rtx-5080-into-a-diy-skateboard-rides-graphics-card-down-the-street-while-walking-dog
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Google ยอมถอย! ข้อตกลงกับ Epic เปลี่ยนโฉม Android ครั้งใหญ่ – ผู้ใช้ได้ประโยชน์เต็มๆ”

    หลังจากการต่อสู้ทางกฎหมายยาวนานหลายปีระหว่าง Google และ Epic Games ล่าสุดทั้งสองบริษัทได้บรรลุข้อตกลงที่อาจเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศของ Android อย่างสิ้นเชิง โดย Google ยอมปรับนโยบาย Play Store หลายด้าน ซึ่งจะเปิดทางให้ผู้ใช้และนักพัฒนาได้รับอิสระมากขึ้นในการเลือกวิธีชำระเงินและติดตั้งแอป

    ข้อตกลงระหว่าง Google และ Epic
    Google ยอมให้ใช้ระบบชำระเงินอื่นนอกเหนือจาก Play Billing
    นักพัฒนาสามารถใช้ลิงก์ภายนอกเพื่อรับชำระเงิน
    เปิดทางให้ติดตั้ง App Store ทางเลือกที่เข้าถึงแอปจาก Play Store ได้

    การเปลี่ยนแปลงค่าธรรมเนียม
    ค่าธรรมเนียมใหม่อยู่ที่ 9% สำหรับ subscription และแอปทั่วไป
    20% สำหรับ in-app purchase ที่ให้ข้อได้เปรียบในเกม
    หากยังใช้ Play Billing จะถูกคิดเพิ่มอีก 5%

    ผลกระทบต่อผู้ใช้ Android
    มีโอกาสจ่ายเงินน้อยลงเมื่อซื้อแอปหรือไอเทมในเกม
    ได้รับทางเลือกมากขึ้นในการติดตั้งแอปจากแหล่งอื่น
    ระบบนิเวศของ Android จะเปิดกว้างขึ้นและแข่งขันมากขึ้น

    เงื่อนไขการใช้งาน
    โมเดลค่าธรรมเนียมใหม่ใช้กับแอปที่ติดตั้งหลังเดือนตุลาคม 2025
    ข้อตกลงมีผลทั่วโลก ไม่จำกัดเฉพาะสหรัฐฯ
    รอการอนุมัติจากศาล ซึ่งคาดว่าจะผ่านในเร็วๆ นี้

    คำเตือนสำหรับนักพัฒนาและผู้ใช้
    การใช้ระบบชำระเงินภายนอกต้องผ่านการลงทะเบียนกับ Google
    App Store ทางเลือกต้องเป็น “Registered” จึงจะเข้าถึงแอปจาก Play Store ได้
    หากไม่เข้าใจเงื่อนไข อาจถูกปฏิเสธการเข้าถึงหรือถูกลบแอป

    https://www.techradar.com/phones/android/android-could-soon-change-in-a-big-way-thanks-to-the-google-and-epic-settlement-heres-what-it-means-for-you
    🤝📱 “Google ยอมถอย! ข้อตกลงกับ Epic เปลี่ยนโฉม Android ครั้งใหญ่ – ผู้ใช้ได้ประโยชน์เต็มๆ” หลังจากการต่อสู้ทางกฎหมายยาวนานหลายปีระหว่าง Google และ Epic Games ล่าสุดทั้งสองบริษัทได้บรรลุข้อตกลงที่อาจเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศของ Android อย่างสิ้นเชิง โดย Google ยอมปรับนโยบาย Play Store หลายด้าน ซึ่งจะเปิดทางให้ผู้ใช้และนักพัฒนาได้รับอิสระมากขึ้นในการเลือกวิธีชำระเงินและติดตั้งแอป ✅ ข้อตกลงระหว่าง Google และ Epic ➡️ Google ยอมให้ใช้ระบบชำระเงินอื่นนอกเหนือจาก Play Billing ➡️ นักพัฒนาสามารถใช้ลิงก์ภายนอกเพื่อรับชำระเงิน ➡️ เปิดทางให้ติดตั้ง App Store ทางเลือกที่เข้าถึงแอปจาก Play Store ได้ ✅ การเปลี่ยนแปลงค่าธรรมเนียม ➡️ ค่าธรรมเนียมใหม่อยู่ที่ 9% สำหรับ subscription และแอปทั่วไป ➡️ 20% สำหรับ in-app purchase ที่ให้ข้อได้เปรียบในเกม ➡️ หากยังใช้ Play Billing จะถูกคิดเพิ่มอีก 5% ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้ Android ➡️ มีโอกาสจ่ายเงินน้อยลงเมื่อซื้อแอปหรือไอเทมในเกม ➡️ ได้รับทางเลือกมากขึ้นในการติดตั้งแอปจากแหล่งอื่น ➡️ ระบบนิเวศของ Android จะเปิดกว้างขึ้นและแข่งขันมากขึ้น ✅ เงื่อนไขการใช้งาน ➡️ โมเดลค่าธรรมเนียมใหม่ใช้กับแอปที่ติดตั้งหลังเดือนตุลาคม 2025 ➡️ ข้อตกลงมีผลทั่วโลก ไม่จำกัดเฉพาะสหรัฐฯ ➡️ รอการอนุมัติจากศาล ซึ่งคาดว่าจะผ่านในเร็วๆ นี้ ‼️ คำเตือนสำหรับนักพัฒนาและผู้ใช้ ⛔ การใช้ระบบชำระเงินภายนอกต้องผ่านการลงทะเบียนกับ Google ⛔ App Store ทางเลือกต้องเป็น “Registered” จึงจะเข้าถึงแอปจาก Play Store ได้ ⛔ หากไม่เข้าใจเงื่อนไข อาจถูกปฏิเสธการเข้าถึงหรือถูกลบแอป https://www.techradar.com/phones/android/android-could-soon-change-in-a-big-way-thanks-to-the-google-and-epic-settlement-heres-what-it-means-for-you
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • การทดลองสุดทึ่ง: เมื่อฮาร์ดแวร์เก่าไม่ใช่อุปสรรค

    Fully Buffered ทดลองรันเกมบนซีพียูเก่าถึงสองตัว ได้แก่ Intel i7-2600K และ AMD FX-9590 โดยพบว่า i7-2600K ไม่สามารถรันเกมได้เพราะไม่มี Secure Boot แต่ FX-9590 ที่ใช้เมนบอร์ด Asus รุ่น MFA99FX Pro R2.0 ซึ่งรองรับ Secure Boot กลับสามารถรันเกมได้อย่างน่าทึ่ง

    แม้จะมีอาการหน่วงและ CPU วิ่งเต็ม 100% ตลอดเวลา แต่ก็สามารถเล่นได้จริง โดยเฉพาะเมื่อปรับความละเอียดลงเหลือ 1024x786 และเล่นในแผนที่เล็กลง

    Battlefield 6 เล่นได้บนฮาร์ดแวร์เก่า
    ใช้ AMD FX-9590 (เปิดตัวปี 2013) ร่วมกับ RX 5700 และแรม DDR3 16GB
    ได้เฟรมเรตเฉลี่ย 30–40 FPS ที่ความละเอียด 786p
    แสดงให้เห็นถึงการ Optimize ที่ยอดเยี่ยมของ Frost Engine

    ระบบป้องกันโกง Javelin Anti-Cheat
    เดิมเชื่อว่าต้องใช้ TPM และ Secure Boot
    การทดลองพบว่า แค่เปิด Secure Boot ก็เพียงพอ
    Intel i7-2600K ที่ไม่มี Secure Boot ไม่สามารถรันเกมได้

    ประสิทธิภาพของระบบ
    CPU วิ่งเต็ม 100% ตลอดเวลา
    GPU ใช้งานเพียง 25% แสดงถึงอาการคอขวดจาก CPU
    การลดความละเอียดและขนาดแผนที่ช่วยเพิ่ม FPS ได้

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้ที่อยากลองทำตาม
    แม้จะเล่นได้ แต่ประสบการณ์อาจไม่ลื่นไหลในแผนที่ใหญ่
    การใช้งาน CPU เต็ม 100% อาจทำให้เครื่องร้อนจัดและเสี่ยงต่ออายุการใช้งาน
    ไม่แนะนำสำหรับการเล่นระยะยาวหรือแข่งขันจริง

    https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/youtuber-gets-battlefield-6-running-on-12-year-old-amd-fx-9590-cpu-playable-at-40-fps-in-786p-with-an-rx-5700-gpu-experiment-reveals-only-secureboot-not-tpm-is-necessary-for-javelin-anti-cheat
    🧪 การทดลองสุดทึ่ง: เมื่อฮาร์ดแวร์เก่าไม่ใช่อุปสรรค Fully Buffered ทดลองรันเกมบนซีพียูเก่าถึงสองตัว ได้แก่ Intel i7-2600K และ AMD FX-9590 โดยพบว่า i7-2600K ไม่สามารถรันเกมได้เพราะไม่มี Secure Boot แต่ FX-9590 ที่ใช้เมนบอร์ด Asus รุ่น MFA99FX Pro R2.0 ซึ่งรองรับ Secure Boot กลับสามารถรันเกมได้อย่างน่าทึ่ง แม้จะมีอาการหน่วงและ CPU วิ่งเต็ม 100% ตลอดเวลา แต่ก็สามารถเล่นได้จริง โดยเฉพาะเมื่อปรับความละเอียดลงเหลือ 1024x786 และเล่นในแผนที่เล็กลง ✅ Battlefield 6 เล่นได้บนฮาร์ดแวร์เก่า ➡️ ใช้ AMD FX-9590 (เปิดตัวปี 2013) ร่วมกับ RX 5700 และแรม DDR3 16GB ➡️ ได้เฟรมเรตเฉลี่ย 30–40 FPS ที่ความละเอียด 786p ➡️ แสดงให้เห็นถึงการ Optimize ที่ยอดเยี่ยมของ Frost Engine ✅ ระบบป้องกันโกง Javelin Anti-Cheat ➡️ เดิมเชื่อว่าต้องใช้ TPM และ Secure Boot ➡️ การทดลองพบว่า แค่เปิด Secure Boot ก็เพียงพอ ➡️ Intel i7-2600K ที่ไม่มี Secure Boot ไม่สามารถรันเกมได้ ✅ ประสิทธิภาพของระบบ ➡️ CPU วิ่งเต็ม 100% ตลอดเวลา ➡️ GPU ใช้งานเพียง 25% แสดงถึงอาการคอขวดจาก CPU ➡️ การลดความละเอียดและขนาดแผนที่ช่วยเพิ่ม FPS ได้ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ที่อยากลองทำตาม ⛔ แม้จะเล่นได้ แต่ประสบการณ์อาจไม่ลื่นไหลในแผนที่ใหญ่ ⛔ การใช้งาน CPU เต็ม 100% อาจทำให้เครื่องร้อนจัดและเสี่ยงต่ออายุการใช้งาน ⛔ ไม่แนะนำสำหรับการเล่นระยะยาวหรือแข่งขันจริง https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/youtuber-gets-battlefield-6-running-on-12-year-old-amd-fx-9590-cpu-playable-at-40-fps-in-786p-with-an-rx-5700-gpu-experiment-reveals-only-secureboot-not-tpm-is-necessary-for-javelin-anti-cheat
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เมื่อไมโครซอฟท์เคยขายฮาร์ดแวร์ชิ้นแรกเพื่อให้ Apple II ใช้ซอฟต์แวร์ CP/M ได้!”

    ย้อนกลับไปเมื่อ 45 ปีก่อน ไมโครซอฟท์ไม่ได้เป็นแค่บริษัทซอฟต์แวร์อย่างที่เรารู้จักกันในวันนี้ แต่เคยเปิดตัวฮาร์ดแวร์ชิ้นแรกที่ชื่อว่า Z-80 SoftCard สำหรับเครื่อง Apple II ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ยอดนิยมในยุคนั้น โดยเป้าหมายคือให้ผู้ใช้ Apple II สามารถใช้งานซอฟต์แวร์บนระบบปฏิบัติการ CP/M ได้ ซึ่งเป็นระบบที่มีซอฟต์แวร์ธุรกิจมากมายในยุคนั้น เช่น WordStar และ dBase

    Raymond Chen นักพัฒนาระดับตำนานของ Windows ได้เล่าเบื้องหลังการพัฒนา SoftCard ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะต้องทำให้ สองหน่วยประมวลผล คือ 6502 ของ Apple II และ Zilog Z80 ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น โดยไม่เกิดปัญหาด้านการสื่อสารและการจัดการหน่วยความจำ

    ที่น่าทึ่งคือ SoftCard กลายเป็น สินค้าทำเงินสูงสุดของไมโครซอฟท์ในปี 1980 แม้จะมีราคาสูงถึง $350 ซึ่งถ้าคิดเป็นเงินปัจจุบันก็ประมาณ $1,350 เลยทีเดียว!

    สาระเพิ่มเติม
    ระบบ CP/M (Control Program for Microcomputers) เคยเป็นระบบปฏิบัติการยอดนิยมก่อนที่ MS-DOS จะครองตลาด
    Zilog Z80 เป็นซีพียูที่ได้รับความนิยมสูงในยุค 70s–80s และถูกใช้ในหลายเครื่อง เช่น ZX Spectrum และ Game Boy
    Apple II เป็นหนึ่งในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ประสบความสำเร็จที่สุดในยุคแรกของวงการ

    จุดเริ่มต้นของฮาร์ดแวร์จากไมโครซอฟท์
    Z-80 SoftCard เป็นฮาร์ดแวร์ตัวแรกของบริษัท
    เปิดตัวในปี 1980 เพื่อให้ Apple II ใช้งานซอฟต์แวร์ CP/M ได้
    ใช้ซีพียู Zilog Z80 บนการ์ดเสริม

    ความสำเร็จทางธุรกิจ
    SoftCard กลายเป็นสินค้าทำเงินสูงสุดของไมโครซอฟท์ในปีเปิดตัว
    ราคาขาย $350 ในปี 1980 คิดเป็นเงินปัจจุบันประมาณ $1,350
    ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ Apple II ที่ต้องการใช้งานซอฟต์แวร์ธุรกิจ

    ความท้าทายทางเทคนิค
    ต้องทำให้ 6502 และ Z80 ทำงานร่วมกันโดยไม่ชนกัน
    ใช้เทคนิคจำลอง DMA เพื่อควบคุมการทำงานของ 6502
    มีการออกแบบวงจรแปลที่อยู่เพื่อป้องกันการชนกันของหน่วยความจำ

    วิวัฒนาการของไมโครซอฟท์ด้านฮาร์ดแวร์
    1983: Microsoft Mouse
    2001: Xbox
    2012: Surface
    2016: HoloLens
    2013: เริ่มนิยามตัวเองว่าเป็นบริษัท “ซอฟต์แวร์และอุปกรณ์”

    คำเตือนด้านเทคโนโลยีร่วมสมัย
    การทำงานร่วมกันของซีพียูต่างสถาปัตยกรรมยังคงเป็นเรื่องท้าทาย
    การจัดการหน่วยความจำระหว่างโปรเซสเซอร์ต้องระวังการชนกัน
    การจำลอง DMA อาจทำให้เกิดปัญหาด้านประสิทธิภาพหากไม่ออกแบบดี

    https://www.tomshardware.com/software/storied-windows-dev-reminisces-about-microsofts-first-hardware-product-45-years-ago-the-z-80-softcard-was-an-apple-ii-add-in-card
    🧠💾 “เมื่อไมโครซอฟท์เคยขายฮาร์ดแวร์ชิ้นแรกเพื่อให้ Apple II ใช้ซอฟต์แวร์ CP/M ได้!” ย้อนกลับไปเมื่อ 45 ปีก่อน ไมโครซอฟท์ไม่ได้เป็นแค่บริษัทซอฟต์แวร์อย่างที่เรารู้จักกันในวันนี้ แต่เคยเปิดตัวฮาร์ดแวร์ชิ้นแรกที่ชื่อว่า Z-80 SoftCard สำหรับเครื่อง Apple II ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ยอดนิยมในยุคนั้น โดยเป้าหมายคือให้ผู้ใช้ Apple II สามารถใช้งานซอฟต์แวร์บนระบบปฏิบัติการ CP/M ได้ ซึ่งเป็นระบบที่มีซอฟต์แวร์ธุรกิจมากมายในยุคนั้น เช่น WordStar และ dBase Raymond Chen นักพัฒนาระดับตำนานของ Windows ได้เล่าเบื้องหลังการพัฒนา SoftCard ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะต้องทำให้ สองหน่วยประมวลผล คือ 6502 ของ Apple II และ Zilog Z80 ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น โดยไม่เกิดปัญหาด้านการสื่อสารและการจัดการหน่วยความจำ ที่น่าทึ่งคือ SoftCard กลายเป็น สินค้าทำเงินสูงสุดของไมโครซอฟท์ในปี 1980 แม้จะมีราคาสูงถึง $350 ซึ่งถ้าคิดเป็นเงินปัจจุบันก็ประมาณ $1,350 เลยทีเดียว! 🔍 สาระเพิ่มเติม 🎗️ ระบบ CP/M (Control Program for Microcomputers) เคยเป็นระบบปฏิบัติการยอดนิยมก่อนที่ MS-DOS จะครองตลาด 🎗️ Zilog Z80 เป็นซีพียูที่ได้รับความนิยมสูงในยุค 70s–80s และถูกใช้ในหลายเครื่อง เช่น ZX Spectrum และ Game Boy 🎗️ Apple II เป็นหนึ่งในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ประสบความสำเร็จที่สุดในยุคแรกของวงการ ✅ จุดเริ่มต้นของฮาร์ดแวร์จากไมโครซอฟท์ ➡️ Z-80 SoftCard เป็นฮาร์ดแวร์ตัวแรกของบริษัท ➡️ เปิดตัวในปี 1980 เพื่อให้ Apple II ใช้งานซอฟต์แวร์ CP/M ได้ ➡️ ใช้ซีพียู Zilog Z80 บนการ์ดเสริม ✅ ความสำเร็จทางธุรกิจ ➡️ SoftCard กลายเป็นสินค้าทำเงินสูงสุดของไมโครซอฟท์ในปีเปิดตัว ➡️ ราคาขาย $350 ในปี 1980 คิดเป็นเงินปัจจุบันประมาณ $1,350 ➡️ ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ Apple II ที่ต้องการใช้งานซอฟต์แวร์ธุรกิจ ✅ ความท้าทายทางเทคนิค ➡️ ต้องทำให้ 6502 และ Z80 ทำงานร่วมกันโดยไม่ชนกัน ➡️ ใช้เทคนิคจำลอง DMA เพื่อควบคุมการทำงานของ 6502 ➡️ มีการออกแบบวงจรแปลที่อยู่เพื่อป้องกันการชนกันของหน่วยความจำ ✅ วิวัฒนาการของไมโครซอฟท์ด้านฮาร์ดแวร์ ➡️ 1983: Microsoft Mouse ➡️ 2001: Xbox ➡️ 2012: Surface ➡️ 2016: HoloLens ➡️ 2013: เริ่มนิยามตัวเองว่าเป็นบริษัท “ซอฟต์แวร์และอุปกรณ์” ‼️ คำเตือนด้านเทคโนโลยีร่วมสมัย ⛔ การทำงานร่วมกันของซีพียูต่างสถาปัตยกรรมยังคงเป็นเรื่องท้าทาย ⛔ การจัดการหน่วยความจำระหว่างโปรเซสเซอร์ต้องระวังการชนกัน ⛔ การจำลอง DMA อาจทำให้เกิดปัญหาด้านประสิทธิภาพหากไม่ออกแบบดี https://www.tomshardware.com/software/storied-windows-dev-reminisces-about-microsofts-first-hardware-product-45-years-ago-the-z-80-softcard-was-an-apple-ii-add-in-card
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Storied Windows dev reminisces about Microsoft's first hardware product 45 years ago — the Z-80 SoftCard was an Apple II add-in card
    This Apple II add-in card which enabled CP/M software compatibility would cost $1,350 today, but was Microsoft's biggest moneymaker in 1980.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • การออกแบบเกมคือการแก้ปัญหา ไม่ใช่แค่สร้างความสนุก

    Raph Koster นักออกแบบเกมระดับตำนาน ผู้เขียน “Theory of Fun” กลับมาอีกครั้งพร้อมบทความใหม่ที่สรุป “แก่นแท้ของการออกแบบเกม” ใน 12 ขั้นตอน โดยเน้นว่า การออกแบบเกมไม่ใช่เรื่องซับซ้อน แต่ต้องเข้าใจลึกถึงระบบปัญหา ที่ผู้เล่นต้องเผชิญ

    เขาเริ่มจากนิยาม “ความสนุก” ว่าไม่ใช่แค่เสียงหัวเราะหรือความบันเทิง แต่คือ การฝึกฝนและเอาชนะปัญหา เช่นเดียวกับการปีนหน้าผา หรือเล่นหมากรุก ซึ่งอาจไม่สนุกในขณะทำ แต่ให้ความรู้สึกสำเร็จหลังจากนั้น

    จากนั้น Koster พาผู้อ่านไล่เรียงตั้งแต่การสร้าง “ปัญหา” และ “ของเล่น” ไปจนถึงการออกแบบ “วงจรการเรียนรู้” ผ่านกลไกเกม การให้ “ฟีดแบ็ก” ที่ชัดเจน การเพิ่ม “ความหลากหลาย” และ “ความยาก” อย่างมีจังหวะ ไปจนถึงการเชื่อมโยงปัญหาเล็กๆ เข้าด้วยกันเป็นระบบใหญ่

    เขาย้ำว่า เกมที่ดีคือเกมที่มีความไม่แน่นอน ให้ผู้เล่นได้ทดลอง ท้าทาย และเรียนรู้ไปเรื่อยๆ โดยมี “แรงจูงใจ” ที่แตกต่างกันตามบุคลิกของผู้เล่น เช่น บางคนชอบแข่งขัน บางคนชอบสำรวจ หรือบางคนชอบร่วมมือ

    สุดท้าย Koster สรุปว่า การออกแบบเกมคือการผสมผสานศาสตร์หลายแขนง ตั้งแต่จิตวิทยา การศึกษา ไปจนถึงศิลปะการเล่าเรื่อง และไม่มีทางลัดใดๆ นอกจากการเรียนรู้จากความล้มเหลวและลงมือทำซ้ำๆ

    ความสนุกคือการแก้ปัญหา
    ไม่ใช่แค่ความบันเทิง แต่คือการฝึกฝนและเอาชนะ
    ปัญหาที่ดีต้องมีความลึกและไม่แน่นอน

    ปัญหาและของเล่นคือจุดเริ่มต้น
    ของเล่นคือระบบที่ยังไม่มีเป้าหมาย
    เกมคือของเล่นที่มีเป้าหมายให้ท้าทาย

    ความไม่แน่นอนคือหัวใจของเกม
    เกมต้องมีผลลัพธ์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้
    ยิ่งไม่แน่นอน ยิ่งมีความลึกและน่าสนใจ

    วงจรการเรียนรู้ (Loops)
    Operational loop: การทดลองและปรับกลยุทธ์
    Progression loop: การพัฒนาและท้าทายที่เพิ่มขึ้น

    ฟีดแบ็กคือเครื่องมือเรียนรู้
    ต้องบอกผู้เล่นว่าเขาทำอะไร ผลลัพธ์คืออะไร
    ฟีดแบ็กที่ดีช่วยให้ผู้เล่นเข้าใจระบบเกม

    ความหลากหลายและการไต่ระดับ
    ปัญหาเดียวกันในสถานการณ์ต่างๆ
    การเพิ่มความยากต้องมีจังหวะที่เหมาะสม

    เกมคือระบบของเกมย่อย
    เกมประกอบด้วยหลายวงจรที่เชื่อมโยงกัน
    การออกแบบระบบต้องเข้าใจการไหลของข้อมูลและผลลัพธ์

    การออกแบบระบบคือการเลือกปัญหา
    ปัญหามีหลายประเภท เช่น คณิตศาสตร์ สังคม ร่างกาย
    นักออกแบบต้องมีคลังปัญหาเพื่อสร้างเกมใหม่ๆ

    การตกแต่งคือการสร้างประสบการณ์
    การนำเสนอเปลี่ยนวิธีที่ผู้เล่นรับรู้ปัญหา
    ต้องสอดคล้องกับระบบเกม ไม่ขัดแย้งกัน

    แรงจูงใจของผู้เล่นแตกต่างกัน
    ขึ้นอยู่กับบุคลิก ประสบการณ์ และวัฒนธรรม
    ต้องเลือกปัญหาให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย

    การออกแบบเกมคือการเรียนรู้หลายศาสตร์
    ต้องเข้าใจทั้งระบบ กลไก และประสบการณ์
    ไม่มีทางลัด ต้องเรียนรู้จากความล้มเหลว

    คำเตือนสำหรับนักออกแบบเกม
    หากไม่เข้าใจทั้ง 12 ขั้นตอน เกมอาจล้มเหลว
    การออกแบบที่ซ้ำซากอาจทำให้ผู้เล่นเบื่อและละทิ้งเกม
    การเพิ่มปัญหาโดยไม่เข้าใจระบบ อาจทำให้เกมซับซ้อนเกินไปจนไม่มีใครเล่น

    https://www.raphkoster.com/2025/11/03/game-design-is-simple-actually/
    🧠 การออกแบบเกมคือการแก้ปัญหา ไม่ใช่แค่สร้างความสนุก Raph Koster นักออกแบบเกมระดับตำนาน ผู้เขียน “Theory of Fun” กลับมาอีกครั้งพร้อมบทความใหม่ที่สรุป “แก่นแท้ของการออกแบบเกม” ใน 12 ขั้นตอน โดยเน้นว่า การออกแบบเกมไม่ใช่เรื่องซับซ้อน แต่ต้องเข้าใจลึกถึงระบบปัญหา ที่ผู้เล่นต้องเผชิญ เขาเริ่มจากนิยาม “ความสนุก” ว่าไม่ใช่แค่เสียงหัวเราะหรือความบันเทิง แต่คือ การฝึกฝนและเอาชนะปัญหา เช่นเดียวกับการปีนหน้าผา หรือเล่นหมากรุก ซึ่งอาจไม่สนุกในขณะทำ แต่ให้ความรู้สึกสำเร็จหลังจากนั้น จากนั้น Koster พาผู้อ่านไล่เรียงตั้งแต่การสร้าง “ปัญหา” และ “ของเล่น” ไปจนถึงการออกแบบ “วงจรการเรียนรู้” ผ่านกลไกเกม การให้ “ฟีดแบ็ก” ที่ชัดเจน การเพิ่ม “ความหลากหลาย” และ “ความยาก” อย่างมีจังหวะ ไปจนถึงการเชื่อมโยงปัญหาเล็กๆ เข้าด้วยกันเป็นระบบใหญ่ เขาย้ำว่า เกมที่ดีคือเกมที่มีความไม่แน่นอน ให้ผู้เล่นได้ทดลอง ท้าทาย และเรียนรู้ไปเรื่อยๆ โดยมี “แรงจูงใจ” ที่แตกต่างกันตามบุคลิกของผู้เล่น เช่น บางคนชอบแข่งขัน บางคนชอบสำรวจ หรือบางคนชอบร่วมมือ สุดท้าย Koster สรุปว่า การออกแบบเกมคือการผสมผสานศาสตร์หลายแขนง ตั้งแต่จิตวิทยา การศึกษา ไปจนถึงศิลปะการเล่าเรื่อง และไม่มีทางลัดใดๆ นอกจากการเรียนรู้จากความล้มเหลวและลงมือทำซ้ำๆ ✅ ความสนุกคือการแก้ปัญหา ➡️ ไม่ใช่แค่ความบันเทิง แต่คือการฝึกฝนและเอาชนะ ➡️ ปัญหาที่ดีต้องมีความลึกและไม่แน่นอน ✅ ปัญหาและของเล่นคือจุดเริ่มต้น ➡️ ของเล่นคือระบบที่ยังไม่มีเป้าหมาย ➡️ เกมคือของเล่นที่มีเป้าหมายให้ท้าทาย ✅ ความไม่แน่นอนคือหัวใจของเกม ➡️ เกมต้องมีผลลัพธ์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ➡️ ยิ่งไม่แน่นอน ยิ่งมีความลึกและน่าสนใจ ✅ วงจรการเรียนรู้ (Loops) ➡️ Operational loop: การทดลองและปรับกลยุทธ์ ➡️ Progression loop: การพัฒนาและท้าทายที่เพิ่มขึ้น ✅ ฟีดแบ็กคือเครื่องมือเรียนรู้ ➡️ ต้องบอกผู้เล่นว่าเขาทำอะไร ผลลัพธ์คืออะไร ➡️ ฟีดแบ็กที่ดีช่วยให้ผู้เล่นเข้าใจระบบเกม ✅ ความหลากหลายและการไต่ระดับ ➡️ ปัญหาเดียวกันในสถานการณ์ต่างๆ ➡️ การเพิ่มความยากต้องมีจังหวะที่เหมาะสม ✅ เกมคือระบบของเกมย่อย ➡️ เกมประกอบด้วยหลายวงจรที่เชื่อมโยงกัน ➡️ การออกแบบระบบต้องเข้าใจการไหลของข้อมูลและผลลัพธ์ ✅ การออกแบบระบบคือการเลือกปัญหา ➡️ ปัญหามีหลายประเภท เช่น คณิตศาสตร์ สังคม ร่างกาย ➡️ นักออกแบบต้องมีคลังปัญหาเพื่อสร้างเกมใหม่ๆ ✅ การตกแต่งคือการสร้างประสบการณ์ ➡️ การนำเสนอเปลี่ยนวิธีที่ผู้เล่นรับรู้ปัญหา ➡️ ต้องสอดคล้องกับระบบเกม ไม่ขัดแย้งกัน ✅ แรงจูงใจของผู้เล่นแตกต่างกัน ➡️ ขึ้นอยู่กับบุคลิก ประสบการณ์ และวัฒนธรรม ➡️ ต้องเลือกปัญหาให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย ✅ การออกแบบเกมคือการเรียนรู้หลายศาสตร์ ➡️ ต้องเข้าใจทั้งระบบ กลไก และประสบการณ์ ➡️ ไม่มีทางลัด ต้องเรียนรู้จากความล้มเหลว ‼️ คำเตือนสำหรับนักออกแบบเกม ⛔ หากไม่เข้าใจทั้ง 12 ขั้นตอน เกมอาจล้มเหลว ⛔ การออกแบบที่ซ้ำซากอาจทำให้ผู้เล่นเบื่อและละทิ้งเกม ⛔ การเพิ่มปัญหาโดยไม่เข้าใจระบบ อาจทำให้เกมซับซ้อนเกินไปจนไม่มีใครเล่น https://www.raphkoster.com/2025/11/03/game-design-is-simple-actually/
    WWW.RAPHKOSTER.COM
    Game design is simple, actually
    So, let’s just walk through the whole thing, end to end. Here’s a twelve-step program for understanding game design. One: Fun There are a lot of things people call “fun.” But most of them are not u…
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • “โมเดอร์สุดครีเอทีฟติดตั้งรถไฟจำลองวิ่งบนการ์ดจอ – ยินดีต้อนรับสู่ ‘PCI Express to Gamesville’!”

    เรื่องเล่าที่ทั้งน่าทึ่งและน่ารักจากโลกของนักแต่งคอมพิวเตอร์! ผู้ใช้นามว่า “Beautiful-Turnip-353” ได้สร้างสรรค์ผลงานสุดแหวกแนวโดยนำรถไฟจำลองขนาดจิ๋วแบบ T-gauge มาวิ่งวนอยู่บนการ์ดจอภายในเคสคอมพิวเตอร์ของตนเอง กลายเป็นการผสมผสานระหว่างงานอดิเรกโมเดลรถไฟกับโลกของพีซีเกมมิ่งได้อย่างลงตัว

    รถไฟจำลองนี้มีขนาดเล็กมาก—รางกว้างเพียง 3 มม. และมีสเกลประมาณ 1:450 ถึง 1:500 ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับพื้นที่จำกัดบนการ์ดจอ โดยใช้ Arduino ที่เชื่อมต่อผ่าน USB เพื่อจ่ายไฟ 5V แบบ PWM ให้กับรางรถไฟ แม้ตอนนี้ยังควบคุมความเร็วได้ไม่หลากหลาย แต่ก็มีแผนจะพัฒนาให้สามารถควบคุมผ่านซอฟต์แวร์ เช่น FanControl หรือแม้กระทั่งให้รถไฟวิ่งเร็วขึ้นตามอุณหภูมิของ GPU!

    เจ้าของผลงานยังเผยว่าอยากสร้างเคสธีมรถไฟที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นในอนาคต พร้อมด้วยฉากจำลอง สัญญาณไฟ และแม้กระทั่งรถไฟไอน้ำที่มีเสียง “ชัฟฟ์ฟฟ” วิ่งรอบเคส—เรียกได้ว่าเป็นการยกระดับงานโมดิฟายพีซีไปอีกขั้น

    โมเดอร์สร้างรถไฟจำลองวิ่งบนการ์ดจอ
    ใช้รถไฟ T-gauge ขนาดเล็กที่สุดในวงการโมเดล
    รางกว้างเพียง 3 มม. สเกลประมาณ 1:450–1:500
    วางรางวนรอบการ์ดจอภายในเคสพีซี

    ระบบควบคุมรถไฟด้วย Arduino
    ใช้สัญญาณ PWM 5V ผ่านพอร์ต USB
    ควบคุมความเร็วได้จำกัดในเวอร์ชันต้นแบบ
    มีแผนพัฒนาให้ควบคุมผ่านซอฟต์แวร์ FanControl

    แนวคิดสร้างสรรค์ที่ผสานงานอดิเรกกับเทคโนโลยี
    รถไฟจำลองเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับเคส
    มีแผนเพิ่มฉากจำลอง แสงไฟ และระบบสัญญาณ
    อาจพัฒนาให้รถไฟตอบสนองต่ออุณหภูมิของพีซี

    ความท้าทายด้านพื้นที่และการติดตั้ง
    การ์ดจอมีพื้นที่จำกัด ต้องใช้รางที่โค้งแคบ
    ต้องออกแบบให้ไม่รบกวนการระบายความร้อน
    ต้องใช้ความแม่นยำในการติดตั้งรางและระบบไฟ

    https://www.tomshardware.com/desktops/pc-building/pc-modder-installs-a-working-train-set-on-top-of-their-gpu-all-aboard-the-pci-express-to-gamesville
    🚂 “โมเดอร์สุดครีเอทีฟติดตั้งรถไฟจำลองวิ่งบนการ์ดจอ – ยินดีต้อนรับสู่ ‘PCI Express to Gamesville’!” เรื่องเล่าที่ทั้งน่าทึ่งและน่ารักจากโลกของนักแต่งคอมพิวเตอร์! ผู้ใช้นามว่า “Beautiful-Turnip-353” ได้สร้างสรรค์ผลงานสุดแหวกแนวโดยนำรถไฟจำลองขนาดจิ๋วแบบ T-gauge มาวิ่งวนอยู่บนการ์ดจอภายในเคสคอมพิวเตอร์ของตนเอง กลายเป็นการผสมผสานระหว่างงานอดิเรกโมเดลรถไฟกับโลกของพีซีเกมมิ่งได้อย่างลงตัว รถไฟจำลองนี้มีขนาดเล็กมาก—รางกว้างเพียง 3 มม. และมีสเกลประมาณ 1:450 ถึง 1:500 ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับพื้นที่จำกัดบนการ์ดจอ โดยใช้ Arduino ที่เชื่อมต่อผ่าน USB เพื่อจ่ายไฟ 5V แบบ PWM ให้กับรางรถไฟ แม้ตอนนี้ยังควบคุมความเร็วได้ไม่หลากหลาย แต่ก็มีแผนจะพัฒนาให้สามารถควบคุมผ่านซอฟต์แวร์ เช่น FanControl หรือแม้กระทั่งให้รถไฟวิ่งเร็วขึ้นตามอุณหภูมิของ GPU! เจ้าของผลงานยังเผยว่าอยากสร้างเคสธีมรถไฟที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นในอนาคต พร้อมด้วยฉากจำลอง สัญญาณไฟ และแม้กระทั่งรถไฟไอน้ำที่มีเสียง “ชัฟฟ์ฟฟ” วิ่งรอบเคส—เรียกได้ว่าเป็นการยกระดับงานโมดิฟายพีซีไปอีกขั้น ✅ โมเดอร์สร้างรถไฟจำลองวิ่งบนการ์ดจอ ➡️ ใช้รถไฟ T-gauge ขนาดเล็กที่สุดในวงการโมเดล ➡️ รางกว้างเพียง 3 มม. สเกลประมาณ 1:450–1:500 ➡️ วางรางวนรอบการ์ดจอภายในเคสพีซี ✅ ระบบควบคุมรถไฟด้วย Arduino ➡️ ใช้สัญญาณ PWM 5V ผ่านพอร์ต USB ➡️ ควบคุมความเร็วได้จำกัดในเวอร์ชันต้นแบบ ➡️ มีแผนพัฒนาให้ควบคุมผ่านซอฟต์แวร์ FanControl ✅ แนวคิดสร้างสรรค์ที่ผสานงานอดิเรกกับเทคโนโลยี ➡️ รถไฟจำลองเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับเคส ➡️ มีแผนเพิ่มฉากจำลอง แสงไฟ และระบบสัญญาณ ➡️ อาจพัฒนาให้รถไฟตอบสนองต่ออุณหภูมิของพีซี ‼️ ความท้าทายด้านพื้นที่และการติดตั้ง ⛔ การ์ดจอมีพื้นที่จำกัด ต้องใช้รางที่โค้งแคบ ⛔ ต้องออกแบบให้ไม่รบกวนการระบายความร้อน ⛔ ต้องใช้ความแม่นยำในการติดตั้งรางและระบบไฟ https://www.tomshardware.com/desktops/pc-building/pc-modder-installs-a-working-train-set-on-top-of-their-gpu-all-aboard-the-pci-express-to-gamesville
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    PC modder installs a working train set on top of their GPU — All aboard the 'PCI Express' to Gamesville
    The prototype is set to be adjusted to run off a 5V PWM header for software speed control.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • Discover the ultimate gaming experience with the Matchbox9 app, your one-stop platform for fun, excitement, and rewards. Create your unique Matchbox9 ID to access exclusive games, bonuses, and special offers designed for every player. Getting started is quick and easy with seamless Matchbox 9 registration, giving you instant access to thrilling entertainment anytime, anywhere. For real-time updates, support, and exclusive promotions, stay connected through the Matchbox9 com WhatsApp Number. Join Matchbox9 today and elevate your gaming journey with speed, security, and nonstop excitement. https://matchbox9id.net/

    Discover the ultimate gaming experience with the Matchbox9 app, your one-stop platform for fun, excitement, and rewards. Create your unique Matchbox9 ID to access exclusive games, bonuses, and special offers designed for every player. Getting started is quick and easy with seamless Matchbox 9 registration, giving you instant access to thrilling entertainment anytime, anywhere. For real-time updates, support, and exclusive promotions, stay connected through the Matchbox9 com WhatsApp Number. Join Matchbox9 today and elevate your gaming journey with speed, security, and nonstop excitement. https://matchbox9id.net/
    MATCHBOX9ID.NET
    Matchbox9
    Matchbox9 is the best online sports betting and gambling platform where you can play 100 of games and earn real money every day. Win big, play safe, and enjoy top-notch entertainment. Do Matchbox9 login now!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • Experience premium online betting and casino gaming with Silver Exchange — the trusted platform for smart players and big wins! Enjoy live sports betting, casino games, and lightning-fast transactions, all under one secure system. Get started today with your Silver Exchange ID and unlock exclusive bonuses, real-time odds, and seamless gameplay designed for every level of player. Creating an account is quick and easy just Silver Exchange Create account to join thousands of active users winning daily. For the ultimate blend of excitement, reliability, and rewards, get your Silverexch ID now and take your betting experience to the next level with Silver Exchange where every play counts! https://silverexchangeid.com/
    Experience premium online betting and casino gaming with Silver Exchange — the trusted platform for smart players and big wins! Enjoy live sports betting, casino games, and lightning-fast transactions, all under one secure system. Get started today with your Silver Exchange ID and unlock exclusive bonuses, real-time odds, and seamless gameplay designed for every level of player. Creating an account is quick and easy just Silver Exchange Create account to join thousands of active users winning daily. For the ultimate blend of excitement, reliability, and rewards, get your Silverexch ID now and take your betting experience to the next level with Silver Exchange where every play counts! https://silverexchangeid.com/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sky Exchange is a trusted online gaming and betting platform offering a secure and exciting experience for players worldwide. With your unique Sky Exchange ID, you can explore a wide range of sports and casino games, including the ever-popular Sky Exchange Cricket section for live and pre-match betting. The platform operates 24/7 under Sky Exchange 247, ensuring nonstop entertainment and support. Getting started is easy with a quick Sky Exchange Sign Up and Sky Exchange Registration process that lets you access your account in minutes. For instant help or updates, contact the official Sky Exchange WhatsApp Number anytime. Whether you’re betting, playing, or exploring live games, Sky Exchange provides a trusted, fast, and thrilling experience every time. https://skyexchangeid.net/
    Sky Exchange is a trusted online gaming and betting platform offering a secure and exciting experience for players worldwide. With your unique Sky Exchange ID, you can explore a wide range of sports and casino games, including the ever-popular Sky Exchange Cricket section for live and pre-match betting. The platform operates 24/7 under Sky Exchange 247, ensuring nonstop entertainment and support. Getting started is easy with a quick Sky Exchange Sign Up and Sky Exchange Registration process that lets you access your account in minutes. For instant help or updates, contact the official Sky Exchange WhatsApp Number anytime. Whether you’re betting, playing, or exploring live games, Sky Exchange provides a trusted, fast, and thrilling experience every time. https://skyexchangeid.net/
    SKYEXCHANGEID.NET
    Sky Exchange
    Get started with Sky Exchange and Explore the world of online gaming and sports betting. Connect with us and register for your Sky Exchange ID today. Join Sky Exchange Betting app!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ดาวน์โหลดเงียบๆ” แต่พร้อมเล่นทันที — ฟีเจอร์ใหม่จาก Steam Deck

    Valve เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับ Steam Deck ที่หลายคนรอคอย: Screen-Off Downloads ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดเกมขนาดใหญ่ได้ในโหมดประหยัดพลังงาน โดยไม่ต้องเปิดหน้าจอค้างไว้ — เหมาะมากสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการปล่อยเครื่องดาวน์โหลดข้ามคืน หรือใช้งานในพื้นที่ที่มีอินเทอร์เน็ตจำกัด

    เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้:
    หาก Steam Deck กำลังชาร์จอยู่ จะเปิดโหมดดาวน์โหลดหน้าจอปิดโดยอัตโนมัติ
    หากอยู่ในโหมดแบตเตอรี่ ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานเองในเมนู Settings
    เมื่อกดปุ่ม Power ขณะดาวน์โหลด จะมีตัวเลือกให้ดำเนินการต่อแบบหน้าจอปิด
    หากแบตเตอรี่ต่ำกว่า 20% ระบบจะหยุดดาวน์โหลดและเข้าสู่โหมด Sleep เพื่อรักษาพลังงาน

    ประหยัดพลังงาน + ยืดอายุ OLED
    ฟีเจอร์นี้ไม่เพียงช่วยประหยัดแบตเตอรี่ แต่ยังช่วยลดการใช้งานหน้าจอ OLED ซึ่งมีอายุการใช้งานจำกัดเมื่อเปิดแสงต่อเนื่อง — ถือเป็นการดูแลอุปกรณ์ในระยะยาวโดยไม่ต้องเสียคุณภาพการใช้งาน

    ยังอยู่ในช่วง Beta
    ฟีเจอร์นี้ยังไม่เปิดให้ใช้งานทั่วไป ต้องเข้าร่วม Beta หรือ Preview Channel ก่อนจึงจะสามารถใช้งานได้ แต่คาดว่าจะเปิดให้ใช้งานในเวอร์ชันถัดไปเร็วๆ นี้

    ฟีเจอร์ Screen-Off Downloads บน Steam Deck
    ดาวน์โหลดเกมในโหมดหน้าจอปิด
    เปิดอัตโนมัติเมื่อชาร์จเครื่อง
    เปิดเองได้ใน Settings เมื่อใช้แบตเตอรี่

    โหมดประหยัดพลังงาน
    เข้าสู่โหมด Low-Power หลังปล่อยเครื่องไว้
    หยุดดาวน์โหลดเมื่อแบตเตอรี่ต่ำกว่า 20%

    ผลดีต่อหน้าจอ OLED
    ลดการเปิดหน้าจอค้างไว้
    ยืดอายุการใช้งานของ OLED

    การใช้งานในชีวิตจริง
    เหมาะสำหรับดาวน์โหลดเกมข้ามคืน
    ลดการรบกวนขณะเดินทางหรือใช้งานนอกบ้าน

    ข้อจำกัดของฟีเจอร์ในปัจจุบัน
    ยังไม่เปิดให้ใช้งานทั่วไป ต้องเข้าร่วม Beta หรือ Preview Channel
    ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่ารองรับ DLC และอัปเดตเกมหรือไม่

    https://www.tomshardware.com/video-games/handheld-gaming/steam-deck-introduces-screen-off-downloads-helps-preserve-oled-screen-life-users-can-now-download-large-titles-with-the-handheld-in-low-power-mode-and-have-a-new-game-ready-to-go-when-they-turn-it-on
    🎮🔋 “ดาวน์โหลดเงียบๆ” แต่พร้อมเล่นทันที — ฟีเจอร์ใหม่จาก Steam Deck Valve เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับ Steam Deck ที่หลายคนรอคอย: Screen-Off Downloads ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดเกมขนาดใหญ่ได้ในโหมดประหยัดพลังงาน โดยไม่ต้องเปิดหน้าจอค้างไว้ — เหมาะมากสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการปล่อยเครื่องดาวน์โหลดข้ามคืน หรือใช้งานในพื้นที่ที่มีอินเทอร์เน็ตจำกัด เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้: 👾 หาก Steam Deck กำลังชาร์จอยู่ จะเปิดโหมดดาวน์โหลดหน้าจอปิดโดยอัตโนมัติ 👾 หากอยู่ในโหมดแบตเตอรี่ ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานเองในเมนู Settings 👾 เมื่อกดปุ่ม Power ขณะดาวน์โหลด จะมีตัวเลือกให้ดำเนินการต่อแบบหน้าจอปิด 👾 หากแบตเตอรี่ต่ำกว่า 20% ระบบจะหยุดดาวน์โหลดและเข้าสู่โหมด Sleep เพื่อรักษาพลังงาน 🌙 ประหยัดพลังงาน + ยืดอายุ OLED ฟีเจอร์นี้ไม่เพียงช่วยประหยัดแบตเตอรี่ แต่ยังช่วยลดการใช้งานหน้าจอ OLED ซึ่งมีอายุการใช้งานจำกัดเมื่อเปิดแสงต่อเนื่อง — ถือเป็นการดูแลอุปกรณ์ในระยะยาวโดยไม่ต้องเสียคุณภาพการใช้งาน 🧪 ยังอยู่ในช่วง Beta ฟีเจอร์นี้ยังไม่เปิดให้ใช้งานทั่วไป ต้องเข้าร่วม Beta หรือ Preview Channel ก่อนจึงจะสามารถใช้งานได้ แต่คาดว่าจะเปิดให้ใช้งานในเวอร์ชันถัดไปเร็วๆ นี้ ✅ ฟีเจอร์ Screen-Off Downloads บน Steam Deck ➡️ ดาวน์โหลดเกมในโหมดหน้าจอปิด ➡️ เปิดอัตโนมัติเมื่อชาร์จเครื่อง ➡️ เปิดเองได้ใน Settings เมื่อใช้แบตเตอรี่ ✅ โหมดประหยัดพลังงาน ➡️ เข้าสู่โหมด Low-Power หลังปล่อยเครื่องไว้ ➡️ หยุดดาวน์โหลดเมื่อแบตเตอรี่ต่ำกว่า 20% ✅ ผลดีต่อหน้าจอ OLED ➡️ ลดการเปิดหน้าจอค้างไว้ ➡️ ยืดอายุการใช้งานของ OLED ✅ การใช้งานในชีวิตจริง ➡️ เหมาะสำหรับดาวน์โหลดเกมข้ามคืน ➡️ ลดการรบกวนขณะเดินทางหรือใช้งานนอกบ้าน ‼️ ข้อจำกัดของฟีเจอร์ในปัจจุบัน ⛔ ยังไม่เปิดให้ใช้งานทั่วไป ต้องเข้าร่วม Beta หรือ Preview Channel ⛔ ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่ารองรับ DLC และอัปเดตเกมหรือไม่ https://www.tomshardware.com/video-games/handheld-gaming/steam-deck-introduces-screen-off-downloads-helps-preserve-oled-screen-life-users-can-now-download-large-titles-with-the-handheld-in-low-power-mode-and-have-a-new-game-ready-to-go-when-they-turn-it-on
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Vectrex Mini” รีโทรคอนโซลสุดฮิตระดมทุนถล่มทลายในพริบตา

    ย้อนกลับไปในยุค 1980s เครื่องเกม Vectrex เคยสร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยจอ CRT แบบตั้งในตัวและกราฟิกเวกเตอร์ที่เรืองแสงเหมือนเครื่องอาร์เคด ล่าสุดโปรเจกต์ “Vectrex Mini” ได้เปิดตัวบน Kickstarter และสามารถระดมทุนทะลุเป้า €100,000 ภายในเวลาเพียง 15 นาที! ตอนนี้ยอดทะลุไปแล้วกว่า €520,000 จากผู้สนับสนุนกว่า 2,600 ราย

    จอ OLED ขนาด 5 นิ้ว — เล็กแต่ทรงพลัง?
    Vectrex Mini มาพร้อมจอ OLED ขนาด 5 นิ้ว ซึ่งแม้จะเล็กกว่าจอ CRT ขนาด 9 นิ้วของรุ่นดั้งเดิม แต่ยังคงความคมชัดและสีดำสนิทที่เป็นจุดเด่นของ OLED อย่างไรก็ตาม หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจไม่สามารถถ่ายทอด “ความเรืองแสง” ของกราฟิกเวกเตอร์แบบ CRT ได้อย่างเต็มที่

    รวม 12 เกมคลาสสิกในตัว
    เครื่องมาพร้อมเกมเวกเตอร์คลาสสิก 12 เกมในตัว รวมถึง “Mine Storm” เกมแนว Asteroids ที่เคยเป็นเกมบันเดิลในรุ่นดั้งเดิม ซึ่งยังคงสามารถถ่ายทอดเสน่ห์ของกราฟิกเวกเตอร์ให้ผู้เล่นรุ่นใหม่ได้สัมผัส

    ราคาพุ่ง — ใครช้าจ่ายแพง
    ผู้ที่สนับสนุนในช่วงแรกสามารถซื้อได้ในราคาพิเศษ:
    Founders Edition: $115 (หมดแล้ว)
    Early Bird: $150 (หมดแล้ว)
    ตอนนี้เหลือเพียง Standard Edition ที่ราคา $173

    Vectrex Mini เปิดตัวบน Kickstarter
    ระดมทุนทะลุเป้า €100,000 ภายใน 15 นาที
    ยอดรวมทะลุ €520,000 จากผู้สนับสนุนกว่า 2,600 ราย

    จอ OLED ขนาด 5 นิ้ว
    ให้ภาพคมชัดและสีดำสนิท
    เล็กกว่ารุ่นดั้งเดิมที่ใช้จอ CRT ขนาด 9 นิ้ว

    รวมเกมคลาสสิก 12 เกม
    รวมถึง Mine Storm เกมแนว Asteroids
    ถ่ายทอดเสน่ห์ของกราฟิกเวกเตอร์แบบอาร์เคด

    ราคาที่เปลี่ยนตามช่วงเวลา
    Founders Edition: $115 (หมดแล้ว)
    Early Bird: $150 (หมดแล้ว)
    Standard Edition: $173 (ปัจจุบัน)

    ข้อจำกัดของจอ OLED เทียบกับ CRT
    ไม่สามารถสร้าง “แสงเรือง” แบบ CRT ได้
    ขนาดจอเล็กอาจลดความ immersive ในการเล่นเกม

    ความเสี่ยงของการสนับสนุนโปรเจกต์
    การสนับสนุน Kickstarter ไม่ใช่การซื้อสินค้าโดยตรง
    อาจไม่ได้รับสินค้าหากโปรเจกต์ล้มเหลวหรือล่าช้า

    https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/vectrex-mini-retro-console-shatters-kickstarter-goal-within-minutes-it-will-now-cost-usd173-up-from-usd115-and-usd150-to-secure-yours
    🕹️✨ “Vectrex Mini” รีโทรคอนโซลสุดฮิตระดมทุนถล่มทลายในพริบตา ย้อนกลับไปในยุค 1980s เครื่องเกม Vectrex เคยสร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยจอ CRT แบบตั้งในตัวและกราฟิกเวกเตอร์ที่เรืองแสงเหมือนเครื่องอาร์เคด ล่าสุดโปรเจกต์ “Vectrex Mini” ได้เปิดตัวบน Kickstarter และสามารถระดมทุนทะลุเป้า €100,000 ภายในเวลาเพียง 15 นาที! ตอนนี้ยอดทะลุไปแล้วกว่า €520,000 จากผู้สนับสนุนกว่า 2,600 ราย 📺 จอ OLED ขนาด 5 นิ้ว — เล็กแต่ทรงพลัง? Vectrex Mini มาพร้อมจอ OLED ขนาด 5 นิ้ว ซึ่งแม้จะเล็กกว่าจอ CRT ขนาด 9 นิ้วของรุ่นดั้งเดิม แต่ยังคงความคมชัดและสีดำสนิทที่เป็นจุดเด่นของ OLED อย่างไรก็ตาม หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจไม่สามารถถ่ายทอด “ความเรืองแสง” ของกราฟิกเวกเตอร์แบบ CRT ได้อย่างเต็มที่ 🎮 รวม 12 เกมคลาสสิกในตัว เครื่องมาพร้อมเกมเวกเตอร์คลาสสิก 12 เกมในตัว รวมถึง “Mine Storm” เกมแนว Asteroids ที่เคยเป็นเกมบันเดิลในรุ่นดั้งเดิม ซึ่งยังคงสามารถถ่ายทอดเสน่ห์ของกราฟิกเวกเตอร์ให้ผู้เล่นรุ่นใหม่ได้สัมผัส 💸 ราคาพุ่ง — ใครช้าจ่ายแพง ผู้ที่สนับสนุนในช่วงแรกสามารถซื้อได้ในราคาพิเศษ: 📍 Founders Edition: $115 (หมดแล้ว) 📍 Early Bird: $150 (หมดแล้ว) 📍 ตอนนี้เหลือเพียง Standard Edition ที่ราคา $173 ✅ Vectrex Mini เปิดตัวบน Kickstarter ➡️ ระดมทุนทะลุเป้า €100,000 ภายใน 15 นาที ➡️ ยอดรวมทะลุ €520,000 จากผู้สนับสนุนกว่า 2,600 ราย ✅ จอ OLED ขนาด 5 นิ้ว ➡️ ให้ภาพคมชัดและสีดำสนิท ➡️ เล็กกว่ารุ่นดั้งเดิมที่ใช้จอ CRT ขนาด 9 นิ้ว ✅ รวมเกมคลาสสิก 12 เกม ➡️ รวมถึง Mine Storm เกมแนว Asteroids ➡️ ถ่ายทอดเสน่ห์ของกราฟิกเวกเตอร์แบบอาร์เคด ✅ ราคาที่เปลี่ยนตามช่วงเวลา ➡️ Founders Edition: $115 (หมดแล้ว) ➡️ Early Bird: $150 (หมดแล้ว) ➡️ Standard Edition: $173 (ปัจจุบัน) ‼️ ข้อจำกัดของจอ OLED เทียบกับ CRT ⛔ ไม่สามารถสร้าง “แสงเรือง” แบบ CRT ได้ ⛔ ขนาดจอเล็กอาจลดความ immersive ในการเล่นเกม ‼️ ความเสี่ยงของการสนับสนุนโปรเจกต์ ⛔ การสนับสนุน Kickstarter ไม่ใช่การซื้อสินค้าโดยตรง ⛔ อาจไม่ได้รับสินค้าหากโปรเจกต์ล้มเหลวหรือล่าช้า https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/vectrex-mini-retro-console-shatters-kickstarter-goal-within-minutes-it-will-now-cost-usd173-up-from-usd115-and-usd150-to-secure-yours
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Vectrex Mini retro console shatters Kickstarter goal within minutes — it will now cost $173, up from $115 and $150, to secure yours.
    Vector-based graphics game nostalgia is strong, but the 5-inch screen may be too mini for full immersion.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวข้อข่าว: เกมที่เธอเขียนบนเรือ กลายเป็นชีวิตที่ลอยอยู่ได้

    Lente Cuenen นักพัฒนาเกมสาวชาวดัตช์วัย 25 ปี สร้างเกม “Spilled!” บนเรือที่เธออาศัยอยู่ใกล้กรุงอัมสเตอร์ดัม เกมที่สะท้อนชีวิต ความทรงจำ และความเชื่อเรื่องสิ่งแวดล้อมของเธอ กลายเป็นผลงานอินดี้ที่ขายได้เกือบ 100,000 ชุด สร้างรายได้กว่า US$425,000 และทำให้เธอสามารถเป็นเจ้าของเรือได้อย่างเต็มตัว

    ลองจินตนาการว่าคุณใช้ชีวิตอยู่บนเรือไม้เก่าๆ ที่เคยเป็นบ้านของครอบครัวมาก่อน แล้ววันหนึ่งคุณตัดสินใจสร้างเกมเกี่ยวกับการทำความสะอาดแม่น้ำบนเรือลำใหม่ที่คุณซื้อด้วยเงินกู้จากแม่ — นี่คือชีวิตจริงของ Lente Cuenen

    เธอเติบโตบนเรือบรรทุกสินค้าเก่า “Twee Gezusters” ที่ครอบครัวใช้เป็นบ้านนานเกือบ 20 ปี ความรักในเรือและธรรมชาติฝังลึกในตัวเธอ จนกลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างเกม “Spilled!” ที่ผู้เล่นต้องทำความสะอาดน้ำที่ปนเปื้อนด้วยน้ำมัน

    แม้จะไม่มีงบการตลาด แต่เธอใช้เรื่องราวชีวิตบนเรือโพสต์ลง Twitter จนกลายเป็นกระแส เกมขายได้เกือบแสนชุดบน Steam และเธอสามารถคืนเงินกู้ให้แม่ได้ภายในปีเดียว

    เธอใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายบนเรือ “Zusje V” ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์และอินเทอร์เน็ตผ่าน Starlink ใช้ MacBook ที่เต็มไปด้วยสติกเกอร์โปเกมอนและจอย PS3 เก่าๆ ในการพัฒนาเกม

    เกมของเธอไม่ใช่แค่เรื่องเล่นสนุก แต่เป็นการสะท้อนความเชื่อเรื่องการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน เธอบริจาค 10 เซ็นต์จากทุกยอดขายให้กับกองทุนอนุรักษ์วาฬและโลมา

    ชีวิตและแรงบันดาลใจของ Lente Cuenen
    เติบโตบนเรือเก่าที่ครอบครัวใช้เป็นบ้าน
    ซื้อเรือใหม่ด้วยเงินกู้จากแม่เพื่อใช้เป็นบ้านและที่ทำงาน
    ใช้ชีวิตเรียบง่ายด้วยพลังงานแสงอาทิตย์และอุปกรณ์มือสอง

    เกม Spilled! และความสำเร็จ
    เกมแนวทำความสะอาดแม่น้ำจากน้ำมัน
    ขายได้เกือบ 100,000 ชุดบน Steam
    สร้างรายได้กว่า US$425,000
    บริจาคส่วนหนึ่งให้กองทุนอนุรักษ์สัตว์น้ำ

    ความเชื่อและไลฟ์สไตล์
    ใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน หลีกเลี่ยงการซื้อของใหม่
    เกมสะท้อนความเชื่อเรื่องสิ่งแวดล้อมและความเรียบง่าย
    มีรอยสักชื่อเรือเก่าของครอบครัว “Twee Gezusters 1920” บนแขน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/06/the-game-she-wrote-on-a-boat-kept-her-afloat
    ⛵ หัวข้อข่าว: เกมที่เธอเขียนบนเรือ กลายเป็นชีวิตที่ลอยอยู่ได้ Lente Cuenen นักพัฒนาเกมสาวชาวดัตช์วัย 25 ปี สร้างเกม “Spilled!” บนเรือที่เธออาศัยอยู่ใกล้กรุงอัมสเตอร์ดัม เกมที่สะท้อนชีวิต ความทรงจำ และความเชื่อเรื่องสิ่งแวดล้อมของเธอ กลายเป็นผลงานอินดี้ที่ขายได้เกือบ 100,000 ชุด สร้างรายได้กว่า US$425,000 และทำให้เธอสามารถเป็นเจ้าของเรือได้อย่างเต็มตัว ลองจินตนาการว่าคุณใช้ชีวิตอยู่บนเรือไม้เก่าๆ ที่เคยเป็นบ้านของครอบครัวมาก่อน แล้ววันหนึ่งคุณตัดสินใจสร้างเกมเกี่ยวกับการทำความสะอาดแม่น้ำบนเรือลำใหม่ที่คุณซื้อด้วยเงินกู้จากแม่ — นี่คือชีวิตจริงของ Lente Cuenen เธอเติบโตบนเรือบรรทุกสินค้าเก่า “Twee Gezusters” ที่ครอบครัวใช้เป็นบ้านนานเกือบ 20 ปี ความรักในเรือและธรรมชาติฝังลึกในตัวเธอ จนกลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างเกม “Spilled!” ที่ผู้เล่นต้องทำความสะอาดน้ำที่ปนเปื้อนด้วยน้ำมัน แม้จะไม่มีงบการตลาด แต่เธอใช้เรื่องราวชีวิตบนเรือโพสต์ลง Twitter จนกลายเป็นกระแส เกมขายได้เกือบแสนชุดบน Steam และเธอสามารถคืนเงินกู้ให้แม่ได้ภายในปีเดียว เธอใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายบนเรือ “Zusje V” ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์และอินเทอร์เน็ตผ่าน Starlink ใช้ MacBook ที่เต็มไปด้วยสติกเกอร์โปเกมอนและจอย PS3 เก่าๆ ในการพัฒนาเกม เกมของเธอไม่ใช่แค่เรื่องเล่นสนุก แต่เป็นการสะท้อนความเชื่อเรื่องการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน เธอบริจาค 10 เซ็นต์จากทุกยอดขายให้กับกองทุนอนุรักษ์วาฬและโลมา ✅ ชีวิตและแรงบันดาลใจของ Lente Cuenen ➡️ เติบโตบนเรือเก่าที่ครอบครัวใช้เป็นบ้าน ➡️ ซื้อเรือใหม่ด้วยเงินกู้จากแม่เพื่อใช้เป็นบ้านและที่ทำงาน ➡️ ใช้ชีวิตเรียบง่ายด้วยพลังงานแสงอาทิตย์และอุปกรณ์มือสอง ✅ เกม Spilled! และความสำเร็จ ➡️ เกมแนวทำความสะอาดแม่น้ำจากน้ำมัน ➡️ ขายได้เกือบ 100,000 ชุดบน Steam ➡️ สร้างรายได้กว่า US$425,000 ➡️ บริจาคส่วนหนึ่งให้กองทุนอนุรักษ์สัตว์น้ำ ✅ ความเชื่อและไลฟ์สไตล์ ➡️ ใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน หลีกเลี่ยงการซื้อของใหม่ ➡️ เกมสะท้อนความเชื่อเรื่องสิ่งแวดล้อมและความเรียบง่าย ➡️ มีรอยสักชื่อเรือเก่าของครอบครัว “Twee Gezusters 1920” บนแขน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/06/the-game-she-wrote-on-a-boat-kept-her-afloat
    WWW.THESTAR.COM.MY
    The game she wrote on a boat kept her afloat
    By sharing details of her seafaring life, a young designer found an audience for her cozy game about cleaning polluted waterways.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ออกจาก Cloud แล้วรวยขึ้น – เส้นทางของนักพัฒนาที่กล้าท้าทายระบบ”
    Rameerez นักพัฒนาอิสระผู้สร้าง PromptHero และ RailsFast ได้เขียนบทความที่กลายเป็นไวรัล หลังจากเขาตัดสินใจย้ายโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดออกจาก AWS และหันไปใช้เซิร์ฟเวอร์เช่าราคาถูกแทน ผลลัพธ์คือ ลดค่าใช้จ่ายลง 10 เท่า และ เพิ่มประสิทธิภาพระบบขึ้น 2 เท่า โดยไม่ต้องพึ่งพาบริการ Cloud ที่มีราคาแพงและผูกขาด

    เขาเลือกใช้บริการจาก Hetzner ซึ่งให้เซิร์ฟเวอร์ 80-core ในราคาเพียง $190 ต่อเดือน เทียบกับ AWS ที่คิดราคาสูงถึง $2,500–$3,500 ต่อเดือนสำหรับสเปกใกล้เคียงกัน แม้จะมีตัวเลือก Reserved Instances ที่ถูกลง แต่ก็ต้องจ่ายล่วงหน้าถึง $46,000 และติดสัญญา 3 ปี

    Rameerez วิจารณ์ว่า Cloud กลายเป็น “กับดัก” สำหรับบริษัทและนักพัฒนา เพราะมันสร้างความซับซ้อนโดยไม่จำเป็น และทำให้เกิดการพึ่งพาแบบผูกขาด เขาเชื่อว่าหลายคนไม่กล้าออกจาก Cloud เพราะกลัวความยุ่งยาก ทั้งที่ความจริงแล้วการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์เองไม่ยากอย่างที่คิด โดยเฉพาะในยุคที่มี AI อย่าง ChatGPT และ Claude คอยช่วยเหลือ

    เขายังชี้ให้เห็นว่า DevOps และ Cloud Engineers จำนวนมากไม่มี “skin in the game” เพราะพวกเขาไม่ได้จ่ายค่า Cloud ด้วยเงินตัวเอง จึงไม่มีแรงจูงใจในการลดต้นทุนให้บริษัท

    การออกจาก Cloud ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ
    ค่าใช้จ่ายลดลง 10 เท่า
    ประสิทธิภาพระบบเพิ่มขึ้น 2 เท่า
    ไม่มี vendor lock-in หรือข้อผูกมัดระยะยาว

    ทางเลือกใหม่: เซิร์ฟเวอร์เช่าและ VPS
    Hetzner ให้เซิร์ฟเวอร์ 80-core ในราคา $190/เดือน
    VPS 8-core + RAM 32GB ราคาเพียง $50/เดือน
    ซื้อเซิร์ฟเวอร์เองได้ในราคาไม่ถึง $1,000

    ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Cloud
    DevOps หลายคนไม่เคยจ่ายค่า Cloud ด้วยตัวเอง
    Cloud ถูกใช้เพราะ “ดูเท่” และ “ซับซ้อน”
    ความกลัวเรื่องความปลอดภัยและความเสถียรถูกใช้เป็นข้ออ้าง

    การกลับมาของการจัดการเซิร์ฟเวอร์ด้วยตัวเอง
    AI ช่วยให้การตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ง่ายขึ้น
    Cloudflare ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยง
    การเรียนรู้ Linux กลายเป็นทักษะสำคัญในยุคใหม่

    ความเสี่ยงจากการใช้ Cloud โดยไม่เข้าใจ
    ค่าใช้จ่ายสูงเกินจริงโดยไม่จำเป็น
    Vendor lock-in ทำให้ย้ายออกยาก
    ความซับซ้อนที่ไม่จำเป็นต่อธุรกิจขนาดเล็ก
    การใช้เทคโนโลยีเกินความจำเป็น เช่น Kubernetes สำหรับแอปเล็ก

    https://rameerez.com/send-this-article-to-your-friend-who-still-thinks-the-cloud-is-a-good-idea/
    ☁️ “ออกจาก Cloud แล้วรวยขึ้น – เส้นทางของนักพัฒนาที่กล้าท้าทายระบบ” Rameerez นักพัฒนาอิสระผู้สร้าง PromptHero และ RailsFast ได้เขียนบทความที่กลายเป็นไวรัล หลังจากเขาตัดสินใจย้ายโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดออกจาก AWS และหันไปใช้เซิร์ฟเวอร์เช่าราคาถูกแทน ผลลัพธ์คือ ลดค่าใช้จ่ายลง 10 เท่า และ เพิ่มประสิทธิภาพระบบขึ้น 2 เท่า โดยไม่ต้องพึ่งพาบริการ Cloud ที่มีราคาแพงและผูกขาด เขาเลือกใช้บริการจาก Hetzner ซึ่งให้เซิร์ฟเวอร์ 80-core ในราคาเพียง $190 ต่อเดือน เทียบกับ AWS ที่คิดราคาสูงถึง $2,500–$3,500 ต่อเดือนสำหรับสเปกใกล้เคียงกัน แม้จะมีตัวเลือก Reserved Instances ที่ถูกลง แต่ก็ต้องจ่ายล่วงหน้าถึง $46,000 และติดสัญญา 3 ปี Rameerez วิจารณ์ว่า Cloud กลายเป็น “กับดัก” สำหรับบริษัทและนักพัฒนา เพราะมันสร้างความซับซ้อนโดยไม่จำเป็น และทำให้เกิดการพึ่งพาแบบผูกขาด เขาเชื่อว่าหลายคนไม่กล้าออกจาก Cloud เพราะกลัวความยุ่งยาก ทั้งที่ความจริงแล้วการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์เองไม่ยากอย่างที่คิด โดยเฉพาะในยุคที่มี AI อย่าง ChatGPT และ Claude คอยช่วยเหลือ เขายังชี้ให้เห็นว่า DevOps และ Cloud Engineers จำนวนมากไม่มี “skin in the game” เพราะพวกเขาไม่ได้จ่ายค่า Cloud ด้วยเงินตัวเอง จึงไม่มีแรงจูงใจในการลดต้นทุนให้บริษัท ✅ การออกจาก Cloud ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ ➡️ ค่าใช้จ่ายลดลง 10 เท่า ➡️ ประสิทธิภาพระบบเพิ่มขึ้น 2 เท่า ➡️ ไม่มี vendor lock-in หรือข้อผูกมัดระยะยาว ✅ ทางเลือกใหม่: เซิร์ฟเวอร์เช่าและ VPS ➡️ Hetzner ให้เซิร์ฟเวอร์ 80-core ในราคา $190/เดือน ➡️ VPS 8-core + RAM 32GB ราคาเพียง $50/เดือน ➡️ ซื้อเซิร์ฟเวอร์เองได้ในราคาไม่ถึง $1,000 ✅ ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Cloud ➡️ DevOps หลายคนไม่เคยจ่ายค่า Cloud ด้วยตัวเอง ➡️ Cloud ถูกใช้เพราะ “ดูเท่” และ “ซับซ้อน” ➡️ ความกลัวเรื่องความปลอดภัยและความเสถียรถูกใช้เป็นข้ออ้าง ✅ การกลับมาของการจัดการเซิร์ฟเวอร์ด้วยตัวเอง ➡️ AI ช่วยให้การตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ง่ายขึ้น ➡️ Cloudflare ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยง ➡️ การเรียนรู้ Linux กลายเป็นทักษะสำคัญในยุคใหม่ ‼️ ความเสี่ยงจากการใช้ Cloud โดยไม่เข้าใจ ⛔ ค่าใช้จ่ายสูงเกินจริงโดยไม่จำเป็น ⛔ Vendor lock-in ทำให้ย้ายออกยาก ⛔ ความซับซ้อนที่ไม่จำเป็นต่อธุรกิจขนาดเล็ก ⛔ การใช้เทคโนโลยีเกินความจำเป็น เช่น Kubernetes สำหรับแอปเล็ก https://rameerez.com/send-this-article-to-your-friend-who-still-thinks-the-cloud-is-a-good-idea/
    RAMEEREZ.COM
    Send this article to your friend who still thinks the cloud is a good idea
    You've been lied to. You don't need the cloud – you can just run servers and save 10x your AWS costs. It's not that difficult.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • กล้อง DIY จากเมาส์เก่า! โปรเจกต์สุดเจ๋งจากนักพิมพ์ 3D ที่เปลี่ยนขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้กลายเป็นกล้องดิจิทัลสุดลอฟาย

    นักประดิษฐ์สาย Maker นามว่า Dycus ได้สร้างกล้องดิจิทัลสุดแหวกแนวจากเซ็นเซอร์ของเมาส์เก่า โดยใช้เวลาเพียง 65 ชั่วโมงในการออกแบบ สร้าง และเขียนซอฟต์แวร์ทั้งหมด กล้องนี้สามารถถ่ายภาพได้ที่ความละเอียด 30x30 พิกเซล และแสดงผลด้วยเฉดสีเทาเพียง 64 ระดับ แต่กลับมีเสน่ห์เฉพาะตัวแบบ Minecraft สุดๆ

    ตัวกล้องที่ถูกตั้งชื่อเล่นว่า “Magical Mouse Camera (MMC)” ใช้ชิ้นส่วนจากเมาส์ Logitech G400 รุ่นปี 2011 ร่วมกับเลนส์ CCTV ราคาประหยัด หน่วยความจำ FRAM จาก Adafruit และไมโครคอนโทรลเลอร์ Teensy LC พร้อมแบตเตอรี่ 600mAh ทั้งหมดถูกประกอบเข้ากับโครงสร้างที่พิมพ์จากเครื่องพิมพ์ 3D

    แม้จะดูเรียบง่าย แต่ Dycus ยังพัฒนาโหมดการถ่ายภาพหลากหลาย เช่น single shot, double shot, quad shot, panorama และโหมด “cowboy” สุดแหวกแนว พร้อมฟีเจอร์วาดภาพบนหน้าจอด้วยทัชเซ็นเซอร์ของเมาส์อีกด้วย!

    โปรเจกต์กล้อง DIY จากเมาส์เก่า
    ใช้เซ็นเซอร์ ADNS-3090 จากเมาส์ Logitech G400
    ความละเอียดภาพ 30x30 พิกเซล เฉดสีเทา 64 ระดับ

    ใช้เวลาเพียง 65 ชั่วโมงในการสร้าง
    รวมการออกแบบ 3D, ประกอบฮาร์ดแวร์ และเขียนซอฟต์แวร์
    ใช้ชิ้นส่วนราคาประหยัดและหาได้ทั่วไป

    ฟีเจอร์ซอฟต์แวร์ที่น่าทึ่ง
    มีโหมดถ่ายภาพหลายแบบ เช่น quad shot และ panorama
    สามารถวาดภาพบนหน้าจอด้วยทัชเซ็นเซอร์ของเมาส์

    การเปรียบเทียบกับ Game Boy Camera
    แม้ความละเอียดจะต่ำกว่า แต่มีเฉดสีมากกว่า (64 เทียบกับ 4)
    เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการรีไซเคิลที่สร้างสรรค์และมีประโยชน์

    คำเตือนสำหรับผู้ที่อยากลองทำตาม
    ต้องมีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์และการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น
    ต้องใช้เวลาค่อนข้างมากในการประกอบและทดสอบ

    คำเตือนด้านการใช้งานจริง
    ความละเอียดต่ำมาก ไม่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป
    หน่วยความจำเพียง 32KB ไม่สามารถบันทึกวิดีโอได้นาน

    https://www.tomshardware.com/3d-printing/3d-printing-enthusiast-creates-camera-with-a-gutted-optical-mouses-sensor-lo-fi-30x30-pixel-camera-took-65-hours-to-build
    📸 กล้อง DIY จากเมาส์เก่า! โปรเจกต์สุดเจ๋งจากนักพิมพ์ 3D ที่เปลี่ยนขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้กลายเป็นกล้องดิจิทัลสุดลอฟาย นักประดิษฐ์สาย Maker นามว่า Dycus ได้สร้างกล้องดิจิทัลสุดแหวกแนวจากเซ็นเซอร์ของเมาส์เก่า โดยใช้เวลาเพียง 65 ชั่วโมงในการออกแบบ สร้าง และเขียนซอฟต์แวร์ทั้งหมด กล้องนี้สามารถถ่ายภาพได้ที่ความละเอียด 30x30 พิกเซล และแสดงผลด้วยเฉดสีเทาเพียง 64 ระดับ แต่กลับมีเสน่ห์เฉพาะตัวแบบ Minecraft สุดๆ ตัวกล้องที่ถูกตั้งชื่อเล่นว่า “Magical Mouse Camera (MMC)” ใช้ชิ้นส่วนจากเมาส์ Logitech G400 รุ่นปี 2011 ร่วมกับเลนส์ CCTV ราคาประหยัด หน่วยความจำ FRAM จาก Adafruit และไมโครคอนโทรลเลอร์ Teensy LC พร้อมแบตเตอรี่ 600mAh ทั้งหมดถูกประกอบเข้ากับโครงสร้างที่พิมพ์จากเครื่องพิมพ์ 3D แม้จะดูเรียบง่าย แต่ Dycus ยังพัฒนาโหมดการถ่ายภาพหลากหลาย เช่น single shot, double shot, quad shot, panorama และโหมด “cowboy” สุดแหวกแนว พร้อมฟีเจอร์วาดภาพบนหน้าจอด้วยทัชเซ็นเซอร์ของเมาส์อีกด้วย! ✅ โปรเจกต์กล้อง DIY จากเมาส์เก่า ➡️ ใช้เซ็นเซอร์ ADNS-3090 จากเมาส์ Logitech G400 ➡️ ความละเอียดภาพ 30x30 พิกเซล เฉดสีเทา 64 ระดับ ✅ ใช้เวลาเพียง 65 ชั่วโมงในการสร้าง ➡️ รวมการออกแบบ 3D, ประกอบฮาร์ดแวร์ และเขียนซอฟต์แวร์ ➡️ ใช้ชิ้นส่วนราคาประหยัดและหาได้ทั่วไป ✅ ฟีเจอร์ซอฟต์แวร์ที่น่าทึ่ง ➡️ มีโหมดถ่ายภาพหลายแบบ เช่น quad shot และ panorama ➡️ สามารถวาดภาพบนหน้าจอด้วยทัชเซ็นเซอร์ของเมาส์ ✅ การเปรียบเทียบกับ Game Boy Camera ➡️ แม้ความละเอียดจะต่ำกว่า แต่มีเฉดสีมากกว่า (64 เทียบกับ 4) ➡️ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการรีไซเคิลที่สร้างสรรค์และมีประโยชน์ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ที่อยากลองทำตาม ⛔ ต้องมีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์และการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น ⛔ ต้องใช้เวลาค่อนข้างมากในการประกอบและทดสอบ ‼️ คำเตือนด้านการใช้งานจริง ⛔ ความละเอียดต่ำมาก ไม่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ⛔ หน่วยความจำเพียง 32KB ไม่สามารถบันทึกวิดีโอได้นาน https://www.tomshardware.com/3d-printing/3d-printing-enthusiast-creates-camera-with-a-gutted-optical-mouses-sensor-lo-fi-30x30-pixel-camera-took-65-hours-to-build
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดร.เอ้ สุชัชวีร์ ชี้ 3 ปัจจัยชี้ขาดอนาคตไทย เร่งยกระดับการศึกษา แก้ภัยพิบัติ ขจัดทุนสีเทา
    https://www.thai-tai.tv/news/22214/
    .
    #ไทยไท #สุชัชวีร์สุวรรณสวัสดิ์ #ดรเอ้ #พรรคไทยก้าวใหม่ #BitkubSummit2025 #ThailandGameChanger #การศึกษา #แก้ปัญหาภัยพิบัติ #ทุนผูกขาด #ทุนสีเทา #SM
    ดร.เอ้ สุชัชวีร์ ชี้ 3 ปัจจัยชี้ขาดอนาคตไทย เร่งยกระดับการศึกษา แก้ภัยพิบัติ ขจัดทุนสีเทา https://www.thai-tai.tv/news/22214/ . #ไทยไท #สุชัชวีร์สุวรรณสวัสดิ์ #ดรเอ้ #พรรคไทยก้าวใหม่ #BitkubSummit2025 #ThailandGameChanger #การศึกษา #แก้ปัญหาภัยพิบัติ #ทุนผูกขาด #ทุนสีเทา #SM
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักพัฒนาเกมหวั่น AI แย่งบทบาทสร้างสรรค์ – เทคโนโลยีที่ทั้งช่วยและท้าทายวงการเกม

    AI กำลังกลายเป็นเครื่องมือทรงพลังในอุตสาหกรรมเกม แต่ก็สร้างความกังวลไม่น้อยในหมู่นักพัฒนาและศิลปิน ว่าจะกลายเป็นผู้แย่งงานแทนที่จะเป็นผู้ช่วย.

    ลองนึกภาพว่าเกมที่คุณเล่นทุกวันนี้ อาจมีฉาก ตัวละคร หรือแม้แต่บทพูดที่สร้างขึ้นโดย AI ทั้งหมด โดยไม่ผ่านมือมนุษย์เลยแม้แต่น้อย นั่นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมเกมทั่วโลก

    จากการศึกษาของ Totally Human Media พบว่า เกือบ 20% ของเกมบน Steam ปีนี้ใช้ AI ในการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นเกมดังอย่าง Call of Duty: Black Ops 6 หรือเกมจำลองชีวิต Inzoi. AI ถูกใช้ในหลายด้าน เช่น การพากย์เสียง การวาดภาพประกอบ หรือแม้แต่ช่วยเขียนโค้ด

    Ethan Hu จาก Meshy.ai เผยว่า การสร้างโมเดล 3D ที่เคยใช้เวลา 2 สัปดาห์และงบประมาณ 1,000 ดอลลาร์ ตอนนี้ใช้เวลาแค่ 1 นาทีและต้นทุนเพียง 2 ดอลลาร์. นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับทีมพัฒนาเกม

    แต่ไม่ใช่ทุกคนจะต้อนรับ AI ด้วยรอยยิ้ม

    แม้ AI จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความเร็วในการผลิตเกม แต่ก็สร้างความกังวลในหมู่คนทำงาน โดยเฉพาะเรื่อง การลดตำแหน่งงาน และ คุณภาพของงานที่ AI สร้างขึ้น

    นักพัฒนาจากสตูดิโอในฝรั่งเศสเผยว่า โมเดล 3D ที่สร้างโดย AI มักจะ “วุ่นวาย” และต้องใช้เวลาซ่อมแซมเท่ากับการสร้างใหม่. ขณะที่ผู้เล่นเองก็เริ่มจับผิดว่าเกมใดใช้ AI โดยไม่แจ้งล่วงหน้า เช่นกรณีเกม The Alters ที่ถูกวิจารณ์หนักหลังพบข้อความที่สร้างโดย AI โดยไม่ได้ระบุไว้ก่อน

    AI ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมเกมอย่างแพร่หลาย
    เกือบ 20% ของเกมบน Steam ปี 2025 ใช้ AI ในการพัฒนา
    ใช้ในงานพากย์เสียง ภาพประกอบ และเขียนโค้ด
    ลดต้นทุนและเวลาในการสร้างโมเดล 3D อย่างมหาศาล

    บริษัทใหญ่เริ่มลงทุนใน AI
    EA ร่วมมือกับ Stability AI
    Microsoft พัฒนาโมเดล AI ชื่อ Muse
    Ubisoft และ Quantic Dream ยังไม่เปิดเผยแนวทาง

    ความกังวลจากนักพัฒนาเกม
    กลัวการลดตำแหน่งงานจากการใช้ AI
    ผลงานที่สร้างโดย AI ยังต้องแก้ไขมาก
    ขาดความโปร่งใสในการแจ้งผู้เล่นว่าใช้ AI

    ความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น
    ผู้เล่นอาจไม่พอใจหากพบว่าเกมใช้ AI โดยไม่แจ้ง
    นักลงทุนยังไม่ใช้ AI เป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจ
    การไม่ใช้ AI อาจทำให้สตูดิโอเสียเปรียบในการแข่งขัน

    AI ในวงการเกมคือดาบสองคม – ทั้งช่วยให้สร้างสรรค์ได้เร็วขึ้น และอาจทำให้มนุษย์ถูกลดบทบาทลง หากคุณเป็นนักเล่นเกมหรือผู้พัฒนาเกม นี่คือช่วงเวลาที่ต้องตั้งคำถามว่า “เรายังควบคุมเกมอยู่ หรือ AI กำลังถือจอยแทนเรา?”

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/04/video-game-creators-fear-ai-could-grab-the-controller
    🎮 นักพัฒนาเกมหวั่น AI แย่งบทบาทสร้างสรรค์ – เทคโนโลยีที่ทั้งช่วยและท้าทายวงการเกม AI กำลังกลายเป็นเครื่องมือทรงพลังในอุตสาหกรรมเกม แต่ก็สร้างความกังวลไม่น้อยในหมู่นักพัฒนาและศิลปิน ว่าจะกลายเป็นผู้แย่งงานแทนที่จะเป็นผู้ช่วย. ลองนึกภาพว่าเกมที่คุณเล่นทุกวันนี้ อาจมีฉาก ตัวละคร หรือแม้แต่บทพูดที่สร้างขึ้นโดย AI ทั้งหมด โดยไม่ผ่านมือมนุษย์เลยแม้แต่น้อย นั่นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมเกมทั่วโลก จากการศึกษาของ Totally Human Media พบว่า เกือบ 20% ของเกมบน Steam ปีนี้ใช้ AI ในการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นเกมดังอย่าง Call of Duty: Black Ops 6 หรือเกมจำลองชีวิต Inzoi. AI ถูกใช้ในหลายด้าน เช่น การพากย์เสียง การวาดภาพประกอบ หรือแม้แต่ช่วยเขียนโค้ด Ethan Hu จาก Meshy.ai เผยว่า การสร้างโมเดล 3D ที่เคยใช้เวลา 2 สัปดาห์และงบประมาณ 1,000 ดอลลาร์ ตอนนี้ใช้เวลาแค่ 1 นาทีและต้นทุนเพียง 2 ดอลลาร์. นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับทีมพัฒนาเกม 😨 แต่ไม่ใช่ทุกคนจะต้อนรับ AI ด้วยรอยยิ้ม แม้ AI จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความเร็วในการผลิตเกม แต่ก็สร้างความกังวลในหมู่คนทำงาน โดยเฉพาะเรื่อง การลดตำแหน่งงาน และ คุณภาพของงานที่ AI สร้างขึ้น นักพัฒนาจากสตูดิโอในฝรั่งเศสเผยว่า โมเดล 3D ที่สร้างโดย AI มักจะ “วุ่นวาย” และต้องใช้เวลาซ่อมแซมเท่ากับการสร้างใหม่. ขณะที่ผู้เล่นเองก็เริ่มจับผิดว่าเกมใดใช้ AI โดยไม่แจ้งล่วงหน้า เช่นกรณีเกม The Alters ที่ถูกวิจารณ์หนักหลังพบข้อความที่สร้างโดย AI โดยไม่ได้ระบุไว้ก่อน ✅ AI ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมเกมอย่างแพร่หลาย ➡️ เกือบ 20% ของเกมบน Steam ปี 2025 ใช้ AI ในการพัฒนา ➡️ ใช้ในงานพากย์เสียง ภาพประกอบ และเขียนโค้ด ➡️ ลดต้นทุนและเวลาในการสร้างโมเดล 3D อย่างมหาศาล ✅ บริษัทใหญ่เริ่มลงทุนใน AI ➡️ EA ร่วมมือกับ Stability AI ➡️ Microsoft พัฒนาโมเดล AI ชื่อ Muse ➡️ Ubisoft และ Quantic Dream ยังไม่เปิดเผยแนวทาง ‼️ ความกังวลจากนักพัฒนาเกม ⛔ กลัวการลดตำแหน่งงานจากการใช้ AI ⛔ ผลงานที่สร้างโดย AI ยังต้องแก้ไขมาก ⛔ ขาดความโปร่งใสในการแจ้งผู้เล่นว่าใช้ AI ‼️ ความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น ⛔ ผู้เล่นอาจไม่พอใจหากพบว่าเกมใช้ AI โดยไม่แจ้ง ⛔ นักลงทุนยังไม่ใช้ AI เป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจ ⛔ การไม่ใช้ AI อาจทำให้สตูดิโอเสียเปรียบในการแข่งขัน AI ในวงการเกมคือดาบสองคม – ทั้งช่วยให้สร้างสรรค์ได้เร็วขึ้น และอาจทำให้มนุษย์ถูกลดบทบาทลง หากคุณเป็นนักเล่นเกมหรือผู้พัฒนาเกม นี่คือช่วงเวลาที่ต้องตั้งคำถามว่า “เรายังควบคุมเกมอยู่ หรือ AI กำลังถือจอยแทนเรา?” 🎮✨ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/04/video-game-creators-fear-ai-could-grab-the-controller
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Video game creators fear AI could grab the controller
    Generative artificial intelligence models capable of dreaming up ultra-realistic characters and virtual universes could make for cheaper, better video games in future, but the emerging technology has artists and developers on edge.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวข้อข่าว: “ASRock B850 ฆ่า Ryzen 7 9700X ไป 3 ตัว – ผู้ใช้เกาหลีใต้สูญกว่า $1,000 แม้ใช้ BIOS ล่าสุดและไม่เคยโอเวอร์คล็อก”

    ผู้ใช้ในเกาหลีใต้รายงานว่าเมนบอร์ด ASRock B850 Pro RS ทำให้ CPU Ryzen 7 9700X พังถึง 3 ตัวติดต่อกัน แม้จะใช้ BIOS เวอร์ชันล่าสุดและไม่เคยโอเวอร์คล็อกเลยก็ตาม โดยรวมมูลค่าความเสียหายกว่า $1,000 เหตุการณ์นี้จุดกระแสความกังวลในวงการ DIY PC ทั่วโลก

    เรื่องเริ่มจากผู้ใช้ชื่อ “OnOr” บนฟอรั่ม QuasarZone ในเกาหลีใต้ ที่ใช้เมนบอร์ด ASRock B850 Pro RS กับ CPU Ryzen 7 9700X ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ในซีรีส์ Ryzen 9000 โดย CPU ตัวแรกและตัวที่สองที่ซื้อจาก AliExpress พังไปอย่างรวดเร็ว เจ้าของจึงส่งเมนบอร์ดไปตรวจสอบ แต่ร้านค้าและ ASRock แจ้งว่า “ไม่มีปัญหา”

    เมื่อกลับมาใช้งานอีกครั้งกับ CPU ตัวที่สามที่ซื้อจากตัวแทนจำหน่ายในประเทศ ก็ยังคงพังเหมือนเดิม แม้จะใช้ BIOS เวอร์ชัน 3.40 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดที่ ASRock อ้างว่าแก้ปัญหาความเสถียรของ CPU แล้วก็ตาม

    กรณีนี้ไม่ใช่รายแรก เพราะก่อนหน้านี้มีรายงานจำนวนมากเกี่ยวกับเมนบอร์ด ASRock ที่ทำให้ CPU Ryzen 9000 พัง โดยเฉพาะรุ่น X3D แต่ครั้งนี้เป็นรุ่นธรรมดา ซึ่งทำให้เกิดความกังวลมากขึ้น

    Gamers Nexus เคยรายงานว่า กว่า 80% ของเคส CPU พังในซีรีส์นี้มาจากเมนบอร์ด ASRock ซึ่งทำให้แบรนด์ถูกจับตามองอย่างหนัก แม้ ASRock จะออก BIOS ใหม่และปฏิเสธความรับผิดชอบโดยอ้างว่าเป็นปัญหาจาก AMD แต่ AMD ก็ปฏิเสธกลับเช่นกัน

    ผู้ใช้ในเกาหลีใต้สูญเสีย CPU Ryzen 7 9700X ไป 3 ตัวจากเมนบอร์ด ASRock B850 Pro RS
    มูลค่าความเสียหายรวมกว่า $1,000

    ใช้ BIOS เวอร์ชันล่าสุด 3.40 และไม่เคยโอเวอร์คล็อก
    ยังเกิดปัญหา CPU พังซ้ำถึง 3 ครั้ง

    เคสนี้ไม่ใช่รายแรก – มีรายงานจำนวนมากใน subreddit r/ASRock
    โดยเฉพาะกับ CPU Ryzen 9000 และรุ่น X3D

    Gamers Nexus รายงานว่า 80% ของเคส CPU พังมาจากเมนบอร์ด ASRock
    ทำให้แบรนด์ถูกจับตามองอย่างหนัก

    ASRock ออก BIOS ใหม่เพื่อแก้ปัญหา แต่ยังไม่ชัดเจนว่าได้ผลจริง
    เวอร์ชัน 3.40 เน้นเรื่อง “CPU stability” แต่ยังมีเคสพังหลังอัปเดต

    https://www.tomshardware.com/pc-components/motherboards/the-same-asrock-b850-motherboard-kills-three-ryzen-7-9700x-cpus-worth-usd1-000-one-by-one-in-south-korea-victim-used-updated-bios-and-never-overclocked-but-still-lost-all-their-processors
    ⚠️🔥 หัวข้อข่าว: “ASRock B850 ฆ่า Ryzen 7 9700X ไป 3 ตัว – ผู้ใช้เกาหลีใต้สูญกว่า $1,000 แม้ใช้ BIOS ล่าสุดและไม่เคยโอเวอร์คล็อก” ผู้ใช้ในเกาหลีใต้รายงานว่าเมนบอร์ด ASRock B850 Pro RS ทำให้ CPU Ryzen 7 9700X พังถึง 3 ตัวติดต่อกัน แม้จะใช้ BIOS เวอร์ชันล่าสุดและไม่เคยโอเวอร์คล็อกเลยก็ตาม โดยรวมมูลค่าความเสียหายกว่า $1,000 เหตุการณ์นี้จุดกระแสความกังวลในวงการ DIY PC ทั่วโลก เรื่องเริ่มจากผู้ใช้ชื่อ “OnOr” บนฟอรั่ม QuasarZone ในเกาหลีใต้ ที่ใช้เมนบอร์ด ASRock B850 Pro RS กับ CPU Ryzen 7 9700X ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ในซีรีส์ Ryzen 9000 โดย CPU ตัวแรกและตัวที่สองที่ซื้อจาก AliExpress พังไปอย่างรวดเร็ว เจ้าของจึงส่งเมนบอร์ดไปตรวจสอบ แต่ร้านค้าและ ASRock แจ้งว่า “ไม่มีปัญหา” เมื่อกลับมาใช้งานอีกครั้งกับ CPU ตัวที่สามที่ซื้อจากตัวแทนจำหน่ายในประเทศ ก็ยังคงพังเหมือนเดิม แม้จะใช้ BIOS เวอร์ชัน 3.40 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดที่ ASRock อ้างว่าแก้ปัญหาความเสถียรของ CPU แล้วก็ตาม กรณีนี้ไม่ใช่รายแรก เพราะก่อนหน้านี้มีรายงานจำนวนมากเกี่ยวกับเมนบอร์ด ASRock ที่ทำให้ CPU Ryzen 9000 พัง โดยเฉพาะรุ่น X3D แต่ครั้งนี้เป็นรุ่นธรรมดา ซึ่งทำให้เกิดความกังวลมากขึ้น Gamers Nexus เคยรายงานว่า กว่า 80% ของเคส CPU พังในซีรีส์นี้มาจากเมนบอร์ด ASRock ซึ่งทำให้แบรนด์ถูกจับตามองอย่างหนัก แม้ ASRock จะออก BIOS ใหม่และปฏิเสธความรับผิดชอบโดยอ้างว่าเป็นปัญหาจาก AMD แต่ AMD ก็ปฏิเสธกลับเช่นกัน ✅ ผู้ใช้ในเกาหลีใต้สูญเสีย CPU Ryzen 7 9700X ไป 3 ตัวจากเมนบอร์ด ASRock B850 Pro RS ➡️ มูลค่าความเสียหายรวมกว่า $1,000 ✅ ใช้ BIOS เวอร์ชันล่าสุด 3.40 และไม่เคยโอเวอร์คล็อก ➡️ ยังเกิดปัญหา CPU พังซ้ำถึง 3 ครั้ง ✅ เคสนี้ไม่ใช่รายแรก – มีรายงานจำนวนมากใน subreddit r/ASRock ➡️ โดยเฉพาะกับ CPU Ryzen 9000 และรุ่น X3D ✅ Gamers Nexus รายงานว่า 80% ของเคส CPU พังมาจากเมนบอร์ด ASRock ➡️ ทำให้แบรนด์ถูกจับตามองอย่างหนัก ✅ ASRock ออก BIOS ใหม่เพื่อแก้ปัญหา แต่ยังไม่ชัดเจนว่าได้ผลจริง ➡️ เวอร์ชัน 3.40 เน้นเรื่อง “CPU stability” แต่ยังมีเคสพังหลังอัปเดต https://www.tomshardware.com/pc-components/motherboards/the-same-asrock-b850-motherboard-kills-three-ryzen-7-9700x-cpus-worth-usd1-000-one-by-one-in-south-korea-victim-used-updated-bios-and-never-overclocked-but-still-lost-all-their-processors
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวข้อข่าว: “ภาพหายาก! คาเฟ่เกม PC เปิดใหม่ในเปียงยาง – โลกเกมเหนือเส้นขนานที่ 38”

    ภาพถ่ายจากผู้ใช้งานบน X เผยให้เห็นคาเฟ่เกม PC สาธารณะในกรุงเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยพบเห็นในประเทศที่มีการควบคุมเทคโนโลยีอย่างเข้มงวด โดยสถานที่นี้ดูหรูหราเกินคาด พร้อมอุปกรณ์ระดับพรีเมียมจากแบรนด์ Asus ROG และเกม AAA ที่นิยมในฝั่งใต้.

    ในโลกที่เกมออนไลน์คือวัฒนธรรมหลักของเยาวชนเกาหลีใต้ “PC bang” หรือร้านเกม PC กลายเป็นสัญลักษณ์ของความบันเทิงและการแข่งขัน แต่ในเกาหลีเหนือ การมีคาเฟ่เกมแบบนี้ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่และหายาก

    ภาพที่เผยแพร่โดยผู้ใช้ชื่อ Iniysa บนแพลตฟอร์ม X แสดงให้เห็นคาเฟ่เกมที่ตั้งอยู่ในเมืองใหม่ของเปียงยาง ซึ่งว่ากันว่าเป็นเขตที่อยู่อาศัยของชนชั้นนำ เช่น นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์หรือบุคคลที่ได้รับการยอมรับจากรัฐ

    สิ่งที่น่าทึ่งคือการใช้จอเกม Asus ROG และอินเทอร์เฟซเกมที่ดูคล้ายกับ “Mars Computer Arcade” ซึ่งมีเกมดังอย่าง FIFA, Battlefield, Call of Duty, Rainbow Six, Far Cry และ Crysis แม้จะไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตภายนอก แต่ดูเหมือนว่าเกมเหล่านี้จะถูกติดตั้งไว้ในระบบเครือข่ายภายใน

    การออกแบบของคาเฟ่ดูทันสมัยและหรูหราเกินกว่าที่คาดไว้สำหรับสถานที่ที่เน้นการเล่นเกมแบบมืดๆ เงียบๆ โดยมีการใช้สถาปัตยกรรมเชิงพาณิชย์ร่วมสมัยที่พบได้ในเมืองใหญ่ของเอเชียตะวันออก

    มีการเปิดคาเฟ่เกม PC สาธารณะในกรุงเปียงยาง
    ถือเป็นสิ่งที่หายากในประเทศที่มีการควบคุมเทคโนโลยีอย่างเข้มงวด

    ใช้จอเกม Asus ROG และอุปกรณ์ระดับพรีเมียม
    สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ชมจากต่างประเทศ

    อินเทอร์เฟซเกมชื่อ “Mars Computer Arcade” มีเกม AAA หลายเกม
    เช่น FIFA, Battlefield, Call of Duty, Rainbow Six, Far Cry และ Crysis

    เกมน่าจะเล่นผ่านเครือข่ายภายใน ไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตภายนอก
    สะท้อนการควบคุมข้อมูลและการเข้าถึงของรัฐ

    สถานที่ตั้งอยู่ในเมืองใหม่ของเปียงยาง
    คาดว่าเป็นพื้นที่สำหรับชนชั้นนำที่ได้รับการคัดเลือกจากรัฐ

    การออกแบบคาเฟ่ดูหรูหราและทันสมัย
    ใช้สถาปัตยกรรมร่วมสมัยแบบเมืองใหญ่ในเอเชีย

    https://www.tomshardware.com/video-games/new-pc-gaming-cafe-photographed-in-north-korea-rare-pictures-of-pyongyang-pc-bang-gaming-above-the-38th-parallel
    🎮🇰🇵 หัวข้อข่าว: “ภาพหายาก! คาเฟ่เกม PC เปิดใหม่ในเปียงยาง – โลกเกมเหนือเส้นขนานที่ 38” ภาพถ่ายจากผู้ใช้งานบน X เผยให้เห็นคาเฟ่เกม PC สาธารณะในกรุงเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยพบเห็นในประเทศที่มีการควบคุมเทคโนโลยีอย่างเข้มงวด โดยสถานที่นี้ดูหรูหราเกินคาด พร้อมอุปกรณ์ระดับพรีเมียมจากแบรนด์ Asus ROG และเกม AAA ที่นิยมในฝั่งใต้. ในโลกที่เกมออนไลน์คือวัฒนธรรมหลักของเยาวชนเกาหลีใต้ “PC bang” หรือร้านเกม PC กลายเป็นสัญลักษณ์ของความบันเทิงและการแข่งขัน แต่ในเกาหลีเหนือ การมีคาเฟ่เกมแบบนี้ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่และหายาก ภาพที่เผยแพร่โดยผู้ใช้ชื่อ Iniysa บนแพลตฟอร์ม X แสดงให้เห็นคาเฟ่เกมที่ตั้งอยู่ในเมืองใหม่ของเปียงยาง ซึ่งว่ากันว่าเป็นเขตที่อยู่อาศัยของชนชั้นนำ เช่น นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์หรือบุคคลที่ได้รับการยอมรับจากรัฐ สิ่งที่น่าทึ่งคือการใช้จอเกม Asus ROG และอินเทอร์เฟซเกมที่ดูคล้ายกับ “Mars Computer Arcade” ซึ่งมีเกมดังอย่าง FIFA, Battlefield, Call of Duty, Rainbow Six, Far Cry และ Crysis แม้จะไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตภายนอก แต่ดูเหมือนว่าเกมเหล่านี้จะถูกติดตั้งไว้ในระบบเครือข่ายภายใน การออกแบบของคาเฟ่ดูทันสมัยและหรูหราเกินกว่าที่คาดไว้สำหรับสถานที่ที่เน้นการเล่นเกมแบบมืดๆ เงียบๆ โดยมีการใช้สถาปัตยกรรมเชิงพาณิชย์ร่วมสมัยที่พบได้ในเมืองใหญ่ของเอเชียตะวันออก ✅ มีการเปิดคาเฟ่เกม PC สาธารณะในกรุงเปียงยาง ➡️ ถือเป็นสิ่งที่หายากในประเทศที่มีการควบคุมเทคโนโลยีอย่างเข้มงวด ✅ ใช้จอเกม Asus ROG และอุปกรณ์ระดับพรีเมียม ➡️ สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ชมจากต่างประเทศ ✅ อินเทอร์เฟซเกมชื่อ “Mars Computer Arcade” มีเกม AAA หลายเกม ➡️ เช่น FIFA, Battlefield, Call of Duty, Rainbow Six, Far Cry และ Crysis ✅ เกมน่าจะเล่นผ่านเครือข่ายภายใน ไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตภายนอก ➡️ สะท้อนการควบคุมข้อมูลและการเข้าถึงของรัฐ ✅ สถานที่ตั้งอยู่ในเมืองใหม่ของเปียงยาง ➡️ คาดว่าเป็นพื้นที่สำหรับชนชั้นนำที่ได้รับการคัดเลือกจากรัฐ ✅ การออกแบบคาเฟ่ดูหรูหราและทันสมัย ➡️ ใช้สถาปัตยกรรมร่วมสมัยแบบเมืองใหญ่ในเอเชีย https://www.tomshardware.com/video-games/new-pc-gaming-cafe-photographed-in-north-korea-rare-pictures-of-pyongyang-pc-bang-gaming-above-the-38th-parallel
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    New PC gaming cafe photographed in North Korea — rare pictures of 'Pyongyang PC bang' gaming above the 38th parallel
    The newly built store in Pyongyang has curb appeal, plus Asus ROG monitors, and a good selection of AAA PC games inside.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่สายไอที: AMD ปรับทิศทางไดรเวอร์ GPU แต่ Linux ยังปลอดภัย!

    ถ้าคุณเป็นสายเกมหรือสาย Linux แล้วได้ยินว่า AMD จะหยุดพัฒนาไดรเวอร์สำหรับการ์ดจอรุ่นเก่าอย่าง RX 5000 และ RX 6000 อาจจะรู้สึกใจหาย แต่ข่าวดีคือ...การเปลี่ยนแปลงนี้ “ไม่กระทบผู้ใช้ Linux” เพราะ AMD แยกการพัฒนาไดรเวอร์ระหว่าง Windows และ Linux อย่างชัดเจน

    เรื่องเริ่มจาก AMD ประกาศว่าไดรเวอร์ RDNA 1 และ RDNA 2 จะเข้าสู่โหมด “maintenance” ซึ่งหลายคนตีความว่าอาจหยุดการอัปเดตเกมใหม่ ๆ แต่ AMD ยืนยันว่าจะยังมีการปรับแต่งเกมต่อไปใน Windows ส่วนฝั่ง Linux นั้น...สบายใจได้ เพราะใช้ระบบไดรเวอร์แบบโอเพ่นซอร์สที่พัฒนาแยกต่างหาก

    ที่สำคัญคือ AMD ตัดสินใจ “เลิกพัฒนา AMDVLK” ซึ่งเป็นไดรเวอร์ Linux แบบโอเพ่นซอร์สที่เคยดูแลเอง แล้วหันไปสนับสนุน “RADV” ซึ่งเป็นไดรเวอร์ที่ชุมชนพัฒนาขึ้นเอง และได้รับการสนับสนุนจากบริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Valve, Google และ Red Hat

    เกร็ดน่ารู้เพิ่มเติม:
    RADV เป็นไดรเวอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า AMDVLK ในหลายกรณี และเป็นตัวเลือกหลักของผู้ใช้ Linux
    การพัฒนาไดรเวอร์แบบโอเพ่นซอร์สช่วยให้การสนับสนุนฮาร์ดแวร์เก่ายังคงอยู่ได้นาน แม้บริษัทผู้ผลิตจะหยุดพัฒนาไปแล้ว

    AMD ปรับสถานะไดรเวอร์ RDNA 1 และ 2 บน Windows
    เข้าสู่โหมด maintenance แต่ยังมีการปรับแต่งเกมใหม่
    ไม่ได้หยุดการสนับสนุนโดยสิ้นเชิง

    ผู้ใช้ Linux ไม่ได้รับผลกระทบ
    ไดรเวอร์ Linux พัฒนาแยกจาก Windows โดยสิ้นเชิง
    ใช้ระบบโอเพ่นซอร์สที่มีการสนับสนุนจากชุมชน

    การเปลี่ยนผ่านจาก AMDVLK ไปสู่ RADV
    AMDVLK ถูกยกเลิกตั้งแต่ 15 กันยายน 2025
    RADV ได้รับการสนับสนุนจาก Valve, Google และ Red Hat
    RADV มีประสิทธิภาพสูงกว่า AMDVLK ในหลายด้าน

    ความแข็งแกร่งของระบบโอเพ่นซอร์ส
    แม้ AMD จะหยุดพัฒนา แต่ RADV ยังมีผู้ดูแลจากหลายองค์กร
    การสนับสนุนฮาร์ดแวร์เก่ายังคงดำเนินต่อไป

    ความเข้าใจผิดจากประกาศของ AMD
    หลายคนคิดว่า Linux จะหยุดรับการอัปเดตไดรเวอร์ด้วย
    ความสับสนเกิดจากการสื่อสารที่ไม่ชัดเจนในช่วงแรก

    ความเสี่ยงหากใช้ไดรเวอร์ที่ไม่ได้รับการอัปเดต
    อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้กับเกมใหม่หรือฟีเจอร์ใหม่
    ควรตรวจสอบเวอร์ชันไดรเวอร์ก่อนอัปเดตระบบหรือเกม

    ใครที่ใช้ Linux เล่นเกมบน Radeon GPU ก็หายห่วงได้เลย เพราะ RADV ยังอยู่ และยังแรง!

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/linux-gamers-wont-be-affected-by-rx-5000-6000-series-driver-shift-amd-changes-limited-to-windows-thanks-to-separated-development
    🧠 ข่าวใหญ่สายไอที: AMD ปรับทิศทางไดรเวอร์ GPU แต่ Linux ยังปลอดภัย! ถ้าคุณเป็นสายเกมหรือสาย Linux แล้วได้ยินว่า AMD จะหยุดพัฒนาไดรเวอร์สำหรับการ์ดจอรุ่นเก่าอย่าง RX 5000 และ RX 6000 อาจจะรู้สึกใจหาย แต่ข่าวดีคือ...การเปลี่ยนแปลงนี้ “ไม่กระทบผู้ใช้ Linux” เพราะ AMD แยกการพัฒนาไดรเวอร์ระหว่าง Windows และ Linux อย่างชัดเจน เรื่องเริ่มจาก AMD ประกาศว่าไดรเวอร์ RDNA 1 และ RDNA 2 จะเข้าสู่โหมด “maintenance” ซึ่งหลายคนตีความว่าอาจหยุดการอัปเดตเกมใหม่ ๆ แต่ AMD ยืนยันว่าจะยังมีการปรับแต่งเกมต่อไปใน Windows ส่วนฝั่ง Linux นั้น...สบายใจได้ เพราะใช้ระบบไดรเวอร์แบบโอเพ่นซอร์สที่พัฒนาแยกต่างหาก ที่สำคัญคือ AMD ตัดสินใจ “เลิกพัฒนา AMDVLK” ซึ่งเป็นไดรเวอร์ Linux แบบโอเพ่นซอร์สที่เคยดูแลเอง แล้วหันไปสนับสนุน “RADV” ซึ่งเป็นไดรเวอร์ที่ชุมชนพัฒนาขึ้นเอง และได้รับการสนับสนุนจากบริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Valve, Google และ Red Hat 💡 เกร็ดน่ารู้เพิ่มเติม: 💠 RADV เป็นไดรเวอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า AMDVLK ในหลายกรณี และเป็นตัวเลือกหลักของผู้ใช้ Linux 💠 การพัฒนาไดรเวอร์แบบโอเพ่นซอร์สช่วยให้การสนับสนุนฮาร์ดแวร์เก่ายังคงอยู่ได้นาน แม้บริษัทผู้ผลิตจะหยุดพัฒนาไปแล้ว ✅ AMD ปรับสถานะไดรเวอร์ RDNA 1 และ 2 บน Windows ➡️ เข้าสู่โหมด maintenance แต่ยังมีการปรับแต่งเกมใหม่ ➡️ ไม่ได้หยุดการสนับสนุนโดยสิ้นเชิง ✅ ผู้ใช้ Linux ไม่ได้รับผลกระทบ ➡️ ไดรเวอร์ Linux พัฒนาแยกจาก Windows โดยสิ้นเชิง ➡️ ใช้ระบบโอเพ่นซอร์สที่มีการสนับสนุนจากชุมชน ✅ การเปลี่ยนผ่านจาก AMDVLK ไปสู่ RADV ➡️ AMDVLK ถูกยกเลิกตั้งแต่ 15 กันยายน 2025 ➡️ RADV ได้รับการสนับสนุนจาก Valve, Google และ Red Hat ➡️ RADV มีประสิทธิภาพสูงกว่า AMDVLK ในหลายด้าน ✅ ความแข็งแกร่งของระบบโอเพ่นซอร์ส ➡️ แม้ AMD จะหยุดพัฒนา แต่ RADV ยังมีผู้ดูแลจากหลายองค์กร ➡️ การสนับสนุนฮาร์ดแวร์เก่ายังคงดำเนินต่อไป ‼️ ความเข้าใจผิดจากประกาศของ AMD ⛔ หลายคนคิดว่า Linux จะหยุดรับการอัปเดตไดรเวอร์ด้วย ⛔ ความสับสนเกิดจากการสื่อสารที่ไม่ชัดเจนในช่วงแรก ‼️ ความเสี่ยงหากใช้ไดรเวอร์ที่ไม่ได้รับการอัปเดต ⛔ อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้กับเกมใหม่หรือฟีเจอร์ใหม่ ⛔ ควรตรวจสอบเวอร์ชันไดรเวอร์ก่อนอัปเดตระบบหรือเกม ใครที่ใช้ Linux เล่นเกมบน Radeon GPU ก็หายห่วงได้เลย เพราะ RADV ยังอยู่ และยังแรง! 🎮 https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/linux-gamers-wont-be-affected-by-rx-5000-6000-series-driver-shift-amd-changes-limited-to-windows-thanks-to-separated-development
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts