• ลอร่า บรานิแกน (Laura Branigan) ถือเป็นหนึ่งในนักร้องหญิงที่โดดเด่นที่สุดในยุค 1980s ด้วยเสียงร้องที่ทรงพลังและมีเอกลักษณ์ ซึ่งทำให้เธอได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ เธอเกิดเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 1952 ในเมืองเมานต์คิสโก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในครอบครัวชาวไอริช-อเมริกัน โดยเป็นลูกคนที่สี่ในห้าคน พ่อของเธอชื่อเจมส์ บรานิแกน ซีเนียร์ เป็นนายหน้าซื้อขายหุ้นและกองทุนรวม ส่วนแม่ชื่อแคธลีน (นามสกุลเดิม โอแฮร์) เธอเติบโตในเมืองอาร์มองก์และได้รับการศึกษาจากโรงเรียนคาทอลิกในชัปปาควา ก่อนจบมัธยมจากไบแรมฮิลส์ไฮสคูลในปี 1970 จากนั้นเธอเข้าศึกษาที่ American Academy of Dramatic Arts ในนิวยอร์คระหว่างปี 1970-1972 ซึ่งช่วยพัฒนาทักษะการแสดงและร้องเพลงของเธอ ในช่วงต้นอาชีพ เธอเคยทำงานหลากหลาย เช่น เป็นนักร้องแบ็กอัพให้กับเลนาร์ด โคเฮน ในทัวร์ยุโรปปี 1976 และเป็นสมาชิกวงโฟล์ก-ร็อกชื่อ Meadow ซึ่งออกอัลบั้ม The Friend Ship ในปี 1973 พร้อมซิงเกิล "When You Were Young" และ "Cane and Able" แต่หลังวงยุบ เธอเซ็นสัญญากับ Atlantic Records ในปี 1979 ผ่านการแนะนำจากผู้จัดการซิด เบิร์นสไตน์

    อาชีพหลักของบรานิแกนเริ่มพุ่งขึ้นในปี 1982 ด้วยอัลบั้มแรก Branigan ที่มีเพลงฮิต "Gloria" (คัฟเวอร์จากเพลงอิตาลีของอุมแบร์โต โตซซี) ซึ่งขึ้นอันดับ 2 บน Billboard Hot 100 นาน 3 สัปดาห์ อยู่ในชาร์ตนาน 36 สัปดาห์ (สถิติสำหรับศิลปินหญิงในขณะนั้น) และได้รับการรับรองแพลตตินัม นอกจากนี้ยังขึ้นอันดับ 1 ในออสเตรเลียและแคนาดา รวมถึงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่สาขา Best Female Pop Vocal Performance ในปี 1983 เธอมีส่วนร่วมในซาวด์แทร็กภาพยนตร์ Flashdance ในปี 1983 ซึ่งได้รับรางวัลแกรมมี่และออสการ์สำหรับอัลบั้มโดยรวม และปรากฏตัวในรายการทีวีชื่อดังอย่าง Saturday Night Live, CHiPs, Automan และ Knight Rider อัลบั้มที่สอง Branigan 2 ในปี 1983 มีเพลงฮิต "Solitaire" (ท็อป 10 ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเพลงฮิตแรกของไดแอน วอร์เรน) และ "How Am I Supposed to Live Without You" (อันดับ 12 บน Hot 100 และอันดับ 1 บน Adult Contemporary นาน 3 สัปดาห์ เขียนร่วมโดยไมเคิล โบลตัน) ในปี 1984 อัลบั้ม Self Control กลายเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จที่สุดของเธอ ได้รับการรับรองแพลตตินัม และมีเพลงฮิตอย่าง "Self Control", "Ti Amo" (อันดับ 2 ในออสเตรเลีย คัฟเวอร์จากโตซซีอีกเพลง), "The Lucky One" (ชนะรางวัล Grand Prix ที่ Tokyo Music Festival) และ "Satisfaction" เธอยังมีส่วนในซาวด์แทร็ก Ghostbusters ด้วยเพลง "Hot Night" และปรากฏในซีรีส์ Miami Vice อัลบั้มต่อๆ มา เช่น Hold Me (1985) มี "Spanish Eddie" และ "I Found Someone", Touch (1987) มี "Shattered Glass" และ "The Power of Love" (กลับสู่ท็อป 40 ในสหรัฐฯ), อัลบั้มชื่อตัวเองในปี 1990 มี "Moonlight on Water" และ "Never in a Million Years" และอัลบั้มสุดท้าย Over My Heart ในปี 1993 นอกจากร้องเพลง เธอยังแสดงในภาพยนตร์อย่าง Mugsy's Girls (1985) และ Backstage (1988) รวมถึงละครเวที Love, Janis ในฐานะจานิส จอปลิน ในปี 2002 ในช่วงปี 1990s เธอหยุดพักหลังสามีเสียชีวิต แต่กลับมาร้องเพลงดูเอ็ตกับเดวิด แฮสเซลฮอฟฟ์ สำหรับ Baywatch และพยายามคัมแบ็กในช่วงต้น 2000s แต่ประสบอุบัติเหตุตกบันไดหักขาทั้งสองข้างในปี 2001 ทำให้ต้องพักฟื้น 6 เดือน บรานิแกนเสียชีวิตอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2004 ที่บ้านในอีสต์ควอก นิวยอร์ก จากอาการโป่งพองของหลอดเลือดสมองที่ไม่ได้รับการวินิจฉัย หลังจากปวดหัวต่อเนื่องหลายสัปดาห์โดยไม่ได้ไปพบแพทย์ เถ้าถ่านของเธอถูกโปรยลงในลองไอส์แลนด์ซาวด์ เพลงของเธอได้รับความนิยมใหม่ในปี 2019 เมื่อ "Gloria" กลายเป็นเพลงชัยชนะอย่างไม่เป็นทางการของทีมฮอกกี้ St. Louis Blues ในฤดูกาล 2018-19 นำไปสู่การชนะสแตนลีย์คัพครั้งแรก และทำให้เพลงพุ่งขึ้นชาร์ตและสตรีมมิง

    เพลง "Self Control" มีจุดเริ่มต้นจากผลงานของนักร้องอิตาลีราฟ (ราฟฟาเอเล รีเอโฟลี) ซึ่งเขียนร่วมกับกีอันคาร์โล บิกัซซีและสตีฟ พิคโคโล จัดเรียงโดยเซลโซ วาลลี และโปรดิวซ์โดยบิกัซซี ออกในเดือนกุมภาพันธ์ 1984 เป็นซิงเกิลจากอัลบั้ม Raf ภายใต้ค่าย Carrere Records เวอร์ชัน 7 นิ้วยาว 4:21 นาที และ 12 นิ้วยาว 6:08 นาที โดยมีเพลง B-side เป็น "Self Control (Part Two)" และ "Running Away" ตามลำดับ เวอร์ชันของราฟมีส่วนแร็พซึ่งหายากสำหรับศิลปินผิวขาวในขณะนั้น และประสบความสำเร็จในยุโรป โดยขึ้นอันดับ 1 ในอิตาลี (7 สัปดาห์ไม่ต่อเนื่อง) และสวิตเซอร์แลนด์ อันดับ 2 ในเยอรมนีตะวันตก อันดับ 7 ในออสเตรีย และอันดับ 40 ในฝรั่งเศส ได้รับการรับรองโกลด์ในอิตาลี (50,000 ยูนิต) และติดอันดับปี 1984 ที่ 10 ในสวิตเซอร์แลนด์ และ 15 ในเยอรมนีตะวันตก ในปีเดียวกัน ลอร่า บรานิแกนนำมาคัฟเวอร์และออกเมื่อวันที่ 19 เมษายน 1984 เป็นเพลงนำจากอัลบั้ม Self Control ภายใต้ Atlantic Records โปรดิวซ์โดยแจ็ค ไวต์และร็อบบี้ บูคานัน จัดเรียงโดยฮาโรลด์ ฟัลเตอร์เมเยอร์และบูคานัน บันทึกเสียงในเยอรมนีตะวันตกและลอสแองเจลิส การปรับเปลี่ยนจากเวอร์ชันราฟรวมถึงการแทนที่คีย์บอร์ดฮุกด้วยกีตาร์ริฟฟ์และเพิ่มเพอร์คัสชันที่คมชัด มิวสิกวิดีโอกำกับโดยวิลเลียม ฟรีดกิน ถ่ายทำในนิวเจอร์ซีย์และนิวยอร์คซิตี้ แต่ถูก MTV ถือว่ารุนแรงเกินไป ทำให้ต้องตัดต่อและออกอากาศเฉพาะช่วงดึก ส่งผลให้บรานิแกนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง American Music Awards ปี 1985 สาขา Favorite Pop/Rock Female Video Artist (แต่แพ้ให้ไซนดี ลอเปอร์) เธอแสดงเพลงนี้ในรายการทีวีหลายแห่ง เช่น The Tonight Show Starring Johnny Carson (27 เมษายน 1984), The Merv Griffin Show, Solid Gold (12 พฤษภาคม 1984), American Bandstand (9 มิถุนายน 1984) และ Rock Rolls On

    ในแง่ความหมาย เพลง "Self Control" บรรยายถึงการสูญเสียการควบคุมตนเองในชีวิตกลางคืน ท่ามกลางแสงสีและสิ่งยั่วยวน โดยผู้บรรยายรู้สึกว่ากลางวันไร้ความหมายแต่กลางคืนคือโลกที่แท้จริง ท่อนเพลงหลักอย่าง "You take my self, you take my self control" แสดงถึงการยอมจำนนต่ออิทธิพลภายนอก ซึ่งอาจเป็นกลางคืน คนรัก หรือสิ่งเสพติด บรานิแกนอธิบายว่ามันเกี่ยวกับการสูญเสียการควบคุมให้กับกลางคืนหรือใครบางคน โดยในมิวสิกวิดีโอมีผู้ชายสวมหน้ากากแทนกลางคืนที่พาเธอเข้าสู่โลกนั้น การวิเคราะห์บางชิ้นชี้ว่ามันสะท้อนไลฟ์สไตล์ที่เกินขอบเขตในยุค 1980s ซึ่งเต็มไปด้วยการบริโภคและการปลดปล่อยตัวเอง แต่ก็มีความตึงเครียดระหว่างความดึงดูดและอันตราย การตีความอื่นๆ รวมถึงมุมมองว่ามันเกี่ยวกับหญิงสาวที่ชีวิตกลางวันปกติแต่กลางคืนกลายเป็น "creatures of the night" ที่ไม่อาจต่อต้านอนาคตใหม่ได้ ทำให้ต้องเชื่อว่าพรุ่งนี้ไม่มีจริง เพลงนี้ยังถูกนำไปตีความในแง่การต่อสู้ภายในจิตใจหรือแม้กระทั่งการเสพติด nightlife ที่อาจนำไปสู่ความเสี่ยง

    สำหรับความสำเร็จระดับโลก เวอร์ชันของบรานิแกนขึ้นอันดับ 1 ในออสเตรีย แคนาดา เดนมาร์ก ฟินแลนด์ โปรตุเกส แอฟริกาใต้ สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์ อันดับ 2 ในนอร์เวย์และไอร์แลนด์ อันดับ 3 ในออสเตรเลีย อันดับ 4 บน US Billboard Hot 100 (เข้าชาร์ตที่ 63 เมื่อ 8 เมษายน 1984 ขึ้นสูงสุด 4 นาน 2 สัปดาห์เมื่อ 24 มิถุนายน 1984 และอยู่ในชาร์ต 19 สัปดาห์ โดย 6 สัปดาห์ในท็อป 10) และอันดับ 5 บน UK Singles Chart สำหรับปี 1984 มันเป็นเพลงอันดับ 1 ในเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับการรับรองโกลด์ในเดนมาร์ก (45,000 ยูนิต) ฝรั่งเศส (500,000 ยูนิต) เยอรมนี (500,000 ยูนิต) สเปน (30,000 ยูนิต) และซิลเวอร์ในสหราชอาณาจักร (250,000 ยูนิต) ทั้งสองเวอร์ชัน (ราฟและบรานิแกน) ครองชาร์ตยุโรปในฤดูร้อน 1984 โดยสลับอันดับ 1 ในสวิตเซอร์แลนด์หลายครั้ง และจุดประกายกระแส Italo disco ในยุโรปแผ่นดินใหญ่ เพลงนี้กลายเป็นเพลงกำหนดยุค 1980s และถูกนำไปรีเมกหลายครั้ง เช่น โดยริกกี้ มาร์ติน ในปี 1993 (เป็นภาษาสเปนชื่อ "Que Día Es Hoy" ขึ้นอันดับ 26 บน US Hot Latin Songs), Royal Gigolos ในปี 2005 (ท็อป 20 ในเดนมาร์กและฟินแลนด์), Infernal ในปี 2006 (ท็อป 10 ในเดนมาร์กและฟินแลนด์), รีเมกแดนซ์โดยบรานิแกนเองในปี 2004 (อันดับ 10 บน US Dance Singles Sales), Kendra Erika ในปี 2018 (อันดับ 1 บน US Dance Club Songs), Eelke Kleijn และ Lee Cabrera ในปี 2023 และ Fast Boy ในปี 2024 (เปลี่ยนชื่อเป็น "Wave") นอกจากนี้ยังปรากฏในวัฒนธรรมป็อป เช่น ในตอน "The Great McCarthy" ของ Miami Vice ปี 1984 และเกม Grand Theft Auto: Vice City

    เพลง "Self Control" ไม่เพียงเป็นจุดสูงสุดในอาชีพของลอร่า บรานิแกน แต่ยังเป็นตัวแทนของยุคสมัยที่ผสมผสานดนตรีอิตาลีกับป็อปอเมริกัน ทำให้มันยังคงได้รับการยกย่องและนำไปใช้ในสื่อสมัยใหม่จนถึงปัจจุบัน

    #ลุงเล่าหลานฟัง

    https://www.youtube.com/watch?v=RP0_8J7uxhs
    ลอร่า บรานิแกน (Laura Branigan) ถือเป็นหนึ่งในนักร้องหญิงที่โดดเด่นที่สุดในยุค 1980s ด้วยเสียงร้องที่ทรงพลังและมีเอกลักษณ์ ซึ่งทำให้เธอได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ เธอเกิดเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 1952 ในเมืองเมานต์คิสโก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในครอบครัวชาวไอริช-อเมริกัน โดยเป็นลูกคนที่สี่ในห้าคน พ่อของเธอชื่อเจมส์ บรานิแกน ซีเนียร์ เป็นนายหน้าซื้อขายหุ้นและกองทุนรวม ส่วนแม่ชื่อแคธลีน (นามสกุลเดิม โอแฮร์) เธอเติบโตในเมืองอาร์มองก์และได้รับการศึกษาจากโรงเรียนคาทอลิกในชัปปาควา ก่อนจบมัธยมจากไบแรมฮิลส์ไฮสคูลในปี 1970 จากนั้นเธอเข้าศึกษาที่ American Academy of Dramatic Arts ในนิวยอร์คระหว่างปี 1970-1972 ซึ่งช่วยพัฒนาทักษะการแสดงและร้องเพลงของเธอ ในช่วงต้นอาชีพ เธอเคยทำงานหลากหลาย เช่น เป็นนักร้องแบ็กอัพให้กับเลนาร์ด โคเฮน ในทัวร์ยุโรปปี 1976 และเป็นสมาชิกวงโฟล์ก-ร็อกชื่อ Meadow ซึ่งออกอัลบั้ม The Friend Ship ในปี 1973 พร้อมซิงเกิล "When You Were Young" และ "Cane and Able" แต่หลังวงยุบ เธอเซ็นสัญญากับ Atlantic Records ในปี 1979 ผ่านการแนะนำจากผู้จัดการซิด เบิร์นสไตน์ 🌠 🎤 อาชีพหลักของบรานิแกนเริ่มพุ่งขึ้นในปี 1982 ด้วยอัลบั้มแรก Branigan ที่มีเพลงฮิต "Gloria" (คัฟเวอร์จากเพลงอิตาลีของอุมแบร์โต โตซซี) ซึ่งขึ้นอันดับ 2 บน Billboard Hot 100 นาน 3 สัปดาห์ อยู่ในชาร์ตนาน 36 สัปดาห์ (สถิติสำหรับศิลปินหญิงในขณะนั้น) และได้รับการรับรองแพลตตินัม นอกจากนี้ยังขึ้นอันดับ 1 ในออสเตรเลียและแคนาดา รวมถึงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่สาขา Best Female Pop Vocal Performance ในปี 1983 เธอมีส่วนร่วมในซาวด์แทร็กภาพยนตร์ Flashdance ในปี 1983 ซึ่งได้รับรางวัลแกรมมี่และออสการ์สำหรับอัลบั้มโดยรวม และปรากฏตัวในรายการทีวีชื่อดังอย่าง Saturday Night Live, CHiPs, Automan และ Knight Rider อัลบั้มที่สอง Branigan 2 ในปี 1983 มีเพลงฮิต "Solitaire" (ท็อป 10 ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเพลงฮิตแรกของไดแอน วอร์เรน) และ "How Am I Supposed to Live Without You" (อันดับ 12 บน Hot 100 และอันดับ 1 บน Adult Contemporary นาน 3 สัปดาห์ เขียนร่วมโดยไมเคิล โบลตัน) ในปี 1984 อัลบั้ม Self Control กลายเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จที่สุดของเธอ ได้รับการรับรองแพลตตินัม และมีเพลงฮิตอย่าง "Self Control", "Ti Amo" (อันดับ 2 ในออสเตรเลีย คัฟเวอร์จากโตซซีอีกเพลง), "The Lucky One" (ชนะรางวัล Grand Prix ที่ Tokyo Music Festival) และ "Satisfaction" เธอยังมีส่วนในซาวด์แทร็ก Ghostbusters ด้วยเพลง "Hot Night" และปรากฏในซีรีส์ Miami Vice อัลบั้มต่อๆ มา เช่น Hold Me (1985) มี "Spanish Eddie" และ "I Found Someone", Touch (1987) มี "Shattered Glass" และ "The Power of Love" (กลับสู่ท็อป 40 ในสหรัฐฯ), อัลบั้มชื่อตัวเองในปี 1990 มี "Moonlight on Water" และ "Never in a Million Years" และอัลบั้มสุดท้าย Over My Heart ในปี 1993 นอกจากร้องเพลง เธอยังแสดงในภาพยนตร์อย่าง Mugsy's Girls (1985) และ Backstage (1988) รวมถึงละครเวที Love, Janis ในฐานะจานิส จอปลิน ในปี 2002 ในช่วงปี 1990s เธอหยุดพักหลังสามีเสียชีวิต แต่กลับมาร้องเพลงดูเอ็ตกับเดวิด แฮสเซลฮอฟฟ์ สำหรับ Baywatch และพยายามคัมแบ็กในช่วงต้น 2000s แต่ประสบอุบัติเหตุตกบันไดหักขาทั้งสองข้างในปี 2001 ทำให้ต้องพักฟื้น 6 เดือน บรานิแกนเสียชีวิตอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2004 ที่บ้านในอีสต์ควอก นิวยอร์ก จากอาการโป่งพองของหลอดเลือดสมองที่ไม่ได้รับการวินิจฉัย หลังจากปวดหัวต่อเนื่องหลายสัปดาห์โดยไม่ได้ไปพบแพทย์ เถ้าถ่านของเธอถูกโปรยลงในลองไอส์แลนด์ซาวด์ เพลงของเธอได้รับความนิยมใหม่ในปี 2019 เมื่อ "Gloria" กลายเป็นเพลงชัยชนะอย่างไม่เป็นทางการของทีมฮอกกี้ St. Louis Blues ในฤดูกาล 2018-19 นำไปสู่การชนะสแตนลีย์คัพครั้งแรก และทำให้เพลงพุ่งขึ้นชาร์ตและสตรีมมิง 💿 เพลง "Self Control" มีจุดเริ่มต้นจากผลงานของนักร้องอิตาลีราฟ (ราฟฟาเอเล รีเอโฟลี) ซึ่งเขียนร่วมกับกีอันคาร์โล บิกัซซีและสตีฟ พิคโคโล จัดเรียงโดยเซลโซ วาลลี และโปรดิวซ์โดยบิกัซซี ออกในเดือนกุมภาพันธ์ 1984 เป็นซิงเกิลจากอัลบั้ม Raf ภายใต้ค่าย Carrere Records เวอร์ชัน 7 นิ้วยาว 4:21 นาที และ 12 นิ้วยาว 6:08 นาที โดยมีเพลง B-side เป็น "Self Control (Part Two)" และ "Running Away" ตามลำดับ เวอร์ชันของราฟมีส่วนแร็พซึ่งหายากสำหรับศิลปินผิวขาวในขณะนั้น และประสบความสำเร็จในยุโรป โดยขึ้นอันดับ 1 ในอิตาลี (7 สัปดาห์ไม่ต่อเนื่อง) และสวิตเซอร์แลนด์ อันดับ 2 ในเยอรมนีตะวันตก อันดับ 7 ในออสเตรีย และอันดับ 40 ในฝรั่งเศส ได้รับการรับรองโกลด์ในอิตาลี (50,000 ยูนิต) และติดอันดับปี 1984 ที่ 10 ในสวิตเซอร์แลนด์ และ 15 ในเยอรมนีตะวันตก ในปีเดียวกัน ลอร่า บรานิแกนนำมาคัฟเวอร์และออกเมื่อวันที่ 19 เมษายน 1984 เป็นเพลงนำจากอัลบั้ม Self Control ภายใต้ Atlantic Records โปรดิวซ์โดยแจ็ค ไวต์และร็อบบี้ บูคานัน จัดเรียงโดยฮาโรลด์ ฟัลเตอร์เมเยอร์และบูคานัน บันทึกเสียงในเยอรมนีตะวันตกและลอสแองเจลิส การปรับเปลี่ยนจากเวอร์ชันราฟรวมถึงการแทนที่คีย์บอร์ดฮุกด้วยกีตาร์ริฟฟ์และเพิ่มเพอร์คัสชันที่คมชัด มิวสิกวิดีโอกำกับโดยวิลเลียม ฟรีดกิน ถ่ายทำในนิวเจอร์ซีย์และนิวยอร์คซิตี้ แต่ถูก MTV ถือว่ารุนแรงเกินไป ทำให้ต้องตัดต่อและออกอากาศเฉพาะช่วงดึก ส่งผลให้บรานิแกนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง American Music Awards ปี 1985 สาขา Favorite Pop/Rock Female Video Artist (แต่แพ้ให้ไซนดี ลอเปอร์) เธอแสดงเพลงนี้ในรายการทีวีหลายแห่ง เช่น The Tonight Show Starring Johnny Carson (27 เมษายน 1984), The Merv Griffin Show, Solid Gold (12 พฤษภาคม 1984), American Bandstand (9 มิถุนายน 1984) และ Rock Rolls On 📝 ในแง่ความหมาย เพลง "Self Control" บรรยายถึงการสูญเสียการควบคุมตนเองในชีวิตกลางคืน ท่ามกลางแสงสีและสิ่งยั่วยวน โดยผู้บรรยายรู้สึกว่ากลางวันไร้ความหมายแต่กลางคืนคือโลกที่แท้จริง ท่อนเพลงหลักอย่าง "You take my self, you take my self control" แสดงถึงการยอมจำนนต่ออิทธิพลภายนอก ซึ่งอาจเป็นกลางคืน คนรัก หรือสิ่งเสพติด บรานิแกนอธิบายว่ามันเกี่ยวกับการสูญเสียการควบคุมให้กับกลางคืนหรือใครบางคน โดยในมิวสิกวิดีโอมีผู้ชายสวมหน้ากากแทนกลางคืนที่พาเธอเข้าสู่โลกนั้น การวิเคราะห์บางชิ้นชี้ว่ามันสะท้อนไลฟ์สไตล์ที่เกินขอบเขตในยุค 1980s ซึ่งเต็มไปด้วยการบริโภคและการปลดปล่อยตัวเอง แต่ก็มีความตึงเครียดระหว่างความดึงดูดและอันตราย การตีความอื่นๆ รวมถึงมุมมองว่ามันเกี่ยวกับหญิงสาวที่ชีวิตกลางวันปกติแต่กลางคืนกลายเป็น "creatures of the night" ที่ไม่อาจต่อต้านอนาคตใหม่ได้ ทำให้ต้องเชื่อว่าพรุ่งนี้ไม่มีจริง เพลงนี้ยังถูกนำไปตีความในแง่การต่อสู้ภายในจิตใจหรือแม้กระทั่งการเสพติด nightlife ที่อาจนำไปสู่ความเสี่ยง 🏅 สำหรับความสำเร็จระดับโลก เวอร์ชันของบรานิแกนขึ้นอันดับ 1 ในออสเตรีย แคนาดา เดนมาร์ก ฟินแลนด์ โปรตุเกส แอฟริกาใต้ สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์ อันดับ 2 ในนอร์เวย์และไอร์แลนด์ อันดับ 3 ในออสเตรเลีย อันดับ 4 บน US Billboard Hot 100 (เข้าชาร์ตที่ 63 เมื่อ 8 เมษายน 1984 ขึ้นสูงสุด 4 นาน 2 สัปดาห์เมื่อ 24 มิถุนายน 1984 และอยู่ในชาร์ต 19 สัปดาห์ โดย 6 สัปดาห์ในท็อป 10) และอันดับ 5 บน UK Singles Chart สำหรับปี 1984 มันเป็นเพลงอันดับ 1 ในเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับการรับรองโกลด์ในเดนมาร์ก (45,000 ยูนิต) ฝรั่งเศส (500,000 ยูนิต) เยอรมนี (500,000 ยูนิต) สเปน (30,000 ยูนิต) และซิลเวอร์ในสหราชอาณาจักร (250,000 ยูนิต) ทั้งสองเวอร์ชัน (ราฟและบรานิแกน) ครองชาร์ตยุโรปในฤดูร้อน 1984 โดยสลับอันดับ 1 ในสวิตเซอร์แลนด์หลายครั้ง และจุดประกายกระแส Italo disco ในยุโรปแผ่นดินใหญ่ เพลงนี้กลายเป็นเพลงกำหนดยุค 1980s และถูกนำไปรีเมกหลายครั้ง เช่น โดยริกกี้ มาร์ติน ในปี 1993 (เป็นภาษาสเปนชื่อ "Que Día Es Hoy" ขึ้นอันดับ 26 บน US Hot Latin Songs), Royal Gigolos ในปี 2005 (ท็อป 20 ในเดนมาร์กและฟินแลนด์), Infernal ในปี 2006 (ท็อป 10 ในเดนมาร์กและฟินแลนด์), รีเมกแดนซ์โดยบรานิแกนเองในปี 2004 (อันดับ 10 บน US Dance Singles Sales), Kendra Erika ในปี 2018 (อันดับ 1 บน US Dance Club Songs), Eelke Kleijn และ Lee Cabrera ในปี 2023 และ Fast Boy ในปี 2024 (เปลี่ยนชื่อเป็น "Wave") นอกจากนี้ยังปรากฏในวัฒนธรรมป็อป เช่น ในตอน "The Great McCarthy" ของ Miami Vice ปี 1984 และเกม Grand Theft Auto: Vice City 💃 เพลง "Self Control" ไม่เพียงเป็นจุดสูงสุดในอาชีพของลอร่า บรานิแกน แต่ยังเป็นตัวแทนของยุคสมัยที่ผสมผสานดนตรีอิตาลีกับป็อปอเมริกัน ทำให้มันยังคงได้รับการยกย่องและนำไปใช้ในสื่อสมัยใหม่จนถึงปัจจุบัน 🌟💫 #ลุงเล่าหลานฟัง https://www.youtube.com/watch?v=RP0_8J7uxhs
    0 Comments 0 Shares 179 Views 0 Reviews
  • Windows 11 แอบซ่อน Native NVMe Driver รุ่นใหม่ — ปลดล็อกได้ผ่าน Registry แต่เสี่ยงพังทั้งระบบ

    มีการค้นพบว่า Windows 11 และ Windows Server 2025 มี NVMe storage driver รุ่นใหม่ ที่ Microsoft ยังไม่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปใช้งาน แต่ซ่อนอยู่ในระบบแบบ “experimental flag” ซึ่งสามารถเปิดใช้งานได้ผ่านการแก้ไข Registry โดยตรง ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ NVMe โดยเฉพาะในงานที่ต้องการ I/O throughput สูง เช่นเกม, workstation และ workload แบบ data‑intensive.

    ผู้ใช้ที่ทดลองเปิดใช้งานรายงานว่า driver ใหม่นี้ช่วยลด latency และเพิ่มความเร็ว I/O ได้จริงในบางสถานการณ์ โดยเฉพาะบน SSD PCIe 4.0 และ PCIe 5.0 ที่มีคอขวดด้าน driver overhead อย่างไรก็ตาม Microsoft ยังไม่เปิดใช้ฟีเจอร์นี้อย่างเป็นทางการใน Windows 11 เวอร์ชัน consumer เพราะยังอยู่ในสถานะทดสอบ และอาจมีปัญหาความเข้ากันได้กับ SSD บางรุ่นหรือคอนโทรลเลอร์บางตระกูล.

    สิ่งที่น่าสนใจคือ driver ตัวนี้ถูกเปิดใช้โดยค่าเริ่มต้นใน Windows Server 2025 ซึ่งบ่งชี้ว่ามันถูกออกแบบมาสำหรับ workload ระดับองค์กร เช่น virtualization, database, และ storage‑heavy compute แต่ผู้ใช้ทั่วไปสามารถ “ปลดล็อก” มาใช้ได้บน Windows 11 ผ่าน Registry hack แม้ Microsoft จะไม่ได้แนะนำให้ทำก็ตาม.

    ในภาพรวม ฟีเจอร์นี้สะท้อนทิศทางของ Microsoft ที่ต้องการยกระดับ stack การจัดการ storage ให้ทันกับยุค SSD PCIe 5.0 ที่มีความเร็วสูงมาก แต่ก็ยังต้องใช้เวลาในการทดสอบเพื่อให้มั่นใจว่ารองรับ SSD ทุกแบรนด์และทุกคอนโทรลเลอร์ได้อย่างเสถียร ก่อนจะเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปในอนาคต.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Windows 11 มี NVMe driver รุ่นใหม่ซ่อนอยู่ในระบบ
    ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ I/O และลด latency
    เปิดใช้งานได้ผ่าน Registry hack

    เปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้นใน Windows Server 2025
    ชี้ว่าฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาสำหรับ workload ระดับองค์กร
    เน้นงาน virtualization และ database

    ผู้ใช้บางรายพบว่าความเร็วเพิ่มขึ้นจริง
    เหมาะกับ SSD PCIe 4.0 และ 5.0
    ลด driver overhead ในงานหนัก

    Microsoft ยังไม่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปอย่างเป็นทางการ
    อยู่ในสถานะ experimental
    อาจเปิดในอัปเดตใหญ่ของ Windows 11 ในอนาคต

    ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน
    Registry hack มีความเสี่ยงสูง
    อาจทำให้ระบบบูตไม่ได้หรือเกิด BSOD

    ความเข้ากันได้กับ SSD บางรุ่นยังไม่สมบูรณ์
    โดยเฉพาะคอนโทรลเลอร์รุ่นเก่า

    Microsoft ไม่รับประกันความเสถียรหากเปิดใช้เอง
    อาจมีผลต่อการอัปเดตหรือระบบความปลอดภัย

    https://www.tomshardware.com/software/windows/registry-hack-enables-new-performance-boosting-native-nvme-support-on-windows-11-windows-server-2025-feature-can-be-unlocked-for-consumer-pcs-but-at-your-own-risk
    ⚡🗝️ Windows 11 แอบซ่อน Native NVMe Driver รุ่นใหม่ — ปลดล็อกได้ผ่าน Registry แต่เสี่ยงพังทั้งระบบ มีการค้นพบว่า Windows 11 และ Windows Server 2025 มี NVMe storage driver รุ่นใหม่ ที่ Microsoft ยังไม่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปใช้งาน แต่ซ่อนอยู่ในระบบแบบ “experimental flag” ซึ่งสามารถเปิดใช้งานได้ผ่านการแก้ไข Registry โดยตรง ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ NVMe โดยเฉพาะในงานที่ต้องการ I/O throughput สูง เช่นเกม, workstation และ workload แบบ data‑intensive. ผู้ใช้ที่ทดลองเปิดใช้งานรายงานว่า driver ใหม่นี้ช่วยลด latency และเพิ่มความเร็ว I/O ได้จริงในบางสถานการณ์ โดยเฉพาะบน SSD PCIe 4.0 และ PCIe 5.0 ที่มีคอขวดด้าน driver overhead อย่างไรก็ตาม Microsoft ยังไม่เปิดใช้ฟีเจอร์นี้อย่างเป็นทางการใน Windows 11 เวอร์ชัน consumer เพราะยังอยู่ในสถานะทดสอบ และอาจมีปัญหาความเข้ากันได้กับ SSD บางรุ่นหรือคอนโทรลเลอร์บางตระกูล. สิ่งที่น่าสนใจคือ driver ตัวนี้ถูกเปิดใช้โดยค่าเริ่มต้นใน Windows Server 2025 ซึ่งบ่งชี้ว่ามันถูกออกแบบมาสำหรับ workload ระดับองค์กร เช่น virtualization, database, และ storage‑heavy compute แต่ผู้ใช้ทั่วไปสามารถ “ปลดล็อก” มาใช้ได้บน Windows 11 ผ่าน Registry hack แม้ Microsoft จะไม่ได้แนะนำให้ทำก็ตาม. ในภาพรวม ฟีเจอร์นี้สะท้อนทิศทางของ Microsoft ที่ต้องการยกระดับ stack การจัดการ storage ให้ทันกับยุค SSD PCIe 5.0 ที่มีความเร็วสูงมาก แต่ก็ยังต้องใช้เวลาในการทดสอบเพื่อให้มั่นใจว่ารองรับ SSD ทุกแบรนด์และทุกคอนโทรลเลอร์ได้อย่างเสถียร ก่อนจะเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปในอนาคต. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Windows 11 มี NVMe driver รุ่นใหม่ซ่อนอยู่ในระบบ ➡️ ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ I/O และลด latency ➡️ เปิดใช้งานได้ผ่าน Registry hack ✅ เปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้นใน Windows Server 2025 ➡️ ชี้ว่าฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาสำหรับ workload ระดับองค์กร ➡️ เน้นงาน virtualization และ database ✅ ผู้ใช้บางรายพบว่าความเร็วเพิ่มขึ้นจริง ➡️ เหมาะกับ SSD PCIe 4.0 และ 5.0 ➡️ ลด driver overhead ในงานหนัก ✅ Microsoft ยังไม่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปอย่างเป็นทางการ ➡️ อยู่ในสถานะ experimental ➡️ อาจเปิดในอัปเดตใหญ่ของ Windows 11 ในอนาคต ⚠️ ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน ‼️ Registry hack มีความเสี่ยงสูง ⛔ อาจทำให้ระบบบูตไม่ได้หรือเกิด BSOD ‼️ ความเข้ากันได้กับ SSD บางรุ่นยังไม่สมบูรณ์ ⛔ โดยเฉพาะคอนโทรลเลอร์รุ่นเก่า ‼️ Microsoft ไม่รับประกันความเสถียรหากเปิดใช้เอง ⛔ อาจมีผลต่อการอัปเดตหรือระบบความปลอดภัย https://www.tomshardware.com/software/windows/registry-hack-enables-new-performance-boosting-native-nvme-support-on-windows-11-windows-server-2025-feature-can-be-unlocked-for-consumer-pcs-but-at-your-own-risk
    0 Comments 0 Shares 89 Views 0 Reviews
  • MSI เปิดตัว Auto BCLK Overclocking บน X870 MAX — กดปุ่มเดียวเพิ่มแรง Ryzen 7 9800X3D ได้สูงสุด 15%

    MSI เปิดตัวชุดฟีเจอร์ใหม่บนเมนบอร์ด B850 และ X870 MAX ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถโอเวอร์คล็อกซีพียู AMD Ryzen 9000 Series ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะรุ่น Ryzen 7 9800X3D ที่ปกติจะโอเวอร์คล็อกได้จำกัด ฟีเจอร์ใหม่นี้รวมถึง PBO BCLK Booster, Memory Try It!, และ High-Efficiency Mode ซึ่งทั้งหมดถูกออกแบบให้ใช้งานแบบ “one‑click” ผ่าน BIOS.

    ฟีเจอร์ PBO BCLK Booster มีสองโหมด:
    Booster 1 → 103 MHz สำหรับซีพียูที่มี headroom ปานกลาง
    Booster 2 → 105 MHz สำหรับชิปที่ลากได้ไกลกว่า แต่ MSI เตือนว่าบางตัวอาจไม่เสถียร

    ด้านหน่วยความจำ MSI เพิ่มฟีเจอร์ Memory Try It! ที่ช่วยปรับ sub‑timings อัตโนมัติ และ High‑Efficiency Mode ที่มี preset ตั้งแต่ “tightest” ถึง “relax” เพื่อรีดประสิทธิภาพ DDR5 ให้สูงสุดโดยไม่ต้องจูนเองทีละค่า.

    จากผลทดสอบของ MSI เอง ฟีเจอร์เหล่านี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ตั้งแต่ 3–15% ขึ้นอยู่กับเกมหรือแอป เช่น Doom: The Dark Ages เพิ่มได้ถึง 15% ขณะที่เกมอื่นอย่าง Call of Duty: Black Ops 7 เพิ่มไม่ถึง 1% แสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับลักษณะเวิร์กโหลดเป็นหลัก.

    โดยรวมแล้ว ฟีเจอร์นี้สะท้อนทิศทางใหม่ของ MSI ที่ต้องการทำให้การโอเวอร์คล็อก “เข้าถึงง่าย” แม้สำหรับผู้ใช้ทั่วไป พร้อมผลักดันเมนบอร์ด X870 MAX ให้เป็นตัวเลือกหลักของผู้ใช้ Ryzen 9000 Series ที่ต้องการประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องจูนเองแบบละเอียด.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    MSI เพิ่มฟีเจอร์ Auto BCLK บน B850 และ X870 MAX
    ใช้งานแบบ one‑click ผ่าน BIOS
    เน้นเพิ่มประสิทธิภาพ Ryzen 9000 Series โดยเฉพาะ 9800X3D

    PBO BCLK Booster มี 2 โหมด
    103 MHz สำหรับชิปทั่วไป
    105 MHz สำหรับชิปที่ลากได้ไกลกว่า

    ฟีเจอร์หน่วยความจำช่วยรีดประสิทธิภาพ DDR5
    Memory Try It! สำหรับ sub‑timings
    High‑Efficiency Mode มี 4 preset

    ผลทดสอบเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 15%
    ขึ้นอยู่กับเกมและเวิร์กโหลด
    บางเกมเพิ่มน้อยกว่า 1%

    ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน
    โหมด BCLK 105 MHz อาจไม่เสถียรในบางชิป
    MSI เตือนว่าขึ้นอยู่กับ headroom ของซีพียูแต่ละตัว

    การโอเวอร์คล็อกอัตโนมัติยังมีความเสี่ยงด้านความร้อนและอายุการใช้งาน
    ควร stress‑test ทุกครั้งหลังเปิดฟีเจอร์

    ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นไม่สม่ำเสมอในทุกเกม
    บางเกมแทบไม่เพิ่มเลยแม้เปิดทุกฟีเจอร์

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/msi-adds-auto-bclk-overclocking-to-x870-max-motherboards-claims-new-one-click-features-add-up-to-15-percent-extra-performance-on-ryzen-7-9800x3d
    ⚙️🔥 MSI เปิดตัว Auto BCLK Overclocking บน X870 MAX — กดปุ่มเดียวเพิ่มแรง Ryzen 7 9800X3D ได้สูงสุด 15% MSI เปิดตัวชุดฟีเจอร์ใหม่บนเมนบอร์ด B850 และ X870 MAX ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถโอเวอร์คล็อกซีพียู AMD Ryzen 9000 Series ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะรุ่น Ryzen 7 9800X3D ที่ปกติจะโอเวอร์คล็อกได้จำกัด ฟีเจอร์ใหม่นี้รวมถึง PBO BCLK Booster, Memory Try It!, และ High-Efficiency Mode ซึ่งทั้งหมดถูกออกแบบให้ใช้งานแบบ “one‑click” ผ่าน BIOS. ฟีเจอร์ PBO BCLK Booster มีสองโหมด: 💠 Booster 1 → 103 MHz สำหรับซีพียูที่มี headroom ปานกลาง 💠 Booster 2 → 105 MHz สำหรับชิปที่ลากได้ไกลกว่า แต่ MSI เตือนว่าบางตัวอาจไม่เสถียร ด้านหน่วยความจำ MSI เพิ่มฟีเจอร์ Memory Try It! ที่ช่วยปรับ sub‑timings อัตโนมัติ และ High‑Efficiency Mode ที่มี preset ตั้งแต่ “tightest” ถึง “relax” เพื่อรีดประสิทธิภาพ DDR5 ให้สูงสุดโดยไม่ต้องจูนเองทีละค่า. จากผลทดสอบของ MSI เอง ฟีเจอร์เหล่านี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ตั้งแต่ 3–15% ขึ้นอยู่กับเกมหรือแอป เช่น Doom: The Dark Ages เพิ่มได้ถึง 15% ขณะที่เกมอื่นอย่าง Call of Duty: Black Ops 7 เพิ่มไม่ถึง 1% แสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับลักษณะเวิร์กโหลดเป็นหลัก. โดยรวมแล้ว ฟีเจอร์นี้สะท้อนทิศทางใหม่ของ MSI ที่ต้องการทำให้การโอเวอร์คล็อก “เข้าถึงง่าย” แม้สำหรับผู้ใช้ทั่วไป พร้อมผลักดันเมนบอร์ด X870 MAX ให้เป็นตัวเลือกหลักของผู้ใช้ Ryzen 9000 Series ที่ต้องการประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องจูนเองแบบละเอียด. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ MSI เพิ่มฟีเจอร์ Auto BCLK บน B850 และ X870 MAX ➡️ ใช้งานแบบ one‑click ผ่าน BIOS ➡️ เน้นเพิ่มประสิทธิภาพ Ryzen 9000 Series โดยเฉพาะ 9800X3D ✅ PBO BCLK Booster มี 2 โหมด ➡️ 103 MHz สำหรับชิปทั่วไป ➡️ 105 MHz สำหรับชิปที่ลากได้ไกลกว่า ✅ ฟีเจอร์หน่วยความจำช่วยรีดประสิทธิภาพ DDR5 ➡️ Memory Try It! สำหรับ sub‑timings ➡️ High‑Efficiency Mode มี 4 preset ✅ ผลทดสอบเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 15% ➡️ ขึ้นอยู่กับเกมและเวิร์กโหลด ➡️ บางเกมเพิ่มน้อยกว่า 1% ⚠️ ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน ‼️ โหมด BCLK 105 MHz อาจไม่เสถียรในบางชิป ⛔ MSI เตือนว่าขึ้นอยู่กับ headroom ของซีพียูแต่ละตัว ‼️ การโอเวอร์คล็อกอัตโนมัติยังมีความเสี่ยงด้านความร้อนและอายุการใช้งาน ⛔ ควร stress‑test ทุกครั้งหลังเปิดฟีเจอร์ ‼️ ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นไม่สม่ำเสมอในทุกเกม ⛔ บางเกมแทบไม่เพิ่มเลยแม้เปิดทุกฟีเจอร์ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/msi-adds-auto-bclk-overclocking-to-x870-max-motherboards-claims-new-one-click-features-add-up-to-15-percent-extra-performance-on-ryzen-7-9800x3d
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    MSI adds auto BCLK overclocking to X870 MAX motherboards — claims new 'one-click' features add up to 15% extra performance on Ryzen 7 9800X3D
    MSI's new overclocking features make it easier to tighten sub-timings on some of its latest AM5 motherboards.
    0 Comments 0 Shares 95 Views 0 Reviews
  • เห็นร้านเงียบๆ ฟาดเรียบนะเคิฟราชาข้าวผัดปู(ทะเลซีฟู้ด) #อุดมสุข #ร้านอาหารใกล้ฉัน #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #อาหาร #ต้องลอง #ของอร่อยบอกต่อ #eat #food #streetfood #thaifood #thailand #thaitimes #kaiaminute
    🧡เห็นร้านเงียบๆ ฟาดเรียบนะเคิฟ✨ราชาข้าวผัดปู(ทะเลซีฟู้ด)🥰 #อุดมสุข #ร้านอาหารใกล้ฉัน #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #อาหาร #ต้องลอง #ของอร่อยบอกต่อ #eat #food #streetfood #thaifood #thailand #thaitimes #kaiaminute
    0 Comments 0 Shares 66 Views 0 0 Reviews
  • ร้านอาหารตามสั่งหนูกร Ep.2ให้เยอะ ราคาเบา รสชาติดี แถวๆนี้เค้ารู้กัน #ร้านอาหารใกล้ฉัน #สมุทรปราการ #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #อาหาร #ต้องลอง #ของอร่อยบอกต่อ #eat #food #streetfood #thaifood #thailand #thaitimes #kaiaminute
    ✨ร้านอาหารตามสั่งหนูกร Ep.2💖ให้เยอะ ราคาเบา รสชาติดี แถวๆนี้เค้ารู้กัน😁 #ร้านอาหารใกล้ฉัน #สมุทรปราการ #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #อาหาร #ต้องลอง #ของอร่อยบอกต่อ #eat #food #streetfood #thaifood #thailand #thaitimes #kaiaminute
    0 Comments 0 Shares 78 Views 0 0 Reviews
  • YouTube และ Google ล่มพร้อมกัน

    ตั้งแต่เช้าวันศุกร์ ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรรายงานว่าไม่สามารถใช้งาน YouTube, YouTube TV และ Google Search ได้ตามปกติ โดยเฉพาะ YouTube ที่มีรายงานปัญหามากกว่า 10,000 เคสในช่วงชั่วโมงเดียว ทำให้เป็นบริการที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด

    สัญญาณจาก Downdetector และ Cloudflare
    ข้อมูลจาก Downdetector แสดงให้เห็นการพุ่งสูงของการแจ้งปัญหาในหลายบริการพร้อมกัน ทั้ง YouTube, Google TV, Google Search รวมถึงแอปอื่น ๆ เช่น The Weather Channel และ Target ขณะเดียวกัน Cloudflare รายงานว่ามีปัญหาเครือข่ายเล็กน้อยในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ได้แก้ไขไปแล้ว ทำให้ยังไม่แน่ชัดว่าปัญหามาจาก Google โดยตรงหรือจากโครงสร้างพื้นฐานภายนอก

    การตอบสนองและสถานการณ์ล่าสุด
    Google ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ แต่มีการอัปเดตว่าเพิ่งปล่อย Core Algorithm Update เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบ อย่างไรก็ตาม สถานะบริการของ Google ยังคงแสดงว่า “ปกติ” ทำให้ผู้ใช้บางส่วนยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ ขณะที่บางพื้นที่ยังคงพบปัญหา

    ผลกระทบต่อผู้ใช้
    การล่มครั้งนี้ไม่เพียงกระทบต่อการใช้งานทั่วไป แต่ยังส่งผลต่อผู้ที่พึ่งพา YouTube TV ในการรับชมรายการสด และผู้ใช้ Google Search ในการทำงานหรือค้นหาข้อมูล ปัญหาลักษณะนี้สะท้อนถึงความเปราะบางของบริการออนไลน์ที่มีผู้ใช้จำนวนมหาศาลทั่วโลก

    สรุปเป็นหัวข้อ
    บริการที่ได้รับผลกระทบ
    YouTube มีรายงานปัญหามากกว่า 10,000 เคส
    Google Search และ YouTube TV มีรายงานหลายร้อยเคส

    ข้อมูลจาก Downdetector และ Cloudflare
    หลายบริการมีการแจ้งปัญหาพร้อมกัน
    Cloudflare เคยมีปัญหาเครือข่าย แต่แก้ไขแล้ว

    สถานการณ์ล่าสุด
    Google ปล่อย Core Algorithm Update เมื่อ 11 ธันวาคม
    สถานะบริการยังคงแสดง “ปกติ”

    คำเตือนและผลกระทบ
    ผู้ใช้บางพื้นที่ยังไม่สามารถใช้งานได้
    กระทบต่อการทำงานและการรับชมรายการสด
    สะท้อนความเปราะบางของบริการออนไลน์ระดับโลก

    https://www.tomshardware.com/news/live/ongoing-youtube-google-outage-reported-outage-spikes-across-popular-services
    📺 YouTube และ Google ล่มพร้อมกัน ตั้งแต่เช้าวันศุกร์ ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรรายงานว่าไม่สามารถใช้งาน YouTube, YouTube TV และ Google Search ได้ตามปกติ โดยเฉพาะ YouTube ที่มีรายงานปัญหามากกว่า 10,000 เคสในช่วงชั่วโมงเดียว ทำให้เป็นบริการที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด 🌐 สัญญาณจาก Downdetector และ Cloudflare ข้อมูลจาก Downdetector แสดงให้เห็นการพุ่งสูงของการแจ้งปัญหาในหลายบริการพร้อมกัน ทั้ง YouTube, Google TV, Google Search รวมถึงแอปอื่น ๆ เช่น The Weather Channel และ Target ขณะเดียวกัน Cloudflare รายงานว่ามีปัญหาเครือข่ายเล็กน้อยในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ได้แก้ไขไปแล้ว ทำให้ยังไม่แน่ชัดว่าปัญหามาจาก Google โดยตรงหรือจากโครงสร้างพื้นฐานภายนอก 🛠️ การตอบสนองและสถานการณ์ล่าสุด Google ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ แต่มีการอัปเดตว่าเพิ่งปล่อย Core Algorithm Update เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบ อย่างไรก็ตาม สถานะบริการของ Google ยังคงแสดงว่า “ปกติ” ทำให้ผู้ใช้บางส่วนยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ ขณะที่บางพื้นที่ยังคงพบปัญหา ⚠️ ผลกระทบต่อผู้ใช้ การล่มครั้งนี้ไม่เพียงกระทบต่อการใช้งานทั่วไป แต่ยังส่งผลต่อผู้ที่พึ่งพา YouTube TV ในการรับชมรายการสด และผู้ใช้ Google Search ในการทำงานหรือค้นหาข้อมูล ปัญหาลักษณะนี้สะท้อนถึงความเปราะบางของบริการออนไลน์ที่มีผู้ใช้จำนวนมหาศาลทั่วโลก 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ บริการที่ได้รับผลกระทบ ➡️ YouTube มีรายงานปัญหามากกว่า 10,000 เคส ➡️ Google Search และ YouTube TV มีรายงานหลายร้อยเคส ✅ ข้อมูลจาก Downdetector และ Cloudflare ➡️ หลายบริการมีการแจ้งปัญหาพร้อมกัน ➡️ Cloudflare เคยมีปัญหาเครือข่าย แต่แก้ไขแล้ว ✅ สถานการณ์ล่าสุด ➡️ Google ปล่อย Core Algorithm Update เมื่อ 11 ธันวาคม ➡️ สถานะบริการยังคงแสดง “ปกติ” ‼️ คำเตือนและผลกระทบ ⛔ ผู้ใช้บางพื้นที่ยังไม่สามารถใช้งานได้ ⛔ กระทบต่อการทำงานและการรับชมรายการสด ⛔ สะท้อนความเปราะบางของบริการออนไลน์ระดับโลก https://www.tomshardware.com/news/live/ongoing-youtube-google-outage-reported-outage-spikes-across-popular-services
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • ช่องโหว่เมนบอร์ดเปิดทางโกงเกม

    Riot Games ตรวจพบว่ามีบั๊กในระบบ IOMMU (Input-Output Memory Management Unit) ของเมนบอร์ดจาก Asus, Gigabyte, MSI และ ASRock ที่ไม่ถูกเปิดใช้งานเต็มที่ตั้งแต่บูตเครื่อง แม้ BIOS จะแสดงว่ามีการเปิด Pre-Boot DMA Protection แต่จริง ๆ แล้วระบบยังไม่ถูกป้องกันเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถใช้ DMA devices แทรกโค้ดเข้าไปใน RAM ได้โดยตรง และหลบเลี่ยงระบบ anti-cheat ของเกม Valorant

    วิธีการโกงที่ซับซ้อน
    DMA devices เป็นอุปกรณ์ที่เสียบเข้ากับ PCIe slot และสามารถเข้าถึงหน่วยความจำโดยตรงโดยไม่ผ่านระบบปฏิบัติการหรือซีพียู เทคนิคนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นทั่วไปใช้ แต่เป็นวิธีการของผู้เล่นระดับแข่งขันที่ต้องการความได้เปรียบใน eSports โดยเฉพาะเมื่อมีเงินรางวัลเข้ามาเกี่ยวข้อง การใช้ช่องโหว่นี้ทำให้สามารถแก้ไขข้อมูลเกมได้โดยไม่ถูกตรวจจับ

    การตอบสนองของ Riot และผู้ผลิต
    เมื่อพบช่องโหว่ Riot Games ได้ร่วมมือกับผู้ผลิตเมนบอร์ดเพื่อออก BIOS update ปิดช่องโหว่ดังกล่าวทันที หากผู้เล่นไม่อัปเดต BIOS จะถูกบล็อกไม่ให้เข้าเกม Valorant โดย Riot แนะนำให้เปิดใช้งานฟีเจอร์ความปลอดภัย เช่น Secure Boot, VBS และ IOMMU ให้ทำงานอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันการถูก exploit

    ผลกระทบและคำเตือน
    แม้การอัปเดต BIOS อาจไม่ใช่เรื่องที่ผู้ใช้ทั่วไปให้ความสำคัญ แต่ในกรณีนี้ถือเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันการโกงและรักษาความยุติธรรมในเกม การละเลยอัปเดตอาจทำให้ผู้เล่นถูกบล็อกจากเกม และยังเสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากมัลแวร์ที่ใช้ช่องโหว่เดียวกัน

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ช่องโหว่ที่ค้นพบ
    IOMMU ไม่ถูกเปิดใช้งานเต็มที่ตั้งแต่บูตเครื่อง
    เปิดทางให้ DMA devices เข้าถึง RAM โดยตรง

    ผลกระทบต่อเกม Valorant
    ผู้เล่นสามารถโกงโดยไม่ถูกตรวจจับจาก anti-cheat
    Riot บังคับให้อัปเดต BIOS ก่อนเข้าเกม

    การแก้ไขจากผู้ผลิต
    Asus, Gigabyte, MSI และ ASRock ออก BIOS update
    Riot แนะนำเปิด Secure Boot, VBS และ IOMMU

    https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/critical-motherboard-flaw-allows-game-cheats-riot-games-blocks-valorant-players-that-dont-update-bios-security-patches-pushed-live-by-all-major-motherboard-vendors
    🎮 ช่องโหว่เมนบอร์ดเปิดทางโกงเกม Riot Games ตรวจพบว่ามีบั๊กในระบบ IOMMU (Input-Output Memory Management Unit) ของเมนบอร์ดจาก Asus, Gigabyte, MSI และ ASRock ที่ไม่ถูกเปิดใช้งานเต็มที่ตั้งแต่บูตเครื่อง แม้ BIOS จะแสดงว่ามีการเปิด Pre-Boot DMA Protection แต่จริง ๆ แล้วระบบยังไม่ถูกป้องกันเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถใช้ DMA devices แทรกโค้ดเข้าไปใน RAM ได้โดยตรง และหลบเลี่ยงระบบ anti-cheat ของเกม Valorant ⚡ วิธีการโกงที่ซับซ้อน DMA devices เป็นอุปกรณ์ที่เสียบเข้ากับ PCIe slot และสามารถเข้าถึงหน่วยความจำโดยตรงโดยไม่ผ่านระบบปฏิบัติการหรือซีพียู เทคนิคนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นทั่วไปใช้ แต่เป็นวิธีการของผู้เล่นระดับแข่งขันที่ต้องการความได้เปรียบใน eSports โดยเฉพาะเมื่อมีเงินรางวัลเข้ามาเกี่ยวข้อง การใช้ช่องโหว่นี้ทำให้สามารถแก้ไขข้อมูลเกมได้โดยไม่ถูกตรวจจับ 🛡️ การตอบสนองของ Riot และผู้ผลิต เมื่อพบช่องโหว่ Riot Games ได้ร่วมมือกับผู้ผลิตเมนบอร์ดเพื่อออก BIOS update ปิดช่องโหว่ดังกล่าวทันที หากผู้เล่นไม่อัปเดต BIOS จะถูกบล็อกไม่ให้เข้าเกม Valorant โดย Riot แนะนำให้เปิดใช้งานฟีเจอร์ความปลอดภัย เช่น Secure Boot, VBS และ IOMMU ให้ทำงานอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันการถูก exploit ⚠️ ผลกระทบและคำเตือน แม้การอัปเดต BIOS อาจไม่ใช่เรื่องที่ผู้ใช้ทั่วไปให้ความสำคัญ แต่ในกรณีนี้ถือเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันการโกงและรักษาความยุติธรรมในเกม การละเลยอัปเดตอาจทำให้ผู้เล่นถูกบล็อกจากเกม และยังเสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากมัลแวร์ที่ใช้ช่องโหว่เดียวกัน 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ช่องโหว่ที่ค้นพบ ➡️ IOMMU ไม่ถูกเปิดใช้งานเต็มที่ตั้งแต่บูตเครื่อง ➡️ เปิดทางให้ DMA devices เข้าถึง RAM โดยตรง ✅ ผลกระทบต่อเกม Valorant ➡️ ผู้เล่นสามารถโกงโดยไม่ถูกตรวจจับจาก anti-cheat ➡️ Riot บังคับให้อัปเดต BIOS ก่อนเข้าเกม ✅ การแก้ไขจากผู้ผลิต ➡️ Asus, Gigabyte, MSI และ ASRock ออก BIOS update ➡️ Riot แนะนำเปิด Secure Boot, VBS และ IOMMU https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/critical-motherboard-flaw-allows-game-cheats-riot-games-blocks-valorant-players-that-dont-update-bios-security-patches-pushed-live-by-all-major-motherboard-vendors
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 Reviews
  • Firefox เตรียมเพิ่ม “AI Kill Switch” ปิดการทำงาน AI ได้ทั้งหมด

    Mozilla ประกาศว่า Firefox เวอร์ชันใหม่จะมาพร้อม AI Kill Switch ซึ่งเป็นตัวเลือกให้ผู้ใช้สามารถปิดการทำงานของฟีเจอร์ AI ได้อย่างสมบูรณ์ ถือเป็นการตอบสนองต่อความกังวลของผู้ใช้ที่ไม่ต้องการให้เบราว์เซอร์มีการประมวลผลหรือแนะนำด้วย AI โดยค่าเริ่มต้น ฟีเจอร์ AI ทั้งหมดจะเป็นแบบ opt-in คือผู้ใช้ต้องเลือกเปิดเอง ไม่ได้เปิดอัตโนมัติ

    แนวทางการออกแบบและการควบคุม
    Mozilla ยืนยันว่าการเพิ่ม AI Kill Switch เป็นการสร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ โดยทุกฟีเจอร์ AI ที่มีใน Firefox จะสามารถปิดได้จากการตั้งค่า ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเขียนข้อความ, การสรุปเนื้อหา, หรือการแนะนำการใช้งาน ผู้ใช้จึงมีอำนาจควบคุมเต็มที่ว่าจะใช้หรือไม่ใช้ AI ในเบราว์เซอร์ของตนเอง

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และตลาดเบราว์เซอร์
    การตัดสินใจของ Mozilla อาจสร้างแรงกดดันให้เบราว์เซอร์รายอื่น เช่น Chrome หรือ Edge ต้องพิจารณาเพิ่มตัวเลือกที่คล้ายกัน เพราะผู้ใช้จำนวนมากเริ่มกังวลเรื่อง ความเป็นส่วนตัวและการควบคุมข้อมูล การมี Kill Switch จึงเป็นจุดขายที่สะท้อนถึงแนวทาง “ผู้ใช้มาก่อน” ของ Firefox และอาจช่วยดึงดูดผู้ใช้ที่ไม่ต้องการ AI เข้ามาในทุกมิติของการใช้งานเว็บ

    มุมมองเชิงกลยุทธ์
    การเพิ่ม AI Kill Switch ไม่ได้หมายถึง Mozilla ปฏิเสธ AI แต่เป็นการสร้างสมดุลระหว่าง นวัตกรรมและการควบคุม ผู้ใช้ที่สนใจ AI ยังสามารถเปิดใช้งานได้ แต่ผู้ที่กังวลก็มีทางเลือกในการปิดทั้งหมดทันที กลยุทธ์นี้สะท้อนถึงการรักษาอัตลักษณ์ของ Firefox ในฐานะเบราว์เซอร์ที่เน้น ความเป็นอิสระและความโปร่งใส

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    Firefox เพิ่ม AI Kill Switch
    ผู้ใช้สามารถปิดฟีเจอร์ AI ได้ทั้งหมดจากการตั้งค่า

    ฟีเจอร์ AI เป็นแบบ opt-in
    ผู้ใช้ต้องเลือกเปิดเอง ไม่ได้เปิดอัตโนมัติ

    ผลกระทบเชิงตลาด
    อาจกดดันเบราว์เซอร์อื่นให้เพิ่มตัวเลือกคล้ายกัน

    กลยุทธ์ Mozilla
    สร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและการควบคุมผู้ใช้

    คำเตือนต่อผู้ใช้ทั่วไป
    หากปิด AI อาจไม่ได้รับฟีเจอร์ช่วยเหลือ เช่น การสรุปเนื้อหา หรือการแนะนำอัจฉริยะ

    ความเสี่ยงเชิงการแข่งขัน
    หากผู้ใช้จำนวนมากเลือกปิด AI อาจทำให้การพัฒนา AI ใน Firefox ถูกจำกัดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

    https://9to5linux.com/firefox-will-ship-with-an-ai-kill-switch-to-completely-disable-all-ai-features
    🦊 Firefox เตรียมเพิ่ม “AI Kill Switch” ปิดการทำงาน AI ได้ทั้งหมด Mozilla ประกาศว่า Firefox เวอร์ชันใหม่จะมาพร้อม AI Kill Switch ซึ่งเป็นตัวเลือกให้ผู้ใช้สามารถปิดการทำงานของฟีเจอร์ AI ได้อย่างสมบูรณ์ ถือเป็นการตอบสนองต่อความกังวลของผู้ใช้ที่ไม่ต้องการให้เบราว์เซอร์มีการประมวลผลหรือแนะนำด้วย AI โดยค่าเริ่มต้น ฟีเจอร์ AI ทั้งหมดจะเป็นแบบ opt-in คือผู้ใช้ต้องเลือกเปิดเอง ไม่ได้เปิดอัตโนมัติ 🔧 แนวทางการออกแบบและการควบคุม Mozilla ยืนยันว่าการเพิ่ม AI Kill Switch เป็นการสร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ โดยทุกฟีเจอร์ AI ที่มีใน Firefox จะสามารถปิดได้จากการตั้งค่า ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเขียนข้อความ, การสรุปเนื้อหา, หรือการแนะนำการใช้งาน ผู้ใช้จึงมีอำนาจควบคุมเต็มที่ว่าจะใช้หรือไม่ใช้ AI ในเบราว์เซอร์ของตนเอง 🌐 ผลกระทบต่อผู้ใช้และตลาดเบราว์เซอร์ การตัดสินใจของ Mozilla อาจสร้างแรงกดดันให้เบราว์เซอร์รายอื่น เช่น Chrome หรือ Edge ต้องพิจารณาเพิ่มตัวเลือกที่คล้ายกัน เพราะผู้ใช้จำนวนมากเริ่มกังวลเรื่อง ความเป็นส่วนตัวและการควบคุมข้อมูล การมี Kill Switch จึงเป็นจุดขายที่สะท้อนถึงแนวทาง “ผู้ใช้มาก่อน” ของ Firefox และอาจช่วยดึงดูดผู้ใช้ที่ไม่ต้องการ AI เข้ามาในทุกมิติของการใช้งานเว็บ 📈 มุมมองเชิงกลยุทธ์ การเพิ่ม AI Kill Switch ไม่ได้หมายถึง Mozilla ปฏิเสธ AI แต่เป็นการสร้างสมดุลระหว่าง นวัตกรรมและการควบคุม ผู้ใช้ที่สนใจ AI ยังสามารถเปิดใช้งานได้ แต่ผู้ที่กังวลก็มีทางเลือกในการปิดทั้งหมดทันที กลยุทธ์นี้สะท้อนถึงการรักษาอัตลักษณ์ของ Firefox ในฐานะเบราว์เซอร์ที่เน้น ความเป็นอิสระและความโปร่งใส 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ Firefox เพิ่ม AI Kill Switch ➡️ ผู้ใช้สามารถปิดฟีเจอร์ AI ได้ทั้งหมดจากการตั้งค่า ✅ ฟีเจอร์ AI เป็นแบบ opt-in ➡️ ผู้ใช้ต้องเลือกเปิดเอง ไม่ได้เปิดอัตโนมัติ ✅ ผลกระทบเชิงตลาด ➡️ อาจกดดันเบราว์เซอร์อื่นให้เพิ่มตัวเลือกคล้ายกัน ✅ กลยุทธ์ Mozilla ➡️ สร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและการควบคุมผู้ใช้ ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้ทั่วไป ⛔ หากปิด AI อาจไม่ได้รับฟีเจอร์ช่วยเหลือ เช่น การสรุปเนื้อหา หรือการแนะนำอัจฉริยะ ‼️ ความเสี่ยงเชิงการแข่งขัน ⛔ หากผู้ใช้จำนวนมากเลือกปิด AI อาจทำให้การพัฒนา AI ใน Firefox ถูกจำกัดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง https://9to5linux.com/firefox-will-ship-with-an-ai-kill-switch-to-completely-disable-all-ai-features
    9TO5LINUX.COM
    Firefox Will Ship with an "AI Kill Switch" to Completely Disable all AI Features - 9to5Linux
    Mozilla is working on an AI kill switch for the Firefox open-source web browser to let users completely disable all AI features.
    0 Comments 0 Shares 96 Views 0 Reviews
  • PeerTube v8: ก้าวใหม่ของวิดีโอแบบกระจายศูนย์

    PeerTube ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอแบบ decentralized และ open source ได้ออกเวอร์ชันใหม่ PeerTube v8 พร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้สร้างคอนเทนต์และองค์กรใช้งานได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่ม team collaboration และการปรับปรุงดีไซน์ของ video player ให้ทันสมัยมากขึ้น

    Team Collaboration และการจัดการช่อง
    หนึ่งในฟีเจอร์ที่ถูกเรียกร้องมากที่สุดคือการให้สิทธิ์ Editors ในช่อง PeerTube ผู้ดูแลสามารถเพิ่มคนเข้ามาช่วยจัดการเนื้อหาได้ เช่น การอัปโหลดวิดีโอ, แก้ไข, จัดการ playlist และคอมเมนต์ โดยไม่ต้องให้สิทธิ์เต็มเหมือนเจ้าของช่อง ฟีเจอร์นี้เหมาะกับองค์กรหรือทีมที่มีหลายคนดูแลคอนเทนต์ร่วมกัน

    Video Player ดีไซน์ใหม่และระบบนำเข้าที่ดีขึ้น
    PeerTube v8 มาพร้อมธีมใหม่ชื่อ Lucide ที่ลดความเทอะทะของปุ่มเดิม ๆ และทำให้ผู้ชมโฟกัสกับเนื้อหามากขึ้น นอกจากนี้ระบบนำเข้าวิดีโอ (video import) ก็ถูกปรับปรุงให้เสถียรขึ้น หากการนำเข้าล้มเหลว ผู้ใช้สามารถ retry ได้เองโดยไม่ต้องเริ่มใหม่ทั้งหมด อีกทั้งยังรองรับการ retry อัตโนมัติระหว่างการ sync ช่อง

    Mobile App กับ Creator Mode
    หลังจากการระดมทุนในเดือนพฤษภาคม 2025 ทีมงานได้เพิ่ม Creator Mode ในแอปมือถือ ผู้ใช้สามารถอัปโหลดวิดีโอจากมือถือได้โดยตรง ทั้งจาก gallery หรือการถ่ายใหม่ พร้อมระบบแจ้งเตือนความคืบหน้าแบบ background upload และยังมีหน้า Creator ใหม่ที่ช่วยจัดการ ดาวน์โหลด หรือจัดการ playlist ได้สะดวกขึ้น แม้ฟีเจอร์ live streaming และ URL imports ยังไม่มา แต่ทีมงานยืนยันว่ากำลังพัฒนาอยู่

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    PeerTube v8 เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ใหม่
    เน้นการทำงานร่วมกันและปรับปรุง video player

    Team Collaboration สำหรับช่อง
    เพิ่มสิทธิ์ Editors เพื่อช่วยจัดการคอนเทนต์โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของ

    Video Player ดีไซน์ใหม่ Lucide
    ปุ่มเรียบง่ายขึ้นและระบบนำเข้าวิดีโอเสถียรขึ้น

    Mobile App ได้ Creator Mode
    อัปโหลดจากมือถือ, background upload, และจัดการ playlist ได้ง่าย

    คำเตือนเรื่องฟีเจอร์ที่ยังไม่พร้อมใช้
    Live streaming และ URL imports ยังไม่เปิดให้ใช้งานในเวอร์ชันนี้

    https://itsfoss.com/news/peertube-8-release/
    📺 PeerTube v8: ก้าวใหม่ของวิดีโอแบบกระจายศูนย์ PeerTube ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอแบบ decentralized และ open source ได้ออกเวอร์ชันใหม่ PeerTube v8 พร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้สร้างคอนเทนต์และองค์กรใช้งานได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่ม team collaboration และการปรับปรุงดีไซน์ของ video player ให้ทันสมัยมากขึ้น 👥 Team Collaboration และการจัดการช่อง หนึ่งในฟีเจอร์ที่ถูกเรียกร้องมากที่สุดคือการให้สิทธิ์ Editors ในช่อง PeerTube ผู้ดูแลสามารถเพิ่มคนเข้ามาช่วยจัดการเนื้อหาได้ เช่น การอัปโหลดวิดีโอ, แก้ไข, จัดการ playlist และคอมเมนต์ โดยไม่ต้องให้สิทธิ์เต็มเหมือนเจ้าของช่อง ฟีเจอร์นี้เหมาะกับองค์กรหรือทีมที่มีหลายคนดูแลคอนเทนต์ร่วมกัน 🎨 Video Player ดีไซน์ใหม่และระบบนำเข้าที่ดีขึ้น PeerTube v8 มาพร้อมธีมใหม่ชื่อ Lucide ที่ลดความเทอะทะของปุ่มเดิม ๆ และทำให้ผู้ชมโฟกัสกับเนื้อหามากขึ้น นอกจากนี้ระบบนำเข้าวิดีโอ (video import) ก็ถูกปรับปรุงให้เสถียรขึ้น หากการนำเข้าล้มเหลว ผู้ใช้สามารถ retry ได้เองโดยไม่ต้องเริ่มใหม่ทั้งหมด อีกทั้งยังรองรับการ retry อัตโนมัติระหว่างการ sync ช่อง 📱 Mobile App กับ Creator Mode หลังจากการระดมทุนในเดือนพฤษภาคม 2025 ทีมงานได้เพิ่ม Creator Mode ในแอปมือถือ ผู้ใช้สามารถอัปโหลดวิดีโอจากมือถือได้โดยตรง ทั้งจาก gallery หรือการถ่ายใหม่ พร้อมระบบแจ้งเตือนความคืบหน้าแบบ background upload และยังมีหน้า Creator ใหม่ที่ช่วยจัดการ ดาวน์โหลด หรือจัดการ playlist ได้สะดวกขึ้น แม้ฟีเจอร์ live streaming และ URL imports ยังไม่มา แต่ทีมงานยืนยันว่ากำลังพัฒนาอยู่ 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ PeerTube v8 เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ➡️ เน้นการทำงานร่วมกันและปรับปรุง video player ✅ Team Collaboration สำหรับช่อง ➡️ เพิ่มสิทธิ์ Editors เพื่อช่วยจัดการคอนเทนต์โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของ ✅ Video Player ดีไซน์ใหม่ Lucide ➡️ ปุ่มเรียบง่ายขึ้นและระบบนำเข้าวิดีโอเสถียรขึ้น ✅ Mobile App ได้ Creator Mode ➡️ อัปโหลดจากมือถือ, background upload, และจัดการ playlist ได้ง่าย ‼️ คำเตือนเรื่องฟีเจอร์ที่ยังไม่พร้อมใช้ ⛔ Live streaming และ URL imports ยังไม่เปิดให้ใช้งานในเวอร์ชันนี้ https://itsfoss.com/news/peertube-8-release/
    ITSFOSS.COM
    Decentralized YouTube Alternative PeerTube Adds Creator Mode
    The open source YouTube alternative offers some welcome updates for content creators.
    0 Comments 0 Shares 105 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251219 #securityonline

    FreeBSD เจอช่องโหว่ร้ายแรงจาก IPv6
    เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใหม่ในระบบเครือข่ายของ FreeBSD ที่อันตรายมาก เพราะแค่มีคนส่งแพ็กเก็ต IPv6 ที่ถูกปรับแต่งมาอย่างเจาะจง ก็สามารถทำให้เครื่องเป้าหมายรันคำสั่งของผู้โจมตีได้ทันที ช่องโหว่นี้เกิดจากการที่โปรแกรม rtsol และ rtsold ซึ่งใช้จัดการการตั้งค่า IPv6 แบบอัตโนมัติ ไปส่งข้อมูลต่อให้กับ resolvconf โดยไม่ตรวจสอบความถูกต้อง ผลคือคำสั่งที่แฝงมาในข้อมูลสามารถถูกประมวลผลเหมือนเป็นคำสั่ง shell จริง ๆ แม้การโจมตีจะจำกัดอยู่ในเครือข่ายท้องถิ่น เช่น Wi-Fi สาธารณะหรือ LAN ที่ไม่ปลอดภัย แต่ก็ถือว่าเสี่ยงมาก ผู้ใช้ที่เปิด IPv6 และยังไม่ได้อัปเดตต้องรีบแพตช์ทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดเครื่อง
    https://securityonline.info/freebsd-network-alert-malicious-ipv6-packets-can-trigger-remote-code-execution-via-resolvconf-cve-2025-14558

    ช่องโหว่ใหม่ใน Roundcube Webmail
    ระบบอีเมลโอเพนซอร์สชื่อดัง Roundcube ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงสองจุดที่อาจทำให้ผู้โจมตีแอบรันสคริปต์หรือดึงข้อมูลจากกล่องอีเมลได้ ช่องโหว่แรกคือ XSS ที่ซ่อนอยู่ในไฟล์ SVG โดยใช้แท็ก animate ทำให้เมื่อผู้ใช้เปิดอีเมลที่มีภาพ SVG ที่ถูกปรับแต่ง JavaScript ก็จะทำงานทันที อีกช่องโหว่คือการจัดการ CSS ที่ผิดพลาด ทำให้ผู้โจมตีสามารถเลี่ยงตัวกรองและดึงข้อมูลจากอินเทอร์เฟซเว็บเมลได้ ทั้งสองช่องโหว่ถูกจัดระดับความรุนแรงสูง ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดของ Roundcube 1.6 และ 1.5 LTS เพื่อความปลอดภัย
    https://securityonline.info/roundcube-alert-high-severity-svg-xss-and-css-sanitizer-flaws-threaten-webmail-privacy

    YouTube Ghost Network และมัลแวร์ GachiLoader
    นักวิจัยจาก Check Point Research พบการโจมตีใหม่ที่ใช้ YouTube เป็นช่องทางแพร่กระจายมัลแวร์ โดยกลุ่มผู้โจมตีจะยึดบัญชี YouTube ที่มีชื่อเสียง แล้วอัปโหลดวิดีโอที่โฆษณาซอฟต์แวร์เถื่อนหรือสูตรโกงเกม พร้อมใส่ลิงก์ดาวน์โหลดที่แท้จริงคือมัลแวร์ GachiLoader เขียนด้วย Node.js ที่ถูกทำให้ซับซ้อนเพื่อหลบการตรวจจับ เมื่อรันแล้วจะโหลดตัวขโมยข้อมูล Rhadamanthys เข้ามาเพื่อดึงรหัสผ่านและข้อมูลสำคัญ จุดเด่นคือเทคนิคการฉีดโค้ดผ่าน DLL โดยใช้ Vectored Exception Handling ทำให้ยากต่อการตรวจจับ ผู้ใช้ควรระวังการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ฟรีจากลิงก์ใน YouTube เพราะอาจเป็นกับดักที่ซ่อนมัลแวร์ไว้
    https://securityonline.info/youtube-ghost-network-the-new-gachiloader-malware-hiding-in-your-favorite-video-links

    Supply Chain Attack บน NuGet: Nethereum.All ปลอม
    มีการค้นพบแคมเปญโจมตีที่ซับซ้อนซึ่งมุ่งเป้าไปที่นักพัฒนา .NET ที่ทำงานกับคริปโต โดยผู้โจมตีสร้างแพ็กเกจปลอมชื่อ Nethereum.All เลียนแบบไลบรารีจริงที่ใช้เชื่อมต่อ Ethereum และเผยแพร่บน NuGet พร้อมตัวเลขดาวน์โหลดปลอมกว่า 10 ล้านครั้งเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ภายในโค้ดมีฟังก์ชันแอบซ่อนเพื่อขโมยเงินจากธุรกรรมหรือดึงข้อมูลลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี นอกจากนี้ยังมีแพ็กเกจปลอมอื่น ๆ เช่น NBitcoin.Unified และ SolnetAll ที่เลียนแบบไลบรารีของ Bitcoin และ Solana การโจมตีนี้ใช้เทคนิคการปลอมแปลงอย่างแนบเนียน ทำให้นักพัฒนาที่ไม่ตรวจสอบผู้เขียนแพ็กเกจอาจตกเป็นเหยื่อได้ง่าย
    https://securityonline.info/poisoned-dependencies-how-nethereum-all-and-10m-fake-downloads-looted-net-crypto-developers

    ช่องโหว่ UEFI บนเมนบอร์ด
    ASRock, ASUS, MSI CERT/CCเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ที่เกิดขึ้นในเฟิร์มแวร์ UEFI ของหลายผู้ผลิต เช่น ASRock, ASUS, GIGABYTE และ MSI โดยปัญหาคือระบบรายงานว่ามีการเปิดการป้องกัน DMA แล้ว แต่จริง ๆ IOMMU ไม่ได้ถูกตั้งค่าอย่างถูกต้อง ทำให้ในช่วง early-boot ผู้โจมตีที่มีอุปกรณ์ PCIe สามารถเข้าถึงและแก้ไขหน่วยความจำได้ก่อนที่ระบบปฏิบัติการจะเริ่มทำงาน ผลคือสามารถฉีดโค้ดหรือดึงข้อมูลลับออกมาได้โดยที่ซอฟต์แวร์ป้องกันไม่สามารถตรวจจับได้ ช่องโหว่นี้มีความรุนแรงสูงและต้องรีบอัปเดตเฟิร์มแวร์ทันที โดยเฉพาะในองค์กรที่ไม่สามารถควบคุมการเข้าถึงทางกายภาพได้อย่างเข้มงวด
    https://securityonline.info/early-boot-attack-uefi-flaw-in-asrock-asus-msi-boards-lets-hackers-bypass-os-security-via-pcie

    VPN Betrayal: ส่วนขยาย VPN ฟรีที่หักหลังผู้ใช้
    เรื่องนี้เป็นการเปิดโปงครั้งใหญ่จากบริษัทด้านความปลอดภัย KOI ที่พบว่า Urban VPN Proxy และส่วนขยาย VPN ฟรีอื่น ๆ กำลังแอบเก็บข้อมูลการสนทนาของผู้ใช้กับแพลตฟอร์ม AI โดยตรง ทั้งข้อความที่ผู้ใช้พิมพ์และคำตอบที่ AI ตอบกลับมา ถูกส่งต่อไปยังบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลและการตลาดเพื่อใช้ยิงโฆษณาเจาะจงพฤติกรรมผู้ใช้ แม้ผู้ใช้จะปิดฟังก์ชัน VPN หรือการบล็อกโฆษณา แต่สคริปต์ที่ฝังไว้ก็ยังทำงานอยู่ วิธีเดียวที่จะหยุดได้คือการถอนการติดตั้งออกไปเลย เหตุการณ์นี้กระทบแพลตฟอร์ม AI แทบทั้งหมด ตั้งแต่ ChatGPT, Claude, Gemini, Copilot ไปจนถึง Meta AI และ Perplexity ทำให้ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
    https://securityonline.info/vpn-betrayal-popular-free-extensions-caught-siphoning-8-million-users-private-ai-chats

    The Final Cut: ออสการ์ย้ายบ้านไป YouTube ในปี 2029
    วงการภาพยนตร์กำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อ Academy Awards หรือออสการ์ประกาศว่าจะยุติการถ่ายทอดสดทาง ABC หลังครบรอบ 100 ปีในปี 2028 และตั้งแต่ปี 2029 เป็นต้นไปจะถ่ายทอดสดผ่าน YouTube เพียงช่องทางเดียว การย้ายครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแพลตฟอร์ม แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ชมทั่วโลกเข้าถึงได้ฟรีและมีปฏิสัมพันธ์มากขึ้นผ่านฟีเจอร์ของ YouTube นอกจากนี้ Google Arts & Culture จะเข้ามาช่วยดิจิไทซ์คลังภาพยนตร์และประวัติศาสตร์ของ Academy เพื่อเผยแพร่สู่สาธารณะ ถือเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญเพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่หันไปเสพสื่อออนไลน์มากกว่าทีวี
    https://securityonline.info/the-final-cut-why-the-oscars-are-leaving-abc-for-a-youtube-only-future-in-2029

    Phantom v3.5: มัลแวร์ปลอมตัวเป็น Adobe Update
    ภัยใหม่มาในรูปแบบที่ดูเหมือนธรรมดา Phantom v3.5 แฝงตัวเป็นไฟล์ติดตั้ง Adobe เวอร์ชันปลอม เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ มันจะรันสคริปต์ที่ดึง Payload จากโดเมนอันตราย แล้วเริ่มดูดข้อมูลทุกอย่าง ตั้งแต่รหัสผ่าน คุกกี้ เบราว์เซอร์ ไปจนถึงกระเป๋าเงินคริปโต ความพิเศษคือมันไม่ใช้เซิร์ฟเวอร์ควบคุมแบบทั่วไป แต่ส่งข้อมูลออกไปผ่านอีเมล SMTP โดยตรง ทำให้การตรวจจับยากขึ้น เหตุการณ์นี้เตือนให้ผู้ใช้ระวังการดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่เป็นทางการ และตรวจสอบเวอร์ชันหรือไฟล์ที่อ้างว่าเป็น Installer ให้ดี
    https://securityonline.info/phantom-v3-5-alert-new-info-stealer-disguised-as-adobe-update-uses-smtp-to-loot-digital-lives

    Kubernetes Alert: ช่องโหว่ Headlamp เสี่ยงถูกยึด Cluster
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Headlamp ซึ่งเป็น UI สำหรับ Kubernetes ที่ทำให้ผู้โจมตีที่ไม่ได้รับสิทธิ์สามารถใช้ Credential ที่ถูกแคชไว้เพื่อเข้าถึงฟังก์ชัน Helm ได้โดยตรง หากผู้ดูแลระบบเคยใช้งาน Helm ผ่าน Headlamp แล้ว Credential ถูกเก็บไว้ ผู้โจมตีที่เข้าถึง Dashboard สามารถสั่ง Deploy หรือแก้ไข Release ได้ทันทีโดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 8.8 และกระทบเวอร์ชัน v0.38.0 ลงไป ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์ v0.39.0 เพื่อแก้ไขแล้ว ผู้ดูแลระบบควรอัปเดตทันทีหรือปิดการเข้าถึงสาธารณะเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/kubernetes-alert-headlamp-flaw-cve-2025-14269-lets-unauthenticated-users-hijack-helm-clusters

    WatchGuard Under Siege: ช่องโหว่ Zero-Day รุนแรง CVSS 9.3 ถูกโจมตีจริงเพื่อยึดครอง Firewall
    เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ใน WatchGuard Firebox ที่ถูกระบุว่า CVE-2025-14733 มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.3 ทำให้แฮกเกอร์สามารถส่งคำสั่งจากระยะไกลโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน และเข้าควบคุมระบบไฟร์วอลล์ได้ทันที ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการผิดพลาดในกระบวนการ IKEv2 ของ VPN ที่ทำให้เกิดการเขียนข้อมูลเกินขอบเขต (Out-of-bounds Write) ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งอันตรายลงไปในระบบได้ แม้ผู้ดูแลระบบจะปิดการใช้งาน VPN แบบ Mobile User หรือ Branch Office ไปแล้ว แต่หากมีการตั้งค่าเก่าอยู่ก็ยังเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอยู่ดี WatchGuard ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว แต่ก็เตือนว่าผู้ที่ถูกโจมตีไปแล้วควรเปลี่ยนรหัสผ่านและคีย์ทั้งหมด เพราะข้อมูลอาจถูกขโมยไปก่อนหน้านี้แล้ว
    https://securityonline.info/watchguard-under-siege-critical-cvss-9-3-zero-day-exploited-in-the-wild-to-hijack-corporate-firewalls

    Log4j’s Security Blind Spot: ช่องโหว่ TLS ใหม่เปิดทางให้ดักข้อมูล Log
    Apache ได้ออกอัปเดตแก้ไขช่องโหว่ใน Log4j ที่ถูกระบุว่า CVE-2025-68161 ซึ่งเกิดจากการตรวจสอบ TLS hostname verification ที่ผิดพลาด แม้ผู้ดูแลระบบจะตั้งค่าให้ตรวจสอบชื่อโฮสต์แล้ว แต่ระบบกลับไม่ทำตาม ทำให้ผู้โจมตีสามารถแทรกตัวกลาง (Man-in-the-Middle) และดักข้อมูล log ที่ส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ได้ ข้อมูลเหล่านี้อาจมีรายละเอียดการทำงานของระบบหรือกิจกรรมผู้ใช้ที่สำคัญ ช่องโหว่นี้ถูกแก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 2.25.3 และผู้ใช้ควรรีบอัปเดตทันที หากยังไม่สามารถอัปเดตได้ ก็มีวิธีแก้ชั่วคราวคือการจำกัด trust root ให้เฉพาะใบรับรองของเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้จริง
    https://securityonline.info/log4js-security-blind-spot-new-tls-flaw-lets-attackers-intercept-sensitive-logs-despite-encryption

    Visualizations Weaponized: ช่องโหว่ใหม่ใน Kibana เปิดทางโจมตี XSS ผ่าน Vega Charts
    Elastic ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-68385 ที่มีคะแนนความรุนแรง 7.2 ซึ่งเกิดขึ้นใน Kibana โดยเฉพาะฟีเจอร์ Vega Visualization ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สร้างกราฟและแผนภาพแบบกำหนดเอง ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์สามารถฝังโค้ดอันตรายลงไปในกราฟได้ และเมื่อผู้ใช้คนอื่นเปิดดูกราฟนั้น โค้ดก็จะทำงานในเบราว์เซอร์ทันที ส่งผลให้เกิดการขโมย session หรือสั่งการที่ไม่ได้รับอนุญาต ช่องโหว่นี้กระทบหลายเวอร์ชันตั้งแต่ 7.x จนถึง 9.x Elastic ได้ออกเวอร์ชันแก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลรีบอัปเดตโดยด่วน https://securityonline.info/visualizations-weaponized-new-kibana-flaw-allows-xss-attacks-via-vega-charts

    Rust’s First Breach: ช่องโหว่แรกของ Rust ใน Linux Kernel
    นี่คือครั้งแรกที่โค้ด Rust ใน Linux Kernel ถูกระบุช่องโหว่อย่างเป็นทางการ โดย CVE-2025-68260 เกิดขึ้นใน Android Binder driver ที่ถูกเขียนใหม่ด้วย Rust ปัญหาคือการจัดการ linked list ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้เกิด race condition เมื่อหลาย thread เข้ามาจัดการพร้อมกัน ส่งผลให้ pointer เสียหายและทำให้ระบบ crash ได้ การแก้ไขคือการปรับปรุงโค้ด Node::release ให้จัดการกับ list โดยตรงแทนการใช้ list ชั่วคราว ช่องโหว่นี้ถูกแก้ไขแล้วใน Linux 6.18.1 และ 6.19-rc1 ผู้ใช้ควรอัปเดต kernel เวอร์ชันล่าสุดเพื่อความปลอดภัย
    https://securityonline.info/rusts-first-breach-cve-2025-68260-marks-the-first-rust-vulnerability-in-the-linux-kernel

    The Grand Divorce: TikTok เซ็นสัญญา Landmark Deal ส่งมอบการควบคุมในสหรัฐให้กลุ่ม Oracle
    TikTok ได้เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการแยกกิจการในสหรัฐ โดยจะตั้งบริษัทใหม่ชื่อ TikTok US Data Security Joint Venture LLC ซึ่งจะดูแลข้อมูลผู้ใช้ในสหรัฐ การรักษาความปลอดภัยของอัลกอริทึม และการตรวจสอบเนื้อหา โครงสร้างใหม่จะทำให้กลุ่มนักลงทุนในสหรัฐถือหุ้น 45% นักลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ ByteDance ถือ 30% และ ByteDance เองถือ 20% ทำให้การควบคุมหลักอยู่ในมือของสหรัฐ ข้อตกลงนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 22 มกราคม 2026 ถือเป็นการปิดฉากความขัดแย้งยืดเยื้อเรื่องการควบคุม TikTok ในสหรัฐ
    https://securityonline.info/the-grand-divorce-tiktok-signs-landmark-deal-to-hand-u-s-control-to-oracle-led-group

    Fusion of Power: Trump Media จับมือ TAE Technologies สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชัน
    เรื่องนี้เล่ากันเหมือนเป็นการพลิกบทบาทครั้งใหญ่ของ Trump Media ที่เดิมทีเป็นบริษัทแม่ของ Truth Social และมือถือ Trump T1 แต่กลับหันมาจับมือกับ TAE Technologies ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านพลังงานฟิวชันที่มี Google และ Chevron หนุนหลัง การควบรวมครั้งนี้มีมูลค่าถึง 6 พันล้านดอลลาร์ เป้าหมายคือการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชันเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลกภายใน 5 ปี แม้แวดวงวิทยาศาสตร์ยังคงสงสัยว่าฟิวชันจะพร้อมใช้งานจริงได้เร็วขนาดนั้นหรือไม่ แต่ดีลนี้ก็ทำให้หุ้น Trump Media พุ่งขึ้นทันที หลายคนมองว่าพลังที่แท้จริงอาจไม่ใช่ฟิวชัน แต่คืออิทธิพลทางการเมืองที่ช่วยเปิดทางให้ทุนและการอนุมัติจากรัฐบาล
    https://securityonline.info/fusion-of-power-trump-media-inks-6-billion-merger-to-build-worlds-first-fusion-power-plant

    The AI Super App: OpenAI เปิดตัว ChatGPT App Directory
    OpenAI กำลังผลักดัน ChatGPT ให้กลายเป็น “ซูเปอร์แอป” โดยเปิดตัว App Directory ที่เชื่อมต่อกับบริการภายนอกอย่าง Spotify, Dropbox, Apple Music และ DoorDash ผู้ใช้สามารถสั่งงานผ่านการสนทนา เช่น ให้สรุปรายงานจาก Google Drive หรือสร้างเพลย์ลิสต์เพลงใน Apple Music ได้ทันที นี่คือการเปลี่ยน ChatGPT จากเครื่องมือสร้างข้อความให้กลายเป็นผู้ช่วยที่ทำงานแทนเราได้จริง นอกจากนี้ OpenAI ยังเปิดโอกาสให้นักพัฒนาภายนอกสร้างแอปเข้ามาในระบบ พร้อมแนวทางหารายได้ที่อาจคล้ายกับ App Store ของ Apple จุดสำคัญคือการยกระดับ AI จากการ “ตอบคำถาม” ไปสู่การ “ทำงานแทน”
    https://securityonline.info/the-ai-super-app-arrives-openai-launches-chatgpt-app-directory-to-rule-your-digital-life

    Pay to Post: Meta ทดลองจำกัดการแชร์ลิงก์บน Facebook
    Meta กำลังทดสอบนโยบายใหม่ที่อาจทำให้ผู้สร้างคอนเทนต์บน Facebook ต้องจ่ายเงินเพื่อแชร์ลิงก์ โดยผู้ใช้ที่ไม่ได้สมัครบริการยืนยันตัวตน (blue-check) จะถูกจำกัดให้โพสต์ลิงก์ได้เพียง 2 ครั้งต่อเดือน หากต้องการมากกว่านั้นต้องจ่ายค่าสมัครรายเดือน 14.99 ดอลลาร์ การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนว่าบริษัทต้องการควบคุมการ “ไหลออกของทราฟฟิก” และหันไปหารายได้จากการบังคับให้ผู้ใช้จ่ายเพื่อสิทธิ์ที่เคยฟรีมาก่อน หลายคนมองว่านี่คือการผลัก Facebook เข้าสู่ระบบ “pay-to-play” อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งอาจทำให้ผู้สร้างรายเล็กๆ ต้องคิดหนักว่าจะอยู่ต่อหรือย้ายออก
    https://securityonline.info/pay-to-post-meta-tests-2-link-monthly-limit-for-unverified-facebook-creators

    Criminal IP จับมือ Palo Alto Networks Cortex XSOAR เสริมการตอบสนองภัยไซเบอร์ด้วย AI
    Criminal IP ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม threat intelligence ที่ใช้ AI ได้เข้ารวมกับ Cortex XSOAR ของ Palo Alto Networks เพื่อยกระดับการตอบสนองเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย จุดเด่นคือการเพิ่มข้อมูลเชิงลึกจากภายนอก เช่น พฤติกรรมของ IP, ประวัติการโจมตี, การเชื่อมโยงกับมัลแวร์ และการสแกนหลายขั้นตอนแบบอัตโนมัติ ทำให้ทีม SOC สามารถจัดการเหตุการณ์ได้เร็วและแม่นยำขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งการตรวจสอบแบบ manual การผสานนี้สะท้อนแนวโน้มใหม่ของโลกไซเบอร์ที่กำลังเดินหน้าไปสู่ “การป้องกันอัตโนมัติ” ที่ใช้ AI เป็นแกนหลัก
    https://securityonline.info/criminal-ip-and-palo-alto-networks-cortex-xsoar-integrate-to-bring-ai-driven-exposure-intelligence-to-automated-incident-response

    FIFA ร่วมมือ Netflix เปิดเกมฟุตบอลใหม่รับบอลโลก 2026
    หลังจากแยกทางกับ EA ที่สร้าง FIFA มานานเกือบ 30 ปี องค์กร FIFA ก็ยังไม่สามารถหาคู่หูที่สร้างเกมฟุตบอลระดับเรือธงได้ จนล่าสุด Netflix ประกาศว่าจะเปิดตัวเกมฟุตบอลใหม่ภายใต้แบรนด์ FIFA ในปี 2026 โดยให้ Delphi Interactive เป็นผู้พัฒนา จุดต่างสำคัญคือเกมนี้จะใช้สมาร์ทโฟนเป็นคอนโทรลเลอร์ ทำให้เล่นง่ายและเข้าถึงผู้เล่นทั่วไปมากขึ้น แทนที่จะเน้นความสมจริงแบบ EA Sports FC การจับมือกับ Netflix แสดงให้เห็นว่า FIFA เลือกเส้นทางใหม่ที่ไม่ชนตรงกับ EA แต่หันไปสร้างประสบการณ์แบบ “เกมปาร์ตี้” ที่เข้ากับแนวทางของ Netflix Games ซึ่งกำลังมุ่งไปที่เกมที่เล่นง่ายและเชื่อมโยงกับผู้ชมจำนวนมาก
    https://securityonline.info/fifas-post-ea-comeback-netflix-to-launch-a-reimagined-football-game-for-the-2026-world-cup

    Mario’s Deadly Upgrade: RansomHouse เปิดตัว Dual-Key Encryption
    กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่ชื่อ Jolly Scorpius ซึ่งอยู่เบื้องหลังบริการ RansomHouse (ransomware-as-a-service) ได้ปรับปรุงเครื่องมือเข้ารหัสหลักของพวกเขาที่ชื่อ “Mario” จากเดิมที่ใช้วิธีเข้ารหัสแบบเส้นตรงธรรมดา กลายเป็นระบบที่ซับซ้อนและยืดหยุ่นมากขึ้น สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ Mario เวอร์ชันใหม่ไม่เพียงแค่เข้ารหัสไฟล์แบบตรงๆ แต่ใช้วิธี chunked processing คือแบ่งไฟล์ออกเป็นชิ้นๆ ที่มีขนาดเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้การวิเคราะห์ย้อนกลับยากขึ้นมากสำหรับนักวิจัยด้านความปลอดภัย และที่น่ากังวลที่สุดคือการเพิ่ม dual-key encryption ซึ่งทำงานเหมือนระบบความปลอดภัยจริงๆ ที่ต้องใช้กุญแจสองชุดในการถอดรหัส หากผู้ป้องกันได้กุญแจเพียงชุดเดียว ข้อมูลก็ยังคงถูกล็อกแน่นหนา
    https://securityonline.info/marios-deadly-upgrade-ransomhouse-unveils-dual-key-encryption-to-defeat-backups-and-recovery/
    📌🔐🔵 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🔵🔐📌 #รวมข่าวIT #20251219 #securityonline 🛡️ FreeBSD เจอช่องโหว่ร้ายแรงจาก IPv6 เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใหม่ในระบบเครือข่ายของ FreeBSD ที่อันตรายมาก เพราะแค่มีคนส่งแพ็กเก็ต IPv6 ที่ถูกปรับแต่งมาอย่างเจาะจง ก็สามารถทำให้เครื่องเป้าหมายรันคำสั่งของผู้โจมตีได้ทันที ช่องโหว่นี้เกิดจากการที่โปรแกรม rtsol และ rtsold ซึ่งใช้จัดการการตั้งค่า IPv6 แบบอัตโนมัติ ไปส่งข้อมูลต่อให้กับ resolvconf โดยไม่ตรวจสอบความถูกต้อง ผลคือคำสั่งที่แฝงมาในข้อมูลสามารถถูกประมวลผลเหมือนเป็นคำสั่ง shell จริง ๆ แม้การโจมตีจะจำกัดอยู่ในเครือข่ายท้องถิ่น เช่น Wi-Fi สาธารณะหรือ LAN ที่ไม่ปลอดภัย แต่ก็ถือว่าเสี่ยงมาก ผู้ใช้ที่เปิด IPv6 และยังไม่ได้อัปเดตต้องรีบแพตช์ทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดเครื่อง 🔗 https://securityonline.info/freebsd-network-alert-malicious-ipv6-packets-can-trigger-remote-code-execution-via-resolvconf-cve-2025-14558 📧 ช่องโหว่ใหม่ใน Roundcube Webmail ระบบอีเมลโอเพนซอร์สชื่อดัง Roundcube ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงสองจุดที่อาจทำให้ผู้โจมตีแอบรันสคริปต์หรือดึงข้อมูลจากกล่องอีเมลได้ ช่องโหว่แรกคือ XSS ที่ซ่อนอยู่ในไฟล์ SVG โดยใช้แท็ก animate ทำให้เมื่อผู้ใช้เปิดอีเมลที่มีภาพ SVG ที่ถูกปรับแต่ง JavaScript ก็จะทำงานทันที อีกช่องโหว่คือการจัดการ CSS ที่ผิดพลาด ทำให้ผู้โจมตีสามารถเลี่ยงตัวกรองและดึงข้อมูลจากอินเทอร์เฟซเว็บเมลได้ ทั้งสองช่องโหว่ถูกจัดระดับความรุนแรงสูง ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดของ Roundcube 1.6 และ 1.5 LTS เพื่อความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/roundcube-alert-high-severity-svg-xss-and-css-sanitizer-flaws-threaten-webmail-privacy 🎥 YouTube Ghost Network และมัลแวร์ GachiLoader นักวิจัยจาก Check Point Research พบการโจมตีใหม่ที่ใช้ YouTube เป็นช่องทางแพร่กระจายมัลแวร์ โดยกลุ่มผู้โจมตีจะยึดบัญชี YouTube ที่มีชื่อเสียง แล้วอัปโหลดวิดีโอที่โฆษณาซอฟต์แวร์เถื่อนหรือสูตรโกงเกม พร้อมใส่ลิงก์ดาวน์โหลดที่แท้จริงคือมัลแวร์ GachiLoader เขียนด้วย Node.js ที่ถูกทำให้ซับซ้อนเพื่อหลบการตรวจจับ เมื่อรันแล้วจะโหลดตัวขโมยข้อมูล Rhadamanthys เข้ามาเพื่อดึงรหัสผ่านและข้อมูลสำคัญ จุดเด่นคือเทคนิคการฉีดโค้ดผ่าน DLL โดยใช้ Vectored Exception Handling ทำให้ยากต่อการตรวจจับ ผู้ใช้ควรระวังการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ฟรีจากลิงก์ใน YouTube เพราะอาจเป็นกับดักที่ซ่อนมัลแวร์ไว้ 🔗 https://securityonline.info/youtube-ghost-network-the-new-gachiloader-malware-hiding-in-your-favorite-video-links 💰 Supply Chain Attack บน NuGet: Nethereum.All ปลอม มีการค้นพบแคมเปญโจมตีที่ซับซ้อนซึ่งมุ่งเป้าไปที่นักพัฒนา .NET ที่ทำงานกับคริปโต โดยผู้โจมตีสร้างแพ็กเกจปลอมชื่อ Nethereum.All เลียนแบบไลบรารีจริงที่ใช้เชื่อมต่อ Ethereum และเผยแพร่บน NuGet พร้อมตัวเลขดาวน์โหลดปลอมกว่า 10 ล้านครั้งเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ภายในโค้ดมีฟังก์ชันแอบซ่อนเพื่อขโมยเงินจากธุรกรรมหรือดึงข้อมูลลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี นอกจากนี้ยังมีแพ็กเกจปลอมอื่น ๆ เช่น NBitcoin.Unified และ SolnetAll ที่เลียนแบบไลบรารีของ Bitcoin และ Solana การโจมตีนี้ใช้เทคนิคการปลอมแปลงอย่างแนบเนียน ทำให้นักพัฒนาที่ไม่ตรวจสอบผู้เขียนแพ็กเกจอาจตกเป็นเหยื่อได้ง่าย 🔗 https://securityonline.info/poisoned-dependencies-how-nethereum-all-and-10m-fake-downloads-looted-net-crypto-developers 💻 ช่องโหว่ UEFI บนเมนบอร์ด ASRock, ASUS, MSI CERT/CCเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ที่เกิดขึ้นในเฟิร์มแวร์ UEFI ของหลายผู้ผลิต เช่น ASRock, ASUS, GIGABYTE และ MSI โดยปัญหาคือระบบรายงานว่ามีการเปิดการป้องกัน DMA แล้ว แต่จริง ๆ IOMMU ไม่ได้ถูกตั้งค่าอย่างถูกต้อง ทำให้ในช่วง early-boot ผู้โจมตีที่มีอุปกรณ์ PCIe สามารถเข้าถึงและแก้ไขหน่วยความจำได้ก่อนที่ระบบปฏิบัติการจะเริ่มทำงาน ผลคือสามารถฉีดโค้ดหรือดึงข้อมูลลับออกมาได้โดยที่ซอฟต์แวร์ป้องกันไม่สามารถตรวจจับได้ ช่องโหว่นี้มีความรุนแรงสูงและต้องรีบอัปเดตเฟิร์มแวร์ทันที โดยเฉพาะในองค์กรที่ไม่สามารถควบคุมการเข้าถึงทางกายภาพได้อย่างเข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/early-boot-attack-uefi-flaw-in-asrock-asus-msi-boards-lets-hackers-bypass-os-security-via-pcie 🛡️ VPN Betrayal: ส่วนขยาย VPN ฟรีที่หักหลังผู้ใช้ เรื่องนี้เป็นการเปิดโปงครั้งใหญ่จากบริษัทด้านความปลอดภัย KOI ที่พบว่า Urban VPN Proxy และส่วนขยาย VPN ฟรีอื่น ๆ กำลังแอบเก็บข้อมูลการสนทนาของผู้ใช้กับแพลตฟอร์ม AI โดยตรง ทั้งข้อความที่ผู้ใช้พิมพ์และคำตอบที่ AI ตอบกลับมา ถูกส่งต่อไปยังบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลและการตลาดเพื่อใช้ยิงโฆษณาเจาะจงพฤติกรรมผู้ใช้ แม้ผู้ใช้จะปิดฟังก์ชัน VPN หรือการบล็อกโฆษณา แต่สคริปต์ที่ฝังไว้ก็ยังทำงานอยู่ วิธีเดียวที่จะหยุดได้คือการถอนการติดตั้งออกไปเลย เหตุการณ์นี้กระทบแพลตฟอร์ม AI แทบทั้งหมด ตั้งแต่ ChatGPT, Claude, Gemini, Copilot ไปจนถึง Meta AI และ Perplexity ทำให้ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง 🔗 https://securityonline.info/vpn-betrayal-popular-free-extensions-caught-siphoning-8-million-users-private-ai-chats 🎬 The Final Cut: ออสการ์ย้ายบ้านไป YouTube ในปี 2029 วงการภาพยนตร์กำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อ Academy Awards หรือออสการ์ประกาศว่าจะยุติการถ่ายทอดสดทาง ABC หลังครบรอบ 100 ปีในปี 2028 และตั้งแต่ปี 2029 เป็นต้นไปจะถ่ายทอดสดผ่าน YouTube เพียงช่องทางเดียว การย้ายครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแพลตฟอร์ม แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ชมทั่วโลกเข้าถึงได้ฟรีและมีปฏิสัมพันธ์มากขึ้นผ่านฟีเจอร์ของ YouTube นอกจากนี้ Google Arts & Culture จะเข้ามาช่วยดิจิไทซ์คลังภาพยนตร์และประวัติศาสตร์ของ Academy เพื่อเผยแพร่สู่สาธารณะ ถือเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญเพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่หันไปเสพสื่อออนไลน์มากกว่าทีวี 🔗 https://securityonline.info/the-final-cut-why-the-oscars-are-leaving-abc-for-a-youtube-only-future-in-2029 ⚠️ Phantom v3.5: มัลแวร์ปลอมตัวเป็น Adobe Update ภัยใหม่มาในรูปแบบที่ดูเหมือนธรรมดา Phantom v3.5 แฝงตัวเป็นไฟล์ติดตั้ง Adobe เวอร์ชันปลอม เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ มันจะรันสคริปต์ที่ดึง Payload จากโดเมนอันตราย แล้วเริ่มดูดข้อมูลทุกอย่าง ตั้งแต่รหัสผ่าน คุกกี้ เบราว์เซอร์ ไปจนถึงกระเป๋าเงินคริปโต ความพิเศษคือมันไม่ใช้เซิร์ฟเวอร์ควบคุมแบบทั่วไป แต่ส่งข้อมูลออกไปผ่านอีเมล SMTP โดยตรง ทำให้การตรวจจับยากขึ้น เหตุการณ์นี้เตือนให้ผู้ใช้ระวังการดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่เป็นทางการ และตรวจสอบเวอร์ชันหรือไฟล์ที่อ้างว่าเป็น Installer ให้ดี 🔗 https://securityonline.info/phantom-v3-5-alert-new-info-stealer-disguised-as-adobe-update-uses-smtp-to-loot-digital-lives ☸️ Kubernetes Alert: ช่องโหว่ Headlamp เสี่ยงถูกยึด Cluster มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Headlamp ซึ่งเป็น UI สำหรับ Kubernetes ที่ทำให้ผู้โจมตีที่ไม่ได้รับสิทธิ์สามารถใช้ Credential ที่ถูกแคชไว้เพื่อเข้าถึงฟังก์ชัน Helm ได้โดยตรง หากผู้ดูแลระบบเคยใช้งาน Helm ผ่าน Headlamp แล้ว Credential ถูกเก็บไว้ ผู้โจมตีที่เข้าถึง Dashboard สามารถสั่ง Deploy หรือแก้ไข Release ได้ทันทีโดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 8.8 และกระทบเวอร์ชัน v0.38.0 ลงไป ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์ v0.39.0 เพื่อแก้ไขแล้ว ผู้ดูแลระบบควรอัปเดตทันทีหรือปิดการเข้าถึงสาธารณะเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/kubernetes-alert-headlamp-flaw-cve-2025-14269-lets-unauthenticated-users-hijack-helm-clusters 🛡️ WatchGuard Under Siege: ช่องโหว่ Zero-Day รุนแรง CVSS 9.3 ถูกโจมตีจริงเพื่อยึดครอง Firewall เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ใน WatchGuard Firebox ที่ถูกระบุว่า CVE-2025-14733 มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.3 ทำให้แฮกเกอร์สามารถส่งคำสั่งจากระยะไกลโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน และเข้าควบคุมระบบไฟร์วอลล์ได้ทันที ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการผิดพลาดในกระบวนการ IKEv2 ของ VPN ที่ทำให้เกิดการเขียนข้อมูลเกินขอบเขต (Out-of-bounds Write) ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งอันตรายลงไปในระบบได้ แม้ผู้ดูแลระบบจะปิดการใช้งาน VPN แบบ Mobile User หรือ Branch Office ไปแล้ว แต่หากมีการตั้งค่าเก่าอยู่ก็ยังเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอยู่ดี WatchGuard ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว แต่ก็เตือนว่าผู้ที่ถูกโจมตีไปแล้วควรเปลี่ยนรหัสผ่านและคีย์ทั้งหมด เพราะข้อมูลอาจถูกขโมยไปก่อนหน้านี้แล้ว 🔗 https://securityonline.info/watchguard-under-siege-critical-cvss-9-3-zero-day-exploited-in-the-wild-to-hijack-corporate-firewalls 🔒 Log4j’s Security Blind Spot: ช่องโหว่ TLS ใหม่เปิดทางให้ดักข้อมูล Log Apache ได้ออกอัปเดตแก้ไขช่องโหว่ใน Log4j ที่ถูกระบุว่า CVE-2025-68161 ซึ่งเกิดจากการตรวจสอบ TLS hostname verification ที่ผิดพลาด แม้ผู้ดูแลระบบจะตั้งค่าให้ตรวจสอบชื่อโฮสต์แล้ว แต่ระบบกลับไม่ทำตาม ทำให้ผู้โจมตีสามารถแทรกตัวกลาง (Man-in-the-Middle) และดักข้อมูล log ที่ส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ได้ ข้อมูลเหล่านี้อาจมีรายละเอียดการทำงานของระบบหรือกิจกรรมผู้ใช้ที่สำคัญ ช่องโหว่นี้ถูกแก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 2.25.3 และผู้ใช้ควรรีบอัปเดตทันที หากยังไม่สามารถอัปเดตได้ ก็มีวิธีแก้ชั่วคราวคือการจำกัด trust root ให้เฉพาะใบรับรองของเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้จริง 🔗 https://securityonline.info/log4js-security-blind-spot-new-tls-flaw-lets-attackers-intercept-sensitive-logs-despite-encryption 📊 Visualizations Weaponized: ช่องโหว่ใหม่ใน Kibana เปิดทางโจมตี XSS ผ่าน Vega Charts Elastic ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-68385 ที่มีคะแนนความรุนแรง 7.2 ซึ่งเกิดขึ้นใน Kibana โดยเฉพาะฟีเจอร์ Vega Visualization ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สร้างกราฟและแผนภาพแบบกำหนดเอง ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์สามารถฝังโค้ดอันตรายลงไปในกราฟได้ และเมื่อผู้ใช้คนอื่นเปิดดูกราฟนั้น โค้ดก็จะทำงานในเบราว์เซอร์ทันที ส่งผลให้เกิดการขโมย session หรือสั่งการที่ไม่ได้รับอนุญาต ช่องโหว่นี้กระทบหลายเวอร์ชันตั้งแต่ 7.x จนถึง 9.x Elastic ได้ออกเวอร์ชันแก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลรีบอัปเดตโดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/visualizations-weaponized-new-kibana-flaw-allows-xss-attacks-via-vega-charts 🦀 Rust’s First Breach: ช่องโหว่แรกของ Rust ใน Linux Kernel นี่คือครั้งแรกที่โค้ด Rust ใน Linux Kernel ถูกระบุช่องโหว่อย่างเป็นทางการ โดย CVE-2025-68260 เกิดขึ้นใน Android Binder driver ที่ถูกเขียนใหม่ด้วย Rust ปัญหาคือการจัดการ linked list ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้เกิด race condition เมื่อหลาย thread เข้ามาจัดการพร้อมกัน ส่งผลให้ pointer เสียหายและทำให้ระบบ crash ได้ การแก้ไขคือการปรับปรุงโค้ด Node::release ให้จัดการกับ list โดยตรงแทนการใช้ list ชั่วคราว ช่องโหว่นี้ถูกแก้ไขแล้วใน Linux 6.18.1 และ 6.19-rc1 ผู้ใช้ควรอัปเดต kernel เวอร์ชันล่าสุดเพื่อความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/rusts-first-breach-cve-2025-68260-marks-the-first-rust-vulnerability-in-the-linux-kernel 🇺🇸 The Grand Divorce: TikTok เซ็นสัญญา Landmark Deal ส่งมอบการควบคุมในสหรัฐให้กลุ่ม Oracle TikTok ได้เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการแยกกิจการในสหรัฐ โดยจะตั้งบริษัทใหม่ชื่อ TikTok US Data Security Joint Venture LLC ซึ่งจะดูแลข้อมูลผู้ใช้ในสหรัฐ การรักษาความปลอดภัยของอัลกอริทึม และการตรวจสอบเนื้อหา โครงสร้างใหม่จะทำให้กลุ่มนักลงทุนในสหรัฐถือหุ้น 45% นักลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ ByteDance ถือ 30% และ ByteDance เองถือ 20% ทำให้การควบคุมหลักอยู่ในมือของสหรัฐ ข้อตกลงนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 22 มกราคม 2026 ถือเป็นการปิดฉากความขัดแย้งยืดเยื้อเรื่องการควบคุม TikTok ในสหรัฐ 🔗 https://securityonline.info/the-grand-divorce-tiktok-signs-landmark-deal-to-hand-u-s-control-to-oracle-led-group ⚡ Fusion of Power: Trump Media จับมือ TAE Technologies สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชัน เรื่องนี้เล่ากันเหมือนเป็นการพลิกบทบาทครั้งใหญ่ของ Trump Media ที่เดิมทีเป็นบริษัทแม่ของ Truth Social และมือถือ Trump T1 แต่กลับหันมาจับมือกับ TAE Technologies ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านพลังงานฟิวชันที่มี Google และ Chevron หนุนหลัง การควบรวมครั้งนี้มีมูลค่าถึง 6 พันล้านดอลลาร์ เป้าหมายคือการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชันเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลกภายใน 5 ปี แม้แวดวงวิทยาศาสตร์ยังคงสงสัยว่าฟิวชันจะพร้อมใช้งานจริงได้เร็วขนาดนั้นหรือไม่ แต่ดีลนี้ก็ทำให้หุ้น Trump Media พุ่งขึ้นทันที หลายคนมองว่าพลังที่แท้จริงอาจไม่ใช่ฟิวชัน แต่คืออิทธิพลทางการเมืองที่ช่วยเปิดทางให้ทุนและการอนุมัติจากรัฐบาล 🔗 https://securityonline.info/fusion-of-power-trump-media-inks-6-billion-merger-to-build-worlds-first-fusion-power-plant 🤖 The AI Super App: OpenAI เปิดตัว ChatGPT App Directory OpenAI กำลังผลักดัน ChatGPT ให้กลายเป็น “ซูเปอร์แอป” โดยเปิดตัว App Directory ที่เชื่อมต่อกับบริการภายนอกอย่าง Spotify, Dropbox, Apple Music และ DoorDash ผู้ใช้สามารถสั่งงานผ่านการสนทนา เช่น ให้สรุปรายงานจาก Google Drive หรือสร้างเพลย์ลิสต์เพลงใน Apple Music ได้ทันที นี่คือการเปลี่ยน ChatGPT จากเครื่องมือสร้างข้อความให้กลายเป็นผู้ช่วยที่ทำงานแทนเราได้จริง นอกจากนี้ OpenAI ยังเปิดโอกาสให้นักพัฒนาภายนอกสร้างแอปเข้ามาในระบบ พร้อมแนวทางหารายได้ที่อาจคล้ายกับ App Store ของ Apple จุดสำคัญคือการยกระดับ AI จากการ “ตอบคำถาม” ไปสู่การ “ทำงานแทน” 🔗 https://securityonline.info/the-ai-super-app-arrives-openai-launches-chatgpt-app-directory-to-rule-your-digital-life 💸 Pay to Post: Meta ทดลองจำกัดการแชร์ลิงก์บน Facebook Meta กำลังทดสอบนโยบายใหม่ที่อาจทำให้ผู้สร้างคอนเทนต์บน Facebook ต้องจ่ายเงินเพื่อแชร์ลิงก์ โดยผู้ใช้ที่ไม่ได้สมัครบริการยืนยันตัวตน (blue-check) จะถูกจำกัดให้โพสต์ลิงก์ได้เพียง 2 ครั้งต่อเดือน หากต้องการมากกว่านั้นต้องจ่ายค่าสมัครรายเดือน 14.99 ดอลลาร์ การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนว่าบริษัทต้องการควบคุมการ “ไหลออกของทราฟฟิก” และหันไปหารายได้จากการบังคับให้ผู้ใช้จ่ายเพื่อสิทธิ์ที่เคยฟรีมาก่อน หลายคนมองว่านี่คือการผลัก Facebook เข้าสู่ระบบ “pay-to-play” อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งอาจทำให้ผู้สร้างรายเล็กๆ ต้องคิดหนักว่าจะอยู่ต่อหรือย้ายออก 🔗 https://securityonline.info/pay-to-post-meta-tests-2-link-monthly-limit-for-unverified-facebook-creators 🛡️ Criminal IP จับมือ Palo Alto Networks Cortex XSOAR เสริมการตอบสนองภัยไซเบอร์ด้วย AI Criminal IP ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม threat intelligence ที่ใช้ AI ได้เข้ารวมกับ Cortex XSOAR ของ Palo Alto Networks เพื่อยกระดับการตอบสนองเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย จุดเด่นคือการเพิ่มข้อมูลเชิงลึกจากภายนอก เช่น พฤติกรรมของ IP, ประวัติการโจมตี, การเชื่อมโยงกับมัลแวร์ และการสแกนหลายขั้นตอนแบบอัตโนมัติ ทำให้ทีม SOC สามารถจัดการเหตุการณ์ได้เร็วและแม่นยำขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งการตรวจสอบแบบ manual การผสานนี้สะท้อนแนวโน้มใหม่ของโลกไซเบอร์ที่กำลังเดินหน้าไปสู่ “การป้องกันอัตโนมัติ” ที่ใช้ AI เป็นแกนหลัก 🔗 https://securityonline.info/criminal-ip-and-palo-alto-networks-cortex-xsoar-integrate-to-bring-ai-driven-exposure-intelligence-to-automated-incident-response 🎮 FIFA ร่วมมือ Netflix เปิดเกมฟุตบอลใหม่รับบอลโลก 2026 หลังจากแยกทางกับ EA ที่สร้าง FIFA มานานเกือบ 30 ปี องค์กร FIFA ก็ยังไม่สามารถหาคู่หูที่สร้างเกมฟุตบอลระดับเรือธงได้ จนล่าสุด Netflix ประกาศว่าจะเปิดตัวเกมฟุตบอลใหม่ภายใต้แบรนด์ FIFA ในปี 2026 โดยให้ Delphi Interactive เป็นผู้พัฒนา จุดต่างสำคัญคือเกมนี้จะใช้สมาร์ทโฟนเป็นคอนโทรลเลอร์ ทำให้เล่นง่ายและเข้าถึงผู้เล่นทั่วไปมากขึ้น แทนที่จะเน้นความสมจริงแบบ EA Sports FC การจับมือกับ Netflix แสดงให้เห็นว่า FIFA เลือกเส้นทางใหม่ที่ไม่ชนตรงกับ EA แต่หันไปสร้างประสบการณ์แบบ “เกมปาร์ตี้” ที่เข้ากับแนวทางของ Netflix Games ซึ่งกำลังมุ่งไปที่เกมที่เล่นง่ายและเชื่อมโยงกับผู้ชมจำนวนมาก 🔗 https://securityonline.info/fifas-post-ea-comeback-netflix-to-launch-a-reimagined-football-game-for-the-2026-world-cup 🔒 Mario’s Deadly Upgrade: RansomHouse เปิดตัว Dual-Key Encryption กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่ชื่อ Jolly Scorpius ซึ่งอยู่เบื้องหลังบริการ RansomHouse (ransomware-as-a-service) ได้ปรับปรุงเครื่องมือเข้ารหัสหลักของพวกเขาที่ชื่อ “Mario” จากเดิมที่ใช้วิธีเข้ารหัสแบบเส้นตรงธรรมดา กลายเป็นระบบที่ซับซ้อนและยืดหยุ่นมากขึ้น สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ Mario เวอร์ชันใหม่ไม่เพียงแค่เข้ารหัสไฟล์แบบตรงๆ แต่ใช้วิธี chunked processing คือแบ่งไฟล์ออกเป็นชิ้นๆ ที่มีขนาดเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้การวิเคราะห์ย้อนกลับยากขึ้นมากสำหรับนักวิจัยด้านความปลอดภัย และที่น่ากังวลที่สุดคือการเพิ่ม dual-key encryption ซึ่งทำงานเหมือนระบบความปลอดภัยจริงๆ ที่ต้องใช้กุญแจสองชุดในการถอดรหัส หากผู้ป้องกันได้กุญแจเพียงชุดเดียว ข้อมูลก็ยังคงถูกล็อกแน่นหนา 🔗 https://securityonline.info/marios-deadly-upgrade-ransomhouse-unveils-dual-key-encryption-to-defeat-backups-and-recovery/
    0 Comments 0 Shares 283 Views 0 Reviews
  • อะไหล่ไก่เค้าดีจริง โชว์พูนๆล้นๆไม่มีได้เห็น ลูกค้ากระหน่ำตลอดๆ ไก่มะระสะเทือนใจ Ep.2 #ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระบุฟเฟ่ต์79 #พระราม3 #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #ของอร่อยบอกต่อ #อาหาร #ต้องลอง #eat #food #streetfood #thaifood #thailand #thaitimes #kaiaminute
    💖อะไหล่ไก่เค้าดีจริง โชว์พูนๆล้นๆไม่มีได้เห็น ลูกค้ากระหน่ำตลอดๆ 🥰ไก่มะระสะเทือนใจ Ep.2 #ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระบุฟเฟ่ต์79 #พระราม3 #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #ของอร่อยบอกต่อ #อาหาร #ต้องลอง #eat #food #streetfood #thaifood #thailand #thaitimes #kaiaminute
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 0 Reviews
  • -devilray-
    FB and bsky - dfaxtory

    #dfaxtory #devilray
    #RightToSelfDefense
    #CambodiaOpenedFire
    #CambodiaScamArmy
    #NeutralizeTheThreat
    #SMARTSoldiersStronARMY
    #สดุดีทหารกล้า
    #ยุทธการศตวรรษ
    #ทำลายให้สิ้นสภาพ
    -devilray- FB and bsky - dfaxtory #dfaxtory #devilray #RightToSelfDefense #CambodiaOpenedFire #CambodiaScamArmy #NeutralizeTheThreat #SMARTSoldiersStronARMY #สดุดีทหารกล้า #ยุทธการศตวรรษ #ทำลายให้สิ้นสภาพ
    0 Comments 1 Shares 142 Views 0 Reviews
  • Thin Desires กำลังกัดกินชีวิตเรา

    บทความ Thin Desires Are Eating Your Life ของ Joan Westenberg วิเคราะห์ว่าโลกยุคดิจิทัลกำลังทำให้เราติดอยู่กับ “thin desires” หรือความปรารถนาที่ไม่เปลี่ยนแปลงชีวิตจริง เช่น การเช็กแจ้งเตือนหรือเสพโซเชียลมีเดีย แทนที่จะลงทุนใน “thick desires” ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงและความหมาย เช่น การเรียนรู้ทักษะใหม่หรือการสร้างชุมชน.

    Westenberg อธิบายว่า thin desires คือความปรารถนาที่ให้ความพึงพอใจชั่วคราวแต่ไม่เปลี่ยนแปลงตัวตน เช่น การเช็กแจ้งเตือนหรือเสพคอนเทนต์ออนไลน์ ในทางตรงกันข้าม thick desires อย่างการเรียนรู้คณิตศาสตร์ การฝึกฝนงานฝีมือ หรือการสร้างความสัมพันธ์จริง จะเปลี่ยนแปลงผู้คนในระยะยาว ทำให้พวกเขามีความสามารถและมุมมองใหม่ ๆ.

    ธุรกิจเทคโนโลยีจำนวนมากใช้โมเดลที่ “แยกชิ้นส่วน” ความปรารถนาแบบหนา แล้วส่งมอบเฉพาะส่วนที่ให้รางวัลทางสมอง เช่น โซเชียลมีเดียให้ความรู้สึกเชื่อมต่อโดยไม่ต้องมีมิตรภาพจริง, สื่อลามกให้ความพึงพอใจทางเพศโดยไม่ต้องมีความสัมพันธ์, แอป productivity ให้ความรู้สึกสำเร็จโดยไม่ต้องทำงานจริง สิ่งเหล่านี้ง่ายต่อการทำซ้ำ ขยาย และทำเงิน แต่กลับทำให้ผู้ใช้ติดอยู่กับวงจรความว่างเปล่า.

    ผลลัพธ์คือสังคมที่เต็มไปด้วยความเหงา ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า แม้เราจะ “เชื่อมต่อ” กันมากกว่าที่เคย แต่กลับรู้สึกขาดความหมาย Westenberg ชี้ว่า thick desires ไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ทันที ต้องใช้เวลา ความพยายาม และการมีส่วนร่วมกับชุมชน แต่สิ่งเหล่านี้กลับถูกทำลายลงเรื่อย ๆ เช่น การหายไปของเวิร์กช็อป การลดลงของการฝึกงาน และการแทนที่พื้นที่สาธารณะด้วยการใช้ชีวิตคนเดียวกับอุปกรณ์.

    ผู้เขียนเสนอแนวทางเล็ก ๆ ในการต่อต้าน เช่น การอบขนมปังที่ไม่สามารถเร่งเวลาได้, การเขียนจดหมายด้วยมือที่ไม่สามารถแก้ไขหรือ unsend ได้, หรือการสร้างเครื่องมือเล็ก ๆ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะของเพื่อนหนึ่งคน สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถ scale หรือ monetize ได้ แต่ช่วยให้เรากลับมาสัมผัสกับความอดทน ความหมาย และความสัมพันธ์ที่แท้จริง.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    แนวคิด Thin vs Thick Desires
    Thin = ความพึงพอใจชั่วคราว ไม่เปลี่ยนแปลงชีวิต
    Thick = ความปรารถนาที่เปลี่ยนแปลงตัวตนและสร้างความหมาย

    ธุรกิจเทคโนโลยีใช้ Thin Desires
    โซเชียลมีเดียให้ความรู้สึกเชื่อมต่อโดยไม่ต้องมีมิตรภาพจริง
    Productivity apps ให้ความรู้สึกสำเร็จโดยไม่ต้องทำงานจริง

    ผลกระทบต่อสังคม
    ความเหงา วิตกกังวล และซึมเศร้าเพิ่มขึ้น
    โครงสร้างสนับสนุน Thick Desires ถูกทำลาย เช่น เวิร์กช็อปและชุมชน

    แนวทางต่อต้าน Thin Desires
    อบขนมปัง ใช้เวลาและความอดทน
    เขียนจดหมายด้วยมือ สื่อสารนอกระบบ metrics
    สร้างเครื่องมือเล็ก ๆ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะของเพื่อน

    คำเตือน
    การเสพ Thin Desires อย่างต่อเนื่องทำให้ชีวิตว่างเปล่าและขาดความหมาย
    หากไม่สร้าง Thick Desires เราจะสูญเสียความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์และความอดทน

    https://www.joanwestenberg.com/thin-desires-are-eating-your-life/
    📱 Thin Desires กำลังกัดกินชีวิตเรา บทความ Thin Desires Are Eating Your Life ของ Joan Westenberg วิเคราะห์ว่าโลกยุคดิจิทัลกำลังทำให้เราติดอยู่กับ “thin desires” หรือความปรารถนาที่ไม่เปลี่ยนแปลงชีวิตจริง เช่น การเช็กแจ้งเตือนหรือเสพโซเชียลมีเดีย แทนที่จะลงทุนใน “thick desires” ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงและความหมาย เช่น การเรียนรู้ทักษะใหม่หรือการสร้างชุมชน. Westenberg อธิบายว่า thin desires คือความปรารถนาที่ให้ความพึงพอใจชั่วคราวแต่ไม่เปลี่ยนแปลงตัวตน เช่น การเช็กแจ้งเตือนหรือเสพคอนเทนต์ออนไลน์ ในทางตรงกันข้าม thick desires อย่างการเรียนรู้คณิตศาสตร์ การฝึกฝนงานฝีมือ หรือการสร้างความสัมพันธ์จริง จะเปลี่ยนแปลงผู้คนในระยะยาว ทำให้พวกเขามีความสามารถและมุมมองใหม่ ๆ. ธุรกิจเทคโนโลยีจำนวนมากใช้โมเดลที่ “แยกชิ้นส่วน” ความปรารถนาแบบหนา แล้วส่งมอบเฉพาะส่วนที่ให้รางวัลทางสมอง เช่น โซเชียลมีเดียให้ความรู้สึกเชื่อมต่อโดยไม่ต้องมีมิตรภาพจริง, สื่อลามกให้ความพึงพอใจทางเพศโดยไม่ต้องมีความสัมพันธ์, แอป productivity ให้ความรู้สึกสำเร็จโดยไม่ต้องทำงานจริง สิ่งเหล่านี้ง่ายต่อการทำซ้ำ ขยาย และทำเงิน แต่กลับทำให้ผู้ใช้ติดอยู่กับวงจรความว่างเปล่า. ผลลัพธ์คือสังคมที่เต็มไปด้วยความเหงา ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า แม้เราจะ “เชื่อมต่อ” กันมากกว่าที่เคย แต่กลับรู้สึกขาดความหมาย Westenberg ชี้ว่า thick desires ไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ทันที ต้องใช้เวลา ความพยายาม และการมีส่วนร่วมกับชุมชน แต่สิ่งเหล่านี้กลับถูกทำลายลงเรื่อย ๆ เช่น การหายไปของเวิร์กช็อป การลดลงของการฝึกงาน และการแทนที่พื้นที่สาธารณะด้วยการใช้ชีวิตคนเดียวกับอุปกรณ์. ผู้เขียนเสนอแนวทางเล็ก ๆ ในการต่อต้าน เช่น การอบขนมปังที่ไม่สามารถเร่งเวลาได้, การเขียนจดหมายด้วยมือที่ไม่สามารถแก้ไขหรือ unsend ได้, หรือการสร้างเครื่องมือเล็ก ๆ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะของเพื่อนหนึ่งคน สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถ scale หรือ monetize ได้ แต่ช่วยให้เรากลับมาสัมผัสกับความอดทน ความหมาย และความสัมพันธ์ที่แท้จริง. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ แนวคิด Thin vs Thick Desires ➡️ Thin = ความพึงพอใจชั่วคราว ไม่เปลี่ยนแปลงชีวิต ➡️ Thick = ความปรารถนาที่เปลี่ยนแปลงตัวตนและสร้างความหมาย ✅ ธุรกิจเทคโนโลยีใช้ Thin Desires ➡️ โซเชียลมีเดียให้ความรู้สึกเชื่อมต่อโดยไม่ต้องมีมิตรภาพจริง ➡️ Productivity apps ให้ความรู้สึกสำเร็จโดยไม่ต้องทำงานจริง ✅ ผลกระทบต่อสังคม ➡️ ความเหงา วิตกกังวล และซึมเศร้าเพิ่มขึ้น ➡️ โครงสร้างสนับสนุน Thick Desires ถูกทำลาย เช่น เวิร์กช็อปและชุมชน ✅ แนวทางต่อต้าน Thin Desires ➡️ อบขนมปัง ใช้เวลาและความอดทน ➡️ เขียนจดหมายด้วยมือ สื่อสารนอกระบบ metrics ➡️ สร้างเครื่องมือเล็ก ๆ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะของเพื่อน ‼️ คำเตือน ⛔ การเสพ Thin Desires อย่างต่อเนื่องทำให้ชีวิตว่างเปล่าและขาดความหมาย ⛔ หากไม่สร้าง Thick Desires เราจะสูญเสียความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์และความอดทน https://www.joanwestenberg.com/thin-desires-are-eating-your-life/
    WWW.JOANWESTENBERG.COM
    Thin Desires Are Eating Your Life
    The defining experience of our age seems to be hunger. We're hungry for more, but we have more than we need. We're hungry for less, while more accumulates and multiplies. We're hungry and we don't have words to articulate why. We're hungry, and we're lacking and we're wanting. We are
    0 Comments 0 Shares 172 Views 0 Reviews
  • Acne Treatment – Understanding the Path to Clearer Skin

    Acne treatment is a multifaceted process that addresses one of the most common skin conditions affecting people of all ages. Acne develops when hair follicles become clogged with oil, dead skin cells, and bacteria, leading to blackheads, whiteheads, pimples, or deeper cysts. Effective treatment requires understanding both the causes of acne and the individual nature of each person’s skin.

    The foundation of acne treatment lies in proper skincare. Gentle cleansing removes excess oil and impurities without stripping the skin’s natural barrier. Overwashing or using harsh products can worsen inflammation and trigger more breakouts. A balanced routine supports skin health while reducing acne severity.

    Topical treatments play a central role in managing mild to moderate acne. Ingredients such as salicylic acid help unclog pores, while benzoyl peroxide reduces acne-causing bacteria. Retinoids encourage skin cell turnover, preventing future blockages and improving skin texture over time.

    Reference - https://www.marketresearchfuture.com/reports/acne-treatment-market-5675
    Acne Treatment – Understanding the Path to Clearer Skin Acne treatment is a multifaceted process that addresses one of the most common skin conditions affecting people of all ages. Acne develops when hair follicles become clogged with oil, dead skin cells, and bacteria, leading to blackheads, whiteheads, pimples, or deeper cysts. Effective treatment requires understanding both the causes of acne and the individual nature of each person’s skin. The foundation of acne treatment lies in proper skincare. Gentle cleansing removes excess oil and impurities without stripping the skin’s natural barrier. Overwashing or using harsh products can worsen inflammation and trigger more breakouts. A balanced routine supports skin health while reducing acne severity. Topical treatments play a central role in managing mild to moderate acne. Ingredients such as salicylic acid help unclog pores, while benzoyl peroxide reduces acne-causing bacteria. Retinoids encourage skin cell turnover, preventing future blockages and improving skin texture over time. Reference - https://www.marketresearchfuture.com/reports/acne-treatment-market-5675
    WWW.MARKETRESEARCHFUTURE.COM
    Acne Treatment Market Size, Share, Growth Report 2035
    Acne Treatment Market industry is projected to grow from USD 10.40 billion in 2025 to USD 18.21 billion by 2035, With CAGR of 5.30% during 2025 to 2035.
    0 Comments 0 Shares 149 Views 0 Reviews
  • Anti-Acne Dermal Patch – A Modern Solution for Targeted Acne Care

    Anti-acne dermal patches have emerged as a convenient and effective solution for managing individual acne lesions. Designed to adhere directly to the skin, these patches deliver active ingredients precisely where they are needed, offering targeted treatment without affecting surrounding healthy skin.

    Unlike traditional creams or gels that spread across a broader area, dermal patches focus on a single pimple or inflamed spot. Many patches are made using hydrocolloid materials, which absorb excess oil, pus, and impurities from the acne lesion. This creates a clean, protected environment that supports faster healing.

    One of the key advantages of anti-acne dermal patches is their ability to act as a physical barrier. By covering the blemish, the patch prevents picking, scratching, or exposure to external bacteria, all of which can worsen acne and increase the risk of scarring. This protective function is particularly beneficial for individuals prone to touching their face.

    Reference - https://www.marketresearchfuture.com/reports/anti-acne-dermal-patch-market-11038
    Anti-Acne Dermal Patch – A Modern Solution for Targeted Acne Care Anti-acne dermal patches have emerged as a convenient and effective solution for managing individual acne lesions. Designed to adhere directly to the skin, these patches deliver active ingredients precisely where they are needed, offering targeted treatment without affecting surrounding healthy skin. Unlike traditional creams or gels that spread across a broader area, dermal patches focus on a single pimple or inflamed spot. Many patches are made using hydrocolloid materials, which absorb excess oil, pus, and impurities from the acne lesion. This creates a clean, protected environment that supports faster healing. One of the key advantages of anti-acne dermal patches is their ability to act as a physical barrier. By covering the blemish, the patch prevents picking, scratching, or exposure to external bacteria, all of which can worsen acne and increase the risk of scarring. This protective function is particularly beneficial for individuals prone to touching their face. Reference - https://www.marketresearchfuture.com/reports/anti-acne-dermal-patch-market-11038
    WWW.MARKETRESEARCHFUTURE.COM
    Anti-Acne Dermal Patch Market Size, Share, Trends, 2035
    Anti-Acne Dermal Patch Market share is projected to reach USD 1.28 Billion By 2035, at a 7.45 % CAGR by driving industry size, top company analysis, segments research, trends and forecast report 2025 to 2035 | MRFR
    0 Comments 0 Shares 140 Views 0 Reviews
  • Mild Cognitive Impairment – Understanding the Early Signs of Cognitive Change

    Mild Cognitive Impairment (MCI) is a neurological condition characterized by noticeable changes in memory, thinking, or reasoning that are greater than expected for a person’s age but not severe enough to interfere significantly with daily life. Individuals with MCI often remain independent, yet they may sense that something is not quite right with their cognitive abilities.

    One of the most common symptoms of MCI is memory difficulty, particularly with recalling recent events or conversations. People may misplace items more frequently, struggle to find words, or have difficulty concentrating. Unlike dementia, these challenges do not prevent individuals from managing their daily responsibilities, such as handling finances or maintaining personal care.

    Reference - https://www.marketresearchfuture.com/reports/mild-cognitive-impairment-market-10916
    Mild Cognitive Impairment – Understanding the Early Signs of Cognitive Change Mild Cognitive Impairment (MCI) is a neurological condition characterized by noticeable changes in memory, thinking, or reasoning that are greater than expected for a person’s age but not severe enough to interfere significantly with daily life. Individuals with MCI often remain independent, yet they may sense that something is not quite right with their cognitive abilities. One of the most common symptoms of MCI is memory difficulty, particularly with recalling recent events or conversations. People may misplace items more frequently, struggle to find words, or have difficulty concentrating. Unlike dementia, these challenges do not prevent individuals from managing their daily responsibilities, such as handling finances or maintaining personal care. Reference - https://www.marketresearchfuture.com/reports/mild-cognitive-impairment-market-10916
    WWW.MARKETRESEARCHFUTURE.COM
    Mild Cognitive Impairment Market Size, Share, Trends 2035
    Mild Cognitive Impairment Market is expected to reach USD 3.87 Billion by 2035 at 5.95% CAGR during the forecast period, 2025-2035,
    0 Comments 0 Shares 112 Views 0 Reviews
  • สุกี้ แห้ง น้ำ (เชิงสะพานฝั่งโรงเจ) กลมกล่อมไม่ราดน้ำจิ้มก่ะยังได้ #สมุทรปราการ #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #ต้องลอง #กิน #eat #food #streetfood #thaifood #thailand #thaitimes #kaiaminute
    สุกี้ แห้ง น้ำ (เชิงสะพานฝั่งโรงเจ) 💕กลมกล่อมไม่ราดน้ำจิ้มก่ะยังได้😍 #สมุทรปราการ #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #ต้องลอง #กิน #eat #food #streetfood #thaifood #thailand #thaitimes #kaiaminute
    0 Comments 0 Shares 171 Views 0 0 Reviews
  • Autoimmune Encephalomyelitis and Immune Dysregulation

    Autoimmune encephalomyelitis arises when the immune system attacks components of the central nervous system. This immune dysregulation leads to inflammation and neurological dysfunction.

    Patients may experience recurring symptoms or progressive neurological decline. Fatigue, weakness, cognitive impairment, and sensory changes are common.

    Diagnosis often involves identifying immune markers and ruling out infectious causes. Treatment includes immune-modulating therapies aimed at reducing inflammation and preventing relapses.

    Reference - https://www.marketresearchfuture.com/reports/encephalomyelitis-market-4874
    Autoimmune Encephalomyelitis and Immune Dysregulation Autoimmune encephalomyelitis arises when the immune system attacks components of the central nervous system. This immune dysregulation leads to inflammation and neurological dysfunction. Patients may experience recurring symptoms or progressive neurological decline. Fatigue, weakness, cognitive impairment, and sensory changes are common. Diagnosis often involves identifying immune markers and ruling out infectious causes. Treatment includes immune-modulating therapies aimed at reducing inflammation and preventing relapses. Reference - https://www.marketresearchfuture.com/reports/encephalomyelitis-market-4874
    WWW.MARKETRESEARCHFUTURE.COM
    Encephalomyelitis Market Size, Share, Trends, Growth, 2035
    Encephalomyelitis Market share register 1.95 Billion USD in 2024, projected to grow 5.44% CAGR to reach USD 3.49 Billion during the forecast period 2025 - 2035.
    0 Comments 0 Shares 137 Views 0 Reviews
  • Home-Based Pediatric Care Enabled by Medical Devices

    Home-based pediatric care is increasingly supported by specialized medical devices that allow treatment outside hospital settings. These devices empower families while maintaining clinical oversight.

    Portable monitors and therapy devices enable continuous care in familiar environments. Parents can manage treatments with guidance from healthcare professionals.

    Remote monitoring features allow clinicians to track progress and intervene when necessary, reducing unnecessary hospital visits.

    Pediatric medical devices make home-based care safer, more accessible, and less disruptive for children and families.

    ➤➤ Reference - https://www.marketresearchfuture.com/reports/pediatric-medical-device-market-980
    Home-Based Pediatric Care Enabled by Medical Devices Home-based pediatric care is increasingly supported by specialized medical devices that allow treatment outside hospital settings. These devices empower families while maintaining clinical oversight. Portable monitors and therapy devices enable continuous care in familiar environments. Parents can manage treatments with guidance from healthcare professionals. Remote monitoring features allow clinicians to track progress and intervene when necessary, reducing unnecessary hospital visits. Pediatric medical devices make home-based care safer, more accessible, and less disruptive for children and families. ➤➤ Reference - https://www.marketresearchfuture.com/reports/pediatric-medical-device-market-980
    WWW.MARKETRESEARCHFUTURE.COM
    Pediatric Medical Devices Market Size, Share, Trends, 2035
    Pediatric Medical Devices Market share is projected to reach USD 35.82 Billion By 2035, at a 6.99 % CAGR by driving industry size, top company analysis, segments research, trends and forecast report 2025 to 2035 | MRFR
    0 Comments 0 Shares 178 Views 0 Reviews
  • Improving Pediatric Diabetes Management with Monitoring Devices

    Managing diabetes in children presents unique challenges that require careful monitoring and support. Diabetes monitors offer valuable tools for parents, caregivers, and healthcare providers overseeing pediatric care.

    Continuous monitoring reduces the need for frequent finger pricks, making management less stressful for children. Alerts provide reassurance by signaling glucose changes promptly.

    Parents benefit from remote monitoring features that allow them to track glucose levels even when children are at school or activities. This connectivity promotes safety and peace of mind.

    Diabetes monitors help children develop awareness and responsibility over time, supporting a smoother transition to self-management in adolescence.

    Reference - https://www.marketresearchfuture.com/reports/diabetes-monitors-market-4781
    Improving Pediatric Diabetes Management with Monitoring Devices Managing diabetes in children presents unique challenges that require careful monitoring and support. Diabetes monitors offer valuable tools for parents, caregivers, and healthcare providers overseeing pediatric care. Continuous monitoring reduces the need for frequent finger pricks, making management less stressful for children. Alerts provide reassurance by signaling glucose changes promptly. Parents benefit from remote monitoring features that allow them to track glucose levels even when children are at school or activities. This connectivity promotes safety and peace of mind. Diabetes monitors help children develop awareness and responsibility over time, supporting a smoother transition to self-management in adolescence. Reference - https://www.marketresearchfuture.com/reports/diabetes-monitors-market-4781
    WWW.MARKETRESEARCHFUTURE.COM
    Diabetes Monitors Market Size, Share, Trends, Report 2035
    Diabetes Monitors Market projected to grow at 5.74% CAGR, reaching USD 22 Billion by 2035, driving growth global trends, competitive industry analysis and outlook 2025-2035.
    0 Comments 0 Shares 155 Views 0 Reviews
  • ข้าวแกงปักษ์ใต้โกดำ (นครศรีฯ) Ep.2 จัดจ้านไฟลุกเผ็ดร้อนถึงใจ #แพรกษา #สมุทรปราการ #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #ต้องลอง #กิน #eating #food #streetfood #thaifood #thailand #thaitimes #kaiaminute
    ข้าวแกงปักษ์ใต้โกดำ (นครศรีฯ) Ep.2 🔥จัดจ้านไฟลุกเผ็ดร้อนถึงใจ🤗 #แพรกษา #สมุทรปราการ #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #ต้องลอง #กิน #eating #food #streetfood #thaifood #thailand #thaitimes #kaiaminute
    0 Comments 0 Shares 182 Views 0 0 Reviews
  • ShinyHunters ขู่เปิดโปงข้อมูลผู้ใช้ Pornhub Premium

    เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2025 กลุ่มแฮ็กเกอร์ ShinyHunters ประกาศว่าพวกเขาได้ขโมยข้อมูลของผู้ใช้ Pornhub Premium และกำลังเรียกร้องค่าไถ่เป็น Bitcoin เพื่อแลกกับการไม่เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว โดยมีการปล่อยตัวอย่างข้อมูลที่ Reuters สามารถตรวจสอบได้บางส่วนว่าเป็นของจริง แม้จะเป็นข้อมูลเก่าหลายปีแล้วก็ตาม

    ผู้ใช้บางรายจากแคนาดาและสหรัฐฯ ยืนยันกับสื่อว่าข้อมูลที่ถูกเปิดเผยเป็นของตนจริง ซึ่งสร้างความกังวลว่าข้อมูลส่วนตัว เช่น อีเมลและรายละเอียดการสมัครสมาชิก อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด

    Pornhub และบริษัทแม่ Ethical Capital Partners ระบุว่าเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับ Mixpanel บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลภายนอก โดยข้อมูลที่รั่วไหลเป็นเพียง “ชุดข้อมูลการวิเคราะห์ที่จำกัด” และไม่ใช่ข้อมูลการชำระเงินหรือข้อมูลสำคัญของผู้ใช้ Pornhub เอง ขณะที่ Mixpanel ก็ออกแถลงการณ์ว่าไม่พบหลักฐานว่าข้อมูลที่ถูกขโมยมาจากเหตุการณ์ความปลอดภัยของตน

    ShinyHunters เป็นกลุ่มที่มีประวัติการโจมตีองค์กรใหญ่หลายแห่ง เช่น Salesforce และร้านค้าหรูในสหราชอาณาจักร โดยใช้วิธีการขโมยข้อมูลลูกค้าแล้วเรียกค่าไถ่ ซึ่งทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้ถูกจับตามองอย่างมากในวงการไซเบอร์ซีเคียวริตี้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การโจมตีของ ShinyHunters
    อ้างว่าขโมยข้อมูลผู้ใช้ Pornhub Premium
    เรียกร้องค่าไถ่เป็น Bitcoin

    ข้อมูลที่ถูกเปิดเผย
    มีการยืนยันจากผู้ใช้บางรายว่าเป็นข้อมูลจริง
    ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลเก่าหลายปี

    คำชี้แจงจาก Pornhub และ Mixpanel
    ระบุว่าเป็นข้อมูลการวิเคราะห์ที่จำกัด ไม่ใช่ข้อมูลการชำระเงิน
    Mixpanel ยืนยันว่าไม่พบหลักฐานว่าข้อมูลรั่วจากระบบของตน

    ประวัติของ ShinyHunters
    เคยโจมตี Salesforce และร้านค้าหรูในสหราชอาณาจักร
    ใช้วิธีการขโมยข้อมูลลูกค้าแล้วเรียกค่าไถ่

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้บริการออนไลน์
    ควรใช้รหัสผ่านที่แข็งแรงและไม่ซ้ำกัน
    หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลส่วนตัวกับแพลตฟอร์มที่ไม่น่าเชื่อถือ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/17/hacking-group-shinyhunters-threatens-to-expose-premium-users-of-sex-site-pornhub
    🕵️‍♂️ ShinyHunters ขู่เปิดโปงข้อมูลผู้ใช้ Pornhub Premium เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2025 กลุ่มแฮ็กเกอร์ ShinyHunters ประกาศว่าพวกเขาได้ขโมยข้อมูลของผู้ใช้ Pornhub Premium และกำลังเรียกร้องค่าไถ่เป็น Bitcoin เพื่อแลกกับการไม่เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว โดยมีการปล่อยตัวอย่างข้อมูลที่ Reuters สามารถตรวจสอบได้บางส่วนว่าเป็นของจริง แม้จะเป็นข้อมูลเก่าหลายปีแล้วก็ตาม ผู้ใช้บางรายจากแคนาดาและสหรัฐฯ ยืนยันกับสื่อว่าข้อมูลที่ถูกเปิดเผยเป็นของตนจริง ซึ่งสร้างความกังวลว่าข้อมูลส่วนตัว เช่น อีเมลและรายละเอียดการสมัครสมาชิก อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด Pornhub และบริษัทแม่ Ethical Capital Partners ระบุว่าเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับ Mixpanel บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลภายนอก โดยข้อมูลที่รั่วไหลเป็นเพียง “ชุดข้อมูลการวิเคราะห์ที่จำกัด” และไม่ใช่ข้อมูลการชำระเงินหรือข้อมูลสำคัญของผู้ใช้ Pornhub เอง ขณะที่ Mixpanel ก็ออกแถลงการณ์ว่าไม่พบหลักฐานว่าข้อมูลที่ถูกขโมยมาจากเหตุการณ์ความปลอดภัยของตน ShinyHunters เป็นกลุ่มที่มีประวัติการโจมตีองค์กรใหญ่หลายแห่ง เช่น Salesforce และร้านค้าหรูในสหราชอาณาจักร โดยใช้วิธีการขโมยข้อมูลลูกค้าแล้วเรียกค่าไถ่ ซึ่งทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้ถูกจับตามองอย่างมากในวงการไซเบอร์ซีเคียวริตี้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การโจมตีของ ShinyHunters ➡️ อ้างว่าขโมยข้อมูลผู้ใช้ Pornhub Premium ➡️ เรียกร้องค่าไถ่เป็น Bitcoin ✅ ข้อมูลที่ถูกเปิดเผย ➡️ มีการยืนยันจากผู้ใช้บางรายว่าเป็นข้อมูลจริง ➡️ ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลเก่าหลายปี ✅ คำชี้แจงจาก Pornhub และ Mixpanel ➡️ ระบุว่าเป็นข้อมูลการวิเคราะห์ที่จำกัด ไม่ใช่ข้อมูลการชำระเงิน ➡️ Mixpanel ยืนยันว่าไม่พบหลักฐานว่าข้อมูลรั่วจากระบบของตน ✅ ประวัติของ ShinyHunters ➡️ เคยโจมตี Salesforce และร้านค้าหรูในสหราชอาณาจักร ➡️ ใช้วิธีการขโมยข้อมูลลูกค้าแล้วเรียกค่าไถ่ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้บริการออนไลน์ ⛔ ควรใช้รหัสผ่านที่แข็งแรงและไม่ซ้ำกัน ⛔ หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลส่วนตัวกับแพลตฟอร์มที่ไม่น่าเชื่อถือ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/17/hacking-group-shinyhunters-threatens-to-expose-premium-users-of-sex-site-pornhub
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Hacking group ‘ShinyHunters’ threatens to expose premium users of sex site Pornhub
    WASHINGTON, Dec 16 (Reuters) - The hacking group "ShinyHunters" said on Tuesday it has stolen data belonging to premium customers of the leading sex website Pornhub and is threatening to publish it.
    0 Comments 0 Shares 161 Views 0 Reviews
  • ส่วนขยาย VPN หลอกลวง – ขายข้อมูลสนทนา AI ของผู้ใช้

    การตรวจสอบโดยทีมวิจัยของ Koi Security พบว่า ส่วนขยาย Urban VPN Proxy ซึ่งมีผู้ใช้กว่า 6 ล้านคน และได้รับ “Featured Badge” จาก Google Chrome Web Store ได้แอบเก็บข้อมูลการสนทนาของผู้ใช้กับ AI หลายแพลตฟอร์ม เช่น ChatGPT, Claude, Gemini, Copilot และ Meta AI โดยไม่มีทางเลือกให้ผู้ใช้ปิดการทำงานนี้

    การทำงานของมันคือการ ฉีดสคริปต์ (script injection) เข้าไปในหน้าเว็บของแพลตฟอร์ม AI แล้วดักจับทุกคำถามและคำตอบที่ผู้ใช้แลกเปลี่ยนกับ AI จากนั้นส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Urban VPN โดยข้อมูลที่ถูกเก็บรวมถึง ข้อความสนทนา, เวลา, session metadata และชื่อแพลตฟอร์มที่ใช้

    สิ่งที่น่าตกใจคือการเก็บข้อมูลนี้ถูกเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติใน เวอร์ชัน 5.5.0 ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2025 โดยไม่มีการแจ้งเตือนชัดเจน ผู้ใช้ที่ติดตั้งไว้ก่อนหน้านั้นจึงถูกอัปเดตโดยอัตโนมัติและเริ่มถูกเก็บข้อมูลทันที

    การสืบสวนยังพบว่า บริษัท BiScience ซึ่งเป็น data broker อยู่เบื้องหลัง Urban VPN และส่วนขยายอื่น ๆ เช่น 1ClickVPN Proxy, Urban Browser Guard และ Urban Ad Blocker รวมแล้วมีผู้ใช้กว่า 8 ล้านคน ข้อมูลที่เก็บถูกนำไปขายต่อในเชิงพาณิชย์ภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์อย่าง AdClarity และ Clickstream OS

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Urban VPN Proxy และส่วนขยายที่เกี่ยวข้อง
    มีผู้ใช้รวมกว่า 8 ล้านคน
    ได้รับ “Featured Badge” จาก Google และ Microsoft

    วิธีการเก็บข้อมูลสนทนา AI
    ใช้ script injection ดักจับทุกข้อความที่แลกเปลี่ยนกับ AI
    ส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ Urban VPN โดยอัตโนมัติ

    ข้อมูลที่ถูกเก็บและขายต่อ
    ข้อความสนทนา, เวลา, session metadata
    ถูกขายให้บริษัท data broker ภายใต้ผลิตภัณฑ์ AdClarity และ Clickstream OS

    การเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ
    เริ่มตั้งแต่เวอร์ชัน 5.5.0 ในเดือนกรกฎาคม 2025
    ผู้ใช้ไม่มีทางเลือกปิดการทำงาน ยกเว้นถอนการติดตั้ง

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    หากติดตั้ง Urban VPN หรือส่วนขยายที่เกี่ยวข้อง ควรถอนการติดตั้งทันที
    การสนทนากับ AI ตั้งแต่กรกฎาคม 2025 ถูกเก็บและแชร์ไปแล้ว

    https://www.koi.ai/blog/urban-vpn-browser-extension-ai-conversations-data-collection
    🔒 ส่วนขยาย VPN หลอกลวง – ขายข้อมูลสนทนา AI ของผู้ใช้ การตรวจสอบโดยทีมวิจัยของ Koi Security พบว่า ส่วนขยาย Urban VPN Proxy ซึ่งมีผู้ใช้กว่า 6 ล้านคน และได้รับ “Featured Badge” จาก Google Chrome Web Store ได้แอบเก็บข้อมูลการสนทนาของผู้ใช้กับ AI หลายแพลตฟอร์ม เช่น ChatGPT, Claude, Gemini, Copilot และ Meta AI โดยไม่มีทางเลือกให้ผู้ใช้ปิดการทำงานนี้ การทำงานของมันคือการ ฉีดสคริปต์ (script injection) เข้าไปในหน้าเว็บของแพลตฟอร์ม AI แล้วดักจับทุกคำถามและคำตอบที่ผู้ใช้แลกเปลี่ยนกับ AI จากนั้นส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Urban VPN โดยข้อมูลที่ถูกเก็บรวมถึง ข้อความสนทนา, เวลา, session metadata และชื่อแพลตฟอร์มที่ใช้ สิ่งที่น่าตกใจคือการเก็บข้อมูลนี้ถูกเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติใน เวอร์ชัน 5.5.0 ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2025 โดยไม่มีการแจ้งเตือนชัดเจน ผู้ใช้ที่ติดตั้งไว้ก่อนหน้านั้นจึงถูกอัปเดตโดยอัตโนมัติและเริ่มถูกเก็บข้อมูลทันที การสืบสวนยังพบว่า บริษัท BiScience ซึ่งเป็น data broker อยู่เบื้องหลัง Urban VPN และส่วนขยายอื่น ๆ เช่น 1ClickVPN Proxy, Urban Browser Guard และ Urban Ad Blocker รวมแล้วมีผู้ใช้กว่า 8 ล้านคน ข้อมูลที่เก็บถูกนำไปขายต่อในเชิงพาณิชย์ภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์อย่าง AdClarity และ Clickstream OS 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Urban VPN Proxy และส่วนขยายที่เกี่ยวข้อง ➡️ มีผู้ใช้รวมกว่า 8 ล้านคน ➡️ ได้รับ “Featured Badge” จาก Google และ Microsoft ✅ วิธีการเก็บข้อมูลสนทนา AI ➡️ ใช้ script injection ดักจับทุกข้อความที่แลกเปลี่ยนกับ AI ➡️ ส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ Urban VPN โดยอัตโนมัติ ✅ ข้อมูลที่ถูกเก็บและขายต่อ ➡️ ข้อความสนทนา, เวลา, session metadata ➡️ ถูกขายให้บริษัท data broker ภายใต้ผลิตภัณฑ์ AdClarity และ Clickstream OS ✅ การเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ ➡️ เริ่มตั้งแต่เวอร์ชัน 5.5.0 ในเดือนกรกฎาคม 2025 ➡️ ผู้ใช้ไม่มีทางเลือกปิดการทำงาน ยกเว้นถอนการติดตั้ง ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ หากติดตั้ง Urban VPN หรือส่วนขยายที่เกี่ยวข้อง ควรถอนการติดตั้งทันที ⛔ การสนทนากับ AI ตั้งแต่กรกฎาคม 2025 ถูกเก็บและแชร์ไปแล้ว https://www.koi.ai/blog/urban-vpn-browser-extension-ai-conversations-data-collection
    0 Comments 0 Shares 153 Views 0 Reviews
  • 5 แอปที่หลายคนไม่รู้ว่าสามารถใช้งานกับ Apple CarPlay ได้

    แอปฟังหนังสือเสียงและพอดแคสต์
    Audible: แอปหนังสือเสียงจาก Amazon ที่รองรับ CarPlay ตั้งแต่ปี 2015 ทำให้ผู้ใช้สามารถฟังหนังสือเสียงระหว่างขับรถได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อผ่านสายแบบเดิม
    Libby: แอปยืมหนังสือเสียงจากห้องสมุดกว่า 22,000 แห่งทั่วโลก เปิดตัวฟีเจอร์ CarPlay ในปี 2019 ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงหนังสือเสียงที่ยืมไว้ได้สะดวกขึ้น

    แอปสำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าและการเดินทาง
    PlugShare: แอปค้นหาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า รองรับ CarPlay โดยแสดงตำแหน่งสถานีชาร์จบนแผนที่ พร้อมข้อมูลว่าเป็น public หรือ high-power และสถานะการใช้งาน
    Weather on the Way: แอปที่ผสานข้อมูลสภาพอากาศเข้ากับ Apple Maps ช่วยให้ผู้ใช้เห็นสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ตลอดเส้นทางเดินทาง เหมาะสำหรับการขับรถระยะไกล

    แอปสำหรับการประชุมและการทำงาน
    Zoom: แอปประชุมออนไลน์ที่รองรับ CarPlay โดยปรับเป็น audio-only เพื่อความปลอดภัย ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมประชุม รับสาย หรือปิดไมค์ได้จากหน้าจอรถโดยตรง

    https://www.slashgear.com/2051769/apps-you-might-not-realize-work-with-carplay/
    🛻 5 แอปที่หลายคนไม่รู้ว่าสามารถใช้งานกับ Apple CarPlay ได้ 🎧 แอปฟังหนังสือเสียงและพอดแคสต์ 💠 Audible: แอปหนังสือเสียงจาก Amazon ที่รองรับ CarPlay ตั้งแต่ปี 2015 ทำให้ผู้ใช้สามารถฟังหนังสือเสียงระหว่างขับรถได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อผ่านสายแบบเดิม 💠 Libby: แอปยืมหนังสือเสียงจากห้องสมุดกว่า 22,000 แห่งทั่วโลก เปิดตัวฟีเจอร์ CarPlay ในปี 2019 ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงหนังสือเสียงที่ยืมไว้ได้สะดวกขึ้น ⚡ แอปสำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าและการเดินทาง 💠 PlugShare: แอปค้นหาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า รองรับ CarPlay โดยแสดงตำแหน่งสถานีชาร์จบนแผนที่ พร้อมข้อมูลว่าเป็น public หรือ high-power และสถานะการใช้งาน 💠 Weather on the Way: แอปที่ผสานข้อมูลสภาพอากาศเข้ากับ Apple Maps ช่วยให้ผู้ใช้เห็นสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ตลอดเส้นทางเดินทาง เหมาะสำหรับการขับรถระยะไกล 📞 แอปสำหรับการประชุมและการทำงาน 💠 Zoom: แอปประชุมออนไลน์ที่รองรับ CarPlay โดยปรับเป็น audio-only เพื่อความปลอดภัย ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมประชุม รับสาย หรือปิดไมค์ได้จากหน้าจอรถโดยตรง https://www.slashgear.com/2051769/apps-you-might-not-realize-work-with-carplay/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Apps You Might Not Realize Work With CarPlay - SlashGear
    While Apple's CarPlay has some obvious uses, like GPS navigation and music playing, there are a few other apps out there that add even more functionality.
    0 Comments 0 Shares 123 Views 0 Reviews
  • OpenShot 3.4 เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ใหม่

    OpenShot 3.4 ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอแบบโอเพนซอร์ส ได้รับการอัปเดตครั้งสำคัญ โดย Jonathan Thomas ผู้สร้าง OpenShot ประกาศเปิดตัวเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2025 ฟีเจอร์ใหม่ที่โดดเด่นคือ experimental timeline ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการคลิปได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น และ interactive cropping ที่ให้ผู้ใช้ครอบตัดวิดีโอได้โดยตรงในหน้าต่าง preview

    ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
    หนึ่งในจุดขายของเวอร์ชันนี้คือการปรับปรุงประสิทธิภาพทั้งระบบ ทำให้การเรนเดอร์และการทำงานกับโปรเจกต์ขนาดใหญ่เร็วขึ้นมาก การแก้ไขบั๊กจำนวนมากยังช่วยให้ OpenShot มีเสถียรภาพมากขึ้น ลดปัญหาการ crash ที่ผู้ใช้เคยเจอในเวอร์ชันก่อนหน้า ถือเป็นการยกระดับคุณภาพของซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สให้ทัดเทียมกับเครื่องมือเชิงพาณิชย์

    ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ
    Experimental Timeline: ปรับปรุงการจัดการคลิปและเลเยอร์
    Interactive Cropping: ครอบตัดวิดีโอได้โดยตรงใน preview window
    Performance Improvements: เรนเดอร์เร็วขึ้น, โหลดโปรเจกต์ใหญ่ได้ลื่นไหล
    Bug Fixes: แก้ไขปัญหาที่ผู้ใช้รายงานจำนวนมาก

    ความสำคัญต่อชุมชนโอเพนซอร์ส
    OpenShot 3.4 ยังคงเป็นซอฟต์แวร์ฟรีและโอเพนซอร์สที่รองรับทั้ง Linux, macOS และ Windows ทำให้ผู้ใช้ทุกแพลตฟอร์มสามารถเข้าถึงเครื่องมือที่ทรงพลังโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย การอัปเดตครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทีมพัฒนาในการผลักดันซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สให้แข่งขันได้กับโปรแกรมเชิงพาณิชย์อย่าง Adobe Premiere หรือ Final Cut Pro

    สรุปประเด็นสำคัญ
    OpenShot 3.4 เปิดตัว 16 ธันวาคม 2025
    รองรับ Linux, macOS และ Windows

    ฟีเจอร์ใหม่
    Experimental Timeline
    Interactive Cropping

    การปรับปรุงประสิทธิภาพ
    เรนเดอร์เร็วขึ้น
    โหลดโปรเจกต์ใหญ่ได้ดีขึ้น

    การแก้ไขบั๊ก
    ลดปัญหาการ crash
    เพิ่มเสถียรภาพโดยรวม

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    ฟีเจอร์ใหม่บางอย่างยังเป็น experimental อาจมีบั๊กที่ไม่เสถียร
    ควรสำรองโปรเจกต์ก่อนอัปเดตเพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย

    https://9to5linux.com/openshot-3-4-open-source-video-editor-released-with-new-effects-and-features
    🎬 OpenShot 3.4 เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ใหม่ OpenShot 3.4 ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอแบบโอเพนซอร์ส ได้รับการอัปเดตครั้งสำคัญ โดย Jonathan Thomas ผู้สร้าง OpenShot ประกาศเปิดตัวเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2025 ฟีเจอร์ใหม่ที่โดดเด่นคือ experimental timeline ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการคลิปได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น และ interactive cropping ที่ให้ผู้ใช้ครอบตัดวิดีโอได้โดยตรงในหน้าต่าง preview ⚡ ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หนึ่งในจุดขายของเวอร์ชันนี้คือการปรับปรุงประสิทธิภาพทั้งระบบ ทำให้การเรนเดอร์และการทำงานกับโปรเจกต์ขนาดใหญ่เร็วขึ้นมาก การแก้ไขบั๊กจำนวนมากยังช่วยให้ OpenShot มีเสถียรภาพมากขึ้น ลดปัญหาการ crash ที่ผู้ใช้เคยเจอในเวอร์ชันก่อนหน้า ถือเป็นการยกระดับคุณภาพของซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สให้ทัดเทียมกับเครื่องมือเชิงพาณิชย์ 🛠️ ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ 💠 Experimental Timeline: ปรับปรุงการจัดการคลิปและเลเยอร์ 💠 Interactive Cropping: ครอบตัดวิดีโอได้โดยตรงใน preview window 💠 Performance Improvements: เรนเดอร์เร็วขึ้น, โหลดโปรเจกต์ใหญ่ได้ลื่นไหล 💠 Bug Fixes: แก้ไขปัญหาที่ผู้ใช้รายงานจำนวนมาก 🌐 ความสำคัญต่อชุมชนโอเพนซอร์ส OpenShot 3.4 ยังคงเป็นซอฟต์แวร์ฟรีและโอเพนซอร์สที่รองรับทั้ง Linux, macOS และ Windows ทำให้ผู้ใช้ทุกแพลตฟอร์มสามารถเข้าถึงเครื่องมือที่ทรงพลังโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย การอัปเดตครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทีมพัฒนาในการผลักดันซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สให้แข่งขันได้กับโปรแกรมเชิงพาณิชย์อย่าง Adobe Premiere หรือ Final Cut Pro 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ OpenShot 3.4 เปิดตัว 16 ธันวาคม 2025 ➡️ รองรับ Linux, macOS และ Windows ✅ ฟีเจอร์ใหม่ ➡️ Experimental Timeline ➡️ Interactive Cropping ✅ การปรับปรุงประสิทธิภาพ ➡️ เรนเดอร์เร็วขึ้น ➡️ โหลดโปรเจกต์ใหญ่ได้ดีขึ้น ✅ การแก้ไขบั๊ก ➡️ ลดปัญหาการ crash ➡️ เพิ่มเสถียรภาพโดยรวม ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ ฟีเจอร์ใหม่บางอย่างยังเป็น experimental อาจมีบั๊กที่ไม่เสถียร ⛔ ควรสำรองโปรเจกต์ก่อนอัปเดตเพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย https://9to5linux.com/openshot-3-4-open-source-video-editor-released-with-new-effects-and-features
    9TO5LINUX.COM
    OpenShot 3.4 Open-Source Video Editor Released with New Effects and Features - 9to5Linux
    OpenShot 3.4 open-source video editing software is now available for download with new features, improved performance, and exchiting updates.
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 Reviews
More Results