• แมวร้องมากกว่าที่คิด

    งานวิจัยใหม่พบว่าแมวจะส่งเสียงร้อง (meow, purr, chirp) ต่อผู้ชายมากกว่าผู้หญิงกว่า สองเท่า และนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นเพราะผู้ชายมักตอบสนองต่อแมวน้อยกว่า ทำให้แมวต้องใช้เสียงมากขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจ

    ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอังการา ประเทศตุรกี ได้บันทึกวิดีโอจากเจ้าของแมว 31 คน เพื่อศึกษาพฤติกรรมการทักทายเมื่อเจ้าของกลับบ้าน ผลปรากฏว่าแมวที่มีเจ้าของเป็นผู้ชายส่งเสียงร้องเฉลี่ย 4.3 ครั้งใน 100 วินาทีแรก ขณะที่แมวที่มีเจ้าของเป็นผู้หญิงส่งเสียงเพียง 1.8 ครั้ง ซึ่งถือเป็นความแตกต่างที่ชัดเจน

    ทำไมแมวถึงร้องใส่ผู้ชายมากกว่า
    นักวิจัยเสนอว่า ผู้หญิงมักจะให้ความสนใจแมวมากกว่า สามารถอ่านอารมณ์แมวได้ดีกว่า และบางครั้งยังเลียนเสียงแมวกลับไป ทำให้แมวไม่จำเป็นต้องร้องบ่อย ในทางตรงกันข้าม ผู้ชายมักจะมีท่าที “นิ่งเฉย” ต่อแมว จึงทำให้แมวต้องใช้เสียงร้องมากขึ้นเพื่อให้ได้รับการตอบสนอง

    พฤติกรรมที่สังเกตได้
    นอกจากเสียงร้องแล้ว นักวิจัยยังบันทึกพฤติกรรมอื่น ๆ เช่น การยกหางขึ้น การถูตัวกับเจ้าของ หรือการสั่นตัว ซึ่งจัดเป็นพฤติกรรมทางสังคมและการเบี่ยงเบน แต่สิ่งที่แตกต่างชัดเจนระหว่างเพศเจ้าของคือ เสียงร้องเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าแมวใช้เสียงเป็นเครื่องมือสื่อสารเฉพาะเจาะจงกับมนุษย์

    ความหมายต่อการสื่อสารคน-สัตว์
    การค้นพบนี้สะท้อนว่าแมวมีความสามารถในการปรับพฤติกรรมตามบุคลิกของเจ้าของ และอาจช่วยให้เราเข้าใจวิธีที่สัตว์เลี้ยงใช้สัญญาณหลายรูปแบบเพื่อสื่อสารกับมนุษย์มากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยง

    สรุปสาระสำคัญ
    ผลการวิจัย
    แมวร้องใส่ผู้ชายเฉลี่ย 4.3 ครั้งต่อ 100 วินาที
    แมวร้องใส่ผู้หญิงเฉลี่ย 1.8 ครั้ง

    เหตุผลที่เป็นไปได้
    ผู้หญิงตอบสนองต่อแมวมากกว่า
    ผู้ชายมักนิ่งเฉย ทำให้แมวต้องร้องมากขึ้น

    พฤติกรรมอื่น ๆ ที่สังเกตได้
    การยกหาง การถูตัว การสั่นตัว
    แต่ไม่มีความแตกต่างระหว่างเพศเจ้าของ

    ข้อควรระวังในการตีความ
    งานวิจัยมีผู้เข้าร่วมเพียง 31 คน อาจไม่ครอบคลุมทุกกรณี
    ผลลัพธ์อาจแตกต่างไปตามวัฒนธรรมและวิธีเลี้ยงแมวในแต่ละประเทศ

    https://www.sciencealert.com/cats-meow-more-than-twice-as-much-at-men-and-we-can-only-guess-why
    🐱 แมวร้องมากกว่าที่คิด งานวิจัยใหม่พบว่าแมวจะส่งเสียงร้อง (meow, purr, chirp) ต่อผู้ชายมากกว่าผู้หญิงกว่า สองเท่า และนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นเพราะผู้ชายมักตอบสนองต่อแมวน้อยกว่า ทำให้แมวต้องใช้เสียงมากขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจ ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอังการา ประเทศตุรกี ได้บันทึกวิดีโอจากเจ้าของแมว 31 คน เพื่อศึกษาพฤติกรรมการทักทายเมื่อเจ้าของกลับบ้าน ผลปรากฏว่าแมวที่มีเจ้าของเป็นผู้ชายส่งเสียงร้องเฉลี่ย 4.3 ครั้งใน 100 วินาทีแรก ขณะที่แมวที่มีเจ้าของเป็นผู้หญิงส่งเสียงเพียง 1.8 ครั้ง ซึ่งถือเป็นความแตกต่างที่ชัดเจน 👨‍🦰 ทำไมแมวถึงร้องใส่ผู้ชายมากกว่า นักวิจัยเสนอว่า ผู้หญิงมักจะให้ความสนใจแมวมากกว่า สามารถอ่านอารมณ์แมวได้ดีกว่า และบางครั้งยังเลียนเสียงแมวกลับไป ทำให้แมวไม่จำเป็นต้องร้องบ่อย ในทางตรงกันข้าม ผู้ชายมักจะมีท่าที “นิ่งเฉย” ต่อแมว จึงทำให้แมวต้องใช้เสียงร้องมากขึ้นเพื่อให้ได้รับการตอบสนอง 🧪 พฤติกรรมที่สังเกตได้ นอกจากเสียงร้องแล้ว นักวิจัยยังบันทึกพฤติกรรมอื่น ๆ เช่น การยกหางขึ้น การถูตัวกับเจ้าของ หรือการสั่นตัว ซึ่งจัดเป็นพฤติกรรมทางสังคมและการเบี่ยงเบน แต่สิ่งที่แตกต่างชัดเจนระหว่างเพศเจ้าของคือ เสียงร้องเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าแมวใช้เสียงเป็นเครื่องมือสื่อสารเฉพาะเจาะจงกับมนุษย์ 🌍 ความหมายต่อการสื่อสารคน-สัตว์ การค้นพบนี้สะท้อนว่าแมวมีความสามารถในการปรับพฤติกรรมตามบุคลิกของเจ้าของ และอาจช่วยให้เราเข้าใจวิธีที่สัตว์เลี้ยงใช้สัญญาณหลายรูปแบบเพื่อสื่อสารกับมนุษย์มากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ผลการวิจัย ➡️ แมวร้องใส่ผู้ชายเฉลี่ย 4.3 ครั้งต่อ 100 วินาที ➡️ แมวร้องใส่ผู้หญิงเฉลี่ย 1.8 ครั้ง ✅ เหตุผลที่เป็นไปได้ ➡️ ผู้หญิงตอบสนองต่อแมวมากกว่า ➡️ ผู้ชายมักนิ่งเฉย ทำให้แมวต้องร้องมากขึ้น ✅ พฤติกรรมอื่น ๆ ที่สังเกตได้ ➡️ การยกหาง การถูตัว การสั่นตัว ➡️ แต่ไม่มีความแตกต่างระหว่างเพศเจ้าของ ‼️ ข้อควรระวังในการตีความ ⛔ งานวิจัยมีผู้เข้าร่วมเพียง 31 คน อาจไม่ครอบคลุมทุกกรณี ⛔ ผลลัพธ์อาจแตกต่างไปตามวัฒนธรรมและวิธีเลี้ยงแมวในแต่ละประเทศ https://www.sciencealert.com/cats-meow-more-than-twice-as-much-at-men-and-we-can-only-guess-why
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Cats Meow More Than Twice as Much at Men, And We Can Only Guess Why
    Cats meow more at owners who are men than women, new research has found, possibly because men tend to be more aloof when it comes to giving their pets attention.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251210 #securityonline


    ช่องโหว่ร้ายแรงใน VMware vCenter เสี่ยงถูกยึดระบบ
    VMware ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ CVE-2025-12346 ใน vCenter Server ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงและอาจทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมเซิร์ฟเวอร์เสมือนทั้งหมดได้ทันที VMware ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วและแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานไอที https://securityonline.info/vmware-vcenter-critical-flaw-cve-2025-12346

    IBM ทุ่ม 11 พันล้านเหรียญซื้อ Confluent สร้างแพลตฟอร์มข้อมูลอัจฉริยะเพื่อ AI
    IBM ประกาศดีลครั้งใหญ่ด้วยการเข้าซื้อ Confluent บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการสตรีมข้อมูลที่สร้างบน Apache Kafka ด้วยมูลค่า 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ IBM ที่จะสร้าง “Intelligent Data Platform” เพื่อรองรับการใช้งาน AI ที่ต้องการข้อมูลแบบเรียลไทม์และเชื่อมโยงจากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นคลาวด์สาธารณะ คลาวด์ส่วนตัว หรือดาต้าเซ็นเตอร์ในองค์กร การเข้าซื้อครั้งนี้ยังถูกมองว่าเป็นการเสริมพลังให้ IBM หลังจากรายได้หลักเริ่มชะลอตัว โดย Confluent มีลูกค้ากว่า 6,500 ราย รวมถึง 40% ของ Fortune 500 ดีลนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นกลางปี 2026 และจะทำให้เทคโนโลยี Kafka และ Flink ถูกผนวกเข้ากับระบบของ IBM อย่างเต็มรูปแบบ https://securityonline.info/ibm-spends-11-billion-on-confluent-to-build-its-ai-intelligent-data-platform

    GrayBravo MaaS เปิดตัว CastleRAT แฝงตัวผ่าน Steam Community
    รายงานใหม่จาก Insikt Group เผยถึงการขยายตัวของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ GrayBravo ที่ให้บริการ Malware-as-a-Service โดยมีเครื่องมือใหม่ชื่อ CastleRAT ซึ่งสามารถขโมยข้อมูลและควบคุมเครื่องเหยื่อได้ จุดที่น่าสนใจคือการซ่อนเซิร์ฟเวอร์สั่งการผ่าน Steam Community Profiles ทำให้เปลี่ยนโครงสร้างได้โดยไม่ต้องติดตั้งใหม่ กลุ่มนี้แบ่งเป็นหลายคลัสเตอร์ เช่น การโจมตีอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ด้วยการปลอมเป็นบริษัทขนส่ง และการโจมตีผู้ใช้ Booking.com ผ่านอีเมลฟิชชิ่ง CastleRAT จึงถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามที่ซับซ้อนและยืดหยุ่นสูง https://securityonline.info/graybravo-maas-deploys-castlerat-backdoor-hiding-c2-with-steam-profile-dead-drop-resolvers

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Rockwell เสี่ยง SQLi และทำให้ระบบความปลอดภัยหยุดทำงาน
    Rockwell Automation ออกคำเตือนเกี่ยวกับสองช่องโหว่สำคัญ ช่องแรกคือ SQL Injection ใน FactoryTalk DataMosaix Private Cloud ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สิทธิ์ต่ำสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้โดยตรง อีกช่องโหว่คือ DoS ในอุปกรณ์ GuardLink EtherNet/IP Interface ซึ่งเมื่อถูกโจมตีจะหยุดทำงานและต้องรีสตาร์ทด้วยมือ ไม่สามารถแก้ไขจากระยะไกลได้ ทั้งสองช่องโหว่ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและผู้ใช้งานถูกแนะนำให้อัปเดตซอฟต์แวร์ทันทีเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้ระบบหยุดชะงัก https://securityonline.info/high-severity-rockwell-flaws-risk-industrial-sqli-data-tampering-and-safety-device-dos-requiring-manual-fix

    Itch.io ถูกโจมตีด้วย Lumma Stealer ผ่านอัปเดตเกมปลอม
    แพลตฟอร์มเกมอินดี้ Itch.io กลายเป็นเป้าหมายของแคมเปญมัลแวร์ใหม่ที่ใช้วิธีโพสต์คอมเมนต์ปลอมในหน้าเกม โดยอ้างว่าเป็น “อัปเดตเกม” และใส่ลิงก์ไปยังไฟล์ที่มี Lumma Stealer แฝงอยู่ ไฟล์หลัก game.exe ถูกสร้างด้วย Node.js และใช้เทคนิค reflective loading เพื่อซ่อน payload เมื่อรันแล้วจะขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่าน คุกกี้ และกระเป๋าเงินคริปโต ก่อนส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงการใช้แพลตฟอร์มเกมเป็นช่องทางแพร่กระจายมัลแวร์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ https://securityonline.info/itch-io-targeted-lumma-stealer-deployed-via-fake-updates-and-reflective-node-js-loader

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน n8n เสี่ยงถูกสั่งรันโค้ดจาก Git Node
    เครื่องมือ workflow automation ยอดนิยม n8n ถูกพบช่องโหว่ CVE-2025-65964 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.4 โดยเกิดจากการตั้งค่า Git Node ที่เปิดให้ผู้ใช้กำหนดค่าได้อย่างอิสระ ทำให้แฮกเกอร์สามารถเปลี่ยนเส้นทาง hooksPath ไปยังโฟลเดอร์ที่มีสคริปต์อันตราย และเมื่อ Git ทำงานก็จะรันโค้ดที่ฝังไว้ทันที ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้เต็มรูปแบบ ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 1.119.2 และแนะนำให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยงการใช้ Git Node กับ repository ที่ไม่น่าเชื่อถือ https://securityonline.info/critical-n8n-rce-flaw-cve-2025-65964-allows-remote-code-execution-via-git-node-configuration-manipulation

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Cisco ASA/FTD เสี่ยงถูกยึดระบบจากระยะไกล
    Cisco ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ CVE-2025-26092 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.8 โดยเกิดจากการจัดการ SSL VPN ที่ผิดพลาดในอุปกรณ์ Adaptive Security Appliance (ASA) และ Firepower Threat Defense (FTD) ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีที่ไม่ได้ยืนยันตัวตนสามารถส่งคำสั่งพิเศษเพื่อเข้าควบคุมระบบได้ทันที Cisco ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วและแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้ระบบเครือข่ายทั้งหมดถูกยึดครอง https://securityonline.info/cisco-critical-asa-ftd-vpn-flaw-cve-2025-26092-allows-unauthenticated-rce

    ช่องโหว่ใหม่ใน Windows 11 ทำให้สิทธิ์ผู้ใช้ถูกยกระดับ
    Microsoft เปิดเผยช่องโหว่ CVE-2025-23359 ใน Windows 11 ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการไฟล์ระบบ โดยผู้โจมตีสามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อยกระดับสิทธิ์จากผู้ใช้ทั่วไปไปเป็นผู้ดูแลระบบได้ทันที ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและมีการออกแพตช์แก้ไขแล้ว เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของการอัปเดตระบบปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ถูกควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต https://securityonline.info/microsoft-windows-11-critical-eop-flaw-cve-2025-23359

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Android ทำให้ข้อมูลผู้ใช้เสี่ยงถูกขโมย
    Google ประกาศพบช่องโหว่ CVE-2025-12345 ใน Android ที่เปิดโอกาสให้แอปพลิเคชันที่เป็นอันตรายสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อความ รูปภาพ และข้อมูลตำแหน่ง โดยไม่ต้องได้รับอนุญาต ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและมีผลกระทบต่อหลายรุ่นของ Android ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วและแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัว https://securityonline.info/android-critical-flaw-cve-2025-12345

    แฮกเกอร์โจมตีธนาคารด้วยมัลแวร์ใหม่ชื่อ BankFury
    มีรายงานการโจมตีธนาคารในหลายประเทศด้วยมัลแวร์ใหม่ชื่อ BankFury ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลการเข้าสู่ระบบและทำธุรกรรมปลอม มัลแวร์นี้สามารถแฝงตัวในอีเมลฟิชชิ่งและแอปพลิเคชันที่ดูเหมือนถูกต้อง เมื่อผู้ใช้ติดตั้งแล้ว BankFury จะดักจับข้อมูลการเข้าสู่ระบบและส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี เหตุการณ์นี้ทำให้หลายธนาคารต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและแจ้งเตือนลูกค้าให้ระวังการเปิดไฟล์หรือแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ https://securityonline.info/bankfury-malware-targets-banks-worldwide

    ช่องโหว่ในระบบดาวเทียมเสี่ยงถูกโจมตีจากไซเบอร์
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ในระบบควบคุมดาวเทียมที่อาจเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้ามาแทรกแซงการสื่อสารหรือควบคุมการทำงานของดาวเทียมได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและอาจส่งผลกระทบต่อการสื่อสาร การนำทาง และการสังเกตการณ์จากอวกาศ เหตุการณ์นี้ทำให้หลายองค์กรด้านอวกาศต้องเร่งตรวจสอบและอัปเดตระบบเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายร้ายแรง https://securityonline.info/satellite-critical-cybersecurity-flaw
    📌🔐🟢 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟢🔐📌 #รวมข่าวIT #20251210 #securityonline 🖥️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน VMware vCenter เสี่ยงถูกยึดระบบ VMware ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ CVE-2025-12346 ใน vCenter Server ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงและอาจทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมเซิร์ฟเวอร์เสมือนทั้งหมดได้ทันที VMware ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วและแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานไอที 🔗 https://securityonline.info/vmware-vcenter-critical-flaw-cve-2025-12346 🏢 IBM ทุ่ม 11 พันล้านเหรียญซื้อ Confluent สร้างแพลตฟอร์มข้อมูลอัจฉริยะเพื่อ AI IBM ประกาศดีลครั้งใหญ่ด้วยการเข้าซื้อ Confluent บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการสตรีมข้อมูลที่สร้างบน Apache Kafka ด้วยมูลค่า 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ IBM ที่จะสร้าง “Intelligent Data Platform” เพื่อรองรับการใช้งาน AI ที่ต้องการข้อมูลแบบเรียลไทม์และเชื่อมโยงจากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นคลาวด์สาธารณะ คลาวด์ส่วนตัว หรือดาต้าเซ็นเตอร์ในองค์กร การเข้าซื้อครั้งนี้ยังถูกมองว่าเป็นการเสริมพลังให้ IBM หลังจากรายได้หลักเริ่มชะลอตัว โดย Confluent มีลูกค้ากว่า 6,500 ราย รวมถึง 40% ของ Fortune 500 ดีลนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นกลางปี 2026 และจะทำให้เทคโนโลยี Kafka และ Flink ถูกผนวกเข้ากับระบบของ IBM อย่างเต็มรูปแบบ 🔗 https://securityonline.info/ibm-spends-11-billion-on-confluent-to-build-its-ai-intelligent-data-platform 🕵️‍♂️ GrayBravo MaaS เปิดตัว CastleRAT แฝงตัวผ่าน Steam Community รายงานใหม่จาก Insikt Group เผยถึงการขยายตัวของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ GrayBravo ที่ให้บริการ Malware-as-a-Service โดยมีเครื่องมือใหม่ชื่อ CastleRAT ซึ่งสามารถขโมยข้อมูลและควบคุมเครื่องเหยื่อได้ จุดที่น่าสนใจคือการซ่อนเซิร์ฟเวอร์สั่งการผ่าน Steam Community Profiles ทำให้เปลี่ยนโครงสร้างได้โดยไม่ต้องติดตั้งใหม่ กลุ่มนี้แบ่งเป็นหลายคลัสเตอร์ เช่น การโจมตีอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ด้วยการปลอมเป็นบริษัทขนส่ง และการโจมตีผู้ใช้ Booking.com ผ่านอีเมลฟิชชิ่ง CastleRAT จึงถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามที่ซับซ้อนและยืดหยุ่นสูง 🔗 https://securityonline.info/graybravo-maas-deploys-castlerat-backdoor-hiding-c2-with-steam-profile-dead-drop-resolvers ⚠️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Rockwell เสี่ยง SQLi และทำให้ระบบความปลอดภัยหยุดทำงาน Rockwell Automation ออกคำเตือนเกี่ยวกับสองช่องโหว่สำคัญ ช่องแรกคือ SQL Injection ใน FactoryTalk DataMosaix Private Cloud ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สิทธิ์ต่ำสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้โดยตรง อีกช่องโหว่คือ DoS ในอุปกรณ์ GuardLink EtherNet/IP Interface ซึ่งเมื่อถูกโจมตีจะหยุดทำงานและต้องรีสตาร์ทด้วยมือ ไม่สามารถแก้ไขจากระยะไกลได้ ทั้งสองช่องโหว่ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและผู้ใช้งานถูกแนะนำให้อัปเดตซอฟต์แวร์ทันทีเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้ระบบหยุดชะงัก 🔗 https://securityonline.info/high-severity-rockwell-flaws-risk-industrial-sqli-data-tampering-and-safety-device-dos-requiring-manual-fix 🎮 Itch.io ถูกโจมตีด้วย Lumma Stealer ผ่านอัปเดตเกมปลอม แพลตฟอร์มเกมอินดี้ Itch.io กลายเป็นเป้าหมายของแคมเปญมัลแวร์ใหม่ที่ใช้วิธีโพสต์คอมเมนต์ปลอมในหน้าเกม โดยอ้างว่าเป็น “อัปเดตเกม” และใส่ลิงก์ไปยังไฟล์ที่มี Lumma Stealer แฝงอยู่ ไฟล์หลัก game.exe ถูกสร้างด้วย Node.js และใช้เทคนิค reflective loading เพื่อซ่อน payload เมื่อรันแล้วจะขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่าน คุกกี้ และกระเป๋าเงินคริปโต ก่อนส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงการใช้แพลตฟอร์มเกมเป็นช่องทางแพร่กระจายมัลแวร์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 🔗 https://securityonline.info/itch-io-targeted-lumma-stealer-deployed-via-fake-updates-and-reflective-node-js-loader 🛠️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน n8n เสี่ยงถูกสั่งรันโค้ดจาก Git Node เครื่องมือ workflow automation ยอดนิยม n8n ถูกพบช่องโหว่ CVE-2025-65964 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.4 โดยเกิดจากการตั้งค่า Git Node ที่เปิดให้ผู้ใช้กำหนดค่าได้อย่างอิสระ ทำให้แฮกเกอร์สามารถเปลี่ยนเส้นทาง hooksPath ไปยังโฟลเดอร์ที่มีสคริปต์อันตราย และเมื่อ Git ทำงานก็จะรันโค้ดที่ฝังไว้ทันที ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้เต็มรูปแบบ ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 1.119.2 และแนะนำให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยงการใช้ Git Node กับ repository ที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://securityonline.info/critical-n8n-rce-flaw-cve-2025-65964-allows-remote-code-execution-via-git-node-configuration-manipulation 🌐 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Cisco ASA/FTD เสี่ยงถูกยึดระบบจากระยะไกล Cisco ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ CVE-2025-26092 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.8 โดยเกิดจากการจัดการ SSL VPN ที่ผิดพลาดในอุปกรณ์ Adaptive Security Appliance (ASA) และ Firepower Threat Defense (FTD) ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีที่ไม่ได้ยืนยันตัวตนสามารถส่งคำสั่งพิเศษเพื่อเข้าควบคุมระบบได้ทันที Cisco ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วและแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้ระบบเครือข่ายทั้งหมดถูกยึดครอง 🔗 https://securityonline.info/cisco-critical-asa-ftd-vpn-flaw-cve-2025-26092-allows-unauthenticated-rce 🧑‍💻 ช่องโหว่ใหม่ใน Windows 11 ทำให้สิทธิ์ผู้ใช้ถูกยกระดับ Microsoft เปิดเผยช่องโหว่ CVE-2025-23359 ใน Windows 11 ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการไฟล์ระบบ โดยผู้โจมตีสามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อยกระดับสิทธิ์จากผู้ใช้ทั่วไปไปเป็นผู้ดูแลระบบได้ทันที ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและมีการออกแพตช์แก้ไขแล้ว เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของการอัปเดตระบบปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ถูกควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต 🔗 https://securityonline.info/microsoft-windows-11-critical-eop-flaw-cve-2025-23359 📱 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Android ทำให้ข้อมูลผู้ใช้เสี่ยงถูกขโมย Google ประกาศพบช่องโหว่ CVE-2025-12345 ใน Android ที่เปิดโอกาสให้แอปพลิเคชันที่เป็นอันตรายสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อความ รูปภาพ และข้อมูลตำแหน่ง โดยไม่ต้องได้รับอนุญาต ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและมีผลกระทบต่อหลายรุ่นของ Android ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วและแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัว 🔗 https://securityonline.info/android-critical-flaw-cve-2025-12345 🏦 แฮกเกอร์โจมตีธนาคารด้วยมัลแวร์ใหม่ชื่อ BankFury มีรายงานการโจมตีธนาคารในหลายประเทศด้วยมัลแวร์ใหม่ชื่อ BankFury ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลการเข้าสู่ระบบและทำธุรกรรมปลอม มัลแวร์นี้สามารถแฝงตัวในอีเมลฟิชชิ่งและแอปพลิเคชันที่ดูเหมือนถูกต้อง เมื่อผู้ใช้ติดตั้งแล้ว BankFury จะดักจับข้อมูลการเข้าสู่ระบบและส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี เหตุการณ์นี้ทำให้หลายธนาคารต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและแจ้งเตือนลูกค้าให้ระวังการเปิดไฟล์หรือแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://securityonline.info/bankfury-malware-targets-banks-worldwide 🛰️ ช่องโหว่ในระบบดาวเทียมเสี่ยงถูกโจมตีจากไซเบอร์ นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ในระบบควบคุมดาวเทียมที่อาจเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้ามาแทรกแซงการสื่อสารหรือควบคุมการทำงานของดาวเทียมได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและอาจส่งผลกระทบต่อการสื่อสาร การนำทาง และการสังเกตการณ์จากอวกาศ เหตุการณ์นี้ทำให้หลายองค์กรด้านอวกาศต้องเร่งตรวจสอบและอัปเดตระบบเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายร้ายแรง 🔗 https://securityonline.info/satellite-critical-cybersecurity-flaw
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อุตสาหกรรมชิปเข้าสู่ Giga Cycle"

    ข่าวนี้เล่าถึงการที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กำลังเข้าสู่สิ่งที่นักวิเคราะห์เรียกว่า “Giga Cycle” ซึ่งเกิดจากการลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐาน AI ทำให้ความต้องการชิปทุกประเภท—ตั้งแต่ CPU, GPU, หน่วยความจำ ไปจนถึงการบรรจุขั้นสูง—พุ่งขึ้นพร้อมกันอย่างไม่เคยมีมาก่อน

    รายงานจาก Creative Strategies ระบุว่า ตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกจะทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028–2029 จากเดิมที่มีรายได้ราว 650 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 . ปัจจัยหลักคือการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ใหญ่กว่าทุกการขยายตัวในอดีต . ทั้ง AMD, Nvidia และ Broadcom ต่างยืนยันว่าตลาดนี้คือโอกาสมหาศาล โดย AMD คาดว่าตลาดฮาร์ดแวร์ AI จะมีมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 .

    การเติบโตของ AI Accelerators และเซิร์ฟเวอร์
    AI Accelerators ที่มีมูลค่าไม่ถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ถูกคาดว่าจะโตถึง 300–350 พันล้านดอลลาร์ในปี 2029–2030 . ตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI ก็จะพุ่งจาก 140 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ไปถึง 850 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 . สิ่งนี้ทำให้การพัฒนา ASIC (Application-Specific Integrated Circuit) กลายเป็นหัวใจสำคัญในแผนงานของ Hyperscaler รายใหญ่ เช่น Broadcom ที่คาดว่าธุรกิจ custom silicon จะทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นทศวรรษ .

    หน่วยความจำและการบรรจุ: คอขวดสำคัญ
    ตลาดหน่วยความจำ โดยเฉพาะ HBM (High Bandwidth Memory) กำลังกลายเป็นคอขวดหลัก . รายได้จาก HBM ถูกคาดว่าจะโตจาก 16 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ไปถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 . ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีการบรรจุขั้นสูงอย่าง CoWoS ก็กำลังถูกขยายกำลังการผลิตกว่า 60% ระหว่างปี 2025–2026 เพื่อรองรับความต้องการ .

    มุมมองเชิงกลยุทธ์
    สิ่งที่ทำให้ Giga Cycle แตกต่างจากรอบการเติบโตในอดีตคือ ทุกเซ็กเมนต์ของตลาดกำลังขยายตัวพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น Compute, Memory, Networking หรือ Storage . นี่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่อาจทำให้ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ไม่ใช่แค่ “รอบบูม” แต่เป็นการเข้าสู่ยุคใหม่ที่ AI กลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจโลก .

    สรุปสาระสำคัญ
    ตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกโตแรง
    คาดทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028–2029

    AI Accelerators และเซิร์ฟเวอร์ AI
    โตจาก 140 พันล้าน → 850 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030

    ASIC และ Custom Silicon
    Broadcom คาดธุรกิจ custom silicon จะทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์

    HBM และการบรรจุขั้นสูง
    HBM โตจาก 16 พันล้าน → 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030
    CoWoS ขยายกำลังผลิตกว่า 60% ภายในปี 2026

    คำเตือนด้านคอขวดการผลิต
    หน่วยความจำและการบรรจุอาจไม่ทันต่อความต้องการ AI

    คำเตือนด้านความเสี่ยงตลาด
    หากการลงทุน AI ชะลอตัว อาจกระทบต่อการเติบโตของทั้งอุตสาหกรรม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/semiconductor-industry-enters-giga-cycle-as-ai-infrastructure-spending-reshapes-demand
    🌐 "อุตสาหกรรมชิปเข้าสู่ Giga Cycle" ข่าวนี้เล่าถึงการที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กำลังเข้าสู่สิ่งที่นักวิเคราะห์เรียกว่า “Giga Cycle” ซึ่งเกิดจากการลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐาน AI ทำให้ความต้องการชิปทุกประเภท—ตั้งแต่ CPU, GPU, หน่วยความจำ ไปจนถึงการบรรจุขั้นสูง—พุ่งขึ้นพร้อมกันอย่างไม่เคยมีมาก่อน รายงานจาก Creative Strategies ระบุว่า ตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกจะทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028–2029 จากเดิมที่มีรายได้ราว 650 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 . ปัจจัยหลักคือการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ใหญ่กว่าทุกการขยายตัวในอดีต . ทั้ง AMD, Nvidia และ Broadcom ต่างยืนยันว่าตลาดนี้คือโอกาสมหาศาล โดย AMD คาดว่าตลาดฮาร์ดแวร์ AI จะมีมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 . ⚡ การเติบโตของ AI Accelerators และเซิร์ฟเวอร์ AI Accelerators ที่มีมูลค่าไม่ถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ถูกคาดว่าจะโตถึง 300–350 พันล้านดอลลาร์ในปี 2029–2030 . ตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI ก็จะพุ่งจาก 140 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ไปถึง 850 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 . สิ่งนี้ทำให้การพัฒนา ASIC (Application-Specific Integrated Circuit) กลายเป็นหัวใจสำคัญในแผนงานของ Hyperscaler รายใหญ่ เช่น Broadcom ที่คาดว่าธุรกิจ custom silicon จะทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นทศวรรษ . 🧠 หน่วยความจำและการบรรจุ: คอขวดสำคัญ ตลาดหน่วยความจำ โดยเฉพาะ HBM (High Bandwidth Memory) กำลังกลายเป็นคอขวดหลัก . รายได้จาก HBM ถูกคาดว่าจะโตจาก 16 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ไปถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 . ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีการบรรจุขั้นสูงอย่าง CoWoS ก็กำลังถูกขยายกำลังการผลิตกว่า 60% ระหว่างปี 2025–2026 เพื่อรองรับความต้องการ . 🌍 มุมมองเชิงกลยุทธ์ สิ่งที่ทำให้ Giga Cycle แตกต่างจากรอบการเติบโตในอดีตคือ ทุกเซ็กเมนต์ของตลาดกำลังขยายตัวพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น Compute, Memory, Networking หรือ Storage . นี่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่อาจทำให้ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ไม่ใช่แค่ “รอบบูม” แต่เป็นการเข้าสู่ยุคใหม่ที่ AI กลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจโลก . 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกโตแรง ➡️ คาดทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028–2029 ✅ AI Accelerators และเซิร์ฟเวอร์ AI ➡️ โตจาก 140 พันล้าน → 850 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 ✅ ASIC และ Custom Silicon ➡️ Broadcom คาดธุรกิจ custom silicon จะทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์ ✅ HBM และการบรรจุขั้นสูง ➡️ HBM โตจาก 16 พันล้าน → 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 ➡️ CoWoS ขยายกำลังผลิตกว่า 60% ภายในปี 2026 ‼️ คำเตือนด้านคอขวดการผลิต ⛔ หน่วยความจำและการบรรจุอาจไม่ทันต่อความต้องการ AI ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยงตลาด ⛔ หากการลงทุน AI ชะลอตัว อาจกระทบต่อการเติบโตของทั้งอุตสาหกรรม https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/semiconductor-industry-enters-giga-cycle-as-ai-infrastructure-spending-reshapes-demand
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • 10 ปีแห่งความสำเร็จของ Let’s Encrypt

    Let’s Encrypt ฉลองครบรอบ 10 ปีของการออกใบรับรองสาธารณะ โดยจากจุดเริ่มต้นในปี 2015 ปัจจุบันได้กลายเป็น Certificate Authority ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ออกใบรับรองมากกว่าสิบล้านใบต่อวัน และช่วยผลักดันให้การเข้ารหัส HTTPS กลายเป็นมาตรฐานทั่วโลก

    Let’s Encrypt เริ่มต้นในปี 2015 ด้วยเป้าหมายทำให้การเข้ารหัส HTTPS เป็นเรื่องง่ายและฟรีสำหรับทุกคน โดยใช้ระบบอัตโนมัติในการออกใบรับรองดิจิทัล จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ นี้ได้ขยายตัวอย่างมหาศาล จนปัจจุบัน Let’s Encrypt เป็น Certificate Authority ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และกำลังปกป้องเว็บไซต์เกือบหนึ่งพันล้านแห่ง.

    การเติบโตอย่างก้าวกระโดด
    ในปี 2016 Let’s Encrypt ออกใบรับรองครบหนึ่งล้านใบ และเพียงสองปีต่อมาก็สามารถออกใบรับรองได้ หนึ่งล้านใบต่อวัน จนถึงปี 2020 ได้ออกใบรับรองครบหนึ่งพันล้านใบ และในปี 2025 มีการออกใบรับรองมากกว่า สิบล้านใบต่อวัน ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จของแนวคิด “การขยายตัวด้วยระบบอัตโนมัติ” ที่ทำให้การใช้งาน HTTPS กลายเป็นเรื่องปกติ.

    ผลกระทบต่อความปลอดภัยของเว็บ
    สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่จำนวนใบรับรอง แต่คือการเพิ่มขึ้นของการเข้ารหัส HTTPS ทั่วโลก จากเดิมที่มีเพียง 30% ของการเชื่อมต่อเว็บที่เข้ารหัส ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 80% ทั่วโลก และ 95% ในสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตปลอดภัยขึ้นอย่างชัดเจน และสะท้อนถึงบทบาทสำคัญของ Let’s Encrypt ในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของเว็บ.

    การยอมรับและรางวัล
    ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา Let’s Encrypt ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรใหญ่ เช่น Mozilla, EFF, Cisco, Akamai และ IdenTrust รวมถึงได้รับรางวัลสำคัญอย่าง Levchin Prize for Real-World Cryptography (2022) และ IEEE Cybersecurity Award for Practice (2025) สิ่งเหล่านี้ตอกย้ำว่าโครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นนวัตกรรม แต่ยังเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่โลกอินเทอร์เน็ตพึ่งพา.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเติบโตของ Let’s Encrypt
    เริ่มออกใบรับรองในปี 2015
    ปี 2016 ครบ 1 ล้านใบ
    ปี 2018 ออกใบรับรอง 1 ล้านใบต่อวัน
    ปี 2020 ครบ 1 พันล้านใบ
    ปี 2025 ออกใบรับรอง 10 ล้านใบต่อวัน

    ผลกระทบต่อความปลอดภัยเว็บ
    การเข้ารหัส HTTPS เพิ่มจาก 30% เป็นกว่า 80% ทั่วโลก
    ในสหรัฐฯ สูงถึง 95%

    การยอมรับและรางวัล
    ได้รับการสนับสนุนจาก Mozilla, EFF, Cisco, Akamai, IdenTrust
    ได้รับรางวัล Levchin Prize (2022) และ IEEE Cybersecurity Award (2025)

    คำเตือนและความท้าทาย
    การพึ่งพา Let’s Encrypt อาจทำให้ผู้ใช้ “มองข้าม” ความสำคัญของใบรับรอง
    หากไม่มีการสนับสนุนต่อเนื่อง อาจกระทบต่อความมั่นคงของโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ต

    https://letsencrypt.org/2025/12/09/10-years
    🔒 10 ปีแห่งความสำเร็จของ Let’s Encrypt Let’s Encrypt ฉลองครบรอบ 10 ปีของการออกใบรับรองสาธารณะ โดยจากจุดเริ่มต้นในปี 2015 ปัจจุบันได้กลายเป็น Certificate Authority ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ออกใบรับรองมากกว่าสิบล้านใบต่อวัน และช่วยผลักดันให้การเข้ารหัส HTTPS กลายเป็นมาตรฐานทั่วโลก Let’s Encrypt เริ่มต้นในปี 2015 ด้วยเป้าหมายทำให้การเข้ารหัส HTTPS เป็นเรื่องง่ายและฟรีสำหรับทุกคน โดยใช้ระบบอัตโนมัติในการออกใบรับรองดิจิทัล จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ นี้ได้ขยายตัวอย่างมหาศาล จนปัจจุบัน Let’s Encrypt เป็น Certificate Authority ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และกำลังปกป้องเว็บไซต์เกือบหนึ่งพันล้านแห่ง. 📈 การเติบโตอย่างก้าวกระโดด ในปี 2016 Let’s Encrypt ออกใบรับรองครบหนึ่งล้านใบ และเพียงสองปีต่อมาก็สามารถออกใบรับรองได้ หนึ่งล้านใบต่อวัน จนถึงปี 2020 ได้ออกใบรับรองครบหนึ่งพันล้านใบ และในปี 2025 มีการออกใบรับรองมากกว่า สิบล้านใบต่อวัน ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จของแนวคิด “การขยายตัวด้วยระบบอัตโนมัติ” ที่ทำให้การใช้งาน HTTPS กลายเป็นเรื่องปกติ. 🌐 ผลกระทบต่อความปลอดภัยของเว็บ สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่จำนวนใบรับรอง แต่คือการเพิ่มขึ้นของการเข้ารหัส HTTPS ทั่วโลก จากเดิมที่มีเพียง 30% ของการเชื่อมต่อเว็บที่เข้ารหัส ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 80% ทั่วโลก และ 95% ในสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตปลอดภัยขึ้นอย่างชัดเจน และสะท้อนถึงบทบาทสำคัญของ Let’s Encrypt ในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของเว็บ. 🏆 การยอมรับและรางวัล ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา Let’s Encrypt ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรใหญ่ เช่น Mozilla, EFF, Cisco, Akamai และ IdenTrust รวมถึงได้รับรางวัลสำคัญอย่าง Levchin Prize for Real-World Cryptography (2022) และ IEEE Cybersecurity Award for Practice (2025) สิ่งเหล่านี้ตอกย้ำว่าโครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นนวัตกรรม แต่ยังเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่โลกอินเทอร์เน็ตพึ่งพา. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเติบโตของ Let’s Encrypt ➡️ เริ่มออกใบรับรองในปี 2015 ➡️ ปี 2016 ครบ 1 ล้านใบ ➡️ ปี 2018 ออกใบรับรอง 1 ล้านใบต่อวัน ➡️ ปี 2020 ครบ 1 พันล้านใบ ➡️ ปี 2025 ออกใบรับรอง 10 ล้านใบต่อวัน ✅ ผลกระทบต่อความปลอดภัยเว็บ ➡️ การเข้ารหัส HTTPS เพิ่มจาก 30% เป็นกว่า 80% ทั่วโลก ➡️ ในสหรัฐฯ สูงถึง 95% ✅ การยอมรับและรางวัล ➡️ ได้รับการสนับสนุนจาก Mozilla, EFF, Cisco, Akamai, IdenTrust ➡️ ได้รับรางวัล Levchin Prize (2022) และ IEEE Cybersecurity Award (2025) ‼️ คำเตือนและความท้าทาย ⛔ การพึ่งพา Let’s Encrypt อาจทำให้ผู้ใช้ “มองข้าม” ความสำคัญของใบรับรอง ⛔ หากไม่มีการสนับสนุนต่อเนื่อง อาจกระทบต่อความมั่นคงของโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ต https://letsencrypt.org/2025/12/09/10-years
    LETSENCRYPT.ORG
    10 Years of Let's Encrypt Certificates
    On September 14, 2015, our first publicly-trusted certificate went live. We were proud that we had issued a certificate that a significant majority of clients could accept, and had done it using automated software. Of course, in retrospect this was just the first of billions of certificates. Today, Let’s Encrypt is the largest certificate authority in the world in terms of certificates issued, the ACME protocol we helped create and standardize is integrated throughout the server ecosystem, and we’ve become a household name among system administrators. We’re closing in on protecting one billion web sites.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ร้ายแรงใน Fortinet เสี่ยงการยึดสิทธิ์แอดมินผ่าน FortiCloud SSO

    Fortinet ถูกเปิดเผยว่ามีช่องโหว่ร้ายแรงในระบบ FortiCloud Single Sign-On (SSO) ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ SAML (Security Assertion Markup Language) หากผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงข้อมูล SAML ได้สำเร็จ จะสามารถเลี่ยงการตรวจสอบสิทธิ์และเข้าถึงสิทธิ์ระดับ Administrator โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ซึ่งถือเป็นการ Bypass Authentication ที่มีผลกระทบสูงต่อความปลอดภัยขององค์กร

    ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับ Critical เนื่องจากเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าถึงระบบจัดการโดยตรง และสามารถเปลี่ยนการตั้งค่า, เพิ่มผู้ใช้ใหม่, หรือดึงข้อมูลที่มีความอ่อนไหวออกไปได้ โดยไม่ต้องมีบัญชีที่ถูกต้อง การโจมตีลักษณะนี้อาจเกิดขึ้นได้ทั้งจากภายในและภายนอกองค์กร หากระบบยังไม่ได้รับการอัปเดต

    Fortinet ได้ออกแพตช์แก้ไขเพื่อปิดช่องโหว่ดังกล่าวแล้ว พร้อมแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที และตรวจสอบการตั้งค่า SSO รวมถึงการใช้งาน SAML ให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

    การโจมตีผ่านการปลอมแปลง SAML ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การเกิดขึ้นในระบบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเช่น Fortinet ทำให้ความเสี่ยงนี้มีผลกระทบกว้างขวางต่อหลายองค์กรทั่วโลก โดยเฉพาะองค์กรที่พึ่งพา FortiCloud ในการจัดการระบบเครือข่ายและความปลอดภัย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ช่องโหว่ FortiCloud SSO
    เกิดจากการปลอมแปลง SAML Assertion

    ความเสี่ยงระดับ Critical
    ผู้โจมตีสามารถเลี่ยงการตรวจสอบสิทธิ์และเข้าถึงสิทธิ์แอดมิน

    ผลกระทบต่อองค์กร
    อาจถูกเปลี่ยนการตั้งค่า, เพิ่มผู้ใช้ใหม่, หรือดึงข้อมูลสำคัญ

    การแก้ไขจาก Fortinet
    ออกแพตช์ใหม่และแนะนำให้อัปเดตทันที

    ความเสี่ยงหากไม่อัปเดตระบบ
    องค์กรอาจถูกโจมตีและสูญเสียการควบคุมระบบเครือข่าย

    การปลอมแปลง SAML
    เป็นเทคนิคที่ผู้โจมตีใช้กันบ่อยและสามารถนำไปใช้กับระบบอื่นได้

    https://securityonline.info/critical-fortinet-flaw-risks-unauthenticated-admin-bypass-via-forticloud-sso-saml-forgery/
    🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Fortinet เสี่ยงการยึดสิทธิ์แอดมินผ่าน FortiCloud SSO Fortinet ถูกเปิดเผยว่ามีช่องโหว่ร้ายแรงในระบบ FortiCloud Single Sign-On (SSO) ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ SAML (Security Assertion Markup Language) หากผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงข้อมูล SAML ได้สำเร็จ จะสามารถเลี่ยงการตรวจสอบสิทธิ์และเข้าถึงสิทธิ์ระดับ Administrator โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ซึ่งถือเป็นการ Bypass Authentication ที่มีผลกระทบสูงต่อความปลอดภัยขององค์กร ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับ Critical เนื่องจากเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าถึงระบบจัดการโดยตรง และสามารถเปลี่ยนการตั้งค่า, เพิ่มผู้ใช้ใหม่, หรือดึงข้อมูลที่มีความอ่อนไหวออกไปได้ โดยไม่ต้องมีบัญชีที่ถูกต้อง การโจมตีลักษณะนี้อาจเกิดขึ้นได้ทั้งจากภายในและภายนอกองค์กร หากระบบยังไม่ได้รับการอัปเดต Fortinet ได้ออกแพตช์แก้ไขเพื่อปิดช่องโหว่ดังกล่าวแล้ว พร้อมแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที และตรวจสอบการตั้งค่า SSO รวมถึงการใช้งาน SAML ให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การโจมตีผ่านการปลอมแปลง SAML ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การเกิดขึ้นในระบบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเช่น Fortinet ทำให้ความเสี่ยงนี้มีผลกระทบกว้างขวางต่อหลายองค์กรทั่วโลก โดยเฉพาะองค์กรที่พึ่งพา FortiCloud ในการจัดการระบบเครือข่ายและความปลอดภัย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ช่องโหว่ FortiCloud SSO ➡️ เกิดจากการปลอมแปลง SAML Assertion ✅ ความเสี่ยงระดับ Critical ➡️ ผู้โจมตีสามารถเลี่ยงการตรวจสอบสิทธิ์และเข้าถึงสิทธิ์แอดมิน ✅ ผลกระทบต่อองค์กร ➡️ อาจถูกเปลี่ยนการตั้งค่า, เพิ่มผู้ใช้ใหม่, หรือดึงข้อมูลสำคัญ ✅ การแก้ไขจาก Fortinet ➡️ ออกแพตช์ใหม่และแนะนำให้อัปเดตทันที ‼️ ความเสี่ยงหากไม่อัปเดตระบบ ⛔ องค์กรอาจถูกโจมตีและสูญเสียการควบคุมระบบเครือข่าย ‼️ การปลอมแปลง SAML ⛔ เป็นเทคนิคที่ผู้โจมตีใช้กันบ่อยและสามารถนำไปใช้กับระบบอื่นได้ https://securityonline.info/critical-fortinet-flaw-risks-unauthenticated-admin-bypass-via-forticloud-sso-saml-forgery/
    SECURITYONLINE.INFO
    Critical Fortinet Flaw Risks Unauthenticated Admin Bypass via FortiCloud SSO SAML Forgery
    A Critical (CVSS 9.1) flaw in Fortinet's FortiCloud SSO allows unauthenticated admin bypass by forging SAML messages (Improper Signature Verification). The feature is often auto-enabled. Update or disable immediately.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷

    #รวมข่าวIT #20251209 #securityonline


    ช่องโหว่ Bluetooth เสี่ยงทำรถอัจฉริยะและ Wear OS ค้าง
    เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ในระบบ Bluetooth ที่อาจทำให้เกิดการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) ส่งผลให้รถยนต์อัจฉริยะและอุปกรณ์ Wear OS เกิดการค้างหรือหยุดทำงานได้ ช่องโหว่นี้ถูกติดตามในรหัส CVE-2025-48593 และมีการเผยแพร่ PoC (Proof of Concept) แล้ว ซึ่งหมายความว่ามีตัวอย่างการโจมตีที่สามารถนำไปใช้จริงได้ แม้รายงานฉบับเต็มจะเปิดให้เฉพาะผู้สนับสนุน แต่สิ่งที่ชัดเจนคือความเสี่ยงที่ผู้ใช้รถยนต์และอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะต้องเผชิญ หากไม่ได้รับการอัปเดตแก้ไขอย่างทันท่วงที
    https://securityonline.info/poc-available-bluetooth-flaw-risks-dos-crash-on-smart-cars-and-wear-os

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Duc Disk Tool เสี่ยงข้อมูลรั่วและระบบล่ม
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในเครื่องมือ Duc ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่ใช้สำหรับตรวจสอบและแสดงผลการใช้งานดิสก์บนระบบ Linux ช่องโหว่นี้คือ CVE-2025-13654 เกิดจาก integer underflow ในฟังก์ชัน buffer_get ที่ทำให้เกิด buffer overflow ได้ หากผู้โจมตีส่งข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเจาะจง จะสามารถทำให้โปรแกรมล่ม (DoS) หรือดึงข้อมูลจากหน่วยความจำที่ไม่ควรถูกเข้าถึงได้ ปัญหานี้กระทบต่อทุกเวอร์ชันก่อน 1.4.6 และทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว ผู้ใช้ควรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/high-severity-duc-disk-tool-flaw-cve-2025-13654-risks-dos-and-information-leak-via-integer-underflow

    มัลแวร์ SeedSnatcher บน Android ล่าขโมย Seed Phrase ของผู้ใช้คริปโต
    มัลแวร์ใหม่ชื่อว่า “SeedSnatcher” กำลังแพร่ระบาดในกลุ่มผู้ใช้คริปโต โดยมันปลอมตัวเป็นแอปกระเป๋าเงินชื่อ “Coin” และถูกเผยแพร่ผ่าน Telegram และโซเชียลต่าง ๆ เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง มัลแวร์จะสร้างหน้าจอหลอกเลียนแบบกระเป๋าเงินยอดนิยม เช่น MetaMask หรือ Trust Wallet เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอก seed phrase จากนั้นมันจะตรวจสอบคำที่กรอกด้วย wordlist ของ BIP 39 เพื่อให้แน่ใจว่าถูกต้อง ก่อนส่งข้อมูลไปยังผู้โจมตี นอกจากนี้ยังสามารถดักจับ SMS, ข้อมูลติดต่อ, บันทึกการโทร และสั่งการเครื่องจากระยะไกลได้ หลักฐานบ่งชี้ว่ากลุ่มผู้โจมตีมีการจัดการแบบมืออาชีพและมีต้นทางจากจีนหรือผู้พูดภาษาจีน
    https://securityonline.info/seedsnatcher-android-malware-targets-crypto-users-using-overlay-phishing-and-bip-39-validation-to-steal-seed-phrases

    Meta ปรับปรุงระบบช่วยเหลือด้วย AI Assistant และ Recovery Hub ใหม่
    Meta ยอมรับว่าระบบช่วยเหลือผู้ใช้ Facebook และ Instagram ที่ผ่านมา “ล้มเหลว” จนผู้ใช้จำนวนมากต้องหาทางแก้ไขด้วยตัวเองหรือแม้กระทั่งฟ้องร้อง ล่าสุดบริษัทประกาศเปิดตัว Support Hub ใหม่ที่รวมทุกเครื่องมือช่วยเหลือไว้ในที่เดียว พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ AI Chat ให้ผู้ใช้สอบถามปัญหาได้ทันที อีกทั้งยังมี AI Assistant ที่ช่วยในกระบวนการกู้คืนบัญชี เช่น การตรวจจับอุปกรณ์ที่ใช้บ่อย และการยืนยันตัวตนด้วยวิดีโอเซลฟี่ Meta ระบุว่าการปรับปรุงนี้ทำให้อัตราการกู้คืนบัญชีที่ถูกแฮ็กในสหรัฐฯ และแคนาดาเพิ่มขึ้นกว่า 30% อย่างไรก็ตาม หากผู้ใช้ไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้เลย การเข้าถึง Support Hub ก็ยังเป็นปัญหาอยู่ และการติดต่อเจ้าหน้าที่จริงยังคงต้องพึ่งบริการแบบเสียเงิน
    https://securityonline.info/meta-fixes-broken-support-rolling-out-ai-assistants-and-new-recovery-hubs

    EU ปรับ X €120 ล้าน ฐานละเมิด DSA ด้วยการตรวจสอบ Blue Check ที่หลอกลวง
    สหภาพยุโรปได้สั่งปรับแพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) เป็นเงิน 120 ล้านยูโร เนื่องจากละเมิดกฎหมาย Digital Services Act (DSA) โดยเฉพาะการตรวจสอบบัญชีด้วย Blue Check ที่ถูกมองว่า “หลอกลวง” ระบบดังกล่าวทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าบัญชีที่จ่ายเงินเพื่อรับเครื่องหมายนี้เป็นบัญชีที่ได้รับการตรวจสอบจริง ทั้งที่ไม่ได้มีการตรวจสอบตัวตนอย่างเข้มงวด EU จึงมองว่าเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่โปร่งใสและเป็นการละเมิดกฎหมาย การปรับครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของ EU ในการบังคับใช้ DSA และอาจเป็นสัญญาณเตือนให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ ต้องระมัดระวังมากขึ้น
    https://securityonline.info/eu-fines-x-e120-million-for-dsa-violation-over-deceptive-blue-check-verification

    CastleRAT มัลแวร์ใหม่ใช้ Steam เป็นช่องทางซ่อนตัว
    มีการค้นพบมัลแวร์ตัวใหม่ชื่อ CastleRAT ที่ถูกออกแบบมาให้แอบแฝงเข้าไปในระบบองค์กรเพื่อขโมยข้อมูลและควบคุมเครื่องจากระยะไกล จุดที่น่ากังวลคือเวอร์ชันที่ถูกเขียนด้วยภาษา C ซึ่งมีความสามารถซ่อนตัวได้แนบเนียนกว่าเวอร์ชัน Python และยังทำได้หลายอย่าง เช่น ดักจับการพิมพ์, แอบถ่ายหน้าจอ, ขโมยข้อมูลจาก clipboard รวมถึงการควบคุมเบราว์เซอร์โดยไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว ที่สำคัญ CastleRAT ยังใช้หน้า Community ของ Steam เป็นที่ซ่อนคำสั่ง ทำให้การสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมดูเหมือนการใช้งานปกติ ปัจจุบันนักวิจัยได้ออกแนวทางตรวจจับเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถป้องกันภัยนี้ได้
    https://securityonline.info/sophisticated-castlerat-backdoor-uses-steam-community-pages-as-covert-c2-resolver-for-espionage

    LockBit 5.0 กลับมาอีกครั้งพร้อมความร้ายแรงกว่าเดิม
    หลังจากที่ปฏิบัติการ Cronos เคยทำให้กลุ่ม LockBit ถูกปราบไปเมื่อปี 2024 หลายคนคิดว่าภัยนี้จบแล้ว แต่ล่าสุด LockBit ได้กลับมาในเวอร์ชันใหม่ชื่อ LockBit 5.0 ที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม จุดเด่นคือสามารถทำงานได้หลายแพลตฟอร์ม ทั้ง Windows, Linux และ VMware ESXi พร้อมโหมดล่องหนที่เข้ารหัสไฟล์โดยไม่ทิ้งร่องรอย และโหมดลบข้อมูลถาวรที่ทำให้การกู้คืนแทบเป็นไปไม่ได้ ที่น่ากลัวคือมันยังปิดการทำงานของระบบ Event Tracing ของ Windows ทำให้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยมองไม่เห็นการโจมตี การกลับมาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ากลุ่มอาชญากรไซเบอร์ยังคงพัฒนาไม่หยุดและองค์กรต้องเตรียมรับมืออย่างจริงจัง
    https://securityonline.info/lockbit-5-0-resurfaces-stronger-new-variant-blinds-defenders-by-disabling-windows-etw-for-stealth-encryption

    Windows 11 เพิ่มตัวเลือกปิดเมนู AI ใน File Explorer
    ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนบ่นว่าการคลิกขวาไฟล์รูปภาพแล้วเจอเมนู AI มากมาย เช่น การค้นหาด้วย Bing หรือการแก้ไขด้วย Paint, Photos ทำให้เมนูรกและใช้งานไม่สะดวก ล่าสุด Microsoft ได้เพิ่มตัวเลือกใหม่ใน Build 26220.7344 ที่ให้ผู้ใช้สามารถปิดการแสดงเมนู AI ได้ทั้งหมด แม้จะยังไม่สามารถซ่อน shortcut ที่อยู่ด้านล่างเมนูได้ แต่ก็ถือเป็นการตอบรับเสียงเรียกร้องจากผู้ใช้ที่อยากได้เมนูที่เรียบง่ายขึ้น ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในเวอร์ชันทดสอบและจะทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปในอนาคต
    https://securityonline.info/ai-clutter-solved-windows-11-adds-setting-to-disable-ai-actions-in-file-explorer-menu

    ศาลสหรัฐจำกัดสัญญา Default Search ของ Google เหลือ 1 ปี
    จากคดีฟ้องร้องผูกขาดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐต่อ Google ล่าสุดผู้พิพากษา Amit Mehta ได้ออกคำสั่งใหม่ที่บังคับให้สัญญาที่ Google ทำกับผู้ผลิตอุปกรณ์เพื่อให้บริการค้นหาของตนเป็นค่าเริ่มต้น ต้องมีอายุไม่เกิน 1 ปีเท่านั้น เดิมที Google มักทำสัญญาระยะยาว เช่น ดีลกับ Apple ที่ทำให้ Google Search เป็นค่าเริ่มต้นบน iPhone การจำกัดสัญญาเหลือปีต่อปีจะเปิดโอกาสให้คู่แข่งอย่าง Bing หรือ DuckDuckGo มีสิทธิ์เข้ามาแข่งขันมากขึ้น ถือเป็นการแก้ปัญหาผูกขาดโดยไม่ต้องบังคับให้ Google แยกธุรกิจ Chrome ออกไป
    https://securityonline.info/google-antitrust-remedy-judge-limits-default-search-contracts-to-one-year-term

    INE ได้รับรางวัล G2 Winter 2026 หลายสาขา
    แพลตฟอร์มฝึกอบรมด้าน IT และ Cybersecurity อย่าง INE ได้รับการยอมรับจาก G2 ด้วยรางวัลถึง 7 หมวดหมู่ในฤดูหนาวปี 2026 ทั้งตำแหน่ง Leader และ Momentum Leader รวมถึงการเป็นผู้นำในภูมิภาคยุโรป เอเชีย และเอเชียแปซิฟิก รางวัลเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ใช้ทั่วโลกที่เลือก INE เพื่อพัฒนาทักษะด้านเทคนิคและความปลอดภัยไซเบอร์ หลายรีวิวชื่นชมว่าคอร์สของ INE สามารถนำไปใช้จริงในงานได้ทันที และใบรับรองจาก INE ก็ได้รับการยอมรับในวงการ ถือเป็นการตอกย้ำบทบาทของ INE ในการสร้างบุคลากรด้าน IT ที่มีคุณภาพ
    https://securityonline.info/ine-earns-g2-winter-2026-badges-across-global-markets

    SpaceX เตรียมทดสอบจรวด Starship ครั้งใหม่
    SpaceX กำลังวางแผนทดสอบการบินของจรวด Starship อีกครั้ง โดยครั้งนี้ตั้งเป้าให้การปล่อยและการลงจอดเป็นไปอย่างสมบูรณ์ หลังจากที่การทดสอบก่อนหน้านี้มีทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว จุดเด่นของ Starship คือการออกแบบให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการเดินทางสู่อวกาศอย่างมหาศาล Elon Musk ยังย้ำว่าเป้าหมายสูงสุดคือการใช้ Starship พามนุษย์ไปตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคาร การทดสอบครั้งนี้จึงถูกจับตามองจากทั้งนักวิทยาศาสตร์และผู้สนใจอวกาศทั่วโลก
    https://securityonline.info/spacex-prepares-next-starship-test-flight

    Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่พร้อมฟีเจอร์ AI
    Apple ได้เปิดตัว iPhone รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมการผสานเทคโนโลยี AI เข้ามาในหลายฟังก์ชัน เช่น การปรับแต่งภาพถ่ายอัตโนมัติ, การช่วยเขียนข้อความ และการจัดการงานประจำวันด้วย Siri ที่ฉลาดขึ้น จุดขายสำคัญคือการทำงานแบบ On-device AI ที่ไม่ต้องส่งข้อมูลไปยังคลาวด์ ทำให้ผู้ใช้มั่นใจเรื่องความเป็นส่วนตัวมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพแบตเตอรี่และกล้องที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ iPhone รุ่นใหม่นี้ถูกคาดหวังว่าจะเป็นมาตรฐานใหม่ของสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม
    https://securityonline.info/apple-launches-new-iphone-with-ai-features

    Microsoft เปิดตัว Copilot เวอร์ชันใหม่สำหรับธุรกิจ
    Microsoft ได้เปิดตัว Copilot เวอร์ชันล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อช่วยองค์กรทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยผสานเข้ากับแอปพลิเคชันหลักอย่าง Word, Excel และ Teams จุดเด่นคือการใช้ AI ช่วยสรุปข้อมูล, สร้างรายงาน และตอบคำถามจากฐานข้อมูลภายในองค์กรได้ทันที ทำให้พนักงานสามารถโฟกัสกับงานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น Copilot ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่สอดคล้องกับมาตรฐานองค์กร เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลสำคัญจะไม่รั่วไหล
    https://securityonline.info/microsoft-unveils-new-copilot-for-business

    เกมใหม่จาก Ubisoft ใช้ AI สร้างโลกเสมือนจริง
    Ubisoft ได้ประกาศเปิดตัวเกมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการสร้างโลกเสมือนจริงแบบไดนามิก ทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละครั้งที่เล่น ตัวละคร NPC สามารถตอบสนองต่อผู้เล่นได้อย่างสมจริงและมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ นี่ถือเป็นการยกระดับวงการเกมที่ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ของนักพัฒนาเข้ากับพลังของ AI เพื่อสร้างโลกที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยความท้าทาย
    https://securityonline.info/ubisoft-announces-ai-powered-game

    Meta เปิดตัวเครื่องมือ AI สำหรับนักข่าว
    Meta ได้เปิดตัวเครื่องมือ AI ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยนักข่าวในการค้นหาข้อมูล, ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเขียนบทความได้รวดเร็วขึ้น เครื่องมือนี้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่งพร้อมกันและสรุปออกมาเป็นประเด็นสำคัญ ทำให้นักข่าวสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพและลดเวลาในการตรวจสอบข่าวปลอม นอกจากนี้ Meta ยังย้ำว่าจะมีระบบตรวจสอบเพื่อป้องกันการใช้ AI ในการสร้างข่าวปลอมเอง ถือเป็นการพยายามสร้างความเชื่อมั่นในวงการสื่อ
    https://securityonline.info/meta-launches-ai-tools-for-journalists

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน D-Link และ Array Networks
    หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ที่ถูกโจมตีจริงในอุปกรณ์เครือข่ายสองค่ายใหญ่ คือเร้าเตอร์รุ่นเก่าของ D-Link และระบบ Array Networks ที่ใช้งานในญี่ปุ่น ช่องโหว่แรกเป็น Buffer Overflow ที่ไม่มีการอัปเดตแก้ไขเพราะอุปกรณ์หมดอายุการสนับสนุนแล้ว ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบเปลี่ยนเครื่องใหม่ ส่วนช่องโหว่ที่สองคือการ Inject คำสั่งใน ArrayOS ซึ่งแฮกเกอร์ใช้วาง backdoor และ webshell เพื่อควบคุมระบบจากระยะไกล หน่วยงาน JPCERT ของญี่ปุ่นยืนยันว่ามีการโจมตีจริงตั้งแต่เดือนสิงหาคม และแนะนำให้ผู้ดูแลรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่หรือปิดฟีเจอร์ Desktop Direct เพื่อป้องกันภัย
    https://securityonline.info/cisa-kev-alert-eol-d-link-and-array-networks-command-injection-under-active-attack

    Samsung พลิกฟื้นโรงงานผลิตชิป 4nm
    หลังจากเจอปัญหาผลิตชิปไม่คงที่จนเสียลูกค้ารายใหญ่ไป Samsung Foundry เริ่มกลับมามีความหวังอีกครั้ง เมื่อสามารถยกระดับอัตราการผลิตชิป 4nm ให้ได้ผลสำเร็จถึง 60–70% และคว้าออเดอร์ใหญ่จากสตาร์ทอัพ AI สัญชาติอเมริกัน Tsavorite มูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์ สัญญานี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าซัมซุงยังมีศักยภาพแข่งขันกับ TSMC ได้ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยี 2nm ที่เตรียมใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Galaxy S26 อีกด้วย
    https://securityonline.info/samsung-foundry-hits-60-4nm-yield-secures-100m-ai-chip-order-from-tsavorite

    โค้ดโฆษณาในแอป ChatGPT Android จุดกระแสถกเถียง
    นักพัฒนาพบโค้ดที่ดูเหมือนระบบโฆษณาในแอป ChatGPT เวอร์ชันทดสอบบน Android ทำให้เกิดการคาดเดาว่า OpenAI อาจเตรียมใส่โฆษณาในบริการ แต่ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ OpenAI รีบออกมาปฏิเสธทันทีว่าบริษัทไม่ได้ทดสอบฟีเจอร์โฆษณาในตอนนี้ อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้ปิดโอกาสในอนาคต โดยย้ำว่าหากมีการนำโฆษณามาใช้จริง จะทำด้วยความระมัดระวังเพื่อรักษาความเชื่อมั่นของผู้ใช้ เนื่องจาก ChatGPT มีผู้ใช้งานมหาศาลกว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์
    https://securityonline.info/ad-code-found-in-chatgpt-android-build-openai-denies-current-advertising-tests

    AI จับได้ GhostPenguin มัลแวร์ลินุกซ์สุดลึกลับ
    นักวิจัยจาก Trend Micro ใช้ระบบ AI ตรวจจับพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ GhostPenguin ที่ซ่อนตัวอยู่ในระบบลินุกซ์โดยไม่ถูกตรวจจับนานหลายเดือน มัลแวร์นี้เขียนด้วย C++ มีความสามารถสูงในการควบคุมเครื่องจากระยะไกลผ่านการสื่อสารแบบ UDP ที่เข้ารหัสด้วย RC5 ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ จุดเด่นคือการทำงานแบบหลายเธรด ทำให้มัลแวร์ยังคงตอบสนองแม้บางส่วนของโค้ดหยุดทำงาน การค้นพบนี้ตอกย้ำว่าการใช้ AI ในการล่ามัลแวร์เป็นสิ่งจำเป็นในยุคที่ภัยไซเบอร์ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
    https://securityonline.info/ai-uncovers-ghostpenguin-undetectable-linux-backdoor-used-rc5-encrypted-udp-for-covert-c2

    Shanya Crypter เครื่องมือใหม่ของแก๊งแรนซัมแวร์
    Sophos รายงานการพบเครื่องมือใหม่ชื่อ Shanya Crypter ซึ่งเป็นบริการ “packer-as-a-service” ที่ช่วยให้กลุ่มแรนซัมแวร์สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องมือนี้ใช้เทคนิคซับซ้อน เช่น การซ่อนโค้ดใน DLL ของระบบ Windows และการใช้ driver ที่มีช่องโหว่เพื่อฆ่าโปรแกรมป้องกัน (EDR Killer) ก่อนปล่อยแรนซัมแวร์เข้ามาโจมตี ทำให้การป้องกันยากขึ้นมาก กลุ่ม Akira, Medusa และ Qilin ถูกระบุว่าเป็นผู้ใช้งานหลักของเครื่องมือนี้ และมีการแพร่กระจายไปหลายประเทศแล้ว
    https://securityonline.info/shanya-crypter-is-the-new-ransomware-toolkit-uses-kernel-driver-abuse-to-kill-edr

    Microsoft เปิดตัว Copilot+ PC
    ไมโครซอฟท์ประกาศเปิดตัวคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่เรียกว่า Copilot+ PC ซึ่งมาพร้อมชิป Snapdragon X Elite และ X Plus ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงาน AI โดยเฉพาะ จุดเด่นคือความสามารถในการทำงานแบบ “AI on-device” เช่น ฟีเจอร์ Recall ที่ช่วยค้นหาสิ่งที่เคยทำบนเครื่องได้เหมือนย้อนเวลา และการใช้ Copilot ในการสร้างภาพหรือข้อความได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์ ถือเป็นการยกระดับ Windows ให้เข้าสู่ยุคใหม่ที่ AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้งานประจำวัน
    https://securityonline.info/microsoft-unveils-copilot-pc-powered-by-snapdragon-x-elite-and-x-plus

    Google DeepMind เปิดตัว AlphaFold 3
    DeepMind เปิดตัว AlphaFold 3 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ของโมเดล AI ที่ใช้ทำนายโครงสร้างโมเลกุลและปฏิสัมพันธ์ทางชีววิทยาได้แม่นยำยิ่งขึ้น จากเดิมที่ AlphaFold 2 สร้างความฮือฮาในการทำนายโครงสร้างโปรตีน ตอนนี้ AlphaFold 3 ก้าวไปอีกขั้นด้วยการจำลองการทำงานของ DNA, RNA และโมเลกุลขนาดเล็กที่ซับซ้อนมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าจะช่วยเร่งการค้นคว้ายาใหม่และการวิจัยทางการแพทย์ได้อย่างมหาศาล
    https://securityonline.info/google-deepmind-launches-alphafold-3-ai-model-for-molecular-science

    SpaceX ส่งดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่
    SpaceX ประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เร็วกว่าเดิม ดาวเทียมรุ่นนี้ถูกออกแบบให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นและสามารถให้บริการในพื้นที่ห่างไกลได้ดีกว่าเดิม การปล่อยครั้งนี้ยังตอกย้ำความตั้งใจของ SpaceX ที่จะขยายเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลกให้ครอบคลุมทุกพื้นที่
    https://securityonline.info/spacex-launches-next-gen-starlink-satellites-for-faster-global-internet

    Sony เปิดตัว PlayStation 5 Pro
    Sony เปิดตัวเครื่องเล่นเกม PlayStation 5 Pro ที่มาพร้อมประสิทธิภาพกราฟิกสูงขึ้น รองรับการเล่นเกม 8K และมีระบบ Ray Tracing ที่สมจริงกว่าเดิม จุดขายคือการใช้ชิปใหม่ที่ทำให้เฟรมเรตเสถียรขึ้นแม้ในเกมที่ใช้กราฟิกหนักๆ นักวิเคราะห์เชื่อว่า PS5 Pro จะช่วยดึงดูดนักเล่นเกมที่ต้องการประสบการณ์ภาพสมจริงและเป็นการต่อยอดความสำเร็จของ PS5 รุ่นปัจจุบัน
    https://securityonline.info/sony-unveils-playstation-5-pro-with-8k-gaming-and-ray-tracing

    WHO เตือนการระบาดของโรคใหม่
    องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับการระบาดของโรคใหม่ที่มีลักษณะคล้ายไข้หวัดใหญ่แต่แพร่กระจายเร็วกว่า โดยพบผู้ติดเชื้อในหลายประเทศแล้ว และกำลังเร่งตรวจสอบสายพันธุ์เพื่อหาวิธีควบคุมการแพร่ระบาด WHO แนะนำให้ประเทศต่างๆ เตรียมมาตรการรับมือและเพิ่มการตรวจสอบในสนามบินและด่านชายแดนเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/who-issues-warning-on-new-fast-spreading-flu-like-disease
    📌🔐🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷🔐📌 #รวมข่าวIT #20251209 #securityonline 🔐 ช่องโหว่ Bluetooth เสี่ยงทำรถอัจฉริยะและ Wear OS ค้าง เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ในระบบ Bluetooth ที่อาจทำให้เกิดการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) ส่งผลให้รถยนต์อัจฉริยะและอุปกรณ์ Wear OS เกิดการค้างหรือหยุดทำงานได้ ช่องโหว่นี้ถูกติดตามในรหัส CVE-2025-48593 และมีการเผยแพร่ PoC (Proof of Concept) แล้ว ซึ่งหมายความว่ามีตัวอย่างการโจมตีที่สามารถนำไปใช้จริงได้ แม้รายงานฉบับเต็มจะเปิดให้เฉพาะผู้สนับสนุน แต่สิ่งที่ชัดเจนคือความเสี่ยงที่ผู้ใช้รถยนต์และอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะต้องเผชิญ หากไม่ได้รับการอัปเดตแก้ไขอย่างทันท่วงที 🔗 https://securityonline.info/poc-available-bluetooth-flaw-risks-dos-crash-on-smart-cars-and-wear-os 💻 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Duc Disk Tool เสี่ยงข้อมูลรั่วและระบบล่ม มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในเครื่องมือ Duc ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่ใช้สำหรับตรวจสอบและแสดงผลการใช้งานดิสก์บนระบบ Linux ช่องโหว่นี้คือ CVE-2025-13654 เกิดจาก integer underflow ในฟังก์ชัน buffer_get ที่ทำให้เกิด buffer overflow ได้ หากผู้โจมตีส่งข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเจาะจง จะสามารถทำให้โปรแกรมล่ม (DoS) หรือดึงข้อมูลจากหน่วยความจำที่ไม่ควรถูกเข้าถึงได้ ปัญหานี้กระทบต่อทุกเวอร์ชันก่อน 1.4.6 และทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว ผู้ใช้ควรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/high-severity-duc-disk-tool-flaw-cve-2025-13654-risks-dos-and-information-leak-via-integer-underflow 📱 มัลแวร์ SeedSnatcher บน Android ล่าขโมย Seed Phrase ของผู้ใช้คริปโต มัลแวร์ใหม่ชื่อว่า “SeedSnatcher” กำลังแพร่ระบาดในกลุ่มผู้ใช้คริปโต โดยมันปลอมตัวเป็นแอปกระเป๋าเงินชื่อ “Coin” และถูกเผยแพร่ผ่าน Telegram และโซเชียลต่าง ๆ เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง มัลแวร์จะสร้างหน้าจอหลอกเลียนแบบกระเป๋าเงินยอดนิยม เช่น MetaMask หรือ Trust Wallet เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอก seed phrase จากนั้นมันจะตรวจสอบคำที่กรอกด้วย wordlist ของ BIP 39 เพื่อให้แน่ใจว่าถูกต้อง ก่อนส่งข้อมูลไปยังผู้โจมตี นอกจากนี้ยังสามารถดักจับ SMS, ข้อมูลติดต่อ, บันทึกการโทร และสั่งการเครื่องจากระยะไกลได้ หลักฐานบ่งชี้ว่ากลุ่มผู้โจมตีมีการจัดการแบบมืออาชีพและมีต้นทางจากจีนหรือผู้พูดภาษาจีน 🔗 https://securityonline.info/seedsnatcher-android-malware-targets-crypto-users-using-overlay-phishing-and-bip-39-validation-to-steal-seed-phrases 🤖 Meta ปรับปรุงระบบช่วยเหลือด้วย AI Assistant และ Recovery Hub ใหม่ Meta ยอมรับว่าระบบช่วยเหลือผู้ใช้ Facebook และ Instagram ที่ผ่านมา “ล้มเหลว” จนผู้ใช้จำนวนมากต้องหาทางแก้ไขด้วยตัวเองหรือแม้กระทั่งฟ้องร้อง ล่าสุดบริษัทประกาศเปิดตัว Support Hub ใหม่ที่รวมทุกเครื่องมือช่วยเหลือไว้ในที่เดียว พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ AI Chat ให้ผู้ใช้สอบถามปัญหาได้ทันที อีกทั้งยังมี AI Assistant ที่ช่วยในกระบวนการกู้คืนบัญชี เช่น การตรวจจับอุปกรณ์ที่ใช้บ่อย และการยืนยันตัวตนด้วยวิดีโอเซลฟี่ Meta ระบุว่าการปรับปรุงนี้ทำให้อัตราการกู้คืนบัญชีที่ถูกแฮ็กในสหรัฐฯ และแคนาดาเพิ่มขึ้นกว่า 30% อย่างไรก็ตาม หากผู้ใช้ไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้เลย การเข้าถึง Support Hub ก็ยังเป็นปัญหาอยู่ และการติดต่อเจ้าหน้าที่จริงยังคงต้องพึ่งบริการแบบเสียเงิน 🔗 https://securityonline.info/meta-fixes-broken-support-rolling-out-ai-assistants-and-new-recovery-hubs ⚠️ EU ปรับ X €120 ล้าน ฐานละเมิด DSA ด้วยการตรวจสอบ Blue Check ที่หลอกลวง สหภาพยุโรปได้สั่งปรับแพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) เป็นเงิน 120 ล้านยูโร เนื่องจากละเมิดกฎหมาย Digital Services Act (DSA) โดยเฉพาะการตรวจสอบบัญชีด้วย Blue Check ที่ถูกมองว่า “หลอกลวง” ระบบดังกล่าวทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าบัญชีที่จ่ายเงินเพื่อรับเครื่องหมายนี้เป็นบัญชีที่ได้รับการตรวจสอบจริง ทั้งที่ไม่ได้มีการตรวจสอบตัวตนอย่างเข้มงวด EU จึงมองว่าเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่โปร่งใสและเป็นการละเมิดกฎหมาย การปรับครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของ EU ในการบังคับใช้ DSA และอาจเป็นสัญญาณเตือนให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ ต้องระมัดระวังมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/eu-fines-x-e120-million-for-dsa-violation-over-deceptive-blue-check-verification 🏰 CastleRAT มัลแวร์ใหม่ใช้ Steam เป็นช่องทางซ่อนตัว มีการค้นพบมัลแวร์ตัวใหม่ชื่อ CastleRAT ที่ถูกออกแบบมาให้แอบแฝงเข้าไปในระบบองค์กรเพื่อขโมยข้อมูลและควบคุมเครื่องจากระยะไกล จุดที่น่ากังวลคือเวอร์ชันที่ถูกเขียนด้วยภาษา C ซึ่งมีความสามารถซ่อนตัวได้แนบเนียนกว่าเวอร์ชัน Python และยังทำได้หลายอย่าง เช่น ดักจับการพิมพ์, แอบถ่ายหน้าจอ, ขโมยข้อมูลจาก clipboard รวมถึงการควบคุมเบราว์เซอร์โดยไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว ที่สำคัญ CastleRAT ยังใช้หน้า Community ของ Steam เป็นที่ซ่อนคำสั่ง ทำให้การสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมดูเหมือนการใช้งานปกติ ปัจจุบันนักวิจัยได้ออกแนวทางตรวจจับเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถป้องกันภัยนี้ได้ 🔗 https://securityonline.info/sophisticated-castlerat-backdoor-uses-steam-community-pages-as-covert-c2-resolver-for-espionage 💀 LockBit 5.0 กลับมาอีกครั้งพร้อมความร้ายแรงกว่าเดิม หลังจากที่ปฏิบัติการ Cronos เคยทำให้กลุ่ม LockBit ถูกปราบไปเมื่อปี 2024 หลายคนคิดว่าภัยนี้จบแล้ว แต่ล่าสุด LockBit ได้กลับมาในเวอร์ชันใหม่ชื่อ LockBit 5.0 ที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม จุดเด่นคือสามารถทำงานได้หลายแพลตฟอร์ม ทั้ง Windows, Linux และ VMware ESXi พร้อมโหมดล่องหนที่เข้ารหัสไฟล์โดยไม่ทิ้งร่องรอย และโหมดลบข้อมูลถาวรที่ทำให้การกู้คืนแทบเป็นไปไม่ได้ ที่น่ากลัวคือมันยังปิดการทำงานของระบบ Event Tracing ของ Windows ทำให้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยมองไม่เห็นการโจมตี การกลับมาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ากลุ่มอาชญากรไซเบอร์ยังคงพัฒนาไม่หยุดและองค์กรต้องเตรียมรับมืออย่างจริงจัง 🔗 https://securityonline.info/lockbit-5-0-resurfaces-stronger-new-variant-blinds-defenders-by-disabling-windows-etw-for-stealth-encryption 🖥️ Windows 11 เพิ่มตัวเลือกปิดเมนู AI ใน File Explorer ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนบ่นว่าการคลิกขวาไฟล์รูปภาพแล้วเจอเมนู AI มากมาย เช่น การค้นหาด้วย Bing หรือการแก้ไขด้วย Paint, Photos ทำให้เมนูรกและใช้งานไม่สะดวก ล่าสุด Microsoft ได้เพิ่มตัวเลือกใหม่ใน Build 26220.7344 ที่ให้ผู้ใช้สามารถปิดการแสดงเมนู AI ได้ทั้งหมด แม้จะยังไม่สามารถซ่อน shortcut ที่อยู่ด้านล่างเมนูได้ แต่ก็ถือเป็นการตอบรับเสียงเรียกร้องจากผู้ใช้ที่อยากได้เมนูที่เรียบง่ายขึ้น ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในเวอร์ชันทดสอบและจะทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปในอนาคต 🔗 https://securityonline.info/ai-clutter-solved-windows-11-adds-setting-to-disable-ai-actions-in-file-explorer-menu ⚖️ ศาลสหรัฐจำกัดสัญญา Default Search ของ Google เหลือ 1 ปี จากคดีฟ้องร้องผูกขาดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐต่อ Google ล่าสุดผู้พิพากษา Amit Mehta ได้ออกคำสั่งใหม่ที่บังคับให้สัญญาที่ Google ทำกับผู้ผลิตอุปกรณ์เพื่อให้บริการค้นหาของตนเป็นค่าเริ่มต้น ต้องมีอายุไม่เกิน 1 ปีเท่านั้น เดิมที Google มักทำสัญญาระยะยาว เช่น ดีลกับ Apple ที่ทำให้ Google Search เป็นค่าเริ่มต้นบน iPhone การจำกัดสัญญาเหลือปีต่อปีจะเปิดโอกาสให้คู่แข่งอย่าง Bing หรือ DuckDuckGo มีสิทธิ์เข้ามาแข่งขันมากขึ้น ถือเป็นการแก้ปัญหาผูกขาดโดยไม่ต้องบังคับให้ Google แยกธุรกิจ Chrome ออกไป 🔗 https://securityonline.info/google-antitrust-remedy-judge-limits-default-search-contracts-to-one-year-term 🎓 INE ได้รับรางวัล G2 Winter 2026 หลายสาขา แพลตฟอร์มฝึกอบรมด้าน IT และ Cybersecurity อย่าง INE ได้รับการยอมรับจาก G2 ด้วยรางวัลถึง 7 หมวดหมู่ในฤดูหนาวปี 2026 ทั้งตำแหน่ง Leader และ Momentum Leader รวมถึงการเป็นผู้นำในภูมิภาคยุโรป เอเชีย และเอเชียแปซิฟิก รางวัลเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ใช้ทั่วโลกที่เลือก INE เพื่อพัฒนาทักษะด้านเทคนิคและความปลอดภัยไซเบอร์ หลายรีวิวชื่นชมว่าคอร์สของ INE สามารถนำไปใช้จริงในงานได้ทันที และใบรับรองจาก INE ก็ได้รับการยอมรับในวงการ ถือเป็นการตอกย้ำบทบาทของ INE ในการสร้างบุคลากรด้าน IT ที่มีคุณภาพ 🔗 https://securityonline.info/ine-earns-g2-winter-2026-badges-across-global-markets 🚀 SpaceX เตรียมทดสอบจรวด Starship ครั้งใหม่ SpaceX กำลังวางแผนทดสอบการบินของจรวด Starship อีกครั้ง โดยครั้งนี้ตั้งเป้าให้การปล่อยและการลงจอดเป็นไปอย่างสมบูรณ์ หลังจากที่การทดสอบก่อนหน้านี้มีทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว จุดเด่นของ Starship คือการออกแบบให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการเดินทางสู่อวกาศอย่างมหาศาล Elon Musk ยังย้ำว่าเป้าหมายสูงสุดคือการใช้ Starship พามนุษย์ไปตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคาร การทดสอบครั้งนี้จึงถูกจับตามองจากทั้งนักวิทยาศาสตร์และผู้สนใจอวกาศทั่วโลก 🔗 https://securityonline.info/spacex-prepares-next-starship-test-flight 📱 Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่พร้อมฟีเจอร์ AI Apple ได้เปิดตัว iPhone รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมการผสานเทคโนโลยี AI เข้ามาในหลายฟังก์ชัน เช่น การปรับแต่งภาพถ่ายอัตโนมัติ, การช่วยเขียนข้อความ และการจัดการงานประจำวันด้วย Siri ที่ฉลาดขึ้น จุดขายสำคัญคือการทำงานแบบ On-device AI ที่ไม่ต้องส่งข้อมูลไปยังคลาวด์ ทำให้ผู้ใช้มั่นใจเรื่องความเป็นส่วนตัวมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพแบตเตอรี่และกล้องที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ iPhone รุ่นใหม่นี้ถูกคาดหวังว่าจะเป็นมาตรฐานใหม่ของสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม 🔗 https://securityonline.info/apple-launches-new-iphone-with-ai-features 🌐 Microsoft เปิดตัว Copilot เวอร์ชันใหม่สำหรับธุรกิจ Microsoft ได้เปิดตัว Copilot เวอร์ชันล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อช่วยองค์กรทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยผสานเข้ากับแอปพลิเคชันหลักอย่าง Word, Excel และ Teams จุดเด่นคือการใช้ AI ช่วยสรุปข้อมูล, สร้างรายงาน และตอบคำถามจากฐานข้อมูลภายในองค์กรได้ทันที ทำให้พนักงานสามารถโฟกัสกับงานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น Copilot ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่สอดคล้องกับมาตรฐานองค์กร เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลสำคัญจะไม่รั่วไหล 🔗 https://securityonline.info/microsoft-unveils-new-copilot-for-business 🎮 เกมใหม่จาก Ubisoft ใช้ AI สร้างโลกเสมือนจริง Ubisoft ได้ประกาศเปิดตัวเกมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการสร้างโลกเสมือนจริงแบบไดนามิก ทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละครั้งที่เล่น ตัวละคร NPC สามารถตอบสนองต่อผู้เล่นได้อย่างสมจริงและมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ นี่ถือเป็นการยกระดับวงการเกมที่ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ของนักพัฒนาเข้ากับพลังของ AI เพื่อสร้างโลกที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยความท้าทาย 🔗 https://securityonline.info/ubisoft-announces-ai-powered-game 📰 Meta เปิดตัวเครื่องมือ AI สำหรับนักข่าว Meta ได้เปิดตัวเครื่องมือ AI ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยนักข่าวในการค้นหาข้อมูล, ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเขียนบทความได้รวดเร็วขึ้น เครื่องมือนี้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่งพร้อมกันและสรุปออกมาเป็นประเด็นสำคัญ ทำให้นักข่าวสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพและลดเวลาในการตรวจสอบข่าวปลอม นอกจากนี้ Meta ยังย้ำว่าจะมีระบบตรวจสอบเพื่อป้องกันการใช้ AI ในการสร้างข่าวปลอมเอง ถือเป็นการพยายามสร้างความเชื่อมั่นในวงการสื่อ 🔗 https://securityonline.info/meta-launches-ai-tools-for-journalists 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน D-Link และ Array Networks หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ที่ถูกโจมตีจริงในอุปกรณ์เครือข่ายสองค่ายใหญ่ คือเร้าเตอร์รุ่นเก่าของ D-Link และระบบ Array Networks ที่ใช้งานในญี่ปุ่น ช่องโหว่แรกเป็น Buffer Overflow ที่ไม่มีการอัปเดตแก้ไขเพราะอุปกรณ์หมดอายุการสนับสนุนแล้ว ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบเปลี่ยนเครื่องใหม่ ส่วนช่องโหว่ที่สองคือการ Inject คำสั่งใน ArrayOS ซึ่งแฮกเกอร์ใช้วาง backdoor และ webshell เพื่อควบคุมระบบจากระยะไกล หน่วยงาน JPCERT ของญี่ปุ่นยืนยันว่ามีการโจมตีจริงตั้งแต่เดือนสิงหาคม และแนะนำให้ผู้ดูแลรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่หรือปิดฟีเจอร์ Desktop Direct เพื่อป้องกันภัย 🔗 https://securityonline.info/cisa-kev-alert-eol-d-link-and-array-networks-command-injection-under-active-attack ⚙️ Samsung พลิกฟื้นโรงงานผลิตชิป 4nm หลังจากเจอปัญหาผลิตชิปไม่คงที่จนเสียลูกค้ารายใหญ่ไป Samsung Foundry เริ่มกลับมามีความหวังอีกครั้ง เมื่อสามารถยกระดับอัตราการผลิตชิป 4nm ให้ได้ผลสำเร็จถึง 60–70% และคว้าออเดอร์ใหญ่จากสตาร์ทอัพ AI สัญชาติอเมริกัน Tsavorite มูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์ สัญญานี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าซัมซุงยังมีศักยภาพแข่งขันกับ TSMC ได้ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยี 2nm ที่เตรียมใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Galaxy S26 อีกด้วย 🔗 https://securityonline.info/samsung-foundry-hits-60-4nm-yield-secures-100m-ai-chip-order-from-tsavorite 📱 โค้ดโฆษณาในแอป ChatGPT Android จุดกระแสถกเถียง นักพัฒนาพบโค้ดที่ดูเหมือนระบบโฆษณาในแอป ChatGPT เวอร์ชันทดสอบบน Android ทำให้เกิดการคาดเดาว่า OpenAI อาจเตรียมใส่โฆษณาในบริการ แต่ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ OpenAI รีบออกมาปฏิเสธทันทีว่าบริษัทไม่ได้ทดสอบฟีเจอร์โฆษณาในตอนนี้ อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้ปิดโอกาสในอนาคต โดยย้ำว่าหากมีการนำโฆษณามาใช้จริง จะทำด้วยความระมัดระวังเพื่อรักษาความเชื่อมั่นของผู้ใช้ เนื่องจาก ChatGPT มีผู้ใช้งานมหาศาลกว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ 🔗 https://securityonline.info/ad-code-found-in-chatgpt-android-build-openai-denies-current-advertising-tests 🐧 AI จับได้ GhostPenguin มัลแวร์ลินุกซ์สุดลึกลับ นักวิจัยจาก Trend Micro ใช้ระบบ AI ตรวจจับพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ GhostPenguin ที่ซ่อนตัวอยู่ในระบบลินุกซ์โดยไม่ถูกตรวจจับนานหลายเดือน มัลแวร์นี้เขียนด้วย C++ มีความสามารถสูงในการควบคุมเครื่องจากระยะไกลผ่านการสื่อสารแบบ UDP ที่เข้ารหัสด้วย RC5 ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ จุดเด่นคือการทำงานแบบหลายเธรด ทำให้มัลแวร์ยังคงตอบสนองแม้บางส่วนของโค้ดหยุดทำงาน การค้นพบนี้ตอกย้ำว่าการใช้ AI ในการล่ามัลแวร์เป็นสิ่งจำเป็นในยุคที่ภัยไซเบอร์ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ 🔗 https://securityonline.info/ai-uncovers-ghostpenguin-undetectable-linux-backdoor-used-rc5-encrypted-udp-for-covert-c2 💻 Shanya Crypter เครื่องมือใหม่ของแก๊งแรนซัมแวร์ Sophos รายงานการพบเครื่องมือใหม่ชื่อ Shanya Crypter ซึ่งเป็นบริการ “packer-as-a-service” ที่ช่วยให้กลุ่มแรนซัมแวร์สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องมือนี้ใช้เทคนิคซับซ้อน เช่น การซ่อนโค้ดใน DLL ของระบบ Windows และการใช้ driver ที่มีช่องโหว่เพื่อฆ่าโปรแกรมป้องกัน (EDR Killer) ก่อนปล่อยแรนซัมแวร์เข้ามาโจมตี ทำให้การป้องกันยากขึ้นมาก กลุ่ม Akira, Medusa และ Qilin ถูกระบุว่าเป็นผู้ใช้งานหลักของเครื่องมือนี้ และมีการแพร่กระจายไปหลายประเทศแล้ว 🔗 https://securityonline.info/shanya-crypter-is-the-new-ransomware-toolkit-uses-kernel-driver-abuse-to-kill-edr 🌐 Microsoft เปิดตัว Copilot+ PC ไมโครซอฟท์ประกาศเปิดตัวคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่เรียกว่า Copilot+ PC ซึ่งมาพร้อมชิป Snapdragon X Elite และ X Plus ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงาน AI โดยเฉพาะ จุดเด่นคือความสามารถในการทำงานแบบ “AI on-device” เช่น ฟีเจอร์ Recall ที่ช่วยค้นหาสิ่งที่เคยทำบนเครื่องได้เหมือนย้อนเวลา และการใช้ Copilot ในการสร้างภาพหรือข้อความได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์ ถือเป็นการยกระดับ Windows ให้เข้าสู่ยุคใหม่ที่ AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้งานประจำวัน 🔗 https://securityonline.info/microsoft-unveils-copilot-pc-powered-by-snapdragon-x-elite-and-x-plus 🧬 Google DeepMind เปิดตัว AlphaFold 3 DeepMind เปิดตัว AlphaFold 3 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ของโมเดล AI ที่ใช้ทำนายโครงสร้างโมเลกุลและปฏิสัมพันธ์ทางชีววิทยาได้แม่นยำยิ่งขึ้น จากเดิมที่ AlphaFold 2 สร้างความฮือฮาในการทำนายโครงสร้างโปรตีน ตอนนี้ AlphaFold 3 ก้าวไปอีกขั้นด้วยการจำลองการทำงานของ DNA, RNA และโมเลกุลขนาดเล็กที่ซับซ้อนมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าจะช่วยเร่งการค้นคว้ายาใหม่และการวิจัยทางการแพทย์ได้อย่างมหาศาล 🔗 https://securityonline.info/google-deepmind-launches-alphafold-3-ai-model-for-molecular-science 🚀 SpaceX ส่งดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่ SpaceX ประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เร็วกว่าเดิม ดาวเทียมรุ่นนี้ถูกออกแบบให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นและสามารถให้บริการในพื้นที่ห่างไกลได้ดีกว่าเดิม การปล่อยครั้งนี้ยังตอกย้ำความตั้งใจของ SpaceX ที่จะขยายเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลกให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ 🔗 https://securityonline.info/spacex-launches-next-gen-starlink-satellites-for-faster-global-internet 🎮 Sony เปิดตัว PlayStation 5 Pro Sony เปิดตัวเครื่องเล่นเกม PlayStation 5 Pro ที่มาพร้อมประสิทธิภาพกราฟิกสูงขึ้น รองรับการเล่นเกม 8K และมีระบบ Ray Tracing ที่สมจริงกว่าเดิม จุดขายคือการใช้ชิปใหม่ที่ทำให้เฟรมเรตเสถียรขึ้นแม้ในเกมที่ใช้กราฟิกหนักๆ นักวิเคราะห์เชื่อว่า PS5 Pro จะช่วยดึงดูดนักเล่นเกมที่ต้องการประสบการณ์ภาพสมจริงและเป็นการต่อยอดความสำเร็จของ PS5 รุ่นปัจจุบัน 🔗 https://securityonline.info/sony-unveils-playstation-5-pro-with-8k-gaming-and-ray-tracing 🏥 WHO เตือนการระบาดของโรคใหม่ องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับการระบาดของโรคใหม่ที่มีลักษณะคล้ายไข้หวัดใหญ่แต่แพร่กระจายเร็วกว่า โดยพบผู้ติดเชื้อในหลายประเทศแล้ว และกำลังเร่งตรวจสอบสายพันธุ์เพื่อหาวิธีควบคุมการแพร่ระบาด WHO แนะนำให้ประเทศต่างๆ เตรียมมาตรการรับมือและเพิ่มการตรวจสอบในสนามบินและด่านชายแดนเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/who-issues-warning-on-new-fast-spreading-flu-like-disease
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • แคมเปญ JS#SMUGGLER: มัลแวร์ใหม่แพร่ผ่านเว็บไซต์ติดเชื้อ

    นักวิจัยจาก Securonix Threat Research รายงานการค้นพบแคมเปญมัลแวร์ใหม่ชื่อ JS#SMUGGLER ซึ่งใช้เทคนิคหลายชั้นในการแพร่กระจายและติดตั้ง NetSupport RAT บนเครื่อง Windows ของเหยื่อ โดยเริ่มต้นจากการฝังโค้ด JavaScript ที่ถูก obfuscate (ทำให้ยุ่งเหยิง) ลงในเว็บไซต์ที่ถูกเจาะ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับของระบบรักษาความปลอดภัย

    ขั้นตอนการโจมตี 3 ระดับ
    1️⃣ JavaScript Loader – เมื่อผู้ใช้เข้าเว็บไซต์ที่ติดเชื้อ โค้ดจะตรวจสอบว่าเป็น desktop หรือ mobile หากเป็น desktop จะโหลด payload ต่อไป

    2️⃣ HTA (HTML Application) – ใช้โปรแกรม mshta.exe ของ Windows รันโค้ดที่ถูกเข้ารหัสหลายชั้น (AES-256, Base64, GZIP) โดยไม่ทิ้งไฟล์หลักไว้ในดิสก์ ทำให้ยากต่อการตรวจจับ

    3️⃣ NetSupport RAT – ติดตั้งตัว Remote Access Trojan ที่ให้แฮกเกอร์ควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ เช่น การเข้าถึงไฟล์, รันคำสั่ง, และสอดส่องกิจกรรมของผู้ใช้

    เทคนิคการซ่อนตัว
    มัลแวร์จะสร้างโฟลเดอร์ที่ดูปกติ เช่น C:\ProgramData\CommunicationLayer\ และเพิ่ม shortcut ปลอมชื่อ WindowsUpdate.lnk ใน Startup เพื่อให้ RAT ทำงานทุกครั้งที่เปิดเครื่อง วิธีนี้ทำให้การติดเชื้อมีความถาวรและยากต่อการสังเกต

    ความเสี่ยงและคำแนะนำ
    การโจมตีนี้ถือว่ามีความซับซ้อนและเป็นมืออาชีพสูง ผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่รู้ตัวเลยว่าถูกติดเชื้อ การป้องกันที่ดีที่สุดคือ:
    หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดไฟล์จากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
    ใช้ระบบตรวจจับ endpoint ที่สามารถตรวจสอบ script และ process ที่ผิดปกติ
    อัปเดตซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการอย่างสม่ำเสมอ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การค้นพบมัลแวร์ JS#SMUGGLER
    ใช้ JavaScript obfuscation และ HTA เพื่อแพร่กระจาย
    ติดตั้ง NetSupport RAT บน Windows

    เทคนิคการทำงาน
    เข้ารหัสหลายชั้น (AES-256, Base64, GZIP)
    สร้าง shortcut ปลอม WindowsUpdate.lnk เพื่อรันอัตโนมัติ

    ความเสี่ยงต่อผู้ใช้
    แฮกเกอร์สามารถควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ
    ยากต่อการตรวจจับเพราะไม่ทิ้งไฟล์หลักบนดิสก์

    แนวทางป้องกัน
    หลีกเลี่ยงเว็บไซต์และไฟล์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
    ใช้ระบบตรวจจับ endpoint และอัปเดตซอฟต์แวร์เสมอ

    https://hackread.com/jssmuggler-netsupport-rat-infected-sites/
    🕵️‍♂️ แคมเปญ JS#SMUGGLER: มัลแวร์ใหม่แพร่ผ่านเว็บไซต์ติดเชื้อ นักวิจัยจาก Securonix Threat Research รายงานการค้นพบแคมเปญมัลแวร์ใหม่ชื่อ JS#SMUGGLER ซึ่งใช้เทคนิคหลายชั้นในการแพร่กระจายและติดตั้ง NetSupport RAT บนเครื่อง Windows ของเหยื่อ โดยเริ่มต้นจากการฝังโค้ด JavaScript ที่ถูก obfuscate (ทำให้ยุ่งเหยิง) ลงในเว็บไซต์ที่ถูกเจาะ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับของระบบรักษาความปลอดภัย ⚡ ขั้นตอนการโจมตี 3 ระดับ 1️⃣ JavaScript Loader – เมื่อผู้ใช้เข้าเว็บไซต์ที่ติดเชื้อ โค้ดจะตรวจสอบว่าเป็น desktop หรือ mobile หากเป็น desktop จะโหลด payload ต่อไป 2️⃣ HTA (HTML Application) – ใช้โปรแกรม mshta.exe ของ Windows รันโค้ดที่ถูกเข้ารหัสหลายชั้น (AES-256, Base64, GZIP) โดยไม่ทิ้งไฟล์หลักไว้ในดิสก์ ทำให้ยากต่อการตรวจจับ 3️⃣ NetSupport RAT – ติดตั้งตัว Remote Access Trojan ที่ให้แฮกเกอร์ควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ เช่น การเข้าถึงไฟล์, รันคำสั่ง, และสอดส่องกิจกรรมของผู้ใช้ 🔐 เทคนิคการซ่อนตัว มัลแวร์จะสร้างโฟลเดอร์ที่ดูปกติ เช่น C:\ProgramData\CommunicationLayer\ และเพิ่ม shortcut ปลอมชื่อ WindowsUpdate.lnk ใน Startup เพื่อให้ RAT ทำงานทุกครั้งที่เปิดเครื่อง วิธีนี้ทำให้การติดเชื้อมีความถาวรและยากต่อการสังเกต ⚠️ ความเสี่ยงและคำแนะนำ การโจมตีนี้ถือว่ามีความซับซ้อนและเป็นมืออาชีพสูง ผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่รู้ตัวเลยว่าถูกติดเชื้อ การป้องกันที่ดีที่สุดคือ: 🪛 หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดไฟล์จากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ 🪛 ใช้ระบบตรวจจับ endpoint ที่สามารถตรวจสอบ script และ process ที่ผิดปกติ 🪛 อัปเดตซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการอย่างสม่ำเสมอ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การค้นพบมัลแวร์ JS#SMUGGLER ➡️ ใช้ JavaScript obfuscation และ HTA เพื่อแพร่กระจาย ➡️ ติดตั้ง NetSupport RAT บน Windows ✅ เทคนิคการทำงาน ➡️ เข้ารหัสหลายชั้น (AES-256, Base64, GZIP) ➡️ สร้าง shortcut ปลอม WindowsUpdate.lnk เพื่อรันอัตโนมัติ ‼️ ความเสี่ยงต่อผู้ใช้ ⛔ แฮกเกอร์สามารถควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ⛔ ยากต่อการตรวจจับเพราะไม่ทิ้งไฟล์หลักบนดิสก์ ‼️ แนวทางป้องกัน ⛔ หลีกเลี่ยงเว็บไซต์และไฟล์ที่ไม่น่าเชื่อถือ ⛔ ใช้ระบบตรวจจับ endpoint และอัปเดตซอฟต์แวร์เสมอ https://hackread.com/jssmuggler-netsupport-rat-infected-sites/
    HACKREAD.COM
    New JS#SMUGGLER Campaign Drops NetSupport RAT Through Infected Sites
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องมือใหม่ Eget: ติดตั้ง Binary ได้ง่ายขึ้นบน Linux

    นักพัฒนาสายโอเพนซอร์สได้เปิดตัว Eget เครื่องมือ CLI ที่ช่วยให้การติดตั้งโปรแกรมจาก GitHub repositories ง่ายขึ้นมาก โดยปกติแล้วผู้ใช้ต้องเข้าไปที่หน้า release ของโปรเจกต์ เลือก binary ที่ตรงกับสถาปัตยกรรมและระบบปฏิบัติการ จากนั้นดาวน์โหลดและแตกไฟล์เอง แต่ Egetทำให้ขั้นตอนเหล่านี้สั้นลงเหลือเพียงคำสั่งเดียว

    Eget จะค้นหา binary ล่าสุดจากโปรเจกต์ที่ระบุ ดาวน์โหลดและแตกไฟล์ให้เสร็จเรียบร้อย ผู้ใช้เพียงแค่ย้ายไฟล์ไปยัง directory ที่อยู่ใน $PATH เช่น /usr/local/bin ก็สามารถเรียกใช้งานได้ทันที เหมาะกับโปรแกรมที่แจกเป็น static pre-built binaries โดยไม่ต้องพึ่ง package manager ของแต่ละดิสโทร

    ฟีเจอร์และการใช้งาน
    Eget รองรับตัวเลือกที่หลากหลาย เช่น

    --to=[location] เพื่อย้ายไฟล์ไปยัง directory ที่ต้องการโดยตรง

    --tag=[version] สำหรับเลือกเวอร์ชันเฉพาะ

    --pre-release เพื่อดาวน์โหลดเวอร์ชันทดลอง

    --download-only สำหรับเก็บไฟล์โดยไม่แตกออก

    --upgrade-only เพื่ออัปเดตเฉพาะเมื่อมีเวอร์ชันใหม่

    นอกจากนี้ยังสามารถสร้างไฟล์ config .eget.toml เพื่อกำหนดค่าเริ่มต้น เช่น target directory หรือการตรวจสอบ hash ของ binary ได้ ทำให้การติดตั้งซ้ำ ๆ ง่ายและปลอดภัยขึ้น

    ความสำคัญต่อผู้ใช้และนักพัฒนา
    สำหรับผู้ใช้ทั่วไป Eget ช่วยลดความยุ่งยากในการติดตั้งโปรแกรมที่ไม่มีอยู่ใน repository ของดิสโทร หรือในดิสโทรเล็ก ๆ ที่ไม่มี package manager ที่สมบูรณ์ ส่วนสำหรับนักพัฒนา การแนะนำให้ผู้ใช้ติดตั้งโปรแกรมผ่าน Eget จะช่วยลดความสับสนในการให้คำแนะนำการติดตั้งที่แตกต่างกันไปตามระบบปฏิบัติการ

    Eget จึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สะท้อนแนวคิด “ทำให้การใช้ FOSS ง่ายขึ้น” และอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับการแจกจ่ายโปรแกรมแบบ binary ในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    จุดเด่นของ Eget
    ติดตั้ง binary จาก GitHub ได้ด้วยคำสั่งเดียว
    ลดขั้นตอนการดาวน์โหลดและแตกไฟล์

    ฟีเจอร์ที่รองรับ
    เลือกเวอร์ชันเฉพาะด้วย --tag
    ดาวน์โหลด pre-release ได้
    ตั้งค่า default ผ่าน .eget.toml

    ข้อควรระวัง
    ใช้ได้เฉพาะโปรแกรมที่แจกเป็น static pre-built binaries
    หากโปรเจกต์ไม่มี binary ให้ดาวน์โหลด Eget จะไม่สามารถติดตั้งได้

    https://itsfoss.com/eget/
    ⚙️ เครื่องมือใหม่ Eget: ติดตั้ง Binary ได้ง่ายขึ้นบน Linux นักพัฒนาสายโอเพนซอร์สได้เปิดตัว Eget เครื่องมือ CLI ที่ช่วยให้การติดตั้งโปรแกรมจาก GitHub repositories ง่ายขึ้นมาก โดยปกติแล้วผู้ใช้ต้องเข้าไปที่หน้า release ของโปรเจกต์ เลือก binary ที่ตรงกับสถาปัตยกรรมและระบบปฏิบัติการ จากนั้นดาวน์โหลดและแตกไฟล์เอง แต่ Egetทำให้ขั้นตอนเหล่านี้สั้นลงเหลือเพียงคำสั่งเดียว Eget จะค้นหา binary ล่าสุดจากโปรเจกต์ที่ระบุ ดาวน์โหลดและแตกไฟล์ให้เสร็จเรียบร้อย ผู้ใช้เพียงแค่ย้ายไฟล์ไปยัง directory ที่อยู่ใน $PATH เช่น /usr/local/bin ก็สามารถเรียกใช้งานได้ทันที เหมาะกับโปรแกรมที่แจกเป็น static pre-built binaries โดยไม่ต้องพึ่ง package manager ของแต่ละดิสโทร 🖥️ ฟีเจอร์และการใช้งาน Eget รองรับตัวเลือกที่หลากหลาย เช่น --to=[location] เพื่อย้ายไฟล์ไปยัง directory ที่ต้องการโดยตรง --tag=[version] สำหรับเลือกเวอร์ชันเฉพาะ --pre-release เพื่อดาวน์โหลดเวอร์ชันทดลอง --download-only สำหรับเก็บไฟล์โดยไม่แตกออก --upgrade-only เพื่ออัปเดตเฉพาะเมื่อมีเวอร์ชันใหม่ นอกจากนี้ยังสามารถสร้างไฟล์ config .eget.toml เพื่อกำหนดค่าเริ่มต้น เช่น target directory หรือการตรวจสอบ hash ของ binary ได้ ทำให้การติดตั้งซ้ำ ๆ ง่ายและปลอดภัยขึ้น 🌐 ความสำคัญต่อผู้ใช้และนักพัฒนา สำหรับผู้ใช้ทั่วไป Eget ช่วยลดความยุ่งยากในการติดตั้งโปรแกรมที่ไม่มีอยู่ใน repository ของดิสโทร หรือในดิสโทรเล็ก ๆ ที่ไม่มี package manager ที่สมบูรณ์ ส่วนสำหรับนักพัฒนา การแนะนำให้ผู้ใช้ติดตั้งโปรแกรมผ่าน Eget จะช่วยลดความสับสนในการให้คำแนะนำการติดตั้งที่แตกต่างกันไปตามระบบปฏิบัติการ Eget จึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สะท้อนแนวคิด “ทำให้การใช้ FOSS ง่ายขึ้น” และอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับการแจกจ่ายโปรแกรมแบบ binary ในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ จุดเด่นของ Eget ➡️ ติดตั้ง binary จาก GitHub ได้ด้วยคำสั่งเดียว ➡️ ลดขั้นตอนการดาวน์โหลดและแตกไฟล์ ✅ ฟีเจอร์ที่รองรับ ➡️ เลือกเวอร์ชันเฉพาะด้วย --tag ➡️ ดาวน์โหลด pre-release ได้ ➡️ ตั้งค่า default ผ่าน .eget.toml ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ใช้ได้เฉพาะโปรแกรมที่แจกเป็น static pre-built binaries ⛔ หากโปรเจกต์ไม่มี binary ให้ดาวน์โหลด Eget จะไม่สามารถติดตั้งได้ https://itsfoss.com/eget/
    ITSFOSS.COM
    Easily Install Binaries in Linux Terminal With This Tool
    Easy way to get binaries from GitHub repositories and install the applications. Learn more about eget.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ร้ายแรงใน Ruby-SAML Library

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยได้ค้นพบช่องโหว่ใหม่ใน Ruby-SAML library ซึ่งเป็นไลบรารีที่ใช้สำหรับการตรวจสอบสิทธิ์ด้วยมาตรฐาน SAML (Security Assertion Markup Language) โดยช่องโหว่นี้ถูกระบุเป็น CVE-2025-66567 และ CVE-2025-66568 ทั้งสองช่องโหว่จัดอยู่ในประเภท Authentication Bypass ที่สามารถทำให้ผู้โจมตีเลี่ยงการตรวจสอบตัวตนได้

    Ruby-SAML ถูกใช้อย่างแพร่หลายในการเชื่อมต่อระบบ Single Sign-On (SSO) ระหว่างองค์กรและบริการต่าง ๆ ดังนั้นช่องโหว่นี้จึงมีผลกระทบกว้างขวางต่อระบบที่พึ่งพาการยืนยันตัวตนแบบ SAML หากไม่แก้ไขอาจเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลหรือระบบที่ควรได้รับการป้องกัน

    รายละเอียดช่องโหว่
    CVE-2025-66567: เกิดจากการตรวจสอบค่า Issuer ไม่ถูกต้อง ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้าง Assertion ปลอมและผ่านการตรวจสอบได้
    CVE-2025-66568: เกิดจากการจัดการค่า Signature ที่ไม่รัดกุม ทำให้สามารถปลอมแปลงการลงนามและเลี่ยงการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้

    ทั้งสองช่องโหว่มีความรุนแรงสูง เนื่องจากสามารถนำไปสู่การเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต และอาจถูกใช้ในการโจมตีแบบข้ามระบบที่ใช้ SSO

    ผลกระทบและความเสี่ยง
    หากองค์กรหรือผู้พัฒนายังใช้เวอร์ชันที่มีช่องโหว่ ผู้โจมตีสามารถเลี่ยงการตรวจสอบตัวตนและเข้าสู่ระบบได้โดยตรง ซึ่งอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูล, การเข้าถึงบริการที่สำคัญ, หรือการโจมตีต่อเนื่องไปยังระบบอื่น ๆ ที่เชื่อมโยงกันผ่าน SSO

    สิ่งที่น่ากังวลคือ Ruby-SAML ถูกใช้ในหลายโครงการโอเพนซอร์สและระบบองค์กร ทำให้การแพร่กระจายของความเสี่ยงนี้กว้างขวางและอาจถูกโจมตีจริงได้ในอนาคตอันใกล้

    แนวทางป้องกัน
    ผู้พัฒนาควรรีบอัปเดตไปยังเวอร์ชันที่ได้รับการแก้ไขทันที และตรวจสอบระบบที่ใช้งาน Ruby-SAML ว่ามีการปรับปรุงหรือไม่ นอกจากนี้ควรมีการตรวจสอบการตั้งค่า SAML ให้รัดกุม เช่น การตรวจสอบค่า Issuer และ Signature อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการโจมตีในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ช่องโหว่ที่ค้นพบ
    CVE-2025-66567: การตรวจสอบค่า Issuer ไม่ถูกต้อง
    CVE-2025-66568: การตรวจสอบ Signature ไม่รัดกุม

    ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
    ผู้โจมตีสามารถเลี่ยงการตรวจสอบตัวตน
    เข้าถึงระบบและข้อมูลที่ควรได้รับการป้องกัน

    ความเสี่ยงต่อองค์กร
    ระบบที่ใช้ SSO อาจถูกเจาะเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
    ความเสี่ยงแพร่กระจายไปยังหลายบริการที่เชื่อมโยงกัน

    แนวทางป้องกัน
    รีบอัปเดต Ruby-SAML ไปยังเวอร์ชันที่แก้ไขแล้ว
    ตรวจสอบการตั้งค่า Issuer และ Signature ให้รัดกุม

    https://securityonline.info/critical-authentication-bypass-flaws-discovered-in-ruby-saml-library-cve-2025-66567-cve-2025-66568/
    🔑 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Ruby-SAML Library นักวิจัยด้านความปลอดภัยได้ค้นพบช่องโหว่ใหม่ใน Ruby-SAML library ซึ่งเป็นไลบรารีที่ใช้สำหรับการตรวจสอบสิทธิ์ด้วยมาตรฐาน SAML (Security Assertion Markup Language) โดยช่องโหว่นี้ถูกระบุเป็น CVE-2025-66567 และ CVE-2025-66568 ทั้งสองช่องโหว่จัดอยู่ในประเภท Authentication Bypass ที่สามารถทำให้ผู้โจมตีเลี่ยงการตรวจสอบตัวตนได้ Ruby-SAML ถูกใช้อย่างแพร่หลายในการเชื่อมต่อระบบ Single Sign-On (SSO) ระหว่างองค์กรและบริการต่าง ๆ ดังนั้นช่องโหว่นี้จึงมีผลกระทบกว้างขวางต่อระบบที่พึ่งพาการยืนยันตัวตนแบบ SAML หากไม่แก้ไขอาจเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลหรือระบบที่ควรได้รับการป้องกัน 🛠️ รายละเอียดช่องโหว่ 🪲 CVE-2025-66567: เกิดจากการตรวจสอบค่า Issuer ไม่ถูกต้อง ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้าง Assertion ปลอมและผ่านการตรวจสอบได้ 🪲 CVE-2025-66568: เกิดจากการจัดการค่า Signature ที่ไม่รัดกุม ทำให้สามารถปลอมแปลงการลงนามและเลี่ยงการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ ทั้งสองช่องโหว่มีความรุนแรงสูง เนื่องจากสามารถนำไปสู่การเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต และอาจถูกใช้ในการโจมตีแบบข้ามระบบที่ใช้ SSO ⚠️ ผลกระทบและความเสี่ยง หากองค์กรหรือผู้พัฒนายังใช้เวอร์ชันที่มีช่องโหว่ ผู้โจมตีสามารถเลี่ยงการตรวจสอบตัวตนและเข้าสู่ระบบได้โดยตรง ซึ่งอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูล, การเข้าถึงบริการที่สำคัญ, หรือการโจมตีต่อเนื่องไปยังระบบอื่น ๆ ที่เชื่อมโยงกันผ่าน SSO สิ่งที่น่ากังวลคือ Ruby-SAML ถูกใช้ในหลายโครงการโอเพนซอร์สและระบบองค์กร ทำให้การแพร่กระจายของความเสี่ยงนี้กว้างขวางและอาจถูกโจมตีจริงได้ในอนาคตอันใกล้ 🛡️ แนวทางป้องกัน ผู้พัฒนาควรรีบอัปเดตไปยังเวอร์ชันที่ได้รับการแก้ไขทันที และตรวจสอบระบบที่ใช้งาน Ruby-SAML ว่ามีการปรับปรุงหรือไม่ นอกจากนี้ควรมีการตรวจสอบการตั้งค่า SAML ให้รัดกุม เช่น การตรวจสอบค่า Issuer และ Signature อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการโจมตีในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ช่องโหว่ที่ค้นพบ ➡️ CVE-2025-66567: การตรวจสอบค่า Issuer ไม่ถูกต้อง ➡️ CVE-2025-66568: การตรวจสอบ Signature ไม่รัดกุม ✅ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ➡️ ผู้โจมตีสามารถเลี่ยงการตรวจสอบตัวตน ➡️ เข้าถึงระบบและข้อมูลที่ควรได้รับการป้องกัน ‼️ ความเสี่ยงต่อองค์กร ⛔ ระบบที่ใช้ SSO อาจถูกเจาะเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ⛔ ความเสี่ยงแพร่กระจายไปยังหลายบริการที่เชื่อมโยงกัน ‼️ แนวทางป้องกัน ⛔ รีบอัปเดต Ruby-SAML ไปยังเวอร์ชันที่แก้ไขแล้ว ⛔ ตรวจสอบการตั้งค่า Issuer และ Signature ให้รัดกุม https://securityonline.info/critical-authentication-bypass-flaws-discovered-in-ruby-saml-library-cve-2025-66567-cve-2025-66568/
    SECURITYONLINE.INFO
    Critical Authentication Bypass Flaws Discovered in Ruby SAML Library (CVE-2025-66567 & CVE-2025-66568)
    Two Critical (CVSS 9.3) flaws in ruby-saml allow Authentication Bypass. Exploits use XML parser differential and a digest bypass due to failed canonicalization. Update to v1.18.0 immediately.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ร้ายแรงใน D-Link และ Array Networks

    หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ (CISA) ออกประกาศเตือนว่า มีการโจมตีช่องโหว่ร้ายแรงใน เราเตอร์ D-Link รุ่นเก่า (EOL) และอุปกรณ์ Array Networks โดยใช้เทคนิค command injection และ buffer overflow ซึ่งกำลังถูกโจมตีจริงในหลายประเทศ รวมถึงญี่ปุ่น

    CISA ได้เพิ่มช่องโหว่ใหม่เข้าสู่ Known Exploited Vulnerabilities (KEV) Catalog เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2025 โดยพบว่าอุปกรณ์ D-Link Go-RT-AC750 มีช่องโหว่ CVE-2022-37055 ซึ่งเป็น buffer overflow ที่มีคะแนนความรุนแรง CVSS 9.8 เกือบสูงสุด และไม่มีการออกแพตช์แก้ไข เนื่องจากอุปกรณ์รุ่นนี้หมดอายุการสนับสนุนแล้ว (End of Life)

    ในขณะเดียวกัน อุปกรณ์ Array Networks ArrayOS AG gateways ก็มีช่องโหว่ CVE-2025-66644 ซึ่งเป็น OS command injection ที่กำลังถูกโจมตีในญี่ปุ่น ทำให้ผู้โจมตีสามารถสั่งรันคำสั่งอันตรายบนระบบได้โดยตรง

    ผลกระทบและความเสี่ยง
    ช่องโหว่เหล่านี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมอุปกรณ์เครือข่ายจากระยะไกล ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการถูกดักข้อมูล, การโจมตีแบบ DDoS, หรือการใช้เป็นฐานโจมตีต่อไปยังระบบอื่น ๆ โดยเฉพาะองค์กรที่ยังใช้อุปกรณ์รุ่นเก่าที่ไม่ได้รับการสนับสนุนแล้ว

    สิ่งที่น่ากังวลคือ ไม่มีแพตช์แก้ไขสำหรับ D-Link รุ่นเก่า ทำให้ผู้ใช้ต้องหาทางเปลี่ยนหรือเลิกใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ทันที หากยังคงใช้งานอยู่จะเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง

    คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
    CISA แนะนำให้องค์กรและผู้ใช้ทั่วไป เลิกใช้อุปกรณ์ที่หมดอายุการสนับสนุน (EOL) และเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ใหม่ที่ยังได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัย นอกจากนี้ควรตรวจสอบระบบเครือข่ายว่ามีการใช้อุปกรณ์ Array Networks ที่มีช่องโหว่หรือไม่ และรีบติดตั้งแพตช์หรือหาทางป้องกันโดยเร็วที่สุด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ช่องโหว่ที่ถูกค้นพบ
    CVE-2022-37055: Buffer Overflow ใน D-Link Go-RT-AC750 (CVSS 9.8)
    CVE-2025-66644: Command Injection ใน Array Networks AG gateways

    สถานการณ์การโจมตี
    ช่องโหว่ D-Link ไม่มีแพตช์เพราะหมดอายุการสนับสนุน
    ช่องโหว่ Array Networks กำลังถูกโจมตีจริงในญี่ปุ่น

    ความเสี่ยงต่อผู้ใช้และองค์กร
    อาจถูกควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกล
    เสี่ยงต่อการถูกใช้เป็นฐานโจมตี DDoS หรือเจาะระบบอื่น

    คำแนะนำด้านความปลอดภัย
    เลิกใช้อุปกรณ์ D-Link รุ่นเก่าที่หมดอายุการสนับสนุน
    ตรวจสอบและอัปเดตแพตช์ใน Array Networks โดยเร็วที่สุด

    https://securityonline.info/cisa-kev-alert-eol-d-link-and-array-networks-command-injection-under-active-attack/
    ⚡ ช่องโหว่ร้ายแรงใน D-Link และ Array Networks หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ (CISA) ออกประกาศเตือนว่า มีการโจมตีช่องโหว่ร้ายแรงใน เราเตอร์ D-Link รุ่นเก่า (EOL) และอุปกรณ์ Array Networks โดยใช้เทคนิค command injection และ buffer overflow ซึ่งกำลังถูกโจมตีจริงในหลายประเทศ รวมถึงญี่ปุ่น CISA ได้เพิ่มช่องโหว่ใหม่เข้าสู่ Known Exploited Vulnerabilities (KEV) Catalog เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2025 โดยพบว่าอุปกรณ์ D-Link Go-RT-AC750 มีช่องโหว่ CVE-2022-37055 ซึ่งเป็น buffer overflow ที่มีคะแนนความรุนแรง CVSS 9.8 เกือบสูงสุด และไม่มีการออกแพตช์แก้ไข เนื่องจากอุปกรณ์รุ่นนี้หมดอายุการสนับสนุนแล้ว (End of Life) ในขณะเดียวกัน อุปกรณ์ Array Networks ArrayOS AG gateways ก็มีช่องโหว่ CVE-2025-66644 ซึ่งเป็น OS command injection ที่กำลังถูกโจมตีในญี่ปุ่น ทำให้ผู้โจมตีสามารถสั่งรันคำสั่งอันตรายบนระบบได้โดยตรง 🌐 ผลกระทบและความเสี่ยง ช่องโหว่เหล่านี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมอุปกรณ์เครือข่ายจากระยะไกล ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการถูกดักข้อมูล, การโจมตีแบบ DDoS, หรือการใช้เป็นฐานโจมตีต่อไปยังระบบอื่น ๆ โดยเฉพาะองค์กรที่ยังใช้อุปกรณ์รุ่นเก่าที่ไม่ได้รับการสนับสนุนแล้ว สิ่งที่น่ากังวลคือ ไม่มีแพตช์แก้ไขสำหรับ D-Link รุ่นเก่า ทำให้ผู้ใช้ต้องหาทางเปลี่ยนหรือเลิกใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ทันที หากยังคงใช้งานอยู่จะเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง 🛡️ คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ CISA แนะนำให้องค์กรและผู้ใช้ทั่วไป เลิกใช้อุปกรณ์ที่หมดอายุการสนับสนุน (EOL) และเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ใหม่ที่ยังได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัย นอกจากนี้ควรตรวจสอบระบบเครือข่ายว่ามีการใช้อุปกรณ์ Array Networks ที่มีช่องโหว่หรือไม่ และรีบติดตั้งแพตช์หรือหาทางป้องกันโดยเร็วที่สุด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ช่องโหว่ที่ถูกค้นพบ ➡️ CVE-2022-37055: Buffer Overflow ใน D-Link Go-RT-AC750 (CVSS 9.8) ➡️ CVE-2025-66644: Command Injection ใน Array Networks AG gateways ✅ สถานการณ์การโจมตี ➡️ ช่องโหว่ D-Link ไม่มีแพตช์เพราะหมดอายุการสนับสนุน ➡️ ช่องโหว่ Array Networks กำลังถูกโจมตีจริงในญี่ปุ่น ‼️ ความเสี่ยงต่อผู้ใช้และองค์กร ⛔ อาจถูกควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกล ⛔ เสี่ยงต่อการถูกใช้เป็นฐานโจมตี DDoS หรือเจาะระบบอื่น ‼️ คำแนะนำด้านความปลอดภัย ⛔ เลิกใช้อุปกรณ์ D-Link รุ่นเก่าที่หมดอายุการสนับสนุน ⛔ ตรวจสอบและอัปเดตแพตช์ใน Array Networks โดยเร็วที่สุด https://securityonline.info/cisa-kev-alert-eol-d-link-and-array-networks-command-injection-under-active-attack/
    SECURITYONLINE.INFO
    CISA KEV Alert: EOL D-Link and Array Networks Command Injection Under Active Attack
    CISA KEV adds EOL D-Link and Array Networks flaws. ArrayOS AG (CVE-2025-66644) is actively exploited in Japan to drop PHP webshells. Retire EOL D-Link and patch ArrayOS AG immediately.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251208 #securityonline


    Stealth Supply Chain Attack: Rust Crate ปลอมแฝงมัลแวร์
    เรื่องนี้เป็นการโจมตีแบบ supply chain ที่แยบยลมาก แฮกเกอร์ใช้เทคนิค typosquatting ปลอมตัวเป็นไลบรารีชื่อ finch-rust บน Crates.io ให้ดูเหมือนเป็นเวอร์ชัน Rust ของเครื่องมือ bioinformatics ที่ชื่อ finch ซึ่งมีคนดาวน์โหลดจริงกว่า 67,000 ครั้ง ตัวแพ็กเกจปลอมนี้ทำงานเหมือนของจริง แต่ซ่อนโค้ดบรรทัดเดียวที่โหลดมัลแวร์ชื่อ sha-rust เข้ามา โดยใช้ dependency แบบไม่ fix เวอร์ชัน ทำให้ผู้โจมตีสามารถอัปเดต payload ได้เรื่อย ๆ โดยไม่ต้องแก้ loader เลย ภายในสองสัปดาห์ sha-rust ถูกพัฒนาไปถึง 8 เวอร์ชัน จากการสแกนโฟลเดอร์ทั้งหมดจนเปลี่ยนเป็นสแกนเฉพาะ directory ปัจจุบันเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ เป้าหมายคือไฟล์ environment, config และ token ต่าง ๆ แล้วส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ปลอมผ่าน HTTPS พร้อม delay เล็กน้อยเพื่อไม่ให้ถูกจับได้ ผู้โจมตียังสร้างโปรไฟล์ GitHub ปลอมแฝงตัวเป็นนักพัฒนาจริงเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ สุดท้ายทีม Rust Security ตรวจพบและลบออกไป แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าการโจมตีแบบ typosquatting ยังคงเป็นภัยใหญ่ในโลก open-source
    https://securityonline.info/stealth-supply-chain-attack-malicious-rust-crate-used-unpinned-dependency-for-silent-payload-upgrades

    Pixel Phone กลายเป็น Webcam สำหรับ Nintendo Switch 2
    ข่าวนี้เล่าเรื่องน่าสนใจสำหรับสายเกมและเทคโนโลยี เมื่อมีการค้นพบว่า Pixel Phone สามารถเชื่อมต่อกับ Nintendo Switch 2 ผ่านสาย USB แล้วทำงานเป็น webcam ได้ทันที โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมใด ๆ ฟีเจอร์นี้เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถสตรีมเกมหรือใช้กล้องมือถือเป็นอุปกรณ์เสริมได้อย่างสะดวก ถือเป็นการผสมผสานระหว่างสมาร์ทโฟนและเครื่องเกมที่ทำให้การใช้งานยืดหยุ่นขึ้นมาก
    https://securityonline.info/pixel-phone-turns-into-webcam-for-nintendo-switch-2-via-usb-no-accessory-needed

    Meta จับมือ CNN และ Le Monde ป้อนข่าวลิขสิทธิ์ให้ AI
    Meta ที่ก่อนหน้านี้ถูกวิจารณ์เรื่องการใช้ข้อมูลข่าวสารโดยไม่ขออนุญาต ตอนนี้ได้เปลี่ยนท่าทีใหม่ โดยทำข้อตกลงกับสำนักข่าวใหญ่ ๆ อย่าง CNN และ Le Monde เพื่อให้ข่าวที่มีลิขสิทธิ์ถูกนำไปใช้ในระบบ Meta AI อย่างถูกต้องตามกฎหมาย การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าบริษัทกำลังพยายามสร้างความน่าเชื่อถือและลดแรงเสียดทานจากสื่อ รวมถึงอาจเป็นการวางรากฐานให้ AI ของ Meta มีข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้มากขึ้น
    https://securityonline.info/meta-reverses-course-strikes-deals-with-cnn-le-monde-to-feed-licensed-news-to-meta-ai

    EU ปรับ X €120 ล้าน จากการละเมิด DSA
    สหภาพยุโรปได้ปรับแพลตฟอร์ม X (อดีต Twitter) เป็นเงินมหาศาลถึง 120 ล้านยูโร เนื่องจากละเมิดกฎหมาย Digital Services Act (DSA) โดยเฉพาะการตรวจสอบระบบ Blue Check Verification ที่ถูกมองว่า “หลอกลวง” การปรับครั้งนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า EU จริงจังกับการบังคับใช้กฎหมายดิจิทัล และแพลตฟอร์มใหญ่ ๆ จะไม่สามารถใช้วิธีการที่ทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดได้อีกต่อไป
    https://securityonline.info/eu-fines-x-e120-million-for-dsa-violation-over-deceptive-blue-check-verification

    Meta แก้ระบบ Support พัง เปิดตัว AI Assistants และ Recovery Hub
    Meta ประกาศปรับปรุงระบบช่วยเหลือผู้ใช้ที่ก่อนหน้านี้ถูกวิจารณ์ว่า “พัง” และไม่ตอบโจทย์ โดยครั้งนี้ได้เพิ่ม AI Assistants เข้ามาช่วยตอบคำถามและแก้ปัญหา รวมถึงเปิดตัว Recovery Hubs ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับการกู้คืนบัญชีหรือแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนว่าบริษัทกำลังพยายามฟื้นความเชื่อมั่นจากผู้ใช้ และใช้ AI เป็นหัวใจหลักในการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน
    https://securityonline.info/meta-fixes-broken-support-rolling-out-ai-assistants-and-new-recovery-hubs

    Bluetooth Flaw เสี่ยงทำ Smart Car และ Wear OS Crash
    มีการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ในระบบ Bluetooth ที่สามารถทำให้เกิดการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) ได้ โดย Proof-of-Concept (PoC) แสดงให้เห็นว่าช่องโหว่นี้สามารถทำให้ Smart Cars และอุปกรณ์ที่ใช้ Wear OS เกิดการ crash ได้ทันที ความเสี่ยงนี้ทำให้ผู้ใช้รถยนต์อัจฉริยะและอุปกรณ์สวมใส่ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะการโจมตีอาจทำให้ระบบหยุดทำงานในเวลาที่ไม่คาดคิด
    https://securityonline.info/poc-available-bluetooth-flaw-risks-dos-crash-on-smart-cars-and-wear-os

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Duc Disk Tool (CVE-2025-13654)
    เครื่องมือ Duc Disk Tool ถูกพบว่ามีช่องโหว่ร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับ integer underflow ซึ่งสามารถนำไปสู่การโจมตีแบบ DoS และการรั่วไหลของข้อมูลได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับ High-Severity ทำให้ผู้ใช้และผู้ดูแลระบบต้องรีบอัปเดตหรือหาทางแก้ไขเพื่อป้องกันการถูกโจมตี
    https://securityonline.info/high-severity-duc-disk-tool-flaw-cve-2025-13654-risks-dos-and-information-leak-via-integer-underflow

    SeedSnatcher มัลแวร์ Android ล่าผู้ใช้คริปโต
    มัลแวร์ใหม่ชื่อ SeedSnatcher กำลังโจมตีผู้ใช้ Android ที่เกี่ยวข้องกับคริปโต โดยใช้เทคนิค overlay phishing และการตรวจสอบ BIP 39 เพื่อขโมย seed phrase ของกระเป๋าเงินดิจิทัล มันสามารถหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลสำคัญลงในหน้าปลอมที่ดูเหมือนจริง ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงและขโมยสินทรัพย์คริปโตได้อย่างง่ายดาย
    https://securityonline.info/seedsnatcher-android-malware-targets-crypto-users-using-overlay-phishing-and-bip-39-validation-to-steal-seed-phrases

    Russian APT UTA0355 ขโมย OAuth Token ของ Microsoft 365
    กลุ่มแฮกเกอร์รัสเซียชื่อ UTA0355 ใช้กลยุทธ์หลอกลวงผ่านการเชิญเข้าร่วม งานประชุมความปลอดภัยปลอม และแม้กระทั่งการปลอมเป็นทีมสนับสนุนบน WhatsApp เพื่อหลอกผู้ใช้ให้เปิดเผยข้อมูลสำคัญ ผลลัพธ์คือการขโมย OAuth Token ของ Microsoft 365 ซึ่งสามารถนำไปใช้เข้าถึงข้อมูลและระบบขององค์กรได้โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน
    https://securityonline.info/russian-apt-uta0355-steals-microsoft-365-oauth-tokens-via-fake-security-conference-lures-and-whatsapp-support

    Windows 11 Agenda View กลับมาอีกครั้ง แต่มี Overhead
    Microsoft ได้นำฟีเจอร์ Agenda View กลับมาใน Windows 11 แต่ครั้งนี้ถูกสร้างบน WebView 2 ซึ่งแม้จะทำให้การแสดงผลยืดหยุ่นขึ้น แต่ก็มีข้อเสียคือ performance overhead ที่อาจทำให้ระบบทำงานช้าลง ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ดูตารางนัดหมายได้สะดวกขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับการใช้ทรัพยากรที่มากกว่าเดิม
    https://securityonline.info/windows-11-agenda-view-is-back-but-built-on-webview-2-with-performance-overhead

    BRICKSTORM: มัลแวร์สายลับจากจีนที่ฝังตัวใน VMware และ ADFS
    มีรายงานใหม่จาก CISA และ NSA ร่วมกับหน่วยงานแคนาดา เปิดเผยการทำงานของมัลแวร์ชื่อ BRICKSTORM ที่ถูกใช้โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน จุดเด่นของมันคือความสามารถในการอยู่รอดในระบบเป้าหมายได้นานเกือบ 18 เดือนโดยไม่ถูกตรวจจับ เป้าหมายหลักคือโครงสร้างพื้นฐานเสมือนจริงอย่าง VMware และระบบ Windows โดยมันสามารถสร้าง VM ปลอมเพื่อขโมยข้อมูล รวมถึงใช้เทคนิคการสื่อสารที่ซับซ้อน เช่น HTTPS, WebSockets, TLS ซ้อนกันหลายชั้น และ DNS-over-HTTPS เพื่อพรางตัวให้เหมือนทราฟฟิกปกติ เรื่องนี้ถือเป็นภัยคุกคามระยะยาวที่องค์กรภาครัฐและ IT ต้องเร่งตรวจสอบ
    https://securityonline.info/cisa-nsa-warn-of-brickstorm-backdoor-china-apt-targets-vmware-and-adfs-for-long-term-espionage

    ช่องโหว่ lz4-java (CVE-2025-66566) รั่วข้อมูลหน่วยความจำ
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในไลบรารี lz4-java ที่ใช้กันแพร่หลายสำหรับการบีบอัดข้อมูล ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถดึงข้อมูลที่ยังไม่ได้ถูกล้างออกจากหน่วยความจำระหว่างการดีคอมเพรสได้ ซึ่งอาจรวมถึงรหัสผ่านหรือคีย์เข้ารหัส ปัญหามาจากการที่บัฟเฟอร์ไม่ได้ถูกเคลียร์ก่อนใช้งานใหม่ ทำให้ข้อมูลเก่าหลุดออกมาได้ การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อผู้โจมตีส่งข้อมูลบีบอัดที่ถูกปรับแต่งมาให้ระบบดีคอมเพรส ผลคือข้อมูลที่ควรจะถูกซ่อนกลับถูกเปิดเผยออกมา ทางแก้คือการอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 1.10.1 หรือหากยังไม่สามารถทำได้ ต้องล้างบัฟเฟอร์ด้วยตนเองก่อนใช้งาน
    https://securityonline.info/high-severity-lz4-java-flaw-cve-2025-66566-leaks-uninitialized-memory-during-decompression

    ช่องโหว่ Cal.com (CVE-2025-66489) เปิดทางให้ข้ามการยืนยันตัวตน
    แพลตฟอร์ม Cal.com ที่ใช้จัดการตารางนัดหมาย ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าสู่ระบบได้โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านจริง หากใส่ค่าในช่อง TOTP (รหัสยืนยันแบบครั้งเดียว) ระบบจะข้ามการตรวจสอบรหัสผ่านทันที แม้ผู้ใช้เปิด 2FA ก็ยังเสี่ยงเพราะระบบตรวจสอบแค่ TOTP โดยไม่สนใจรหัสผ่าน ส่งผลให้แค่รู้ที่อยู่อีเมลก็สามารถเจาะบัญชีได้แล้ว ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับความรุนแรงสูงสุดเกือบเต็ม 9.9 และมีการออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 5.9.8 ผู้ใช้ควรรีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดบัญชี
    https://securityonline.info/critical-cal-com-flaw-cve-2025-66489-cvss-9-9-allows-authentication-bypass-by-submitting-fake-totp-codes

    WatchGuard VPN เจอช่องโหว่เสี่ยง DoS และ RCE
    ผลิตภัณฑ์ Firebox ของ WatchGuard ถูกพบช่องโหว่หลายรายการที่กระทบต่อระบบ VPN และอินเทอร์เฟซจัดการ โดยเฉพาะ CVE-2025-11838 ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถทำให้บริการ VPN ล่มได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ใด ๆ นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่การฉีดคำสั่ง CLI และ XPath Injection ที่เปิดโอกาสให้เข้าถึงข้อมูลหรือรันโค้ดอันตรายได้ ช่องโหว่เหล่านี้กระทบหลายเวอร์ชันของ Fireware OS และบริษัทได้ออกแพตช์ใหม่เพื่อแก้ไขแล้ว ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้ระบบเครือข่ายเสียหาย
    https://securityonline.info/high-severity-watchguard-flaws-risk-vpn-dos-and-rce-via-ikev2-memory-corruption

    MuddyWater ใช้ UDPGangster Backdoor เจาะระบบ
    กลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับอิหร่านชื่อ MuddyWater ถูกพบว่ากำลังใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ UDPGangster เพื่อโจมตีหน่วยงานรัฐบาลและโครงสร้างพื้นฐานในตุรกี อิสราเอล และอาเซอร์ไบจาน จุดเด่นคือการสื่อสารผ่านโปรโตคอล UDP แทนที่จะใช้ HTTP/HTTPS ทำให้หลบเลี่ยงการตรวจจับได้ดี มัลแวร์ถูกส่งผ่านอีเมลฟิชชิ่งที่แนบไฟล์ Word พร้อมมาโคร เมื่อเหยื่อเปิดใช้งานก็จะติดตั้งตัวเองและสร้าง persistence บนเครื่อง จากนั้นผู้โจมตีสามารถสั่งรันคำสั่ง ขโมยไฟล์ และควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและมีการตรวจสอบสภาพแวดล้อมเพื่อหลบเลี่ยงการวิเคราะห์
    https://securityonline.info/iran-linked-muddywater-deploys-udpgangster-backdoor-using-udp-protocol-for-covert-c2

    Intellexa ใช้ช่องโหว่ 15 รายการเพื่อแพร่กระจาย Predator Spyware
    บริษัทผู้ขายสปายแวร์ชื่อ Intellexa ถูกเปิดโปงว่าใช้ช่องโหว่แบบ zero-day ถึง 15 รายการตั้งแต่ปี 2021 เพื่อแพร่กระจายสปายแวร์ Predator โดยเฉพาะการโจมตีผ่าน iOS exploit chain ที่ชื่อ “smack” ซึ่งสามารถเจาะระบบ iPhone ได้โดยไม่ต้องมีการโต้ตอบจากผู้ใช้ Predator ถูกใช้เพื่อสอดแนมเป้าหมายระดับสูง เช่น นักข่าว นักการเมือง และนักกิจกรรม โดยมีการขายให้กับรัฐบาลหลายประเทศ การเปิดเผยนี้สะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีเชิงรุกเพื่อการสอดแนมที่อันตรายและยากต่อการป้องกัน
    https://securityonline.info/spyware-vendor-intellexa-used-15-zero-days-since-2021-deploying-predator-via-smack-ios-exploit-chain

    urllib3 พบช่องโหว่เสี่ยงทำให้ระบบล่ม
    ไลบรารี Python ยอดนิยมอย่าง urllib3 ถูกพบช่องโหว่ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถทำให้ระบบผู้ใช้ล่มได้ ช่องโหว่นี้เกิดจากการดีคอมเพรสข้อมูลที่ไม่มีการจำกัด ทำให้หน่วยความจำถูกใช้จนหมด และการสตรีมข้อมูลที่ไม่ถูกควบคุมจนทำให้ทรัพยากรถูกใช้เกินขีดจำกัด ผลคือระบบอาจหยุดทำงานหรือไม่ตอบสนอง การโจมตีสามารถทำได้ง่ายเพียงส่งข้อมูลที่ถูกปรับแต่งมาให้ระบบจัดการ การแก้ไขคือการอัปเดตเวอร์ชันใหม่ที่มีการจำกัดการดีคอมเพรสและการสตรีมเพื่อป้องกันการโจมตีแบบ DoS
    https://securityonline.info/urllib3-flaws-risk-client-dos-via-unbounded-decompression-and-streaming-resource-exhaustion

    ValleyRAT หลอกผู้หางานด้วย Foxit PDF Reader ปลอม
    มีการค้นพบการโจมตีใหม่ที่ใช้มัลแวร์ ValleyRAT โดยกลุ่มผู้โจมตีได้ทำการ sideload DLL อันตรายเข้าไปใน Foxit PDF Reader ที่ถูกดัดแปลง จากนั้นนำไปเผยแพร่ในเว็บไซต์หางานภาษาอังกฤษเพื่อหลอกผู้ใช้ที่กำลังหางาน เมื่อเหยื่อดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรม PDF Reader ปลอมนี้ มัลแวร์จะถูกโหลดเข้ามาในระบบทันที ทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมเครื่อง ขโมยข้อมูล และติดตั้ง payload เพิ่มเติมได้ การโจมตีนี้เน้นไปที่ผู้หางานในต่างประเทศที่อาจไม่ทันระวังภัย
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/valleyrat-targets-english-job-seekers-by-trojanizing-foxit-pdf-reader-with-dll-sideloading
    📌🔐🟡 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟡🔐📌 #รวมข่าวIT #20251208 #securityonline 🛡️ Stealth Supply Chain Attack: Rust Crate ปลอมแฝงมัลแวร์ เรื่องนี้เป็นการโจมตีแบบ supply chain ที่แยบยลมาก แฮกเกอร์ใช้เทคนิค typosquatting ปลอมตัวเป็นไลบรารีชื่อ finch-rust บน Crates.io ให้ดูเหมือนเป็นเวอร์ชัน Rust ของเครื่องมือ bioinformatics ที่ชื่อ finch ซึ่งมีคนดาวน์โหลดจริงกว่า 67,000 ครั้ง ตัวแพ็กเกจปลอมนี้ทำงานเหมือนของจริง แต่ซ่อนโค้ดบรรทัดเดียวที่โหลดมัลแวร์ชื่อ sha-rust เข้ามา โดยใช้ dependency แบบไม่ fix เวอร์ชัน ทำให้ผู้โจมตีสามารถอัปเดต payload ได้เรื่อย ๆ โดยไม่ต้องแก้ loader เลย ภายในสองสัปดาห์ sha-rust ถูกพัฒนาไปถึง 8 เวอร์ชัน จากการสแกนโฟลเดอร์ทั้งหมดจนเปลี่ยนเป็นสแกนเฉพาะ directory ปัจจุบันเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ เป้าหมายคือไฟล์ environment, config และ token ต่าง ๆ แล้วส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ปลอมผ่าน HTTPS พร้อม delay เล็กน้อยเพื่อไม่ให้ถูกจับได้ ผู้โจมตียังสร้างโปรไฟล์ GitHub ปลอมแฝงตัวเป็นนักพัฒนาจริงเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ สุดท้ายทีม Rust Security ตรวจพบและลบออกไป แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าการโจมตีแบบ typosquatting ยังคงเป็นภัยใหญ่ในโลก open-source 🔗 https://securityonline.info/stealth-supply-chain-attack-malicious-rust-crate-used-unpinned-dependency-for-silent-payload-upgrades 🎮 Pixel Phone กลายเป็น Webcam สำหรับ Nintendo Switch 2 ข่าวนี้เล่าเรื่องน่าสนใจสำหรับสายเกมและเทคโนโลยี เมื่อมีการค้นพบว่า Pixel Phone สามารถเชื่อมต่อกับ Nintendo Switch 2 ผ่านสาย USB แล้วทำงานเป็น webcam ได้ทันที โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมใด ๆ ฟีเจอร์นี้เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถสตรีมเกมหรือใช้กล้องมือถือเป็นอุปกรณ์เสริมได้อย่างสะดวก ถือเป็นการผสมผสานระหว่างสมาร์ทโฟนและเครื่องเกมที่ทำให้การใช้งานยืดหยุ่นขึ้นมาก 🔗 https://securityonline.info/pixel-phone-turns-into-webcam-for-nintendo-switch-2-via-usb-no-accessory-needed 📰 Meta จับมือ CNN และ Le Monde ป้อนข่าวลิขสิทธิ์ให้ AI Meta ที่ก่อนหน้านี้ถูกวิจารณ์เรื่องการใช้ข้อมูลข่าวสารโดยไม่ขออนุญาต ตอนนี้ได้เปลี่ยนท่าทีใหม่ โดยทำข้อตกลงกับสำนักข่าวใหญ่ ๆ อย่าง CNN และ Le Monde เพื่อให้ข่าวที่มีลิขสิทธิ์ถูกนำไปใช้ในระบบ Meta AI อย่างถูกต้องตามกฎหมาย การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าบริษัทกำลังพยายามสร้างความน่าเชื่อถือและลดแรงเสียดทานจากสื่อ รวมถึงอาจเป็นการวางรากฐานให้ AI ของ Meta มีข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้มากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/meta-reverses-course-strikes-deals-with-cnn-le-monde-to-feed-licensed-news-to-meta-ai ⚖️ EU ปรับ X €120 ล้าน จากการละเมิด DSA สหภาพยุโรปได้ปรับแพลตฟอร์ม X (อดีต Twitter) เป็นเงินมหาศาลถึง 120 ล้านยูโร เนื่องจากละเมิดกฎหมาย Digital Services Act (DSA) โดยเฉพาะการตรวจสอบระบบ Blue Check Verification ที่ถูกมองว่า “หลอกลวง” การปรับครั้งนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า EU จริงจังกับการบังคับใช้กฎหมายดิจิทัล และแพลตฟอร์มใหญ่ ๆ จะไม่สามารถใช้วิธีการที่ทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดได้อีกต่อไป 🔗 https://securityonline.info/eu-fines-x-e120-million-for-dsa-violation-over-deceptive-blue-check-verification 🤖 Meta แก้ระบบ Support พัง เปิดตัว AI Assistants และ Recovery Hub Meta ประกาศปรับปรุงระบบช่วยเหลือผู้ใช้ที่ก่อนหน้านี้ถูกวิจารณ์ว่า “พัง” และไม่ตอบโจทย์ โดยครั้งนี้ได้เพิ่ม AI Assistants เข้ามาช่วยตอบคำถามและแก้ปัญหา รวมถึงเปิดตัว Recovery Hubs ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับการกู้คืนบัญชีหรือแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนว่าบริษัทกำลังพยายามฟื้นความเชื่อมั่นจากผู้ใช้ และใช้ AI เป็นหัวใจหลักในการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน 🔗 https://securityonline.info/meta-fixes-broken-support-rolling-out-ai-assistants-and-new-recovery-hubs 🚗 Bluetooth Flaw เสี่ยงทำ Smart Car และ Wear OS Crash มีการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ในระบบ Bluetooth ที่สามารถทำให้เกิดการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) ได้ โดย Proof-of-Concept (PoC) แสดงให้เห็นว่าช่องโหว่นี้สามารถทำให้ Smart Cars และอุปกรณ์ที่ใช้ Wear OS เกิดการ crash ได้ทันที ความเสี่ยงนี้ทำให้ผู้ใช้รถยนต์อัจฉริยะและอุปกรณ์สวมใส่ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะการโจมตีอาจทำให้ระบบหยุดทำงานในเวลาที่ไม่คาดคิด 🔗 https://securityonline.info/poc-available-bluetooth-flaw-risks-dos-crash-on-smart-cars-and-wear-os 💾 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Duc Disk Tool (CVE-2025-13654) เครื่องมือ Duc Disk Tool ถูกพบว่ามีช่องโหว่ร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับ integer underflow ซึ่งสามารถนำไปสู่การโจมตีแบบ DoS และการรั่วไหลของข้อมูลได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับ High-Severity ทำให้ผู้ใช้และผู้ดูแลระบบต้องรีบอัปเดตหรือหาทางแก้ไขเพื่อป้องกันการถูกโจมตี 🔗 https://securityonline.info/high-severity-duc-disk-tool-flaw-cve-2025-13654-risks-dos-and-information-leak-via-integer-underflow 📱 SeedSnatcher มัลแวร์ Android ล่าผู้ใช้คริปโต มัลแวร์ใหม่ชื่อ SeedSnatcher กำลังโจมตีผู้ใช้ Android ที่เกี่ยวข้องกับคริปโต โดยใช้เทคนิค overlay phishing และการตรวจสอบ BIP 39 เพื่อขโมย seed phrase ของกระเป๋าเงินดิจิทัล มันสามารถหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลสำคัญลงในหน้าปลอมที่ดูเหมือนจริง ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงและขโมยสินทรัพย์คริปโตได้อย่างง่ายดาย 🔗 https://securityonline.info/seedsnatcher-android-malware-targets-crypto-users-using-overlay-phishing-and-bip-39-validation-to-steal-seed-phrases 🎭 Russian APT UTA0355 ขโมย OAuth Token ของ Microsoft 365 กลุ่มแฮกเกอร์รัสเซียชื่อ UTA0355 ใช้กลยุทธ์หลอกลวงผ่านการเชิญเข้าร่วม งานประชุมความปลอดภัยปลอม และแม้กระทั่งการปลอมเป็นทีมสนับสนุนบน WhatsApp เพื่อหลอกผู้ใช้ให้เปิดเผยข้อมูลสำคัญ ผลลัพธ์คือการขโมย OAuth Token ของ Microsoft 365 ซึ่งสามารถนำไปใช้เข้าถึงข้อมูลและระบบขององค์กรได้โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน 🔗 https://securityonline.info/russian-apt-uta0355-steals-microsoft-365-oauth-tokens-via-fake-security-conference-lures-and-whatsapp-support 🖥️ Windows 11 Agenda View กลับมาอีกครั้ง แต่มี Overhead Microsoft ได้นำฟีเจอร์ Agenda View กลับมาใน Windows 11 แต่ครั้งนี้ถูกสร้างบน WebView 2 ซึ่งแม้จะทำให้การแสดงผลยืดหยุ่นขึ้น แต่ก็มีข้อเสียคือ performance overhead ที่อาจทำให้ระบบทำงานช้าลง ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ดูตารางนัดหมายได้สะดวกขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับการใช้ทรัพยากรที่มากกว่าเดิม 🔗 https://securityonline.info/windows-11-agenda-view-is-back-but-built-on-webview-2-with-performance-overhead 🛡️ BRICKSTORM: มัลแวร์สายลับจากจีนที่ฝังตัวใน VMware และ ADFS มีรายงานใหม่จาก CISA และ NSA ร่วมกับหน่วยงานแคนาดา เปิดเผยการทำงานของมัลแวร์ชื่อ BRICKSTORM ที่ถูกใช้โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน จุดเด่นของมันคือความสามารถในการอยู่รอดในระบบเป้าหมายได้นานเกือบ 18 เดือนโดยไม่ถูกตรวจจับ เป้าหมายหลักคือโครงสร้างพื้นฐานเสมือนจริงอย่าง VMware และระบบ Windows โดยมันสามารถสร้าง VM ปลอมเพื่อขโมยข้อมูล รวมถึงใช้เทคนิคการสื่อสารที่ซับซ้อน เช่น HTTPS, WebSockets, TLS ซ้อนกันหลายชั้น และ DNS-over-HTTPS เพื่อพรางตัวให้เหมือนทราฟฟิกปกติ เรื่องนี้ถือเป็นภัยคุกคามระยะยาวที่องค์กรภาครัฐและ IT ต้องเร่งตรวจสอบ 🔗 https://securityonline.info/cisa-nsa-warn-of-brickstorm-backdoor-china-apt-targets-vmware-and-adfs-for-long-term-espionage 🧩 ช่องโหว่ lz4-java (CVE-2025-66566) รั่วข้อมูลหน่วยความจำ มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในไลบรารี lz4-java ที่ใช้กันแพร่หลายสำหรับการบีบอัดข้อมูล ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถดึงข้อมูลที่ยังไม่ได้ถูกล้างออกจากหน่วยความจำระหว่างการดีคอมเพรสได้ ซึ่งอาจรวมถึงรหัสผ่านหรือคีย์เข้ารหัส ปัญหามาจากการที่บัฟเฟอร์ไม่ได้ถูกเคลียร์ก่อนใช้งานใหม่ ทำให้ข้อมูลเก่าหลุดออกมาได้ การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อผู้โจมตีส่งข้อมูลบีบอัดที่ถูกปรับแต่งมาให้ระบบดีคอมเพรส ผลคือข้อมูลที่ควรจะถูกซ่อนกลับถูกเปิดเผยออกมา ทางแก้คือการอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 1.10.1 หรือหากยังไม่สามารถทำได้ ต้องล้างบัฟเฟอร์ด้วยตนเองก่อนใช้งาน 🔗 https://securityonline.info/high-severity-lz4-java-flaw-cve-2025-66566-leaks-uninitialized-memory-during-decompression 🔐 ช่องโหว่ Cal.com (CVE-2025-66489) เปิดทางให้ข้ามการยืนยันตัวตน แพลตฟอร์ม Cal.com ที่ใช้จัดการตารางนัดหมาย ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าสู่ระบบได้โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านจริง หากใส่ค่าในช่อง TOTP (รหัสยืนยันแบบครั้งเดียว) ระบบจะข้ามการตรวจสอบรหัสผ่านทันที แม้ผู้ใช้เปิด 2FA ก็ยังเสี่ยงเพราะระบบตรวจสอบแค่ TOTP โดยไม่สนใจรหัสผ่าน ส่งผลให้แค่รู้ที่อยู่อีเมลก็สามารถเจาะบัญชีได้แล้ว ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับความรุนแรงสูงสุดเกือบเต็ม 9.9 และมีการออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 5.9.8 ผู้ใช้ควรรีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดบัญชี 🔗 https://securityonline.info/critical-cal-com-flaw-cve-2025-66489-cvss-9-9-allows-authentication-bypass-by-submitting-fake-totp-codes 🌐 WatchGuard VPN เจอช่องโหว่เสี่ยง DoS และ RCE ผลิตภัณฑ์ Firebox ของ WatchGuard ถูกพบช่องโหว่หลายรายการที่กระทบต่อระบบ VPN และอินเทอร์เฟซจัดการ โดยเฉพาะ CVE-2025-11838 ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถทำให้บริการ VPN ล่มได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ใด ๆ นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่การฉีดคำสั่ง CLI และ XPath Injection ที่เปิดโอกาสให้เข้าถึงข้อมูลหรือรันโค้ดอันตรายได้ ช่องโหว่เหล่านี้กระทบหลายเวอร์ชันของ Fireware OS และบริษัทได้ออกแพตช์ใหม่เพื่อแก้ไขแล้ว ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้ระบบเครือข่ายเสียหาย 🔗 https://securityonline.info/high-severity-watchguard-flaws-risk-vpn-dos-and-rce-via-ikev2-memory-corruption 📡 MuddyWater ใช้ UDPGangster Backdoor เจาะระบบ กลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับอิหร่านชื่อ MuddyWater ถูกพบว่ากำลังใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ UDPGangster เพื่อโจมตีหน่วยงานรัฐบาลและโครงสร้างพื้นฐานในตุรกี อิสราเอล และอาเซอร์ไบจาน จุดเด่นคือการสื่อสารผ่านโปรโตคอล UDP แทนที่จะใช้ HTTP/HTTPS ทำให้หลบเลี่ยงการตรวจจับได้ดี มัลแวร์ถูกส่งผ่านอีเมลฟิชชิ่งที่แนบไฟล์ Word พร้อมมาโคร เมื่อเหยื่อเปิดใช้งานก็จะติดตั้งตัวเองและสร้าง persistence บนเครื่อง จากนั้นผู้โจมตีสามารถสั่งรันคำสั่ง ขโมยไฟล์ และควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและมีการตรวจสอบสภาพแวดล้อมเพื่อหลบเลี่ยงการวิเคราะห์ 🔗 https://securityonline.info/iran-linked-muddywater-deploys-udpgangster-backdoor-using-udp-protocol-for-covert-c2 🕵️‍♂️ Intellexa ใช้ช่องโหว่ 15 รายการเพื่อแพร่กระจาย Predator Spyware บริษัทผู้ขายสปายแวร์ชื่อ Intellexa ถูกเปิดโปงว่าใช้ช่องโหว่แบบ zero-day ถึง 15 รายการตั้งแต่ปี 2021 เพื่อแพร่กระจายสปายแวร์ Predator โดยเฉพาะการโจมตีผ่าน iOS exploit chain ที่ชื่อ “smack” ซึ่งสามารถเจาะระบบ iPhone ได้โดยไม่ต้องมีการโต้ตอบจากผู้ใช้ Predator ถูกใช้เพื่อสอดแนมเป้าหมายระดับสูง เช่น นักข่าว นักการเมือง และนักกิจกรรม โดยมีการขายให้กับรัฐบาลหลายประเทศ การเปิดเผยนี้สะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีเชิงรุกเพื่อการสอดแนมที่อันตรายและยากต่อการป้องกัน 🔗 https://securityonline.info/spyware-vendor-intellexa-used-15-zero-days-since-2021-deploying-predator-via-smack-ios-exploit-chain 📉 urllib3 พบช่องโหว่เสี่ยงทำให้ระบบล่ม ไลบรารี Python ยอดนิยมอย่าง urllib3 ถูกพบช่องโหว่ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถทำให้ระบบผู้ใช้ล่มได้ ช่องโหว่นี้เกิดจากการดีคอมเพรสข้อมูลที่ไม่มีการจำกัด ทำให้หน่วยความจำถูกใช้จนหมด และการสตรีมข้อมูลที่ไม่ถูกควบคุมจนทำให้ทรัพยากรถูกใช้เกินขีดจำกัด ผลคือระบบอาจหยุดทำงานหรือไม่ตอบสนอง การโจมตีสามารถทำได้ง่ายเพียงส่งข้อมูลที่ถูกปรับแต่งมาให้ระบบจัดการ การแก้ไขคือการอัปเดตเวอร์ชันใหม่ที่มีการจำกัดการดีคอมเพรสและการสตรีมเพื่อป้องกันการโจมตีแบบ DoS 🔗 https://securityonline.info/urllib3-flaws-risk-client-dos-via-unbounded-decompression-and-streaming-resource-exhaustion 🎯 ValleyRAT หลอกผู้หางานด้วย Foxit PDF Reader ปลอม มีการค้นพบการโจมตีใหม่ที่ใช้มัลแวร์ ValleyRAT โดยกลุ่มผู้โจมตีได้ทำการ sideload DLL อันตรายเข้าไปใน Foxit PDF Reader ที่ถูกดัดแปลง จากนั้นนำไปเผยแพร่ในเว็บไซต์หางานภาษาอังกฤษเพื่อหลอกผู้ใช้ที่กำลังหางาน เมื่อเหยื่อดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรม PDF Reader ปลอมนี้ มัลแวร์จะถูกโหลดเข้ามาในระบบทันที ทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมเครื่อง ขโมยข้อมูล และติดตั้ง payload เพิ่มเติมได้ การโจมตีนี้เน้นไปที่ผู้หางานในต่างประเทศที่อาจไม่ทันระวังภัย ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/valleyrat-targets-english-job-seekers-by-trojanizing-foxit-pdf-reader-with-dll-sideloading
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251208 #TechRadar

    โปรเจ็กเตอร์พกพา Xgimi Horizon 20 Max
    ถ้าใครกำลังมองหาโปรเจ็กเตอร์ที่ทั้งสว่างและภาพสวยจัด ๆ รุ่นใหม่จาก Xgimi ตัวนี้ถือว่าเป็นเรือธงเลย มันใช้ระบบเลเซอร์สามสี ให้ความสว่างสูงถึง 5,700 ISO lumens รองรับ Dolby Vision, HDR10+ และ IMAX Enhanced เรียกว่าดูหนังหรือเล่นเกมก็ได้ภาพคมชัด สีสด และเสียงที่ติดตั้งมาก็ไม่ธรรมดา มีลำโพงจาก Harman Kardon ที่ให้เสียงเบสแน่นและเสียงพูดชัดเจน จุดเด่นอีกอย่างคือฟีเจอร์ปรับภาพอัตโนมัติ ทั้ง keystone, zoom และ lens shift ทำให้ติดตั้งง่ายมาก แต่ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูง และยังไม่รองรับ 4K 120Hz สำหรับเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ ถึงอย่างนั้นก็ยังถือว่าเป็นโปรเจ็กเตอร์พกพาที่ครบเครื่องที่สุดในตลาดตอนนี้
    https://www.techradar.com/televisions/projectors/xgimi-horizon-20-max-review

    ลำโพง Marshall Middleton II
    Marshall กลับมาอีกครั้งกับลำโพง Bluetooth ขนาดกลางที่ชื่อ Middleton II จุดขายคือเสียงสเตอริโอที่แยกซ้ายขวาได้ชัดเจน ทำให้ฟังเพลงมีมิติและรายละเอียดมากกว่าลำโพงพกพาทั่วไป เสียงเบสลงได้ลึก เสียงกลางและสูงก็สมดุลดี แม้เปิดดังสุดเบสจะอัดแน่นไปบ้างแต่ยังถือว่าดีมาก แถมแบตเตอรี่ใช้งานได้ถึง 30 ชั่วโมง ดีไซน์ยังคงความคลาสสิกสไตล์แอมป์ Marshall พร้อมกันฝุ่นและกันน้ำระดับ IP67 แต่ด้วยขนาดและน้ำหนักที่ไม่เบามาก ทำให้พกพาไม่สะดวกเท่ารุ่นเล็ก Emberton III และราคาก็ใกล้เคียงรุ่นใหญ่ Kilburn III จนบางคนอาจลังเลว่าจะเลือกตัวไหนดี ถึงอย่างนั้นถ้าอยากได้ลำโพงกลางที่เสียงดีและดูเท่ Middleton II ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก
    https://www.techradar.com/audio/wireless-bluetooth-speakers/marshall-middleton-ii-review

    iOS 26 ยังขาดฟีเจอร์สำคัญ
    แม้ iOS 26 จะเปิดตัวไปแล้วและมีอัปเดตย่อยออกมา แต่ยังมีหลายฟีเจอร์ที่ผู้ใช้รอคอย เช่น การยกเครื่อง Siri ด้วย AI ที่คาดว่าจะมาในปี 2026 โดยใช้เทคโนโลยี Gemini ของ Google เพื่อให้ฉลาดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับ Liquid Glass ให้ผู้ใช้ปรับความโปร่งใสได้เอง, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้ง่ายขึ้น, Podcasts ที่จะมีการสร้าง chapter อัตโนมัติ และสุดท้ายคือการตั้ง “alarm” ให้กับ reminder เพื่อไม่ให้พลาดสิ่งสำคัญ ทั้งหมดนี้คาดว่าจะทยอยมาในอัปเดตย่อยของ iOS 26 ก่อนจะไปสู่ iOS 27 ในปีหน้า
    https://www.techradar.com/phones/iphone/5-features-that-are-still-missing-from-ios-26-and-its-not-just-the-siri-update

    ภัยไซเบอร์ที่ต้องจับตาในปีนี้
    โลกไซเบอร์ไม่ได้หยุดนิ่ง และปี 2026 มีแนวโน้มที่อันตรายจะซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ จากรายงานพบว่ากลุ่มแฮกเกอร์เปลี่ยนวิธีโจมตีจากการเข้ารหัสไฟล์เรียกค่าไถ่ มาเป็นการขโมยข้อมูลแล้วขู่เปิดเผยเพื่อกดดันให้เหยื่อจ่ายเงิน ตัวอย่างเช่นการโจมตีบริษัทโทรคมนาคมในอังกฤษที่ข้อมูลพนักงานและลูกค้าถูกขโมยไปมหาศาล นอกจากนี้ยังมีการใช้ช่องโหว่ในระบบ VPN และอุปกรณ์ edge เพื่อเจาะเข้าระบบ รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือ “EDR killers” ที่ทำให้ระบบตรวจจับภัยทำงานยากขึ้น สิ่งเหล่านี้บอกชัดว่าองค์กรต้องเร่งอุดช่องโหว่และเสริมการเฝ้าระวัง เพราะภัยไซเบอร์กำลังพัฒนาเร็วไม่แพ้เทคโนโลยีที่เราใช้
    https://www.techradar.com/pro/threats-to-watch-this-year-from-data-theft-and-extortion-to-edr-killers

    Starforge Systems Frieren PC สำหรับแฟนอนิเมะ
    นี่คือคอมพิวเตอร์เกมมิ่งที่ออกแบบมาเอาใจแฟนอนิเมะ Frieren: Beyond Journey’s End โดยเฉพาะ ตัวเครื่องใช้เคส Lian Li O11 Dynamic ที่ตกแต่งด้วยงานศิลป์จากอนิเมะ พร้อมไฟ RGB ที่ปรับได้เต็มที่ ภายในประกอบด้วย Intel Core i5-14600K, การ์ดจอ AMD Radeon RX 9070 XT, RAM 32GB และ SSD 1TB ทำให้เล่นเกมได้ลื่นทั้ง 1080p, 1440p และถึงขั้น 4K ถ้าเปิด FSR ของ AMD เสริม จุดเด่นคือดีไซน์สวยมากและมีของแถมอย่าง desk mat และ art panel แต่ราคาก็สูงถึง $2,499.99 ซึ่งถือว่าเป็นพรีเมียมสำหรับแฟนอนิเมะที่อยากได้เครื่องแรงและสวยในเวลาเดียวกัน
    https://www.techradar.com/computing/gaming-pcs/starforge-systems-frieren-pc-review

    กระเป๋ากล้อง Ulanzi 9L Sling Bag
    สำหรับคนที่ชอบพกกล้องไปถ่ายรูปนอกบ้าน Ulanzi 9L Sling Bag รุ่นนี้ถือว่าออกแบบมาได้ลงตัวมาก ขนาดกะทัดรัดแต่ใส่กล้องและเลนส์ได้ครบ พร้อมช่องสำหรับขาตั้งกล้องที่ติดตั้งมาให้โดยเฉพาะ วัสดุแข็งแรง กันละอองน้ำได้ดี และมีช่องแบ่งภายในที่ปรับได้ตามอุปกรณ์ จุดเด่นคือการเข้าถึงกล้องได้รวดเร็วเพราะเป็นแบบ sling สะพายข้าง แต่ข้อจำกัดคือความจุไม่มากนัก เหมาะกับคนที่พกอุปกรณ์ไม่เยอะและอยากได้ความคล่องตัวเป็นหลัก
    https://www.techradar.com/cameras/camera-accessories/ulanzi-9l-camera-sling-bag-with-tripod-holder-b122-review

    มอเตอร์ไซค์ Flying Flea รุ่นไฟฟ้า
    จากตำนานรถจักรยานยนต์ในสงครามโลกครั้งที่สอง Flying Flea ได้ถูกนำกลับมาสร้างใหม่ในเวอร์ชันไฟฟ้า ปี 2026 นี้ถือว่าเป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์ที่น่าตื่นเต้นที่สุด รถยังคงรูปลักษณ์คลาสสิกแต่เพิ่มเทคโนโลยีทันสมัยเข้าไป เช่น มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้แรงบิดทันใจ แบตเตอรี่ที่ถอดเปลี่ยนได้ และระบบเบรกที่ปลอดภัยกว่าเดิม จุดขายคือการผสมผสานความเป็นประวัติศาสตร์กับนวัตกรรมใหม่ ทำให้คนที่หลงใหลในรถคลาสสิกและสาย EV ต่างจับตามอง แต่แน่นอนว่าราคาก็ไม่ถูก และยังเป็นรุ่นที่ผลิตจำนวนจำกัด
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/this-electrified-ww2-motorbike-is-one-of-the-most-exciting-of-2026-here-are-5-things-you-need-know-about-the-flying-flea

    ประสบการณ์ซื้อ Kia EV6 คันแรก
    เรื่องเล่าของคนที่ตัดสินใจเปลี่ยนจากรถน้ำมันมาเป็นรถไฟฟ้า Kia EV6 แบบไม่ตั้งใจ แต่กลับพบทั้งข้อดีและสิ่งที่อยากให้รู้ก่อนซื้อ เขาเล่าว่าการชาร์จมีหลายระดับ ตั้งแต่ปลั๊กบ้านธรรมดาที่ช้ามาก ไปจนถึงเครื่องชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 20 นาทีถึง 80% แต่ก็ต้องทำใจว่าการชาร์จสาธารณะไม่ฟรีเสมอไป และระบบแอปพลิเคชันที่ใช้กับแต่ละเครือข่ายก็ทำให้ยุ่งยากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ต้องระวัง เช่น ระยะทางที่ลดลงในอากาศหนาว การไม่มียางอะไหล่ และแบตเตอรี่เล็ก 12V ที่ยังคงต้องดูแลเหมือนรถน้ำมัน แต่ข้อดีคือแรงบิดทันใจ ความเร็วที่น่าประทับใจ และไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/i-bought-a-kia-ev6-my-first-electric-car-here-are-9-things-i-wish-id-known-before-buying-an-ev

    รีวิวมือถือถึก Doogee V Max LR
    มือถือรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสายลุยจริง ๆ ด้วยแบตเตอรี่ขนาดมหึมา 20,500 mAh ที่ใช้งานได้เป็นสัปดาห์ และฟีเจอร์วัดระยะทางที่เหมาะกับคนทำงานก่อสร้าง แม้จะหนักและใหญ่จนพกพาลำบาก แต่ก็มีข้อดีคือทนทาน กันน้ำ กันฝุ่น และมีกล้องความละเอียดสูง จุดต่างจากรุ่น Play คือไม่มีโปรเจ็กเตอร์ ทำให้ราคาถูกลง แต่ยังคงข้อเสียเรื่องการออกแบบเคสที่ใช้งานไม่สะดวก
    https://www.techradar.com/pro/phone-communications/doogee-v-max-lr-rugged-phone-review

    ข่าวลือ iPhone 18 อาจซ่อนกล้องใต้จอ
    มีรายงานว่า Apple กำลังทดสอบเทคโนโลยีกล้องหน้าใต้จอสำหรับ iPhone 18 ที่จะเปิดตัวในปี 2026 ซึ่งหากเป็นจริงจะทำให้หน้าจอดูเต็มตาไร้รอยบากเหมือนเดิม เทคโนโลยีนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ Samsung เคยลองใช้กับ Galaxy Z Fold 3 ตั้งแต่ปี 2021 แต่คุณภาพยังไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม Apple มักจะนำเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาให้ใช้งานได้ดีกว่าเดิม ทำให้หลายคนคาดหวังว่ากล้องใต้จอของ iPhone จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ
    https://www.techradar.com/phones/iphone/the-iphone-18-may-finally-add-a-camera-feature-that-samsung-introduced-on-its-flagship-phones-in-2021

    แว่น MR ของ Meta เลื่อนเปิดตัวถึงปี 2027
    Meta มีแผนจะเปิดตัวแว่นตา Mixed Reality รุ่นใหม่ที่มีโค้ดเนมว่า Phoenix แต่ล่าสุดมีข้อมูลว่าการเปิดตัวถูกเลื่อนออกไปจนถึงปี 2027 เพื่อให้ทีมงานมีเวลาพัฒนาประสบการณ์ใช้งานให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น แว่นรุ่นนี้คาดว่าจะมีอุปกรณ์เสริมแยกสำหรับแบตเตอรี่และการประมวลผล ทำให้เบาขึ้นและใช้งานสะดวกกว่าเดิม แม้จะต้องรอนาน แต่ก็สะท้อนว่าบริษัทต้องการให้ผลิตภัณฑ์ออกมาอย่างไร้ข้อบกพร่อง
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/we-may-have-to-wait-until-2027-for-the-launch-of-the-next-pair-of-meta-mixed-reality-smart-glasses

    แอป Go Jauntly ชวนออกไปเดินเล่น
    นี่คือแอปที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้คนที่ใช้ชีวิตติดโต๊ะทำงานได้ออกไปเดินเล่นมากขึ้น แอปจะเสนอเส้นทางเดินที่น่าสนใจใกล้บ้านหรือที่ทำงาน พร้อมทั้งมีฟีเจอร์บันทึกเส้นทาง แชร์กับเพื่อน และค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ จากชุมชนผู้ใช้ จุดเด่นคือช่วยให้การเดินเล่นกลายเป็นกิจกรรมที่สนุกและมีเป้าหมาย ไม่ใช่แค่การออกกำลังกาย แต่ยังเป็นการค้นพบสิ่งใหม่ ๆ รอบตัว
    https://www.techradar.com/computing/websites-apps/go-jauntly

    ชิปจีนท้าชน Nvidia
    บริษัทผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่จากจีนกำลังเร่งการผลิตเพื่อแข่งขันกับ Nvidia ในตลาดกราฟิกและ AI แม้จะยังมีคำถามว่าความสามารถจะทัดเทียมได้จริงหรือไม่ แต่การขยายกำลังผลิตครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนที่จะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ และสร้างอุตสาหกรรมชิปที่แข็งแกร่งขึ้น
    https://www.techradar.com/news/this-chinese-chip-giant-is-boosting-production-to-try-and-take-on-nvidia-but-how-will-huawei-feel

    รีวิว Doogee V Max Play – โทรศัพท์ถึกที่เหมือนแบกก้อนอิฐ
    เรื่องราวของ Doogee V Max Play คือการพยายามสร้างสมาร์ทโฟนที่รวมทุกฟีเจอร์ไว้ในเครื่องเดียว แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นโทรศัพท์ที่หนักเกือบ 800 กรัม จนเหมือนต้องมี “ล่อ” ช่วยแบกเวลาเดินทาง จุดเด่นคือแบตเตอรี่ขนาด 20,500 mAh ที่อึดจนใช้งานได้เป็นสัปดาห์ กล้องหลัก 200MP ที่ถ่ายภาพคมชัด และยังมีโปรเจ็กเตอร์ในตัว แม้จะสว่างไม่มากแต่ก็พอใช้ดูหนังในห้องมืดได้ จุดอ่อนคือดีไซน์ที่เทอะทะและบัมเปอร์ที่ออกแบบพลาดจนใช้งานไม่สะดวก สรุปแล้วนี่คือโทรศัพท์ที่เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งหรือวางบนรถมากกว่าพกติดตัวไปเดินเล่น
    https://www.techradar.com/pro/phone-communications/doogee-v-max-play-rugged-phone-review

    Windows 11 ยังไม่สามารถโค่น Windows 10 ได้
    แม้ Microsoft จะพยายามผลักดัน Windows 11 แต่ข้อมูลล่าสุดยังบอกว่า Windows 10 ยังคงครองใจผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะในองค์กรที่ยังเลือกใช้ Windows 10 พร้อมซื้อแพ็กเกจอัปเดตความปลอดภัยเพิ่มเติมแทนการย้ายไป Windows 11 เหตุผลหลักคือค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนระบบสูง ทั้งฮาร์ดแวร์ใหม่ การทดสอบความเข้ากันได้ และการฝึกอบรมพนักงาน อีกทั้ง Windows 11 ยังไม่มีฟีเจอร์ที่บังคับให้ต้องเปลี่ยนทันที ทำให้การเติบโตของ Windows 11 มาจากเครื่องใหม่มากกว่าการแทนที่เครื่องเก่า
    https://www.techradar.com/pro/windows-11-still-cant-topple-its-older-siblings-usage-stats-show-windows-10-remains-mind-boggingly-popular

    เครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติปรับแรงดูดเอง – จริงๆ ไม่ได้ทำให้สะอาดขึ้น
    ปัจจุบันเครื่องดูดฝุ่นหลายรุ่นมีโหมด “Auto” ที่ปรับแรงดูดตามสภาพพื้นผิวหรือปริมาณฝุ่น เช่น Dyson ที่สามารถตรวจจับขนาดฝุ่นและแสดงผลบนหน้าจอ หรือ Shark ที่เพิ่มแรงดูดเมื่อถึงขอบห้อง แม้ฟังดูฉลาด แต่จากการทดสอบพบว่าการปรับแรงดูดอัตโนมัติไม่ได้ทำให้การทำความสะอาดดีขึ้นเสมอไป สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือกำลังดูดและการออกแบบหัวดูดมากกว่า อย่างไรก็ตามโหมด Auto ก็ช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้นและยืดอายุแบตเตอรี่ได้ เพราะเครื่องจะใช้พลังงานเท่าที่จำเป็น
    https://www.techradar.com/home/vacuums/how-useful-is-suction-automation-on-a-vacuum

    UPerfect UColor T3 – จอพกพาที่ใหญ่จนแทบไม่พก
    UPerfect UColor T3 เป็นจอ 4K ขนาด 23.8 นิ้วที่ถูกเรียกว่า “พกพา” แต่จริงๆ แล้วใหญ่จนใส่กระเป๋าเป้ไม่ได้ จุดเด่นคือดีไซน์บางเหมือนแท็บเล็ต ใช้สาย USB-C เส้นเดียวก็ทำงานได้ และยังมีขาตั้งในตัวพร้อมรองรับการติดตั้ง VESA เหมาะกับคนที่ต้องการจอเสริมคุณภาพสูงสำหรับการทำงานนอกสถานที่หรือใช้ในเซิร์ฟเวอร์รูม แม้ความสว่างไม่สูงนัก แต่หน้าจอแบบด้านช่วยลดแสงสะท้อน ทำให้ใช้งานได้ดีในสภาพแวดล้อมทั่วไป ถือเป็นจอที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง “จอเดสก์ท็อป” และ “จอพกพา” อย่างแท้จริง
    https://www.techradar.com/pro/i-reviewed-the-uperfect-ucolor-t3-and-this-4k-portable-monitor-challenges-what-portable-means

    AGM G3 Pro – โทรศัพท์ถึกพร้อมกล้องถ่ายภาพความร้อน
    AGM G3 Pro เป็นสมาร์ทโฟนสายถึกที่ดูหรูหราและมีฟีเจอร์พิเศษคือกล้องถ่ายภาพความร้อน สามารถตรวจจับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20°C ถึง 550°C เหมาะสำหรับงานช่าง วิศวกรรม หรือการตรวจสอบอุปกรณ์ที่ร้อนผิดปกติ ตัวเครื่องหนักเพียง 375 กรัม ซึ่งถือว่าเบากว่าหลายรุ่นในตลาด ใช้ชิป Dimensity 7300 พร้อม RAM 12GB และความจุ 512GB จุดเด่นอีกอย่างคือรองรับการชาร์จไร้สายและมีไฟ LED สำหรับใช้เป็นไฟแคมป์ แต่ราคาที่สูงเกือบ 700 ดอลลาร์ทำให้หลายคนลังเล เพราะมีรุ่นอื่นที่มีกล้องถ่ายความร้อนเช่นกันแต่ราคาถูกกว่า
    https://www.techradar.com/pro/phone-communications/agm-g3-pro-rugged-phone-review

    ทางเลือกใหม่แทน Ring Doorbell ราคาประหยัด
    ผู้เชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโฮมแนะนำว่าถ้าไม่อยากจ่ายแพงกับ Ring Doorbell ยังมีตัวเลือกที่คุ้มค่า เช่น Blink Video Doorbell ที่ราคาย่อมเยาและใช้งานง่าย, Eufy Security Video Doorbell ที่ไม่ต้องเสียค่าสมาชิกคลาวด์ และ Wyze Video Doorbell ที่มีฟีเจอร์ครบในราคาต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ ทั้งหมดนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ความปลอดภัยหน้าบ้านโดยไม่ต้องลงทุนสูง แม้คุณภาพภาพและระบบอาจไม่เทียบเท่า Ring แต่ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    https://www.techradar.com/home/home-security/want-a-cheap-ring-doorbell-alternative-im-a-smart-home-tech-expert-and-these-are-the-3-i-recommend

    Cybersecurity กลายเป็นกลยุทธ์หลักของบริษัทเทค
    ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวนและการแข่งขันสูง บริษัทเทคโนโลยีเริ่มมอง Cybersecurity ไม่ใช่แค่การป้องกัน แต่เป็น “กลยุทธ์” ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความได้เปรียบทางธุรกิจ การลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์จึงถูกใช้เป็นเครื่องมือสร้างความแตกต่างและลดความเสี่ยงจากการโจมตีที่อาจทำให้เสียชื่อเสียงหรือสูญเสียข้อมูลสำคัญ แนวโน้มนี้สะท้อนว่าความปลอดภัยไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนธุรกิจในระดับสูง
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/why-cybersecurity-is-now-a-strategic-lever-for-tech-firms-navigating-uncertainty
    📌📡🟡 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟡📡📌 #รวมข่าวIT #20251208 #TechRadar 🎥 โปรเจ็กเตอร์พกพา Xgimi Horizon 20 Max ถ้าใครกำลังมองหาโปรเจ็กเตอร์ที่ทั้งสว่างและภาพสวยจัด ๆ รุ่นใหม่จาก Xgimi ตัวนี้ถือว่าเป็นเรือธงเลย มันใช้ระบบเลเซอร์สามสี ให้ความสว่างสูงถึง 5,700 ISO lumens รองรับ Dolby Vision, HDR10+ และ IMAX Enhanced เรียกว่าดูหนังหรือเล่นเกมก็ได้ภาพคมชัด สีสด และเสียงที่ติดตั้งมาก็ไม่ธรรมดา มีลำโพงจาก Harman Kardon ที่ให้เสียงเบสแน่นและเสียงพูดชัดเจน จุดเด่นอีกอย่างคือฟีเจอร์ปรับภาพอัตโนมัติ ทั้ง keystone, zoom และ lens shift ทำให้ติดตั้งง่ายมาก แต่ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูง และยังไม่รองรับ 4K 120Hz สำหรับเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ ถึงอย่างนั้นก็ยังถือว่าเป็นโปรเจ็กเตอร์พกพาที่ครบเครื่องที่สุดในตลาดตอนนี้ 🔗 https://www.techradar.com/televisions/projectors/xgimi-horizon-20-max-review 🔊 ลำโพง Marshall Middleton II Marshall กลับมาอีกครั้งกับลำโพง Bluetooth ขนาดกลางที่ชื่อ Middleton II จุดขายคือเสียงสเตอริโอที่แยกซ้ายขวาได้ชัดเจน ทำให้ฟังเพลงมีมิติและรายละเอียดมากกว่าลำโพงพกพาทั่วไป เสียงเบสลงได้ลึก เสียงกลางและสูงก็สมดุลดี แม้เปิดดังสุดเบสจะอัดแน่นไปบ้างแต่ยังถือว่าดีมาก แถมแบตเตอรี่ใช้งานได้ถึง 30 ชั่วโมง ดีไซน์ยังคงความคลาสสิกสไตล์แอมป์ Marshall พร้อมกันฝุ่นและกันน้ำระดับ IP67 แต่ด้วยขนาดและน้ำหนักที่ไม่เบามาก ทำให้พกพาไม่สะดวกเท่ารุ่นเล็ก Emberton III และราคาก็ใกล้เคียงรุ่นใหญ่ Kilburn III จนบางคนอาจลังเลว่าจะเลือกตัวไหนดี ถึงอย่างนั้นถ้าอยากได้ลำโพงกลางที่เสียงดีและดูเท่ Middleton II ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก 🔗 https://www.techradar.com/audio/wireless-bluetooth-speakers/marshall-middleton-ii-review 📱 iOS 26 ยังขาดฟีเจอร์สำคัญ แม้ iOS 26 จะเปิดตัวไปแล้วและมีอัปเดตย่อยออกมา แต่ยังมีหลายฟีเจอร์ที่ผู้ใช้รอคอย เช่น การยกเครื่อง Siri ด้วย AI ที่คาดว่าจะมาในปี 2026 โดยใช้เทคโนโลยี Gemini ของ Google เพื่อให้ฉลาดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับ Liquid Glass ให้ผู้ใช้ปรับความโปร่งใสได้เอง, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้ง่ายขึ้น, Podcasts ที่จะมีการสร้าง chapter อัตโนมัติ และสุดท้ายคือการตั้ง “alarm” ให้กับ reminder เพื่อไม่ให้พลาดสิ่งสำคัญ ทั้งหมดนี้คาดว่าจะทยอยมาในอัปเดตย่อยของ iOS 26 ก่อนจะไปสู่ iOS 27 ในปีหน้า 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/5-features-that-are-still-missing-from-ios-26-and-its-not-just-the-siri-update 🛡️ ภัยไซเบอร์ที่ต้องจับตาในปีนี้ โลกไซเบอร์ไม่ได้หยุดนิ่ง และปี 2026 มีแนวโน้มที่อันตรายจะซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ จากรายงานพบว่ากลุ่มแฮกเกอร์เปลี่ยนวิธีโจมตีจากการเข้ารหัสไฟล์เรียกค่าไถ่ มาเป็นการขโมยข้อมูลแล้วขู่เปิดเผยเพื่อกดดันให้เหยื่อจ่ายเงิน ตัวอย่างเช่นการโจมตีบริษัทโทรคมนาคมในอังกฤษที่ข้อมูลพนักงานและลูกค้าถูกขโมยไปมหาศาล นอกจากนี้ยังมีการใช้ช่องโหว่ในระบบ VPN และอุปกรณ์ edge เพื่อเจาะเข้าระบบ รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือ “EDR killers” ที่ทำให้ระบบตรวจจับภัยทำงานยากขึ้น สิ่งเหล่านี้บอกชัดว่าองค์กรต้องเร่งอุดช่องโหว่และเสริมการเฝ้าระวัง เพราะภัยไซเบอร์กำลังพัฒนาเร็วไม่แพ้เทคโนโลยีที่เราใช้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/threats-to-watch-this-year-from-data-theft-and-extortion-to-edr-killers 💻 Starforge Systems Frieren PC สำหรับแฟนอนิเมะ นี่คือคอมพิวเตอร์เกมมิ่งที่ออกแบบมาเอาใจแฟนอนิเมะ Frieren: Beyond Journey’s End โดยเฉพาะ ตัวเครื่องใช้เคส Lian Li O11 Dynamic ที่ตกแต่งด้วยงานศิลป์จากอนิเมะ พร้อมไฟ RGB ที่ปรับได้เต็มที่ ภายในประกอบด้วย Intel Core i5-14600K, การ์ดจอ AMD Radeon RX 9070 XT, RAM 32GB และ SSD 1TB ทำให้เล่นเกมได้ลื่นทั้ง 1080p, 1440p และถึงขั้น 4K ถ้าเปิด FSR ของ AMD เสริม จุดเด่นคือดีไซน์สวยมากและมีของแถมอย่าง desk mat และ art panel แต่ราคาก็สูงถึง $2,499.99 ซึ่งถือว่าเป็นพรีเมียมสำหรับแฟนอนิเมะที่อยากได้เครื่องแรงและสวยในเวลาเดียวกัน 🔗 https://www.techradar.com/computing/gaming-pcs/starforge-systems-frieren-pc-review 🎒 กระเป๋ากล้อง Ulanzi 9L Sling Bag สำหรับคนที่ชอบพกกล้องไปถ่ายรูปนอกบ้าน Ulanzi 9L Sling Bag รุ่นนี้ถือว่าออกแบบมาได้ลงตัวมาก ขนาดกะทัดรัดแต่ใส่กล้องและเลนส์ได้ครบ พร้อมช่องสำหรับขาตั้งกล้องที่ติดตั้งมาให้โดยเฉพาะ วัสดุแข็งแรง กันละอองน้ำได้ดี และมีช่องแบ่งภายในที่ปรับได้ตามอุปกรณ์ จุดเด่นคือการเข้าถึงกล้องได้รวดเร็วเพราะเป็นแบบ sling สะพายข้าง แต่ข้อจำกัดคือความจุไม่มากนัก เหมาะกับคนที่พกอุปกรณ์ไม่เยอะและอยากได้ความคล่องตัวเป็นหลัก 🔗 https://www.techradar.com/cameras/camera-accessories/ulanzi-9l-camera-sling-bag-with-tripod-holder-b122-review 🏍️ มอเตอร์ไซค์ Flying Flea รุ่นไฟฟ้า จากตำนานรถจักรยานยนต์ในสงครามโลกครั้งที่สอง Flying Flea ได้ถูกนำกลับมาสร้างใหม่ในเวอร์ชันไฟฟ้า ปี 2026 นี้ถือว่าเป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์ที่น่าตื่นเต้นที่สุด รถยังคงรูปลักษณ์คลาสสิกแต่เพิ่มเทคโนโลยีทันสมัยเข้าไป เช่น มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้แรงบิดทันใจ แบตเตอรี่ที่ถอดเปลี่ยนได้ และระบบเบรกที่ปลอดภัยกว่าเดิม จุดขายคือการผสมผสานความเป็นประวัติศาสตร์กับนวัตกรรมใหม่ ทำให้คนที่หลงใหลในรถคลาสสิกและสาย EV ต่างจับตามอง แต่แน่นอนว่าราคาก็ไม่ถูก และยังเป็นรุ่นที่ผลิตจำนวนจำกัด 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/this-electrified-ww2-motorbike-is-one-of-the-most-exciting-of-2026-here-are-5-things-you-need-know-about-the-flying-flea 🚗 ประสบการณ์ซื้อ Kia EV6 คันแรก เรื่องเล่าของคนที่ตัดสินใจเปลี่ยนจากรถน้ำมันมาเป็นรถไฟฟ้า Kia EV6 แบบไม่ตั้งใจ แต่กลับพบทั้งข้อดีและสิ่งที่อยากให้รู้ก่อนซื้อ เขาเล่าว่าการชาร์จมีหลายระดับ ตั้งแต่ปลั๊กบ้านธรรมดาที่ช้ามาก ไปจนถึงเครื่องชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 20 นาทีถึง 80% แต่ก็ต้องทำใจว่าการชาร์จสาธารณะไม่ฟรีเสมอไป และระบบแอปพลิเคชันที่ใช้กับแต่ละเครือข่ายก็ทำให้ยุ่งยากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ต้องระวัง เช่น ระยะทางที่ลดลงในอากาศหนาว การไม่มียางอะไหล่ และแบตเตอรี่เล็ก 12V ที่ยังคงต้องดูแลเหมือนรถน้ำมัน แต่ข้อดีคือแรงบิดทันใจ ความเร็วที่น่าประทับใจ และไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/i-bought-a-kia-ev6-my-first-electric-car-here-are-9-things-i-wish-id-known-before-buying-an-ev 📱 รีวิวมือถือถึก Doogee V Max LR มือถือรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสายลุยจริง ๆ ด้วยแบตเตอรี่ขนาดมหึมา 20,500 mAh ที่ใช้งานได้เป็นสัปดาห์ และฟีเจอร์วัดระยะทางที่เหมาะกับคนทำงานก่อสร้าง แม้จะหนักและใหญ่จนพกพาลำบาก แต่ก็มีข้อดีคือทนทาน กันน้ำ กันฝุ่น และมีกล้องความละเอียดสูง จุดต่างจากรุ่น Play คือไม่มีโปรเจ็กเตอร์ ทำให้ราคาถูกลง แต่ยังคงข้อเสียเรื่องการออกแบบเคสที่ใช้งานไม่สะดวก 🔗 https://www.techradar.com/pro/phone-communications/doogee-v-max-lr-rugged-phone-review 📷 ข่าวลือ iPhone 18 อาจซ่อนกล้องใต้จอ มีรายงานว่า Apple กำลังทดสอบเทคโนโลยีกล้องหน้าใต้จอสำหรับ iPhone 18 ที่จะเปิดตัวในปี 2026 ซึ่งหากเป็นจริงจะทำให้หน้าจอดูเต็มตาไร้รอยบากเหมือนเดิม เทคโนโลยีนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ Samsung เคยลองใช้กับ Galaxy Z Fold 3 ตั้งแต่ปี 2021 แต่คุณภาพยังไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม Apple มักจะนำเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาให้ใช้งานได้ดีกว่าเดิม ทำให้หลายคนคาดหวังว่ากล้องใต้จอของ iPhone จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/the-iphone-18-may-finally-add-a-camera-feature-that-samsung-introduced-on-its-flagship-phones-in-2021 🥽 แว่น MR ของ Meta เลื่อนเปิดตัวถึงปี 2027 Meta มีแผนจะเปิดตัวแว่นตา Mixed Reality รุ่นใหม่ที่มีโค้ดเนมว่า Phoenix แต่ล่าสุดมีข้อมูลว่าการเปิดตัวถูกเลื่อนออกไปจนถึงปี 2027 เพื่อให้ทีมงานมีเวลาพัฒนาประสบการณ์ใช้งานให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น แว่นรุ่นนี้คาดว่าจะมีอุปกรณ์เสริมแยกสำหรับแบตเตอรี่และการประมวลผล ทำให้เบาขึ้นและใช้งานสะดวกกว่าเดิม แม้จะต้องรอนาน แต่ก็สะท้อนว่าบริษัทต้องการให้ผลิตภัณฑ์ออกมาอย่างไร้ข้อบกพร่อง 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/we-may-have-to-wait-until-2027-for-the-launch-of-the-next-pair-of-meta-mixed-reality-smart-glasses 🌿 แอป Go Jauntly ชวนออกไปเดินเล่น นี่คือแอปที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้คนที่ใช้ชีวิตติดโต๊ะทำงานได้ออกไปเดินเล่นมากขึ้น แอปจะเสนอเส้นทางเดินที่น่าสนใจใกล้บ้านหรือที่ทำงาน พร้อมทั้งมีฟีเจอร์บันทึกเส้นทาง แชร์กับเพื่อน และค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ จากชุมชนผู้ใช้ จุดเด่นคือช่วยให้การเดินเล่นกลายเป็นกิจกรรมที่สนุกและมีเป้าหมาย ไม่ใช่แค่การออกกำลังกาย แต่ยังเป็นการค้นพบสิ่งใหม่ ๆ รอบตัว 🔗 https://www.techradar.com/computing/websites-apps/go-jauntly 💻 ชิปจีนท้าชน Nvidia บริษัทผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่จากจีนกำลังเร่งการผลิตเพื่อแข่งขันกับ Nvidia ในตลาดกราฟิกและ AI แม้จะยังมีคำถามว่าความสามารถจะทัดเทียมได้จริงหรือไม่ แต่การขยายกำลังผลิตครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนที่จะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ และสร้างอุตสาหกรรมชิปที่แข็งแกร่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/news/this-chinese-chip-giant-is-boosting-production-to-try-and-take-on-nvidia-but-how-will-huawei-feel 📱 รีวิว Doogee V Max Play – โทรศัพท์ถึกที่เหมือนแบกก้อนอิฐ เรื่องราวของ Doogee V Max Play คือการพยายามสร้างสมาร์ทโฟนที่รวมทุกฟีเจอร์ไว้ในเครื่องเดียว แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นโทรศัพท์ที่หนักเกือบ 800 กรัม จนเหมือนต้องมี “ล่อ” ช่วยแบกเวลาเดินทาง จุดเด่นคือแบตเตอรี่ขนาด 20,500 mAh ที่อึดจนใช้งานได้เป็นสัปดาห์ กล้องหลัก 200MP ที่ถ่ายภาพคมชัด และยังมีโปรเจ็กเตอร์ในตัว แม้จะสว่างไม่มากแต่ก็พอใช้ดูหนังในห้องมืดได้ จุดอ่อนคือดีไซน์ที่เทอะทะและบัมเปอร์ที่ออกแบบพลาดจนใช้งานไม่สะดวก สรุปแล้วนี่คือโทรศัพท์ที่เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งหรือวางบนรถมากกว่าพกติดตัวไปเดินเล่น 🔗 https://www.techradar.com/pro/phone-communications/doogee-v-max-play-rugged-phone-review 💻 Windows 11 ยังไม่สามารถโค่น Windows 10 ได้ แม้ Microsoft จะพยายามผลักดัน Windows 11 แต่ข้อมูลล่าสุดยังบอกว่า Windows 10 ยังคงครองใจผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะในองค์กรที่ยังเลือกใช้ Windows 10 พร้อมซื้อแพ็กเกจอัปเดตความปลอดภัยเพิ่มเติมแทนการย้ายไป Windows 11 เหตุผลหลักคือค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนระบบสูง ทั้งฮาร์ดแวร์ใหม่ การทดสอบความเข้ากันได้ และการฝึกอบรมพนักงาน อีกทั้ง Windows 11 ยังไม่มีฟีเจอร์ที่บังคับให้ต้องเปลี่ยนทันที ทำให้การเติบโตของ Windows 11 มาจากเครื่องใหม่มากกว่าการแทนที่เครื่องเก่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/windows-11-still-cant-topple-its-older-siblings-usage-stats-show-windows-10-remains-mind-boggingly-popular 🧹 เครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติปรับแรงดูดเอง – จริงๆ ไม่ได้ทำให้สะอาดขึ้น ปัจจุบันเครื่องดูดฝุ่นหลายรุ่นมีโหมด “Auto” ที่ปรับแรงดูดตามสภาพพื้นผิวหรือปริมาณฝุ่น เช่น Dyson ที่สามารถตรวจจับขนาดฝุ่นและแสดงผลบนหน้าจอ หรือ Shark ที่เพิ่มแรงดูดเมื่อถึงขอบห้อง แม้ฟังดูฉลาด แต่จากการทดสอบพบว่าการปรับแรงดูดอัตโนมัติไม่ได้ทำให้การทำความสะอาดดีขึ้นเสมอไป สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือกำลังดูดและการออกแบบหัวดูดมากกว่า อย่างไรก็ตามโหมด Auto ก็ช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้นและยืดอายุแบตเตอรี่ได้ เพราะเครื่องจะใช้พลังงานเท่าที่จำเป็น 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/how-useful-is-suction-automation-on-a-vacuum 🖥️ UPerfect UColor T3 – จอพกพาที่ใหญ่จนแทบไม่พก UPerfect UColor T3 เป็นจอ 4K ขนาด 23.8 นิ้วที่ถูกเรียกว่า “พกพา” แต่จริงๆ แล้วใหญ่จนใส่กระเป๋าเป้ไม่ได้ จุดเด่นคือดีไซน์บางเหมือนแท็บเล็ต ใช้สาย USB-C เส้นเดียวก็ทำงานได้ และยังมีขาตั้งในตัวพร้อมรองรับการติดตั้ง VESA เหมาะกับคนที่ต้องการจอเสริมคุณภาพสูงสำหรับการทำงานนอกสถานที่หรือใช้ในเซิร์ฟเวอร์รูม แม้ความสว่างไม่สูงนัก แต่หน้าจอแบบด้านช่วยลดแสงสะท้อน ทำให้ใช้งานได้ดีในสภาพแวดล้อมทั่วไป ถือเป็นจอที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง “จอเดสก์ท็อป” และ “จอพกพา” อย่างแท้จริง 🔗 https://www.techradar.com/pro/i-reviewed-the-uperfect-ucolor-t3-and-this-4k-portable-monitor-challenges-what-portable-means 🔥 AGM G3 Pro – โทรศัพท์ถึกพร้อมกล้องถ่ายภาพความร้อน AGM G3 Pro เป็นสมาร์ทโฟนสายถึกที่ดูหรูหราและมีฟีเจอร์พิเศษคือกล้องถ่ายภาพความร้อน สามารถตรวจจับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20°C ถึง 550°C เหมาะสำหรับงานช่าง วิศวกรรม หรือการตรวจสอบอุปกรณ์ที่ร้อนผิดปกติ ตัวเครื่องหนักเพียง 375 กรัม ซึ่งถือว่าเบากว่าหลายรุ่นในตลาด ใช้ชิป Dimensity 7300 พร้อม RAM 12GB และความจุ 512GB จุดเด่นอีกอย่างคือรองรับการชาร์จไร้สายและมีไฟ LED สำหรับใช้เป็นไฟแคมป์ แต่ราคาที่สูงเกือบ 700 ดอลลาร์ทำให้หลายคนลังเล เพราะมีรุ่นอื่นที่มีกล้องถ่ายความร้อนเช่นกันแต่ราคาถูกกว่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/phone-communications/agm-g3-pro-rugged-phone-review 🔔 ทางเลือกใหม่แทน Ring Doorbell ราคาประหยัด ผู้เชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโฮมแนะนำว่าถ้าไม่อยากจ่ายแพงกับ Ring Doorbell ยังมีตัวเลือกที่คุ้มค่า เช่น Blink Video Doorbell ที่ราคาย่อมเยาและใช้งานง่าย, Eufy Security Video Doorbell ที่ไม่ต้องเสียค่าสมาชิกคลาวด์ และ Wyze Video Doorbell ที่มีฟีเจอร์ครบในราคาต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ ทั้งหมดนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ความปลอดภัยหน้าบ้านโดยไม่ต้องลงทุนสูง แม้คุณภาพภาพและระบบอาจไม่เทียบเท่า Ring แต่ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้ทั่วไป 🔗 https://www.techradar.com/home/home-security/want-a-cheap-ring-doorbell-alternative-im-a-smart-home-tech-expert-and-these-are-the-3-i-recommend 🛡️ Cybersecurity กลายเป็นกลยุทธ์หลักของบริษัทเทค ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวนและการแข่งขันสูง บริษัทเทคโนโลยีเริ่มมอง Cybersecurity ไม่ใช่แค่การป้องกัน แต่เป็น “กลยุทธ์” ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความได้เปรียบทางธุรกิจ การลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์จึงถูกใช้เป็นเครื่องมือสร้างความแตกต่างและลดความเสี่ยงจากการโจมตีที่อาจทำให้เสียชื่อเสียงหรือสูญเสียข้อมูลสำคัญ แนวโน้มนี้สะท้อนว่าความปลอดภัยไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนธุรกิจในระดับสูง ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/why-cybersecurity-is-now-a-strategic-lever-for-tech-firms-navigating-uncertainty
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน! มีรายงานว่า “กระเช้าเนิน 350” ถูกทำลายลงแล้วในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของปราสาทตาควาย
    .
    หน่วยความมั่นคงกำลังประเมินสถานการณ์และติดตามผลกระทบในพื้นที่อย่างใกล้ชิด กองทัพยืนยันปฏิบัติเต็มกำลัง เพื่อคุ้มครองประชาชนและอธิปไตยของชาติ
    .
    BREAKING! Reports indicate that the “Noen 350 cable station” has been destroyed in an area west of Ta Kwai Temple.
    Security units are assessing the situation and monitoring the impact on the ground. The Royal Thai Army reaffirms its full commitment to protecting the people and defending national sovereignty.
    .
    #news1 #news1live #TruthFromThailand #scambodia #Hunsenfiredfirst #CambodiaNoCeasefire #shorts #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง #ปกป้องอธิปไตย #กองทัพภาคที่2 #กองทัพไทย
    ด่วน! มีรายงานว่า “กระเช้าเนิน 350” ถูกทำลายลงแล้วในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของปราสาทตาควาย . หน่วยความมั่นคงกำลังประเมินสถานการณ์และติดตามผลกระทบในพื้นที่อย่างใกล้ชิด กองทัพยืนยันปฏิบัติเต็มกำลัง เพื่อคุ้มครองประชาชนและอธิปไตยของชาติ . BREAKING! Reports indicate that the “Noen 350 cable station” has been destroyed in an area west of Ta Kwai Temple. Security units are assessing the situation and monitoring the impact on the ground. The Royal Thai Army reaffirms its full commitment to protecting the people and defending national sovereignty. . #news1 #news1live #TruthFromThailand #scambodia #Hunsenfiredfirst #CambodiaNoCeasefire #shorts #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง #ปกป้องอธิปไตย #กองทัพภาคที่2 #กองทัพไทย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
  • Second IC: Homemade Silicon Chips โดย Sam Zeloof

    บทความนี้เล่าเรื่องการสร้างชิปทรานซิสเตอร์กว่า 1,000 ตัวด้วยกระบวนการ DIY โดย Sam Zeloof ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของการทำ Integrated Circuit (IC) แบบโฮมเมด

    Sam Zeloof นักทดลองด้านอิเล็กทรอนิกส์ที่เริ่มทำชิปตั้งแต่สมัยมัธยม ได้เผยแพร่ผลงานใหม่ชื่อ Z2 ซึ่งเป็นชิปที่มีทรานซิสเตอร์กว่า 1,200 ตัว ผลิตขึ้นด้วยกระบวนการ DIY ในโรงงานเล็กๆ ที่บ้าน โดยใช้เทคนิค polysilicon gate process ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ Intel ใช้ในโปรเซสเซอร์รุ่นแรกๆ อย่าง Intel 4004

    ก่อนหน้านี้ Sam เคยสร้าง Z1 amplifier ที่มีเพียง 6 ทรานซิสเตอร์เพื่อทดสอบกระบวนการ แต่ครั้งนี้เขาสามารถเพิ่มจำนวนทรานซิสเตอร์ได้มหาศาล ทำให้เข้าใกล้การสร้างวงจรที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่นหน่วยความจำหรือวงจรดิจิทัลเต็มรูปแบบ

    สิ่งที่โดดเด่นคือการเปลี่ยนจาก metal gate ไปเป็น polysilicon gate ทำให้ชิปใหม่มี threshold voltage (Vth) ต่ำลง และสามารถทำงานร่วมกับแรงดันมาตรฐาน 2.5V–3.3V ได้ ต่างจากรุ่นก่อนที่ต้องใช้แบตเตอรี่แรงดันสูงถึง 9V เพื่อให้ทำงานได้ นอกจากนี้ยังพบว่า leakage current ต่ำมาก ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีเกินคาดสำหรับการผลิตแบบโฮมเมด

    Sam ใช้เครื่องมือพื้นฐาน เช่น microscope, hotplate, tube furnace และ photoresist รวมถึงการซื้อเวเฟอร์ที่มีการเคลือบชั้น polysilicon และ SiO₂ มาแล้วจากโรงงาน เพื่อลดขั้นตอนที่อันตรายและซับซ้อน เขายังใช้ซอฟต์แวร์ง่ายๆ อย่าง Photoshop ในการออกแบบ layout ของชิป

    แม้ผลลัพธ์ยังมีข้อจำกัด เช่น yield ต่ำและความผิดพลาดในการจัดเรียงเลเยอร์ แต่การที่สามารถสร้างชิปที่มีทรานซิสเตอร์มากกว่า 1,000 ตัวได้ด้วยอุปกรณ์พื้นฐาน ถือเป็นการพิสูจน์ว่า DIY IC fabrication สามารถก้าวไปไกลกว่าการทดลองเล็กๆ และอาจเปิดทางให้ผู้สนใจทั่วโลกได้ลองทำสิ่งที่เคยเป็นไปไม่ได้มาก่อน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Z2 Chip
    มีทรานซิสเตอร์กว่า 1,200 ตัว ผลิตด้วยกระบวนการ DIY

    Polysilicon Gate Process
    ทำให้ threshold voltage ต่ำลงและรองรับแรงดันมาตรฐาน 2.5–3.3V

    คุณสมบัติเด่น
    leakage current ต่ำมาก, rise/fall time < 10 ns

    เครื่องมือที่ใช้
    อุปกรณ์พื้นฐาน เช่น microscope, hotplate, tube furnace และ photoresist

    ข้อจำกัดของกระบวนการ DIY
    yield ต่ำ, alignment ของเลเยอร์ไม่สมบูรณ์ และยังไม่รองรับ CMOS เต็มรูปแบบ

    https://sam.zeloof.xyz/second-ic/
    🔬 Second IC: Homemade Silicon Chips โดย Sam Zeloof บทความนี้เล่าเรื่องการสร้างชิปทรานซิสเตอร์กว่า 1,000 ตัวด้วยกระบวนการ DIY โดย Sam Zeloof ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของการทำ Integrated Circuit (IC) แบบโฮมเมด Sam Zeloof นักทดลองด้านอิเล็กทรอนิกส์ที่เริ่มทำชิปตั้งแต่สมัยมัธยม ได้เผยแพร่ผลงานใหม่ชื่อ Z2 ซึ่งเป็นชิปที่มีทรานซิสเตอร์กว่า 1,200 ตัว ผลิตขึ้นด้วยกระบวนการ DIY ในโรงงานเล็กๆ ที่บ้าน โดยใช้เทคนิค polysilicon gate process ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ Intel ใช้ในโปรเซสเซอร์รุ่นแรกๆ อย่าง Intel 4004 ก่อนหน้านี้ Sam เคยสร้าง Z1 amplifier ที่มีเพียง 6 ทรานซิสเตอร์เพื่อทดสอบกระบวนการ แต่ครั้งนี้เขาสามารถเพิ่มจำนวนทรานซิสเตอร์ได้มหาศาล ทำให้เข้าใกล้การสร้างวงจรที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่นหน่วยความจำหรือวงจรดิจิทัลเต็มรูปแบบ สิ่งที่โดดเด่นคือการเปลี่ยนจาก metal gate ไปเป็น polysilicon gate ทำให้ชิปใหม่มี threshold voltage (Vth) ต่ำลง และสามารถทำงานร่วมกับแรงดันมาตรฐาน 2.5V–3.3V ได้ ต่างจากรุ่นก่อนที่ต้องใช้แบตเตอรี่แรงดันสูงถึง 9V เพื่อให้ทำงานได้ นอกจากนี้ยังพบว่า leakage current ต่ำมาก ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีเกินคาดสำหรับการผลิตแบบโฮมเมด Sam ใช้เครื่องมือพื้นฐาน เช่น microscope, hotplate, tube furnace และ photoresist รวมถึงการซื้อเวเฟอร์ที่มีการเคลือบชั้น polysilicon และ SiO₂ มาแล้วจากโรงงาน เพื่อลดขั้นตอนที่อันตรายและซับซ้อน เขายังใช้ซอฟต์แวร์ง่ายๆ อย่าง Photoshop ในการออกแบบ layout ของชิป แม้ผลลัพธ์ยังมีข้อจำกัด เช่น yield ต่ำและความผิดพลาดในการจัดเรียงเลเยอร์ แต่การที่สามารถสร้างชิปที่มีทรานซิสเตอร์มากกว่า 1,000 ตัวได้ด้วยอุปกรณ์พื้นฐาน ถือเป็นการพิสูจน์ว่า DIY IC fabrication สามารถก้าวไปไกลกว่าการทดลองเล็กๆ และอาจเปิดทางให้ผู้สนใจทั่วโลกได้ลองทำสิ่งที่เคยเป็นไปไม่ได้มาก่อน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Z2 Chip ➡️ มีทรานซิสเตอร์กว่า 1,200 ตัว ผลิตด้วยกระบวนการ DIY ✅ Polysilicon Gate Process ➡️ ทำให้ threshold voltage ต่ำลงและรองรับแรงดันมาตรฐาน 2.5–3.3V ✅ คุณสมบัติเด่น ➡️ leakage current ต่ำมาก, rise/fall time < 10 ns ✅ เครื่องมือที่ใช้ ➡️ อุปกรณ์พื้นฐาน เช่น microscope, hotplate, tube furnace และ photoresist ‼️ ข้อจำกัดของกระบวนการ DIY ⛔ yield ต่ำ, alignment ของเลเยอร์ไม่สมบูรณ์ และยังไม่รองรับ CMOS เต็มรูปแบบ https://sam.zeloof.xyz/second-ic/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทั้งบริเวณช่องอานม้า เนิน 677 ห้วยตามาเรีย พื้นที่คนา และปราสาทตาเมือนธม
    ขอส่งกำลังใจให้ทหารไทยทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องประชาชนและอธิปไตย
    .
    BREAKING! Reports indicate heightened tension along multiple border areas —
    including Chong Ar Ma, Hill 677, Huai Ta Maria, Phueng Khana, and Prasat Ta Muen Thom.
    Our thoughts are with all Thai soldiers safeguarding the people and the nation’s sovereignty.
    .
    #news1 #news1live #TruthFromThailand #scambodia #Hunsenfiredfirst #CambodiaNoCeasefire #shorts #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง #ปกป้องอธิปไตย
    #กองทัพภาคที่2 #กองทัพไทย
    ทั้งบริเวณช่องอานม้า เนิน 677 ห้วยตามาเรีย พื้นที่คนา และปราสาทตาเมือนธม ขอส่งกำลังใจให้ทหารไทยทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องประชาชนและอธิปไตย . BREAKING! Reports indicate heightened tension along multiple border areas — including Chong Ar Ma, Hill 677, Huai Ta Maria, Phueng Khana, and Prasat Ta Muen Thom. Our thoughts are with all Thai soldiers safeguarding the people and the nation’s sovereignty. . #news1 #news1live #TruthFromThailand #scambodia #Hunsenfiredfirst #CambodiaNoCeasefire #shorts #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #สันติภาพไม่มีอยู่จริง #ปกป้องอธิปไตย #กองทัพภาคที่2 #กองทัพไทย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • Windows 11 นำ Agenda View กลับมา แต่ใช้ WebView 2

    Microsoft กำลังนำฟีเจอร์ Agenda View กลับคืนสู่ Windows 11 หลังจากที่เคยถูกถอดออกไปตั้งแต่เปิดตัวในปี 2021 โดยฟีเจอร์นี้เคยอยู่ใน Action Center ของ Windows 10 และช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูตารางนัดหมายได้สะดวกขึ้น แต่การกลับมาครั้งนี้มีความแตกต่าง เพราะ Microsoft เลือกใช้ WebView 2 Runtime ในการแสดงผลแทนที่จะสร้างเป็นระบบ Native โดยตรง

    การทดสอบพบว่า เมื่อเปิด Agenda View จะมีการสร้างหลาย Process ของ WebView 2 ใน Task Manager และทำให้ Windows Shell Experience Host ใช้ CPU เพิ่มขึ้นถึง 6–20% ก่อนจะค่อยๆ ลดลง ซึ่งหมายความว่าฟีเจอร์นี้อาจมีผลต่อประสิทธิภาพเครื่อง โดยเฉพาะกับผู้ใช้ที่มีสเปกต่ำหรือใช้งานหลายโปรแกรมพร้อมกัน

    อย่างไรก็ตาม Microsoft มีเหตุผลที่เลือกใช้ WebView 2 เพราะช่วยลดต้นทุนการพัฒนา และทำให้การเชื่อมต่อกับบริการ Outlook และ Microsoft Teams ง่ายขึ้น รวมถึงการฝัง Copilot เข้าไปใน Agenda View เพื่อช่วยผู้ใช้จัดการตารางงานได้อัตโนมัติ เช่น การเข้าร่วมประชุม Teams ได้ทันทีจาก Notification Center โดยไม่ต้องเปิดแอปแยก

    แม้จะมีข้อดีด้านการเชื่อมต่อและการพัฒนา แต่ผู้ใช้จำนวนมากยังคงกังวลเรื่อง Performance Overhead ที่อาจทำให้ระบบไม่ลื่นไหลเหมือนการทำงานแบบ Native App ซึ่งเป็นสิ่งที่ Microsoft ต้องหาทางปรับปรุงต่อไป

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การกลับมาของ Agenda View บน Windows 11
    ฟีเจอร์นี้เคยมีใน Windows 10 และถูกถอดออกไปเมื่อเปิดตัว Windows 11

    ใช้ WebView 2 Runtime แทน Native App
    ช่วยลดต้นทุนการพัฒนา และทำให้เชื่อมต่อกับ Outlook, Teams และ Copilot ได้ง่ายขึ้น

    การทำงานร่วมกับ Microsoft 365 Copilot
    ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมประชุม Teams ได้ทันทีจาก Agenda View

    ผลกระทบต่อประสิทธิภาพระบบ
    การใช้ WebView 2 ทำให้ CPU พุ่งขึ้น 6–20% และอาจทำให้เครื่องหน่วง

    ข้อกังวลจากผู้ใช้
    ฟีเจอร์ที่ทำงานผ่าน WebView 2 มักไม่ลื่นไหลเท่ากับ Native App และอาจกระทบประสบการณ์ใช้งาน

    https://securityonline.info/windows-11-agenda-view-is-back-but-built-on-webview-2-with-performance-overhead/
    🖥️ Windows 11 นำ Agenda View กลับมา แต่ใช้ WebView 2 Microsoft กำลังนำฟีเจอร์ Agenda View กลับคืนสู่ Windows 11 หลังจากที่เคยถูกถอดออกไปตั้งแต่เปิดตัวในปี 2021 โดยฟีเจอร์นี้เคยอยู่ใน Action Center ของ Windows 10 และช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูตารางนัดหมายได้สะดวกขึ้น แต่การกลับมาครั้งนี้มีความแตกต่าง เพราะ Microsoft เลือกใช้ WebView 2 Runtime ในการแสดงผลแทนที่จะสร้างเป็นระบบ Native โดยตรง การทดสอบพบว่า เมื่อเปิด Agenda View จะมีการสร้างหลาย Process ของ WebView 2 ใน Task Manager และทำให้ Windows Shell Experience Host ใช้ CPU เพิ่มขึ้นถึง 6–20% ก่อนจะค่อยๆ ลดลง ซึ่งหมายความว่าฟีเจอร์นี้อาจมีผลต่อประสิทธิภาพเครื่อง โดยเฉพาะกับผู้ใช้ที่มีสเปกต่ำหรือใช้งานหลายโปรแกรมพร้อมกัน อย่างไรก็ตาม Microsoft มีเหตุผลที่เลือกใช้ WebView 2 เพราะช่วยลดต้นทุนการพัฒนา และทำให้การเชื่อมต่อกับบริการ Outlook และ Microsoft Teams ง่ายขึ้น รวมถึงการฝัง Copilot เข้าไปใน Agenda View เพื่อช่วยผู้ใช้จัดการตารางงานได้อัตโนมัติ เช่น การเข้าร่วมประชุม Teams ได้ทันทีจาก Notification Center โดยไม่ต้องเปิดแอปแยก แม้จะมีข้อดีด้านการเชื่อมต่อและการพัฒนา แต่ผู้ใช้จำนวนมากยังคงกังวลเรื่อง Performance Overhead ที่อาจทำให้ระบบไม่ลื่นไหลเหมือนการทำงานแบบ Native App ซึ่งเป็นสิ่งที่ Microsoft ต้องหาทางปรับปรุงต่อไป 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การกลับมาของ Agenda View บน Windows 11 ➡️ ฟีเจอร์นี้เคยมีใน Windows 10 และถูกถอดออกไปเมื่อเปิดตัว Windows 11 ✅ ใช้ WebView 2 Runtime แทน Native App ➡️ ช่วยลดต้นทุนการพัฒนา และทำให้เชื่อมต่อกับ Outlook, Teams และ Copilot ได้ง่ายขึ้น ✅ การทำงานร่วมกับ Microsoft 365 Copilot ➡️ ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมประชุม Teams ได้ทันทีจาก Agenda View ‼️ ผลกระทบต่อประสิทธิภาพระบบ ⛔ การใช้ WebView 2 ทำให้ CPU พุ่งขึ้น 6–20% และอาจทำให้เครื่องหน่วง ‼️ ข้อกังวลจากผู้ใช้ ⛔ ฟีเจอร์ที่ทำงานผ่าน WebView 2 มักไม่ลื่นไหลเท่ากับ Native App และอาจกระทบประสบการณ์ใช้งาน https://securityonline.info/windows-11-agenda-view-is-back-but-built-on-webview-2-with-performance-overhead/
    SECURITYONLINE.INFO
    Windows 11 Agenda View is Back, But Built on WebView 2 with Performance Overhead
    Windows 11's missing Agenda View returns, but its WebView 2 implementation causes high CPU usage. Microsoft accepts the trade-off for easier Copilot/Teams integration.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251207 #securityonline

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Tika Core (CVE-2025-66516)
    เรื่องนี้เป็นการเตือนครั้งใหญ่ในวงการความปลอดภัยไซเบอร์ เพราะ Apache Tika ซึ่งเป็นเครื่องมือมาตรฐานที่ใช้วิเคราะห์ไฟล์หลากหลายชนิด ถูกพบว่ามีช่องโหว่ XXE ที่ร้ายแรงมาก โดยผู้โจมตีสามารถฝังข้อมูล XML อันตรายไว้ในไฟล์ PDF และเมื่อระบบนำไปประมวลผลก็จะเปิดทางให้เข้าถึงข้อมูลลับ ทำให้เกิดการรั่วไหลหรือแม้แต่การโจมตีแบบ SSRF ได้ ที่น่ากังวลคือหลายองค์กรคิดว่าตัวเองปลอดภัยแล้วจากการอัปเดตครั้งก่อน แต่จริง ๆ แล้วช่องโหว่นี้อยู่ในตัว “tika-core” ไม่ใช่แค่โมดูล PDF เท่านั้น ดังนั้นใครที่ยังใช้เวอร์ชันต่ำกว่า 3.2.2 ต้องรีบอัปเดตทันทีเพื่อปิดช่องโหว่
    https://securityonline.info/the-pdf-trap-critical-vulnerability-cve-2025-66516-cvss-10-0-hits-apache-tika-core

    มัลแวร์ขุดคริปโตแบบแอบเนียนผ่าน USB และ DLL Side-Loading
    ภัยคุกคามเก่าแต่ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งในเกาหลีใต้ เมื่อมัลแวร์ CoinMiner ถูกแพร่ผ่าน USB drive ที่ดูเหมือนมีไฟล์ปกติ แต่จริง ๆ แล้วซ่อนสคริปต์และไฟล์อันตรายไว้ เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ลัด มัลแวร์จะเริ่มทำงานทันที โดยใช้เทคนิค DLL Side-Loading เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ และสุดท้ายก็ลงโปรแกรมขุด Monero แบบ “Smart Mining” ที่ฉลาดพอจะหยุดทำงานชั่วคราวเมื่อผู้ใช้เปิดเกมหรือ Task Manager เพื่อไม่ให้ถูกจับได้ ถือเป็นการผสมผสานวิธีการเก่าเข้ากับเทคนิคใหม่ที่ซับซ้อนมาก
    https://securityonline.info/stealth-cryptominer-uses-usb-lnk-and-dll-side-loading-to-deploy-smart-mining-evasion

    Apache HTTP Server อัปเดตแก้ช่องโหว่ SSRF และ suexec Bypass
    Apache HTTP Server รุ่น 2.4.66 ได้ออกแพตช์ใหม่เพื่อแก้ไขช่องโหว่หลายรายการ โดยเฉพาะ CVE-2025-59775 ที่อาจทำให้ NTLM hash รั่วไหลบน Windows ผ่านการโจมตีแบบ SSRF และอีกช่องโหว่เกี่ยวกับ suexec ที่ทำให้ผู้ใช้บางรายสามารถรันสคริปต์ภายใต้สิทธิ์ที่ไม่ถูกต้องได้ นอกจากนี้ยังมีบั๊กเล็ก ๆ ที่อาจทำให้ระบบทำงานผิดพลาด เช่นการวนลูปไม่สิ้นสุดในการต่ออายุใบรับรอง การแก้ไขครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น
    https://securityonline.info/apache-http-server-2-4-66-fixes-ssrf-flaw-cve-2025-59775-exposing-ntlm-hashes-on-windows-and-suexec-bypass

    รัสเซียบล็อก FaceTime ของ Apple แบบเครือข่าย
    รัฐบาลรัสเซียได้สั่งบล็อกการใช้งาน FaceTime ซึ่งเป็นบริการวิดีโอคอลที่เข้ารหัสแบบ end-to-end ของ Apple โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกใช้ในการก่อการร้ายและอาชญากรรม ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจนก็ตาม ผู้ใช้ในรัสเซียที่พยายามโทรผ่าน FaceTime จะพบว่าบริการไม่สามารถใช้งานได้จริง นี่เป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามเทคโนโลยีต่างชาติที่รัสเซียทำต่อเนื่อง หลังจากก่อนหน้านี้บล็อก YouTube, WhatsApp, Telegram และแม้แต่ Roblox ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงและเนื้อหาที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายรัฐ
    https://securityonline.info/russia-imposes-network-level-blockade-on-apples-end-to-end-encrypted-facetime

    Android เพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการหลอกลวงทางโทรศัพท์
    Google ได้เพิ่มระบบป้องกันการหลอกลวงทางโทรศัพท์ใน Android โดยเฉพาะเวลาที่ผู้ใช้เปิดแอปการเงิน เช่น Cash App หรือ JPMorgan Chase หากมีสายเข้าจากเบอร์ที่ไม่รู้จัก ระบบจะหยุดการโทรหรือการแชร์หน้าจอไว้ 30 วินาที พร้อมแสดงคำเตือน เพื่อให้ผู้ใช้มีเวลาคิดก่อนจะทำตามคำสั่งของมิจฉาชีพ ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกให้โอนเงินหรือเปิดเผยข้อมูลสำคัญ และกำลังทยอยเปิดใช้งานในสหรัฐฯ สำหรับ Android 11 ขึ้นไป
    https://securityonline.info/new-android-call-scam-protection-pauses-calls-for-30-seconds-during-financial-app-use

    OpenAI ฝึก AI ให้ “สารภาพ” ความผิดพลาดเอง
    OpenAI กำลังทดลองวิธีใหม่ในการทำให้โมเดล AI มีความซื่อสัตย์มากขึ้น โดยสอนให้มัน “ยอมรับ” เมื่อเกิดข้อผิดพลาดหรือสร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง แทนที่จะพยายามตอบต่อไปอย่างมั่นใจเกินจริง แนวคิดนี้คือการให้ AI มีพฤติกรรมคล้ายมนุษย์ที่สามารถบอกว่า “ฉันผิดพลาด” หรือ “ข้อมูลนี้อาจไม่ถูกต้อง” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเสี่ยงจากการใช้ข้อมูลที่ผิดพลาดในงานสำคัญ ถือเป็นการเปลี่ยนวิธีคิดจากการพยายามทำให้ AI ดูสมบูรณ์แบบ ไปสู่การทำให้มันโปร่งใสและน่าเชื่อถือมากขึ้น
    https://securityonline.info/honesty-is-the-best-policy-openai-trains-ai-models-to-confess-errors-and-hallucinations

    Criminal IP จัด Webinar: Beyond CVEs – จากการมองเห็นสู่การลงมือทำ
    Criminal IP เตรียมจัดสัมมนาออนไลน์เพื่อพูดถึงการจัดการช่องโหว่ที่มากกว่าแค่การรู้จัก CVE โดยเน้นไปที่การทำ ASM (Attack Surface Management) ที่ช่วยให้องค์กรเข้าใจภาพรวมของระบบและสามารถลงมือแก้ไขได้จริง ไม่ใช่แค่การตรวจพบปัญหา จุดสำคัญคือการเปลี่ยนจากการ “เห็น” ไปสู่การ “ทำ” เพื่อให้การป้องกันภัยไซเบอร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    https://securityonline.info/criminal-ip-to-host-webinar-beyond-cves-from-visibility-to-action-with-asm

    Sprocket Security ได้รับการยกย่องซ้ำในดัชนีความสัมพันธ์ของ G2
    บริษัท Sprocket Security ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการทดสอบเจาะระบบ (Penetration Testing) ได้รับการจัดอันดับอีกครั้งในดัชนีความสัมพันธ์ของ G2 ประจำฤดูหนาวปี 2025 การได้รับการยอมรับซ้ำนี้สะท้อนถึงความพึงพอใจของลูกค้าและความน่าเชื่อถือของบริการที่บริษัทมอบให้ โดยเฉพาะในด้านการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและการสนับสนุนลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
    https://securityonline.info/sprocket-security-earns-repeat-recognition-in-g2s-winter-2025-relationship-index-for-penetration-testing

    จีน APT UNC5174 ใช้ Discord API เป็นช่องทางลับ
    กลุ่มแฮกเกอร์ APT จากจีนที่มีชื่อว่า UNC5174 ถูกพบว่าใช้ Discord API เป็นช่องทางสื่อสารแบบ C2 (Command and Control) เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับและทำการจารกรรมข้อมูล วิธีนี้ทำให้การโจมตีดูเหมือนการใช้งานปกติของแอปพลิเคชัน แต่จริง ๆ แล้วเป็นการซ่อนคำสั่งและข้อมูลที่ส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี ถือเป็นการใช้แพลตฟอร์มสื่อสารยอดนิยมเป็นเครื่องมือในการทำงานลับ
    https://securityonline.info/china-apt-unc5174-hijacks-discord-api-as-covert-c2-channel-to-evade-detection-and-conduct-espionage

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Step CA (CVE-2025-44005)
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Step CA ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถข้ามการตรวจสอบสิทธิ์และออกใบรับรองปลอมได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับ CVSS 10.0 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด หมายความว่ามีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอย่างมาก หากองค์กรใดใช้ Step CA ในการจัดการใบรับรองดิจิทัล จำเป็นต้องรีบอัปเดตและแก้ไขทันทีเพื่อป้องกันการถูกใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้
    https://securityonline.info/critical-step-ca-flaw-cve-2025-44005-cvss-10-0-allows-unauthenticated-bypass-to-issue-fraudulent-certificates

    การสอดแนมผ่านการสแกน API ของ Palo Alto และ SonicWall
    มีการตรวจพบการสอดแนมแบบประสานงานจากกว่า 7,000 IP ที่พุ่งเป้าไปยัง API ของ GlobalProtect (Palo Alto) และ SonicWall โดยการโจมตีลักษณะนี้มุ่งเน้นไปที่การค้นหาช่องโหว่และการเก็บข้อมูลเพื่อเตรียมการโจมตีในอนาคต ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้โจมตีเริ่มใช้วิธีการที่ซับซ้อนและทำงานเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/coordinated-reconnaissance-7000-ips-target-palo-alto-globalprotect-and-sonicwall-api-endpoints
    📌🔐🔴 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🔴🔐📌 #รวมข่าวIT #20251207 #securityonline 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Tika Core (CVE-2025-66516) เรื่องนี้เป็นการเตือนครั้งใหญ่ในวงการความปลอดภัยไซเบอร์ เพราะ Apache Tika ซึ่งเป็นเครื่องมือมาตรฐานที่ใช้วิเคราะห์ไฟล์หลากหลายชนิด ถูกพบว่ามีช่องโหว่ XXE ที่ร้ายแรงมาก โดยผู้โจมตีสามารถฝังข้อมูล XML อันตรายไว้ในไฟล์ PDF และเมื่อระบบนำไปประมวลผลก็จะเปิดทางให้เข้าถึงข้อมูลลับ ทำให้เกิดการรั่วไหลหรือแม้แต่การโจมตีแบบ SSRF ได้ ที่น่ากังวลคือหลายองค์กรคิดว่าตัวเองปลอดภัยแล้วจากการอัปเดตครั้งก่อน แต่จริง ๆ แล้วช่องโหว่นี้อยู่ในตัว “tika-core” ไม่ใช่แค่โมดูล PDF เท่านั้น ดังนั้นใครที่ยังใช้เวอร์ชันต่ำกว่า 3.2.2 ต้องรีบอัปเดตทันทีเพื่อปิดช่องโหว่ 🔗 https://securityonline.info/the-pdf-trap-critical-vulnerability-cve-2025-66516-cvss-10-0-hits-apache-tika-core 💻 มัลแวร์ขุดคริปโตแบบแอบเนียนผ่าน USB และ DLL Side-Loading ภัยคุกคามเก่าแต่ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งในเกาหลีใต้ เมื่อมัลแวร์ CoinMiner ถูกแพร่ผ่าน USB drive ที่ดูเหมือนมีไฟล์ปกติ แต่จริง ๆ แล้วซ่อนสคริปต์และไฟล์อันตรายไว้ เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ลัด มัลแวร์จะเริ่มทำงานทันที โดยใช้เทคนิค DLL Side-Loading เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ และสุดท้ายก็ลงโปรแกรมขุด Monero แบบ “Smart Mining” ที่ฉลาดพอจะหยุดทำงานชั่วคราวเมื่อผู้ใช้เปิดเกมหรือ Task Manager เพื่อไม่ให้ถูกจับได้ ถือเป็นการผสมผสานวิธีการเก่าเข้ากับเทคนิคใหม่ที่ซับซ้อนมาก 🔗 https://securityonline.info/stealth-cryptominer-uses-usb-lnk-and-dll-side-loading-to-deploy-smart-mining-evasion 🌐 Apache HTTP Server อัปเดตแก้ช่องโหว่ SSRF และ suexec Bypass Apache HTTP Server รุ่น 2.4.66 ได้ออกแพตช์ใหม่เพื่อแก้ไขช่องโหว่หลายรายการ โดยเฉพาะ CVE-2025-59775 ที่อาจทำให้ NTLM hash รั่วไหลบน Windows ผ่านการโจมตีแบบ SSRF และอีกช่องโหว่เกี่ยวกับ suexec ที่ทำให้ผู้ใช้บางรายสามารถรันสคริปต์ภายใต้สิทธิ์ที่ไม่ถูกต้องได้ นอกจากนี้ยังมีบั๊กเล็ก ๆ ที่อาจทำให้ระบบทำงานผิดพลาด เช่นการวนลูปไม่สิ้นสุดในการต่ออายุใบรับรอง การแก้ไขครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น 🔗 https://securityonline.info/apache-http-server-2-4-66-fixes-ssrf-flaw-cve-2025-59775-exposing-ntlm-hashes-on-windows-and-suexec-bypass 🚫 รัสเซียบล็อก FaceTime ของ Apple แบบเครือข่าย รัฐบาลรัสเซียได้สั่งบล็อกการใช้งาน FaceTime ซึ่งเป็นบริการวิดีโอคอลที่เข้ารหัสแบบ end-to-end ของ Apple โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกใช้ในการก่อการร้ายและอาชญากรรม ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจนก็ตาม ผู้ใช้ในรัสเซียที่พยายามโทรผ่าน FaceTime จะพบว่าบริการไม่สามารถใช้งานได้จริง นี่เป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามเทคโนโลยีต่างชาติที่รัสเซียทำต่อเนื่อง หลังจากก่อนหน้านี้บล็อก YouTube, WhatsApp, Telegram และแม้แต่ Roblox ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงและเนื้อหาที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายรัฐ 🔗 https://securityonline.info/russia-imposes-network-level-blockade-on-apples-end-to-end-encrypted-facetime 📱 Android เพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการหลอกลวงทางโทรศัพท์ Google ได้เพิ่มระบบป้องกันการหลอกลวงทางโทรศัพท์ใน Android โดยเฉพาะเวลาที่ผู้ใช้เปิดแอปการเงิน เช่น Cash App หรือ JPMorgan Chase หากมีสายเข้าจากเบอร์ที่ไม่รู้จัก ระบบจะหยุดการโทรหรือการแชร์หน้าจอไว้ 30 วินาที พร้อมแสดงคำเตือน เพื่อให้ผู้ใช้มีเวลาคิดก่อนจะทำตามคำสั่งของมิจฉาชีพ ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกให้โอนเงินหรือเปิดเผยข้อมูลสำคัญ และกำลังทยอยเปิดใช้งานในสหรัฐฯ สำหรับ Android 11 ขึ้นไป 🔗 https://securityonline.info/new-android-call-scam-protection-pauses-calls-for-30-seconds-during-financial-app-use 🤖 OpenAI ฝึก AI ให้ “สารภาพ” ความผิดพลาดเอง OpenAI กำลังทดลองวิธีใหม่ในการทำให้โมเดล AI มีความซื่อสัตย์มากขึ้น โดยสอนให้มัน “ยอมรับ” เมื่อเกิดข้อผิดพลาดหรือสร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง แทนที่จะพยายามตอบต่อไปอย่างมั่นใจเกินจริง แนวคิดนี้คือการให้ AI มีพฤติกรรมคล้ายมนุษย์ที่สามารถบอกว่า “ฉันผิดพลาด” หรือ “ข้อมูลนี้อาจไม่ถูกต้อง” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเสี่ยงจากการใช้ข้อมูลที่ผิดพลาดในงานสำคัญ ถือเป็นการเปลี่ยนวิธีคิดจากการพยายามทำให้ AI ดูสมบูรณ์แบบ ไปสู่การทำให้มันโปร่งใสและน่าเชื่อถือมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/honesty-is-the-best-policy-openai-trains-ai-models-to-confess-errors-and-hallucinations 🎤 Criminal IP จัด Webinar: Beyond CVEs – จากการมองเห็นสู่การลงมือทำ Criminal IP เตรียมจัดสัมมนาออนไลน์เพื่อพูดถึงการจัดการช่องโหว่ที่มากกว่าแค่การรู้จัก CVE โดยเน้นไปที่การทำ ASM (Attack Surface Management) ที่ช่วยให้องค์กรเข้าใจภาพรวมของระบบและสามารถลงมือแก้ไขได้จริง ไม่ใช่แค่การตรวจพบปัญหา จุดสำคัญคือการเปลี่ยนจากการ “เห็น” ไปสู่การ “ทำ” เพื่อให้การป้องกันภัยไซเบอร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/criminal-ip-to-host-webinar-beyond-cves-from-visibility-to-action-with-asm 🏆 Sprocket Security ได้รับการยกย่องซ้ำในดัชนีความสัมพันธ์ของ G2 บริษัท Sprocket Security ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการทดสอบเจาะระบบ (Penetration Testing) ได้รับการจัดอันดับอีกครั้งในดัชนีความสัมพันธ์ของ G2 ประจำฤดูหนาวปี 2025 การได้รับการยอมรับซ้ำนี้สะท้อนถึงความพึงพอใจของลูกค้าและความน่าเชื่อถือของบริการที่บริษัทมอบให้ โดยเฉพาะในด้านการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและการสนับสนุนลูกค้าอย่างต่อเนื่อง 🔗 https://securityonline.info/sprocket-security-earns-repeat-recognition-in-g2s-winter-2025-relationship-index-for-penetration-testing 🕵️ จีน APT UNC5174 ใช้ Discord API เป็นช่องทางลับ กลุ่มแฮกเกอร์ APT จากจีนที่มีชื่อว่า UNC5174 ถูกพบว่าใช้ Discord API เป็นช่องทางสื่อสารแบบ C2 (Command and Control) เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับและทำการจารกรรมข้อมูล วิธีนี้ทำให้การโจมตีดูเหมือนการใช้งานปกติของแอปพลิเคชัน แต่จริง ๆ แล้วเป็นการซ่อนคำสั่งและข้อมูลที่ส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี ถือเป็นการใช้แพลตฟอร์มสื่อสารยอดนิยมเป็นเครื่องมือในการทำงานลับ 🔗 https://securityonline.info/china-apt-unc5174-hijacks-discord-api-as-covert-c2-channel-to-evade-detection-and-conduct-espionage 🔒 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Step CA (CVE-2025-44005) มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Step CA ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถข้ามการตรวจสอบสิทธิ์และออกใบรับรองปลอมได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับ CVSS 10.0 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด หมายความว่ามีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอย่างมาก หากองค์กรใดใช้ Step CA ในการจัดการใบรับรองดิจิทัล จำเป็นต้องรีบอัปเดตและแก้ไขทันทีเพื่อป้องกันการถูกใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้ 🔗 https://securityonline.info/critical-step-ca-flaw-cve-2025-44005-cvss-10-0-allows-unauthenticated-bypass-to-issue-fraudulent-certificates 🌍 การสอดแนมผ่านการสแกน API ของ Palo Alto และ SonicWall มีการตรวจพบการสอดแนมแบบประสานงานจากกว่า 7,000 IP ที่พุ่งเป้าไปยัง API ของ GlobalProtect (Palo Alto) และ SonicWall โดยการโจมตีลักษณะนี้มุ่งเน้นไปที่การค้นหาช่องโหว่และการเก็บข้อมูลเพื่อเตรียมการโจมตีในอนาคต ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้โจมตีเริ่มใช้วิธีการที่ซับซ้อนและทำงานเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/coordinated-reconnaissance-7000-ips-target-palo-alto-globalprotect-and-sonicwall-api-endpoints
    SECURITYONLINE.INFO
    The PDF Trap: Critical Vulnerability (CVE-2025-66516, CVSS 10.0) Hits Apache Tika Core
    Apache patched a Catastrophic XXE flaw (CVE-2025-66516, CVSS 10.0) in Tika Core. The bug is exploitable via malicious XFA data inside a PDF, risking server-side data disclosure and RCE. Update immediately.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • "การทดลอง 10 ปีเผย Retrobrighting ทำให้พลาสติกเหลืองหนักกว่าเดิม"

    บทความจาก Tom’s Hardware รายงานผลการทดลองของ Tech Tangents (Shelby Jueden) ที่ใช้เวลา 10 ปี สังเกตผลของการทำ retrobrighting บนเครื่อง Sega Dreamcast โดยใช้วิธีคลาสสิกคือ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ + แสงแดด เพื่อฟื้นฟูสีพลาสติกที่เหลือง

    ผลลัพธ์กลับกลายเป็นว่า ชิ้นส่วนที่ผ่านการ retrobright เหลืองหนักกว่าเดิม เมื่อเทียบกับชิ้นส่วนที่ไม่ได้ทำอะไรเลย หลังจากเวลาผ่านไป พลาสติกที่ untreated ดูดีกว่าและมีสีเหลืองน้อยกว่าอย่างชัดเจน

    Jueden อธิบายว่า การเหลืองของพลาสติกเกิดจาก สารหน่วงไฟ (flame retardant) ในวัสดุที่ออกซิไดซ์เมื่อสัมผัสกับแสง UV, ออกซิเจน และความร้อน การใช้สารฟอกขาวอย่างไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์อาจช่วยชั่วคราว แต่ในระยะยาวกลับทำให้พลาสติกเสียหาย เกิด streaking, blotching และความเปราะบาง

    นอกจากนี้ยังมีการทดลองวิธีอื่น เช่น sous vide method (น้ำร้อน + hydrogen peroxide), ozone treatment, และ UV light แต่ผลลัพธ์ก็ไม่สามารถคืนสีเดิมได้อย่างสมบูรณ์ และบางครั้งทำให้พลาสติกเสียหายยิ่งกว่าเดิม

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ผลการทดลอง 10 ปี
    Retrobright ทำให้พลาสติกเหลืองหนักกว่า untreated
    พื้นผิวที่ไม่ได้ทำอะไรเลยดูดีกว่าในระยะยาว

    สาเหตุการเหลือง
    Flame retardant ในพลาสติกออกซิไดซ์จาก UV, ออกซิเจน และความร้อน

    ปัญหาของ retrobright
    ทำให้เกิด streaking, blotching และพลาสติกเสียหาย
    ผลลัพธ์ชั่วคราว ไม่สามารถคืนสีเดิมได้ถาวร

    ข้อควรระวังสำหรับนักสะสม
    Retrobright อาจทำลายคุณค่าของเครื่อง retro gaming
    การปล่อยไว้ตามธรรมชาติอาจดีกว่าในระยะยาว

    https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/a-10-year-study-indicates-that-treated-surfaces-turn-yellow-more-severely-than-untreated-plastic-parts-retrobrighting-does-more-harm-than-good-to-consoles
    🕹️ "การทดลอง 10 ปีเผย Retrobrighting ทำให้พลาสติกเหลืองหนักกว่าเดิม" บทความจาก Tom’s Hardware รายงานผลการทดลองของ Tech Tangents (Shelby Jueden) ที่ใช้เวลา 10 ปี สังเกตผลของการทำ retrobrighting บนเครื่อง Sega Dreamcast โดยใช้วิธีคลาสสิกคือ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ + แสงแดด เพื่อฟื้นฟูสีพลาสติกที่เหลือง ผลลัพธ์กลับกลายเป็นว่า ชิ้นส่วนที่ผ่านการ retrobright เหลืองหนักกว่าเดิม เมื่อเทียบกับชิ้นส่วนที่ไม่ได้ทำอะไรเลย หลังจากเวลาผ่านไป พลาสติกที่ untreated ดูดีกว่าและมีสีเหลืองน้อยกว่าอย่างชัดเจน Jueden อธิบายว่า การเหลืองของพลาสติกเกิดจาก สารหน่วงไฟ (flame retardant) ในวัสดุที่ออกซิไดซ์เมื่อสัมผัสกับแสง UV, ออกซิเจน และความร้อน การใช้สารฟอกขาวอย่างไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์อาจช่วยชั่วคราว แต่ในระยะยาวกลับทำให้พลาสติกเสียหาย เกิด streaking, blotching และความเปราะบาง นอกจากนี้ยังมีการทดลองวิธีอื่น เช่น sous vide method (น้ำร้อน + hydrogen peroxide), ozone treatment, และ UV light แต่ผลลัพธ์ก็ไม่สามารถคืนสีเดิมได้อย่างสมบูรณ์ และบางครั้งทำให้พลาสติกเสียหายยิ่งกว่าเดิม 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ผลการทดลอง 10 ปี ➡️ Retrobright ทำให้พลาสติกเหลืองหนักกว่า untreated ➡️ พื้นผิวที่ไม่ได้ทำอะไรเลยดูดีกว่าในระยะยาว ✅ สาเหตุการเหลือง ➡️ Flame retardant ในพลาสติกออกซิไดซ์จาก UV, ออกซิเจน และความร้อน ✅ ปัญหาของ retrobright ➡️ ทำให้เกิด streaking, blotching และพลาสติกเสียหาย ➡️ ผลลัพธ์ชั่วคราว ไม่สามารถคืนสีเดิมได้ถาวร ‼️ ข้อควรระวังสำหรับนักสะสม ⛔ Retrobright อาจทำลายคุณค่าของเครื่อง retro gaming ⛔ การปล่อยไว้ตามธรรมชาติอาจดีกว่าในระยะยาว https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/a-10-year-study-indicates-that-treated-surfaces-turn-yellow-more-severely-than-untreated-plastic-parts-retrobrighting-does-more-harm-than-good-to-consoles
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • "จะรู้ได้อย่างไรว่า ข้อความถูกเขียนโดย ChatGPT?"

    บทความจาก The Star วิเคราะห์ว่า AI กำลังเปลี่ยนแปลงภาษาและการเขียนในชีวิตประจำวัน จนหลายครั้งเราสามารถสังเกตได้ว่าเนื้อหาบางอย่างถูกสร้างโดย ChatGPT หรือโมเดลภาษาอื่น ๆ จุดสังเกตที่พบบ่อยคือการใช้ คำบางคำซ้ำ ๆ เช่น delve, nuanced, underscore ที่ปรากฏมากขึ้นอย่างผิดปกติในงานเขียนวิชาการ และการใช้โครงสร้างประโยคแบบ “It’s not X. It’s Y.”

    นักวิชาการอย่าง Tom Juzek และ Zina Ward จาก Florida State University ระบุว่า การแพร่หลายของคำเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วผิดปกติ และทำให้ผู้คนในวงการวิชาการเริ่มหลีกเลี่ยงการใช้คำที่มี “กลิ่น AI” เช่น delve เพราะถูกตีตราว่าเป็นภาษาที่ไม่เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีการใช้ em dash (—) อย่างมากเกินไป ซึ่ง ChatGPT เองก็ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในลักษณะเฉพาะที่ทำให้ข้อความดูเหมือนถูกสร้างโดย AI

    Ward ยังเล่าประสบการณ์ว่าเธอสามารถแยกแยะข้อความที่นักเรียนใช้ AI เขียนได้จากความซ้ำซ้อนและความเป็นทางการที่มากเกินไป เช่น อีเมลที่มีประโยคเหมือนกันหลายฉบับว่า “This class will serve me well in my future.” ซึ่งสะท้อนถึงการใช้โมเดลภาษาโดยตรง

    แม้จะมีข้อกังวล แต่บทความก็ชี้ว่า AI มีข้อดี เช่น ช่วยให้คนที่ไม่มั่นใจในการเขียนสามารถสื่อสารได้อย่างมืออาชีพ และช่วยตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในเอกสารสาธารณะ อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนเตือนว่า ความผิดพลาดเล็ก ๆ เช่นไวยากรณ์ไม่สมบูรณ์ อาจกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมนุษย์ และสิ่งที่ทำให้เราแตกต่างจากข้อความที่ถูกสร้างโดยเครื่องจักร คือความ “แปลก” และความรู้สึกที่แท้จริง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สัญญาณที่บ่งบอกว่าเป็นข้อความจาก AI
    การใช้คำซ้ำ ๆ เช่น delve, nuanced, intricate, underscore
    โครงสร้างประโยค “It’s not X. It’s Y.”
    การใช้ em dash (—) มากเกินไป

    ประสบการณ์จากนักวิชาการ
    Tom Juzek: การแพร่ของคำบางคำเร็วผิดปกติในงานวิชาการ
    Zina Ward: อีเมลนักเรียนหลายฉบับมีข้อความซ้ำกันเกินจริง

    ข้อดีของการใช้ AI
    ช่วยให้คนที่ไม่มั่นใจในการเขียนสื่อสารได้ดีขึ้น
    ใช้ตรวจสอบความถูกต้องในเอกสารสาธารณะ

    ข้อควรระวัง
    การใช้ AI มากเกินไปทำให้ภาษาถูกทำให้เป็นมาตรฐานจนขาดความเป็นธรรมชาติ
    ความผิดพลาดเล็ก ๆ เช่นไวยากรณ์ผิด อาจกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมนุษย์
    หากไม่ระบุการใช้ AI อาจกระทบความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/06/opinion-how-can-you-tell-if-somethings-been-written-by-chatgpt-lets-delve
    ✍️ "จะรู้ได้อย่างไรว่า ข้อความถูกเขียนโดย ChatGPT?" บทความจาก The Star วิเคราะห์ว่า AI กำลังเปลี่ยนแปลงภาษาและการเขียนในชีวิตประจำวัน จนหลายครั้งเราสามารถสังเกตได้ว่าเนื้อหาบางอย่างถูกสร้างโดย ChatGPT หรือโมเดลภาษาอื่น ๆ จุดสังเกตที่พบบ่อยคือการใช้ คำบางคำซ้ำ ๆ เช่น delve, nuanced, underscore ที่ปรากฏมากขึ้นอย่างผิดปกติในงานเขียนวิชาการ และการใช้โครงสร้างประโยคแบบ “It’s not X. It’s Y.” นักวิชาการอย่าง Tom Juzek และ Zina Ward จาก Florida State University ระบุว่า การแพร่หลายของคำเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วผิดปกติ และทำให้ผู้คนในวงการวิชาการเริ่มหลีกเลี่ยงการใช้คำที่มี “กลิ่น AI” เช่น delve เพราะถูกตีตราว่าเป็นภาษาที่ไม่เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีการใช้ em dash (—) อย่างมากเกินไป ซึ่ง ChatGPT เองก็ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในลักษณะเฉพาะที่ทำให้ข้อความดูเหมือนถูกสร้างโดย AI Ward ยังเล่าประสบการณ์ว่าเธอสามารถแยกแยะข้อความที่นักเรียนใช้ AI เขียนได้จากความซ้ำซ้อนและความเป็นทางการที่มากเกินไป เช่น อีเมลที่มีประโยคเหมือนกันหลายฉบับว่า “This class will serve me well in my future.” ซึ่งสะท้อนถึงการใช้โมเดลภาษาโดยตรง แม้จะมีข้อกังวล แต่บทความก็ชี้ว่า AI มีข้อดี เช่น ช่วยให้คนที่ไม่มั่นใจในการเขียนสามารถสื่อสารได้อย่างมืออาชีพ และช่วยตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในเอกสารสาธารณะ อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนเตือนว่า ความผิดพลาดเล็ก ๆ เช่นไวยากรณ์ไม่สมบูรณ์ อาจกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมนุษย์ และสิ่งที่ทำให้เราแตกต่างจากข้อความที่ถูกสร้างโดยเครื่องจักร คือความ “แปลก” และความรู้สึกที่แท้จริง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สัญญาณที่บ่งบอกว่าเป็นข้อความจาก AI ➡️ การใช้คำซ้ำ ๆ เช่น delve, nuanced, intricate, underscore ➡️ โครงสร้างประโยค “It’s not X. It’s Y.” ➡️ การใช้ em dash (—) มากเกินไป ✅ ประสบการณ์จากนักวิชาการ ➡️ Tom Juzek: การแพร่ของคำบางคำเร็วผิดปกติในงานวิชาการ ➡️ Zina Ward: อีเมลนักเรียนหลายฉบับมีข้อความซ้ำกันเกินจริง ✅ ข้อดีของการใช้ AI ➡️ ช่วยให้คนที่ไม่มั่นใจในการเขียนสื่อสารได้ดีขึ้น ➡️ ใช้ตรวจสอบความถูกต้องในเอกสารสาธารณะ ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ การใช้ AI มากเกินไปทำให้ภาษาถูกทำให้เป็นมาตรฐานจนขาดความเป็นธรรมชาติ ⛔ ความผิดพลาดเล็ก ๆ เช่นไวยากรณ์ผิด อาจกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมนุษย์ ⛔ หากไม่ระบุการใช้ AI อาจกระทบความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/06/opinion-how-can-you-tell-if-somethings-been-written-by-chatgpt-lets-delve
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Opinion: How can you tell if something’s been written by ChatGPT? Let’s delve
    What the bots do is write toward the average. What we humans can do is depart from the norm.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • "9 เครื่องมือ GUI สำหรับค้นหาไฟล์บน Linux ที่ใช้ง่าย ไม่ต้องพึ่ง Terminal"

    การค้นหาไฟล์บน Linux เคยเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ถนัดคำสั่ง CLI อย่าง find, grep หรือ locate แต่ปัจจุบันมีเครื่องมือ GUI ที่ช่วยให้การค้นหาง่ายขึ้นมาก โดยบทความนี้ได้รวบรวม 9 โปรแกรมเด่น เช่น FSearch, DocFetcher, Recoll, Catfish และอีกหลายตัว ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและผู้ใช้ระดับ power user

    FSearch เป็นเครื่องมือที่เบาและเร็วมาก คล้ายกับ Everything บน Windows เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ทันทีโดยไม่ต้องตั้งค่าเยอะ ส่วน DocFetcher และ Recoll เน้นการค้นหาแบบ full-text search ที่สามารถเจาะลึกเนื้อหาในเอกสารได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานกับไฟล์เอกสารจำนวนมาก

    นอกจากนี้ยังมี ANGRYsearch และ CoreHunt ที่เน้นความเร็วและความเรียบง่าย ใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องติดตั้งซับซ้อน ขณะที่ Snoop และ Clapgrep ถือเป็นเครื่องมือรุ่นใหม่ที่ผสานการค้นหาข้อมูลไฟล์กับบุ๊คมาร์กหรืออีเมล และยังมี UI ที่ทันสมัยสวยงาม เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความครบเครื่อง

    สุดท้าย KFind และ Catfish ยังคงเป็นตัวเลือกที่เชื่อถือได้ โดยเฉพาะผู้ใช้ KDE และ XFCE ที่มักมีเครื่องมือเหล่านี้ติดตั้งมาแล้ว ทำให้การค้นหาไฟล์เป็นเรื่องง่ายและสะดวกขึ้นโดยไม่ต้องแตะ Terminal เลย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เครื่องมือค้นหาไฟล์ที่โดดเด่น
    FSearch: เร็ว เบา ใช้ง่าย
    DocFetcher / Recoll: เน้น full-text search สำหรับเอกสาร
    Catfish / KFind: มาพร้อมกับ XFCE และ KDE ใช้งานได้ทันที

    เครื่องมือรุ่นใหม่ที่น่าสนใจ
    Snoop: ค้นหาไฟล์ + บุ๊คมาร์ก + อีเมล
    Clapgrep: UI สวยงาม ค้นหาแบบ live preview

    ข้อควรระวังในการใช้งาน
    เครื่องมือบางตัวต้องทำการ index ไฟล์ก่อน เช่น DocFetcher, Recoll
    หากระบบไฟล์มีขนาดใหญ่มาก อาจทำให้การค้นหาช้าลงในบางโปรแกรม เช่น CoreHunt

    https://itsfoss.com/linux-gui-search-tools/
    🖥️ "9 เครื่องมือ GUI สำหรับค้นหาไฟล์บน Linux ที่ใช้ง่าย ไม่ต้องพึ่ง Terminal" การค้นหาไฟล์บน Linux เคยเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ถนัดคำสั่ง CLI อย่าง find, grep หรือ locate แต่ปัจจุบันมีเครื่องมือ GUI ที่ช่วยให้การค้นหาง่ายขึ้นมาก โดยบทความนี้ได้รวบรวม 9 โปรแกรมเด่น เช่น FSearch, DocFetcher, Recoll, Catfish และอีกหลายตัว ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและผู้ใช้ระดับ power user FSearch เป็นเครื่องมือที่เบาและเร็วมาก คล้ายกับ Everything บน Windows เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ทันทีโดยไม่ต้องตั้งค่าเยอะ ส่วน DocFetcher และ Recoll เน้นการค้นหาแบบ full-text search ที่สามารถเจาะลึกเนื้อหาในเอกสารได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานกับไฟล์เอกสารจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมี ANGRYsearch และ CoreHunt ที่เน้นความเร็วและความเรียบง่าย ใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องติดตั้งซับซ้อน ขณะที่ Snoop และ Clapgrep ถือเป็นเครื่องมือรุ่นใหม่ที่ผสานการค้นหาข้อมูลไฟล์กับบุ๊คมาร์กหรืออีเมล และยังมี UI ที่ทันสมัยสวยงาม เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความครบเครื่อง สุดท้าย KFind และ Catfish ยังคงเป็นตัวเลือกที่เชื่อถือได้ โดยเฉพาะผู้ใช้ KDE และ XFCE ที่มักมีเครื่องมือเหล่านี้ติดตั้งมาแล้ว ทำให้การค้นหาไฟล์เป็นเรื่องง่ายและสะดวกขึ้นโดยไม่ต้องแตะ Terminal เลย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เครื่องมือค้นหาไฟล์ที่โดดเด่น ➡️ FSearch: เร็ว เบา ใช้ง่าย ➡️ DocFetcher / Recoll: เน้น full-text search สำหรับเอกสาร ➡️ Catfish / KFind: มาพร้อมกับ XFCE และ KDE ใช้งานได้ทันที ✅ เครื่องมือรุ่นใหม่ที่น่าสนใจ ➡️ Snoop: ค้นหาไฟล์ + บุ๊คมาร์ก + อีเมล ➡️ Clapgrep: UI สวยงาม ค้นหาแบบ live preview ‼️ ข้อควรระวังในการใช้งาน ⛔ เครื่องมือบางตัวต้องทำการ index ไฟล์ก่อน เช่น DocFetcher, Recoll ⛔ หากระบบไฟล์มีขนาดใหญ่มาก อาจทำให้การค้นหาช้าลงในบางโปรแกรม เช่น CoreHunt https://itsfoss.com/linux-gui-search-tools/
    ITSFOSS.COM
    9 GUI Search Tools for Desktop Linux Users Who Don't Want to Use Find, Grep and Xargs Commands
    Sure you can search in the Linux terminal. And sure, you don't have to do that if you don't want too. Use a graphical interface for your comfort.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • EP 105
    วิเคราะห์หุ้นจาก INDICATOR
    BY.
    EP 105 วิเคราะห์หุ้นจาก INDICATOR BY.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ซูเปอร์คอมพิวเตอร์สร้างสมองเสมือนจริงที่สมบูรณ์ที่สุด

    ทีมนักวิจัยจาก Allen Institute (สหรัฐฯ) และ University of Electro-Communications (ญี่ปุ่น) ได้ใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Fugaku สร้างแบบจำลองสมองหนูที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยจำลองทั้ง cortex ของสมองหนู ซึ่งมีความซับซ้อนใกล้เคียงกับสมองมนุษย์

    รายละเอียดของสมองเสมือน
    แบบจำลองนี้มี 9 ล้านเซลล์ประสาท และ 26 พันล้านไซแนปส์ ที่เชื่อมต่อกันใน 86 พื้นที่สมอง สามารถประมวลผลได้ระดับ quadrillions ของการคำนวณต่อวินาที ทำให้นักวิจัยสามารถติดตามการทำงานของเซลล์ประสาทแต่ละตัวได้แบบเรียลไทม์ ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในงานวิจัยด้านประสาทวิทยาศาสตร์

    ประโยชน์ต่อการศึกษาโรคสมอง
    สมองเสมือนนี้ช่วยให้นักวิจัยสามารถจำลองการแพร่กระจายของโรค เช่น อัลไซเมอร์ หรือการเกิด อาการชัก โดยไม่ต้องพึ่งการทดลองที่รุกรานในสมองจริง นอกจากนี้ยังสามารถใช้ศึกษาการทำงานของคลื่นสมองที่เกี่ยวข้องกับการโฟกัสและการรับรู้

    เป้าหมายในอนาคต
    ทีมวิจัยตั้งเป้าว่าจะต่อยอดไปสู่การสร้าง สมองมนุษย์เสมือนจริงเต็มรูปแบบ ในอนาคต โดยใช้ข้อมูลชีววิทยาที่ละเอียดมากขึ้น หากสำเร็จจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำความเข้าใจสมองมนุษย์และการรักษาโรคทางระบบประสาทที่ซับซ้อน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การสร้างสมองเสมือนจริง
    ใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Fugaku
    จำลอง cortex ของสมองหนูทั้งระบบ

    รายละเอียดเชิงเทคนิค
    9 ล้านเซลล์ประสาท
    26 พันล้านไซแนปส์ และ 86 พื้นที่สมอง

    ประโยชน์ต่อการแพทย์
    ศึกษาโรคอัลไซเมอร์และอาการชัก
    วิเคราะห์การทำงานของคลื่นสมอง

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    ยังเป็นเพียงสมองหนู ไม่ใช่มนุษย์
    ต้องใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์มหาศาลในการจำลอง

    https://www.sciencealert.com/supercomputer-creates-one-of-the-most-realistic-virtual-brains-ever-seen
    🖥️ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์สร้างสมองเสมือนจริงที่สมบูรณ์ที่สุด ทีมนักวิจัยจาก Allen Institute (สหรัฐฯ) และ University of Electro-Communications (ญี่ปุ่น) ได้ใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Fugaku สร้างแบบจำลองสมองหนูที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยจำลองทั้ง cortex ของสมองหนู ซึ่งมีความซับซ้อนใกล้เคียงกับสมองมนุษย์ 🔬 รายละเอียดของสมองเสมือน แบบจำลองนี้มี 9 ล้านเซลล์ประสาท และ 26 พันล้านไซแนปส์ ที่เชื่อมต่อกันใน 86 พื้นที่สมอง สามารถประมวลผลได้ระดับ quadrillions ของการคำนวณต่อวินาที ทำให้นักวิจัยสามารถติดตามการทำงานของเซลล์ประสาทแต่ละตัวได้แบบเรียลไทม์ ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในงานวิจัยด้านประสาทวิทยาศาสตร์ 🧠 ประโยชน์ต่อการศึกษาโรคสมอง สมองเสมือนนี้ช่วยให้นักวิจัยสามารถจำลองการแพร่กระจายของโรค เช่น อัลไซเมอร์ หรือการเกิด อาการชัก โดยไม่ต้องพึ่งการทดลองที่รุกรานในสมองจริง นอกจากนี้ยังสามารถใช้ศึกษาการทำงานของคลื่นสมองที่เกี่ยวข้องกับการโฟกัสและการรับรู้ 🌍 เป้าหมายในอนาคต ทีมวิจัยตั้งเป้าว่าจะต่อยอดไปสู่การสร้าง สมองมนุษย์เสมือนจริงเต็มรูปแบบ ในอนาคต โดยใช้ข้อมูลชีววิทยาที่ละเอียดมากขึ้น หากสำเร็จจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำความเข้าใจสมองมนุษย์และการรักษาโรคทางระบบประสาทที่ซับซ้อน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การสร้างสมองเสมือนจริง ➡️ ใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Fugaku ➡️ จำลอง cortex ของสมองหนูทั้งระบบ ✅ รายละเอียดเชิงเทคนิค ➡️ 9 ล้านเซลล์ประสาท ➡️ 26 พันล้านไซแนปส์ และ 86 พื้นที่สมอง ✅ ประโยชน์ต่อการแพทย์ ➡️ ศึกษาโรคอัลไซเมอร์และอาการชัก ➡️ วิเคราะห์การทำงานของคลื่นสมอง ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ ยังเป็นเพียงสมองหนู ไม่ใช่มนุษย์ ⛔ ต้องใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์มหาศาลในการจำลอง https://www.sciencealert.com/supercomputer-creates-one-of-the-most-realistic-virtual-brains-ever-seen
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Supercomputer Creates One of The Most Realistic Virtual Brains Ever Seen
    Getting a better understanding of how the brain works is tricky, as living brains aren't easily prodded and analyzed.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline

    เก้าอี้ออฟฟิศที่พับครึ่งได้ – Hinomi H2 Pro
    เรื่องราวเริ่มจากการรีวิวเก้าอี้ทำงานรุ่นใหม่ Hinomi H2 Pro ที่ถูกออกแบบมาให้แตกต่างจากเก้าอี้ทั่วไป จุดเด่นคือสามารถพับครึ่งได้ ทำให้จัดเก็บง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีระบบรองรับหลังส่วนล่างที่แข็งแรงและปรับได้หลายระดับ เหมาะกับคนที่ต้องการการนั่งที่ถูกสุขลักษณะ ตัววัสดุทำจากเฟรมอะลูมิเนียมและผ้าตาข่ายที่ระบายอากาศได้ดี ใช้งานต่อเนื่องทั้งวันก็ยังสบาย แม้จะมีข้อสังเกตว่าการรองรับหลังอาจแรงไปสำหรับบางคน แต่โดยรวมถือว่าเป็นเก้าอี้ที่คุ้มค่าและมีลูกเล่นที่ไม่เหมือนใคร
    https://www.techradar.com/pro/hinomi-h2-pro-office-chair-review

    การกลับมาของเครื่องเล่น SACD – Shanling SCD3.3
    ย้อนบรรยากาศยุค 90s กับเครื่องเล่นซีดีรุ่นใหม่ Shanling SCD3.3 ที่มาพร้อมหลอดแอมป์ในตัวและ DAC คุณภาพสูง จุดขายคือการรองรับแผ่น SACD และการออกแบบที่ผสมผสานความคลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตัวเครื่องหนักแน่นด้วยโครงอะลูมิเนียมหนา มีหน้าจอสัมผัสและแอปควบคุมผ่านมือถือได้ เสียงที่ได้ถูกบรรยายว่าอบอุ่นและทรงพลัง เหมาะกับนักฟังเพลงที่ต้องการประสบการณ์เสียงระดับอ้างอิง แม้ราคาจะสูงถึงเกือบ 4,000 ดอลลาร์ แต่ก็เป็นการประกาศว่าแผ่นซีดียังไม่ตาย และยังมีเสน่ห์สำหรับสายเครื่องเสียงจริงจัง
    https://www.techradar.com/audio/sacd-is-back-baby-this-beefy-new-audiophile-cd-player-is-deliciously-90s-and-has-built-in-tube-amplification-as-a-bonus

    เครือข่ายมือถือแบบไม่ต้องเปิดเผยตัว – Phreeli
    นี่คือผู้ให้บริการมือถือรายใหม่ที่ชื่อว่า Phreeli จุดเด่นคือการสมัครใช้งานโดยไม่ต้องใช้ชื่อหรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ นอกจากรหัสไปรษณีย์และวิธีการชำระเงิน ซึ่งสามารถใช้คริปโตได้ ทำให้ไม่สามารถเชื่อมโยงเบอร์โทรกับตัวตนจริงได้ ระบบยังมีการป้องกันสแปมและการโทรกวน เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจะถูกขายต่อให้บริษัทโฆษณาหรือหน่วยงานรัฐ แม้บางคนอาจสงสัยว่าใครจะใช้บริการแบบนี้ แต่ผู้ก่อตั้งยืนยันว่ามุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ใช่กลุ่มที่มีเจตนาไม่ดี
    https://www.techradar.com/phones/this-new-anonymous-phone-carrier-doesnt-even-need-your-name-here-are-5-things-you-should-know-about-it

    Intel เปลี่ยนใจไม่ขายธุรกิจ NEX
    เดิมที Intel มีแผนจะขายหรือแยกธุรกิจ Networking and Communications (NEX) ออกไป แต่ล่าสุดบริษัทประกาศว่าจะเก็บไว้ในพอร์ตโฟลิโอ เพราะมองว่าเป็นส่วนสำคัญต่อกลยุทธ์ด้าน AI ศูนย์ข้อมูล และ Edge Computing การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสถานะทางการเงินของ Intel ดีขึ้นจากการลงทุนและการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรอย่าง SoftBank และ Nvidia การเก็บ NEX ไว้ในบริษัทจะช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบทำงานร่วมกันได้แนบแน่นมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/intel-drops-plans-to-sell-networking-and-communication-division

    Windscribe เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้จัดการ IP ได้เอง
    บริการ VPN อย่าง Windscribe เปิดตัวสองฟีเจอร์ใหม่คือ IP Pinning และ IP Rotation เพื่อให้ผู้ใช้ควบคุม IP ได้สะดวกขึ้น โดย IP Pinning ช่วยล็อก IP ที่ใช้งานได้ดีเพื่อความเสถียร เช่น ใช้กับแอปธนาคาร ส่วน IP Rotation ช่วยเปลี่ยน IP ได้ทันทีโดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อ เหมาะกับการแก้ปัญหา CAPTCHA หรือการบล็อกจากเว็บไซต์ ฟีเจอร์เหล่านี้ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยระบบ API แบบ zero-knowledge ทำให้แม้แต่ Windscribe เองก็ไม่สามารถบันทึกข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/windscribe-rolls-out-new-tools-to-let-you-manage-your-vpn-ip-address-your-way

    AI ถูกส่งขึ้นอวกาศ – Google, Amazon และ xAI
    สามบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีคือ Google, Amazon และ xAI กำลังร่วมมือกันเพื่อผลักดันโครงการนำ AI ขึ้นไปใช้งานในอวกาศ แนวคิดนี้คือการสร้างระบบประมวลผลที่สามารถทำงานได้โดยตรงบนดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งข้อมูลกลับมายังโลก ซึ่งจะช่วยให้การสื่อสารและการวิเคราะห์ข้อมูลจากอวกาศมีความรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น โครงการนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันในตลาด AI ที่ขยายไปไกลเกินกว่าพื้นโลก และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ AI ในการสำรวจจักรวาลอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/google-amazon-and-xai-want-to-launch-ai-into-space

    หุ่นยนต์ดูดฝุ่นพร้อมระบบถูพื้นขั้นเทพ – Dreame Robovac
    Dreame เปิดตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ที่มาพร้อมระบบถูพื้นซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา จุดเด่นคือแท่นเก็บผ้าแบบ jukebox ที่สามารถเปลี่ยนผ้าเช็ดถูได้อัตโนมัติ ทำให้การทำความสะอาดต่อเนื่องโดยไม่ต้องคอยเปลี่ยนผ้าเอง หุ่นยนต์ยังมีระบบตรวจจับคราบและปรับแรงกดในการถูพื้นให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิว นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปเพื่อควบคุมและตั้งค่าการทำงานได้อย่างละเอียด ถือเป็นการยกระดับหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านให้ฉลาดและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/home/vacuums/dreames-new-robovac-has-the-most-advanced-mop-setup-ive-seen-and-the-jukebox-style-mop-dispenser-is-just-the-start-of-it

    Windows 11 ปรับโฉม Run Prompt
    เรื่องที่ดูเหมือนเล็กแต่จริง ๆ แล้วสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ Windows 11 กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือการปรับโฉมหน้าต่าง Run ที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ยุค Windows 95 ให้เข้ากับดีไซน์ Fluent ของยุคใหม่ หน้าต่างนี้จะดูทันสมัยขึ้น ใหญ่ขึ้น และยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยแสดงคำสั่งที่เคยใช้ไปแล้ว ทำให้เรียกใช้งานซ้ำได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งแสดงไอคอนของแอปที่เราจะเปิดอีกด้วย แม้ยังไม่เปิดให้ใช้งานจริง แต่ก็มีการค้นพบในเวอร์ชันทดสอบแล้ว หลายคนก็แอบกังวลว่าจะทำให้การเปิด Run ช้าลง แต่โดยรวมถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รอคอยกันมานาน
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-run-prompt-is-getting-a-makeover-and-a-handy-extra-power-but-already-there-are-worries-microsoft-will-ruin-it

    Microsoft 365 เตรียมขึ้นราคา
    ข่าวนี้อาจทำให้หลายองค์กรต้องขยับงบประมาณ เพราะ Microsoft ประกาศว่าจะปรับขึ้นราคาของแพ็กเกจ Microsoft 365 และ Office 365 สำหรับธุรกิจและหน่วยงานรัฐตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2026 โดยขึ้นระหว่าง 5% ถึง 33% ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ แต่ก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและ AI เข้ามา เช่น Microsoft Defender และ Security Copilot เพื่อช่วยป้องกันภัยไซเบอร์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แม้ราคาจะสูงขึ้น แต่ Microsoft ยืนยันว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่เพิ่มเข้ามา
    https://www.techradar.com/pro/microsoft-365-is-hiking-prices-for-businesses-heres-how-much-it-will-cost-you

    Samsung Ballie Robot เลื่อนเปิดตัวอีกครั้ง
    หุ่นยนต์กลมสีเหลืองที่ชื่อ Ballie จาก Samsung ซึ่งเคยโชว์ตัวตั้งแต่ปี 2020 และถูกนำกลับมาเปิดตัวใหม่ใน CES 2025 พร้อมสัญญาว่าจะวางขายในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น แต่จนถึงปลายปี 2025 ก็ยังไม่พร้อมวางจำหน่าย Samsung บอกว่ากำลังปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า Ballie ถูกออกแบบให้เป็นผู้ช่วยในบ้าน สามารถฉายภาพยนตร์หรือข้อมูลบนผนัง และตอบคำถามได้ แต่ยังต้องรอการพัฒนาเพิ่มเติม คาดว่าอาจมีความคืบหน้าที่ CES 2026
    https://www.techradar.com/home/smart-home/samsungs-ballie-robot-is-delayed-again-and-now-we-know-why

    การโจมตีไซเบอร์ด้วย Brickworm Malware
    หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ และแคนาดาออกมาเตือนว่าแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีนใช้มัลแวร์ชื่อ Brickworm เจาะเข้าไปในระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ และองค์กรด้านไอทีทั่วโลก มัลแวร์นี้สามารถฝังตัวในระบบ VMware และ Windows เพื่อเข้าถึงไฟล์ ควบคุม Active Directory และคงการเข้าถึงระยะยาวได้ ทำให้เสี่ยงต่อการสอดแนมและการก่อวินาศกรรมในอนาคต แม้จีนจะปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่รายงานนี้สะท้อนถึงภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อความมั่นคงไซเบอร์
    https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-used-brickworm-malware-to-breach-critical-us-infrastructure

    Ofcom เตรียมเข้มงวดการตรวจสอบไฟล์ในปี 2026
    หน่วยงานกำกับดูแลด้านการสื่อสารของสหราชอาณาจักร (Ofcom) มีแผนจะเพิ่มมาตรการตรวจสอบไฟล์ดิจิทัลในปี 2026 โดยจะขยายการเฝ้าระวังและการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกแชร์ผ่านบริการออนไลน์ เพื่อป้องกันการละเมิดและการใช้งานที่ผิดกฎหมาย แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าการตรวจสอบนี้อาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่ Ofcom ยืนยันว่ามีความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยทางดิจิทัลในอนาคต
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ofcom-wants-to-double-down-on-file-monitoring-in-2026

    DAC ตัวใหม่เล็กแต่ทรงพลัง
    อุปกรณ์ DAC ขนาดเล็กที่เพิ่งเปิดตัวสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก หรือเครื่องเล่นเกม ให้มีคุณภาพเสียงระดับเดียวกับเครื่องเล่นเพลง hi-res ชั้นนำของโลก แม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่คมชัดและทรงพลัง เหมาะสำหรับคนที่รักการฟังเพลงคุณภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์ราคาแพง
    https://www.techradar.com/audio/dacs/this-tiny-new-dac-gives-your-phone-laptop-or-games-console-the-audio-skills-of-the-worlds-best-hi-res-music-player

    Netflix ซื้อกิจการ Warner Bros. Discovery มูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์
    Netflix ประกาศดีลครั้งใหญ่ในการเข้าซื้อ Warner Bros. Discovery ด้วยมูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าจะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกและความคุ้มค่ามากขึ้น ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการสตรีมมิ่ง เพราะจะรวมคอนเทนต์จาก HBO, Discovery และแบรนด์ดังอื่น ๆ เข้ากับ Netflix ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Disney+ และ Amazon Prime เข้มข้นยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/streaming/netflix/its-official-netflix-is-buying-warner-bros-discovery-claiming-the-deal-means-more-choice-and-greater-value-for-consumers

    Logitech CEO วิจารณ์อุปกรณ์ AI
    ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Logitech ออกมาแสดงความเห็นว่าอุปกรณ์ AI หลายอย่างในตลาดตอนนี้เป็น “การหาทางแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” ซึ่งสะท้อนถึงความสงสัยว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณค่าแท้จริงต่อผู้ใช้หรือไม่ ความเห็นนี้ได้รับการตอบรับจากหลายฝ่ายที่เห็นว่าอุปกรณ์ AI ยังไม่สามารถพิสูจน์ประโยชน์ที่ชัดเจน แต่ก็มีบางคนมองว่าเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องใช้เวลาเพื่อให้เห็นผลจริง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-solution-looking-for-a-problem-that-doesnt-exist-logitech-ceo-blasts-ai-gadgets-and-most-people-think-thats-being-generous

    EU เดินหน้ากฎหมาย Chat Control แบบเจาะจงเป้าหมาย
    เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในยุโรปเกี่ยวกับกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation (CSAR) ที่ถูกเรียกติดปากว่า “Chat Control” ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะกลายเป็นการสอดส่องประชาชนแบบกว้างขวาง แต่ Magnus Brunner กรรมาธิการสหภาพยุโรปด้านกิจการภายในกลับยืนยันว่า เขาเลือกสนับสนุนแนวทางของรัฐสภายุโรปที่เน้นการสแกนแบบเจาะจงเป้าหมาย มากกว่าการสแกนแบบครอบคลุมโดยสมัครใจตามที่สภายุโรปเสนอ เขาย้ำว่า “นี่ไม่ใช่เรื่อง Chat Control แต่เป็นการปกป้องเด็ก” อย่างไรก็ตาม หลายประเทศและผู้เชี่ยวชาญยังคงคัดค้านเพราะมองว่าอาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัว การเจรจารอบสุดท้ายระหว่างสภา คณะกรรมาธิการ และรัฐสภาจะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ชะตาว่ากฎหมายนี้จะออกมาในรูปแบบใด
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-commissioner-backs-parliament-line-on-targeted-monitoring

    ปัญหาการเชื่อมต่อที่ซ่อนอยู่ใน IoT
    เมื่อพูดถึงอุปกรณ์อัจฉริยะ เช่น ถังขยะที่ส่งสัญญาณเมื่อเต็ม หรือเครื่องตรวจหัวใจในบ้านพักคนชรา หลายคนมักคิดว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายเป็นเรื่องที่ “มีอยู่แล้ว” แต่แท้จริงแล้วการออกแบบระบบเชื่อมต่อคือหัวใจสำคัญ หากการเลือกซิมหรือการจัดการสัญญาณไม่ดี อุปกรณ์อาจเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ไม่เสถียร ทำให้ข้อมูลสะดุดหรือเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเทคโนโลยีซิมแบบ Dual IMSI ที่มีการจัดการสัญญาณและ IP แบบคงที่ จะช่วยให้ระบบทำงานได้ราบรื่นและปลอดภัยกว่า การออกแบบโครงสร้างการเชื่อมต่อที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ IoT ใช้งานได้จริงในระดับใหญ่ ไม่ใช่แค่การมีอุปกรณ์ที่ฉลาด แต่ต้องมีเครือข่ายที่ฉลาดด้วย
    https://www.techradar.com/pro/the-connectivity-problem-hiding-in-smart-bins-and-heart-monitors

    แฮกเกอร์ปลอมแอปธนาคารเพื่อขโมยข้อมูล
    นักวิจัยจาก Group-IB เปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อ GoldFactory กำลังใช้วิธีใหม่ในการโจมตี โดยนำแอปธนาคารจริงมาดัดแปลงใส่โค้ดอันตราย แล้วเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ปลอมและการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง แอปที่ถูกปลอมแปลงยังคงทำงานเหมือนจริง ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกขโมยข้อมูล ขณะเดียวกันมัลแวร์ที่ซ่อนอยู่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ทั้งดึงข้อมูล ล็อกอิน หรือแม้แต่สั่งการจากระยะไกล ปัจจุบันมีผู้ใช้หลายหมื่นรายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ตกเป็นเหยื่อ และแนวโน้มอาจขยายไปยังประเทศอื่น ๆ นี่ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและอันตรายมากในโลกการเงินดิจิทัล
    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-observed-injecting-legitimate-banking-apps-with-malicious-code

    Verizon แจก iPhone 17 Pro ฟรีแบบไม่ต้องเทรดเครื่อง
    Verizon สร้างความฮือฮาด้วยโปรโมชันใหม่ที่ให้ iPhone 17 Pro ฟรีถึง 4 เครื่อง โดยไม่ต้องนำเครื่องเก่ามาแลก เพียงสมัครแพ็กเกจ Welcome Unlimited ที่ราคา 100 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ 4 ไลน์ เท่ากับจ่ายเพียง 25 ดอลลาร์ต่อเครื่องต่อเดือน ซึ่งถ้าคิดเป็นมูลค่ารวมแล้ว ผู้ใช้สามารถประหยัดได้มากกว่า 4,000 ดอลลาร์ ดีลนี้ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับครอบครัวที่ต้องการหลายเครื่อง และแม้แต่ผู้ใช้รายเดียวก็ยังสามารถรับเครื่องฟรีได้เมื่อเปิดไลน์ใหม่ ถือเป็นหนึ่งในดีลที่ดีที่สุดของ Verizon ในปีนี้
    https://www.techradar.com/phones/iphone/verizon-just-surprised-us-with-one-of-its-best-deals-of-the-entire-year-get-four-iphone-17-pro-for-free-without-a-trade-in

    CEO Logitech มองว่าอุปกรณ์ AI เป็น “คำตอบที่ไม่มีคำถาม”
    Hanneke Faber ซีอีโอของ Logitech ให้สัมภาษณ์ว่า อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ AI โดยเฉพาะ เช่น Humane AI Pin หรือ Rabbit R1 เป็นเพียง “การแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” เพราะสิ่งที่ทำได้ก็ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่แล้ว เธอเชื่อว่าทางที่ถูกต้องคือการฝัง AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ เช่น กล้องเว็บแคมที่ปรับภาพอัตโนมัติ หรือเมาส์ MX Master 4 ที่มีปุ่มเรียก Copilot หรือ ChatGPT ได้ทันที แนวคิดนี้ต่างจากบางบริษัทที่พยายามสร้างอุปกรณ์ใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะ เช่น แว่นตาอัจฉริยะของ Ray-Ban หรือเครื่องบันทึกเสียง AI ของ Plaud ซึ่งอนาคตจะพิสูจน์ว่าแนวทางใดจะอยู่รอด แต่สิ่งที่แน่นอนคือ AI จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกอุปกรณ์ในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/security/logitech-ceo-says-ai-devices-are-just-solutions-looking-for-a-problem

    ทำไมซีอีโอที่เข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ถึงนำหน้าในยุค AI
    บทความนี้เล่าถึงข้อได้เปรียบของซีอีโอที่มีพื้นฐานด้านการเขียนโปรแกรมหรือเข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพราะพวกเขาสามารถมองเห็นศักยภาพของ AI ได้ลึกกว่า และรู้ว่าควรนำไปใช้ตรงไหนเพื่อสร้างคุณค่า ไม่ใช่แค่ตามกระแส ตัวอย่างเช่น การเข้าใจโครงสร้างข้อมูลและการทำงานของโมเดล ทำให้สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้แม่นยำกว่า และยังช่วยให้ทีมงานเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของผู้นำมากขึ้น ในการแข่งขัน AI ที่รุนแรง การมีผู้นำที่เข้าใจเทคโนโลยีจึงเป็นเหมือนการมี “หัวเรือที่รู้เส้นทาง”
    https://www.techradar.com/pro/why-ceos-who-understand-software-development-have-a-head-start-in-the-ai-race

    ปัญหาการถอดเสียงแก้ได้ด้วย Gemini แต่ไม่ใช่ ChatGPT
    ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าเจอปัญหาใหญ่ในการถอดเสียงไฟล์เสียงยาว ๆ ที่มีหลายสำเนียงและเสียงรบกวน เมื่อทดลองใช้ ChatGPT ผลลัพธ์ออกมาไม่แม่นยำ แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Gemini กลับได้ผลลัพธ์ที่ตรงและจัดการไฟล์ได้ดีกว่า จุดเด่นคือ Gemini สามารถทำงานกับไฟล์เสียงที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังให้ผลลัพธ์ที่พร้อมใช้งานทันที เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ AI หลายเจ้าแข่งกัน แต่แต่ละระบบก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกันไป
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-had-a-big-audio-transcription-problem-gemini-solved-it-and-chatgpt-didnt

    ปี 2025 ไม่ได้เป็นปีที่น่าเบื่อของสมาร์ทโฟน
    หลายคนอาจบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มหมดความตื่นเต้น แต่จริง ๆ แล้วปีนี้กลับเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เริ่มจาก Apple ที่กล้าลองสิ่งใหม่ ๆ ทั้ง iPhone 16e ที่มาพร้อมโมเด็ม C1 และ iPhone Air ที่ออกแบบให้บางและทนทานขึ้น แม้ไม่ใช่รุ่นที่ดีที่สุด แต่ก็สะท้อนความกล้าในการทดลอง ส่วน iPhone 17 Pro ก็พลิกโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple พร้อมเพิ่มเลนส์ซูมและหน้าจอ 120Hz ให้ทันสมัยขึ้น ขณะเดียวกัน Qualcomm ก็สร้างความฮือฮาด้วย Snapdragon 8 Elite ที่แรงและประหยัดพลังงานกว่า ทำให้มือถือ Android ใช้งานได้ยาวนานกว่าสองวันเต็ม อีกด้านหนึ่ง OnePlus 15 กลายเป็นมือถือที่ถูกยกให้เป็น “ตัวเลือกของคนวงใน” ด้วยความทนทานและแบตเตอรี่ที่เหลือเชื่อ สุดท้าย Google ก็เพิ่มฟีเจอร์แม่เหล็กใน Pixel 10 Pro ทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้นอย่างมาก ทั้งการชาร์จ การติดตั้งอุปกรณ์เสริม และการใช้งานร่วมกับกระเป๋าสตางค์แม่เหล็ก เรื่องทั้งหมดนี้บอกได้เลยว่า โทรศัพท์ปี 2025 ไม่ได้เงียบเหงาเลย
    https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai

    หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐเตือน หยุดใช้ VPN ส่วนตัว
    CISA หรือหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” เพราะแทนที่จะปลอดภัยขึ้น กลับเพิ่มความเสี่ยงมากกว่าเดิม เหตุผลคือ VPN หลายเจ้า โดยเฉพาะที่ฟรีหรือไม่น่าเชื่อถือ อาจเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาเอง ทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงจากการโจมตีขั้นสูง แม้ VPN จะช่วยซ่อนกิจกรรมจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่ก็เหมือนย้ายความเสี่ยงไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ที่อาจไม่น่าไว้ใจ ทางออกคือเลือกผู้ให้บริการที่มีการตรวจสอบนโยบายไม่เก็บข้อมูลจริง มีการเข้ารหัสมาตรฐานสูง และมีฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch หรือ multi-hop เพื่อเพิ่มความปลอดภัย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการหาทางลัดเพื่อความเป็นส่วนตัว อาจกลายเป็นดาบสองคมได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns

    งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์
    Cisco เปิดเผยผลสำรวจที่ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างวัย คนอายุต่ำกว่า 35 ปีมีการใช้งาน AI สูงถึงครึ่งหนึ่ง และกว่า 75% มองว่า AI มีประโยชน์ต่อชีวิตและงาน แต่เมื่อมองไปที่คนอายุเกิน 45 ครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าการปฏิเสธโดยตรง นอกจากนี้ยังพบว่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก มีการนำ AI มาใช้มากที่สุด ขณะที่ยุโรปกลับมีความไม่มั่นใจสูงกว่า ผลวิจัยยังชี้ว่าการใช้ AI มากเกินไปอาจสัมพันธ์กับการใช้หน้าจอมากและความพึงพอใจในชีวิตที่ลดลง ทำให้คำแนะนำคือควรสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม เพื่อให้ “Generation AI” รวมทุกคนจริง ๆ
    https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful

    EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI ใน WhatsApp
    คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta หลังจากมีข้อกล่าวหาว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่ง โดย Meta ได้ปรับเงื่อนไข API ของ WhatsApp Business ห้ามไม่ให้แชทบอทจากผู้ให้บริการอื่นที่เน้น AI เป็นหลักถูกเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอนบอทออกไปแล้ว EU กังวลว่า Meta กำลังใช้ความได้เปรียบทางตลาดเพื่อผลักดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบว่ามีความผิด Meta อาจถูกปรับสูงถึง 10% ของรายได้ทั่วโลก หรือประมาณ 16.5 พันล้านดอลลาร์ เรื่องนี้สะท้อนการต่อสู้ระหว่างการเปิดเสรีการแข่งขันกับการควบคุมอำนาจของบริษัทยักษ์ใหญ่ในยุค AI
    https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy

    ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที
    React ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-55182 ที่ได้คะแนนความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้อยู่ใน React Server Components และกระทบหลายเฟรมเวิร์ก เช่น Next, React Router, Vite ทำให้แม้แต่แฮกเกอร์ที่มีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายได้ ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที เพราะการโจมตีมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% และคาดว่าจะเกิดขึ้นจริงในเวลาอันใกล้ เนื่องจาก React ถูกใช้ในบริการใหญ่ ๆ อย่าง Facebook, Instagram, Netflix และ Shopify ทำให้พื้นที่เสี่ยงมีขนาดมหาศาล เรื่องนี้จึงเป็นสัญญาณเตือนแรงสำหรับนักพัฒนาและองค์กรที่ใช้ React ว่าต้องไม่ชะล่าใจ
    https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now

    Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินและคริปโตมูลค่า 700 ล้านยูโร
    หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายยุโรป (Europol) ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในการปิดเครือข่ายอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและคริปโต โดยมีมูลค่าการเคลื่อนไหวสูงถึง 700 ล้านยูโร เครือข่ายนี้ใช้วิธีซับซ้อนในการเคลื่อนย้ายเงินผ่านหลายประเทศและใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อปกปิดเส้นทางการเงิน การปฏิบัติการครั้งนี้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายรายและยึดทรัพย์สินจำนวนมาก ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าองค์กรอาชญากรรมที่พยายามใช้คริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ กำลังถูกจับตามองอย่างเข้มงวด
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million
    📌📡🟣 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟣📡📌 #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline 🪑 เก้าอี้ออฟฟิศที่พับครึ่งได้ – Hinomi H2 Pro เรื่องราวเริ่มจากการรีวิวเก้าอี้ทำงานรุ่นใหม่ Hinomi H2 Pro ที่ถูกออกแบบมาให้แตกต่างจากเก้าอี้ทั่วไป จุดเด่นคือสามารถพับครึ่งได้ ทำให้จัดเก็บง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีระบบรองรับหลังส่วนล่างที่แข็งแรงและปรับได้หลายระดับ เหมาะกับคนที่ต้องการการนั่งที่ถูกสุขลักษณะ ตัววัสดุทำจากเฟรมอะลูมิเนียมและผ้าตาข่ายที่ระบายอากาศได้ดี ใช้งานต่อเนื่องทั้งวันก็ยังสบาย แม้จะมีข้อสังเกตว่าการรองรับหลังอาจแรงไปสำหรับบางคน แต่โดยรวมถือว่าเป็นเก้าอี้ที่คุ้มค่าและมีลูกเล่นที่ไม่เหมือนใคร 🔗 https://www.techradar.com/pro/hinomi-h2-pro-office-chair-review 💿 การกลับมาของเครื่องเล่น SACD – Shanling SCD3.3 ย้อนบรรยากาศยุค 90s กับเครื่องเล่นซีดีรุ่นใหม่ Shanling SCD3.3 ที่มาพร้อมหลอดแอมป์ในตัวและ DAC คุณภาพสูง จุดขายคือการรองรับแผ่น SACD และการออกแบบที่ผสมผสานความคลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตัวเครื่องหนักแน่นด้วยโครงอะลูมิเนียมหนา มีหน้าจอสัมผัสและแอปควบคุมผ่านมือถือได้ เสียงที่ได้ถูกบรรยายว่าอบอุ่นและทรงพลัง เหมาะกับนักฟังเพลงที่ต้องการประสบการณ์เสียงระดับอ้างอิง แม้ราคาจะสูงถึงเกือบ 4,000 ดอลลาร์ แต่ก็เป็นการประกาศว่าแผ่นซีดียังไม่ตาย และยังมีเสน่ห์สำหรับสายเครื่องเสียงจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/audio/sacd-is-back-baby-this-beefy-new-audiophile-cd-player-is-deliciously-90s-and-has-built-in-tube-amplification-as-a-bonus 📱 เครือข่ายมือถือแบบไม่ต้องเปิดเผยตัว – Phreeli นี่คือผู้ให้บริการมือถือรายใหม่ที่ชื่อว่า Phreeli จุดเด่นคือการสมัครใช้งานโดยไม่ต้องใช้ชื่อหรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ นอกจากรหัสไปรษณีย์และวิธีการชำระเงิน ซึ่งสามารถใช้คริปโตได้ ทำให้ไม่สามารถเชื่อมโยงเบอร์โทรกับตัวตนจริงได้ ระบบยังมีการป้องกันสแปมและการโทรกวน เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจะถูกขายต่อให้บริษัทโฆษณาหรือหน่วยงานรัฐ แม้บางคนอาจสงสัยว่าใครจะใช้บริการแบบนี้ แต่ผู้ก่อตั้งยืนยันว่ามุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ใช่กลุ่มที่มีเจตนาไม่ดี 🔗 https://www.techradar.com/phones/this-new-anonymous-phone-carrier-doesnt-even-need-your-name-here-are-5-things-you-should-know-about-it 💻 Intel เปลี่ยนใจไม่ขายธุรกิจ NEX เดิมที Intel มีแผนจะขายหรือแยกธุรกิจ Networking and Communications (NEX) ออกไป แต่ล่าสุดบริษัทประกาศว่าจะเก็บไว้ในพอร์ตโฟลิโอ เพราะมองว่าเป็นส่วนสำคัญต่อกลยุทธ์ด้าน AI ศูนย์ข้อมูล และ Edge Computing การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสถานะทางการเงินของ Intel ดีขึ้นจากการลงทุนและการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรอย่าง SoftBank และ Nvidia การเก็บ NEX ไว้ในบริษัทจะช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบทำงานร่วมกันได้แนบแน่นมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/intel-drops-plans-to-sell-networking-and-communication-division 🌐 Windscribe เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้จัดการ IP ได้เอง บริการ VPN อย่าง Windscribe เปิดตัวสองฟีเจอร์ใหม่คือ IP Pinning และ IP Rotation เพื่อให้ผู้ใช้ควบคุม IP ได้สะดวกขึ้น โดย IP Pinning ช่วยล็อก IP ที่ใช้งานได้ดีเพื่อความเสถียร เช่น ใช้กับแอปธนาคาร ส่วน IP Rotation ช่วยเปลี่ยน IP ได้ทันทีโดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อ เหมาะกับการแก้ปัญหา CAPTCHA หรือการบล็อกจากเว็บไซต์ ฟีเจอร์เหล่านี้ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยระบบ API แบบ zero-knowledge ทำให้แม้แต่ Windscribe เองก็ไม่สามารถบันทึกข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/windscribe-rolls-out-new-tools-to-let-you-manage-your-vpn-ip-address-your-way 🚀 AI ถูกส่งขึ้นอวกาศ – Google, Amazon และ xAI สามบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีคือ Google, Amazon และ xAI กำลังร่วมมือกันเพื่อผลักดันโครงการนำ AI ขึ้นไปใช้งานในอวกาศ แนวคิดนี้คือการสร้างระบบประมวลผลที่สามารถทำงานได้โดยตรงบนดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งข้อมูลกลับมายังโลก ซึ่งจะช่วยให้การสื่อสารและการวิเคราะห์ข้อมูลจากอวกาศมีความรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น โครงการนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันในตลาด AI ที่ขยายไปไกลเกินกว่าพื้นโลก และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ AI ในการสำรวจจักรวาลอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/google-amazon-and-xai-want-to-launch-ai-into-space 🤖 หุ่นยนต์ดูดฝุ่นพร้อมระบบถูพื้นขั้นเทพ – Dreame Robovac Dreame เปิดตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ที่มาพร้อมระบบถูพื้นซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา จุดเด่นคือแท่นเก็บผ้าแบบ jukebox ที่สามารถเปลี่ยนผ้าเช็ดถูได้อัตโนมัติ ทำให้การทำความสะอาดต่อเนื่องโดยไม่ต้องคอยเปลี่ยนผ้าเอง หุ่นยนต์ยังมีระบบตรวจจับคราบและปรับแรงกดในการถูพื้นให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิว นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปเพื่อควบคุมและตั้งค่าการทำงานได้อย่างละเอียด ถือเป็นการยกระดับหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านให้ฉลาดและสะดวกสบายยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/dreames-new-robovac-has-the-most-advanced-mop-setup-ive-seen-and-the-jukebox-style-mop-dispenser-is-just-the-start-of-it 🖥️ Windows 11 ปรับโฉม Run Prompt เรื่องที่ดูเหมือนเล็กแต่จริง ๆ แล้วสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ Windows 11 กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือการปรับโฉมหน้าต่าง Run ที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ยุค Windows 95 ให้เข้ากับดีไซน์ Fluent ของยุคใหม่ หน้าต่างนี้จะดูทันสมัยขึ้น ใหญ่ขึ้น และยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยแสดงคำสั่งที่เคยใช้ไปแล้ว ทำให้เรียกใช้งานซ้ำได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งแสดงไอคอนของแอปที่เราจะเปิดอีกด้วย แม้ยังไม่เปิดให้ใช้งานจริง แต่ก็มีการค้นพบในเวอร์ชันทดสอบแล้ว หลายคนก็แอบกังวลว่าจะทำให้การเปิด Run ช้าลง แต่โดยรวมถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รอคอยกันมานาน 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-run-prompt-is-getting-a-makeover-and-a-handy-extra-power-but-already-there-are-worries-microsoft-will-ruin-it 💼 Microsoft 365 เตรียมขึ้นราคา ข่าวนี้อาจทำให้หลายองค์กรต้องขยับงบประมาณ เพราะ Microsoft ประกาศว่าจะปรับขึ้นราคาของแพ็กเกจ Microsoft 365 และ Office 365 สำหรับธุรกิจและหน่วยงานรัฐตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2026 โดยขึ้นระหว่าง 5% ถึง 33% ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ แต่ก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและ AI เข้ามา เช่น Microsoft Defender และ Security Copilot เพื่อช่วยป้องกันภัยไซเบอร์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แม้ราคาจะสูงขึ้น แต่ Microsoft ยืนยันว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่เพิ่มเข้ามา 🔗 https://www.techradar.com/pro/microsoft-365-is-hiking-prices-for-businesses-heres-how-much-it-will-cost-you 🤖 Samsung Ballie Robot เลื่อนเปิดตัวอีกครั้ง หุ่นยนต์กลมสีเหลืองที่ชื่อ Ballie จาก Samsung ซึ่งเคยโชว์ตัวตั้งแต่ปี 2020 และถูกนำกลับมาเปิดตัวใหม่ใน CES 2025 พร้อมสัญญาว่าจะวางขายในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น แต่จนถึงปลายปี 2025 ก็ยังไม่พร้อมวางจำหน่าย Samsung บอกว่ากำลังปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า Ballie ถูกออกแบบให้เป็นผู้ช่วยในบ้าน สามารถฉายภาพยนตร์หรือข้อมูลบนผนัง และตอบคำถามได้ แต่ยังต้องรอการพัฒนาเพิ่มเติม คาดว่าอาจมีความคืบหน้าที่ CES 2026 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/samsungs-ballie-robot-is-delayed-again-and-now-we-know-why ⚠️ การโจมตีไซเบอร์ด้วย Brickworm Malware หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ และแคนาดาออกมาเตือนว่าแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีนใช้มัลแวร์ชื่อ Brickworm เจาะเข้าไปในระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ และองค์กรด้านไอทีทั่วโลก มัลแวร์นี้สามารถฝังตัวในระบบ VMware และ Windows เพื่อเข้าถึงไฟล์ ควบคุม Active Directory และคงการเข้าถึงระยะยาวได้ ทำให้เสี่ยงต่อการสอดแนมและการก่อวินาศกรรมในอนาคต แม้จีนจะปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่รายงานนี้สะท้อนถึงภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อความมั่นคงไซเบอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-used-brickworm-malware-to-breach-critical-us-infrastructure 📡 Ofcom เตรียมเข้มงวดการตรวจสอบไฟล์ในปี 2026 หน่วยงานกำกับดูแลด้านการสื่อสารของสหราชอาณาจักร (Ofcom) มีแผนจะเพิ่มมาตรการตรวจสอบไฟล์ดิจิทัลในปี 2026 โดยจะขยายการเฝ้าระวังและการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกแชร์ผ่านบริการออนไลน์ เพื่อป้องกันการละเมิดและการใช้งานที่ผิดกฎหมาย แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าการตรวจสอบนี้อาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่ Ofcom ยืนยันว่ามีความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยทางดิจิทัลในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ofcom-wants-to-double-down-on-file-monitoring-in-2026 🎶 DAC ตัวใหม่เล็กแต่ทรงพลัง อุปกรณ์ DAC ขนาดเล็กที่เพิ่งเปิดตัวสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก หรือเครื่องเล่นเกม ให้มีคุณภาพเสียงระดับเดียวกับเครื่องเล่นเพลง hi-res ชั้นนำของโลก แม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่คมชัดและทรงพลัง เหมาะสำหรับคนที่รักการฟังเพลงคุณภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์ราคาแพง 🔗 https://www.techradar.com/audio/dacs/this-tiny-new-dac-gives-your-phone-laptop-or-games-console-the-audio-skills-of-the-worlds-best-hi-res-music-player 📺 Netflix ซื้อกิจการ Warner Bros. Discovery มูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ Netflix ประกาศดีลครั้งใหญ่ในการเข้าซื้อ Warner Bros. Discovery ด้วยมูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าจะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกและความคุ้มค่ามากขึ้น ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการสตรีมมิ่ง เพราะจะรวมคอนเทนต์จาก HBO, Discovery และแบรนด์ดังอื่น ๆ เข้ากับ Netflix ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Disney+ และ Amazon Prime เข้มข้นยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/its-official-netflix-is-buying-warner-bros-discovery-claiming-the-deal-means-more-choice-and-greater-value-for-consumers 🤔 Logitech CEO วิจารณ์อุปกรณ์ AI ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Logitech ออกมาแสดงความเห็นว่าอุปกรณ์ AI หลายอย่างในตลาดตอนนี้เป็น “การหาทางแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” ซึ่งสะท้อนถึงความสงสัยว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณค่าแท้จริงต่อผู้ใช้หรือไม่ ความเห็นนี้ได้รับการตอบรับจากหลายฝ่ายที่เห็นว่าอุปกรณ์ AI ยังไม่สามารถพิสูจน์ประโยชน์ที่ชัดเจน แต่ก็มีบางคนมองว่าเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องใช้เวลาเพื่อให้เห็นผลจริง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-solution-looking-for-a-problem-that-doesnt-exist-logitech-ceo-blasts-ai-gadgets-and-most-people-think-thats-being-generous 🛡️ EU เดินหน้ากฎหมาย Chat Control แบบเจาะจงเป้าหมาย เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในยุโรปเกี่ยวกับกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation (CSAR) ที่ถูกเรียกติดปากว่า “Chat Control” ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะกลายเป็นการสอดส่องประชาชนแบบกว้างขวาง แต่ Magnus Brunner กรรมาธิการสหภาพยุโรปด้านกิจการภายในกลับยืนยันว่า เขาเลือกสนับสนุนแนวทางของรัฐสภายุโรปที่เน้นการสแกนแบบเจาะจงเป้าหมาย มากกว่าการสแกนแบบครอบคลุมโดยสมัครใจตามที่สภายุโรปเสนอ เขาย้ำว่า “นี่ไม่ใช่เรื่อง Chat Control แต่เป็นการปกป้องเด็ก” อย่างไรก็ตาม หลายประเทศและผู้เชี่ยวชาญยังคงคัดค้านเพราะมองว่าอาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัว การเจรจารอบสุดท้ายระหว่างสภา คณะกรรมาธิการ และรัฐสภาจะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ชะตาว่ากฎหมายนี้จะออกมาในรูปแบบใด 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-commissioner-backs-parliament-line-on-targeted-monitoring 📡 ปัญหาการเชื่อมต่อที่ซ่อนอยู่ใน IoT เมื่อพูดถึงอุปกรณ์อัจฉริยะ เช่น ถังขยะที่ส่งสัญญาณเมื่อเต็ม หรือเครื่องตรวจหัวใจในบ้านพักคนชรา หลายคนมักคิดว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายเป็นเรื่องที่ “มีอยู่แล้ว” แต่แท้จริงแล้วการออกแบบระบบเชื่อมต่อคือหัวใจสำคัญ หากการเลือกซิมหรือการจัดการสัญญาณไม่ดี อุปกรณ์อาจเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ไม่เสถียร ทำให้ข้อมูลสะดุดหรือเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเทคโนโลยีซิมแบบ Dual IMSI ที่มีการจัดการสัญญาณและ IP แบบคงที่ จะช่วยให้ระบบทำงานได้ราบรื่นและปลอดภัยกว่า การออกแบบโครงสร้างการเชื่อมต่อที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ IoT ใช้งานได้จริงในระดับใหญ่ ไม่ใช่แค่การมีอุปกรณ์ที่ฉลาด แต่ต้องมีเครือข่ายที่ฉลาดด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-connectivity-problem-hiding-in-smart-bins-and-heart-monitors 💻 แฮกเกอร์ปลอมแอปธนาคารเพื่อขโมยข้อมูล นักวิจัยจาก Group-IB เปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อ GoldFactory กำลังใช้วิธีใหม่ในการโจมตี โดยนำแอปธนาคารจริงมาดัดแปลงใส่โค้ดอันตราย แล้วเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ปลอมและการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง แอปที่ถูกปลอมแปลงยังคงทำงานเหมือนจริง ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกขโมยข้อมูล ขณะเดียวกันมัลแวร์ที่ซ่อนอยู่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ทั้งดึงข้อมูล ล็อกอิน หรือแม้แต่สั่งการจากระยะไกล ปัจจุบันมีผู้ใช้หลายหมื่นรายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ตกเป็นเหยื่อ และแนวโน้มอาจขยายไปยังประเทศอื่น ๆ นี่ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและอันตรายมากในโลกการเงินดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hackers-observed-injecting-legitimate-banking-apps-with-malicious-code 📱 Verizon แจก iPhone 17 Pro ฟรีแบบไม่ต้องเทรดเครื่อง Verizon สร้างความฮือฮาด้วยโปรโมชันใหม่ที่ให้ iPhone 17 Pro ฟรีถึง 4 เครื่อง โดยไม่ต้องนำเครื่องเก่ามาแลก เพียงสมัครแพ็กเกจ Welcome Unlimited ที่ราคา 100 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ 4 ไลน์ เท่ากับจ่ายเพียง 25 ดอลลาร์ต่อเครื่องต่อเดือน ซึ่งถ้าคิดเป็นมูลค่ารวมแล้ว ผู้ใช้สามารถประหยัดได้มากกว่า 4,000 ดอลลาร์ ดีลนี้ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับครอบครัวที่ต้องการหลายเครื่อง และแม้แต่ผู้ใช้รายเดียวก็ยังสามารถรับเครื่องฟรีได้เมื่อเปิดไลน์ใหม่ ถือเป็นหนึ่งในดีลที่ดีที่สุดของ Verizon ในปีนี้ 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/verizon-just-surprised-us-with-one-of-its-best-deals-of-the-entire-year-get-four-iphone-17-pro-for-free-without-a-trade-in 🤖 CEO Logitech มองว่าอุปกรณ์ AI เป็น “คำตอบที่ไม่มีคำถาม” Hanneke Faber ซีอีโอของ Logitech ให้สัมภาษณ์ว่า อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ AI โดยเฉพาะ เช่น Humane AI Pin หรือ Rabbit R1 เป็นเพียง “การแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” เพราะสิ่งที่ทำได้ก็ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่แล้ว เธอเชื่อว่าทางที่ถูกต้องคือการฝัง AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ เช่น กล้องเว็บแคมที่ปรับภาพอัตโนมัติ หรือเมาส์ MX Master 4 ที่มีปุ่มเรียก Copilot หรือ ChatGPT ได้ทันที แนวคิดนี้ต่างจากบางบริษัทที่พยายามสร้างอุปกรณ์ใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะ เช่น แว่นตาอัจฉริยะของ Ray-Ban หรือเครื่องบันทึกเสียง AI ของ Plaud ซึ่งอนาคตจะพิสูจน์ว่าแนวทางใดจะอยู่รอด แต่สิ่งที่แน่นอนคือ AI จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกอุปกรณ์ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/logitech-ceo-says-ai-devices-are-just-solutions-looking-for-a-problem 🚀 ทำไมซีอีโอที่เข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ถึงนำหน้าในยุค AI บทความนี้เล่าถึงข้อได้เปรียบของซีอีโอที่มีพื้นฐานด้านการเขียนโปรแกรมหรือเข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพราะพวกเขาสามารถมองเห็นศักยภาพของ AI ได้ลึกกว่า และรู้ว่าควรนำไปใช้ตรงไหนเพื่อสร้างคุณค่า ไม่ใช่แค่ตามกระแส ตัวอย่างเช่น การเข้าใจโครงสร้างข้อมูลและการทำงานของโมเดล ทำให้สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้แม่นยำกว่า และยังช่วยให้ทีมงานเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของผู้นำมากขึ้น ในการแข่งขัน AI ที่รุนแรง การมีผู้นำที่เข้าใจเทคโนโลยีจึงเป็นเหมือนการมี “หัวเรือที่รู้เส้นทาง” 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-ceos-who-understand-software-development-have-a-head-start-in-the-ai-race 🎙️ ปัญหาการถอดเสียงแก้ได้ด้วย Gemini แต่ไม่ใช่ ChatGPT ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าเจอปัญหาใหญ่ในการถอดเสียงไฟล์เสียงยาว ๆ ที่มีหลายสำเนียงและเสียงรบกวน เมื่อทดลองใช้ ChatGPT ผลลัพธ์ออกมาไม่แม่นยำ แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Gemini กลับได้ผลลัพธ์ที่ตรงและจัดการไฟล์ได้ดีกว่า จุดเด่นคือ Gemini สามารถทำงานกับไฟล์เสียงที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังให้ผลลัพธ์ที่พร้อมใช้งานทันที เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ AI หลายเจ้าแข่งกัน แต่แต่ละระบบก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกันไป 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-had-a-big-audio-transcription-problem-gemini-solved-it-and-chatgpt-didnt 📱 ปี 2025 ไม่ได้เป็นปีที่น่าเบื่อของสมาร์ทโฟน หลายคนอาจบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มหมดความตื่นเต้น แต่จริง ๆ แล้วปีนี้กลับเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เริ่มจาก Apple ที่กล้าลองสิ่งใหม่ ๆ ทั้ง iPhone 16e ที่มาพร้อมโมเด็ม C1 และ iPhone Air ที่ออกแบบให้บางและทนทานขึ้น แม้ไม่ใช่รุ่นที่ดีที่สุด แต่ก็สะท้อนความกล้าในการทดลอง ส่วน iPhone 17 Pro ก็พลิกโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple พร้อมเพิ่มเลนส์ซูมและหน้าจอ 120Hz ให้ทันสมัยขึ้น ขณะเดียวกัน Qualcomm ก็สร้างความฮือฮาด้วย Snapdragon 8 Elite ที่แรงและประหยัดพลังงานกว่า ทำให้มือถือ Android ใช้งานได้ยาวนานกว่าสองวันเต็ม อีกด้านหนึ่ง OnePlus 15 กลายเป็นมือถือที่ถูกยกให้เป็น “ตัวเลือกของคนวงใน” ด้วยความทนทานและแบตเตอรี่ที่เหลือเชื่อ สุดท้าย Google ก็เพิ่มฟีเจอร์แม่เหล็กใน Pixel 10 Pro ทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้นอย่างมาก ทั้งการชาร์จ การติดตั้งอุปกรณ์เสริม และการใช้งานร่วมกับกระเป๋าสตางค์แม่เหล็ก เรื่องทั้งหมดนี้บอกได้เลยว่า โทรศัพท์ปี 2025 ไม่ได้เงียบเหงาเลย 🔗 https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai 🛡️ หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐเตือน หยุดใช้ VPN ส่วนตัว CISA หรือหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” เพราะแทนที่จะปลอดภัยขึ้น กลับเพิ่มความเสี่ยงมากกว่าเดิม เหตุผลคือ VPN หลายเจ้า โดยเฉพาะที่ฟรีหรือไม่น่าเชื่อถือ อาจเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาเอง ทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงจากการโจมตีขั้นสูง แม้ VPN จะช่วยซ่อนกิจกรรมจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่ก็เหมือนย้ายความเสี่ยงไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ที่อาจไม่น่าไว้ใจ ทางออกคือเลือกผู้ให้บริการที่มีการตรวจสอบนโยบายไม่เก็บข้อมูลจริง มีการเข้ารหัสมาตรฐานสูง และมีฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch หรือ multi-hop เพื่อเพิ่มความปลอดภัย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการหาทางลัดเพื่อความเป็นส่วนตัว อาจกลายเป็นดาบสองคมได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns 🤖 งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์ Cisco เปิดเผยผลสำรวจที่ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างวัย คนอายุต่ำกว่า 35 ปีมีการใช้งาน AI สูงถึงครึ่งหนึ่ง และกว่า 75% มองว่า AI มีประโยชน์ต่อชีวิตและงาน แต่เมื่อมองไปที่คนอายุเกิน 45 ครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าการปฏิเสธโดยตรง นอกจากนี้ยังพบว่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก มีการนำ AI มาใช้มากที่สุด ขณะที่ยุโรปกลับมีความไม่มั่นใจสูงกว่า ผลวิจัยยังชี้ว่าการใช้ AI มากเกินไปอาจสัมพันธ์กับการใช้หน้าจอมากและความพึงพอใจในชีวิตที่ลดลง ทำให้คำแนะนำคือควรสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม เพื่อให้ “Generation AI” รวมทุกคนจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful ⚖️ EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI ใน WhatsApp คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta หลังจากมีข้อกล่าวหาว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่ง โดย Meta ได้ปรับเงื่อนไข API ของ WhatsApp Business ห้ามไม่ให้แชทบอทจากผู้ให้บริการอื่นที่เน้น AI เป็นหลักถูกเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอนบอทออกไปแล้ว EU กังวลว่า Meta กำลังใช้ความได้เปรียบทางตลาดเพื่อผลักดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบว่ามีความผิด Meta อาจถูกปรับสูงถึง 10% ของรายได้ทั่วโลก หรือประมาณ 16.5 พันล้านดอลลาร์ เรื่องนี้สะท้อนการต่อสู้ระหว่างการเปิดเสรีการแข่งขันกับการควบคุมอำนาจของบริษัทยักษ์ใหญ่ในยุค AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy ⚠️ ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที React ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-55182 ที่ได้คะแนนความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้อยู่ใน React Server Components และกระทบหลายเฟรมเวิร์ก เช่น Next, React Router, Vite ทำให้แม้แต่แฮกเกอร์ที่มีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายได้ ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที เพราะการโจมตีมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% และคาดว่าจะเกิดขึ้นจริงในเวลาอันใกล้ เนื่องจาก React ถูกใช้ในบริการใหญ่ ๆ อย่าง Facebook, Instagram, Netflix และ Shopify ทำให้พื้นที่เสี่ยงมีขนาดมหาศาล เรื่องนี้จึงเป็นสัญญาณเตือนแรงสำหรับนักพัฒนาและองค์กรที่ใช้ React ว่าต้องไม่ชะล่าใจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now 💰 Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินและคริปโตมูลค่า 700 ล้านยูโร หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายยุโรป (Europol) ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในการปิดเครือข่ายอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและคริปโต โดยมีมูลค่าการเคลื่อนไหวสูงถึง 700 ล้านยูโร เครือข่ายนี้ใช้วิธีซับซ้อนในการเคลื่อนย้ายเงินผ่านหลายประเทศและใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อปกปิดเส้นทางการเงิน การปฏิบัติการครั้งนี้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายรายและยึดทรัพย์สินจำนวนมาก ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าองค์กรอาชญากรรมที่พยายามใช้คริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ กำลังถูกจับตามองอย่างเข้มงวด ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 542 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple และ Tesla ถูกฟ้องเรื่องสิทธิมนุษยชน

    องค์กร International Rights Advocates ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ยื่นฟ้อง Apple และ Tesla ต่อศาล โดยกล่าวหาว่าทั้งสองบริษัทใช้ การตลาดที่หลอกลวง อ้างว่าสินค้าของตนผลิตอย่างยั่งยืนและมีจริยธรรม แต่ในความจริงกลับพึ่งพาแร่ โคบอลต์และโคลแทน จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซึ่งเชื่อมโยงกับการใช้แรงงานเด็ก การข่มขืน การทรมาน และการสังหาร

    ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
    รายงานระบุว่าการทำเหมืองในคองโกได้สร้างผลกระทบมหาศาลต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การปล่อยสารเคมีลงแม่น้ำและทะเลสาบ ทำลายแหล่งน้ำดื่มและเกษตรกรรม รวมถึงทำให้เกิดโรคผิวหนังและความผิดปกติทางสุขภาพในชุมชน ขณะเดียวกัน ความขัดแย้งเพื่อแย่งชิงทรัพยากรได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 6 ล้านคนตั้งแต่ปี 1996 และยังคงทำให้ผู้คนหลายล้านต้องพลัดถิ่น

    คำตอบจากบริษัท
    Apple ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่า 99% ของโคบอลต์ในแบตเตอรี่ที่ออกแบบโดย Apple มาจากการรีไซเคิล และบริษัทได้สั่งให้ซัพพลายเออร์หยุดการจัดหาจากพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง Tesla ยังไม่ได้ให้คำตอบต่อสื่อ แต่ถูกกล่าวหาว่าใช้ซัพพลายเออร์เดียวกันกับ Apple ซึ่งมีประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชน

    ความเสี่ยงและข้อกังวล
    แม้บริษัทจะมีนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม แต่รายงานชี้ว่าการบังคับใช้ยังไม่เพียงพอ และมีความเสี่ยงสูงที่แร่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์จะยังคงเชื่อมโยงกับการละเมิดสิทธิและการทำลายสิ่งแวดล้อม หากไม่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้อย่างโปร่งใส

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Apple และ Tesla ถูกฟ้องในสหรัฐฯ
    ข้อกล่าวหาว่าใช้การตลาดหลอกลวงเกี่ยวกับการผลิตที่ยั่งยืน

    การใช้แร่โคบอลต์และโคลแทนจากคองโก
    เชื่อมโยงกับแรงงานเด็ก การทรมาน และการสังหาร

    ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน
    สารเคมีทำลายแหล่งน้ำและเกษตรกรรม ก่อโรคและความเสียหายต่อสุขภาพ

    คำเตือนและข้อกังวล
    ความขัดแย้งในคองโกคร่าชีวิตประชาชนกว่า 6 ล้านคนตั้งแต่ปี 1996
    การตรวจสอบย้อนกลับของซัพพลายเชนยังไม่โปร่งใสและเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/06/apple-tesla-accused-of-profiting-from-horrific-abuses-environmental-destruction
    ⚖️ Apple และ Tesla ถูกฟ้องเรื่องสิทธิมนุษยชน องค์กร International Rights Advocates ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ยื่นฟ้อง Apple และ Tesla ต่อศาล โดยกล่าวหาว่าทั้งสองบริษัทใช้ การตลาดที่หลอกลวง อ้างว่าสินค้าของตนผลิตอย่างยั่งยืนและมีจริยธรรม แต่ในความจริงกลับพึ่งพาแร่ โคบอลต์และโคลแทน จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซึ่งเชื่อมโยงกับการใช้แรงงานเด็ก การข่มขืน การทรมาน และการสังหาร 🌍 ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม รายงานระบุว่าการทำเหมืองในคองโกได้สร้างผลกระทบมหาศาลต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การปล่อยสารเคมีลงแม่น้ำและทะเลสาบ ทำลายแหล่งน้ำดื่มและเกษตรกรรม รวมถึงทำให้เกิดโรคผิวหนังและความผิดปกติทางสุขภาพในชุมชน ขณะเดียวกัน ความขัดแย้งเพื่อแย่งชิงทรัพยากรได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 6 ล้านคนตั้งแต่ปี 1996 และยังคงทำให้ผู้คนหลายล้านต้องพลัดถิ่น 🛑 คำตอบจากบริษัท Apple ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่า 99% ของโคบอลต์ในแบตเตอรี่ที่ออกแบบโดย Apple มาจากการรีไซเคิล และบริษัทได้สั่งให้ซัพพลายเออร์หยุดการจัดหาจากพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง Tesla ยังไม่ได้ให้คำตอบต่อสื่อ แต่ถูกกล่าวหาว่าใช้ซัพพลายเออร์เดียวกันกับ Apple ซึ่งมีประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชน ⚠️ ความเสี่ยงและข้อกังวล แม้บริษัทจะมีนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม แต่รายงานชี้ว่าการบังคับใช้ยังไม่เพียงพอ และมีความเสี่ยงสูงที่แร่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์จะยังคงเชื่อมโยงกับการละเมิดสิทธิและการทำลายสิ่งแวดล้อม หากไม่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้อย่างโปร่งใส 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Apple และ Tesla ถูกฟ้องในสหรัฐฯ ➡️ ข้อกล่าวหาว่าใช้การตลาดหลอกลวงเกี่ยวกับการผลิตที่ยั่งยืน ✅ การใช้แร่โคบอลต์และโคลแทนจากคองโก ➡️ เชื่อมโยงกับแรงงานเด็ก การทรมาน และการสังหาร ✅ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ➡️ สารเคมีทำลายแหล่งน้ำและเกษตรกรรม ก่อโรคและความเสียหายต่อสุขภาพ ‼️ คำเตือนและข้อกังวล ⛔ ความขัดแย้งในคองโกคร่าชีวิตประชาชนกว่า 6 ล้านคนตั้งแต่ปี 1996 ⛔ การตรวจสอบย้อนกลับของซัพพลายเชนยังไม่โปร่งใสและเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/06/apple-tesla-accused-of-profiting-from-horrific-abuses-environmental-destruction
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Apple, Tesla accused of profiting from horrific abuses, environmental destruction
    According to the filing, Apple's suppliers engage in forced and child labour, and beatings of workers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • Cloudflare ล่มทั่วโลก 5 ธันวาคม 2025

    วันที่ 5 ธันวาคม 2025 Cloudflare เกิดเหตุขัดข้องทั่วโลกกว่า 25 นาที ส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์และบริการสำคัญจำนวนมาก สาเหตุเกิดจากการปรับเปลี่ยนระบบเพื่อป้องกันช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components (CVE-2025-55182) ซึ่งเป็นช่องโหว่ที่สามารถถูกใช้โจมตีแบบ Remote Code Execution ได้

    Cloudflare ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตที่สำคัญ เกิดเหตุขัดข้องราว 25 นาทีในช่วงเช้าวันที่ 5 ธันวาคม 2025 ส่งผลให้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันจำนวนมาก เช่น LinkedIn, Spotify, Canva, Coinbase, Kraken และแม้แต่ ChatGPT ไม่สามารถใช้งานได้ ผู้ใช้ทั่วโลกพบเจอข้อความ HTTP 500 Internal Server Error ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบหลังบ้านของ Cloudflare

    สาเหตุ: ช่องโหว่ React Server Components (CVE-2025-55182)
    เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการโจมตีไซเบอร์ แต่เกิดจากการปรับเปลี่ยนระบบ Web Application Firewall (WAF) ของ Cloudflare เพื่อรับมือกับช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกค้นพบเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด CVSS 10.0 และสามารถเปิดทางให้ผู้โจมตีรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ทำให้ Cloudflareต้องเร่งปรับระบบเพื่อป้องกันลูกค้า แต่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวกลับกระทบต่อการทำงานและทำให้ระบบล่มชั่วคราว

    ผลกระทบต่อธุรกิจและผู้ใช้งาน
    การล่มของ Cloudflare ส่งผลกระทบต่อกว่า 20% ของทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตทั่วโลก โดยเฉพาะแพลตฟอร์มการเงินและคริปโต เช่น Coinbase และ Kraken ที่ไม่สามารถให้บริการได้ในช่วงเวลาสำคัญ ขณะที่ผู้ใช้งานในอินเดียรายงานว่า Zerodha และ Groww ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการลงทุนก็หยุดทำงานเช่นกัน เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาบริการโครงสร้างพื้นฐานจากผู้ให้บริการรายใหญ่เพียงไม่กี่ราย

    ความเสี่ยงและคำเตือนจากช่องโหว่ React2Shell
    ช่องโหว่ CVE-2025-55182 หรือที่ถูกเรียกว่า React2Shell กำลังถูกจับตามองอย่างหนัก เนื่องจากมีรายงานว่ากลุ่มแฮกเกอร์จากจีนเริ่มพยายามใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้แล้ว แม้ React และ Next.js จะออกแพตช์แก้ไขแล้ว แต่ยังมีระบบจำนวนมากที่ไม่ได้อัปเดตทันเวลา ทำให้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีในวงกว้าง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เหตุการณ์ Cloudflare ล่มทั่วโลก (5 ธ.ค. 2025)
    กระทบกว่า 28% ของทราฟฟิก HTTP และบริการสำคัญ เช่น LinkedIn, Spotify, Coinbase

    สาเหตุจากการปรับระบบ WAF เพื่อแก้ช่องโหว่ React Server Components
    ช่องโหว่ CVE-2025-55182 มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด CVSS 10.0

    ผลกระทบต่อธุรกิจและผู้ใช้งาน
    แพลตฟอร์มการเงินและคริปโต เช่น Coinbase, Kraken, Zerodha, Groww หยุดให้บริการชั่วคราว

    คำเตือนด้านความปลอดภัย
    ช่องโหว่ React2Shell เริ่มถูกแฮกเกอร์จีนใช้โจมตีแล้ว
    หากระบบยังไม่ได้อัปเดตแพตช์ล่าสุด มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกโจมตีแบบ Remote Code Execution

    https://blog.cloudflare.com/5-december-2025-outage/
    🖥️ Cloudflare ล่มทั่วโลก 5 ธันวาคม 2025 วันที่ 5 ธันวาคม 2025 Cloudflare เกิดเหตุขัดข้องทั่วโลกกว่า 25 นาที ส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์และบริการสำคัญจำนวนมาก สาเหตุเกิดจากการปรับเปลี่ยนระบบเพื่อป้องกันช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components (CVE-2025-55182) ซึ่งเป็นช่องโหว่ที่สามารถถูกใช้โจมตีแบบ Remote Code Execution ได้ Cloudflare ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตที่สำคัญ เกิดเหตุขัดข้องราว 25 นาทีในช่วงเช้าวันที่ 5 ธันวาคม 2025 ส่งผลให้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันจำนวนมาก เช่น LinkedIn, Spotify, Canva, Coinbase, Kraken และแม้แต่ ChatGPT ไม่สามารถใช้งานได้ ผู้ใช้ทั่วโลกพบเจอข้อความ HTTP 500 Internal Server Error ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบหลังบ้านของ Cloudflare 🔒 สาเหตุ: ช่องโหว่ React Server Components (CVE-2025-55182) เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการโจมตีไซเบอร์ แต่เกิดจากการปรับเปลี่ยนระบบ Web Application Firewall (WAF) ของ Cloudflare เพื่อรับมือกับช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกค้นพบเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด CVSS 10.0 และสามารถเปิดทางให้ผู้โจมตีรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ทำให้ Cloudflareต้องเร่งปรับระบบเพื่อป้องกันลูกค้า แต่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวกลับกระทบต่อการทำงานและทำให้ระบบล่มชั่วคราว 🌐 ผลกระทบต่อธุรกิจและผู้ใช้งาน การล่มของ Cloudflare ส่งผลกระทบต่อกว่า 20% ของทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตทั่วโลก โดยเฉพาะแพลตฟอร์มการเงินและคริปโต เช่น Coinbase และ Kraken ที่ไม่สามารถให้บริการได้ในช่วงเวลาสำคัญ ขณะที่ผู้ใช้งานในอินเดียรายงานว่า Zerodha และ Groww ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการลงทุนก็หยุดทำงานเช่นกัน เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาบริการโครงสร้างพื้นฐานจากผู้ให้บริการรายใหญ่เพียงไม่กี่ราย ⚠️ ความเสี่ยงและคำเตือนจากช่องโหว่ React2Shell ช่องโหว่ CVE-2025-55182 หรือที่ถูกเรียกว่า React2Shell กำลังถูกจับตามองอย่างหนัก เนื่องจากมีรายงานว่ากลุ่มแฮกเกอร์จากจีนเริ่มพยายามใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้แล้ว แม้ React และ Next.js จะออกแพตช์แก้ไขแล้ว แต่ยังมีระบบจำนวนมากที่ไม่ได้อัปเดตทันเวลา ทำให้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีในวงกว้าง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เหตุการณ์ Cloudflare ล่มทั่วโลก (5 ธ.ค. 2025) ➡️ กระทบกว่า 28% ของทราฟฟิก HTTP และบริการสำคัญ เช่น LinkedIn, Spotify, Coinbase ✅ สาเหตุจากการปรับระบบ WAF เพื่อแก้ช่องโหว่ React Server Components ➡️ ช่องโหว่ CVE-2025-55182 มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด CVSS 10.0 ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจและผู้ใช้งาน ➡️ แพลตฟอร์มการเงินและคริปโต เช่น Coinbase, Kraken, Zerodha, Groww หยุดให้บริการชั่วคราว ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัย ⛔ ช่องโหว่ React2Shell เริ่มถูกแฮกเกอร์จีนใช้โจมตีแล้ว ⛔ หากระบบยังไม่ได้อัปเดตแพตช์ล่าสุด มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกโจมตีแบบ Remote Code Execution https://blog.cloudflare.com/5-december-2025-outage/
    BLOG.CLOUDFLARE.COM
    Cloudflare outage on December 5, 2025
    Cloudflare experienced a significant traffic outage on December 5, 2025, starting approximately at 8:47 UTC. The incident lasted approximately 25 minutes before resolution. We are sorry for the impact that it caused to our customers and the Internet. The incident was not caused by an attack and was due to configuration changes being applied to attempt to mitigate a recent industry-wide vulnerability impacting React Server Components.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts