ช่องโหว่ร้ายแรงใน Fortinet เสี่ยงการยึดสิทธิ์แอดมินผ่าน FortiCloud SSO
Fortinet ถูกเปิดเผยว่ามีช่องโหว่ร้ายแรงในระบบ FortiCloud Single Sign-On (SSO) ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ SAML (Security Assertion Markup Language) หากผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงข้อมูล SAML ได้สำเร็จ จะสามารถเลี่ยงการตรวจสอบสิทธิ์และเข้าถึงสิทธิ์ระดับ Administrator โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ซึ่งถือเป็นการ Bypass Authentication ที่มีผลกระทบสูงต่อความปลอดภัยขององค์กร
ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับ Critical เนื่องจากเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าถึงระบบจัดการโดยตรง และสามารถเปลี่ยนการตั้งค่า, เพิ่มผู้ใช้ใหม่, หรือดึงข้อมูลที่มีความอ่อนไหวออกไปได้ โดยไม่ต้องมีบัญชีที่ถูกต้อง การโจมตีลักษณะนี้อาจเกิดขึ้นได้ทั้งจากภายในและภายนอกองค์กร หากระบบยังไม่ได้รับการอัปเดต
Fortinet ได้ออกแพตช์แก้ไขเพื่อปิดช่องโหว่ดังกล่าวแล้ว พร้อมแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที และตรวจสอบการตั้งค่า SSO รวมถึงการใช้งาน SAML ให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
การโจมตีผ่านการปลอมแปลง SAML ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การเกิดขึ้นในระบบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเช่น Fortinet ทำให้ความเสี่ยงนี้มีผลกระทบกว้างขวางต่อหลายองค์กรทั่วโลก โดยเฉพาะองค์กรที่พึ่งพา FortiCloud ในการจัดการระบบเครือข่ายและความปลอดภัย
สรุปประเด็นสำคัญ
ช่องโหว่ FortiCloud SSO
เกิดจากการปลอมแปลง SAML Assertion
ความเสี่ยงระดับ Critical
ผู้โจมตีสามารถเลี่ยงการตรวจสอบสิทธิ์และเข้าถึงสิทธิ์แอดมิน
ผลกระทบต่อองค์กร
อาจถูกเปลี่ยนการตั้งค่า, เพิ่มผู้ใช้ใหม่, หรือดึงข้อมูลสำคัญ
การแก้ไขจาก Fortinet
ออกแพตช์ใหม่และแนะนำให้อัปเดตทันที
ความเสี่ยงหากไม่อัปเดตระบบ
องค์กรอาจถูกโจมตีและสูญเสียการควบคุมระบบเครือข่าย
การปลอมแปลง SAML
เป็นเทคนิคที่ผู้โจมตีใช้กันบ่อยและสามารถนำไปใช้กับระบบอื่นได้
https://securityonline.info/critical-fortinet-flaw-risks-unauthenticated-admin-bypass-via-forticloud-sso-saml-forgery/
Fortinet ถูกเปิดเผยว่ามีช่องโหว่ร้ายแรงในระบบ FortiCloud Single Sign-On (SSO) ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ SAML (Security Assertion Markup Language) หากผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงข้อมูล SAML ได้สำเร็จ จะสามารถเลี่ยงการตรวจสอบสิทธิ์และเข้าถึงสิทธิ์ระดับ Administrator โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ซึ่งถือเป็นการ Bypass Authentication ที่มีผลกระทบสูงต่อความปลอดภัยขององค์กร
ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับ Critical เนื่องจากเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าถึงระบบจัดการโดยตรง และสามารถเปลี่ยนการตั้งค่า, เพิ่มผู้ใช้ใหม่, หรือดึงข้อมูลที่มีความอ่อนไหวออกไปได้ โดยไม่ต้องมีบัญชีที่ถูกต้อง การโจมตีลักษณะนี้อาจเกิดขึ้นได้ทั้งจากภายในและภายนอกองค์กร หากระบบยังไม่ได้รับการอัปเดต
Fortinet ได้ออกแพตช์แก้ไขเพื่อปิดช่องโหว่ดังกล่าวแล้ว พร้อมแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที และตรวจสอบการตั้งค่า SSO รวมถึงการใช้งาน SAML ให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
การโจมตีผ่านการปลอมแปลง SAML ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การเกิดขึ้นในระบบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเช่น Fortinet ทำให้ความเสี่ยงนี้มีผลกระทบกว้างขวางต่อหลายองค์กรทั่วโลก โดยเฉพาะองค์กรที่พึ่งพา FortiCloud ในการจัดการระบบเครือข่ายและความปลอดภัย
สรุปประเด็นสำคัญ
ช่องโหว่ FortiCloud SSO
เกิดจากการปลอมแปลง SAML Assertion
ความเสี่ยงระดับ Critical
ผู้โจมตีสามารถเลี่ยงการตรวจสอบสิทธิ์และเข้าถึงสิทธิ์แอดมิน
ผลกระทบต่อองค์กร
อาจถูกเปลี่ยนการตั้งค่า, เพิ่มผู้ใช้ใหม่, หรือดึงข้อมูลสำคัญ
การแก้ไขจาก Fortinet
ออกแพตช์ใหม่และแนะนำให้อัปเดตทันที
ความเสี่ยงหากไม่อัปเดตระบบ
องค์กรอาจถูกโจมตีและสูญเสียการควบคุมระบบเครือข่าย
การปลอมแปลง SAML
เป็นเทคนิคที่ผู้โจมตีใช้กันบ่อยและสามารถนำไปใช้กับระบบอื่นได้
https://securityonline.info/critical-fortinet-flaw-risks-unauthenticated-admin-bypass-via-forticloud-sso-saml-forgery/
🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Fortinet เสี่ยงการยึดสิทธิ์แอดมินผ่าน FortiCloud SSO
Fortinet ถูกเปิดเผยว่ามีช่องโหว่ร้ายแรงในระบบ FortiCloud Single Sign-On (SSO) ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ SAML (Security Assertion Markup Language) หากผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงข้อมูล SAML ได้สำเร็จ จะสามารถเลี่ยงการตรวจสอบสิทธิ์และเข้าถึงสิทธิ์ระดับ Administrator โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ซึ่งถือเป็นการ Bypass Authentication ที่มีผลกระทบสูงต่อความปลอดภัยขององค์กร
ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับ Critical เนื่องจากเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าถึงระบบจัดการโดยตรง และสามารถเปลี่ยนการตั้งค่า, เพิ่มผู้ใช้ใหม่, หรือดึงข้อมูลที่มีความอ่อนไหวออกไปได้ โดยไม่ต้องมีบัญชีที่ถูกต้อง การโจมตีลักษณะนี้อาจเกิดขึ้นได้ทั้งจากภายในและภายนอกองค์กร หากระบบยังไม่ได้รับการอัปเดต
Fortinet ได้ออกแพตช์แก้ไขเพื่อปิดช่องโหว่ดังกล่าวแล้ว พร้อมแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที และตรวจสอบการตั้งค่า SSO รวมถึงการใช้งาน SAML ให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
การโจมตีผ่านการปลอมแปลง SAML ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การเกิดขึ้นในระบบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเช่น Fortinet ทำให้ความเสี่ยงนี้มีผลกระทบกว้างขวางต่อหลายองค์กรทั่วโลก โดยเฉพาะองค์กรที่พึ่งพา FortiCloud ในการจัดการระบบเครือข่ายและความปลอดภัย
📌 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ ช่องโหว่ FortiCloud SSO
➡️ เกิดจากการปลอมแปลง SAML Assertion
✅ ความเสี่ยงระดับ Critical
➡️ ผู้โจมตีสามารถเลี่ยงการตรวจสอบสิทธิ์และเข้าถึงสิทธิ์แอดมิน
✅ ผลกระทบต่อองค์กร
➡️ อาจถูกเปลี่ยนการตั้งค่า, เพิ่มผู้ใช้ใหม่, หรือดึงข้อมูลสำคัญ
✅ การแก้ไขจาก Fortinet
➡️ ออกแพตช์ใหม่และแนะนำให้อัปเดตทันที
‼️ ความเสี่ยงหากไม่อัปเดตระบบ
⛔ องค์กรอาจถูกโจมตีและสูญเสียการควบคุมระบบเครือข่าย
‼️ การปลอมแปลง SAML
⛔ เป็นเทคนิคที่ผู้โจมตีใช้กันบ่อยและสามารถนำไปใช้กับระบบอื่นได้
https://securityonline.info/critical-fortinet-flaw-risks-unauthenticated-admin-bypass-via-forticloud-sso-saml-forgery/
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
16 มุมมอง
0 รีวิว