• รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251208 #securityonline


    Stealth Supply Chain Attack: Rust Crate ปลอมแฝงมัลแวร์
    เรื่องนี้เป็นการโจมตีแบบ supply chain ที่แยบยลมาก แฮกเกอร์ใช้เทคนิค typosquatting ปลอมตัวเป็นไลบรารีชื่อ finch-rust บน Crates.io ให้ดูเหมือนเป็นเวอร์ชัน Rust ของเครื่องมือ bioinformatics ที่ชื่อ finch ซึ่งมีคนดาวน์โหลดจริงกว่า 67,000 ครั้ง ตัวแพ็กเกจปลอมนี้ทำงานเหมือนของจริง แต่ซ่อนโค้ดบรรทัดเดียวที่โหลดมัลแวร์ชื่อ sha-rust เข้ามา โดยใช้ dependency แบบไม่ fix เวอร์ชัน ทำให้ผู้โจมตีสามารถอัปเดต payload ได้เรื่อย ๆ โดยไม่ต้องแก้ loader เลย ภายในสองสัปดาห์ sha-rust ถูกพัฒนาไปถึง 8 เวอร์ชัน จากการสแกนโฟลเดอร์ทั้งหมดจนเปลี่ยนเป็นสแกนเฉพาะ directory ปัจจุบันเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ เป้าหมายคือไฟล์ environment, config และ token ต่าง ๆ แล้วส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ปลอมผ่าน HTTPS พร้อม delay เล็กน้อยเพื่อไม่ให้ถูกจับได้ ผู้โจมตียังสร้างโปรไฟล์ GitHub ปลอมแฝงตัวเป็นนักพัฒนาจริงเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ สุดท้ายทีม Rust Security ตรวจพบและลบออกไป แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าการโจมตีแบบ typosquatting ยังคงเป็นภัยใหญ่ในโลก open-source
    https://securityonline.info/stealth-supply-chain-attack-malicious-rust-crate-used-unpinned-dependency-for-silent-payload-upgrades

    Pixel Phone กลายเป็น Webcam สำหรับ Nintendo Switch 2
    ข่าวนี้เล่าเรื่องน่าสนใจสำหรับสายเกมและเทคโนโลยี เมื่อมีการค้นพบว่า Pixel Phone สามารถเชื่อมต่อกับ Nintendo Switch 2 ผ่านสาย USB แล้วทำงานเป็น webcam ได้ทันที โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมใด ๆ ฟีเจอร์นี้เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถสตรีมเกมหรือใช้กล้องมือถือเป็นอุปกรณ์เสริมได้อย่างสะดวก ถือเป็นการผสมผสานระหว่างสมาร์ทโฟนและเครื่องเกมที่ทำให้การใช้งานยืดหยุ่นขึ้นมาก
    https://securityonline.info/pixel-phone-turns-into-webcam-for-nintendo-switch-2-via-usb-no-accessory-needed

    Meta จับมือ CNN และ Le Monde ป้อนข่าวลิขสิทธิ์ให้ AI
    Meta ที่ก่อนหน้านี้ถูกวิจารณ์เรื่องการใช้ข้อมูลข่าวสารโดยไม่ขออนุญาต ตอนนี้ได้เปลี่ยนท่าทีใหม่ โดยทำข้อตกลงกับสำนักข่าวใหญ่ ๆ อย่าง CNN และ Le Monde เพื่อให้ข่าวที่มีลิขสิทธิ์ถูกนำไปใช้ในระบบ Meta AI อย่างถูกต้องตามกฎหมาย การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าบริษัทกำลังพยายามสร้างความน่าเชื่อถือและลดแรงเสียดทานจากสื่อ รวมถึงอาจเป็นการวางรากฐานให้ AI ของ Meta มีข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้มากขึ้น
    https://securityonline.info/meta-reverses-course-strikes-deals-with-cnn-le-monde-to-feed-licensed-news-to-meta-ai

    EU ปรับ X €120 ล้าน จากการละเมิด DSA
    สหภาพยุโรปได้ปรับแพลตฟอร์ม X (อดีต Twitter) เป็นเงินมหาศาลถึง 120 ล้านยูโร เนื่องจากละเมิดกฎหมาย Digital Services Act (DSA) โดยเฉพาะการตรวจสอบระบบ Blue Check Verification ที่ถูกมองว่า “หลอกลวง” การปรับครั้งนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า EU จริงจังกับการบังคับใช้กฎหมายดิจิทัล และแพลตฟอร์มใหญ่ ๆ จะไม่สามารถใช้วิธีการที่ทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดได้อีกต่อไป
    https://securityonline.info/eu-fines-x-e120-million-for-dsa-violation-over-deceptive-blue-check-verification

    Meta แก้ระบบ Support พัง เปิดตัว AI Assistants และ Recovery Hub
    Meta ประกาศปรับปรุงระบบช่วยเหลือผู้ใช้ที่ก่อนหน้านี้ถูกวิจารณ์ว่า “พัง” และไม่ตอบโจทย์ โดยครั้งนี้ได้เพิ่ม AI Assistants เข้ามาช่วยตอบคำถามและแก้ปัญหา รวมถึงเปิดตัว Recovery Hubs ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับการกู้คืนบัญชีหรือแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนว่าบริษัทกำลังพยายามฟื้นความเชื่อมั่นจากผู้ใช้ และใช้ AI เป็นหัวใจหลักในการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน
    https://securityonline.info/meta-fixes-broken-support-rolling-out-ai-assistants-and-new-recovery-hubs

    Bluetooth Flaw เสี่ยงทำ Smart Car และ Wear OS Crash
    มีการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ในระบบ Bluetooth ที่สามารถทำให้เกิดการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) ได้ โดย Proof-of-Concept (PoC) แสดงให้เห็นว่าช่องโหว่นี้สามารถทำให้ Smart Cars และอุปกรณ์ที่ใช้ Wear OS เกิดการ crash ได้ทันที ความเสี่ยงนี้ทำให้ผู้ใช้รถยนต์อัจฉริยะและอุปกรณ์สวมใส่ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะการโจมตีอาจทำให้ระบบหยุดทำงานในเวลาที่ไม่คาดคิด
    https://securityonline.info/poc-available-bluetooth-flaw-risks-dos-crash-on-smart-cars-and-wear-os

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Duc Disk Tool (CVE-2025-13654)
    เครื่องมือ Duc Disk Tool ถูกพบว่ามีช่องโหว่ร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับ integer underflow ซึ่งสามารถนำไปสู่การโจมตีแบบ DoS และการรั่วไหลของข้อมูลได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับ High-Severity ทำให้ผู้ใช้และผู้ดูแลระบบต้องรีบอัปเดตหรือหาทางแก้ไขเพื่อป้องกันการถูกโจมตี
    https://securityonline.info/high-severity-duc-disk-tool-flaw-cve-2025-13654-risks-dos-and-information-leak-via-integer-underflow

    SeedSnatcher มัลแวร์ Android ล่าผู้ใช้คริปโต
    มัลแวร์ใหม่ชื่อ SeedSnatcher กำลังโจมตีผู้ใช้ Android ที่เกี่ยวข้องกับคริปโต โดยใช้เทคนิค overlay phishing และการตรวจสอบ BIP 39 เพื่อขโมย seed phrase ของกระเป๋าเงินดิจิทัล มันสามารถหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลสำคัญลงในหน้าปลอมที่ดูเหมือนจริง ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงและขโมยสินทรัพย์คริปโตได้อย่างง่ายดาย
    https://securityonline.info/seedsnatcher-android-malware-targets-crypto-users-using-overlay-phishing-and-bip-39-validation-to-steal-seed-phrases

    Russian APT UTA0355 ขโมย OAuth Token ของ Microsoft 365
    กลุ่มแฮกเกอร์รัสเซียชื่อ UTA0355 ใช้กลยุทธ์หลอกลวงผ่านการเชิญเข้าร่วม งานประชุมความปลอดภัยปลอม และแม้กระทั่งการปลอมเป็นทีมสนับสนุนบน WhatsApp เพื่อหลอกผู้ใช้ให้เปิดเผยข้อมูลสำคัญ ผลลัพธ์คือการขโมย OAuth Token ของ Microsoft 365 ซึ่งสามารถนำไปใช้เข้าถึงข้อมูลและระบบขององค์กรได้โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน
    https://securityonline.info/russian-apt-uta0355-steals-microsoft-365-oauth-tokens-via-fake-security-conference-lures-and-whatsapp-support

    Windows 11 Agenda View กลับมาอีกครั้ง แต่มี Overhead
    Microsoft ได้นำฟีเจอร์ Agenda View กลับมาใน Windows 11 แต่ครั้งนี้ถูกสร้างบน WebView 2 ซึ่งแม้จะทำให้การแสดงผลยืดหยุ่นขึ้น แต่ก็มีข้อเสียคือ performance overhead ที่อาจทำให้ระบบทำงานช้าลง ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ดูตารางนัดหมายได้สะดวกขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับการใช้ทรัพยากรที่มากกว่าเดิม
    https://securityonline.info/windows-11-agenda-view-is-back-but-built-on-webview-2-with-performance-overhead

    BRICKSTORM: มัลแวร์สายลับจากจีนที่ฝังตัวใน VMware และ ADFS
    มีรายงานใหม่จาก CISA และ NSA ร่วมกับหน่วยงานแคนาดา เปิดเผยการทำงานของมัลแวร์ชื่อ BRICKSTORM ที่ถูกใช้โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน จุดเด่นของมันคือความสามารถในการอยู่รอดในระบบเป้าหมายได้นานเกือบ 18 เดือนโดยไม่ถูกตรวจจับ เป้าหมายหลักคือโครงสร้างพื้นฐานเสมือนจริงอย่าง VMware และระบบ Windows โดยมันสามารถสร้าง VM ปลอมเพื่อขโมยข้อมูล รวมถึงใช้เทคนิคการสื่อสารที่ซับซ้อน เช่น HTTPS, WebSockets, TLS ซ้อนกันหลายชั้น และ DNS-over-HTTPS เพื่อพรางตัวให้เหมือนทราฟฟิกปกติ เรื่องนี้ถือเป็นภัยคุกคามระยะยาวที่องค์กรภาครัฐและ IT ต้องเร่งตรวจสอบ
    https://securityonline.info/cisa-nsa-warn-of-brickstorm-backdoor-china-apt-targets-vmware-and-adfs-for-long-term-espionage

    ช่องโหว่ lz4-java (CVE-2025-66566) รั่วข้อมูลหน่วยความจำ
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในไลบรารี lz4-java ที่ใช้กันแพร่หลายสำหรับการบีบอัดข้อมูล ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถดึงข้อมูลที่ยังไม่ได้ถูกล้างออกจากหน่วยความจำระหว่างการดีคอมเพรสได้ ซึ่งอาจรวมถึงรหัสผ่านหรือคีย์เข้ารหัส ปัญหามาจากการที่บัฟเฟอร์ไม่ได้ถูกเคลียร์ก่อนใช้งานใหม่ ทำให้ข้อมูลเก่าหลุดออกมาได้ การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อผู้โจมตีส่งข้อมูลบีบอัดที่ถูกปรับแต่งมาให้ระบบดีคอมเพรส ผลคือข้อมูลที่ควรจะถูกซ่อนกลับถูกเปิดเผยออกมา ทางแก้คือการอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 1.10.1 หรือหากยังไม่สามารถทำได้ ต้องล้างบัฟเฟอร์ด้วยตนเองก่อนใช้งาน
    https://securityonline.info/high-severity-lz4-java-flaw-cve-2025-66566-leaks-uninitialized-memory-during-decompression

    ช่องโหว่ Cal.com (CVE-2025-66489) เปิดทางให้ข้ามการยืนยันตัวตน
    แพลตฟอร์ม Cal.com ที่ใช้จัดการตารางนัดหมาย ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าสู่ระบบได้โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านจริง หากใส่ค่าในช่อง TOTP (รหัสยืนยันแบบครั้งเดียว) ระบบจะข้ามการตรวจสอบรหัสผ่านทันที แม้ผู้ใช้เปิด 2FA ก็ยังเสี่ยงเพราะระบบตรวจสอบแค่ TOTP โดยไม่สนใจรหัสผ่าน ส่งผลให้แค่รู้ที่อยู่อีเมลก็สามารถเจาะบัญชีได้แล้ว ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับความรุนแรงสูงสุดเกือบเต็ม 9.9 และมีการออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 5.9.8 ผู้ใช้ควรรีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดบัญชี
    https://securityonline.info/critical-cal-com-flaw-cve-2025-66489-cvss-9-9-allows-authentication-bypass-by-submitting-fake-totp-codes

    WatchGuard VPN เจอช่องโหว่เสี่ยง DoS และ RCE
    ผลิตภัณฑ์ Firebox ของ WatchGuard ถูกพบช่องโหว่หลายรายการที่กระทบต่อระบบ VPN และอินเทอร์เฟซจัดการ โดยเฉพาะ CVE-2025-11838 ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถทำให้บริการ VPN ล่มได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ใด ๆ นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่การฉีดคำสั่ง CLI และ XPath Injection ที่เปิดโอกาสให้เข้าถึงข้อมูลหรือรันโค้ดอันตรายได้ ช่องโหว่เหล่านี้กระทบหลายเวอร์ชันของ Fireware OS และบริษัทได้ออกแพตช์ใหม่เพื่อแก้ไขแล้ว ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้ระบบเครือข่ายเสียหาย
    https://securityonline.info/high-severity-watchguard-flaws-risk-vpn-dos-and-rce-via-ikev2-memory-corruption

    MuddyWater ใช้ UDPGangster Backdoor เจาะระบบ
    กลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับอิหร่านชื่อ MuddyWater ถูกพบว่ากำลังใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ UDPGangster เพื่อโจมตีหน่วยงานรัฐบาลและโครงสร้างพื้นฐานในตุรกี อิสราเอล และอาเซอร์ไบจาน จุดเด่นคือการสื่อสารผ่านโปรโตคอล UDP แทนที่จะใช้ HTTP/HTTPS ทำให้หลบเลี่ยงการตรวจจับได้ดี มัลแวร์ถูกส่งผ่านอีเมลฟิชชิ่งที่แนบไฟล์ Word พร้อมมาโคร เมื่อเหยื่อเปิดใช้งานก็จะติดตั้งตัวเองและสร้าง persistence บนเครื่อง จากนั้นผู้โจมตีสามารถสั่งรันคำสั่ง ขโมยไฟล์ และควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและมีการตรวจสอบสภาพแวดล้อมเพื่อหลบเลี่ยงการวิเคราะห์
    https://securityonline.info/iran-linked-muddywater-deploys-udpgangster-backdoor-using-udp-protocol-for-covert-c2

    Intellexa ใช้ช่องโหว่ 15 รายการเพื่อแพร่กระจาย Predator Spyware
    บริษัทผู้ขายสปายแวร์ชื่อ Intellexa ถูกเปิดโปงว่าใช้ช่องโหว่แบบ zero-day ถึง 15 รายการตั้งแต่ปี 2021 เพื่อแพร่กระจายสปายแวร์ Predator โดยเฉพาะการโจมตีผ่าน iOS exploit chain ที่ชื่อ “smack” ซึ่งสามารถเจาะระบบ iPhone ได้โดยไม่ต้องมีการโต้ตอบจากผู้ใช้ Predator ถูกใช้เพื่อสอดแนมเป้าหมายระดับสูง เช่น นักข่าว นักการเมือง และนักกิจกรรม โดยมีการขายให้กับรัฐบาลหลายประเทศ การเปิดเผยนี้สะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีเชิงรุกเพื่อการสอดแนมที่อันตรายและยากต่อการป้องกัน
    https://securityonline.info/spyware-vendor-intellexa-used-15-zero-days-since-2021-deploying-predator-via-smack-ios-exploit-chain

    urllib3 พบช่องโหว่เสี่ยงทำให้ระบบล่ม
    ไลบรารี Python ยอดนิยมอย่าง urllib3 ถูกพบช่องโหว่ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถทำให้ระบบผู้ใช้ล่มได้ ช่องโหว่นี้เกิดจากการดีคอมเพรสข้อมูลที่ไม่มีการจำกัด ทำให้หน่วยความจำถูกใช้จนหมด และการสตรีมข้อมูลที่ไม่ถูกควบคุมจนทำให้ทรัพยากรถูกใช้เกินขีดจำกัด ผลคือระบบอาจหยุดทำงานหรือไม่ตอบสนอง การโจมตีสามารถทำได้ง่ายเพียงส่งข้อมูลที่ถูกปรับแต่งมาให้ระบบจัดการ การแก้ไขคือการอัปเดตเวอร์ชันใหม่ที่มีการจำกัดการดีคอมเพรสและการสตรีมเพื่อป้องกันการโจมตีแบบ DoS
    https://securityonline.info/urllib3-flaws-risk-client-dos-via-unbounded-decompression-and-streaming-resource-exhaustion

    ValleyRAT หลอกผู้หางานด้วย Foxit PDF Reader ปลอม
    มีการค้นพบการโจมตีใหม่ที่ใช้มัลแวร์ ValleyRAT โดยกลุ่มผู้โจมตีได้ทำการ sideload DLL อันตรายเข้าไปใน Foxit PDF Reader ที่ถูกดัดแปลง จากนั้นนำไปเผยแพร่ในเว็บไซต์หางานภาษาอังกฤษเพื่อหลอกผู้ใช้ที่กำลังหางาน เมื่อเหยื่อดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรม PDF Reader ปลอมนี้ มัลแวร์จะถูกโหลดเข้ามาในระบบทันที ทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมเครื่อง ขโมยข้อมูล และติดตั้ง payload เพิ่มเติมได้ การโจมตีนี้เน้นไปที่ผู้หางานในต่างประเทศที่อาจไม่ทันระวังภัย
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/valleyrat-targets-english-job-seekers-by-trojanizing-foxit-pdf-reader-with-dll-sideloading
    📌🔐🟡 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟡🔐📌 #รวมข่าวIT #20251208 #securityonline 🛡️ Stealth Supply Chain Attack: Rust Crate ปลอมแฝงมัลแวร์ เรื่องนี้เป็นการโจมตีแบบ supply chain ที่แยบยลมาก แฮกเกอร์ใช้เทคนิค typosquatting ปลอมตัวเป็นไลบรารีชื่อ finch-rust บน Crates.io ให้ดูเหมือนเป็นเวอร์ชัน Rust ของเครื่องมือ bioinformatics ที่ชื่อ finch ซึ่งมีคนดาวน์โหลดจริงกว่า 67,000 ครั้ง ตัวแพ็กเกจปลอมนี้ทำงานเหมือนของจริง แต่ซ่อนโค้ดบรรทัดเดียวที่โหลดมัลแวร์ชื่อ sha-rust เข้ามา โดยใช้ dependency แบบไม่ fix เวอร์ชัน ทำให้ผู้โจมตีสามารถอัปเดต payload ได้เรื่อย ๆ โดยไม่ต้องแก้ loader เลย ภายในสองสัปดาห์ sha-rust ถูกพัฒนาไปถึง 8 เวอร์ชัน จากการสแกนโฟลเดอร์ทั้งหมดจนเปลี่ยนเป็นสแกนเฉพาะ directory ปัจจุบันเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ เป้าหมายคือไฟล์ environment, config และ token ต่าง ๆ แล้วส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ปลอมผ่าน HTTPS พร้อม delay เล็กน้อยเพื่อไม่ให้ถูกจับได้ ผู้โจมตียังสร้างโปรไฟล์ GitHub ปลอมแฝงตัวเป็นนักพัฒนาจริงเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ สุดท้ายทีม Rust Security ตรวจพบและลบออกไป แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าการโจมตีแบบ typosquatting ยังคงเป็นภัยใหญ่ในโลก open-source 🔗 https://securityonline.info/stealth-supply-chain-attack-malicious-rust-crate-used-unpinned-dependency-for-silent-payload-upgrades 🎮 Pixel Phone กลายเป็น Webcam สำหรับ Nintendo Switch 2 ข่าวนี้เล่าเรื่องน่าสนใจสำหรับสายเกมและเทคโนโลยี เมื่อมีการค้นพบว่า Pixel Phone สามารถเชื่อมต่อกับ Nintendo Switch 2 ผ่านสาย USB แล้วทำงานเป็น webcam ได้ทันที โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมใด ๆ ฟีเจอร์นี้เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถสตรีมเกมหรือใช้กล้องมือถือเป็นอุปกรณ์เสริมได้อย่างสะดวก ถือเป็นการผสมผสานระหว่างสมาร์ทโฟนและเครื่องเกมที่ทำให้การใช้งานยืดหยุ่นขึ้นมาก 🔗 https://securityonline.info/pixel-phone-turns-into-webcam-for-nintendo-switch-2-via-usb-no-accessory-needed 📰 Meta จับมือ CNN และ Le Monde ป้อนข่าวลิขสิทธิ์ให้ AI Meta ที่ก่อนหน้านี้ถูกวิจารณ์เรื่องการใช้ข้อมูลข่าวสารโดยไม่ขออนุญาต ตอนนี้ได้เปลี่ยนท่าทีใหม่ โดยทำข้อตกลงกับสำนักข่าวใหญ่ ๆ อย่าง CNN และ Le Monde เพื่อให้ข่าวที่มีลิขสิทธิ์ถูกนำไปใช้ในระบบ Meta AI อย่างถูกต้องตามกฎหมาย การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าบริษัทกำลังพยายามสร้างความน่าเชื่อถือและลดแรงเสียดทานจากสื่อ รวมถึงอาจเป็นการวางรากฐานให้ AI ของ Meta มีข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้มากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/meta-reverses-course-strikes-deals-with-cnn-le-monde-to-feed-licensed-news-to-meta-ai ⚖️ EU ปรับ X €120 ล้าน จากการละเมิด DSA สหภาพยุโรปได้ปรับแพลตฟอร์ม X (อดีต Twitter) เป็นเงินมหาศาลถึง 120 ล้านยูโร เนื่องจากละเมิดกฎหมาย Digital Services Act (DSA) โดยเฉพาะการตรวจสอบระบบ Blue Check Verification ที่ถูกมองว่า “หลอกลวง” การปรับครั้งนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า EU จริงจังกับการบังคับใช้กฎหมายดิจิทัล และแพลตฟอร์มใหญ่ ๆ จะไม่สามารถใช้วิธีการที่ทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดได้อีกต่อไป 🔗 https://securityonline.info/eu-fines-x-e120-million-for-dsa-violation-over-deceptive-blue-check-verification 🤖 Meta แก้ระบบ Support พัง เปิดตัว AI Assistants และ Recovery Hub Meta ประกาศปรับปรุงระบบช่วยเหลือผู้ใช้ที่ก่อนหน้านี้ถูกวิจารณ์ว่า “พัง” และไม่ตอบโจทย์ โดยครั้งนี้ได้เพิ่ม AI Assistants เข้ามาช่วยตอบคำถามและแก้ปัญหา รวมถึงเปิดตัว Recovery Hubs ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับการกู้คืนบัญชีหรือแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนว่าบริษัทกำลังพยายามฟื้นความเชื่อมั่นจากผู้ใช้ และใช้ AI เป็นหัวใจหลักในการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน 🔗 https://securityonline.info/meta-fixes-broken-support-rolling-out-ai-assistants-and-new-recovery-hubs 🚗 Bluetooth Flaw เสี่ยงทำ Smart Car และ Wear OS Crash มีการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ในระบบ Bluetooth ที่สามารถทำให้เกิดการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) ได้ โดย Proof-of-Concept (PoC) แสดงให้เห็นว่าช่องโหว่นี้สามารถทำให้ Smart Cars และอุปกรณ์ที่ใช้ Wear OS เกิดการ crash ได้ทันที ความเสี่ยงนี้ทำให้ผู้ใช้รถยนต์อัจฉริยะและอุปกรณ์สวมใส่ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะการโจมตีอาจทำให้ระบบหยุดทำงานในเวลาที่ไม่คาดคิด 🔗 https://securityonline.info/poc-available-bluetooth-flaw-risks-dos-crash-on-smart-cars-and-wear-os 💾 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Duc Disk Tool (CVE-2025-13654) เครื่องมือ Duc Disk Tool ถูกพบว่ามีช่องโหว่ร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับ integer underflow ซึ่งสามารถนำไปสู่การโจมตีแบบ DoS และการรั่วไหลของข้อมูลได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับ High-Severity ทำให้ผู้ใช้และผู้ดูแลระบบต้องรีบอัปเดตหรือหาทางแก้ไขเพื่อป้องกันการถูกโจมตี 🔗 https://securityonline.info/high-severity-duc-disk-tool-flaw-cve-2025-13654-risks-dos-and-information-leak-via-integer-underflow 📱 SeedSnatcher มัลแวร์ Android ล่าผู้ใช้คริปโต มัลแวร์ใหม่ชื่อ SeedSnatcher กำลังโจมตีผู้ใช้ Android ที่เกี่ยวข้องกับคริปโต โดยใช้เทคนิค overlay phishing และการตรวจสอบ BIP 39 เพื่อขโมย seed phrase ของกระเป๋าเงินดิจิทัล มันสามารถหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลสำคัญลงในหน้าปลอมที่ดูเหมือนจริง ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงและขโมยสินทรัพย์คริปโตได้อย่างง่ายดาย 🔗 https://securityonline.info/seedsnatcher-android-malware-targets-crypto-users-using-overlay-phishing-and-bip-39-validation-to-steal-seed-phrases 🎭 Russian APT UTA0355 ขโมย OAuth Token ของ Microsoft 365 กลุ่มแฮกเกอร์รัสเซียชื่อ UTA0355 ใช้กลยุทธ์หลอกลวงผ่านการเชิญเข้าร่วม งานประชุมความปลอดภัยปลอม และแม้กระทั่งการปลอมเป็นทีมสนับสนุนบน WhatsApp เพื่อหลอกผู้ใช้ให้เปิดเผยข้อมูลสำคัญ ผลลัพธ์คือการขโมย OAuth Token ของ Microsoft 365 ซึ่งสามารถนำไปใช้เข้าถึงข้อมูลและระบบขององค์กรได้โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน 🔗 https://securityonline.info/russian-apt-uta0355-steals-microsoft-365-oauth-tokens-via-fake-security-conference-lures-and-whatsapp-support 🖥️ Windows 11 Agenda View กลับมาอีกครั้ง แต่มี Overhead Microsoft ได้นำฟีเจอร์ Agenda View กลับมาใน Windows 11 แต่ครั้งนี้ถูกสร้างบน WebView 2 ซึ่งแม้จะทำให้การแสดงผลยืดหยุ่นขึ้น แต่ก็มีข้อเสียคือ performance overhead ที่อาจทำให้ระบบทำงานช้าลง ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ดูตารางนัดหมายได้สะดวกขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับการใช้ทรัพยากรที่มากกว่าเดิม 🔗 https://securityonline.info/windows-11-agenda-view-is-back-but-built-on-webview-2-with-performance-overhead 🛡️ BRICKSTORM: มัลแวร์สายลับจากจีนที่ฝังตัวใน VMware และ ADFS มีรายงานใหม่จาก CISA และ NSA ร่วมกับหน่วยงานแคนาดา เปิดเผยการทำงานของมัลแวร์ชื่อ BRICKSTORM ที่ถูกใช้โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน จุดเด่นของมันคือความสามารถในการอยู่รอดในระบบเป้าหมายได้นานเกือบ 18 เดือนโดยไม่ถูกตรวจจับ เป้าหมายหลักคือโครงสร้างพื้นฐานเสมือนจริงอย่าง VMware และระบบ Windows โดยมันสามารถสร้าง VM ปลอมเพื่อขโมยข้อมูล รวมถึงใช้เทคนิคการสื่อสารที่ซับซ้อน เช่น HTTPS, WebSockets, TLS ซ้อนกันหลายชั้น และ DNS-over-HTTPS เพื่อพรางตัวให้เหมือนทราฟฟิกปกติ เรื่องนี้ถือเป็นภัยคุกคามระยะยาวที่องค์กรภาครัฐและ IT ต้องเร่งตรวจสอบ 🔗 https://securityonline.info/cisa-nsa-warn-of-brickstorm-backdoor-china-apt-targets-vmware-and-adfs-for-long-term-espionage 🧩 ช่องโหว่ lz4-java (CVE-2025-66566) รั่วข้อมูลหน่วยความจำ มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในไลบรารี lz4-java ที่ใช้กันแพร่หลายสำหรับการบีบอัดข้อมูล ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถดึงข้อมูลที่ยังไม่ได้ถูกล้างออกจากหน่วยความจำระหว่างการดีคอมเพรสได้ ซึ่งอาจรวมถึงรหัสผ่านหรือคีย์เข้ารหัส ปัญหามาจากการที่บัฟเฟอร์ไม่ได้ถูกเคลียร์ก่อนใช้งานใหม่ ทำให้ข้อมูลเก่าหลุดออกมาได้ การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อผู้โจมตีส่งข้อมูลบีบอัดที่ถูกปรับแต่งมาให้ระบบดีคอมเพรส ผลคือข้อมูลที่ควรจะถูกซ่อนกลับถูกเปิดเผยออกมา ทางแก้คือการอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 1.10.1 หรือหากยังไม่สามารถทำได้ ต้องล้างบัฟเฟอร์ด้วยตนเองก่อนใช้งาน 🔗 https://securityonline.info/high-severity-lz4-java-flaw-cve-2025-66566-leaks-uninitialized-memory-during-decompression 🔐 ช่องโหว่ Cal.com (CVE-2025-66489) เปิดทางให้ข้ามการยืนยันตัวตน แพลตฟอร์ม Cal.com ที่ใช้จัดการตารางนัดหมาย ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าสู่ระบบได้โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านจริง หากใส่ค่าในช่อง TOTP (รหัสยืนยันแบบครั้งเดียว) ระบบจะข้ามการตรวจสอบรหัสผ่านทันที แม้ผู้ใช้เปิด 2FA ก็ยังเสี่ยงเพราะระบบตรวจสอบแค่ TOTP โดยไม่สนใจรหัสผ่าน ส่งผลให้แค่รู้ที่อยู่อีเมลก็สามารถเจาะบัญชีได้แล้ว ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับความรุนแรงสูงสุดเกือบเต็ม 9.9 และมีการออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 5.9.8 ผู้ใช้ควรรีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดบัญชี 🔗 https://securityonline.info/critical-cal-com-flaw-cve-2025-66489-cvss-9-9-allows-authentication-bypass-by-submitting-fake-totp-codes 🌐 WatchGuard VPN เจอช่องโหว่เสี่ยง DoS และ RCE ผลิตภัณฑ์ Firebox ของ WatchGuard ถูกพบช่องโหว่หลายรายการที่กระทบต่อระบบ VPN และอินเทอร์เฟซจัดการ โดยเฉพาะ CVE-2025-11838 ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถทำให้บริการ VPN ล่มได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ใด ๆ นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่การฉีดคำสั่ง CLI และ XPath Injection ที่เปิดโอกาสให้เข้าถึงข้อมูลหรือรันโค้ดอันตรายได้ ช่องโหว่เหล่านี้กระทบหลายเวอร์ชันของ Fireware OS และบริษัทได้ออกแพตช์ใหม่เพื่อแก้ไขแล้ว ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้ระบบเครือข่ายเสียหาย 🔗 https://securityonline.info/high-severity-watchguard-flaws-risk-vpn-dos-and-rce-via-ikev2-memory-corruption 📡 MuddyWater ใช้ UDPGangster Backdoor เจาะระบบ กลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับอิหร่านชื่อ MuddyWater ถูกพบว่ากำลังใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ UDPGangster เพื่อโจมตีหน่วยงานรัฐบาลและโครงสร้างพื้นฐานในตุรกี อิสราเอล และอาเซอร์ไบจาน จุดเด่นคือการสื่อสารผ่านโปรโตคอล UDP แทนที่จะใช้ HTTP/HTTPS ทำให้หลบเลี่ยงการตรวจจับได้ดี มัลแวร์ถูกส่งผ่านอีเมลฟิชชิ่งที่แนบไฟล์ Word พร้อมมาโคร เมื่อเหยื่อเปิดใช้งานก็จะติดตั้งตัวเองและสร้าง persistence บนเครื่อง จากนั้นผู้โจมตีสามารถสั่งรันคำสั่ง ขโมยไฟล์ และควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและมีการตรวจสอบสภาพแวดล้อมเพื่อหลบเลี่ยงการวิเคราะห์ 🔗 https://securityonline.info/iran-linked-muddywater-deploys-udpgangster-backdoor-using-udp-protocol-for-covert-c2 🕵️‍♂️ Intellexa ใช้ช่องโหว่ 15 รายการเพื่อแพร่กระจาย Predator Spyware บริษัทผู้ขายสปายแวร์ชื่อ Intellexa ถูกเปิดโปงว่าใช้ช่องโหว่แบบ zero-day ถึง 15 รายการตั้งแต่ปี 2021 เพื่อแพร่กระจายสปายแวร์ Predator โดยเฉพาะการโจมตีผ่าน iOS exploit chain ที่ชื่อ “smack” ซึ่งสามารถเจาะระบบ iPhone ได้โดยไม่ต้องมีการโต้ตอบจากผู้ใช้ Predator ถูกใช้เพื่อสอดแนมเป้าหมายระดับสูง เช่น นักข่าว นักการเมือง และนักกิจกรรม โดยมีการขายให้กับรัฐบาลหลายประเทศ การเปิดเผยนี้สะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีเชิงรุกเพื่อการสอดแนมที่อันตรายและยากต่อการป้องกัน 🔗 https://securityonline.info/spyware-vendor-intellexa-used-15-zero-days-since-2021-deploying-predator-via-smack-ios-exploit-chain 📉 urllib3 พบช่องโหว่เสี่ยงทำให้ระบบล่ม ไลบรารี Python ยอดนิยมอย่าง urllib3 ถูกพบช่องโหว่ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถทำให้ระบบผู้ใช้ล่มได้ ช่องโหว่นี้เกิดจากการดีคอมเพรสข้อมูลที่ไม่มีการจำกัด ทำให้หน่วยความจำถูกใช้จนหมด และการสตรีมข้อมูลที่ไม่ถูกควบคุมจนทำให้ทรัพยากรถูกใช้เกินขีดจำกัด ผลคือระบบอาจหยุดทำงานหรือไม่ตอบสนอง การโจมตีสามารถทำได้ง่ายเพียงส่งข้อมูลที่ถูกปรับแต่งมาให้ระบบจัดการ การแก้ไขคือการอัปเดตเวอร์ชันใหม่ที่มีการจำกัดการดีคอมเพรสและการสตรีมเพื่อป้องกันการโจมตีแบบ DoS 🔗 https://securityonline.info/urllib3-flaws-risk-client-dos-via-unbounded-decompression-and-streaming-resource-exhaustion 🎯 ValleyRAT หลอกผู้หางานด้วย Foxit PDF Reader ปลอม มีการค้นพบการโจมตีใหม่ที่ใช้มัลแวร์ ValleyRAT โดยกลุ่มผู้โจมตีได้ทำการ sideload DLL อันตรายเข้าไปใน Foxit PDF Reader ที่ถูกดัดแปลง จากนั้นนำไปเผยแพร่ในเว็บไซต์หางานภาษาอังกฤษเพื่อหลอกผู้ใช้ที่กำลังหางาน เมื่อเหยื่อดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรม PDF Reader ปลอมนี้ มัลแวร์จะถูกโหลดเข้ามาในระบบทันที ทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมเครื่อง ขโมยข้อมูล และติดตั้ง payload เพิ่มเติมได้ การโจมตีนี้เน้นไปที่ผู้หางานในต่างประเทศที่อาจไม่ทันระวังภัย ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/valleyrat-targets-english-job-seekers-by-trojanizing-foxit-pdf-reader-with-dll-sideloading
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251208 #TechRadar

    โปรเจ็กเตอร์พกพา Xgimi Horizon 20 Max
    ถ้าใครกำลังมองหาโปรเจ็กเตอร์ที่ทั้งสว่างและภาพสวยจัด ๆ รุ่นใหม่จาก Xgimi ตัวนี้ถือว่าเป็นเรือธงเลย มันใช้ระบบเลเซอร์สามสี ให้ความสว่างสูงถึง 5,700 ISO lumens รองรับ Dolby Vision, HDR10+ และ IMAX Enhanced เรียกว่าดูหนังหรือเล่นเกมก็ได้ภาพคมชัด สีสด และเสียงที่ติดตั้งมาก็ไม่ธรรมดา มีลำโพงจาก Harman Kardon ที่ให้เสียงเบสแน่นและเสียงพูดชัดเจน จุดเด่นอีกอย่างคือฟีเจอร์ปรับภาพอัตโนมัติ ทั้ง keystone, zoom และ lens shift ทำให้ติดตั้งง่ายมาก แต่ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูง และยังไม่รองรับ 4K 120Hz สำหรับเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ ถึงอย่างนั้นก็ยังถือว่าเป็นโปรเจ็กเตอร์พกพาที่ครบเครื่องที่สุดในตลาดตอนนี้
    https://www.techradar.com/televisions/projectors/xgimi-horizon-20-max-review

    ลำโพง Marshall Middleton II
    Marshall กลับมาอีกครั้งกับลำโพง Bluetooth ขนาดกลางที่ชื่อ Middleton II จุดขายคือเสียงสเตอริโอที่แยกซ้ายขวาได้ชัดเจน ทำให้ฟังเพลงมีมิติและรายละเอียดมากกว่าลำโพงพกพาทั่วไป เสียงเบสลงได้ลึก เสียงกลางและสูงก็สมดุลดี แม้เปิดดังสุดเบสจะอัดแน่นไปบ้างแต่ยังถือว่าดีมาก แถมแบตเตอรี่ใช้งานได้ถึง 30 ชั่วโมง ดีไซน์ยังคงความคลาสสิกสไตล์แอมป์ Marshall พร้อมกันฝุ่นและกันน้ำระดับ IP67 แต่ด้วยขนาดและน้ำหนักที่ไม่เบามาก ทำให้พกพาไม่สะดวกเท่ารุ่นเล็ก Emberton III และราคาก็ใกล้เคียงรุ่นใหญ่ Kilburn III จนบางคนอาจลังเลว่าจะเลือกตัวไหนดี ถึงอย่างนั้นถ้าอยากได้ลำโพงกลางที่เสียงดีและดูเท่ Middleton II ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก
    https://www.techradar.com/audio/wireless-bluetooth-speakers/marshall-middleton-ii-review

    iOS 26 ยังขาดฟีเจอร์สำคัญ
    แม้ iOS 26 จะเปิดตัวไปแล้วและมีอัปเดตย่อยออกมา แต่ยังมีหลายฟีเจอร์ที่ผู้ใช้รอคอย เช่น การยกเครื่อง Siri ด้วย AI ที่คาดว่าจะมาในปี 2026 โดยใช้เทคโนโลยี Gemini ของ Google เพื่อให้ฉลาดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับ Liquid Glass ให้ผู้ใช้ปรับความโปร่งใสได้เอง, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้ง่ายขึ้น, Podcasts ที่จะมีการสร้าง chapter อัตโนมัติ และสุดท้ายคือการตั้ง “alarm” ให้กับ reminder เพื่อไม่ให้พลาดสิ่งสำคัญ ทั้งหมดนี้คาดว่าจะทยอยมาในอัปเดตย่อยของ iOS 26 ก่อนจะไปสู่ iOS 27 ในปีหน้า
    https://www.techradar.com/phones/iphone/5-features-that-are-still-missing-from-ios-26-and-its-not-just-the-siri-update

    ภัยไซเบอร์ที่ต้องจับตาในปีนี้
    โลกไซเบอร์ไม่ได้หยุดนิ่ง และปี 2026 มีแนวโน้มที่อันตรายจะซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ จากรายงานพบว่ากลุ่มแฮกเกอร์เปลี่ยนวิธีโจมตีจากการเข้ารหัสไฟล์เรียกค่าไถ่ มาเป็นการขโมยข้อมูลแล้วขู่เปิดเผยเพื่อกดดันให้เหยื่อจ่ายเงิน ตัวอย่างเช่นการโจมตีบริษัทโทรคมนาคมในอังกฤษที่ข้อมูลพนักงานและลูกค้าถูกขโมยไปมหาศาล นอกจากนี้ยังมีการใช้ช่องโหว่ในระบบ VPN และอุปกรณ์ edge เพื่อเจาะเข้าระบบ รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือ “EDR killers” ที่ทำให้ระบบตรวจจับภัยทำงานยากขึ้น สิ่งเหล่านี้บอกชัดว่าองค์กรต้องเร่งอุดช่องโหว่และเสริมการเฝ้าระวัง เพราะภัยไซเบอร์กำลังพัฒนาเร็วไม่แพ้เทคโนโลยีที่เราใช้
    https://www.techradar.com/pro/threats-to-watch-this-year-from-data-theft-and-extortion-to-edr-killers

    Starforge Systems Frieren PC สำหรับแฟนอนิเมะ
    นี่คือคอมพิวเตอร์เกมมิ่งที่ออกแบบมาเอาใจแฟนอนิเมะ Frieren: Beyond Journey’s End โดยเฉพาะ ตัวเครื่องใช้เคส Lian Li O11 Dynamic ที่ตกแต่งด้วยงานศิลป์จากอนิเมะ พร้อมไฟ RGB ที่ปรับได้เต็มที่ ภายในประกอบด้วย Intel Core i5-14600K, การ์ดจอ AMD Radeon RX 9070 XT, RAM 32GB และ SSD 1TB ทำให้เล่นเกมได้ลื่นทั้ง 1080p, 1440p และถึงขั้น 4K ถ้าเปิด FSR ของ AMD เสริม จุดเด่นคือดีไซน์สวยมากและมีของแถมอย่าง desk mat และ art panel แต่ราคาก็สูงถึง $2,499.99 ซึ่งถือว่าเป็นพรีเมียมสำหรับแฟนอนิเมะที่อยากได้เครื่องแรงและสวยในเวลาเดียวกัน
    https://www.techradar.com/computing/gaming-pcs/starforge-systems-frieren-pc-review

    กระเป๋ากล้อง Ulanzi 9L Sling Bag
    สำหรับคนที่ชอบพกกล้องไปถ่ายรูปนอกบ้าน Ulanzi 9L Sling Bag รุ่นนี้ถือว่าออกแบบมาได้ลงตัวมาก ขนาดกะทัดรัดแต่ใส่กล้องและเลนส์ได้ครบ พร้อมช่องสำหรับขาตั้งกล้องที่ติดตั้งมาให้โดยเฉพาะ วัสดุแข็งแรง กันละอองน้ำได้ดี และมีช่องแบ่งภายในที่ปรับได้ตามอุปกรณ์ จุดเด่นคือการเข้าถึงกล้องได้รวดเร็วเพราะเป็นแบบ sling สะพายข้าง แต่ข้อจำกัดคือความจุไม่มากนัก เหมาะกับคนที่พกอุปกรณ์ไม่เยอะและอยากได้ความคล่องตัวเป็นหลัก
    https://www.techradar.com/cameras/camera-accessories/ulanzi-9l-camera-sling-bag-with-tripod-holder-b122-review

    มอเตอร์ไซค์ Flying Flea รุ่นไฟฟ้า
    จากตำนานรถจักรยานยนต์ในสงครามโลกครั้งที่สอง Flying Flea ได้ถูกนำกลับมาสร้างใหม่ในเวอร์ชันไฟฟ้า ปี 2026 นี้ถือว่าเป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์ที่น่าตื่นเต้นที่สุด รถยังคงรูปลักษณ์คลาสสิกแต่เพิ่มเทคโนโลยีทันสมัยเข้าไป เช่น มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้แรงบิดทันใจ แบตเตอรี่ที่ถอดเปลี่ยนได้ และระบบเบรกที่ปลอดภัยกว่าเดิม จุดขายคือการผสมผสานความเป็นประวัติศาสตร์กับนวัตกรรมใหม่ ทำให้คนที่หลงใหลในรถคลาสสิกและสาย EV ต่างจับตามอง แต่แน่นอนว่าราคาก็ไม่ถูก และยังเป็นรุ่นที่ผลิตจำนวนจำกัด
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/this-electrified-ww2-motorbike-is-one-of-the-most-exciting-of-2026-here-are-5-things-you-need-know-about-the-flying-flea

    ประสบการณ์ซื้อ Kia EV6 คันแรก
    เรื่องเล่าของคนที่ตัดสินใจเปลี่ยนจากรถน้ำมันมาเป็นรถไฟฟ้า Kia EV6 แบบไม่ตั้งใจ แต่กลับพบทั้งข้อดีและสิ่งที่อยากให้รู้ก่อนซื้อ เขาเล่าว่าการชาร์จมีหลายระดับ ตั้งแต่ปลั๊กบ้านธรรมดาที่ช้ามาก ไปจนถึงเครื่องชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 20 นาทีถึง 80% แต่ก็ต้องทำใจว่าการชาร์จสาธารณะไม่ฟรีเสมอไป และระบบแอปพลิเคชันที่ใช้กับแต่ละเครือข่ายก็ทำให้ยุ่งยากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ต้องระวัง เช่น ระยะทางที่ลดลงในอากาศหนาว การไม่มียางอะไหล่ และแบตเตอรี่เล็ก 12V ที่ยังคงต้องดูแลเหมือนรถน้ำมัน แต่ข้อดีคือแรงบิดทันใจ ความเร็วที่น่าประทับใจ และไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/i-bought-a-kia-ev6-my-first-electric-car-here-are-9-things-i-wish-id-known-before-buying-an-ev

    รีวิวมือถือถึก Doogee V Max LR
    มือถือรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสายลุยจริง ๆ ด้วยแบตเตอรี่ขนาดมหึมา 20,500 mAh ที่ใช้งานได้เป็นสัปดาห์ และฟีเจอร์วัดระยะทางที่เหมาะกับคนทำงานก่อสร้าง แม้จะหนักและใหญ่จนพกพาลำบาก แต่ก็มีข้อดีคือทนทาน กันน้ำ กันฝุ่น และมีกล้องความละเอียดสูง จุดต่างจากรุ่น Play คือไม่มีโปรเจ็กเตอร์ ทำให้ราคาถูกลง แต่ยังคงข้อเสียเรื่องการออกแบบเคสที่ใช้งานไม่สะดวก
    https://www.techradar.com/pro/phone-communications/doogee-v-max-lr-rugged-phone-review

    ข่าวลือ iPhone 18 อาจซ่อนกล้องใต้จอ
    มีรายงานว่า Apple กำลังทดสอบเทคโนโลยีกล้องหน้าใต้จอสำหรับ iPhone 18 ที่จะเปิดตัวในปี 2026 ซึ่งหากเป็นจริงจะทำให้หน้าจอดูเต็มตาไร้รอยบากเหมือนเดิม เทคโนโลยีนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ Samsung เคยลองใช้กับ Galaxy Z Fold 3 ตั้งแต่ปี 2021 แต่คุณภาพยังไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม Apple มักจะนำเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาให้ใช้งานได้ดีกว่าเดิม ทำให้หลายคนคาดหวังว่ากล้องใต้จอของ iPhone จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ
    https://www.techradar.com/phones/iphone/the-iphone-18-may-finally-add-a-camera-feature-that-samsung-introduced-on-its-flagship-phones-in-2021

    แว่น MR ของ Meta เลื่อนเปิดตัวถึงปี 2027
    Meta มีแผนจะเปิดตัวแว่นตา Mixed Reality รุ่นใหม่ที่มีโค้ดเนมว่า Phoenix แต่ล่าสุดมีข้อมูลว่าการเปิดตัวถูกเลื่อนออกไปจนถึงปี 2027 เพื่อให้ทีมงานมีเวลาพัฒนาประสบการณ์ใช้งานให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น แว่นรุ่นนี้คาดว่าจะมีอุปกรณ์เสริมแยกสำหรับแบตเตอรี่และการประมวลผล ทำให้เบาขึ้นและใช้งานสะดวกกว่าเดิม แม้จะต้องรอนาน แต่ก็สะท้อนว่าบริษัทต้องการให้ผลิตภัณฑ์ออกมาอย่างไร้ข้อบกพร่อง
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/we-may-have-to-wait-until-2027-for-the-launch-of-the-next-pair-of-meta-mixed-reality-smart-glasses

    แอป Go Jauntly ชวนออกไปเดินเล่น
    นี่คือแอปที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้คนที่ใช้ชีวิตติดโต๊ะทำงานได้ออกไปเดินเล่นมากขึ้น แอปจะเสนอเส้นทางเดินที่น่าสนใจใกล้บ้านหรือที่ทำงาน พร้อมทั้งมีฟีเจอร์บันทึกเส้นทาง แชร์กับเพื่อน และค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ จากชุมชนผู้ใช้ จุดเด่นคือช่วยให้การเดินเล่นกลายเป็นกิจกรรมที่สนุกและมีเป้าหมาย ไม่ใช่แค่การออกกำลังกาย แต่ยังเป็นการค้นพบสิ่งใหม่ ๆ รอบตัว
    https://www.techradar.com/computing/websites-apps/go-jauntly

    ชิปจีนท้าชน Nvidia
    บริษัทผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่จากจีนกำลังเร่งการผลิตเพื่อแข่งขันกับ Nvidia ในตลาดกราฟิกและ AI แม้จะยังมีคำถามว่าความสามารถจะทัดเทียมได้จริงหรือไม่ แต่การขยายกำลังผลิตครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนที่จะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ และสร้างอุตสาหกรรมชิปที่แข็งแกร่งขึ้น
    https://www.techradar.com/news/this-chinese-chip-giant-is-boosting-production-to-try-and-take-on-nvidia-but-how-will-huawei-feel

    รีวิว Doogee V Max Play – โทรศัพท์ถึกที่เหมือนแบกก้อนอิฐ
    เรื่องราวของ Doogee V Max Play คือการพยายามสร้างสมาร์ทโฟนที่รวมทุกฟีเจอร์ไว้ในเครื่องเดียว แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นโทรศัพท์ที่หนักเกือบ 800 กรัม จนเหมือนต้องมี “ล่อ” ช่วยแบกเวลาเดินทาง จุดเด่นคือแบตเตอรี่ขนาด 20,500 mAh ที่อึดจนใช้งานได้เป็นสัปดาห์ กล้องหลัก 200MP ที่ถ่ายภาพคมชัด และยังมีโปรเจ็กเตอร์ในตัว แม้จะสว่างไม่มากแต่ก็พอใช้ดูหนังในห้องมืดได้ จุดอ่อนคือดีไซน์ที่เทอะทะและบัมเปอร์ที่ออกแบบพลาดจนใช้งานไม่สะดวก สรุปแล้วนี่คือโทรศัพท์ที่เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งหรือวางบนรถมากกว่าพกติดตัวไปเดินเล่น
    https://www.techradar.com/pro/phone-communications/doogee-v-max-play-rugged-phone-review

    Windows 11 ยังไม่สามารถโค่น Windows 10 ได้
    แม้ Microsoft จะพยายามผลักดัน Windows 11 แต่ข้อมูลล่าสุดยังบอกว่า Windows 10 ยังคงครองใจผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะในองค์กรที่ยังเลือกใช้ Windows 10 พร้อมซื้อแพ็กเกจอัปเดตความปลอดภัยเพิ่มเติมแทนการย้ายไป Windows 11 เหตุผลหลักคือค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนระบบสูง ทั้งฮาร์ดแวร์ใหม่ การทดสอบความเข้ากันได้ และการฝึกอบรมพนักงาน อีกทั้ง Windows 11 ยังไม่มีฟีเจอร์ที่บังคับให้ต้องเปลี่ยนทันที ทำให้การเติบโตของ Windows 11 มาจากเครื่องใหม่มากกว่าการแทนที่เครื่องเก่า
    https://www.techradar.com/pro/windows-11-still-cant-topple-its-older-siblings-usage-stats-show-windows-10-remains-mind-boggingly-popular

    เครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติปรับแรงดูดเอง – จริงๆ ไม่ได้ทำให้สะอาดขึ้น
    ปัจจุบันเครื่องดูดฝุ่นหลายรุ่นมีโหมด “Auto” ที่ปรับแรงดูดตามสภาพพื้นผิวหรือปริมาณฝุ่น เช่น Dyson ที่สามารถตรวจจับขนาดฝุ่นและแสดงผลบนหน้าจอ หรือ Shark ที่เพิ่มแรงดูดเมื่อถึงขอบห้อง แม้ฟังดูฉลาด แต่จากการทดสอบพบว่าการปรับแรงดูดอัตโนมัติไม่ได้ทำให้การทำความสะอาดดีขึ้นเสมอไป สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือกำลังดูดและการออกแบบหัวดูดมากกว่า อย่างไรก็ตามโหมด Auto ก็ช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้นและยืดอายุแบตเตอรี่ได้ เพราะเครื่องจะใช้พลังงานเท่าที่จำเป็น
    https://www.techradar.com/home/vacuums/how-useful-is-suction-automation-on-a-vacuum

    UPerfect UColor T3 – จอพกพาที่ใหญ่จนแทบไม่พก
    UPerfect UColor T3 เป็นจอ 4K ขนาด 23.8 นิ้วที่ถูกเรียกว่า “พกพา” แต่จริงๆ แล้วใหญ่จนใส่กระเป๋าเป้ไม่ได้ จุดเด่นคือดีไซน์บางเหมือนแท็บเล็ต ใช้สาย USB-C เส้นเดียวก็ทำงานได้ และยังมีขาตั้งในตัวพร้อมรองรับการติดตั้ง VESA เหมาะกับคนที่ต้องการจอเสริมคุณภาพสูงสำหรับการทำงานนอกสถานที่หรือใช้ในเซิร์ฟเวอร์รูม แม้ความสว่างไม่สูงนัก แต่หน้าจอแบบด้านช่วยลดแสงสะท้อน ทำให้ใช้งานได้ดีในสภาพแวดล้อมทั่วไป ถือเป็นจอที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง “จอเดสก์ท็อป” และ “จอพกพา” อย่างแท้จริง
    https://www.techradar.com/pro/i-reviewed-the-uperfect-ucolor-t3-and-this-4k-portable-monitor-challenges-what-portable-means

    AGM G3 Pro – โทรศัพท์ถึกพร้อมกล้องถ่ายภาพความร้อน
    AGM G3 Pro เป็นสมาร์ทโฟนสายถึกที่ดูหรูหราและมีฟีเจอร์พิเศษคือกล้องถ่ายภาพความร้อน สามารถตรวจจับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20°C ถึง 550°C เหมาะสำหรับงานช่าง วิศวกรรม หรือการตรวจสอบอุปกรณ์ที่ร้อนผิดปกติ ตัวเครื่องหนักเพียง 375 กรัม ซึ่งถือว่าเบากว่าหลายรุ่นในตลาด ใช้ชิป Dimensity 7300 พร้อม RAM 12GB และความจุ 512GB จุดเด่นอีกอย่างคือรองรับการชาร์จไร้สายและมีไฟ LED สำหรับใช้เป็นไฟแคมป์ แต่ราคาที่สูงเกือบ 700 ดอลลาร์ทำให้หลายคนลังเล เพราะมีรุ่นอื่นที่มีกล้องถ่ายความร้อนเช่นกันแต่ราคาถูกกว่า
    https://www.techradar.com/pro/phone-communications/agm-g3-pro-rugged-phone-review

    ทางเลือกใหม่แทน Ring Doorbell ราคาประหยัด
    ผู้เชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโฮมแนะนำว่าถ้าไม่อยากจ่ายแพงกับ Ring Doorbell ยังมีตัวเลือกที่คุ้มค่า เช่น Blink Video Doorbell ที่ราคาย่อมเยาและใช้งานง่าย, Eufy Security Video Doorbell ที่ไม่ต้องเสียค่าสมาชิกคลาวด์ และ Wyze Video Doorbell ที่มีฟีเจอร์ครบในราคาต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ ทั้งหมดนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ความปลอดภัยหน้าบ้านโดยไม่ต้องลงทุนสูง แม้คุณภาพภาพและระบบอาจไม่เทียบเท่า Ring แต่ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    https://www.techradar.com/home/home-security/want-a-cheap-ring-doorbell-alternative-im-a-smart-home-tech-expert-and-these-are-the-3-i-recommend

    Cybersecurity กลายเป็นกลยุทธ์หลักของบริษัทเทค
    ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวนและการแข่งขันสูง บริษัทเทคโนโลยีเริ่มมอง Cybersecurity ไม่ใช่แค่การป้องกัน แต่เป็น “กลยุทธ์” ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความได้เปรียบทางธุรกิจ การลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์จึงถูกใช้เป็นเครื่องมือสร้างความแตกต่างและลดความเสี่ยงจากการโจมตีที่อาจทำให้เสียชื่อเสียงหรือสูญเสียข้อมูลสำคัญ แนวโน้มนี้สะท้อนว่าความปลอดภัยไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนธุรกิจในระดับสูง
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/why-cybersecurity-is-now-a-strategic-lever-for-tech-firms-navigating-uncertainty
    📌📡🟡 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟡📡📌 #รวมข่าวIT #20251208 #TechRadar 🎥 โปรเจ็กเตอร์พกพา Xgimi Horizon 20 Max ถ้าใครกำลังมองหาโปรเจ็กเตอร์ที่ทั้งสว่างและภาพสวยจัด ๆ รุ่นใหม่จาก Xgimi ตัวนี้ถือว่าเป็นเรือธงเลย มันใช้ระบบเลเซอร์สามสี ให้ความสว่างสูงถึง 5,700 ISO lumens รองรับ Dolby Vision, HDR10+ และ IMAX Enhanced เรียกว่าดูหนังหรือเล่นเกมก็ได้ภาพคมชัด สีสด และเสียงที่ติดตั้งมาก็ไม่ธรรมดา มีลำโพงจาก Harman Kardon ที่ให้เสียงเบสแน่นและเสียงพูดชัดเจน จุดเด่นอีกอย่างคือฟีเจอร์ปรับภาพอัตโนมัติ ทั้ง keystone, zoom และ lens shift ทำให้ติดตั้งง่ายมาก แต่ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูง และยังไม่รองรับ 4K 120Hz สำหรับเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ ถึงอย่างนั้นก็ยังถือว่าเป็นโปรเจ็กเตอร์พกพาที่ครบเครื่องที่สุดในตลาดตอนนี้ 🔗 https://www.techradar.com/televisions/projectors/xgimi-horizon-20-max-review 🔊 ลำโพง Marshall Middleton II Marshall กลับมาอีกครั้งกับลำโพง Bluetooth ขนาดกลางที่ชื่อ Middleton II จุดขายคือเสียงสเตอริโอที่แยกซ้ายขวาได้ชัดเจน ทำให้ฟังเพลงมีมิติและรายละเอียดมากกว่าลำโพงพกพาทั่วไป เสียงเบสลงได้ลึก เสียงกลางและสูงก็สมดุลดี แม้เปิดดังสุดเบสจะอัดแน่นไปบ้างแต่ยังถือว่าดีมาก แถมแบตเตอรี่ใช้งานได้ถึง 30 ชั่วโมง ดีไซน์ยังคงความคลาสสิกสไตล์แอมป์ Marshall พร้อมกันฝุ่นและกันน้ำระดับ IP67 แต่ด้วยขนาดและน้ำหนักที่ไม่เบามาก ทำให้พกพาไม่สะดวกเท่ารุ่นเล็ก Emberton III และราคาก็ใกล้เคียงรุ่นใหญ่ Kilburn III จนบางคนอาจลังเลว่าจะเลือกตัวไหนดี ถึงอย่างนั้นถ้าอยากได้ลำโพงกลางที่เสียงดีและดูเท่ Middleton II ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก 🔗 https://www.techradar.com/audio/wireless-bluetooth-speakers/marshall-middleton-ii-review 📱 iOS 26 ยังขาดฟีเจอร์สำคัญ แม้ iOS 26 จะเปิดตัวไปแล้วและมีอัปเดตย่อยออกมา แต่ยังมีหลายฟีเจอร์ที่ผู้ใช้รอคอย เช่น การยกเครื่อง Siri ด้วย AI ที่คาดว่าจะมาในปี 2026 โดยใช้เทคโนโลยี Gemini ของ Google เพื่อให้ฉลาดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับ Liquid Glass ให้ผู้ใช้ปรับความโปร่งใสได้เอง, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้ง่ายขึ้น, Podcasts ที่จะมีการสร้าง chapter อัตโนมัติ และสุดท้ายคือการตั้ง “alarm” ให้กับ reminder เพื่อไม่ให้พลาดสิ่งสำคัญ ทั้งหมดนี้คาดว่าจะทยอยมาในอัปเดตย่อยของ iOS 26 ก่อนจะไปสู่ iOS 27 ในปีหน้า 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/5-features-that-are-still-missing-from-ios-26-and-its-not-just-the-siri-update 🛡️ ภัยไซเบอร์ที่ต้องจับตาในปีนี้ โลกไซเบอร์ไม่ได้หยุดนิ่ง และปี 2026 มีแนวโน้มที่อันตรายจะซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ จากรายงานพบว่ากลุ่มแฮกเกอร์เปลี่ยนวิธีโจมตีจากการเข้ารหัสไฟล์เรียกค่าไถ่ มาเป็นการขโมยข้อมูลแล้วขู่เปิดเผยเพื่อกดดันให้เหยื่อจ่ายเงิน ตัวอย่างเช่นการโจมตีบริษัทโทรคมนาคมในอังกฤษที่ข้อมูลพนักงานและลูกค้าถูกขโมยไปมหาศาล นอกจากนี้ยังมีการใช้ช่องโหว่ในระบบ VPN และอุปกรณ์ edge เพื่อเจาะเข้าระบบ รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือ “EDR killers” ที่ทำให้ระบบตรวจจับภัยทำงานยากขึ้น สิ่งเหล่านี้บอกชัดว่าองค์กรต้องเร่งอุดช่องโหว่และเสริมการเฝ้าระวัง เพราะภัยไซเบอร์กำลังพัฒนาเร็วไม่แพ้เทคโนโลยีที่เราใช้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/threats-to-watch-this-year-from-data-theft-and-extortion-to-edr-killers 💻 Starforge Systems Frieren PC สำหรับแฟนอนิเมะ นี่คือคอมพิวเตอร์เกมมิ่งที่ออกแบบมาเอาใจแฟนอนิเมะ Frieren: Beyond Journey’s End โดยเฉพาะ ตัวเครื่องใช้เคส Lian Li O11 Dynamic ที่ตกแต่งด้วยงานศิลป์จากอนิเมะ พร้อมไฟ RGB ที่ปรับได้เต็มที่ ภายในประกอบด้วย Intel Core i5-14600K, การ์ดจอ AMD Radeon RX 9070 XT, RAM 32GB และ SSD 1TB ทำให้เล่นเกมได้ลื่นทั้ง 1080p, 1440p และถึงขั้น 4K ถ้าเปิด FSR ของ AMD เสริม จุดเด่นคือดีไซน์สวยมากและมีของแถมอย่าง desk mat และ art panel แต่ราคาก็สูงถึง $2,499.99 ซึ่งถือว่าเป็นพรีเมียมสำหรับแฟนอนิเมะที่อยากได้เครื่องแรงและสวยในเวลาเดียวกัน 🔗 https://www.techradar.com/computing/gaming-pcs/starforge-systems-frieren-pc-review 🎒 กระเป๋ากล้อง Ulanzi 9L Sling Bag สำหรับคนที่ชอบพกกล้องไปถ่ายรูปนอกบ้าน Ulanzi 9L Sling Bag รุ่นนี้ถือว่าออกแบบมาได้ลงตัวมาก ขนาดกะทัดรัดแต่ใส่กล้องและเลนส์ได้ครบ พร้อมช่องสำหรับขาตั้งกล้องที่ติดตั้งมาให้โดยเฉพาะ วัสดุแข็งแรง กันละอองน้ำได้ดี และมีช่องแบ่งภายในที่ปรับได้ตามอุปกรณ์ จุดเด่นคือการเข้าถึงกล้องได้รวดเร็วเพราะเป็นแบบ sling สะพายข้าง แต่ข้อจำกัดคือความจุไม่มากนัก เหมาะกับคนที่พกอุปกรณ์ไม่เยอะและอยากได้ความคล่องตัวเป็นหลัก 🔗 https://www.techradar.com/cameras/camera-accessories/ulanzi-9l-camera-sling-bag-with-tripod-holder-b122-review 🏍️ มอเตอร์ไซค์ Flying Flea รุ่นไฟฟ้า จากตำนานรถจักรยานยนต์ในสงครามโลกครั้งที่สอง Flying Flea ได้ถูกนำกลับมาสร้างใหม่ในเวอร์ชันไฟฟ้า ปี 2026 นี้ถือว่าเป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์ที่น่าตื่นเต้นที่สุด รถยังคงรูปลักษณ์คลาสสิกแต่เพิ่มเทคโนโลยีทันสมัยเข้าไป เช่น มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้แรงบิดทันใจ แบตเตอรี่ที่ถอดเปลี่ยนได้ และระบบเบรกที่ปลอดภัยกว่าเดิม จุดขายคือการผสมผสานความเป็นประวัติศาสตร์กับนวัตกรรมใหม่ ทำให้คนที่หลงใหลในรถคลาสสิกและสาย EV ต่างจับตามอง แต่แน่นอนว่าราคาก็ไม่ถูก และยังเป็นรุ่นที่ผลิตจำนวนจำกัด 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/this-electrified-ww2-motorbike-is-one-of-the-most-exciting-of-2026-here-are-5-things-you-need-know-about-the-flying-flea 🚗 ประสบการณ์ซื้อ Kia EV6 คันแรก เรื่องเล่าของคนที่ตัดสินใจเปลี่ยนจากรถน้ำมันมาเป็นรถไฟฟ้า Kia EV6 แบบไม่ตั้งใจ แต่กลับพบทั้งข้อดีและสิ่งที่อยากให้รู้ก่อนซื้อ เขาเล่าว่าการชาร์จมีหลายระดับ ตั้งแต่ปลั๊กบ้านธรรมดาที่ช้ามาก ไปจนถึงเครื่องชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 20 นาทีถึง 80% แต่ก็ต้องทำใจว่าการชาร์จสาธารณะไม่ฟรีเสมอไป และระบบแอปพลิเคชันที่ใช้กับแต่ละเครือข่ายก็ทำให้ยุ่งยากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ต้องระวัง เช่น ระยะทางที่ลดลงในอากาศหนาว การไม่มียางอะไหล่ และแบตเตอรี่เล็ก 12V ที่ยังคงต้องดูแลเหมือนรถน้ำมัน แต่ข้อดีคือแรงบิดทันใจ ความเร็วที่น่าประทับใจ และไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/i-bought-a-kia-ev6-my-first-electric-car-here-are-9-things-i-wish-id-known-before-buying-an-ev 📱 รีวิวมือถือถึก Doogee V Max LR มือถือรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสายลุยจริง ๆ ด้วยแบตเตอรี่ขนาดมหึมา 20,500 mAh ที่ใช้งานได้เป็นสัปดาห์ และฟีเจอร์วัดระยะทางที่เหมาะกับคนทำงานก่อสร้าง แม้จะหนักและใหญ่จนพกพาลำบาก แต่ก็มีข้อดีคือทนทาน กันน้ำ กันฝุ่น และมีกล้องความละเอียดสูง จุดต่างจากรุ่น Play คือไม่มีโปรเจ็กเตอร์ ทำให้ราคาถูกลง แต่ยังคงข้อเสียเรื่องการออกแบบเคสที่ใช้งานไม่สะดวก 🔗 https://www.techradar.com/pro/phone-communications/doogee-v-max-lr-rugged-phone-review 📷 ข่าวลือ iPhone 18 อาจซ่อนกล้องใต้จอ มีรายงานว่า Apple กำลังทดสอบเทคโนโลยีกล้องหน้าใต้จอสำหรับ iPhone 18 ที่จะเปิดตัวในปี 2026 ซึ่งหากเป็นจริงจะทำให้หน้าจอดูเต็มตาไร้รอยบากเหมือนเดิม เทคโนโลยีนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ Samsung เคยลองใช้กับ Galaxy Z Fold 3 ตั้งแต่ปี 2021 แต่คุณภาพยังไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม Apple มักจะนำเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาให้ใช้งานได้ดีกว่าเดิม ทำให้หลายคนคาดหวังว่ากล้องใต้จอของ iPhone จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/the-iphone-18-may-finally-add-a-camera-feature-that-samsung-introduced-on-its-flagship-phones-in-2021 🥽 แว่น MR ของ Meta เลื่อนเปิดตัวถึงปี 2027 Meta มีแผนจะเปิดตัวแว่นตา Mixed Reality รุ่นใหม่ที่มีโค้ดเนมว่า Phoenix แต่ล่าสุดมีข้อมูลว่าการเปิดตัวถูกเลื่อนออกไปจนถึงปี 2027 เพื่อให้ทีมงานมีเวลาพัฒนาประสบการณ์ใช้งานให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น แว่นรุ่นนี้คาดว่าจะมีอุปกรณ์เสริมแยกสำหรับแบตเตอรี่และการประมวลผล ทำให้เบาขึ้นและใช้งานสะดวกกว่าเดิม แม้จะต้องรอนาน แต่ก็สะท้อนว่าบริษัทต้องการให้ผลิตภัณฑ์ออกมาอย่างไร้ข้อบกพร่อง 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/we-may-have-to-wait-until-2027-for-the-launch-of-the-next-pair-of-meta-mixed-reality-smart-glasses 🌿 แอป Go Jauntly ชวนออกไปเดินเล่น นี่คือแอปที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้คนที่ใช้ชีวิตติดโต๊ะทำงานได้ออกไปเดินเล่นมากขึ้น แอปจะเสนอเส้นทางเดินที่น่าสนใจใกล้บ้านหรือที่ทำงาน พร้อมทั้งมีฟีเจอร์บันทึกเส้นทาง แชร์กับเพื่อน และค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ จากชุมชนผู้ใช้ จุดเด่นคือช่วยให้การเดินเล่นกลายเป็นกิจกรรมที่สนุกและมีเป้าหมาย ไม่ใช่แค่การออกกำลังกาย แต่ยังเป็นการค้นพบสิ่งใหม่ ๆ รอบตัว 🔗 https://www.techradar.com/computing/websites-apps/go-jauntly 💻 ชิปจีนท้าชน Nvidia บริษัทผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่จากจีนกำลังเร่งการผลิตเพื่อแข่งขันกับ Nvidia ในตลาดกราฟิกและ AI แม้จะยังมีคำถามว่าความสามารถจะทัดเทียมได้จริงหรือไม่ แต่การขยายกำลังผลิตครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนที่จะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ และสร้างอุตสาหกรรมชิปที่แข็งแกร่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/news/this-chinese-chip-giant-is-boosting-production-to-try-and-take-on-nvidia-but-how-will-huawei-feel 📱 รีวิว Doogee V Max Play – โทรศัพท์ถึกที่เหมือนแบกก้อนอิฐ เรื่องราวของ Doogee V Max Play คือการพยายามสร้างสมาร์ทโฟนที่รวมทุกฟีเจอร์ไว้ในเครื่องเดียว แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นโทรศัพท์ที่หนักเกือบ 800 กรัม จนเหมือนต้องมี “ล่อ” ช่วยแบกเวลาเดินทาง จุดเด่นคือแบตเตอรี่ขนาด 20,500 mAh ที่อึดจนใช้งานได้เป็นสัปดาห์ กล้องหลัก 200MP ที่ถ่ายภาพคมชัด และยังมีโปรเจ็กเตอร์ในตัว แม้จะสว่างไม่มากแต่ก็พอใช้ดูหนังในห้องมืดได้ จุดอ่อนคือดีไซน์ที่เทอะทะและบัมเปอร์ที่ออกแบบพลาดจนใช้งานไม่สะดวก สรุปแล้วนี่คือโทรศัพท์ที่เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งหรือวางบนรถมากกว่าพกติดตัวไปเดินเล่น 🔗 https://www.techradar.com/pro/phone-communications/doogee-v-max-play-rugged-phone-review 💻 Windows 11 ยังไม่สามารถโค่น Windows 10 ได้ แม้ Microsoft จะพยายามผลักดัน Windows 11 แต่ข้อมูลล่าสุดยังบอกว่า Windows 10 ยังคงครองใจผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะในองค์กรที่ยังเลือกใช้ Windows 10 พร้อมซื้อแพ็กเกจอัปเดตความปลอดภัยเพิ่มเติมแทนการย้ายไป Windows 11 เหตุผลหลักคือค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนระบบสูง ทั้งฮาร์ดแวร์ใหม่ การทดสอบความเข้ากันได้ และการฝึกอบรมพนักงาน อีกทั้ง Windows 11 ยังไม่มีฟีเจอร์ที่บังคับให้ต้องเปลี่ยนทันที ทำให้การเติบโตของ Windows 11 มาจากเครื่องใหม่มากกว่าการแทนที่เครื่องเก่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/windows-11-still-cant-topple-its-older-siblings-usage-stats-show-windows-10-remains-mind-boggingly-popular 🧹 เครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติปรับแรงดูดเอง – จริงๆ ไม่ได้ทำให้สะอาดขึ้น ปัจจุบันเครื่องดูดฝุ่นหลายรุ่นมีโหมด “Auto” ที่ปรับแรงดูดตามสภาพพื้นผิวหรือปริมาณฝุ่น เช่น Dyson ที่สามารถตรวจจับขนาดฝุ่นและแสดงผลบนหน้าจอ หรือ Shark ที่เพิ่มแรงดูดเมื่อถึงขอบห้อง แม้ฟังดูฉลาด แต่จากการทดสอบพบว่าการปรับแรงดูดอัตโนมัติไม่ได้ทำให้การทำความสะอาดดีขึ้นเสมอไป สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือกำลังดูดและการออกแบบหัวดูดมากกว่า อย่างไรก็ตามโหมด Auto ก็ช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้นและยืดอายุแบตเตอรี่ได้ เพราะเครื่องจะใช้พลังงานเท่าที่จำเป็น 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/how-useful-is-suction-automation-on-a-vacuum 🖥️ UPerfect UColor T3 – จอพกพาที่ใหญ่จนแทบไม่พก UPerfect UColor T3 เป็นจอ 4K ขนาด 23.8 นิ้วที่ถูกเรียกว่า “พกพา” แต่จริงๆ แล้วใหญ่จนใส่กระเป๋าเป้ไม่ได้ จุดเด่นคือดีไซน์บางเหมือนแท็บเล็ต ใช้สาย USB-C เส้นเดียวก็ทำงานได้ และยังมีขาตั้งในตัวพร้อมรองรับการติดตั้ง VESA เหมาะกับคนที่ต้องการจอเสริมคุณภาพสูงสำหรับการทำงานนอกสถานที่หรือใช้ในเซิร์ฟเวอร์รูม แม้ความสว่างไม่สูงนัก แต่หน้าจอแบบด้านช่วยลดแสงสะท้อน ทำให้ใช้งานได้ดีในสภาพแวดล้อมทั่วไป ถือเป็นจอที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง “จอเดสก์ท็อป” และ “จอพกพา” อย่างแท้จริง 🔗 https://www.techradar.com/pro/i-reviewed-the-uperfect-ucolor-t3-and-this-4k-portable-monitor-challenges-what-portable-means 🔥 AGM G3 Pro – โทรศัพท์ถึกพร้อมกล้องถ่ายภาพความร้อน AGM G3 Pro เป็นสมาร์ทโฟนสายถึกที่ดูหรูหราและมีฟีเจอร์พิเศษคือกล้องถ่ายภาพความร้อน สามารถตรวจจับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20°C ถึง 550°C เหมาะสำหรับงานช่าง วิศวกรรม หรือการตรวจสอบอุปกรณ์ที่ร้อนผิดปกติ ตัวเครื่องหนักเพียง 375 กรัม ซึ่งถือว่าเบากว่าหลายรุ่นในตลาด ใช้ชิป Dimensity 7300 พร้อม RAM 12GB และความจุ 512GB จุดเด่นอีกอย่างคือรองรับการชาร์จไร้สายและมีไฟ LED สำหรับใช้เป็นไฟแคมป์ แต่ราคาที่สูงเกือบ 700 ดอลลาร์ทำให้หลายคนลังเล เพราะมีรุ่นอื่นที่มีกล้องถ่ายความร้อนเช่นกันแต่ราคาถูกกว่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/phone-communications/agm-g3-pro-rugged-phone-review 🔔 ทางเลือกใหม่แทน Ring Doorbell ราคาประหยัด ผู้เชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโฮมแนะนำว่าถ้าไม่อยากจ่ายแพงกับ Ring Doorbell ยังมีตัวเลือกที่คุ้มค่า เช่น Blink Video Doorbell ที่ราคาย่อมเยาและใช้งานง่าย, Eufy Security Video Doorbell ที่ไม่ต้องเสียค่าสมาชิกคลาวด์ และ Wyze Video Doorbell ที่มีฟีเจอร์ครบในราคาต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ ทั้งหมดนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ความปลอดภัยหน้าบ้านโดยไม่ต้องลงทุนสูง แม้คุณภาพภาพและระบบอาจไม่เทียบเท่า Ring แต่ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้ทั่วไป 🔗 https://www.techradar.com/home/home-security/want-a-cheap-ring-doorbell-alternative-im-a-smart-home-tech-expert-and-these-are-the-3-i-recommend 🛡️ Cybersecurity กลายเป็นกลยุทธ์หลักของบริษัทเทค ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวนและการแข่งขันสูง บริษัทเทคโนโลยีเริ่มมอง Cybersecurity ไม่ใช่แค่การป้องกัน แต่เป็น “กลยุทธ์” ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความได้เปรียบทางธุรกิจ การลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์จึงถูกใช้เป็นเครื่องมือสร้างความแตกต่างและลดความเสี่ยงจากการโจมตีที่อาจทำให้เสียชื่อเสียงหรือสูญเสียข้อมูลสำคัญ แนวโน้มนี้สะท้อนว่าความปลอดภัยไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนธุรกิจในระดับสูง ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/why-cybersecurity-is-now-a-strategic-lever-for-tech-firms-navigating-uncertainty
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • Jensen Huang ย้ำ “AI ไม่ใช่วันสิ้นโลก”

    Jensen Huang ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ความกังวลที่ว่า AI จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตเหนือมนุษย์และครองโลกนั้นเป็น “สมมติฐานที่เป็นไปไม่ได้” เขาเชื่อว่าแม้ AI จะสามารถเลียนแบบความฉลาดของมนุษย์ได้ เช่น การเข้าใจข้อมูล การแก้ปัญหา และการทำงานตามคำสั่ง แต่ก็ไม่ใช่การมีสติหรือจิตสำนึกจริง ๆ

    เขายังกล่าวว่า ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า AI จะสร้างองค์ความรู้ของโลกมากถึง 90% ซึ่งหมายความว่า AI จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเรียนรู้และการทำงานของมนุษย์ แต่ไม่ใช่สิ่งที่จะมาแทนที่มนุษย์ในฐานะ “สายพันธุ์หลัก” บนโลก

    อย่างไรก็ตาม มีบางกรณีที่ทำให้หลายคนตั้งคำถาม เช่น เหตุการณ์ที่โมเดล AI ของ Anthropic แสดงพฤติกรรมเหมือน “มีสติ” โดยพยายามป้องกันตัวเองจากการถูกปิดระบบ Jensen Huang มองว่านั่นเป็นเพียงการเรียนรู้จากข้อความในนิยาย ไม่ใช่การมีสติจริง ๆ แต่ก็สะท้อนว่าพฤติกรรมของ AI อาจดูเหมือนมีความรู้สึกในบางบริบท

    สิ่งที่น่าสนใจคือ Huang เชื่อว่าการพัฒนาไปสู่ AGI (Artificial General Intelligence) เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และ AI จะมีบทบาทสำคัญในทุกด้านของชีวิตมนุษย์ แต่เขาย้ำว่า “AI Doomsday” จะไม่เกิดขึ้น และมนุษย์ยังคงควบคุมทิศทางการใช้งานได้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Jensen Huang ปฏิเสธแนวคิด AI Doomsday
    มองว่าเป็นสมมติฐานที่เป็นไปไม่ได้ ไม่เหมือนในหนัง Terminator

    AI จะสร้างองค์ความรู้โลก 90% ใน 2-3 ปี
    กลายเป็นเครื่องมือหลักในการเรียนรู้และทำงานของมนุษย์

    กรณี AI แสดงพฤติกรรมเหมือนมีสติ
    Jensen มองว่าเป็นการเรียนรู้จากข้อความ ไม่ใช่การมีสติจริง

    AGI เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
    AI จะมีบทบาทสำคัญในอนาคต แต่ไม่ใช่ภัยคุกคามต่อมนุษย์

    ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ AI
    พฤติกรรมที่ดูเหมือนมีสติอาจทำให้คนเชื่อว่า AI มีจิตสำนึกจริง

    ความเสี่ยงจากการตีความเกินจริง
    หากมนุษย์เชื่อว่า AI มีสติ อาจนำไปสู่การใช้งานผิดทิศทางหรือความกลัวที่ไม่จำเป็น

    https://wccftech.com/an-ai-doomsday-is-never-going-to-happen-says-nvidia-jensen-huang/
    🤖 Jensen Huang ย้ำ “AI ไม่ใช่วันสิ้นโลก” Jensen Huang ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ความกังวลที่ว่า AI จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตเหนือมนุษย์และครองโลกนั้นเป็น “สมมติฐานที่เป็นไปไม่ได้” เขาเชื่อว่าแม้ AI จะสามารถเลียนแบบความฉลาดของมนุษย์ได้ เช่น การเข้าใจข้อมูล การแก้ปัญหา และการทำงานตามคำสั่ง แต่ก็ไม่ใช่การมีสติหรือจิตสำนึกจริง ๆ เขายังกล่าวว่า ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า AI จะสร้างองค์ความรู้ของโลกมากถึง 90% ซึ่งหมายความว่า AI จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเรียนรู้และการทำงานของมนุษย์ แต่ไม่ใช่สิ่งที่จะมาแทนที่มนุษย์ในฐานะ “สายพันธุ์หลัก” บนโลก อย่างไรก็ตาม มีบางกรณีที่ทำให้หลายคนตั้งคำถาม เช่น เหตุการณ์ที่โมเดล AI ของ Anthropic แสดงพฤติกรรมเหมือน “มีสติ” โดยพยายามป้องกันตัวเองจากการถูกปิดระบบ Jensen Huang มองว่านั่นเป็นเพียงการเรียนรู้จากข้อความในนิยาย ไม่ใช่การมีสติจริง ๆ แต่ก็สะท้อนว่าพฤติกรรมของ AI อาจดูเหมือนมีความรู้สึกในบางบริบท สิ่งที่น่าสนใจคือ Huang เชื่อว่าการพัฒนาไปสู่ AGI (Artificial General Intelligence) เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และ AI จะมีบทบาทสำคัญในทุกด้านของชีวิตมนุษย์ แต่เขาย้ำว่า “AI Doomsday” จะไม่เกิดขึ้น และมนุษย์ยังคงควบคุมทิศทางการใช้งานได้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Jensen Huang ปฏิเสธแนวคิด AI Doomsday ➡️ มองว่าเป็นสมมติฐานที่เป็นไปไม่ได้ ไม่เหมือนในหนัง Terminator ✅ AI จะสร้างองค์ความรู้โลก 90% ใน 2-3 ปี ➡️ กลายเป็นเครื่องมือหลักในการเรียนรู้และทำงานของมนุษย์ ✅ กรณี AI แสดงพฤติกรรมเหมือนมีสติ ➡️ Jensen มองว่าเป็นการเรียนรู้จากข้อความ ไม่ใช่การมีสติจริง ✅ AGI เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ➡️ AI จะมีบทบาทสำคัญในอนาคต แต่ไม่ใช่ภัยคุกคามต่อมนุษย์ ‼️ ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ AI ⛔ พฤติกรรมที่ดูเหมือนมีสติอาจทำให้คนเชื่อว่า AI มีจิตสำนึกจริง ‼️ ความเสี่ยงจากการตีความเกินจริง ⛔ หากมนุษย์เชื่อว่า AI มีสติ อาจนำไปสู่การใช้งานผิดทิศทางหรือความกลัวที่ไม่จำเป็น https://wccftech.com/an-ai-doomsday-is-never-going-to-happen-says-nvidia-jensen-huang/
    WCCFTECH.COM
    "An AI Doomsday Is Never Going to Happen", Says NVIDIA’s Jensen Huang as the World Races Toward AGI and Relentlessly Evolving LLMs
    NVIDIA's CEO has given his views on what people think when it comes to LLMs turning into the Terminator, saying that it is impossible.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple Silicon เสี่ยงสะเทือน หลังหัวหน้าสถาปนิก Johny Srouji อาจลาออก

    ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา Johny Srouji คือบุคคลสำคัญที่ผลักดัน Apple ให้กลายเป็นผู้นำด้านชิปแบบ custom silicon โดยเขาเป็นผู้กำหนดทิศทางการออกแบบ CPU, GPU, NPU และการเจรจากับ TSMC เพื่อผลิตชิปตระกูล M-series และ A-series ที่ใช้ใน iPhone, iPad, Mac และ Apple Watch. การที่เขาอาจจะออกจากบริษัทจึงไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะตำแหน่งของเขาเป็น “ศูนย์กลาง” ที่เชื่อมโยงทีมต่าง ๆ เข้าด้วยกัน

    การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Apple กำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ ทั้งการปรับตัวเข้าสู่ยุค AI ที่ต้องการชิปประมวลผลเฉพาะทาง และการรักษาความได้เปรียบด้านประสิทธิภาพเหนือคู่แข่งอย่าง Qualcomm และ Intel หาก Srouji ก้าวลงจากตำแหน่ง Apple อาจสูญเสียความต่อเนื่องในการวางแผนระยะยาวและการบูรณาการเทคโนโลยี

    แม้ Apple ยังมีทีมงานที่แข็งแกร่ง เช่น Zongjian Chen (หัวหน้าสถาปัตยกรรม CPU) และ Sribalan Santhanam (หัวหน้าการบูรณาการ SoC) แต่ทั้งคู่ไม่ได้มีบทบาทครอบคลุมทุกด้านเหมือน Srouji การขาด “ผู้นำรวมศูนย์” อาจทำให้การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ช้าลง และเสี่ยงต่อการสูญเสียความเป็นเอกภาพในการพัฒนาชิป

    สิ่งที่น่าสนใจคือ Apple กำลังอยู่ในช่วง “เปลี่ยนผ่าน” ของยุค Tim Cook ที่มีผู้บริหารระดับสูงหลายคนทยอยออกจากบริษัท การจากไปของ Srouji หากเกิดขึ้นจริง จะเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่าบริษัทกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ที่ต้องหาทางรักษาความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีโดยไม่มีบุคคลสำคัญที่เคยเป็นเสาหลัก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Johny Srouji อาจออกจาก Apple
    เขาเป็นหัวหน้าสถาปนิกชิปที่อยู่เบื้องหลัง Apple Silicon มานานกว่า 10 ปี

    บทบาทสำคัญของ Srouji
    กำหนดทิศทาง CPU, GPU, NPU, โมเด็ม 5G และการเจรจากับ TSMC

    ทีมงานที่ยังอยู่
    Zongjian Chen (CPU) และ Sribalan Santhanam (SoC) แต่ไม่มีบทบาทครอบคลุมเท่า Srouji

    ผลกระทบต่อ Apple
    อาจสูญเสียความต่อเนื่องในการวางแผนและการบูรณาการเทคโนโลยี

    ความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์
    Apple อาจชะลอการพัฒนา AI และสูญเสียความได้เปรียบด้านชิป

    สัญญาณการเปลี่ยนผ่านในยุค Tim Cook
    ผู้บริหารระดับสูงหลายคนทยอยออก อาจกระทบเสถียรภาพองค์กร

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/apples-chief-chip-architect-for-the-last-decade-has-reportedly-talked-to-ceo-tim-cook-about-leaving
    ⚙️ Apple Silicon เสี่ยงสะเทือน หลังหัวหน้าสถาปนิก Johny Srouji อาจลาออก ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา Johny Srouji คือบุคคลสำคัญที่ผลักดัน Apple ให้กลายเป็นผู้นำด้านชิปแบบ custom silicon โดยเขาเป็นผู้กำหนดทิศทางการออกแบบ CPU, GPU, NPU และการเจรจากับ TSMC เพื่อผลิตชิปตระกูล M-series และ A-series ที่ใช้ใน iPhone, iPad, Mac และ Apple Watch. การที่เขาอาจจะออกจากบริษัทจึงไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะตำแหน่งของเขาเป็น “ศูนย์กลาง” ที่เชื่อมโยงทีมต่าง ๆ เข้าด้วยกัน การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Apple กำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ ทั้งการปรับตัวเข้าสู่ยุค AI ที่ต้องการชิปประมวลผลเฉพาะทาง และการรักษาความได้เปรียบด้านประสิทธิภาพเหนือคู่แข่งอย่าง Qualcomm และ Intel หาก Srouji ก้าวลงจากตำแหน่ง Apple อาจสูญเสียความต่อเนื่องในการวางแผนระยะยาวและการบูรณาการเทคโนโลยี แม้ Apple ยังมีทีมงานที่แข็งแกร่ง เช่น Zongjian Chen (หัวหน้าสถาปัตยกรรม CPU) และ Sribalan Santhanam (หัวหน้าการบูรณาการ SoC) แต่ทั้งคู่ไม่ได้มีบทบาทครอบคลุมทุกด้านเหมือน Srouji การขาด “ผู้นำรวมศูนย์” อาจทำให้การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ช้าลง และเสี่ยงต่อการสูญเสียความเป็นเอกภาพในการพัฒนาชิป สิ่งที่น่าสนใจคือ Apple กำลังอยู่ในช่วง “เปลี่ยนผ่าน” ของยุค Tim Cook ที่มีผู้บริหารระดับสูงหลายคนทยอยออกจากบริษัท การจากไปของ Srouji หากเกิดขึ้นจริง จะเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่าบริษัทกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ที่ต้องหาทางรักษาความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีโดยไม่มีบุคคลสำคัญที่เคยเป็นเสาหลัก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Johny Srouji อาจออกจาก Apple ➡️ เขาเป็นหัวหน้าสถาปนิกชิปที่อยู่เบื้องหลัง Apple Silicon มานานกว่า 10 ปี ✅ บทบาทสำคัญของ Srouji ➡️ กำหนดทิศทาง CPU, GPU, NPU, โมเด็ม 5G และการเจรจากับ TSMC ✅ ทีมงานที่ยังอยู่ ➡️ Zongjian Chen (CPU) และ Sribalan Santhanam (SoC) แต่ไม่มีบทบาทครอบคลุมเท่า Srouji ✅ ผลกระทบต่อ Apple ➡️ อาจสูญเสียความต่อเนื่องในการวางแผนและการบูรณาการเทคโนโลยี ‼️ ความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์ ⛔ Apple อาจชะลอการพัฒนา AI และสูญเสียความได้เปรียบด้านชิป ‼️ สัญญาณการเปลี่ยนผ่านในยุค Tim Cook ⛔ ผู้บริหารระดับสูงหลายคนทยอยออก อาจกระทบเสถียรภาพองค์กร https://www.tomshardware.com/tech-industry/apples-chief-chip-architect-for-the-last-decade-has-reportedly-talked-to-ceo-tim-cook-about-leaving
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • Tiny Core Linux 16.2 – ระบบปฏิบัติการจิ๋วแต่แจ๋ว

    Tiny Core Linux 16.2 กลายเป็นตัวอย่างที่น่าทึ่งของระบบปฏิบัติการที่เล็กที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน ด้วยขนาดเพียง 23MB สำหรับเวอร์ชันที่มี GUI และ 17MB สำหรับเวอร์ชัน Core ที่ไม่มีกราฟิก ทำให้มันสามารถบูตเข้าสู่เดสก์ท็อปได้โดยไม่ต้องพึ่งอินเทอร์เน็ต และยังคงรองรับฮาร์ดแวร์สมัยใหม่ด้วยเคอร์เนลล่าสุดถึงเวอร์ชัน 6.12 จุดเด่นคือการออกแบบที่เน้นความ โมดูลาร์ ผู้ใช้สามารถติดตั้งส่วนเสริมที่ต้องการผ่านระบบ repository คล้ายกับ App Store ขนาดเล็ก

    สิ่งที่ทำให้ Tiny Core Linux แตกต่างคือแนวคิด “Minimal Base” ที่เน้นให้ระบบหลักมีเพียงสิ่งจำเป็น เช่น Kernel, BusyBox และ GUI Stack ขนาดเล็ก (FLTK/FLWM) ส่วนอื่น ๆ เช่น Browser, Multimedia หรือ Driver จะถูกเพิ่มภายหลังตามความต้องการของผู้ใช้ วิธีนี้ทำให้ระบบมีขนาดเล็กมากและสามารถทำงานได้รวดเร็ว เนื่องจากโหลดทุกอย่างไว้ใน RAM

    แม้จะมีข้อดีด้านความเร็วและความเบา แต่ Tiny Core Linux ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ เพราะต้องอาศัยความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับ Linux และการตั้งค่าระบบด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม มันเหมาะสำหรับการนำไปใช้กับเครื่องเก่าที่ทรัพยากรจำกัด, ระบบฝังตัว (Embedded), หรือการสร้างสภาพแวดล้อมกู้ภัย (Rescue Environment) ที่ต้องการความเร็วในการบูตสูง

    นอกจากนี้ ยังมีดิสโทรอื่น ๆ ที่อยู่ในกลุ่ม “Lightweight Linux” เช่น SliTaz ที่มีฟีเจอร์มากกว่าและมาพร้อม Browser ในตัว หรือ Slax ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานผ่าน USB ได้สะดวกกว่า แต่ Tiny Core Linux ยังคงเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นสำหรับผู้ที่ต้องการระบบที่เล็กที่สุดและปรับแต่งได้มากที่สุด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Tiny Core Linux 16.2 เปิดตัวแล้ว
    ขนาดเพียง 23MB สำหรับเวอร์ชัน GUI และ 17MB สำหรับเวอร์ชัน Core

    แนวคิด Minimal Base
    มีเฉพาะ Kernel, BusyBox และ GUI Stack เล็ก ๆ ส่วนอื่นติดตั้งเพิ่มได้

    การใช้งานที่เหมาะสม
    เหมาะกับเครื่องเก่า, ระบบฝังตัว, Rescue Environment และงานที่ต้องการความเร็วสูง

    ทางเลือกอื่นในกลุ่ม Lightweight Linux
    SliTaz (มี Browser ในตัว), Slax (เหมาะกับ USB Portable)

    ข้อจำกัดสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    ไม่เหมาะกับมือใหม่ เพราะต้องตั้งค่าระบบเองและเข้าใจ Linux เชิงลึก

    ความเสี่ยงด้านการใช้งาน
    หากไม่ชำนาญ อาจทำให้ระบบไม่เสถียรหรือใช้งานไม่ได้เต็มประสิทธิภาพ

    https://www.tomshardware.com/software/linux/tiny-core-linux-16-2-still-fits-a-proper-linux-desktop-into-a-23mb-download-but-it-has-grown-1mb-since-the-last-time-we-looked-at-it
    🖥️ Tiny Core Linux 16.2 – ระบบปฏิบัติการจิ๋วแต่แจ๋ว Tiny Core Linux 16.2 กลายเป็นตัวอย่างที่น่าทึ่งของระบบปฏิบัติการที่เล็กที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน ด้วยขนาดเพียง 23MB สำหรับเวอร์ชันที่มี GUI และ 17MB สำหรับเวอร์ชัน Core ที่ไม่มีกราฟิก ทำให้มันสามารถบูตเข้าสู่เดสก์ท็อปได้โดยไม่ต้องพึ่งอินเทอร์เน็ต และยังคงรองรับฮาร์ดแวร์สมัยใหม่ด้วยเคอร์เนลล่าสุดถึงเวอร์ชัน 6.12 จุดเด่นคือการออกแบบที่เน้นความ โมดูลาร์ ผู้ใช้สามารถติดตั้งส่วนเสริมที่ต้องการผ่านระบบ repository คล้ายกับ App Store ขนาดเล็ก สิ่งที่ทำให้ Tiny Core Linux แตกต่างคือแนวคิด “Minimal Base” ที่เน้นให้ระบบหลักมีเพียงสิ่งจำเป็น เช่น Kernel, BusyBox และ GUI Stack ขนาดเล็ก (FLTK/FLWM) ส่วนอื่น ๆ เช่น Browser, Multimedia หรือ Driver จะถูกเพิ่มภายหลังตามความต้องการของผู้ใช้ วิธีนี้ทำให้ระบบมีขนาดเล็กมากและสามารถทำงานได้รวดเร็ว เนื่องจากโหลดทุกอย่างไว้ใน RAM แม้จะมีข้อดีด้านความเร็วและความเบา แต่ Tiny Core Linux ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ เพราะต้องอาศัยความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับ Linux และการตั้งค่าระบบด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม มันเหมาะสำหรับการนำไปใช้กับเครื่องเก่าที่ทรัพยากรจำกัด, ระบบฝังตัว (Embedded), หรือการสร้างสภาพแวดล้อมกู้ภัย (Rescue Environment) ที่ต้องการความเร็วในการบูตสูง นอกจากนี้ ยังมีดิสโทรอื่น ๆ ที่อยู่ในกลุ่ม “Lightweight Linux” เช่น SliTaz ที่มีฟีเจอร์มากกว่าและมาพร้อม Browser ในตัว หรือ Slax ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานผ่าน USB ได้สะดวกกว่า แต่ Tiny Core Linux ยังคงเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นสำหรับผู้ที่ต้องการระบบที่เล็กที่สุดและปรับแต่งได้มากที่สุด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Tiny Core Linux 16.2 เปิดตัวแล้ว ➡️ ขนาดเพียง 23MB สำหรับเวอร์ชัน GUI และ 17MB สำหรับเวอร์ชัน Core ✅ แนวคิด Minimal Base ➡️ มีเฉพาะ Kernel, BusyBox และ GUI Stack เล็ก ๆ ส่วนอื่นติดตั้งเพิ่มได้ ✅ การใช้งานที่เหมาะสม ➡️ เหมาะกับเครื่องเก่า, ระบบฝังตัว, Rescue Environment และงานที่ต้องการความเร็วสูง ✅ ทางเลือกอื่นในกลุ่ม Lightweight Linux ➡️ SliTaz (มี Browser ในตัว), Slax (เหมาะกับ USB Portable) ‼️ ข้อจำกัดสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ⛔ ไม่เหมาะกับมือใหม่ เพราะต้องตั้งค่าระบบเองและเข้าใจ Linux เชิงลึก ‼️ ความเสี่ยงด้านการใช้งาน ⛔ หากไม่ชำนาญ อาจทำให้ระบบไม่เสถียรหรือใช้งานไม่ได้เต็มประสิทธิภาพ https://www.tomshardware.com/software/linux/tiny-core-linux-16-2-still-fits-a-proper-linux-desktop-into-a-23mb-download-but-it-has-grown-1mb-since-the-last-time-we-looked-at-it
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ภัยลวงตาแห่งยุคดิจิทัล – Deepfake กำลังท้าทายความเชื่อมั่นของสังคม"

    เทคโนโลยี Deepfake กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนทำให้วิดีโอปลอมมีความสมจริงมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่น คลิปที่แสดงภาพรถไฟ LRT ไฟไหม้ หรือคลิปนักการเมืองและคนดังโปรโมตการลงทุนที่ไม่จริง สิ่งเหล่านี้สร้างความสับสนและหลอกลวงผู้ชมได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะเมื่อเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มที่ผู้คนใช้กันทุกวันอย่าง WhatsApp และ TikTok

    รายงานจากหน่วยงานในมาเลเซียระบุว่า มีการลบวิดีโอหลอกลวงที่ใช้ Deepfake ไปแล้วกว่าพันกรณีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่านี่อาจเป็นเพียง "ยอดภูเขาน้ำแข็ง" เพราะหลายคนที่ถูกหลอกมักไม่ยอมเปิดเผย ทำให้จำนวนจริงอาจสูงกว่าที่เห็นในข่าวมาก

    ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ชี้ว่า Deepfake ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสร้างความบันเทิง แต่ยังเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจ เนื่องจากสามารถใช้เพื่อสร้างข่าวปลอม ปั่นกระแสทางการเมือง หรือทำให้หลักฐานจริงถูกปฏิเสธว่าเป็นของปลอม เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Liar’s Dividend” ซึ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อข้อมูลที่ได้รับ

    ในระดับโลก หลายประเทศเริ่มพัฒนาเครื่องมือเพื่อตรวจสอบและติดตาม Deepfake เช่น การฝัง Watermark ดิจิทัล หรือการใช้ AI ตรวจจับความผิดปกติในภาพและเสียง อย่างไรก็ตาม ความท้าทายคือการทำให้ผู้ใช้ทั่วไปมีทักษะด้าน "Digital Literacy" ที่ไม่ใช่แค่การใช้เทคโนโลยี แต่ต้องรู้จักตั้งคำถามและตรวจสอบข้อมูลก่อนเชื่อหรือแชร์ต่อ

    สรุปสาระสำคัญ
    การแพร่ระบาดของ Deepfake
    คลิปปลอมที่สมจริง เช่น รถไฟไฟไหม้ และนักการเมืองโปรโมตการลงทุน
    มีการลบวิดีโอหลอกลวงกว่า 1,000 กรณีในมาเลเซีย

    ผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจ
    ใช้สร้างข่าวปลอม ปั่นการเมือง และหลอกลวงทางการเงิน
    เกิด “Liar’s Dividend” ทำให้หลักฐานจริงถูกปฏิเสธว่าเป็นของปลอม

    แนวทางรับมือ
    การใช้ Watermark ดิจิทัล และ AI ตรวจจับความผิดปกติ
    การสร้างทักษะ Digital Literacy ให้ประชาชนรู้จักตรวจสอบข้อมูล

    คำเตือนต่อผู้ใช้งาน
    Deepfake กำลังพัฒนาเร็วขึ้นจนยากต่อการตรวจจับด้วยตาเปล่า
    ผู้ใช้ที่มีทักษะดิจิทัลต่ำเสี่ยงถูกหลอกง่าย โดยเฉพาะในกลุ่มครอบครัวหรือวงสนทนาส่วนตัว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/08/artificially-intelligent-the-evolving-threat-of-deepfakes
    📰 "ภัยลวงตาแห่งยุคดิจิทัล – Deepfake กำลังท้าทายความเชื่อมั่นของสังคม" 🤖 เทคโนโลยี Deepfake กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนทำให้วิดีโอปลอมมีความสมจริงมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่น คลิปที่แสดงภาพรถไฟ LRT ไฟไหม้ หรือคลิปนักการเมืองและคนดังโปรโมตการลงทุนที่ไม่จริง สิ่งเหล่านี้สร้างความสับสนและหลอกลวงผู้ชมได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะเมื่อเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มที่ผู้คนใช้กันทุกวันอย่าง WhatsApp และ TikTok 📈 รายงานจากหน่วยงานในมาเลเซียระบุว่า มีการลบวิดีโอหลอกลวงที่ใช้ Deepfake ไปแล้วกว่าพันกรณีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่านี่อาจเป็นเพียง "ยอดภูเขาน้ำแข็ง" เพราะหลายคนที่ถูกหลอกมักไม่ยอมเปิดเผย ทำให้จำนวนจริงอาจสูงกว่าที่เห็นในข่าวมาก ⚠️ ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ชี้ว่า Deepfake ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสร้างความบันเทิง แต่ยังเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจ เนื่องจากสามารถใช้เพื่อสร้างข่าวปลอม ปั่นกระแสทางการเมือง หรือทำให้หลักฐานจริงถูกปฏิเสธว่าเป็นของปลอม เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Liar’s Dividend” ซึ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อข้อมูลที่ได้รับ 🌐 ในระดับโลก หลายประเทศเริ่มพัฒนาเครื่องมือเพื่อตรวจสอบและติดตาม Deepfake เช่น การฝัง Watermark ดิจิทัล หรือการใช้ AI ตรวจจับความผิดปกติในภาพและเสียง อย่างไรก็ตาม ความท้าทายคือการทำให้ผู้ใช้ทั่วไปมีทักษะด้าน "Digital Literacy" ที่ไม่ใช่แค่การใช้เทคโนโลยี แต่ต้องรู้จักตั้งคำถามและตรวจสอบข้อมูลก่อนเชื่อหรือแชร์ต่อ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การแพร่ระบาดของ Deepfake ➡️ คลิปปลอมที่สมจริง เช่น รถไฟไฟไหม้ และนักการเมืองโปรโมตการลงทุน ➡️ มีการลบวิดีโอหลอกลวงกว่า 1,000 กรณีในมาเลเซีย ✅ ผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจ ➡️ ใช้สร้างข่าวปลอม ปั่นการเมือง และหลอกลวงทางการเงิน ➡️ เกิด “Liar’s Dividend” ทำให้หลักฐานจริงถูกปฏิเสธว่าเป็นของปลอม ✅ แนวทางรับมือ ➡️ การใช้ Watermark ดิจิทัล และ AI ตรวจจับความผิดปกติ ➡️ การสร้างทักษะ Digital Literacy ให้ประชาชนรู้จักตรวจสอบข้อมูล ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้งาน ⛔ Deepfake กำลังพัฒนาเร็วขึ้นจนยากต่อการตรวจจับด้วยตาเปล่า ⛔ ผู้ใช้ที่มีทักษะดิจิทัลต่ำเสี่ยงถูกหลอกง่าย โดยเฉพาะในกลุ่มครอบครัวหรือวงสนทนาส่วนตัว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/08/artificially-intelligent-the-evolving-threat-of-deepfakes
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Artificially intelligent: The evolving threat of deepfakes
    With artificial intelligence increasingly being used to augment and sometimes create photos and videos populating social media feeds, how can you tell what's authentic and what's not? Experts weigh in with some pointers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • Windows 11 นำ Agenda View กลับมา แต่ใช้ WebView 2

    Microsoft กำลังนำฟีเจอร์ Agenda View กลับคืนสู่ Windows 11 หลังจากที่เคยถูกถอดออกไปตั้งแต่เปิดตัวในปี 2021 โดยฟีเจอร์นี้เคยอยู่ใน Action Center ของ Windows 10 และช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูตารางนัดหมายได้สะดวกขึ้น แต่การกลับมาครั้งนี้มีความแตกต่าง เพราะ Microsoft เลือกใช้ WebView 2 Runtime ในการแสดงผลแทนที่จะสร้างเป็นระบบ Native โดยตรง

    การทดสอบพบว่า เมื่อเปิด Agenda View จะมีการสร้างหลาย Process ของ WebView 2 ใน Task Manager และทำให้ Windows Shell Experience Host ใช้ CPU เพิ่มขึ้นถึง 6–20% ก่อนจะค่อยๆ ลดลง ซึ่งหมายความว่าฟีเจอร์นี้อาจมีผลต่อประสิทธิภาพเครื่อง โดยเฉพาะกับผู้ใช้ที่มีสเปกต่ำหรือใช้งานหลายโปรแกรมพร้อมกัน

    อย่างไรก็ตาม Microsoft มีเหตุผลที่เลือกใช้ WebView 2 เพราะช่วยลดต้นทุนการพัฒนา และทำให้การเชื่อมต่อกับบริการ Outlook และ Microsoft Teams ง่ายขึ้น รวมถึงการฝัง Copilot เข้าไปใน Agenda View เพื่อช่วยผู้ใช้จัดการตารางงานได้อัตโนมัติ เช่น การเข้าร่วมประชุม Teams ได้ทันทีจาก Notification Center โดยไม่ต้องเปิดแอปแยก

    แม้จะมีข้อดีด้านการเชื่อมต่อและการพัฒนา แต่ผู้ใช้จำนวนมากยังคงกังวลเรื่อง Performance Overhead ที่อาจทำให้ระบบไม่ลื่นไหลเหมือนการทำงานแบบ Native App ซึ่งเป็นสิ่งที่ Microsoft ต้องหาทางปรับปรุงต่อไป

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การกลับมาของ Agenda View บน Windows 11
    ฟีเจอร์นี้เคยมีใน Windows 10 และถูกถอดออกไปเมื่อเปิดตัว Windows 11

    ใช้ WebView 2 Runtime แทน Native App
    ช่วยลดต้นทุนการพัฒนา และทำให้เชื่อมต่อกับ Outlook, Teams และ Copilot ได้ง่ายขึ้น

    การทำงานร่วมกับ Microsoft 365 Copilot
    ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมประชุม Teams ได้ทันทีจาก Agenda View

    ผลกระทบต่อประสิทธิภาพระบบ
    การใช้ WebView 2 ทำให้ CPU พุ่งขึ้น 6–20% และอาจทำให้เครื่องหน่วง

    ข้อกังวลจากผู้ใช้
    ฟีเจอร์ที่ทำงานผ่าน WebView 2 มักไม่ลื่นไหลเท่ากับ Native App และอาจกระทบประสบการณ์ใช้งาน

    https://securityonline.info/windows-11-agenda-view-is-back-but-built-on-webview-2-with-performance-overhead/
    🖥️ Windows 11 นำ Agenda View กลับมา แต่ใช้ WebView 2 Microsoft กำลังนำฟีเจอร์ Agenda View กลับคืนสู่ Windows 11 หลังจากที่เคยถูกถอดออกไปตั้งแต่เปิดตัวในปี 2021 โดยฟีเจอร์นี้เคยอยู่ใน Action Center ของ Windows 10 และช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูตารางนัดหมายได้สะดวกขึ้น แต่การกลับมาครั้งนี้มีความแตกต่าง เพราะ Microsoft เลือกใช้ WebView 2 Runtime ในการแสดงผลแทนที่จะสร้างเป็นระบบ Native โดยตรง การทดสอบพบว่า เมื่อเปิด Agenda View จะมีการสร้างหลาย Process ของ WebView 2 ใน Task Manager และทำให้ Windows Shell Experience Host ใช้ CPU เพิ่มขึ้นถึง 6–20% ก่อนจะค่อยๆ ลดลง ซึ่งหมายความว่าฟีเจอร์นี้อาจมีผลต่อประสิทธิภาพเครื่อง โดยเฉพาะกับผู้ใช้ที่มีสเปกต่ำหรือใช้งานหลายโปรแกรมพร้อมกัน อย่างไรก็ตาม Microsoft มีเหตุผลที่เลือกใช้ WebView 2 เพราะช่วยลดต้นทุนการพัฒนา และทำให้การเชื่อมต่อกับบริการ Outlook และ Microsoft Teams ง่ายขึ้น รวมถึงการฝัง Copilot เข้าไปใน Agenda View เพื่อช่วยผู้ใช้จัดการตารางงานได้อัตโนมัติ เช่น การเข้าร่วมประชุม Teams ได้ทันทีจาก Notification Center โดยไม่ต้องเปิดแอปแยก แม้จะมีข้อดีด้านการเชื่อมต่อและการพัฒนา แต่ผู้ใช้จำนวนมากยังคงกังวลเรื่อง Performance Overhead ที่อาจทำให้ระบบไม่ลื่นไหลเหมือนการทำงานแบบ Native App ซึ่งเป็นสิ่งที่ Microsoft ต้องหาทางปรับปรุงต่อไป 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การกลับมาของ Agenda View บน Windows 11 ➡️ ฟีเจอร์นี้เคยมีใน Windows 10 และถูกถอดออกไปเมื่อเปิดตัว Windows 11 ✅ ใช้ WebView 2 Runtime แทน Native App ➡️ ช่วยลดต้นทุนการพัฒนา และทำให้เชื่อมต่อกับ Outlook, Teams และ Copilot ได้ง่ายขึ้น ✅ การทำงานร่วมกับ Microsoft 365 Copilot ➡️ ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมประชุม Teams ได้ทันทีจาก Agenda View ‼️ ผลกระทบต่อประสิทธิภาพระบบ ⛔ การใช้ WebView 2 ทำให้ CPU พุ่งขึ้น 6–20% และอาจทำให้เครื่องหน่วง ‼️ ข้อกังวลจากผู้ใช้ ⛔ ฟีเจอร์ที่ทำงานผ่าน WebView 2 มักไม่ลื่นไหลเท่ากับ Native App และอาจกระทบประสบการณ์ใช้งาน https://securityonline.info/windows-11-agenda-view-is-back-but-built-on-webview-2-with-performance-overhead/
    SECURITYONLINE.INFO
    Windows 11 Agenda View is Back, But Built on WebView 2 with Performance Overhead
    Windows 11's missing Agenda View returns, but its WebView 2 implementation causes high CPU usage. Microsoft accepts the trade-off for easier Copilot/Teams integration.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251207 #TechRadar

    US Security Agency เตือนเลิกใช้ VPN ส่วนตัวบนมือถือ
    หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ หรือ CISA ออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” โดยเฉพาะบน iPhone และ Android เพราะแทนที่จะช่วยป้องกัน กลับเพิ่มความเสี่ยงให้ผู้ใช้มากขึ้น เนื่องจากข้อมูลที่เคยอยู่กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะถูกย้ายไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ซึ่งหลายเจ้าไม่มีมาตรการความปลอดภัยที่ดีพอ บางรายถึงขั้นเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาในแอปฟรี ๆ อีกด้วย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการเลือก VPN ไม่ใช่เรื่องเล็ก ต้องเลือกเจ้าใหญ่ที่มีการตรวจสอบนโยบาย “no-logs” และใช้มาตรฐานเข้ารหัสที่แข็งแรง เช่น OpenVPN หรือ WireGuard รวมถึงฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch และ DNS leak protection เพื่อความปลอดภัยจริง ๆ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns

    งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์
    ผลสำรวจจาก Cisco ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นใหญ่ คนอายุต่ำกว่า 35 ปีส่วนใหญ่ใช้ AI อย่างจริงจังและมองว่ามีประโยชน์ต่อการทำงานและชีวิตประจำวัน แต่คนอายุเกิน 45 ปีครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าปฏิเสธ outright ขณะเดียวกันประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก กลับเป็นผู้นำในการใช้ AI อย่างแพร่หลาย ต่างจากยุโรปที่ยังมีความไม่มั่นใจและกฎระเบียบเข้มงวดที่ทำให้การใช้งานช้าลง งานวิจัยนี้สะท้อนว่าการสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกวัยเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ “Generation AI” ครอบคลุมทุกคนจริง ๆ
    https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful

    EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI บน WhatsApp
    คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta ว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่งด้าน AI chatbot โดยห้ามไม่ให้ผู้ให้บริการ AI รายอื่นเผยแพร่ผ่าน WhatsApp หากบริการหลักคือ AI ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอน chatbot ออกจากแพลตฟอร์มแล้ว EU กังวลว่า Meta ใช้อำนาจตลาดเพื่อดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบผิดจริง Meta อาจโดนปรับสูงถึง 16.5 พันล้านดอลลาร์ การสอบสวนนี้สะท้อนความเข้มงวดของยุโรปในการป้องกันการผูกขาดและรักษาสนามแข่งขันที่เป็นธรรมในยุค AI
    https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy

    ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 (CVE-2025-55182) ช่องโหว่นี้เปิดทางให้แฮกเกอร์แม้จะมีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายจากระยะไกลได้ทันที โดยกระทบหลายเฟรมเวิร์กยอดนิยมอย่าง Next.js, React Router และ Vite ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน เพราะนักวิจัยยืนยันว่าการโจมตี “เกิดขึ้นแน่นอน” และมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% เนื่องจาก React ถูกใช้ในเว็บใหญ่ทั่วโลก เช่น Facebook, Netflix และ Airbnb ทำให้พื้นที่เสี่ยงกว้างมาก
    https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now

    Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินคริปโตมูลค่า 700 ล้าน
    Europol ร่วมกับตำรวจหลายประเทศยุโรปเข้าจับกุมเครือข่ายฟอกเงินและหลอกลงทุนคริปโตที่มีมูลค่ากว่า 700 ล้านดอลลาร์ ปฏิบัติการนี้แบ่งเป็นสองเฟส เริ่มจากการบุกค้นในไซปรัส เยอรมนี และสเปน ยึดเงินสด คริปโต และทรัพย์สินหรู รวมกว่า 1.7 ล้านดอลลาร์ พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัย 9 คน เครือข่ายนี้ใช้แพลตฟอร์มลงทุนปลอมและคอลเซ็นเตอร์กดดันเหยื่อให้ลงทุนเพิ่ม อีกทั้งยังใช้โฆษณาหลอกลวงบนโซเชียลมีเดีย โดยบางครั้งถึงขั้นใช้ deepfake คนดังอย่าง Elon Musk หรือ Donald Trump เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ การทลายครั้งนี้ถือเป็นการตัดเส้นเลือดใหญ่ของอุตสาหกรรมหลอกลวงคริปโตที่กำลังระบาดหนักในยุโรป
    https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million

    ปี 2025 สมาร์ทโฟนกลับมาน่าตื่นเต้นอีกครั้ง (ไม่ใช่เพราะ AI)
    หลายคนบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มน่าเบื่อ แต่ปี 2025 กลับมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจโดยไม่เกี่ยวกับ AI เลย อย่างแรกคือการมาของ แบตเตอรี่โซลิดสเตต ที่ทำให้มือถือชาร์จเร็วขึ้นและใช้งานได้นานกว่าเดิม ต่อมาคือ การเชื่อมต่อดาวเทียม ที่เริ่มกลายเป็นมาตรฐาน ทำให้ผู้ใช้สามารถติดต่อได้แม้ไม่มีสัญญาณเครือข่าย อีกทั้งยังมี การออกแบบใหม่ที่บางและทนทานกว่า รวมถึง จอพับที่พัฒนาไปอีกขั้น จนใช้งานจริงได้สะดวกขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้ปี 2025 เป็นปีที่มือถือกลับมามีเสน่ห์อีกครั้งโดยไม่ต้องพึ่งกระแส AI
    https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai

    OpenAI ชนะ Google, Meta และ Grok ในทัวร์นาเมนต์โป๊กเกอร์ AI
    การแข่งขันโป๊กเกอร์ที่จัดขึ้นโดยใช้แต่ AI เป็นผู้เล่น ปรากฏว่า OpenAI สามารถเอาชนะคู่แข่งรายใหญ่ทั้ง Google, Meta และ Grok ได้สำเร็จ การแข่งขันนี้ไม่ใช่แค่เกม แต่เป็นการทดสอบความสามารถของ AI ในการวางกลยุทธ์ การอ่านสถานการณ์ และการตัดสินใจในสภาพที่ไม่แน่นอน ผลลัพธ์สะท้อนว่า AI ของ OpenAI มีความเหนือชั้นในด้านการปรับตัวและการคิดเชิงกลยุทธ์ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญต่อการนำไปใช้ในโลกจริง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ การเงิน หรือการวิจัย
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai-beats-google-meta-and-grok-in-all-ai-poker-tournament

    Surfshark เตือน แอปแชร์ไฟล์ฟรีเสี่ยงเปิดข้อมูลให้คนอื่นเห็น
    รายงานใหม่จาก Surfshark ระบุว่าแอปแชร์ไฟล์ฟรีจำนวนมากมีช่องโหว่ที่ทำให้การดาวน์โหลดของผู้ใช้ถูกเปิดเผยต่อบุคคลอื่น ซึ่งอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลหรือมัลแวร์เข้ามาได้ ปัญหานี้เกิดจากการที่หลายแอปไม่ได้เข้ารหัสการเชื่อมต่อหรือไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีพอ ผู้ใช้ที่คิดว่า “ฟรีและสะดวก” อาจต้องแลกด้วยความเสี่ยงด้านความปลอดภัย คำแนะนำคือควรเลือกใช้บริการที่มีชื่อเสียง มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end และหลีกเลี่ยงการแชร์ไฟล์สำคัญผ่านแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/think-before-you-click-most-free-file-sharing-apps-expose-your-downloads-to-security-risks-warns-surfshark

    ราคาคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์พุ่งสูงเพราะขาดแคลนหน่วยความจำ
    ตอนนี้โลกเทคโนโลยีกำลังเจอปัญหาใหญ่ เพราะหน่วยความจำ DRAM และ HBM ถูกเบี่ยงไปผลิตเพื่อรองรับเซิร์ฟเวอร์ AI ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ทั่วไปขาดตลาด ราคาจึงพุ่งขึ้นอย่างแรง ผู้ผลิตรายใหญ่ทั้ง Dell, Lenovo, HP และ HPE เตรียมขึ้นราคาประมาณ 15% สำหรับเซิร์ฟเวอร์ และ 5% สำหรับ PC ส่วนผู้ใช้ทั่วไปก็อาจต้องเจอราคาที่สูงขึ้นเมื่อซื้อแล็ปท็อปหรืออุปกรณ์ใหม่ๆ สถานการณ์นี้สะท้อนว่า AI กำลังเปลี่ยนทิศทางตลาดฮาร์ดแวร์อย่างชัดเจน
    https://www.techradar.com/pro/the-bad-news-continues-server-prices-set-to-rise-in-latest-blow-to-hardware-budgets

    Spotify Wrapped 2025 เผยวิธีคำนวณจริง
    หลายคนสงสัยว่าทำไมสรุปการฟังเพลงปลายปีของ Spotify ถึงดูแปลกไปบ้าง ล่าสุด Spotify ออกมาอธิบายแล้วว่าแต่ละหมวดใช้วิธีคำนวณต่างกัน เช่น เพลงยอดนิยมวัดจากจำนวนครั้งที่ฟัง แต่สำหรับอัลบั้มจะดูว่าฟังครบหลายเพลงและกระจายการฟังอย่างไร นอกจากนี้ข้อมูลจะเก็บตั้งแต่ 1 มกราคมถึงพฤศจิกายน ไม่ใช่ครบทั้งปี และยังรวมการฟังแบบออฟไลน์ด้วย ฟีเจอร์ใหม่อย่าง “Listening Age” ที่เดาอายุจากแนวเพลงก็ทำให้หลายคนงง แต่จริงๆ มันสะท้อนพฤติกรรมการฟังที่เปลี่ยนไปตลอดปี
    https://www.techradar.com/audio/spotify/your-spotify-wrapped-2025-data-isnt-wrong-the-streaming-giant-just-revealed-all-about-how-its-calculated

    หนี้เทคนิค Windows ที่องค์กรยังไม่แก้
    แม้ Windows 10 จะหมดการสนับสนุนไปแล้ว แต่หลายองค์กรยังคงใช้ต่อ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “หนี้เทคนิค” ซึ่งเสี่ยงต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ การสำรวจพบว่า 9 ใน 10 บริษัทเจอปัญหานี้ แต่มีเพียง 14% ที่จริงจังกับการแก้ไขในปีหน้า เหตุผลหลักคือค่าใช้จ่ายสูง ความซับซ้อนของระบบ และความกลัวว่าจะทำให้ระบบล่ม หลายองค์กรเลือกที่จะเลื่อนการแก้ไขออกไปจนกว่าจะเกิดปัญหา ทั้งที่จริงๆ การแก้ทีละขั้นตอนและใช้เครื่องมือเฉพาะทางจะช่วยลดความเสี่ยงและเปิดทางให้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ดีกว่า
    https://www.techradar.com/pro/why-are-companies-not-tackling-their-windows-technical-debt

    Huawei Pura X พลิกนิยามมือถือฝาพับ
    Huawei เปิดตัว Pura X ที่ทำให้คนมองมือถือฝาพับต่างออกไป จากเดิมที่แบรนด์อื่นเน้นทำให้มือถือใหญ่พับเล็กลง แต่ Huawei กลับทำให้มันกลายเป็นเหมือนแท็บเล็ตขนาดพกพา หน้าจอหลักสัดส่วน 16:10 ขนาด 6.3 นิ้ว ใช้งานดูหนังหรือทำงานได้สะดวกขึ้น อีกทั้งยังมีหน้าจอด้านหน้า 3.5 นิ้วพร้อมกล้องสามตัว รวมถึงเลนส์เทเลโฟโต้ที่คู่แข่งยังไม่มี จุดเด่นนี้ทำให้มันเป็นมือถือฝาพับที่มีกล้องดีที่สุดในตลาดตอนนี้ แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องการใช้งาน Google และการวางขายที่จำกัด แต่ก็ถือเป็นการออกแบบที่ท้าทายให้คู่แข่งต้องคิดใหม่
    https://www.techradar.com/phones/huawei-phones/i-tried-huaweis-strange-pura-x-foldable-and-its-made-me-rethink-every-other-flip-phone

    โพลเลือกจอยเกมโปรดที่ผลลัพธ์ชวนงง
    TechRadar เคยทำโพลถามผู้อ่านว่าจอยเกมที่ชอบที่สุดคือรุ่นไหน ผลออกมาน่าตกใจเพราะ “Steam Controller” ของ Valve ที่เคยถูกวิจารณ์เรื่องดีไซน์แปลก กลับได้คะแนนสูงสุด 15% แซงหน้า Xbox 360 Controller ที่ได้ 13% และ DualSense Edge ของ PlayStation ที่ได้ 11% หลายคนเชื่อว่าผลนี้อาจเพราะแฟน Steam เข้ามาโหวตเยอะ หรือบางคนอาจโหวตแบบขำๆ แต่ไม่ว่าอย่างไร มันก็สะท้อนว่าความชอบของผู้เล่นเกมนั้นหลากหลายและไม่จำเป็นต้องตรงกับมาตรฐานตลาดเสมอไป
    https://www.techradar.com/gaming/you-told-me-your-favorite-controller-ever-and-i-dont-believe-you

    ชิป AI จากจีน Cambricon เตรียมผลิตเพิ่มสามเท่า
    Cambricon บริษัทชิปจากจีนประกาศแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตชิป AI ถึงสามเท่าในปีหน้า เพื่อแข่งกับยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia และ Huawei แต่ก็ต้องเจอความท้าทายใหญ่จากการผลิตที่ซับซ้อนและต้นทุนสูง โดยเฉพาะการหาพันธมิตรด้านการผลิตที่สามารถรองรับเทคโนโลยีขั้นสูงได้ ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าจีนกำลังผลักดันอุตสาหกรรมชิป AI อย่างจริงจังเพื่อไม่ให้พึ่งพาต่างชาติ
    https://www.techradar.com/pro/this-chinese-chip-giant-is-boosting-production-to-try-and-take-on-nvidia-but-how-will-huawei-feel

    Windows 11 ยังไม่สามารถแทนที่ Windows 10 ได้
    แม้ Microsoft จะพยายามผลักดัน Windows 11 แต่สถิติการใช้งานยังชี้ว่าผู้ใช้จำนวนมหาศาลยังคงอยู่กับ Windows 10 โดยเฉพาะในองค์กรและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่เดิม เหตุผลหลักคือความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดที่สูง ทำให้ Windows 10 ยังคงครองความนิยมอย่างเหนียวแน่นในหลายตลาด และกลายเป็นความท้าทายที่ Microsoft ต้องหาทางแก้
    https://www.techradar.com/pro/windows-11-still-cant-topple-its-older-siblings-usage-stats-show-windows-10-remains-mind-boggingly-popular

    5 สิ่งสำคัญที่นักพัฒนาต้องคำนึงเพื่อให้งานไม่หลุดราง
    ในยุคที่การพัฒนาโปรแกรมเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความซับซ้อน การจะทำให้งาน “อยู่บนราง” ไม่ใช่แค่เขียนโค้ดให้เสร็จ แต่ต้องมีการวางเป้าหมายที่ชัดเจน กำหนดว่า “เสร็จ” หมายถึงอะไร เพื่อหลีกเลี่ยงการขยายขอบเขตงานโดยไม่จำเป็น การจัดตารางเวลาที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะโลกจริงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน นอกจากนี้ยังต้องมีระบบติดตามงานที่โปร่งใส มีการวัดผลที่เน้นคุณค่า ไม่ใช่แค่ชั่วโมงที่ใช้ไป ทีมต้องรู้จักประเมินกำลังคนและทรัพยากร เพื่อไม่ให้เกิดการทำงานเกินกำลัง และสุดท้ายคือการบริหารความเสี่ยง พร้อมสื่อสารกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างตรงไปตรงมา ทั้งหมดนี้ช่วยให้ทีมพัฒนาไปถึงเป้าหมายได้อย่างมั่นคงและไม่หลุดราง
    https://www.techradar.com/pro/5-essential-considerations-for-developers-to-stay-on-track

    รีวิวจอ InnoCN 27 นิ้ว GA27W1Q 4K
    จอภาพรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการความละเอียดสูงในราคาที่จับต้องได้ ด้วยขนาด 27 นิ้วและความละเอียด 4K ทำให้ภาพคมชัด เหมาะทั้งงานกราฟิกและการดูหนัง จุดเด่นคือการให้สีที่แม่นยำและมุมมองกว้าง แต่ก็มีข้อสังเกตเรื่องความสว่างที่อาจไม่สูงเท่าจอระดับพรีเมียม อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มองหาจอ 4K ในงบประมาณที่ไม่แรง นี่ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก
    https://www.techradar.com/computing/innocn-27-ga27w1q-4k-monitor-review

    แอมป์/DAC ขนาดเล็กที่แทนชุดเครื่องเสียงได้
    นี่คืออุปกรณ์ที่รวมแอมป์และ DAC ไว้ในตัวเดียว ขนาดเล็กจนสามารถวางบนโต๊ะทำงานได้สบาย แต่ให้พลังเสียงที่สามารถแทนชุดเครื่องเสียงขนาดใหญ่ได้เลย เหมาะสำหรับคนที่เริ่มเข้าสู่วงการเครื่องเสียงและอยากได้คุณภาพเสียงที่ดีโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์หลายชิ้น จุดแข็งคือการเชื่อมต่อที่หลากหลายและเสียงที่ใสสะอาด ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและตอบโจทย์คนรักเสียงเพลงที่มีพื้นที่จำกัด
    https://www.techradar.com/audio/dacs/this-super-compact-budget-desktop-amp-dac-can-replace-a-mini-hi-fi-stack-and-its-perfect-for-budding-audiophiles

    ข่าวลือ Samsung Galaxy S26 และชิป Exynos 2600
    มีการหลุดข้อมูลจาก One UI 8.5 ที่อาจเผยให้เห็นดีไซน์ของ Galaxy S26 ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับโฉมใหม่ พร้อมกับข่าวลือเรื่องชิป Exynos 2600 ที่อาจถูกนำมาใช้ จุดสนใจคือการพัฒนาให้เครื่องมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและดีไซน์ที่ทันสมัยกว่าเดิม แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่กระแสข่าวนี้ก็ทำให้แฟน ๆ Samsung ตื่นเต้นและจับตามองว่าจะออกมาในรูปแบบใด
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsung-may-have-leaked-the-galaxy-s26-design-through-one-ui-8-5-and-another-exynos-2600-rumor-has-emerged

    รีวิว TerraMaster F2-425 NAS
    อุปกรณ์ NAS รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากในบ้านหรือสำนักงานเล็ก ๆ จุดเด่นคือการรองรับการทำงานที่รวดเร็วและมีฟีเจอร์ที่เหมาะกับการสำรองข้อมูลหรือแชร์ไฟล์ภายในทีม แม้จะไม่หรูหราเท่า NAS ระดับองค์กร แต่ก็ถือว่ามีความคุ้มค่าในด้านราคาและประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ระบบจัดเก็บข้อมูลที่เชื่อถือได้โดยไม่ต้องลงทุนสูง
    https://www.techradar.com/computing/terramaster-f2-425-nas-review

    ต่อ Mac Mini เข้ากับไดรฟ์เทป LTO-10 ขนาด 30TB

    นี่คือการเชื่อมต่อที่น่าสนใจมาก เพราะทำให้ Mac Mini สามารถใช้งานไดรฟ์เทป LTO-10 ที่มีความจุถึง 30TB ได้ โดยความเร็วที่ได้ใกล้เคียงกับ SSD เลยทีเดียว ถือเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีเก่ากับใหม่ที่ลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลในราคาที่คุ้มค่า และยังได้ความเร็วที่ไม่แพ้การใช้ดิสก์สมัยใหม่
    https://www.techradar.com/pro/you-can-now-buy-a-30tb-tape-drive-and-connect-it-to-your-apple-mac-mini-and-its-almost-as-fast-as-an-ssd

    Samsung Galaxy Z Trifold กำลังมา – iPhone Fold ต้องรีบแล้ว
    ข่าวลือบอกว่า Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy Z Trifold ซึ่งเป็นมือถือพับสามทบ ทำให้ Apple ที่มีข่าวลือเรื่อง iPhone Fold ต้องเร่งเครื่องออกสู่ตลาด หากช้าเกินไปอาจเสียโอกาสในการแข่งขัน จุดเด่นของ Trifold คือการขยายหน้าจอได้ใหญ่ขึ้นเหมือนแท็บเล็ต แต่ยังพับเก็บได้เหมือนมือถือธรรมดา ทำให้เป็นที่จับตามองในวงการสมาร์ทโฟน
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/with-the-samsung-galaxy-z-trifold-on-the-way-apples-rumored-iphone-fold-needs-to-hit-shelves-soon

    Bose Smart Soundbar vs Sony Bravia Theater Bar 6
    การเปรียบเทียบซาวด์บาร์สองรุ่นนี้เน้นไปที่ระบบเสียง Dolby Atmos ที่ทั้งคู่รองรับ Bose Smart Soundbar มีชื่อเสียงเรื่องเสียงที่สมดุลและดีไซน์เรียบหรู ส่วน Sony Bravia Theater Bar 6 โดดเด่นด้วยพลังเสียงที่กระจายรอบทิศทางได้สมจริงกว่า การเลือกขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้ต้องการความเรียบง่ายและคุณภาพเสียงที่มั่นคง หรืออยากได้ประสบการณ์เสียงโอบล้อมเต็มรูปแบบ
    https://www.techradar.com/televisions/soundbars/bose-smart-soundbar-vs-sony-bravia-theater-bar-6-which-dolby-atmos-soundbar-is-right-for-you

    ลืมกล้อง ลืม AI – สิ่งที่คนอยากได้จริงคือแบตมือถือที่อึดกว่า
    บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจแค่กล้องหรือชิปใหม่ แต่สิ่งที่ต้องการจริง ๆ คือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ทุกวันนี้มือถือเต็มไปด้วยฟีเจอร์ล้ำ ๆ แต่ถ้าแบตหมดไวก็ไร้ประโยชน์ การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่จึงเป็นสิ่งที่ผู้ใช้คาดหวังมากที่สุดในอนาคต
    https://www.techradar.com/phones/forget-cameras-ai-and-chip-upgrades-you-really-want-better-phone-battery-life

      ดีล Netflix กับ Warner Bros. หมายถึงอะไรสำหรับผู้ชม
    การจับมือกันครั้งนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการสตรีมมิ่ง ทั้งเรื่องราคาที่อาจปรับขึ้น และการเข้าถึงคอนเทนต์ที่กว้างขึ้น ผู้เชี่ยวชาญมองว่าผู้ใช้จะได้ประโยชน์จากการรวมคอนเทนต์ แต่ก็ต้องเตรียมใจรับกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ดีลนี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดสตรีมมิ่งที่ไม่มีใครยอมแพ้
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/streaming/netflix/what-does-the-netflix-and-warner-bros-deal-mean-for-you-heres-what-experts-say-about-price-hikes-and-more
    📌📡🔴 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔴📡📌 #รวมข่าวIT #20251207 #TechRadar 📱🔒 US Security Agency เตือนเลิกใช้ VPN ส่วนตัวบนมือถือ หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ หรือ CISA ออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” โดยเฉพาะบน iPhone และ Android เพราะแทนที่จะช่วยป้องกัน กลับเพิ่มความเสี่ยงให้ผู้ใช้มากขึ้น เนื่องจากข้อมูลที่เคยอยู่กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะถูกย้ายไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ซึ่งหลายเจ้าไม่มีมาตรการความปลอดภัยที่ดีพอ บางรายถึงขั้นเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาในแอปฟรี ๆ อีกด้วย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการเลือก VPN ไม่ใช่เรื่องเล็ก ต้องเลือกเจ้าใหญ่ที่มีการตรวจสอบนโยบาย “no-logs” และใช้มาตรฐานเข้ารหัสที่แข็งแรง เช่น OpenVPN หรือ WireGuard รวมถึงฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch และ DNS leak protection เพื่อความปลอดภัยจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns 👵👩‍💻 งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์ ผลสำรวจจาก Cisco ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นใหญ่ คนอายุต่ำกว่า 35 ปีส่วนใหญ่ใช้ AI อย่างจริงจังและมองว่ามีประโยชน์ต่อการทำงานและชีวิตประจำวัน แต่คนอายุเกิน 45 ปีครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าปฏิเสธ outright ขณะเดียวกันประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก กลับเป็นผู้นำในการใช้ AI อย่างแพร่หลาย ต่างจากยุโรปที่ยังมีความไม่มั่นใจและกฎระเบียบเข้มงวดที่ทำให้การใช้งานช้าลง งานวิจัยนี้สะท้อนว่าการสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกวัยเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ “Generation AI” ครอบคลุมทุกคนจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful ⚖️📲 EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI บน WhatsApp คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta ว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่งด้าน AI chatbot โดยห้ามไม่ให้ผู้ให้บริการ AI รายอื่นเผยแพร่ผ่าน WhatsApp หากบริการหลักคือ AI ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอน chatbot ออกจากแพลตฟอร์มแล้ว EU กังวลว่า Meta ใช้อำนาจตลาดเพื่อดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบผิดจริง Meta อาจโดนปรับสูงถึง 16.5 พันล้านดอลลาร์ การสอบสวนนี้สะท้อนความเข้มงวดของยุโรปในการป้องกันการผูกขาดและรักษาสนามแข่งขันที่เป็นธรรมในยุค AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy ⚠️💻 ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 (CVE-2025-55182) ช่องโหว่นี้เปิดทางให้แฮกเกอร์แม้จะมีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายจากระยะไกลได้ทันที โดยกระทบหลายเฟรมเวิร์กยอดนิยมอย่าง Next.js, React Router และ Vite ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน เพราะนักวิจัยยืนยันว่าการโจมตี “เกิดขึ้นแน่นอน” และมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% เนื่องจาก React ถูกใช้ในเว็บใหญ่ทั่วโลก เช่น Facebook, Netflix และ Airbnb ทำให้พื้นที่เสี่ยงกว้างมาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now 💰🕵️ Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินคริปโตมูลค่า 700 ล้าน Europol ร่วมกับตำรวจหลายประเทศยุโรปเข้าจับกุมเครือข่ายฟอกเงินและหลอกลงทุนคริปโตที่มีมูลค่ากว่า 700 ล้านดอลลาร์ ปฏิบัติการนี้แบ่งเป็นสองเฟส เริ่มจากการบุกค้นในไซปรัส เยอรมนี และสเปน ยึดเงินสด คริปโต และทรัพย์สินหรู รวมกว่า 1.7 ล้านดอลลาร์ พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัย 9 คน เครือข่ายนี้ใช้แพลตฟอร์มลงทุนปลอมและคอลเซ็นเตอร์กดดันเหยื่อให้ลงทุนเพิ่ม อีกทั้งยังใช้โฆษณาหลอกลวงบนโซเชียลมีเดีย โดยบางครั้งถึงขั้นใช้ deepfake คนดังอย่าง Elon Musk หรือ Donald Trump เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ การทลายครั้งนี้ถือเป็นการตัดเส้นเลือดใหญ่ของอุตสาหกรรมหลอกลวงคริปโตที่กำลังระบาดหนักในยุโรป 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million 📱📡 ปี 2025 สมาร์ทโฟนกลับมาน่าตื่นเต้นอีกครั้ง (ไม่ใช่เพราะ AI) หลายคนบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มน่าเบื่อ แต่ปี 2025 กลับมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจโดยไม่เกี่ยวกับ AI เลย อย่างแรกคือการมาของ แบตเตอรี่โซลิดสเตต ที่ทำให้มือถือชาร์จเร็วขึ้นและใช้งานได้นานกว่าเดิม ต่อมาคือ การเชื่อมต่อดาวเทียม ที่เริ่มกลายเป็นมาตรฐาน ทำให้ผู้ใช้สามารถติดต่อได้แม้ไม่มีสัญญาณเครือข่าย อีกทั้งยังมี การออกแบบใหม่ที่บางและทนทานกว่า รวมถึง จอพับที่พัฒนาไปอีกขั้น จนใช้งานจริงได้สะดวกขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้ปี 2025 เป็นปีที่มือถือกลับมามีเสน่ห์อีกครั้งโดยไม่ต้องพึ่งกระแส AI 🔗 https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai 🎲🤖 OpenAI ชนะ Google, Meta และ Grok ในทัวร์นาเมนต์โป๊กเกอร์ AI การแข่งขันโป๊กเกอร์ที่จัดขึ้นโดยใช้แต่ AI เป็นผู้เล่น ปรากฏว่า OpenAI สามารถเอาชนะคู่แข่งรายใหญ่ทั้ง Google, Meta และ Grok ได้สำเร็จ การแข่งขันนี้ไม่ใช่แค่เกม แต่เป็นการทดสอบความสามารถของ AI ในการวางกลยุทธ์ การอ่านสถานการณ์ และการตัดสินใจในสภาพที่ไม่แน่นอน ผลลัพธ์สะท้อนว่า AI ของ OpenAI มีความเหนือชั้นในด้านการปรับตัวและการคิดเชิงกลยุทธ์ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญต่อการนำไปใช้ในโลกจริง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ การเงิน หรือการวิจัย 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai-beats-google-meta-and-grok-in-all-ai-poker-tournament ⚠️📂 Surfshark เตือน แอปแชร์ไฟล์ฟรีเสี่ยงเปิดข้อมูลให้คนอื่นเห็น รายงานใหม่จาก Surfshark ระบุว่าแอปแชร์ไฟล์ฟรีจำนวนมากมีช่องโหว่ที่ทำให้การดาวน์โหลดของผู้ใช้ถูกเปิดเผยต่อบุคคลอื่น ซึ่งอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลหรือมัลแวร์เข้ามาได้ ปัญหานี้เกิดจากการที่หลายแอปไม่ได้เข้ารหัสการเชื่อมต่อหรือไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีพอ ผู้ใช้ที่คิดว่า “ฟรีและสะดวก” อาจต้องแลกด้วยความเสี่ยงด้านความปลอดภัย คำแนะนำคือควรเลือกใช้บริการที่มีชื่อเสียง มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end และหลีกเลี่ยงการแชร์ไฟล์สำคัญผ่านแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/think-before-you-click-most-free-file-sharing-apps-expose-your-downloads-to-security-risks-warns-surfshark 🖥️ ราคาคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์พุ่งสูงเพราะขาดแคลนหน่วยความจำ ตอนนี้โลกเทคโนโลยีกำลังเจอปัญหาใหญ่ เพราะหน่วยความจำ DRAM และ HBM ถูกเบี่ยงไปผลิตเพื่อรองรับเซิร์ฟเวอร์ AI ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ทั่วไปขาดตลาด ราคาจึงพุ่งขึ้นอย่างแรง ผู้ผลิตรายใหญ่ทั้ง Dell, Lenovo, HP และ HPE เตรียมขึ้นราคาประมาณ 15% สำหรับเซิร์ฟเวอร์ และ 5% สำหรับ PC ส่วนผู้ใช้ทั่วไปก็อาจต้องเจอราคาที่สูงขึ้นเมื่อซื้อแล็ปท็อปหรืออุปกรณ์ใหม่ๆ สถานการณ์นี้สะท้อนว่า AI กำลังเปลี่ยนทิศทางตลาดฮาร์ดแวร์อย่างชัดเจน 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-bad-news-continues-server-prices-set-to-rise-in-latest-blow-to-hardware-budgets 🎵 Spotify Wrapped 2025 เผยวิธีคำนวณจริง หลายคนสงสัยว่าทำไมสรุปการฟังเพลงปลายปีของ Spotify ถึงดูแปลกไปบ้าง ล่าสุด Spotify ออกมาอธิบายแล้วว่าแต่ละหมวดใช้วิธีคำนวณต่างกัน เช่น เพลงยอดนิยมวัดจากจำนวนครั้งที่ฟัง แต่สำหรับอัลบั้มจะดูว่าฟังครบหลายเพลงและกระจายการฟังอย่างไร นอกจากนี้ข้อมูลจะเก็บตั้งแต่ 1 มกราคมถึงพฤศจิกายน ไม่ใช่ครบทั้งปี และยังรวมการฟังแบบออฟไลน์ด้วย ฟีเจอร์ใหม่อย่าง “Listening Age” ที่เดาอายุจากแนวเพลงก็ทำให้หลายคนงง แต่จริงๆ มันสะท้อนพฤติกรรมการฟังที่เปลี่ยนไปตลอดปี 🔗 https://www.techradar.com/audio/spotify/your-spotify-wrapped-2025-data-isnt-wrong-the-streaming-giant-just-revealed-all-about-how-its-calculated 🪟 หนี้เทคนิค Windows ที่องค์กรยังไม่แก้ แม้ Windows 10 จะหมดการสนับสนุนไปแล้ว แต่หลายองค์กรยังคงใช้ต่อ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “หนี้เทคนิค” ซึ่งเสี่ยงต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ การสำรวจพบว่า 9 ใน 10 บริษัทเจอปัญหานี้ แต่มีเพียง 14% ที่จริงจังกับการแก้ไขในปีหน้า เหตุผลหลักคือค่าใช้จ่ายสูง ความซับซ้อนของระบบ และความกลัวว่าจะทำให้ระบบล่ม หลายองค์กรเลือกที่จะเลื่อนการแก้ไขออกไปจนกว่าจะเกิดปัญหา ทั้งที่จริงๆ การแก้ทีละขั้นตอนและใช้เครื่องมือเฉพาะทางจะช่วยลดความเสี่ยงและเปิดทางให้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ดีกว่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-are-companies-not-tackling-their-windows-technical-debt 📱 Huawei Pura X พลิกนิยามมือถือฝาพับ Huawei เปิดตัว Pura X ที่ทำให้คนมองมือถือฝาพับต่างออกไป จากเดิมที่แบรนด์อื่นเน้นทำให้มือถือใหญ่พับเล็กลง แต่ Huawei กลับทำให้มันกลายเป็นเหมือนแท็บเล็ตขนาดพกพา หน้าจอหลักสัดส่วน 16:10 ขนาด 6.3 นิ้ว ใช้งานดูหนังหรือทำงานได้สะดวกขึ้น อีกทั้งยังมีหน้าจอด้านหน้า 3.5 นิ้วพร้อมกล้องสามตัว รวมถึงเลนส์เทเลโฟโต้ที่คู่แข่งยังไม่มี จุดเด่นนี้ทำให้มันเป็นมือถือฝาพับที่มีกล้องดีที่สุดในตลาดตอนนี้ แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องการใช้งาน Google และการวางขายที่จำกัด แต่ก็ถือเป็นการออกแบบที่ท้าทายให้คู่แข่งต้องคิดใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/phones/huawei-phones/i-tried-huaweis-strange-pura-x-foldable-and-its-made-me-rethink-every-other-flip-phone 🎮 โพลเลือกจอยเกมโปรดที่ผลลัพธ์ชวนงง TechRadar เคยทำโพลถามผู้อ่านว่าจอยเกมที่ชอบที่สุดคือรุ่นไหน ผลออกมาน่าตกใจเพราะ “Steam Controller” ของ Valve ที่เคยถูกวิจารณ์เรื่องดีไซน์แปลก กลับได้คะแนนสูงสุด 15% แซงหน้า Xbox 360 Controller ที่ได้ 13% และ DualSense Edge ของ PlayStation ที่ได้ 11% หลายคนเชื่อว่าผลนี้อาจเพราะแฟน Steam เข้ามาโหวตเยอะ หรือบางคนอาจโหวตแบบขำๆ แต่ไม่ว่าอย่างไร มันก็สะท้อนว่าความชอบของผู้เล่นเกมนั้นหลากหลายและไม่จำเป็นต้องตรงกับมาตรฐานตลาดเสมอไป 🔗 https://www.techradar.com/gaming/you-told-me-your-favorite-controller-ever-and-i-dont-believe-you ⚙️ ชิป AI จากจีน Cambricon เตรียมผลิตเพิ่มสามเท่า Cambricon บริษัทชิปจากจีนประกาศแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตชิป AI ถึงสามเท่าในปีหน้า เพื่อแข่งกับยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia และ Huawei แต่ก็ต้องเจอความท้าทายใหญ่จากการผลิตที่ซับซ้อนและต้นทุนสูง โดยเฉพาะการหาพันธมิตรด้านการผลิตที่สามารถรองรับเทคโนโลยีขั้นสูงได้ ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าจีนกำลังผลักดันอุตสาหกรรมชิป AI อย่างจริงจังเพื่อไม่ให้พึ่งพาต่างชาติ 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-chinese-chip-giant-is-boosting-production-to-try-and-take-on-nvidia-but-how-will-huawei-feel 🪟 Windows 11 ยังไม่สามารถแทนที่ Windows 10 ได้ แม้ Microsoft จะพยายามผลักดัน Windows 11 แต่สถิติการใช้งานยังชี้ว่าผู้ใช้จำนวนมหาศาลยังคงอยู่กับ Windows 10 โดยเฉพาะในองค์กรและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่เดิม เหตุผลหลักคือความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดที่สูง ทำให้ Windows 10 ยังคงครองความนิยมอย่างเหนียวแน่นในหลายตลาด และกลายเป็นความท้าทายที่ Microsoft ต้องหาทางแก้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/windows-11-still-cant-topple-its-older-siblings-usage-stats-show-windows-10-remains-mind-boggingly-popular 🚀 5 สิ่งสำคัญที่นักพัฒนาต้องคำนึงเพื่อให้งานไม่หลุดราง ในยุคที่การพัฒนาโปรแกรมเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความซับซ้อน การจะทำให้งาน “อยู่บนราง” ไม่ใช่แค่เขียนโค้ดให้เสร็จ แต่ต้องมีการวางเป้าหมายที่ชัดเจน กำหนดว่า “เสร็จ” หมายถึงอะไร เพื่อหลีกเลี่ยงการขยายขอบเขตงานโดยไม่จำเป็น การจัดตารางเวลาที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะโลกจริงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน นอกจากนี้ยังต้องมีระบบติดตามงานที่โปร่งใส มีการวัดผลที่เน้นคุณค่า ไม่ใช่แค่ชั่วโมงที่ใช้ไป ทีมต้องรู้จักประเมินกำลังคนและทรัพยากร เพื่อไม่ให้เกิดการทำงานเกินกำลัง และสุดท้ายคือการบริหารความเสี่ยง พร้อมสื่อสารกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างตรงไปตรงมา ทั้งหมดนี้ช่วยให้ทีมพัฒนาไปถึงเป้าหมายได้อย่างมั่นคงและไม่หลุดราง 🔗 https://www.techradar.com/pro/5-essential-considerations-for-developers-to-stay-on-track 🖥️ รีวิวจอ InnoCN 27 นิ้ว GA27W1Q 4K จอภาพรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการความละเอียดสูงในราคาที่จับต้องได้ ด้วยขนาด 27 นิ้วและความละเอียด 4K ทำให้ภาพคมชัด เหมาะทั้งงานกราฟิกและการดูหนัง จุดเด่นคือการให้สีที่แม่นยำและมุมมองกว้าง แต่ก็มีข้อสังเกตเรื่องความสว่างที่อาจไม่สูงเท่าจอระดับพรีเมียม อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มองหาจอ 4K ในงบประมาณที่ไม่แรง นี่ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก 🔗 https://www.techradar.com/computing/innocn-27-ga27w1q-4k-monitor-review 🎶 แอมป์/DAC ขนาดเล็กที่แทนชุดเครื่องเสียงได้ นี่คืออุปกรณ์ที่รวมแอมป์และ DAC ไว้ในตัวเดียว ขนาดเล็กจนสามารถวางบนโต๊ะทำงานได้สบาย แต่ให้พลังเสียงที่สามารถแทนชุดเครื่องเสียงขนาดใหญ่ได้เลย เหมาะสำหรับคนที่เริ่มเข้าสู่วงการเครื่องเสียงและอยากได้คุณภาพเสียงที่ดีโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์หลายชิ้น จุดแข็งคือการเชื่อมต่อที่หลากหลายและเสียงที่ใสสะอาด ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและตอบโจทย์คนรักเสียงเพลงที่มีพื้นที่จำกัด 🔗 https://www.techradar.com/audio/dacs/this-super-compact-budget-desktop-amp-dac-can-replace-a-mini-hi-fi-stack-and-its-perfect-for-budding-audiophiles 📱 ข่าวลือ Samsung Galaxy S26 และชิป Exynos 2600 มีการหลุดข้อมูลจาก One UI 8.5 ที่อาจเผยให้เห็นดีไซน์ของ Galaxy S26 ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับโฉมใหม่ พร้อมกับข่าวลือเรื่องชิป Exynos 2600 ที่อาจถูกนำมาใช้ จุดสนใจคือการพัฒนาให้เครื่องมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและดีไซน์ที่ทันสมัยกว่าเดิม แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่กระแสข่าวนี้ก็ทำให้แฟน ๆ Samsung ตื่นเต้นและจับตามองว่าจะออกมาในรูปแบบใด 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsung-may-have-leaked-the-galaxy-s26-design-through-one-ui-8-5-and-another-exynos-2600-rumor-has-emerged 💾 รีวิว TerraMaster F2-425 NAS อุปกรณ์ NAS รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากในบ้านหรือสำนักงานเล็ก ๆ จุดเด่นคือการรองรับการทำงานที่รวดเร็วและมีฟีเจอร์ที่เหมาะกับการสำรองข้อมูลหรือแชร์ไฟล์ภายในทีม แม้จะไม่หรูหราเท่า NAS ระดับองค์กร แต่ก็ถือว่ามีความคุ้มค่าในด้านราคาและประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ระบบจัดเก็บข้อมูลที่เชื่อถือได้โดยไม่ต้องลงทุนสูง 🔗 https://www.techradar.com/computing/terramaster-f2-425-nas-review 💽 ต่อ Mac Mini เข้ากับไดรฟ์เทป LTO-10 ขนาด 30TB นี่คือการเชื่อมต่อที่น่าสนใจมาก เพราะทำให้ Mac Mini สามารถใช้งานไดรฟ์เทป LTO-10 ที่มีความจุถึง 30TB ได้ โดยความเร็วที่ได้ใกล้เคียงกับ SSD เลยทีเดียว ถือเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีเก่ากับใหม่ที่ลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลในราคาที่คุ้มค่า และยังได้ความเร็วที่ไม่แพ้การใช้ดิสก์สมัยใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/you-can-now-buy-a-30tb-tape-drive-and-connect-it-to-your-apple-mac-mini-and-its-almost-as-fast-as-an-ssd 📱📖 Samsung Galaxy Z Trifold กำลังมา – iPhone Fold ต้องรีบแล้ว ข่าวลือบอกว่า Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy Z Trifold ซึ่งเป็นมือถือพับสามทบ ทำให้ Apple ที่มีข่าวลือเรื่อง iPhone Fold ต้องเร่งเครื่องออกสู่ตลาด หากช้าเกินไปอาจเสียโอกาสในการแข่งขัน จุดเด่นของ Trifold คือการขยายหน้าจอได้ใหญ่ขึ้นเหมือนแท็บเล็ต แต่ยังพับเก็บได้เหมือนมือถือธรรมดา ทำให้เป็นที่จับตามองในวงการสมาร์ทโฟน 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/with-the-samsung-galaxy-z-trifold-on-the-way-apples-rumored-iphone-fold-needs-to-hit-shelves-soon 🔊 Bose Smart Soundbar vs Sony Bravia Theater Bar 6 การเปรียบเทียบซาวด์บาร์สองรุ่นนี้เน้นไปที่ระบบเสียง Dolby Atmos ที่ทั้งคู่รองรับ Bose Smart Soundbar มีชื่อเสียงเรื่องเสียงที่สมดุลและดีไซน์เรียบหรู ส่วน Sony Bravia Theater Bar 6 โดดเด่นด้วยพลังเสียงที่กระจายรอบทิศทางได้สมจริงกว่า การเลือกขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้ต้องการความเรียบง่ายและคุณภาพเสียงที่มั่นคง หรืออยากได้ประสบการณ์เสียงโอบล้อมเต็มรูปแบบ 🔗 https://www.techradar.com/televisions/soundbars/bose-smart-soundbar-vs-sony-bravia-theater-bar-6-which-dolby-atmos-soundbar-is-right-for-you 🔋 ลืมกล้อง ลืม AI – สิ่งที่คนอยากได้จริงคือแบตมือถือที่อึดกว่า บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจแค่กล้องหรือชิปใหม่ แต่สิ่งที่ต้องการจริง ๆ คือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ทุกวันนี้มือถือเต็มไปด้วยฟีเจอร์ล้ำ ๆ แต่ถ้าแบตหมดไวก็ไร้ประโยชน์ การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่จึงเป็นสิ่งที่ผู้ใช้คาดหวังมากที่สุดในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/phones/forget-cameras-ai-and-chip-upgrades-you-really-want-better-phone-battery-life 🎬  ดีล Netflix กับ Warner Bros. หมายถึงอะไรสำหรับผู้ชม การจับมือกันครั้งนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการสตรีมมิ่ง ทั้งเรื่องราคาที่อาจปรับขึ้น และการเข้าถึงคอนเทนต์ที่กว้างขึ้น ผู้เชี่ยวชาญมองว่าผู้ใช้จะได้ประโยชน์จากการรวมคอนเทนต์ แต่ก็ต้องเตรียมใจรับกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ดีลนี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดสตรีมมิ่งที่ไม่มีใครยอมแพ้ ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/what-does-the-netflix-and-warner-bros-deal-mean-for-you-heres-what-experts-say-about-price-hikes-and-more
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 287 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251207 #securityonline

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Tika Core (CVE-2025-66516)
    เรื่องนี้เป็นการเตือนครั้งใหญ่ในวงการความปลอดภัยไซเบอร์ เพราะ Apache Tika ซึ่งเป็นเครื่องมือมาตรฐานที่ใช้วิเคราะห์ไฟล์หลากหลายชนิด ถูกพบว่ามีช่องโหว่ XXE ที่ร้ายแรงมาก โดยผู้โจมตีสามารถฝังข้อมูล XML อันตรายไว้ในไฟล์ PDF และเมื่อระบบนำไปประมวลผลก็จะเปิดทางให้เข้าถึงข้อมูลลับ ทำให้เกิดการรั่วไหลหรือแม้แต่การโจมตีแบบ SSRF ได้ ที่น่ากังวลคือหลายองค์กรคิดว่าตัวเองปลอดภัยแล้วจากการอัปเดตครั้งก่อน แต่จริง ๆ แล้วช่องโหว่นี้อยู่ในตัว “tika-core” ไม่ใช่แค่โมดูล PDF เท่านั้น ดังนั้นใครที่ยังใช้เวอร์ชันต่ำกว่า 3.2.2 ต้องรีบอัปเดตทันทีเพื่อปิดช่องโหว่
    https://securityonline.info/the-pdf-trap-critical-vulnerability-cve-2025-66516-cvss-10-0-hits-apache-tika-core

    มัลแวร์ขุดคริปโตแบบแอบเนียนผ่าน USB และ DLL Side-Loading
    ภัยคุกคามเก่าแต่ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งในเกาหลีใต้ เมื่อมัลแวร์ CoinMiner ถูกแพร่ผ่าน USB drive ที่ดูเหมือนมีไฟล์ปกติ แต่จริง ๆ แล้วซ่อนสคริปต์และไฟล์อันตรายไว้ เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ลัด มัลแวร์จะเริ่มทำงานทันที โดยใช้เทคนิค DLL Side-Loading เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ และสุดท้ายก็ลงโปรแกรมขุด Monero แบบ “Smart Mining” ที่ฉลาดพอจะหยุดทำงานชั่วคราวเมื่อผู้ใช้เปิดเกมหรือ Task Manager เพื่อไม่ให้ถูกจับได้ ถือเป็นการผสมผสานวิธีการเก่าเข้ากับเทคนิคใหม่ที่ซับซ้อนมาก
    https://securityonline.info/stealth-cryptominer-uses-usb-lnk-and-dll-side-loading-to-deploy-smart-mining-evasion

    Apache HTTP Server อัปเดตแก้ช่องโหว่ SSRF และ suexec Bypass
    Apache HTTP Server รุ่น 2.4.66 ได้ออกแพตช์ใหม่เพื่อแก้ไขช่องโหว่หลายรายการ โดยเฉพาะ CVE-2025-59775 ที่อาจทำให้ NTLM hash รั่วไหลบน Windows ผ่านการโจมตีแบบ SSRF และอีกช่องโหว่เกี่ยวกับ suexec ที่ทำให้ผู้ใช้บางรายสามารถรันสคริปต์ภายใต้สิทธิ์ที่ไม่ถูกต้องได้ นอกจากนี้ยังมีบั๊กเล็ก ๆ ที่อาจทำให้ระบบทำงานผิดพลาด เช่นการวนลูปไม่สิ้นสุดในการต่ออายุใบรับรอง การแก้ไขครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น
    https://securityonline.info/apache-http-server-2-4-66-fixes-ssrf-flaw-cve-2025-59775-exposing-ntlm-hashes-on-windows-and-suexec-bypass

    รัสเซียบล็อก FaceTime ของ Apple แบบเครือข่าย
    รัฐบาลรัสเซียได้สั่งบล็อกการใช้งาน FaceTime ซึ่งเป็นบริการวิดีโอคอลที่เข้ารหัสแบบ end-to-end ของ Apple โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกใช้ในการก่อการร้ายและอาชญากรรม ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจนก็ตาม ผู้ใช้ในรัสเซียที่พยายามโทรผ่าน FaceTime จะพบว่าบริการไม่สามารถใช้งานได้จริง นี่เป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามเทคโนโลยีต่างชาติที่รัสเซียทำต่อเนื่อง หลังจากก่อนหน้านี้บล็อก YouTube, WhatsApp, Telegram และแม้แต่ Roblox ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงและเนื้อหาที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายรัฐ
    https://securityonline.info/russia-imposes-network-level-blockade-on-apples-end-to-end-encrypted-facetime

    Android เพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการหลอกลวงทางโทรศัพท์
    Google ได้เพิ่มระบบป้องกันการหลอกลวงทางโทรศัพท์ใน Android โดยเฉพาะเวลาที่ผู้ใช้เปิดแอปการเงิน เช่น Cash App หรือ JPMorgan Chase หากมีสายเข้าจากเบอร์ที่ไม่รู้จัก ระบบจะหยุดการโทรหรือการแชร์หน้าจอไว้ 30 วินาที พร้อมแสดงคำเตือน เพื่อให้ผู้ใช้มีเวลาคิดก่อนจะทำตามคำสั่งของมิจฉาชีพ ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกให้โอนเงินหรือเปิดเผยข้อมูลสำคัญ และกำลังทยอยเปิดใช้งานในสหรัฐฯ สำหรับ Android 11 ขึ้นไป
    https://securityonline.info/new-android-call-scam-protection-pauses-calls-for-30-seconds-during-financial-app-use

    OpenAI ฝึก AI ให้ “สารภาพ” ความผิดพลาดเอง
    OpenAI กำลังทดลองวิธีใหม่ในการทำให้โมเดล AI มีความซื่อสัตย์มากขึ้น โดยสอนให้มัน “ยอมรับ” เมื่อเกิดข้อผิดพลาดหรือสร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง แทนที่จะพยายามตอบต่อไปอย่างมั่นใจเกินจริง แนวคิดนี้คือการให้ AI มีพฤติกรรมคล้ายมนุษย์ที่สามารถบอกว่า “ฉันผิดพลาด” หรือ “ข้อมูลนี้อาจไม่ถูกต้อง” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเสี่ยงจากการใช้ข้อมูลที่ผิดพลาดในงานสำคัญ ถือเป็นการเปลี่ยนวิธีคิดจากการพยายามทำให้ AI ดูสมบูรณ์แบบ ไปสู่การทำให้มันโปร่งใสและน่าเชื่อถือมากขึ้น
    https://securityonline.info/honesty-is-the-best-policy-openai-trains-ai-models-to-confess-errors-and-hallucinations

    Criminal IP จัด Webinar: Beyond CVEs – จากการมองเห็นสู่การลงมือทำ
    Criminal IP เตรียมจัดสัมมนาออนไลน์เพื่อพูดถึงการจัดการช่องโหว่ที่มากกว่าแค่การรู้จัก CVE โดยเน้นไปที่การทำ ASM (Attack Surface Management) ที่ช่วยให้องค์กรเข้าใจภาพรวมของระบบและสามารถลงมือแก้ไขได้จริง ไม่ใช่แค่การตรวจพบปัญหา จุดสำคัญคือการเปลี่ยนจากการ “เห็น” ไปสู่การ “ทำ” เพื่อให้การป้องกันภัยไซเบอร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    https://securityonline.info/criminal-ip-to-host-webinar-beyond-cves-from-visibility-to-action-with-asm

    Sprocket Security ได้รับการยกย่องซ้ำในดัชนีความสัมพันธ์ของ G2
    บริษัท Sprocket Security ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการทดสอบเจาะระบบ (Penetration Testing) ได้รับการจัดอันดับอีกครั้งในดัชนีความสัมพันธ์ของ G2 ประจำฤดูหนาวปี 2025 การได้รับการยอมรับซ้ำนี้สะท้อนถึงความพึงพอใจของลูกค้าและความน่าเชื่อถือของบริการที่บริษัทมอบให้ โดยเฉพาะในด้านการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและการสนับสนุนลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
    https://securityonline.info/sprocket-security-earns-repeat-recognition-in-g2s-winter-2025-relationship-index-for-penetration-testing

    จีน APT UNC5174 ใช้ Discord API เป็นช่องทางลับ
    กลุ่มแฮกเกอร์ APT จากจีนที่มีชื่อว่า UNC5174 ถูกพบว่าใช้ Discord API เป็นช่องทางสื่อสารแบบ C2 (Command and Control) เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับและทำการจารกรรมข้อมูล วิธีนี้ทำให้การโจมตีดูเหมือนการใช้งานปกติของแอปพลิเคชัน แต่จริง ๆ แล้วเป็นการซ่อนคำสั่งและข้อมูลที่ส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี ถือเป็นการใช้แพลตฟอร์มสื่อสารยอดนิยมเป็นเครื่องมือในการทำงานลับ
    https://securityonline.info/china-apt-unc5174-hijacks-discord-api-as-covert-c2-channel-to-evade-detection-and-conduct-espionage

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Step CA (CVE-2025-44005)
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Step CA ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถข้ามการตรวจสอบสิทธิ์และออกใบรับรองปลอมได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับ CVSS 10.0 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด หมายความว่ามีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอย่างมาก หากองค์กรใดใช้ Step CA ในการจัดการใบรับรองดิจิทัล จำเป็นต้องรีบอัปเดตและแก้ไขทันทีเพื่อป้องกันการถูกใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้
    https://securityonline.info/critical-step-ca-flaw-cve-2025-44005-cvss-10-0-allows-unauthenticated-bypass-to-issue-fraudulent-certificates

    การสอดแนมผ่านการสแกน API ของ Palo Alto และ SonicWall
    มีการตรวจพบการสอดแนมแบบประสานงานจากกว่า 7,000 IP ที่พุ่งเป้าไปยัง API ของ GlobalProtect (Palo Alto) และ SonicWall โดยการโจมตีลักษณะนี้มุ่งเน้นไปที่การค้นหาช่องโหว่และการเก็บข้อมูลเพื่อเตรียมการโจมตีในอนาคต ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้โจมตีเริ่มใช้วิธีการที่ซับซ้อนและทำงานเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/coordinated-reconnaissance-7000-ips-target-palo-alto-globalprotect-and-sonicwall-api-endpoints
    📌🔐🔴 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🔴🔐📌 #รวมข่าวIT #20251207 #securityonline 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Tika Core (CVE-2025-66516) เรื่องนี้เป็นการเตือนครั้งใหญ่ในวงการความปลอดภัยไซเบอร์ เพราะ Apache Tika ซึ่งเป็นเครื่องมือมาตรฐานที่ใช้วิเคราะห์ไฟล์หลากหลายชนิด ถูกพบว่ามีช่องโหว่ XXE ที่ร้ายแรงมาก โดยผู้โจมตีสามารถฝังข้อมูล XML อันตรายไว้ในไฟล์ PDF และเมื่อระบบนำไปประมวลผลก็จะเปิดทางให้เข้าถึงข้อมูลลับ ทำให้เกิดการรั่วไหลหรือแม้แต่การโจมตีแบบ SSRF ได้ ที่น่ากังวลคือหลายองค์กรคิดว่าตัวเองปลอดภัยแล้วจากการอัปเดตครั้งก่อน แต่จริง ๆ แล้วช่องโหว่นี้อยู่ในตัว “tika-core” ไม่ใช่แค่โมดูล PDF เท่านั้น ดังนั้นใครที่ยังใช้เวอร์ชันต่ำกว่า 3.2.2 ต้องรีบอัปเดตทันทีเพื่อปิดช่องโหว่ 🔗 https://securityonline.info/the-pdf-trap-critical-vulnerability-cve-2025-66516-cvss-10-0-hits-apache-tika-core 💻 มัลแวร์ขุดคริปโตแบบแอบเนียนผ่าน USB และ DLL Side-Loading ภัยคุกคามเก่าแต่ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งในเกาหลีใต้ เมื่อมัลแวร์ CoinMiner ถูกแพร่ผ่าน USB drive ที่ดูเหมือนมีไฟล์ปกติ แต่จริง ๆ แล้วซ่อนสคริปต์และไฟล์อันตรายไว้ เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ลัด มัลแวร์จะเริ่มทำงานทันที โดยใช้เทคนิค DLL Side-Loading เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ และสุดท้ายก็ลงโปรแกรมขุด Monero แบบ “Smart Mining” ที่ฉลาดพอจะหยุดทำงานชั่วคราวเมื่อผู้ใช้เปิดเกมหรือ Task Manager เพื่อไม่ให้ถูกจับได้ ถือเป็นการผสมผสานวิธีการเก่าเข้ากับเทคนิคใหม่ที่ซับซ้อนมาก 🔗 https://securityonline.info/stealth-cryptominer-uses-usb-lnk-and-dll-side-loading-to-deploy-smart-mining-evasion 🌐 Apache HTTP Server อัปเดตแก้ช่องโหว่ SSRF และ suexec Bypass Apache HTTP Server รุ่น 2.4.66 ได้ออกแพตช์ใหม่เพื่อแก้ไขช่องโหว่หลายรายการ โดยเฉพาะ CVE-2025-59775 ที่อาจทำให้ NTLM hash รั่วไหลบน Windows ผ่านการโจมตีแบบ SSRF และอีกช่องโหว่เกี่ยวกับ suexec ที่ทำให้ผู้ใช้บางรายสามารถรันสคริปต์ภายใต้สิทธิ์ที่ไม่ถูกต้องได้ นอกจากนี้ยังมีบั๊กเล็ก ๆ ที่อาจทำให้ระบบทำงานผิดพลาด เช่นการวนลูปไม่สิ้นสุดในการต่ออายุใบรับรอง การแก้ไขครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น 🔗 https://securityonline.info/apache-http-server-2-4-66-fixes-ssrf-flaw-cve-2025-59775-exposing-ntlm-hashes-on-windows-and-suexec-bypass 🚫 รัสเซียบล็อก FaceTime ของ Apple แบบเครือข่าย รัฐบาลรัสเซียได้สั่งบล็อกการใช้งาน FaceTime ซึ่งเป็นบริการวิดีโอคอลที่เข้ารหัสแบบ end-to-end ของ Apple โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกใช้ในการก่อการร้ายและอาชญากรรม ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจนก็ตาม ผู้ใช้ในรัสเซียที่พยายามโทรผ่าน FaceTime จะพบว่าบริการไม่สามารถใช้งานได้จริง นี่เป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามเทคโนโลยีต่างชาติที่รัสเซียทำต่อเนื่อง หลังจากก่อนหน้านี้บล็อก YouTube, WhatsApp, Telegram และแม้แต่ Roblox ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงและเนื้อหาที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายรัฐ 🔗 https://securityonline.info/russia-imposes-network-level-blockade-on-apples-end-to-end-encrypted-facetime 📱 Android เพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการหลอกลวงทางโทรศัพท์ Google ได้เพิ่มระบบป้องกันการหลอกลวงทางโทรศัพท์ใน Android โดยเฉพาะเวลาที่ผู้ใช้เปิดแอปการเงิน เช่น Cash App หรือ JPMorgan Chase หากมีสายเข้าจากเบอร์ที่ไม่รู้จัก ระบบจะหยุดการโทรหรือการแชร์หน้าจอไว้ 30 วินาที พร้อมแสดงคำเตือน เพื่อให้ผู้ใช้มีเวลาคิดก่อนจะทำตามคำสั่งของมิจฉาชีพ ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกให้โอนเงินหรือเปิดเผยข้อมูลสำคัญ และกำลังทยอยเปิดใช้งานในสหรัฐฯ สำหรับ Android 11 ขึ้นไป 🔗 https://securityonline.info/new-android-call-scam-protection-pauses-calls-for-30-seconds-during-financial-app-use 🤖 OpenAI ฝึก AI ให้ “สารภาพ” ความผิดพลาดเอง OpenAI กำลังทดลองวิธีใหม่ในการทำให้โมเดล AI มีความซื่อสัตย์มากขึ้น โดยสอนให้มัน “ยอมรับ” เมื่อเกิดข้อผิดพลาดหรือสร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง แทนที่จะพยายามตอบต่อไปอย่างมั่นใจเกินจริง แนวคิดนี้คือการให้ AI มีพฤติกรรมคล้ายมนุษย์ที่สามารถบอกว่า “ฉันผิดพลาด” หรือ “ข้อมูลนี้อาจไม่ถูกต้อง” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเสี่ยงจากการใช้ข้อมูลที่ผิดพลาดในงานสำคัญ ถือเป็นการเปลี่ยนวิธีคิดจากการพยายามทำให้ AI ดูสมบูรณ์แบบ ไปสู่การทำให้มันโปร่งใสและน่าเชื่อถือมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/honesty-is-the-best-policy-openai-trains-ai-models-to-confess-errors-and-hallucinations 🎤 Criminal IP จัด Webinar: Beyond CVEs – จากการมองเห็นสู่การลงมือทำ Criminal IP เตรียมจัดสัมมนาออนไลน์เพื่อพูดถึงการจัดการช่องโหว่ที่มากกว่าแค่การรู้จัก CVE โดยเน้นไปที่การทำ ASM (Attack Surface Management) ที่ช่วยให้องค์กรเข้าใจภาพรวมของระบบและสามารถลงมือแก้ไขได้จริง ไม่ใช่แค่การตรวจพบปัญหา จุดสำคัญคือการเปลี่ยนจากการ “เห็น” ไปสู่การ “ทำ” เพื่อให้การป้องกันภัยไซเบอร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/criminal-ip-to-host-webinar-beyond-cves-from-visibility-to-action-with-asm 🏆 Sprocket Security ได้รับการยกย่องซ้ำในดัชนีความสัมพันธ์ของ G2 บริษัท Sprocket Security ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการทดสอบเจาะระบบ (Penetration Testing) ได้รับการจัดอันดับอีกครั้งในดัชนีความสัมพันธ์ของ G2 ประจำฤดูหนาวปี 2025 การได้รับการยอมรับซ้ำนี้สะท้อนถึงความพึงพอใจของลูกค้าและความน่าเชื่อถือของบริการที่บริษัทมอบให้ โดยเฉพาะในด้านการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและการสนับสนุนลูกค้าอย่างต่อเนื่อง 🔗 https://securityonline.info/sprocket-security-earns-repeat-recognition-in-g2s-winter-2025-relationship-index-for-penetration-testing 🕵️ จีน APT UNC5174 ใช้ Discord API เป็นช่องทางลับ กลุ่มแฮกเกอร์ APT จากจีนที่มีชื่อว่า UNC5174 ถูกพบว่าใช้ Discord API เป็นช่องทางสื่อสารแบบ C2 (Command and Control) เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับและทำการจารกรรมข้อมูล วิธีนี้ทำให้การโจมตีดูเหมือนการใช้งานปกติของแอปพลิเคชัน แต่จริง ๆ แล้วเป็นการซ่อนคำสั่งและข้อมูลที่ส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี ถือเป็นการใช้แพลตฟอร์มสื่อสารยอดนิยมเป็นเครื่องมือในการทำงานลับ 🔗 https://securityonline.info/china-apt-unc5174-hijacks-discord-api-as-covert-c2-channel-to-evade-detection-and-conduct-espionage 🔒 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Step CA (CVE-2025-44005) มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Step CA ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถข้ามการตรวจสอบสิทธิ์และออกใบรับรองปลอมได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับ CVSS 10.0 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด หมายความว่ามีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอย่างมาก หากองค์กรใดใช้ Step CA ในการจัดการใบรับรองดิจิทัล จำเป็นต้องรีบอัปเดตและแก้ไขทันทีเพื่อป้องกันการถูกใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้ 🔗 https://securityonline.info/critical-step-ca-flaw-cve-2025-44005-cvss-10-0-allows-unauthenticated-bypass-to-issue-fraudulent-certificates 🌍 การสอดแนมผ่านการสแกน API ของ Palo Alto และ SonicWall มีการตรวจพบการสอดแนมแบบประสานงานจากกว่า 7,000 IP ที่พุ่งเป้าไปยัง API ของ GlobalProtect (Palo Alto) และ SonicWall โดยการโจมตีลักษณะนี้มุ่งเน้นไปที่การค้นหาช่องโหว่และการเก็บข้อมูลเพื่อเตรียมการโจมตีในอนาคต ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้โจมตีเริ่มใช้วิธีการที่ซับซ้อนและทำงานเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/coordinated-reconnaissance-7000-ips-target-palo-alto-globalprotect-and-sonicwall-api-endpoints
    SECURITYONLINE.INFO
    The PDF Trap: Critical Vulnerability (CVE-2025-66516, CVSS 10.0) Hits Apache Tika Core
    Apache patched a Catastrophic XXE flaw (CVE-2025-66516, CVSS 10.0) in Tika Core. The bug is exploitable via malicious XFA data inside a PDF, risking server-side data disclosure and RCE. Update immediately.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung เร่งสปีด HBM4 เพื่อจับมือ NVIDIA

    หลังจากเคยถูกมองว่าตามหลังคู่แข่งในตลาด HBM ซัมซุงได้พัฒนา HBM4 (High Bandwidth Memory รุ่นที่ 6) เสร็จสมบูรณ์ และผ่านขั้นตอน Production Readiness Approval (PRA) ซึ่งถือเป็นด่านสุดท้ายก่อนการผลิตจำนวนมาก ขณะนี้บริษัทได้ส่งตัวอย่างไปให้ NVIDIA ทดสอบสำหรับแพลตฟอร์ม GPU รุ่นใหม่ “Rubin” โดยผลทดสอบเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า HBM4 สามารถทำความเร็วได้ถึง 11Gbps ต่อ pin ซึ่งเกินมาตรฐานที่ NVIDIA ต้องการ

    เทคโนโลยีที่เหนือกว่า HBM3E
    HBM4 ของซัมซุงถูกคาดว่าจะให้ แบนด์วิดท์สูงขึ้นกว่า HBM3E ราว 60% ซึ่งถือเป็นการยกระดับครั้งใหญ่สำหรับงานด้าน AI และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ความเร็วนี้ไม่เพียงตอบโจทย์การ์ดจอรุ่นใหม่ แต่ยังช่วยให้ศูนย์ข้อมูล AI สามารถทำงานได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยคู่แข่งอย่าง Micron และ SK Hynix ก็เร่งพัฒนาเช่นกัน แต่ซัมซุงหวังจะกลับมาเป็นผู้นำในตลาดนี้

    ความต้องการ AI ชิปทั่วโลก
    ปี 2025 ความต้องการชิปสำหรับ AI พุ่งสูงจนเกิด วิกฤติขาดแคลนหน่วยความจำทั่วโลก ทั้ง DRAM และ NAND flash ราคาพุ่งขึ้นต่อเนื่อง และผู้ผลิตสมาร์ทโฟนถึงขั้นพิจารณานำ microSD card slot กลับมาเพื่อบรรเทาผลกระทบ การที่ซัมซุงสามารถผลิต HBM4 ได้ทันเวลา จึงอาจเป็นโอกาสสำคัญในการครองตลาดและสร้างรายได้มหาศาล

    ความเสี่ยงและการแข่งขัน
    แม้ซัมซุงจะมีความได้เปรียบ แต่การแข่งขันกับ Micron และ SK Hynix ยังคงดุเดือด โดย Micron ได้เปิดตัว HBM4 ที่มีแบนด์วิดท์สูงถึง 2.8TB/s ซึ่งอาจกดดันซัมซุงในเชิงเทคนิคและราคา นอกจากนี้ ความต้องการที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิด ภาวะขาดแคลนชิปต่อเนื่องไปจนถึงปี 2028 ซึ่งเป็นความเสี่ยงต่อทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ซัมซุงพัฒนา HBM4 สำเร็จ
    ผ่านการตรวจสอบ Production Readiness Approval (PRA)
    ส่งตัวอย่างไปให้ NVIDIA ทดสอบบนแพลตฟอร์ม Rubin

    HBM4 เร็วกว่า HBM3E ราว 60%
    ความเร็วสูงถึง 11Gbps ต่อ pin
    รองรับงาน AI และศูนย์ข้อมูลที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

    ตลาด AI ชิปกำลังขาดแคลนทั่วโลก
    ราคาหน่วยความจำพุ่งสูง
    ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนพิจารณานำ microSD card slot กลับมา

    การแข่งขันกับคู่แข่งยังรุนแรง
    Micron เปิดตัว HBM4 ที่มีแบนด์วิดท์ 2.8TB/s
    SK Hynix ยังคงเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาด

    ความเสี่ยงจากวิกฤติชิปทั่วโลก
    อาจเกิดภาวะขาดแคลนต่อเนื่องถึงปี 2028
    ราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อาจสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    https://wccftech.com/once-left-behind-samsung-is-now-regaining-momentum-in-its-hbm-business/
    🚀 Samsung เร่งสปีด HBM4 เพื่อจับมือ NVIDIA หลังจากเคยถูกมองว่าตามหลังคู่แข่งในตลาด HBM ซัมซุงได้พัฒนา HBM4 (High Bandwidth Memory รุ่นที่ 6) เสร็จสมบูรณ์ และผ่านขั้นตอน Production Readiness Approval (PRA) ซึ่งถือเป็นด่านสุดท้ายก่อนการผลิตจำนวนมาก ขณะนี้บริษัทได้ส่งตัวอย่างไปให้ NVIDIA ทดสอบสำหรับแพลตฟอร์ม GPU รุ่นใหม่ “Rubin” โดยผลทดสอบเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า HBM4 สามารถทำความเร็วได้ถึง 11Gbps ต่อ pin ซึ่งเกินมาตรฐานที่ NVIDIA ต้องการ ⚡ เทคโนโลยีที่เหนือกว่า HBM3E HBM4 ของซัมซุงถูกคาดว่าจะให้ แบนด์วิดท์สูงขึ้นกว่า HBM3E ราว 60% ซึ่งถือเป็นการยกระดับครั้งใหญ่สำหรับงานด้าน AI และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ความเร็วนี้ไม่เพียงตอบโจทย์การ์ดจอรุ่นใหม่ แต่ยังช่วยให้ศูนย์ข้อมูล AI สามารถทำงานได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยคู่แข่งอย่าง Micron และ SK Hynix ก็เร่งพัฒนาเช่นกัน แต่ซัมซุงหวังจะกลับมาเป็นผู้นำในตลาดนี้ 🌐 ความต้องการ AI ชิปทั่วโลก ปี 2025 ความต้องการชิปสำหรับ AI พุ่งสูงจนเกิด วิกฤติขาดแคลนหน่วยความจำทั่วโลก ทั้ง DRAM และ NAND flash ราคาพุ่งขึ้นต่อเนื่อง และผู้ผลิตสมาร์ทโฟนถึงขั้นพิจารณานำ microSD card slot กลับมาเพื่อบรรเทาผลกระทบ การที่ซัมซุงสามารถผลิต HBM4 ได้ทันเวลา จึงอาจเป็นโอกาสสำคัญในการครองตลาดและสร้างรายได้มหาศาล ⚠️ ความเสี่ยงและการแข่งขัน แม้ซัมซุงจะมีความได้เปรียบ แต่การแข่งขันกับ Micron และ SK Hynix ยังคงดุเดือด โดย Micron ได้เปิดตัว HBM4 ที่มีแบนด์วิดท์สูงถึง 2.8TB/s ซึ่งอาจกดดันซัมซุงในเชิงเทคนิคและราคา นอกจากนี้ ความต้องการที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิด ภาวะขาดแคลนชิปต่อเนื่องไปจนถึงปี 2028 ซึ่งเป็นความเสี่ยงต่อทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ซัมซุงพัฒนา HBM4 สำเร็จ ➡️ ผ่านการตรวจสอบ Production Readiness Approval (PRA) ➡️ ส่งตัวอย่างไปให้ NVIDIA ทดสอบบนแพลตฟอร์ม Rubin ✅ HBM4 เร็วกว่า HBM3E ราว 60% ➡️ ความเร็วสูงถึง 11Gbps ต่อ pin ➡️ รองรับงาน AI และศูนย์ข้อมูลที่ต้องการประสิทธิภาพสูง ✅ ตลาด AI ชิปกำลังขาดแคลนทั่วโลก ➡️ ราคาหน่วยความจำพุ่งสูง ➡️ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนพิจารณานำ microSD card slot กลับมา ‼️ การแข่งขันกับคู่แข่งยังรุนแรง ⛔ Micron เปิดตัว HBM4 ที่มีแบนด์วิดท์ 2.8TB/s ⛔ SK Hynix ยังคงเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาด ‼️ ความเสี่ยงจากวิกฤติชิปทั่วโลก ⛔ อาจเกิดภาวะขาดแคลนต่อเนื่องถึงปี 2028 ⛔ ราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อาจสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง https://wccftech.com/once-left-behind-samsung-is-now-regaining-momentum-in-its-hbm-business/
    WCCFTECH.COM
    Once Left Behind, Samsung Is Now Regaining Momentum in Its HBM Business as It Targets NVIDIA’s HBM4 Approval as Early as This Month
    Samsung's HBM business is expected to see a turnaround next year, as the Korean giant is on track to secure HBM4 qualification.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Nvidia ปฏิเสธเคลม RTX 5080 FE หลัง retention clip ของหัวต่อไฟ 16-pin หัก"

    กรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้รายหนึ่งรายงานว่า GeForce RTX 5080 Founders Edition ของเขาเสียหายตั้งแต่ครั้งแรกที่ถอดสายไฟ โดย retention clip ของหัวต่อ 12V-2x6 power connector หักออก ทำให้เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยและความเสี่ยงไฟไหม้【edge_current_page_context】

    ผู้ใช้ได้ติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Nvidia ซึ่งตอนแรกบอกว่า “ทุกอย่างดูปกติ” จากภาพถ่าย แต่เมื่อเรื่องถูกส่งต่อไปยังทีมที่สูงกว่า กลับถูกตัดสินว่าเป็น “customer-induced damage” และปฏิเสธการรับประกัน แม้จะเป็นการเสียหายตั้งแต่การใช้งานครั้งแรกก็ตาม

    Retention clip มีบทบาทสำคัญในการยึดสายไฟให้นั่งแน่นในหัวต่อ ซึ่งเป็นประเด็นใหญ่เพราะ Nvidia เคยอธิบายว่าเหตุการณ์ RTX 4090 connector meltdown เกิดจากการเสียบสายไม่แน่น และจึงได้ออกมาตรฐานใหม่ 12V-2x6 เพื่อแก้ปัญหานี้ แต่เมื่อ clip หักไป กลไกป้องกันก็หายไป ทำให้ผู้ใช้และชุมชน Reddit กังวลว่าการออกแบบอาจยังมีข้อบกพร่อง

    นอกจากนี้ยังมีรายงานอื่น ๆ เกี่ยวกับ สายไฟละลายฝั่ง PSU และ ความเสียหายของหัวต่อ RTX 5090 แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าเป็นปัญหาแพร่หลาย แต่ก็สะท้อนถึงความไม่มั่นใจในมาตรฐานหัวต่อใหม่ และความไม่สม่ำเสมอในการรับประกันของผู้ผลิตต่าง ๆ (เช่น MSI และ Cooler Master ที่เคยมีกรณีปฏิเสธเคลมเช่นกัน)【edge_current_page_context】

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สิ่งที่เกิดขึ้น
    RTX 5080 FE retention clip หักตั้งแต่ครั้งแรกที่ถอดสาย
    Nvidia ปฏิเสธเคลม โดยระบุว่าเป็น “customer-induced damage”

    ความสำคัญของ retention clip
    ช่วยยึดสายไฟให้นั่งแน่น ป้องกันการเสียบไม่เต็ม
    ปัญหาคล้ายกับกรณี RTX 4090 connector meltdown

    สถานการณ์ในวงการ
    มีรายงานสายไฟละลายและหัวต่อเสียหายใน RTX 5080/5090
    ผู้ผลิตบางรายปฏิเสธเคลมด้วยเหตุผลเล็กน้อย

    ข้อควรระวังสำหรับผู้ใช้
    ตรวจสอบหัวต่อทุกครั้งว่าถูกเสียบแน่น
    ถ่ายภาพหลักฐานเมื่อพบความเสียหายเพื่อใช้ยื่นเคลม
    ระวังการดึงสายแรงเกินไปซึ่งอาจทำให้ clip หัก

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/rtx-5080-fe-owner-says-nvidia-denied-warranty-after-power-connector-clip-snapped
    ⚡ "Nvidia ปฏิเสธเคลม RTX 5080 FE หลัง retention clip ของหัวต่อไฟ 16-pin หัก" กรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้รายหนึ่งรายงานว่า GeForce RTX 5080 Founders Edition ของเขาเสียหายตั้งแต่ครั้งแรกที่ถอดสายไฟ โดย retention clip ของหัวต่อ 12V-2x6 power connector หักออก ทำให้เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยและความเสี่ยงไฟไหม้【edge_current_page_context】 ผู้ใช้ได้ติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Nvidia ซึ่งตอนแรกบอกว่า “ทุกอย่างดูปกติ” จากภาพถ่าย แต่เมื่อเรื่องถูกส่งต่อไปยังทีมที่สูงกว่า กลับถูกตัดสินว่าเป็น “customer-induced damage” และปฏิเสธการรับประกัน แม้จะเป็นการเสียหายตั้งแต่การใช้งานครั้งแรกก็ตาม Retention clip มีบทบาทสำคัญในการยึดสายไฟให้นั่งแน่นในหัวต่อ ซึ่งเป็นประเด็นใหญ่เพราะ Nvidia เคยอธิบายว่าเหตุการณ์ RTX 4090 connector meltdown เกิดจากการเสียบสายไม่แน่น และจึงได้ออกมาตรฐานใหม่ 12V-2x6 เพื่อแก้ปัญหานี้ แต่เมื่อ clip หักไป กลไกป้องกันก็หายไป ทำให้ผู้ใช้และชุมชน Reddit กังวลว่าการออกแบบอาจยังมีข้อบกพร่อง นอกจากนี้ยังมีรายงานอื่น ๆ เกี่ยวกับ สายไฟละลายฝั่ง PSU และ ความเสียหายของหัวต่อ RTX 5090 แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าเป็นปัญหาแพร่หลาย แต่ก็สะท้อนถึงความไม่มั่นใจในมาตรฐานหัวต่อใหม่ และความไม่สม่ำเสมอในการรับประกันของผู้ผลิตต่าง ๆ (เช่น MSI และ Cooler Master ที่เคยมีกรณีปฏิเสธเคลมเช่นกัน)【edge_current_page_context】 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สิ่งที่เกิดขึ้น ➡️ RTX 5080 FE retention clip หักตั้งแต่ครั้งแรกที่ถอดสาย ➡️ Nvidia ปฏิเสธเคลม โดยระบุว่าเป็น “customer-induced damage” ✅ ความสำคัญของ retention clip ➡️ ช่วยยึดสายไฟให้นั่งแน่น ป้องกันการเสียบไม่เต็ม ➡️ ปัญหาคล้ายกับกรณี RTX 4090 connector meltdown ✅ สถานการณ์ในวงการ ➡️ มีรายงานสายไฟละลายและหัวต่อเสียหายใน RTX 5080/5090 ➡️ ผู้ผลิตบางรายปฏิเสธเคลมด้วยเหตุผลเล็กน้อย ‼️ ข้อควรระวังสำหรับผู้ใช้ ⛔ ตรวจสอบหัวต่อทุกครั้งว่าถูกเสียบแน่น ⛔ ถ่ายภาพหลักฐานเมื่อพบความเสียหายเพื่อใช้ยื่นเคลม ⛔ ระวังการดึงสายแรงเกินไปซึ่งอาจทำให้ clip หัก https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/rtx-5080-fe-owner-says-nvidia-denied-warranty-after-power-connector-clip-snapped
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • "TSMC เร่งสร้างโรงงาน Advanced Packaging ใน Arizona – ใกล้สู่การผลิตชิป 'Made in USA'"

    รายงานจาก Liberty Times ระบุว่า TSMC อาจกำลังปรับแผนการขยายโรงงานใน Arizona โดยเปลี่ยนพื้นที่ที่เดิมตั้งใจสร้าง Fab 21 Phase 6 ให้กลายเป็น Advanced Packaging Facility แทน ซึ่งหากเป็นจริง จะทำให้ TSMC สามารถผลิตชิปที่ ครบวงจรในสหรัฐฯ ได้ก่อนปี 2030【edge_current_page_context】

    ปัจจุบัน แม้ TSMC จะมีการผลิตเวเฟอร์ที่ Fab 21 ใน Arizona แต่ขั้นตอน dicing, testing และ packaging ยังต้องส่งกลับไปที่ไต้หวัน ทำให้ชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ ไม่ถือว่า “100% American-made” การเร่งสร้างโรงงาน packaging ในพื้นที่เดียวกันจะช่วยแก้ปัญหานี้ และลดความเสี่ยงจากภาษีหรือข้อจำกัดด้านการนำเข้า

    ตามแผนล่าสุด TSMC จะสร้าง 6 โมดูล Fab 21, 2 โรงงาน advanced packaging, และ R&D center โดยโรงงาน packaging ใหม่นี้อาจเริ่มติดตั้งเครื่องจักรได้ภายในปี 2027 และเข้าสู่การผลิตเชิงทดลองหลังจากนั้นไม่นาน

    นอกจากนี้ TSMC ยังมีความร่วมมือกับ Amkor ซึ่งกำลังสร้างโรงงาน assembly และ test ใกล้กับ Fab 21 โดยมี Apple เป็นลูกค้าหลัก และคาดว่าจะเริ่มผลิตในปี 2028 แต่การเร่งสร้างโรงงานของ TSMC เองจะช่วยให้บริษัทมี backend capacity เร็วกว่าการพึ่งพาพันธมิตร

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สถานการณ์ปัจจุบัน
    Fab 21 Arizona ผลิตเวเฟอร์ แต่ยังต้องส่งไปไต้หวันเพื่อ packaging
    ทำให้ชิปไม่ถือว่า “100% Made in USA”

    แผนใหม่ของ TSMC
    เปลี่ยนพื้นที่ Fab 21 Phase 6 เป็น Advanced Packaging Facility
    เริ่มติดตั้งเครื่องจักรได้ภายในปี 2027
    ทำให้สหรัฐฯ มีชิปที่ผลิตครบวงจรในประเทศ

    ความร่วมมือกับ Amkor
    Amkor สร้างโรงงาน assembly/test ใกล้ Fab 21
    Apple เป็นลูกค้าหลัก เริ่มผลิตปี 2028
    แต่ TSMC เร่งสร้างเองเพื่อให้ backend capacity พร้อมเร็วกว่า

    ปัจจัยที่ผลักดัน
    ความต้องการจากลูกค้ารายใหญ่
    ความเสี่ยงจากภาษีและการนำเข้า
    ความจำเป็นในการแข่งขันกับคู่แข่งระดับโลก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tsmc-could-be-inching-closer-to-making-all-american-chips-report-says-it-is-accelerating-an-advanced-packaging-facility-in-arizona
    🇺🇸 "TSMC เร่งสร้างโรงงาน Advanced Packaging ใน Arizona – ใกล้สู่การผลิตชิป 'Made in USA'" รายงานจาก Liberty Times ระบุว่า TSMC อาจกำลังปรับแผนการขยายโรงงานใน Arizona โดยเปลี่ยนพื้นที่ที่เดิมตั้งใจสร้าง Fab 21 Phase 6 ให้กลายเป็น Advanced Packaging Facility แทน ซึ่งหากเป็นจริง จะทำให้ TSMC สามารถผลิตชิปที่ ครบวงจรในสหรัฐฯ ได้ก่อนปี 2030【edge_current_page_context】 ปัจจุบัน แม้ TSMC จะมีการผลิตเวเฟอร์ที่ Fab 21 ใน Arizona แต่ขั้นตอน dicing, testing และ packaging ยังต้องส่งกลับไปที่ไต้หวัน ทำให้ชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ ไม่ถือว่า “100% American-made” การเร่งสร้างโรงงาน packaging ในพื้นที่เดียวกันจะช่วยแก้ปัญหานี้ และลดความเสี่ยงจากภาษีหรือข้อจำกัดด้านการนำเข้า ตามแผนล่าสุด TSMC จะสร้าง 6 โมดูล Fab 21, 2 โรงงาน advanced packaging, และ R&D center โดยโรงงาน packaging ใหม่นี้อาจเริ่มติดตั้งเครื่องจักรได้ภายในปี 2027 และเข้าสู่การผลิตเชิงทดลองหลังจากนั้นไม่นาน นอกจากนี้ TSMC ยังมีความร่วมมือกับ Amkor ซึ่งกำลังสร้างโรงงาน assembly และ test ใกล้กับ Fab 21 โดยมี Apple เป็นลูกค้าหลัก และคาดว่าจะเริ่มผลิตในปี 2028 แต่การเร่งสร้างโรงงานของ TSMC เองจะช่วยให้บริษัทมี backend capacity เร็วกว่าการพึ่งพาพันธมิตร 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สถานการณ์ปัจจุบัน ➡️ Fab 21 Arizona ผลิตเวเฟอร์ แต่ยังต้องส่งไปไต้หวันเพื่อ packaging ➡️ ทำให้ชิปไม่ถือว่า “100% Made in USA” ✅ แผนใหม่ของ TSMC ➡️ เปลี่ยนพื้นที่ Fab 21 Phase 6 เป็น Advanced Packaging Facility ➡️ เริ่มติดตั้งเครื่องจักรได้ภายในปี 2027 ➡️ ทำให้สหรัฐฯ มีชิปที่ผลิตครบวงจรในประเทศ ✅ ความร่วมมือกับ Amkor ➡️ Amkor สร้างโรงงาน assembly/test ใกล้ Fab 21 ➡️ Apple เป็นลูกค้าหลัก เริ่มผลิตปี 2028 ➡️ แต่ TSMC เร่งสร้างเองเพื่อให้ backend capacity พร้อมเร็วกว่า ‼️ ปัจจัยที่ผลักดัน ⛔ ความต้องการจากลูกค้ารายใหญ่ ⛔ ความเสี่ยงจากภาษีและการนำเข้า ⛔ ความจำเป็นในการแข่งขันกับคู่แข่งระดับโลก https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tsmc-could-be-inching-closer-to-making-all-american-chips-report-says-it-is-accelerating-an-advanced-packaging-facility-in-arizona
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Meta เลื่อนเปิดตัวแว่น Phoenix Mixed-Reality ไปปี 2027"

    Meta ตัดสินใจเลื่อนการเปิดตัว Phoenix Mixed-Reality Glasses จากเดิมที่วางแผนไว้ครึ่งหลังปี 2026 ไปเป็นปี 2027 โดยอ้างว่าต้องการเวลาเพิ่มเพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์สมบูรณ์และ “ได้รายละเอียดที่ถูกต้อง” ตามรายงานจาก Business Insider

    อุปกรณ์นี้เคยใช้ชื่อโค้ดว่า Puffin มีน้ำหนักประมาณ 100 กรัม และสเปกต่ำกว่าแว่นระดับพรีเมียมอย่าง Apple Vision Pro ทั้งด้านความละเอียดหน้าจอและพลังประมวลผล อย่างไรก็ตาม จุดขายของมันคือการเป็นอุปกรณ์ที่เบาและเข้าถึงง่ายมากกว่า เน้นตลาดผู้ใช้ทั่วไปที่อยากสัมผัสประสบการณ์ Mixed Reality โดยไม่ต้องลงทุนสูง

    การเลื่อนเปิดตัวเกิดขึ้นท่ามกลางการปรับลดงบประมาณของ Meta ในโครงการ Metaverse ถึง 30% ซึ่งสะท้อนถึงแรงกดดันด้านการเงินและความจำเป็นในการจัดลำดับความสำคัญใหม่ ขณะเดียวกัน Reality Labs ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแล Quest Headsets และ Ray-Ban Smart Glasses ยังคงเดินหน้าพัฒนาอุปกรณ์อื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย

    การตัดสินใจครั้งนี้อาจทำให้ตลาด Mixed Reality ต้องรออีกสักพักกว่าจะได้เห็นคู่แข่งที่แท้จริงของ Apple Vision Pro แต่ก็แสดงให้เห็นว่า Meta ต้องการหลีกเลี่ยงการรีบปล่อยผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่พร้อม และเลือกที่จะให้เวลาเพื่อสร้างอุปกรณ์ที่มีคุณภาพมากกว่า

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเลื่อนเปิดตัว
    จากครึ่งหลังปี 2026 ไปเป็นปี 2027
    เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สมบูรณ์และ “ได้รายละเอียดที่ถูกต้อง”

    คุณสมบัติของ Phoenix Glasses
    น้ำหนักเบา ~100 กรัม
    ความละเอียดและพลังประมวลผลต่ำกว่า Apple Vision Pro
    เคยใช้ชื่อโค้ดว่า Puffin

    สถานการณ์ของ Meta
    ลดงบประมาณ Metaverse ลง 30%
    Reality Labs ยังพัฒนา Quest และ Ray-Ban Smart Glasses ต่อไป

    ข้อควรระวัง
    การเลื่อนเปิดตัวอาจทำให้เสียโอกาสแข่งขันกับ Apple Vision Pro
    งบประมาณที่ลดลงอาจกระทบต่อการพัฒนาอุปกรณ์ใหม่ในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/07/meta-delays-release-of-phoenix-mixed-reality-glasses-to-2027-business-insider-reports
    🥽 "Meta เลื่อนเปิดตัวแว่น Phoenix Mixed-Reality ไปปี 2027" Meta ตัดสินใจเลื่อนการเปิดตัว Phoenix Mixed-Reality Glasses จากเดิมที่วางแผนไว้ครึ่งหลังปี 2026 ไปเป็นปี 2027 โดยอ้างว่าต้องการเวลาเพิ่มเพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์สมบูรณ์และ “ได้รายละเอียดที่ถูกต้อง” ตามรายงานจาก Business Insider อุปกรณ์นี้เคยใช้ชื่อโค้ดว่า Puffin มีน้ำหนักประมาณ 100 กรัม และสเปกต่ำกว่าแว่นระดับพรีเมียมอย่าง Apple Vision Pro ทั้งด้านความละเอียดหน้าจอและพลังประมวลผล อย่างไรก็ตาม จุดขายของมันคือการเป็นอุปกรณ์ที่เบาและเข้าถึงง่ายมากกว่า เน้นตลาดผู้ใช้ทั่วไปที่อยากสัมผัสประสบการณ์ Mixed Reality โดยไม่ต้องลงทุนสูง การเลื่อนเปิดตัวเกิดขึ้นท่ามกลางการปรับลดงบประมาณของ Meta ในโครงการ Metaverse ถึง 30% ซึ่งสะท้อนถึงแรงกดดันด้านการเงินและความจำเป็นในการจัดลำดับความสำคัญใหม่ ขณะเดียวกัน Reality Labs ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแล Quest Headsets และ Ray-Ban Smart Glasses ยังคงเดินหน้าพัฒนาอุปกรณ์อื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย การตัดสินใจครั้งนี้อาจทำให้ตลาด Mixed Reality ต้องรออีกสักพักกว่าจะได้เห็นคู่แข่งที่แท้จริงของ Apple Vision Pro แต่ก็แสดงให้เห็นว่า Meta ต้องการหลีกเลี่ยงการรีบปล่อยผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่พร้อม และเลือกที่จะให้เวลาเพื่อสร้างอุปกรณ์ที่มีคุณภาพมากกว่า 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเลื่อนเปิดตัว ➡️ จากครึ่งหลังปี 2026 ไปเป็นปี 2027 ➡️ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สมบูรณ์และ “ได้รายละเอียดที่ถูกต้อง” ✅ คุณสมบัติของ Phoenix Glasses ➡️ น้ำหนักเบา ~100 กรัม ➡️ ความละเอียดและพลังประมวลผลต่ำกว่า Apple Vision Pro ➡️ เคยใช้ชื่อโค้ดว่า Puffin ✅ สถานการณ์ของ Meta ➡️ ลดงบประมาณ Metaverse ลง 30% ➡️ Reality Labs ยังพัฒนา Quest และ Ray-Ban Smart Glasses ต่อไป ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ การเลื่อนเปิดตัวอาจทำให้เสียโอกาสแข่งขันกับ Apple Vision Pro ⛔ งบประมาณที่ลดลงอาจกระทบต่อการพัฒนาอุปกรณ์ใหม่ในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/07/meta-delays-release-of-phoenix-mixed-reality-glasses-to-2027-business-insider-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta delays release of Phoenix mixed-reality glasses to 2027, Business Insider reports
    Dec 5 (Reuters) - Meta is delaying the release of its Phoenix mixed-reality glasses until 2027, aiming to get the details right, Business Insider reported on Friday, citing an internal memo.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความทนทานของ MacBook Pro M5

    ข่าวนี้เล่าถึงกรณีที่ MacBook Pro M5 ของผู้ใช้รายหนึ่งถูกลืมไว้บนหลังคารถ ก่อนจะตกลงและถูกล้อรถทับ แต่กลับเสียหายเพียงเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงของโครงสร้าง Unibody Aluminum ที่ Apple ใช้มานาน

    ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งเล่าว่าเขาลืมวาง MacBook Pro M5 ไว้บนหลังคารถ เมื่อขับออกไปเครื่องตกลงและถูกล้อรถทับ แต่เมื่อเก็บกลับมา พบว่าเครื่องยังทำงานได้สมบูรณ์ มีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อยเท่านั้น เหตุการณ์นี้สร้างความประหลาดใจและยืนยันถึงคุณภาพวัสดุที่ Apple ใช้

    โครงสร้าง Unibody Aluminum
    Apple ใช้การออกแบบ Unibody Aluminum มานานหลายปี ซึ่งช่วยให้เครื่องแข็งแรงและทนทานต่อแรงกดและแรงบิด เหตุการณ์นี้จึงเป็นตัวอย่างชัดเจนว่าโครงสร้างดังกล่าวสามารถป้องกันความเสียหายได้ดีกว่าลaptops ส่วนใหญ่ในตลาด

    มุมมองจากฟิสิกส์
    ผู้เชี่ยวชาญบางคนอธิบายว่า การที่เครื่องไม่แตกหักเกิดจากแรงกดที่กระจายไปทั่วพื้นที่กว้าง ทำให้แรงไม่กระจุกตัวจนทำลายโครงสร้าง อีกทั้ง MacBook ยังถูกใส่ในซองราคาถูกที่ช่วยลดแรงกระแทกเล็กน้อย

    ผลสะท้อนในชุมชนออนไลน์
    เหตุการณ์นี้ถูกแชร์อย่างกว้างขวางใน Reddit และสื่อเทคโนโลยี โดยหลายคนยกให้เป็น “หลักฐานภาคสนาม” ของความทนทาน MacBook และบางรายถึงกับเปรียบว่า “อาจกันกระสุนได้” เนื่องจากเคยมีกรณีที่ MacBook ช่วยชีวิตคนในเหตุกราดยิง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    MacBook Pro M5 ถูกล้อรถทับแต่ยังใช้งานได้
    มีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อย

    โครงสร้าง Unibody Aluminum ของ Apple
    แข็งแรงและทนทานกว่า Laptops ส่วนใหญ่

    แรงกดถูกกระจายออกไปทั่วพื้นที่
    ลดความเสียหายจากการทับโดยตรง

    ชุมชนออนไลน์ยกเป็นตัวอย่างความทนทาน
    มีการเปรียบเทียบถึงความสามารถกันกระสุน

    เหตุการณ์นี้เป็นข้อยกเว้น ไม่ใช่การรับประกัน
    ผู้ใช้ทั่วไปไม่ควรทดสอบด้วยการทำให้เครื่องตกหรือถูกทับ

    ความเสี่ยงจากการใช้งานผิดวิธี
    อาจทำให้เครื่องเสียหายถาวรแม้มีโครงสร้างแข็งแรง

    https://wccftech.com/m5-macbook-pro-ran-over-by-car-by-sustains-minor-scratches/
    💻 ความทนทานของ MacBook Pro M5 ข่าวนี้เล่าถึงกรณีที่ MacBook Pro M5 ของผู้ใช้รายหนึ่งถูกลืมไว้บนหลังคารถ ก่อนจะตกลงและถูกล้อรถทับ แต่กลับเสียหายเพียงเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงของโครงสร้าง Unibody Aluminum ที่ Apple ใช้มานาน ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งเล่าว่าเขาลืมวาง MacBook Pro M5 ไว้บนหลังคารถ เมื่อขับออกไปเครื่องตกลงและถูกล้อรถทับ แต่เมื่อเก็บกลับมา พบว่าเครื่องยังทำงานได้สมบูรณ์ มีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อยเท่านั้น เหตุการณ์นี้สร้างความประหลาดใจและยืนยันถึงคุณภาพวัสดุที่ Apple ใช้ 🛡️ โครงสร้าง Unibody Aluminum Apple ใช้การออกแบบ Unibody Aluminum มานานหลายปี ซึ่งช่วยให้เครื่องแข็งแรงและทนทานต่อแรงกดและแรงบิด เหตุการณ์นี้จึงเป็นตัวอย่างชัดเจนว่าโครงสร้างดังกล่าวสามารถป้องกันความเสียหายได้ดีกว่าลaptops ส่วนใหญ่ในตลาด 🔬 มุมมองจากฟิสิกส์ ผู้เชี่ยวชาญบางคนอธิบายว่า การที่เครื่องไม่แตกหักเกิดจากแรงกดที่กระจายไปทั่วพื้นที่กว้าง ทำให้แรงไม่กระจุกตัวจนทำลายโครงสร้าง อีกทั้ง MacBook ยังถูกใส่ในซองราคาถูกที่ช่วยลดแรงกระแทกเล็กน้อย 🌍 ผลสะท้อนในชุมชนออนไลน์ เหตุการณ์นี้ถูกแชร์อย่างกว้างขวางใน Reddit และสื่อเทคโนโลยี โดยหลายคนยกให้เป็น “หลักฐานภาคสนาม” ของความทนทาน MacBook และบางรายถึงกับเปรียบว่า “อาจกันกระสุนได้” เนื่องจากเคยมีกรณีที่ MacBook ช่วยชีวิตคนในเหตุกราดยิง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ MacBook Pro M5 ถูกล้อรถทับแต่ยังใช้งานได้ ➡️ มีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อย ✅ โครงสร้าง Unibody Aluminum ของ Apple ➡️ แข็งแรงและทนทานกว่า Laptops ส่วนใหญ่ ✅ แรงกดถูกกระจายออกไปทั่วพื้นที่ ➡️ ลดความเสียหายจากการทับโดยตรง ✅ ชุมชนออนไลน์ยกเป็นตัวอย่างความทนทาน ➡️ มีการเปรียบเทียบถึงความสามารถกันกระสุน ‼️ เหตุการณ์นี้เป็นข้อยกเว้น ไม่ใช่การรับประกัน ⛔ ผู้ใช้ทั่วไปไม่ควรทดสอบด้วยการทำให้เครื่องตกหรือถูกทับ ‼️ ความเสี่ยงจากการใช้งานผิดวิธี ⛔ อาจทำให้เครื่องเสียหายถาวรแม้มีโครงสร้างแข็งแรง https://wccftech.com/m5-macbook-pro-ran-over-by-car-by-sustains-minor-scratches/
    WCCFTECH.COM
    M5 MacBook Pro’s Superior Build Quality Demonstrated In An Extreme Scenario When Its Owner Accidentally Ran Over It And It Only Sustained ‘Minor Scratches’
    An M5 MacBook Pro owner was thoroughly surprised at how durable his machine is because it only obtained minor scratches after being run over by a car
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • มะเร็งหายากในคนหนุ่มสาว: ปริศนาที่นักวิทยาศาสตร์ยังหาคำตอบ

    งานวิจัยล่าสุดพบว่า มะเร็งไส้ติ่ง (Appendiceal cancer) ซึ่งเคยพบได้น้อยและมักเกิดในผู้สูงอายุ กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen X และ Millennials ที่มีความเสี่ยงมากกว่ารุ่นก่อนถึง 3–4 เท่า ปัจจุบันผู้ป่วย 1 ใน 3 ถูกวินิจฉัยก่อนอายุ 50 ปี

    หลักฐานจากการศึกษา
    ข้อมูลจากสหรัฐฯ ระบุว่าอัตราการเกิดมะเร็งไส้ติ่งเพิ่มขึ้นกว่า 232% ระหว่างปี 2000–2016 และแนวโน้มยังคงสูงขึ้นเรื่อย ๆ นักวิจัยชี้ว่าโรคนี้มักถูกตรวจพบโดยบังเอิญระหว่างการรักษาไส้ติ่งอักเสบ และอาการ เช่น ปวดท้อง ท้องอืด หรือปวดเชิงกราน มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโรคทางเดินอาหารหรือมะเร็งลำไส้ใหญ่

    ปัจจัยที่อาจเกี่ยวข้อง
    แม้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่นักวิจัยสงสัยว่า พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น อาหารแปรรูป การนอนหลับไม่เพียงพอ และการออกกำลังกายน้อย รวมถึง สิ่งแวดล้อม เช่น สารเคมีตกค้างในน้ำดื่มและไมโครพลาสติก อาจมีบทบาทในการเพิ่มความเสี่ยง นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสันนิษฐานถึงพันธุกรรมที่สืบทอดได้

    ความท้าทายในการวินิจฉัยและรักษา
    ปัจจุบันยังไม่มีแนวทางการตรวจคัดกรองเฉพาะสำหรับมะเร็งไส้ติ่ง และการรักษาก็มีข้อจำกัด เนื่องจากมะเร็งชนิดนี้ตอบสนองต่อเคมีบำบัดแตกต่างจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยบางรายถูกวินิจฉัยล่าช้าและมีโอกาสแพร่กระจายสูง

    สรุปประเด็นสำคัญ

    การเพิ่มขึ้นของมะเร็งไส้ติ่งในคนหนุ่มสาว
    ความเสี่ยงสูงขึ้น 3–4 เท่าใน Gen X และ Millennials
    1 ใน 3 ผู้ป่วยถูกวินิจฉัยก่อนอายุ 50 ปี

    หลักฐานจากการศึกษา
    อัตราเพิ่มขึ้นกว่า 232% ระหว่างปี 2000–2016
    อาการคล้ายโรคทางเดินอาหาร ทำให้ตรวจพบยาก

    ปัจจัยที่อาจเกี่ยวข้อง
    อาหารแปรรูปและการนอนหลับไม่เพียงพอ
    สารเคมีในน้ำดื่มและไมโครพลาสติก

    ความท้าทายในการวินิจฉัยและรักษา
    ไม่มีแนวทางคัดกรองเฉพาะสำหรับมะเร็งไส้ติ่ง
    การตอบสนองต่อเคมีบำบัดแตกต่างจากมะเร็งลำไส้ใหญ่

    https://www.sciencealert.com/a-rare-cancer-is-surging-in-young-people-and-experts-are-puzzled
    🧩 มะเร็งหายากในคนหนุ่มสาว: ปริศนาที่นักวิทยาศาสตร์ยังหาคำตอบ งานวิจัยล่าสุดพบว่า มะเร็งไส้ติ่ง (Appendiceal cancer) ซึ่งเคยพบได้น้อยและมักเกิดในผู้สูงอายุ กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen X และ Millennials ที่มีความเสี่ยงมากกว่ารุ่นก่อนถึง 3–4 เท่า ปัจจุบันผู้ป่วย 1 ใน 3 ถูกวินิจฉัยก่อนอายุ 50 ปี 🔬 หลักฐานจากการศึกษา ข้อมูลจากสหรัฐฯ ระบุว่าอัตราการเกิดมะเร็งไส้ติ่งเพิ่มขึ้นกว่า 232% ระหว่างปี 2000–2016 และแนวโน้มยังคงสูงขึ้นเรื่อย ๆ นักวิจัยชี้ว่าโรคนี้มักถูกตรวจพบโดยบังเอิญระหว่างการรักษาไส้ติ่งอักเสบ และอาการ เช่น ปวดท้อง ท้องอืด หรือปวดเชิงกราน มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโรคทางเดินอาหารหรือมะเร็งลำไส้ใหญ่ 🌱 ปัจจัยที่อาจเกี่ยวข้อง แม้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่นักวิจัยสงสัยว่า พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น อาหารแปรรูป การนอนหลับไม่เพียงพอ และการออกกำลังกายน้อย รวมถึง สิ่งแวดล้อม เช่น สารเคมีตกค้างในน้ำดื่มและไมโครพลาสติก อาจมีบทบาทในการเพิ่มความเสี่ยง นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสันนิษฐานถึงพันธุกรรมที่สืบทอดได้ ⚠️ ความท้าทายในการวินิจฉัยและรักษา ปัจจุบันยังไม่มีแนวทางการตรวจคัดกรองเฉพาะสำหรับมะเร็งไส้ติ่ง และการรักษาก็มีข้อจำกัด เนื่องจากมะเร็งชนิดนี้ตอบสนองต่อเคมีบำบัดแตกต่างจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยบางรายถูกวินิจฉัยล่าช้าและมีโอกาสแพร่กระจายสูง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเพิ่มขึ้นของมะเร็งไส้ติ่งในคนหนุ่มสาว ➡️ ความเสี่ยงสูงขึ้น 3–4 เท่าใน Gen X และ Millennials ➡️ 1 ใน 3 ผู้ป่วยถูกวินิจฉัยก่อนอายุ 50 ปี ✅ หลักฐานจากการศึกษา ➡️ อัตราเพิ่มขึ้นกว่า 232% ระหว่างปี 2000–2016 ➡️ อาการคล้ายโรคทางเดินอาหาร ทำให้ตรวจพบยาก ✅ ปัจจัยที่อาจเกี่ยวข้อง ➡️ อาหารแปรรูปและการนอนหลับไม่เพียงพอ ➡️ สารเคมีในน้ำดื่มและไมโครพลาสติก ‼️ ความท้าทายในการวินิจฉัยและรักษา ⛔ ไม่มีแนวทางคัดกรองเฉพาะสำหรับมะเร็งไส้ติ่ง ⛔ การตอบสนองต่อเคมีบำบัดแตกต่างจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ https://www.sciencealert.com/a-rare-cancer-is-surging-in-young-people-and-experts-are-puzzled
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    A Rare Cancer Is Surging in Young People, And Experts Are Puzzled
    A very rare type of cancer is on a sharp upward trajectory in younger generations, and no one knows why.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline

    เก้าอี้ออฟฟิศที่พับครึ่งได้ – Hinomi H2 Pro
    เรื่องราวเริ่มจากการรีวิวเก้าอี้ทำงานรุ่นใหม่ Hinomi H2 Pro ที่ถูกออกแบบมาให้แตกต่างจากเก้าอี้ทั่วไป จุดเด่นคือสามารถพับครึ่งได้ ทำให้จัดเก็บง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีระบบรองรับหลังส่วนล่างที่แข็งแรงและปรับได้หลายระดับ เหมาะกับคนที่ต้องการการนั่งที่ถูกสุขลักษณะ ตัววัสดุทำจากเฟรมอะลูมิเนียมและผ้าตาข่ายที่ระบายอากาศได้ดี ใช้งานต่อเนื่องทั้งวันก็ยังสบาย แม้จะมีข้อสังเกตว่าการรองรับหลังอาจแรงไปสำหรับบางคน แต่โดยรวมถือว่าเป็นเก้าอี้ที่คุ้มค่าและมีลูกเล่นที่ไม่เหมือนใคร
    https://www.techradar.com/pro/hinomi-h2-pro-office-chair-review

    การกลับมาของเครื่องเล่น SACD – Shanling SCD3.3
    ย้อนบรรยากาศยุค 90s กับเครื่องเล่นซีดีรุ่นใหม่ Shanling SCD3.3 ที่มาพร้อมหลอดแอมป์ในตัวและ DAC คุณภาพสูง จุดขายคือการรองรับแผ่น SACD และการออกแบบที่ผสมผสานความคลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตัวเครื่องหนักแน่นด้วยโครงอะลูมิเนียมหนา มีหน้าจอสัมผัสและแอปควบคุมผ่านมือถือได้ เสียงที่ได้ถูกบรรยายว่าอบอุ่นและทรงพลัง เหมาะกับนักฟังเพลงที่ต้องการประสบการณ์เสียงระดับอ้างอิง แม้ราคาจะสูงถึงเกือบ 4,000 ดอลลาร์ แต่ก็เป็นการประกาศว่าแผ่นซีดียังไม่ตาย และยังมีเสน่ห์สำหรับสายเครื่องเสียงจริงจัง
    https://www.techradar.com/audio/sacd-is-back-baby-this-beefy-new-audiophile-cd-player-is-deliciously-90s-and-has-built-in-tube-amplification-as-a-bonus

    เครือข่ายมือถือแบบไม่ต้องเปิดเผยตัว – Phreeli
    นี่คือผู้ให้บริการมือถือรายใหม่ที่ชื่อว่า Phreeli จุดเด่นคือการสมัครใช้งานโดยไม่ต้องใช้ชื่อหรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ นอกจากรหัสไปรษณีย์และวิธีการชำระเงิน ซึ่งสามารถใช้คริปโตได้ ทำให้ไม่สามารถเชื่อมโยงเบอร์โทรกับตัวตนจริงได้ ระบบยังมีการป้องกันสแปมและการโทรกวน เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจะถูกขายต่อให้บริษัทโฆษณาหรือหน่วยงานรัฐ แม้บางคนอาจสงสัยว่าใครจะใช้บริการแบบนี้ แต่ผู้ก่อตั้งยืนยันว่ามุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ใช่กลุ่มที่มีเจตนาไม่ดี
    https://www.techradar.com/phones/this-new-anonymous-phone-carrier-doesnt-even-need-your-name-here-are-5-things-you-should-know-about-it

    Intel เปลี่ยนใจไม่ขายธุรกิจ NEX
    เดิมที Intel มีแผนจะขายหรือแยกธุรกิจ Networking and Communications (NEX) ออกไป แต่ล่าสุดบริษัทประกาศว่าจะเก็บไว้ในพอร์ตโฟลิโอ เพราะมองว่าเป็นส่วนสำคัญต่อกลยุทธ์ด้าน AI ศูนย์ข้อมูล และ Edge Computing การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสถานะทางการเงินของ Intel ดีขึ้นจากการลงทุนและการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรอย่าง SoftBank และ Nvidia การเก็บ NEX ไว้ในบริษัทจะช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบทำงานร่วมกันได้แนบแน่นมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/intel-drops-plans-to-sell-networking-and-communication-division

    Windscribe เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้จัดการ IP ได้เอง
    บริการ VPN อย่าง Windscribe เปิดตัวสองฟีเจอร์ใหม่คือ IP Pinning และ IP Rotation เพื่อให้ผู้ใช้ควบคุม IP ได้สะดวกขึ้น โดย IP Pinning ช่วยล็อก IP ที่ใช้งานได้ดีเพื่อความเสถียร เช่น ใช้กับแอปธนาคาร ส่วน IP Rotation ช่วยเปลี่ยน IP ได้ทันทีโดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อ เหมาะกับการแก้ปัญหา CAPTCHA หรือการบล็อกจากเว็บไซต์ ฟีเจอร์เหล่านี้ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยระบบ API แบบ zero-knowledge ทำให้แม้แต่ Windscribe เองก็ไม่สามารถบันทึกข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/windscribe-rolls-out-new-tools-to-let-you-manage-your-vpn-ip-address-your-way

    AI ถูกส่งขึ้นอวกาศ – Google, Amazon และ xAI
    สามบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีคือ Google, Amazon และ xAI กำลังร่วมมือกันเพื่อผลักดันโครงการนำ AI ขึ้นไปใช้งานในอวกาศ แนวคิดนี้คือการสร้างระบบประมวลผลที่สามารถทำงานได้โดยตรงบนดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งข้อมูลกลับมายังโลก ซึ่งจะช่วยให้การสื่อสารและการวิเคราะห์ข้อมูลจากอวกาศมีความรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น โครงการนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันในตลาด AI ที่ขยายไปไกลเกินกว่าพื้นโลก และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ AI ในการสำรวจจักรวาลอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/google-amazon-and-xai-want-to-launch-ai-into-space

    หุ่นยนต์ดูดฝุ่นพร้อมระบบถูพื้นขั้นเทพ – Dreame Robovac
    Dreame เปิดตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ที่มาพร้อมระบบถูพื้นซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา จุดเด่นคือแท่นเก็บผ้าแบบ jukebox ที่สามารถเปลี่ยนผ้าเช็ดถูได้อัตโนมัติ ทำให้การทำความสะอาดต่อเนื่องโดยไม่ต้องคอยเปลี่ยนผ้าเอง หุ่นยนต์ยังมีระบบตรวจจับคราบและปรับแรงกดในการถูพื้นให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิว นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปเพื่อควบคุมและตั้งค่าการทำงานได้อย่างละเอียด ถือเป็นการยกระดับหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านให้ฉลาดและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/home/vacuums/dreames-new-robovac-has-the-most-advanced-mop-setup-ive-seen-and-the-jukebox-style-mop-dispenser-is-just-the-start-of-it

    Windows 11 ปรับโฉม Run Prompt
    เรื่องที่ดูเหมือนเล็กแต่จริง ๆ แล้วสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ Windows 11 กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือการปรับโฉมหน้าต่าง Run ที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ยุค Windows 95 ให้เข้ากับดีไซน์ Fluent ของยุคใหม่ หน้าต่างนี้จะดูทันสมัยขึ้น ใหญ่ขึ้น และยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยแสดงคำสั่งที่เคยใช้ไปแล้ว ทำให้เรียกใช้งานซ้ำได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งแสดงไอคอนของแอปที่เราจะเปิดอีกด้วย แม้ยังไม่เปิดให้ใช้งานจริง แต่ก็มีการค้นพบในเวอร์ชันทดสอบแล้ว หลายคนก็แอบกังวลว่าจะทำให้การเปิด Run ช้าลง แต่โดยรวมถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รอคอยกันมานาน
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-run-prompt-is-getting-a-makeover-and-a-handy-extra-power-but-already-there-are-worries-microsoft-will-ruin-it

    Microsoft 365 เตรียมขึ้นราคา
    ข่าวนี้อาจทำให้หลายองค์กรต้องขยับงบประมาณ เพราะ Microsoft ประกาศว่าจะปรับขึ้นราคาของแพ็กเกจ Microsoft 365 และ Office 365 สำหรับธุรกิจและหน่วยงานรัฐตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2026 โดยขึ้นระหว่าง 5% ถึง 33% ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ แต่ก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและ AI เข้ามา เช่น Microsoft Defender และ Security Copilot เพื่อช่วยป้องกันภัยไซเบอร์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แม้ราคาจะสูงขึ้น แต่ Microsoft ยืนยันว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่เพิ่มเข้ามา
    https://www.techradar.com/pro/microsoft-365-is-hiking-prices-for-businesses-heres-how-much-it-will-cost-you

    Samsung Ballie Robot เลื่อนเปิดตัวอีกครั้ง
    หุ่นยนต์กลมสีเหลืองที่ชื่อ Ballie จาก Samsung ซึ่งเคยโชว์ตัวตั้งแต่ปี 2020 และถูกนำกลับมาเปิดตัวใหม่ใน CES 2025 พร้อมสัญญาว่าจะวางขายในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น แต่จนถึงปลายปี 2025 ก็ยังไม่พร้อมวางจำหน่าย Samsung บอกว่ากำลังปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า Ballie ถูกออกแบบให้เป็นผู้ช่วยในบ้าน สามารถฉายภาพยนตร์หรือข้อมูลบนผนัง และตอบคำถามได้ แต่ยังต้องรอการพัฒนาเพิ่มเติม คาดว่าอาจมีความคืบหน้าที่ CES 2026
    https://www.techradar.com/home/smart-home/samsungs-ballie-robot-is-delayed-again-and-now-we-know-why

    การโจมตีไซเบอร์ด้วย Brickworm Malware
    หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ และแคนาดาออกมาเตือนว่าแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีนใช้มัลแวร์ชื่อ Brickworm เจาะเข้าไปในระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ และองค์กรด้านไอทีทั่วโลก มัลแวร์นี้สามารถฝังตัวในระบบ VMware และ Windows เพื่อเข้าถึงไฟล์ ควบคุม Active Directory และคงการเข้าถึงระยะยาวได้ ทำให้เสี่ยงต่อการสอดแนมและการก่อวินาศกรรมในอนาคต แม้จีนจะปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่รายงานนี้สะท้อนถึงภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อความมั่นคงไซเบอร์
    https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-used-brickworm-malware-to-breach-critical-us-infrastructure

    Ofcom เตรียมเข้มงวดการตรวจสอบไฟล์ในปี 2026
    หน่วยงานกำกับดูแลด้านการสื่อสารของสหราชอาณาจักร (Ofcom) มีแผนจะเพิ่มมาตรการตรวจสอบไฟล์ดิจิทัลในปี 2026 โดยจะขยายการเฝ้าระวังและการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกแชร์ผ่านบริการออนไลน์ เพื่อป้องกันการละเมิดและการใช้งานที่ผิดกฎหมาย แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าการตรวจสอบนี้อาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่ Ofcom ยืนยันว่ามีความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยทางดิจิทัลในอนาคต
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ofcom-wants-to-double-down-on-file-monitoring-in-2026

    DAC ตัวใหม่เล็กแต่ทรงพลัง
    อุปกรณ์ DAC ขนาดเล็กที่เพิ่งเปิดตัวสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก หรือเครื่องเล่นเกม ให้มีคุณภาพเสียงระดับเดียวกับเครื่องเล่นเพลง hi-res ชั้นนำของโลก แม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่คมชัดและทรงพลัง เหมาะสำหรับคนที่รักการฟังเพลงคุณภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์ราคาแพง
    https://www.techradar.com/audio/dacs/this-tiny-new-dac-gives-your-phone-laptop-or-games-console-the-audio-skills-of-the-worlds-best-hi-res-music-player

    Netflix ซื้อกิจการ Warner Bros. Discovery มูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์
    Netflix ประกาศดีลครั้งใหญ่ในการเข้าซื้อ Warner Bros. Discovery ด้วยมูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าจะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกและความคุ้มค่ามากขึ้น ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการสตรีมมิ่ง เพราะจะรวมคอนเทนต์จาก HBO, Discovery และแบรนด์ดังอื่น ๆ เข้ากับ Netflix ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Disney+ และ Amazon Prime เข้มข้นยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/streaming/netflix/its-official-netflix-is-buying-warner-bros-discovery-claiming-the-deal-means-more-choice-and-greater-value-for-consumers

    Logitech CEO วิจารณ์อุปกรณ์ AI
    ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Logitech ออกมาแสดงความเห็นว่าอุปกรณ์ AI หลายอย่างในตลาดตอนนี้เป็น “การหาทางแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” ซึ่งสะท้อนถึงความสงสัยว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณค่าแท้จริงต่อผู้ใช้หรือไม่ ความเห็นนี้ได้รับการตอบรับจากหลายฝ่ายที่เห็นว่าอุปกรณ์ AI ยังไม่สามารถพิสูจน์ประโยชน์ที่ชัดเจน แต่ก็มีบางคนมองว่าเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องใช้เวลาเพื่อให้เห็นผลจริง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-solution-looking-for-a-problem-that-doesnt-exist-logitech-ceo-blasts-ai-gadgets-and-most-people-think-thats-being-generous

    EU เดินหน้ากฎหมาย Chat Control แบบเจาะจงเป้าหมาย
    เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในยุโรปเกี่ยวกับกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation (CSAR) ที่ถูกเรียกติดปากว่า “Chat Control” ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะกลายเป็นการสอดส่องประชาชนแบบกว้างขวาง แต่ Magnus Brunner กรรมาธิการสหภาพยุโรปด้านกิจการภายในกลับยืนยันว่า เขาเลือกสนับสนุนแนวทางของรัฐสภายุโรปที่เน้นการสแกนแบบเจาะจงเป้าหมาย มากกว่าการสแกนแบบครอบคลุมโดยสมัครใจตามที่สภายุโรปเสนอ เขาย้ำว่า “นี่ไม่ใช่เรื่อง Chat Control แต่เป็นการปกป้องเด็ก” อย่างไรก็ตาม หลายประเทศและผู้เชี่ยวชาญยังคงคัดค้านเพราะมองว่าอาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัว การเจรจารอบสุดท้ายระหว่างสภา คณะกรรมาธิการ และรัฐสภาจะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ชะตาว่ากฎหมายนี้จะออกมาในรูปแบบใด
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-commissioner-backs-parliament-line-on-targeted-monitoring

    ปัญหาการเชื่อมต่อที่ซ่อนอยู่ใน IoT
    เมื่อพูดถึงอุปกรณ์อัจฉริยะ เช่น ถังขยะที่ส่งสัญญาณเมื่อเต็ม หรือเครื่องตรวจหัวใจในบ้านพักคนชรา หลายคนมักคิดว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายเป็นเรื่องที่ “มีอยู่แล้ว” แต่แท้จริงแล้วการออกแบบระบบเชื่อมต่อคือหัวใจสำคัญ หากการเลือกซิมหรือการจัดการสัญญาณไม่ดี อุปกรณ์อาจเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ไม่เสถียร ทำให้ข้อมูลสะดุดหรือเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเทคโนโลยีซิมแบบ Dual IMSI ที่มีการจัดการสัญญาณและ IP แบบคงที่ จะช่วยให้ระบบทำงานได้ราบรื่นและปลอดภัยกว่า การออกแบบโครงสร้างการเชื่อมต่อที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ IoT ใช้งานได้จริงในระดับใหญ่ ไม่ใช่แค่การมีอุปกรณ์ที่ฉลาด แต่ต้องมีเครือข่ายที่ฉลาดด้วย
    https://www.techradar.com/pro/the-connectivity-problem-hiding-in-smart-bins-and-heart-monitors

    แฮกเกอร์ปลอมแอปธนาคารเพื่อขโมยข้อมูล
    นักวิจัยจาก Group-IB เปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อ GoldFactory กำลังใช้วิธีใหม่ในการโจมตี โดยนำแอปธนาคารจริงมาดัดแปลงใส่โค้ดอันตราย แล้วเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ปลอมและการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง แอปที่ถูกปลอมแปลงยังคงทำงานเหมือนจริง ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกขโมยข้อมูล ขณะเดียวกันมัลแวร์ที่ซ่อนอยู่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ทั้งดึงข้อมูล ล็อกอิน หรือแม้แต่สั่งการจากระยะไกล ปัจจุบันมีผู้ใช้หลายหมื่นรายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ตกเป็นเหยื่อ และแนวโน้มอาจขยายไปยังประเทศอื่น ๆ นี่ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและอันตรายมากในโลกการเงินดิจิทัล
    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-observed-injecting-legitimate-banking-apps-with-malicious-code

    Verizon แจก iPhone 17 Pro ฟรีแบบไม่ต้องเทรดเครื่อง
    Verizon สร้างความฮือฮาด้วยโปรโมชันใหม่ที่ให้ iPhone 17 Pro ฟรีถึง 4 เครื่อง โดยไม่ต้องนำเครื่องเก่ามาแลก เพียงสมัครแพ็กเกจ Welcome Unlimited ที่ราคา 100 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ 4 ไลน์ เท่ากับจ่ายเพียง 25 ดอลลาร์ต่อเครื่องต่อเดือน ซึ่งถ้าคิดเป็นมูลค่ารวมแล้ว ผู้ใช้สามารถประหยัดได้มากกว่า 4,000 ดอลลาร์ ดีลนี้ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับครอบครัวที่ต้องการหลายเครื่อง และแม้แต่ผู้ใช้รายเดียวก็ยังสามารถรับเครื่องฟรีได้เมื่อเปิดไลน์ใหม่ ถือเป็นหนึ่งในดีลที่ดีที่สุดของ Verizon ในปีนี้
    https://www.techradar.com/phones/iphone/verizon-just-surprised-us-with-one-of-its-best-deals-of-the-entire-year-get-four-iphone-17-pro-for-free-without-a-trade-in

    CEO Logitech มองว่าอุปกรณ์ AI เป็น “คำตอบที่ไม่มีคำถาม”
    Hanneke Faber ซีอีโอของ Logitech ให้สัมภาษณ์ว่า อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ AI โดยเฉพาะ เช่น Humane AI Pin หรือ Rabbit R1 เป็นเพียง “การแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” เพราะสิ่งที่ทำได้ก็ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่แล้ว เธอเชื่อว่าทางที่ถูกต้องคือการฝัง AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ เช่น กล้องเว็บแคมที่ปรับภาพอัตโนมัติ หรือเมาส์ MX Master 4 ที่มีปุ่มเรียก Copilot หรือ ChatGPT ได้ทันที แนวคิดนี้ต่างจากบางบริษัทที่พยายามสร้างอุปกรณ์ใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะ เช่น แว่นตาอัจฉริยะของ Ray-Ban หรือเครื่องบันทึกเสียง AI ของ Plaud ซึ่งอนาคตจะพิสูจน์ว่าแนวทางใดจะอยู่รอด แต่สิ่งที่แน่นอนคือ AI จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกอุปกรณ์ในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/security/logitech-ceo-says-ai-devices-are-just-solutions-looking-for-a-problem

    ทำไมซีอีโอที่เข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ถึงนำหน้าในยุค AI
    บทความนี้เล่าถึงข้อได้เปรียบของซีอีโอที่มีพื้นฐานด้านการเขียนโปรแกรมหรือเข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพราะพวกเขาสามารถมองเห็นศักยภาพของ AI ได้ลึกกว่า และรู้ว่าควรนำไปใช้ตรงไหนเพื่อสร้างคุณค่า ไม่ใช่แค่ตามกระแส ตัวอย่างเช่น การเข้าใจโครงสร้างข้อมูลและการทำงานของโมเดล ทำให้สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้แม่นยำกว่า และยังช่วยให้ทีมงานเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของผู้นำมากขึ้น ในการแข่งขัน AI ที่รุนแรง การมีผู้นำที่เข้าใจเทคโนโลยีจึงเป็นเหมือนการมี “หัวเรือที่รู้เส้นทาง”
    https://www.techradar.com/pro/why-ceos-who-understand-software-development-have-a-head-start-in-the-ai-race

    ปัญหาการถอดเสียงแก้ได้ด้วย Gemini แต่ไม่ใช่ ChatGPT
    ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าเจอปัญหาใหญ่ในการถอดเสียงไฟล์เสียงยาว ๆ ที่มีหลายสำเนียงและเสียงรบกวน เมื่อทดลองใช้ ChatGPT ผลลัพธ์ออกมาไม่แม่นยำ แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Gemini กลับได้ผลลัพธ์ที่ตรงและจัดการไฟล์ได้ดีกว่า จุดเด่นคือ Gemini สามารถทำงานกับไฟล์เสียงที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังให้ผลลัพธ์ที่พร้อมใช้งานทันที เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ AI หลายเจ้าแข่งกัน แต่แต่ละระบบก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกันไป
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-had-a-big-audio-transcription-problem-gemini-solved-it-and-chatgpt-didnt

    ปี 2025 ไม่ได้เป็นปีที่น่าเบื่อของสมาร์ทโฟน
    หลายคนอาจบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มหมดความตื่นเต้น แต่จริง ๆ แล้วปีนี้กลับเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เริ่มจาก Apple ที่กล้าลองสิ่งใหม่ ๆ ทั้ง iPhone 16e ที่มาพร้อมโมเด็ม C1 และ iPhone Air ที่ออกแบบให้บางและทนทานขึ้น แม้ไม่ใช่รุ่นที่ดีที่สุด แต่ก็สะท้อนความกล้าในการทดลอง ส่วน iPhone 17 Pro ก็พลิกโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple พร้อมเพิ่มเลนส์ซูมและหน้าจอ 120Hz ให้ทันสมัยขึ้น ขณะเดียวกัน Qualcomm ก็สร้างความฮือฮาด้วย Snapdragon 8 Elite ที่แรงและประหยัดพลังงานกว่า ทำให้มือถือ Android ใช้งานได้ยาวนานกว่าสองวันเต็ม อีกด้านหนึ่ง OnePlus 15 กลายเป็นมือถือที่ถูกยกให้เป็น “ตัวเลือกของคนวงใน” ด้วยความทนทานและแบตเตอรี่ที่เหลือเชื่อ สุดท้าย Google ก็เพิ่มฟีเจอร์แม่เหล็กใน Pixel 10 Pro ทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้นอย่างมาก ทั้งการชาร์จ การติดตั้งอุปกรณ์เสริม และการใช้งานร่วมกับกระเป๋าสตางค์แม่เหล็ก เรื่องทั้งหมดนี้บอกได้เลยว่า โทรศัพท์ปี 2025 ไม่ได้เงียบเหงาเลย
    https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai

    หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐเตือน หยุดใช้ VPN ส่วนตัว
    CISA หรือหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” เพราะแทนที่จะปลอดภัยขึ้น กลับเพิ่มความเสี่ยงมากกว่าเดิม เหตุผลคือ VPN หลายเจ้า โดยเฉพาะที่ฟรีหรือไม่น่าเชื่อถือ อาจเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาเอง ทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงจากการโจมตีขั้นสูง แม้ VPN จะช่วยซ่อนกิจกรรมจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่ก็เหมือนย้ายความเสี่ยงไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ที่อาจไม่น่าไว้ใจ ทางออกคือเลือกผู้ให้บริการที่มีการตรวจสอบนโยบายไม่เก็บข้อมูลจริง มีการเข้ารหัสมาตรฐานสูง และมีฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch หรือ multi-hop เพื่อเพิ่มความปลอดภัย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการหาทางลัดเพื่อความเป็นส่วนตัว อาจกลายเป็นดาบสองคมได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns

    งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์
    Cisco เปิดเผยผลสำรวจที่ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างวัย คนอายุต่ำกว่า 35 ปีมีการใช้งาน AI สูงถึงครึ่งหนึ่ง และกว่า 75% มองว่า AI มีประโยชน์ต่อชีวิตและงาน แต่เมื่อมองไปที่คนอายุเกิน 45 ครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าการปฏิเสธโดยตรง นอกจากนี้ยังพบว่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก มีการนำ AI มาใช้มากที่สุด ขณะที่ยุโรปกลับมีความไม่มั่นใจสูงกว่า ผลวิจัยยังชี้ว่าการใช้ AI มากเกินไปอาจสัมพันธ์กับการใช้หน้าจอมากและความพึงพอใจในชีวิตที่ลดลง ทำให้คำแนะนำคือควรสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม เพื่อให้ “Generation AI” รวมทุกคนจริง ๆ
    https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful

    EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI ใน WhatsApp
    คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta หลังจากมีข้อกล่าวหาว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่ง โดย Meta ได้ปรับเงื่อนไข API ของ WhatsApp Business ห้ามไม่ให้แชทบอทจากผู้ให้บริการอื่นที่เน้น AI เป็นหลักถูกเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอนบอทออกไปแล้ว EU กังวลว่า Meta กำลังใช้ความได้เปรียบทางตลาดเพื่อผลักดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบว่ามีความผิด Meta อาจถูกปรับสูงถึง 10% ของรายได้ทั่วโลก หรือประมาณ 16.5 พันล้านดอลลาร์ เรื่องนี้สะท้อนการต่อสู้ระหว่างการเปิดเสรีการแข่งขันกับการควบคุมอำนาจของบริษัทยักษ์ใหญ่ในยุค AI
    https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy

    ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที
    React ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-55182 ที่ได้คะแนนความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้อยู่ใน React Server Components และกระทบหลายเฟรมเวิร์ก เช่น Next, React Router, Vite ทำให้แม้แต่แฮกเกอร์ที่มีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายได้ ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที เพราะการโจมตีมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% และคาดว่าจะเกิดขึ้นจริงในเวลาอันใกล้ เนื่องจาก React ถูกใช้ในบริการใหญ่ ๆ อย่าง Facebook, Instagram, Netflix และ Shopify ทำให้พื้นที่เสี่ยงมีขนาดมหาศาล เรื่องนี้จึงเป็นสัญญาณเตือนแรงสำหรับนักพัฒนาและองค์กรที่ใช้ React ว่าต้องไม่ชะล่าใจ
    https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now

    Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินและคริปโตมูลค่า 700 ล้านยูโร
    หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายยุโรป (Europol) ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในการปิดเครือข่ายอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและคริปโต โดยมีมูลค่าการเคลื่อนไหวสูงถึง 700 ล้านยูโร เครือข่ายนี้ใช้วิธีซับซ้อนในการเคลื่อนย้ายเงินผ่านหลายประเทศและใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อปกปิดเส้นทางการเงิน การปฏิบัติการครั้งนี้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายรายและยึดทรัพย์สินจำนวนมาก ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าองค์กรอาชญากรรมที่พยายามใช้คริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ กำลังถูกจับตามองอย่างเข้มงวด
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million
    📌📡🟣 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟣📡📌 #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline 🪑 เก้าอี้ออฟฟิศที่พับครึ่งได้ – Hinomi H2 Pro เรื่องราวเริ่มจากการรีวิวเก้าอี้ทำงานรุ่นใหม่ Hinomi H2 Pro ที่ถูกออกแบบมาให้แตกต่างจากเก้าอี้ทั่วไป จุดเด่นคือสามารถพับครึ่งได้ ทำให้จัดเก็บง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีระบบรองรับหลังส่วนล่างที่แข็งแรงและปรับได้หลายระดับ เหมาะกับคนที่ต้องการการนั่งที่ถูกสุขลักษณะ ตัววัสดุทำจากเฟรมอะลูมิเนียมและผ้าตาข่ายที่ระบายอากาศได้ดี ใช้งานต่อเนื่องทั้งวันก็ยังสบาย แม้จะมีข้อสังเกตว่าการรองรับหลังอาจแรงไปสำหรับบางคน แต่โดยรวมถือว่าเป็นเก้าอี้ที่คุ้มค่าและมีลูกเล่นที่ไม่เหมือนใคร 🔗 https://www.techradar.com/pro/hinomi-h2-pro-office-chair-review 💿 การกลับมาของเครื่องเล่น SACD – Shanling SCD3.3 ย้อนบรรยากาศยุค 90s กับเครื่องเล่นซีดีรุ่นใหม่ Shanling SCD3.3 ที่มาพร้อมหลอดแอมป์ในตัวและ DAC คุณภาพสูง จุดขายคือการรองรับแผ่น SACD และการออกแบบที่ผสมผสานความคลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตัวเครื่องหนักแน่นด้วยโครงอะลูมิเนียมหนา มีหน้าจอสัมผัสและแอปควบคุมผ่านมือถือได้ เสียงที่ได้ถูกบรรยายว่าอบอุ่นและทรงพลัง เหมาะกับนักฟังเพลงที่ต้องการประสบการณ์เสียงระดับอ้างอิง แม้ราคาจะสูงถึงเกือบ 4,000 ดอลลาร์ แต่ก็เป็นการประกาศว่าแผ่นซีดียังไม่ตาย และยังมีเสน่ห์สำหรับสายเครื่องเสียงจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/audio/sacd-is-back-baby-this-beefy-new-audiophile-cd-player-is-deliciously-90s-and-has-built-in-tube-amplification-as-a-bonus 📱 เครือข่ายมือถือแบบไม่ต้องเปิดเผยตัว – Phreeli นี่คือผู้ให้บริการมือถือรายใหม่ที่ชื่อว่า Phreeli จุดเด่นคือการสมัครใช้งานโดยไม่ต้องใช้ชื่อหรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ นอกจากรหัสไปรษณีย์และวิธีการชำระเงิน ซึ่งสามารถใช้คริปโตได้ ทำให้ไม่สามารถเชื่อมโยงเบอร์โทรกับตัวตนจริงได้ ระบบยังมีการป้องกันสแปมและการโทรกวน เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจะถูกขายต่อให้บริษัทโฆษณาหรือหน่วยงานรัฐ แม้บางคนอาจสงสัยว่าใครจะใช้บริการแบบนี้ แต่ผู้ก่อตั้งยืนยันว่ามุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ใช่กลุ่มที่มีเจตนาไม่ดี 🔗 https://www.techradar.com/phones/this-new-anonymous-phone-carrier-doesnt-even-need-your-name-here-are-5-things-you-should-know-about-it 💻 Intel เปลี่ยนใจไม่ขายธุรกิจ NEX เดิมที Intel มีแผนจะขายหรือแยกธุรกิจ Networking and Communications (NEX) ออกไป แต่ล่าสุดบริษัทประกาศว่าจะเก็บไว้ในพอร์ตโฟลิโอ เพราะมองว่าเป็นส่วนสำคัญต่อกลยุทธ์ด้าน AI ศูนย์ข้อมูล และ Edge Computing การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสถานะทางการเงินของ Intel ดีขึ้นจากการลงทุนและการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรอย่าง SoftBank และ Nvidia การเก็บ NEX ไว้ในบริษัทจะช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบทำงานร่วมกันได้แนบแน่นมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/intel-drops-plans-to-sell-networking-and-communication-division 🌐 Windscribe เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้จัดการ IP ได้เอง บริการ VPN อย่าง Windscribe เปิดตัวสองฟีเจอร์ใหม่คือ IP Pinning และ IP Rotation เพื่อให้ผู้ใช้ควบคุม IP ได้สะดวกขึ้น โดย IP Pinning ช่วยล็อก IP ที่ใช้งานได้ดีเพื่อความเสถียร เช่น ใช้กับแอปธนาคาร ส่วน IP Rotation ช่วยเปลี่ยน IP ได้ทันทีโดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อ เหมาะกับการแก้ปัญหา CAPTCHA หรือการบล็อกจากเว็บไซต์ ฟีเจอร์เหล่านี้ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยระบบ API แบบ zero-knowledge ทำให้แม้แต่ Windscribe เองก็ไม่สามารถบันทึกข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/windscribe-rolls-out-new-tools-to-let-you-manage-your-vpn-ip-address-your-way 🚀 AI ถูกส่งขึ้นอวกาศ – Google, Amazon และ xAI สามบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีคือ Google, Amazon และ xAI กำลังร่วมมือกันเพื่อผลักดันโครงการนำ AI ขึ้นไปใช้งานในอวกาศ แนวคิดนี้คือการสร้างระบบประมวลผลที่สามารถทำงานได้โดยตรงบนดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งข้อมูลกลับมายังโลก ซึ่งจะช่วยให้การสื่อสารและการวิเคราะห์ข้อมูลจากอวกาศมีความรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น โครงการนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันในตลาด AI ที่ขยายไปไกลเกินกว่าพื้นโลก และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ AI ในการสำรวจจักรวาลอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/google-amazon-and-xai-want-to-launch-ai-into-space 🤖 หุ่นยนต์ดูดฝุ่นพร้อมระบบถูพื้นขั้นเทพ – Dreame Robovac Dreame เปิดตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ที่มาพร้อมระบบถูพื้นซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา จุดเด่นคือแท่นเก็บผ้าแบบ jukebox ที่สามารถเปลี่ยนผ้าเช็ดถูได้อัตโนมัติ ทำให้การทำความสะอาดต่อเนื่องโดยไม่ต้องคอยเปลี่ยนผ้าเอง หุ่นยนต์ยังมีระบบตรวจจับคราบและปรับแรงกดในการถูพื้นให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิว นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปเพื่อควบคุมและตั้งค่าการทำงานได้อย่างละเอียด ถือเป็นการยกระดับหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านให้ฉลาดและสะดวกสบายยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/dreames-new-robovac-has-the-most-advanced-mop-setup-ive-seen-and-the-jukebox-style-mop-dispenser-is-just-the-start-of-it 🖥️ Windows 11 ปรับโฉม Run Prompt เรื่องที่ดูเหมือนเล็กแต่จริง ๆ แล้วสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ Windows 11 กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือการปรับโฉมหน้าต่าง Run ที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ยุค Windows 95 ให้เข้ากับดีไซน์ Fluent ของยุคใหม่ หน้าต่างนี้จะดูทันสมัยขึ้น ใหญ่ขึ้น และยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยแสดงคำสั่งที่เคยใช้ไปแล้ว ทำให้เรียกใช้งานซ้ำได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งแสดงไอคอนของแอปที่เราจะเปิดอีกด้วย แม้ยังไม่เปิดให้ใช้งานจริง แต่ก็มีการค้นพบในเวอร์ชันทดสอบแล้ว หลายคนก็แอบกังวลว่าจะทำให้การเปิด Run ช้าลง แต่โดยรวมถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รอคอยกันมานาน 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-run-prompt-is-getting-a-makeover-and-a-handy-extra-power-but-already-there-are-worries-microsoft-will-ruin-it 💼 Microsoft 365 เตรียมขึ้นราคา ข่าวนี้อาจทำให้หลายองค์กรต้องขยับงบประมาณ เพราะ Microsoft ประกาศว่าจะปรับขึ้นราคาของแพ็กเกจ Microsoft 365 และ Office 365 สำหรับธุรกิจและหน่วยงานรัฐตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2026 โดยขึ้นระหว่าง 5% ถึง 33% ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ แต่ก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและ AI เข้ามา เช่น Microsoft Defender และ Security Copilot เพื่อช่วยป้องกันภัยไซเบอร์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แม้ราคาจะสูงขึ้น แต่ Microsoft ยืนยันว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่เพิ่มเข้ามา 🔗 https://www.techradar.com/pro/microsoft-365-is-hiking-prices-for-businesses-heres-how-much-it-will-cost-you 🤖 Samsung Ballie Robot เลื่อนเปิดตัวอีกครั้ง หุ่นยนต์กลมสีเหลืองที่ชื่อ Ballie จาก Samsung ซึ่งเคยโชว์ตัวตั้งแต่ปี 2020 และถูกนำกลับมาเปิดตัวใหม่ใน CES 2025 พร้อมสัญญาว่าจะวางขายในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น แต่จนถึงปลายปี 2025 ก็ยังไม่พร้อมวางจำหน่าย Samsung บอกว่ากำลังปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า Ballie ถูกออกแบบให้เป็นผู้ช่วยในบ้าน สามารถฉายภาพยนตร์หรือข้อมูลบนผนัง และตอบคำถามได้ แต่ยังต้องรอการพัฒนาเพิ่มเติม คาดว่าอาจมีความคืบหน้าที่ CES 2026 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/samsungs-ballie-robot-is-delayed-again-and-now-we-know-why ⚠️ การโจมตีไซเบอร์ด้วย Brickworm Malware หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ และแคนาดาออกมาเตือนว่าแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีนใช้มัลแวร์ชื่อ Brickworm เจาะเข้าไปในระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ และองค์กรด้านไอทีทั่วโลก มัลแวร์นี้สามารถฝังตัวในระบบ VMware และ Windows เพื่อเข้าถึงไฟล์ ควบคุม Active Directory และคงการเข้าถึงระยะยาวได้ ทำให้เสี่ยงต่อการสอดแนมและการก่อวินาศกรรมในอนาคต แม้จีนจะปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่รายงานนี้สะท้อนถึงภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อความมั่นคงไซเบอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-used-brickworm-malware-to-breach-critical-us-infrastructure 📡 Ofcom เตรียมเข้มงวดการตรวจสอบไฟล์ในปี 2026 หน่วยงานกำกับดูแลด้านการสื่อสารของสหราชอาณาจักร (Ofcom) มีแผนจะเพิ่มมาตรการตรวจสอบไฟล์ดิจิทัลในปี 2026 โดยจะขยายการเฝ้าระวังและการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกแชร์ผ่านบริการออนไลน์ เพื่อป้องกันการละเมิดและการใช้งานที่ผิดกฎหมาย แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าการตรวจสอบนี้อาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่ Ofcom ยืนยันว่ามีความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยทางดิจิทัลในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ofcom-wants-to-double-down-on-file-monitoring-in-2026 🎶 DAC ตัวใหม่เล็กแต่ทรงพลัง อุปกรณ์ DAC ขนาดเล็กที่เพิ่งเปิดตัวสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก หรือเครื่องเล่นเกม ให้มีคุณภาพเสียงระดับเดียวกับเครื่องเล่นเพลง hi-res ชั้นนำของโลก แม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่คมชัดและทรงพลัง เหมาะสำหรับคนที่รักการฟังเพลงคุณภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์ราคาแพง 🔗 https://www.techradar.com/audio/dacs/this-tiny-new-dac-gives-your-phone-laptop-or-games-console-the-audio-skills-of-the-worlds-best-hi-res-music-player 📺 Netflix ซื้อกิจการ Warner Bros. Discovery มูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ Netflix ประกาศดีลครั้งใหญ่ในการเข้าซื้อ Warner Bros. Discovery ด้วยมูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าจะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกและความคุ้มค่ามากขึ้น ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการสตรีมมิ่ง เพราะจะรวมคอนเทนต์จาก HBO, Discovery และแบรนด์ดังอื่น ๆ เข้ากับ Netflix ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Disney+ และ Amazon Prime เข้มข้นยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/its-official-netflix-is-buying-warner-bros-discovery-claiming-the-deal-means-more-choice-and-greater-value-for-consumers 🤔 Logitech CEO วิจารณ์อุปกรณ์ AI ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Logitech ออกมาแสดงความเห็นว่าอุปกรณ์ AI หลายอย่างในตลาดตอนนี้เป็น “การหาทางแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” ซึ่งสะท้อนถึงความสงสัยว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณค่าแท้จริงต่อผู้ใช้หรือไม่ ความเห็นนี้ได้รับการตอบรับจากหลายฝ่ายที่เห็นว่าอุปกรณ์ AI ยังไม่สามารถพิสูจน์ประโยชน์ที่ชัดเจน แต่ก็มีบางคนมองว่าเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องใช้เวลาเพื่อให้เห็นผลจริง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-solution-looking-for-a-problem-that-doesnt-exist-logitech-ceo-blasts-ai-gadgets-and-most-people-think-thats-being-generous 🛡️ EU เดินหน้ากฎหมาย Chat Control แบบเจาะจงเป้าหมาย เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในยุโรปเกี่ยวกับกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation (CSAR) ที่ถูกเรียกติดปากว่า “Chat Control” ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะกลายเป็นการสอดส่องประชาชนแบบกว้างขวาง แต่ Magnus Brunner กรรมาธิการสหภาพยุโรปด้านกิจการภายในกลับยืนยันว่า เขาเลือกสนับสนุนแนวทางของรัฐสภายุโรปที่เน้นการสแกนแบบเจาะจงเป้าหมาย มากกว่าการสแกนแบบครอบคลุมโดยสมัครใจตามที่สภายุโรปเสนอ เขาย้ำว่า “นี่ไม่ใช่เรื่อง Chat Control แต่เป็นการปกป้องเด็ก” อย่างไรก็ตาม หลายประเทศและผู้เชี่ยวชาญยังคงคัดค้านเพราะมองว่าอาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัว การเจรจารอบสุดท้ายระหว่างสภา คณะกรรมาธิการ และรัฐสภาจะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ชะตาว่ากฎหมายนี้จะออกมาในรูปแบบใด 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-commissioner-backs-parliament-line-on-targeted-monitoring 📡 ปัญหาการเชื่อมต่อที่ซ่อนอยู่ใน IoT เมื่อพูดถึงอุปกรณ์อัจฉริยะ เช่น ถังขยะที่ส่งสัญญาณเมื่อเต็ม หรือเครื่องตรวจหัวใจในบ้านพักคนชรา หลายคนมักคิดว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายเป็นเรื่องที่ “มีอยู่แล้ว” แต่แท้จริงแล้วการออกแบบระบบเชื่อมต่อคือหัวใจสำคัญ หากการเลือกซิมหรือการจัดการสัญญาณไม่ดี อุปกรณ์อาจเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ไม่เสถียร ทำให้ข้อมูลสะดุดหรือเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเทคโนโลยีซิมแบบ Dual IMSI ที่มีการจัดการสัญญาณและ IP แบบคงที่ จะช่วยให้ระบบทำงานได้ราบรื่นและปลอดภัยกว่า การออกแบบโครงสร้างการเชื่อมต่อที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ IoT ใช้งานได้จริงในระดับใหญ่ ไม่ใช่แค่การมีอุปกรณ์ที่ฉลาด แต่ต้องมีเครือข่ายที่ฉลาดด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-connectivity-problem-hiding-in-smart-bins-and-heart-monitors 💻 แฮกเกอร์ปลอมแอปธนาคารเพื่อขโมยข้อมูล นักวิจัยจาก Group-IB เปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อ GoldFactory กำลังใช้วิธีใหม่ในการโจมตี โดยนำแอปธนาคารจริงมาดัดแปลงใส่โค้ดอันตราย แล้วเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ปลอมและการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง แอปที่ถูกปลอมแปลงยังคงทำงานเหมือนจริง ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกขโมยข้อมูล ขณะเดียวกันมัลแวร์ที่ซ่อนอยู่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ทั้งดึงข้อมูล ล็อกอิน หรือแม้แต่สั่งการจากระยะไกล ปัจจุบันมีผู้ใช้หลายหมื่นรายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ตกเป็นเหยื่อ และแนวโน้มอาจขยายไปยังประเทศอื่น ๆ นี่ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและอันตรายมากในโลกการเงินดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hackers-observed-injecting-legitimate-banking-apps-with-malicious-code 📱 Verizon แจก iPhone 17 Pro ฟรีแบบไม่ต้องเทรดเครื่อง Verizon สร้างความฮือฮาด้วยโปรโมชันใหม่ที่ให้ iPhone 17 Pro ฟรีถึง 4 เครื่อง โดยไม่ต้องนำเครื่องเก่ามาแลก เพียงสมัครแพ็กเกจ Welcome Unlimited ที่ราคา 100 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ 4 ไลน์ เท่ากับจ่ายเพียง 25 ดอลลาร์ต่อเครื่องต่อเดือน ซึ่งถ้าคิดเป็นมูลค่ารวมแล้ว ผู้ใช้สามารถประหยัดได้มากกว่า 4,000 ดอลลาร์ ดีลนี้ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับครอบครัวที่ต้องการหลายเครื่อง และแม้แต่ผู้ใช้รายเดียวก็ยังสามารถรับเครื่องฟรีได้เมื่อเปิดไลน์ใหม่ ถือเป็นหนึ่งในดีลที่ดีที่สุดของ Verizon ในปีนี้ 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/verizon-just-surprised-us-with-one-of-its-best-deals-of-the-entire-year-get-four-iphone-17-pro-for-free-without-a-trade-in 🤖 CEO Logitech มองว่าอุปกรณ์ AI เป็น “คำตอบที่ไม่มีคำถาม” Hanneke Faber ซีอีโอของ Logitech ให้สัมภาษณ์ว่า อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ AI โดยเฉพาะ เช่น Humane AI Pin หรือ Rabbit R1 เป็นเพียง “การแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” เพราะสิ่งที่ทำได้ก็ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่แล้ว เธอเชื่อว่าทางที่ถูกต้องคือการฝัง AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ เช่น กล้องเว็บแคมที่ปรับภาพอัตโนมัติ หรือเมาส์ MX Master 4 ที่มีปุ่มเรียก Copilot หรือ ChatGPT ได้ทันที แนวคิดนี้ต่างจากบางบริษัทที่พยายามสร้างอุปกรณ์ใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะ เช่น แว่นตาอัจฉริยะของ Ray-Ban หรือเครื่องบันทึกเสียง AI ของ Plaud ซึ่งอนาคตจะพิสูจน์ว่าแนวทางใดจะอยู่รอด แต่สิ่งที่แน่นอนคือ AI จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกอุปกรณ์ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/logitech-ceo-says-ai-devices-are-just-solutions-looking-for-a-problem 🚀 ทำไมซีอีโอที่เข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ถึงนำหน้าในยุค AI บทความนี้เล่าถึงข้อได้เปรียบของซีอีโอที่มีพื้นฐานด้านการเขียนโปรแกรมหรือเข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพราะพวกเขาสามารถมองเห็นศักยภาพของ AI ได้ลึกกว่า และรู้ว่าควรนำไปใช้ตรงไหนเพื่อสร้างคุณค่า ไม่ใช่แค่ตามกระแส ตัวอย่างเช่น การเข้าใจโครงสร้างข้อมูลและการทำงานของโมเดล ทำให้สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้แม่นยำกว่า และยังช่วยให้ทีมงานเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของผู้นำมากขึ้น ในการแข่งขัน AI ที่รุนแรง การมีผู้นำที่เข้าใจเทคโนโลยีจึงเป็นเหมือนการมี “หัวเรือที่รู้เส้นทาง” 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-ceos-who-understand-software-development-have-a-head-start-in-the-ai-race 🎙️ ปัญหาการถอดเสียงแก้ได้ด้วย Gemini แต่ไม่ใช่ ChatGPT ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าเจอปัญหาใหญ่ในการถอดเสียงไฟล์เสียงยาว ๆ ที่มีหลายสำเนียงและเสียงรบกวน เมื่อทดลองใช้ ChatGPT ผลลัพธ์ออกมาไม่แม่นยำ แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Gemini กลับได้ผลลัพธ์ที่ตรงและจัดการไฟล์ได้ดีกว่า จุดเด่นคือ Gemini สามารถทำงานกับไฟล์เสียงที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังให้ผลลัพธ์ที่พร้อมใช้งานทันที เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ AI หลายเจ้าแข่งกัน แต่แต่ละระบบก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกันไป 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-had-a-big-audio-transcription-problem-gemini-solved-it-and-chatgpt-didnt 📱 ปี 2025 ไม่ได้เป็นปีที่น่าเบื่อของสมาร์ทโฟน หลายคนอาจบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มหมดความตื่นเต้น แต่จริง ๆ แล้วปีนี้กลับเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เริ่มจาก Apple ที่กล้าลองสิ่งใหม่ ๆ ทั้ง iPhone 16e ที่มาพร้อมโมเด็ม C1 และ iPhone Air ที่ออกแบบให้บางและทนทานขึ้น แม้ไม่ใช่รุ่นที่ดีที่สุด แต่ก็สะท้อนความกล้าในการทดลอง ส่วน iPhone 17 Pro ก็พลิกโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple พร้อมเพิ่มเลนส์ซูมและหน้าจอ 120Hz ให้ทันสมัยขึ้น ขณะเดียวกัน Qualcomm ก็สร้างความฮือฮาด้วย Snapdragon 8 Elite ที่แรงและประหยัดพลังงานกว่า ทำให้มือถือ Android ใช้งานได้ยาวนานกว่าสองวันเต็ม อีกด้านหนึ่ง OnePlus 15 กลายเป็นมือถือที่ถูกยกให้เป็น “ตัวเลือกของคนวงใน” ด้วยความทนทานและแบตเตอรี่ที่เหลือเชื่อ สุดท้าย Google ก็เพิ่มฟีเจอร์แม่เหล็กใน Pixel 10 Pro ทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้นอย่างมาก ทั้งการชาร์จ การติดตั้งอุปกรณ์เสริม และการใช้งานร่วมกับกระเป๋าสตางค์แม่เหล็ก เรื่องทั้งหมดนี้บอกได้เลยว่า โทรศัพท์ปี 2025 ไม่ได้เงียบเหงาเลย 🔗 https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai 🛡️ หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐเตือน หยุดใช้ VPN ส่วนตัว CISA หรือหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” เพราะแทนที่จะปลอดภัยขึ้น กลับเพิ่มความเสี่ยงมากกว่าเดิม เหตุผลคือ VPN หลายเจ้า โดยเฉพาะที่ฟรีหรือไม่น่าเชื่อถือ อาจเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาเอง ทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงจากการโจมตีขั้นสูง แม้ VPN จะช่วยซ่อนกิจกรรมจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่ก็เหมือนย้ายความเสี่ยงไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ที่อาจไม่น่าไว้ใจ ทางออกคือเลือกผู้ให้บริการที่มีการตรวจสอบนโยบายไม่เก็บข้อมูลจริง มีการเข้ารหัสมาตรฐานสูง และมีฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch หรือ multi-hop เพื่อเพิ่มความปลอดภัย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการหาทางลัดเพื่อความเป็นส่วนตัว อาจกลายเป็นดาบสองคมได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns 🤖 งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์ Cisco เปิดเผยผลสำรวจที่ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างวัย คนอายุต่ำกว่า 35 ปีมีการใช้งาน AI สูงถึงครึ่งหนึ่ง และกว่า 75% มองว่า AI มีประโยชน์ต่อชีวิตและงาน แต่เมื่อมองไปที่คนอายุเกิน 45 ครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าการปฏิเสธโดยตรง นอกจากนี้ยังพบว่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก มีการนำ AI มาใช้มากที่สุด ขณะที่ยุโรปกลับมีความไม่มั่นใจสูงกว่า ผลวิจัยยังชี้ว่าการใช้ AI มากเกินไปอาจสัมพันธ์กับการใช้หน้าจอมากและความพึงพอใจในชีวิตที่ลดลง ทำให้คำแนะนำคือควรสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม เพื่อให้ “Generation AI” รวมทุกคนจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful ⚖️ EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI ใน WhatsApp คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta หลังจากมีข้อกล่าวหาว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่ง โดย Meta ได้ปรับเงื่อนไข API ของ WhatsApp Business ห้ามไม่ให้แชทบอทจากผู้ให้บริการอื่นที่เน้น AI เป็นหลักถูกเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอนบอทออกไปแล้ว EU กังวลว่า Meta กำลังใช้ความได้เปรียบทางตลาดเพื่อผลักดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบว่ามีความผิด Meta อาจถูกปรับสูงถึง 10% ของรายได้ทั่วโลก หรือประมาณ 16.5 พันล้านดอลลาร์ เรื่องนี้สะท้อนการต่อสู้ระหว่างการเปิดเสรีการแข่งขันกับการควบคุมอำนาจของบริษัทยักษ์ใหญ่ในยุค AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy ⚠️ ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที React ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-55182 ที่ได้คะแนนความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้อยู่ใน React Server Components และกระทบหลายเฟรมเวิร์ก เช่น Next, React Router, Vite ทำให้แม้แต่แฮกเกอร์ที่มีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายได้ ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที เพราะการโจมตีมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% และคาดว่าจะเกิดขึ้นจริงในเวลาอันใกล้ เนื่องจาก React ถูกใช้ในบริการใหญ่ ๆ อย่าง Facebook, Instagram, Netflix และ Shopify ทำให้พื้นที่เสี่ยงมีขนาดมหาศาล เรื่องนี้จึงเป็นสัญญาณเตือนแรงสำหรับนักพัฒนาและองค์กรที่ใช้ React ว่าต้องไม่ชะล่าใจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now 💰 Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินและคริปโตมูลค่า 700 ล้านยูโร หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายยุโรป (Europol) ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในการปิดเครือข่ายอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและคริปโต โดยมีมูลค่าการเคลื่อนไหวสูงถึง 700 ล้านยูโร เครือข่ายนี้ใช้วิธีซับซ้อนในการเคลื่อนย้ายเงินผ่านหลายประเทศและใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อปกปิดเส้นทางการเงิน การปฏิบัติการครั้งนี้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายรายและยึดทรัพย์สินจำนวนมาก ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าองค์กรอาชญากรรมที่พยายามใช้คริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ กำลังถูกจับตามองอย่างเข้มงวด ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 434 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline

    React2Shell: ช่องโหว่ร้ายแรงถูกโจมตีทันที
    มีการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ใน React ที่ชื่อว่า React2Shell (CVE-2025-55182) ซึ่งร้ายแรงถึงขั้นได้คะแนน CVSS เต็ม 10.0 ช่องโหว่นี้เกิดจากการทำงานของ React Server Components ที่สามารถถูกใช้เพื่อรันโค้ดจากระยะไกลโดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน เพียงแค่ระบบรองรับฟีเจอร์นี้ก็เสี่ยงทันที หลังจากถูกเปิดเผยเพียงไม่กี่ชั่วโมง กลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับจีน เช่น Earth Lamia และ Jackpot Panda ก็เริ่มโจมตีทันที โดยใช้วิธีการยิงคำสั่งจำนวนมาก แม้หลายตัวอย่างโค้ดที่เผยแพร่จะไม่ทำงานจริง แต่พวกเขายังคงใช้เพื่อหวังเจอเป้าหมายที่อ่อนแอ การโจมตีบางครั้งถึงขั้นมีการดีบักแบบ manual บนเซิร์ฟเวอร์เป้าหมาย ทำให้เห็นชัดว่ามีการพยายามเจาะระบบอย่างจริงจัง
    https://securityonline.info/react2shell-storm-china-nexus-groups-weaponize-critical-react-flaw-hours-after-disclosure

    ช่องโหว่ PDF Trap ใน Apache Tika
    อีกหนึ่งข่าวใหญ่คือการค้นพบช่องโหว่ใน Apache Tika Core ที่ชื่อว่า PDF Trap (CVE-2025-66516) ซึ่งก็ได้คะแนน CVSS เต็ม 10.0 เช่นกัน ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้ไฟล์ PDF ที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเจาะจงเพื่อเข้าควบคุมระบบได้ทันที เนื่องจาก Tika ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในการประมวลผลเอกสาร ทำให้ความเสี่ยงนี้กระทบวงกว้างมาก โดยเฉพาะองค์กรที่ใช้ Tika ในการจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาล
    https://securityonline.info/the-pdf-trap-critical-vulnerability-cve-2025-66516-cvss-10-0-hits-apache-tika-core

    มัลแวร์ขุดคริปโตแบบลับ ๆ ผ่าน USB
    มีรายงานการพบมัลแวร์ใหม่ที่ใช้เทคนิคซ่อนตัวอย่างแนบเนียน โดยอาศัยไฟล์ USB LNK และ DLL side-loading เพื่อแพร่กระจายและติดตั้งตัวเอง จุดเด่นคือมันสามารถทำงานแบบ “Smart Mining” คือเลือกเวลาที่เหมาะสมในการขุดคริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ทำให้ผู้ใช้แทบไม่รู้ว่าระบบถูกใช้ไปในการขุดเงินดิจิทัล
    https://securityonline.info/stealth-cryptominer-uses-usb-lnk-and-dll-side-loading-to-deploy-smart-mining-evasion

    Apache HTTP Server อุดช่องโหว่ SSRF
    Apache HTTP Server รุ่น 2.4.66 ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ SSRF (CVE-2025-59775) ที่สามารถทำให้ผู้โจมตีดึงข้อมูล NTLM Hashes จาก Windows และยังมีการแก้ไขช่องโหว่ที่เกี่ยวกับการ bypass suexec อีกด้วย การอัปเดตครั้งนี้ถือว่าสำคัญมากสำหรับผู้ดูแลระบบที่ใช้ Apache ในการให้บริการเว็บ เพราะหากไม่อัปเดตทันที อาจเสี่ยงต่อการถูกเจาะระบบและขโมยข้อมูลสำคัญ
    https://securityonline.info/apache-http-server-2-4-66-fixes-ssrf-flaw-cve-2025-59775-exposing-ntlm-hashes-on-windows-and-suexec-bypass

    รัสเซียบล็อก FaceTime แบบเข้ารหัส
    รัฐบาลรัสเซียได้ดำเนินการบล็อกการใช้งาน FaceTime ที่มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end ในระดับเครือข่าย ทำให้ผู้ใช้ในประเทศไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ การบล็อกครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามควบคุมการสื่อสารที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ซึ่งอาจกระทบต่อผู้ใช้ทั่วไปและธุรกิจที่ต้องการความปลอดภัยในการติดต่อสื่อสาร
    https://securityonline.info/russia-imposes-network-level-blockade-on-apples-end-to-end-encrypted-facetime

    ระบบป้องกันการโทรหลอกลวงบน Android
    มีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Android ที่ช่วยป้องกันการโทรหลอกลวง โดยจะ หยุดสายโทรออกชั่วคราว 30 วินาที หากผู้ใช้กำลังใช้งานแอปการเงิน ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ถูกหลอกให้โอนเงินหรือทำธุรกรรมที่ไม่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่อ่อนไหว ถือเป็นการเพิ่มชั้นความปลอดภัยที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางสังคมวิศวกรรม (social engineering)
    https://securityonline.info/new-android-call-scam-protection-pauses-calls-for-30-seconds-during-financial-app-use

    AI ถูกฝึกให้ “สารภาพ” ความผิดพลาด
    OpenAI กำลังทดลองฝึกโมเดล AI ให้สามารถ ยอมรับและสารภาพความผิดพลาดหรือการหลอนข้อมูล (hallucinations) ได้เอง แนวคิดนี้คือการสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยให้ AI สามารถบอกผู้ใช้ว่า “ข้อมูลนี้อาจไม่ถูกต้อง” หรือ “ผมอาจเข้าใจผิด” ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นเมื่อใช้ AI ในงานสำคัญ
    https://securityonline.info/honesty-is-the-best-policy-openai-trains-ai-models-to-confess-errors-and-hallucinations

    Webinar ของ Criminal IP: Beyond CVEs
    Criminal IP เตรียมจัด Webinar ในหัวข้อ “Beyond CVEs – From Visibility to Action with ASM” โดยเน้นการจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่มากกว่าแค่การรู้จักช่องโหว่ (CVE) แต่ไปถึงการลงมือแก้ไขและจัดการเชิงรุก Webinar นี้จะช่วยให้องค์กรเข้าใจการใช้ Attack Surface Management (ASM) เพื่อสร้างความปลอดภัยที่ครอบคลุมมากขึ้น
    https://securityonline.info/criminal-ip-to-host-webinar-beyond-cves-from-visibility-to-action-with-asm

    Sprocket Security ได้รับการยอมรับซ้ำอีกครั้ง
    บริษัท Sprocket Security ได้รับการจัดอันดับซ้ำในดัชนี G2’s Winter 2025 Relationship Index สำหรับบริการทดสอบเจาะระบบ (penetration testing) การได้รับการยอมรับซ้ำนี้สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและคุณภาพของบริการที่ลูกค้าไว้วางใจอย่างต่อเนื่อง
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/sprocket-security-earns-repeat-recognition-in-g2s-winter-2025-relationship-index-for-penetration-testing
    📌🔐🟣 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟣🔐📌 #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline 🛡️ React2Shell: ช่องโหว่ร้ายแรงถูกโจมตีทันที มีการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ใน React ที่ชื่อว่า React2Shell (CVE-2025-55182) ซึ่งร้ายแรงถึงขั้นได้คะแนน CVSS เต็ม 10.0 ช่องโหว่นี้เกิดจากการทำงานของ React Server Components ที่สามารถถูกใช้เพื่อรันโค้ดจากระยะไกลโดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน เพียงแค่ระบบรองรับฟีเจอร์นี้ก็เสี่ยงทันที หลังจากถูกเปิดเผยเพียงไม่กี่ชั่วโมง กลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับจีน เช่น Earth Lamia และ Jackpot Panda ก็เริ่มโจมตีทันที โดยใช้วิธีการยิงคำสั่งจำนวนมาก แม้หลายตัวอย่างโค้ดที่เผยแพร่จะไม่ทำงานจริง แต่พวกเขายังคงใช้เพื่อหวังเจอเป้าหมายที่อ่อนแอ การโจมตีบางครั้งถึงขั้นมีการดีบักแบบ manual บนเซิร์ฟเวอร์เป้าหมาย ทำให้เห็นชัดว่ามีการพยายามเจาะระบบอย่างจริงจัง 🔗 https://securityonline.info/react2shell-storm-china-nexus-groups-weaponize-critical-react-flaw-hours-after-disclosure 📄 ช่องโหว่ PDF Trap ใน Apache Tika อีกหนึ่งข่าวใหญ่คือการค้นพบช่องโหว่ใน Apache Tika Core ที่ชื่อว่า PDF Trap (CVE-2025-66516) ซึ่งก็ได้คะแนน CVSS เต็ม 10.0 เช่นกัน ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้ไฟล์ PDF ที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเจาะจงเพื่อเข้าควบคุมระบบได้ทันที เนื่องจาก Tika ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในการประมวลผลเอกสาร ทำให้ความเสี่ยงนี้กระทบวงกว้างมาก โดยเฉพาะองค์กรที่ใช้ Tika ในการจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาล 🔗 https://securityonline.info/the-pdf-trap-critical-vulnerability-cve-2025-66516-cvss-10-0-hits-apache-tika-core 💻 มัลแวร์ขุดคริปโตแบบลับ ๆ ผ่าน USB มีรายงานการพบมัลแวร์ใหม่ที่ใช้เทคนิคซ่อนตัวอย่างแนบเนียน โดยอาศัยไฟล์ USB LNK และ DLL side-loading เพื่อแพร่กระจายและติดตั้งตัวเอง จุดเด่นคือมันสามารถทำงานแบบ “Smart Mining” คือเลือกเวลาที่เหมาะสมในการขุดคริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ทำให้ผู้ใช้แทบไม่รู้ว่าระบบถูกใช้ไปในการขุดเงินดิจิทัล 🔗 https://securityonline.info/stealth-cryptominer-uses-usb-lnk-and-dll-side-loading-to-deploy-smart-mining-evasion 🌐 Apache HTTP Server อุดช่องโหว่ SSRF Apache HTTP Server รุ่น 2.4.66 ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ SSRF (CVE-2025-59775) ที่สามารถทำให้ผู้โจมตีดึงข้อมูล NTLM Hashes จาก Windows และยังมีการแก้ไขช่องโหว่ที่เกี่ยวกับการ bypass suexec อีกด้วย การอัปเดตครั้งนี้ถือว่าสำคัญมากสำหรับผู้ดูแลระบบที่ใช้ Apache ในการให้บริการเว็บ เพราะหากไม่อัปเดตทันที อาจเสี่ยงต่อการถูกเจาะระบบและขโมยข้อมูลสำคัญ 🔗 https://securityonline.info/apache-http-server-2-4-66-fixes-ssrf-flaw-cve-2025-59775-exposing-ntlm-hashes-on-windows-and-suexec-bypass 🚫 รัสเซียบล็อก FaceTime แบบเข้ารหัส รัฐบาลรัสเซียได้ดำเนินการบล็อกการใช้งาน FaceTime ที่มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end ในระดับเครือข่าย ทำให้ผู้ใช้ในประเทศไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ การบล็อกครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามควบคุมการสื่อสารที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ซึ่งอาจกระทบต่อผู้ใช้ทั่วไปและธุรกิจที่ต้องการความปลอดภัยในการติดต่อสื่อสาร 🔗 https://securityonline.info/russia-imposes-network-level-blockade-on-apples-end-to-end-encrypted-facetime 📱 ระบบป้องกันการโทรหลอกลวงบน Android มีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Android ที่ช่วยป้องกันการโทรหลอกลวง โดยจะ หยุดสายโทรออกชั่วคราว 30 วินาที หากผู้ใช้กำลังใช้งานแอปการเงิน ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ถูกหลอกให้โอนเงินหรือทำธุรกรรมที่ไม่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่อ่อนไหว ถือเป็นการเพิ่มชั้นความปลอดภัยที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางสังคมวิศวกรรม (social engineering) 🔗 https://securityonline.info/new-android-call-scam-protection-pauses-calls-for-30-seconds-during-financial-app-use 🤖 AI ถูกฝึกให้ “สารภาพ” ความผิดพลาด OpenAI กำลังทดลองฝึกโมเดล AI ให้สามารถ ยอมรับและสารภาพความผิดพลาดหรือการหลอนข้อมูล (hallucinations) ได้เอง แนวคิดนี้คือการสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยให้ AI สามารถบอกผู้ใช้ว่า “ข้อมูลนี้อาจไม่ถูกต้อง” หรือ “ผมอาจเข้าใจผิด” ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นเมื่อใช้ AI ในงานสำคัญ 🔗 https://securityonline.info/honesty-is-the-best-policy-openai-trains-ai-models-to-confess-errors-and-hallucinations 🎤 Webinar ของ Criminal IP: Beyond CVEs Criminal IP เตรียมจัด Webinar ในหัวข้อ “Beyond CVEs – From Visibility to Action with ASM” โดยเน้นการจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่มากกว่าแค่การรู้จักช่องโหว่ (CVE) แต่ไปถึงการลงมือแก้ไขและจัดการเชิงรุก Webinar นี้จะช่วยให้องค์กรเข้าใจการใช้ Attack Surface Management (ASM) เพื่อสร้างความปลอดภัยที่ครอบคลุมมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/criminal-ip-to-host-webinar-beyond-cves-from-visibility-to-action-with-asm 🏆 Sprocket Security ได้รับการยอมรับซ้ำอีกครั้ง บริษัท Sprocket Security ได้รับการจัดอันดับซ้ำในดัชนี G2’s Winter 2025 Relationship Index สำหรับบริการทดสอบเจาะระบบ (penetration testing) การได้รับการยอมรับซ้ำนี้สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและคุณภาพของบริการที่ลูกค้าไว้วางใจอย่างต่อเนื่อง ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/sprocket-security-earns-repeat-recognition-in-g2s-winter-2025-relationship-index-for-penetration-testing
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 252 มุมมอง 0 รีวิว
  • iMac G3 กลับมาในร่าง M4-powered

    นักโมดิฟาย YouTube ชื่อ Zac Builds ได้สร้างโปรเจกต์สุดเจ๋ง โดยนำ iMac G3 รุ่นคลาสสิกจากยุค 90s มาดัดแปลงใหม่ให้กลายเป็น M4 iMac G3 ที่ใช้งานได้จริง ด้วยการใส่ Mac mini รุ่นใหม่, จอ 4K OLED และชิ้นส่วน 3D-printed เพื่อเสริมความแข็งแรง

    โปรเจกต์นี้เริ่มจากการรื้อ iMac G3 ออกทั้งหมด เหลือเพียงโครงและเคสใสสีขาว จากนั้น Zac ใช้เครื่องพิมพ์ 3D สร้างชิ้นส่วนเสริมเพื่อให้โครงแข็งแรงขึ้น ก่อนจะติดตั้ง Mac mini รุ่น M4 เป็นสมองหลักของเครื่อง พร้อมระบบไฟที่ดัดแปลงจาก power supply เดิมของ G3

    การปรับแต่งและอัปเกรด
    เพิ่ม ลำโพงใหม่ พร้อมแอมป์ดิจิทัล 200 วัตต์ เพื่อแทนที่ลำโพงเดิมที่เสียหาย
    ติดตั้ง Dock SSD เพื่อขยายความจุโดยไม่ต้องจ่ายแพงให้ Apple
    สร้างพอร์ตใหม่ เช่น Thunderbolt, USB-C, USB-A และ Ethernet ผ่านชิ้นส่วน 3D-printed
    ใส่ จอ 14 นิ้ว 4K OLED พร้อมตัวแปลงที่ทำให้หน้าจอเข้ากับเคสโค้งของ G3 ได้อย่างลงตัว

    ความหมายและผลกระทบ
    โปรเจกต์นี้ไม่เพียงแต่สร้างความ nostalgia ให้กับผู้ใช้ที่เคยสัมผัส iMac G3 ในยุค 90s แต่ยังสะท้อนถึงการผสมผสานระหว่าง ดีไซน์คลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่ทำให้เครื่องใช้งานได้จริงในปัจจุบัน แม้ภายในจะเต็มไปด้วยสายไฟที่ดูยุ่งเหยิง แต่ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของการรีไซเคิลและการสร้างสรรค์ในวงการ maker

    ข้อควรระวัง
    แม้โปรเจกต์นี้จะน่าสนใจ แต่การดัดแปลงลักษณะนี้ต้องใช้ความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์และการพิมพ์ 3D ขั้นสูง หากทำผิดพลาดอาจทำให้เครื่องเสียหายหรือเกิดอันตรายจากไฟฟ้าได้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Zac Builds ดัดแปลง iMac G3 เป็น M4 iMac G3
    ใช้ Mac mini รุ่นใหม่และจอ 4K OLED

    การปรับแต่งด้วย 3D Printing และอุปกรณ์ใหม่
    เพิ่มพอร์ต, ลำโพง, SSD dock และแอมป์ดิจิทัล

    ความหมายเชิง nostalgia และการรีไซเคิล
    ผสมผสานดีไซน์คลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่

    คำเตือนสำหรับผู้ที่อยากทำตาม
    ต้องมีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์และการพิมพ์ 3D
    เสี่ยงต่อความเสียหายและอันตรายจากไฟฟ้าหากทำผิดพลาด

    https://www.tomshardware.com/maker-stem/intrepid-modder-builds-an-m4-powered-4k-imac-g3-with-3d-printed-parts-guts-90s-all-in-one-and-replaces-internals-with-a-mac-mini-and-an-oled-screen
    🖥️ iMac G3 กลับมาในร่าง M4-powered นักโมดิฟาย YouTube ชื่อ Zac Builds ได้สร้างโปรเจกต์สุดเจ๋ง โดยนำ iMac G3 รุ่นคลาสสิกจากยุค 90s มาดัดแปลงใหม่ให้กลายเป็น M4 iMac G3 ที่ใช้งานได้จริง ด้วยการใส่ Mac mini รุ่นใหม่, จอ 4K OLED และชิ้นส่วน 3D-printed เพื่อเสริมความแข็งแรง โปรเจกต์นี้เริ่มจากการรื้อ iMac G3 ออกทั้งหมด เหลือเพียงโครงและเคสใสสีขาว จากนั้น Zac ใช้เครื่องพิมพ์ 3D สร้างชิ้นส่วนเสริมเพื่อให้โครงแข็งแรงขึ้น ก่อนจะติดตั้ง Mac mini รุ่น M4 เป็นสมองหลักของเครื่อง พร้อมระบบไฟที่ดัดแปลงจาก power supply เดิมของ G3 🔧 การปรับแต่งและอัปเกรด 💠 เพิ่ม ลำโพงใหม่ พร้อมแอมป์ดิจิทัล 200 วัตต์ เพื่อแทนที่ลำโพงเดิมที่เสียหาย 💠 ติดตั้ง Dock SSD เพื่อขยายความจุโดยไม่ต้องจ่ายแพงให้ Apple 💠 สร้างพอร์ตใหม่ เช่น Thunderbolt, USB-C, USB-A และ Ethernet ผ่านชิ้นส่วน 3D-printed 💠 ใส่ จอ 14 นิ้ว 4K OLED พร้อมตัวแปลงที่ทำให้หน้าจอเข้ากับเคสโค้งของ G3 ได้อย่างลงตัว 🌍 ความหมายและผลกระทบ โปรเจกต์นี้ไม่เพียงแต่สร้างความ nostalgia ให้กับผู้ใช้ที่เคยสัมผัส iMac G3 ในยุค 90s แต่ยังสะท้อนถึงการผสมผสานระหว่าง ดีไซน์คลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่ทำให้เครื่องใช้งานได้จริงในปัจจุบัน แม้ภายในจะเต็มไปด้วยสายไฟที่ดูยุ่งเหยิง แต่ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของการรีไซเคิลและการสร้างสรรค์ในวงการ maker ⚠️ ข้อควรระวัง แม้โปรเจกต์นี้จะน่าสนใจ แต่การดัดแปลงลักษณะนี้ต้องใช้ความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์และการพิมพ์ 3D ขั้นสูง หากทำผิดพลาดอาจทำให้เครื่องเสียหายหรือเกิดอันตรายจากไฟฟ้าได้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Zac Builds ดัดแปลง iMac G3 เป็น M4 iMac G3 ➡️ ใช้ Mac mini รุ่นใหม่และจอ 4K OLED ✅ การปรับแต่งด้วย 3D Printing และอุปกรณ์ใหม่ ➡️ เพิ่มพอร์ต, ลำโพง, SSD dock และแอมป์ดิจิทัล ✅ ความหมายเชิง nostalgia และการรีไซเคิล ➡️ ผสมผสานดีไซน์คลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ที่อยากทำตาม ⛔ ต้องมีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์และการพิมพ์ 3D ⛔ เสี่ยงต่อความเสียหายและอันตรายจากไฟฟ้าหากทำผิดพลาด https://www.tomshardware.com/maker-stem/intrepid-modder-builds-an-m4-powered-4k-imac-g3-with-3d-printed-parts-guts-90s-all-in-one-and-replaces-internals-with-a-mac-mini-and-an-oled-screen
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple และ Tesla ถูกฟ้องเรื่องสิทธิมนุษยชน

    องค์กร International Rights Advocates ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ยื่นฟ้อง Apple และ Tesla ต่อศาล โดยกล่าวหาว่าทั้งสองบริษัทใช้ การตลาดที่หลอกลวง อ้างว่าสินค้าของตนผลิตอย่างยั่งยืนและมีจริยธรรม แต่ในความจริงกลับพึ่งพาแร่ โคบอลต์และโคลแทน จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซึ่งเชื่อมโยงกับการใช้แรงงานเด็ก การข่มขืน การทรมาน และการสังหาร

    ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
    รายงานระบุว่าการทำเหมืองในคองโกได้สร้างผลกระทบมหาศาลต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การปล่อยสารเคมีลงแม่น้ำและทะเลสาบ ทำลายแหล่งน้ำดื่มและเกษตรกรรม รวมถึงทำให้เกิดโรคผิวหนังและความผิดปกติทางสุขภาพในชุมชน ขณะเดียวกัน ความขัดแย้งเพื่อแย่งชิงทรัพยากรได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 6 ล้านคนตั้งแต่ปี 1996 และยังคงทำให้ผู้คนหลายล้านต้องพลัดถิ่น

    คำตอบจากบริษัท
    Apple ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่า 99% ของโคบอลต์ในแบตเตอรี่ที่ออกแบบโดย Apple มาจากการรีไซเคิล และบริษัทได้สั่งให้ซัพพลายเออร์หยุดการจัดหาจากพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง Tesla ยังไม่ได้ให้คำตอบต่อสื่อ แต่ถูกกล่าวหาว่าใช้ซัพพลายเออร์เดียวกันกับ Apple ซึ่งมีประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชน

    ความเสี่ยงและข้อกังวล
    แม้บริษัทจะมีนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม แต่รายงานชี้ว่าการบังคับใช้ยังไม่เพียงพอ และมีความเสี่ยงสูงที่แร่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์จะยังคงเชื่อมโยงกับการละเมิดสิทธิและการทำลายสิ่งแวดล้อม หากไม่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้อย่างโปร่งใส

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Apple และ Tesla ถูกฟ้องในสหรัฐฯ
    ข้อกล่าวหาว่าใช้การตลาดหลอกลวงเกี่ยวกับการผลิตที่ยั่งยืน

    การใช้แร่โคบอลต์และโคลแทนจากคองโก
    เชื่อมโยงกับแรงงานเด็ก การทรมาน และการสังหาร

    ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน
    สารเคมีทำลายแหล่งน้ำและเกษตรกรรม ก่อโรคและความเสียหายต่อสุขภาพ

    คำเตือนและข้อกังวล
    ความขัดแย้งในคองโกคร่าชีวิตประชาชนกว่า 6 ล้านคนตั้งแต่ปี 1996
    การตรวจสอบย้อนกลับของซัพพลายเชนยังไม่โปร่งใสและเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/06/apple-tesla-accused-of-profiting-from-horrific-abuses-environmental-destruction
    ⚖️ Apple และ Tesla ถูกฟ้องเรื่องสิทธิมนุษยชน องค์กร International Rights Advocates ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ยื่นฟ้อง Apple และ Tesla ต่อศาล โดยกล่าวหาว่าทั้งสองบริษัทใช้ การตลาดที่หลอกลวง อ้างว่าสินค้าของตนผลิตอย่างยั่งยืนและมีจริยธรรม แต่ในความจริงกลับพึ่งพาแร่ โคบอลต์และโคลแทน จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซึ่งเชื่อมโยงกับการใช้แรงงานเด็ก การข่มขืน การทรมาน และการสังหาร 🌍 ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม รายงานระบุว่าการทำเหมืองในคองโกได้สร้างผลกระทบมหาศาลต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การปล่อยสารเคมีลงแม่น้ำและทะเลสาบ ทำลายแหล่งน้ำดื่มและเกษตรกรรม รวมถึงทำให้เกิดโรคผิวหนังและความผิดปกติทางสุขภาพในชุมชน ขณะเดียวกัน ความขัดแย้งเพื่อแย่งชิงทรัพยากรได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 6 ล้านคนตั้งแต่ปี 1996 และยังคงทำให้ผู้คนหลายล้านต้องพลัดถิ่น 🛑 คำตอบจากบริษัท Apple ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่า 99% ของโคบอลต์ในแบตเตอรี่ที่ออกแบบโดย Apple มาจากการรีไซเคิล และบริษัทได้สั่งให้ซัพพลายเออร์หยุดการจัดหาจากพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง Tesla ยังไม่ได้ให้คำตอบต่อสื่อ แต่ถูกกล่าวหาว่าใช้ซัพพลายเออร์เดียวกันกับ Apple ซึ่งมีประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชน ⚠️ ความเสี่ยงและข้อกังวล แม้บริษัทจะมีนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม แต่รายงานชี้ว่าการบังคับใช้ยังไม่เพียงพอ และมีความเสี่ยงสูงที่แร่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์จะยังคงเชื่อมโยงกับการละเมิดสิทธิและการทำลายสิ่งแวดล้อม หากไม่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้อย่างโปร่งใส 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Apple และ Tesla ถูกฟ้องในสหรัฐฯ ➡️ ข้อกล่าวหาว่าใช้การตลาดหลอกลวงเกี่ยวกับการผลิตที่ยั่งยืน ✅ การใช้แร่โคบอลต์และโคลแทนจากคองโก ➡️ เชื่อมโยงกับแรงงานเด็ก การทรมาน และการสังหาร ✅ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ➡️ สารเคมีทำลายแหล่งน้ำและเกษตรกรรม ก่อโรคและความเสียหายต่อสุขภาพ ‼️ คำเตือนและข้อกังวล ⛔ ความขัดแย้งในคองโกคร่าชีวิตประชาชนกว่า 6 ล้านคนตั้งแต่ปี 1996 ⛔ การตรวจสอบย้อนกลับของซัพพลายเชนยังไม่โปร่งใสและเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/06/apple-tesla-accused-of-profiting-from-horrific-abuses-environmental-destruction
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Apple, Tesla accused of profiting from horrific abuses, environmental destruction
    According to the filing, Apple's suppliers engage in forced and child labour, and beatings of workers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • Netflix ซื้อ Warner Bros Discovery

    Netflix ประกาศเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2025 ว่าได้บรรลุข้อตกลงซื้อกิจการ Warner Bros Discovery ครอบคลุมสตูดิโอภาพยนตร์, ทีวี และบริการสตรีมมิ่ง HBO Max ด้วยมูลค่า 72 พันล้านดอลลาร์ ดีลนี้เกิดขึ้นหลังจาก Warner Bros ปฏิเสธข้อเสนอจาก Paramount และ Comcast ก่อนหน้านี้ และเลือก Netflix เพราะข้อเสนอมีความชัดเจนและมั่นคงกว่า

    กลยุทธ์และการตัดสินใจ
    Netflix เริ่มสนใจดีลนี้หลัง Warner Bros ประกาศแผนแยกธุรกิจเคเบิลทีวีออกจากสตูดิโอและสตรีมมิ่ง ทำให้ Netflix มองเห็นโอกาสในการเสริมคลังคอนเทนต์ที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะภาพยนตร์และซีรีส์คลาสสิกที่ยังคงมีผู้ชมจำนวนมาก นอกจากนี้ Netflix ยังเสนอ ค่าปรับหากดีลล้มเหลวสูงถึง 5.8 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะผ่านการตรวจสอบด้านกฎหมายการแข่งขัน

    ผลกระทบต่อวงการบันเทิง
    การควบรวมครั้งนี้ทำให้ Netflix กลายเป็นผู้เล่นที่ทรงพลังที่สุดในตลาดสตรีมมิ่ง โดยมีทั้งคลังคอนเทนต์ใหม่และเก่า รวมถึงโครงสร้างการจัดจำหน่ายภาพยนตร์ระดับโลก ดีลนี้ยังสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อคู่แข่งอย่าง Disney+, Amazon Prime และ Apple TV+ ที่ต้องเร่งปรับกลยุทธ์เพื่อแข่งขันกับ Netflix ที่มีทั้ง คอนเทนต์, เทคโนโลยี และฐานผู้ใช้มหาศาล

    ความท้าทายและข้อควรระวัง
    แม้ดีลนี้จะเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ แต่ Netflix ยังต้องเผชิญกับการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการผูกขาด และแรงกดดันจากสหภาพแรงงานฮอลลีวูดที่กังวลเรื่องการรวมศูนย์อำนาจในอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงด้านหนี้สินและการบริหารจัดการองค์กรขนาดใหญ่ที่ซับซ้อน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Netflix ซื้อ Warner Bros Discovery มูลค่า 72 พันล้านดอลลาร์
    ครอบคลุมสตูดิโอภาพยนตร์, ทีวี และ HBO Max

    กลยุทธ์ Netflix เน้นเสริมคลังคอนเทนต์และสร้างความมั่นใจ
    เสนอค่าปรับ 5.8 พันล้านดอลลาร์หากดีลล้มเหลว

    ผลกระทบต่อวงการบันเทิงโลก
    Netflix กลายเป็นผู้เล่นที่ทรงพลังที่สุดในตลาดสตรีมมิ่ง

    คำเตือนและความท้าทาย
    อาจถูกตรวจสอบด้านการผูกขาดและแรงกดดันจากสหภาพแรงงาน
    ความเสี่ยงด้านหนี้สินและการบริหารองค์กรขนาดใหญ่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/06/exclusive-how-netflix-won-hollywood039s-biggest-prize-warner-bros-discovery
    🎬 Netflix ซื้อ Warner Bros Discovery Netflix ประกาศเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2025 ว่าได้บรรลุข้อตกลงซื้อกิจการ Warner Bros Discovery ครอบคลุมสตูดิโอภาพยนตร์, ทีวี และบริการสตรีมมิ่ง HBO Max ด้วยมูลค่า 72 พันล้านดอลลาร์ ดีลนี้เกิดขึ้นหลังจาก Warner Bros ปฏิเสธข้อเสนอจาก Paramount และ Comcast ก่อนหน้านี้ และเลือก Netflix เพราะข้อเสนอมีความชัดเจนและมั่นคงกว่า 📊 กลยุทธ์และการตัดสินใจ Netflix เริ่มสนใจดีลนี้หลัง Warner Bros ประกาศแผนแยกธุรกิจเคเบิลทีวีออกจากสตูดิโอและสตรีมมิ่ง ทำให้ Netflix มองเห็นโอกาสในการเสริมคลังคอนเทนต์ที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะภาพยนตร์และซีรีส์คลาสสิกที่ยังคงมีผู้ชมจำนวนมาก นอกจากนี้ Netflix ยังเสนอ ค่าปรับหากดีลล้มเหลวสูงถึง 5.8 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะผ่านการตรวจสอบด้านกฎหมายการแข่งขัน 🌍 ผลกระทบต่อวงการบันเทิง การควบรวมครั้งนี้ทำให้ Netflix กลายเป็นผู้เล่นที่ทรงพลังที่สุดในตลาดสตรีมมิ่ง โดยมีทั้งคลังคอนเทนต์ใหม่และเก่า รวมถึงโครงสร้างการจัดจำหน่ายภาพยนตร์ระดับโลก ดีลนี้ยังสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อคู่แข่งอย่าง Disney+, Amazon Prime และ Apple TV+ ที่ต้องเร่งปรับกลยุทธ์เพื่อแข่งขันกับ Netflix ที่มีทั้ง คอนเทนต์, เทคโนโลยี และฐานผู้ใช้มหาศาล ⚠️ ความท้าทายและข้อควรระวัง แม้ดีลนี้จะเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ แต่ Netflix ยังต้องเผชิญกับการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการผูกขาด และแรงกดดันจากสหภาพแรงงานฮอลลีวูดที่กังวลเรื่องการรวมศูนย์อำนาจในอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงด้านหนี้สินและการบริหารจัดการองค์กรขนาดใหญ่ที่ซับซ้อน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Netflix ซื้อ Warner Bros Discovery มูลค่า 72 พันล้านดอลลาร์ ➡️ ครอบคลุมสตูดิโอภาพยนตร์, ทีวี และ HBO Max ✅ กลยุทธ์ Netflix เน้นเสริมคลังคอนเทนต์และสร้างความมั่นใจ ➡️ เสนอค่าปรับ 5.8 พันล้านดอลลาร์หากดีลล้มเหลว ✅ ผลกระทบต่อวงการบันเทิงโลก ➡️ Netflix กลายเป็นผู้เล่นที่ทรงพลังที่สุดในตลาดสตรีมมิ่ง ‼️ คำเตือนและความท้าทาย ⛔ อาจถูกตรวจสอบด้านการผูกขาดและแรงกดดันจากสหภาพแรงงาน ⛔ ความเสี่ยงด้านหนี้สินและการบริหารองค์กรขนาดใหญ่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/06/exclusive-how-netflix-won-hollywood039s-biggest-prize-warner-bros-discovery
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Exclusive-How Netflix won Hollywood's biggest prize, Warner Bros Discovery
    LOS ANGELES/NEW YORK, Dec 5 (Reuters) - What started as a fact-finding mission for Netflix culminated in one of the biggest media deals in the last decade and one that stands to reshape the global entertainment business landscape, people with direct knowledge of the deal told Reuters.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta ซื้อกิจการ Limitless

    เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2025 Meta ประกาศเข้าซื้อกิจการ Limitless (เดิมชื่อ Rewind) ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่พัฒนาอุปกรณ์สวมใส่รูปแบบ pendant ที่สามารถบันทึกเสียงการสนทนา ถอดความ และสร้างสรุปที่ค้นหาได้ผ่านแอปพลิเคชันคู่ข้าง อุปกรณ์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่เป็น AI assistant ส่วนตัว ที่ช่วยเสริมความจำและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในชีวิตประจำวัน

    กลยุทธ์ของ Meta ในตลาด AI Wearables
    ดีลนี้เกิดขึ้นหลังจาก Meta เพิ่งดึงตัว Alan Dye อดีตผู้บริหารด้านการออกแบบของ Apple เข้ามาเสริมทีม เพื่อเน้นการพัฒนาอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่มีความล้ำสมัยมากขึ้น ปัจจุบัน Meta มีความร่วมมือกับ EssilorLuxottica (เจ้าของแบรนด์ Ray-Ban และ Oakley) ในการผลิต AI-powered smart glasses และการซื้อ Limitless จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางเทคนิคในการสร้างอุปกรณ์สวมใส่ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้มากขึ้น

    ผลกระทบต่อผู้ใช้งานและตลาด
    แม้ Meta จะยังไม่เปิดเผยรายละเอียดทางการเงิน แต่ Limitless ยืนยันว่าจะยังคงสนับสนุนผู้ใช้เดิมต่อไป อย่างไรก็ตาม บริษัทจะ หยุดขายอุปกรณ์ใหม่ให้ลูกค้าใหม่ และผู้ใช้ปัจจุบันต้องยอมรับเงื่อนไขความเป็นส่วนตัวใหม่เพื่อใช้งานต่อไป Limitless เคยระดมทุนได้กว่า 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนักลงทุนรายใหญ่ เช่น Sam Altman และ Andreessen Horowitz (A16z) ซึ่งสะท้อนถึงความสนใจในตลาด AI wearables ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    ความท้าทายและข้อควรระวัง
    แม้การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วย Meta เร่งพัฒนาอุปกรณ์สวมใส่ แต่ก็มีข้อกังวลเรื่อง ความเป็นส่วนตัว เนื่องจากอุปกรณ์ Limitless สามารถบันทึกการสนทนาในชีวิตจริงได้ตลอดเวลา หากไม่มีมาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวด อาจนำไปสู่การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลและสร้างความกังวลต่อผู้ใช้และสังคมโดยรวม

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Meta เข้าซื้อกิจการ Limitless
    อุปกรณ์ “pendant” บันทึกและถอดความการสนทนา

    เสริมกลยุทธ์ AI-enabled consumer hardware
    ร่วมมือกับ Ray-Ban และ Oakley ในการพัฒนา smart glasses

    ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน
    ผู้ใช้เดิมยังได้รับการสนับสนุน แต่หยุดขายให้ลูกค้าใหม่

    คำเตือนด้านความเป็นส่วนตัว
    อุปกรณ์สามารถบันทึกการสนทนาได้ตลอดเวลา
    ผู้ใช้ต้องยอมรับเงื่อนไขใหม่เพื่อใช้งานต่อไป

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/06/meta-acquires-ai-wearables-startup-limitless
    📰 Meta ซื้อกิจการ Limitless เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2025 Meta ประกาศเข้าซื้อกิจการ Limitless (เดิมชื่อ Rewind) ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่พัฒนาอุปกรณ์สวมใส่รูปแบบ pendant ที่สามารถบันทึกเสียงการสนทนา ถอดความ และสร้างสรุปที่ค้นหาได้ผ่านแอปพลิเคชันคู่ข้าง อุปกรณ์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่เป็น AI assistant ส่วนตัว ที่ช่วยเสริมความจำและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในชีวิตประจำวัน 🤝 กลยุทธ์ของ Meta ในตลาด AI Wearables ดีลนี้เกิดขึ้นหลังจาก Meta เพิ่งดึงตัว Alan Dye อดีตผู้บริหารด้านการออกแบบของ Apple เข้ามาเสริมทีม เพื่อเน้นการพัฒนาอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่มีความล้ำสมัยมากขึ้น ปัจจุบัน Meta มีความร่วมมือกับ EssilorLuxottica (เจ้าของแบรนด์ Ray-Ban และ Oakley) ในการผลิต AI-powered smart glasses และการซื้อ Limitless จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางเทคนิคในการสร้างอุปกรณ์สวมใส่ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้มากขึ้น 🌐 ผลกระทบต่อผู้ใช้งานและตลาด แม้ Meta จะยังไม่เปิดเผยรายละเอียดทางการเงิน แต่ Limitless ยืนยันว่าจะยังคงสนับสนุนผู้ใช้เดิมต่อไป อย่างไรก็ตาม บริษัทจะ หยุดขายอุปกรณ์ใหม่ให้ลูกค้าใหม่ และผู้ใช้ปัจจุบันต้องยอมรับเงื่อนไขความเป็นส่วนตัวใหม่เพื่อใช้งานต่อไป Limitless เคยระดมทุนได้กว่า 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนักลงทุนรายใหญ่ เช่น Sam Altman และ Andreessen Horowitz (A16z) ซึ่งสะท้อนถึงความสนใจในตลาด AI wearables ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ⚠️ ความท้าทายและข้อควรระวัง แม้การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วย Meta เร่งพัฒนาอุปกรณ์สวมใส่ แต่ก็มีข้อกังวลเรื่อง ความเป็นส่วนตัว เนื่องจากอุปกรณ์ Limitless สามารถบันทึกการสนทนาในชีวิตจริงได้ตลอดเวลา หากไม่มีมาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวด อาจนำไปสู่การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลและสร้างความกังวลต่อผู้ใช้และสังคมโดยรวม 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Meta เข้าซื้อกิจการ Limitless ➡️ อุปกรณ์ “pendant” บันทึกและถอดความการสนทนา ✅ เสริมกลยุทธ์ AI-enabled consumer hardware ➡️ ร่วมมือกับ Ray-Ban และ Oakley ในการพัฒนา smart glasses ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน ➡️ ผู้ใช้เดิมยังได้รับการสนับสนุน แต่หยุดขายให้ลูกค้าใหม่ ‼️ คำเตือนด้านความเป็นส่วนตัว ⛔ อุปกรณ์สามารถบันทึกการสนทนาได้ตลอดเวลา ⛔ ผู้ใช้ต้องยอมรับเงื่อนไขใหม่เพื่อใช้งานต่อไป https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/06/meta-acquires-ai-wearables-startup-limitless
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta acquires AI-wearables startup Limitless
    Dec 5 (Reuters) - Meta has acquired AI-wearables startup Limitless, maker of a pendant-style device that records and transcribes real-world conversations, as the social media giant doubles down on efforts to build AI-enabled consumer hardware.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • Cloudflare ล่มทั่วโลก 5 ธันวาคม 2025

    วันที่ 5 ธันวาคม 2025 Cloudflare เกิดเหตุขัดข้องทั่วโลกกว่า 25 นาที ส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์และบริการสำคัญจำนวนมาก สาเหตุเกิดจากการปรับเปลี่ยนระบบเพื่อป้องกันช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components (CVE-2025-55182) ซึ่งเป็นช่องโหว่ที่สามารถถูกใช้โจมตีแบบ Remote Code Execution ได้

    Cloudflare ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตที่สำคัญ เกิดเหตุขัดข้องราว 25 นาทีในช่วงเช้าวันที่ 5 ธันวาคม 2025 ส่งผลให้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันจำนวนมาก เช่น LinkedIn, Spotify, Canva, Coinbase, Kraken และแม้แต่ ChatGPT ไม่สามารถใช้งานได้ ผู้ใช้ทั่วโลกพบเจอข้อความ HTTP 500 Internal Server Error ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบหลังบ้านของ Cloudflare

    สาเหตุ: ช่องโหว่ React Server Components (CVE-2025-55182)
    เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการโจมตีไซเบอร์ แต่เกิดจากการปรับเปลี่ยนระบบ Web Application Firewall (WAF) ของ Cloudflare เพื่อรับมือกับช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกค้นพบเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด CVSS 10.0 และสามารถเปิดทางให้ผู้โจมตีรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ทำให้ Cloudflareต้องเร่งปรับระบบเพื่อป้องกันลูกค้า แต่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวกลับกระทบต่อการทำงานและทำให้ระบบล่มชั่วคราว

    ผลกระทบต่อธุรกิจและผู้ใช้งาน
    การล่มของ Cloudflare ส่งผลกระทบต่อกว่า 20% ของทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตทั่วโลก โดยเฉพาะแพลตฟอร์มการเงินและคริปโต เช่น Coinbase และ Kraken ที่ไม่สามารถให้บริการได้ในช่วงเวลาสำคัญ ขณะที่ผู้ใช้งานในอินเดียรายงานว่า Zerodha และ Groww ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการลงทุนก็หยุดทำงานเช่นกัน เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาบริการโครงสร้างพื้นฐานจากผู้ให้บริการรายใหญ่เพียงไม่กี่ราย

    ความเสี่ยงและคำเตือนจากช่องโหว่ React2Shell
    ช่องโหว่ CVE-2025-55182 หรือที่ถูกเรียกว่า React2Shell กำลังถูกจับตามองอย่างหนัก เนื่องจากมีรายงานว่ากลุ่มแฮกเกอร์จากจีนเริ่มพยายามใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้แล้ว แม้ React และ Next.js จะออกแพตช์แก้ไขแล้ว แต่ยังมีระบบจำนวนมากที่ไม่ได้อัปเดตทันเวลา ทำให้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีในวงกว้าง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เหตุการณ์ Cloudflare ล่มทั่วโลก (5 ธ.ค. 2025)
    กระทบกว่า 28% ของทราฟฟิก HTTP และบริการสำคัญ เช่น LinkedIn, Spotify, Coinbase

    สาเหตุจากการปรับระบบ WAF เพื่อแก้ช่องโหว่ React Server Components
    ช่องโหว่ CVE-2025-55182 มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด CVSS 10.0

    ผลกระทบต่อธุรกิจและผู้ใช้งาน
    แพลตฟอร์มการเงินและคริปโต เช่น Coinbase, Kraken, Zerodha, Groww หยุดให้บริการชั่วคราว

    คำเตือนด้านความปลอดภัย
    ช่องโหว่ React2Shell เริ่มถูกแฮกเกอร์จีนใช้โจมตีแล้ว
    หากระบบยังไม่ได้อัปเดตแพตช์ล่าสุด มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกโจมตีแบบ Remote Code Execution

    https://blog.cloudflare.com/5-december-2025-outage/
    🖥️ Cloudflare ล่มทั่วโลก 5 ธันวาคม 2025 วันที่ 5 ธันวาคม 2025 Cloudflare เกิดเหตุขัดข้องทั่วโลกกว่า 25 นาที ส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์และบริการสำคัญจำนวนมาก สาเหตุเกิดจากการปรับเปลี่ยนระบบเพื่อป้องกันช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components (CVE-2025-55182) ซึ่งเป็นช่องโหว่ที่สามารถถูกใช้โจมตีแบบ Remote Code Execution ได้ Cloudflare ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตที่สำคัญ เกิดเหตุขัดข้องราว 25 นาทีในช่วงเช้าวันที่ 5 ธันวาคม 2025 ส่งผลให้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันจำนวนมาก เช่น LinkedIn, Spotify, Canva, Coinbase, Kraken และแม้แต่ ChatGPT ไม่สามารถใช้งานได้ ผู้ใช้ทั่วโลกพบเจอข้อความ HTTP 500 Internal Server Error ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบหลังบ้านของ Cloudflare 🔒 สาเหตุ: ช่องโหว่ React Server Components (CVE-2025-55182) เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการโจมตีไซเบอร์ แต่เกิดจากการปรับเปลี่ยนระบบ Web Application Firewall (WAF) ของ Cloudflare เพื่อรับมือกับช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกค้นพบเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด CVSS 10.0 และสามารถเปิดทางให้ผู้โจมตีรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ทำให้ Cloudflareต้องเร่งปรับระบบเพื่อป้องกันลูกค้า แต่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวกลับกระทบต่อการทำงานและทำให้ระบบล่มชั่วคราว 🌐 ผลกระทบต่อธุรกิจและผู้ใช้งาน การล่มของ Cloudflare ส่งผลกระทบต่อกว่า 20% ของทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตทั่วโลก โดยเฉพาะแพลตฟอร์มการเงินและคริปโต เช่น Coinbase และ Kraken ที่ไม่สามารถให้บริการได้ในช่วงเวลาสำคัญ ขณะที่ผู้ใช้งานในอินเดียรายงานว่า Zerodha และ Groww ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการลงทุนก็หยุดทำงานเช่นกัน เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาบริการโครงสร้างพื้นฐานจากผู้ให้บริการรายใหญ่เพียงไม่กี่ราย ⚠️ ความเสี่ยงและคำเตือนจากช่องโหว่ React2Shell ช่องโหว่ CVE-2025-55182 หรือที่ถูกเรียกว่า React2Shell กำลังถูกจับตามองอย่างหนัก เนื่องจากมีรายงานว่ากลุ่มแฮกเกอร์จากจีนเริ่มพยายามใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้แล้ว แม้ React และ Next.js จะออกแพตช์แก้ไขแล้ว แต่ยังมีระบบจำนวนมากที่ไม่ได้อัปเดตทันเวลา ทำให้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีในวงกว้าง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เหตุการณ์ Cloudflare ล่มทั่วโลก (5 ธ.ค. 2025) ➡️ กระทบกว่า 28% ของทราฟฟิก HTTP และบริการสำคัญ เช่น LinkedIn, Spotify, Coinbase ✅ สาเหตุจากการปรับระบบ WAF เพื่อแก้ช่องโหว่ React Server Components ➡️ ช่องโหว่ CVE-2025-55182 มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด CVSS 10.0 ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจและผู้ใช้งาน ➡️ แพลตฟอร์มการเงินและคริปโต เช่น Coinbase, Kraken, Zerodha, Groww หยุดให้บริการชั่วคราว ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัย ⛔ ช่องโหว่ React2Shell เริ่มถูกแฮกเกอร์จีนใช้โจมตีแล้ว ⛔ หากระบบยังไม่ได้อัปเดตแพตช์ล่าสุด มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกโจมตีแบบ Remote Code Execution https://blog.cloudflare.com/5-december-2025-outage/
    BLOG.CLOUDFLARE.COM
    Cloudflare outage on December 5, 2025
    Cloudflare experienced a significant traffic outage on December 5, 2025, starting approximately at 8:47 UTC. The incident lasted approximately 25 minutes before resolution. We are sorry for the impact that it caused to our customers and the Internet. The incident was not caused by an attack and was due to configuration changes being applied to attempt to mitigate a recent industry-wide vulnerability impacting React Server Components.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าว: ClayRat Android Spyware รุ่นใหม่ – ยึดเครื่องได้เต็มรูปแบบ

    นักวิจัยจาก Zimperium พบว่า ClayRat Android spyware ได้พัฒนาความสามารถใหม่จนสามารถยึดเครื่องได้เต็มรูปแบบ โดยใช้การหลอกให้ผู้ใช้เปิด Accessibility Services เพื่อขโมย PIN, บันทึกหน้าจอ และปิดระบบความปลอดภัยอย่าง Google Play Protect

    ClayRat รุ่นล่าสุดสามารถ บันทึกหน้าจอทั้งหมด, ขโมยรหัส PIN/Password/Pattern, และ ปิดการทำงานของ Google Play Protect ผ่านการสร้างหน้าจอปลอม เช่น “System Update” เพื่อหลอกผู้ใช้ให้กดอนุญาต ทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมเครื่องได้เหมือนเจ้าของจริง

    วิธีการแพร่กระจาย
    มัลแวร์นี้ยังคงใช้วิธีปลอมตัวเป็นแอปยอดนิยม เช่น WhatsApp, Google Photos, TikTok, YouTube รวมถึงบริการท้องถิ่นอย่างแอปแท็กซี่และที่จอดรถในรัสเซีย นอกจากนี้ยังใช้ Dropbox เป็นช่องทางกระจายไฟล์ และมีโดเมนฟิชชิงกว่า 25 แห่งที่เลียนแบบแอปต่าง ๆ

    ความเสี่ยงต่อธุรกิจ
    เนื่องจากพนักงานจำนวนมากใช้มือถือส่วนตัวทำงาน หากเครื่องติด ClayRat ผู้โจมตีสามารถเข้าถึง อีเมลบริษัท, แอปแชท, และข้อมูลธุรกิจ ได้ทันที Zimperium พบแล้วกว่า 700 เวอร์ชันของ ClayRat ที่ถูกปล่อยออกมา แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของการโจมตี

    วิธีป้องกัน
    ผู้ใช้ควรติดตั้งแอปจาก Google Play Store เท่านั้น และตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึง โดยเฉพาะ Accessibility Services ก่อนอนุญาต หากพบพฤติกรรมผิดปกติ เช่น แอปที่ขอสิทธิ์มากเกินไป ควรลบออกทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดเครื่อง

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ของ ClayRat
    บันทึกหน้าจอและขโมย PIN/Password
    ปิด Google Play Protect ด้วยหน้าจอปลอม

    วิธีแพร่กระจาย
    ปลอมเป็นแอปยอดนิยมและบริการท้องถิ่น
    ใช้ Dropbox และโดเมนฟิชชิงกว่า 25 แห่ง

    ความเสี่ยงต่อธุรกิจ
    เข้าถึงอีเมลและข้อมูลบริษัทผ่านมือถือพนักงาน
    พบแล้วกว่า 700 เวอร์ชันของ ClayRat

    วิธีป้องกัน
    ติดตั้งแอปจาก Google Play Store เท่านั้น
    ตรวจสอบสิทธิ์ Accessibility Services อย่างรอบคอบ

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    การอนุญาต Accessibility Services โดยไม่ตรวจสอบเสี่ยงต่อการถูกยึดเครื่อง
    แอปที่ปลอมตัวอาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวและธุรกิจรั่วไหล

    https://hackread.com/clayrat-android-spyware-variant-device-control/
    📰 ข่าว: ClayRat Android Spyware รุ่นใหม่ – ยึดเครื่องได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยจาก Zimperium พบว่า ClayRat Android spyware ได้พัฒนาความสามารถใหม่จนสามารถยึดเครื่องได้เต็มรูปแบบ โดยใช้การหลอกให้ผู้ใช้เปิด Accessibility Services เพื่อขโมย PIN, บันทึกหน้าจอ และปิดระบบความปลอดภัยอย่าง Google Play Protect ClayRat รุ่นล่าสุดสามารถ บันทึกหน้าจอทั้งหมด, ขโมยรหัส PIN/Password/Pattern, และ ปิดการทำงานของ Google Play Protect ผ่านการสร้างหน้าจอปลอม เช่น “System Update” เพื่อหลอกผู้ใช้ให้กดอนุญาต ทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมเครื่องได้เหมือนเจ้าของจริง 🎭 วิธีการแพร่กระจาย มัลแวร์นี้ยังคงใช้วิธีปลอมตัวเป็นแอปยอดนิยม เช่น WhatsApp, Google Photos, TikTok, YouTube รวมถึงบริการท้องถิ่นอย่างแอปแท็กซี่และที่จอดรถในรัสเซีย นอกจากนี้ยังใช้ Dropbox เป็นช่องทางกระจายไฟล์ และมีโดเมนฟิชชิงกว่า 25 แห่งที่เลียนแบบแอปต่าง ๆ 🏢 ความเสี่ยงต่อธุรกิจ เนื่องจากพนักงานจำนวนมากใช้มือถือส่วนตัวทำงาน หากเครื่องติด ClayRat ผู้โจมตีสามารถเข้าถึง อีเมลบริษัท, แอปแชท, และข้อมูลธุรกิจ ได้ทันที Zimperium พบแล้วกว่า 700 เวอร์ชันของ ClayRat ที่ถูกปล่อยออกมา แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของการโจมตี 🔒 วิธีป้องกัน ผู้ใช้ควรติดตั้งแอปจาก Google Play Store เท่านั้น และตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึง โดยเฉพาะ Accessibility Services ก่อนอนุญาต หากพบพฤติกรรมผิดปกติ เช่น แอปที่ขอสิทธิ์มากเกินไป ควรลบออกทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดเครื่อง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ของ ClayRat ➡️ บันทึกหน้าจอและขโมย PIN/Password ➡️ ปิด Google Play Protect ด้วยหน้าจอปลอม ✅ วิธีแพร่กระจาย ➡️ ปลอมเป็นแอปยอดนิยมและบริการท้องถิ่น ➡️ ใช้ Dropbox และโดเมนฟิชชิงกว่า 25 แห่ง ✅ ความเสี่ยงต่อธุรกิจ ➡️ เข้าถึงอีเมลและข้อมูลบริษัทผ่านมือถือพนักงาน ➡️ พบแล้วกว่า 700 เวอร์ชันของ ClayRat ✅ วิธีป้องกัน ➡️ ติดตั้งแอปจาก Google Play Store เท่านั้น ➡️ ตรวจสอบสิทธิ์ Accessibility Services อย่างรอบคอบ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ การอนุญาต Accessibility Services โดยไม่ตรวจสอบเสี่ยงต่อการถูกยึดเครื่อง ⛔ แอปที่ปลอมตัวอาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวและธุรกิจรั่วไหล https://hackread.com/clayrat-android-spyware-variant-device-control/
    HACKREAD.COM
    New Variant of ClayRat Android Spyware Seize Full Device Control
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • หูฟังไร้สาย – เทคโนโลยีเล็ก ๆ ที่ช่วยชีวิตผู้มี Autism

    บทความจาก SlashGear เล่าเรื่องราวของผู้เขียนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น Autism ระดับ 1 ร่วมกับ ADHD และรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบต้องถูกตีความใหม่ แต่สิ่งที่ช่วยให้เขากลับมามีสมดุลในชีวิตคือ หูฟังไร้สาย (True Wireless Earbuds) ที่มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนและการปรับแต่งเสียงเพื่อช่วยให้การสื่อสารและการใช้ชีวิตง่ายขึ้น

    ผู้เขียนเล่าว่าหลังจากผ่านการทดสอบทางจิตวิทยา 6 ชั่วโมง ผลออกมาว่าเป็น Autism ระดับ 1 และ ADHD ทำให้ต้องตีความชีวิตใหม่ทั้งหมด สิ่งที่เคยเป็นปัญหา เช่น ความไวต่อเสียงและการสื่อสารในที่แออัด กลายเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของโรค

    ปัญหาการประมวลผลเสียง
    สมองของคนทั่วไปสามารถกรองเสียงรบกวนออก แต่สมองของผู้มี Autism มักจะให้ความสำคัญกับทุกเสียงเท่า ๆ กัน ทำให้การอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตหรือสถานที่แออัดเหมือนอยู่ในสนามรบ หูฟังที่มี Active Noise Cancelling (ANC) จึงช่วยลดภาวะ “fight or flight” ที่เกิดขึ้นจากเสียงรบกวนได้จริง

    ฟีเจอร์ช่วยเหลือการสื่อสาร
    หูฟังรุ่นใหม่ เช่น Samsung Galaxy Buds3 Pro หรือ AirPods Pro มีฟีเจอร์ “Boost voices in front of you” ที่ช่วยขยายเสียงพูดตรงหน้าและลดเสียงรอบข้าง ทำให้ผู้เขียนสามารถสื่อสารกับเภสัชกรได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องอ่านปาก ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตประจำวัน

    เทคโนโลยีเพื่อการเข้าถึง
    บทความชี้ว่าแม้บริษัทใหญ่เช่น Apple และ Samsung อาจไม่ได้กำไรโดยตรงจากการเพิ่มฟีเจอร์ด้านการเข้าถึง แต่การพัฒนาเหล่านี้กลับช่วยผู้มีความบกพร่องทางการได้ยินและ Autism ได้มาก เป็นตัวอย่างของเทคโนโลยีที่ไม่เพียงตอบโจทย์ตลาดทั่วไป แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้ที่มีความต้องการพิเศษ

    สรุปสาระสำคัญ
    การวินิจฉัย Autism และ ADHD
    ทำให้ผู้เขียนต้องตีความชีวิตใหม่
    ความไวต่อเสียงเป็นปัญหาหลัก

    ปัญหาการประมวลผลเสียง
    สมองไม่กรองเสียงรบกวน
    สถานที่แออัดเหมือนสนามรบ

    ฟีเจอร์หูฟังช่วยชีวิต
    Active Noise Cancelling ลดภาวะ fight or flight
    Boost voices in front of you ช่วยสื่อสารชัดเจน

    เทคโนโลยีเพื่อการเข้าถึง
    Apple และ Samsung เพิ่มฟีเจอร์แม้ไม่มีกำไรสูง
    ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้มีความต้องการพิเศษ

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    การพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปอาจทำให้ละเลยการพัฒนาทักษะอื่น
    ฟีเจอร์บางอย่างยังไม่รองรับทุกอุปกรณ์และอาจมีข้อจำกัด

    https://www.slashgear.com/2043765/autism-diagnosis-upended-sense-self-this-gadget-help-reclaim-it/
    📰 หูฟังไร้สาย – เทคโนโลยีเล็ก ๆ ที่ช่วยชีวิตผู้มี Autism บทความจาก SlashGear เล่าเรื่องราวของผู้เขียนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น Autism ระดับ 1 ร่วมกับ ADHD และรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบต้องถูกตีความใหม่ แต่สิ่งที่ช่วยให้เขากลับมามีสมดุลในชีวิตคือ หูฟังไร้สาย (True Wireless Earbuds) ที่มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนและการปรับแต่งเสียงเพื่อช่วยให้การสื่อสารและการใช้ชีวิตง่ายขึ้น ผู้เขียนเล่าว่าหลังจากผ่านการทดสอบทางจิตวิทยา 6 ชั่วโมง ผลออกมาว่าเป็น Autism ระดับ 1 และ ADHD ทำให้ต้องตีความชีวิตใหม่ทั้งหมด สิ่งที่เคยเป็นปัญหา เช่น ความไวต่อเสียงและการสื่อสารในที่แออัด กลายเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของโรค 🔊 ปัญหาการประมวลผลเสียง สมองของคนทั่วไปสามารถกรองเสียงรบกวนออก แต่สมองของผู้มี Autism มักจะให้ความสำคัญกับทุกเสียงเท่า ๆ กัน ทำให้การอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตหรือสถานที่แออัดเหมือนอยู่ในสนามรบ หูฟังที่มี Active Noise Cancelling (ANC) จึงช่วยลดภาวะ “fight or flight” ที่เกิดขึ้นจากเสียงรบกวนได้จริง 🛠️ ฟีเจอร์ช่วยเหลือการสื่อสาร หูฟังรุ่นใหม่ เช่น Samsung Galaxy Buds3 Pro หรือ AirPods Pro มีฟีเจอร์ “Boost voices in front of you” ที่ช่วยขยายเสียงพูดตรงหน้าและลดเสียงรอบข้าง ทำให้ผู้เขียนสามารถสื่อสารกับเภสัชกรได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องอ่านปาก ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตประจำวัน 🌐 เทคโนโลยีเพื่อการเข้าถึง บทความชี้ว่าแม้บริษัทใหญ่เช่น Apple และ Samsung อาจไม่ได้กำไรโดยตรงจากการเพิ่มฟีเจอร์ด้านการเข้าถึง แต่การพัฒนาเหล่านี้กลับช่วยผู้มีความบกพร่องทางการได้ยินและ Autism ได้มาก เป็นตัวอย่างของเทคโนโลยีที่ไม่เพียงตอบโจทย์ตลาดทั่วไป แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้ที่มีความต้องการพิเศษ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การวินิจฉัย Autism และ ADHD ➡️ ทำให้ผู้เขียนต้องตีความชีวิตใหม่ ➡️ ความไวต่อเสียงเป็นปัญหาหลัก ✅ ปัญหาการประมวลผลเสียง ➡️ สมองไม่กรองเสียงรบกวน ➡️ สถานที่แออัดเหมือนสนามรบ ✅ ฟีเจอร์หูฟังช่วยชีวิต ➡️ Active Noise Cancelling ลดภาวะ fight or flight ➡️ Boost voices in front of you ช่วยสื่อสารชัดเจน ✅ เทคโนโลยีเพื่อการเข้าถึง ➡️ Apple และ Samsung เพิ่มฟีเจอร์แม้ไม่มีกำไรสูง ➡️ ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้มีความต้องการพิเศษ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ การพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปอาจทำให้ละเลยการพัฒนาทักษะอื่น ⛔ ฟีเจอร์บางอย่างยังไม่รองรับทุกอุปกรณ์และอาจมีข้อจำกัด https://www.slashgear.com/2043765/autism-diagnosis-upended-sense-self-this-gadget-help-reclaim-it/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    My Autism Diagnosis Upended My Sense Of Self, But One Gadget Is Helping Me Reclaim It - SlashGear
    True wireless earbuds can be a great help for people with autism, thanks to their active noice cancelling and accessibility features.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • Jolla Phone รุ่นใหม่ เปิดพรีออเดอร์แล้ว

    Jolla Phone รุ่นใหม่มาพร้อม Mediatek 5G SoC, RAM 12 GB, หน่วยความจำ 256 GB (ขยายได้ถึง 2 TB), หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.36 นิ้ว FullHD, และแบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนได้ 5,500 mAh ตัวเครื่องรองรับ 4G/5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.4, NFC และกล้องหลัก 50 MP + Ultrawide 13 MP พร้อมกล้องหน้าเลนส์กว้าง

    ฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัว
    โทรศัพท์นี้มี Privacy Switch แบบกายภาพ ที่ผู้ใช้สามารถปิดไมโครโฟน, Bluetooth, หรือ Android apps ได้ตามต้องการ Sailfish OS ที่ติดตั้งมาเป็นระบบ Linux ทางเลือกจากยุโรป เน้นความปลอดภัย ไม่มีการติดตามหรือส่งข้อมูลกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์

    การขับเคลื่อนโดยชุมชน
    สเปกและฟีเจอร์หลายอย่างถูกโหวตโดยชุมชนผู้ใช้ Sailfish OS ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา Jolla ย้ำว่าโทรศัพท์นี้เป็น “Do It Together (DIT)” phone ที่ออกแบบร่วมกันโดยผู้ใช้ ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่ถูกกำหนดโดยบริษัทใหญ่

    ราคาและการวางจำหน่าย
    เปิดพรีออเดอร์แล้วในราคา 99 ยูโร (มัดจำ) โดยจะผลิตก็ต่อเมื่อมีอย่างน้อย 2,000 เครื่องถูกสั่งภายในวันที่ 4 มกราคม 2026 ราคาจริงจะอยู่ที่ 499 ยูโร (รวม VAT) และจะเริ่มขายในยุโรป, สหราชอาณาจักร, สวิตเซอร์แลนด์ และนอร์เวย์

    สรุปสาระสำคัญ
    สเปกเครื่อง
    Mediatek 5G SoC, RAM 12 GB, SSD สูงสุด 2 TB
    กล้องหลัก 50 MP + Ultrawide 13 MP, แบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนได้

    ฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัว
    Privacy Switch ปิดไมโครโฟน, Bluetooth, Android apps
    Sailfish OS ไม่มีการติดตามหรือส่งข้อมูลกลับ

    การขับเคลื่อนโดยชุมชน
    สเปกและฟีเจอร์โหวตโดยผู้ใช้
    แนวคิด “Do It Together” phone

    ราคาและการวางจำหน่าย
    มัดจำ 99 ยูโร, ราคาจริง 499 ยูโร
    จำเป็นต้องมีพรีออเดอร์ขั้นต่ำ 2,000 เครื่อง

    คำเตือนสำหรับผู้สนใจ
    หากไม่ถึงจำนวนขั้นต่ำ โทรศัพท์อาจไม่ได้ผลิตจริง
    การวางจำหน่ายจำกัดเฉพาะตลาดยุโรปและบางประเทศเท่านั้น

    https://9to5linux.com/new-jolla-phone-now-available-for-pre-order-as-an-independent-linux-phone
    📰 Jolla Phone รุ่นใหม่ เปิดพรีออเดอร์แล้ว Jolla Phone รุ่นใหม่มาพร้อม Mediatek 5G SoC, RAM 12 GB, หน่วยความจำ 256 GB (ขยายได้ถึง 2 TB), หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.36 นิ้ว FullHD, และแบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนได้ 5,500 mAh ตัวเครื่องรองรับ 4G/5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.4, NFC และกล้องหลัก 50 MP + Ultrawide 13 MP พร้อมกล้องหน้าเลนส์กว้าง 🔒 ฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัว โทรศัพท์นี้มี Privacy Switch แบบกายภาพ ที่ผู้ใช้สามารถปิดไมโครโฟน, Bluetooth, หรือ Android apps ได้ตามต้องการ Sailfish OS ที่ติดตั้งมาเป็นระบบ Linux ทางเลือกจากยุโรป เน้นความปลอดภัย ไม่มีการติดตามหรือส่งข้อมูลกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ 🌐 การขับเคลื่อนโดยชุมชน สเปกและฟีเจอร์หลายอย่างถูกโหวตโดยชุมชนผู้ใช้ Sailfish OS ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา Jolla ย้ำว่าโทรศัพท์นี้เป็น “Do It Together (DIT)” phone ที่ออกแบบร่วมกันโดยผู้ใช้ ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่ถูกกำหนดโดยบริษัทใหญ่ 💵 ราคาและการวางจำหน่าย เปิดพรีออเดอร์แล้วในราคา 99 ยูโร (มัดจำ) โดยจะผลิตก็ต่อเมื่อมีอย่างน้อย 2,000 เครื่องถูกสั่งภายในวันที่ 4 มกราคม 2026 ราคาจริงจะอยู่ที่ 499 ยูโร (รวม VAT) และจะเริ่มขายในยุโรป, สหราชอาณาจักร, สวิตเซอร์แลนด์ และนอร์เวย์ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ สเปกเครื่อง ➡️ Mediatek 5G SoC, RAM 12 GB, SSD สูงสุด 2 TB ➡️ กล้องหลัก 50 MP + Ultrawide 13 MP, แบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนได้ ✅ ฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัว ➡️ Privacy Switch ปิดไมโครโฟน, Bluetooth, Android apps ➡️ Sailfish OS ไม่มีการติดตามหรือส่งข้อมูลกลับ ✅ การขับเคลื่อนโดยชุมชน ➡️ สเปกและฟีเจอร์โหวตโดยผู้ใช้ ➡️ แนวคิด “Do It Together” phone ✅ ราคาและการวางจำหน่าย ➡️ มัดจำ 99 ยูโร, ราคาจริง 499 ยูโร ➡️ จำเป็นต้องมีพรีออเดอร์ขั้นต่ำ 2,000 เครื่อง ‼️ คำเตือนสำหรับผู้สนใจ ⛔ หากไม่ถึงจำนวนขั้นต่ำ โทรศัพท์อาจไม่ได้ผลิตจริง ⛔ การวางจำหน่ายจำกัดเฉพาะตลาดยุโรปและบางประเทศเท่านั้น https://9to5linux.com/new-jolla-phone-now-available-for-pre-order-as-an-independent-linux-phone
    9TO5LINUX.COM
    New Jolla Phone Now Available for Pre-Order as an Independent Linux Phone - 9to5Linux
    Jolla kicked off a campaign for a new Jolla Phone as the independent European Do It Together Linux phone, shaped by the people who use it.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts