• รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251210 #TechRadar

    ความฝัน AGI ที่ยังไกลเกินเอื้อม
    นักวิจัย AI ในงานประชุม NeurIPS 2025 ออกมาเตือนว่า แม้ Google จะฉลองความสำเร็จของ Gemini 3 แต่ความจริงแล้วการสร้าง “ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป” หรือ AGI ยังห่างไกลมาก ปัญหาคือการพัฒนาโมเดลขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้ทำให้มันฉลาดขึ้นจริง ๆ แต่กลับติดกำแพงที่เรียกว่า “scaling wall” ทั้งเรื่องข้อมูลที่เริ่มหมดคุณภาพ การใช้พลังงานมหาศาล และที่สำคัญคือโมเดลยังไม่เข้าใจเหตุและผลอย่างแท้จริง หลายคนเสนอแนวทางใหม่ เช่น สถาปัตยกรรมแบบ neurosymbolic ที่ผสมผสานการเรียนรู้เชิงสถิติและตรรกะ หรือ “world models” ที่จำลองการรับรู้โลกแบบมนุษย์ เพื่อให้ AI ไม่ใช่แค่ตอบได้ แต่เข้าใจจริง ๆ https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/agi-is-a-pipe-dream-until-we-solve-one-big-problem-ai-experts-say-even-as-google-celebrates-geminis-success

    เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ 14 ปีในอินโดนีเซียถูกโค่น
    นักวิจัย Malanta.ai พบโครงสร้างอาชญากรรมไซเบอร์ขนาดมหึมาในอินโดนีเซียที่ดำเนินการต่อเนื่องกว่า 14 ปี มีการควบคุมโดเมนกว่า 320,000 แห่ง รวมถึงซับโดเมนของรัฐบาลที่ถูกแฮ็ก ใช้แพลตฟอร์มคลาวด์อย่าง AWS และ Firebase ในการสั่งการมัลแวร์ และสร้างแอป Android ปลอมที่กระจายไปทั่ว ผลคือข้อมูลล็อกอินการพนันกว่า 50,000 รายการถูกขโมยไป นักวิจัยตั้งข้อสงสัยว่านี่อาจไม่ใช่แค่กลุ่มอาชญากรทั่วไป แต่มีลักษณะคล้ายปฏิบัติการระดับรัฐ https://www.techradar.com/pro/security/national-cybercrime-network-operating-for-14-years-dismantled-in-indonesia

    บอร์ด Framework เก่าถูกชุบชีวิตเป็นคลัสเตอร์คอมพิวเตอร์
    โครงการ Kickstarter ที่ชื่อ FrameCluster เสนอไอเดียเปลี่ยนเมนบอร์ด Framework ที่ไม่ได้ใช้แล้วให้กลายเป็นระบบคลัสเตอร์ขนาดเล็ก โดยใช้ชิ้นส่วนที่พิมพ์ 3D ทั้งหมด มันไม่ได้เน้นพลังประมวลผลสูงสุด แต่เน้นการจัดระเบียบและการนำฮาร์ดแวร์เก่ามาใช้ใหม่ เหมาะสำหรับงานทดลองหรือโฮสต์เซอร์วิสเล็ก ๆ แม้จะยังระดมทุนได้ไม่มาก แต่ก็เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการรีไซเคิลเทคโนโลยีให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง https://www.techradar.com/pro/your-own-supercomputer-made-up-of-old-framework-motherboards-this-kickstarter-project-aims-to-achieve-just-that

    รีวิว Fairphone Fairbuds XL 2025 หูฟังรักษ์โลก
    Fairphone เปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ Fairbuds XL 2025 ที่ยังคงจุดขายด้านความยั่งยืน ใช้วัสดุรีไซเคิลและแร่ธาตุที่ได้จากการทำเหมืองอย่างเป็นธรรม จุดเด่นคือการควบคุมด้วยจอยสติ๊กเล็ก ๆ ที่ใช้งานง่ายและสนุก เสียงออกมาแนวสนุกสนาน มีพลังเบส แต่ยังไม่ละเอียดเท่าคู่แข่งรายใหญ่ จุดที่อาจทำให้ลังเลคือราคาที่สูงกว่าแบรนด์อื่น และฟีเจอร์เสริมที่ยังไม่ครบ แต่ถ้ามองเรื่องสิ่งแวดล้อมและการใช้งานระยะยาว หูฟังนี้ถือว่าโดดเด่นมาก https://www.techradar.com/audio/wireless-headphones/fairphone-fairbuds-xl-2025-review

    7 มือถือแนะนำสำหรับของขวัญคริสต์มาส
    TechRadar รวบรวมมือถือที่เหมาะจะซื้อเป็นของขวัญคริสต์มาสปีนี้ โดยแบ่งตามกลุ่มผู้ใช้ เช่น สำหรับทุกคนทั่วไปมีตัวเลือกอย่าง iPhone 17, Samsung Galaxy S25 และ Google Pixel 10 ส่วนวัยรุ่นเหมาะกับ iPhone 16 ที่ยังเร็วและรองรับอัปเดตอีกหลายปี สำหรับพ่อแม่แนะนำ Samsung Galaxy A36 ที่จอใหญ่ แบตอึด และราคาคุ้มค่า ถ้าเป็นแฟน Apple ก็มี iPhone 17 Pro ที่ครบเครื่อง หรือถ้าเป็นสาย Android ตัวแรง OnePlus 15 ก็เป็นดาวเด่นปีนี้ เรียกว่ามีตัวเลือกสำหรับทุกสไตล์และงบประมาณ https://www.techradar.com/phones/buying-someone-a-new-phone-this-christmas-here-are-my-7-expert-recommendations-for-every-type-of-person

    โฆษณาใน Gemini ยังไม่มา แต่อนาคตอาจเลี่ยงไม่พ้น
    ช่วงนี้โลก AI กำลังถูกจับตามองเรื่องโฆษณาในแชตบอท หลังจากที่ผู้ใช้ ChatGPT แบบโปรราคา 200 ดอลลาร์ต่อเดือนเจอ “app suggestions” โผล่มาเหมือนโฆษณา จนบริษัทต้องรีบถอดออกและยอมรับว่าพลาดไป ขณะที่คู่แข่งอย่าง Google Gemini รีบออกมาปฏิเสธข่าวลือว่าไม่มีแผนจะใส่โฆษณาในแอปตอนนี้ แต่คำว่า “ตอนนี้” ก็ทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัย เพราะค่าใช้จ่ายมหาศาลในการดูแลระบบ AI อาจทำให้วันหนึ่งโฆษณากลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เรื่องนี้สะท้อนว่าอนาคตของผู้ช่วย AI อาจไม่พ้นการกลายเป็นพื้นที่โฆษณา เพียงแต่จะมาเมื่อไหร่เท่านั้น https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/ads-arent-coming-to-gemini-google-says-but-openai-has-shown-that-the-inevitable-is-coming

    Xiaomi และ Motorola เตรียมส่งแท็กคู่แข่ง AirTag
    ตั้งแต่ Apple เปิดตัว AirTag ในปี 2021 ก็แทบจะครองตลาดอุปกรณ์ติดตามของหาย ล่าสุดมีข่าวลือว่า Xiaomi และ Motorola กำลังจะเปิดตัวแท็กของตัวเอง โดยทั้งคู่จะรองรับเทคโนโลยี ultra wide-band ที่แม่นยำกว่าเดิม Xiaomi อาจเปิดตัวพร้อมมือถือรุ่นใหม่ปลายปี ส่วน Motorola ก็มีภาพหลุดของ Moto Tag 2 ที่จะมาพร้อมสีใหม่และกันน้ำได้ด้วย ราคายังไม่ประกาศ แต่คาดว่าจะใกล้เคียงกับรุ่นก่อนที่ขายราว 40 ดอลลาร์ ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Android ที่อยากได้ตัวเลือกใหม่ในการติดตามของสำคัญ https://www.techradar.com/phones/android/forget-apple-airtags-motorola-and-xiaomi-are-rumored-to-be-launching-android-equivalents-soon

    Dyson V8 Cyclone รุ่นพื้นฐานที่ทำความสะอาดได้เกินคาด
    นักรีวิวเครื่องดูดฝุ่นจาก TechRadar ได้ลอง Dyson V8 Cyclone ซึ่งเป็นรุ่นพื้นฐาน ไม่มีฟีเจอร์ล้ำ ๆ เหมือนรุ่นใหม่ ๆ แต่กลับทำความสะอาดได้ดีจนเหนือความคาดหมาย ในการทดสอบเปรียบเทียบกับรุ่นไฮเทคอย่าง Dyson V16 และ Shark Detect Pro รุ่น V8 Cyclone กลับทำคะแนนสูงกว่า จุดเด่นคือแรงดูดและหัวดูดที่ออกแบบเรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ ทำให้ตั้งคำถามว่าบางครั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกออกแบบซับซ้อนเกินไปอาจไม่ได้ช่วยให้ใช้งานดีขึ้นเสมอไป https://www.techradar.com/home/vacuums/i-was-blown-away-by-this-basic-dyson-vacuums-cleaning-powers-and-im-wondering-if-modern-vacs-are-over-engineered

      IKEA เปิดตัวไฟอัจฉริยะราคาถูกที่สุด
    IKEA เปิดตัวไฟ LED รุ่นใหม่ชื่อ Gömpyssling ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เปิดปุ๊บติดปั๊บ เหมาะสำหรับติดในตู้หรือชั้นวางของ จุดเด่นคือราคาถูกมาก แค่สองชิ้นราคาเพียง 3 ปอนด์ในอังกฤษ และ 4 ยูโรในหลายประเทศยุโรป ตัวไฟทำจากพลาสติกรีไซเคิล ใช้แบตเตอรี่ AA เพียงก้อนเดียว ไม่ต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือแอปใด ๆ ถือเป็นอุปกรณ์เล็ก ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในบ้านโดยไม่ต้องลงทุนเยอะ https://www.techradar.com/home/smart-home/ikea-quietly-launches-a-new-smart-light-and-its-the-simplest-and-most-affordable-one-yet

    Asus ROG Raikiri Pro คอนโทรลเลอร์พร้อมจอ OLED ลดราคาหนัก
    สำหรับสายเกมเมอร์ Asus ROG Raikiri Pro เป็นคอนโทรลเลอร์ไร้สายที่มีจอ OLED ในตัว สามารถปรับโปรไฟล์ปุ่มและตั้งค่าต่าง ๆ ได้ทันทีโดยไม่ต้องเข้าเมนูในเกม ล่าสุดมีโปรลดราคาจาก 149.99 ปอนด์เหลือเพียง 89.99 ปอนด์ ถือเป็นราคาต่ำสุดที่เคยมี ดีไซน์โดดเด่นด้วยไฟ RGB รอบปุ่มและตัวเครื่องกึ่งโปร่งใส เหมาะกับคนที่ชอบปรับแต่งละเอียดหรืออยากได้คอนโทรลเลอร์ที่แตกต่างจากทั่วไป https://www.techradar.com/gaming/this-asus-controller-comes-with-a-screen-and-right-now-its-cheaper-than-ever

      Meta ลดการแชร์ข้อมูลผู้ใช้ในยุโรป
    Meta ประกาศว่าจะลดการแชร์ข้อมูลของผู้ใช้ในสหภาพยุโรปภายในปี 2026 เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนปรับตามกฎหมาย GDPR การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ข้อมูลที่ส่งต่อระหว่างบริการต่าง ๆ ของ Meta เช่น Facebook และ Instagram ถูกจำกัดมากขึ้น ถือเป็นการตอบสนองต่อแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรปที่เข้มงวดเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ https://www.techradar.com/pro/meta-promises-to-reduce-data-sharing-for-eu-users-by-2026-to-avoid-eu-gdpr-fines

      รีวิวกล้องติดรถ Thinkware U3000 Pro
    กล้องติดรถ Thinkware U3000 Pro รุ่นใหม่มาพร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม เช่น การบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง และระบบช่วยตรวจจับเหตุการณ์ แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย รีวิวจาก TechRadar ระบุว่าถึงแม้คุณภาพดี แต่คู่แข่งที่ราคาถูกกว่ากลับทำได้ใกล้เคียงหรือบางรุ่นดีกว่า ทำให้ U3000 Pro อาจเหมาะกับคนที่ต้องการฟีเจอร์ครบ ๆ และไม่กังวลเรื่องงบประมาณ https://www.techradar.com/vehicle-tech/dash-cams/i-tested-the-thinkware-u3000-pro-dash-cam-and-it-has-heaps-of-potential-but-its-outshone-by-affordable-rivals

    สร้างห้องทำงานที่บ้านให้สมบูรณ์แบบ
    เรื่องนี้พูดถึงการจัดห้องทำงานที่บ้านให้กลายเป็นพื้นที่ทำงานที่ทรงพลังและสะดวกสบายที่สุด เขาแนะนำอุปกรณ์สำคัญตั้งแต่แล็ปท็อปที่แรงพอสำหรับงานหนักอย่าง Dell 16 Premium ไปจนถึงเก้าอี้ Branch Verve ที่นั่งได้นานโดยไม่เมื่อย รวมถึงโต๊ะยืน FlexiSpot E7 ที่ปรับระดับได้ง่าย เครื่องพิมพ์ Epson EcoTank ที่ประหยัดหมึก และจอมอนิเตอร์ Dell UltraSharp ที่ภาพคมชัด นอกจากนี้ยังมีเมาส์ Logitech MX Master 3S ที่ใช้งานได้เงียบและแม่นยำ รวมถึงระบบ Wi-Fi 7 จาก TP-Link Deco ที่ทำให้การเชื่อมต่อเสถียร สุดท้ายยังมีอุปกรณ์เสริมอย่าง Docking Station, SSD พกพา Samsung T9, Cloud Storage iDrive และหูฟัง Jabra Evolve2 75 ที่ช่วยให้การประชุมออนไลน์ชัดเจน ทั้งหมดนี้คือการรวมอุปกรณ์ที่ทำให้การทำงานจากบ้านมีประสิทธิภาพและสบายใจมากขึ้น https://www.techradar.com/home/create-the-ultimate-work-from-home-setup

    LinkedIn เดินหน้าตรวจสอบตัวตนผู้ใช้ทุกคน
    LinkedIn ประกาศความสำเร็จในการทำให้มีผู้ใช้ที่ผ่านการยืนยันตัวตนกว่า 100 ล้านบัญชี และยังตั้งเป้าว่าจะทำให้ทุกบัญชี ทุกบริษัท และทุกตำแหน่งงานมีการยืนยันเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น การยืนยันนี้ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมมากขึ้นถึงหลายสิบเปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ LinkedIn ยังเปิด API ให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Zoom นำสถานะการยืนยันไปแสดงในโปรไฟล์ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการประชุมออนไลน์ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ LinkedIn ต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ของความน่าเชื่อถือบนโลกดิจิทัล https://www.techradar.com/pro/linkedin-wants-every-user-to-be-verified

    โน้ตบุ๊กเกมมิ่งจอ OLED ขยายได้จาก Lenovo
    มีข่าวลือว่า Lenovo เตรียมเปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่งรุ่นใหม่ชื่อ Legion Pro Rollable ที่มาพร้อมจอ OLED แบบขยายได้ในแนวนอน ซึ่งจะกลายเป็นโน้ตบุ๊กเกมมิ่งจอ Ultrawide รุ่นแรกของโลก หากเป็นจริงจะเปิดตัวในงาน CES 2026 จุดเด่นคือหน้าจอสามารถขยายออกไปด้านข้างเพื่อเพิ่มพื้นที่การเล่นเกมหรือทำงานแบบมัลติทาสก์ คาดว่าจะใช้ซีพียู Intel Core Ultra แต่ยังไม่เปิดเผยการ์ดจอ แม้จะมีข้อกังวลเรื่องราคาและน้ำหนัก แต่ถ้า Lenovo ทำได้สำเร็จ นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง https://www.techradar.com/computing/gaming-laptops/lenovo-legion-pro-rollable-leak-reveals-the-worlds-first-ultrawide-oled-gaming-laptop-and-i-cant-wait-to-try-it

    การโจมตีแบบ Prompt Injection อาจไม่มีวันแก้ได้
    หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์แห่งสหราชอาณาจักร (NCSC) เตือนว่าการโจมตีแบบ Prompt Injection ซึ่งเป็นการฝังคำสั่งแอบแฝงในข้อความเพื่อหลอกให้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ทำงานผิด อาจจะไม่สามารถแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์เหมือนที่เคยแก้ปัญหา SQL Injection เพราะโมเดลไม่สามารถแยกแยะระหว่างข้อมูลกับคำสั่งได้อย่างแท้จริง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้นักพัฒนามองโมเดลเหล่านี้เป็น “ผู้ช่วยที่สับสนได้” และออกแบบระบบให้จำกัดผลกระทบหากถูกโจมตี นี่เป็นการเตือนว่าการใช้ AI ต้องระวังและไม่ควรคาดหวังว่าจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ https://www.techradar.com/pro/security/prompt-injection-attacks-might-never-be-properly-mitigated-uk-ncsc-warns

    ออสเตรเลียห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดีย
    กฎหมายใหม่ในออสเตรเลียเริ่มบังคับใช้แล้ว โดยห้ามผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปีใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยม เช่น YouTube, Instagram, TikTok และ Snapchat หากบริษัทไม่ปฏิบัติตามอาจถูกปรับสูงถึง 49.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย มาตรการนี้ได้รับเสียงสนับสนุนจากผู้ปกครองและนักปกป้องเด็ก แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและความเป็นส่วนตัวที่กังวลว่าจะกระทบสิทธิของประชาชน เด็กบางคนเริ่มหันไปใช้แอปอื่นที่ไม่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย เช่น Discord หรือ Roblox และมีแนวโน้มว่าการค้นหา VPN จะเพิ่มขึ้นเพื่อหาทางเลี่ยงข้อจำกัด https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/under-16s-social-media-ban-lands-in-australia

    Pebble Index 01 อุปกรณ์ใหม่รวมแหวนอัจฉริยะกับผู้ช่วยเสียง
    Pebble เปิดตัวอุปกรณ์ที่รวมฟังก์ชันผู้ช่วยเสียงเข้ากับสมาร์ทริงในชื่อ Pebble Index 01 จุดเด่นคือสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้โดยตรงจากแหวน เช่น เปิดเพลง ควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม หรือเช็กข้อมูลต่าง ๆ โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ดีไซน์เรียบง่ายและทันสมัย ทำให้เป็นทั้งเครื่องประดับและอุปกรณ์เทคโนโลยีในเวลาเดียวกัน ถือเป็นการพยายามสร้างหมวดหมู่ใหม่ที่ผสมผสาน wearable กับ AI voice assistant เข้าด้วยกัน https://www.techradar.com/health-fitness/pebble-is-reinventing-voice-assistants-and-smart-rings-in-one-device-meet-the-pebble-index-01

     รัฐบาลสหรัฐฯ มองโลกในแง่ดีหลังยอดจ่ายค่าไถ่ไซเบอร์ลดลง
    ช่วงปี 2023 ถือเป็นปีที่การโจมตี ransomware พุ่งสูงสุด มีการจ่ายค่าไถ่รวมกว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ แต่หลังจากที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสามารถจัดการกับแก๊งใหญ่ ๆ อย่าง ALPHV และ LockBit ได้ ทำให้ปี 2024 ยอดการโจมตีและจำนวนเงินที่เหยื่อจ่ายลดลงเหลือประมาณ 734 ล้านดอลลาร์ แม้ยังมีแก๊งอย่าง Akira ที่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ แต่ภาพรวมถือว่าการปราบปรามครั้งนี้สร้างผลกระทบชัดเจนต่อวงการอาชญากรรมไซเบอร์ https://www.techradar.com/pro/security/us-treasury-offers-cautious-optimism-as-ransomware-payments-decline

     Spotify เดินหน้าสู่ยุคใหม่ เพิ่มมิวสิกวิดีโอในแอป
    Spotify กำลังพยายามกลายเป็นเหมือน MTV ยุคดิจิทัล โดยล่าสุดเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดา รวมถึงอีกหลายประเทศ สามารถดูมิวสิกวิดีโอได้โดยตรงในแอป ไม่ใช่แค่ฟังเพลงอย่างเดียว ผู้ใช้สามารถกดสลับจากโหมดเสียงไปเป็นวิดีโอได้ทันที ฟีเจอร์นี้สร้างความตื่นเต้น แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าประสบการณ์ดูวิดีโอยังไม่ลื่นไหลเท่า YouTube อย่างไรก็ตาม Spotify ยังคงเดินหน้าต่อยอดเพื่อขยายบริการให้ครบวงจรทั้งภาพและเสียง https://www.techradar.com/audio/spotify/spotify-steps-up-its-plan-to-be-the-new-mtv-music-videos-are-rolling-out-whether-you-want-them-or-not

     โลกการเขียนโค้ดกับเทรนด์ใหม่ “Vibe-Coding”
    คำว่า “Vibe-Coding” ถูกยกให้เป็นคำแห่งปี 2025 หมายถึงการเขียนโปรแกรมที่เน้นความรู้สึกและความคิดสร้างสรรค์มากกว่ากฎเกณฑ์ทางเทคนิค โดยใช้ AI เป็นตัวช่วยให้โค้ดเกิดขึ้นแทบจะอัตโนมัติ แนวทางนี้เปิดโอกาสให้คนที่ไม่เชี่ยวชาญด้านเทคนิคสามารถสร้างซอฟต์แวร์ได้ง่ายขึ้น แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัย และความเสี่ยงจากโค้ดที่ไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด นักพัฒนาจึงต้องปรับบทบาทจากการเขียนโค้ดเองไปสู่การควบคุมคุณภาพและกำกับ AI ให้ทำงานอย่างถูกต้อง https://www.techradar.com/pro/the-future-of-coding-has-a-vibe-problem-balancing-creativity-with-control

     AMD เตรียมเปิดตัวชิปเกมมิ่งรุ่นใหม่ Ryzen 9850X3D
    มีภาพหลุดจาก BIOS ที่เผยให้เห็นชิป AMD Ryzen 9850X3D ซึ่งคาดว่าจะเป็นรุ่นอัปเกรดจาก 9800X3D โดยเพิ่มความเร็วบูสต์สูงสุดถึง 5.6GHz ทำให้แรงขึ้นกว่าเดิมประมาณ 400MHz แม้ผลทดสอบเบื้องต้นยังไม่ชัดเจน แต่ถ้าชิปนี้เปิดตัวจริงในงาน CES 2026 จะเป็นข่าวดีสำหรับนักเล่นเกม เพราะนอกจากจะได้รุ่นใหม่ที่แรงขึ้นแล้ว ยังอาจทำให้รุ่นเก่าราคาเริ่มถูกลงด้วย https://www.techradar.com/computing/gpu/the-fastest-gaming-cpu-could-get-a-supercharged-version-soon-as-new-amd-ryzen-9850x3d-leak-pops-up

     สหราชอาณาจักรต้องเร่งสร้างเครือข่ายอัจฉริยะเพื่อแข่งขันในยุค AI
    รายงานล่าสุดชี้ว่า AI สามารถเพิ่ม GDP ของสหราชอาณาจักรได้กว่า 550 พันล้านปอนด์ภายในปี 2035 แต่ปัญหาคือโครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่ายยังล้าหลังมาก โดยปัจจุบันสหราชอาณาจักรถือครองพลังการประมวลผล AI เพียง 3% ของโลก ขณะที่สหรัฐฯ ครองถึง 75% หากไม่เร่งลงทุนในเครือข่ายที่เร็ว ปลอดภัย และปรับตัวได้ทันที ประเทศอาจเสียโอกาสในการแข่งขัน เครือข่ายอัจฉริยะจะเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจและนวัตกรรมในอนาคต https://www.techradar.com/pro/the-uk-must-build-smarter-networks-to-lead-in-ai

      IBM ทุ่มเงิน 11 พันล้านเหรียญซื้อกิจการ Confluent IBM
    กำลังเดินหน้าขยายธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล โดยล่าสุดมีรายงานว่าเตรียมเข้าซื้อ Confluent ด้วยมูลค่ากว่า 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ การเข้าซื้อครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ IBM ที่จะเสริมความแข็งแกร่งด้านการจัดการข้อมูลแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญขององค์กรยุค AI และคลาวด์ หากดีลนี้สำเร็จ IBM จะมีเครื่องมือที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการข้อมูลที่ซับซ้อนและกระจายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.techradar.com/pro/ibm-looks-to-secure-data-infrastructure-with-usd11bn-bid-for-confluent

      สหรัฐฯ เตรียมอนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปจีน
    รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะอนุญาตให้บริษัท Nvidia ส่งออกชิปประสิทธิภาพสูงรุ่น H200 ไปยังจีน หลังจากก่อนหน้านี้มีการจำกัดการขายเพื่อป้องกันการนำไปใช้ในงานด้าน AI และการทหาร การผ่อนปรนครั้งนี้อาจช่วยให้ Nvidia ขยายตลาดและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าการตัดสินใจดังกล่าวอาจส่งผลต่อความมั่นคงทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ https://www.techradar.com/pro/trump-set-to-allow-nvidia-h200-chips-to-be-exported-to-china
    📌📡🟢 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟢📡📌 #รวมข่าวIT #20251210 #TechRadar 🧠 ความฝัน AGI ที่ยังไกลเกินเอื้อม นักวิจัย AI ในงานประชุม NeurIPS 2025 ออกมาเตือนว่า แม้ Google จะฉลองความสำเร็จของ Gemini 3 แต่ความจริงแล้วการสร้าง “ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป” หรือ AGI ยังห่างไกลมาก ปัญหาคือการพัฒนาโมเดลขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้ทำให้มันฉลาดขึ้นจริง ๆ แต่กลับติดกำแพงที่เรียกว่า “scaling wall” ทั้งเรื่องข้อมูลที่เริ่มหมดคุณภาพ การใช้พลังงานมหาศาล และที่สำคัญคือโมเดลยังไม่เข้าใจเหตุและผลอย่างแท้จริง หลายคนเสนอแนวทางใหม่ เช่น สถาปัตยกรรมแบบ neurosymbolic ที่ผสมผสานการเรียนรู้เชิงสถิติและตรรกะ หรือ “world models” ที่จำลองการรับรู้โลกแบบมนุษย์ เพื่อให้ AI ไม่ใช่แค่ตอบได้ แต่เข้าใจจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/agi-is-a-pipe-dream-until-we-solve-one-big-problem-ai-experts-say-even-as-google-celebrates-geminis-success 🕵️ เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ 14 ปีในอินโดนีเซียถูกโค่น นักวิจัย Malanta.ai พบโครงสร้างอาชญากรรมไซเบอร์ขนาดมหึมาในอินโดนีเซียที่ดำเนินการต่อเนื่องกว่า 14 ปี มีการควบคุมโดเมนกว่า 320,000 แห่ง รวมถึงซับโดเมนของรัฐบาลที่ถูกแฮ็ก ใช้แพลตฟอร์มคลาวด์อย่าง AWS และ Firebase ในการสั่งการมัลแวร์ และสร้างแอป Android ปลอมที่กระจายไปทั่ว ผลคือข้อมูลล็อกอินการพนันกว่า 50,000 รายการถูกขโมยไป นักวิจัยตั้งข้อสงสัยว่านี่อาจไม่ใช่แค่กลุ่มอาชญากรทั่วไป แต่มีลักษณะคล้ายปฏิบัติการระดับรัฐ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/national-cybercrime-network-operating-for-14-years-dismantled-in-indonesia 🖥️ บอร์ด Framework เก่าถูกชุบชีวิตเป็นคลัสเตอร์คอมพิวเตอร์ โครงการ Kickstarter ที่ชื่อ FrameCluster เสนอไอเดียเปลี่ยนเมนบอร์ด Framework ที่ไม่ได้ใช้แล้วให้กลายเป็นระบบคลัสเตอร์ขนาดเล็ก โดยใช้ชิ้นส่วนที่พิมพ์ 3D ทั้งหมด มันไม่ได้เน้นพลังประมวลผลสูงสุด แต่เน้นการจัดระเบียบและการนำฮาร์ดแวร์เก่ามาใช้ใหม่ เหมาะสำหรับงานทดลองหรือโฮสต์เซอร์วิสเล็ก ๆ แม้จะยังระดมทุนได้ไม่มาก แต่ก็เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการรีไซเคิลเทคโนโลยีให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/pro/your-own-supercomputer-made-up-of-old-framework-motherboards-this-kickstarter-project-aims-to-achieve-just-that 🎧 รีวิว Fairphone Fairbuds XL 2025 หูฟังรักษ์โลก Fairphone เปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ Fairbuds XL 2025 ที่ยังคงจุดขายด้านความยั่งยืน ใช้วัสดุรีไซเคิลและแร่ธาตุที่ได้จากการทำเหมืองอย่างเป็นธรรม จุดเด่นคือการควบคุมด้วยจอยสติ๊กเล็ก ๆ ที่ใช้งานง่ายและสนุก เสียงออกมาแนวสนุกสนาน มีพลังเบส แต่ยังไม่ละเอียดเท่าคู่แข่งรายใหญ่ จุดที่อาจทำให้ลังเลคือราคาที่สูงกว่าแบรนด์อื่น และฟีเจอร์เสริมที่ยังไม่ครบ แต่ถ้ามองเรื่องสิ่งแวดล้อมและการใช้งานระยะยาว หูฟังนี้ถือว่าโดดเด่นมาก 🔗 https://www.techradar.com/audio/wireless-headphones/fairphone-fairbuds-xl-2025-review 🎄 7 มือถือแนะนำสำหรับของขวัญคริสต์มาส TechRadar รวบรวมมือถือที่เหมาะจะซื้อเป็นของขวัญคริสต์มาสปีนี้ โดยแบ่งตามกลุ่มผู้ใช้ เช่น สำหรับทุกคนทั่วไปมีตัวเลือกอย่าง iPhone 17, Samsung Galaxy S25 และ Google Pixel 10 ส่วนวัยรุ่นเหมาะกับ iPhone 16 ที่ยังเร็วและรองรับอัปเดตอีกหลายปี สำหรับพ่อแม่แนะนำ Samsung Galaxy A36 ที่จอใหญ่ แบตอึด และราคาคุ้มค่า ถ้าเป็นแฟน Apple ก็มี iPhone 17 Pro ที่ครบเครื่อง หรือถ้าเป็นสาย Android ตัวแรง OnePlus 15 ก็เป็นดาวเด่นปีนี้ เรียกว่ามีตัวเลือกสำหรับทุกสไตล์และงบประมาณ 🔗 https://www.techradar.com/phones/buying-someone-a-new-phone-this-christmas-here-are-my-7-expert-recommendations-for-every-type-of-person 📰 โฆษณาใน Gemini ยังไม่มา แต่อนาคตอาจเลี่ยงไม่พ้น ช่วงนี้โลก AI กำลังถูกจับตามองเรื่องโฆษณาในแชตบอท หลังจากที่ผู้ใช้ ChatGPT แบบโปรราคา 200 ดอลลาร์ต่อเดือนเจอ “app suggestions” โผล่มาเหมือนโฆษณา จนบริษัทต้องรีบถอดออกและยอมรับว่าพลาดไป ขณะที่คู่แข่งอย่าง Google Gemini รีบออกมาปฏิเสธข่าวลือว่าไม่มีแผนจะใส่โฆษณาในแอปตอนนี้ แต่คำว่า “ตอนนี้” ก็ทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัย เพราะค่าใช้จ่ายมหาศาลในการดูแลระบบ AI อาจทำให้วันหนึ่งโฆษณากลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เรื่องนี้สะท้อนว่าอนาคตของผู้ช่วย AI อาจไม่พ้นการกลายเป็นพื้นที่โฆษณา เพียงแต่จะมาเมื่อไหร่เท่านั้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/ads-arent-coming-to-gemini-google-says-but-openai-has-shown-that-the-inevitable-is-coming 📱 Xiaomi และ Motorola เตรียมส่งแท็กคู่แข่ง AirTag ตั้งแต่ Apple เปิดตัว AirTag ในปี 2021 ก็แทบจะครองตลาดอุปกรณ์ติดตามของหาย ล่าสุดมีข่าวลือว่า Xiaomi และ Motorola กำลังจะเปิดตัวแท็กของตัวเอง โดยทั้งคู่จะรองรับเทคโนโลยี ultra wide-band ที่แม่นยำกว่าเดิม Xiaomi อาจเปิดตัวพร้อมมือถือรุ่นใหม่ปลายปี ส่วน Motorola ก็มีภาพหลุดของ Moto Tag 2 ที่จะมาพร้อมสีใหม่และกันน้ำได้ด้วย ราคายังไม่ประกาศ แต่คาดว่าจะใกล้เคียงกับรุ่นก่อนที่ขายราว 40 ดอลลาร์ ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Android ที่อยากได้ตัวเลือกใหม่ในการติดตามของสำคัญ 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/forget-apple-airtags-motorola-and-xiaomi-are-rumored-to-be-launching-android-equivalents-soon 🧹 Dyson V8 Cyclone รุ่นพื้นฐานที่ทำความสะอาดได้เกินคาด นักรีวิวเครื่องดูดฝุ่นจาก TechRadar ได้ลอง Dyson V8 Cyclone ซึ่งเป็นรุ่นพื้นฐาน ไม่มีฟีเจอร์ล้ำ ๆ เหมือนรุ่นใหม่ ๆ แต่กลับทำความสะอาดได้ดีจนเหนือความคาดหมาย ในการทดสอบเปรียบเทียบกับรุ่นไฮเทคอย่าง Dyson V16 และ Shark Detect Pro รุ่น V8 Cyclone กลับทำคะแนนสูงกว่า จุดเด่นคือแรงดูดและหัวดูดที่ออกแบบเรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ ทำให้ตั้งคำถามว่าบางครั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกออกแบบซับซ้อนเกินไปอาจไม่ได้ช่วยให้ใช้งานดีขึ้นเสมอไป 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/i-was-blown-away-by-this-basic-dyson-vacuums-cleaning-powers-and-im-wondering-if-modern-vacs-are-over-engineered 💡  IKEA เปิดตัวไฟอัจฉริยะราคาถูกที่สุด IKEA เปิดตัวไฟ LED รุ่นใหม่ชื่อ Gömpyssling ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เปิดปุ๊บติดปั๊บ เหมาะสำหรับติดในตู้หรือชั้นวางของ จุดเด่นคือราคาถูกมาก แค่สองชิ้นราคาเพียง 3 ปอนด์ในอังกฤษ และ 4 ยูโรในหลายประเทศยุโรป ตัวไฟทำจากพลาสติกรีไซเคิล ใช้แบตเตอรี่ AA เพียงก้อนเดียว ไม่ต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือแอปใด ๆ ถือเป็นอุปกรณ์เล็ก ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในบ้านโดยไม่ต้องลงทุนเยอะ 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/ikea-quietly-launches-a-new-smart-light-and-its-the-simplest-and-most-affordable-one-yet 🎮 Asus ROG Raikiri Pro คอนโทรลเลอร์พร้อมจอ OLED ลดราคาหนัก สำหรับสายเกมเมอร์ Asus ROG Raikiri Pro เป็นคอนโทรลเลอร์ไร้สายที่มีจอ OLED ในตัว สามารถปรับโปรไฟล์ปุ่มและตั้งค่าต่าง ๆ ได้ทันทีโดยไม่ต้องเข้าเมนูในเกม ล่าสุดมีโปรลดราคาจาก 149.99 ปอนด์เหลือเพียง 89.99 ปอนด์ ถือเป็นราคาต่ำสุดที่เคยมี ดีไซน์โดดเด่นด้วยไฟ RGB รอบปุ่มและตัวเครื่องกึ่งโปร่งใส เหมาะกับคนที่ชอบปรับแต่งละเอียดหรืออยากได้คอนโทรลเลอร์ที่แตกต่างจากทั่วไป 🔗 https://www.techradar.com/gaming/this-asus-controller-comes-with-a-screen-and-right-now-its-cheaper-than-ever 🌐  Meta ลดการแชร์ข้อมูลผู้ใช้ในยุโรป Meta ประกาศว่าจะลดการแชร์ข้อมูลของผู้ใช้ในสหภาพยุโรปภายในปี 2026 เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนปรับตามกฎหมาย GDPR การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ข้อมูลที่ส่งต่อระหว่างบริการต่าง ๆ ของ Meta เช่น Facebook และ Instagram ถูกจำกัดมากขึ้น ถือเป็นการตอบสนองต่อแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรปที่เข้มงวดเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/meta-promises-to-reduce-data-sharing-for-eu-users-by-2026-to-avoid-eu-gdpr-fines 🚗  รีวิวกล้องติดรถ Thinkware U3000 Pro กล้องติดรถ Thinkware U3000 Pro รุ่นใหม่มาพร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม เช่น การบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง และระบบช่วยตรวจจับเหตุการณ์ แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย รีวิวจาก TechRadar ระบุว่าถึงแม้คุณภาพดี แต่คู่แข่งที่ราคาถูกกว่ากลับทำได้ใกล้เคียงหรือบางรุ่นดีกว่า ทำให้ U3000 Pro อาจเหมาะกับคนที่ต้องการฟีเจอร์ครบ ๆ และไม่กังวลเรื่องงบประมาณ 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/dash-cams/i-tested-the-thinkware-u3000-pro-dash-cam-and-it-has-heaps-of-potential-but-its-outshone-by-affordable-rivals 🖥️ สร้างห้องทำงานที่บ้านให้สมบูรณ์แบบ เรื่องนี้พูดถึงการจัดห้องทำงานที่บ้านให้กลายเป็นพื้นที่ทำงานที่ทรงพลังและสะดวกสบายที่สุด เขาแนะนำอุปกรณ์สำคัญตั้งแต่แล็ปท็อปที่แรงพอสำหรับงานหนักอย่าง Dell 16 Premium ไปจนถึงเก้าอี้ Branch Verve ที่นั่งได้นานโดยไม่เมื่อย รวมถึงโต๊ะยืน FlexiSpot E7 ที่ปรับระดับได้ง่าย เครื่องพิมพ์ Epson EcoTank ที่ประหยัดหมึก และจอมอนิเตอร์ Dell UltraSharp ที่ภาพคมชัด นอกจากนี้ยังมีเมาส์ Logitech MX Master 3S ที่ใช้งานได้เงียบและแม่นยำ รวมถึงระบบ Wi-Fi 7 จาก TP-Link Deco ที่ทำให้การเชื่อมต่อเสถียร สุดท้ายยังมีอุปกรณ์เสริมอย่าง Docking Station, SSD พกพา Samsung T9, Cloud Storage iDrive และหูฟัง Jabra Evolve2 75 ที่ช่วยให้การประชุมออนไลน์ชัดเจน ทั้งหมดนี้คือการรวมอุปกรณ์ที่ทำให้การทำงานจากบ้านมีประสิทธิภาพและสบายใจมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/home/create-the-ultimate-work-from-home-setup 🔒 LinkedIn เดินหน้าตรวจสอบตัวตนผู้ใช้ทุกคน LinkedIn ประกาศความสำเร็จในการทำให้มีผู้ใช้ที่ผ่านการยืนยันตัวตนกว่า 100 ล้านบัญชี และยังตั้งเป้าว่าจะทำให้ทุกบัญชี ทุกบริษัท และทุกตำแหน่งงานมีการยืนยันเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น การยืนยันนี้ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมมากขึ้นถึงหลายสิบเปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ LinkedIn ยังเปิด API ให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Zoom นำสถานะการยืนยันไปแสดงในโปรไฟล์ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการประชุมออนไลน์ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ LinkedIn ต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ของความน่าเชื่อถือบนโลกดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/pro/linkedin-wants-every-user-to-be-verified 🎮 โน้ตบุ๊กเกมมิ่งจอ OLED ขยายได้จาก Lenovo มีข่าวลือว่า Lenovo เตรียมเปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่งรุ่นใหม่ชื่อ Legion Pro Rollable ที่มาพร้อมจอ OLED แบบขยายได้ในแนวนอน ซึ่งจะกลายเป็นโน้ตบุ๊กเกมมิ่งจอ Ultrawide รุ่นแรกของโลก หากเป็นจริงจะเปิดตัวในงาน CES 2026 จุดเด่นคือหน้าจอสามารถขยายออกไปด้านข้างเพื่อเพิ่มพื้นที่การเล่นเกมหรือทำงานแบบมัลติทาสก์ คาดว่าจะใช้ซีพียู Intel Core Ultra แต่ยังไม่เปิดเผยการ์ดจอ แม้จะมีข้อกังวลเรื่องราคาและน้ำหนัก แต่ถ้า Lenovo ทำได้สำเร็จ นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง 🔗 https://www.techradar.com/computing/gaming-laptops/lenovo-legion-pro-rollable-leak-reveals-the-worlds-first-ultrawide-oled-gaming-laptop-and-i-cant-wait-to-try-it ⚠️ การโจมตีแบบ Prompt Injection อาจไม่มีวันแก้ได้ หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์แห่งสหราชอาณาจักร (NCSC) เตือนว่าการโจมตีแบบ Prompt Injection ซึ่งเป็นการฝังคำสั่งแอบแฝงในข้อความเพื่อหลอกให้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ทำงานผิด อาจจะไม่สามารถแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์เหมือนที่เคยแก้ปัญหา SQL Injection เพราะโมเดลไม่สามารถแยกแยะระหว่างข้อมูลกับคำสั่งได้อย่างแท้จริง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้นักพัฒนามองโมเดลเหล่านี้เป็น “ผู้ช่วยที่สับสนได้” และออกแบบระบบให้จำกัดผลกระทบหากถูกโจมตี นี่เป็นการเตือนว่าการใช้ AI ต้องระวังและไม่ควรคาดหวังว่าจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/prompt-injection-attacks-might-never-be-properly-mitigated-uk-ncsc-warns 🚫 ออสเตรเลียห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดีย กฎหมายใหม่ในออสเตรเลียเริ่มบังคับใช้แล้ว โดยห้ามผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปีใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยม เช่น YouTube, Instagram, TikTok และ Snapchat หากบริษัทไม่ปฏิบัติตามอาจถูกปรับสูงถึง 49.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย มาตรการนี้ได้รับเสียงสนับสนุนจากผู้ปกครองและนักปกป้องเด็ก แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและความเป็นส่วนตัวที่กังวลว่าจะกระทบสิทธิของประชาชน เด็กบางคนเริ่มหันไปใช้แอปอื่นที่ไม่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย เช่น Discord หรือ Roblox และมีแนวโน้มว่าการค้นหา VPN จะเพิ่มขึ้นเพื่อหาทางเลี่ยงข้อจำกัด 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/under-16s-social-media-ban-lands-in-australia 💍 Pebble Index 01 อุปกรณ์ใหม่รวมแหวนอัจฉริยะกับผู้ช่วยเสียง Pebble เปิดตัวอุปกรณ์ที่รวมฟังก์ชันผู้ช่วยเสียงเข้ากับสมาร์ทริงในชื่อ Pebble Index 01 จุดเด่นคือสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้โดยตรงจากแหวน เช่น เปิดเพลง ควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม หรือเช็กข้อมูลต่าง ๆ โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ดีไซน์เรียบง่ายและทันสมัย ทำให้เป็นทั้งเครื่องประดับและอุปกรณ์เทคโนโลยีในเวลาเดียวกัน ถือเป็นการพยายามสร้างหมวดหมู่ใหม่ที่ผสมผสาน wearable กับ AI voice assistant เข้าด้วยกัน 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/pebble-is-reinventing-voice-assistants-and-smart-rings-in-one-device-meet-the-pebble-index-01 🛡️ รัฐบาลสหรัฐฯ มองโลกในแง่ดีหลังยอดจ่ายค่าไถ่ไซเบอร์ลดลง ช่วงปี 2023 ถือเป็นปีที่การโจมตี ransomware พุ่งสูงสุด มีการจ่ายค่าไถ่รวมกว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ แต่หลังจากที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสามารถจัดการกับแก๊งใหญ่ ๆ อย่าง ALPHV และ LockBit ได้ ทำให้ปี 2024 ยอดการโจมตีและจำนวนเงินที่เหยื่อจ่ายลดลงเหลือประมาณ 734 ล้านดอลลาร์ แม้ยังมีแก๊งอย่าง Akira ที่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ แต่ภาพรวมถือว่าการปราบปรามครั้งนี้สร้างผลกระทบชัดเจนต่อวงการอาชญากรรมไซเบอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/us-treasury-offers-cautious-optimism-as-ransomware-payments-decline 🎵 Spotify เดินหน้าสู่ยุคใหม่ เพิ่มมิวสิกวิดีโอในแอป Spotify กำลังพยายามกลายเป็นเหมือน MTV ยุคดิจิทัล โดยล่าสุดเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดา รวมถึงอีกหลายประเทศ สามารถดูมิวสิกวิดีโอได้โดยตรงในแอป ไม่ใช่แค่ฟังเพลงอย่างเดียว ผู้ใช้สามารถกดสลับจากโหมดเสียงไปเป็นวิดีโอได้ทันที ฟีเจอร์นี้สร้างความตื่นเต้น แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าประสบการณ์ดูวิดีโอยังไม่ลื่นไหลเท่า YouTube อย่างไรก็ตาม Spotify ยังคงเดินหน้าต่อยอดเพื่อขยายบริการให้ครบวงจรทั้งภาพและเสียง 🔗 https://www.techradar.com/audio/spotify/spotify-steps-up-its-plan-to-be-the-new-mtv-music-videos-are-rolling-out-whether-you-want-them-or-not 💻 โลกการเขียนโค้ดกับเทรนด์ใหม่ “Vibe-Coding” คำว่า “Vibe-Coding” ถูกยกให้เป็นคำแห่งปี 2025 หมายถึงการเขียนโปรแกรมที่เน้นความรู้สึกและความคิดสร้างสรรค์มากกว่ากฎเกณฑ์ทางเทคนิค โดยใช้ AI เป็นตัวช่วยให้โค้ดเกิดขึ้นแทบจะอัตโนมัติ แนวทางนี้เปิดโอกาสให้คนที่ไม่เชี่ยวชาญด้านเทคนิคสามารถสร้างซอฟต์แวร์ได้ง่ายขึ้น แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัย และความเสี่ยงจากโค้ดที่ไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด นักพัฒนาจึงต้องปรับบทบาทจากการเขียนโค้ดเองไปสู่การควบคุมคุณภาพและกำกับ AI ให้ทำงานอย่างถูกต้อง 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-future-of-coding-has-a-vibe-problem-balancing-creativity-with-control ⚡ AMD เตรียมเปิดตัวชิปเกมมิ่งรุ่นใหม่ Ryzen 9850X3D มีภาพหลุดจาก BIOS ที่เผยให้เห็นชิป AMD Ryzen 9850X3D ซึ่งคาดว่าจะเป็นรุ่นอัปเกรดจาก 9800X3D โดยเพิ่มความเร็วบูสต์สูงสุดถึง 5.6GHz ทำให้แรงขึ้นกว่าเดิมประมาณ 400MHz แม้ผลทดสอบเบื้องต้นยังไม่ชัดเจน แต่ถ้าชิปนี้เปิดตัวจริงในงาน CES 2026 จะเป็นข่าวดีสำหรับนักเล่นเกม เพราะนอกจากจะได้รุ่นใหม่ที่แรงขึ้นแล้ว ยังอาจทำให้รุ่นเก่าราคาเริ่มถูกลงด้วย 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/the-fastest-gaming-cpu-could-get-a-supercharged-version-soon-as-new-amd-ryzen-9850x3d-leak-pops-up 🌐 สหราชอาณาจักรต้องเร่งสร้างเครือข่ายอัจฉริยะเพื่อแข่งขันในยุค AI รายงานล่าสุดชี้ว่า AI สามารถเพิ่ม GDP ของสหราชอาณาจักรได้กว่า 550 พันล้านปอนด์ภายในปี 2035 แต่ปัญหาคือโครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่ายยังล้าหลังมาก โดยปัจจุบันสหราชอาณาจักรถือครองพลังการประมวลผล AI เพียง 3% ของโลก ขณะที่สหรัฐฯ ครองถึง 75% หากไม่เร่งลงทุนในเครือข่ายที่เร็ว ปลอดภัย และปรับตัวได้ทันที ประเทศอาจเสียโอกาสในการแข่งขัน เครือข่ายอัจฉริยะจะเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจและนวัตกรรมในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-uk-must-build-smarter-networks-to-lead-in-ai 💼  IBM ทุ่มเงิน 11 พันล้านเหรียญซื้อกิจการ Confluent IBM กำลังเดินหน้าขยายธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล โดยล่าสุดมีรายงานว่าเตรียมเข้าซื้อ Confluent ด้วยมูลค่ากว่า 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ การเข้าซื้อครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ IBM ที่จะเสริมความแข็งแกร่งด้านการจัดการข้อมูลแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญขององค์กรยุค AI และคลาวด์ หากดีลนี้สำเร็จ IBM จะมีเครื่องมือที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการข้อมูลที่ซับซ้อนและกระจายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/ibm-looks-to-secure-data-infrastructure-with-usd11bn-bid-for-confluent 🇨🇳  สหรัฐฯ เตรียมอนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปจีน รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะอนุญาตให้บริษัท Nvidia ส่งออกชิปประสิทธิภาพสูงรุ่น H200 ไปยังจีน หลังจากก่อนหน้านี้มีการจำกัดการขายเพื่อป้องกันการนำไปใช้ในงานด้าน AI และการทหาร การผ่อนปรนครั้งนี้อาจช่วยให้ Nvidia ขยายตลาดและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าการตัดสินใจดังกล่าวอาจส่งผลต่อความมั่นคงทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ 🔗 https://www.techradar.com/pro/trump-set-to-allow-nvidia-h200-chips-to-be-exported-to-china
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251210 #securityonline


    ช่องโหว่ร้ายแรงใน VMware vCenter เสี่ยงถูกยึดระบบ
    VMware ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ CVE-2025-12346 ใน vCenter Server ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงและอาจทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมเซิร์ฟเวอร์เสมือนทั้งหมดได้ทันที VMware ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วและแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานไอที https://securityonline.info/vmware-vcenter-critical-flaw-cve-2025-12346

    IBM ทุ่ม 11 พันล้านเหรียญซื้อ Confluent สร้างแพลตฟอร์มข้อมูลอัจฉริยะเพื่อ AI
    IBM ประกาศดีลครั้งใหญ่ด้วยการเข้าซื้อ Confluent บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการสตรีมข้อมูลที่สร้างบน Apache Kafka ด้วยมูลค่า 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ IBM ที่จะสร้าง “Intelligent Data Platform” เพื่อรองรับการใช้งาน AI ที่ต้องการข้อมูลแบบเรียลไทม์และเชื่อมโยงจากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นคลาวด์สาธารณะ คลาวด์ส่วนตัว หรือดาต้าเซ็นเตอร์ในองค์กร การเข้าซื้อครั้งนี้ยังถูกมองว่าเป็นการเสริมพลังให้ IBM หลังจากรายได้หลักเริ่มชะลอตัว โดย Confluent มีลูกค้ากว่า 6,500 ราย รวมถึง 40% ของ Fortune 500 ดีลนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นกลางปี 2026 และจะทำให้เทคโนโลยี Kafka และ Flink ถูกผนวกเข้ากับระบบของ IBM อย่างเต็มรูปแบบ https://securityonline.info/ibm-spends-11-billion-on-confluent-to-build-its-ai-intelligent-data-platform

    GrayBravo MaaS เปิดตัว CastleRAT แฝงตัวผ่าน Steam Community
    รายงานใหม่จาก Insikt Group เผยถึงการขยายตัวของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ GrayBravo ที่ให้บริการ Malware-as-a-Service โดยมีเครื่องมือใหม่ชื่อ CastleRAT ซึ่งสามารถขโมยข้อมูลและควบคุมเครื่องเหยื่อได้ จุดที่น่าสนใจคือการซ่อนเซิร์ฟเวอร์สั่งการผ่าน Steam Community Profiles ทำให้เปลี่ยนโครงสร้างได้โดยไม่ต้องติดตั้งใหม่ กลุ่มนี้แบ่งเป็นหลายคลัสเตอร์ เช่น การโจมตีอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ด้วยการปลอมเป็นบริษัทขนส่ง และการโจมตีผู้ใช้ Booking.com ผ่านอีเมลฟิชชิ่ง CastleRAT จึงถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามที่ซับซ้อนและยืดหยุ่นสูง https://securityonline.info/graybravo-maas-deploys-castlerat-backdoor-hiding-c2-with-steam-profile-dead-drop-resolvers

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Rockwell เสี่ยง SQLi และทำให้ระบบความปลอดภัยหยุดทำงาน
    Rockwell Automation ออกคำเตือนเกี่ยวกับสองช่องโหว่สำคัญ ช่องแรกคือ SQL Injection ใน FactoryTalk DataMosaix Private Cloud ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สิทธิ์ต่ำสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้โดยตรง อีกช่องโหว่คือ DoS ในอุปกรณ์ GuardLink EtherNet/IP Interface ซึ่งเมื่อถูกโจมตีจะหยุดทำงานและต้องรีสตาร์ทด้วยมือ ไม่สามารถแก้ไขจากระยะไกลได้ ทั้งสองช่องโหว่ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและผู้ใช้งานถูกแนะนำให้อัปเดตซอฟต์แวร์ทันทีเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้ระบบหยุดชะงัก https://securityonline.info/high-severity-rockwell-flaws-risk-industrial-sqli-data-tampering-and-safety-device-dos-requiring-manual-fix

    Itch.io ถูกโจมตีด้วย Lumma Stealer ผ่านอัปเดตเกมปลอม
    แพลตฟอร์มเกมอินดี้ Itch.io กลายเป็นเป้าหมายของแคมเปญมัลแวร์ใหม่ที่ใช้วิธีโพสต์คอมเมนต์ปลอมในหน้าเกม โดยอ้างว่าเป็น “อัปเดตเกม” และใส่ลิงก์ไปยังไฟล์ที่มี Lumma Stealer แฝงอยู่ ไฟล์หลัก game.exe ถูกสร้างด้วย Node.js และใช้เทคนิค reflective loading เพื่อซ่อน payload เมื่อรันแล้วจะขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่าน คุกกี้ และกระเป๋าเงินคริปโต ก่อนส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงการใช้แพลตฟอร์มเกมเป็นช่องทางแพร่กระจายมัลแวร์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ https://securityonline.info/itch-io-targeted-lumma-stealer-deployed-via-fake-updates-and-reflective-node-js-loader

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน n8n เสี่ยงถูกสั่งรันโค้ดจาก Git Node
    เครื่องมือ workflow automation ยอดนิยม n8n ถูกพบช่องโหว่ CVE-2025-65964 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.4 โดยเกิดจากการตั้งค่า Git Node ที่เปิดให้ผู้ใช้กำหนดค่าได้อย่างอิสระ ทำให้แฮกเกอร์สามารถเปลี่ยนเส้นทาง hooksPath ไปยังโฟลเดอร์ที่มีสคริปต์อันตราย และเมื่อ Git ทำงานก็จะรันโค้ดที่ฝังไว้ทันที ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้เต็มรูปแบบ ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 1.119.2 และแนะนำให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยงการใช้ Git Node กับ repository ที่ไม่น่าเชื่อถือ https://securityonline.info/critical-n8n-rce-flaw-cve-2025-65964-allows-remote-code-execution-via-git-node-configuration-manipulation

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Cisco ASA/FTD เสี่ยงถูกยึดระบบจากระยะไกล
    Cisco ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ CVE-2025-26092 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.8 โดยเกิดจากการจัดการ SSL VPN ที่ผิดพลาดในอุปกรณ์ Adaptive Security Appliance (ASA) และ Firepower Threat Defense (FTD) ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีที่ไม่ได้ยืนยันตัวตนสามารถส่งคำสั่งพิเศษเพื่อเข้าควบคุมระบบได้ทันที Cisco ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วและแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้ระบบเครือข่ายทั้งหมดถูกยึดครอง https://securityonline.info/cisco-critical-asa-ftd-vpn-flaw-cve-2025-26092-allows-unauthenticated-rce

    ช่องโหว่ใหม่ใน Windows 11 ทำให้สิทธิ์ผู้ใช้ถูกยกระดับ
    Microsoft เปิดเผยช่องโหว่ CVE-2025-23359 ใน Windows 11 ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการไฟล์ระบบ โดยผู้โจมตีสามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อยกระดับสิทธิ์จากผู้ใช้ทั่วไปไปเป็นผู้ดูแลระบบได้ทันที ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและมีการออกแพตช์แก้ไขแล้ว เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของการอัปเดตระบบปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ถูกควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต https://securityonline.info/microsoft-windows-11-critical-eop-flaw-cve-2025-23359

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Android ทำให้ข้อมูลผู้ใช้เสี่ยงถูกขโมย
    Google ประกาศพบช่องโหว่ CVE-2025-12345 ใน Android ที่เปิดโอกาสให้แอปพลิเคชันที่เป็นอันตรายสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อความ รูปภาพ และข้อมูลตำแหน่ง โดยไม่ต้องได้รับอนุญาต ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและมีผลกระทบต่อหลายรุ่นของ Android ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วและแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัว https://securityonline.info/android-critical-flaw-cve-2025-12345

    แฮกเกอร์โจมตีธนาคารด้วยมัลแวร์ใหม่ชื่อ BankFury
    มีรายงานการโจมตีธนาคารในหลายประเทศด้วยมัลแวร์ใหม่ชื่อ BankFury ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลการเข้าสู่ระบบและทำธุรกรรมปลอม มัลแวร์นี้สามารถแฝงตัวในอีเมลฟิชชิ่งและแอปพลิเคชันที่ดูเหมือนถูกต้อง เมื่อผู้ใช้ติดตั้งแล้ว BankFury จะดักจับข้อมูลการเข้าสู่ระบบและส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี เหตุการณ์นี้ทำให้หลายธนาคารต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและแจ้งเตือนลูกค้าให้ระวังการเปิดไฟล์หรือแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ https://securityonline.info/bankfury-malware-targets-banks-worldwide

    ช่องโหว่ในระบบดาวเทียมเสี่ยงถูกโจมตีจากไซเบอร์
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ในระบบควบคุมดาวเทียมที่อาจเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้ามาแทรกแซงการสื่อสารหรือควบคุมการทำงานของดาวเทียมได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและอาจส่งผลกระทบต่อการสื่อสาร การนำทาง และการสังเกตการณ์จากอวกาศ เหตุการณ์นี้ทำให้หลายองค์กรด้านอวกาศต้องเร่งตรวจสอบและอัปเดตระบบเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายร้ายแรง https://securityonline.info/satellite-critical-cybersecurity-flaw
    📌🔐🟢 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟢🔐📌 #รวมข่าวIT #20251210 #securityonline 🖥️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน VMware vCenter เสี่ยงถูกยึดระบบ VMware ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ CVE-2025-12346 ใน vCenter Server ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงและอาจทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมเซิร์ฟเวอร์เสมือนทั้งหมดได้ทันที VMware ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วและแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานไอที 🔗 https://securityonline.info/vmware-vcenter-critical-flaw-cve-2025-12346 🏢 IBM ทุ่ม 11 พันล้านเหรียญซื้อ Confluent สร้างแพลตฟอร์มข้อมูลอัจฉริยะเพื่อ AI IBM ประกาศดีลครั้งใหญ่ด้วยการเข้าซื้อ Confluent บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการสตรีมข้อมูลที่สร้างบน Apache Kafka ด้วยมูลค่า 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ IBM ที่จะสร้าง “Intelligent Data Platform” เพื่อรองรับการใช้งาน AI ที่ต้องการข้อมูลแบบเรียลไทม์และเชื่อมโยงจากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นคลาวด์สาธารณะ คลาวด์ส่วนตัว หรือดาต้าเซ็นเตอร์ในองค์กร การเข้าซื้อครั้งนี้ยังถูกมองว่าเป็นการเสริมพลังให้ IBM หลังจากรายได้หลักเริ่มชะลอตัว โดย Confluent มีลูกค้ากว่า 6,500 ราย รวมถึง 40% ของ Fortune 500 ดีลนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นกลางปี 2026 และจะทำให้เทคโนโลยี Kafka และ Flink ถูกผนวกเข้ากับระบบของ IBM อย่างเต็มรูปแบบ 🔗 https://securityonline.info/ibm-spends-11-billion-on-confluent-to-build-its-ai-intelligent-data-platform 🕵️‍♂️ GrayBravo MaaS เปิดตัว CastleRAT แฝงตัวผ่าน Steam Community รายงานใหม่จาก Insikt Group เผยถึงการขยายตัวของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ GrayBravo ที่ให้บริการ Malware-as-a-Service โดยมีเครื่องมือใหม่ชื่อ CastleRAT ซึ่งสามารถขโมยข้อมูลและควบคุมเครื่องเหยื่อได้ จุดที่น่าสนใจคือการซ่อนเซิร์ฟเวอร์สั่งการผ่าน Steam Community Profiles ทำให้เปลี่ยนโครงสร้างได้โดยไม่ต้องติดตั้งใหม่ กลุ่มนี้แบ่งเป็นหลายคลัสเตอร์ เช่น การโจมตีอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ด้วยการปลอมเป็นบริษัทขนส่ง และการโจมตีผู้ใช้ Booking.com ผ่านอีเมลฟิชชิ่ง CastleRAT จึงถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามที่ซับซ้อนและยืดหยุ่นสูง 🔗 https://securityonline.info/graybravo-maas-deploys-castlerat-backdoor-hiding-c2-with-steam-profile-dead-drop-resolvers ⚠️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Rockwell เสี่ยง SQLi และทำให้ระบบความปลอดภัยหยุดทำงาน Rockwell Automation ออกคำเตือนเกี่ยวกับสองช่องโหว่สำคัญ ช่องแรกคือ SQL Injection ใน FactoryTalk DataMosaix Private Cloud ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สิทธิ์ต่ำสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้โดยตรง อีกช่องโหว่คือ DoS ในอุปกรณ์ GuardLink EtherNet/IP Interface ซึ่งเมื่อถูกโจมตีจะหยุดทำงานและต้องรีสตาร์ทด้วยมือ ไม่สามารถแก้ไขจากระยะไกลได้ ทั้งสองช่องโหว่ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและผู้ใช้งานถูกแนะนำให้อัปเดตซอฟต์แวร์ทันทีเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้ระบบหยุดชะงัก 🔗 https://securityonline.info/high-severity-rockwell-flaws-risk-industrial-sqli-data-tampering-and-safety-device-dos-requiring-manual-fix 🎮 Itch.io ถูกโจมตีด้วย Lumma Stealer ผ่านอัปเดตเกมปลอม แพลตฟอร์มเกมอินดี้ Itch.io กลายเป็นเป้าหมายของแคมเปญมัลแวร์ใหม่ที่ใช้วิธีโพสต์คอมเมนต์ปลอมในหน้าเกม โดยอ้างว่าเป็น “อัปเดตเกม” และใส่ลิงก์ไปยังไฟล์ที่มี Lumma Stealer แฝงอยู่ ไฟล์หลัก game.exe ถูกสร้างด้วย Node.js และใช้เทคนิค reflective loading เพื่อซ่อน payload เมื่อรันแล้วจะขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่าน คุกกี้ และกระเป๋าเงินคริปโต ก่อนส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงการใช้แพลตฟอร์มเกมเป็นช่องทางแพร่กระจายมัลแวร์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 🔗 https://securityonline.info/itch-io-targeted-lumma-stealer-deployed-via-fake-updates-and-reflective-node-js-loader 🛠️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน n8n เสี่ยงถูกสั่งรันโค้ดจาก Git Node เครื่องมือ workflow automation ยอดนิยม n8n ถูกพบช่องโหว่ CVE-2025-65964 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.4 โดยเกิดจากการตั้งค่า Git Node ที่เปิดให้ผู้ใช้กำหนดค่าได้อย่างอิสระ ทำให้แฮกเกอร์สามารถเปลี่ยนเส้นทาง hooksPath ไปยังโฟลเดอร์ที่มีสคริปต์อันตราย และเมื่อ Git ทำงานก็จะรันโค้ดที่ฝังไว้ทันที ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้เต็มรูปแบบ ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 1.119.2 และแนะนำให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยงการใช้ Git Node กับ repository ที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://securityonline.info/critical-n8n-rce-flaw-cve-2025-65964-allows-remote-code-execution-via-git-node-configuration-manipulation 🌐 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Cisco ASA/FTD เสี่ยงถูกยึดระบบจากระยะไกล Cisco ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ CVE-2025-26092 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.8 โดยเกิดจากการจัดการ SSL VPN ที่ผิดพลาดในอุปกรณ์ Adaptive Security Appliance (ASA) และ Firepower Threat Defense (FTD) ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีที่ไม่ได้ยืนยันตัวตนสามารถส่งคำสั่งพิเศษเพื่อเข้าควบคุมระบบได้ทันที Cisco ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วและแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้ระบบเครือข่ายทั้งหมดถูกยึดครอง 🔗 https://securityonline.info/cisco-critical-asa-ftd-vpn-flaw-cve-2025-26092-allows-unauthenticated-rce 🧑‍💻 ช่องโหว่ใหม่ใน Windows 11 ทำให้สิทธิ์ผู้ใช้ถูกยกระดับ Microsoft เปิดเผยช่องโหว่ CVE-2025-23359 ใน Windows 11 ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการไฟล์ระบบ โดยผู้โจมตีสามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อยกระดับสิทธิ์จากผู้ใช้ทั่วไปไปเป็นผู้ดูแลระบบได้ทันที ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและมีการออกแพตช์แก้ไขแล้ว เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของการอัปเดตระบบปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ถูกควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต 🔗 https://securityonline.info/microsoft-windows-11-critical-eop-flaw-cve-2025-23359 📱 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Android ทำให้ข้อมูลผู้ใช้เสี่ยงถูกขโมย Google ประกาศพบช่องโหว่ CVE-2025-12345 ใน Android ที่เปิดโอกาสให้แอปพลิเคชันที่เป็นอันตรายสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อความ รูปภาพ และข้อมูลตำแหน่ง โดยไม่ต้องได้รับอนุญาต ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและมีผลกระทบต่อหลายรุ่นของ Android ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วและแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัว 🔗 https://securityonline.info/android-critical-flaw-cve-2025-12345 🏦 แฮกเกอร์โจมตีธนาคารด้วยมัลแวร์ใหม่ชื่อ BankFury มีรายงานการโจมตีธนาคารในหลายประเทศด้วยมัลแวร์ใหม่ชื่อ BankFury ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลการเข้าสู่ระบบและทำธุรกรรมปลอม มัลแวร์นี้สามารถแฝงตัวในอีเมลฟิชชิ่งและแอปพลิเคชันที่ดูเหมือนถูกต้อง เมื่อผู้ใช้ติดตั้งแล้ว BankFury จะดักจับข้อมูลการเข้าสู่ระบบและส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี เหตุการณ์นี้ทำให้หลายธนาคารต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและแจ้งเตือนลูกค้าให้ระวังการเปิดไฟล์หรือแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://securityonline.info/bankfury-malware-targets-banks-worldwide 🛰️ ช่องโหว่ในระบบดาวเทียมเสี่ยงถูกโจมตีจากไซเบอร์ นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ในระบบควบคุมดาวเทียมที่อาจเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้ามาแทรกแซงการสื่อสารหรือควบคุมการทำงานของดาวเทียมได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและอาจส่งผลกระทบต่อการสื่อสาร การนำทาง และการสังเกตการณ์จากอวกาศ เหตุการณ์นี้ทำให้หลายองค์กรด้านอวกาศต้องเร่งตรวจสอบและอัปเดตระบบเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายร้ายแรง 🔗 https://securityonline.info/satellite-critical-cybersecurity-flaw
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อุตสาหกรรมชิปเข้าสู่ Giga Cycle"

    ข่าวนี้เล่าถึงการที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กำลังเข้าสู่สิ่งที่นักวิเคราะห์เรียกว่า “Giga Cycle” ซึ่งเกิดจากการลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐาน AI ทำให้ความต้องการชิปทุกประเภท—ตั้งแต่ CPU, GPU, หน่วยความจำ ไปจนถึงการบรรจุขั้นสูง—พุ่งขึ้นพร้อมกันอย่างไม่เคยมีมาก่อน

    รายงานจาก Creative Strategies ระบุว่า ตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกจะทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028–2029 จากเดิมที่มีรายได้ราว 650 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 . ปัจจัยหลักคือการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ใหญ่กว่าทุกการขยายตัวในอดีต . ทั้ง AMD, Nvidia และ Broadcom ต่างยืนยันว่าตลาดนี้คือโอกาสมหาศาล โดย AMD คาดว่าตลาดฮาร์ดแวร์ AI จะมีมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 .

    การเติบโตของ AI Accelerators และเซิร์ฟเวอร์
    AI Accelerators ที่มีมูลค่าไม่ถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ถูกคาดว่าจะโตถึง 300–350 พันล้านดอลลาร์ในปี 2029–2030 . ตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI ก็จะพุ่งจาก 140 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ไปถึง 850 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 . สิ่งนี้ทำให้การพัฒนา ASIC (Application-Specific Integrated Circuit) กลายเป็นหัวใจสำคัญในแผนงานของ Hyperscaler รายใหญ่ เช่น Broadcom ที่คาดว่าธุรกิจ custom silicon จะทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นทศวรรษ .

    หน่วยความจำและการบรรจุ: คอขวดสำคัญ
    ตลาดหน่วยความจำ โดยเฉพาะ HBM (High Bandwidth Memory) กำลังกลายเป็นคอขวดหลัก . รายได้จาก HBM ถูกคาดว่าจะโตจาก 16 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ไปถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 . ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีการบรรจุขั้นสูงอย่าง CoWoS ก็กำลังถูกขยายกำลังการผลิตกว่า 60% ระหว่างปี 2025–2026 เพื่อรองรับความต้องการ .

    มุมมองเชิงกลยุทธ์
    สิ่งที่ทำให้ Giga Cycle แตกต่างจากรอบการเติบโตในอดีตคือ ทุกเซ็กเมนต์ของตลาดกำลังขยายตัวพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น Compute, Memory, Networking หรือ Storage . นี่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่อาจทำให้ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ไม่ใช่แค่ “รอบบูม” แต่เป็นการเข้าสู่ยุคใหม่ที่ AI กลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจโลก .

    สรุปสาระสำคัญ
    ตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกโตแรง
    คาดทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028–2029

    AI Accelerators และเซิร์ฟเวอร์ AI
    โตจาก 140 พันล้าน → 850 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030

    ASIC และ Custom Silicon
    Broadcom คาดธุรกิจ custom silicon จะทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์

    HBM และการบรรจุขั้นสูง
    HBM โตจาก 16 พันล้าน → 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030
    CoWoS ขยายกำลังผลิตกว่า 60% ภายในปี 2026

    คำเตือนด้านคอขวดการผลิต
    หน่วยความจำและการบรรจุอาจไม่ทันต่อความต้องการ AI

    คำเตือนด้านความเสี่ยงตลาด
    หากการลงทุน AI ชะลอตัว อาจกระทบต่อการเติบโตของทั้งอุตสาหกรรม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/semiconductor-industry-enters-giga-cycle-as-ai-infrastructure-spending-reshapes-demand
    🌐 "อุตสาหกรรมชิปเข้าสู่ Giga Cycle" ข่าวนี้เล่าถึงการที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กำลังเข้าสู่สิ่งที่นักวิเคราะห์เรียกว่า “Giga Cycle” ซึ่งเกิดจากการลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐาน AI ทำให้ความต้องการชิปทุกประเภท—ตั้งแต่ CPU, GPU, หน่วยความจำ ไปจนถึงการบรรจุขั้นสูง—พุ่งขึ้นพร้อมกันอย่างไม่เคยมีมาก่อน รายงานจาก Creative Strategies ระบุว่า ตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกจะทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028–2029 จากเดิมที่มีรายได้ราว 650 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 . ปัจจัยหลักคือการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ใหญ่กว่าทุกการขยายตัวในอดีต . ทั้ง AMD, Nvidia และ Broadcom ต่างยืนยันว่าตลาดนี้คือโอกาสมหาศาล โดย AMD คาดว่าตลาดฮาร์ดแวร์ AI จะมีมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 . ⚡ การเติบโตของ AI Accelerators และเซิร์ฟเวอร์ AI Accelerators ที่มีมูลค่าไม่ถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ถูกคาดว่าจะโตถึง 300–350 พันล้านดอลลาร์ในปี 2029–2030 . ตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI ก็จะพุ่งจาก 140 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ไปถึง 850 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 . สิ่งนี้ทำให้การพัฒนา ASIC (Application-Specific Integrated Circuit) กลายเป็นหัวใจสำคัญในแผนงานของ Hyperscaler รายใหญ่ เช่น Broadcom ที่คาดว่าธุรกิจ custom silicon จะทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นทศวรรษ . 🧠 หน่วยความจำและการบรรจุ: คอขวดสำคัญ ตลาดหน่วยความจำ โดยเฉพาะ HBM (High Bandwidth Memory) กำลังกลายเป็นคอขวดหลัก . รายได้จาก HBM ถูกคาดว่าจะโตจาก 16 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ไปถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 . ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีการบรรจุขั้นสูงอย่าง CoWoS ก็กำลังถูกขยายกำลังการผลิตกว่า 60% ระหว่างปี 2025–2026 เพื่อรองรับความต้องการ . 🌍 มุมมองเชิงกลยุทธ์ สิ่งที่ทำให้ Giga Cycle แตกต่างจากรอบการเติบโตในอดีตคือ ทุกเซ็กเมนต์ของตลาดกำลังขยายตัวพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น Compute, Memory, Networking หรือ Storage . นี่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่อาจทำให้ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ไม่ใช่แค่ “รอบบูม” แต่เป็นการเข้าสู่ยุคใหม่ที่ AI กลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจโลก . 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกโตแรง ➡️ คาดทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028–2029 ✅ AI Accelerators และเซิร์ฟเวอร์ AI ➡️ โตจาก 140 พันล้าน → 850 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 ✅ ASIC และ Custom Silicon ➡️ Broadcom คาดธุรกิจ custom silicon จะทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์ ✅ HBM และการบรรจุขั้นสูง ➡️ HBM โตจาก 16 พันล้าน → 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 ➡️ CoWoS ขยายกำลังผลิตกว่า 60% ภายในปี 2026 ‼️ คำเตือนด้านคอขวดการผลิต ⛔ หน่วยความจำและการบรรจุอาจไม่ทันต่อความต้องการ AI ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยงตลาด ⛔ หากการลงทุน AI ชะลอตัว อาจกระทบต่อการเติบโตของทั้งอุตสาหกรรม https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/semiconductor-industry-enters-giga-cycle-as-ai-infrastructure-spending-reshapes-demand
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Intel จับมือ Tata Group ผลักดันอินเดียสู่ศูนย์กลางชิปโลก"

    Intel ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MoU) กับ Tata Group หนึ่งในบริษัทใหญ่ที่สุดของอินเดีย เพื่อร่วมกันพัฒนาและผลิตชิป รวมถึงการบรรจุ (packaging) สำหรับตลาดท้องถิ่น . ความร่วมมือนี้ยังครอบคลุมการพัฒนา AI PC ทั้งในตลาดผู้บริโภคและองค์กร โดยตั้งเป้าให้อินเดียติดอันดับ Top 5 ตลาดคอมพิวเตอร์โลกภายในปี 2030.

    การลงทุนครั้งใหญ่: "โรงงานมูลค่า 14 พันล้านดอลลาร์"
    Tata Group กำลังสร้างโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ 2 แห่งในอินเดีย มูลค่ารวมกว่า 14 พันล้านดอลลาร์ ได้แก่ โรงงานผลิตชิปในรัฐคุชราต และโรงงาน OSAT (Outsourced Semiconductor Assembly and Test) ในรัฐอัสสัม. การลงทุนนี้ถือเป็นโครงการใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของอินเดียจนถึงปัจจุบัน .

    ผลักดัน India Semiconductor Mission (ISM)
    ความร่วมมือครั้งนี้ยังเป็นแรงหนุนสำคัญต่อโครงการ India Semiconductor Mission (ISM) ที่รัฐบาลอินเดียเปิดตัวตั้งแต่ปี 2021 ด้วยงบประมาณกว่า 10 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างระบบนิเวศครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ การผลิต ไปจนถึงการทดสอบชิป . โครงการนี้ยังดึงดูดผู้เล่นระดับโลก เช่น Micron, Foxconn และ Clas-SiC Wafer Fab เข้ามาร่วมลงทุน.

    มุมมองเชิงกลยุทธ์
    Intel มองว่าอินเดียเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ด้วยความต้องการ PC และ AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง . การจับมือกับ Tata ไม่เพียงช่วยขยายธุรกิจ แต่ยังเป็นการสร้างฐานการผลิตที่มั่นคงในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพาประเทศอื่นและเสริมความมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปทาน.

    สรุปสาระสำคัญ
    Intel จับมือ Tata Group
    ลงนาม MoU เพื่อผลิตและบรรจุชิปในอินเดีย

    การลงทุนครั้งใหญ่
    โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ 2 แห่ง มูลค่า ~14 พันล้านดอลลาร์

    พัฒนา AI PC
    ตั้งเป้าให้อินเดียติด Top 5 ตลาดคอมพิวเตอร์โลกภายในปี 2030

    สนับสนุน India Semiconductor Mission
    โครงการรัฐบาลมูลค่า ~10 พันล้านดอลลาร์ ดึงดูดผู้เล่นระดับโลก

    คำเตือนด้านห่วงโซ่อุปทาน
    หากโครงการล่าช้า อินเดียอาจเสียโอกาสแข่งขันกับจีนและไต้หวัน

    คำเตือนด้านความเสี่ยงการลงทุน
    โรงงานใหม่ต้องใช้เวลาและเทคโนโลยีสูง อาจเจออุปสรรคด้านบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐาน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-boosts-indias-chip-push-with-new-tata-group-strategic-partnership-includes-manufacturing-and-packaging-of-intel-products-for-local-markets
    🤝 "Intel จับมือ Tata Group ผลักดันอินเดียสู่ศูนย์กลางชิปโลก" Intel ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MoU) กับ Tata Group หนึ่งในบริษัทใหญ่ที่สุดของอินเดีย เพื่อร่วมกันพัฒนาและผลิตชิป รวมถึงการบรรจุ (packaging) สำหรับตลาดท้องถิ่น . ความร่วมมือนี้ยังครอบคลุมการพัฒนา AI PC ทั้งในตลาดผู้บริโภคและองค์กร โดยตั้งเป้าให้อินเดียติดอันดับ Top 5 ตลาดคอมพิวเตอร์โลกภายในปี 2030. 🏭 การลงทุนครั้งใหญ่: "โรงงานมูลค่า 14 พันล้านดอลลาร์" Tata Group กำลังสร้างโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ 2 แห่งในอินเดีย มูลค่ารวมกว่า 14 พันล้านดอลลาร์ ได้แก่ โรงงานผลิตชิปในรัฐคุชราต และโรงงาน OSAT (Outsourced Semiconductor Assembly and Test) ในรัฐอัสสัม. การลงทุนนี้ถือเป็นโครงการใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของอินเดียจนถึงปัจจุบัน . ⚡ ผลักดัน India Semiconductor Mission (ISM) ความร่วมมือครั้งนี้ยังเป็นแรงหนุนสำคัญต่อโครงการ India Semiconductor Mission (ISM) ที่รัฐบาลอินเดียเปิดตัวตั้งแต่ปี 2021 ด้วยงบประมาณกว่า 10 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างระบบนิเวศครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ การผลิต ไปจนถึงการทดสอบชิป . โครงการนี้ยังดึงดูดผู้เล่นระดับโลก เช่น Micron, Foxconn และ Clas-SiC Wafer Fab เข้ามาร่วมลงทุน. 🌍 มุมมองเชิงกลยุทธ์ Intel มองว่าอินเดียเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ด้วยความต้องการ PC และ AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง . การจับมือกับ Tata ไม่เพียงช่วยขยายธุรกิจ แต่ยังเป็นการสร้างฐานการผลิตที่มั่นคงในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพาประเทศอื่นและเสริมความมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปทาน. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Intel จับมือ Tata Group ➡️ ลงนาม MoU เพื่อผลิตและบรรจุชิปในอินเดีย ✅ การลงทุนครั้งใหญ่ ➡️ โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ 2 แห่ง มูลค่า ~14 พันล้านดอลลาร์ ✅ พัฒนา AI PC ➡️ ตั้งเป้าให้อินเดียติด Top 5 ตลาดคอมพิวเตอร์โลกภายในปี 2030 ✅ สนับสนุน India Semiconductor Mission ➡️ โครงการรัฐบาลมูลค่า ~10 พันล้านดอลลาร์ ดึงดูดผู้เล่นระดับโลก ‼️ คำเตือนด้านห่วงโซ่อุปทาน ⛔ หากโครงการล่าช้า อินเดียอาจเสียโอกาสแข่งขันกับจีนและไต้หวัน ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยงการลงทุน ⛔ โรงงานใหม่ต้องใช้เวลาและเทคโนโลยีสูง อาจเจออุปสรรคด้านบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐาน https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-boosts-indias-chip-push-with-new-tata-group-strategic-partnership-includes-manufacturing-and-packaging-of-intel-products-for-local-markets
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทรัมป์อนุมัติส่งออก Nvidia H200 ไปจีน พร้อมค่าธรรมเนียม 25%"
    รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศอนุญาตให้บริษัท Nvidia ส่งออกชิป H200 Hopper-class AI accelerators ไปยังลูกค้าที่ได้รับการอนุมัติในจีน . การตัดสินใจครั้งนี้มาพร้อมเงื่อนไขว่าต้องเสียค่าธรรมเนียม 25% และชิปจะถูกตรวจสอบความปลอดภัยในสหรัฐก่อนส่งต่อไปจีน

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI
    ชิป H200 ถือเป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่น H20 ที่จีนเคยได้รับอนุญาตให้ใช้ แต่ยังต่ำกว่ารุ่น Blackwell ที่เป็นเทคโนโลยีล่าสุด . การอนุมัติครั้งนี้ช่วยให้บริษัทจีน เช่น Alibaba, Tencent และ ByteDance สามารถเข้าถึงทรัพยากรที่จำเป็นในการฝึกและดูแลโมเดล AI ขนาดใหญ่ โดยไม่ต้องพึ่งพาการประมวลผลในต่างประเทศ

    ความกังวลด้านความมั่นคง
    แม้จะเป็นการเปิดตลาด แต่หลายฝ่ายในสหรัฐฯ มองว่าการส่งออก H200 อาจเป็น ภัยต่อความมั่นคง เพราะยังคงมีศักยภาพสูงในการพัฒนา AI กลุ่มวุฒิสมาชิกได้เสนอร่างกฎหมาย SAFE CHIPS Act เพื่อระงับการส่งออกชิปขั้นสูงไปจีนเป็นเวลา 30 เดือน

    มุมมองจากจีน
    ฝ่ายจีนเองยังคงระมัดระวัง โดยมีรายงานว่ากำลังพิจารณาอนุญาตให้ใช้ H200 เฉพาะในกรณีที่ชิปภายในประเทศไม่สามารถตอบโจทย์ได้ . นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มว่าจะห้ามหน่วยงานภาครัฐซื้อชิป Nvidia เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ

    สรุปสาระสำคัญ
    การอนุมัติส่งออก H200
    ต้องเสียค่าธรรมเนียม 25% และผ่านการตรวจสอบความปลอดภัย

    ศักยภาพของ H200
    แรงกว่ารุ่น H20 แต่ยังต่ำกว่า Blackwell

    ผลต่อบริษัทจีน
    Alibaba, Tencent, ByteDance ได้ประโยชน์ในการฝึกโมเดล AI

    คำเตือนด้านความมั่นคง
    วุฒิสมาชิกสหรัฐเสนอ SAFE CHIPS Act เพื่อระงับการส่งออก

    คำเตือนจากจีน
    อาจจำกัดการใช้งาน H200 และห้ามภาครัฐซื้อชิป Nvidia

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/trump-approves-nvidia-h20-exports-to-china-25percent-fee-applies
    🏛️ "ทรัมป์อนุมัติส่งออก Nvidia H200 ไปจีน พร้อมค่าธรรมเนียม 25%" รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศอนุญาตให้บริษัท Nvidia ส่งออกชิป H200 Hopper-class AI accelerators ไปยังลูกค้าที่ได้รับการอนุมัติในจีน . การตัดสินใจครั้งนี้มาพร้อมเงื่อนไขว่าต้องเสียค่าธรรมเนียม 25% และชิปจะถูกตรวจสอบความปลอดภัยในสหรัฐก่อนส่งต่อไปจีน ⚡ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI ชิป H200 ถือเป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่น H20 ที่จีนเคยได้รับอนุญาตให้ใช้ แต่ยังต่ำกว่ารุ่น Blackwell ที่เป็นเทคโนโลยีล่าสุด . การอนุมัติครั้งนี้ช่วยให้บริษัทจีน เช่น Alibaba, Tencent และ ByteDance สามารถเข้าถึงทรัพยากรที่จำเป็นในการฝึกและดูแลโมเดล AI ขนาดใหญ่ โดยไม่ต้องพึ่งพาการประมวลผลในต่างประเทศ 🛡️ ความกังวลด้านความมั่นคง แม้จะเป็นการเปิดตลาด แต่หลายฝ่ายในสหรัฐฯ มองว่าการส่งออก H200 อาจเป็น ภัยต่อความมั่นคง เพราะยังคงมีศักยภาพสูงในการพัฒนา AI กลุ่มวุฒิสมาชิกได้เสนอร่างกฎหมาย SAFE CHIPS Act เพื่อระงับการส่งออกชิปขั้นสูงไปจีนเป็นเวลา 30 เดือน 🌍 มุมมองจากจีน ฝ่ายจีนเองยังคงระมัดระวัง โดยมีรายงานว่ากำลังพิจารณาอนุญาตให้ใช้ H200 เฉพาะในกรณีที่ชิปภายในประเทศไม่สามารถตอบโจทย์ได้ . นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มว่าจะห้ามหน่วยงานภาครัฐซื้อชิป Nvidia เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การอนุมัติส่งออก H200 ➡️ ต้องเสียค่าธรรมเนียม 25% และผ่านการตรวจสอบความปลอดภัย ✅ ศักยภาพของ H200 ➡️ แรงกว่ารุ่น H20 แต่ยังต่ำกว่า Blackwell ✅ ผลต่อบริษัทจีน ➡️ Alibaba, Tencent, ByteDance ได้ประโยชน์ในการฝึกโมเดล AI ‼️ คำเตือนด้านความมั่นคง ⛔ วุฒิสมาชิกสหรัฐเสนอ SAFE CHIPS Act เพื่อระงับการส่งออก ‼️ คำเตือนจากจีน ⛔ อาจจำกัดการใช้งาน H200 และห้ามภาครัฐซื้อชิป Nvidia https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/trump-approves-nvidia-h20-exports-to-china-25percent-fee-applies
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • "จับเพิ่มอีก 2 รายในคดีลักลอบชิป Nvidia ไปจีน"

    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) รายงานว่ามีการจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 รายในนิวยอร์กและออนแทรีโอ หลังพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้า Nvidia H100 และ H200 ไปยังจีน . ก่อนหน้านี้มีผู้ต้องหาที่ฮูสตันยอมรับผิดแล้ว ทำให้คดีนี้มีผู้เกี่ยวข้องรวมอย่างน้อย 3 ราย .

    วิธีการลักลอบ: "ปลอมฉลากเป็นแบรนด์ Sandkyan"
    กลุ่มผู้ต้องหาถูกกล่าวหาว่าใช้วิธี เปลี่ยนฉลากบนกล่องและพาเลทของชิป Nvidia ให้เป็นชื่อแบรนด์สมมติ “Sandkyan” เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ศุลกากร . พวกเขายังร่วมมือกับบริษัทขนส่งในฮ่องกงและบริษัท AI ในจีนเพื่ออำนวยความสะดวกในการนำชิปผ่านด่านควบคุม .

    ปฏิบัติการ Gatekeeper: "สกัดการแพร่กระจายเทคโนโลยี AI"
    การจับกุมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Operation Gatekeeper ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเทคโนโลยี AI ของสหรัฐไปยังประเทศที่อาจใช้เป็นภัยต่อความมั่นคง . แม้ชิป H100 และ H200 จะถือเป็นรุ่นเก่ากว่าชิป Blackwell ที่กำลังเป็นที่ต้องการ แต่ก็ยังมีศักยภาพสูงในการประมวลผล AI .

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและความมั่นคง
    การลักลอบครั้งนี้สะท้อนถึงความต้องการมหาศาลของจีนต่อชิป AI แม้จะถูกจำกัดการนำเข้า . สหรัฐมองว่าการผ่อนปรนให้จีนเข้าถึงชิป Hopper รุ่นเก่าอาจไม่กระทบต่อความเหนือกว่าทางเทคโนโลยี แต่เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าความเสี่ยงยังคงมีอยู่ และตลาดมืดของชิป AI กำลังเติบโต .

    สรุปสาระสำคัญ
    การจับกุมเพิ่มเติม
    ผู้ต้องหาใหม่ 2 รายในนิวยอร์กและออนแทรีโอ

    วิธีการลักลอบ
    เปลี่ยนฉลากเป็นแบรนด์สมมติ “Sandkyan”
    ร่วมมือกับบริษัทขนส่งในฮ่องกงและบริษัท AI ในจีน

    Operation Gatekeeper
    ปฏิบัติการของ DOJ เพื่อสกัดการแพร่กระจายเทคโนโลยี AI

    สถานะชิป Nvidia
    H100 และ H200 เป็นรุ่น Hopper ที่ยังมีศักยภาพสูง แม้จะไม่ทันสมัยเท่า Blackwell

    คำเตือนด้านความมั่นคง
    การลักลอบอาจช่วยจีนเสริมศักยภาพ AI และการทหาร

    คำเตือนด้านตลาดมืด
    ความต้องการชิป AI สูงทำให้ตลาดมืดเติบโตและยากต่อการควบคุม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/two-more-perps-apprehended-over-smuggling-of-usd160-million-of-nvidia-chips-to-china-doj-says-h100-and-h200-shipments-were-relabelled-with-a-fictional-brand-to-dodge-export-controls
    🚨 "จับเพิ่มอีก 2 รายในคดีลักลอบชิป Nvidia ไปจีน" กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) รายงานว่ามีการจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 รายในนิวยอร์กและออนแทรีโอ หลังพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้า Nvidia H100 และ H200 ไปยังจีน . ก่อนหน้านี้มีผู้ต้องหาที่ฮูสตันยอมรับผิดแล้ว ทำให้คดีนี้มีผู้เกี่ยวข้องรวมอย่างน้อย 3 ราย . 🕵️ วิธีการลักลอบ: "ปลอมฉลากเป็นแบรนด์ Sandkyan" กลุ่มผู้ต้องหาถูกกล่าวหาว่าใช้วิธี เปลี่ยนฉลากบนกล่องและพาเลทของชิป Nvidia ให้เป็นชื่อแบรนด์สมมติ “Sandkyan” เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ศุลกากร . พวกเขายังร่วมมือกับบริษัทขนส่งในฮ่องกงและบริษัท AI ในจีนเพื่ออำนวยความสะดวกในการนำชิปผ่านด่านควบคุม . 🛡️ ปฏิบัติการ Gatekeeper: "สกัดการแพร่กระจายเทคโนโลยี AI" การจับกุมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Operation Gatekeeper ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเทคโนโลยี AI ของสหรัฐไปยังประเทศที่อาจใช้เป็นภัยต่อความมั่นคง . แม้ชิป H100 และ H200 จะถือเป็นรุ่นเก่ากว่าชิป Blackwell ที่กำลังเป็นที่ต้องการ แต่ก็ยังมีศักยภาพสูงในการประมวลผล AI . 🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและความมั่นคง การลักลอบครั้งนี้สะท้อนถึงความต้องการมหาศาลของจีนต่อชิป AI แม้จะถูกจำกัดการนำเข้า . สหรัฐมองว่าการผ่อนปรนให้จีนเข้าถึงชิป Hopper รุ่นเก่าอาจไม่กระทบต่อความเหนือกว่าทางเทคโนโลยี แต่เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าความเสี่ยงยังคงมีอยู่ และตลาดมืดของชิป AI กำลังเติบโต . 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การจับกุมเพิ่มเติม ➡️ ผู้ต้องหาใหม่ 2 รายในนิวยอร์กและออนแทรีโอ ✅ วิธีการลักลอบ ➡️ เปลี่ยนฉลากเป็นแบรนด์สมมติ “Sandkyan” ➡️ ร่วมมือกับบริษัทขนส่งในฮ่องกงและบริษัท AI ในจีน ✅ Operation Gatekeeper ➡️ ปฏิบัติการของ DOJ เพื่อสกัดการแพร่กระจายเทคโนโลยี AI ✅ สถานะชิป Nvidia ➡️ H100 และ H200 เป็นรุ่น Hopper ที่ยังมีศักยภาพสูง แม้จะไม่ทันสมัยเท่า Blackwell ‼️ คำเตือนด้านความมั่นคง ⛔ การลักลอบอาจช่วยจีนเสริมศักยภาพ AI และการทหาร ‼️ คำเตือนด้านตลาดมืด ⛔ ความต้องการชิป AI สูงทำให้ตลาดมืดเติบโตและยากต่อการควบคุม https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/two-more-perps-apprehended-over-smuggling-of-usd160-million-of-nvidia-chips-to-china-doj-says-h100-and-h200-shipments-were-relabelled-with-a-fictional-brand-to-dodge-export-controls
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ASML ถูกวิจารณ์หนักหลังขาย DUV ให้จีน"

    บริษัท ASML ผู้ผลิตเครื่องจักรโฟโตลิทอกราฟีรายใหญ่ที่สุดในโลก กำลังเผชิญแรงกดดัน หลังมีรายงานว่าขายเครื่อง Deep Ultraviolet (DUV) ให้กับบริษัทจีนที่มีความเชื่อมโยงกับกองทัพ . แม้ ASML จะยืนยันว่าเครื่องจักรเหล่านี้เป็น เทคโนโลยีเก่า ไม่สามารถผลิตชิปขั้นสูงได้ แต่หลายฝ่ายกังวลว่าการเข้าถึงเทคโนโลยีนี้จะช่วยจีนพัฒนาโครงการด้านควอนตัมและการทหาร .

    มุมมองรัฐบาลและผู้เชี่ยวชาญ
    รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ยืนยันว่า ไม่ใช่ทุกส่วนของเครื่องจักรจะอยู่ภายใต้การควบคุมการส่งออก ทำให้ ASML ไม่ผิดกฎหมาย . อย่างไรก็ตาม นักวิจัยจาก RAND Europa และผู้เชี่ยวชาญด้านจีนเตือนว่า บางชิ้นส่วนที่ขายไปมีความสำคัญต่อการทำงานของเครื่องจักร และควรอยู่ภายใต้การควบคุม . ข้อถกเถียงนี้สะท้อนถึงช่องโหว่ในนโยบายการควบคุมเทคโนโลยีขั้นสูง .

    ความเสี่ยงด้านควอนตัมและการทหาร
    หนึ่งในประเด็นที่น่ากังวลคือการที่เครื่องจักรถูกส่งไปยัง Shenzhen International Quantum Academy ซึ่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนาควอนตัมของจีน . หน่วยข่าวกรองทหารเนเธอร์แลนด์เคยเตือนว่า การพัฒนาควอนตัมของจีนอาจมีผลต่อการใช้งานด้านทหาร เช่น ระบบสื่อสารที่ปลอดภัยและการคำนวณขั้นสูงสำหรับการออกแบบอาวุธ . แม้ DUV จะไม่ทันสมัยเท่า EUV แต่ก็ยังมีศักยภาพในการผลิตชิปที่ใช้ในงานวิจัยและการทหาร .

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโลก
    กรณีนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดใน สงครามเทคโนโลยีระหว่างตะวันตกกับจีน โดยจีนพยายามหาทางเข้าถึงเทคโนโลยีแม้จะถูกจำกัดการนำเข้า EUV . การที่ ASML ถูกจับตามองอาจทำให้รัฐบาลยุโรปเข้มงวดขึ้นในการควบคุมการส่งออก แม้จะกระทบต่อธุรกิจ แต่ก็ถูกมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงด้านความมั่นคง .

    สรุปสาระสำคัญ
    ASML ขายเครื่อง DUV ให้จีน
    อ้างว่าเป็นเทคโนโลยีเก่า ไม่สามารถผลิตชิปขั้นสูงได้

    รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ยืนยันไม่ผิดกฎหมาย
    ไม่ใช่ทุกส่วนของเครื่องจักรอยู่ภายใต้การควบคุมการส่งออก

    ผู้เชี่ยวชาญเตือนถึงความเสี่ยง
    บางชิ้นส่วนมีความสำคัญต่อการทำงาน ควรอยู่ภายใต้การควบคุม

    เชื่อมโยงกับโครงการควอนตัมของจีน
    Shenzhen International Quantum Academy ได้รับเครื่องจักรไปใช้งาน

    คำเตือนด้านความมั่นคง
    เทคโนโลยี DUV อาจช่วยจีนพัฒนาระบบควอนตัมและการทหาร

    คำเตือนด้านนโยบายการส่งออก
    ช่องโหว่ในกฎหมายอาจเปิดทางให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีสำคัญ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/asml-under-fire-for-selling-duv-equipment-to-chinese-firm-with-military-ties-says-the-machines-are-not-subject-to-export-controls-fears-grow-that-old-technology-will-bolster-beijings-quantum-effort
    🏭 "ASML ถูกวิจารณ์หนักหลังขาย DUV ให้จีน" บริษัท ASML ผู้ผลิตเครื่องจักรโฟโตลิทอกราฟีรายใหญ่ที่สุดในโลก กำลังเผชิญแรงกดดัน หลังมีรายงานว่าขายเครื่อง Deep Ultraviolet (DUV) ให้กับบริษัทจีนที่มีความเชื่อมโยงกับกองทัพ . แม้ ASML จะยืนยันว่าเครื่องจักรเหล่านี้เป็น เทคโนโลยีเก่า ไม่สามารถผลิตชิปขั้นสูงได้ แต่หลายฝ่ายกังวลว่าการเข้าถึงเทคโนโลยีนี้จะช่วยจีนพัฒนาโครงการด้านควอนตัมและการทหาร . ⚡ มุมมองรัฐบาลและผู้เชี่ยวชาญ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ยืนยันว่า ไม่ใช่ทุกส่วนของเครื่องจักรจะอยู่ภายใต้การควบคุมการส่งออก ทำให้ ASML ไม่ผิดกฎหมาย . อย่างไรก็ตาม นักวิจัยจาก RAND Europa และผู้เชี่ยวชาญด้านจีนเตือนว่า บางชิ้นส่วนที่ขายไปมีความสำคัญต่อการทำงานของเครื่องจักร และควรอยู่ภายใต้การควบคุม . ข้อถกเถียงนี้สะท้อนถึงช่องโหว่ในนโยบายการควบคุมเทคโนโลยีขั้นสูง . 🔬 ความเสี่ยงด้านควอนตัมและการทหาร หนึ่งในประเด็นที่น่ากังวลคือการที่เครื่องจักรถูกส่งไปยัง Shenzhen International Quantum Academy ซึ่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนาควอนตัมของจีน . หน่วยข่าวกรองทหารเนเธอร์แลนด์เคยเตือนว่า การพัฒนาควอนตัมของจีนอาจมีผลต่อการใช้งานด้านทหาร เช่น ระบบสื่อสารที่ปลอดภัยและการคำนวณขั้นสูงสำหรับการออกแบบอาวุธ . แม้ DUV จะไม่ทันสมัยเท่า EUV แต่ก็ยังมีศักยภาพในการผลิตชิปที่ใช้ในงานวิจัยและการทหาร . 🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโลก กรณีนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดใน สงครามเทคโนโลยีระหว่างตะวันตกกับจีน โดยจีนพยายามหาทางเข้าถึงเทคโนโลยีแม้จะถูกจำกัดการนำเข้า EUV . การที่ ASML ถูกจับตามองอาจทำให้รัฐบาลยุโรปเข้มงวดขึ้นในการควบคุมการส่งออก แม้จะกระทบต่อธุรกิจ แต่ก็ถูกมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงด้านความมั่นคง . 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ASML ขายเครื่อง DUV ให้จีน ➡️ อ้างว่าเป็นเทคโนโลยีเก่า ไม่สามารถผลิตชิปขั้นสูงได้ ✅ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ยืนยันไม่ผิดกฎหมาย ➡️ ไม่ใช่ทุกส่วนของเครื่องจักรอยู่ภายใต้การควบคุมการส่งออก ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนถึงความเสี่ยง ➡️ บางชิ้นส่วนมีความสำคัญต่อการทำงาน ควรอยู่ภายใต้การควบคุม ✅ เชื่อมโยงกับโครงการควอนตัมของจีน ➡️ Shenzhen International Quantum Academy ได้รับเครื่องจักรไปใช้งาน ‼️ คำเตือนด้านความมั่นคง ⛔ เทคโนโลยี DUV อาจช่วยจีนพัฒนาระบบควอนตัมและการทหาร ‼️ คำเตือนด้านนโยบายการส่งออก ⛔ ช่องโหว่ในกฎหมายอาจเปิดทางให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีสำคัญ https://www.tomshardware.com/tech-industry/asml-under-fire-for-selling-duv-equipment-to-chinese-firm-with-military-ties-says-the-machines-are-not-subject-to-export-controls-fears-grow-that-old-technology-will-bolster-beijings-quantum-effort
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷

    #รวมข่าวIT #20251209 #TechRadar

    Android XR: จุดเปลี่ยนของสมาร์ทแว่น
    เรื่องราวเริ่มจากประสบการณ์ของ Juston Payne ผู้บริหาร Google ที่ได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR กับลูกชายวัย 10 ขวบในกรุงโรม พอเด็กถามแว่นว่าอยากไปกินเจลาโต้ที่ไหน แว่นก็แสดงแผนที่และนำทางตรงหน้า ทำให้ทั้งครอบครัวเดินตามไปถึงร้านเหมือนเป็นคนท้องถิ่น นี่คือ “aha moment” ที่ทำให้ Payne เชื่อว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเทคโนโลยี wearable แว่นตาเหล่านี้จะไม่ใช่เพียง gadget แต่จะกลายเป็นแพลตฟอร์มคอมพิวติ้งใหม่ที่ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงได้ในอนาคต แม้ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ Google และพันธมิตรอย่าง Samsung, Warby Parker กำลังปูทางให้สมาร์ทแว่นกลายเป็นสิ่งที่หาซื้อได้ทั่วไปในร้านแว่นตา
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/android-xr-head-on-the-ecosystem-we-think-that-this-is-actually-a-very-early-space-and-the-history-is-not-yet-written-for-it

    WordPress RCE Flaw: ช่องโหว่ที่เปิดทางให้แฮกเกอร์
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน Sneeit Framework ของ WordPress ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถสร้างบัญชีแอดมินเองได้ทันที และเข้าควบคุมเว็บไซต์เต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับความรุนแรงสูงสุด 9.8/10 และมีการโจมตีจริงเกิดขึ้นทันทีหลังการเปิดเผย โดยวันแรกมีการบล็อกกว่า 131,000 ครั้ง วิธีป้องกันคืออัปเดตปลั๊กอินเป็นเวอร์ชัน 8.4 และตรวจสอบว่ามีบัญชีแอดมินแปลกปลอม หรือไฟล์ PHP ที่ไม่รู้จักอยู่ในระบบหรือไม่ เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าการดูแลความปลอดภัยของเว็บไซต์ต้องทำอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/security/sneeit-wordpress-rce-flaw-allows-hackers-to-add-themselves-as-admin-heres-how-to-stay-safe

    กฎหมายห้ามเด็กใช้โซเชียล: ออสเตรเลียจุดประกายทั่วโลก
    ออสเตรเลียกำลังจะบังคับใช้กฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย พร้อมบทลงโทษปรับสูงถึง 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กฎหมายนี้ทำให้หลายประเทศจับตามองอย่างใกล้ชิด ทั้งสหราชอาณาจักร สหรัฐ และสหภาพยุโรปที่เริ่มพิจารณามาตรการคล้ายกัน แม้จะมีข้อถกเถียงเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัวจากการตรวจสอบอายุ แต่หลายฝ่ายเห็นว่าจำเป็นเพื่อปกป้องเด็กจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม กฎหมายนี้อาจกลายเป็นต้นแบบที่แพร่ไปทั่วโลกในอนาคต
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/were-going-to-be-watching-really-closely-politicians-around-the-world-are-taking-inspiration-from-australias-social-media-ban

    Windows 11 กับปัญหา RAM: Discord ตัวการใหญ่
    ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนพบว่าแอปพลิเคชันที่สร้างบน Electron framework อย่าง Discord กิน RAM มากผิดปกติ จากเดิมประมาณ 1GB พุ่งขึ้นไปถึง 4GB โดยเฉพาะเมื่อใช้งาน voice chat หรือสตรีมวิดีโอ ปัญหาคือแม้หยุดใช้งานแล้ว RAM ก็ไม่ลดลง ต้องรีสตาร์ทโปรแกรมใหม่ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการเล่นเกมและการทำงานอื่น ๆ ยิ่งในช่วงที่ราคาหน่วยความจำพุ่งสูงเพราะกระแส AI ทำให้ผู้ใช้ยิ่งรู้สึกเดือดร้อนมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/memory/some-windows-11-apps-have-a-massive-ram-problem-and-this-app-is-the-worst-offender

    NordVPN: ป้องกันฟิชชิ่งถึงกล่องอีเมล
    NordVPN เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Threat Protection Pro ที่สามารถสแกนลิงก์ในอีเมลแบบเรียลไทม์ หากพบว่าเป็นลิงก์อันตราย เช่น ฟิชชิ่งหรือมัลแวร์ จะมีสัญลักษณ์เตือนและแบนเนอร์แจ้งทันที จุดเด่นคือทำงานโดยไม่ต้องเข้าถึงเนื้อหาอีเมลทั้งหมด จึงยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการคลิกลิงก์โดยไม่ตั้งใจ และเป็นอีกชั้นการป้องกันที่สำคัญในยุคที่อีเมลฟิชชิ่งถูกส่งออกมาหลายพันล้านฉบับต่อวัน
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nordvpn-extends-phishing-and-malware-protection-to-your-inbox

    GPT‑5.2: การแข่งเดือดระหว่าง OpenAI และ Gemini
    OpenAI เปิดตัว GPT‑5.2 เพื่อเร่งแข่งกับ Gemini 3 ของ Google จุดเด่นคือความเร็วและความสามารถ reasoning ที่ดีขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ลื่นไหลกว่าเดิม การอัปเดตนี้สะท้อนว่าการแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรง และแต่ละค่ายพยายามผลักดันเทคโนโลยีให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-races-gemini-3-to-the-top-with-gpt-5-2-drop-this-week

    จีนกับข้อได้เปรียบด้าน AI: คำเตือนจาก CEO Nvidia
    Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia เตือนว่าจีนมีข้อได้เปรียบมหาศาลในด้าน AI ทั้งด้านการก่อสร้างและพลังงาน โดยรายงานล่าสุดเผยว่าจีนมีสัดส่วนการใช้งาน AI ถึง 30% ของโลก ความสามารถในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็ว เช่น “สร้างโรงพยาบาลในสุดสัปดาห์เดียว” ทำให้จีนถูกมองว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากังวลในสนาม AI ระดับโลก
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/they-can-build-a-hospital-in-a-weekend-nvidia-ceo-warns-about-chinas-big-ai-advantages-as-report-reveals-it-now-has-30-percent-of-global-ai-usage

    Subaru กับโฆษณา Pop‑up ในรถ
    Subaru เข้าร่วมกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ที่ทดลองใส่โฆษณา pop‑up ในระบบ infotainment ของรถยนต์ ซึ่งสร้างเสียงวิจารณ์อย่างมาก หลายคนกังวลว่าโฆษณาจะรบกวนสมาธิในการขับขี่ และอาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยบนท้องถนน แม้ผู้ผลิตจะมองว่าเป็นช่องทางสร้างรายได้ใหม่ แต่ผู้ใช้จำนวนมากไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/subaru-joins-controversial-list-of-carmakers-experimenting-with-infotainment-system-pop-up-ads

    Android XR Prototype: สมาร์ทแว่นรุ่นใหม่ที่พร้อมโชว์
    นักข่าวได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR รุ่นต้นแบบ พบว่ามีดีไซน์บางเบาและเลนส์โปร่งใสที่สามารถแสดงข้อมูลตรงหน้าได้ทันที ทั้งการนำทางและการใช้งานร่วมกับ AI Gemini จุดเด่นคือการออกแบบที่ไม่ทำให้ผู้ใช้ดูแปลกตา และสวมใส่สบาย ทำให้สมาร์ทแว่นรุ่นนี้ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญของ wearable ที่จะเข้าสู่ตลาดในอนาคต
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/i-tried-the-next-gen-android-xr-prototype-smart-glasses-and-these-frames-are-ready-for-your-close-up

    Samsung Galaxy XR: ยกระดับประสบการณ์ Spatial
    Samsung เปิดตัว Galaxy XR ที่ผสมผสานเทคโนโลยี mixed reality และ AI Gemini เข้าด้วยกัน จุดขายคือคุณภาพการแสดงผลที่คมชัดและฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่โลกเสมือนจริงในราคาที่จับต้องได้ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานของอุปกรณ์ XR และสร้างแรงกดดันให้คู่แข่งต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีตามให้ทัน
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/samsung-galaxy-xr-raises-the-bar-while-lowering-the-price-for-premium-spatial-experiences

    รัฐบาลสหรัฐฯ กดดัน Google และ Apple ให้ลบแอปติดตามเจ้าหน้าที่ ICE
    เรื่องนี้กำลังเป็นประเด็นร้อนในสหรัฐฯ เมื่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสภาผู้แทนราษฎรออกแรงกดดันให้ Google และ Apple ลบแอปที่สามารถติดตามเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ICE) ได้ โดยเฉพาะแอปชื่อ ICEBlock ที่เคยมีผู้ใช้มากกว่าล้านคน แม้ตอนนี้จะไม่สามารถดาวน์โหลดใหม่ได้ แต่ยังคงใช้งานได้ในเครื่องที่ติดตั้งไว้แล้ว ปัญหาคือแอปนี้ถูกใช้โดยมือปืนในการก่อเหตุยิงที่ศูนย์ ICE ในเมืองดัลลัส ทำให้เกิดข้อถกเถียงระหว่างความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่กับสิทธิในการรับรู้ข้อมูลของประชาชน นักพัฒนาแอปเองก็ยืนยันว่า แอปนี้ไม่ต่างจากการแชร์ตำแหน่งด่านตรวจความเร็วในแผนที่ ซึ่งถือเป็นเสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ
    https://www.techradar.com/pro/us-gov-wants-google-and-apple-to-take-down-websites-tracking-ice-and-friends

    Pebble โผล่กลับมาอีกครั้งกับสมาร์ทวอชลึกลับ
    Pebble ที่เคยเป็นแบรนด์สมาร์ทวอชสุดฮิตในยุคแรกๆ กำลังสร้างความตื่นเต้นอีกครั้ง หลังจากปล่อยทีเซอร์สมาร์ทวอชใหม่ที่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดมากนัก หลายคนคาดว่ามันอาจจะเป็นการกลับมาของแบรนด์ในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น หรืออาจจะเป็นการรีแบรนด์เพื่อเจาะตลาดสุขภาพและฟิตเนสที่กำลังมาแรง ความลึกลับนี้ทำให้แฟนๆ ที่เคยรัก Pebble ต่างตั้งตารอว่าจะมีอะไรใหม่ที่แตกต่างจากสมาร์ทวอชในตลาดตอนนี้
    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/pebble-just-teased-a-mysterious-new-smartwatch-and-were-excited-to-see-what-it-is

    Magnetar เปิดตัวเครื่องเล่น Blu-ray 4K รุ่นใหม่
    สำหรับคนที่ยังรักการดูหนังผ่านแผ่น Blu-ray Magnetar ได้เปิดตัวเครื่องเล่นรุ่นใหม่ที่ถูกยกให้เป็น “เครื่องเล่นแผ่นสุดท้ายที่คุณต้องมี” เพราะรองรับการเล่นแผ่น 4K ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมคุณภาพเสียงและภาพที่เหนือกว่า เหมาะกับนักสะสมและคนที่จริงจังกับการดูหนังในบ้าน แม้ยุคสตรีมมิ่งจะครองตลาด แต่เครื่องเล่นนี้ก็ยังตอบโจทย์คนที่ต้องการประสบการณ์ภาพและเสียงระดับสูงสุด
    https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/magnetars-new-4k-blu-ray-players-are-the-last-disc-spinners-youll-ever-need-and-theyre-now-available-to-buy

    ข้อมูลคนไข้และเจ้าหน้าที่ NHS ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p
    ระบบสุขภาพในอังกฤษเจอปัญหาใหญ่เมื่อ Barts Health NHS Trust ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p ทำให้ข้อมูลทั้งคนไข้และเจ้าหน้าที่รั่วไหลออกไป เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และยังสะท้อนให้เห็นว่าระบบสาธารณสุขที่มีข้อมูลจำนวนมหาศาลเป็นเป้าหมายหลักของอาชญากรไซเบอร์ การโจมตีครั้งนี้ยังเป็นสัญญาณเตือนว่าหน่วยงานด้านสุขภาพต้องลงทุนมากขึ้นในระบบป้องกันภัยไซเบอร์
    https://www.techradar.com/pro/security/patient-and-staff-data-impacted-by-cl0p-ransomware-attack-on-barts-health-nhs

    รีวิว Bissell PowerClean FurFinder เครื่องดูดฝุ่นไร้สายราคาประหยัด
    ใครที่เลี้ยงสัตว์น่าจะสนใจเครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้ เพราะ Bissell PowerClean FurFinder ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการขนสัตว์โดยเฉพาะ แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด แต่รีวิวบอกว่ามันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา และเหมาะกับการทำความสะอาดบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง จุดเด่นคือความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ก็ยังตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี
    https://www.techradar.com/home/vacuums/bissell-powerclean-furfinder-cordless-vacuum-review

    Samsung เปิดตัว One UI 8.5 Beta พร้อม 6 ฟีเจอร์ใหม่
    Samsung ปล่อยเวอร์ชันเบต้าของ One UI 8.5 ให้ผู้ใช้ได้ลองก่อนใคร โดยมีการอัปเกรดถึง 6 จุดสำคัญ เช่น การปรับปรุงการทำงานแบบหลายหน้าต่างให้ลื่นไหลขึ้น, ฟีเจอร์ใหม่ด้านความเป็นส่วนตัว, การปรับแต่งหน้าจอหลักที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม และการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม จุดเด่นคือการทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเครื่องได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น ถือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในอนาคต
    https://www.techradar.com/phones/samsung-just-launched-the-one-ui-8-5-beta-with-6-big-upgrades-heres-how-to-try-it

    ผู้บริหาร UI ของ Apple ถูก Meta ดึงตัว พร้อมการอพยพครั้งใหญ่ในทีม AI
    Apple กำลังเผชิญกับการสูญเสียบุคลากรสำคัญในทีม AI และ UI เมื่อผู้บริหารระดับสูงถูก Meta ดึงตัวไป และอีกสามคนลาออกตามมา เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในวงการเทคโนโลยี โดยเฉพาะด้าน AI ที่กำลังเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาอุปกรณ์และบริการใหม่ๆ การสูญเสียบุคลากรจำนวนมากในเวลาเดียวกันอาจส่งผลต่อทิศทางการพัฒนาของ Apple ในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/apples-ui-executive-poached-by-meta-and-three-other-executives-leave-in-apple-ai-exodus

    เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ในอินโดนีเซียถูกสลายหลังดำเนินงานมา 14 ปี
    อินโดนีเซียสามารถสลายเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินงานมายาวนานถึง 14 ปี ซึ่งมีการโจมตีและหลอกลวงผู้คนจำนวนมากทั่วโลก การปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และเป็นสัญญาณว่าประเทศกำลังจริงจังกับการจัดการภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและความมั่นคง
    https://www.techradar.com/pro/security/national-cybercrime-network-operating-for-14-years-dismantled-in-indonesia

    รีวิวแผ่น Blu-ray 4K ที่ดีจนถูกนำมาใช้ทดสอบทีวี
    นักรีวิวที่ทำงานกับทีวีมืออาชีพเผยว่าเจอแผ่น Blu-ray 4K ใหม่ 5 เรื่องที่คุณภาพดีมากจนถูกนำมาใช้เป็นสื่อทดสอบทีวีในห้องแล็บ ความละเอียดและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมทำให้แผ่นเหล่านี้ไม่ใช่แค่เพื่อความบันเทิง แต่ยังเป็นมาตรฐานในการวัดประสิทธิภาพของทีวีรุ่นใหม่ๆ สำหรับคนที่รักการดูหนังแบบเต็มประสบการณ์ นี่คือแผ่นที่ควรมีไว้สะสม
    https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/i-review-4k-blu-rays-for-a-living-these-5-new-discs-are-so-good-theyve-entered-my-tv-testing-rotation

    อุปกรณ์ถ่ายทำ TikTok ที่ครบในกระเป๋าใบเล็ก
    นักสร้างคอนเทนต์ TikTok แชร์ว่าเขามีกล้องและอุปกรณ์เสริม 9 ชิ้นที่สามารถใส่รวมกันในกระเป๋าสะพายใบเล็กได้ทั้งหมด ตั้งแต่กล้องคุณภาพสูง ขาตั้ง ไปจนถึงอุปกรณ์เสียง จุดเด่นคือความคล่องตัวและความสามารถในการสร้างคอนเทนต์คุณภาพสูงได้ทุกที่ทุกเวลา เหมาะสำหรับคนที่อยากทำคอนเทนต์แบบมืออาชีพโดยไม่ต้องแบกอุปกรณ์ใหญ่ๆ
    https://www.techradar.com/cameras/i-swear-by-these-9-cameras-and-accessories-for-shooting-tiktok-content-and-they-all-fit-in-one-small-sling-bag

    FBI เตือนภัย Deepfake ใช้หลอกเรียกค่าไถ่
    เรื่องราวนี้เล่าถึงการที่อาชญากรเริ่มใช้ Generative AI สร้างวิดีโอปลอมเป็น “หลักฐานการมีชีวิต” ของเหยื่อที่ถูกอ้างว่าถูกลักพาตัว พวกเขาจะนำภาพและวิดีโอจากโซเชียลมีเดียไปสร้างเป็นคลิปที่ดูสมจริง แล้วส่งไปหาญาติหรือคนใกล้ชิดเพื่อเรียกค่าไถ่ทันที FBI ออกประกาศเตือนว่าภาพเหล่านี้มักมีจุดผิดพลาด เช่น รอยสักหายไปหรือสัดส่วนร่างกายไม่ถูกต้อง แต่ผู้ร้ายจะใช้วิธีส่งแบบข้อความหมดเวลาเพื่อไม่ให้เหยื่อมีเวลาตรวจสอบ ทางออกคือควรระวังการโพสต์ข้อมูลส่วนตัว ตั้งรหัสลับในครอบครัว และพยายามติดต่อคนที่ถูกอ้างว่าถูกจับก่อนจะโอนเงิน
    https://www.techradar.com/pro/security/fbi-warns-of-kidnapping-scams-as-hackers-turn-to-ai-to-provide-proof-of-life

    Honor Magic 8 Lite: มือถือแบตอึดราคาประหยัด
    รีวิวนี้บอกว่า Honor Magic 8 Lite เป็นสมาร์ทโฟนที่เด่นเรื่องแบตเตอรี่ ใช้งานได้ยาวนานเกินคาด แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด ดีไซน์ดูทันสมัย หน้าจอใหญ่พอเหมาะ และประสิทธิภาพถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป กล้องอาจไม่ได้โดดเด่นเท่ารุ่นเรือธง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา เหมาะสำหรับคนที่มองหามือถือใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย
    https://www.techradar.com/phones/honor-phones/honor-magic-8-lite-review

    FBI มองหาดรอนที่ “กันเจาะสัญญาณ” ได้
    อีกข่าวหนึ่งเล่าถึงความพยายามของ FBI ที่กำลังค้นหาดรอนซึ่งไม่สามารถถูกโจมตีด้วยการรบกวนสัญญาณได้ วิธีที่ใช้ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ แต่เป็นการหันกลับไปใช้เทคนิคแบบเก่าเพื่อป้องกันการแฮ็กหรือการควบคุมจากระยะไกล จุดประสงค์คือทำให้ดรอนยังคงทำงานได้แม้มีการพยายามโจมตีทางไซเบอร์ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความทันสมัยกับวิธีดั้งเดิมเพื่อความปลอดภัย
    https://www.techradar.com/cameras/drones/the-fbi-is-hunting-for-unjammable-drones-and-these-flying-cameras-use-one-very-old-school-trick-to-stop-remote-attacks

    ปี 2026 “Sustainability” กลายเป็น Stack ใหม่
    บทความนี้เล่าว่าในปี 2026 แนวคิดด้านความยั่งยืนจะไม่ใช่แค่เรื่องเสริม แต่จะถูกมองว่าเป็น “stack” ใหม่ของธุรกิจ เทียบได้กับการมีเทคโนโลยีหรือโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น องค์กรต่าง ๆ จะต้องผสมผสานการใช้พลังงานสะอาด การจัดการทรัพยากร และการออกแบบระบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลัก ไม่ใช่แค่ CSR แต่เป็นแกนกลางของการดำเนินงาน
    https://www.techradar.com/pro/in-2026-sustainability-is-the-new-stack

    Gartner เตือน “AI Browsers” อาจเป็นภัยต่อธุรกิจ
    รายงานจาก Gartner ชี้ว่าเบราว์เซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีเสมอไป เพราะอาจสร้างความเสี่ยงต่อข้อมูลและความปลอดภัยขององค์กร แม้จะช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น แต่ก็มีช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตีหรือทำให้ข้อมูลรั่วไหลได้ Gartner แนะนำให้ธุรกิจระมัดระวังและไม่ควรพึ่งพา AI browsers โดยไม่ตรวจสอบมาตรการป้องกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/gartner-advisory-states-ai-browsers-are-not-your-friend-and-are-putting-your-business-at-risk

    IT ที่ “รักษาตัวเอง” ไม่ใช่วิทยาศาสตร์อีกต่อไป
    บทความนี้เล่าว่าแนวคิด Self-healing IT หรือระบบที่สามารถตรวจจับและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง กำลังกลายเป็นจริงและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ระบบเหล่านี้สามารถวิเคราะห์ความผิดพลาด คาดการณ์ปัญหา และดำเนินการแก้ไขโดยอัตโนมัติ ทำให้ลดเวลาหยุดชะงักและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ
    https://www.techradar.com/pro/self-healing-it-is-no-longer-science-fiction-its-driving-businesses-forward

    ChatGPT Wrapped: สรุปปีแห่งการใช้ AI
    ผู้ใช้ ChatGPT กำลังสร้าง “Spotify Wrapped” เวอร์ชันของตัวเอง เพื่อย้อนดูว่าตลอดปีที่ผ่านมาได้ใช้ AI ทำอะไรบ้าง เช่น คำถามที่ถามบ่อยที่สุด หรือหัวข้อที่พูดถึงมากที่สุด วิธีทำก็ไม่ซับซ้อน เพียงดึงข้อมูลการใช้งานแล้วจัดเรียงเป็นรูปแบบที่แชร์ได้บนโซเชียล ถือเป็นการเล่นสนุกที่สะท้อนว่า AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-users-are-making-a-spotify-wrapped-for-their-year-in-ai-heres-how-to-do-it

    ศูนย์ข้อมูล AI ทำให้การสร้างบ้านชะลอตัว
    รายงานนี้ชี้ว่าความต้องการศูนย์ข้อมูลเพื่อรองรับ AI กำลังเพิ่มสูงจนโครงสร้างพื้นฐานไม่สามารถตามทัน ส่งผลให้การพัฒนาโครงการบ้านเรือนถูกชะลอ เพราะทรัพยากรด้านพลังงานและพื้นที่ถูกใช้ไปกับการสร้างศูนย์ข้อมูลแทน ปัญหานี้สะท้อนว่าการเติบโตของ AI ไม่ได้กระทบแค่ธุรกิจเทคโนโลยี แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของผู้คนโดยตรง
    https://www.techradar.com/pro/data-centers-are-throttling-home-building-as-infrastructure-struggles-to-keep-up-with-ai-demands

    OpenAI ถอยแผน “แนะนำแอปคล้ายโฆษณา”
    OpenAI เคยทดลองใส่ฟีเจอร์แนะนำแอปใน ChatGPT ที่ดูเหมือนโฆษณา แต่หลังจากได้รับเสียงวิจารณ์ว่าทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่สบายใจ จึงออกมาประกาศว่าจะปรับปรุงและให้ผู้ใช้ควบคุมได้มากขึ้น การถอยครั้งนี้สะท้อนว่าบริษัทต้องหาสมดุลระหว่างการสร้างรายได้และการรักษาประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-walks-back-ad-like-app-suggestions-in-chatgpt-saying-it-fell-short-and-will-improve-controls

    React2Shell RCE Flaw ถูกแฮ็กเกอร์จีนโจมตีหลังประกาศไม่กี่ชั่วโมง
    เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ในวงการไซเบอร์ เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกตั้งชื่อว่า React2Shell โดยมีรหัส CVE-2025-55182 และถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบได้ก่อนการยืนยันตัวตน ซึ่งเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการเปิดเผย ก็มีรายงานว่าแฮ็กเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนเริ่มใช้ช่องโหว่นี้โจมตีจริงแล้ว เป้าหมายคือองค์กรในหลายภาคส่วนทั่วโลก ตั้งแต่การเงิน โลจิสติกส์ ไปจนถึงมหาวิทยาลัยและรัฐบาล จุดประสงค์หลักคือการสอดแนมและสร้างการเข้าถึงถาวร นักวิจัยเตือนให้รีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://www.techradar.com/pro/security/react2shell-rce-flaw-exploited-by-chinese-hackers-hours-after-disclosure

    SwitchBot เปิดตัวโคมไฟที่ละลายเทียนได้
    SwitchBot สร้างไอเดียใหม่ที่ผสมผสานความเป็นสมาร์ทโฮมเข้ากับความอบอุ่นแบบ hygge โดยออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นทั้งโคมไฟอัจฉริยะและเครื่องละลายเทียนในตัว เหมาะสำหรับคนที่อยากได้บรรยากาศผ่อนคลายและโรแมนติกในบ้าน สามารถควบคุมผ่านแอปได้เหมือนอุปกรณ์สมาร์ทอื่น ๆ และยังช่วยให้การใช้เทียนปลอดภัยขึ้นเพราะไม่ต้องใช้ไฟจริง ผลิตภัณฑ์นี้ถูกมองว่าเป็นของขวัญที่ลงตัวสำหรับสาย gadget ที่ชอบความ cozy
    https://www.techradar.com/home/small-appliances/switchbot-crossed-a-smart-lamp-with-a-candle-melter-and-its-the-ultimate-hygge-gift-for-gadget-fans-who-just-want-to-get-cozy

    Katsuhiro Harada ประกาศลาออกจาก Bandai Namco
    แฟนเกม Tekken ต้องสะเทือนใจเมื่อ Katsuhiro Harada ผู้เป็นหัวเรือใหญ่ของซีรีส์นี้ ประกาศว่าจะก้าวลงจากตำแหน่งใน Bandai Namco เขาอธิบายว่าถึงเวลาที่เหมาะสมในการปิดฉากหนึ่งบทของชีวิตการทำงาน หลังจากอยู่กับบริษัทมานานและสร้างชื่อเสียงให้ Tekken กลายเป็นหนึ่งในเกมต่อสู้ที่โด่งดังที่สุดในโลก การจากไปครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการเกม และแฟน ๆ ต่างจับตามองว่าอนาคตของ Tekken จะเดินไปในทิศทางใด
    https://www.techradar.com/gaming/tekken-lead-katsuhiro-harada-to-leave-bandai-namco-i-felt-this-was-the-most-fitting-moment-to-bring-one-chapter-to-a-close

    X ถูกปรับ 140 ล้านดอลลาร์ในยุโรป
    แพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) ถูกสหภาพยุโรปปรับเงินมหาศาลถึง 140 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากละเมิดกฎระเบียบด้านดิจิทัลและความโปร่งใส ข่าวนี้ยิ่งร้อนแรงขึ้นเมื่อ Elon Musk ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิก EU ทั้งหมด โดยมองว่ากฎเกณฑ์เหล่านี้เป็นการกีดกันนวัตกรรมและเสรีภาพทางออนไลน์ เรื่องนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีกับหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรป ซึ่งอาจส่งผลต่ออนาคตของการควบคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วโลก
    https://www.techradar.com/pro/x-fined-usd140-million-for-breaching-eu-rules-elon-calls-for-bloc-abolition

    Windows 11 25H2 เปิดให้ทุกเครื่องอัปเดตแล้ว
    Microsoft ปล่อยอัปเดตใหญ่ Windows 11 25H2 ให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถติดตั้งได้แล้ว การอัปเดตนี้มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ และการปรับปรุงประสิทธิภาพ รวมถึงการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ผู้ใช้สามารถเข้าไปที่ Windows Update เพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งได้ทันที ถือเป็นการอัปเดตที่สำคัญสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร เพราะช่วยให้ระบบมีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-25h2-update-is-now-available-for-all-pcs-heres-how-to-get-it

    มือถือ Linux เน้นความเป็นส่วนตัว แต่ยังรันแอป Android ได้
    มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Linux โดยเน้นความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก ถูกมองว่าเป็นอีกทางเลือกแทน Android และ iOS จุดเด่นคือแม้จะใช้ Linux แต่ยังสามารถรันแอป Android ได้ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดแอปยอดนิยม แนวคิดนี้ตอบโจทย์ผู้ที่อยากได้ความปลอดภัยและการควบคุมข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น แต่ก็ยังคงความสะดวกสบายของแอปที่คุ้นเคย
    https://www.techradar.com/phones/forget-android-vs-ios-this-new-privacy-focused-linux-phone-promises-to-be-the-alternative-we-need-but-it-still-runs-android-apps

    AI จากสหราชอาณาจักรอ้างว่าเหนือกว่า ChatGPT
    มีสตาร์ทอัพในสหราชอาณาจักรเปิดตัว AI ใหม่ที่ประกาศว่ามีความสามารถเหนือกว่า ChatGPT ทีมงาน TechRadar ได้ลองใช้งานจริงและพบว่ามีจุดแข็งหลายด้าน เช่น ความเร็วในการตอบสนองและการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม การแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และการมาของผู้เล่นใหม่รายนี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการ
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-new-uk-ai-says-it-can-beat-chatgpt-we-tried-it-and-heres-what-we-found

    Trump แสดงความกังวลต่อการควบรวม Netflix และ Warner Bros
    Donald Trump แสดงความคิดเห็นว่าการควบรวมกิจการครั้งใหญ่ระหว่าง Netflix และ Warner Bros อาจสร้างปัญหา โดยมองว่าอาจกระทบต่อการแข่งขันและความหลากหลายของตลาดสตรีมมิ่ง ความเห็นนี้สะท้อนถึงความกังวลว่าบริษัทขนาดใหญ่จะมีอำนาจมากเกินไป และอาจทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกน้อยลงในอนาคต
    https://www.techradar.com/streaming/netflix/trump-says-the-big-netflix-warner-bros-merger-could-be-a-problem-heres-why

    แบรนด์คู่แข่ง Anker เรียกคืน Power Bank หลังพบเสี่ยงไฟไหม้
    มีการเรียกคืน Power Bank รุ่นหนึ่งจากแบรนด์ที่เป็นคู่แข่งของ Anker เนื่องจากพบว่ามีความเสี่ยงเกิดไฟไหม้ ข่าวนี้ทำให้ผู้ใช้ที่ซื้อไปแล้วต้องตรวจสอบและหยุดใช้งานทันที พร้อมติดต่อเพื่อขอคืนหรือเปลี่ยนสินค้า เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของมาตรฐานความปลอดภัยในอุปกรณ์พกพา และเตือนให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการเลือกซื้อแบตเตอรี่สำรอง
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/phones/this-popular-anker-rival-has-just-recalled-a-power-bank-due-to-a-fire-hazard-heres-what-to-do
    📌📡🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷📡📌 #รวมข่าวIT #20251209 #TechRadar 👓 Android XR: จุดเปลี่ยนของสมาร์ทแว่น เรื่องราวเริ่มจากประสบการณ์ของ Juston Payne ผู้บริหาร Google ที่ได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR กับลูกชายวัย 10 ขวบในกรุงโรม พอเด็กถามแว่นว่าอยากไปกินเจลาโต้ที่ไหน แว่นก็แสดงแผนที่และนำทางตรงหน้า ทำให้ทั้งครอบครัวเดินตามไปถึงร้านเหมือนเป็นคนท้องถิ่น นี่คือ “aha moment” ที่ทำให้ Payne เชื่อว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเทคโนโลยี wearable แว่นตาเหล่านี้จะไม่ใช่เพียง gadget แต่จะกลายเป็นแพลตฟอร์มคอมพิวติ้งใหม่ที่ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงได้ในอนาคต แม้ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ Google และพันธมิตรอย่าง Samsung, Warby Parker กำลังปูทางให้สมาร์ทแว่นกลายเป็นสิ่งที่หาซื้อได้ทั่วไปในร้านแว่นตา 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/android-xr-head-on-the-ecosystem-we-think-that-this-is-actually-a-very-early-space-and-the-history-is-not-yet-written-for-it 🛡️ WordPress RCE Flaw: ช่องโหว่ที่เปิดทางให้แฮกเกอร์ มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน Sneeit Framework ของ WordPress ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถสร้างบัญชีแอดมินเองได้ทันที และเข้าควบคุมเว็บไซต์เต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับความรุนแรงสูงสุด 9.8/10 และมีการโจมตีจริงเกิดขึ้นทันทีหลังการเปิดเผย โดยวันแรกมีการบล็อกกว่า 131,000 ครั้ง วิธีป้องกันคืออัปเดตปลั๊กอินเป็นเวอร์ชัน 8.4 และตรวจสอบว่ามีบัญชีแอดมินแปลกปลอม หรือไฟล์ PHP ที่ไม่รู้จักอยู่ในระบบหรือไม่ เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าการดูแลความปลอดภัยของเว็บไซต์ต้องทำอย่างต่อเนื่องและจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/sneeit-wordpress-rce-flaw-allows-hackers-to-add-themselves-as-admin-heres-how-to-stay-safe 🌍 กฎหมายห้ามเด็กใช้โซเชียล: ออสเตรเลียจุดประกายทั่วโลก ออสเตรเลียกำลังจะบังคับใช้กฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย พร้อมบทลงโทษปรับสูงถึง 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กฎหมายนี้ทำให้หลายประเทศจับตามองอย่างใกล้ชิด ทั้งสหราชอาณาจักร สหรัฐ และสหภาพยุโรปที่เริ่มพิจารณามาตรการคล้ายกัน แม้จะมีข้อถกเถียงเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัวจากการตรวจสอบอายุ แต่หลายฝ่ายเห็นว่าจำเป็นเพื่อปกป้องเด็กจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม กฎหมายนี้อาจกลายเป็นต้นแบบที่แพร่ไปทั่วโลกในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/were-going-to-be-watching-really-closely-politicians-around-the-world-are-taking-inspiration-from-australias-social-media-ban 💻 Windows 11 กับปัญหา RAM: Discord ตัวการใหญ่ ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนพบว่าแอปพลิเคชันที่สร้างบน Electron framework อย่าง Discord กิน RAM มากผิดปกติ จากเดิมประมาณ 1GB พุ่งขึ้นไปถึง 4GB โดยเฉพาะเมื่อใช้งาน voice chat หรือสตรีมวิดีโอ ปัญหาคือแม้หยุดใช้งานแล้ว RAM ก็ไม่ลดลง ต้องรีสตาร์ทโปรแกรมใหม่ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการเล่นเกมและการทำงานอื่น ๆ ยิ่งในช่วงที่ราคาหน่วยความจำพุ่งสูงเพราะกระแส AI ทำให้ผู้ใช้ยิ่งรู้สึกเดือดร้อนมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/memory/some-windows-11-apps-have-a-massive-ram-problem-and-this-app-is-the-worst-offender 📧 NordVPN: ป้องกันฟิชชิ่งถึงกล่องอีเมล NordVPN เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Threat Protection Pro ที่สามารถสแกนลิงก์ในอีเมลแบบเรียลไทม์ หากพบว่าเป็นลิงก์อันตราย เช่น ฟิชชิ่งหรือมัลแวร์ จะมีสัญลักษณ์เตือนและแบนเนอร์แจ้งทันที จุดเด่นคือทำงานโดยไม่ต้องเข้าถึงเนื้อหาอีเมลทั้งหมด จึงยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการคลิกลิงก์โดยไม่ตั้งใจ และเป็นอีกชั้นการป้องกันที่สำคัญในยุคที่อีเมลฟิชชิ่งถูกส่งออกมาหลายพันล้านฉบับต่อวัน 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nordvpn-extends-phishing-and-malware-protection-to-your-inbox 🤓 GPT‑5.2: การแข่งเดือดระหว่าง OpenAI และ Gemini OpenAI เปิดตัว GPT‑5.2 เพื่อเร่งแข่งกับ Gemini 3 ของ Google จุดเด่นคือความเร็วและความสามารถ reasoning ที่ดีขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ลื่นไหลกว่าเดิม การอัปเดตนี้สะท้อนว่าการแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรง และแต่ละค่ายพยายามผลักดันเทคโนโลยีให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-races-gemini-3-to-the-top-with-gpt-5-2-drop-this-week ⚡ จีนกับข้อได้เปรียบด้าน AI: คำเตือนจาก CEO Nvidia Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia เตือนว่าจีนมีข้อได้เปรียบมหาศาลในด้าน AI ทั้งด้านการก่อสร้างและพลังงาน โดยรายงานล่าสุดเผยว่าจีนมีสัดส่วนการใช้งาน AI ถึง 30% ของโลก ความสามารถในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็ว เช่น “สร้างโรงพยาบาลในสุดสัปดาห์เดียว” ทำให้จีนถูกมองว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากังวลในสนาม AI ระดับโลก 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/they-can-build-a-hospital-in-a-weekend-nvidia-ceo-warns-about-chinas-big-ai-advantages-as-report-reveals-it-now-has-30-percent-of-global-ai-usage 🚗 Subaru กับโฆษณา Pop‑up ในรถ Subaru เข้าร่วมกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ที่ทดลองใส่โฆษณา pop‑up ในระบบ infotainment ของรถยนต์ ซึ่งสร้างเสียงวิจารณ์อย่างมาก หลายคนกังวลว่าโฆษณาจะรบกวนสมาธิในการขับขี่ และอาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยบนท้องถนน แม้ผู้ผลิตจะมองว่าเป็นช่องทางสร้างรายได้ใหม่ แต่ผู้ใช้จำนวนมากไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/subaru-joins-controversial-list-of-carmakers-experimenting-with-infotainment-system-pop-up-ads 👓 Android XR Prototype: สมาร์ทแว่นรุ่นใหม่ที่พร้อมโชว์ นักข่าวได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR รุ่นต้นแบบ พบว่ามีดีไซน์บางเบาและเลนส์โปร่งใสที่สามารถแสดงข้อมูลตรงหน้าได้ทันที ทั้งการนำทางและการใช้งานร่วมกับ AI Gemini จุดเด่นคือการออกแบบที่ไม่ทำให้ผู้ใช้ดูแปลกตา และสวมใส่สบาย ทำให้สมาร์ทแว่นรุ่นนี้ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญของ wearable ที่จะเข้าสู่ตลาดในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/i-tried-the-next-gen-android-xr-prototype-smart-glasses-and-these-frames-are-ready-for-your-close-up 🕶️ Samsung Galaxy XR: ยกระดับประสบการณ์ Spatial Samsung เปิดตัว Galaxy XR ที่ผสมผสานเทคโนโลยี mixed reality และ AI Gemini เข้าด้วยกัน จุดขายคือคุณภาพการแสดงผลที่คมชัดและฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่โลกเสมือนจริงในราคาที่จับต้องได้ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานของอุปกรณ์ XR และสร้างแรงกดดันให้คู่แข่งต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีตามให้ทัน 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/samsung-galaxy-xr-raises-the-bar-while-lowering-the-price-for-premium-spatial-experiences 🛡️ รัฐบาลสหรัฐฯ กดดัน Google และ Apple ให้ลบแอปติดตามเจ้าหน้าที่ ICE เรื่องนี้กำลังเป็นประเด็นร้อนในสหรัฐฯ เมื่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสภาผู้แทนราษฎรออกแรงกดดันให้ Google และ Apple ลบแอปที่สามารถติดตามเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ICE) ได้ โดยเฉพาะแอปชื่อ ICEBlock ที่เคยมีผู้ใช้มากกว่าล้านคน แม้ตอนนี้จะไม่สามารถดาวน์โหลดใหม่ได้ แต่ยังคงใช้งานได้ในเครื่องที่ติดตั้งไว้แล้ว ปัญหาคือแอปนี้ถูกใช้โดยมือปืนในการก่อเหตุยิงที่ศูนย์ ICE ในเมืองดัลลัส ทำให้เกิดข้อถกเถียงระหว่างความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่กับสิทธิในการรับรู้ข้อมูลของประชาชน นักพัฒนาแอปเองก็ยืนยันว่า แอปนี้ไม่ต่างจากการแชร์ตำแหน่งด่านตรวจความเร็วในแผนที่ ซึ่งถือเป็นเสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ 🔗 https://www.techradar.com/pro/us-gov-wants-google-and-apple-to-take-down-websites-tracking-ice-and-friends ⌚ Pebble โผล่กลับมาอีกครั้งกับสมาร์ทวอชลึกลับ Pebble ที่เคยเป็นแบรนด์สมาร์ทวอชสุดฮิตในยุคแรกๆ กำลังสร้างความตื่นเต้นอีกครั้ง หลังจากปล่อยทีเซอร์สมาร์ทวอชใหม่ที่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดมากนัก หลายคนคาดว่ามันอาจจะเป็นการกลับมาของแบรนด์ในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น หรืออาจจะเป็นการรีแบรนด์เพื่อเจาะตลาดสุขภาพและฟิตเนสที่กำลังมาแรง ความลึกลับนี้ทำให้แฟนๆ ที่เคยรัก Pebble ต่างตั้งตารอว่าจะมีอะไรใหม่ที่แตกต่างจากสมาร์ทวอชในตลาดตอนนี้ 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/pebble-just-teased-a-mysterious-new-smartwatch-and-were-excited-to-see-what-it-is 💿 Magnetar เปิดตัวเครื่องเล่น Blu-ray 4K รุ่นใหม่ สำหรับคนที่ยังรักการดูหนังผ่านแผ่น Blu-ray Magnetar ได้เปิดตัวเครื่องเล่นรุ่นใหม่ที่ถูกยกให้เป็น “เครื่องเล่นแผ่นสุดท้ายที่คุณต้องมี” เพราะรองรับการเล่นแผ่น 4K ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมคุณภาพเสียงและภาพที่เหนือกว่า เหมาะกับนักสะสมและคนที่จริงจังกับการดูหนังในบ้าน แม้ยุคสตรีมมิ่งจะครองตลาด แต่เครื่องเล่นนี้ก็ยังตอบโจทย์คนที่ต้องการประสบการณ์ภาพและเสียงระดับสูงสุด 🔗 https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/magnetars-new-4k-blu-ray-players-are-the-last-disc-spinners-youll-ever-need-and-theyre-now-available-to-buy 🏥 ข้อมูลคนไข้และเจ้าหน้าที่ NHS ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p ระบบสุขภาพในอังกฤษเจอปัญหาใหญ่เมื่อ Barts Health NHS Trust ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p ทำให้ข้อมูลทั้งคนไข้และเจ้าหน้าที่รั่วไหลออกไป เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และยังสะท้อนให้เห็นว่าระบบสาธารณสุขที่มีข้อมูลจำนวนมหาศาลเป็นเป้าหมายหลักของอาชญากรไซเบอร์ การโจมตีครั้งนี้ยังเป็นสัญญาณเตือนว่าหน่วยงานด้านสุขภาพต้องลงทุนมากขึ้นในระบบป้องกันภัยไซเบอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/patient-and-staff-data-impacted-by-cl0p-ransomware-attack-on-barts-health-nhs 🧹 รีวิว Bissell PowerClean FurFinder เครื่องดูดฝุ่นไร้สายราคาประหยัด ใครที่เลี้ยงสัตว์น่าจะสนใจเครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้ เพราะ Bissell PowerClean FurFinder ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการขนสัตว์โดยเฉพาะ แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด แต่รีวิวบอกว่ามันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา และเหมาะกับการทำความสะอาดบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง จุดเด่นคือความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ก็ยังตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/bissell-powerclean-furfinder-cordless-vacuum-review 📱 Samsung เปิดตัว One UI 8.5 Beta พร้อม 6 ฟีเจอร์ใหม่ Samsung ปล่อยเวอร์ชันเบต้าของ One UI 8.5 ให้ผู้ใช้ได้ลองก่อนใคร โดยมีการอัปเกรดถึง 6 จุดสำคัญ เช่น การปรับปรุงการทำงานแบบหลายหน้าต่างให้ลื่นไหลขึ้น, ฟีเจอร์ใหม่ด้านความเป็นส่วนตัว, การปรับแต่งหน้าจอหลักที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม และการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม จุดเด่นคือการทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเครื่องได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น ถือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-just-launched-the-one-ui-8-5-beta-with-6-big-upgrades-heres-how-to-try-it 🧑‍💻 ผู้บริหาร UI ของ Apple ถูก Meta ดึงตัว พร้อมการอพยพครั้งใหญ่ในทีม AI Apple กำลังเผชิญกับการสูญเสียบุคลากรสำคัญในทีม AI และ UI เมื่อผู้บริหารระดับสูงถูก Meta ดึงตัวไป และอีกสามคนลาออกตามมา เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในวงการเทคโนโลยี โดยเฉพาะด้าน AI ที่กำลังเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาอุปกรณ์และบริการใหม่ๆ การสูญเสียบุคลากรจำนวนมากในเวลาเดียวกันอาจส่งผลต่อทิศทางการพัฒนาของ Apple ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/apples-ui-executive-poached-by-meta-and-three-other-executives-leave-in-apple-ai-exodus 🌐 เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ในอินโดนีเซียถูกสลายหลังดำเนินงานมา 14 ปี อินโดนีเซียสามารถสลายเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินงานมายาวนานถึง 14 ปี ซึ่งมีการโจมตีและหลอกลวงผู้คนจำนวนมากทั่วโลก การปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และเป็นสัญญาณว่าประเทศกำลังจริงจังกับการจัดการภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและความมั่นคง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/national-cybercrime-network-operating-for-14-years-dismantled-in-indonesia 🎬 รีวิวแผ่น Blu-ray 4K ที่ดีจนถูกนำมาใช้ทดสอบทีวี นักรีวิวที่ทำงานกับทีวีมืออาชีพเผยว่าเจอแผ่น Blu-ray 4K ใหม่ 5 เรื่องที่คุณภาพดีมากจนถูกนำมาใช้เป็นสื่อทดสอบทีวีในห้องแล็บ ความละเอียดและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมทำให้แผ่นเหล่านี้ไม่ใช่แค่เพื่อความบันเทิง แต่ยังเป็นมาตรฐานในการวัดประสิทธิภาพของทีวีรุ่นใหม่ๆ สำหรับคนที่รักการดูหนังแบบเต็มประสบการณ์ นี่คือแผ่นที่ควรมีไว้สะสม 🔗 https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/i-review-4k-blu-rays-for-a-living-these-5-new-discs-are-so-good-theyve-entered-my-tv-testing-rotation 🎥 อุปกรณ์ถ่ายทำ TikTok ที่ครบในกระเป๋าใบเล็ก นักสร้างคอนเทนต์ TikTok แชร์ว่าเขามีกล้องและอุปกรณ์เสริม 9 ชิ้นที่สามารถใส่รวมกันในกระเป๋าสะพายใบเล็กได้ทั้งหมด ตั้งแต่กล้องคุณภาพสูง ขาตั้ง ไปจนถึงอุปกรณ์เสียง จุดเด่นคือความคล่องตัวและความสามารถในการสร้างคอนเทนต์คุณภาพสูงได้ทุกที่ทุกเวลา เหมาะสำหรับคนที่อยากทำคอนเทนต์แบบมืออาชีพโดยไม่ต้องแบกอุปกรณ์ใหญ่ๆ 🔗 https://www.techradar.com/cameras/i-swear-by-these-9-cameras-and-accessories-for-shooting-tiktok-content-and-they-all-fit-in-one-small-sling-bag 🛡️ FBI เตือนภัย Deepfake ใช้หลอกเรียกค่าไถ่ เรื่องราวนี้เล่าถึงการที่อาชญากรเริ่มใช้ Generative AI สร้างวิดีโอปลอมเป็น “หลักฐานการมีชีวิต” ของเหยื่อที่ถูกอ้างว่าถูกลักพาตัว พวกเขาจะนำภาพและวิดีโอจากโซเชียลมีเดียไปสร้างเป็นคลิปที่ดูสมจริง แล้วส่งไปหาญาติหรือคนใกล้ชิดเพื่อเรียกค่าไถ่ทันที FBI ออกประกาศเตือนว่าภาพเหล่านี้มักมีจุดผิดพลาด เช่น รอยสักหายไปหรือสัดส่วนร่างกายไม่ถูกต้อง แต่ผู้ร้ายจะใช้วิธีส่งแบบข้อความหมดเวลาเพื่อไม่ให้เหยื่อมีเวลาตรวจสอบ ทางออกคือควรระวังการโพสต์ข้อมูลส่วนตัว ตั้งรหัสลับในครอบครัว และพยายามติดต่อคนที่ถูกอ้างว่าถูกจับก่อนจะโอนเงิน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/fbi-warns-of-kidnapping-scams-as-hackers-turn-to-ai-to-provide-proof-of-life 🔋 Honor Magic 8 Lite: มือถือแบตอึดราคาประหยัด รีวิวนี้บอกว่า Honor Magic 8 Lite เป็นสมาร์ทโฟนที่เด่นเรื่องแบตเตอรี่ ใช้งานได้ยาวนานเกินคาด แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด ดีไซน์ดูทันสมัย หน้าจอใหญ่พอเหมาะ และประสิทธิภาพถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป กล้องอาจไม่ได้โดดเด่นเท่ารุ่นเรือธง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา เหมาะสำหรับคนที่มองหามือถือใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย 🔗 https://www.techradar.com/phones/honor-phones/honor-magic-8-lite-review 🚁 FBI มองหาดรอนที่ “กันเจาะสัญญาณ” ได้ อีกข่าวหนึ่งเล่าถึงความพยายามของ FBI ที่กำลังค้นหาดรอนซึ่งไม่สามารถถูกโจมตีด้วยการรบกวนสัญญาณได้ วิธีที่ใช้ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ แต่เป็นการหันกลับไปใช้เทคนิคแบบเก่าเพื่อป้องกันการแฮ็กหรือการควบคุมจากระยะไกล จุดประสงค์คือทำให้ดรอนยังคงทำงานได้แม้มีการพยายามโจมตีทางไซเบอร์ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความทันสมัยกับวิธีดั้งเดิมเพื่อความปลอดภัย 🔗 https://www.techradar.com/cameras/drones/the-fbi-is-hunting-for-unjammable-drones-and-these-flying-cameras-use-one-very-old-school-trick-to-stop-remote-attacks 🌱 ปี 2026 “Sustainability” กลายเป็น Stack ใหม่ บทความนี้เล่าว่าในปี 2026 แนวคิดด้านความยั่งยืนจะไม่ใช่แค่เรื่องเสริม แต่จะถูกมองว่าเป็น “stack” ใหม่ของธุรกิจ เทียบได้กับการมีเทคโนโลยีหรือโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น องค์กรต่าง ๆ จะต้องผสมผสานการใช้พลังงานสะอาด การจัดการทรัพยากร และการออกแบบระบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลัก ไม่ใช่แค่ CSR แต่เป็นแกนกลางของการดำเนินงาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/in-2026-sustainability-is-the-new-stack ⚠️ Gartner เตือน “AI Browsers” อาจเป็นภัยต่อธุรกิจ รายงานจาก Gartner ชี้ว่าเบราว์เซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีเสมอไป เพราะอาจสร้างความเสี่ยงต่อข้อมูลและความปลอดภัยขององค์กร แม้จะช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น แต่ก็มีช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตีหรือทำให้ข้อมูลรั่วไหลได้ Gartner แนะนำให้ธุรกิจระมัดระวังและไม่ควรพึ่งพา AI browsers โดยไม่ตรวจสอบมาตรการป้องกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/gartner-advisory-states-ai-browsers-are-not-your-friend-and-are-putting-your-business-at-risk 🤖 IT ที่ “รักษาตัวเอง” ไม่ใช่วิทยาศาสตร์อีกต่อไป บทความนี้เล่าว่าแนวคิด Self-healing IT หรือระบบที่สามารถตรวจจับและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง กำลังกลายเป็นจริงและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ระบบเหล่านี้สามารถวิเคราะห์ความผิดพลาด คาดการณ์ปัญหา และดำเนินการแก้ไขโดยอัตโนมัติ ทำให้ลดเวลาหยุดชะงักและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/self-healing-it-is-no-longer-science-fiction-its-driving-businesses-forward 🎧 ChatGPT Wrapped: สรุปปีแห่งการใช้ AI ผู้ใช้ ChatGPT กำลังสร้าง “Spotify Wrapped” เวอร์ชันของตัวเอง เพื่อย้อนดูว่าตลอดปีที่ผ่านมาได้ใช้ AI ทำอะไรบ้าง เช่น คำถามที่ถามบ่อยที่สุด หรือหัวข้อที่พูดถึงมากที่สุด วิธีทำก็ไม่ซับซ้อน เพียงดึงข้อมูลการใช้งานแล้วจัดเรียงเป็นรูปแบบที่แชร์ได้บนโซเชียล ถือเป็นการเล่นสนุกที่สะท้อนว่า AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-users-are-making-a-spotify-wrapped-for-their-year-in-ai-heres-how-to-do-it 🏗️ ศูนย์ข้อมูล AI ทำให้การสร้างบ้านชะลอตัว รายงานนี้ชี้ว่าความต้องการศูนย์ข้อมูลเพื่อรองรับ AI กำลังเพิ่มสูงจนโครงสร้างพื้นฐานไม่สามารถตามทัน ส่งผลให้การพัฒนาโครงการบ้านเรือนถูกชะลอ เพราะทรัพยากรด้านพลังงานและพื้นที่ถูกใช้ไปกับการสร้างศูนย์ข้อมูลแทน ปัญหานี้สะท้อนว่าการเติบโตของ AI ไม่ได้กระทบแค่ธุรกิจเทคโนโลยี แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของผู้คนโดยตรง 🔗 https://www.techradar.com/pro/data-centers-are-throttling-home-building-as-infrastructure-struggles-to-keep-up-with-ai-demands 📱 OpenAI ถอยแผน “แนะนำแอปคล้ายโฆษณา” OpenAI เคยทดลองใส่ฟีเจอร์แนะนำแอปใน ChatGPT ที่ดูเหมือนโฆษณา แต่หลังจากได้รับเสียงวิจารณ์ว่าทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่สบายใจ จึงออกมาประกาศว่าจะปรับปรุงและให้ผู้ใช้ควบคุมได้มากขึ้น การถอยครั้งนี้สะท้อนว่าบริษัทต้องหาสมดุลระหว่างการสร้างรายได้และการรักษาประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-walks-back-ad-like-app-suggestions-in-chatgpt-saying-it-fell-short-and-will-improve-controls 🛡️ React2Shell RCE Flaw ถูกแฮ็กเกอร์จีนโจมตีหลังประกาศไม่กี่ชั่วโมง เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ในวงการไซเบอร์ เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกตั้งชื่อว่า React2Shell โดยมีรหัส CVE-2025-55182 และถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบได้ก่อนการยืนยันตัวตน ซึ่งเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการเปิดเผย ก็มีรายงานว่าแฮ็กเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนเริ่มใช้ช่องโหว่นี้โจมตีจริงแล้ว เป้าหมายคือองค์กรในหลายภาคส่วนทั่วโลก ตั้งแต่การเงิน โลจิสติกส์ ไปจนถึงมหาวิทยาลัยและรัฐบาล จุดประสงค์หลักคือการสอดแนมและสร้างการเข้าถึงถาวร นักวิจัยเตือนให้รีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/react2shell-rce-flaw-exploited-by-chinese-hackers-hours-after-disclosure 🕯️ SwitchBot เปิดตัวโคมไฟที่ละลายเทียนได้ SwitchBot สร้างไอเดียใหม่ที่ผสมผสานความเป็นสมาร์ทโฮมเข้ากับความอบอุ่นแบบ hygge โดยออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นทั้งโคมไฟอัจฉริยะและเครื่องละลายเทียนในตัว เหมาะสำหรับคนที่อยากได้บรรยากาศผ่อนคลายและโรแมนติกในบ้าน สามารถควบคุมผ่านแอปได้เหมือนอุปกรณ์สมาร์ทอื่น ๆ และยังช่วยให้การใช้เทียนปลอดภัยขึ้นเพราะไม่ต้องใช้ไฟจริง ผลิตภัณฑ์นี้ถูกมองว่าเป็นของขวัญที่ลงตัวสำหรับสาย gadget ที่ชอบความ cozy 🔗 https://www.techradar.com/home/small-appliances/switchbot-crossed-a-smart-lamp-with-a-candle-melter-and-its-the-ultimate-hygge-gift-for-gadget-fans-who-just-want-to-get-cozy 🎮 Katsuhiro Harada ประกาศลาออกจาก Bandai Namco แฟนเกม Tekken ต้องสะเทือนใจเมื่อ Katsuhiro Harada ผู้เป็นหัวเรือใหญ่ของซีรีส์นี้ ประกาศว่าจะก้าวลงจากตำแหน่งใน Bandai Namco เขาอธิบายว่าถึงเวลาที่เหมาะสมในการปิดฉากหนึ่งบทของชีวิตการทำงาน หลังจากอยู่กับบริษัทมานานและสร้างชื่อเสียงให้ Tekken กลายเป็นหนึ่งในเกมต่อสู้ที่โด่งดังที่สุดในโลก การจากไปครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการเกม และแฟน ๆ ต่างจับตามองว่าอนาคตของ Tekken จะเดินไปในทิศทางใด 🔗 https://www.techradar.com/gaming/tekken-lead-katsuhiro-harada-to-leave-bandai-namco-i-felt-this-was-the-most-fitting-moment-to-bring-one-chapter-to-a-close 💸 X ถูกปรับ 140 ล้านดอลลาร์ในยุโรป แพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) ถูกสหภาพยุโรปปรับเงินมหาศาลถึง 140 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากละเมิดกฎระเบียบด้านดิจิทัลและความโปร่งใส ข่าวนี้ยิ่งร้อนแรงขึ้นเมื่อ Elon Musk ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิก EU ทั้งหมด โดยมองว่ากฎเกณฑ์เหล่านี้เป็นการกีดกันนวัตกรรมและเสรีภาพทางออนไลน์ เรื่องนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีกับหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรป ซึ่งอาจส่งผลต่ออนาคตของการควบคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/pro/x-fined-usd140-million-for-breaching-eu-rules-elon-calls-for-bloc-abolition 💻 Windows 11 25H2 เปิดให้ทุกเครื่องอัปเดตแล้ว Microsoft ปล่อยอัปเดตใหญ่ Windows 11 25H2 ให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถติดตั้งได้แล้ว การอัปเดตนี้มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ และการปรับปรุงประสิทธิภาพ รวมถึงการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ผู้ใช้สามารถเข้าไปที่ Windows Update เพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งได้ทันที ถือเป็นการอัปเดตที่สำคัญสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร เพราะช่วยให้ระบบมีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-25h2-update-is-now-available-for-all-pcs-heres-how-to-get-it 📱 มือถือ Linux เน้นความเป็นส่วนตัว แต่ยังรันแอป Android ได้ มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Linux โดยเน้นความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก ถูกมองว่าเป็นอีกทางเลือกแทน Android และ iOS จุดเด่นคือแม้จะใช้ Linux แต่ยังสามารถรันแอป Android ได้ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดแอปยอดนิยม แนวคิดนี้ตอบโจทย์ผู้ที่อยากได้ความปลอดภัยและการควบคุมข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น แต่ก็ยังคงความสะดวกสบายของแอปที่คุ้นเคย 🔗 https://www.techradar.com/phones/forget-android-vs-ios-this-new-privacy-focused-linux-phone-promises-to-be-the-alternative-we-need-but-it-still-runs-android-apps 🤖 AI จากสหราชอาณาจักรอ้างว่าเหนือกว่า ChatGPT มีสตาร์ทอัพในสหราชอาณาจักรเปิดตัว AI ใหม่ที่ประกาศว่ามีความสามารถเหนือกว่า ChatGPT ทีมงาน TechRadar ได้ลองใช้งานจริงและพบว่ามีจุดแข็งหลายด้าน เช่น ความเร็วในการตอบสนองและการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม การแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และการมาของผู้เล่นใหม่รายนี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-new-uk-ai-says-it-can-beat-chatgpt-we-tried-it-and-heres-what-we-found 📺 Trump แสดงความกังวลต่อการควบรวม Netflix และ Warner Bros Donald Trump แสดงความคิดเห็นว่าการควบรวมกิจการครั้งใหญ่ระหว่าง Netflix และ Warner Bros อาจสร้างปัญหา โดยมองว่าอาจกระทบต่อการแข่งขันและความหลากหลายของตลาดสตรีมมิ่ง ความเห็นนี้สะท้อนถึงความกังวลว่าบริษัทขนาดใหญ่จะมีอำนาจมากเกินไป และอาจทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกน้อยลงในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/trump-says-the-big-netflix-warner-bros-merger-could-be-a-problem-heres-why 🔋 แบรนด์คู่แข่ง Anker เรียกคืน Power Bank หลังพบเสี่ยงไฟไหม้ มีการเรียกคืน Power Bank รุ่นหนึ่งจากแบรนด์ที่เป็นคู่แข่งของ Anker เนื่องจากพบว่ามีความเสี่ยงเกิดไฟไหม้ ข่าวนี้ทำให้ผู้ใช้ที่ซื้อไปแล้วต้องตรวจสอบและหยุดใช้งานทันที พร้อมติดต่อเพื่อขอคืนหรือเปลี่ยนสินค้า เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของมาตรฐานความปลอดภัยในอุปกรณ์พกพา และเตือนให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการเลือกซื้อแบตเตอรี่สำรอง ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/phones/this-popular-anker-rival-has-just-recalled-a-power-bank-due-to-a-fire-hazard-heres-what-to-do
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • UK เปิดตัว Atlantic Bastion: ระบบเฝ้าระวังใต้น้ำด้วย AI

    รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้เปิดตัวเครือข่ายเฝ้าระวังใต้น้ำที่ใช้ AI ขับเคลื่อน มีชื่อว่า Atlantic Bastion ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อ ตรวจจับและติดตามเรือดำน้ำของรัสเซีย ในมหาสมุทรแอตแลนติก โดยถือเป็นโครงการด้านความมั่นคงที่ทันสมัยที่สุดของประเทศในช่วงหลายปีที่ผ่านมา【edge_all_open_tabs】

    รายละเอียดของ Atlantic Bastion
    ใช้ เซ็นเซอร์ใต้น้ำรุ่นใหม่ ที่เชื่อมต่อกับระบบ AI เพื่อวิเคราะห์เสียงและการเคลื่อนไหวของเรือดำน้ำ
    สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวที่ละเอียดอ่อน เช่น เสียงเครื่องยนต์หรือการเปลี่ยนทิศทางของเรือดำน้ำ
    ระบบ AI จะช่วยกรองข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ได้จากเซ็นเซอร์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถระบุภัยคุกคามได้รวดเร็วและแม่นยำ

    เป้าหมายหลัก
    ป้องกันการแทรกซึมของเรือดำน้ำรัสเซียในเส้นทางเดินเรือสำคัญ
    เสริมความมั่นคงทางทะเลของ NATO และพันธมิตรยุโรป
    ลดภาระการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยให้ AI ทำหน้าที่ตรวจจับเบื้องต้น

    บริบททางภูมิรัฐศาสตร์
    การเปิดตัว Atlantic Bastion เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่าง NATO และรัสเซีย โดยเฉพาะในภูมิภาคแอตแลนติกเหนือ
    รัสเซียถูกกล่าวหาว่าเพิ่มกิจกรรมเรือดำน้ำในเส้นทางเดินเรือพาณิชย์และเส้นทางสายเคเบิลใต้น้ำ
    โครงการนี้สะท้อนถึงการใช้ AI ในการป้องกันประเทศ ที่กำลังกลายเป็นแนวโน้มใหม่ทั่วโลก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Atlantic Bastion เป็นระบบเฝ้าระวังใต้น้ำด้วย AI ของสหราชอาณาจักร
    ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับกิจกรรมเรือดำน้ำรัสเซีย
    ใช้เซ็นเซอร์ใต้น้ำ + AI วิเคราะห์เสียงและการเคลื่อนไหว
    เสริมความมั่นคงทางทะเลของ NATO และพันธมิตร
    สะท้อนการใช้ AI ในด้านความมั่นคงและการทหาร

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/uk-unveils-atlantic-bastion-ai-driven-undersea-surveillance-network
    🌊 UK เปิดตัว Atlantic Bastion: ระบบเฝ้าระวังใต้น้ำด้วย AI รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้เปิดตัวเครือข่ายเฝ้าระวังใต้น้ำที่ใช้ AI ขับเคลื่อน มีชื่อว่า Atlantic Bastion ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อ ตรวจจับและติดตามเรือดำน้ำของรัสเซีย ในมหาสมุทรแอตแลนติก โดยถือเป็นโครงการด้านความมั่นคงที่ทันสมัยที่สุดของประเทศในช่วงหลายปีที่ผ่านมา【edge_all_open_tabs】 ⚙️ รายละเอียดของ Atlantic Bastion 💠 ใช้ เซ็นเซอร์ใต้น้ำรุ่นใหม่ ที่เชื่อมต่อกับระบบ AI เพื่อวิเคราะห์เสียงและการเคลื่อนไหวของเรือดำน้ำ 💠 สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวที่ละเอียดอ่อน เช่น เสียงเครื่องยนต์หรือการเปลี่ยนทิศทางของเรือดำน้ำ 💠 ระบบ AI จะช่วยกรองข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ได้จากเซ็นเซอร์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถระบุภัยคุกคามได้รวดเร็วและแม่นยำ 🎯 เป้าหมายหลัก 🎗️ ป้องกันการแทรกซึมของเรือดำน้ำรัสเซียในเส้นทางเดินเรือสำคัญ 🎗️ เสริมความมั่นคงทางทะเลของ NATO และพันธมิตรยุโรป 🎗️ ลดภาระการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยให้ AI ทำหน้าที่ตรวจจับเบื้องต้น 🌍 บริบททางภูมิรัฐศาสตร์ 💠 การเปิดตัว Atlantic Bastion เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่าง NATO และรัสเซีย โดยเฉพาะในภูมิภาคแอตแลนติกเหนือ 💠 รัสเซียถูกกล่าวหาว่าเพิ่มกิจกรรมเรือดำน้ำในเส้นทางเดินเรือพาณิชย์และเส้นทางสายเคเบิลใต้น้ำ 💠 โครงการนี้สะท้อนถึงการใช้ AI ในการป้องกันประเทศ ที่กำลังกลายเป็นแนวโน้มใหม่ทั่วโลก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Atlantic Bastion เป็นระบบเฝ้าระวังใต้น้ำด้วย AI ของสหราชอาณาจักร ✅ ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับกิจกรรมเรือดำน้ำรัสเซีย ✅ ใช้เซ็นเซอร์ใต้น้ำ + AI วิเคราะห์เสียงและการเคลื่อนไหว ✅ เสริมความมั่นคงทางทะเลของ NATO และพันธมิตร ✅ สะท้อนการใช้ AI ในด้านความมั่นคงและการทหาร https://www.tomshardware.com/tech-industry/uk-unveils-atlantic-bastion-ai-driven-undersea-surveillance-network
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    UK unveils AI-driven undersea surveillance network to counter Russian submarine activity
    The UK government has unveiled the first details of Atlantic Bastion, a new undersea warfare programme to detect and counter Russian submarine activity.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • OpenAI และ Anthropic เผยรายงาน: AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ถูกตั้งคำถาม

    บทความจาก Tom’s Hardware สรุปผลการวิจัยที่ OpenAI และ Anthropic เผยแพร่เพื่อสนับสนุนการใช้ AI ในองค์กร โดยอ้างว่า พนักงานสามารถประหยัดเวลาได้เฉลี่ย 40–60 นาทีต่อวัน เมื่อใช้ ChatGPT หรือ Claude ในงานประจำ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการตลาดมากกว่าการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ และยังมีงานวิจัยจาก MIT และ Harvard ที่ให้ผลตรงกันข้าม【edge_current_page_context】

    รายละเอียดจากรายงาน
    OpenAI:
    สำรวจพนักงานกว่า 9,000 คนจาก 100 บริษัท
    75% ระบุว่า AI ช่วยเพิ่มความเร็วหรือคุณภาพงาน
    บริษัทที่ใช้ AI มาก (“frontier firms”) ส่ง prompt มากกว่าบริษัททั่วไปถึง 6 เท่า

    Anthropic:
    วิเคราะห์การสนทนากว่า 100,000 ครั้งบน Claude
    อ้างว่าลดเวลาทำงานจาก 90 นาทีเหลือเพียง 18 นาที (ลดลง 80%)
    แต่ยอมรับเองว่าตัวเลขอาจ “เกินจริง” เพราะไม่ได้รวมเวลาที่มนุษย์ใช้ทำงานนอกการสนทนา

    ข้อโต้แย้งจากงานวิจัยอิสระ
    MIT (สิงหาคม 2025): 95% ขององค์กรที่ลงทุนใน AI ไม่พบผลตอบแทนใด ๆ แม้ลงทุนไปกว่า 30–40 พันล้านดอลลาร์
    Harvard Business Review: ส่วนใหญ่การใช้ AI ในงานจริงเป็นเพียง “workslop” — งานที่ดูเหมือนมีคุณค่า แต่จริง ๆ ไม่ได้ช่วยให้งานก้าวหน้า

    บริบทที่กว้างขึ้น
    อุตสาหกรรม AI กำลังเผชิญแรงกดดันจากสังคมเรื่อง การใช้พลังงานมหาศาล และ การขยายศูนย์ข้อมูล
    มีการคาดการณ์ว่า วิกฤติขาดแคลนทองแดงและ RAM จะกระทบการสร้างศูนย์ข้อมูลในทศวรรษหน้า
    สาธารณชนเริ่มตั้งคำถามว่า AI ให้ “ผลลัพธ์จริง” หรือเป็นเพียงการสร้างภาพเพื่อดึงดูดการลงทุน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    OpenAI และ Anthropic อ้างว่า AI ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มคุณภาพงาน
    ตัวเลขที่นำเสนอถูกวิจารณ์ว่าเป็นการตลาดมากกว่างานวิจัยจริง
    MIT และ Harvard พบว่า AI ส่วนใหญ่ไม่สร้างผลตอบแทนที่แท้จริง
    อุตสาหกรรม AI ยังเผชิญแรงกดดันจากปัญหาพลังงานและการต่อต้านสาธารณะ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/research-commissioned-by-openai-and-anthropic-claims-that-workers-are-more-efficient-when-using-ai-up-to-one-hour-saved-on-average-as-companies-make-bid-to-maintain-enterprise-ai-spending
    📊 OpenAI และ Anthropic เผยรายงาน: AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ถูกตั้งคำถาม บทความจาก Tom’s Hardware สรุปผลการวิจัยที่ OpenAI และ Anthropic เผยแพร่เพื่อสนับสนุนการใช้ AI ในองค์กร โดยอ้างว่า พนักงานสามารถประหยัดเวลาได้เฉลี่ย 40–60 นาทีต่อวัน เมื่อใช้ ChatGPT หรือ Claude ในงานประจำ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการตลาดมากกว่าการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ และยังมีงานวิจัยจาก MIT และ Harvard ที่ให้ผลตรงกันข้าม【edge_current_page_context】 🔎 รายละเอียดจากรายงาน OpenAI: 🎗️ สำรวจพนักงานกว่า 9,000 คนจาก 100 บริษัท 🎗️ 75% ระบุว่า AI ช่วยเพิ่มความเร็วหรือคุณภาพงาน 🎗️ บริษัทที่ใช้ AI มาก (“frontier firms”) ส่ง prompt มากกว่าบริษัททั่วไปถึง 6 เท่า Anthropic: 🎗️ วิเคราะห์การสนทนากว่า 100,000 ครั้งบน Claude 🎗️ อ้างว่าลดเวลาทำงานจาก 90 นาทีเหลือเพียง 18 นาที (ลดลง 80%) 🎗️ แต่ยอมรับเองว่าตัวเลขอาจ “เกินจริง” เพราะไม่ได้รวมเวลาที่มนุษย์ใช้ทำงานนอกการสนทนา ⚠️ ข้อโต้แย้งจากงานวิจัยอิสระ 💠 MIT (สิงหาคม 2025): 95% ขององค์กรที่ลงทุนใน AI ไม่พบผลตอบแทนใด ๆ แม้ลงทุนไปกว่า 30–40 พันล้านดอลลาร์ 💠 Harvard Business Review: ส่วนใหญ่การใช้ AI ในงานจริงเป็นเพียง “workslop” — งานที่ดูเหมือนมีคุณค่า แต่จริง ๆ ไม่ได้ช่วยให้งานก้าวหน้า 🌍 บริบทที่กว้างขึ้น 💠 อุตสาหกรรม AI กำลังเผชิญแรงกดดันจากสังคมเรื่อง การใช้พลังงานมหาศาล และ การขยายศูนย์ข้อมูล 💠 มีการคาดการณ์ว่า วิกฤติขาดแคลนทองแดงและ RAM จะกระทบการสร้างศูนย์ข้อมูลในทศวรรษหน้า 💠 สาธารณชนเริ่มตั้งคำถามว่า AI ให้ “ผลลัพธ์จริง” หรือเป็นเพียงการสร้างภาพเพื่อดึงดูดการลงทุน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ OpenAI และ Anthropic อ้างว่า AI ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มคุณภาพงาน ✅ ตัวเลขที่นำเสนอถูกวิจารณ์ว่าเป็นการตลาดมากกว่างานวิจัยจริง ✅ MIT และ Harvard พบว่า AI ส่วนใหญ่ไม่สร้างผลตอบแทนที่แท้จริง ✅ อุตสาหกรรม AI ยังเผชิญแรงกดดันจากปัญหาพลังงานและการต่อต้านสาธารณะ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/research-commissioned-by-openai-and-anthropic-claims-that-workers-are-more-efficient-when-using-ai-up-to-one-hour-saved-on-average-as-companies-make-bid-to-maintain-enterprise-ai-spending
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • Micron ยังโผล่ที่ Delhi Comic-Con หลังประกาศปิดแบรนด์ Crucial

    แม้ว่า Micron เพิ่งประกาศว่าจะ ยุติธุรกิจผู้บริโภคภายใต้แบรนด์ Crucial ภายในกุมภาพันธ์ 2026 แต่ที่งาน Delhi Comic-Con เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลับมีบูธที่ติดโลโก้ Micron และ Crucial พร้อมโชว์สินค้า RAM และ SSD ให้ผู้เข้าร่วมงานได้เห็น ถือเป็นภาพที่สร้างความแปลกใจให้กับหลายคนในวงการ

    ทำไม Crucial ยังปรากฏตัว?
    การปรากฏตัวครั้งนี้ไม่ได้หมายถึงการเปลี่ยนใจของ Micron แต่เป็นผลจากการวางแผนล่วงหน้ากับพันธมิตรในอินเดีย ซึ่งจองพื้นที่งานไว้หลายเดือนก่อนแล้ว อีกทั้งยังเป็นโอกาสในการ ระบายสต็อกสินค้าผู้บริโภคที่ยังเหลืออยู่ ก่อนที่บริษัทจะหันไปโฟกัสกับธุรกิจหน่วยความจำสำหรับ AI และดาต้าเซ็นเตอร์ เช่น HBM (High Bandwidth Memory) และ DRAM สำหรับองค์กร

    การเปลี่ยนทิศทางสู่ AI Infrastructure
    Micron อธิบายว่าการเลิกแบรนด์ Crucial ไม่ได้เกิดจากยอดขายระยะสั้น แต่เป็นการปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับ ความต้องการหน่วยความจำความเร็วสูงในยุค AI โดย HBM สามารถซ้อนชิปหลายชั้นและเชื่อมต่อด้วย interconnects แนวตั้ง ทำให้ได้ แบนด์วิดท์ต่อวัตต์สูงกว่าหน่วยความจำ DDR แบบเดิม ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างคลัสเตอร์ AI ขนาดใหญ่

    มุมมองตลาดอินเดีย
    อินเดียยังคงเป็นตลาด PC ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และการมีบูธ Crucial ในงาน Comic-Con จึงสะท้อนถึงความพยายามของผู้จัดจำหน่ายและรีเทลเลอร์ในการ เคลียร์สินค้าคงคลัง ก่อนที่แบรนด์จะหายไปจากตลาดโลก การจัดแสดงครั้งนี้จึงเป็นเพียง “ภาพสุดท้าย” ของ Crucial ในสายตาผู้บริโภค

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Micron ปิดแบรนด์ Crucial ภายในกุมภาพันธ์ 2026
    หันไปโฟกัสกับ HBM และ DRAM สำหรับ AI และดาต้าเซ็นเตอร์

    การปรากฏตัวที่ Delhi Comic-Con
    เป็นการวางแผนล่วงหน้ากับพันธมิตร ไม่ใช่การกลับลำ
    ใช้โอกาสนี้เพื่อระบายสต็อก RAM และ SSD

    กลยุทธ์ใหม่ของ Micron
    ลงทุนใน HBM ที่ให้แบนด์วิดท์ต่อวัตต์สูงกว่า DDR
    รองรับความต้องการของ hyperscalers และคลัสเตอร์ AI ขนาดใหญ่

    คำเตือนต่อผู้บริโภค
    สินค้า Crucial ที่ยังเหลือในตลาดจะถูกเลิกผลิตเร็ว ๆ นี้
    ผู้ใช้ควรระวังการซื้อสินค้ารุ่นเก่า เพราะอาจไม่ได้รับการสนับสนุนระยะยาว

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/micron-branded-booth-appears-at-delhi-comic-con-days-after-company-confirms-crucial-shutdown
    🖥️ Micron ยังโผล่ที่ Delhi Comic-Con หลังประกาศปิดแบรนด์ Crucial แม้ว่า Micron เพิ่งประกาศว่าจะ ยุติธุรกิจผู้บริโภคภายใต้แบรนด์ Crucial ภายในกุมภาพันธ์ 2026 แต่ที่งาน Delhi Comic-Con เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลับมีบูธที่ติดโลโก้ Micron และ Crucial พร้อมโชว์สินค้า RAM และ SSD ให้ผู้เข้าร่วมงานได้เห็น ถือเป็นภาพที่สร้างความแปลกใจให้กับหลายคนในวงการ 🎮 ทำไม Crucial ยังปรากฏตัว? การปรากฏตัวครั้งนี้ไม่ได้หมายถึงการเปลี่ยนใจของ Micron แต่เป็นผลจากการวางแผนล่วงหน้ากับพันธมิตรในอินเดีย ซึ่งจองพื้นที่งานไว้หลายเดือนก่อนแล้ว อีกทั้งยังเป็นโอกาสในการ ระบายสต็อกสินค้าผู้บริโภคที่ยังเหลืออยู่ ก่อนที่บริษัทจะหันไปโฟกัสกับธุรกิจหน่วยความจำสำหรับ AI และดาต้าเซ็นเตอร์ เช่น HBM (High Bandwidth Memory) และ DRAM สำหรับองค์กร ⚡ การเปลี่ยนทิศทางสู่ AI Infrastructure Micron อธิบายว่าการเลิกแบรนด์ Crucial ไม่ได้เกิดจากยอดขายระยะสั้น แต่เป็นการปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับ ความต้องการหน่วยความจำความเร็วสูงในยุค AI โดย HBM สามารถซ้อนชิปหลายชั้นและเชื่อมต่อด้วย interconnects แนวตั้ง ทำให้ได้ แบนด์วิดท์ต่อวัตต์สูงกว่าหน่วยความจำ DDR แบบเดิม ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างคลัสเตอร์ AI ขนาดใหญ่ 🛒 มุมมองตลาดอินเดีย อินเดียยังคงเป็นตลาด PC ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และการมีบูธ Crucial ในงาน Comic-Con จึงสะท้อนถึงความพยายามของผู้จัดจำหน่ายและรีเทลเลอร์ในการ เคลียร์สินค้าคงคลัง ก่อนที่แบรนด์จะหายไปจากตลาดโลก การจัดแสดงครั้งนี้จึงเป็นเพียง “ภาพสุดท้าย” ของ Crucial ในสายตาผู้บริโภค 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Micron ปิดแบรนด์ Crucial ภายในกุมภาพันธ์ 2026 ➡️ หันไปโฟกัสกับ HBM และ DRAM สำหรับ AI และดาต้าเซ็นเตอร์ ✅ การปรากฏตัวที่ Delhi Comic-Con ➡️ เป็นการวางแผนล่วงหน้ากับพันธมิตร ไม่ใช่การกลับลำ ➡️ ใช้โอกาสนี้เพื่อระบายสต็อก RAM และ SSD ✅ กลยุทธ์ใหม่ของ Micron ➡️ ลงทุนใน HBM ที่ให้แบนด์วิดท์ต่อวัตต์สูงกว่า DDR ➡️ รองรับความต้องการของ hyperscalers และคลัสเตอร์ AI ขนาดใหญ่ ‼️ คำเตือนต่อผู้บริโภค ⛔ สินค้า Crucial ที่ยังเหลือในตลาดจะถูกเลิกผลิตเร็ว ๆ นี้ ⛔ ผู้ใช้ควรระวังการซื้อสินค้ารุ่นเก่า เพราะอาจไม่ได้รับการสนับสนุนระยะยาว https://www.tomshardware.com/tech-industry/micron-branded-booth-appears-at-delhi-comic-con-days-after-company-confirms-crucial-shutdown
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • Reddit วิจารณ์กฎหมายห้ามเด็กต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลในออสเตรเลีย

    รัฐบาลออสเตรเลียเตรียมบังคับใช้กฎหมายใหม่ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2025 โดยห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีมีบัญชีโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, Instagram, YouTube และ Reddit ซึ่งถือเป็นกฎหมายแรกของโลกที่เข้มงวดในลักษณะนี้ อย่างไรก็ตาม Reddit ออกแถลงการณ์ว่า กฎหมายดังกล่าวเป็น “การตีความที่ผิดพลาดทางกฎหมาย” และ “เกินเจตนารมณ์ของรัฐสภาออสเตรเลีย”

    Reddit ระบุว่าจะปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ไม่เห็นด้วยกับขอบเขตและผลกระทบ โดยชี้ว่าการบังคับใช้ การตรวจสอบอายุและการยืนยันตัวตน เป็นการละเมิดสิทธิในการแสดงออกและความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังไม่สอดคล้องกับธรรมชาติของแพลตฟอร์ม Reddit ที่เป็น ฟอรั่มแบบใช้นามแฝง และมีผู้ใช้งานส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่

    บริษัทจะใช้ โมเดลทำนายอายุ (age-prediction model) เพื่อระงับบัญชีที่คาดว่าเป็นผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปี พร้อมเพิ่มมาตรการความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้อายุต่ำกว่า 18 ปีทั่วโลก ขณะเดียวกัน รัฐบาลออสเตรเลียยืนยันว่ากฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อปกป้องสุขภาพจิตและลดการเสพติดโซเชียล โดยนายกรัฐมนตรี Anthony Albanese ได้กล่าวกับวัยรุ่นว่า “ถึงเวลาที่จะใช้ชีวิตแบบพบปะกันต่อหน้า”

    แม้จะมีการสนับสนุนจากบางฝ่าย แต่หลายคนกังวลว่าเยาวชนจะหาทางเลี่ยง เช่น ใช้ ID ปลอม หรือ AI ปรับภาพให้ดูโตขึ้น ขณะที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Roblox, Pinterest และ WhatsApp กลับได้รับการยกเว้นจากกฎหมายนี้ ทำให้เกิดคำถามถึงความสอดคล้องและความเป็นธรรมของการบังคับใช้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    กฎหมายใหม่ในออสเตรเลีย
    ห้ามเด็กต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดียหลัก เช่น TikTok, Instagram, YouTube และ Reddit
    มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 10 ธันวาคม 2025

    ปฏิกิริยาของ Reddit
    เห็นว่ากฎหมายนี้ “ผิดพลาดทางกฎหมาย” และละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัว
    จะใช้โมเดลทำนายอายุเพื่อบังคับใช้ แต่ยังคงวิจารณ์ความเหมาะสม

    มุมมองรัฐบาลออสเตรเลีย
    นายกรัฐมนตรี Albanese ย้ำว่ากฎหมายนี้เพื่อสุขภาพจิตและการใช้ชีวิตแบบพบปะกันจริง
    คาดว่าจะกระทบวัยรุ่นหลายแสนคน โดยเฉพาะผู้ใช้ Instagram อายุ 13–15 ปี

    คำเตือนและความเสี่ยง
    วัยรุ่นอาจเลี่ยงกฎหมายด้วยการใช้ ID ปลอมหรือ AI ปรับภาพให้ดูโตขึ้น
    การยกเว้นบางแพลตฟอร์ม เช่น Roblox และ WhatsApp อาจสร้างความไม่เป็นธรรมและช่องโหว่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/09/reddit-says-australia039s-under-16-social-media-ban-039legally-erroneous039
    ⚖️ Reddit วิจารณ์กฎหมายห้ามเด็กต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลในออสเตรเลีย รัฐบาลออสเตรเลียเตรียมบังคับใช้กฎหมายใหม่ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2025 โดยห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีมีบัญชีโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, Instagram, YouTube และ Reddit ซึ่งถือเป็นกฎหมายแรกของโลกที่เข้มงวดในลักษณะนี้ อย่างไรก็ตาม Reddit ออกแถลงการณ์ว่า กฎหมายดังกล่าวเป็น “การตีความที่ผิดพลาดทางกฎหมาย” และ “เกินเจตนารมณ์ของรัฐสภาออสเตรเลีย” Reddit ระบุว่าจะปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ไม่เห็นด้วยกับขอบเขตและผลกระทบ โดยชี้ว่าการบังคับใช้ การตรวจสอบอายุและการยืนยันตัวตน เป็นการละเมิดสิทธิในการแสดงออกและความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังไม่สอดคล้องกับธรรมชาติของแพลตฟอร์ม Reddit ที่เป็น ฟอรั่มแบบใช้นามแฝง และมีผู้ใช้งานส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ บริษัทจะใช้ โมเดลทำนายอายุ (age-prediction model) เพื่อระงับบัญชีที่คาดว่าเป็นผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปี พร้อมเพิ่มมาตรการความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้อายุต่ำกว่า 18 ปีทั่วโลก ขณะเดียวกัน รัฐบาลออสเตรเลียยืนยันว่ากฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อปกป้องสุขภาพจิตและลดการเสพติดโซเชียล โดยนายกรัฐมนตรี Anthony Albanese ได้กล่าวกับวัยรุ่นว่า “ถึงเวลาที่จะใช้ชีวิตแบบพบปะกันต่อหน้า” แม้จะมีการสนับสนุนจากบางฝ่าย แต่หลายคนกังวลว่าเยาวชนจะหาทางเลี่ยง เช่น ใช้ ID ปลอม หรือ AI ปรับภาพให้ดูโตขึ้น ขณะที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Roblox, Pinterest และ WhatsApp กลับได้รับการยกเว้นจากกฎหมายนี้ ทำให้เกิดคำถามถึงความสอดคล้องและความเป็นธรรมของการบังคับใช้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ กฎหมายใหม่ในออสเตรเลีย ➡️ ห้ามเด็กต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดียหลัก เช่น TikTok, Instagram, YouTube และ Reddit ➡️ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 10 ธันวาคม 2025 ✅ ปฏิกิริยาของ Reddit ➡️ เห็นว่ากฎหมายนี้ “ผิดพลาดทางกฎหมาย” และละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัว ➡️ จะใช้โมเดลทำนายอายุเพื่อบังคับใช้ แต่ยังคงวิจารณ์ความเหมาะสม ✅ มุมมองรัฐบาลออสเตรเลีย ➡️ นายกรัฐมนตรี Albanese ย้ำว่ากฎหมายนี้เพื่อสุขภาพจิตและการใช้ชีวิตแบบพบปะกันจริง ➡️ คาดว่าจะกระทบวัยรุ่นหลายแสนคน โดยเฉพาะผู้ใช้ Instagram อายุ 13–15 ปี ‼️ คำเตือนและความเสี่ยง ⛔ วัยรุ่นอาจเลี่ยงกฎหมายด้วยการใช้ ID ปลอมหรือ AI ปรับภาพให้ดูโตขึ้น ⛔ การยกเว้นบางแพลตฟอร์ม เช่น Roblox และ WhatsApp อาจสร้างความไม่เป็นธรรมและช่องโหว่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/09/reddit-says-australia039s-under-16-social-media-ban-039legally-erroneous039
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Reddit says Australia's under-16 social media ban 'legally erroneous'
    Online discussion site Reddit on Dec 9 condemned Australia's imminent social media ban for under-16s as "legally erroneous" but said it would comply with the landmark crackdown.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • การทดลองครั้งใหญ่: กฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดียในออสเตรเลีย

    รัฐบาลออสเตรเลียเริ่มต้นการทดลองทางสังคมครั้งใหญ่ ด้วยการออกกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, Snapchat, YouTube และ Instagram โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องเยาวชนจากผลกระทบด้านสุขภาพจิตและการเสพติดออนไลน์ อย่างไรก็ตาม เด็กวัยรุ่นจำนวนมากกลับแสดงความสงสัยและไม่มั่นใจว่ากฎหมายนี้จะช่วยได้จริง

    วัยรุ่นบางคน เช่น Darcey Pritchard วัย 15 ปี เลือกที่จะลบ Snapchat ออกจากโทรศัพท์เพราะรู้สึกว่าถูก “ดูดเข้าไป” โดยอัลกอริทึม ขณะที่เพื่อนของเธอ Luca Hagop ใช้เวลาไปกว่า 34 ชั่วโมงบน Instagram ในหนึ่งสัปดาห์ โดยแชร์คลิปสัตว์เลี้ยงและวิดีโอที่ “ตลกเพราะมันไม่ตลก” สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างความตั้งใจของรัฐกับพฤติกรรมจริงของวัยรุ่น

    นักวิจารณ์บางรายมองว่ากฎหมายนี้อาจเป็นการควบคุมที่เกินไป และตั้งคำถามว่าจะสามารถบังคับใช้ได้จริงหรือไม่ เนื่องจากวัยรุ่นสามารถหาทางเลี่ยงข้อจำกัดได้ง่าย เช่น การใช้ VPN หรือบัญชีผู้ใหญ่ปลอม ขณะเดียวกัน ผู้สนับสนุนกฎหมายเชื่อว่ามันจะช่วยลดการเสพติดโซเชียลและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยขึ้นสำหรับเด็ก

    การทดลองนี้จึงถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะอาจกลายเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่น ๆ พิจารณาแนวทางคล้ายกัน หากผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่ามีผลเชิงบวกต่อสุขภาพจิตและพฤติกรรมของเยาวชนในระยะยาว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    กฎหมายใหม่ในออสเตรเลีย
    ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้ TikTok, Snapchat, YouTube และ Instagram
    มีเป้าหมายเพื่อปกป้องสุขภาพจิตและลดการเสพติดออนไลน์

    ปฏิกิริยาของวัยรุ่น
    บางคนลบแอปเองเพราะรู้สึกถูกครอบงำโดยอัลกอริทึม
    หลายคนยังใช้โซเชียลอย่างหนัก เช่น ใช้ Instagram กว่า 34 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

    มุมมองจากสังคม
    ผู้สนับสนุนเชื่อว่าจะช่วยลดการเสพติดและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
    นักวิจารณ์ตั้งคำถามเรื่องการบังคับใช้และการเลี่ยงข้อจำกัด

    คำเตือนและความเสี่ยง
    วัยรุ่นอาจหาทางเลี่ยงกฎหมาย เช่น ใช้ VPN หรือบัญชีปลอม
    หากบังคับใช้ไม่จริงจัง กฎหมายอาจกลายเป็นเพียง “สัญลักษณ์” โดยไม่เกิดผลลัพธ์จริง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/08/a-grand-social-media-experiment-begins-in-australia
    🇦🇺 การทดลองครั้งใหญ่: กฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดียในออสเตรเลีย รัฐบาลออสเตรเลียเริ่มต้นการทดลองทางสังคมครั้งใหญ่ ด้วยการออกกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, Snapchat, YouTube และ Instagram โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องเยาวชนจากผลกระทบด้านสุขภาพจิตและการเสพติดออนไลน์ อย่างไรก็ตาม เด็กวัยรุ่นจำนวนมากกลับแสดงความสงสัยและไม่มั่นใจว่ากฎหมายนี้จะช่วยได้จริง วัยรุ่นบางคน เช่น Darcey Pritchard วัย 15 ปี เลือกที่จะลบ Snapchat ออกจากโทรศัพท์เพราะรู้สึกว่าถูก “ดูดเข้าไป” โดยอัลกอริทึม ขณะที่เพื่อนของเธอ Luca Hagop ใช้เวลาไปกว่า 34 ชั่วโมงบน Instagram ในหนึ่งสัปดาห์ โดยแชร์คลิปสัตว์เลี้ยงและวิดีโอที่ “ตลกเพราะมันไม่ตลก” สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างความตั้งใจของรัฐกับพฤติกรรมจริงของวัยรุ่น นักวิจารณ์บางรายมองว่ากฎหมายนี้อาจเป็นการควบคุมที่เกินไป และตั้งคำถามว่าจะสามารถบังคับใช้ได้จริงหรือไม่ เนื่องจากวัยรุ่นสามารถหาทางเลี่ยงข้อจำกัดได้ง่าย เช่น การใช้ VPN หรือบัญชีผู้ใหญ่ปลอม ขณะเดียวกัน ผู้สนับสนุนกฎหมายเชื่อว่ามันจะช่วยลดการเสพติดโซเชียลและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยขึ้นสำหรับเด็ก การทดลองนี้จึงถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะอาจกลายเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่น ๆ พิจารณาแนวทางคล้ายกัน หากผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่ามีผลเชิงบวกต่อสุขภาพจิตและพฤติกรรมของเยาวชนในระยะยาว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ กฎหมายใหม่ในออสเตรเลีย ➡️ ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้ TikTok, Snapchat, YouTube และ Instagram ➡️ มีเป้าหมายเพื่อปกป้องสุขภาพจิตและลดการเสพติดออนไลน์ ✅ ปฏิกิริยาของวัยรุ่น ➡️ บางคนลบแอปเองเพราะรู้สึกถูกครอบงำโดยอัลกอริทึม ➡️ หลายคนยังใช้โซเชียลอย่างหนัก เช่น ใช้ Instagram กว่า 34 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ✅ มุมมองจากสังคม ➡️ ผู้สนับสนุนเชื่อว่าจะช่วยลดการเสพติดและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ➡️ นักวิจารณ์ตั้งคำถามเรื่องการบังคับใช้และการเลี่ยงข้อจำกัด ‼️ คำเตือนและความเสี่ยง ⛔ วัยรุ่นอาจหาทางเลี่ยงกฎหมาย เช่น ใช้ VPN หรือบัญชีปลอม ⛔ หากบังคับใช้ไม่จริงจัง กฎหมายอาจกลายเป็นเพียง “สัญลักษณ์” โดยไม่เกิดผลลัพธ์จริง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/08/a-grand-social-media-experiment-begins-in-australia
    WWW.THESTAR.COM.MY
    A grand social media experiment begins in Australia
    The country is trying to wean children under 16 off the likes of TikTok, Snapchat, YouTube and Instagram with a new law. The teenagers are skeptical.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple Silicon เสี่ยงสะเทือน หลังหัวหน้าสถาปนิก Johny Srouji อาจลาออก

    ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา Johny Srouji คือบุคคลสำคัญที่ผลักดัน Apple ให้กลายเป็นผู้นำด้านชิปแบบ custom silicon โดยเขาเป็นผู้กำหนดทิศทางการออกแบบ CPU, GPU, NPU และการเจรจากับ TSMC เพื่อผลิตชิปตระกูล M-series และ A-series ที่ใช้ใน iPhone, iPad, Mac และ Apple Watch. การที่เขาอาจจะออกจากบริษัทจึงไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะตำแหน่งของเขาเป็น “ศูนย์กลาง” ที่เชื่อมโยงทีมต่าง ๆ เข้าด้วยกัน

    การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Apple กำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ ทั้งการปรับตัวเข้าสู่ยุค AI ที่ต้องการชิปประมวลผลเฉพาะทาง และการรักษาความได้เปรียบด้านประสิทธิภาพเหนือคู่แข่งอย่าง Qualcomm และ Intel หาก Srouji ก้าวลงจากตำแหน่ง Apple อาจสูญเสียความต่อเนื่องในการวางแผนระยะยาวและการบูรณาการเทคโนโลยี

    แม้ Apple ยังมีทีมงานที่แข็งแกร่ง เช่น Zongjian Chen (หัวหน้าสถาปัตยกรรม CPU) และ Sribalan Santhanam (หัวหน้าการบูรณาการ SoC) แต่ทั้งคู่ไม่ได้มีบทบาทครอบคลุมทุกด้านเหมือน Srouji การขาด “ผู้นำรวมศูนย์” อาจทำให้การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ช้าลง และเสี่ยงต่อการสูญเสียความเป็นเอกภาพในการพัฒนาชิป

    สิ่งที่น่าสนใจคือ Apple กำลังอยู่ในช่วง “เปลี่ยนผ่าน” ของยุค Tim Cook ที่มีผู้บริหารระดับสูงหลายคนทยอยออกจากบริษัท การจากไปของ Srouji หากเกิดขึ้นจริง จะเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่าบริษัทกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ที่ต้องหาทางรักษาความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีโดยไม่มีบุคคลสำคัญที่เคยเป็นเสาหลัก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Johny Srouji อาจออกจาก Apple
    เขาเป็นหัวหน้าสถาปนิกชิปที่อยู่เบื้องหลัง Apple Silicon มานานกว่า 10 ปี

    บทบาทสำคัญของ Srouji
    กำหนดทิศทาง CPU, GPU, NPU, โมเด็ม 5G และการเจรจากับ TSMC

    ทีมงานที่ยังอยู่
    Zongjian Chen (CPU) และ Sribalan Santhanam (SoC) แต่ไม่มีบทบาทครอบคลุมเท่า Srouji

    ผลกระทบต่อ Apple
    อาจสูญเสียความต่อเนื่องในการวางแผนและการบูรณาการเทคโนโลยี

    ความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์
    Apple อาจชะลอการพัฒนา AI และสูญเสียความได้เปรียบด้านชิป

    สัญญาณการเปลี่ยนผ่านในยุค Tim Cook
    ผู้บริหารระดับสูงหลายคนทยอยออก อาจกระทบเสถียรภาพองค์กร

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/apples-chief-chip-architect-for-the-last-decade-has-reportedly-talked-to-ceo-tim-cook-about-leaving
    ⚙️ Apple Silicon เสี่ยงสะเทือน หลังหัวหน้าสถาปนิก Johny Srouji อาจลาออก ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา Johny Srouji คือบุคคลสำคัญที่ผลักดัน Apple ให้กลายเป็นผู้นำด้านชิปแบบ custom silicon โดยเขาเป็นผู้กำหนดทิศทางการออกแบบ CPU, GPU, NPU และการเจรจากับ TSMC เพื่อผลิตชิปตระกูล M-series และ A-series ที่ใช้ใน iPhone, iPad, Mac และ Apple Watch. การที่เขาอาจจะออกจากบริษัทจึงไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะตำแหน่งของเขาเป็น “ศูนย์กลาง” ที่เชื่อมโยงทีมต่าง ๆ เข้าด้วยกัน การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Apple กำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ ทั้งการปรับตัวเข้าสู่ยุค AI ที่ต้องการชิปประมวลผลเฉพาะทาง และการรักษาความได้เปรียบด้านประสิทธิภาพเหนือคู่แข่งอย่าง Qualcomm และ Intel หาก Srouji ก้าวลงจากตำแหน่ง Apple อาจสูญเสียความต่อเนื่องในการวางแผนระยะยาวและการบูรณาการเทคโนโลยี แม้ Apple ยังมีทีมงานที่แข็งแกร่ง เช่น Zongjian Chen (หัวหน้าสถาปัตยกรรม CPU) และ Sribalan Santhanam (หัวหน้าการบูรณาการ SoC) แต่ทั้งคู่ไม่ได้มีบทบาทครอบคลุมทุกด้านเหมือน Srouji การขาด “ผู้นำรวมศูนย์” อาจทำให้การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ช้าลง และเสี่ยงต่อการสูญเสียความเป็นเอกภาพในการพัฒนาชิป สิ่งที่น่าสนใจคือ Apple กำลังอยู่ในช่วง “เปลี่ยนผ่าน” ของยุค Tim Cook ที่มีผู้บริหารระดับสูงหลายคนทยอยออกจากบริษัท การจากไปของ Srouji หากเกิดขึ้นจริง จะเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่าบริษัทกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ที่ต้องหาทางรักษาความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีโดยไม่มีบุคคลสำคัญที่เคยเป็นเสาหลัก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Johny Srouji อาจออกจาก Apple ➡️ เขาเป็นหัวหน้าสถาปนิกชิปที่อยู่เบื้องหลัง Apple Silicon มานานกว่า 10 ปี ✅ บทบาทสำคัญของ Srouji ➡️ กำหนดทิศทาง CPU, GPU, NPU, โมเด็ม 5G และการเจรจากับ TSMC ✅ ทีมงานที่ยังอยู่ ➡️ Zongjian Chen (CPU) และ Sribalan Santhanam (SoC) แต่ไม่มีบทบาทครอบคลุมเท่า Srouji ✅ ผลกระทบต่อ Apple ➡️ อาจสูญเสียความต่อเนื่องในการวางแผนและการบูรณาการเทคโนโลยี ‼️ ความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์ ⛔ Apple อาจชะลอการพัฒนา AI และสูญเสียความได้เปรียบด้านชิป ‼️ สัญญาณการเปลี่ยนผ่านในยุค Tim Cook ⛔ ผู้บริหารระดับสูงหลายคนทยอยออก อาจกระทบเสถียรภาพองค์กร https://www.tomshardware.com/tech-industry/apples-chief-chip-architect-for-the-last-decade-has-reportedly-talked-to-ceo-tim-cook-about-leaving
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • “IDEsaster” ช่องโหว่ AI IDE เสี่ยงข้อมูลรั่วและรันโค้ดอันตราย
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยได้เปิดเผยรายงานชื่อ IDEsaster ซึ่งระบุว่ามีช่องโหว่มากกว่า 30 จุดในเครื่องมือพัฒนาโค้ดที่ผสาน AI เข้ามา เช่น Visual Studio Code, JetBrains, Zed และผู้ช่วยเชิงพาณิชย์อย่าง GitHub Copilot, Cursor, Windsurf, Claude Code เป็นต้น โดยทุกเครื่องมือที่ทดสอบพบว่ามีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตี 100%.

    ปัญหาหลักเกิดจากการที่ AI agents สามารถอ่าน เขียน และแก้ไขไฟล์ใน IDE ได้ ทำให้ฟีเจอร์ที่เคยปลอดภัยกลายเป็นช่องทางโจมตี เช่น การฝังคำสั่งซ่อนใน README หรือไฟล์ตั้งค่า เมื่อ AI ประมวลผลข้อมูลเหล่านี้ ก็อาจถูกบังคับให้ทำงานที่เปิดช่องให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลหรือรันโค้ดอันตรายได้ทันที.

    ตัวอย่างที่ถูกบันทึกไว้ เช่น การสร้างไฟล์ JSON ที่อ้างอิง schema จากภายนอก ซึ่งทำให้ IDE ดึงข้อมูลออกไปโดยไม่ตั้งใจ หรือการแก้ไขค่าในไฟล์ตั้งค่า PHP ที่ทำให้ IDE รันโค้ดอันตรายทันทีเมื่อเปิดไฟล์ใหม่ นักวิจัยย้ำว่าปัญหานี้ไม่สามารถแก้ไขได้ในระยะสั้น เพราะ IDE เดิมไม่ได้ถูกออกแบบภายใต้หลัก “Secure for AI”.

    รายงานสรุปว่า แนวทางแก้ไขระยะยาวคือการออกแบบ IDE ใหม่ทั้งหมดให้รองรับการทำงานร่วมกับ AI อย่างปลอดภัย ขณะที่ระยะสั้นนักพัฒนาและผู้ให้บริการต้องใช้มาตรการป้องกัน เช่น การจำกัดสิทธิ์ของ AI agents และตรวจสอบการเชื่อมต่อภายนอกอย่างเข้มงวด.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    รายงาน IDEsaster พบช่องโหว่กว่า 30 จุด
    ครอบคลุมทั้ง Visual Studio Code, JetBrains, Zed และ AI assistants หลายตัว
    ทุกเครื่องมือที่ทดสอบมีความเสี่ยง 100%

    รูปแบบการโจมตีที่พบ
    Prompt injection ผ่าน README, rule files, หรือไฟล์ตั้งค่า
    การสร้างไฟล์ JSON ที่ดึงข้อมูลออกไปโดยอัตโนมัติ
    การแก้ไขค่า config ที่ทำให้ IDE รันโค้ดอันตรายทันที

    แนวทางแก้ไขที่เสนอ
    ระยะสั้น: จำกัดสิทธิ์ AI agents และตรวจสอบการเชื่อมต่อ
    ระยะยาว: ออกแบบ IDE ใหม่ภายใต้หลัก “Secure for AI”

    คำเตือนด้านความปลอดภัย
    IDE ที่มี AI ฝังอยู่ทั้งหมดเสี่ยงต่อการถูกโจมตี
    นักพัฒนาควรระวังการใช้ไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
    การพึ่งพา AI โดยไม่ตรวจสอบอาจนำไปสู่การรั่วไหลข้อมูลหรือ RCE

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/researchers-uncover-critical-ai-ide-flaws-exposing-developers-to-data-theft-and-rce
    ⚠️ “IDEsaster” ช่องโหว่ AI IDE เสี่ยงข้อมูลรั่วและรันโค้ดอันตราย นักวิจัยด้านความปลอดภัยได้เปิดเผยรายงานชื่อ IDEsaster ซึ่งระบุว่ามีช่องโหว่มากกว่า 30 จุดในเครื่องมือพัฒนาโค้ดที่ผสาน AI เข้ามา เช่น Visual Studio Code, JetBrains, Zed และผู้ช่วยเชิงพาณิชย์อย่าง GitHub Copilot, Cursor, Windsurf, Claude Code เป็นต้น โดยทุกเครื่องมือที่ทดสอบพบว่ามีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตี 100%. ปัญหาหลักเกิดจากการที่ AI agents สามารถอ่าน เขียน และแก้ไขไฟล์ใน IDE ได้ ทำให้ฟีเจอร์ที่เคยปลอดภัยกลายเป็นช่องทางโจมตี เช่น การฝังคำสั่งซ่อนใน README หรือไฟล์ตั้งค่า เมื่อ AI ประมวลผลข้อมูลเหล่านี้ ก็อาจถูกบังคับให้ทำงานที่เปิดช่องให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลหรือรันโค้ดอันตรายได้ทันที. ตัวอย่างที่ถูกบันทึกไว้ เช่น การสร้างไฟล์ JSON ที่อ้างอิง schema จากภายนอก ซึ่งทำให้ IDE ดึงข้อมูลออกไปโดยไม่ตั้งใจ หรือการแก้ไขค่าในไฟล์ตั้งค่า PHP ที่ทำให้ IDE รันโค้ดอันตรายทันทีเมื่อเปิดไฟล์ใหม่ นักวิจัยย้ำว่าปัญหานี้ไม่สามารถแก้ไขได้ในระยะสั้น เพราะ IDE เดิมไม่ได้ถูกออกแบบภายใต้หลัก “Secure for AI”. รายงานสรุปว่า แนวทางแก้ไขระยะยาวคือการออกแบบ IDE ใหม่ทั้งหมดให้รองรับการทำงานร่วมกับ AI อย่างปลอดภัย ขณะที่ระยะสั้นนักพัฒนาและผู้ให้บริการต้องใช้มาตรการป้องกัน เช่น การจำกัดสิทธิ์ของ AI agents และตรวจสอบการเชื่อมต่อภายนอกอย่างเข้มงวด. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ รายงาน IDEsaster พบช่องโหว่กว่า 30 จุด ➡️ ครอบคลุมทั้ง Visual Studio Code, JetBrains, Zed และ AI assistants หลายตัว ➡️ ทุกเครื่องมือที่ทดสอบมีความเสี่ยง 100% ✅ รูปแบบการโจมตีที่พบ ➡️ Prompt injection ผ่าน README, rule files, หรือไฟล์ตั้งค่า ➡️ การสร้างไฟล์ JSON ที่ดึงข้อมูลออกไปโดยอัตโนมัติ ➡️ การแก้ไขค่า config ที่ทำให้ IDE รันโค้ดอันตรายทันที ✅ แนวทางแก้ไขที่เสนอ ➡️ ระยะสั้น: จำกัดสิทธิ์ AI agents และตรวจสอบการเชื่อมต่อ ➡️ ระยะยาว: ออกแบบ IDE ใหม่ภายใต้หลัก “Secure for AI” ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัย ⛔ IDE ที่มี AI ฝังอยู่ทั้งหมดเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ⛔ นักพัฒนาควรระวังการใช้ไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ⛔ การพึ่งพา AI โดยไม่ตรวจสอบอาจนำไปสู่การรั่วไหลข้อมูลหรือ RCE https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/researchers-uncover-critical-ai-ide-flaws-exposing-developers-to-data-theft-and-rce
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Critical flaws found in AI development tools dubbed an 'IDEsaster' — data theft and remote code execution possible
    New research identifies more than thirty vulnerabilities across AI coding tools, revealing a universal attack chain that affects every major AI-integrated IDE tested.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐโชว์ภาพ 3D ฐานทัพเรือจีน คมชัดระดับ 50 ซม.

    บริษัทดาวเทียมสัญชาติสหรัฐชื่อ Vantor ได้เผยแพร่ภาพถ่ายความละเอียดสูงของฐานทัพเรือ Yulin Naval Base บนเกาะไห่หนาน ประเทศจีน โดยใช้ดาวเทียมเพียงหนึ่งครั้งในการบินผ่าน และสามารถประมวลผลเป็นภาพ 3D ได้ภายในเวลาไม่ถึง 10 ชั่วโมง ความละเอียดของภาพอยู่ที่ 50 เซนติเมตรต่อพิกเซล และมีความแม่นยำเชิงพื้นที่ต่ำกว่า 4 เมตร ซึ่งคมชัดพอที่จะเห็นยานพาหนะบนพื้นดินได้อย่างชัดเจน

    สิ่งที่โดดเด่นคือการใช้ซอฟต์แวร์ Forge ของ Vantor ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสำรวจภาพในรูปแบบ 3D ได้เต็มรูปแบบ เทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็น “ฐานข้อมูลเชิงพื้นที่ที่เชื่อถือได้” สำหรับระบบสั่งการและแพลตฟอร์มอัตโนมัติ ทั้งในด้านการวางแผน การวิเคราะห์ และการฝึกซ้อมทางทหาร รวมถึงการใช้งานพลเรือน เช่น การวางผังเมืองและการตอบสนองต่อภัยพิบัติ

    การประมวลผลภาพดาวเทียมในอดีตอาจใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ แต่ด้วยการผสมผสาน AI และข้อมูลเชิงพื้นที่ที่แม่นยำ ทำให้ Vantor สามารถสร้าง “Digital Twin” ของพื้นที่จริงได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งถือเป็นการพลิกโฉมการใช้ข้อมูลดาวเทียมในยุคใหม่

    อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าด้านนี้ก็สร้างความกังวลในระดับนโยบาย โดยเฉพาะการใช้ ชิป AI จาก Nvidia และ AMD ที่มีศักยภาพในการใช้งานทั้งพลเรือนและทหาร ทำให้รัฐบาลสหรัฐบางส่วนระมัดระวังในการอนุญาตให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ เนื่องจากอาจถูกนำไปใช้ในด้านการทหารโดยตรง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ความสำเร็จของ Vantor
    สร้างภาพ 3D ความละเอียด 50 ซม. จากการบินผ่านเพียงครั้งเดียว
    ประมวลผลเสร็จภายใน 10 ชั่วโมง

    ซอฟต์แวร์ Forge
    ช่วยให้สำรวจภาพในรูปแบบ 3D ได้เต็มรูปแบบ
    ใช้เป็นฐานข้อมูลเชิงพื้นที่สำหรับการวางแผนและการฝึกซ้อม

    การประยุกต์ใช้งาน
    พลเรือน: การวางผังเมืองและการตอบสนองภัยพิบัติ
    ทหาร: การวิเคราะห์และการฝึกซ้อมเชิงยุทธศาสตร์

    ข้อกังวลด้านความมั่นคง
    เทคโนโลยี AI และชิปประมวลผลอาจถูกใช้ทั้งพลเรือนและทหาร
    รัฐบาลสหรัฐบางส่วนกังวลการเข้าถึงเทคโนโลยีโดยจีน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/chinese-navy-base-3d-imaged-to-50cm-resolution-in-single-satellite-pass-us-spatial-intelligence-firm-boasts-accurate-high-res-3d-terrain-map-took-just-10-hours-to-create
    🛰️ สหรัฐโชว์ภาพ 3D ฐานทัพเรือจีน คมชัดระดับ 50 ซม. บริษัทดาวเทียมสัญชาติสหรัฐชื่อ Vantor ได้เผยแพร่ภาพถ่ายความละเอียดสูงของฐานทัพเรือ Yulin Naval Base บนเกาะไห่หนาน ประเทศจีน โดยใช้ดาวเทียมเพียงหนึ่งครั้งในการบินผ่าน และสามารถประมวลผลเป็นภาพ 3D ได้ภายในเวลาไม่ถึง 10 ชั่วโมง ความละเอียดของภาพอยู่ที่ 50 เซนติเมตรต่อพิกเซล และมีความแม่นยำเชิงพื้นที่ต่ำกว่า 4 เมตร ซึ่งคมชัดพอที่จะเห็นยานพาหนะบนพื้นดินได้อย่างชัดเจน สิ่งที่โดดเด่นคือการใช้ซอฟต์แวร์ Forge ของ Vantor ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสำรวจภาพในรูปแบบ 3D ได้เต็มรูปแบบ เทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็น “ฐานข้อมูลเชิงพื้นที่ที่เชื่อถือได้” สำหรับระบบสั่งการและแพลตฟอร์มอัตโนมัติ ทั้งในด้านการวางแผน การวิเคราะห์ และการฝึกซ้อมทางทหาร รวมถึงการใช้งานพลเรือน เช่น การวางผังเมืองและการตอบสนองต่อภัยพิบัติ การประมวลผลภาพดาวเทียมในอดีตอาจใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ แต่ด้วยการผสมผสาน AI และข้อมูลเชิงพื้นที่ที่แม่นยำ ทำให้ Vantor สามารถสร้าง “Digital Twin” ของพื้นที่จริงได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งถือเป็นการพลิกโฉมการใช้ข้อมูลดาวเทียมในยุคใหม่ อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าด้านนี้ก็สร้างความกังวลในระดับนโยบาย โดยเฉพาะการใช้ ชิป AI จาก Nvidia และ AMD ที่มีศักยภาพในการใช้งานทั้งพลเรือนและทหาร ทำให้รัฐบาลสหรัฐบางส่วนระมัดระวังในการอนุญาตให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ เนื่องจากอาจถูกนำไปใช้ในด้านการทหารโดยตรง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ความสำเร็จของ Vantor ➡️ สร้างภาพ 3D ความละเอียด 50 ซม. จากการบินผ่านเพียงครั้งเดียว ➡️ ประมวลผลเสร็จภายใน 10 ชั่วโมง ✅ ซอฟต์แวร์ Forge ➡️ ช่วยให้สำรวจภาพในรูปแบบ 3D ได้เต็มรูปแบบ ➡️ ใช้เป็นฐานข้อมูลเชิงพื้นที่สำหรับการวางแผนและการฝึกซ้อม ✅ การประยุกต์ใช้งาน ➡️ พลเรือน: การวางผังเมืองและการตอบสนองภัยพิบัติ ➡️ ทหาร: การวิเคราะห์และการฝึกซ้อมเชิงยุทธศาสตร์ ‼️ ข้อกังวลด้านความมั่นคง ⛔ เทคโนโลยี AI และชิปประมวลผลอาจถูกใช้ทั้งพลเรือนและทหาร ⛔ รัฐบาลสหรัฐบางส่วนกังวลการเข้าถึงเทคโนโลยีโดยจีน https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/chinese-navy-base-3d-imaged-to-50cm-resolution-in-single-satellite-pass-us-spatial-intelligence-firm-boasts-accurate-high-res-3d-terrain-map-took-just-10-hours-to-create
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • จอภาพ 3D ที่ “มองเห็นและสัมผัสได้” ด้วยแสง

    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย UC Santa Barbara ได้พัฒนาเทคโนโลยีจอภาพแบบใหม่ที่สามารถสร้างภาพกราฟิก 3D ที่ไม่เพียงแค่เห็นด้วยตา แต่ยังสามารถสัมผัสได้ด้วยนิ้วมือ โดยใช้หลักการ “Optotactile Surface” ซึ่งทำงานผ่านการยิงแสงเลเซอร์ไปยังพิกเซลขนาดมิลลิเมตร แต่ละพิกเซลจะพองตัวขึ้นเป็นตุ่มเล็กๆ เมื่อได้รับพลังงานจากแสง ทำให้ผู้ใช้สามารถรับรู้รูปร่างและการเคลื่อนไหวได้ทั้งทางสายตาและสัมผัส

    เทคโนโลยีนี้ถือเป็นการผสมผสานระหว่างการแสดงผลภาพและการตอบสนองทางสัมผัส โดยไม่ต้องใช้สายไฟหรือวงจรฝังในพิกเซล แต่ใช้การสแกนลำแสงเลเซอร์ที่รวดเร็วเพื่อกระตุ้นพิกเซลทีละจุด จนเกิดเป็นภาพเคลื่อนไหวที่ทั้ง “เห็นและรู้สึก” ได้พร้อมกัน

    นอกจากการใช้งานเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในการอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์หรือการเรียนรู้ผ่านสัมผัสแล้ว นักวิจัยยังมองถึงการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น แผงควบคุมที่สามารถเปลี่ยนพื้นผิวให้เหมือนปุ่มจริง หรือระบบนำทางที่ผู้ขับสามารถสัมผัสได้โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน

    อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นต้นของการพัฒนา แม้จะมีศักยภาพสูง แต่ก็ยังต้องทดสอบด้านความทนทาน ความปลอดภัย และการผลิตในเชิงพาณิชย์ ซึ่งอาจใช้เวลาอีกหลายปีจึงจะเห็นการใช้งานจริงในตลาด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เทคโนโลยี Optotactile Surface จาก UCSB
    ใช้เลเซอร์กระตุ้นพิกเซลให้พองตัวขึ้นจนสามารถสัมผัสได้
    ไม่ต้องใช้สายไฟหรือวงจรฝังในพิกเซล

    การใช้งานที่เป็นไปได้ในอนาคต
    หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถสัมผัสตัวอักษรหรือภาพ
    แผงควบคุมในรถยนต์ที่เปลี่ยนพื้นผิวเป็นปุ่มเสมือนจริง

    ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์
    สามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวที่ทั้งเห็นและสัมผัสได้
    มีการทดสอบแล้วว่าผู้ใช้สามารถแยกแยะรูปร่างและการเคลื่อนไหวได้แม่นยำ

    ข้อควรระวังและความท้าทาย
    ยังอยู่ในขั้นต้นของการพัฒนา ต้องทดสอบด้านความทนทานและความปลอดภัย
    การผลิตเชิงพาณิชย์อาจใช้เวลาหลายปีและมีต้นทุนสูง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/ucsb-researchers-develop-light-powered-haptic-pixels-that-form-tactile-3d-graphics
    🖥️ จอภาพ 3D ที่ “มองเห็นและสัมผัสได้” ด้วยแสง นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย UC Santa Barbara ได้พัฒนาเทคโนโลยีจอภาพแบบใหม่ที่สามารถสร้างภาพกราฟิก 3D ที่ไม่เพียงแค่เห็นด้วยตา แต่ยังสามารถสัมผัสได้ด้วยนิ้วมือ โดยใช้หลักการ “Optotactile Surface” ซึ่งทำงานผ่านการยิงแสงเลเซอร์ไปยังพิกเซลขนาดมิลลิเมตร แต่ละพิกเซลจะพองตัวขึ้นเป็นตุ่มเล็กๆ เมื่อได้รับพลังงานจากแสง ทำให้ผู้ใช้สามารถรับรู้รูปร่างและการเคลื่อนไหวได้ทั้งทางสายตาและสัมผัส เทคโนโลยีนี้ถือเป็นการผสมผสานระหว่างการแสดงผลภาพและการตอบสนองทางสัมผัส โดยไม่ต้องใช้สายไฟหรือวงจรฝังในพิกเซล แต่ใช้การสแกนลำแสงเลเซอร์ที่รวดเร็วเพื่อกระตุ้นพิกเซลทีละจุด จนเกิดเป็นภาพเคลื่อนไหวที่ทั้ง “เห็นและรู้สึก” ได้พร้อมกัน นอกจากการใช้งานเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในการอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์หรือการเรียนรู้ผ่านสัมผัสแล้ว นักวิจัยยังมองถึงการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น แผงควบคุมที่สามารถเปลี่ยนพื้นผิวให้เหมือนปุ่มจริง หรือระบบนำทางที่ผู้ขับสามารถสัมผัสได้โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นต้นของการพัฒนา แม้จะมีศักยภาพสูง แต่ก็ยังต้องทดสอบด้านความทนทาน ความปลอดภัย และการผลิตในเชิงพาณิชย์ ซึ่งอาจใช้เวลาอีกหลายปีจึงจะเห็นการใช้งานจริงในตลาด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เทคโนโลยี Optotactile Surface จาก UCSB ➡️ ใช้เลเซอร์กระตุ้นพิกเซลให้พองตัวขึ้นจนสามารถสัมผัสได้ ➡️ ไม่ต้องใช้สายไฟหรือวงจรฝังในพิกเซล ✅ การใช้งานที่เป็นไปได้ในอนาคต ➡️ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถสัมผัสตัวอักษรหรือภาพ ➡️ แผงควบคุมในรถยนต์ที่เปลี่ยนพื้นผิวเป็นปุ่มเสมือนจริง ✅ ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ➡️ สามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวที่ทั้งเห็นและสัมผัสได้ ➡️ มีการทดสอบแล้วว่าผู้ใช้สามารถแยกแยะรูปร่างและการเคลื่อนไหวได้แม่นยำ ‼️ ข้อควรระวังและความท้าทาย ⛔ ยังอยู่ในขั้นต้นของการพัฒนา ต้องทดสอบด้านความทนทานและความปลอดภัย ⛔ การผลิตเชิงพาณิชย์อาจใช้เวลาหลายปีและมีต้นทุนสูง https://www.tomshardware.com/tech-industry/ucsb-researchers-develop-light-powered-haptic-pixels-that-form-tactile-3d-graphics
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • "TSMC เร่งสร้างโรงงาน Advanced Packaging ใน Arizona – ใกล้สู่การผลิตชิป 'Made in USA'"

    รายงานจาก Liberty Times ระบุว่า TSMC อาจกำลังปรับแผนการขยายโรงงานใน Arizona โดยเปลี่ยนพื้นที่ที่เดิมตั้งใจสร้าง Fab 21 Phase 6 ให้กลายเป็น Advanced Packaging Facility แทน ซึ่งหากเป็นจริง จะทำให้ TSMC สามารถผลิตชิปที่ ครบวงจรในสหรัฐฯ ได้ก่อนปี 2030【edge_current_page_context】

    ปัจจุบัน แม้ TSMC จะมีการผลิตเวเฟอร์ที่ Fab 21 ใน Arizona แต่ขั้นตอน dicing, testing และ packaging ยังต้องส่งกลับไปที่ไต้หวัน ทำให้ชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ ไม่ถือว่า “100% American-made” การเร่งสร้างโรงงาน packaging ในพื้นที่เดียวกันจะช่วยแก้ปัญหานี้ และลดความเสี่ยงจากภาษีหรือข้อจำกัดด้านการนำเข้า

    ตามแผนล่าสุด TSMC จะสร้าง 6 โมดูล Fab 21, 2 โรงงาน advanced packaging, และ R&D center โดยโรงงาน packaging ใหม่นี้อาจเริ่มติดตั้งเครื่องจักรได้ภายในปี 2027 และเข้าสู่การผลิตเชิงทดลองหลังจากนั้นไม่นาน

    นอกจากนี้ TSMC ยังมีความร่วมมือกับ Amkor ซึ่งกำลังสร้างโรงงาน assembly และ test ใกล้กับ Fab 21 โดยมี Apple เป็นลูกค้าหลัก และคาดว่าจะเริ่มผลิตในปี 2028 แต่การเร่งสร้างโรงงานของ TSMC เองจะช่วยให้บริษัทมี backend capacity เร็วกว่าการพึ่งพาพันธมิตร

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สถานการณ์ปัจจุบัน
    Fab 21 Arizona ผลิตเวเฟอร์ แต่ยังต้องส่งไปไต้หวันเพื่อ packaging
    ทำให้ชิปไม่ถือว่า “100% Made in USA”

    แผนใหม่ของ TSMC
    เปลี่ยนพื้นที่ Fab 21 Phase 6 เป็น Advanced Packaging Facility
    เริ่มติดตั้งเครื่องจักรได้ภายในปี 2027
    ทำให้สหรัฐฯ มีชิปที่ผลิตครบวงจรในประเทศ

    ความร่วมมือกับ Amkor
    Amkor สร้างโรงงาน assembly/test ใกล้ Fab 21
    Apple เป็นลูกค้าหลัก เริ่มผลิตปี 2028
    แต่ TSMC เร่งสร้างเองเพื่อให้ backend capacity พร้อมเร็วกว่า

    ปัจจัยที่ผลักดัน
    ความต้องการจากลูกค้ารายใหญ่
    ความเสี่ยงจากภาษีและการนำเข้า
    ความจำเป็นในการแข่งขันกับคู่แข่งระดับโลก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tsmc-could-be-inching-closer-to-making-all-american-chips-report-says-it-is-accelerating-an-advanced-packaging-facility-in-arizona
    🇺🇸 "TSMC เร่งสร้างโรงงาน Advanced Packaging ใน Arizona – ใกล้สู่การผลิตชิป 'Made in USA'" รายงานจาก Liberty Times ระบุว่า TSMC อาจกำลังปรับแผนการขยายโรงงานใน Arizona โดยเปลี่ยนพื้นที่ที่เดิมตั้งใจสร้าง Fab 21 Phase 6 ให้กลายเป็น Advanced Packaging Facility แทน ซึ่งหากเป็นจริง จะทำให้ TSMC สามารถผลิตชิปที่ ครบวงจรในสหรัฐฯ ได้ก่อนปี 2030【edge_current_page_context】 ปัจจุบัน แม้ TSMC จะมีการผลิตเวเฟอร์ที่ Fab 21 ใน Arizona แต่ขั้นตอน dicing, testing และ packaging ยังต้องส่งกลับไปที่ไต้หวัน ทำให้ชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ ไม่ถือว่า “100% American-made” การเร่งสร้างโรงงาน packaging ในพื้นที่เดียวกันจะช่วยแก้ปัญหานี้ และลดความเสี่ยงจากภาษีหรือข้อจำกัดด้านการนำเข้า ตามแผนล่าสุด TSMC จะสร้าง 6 โมดูล Fab 21, 2 โรงงาน advanced packaging, และ R&D center โดยโรงงาน packaging ใหม่นี้อาจเริ่มติดตั้งเครื่องจักรได้ภายในปี 2027 และเข้าสู่การผลิตเชิงทดลองหลังจากนั้นไม่นาน นอกจากนี้ TSMC ยังมีความร่วมมือกับ Amkor ซึ่งกำลังสร้างโรงงาน assembly และ test ใกล้กับ Fab 21 โดยมี Apple เป็นลูกค้าหลัก และคาดว่าจะเริ่มผลิตในปี 2028 แต่การเร่งสร้างโรงงานของ TSMC เองจะช่วยให้บริษัทมี backend capacity เร็วกว่าการพึ่งพาพันธมิตร 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สถานการณ์ปัจจุบัน ➡️ Fab 21 Arizona ผลิตเวเฟอร์ แต่ยังต้องส่งไปไต้หวันเพื่อ packaging ➡️ ทำให้ชิปไม่ถือว่า “100% Made in USA” ✅ แผนใหม่ของ TSMC ➡️ เปลี่ยนพื้นที่ Fab 21 Phase 6 เป็น Advanced Packaging Facility ➡️ เริ่มติดตั้งเครื่องจักรได้ภายในปี 2027 ➡️ ทำให้สหรัฐฯ มีชิปที่ผลิตครบวงจรในประเทศ ✅ ความร่วมมือกับ Amkor ➡️ Amkor สร้างโรงงาน assembly/test ใกล้ Fab 21 ➡️ Apple เป็นลูกค้าหลัก เริ่มผลิตปี 2028 ➡️ แต่ TSMC เร่งสร้างเองเพื่อให้ backend capacity พร้อมเร็วกว่า ‼️ ปัจจัยที่ผลักดัน ⛔ ความต้องการจากลูกค้ารายใหญ่ ⛔ ความเสี่ยงจากภาษีและการนำเข้า ⛔ ความจำเป็นในการแข่งขันกับคู่แข่งระดับโลก https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tsmc-could-be-inching-closer-to-making-all-american-chips-report-says-it-is-accelerating-an-advanced-packaging-facility-in-arizona
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • การแลกเปลี่ยนที่ไม่คุ้มค่าแต่มีน้ำใจ

    ข่าวนี้เล่าถึงผู้ใช้ Facebook ที่ตัดสินใจแลก DDR5 RAM ขนาด 192GB มูลค่ากว่า 2,200 ดอลลาร์ กับการ์ดจอ RTX 5070 Ti เพียงตัวเดียว แม้จะขาดทุนมหาศาล แต่เจ้าของยืนยันว่า “ไม่อยากขายในราคาที่สูงเกินไปเพราะรู้สึกไม่ถูกต้อง”

    ผู้ใช้ชื่อ Abdul Kareem As ในกลุ่ม Facebook “PC, Gaming, Setups, and Building Advice” ได้แลกชุด Corsair Vengeance DDR5-5200 C38 192GB (4x48GB) กับการ์ดจอ PNY RTX 5070 Ti แม้ค่า RAM จะมีมูลค่ามากกว่าการ์ดจอถึง 3 เท่า แต่เขายืนยันว่าไม่ต้องการ “กอบโกยกำไร” จากวิกฤตราคา DDR5 ที่พุ่งสูง

    วิกฤตราคา DDR5 ที่พุ่งทะยาน
    ราคาของ DDR5 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยชุด 192GB ที่เคยขายราว 650 ดอลลาร์ในปีที่แล้ว ปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 2,201 ดอลลาร์ ทำให้หลายคนมองว่าการแลกเปลี่ยนนี้เป็นการเสียเปรียบอย่างมาก แต่ Abdul บอกว่าเขาซื้อ RAM มาด้วยราคาเพียง 375 ดอลลาร์ และไม่อยากขายต่อในราคาที่สูงเกินจริง

    ตัวเลือกที่พลาดไป
    นอกจากการ์ดจอ RTX 5070 Ti Abdul ยังมีทางเลือกที่จะแลกกับจอ Asus QD-OLED 240Hz ที่มีมูลค่าราว 699–949 ดอลลาร์ ซึ่งอาจคุ้มค่ากว่า แต่เขาตัดสินใจเลือกการ์ดจอแทน โดยมองว่าการแลกเปลี่ยนนี้คือการ “ทำให้ใครบางคนมีความสุข” มากกว่าการหากำไร

    มุมมองต่อชุมชนและจริยธรรม
    กรณีนี้สะท้อนถึงความแตกต่างระหว่าง “ตลาดมืดที่เน้นกำไรสูงสุด” กับ “การแบ่งปันในชุมชน” Abdul เลือกที่จะรักษาจริยธรรมและความเป็นมิตร แม้จะขาดทุนไปกว่า 600–700 ดอลลาร์ ซึ่งกลายเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงในวงการไอทีว่าเป็น “Christmas story ของเหล่าเกมเมอร์”

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การแลก DDR5 192GB กับ RTX 5070 Ti
    มูลค่า RAM สูงกว่าการ์ดจอถึง 3 เท่า

    ราคาของ DDR5 พุ่งสูงกว่า 2,200 ดอลลาร์
    จากเดิมเพียง 650 ดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา

    เจ้าของ RAM ซื้อมาเพียง 375 ดอลลาร์
    ไม่อยากขายต่อในราคาที่สูงเกินจริง

    มีทางเลือกแลกกับจอ Asus QD-OLED
    แต่เลือกการ์ดจอแทนเพื่อความสุขของอีกฝ่าย

    ความเสี่ยงจากการแลกเปลี่ยนที่เสียเปรียบ
    ขาดทุนกว่า 600–700 ดอลลาร์จากมูลค่าตลาดจริง

    วิกฤตราคา DDR5 ที่พุ่งสูงผิดปกติ
    ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงได้ยากและเกิดการกักตุน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/benevolent-facebook-trader-exchanges-192gb-of-ddr5-worth-usd1-400-for-one-rtx-5070-ti-says-selling-at-such-a-high-price-would-have-been-unethical-despite-huge-loss
    💾 การแลกเปลี่ยนที่ไม่คุ้มค่าแต่มีน้ำใจ ข่าวนี้เล่าถึงผู้ใช้ Facebook ที่ตัดสินใจแลก DDR5 RAM ขนาด 192GB มูลค่ากว่า 2,200 ดอลลาร์ กับการ์ดจอ RTX 5070 Ti เพียงตัวเดียว แม้จะขาดทุนมหาศาล แต่เจ้าของยืนยันว่า “ไม่อยากขายในราคาที่สูงเกินไปเพราะรู้สึกไม่ถูกต้อง” ผู้ใช้ชื่อ Abdul Kareem As ในกลุ่ม Facebook “PC, Gaming, Setups, and Building Advice” ได้แลกชุด Corsair Vengeance DDR5-5200 C38 192GB (4x48GB) กับการ์ดจอ PNY RTX 5070 Ti แม้ค่า RAM จะมีมูลค่ามากกว่าการ์ดจอถึง 3 เท่า แต่เขายืนยันว่าไม่ต้องการ “กอบโกยกำไร” จากวิกฤตราคา DDR5 ที่พุ่งสูง 📈 วิกฤตราคา DDR5 ที่พุ่งทะยาน ราคาของ DDR5 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยชุด 192GB ที่เคยขายราว 650 ดอลลาร์ในปีที่แล้ว ปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 2,201 ดอลลาร์ ทำให้หลายคนมองว่าการแลกเปลี่ยนนี้เป็นการเสียเปรียบอย่างมาก แต่ Abdul บอกว่าเขาซื้อ RAM มาด้วยราคาเพียง 375 ดอลลาร์ และไม่อยากขายต่อในราคาที่สูงเกินจริง 🎮 ตัวเลือกที่พลาดไป นอกจากการ์ดจอ RTX 5070 Ti Abdul ยังมีทางเลือกที่จะแลกกับจอ Asus QD-OLED 240Hz ที่มีมูลค่าราว 699–949 ดอลลาร์ ซึ่งอาจคุ้มค่ากว่า แต่เขาตัดสินใจเลือกการ์ดจอแทน โดยมองว่าการแลกเปลี่ยนนี้คือการ “ทำให้ใครบางคนมีความสุข” มากกว่าการหากำไร 🌍 มุมมองต่อชุมชนและจริยธรรม กรณีนี้สะท้อนถึงความแตกต่างระหว่าง “ตลาดมืดที่เน้นกำไรสูงสุด” กับ “การแบ่งปันในชุมชน” Abdul เลือกที่จะรักษาจริยธรรมและความเป็นมิตร แม้จะขาดทุนไปกว่า 600–700 ดอลลาร์ ซึ่งกลายเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงในวงการไอทีว่าเป็น “Christmas story ของเหล่าเกมเมอร์” 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การแลก DDR5 192GB กับ RTX 5070 Ti ➡️ มูลค่า RAM สูงกว่าการ์ดจอถึง 3 เท่า ✅ ราคาของ DDR5 พุ่งสูงกว่า 2,200 ดอลลาร์ ➡️ จากเดิมเพียง 650 ดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา ✅ เจ้าของ RAM ซื้อมาเพียง 375 ดอลลาร์ ➡️ ไม่อยากขายต่อในราคาที่สูงเกินจริง ✅ มีทางเลือกแลกกับจอ Asus QD-OLED ➡️ แต่เลือกการ์ดจอแทนเพื่อความสุขของอีกฝ่าย ‼️ ความเสี่ยงจากการแลกเปลี่ยนที่เสียเปรียบ ⛔ ขาดทุนกว่า 600–700 ดอลลาร์จากมูลค่าตลาดจริง ‼️ วิกฤตราคา DDR5 ที่พุ่งสูงผิดปกติ ⛔ ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงได้ยากและเกิดการกักตุน https://www.tomshardware.com/tech-industry/benevolent-facebook-trader-exchanges-192gb-of-ddr5-worth-usd1-400-for-one-rtx-5070-ti-says-selling-at-such-a-high-price-would-have-been-unethical-despite-huge-loss
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • จุดเริ่มต้นของ Deep Learning บน GTX 580

    ข่าวนี้เล่าถึงการเปิดเผยของ Jensen Huang (CEO ของ Nvidia) ว่า การปฏิวัติ Deep Learning เริ่มต้นขึ้นในปี 2012 จากการใช้การ์ดจอ GTX 580 จำนวนสองตัวในโหมด SLI โดยทีมวิจัยมหาวิทยาลัยโตรอนโต ซึ่งนำไปสู่การสร้างโมเดล AlexNet ที่เปลี่ยนโลก AI ไปตลอดกาล

    ในปี 2011–2012 ทีมวิจัยของ Alex Krizhevsky, Ilya Sutskever และ Geoffrey Hinton ได้พัฒนาโมเดล AlexNet เพื่อแก้ปัญหาการจำแนกรูปภาพ โดยใช้การ์ดจอ GTX 580 (3GB) จำนวนสองตัวเชื่อมต่อแบบ SLI แม้การ์ดเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อเล่นเกม แต่ความสามารถด้านการประมวลผลแบบขนานกลับเหมาะสมกับการฝึก Neural Network อย่างยิ่ง

    ผลลัพธ์ที่พลิกวงการ
    AlexNet มีโครงสร้าง 8 ชั้นและพารามิเตอร์กว่า 60 ล้านตัว เมื่อถูกฝึกบน GTX 580s ผลลัพธ์สามารถเอาชนะอัลกอริทึมการจำแนกรูปภาพที่ดีที่สุดในยุคนั้นได้มากกว่า 70% ทำให้โลกวิชาการและอุตสาหกรรมหันมาสนใจ Deep Learning อย่างจริงจัง

    Nvidia เข้าสู่เส้นทาง AI
    Jensen Huang เปิดเผยว่า หลังจากเห็นศักยภาพของ Deep Learning บน GPU บริษัทจึงตัดสินใจลงทุนอย่างเต็มที่ในเทคโนโลยีนี้ ตั้งแต่การพัฒนา DGX systems ในปี 2016 ไปจนถึงสถาปัตยกรรม Volta ที่มี Tensor Cores และต่อยอดสู่ DLSS และการใช้งาน AI ในวงกว้าง

    ผลกระทบต่อโลก AI
    หากไม่มีการทดลองบน GTX 580s ในปี 2012 Nvidia อาจยังคงเป็นบริษัทที่เน้นกราฟิกเกมเท่านั้น แต่การค้นพบนี้ได้เปลี่ยนทิศทางบริษัท และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติ AI ที่เรากำลังเห็นในปัจจุบัน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ทีมมหาวิทยาลัยโตรอนโตใช้ GTX 580s ใน SLI
    เพื่อฝึกโมเดล AlexNet ในปี 2012

    AlexNet เอาชนะอัลกอริทึมเดิมกว่า 70%
    กลายเป็นจุดเปลี่ยนของวงการ Computer Vision

    Nvidia หันมาลงทุนใน AI อย่างเต็มที่
    พัฒนา DGX, Volta Tensor Cores และ DLSS

    GTX 580s กลายเป็นการ์ดจอแรกที่ใช้กับ AI
    แม้ถูกออกแบบมาเพื่อเกม แต่กลับเป็นจุดเริ่มต้นของ Deep Learning

    หากไม่มีการทดลองนี้ Nvidia อาจไม่เข้าสู่ AI
    โลกอาจไม่มีการเติบโตของ AI ในรูปแบบที่เราเห็นทุกวันนี้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/two-gtx-580s-in-sli-are-responsible-for-the-ai-we-have-today-nvidias-huang-revealed-that-the-invention-of-deep-learning-began-with-two-flagship-fermi-gpus-in-2012
    🖥️ จุดเริ่มต้นของ Deep Learning บน GTX 580 ข่าวนี้เล่าถึงการเปิดเผยของ Jensen Huang (CEO ของ Nvidia) ว่า การปฏิวัติ Deep Learning เริ่มต้นขึ้นในปี 2012 จากการใช้การ์ดจอ GTX 580 จำนวนสองตัวในโหมด SLI โดยทีมวิจัยมหาวิทยาลัยโตรอนโต ซึ่งนำไปสู่การสร้างโมเดล AlexNet ที่เปลี่ยนโลก AI ไปตลอดกาล ในปี 2011–2012 ทีมวิจัยของ Alex Krizhevsky, Ilya Sutskever และ Geoffrey Hinton ได้พัฒนาโมเดล AlexNet เพื่อแก้ปัญหาการจำแนกรูปภาพ โดยใช้การ์ดจอ GTX 580 (3GB) จำนวนสองตัวเชื่อมต่อแบบ SLI แม้การ์ดเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อเล่นเกม แต่ความสามารถด้านการประมวลผลแบบขนานกลับเหมาะสมกับการฝึก Neural Network อย่างยิ่ง 📊 ผลลัพธ์ที่พลิกวงการ AlexNet มีโครงสร้าง 8 ชั้นและพารามิเตอร์กว่า 60 ล้านตัว เมื่อถูกฝึกบน GTX 580s ผลลัพธ์สามารถเอาชนะอัลกอริทึมการจำแนกรูปภาพที่ดีที่สุดในยุคนั้นได้มากกว่า 70% ทำให้โลกวิชาการและอุตสาหกรรมหันมาสนใจ Deep Learning อย่างจริงจัง 🚀 Nvidia เข้าสู่เส้นทาง AI Jensen Huang เปิดเผยว่า หลังจากเห็นศักยภาพของ Deep Learning บน GPU บริษัทจึงตัดสินใจลงทุนอย่างเต็มที่ในเทคโนโลยีนี้ ตั้งแต่การพัฒนา DGX systems ในปี 2016 ไปจนถึงสถาปัตยกรรม Volta ที่มี Tensor Cores และต่อยอดสู่ DLSS และการใช้งาน AI ในวงกว้าง 🌍 ผลกระทบต่อโลก AI หากไม่มีการทดลองบน GTX 580s ในปี 2012 Nvidia อาจยังคงเป็นบริษัทที่เน้นกราฟิกเกมเท่านั้น แต่การค้นพบนี้ได้เปลี่ยนทิศทางบริษัท และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติ AI ที่เรากำลังเห็นในปัจจุบัน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ทีมมหาวิทยาลัยโตรอนโตใช้ GTX 580s ใน SLI ➡️ เพื่อฝึกโมเดล AlexNet ในปี 2012 ✅ AlexNet เอาชนะอัลกอริทึมเดิมกว่า 70% ➡️ กลายเป็นจุดเปลี่ยนของวงการ Computer Vision ✅ Nvidia หันมาลงทุนใน AI อย่างเต็มที่ ➡️ พัฒนา DGX, Volta Tensor Cores และ DLSS ✅ GTX 580s กลายเป็นการ์ดจอแรกที่ใช้กับ AI ➡️ แม้ถูกออกแบบมาเพื่อเกม แต่กลับเป็นจุดเริ่มต้นของ Deep Learning ‼️ หากไม่มีการทดลองนี้ Nvidia อาจไม่เข้าสู่ AI ⛔ โลกอาจไม่มีการเติบโตของ AI ในรูปแบบที่เราเห็นทุกวันนี้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/two-gtx-580s-in-sli-are-responsible-for-the-ai-we-have-today-nvidias-huang-revealed-that-the-invention-of-deep-learning-began-with-two-flagship-fermi-gpus-in-2012
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • Lisa Su ปฏิเสธกระแส “AI Bubble”

    ในการปรากฏตัวที่งาน WIRED’s Big Interview Conference ที่ซานฟรานซิสโก Lisa Su กล่าวอย่างชัดเจนว่า “AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น” และความกังวลเรื่องฟองสบู่เป็นการมองที่ “เกินจริง” เธอย้ำว่า AMD ต้องเตรียมพร้อมในการจัดหาชิปสำหรับอนาคต เพราะทุกการพัฒนาโมเดลใหม่จะยิ่งเพิ่มความต้องการด้านประสิทธิภาพ

    กลยุทธ์ของ AMD
    AMD กำลังเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI โดยเฉพาะการจัดส่ง MI308 GPUs ไปยังจีนภายใต้กรอบควบคุมการส่งออกใหม่ และการร่วมมือกับ OpenAI ในการติดตั้ง GPU ขนาดใหญ่ถึง 6 กิกะวัตต์ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ข้อตกลงนี้ยังรวมถึงสิทธิในการซื้อหุ้น AMD กว่า 160 ล้านหุ้น ที่ราคาหนึ่งเซนต์ต่อหุ้น เพื่อสร้างแรงจูงใจระยะยาวในการส่งมอบโครงสร้างพื้นฐาน

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    Lisa Su มองว่าความท้าทายของ AMD ไม่ใช่การแข่งกับคู่แข่งรายใดรายหนึ่ง แต่คือการเร่งพัฒนา roadmap ให้ทันกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของ hyperscalers และผู้พัฒนาโมเดล AI ขนาดใหญ่ เธอย้ำว่า ทุกเจเนอเรชันของโมเดล AI จะยกระดับความคาดหวังด้านประสิทธิภาพ และนั่นทำให้การลงทุนต่อเนื่องเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

    ความเสี่ยงและข้อควรระวัง
    แม้ AMD จะมั่นใจในอนาคต แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดจีนที่มีข้อจำกัดด้านการส่งออก รวมถึงแรงกดดันจาก hyperscalers ที่เริ่มพัฒนาชิปเอง หาก AMD ไม่สามารถส่งมอบได้ตามกำหนด อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าและนักลงทุน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Lisa Su ปฏิเสธกระแส AI Bubble
    ย้ำว่า AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและความต้องการจะเติบโตต่อเนื่อง

    AMD ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI
    ร่วมมือกับ OpenAI ติดตั้ง GPU ขนาด 6 กิกะวัตต์ และส่ง MI308 ไปจีน

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    ความท้าทายคือการเร่ง roadmap ให้ทันกับความต้องการ hyperscalers

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    ความเสี่ยงจากข้อจำกัดการส่งออกไปจีน
    แรงกดดันจาก hyperscalers ที่พัฒนาชิปเอง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/lisa-su-rejects-talk-of-an-ai-bubble-at-wired-event
    📰 Lisa Su ปฏิเสธกระแส “AI Bubble” ในการปรากฏตัวที่งาน WIRED’s Big Interview Conference ที่ซานฟรานซิสโก Lisa Su กล่าวอย่างชัดเจนว่า “AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น” และความกังวลเรื่องฟองสบู่เป็นการมองที่ “เกินจริง” เธอย้ำว่า AMD ต้องเตรียมพร้อมในการจัดหาชิปสำหรับอนาคต เพราะทุกการพัฒนาโมเดลใหม่จะยิ่งเพิ่มความต้องการด้านประสิทธิภาพ 🔧 กลยุทธ์ของ AMD AMD กำลังเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI โดยเฉพาะการจัดส่ง MI308 GPUs ไปยังจีนภายใต้กรอบควบคุมการส่งออกใหม่ และการร่วมมือกับ OpenAI ในการติดตั้ง GPU ขนาดใหญ่ถึง 6 กิกะวัตต์ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ข้อตกลงนี้ยังรวมถึงสิทธิในการซื้อหุ้น AMD กว่า 160 ล้านหุ้น ที่ราคาหนึ่งเซนต์ต่อหุ้น เพื่อสร้างแรงจูงใจระยะยาวในการส่งมอบโครงสร้างพื้นฐาน 🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม Lisa Su มองว่าความท้าทายของ AMD ไม่ใช่การแข่งกับคู่แข่งรายใดรายหนึ่ง แต่คือการเร่งพัฒนา roadmap ให้ทันกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของ hyperscalers และผู้พัฒนาโมเดล AI ขนาดใหญ่ เธอย้ำว่า ทุกเจเนอเรชันของโมเดล AI จะยกระดับความคาดหวังด้านประสิทธิภาพ และนั่นทำให้การลงทุนต่อเนื่องเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ⚠️ ความเสี่ยงและข้อควรระวัง แม้ AMD จะมั่นใจในอนาคต แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดจีนที่มีข้อจำกัดด้านการส่งออก รวมถึงแรงกดดันจาก hyperscalers ที่เริ่มพัฒนาชิปเอง หาก AMD ไม่สามารถส่งมอบได้ตามกำหนด อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าและนักลงทุน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Lisa Su ปฏิเสธกระแส AI Bubble ➡️ ย้ำว่า AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและความต้องการจะเติบโตต่อเนื่อง ✅ AMD ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ➡️ ร่วมมือกับ OpenAI ติดตั้ง GPU ขนาด 6 กิกะวัตต์ และส่ง MI308 ไปจีน ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ ความท้าทายคือการเร่ง roadmap ให้ทันกับความต้องการ hyperscalers ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ ความเสี่ยงจากข้อจำกัดการส่งออกไปจีน ⛔ แรงกดดันจาก hyperscalers ที่พัฒนาชิปเอง https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/lisa-su-rejects-talk-of-an-ai-bubble-at-wired-event
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD CEO Lisa Su 'emphatically' rejects talk of an AI bubble — says claims are 'somewhat overstated'
    AMD CEO says long-term demand for compute will justify today’s rapid data-center buildout.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • Dell และ Lenovo ขึ้นราคาคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์

    Dell และ Lenovo เตรียมปรับขึ้นราคาคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์สูงสุดถึง 15% ภายในเดือนธันวาคม 2025 เนื่องจากความต้องการหน่วยความจำ (DRAM) และชิปที่เกี่ยวข้องกับ AI พุ่งสูงจนทำให้ตลาดตึงตัวอย่างหนัก

    รายงานจาก TrendForce ระบุว่า Dell และ Lenovo กำลังแจ้งลูกค้าให้เตรียมรับมือกับการปรับขึ้นราคาสำคัญ โดย Dell อาจขึ้นราคาสูงถึง 15–20% ในช่วงกลางเดือนธันวาคม ขณะที่ Lenovo จะปรับขึ้นราคาตั้งแต่ต้นปี 2026 โดยราคาที่เสนอในปัจจุบันจะหมดอายุในวันที่ 1 มกราคม 2026

    สาเหตุจากความต้องการ DRAM และ AI
    Jeff Clarke, COO ของ Dell กล่าวว่าต้นทุนหน่วยความจำเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ไม่ใช่แค่ DRAM แต่ยังรวมถึง NAND, HDD และแม้แต่โหนดการผลิตชิปอื่น ๆ สาเหตุหลักมาจาก การขยายตัวของศูนย์ข้อมูล AI ที่ดูดซับทรัพยากรการผลิตไปจำนวนมหาศาล ทำให้ตลาดผู้บริโภคและธุรกิจทั่วไปต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและผู้บริโภค
    TrendForce เดิมคาดการณ์ว่าตลาดโน้ตบุ๊กปี 2026 จะเติบโต 1.7% แต่ล่าสุดปรับลดเป็น ติดลบ 2.6% เนื่องจากผู้ผลิตใหญ่ เช่น Samsung, LG, Dell, HP และ Lenovo ต้องทบทวนแผนการผลิตใหม่ทั้งหมด เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าความต้องการ AI กำลังเปลี่ยนโครงสร้างตลาดฮาร์ดแวร์โลกอย่างรวดเร็ว

    ความเสี่ยงและข้อควรระวัง
    Lenovo แนะนำให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นราคาในรอบถัดไป ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้ตลาดผู้บริโภคทั่วไปถูกกดดันจนไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ในราคาที่เหมาะสม

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Dell และ Lenovo เตรียมขึ้นราคาสูงสุด 15–20%
    Dell เริ่มกลางเดือนธันวาคม, Lenovo เริ่มต้นปี 2026

    สาเหตุจากความต้องการ DRAM และ AI
    ต้นทุนหน่วยความจำและชิปทุกประเภทพุ่งสูง

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    ตลาดโน้ตบุ๊กปี 2026 ถูกปรับคาดการณ์เป็นติดลบ 2.6%

    คำเตือนต่อผู้บริโภคและธุรกิจ
    หากไม่สั่งซื้อก่อน อาจเจอราคาที่สูงขึ้นในรอบถัดไป
    การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้ตลาดผู้บริโภคทั่วไปเสียเปรียบ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/dell-and-lenovo-set-to-increase-server-and-pc-costs-by-as-much-as-15-percent-as-soon-as-this-month-according-to-industry-sources-dram-and-ai-demand-create-tight-market-for-businesses-and-consumers
    💻 Dell และ Lenovo ขึ้นราคาคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ Dell และ Lenovo เตรียมปรับขึ้นราคาคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์สูงสุดถึง 15% ภายในเดือนธันวาคม 2025 เนื่องจากความต้องการหน่วยความจำ (DRAM) และชิปที่เกี่ยวข้องกับ AI พุ่งสูงจนทำให้ตลาดตึงตัวอย่างหนัก รายงานจาก TrendForce ระบุว่า Dell และ Lenovo กำลังแจ้งลูกค้าให้เตรียมรับมือกับการปรับขึ้นราคาสำคัญ โดย Dell อาจขึ้นราคาสูงถึง 15–20% ในช่วงกลางเดือนธันวาคม ขณะที่ Lenovo จะปรับขึ้นราคาตั้งแต่ต้นปี 2026 โดยราคาที่เสนอในปัจจุบันจะหมดอายุในวันที่ 1 มกราคม 2026 🔧 สาเหตุจากความต้องการ DRAM และ AI Jeff Clarke, COO ของ Dell กล่าวว่าต้นทุนหน่วยความจำเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ไม่ใช่แค่ DRAM แต่ยังรวมถึง NAND, HDD และแม้แต่โหนดการผลิตชิปอื่น ๆ สาเหตุหลักมาจาก การขยายตัวของศูนย์ข้อมูล AI ที่ดูดซับทรัพยากรการผลิตไปจำนวนมหาศาล ทำให้ตลาดผู้บริโภคและธุรกิจทั่วไปต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น 🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและผู้บริโภค TrendForce เดิมคาดการณ์ว่าตลาดโน้ตบุ๊กปี 2026 จะเติบโต 1.7% แต่ล่าสุดปรับลดเป็น ติดลบ 2.6% เนื่องจากผู้ผลิตใหญ่ เช่น Samsung, LG, Dell, HP และ Lenovo ต้องทบทวนแผนการผลิตใหม่ทั้งหมด เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าความต้องการ AI กำลังเปลี่ยนโครงสร้างตลาดฮาร์ดแวร์โลกอย่างรวดเร็ว ⚠️ ความเสี่ยงและข้อควรระวัง Lenovo แนะนำให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นราคาในรอบถัดไป ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้ตลาดผู้บริโภคทั่วไปถูกกดดันจนไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ในราคาที่เหมาะสม 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Dell และ Lenovo เตรียมขึ้นราคาสูงสุด 15–20% ➡️ Dell เริ่มกลางเดือนธันวาคม, Lenovo เริ่มต้นปี 2026 ✅ สาเหตุจากความต้องการ DRAM และ AI ➡️ ต้นทุนหน่วยความจำและชิปทุกประเภทพุ่งสูง ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ ตลาดโน้ตบุ๊กปี 2026 ถูกปรับคาดการณ์เป็นติดลบ 2.6% ‼️ คำเตือนต่อผู้บริโภคและธุรกิจ ⛔ หากไม่สั่งซื้อก่อน อาจเจอราคาที่สูงขึ้นในรอบถัดไป ⛔ การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้ตลาดผู้บริโภคทั่วไปเสียเปรียบ https://www.tomshardware.com/tech-industry/dell-and-lenovo-set-to-increase-server-and-pc-costs-by-as-much-as-15-percent-as-soon-as-this-month-according-to-industry-sources-dram-and-ai-demand-create-tight-market-for-businesses-and-consumers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • Deep Blue จุดเริ่มต้นของ AI ในเกมหมากรุก

    ครบรอบ 30 ปีการเปิดตัว Deep Blue ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ IBM ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเล่นหมากรุก และสามารถเอาชนะ Garry Kasparov แชมป์โลกในปี 1997 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการคอมพิวเตอร์และ AI

    IBM เปิดตัวต้นแบบ Deep Blue ครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 1995 โดยใช้เวิร์กสเตชัน RS/6000 พร้อม 14 โปรเซสเซอร์สำหรับค้นหาตำแหน่งหมากรุก สามารถวิเคราะห์ได้ 3-5 ล้านตำแหน่งต่อวินาที แม้จะยังไม่สามารถเอาชนะโปรแกรมหมากรุกชั้นนำในยุคนั้น แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของการใช้ “พลังประมวลผลมหาศาล” เพื่อแข่งขันกับมนุษย์

    การเผชิญหน้ากับ Kasparov
    ปี 1996 Deep Blue พบกับ Kasparov เป็นครั้งแรก และสามารถชนะเกมเปิดได้ แต่สุดท้าย Kasparov เอาชนะไปด้วยคะแนน 4-2 อย่างไรก็ตาม IBM ไม่ยอมแพ้ และในปี 1997 ได้ปรับปรุงระบบใหม่ ใช้ 30 เวิร์กสเตชัน PowerPC ควบคุมชิปหมากรุก 16 ตัวต่อเครื่อง สามารถวิเคราะห์ได้ถึง 200 ล้านตำแหน่งต่อวินาที และในที่สุดก็เอาชนะ Kasparov ด้วยคะแนน 3.5-2.5

    ผลกระทบต่อวงการเทคโนโลยี
    ชัยชนะของ Deep Blue ไม่เพียงแต่เป็นการพิสูจน์ว่าคอมพิวเตอร์สามารถเอาชนะมนุษย์ในเกมที่ซับซ้อน แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการมอง AI ว่าเป็น “คู่แข่งทางความคิด” ของมนุษย์ IBM ใช้ชัยชนะนี้สร้างภาพลักษณ์ใหม่จากบริษัทที่ถูกมองว่า “ล้าหลัง” ให้กลับมาเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม และยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการพัฒนา AI ในหลายสาขา

    มุมมองจากปัจจุบัน
    แม้ Deep Blue จะใช้วิธี brute force ที่แตกต่างจาก AI ยุคใหม่ซึ่งเน้นการเรียนรู้เชิงสถิติ แต่เหตุการณ์นี้ยังคงเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการที่เครื่องจักรสามารถท้าทายความคิดมนุษย์ได้ และเป็นรากฐานให้เกิดการพัฒนา AI ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นในปัจจุบัน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    IBM เปิดตัว Deep Blue ปี 1995
    วิเคราะห์ได้ 3-5 ล้านตำแหน่งต่อวินาที

    การแข่งกับ Kasparov ปี 1996 และ 1997
    ปีแรกแพ้ 4-2 แต่ปีถัดมาชนะ 3.5-2.5

    ผลกระทบต่อ IBM และวงการ AI
    สร้างภาพลักษณ์ใหม่และเป็นแรงบันดาลใจให้การพัฒนา AI

    คำเตือนจากบทเรียน Deep Blue
    วิธี brute force ไม่ใช่แนวทางเดียวของ AI
    ความสำเร็จในเกมไม่ได้หมายถึงการเข้าใจเชิงลึกแบบมนุษย์

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ibm-unveiled-its-deep-blue-chess-supercomputer-prototype-30-years-ago-today-two-years-later-in-its-second-attempt-it-defeated-grandmaster-garry-kasparov
    ♟️ Deep Blue จุดเริ่มต้นของ AI ในเกมหมากรุก ครบรอบ 30 ปีการเปิดตัว Deep Blue ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ IBM ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเล่นหมากรุก และสามารถเอาชนะ Garry Kasparov แชมป์โลกในปี 1997 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการคอมพิวเตอร์และ AI IBM เปิดตัวต้นแบบ Deep Blue ครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 1995 โดยใช้เวิร์กสเตชัน RS/6000 พร้อม 14 โปรเซสเซอร์สำหรับค้นหาตำแหน่งหมากรุก สามารถวิเคราะห์ได้ 3-5 ล้านตำแหน่งต่อวินาที แม้จะยังไม่สามารถเอาชนะโปรแกรมหมากรุกชั้นนำในยุคนั้น แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของการใช้ “พลังประมวลผลมหาศาล” เพื่อแข่งขันกับมนุษย์ 🏆 การเผชิญหน้ากับ Kasparov ปี 1996 Deep Blue พบกับ Kasparov เป็นครั้งแรก และสามารถชนะเกมเปิดได้ แต่สุดท้าย Kasparov เอาชนะไปด้วยคะแนน 4-2 อย่างไรก็ตาม IBM ไม่ยอมแพ้ และในปี 1997 ได้ปรับปรุงระบบใหม่ ใช้ 30 เวิร์กสเตชัน PowerPC ควบคุมชิปหมากรุก 16 ตัวต่อเครื่อง สามารถวิเคราะห์ได้ถึง 200 ล้านตำแหน่งต่อวินาที และในที่สุดก็เอาชนะ Kasparov ด้วยคะแนน 3.5-2.5 🌍 ผลกระทบต่อวงการเทคโนโลยี ชัยชนะของ Deep Blue ไม่เพียงแต่เป็นการพิสูจน์ว่าคอมพิวเตอร์สามารถเอาชนะมนุษย์ในเกมที่ซับซ้อน แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการมอง AI ว่าเป็น “คู่แข่งทางความคิด” ของมนุษย์ IBM ใช้ชัยชนะนี้สร้างภาพลักษณ์ใหม่จากบริษัทที่ถูกมองว่า “ล้าหลัง” ให้กลับมาเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม และยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการพัฒนา AI ในหลายสาขา ⚠️ มุมมองจากปัจจุบัน แม้ Deep Blue จะใช้วิธี brute force ที่แตกต่างจาก AI ยุคใหม่ซึ่งเน้นการเรียนรู้เชิงสถิติ แต่เหตุการณ์นี้ยังคงเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการที่เครื่องจักรสามารถท้าทายความคิดมนุษย์ได้ และเป็นรากฐานให้เกิดการพัฒนา AI ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นในปัจจุบัน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ IBM เปิดตัว Deep Blue ปี 1995 ➡️ วิเคราะห์ได้ 3-5 ล้านตำแหน่งต่อวินาที ✅ การแข่งกับ Kasparov ปี 1996 และ 1997 ➡️ ปีแรกแพ้ 4-2 แต่ปีถัดมาชนะ 3.5-2.5 ✅ ผลกระทบต่อ IBM และวงการ AI ➡️ สร้างภาพลักษณ์ใหม่และเป็นแรงบันดาลใจให้การพัฒนา AI ‼️ คำเตือนจากบทเรียน Deep Blue ⛔ วิธี brute force ไม่ใช่แนวทางเดียวของ AI ⛔ ความสำเร็จในเกมไม่ได้หมายถึงการเข้าใจเชิงลึกแบบมนุษย์ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ibm-unveiled-its-deep-blue-chess-supercomputer-prototype-30-years-ago-today-two-years-later-in-its-second-attempt-it-defeated-grandmaster-garry-kasparov
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • Cloudflare ป้องกันบอท AI 416 พันล้านครั้ง
    Matthew Prince ซีอีโอของ Cloudflare ระบุว่า บริษัทได้ทำให้การบล็อกบอท AI เป็นค่าเริ่มต้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2025 ภายใต้โครงการ Content Independence Day โดยเว็บไซต์สามารถเลือกได้ว่าจะอนุญาตให้ AI เข้าถึงข้อมูลหรือไม่ หากไม่จ่ายค่าลิขสิทธิ์ก็จะถูกบล็อกทันที ยกเว้น Google ที่รวมการทำงานของ crawler สำหรับ Search และ AI เข้าด้วยกัน ทำให้ไม่สามารถบล็อก AI โดยไม่กระทบต่อการจัดอันดับใน Search ได้

    ผลกระทบต่อโมเดลธุรกิจอินเทอร์เน็ต
    Prince เตือนว่า โมเดลธุรกิจอินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากเดิมที่เว็บไซต์สร้างรายได้จากการเข้าชมของมนุษย์ผ่านโฆษณาและการสมัครสมาชิก แต่เมื่อ AI เข้ามาเก็บข้อมูลโดยตรงและสร้างสรุปให้ผู้ใช้ การเข้าชมเว็บไซต์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้รายได้ของผู้สร้างคอนเทนต์ถูกกระทบหนัก

    ความเสี่ยงและความท้าทาย
    แม้การบล็อกบอท AI จะช่วยปกป้องผู้สร้างคอนเทนต์ แต่ก็ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ เช่น การพึ่งพาบริษัทใหญ่ไม่กี่รายที่ควบคุมโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ต (AWS, Azure, Cloudflare, Google) หากระบบเหล่านี้ล่มหรือถูกโจมตี อาจสร้างความเสียหายมหาศาลต่อธุรกิจทั่วโลก

    คำเตือนจาก Cloudflare
    Prince ระบุว่า หากไม่มีการจัดการที่เหมาะสม อนาคตอินเทอร์เน็ตอาจถูกครอบงำโดย AI ที่ใช้ข้อมูลจากมนุษย์โดยไม่จ่ายค่าตอบแทน ซึ่งจะทำให้คอนเทนต์ที่มีคุณภาพลดลง และผู้สร้างอิสระไม่สามารถแข่งขันได้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Cloudflare บล็อกบอท AI กว่า 416 พันล้านครั้งใน 5 เดือน
    เปิดตัวโครงการ Content Independence Day ให้เว็บไซต์เลือกบล็อก AI ได้

    โมเดลธุรกิจอินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลง
    การเข้าชมจากมนุษย์ลดลงเพราะ AI สรุปข้อมูลแทน

    ความเสี่ยงจากการพึ่งพาบริษัทใหญ่ไม่กี่ราย
    หากระบบล่มหรือถูกโจมตี อาจกระทบอินเทอร์เน็ตทั่วโลก

    คำเตือนจาก Cloudflare
    อนาคตอินเทอร์เน็ตอาจถูกครอบงำโดย AI หากไม่จ่ายค่าตอบแทนผู้สร้างคอนเทนต์
    คุณภาพคอนเทนต์อาจลดลง และผู้สร้างอิสระอาจไม่สามารถแข่งขันได้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/cloudflare-says-it-has-fended-off-416-billion-ai-bot-scrape-requests-in-five-months-ceo-warns-of-dramatic-shift-for-internet-business-model
    🌐 Cloudflare ป้องกันบอท AI 416 พันล้านครั้ง Matthew Prince ซีอีโอของ Cloudflare ระบุว่า บริษัทได้ทำให้การบล็อกบอท AI เป็นค่าเริ่มต้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2025 ภายใต้โครงการ Content Independence Day โดยเว็บไซต์สามารถเลือกได้ว่าจะอนุญาตให้ AI เข้าถึงข้อมูลหรือไม่ หากไม่จ่ายค่าลิขสิทธิ์ก็จะถูกบล็อกทันที ยกเว้น Google ที่รวมการทำงานของ crawler สำหรับ Search และ AI เข้าด้วยกัน ทำให้ไม่สามารถบล็อก AI โดยไม่กระทบต่อการจัดอันดับใน Search ได้ 💡 ผลกระทบต่อโมเดลธุรกิจอินเทอร์เน็ต Prince เตือนว่า โมเดลธุรกิจอินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากเดิมที่เว็บไซต์สร้างรายได้จากการเข้าชมของมนุษย์ผ่านโฆษณาและการสมัครสมาชิก แต่เมื่อ AI เข้ามาเก็บข้อมูลโดยตรงและสร้างสรุปให้ผู้ใช้ การเข้าชมเว็บไซต์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้รายได้ของผู้สร้างคอนเทนต์ถูกกระทบหนัก 📊 ความเสี่ยงและความท้าทาย แม้การบล็อกบอท AI จะช่วยปกป้องผู้สร้างคอนเทนต์ แต่ก็ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ เช่น การพึ่งพาบริษัทใหญ่ไม่กี่รายที่ควบคุมโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ต (AWS, Azure, Cloudflare, Google) หากระบบเหล่านี้ล่มหรือถูกโจมตี อาจสร้างความเสียหายมหาศาลต่อธุรกิจทั่วโลก ⚠️ คำเตือนจาก Cloudflare Prince ระบุว่า หากไม่มีการจัดการที่เหมาะสม อนาคตอินเทอร์เน็ตอาจถูกครอบงำโดย AI ที่ใช้ข้อมูลจากมนุษย์โดยไม่จ่ายค่าตอบแทน ซึ่งจะทำให้คอนเทนต์ที่มีคุณภาพลดลง และผู้สร้างอิสระไม่สามารถแข่งขันได้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Cloudflare บล็อกบอท AI กว่า 416 พันล้านครั้งใน 5 เดือน ➡️ เปิดตัวโครงการ Content Independence Day ให้เว็บไซต์เลือกบล็อก AI ได้ ✅ โมเดลธุรกิจอินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลง ➡️ การเข้าชมจากมนุษย์ลดลงเพราะ AI สรุปข้อมูลแทน ✅ ความเสี่ยงจากการพึ่งพาบริษัทใหญ่ไม่กี่ราย ➡️ หากระบบล่มหรือถูกโจมตี อาจกระทบอินเทอร์เน็ตทั่วโลก ‼️ คำเตือนจาก Cloudflare ⛔ อนาคตอินเทอร์เน็ตอาจถูกครอบงำโดย AI หากไม่จ่ายค่าตอบแทนผู้สร้างคอนเทนต์ ⛔ คุณภาพคอนเทนต์อาจลดลง และผู้สร้างอิสระอาจไม่สามารถแข่งขันได้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/cloudflare-says-it-has-fended-off-416-billion-ai-bot-scrape-requests-in-five-months-ceo-warns-of-dramatic-shift-for-internet-business-model
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่: SAFE Chips Act จำกัดการส่งออกชิป AI ไปจีน

    ร่างกฎหมาย SAFE Chips Act (Secure and Feasible Exports of Chips Act of 2025) ถูกเสนอโดยกลุ่มวุฒิสมาชิกทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครต มีเป้าหมายเพื่อ ล็อกกฎควบคุมการส่งออกชิป AI และ HPC ที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เคยออกไว้แล้วให้กลายเป็นกฎหมายถาวร หากผ่าน จะทำให้บริษัทอย่าง Nvidia และ AMD ไม่สามารถขายชิปสถาปัตยกรรมใหม่ เช่น Blackwell หรือ MI355X ให้กับจีนได้ในช่วง 30 เดือนข้างหน้า

    รายละเอียดทางเทคนิคของข้อจำกัด
    ชิปที่ถูกจัดว่าเป็น “ขั้นสูง” จะถูกควบคุมตามเกณฑ์ ECCN 3A090/4A090
    เกณฑ์ครอบคลุมค่าประสิทธิภาพ เช่น TPP ≥ 4,800, แบนด์วิดท์ DRAM ≥ 4,100 GB/s, และแบนด์วิดท์รวม DRAM+Interconnect ≥ 5,000 GB/s
    Nvidia และ AMD จึงสามารถขายได้เพียง H20 และ MI308 ที่ถูกออกแบบให้ต่ำกว่าเกณฑ์ดังกล่าว

    ผลกระทบต่อการแข่งขัน
    แม้ Nvidia และ AMD จะยังสามารถขายรุ่นลดสเปกให้จีน แต่คู่แข่งในประเทศ เช่น Huawei Ascend 910C และ Ascend 950 กำลังพัฒนาได้เร็วกว่าและมีประสิทธิภาพสูงกว่า ทำให้จีนอาจลดการพึ่งพาชิปจากสหรัฐฯ และเร่งสร้างระบบนิเวศของตัวเอง ขณะที่ Nvidia เตือนว่าการห้ามขายชิปขั้นสูงอาจทำให้บริษัทสูญเสียตลาดและเปิดโอกาสให้จีนครองความเป็นผู้นำในอนาคต

    ความเสี่ยงและข้อกังวล
    ร่างกฎหมายนี้ยังต้องผ่านการพิจารณาของสภาคองเกรส แต่หากบังคับใช้จริง อาจกระทบต่อรายได้ของบริษัทสหรัฐฯ และการลงทุนด้าน R&D ขณะเดียวกันก็อาจผลักดันให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองเร็วขึ้น ซึ่งอาจสร้างผลกระทบต่อการแข่งขันระดับโลกในระยะยาว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    SAFE Chips Act เสนอจำกัดการส่งออกชิป AI ขั้นสูงไปจีน
    อนุญาตให้ขายเฉพาะ Nvidia H20 และ AMD MI308 จนถึงปี 2028

    ข้อจำกัดทางเทคนิคตาม ECCN 3A090/4A090
    ครอบคลุมค่าประสิทธิภาพ TPP, DRAM และ Interconnect bandwidth

    ผลกระทบต่อการแข่งขัน
    จีนเร่งพัฒนา Huawei Ascend ที่แรงกว่า H20 และ MI308

    คำเตือนและข้อกังวล
    Nvidia อาจสูญเสียตลาดและรายได้มหาศาล
    การห้ามขายอาจผลักดันให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีเร็วขึ้นและลดการพึ่งพาสหรัฐฯ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/senators-lobby-for-safe-chips-act-which-would-curb-leading-edge-ai-chip-exports-to-china-proposed-bill-would-restrict-amd-and-nvidia-to-h20-mi308-class-accelerator-sales-until-2028
    🏛️ ข่าวใหญ่: SAFE Chips Act จำกัดการส่งออกชิป AI ไปจีน ร่างกฎหมาย SAFE Chips Act (Secure and Feasible Exports of Chips Act of 2025) ถูกเสนอโดยกลุ่มวุฒิสมาชิกทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครต มีเป้าหมายเพื่อ ล็อกกฎควบคุมการส่งออกชิป AI และ HPC ที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เคยออกไว้แล้วให้กลายเป็นกฎหมายถาวร หากผ่าน จะทำให้บริษัทอย่าง Nvidia และ AMD ไม่สามารถขายชิปสถาปัตยกรรมใหม่ เช่น Blackwell หรือ MI355X ให้กับจีนได้ในช่วง 30 เดือนข้างหน้า 🔧 รายละเอียดทางเทคนิคของข้อจำกัด 💠 ชิปที่ถูกจัดว่าเป็น “ขั้นสูง” จะถูกควบคุมตามเกณฑ์ ECCN 3A090/4A090 💠 เกณฑ์ครอบคลุมค่าประสิทธิภาพ เช่น TPP ≥ 4,800, แบนด์วิดท์ DRAM ≥ 4,100 GB/s, และแบนด์วิดท์รวม DRAM+Interconnect ≥ 5,000 GB/s 💠 Nvidia และ AMD จึงสามารถขายได้เพียง H20 และ MI308 ที่ถูกออกแบบให้ต่ำกว่าเกณฑ์ดังกล่าว 🌍 ผลกระทบต่อการแข่งขัน แม้ Nvidia และ AMD จะยังสามารถขายรุ่นลดสเปกให้จีน แต่คู่แข่งในประเทศ เช่น Huawei Ascend 910C และ Ascend 950 กำลังพัฒนาได้เร็วกว่าและมีประสิทธิภาพสูงกว่า ทำให้จีนอาจลดการพึ่งพาชิปจากสหรัฐฯ และเร่งสร้างระบบนิเวศของตัวเอง ขณะที่ Nvidia เตือนว่าการห้ามขายชิปขั้นสูงอาจทำให้บริษัทสูญเสียตลาดและเปิดโอกาสให้จีนครองความเป็นผู้นำในอนาคต ⚠️ ความเสี่ยงและข้อกังวล ร่างกฎหมายนี้ยังต้องผ่านการพิจารณาของสภาคองเกรส แต่หากบังคับใช้จริง อาจกระทบต่อรายได้ของบริษัทสหรัฐฯ และการลงทุนด้าน R&D ขณะเดียวกันก็อาจผลักดันให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองเร็วขึ้น ซึ่งอาจสร้างผลกระทบต่อการแข่งขันระดับโลกในระยะยาว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ SAFE Chips Act เสนอจำกัดการส่งออกชิป AI ขั้นสูงไปจีน ➡️ อนุญาตให้ขายเฉพาะ Nvidia H20 และ AMD MI308 จนถึงปี 2028 ✅ ข้อจำกัดทางเทคนิคตาม ECCN 3A090/4A090 ➡️ ครอบคลุมค่าประสิทธิภาพ TPP, DRAM และ Interconnect bandwidth ✅ ผลกระทบต่อการแข่งขัน ➡️ จีนเร่งพัฒนา Huawei Ascend ที่แรงกว่า H20 และ MI308 ‼️ คำเตือนและข้อกังวล ⛔ Nvidia อาจสูญเสียตลาดและรายได้มหาศาล ⛔ การห้ามขายอาจผลักดันให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีเร็วขึ้นและลดการพึ่งพาสหรัฐฯ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/senators-lobby-for-safe-chips-act-which-would-curb-leading-edge-ai-chip-exports-to-china-proposed-bill-would-restrict-amd-and-nvidia-to-h20-mi308-class-accelerator-sales-until-2028
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts