• เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อแคลเซียมกลายเป็นกุญแจไขจักรวาล—แรงที่ห้าอาจซ่อนอยู่ในลอนของ King Plot

    ทีมนักฟิสิกส์จาก ETH Zurich ร่วมกับสถาบันในเยอรมนีและออสเตรเลีย ได้ทำการวัดความเปลี่ยนแปลงพลังงานในอะตอมของแคลเซียม (Ca) ด้วยความแม่นยำระดับ sub-Hertz โดยใช้เทคนิค “isotope shift spectroscopy” ซึ่งเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงพลังงานระหว่างไอโซโทปต่าง ๆ ของแคลเซียมที่มีจำนวนโปรตอนเท่ากันแต่ต่างกันที่จำนวนของนิวตรอน

    พวกเขาใช้ “King plot” ซึ่งเป็นกราฟที่ควรจะเรียงตัวเป็นเส้นตรงหากทุกอย่างเป็นไปตามทฤษฎีฟิสิกส์มาตรฐาน (Standard Model) แต่ผลลัพธ์กลับแสดงความโค้งอย่างชัดเจน—nonlinearity ที่มีนัยสำคัญถึงระดับ 10³ σ ซึ่งเกินกว่าความผิดพลาดจากการสุ่ม

    แม้จะยังไม่สามารถยืนยันการมีอยู่ของแรงใหม่ได้ แต่ผลการทดลองนี้ได้ช่วยจำกัดขอบเขตของ “Yukawa interaction” ซึ่งเป็นแรงสมมุติที่อาจเกิดจากโบซอนชนิดใหม่ที่มีมวลระหว่าง 10 ถึง 10⁷ eV/c² และอาจเป็นตัวกลางของแรงที่ห้า

    นักวิจัยวัดการเปลี่ยนแปลงพลังงานในไอโซโทปของแคลเซียมด้วยความแม่นยำระดับ sub-Hertz
    ใช้เทคนิค ion trapping และ quantum logic spectroscopy
    วัดการเปลี่ยนแปลงในสอง transition: ³P₀ → ³P₁ และ ²S₁/₂ → ²D₅/₂

    ใช้ King plot เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของ isotope shifts
    หากทุกอย่างเป็นไปตาม Standard Model จุดจะเรียงเป็นเส้นตรง
    แต่พบความโค้ง (nonlinearity) ที่มีนัยสำคัญสูง

    ผลการทดลองช่วยจำกัดขอบเขตของ Yukawa interaction
    เป็นแรงสมมุติที่อาจเกิดจากโบซอนชนิดใหม่
    มวลของโบซอนอยู่ในช่วง 10 ถึง 10⁷ eV/c²

    การวัดร่วมกันของไอโซโทปใน ion trap ช่วยลด noise และเพิ่มความแม่นยำ
    วัดความต่างของความถี่ได้ถึงระดับ 100 millihertz
    ใช้การวัดแบบ differential เพื่อขจัดความผิดพลาดร่วม

    ผลการทดลองอาจอธิบาย nuclear polarization ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ยังไม่เข้าใจดีนัก
    เป็นการบิดเบือนของนิวเคลียสจากอิเล็กตรอนรอบข้าง
    อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ King plot โค้ง

    King plot เป็นเครื่องมือสำคัญในการค้นหาฟิสิกส์นอกเหนือจาก Standard Model
    ใช้เปรียบเทียบ isotope shifts จากหลาย transition
    ช่วยแยกสัญญาณที่อาจเกิดจากแรงใหม่

    Yukawa interaction เคยถูกเสนอในทฤษฎีแรงนิวเคลียร์ตั้งแต่ยุคแรกของฟิสิกส์ควอนตัม
    เป็นแรงที่มีระยะสั้นและเกิดจากโบซอน
    อาจเป็นกุญแจสู่การเข้าใจ dark matter และแรงที่ห้า

    การทดลองในแคลเซียมมีข้อได้เปรียบเพราะมีไอโซโทปเสถียรหลายชนิด
    Ca⁴⁰, Ca⁴², Ca⁴⁴, Ca⁴⁶, Ca⁴⁸
    ทำให้สามารถวิเคราะห์ความเปลี่ยนแปลงได้หลากหลาย

    https://www.neowin.net/news/fifth-force-of-nature-could-explain-universes-most-mysteriously-abundant-thing/
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อแคลเซียมกลายเป็นกุญแจไขจักรวาล—แรงที่ห้าอาจซ่อนอยู่ในลอนของ King Plot ทีมนักฟิสิกส์จาก ETH Zurich ร่วมกับสถาบันในเยอรมนีและออสเตรเลีย ได้ทำการวัดความเปลี่ยนแปลงพลังงานในอะตอมของแคลเซียม (Ca) ด้วยความแม่นยำระดับ sub-Hertz โดยใช้เทคนิค “isotope shift spectroscopy” ซึ่งเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงพลังงานระหว่างไอโซโทปต่าง ๆ ของแคลเซียมที่มีจำนวนโปรตอนเท่ากันแต่ต่างกันที่จำนวนของนิวตรอน พวกเขาใช้ “King plot” ซึ่งเป็นกราฟที่ควรจะเรียงตัวเป็นเส้นตรงหากทุกอย่างเป็นไปตามทฤษฎีฟิสิกส์มาตรฐาน (Standard Model) แต่ผลลัพธ์กลับแสดงความโค้งอย่างชัดเจน—nonlinearity ที่มีนัยสำคัญถึงระดับ 10³ σ ซึ่งเกินกว่าความผิดพลาดจากการสุ่ม แม้จะยังไม่สามารถยืนยันการมีอยู่ของแรงใหม่ได้ แต่ผลการทดลองนี้ได้ช่วยจำกัดขอบเขตของ “Yukawa interaction” ซึ่งเป็นแรงสมมุติที่อาจเกิดจากโบซอนชนิดใหม่ที่มีมวลระหว่าง 10 ถึง 10⁷ eV/c² และอาจเป็นตัวกลางของแรงที่ห้า ✅ นักวิจัยวัดการเปลี่ยนแปลงพลังงานในไอโซโทปของแคลเซียมด้วยความแม่นยำระดับ sub-Hertz ➡️ ใช้เทคนิค ion trapping และ quantum logic spectroscopy ➡️ วัดการเปลี่ยนแปลงในสอง transition: ³P₀ → ³P₁ และ ²S₁/₂ → ²D₅/₂ ✅ ใช้ King plot เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของ isotope shifts ➡️ หากทุกอย่างเป็นไปตาม Standard Model จุดจะเรียงเป็นเส้นตรง ➡️ แต่พบความโค้ง (nonlinearity) ที่มีนัยสำคัญสูง ✅ ผลการทดลองช่วยจำกัดขอบเขตของ Yukawa interaction ➡️ เป็นแรงสมมุติที่อาจเกิดจากโบซอนชนิดใหม่ ➡️ มวลของโบซอนอยู่ในช่วง 10 ถึง 10⁷ eV/c² ✅ การวัดร่วมกันของไอโซโทปใน ion trap ช่วยลด noise และเพิ่มความแม่นยำ ➡️ วัดความต่างของความถี่ได้ถึงระดับ 100 millihertz ➡️ ใช้การวัดแบบ differential เพื่อขจัดความผิดพลาดร่วม ✅ ผลการทดลองอาจอธิบาย nuclear polarization ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ยังไม่เข้าใจดีนัก ➡️ เป็นการบิดเบือนของนิวเคลียสจากอิเล็กตรอนรอบข้าง ➡️ อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ King plot โค้ง ✅ King plot เป็นเครื่องมือสำคัญในการค้นหาฟิสิกส์นอกเหนือจาก Standard Model ➡️ ใช้เปรียบเทียบ isotope shifts จากหลาย transition ➡️ ช่วยแยกสัญญาณที่อาจเกิดจากแรงใหม่ ✅ Yukawa interaction เคยถูกเสนอในทฤษฎีแรงนิวเคลียร์ตั้งแต่ยุคแรกของฟิสิกส์ควอนตัม ➡️ เป็นแรงที่มีระยะสั้นและเกิดจากโบซอน ➡️ อาจเป็นกุญแจสู่การเข้าใจ dark matter และแรงที่ห้า ✅ การทดลองในแคลเซียมมีข้อได้เปรียบเพราะมีไอโซโทปเสถียรหลายชนิด ➡️ Ca⁴⁰, Ca⁴², Ca⁴⁴, Ca⁴⁶, Ca⁴⁸ ➡️ ทำให้สามารถวิเคราะห์ความเปลี่ยนแปลงได้หลากหลาย https://www.neowin.net/news/fifth-force-of-nature-could-explain-universes-most-mysteriously-abundant-thing/
    WWW.NEOWIN.NET
    Fifth force of nature could explain Universe's most mysteriously abundant thing
    Ultra-precise tests reveal subtle anomalies, leading to speculation about a hidden fifth force that could explain what we don't understand about the most abundant substance in the Universe.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลก Windows: เมื่อ “การติดตั้งใหม่” อาจไม่ปลอดภัยเท่าที่คิด

    ลองจินตนาการว่าคุณเพิ่งติดตั้ง Windows ใหม่จากไฟล์ ISO ที่ดาวน์โหลดไว้เมื่อหลายเดือนก่อน—ทุกอย่างดูสะอาดและสดใหม่ แต่เบื้องหลังนั้น Microsoft Defender ที่ติดมากับภาพติดตั้งอาจล้าสมัย และไม่สามารถป้องกันภัยคุกคามล่าสุดได้ทันที

    Microsoft จึงออกอัปเดตใหม่สำหรับภาพติดตั้ง Windows (ISO และ VHD) โดยใช้แพ็กเกจ Defender เวอร์ชัน 1.431.452.0 เพื่ออุดช่องโหว่ในช่วง “ชั่วโมงแรก” หลังการติดตั้ง ซึ่งเป็นช่วงที่ระบบยังไม่ได้รับการอัปเดตผ่าน Windows Update และเสี่ยงต่อการโจมตีจากมัลแวร์ทันทีที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

    Microsoft ออก Defender Update สำหรับภาพติดตั้ง Windows 11/10 และ Server
    ใช้แพ็กเกจเวอร์ชัน 1.431.452.0 ที่รวม client, engine และ signature ล่าสุด
    รองรับ Windows 11, Windows 10 (ทุก edition), Server 2022, 2019 และ 2016

    แพ็กเกจนี้ช่วยปิดช่องโหว่จากการใช้ ISO เก่าในการติดตั้งระบบใหม่
    ป้องกันมัลแวร์ที่อาจโจมตีทันทีหลังการติดตั้ง
    ลดความเสี่ยงในช่วงที่ระบบยังไม่ได้รับการอัปเดตผ่าน Windows Update

    รายละเอียดเวอร์ชันที่รวมอยู่ในแพ็กเกจ
    Platform version: 4.18.25060.7
    Engine version: 1.1.25060.6
    Security intelligence version: 1.431.452.0

    การอัปเดตนี้รวมการตรวจจับภัยคุกคามใหม่ เช่น backdoor, phishing, trojan หลายชนิด
    เพิ่มการป้องกันภัยคุกคามที่เพิ่งค้นพบในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
    ช่วยให้ระบบพร้อมรับมือกับภัยคุกคามทันทีหลังการติดตั้ง

    สามารถใช้ PowerShell และเครื่องมือ DefenderUpdateWinImage.ps1 ในการติดตั้งออฟไลน์
    รองรับการอัปเดตภาพติดตั้งแบบ WIM และ VHD
    เหมาะสำหรับผู้ดูแลระบบและองค์กรที่ใช้ deployment แบบกำหนดเอง

    การใช้ ISO เก่าโดยไม่อัปเดต Defender อาจเปิดช่องให้มัลแวร์โจมตีทันทีหลังติดตั้ง
    ระบบอาจไม่มี signature ล่าสุดในการตรวจจับภัยคุกคาม
    เสี่ยงต่อการติดมัลแวร์ก่อนที่ Windows Update จะทำงาน

    การอัปเดตภาพติดตั้งต้องใช้ขั้นตอนทางเทคนิคที่ซับซ้อน
    ต้องใช้ PowerShell, DISM และสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ
    หากทำผิดขั้นตอนอาจทำให้ภาพติดตั้งเสียหายหรือไม่ปลอดภัย

    การไม่อัปเดตภาพติดตั้งเป็นประจำอาจทำให้ระบบใหม่ไม่ปลอดภัย
    Microsoft แนะนำให้อัปเดตทุก 3 เดือน
    หากละเลย อาจใช้ภาพติดตั้งที่มีช่องโหว่โดยไม่รู้ตัว

    การอัปเดต Defender ไม่สามารถป้องกันภัยแบบ zero-day ได้ทั้งหมด
    ยังต้องพึ่งการอัปเดตระบบและนโยบายความปลอดภัยเพิ่มเติม
    ควรใช้แนวทาง “defense-in-depth” เพื่อเสริมความปลอดภัยหลายชั้น

    https://www.neowin.net/news/microsoft-shares-defender-update-for-new-windows-1110-iso-installs/
    🛡️ เรื่องเล่าจากโลก Windows: เมื่อ “การติดตั้งใหม่” อาจไม่ปลอดภัยเท่าที่คิด ลองจินตนาการว่าคุณเพิ่งติดตั้ง Windows ใหม่จากไฟล์ ISO ที่ดาวน์โหลดไว้เมื่อหลายเดือนก่อน—ทุกอย่างดูสะอาดและสดใหม่ แต่เบื้องหลังนั้น Microsoft Defender ที่ติดมากับภาพติดตั้งอาจล้าสมัย และไม่สามารถป้องกันภัยคุกคามล่าสุดได้ทันที Microsoft จึงออกอัปเดตใหม่สำหรับภาพติดตั้ง Windows (ISO และ VHD) โดยใช้แพ็กเกจ Defender เวอร์ชัน 1.431.452.0 เพื่ออุดช่องโหว่ในช่วง “ชั่วโมงแรก” หลังการติดตั้ง ซึ่งเป็นช่วงที่ระบบยังไม่ได้รับการอัปเดตผ่าน Windows Update และเสี่ยงต่อการโจมตีจากมัลแวร์ทันทีที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ✅ Microsoft ออก Defender Update สำหรับภาพติดตั้ง Windows 11/10 และ Server ➡️ ใช้แพ็กเกจเวอร์ชัน 1.431.452.0 ที่รวม client, engine และ signature ล่าสุด ➡️ รองรับ Windows 11, Windows 10 (ทุก edition), Server 2022, 2019 และ 2016 ✅ แพ็กเกจนี้ช่วยปิดช่องโหว่จากการใช้ ISO เก่าในการติดตั้งระบบใหม่ ➡️ ป้องกันมัลแวร์ที่อาจโจมตีทันทีหลังการติดตั้ง ➡️ ลดความเสี่ยงในช่วงที่ระบบยังไม่ได้รับการอัปเดตผ่าน Windows Update ✅ รายละเอียดเวอร์ชันที่รวมอยู่ในแพ็กเกจ ➡️ Platform version: 4.18.25060.7 ➡️ Engine version: 1.1.25060.6 ➡️ Security intelligence version: 1.431.452.0 ✅ การอัปเดตนี้รวมการตรวจจับภัยคุกคามใหม่ เช่น backdoor, phishing, trojan หลายชนิด ➡️ เพิ่มการป้องกันภัยคุกคามที่เพิ่งค้นพบในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ➡️ ช่วยให้ระบบพร้อมรับมือกับภัยคุกคามทันทีหลังการติดตั้ง ✅ สามารถใช้ PowerShell และเครื่องมือ DefenderUpdateWinImage.ps1 ในการติดตั้งออฟไลน์ ➡️ รองรับการอัปเดตภาพติดตั้งแบบ WIM และ VHD ➡️ เหมาะสำหรับผู้ดูแลระบบและองค์กรที่ใช้ deployment แบบกำหนดเอง ‼️ การใช้ ISO เก่าโดยไม่อัปเดต Defender อาจเปิดช่องให้มัลแวร์โจมตีทันทีหลังติดตั้ง ⛔ ระบบอาจไม่มี signature ล่าสุดในการตรวจจับภัยคุกคาม ⛔ เสี่ยงต่อการติดมัลแวร์ก่อนที่ Windows Update จะทำงาน ‼️ การอัปเดตภาพติดตั้งต้องใช้ขั้นตอนทางเทคนิคที่ซับซ้อน ⛔ ต้องใช้ PowerShell, DISM และสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ ⛔ หากทำผิดขั้นตอนอาจทำให้ภาพติดตั้งเสียหายหรือไม่ปลอดภัย ‼️ การไม่อัปเดตภาพติดตั้งเป็นประจำอาจทำให้ระบบใหม่ไม่ปลอดภัย ⛔ Microsoft แนะนำให้อัปเดตทุก 3 เดือน ⛔ หากละเลย อาจใช้ภาพติดตั้งที่มีช่องโหว่โดยไม่รู้ตัว ‼️ การอัปเดต Defender ไม่สามารถป้องกันภัยแบบ zero-day ได้ทั้งหมด ⛔ ยังต้องพึ่งการอัปเดตระบบและนโยบายความปลอดภัยเพิ่มเติม ⛔ ควรใช้แนวทาง “defense-in-depth” เพื่อเสริมความปลอดภัยหลายชั้น https://www.neowin.net/news/microsoft-shares-defender-update-for-new-windows-1110-iso-installs/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft shares Defender update for new Windows 11/10 ISO installs
    Microsoft has a new Defender anti-virus update for Windows 11 and 10 images. The new update patches several flaws.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อข้อมือกลายเป็นเมาส์และคีย์บอร์ด

    ลองจินตนาการว่าแค่ “คิดจะพิมพ์” หรือ “ตั้งใจจะคลิก” ก็สามารถสั่งงานคอมพิวเตอร์ได้ทันที—ไม่ต้องแตะหน้าจอ ไม่ต้องจับเมาส์ นี่คือสิ่งที่ Meta กำลังพัฒนาอยู่ใน Reality Labs: สายรัดข้อมืออัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยี EMG (Electromyography) เพื่ออ่านสัญญาณไฟฟ้าจากกล้ามเนื้อที่เกิดขึ้นเมื่อเราตั้งใจจะขยับนิ้ว

    Thomas Reardon หัวหน้าทีมวิจัยของ Meta บอกว่า “คุณไม่จำเป็นต้องขยับจริง ๆ แค่ตั้งใจจะขยับก็พอ” เพราะสัญญาณจากสมองจะถูกส่งไปยังกล้ามเนื้อก่อนที่เราจะเคลื่อนไหวจริง และสายรัดนี้สามารถจับสัญญาณเหล่านั้นได้แม้ไม่มีการเคลื่อนไหวให้เห็น

    เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้คนทั่วไปควบคุมอุปกรณ์ได้แบบไร้สัมผัส แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้พิการทางการเคลื่อนไหวสามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ด้วยเจตนาที่แฝงอยู่ในกล้ามเนื้อ แม้จะเป็นเพียงสัญญาณเบา ๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้

    Meta ใช้ข้อมูลจากผู้ใช้งานกว่า 10,000 คนในการฝึก AI ให้สามารถแปลสัญญาณกล้ามเนื้อเป็นคำสั่งได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ต้องปรับแต่งเฉพาะบุคคล ทำให้ใครก็สามารถใช้งานได้ทันที

    Meta พัฒนาอุปกรณ์ควบคุมคอมพิวเตอร์ผ่านข้อมือ
    ใช้เทคโนโลยี EMG ตรวจจับสัญญาณไฟฟ้าจากกล้ามเนื้อ
    ไม่ต้องขยับจริง แค่ “ตั้งใจ” ก็สามารถสั่งงานได้

    ไม่ต้องผ่าตัดหรือฝึกใช้งาน
    ต่างจากเทคโนโลยีอย่าง Neuralink ที่ต้องฝังอุปกรณ์ในสมอง
    ผู้ใช้สามารถสวมใส่และใช้งานได้ทันที

    ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ใช้กว่า 10,000 คน
    ทำให้ระบบสามารถทำงานกับผู้ใช้ใหม่ได้ทันที
    รองรับการพิมพ์ในอากาศ การเลื่อนเมาส์ และเปิดแอป

    ช่วยผู้พิการใช้งานเทคโนโลยี
    ทดสอบกับผู้มีอาการบาดเจ็บไขสันหลังที่มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon
    แม้มีอัมพาตมือ ก็ยังมีสัญญาณกล้ามเนื้อให้ระบบแปลคำสั่งได้

    ตีพิมพ์งานวิจัยในวารสาร Nature
    เปิดเผยข้อมูล EMG กว่า 100 ชั่วโมงให้ชุมชนวิทยาศาสตร์นำไปต่อยอด

    ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว
    การแปล “เจตนา” อาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
    หากข้อมูลกล้ามเนื้อถูกเก็บหรือวิเคราะห์โดยบุคคลที่สาม อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม

    การพึ่งพา AI มากเกินไป
    อาจเกิด “automation bias” คือเชื่อคำสั่งจาก AI โดยไม่ตรวจสอบ
    เสี่ยงต่อการตัดสินใจผิดพลาดในสถานการณ์สำคัญ

    ผลกระทบต่อแรงงานและอุปกรณ์เดิม
    เมาส์ คีย์บอร์ด และหน้าจอสัมผัสอาจถูกลดบทบาท
    อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และแรงงานที่เกี่ยวข้อง

    https://www.techspot.com/news/108797-meta-builds-wristband-can-control-devices-flick-wrist.html
    🧠 เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อข้อมือกลายเป็นเมาส์และคีย์บอร์ด ลองจินตนาการว่าแค่ “คิดจะพิมพ์” หรือ “ตั้งใจจะคลิก” ก็สามารถสั่งงานคอมพิวเตอร์ได้ทันที—ไม่ต้องแตะหน้าจอ ไม่ต้องจับเมาส์ นี่คือสิ่งที่ Meta กำลังพัฒนาอยู่ใน Reality Labs: สายรัดข้อมืออัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยี EMG (Electromyography) เพื่ออ่านสัญญาณไฟฟ้าจากกล้ามเนื้อที่เกิดขึ้นเมื่อเราตั้งใจจะขยับนิ้ว Thomas Reardon หัวหน้าทีมวิจัยของ Meta บอกว่า “คุณไม่จำเป็นต้องขยับจริง ๆ แค่ตั้งใจจะขยับก็พอ” เพราะสัญญาณจากสมองจะถูกส่งไปยังกล้ามเนื้อก่อนที่เราจะเคลื่อนไหวจริง และสายรัดนี้สามารถจับสัญญาณเหล่านั้นได้แม้ไม่มีการเคลื่อนไหวให้เห็น เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้คนทั่วไปควบคุมอุปกรณ์ได้แบบไร้สัมผัส แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้พิการทางการเคลื่อนไหวสามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ด้วยเจตนาที่แฝงอยู่ในกล้ามเนื้อ แม้จะเป็นเพียงสัญญาณเบา ๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ Meta ใช้ข้อมูลจากผู้ใช้งานกว่า 10,000 คนในการฝึก AI ให้สามารถแปลสัญญาณกล้ามเนื้อเป็นคำสั่งได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ต้องปรับแต่งเฉพาะบุคคล ทำให้ใครก็สามารถใช้งานได้ทันที ✅ Meta พัฒนาอุปกรณ์ควบคุมคอมพิวเตอร์ผ่านข้อมือ ➡️ ใช้เทคโนโลยี EMG ตรวจจับสัญญาณไฟฟ้าจากกล้ามเนื้อ ➡️ ไม่ต้องขยับจริง แค่ “ตั้งใจ” ก็สามารถสั่งงานได้ ✅ ไม่ต้องผ่าตัดหรือฝึกใช้งาน ➡️ ต่างจากเทคโนโลยีอย่าง Neuralink ที่ต้องฝังอุปกรณ์ในสมอง ➡️ ผู้ใช้สามารถสวมใส่และใช้งานได้ทันที ✅ ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ใช้กว่า 10,000 คน ➡️ ทำให้ระบบสามารถทำงานกับผู้ใช้ใหม่ได้ทันที ➡️ รองรับการพิมพ์ในอากาศ การเลื่อนเมาส์ และเปิดแอป ✅ ช่วยผู้พิการใช้งานเทคโนโลยี ➡️ ทดสอบกับผู้มีอาการบาดเจ็บไขสันหลังที่มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon ➡️ แม้มีอัมพาตมือ ก็ยังมีสัญญาณกล้ามเนื้อให้ระบบแปลคำสั่งได้ ✅ ตีพิมพ์งานวิจัยในวารสาร Nature ➡️ เปิดเผยข้อมูล EMG กว่า 100 ชั่วโมงให้ชุมชนวิทยาศาสตร์นำไปต่อยอด ‼️ ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว ⛔ การแปล “เจตนา” อาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ⛔ หากข้อมูลกล้ามเนื้อถูกเก็บหรือวิเคราะห์โดยบุคคลที่สาม อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม ‼️ การพึ่งพา AI มากเกินไป ⛔ อาจเกิด “automation bias” คือเชื่อคำสั่งจาก AI โดยไม่ตรวจสอบ ⛔ เสี่ยงต่อการตัดสินใจผิดพลาดในสถานการณ์สำคัญ ‼️ ผลกระทบต่อแรงงานและอุปกรณ์เดิม ⛔ เมาส์ คีย์บอร์ด และหน้าจอสัมผัสอาจถูกลดบทบาท ⛔ อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และแรงงานที่เกี่ยวข้อง https://www.techspot.com/news/108797-meta-builds-wristband-can-control-devices-flick-wrist.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Meta builds wristband that can control devices with a flick of the wrist
    This technology draws on the field of electromyography, or EMG, which measures muscle activity by detecting the electrical signals generated as the brain sends commands to muscle...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากมัลแวร์ยุค AI: เมื่อ Fancy Bear ยืมสมอง LLM มาเจาะระบบ

    การโจมตีเริ่มจาก อีเมลฟิชชิ่งแบบเฉพาะเจาะจง (spear phishing) ส่งจากบัญชีที่ถูกยึด พร้อมแนบไฟล์ ZIP ที่มีมัลแวร์นามสกุล .pif, .exe หรือ .py โดยปลอมตัวเป็น “ตัวแทนจากกระทรวงยูเครน” เพื่อหลอกให้เปิดไฟล์

    เมื่อมัลแวร์ทำงาน มันจะ:

    1️⃣ รันในเครื่องด้วยสิทธิ์ผู้ใช้

    2️⃣ เรียก API ของ Hugging Face ไปยัง LLM ชื่อ Qwen 2.5-Coder-32B-Instruct

    3️⃣ สั่งโมเดลให้ "แกล้งทำเป็นแอดมิน Windows" แล้วเขียนคำสั่งเช่น:
    - สร้างโฟลเดอร์ใหม่
    - เก็บข้อมูลระบบ, network, Active Directory
    - คัดลอกไฟล์ .txt และ .pdf จาก Desktop, Downloads, Documents ไปยัง staging folder ที่กำหนด

    4️⃣ เขียนผลลัพธ์ลงไฟล์ .txt เพื่อส่งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2)

    มัลแวร์นี้ถูกแพ็กจาก Python ด้วย PyInstaller และแจกจ่ายในหลายรูปแบบชื่อ เช่น:
    - Appendix.pif
    - AI_generator_uncensored_Canvas_PRO_v0.9.exe
    - AI_image_generator_v0.95.exe
    - image.py

    CERT-UA (ศูนย์ความปลอดภัยไซเบอร์ของยูเครน) ตั้งชื่อว่า LAMEHUG และระบุว่าเป็นผลงานของกลุ่ม UAC-0001 ซึ่งคือตัวเดียวกับ APT28 — หน่วยที่เคยโจมตี NATO, สหรัฐฯ และโครงสร้างพื้นฐานยูเครนมานานหลายปี

    APT28 (Fancy Bear) พัฒนามัลแวร์ LAMEHUG ที่ฝังการเรียกใช้ LLM ผ่าน API
    ใช้โมเดล Qwen ผ่าน Hugging Face เพื่อสร้างคำสั่ง PowerShell

    เป้าหมายคือระบบของรัฐบาลยูเครน ผ่านการโจมตีแบบ spear phishing
    ปลอมชื่อผู้ส่ง และแนบไฟล์มัลแวร์ที่ดูเหมือนโปรแกรม AI หรือรูปภาพ

    LAMEHUG ดึงข้อมูลระบบ, AD domain, และไฟล์เอกสารผู้ใช้
    ส่งออกไปยัง staging folder เพื่อเตรียมส่งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ควบคุม

    ใช้เทคนิคใหม่ในการเปลี่ยนคำสั่งไปเรื่อย ๆ โดยใช้ AI เขียนแบบต่างกัน
    หวังหลบการตรวจจับด้วย signature-based scanning

    มัลแวร์แพร่หลายผ่านไฟล์ .exe และ .pif ที่ใช้ชื่อหลอกให้เชื่อว่าเป็นเครื่องมือภาพหรือเอกสาร
    มีหลากหลายเวอร์ชันพร้อมระบบขโมยข้อมูลแบบแตกต่างกัน

    เซิร์ฟเวอร์ C2 ถูกซ่อนไว้ในโครงสร้างพื้นฐานที่ดูถูกต้อง เช่นเว็บไซต์จริงที่ถูกแฮก
    ทำให้การติดตามและบล็อกยากขึ้นมาก

    นักวิจัยคาดว่าเทคนิคนี้อาจถูกใช้กับเป้าหมายในตะวันตกในอนาคต
    เพราะ APT28 เคยโจมตี NATO, สหรัฐ และ EU มาก่อน

    https://www.csoonline.com/article/4025139/novel-malware-from-russias-apt28-prompts-llms-to-create-malicious-windows-commands.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากมัลแวร์ยุค AI: เมื่อ Fancy Bear ยืมสมอง LLM มาเจาะระบบ การโจมตีเริ่มจาก อีเมลฟิชชิ่งแบบเฉพาะเจาะจง (spear phishing) ส่งจากบัญชีที่ถูกยึด พร้อมแนบไฟล์ ZIP ที่มีมัลแวร์นามสกุล .pif, .exe หรือ .py โดยปลอมตัวเป็น “ตัวแทนจากกระทรวงยูเครน” เพื่อหลอกให้เปิดไฟล์ เมื่อมัลแวร์ทำงาน มันจะ: 1️⃣ รันในเครื่องด้วยสิทธิ์ผู้ใช้ 2️⃣ เรียก API ของ Hugging Face ไปยัง LLM ชื่อ Qwen 2.5-Coder-32B-Instruct 3️⃣ สั่งโมเดลให้ "แกล้งทำเป็นแอดมิน Windows" แล้วเขียนคำสั่งเช่น: - สร้างโฟลเดอร์ใหม่ - เก็บข้อมูลระบบ, network, Active Directory - คัดลอกไฟล์ .txt และ .pdf จาก Desktop, Downloads, Documents ไปยัง staging folder ที่กำหนด 4️⃣ เขียนผลลัพธ์ลงไฟล์ .txt เพื่อส่งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) มัลแวร์นี้ถูกแพ็กจาก Python ด้วย PyInstaller และแจกจ่ายในหลายรูปแบบชื่อ เช่น: - Appendix.pif - AI_generator_uncensored_Canvas_PRO_v0.9.exe - AI_image_generator_v0.95.exe - image.py CERT-UA (ศูนย์ความปลอดภัยไซเบอร์ของยูเครน) ตั้งชื่อว่า LAMEHUG และระบุว่าเป็นผลงานของกลุ่ม UAC-0001 ซึ่งคือตัวเดียวกับ APT28 — หน่วยที่เคยโจมตี NATO, สหรัฐฯ และโครงสร้างพื้นฐานยูเครนมานานหลายปี ✅ APT28 (Fancy Bear) พัฒนามัลแวร์ LAMEHUG ที่ฝังการเรียกใช้ LLM ผ่าน API ➡️ ใช้โมเดล Qwen ผ่าน Hugging Face เพื่อสร้างคำสั่ง PowerShell ✅ เป้าหมายคือระบบของรัฐบาลยูเครน ผ่านการโจมตีแบบ spear phishing ➡️ ปลอมชื่อผู้ส่ง และแนบไฟล์มัลแวร์ที่ดูเหมือนโปรแกรม AI หรือรูปภาพ ✅ LAMEHUG ดึงข้อมูลระบบ, AD domain, และไฟล์เอกสารผู้ใช้ ➡️ ส่งออกไปยัง staging folder เพื่อเตรียมส่งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ควบคุม ✅ ใช้เทคนิคใหม่ในการเปลี่ยนคำสั่งไปเรื่อย ๆ โดยใช้ AI เขียนแบบต่างกัน ➡️ หวังหลบการตรวจจับด้วย signature-based scanning ✅ มัลแวร์แพร่หลายผ่านไฟล์ .exe และ .pif ที่ใช้ชื่อหลอกให้เชื่อว่าเป็นเครื่องมือภาพหรือเอกสาร ➡️ มีหลากหลายเวอร์ชันพร้อมระบบขโมยข้อมูลแบบแตกต่างกัน ✅ เซิร์ฟเวอร์ C2 ถูกซ่อนไว้ในโครงสร้างพื้นฐานที่ดูถูกต้อง เช่นเว็บไซต์จริงที่ถูกแฮก ➡️ ทำให้การติดตามและบล็อกยากขึ้นมาก ✅ นักวิจัยคาดว่าเทคนิคนี้อาจถูกใช้กับเป้าหมายในตะวันตกในอนาคต ➡️ เพราะ APT28 เคยโจมตี NATO, สหรัฐ และ EU มาก่อน https://www.csoonline.com/article/4025139/novel-malware-from-russias-apt28-prompts-llms-to-create-malicious-windows-commands.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Novel malware from Russia’s APT28 prompts LLMs to create malicious Windows commands
    Recent attacks by the state-run cyberespionage group against Ukrainian government targets included malware capable of querying LLMs to generate Windows shell commands as part of its attack chain.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: SquidLoader แฝงตัวในกล้อง Kubernetes ปล่อยมัลแวร์เข้าสถาบันการเงิน

    การโจมตีเริ่มจากอีเมลภาษาจีนที่แนบไฟล์ RAR มีรหัสผ่าน พร้อมแนบข้อความหลอกว่าเป็น “แบบฟอร์มลงทะเบียนธุรกิจเงินตราต่างประเทศผ่าน Bond Connect” เพื่อหลอกให้ผู้รับเปิดไฟล์ซึ่งปลอมเป็นเอกสาร Word แต่จริง ๆ แล้วเป็น executable ที่ใช้ชื่อและ icon ของ AMDRSServ.exe

    หลังจากเปิดใช้งาน ตัวมัลแวร์จะ:
    1️⃣ ปลดล็อก payload หลัก
    2️⃣ เชื่อมต่อกับ Command & Control (C2) server โดยใช้ path ที่เลียนแบบ API ของ Kubernetes เช่น /api/v1/namespaces/kube-system/services เพื่อหลบการตรวจสอบ
    3️⃣ ส่งข้อมูลเครื่องกลับไป เช่น IP, username, OS
    4️⃣ ดาวน์โหลดและเปิดใช้งาน Cobalt Strike Beacon เพื่อเข้าควบคุมเครื่องแบบต่อเนื่องผ่าน server สำรอง (เช่น 182.92.239.24)

    มีการพบตัวอย่างแบบเดียวกันในสิงคโปร์และออสเตรเลีย ทำให้คาดว่าเป็น แคมเปญระดับภูมิภาคหรือทั่วโลก ที่ใช้เป้าหมายเป็นสถาบันการเงิน

    Trellix พบแคมเปญมัลแวร์ SquidLoader โจมตีสถาบันการเงินฮ่องกง
    โดยใช้ spear-phishing mail หลอกเป็นแบบฟอร์ม Bond Connect

    อีเมลเป็นภาษาจีน พร้อมแนบไฟล์ RAR มีรหัสผ่านอยู่ในเนื้ออีเมล
    ช่วยหลบระบบตรวจสอบอีเมลอัตโนมัติได้ระดับหนึ่ง

    ไฟล์ปลอมตัวเป็น Word document icon และใช้ชื่อ executable จาก AMD
    เช่น AMDRSServ.exe เพื่อไม่ให้ผู้ใช้งานสงสัย

    ระบบมัลแวร์มี 5 ขั้นตอน รวมถึงการเชื่อมต่อกับ C2 และเรียกใช้ Cobalt Strike
    เพื่อควบคุมเครื่องเป้าหมายแบบต่อเนื่องและหลบตรวจจับได้ดี

    Path ที่ใช้เชื่อมต่อ C2 ปลอมเป็น API ของ Kubernetes
    ช่วยกลืนเนียนกับทราฟฟิกเครือข่ายในองค์กรที่ใช้ container

    ตัวอย่างอื่นถูกพบในสิงคโปร์และออสเตรเลีย
    แสดงว่าเป็นแคมเปญเชิงรุกระดับภูมิภาคหรือข้ามชาติ

    SquidLoader ใช้เทคนิคหลบตรวจจับขั้นสูง เช่น anti-analysis และ anti-debugging
    ตรวจหาเครื่องมืออย่าง IDA Pro, Windbg และ username แบบ sandbox

    หากตรวจพบว่าตัวเองอยู่ใน sandbox หรือเครื่องวิเคราะห์ ตัวมัลแวร์จะปิดตัวเองทันที
    พร้อมแสดงข้อความหลอกว่า “ไฟล์เสีย เปิดไม่ได้” เพื่อหลอก sandbox

    ใช้เทคนิค Asynchronous Procedure Calls (APC) กับ thread ที่ตั้ง sleep ยาว
    ทำให้ emulator และ sandbox ทำงานไม่ถูกต้องและวิเคราะห์ไม่ได้

    ระดับการตรวจจับใกล้ศูนย์บน VirusTotal ณ วันที่วิเคราะห์
    หมายถึงองค์กรส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าตัวเองถูกเจาะหรือเสี่ยง

    หากไม่ใช้ระบบตรวจจับพฤติกรรมหรือ endpoint protection เชิงลึก จะไม่สามารถระบุหรือหยุดการโจมตีได้
    โดยเฉพาะองค์กรที่พึ่ง signature-based antivirus แบบเดิม

    https://hackread.com/squidloader-malware-hits-hong-kong-financial-firms/
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: SquidLoader แฝงตัวในกล้อง Kubernetes ปล่อยมัลแวร์เข้าสถาบันการเงิน การโจมตีเริ่มจากอีเมลภาษาจีนที่แนบไฟล์ RAR มีรหัสผ่าน พร้อมแนบข้อความหลอกว่าเป็น “แบบฟอร์มลงทะเบียนธุรกิจเงินตราต่างประเทศผ่าน Bond Connect” เพื่อหลอกให้ผู้รับเปิดไฟล์ซึ่งปลอมเป็นเอกสาร Word แต่จริง ๆ แล้วเป็น executable ที่ใช้ชื่อและ icon ของ AMDRSServ.exe หลังจากเปิดใช้งาน ตัวมัลแวร์จะ: 1️⃣ ปลดล็อก payload หลัก 2️⃣ เชื่อมต่อกับ Command & Control (C2) server โดยใช้ path ที่เลียนแบบ API ของ Kubernetes เช่น /api/v1/namespaces/kube-system/services เพื่อหลบการตรวจสอบ 3️⃣ ส่งข้อมูลเครื่องกลับไป เช่น IP, username, OS 4️⃣ ดาวน์โหลดและเปิดใช้งาน Cobalt Strike Beacon เพื่อเข้าควบคุมเครื่องแบบต่อเนื่องผ่าน server สำรอง (เช่น 182.92.239.24) มีการพบตัวอย่างแบบเดียวกันในสิงคโปร์และออสเตรเลีย ทำให้คาดว่าเป็น แคมเปญระดับภูมิภาคหรือทั่วโลก ที่ใช้เป้าหมายเป็นสถาบันการเงิน ✅ Trellix พบแคมเปญมัลแวร์ SquidLoader โจมตีสถาบันการเงินฮ่องกง ➡️ โดยใช้ spear-phishing mail หลอกเป็นแบบฟอร์ม Bond Connect ✅ อีเมลเป็นภาษาจีน พร้อมแนบไฟล์ RAR มีรหัสผ่านอยู่ในเนื้ออีเมล ➡️ ช่วยหลบระบบตรวจสอบอีเมลอัตโนมัติได้ระดับหนึ่ง ✅ ไฟล์ปลอมตัวเป็น Word document icon และใช้ชื่อ executable จาก AMD ➡️ เช่น AMDRSServ.exe เพื่อไม่ให้ผู้ใช้งานสงสัย ✅ ระบบมัลแวร์มี 5 ขั้นตอน รวมถึงการเชื่อมต่อกับ C2 และเรียกใช้ Cobalt Strike ➡️ เพื่อควบคุมเครื่องเป้าหมายแบบต่อเนื่องและหลบตรวจจับได้ดี ✅ Path ที่ใช้เชื่อมต่อ C2 ปลอมเป็น API ของ Kubernetes ➡️ ช่วยกลืนเนียนกับทราฟฟิกเครือข่ายในองค์กรที่ใช้ container ✅ ตัวอย่างอื่นถูกพบในสิงคโปร์และออสเตรเลีย ➡️ แสดงว่าเป็นแคมเปญเชิงรุกระดับภูมิภาคหรือข้ามชาติ ‼️ SquidLoader ใช้เทคนิคหลบตรวจจับขั้นสูง เช่น anti-analysis และ anti-debugging ⛔ ตรวจหาเครื่องมืออย่าง IDA Pro, Windbg และ username แบบ sandbox ‼️ หากตรวจพบว่าตัวเองอยู่ใน sandbox หรือเครื่องวิเคราะห์ ตัวมัลแวร์จะปิดตัวเองทันที ⛔ พร้อมแสดงข้อความหลอกว่า “ไฟล์เสีย เปิดไม่ได้” เพื่อหลอก sandbox ‼️ ใช้เทคนิค Asynchronous Procedure Calls (APC) กับ thread ที่ตั้ง sleep ยาว ⛔ ทำให้ emulator และ sandbox ทำงานไม่ถูกต้องและวิเคราะห์ไม่ได้ ‼️ ระดับการตรวจจับใกล้ศูนย์บน VirusTotal ณ วันที่วิเคราะห์ ⛔ หมายถึงองค์กรส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าตัวเองถูกเจาะหรือเสี่ยง ‼️ หากไม่ใช้ระบบตรวจจับพฤติกรรมหรือ endpoint protection เชิงลึก จะไม่สามารถระบุหรือหยุดการโจมตีได้ ⛔ โดยเฉพาะองค์กรที่พึ่ง signature-based antivirus แบบเดิม https://hackread.com/squidloader-malware-hits-hong-kong-financial-firms/
    HACKREAD.COM
    SquidLoader Malware Campaign Hits Hong Kong Financial Firms
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีคนมาถามว่าลุงให้ Antivirus ยี่ห้ออะไร? ลุงใช้ Bitdefender ครับ

    เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: Antivirus กับ Internet Security ยังต่างกันอยู่ไหม?

    ในยุคที่มัลแวร์แอบแฝงผ่านเว็บ, อีเมล, และไฟล์ต่าง ๆ ได้เนียนเหมือนภาพโฆษณา — คนจำนวนมากจึงตั้งคำถามว่า “ควรเลือกแค่ Antivirus หรือจ่ายเพิ่มเพื่อ Internet Security ดี?”

    Antivirus คืออะไร
    Antivirus คือซอฟต์แวร์ที่ตรวจจับและกำจัดมัลแวร์จากไฟล์ในเครื่อง เช่น ไวรัส, หนอน (worm), โทรจัน ฯลฯ โดยอิงจากการเทียบ signature และการวิเคราะห์พฤติกรรม (heuristics) ล่าสุดยังรวมถึงการตรวจภัยออนไลน์ด้วย (ไม่ใช่เฉพาะไฟล์ในเครื่องเท่านั้นอีกต่อไป)

    Internet Security Suite คืออะไร
    Internet Security Suite คือแพ็กเกจรวมหลายเครื่องมือ เช่น antivirus, firewall, VPN, password manager, และระบบควบคุมภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ ช่วยป้องกันผู้ใช้จากภัยออนไลน์โดยเฉพาะ เช่น การฟิชชิ่ง, การถูกสอดแนม, การโดนแฮกผ่านเว็บ, และมัลแวร์จากเว็บที่แฝงมา

    Antivirus คือการป้องกันระดับ local ที่สแกนไฟล์ในเครื่อง
    ใช้ signature-based และ heuristic-based detection เพื่อดักจับภัย

    Internet Security ครอบคลุมมากกว่า โดยเน้นการป้องกันภัยขณะออนไลน์
    ป้องกันฟิชชิ่ง, เว็บมัลแวร์, และการสอดแนมผ่านเครือข่าย

    ฟีเจอร์ที่มักมีใน Internet Security เช่น firewall, VPN, password manager
    เสริมความปลอดภัยให้กับการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบครบวงจร

    ปัจจุบัน Antivirus หลายตัวใช้ cloud-based threat detection แล้ว
    ความแตกต่างระหว่าง antivirus กับ internet security จึงเริ่มพร่ามัว

    ผู้ให้บริการเริ่มรวมทั้งสองไว้ในผลิตภัณฑ์เดียว ต่างกันแค่ “ระดับราคา”
    เช่น Norton Antivirus (พื้นฐาน) กับ Norton 360 (พรีเมียม)

    Antivirus ฟรีบางตัวก็มีฟีเจอร์ internet security แล้ว เช่น Avast, Bitdefender
    มี firewall, สแกน Wi-Fi, ป้องกัน ransomware และ phishing mail

    https://www.techradar.com/pro/security/antivirus-vs-internet-security-whats-the-difference
    มีคนมาถามว่าลุงให้ Antivirus ยี่ห้ออะไร? ลุงใช้ Bitdefender ครับ 🎙️ เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: Antivirus กับ Internet Security ยังต่างกันอยู่ไหม? ในยุคที่มัลแวร์แอบแฝงผ่านเว็บ, อีเมล, และไฟล์ต่าง ๆ ได้เนียนเหมือนภาพโฆษณา — คนจำนวนมากจึงตั้งคำถามว่า “ควรเลือกแค่ Antivirus หรือจ่ายเพิ่มเพื่อ Internet Security ดี?” 🔍 Antivirus คืออะไร Antivirus คือซอฟต์แวร์ที่ตรวจจับและกำจัดมัลแวร์จากไฟล์ในเครื่อง เช่น ไวรัส, หนอน (worm), โทรจัน ฯลฯ โดยอิงจากการเทียบ signature และการวิเคราะห์พฤติกรรม (heuristics) ล่าสุดยังรวมถึงการตรวจภัยออนไลน์ด้วย (ไม่ใช่เฉพาะไฟล์ในเครื่องเท่านั้นอีกต่อไป) 🌐 Internet Security Suite คืออะไร Internet Security Suite คือแพ็กเกจรวมหลายเครื่องมือ เช่น antivirus, firewall, VPN, password manager, และระบบควบคุมภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ ช่วยป้องกันผู้ใช้จากภัยออนไลน์โดยเฉพาะ เช่น การฟิชชิ่ง, การถูกสอดแนม, การโดนแฮกผ่านเว็บ, และมัลแวร์จากเว็บที่แฝงมา ✅ Antivirus คือการป้องกันระดับ local ที่สแกนไฟล์ในเครื่อง ➡️ ใช้ signature-based และ heuristic-based detection เพื่อดักจับภัย ✅ Internet Security ครอบคลุมมากกว่า โดยเน้นการป้องกันภัยขณะออนไลน์ ➡️ ป้องกันฟิชชิ่ง, เว็บมัลแวร์, และการสอดแนมผ่านเครือข่าย ✅ ฟีเจอร์ที่มักมีใน Internet Security เช่น firewall, VPN, password manager ➡️ เสริมความปลอดภัยให้กับการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบครบวงจร ✅ ปัจจุบัน Antivirus หลายตัวใช้ cloud-based threat detection แล้ว ➡️ ความแตกต่างระหว่าง antivirus กับ internet security จึงเริ่มพร่ามัว ✅ ผู้ให้บริการเริ่มรวมทั้งสองไว้ในผลิตภัณฑ์เดียว ต่างกันแค่ “ระดับราคา” ➡️ เช่น Norton Antivirus (พื้นฐาน) กับ Norton 360 (พรีเมียม) ✅ Antivirus ฟรีบางตัวก็มีฟีเจอร์ internet security แล้ว เช่น Avast, Bitdefender ➡️ มี firewall, สแกน Wi-Fi, ป้องกัน ransomware และ phishing mail https://www.techradar.com/pro/security/antivirus-vs-internet-security-whats-the-difference
    WWW.TECHRADAR.COM
    Antivirus vs Internet Security: What's the difference?
    Do you need antivirus and internet security in 2025?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลืมภาพเดิมของเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่เป็นกล่องใหญ่ ๆ ไปได้เลยครับ — เพราะทีมนักวิจัยจาก MIT ได้รวมเทคโนโลยี “ซิลิคอนโฟโตนิกส์” (Silicon Photonics) เข้ากับ “เรซินแข็งตัวด้วยแสง” จนสามารถสร้างเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่:
    - เล็กเท่าเหรียญ 1 เหรียญ
    - ไม่มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหว
    - ใช้เสาแสงนาโน (nano-antennas) ที่ควบคุมทิศแสงจากเลเซอร์
    - ยิงลำแสงเข้าไปในอ่างเรซิน → แข็งตัวกลายเป็นแบบ 2 มิติภายในไม่กี่วินาที

    ทีมงานเตรียมพัฒนาต่อให้สามารถ “พิมพ์แบบ 3 มิติแบบโวลูม” (Volumetric 3D Printing) ได้ในอนาคต → เป้าหมายคือ “สร้างโฮโลแกรมแสงในเรซิน” และให้ชิปทำหน้าที่เสมือนเครื่องพิมพ์ 3 มิติเพียงแค่ใช้แสงขั้นเดียว → ถ้าทำสำเร็จ จะปฏิวัติโลกของเครื่องพิมพ์ 3 มิติแบบพกพาอย่างแท้จริง

    ทีม MIT พัฒนาเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่อยู่บนชิปซิลิคอนขนาดเท่าเหรียญ  
    • ใช้เทคโนโลยี Silicon Photonics  
    • ไม่มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหว

    เสาแสงนาโนควบคุมเลเซอร์ให้ยิงเข้าสู่อ่างเรซิน  
    • แข็งตัวเป็นลวดลายแบบ 2D ภายในไม่กี่วินาที  
    • ใช้ฟิล์มเรซินพิเศษที่คิดค้นร่วมกับมหาวิทยาลัย UT Austin

    แผนต่อไป: สร้างชิปที่สามารถ “ยิงแสงเป็นโฮโลแกรม” ลงในเรซินเพื่อพิมพ์วัตถุแบบ 3D โวลูมในขั้นตอนเดียว  
    • แนวคิดนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Nature แล้ว  
    • เป้าหมายสุดท้าย: 3D printer แบบใส่กระเป๋าได้เลย

    ชิปโฟโตนิกส์ใช้งานคล้ายอุปกรณ์ส่งข้อมูลด้วยแสงของ Nvidia และ AMD  
    • ช่วยยืนยันว่าเทคโนโลยีนี้ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน

    https://www.tomshardware.com/3d-printing/mit-team-creates-chip-based-3d-printer-the-size-of-a-coin-cures-resin-using-only-light-handheld-3d-printing-tech-enabled-by-silicon-photonics
    ลืมภาพเดิมของเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่เป็นกล่องใหญ่ ๆ ไปได้เลยครับ — เพราะทีมนักวิจัยจาก MIT ได้รวมเทคโนโลยี “ซิลิคอนโฟโตนิกส์” (Silicon Photonics) เข้ากับ “เรซินแข็งตัวด้วยแสง” จนสามารถสร้างเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่: - เล็กเท่าเหรียญ 1 เหรียญ - ไม่มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหว - ใช้เสาแสงนาโน (nano-antennas) ที่ควบคุมทิศแสงจากเลเซอร์ - ยิงลำแสงเข้าไปในอ่างเรซิน → แข็งตัวกลายเป็นแบบ 2 มิติภายในไม่กี่วินาที ทีมงานเตรียมพัฒนาต่อให้สามารถ “พิมพ์แบบ 3 มิติแบบโวลูม” (Volumetric 3D Printing) ได้ในอนาคต → เป้าหมายคือ “สร้างโฮโลแกรมแสงในเรซิน” และให้ชิปทำหน้าที่เสมือนเครื่องพิมพ์ 3 มิติเพียงแค่ใช้แสงขั้นเดียว → ถ้าทำสำเร็จ จะปฏิวัติโลกของเครื่องพิมพ์ 3 มิติแบบพกพาอย่างแท้จริง ✅ ทีม MIT พัฒนาเครื่องพิมพ์ 3 มิติที่อยู่บนชิปซิลิคอนขนาดเท่าเหรียญ   • ใช้เทคโนโลยี Silicon Photonics   • ไม่มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหว ✅ เสาแสงนาโนควบคุมเลเซอร์ให้ยิงเข้าสู่อ่างเรซิน   • แข็งตัวเป็นลวดลายแบบ 2D ภายในไม่กี่วินาที   • ใช้ฟิล์มเรซินพิเศษที่คิดค้นร่วมกับมหาวิทยาลัย UT Austin ✅ แผนต่อไป: สร้างชิปที่สามารถ “ยิงแสงเป็นโฮโลแกรม” ลงในเรซินเพื่อพิมพ์วัตถุแบบ 3D โวลูมในขั้นตอนเดียว   • แนวคิดนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Nature แล้ว   • เป้าหมายสุดท้าย: 3D printer แบบใส่กระเป๋าได้เลย ✅ ชิปโฟโตนิกส์ใช้งานคล้ายอุปกรณ์ส่งข้อมูลด้วยแสงของ Nvidia และ AMD   • ช่วยยืนยันว่าเทคโนโลยีนี้ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน https://www.tomshardware.com/3d-printing/mit-team-creates-chip-based-3d-printer-the-size-of-a-coin-cures-resin-using-only-light-handheld-3d-printing-tech-enabled-by-silicon-photonics
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 271 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทีมนักดาราศาสตร์นานาชาติใช้กล้องอินฟราเรด MIRI ของ James Webb ช่วย “เบลอแสงจ้า” จากดาวแม่คือ TWA 7 (ดาวขนาดเล็กในกลุ่มดาวปั๊มหรือ Antlia) เพื่อให้มองเห็นวัตถุจาง ๆ ใกล้เคียงได้ชัดขึ้น

    ผลลัพธ์คือเจอจุดสว่างสีส้ม ๆ ที่อยู่ห่างจากดาวแม่ไปราว 50 เท่าของระยะห่างโลก–ดวงอาทิตย์ ซึ่งตรงกับตำแหน่งที่ควรจะมีดาวเคราะห์พอดี ทั้งความสว่างและสีของมันยังตรงกับโมเดลที่ใช้คำนวณไว้สำหรับดาวเคราะห์มวลเท่า ๆ กับ “ดาวเสาร์อายุน้อยที่เย็น” อีกด้วย

    ถ้าได้รับการยืนยันว่าเป็นดาวเคราะห์จริง TWA 7 b จะกลายเป็น:
    - ดาวเคราะห์ต่างระบบ “มวลเบาที่สุด” ที่มองเห็นได้ด้วยวิธีนี้
    - หนึ่งในหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีใหม่อย่าง work graphs และการกรองแสงดาวแม่เริ่มใช้ได้จริงในการล่าดาวเคราะห์รอบใหม่ ๆ

    James Webb พบดาวเคราะห์นอกระบบดวงแรกจากภาพของตัวเอง  
    • ใช้กล้อง MIRI ในย่าน mid-infrared เพื่อกรองแสงดาวแม่  
    • เป้าหมายอยู่ในระบบดาว TWA 7 ห่าง 111 ปีแสงจากโลก

    ดาวเคราะห์ได้รับชื่อว่า TWA 7 b  
    • อยู่ห่างจากดาวแม่ราว 50 หน่วย AU (Earth–Sun distance)  
    • มวลประมาณ 0.3 เท่าของดาวพฤหัสบดี (ใกล้เคียงดาวเสาร์)  
    • อุณหภูมิราว 47°C (120°F) — ถือว่าเย็นในบริบทจักรวาล

    เดโมภาพมาจากการรวมภาพของกล้อง VLT (ESO) กับ MIRI ของ JWST  
    • จุดสว่างส้มทางขวาบนคือตัว TWA 7 b  
    • วงสีน้ำเงินคือแผ่นเศษซากจาก VLT Sphere

    คาดว่า TWA 7 b เป็นดาวเคราะห์ที่เกิดจากเศษซากในระบบอายุน้อย  
    • ช่วยศึกษากระบวนการเกิดดาวเคราะห์ในยุคต้นของระบบดาว

    บทความวิจัยเผยแพร่ในวารสาร Nature ในชื่อ “Evidence for a sub-Jovian planet in the young TWA 7 disk”

    https://www.techspot.com/news/108469-webb-telescope-discovers-photographs-first-exoplanet.html
    ทีมนักดาราศาสตร์นานาชาติใช้กล้องอินฟราเรด MIRI ของ James Webb ช่วย “เบลอแสงจ้า” จากดาวแม่คือ TWA 7 (ดาวขนาดเล็กในกลุ่มดาวปั๊มหรือ Antlia) เพื่อให้มองเห็นวัตถุจาง ๆ ใกล้เคียงได้ชัดขึ้น ผลลัพธ์คือเจอจุดสว่างสีส้ม ๆ ที่อยู่ห่างจากดาวแม่ไปราว 50 เท่าของระยะห่างโลก–ดวงอาทิตย์ ซึ่งตรงกับตำแหน่งที่ควรจะมีดาวเคราะห์พอดี ทั้งความสว่างและสีของมันยังตรงกับโมเดลที่ใช้คำนวณไว้สำหรับดาวเคราะห์มวลเท่า ๆ กับ “ดาวเสาร์อายุน้อยที่เย็น” อีกด้วย ถ้าได้รับการยืนยันว่าเป็นดาวเคราะห์จริง TWA 7 b จะกลายเป็น: - ดาวเคราะห์ต่างระบบ “มวลเบาที่สุด” ที่มองเห็นได้ด้วยวิธีนี้ - หนึ่งในหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีใหม่อย่าง work graphs และการกรองแสงดาวแม่เริ่มใช้ได้จริงในการล่าดาวเคราะห์รอบใหม่ ๆ ✅ James Webb พบดาวเคราะห์นอกระบบดวงแรกจากภาพของตัวเอง   • ใช้กล้อง MIRI ในย่าน mid-infrared เพื่อกรองแสงดาวแม่   • เป้าหมายอยู่ในระบบดาว TWA 7 ห่าง 111 ปีแสงจากโลก ✅ ดาวเคราะห์ได้รับชื่อว่า TWA 7 b   • อยู่ห่างจากดาวแม่ราว 50 หน่วย AU (Earth–Sun distance)   • มวลประมาณ 0.3 เท่าของดาวพฤหัสบดี (ใกล้เคียงดาวเสาร์)   • อุณหภูมิราว 47°C (120°F) — ถือว่าเย็นในบริบทจักรวาล ✅ เดโมภาพมาจากการรวมภาพของกล้อง VLT (ESO) กับ MIRI ของ JWST   • จุดสว่างส้มทางขวาบนคือตัว TWA 7 b   • วงสีน้ำเงินคือแผ่นเศษซากจาก VLT Sphere ✅ คาดว่า TWA 7 b เป็นดาวเคราะห์ที่เกิดจากเศษซากในระบบอายุน้อย   • ช่วยศึกษากระบวนการเกิดดาวเคราะห์ในยุคต้นของระบบดาว ✅ บทความวิจัยเผยแพร่ในวารสาร Nature ในชื่อ “Evidence for a sub-Jovian planet in the young TWA 7 disk” https://www.techspot.com/news/108469-webb-telescope-discovers-photographs-first-exoplanet.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Webb telescope discovers and photographs its first exoplanet
    They used Webb's mid-infrared instrument to suppress the overwhelming glare from the host star, revealing faint objects that would have been too dim to spot otherwise.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าคุณใช้ VPN เพื่อทำงานจากที่บ้านหรือเข้าระบบภายในบริษัท มีโอกาสสูงที่คุณจะเคยใช้หรือเคยได้ยินชื่อ NetExtender ของ SonicWall — แต่ตอนนี้แฮกเกอร์กำลังปลอมตัวแอปนี้ แล้วแจกผ่าน “เว็บปลอมที่หน้าตาเหมือนของจริงเป๊ะ”

    แฮกเกอร์ใช้วิธี SEO poisoning และโฆษณา (malvertising) เพื่อดันเว็บปลอมให้ขึ้นอันดับบน Google จนคนทั่วไปเผลอกดเข้าไป — และเมื่อคุณดาวน์โหลดแอป VPN ปลอมนี้มา ก็เท่ากับมอบ ชื่อผู้ใช้, รหัสผ่าน, โดเมน, และค่าการตั้งค่าภายในระบบองค์กร ให้แฮกเกอร์ไปครบชุดเลย

    ตัวแอปนี้ยัง “ลงลายเซ็นดิจิทัล” จากบริษัทปลอมชื่อ “CITYLIGHT MEDIA PRIVATE LIMITED” เพื่อหลอกระบบความปลอดภัยเบื้องต้นอีกด้วย

    ข่าวดีคือ SonicWall กับ Microsoft สามารถตรวจจับมัลแวร์ตัวนี้ได้แล้ว แต่ถ้าคุณหรือทีมไอทีใช้อุปกรณ์ป้องกันจากค่ายอื่น อาจยังไม่มีการอัปเดต signature นั้น — ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือ “อย่าดาวน์โหลดแอป VPN จากที่อื่นนอกจากเว็บทางการ!”

    แฮกเกอร์ปลอมแอป SonicWall NetExtender แล้วแจกผ่านเว็บเลียนแบบของจริง  
    • เว็บปลอมถูกดันขึ้นอันดับบน Google ด้วยเทคนิค SEO poisoning และ malvertising  
    • ผู้ใช้ทั่วไปมีโอกาสหลงเชื่อสูง

    ไฟล์ติดมัลแวร์มีการเซ็นดิจิทัลหลอก โดยบริษัทปลอม “CITYLIGHT MEDIA PRIVATE LIMITED”  
    • หลอกระบบความปลอดภัยพื้นฐาน เช่น antivirus หรือ firewall

    แอปที่ถูกดัดแปลงประกอบด้วย:  • NetExtender.exe: ดัดแปลงให้ขโมยชื่อผู้ใช้, รหัสผ่าน, โดเมน และ config  
    • NEService.exe: ถูกแก้ให้ข้ามการตรวจสอบ digital certificate

    ข้อมูลของผู้ใช้จะถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่แฮกเกอร์ควบคุมเมื่อกด “เชื่อมต่อ VPN”  
    • ทำให้แฮกเกอร์สามารถใช้รหัสเพื่อเข้าระบบองค์กรได้โดยตรง

    SonicWall และ Microsoft ออกคำเตือนและปรับ signature เพื่อจับมัลแวร์ตัวนี้แล้ว  
    • แต่ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์อื่นอาจยังไม่สามารถตรวจจับได้

    SonicWall แนะนำให้ดาวน์โหลดแอป VPN แค่จากเว็บทางการเท่านั้น:  
    • sonicwall.com  
    • mysonicwall.com

    https://www.techradar.com/pro/security/sonicwall-warns-of-fake-vpn-apps-stealing-user-logins-and-putting-businesses-at-risk-heres-what-we-know
    ถ้าคุณใช้ VPN เพื่อทำงานจากที่บ้านหรือเข้าระบบภายในบริษัท มีโอกาสสูงที่คุณจะเคยใช้หรือเคยได้ยินชื่อ NetExtender ของ SonicWall — แต่ตอนนี้แฮกเกอร์กำลังปลอมตัวแอปนี้ แล้วแจกผ่าน “เว็บปลอมที่หน้าตาเหมือนของจริงเป๊ะ” แฮกเกอร์ใช้วิธี SEO poisoning และโฆษณา (malvertising) เพื่อดันเว็บปลอมให้ขึ้นอันดับบน Google จนคนทั่วไปเผลอกดเข้าไป — และเมื่อคุณดาวน์โหลดแอป VPN ปลอมนี้มา ก็เท่ากับมอบ ชื่อผู้ใช้, รหัสผ่าน, โดเมน, และค่าการตั้งค่าภายในระบบองค์กร ให้แฮกเกอร์ไปครบชุดเลย ตัวแอปนี้ยัง “ลงลายเซ็นดิจิทัล” จากบริษัทปลอมชื่อ “CITYLIGHT MEDIA PRIVATE LIMITED” เพื่อหลอกระบบความปลอดภัยเบื้องต้นอีกด้วย ข่าวดีคือ SonicWall กับ Microsoft สามารถตรวจจับมัลแวร์ตัวนี้ได้แล้ว แต่ถ้าคุณหรือทีมไอทีใช้อุปกรณ์ป้องกันจากค่ายอื่น อาจยังไม่มีการอัปเดต signature นั้น — ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือ “อย่าดาวน์โหลดแอป VPN จากที่อื่นนอกจากเว็บทางการ!” ✅ แฮกเกอร์ปลอมแอป SonicWall NetExtender แล้วแจกผ่านเว็บเลียนแบบของจริง   • เว็บปลอมถูกดันขึ้นอันดับบน Google ด้วยเทคนิค SEO poisoning และ malvertising   • ผู้ใช้ทั่วไปมีโอกาสหลงเชื่อสูง ✅ ไฟล์ติดมัลแวร์มีการเซ็นดิจิทัลหลอก โดยบริษัทปลอม “CITYLIGHT MEDIA PRIVATE LIMITED”   • หลอกระบบความปลอดภัยพื้นฐาน เช่น antivirus หรือ firewall ✅ แอปที่ถูกดัดแปลงประกอบด้วย:  • NetExtender.exe: ดัดแปลงให้ขโมยชื่อผู้ใช้, รหัสผ่าน, โดเมน และ config   • NEService.exe: ถูกแก้ให้ข้ามการตรวจสอบ digital certificate ✅ ข้อมูลของผู้ใช้จะถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่แฮกเกอร์ควบคุมเมื่อกด “เชื่อมต่อ VPN”   • ทำให้แฮกเกอร์สามารถใช้รหัสเพื่อเข้าระบบองค์กรได้โดยตรง ✅ SonicWall และ Microsoft ออกคำเตือนและปรับ signature เพื่อจับมัลแวร์ตัวนี้แล้ว   • แต่ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์อื่นอาจยังไม่สามารถตรวจจับได้ ✅ SonicWall แนะนำให้ดาวน์โหลดแอป VPN แค่จากเว็บทางการเท่านั้น:   • sonicwall.com   • mysonicwall.com https://www.techradar.com/pro/security/sonicwall-warns-of-fake-vpn-apps-stealing-user-logins-and-putting-businesses-at-risk-heres-what-we-know
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 322 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปกติในชิปคอมพิวเตอร์ การส่งข้อมูลระหว่างส่วนต่าง ๆ จะใช้กระแสไฟฟ้า (electrons) แต่ข้อจำกัดคือมันร้อน ใช้พลังงานเยอะ และช้าเมื่อเทียบกับความเร็วของ “แสง”

    ทีมจาก Fudan University เลยเปิดตัว “multiplexer แบบใช้แสง” หรือชิปที่รับข้อมูลจากหลายช่อง แล้วส่งออกผ่านช่องเดียว — โดยใช้ “แสงเลเซอร์” แทนกระแสไฟฟ้า

    ชิปตัวนี้สามารถรับส่งข้อมูลได้สูงถึง 38 Tbps (terabits per second) เร็วพอจะส่งพารามิเตอร์ของ LLM (เช่น ChatGPT ขนาดใหญ่) ได้ 4.75 ล้านล้านพารามิเตอร์ต่อวินาที

    ที่สำคัญคือมันทำงานร่วมกับระบบที่ใช้ CMOS (พื้นฐานของชิปยุคปัจจุบัน) ได้ — แปลว่าไม่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ช่วยลด latency ระหว่างโลกของ “แสง” กับ “ไฟฟ้า”

    แม้ข้อมูลจะมาจากสื่อของรัฐบาลจีน แต่ก็มีรายงานว่า ทีมส่งผลวิจัยนี้ไปยังวารสาร Nature แล้ว — ถ้าได้รับการตีพิมพ์เมื่อไร ก็ถือเป็นหลักฐานเชิงวิชาการที่น่าเชื่อถือ

    นักวิเคราะห์ในจีนเชื่อว่า ภายใน 3–5 ปีข้างหน้า เราอาจได้เห็น CPU หรือหน่วยความจำที่ใช้การสื่อสารด้วย “แสงเต็มระบบ” ก็เป็นได้!

    ทีมจากมหาวิทยาลัย Fudan พัฒนาชิป multiplexer แบบ photonic — ส่งข้อมูลด้วยแสงแทนไฟฟ้า  
    • ชื่อทางเทคนิคคือ “silicon photonic integrated high-order mode multiplexer”  
    • เป็นชิปในตระกูล silicon photonics

    ความเร็วการส่งข้อมูลสูงถึง 38 Tbps  
    • รองรับโหลดการประมวลผลระดับ LLM ขนาดหลายร้อยพันล้านพารามิเตอร์

    สามารถเชื่อมต่อกับระบบที่ใช้ CMOS (เช่น CPU, RAM แบบเดิม) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  
    • ลด latency ในการเชื่อมระหว่าง photonic–electronic

    ทีมวิจัยยื่นผลการวิจัยไปยังวารสาร Nature แล้ว รอการพิจารณา  
    • หากผ่านตีพิมพ์จะเพิ่มเครดิตอย่างมากในวงการวิชาการ

    จีนกำลังเร่งพัฒนา photonic chip และมีเป้าหมายจะใช้เต็มรูปแบบภายใน 3–5 ปี  
    • เริ่มเข้าสู่สนาม post-Moore’s Law อย่างจริงจัง

    นักวิเคราะห์ระบุว่าระบบ photonic มีศักยภาพสูงกว่าชิปอิเล็กทรอนิกส์ด้านความเร็วและพลังงาน  
    • ตัวอย่าง: สวิตช์ photonic สำหรับ AI cluster รองรับสูงถึง 400 Tb/s เช่นจาก Nvidia

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/chinese-researchers-invent-silicon-photonic-multiplexer-chip-that-uses-light-instead-of-electricity-for-communication-ccp-says-chinas-early-steps-into-light-based-chips-precede-major-breakthroughs-in-three-years
    ปกติในชิปคอมพิวเตอร์ การส่งข้อมูลระหว่างส่วนต่าง ๆ จะใช้กระแสไฟฟ้า (electrons) แต่ข้อจำกัดคือมันร้อน ใช้พลังงานเยอะ และช้าเมื่อเทียบกับความเร็วของ “แสง” ทีมจาก Fudan University เลยเปิดตัว “multiplexer แบบใช้แสง” หรือชิปที่รับข้อมูลจากหลายช่อง แล้วส่งออกผ่านช่องเดียว — โดยใช้ “แสงเลเซอร์” แทนกระแสไฟฟ้า ชิปตัวนี้สามารถรับส่งข้อมูลได้สูงถึง 38 Tbps (terabits per second) เร็วพอจะส่งพารามิเตอร์ของ LLM (เช่น ChatGPT ขนาดใหญ่) ได้ 4.75 ล้านล้านพารามิเตอร์ต่อวินาที ที่สำคัญคือมันทำงานร่วมกับระบบที่ใช้ CMOS (พื้นฐานของชิปยุคปัจจุบัน) ได้ — แปลว่าไม่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ช่วยลด latency ระหว่างโลกของ “แสง” กับ “ไฟฟ้า” แม้ข้อมูลจะมาจากสื่อของรัฐบาลจีน แต่ก็มีรายงานว่า ทีมส่งผลวิจัยนี้ไปยังวารสาร Nature แล้ว — ถ้าได้รับการตีพิมพ์เมื่อไร ก็ถือเป็นหลักฐานเชิงวิชาการที่น่าเชื่อถือ นักวิเคราะห์ในจีนเชื่อว่า ภายใน 3–5 ปีข้างหน้า เราอาจได้เห็น CPU หรือหน่วยความจำที่ใช้การสื่อสารด้วย “แสงเต็มระบบ” ก็เป็นได้! ✅ ทีมจากมหาวิทยาลัย Fudan พัฒนาชิป multiplexer แบบ photonic — ส่งข้อมูลด้วยแสงแทนไฟฟ้า   • ชื่อทางเทคนิคคือ “silicon photonic integrated high-order mode multiplexer”   • เป็นชิปในตระกูล silicon photonics ✅ ความเร็วการส่งข้อมูลสูงถึง 38 Tbps   • รองรับโหลดการประมวลผลระดับ LLM ขนาดหลายร้อยพันล้านพารามิเตอร์ ✅ สามารถเชื่อมต่อกับระบบที่ใช้ CMOS (เช่น CPU, RAM แบบเดิม) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ   • ลด latency ในการเชื่อมระหว่าง photonic–electronic ✅ ทีมวิจัยยื่นผลการวิจัยไปยังวารสาร Nature แล้ว รอการพิจารณา   • หากผ่านตีพิมพ์จะเพิ่มเครดิตอย่างมากในวงการวิชาการ ✅ จีนกำลังเร่งพัฒนา photonic chip และมีเป้าหมายจะใช้เต็มรูปแบบภายใน 3–5 ปี   • เริ่มเข้าสู่สนาม post-Moore’s Law อย่างจริงจัง ✅ นักวิเคราะห์ระบุว่าระบบ photonic มีศักยภาพสูงกว่าชิปอิเล็กทรอนิกส์ด้านความเร็วและพลังงาน   • ตัวอย่าง: สวิตช์ photonic สำหรับ AI cluster รองรับสูงถึง 400 Tb/s เช่นจาก Nvidia https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/chinese-researchers-invent-silicon-photonic-multiplexer-chip-that-uses-light-instead-of-electricity-for-communication-ccp-says-chinas-early-steps-into-light-based-chips-precede-major-breakthroughs-in-three-years
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • เวลาลง Windows จาก ISO ไม่ว่าจะเป็น Windows 10 หรือ 11 ที่ดาวน์โหลดมาจาก Microsoft เราอาจไม่รู้ว่า... Defender ที่ฝังอยู่ใน ISO นั้น “เก่าและล้าสมัย” แล้ว นั่นแปลว่าในช่วงหลังติดตั้งเสร็จ (ก่อนจะเชื่อมต่อเน็ตและอัปเดต) เราอาจจะถูกโจมตีจากมัลแวร์ใหม่ ๆ ได้ง่าย ๆ เลย

    Microsoft จึงแนะนำให้ “ฝัง” อัปเดตล่าสุดของ Defender เข้าไปใน ISO ก่อนนำไปติดตั้ง โดยอัปเดตนี้เป็น แพ็กเกจที่รวมเอาเวอร์ชันของ Engine + Security Intelligence ที่ใหม่กว่าเดิม และล่าสุดก็คือเวอร์ชัน 1.431.54.0 ซึ่งสามารถตรวจจับมัลแวร์และ backdoor แบบใหม่ ๆ ได้แล้ว

    ผู้ที่ใช้ Windows Server 2016–2022, Windows 10/11 (Home, Pro, Enterprise) ก็สามารถใช้อัปเดตนี้กับ ISO ได้ทั้งหมด วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าหลังติดตั้ง Windows เสร็จ ระบบจะไม่เสี่ยงในช่วง "เปลือยป้องกัน" ที่ยังไม่มีแพตช์ใหม่มาลง

    Microsoft ปล่อยอัปเดต Microsoft Defender (เวอร์ชัน 1.431.54.0) สำหรับฝังในไฟล์ติดตั้ง Windows ISO  
    • เพื่อปิดช่องว่างด้านความปลอดภัยหลังติดตั้งใหม่  
    • ครอบคลุมทั้ง Windows 10/11 และ Windows Server 2016–2022

    แพ็กเกจอัปเดตมีทั้ง Anti-malware client, Engine และ Signature ล่าสุด  
    • Platform: 4.18.25050.5  
    • Engine: 1.1.25050.2  
    • Security Intelligence: 1.431.54.0

    ช่วยให้ Windows ที่ติดตั้งจาก ISO ปลอดภัยยิ่งขึ้นก่อนการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต  
    • ป้องกันมัลแวร์ใหม่ ๆ ได้ทันที

    อัปเดตนี้สามารถติดตั้งด้วยตนเองก่อนสร้างไฟล์ ISO หรือก่อน deployment ภายในองค์กร  
    • เหมาะกับ Admin, ผู้ดูแลระบบ, และผู้ใช้ระดับ power user

    https://www.neowin.net/news/microsoft-shares-defender-anti-virus-update-for-new-windows-1110-isos/
    เวลาลง Windows จาก ISO ไม่ว่าจะเป็น Windows 10 หรือ 11 ที่ดาวน์โหลดมาจาก Microsoft เราอาจไม่รู้ว่า... Defender ที่ฝังอยู่ใน ISO นั้น “เก่าและล้าสมัย” แล้ว นั่นแปลว่าในช่วงหลังติดตั้งเสร็จ (ก่อนจะเชื่อมต่อเน็ตและอัปเดต) เราอาจจะถูกโจมตีจากมัลแวร์ใหม่ ๆ ได้ง่าย ๆ เลย Microsoft จึงแนะนำให้ “ฝัง” อัปเดตล่าสุดของ Defender เข้าไปใน ISO ก่อนนำไปติดตั้ง โดยอัปเดตนี้เป็น แพ็กเกจที่รวมเอาเวอร์ชันของ Engine + Security Intelligence ที่ใหม่กว่าเดิม และล่าสุดก็คือเวอร์ชัน 1.431.54.0 ซึ่งสามารถตรวจจับมัลแวร์และ backdoor แบบใหม่ ๆ ได้แล้ว ผู้ที่ใช้ Windows Server 2016–2022, Windows 10/11 (Home, Pro, Enterprise) ก็สามารถใช้อัปเดตนี้กับ ISO ได้ทั้งหมด วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าหลังติดตั้ง Windows เสร็จ ระบบจะไม่เสี่ยงในช่วง "เปลือยป้องกัน" ที่ยังไม่มีแพตช์ใหม่มาลง ✅ Microsoft ปล่อยอัปเดต Microsoft Defender (เวอร์ชัน 1.431.54.0) สำหรับฝังในไฟล์ติดตั้ง Windows ISO   • เพื่อปิดช่องว่างด้านความปลอดภัยหลังติดตั้งใหม่   • ครอบคลุมทั้ง Windows 10/11 และ Windows Server 2016–2022 ✅ แพ็กเกจอัปเดตมีทั้ง Anti-malware client, Engine และ Signature ล่าสุด   • Platform: 4.18.25050.5   • Engine: 1.1.25050.2   • Security Intelligence: 1.431.54.0 ✅ ช่วยให้ Windows ที่ติดตั้งจาก ISO ปลอดภัยยิ่งขึ้นก่อนการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต   • ป้องกันมัลแวร์ใหม่ ๆ ได้ทันที ✅ อัปเดตนี้สามารถติดตั้งด้วยตนเองก่อนสร้างไฟล์ ISO หรือก่อน deployment ภายในองค์กร   • เหมาะกับ Admin, ผู้ดูแลระบบ, และผู้ใช้ระดับ power user https://www.neowin.net/news/microsoft-shares-defender-anti-virus-update-for-new-windows-1110-isos/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft shares Defender anti-virus update for new Windows 11/10 ISOs
    Microsoft has a new Defender anti-virus update for Windows 11 and 10 images. The new update patches several flaws.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • Cock.li เป็นบริการอีเมลฟรีในเยอรมนีที่โด่งดังเรื่องความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้งานสาย underground หรือแฮกเกอร์ เพราะไม่ต้องยืนยันตัวตนและไม่แสดงโฆษณา แต่ล่าสุดมี แฮกเกอร์ออกมาขายฐานข้อมูลของ Cock.li ถึง 2 ชุดในดาร์กเว็บ โดยอ้างว่ามีข้อมูลกว่า 1 ล้านบัญชี!

    หลังตรวจสอบแล้ว ทางผู้ดูแล Cock.li ยอมรับว่าการเจาะเกิดจากช่องโหว่ของระบบเว็บเมล Roundcube ที่เลิกใช้ไปแล้ว โดยผู้โจมตีสามารถดึงเอาข้อมูลจากตาราง “users” และ “contacts” ออกไปได้

    ในฐานข้อมูลมีทั้งอีเมล, เวลาล็อกอินล่าสุด, การตั้งค่าผู้ใช้ (signature, ภาษา) รวมถึง contact ที่เก็บไว้ (vCard) จากกว่า 10,000 คน รวมทั้งหมดกว่า 93,000 รายการ ถึงแม้จะไม่มีรหัสผ่านหรือ IP หลุด แต่ก็พอให้แฮกเกอร์รู้พฤติกรรมของผู้ใช้ได้มาก

    ทีมงานรีบบอกให้ผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่านทันที และเตือนว่าบัญชีที่ใช้ Roundcube หรือเคยล็อกอินระบบตั้งแต่ปี 2016 อาจมีความเสี่ยงทั้งสิ้น

    Cock.li ยืนยันการถูกเจาะระบบ และข้อมูลผู้ใช้กว่า 1 ล้านรายหลุดออกไป  
    • แฮกเกอร์ขายฐานข้อมูล 2 ชุดใน dark web  
    • รวมผู้ใช้ที่ล็อกอินผ่าน Roundcube ตั้งแต่ปี 2016

    ฐานข้อมูลที่หลุดมีข้อมูลหลากหลาย ได้แก่:  
    • อีเมล, เวลาล็อกอิน, ภาษาที่เลือก, การตั้งค่าบน Roundcube  
    • รายชื่อผู้ติดต่อ (contact) กว่า 93,000 entries จากผู้ใช้ ~10,400 ราย

    ช่องโหว่มาจากระบบ Roundcube ที่ถูกถอดออกไปแล้ว  
    • เป็น Remote Code Execution ที่กำลังถูกโจมตีในวงกว้าง  
    • Cock.li ระบุว่า “ไม่ว่าจะเวอร์ชันใด เราจะไม่ใช้ Roundcube อีก”

    ทีมงานแนะให้เปลี่ยนรหัสผ่านทันทีแม้ไม่พบรหัสผ่านหลุด  
    • เพื่อป้องกันการถูกใช้ช่องโหว่เดิมหรือข้อมูลถูกโยงเข้ากับบัญชีอื่น

    Cock.li เป็นอีเมลฟรีที่เคยได้รับความนิยมในหมู่แฮกเกอร์และผู้ใช้สาย privacy
    • เพราะไม่ต้องยืนยันตัวตนและไม่มีโฆษณา

    แม้จะไม่มีรหัสผ่านหลุด แต่อาจนำไปใช้ประกอบกับข้อมูลจากแหล่งอื่นเพื่อโจมตีแบบ spear phishing ได้  
    • โดยเฉพาะผู้ที่ใช้บัญชีเดียวกันกับบริการอื่น (reuse password)

    ผู้ใช้ที่บันทึก “ลายเซ็น” หรือข้อมูลส่วนตัวไว้ใน Roundcube มีความเสี่ยงข้อมูลถูกเปิดเผย  
    • เช่น เบอร์โทร, แท็ก GPG key, หรือที่อยู่

    Roundcube เป็นระบบเว็บเมลที่มีช่องโหว่จำนวนมาก และถูกใช้เป็นจุดโจมตีในหลายกรณี  
    • ไม่ควรใช้งานเวอร์ชันเก่าหรือปล่อยระบบโดยไม่มีการอัปเดต

    ผู้ให้บริการอีเมลฟรีที่ไม่ลงทุนในระบบความปลอดภัย มักไม่สามารถป้องกันเหตุลักษณะนี้ได้  
    • โดยเฉพาะบริการที่ไม่รองรับ MFA หรือไม่เข้ารหัสข้อมูลฝั่งเซิร์ฟเวอร์

    https://www.techradar.com/pro/security/top-email-hosting-provider-cock-li-hacked-over-a-million-user-records-stolen
    Cock.li เป็นบริการอีเมลฟรีในเยอรมนีที่โด่งดังเรื่องความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้งานสาย underground หรือแฮกเกอร์ เพราะไม่ต้องยืนยันตัวตนและไม่แสดงโฆษณา แต่ล่าสุดมี แฮกเกอร์ออกมาขายฐานข้อมูลของ Cock.li ถึง 2 ชุดในดาร์กเว็บ โดยอ้างว่ามีข้อมูลกว่า 1 ล้านบัญชี! หลังตรวจสอบแล้ว ทางผู้ดูแล Cock.li ยอมรับว่าการเจาะเกิดจากช่องโหว่ของระบบเว็บเมล Roundcube ที่เลิกใช้ไปแล้ว โดยผู้โจมตีสามารถดึงเอาข้อมูลจากตาราง “users” และ “contacts” ออกไปได้ ในฐานข้อมูลมีทั้งอีเมล, เวลาล็อกอินล่าสุด, การตั้งค่าผู้ใช้ (signature, ภาษา) รวมถึง contact ที่เก็บไว้ (vCard) จากกว่า 10,000 คน รวมทั้งหมดกว่า 93,000 รายการ ถึงแม้จะไม่มีรหัสผ่านหรือ IP หลุด แต่ก็พอให้แฮกเกอร์รู้พฤติกรรมของผู้ใช้ได้มาก ทีมงานรีบบอกให้ผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่านทันที และเตือนว่าบัญชีที่ใช้ Roundcube หรือเคยล็อกอินระบบตั้งแต่ปี 2016 อาจมีความเสี่ยงทั้งสิ้น ✅ Cock.li ยืนยันการถูกเจาะระบบ และข้อมูลผู้ใช้กว่า 1 ล้านรายหลุดออกไป   • แฮกเกอร์ขายฐานข้อมูล 2 ชุดใน dark web   • รวมผู้ใช้ที่ล็อกอินผ่าน Roundcube ตั้งแต่ปี 2016 ✅ ฐานข้อมูลที่หลุดมีข้อมูลหลากหลาย ได้แก่:   • อีเมล, เวลาล็อกอิน, ภาษาที่เลือก, การตั้งค่าบน Roundcube   • รายชื่อผู้ติดต่อ (contact) กว่า 93,000 entries จากผู้ใช้ ~10,400 ราย ✅ ช่องโหว่มาจากระบบ Roundcube ที่ถูกถอดออกไปแล้ว   • เป็น Remote Code Execution ที่กำลังถูกโจมตีในวงกว้าง   • Cock.li ระบุว่า “ไม่ว่าจะเวอร์ชันใด เราจะไม่ใช้ Roundcube อีก” ✅ ทีมงานแนะให้เปลี่ยนรหัสผ่านทันทีแม้ไม่พบรหัสผ่านหลุด   • เพื่อป้องกันการถูกใช้ช่องโหว่เดิมหรือข้อมูลถูกโยงเข้ากับบัญชีอื่น ✅ Cock.li เป็นอีเมลฟรีที่เคยได้รับความนิยมในหมู่แฮกเกอร์และผู้ใช้สาย privacy • เพราะไม่ต้องยืนยันตัวตนและไม่มีโฆษณา ‼️ แม้จะไม่มีรหัสผ่านหลุด แต่อาจนำไปใช้ประกอบกับข้อมูลจากแหล่งอื่นเพื่อโจมตีแบบ spear phishing ได้   • โดยเฉพาะผู้ที่ใช้บัญชีเดียวกันกับบริการอื่น (reuse password) ‼️ ผู้ใช้ที่บันทึก “ลายเซ็น” หรือข้อมูลส่วนตัวไว้ใน Roundcube มีความเสี่ยงข้อมูลถูกเปิดเผย   • เช่น เบอร์โทร, แท็ก GPG key, หรือที่อยู่ ‼️ Roundcube เป็นระบบเว็บเมลที่มีช่องโหว่จำนวนมาก และถูกใช้เป็นจุดโจมตีในหลายกรณี   • ไม่ควรใช้งานเวอร์ชันเก่าหรือปล่อยระบบโดยไม่มีการอัปเดต ‼️ ผู้ให้บริการอีเมลฟรีที่ไม่ลงทุนในระบบความปลอดภัย มักไม่สามารถป้องกันเหตุลักษณะนี้ได้   • โดยเฉพาะบริการที่ไม่รองรับ MFA หรือไม่เข้ารหัสข้อมูลฝั่งเซิร์ฟเวอร์ https://www.techradar.com/pro/security/top-email-hosting-provider-cock-li-hacked-over-a-million-user-records-stolen
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลายคนอาจคิดว่า Cybersecurity คือแค่คนป้องกันไวรัส แต่จริง ๆ แล้วงานนี้แตกแขนงเป็นหลายสาย และแต่ละตำแหน่งก็มีค่าตอบแทนต่างกันมาก

    จากรายงาน Cybersecurity Staff Compensation Benchmark 2025 ระบุว่า “ชื่อตำแหน่ง” ไม่ได้บอกเสมอว่าใครทำอะไรมากน้อยแค่ไหน เพราะในความจริง 61% ของคนทำงานสายนี้ต้องทำหลายบทบาทควบกัน แต่ถ้าจะดูว่า “ใครได้เงินเดือนสูงที่สุด” ก็ยังพอแยกได้เป็นลำดับแบบนี้:

    1️⃣ Security Architect — ค่าตัวอันดับ 1 ฐานเงินเดือนเฉลี่ย $179,000 รวมโบนัส $206,000  
    • ต้องรู้ลึกทั้งเครือข่าย ระบบ การออกแบบนโยบายการป้องกัน  
    • 34% ได้หุ้นประจำปีอีกด้วย

    2️⃣ Security Engineer — รองแชมป์ รับเฉลี่ย $168,000 รวมโบนัสเป็น $191,000  
    • เน้นลงมือจริงกับระบบ เช่น firewall, IDS/IPS, pentest, EDR  
    • หลายคนมาจากสาย network หรือ sysadmin มาก่อน

    3️⃣ Risk/GRC Specialist — มือวางด้านการจัดการความเสี่ยงและ compliance  
    • เงินเดือน $146,000 รวมโบนัส $173,000  
    • เน้น policy, audit, risk register, ISO, NIST, GDPR ฯลฯ

    4️⃣ Security Analyst (เช่น SOC analyst) — มือ frontline จับภัยคุกคาม  
    • รับเฉลี่ย $124,000 รวมโบนัส $133,000  
    • คอยตรวจจับเหตุการณ์ ปรับ signature ดู log และ SIEM

    ทุกตำแหน่งต่างมีเส้นทางเฉพาะ เช่น Security Analyst → Engineer → Architect หรือ Risk Analyst → GRC Lead → CISO ก็ได้ ขึ้นกับสายที่ชอบและทักษะที่ฝึกต่อ

    รายได้สูงสุด: Security Architect ครองแชมป์แบบครบเครื่อง  
    • เงินเดือน $179K / รายได้รวม $206K / หุ้น 34%  
    • งานหลากหลาย: ออกแบบ, IAM, AppSec, Product Security

    Security Engineer มาเป็นอันดับสอง  
    • เงินเดือน $168K / รายได้รวม $191K / หุ้น 31%  
    • ต้องมีพื้นฐาน Network/IT แน่น ชำนาญอุปกรณ์/ระบบ

    สาย GRC ก็มาแรง  
    • เงินเดือน $146K / รายได้รวม $173K / หุ้น 26%  
    • ทักษะพิเศษ: Risk, Compliance, NIST, AI-policy

    Security Analyst รายได้เริ่มต้นดี และเป็นฐานสร้างอาชีพอื่น  
    • เงินเดือน $124K / รายได้รวม $133K / หุ้น 20%  
    • เหมาะสำหรับเริ่มต้นในสาย Cybersecurity

    แต่ละสายมีใบรับรองที่ช่วย boost เงินเดือน  
    • Architect: CISSP, CCSP  
    • Engineer: Security+, CCNP Sec, CEH  
    • GRC: CRISC, CGRC  
    • Analyst: CySA+, SOC certs

    สายงานมีความซ้อนทับสูง — หลายคนทำหลายบทบาทพร้อมกัน  
    • เช่น คนใน SecOps อาจทำ GRC, IAM, Product Security ด้วย

    คำเตือนและข้อควรระวัง:
    ชื่อตำแหน่งอาจไม่สะท้อนงานที่ทำจริงในแต่ละองค์กร  
    • ควรดูรายละเอียดงานจริง ไม่ใช่ดูแค่ title เวลาสมัครหรือเปรียบเทียบรายได้

    เงินเดือนสูงมาพร้อมกับ skill ที่ลึกและการสื่อสารกับทีมหลากหลายฝ่าย  
    • สาย Architect และ GRC ต้องสื่อสารกับผู้บริหารและทีมเทคนิคได้ดี

    บางสายมีการแข่งขันสูงโดยเฉพาะระดับต้น เช่น Analyst และ Engineer  
    • ต้องมีจุดแข็ง เช่น cert, ผลงาน side project, หรือ soft skill

    สายงานด้านความเสี่ยงและ compliance ต้องตามกฎระเบียบเปลี่ยนตลอดเวลา  
    • เช่น กฎหมาย AI, ความเป็นส่วนตัว, cloud compliance

    https://www.csoonline.com/article/4006364/the-highest-paying-jobs-in-cybersecurity-today.html
    หลายคนอาจคิดว่า Cybersecurity คือแค่คนป้องกันไวรัส แต่จริง ๆ แล้วงานนี้แตกแขนงเป็นหลายสาย และแต่ละตำแหน่งก็มีค่าตอบแทนต่างกันมาก จากรายงาน Cybersecurity Staff Compensation Benchmark 2025 ระบุว่า “ชื่อตำแหน่ง” ไม่ได้บอกเสมอว่าใครทำอะไรมากน้อยแค่ไหน เพราะในความจริง 61% ของคนทำงานสายนี้ต้องทำหลายบทบาทควบกัน แต่ถ้าจะดูว่า “ใครได้เงินเดือนสูงที่สุด” ก็ยังพอแยกได้เป็นลำดับแบบนี้: 1️⃣ Security Architect — ค่าตัวอันดับ 1 ฐานเงินเดือนเฉลี่ย $179,000 รวมโบนัส $206,000   • ต้องรู้ลึกทั้งเครือข่าย ระบบ การออกแบบนโยบายการป้องกัน   • 34% ได้หุ้นประจำปีอีกด้วย 2️⃣ Security Engineer — รองแชมป์ รับเฉลี่ย $168,000 รวมโบนัสเป็น $191,000   • เน้นลงมือจริงกับระบบ เช่น firewall, IDS/IPS, pentest, EDR   • หลายคนมาจากสาย network หรือ sysadmin มาก่อน 3️⃣ Risk/GRC Specialist — มือวางด้านการจัดการความเสี่ยงและ compliance   • เงินเดือน $146,000 รวมโบนัส $173,000   • เน้น policy, audit, risk register, ISO, NIST, GDPR ฯลฯ 4️⃣ Security Analyst (เช่น SOC analyst) — มือ frontline จับภัยคุกคาม   • รับเฉลี่ย $124,000 รวมโบนัส $133,000   • คอยตรวจจับเหตุการณ์ ปรับ signature ดู log และ SIEM ทุกตำแหน่งต่างมีเส้นทางเฉพาะ เช่น Security Analyst → Engineer → Architect หรือ Risk Analyst → GRC Lead → CISO ก็ได้ ขึ้นกับสายที่ชอบและทักษะที่ฝึกต่อ ✅ รายได้สูงสุด: Security Architect ครองแชมป์แบบครบเครื่อง   • เงินเดือน $179K / รายได้รวม $206K / หุ้น 34%   • งานหลากหลาย: ออกแบบ, IAM, AppSec, Product Security ✅ Security Engineer มาเป็นอันดับสอง   • เงินเดือน $168K / รายได้รวม $191K / หุ้น 31%   • ต้องมีพื้นฐาน Network/IT แน่น ชำนาญอุปกรณ์/ระบบ ✅ สาย GRC ก็มาแรง   • เงินเดือน $146K / รายได้รวม $173K / หุ้น 26%   • ทักษะพิเศษ: Risk, Compliance, NIST, AI-policy ✅ Security Analyst รายได้เริ่มต้นดี และเป็นฐานสร้างอาชีพอื่น   • เงินเดือน $124K / รายได้รวม $133K / หุ้น 20%   • เหมาะสำหรับเริ่มต้นในสาย Cybersecurity ✅ แต่ละสายมีใบรับรองที่ช่วย boost เงินเดือน   • Architect: CISSP, CCSP   • Engineer: Security+, CCNP Sec, CEH   • GRC: CRISC, CGRC   • Analyst: CySA+, SOC certs ✅ สายงานมีความซ้อนทับสูง — หลายคนทำหลายบทบาทพร้อมกัน   • เช่น คนใน SecOps อาจทำ GRC, IAM, Product Security ด้วย ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง: ‼️ ชื่อตำแหน่งอาจไม่สะท้อนงานที่ทำจริงในแต่ละองค์กร   • ควรดูรายละเอียดงานจริง ไม่ใช่ดูแค่ title เวลาสมัครหรือเปรียบเทียบรายได้ ‼️ เงินเดือนสูงมาพร้อมกับ skill ที่ลึกและการสื่อสารกับทีมหลากหลายฝ่าย   • สาย Architect และ GRC ต้องสื่อสารกับผู้บริหารและทีมเทคนิคได้ดี ‼️ บางสายมีการแข่งขันสูงโดยเฉพาะระดับต้น เช่น Analyst และ Engineer   • ต้องมีจุดแข็ง เช่น cert, ผลงาน side project, หรือ soft skill ‼️ สายงานด้านความเสี่ยงและ compliance ต้องตามกฎระเบียบเปลี่ยนตลอดเวลา   • เช่น กฎหมาย AI, ความเป็นส่วนตัว, cloud compliance https://www.csoonline.com/article/4006364/the-highest-paying-jobs-in-cybersecurity-today.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    The highest-paying jobs in cybersecurity today
    According to a recent survey by IANS and Artico Search, risk/GRC specialists, along with security architects, analysts, and engineers, report the highest average annual cash compensation in cybersecurity.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 373 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฟันของเรามีต้นกำเนิดจากเกราะของปลายุคโบราณ!
    นักวิทยาศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยชิคาโก ค้นพบว่า เนื้อเยื่อที่ไวต่อความเย็นในฟันของเรา มีต้นกำเนิดมาจาก เกราะของปลายุคโบราณ ซึ่งใช้ในการรับรู้สภาพแวดล้อมแทนการเคี้ยวอาหาร

    งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Nature ยืนยันว่า เดนทีน (Dentine) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของฟัน ไม่ได้ถูกใช้เพื่อการเคี้ยวในช่วงแรกของวิวัฒนาการ แต่กลับมีบทบาทในการช่วยให้ปลายุคโบราณ ตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของน้ำรอบตัว

    นักวิจัยใช้ Synchrotron Scanning ซึ่งเป็นเทคนิคการถ่ายภาพขั้นสูงเพื่อศึกษาฟอสซิลของ Anatolepis heintzi ซึ่งเคยถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังที่เก่าแก่ที่สุด เนื่องจากมีโครงสร้างคล้ายฟัน

    แต่ผลการสแกนพบว่า Anatolepis ไม่ได้มีเดนทีน แต่มี โครงสร้างรับความรู้สึกที่คล้ายกับสัตว์จำพวกกุ้งและปู ซึ่งช่วยให้พวกมันตรวจจับสภาพแวดล้อม

    ข้อมูลจากข่าว
    - นักวิทยาศาสตร์พบว่าเนื้อเยื่อไวต่อความเย็นในฟันมีต้นกำเนิดจากเกราะของปลายุคโบราณ
    - เดนทีนในยุคแรกไม่ได้ใช้ในการเคี้ยว แต่ช่วยให้ปลาตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของน้ำ
    - Anatolepis heintzi เคยถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังที่เก่าแก่ที่สุด
    - Synchrotron Scanning เผยว่า Anatolepis ไม่มีเดนทีน แต่มีโครงสร้างรับความรู้สึกคล้ายสัตว์จำพวกกุ้งและปู
    - นักวิจัยพบว่า Eriptychius ซึ่งเป็นปลายุค Ordovician มีเดนทีนในเกราะของมัน

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะมีหลักฐานใหม่ แต่ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันทฤษฎีวิวัฒนาการของฟัน
    - การค้นพบนี้อาจเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสัตว์มีกระดูกสันหลัง
    - ต้องติดตามว่าการศึกษานี้จะส่งผลต่อการวิจัยด้านชีววิทยาและทันตกรรมอย่างไร
    - นักวิทยาศาสตร์ยังคงถกเถียงกันระหว่างทฤษฎี "Inside-Out" และ "Outside-In" เกี่ยวกับวิวัฒนาการของฟัน

    การค้นพบนี้ช่วยให้เราเข้าใจ วิวัฒนาการของฟันในมุมมองใหม่ และอาจนำไปสู่ การพัฒนาเทคโนโลยีทางทันตกรรมที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการศึกษานี้จะส่งผลต่อแนวคิดทางชีววิทยาในอนาคตอย่างไร

    https://www.neowin.net/news/that-sharp-cold-toothache-you-dread-its-origins-trace-back-to-ancient-unexpected-purpose/
    🦷 ฟันของเรามีต้นกำเนิดจากเกราะของปลายุคโบราณ! นักวิทยาศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยชิคาโก ค้นพบว่า เนื้อเยื่อที่ไวต่อความเย็นในฟันของเรา มีต้นกำเนิดมาจาก เกราะของปลายุคโบราณ ซึ่งใช้ในการรับรู้สภาพแวดล้อมแทนการเคี้ยวอาหาร งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Nature ยืนยันว่า เดนทีน (Dentine) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของฟัน ไม่ได้ถูกใช้เพื่อการเคี้ยวในช่วงแรกของวิวัฒนาการ แต่กลับมีบทบาทในการช่วยให้ปลายุคโบราณ ตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของน้ำรอบตัว นักวิจัยใช้ Synchrotron Scanning ซึ่งเป็นเทคนิคการถ่ายภาพขั้นสูงเพื่อศึกษาฟอสซิลของ Anatolepis heintzi ซึ่งเคยถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังที่เก่าแก่ที่สุด เนื่องจากมีโครงสร้างคล้ายฟัน แต่ผลการสแกนพบว่า Anatolepis ไม่ได้มีเดนทีน แต่มี โครงสร้างรับความรู้สึกที่คล้ายกับสัตว์จำพวกกุ้งและปู ซึ่งช่วยให้พวกมันตรวจจับสภาพแวดล้อม ✅ ข้อมูลจากข่าว - นักวิทยาศาสตร์พบว่าเนื้อเยื่อไวต่อความเย็นในฟันมีต้นกำเนิดจากเกราะของปลายุคโบราณ - เดนทีนในยุคแรกไม่ได้ใช้ในการเคี้ยว แต่ช่วยให้ปลาตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของน้ำ - Anatolepis heintzi เคยถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังที่เก่าแก่ที่สุด - Synchrotron Scanning เผยว่า Anatolepis ไม่มีเดนทีน แต่มีโครงสร้างรับความรู้สึกคล้ายสัตว์จำพวกกุ้งและปู - นักวิจัยพบว่า Eriptychius ซึ่งเป็นปลายุค Ordovician มีเดนทีนในเกราะของมัน ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะมีหลักฐานใหม่ แต่ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันทฤษฎีวิวัฒนาการของฟัน - การค้นพบนี้อาจเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสัตว์มีกระดูกสันหลัง - ต้องติดตามว่าการศึกษานี้จะส่งผลต่อการวิจัยด้านชีววิทยาและทันตกรรมอย่างไร - นักวิทยาศาสตร์ยังคงถกเถียงกันระหว่างทฤษฎี "Inside-Out" และ "Outside-In" เกี่ยวกับวิวัฒนาการของฟัน การค้นพบนี้ช่วยให้เราเข้าใจ วิวัฒนาการของฟันในมุมมองใหม่ และอาจนำไปสู่ การพัฒนาเทคโนโลยีทางทันตกรรมที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการศึกษานี้จะส่งผลต่อแนวคิดทางชีววิทยาในอนาคตอย่างไร https://www.neowin.net/news/that-sharp-cold-toothache-you-dread-its-origins-trace-back-to-ancient-unexpected-purpose/
    WWW.NEOWIN.NET
    That sharp cold toothache you dread? Its origins trace back to ancient, unexpected purpose
    That cold toothache you dread? Its origins trace back to an interesting ancient adaptation, one that served purposes far beyond chewing.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • Wine 10.9: การอัปเดตครั้งสำคัญสำหรับการรันแอป Windows บน Linux และ macOS
    Wine 10.9 ได้เปิดตัวพร้อมกับ การรองรับ EGL สำหรับไดรเวอร์กราฟิกทุกตัว ซึ่งช่วยให้การรันแอป Windows บน Linux และ macOS มีความเสถียรมากขึ้น และอาจเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับแอปที่ใช้ OpenGL ES

    EGL เป็น ตัวกลางสำคัญ ที่ช่วยให้ OpenGL ES สามารถสื่อสารกับ window manager ของระบบ การที่ Wine รองรับ EGL อย่างเป็นมาตรฐานช่วยลดปัญหาการแสดงผลที่แตกต่างกันระหว่างไดรเวอร์

    นอกจากนี้ Wine 10.9 ยังมาพร้อมกับ vkd3d เวอร์ชัน 1.16 ซึ่งเป็น ตัวแปลง Direct3D 12 เป็น Vulkan โดยมีการปรับปรุงหลายด้าน เช่น
    - รองรับ DXIL shaders ในค่าตั้งต้น ทำให้สามารถใช้ Shader Model 6.0 ได้
    - สามารถสร้าง Graphics pipeline state objects จาก shaders ที่มี root signatures
    - เพิ่มการรองรับ geometry shaders และฟังก์ชันใหม่ ๆ ใน libvkd3d-shader

    ข้อมูลจากข่าว
    - Wine 10.9 รองรับ EGL สำหรับไดรเวอร์กราฟิกทุกตัว
    - ช่วยให้การรันแอป Windows บน Linux และ macOS มีความเสถียรมากขึ้น
    - vkd3d 1.16 ปรับปรุงการรองรับ Direct3D 12 บน Vulkan
    - DXIL shaders รองรับ Shader Model 6.0 ในค่าตั้งต้น
    - เพิ่มการรองรับ geometry shaders และฟังก์ชันใหม่ ๆ ใน libvkd3d-shader

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะรองรับ EGL แต่ยังต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่าทำงานได้กับทุกแอป
    - การอัปเดต vkd3d อาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเข้ากันได้ของทุกเกมที่ใช้ Direct3D 12
    - ต้องติดตามว่าผู้ใช้จะพบข้อผิดพลาดใหม่ ๆ หรือไม่หลังจากอัปเดตเป็น Wine 10.9
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อโครงการที่ใช้ Wine เช่น Steam Proton

    Wine 10.9 เป็น ก้าวสำคัญในการปรับปรุงความเข้ากันได้ของแอป Windows บน Linux และ macOS โดยเฉพาะสำหรับ เกมที่ใช้ Direct3D 12 อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของเกมและแอปในระยะยาวอย่างไร

    https://www.neowin.net/news/wine-109-released-bringing-egl-support-for-all-graphic-drivers-and-several-bug-fixes/
    🍷 Wine 10.9: การอัปเดตครั้งสำคัญสำหรับการรันแอป Windows บน Linux และ macOS Wine 10.9 ได้เปิดตัวพร้อมกับ การรองรับ EGL สำหรับไดรเวอร์กราฟิกทุกตัว ซึ่งช่วยให้การรันแอป Windows บน Linux และ macOS มีความเสถียรมากขึ้น และอาจเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับแอปที่ใช้ OpenGL ES EGL เป็น ตัวกลางสำคัญ ที่ช่วยให้ OpenGL ES สามารถสื่อสารกับ window manager ของระบบ การที่ Wine รองรับ EGL อย่างเป็นมาตรฐานช่วยลดปัญหาการแสดงผลที่แตกต่างกันระหว่างไดรเวอร์ นอกจากนี้ Wine 10.9 ยังมาพร้อมกับ vkd3d เวอร์ชัน 1.16 ซึ่งเป็น ตัวแปลง Direct3D 12 เป็น Vulkan โดยมีการปรับปรุงหลายด้าน เช่น - รองรับ DXIL shaders ในค่าตั้งต้น ทำให้สามารถใช้ Shader Model 6.0 ได้ - สามารถสร้าง Graphics pipeline state objects จาก shaders ที่มี root signatures - เพิ่มการรองรับ geometry shaders และฟังก์ชันใหม่ ๆ ใน libvkd3d-shader ✅ ข้อมูลจากข่าว - Wine 10.9 รองรับ EGL สำหรับไดรเวอร์กราฟิกทุกตัว - ช่วยให้การรันแอป Windows บน Linux และ macOS มีความเสถียรมากขึ้น - vkd3d 1.16 ปรับปรุงการรองรับ Direct3D 12 บน Vulkan - DXIL shaders รองรับ Shader Model 6.0 ในค่าตั้งต้น - เพิ่มการรองรับ geometry shaders และฟังก์ชันใหม่ ๆ ใน libvkd3d-shader ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะรองรับ EGL แต่ยังต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่าทำงานได้กับทุกแอป - การอัปเดต vkd3d อาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเข้ากันได้ของทุกเกมที่ใช้ Direct3D 12 - ต้องติดตามว่าผู้ใช้จะพบข้อผิดพลาดใหม่ ๆ หรือไม่หลังจากอัปเดตเป็น Wine 10.9 - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อโครงการที่ใช้ Wine เช่น Steam Proton Wine 10.9 เป็น ก้าวสำคัญในการปรับปรุงความเข้ากันได้ของแอป Windows บน Linux และ macOS โดยเฉพาะสำหรับ เกมที่ใช้ Direct3D 12 อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของเกมและแอปในระยะยาวอย่างไร https://www.neowin.net/news/wine-109-released-bringing-egl-support-for-all-graphic-drivers-and-several-bug-fixes/
    WWW.NEOWIN.NET
    Wine 10.9 released bringing EGL support for all graphic drivers and several bug fixes
    The latest Wine release, version 10.9, introduces EGL support across all graphics drivers, brings an updated vkd3d version, and includes several bug fixes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft เตือน! ดาวน์โหลด ISO ติดตั้ง Windows 11/10 ต้องมีอัปเดต Defender
    Microsoft ได้เผยแพร่ อัปเดตใหม่สำหรับ Microsoft Defender ที่จำเป็นสำหรับ ไฟล์ติดตั้ง Windows 11/10 และ Windows Server เพื่อป้องกัน ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ที่อาจเกิดขึ้นจาก ซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ที่ล้าสมัย

    เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง Windows ใหม่ อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยชั่วคราว เนื่องจาก Microsoft Defender ที่รวมอยู่ในไฟล์ติดตั้งอาจเป็นเวอร์ชันเก่า ทำให้ระบบ ไม่ได้รับการป้องกันจากภัยคุกคามล่าสุด

    Microsoft จึงได้ออก แพ็กเกจอัปเดตความปลอดภัย ผ่าน Security Intelligence Update เวอร์ชัน 1.429.122.0 ซึ่งช่วยปิดช่องโหว่ดังกล่าว โดยอัปเดต anti-malware client, anti-malware engine และ signature versions

    ข้อมูลจากข่าว
    - Microsoft ออกอัปเดตใหม่สำหรับ Microsoft Defender ในไฟล์ติดตั้ง Windows 11/10 และ Windows Server
    - อัปเดตนี้ช่วยปิดช่องโหว่ที่เกิดจากซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ที่ล้าสมัย
    - Security Intelligence Update เวอร์ชัน 1.429.122.0 เป็นแพ็กเกจล่าสุดที่ต้องติดตั้ง
    - อัปเดตนี้ช่วยป้องกันภัยคุกคาม เช่น Lumma infostealer ที่ส่งผลกระทบต่อ 394,000 เครื่องทั่วโลก
    - รองรับ Windows 11, Windows 10 (Enterprise, Pro, Home), Windows Server 2022, 2019 และ 2016

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - หากติดตั้ง Windows โดยใช้ ISO ที่ไม่มีอัปเดต Defender อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
    - มัลแวร์ Lumma infostealer สามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์หลัก เช่น Chrome, Firefox และ Edge
    - ต้องตรวจสอบว่าไฟล์ติดตั้ง Windows มี Security Intelligence Update ล่าสุดก่อนใช้งาน
    - Microsoft Defender เวอร์ชันเก่าอาจไม่สามารถป้องกันภัยคุกคามใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    การอัปเดตนี้ช่วยให้ Windows ที่ติดตั้งใหม่มีการป้องกันที่ทันสมัยขึ้น และลดความเสี่ยงจาก มัลแวร์ที่อาจแฝงตัวอยู่ในระบบ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ต้องตรวจสอบว่าไฟล์ติดตั้งมีอัปเดตล่าสุดก่อนใช้งาน

    https://www.neowin.net/news/microsoft-warns-new-windows-1110-installation-iso-downloads-must-have-this-defender-update/
    🛡️ Microsoft เตือน! ดาวน์โหลด ISO ติดตั้ง Windows 11/10 ต้องมีอัปเดต Defender Microsoft ได้เผยแพร่ อัปเดตใหม่สำหรับ Microsoft Defender ที่จำเป็นสำหรับ ไฟล์ติดตั้ง Windows 11/10 และ Windows Server เพื่อป้องกัน ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ที่อาจเกิดขึ้นจาก ซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ที่ล้าสมัย เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง Windows ใหม่ อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยชั่วคราว เนื่องจาก Microsoft Defender ที่รวมอยู่ในไฟล์ติดตั้งอาจเป็นเวอร์ชันเก่า ทำให้ระบบ ไม่ได้รับการป้องกันจากภัยคุกคามล่าสุด Microsoft จึงได้ออก แพ็กเกจอัปเดตความปลอดภัย ผ่าน Security Intelligence Update เวอร์ชัน 1.429.122.0 ซึ่งช่วยปิดช่องโหว่ดังกล่าว โดยอัปเดต anti-malware client, anti-malware engine และ signature versions ✅ ข้อมูลจากข่าว - Microsoft ออกอัปเดตใหม่สำหรับ Microsoft Defender ในไฟล์ติดตั้ง Windows 11/10 และ Windows Server - อัปเดตนี้ช่วยปิดช่องโหว่ที่เกิดจากซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ที่ล้าสมัย - Security Intelligence Update เวอร์ชัน 1.429.122.0 เป็นแพ็กเกจล่าสุดที่ต้องติดตั้ง - อัปเดตนี้ช่วยป้องกันภัยคุกคาม เช่น Lumma infostealer ที่ส่งผลกระทบต่อ 394,000 เครื่องทั่วโลก - รองรับ Windows 11, Windows 10 (Enterprise, Pro, Home), Windows Server 2022, 2019 และ 2016 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - หากติดตั้ง Windows โดยใช้ ISO ที่ไม่มีอัปเดต Defender อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย - มัลแวร์ Lumma infostealer สามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์หลัก เช่น Chrome, Firefox และ Edge - ต้องตรวจสอบว่าไฟล์ติดตั้ง Windows มี Security Intelligence Update ล่าสุดก่อนใช้งาน - Microsoft Defender เวอร์ชันเก่าอาจไม่สามารถป้องกันภัยคุกคามใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การอัปเดตนี้ช่วยให้ Windows ที่ติดตั้งใหม่มีการป้องกันที่ทันสมัยขึ้น และลดความเสี่ยงจาก มัลแวร์ที่อาจแฝงตัวอยู่ในระบบ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ต้องตรวจสอบว่าไฟล์ติดตั้งมีอัปเดตล่าสุดก่อนใช้งาน https://www.neowin.net/news/microsoft-warns-new-windows-1110-installation-iso-downloads-must-have-this-defender-update/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft warns new Windows 11/10 installation ISO downloads must have this Defender update
    Microsoft released a new Windows Defender update for new Windows installation media. However, the latest update is crucial as it saves against the deadly Lumma malware.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • A heartwarming captures an unexpected friendship in nature
    A heartwarming captures an unexpected friendship in nature
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • How To Write A Professional Email: Tips & Examples

    During your professional career, you’ll need to write plenty of emails. While writing an email to a friend is pretty simple, writing an email to your boss or a person you have never met before requires a bit more thought if you want to be professional. Ideally, you want your emails to be clear, concise, and persuasive. If that is your goal, then you’ll get there in no time at all if you follow our tips on crafting professional emails.

    What to include in a professional email
    When writing an effective email, there are several things that should never be left out. Let’s walk through each major part of an email so you’ll know exactly how to write one.

    Subject line
    In most email programs, the subject line is entered into the box under the recipient’s email address. Besides your name and email address, the subject line is the first thing someone will see when they receive your email. The subject line should be a short summary of the purpose of your email. Some examples of subject lines include “Plans for Fall Product Lineup,” “Thank You for the Referral,” or “Question About Next Week’s Meeting.”

    If you are responding to or forwarding someone else’s email, an email program will typically fill in a subject line for you such as “Re: New Employee Training.” Generally, it is fine to keep these subject lines as doing so will make it easier for the original sender to keep track of potentially long email chains.

    Greeting
    The greeting is the first line of the email and is a salutation that establishes the tone of your email. Every professional email you send must have a greeting tailored toward the receiver. If you know the receiver’s name and title, you should use it. Avoid referring to anyone as “Mr.” “Mrs.” or “Ms.” unless you already know that person prefers one of those titles. For professional emails, formal greetings such as “Greetings,” “Dear,” or “Good morning/afternoon/evening” are preferred. If you do not know the identity of the person receiving your email, you can exclude a name or use the general greeting of “To Whom It May Concern.” Informal greetings such as “Hi” or “Yo” should be avoided.

    Body
    The body is the largest part of the email and where your actual message will be. You should begin the body by immediately saying what the purpose of the email is and expressing what you are trying to achieve by sending it. The body of the email should be concise, informative, and straight to the point. You should always be polite and use proper grammar in professional emails. Whether the body is a single sentence or several paragraphs, it should provide all the information a person needs to respond to your needs or take whatever actions you want them to.

    Closing
    The closing is the last line of the email before your name or signature. A closing is necessary to ensure proper etiquette and not having one is often seen as rude or inconsiderate. The closing can be very short and use formal words like “Best” or “Thank you.” The closing can also include a restatement of the main topic or a repeat of a request, such as “I look forward to hearing back from you regarding my proposal. Thank you!”

    What not to include in a professional email
    Now that we’ve looked at what should be in your emails, let’s take a look at what you should leave out if you want to come across as a professional.

    Decorative or distracting fonts
    Professional emails should use traditional fonts such as Times New Roman, Arial, or whatever font the email program uses as a standard. Decorative fonts such as Comic Sans are distracting and inappropriate, so they should not be used in your professional emails.

    Excessive punctuation
    Punctuation should follow the rules of proper grammar. It is fine to use question marks, commas, quotation marks, colons, and semicolons as long as you know how to properly use them. Exclamation points should be used sparingly, usually only in the closing or to emphasize a need for immediate action. Excessive, unnecessary use of punctuation is distracting and will make your email look unprofessional.

    Emoticons
    Unless you are emailing someone you have a friendly, informal relationship with, your email should not include emoji, emoticons, gifs, or memes. All of these things are distracting and typically seen as unprofessional, so you should not use them in an email that is supposed to be professional.

    Tips for writing a professional email
    We’ve covered everything that needs to go in an email and what should stay on the cutting room floor. Next, let’s review some general tips that will improve all of the emails you’ll need to write.

    Be concise
    A professional email should be short and to the point. At the same time, you should still use complete sentences and proper grammar. Avoid going on tangents or telling long stories in emails. Each sentence should have a purpose and should provide information that the receiver needs to respond or perform whatever action you need them to take. Avoid asking many questions or making several requests if possible. You can use followup emails to make further requests or ask additional questions if you need to.

    Convey a clear purpose
    A professional email should get straight to the point. Avoid wasting a person’s time by burying your main point deep in the body of an email. The very first line of the body should clearly state what the purpose of the email is and what action you want the receiver to take. The subject line should also establish the purpose of the email. The rest of the email should support the main point by including necessary information or important details that the receiver needs to be aware of.

    Proofread using Grammar Coach™
    A professional email should have proper grammar, punctuation, and spelling. To that end, you should thoroughly proofread your emails for any errors. To ensure that all of your emails are perfect, you can use our fantastic Grammar Coach™ that will review all of your emails for common errors and grammar mistakes. With Grammar Coach™ at your side, your emails will be error-free and have an air of professionalism that cannot be matched!

    Examples of professional emails
    Let’s finish things off by bringing it all together and taking a look at some different types of emails that effectively use all of our tips and advice.

    Example #1: Relationship building
    The following example shows how you could write an email with the intent of trying to establish a relationship with someone in order to add them to your growing network of professional contacts:

    Subject: Fantastic Lecture

    Dear Dr. Smith,

    I attended your Wednesday lecture on ancient Roman military tactics, and I wanted to express my gratitude for you coming to speak to our university. The lecture was extremely informative and your theories on Julius Caesar’s troop movements were something I had never considered. I am writing a dissertation on Caesar’s campaigns during the Gallic Wars, and your ideas have inspired me to view Caesar’s decisions from a new perspective. I plan on attending your upcoming lecture on the Punic Wars, and I know it will be just as illuminating. I look forward to hearing your views on the Roman war strategy!

    Thank you once again,
    Jane Doe

    Example #2: Referral requests
    When seeking a new career opportunity, having a referral or two will often give you a major advantage when it comes to submitting a job application. When asking another person for a referral via email, it is important to be polite and accommodating. The following example shows how you might ask for a referral through email:

    Subject: Referral Request – Zachary Adams

    Dear Professor Delgado,

    I hope you are well and wanted to thank you again for the instruction and guidance during my time at East Virginia University. I am applying for a position at the Research Institute Laboratories and was wondering if you would be willing to provide me with a referral.

    The position requires many of the same skills and lab work I performed during my time under your tutelage. Thanks to your instruction, I was able to excel in my studies and gain crucial experience using a nuclear fusion reactor. Due to your expertise and renown in the field, I know your referral would greatly improve my application.

    Thank you for considering my inquiry. I have attached a copy of my cover letter, resume, and the job posting for your review. Please let me know if you need anything else from me as you consider my request.

    Sincerely,
    Zachary Adams
    zadams@fakemail.abc
    (123) 456-7890

    Example #3: Resignation
    When leaving a job, you’ll need to submit a resignation letter. Your resignation email should be courteous and professional–even if you are looking forward to leaving your job. You never know if you might need to contact your former company for referrals or references, so it is important to remain professional and cordial even in your letter of resignation. The following example shows one possible approach you could take in your resignation email:

    Subject: Resignation – Laura Nores

    Dear Mrs. Smith,

    This email is my formal notification that I am resigning from my position as Head Marketing Consultant at Boxmart. My final day of employment will be April 1.

    I am grateful that I have had the opportunity to lead the marketing department at Boxmart for the past seven years. I’ve learned a lot about developing marketing campaigns and conducting demographic research during my time with the company. I’ve enjoyed being a member of the Boxmart team and appreciated the opportunities I’ve had to make the Boxmart brand a household name in the minds of customers worldwide. I will take everything I learned with me as I continue in my marketing career.

    During my final weeks with the company, I will ensure my team is prepared for the transition and will complete any outstanding responsibilities I have as Head Marketing Consultant. Please let me know if there is anything I need to do to assist in the transition.

    I hope Boxmart continues to be a market leader and that we remain in contact in the future.

    Best,
    Laura Nores

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    How To Write A Professional Email: Tips & Examples During your professional career, you’ll need to write plenty of emails. While writing an email to a friend is pretty simple, writing an email to your boss or a person you have never met before requires a bit more thought if you want to be professional. Ideally, you want your emails to be clear, concise, and persuasive. If that is your goal, then you’ll get there in no time at all if you follow our tips on crafting professional emails. What to include in a professional email When writing an effective email, there are several things that should never be left out. Let’s walk through each major part of an email so you’ll know exactly how to write one. Subject line In most email programs, the subject line is entered into the box under the recipient’s email address. Besides your name and email address, the subject line is the first thing someone will see when they receive your email. The subject line should be a short summary of the purpose of your email. Some examples of subject lines include “Plans for Fall Product Lineup,” “Thank You for the Referral,” or “Question About Next Week’s Meeting.” If you are responding to or forwarding someone else’s email, an email program will typically fill in a subject line for you such as “Re: New Employee Training.” Generally, it is fine to keep these subject lines as doing so will make it easier for the original sender to keep track of potentially long email chains. Greeting The greeting is the first line of the email and is a salutation that establishes the tone of your email. Every professional email you send must have a greeting tailored toward the receiver. If you know the receiver’s name and title, you should use it. Avoid referring to anyone as “Mr.” “Mrs.” or “Ms.” unless you already know that person prefers one of those titles. For professional emails, formal greetings such as “Greetings,” “Dear,” or “Good morning/afternoon/evening” are preferred. If you do not know the identity of the person receiving your email, you can exclude a name or use the general greeting of “To Whom It May Concern.” Informal greetings such as “Hi” or “Yo” should be avoided. Body The body is the largest part of the email and where your actual message will be. You should begin the body by immediately saying what the purpose of the email is and expressing what you are trying to achieve by sending it. The body of the email should be concise, informative, and straight to the point. You should always be polite and use proper grammar in professional emails. Whether the body is a single sentence or several paragraphs, it should provide all the information a person needs to respond to your needs or take whatever actions you want them to. Closing The closing is the last line of the email before your name or signature. A closing is necessary to ensure proper etiquette and not having one is often seen as rude or inconsiderate. The closing can be very short and use formal words like “Best” or “Thank you.” The closing can also include a restatement of the main topic or a repeat of a request, such as “I look forward to hearing back from you regarding my proposal. Thank you!” What not to include in a professional email Now that we’ve looked at what should be in your emails, let’s take a look at what you should leave out if you want to come across as a professional. Decorative or distracting fonts Professional emails should use traditional fonts such as Times New Roman, Arial, or whatever font the email program uses as a standard. Decorative fonts such as Comic Sans are distracting and inappropriate, so they should not be used in your professional emails. Excessive punctuation Punctuation should follow the rules of proper grammar. It is fine to use question marks, commas, quotation marks, colons, and semicolons as long as you know how to properly use them. Exclamation points should be used sparingly, usually only in the closing or to emphasize a need for immediate action. Excessive, unnecessary use of punctuation is distracting and will make your email look unprofessional. Emoticons Unless you are emailing someone you have a friendly, informal relationship with, your email should not include emoji, emoticons, gifs, or memes. All of these things are distracting and typically seen as unprofessional, so you should not use them in an email that is supposed to be professional. Tips for writing a professional email We’ve covered everything that needs to go in an email and what should stay on the cutting room floor. Next, let’s review some general tips that will improve all of the emails you’ll need to write. Be concise A professional email should be short and to the point. At the same time, you should still use complete sentences and proper grammar. Avoid going on tangents or telling long stories in emails. Each sentence should have a purpose and should provide information that the receiver needs to respond or perform whatever action you need them to take. Avoid asking many questions or making several requests if possible. You can use followup emails to make further requests or ask additional questions if you need to. Convey a clear purpose A professional email should get straight to the point. Avoid wasting a person’s time by burying your main point deep in the body of an email. The very first line of the body should clearly state what the purpose of the email is and what action you want the receiver to take. The subject line should also establish the purpose of the email. The rest of the email should support the main point by including necessary information or important details that the receiver needs to be aware of. Proofread using Grammar Coach™ A professional email should have proper grammar, punctuation, and spelling. To that end, you should thoroughly proofread your emails for any errors. To ensure that all of your emails are perfect, you can use our fantastic Grammar Coach™ that will review all of your emails for common errors and grammar mistakes. With Grammar Coach™ at your side, your emails will be error-free and have an air of professionalism that cannot be matched! Examples of professional emails Let’s finish things off by bringing it all together and taking a look at some different types of emails that effectively use all of our tips and advice. Example #1: Relationship building The following example shows how you could write an email with the intent of trying to establish a relationship with someone in order to add them to your growing network of professional contacts: Subject: Fantastic Lecture Dear Dr. Smith, I attended your Wednesday lecture on ancient Roman military tactics, and I wanted to express my gratitude for you coming to speak to our university. The lecture was extremely informative and your theories on Julius Caesar’s troop movements were something I had never considered. I am writing a dissertation on Caesar’s campaigns during the Gallic Wars, and your ideas have inspired me to view Caesar’s decisions from a new perspective. I plan on attending your upcoming lecture on the Punic Wars, and I know it will be just as illuminating. I look forward to hearing your views on the Roman war strategy! Thank you once again, Jane Doe Example #2: Referral requests When seeking a new career opportunity, having a referral or two will often give you a major advantage when it comes to submitting a job application. When asking another person for a referral via email, it is important to be polite and accommodating. The following example shows how you might ask for a referral through email: Subject: Referral Request – Zachary Adams Dear Professor Delgado, I hope you are well and wanted to thank you again for the instruction and guidance during my time at East Virginia University. I am applying for a position at the Research Institute Laboratories and was wondering if you would be willing to provide me with a referral. The position requires many of the same skills and lab work I performed during my time under your tutelage. Thanks to your instruction, I was able to excel in my studies and gain crucial experience using a nuclear fusion reactor. Due to your expertise and renown in the field, I know your referral would greatly improve my application. Thank you for considering my inquiry. I have attached a copy of my cover letter, resume, and the job posting for your review. Please let me know if you need anything else from me as you consider my request. Sincerely, Zachary Adams zadams@fakemail.abc (123) 456-7890 Example #3: Resignation When leaving a job, you’ll need to submit a resignation letter. Your resignation email should be courteous and professional–even if you are looking forward to leaving your job. You never know if you might need to contact your former company for referrals or references, so it is important to remain professional and cordial even in your letter of resignation. The following example shows one possible approach you could take in your resignation email: Subject: Resignation – Laura Nores Dear Mrs. Smith, This email is my formal notification that I am resigning from my position as Head Marketing Consultant at Boxmart. My final day of employment will be April 1. I am grateful that I have had the opportunity to lead the marketing department at Boxmart for the past seven years. I’ve learned a lot about developing marketing campaigns and conducting demographic research during my time with the company. I’ve enjoyed being a member of the Boxmart team and appreciated the opportunities I’ve had to make the Boxmart brand a household name in the minds of customers worldwide. I will take everything I learned with me as I continue in my marketing career. During my final weeks with the company, I will ensure my team is prepared for the transition and will complete any outstanding responsibilities I have as Head Marketing Consultant. Please let me know if there is anything I need to do to assist in the transition. I hope Boxmart continues to be a market leader and that we remain in contact in the future. Best, Laura Nores © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 904 มุมมอง 0 รีวิว
  • Dell เปิดตัวแพลตฟอร์มคลาวด์ส่วนตัวแบบรวมศูนย์ รองรับหลายซอฟต์แวร์สแต็ก

    Dell เปิดตัวแพลตฟอร์มคลาวด์ส่วนตัวแบบใหม่ที่สามารถทำงานร่วมกับ VMware, Nutanix และ Red Hat โดยแพลตฟอร์มนี้ ช่วยให้สามารถบริหารจัดการคลาวด์หลายระบบบนฮาร์ดแวร์ของ Dell ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแพลตฟอร์มคลาวด์ส่วนตัวของ Dell
    แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้สามารถบริหารจัดการคลาวด์หลายระบบได้ในที่เดียว
    - แม้ว่าคลาวด์แต่ละระบบจะไม่สามารถแชร์โหนดเดียวกันได้ แต่สามารถทำงานร่วมกันบนเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจเดียวกันได้

    Dell Automation Platform ลดขั้นตอนการตั้งค่าลงถึง 90%
    - ช่วยให้ องค์กรสามารถตั้งค่าสภาพแวดล้อมใหม่ได้ภายใน 2.5 ชั่วโมง

    รองรับการนำใบอนุญาตมาใช้เอง (Bring-Your-Own-License) หรือใช้ใบอนุญาตของ Dell
    - เพิ่มความยืดหยุ่น ให้กับองค์กรที่ต้องการควบคุมการใช้งานซอฟต์แวร์

    Nature Fresh Farms ซึ่งเป็นผู้ใช้กลุ่มแรก ระบุว่าแพลตฟอร์มนี้ช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนระบบคลาวด์ได้ง่ายขึ้น
    - รองรับ การเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจและช่วยปกป้องการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน

    Dell วางแผนเพิ่มเทมเพลตใหม่สำหรับ VMware vSphere และแพลตฟอร์มอื่น ๆ ในปีนี้
    - ช่วยให้ องค์กรสามารถเลือกใช้โซลูชันที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเอง

    https://www.techradar.com/pro/dell-has-created-a-unified-private-cloud-that-works-across-software-stacks
    Dell เปิดตัวแพลตฟอร์มคลาวด์ส่วนตัวแบบรวมศูนย์ รองรับหลายซอฟต์แวร์สแต็ก Dell เปิดตัวแพลตฟอร์มคลาวด์ส่วนตัวแบบใหม่ที่สามารถทำงานร่วมกับ VMware, Nutanix และ Red Hat โดยแพลตฟอร์มนี้ ช่วยให้สามารถบริหารจัดการคลาวด์หลายระบบบนฮาร์ดแวร์ของ Dell ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแพลตฟอร์มคลาวด์ส่วนตัวของ Dell ✅ แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้สามารถบริหารจัดการคลาวด์หลายระบบได้ในที่เดียว - แม้ว่าคลาวด์แต่ละระบบจะไม่สามารถแชร์โหนดเดียวกันได้ แต่สามารถทำงานร่วมกันบนเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจเดียวกันได้ ✅ Dell Automation Platform ลดขั้นตอนการตั้งค่าลงถึง 90% - ช่วยให้ องค์กรสามารถตั้งค่าสภาพแวดล้อมใหม่ได้ภายใน 2.5 ชั่วโมง ✅ รองรับการนำใบอนุญาตมาใช้เอง (Bring-Your-Own-License) หรือใช้ใบอนุญาตของ Dell - เพิ่มความยืดหยุ่น ให้กับองค์กรที่ต้องการควบคุมการใช้งานซอฟต์แวร์ ✅ Nature Fresh Farms ซึ่งเป็นผู้ใช้กลุ่มแรก ระบุว่าแพลตฟอร์มนี้ช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนระบบคลาวด์ได้ง่ายขึ้น - รองรับ การเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจและช่วยปกป้องการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ✅ Dell วางแผนเพิ่มเทมเพลตใหม่สำหรับ VMware vSphere และแพลตฟอร์มอื่น ๆ ในปีนี้ - ช่วยให้ องค์กรสามารถเลือกใช้โซลูชันที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเอง https://www.techradar.com/pro/dell-has-created-a-unified-private-cloud-that-works-across-software-stacks
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 รีวิว
  • Red Hat Enterprise Linux 10: ก้าวใหม่ของความปลอดภัยและ AI

    Red Hat เปิดตัว RHEL 10 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการสำหรับองค์กรที่มาพร้อมกับการป้องกันภัยคุกคามจากควอนตัมคอมพิวติ้งและฟีเจอร์ AI ใหม่ โดยเน้นไปที่ การรักษาความปลอดภัยระดับสูงและการทำงานแบบคอนเทนเนอร์

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ RHEL 10
    RHEL 10 เป็นดิสโทร Linux แรกที่รองรับมาตรฐานการเข้ารหัสหลังยุคควอนตัมของ NIST
    - ช่วยป้องกัน "Harvest Now; Decrypt Later" ซึ่งเป็นภัยคุกคามจากควอนตัมคอมพิวติ้ง

    ใช้อัลกอริธึมเข้ารหัสที่ทนทานต่อการโจมตีจากควอนตัม
    - รวมถึง Post-Quantum Signature Schemes สำหรับการตรวจสอบความถูกต้องของแพ็กเกจซอฟต์แวร์และใบรับรอง TLS

    RHEL Lightspeed เป็น AI ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการระบบผ่านคำสั่ง CLI ได้ง่ายขึ้น
    - ให้คำแนะนำแบบ Context-Aware และช่วยให้ผู้ดูแลระบบทำงานได้เร็วขึ้น

    Image Mode ช่วยให้สามารถคอนเทนเนอร์ระบบปฏิบัติการได้มากขึ้น
    - ลดความแตกต่างระหว่างเซิร์ฟเวอร์ และช่วยให้สามารถย้อนกลับไปยังเวอร์ชันก่อนหน้าได้ง่ายขึ้น

    RHEL 10 พร้อมให้ใช้งานผ่าน Red Hat Customer Portal และโปรแกรมสำหรับนักพัฒนา
    - นักพัฒนาสามารถ เข้าถึงซอฟต์แวร์, วิดีโอสอน และเอกสารประกอบได้ฟรี

    https://www.neowin.net/news/red-hat-enterprise-linux-10-arrives-with-quantum-security-and-ai-features/
    Red Hat Enterprise Linux 10: ก้าวใหม่ของความปลอดภัยและ AI Red Hat เปิดตัว RHEL 10 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการสำหรับองค์กรที่มาพร้อมกับการป้องกันภัยคุกคามจากควอนตัมคอมพิวติ้งและฟีเจอร์ AI ใหม่ โดยเน้นไปที่ การรักษาความปลอดภัยระดับสูงและการทำงานแบบคอนเทนเนอร์ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ RHEL 10 ✅ RHEL 10 เป็นดิสโทร Linux แรกที่รองรับมาตรฐานการเข้ารหัสหลังยุคควอนตัมของ NIST - ช่วยป้องกัน "Harvest Now; Decrypt Later" ซึ่งเป็นภัยคุกคามจากควอนตัมคอมพิวติ้ง ✅ ใช้อัลกอริธึมเข้ารหัสที่ทนทานต่อการโจมตีจากควอนตัม - รวมถึง Post-Quantum Signature Schemes สำหรับการตรวจสอบความถูกต้องของแพ็กเกจซอฟต์แวร์และใบรับรอง TLS ✅ RHEL Lightspeed เป็น AI ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการระบบผ่านคำสั่ง CLI ได้ง่ายขึ้น - ให้คำแนะนำแบบ Context-Aware และช่วยให้ผู้ดูแลระบบทำงานได้เร็วขึ้น ✅ Image Mode ช่วยให้สามารถคอนเทนเนอร์ระบบปฏิบัติการได้มากขึ้น - ลดความแตกต่างระหว่างเซิร์ฟเวอร์ และช่วยให้สามารถย้อนกลับไปยังเวอร์ชันก่อนหน้าได้ง่ายขึ้น ✅ RHEL 10 พร้อมให้ใช้งานผ่าน Red Hat Customer Portal และโปรแกรมสำหรับนักพัฒนา - นักพัฒนาสามารถ เข้าถึงซอฟต์แวร์, วิดีโอสอน และเอกสารประกอบได้ฟรี https://www.neowin.net/news/red-hat-enterprise-linux-10-arrives-with-quantum-security-and-ai-features/
    WWW.NEOWIN.NET
    Red Hat Enterprise Linux 10 arrives with quantum security and AI features
    Red Hat Enterprise Linux 10 is now available. It brings quantum security features, the RHEL Lightspeed AI tool, and image mode for more security.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัปดาห์แห่งการทัวร์กิน
    โชคดีมี #slash เป็นตัวช่วย

    Signature ต้อง “ไข่ข้นปู”
    วันนี้คืออร่อยทุกเมนู เพื่อนๆ ปลื้มมาก
    โออิชิ

    #หน่องริมคลอง
    #mitchelinguide
    #ไข่ข้นปู
    #แก๊งกิน
    
    สัปดาห์แห่งการทัวร์กิน 😋 โชคดีมี #slash เป็นตัวช่วย 😁 Signature ต้อง “ไข่ข้นปู” วันนี้คืออร่อยทุกเมนู เพื่อนๆ ปลื้มมาก โออิชิ 👍 #หน่องริมคลอง #mitchelinguide #ไข่ข้นปู #แก๊งกิน 
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิทย์ซินโครตรอนร่วมมือบริษัทเอกชนพัฒนายาสีฟันสมุนไพรป้องกันฟันผุ-ลดการเสียวฟัน

    นักวิทยาศาสตร์สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ร่วมมือบริษัทเอกชน พัฒนายาสีฟันสมุนไพรป้องกันผุ-ลดการเสียวฟัน โดยมีส่วนผสมของเปปไทด์จากข้าวไรซ์เบอร์รี่ ล่าสุดคว้า 2 เหรียญรางวัลจากงานแสดงนวัตกรรม ณ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ พร้อมรางวัลพิเศษจาก French Federation of Inventors

    นครราชสีมา - ดร.ศิริวรรณ ณะวงษ์ หัวหน้าส่วนวิจัยด้านอาหารและการเกษตร สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน กล่าวว่า “สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนได้มีส่วนร่วมกับ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด พัฒนายาสีฟันสมุนไพร 2 สูตร ได้แก่ ยาสีฟัน Nature’s Touch ที่เสริมสร้างเคลือบฟันและป้องกันฟันผุด้วยกรดอะมิโนและเปปไทด์จากรำข้าวไรซ์เบอร์รี่ และยาสีฟัน Hi-Herb ที่ป้องกันการเสียวฟันด้วยกรดอะมิโนและเปปไทด์จากรำข้าวไรซ์เบอร์รี่ โดยได้ใช้เทคนิคแสงซินโครตรอนศึกษาประสิทธิภาพของยาสีฟันทั้งสองสูตร”

    “ในการศึกษาประสิทธิภาพยาสีฟัน Nature’s Touch ที่เสริมสร้างเคลือบฟันและป้องกันฟันผุนั้น ทีมวิจัยได้ใช้เทคนิคอินฟราเรดสเปกโตรสโกปีจากแสงซินโครตรอนติดตามการทำงานของกรดอะมิโนและเปปไทด์ในการยึดติดกับฟันหลังจากการแปรงฟัน ส่วนการศึกษาประสิทธิภาพยาสีฟัน Hi-Herb ที่ป้องกันการเสียวฟันนั้น ทีมวิจัยใช้ 3 เทคนิคแสงซินโครตรอน ได้แก่ เทคนิคอินฟราเรดสเปกโตรสโกปี เทคนิคการกระเจิงรังสีเอกซ์ (SAXS/WAXS) และเทคนิคเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (XTM) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของยาสีฟันสูตรป้องกันการเสียวฟัน โดยติดตามการเรียงตัวของกรดอะมิโนและเปปไทด์ที่เข้าไปในรูฟันเพื่อช่วยป้องกันการเสียวฟัน”

    “งานวิจัยนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งของการใช้ประโยชน์แสงซินโครตรอนเพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งล่าสุดยังได้รับรางวัลจากประกวดภายในงาน The 50th Geneva International Exhibition of Inventions 2025 ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุม Palexpo นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ โดยยาสีฟันสูตรเสริมสร้างเคลือบฟันและป้องกันฟันผุได้รับเหรียญเงินจากการประกวดหลักภายในงาน และได้รับรางวัลพิเศษจากสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดย French Federation of Inventors และยาสีฟันสูตรป้องกันการเสียวฟันได้รับรางวัลเหรียญทองแดงจากการประกวดหลักภายในงาน นอกจากนี้ทั้งสองผลงานจากยังได้รับประกาศนียบัตรจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ซึ่งมีพิธีมอบภายในงานจัดแสดงนวัตกรรมที่สวิตเซอร์แลนด์ด้วย" ดร.ศิริวรรณ ณะวงษ์ กล่าวสรุป

    สำหรับผู้ประกอบการผู้สนใจในการใช้ประโยชน์แสงซินโครตรอนเพื่อส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ สามารถติดต่อได้ที่ ส่วนบริการอุตสาหกรรมและสังคม ฝ่ายยุทธศาสตร์องค์กร สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) โทร.08 9949 7313 หรือ อีเมล bds@slri.or.th
    นักวิทย์ซินโครตรอนร่วมมือบริษัทเอกชนพัฒนายาสีฟันสมุนไพรป้องกันฟันผุ-ลดการเสียวฟัน นักวิทยาศาสตร์สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ร่วมมือบริษัทเอกชน พัฒนายาสีฟันสมุนไพรป้องกันผุ-ลดการเสียวฟัน โดยมีส่วนผสมของเปปไทด์จากข้าวไรซ์เบอร์รี่ ล่าสุดคว้า 2 เหรียญรางวัลจากงานแสดงนวัตกรรม ณ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ พร้อมรางวัลพิเศษจาก French Federation of Inventors นครราชสีมา - ดร.ศิริวรรณ ณะวงษ์ หัวหน้าส่วนวิจัยด้านอาหารและการเกษตร สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน กล่าวว่า “สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนได้มีส่วนร่วมกับ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด พัฒนายาสีฟันสมุนไพร 2 สูตร ได้แก่ ยาสีฟัน Nature’s Touch ที่เสริมสร้างเคลือบฟันและป้องกันฟันผุด้วยกรดอะมิโนและเปปไทด์จากรำข้าวไรซ์เบอร์รี่ และยาสีฟัน Hi-Herb ที่ป้องกันการเสียวฟันด้วยกรดอะมิโนและเปปไทด์จากรำข้าวไรซ์เบอร์รี่ โดยได้ใช้เทคนิคแสงซินโครตรอนศึกษาประสิทธิภาพของยาสีฟันทั้งสองสูตร” “ในการศึกษาประสิทธิภาพยาสีฟัน Nature’s Touch ที่เสริมสร้างเคลือบฟันและป้องกันฟันผุนั้น ทีมวิจัยได้ใช้เทคนิคอินฟราเรดสเปกโตรสโกปีจากแสงซินโครตรอนติดตามการทำงานของกรดอะมิโนและเปปไทด์ในการยึดติดกับฟันหลังจากการแปรงฟัน ส่วนการศึกษาประสิทธิภาพยาสีฟัน Hi-Herb ที่ป้องกันการเสียวฟันนั้น ทีมวิจัยใช้ 3 เทคนิคแสงซินโครตรอน ได้แก่ เทคนิคอินฟราเรดสเปกโตรสโกปี เทคนิคการกระเจิงรังสีเอกซ์ (SAXS/WAXS) และเทคนิคเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (XTM) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของยาสีฟันสูตรป้องกันการเสียวฟัน โดยติดตามการเรียงตัวของกรดอะมิโนและเปปไทด์ที่เข้าไปในรูฟันเพื่อช่วยป้องกันการเสียวฟัน” “งานวิจัยนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งของการใช้ประโยชน์แสงซินโครตรอนเพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งล่าสุดยังได้รับรางวัลจากประกวดภายในงาน The 50th Geneva International Exhibition of Inventions 2025 ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุม Palexpo นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ โดยยาสีฟันสูตรเสริมสร้างเคลือบฟันและป้องกันฟันผุได้รับเหรียญเงินจากการประกวดหลักภายในงาน และได้รับรางวัลพิเศษจากสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดย French Federation of Inventors และยาสีฟันสูตรป้องกันการเสียวฟันได้รับรางวัลเหรียญทองแดงจากการประกวดหลักภายในงาน นอกจากนี้ทั้งสองผลงานจากยังได้รับประกาศนียบัตรจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ซึ่งมีพิธีมอบภายในงานจัดแสดงนวัตกรรมที่สวิตเซอร์แลนด์ด้วย" ดร.ศิริวรรณ ณะวงษ์ กล่าวสรุป สำหรับผู้ประกอบการผู้สนใจในการใช้ประโยชน์แสงซินโครตรอนเพื่อส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ สามารถติดต่อได้ที่ ส่วนบริการอุตสาหกรรมและสังคม ฝ่ายยุทธศาสตร์องค์กร สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) โทร.08 9949 7313 หรือ อีเมล bds@slri.or.th
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 338 มุมมอง 0 รีวิว
  • HOT STAR GIANT CHICKEN ไก่ทอดไต้หวันกลับมาแล้ว

    ย้อนกลับไปกว่า 10 ปีก่อน ไก่ทอดใหญ่ไซส์เท่าใบหน้าจากไต้หวัน ฮฮตสตาร์ (HOT STAR GIANT CHICKEN) เข้ามาทำการตลาดในประเทศไทย เปิดสาขาแรกที่ศูนย์การค้าดิเอ็มควอเทียร์ เมื่อปี 2557 โดยบริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด เจ้าของเดียวกับร้านบาร์บีคิวพลาซ่า หลังจากนั้นไม่นานก็อำลาวงการไป ด้วยราคาไก่ทอดไซส์ XXL ในขณะนั้นสูงถึงชิ้นละ 129 บาท แต่การกลับมาครั้งนี้ ภายใต้การดูแลของ บริษัท ฮอท สตาร์ ชิกเก้น (ประเทศไทย) จำกัด นอกจากจะเปิดสาขาแรกที่สยามสแควร์ ซอย 10 ตรงข้ามเตี๋ยวเรือท่าสยาม เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมาแล้ว ยังขายในราคาถูกลง ชิ้นละ 89 บาทเท่านั้น

    Newskit มีโอกาสมาเยือนร้านฮอตสตาร์สาขานี้ด้วยตัวเอง พบว่าตัวร้านจะอยู่ที่ชั้น 2 ต้องเดินขึ้นบันได โดยมีที่นั่งพร้อมปลั๊กไฟสำหรับนั่งทำงานหรือชาร์จโทรศัพท์มือถือ เมนูหลักของที่นี่คือไก่ทอดไซส์ XXL ราคา 89 บาท มีให้เลือก 6 รสชาติ ได้แก่ ออริจินอล ซึ่งมีความเผ็ดเล็กน้อย บาร์บีคิว เห็ดทัฟเฟิล ต้มยำ หมาล่า และซาวครีม แต่จะมีคอมโบเซตให้เลือกหลากหลาย เช่น คลาสสิกคอมโบ ไก่ทอดไซส์ XXL พร้อมน้ำอัดลมและเฟรนซ์ฟรายส์ไซส์ M ราคา 109 บาท นอกจากนี้ยังมีไก่ส่วนอื่นๆ ทั้ง Giant Leg, Giant Drum Stick, Giant Wing, Mini Wing 6 ชิ้น และเมนูอย่างข้าวหน้าไก่และสลัดไก่ Hot Star Signature

    ส่วนเมนูคอมโบเซต มีให้เลือกทั้งมินิคอมโบเซต ราคาเริ่มต้นที่ 69 บาท ชุดคอมโบสำหรับหลายคนตั้งแต่ Crunchy Combo สำหรับ 1 คน (นับตามจำนวนน้ำอัดลม) ราคา 269 บาท Family Combo สำหรับ 2 คน ราคา 279 บาท และ Party Combo สำหรับ 4 คน ราคา 499 บาท ลูกค้าสามารถสมัครสมาชิกผ่านคิวอาร์โค้ดของทางร้าน แจ้งเบอร์โทรเพื่อสะสมคะแนน โดยทุก 10 บาทได้ 1 คะแนน และทุก 50 คะแนน แลกส่วนลดท้ายบิล 5 บาท หากสะสม 5,000 คะแนนจะได้สถานะ Exclusive Member สามารถแลกรับเมนูต่างๆ ของทางร้านได้อีกด้วย

    ผู้ที่อยู่เบื้องหลังแบรนด์ฮอตสตาร์ในไทย คือ พญ.ศิโรรัตน์ อินทรปัญญา ซึ่งทำธุรกิจไก่ส่งออก ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนวัตถุดิบ และขายในราคาไม่ถึงหลักร้อยใกล้เคียงกับไต้หวัน สำหรับแผนขยายสาขานั้นมีการเปิดแฟรนไชส์ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่ไซส์ S แบบซุ้ม ไซส์ M แบบร้านนั่งรับประทานทั้ง Outdoor และ Indoor สำหรับห้างสรรพสินค้า และไซส์ L สำหรับอาคารพาณิชย์ 1 คูหา วางตำแหน่งเป็นสตรีทฟู้ดพรีเมียม ท่ามกลางการแข่งขันของร้านไก่ทอดที่มีมูลค่าตลาดสูงถึง 27,000 ล้านบาท มี KFC เป็นเจ้าตลาดกว่า 1,000 สาขา

    ร้านฮอตสตาร์ สาขาสยามสแควร์ ซอย 10 เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.

    #Newskit
    HOT STAR GIANT CHICKEN ไก่ทอดไต้หวันกลับมาแล้ว ย้อนกลับไปกว่า 10 ปีก่อน ไก่ทอดใหญ่ไซส์เท่าใบหน้าจากไต้หวัน ฮฮตสตาร์ (HOT STAR GIANT CHICKEN) เข้ามาทำการตลาดในประเทศไทย เปิดสาขาแรกที่ศูนย์การค้าดิเอ็มควอเทียร์ เมื่อปี 2557 โดยบริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด เจ้าของเดียวกับร้านบาร์บีคิวพลาซ่า หลังจากนั้นไม่นานก็อำลาวงการไป ด้วยราคาไก่ทอดไซส์ XXL ในขณะนั้นสูงถึงชิ้นละ 129 บาท แต่การกลับมาครั้งนี้ ภายใต้การดูแลของ บริษัท ฮอท สตาร์ ชิกเก้น (ประเทศไทย) จำกัด นอกจากจะเปิดสาขาแรกที่สยามสแควร์ ซอย 10 ตรงข้ามเตี๋ยวเรือท่าสยาม เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมาแล้ว ยังขายในราคาถูกลง ชิ้นละ 89 บาทเท่านั้น Newskit มีโอกาสมาเยือนร้านฮอตสตาร์สาขานี้ด้วยตัวเอง พบว่าตัวร้านจะอยู่ที่ชั้น 2 ต้องเดินขึ้นบันได โดยมีที่นั่งพร้อมปลั๊กไฟสำหรับนั่งทำงานหรือชาร์จโทรศัพท์มือถือ เมนูหลักของที่นี่คือไก่ทอดไซส์ XXL ราคา 89 บาท มีให้เลือก 6 รสชาติ ได้แก่ ออริจินอล ซึ่งมีความเผ็ดเล็กน้อย บาร์บีคิว เห็ดทัฟเฟิล ต้มยำ หมาล่า และซาวครีม แต่จะมีคอมโบเซตให้เลือกหลากหลาย เช่น คลาสสิกคอมโบ ไก่ทอดไซส์ XXL พร้อมน้ำอัดลมและเฟรนซ์ฟรายส์ไซส์ M ราคา 109 บาท นอกจากนี้ยังมีไก่ส่วนอื่นๆ ทั้ง Giant Leg, Giant Drum Stick, Giant Wing, Mini Wing 6 ชิ้น และเมนูอย่างข้าวหน้าไก่และสลัดไก่ Hot Star Signature ส่วนเมนูคอมโบเซต มีให้เลือกทั้งมินิคอมโบเซต ราคาเริ่มต้นที่ 69 บาท ชุดคอมโบสำหรับหลายคนตั้งแต่ Crunchy Combo สำหรับ 1 คน (นับตามจำนวนน้ำอัดลม) ราคา 269 บาท Family Combo สำหรับ 2 คน ราคา 279 บาท และ Party Combo สำหรับ 4 คน ราคา 499 บาท ลูกค้าสามารถสมัครสมาชิกผ่านคิวอาร์โค้ดของทางร้าน แจ้งเบอร์โทรเพื่อสะสมคะแนน โดยทุก 10 บาทได้ 1 คะแนน และทุก 50 คะแนน แลกส่วนลดท้ายบิล 5 บาท หากสะสม 5,000 คะแนนจะได้สถานะ Exclusive Member สามารถแลกรับเมนูต่างๆ ของทางร้านได้อีกด้วย ผู้ที่อยู่เบื้องหลังแบรนด์ฮอตสตาร์ในไทย คือ พญ.ศิโรรัตน์ อินทรปัญญา ซึ่งทำธุรกิจไก่ส่งออก ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนวัตถุดิบ และขายในราคาไม่ถึงหลักร้อยใกล้เคียงกับไต้หวัน สำหรับแผนขยายสาขานั้นมีการเปิดแฟรนไชส์ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่ไซส์ S แบบซุ้ม ไซส์ M แบบร้านนั่งรับประทานทั้ง Outdoor และ Indoor สำหรับห้างสรรพสินค้า และไซส์ L สำหรับอาคารพาณิชย์ 1 คูหา วางตำแหน่งเป็นสตรีทฟู้ดพรีเมียม ท่ามกลางการแข่งขันของร้านไก่ทอดที่มีมูลค่าตลาดสูงถึง 27,000 ล้านบาท มี KFC เป็นเจ้าตลาดกว่า 1,000 สาขา ร้านฮอตสตาร์ สาขาสยามสแควร์ ซอย 10 เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น. #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 555 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อมี #ถั่วลิสง #น้ำมันมะพร้าว #Mannature และ #น้ําผึ้งแท้ ก็ทำ #เนยถั่วลิสง สิค่ะ #หอม #มัน #ไม่หวาน #มีประโยชน์ 👍🏼
    #พอเพียง #พอกินพออยู่ #ทำตามพ่อสอน #ในหลวง #รัชกาลที่๙ #รัชกาลที่๑๐ #บันได๙ขั้น #เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ
    🤗 เมื่อมี #ถั่วลิสง #น้ำมันมะพร้าว #Mannature และ #น้ําผึ้งแท้ ก็ทำ #เนยถั่วลิสง สิค่ะ ✌️ #หอม #มัน #ไม่หวาน #มีประโยชน์ 👍🏼 #พอเพียง #พอกินพออยู่ #ทำตามพ่อสอน #ในหลวง #รัชกาลที่๙ #รัชกาลที่๑๐ #บันได๙ขั้น #เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 523 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานล่าสุดเผยว่า นักวิจัยชาวอเมริกันจำนวนมากกำลังพิจารณาย้ายไปทำงานในต่างประเทศ เนื่องจากการลดงบประมาณสนับสนุนงานวิจัยและการแทรกแซงทางการเมืองในสหรัฐฯ ตัวเลขจากแพลตฟอร์ม Nature Careers ระบุว่าในไตรมาสแรกของปี 2025 การสมัครงานในต่างประเทศจากนักวิจัยในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 32% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเฉพาะในยุโรปและเอเชียที่มีความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมาก

    การลดงบประมาณสนับสนุนงานวิจัย เช่น การยกเลิกทุนวิจัย HIV และ AIDS กว่า 200 โครงการ และการตัดงบประมาณ 400 ล้านดอลลาร์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในอาชีพของนักวิจัย นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยในยุโรป เช่น Aix-Marseille University ในฝรั่งเศส ได้เปิดตัวโครงการ Safe Place for Science เพื่อรองรับนักวิจัยที่ได้รับผลกระทบ

    การเพิ่มขึ้นของการย้ายถิ่น
    - การสมัครงานในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 32% ในไตรมาสแรกของปี 2025
    - ความสนใจในงานวิจัยในยุโรปและเอเชียเพิ่มขึ้นอย่างมาก

    ผลกระทบจากการลดงบประมาณ
    - การยกเลิกทุนวิจัย HIV และ AIDS กว่า 200 โครงการ
    - การตัดงบประมาณ 400 ล้านดอลลาร์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย

    การตอบสนองของยุโรป
    - Aix-Marseille University เปิดตัวโครงการ Safe Place for Science ด้วยงบประมาณ 15 ล้านยูโร
    - Max Planck Society ในเยอรมนีเปิดตัว Transatlantic Program เพื่อรองรับนักวิจัย

    ความสนใจในเอเชีย
    - ความสนใจในงานวิจัยในจีนเพิ่มขึ้น 30% ในการดูประกาศงาน

    https://www.techspot.com/news/107679-us-researchers-flee-overseas-funding-cuts-bite-politics.html
    รายงานล่าสุดเผยว่า นักวิจัยชาวอเมริกันจำนวนมากกำลังพิจารณาย้ายไปทำงานในต่างประเทศ เนื่องจากการลดงบประมาณสนับสนุนงานวิจัยและการแทรกแซงทางการเมืองในสหรัฐฯ ตัวเลขจากแพลตฟอร์ม Nature Careers ระบุว่าในไตรมาสแรกของปี 2025 การสมัครงานในต่างประเทศจากนักวิจัยในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 32% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเฉพาะในยุโรปและเอเชียที่มีความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมาก การลดงบประมาณสนับสนุนงานวิจัย เช่น การยกเลิกทุนวิจัย HIV และ AIDS กว่า 200 โครงการ และการตัดงบประมาณ 400 ล้านดอลลาร์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในอาชีพของนักวิจัย นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยในยุโรป เช่น Aix-Marseille University ในฝรั่งเศส ได้เปิดตัวโครงการ Safe Place for Science เพื่อรองรับนักวิจัยที่ได้รับผลกระทบ ✅ การเพิ่มขึ้นของการย้ายถิ่น - การสมัครงานในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 32% ในไตรมาสแรกของปี 2025 - ความสนใจในงานวิจัยในยุโรปและเอเชียเพิ่มขึ้นอย่างมาก ✅ ผลกระทบจากการลดงบประมาณ - การยกเลิกทุนวิจัย HIV และ AIDS กว่า 200 โครงการ - การตัดงบประมาณ 400 ล้านดอลลาร์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ✅ การตอบสนองของยุโรป - Aix-Marseille University เปิดตัวโครงการ Safe Place for Science ด้วยงบประมาณ 15 ล้านยูโร - Max Planck Society ในเยอรมนีเปิดตัว Transatlantic Program เพื่อรองรับนักวิจัย ✅ ความสนใจในเอเชีย - ความสนใจในงานวิจัยในจีนเพิ่มขึ้น 30% ในการดูประกาศงาน https://www.techspot.com/news/107679-us-researchers-flee-overseas-funding-cuts-bite-politics.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    US researchers flee overseas as funding cuts bite and politics intrudes
    The exodus is largely driven by abrupt federal funding withdrawals and project cancellations. Last month, over 200 grants supporting HIV and AIDS research were terminated. The National...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 329 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts