• โทรเลข "ลับ" มหาอำนาจ หลังศาลโลกตัดสินเรื่องเขาพระวิหาร
    ท่าทีสหรัฐ UN เขมร และรัฐบาลไทย


    จากความจริงในอดีตที่นำมาเปิดเผย เพื่อปลุกคนไทยที่หลงคิดเชื่อใจมหาอำนาจฟากฝั่งยุโรปว่าเขาจะเข้าข้างไทย เพราะความจริงในเวลานี้

    มีเพียงคนไทย ที่จะปกป้องแผ่นดินไทย

    ทำไม สหรัฐถึงจะเลือกข้างเขมรมากกว่าไทย (ซึ่งอาจดูไม่น่าใช่ แต่ลองอ่านเหตุผลต่อไปนี้)

    1. เขมรพร้อมให้ “สิทธิพิเศษ” ทางทหารมากกว่าไทย
    กัมพูชาเปิดทางให้จีนตั้งท่าเรือ Ream Naval Base (แต่สหรัฐต้องการเป็น “ผู้คานอำนาจ” ที่นั่น)
    - ถ้าสหรัฐ “เจรจาสำเร็จ” จะสามารถ:ควบคุมทะเลจีนใต้จากฝั่งตะวันตก
    - วางเครือข่ายข่าวกรอง SIGINT–ELINT ทั่วภูมิภาค
    - วางฐานโดรนหรือเครื่องบินสอดแนม UAV–RC135
    - ไทยแม้มีฐานทัพร่วม (Cobra Gold) แต่ ไม่อนุญาตให้ตั้งฐานถาวร หรือระบบควบคุมอิสระจากฝ่ายไทย
    “เขมรให้ได้ทั้งพื้นที่ ให้ได้ทั้งอำนาจควบคุมแบบไม่มีพันธะมากเท่าไทย”

    2. เขมรคือ “รัฐเล็กใช้ประโยชน์จากความขัดแย้ง” ระหว่างจีน–สหรัฐ
    - เขมรเล่นบท “รัฐสมดุล” อย่างแยบยล: เปิดฐานให้จีนก่อน (เพื่อให้สหรัฐกลัว)
    แล้วต่อรองกับสหรัฐ โดยเสนอ “สิทธิฐานอื่นเพื่อคานจีน”
    ใช้แผนนี้สร้าง อำนาจต่อรองสูงมากกับทั้งสองมหาอำนาจ

    ต่างจากไทยที่ “ยืนข้างสหรัฐมาตลอด” ที่วางตัวเป็นกลางไม่เปิดทางให้เปิดฐานถาวร — จึงกลายเป็นพันธมิตรแบบจำกัดบทบาท

    อเมริกาไม่ได้เลือกข้างประเทศที่ “ใหญ่มาก” แต่เลือกข้างประเทศที่ “ให้มาก”
    เขมรให้ “จุดยุทธศาสตร์” เพื่อแลก “การหนุนหลัง” — ซึ่งต่างจากไทยที่ต้องการวางตัวเป็นกลาง



    ข้าพเจ้าหวังว่าจากคลิปนี้จะทำให้ท่านหยุดคาดหวังและหยุดวางใจ ด้วยความเชื่อที่ว่าประเทศมหาอำนาจจะเลือกข้างไทย อย่าปล่อยให้ต่างชาติมาปกป้องบ้านตนเอง

    ไม่มีชนชาติใดจะปกป้องแผ่นดินไทย ได้ดีไปกว่าคนไทย
    โทรเลข "ลับ" มหาอำนาจ หลังศาลโลกตัดสินเรื่องเขาพระวิหาร ท่าทีสหรัฐ UN เขมร และรัฐบาลไทย จากความจริงในอดีตที่นำมาเปิดเผย เพื่อปลุกคนไทยที่หลงคิดเชื่อใจมหาอำนาจฟากฝั่งยุโรปว่าเขาจะเข้าข้างไทย เพราะความจริงในเวลานี้ มีเพียงคนไทย ที่จะปกป้องแผ่นดินไทย ทำไม สหรัฐถึงจะเลือกข้างเขมรมากกว่าไทย (ซึ่งอาจดูไม่น่าใช่ แต่ลองอ่านเหตุผลต่อไปนี้) 1. 🇺🇸 เขมรพร้อมให้ “สิทธิพิเศษ” ทางทหารมากกว่าไทย กัมพูชาเปิดทางให้จีนตั้งท่าเรือ Ream Naval Base (แต่สหรัฐต้องการเป็น “ผู้คานอำนาจ” ที่นั่น) - ถ้าสหรัฐ “เจรจาสำเร็จ” จะสามารถ:ควบคุมทะเลจีนใต้จากฝั่งตะวันตก - วางเครือข่ายข่าวกรอง SIGINT–ELINT ทั่วภูมิภาค - วางฐานโดรนหรือเครื่องบินสอดแนม UAV–RC135 - ไทยแม้มีฐานทัพร่วม (Cobra Gold) แต่ ไม่อนุญาตให้ตั้งฐานถาวร หรือระบบควบคุมอิสระจากฝ่ายไทย 📌 “เขมรให้ได้ทั้งพื้นที่ ให้ได้ทั้งอำนาจควบคุมแบบไม่มีพันธะมากเท่าไทย” 2. เขมรคือ “รัฐเล็กใช้ประโยชน์จากความขัดแย้ง” ระหว่างจีน–สหรัฐ - เขมรเล่นบท “รัฐสมดุล” อย่างแยบยล: เปิดฐานให้จีนก่อน (เพื่อให้สหรัฐกลัว) แล้วต่อรองกับสหรัฐ โดยเสนอ “สิทธิฐานอื่นเพื่อคานจีน” ใช้แผนนี้สร้าง อำนาจต่อรองสูงมากกับทั้งสองมหาอำนาจ ต่างจากไทยที่ “ยืนข้างสหรัฐมาตลอด” ที่วางตัวเป็นกลางไม่เปิดทางให้เปิดฐานถาวร — จึงกลายเป็นพันธมิตรแบบจำกัดบทบาท ❗ อเมริกาไม่ได้เลือกข้างประเทศที่ “ใหญ่มาก” แต่เลือกข้างประเทศที่ “ให้มาก” ❗ เขมรให้ “จุดยุทธศาสตร์” เพื่อแลก “การหนุนหลัง” — ซึ่งต่างจากไทยที่ต้องการวางตัวเป็นกลาง ข้าพเจ้าหวังว่าจากคลิปนี้จะทำให้ท่านหยุดคาดหวังและหยุดวางใจ ด้วยความเชื่อที่ว่าประเทศมหาอำนาจจะเลือกข้างไทย อย่าปล่อยให้ต่างชาติมาปกป้องบ้านตนเอง ไม่มีชนชาติใดจะปกป้องแผ่นดินไทย ได้ดีไปกว่าคนไทย
    0 Comments 0 Shares 26 Views 0 0 Reviews
  • Patriot เหรอ เข้ามาสิ!!

    กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแพร่ภาพการโจมตีด้วยโดรน Geran-2 จนเกิดระเบิดอย่างรุนแรง เป้าหมายคือครั้งนี้คือสถานีเรดาร์ของกองทัพยูเครนที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเชอร์นิกอฟ (Chernigov region)
    Patriot เหรอ เข้ามาสิ!! กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแพร่ภาพการโจมตีด้วยโดรน Geran-2 จนเกิดระเบิดอย่างรุนแรง เป้าหมายคือครั้งนี้คือสถานีเรดาร์ของกองทัพยูเครนที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเชอร์นิกอฟ (Chernigov region)
    0 Comments 0 Shares 36 Views 0 0 Reviews
  • ..ประชาชนดีหรือคนดีๆในสังคมไทยเราจะมีลักษณะนี้เกือบทุกๆคน,ซื่อสัตย์สุจริตแสวงหาไม่ฆ่าไม่ปล้นใครทำลายใครเพื่อดูแลชีวิตคนข้างหลังก็มาก,วัยรุ่น นักเรียนนักศึกษายุคต่างๆน่าจะซึ้ง หลายคนหาตังเล่าเรียนเองบวกกู้หนี้ยืมสินเล่าเรียนเพื่อได้ทำงานดีๆ,แต่ระบบอุปถัมภ์ในไทยและใต้โต๊ะซื้อซีซื้อตำแหน่งเด็กเส้นเด็กฝากเด็กมหาลัยกูมรึงรุ่นน้องใครมันรุ่นพี่ใครมรึงมากล้นเต็มระบบ,โอกาสคนอีก คลิปนี้บอกนัยยะอดีตผู้คนมากล้น อนาคตอาจกลับไปแบบนี้ทั้งประเทศก็ได้ อาทิภัยพิบัติธรรมชาติเต็มประเทศ น้ำท่วน แผ่นดินไหว ตึกถล่ม ลาวาใต้ดินตามรอยเลื่อนปะทุขึ้นมา ภาคเหนือไหลลงภาคกลาง อีสานบนไหลลงอีสานกลางสู่ใต้และตลอดแนวริมโขง,อาหารข้าปลาเสียหาย มีตังมากมายก็หาซื้อลำบากไม่ได้,ขาดแคลนไม่หมด ยิ่งน้ำสะอาดหลังภัยพิบัติอีกหรือขณะเจอแบบน้ำท่วม,ใครขุดอุโมงค์ใต้ดินก็ใช่จะรอด แผ่นดินไหวอาจบีดทำลายทางออกตายคาอุโมงค์ก็ได้ ระบบหายใจเสียหายขาดออกซิเจนไฟฟ้าไม่ทำงานแม้มีเครื่องช่วยหายใจก็ไม่รอดออกมาข้างบนไม่ได้ติดอุโมงค์นั้นล่ะ,แบบอุโมงค์รถไไฟ้าใต้ดินก็ด้วย,ปลอดภัยที่สุดอยู่ผิวดินถ้าไม่มีสงครามWWW3นิวเคลียร์นะ อาหารยิ่งอดอยากขาดแคลน1,000เท่า,ไม่รวมซอมบี้กลายพันธุ์จากวัคซีนโควิดอีก,วิกฤติยุโรปพังจากเจ้าสัวยุโรปเครือข่ายแม่ลูกมันก็โดนถึงเอเชียอาเชียนแล้ว,ตลาดการเงินพังแบบทรัมป์พังไม่มีตังจ่ายหนี้จึงรีดภาษีนำเข้าทั่วโลกไปจ่ายหนี้,
    ..จะต่างชาติแรงงานต่างด้าวหรือแรงงานไทย ทุกๆคนชาวบ้านไทบ้านที่ยากจนจะไม่มาค้าแรงงานเป็นทาสรับใช้ใครหรอก,เพราะโลกนี้ถูกออกแบบมาอย่างคนชั่วเลวต้องการปกครอง คนดีคนซื่อจะถูกทำให้มีสถานะแบบนี้หมด,เช่น มีบ่อน้ำมันเต็มประเทศ ก็ไม่บริหารจัดการทรัพยากรน้ำมันให้คนไทยร่ำรวยถ้วนหน้า พัฒนาคนพัฒนาทรัพยากรชาติมุ่งความสุขแก่คนในชาติตนแต่รัฐฐะในอดีตเลวชั่วกลับมุ่งประโยชน์มุ่งความสุขให้คนชาติอื่นแทนชาติไทยตนเอง,ทรัพยากรแบบน้ำมันแค่ขุดเจาะเอง ตั้งบริษัทใหม่รับผิดชอบแทน ปตท. ตั้งกระทรวงใหม่พอขุดเจาะเองและรองรับที่โมฆะสัญญาใดๆที่ตกลงกับอีกฝ่าย มันสามารถคืนความยุติธรรมแต่คนไทยได้หมดล่ะ,แต่เพราะผู้นำเรากากกระจอกอ่อนแอเกินไป คนไทยจึงลำบากยากเย็นยากจนเพิ่มขึ้นตลอดเวลา,บัตรคนจนก็บอกสถานะได้แล้วว่า คือบัตรคนจน และไม่ช่วยเหลืออะไรจริงห่าเหวเขาให้หยัดยืนพึ่งพาตนเองได้,ปล่อยวงเงินยืมแก่คนจนถือบัตรคนจนก็มีมั้ยให้เขานำไปประกอบอาชีพได้ เงินลงทุนปลูกผักสวนครัวขาย กัญชาเสรีส่งโรงพยาบาลเป็นต้น ไม่มีโครงการอะไรช่วยเหลือคนไทยจริงจังอะไรเลย,เลี้ยงพอกันตาย แต่มิให้เติบโตเพื่อปกครองง่าย,สไตล์วิถีปกครองที่เลวและล้มเหลว,ยุคนี้ ต้องวงเงินคนละ50,000บาทยืมได้เลยพร้อมในบัตร,กรอกวัตถุประสงค์การใช้ อนุมัติทันทีเขานำออกมาเตรียมวัตถุดิบอุปกรณ์ได้ค้าขายเลย,ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ผสมผสานพอเพียงก็ทำไป ขายของรถเข็ญก็ทำไป ซื้อผักผลไม้ทุเรียนขนุนมะพร้าวน้ำหอมผลไม้ปั่นชาไข่มุกก็ทำไป,จากนั้นอาจอัดวงเงินเพิ่มอีก10,000ฉุกเฉินให้เขายามจำเป็นได้,จากนั้นสามารถประเมอนผลงานได้ในอีก1-2ปีเสมือนวิจัยในตัว,แต่รัฐฐะกลับไม่ใส่ใจห่าอะไรเลย,จาก15ล้านคน คนละ10,000บาทก็ยังดีให้เขา ก็150,000ล้านบาทเอง,ทีจะช่วยเจ้าสัวนายทุนคนค้าส่วออกจากภาษีทรัมป์ยังจะช่วยพวกมันฟรีๆจากตังคลังหลวงชาติถึง200,000ล้านบาทเตรียมตังช่วยเหลือมันพะนะ,ตอนมันกำไรขึ้นท็อปเศรษฐี100อันดับแรก มันไม่เห็นส่งตังคืนเข้าคลังหลวงคืนประชาชนคนไทยจากภาษีที่จ่ายช่วยพวกมัน,ค่าล็อบบี้ยีสผีบ้านั้นอีกกว่า100ล้านบาทเสียไปฟรีๆนำมาช่วยปล่อยยืมให้คนถือบัตรคนจนอาจช่วยเหลือเขาได้หลายคนเลย,นี้คือการปกครองที่เป็นระบบปกครองที่พังและล้มเหลว.
    ..
    ..https://youtube.com/shorts/1Cr5nP5pkY0?si=GiMeKjXoH7vbhyUG
    ..ประชาชนดีหรือคนดีๆในสังคมไทยเราจะมีลักษณะนี้เกือบทุกๆคน,ซื่อสัตย์สุจริตแสวงหาไม่ฆ่าไม่ปล้นใครทำลายใครเพื่อดูแลชีวิตคนข้างหลังก็มาก,วัยรุ่น นักเรียนนักศึกษายุคต่างๆน่าจะซึ้ง หลายคนหาตังเล่าเรียนเองบวกกู้หนี้ยืมสินเล่าเรียนเพื่อได้ทำงานดีๆ,แต่ระบบอุปถัมภ์ในไทยและใต้โต๊ะซื้อซีซื้อตำแหน่งเด็กเส้นเด็กฝากเด็กมหาลัยกูมรึงรุ่นน้องใครมันรุ่นพี่ใครมรึงมากล้นเต็มระบบ,โอกาสคนอีก คลิปนี้บอกนัยยะอดีตผู้คนมากล้น อนาคตอาจกลับไปแบบนี้ทั้งประเทศก็ได้ อาทิภัยพิบัติธรรมชาติเต็มประเทศ น้ำท่วน แผ่นดินไหว ตึกถล่ม ลาวาใต้ดินตามรอยเลื่อนปะทุขึ้นมา ภาคเหนือไหลลงภาคกลาง อีสานบนไหลลงอีสานกลางสู่ใต้และตลอดแนวริมโขง,อาหารข้าปลาเสียหาย มีตังมากมายก็หาซื้อลำบากไม่ได้,ขาดแคลนไม่หมด ยิ่งน้ำสะอาดหลังภัยพิบัติอีกหรือขณะเจอแบบน้ำท่วม,ใครขุดอุโมงค์ใต้ดินก็ใช่จะรอด แผ่นดินไหวอาจบีดทำลายทางออกตายคาอุโมงค์ก็ได้ ระบบหายใจเสียหายขาดออกซิเจนไฟฟ้าไม่ทำงานแม้มีเครื่องช่วยหายใจก็ไม่รอดออกมาข้างบนไม่ได้ติดอุโมงค์นั้นล่ะ,แบบอุโมงค์รถไไฟ้าใต้ดินก็ด้วย,ปลอดภัยที่สุดอยู่ผิวดินถ้าไม่มีสงครามWWW3นิวเคลียร์นะ อาหารยิ่งอดอยากขาดแคลน1,000เท่า,ไม่รวมซอมบี้กลายพันธุ์จากวัคซีนโควิดอีก,วิกฤติยุโรปพังจากเจ้าสัวยุโรปเครือข่ายแม่ลูกมันก็โดนถึงเอเชียอาเชียนแล้ว,ตลาดการเงินพังแบบทรัมป์พังไม่มีตังจ่ายหนี้จึงรีดภาษีนำเข้าทั่วโลกไปจ่ายหนี้, ..จะต่างชาติแรงงานต่างด้าวหรือแรงงานไทย ทุกๆคนชาวบ้านไทบ้านที่ยากจนจะไม่มาค้าแรงงานเป็นทาสรับใช้ใครหรอก,เพราะโลกนี้ถูกออกแบบมาอย่างคนชั่วเลวต้องการปกครอง คนดีคนซื่อจะถูกทำให้มีสถานะแบบนี้หมด,เช่น มีบ่อน้ำมันเต็มประเทศ ก็ไม่บริหารจัดการทรัพยากรน้ำมันให้คนไทยร่ำรวยถ้วนหน้า พัฒนาคนพัฒนาทรัพยากรชาติมุ่งความสุขแก่คนในชาติตนแต่รัฐฐะในอดีตเลวชั่วกลับมุ่งประโยชน์มุ่งความสุขให้คนชาติอื่นแทนชาติไทยตนเอง,ทรัพยากรแบบน้ำมันแค่ขุดเจาะเอง ตั้งบริษัทใหม่รับผิดชอบแทน ปตท. ตั้งกระทรวงใหม่พอขุดเจาะเองและรองรับที่โมฆะสัญญาใดๆที่ตกลงกับอีกฝ่าย มันสามารถคืนความยุติธรรมแต่คนไทยได้หมดล่ะ,แต่เพราะผู้นำเรากากกระจอกอ่อนแอเกินไป คนไทยจึงลำบากยากเย็นยากจนเพิ่มขึ้นตลอดเวลา,บัตรคนจนก็บอกสถานะได้แล้วว่า คือบัตรคนจน และไม่ช่วยเหลืออะไรจริงห่าเหวเขาให้หยัดยืนพึ่งพาตนเองได้,ปล่อยวงเงินยืมแก่คนจนถือบัตรคนจนก็มีมั้ยให้เขานำไปประกอบอาชีพได้ เงินลงทุนปลูกผักสวนครัวขาย กัญชาเสรีส่งโรงพยาบาลเป็นต้น ไม่มีโครงการอะไรช่วยเหลือคนไทยจริงจังอะไรเลย,เลี้ยงพอกันตาย แต่มิให้เติบโตเพื่อปกครองง่าย,สไตล์วิถีปกครองที่เลวและล้มเหลว,ยุคนี้ ต้องวงเงินคนละ50,000บาทยืมได้เลยพร้อมในบัตร,กรอกวัตถุประสงค์การใช้ อนุมัติทันทีเขานำออกมาเตรียมวัตถุดิบอุปกรณ์ได้ค้าขายเลย,ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ผสมผสานพอเพียงก็ทำไป ขายของรถเข็ญก็ทำไป ซื้อผักผลไม้ทุเรียนขนุนมะพร้าวน้ำหอมผลไม้ปั่นชาไข่มุกก็ทำไป,จากนั้นอาจอัดวงเงินเพิ่มอีก10,000ฉุกเฉินให้เขายามจำเป็นได้,จากนั้นสามารถประเมอนผลงานได้ในอีก1-2ปีเสมือนวิจัยในตัว,แต่รัฐฐะกลับไม่ใส่ใจห่าอะไรเลย,จาก15ล้านคน คนละ10,000บาทก็ยังดีให้เขา ก็150,000ล้านบาทเอง,ทีจะช่วยเจ้าสัวนายทุนคนค้าส่วออกจากภาษีทรัมป์ยังจะช่วยพวกมันฟรีๆจากตังคลังหลวงชาติถึง200,000ล้านบาทเตรียมตังช่วยเหลือมันพะนะ,ตอนมันกำไรขึ้นท็อปเศรษฐี100อันดับแรก มันไม่เห็นส่งตังคืนเข้าคลังหลวงคืนประชาชนคนไทยจากภาษีที่จ่ายช่วยพวกมัน,ค่าล็อบบี้ยีสผีบ้านั้นอีกกว่า100ล้านบาทเสียไปฟรีๆนำมาช่วยปล่อยยืมให้คนถือบัตรคนจนอาจช่วยเหลือเขาได้หลายคนเลย,นี้คือการปกครองที่เป็นระบบปกครองที่พังและล้มเหลว. .. ..https://youtube.com/shorts/1Cr5nP5pkY0?si=GiMeKjXoH7vbhyUG
    0 Comments 0 Shares 78 Views 0 Reviews
  • รวมลิงค์คลิป ศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณ
    ศ.นพ.ดร. วิชัย เอกทักษิณ ให้ข้อมูลเรื่อง COVID 19 may harm central nervous system
    ตอน 1 https://youtu.be/xgOt1Cm2kIM?si=ZUvn6C9ClncDCwr0
    ตอน 2 https://youtu.be/22CH3BFYtnk?si=a0ZRxVg5C_fszxq_
    ตอน 3 https://youtu.be/QukeNhiziyY?si=Mcujg3I07sRIwhLP
    ไตเสื่อม มิได้มาจากการกินเค็ม แต่มาจากการกินไขมันสัตว์และโปรตีนสัตว์ ต่างหาก
    https://youtu.be/5Yuh9bwgQ08?si=rFqJ4b5WmjRTg7eU
    โรคไตไม่ได้มาจากการกินเค็ม
    https://youtu.be/KMY2v8P1fHA?si=CVDpV4xa0ah0isL5
    กินเจ มังสวิรัติ วีแกน ร่างกายเป็นด่าง ลดความรุนแรงในการติดเชื้อโควิด19 ได้ 73% (เชื้อติดแล้วหลุด)
    https://youtu.be/Ea8w4xOZt9c?si=nKTWwIW6WA_49Hcy
    นมวัว ฟัวกราส์ วากิว ทำมาจากอะไรกันแน่ ?
    https://youtu.be/hLIryvjkUlM?si=Sy-HW-S6ZpWa1e9j
    อ วิชัย บรรยาย เจ - มังสวิรัติ สถานธรรมหงเจิ้ง 21 สค 59
    ตอน 1 https://www.youtube.com/watch?v=pq6ERkBu8f8...
    ตอน 2 https://youtu.be/pdggereRIuE?si=yoBSYMqTLJSBS6FZ
    ตอน 3 https://youtu.be/ZlzCGgNCSNE?si=uLkXcLm3B0S6hPpC
    นพ. วิชัย เอกทักษิณ บรรยายมังสวิรัติ งานวิทยาศาสตร์ทางจิต ณ พุทธวิชชาลัย
    https://www.youtube.com/watch?v=F6gtGh2wKs0...
    โรคนำ้เหลืองเสีย ผื่นคัน สะเก็ดเงิน และ ข้ออักเสบ 1
    https://youtu.be/HGIQ8i-l2EY?si=jKtVLkZ2VlexbeI1
    สะโพกใหญ่เพราะน้ำเหลืองเสีย
    https://youtu.be/hk-8lw5B5iQ?si=UL8k_naBKDc0-XXp
    เวชศาสตร์อาหารแสลง ตอนแสลงหมู หมูข้อเท้า ข้อเท้าบวม
    https://youtu.be/MU_LQFQhH_A?si=Fd3LIW9-SrG0nc6S
    ภาระกิจพิชิตมะเร็ง 18 ธันวาคม 2557
    https://youtu.be/8dkv_d5hl_M?si=kuXhUFpcBHOMJXOB
    ชีวรักษ์ 7 สค. 57 หมอวิชัย โรคบวมน้ำเหลืองและอาหารแสลง
    https://youtu.be/PrHzn31cE1c?si=juo42o73GcnEYG53
    ป้าแจ้ ขันชะเนาะ โรคบวมน้ำเหลือง
    https://youtu.be/clOabsxpCT0?si=Z39XZ9_nlBP2qJLo
    ชีวรักษ์ 4 กย 57 เวชศาสตร์อาหารแสลง ตอนแสลงหมู หมูลงน่อง หมูน่องอวบ
    https://youtu.be/hBpBue7GGn8?si=n9Jd6fha1k-Zzj0b
    ชีวรักษ์ 28 สค.57 หมอวิชัย โรคบวมน้ำเหลืองและอาหารแสลง
    https://youtu.be/xgFjBrhaUgY?si=QxrUp_wJT4U9UMol
    การประชุมมังสวิรัติแห่งอุษาคเนย์ ตอน 9 มังสวิรัติเพื่อสุขภาพแลศันติ
    https://youtu.be/qUG-SwqSFxo?si=GjqX3J7LFuZqDqTA
    เรื่องจริงผ่านจอ นพ.วิชัย กำเนิดขันชะเนาะ
    https://youtu.be/Q3bLzXUDbfM?si=GtIGOqNbXxmP0PYk
    บรรยายการรักษาโรคบวมน้ำเหลืองวิธีขันชะเนาะลดบวม งานประชุมสมาคมมะเร็งนรีเวช
    https://youtu.be/Z0h1jYIXjCM?si=HCbP54EN0JaN3IYj
    บรรยายมังสวิรัติ งานวิทยาศาสตร์ทางจิต ณ พุทธวิชชาลัย
    https://youtu.be/F6gtGh2wKs0?si=jYmiotQHi4YI8yRI

    ทำไม เนื้อสัตว์ ไข่ นมสัตว์ จึงเป็นอาหารแสลงก่อโรค?
    https://youtu.be/w-M-X-HVoBA?si=aCygPgjZL9KQP0sG
    (ตอน 4) ความเป็นกรด acidosis - คนกินเนื้อสัตว์ - COVID 19
    https://youtu.be/Qd_SnDARnpo?si=u5ZvC19JVuUxmU1U
    ชีวรักษ์ 14 สค. 57 หมอวิชัย โรคบวมน้ำเหลืองและอาหารแสลง
    https://youtu.be/76VCwuRdEfI?si=uTSjgaAgBHaWtfmz
    NATURAL SELECTION โรคไวรัสโควิด 19 CORONAVIRUS เป็นโรคของคนชอบฆ่าสัตว์ กินสัตว์ CARNIVOROUS
    ตอน 1 https://youtu.be/xNQxZlvT1Vk?si=w0R6qy0KSRz9WMHR
    ตอน 2 https://youtu.be/C5VVdX1KunI?si=Cn-porqTqLKNFyCm
    ตอน 3 https://youtu.be/xrQjjNN4lNA?si=nNbUhrn-XcnPumMu
    ตอน 4 https://youtu.be/TADeZGmFYvs?si=uoQljBTwfatdXE1f
    หยุดทุกโรคจากระบบน้ำเหลืองเสีย ด้วยศาสตร์ ภูษาบำบัด
    https://youtu.be/gBbrb7If7sI?si=9awfuDpf_KYYKIiN
    นพ.วิชัย ขันชะเนาะ โรคบวมน้ำเหลือง
    https://youtu.be/VFCqiOYhQ9Y?si=O4Hsdx7hT9yF1gre

    โรคเบาหวาน...วิธีลดค่าเอวันซี ค่าน้ำตาลสะสมและสะเก็ดเงิน
    https://youtu.be/TKvEiA5NsT8?si=p7SNSaA1SgBHnAeA
    บันทึกไทย Thailand Book of Records ตอนที่ 60 แพทย์ผู้รักษาโรคบวมน้ำเหลืองด้วยการขันชะเนาะรายแรก
    https://youtu.be/1S-CIFtUoSM?si=MMdwmkKEifWEmDLm
    แพทย์ผู้รักษาโรคบวมน้ำเหลืองด้วยการใช้ภูษาบำบัดรายแรกของโลก
    https://youtu.be/I_jDUqXmwMk?si=zEGdWTVjYaj0Bv4L

    บันทึกไทย Thailand Book of Records ตอนที่ 61 แพทย์ผู้รักษาโรคบวมน้ำเหลืองด้วยการใชภูษาบำบัดรายแรก2
    https://youtu.be/GzV_hRGzVyU?si=KIQgUVvbuDxU2k51

    https://youtu.be/83Dh62T40QI?si=uhsQCHhZ8WtCUPPg
    บ้านอาศรมเวชศาสตร์อาหารแสลง ศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณ11 ก.พ.2563
    https://youtu.be/rcSc77nfxnU?si=57PkZmrFGPrau2D8
    ธรรมชาติของมนุษย์ (สัตว์ประเสริฐ) เป็นสัตว์กินพืช
    https://youtu.be/R3jACdHPf04?si=OINPnm0_kcKFKfW1
    กลไกการสังเคราะห์ Cholesterol ในตับ
    https://youtu.be/6JDNTrEz6hg?si=aUXEDlDBYgB0-j8L
    สายตรงสุขภาพ ช่วงที่3 ถามตอบ โรคบวมน้ำเหลือง,เมื่อลูกปวดท้องเฉียบพลัน
    https://youtu.be/VhDBc67p4Z0?si=jqejw2waHkXXX091
    ฟื้นฟูโรคไฟลามทุ่งได้อย่างไร - เวชศาสตร์อาหารแสลง
    https://youtu.be/dkYvnGdwLwk?si=ivovbC6nQwKJsK8n
    หมอวิชัย สาธิตขันชเนาะเส้นขอด
    https://youtu.be/pHjzPOSfkmU?si=WCk-5uB63VWAwmv8
    วิธีสวมถุงน่องน้ำเหลือง
    https://youtu.be/GRokHilf7BE?si=HKXHkeqEHFNTjrOS
    สายตรงสุขภาพ โทษ-พิษภัย-ของอาหารแสลง ช่วงที่1 31/07/2016
    https://youtu.be/gJ5mUdgnJME?si=oOs5Iq3SlJzCnJg6
    สายตรงสุขภาพ ช่วงที่1 โทษ-พิษภัย-ของอาหารเเสลง
    https://youtu.be/fJCf-JDn3I8?si=t2o392PwTMy35Rsl
    อาการขาบวมจากแสลงหมู (cellulitis แบบ phlegmon)
    https://youtu.be/aEgXVrxK41Q?si=FB8i9_SlR8g4RZB7
    ชีวรักษ์ 8 พค. 57 หมอวิชัย มังสวิรัติ อาหารเพื่อสุขภาวะและศันติ
    https://youtu.be/AzWixSKWhMc?si=G_T_R06lS4dXNBK6
    มะเร็ง,ชีวรักษ์,8พค.57,หมอวิชัย,มังสวิรัติ,อาหารเพื่อสุขภาวะและศันติ
    https://youtu.be/2aLXIulHJls?si=VzDqINtWXd8guthA
    คลิปว่าด้วยเรื่องไข่มีโปรตีนสูงจริงหรือไม่
    ศ.ดร.นพ.วิชัน เอกทักษิณ สายมังสวิรัติ
    https://www.facebook.com/share/p/16Xgr6NxeC/
    เป็นต้น
    รวมลิงค์คลิป ศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณ ✍️ศ.นพ.ดร. วิชัย เอกทักษิณ ให้ข้อมูลเรื่อง COVID 19 may harm central nervous system ตอน 1 https://youtu.be/xgOt1Cm2kIM?si=ZUvn6C9ClncDCwr0 ตอน 2 https://youtu.be/22CH3BFYtnk?si=a0ZRxVg5C_fszxq_ ตอน 3 https://youtu.be/QukeNhiziyY?si=Mcujg3I07sRIwhLP ✍️ไตเสื่อม มิได้มาจากการกินเค็ม แต่มาจากการกินไขมันสัตว์และโปรตีนสัตว์ ต่างหาก https://youtu.be/5Yuh9bwgQ08?si=rFqJ4b5WmjRTg7eU ✍️โรคไตไม่ได้มาจากการกินเค็ม https://youtu.be/KMY2v8P1fHA?si=CVDpV4xa0ah0isL5 ✍️กินเจ มังสวิรัติ วีแกน ร่างกายเป็นด่าง ลดความรุนแรงในการติดเชื้อโควิด19 ได้ 73% (เชื้อติดแล้วหลุด) https://youtu.be/Ea8w4xOZt9c?si=nKTWwIW6WA_49Hcy ✍️นมวัว ฟัวกราส์ วากิว ทำมาจากอะไรกันแน่ ? https://youtu.be/hLIryvjkUlM?si=Sy-HW-S6ZpWa1e9j ✍️อ วิชัย บรรยาย เจ - มังสวิรัติ สถานธรรมหงเจิ้ง 21 สค 59 ตอน 1 https://www.youtube.com/watch?v=pq6ERkBu8f8... ตอน 2 https://youtu.be/pdggereRIuE?si=yoBSYMqTLJSBS6FZ ตอน 3 https://youtu.be/ZlzCGgNCSNE?si=uLkXcLm3B0S6hPpC ✍️นพ. วิชัย เอกทักษิณ บรรยายมังสวิรัติ งานวิทยาศาสตร์ทางจิต ณ พุทธวิชชาลัย https://www.youtube.com/watch?v=F6gtGh2wKs0... ✍️โรคนำ้เหลืองเสีย ผื่นคัน สะเก็ดเงิน และ ข้ออักเสบ 1 https://youtu.be/HGIQ8i-l2EY?si=jKtVLkZ2VlexbeI1 ✍️สะโพกใหญ่เพราะน้ำเหลืองเสีย https://youtu.be/hk-8lw5B5iQ?si=UL8k_naBKDc0-XXp ✍️เวชศาสตร์อาหารแสลง ตอนแสลงหมู หมูข้อเท้า ข้อเท้าบวม https://youtu.be/MU_LQFQhH_A?si=Fd3LIW9-SrG0nc6S ✍️ภาระกิจพิชิตมะเร็ง 18 ธันวาคม 2557 https://youtu.be/8dkv_d5hl_M?si=kuXhUFpcBHOMJXOB ✍️ชีวรักษ์ 7 สค. 57 หมอวิชัย โรคบวมน้ำเหลืองและอาหารแสลง https://youtu.be/PrHzn31cE1c?si=juo42o73GcnEYG53 ✍️ป้าแจ้ ขันชะเนาะ โรคบวมน้ำเหลือง https://youtu.be/clOabsxpCT0?si=Z39XZ9_nlBP2qJLo ✍️ชีวรักษ์ 4 กย 57 เวชศาสตร์อาหารแสลง ตอนแสลงหมู หมูลงน่อง หมูน่องอวบ https://youtu.be/hBpBue7GGn8?si=n9Jd6fha1k-Zzj0b ✍️ชีวรักษ์ 28 สค.57 หมอวิชัย โรคบวมน้ำเหลืองและอาหารแสลง https://youtu.be/xgFjBrhaUgY?si=QxrUp_wJT4U9UMol ✍️การประชุมมังสวิรัติแห่งอุษาคเนย์ ตอน 9 มังสวิรัติเพื่อสุขภาพแลศันติ https://youtu.be/qUG-SwqSFxo?si=GjqX3J7LFuZqDqTA ✍️เรื่องจริงผ่านจอ นพ.วิชัย กำเนิดขันชะเนาะ https://youtu.be/Q3bLzXUDbfM?si=GtIGOqNbXxmP0PYk ✍️บรรยายการรักษาโรคบวมน้ำเหลืองวิธีขันชะเนาะลดบวม งานประชุมสมาคมมะเร็งนรีเวช https://youtu.be/Z0h1jYIXjCM?si=HCbP54EN0JaN3IYj ✍️บรรยายมังสวิรัติ งานวิทยาศาสตร์ทางจิต ณ พุทธวิชชาลัย https://youtu.be/F6gtGh2wKs0?si=jYmiotQHi4YI8yRI ✍️ ทำไม เนื้อสัตว์ ไข่ นมสัตว์ จึงเป็นอาหารแสลงก่อโรค? https://youtu.be/w-M-X-HVoBA?si=aCygPgjZL9KQP0sG ✍️(ตอน 4) ความเป็นกรด acidosis - คนกินเนื้อสัตว์ - COVID 19 https://youtu.be/Qd_SnDARnpo?si=u5ZvC19JVuUxmU1U ✍️ชีวรักษ์ 14 สค. 57 หมอวิชัย โรคบวมน้ำเหลืองและอาหารแสลง https://youtu.be/76VCwuRdEfI?si=uTSjgaAgBHaWtfmz ✍️NATURAL SELECTION โรคไวรัสโควิด 19 CORONAVIRUS เป็นโรคของคนชอบฆ่าสัตว์ กินสัตว์ CARNIVOROUS ตอน 1 https://youtu.be/xNQxZlvT1Vk?si=w0R6qy0KSRz9WMHR ตอน 2 https://youtu.be/C5VVdX1KunI?si=Cn-porqTqLKNFyCm ตอน 3 https://youtu.be/xrQjjNN4lNA?si=nNbUhrn-XcnPumMu ตอน 4 https://youtu.be/TADeZGmFYvs?si=uoQljBTwfatdXE1f ✍️หยุดทุกโรคจากระบบน้ำเหลืองเสีย ด้วยศาสตร์ ภูษาบำบัด https://youtu.be/gBbrb7If7sI?si=9awfuDpf_KYYKIiN ✍️นพ.วิชัย ขันชะเนาะ โรคบวมน้ำเหลือง https://youtu.be/VFCqiOYhQ9Y?si=O4Hsdx7hT9yF1gre ✍️ โรคเบาหวาน...วิธีลดค่าเอวันซี ค่าน้ำตาลสะสมและสะเก็ดเงิน https://youtu.be/TKvEiA5NsT8?si=p7SNSaA1SgBHnAeA ✍️บันทึกไทย Thailand Book of Records ตอนที่ 60 แพทย์ผู้รักษาโรคบวมน้ำเหลืองด้วยการขันชะเนาะรายแรก https://youtu.be/1S-CIFtUoSM?si=MMdwmkKEifWEmDLm ✍️แพทย์ผู้รักษาโรคบวมน้ำเหลืองด้วยการใช้ภูษาบำบัดรายแรกของโลก https://youtu.be/I_jDUqXmwMk?si=zEGdWTVjYaj0Bv4L ✍️ บันทึกไทย Thailand Book of Records ตอนที่ 61 แพทย์ผู้รักษาโรคบวมน้ำเหลืองด้วยการใชภูษาบำบัดรายแรก2 https://youtu.be/GzV_hRGzVyU?si=KIQgUVvbuDxU2k51 ✍️ https://youtu.be/83Dh62T40QI?si=uhsQCHhZ8WtCUPPg ✍️บ้านอาศรมเวชศาสตร์อาหารแสลง ศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณ11 ก.พ.2563 https://youtu.be/rcSc77nfxnU?si=57PkZmrFGPrau2D8 ✍️ธรรมชาติของมนุษย์ (สัตว์ประเสริฐ) เป็นสัตว์กินพืช https://youtu.be/R3jACdHPf04?si=OINPnm0_kcKFKfW1 ✍️กลไกการสังเคราะห์ Cholesterol ในตับ https://youtu.be/6JDNTrEz6hg?si=aUXEDlDBYgB0-j8L ✍️สายตรงสุขภาพ ช่วงที่3 ถามตอบ โรคบวมน้ำเหลือง,เมื่อลูกปวดท้องเฉียบพลัน https://youtu.be/VhDBc67p4Z0?si=jqejw2waHkXXX091 ✍️ฟื้นฟูโรคไฟลามทุ่งได้อย่างไร - เวชศาสตร์อาหารแสลง https://youtu.be/dkYvnGdwLwk?si=ivovbC6nQwKJsK8n ✍️หมอวิชัย สาธิตขันชเนาะเส้นขอด https://youtu.be/pHjzPOSfkmU?si=WCk-5uB63VWAwmv8 ✍️วิธีสวมถุงน่องน้ำเหลือง https://youtu.be/GRokHilf7BE?si=HKXHkeqEHFNTjrOS ✍️สายตรงสุขภาพ โทษ-พิษภัย-ของอาหารแสลง ช่วงที่1 31/07/2016 https://youtu.be/gJ5mUdgnJME?si=oOs5Iq3SlJzCnJg6 ✍️สายตรงสุขภาพ ช่วงที่1 โทษ-พิษภัย-ของอาหารเเสลง https://youtu.be/fJCf-JDn3I8?si=t2o392PwTMy35Rsl ✍️อาการขาบวมจากแสลงหมู (cellulitis แบบ phlegmon) https://youtu.be/aEgXVrxK41Q?si=FB8i9_SlR8g4RZB7 ✍️ชีวรักษ์ 8 พค. 57 หมอวิชัย มังสวิรัติ อาหารเพื่อสุขภาวะและศันติ https://youtu.be/AzWixSKWhMc?si=G_T_R06lS4dXNBK6 ✍️มะเร็ง,ชีวรักษ์,8พค.57,หมอวิชัย,มังสวิรัติ,อาหารเพื่อสุขภาวะและศันติ https://youtu.be/2aLXIulHJls?si=VzDqINtWXd8guthA ✍️คลิปว่าด้วยเรื่องไข่มีโปรตีนสูงจริงหรือไม่ ศ.ดร.นพ.วิชัน เอกทักษิณ สายมังสวิรัติ https://www.facebook.com/share/p/16Xgr6NxeC/ เป็นต้น
    0 Comments 0 Shares 97 Views 0 Reviews
  • Google รวม Chrome OS กับ Android – สร้างระบบเดียวที่ใช้ได้ทุกอุปกรณ์

    Google ยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า Chrome OS และ Android จะถูกรวมเข้าด้วยกันเป็นแพลตฟอร์มเดียว โดย Sameer Samat ประธานฝ่าย Android ecosystem ได้เปิดเผยแผนนี้ระหว่างการสัมภาษณ์กับ TechRadar ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทพูดถึงเรื่องนี้อย่างเปิดเผย

    เป้าหมายของการรวมระบบคือ:
    - ลดความซับซ้อนในการพัฒนาแอปและฟีเจอร์ใหม่
    - สร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ไร้รอยต่อระหว่างอุปกรณ์
    - แข่งขันกับระบบนิเวศของ Apple ที่เชื่อมโยงอุปกรณ์ได้แน่นหนา

    ก่อนหน้านี้ นักพัฒนาต้องปรับแต่งแอปให้ทำงานได้ทั้งบน Android และ Chrome OS แยกกัน ซึ่งใช้เวลามากและซับซ้อน แต่การรวมระบบจะช่วยให้การพัฒนาเร็วขึ้น และผู้ใช้ได้รับฟีเจอร์ใหม่พร้อมกันทุกอุปกรณ์

    Android เองก็มีการปรับปรุงให้รองรับหน้าจอขนาดใหญ่มากขึ้น เช่น การจัดการหน้าต่างที่ดีขึ้น และการปรับตัวของแอปให้เหมาะกับอุปกรณ์หลากหลาย

    แม้ยังไม่มีรายละเอียดเชิงเทคนิคหรือวันเปิดตัว แต่การประกาศนี้สะท้อนว่า Google กำลังมุ่งสู่การสร้าง “ระบบปฏิบัติการเดียวเพื่อทุกอุปกรณ์” อย่างจริงจัง

    ข้อมูลจากข่าว
    - Google ยืนยันว่าจะรวม Chrome OS เข้ากับ Android เป็นแพลตฟอร์มเดียว
    - Sameer Samat เปิดเผยแผนนี้ในการสัมภาษณ์กับ TechRadar
    - เป้าหมายคือสร้างระบบที่ทำงานได้ไร้รอยต่อบนโทรศัพท์ แล็ปท็อป และแท็บเล็ต
    - ลดความซับซ้อนในการพัฒนาแอปและฟีเจอร์ใหม่
    - Android มีการปรับปรุงให้รองรับหน้าจอใหญ่ เช่น window management และ app adaptability
    - การรวมระบบจะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับฟีเจอร์ใหม่พร้อมกันทุกอุปกรณ์
    - เป็นการตอบโต้ ecosystem ของ Apple ที่เชื่อมโยงอุปกรณ์ได้แน่นหนา

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - ยังไม่มีรายละเอียดเชิงเทคนิคหรือวันเปิดตัวที่แน่ชัด
    - ผู้ใช้ Chromebook อาจกังวลเรื่องการอัปเดตและการเปลี่ยนแปลงระบบ
    - การรวมระบบอาจทำให้เกิดปัญหาความเข้ากันได้กับแอปหรืออุปกรณ์บางรุ่น
    - นักพัฒนาอาจต้องปรับตัวกับเครื่องมือใหม่และแนวทางการพัฒนาแบบรวม
    - หากการรวมระบบไม่ราบรื่น อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ใช้และนักพัฒนา

    https://wccftech.com/google-is-merging-chrome-os-with-android-to-create-one-seamless-platform-that-works-across-phones-laptops-and-tablets-say-goodbye-to-multiple-devices/
    Google รวม Chrome OS กับ Android – สร้างระบบเดียวที่ใช้ได้ทุกอุปกรณ์ Google ยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า Chrome OS และ Android จะถูกรวมเข้าด้วยกันเป็นแพลตฟอร์มเดียว โดย Sameer Samat ประธานฝ่าย Android ecosystem ได้เปิดเผยแผนนี้ระหว่างการสัมภาษณ์กับ TechRadar ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทพูดถึงเรื่องนี้อย่างเปิดเผย เป้าหมายของการรวมระบบคือ: - ลดความซับซ้อนในการพัฒนาแอปและฟีเจอร์ใหม่ - สร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ไร้รอยต่อระหว่างอุปกรณ์ - แข่งขันกับระบบนิเวศของ Apple ที่เชื่อมโยงอุปกรณ์ได้แน่นหนา ก่อนหน้านี้ นักพัฒนาต้องปรับแต่งแอปให้ทำงานได้ทั้งบน Android และ Chrome OS แยกกัน ซึ่งใช้เวลามากและซับซ้อน แต่การรวมระบบจะช่วยให้การพัฒนาเร็วขึ้น และผู้ใช้ได้รับฟีเจอร์ใหม่พร้อมกันทุกอุปกรณ์ Android เองก็มีการปรับปรุงให้รองรับหน้าจอขนาดใหญ่มากขึ้น เช่น การจัดการหน้าต่างที่ดีขึ้น และการปรับตัวของแอปให้เหมาะกับอุปกรณ์หลากหลาย แม้ยังไม่มีรายละเอียดเชิงเทคนิคหรือวันเปิดตัว แต่การประกาศนี้สะท้อนว่า Google กำลังมุ่งสู่การสร้าง “ระบบปฏิบัติการเดียวเพื่อทุกอุปกรณ์” อย่างจริงจัง ✅ ข้อมูลจากข่าว - Google ยืนยันว่าจะรวม Chrome OS เข้ากับ Android เป็นแพลตฟอร์มเดียว - Sameer Samat เปิดเผยแผนนี้ในการสัมภาษณ์กับ TechRadar - เป้าหมายคือสร้างระบบที่ทำงานได้ไร้รอยต่อบนโทรศัพท์ แล็ปท็อป และแท็บเล็ต - ลดความซับซ้อนในการพัฒนาแอปและฟีเจอร์ใหม่ - Android มีการปรับปรุงให้รองรับหน้าจอใหญ่ เช่น window management และ app adaptability - การรวมระบบจะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับฟีเจอร์ใหม่พร้อมกันทุกอุปกรณ์ - เป็นการตอบโต้ ecosystem ของ Apple ที่เชื่อมโยงอุปกรณ์ได้แน่นหนา ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - ยังไม่มีรายละเอียดเชิงเทคนิคหรือวันเปิดตัวที่แน่ชัด - ผู้ใช้ Chromebook อาจกังวลเรื่องการอัปเดตและการเปลี่ยนแปลงระบบ - การรวมระบบอาจทำให้เกิดปัญหาความเข้ากันได้กับแอปหรืออุปกรณ์บางรุ่น - นักพัฒนาอาจต้องปรับตัวกับเครื่องมือใหม่และแนวทางการพัฒนาแบบรวม - หากการรวมระบบไม่ราบรื่น อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ใช้และนักพัฒนา https://wccftech.com/google-is-merging-chrome-os-with-android-to-create-one-seamless-platform-that-works-across-phones-laptops-and-tablets-say-goodbye-to-multiple-devices/
    WCCFTECH.COM
    Google Is Merging Chrome OS With Android To Create One Seamless Platform That Works Across Phones, Laptops, And Tablets - Say Goodbye To Multiple Devices
    Google has confirmed in a conversation recently about its plan to consolidate Chrome OS and Android into a single platform
    0 Comments 0 Shares 78 Views 0 Reviews
  • VPN ฟรีที่ไม่ฟรี – มัลแวร์ขโมยข้อมูลแฝงใน GitHub

    นักวิจัยจาก Cyfirma พบแคมเปญมัลแวร์ใหม่ที่ใช้ GitHub เป็นช่องทางเผยแพร่ โดยปลอมตัวเป็นเครื่องมือยอดนิยม เช่น “Free VPN for PC” และ “Minecraft Skin Changer” เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดไฟล์ ZIP ที่มีรหัสผ่านและคำแนะนำการติดตั้งอย่างละเอียด—ทำให้ดูน่าเชื่อถือ

    เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ Launch.exe ภายใน ZIP:
    - มัลแวร์จะถอดรหัสสตริง Base64 ที่ซ่อนด้วยข้อความภาษาฝรั่งเศส
    - สร้างไฟล์ DLL ชื่อ msvcp110.dll ในโฟลเดอร์ AppData
    - โหลด DLL แบบ dynamic และเรียกฟังก์ชัน GetGameData() เพื่อเริ่ม payload สุดท้าย

    มัลแวร์นี้คือ Lumma Stealer ซึ่งสามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์, โปรแกรมแชต, และกระเป๋าเงินคริปโต โดยใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น:
    - memory injection
    - DLL side-loading
    - sandbox evasion
    - process injection ผ่าน MSBuild.exe และ aspnet_regiis.exe

    การวิเคราะห์มัลแวร์ทำได้ยาก เพราะมีการใช้ anti-debugging เช่น IsDebuggerPresent() และการบิดเบือนโครงสร้างโค้ด

    ข้อมูลจากข่าว
    - มัลแวร์ Lumma Stealer ถูกปลอมเป็น VPN ฟรีและ Minecraft mods บน GitHub
    - ใช้ไฟล์ ZIP ที่มีรหัสผ่านและคำแนะนำการติดตั้งเพื่อหลอกผู้ใช้
    - เมื่อเปิดไฟล์ Launch.exe จะถอดรหัส Base64 และสร้าง DLL ใน AppData
    - DLL ถูกโหลดแบบ dynamic และเรียกฟังก์ชันเพื่อเริ่ม payload
    - ใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น memory injection, DLL side-loading, sandbox evasion
    - ใช้ process injection ผ่าน MSBuild.exe และ aspnet_regiis.exe
    - มัลแวร์สามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์, โปรแกรมแชต, และ crypto wallets
    - GitHub repository ที่ใช้ชื่อ SAMAIOEC เป็นแหล่งเผยแพร่หลัก

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - ห้ามดาวน์โหลด VPN ฟรีหรือ game mods จากแหล่งที่ไม่เป็นทางการ โดยเฉพาะ GitHub ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ
    - ไฟล์ ZIP ที่มีรหัสผ่านและคำแนะนำติดตั้งซับซ้อนควรถือว่าเป็นสัญญาณอันตราย
    - หลีกเลี่ยงการรันไฟล์ .exe จากแหล่งที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะในโฟลเดอร์ AppData
    - ควรใช้แอนติไวรัสที่มีระบบตรวจจับพฤติกรรม ไม่ใช่แค่การสแกนไฟล์
    - ตรวจสอบ Task Manager และระบบว่ามี MSBuild.exe หรือ aspnet_regiis.exe ทำงานผิดปกติหรือไม่
    - หากพบ DLL ในโฟลเดอร์ Roaming หรือ Temp ควรตรวจสอบทันที

    https://www.techradar.com/pro/criminals-are-using-a-dangerous-fake-free-vpn-to-spread-malware-via-github-heres-how-to-stay-safe
    VPN ฟรีที่ไม่ฟรี – มัลแวร์ขโมยข้อมูลแฝงใน GitHub นักวิจัยจาก Cyfirma พบแคมเปญมัลแวร์ใหม่ที่ใช้ GitHub เป็นช่องทางเผยแพร่ โดยปลอมตัวเป็นเครื่องมือยอดนิยม เช่น “Free VPN for PC” และ “Minecraft Skin Changer” เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดไฟล์ ZIP ที่มีรหัสผ่านและคำแนะนำการติดตั้งอย่างละเอียด—ทำให้ดูน่าเชื่อถือ เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ Launch.exe ภายใน ZIP: - มัลแวร์จะถอดรหัสสตริง Base64 ที่ซ่อนด้วยข้อความภาษาฝรั่งเศส - สร้างไฟล์ DLL ชื่อ msvcp110.dll ในโฟลเดอร์ AppData - โหลด DLL แบบ dynamic และเรียกฟังก์ชัน GetGameData() เพื่อเริ่ม payload สุดท้าย มัลแวร์นี้คือ Lumma Stealer ซึ่งสามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์, โปรแกรมแชต, และกระเป๋าเงินคริปโต โดยใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น: - memory injection - DLL side-loading - sandbox evasion - process injection ผ่าน MSBuild.exe และ aspnet_regiis.exe การวิเคราะห์มัลแวร์ทำได้ยาก เพราะมีการใช้ anti-debugging เช่น IsDebuggerPresent() และการบิดเบือนโครงสร้างโค้ด ✅ ข้อมูลจากข่าว - มัลแวร์ Lumma Stealer ถูกปลอมเป็น VPN ฟรีและ Minecraft mods บน GitHub - ใช้ไฟล์ ZIP ที่มีรหัสผ่านและคำแนะนำการติดตั้งเพื่อหลอกผู้ใช้ - เมื่อเปิดไฟล์ Launch.exe จะถอดรหัส Base64 และสร้าง DLL ใน AppData - DLL ถูกโหลดแบบ dynamic และเรียกฟังก์ชันเพื่อเริ่ม payload - ใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น memory injection, DLL side-loading, sandbox evasion - ใช้ process injection ผ่าน MSBuild.exe และ aspnet_regiis.exe - มัลแวร์สามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์, โปรแกรมแชต, และ crypto wallets - GitHub repository ที่ใช้ชื่อ SAMAIOEC เป็นแหล่งเผยแพร่หลัก ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - ห้ามดาวน์โหลด VPN ฟรีหรือ game mods จากแหล่งที่ไม่เป็นทางการ โดยเฉพาะ GitHub ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ - ไฟล์ ZIP ที่มีรหัสผ่านและคำแนะนำติดตั้งซับซ้อนควรถือว่าเป็นสัญญาณอันตราย - หลีกเลี่ยงการรันไฟล์ .exe จากแหล่งที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะในโฟลเดอร์ AppData - ควรใช้แอนติไวรัสที่มีระบบตรวจจับพฤติกรรม ไม่ใช่แค่การสแกนไฟล์ - ตรวจสอบ Task Manager และระบบว่ามี MSBuild.exe หรือ aspnet_regiis.exe ทำงานผิดปกติหรือไม่ - หากพบ DLL ในโฟลเดอร์ Roaming หรือ Temp ควรตรวจสอบทันที https://www.techradar.com/pro/criminals-are-using-a-dangerous-fake-free-vpn-to-spread-malware-via-github-heres-how-to-stay-safe
    0 Comments 0 Shares 84 Views 0 Reviews
  • Intel Diamond Rapids – ซีพียูเซิร์ฟเวอร์ 192 คอร์ พร้อมรองรับ AI และงานหนักระดับองค์กร

    Intel เตรียมเปิดตัวซีพียูเซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่ Diamond Rapids ในปี 2026 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม Oak Stream โดยใช้สถาปัตยกรรม Panther Cove และกระบวนการผลิต Intel 18A ที่ทันสมัยที่สุดของบริษัท

    รุ่นสูงสุดของ Diamond Rapids จะมี 4 compute tiles โดยแต่ละ tile มี 48 คอร์ รวมเป็น 192 คอร์ต่อซ็อกเก็ต และสามารถใช้งานแบบ quad-socket ได้ ทำให้เซิร์ฟเวอร์หนึ่งเครื่องมีคอร์รวมสูงสุดถึง 768 คอร์

    รองรับเทคโนโลยีใหม่:
    - ซ็อกเก็ตใหม่ LGA 9324
    - PCIe 6.0 และ CXL 3.0 สำหรับเชื่อมต่อ accelerator และ storage
    - รองรับ DDR5 แบบ 16 ช่อง พร้อม MRDIMM ที่ความเร็ว 12800MT/s
    - Instruction set ใหม่ Intel APX และ AMX engine รุ่นอัปเกรด
    - รองรับการประมวลผล AI inference ด้วย native FP8 และ TF32

    Intel ยังเตรียมเปิดตัว Jaguar Shores AI accelerator ควบคู่กัน เพื่อสร้างแพลตฟอร์มเซิร์ฟเวอร์ที่พร้อมใช้งานกับ AI เต็มรูปแบบ

    https://www.techradar.com/pro/want-a-quad-socket-server-with-768-cores-sure-intels-192-core-diamond-rapids-xeon-cpu-will-deliver-that-in-2026-but-i-wonder-whether-it-will-be-too-little-too-late
    Intel Diamond Rapids – ซีพียูเซิร์ฟเวอร์ 192 คอร์ พร้อมรองรับ AI และงานหนักระดับองค์กร 🏢 Intel เตรียมเปิดตัวซีพียูเซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่ Diamond Rapids ในปี 2026 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม Oak Stream โดยใช้สถาปัตยกรรม Panther Cove และกระบวนการผลิต Intel 18A ที่ทันสมัยที่สุดของบริษัท รุ่นสูงสุดของ Diamond Rapids จะมี 4 compute tiles โดยแต่ละ tile มี 48 คอร์ รวมเป็น 192 คอร์ต่อซ็อกเก็ต และสามารถใช้งานแบบ quad-socket ได้ ทำให้เซิร์ฟเวอร์หนึ่งเครื่องมีคอร์รวมสูงสุดถึง 768 คอร์ รองรับเทคโนโลยีใหม่: - ซ็อกเก็ตใหม่ LGA 9324 - PCIe 6.0 และ CXL 3.0 สำหรับเชื่อมต่อ accelerator และ storage - รองรับ DDR5 แบบ 16 ช่อง พร้อม MRDIMM ที่ความเร็ว 12800MT/s - Instruction set ใหม่ Intel APX และ AMX engine รุ่นอัปเกรด - รองรับการประมวลผล AI inference ด้วย native FP8 และ TF32 Intel ยังเตรียมเปิดตัว Jaguar Shores AI accelerator ควบคู่กัน เพื่อสร้างแพลตฟอร์มเซิร์ฟเวอร์ที่พร้อมใช้งานกับ AI เต็มรูปแบบ https://www.techradar.com/pro/want-a-quad-socket-server-with-768-cores-sure-intels-192-core-diamond-rapids-xeon-cpu-will-deliver-that-in-2026-but-i-wonder-whether-it-will-be-too-little-too-late
    0 Comments 0 Shares 78 Views 0 Reviews
  • MIT พัฒนาอุปกรณ์ฝังใต้ผิวหนัง ปล่อยฮอร์โมนช่วยชีวิตเมื่อระดับน้ำตาลตก

    ทีมวิศวกรจาก MIT ได้สร้างอุปกรณ์ขนาดเท่าเหรียญที่ฝังใต้ผิวหนัง ซึ่งสามารถปล่อย glucagon—ฮอร์โมนที่ช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด—ได้ทันทีเมื่อเกิดภาวะ hypoglycemia โดยไม่ต้องรอให้ผู้ป่วยรู้ตัวหรือมีคนช่วยฉีดยา

    อุปกรณ์นี้ประกอบด้วย:
    - แหล่งเก็บ glucagon แบบผง (มีความเสถียรมากกว่าสารละลาย)
    - วัสดุโลหะจำรูปร่าง (shape-memory alloy) ที่เปิดฝาเมื่อถูกความร้อน
    - เสาอากาศที่รับคลื่นวิทยุเฉพาะเพื่อกระตุ้นการปล่อยยา
    - ระบบเชื่อมต่อกับเครื่องวัดน้ำตาลแบบต่อเนื่อง (CGM) เพื่อปล่อยยาอัตโนมัติ

    เมื่อระดับน้ำตาลลดต่ำเกินไป:
    - CGM ส่งสัญญาณไปยังอุปกรณ์
    - เกิดกระแสไฟฟ้าเล็กน้อยเพื่อให้โลหะจำรูปร่างร้อนถึง 40°C
    - ฝาเปิดและ glucagon ถูกปล่อยออกมา ละลายและเข้าสู่ร่างกาย

    ในการทดลองกับหนูเบาหวาน อุปกรณ์สามารถฟื้นฟูระดับน้ำตาลได้ภายใน 10 นาที และยังสามารถใช้ปล่อย epinephrine สำหรับกรณีแพ้รุนแรงหรือหัวใจหยุดเต้นได้ด้วย

    แม้ร่างกายจะสร้างพังผืดรอบอุปกรณ์หลังฝัง แต่ทีมวิจัยพบว่าอุปกรณ์ยังทำงานได้ดี และกำลังพัฒนาให้ใช้งานได้นานถึง 1 ปี ก่อนต้องเปลี่ยนใหม่

    https://www.techspot.com/news/108650-mit-engineers-create-implant-automatically-treats-dangerously-low.html
    MIT พัฒนาอุปกรณ์ฝังใต้ผิวหนัง ปล่อยฮอร์โมนช่วยชีวิตเมื่อระดับน้ำตาลตก ทีมวิศวกรจาก MIT ได้สร้างอุปกรณ์ขนาดเท่าเหรียญที่ฝังใต้ผิวหนัง ซึ่งสามารถปล่อย glucagon—ฮอร์โมนที่ช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด—ได้ทันทีเมื่อเกิดภาวะ hypoglycemia โดยไม่ต้องรอให้ผู้ป่วยรู้ตัวหรือมีคนช่วยฉีดยา อุปกรณ์นี้ประกอบด้วย: - แหล่งเก็บ glucagon แบบผง (มีความเสถียรมากกว่าสารละลาย) - วัสดุโลหะจำรูปร่าง (shape-memory alloy) ที่เปิดฝาเมื่อถูกความร้อน - เสาอากาศที่รับคลื่นวิทยุเฉพาะเพื่อกระตุ้นการปล่อยยา - ระบบเชื่อมต่อกับเครื่องวัดน้ำตาลแบบต่อเนื่อง (CGM) เพื่อปล่อยยาอัตโนมัติ เมื่อระดับน้ำตาลลดต่ำเกินไป: - CGM ส่งสัญญาณไปยังอุปกรณ์ - เกิดกระแสไฟฟ้าเล็กน้อยเพื่อให้โลหะจำรูปร่างร้อนถึง 40°C - ฝาเปิดและ glucagon ถูกปล่อยออกมา ละลายและเข้าสู่ร่างกาย ในการทดลองกับหนูเบาหวาน อุปกรณ์สามารถฟื้นฟูระดับน้ำตาลได้ภายใน 10 นาที และยังสามารถใช้ปล่อย epinephrine สำหรับกรณีแพ้รุนแรงหรือหัวใจหยุดเต้นได้ด้วย แม้ร่างกายจะสร้างพังผืดรอบอุปกรณ์หลังฝัง แต่ทีมวิจัยพบว่าอุปกรณ์ยังทำงานได้ดี และกำลังพัฒนาให้ใช้งานได้นานถึง 1 ปี ก่อนต้องเปลี่ยนใหม่ https://www.techspot.com/news/108650-mit-engineers-create-implant-automatically-treats-dangerously-low.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New MIT implant automatically treats dangerously low blood sugar in people with type 1 diabetes
    For individuals with type 1 diabetes – an autoimmune condition – maintaining stable blood sugar is a constant challenge. Rapid-acting insulin must be administered, either through injections...
    0 Comments 0 Shares 52 Views 0 Reviews
  • นักวิจัยจาก Oxford และ Lisbon ได้ใช้ซอฟต์แวร์ OSIRIS รันการจำลอง 3D แบบเรียลไทม์ เพื่อศึกษาว่าเลเซอร์พลังสูงมีผลต่อ “สุญญากาศควอนตัม” อย่างไร ซึ่งจริง ๆ แล้วสุญญากาศไม่ได้ว่างเปล่า แต่เต็มไปด้วยอนุภาคเสมือน เช่น อิเล็กตรอน-โพซิตรอน ที่เกิดและดับในช่วงเวลาสั้น ๆ

    เมื่อยิงเลเซอร์สามชุดเข้าไปในสุญญากาศ จะเกิดปรากฏการณ์ “vacuum four-wave mixing” ซึ่งทำให้โฟตอนกระเด้งใส่กันและสร้างลำแสงที่สี่ขึ้นมา—เหมือนแสงเกิดจากความว่างเปล่า

    นี่ไม่ใช่แค่การจำลองเพื่อความรู้ แต่เป็นก้าวสำคัญในการยืนยันปรากฏการณ์ควอนตัมที่เคยเป็นแค่ทฤษฎี โดยใช้เลเซอร์ระดับ Petawatt ที่กำลังถูกติดตั้งทั่วโลก เช่น Vulcan 20-20 (UK), ELI (EU), SHINE และ SEL (จีน), OPAL (สหรัฐฯ)

    ทีมงานยังใช้ตัวแก้สมการแบบกึ่งคลาสสิกจาก Heisenberg-Euler Lagrangian เพื่อจำลองผลกระทบของสุญญากาศต่อแสง เช่น vacuum birefringence (การแยกแสงในสนามแม่เหล็กแรงสูง)

    ผลการจำลองตรงกับทฤษฎีเดิม และยังเผยรายละเอียดใหม่ เช่น รูปร่างของลำแสงที่เบี้ยวเล็กน้อย (astigmatism) และระยะเวลาการเกิดปฏิกิริยา

    นอกจากยืนยันทฤษฎีควอนตัมแล้ว เครื่องมือนี้ยังอาจช่วยค้นหาอนุภาคใหม่ เช่น axions และ millicharged particles ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยว่าอาจเป็น “สสารมืด” ที่ยังไม่มีใครเห็น

    ข้อมูลจากข่าว
    - นักวิจัย Oxford และ Lisbon สร้างแสงจากสุญญากาศโดยใช้เลเซอร์พลังสูง
    - ใช้ปรากฏการณ์ vacuum four-wave mixing ที่โฟตอนกระเด้งใส่กัน
    - สุญญากาศควอนตัมเต็มไปด้วยอนุภาคเสมือนที่เกิดและดับตลอดเวลา
    - ใช้ซอฟต์แวร์ OSIRIS และตัวแก้สมการ Heisenberg-Euler Lagrangian
    - ผลการจำลองตรงกับทฤษฎี vacuum birefringence และเผยรายละเอียดใหม่
    - เลเซอร์ระดับ Petawatt เช่น Vulcan, ELI, SHINE, OPAL จะช่วยทดสอบทฤษฎีนี้ในโลกจริง
    - อาจช่วยค้นหาอนุภาคใหม่ เช่น axions และ millicharged particles ที่เกี่ยวข้องกับสสารมืด

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - ปรากฏการณ์นี้ยังอยู่ในขั้นจำลอง ต้องรอการทดลองจริงจากเลเซอร์ระดับ Petawatt
    - การสร้างแสงจากสุญญากาศต้องใช้พลังงานมหาศาลและเทคโนโลยีขั้นสูง
    - การค้นหาอนุภาคใหม่ยังไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ ต้องใช้เวลาและการตรวจสอบซ้ำ
    - การเข้าใจสุญญากาศควอนตัมต้องใช้ฟิสิกส์ระดับสูง ซึ่งอาจยังไม่เข้าถึงได้สำหรับผู้ทั่วไป
    - หากทฤษฎีนี้ถูกยืนยัน อาจต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับธรรมชาติของแสงและสุญญากาศ

    https://www.neowin.net/news/oxford-scientists-create-light-from-darkness-and-no-its-not-magic/
    นักวิจัยจาก Oxford และ Lisbon ได้ใช้ซอฟต์แวร์ OSIRIS รันการจำลอง 3D แบบเรียลไทม์ เพื่อศึกษาว่าเลเซอร์พลังสูงมีผลต่อ “สุญญากาศควอนตัม” อย่างไร ซึ่งจริง ๆ แล้วสุญญากาศไม่ได้ว่างเปล่า แต่เต็มไปด้วยอนุภาคเสมือน เช่น อิเล็กตรอน-โพซิตรอน ที่เกิดและดับในช่วงเวลาสั้น ๆ เมื่อยิงเลเซอร์สามชุดเข้าไปในสุญญากาศ จะเกิดปรากฏการณ์ “vacuum four-wave mixing” ซึ่งทำให้โฟตอนกระเด้งใส่กันและสร้างลำแสงที่สี่ขึ้นมา—เหมือนแสงเกิดจากความว่างเปล่า นี่ไม่ใช่แค่การจำลองเพื่อความรู้ แต่เป็นก้าวสำคัญในการยืนยันปรากฏการณ์ควอนตัมที่เคยเป็นแค่ทฤษฎี โดยใช้เลเซอร์ระดับ Petawatt ที่กำลังถูกติดตั้งทั่วโลก เช่น Vulcan 20-20 (UK), ELI (EU), SHINE และ SEL (จีน), OPAL (สหรัฐฯ) ทีมงานยังใช้ตัวแก้สมการแบบกึ่งคลาสสิกจาก Heisenberg-Euler Lagrangian เพื่อจำลองผลกระทบของสุญญากาศต่อแสง เช่น vacuum birefringence (การแยกแสงในสนามแม่เหล็กแรงสูง) ผลการจำลองตรงกับทฤษฎีเดิม และยังเผยรายละเอียดใหม่ เช่น รูปร่างของลำแสงที่เบี้ยวเล็กน้อย (astigmatism) และระยะเวลาการเกิดปฏิกิริยา นอกจากยืนยันทฤษฎีควอนตัมแล้ว เครื่องมือนี้ยังอาจช่วยค้นหาอนุภาคใหม่ เช่น axions และ millicharged particles ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยว่าอาจเป็น “สสารมืด” ที่ยังไม่มีใครเห็น ✅ ข้อมูลจากข่าว - นักวิจัย Oxford และ Lisbon สร้างแสงจากสุญญากาศโดยใช้เลเซอร์พลังสูง - ใช้ปรากฏการณ์ vacuum four-wave mixing ที่โฟตอนกระเด้งใส่กัน - สุญญากาศควอนตัมเต็มไปด้วยอนุภาคเสมือนที่เกิดและดับตลอดเวลา - ใช้ซอฟต์แวร์ OSIRIS และตัวแก้สมการ Heisenberg-Euler Lagrangian - ผลการจำลองตรงกับทฤษฎี vacuum birefringence และเผยรายละเอียดใหม่ - เลเซอร์ระดับ Petawatt เช่น Vulcan, ELI, SHINE, OPAL จะช่วยทดสอบทฤษฎีนี้ในโลกจริง - อาจช่วยค้นหาอนุภาคใหม่ เช่น axions และ millicharged particles ที่เกี่ยวข้องกับสสารมืด ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - ปรากฏการณ์นี้ยังอยู่ในขั้นจำลอง ต้องรอการทดลองจริงจากเลเซอร์ระดับ Petawatt - การสร้างแสงจากสุญญากาศต้องใช้พลังงานมหาศาลและเทคโนโลยีขั้นสูง - การค้นหาอนุภาคใหม่ยังไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ ต้องใช้เวลาและการตรวจสอบซ้ำ - การเข้าใจสุญญากาศควอนตัมต้องใช้ฟิสิกส์ระดับสูง ซึ่งอาจยังไม่เข้าถึงได้สำหรับผู้ทั่วไป - หากทฤษฎีนี้ถูกยืนยัน อาจต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับธรรมชาติของแสงและสุญญากาศ https://www.neowin.net/news/oxford-scientists-create-light-from-darkness-and-no-its-not-magic/
    WWW.NEOWIN.NET
    Oxford scientists create light from "darkness" and no it's not magic
    Scientists over at the University of Oxford have managed to generate light out of "darkness" and there is no magic involved here, just pure science.
    0 Comments 0 Shares 68 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้พูดถึงงานวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Physical Review D ซึ่งเสนอแนวคิดว่า “จุดกำเนิดของจักรวาล” อาจไม่ใช่ Big Bang อย่างที่เราเคยเชื่อกัน แต่เป็นการ “ดีดตัวกลับ” (bounce) จากการยุบตัวของมวลมหาศาลภายในหลุมดำ—เป็นการพลิกมุมมองต่อจักรวาลอย่างสิ้นเชิง

    นักฟิสิกส์จาก The Conversation และสถาบันวิจัยต่าง ๆ เสนอโมเดลใหม่ที่อธิบายว่าจักรวาลของเราอาจเกิดจากการยุบตัวของมวลมหาศาลภายในหลุมดำ ไม่ใช่จากการระเบิดของจุดเอกฐาน (singularity) แบบ Big Bang ที่เราเคยเชื่อ

    แนวคิดนี้ใช้หลักฟิสิกส์ควอนตัม โดยเฉพาะ “หลักการกีดกันของเฟอร์มิออน” (quantum exclusion principle) ซึ่งระบุว่าอนุภาคที่เหมือนกันไม่สามารถอยู่ในสถานะควอนตัมเดียวกันได้ ทำให้การยุบตัวของมวลไม่สามารถดำเนินต่อไปได้เรื่อย ๆ และเกิดการ “ดีดตัวกลับ” หรือ bounce

    หลังจาก bounce จักรวาลจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีแรงดันภายในทำหน้าที่คล้ายกับพลังงานมืดและการขยายตัวในยุค inflation ตามทฤษฎีดั้งเดิม

    โมเดลนี้ยังทำนายว่า:
    - จักรวาลมีความโค้งเล็กน้อย (Ωₖ ≈ −0.07 ± 0.02)
    - การดีดตัวเกิดภายในรัศมีความโน้มถ่วง r_S = 2GM ซึ่งทำหน้าที่คล้ายค่าคงที่จักรวาล (Λ)
    - ภายนอกยังดูเหมือนหลุมดำ Schwarzschild ปกติ

    ภารกิจในอนาคต เช่น Euclid และ Arrakihs อาจช่วยตรวจสอบความโค้งของจักรวาลและโครงสร้างที่หลงเหลือจากการดีดตัว เช่น เฮโลของดาวฤกษ์และกาแล็กซีบริวาร

    https://www.neowin.net/news/our-universes-origin-is-indeed-a-black-hole-and-not-the-big-bang-reckons-this-new-study/
    ข่าวนี้พูดถึงงานวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Physical Review D ซึ่งเสนอแนวคิดว่า “จุดกำเนิดของจักรวาล” อาจไม่ใช่ Big Bang อย่างที่เราเคยเชื่อกัน แต่เป็นการ “ดีดตัวกลับ” (bounce) จากการยุบตัวของมวลมหาศาลภายในหลุมดำ—เป็นการพลิกมุมมองต่อจักรวาลอย่างสิ้นเชิง 🕳️🌌 นักฟิสิกส์จาก The Conversation และสถาบันวิจัยต่าง ๆ เสนอโมเดลใหม่ที่อธิบายว่าจักรวาลของเราอาจเกิดจากการยุบตัวของมวลมหาศาลภายในหลุมดำ ไม่ใช่จากการระเบิดของจุดเอกฐาน (singularity) แบบ Big Bang ที่เราเคยเชื่อ แนวคิดนี้ใช้หลักฟิสิกส์ควอนตัม โดยเฉพาะ “หลักการกีดกันของเฟอร์มิออน” (quantum exclusion principle) ซึ่งระบุว่าอนุภาคที่เหมือนกันไม่สามารถอยู่ในสถานะควอนตัมเดียวกันได้ ทำให้การยุบตัวของมวลไม่สามารถดำเนินต่อไปได้เรื่อย ๆ และเกิดการ “ดีดตัวกลับ” หรือ bounce หลังจาก bounce จักรวาลจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีแรงดันภายในทำหน้าที่คล้ายกับพลังงานมืดและการขยายตัวในยุค inflation ตามทฤษฎีดั้งเดิม โมเดลนี้ยังทำนายว่า: - จักรวาลมีความโค้งเล็กน้อย (Ωₖ ≈ −0.07 ± 0.02) - การดีดตัวเกิดภายในรัศมีความโน้มถ่วง r_S = 2GM ซึ่งทำหน้าที่คล้ายค่าคงที่จักรวาล (Λ) - ภายนอกยังดูเหมือนหลุมดำ Schwarzschild ปกติ ภารกิจในอนาคต เช่น Euclid และ Arrakihs อาจช่วยตรวจสอบความโค้งของจักรวาลและโครงสร้างที่หลงเหลือจากการดีดตัว เช่น เฮโลของดาวฤกษ์และกาแล็กซีบริวาร https://www.neowin.net/news/our-universes-origin-is-indeed-a-black-hole-and-not-the-big-bang-reckons-this-new-study/
    WWW.NEOWIN.NET
    Our Universe's origin is indeed a Black Hole and not the Big Bang, reckons this new study
    The Big Bang may not be the beginning—new research suggests our universe could have bounced from a collapsing black hole.
    0 Comments 0 Shares 74 Views 0 Reviews
  • Good morning little girl
    Good morning little girl
    0 Comments 0 Shares 23 Views 0 Reviews
  • เด็กเต้นแข่งเรือโบราณ ปาคู จาลูร์ ซอฟต์พาวเวอร์อินโดนีเซีย

    กลายเป็นที่ถูกพูดถึงสนั่นโลกโซเชียลฯ และกลายเป็นมีมไปทั่วโลก สำหรับไวรัลสุดน่ารักจากเทศกาลแข่งเรือโบราณ “ปาคู จาลูร์” (Pacu Jalur) บนหมู่เกาะรีเยา (Riau) ทางภาคตะวันออกของเกาะสุมาตรา จรดช่องแคบมะละกา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเด็กชายรายหนึ่งนามว่า เรย์ยาน อาร์กัน ดิกา (Rayyan Arkan Dikha) หรือ ดิกา (Dikha) วัย 11 ขวบ กลายเป็นจุดสนใจจากลีลาการเต้นบนหัวเรือระหว่างแข่งขัน ในตำแหน่งที่เรียกว่า ตูกัง ตาริ (Tukang Tari) ชุดสีดำเรียบหรู และแว่นกันแดด เปรียบกับแดนเซอร์ ทำหน้าที่ปลุกพลังให้กับฝีพาย ซึ่งเขาทำหน้าที่นี้มาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ แถมเพลงที่นำมาประกอบในครั้งนี้ก็เป็นเพลงฮิปฮอป “Young Black & Rich” ของศิลปินชาวอเมริกัน เมลลี ไมค์ (Melly Mike)

    ท่าเต้นของดิกาแพร่กระจายไวอย่างรวดเร็วใน TikTok และ IG พร้อมเกิดกระแสที่เรียกว่า ออรา ฟาร์มมิ่ง (Aura Farming) หรือการเต้นเลียนแบบเพื่อเรียกความสนใจ โดยมีคนดังและสโมสรกีฬาร่วมเทรนด์ เช่น สโมสรฟุตบอลปารีส แซงต์ แชร์กแมง (PSG) ที่โพสต์วิดีโอเลียนแบบพร้อมข้อความว่า “กลิ่นอายได้แผ่ไปถึงปารีสแล้ว” ส่วนเอซี มิลาน เขียนแคปชันสุดฮาว่า “Aura Farming แม่นยำ 1899%” แถมยังมี ทราวิส เคลซ์ นักอเมริกันฟุตบอล แฟนหนุ่มของเทย์เลอร์ สวิฟต์ รวมถึงนักเตะไทย “เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์” ก็เข้าร่วมกระแสนี้ด้วย

    ล่าสุด เมลลี ไมค์ ประกาศว่าจะเดินทางมาร่วมงานเทศกาลปาคู จาลูร์ ในปีนี้ด้วยตนเอง ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-24 ส.ค. 2568 ขณะที่เด็กชายดิกาได้รับแต่งตั้งเป็นทูตวัฒนธรรมจังหวัดรีเยา และได้รับเชิญให้เดินทางพร้อมครอบครัวไปยังกรุงจาการ์ตา เพื่อเข้าพบรัฐมนตรีด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของอินโดนีเซีย รวมถึงออกรายการโทรทัศน์ และได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลอินโดนีเซีย ในฐานะที่ทำให้มรดกทางวัฒนธรรมของอินโดนีเซียเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

    เทศกาลปาคู จาลูร์ ถือเป็นหนึ่งในมรดกวัฒนธรรมที่สำคัญของอินโดนีเซีย จัดขึ้นที่ริมแม่น้ำอินดรากิรี (Indragiri River) โดยมีการแข่งขันพายเรือจาลูร์ ที่สร้างจากไม้ทั้งท่อน ไม่มีข้อต่อ พร้อมการตกแต่งที่วิจิตรงดงาม ไฮไลต์ของเทศกาลคือการมีนักเต้นแสดงอยู่บนหัวเรือ สร้างสีสันและความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ชม มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษชาวควนซิงในศตวรรษที่ 22 ต่อมาถูกพัฒนาให้เป็นกิจกรรมประเพณี เคยใช้เฉลิมฉลองวันสำคัญทางศาสนา และในสมัยอาณานิคมเนเธอร์แลนด์ก็เคยจัดเพื่อเฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดของราชินีด้วย ปัจจุบันจัดต่อเนื่องทุกปี และดึงดูดผู้เข้าชมได้มากกว่า 1 ล้านคนต่อปี

    #Newskit
    เด็กเต้นแข่งเรือโบราณ ปาคู จาลูร์ ซอฟต์พาวเวอร์อินโดนีเซีย กลายเป็นที่ถูกพูดถึงสนั่นโลกโซเชียลฯ และกลายเป็นมีมไปทั่วโลก สำหรับไวรัลสุดน่ารักจากเทศกาลแข่งเรือโบราณ “ปาคู จาลูร์” (Pacu Jalur) บนหมู่เกาะรีเยา (Riau) ทางภาคตะวันออกของเกาะสุมาตรา จรดช่องแคบมะละกา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเด็กชายรายหนึ่งนามว่า เรย์ยาน อาร์กัน ดิกา (Rayyan Arkan Dikha) หรือ ดิกา (Dikha) วัย 11 ขวบ กลายเป็นจุดสนใจจากลีลาการเต้นบนหัวเรือระหว่างแข่งขัน ในตำแหน่งที่เรียกว่า ตูกัง ตาริ (Tukang Tari) ชุดสีดำเรียบหรู และแว่นกันแดด เปรียบกับแดนเซอร์ ทำหน้าที่ปลุกพลังให้กับฝีพาย ซึ่งเขาทำหน้าที่นี้มาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ แถมเพลงที่นำมาประกอบในครั้งนี้ก็เป็นเพลงฮิปฮอป “Young Black & Rich” ของศิลปินชาวอเมริกัน เมลลี ไมค์ (Melly Mike) ท่าเต้นของดิกาแพร่กระจายไวอย่างรวดเร็วใน TikTok และ IG พร้อมเกิดกระแสที่เรียกว่า ออรา ฟาร์มมิ่ง (Aura Farming) หรือการเต้นเลียนแบบเพื่อเรียกความสนใจ โดยมีคนดังและสโมสรกีฬาร่วมเทรนด์ เช่น สโมสรฟุตบอลปารีส แซงต์ แชร์กแมง (PSG) ที่โพสต์วิดีโอเลียนแบบพร้อมข้อความว่า “กลิ่นอายได้แผ่ไปถึงปารีสแล้ว” ส่วนเอซี มิลาน เขียนแคปชันสุดฮาว่า “Aura Farming แม่นยำ 1899%” แถมยังมี ทราวิส เคลซ์ นักอเมริกันฟุตบอล แฟนหนุ่มของเทย์เลอร์ สวิฟต์ รวมถึงนักเตะไทย “เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์” ก็เข้าร่วมกระแสนี้ด้วย ล่าสุด เมลลี ไมค์ ประกาศว่าจะเดินทางมาร่วมงานเทศกาลปาคู จาลูร์ ในปีนี้ด้วยตนเอง ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-24 ส.ค. 2568 ขณะที่เด็กชายดิกาได้รับแต่งตั้งเป็นทูตวัฒนธรรมจังหวัดรีเยา และได้รับเชิญให้เดินทางพร้อมครอบครัวไปยังกรุงจาการ์ตา เพื่อเข้าพบรัฐมนตรีด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของอินโดนีเซีย รวมถึงออกรายการโทรทัศน์ และได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลอินโดนีเซีย ในฐานะที่ทำให้มรดกทางวัฒนธรรมของอินโดนีเซียเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เทศกาลปาคู จาลูร์ ถือเป็นหนึ่งในมรดกวัฒนธรรมที่สำคัญของอินโดนีเซีย จัดขึ้นที่ริมแม่น้ำอินดรากิรี (Indragiri River) โดยมีการแข่งขันพายเรือจาลูร์ ที่สร้างจากไม้ทั้งท่อน ไม่มีข้อต่อ พร้อมการตกแต่งที่วิจิตรงดงาม ไฮไลต์ของเทศกาลคือการมีนักเต้นแสดงอยู่บนหัวเรือ สร้างสีสันและความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ชม มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษชาวควนซิงในศตวรรษที่ 22 ต่อมาถูกพัฒนาให้เป็นกิจกรรมประเพณี เคยใช้เฉลิมฉลองวันสำคัญทางศาสนา และในสมัยอาณานิคมเนเธอร์แลนด์ก็เคยจัดเพื่อเฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดของราชินีด้วย ปัจจุบันจัดต่อเนื่องทุกปี และดึงดูดผู้เข้าชมได้มากกว่า 1 ล้านคนต่อปี #Newskit
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/zPBl-Qit4GI?si=QGr_wqDWbM2yiqGi
    https://youtu.be/zPBl-Qit4GI?si=QGr_wqDWbM2yiqGi
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 Comments 0 Shares 55 Views 0 Reviews
  • "อยากเป็นพี่ใหญ่ แต่ไม่เคยคิดปกป้องน้องๆ"

    ภาพวิดีโอแสดงถึงแสนยานุภาพทางอากาศของกองทัพอากาศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งคาดว่าทรงพลังที่สุดในโลกอาหรับ

    แม้ว่าอิสราเอลรัฐที่มีพื้นที่จำกัด ซึ่งป็นผู้นำในการครองอำนาจทางอากาศในภูมิภาคตะวันออกกลาง แต่กองทัพอากาศซาอุดีอาระเบีย (RSAF) ในปัจจุบันเป็นกองทัพอากาศที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในตะวันออกกลาง และแข็งแกร่งที่สุดในโลกอาหรับอย่างไม่ต้องสงสัย

    ด้วยเครื่องบินกว่า 900 ลำ ซาอุดีอาระเบียจัดได้ว่ามีทัพฝูงบินที่ทันสมัยและพร้อมรบที่สุด:

    เครื่องบินขับไล่โจมตีอเนกประสงค์ F-15SA/S จำนวน 152 ลำ

    เครื่องบินยูโรไฟเตอร์ ไทฟูน จำนวน 72 ลำ

    เครื่องบินขับไล่ F-15C/D อีเกิลส์ มากกว่า 59 ลำ

    เครื่องบิน Tornado IDS จำนวน 81 ลำ

    เครื่องบินเติมน้ำมัน AWACS, SIGINT และ MRTT ขั้นสูง

    เครื่องบิน Apache Guardian มากกว่า 47 ลำ และฝูงบินเฮลิคอปเตอร์ที่แข็งแกร่ง

    เกือบทั้งหมด ล้วนได้รับการสนับสนุนอย่างดีในด้านการป้องกันประเทศจากสหรัฐฯ

    บางทีนี่อาจเป็นเพียง "ของสะสม" ของประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเท่านั้นเอง
    "อยากเป็นพี่ใหญ่ แต่ไม่เคยคิดปกป้องน้องๆ" ภาพวิดีโอแสดงถึงแสนยานุภาพทางอากาศของกองทัพอากาศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งคาดว่าทรงพลังที่สุดในโลกอาหรับ แม้ว่าอิสราเอลรัฐที่มีพื้นที่จำกัด ซึ่งป็นผู้นำในการครองอำนาจทางอากาศในภูมิภาคตะวันออกกลาง แต่กองทัพอากาศซาอุดีอาระเบีย (RSAF) ในปัจจุบันเป็นกองทัพอากาศที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในตะวันออกกลาง และแข็งแกร่งที่สุดในโลกอาหรับอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยเครื่องบินกว่า 900 ลำ ซาอุดีอาระเบียจัดได้ว่ามีทัพฝูงบินที่ทันสมัยและพร้อมรบที่สุด: 🔹เครื่องบินขับไล่โจมตีอเนกประสงค์ F-15SA/S จำนวน 152 ลำ 🔹เครื่องบินยูโรไฟเตอร์ ไทฟูน จำนวน 72 ลำ 🔹เครื่องบินขับไล่ F-15C/D อีเกิลส์ มากกว่า 59 ลำ 🔹เครื่องบิน Tornado IDS จำนวน 81 ลำ เครื่องบินเติมน้ำมัน AWACS, SIGINT และ MRTT ขั้นสูง 🔹เครื่องบิน Apache Guardian มากกว่า 47 ลำ และฝูงบินเฮลิคอปเตอร์ที่แข็งแกร่ง เกือบทั้งหมด ล้วนได้รับการสนับสนุนอย่างดีในด้านการป้องกันประเทศจากสหรัฐฯ บางทีนี่อาจเป็นเพียง "ของสะสม" ของประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเท่านั้นเอง
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 242 Views 0 0 Reviews
  • วิศวกรรัสเซียลอบขโมยข้อมูลชิปจาก ASML และ NXP – ถูกตัดสินจำคุกในเนเธอร์แลนด์

    German Aksenov อดีตวิศวกรวัย 43 ปี ซึ่งเคยทำงานให้กับ ASML และ NXP ถูกศาลเนเธอร์แลนด์ตัดสินจำคุก 3 ปี ฐานลักลอบนำข้อมูลลับด้านการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ส่งต่อให้กับหน่วยข่าวกรองของรัสเซีย (FSB)

    Aksenov ไม่ใช่แฮกเกอร์ แต่ใช้วิธีแบบดั้งเดิม:
    - คัดลอกไฟล์จากเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท
    - เก็บไว้ใน USB และฮาร์ดดิสก์
    - นำอุปกรณ์เหล่านั้นเดินทางไปมอสโก และส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ FSB

    เขาอ้างว่าเก็บไฟล์ไว้เพื่อ “พัฒนาความรู้ด้านอาชีพ” และไม่ได้ตั้งใจเป็นสายลับ แต่ศาลเห็นว่าการกระทำของเขาละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปที่มีต่อรัสเซียตั้งแต่ปี 2014

    ASML เป็นผู้ผลิตเครื่อง EUV lithography เพียงรายเดียวในโลก ซึ่งเป็นหัวใจของการผลิตชิประดับสูง ส่วน NXP เป็นผู้นำด้านเซมิคอนดักเตอร์ที่ร่วมพัฒนาเทคโนโลยี NFC กับ Sony ทำให้ทั้งสองบริษัทเป็นเป้าหมายสำคัญของการจารกรรมทางอุตสาหกรรม

    แม้จะไม่มีหลักฐานว่า Aksenov ได้รับค่าตอบแทนจากการกระทำดังกล่าว แต่ศาลยังคงลงโทษจำคุก โดยเปิดโอกาสให้เขายื่นอุทธรณ์ภายใน 14 วัน

    ข้อมูลจากข่าว
    - German Aksenov อดีตวิศวกรของ ASML และ NXP ถูกตัดสินจำคุก 3 ปีในเนเธอร์แลนด์
    - เขาลักลอบนำข้อมูลลับด้านการผลิตชิปส่งต่อให้กับ FSB ของรัสเซีย
    - ใช้วิธีคัดลอกไฟล์ลง USB และฮาร์ดดิสก์ แล้วนำไปมอบให้เจ้าหน้าที่ในมอสโก
    - อ้างว่าเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาความรู้ด้านอาชีพ ไม่ได้ตั้งใจเป็นสายลับ
    - ศาลลงโทษจำคุก แม้ไม่มีหลักฐานว่าได้รับค่าตอบแทน
    - ASML และ NXP เป็นเป้าหมายสำคัญของการจารกรรมด้านเทคโนโลยี
    - NXP ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สอบสวน ส่วน ASML ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - การลักลอบขโมยข้อมูลจากภายในองค์กรยังคงเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง
    - การส่งข้อมูลผ่านอุปกรณ์พกพา เช่น USB ยังเป็นช่องโหว่ที่หลายองค์กรมองข้าม
    - การละเมิดมาตรการคว่ำบาตรอาจนำไปสู่บทลงโทษทางกฎหมายที่รุนแรง
    - บริษัทเทคโนโลยีควรมีระบบตรวจสอบการเข้าถึงข้อมูลภายในอย่างเข้มงวด
    - พนักงานควรได้รับการอบรมเรื่องจริยธรรมและความปลอดภัยของข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ

    https://www.techspot.com/news/108642-russian-engineer-jailed-stealing-chipmaking-secrets-asml-nxp.html
    วิศวกรรัสเซียลอบขโมยข้อมูลชิปจาก ASML และ NXP – ถูกตัดสินจำคุกในเนเธอร์แลนด์ German Aksenov อดีตวิศวกรวัย 43 ปี ซึ่งเคยทำงานให้กับ ASML และ NXP ถูกศาลเนเธอร์แลนด์ตัดสินจำคุก 3 ปี ฐานลักลอบนำข้อมูลลับด้านการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ส่งต่อให้กับหน่วยข่าวกรองของรัสเซีย (FSB) Aksenov ไม่ใช่แฮกเกอร์ แต่ใช้วิธีแบบดั้งเดิม: - คัดลอกไฟล์จากเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท - เก็บไว้ใน USB และฮาร์ดดิสก์ - นำอุปกรณ์เหล่านั้นเดินทางไปมอสโก และส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ FSB เขาอ้างว่าเก็บไฟล์ไว้เพื่อ “พัฒนาความรู้ด้านอาชีพ” และไม่ได้ตั้งใจเป็นสายลับ แต่ศาลเห็นว่าการกระทำของเขาละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปที่มีต่อรัสเซียตั้งแต่ปี 2014 ASML เป็นผู้ผลิตเครื่อง EUV lithography เพียงรายเดียวในโลก ซึ่งเป็นหัวใจของการผลิตชิประดับสูง ส่วน NXP เป็นผู้นำด้านเซมิคอนดักเตอร์ที่ร่วมพัฒนาเทคโนโลยี NFC กับ Sony ทำให้ทั้งสองบริษัทเป็นเป้าหมายสำคัญของการจารกรรมทางอุตสาหกรรม แม้จะไม่มีหลักฐานว่า Aksenov ได้รับค่าตอบแทนจากการกระทำดังกล่าว แต่ศาลยังคงลงโทษจำคุก โดยเปิดโอกาสให้เขายื่นอุทธรณ์ภายใน 14 วัน ✅ ข้อมูลจากข่าว - German Aksenov อดีตวิศวกรของ ASML และ NXP ถูกตัดสินจำคุก 3 ปีในเนเธอร์แลนด์ - เขาลักลอบนำข้อมูลลับด้านการผลิตชิปส่งต่อให้กับ FSB ของรัสเซีย - ใช้วิธีคัดลอกไฟล์ลง USB และฮาร์ดดิสก์ แล้วนำไปมอบให้เจ้าหน้าที่ในมอสโก - อ้างว่าเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาความรู้ด้านอาชีพ ไม่ได้ตั้งใจเป็นสายลับ - ศาลลงโทษจำคุก แม้ไม่มีหลักฐานว่าได้รับค่าตอบแทน - ASML และ NXP เป็นเป้าหมายสำคัญของการจารกรรมด้านเทคโนโลยี - NXP ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สอบสวน ส่วน ASML ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - การลักลอบขโมยข้อมูลจากภายในองค์กรยังคงเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรง - การส่งข้อมูลผ่านอุปกรณ์พกพา เช่น USB ยังเป็นช่องโหว่ที่หลายองค์กรมองข้าม - การละเมิดมาตรการคว่ำบาตรอาจนำไปสู่บทลงโทษทางกฎหมายที่รุนแรง - บริษัทเทคโนโลยีควรมีระบบตรวจสอบการเข้าถึงข้อมูลภายในอย่างเข้มงวด - พนักงานควรได้รับการอบรมเรื่องจริยธรรมและความปลอดภัยของข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ https://www.techspot.com/news/108642-russian-engineer-jailed-stealing-chipmaking-secrets-asml-nxp.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Former ASML and NXP engineer jailed for leaking chipmaking secrets to Russia
    German Aksenov, a 43-year-old former employee of ASML and NXP, has been sentenced to three years in prison for sharing sensitive chip manufacturing documents with a contact...
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • ศูนย์ข้อมูลบูมในจอร์เจีย – เทคโนโลยีมา น้ำหาย คนอยู่ลำบาก

    ในชนบทของรัฐจอร์เจีย สหรัฐฯ พื้นที่ที่เคยเงียบสงบและเต็มไปด้วยต้นไม้ กำลังถูกแทนที่ด้วยอาคารขนาดใหญ่ไร้หน้าต่างที่เต็มไปด้วยเซิร์ฟเวอร์—ศูนย์ข้อมูลที่เป็นหัวใจของโลกดิจิทัลยุคใหม่ โดยเฉพาะในยุค AI และคลาวด์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

    แต่เบื้องหลังความก้าวหน้ากลับมีปัญหาใหญ่: การใช้น้ำมหาศาลเพื่อระบายความร้อนให้เซิร์ฟเวอร์ โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อน ศูนย์ข้อมูลแห่งหนึ่งอาจใช้น้ำถึง 5 ล้านแกลลอนต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับการใช้น้ำของทั้งเมือง

    ในเมือง Mansfield ชาวบ้านบางคน เช่น Beverly Morris ซึ่งอาศัยอยู่ห่างจากศูนย์ข้อมูลของ Meta เพียง 400 หลา บ่นว่าบ้านของเธอไม่มีน้ำใช้ และไม่สามารถดื่มน้ำจากบ่อได้อีกต่อไป

    แม้บริษัทต่าง ๆ จะอ้างว่ามีการตรวจสอบสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด และบางแห่งลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ เช่น liquid cooling หรือการเก็บน้ำฝน แต่ชาวบ้านยังคงไม่ไว้วางใจ และรู้สึกว่าคุณภาพชีวิตของพวกเขาถูกลดทอนเพื่อผลประโยชน์ของบริษัทเทคโนโลยี

    ปัญหานี้ไม่ได้เกิดแค่ในจอร์เจีย แต่กำลังลุกลามไปทั่วสหรัฐฯ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีปัญหาภัยแล้ง และคาดว่าการใช้น้ำของศูนย์ข้อมูลทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

    ข้อมูลจากข่าว
    - ศูนย์ข้อมูลในจอร์เจียขยายตัวอย่างรวดเร็วเพื่อตอบรับการเติบโตของ AI และคลาวด์
    - ใช้น้ำมหาศาลเพื่อระบายความร้อน โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อน
    - ชาวบ้านใน Mansfield รายงานว่าบ่อบ้านแห้งและไม่สามารถใช้น้ำได้
    - บริษัทต่าง ๆ อ้างว่ามีการตรวจสอบสิ่งแวดล้อมและลงทุนในเทคโนโลยีลดการใช้น้ำ
    - มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่น liquid cooling และ rainwater harvesting
    - ปัญหานี้เกิดในหลายรัฐของสหรัฐฯ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีภัยแล้ง
    - คาดว่าการใช้น้ำของศูนย์ข้อมูลทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในอนาคต

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - การใช้น้ำของศูนย์ข้อมูลอาจกระทบต่อแหล่งน้ำของชุมชนโดยตรง
    - การตรวจสอบสิ่งแวดล้อมที่บริษัทจัดจ้างอาจไม่เป็นกลางหรือโปร่งใส
    - ชาวบ้านบางรายยังคงใช้ “น้ำที่ไม่มั่นใจ” ในการปรุงอาหารและแปรงฟัน
    - การเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอาจไม่สมดุลกับคุณภาพชีวิตของประชาชน
    - หากไม่มีการกำกับดูแลที่เข้มงวด การขยายตัวของศูนย์ข้อมูลอาจทำลายระบบนิเวศท้องถิ่น

    https://www.techspot.com/news/108634-data-center-boom-georgia-sparks-water-worries-resident.html
    ศูนย์ข้อมูลบูมในจอร์เจีย – เทคโนโลยีมา น้ำหาย คนอยู่ลำบาก ในชนบทของรัฐจอร์เจีย สหรัฐฯ พื้นที่ที่เคยเงียบสงบและเต็มไปด้วยต้นไม้ กำลังถูกแทนที่ด้วยอาคารขนาดใหญ่ไร้หน้าต่างที่เต็มไปด้วยเซิร์ฟเวอร์—ศูนย์ข้อมูลที่เป็นหัวใจของโลกดิจิทัลยุคใหม่ โดยเฉพาะในยุค AI และคลาวด์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่เบื้องหลังความก้าวหน้ากลับมีปัญหาใหญ่: การใช้น้ำมหาศาลเพื่อระบายความร้อนให้เซิร์ฟเวอร์ โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อน ศูนย์ข้อมูลแห่งหนึ่งอาจใช้น้ำถึง 5 ล้านแกลลอนต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับการใช้น้ำของทั้งเมือง ในเมือง Mansfield ชาวบ้านบางคน เช่น Beverly Morris ซึ่งอาศัยอยู่ห่างจากศูนย์ข้อมูลของ Meta เพียง 400 หลา บ่นว่าบ้านของเธอไม่มีน้ำใช้ และไม่สามารถดื่มน้ำจากบ่อได้อีกต่อไป แม้บริษัทต่าง ๆ จะอ้างว่ามีการตรวจสอบสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด และบางแห่งลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ เช่น liquid cooling หรือการเก็บน้ำฝน แต่ชาวบ้านยังคงไม่ไว้วางใจ และรู้สึกว่าคุณภาพชีวิตของพวกเขาถูกลดทอนเพื่อผลประโยชน์ของบริษัทเทคโนโลยี ปัญหานี้ไม่ได้เกิดแค่ในจอร์เจีย แต่กำลังลุกลามไปทั่วสหรัฐฯ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีปัญหาภัยแล้ง และคาดว่าการใช้น้ำของศูนย์ข้อมูลทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ✅ ข้อมูลจากข่าว - ศูนย์ข้อมูลในจอร์เจียขยายตัวอย่างรวดเร็วเพื่อตอบรับการเติบโตของ AI และคลาวด์ - ใช้น้ำมหาศาลเพื่อระบายความร้อน โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อน - ชาวบ้านใน Mansfield รายงานว่าบ่อบ้านแห้งและไม่สามารถใช้น้ำได้ - บริษัทต่าง ๆ อ้างว่ามีการตรวจสอบสิ่งแวดล้อมและลงทุนในเทคโนโลยีลดการใช้น้ำ - มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่น liquid cooling และ rainwater harvesting - ปัญหานี้เกิดในหลายรัฐของสหรัฐฯ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีภัยแล้ง - คาดว่าการใช้น้ำของศูนย์ข้อมูลทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในอนาคต ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - การใช้น้ำของศูนย์ข้อมูลอาจกระทบต่อแหล่งน้ำของชุมชนโดยตรง - การตรวจสอบสิ่งแวดล้อมที่บริษัทจัดจ้างอาจไม่เป็นกลางหรือโปร่งใส - ชาวบ้านบางรายยังคงใช้ “น้ำที่ไม่มั่นใจ” ในการปรุงอาหารและแปรงฟัน - การเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอาจไม่สมดุลกับคุณภาพชีวิตของประชาชน - หากไม่มีการกำกับดูแลที่เข้มงวด การขยายตัวของศูนย์ข้อมูลอาจทำลายระบบนิเวศท้องถิ่น https://www.techspot.com/news/108634-data-center-boom-georgia-sparks-water-worries-resident.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Data center boom in Georgia sparks water worries and resident backlash
    The rise of data centers is closely tied to the rapid growth of artificial intelligence and cloud computing. But as the demand for digital services increases, so...
    0 Comments 0 Shares 115 Views 0 Reviews
  • Scattered Spider เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่เริ่มปรากฏตัวตั้งแต่ปี 2022 โดยใช้วิธี SIM-swapping และ ransomware โจมตีบริษัทโทรคมนาคมและบันเทิง เช่น MGM Resorts และ Caesars Entertainment แต่ในปี 2025 พวกเขาขยายเป้าหมายไปยังอุตสาหกรรมค้าปลีก (Marks & Spencer, Harrods) และสายการบิน (Hawaiian, Qantas) สร้างความเสียหายหลายล้านดอลลาร์

    เทคนิคที่ใช้ล่าสุดคือการหลอกพนักงาน help desk ด้วยข้อมูลส่วนตัวของผู้บริหาร เช่น วันเกิดและเลขประกันสังคม เพื่อรีเซ็ตอุปกรณ์และเข้าถึงบัญชีระดับสูง จากนั้นใช้สิทธิ์นั้นเจาะระบบ Entra ID (Azure AD), SharePoint, Horizon VDI และ VPN เพื่อควบคุมระบบทั้งหมด

    เมื่อถูกตรวจจับ กลุ่มนี้ไม่หนี แต่กลับโจมตีระบบอย่างเปิดเผย เช่น ลบกฎไฟร์วอลล์ของ Azure และปิด domain controller เพื่อขัดขวางการกู้คืนระบบ

    นักวิจัยจาก Rapid7 และ ReliaQuest พบว่า Scattered Spider:
    - ใช้เครื่องมือเช่น ngrok และ Teleport เพื่อสร้างช่องทางลับ
    - ใช้ IAM role enumeration และ EC2 Serial Console เพื่อเจาะระบบ AWS
    - ใช้บัญชีผู้ดูแลระบบที่ถูกแฮกเพื่อดึงข้อมูลจาก CyberArk password vault กว่า 1,400 รายการ

    แม้ Microsoft จะเข้ามาช่วยกู้คืนระบบได้ในที่สุด แต่เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของกลุ่มแฮกเกอร์ที่ผสมผสาน “การหลอกมนุษย์” กับ “การเจาะระบบเทคนิค” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ข้อมูลจากข่าว
    - Scattered Spider เริ่มโจมตีตั้งแต่ปี 2022 โดยใช้ SIM-swapping และ ransomware
    - ขยายเป้าหมายไปยังอุตสาหกรรมค้าปลีกและสายการบินในปี 2025
    - ใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้บริหารเพื่อหลอก help desk และเข้าถึงบัญชีระดับสูง
    - เจาะระบบ Entra ID, SharePoint, Horizon VDI, VPN และ CyberArk
    - ใช้เครื่องมือเช่น ngrok, Teleport, EC2 Serial Console และ IAM role enumeration
    - ลบกฎไฟร์วอลล์ Azure และปิด domain controller เพื่อขัดขวางการกู้คืน
    - Microsoft ต้องเข้ามาช่วยกู้คืนระบบ
    - Rapid7 และ ReliaQuest แนะนำให้ใช้ MFA แบบต้าน phishing และจำกัดสิทธิ์ผู้ใช้งาน

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - การหลอก help desk ด้วยข้อมูลส่วนตัวยังคงเป็นช่องโหว่ใหญ่ขององค์กร
    - บัญชีผู้บริหารมักมีสิทธิ์มากเกินไป ทำให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบได้ง่าย
    - การใช้เครื่องมือ legitimate เช่น Teleport อาจหลบการตรวจจับได้
    - หากไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์และพฤติกรรมผู้ใช้อย่างสม่ำเสมอ องค์กรอาจไม่รู้ตัวว่าถูกแฮก
    - การพึ่งพา endpoint detection เพียงอย่างเดียวไม่สามารถป้องกันการเจาะระบบแบบนี้ได้
    - องค์กรควรฝึกอบรมพนักงานเรื่อง social engineering และมีระบบตรวจสอบการรีเซ็ตบัญชีที่เข้มงวด

    https://www.csoonline.com/article/4020567/anatomy-of-a-scattered-spider-attack-a-growing-ransomware-threat-evolves.html
    Scattered Spider เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่เริ่มปรากฏตัวตั้งแต่ปี 2022 โดยใช้วิธี SIM-swapping และ ransomware โจมตีบริษัทโทรคมนาคมและบันเทิง เช่น MGM Resorts และ Caesars Entertainment แต่ในปี 2025 พวกเขาขยายเป้าหมายไปยังอุตสาหกรรมค้าปลีก (Marks & Spencer, Harrods) และสายการบิน (Hawaiian, Qantas) สร้างความเสียหายหลายล้านดอลลาร์ เทคนิคที่ใช้ล่าสุดคือการหลอกพนักงาน help desk ด้วยข้อมูลส่วนตัวของผู้บริหาร เช่น วันเกิดและเลขประกันสังคม เพื่อรีเซ็ตอุปกรณ์และเข้าถึงบัญชีระดับสูง จากนั้นใช้สิทธิ์นั้นเจาะระบบ Entra ID (Azure AD), SharePoint, Horizon VDI และ VPN เพื่อควบคุมระบบทั้งหมด เมื่อถูกตรวจจับ กลุ่มนี้ไม่หนี แต่กลับโจมตีระบบอย่างเปิดเผย เช่น ลบกฎไฟร์วอลล์ของ Azure และปิด domain controller เพื่อขัดขวางการกู้คืนระบบ นักวิจัยจาก Rapid7 และ ReliaQuest พบว่า Scattered Spider: - ใช้เครื่องมือเช่น ngrok และ Teleport เพื่อสร้างช่องทางลับ - ใช้ IAM role enumeration และ EC2 Serial Console เพื่อเจาะระบบ AWS - ใช้บัญชีผู้ดูแลระบบที่ถูกแฮกเพื่อดึงข้อมูลจาก CyberArk password vault กว่า 1,400 รายการ แม้ Microsoft จะเข้ามาช่วยกู้คืนระบบได้ในที่สุด แต่เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของกลุ่มแฮกเกอร์ที่ผสมผสาน “การหลอกมนุษย์” กับ “การเจาะระบบเทคนิค” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Scattered Spider เริ่มโจมตีตั้งแต่ปี 2022 โดยใช้ SIM-swapping และ ransomware - ขยายเป้าหมายไปยังอุตสาหกรรมค้าปลีกและสายการบินในปี 2025 - ใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้บริหารเพื่อหลอก help desk และเข้าถึงบัญชีระดับสูง - เจาะระบบ Entra ID, SharePoint, Horizon VDI, VPN และ CyberArk - ใช้เครื่องมือเช่น ngrok, Teleport, EC2 Serial Console และ IAM role enumeration - ลบกฎไฟร์วอลล์ Azure และปิด domain controller เพื่อขัดขวางการกู้คืน - Microsoft ต้องเข้ามาช่วยกู้คืนระบบ - Rapid7 และ ReliaQuest แนะนำให้ใช้ MFA แบบต้าน phishing และจำกัดสิทธิ์ผู้ใช้งาน ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - การหลอก help desk ด้วยข้อมูลส่วนตัวยังคงเป็นช่องโหว่ใหญ่ขององค์กร - บัญชีผู้บริหารมักมีสิทธิ์มากเกินไป ทำให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบได้ง่าย - การใช้เครื่องมือ legitimate เช่น Teleport อาจหลบการตรวจจับได้ - หากไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์และพฤติกรรมผู้ใช้อย่างสม่ำเสมอ องค์กรอาจไม่รู้ตัวว่าถูกแฮก - การพึ่งพา endpoint detection เพียงอย่างเดียวไม่สามารถป้องกันการเจาะระบบแบบนี้ได้ - องค์กรควรฝึกอบรมพนักงานเรื่อง social engineering และมีระบบตรวจสอบการรีเซ็ตบัญชีที่เข้มงวด https://www.csoonline.com/article/4020567/anatomy-of-a-scattered-spider-attack-a-growing-ransomware-threat-evolves.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Anatomy of a Scattered Spider attack: A growing ransomware threat evolves
    The cybercriminal group has broadened its attack scope across several new industries, bringing valid credentials to bear on help desks before leveraging its new learnings of cloud intrusion tradecraft to set the stage for ransomware.
    0 Comments 0 Shares 140 Views 0 Reviews
  • AMD Zen 6 – ซีพียูยุคใหม่ที่เพิ่มคอร์ เพิ่มแคช และปรับโครงสร้างให้ฉลาดขึ้น

    AMD กำลังเตรียมเปิดตัวโปรเซสเซอร์ Ryzen รุ่นใหม่ที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 6 โดยล่าสุดมีการส่งตัวอย่าง (engineering samples) ให้กับพันธมิตรในอุตสาหกรรมแล้ว เช่น ผู้ผลิตเมนบอร์ดและนักพัฒนาซอฟต์แวร์ปรับแต่ง

    Zen 6 จะเป็นการ “พัฒนาเชิงวิวัฒนาการ” จาก Zen 5 มากกว่าการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉม โดยมีจุดเด่นหลายด้าน:
    - จำนวนคอร์ต่อ CCD เพิ่มขึ้นเป็น 12 คอร์ในรุ่น Classic และ 16 คอร์ในรุ่น Dense
    - แคช L3 ต่อ CCD เพิ่มขึ้นเป็น 48 MB
    - มีการออกแบบ memory controller แบบใหม่เป็น “dual IMC” แม้จะยังใช้ dual-channel เหมือนเดิม
    - รองรับ DDR5 ความเร็วสูงขึ้น
    - ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในระบบ Boost หรือ Curve Optimizer ทำให้ซอฟต์แวร์ปรับแต่งเดิมยังใช้ได้

    แม้จะยังไม่ประกาศวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่า Zen 6 จะวางจำหน่ายช่วงกลางถึงปลายปี 2026 ซึ่งจะชนกับ Intel Nova Lake-S ที่มีสูงสุดถึง 52 คอร์

    ข้อมูลจากข่าว
    - AMD ส่งตัวอย่าง Zen 6 ให้พันธมิตรแล้ว เช่น ผู้ผลิตเมนบอร์ด
    - Zen 6 เป็นการพัฒนาต่อจาก Zen 5 แบบ “วิวัฒนาการ” ไม่ใช่ “ปฏิวัติ”
    - CCD รุ่นใหม่มี 12–16 คอร์ และแคช L3 สูงสุด 48 MB ต่อ CCD
    - มีการออกแบบ dual IMC แต่ยังใช้ dual-channel memory layout
    - รองรับ DDR5 ความเร็วสูงขึ้น
    - ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใน Boost Algorithms และ Curve Optimizer
    - คาดว่า Zen 6 จะเปิดตัวกลางถึงปลายปี 2026
    - อาจมีรุ่นสูงสุดถึง 24 คอร์ 48 เธรด พร้อมแคชรวม 96 MB หรือมากกว่านั้นในรุ่น X3D

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - Zen 6 ยังไม่เข้าสู่ขั้นตอน “tape-out” อย่างเป็นทางการ อาจมีความล่าช้าในการผลิต
    - การเพิ่มจำนวนคอร์และแคชอาจทำให้ต้นทุนสูงขึ้น และต้องใช้เมนบอร์ดที่รองรับ
    - dual IMC อาจทำให้บางเมนบอร์ดรุ่นเก่าไม่สามารถใช้ได้เต็มประสิทธิภาพ
    - การแข่งขันกับ Intel Nova Lake-S ที่มี 52 คอร์อาจทำให้ AMD ต้องเร่งพัฒนาให้ทัน
    - ผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่เห็นประโยชน์จากจำนวนคอร์ที่เพิ่มขึ้น หากไม่ได้ใช้งานแบบมัลติทาสก์หรือประมวลผลหนัก

    https://wccftech.com/amd-ryzen-zen-6-cpu-samples-distributed-architecture-evolution-more-cores-per-ccd-new-dual-imc-design/
    AMD Zen 6 – ซีพียูยุคใหม่ที่เพิ่มคอร์ เพิ่มแคช และปรับโครงสร้างให้ฉลาดขึ้น AMD กำลังเตรียมเปิดตัวโปรเซสเซอร์ Ryzen รุ่นใหม่ที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 6 โดยล่าสุดมีการส่งตัวอย่าง (engineering samples) ให้กับพันธมิตรในอุตสาหกรรมแล้ว เช่น ผู้ผลิตเมนบอร์ดและนักพัฒนาซอฟต์แวร์ปรับแต่ง Zen 6 จะเป็นการ “พัฒนาเชิงวิวัฒนาการ” จาก Zen 5 มากกว่าการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉม โดยมีจุดเด่นหลายด้าน: - จำนวนคอร์ต่อ CCD เพิ่มขึ้นเป็น 12 คอร์ในรุ่น Classic และ 16 คอร์ในรุ่น Dense - แคช L3 ต่อ CCD เพิ่มขึ้นเป็น 48 MB - มีการออกแบบ memory controller แบบใหม่เป็น “dual IMC” แม้จะยังใช้ dual-channel เหมือนเดิม - รองรับ DDR5 ความเร็วสูงขึ้น - ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในระบบ Boost หรือ Curve Optimizer ทำให้ซอฟต์แวร์ปรับแต่งเดิมยังใช้ได้ แม้จะยังไม่ประกาศวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่า Zen 6 จะวางจำหน่ายช่วงกลางถึงปลายปี 2026 ซึ่งจะชนกับ Intel Nova Lake-S ที่มีสูงสุดถึง 52 คอร์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - AMD ส่งตัวอย่าง Zen 6 ให้พันธมิตรแล้ว เช่น ผู้ผลิตเมนบอร์ด - Zen 6 เป็นการพัฒนาต่อจาก Zen 5 แบบ “วิวัฒนาการ” ไม่ใช่ “ปฏิวัติ” - CCD รุ่นใหม่มี 12–16 คอร์ และแคช L3 สูงสุด 48 MB ต่อ CCD - มีการออกแบบ dual IMC แต่ยังใช้ dual-channel memory layout - รองรับ DDR5 ความเร็วสูงขึ้น - ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใน Boost Algorithms และ Curve Optimizer - คาดว่า Zen 6 จะเปิดตัวกลางถึงปลายปี 2026 - อาจมีรุ่นสูงสุดถึง 24 คอร์ 48 เธรด พร้อมแคชรวม 96 MB หรือมากกว่านั้นในรุ่น X3D ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - Zen 6 ยังไม่เข้าสู่ขั้นตอน “tape-out” อย่างเป็นทางการ อาจมีความล่าช้าในการผลิต - การเพิ่มจำนวนคอร์และแคชอาจทำให้ต้นทุนสูงขึ้น และต้องใช้เมนบอร์ดที่รองรับ - dual IMC อาจทำให้บางเมนบอร์ดรุ่นเก่าไม่สามารถใช้ได้เต็มประสิทธิภาพ - การแข่งขันกับ Intel Nova Lake-S ที่มี 52 คอร์อาจทำให้ AMD ต้องเร่งพัฒนาให้ทัน - ผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่เห็นประโยชน์จากจำนวนคอร์ที่เพิ่มขึ้น หากไม่ได้ใช้งานแบบมัลติทาสก์หรือประมวลผลหนัก https://wccftech.com/amd-ryzen-zen-6-cpu-samples-distributed-architecture-evolution-more-cores-per-ccd-new-dual-imc-design/
    WCCFTECH.COM
    AMD Ryzen "Zen 6" CPU Samples Already Distributed, Architecture To Be A "Evolution" With More Cores Per CCD, New "Dual" IMC Design
    New details for next-gen AMD Ryzen CPUs based on the Zen 6 architecture have been revealed by 1usmus, pointing to an evolutionary design.
    0 Comments 0 Shares 151 Views 0 Reviews
  • MIPS จากตำนาน RISC สู่การเริ่มต้นใหม่ในอ้อมแขนของ GlobalFoundries

    ย้อนกลับไปในยุค 1980s MIPS คือหนึ่งในผู้บุกเบิกสถาปัตยกรรม RISC (Reduced Instruction Set Computing) โดยมี John Hennessy จาก Stanford เป็นผู้ร่วมออกแบบ และเปิดตัว CPU รุ่นแรกคือ R2000 ซึ่งมีเพียง 110,000 ทรานซิสเตอร์ แต่สามารถทำงานได้เร็วถึง 15MHz

    MIPS เคยเป็นคู่แข่งของ Intel และ Arm และมีบทบาทสำคัญในอุปกรณ์ระดับสูง เช่น:
    - Workstation ของ Silicon Graphics
    - เครื่องเล่นเกม Sony PlayStation รุ่นแรก
    - ยานสำรวจอวกาศ New Horizons ของ NASA

    แต่หลังจากนั้น MIPS ก็เปลี่ยนมือหลายครั้ง—ผ่าน Silicon Graphics, Imagination Technologies, Tallwood Ventures และ Wave Computing ก่อนจะล้มละลายและกลับมาอีกครั้งในปี 2020 โดยหันไปใช้สถาปัตยกรรม RISC-V แบบโอเพนซอร์ส

    แม้จะเปิดตัวซีรีส์ eVocore และ Atlas Explorer เพื่อเจาะตลาด AI และ edge computing แต่ก็ไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมได้มากนัก จนล่าสุด GlobalFoundries เข้าซื้อกิจการ และจะให้ MIPS ดำเนินงานเป็นหน่วยธุรกิจอิสระที่เน้น AI, อุตสาหกรรม และระบบอัตโนมัติ

    ข้อมูลจากข่าว
    - MIPS เคยเป็นผู้นำด้าน RISC และอยู่เบื้องหลัง PlayStation รุ่นแรกและภารกิจของ NASA
    - เปิดตัว CPU รุ่นแรก R2000 ในปี 1986 และ R3000 ในปี 1988
    - ถูกซื้อโดย GlobalFoundries ซึ่งเคยเป็นโรงงานผลิตชิปของ AMD
    - MIPS จะดำเนินงานเป็นหน่วยธุรกิจอิสระภายใต้ GlobalFoundries
    - เป้าหมายใหม่คือ AI, ระบบอัตโนมัติ และ edge computing
    - เคยเปลี่ยนมาใช้ RISC-V architecture เพื่อกลับเข้าสู่ตลาด
    - CEO ของ MIPS มองว่าการเข้าร่วม GlobalFoundries คือ “การเริ่มต้นบทใหม่ที่กล้าหาญ”

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - แม้จะมีประวัติยิ่งใหญ่ แต่ MIPS ยังไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมในตลาด AI ได้จริง
    - การเปลี่ยนมือบ่อยครั้งสะท้อนถึงความไม่มั่นคงของโมเดลธุรกิจ
    - RISC-V แม้จะเป็นมาตรฐานเปิด แต่ยังมีความไม่แน่นอนในด้าน ecosystem และการสนับสนุนเชิงพาณิชย์
    - การพึ่งพา GlobalFoundries อาจทำให้ MIPS ต้องปรับตัวตามกลยุทธ์ของบริษัทแม่
    - ผู้พัฒนาและองค์กรที่ใช้ IP ของ MIPS ควรติดตามการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบในระยะยาว

    https://www.techradar.com/pro/arms-legendary-rival-was-in-the-original-playstation-now-in-a-twist-of-fate-mips-has-been-sold-to-amds-former-foundry
    MIPS จากตำนาน RISC สู่การเริ่มต้นใหม่ในอ้อมแขนของ GlobalFoundries ย้อนกลับไปในยุค 1980s MIPS คือหนึ่งในผู้บุกเบิกสถาปัตยกรรม RISC (Reduced Instruction Set Computing) โดยมี John Hennessy จาก Stanford เป็นผู้ร่วมออกแบบ และเปิดตัว CPU รุ่นแรกคือ R2000 ซึ่งมีเพียง 110,000 ทรานซิสเตอร์ แต่สามารถทำงานได้เร็วถึง 15MHz MIPS เคยเป็นคู่แข่งของ Intel และ Arm และมีบทบาทสำคัญในอุปกรณ์ระดับสูง เช่น: - Workstation ของ Silicon Graphics - เครื่องเล่นเกม Sony PlayStation รุ่นแรก - ยานสำรวจอวกาศ New Horizons ของ NASA แต่หลังจากนั้น MIPS ก็เปลี่ยนมือหลายครั้ง—ผ่าน Silicon Graphics, Imagination Technologies, Tallwood Ventures และ Wave Computing ก่อนจะล้มละลายและกลับมาอีกครั้งในปี 2020 โดยหันไปใช้สถาปัตยกรรม RISC-V แบบโอเพนซอร์ส แม้จะเปิดตัวซีรีส์ eVocore และ Atlas Explorer เพื่อเจาะตลาด AI และ edge computing แต่ก็ไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมได้มากนัก จนล่าสุด GlobalFoundries เข้าซื้อกิจการ และจะให้ MIPS ดำเนินงานเป็นหน่วยธุรกิจอิสระที่เน้น AI, อุตสาหกรรม และระบบอัตโนมัติ ✅ ข้อมูลจากข่าว - MIPS เคยเป็นผู้นำด้าน RISC และอยู่เบื้องหลัง PlayStation รุ่นแรกและภารกิจของ NASA - เปิดตัว CPU รุ่นแรก R2000 ในปี 1986 และ R3000 ในปี 1988 - ถูกซื้อโดย GlobalFoundries ซึ่งเคยเป็นโรงงานผลิตชิปของ AMD - MIPS จะดำเนินงานเป็นหน่วยธุรกิจอิสระภายใต้ GlobalFoundries - เป้าหมายใหม่คือ AI, ระบบอัตโนมัติ และ edge computing - เคยเปลี่ยนมาใช้ RISC-V architecture เพื่อกลับเข้าสู่ตลาด - CEO ของ MIPS มองว่าการเข้าร่วม GlobalFoundries คือ “การเริ่มต้นบทใหม่ที่กล้าหาญ” ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - แม้จะมีประวัติยิ่งใหญ่ แต่ MIPS ยังไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมในตลาด AI ได้จริง - การเปลี่ยนมือบ่อยครั้งสะท้อนถึงความไม่มั่นคงของโมเดลธุรกิจ - RISC-V แม้จะเป็นมาตรฐานเปิด แต่ยังมีความไม่แน่นอนในด้าน ecosystem และการสนับสนุนเชิงพาณิชย์ - การพึ่งพา GlobalFoundries อาจทำให้ MIPS ต้องปรับตัวตามกลยุทธ์ของบริษัทแม่ - ผู้พัฒนาและองค์กรที่ใช้ IP ของ MIPS ควรติดตามการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบในระยะยาว https://www.techradar.com/pro/arms-legendary-rival-was-in-the-original-playstation-now-in-a-twist-of-fate-mips-has-been-sold-to-amds-former-foundry
    0 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • ยูเครนเตรียมใช้ Starlink ส่งข้อความผ่านดาวเทียม – สื่อสารได้แม้ไม่มีสัญญาณมือถือ

    ในช่วงสงครามที่ยังดำเนินอยู่ ยูเครนต้องเผชิญกับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมอย่างต่อเนื่อง ทำให้การสื่อสารขัดข้องบ่อยครั้ง ล่าสุด Kyivstar จึงจับมือกับ SpaceX เพื่อเปิดบริการ “Direct-to-Cell” โดยใช้เครือข่ายดาวเทียม Starlink ส่งข้อความโดยตรงถึงมือถือของผู้ใช้ แม้ไม่มีสัญญาณจากเสาสัญญาณปกติ

    บริการนี้จะเริ่มให้ใช้งานในรูปแบบการส่งข้อความผ่านแอป เช่น WhatsApp และ Signal ภายในสิ้นปี 2025 และจะขยายเป็นบริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียมสำหรับมือถือในช่วงกลางปี 2026

    นอกจากการส่งข้อความแล้ว Kyivstar ยังมีแผนให้บริการเสียงและข้อมูลผ่านดาวเทียมในอนาคต โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่ T-Mobile ในสหรัฐฯ เตรียมเปิดตัวในเดือนตุลาคมนี้

    Kyivstar เคยให้บริการฟรีหลายอย่างแก่ประชาชนในช่วงสงคราม เช่น อินเทอร์เน็ต 80 Mbps ฟรีในบางพื้นที่, ขยายเวลาชำระเงิน และติดตั้ง Wi-Fi ในบังเกอร์หลบภัยหลายร้อยแห่ง

    การร่วมมือกับ Starlink ครั้งนี้จะช่วยให้เครือข่ายของ Kyivstar มีความทนทานมากขึ้น โดยสามารถให้บริการได้แม้ในช่วงไฟดับระดับประเทศนานถึง 10 ชั่วโมง

    ข้อมูลจากข่าว
    - ยูเครนจะเป็นประเทศแรกในยุโรปที่ใช้บริการ Starlink Direct-to-Cell
    - Kyivstar ร่วมมือกับ SpaceX เพื่อให้บริการส่งข้อความผ่านดาวเทียมภายในสิ้นปี 2025
    - บริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียมสำหรับมือถือจะเริ่มในไตรมาส 2 ปี 2026
    - ใช้ Starlink เป็นเสาสัญญาณเสมือน ส่งข้อความผ่านแอปแม้ไม่มีสัญญาณมือถือ
    - Kyivstar เคยให้บริการฟรีในช่วงสงคราม เช่น อินเทอร์เน็ตในบังเกอร์และขยายเวลาชำระเงิน
    - เครือข่ายสามารถทำงานได้ถึง 10 ชั่วโมงในช่วงไฟดับระดับประเทศ
    - T-Mobile ในสหรัฐฯ ก็เตรียมเปิดบริการคล้ายกันในเดือนตุลาคม 2025

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - บริการ Direct-to-Cell ยังจำกัดเฉพาะการส่งข้อความ ไม่รองรับการโทรหรือใช้งานอินเทอร์เน็ตเต็มรูปแบบในช่วงแรก
    - ต้องอยู่ในพื้นที่ที่สามารถมองเห็นดาวเทียม Starlink จึงจะใช้งานได้
    - ความเร็วและความเสถียรของบริการอาจยังไม่เทียบเท่าการเชื่อมต่อมือถือทั่วไป
    - การพึ่งพาเทคโนโลยีจากบริษัทต่างชาติในช่วงสงครามอาจมีข้อจำกัดด้านความมั่นคง
    - ผู้ใช้ควรติดตามเงื่อนไขการใช้งานและความปลอดภัยของข้อมูลจากผู้ให้บริการ

    https://www.tomshardware.com/networking/ukraine-to-become-first-european-country-with-starlink-direct-to-cell-service-messaging-by-year-end-with-mobile-satellite-broadband-expected-mid-2026
    ยูเครนเตรียมใช้ Starlink ส่งข้อความผ่านดาวเทียม – สื่อสารได้แม้ไม่มีสัญญาณมือถือ ในช่วงสงครามที่ยังดำเนินอยู่ ยูเครนต้องเผชิญกับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมอย่างต่อเนื่อง ทำให้การสื่อสารขัดข้องบ่อยครั้ง ล่าสุด Kyivstar จึงจับมือกับ SpaceX เพื่อเปิดบริการ “Direct-to-Cell” โดยใช้เครือข่ายดาวเทียม Starlink ส่งข้อความโดยตรงถึงมือถือของผู้ใช้ แม้ไม่มีสัญญาณจากเสาสัญญาณปกติ บริการนี้จะเริ่มให้ใช้งานในรูปแบบการส่งข้อความผ่านแอป เช่น WhatsApp และ Signal ภายในสิ้นปี 2025 และจะขยายเป็นบริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียมสำหรับมือถือในช่วงกลางปี 2026 นอกจากการส่งข้อความแล้ว Kyivstar ยังมีแผนให้บริการเสียงและข้อมูลผ่านดาวเทียมในอนาคต โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่ T-Mobile ในสหรัฐฯ เตรียมเปิดตัวในเดือนตุลาคมนี้ Kyivstar เคยให้บริการฟรีหลายอย่างแก่ประชาชนในช่วงสงคราม เช่น อินเทอร์เน็ต 80 Mbps ฟรีในบางพื้นที่, ขยายเวลาชำระเงิน และติดตั้ง Wi-Fi ในบังเกอร์หลบภัยหลายร้อยแห่ง การร่วมมือกับ Starlink ครั้งนี้จะช่วยให้เครือข่ายของ Kyivstar มีความทนทานมากขึ้น โดยสามารถให้บริการได้แม้ในช่วงไฟดับระดับประเทศนานถึง 10 ชั่วโมง ✅ ข้อมูลจากข่าว - ยูเครนจะเป็นประเทศแรกในยุโรปที่ใช้บริการ Starlink Direct-to-Cell - Kyivstar ร่วมมือกับ SpaceX เพื่อให้บริการส่งข้อความผ่านดาวเทียมภายในสิ้นปี 2025 - บริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียมสำหรับมือถือจะเริ่มในไตรมาส 2 ปี 2026 - ใช้ Starlink เป็นเสาสัญญาณเสมือน ส่งข้อความผ่านแอปแม้ไม่มีสัญญาณมือถือ - Kyivstar เคยให้บริการฟรีในช่วงสงคราม เช่น อินเทอร์เน็ตในบังเกอร์และขยายเวลาชำระเงิน - เครือข่ายสามารถทำงานได้ถึง 10 ชั่วโมงในช่วงไฟดับระดับประเทศ - T-Mobile ในสหรัฐฯ ก็เตรียมเปิดบริการคล้ายกันในเดือนตุลาคม 2025 ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - บริการ Direct-to-Cell ยังจำกัดเฉพาะการส่งข้อความ ไม่รองรับการโทรหรือใช้งานอินเทอร์เน็ตเต็มรูปแบบในช่วงแรก - ต้องอยู่ในพื้นที่ที่สามารถมองเห็นดาวเทียม Starlink จึงจะใช้งานได้ - ความเร็วและความเสถียรของบริการอาจยังไม่เทียบเท่าการเชื่อมต่อมือถือทั่วไป - การพึ่งพาเทคโนโลยีจากบริษัทต่างชาติในช่วงสงครามอาจมีข้อจำกัดด้านความมั่นคง - ผู้ใช้ควรติดตามเงื่อนไขการใช้งานและความปลอดภัยของข้อมูลจากผู้ให้บริการ https://www.tomshardware.com/networking/ukraine-to-become-first-european-country-with-starlink-direct-to-cell-service-messaging-by-year-end-with-mobile-satellite-broadband-expected-mid-2026
    0 Comments 0 Shares 117 Views 0 Reviews
  • Reachy Mini – หุ่นยนต์ตั้งโต๊ะราคาประหยัดที่ใครก็เข้าถึงได้

    Hugging Face ซึ่งเป็นบริษัทที่รู้จักกันดีในวงการ AI ซอฟต์แวร์ ได้ก้าวเข้าสู่โลกฮาร์ดแวร์อย่างเต็มตัวด้วยการเปิดตัว Reachy Mini หุ่นยนต์ตั้งโต๊ะขนาด 11 นิ้ว ที่ออกแบบมาเพื่อให้นักพัฒนา ครู และผู้สนใจทั่วไปสามารถทดลองใช้งาน AI และหุ่นยนต์ได้ในราคาย่อมเยา

    Reachy Mini มีให้เลือก 2 รุ่น:
    - รุ่น Lite: ต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ภายนอก
    - รุ่น Wireless: มาพร้อม Raspberry Pi 5, แบตเตอรี่ และ Wi-Fi ใช้งานได้แบบอิสระ

    ตัวหุ่นยนต์มีความสามารถในการเคลื่อนไหวศีรษะ หมุนตัว และขยับเสาอากาศแบบแอนิเมชัน พร้อมกล้องมุมกว้าง ไมโครโฟน และลำโพงสำหรับการโต้ตอบด้วยเสียงและภาพ

    ผู้ใช้สามารถเข้าถึงพฤติกรรมที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้ากว่า 15 แบบ เช่น การติดตามใบหน้าและมือ หรือการเต้น และยังสามารถดาวน์โหลด แชร์ หรือสร้างแอปหุ่นยนต์ใหม่ผ่านแพลตฟอร์มของ Hugging Face ได้อีกด้วย

    ที่สำคัญคือ Hugging Face เปิดเผยทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และสภาพแวดล้อมจำลองแบบโอเพนซอร์สทั้งหมด เพื่อให้ชุมชนสามารถปรับแต่งและพัฒนาต่อได้อย่างอิสระ

    อย่างไรก็ตาม การเข้าสู่โลกฮาร์ดแวร์ก็มีความท้าทาย เช่น การผลิต การควบคุมคุณภาพ และโลจิสติกส์ ซึ่ง Hugging Face แก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการจัดส่งเป็นชุดกึ่งประกอบ เพื่อให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมและให้ฟีดแบ็กกลับมา

    ข้อมูลจากข่าว
    - Hugging Face เปิดตัว Reachy Mini หุ่นยนต์ตั้งโต๊ะขนาด 11 นิ้ว ราคาเริ่มต้น $299
    - มี 2 รุ่น: Lite (ต้องใช้คอมพิวเตอร์ภายนอก) และ Wireless (มี Raspberry Pi 5 และ Wi-Fi)
    - รองรับการเขียนโปรแกรมด้วย Python และจะเพิ่ม JavaScript กับ Scratch ในอนาคต
    - มีความสามารถในการเคลื่อนไหวและโต้ตอบด้วยเสียงและภาพ
    - มีพฤติกรรมติดตั้งไว้ล่วงหน้ากว่า 15 แบบ เช่น การติดตามใบหน้าและมือ
    - เปิดให้ดาวน์โหลด แชร์ และสร้างแอปหุ่นยนต์ผ่านแพลตฟอร์มของ Hugging Face
    - ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ทั้งหมดเป็นโอเพนซอร์ส
    - จัดส่งเป็นชุดกึ่งประกอบเพื่อให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในการพัฒนา

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - การประกอบชุดกึ่งสำเร็จอาจไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่มีพื้นฐานด้านฮาร์ดแวร์
    - การใช้งาน AI แบบโลคอลอาจต้องการความเข้าใจด้านการตั้งค่าและความปลอดภัยของข้อมูล
    - แม้จะเปิดโอเพนซอร์ส แต่การพัฒนาแอปหุ่นยนต์ยังต้องใช้ทักษะด้านโปรแกรมมิ่ง
    - ความท้าทายด้านการผลิตและโลจิสติกส์อาจส่งผลต่อคุณภาพและการจัดส่งในช่วงแรก
    - ผู้ใช้ควรตรวจสอบความเข้ากันได้ของอุปกรณ์เสริมก่อนซื้อรุ่น Lite

    https://www.techspot.com/news/108629-hugging-face-introduces-open-source-desktop-robot-299.html
    Reachy Mini – หุ่นยนต์ตั้งโต๊ะราคาประหยัดที่ใครก็เข้าถึงได้ Hugging Face ซึ่งเป็นบริษัทที่รู้จักกันดีในวงการ AI ซอฟต์แวร์ ได้ก้าวเข้าสู่โลกฮาร์ดแวร์อย่างเต็มตัวด้วยการเปิดตัว Reachy Mini หุ่นยนต์ตั้งโต๊ะขนาด 11 นิ้ว ที่ออกแบบมาเพื่อให้นักพัฒนา ครู และผู้สนใจทั่วไปสามารถทดลองใช้งาน AI และหุ่นยนต์ได้ในราคาย่อมเยา Reachy Mini มีให้เลือก 2 รุ่น: - รุ่น Lite: ต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ภายนอก - รุ่น Wireless: มาพร้อม Raspberry Pi 5, แบตเตอรี่ และ Wi-Fi ใช้งานได้แบบอิสระ ตัวหุ่นยนต์มีความสามารถในการเคลื่อนไหวศีรษะ หมุนตัว และขยับเสาอากาศแบบแอนิเมชัน พร้อมกล้องมุมกว้าง ไมโครโฟน และลำโพงสำหรับการโต้ตอบด้วยเสียงและภาพ ผู้ใช้สามารถเข้าถึงพฤติกรรมที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้ากว่า 15 แบบ เช่น การติดตามใบหน้าและมือ หรือการเต้น และยังสามารถดาวน์โหลด แชร์ หรือสร้างแอปหุ่นยนต์ใหม่ผ่านแพลตฟอร์มของ Hugging Face ได้อีกด้วย ที่สำคัญคือ Hugging Face เปิดเผยทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และสภาพแวดล้อมจำลองแบบโอเพนซอร์สทั้งหมด เพื่อให้ชุมชนสามารถปรับแต่งและพัฒนาต่อได้อย่างอิสระ อย่างไรก็ตาม การเข้าสู่โลกฮาร์ดแวร์ก็มีความท้าทาย เช่น การผลิต การควบคุมคุณภาพ และโลจิสติกส์ ซึ่ง Hugging Face แก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการจัดส่งเป็นชุดกึ่งประกอบ เพื่อให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมและให้ฟีดแบ็กกลับมา ✅ ข้อมูลจากข่าว - Hugging Face เปิดตัว Reachy Mini หุ่นยนต์ตั้งโต๊ะขนาด 11 นิ้ว ราคาเริ่มต้น $299 - มี 2 รุ่น: Lite (ต้องใช้คอมพิวเตอร์ภายนอก) และ Wireless (มี Raspberry Pi 5 และ Wi-Fi) - รองรับการเขียนโปรแกรมด้วย Python และจะเพิ่ม JavaScript กับ Scratch ในอนาคต - มีความสามารถในการเคลื่อนไหวและโต้ตอบด้วยเสียงและภาพ - มีพฤติกรรมติดตั้งไว้ล่วงหน้ากว่า 15 แบบ เช่น การติดตามใบหน้าและมือ - เปิดให้ดาวน์โหลด แชร์ และสร้างแอปหุ่นยนต์ผ่านแพลตฟอร์มของ Hugging Face - ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ทั้งหมดเป็นโอเพนซอร์ส - จัดส่งเป็นชุดกึ่งประกอบเพื่อให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในการพัฒนา ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - การประกอบชุดกึ่งสำเร็จอาจไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่มีพื้นฐานด้านฮาร์ดแวร์ - การใช้งาน AI แบบโลคอลอาจต้องการความเข้าใจด้านการตั้งค่าและความปลอดภัยของข้อมูล - แม้จะเปิดโอเพนซอร์ส แต่การพัฒนาแอปหุ่นยนต์ยังต้องใช้ทักษะด้านโปรแกรมมิ่ง - ความท้าทายด้านการผลิตและโลจิสติกส์อาจส่งผลต่อคุณภาพและการจัดส่งในช่วงแรก - ผู้ใช้ควรตรวจสอบความเข้ากันได้ของอุปกรณ์เสริมก่อนซื้อรุ่น Lite https://www.techspot.com/news/108629-hugging-face-introduces-open-source-desktop-robot-299.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Hugging Face introduces open-source desktop robot for $299
    Unlike traditional robotics systems that often come with hefty price tags and proprietary software, Reachy Mini is fully programmable in Python, with support for JavaScript and Scratch...
    0 Comments 0 Shares 92 Views 0 Reviews
  • คลิ๊กดูรายละเอียด --> https://s.shopee.co.th/zJ4rgIGa
    ที่รองน่องในรถยนต์
    คลิ๊กดูรายละเอียด --> https://s.shopee.co.th/zJ4rgIGa ที่รองน่องในรถยนต์
    0 Comments 0 Shares 25 Views 0 Reviews
  • Microsoft เปลี่ยนเอนจิน JavaScript เก่า – ปิดช่องโหว่ที่หลงเหลือมานานกว่า 30 ปี

    ย้อนกลับไปตั้งแต่ยุค Internet Explorer 3.0 เมื่อเกือบ 30 ปีก่อน Microsoft ได้พัฒนา JScript ซึ่งเป็น dialect ของ JavaScript ที่ใช้ในเบราว์เซอร์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ บน Windows แม้ว่า IE จะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ JScript กลับยังคงอยู่ในระบบ Windows รุ่นใหม่ ๆ และกลายเป็นช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง

    ล่าสุด Microsoft ประกาศว่าใน Windows 11 รุ่น 24H2 จะมีการเปลี่ยนเอนจิน JScript แบบเก่าไปใช้ JScript9Legacy ซึ่งเป็น runtime ใหม่ที่ปลอดภัยและทันสมัยกว่า โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้ดำเนินการใด ๆ—ระบบจะเปลี่ยนให้อัตโนมัติ

    JScript9Legacy พัฒนาบนพื้นฐานของ Chakra engine ที่เคยใช้ใน Internet Explorer 9 และถูกออกแบบมาเพื่อ:
    - ปรับปรุงความปลอดภัยจากการโจมตีแบบ cross-site scripting (XSS)
    - เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการ JavaScript objects
    - ใช้นโยบายการรันสคริปต์ที่เข้มงวดขึ้น

    Microsoft ระบุว่าแม้จะไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของสคริปต์เดิม แต่ก็เปิดทางให้ผู้ใช้ระดับองค์กรสามารถ rollback กลับไปใช้ JScript เดิมได้ หากมีความจำเป็น โดยต้องติดต่อผ่าน Windows Services Hub

    ข้อมูลจากข่าว
    - Microsoft เปลี่ยนจาก JScript engine แบบเก่าไปใช้ JScript9Legacy ใน Windows 11 รุ่น 24H2
    - JScript9Legacy พัฒนาบน Chakra engine ที่เคยใช้ใน IE9
    - ระบบจะเปลี่ยนให้อัตโนมัติ ไม่ต้องให้ผู้ใช้ดำเนินการเอง
    - เอนจินใหม่มีการปรับปรุงด้านความปลอดภัย เช่น ป้องกัน XSS และจัดการ object ได้ดีขึ้น
    - Microsoft ยังคงออกอัปเดตด้านความปลอดภัยรายเดือนสำหรับสคริปต์
    - ผู้ใช้ระดับองค์กรสามารถขอ rollback กลับไปใช้ JScript เดิมได้ผ่าน Windows Services Hub

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - แม้จะไม่มีผลกระทบที่คาดการณ์ไว้ แต่ Microsoft ยอมรับว่าอาจมีปัญหาความเข้ากันได้กับสคริปต์เดิมบางประเภท
    - การใช้ JScript engine แบบเก่าในระบบที่ยังไม่ได้อัปเดต อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีผ่านช่องโหว่ที่รู้จักแล้ว
    - ผู้ดูแลระบบควรตรวจสอบสคริปต์ที่ใช้งานอยู่เพื่อให้แน่ใจว่าเข้ากันได้กับ JScript9Legacy
    - การ rollback กลับไปใช้ JScript เดิมควรทำด้วยความระมัดระวัง และเฉพาะในกรณีที่จำเป็นจริง ๆ
    - นักพัฒนาและองค์กรควรเริ่มวางแผนย้ายออกจาก JScript ไปใช้มาตรฐาน JavaScript สมัยใหม่ที่ปลอดภัยกว่า

    https://www.techspot.com/news/108625-microsoft-replaced-legacy-javascript-engine-improve-security-windows.html
    Microsoft เปลี่ยนเอนจิน JavaScript เก่า – ปิดช่องโหว่ที่หลงเหลือมานานกว่า 30 ปี ย้อนกลับไปตั้งแต่ยุค Internet Explorer 3.0 เมื่อเกือบ 30 ปีก่อน Microsoft ได้พัฒนา JScript ซึ่งเป็น dialect ของ JavaScript ที่ใช้ในเบราว์เซอร์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ บน Windows แม้ว่า IE จะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ JScript กลับยังคงอยู่ในระบบ Windows รุ่นใหม่ ๆ และกลายเป็นช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ล่าสุด Microsoft ประกาศว่าใน Windows 11 รุ่น 24H2 จะมีการเปลี่ยนเอนจิน JScript แบบเก่าไปใช้ JScript9Legacy ซึ่งเป็น runtime ใหม่ที่ปลอดภัยและทันสมัยกว่า โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้ดำเนินการใด ๆ—ระบบจะเปลี่ยนให้อัตโนมัติ JScript9Legacy พัฒนาบนพื้นฐานของ Chakra engine ที่เคยใช้ใน Internet Explorer 9 และถูกออกแบบมาเพื่อ: - ปรับปรุงความปลอดภัยจากการโจมตีแบบ cross-site scripting (XSS) - เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการ JavaScript objects - ใช้นโยบายการรันสคริปต์ที่เข้มงวดขึ้น Microsoft ระบุว่าแม้จะไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของสคริปต์เดิม แต่ก็เปิดทางให้ผู้ใช้ระดับองค์กรสามารถ rollback กลับไปใช้ JScript เดิมได้ หากมีความจำเป็น โดยต้องติดต่อผ่าน Windows Services Hub ✅ ข้อมูลจากข่าว - Microsoft เปลี่ยนจาก JScript engine แบบเก่าไปใช้ JScript9Legacy ใน Windows 11 รุ่น 24H2 - JScript9Legacy พัฒนาบน Chakra engine ที่เคยใช้ใน IE9 - ระบบจะเปลี่ยนให้อัตโนมัติ ไม่ต้องให้ผู้ใช้ดำเนินการเอง - เอนจินใหม่มีการปรับปรุงด้านความปลอดภัย เช่น ป้องกัน XSS และจัดการ object ได้ดีขึ้น - Microsoft ยังคงออกอัปเดตด้านความปลอดภัยรายเดือนสำหรับสคริปต์ - ผู้ใช้ระดับองค์กรสามารถขอ rollback กลับไปใช้ JScript เดิมได้ผ่าน Windows Services Hub ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - แม้จะไม่มีผลกระทบที่คาดการณ์ไว้ แต่ Microsoft ยอมรับว่าอาจมีปัญหาความเข้ากันได้กับสคริปต์เดิมบางประเภท - การใช้ JScript engine แบบเก่าในระบบที่ยังไม่ได้อัปเดต อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีผ่านช่องโหว่ที่รู้จักแล้ว - ผู้ดูแลระบบควรตรวจสอบสคริปต์ที่ใช้งานอยู่เพื่อให้แน่ใจว่าเข้ากันได้กับ JScript9Legacy - การ rollback กลับไปใช้ JScript เดิมควรทำด้วยความระมัดระวัง และเฉพาะในกรณีที่จำเป็นจริง ๆ - นักพัฒนาและองค์กรควรเริ่มวางแผนย้ายออกจาก JScript ไปใช้มาตรฐาน JavaScript สมัยใหม่ที่ปลอดภัยกว่า https://www.techspot.com/news/108625-microsoft-replaced-legacy-javascript-engine-improve-security-windows.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft replaces legacy JavaScript engine to improve security in Windows 11
    Microsoft officially retired JScript years ago, along with proper support for the original Internet Explorer browser. However, the JScript engine still lingers in modern Windows installations, posing...
    0 Comments 0 Shares 92 Views 0 Reviews
  • เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2025 Elon Musk และทีม xAI เปิดตัว Grok 4 ซึ่งเป็นโมเดล AI แบบมัลติโหมดรุ่นล่าสุด โดยมีจุดเด่นด้านการเข้าใจภาษา การแก้โจทย์คณิตศาสตร์ และการให้เหตุผลอย่างลึกซึ้ง

    Grok 4 มีหลายเวอร์ชัน โดยเวอร์ชัน “Heavy” ที่ใช้เครื่องมือหลายตัวพร้อมกัน (multi-agent tools) ทำคะแนนได้สูงมากในหลายการทดสอบ เช่น:
    - Humanity’s Last Exam (HLE): Grok 4 Heavy ทำคะแนนได้ 44.4% สูงกว่า Gemini 2.5 Pro ที่ใช้เครื่องมือ (26.9%)
    - ARC-AGI-2: Grok 4 ได้ 16.2% ซึ่งสูงกว่า Claude Opus 4 เกือบเท่าตัว
    - MMLU: ได้คะแนน 86.6% และมี Intelligence Index สูงถึง 73 ซึ่งนำหน้าทั้ง OpenAI และ Google

    ในด้าน STEM และการเขียนโค้ด:
    - GPQA: Grok 4 ได้ 87.5%, ส่วน Grok 4 Heavy ได้ 88.9%
    - AIME: Grok 4 Heavy ได้คะแนนเต็ม 100%
    - SWE-Bench: Grok 4 Code (จะเปิดตัวเดือนสิงหาคม) ทำคะแนนได้ 72–75%

    Elon Musk ระบุว่า Grok 4 “แทบไม่เคยตอบผิดในข้อสอบฟิสิกส์หรือคณิตศาสตร์เลย” และสามารถตรวจจับข้อผิดพลาดในคำถามได้ด้วย

    ด้านราคาการใช้งาน:
    - API ราคาเท่า Grok 3: $3/$15 ต่อ 1 ล้าน tokens

    แพ็กเกจผู้ใช้ทั่วไป:
    - ฟรี: เข้าถึง Grok 3 แบบจำกัด
    - SuperGrok ($30/เดือน): เข้าถึง Grok 3 และ Grok 4
    - SuperGrok Heavy ($300/เดือน): เข้าถึง Grok 3, Grok 4 และ Grok 4 Heavy

    https://www.neowin.net/news/elon-musks-xai-launches-grok-4-claiming-top-spot-among-industry-ai-models/
    เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2025 Elon Musk และทีม xAI เปิดตัว Grok 4 ซึ่งเป็นโมเดล AI แบบมัลติโหมดรุ่นล่าสุด โดยมีจุดเด่นด้านการเข้าใจภาษา การแก้โจทย์คณิตศาสตร์ และการให้เหตุผลอย่างลึกซึ้ง Grok 4 มีหลายเวอร์ชัน โดยเวอร์ชัน “Heavy” ที่ใช้เครื่องมือหลายตัวพร้อมกัน (multi-agent tools) ทำคะแนนได้สูงมากในหลายการทดสอบ เช่น: - Humanity’s Last Exam (HLE): Grok 4 Heavy ทำคะแนนได้ 44.4% สูงกว่า Gemini 2.5 Pro ที่ใช้เครื่องมือ (26.9%) - ARC-AGI-2: Grok 4 ได้ 16.2% ซึ่งสูงกว่า Claude Opus 4 เกือบเท่าตัว - MMLU: ได้คะแนน 86.6% และมี Intelligence Index สูงถึง 73 ซึ่งนำหน้าทั้ง OpenAI และ Google ในด้าน STEM และการเขียนโค้ด: - GPQA: Grok 4 ได้ 87.5%, ส่วน Grok 4 Heavy ได้ 88.9% - AIME: Grok 4 Heavy ได้คะแนนเต็ม 100% - SWE-Bench: Grok 4 Code (จะเปิดตัวเดือนสิงหาคม) ทำคะแนนได้ 72–75% Elon Musk ระบุว่า Grok 4 “แทบไม่เคยตอบผิดในข้อสอบฟิสิกส์หรือคณิตศาสตร์เลย” และสามารถตรวจจับข้อผิดพลาดในคำถามได้ด้วย ด้านราคาการใช้งาน: - API ราคาเท่า Grok 3: $3/$15 ต่อ 1 ล้าน tokens แพ็กเกจผู้ใช้ทั่วไป: - ฟรี: เข้าถึง Grok 3 แบบจำกัด - SuperGrok ($30/เดือน): เข้าถึง Grok 3 และ Grok 4 - SuperGrok Heavy ($300/เดือน): เข้าถึง Grok 3, Grok 4 และ Grok 4 Heavy https://www.neowin.net/news/elon-musks-xai-launches-grok-4-claiming-top-spot-among-industry-ai-models/
    WWW.NEOWIN.NET
    Elon Musk's xAI launches Grok 4, claiming top spot among industry AI models
    Elon Musk's xAI has launched its new flagship AI model, Grok-4, which demonstrates leading performance in various academic, reasoning, and coding benchmarks.
    0 Comments 0 Shares 76 Views 0 Reviews
  • When To Use “I” Or “Me”

    Is it “my friends and I” or “my friends and me”? Both I and me are pronouns. But there’s a clear difference between the two: I is what is known as a subject pronoun, and me is an object pronoun.

    So what exactly does that mean?

    The difference between I and me
    The pronoun I can be used as the subject of a sentence, and me can only be used as the object of one. I can perform an action, while me can only have actions performed upon it.

    When to use I
    A subject pronoun can replace the noun (person, place, or thing) that’s performing the action (or verb) in any sentence. I is most often used as the subject of a verb. I can do things. You can say things like “I ran” or “I sneezed.” This rules applies when there is more than one noun as the subject. For example: Jennifer and I researched Isabel Allende for class. How do you know whether to use I or me here? First, ignore Jennifer and. Consider each pronoun individually. Is “I researched” or “me researched” correct? The answer is “I researched.” So I is the right pronoun to use in this case.

    Traditionally, the use of I is also appropriate when it follows a linking verb like is, was, or were. Linking verbs express a state of being rather than describing an action. They’re usually paired with subject pronouns. Technically, that means saying it is I is correct, but English speakers tend to use it is me informally as well.

    Examples of I in a sentence
    I fixed the remote control. (subject)
    My husband and I checked into the hotel. (subject)
    Could I speak to Vanessa? – It is I. (after a linking verb)

    When to use me
    An object pronoun may replace a sentence’s direct object, indirect object, or the object of the preposition. The object pronoun me is typically used as the direct or indirect object of a sentence. It receives the action of the verb or shows the result of the action. So you shouldn’t really say “Me ran.” You can say “My dog ran to me,” because in this case me is receiving the action of the dog running.

    As we’ve already noted, the use of me is also appropriate following a linking verb like is, was, or were.

    Examples of me in a sentence
    My grandfather bought me a book. (object)
    Give me the money. (object)
    Albert, is that you? – Yes, it’s me. (after a linking verb)

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    When To Use “I” Or “Me” Is it “my friends and I” or “my friends and me”? Both I and me are pronouns. But there’s a clear difference between the two: I is what is known as a subject pronoun, and me is an object pronoun. So what exactly does that mean? The difference between I and me The pronoun I can be used as the subject of a sentence, and me can only be used as the object of one. I can perform an action, while me can only have actions performed upon it. When to use I A subject pronoun can replace the noun (person, place, or thing) that’s performing the action (or verb) in any sentence. I is most often used as the subject of a verb. I can do things. You can say things like “I ran” or “I sneezed.” This rules applies when there is more than one noun as the subject. For example: Jennifer and I researched Isabel Allende for class. How do you know whether to use I or me here? First, ignore Jennifer and. Consider each pronoun individually. Is “I researched” or “me researched” correct? The answer is “I researched.” So I is the right pronoun to use in this case. Traditionally, the use of I is also appropriate when it follows a linking verb like is, was, or were. Linking verbs express a state of being rather than describing an action. They’re usually paired with subject pronouns. Technically, that means saying it is I is correct, but English speakers tend to use it is me informally as well. Examples of I in a sentence I fixed the remote control. (subject) My husband and I checked into the hotel. (subject) Could I speak to Vanessa? – It is I. (after a linking verb) When to use me An object pronoun may replace a sentence’s direct object, indirect object, or the object of the preposition. The object pronoun me is typically used as the direct or indirect object of a sentence. It receives the action of the verb or shows the result of the action. So you shouldn’t really say “Me ran.” You can say “My dog ran to me,” because in this case me is receiving the action of the dog running. As we’ve already noted, the use of me is also appropriate following a linking verb like is, was, or were. Examples of me in a sentence My grandfather bought me a book. (object) Give me the money. (object) Albert, is that you? – Yes, it’s me. (after a linking verb) © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 Comments 0 Shares 140 Views 0 Reviews
More Results