• BONNY ขอท้าพิสูจน์! เครื่องหั่นผัก 1 ตัว แทนแรงงานได้กี่คน?

    เคยสงสัยไหมว่าทำไมธุรกิจอาหารที่เติบโตเร็ว ถึงใช้เครื่องจักรเข้ามาช่วย? เพราะนั่นคือการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในระยะยาว

    BONNY เครื่องหั่นผัก (Vegetable Cutter) คือคำตอบ!
    ประสิทธิภาพสูง: หั่นผักได้ 50-100 kg/hr ด้วยมอเตอร์ 1 แรงม้า
    สารพัดประโยชน์: เปลี่ยนจานใบมีดได้ถึง 6 แบบ ทั้งหั่นเต๋า หั่นฝอย หรือหั่นแว่น
    แข็งแรงทนทาน: น้ำหนัก 26 kg. ขนาดกระทัดรัด 50x23x55 ซม. เคลื่อนย้ายง่าย

    ไม่ว่าจะเป็นแครอท หรือกะหล่ำปลี ก็หั่นได้เนียนกริบ สม่ำเสมอ พร้อมส่งเข้ากระบวนการผลิตต่อทันที!

    สนใจยกระดับธุรกิจของคุณ?
    ปรึกษาฟรี! ติดต่อเราได้เลย
    m.me/yonghahheng
    02-215-3515-9, 081-3189098

    #เครื่องหั่นผัก #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #เครื่องหั่น #เครื่องสไลด์ #เครื่องบด #เครื่องครัวร้านอาหาร #เครื่องหั่นเต๋า #เครื่องหั่นผักอเนกประสงค์ #หั่นผัก #หั่นเต๋า #หั่นเผือก #หั่นแครอท #หั่นกะหล่ำปลี #ร้านอาหาร #ธุรกิจอาหาร #ครัวร้านอาหาร #อาหารแปรรูป #โรงงานอาหาร #เครื่องครัว #อุปกรณ์ร้านอาหาร #SMEไทย #เครื่องจักรอาหาร #ลดต้นทุน #เพิ่มประสิทธิภาพ #อุปกรณ์ครัวมืออาชีพ #ยงฮะเฮง #BONNY #Yonghahheng #VegetableCutter #FoodProcessingMachine
    BONNY ขอท้าพิสูจน์! เครื่องหั่นผัก 1 ตัว แทนแรงงานได้กี่คน? เคยสงสัยไหมว่าทำไมธุรกิจอาหารที่เติบโตเร็ว ถึงใช้เครื่องจักรเข้ามาช่วย? เพราะนั่นคือการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในระยะยาว BONNY เครื่องหั่นผัก (Vegetable Cutter) คือคำตอบ! ✨ ประสิทธิภาพสูง: หั่นผักได้ 50-100 kg/hr ด้วยมอเตอร์ 1 แรงม้า ✨ สารพัดประโยชน์: เปลี่ยนจานใบมีดได้ถึง 6 แบบ ทั้งหั่นเต๋า หั่นฝอย หรือหั่นแว่น ✨ แข็งแรงทนทาน: น้ำหนัก 26 kg. ขนาดกระทัดรัด 50x23x55 ซม. เคลื่อนย้ายง่าย ไม่ว่าจะเป็นแครอท หรือกะหล่ำปลี ก็หั่นได้เนียนกริบ สม่ำเสมอ พร้อมส่งเข้ากระบวนการผลิตต่อทันที! สนใจยกระดับธุรกิจของคุณ? ปรึกษาฟรี! ติดต่อเราได้เลย 👇 📥 m.me/yonghahheng 📞 02-215-3515-9, 081-3189098 #เครื่องหั่นผัก #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #เครื่องหั่น #เครื่องสไลด์ #เครื่องบด #เครื่องครัวร้านอาหาร #เครื่องหั่นเต๋า #เครื่องหั่นผักอเนกประสงค์ #หั่นผัก #หั่นเต๋า #หั่นเผือก #หั่นแครอท #หั่นกะหล่ำปลี #ร้านอาหาร #ธุรกิจอาหาร #ครัวร้านอาหาร #อาหารแปรรูป #โรงงานอาหาร #เครื่องครัว #อุปกรณ์ร้านอาหาร #SMEไทย #เครื่องจักรอาหาร #ลดต้นทุน #เพิ่มประสิทธิภาพ #อุปกรณ์ครัวมืออาชีพ #ยงฮะเฮง #BONNY #Yonghahheng #VegetableCutter #FoodProcessingMachine
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'บัญญัติ' เชียร์สุดตัว ชี้ 'อภิสิทธิ์' เหมาะสมนั่งหัวหน้า 'ปชป.' ชี้เก๋าเกม-มีวิสัยทัศน์!
    https://www.thai-tai.tv/news/21495/
    .
    #ไทยไท #พรรคประชาธิปัตย์ #บัญญัติบรรทัดฐาน #อภิสิทธิ์เวชชาชีวะ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    'บัญญัติ' เชียร์สุดตัว ชี้ 'อภิสิทธิ์' เหมาะสมนั่งหัวหน้า 'ปชป.' ชี้เก๋าเกม-มีวิสัยทัศน์! https://www.thai-tai.tv/news/21495/ . #ไทยไท #พรรคประชาธิปัตย์ #บัญญัติบรรทัดฐาน #อภิสิทธิ์เวชชาชีวะ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ASRock เปิดตัว AI QuickSet WSL — ติดตั้งแอป AI บน Windows ง่ายเหมือนใช้วิซาร์ด พร้อมรองรับ GPU AMD รุ่นใหม่”

    ในยุคที่แอปพลิเคชัน AI ส่วนใหญ่ถูกออกแบบให้ทำงานบน Linux การใช้งานบน Windows กลายเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับผู้ใช้ทั่วไป โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีพื้นฐานด้านการตั้งค่าสภาพแวดล้อม ASRock จึงเปิดตัวเครื่องมือเวอร์ชันใหม่ชื่อว่า “AI QuickSet WSL” ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งและใช้งานแอป AI บน Windows ได้ง่ายขึ้น ผ่านระบบ Windows Subsystem for Linux (WSL)

    AI QuickSet WSL เป็นการต่อยอดจากเวอร์ชันแรกที่รองรับการติดตั้งแอป AI ทั้งบน Windows และ Linux โดยเวอร์ชันใหม่นี้เน้นการใช้งาน Linux-based AI บน Windows โดยเฉพาะ ด้วยการใช้แพลตฟอร์ม AMD ROCm ที่รองรับการเร่งความเร็วด้วย GPU จาก ASRock Radeon RX 7900 Series หรือใหม่กว่า

    ผู้ใช้สามารถติดตั้งแอป AI ได้ผ่าน GUI แบบวิซาร์ดที่มีขั้นตอนชัดเจน ไม่ต้องตั้งค่าด้วยตนเอง เช่น การเลือก runtime, การปรับแต่ง LLM หรือการจัดการ container โดยแอปจะจัดการให้ทั้งหมด พร้อมแอป AI ที่ติดตั้งมาให้ล่วงหน้า เช่น Audiocraft สำหรับสร้างเสียงจากข้อความ, PixtoonLab สำหรับแปลงภาพเป็นการ์ตูน, และ Video Background Remover สำหรับลบพื้นหลังวิดีโอ

    แม้จะรองรับทั้ง CPU Intel และ AMD แต่เครื่องมือนี้มีข้อกำหนดฮาร์ดแวร์ที่ค่อนข้างสูง เช่น RAM 64GB, Windows 11 เวอร์ชัน 24H2, และพื้นที่ว่างบนไดรฟ์ C: อย่างน้อย 150GB ซึ่งสะท้อนว่าเครื่องมือนี้ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ระดับจริงจังที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดในการประมวลผล AI

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ASRock เปิดตัว AI QuickSet WSL สำหรับติดตั้งแอป AI Linux บน Windows
    ใช้แพลตฟอร์ม AMD ROCm เพื่อเร่งความเร็วด้วย GPU Radeon RX 7900 Series ขึ้นไป
    รองรับการติดตั้งผ่าน GUI แบบวิซาร์ด — ไม่ต้องตั้งค่าด้วยตนเอง
    มีแอป AI ติดตั้งล่วงหน้า เช่น Audiocraft, PixtoonLab, Video Background Remover

    ความสามารถและการใช้งาน
    รองรับ CPU Intel Gen 12 ขึ้นไป และ AMD Ryzen 5000 ขึ้นไป
    ต้องใช้ RAM 64GB และ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2
    ต้องติดตั้งบนไดรฟ์ C: โดยมีพื้นที่ว่างอย่างน้อย 150GB
    รองรับเฉพาะ GPU ที่ผลิตโดย ASRock — ไม่รองรับการ์ด MBA จาก AMD

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    WSL เป็นระบบ virtualization ที่ไม่มี GUI — ทำให้เบาและเร็ว
    ROCm เป็นแพลตฟอร์มของ AMD สำหรับงาน HPC และ AI โดยเฉพาะ
    การใช้ GUI ช่วยลดอุปสรรคสำหรับผู้เริ่มต้นที่ไม่ถนัดคำสั่ง CLI
    แอป AI ที่ติดตั้งล่วงหน้าครอบคลุมงานเสียง ภาพ วิดีโอ และข้อความ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/asrocks-revamped-ai-quickset-wsl-virtualization-tool-makes-it-easy-to-run-linux-ai-apps-on-windows
    🖥️ “ASRock เปิดตัว AI QuickSet WSL — ติดตั้งแอป AI บน Windows ง่ายเหมือนใช้วิซาร์ด พร้อมรองรับ GPU AMD รุ่นใหม่” ในยุคที่แอปพลิเคชัน AI ส่วนใหญ่ถูกออกแบบให้ทำงานบน Linux การใช้งานบน Windows กลายเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับผู้ใช้ทั่วไป โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีพื้นฐานด้านการตั้งค่าสภาพแวดล้อม ASRock จึงเปิดตัวเครื่องมือเวอร์ชันใหม่ชื่อว่า “AI QuickSet WSL” ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งและใช้งานแอป AI บน Windows ได้ง่ายขึ้น ผ่านระบบ Windows Subsystem for Linux (WSL) AI QuickSet WSL เป็นการต่อยอดจากเวอร์ชันแรกที่รองรับการติดตั้งแอป AI ทั้งบน Windows และ Linux โดยเวอร์ชันใหม่นี้เน้นการใช้งาน Linux-based AI บน Windows โดยเฉพาะ ด้วยการใช้แพลตฟอร์ม AMD ROCm ที่รองรับการเร่งความเร็วด้วย GPU จาก ASRock Radeon RX 7900 Series หรือใหม่กว่า ผู้ใช้สามารถติดตั้งแอป AI ได้ผ่าน GUI แบบวิซาร์ดที่มีขั้นตอนชัดเจน ไม่ต้องตั้งค่าด้วยตนเอง เช่น การเลือก runtime, การปรับแต่ง LLM หรือการจัดการ container โดยแอปจะจัดการให้ทั้งหมด พร้อมแอป AI ที่ติดตั้งมาให้ล่วงหน้า เช่น Audiocraft สำหรับสร้างเสียงจากข้อความ, PixtoonLab สำหรับแปลงภาพเป็นการ์ตูน, และ Video Background Remover สำหรับลบพื้นหลังวิดีโอ แม้จะรองรับทั้ง CPU Intel และ AMD แต่เครื่องมือนี้มีข้อกำหนดฮาร์ดแวร์ที่ค่อนข้างสูง เช่น RAM 64GB, Windows 11 เวอร์ชัน 24H2, และพื้นที่ว่างบนไดรฟ์ C: อย่างน้อย 150GB ซึ่งสะท้อนว่าเครื่องมือนี้ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ระดับจริงจังที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดในการประมวลผล AI ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ASRock เปิดตัว AI QuickSet WSL สำหรับติดตั้งแอป AI Linux บน Windows ➡️ ใช้แพลตฟอร์ม AMD ROCm เพื่อเร่งความเร็วด้วย GPU Radeon RX 7900 Series ขึ้นไป ➡️ รองรับการติดตั้งผ่าน GUI แบบวิซาร์ด — ไม่ต้องตั้งค่าด้วยตนเอง ➡️ มีแอป AI ติดตั้งล่วงหน้า เช่น Audiocraft, PixtoonLab, Video Background Remover ✅ ความสามารถและการใช้งาน ➡️ รองรับ CPU Intel Gen 12 ขึ้นไป และ AMD Ryzen 5000 ขึ้นไป ➡️ ต้องใช้ RAM 64GB และ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 ➡️ ต้องติดตั้งบนไดรฟ์ C: โดยมีพื้นที่ว่างอย่างน้อย 150GB ➡️ รองรับเฉพาะ GPU ที่ผลิตโดย ASRock — ไม่รองรับการ์ด MBA จาก AMD ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ WSL เป็นระบบ virtualization ที่ไม่มี GUI — ทำให้เบาและเร็ว ➡️ ROCm เป็นแพลตฟอร์มของ AMD สำหรับงาน HPC และ AI โดยเฉพาะ ➡️ การใช้ GUI ช่วยลดอุปสรรคสำหรับผู้เริ่มต้นที่ไม่ถนัดคำสั่ง CLI ➡️ แอป AI ที่ติดตั้งล่วงหน้าครอบคลุมงานเสียง ภาพ วิดีโอ และข้อความ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/asrocks-revamped-ai-quickset-wsl-virtualization-tool-makes-it-easy-to-run-linux-ai-apps-on-windows
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    ASRock's revamped AI Quickset WSL virtualization tool makes it easy to run Linux AI apps on Windows
    ASRock's tool takes all the guesswork out of installing AI models on PC, including ones designed to work primarily in Linux.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Intel Arc A750 รุ่นต้นแบบโผล่พร้อมแรม 16GB และบัส 512-bit — การทดลองที่ไม่เคยเปิดตัว แต่สะท้อนความทะเยอทะยานของ Intel”

    แม้ Intel Arc A750 จะเปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2022 พร้อมสเปกมาตรฐานคือแรม GDDR6 ขนาด 8GB และบัส 256-bit แต่ล่าสุดมีภาพหลุดของรุ่นต้นแบบจากแบรนด์ Gunnir ที่มาพร้อมแรม 16GB และระบุว่ามีบัส 512-bit ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้กับวงการฮาร์ดแวร์ เพราะนี่คือสเปกที่ไม่เคยถูกเปิดเผยหรือวางขายจริง

    ตัวการ์ดถูกพบโดยผู้ใช้ X (Twitter) ชื่อ @komenezumi1006 ซึ่งระบุว่าเป็นตัวอย่างทางวิศวกรรม (engineering sample) ที่ใช้งานได้จริง โดยสามารถแสดงแรม 16GB ใน Task Manager และมีสติ๊กเกอร์ “Intel Arc Sample” ติดอยู่บนตัวการ์ด

    สิ่งที่น่าสนใจคือการ์ดนี้มีเพียงหนึ่ง GPU core เท่านั้น ซึ่งหักล้างข้อสงสัยว่าอาจเป็นรุ่น dual-GPU ที่รวมแรมจากสองตัวเข้าด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีคำอธิบายชัดเจนว่าทำไมถึงมีการระบุบัส 512-bit ซึ่งอาจเป็นการเข้าใจผิดจากการเพิ่มแรมเป็นสองเท่าแล้วคิดว่าบัสต้องเพิ่มตาม

    นอกจากนี้ ตัวการ์ดยังใช้พลังงานผ่าน 2x 8-pin PCIe connectors ซึ่งต่างจากรุ่นขายจริงที่ใช้ 1x 8-pin และ 1x 6-pin และมีดีไซน์แบบ blower-style cooler ที่ดูพร้อมใช้งานจริง แม้จะไม่มีการทดสอบ benchmark แต่ก็ถือเป็นหลักฐานว่าครั้งหนึ่ง Intel เคยพิจารณาทำ A750 รุ่น 16GB ก่อนจะตัดสินใจไม่เปิดตัว

    ในสายผลิตภัณฑ์จริง Intel มี Arc A770 ที่มีแรม 16GB และ Arc B750 รุ่นใหม่ที่มีแรม 10GB ส่วน B770 ที่กำลังจะเปิดตัวก็มีข่าวลือว่าจะมาพร้อมแรม 16GB เช่นกัน ทำให้ A750 รุ่นต้นแบบนี้กลายเป็น “รุ่นกลาง” เพียงตัวเดียวที่มีแรมระดับสูงในสาย Alchemist

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/intel-arc-a750-prototype-spotted-with-16gb-vram-engineering-sample-made-by-gunnir-sports-sticker-claiming-a-512-bit-memory-bus
    🧩 “Intel Arc A750 รุ่นต้นแบบโผล่พร้อมแรม 16GB และบัส 512-bit — การทดลองที่ไม่เคยเปิดตัว แต่สะท้อนความทะเยอทะยานของ Intel” แม้ Intel Arc A750 จะเปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2022 พร้อมสเปกมาตรฐานคือแรม GDDR6 ขนาด 8GB และบัส 256-bit แต่ล่าสุดมีภาพหลุดของรุ่นต้นแบบจากแบรนด์ Gunnir ที่มาพร้อมแรม 16GB และระบุว่ามีบัส 512-bit ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้กับวงการฮาร์ดแวร์ เพราะนี่คือสเปกที่ไม่เคยถูกเปิดเผยหรือวางขายจริง ตัวการ์ดถูกพบโดยผู้ใช้ X (Twitter) ชื่อ @komenezumi1006 ซึ่งระบุว่าเป็นตัวอย่างทางวิศวกรรม (engineering sample) ที่ใช้งานได้จริง โดยสามารถแสดงแรม 16GB ใน Task Manager และมีสติ๊กเกอร์ “Intel Arc Sample” ติดอยู่บนตัวการ์ด สิ่งที่น่าสนใจคือการ์ดนี้มีเพียงหนึ่ง GPU core เท่านั้น ซึ่งหักล้างข้อสงสัยว่าอาจเป็นรุ่น dual-GPU ที่รวมแรมจากสองตัวเข้าด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีคำอธิบายชัดเจนว่าทำไมถึงมีการระบุบัส 512-bit ซึ่งอาจเป็นการเข้าใจผิดจากการเพิ่มแรมเป็นสองเท่าแล้วคิดว่าบัสต้องเพิ่มตาม นอกจากนี้ ตัวการ์ดยังใช้พลังงานผ่าน 2x 8-pin PCIe connectors ซึ่งต่างจากรุ่นขายจริงที่ใช้ 1x 8-pin และ 1x 6-pin และมีดีไซน์แบบ blower-style cooler ที่ดูพร้อมใช้งานจริง แม้จะไม่มีการทดสอบ benchmark แต่ก็ถือเป็นหลักฐานว่าครั้งหนึ่ง Intel เคยพิจารณาทำ A750 รุ่น 16GB ก่อนจะตัดสินใจไม่เปิดตัว ในสายผลิตภัณฑ์จริง Intel มี Arc A770 ที่มีแรม 16GB และ Arc B750 รุ่นใหม่ที่มีแรม 10GB ส่วน B770 ที่กำลังจะเปิดตัวก็มีข่าวลือว่าจะมาพร้อมแรม 16GB เช่นกัน ทำให้ A750 รุ่นต้นแบบนี้กลายเป็น “รุ่นกลาง” เพียงตัวเดียวที่มีแรมระดับสูงในสาย Alchemist https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/intel-arc-a750-prototype-spotted-with-16gb-vram-engineering-sample-made-by-gunnir-sports-sticker-claiming-a-512-bit-memory-bus
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AI กินไม่หยุด — ตลาด HDD และ SSD ขาดแคลนทั่วโลก หลังความต้องการเก็บข้อมูลพุ่งทะลุเพดาน”

    ในขณะที่โลกกำลังตื่นเต้นกับการเติบโตของ AI โดยเฉพาะด้าน GPU ที่เป็นหัวใจของการประมวลผล แต่สิ่งที่หลายคนอาจมองข้ามคือ “พื้นที่จัดเก็บข้อมูล” ที่กำลังถูก AI กลืนกินอย่างเงียบ ๆ ทั้ง HDD และ SSD กำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลนครั้งใหญ่ โดยเฉพาะในกลุ่ม nearline HDD ที่ใช้เก็บข้อมูลแบบ “อุ่น” — ไม่ต้องเข้าถึงตลอดเวลา แต่ก็ต้องพร้อมใช้งานเมื่อจำเป็น

    Western Digital ส่งจดหมายแจ้งลูกค้าว่าความต้องการ HDD ทุกขนาดพุ่งสูงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และประกาศขึ้นราคาทุกผลิตภัณฑ์ทันที เพื่อ “รองรับการเติบโต” ซึ่งแน่นอนว่าก็ช่วยเพิ่มกำไรของบริษัทไปด้วยในตัว

    TrendForce รายงานว่าเวลารอสินค้าสำหรับ nearline HDD ตอนนี้ยาวถึง 52 สัปดาห์ — เกินหนึ่งปีเต็ม ซึ่งสะท้อนว่าผู้ผลิตไม่ได้เพิ่มกำลังการผลิตมานานนับทศวรรษ ขณะที่ AI โดยเฉพาะ generative AI ต้องใช้พื้นที่เก็บข้อมูลมหาศาล ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์จากโมเดล แต่รวมถึงชุดข้อมูลสำหรับเทรน, checkpoint, log, และข้อมูลย้อนหลังที่ต้องเก็บไว้เพื่อการตรวจสอบและปรับปรุงโมเดลในอนาคต

    เมื่อ HDD ไม่พอใช้ ผู้ให้บริการคลาวด์ (CSPs) จึงหันไปใช้ SSD โดยเฉพาะ QLC SSD สำหรับงาน cold data แม้จะมีต้นทุนสูงกว่า HDD ถึง 4–5 เท่า แต่ก็มีข้อดีเรื่องความเร็ว ความหนาแน่น และการใช้พลังงานที่ต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนไปใช้ SSD ยังต้องปรับระบบจัดการข้อมูลใหม่ทั้งหมด และอาจทำให้ราคาของ SSD โดยเฉพาะรุ่นสำหรับองค์กรพุ่งขึ้นอีก 5–10% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2025

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ความต้องการ HDD และ SSD พุ่งสูงจากการเติบโตของ AI โดยเฉพาะ generative AI
    Western Digital แจ้งลูกค้าเรื่องการขึ้นราคาทุกผลิตภัณฑ์ HDD
    เวลารอ nearline HDD ยาวถึง 52 สัปดาห์ — สะท้อนปัญหากำลังการผลิต
    AI ต้องใช้พื้นที่เก็บข้อมูลมหาศาล ทั้งผลลัพธ์และข้อมูลเบื้องหลัง

    การเปลี่ยนแปลงในตลาดและผลกระทบ
    CSPs หันไปใช้ QLC SSD สำหรับ cold data แทน HDD ที่ขาดแคลน
    SSD มีข้อดีเรื่องความเร็ว ความหนาแน่น และการใช้พลังงานต่ำ
    การเปลี่ยนไปใช้ SSD ต้องปรับระบบจัดการข้อมูลใหม่ทั้งหมด
    ราคาของ SSD สำหรับองค์กรอาจเพิ่มขึ้น 5–10% ในไตรมาส 4 ปี 2025

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    QLC SSD มีอัตราการใช้พลังงานต่ำกว่าฮาร์ดดิสก์ประมาณ 30%
    HDD ยังเป็นตัวเลือกหลักสำหรับ cold storage เพราะราคาต่อ GB ต่ำกว่า SSD
    การขาดแคลน HDD เกิดจากการลดกำลังผลิตในปี 2023 เพื่อควบคุมราคาตลาด
    จอภาพ 1000Hz ยังไม่รองรับการใช้งานเฟรมเรตสูงจากการประมวลผล AI

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/expect-hdd-ssd-shortages-as-ai-rewrites-the-rules-of-storage-hierarchy-multiple-companies-announce-price-hikes-too
    📦 “AI กินไม่หยุด — ตลาด HDD และ SSD ขาดแคลนทั่วโลก หลังความต้องการเก็บข้อมูลพุ่งทะลุเพดาน” ในขณะที่โลกกำลังตื่นเต้นกับการเติบโตของ AI โดยเฉพาะด้าน GPU ที่เป็นหัวใจของการประมวลผล แต่สิ่งที่หลายคนอาจมองข้ามคือ “พื้นที่จัดเก็บข้อมูล” ที่กำลังถูก AI กลืนกินอย่างเงียบ ๆ ทั้ง HDD และ SSD กำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลนครั้งใหญ่ โดยเฉพาะในกลุ่ม nearline HDD ที่ใช้เก็บข้อมูลแบบ “อุ่น” — ไม่ต้องเข้าถึงตลอดเวลา แต่ก็ต้องพร้อมใช้งานเมื่อจำเป็น Western Digital ส่งจดหมายแจ้งลูกค้าว่าความต้องการ HDD ทุกขนาดพุ่งสูงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และประกาศขึ้นราคาทุกผลิตภัณฑ์ทันที เพื่อ “รองรับการเติบโต” ซึ่งแน่นอนว่าก็ช่วยเพิ่มกำไรของบริษัทไปด้วยในตัว TrendForce รายงานว่าเวลารอสินค้าสำหรับ nearline HDD ตอนนี้ยาวถึง 52 สัปดาห์ — เกินหนึ่งปีเต็ม ซึ่งสะท้อนว่าผู้ผลิตไม่ได้เพิ่มกำลังการผลิตมานานนับทศวรรษ ขณะที่ AI โดยเฉพาะ generative AI ต้องใช้พื้นที่เก็บข้อมูลมหาศาล ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์จากโมเดล แต่รวมถึงชุดข้อมูลสำหรับเทรน, checkpoint, log, และข้อมูลย้อนหลังที่ต้องเก็บไว้เพื่อการตรวจสอบและปรับปรุงโมเดลในอนาคต เมื่อ HDD ไม่พอใช้ ผู้ให้บริการคลาวด์ (CSPs) จึงหันไปใช้ SSD โดยเฉพาะ QLC SSD สำหรับงาน cold data แม้จะมีต้นทุนสูงกว่า HDD ถึง 4–5 เท่า แต่ก็มีข้อดีเรื่องความเร็ว ความหนาแน่น และการใช้พลังงานที่ต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนไปใช้ SSD ยังต้องปรับระบบจัดการข้อมูลใหม่ทั้งหมด และอาจทำให้ราคาของ SSD โดยเฉพาะรุ่นสำหรับองค์กรพุ่งขึ้นอีก 5–10% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2025 ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ความต้องการ HDD และ SSD พุ่งสูงจากการเติบโตของ AI โดยเฉพาะ generative AI ➡️ Western Digital แจ้งลูกค้าเรื่องการขึ้นราคาทุกผลิตภัณฑ์ HDD ➡️ เวลารอ nearline HDD ยาวถึง 52 สัปดาห์ — สะท้อนปัญหากำลังการผลิต ➡️ AI ต้องใช้พื้นที่เก็บข้อมูลมหาศาล ทั้งผลลัพธ์และข้อมูลเบื้องหลัง ✅ การเปลี่ยนแปลงในตลาดและผลกระทบ ➡️ CSPs หันไปใช้ QLC SSD สำหรับ cold data แทน HDD ที่ขาดแคลน ➡️ SSD มีข้อดีเรื่องความเร็ว ความหนาแน่น และการใช้พลังงานต่ำ ➡️ การเปลี่ยนไปใช้ SSD ต้องปรับระบบจัดการข้อมูลใหม่ทั้งหมด ➡️ ราคาของ SSD สำหรับองค์กรอาจเพิ่มขึ้น 5–10% ในไตรมาส 4 ปี 2025 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ QLC SSD มีอัตราการใช้พลังงานต่ำกว่าฮาร์ดดิสก์ประมาณ 30% ➡️ HDD ยังเป็นตัวเลือกหลักสำหรับ cold storage เพราะราคาต่อ GB ต่ำกว่า SSD ➡️ การขาดแคลน HDD เกิดจากการลดกำลังผลิตในปี 2023 เพื่อควบคุมราคาตลาด ➡️ จอภาพ 1000Hz ยังไม่รองรับการใช้งานเฟรมเรตสูงจากการประมวลผล AI https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/expect-hdd-ssd-shortages-as-ai-rewrites-the-rules-of-storage-hierarchy-multiple-companies-announce-price-hikes-too
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Expect HDD, SSD shortages as AI rewrites the rules of storage hierarchy — multiple companies announce price hikes, too
    AI isn't just consuming the GPU market. It's eating storage, too — and the shockwaves are likely to hit both HDD and SSD markets
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AMD เปิดตัว ‘1000 FPS Club’ — ซีพียู X3D รุ่นใหม่ทะลุขีดจำกัดเฟรมเรตในเกมอีสปอร์ต พร้อมท้าทายขีดจำกัดของจอภาพ”

    AMD สร้างกระแสฮือฮาในวงการเกมอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว “1000 FPS Club” ซึ่งเป็นกลุ่มซีพียูรุ่นใหม่จากตระกูล Ryzen 9000X3D ที่สามารถทำเฟรมเรตทะลุ 1000 FPS ในเกมอีสปอร์ตยอดนิยม เช่น Counter-Strike 2, Valorant, League of Legends, PUBG, Naraka: Bladepoint และ Marvel Rivals2 โดยสมาชิกของคลับนี้ประกอบด้วย Ryzen 7 9800X3D, Ryzen 9 9950X3D และ Ryzen 9 9955HX3D สำหรับโน้ตบุ๊ก

    ความสำเร็จนี้เกิดจากเทคโนโลยี 3D V-Cache ที่เพิ่มแคชบน CCD ทำให้การประมวลผลเร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยการทดสอบใช้ความละเอียด 1080p พร้อม RAM 6000 MT/s CL30 และปิดฟีเจอร์ Virtualization กับ Smart Access Memory เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

    อย่างไรก็ตาม การทำเฟรมเรตระดับนี้ยังต้องพึ่ง GPU ระดับสูง โดยเฉพาะ GeForce RTX 5080 และ RTX 5090D ซึ่งสามารถทำได้ครบทั้ง 6 เกมเมื่อจับคู่กับซีพียูของ AMD ส่วน Radeon RX 9070 XT ของ AMD เองทำได้เพียงใน Valorant และ LoL3

    แม้จะไม่มีจอภาพ 1000Hz วางขายในตลาดตอนนี้ แต่ AMD ก็ใช้โอกาสนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของซีพียูในยุค Zen 5 ที่พร้อมรองรับอนาคตของเกมที่ต้องการความเร็วระดับสูงสุด โดยเฉพาะในสายอีสปอร์ตที่ “เฟรมเรตคือชัยชนะ”

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    AMD เปิดตัว “1000 FPS Club” สำหรับซีพียู Ryzen 9000X3D รุ่นใหม่
    สมาชิกประกอบด้วย Ryzen 7 9800X3D, Ryzen 9 9950X3D และ Ryzen 9 9955HX3D
    ทำเฟรมเรตทะลุ 1000 FPS ใน 6 เกมอีสปอร์ตยอดนิยมที่ความละเอียด 1080p
    ใช้ RAM 6000 MT/s CL30 และปิด SAM กับ Virtualization เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

    การจับคู่กับ GPU และผลลัพธ์
    RTX 5080 และ RTX 5090D สามารถทำได้ครบทั้ง 6 เกมเมื่อจับคู่กับซีพียู X3D
    Radeon RX 9070 XT ทำได้เพียงใน Valorant และ League of Legends
    Ryzen 9 9950X3D และ 9800X3D เป็นตัวเลือกหลักในการทดสอบ
    Ryzen 9 9955HX3D ถูกกล่าวถึงแต่ไม่มีผลการทดสอบอย่างเป็นทางการ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    เทคโนโลยี 3D V-Cache เพิ่มประสิทธิภาพเกมโดยเฉพาะในงานที่ใช้แคชหนัก
    จอภาพ 1000Hz ยังไม่มีวางขาย แต่มีการพัฒนา เช่น จอ OLED 720Hz และจอ 750Hz จาก HKC
    การทดสอบใช้ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 และปิดฟีเจอร์ที่ลดประสิทธิภาพ
    การทำเฟรมเรตสูงในเกมอีสปอร์ตช่วยลด input lag และเพิ่มความแม่นยำในการแข่งขัน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-claims-three-of-its-x3d-cpus-can-hit-1000-fps-in-esports-games-ryzen-7-9800x3d-ryzen-9-9950x3d-and-9955hx3d-are-in-the-1000-fps-club
    🔥 “AMD เปิดตัว ‘1000 FPS Club’ — ซีพียู X3D รุ่นใหม่ทะลุขีดจำกัดเฟรมเรตในเกมอีสปอร์ต พร้อมท้าทายขีดจำกัดของจอภาพ” AMD สร้างกระแสฮือฮาในวงการเกมอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว “1000 FPS Club” ซึ่งเป็นกลุ่มซีพียูรุ่นใหม่จากตระกูล Ryzen 9000X3D ที่สามารถทำเฟรมเรตทะลุ 1000 FPS ในเกมอีสปอร์ตยอดนิยม เช่น Counter-Strike 2, Valorant, League of Legends, PUBG, Naraka: Bladepoint และ Marvel Rivals2 โดยสมาชิกของคลับนี้ประกอบด้วย Ryzen 7 9800X3D, Ryzen 9 9950X3D และ Ryzen 9 9955HX3D สำหรับโน้ตบุ๊ก ความสำเร็จนี้เกิดจากเทคโนโลยี 3D V-Cache ที่เพิ่มแคชบน CCD ทำให้การประมวลผลเร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยการทดสอบใช้ความละเอียด 1080p พร้อม RAM 6000 MT/s CL30 และปิดฟีเจอร์ Virtualization กับ Smart Access Memory เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด อย่างไรก็ตาม การทำเฟรมเรตระดับนี้ยังต้องพึ่ง GPU ระดับสูง โดยเฉพาะ GeForce RTX 5080 และ RTX 5090D ซึ่งสามารถทำได้ครบทั้ง 6 เกมเมื่อจับคู่กับซีพียูของ AMD ส่วน Radeon RX 9070 XT ของ AMD เองทำได้เพียงใน Valorant และ LoL3 แม้จะไม่มีจอภาพ 1000Hz วางขายในตลาดตอนนี้ แต่ AMD ก็ใช้โอกาสนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของซีพียูในยุค Zen 5 ที่พร้อมรองรับอนาคตของเกมที่ต้องการความเร็วระดับสูงสุด โดยเฉพาะในสายอีสปอร์ตที่ “เฟรมเรตคือชัยชนะ” ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ AMD เปิดตัว “1000 FPS Club” สำหรับซีพียู Ryzen 9000X3D รุ่นใหม่ ➡️ สมาชิกประกอบด้วย Ryzen 7 9800X3D, Ryzen 9 9950X3D และ Ryzen 9 9955HX3D ➡️ ทำเฟรมเรตทะลุ 1000 FPS ใน 6 เกมอีสปอร์ตยอดนิยมที่ความละเอียด 1080p ➡️ ใช้ RAM 6000 MT/s CL30 และปิด SAM กับ Virtualization เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ✅ การจับคู่กับ GPU และผลลัพธ์ ➡️ RTX 5080 และ RTX 5090D สามารถทำได้ครบทั้ง 6 เกมเมื่อจับคู่กับซีพียู X3D ➡️ Radeon RX 9070 XT ทำได้เพียงใน Valorant และ League of Legends ➡️ Ryzen 9 9950X3D และ 9800X3D เป็นตัวเลือกหลักในการทดสอบ ➡️ Ryzen 9 9955HX3D ถูกกล่าวถึงแต่ไม่มีผลการทดสอบอย่างเป็นทางการ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ เทคโนโลยี 3D V-Cache เพิ่มประสิทธิภาพเกมโดยเฉพาะในงานที่ใช้แคชหนัก ➡️ จอภาพ 1000Hz ยังไม่มีวางขาย แต่มีการพัฒนา เช่น จอ OLED 720Hz และจอ 750Hz จาก HKC ➡️ การทดสอบใช้ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 และปิดฟีเจอร์ที่ลดประสิทธิภาพ ➡️ การทำเฟรมเรตสูงในเกมอีสปอร์ตช่วยลด input lag และเพิ่มความแม่นยำในการแข่งขัน https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-claims-three-of-its-x3d-cpus-can-hit-1000-fps-in-esports-games-ryzen-7-9800x3d-ryzen-9-9950x3d-and-9955hx3d-are-in-the-1000-fps-club
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/zXQi4kK37oA?si=EGkoIa5VRNJkuRdZ ความรู้ฟังเพลินๆ #podcast #kku #ประวัติศาสตร์ #ไทยกัมพูชา #การศึกษา #ไทย #ว่างว่างก็แวะมา
    https://youtu.be/zXQi4kK37oA?si=EGkoIa5VRNJkuRdZ ความรู้ฟังเพลินๆ #podcast #kku #ประวัติศาสตร์ #ไทยกัมพูชา #การศึกษา #ไทย #ว่างว่างก็แวะมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทักษิณผงาด
    อัครมหาสมเด็จคลองเปรม
    เลี้ยงพิซซ่า ผู้คุม-นักโทษ 6,500 คน เป็นเงินเกือบล้าน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ทักษิณผงาด อัครมหาสมเด็จคลองเปรม เลี้ยงพิซซ่า ผู้คุม-นักโทษ 6,500 คน เป็นเงินเกือบล้าน #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลาว เวียดนามเป็นฐานรบช่วยจีนแน่นอน ขีปนาวุธมากมายติดตั้งตามยอดภูเขาต่างๆของลาวและเวียดนามแล้ว โดยการสนับสนุนของรัสเชียพันธมิตรจีน,ยิงกัน ขีปนาวุธจากลาวจากเวียดนามจะหันไปทางทะเลจีนใต้ทันทีเช่นกัน,ฟิลิปปินส์จะถูกลาวและเวียดนามยิงขีปนาวุธใส่ และเรืบทุกๆลำที่ยิงใส่จีนด้วย,แต่ติดที่เขมรเพราะถ้าเขมรเป็นขี้ข้าจีนก็จะพลิกทันทีอีกครั้ง,อเมริกาก็ลำบากทันที แต่ถ้าเขมรเป็นขี้ข้าอเมริกาจริง ขีปนาวุธจะหันไปทางจีนทันทีเช่นกัน,ระยะทางพอดีกับระยะทำลายของขีปนาวุธอเมริกาขนาดปานกลางถึงเล็ก,ยิงสะดวกทางบกด้วย.ต่างจากยิงในเรือ,อเมริกาน่าจะขนอาวุธมากมายเข้าไปเขมรแล้วผ่านทางเรือ,ญี่ปุ่น มาเลย์ สิงคโปร์ช่วยจัดหาอาวุธให้อีกด้วย,ไทยจับอาวุธจากนายทุนสิงคโปร์ได้ แน่นอนขายให้เขมรแน่ๆ.เขมรเข้าอินโดแปซิฟิกแล้ว,จะออกมาคงยาก ต่างจากไทย อาจออกมาง่ายๆได้,ไทยสามารถเป็นกลางได้แน่นอนคือไม่ขอสนับสนุนใคร,ถ้าบีบไทยนักก็ให้ตั้งฐานทัพที่ขออยู่ติดกันเลยคือพังงาแดนเหนือกับพังงาแดนใต้ใครจับฉลากตรงไหนได้ก็ได้ตามนั้น,ไทยไม่อาจงัดไม้ใหญ่มหาอำนาจได้จริง,แต่ก็ยอมเท่าที่ยอมได้,ปกป้องประชาชนคนไทยจากมหาสงครามครั้งนี้จึงสำคัญมาก.
    ..อย่างน้อยใครบาดเจ็บหนีตายจากมหาสงครามนี้จะฝั่งไหนเราก็ช่วยเยียวยารักษาได้และอาจเจรจาสงบสงครามโลกได้ด้วย.

    https://youtube.com/watch?v=o9W1BT5Kzkw&si=rl52e8y60npWbQV3
    ลาว เวียดนามเป็นฐานรบช่วยจีนแน่นอน ขีปนาวุธมากมายติดตั้งตามยอดภูเขาต่างๆของลาวและเวียดนามแล้ว โดยการสนับสนุนของรัสเชียพันธมิตรจีน,ยิงกัน ขีปนาวุธจากลาวจากเวียดนามจะหันไปทางทะเลจีนใต้ทันทีเช่นกัน,ฟิลิปปินส์จะถูกลาวและเวียดนามยิงขีปนาวุธใส่ และเรืบทุกๆลำที่ยิงใส่จีนด้วย,แต่ติดที่เขมรเพราะถ้าเขมรเป็นขี้ข้าจีนก็จะพลิกทันทีอีกครั้ง,อเมริกาก็ลำบากทันที แต่ถ้าเขมรเป็นขี้ข้าอเมริกาจริง ขีปนาวุธจะหันไปทางจีนทันทีเช่นกัน,ระยะทางพอดีกับระยะทำลายของขีปนาวุธอเมริกาขนาดปานกลางถึงเล็ก,ยิงสะดวกทางบกด้วย.ต่างจากยิงในเรือ,อเมริกาน่าจะขนอาวุธมากมายเข้าไปเขมรแล้วผ่านทางเรือ,ญี่ปุ่น มาเลย์ สิงคโปร์ช่วยจัดหาอาวุธให้อีกด้วย,ไทยจับอาวุธจากนายทุนสิงคโปร์ได้ แน่นอนขายให้เขมรแน่ๆ.เขมรเข้าอินโดแปซิฟิกแล้ว,จะออกมาคงยาก ต่างจากไทย อาจออกมาง่ายๆได้,ไทยสามารถเป็นกลางได้แน่นอนคือไม่ขอสนับสนุนใคร,ถ้าบีบไทยนักก็ให้ตั้งฐานทัพที่ขออยู่ติดกันเลยคือพังงาแดนเหนือกับพังงาแดนใต้ใครจับฉลากตรงไหนได้ก็ได้ตามนั้น,ไทยไม่อาจงัดไม้ใหญ่มหาอำนาจได้จริง,แต่ก็ยอมเท่าที่ยอมได้,ปกป้องประชาชนคนไทยจากมหาสงครามครั้งนี้จึงสำคัญมาก. ..อย่างน้อยใครบาดเจ็บหนีตายจากมหาสงครามนี้จะฝั่งไหนเราก็ช่วยเยียวยารักษาได้และอาจเจรจาสงบสงครามโลกได้ด้วย. https://youtube.com/watch?v=o9W1BT5Kzkw&si=rl52e8y60npWbQV3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • กปช.จต.แจงเขมรรุกล้ำพื้นที่ไทยใน 2 อำเภอของ จ.ตราด รวม 17 จุดจากผลการลงนาม MOU 43 ยันประท้วงเขมรโดยตลอดแต่ไม่เป็นผล ซ้ำยังมีการสร้างอาคารกาสิโนในพื้นที่บ้านทมอดา จนเปิดจุดผ่านแดนถาวรไม่ได้ ชี้ทหารพร้อมใช้กำลังเข้าจัดการเด็ดขาดแต่เป็นห่วงประชาชน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000088575

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    กปช.จต.แจงเขมรรุกล้ำพื้นที่ไทยใน 2 อำเภอของ จ.ตราด รวม 17 จุดจากผลการลงนาม MOU 43 ยันประท้วงเขมรโดยตลอดแต่ไม่เป็นผล ซ้ำยังมีการสร้างอาคารกาสิโนในพื้นที่บ้านทมอดา จนเปิดจุดผ่านแดนถาวรไม่ได้ ชี้ทหารพร้อมใช้กำลังเข้าจัดการเด็ดขาดแต่เป็นห่วงประชาชน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000088575 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Sad
    1
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • "พระคึกฤทธิ์" วัดนาป่าพงโยงฟอกเงินเยอรมนี! เงินวัดโอนผ่านลูกจ้าง-พี่สาว สีกาอ้างเป็นเจ้าของเงินมูลนิธิ ตำรวจเยอรมันตั้งข้อหาฟอกเงิน "บิ๊กเต่า" รับคดีแล้ว รอเปิดปฏิบัติการฟ้าสางที่ลำลูกกา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000088526

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    "พระคึกฤทธิ์" วัดนาป่าพงโยงฟอกเงินเยอรมนี! เงินวัดโอนผ่านลูกจ้าง-พี่สาว สีกาอ้างเป็นเจ้าของเงินมูลนิธิ ตำรวจเยอรมันตั้งข้อหาฟอกเงิน "บิ๊กเต่า" รับคดีแล้ว รอเปิดปฏิบัติการฟ้าสางที่ลำลูกกา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000088526 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • วอลเลย์บอลชิงแชมป์โลกที่ไทย ได้รับคำชมไปทั่วโลก 16/09/68 #วอลเลย์บอลหญิง #วงการลูกยางโลก #ชิงแชมป์โลก 2025
    วอลเลย์บอลชิงแชมป์โลกที่ไทย ได้รับคำชมไปทั่วโลก 16/09/68 #วอลเลย์บอลหญิง #วงการลูกยางโลก #ชิงแชมป์โลก 2025
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • "วัชระ" จี้สอบ "ทักษิณ" เลี้ยงพิซซ่าทั้งคุกคลองเปรม! ตั้งคำถาม กรมราชทัณฑ์-ยุติธรรม อนุญาตใช้เงินเกิน 500 บาท ตามระเบียบได้อย่างไร? ชี้ ข้าราชการไม่ยึดกฎหมาย ปล่อยนักการเมืองทำตามใจชอบทั้งในคุกนอกคุก ร้อง ผบ.เรือนจำคลองเปรม ชี้แจงด่วน!

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000088572

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    "วัชระ" จี้สอบ "ทักษิณ" เลี้ยงพิซซ่าทั้งคุกคลองเปรม! ตั้งคำถาม กรมราชทัณฑ์-ยุติธรรม อนุญาตใช้เงินเกิน 500 บาท ตามระเบียบได้อย่างไร? ชี้ ข้าราชการไม่ยึดกฎหมาย ปล่อยนักการเมืองทำตามใจชอบทั้งในคุกนอกคุก ร้อง ผบ.เรือนจำคลองเปรม ชี้แจงด่วน! อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000088572 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    2
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เมื่อเงินขาดมือ คนรุ่นใหม่หันพึ่ง ChatGPT — จากหนี้บัตรเครดิตสู่บ้านหลังแรก ด้วยคำแนะนำจาก AI”

    ในยุคที่ปัญหาการเงินกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องรับมือกับหนี้สิน ค่าครองชีพ และความไม่มั่นคงทางอาชีพ หลายคนเริ่มหันไปพึ่ง ChatGPT และแชตบอต AI อื่น ๆ เพื่อขอคำแนะนำด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการจัดงบประมาณ การลดหนี้ หรือแม้แต่การลงทุนในตลาดหุ้น

    Myra Donohue คุณแม่ลูกสองจากแคลิฟอร์เนีย ใช้ ChatGPT เพื่อช่วยจัดการหนี้บัตรเครดิตกว่า $5,000 หลังจากรู้สึกท้อแท้กับการจัดการรายจ่ายด้วยตัวเอง เธอใช้แชตบอตสร้างงบประมาณแบบ zero-based ที่จัดสรรหน้าที่ให้กับทุกดอลลาร์ที่หาได้ และพบว่าคำแนะนำจาก AI แม้จะไม่แปลกใหม่ แต่ก็รวดเร็วและช่วยให้เธอเริ่มต้นได้ทันที

    Jennifer Allan ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์จากเดลาแวร์ ใช้ ChatGPT เพื่อจัดการหนี้บัตรเครดิต $23,000 ผ่าน “ภารกิจ 30 วัน” ที่เธอขอให้แชตบอตเสนอวิธีหาเงินใหม่ทุกวัน ตั้งแต่ขายแตงโมที่สลักยอดหนี้ ไปจนถึงบริจาคพลาสมา เธอสามารถลดหนี้ได้เกือบครึ่ง และยังใช้ TikTok บันทึกการเดินทางของตัวเอง

    Kathryn Aguilo ครูอนุบาลจากนิวยอร์ก ใช้ ChatGPT เพื่อวางแผนงานแต่งงานและซื้อบ้าน โดยแชตบอตแนะนำให้ลดค่าใช้จ่าย เช่น หยุดเปิดบาร์แท็บ ใช้เงินสดแทนบัตร และทำของตกแต่งเอง หลังแต่งงาน เธอใช้ AI สร้างระบบติดตามรายจ่ายและแผนชำระเงินกู้บ้าน

    Alexander Stuart นักบัญชีจากลอสแอนเจลิส ใช้ ChatGPT เป็น “มหาวิทยาลัยฟรี” เพื่อเรียนรู้การลงทุนในหุ้น โดยเริ่มจากเงิน $400 และสามารถเพิ่มเป็น $1,600 ผ่านการซื้อขายรายวัน แม้จะขาดทุนบางครั้ง แต่เขายังใช้ AI เพื่อเรียนรู้และเปรียบเทียบคำแนะนำจากแชตบอตอื่น ๆ เช่น Grok

    แม้หลายคนจะพบความสำเร็จจากการใช้ AI แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า คำแนะนำจากแชตบอตอาจไม่แม่นยำเสมอไป และควรตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ โดยเฉพาะเมื่อมีการอัปโหลดข้อมูลส่วนตัว เช่น รายการเดินบัญชีหรือหมายเลขประกันสังคม ซึ่งอาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย

    ตัวอย่างการใช้ ChatGPT เพื่อแก้ปัญหาการเงิน
    Myra Donohue ใช้แชตบอตสร้างงบประมาณแบบ zero-based เพื่อจัดการหนี้บัตรเครดิต
    Jennifer Allan ใช้ภารกิจ 30 วันจาก ChatGPT เพื่อลดหนี้ $23,000 ได้เกือบครึ่ง
    Kathryn Aguilo วางแผนงานแต่งและซื้อบ้านด้วยคำแนะนำจาก AI
    Alexander Stuart ใช้ ChatGPT เพื่อเรียนรู้การลงทุนในหุ้นและเพิ่มเงินจาก $400 เป็น $1,600

    ข้อมูลจากการสำรวจและแนวโน้ม
    2 ใน 3 ของผู้ใช้ AI เคยขอคำแนะนำด้านการเงินจากแชตบอต
    80% ของผู้ที่ทำตามคำแนะนำกล่าวว่าการเงินดีขึ้น
    คนรุ่นใหม่ เช่น Gen Z และ Millennials ใช้ AI ด้านการเงินมากที่สุด
    ChatGPT ถูกใช้เป็นผู้ช่วยด้านงบประมาณ การลงทุน และการวางแผนชีวิต

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    มี prompt เฉพาะสำหรับการเงิน เช่น “ช่วยสร้างงบประมาณตามกฎ 50/30/20” หรือ “วางแผนเกษียณใน 20 ปี”2
    AI ช่วยให้คนที่ไม่กล้าพูดเรื่องเงินกับคนจริงเปิดใจได้ง่ายขึ้น
    การใช้ AI เพื่อวางแผนการเงินช่วยลดความเครียดและเพิ่มความมั่นใจ
    แชตบอตสามารถวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานและเสนอแผนที่ปรับตามสถานการณ์

    คำเตือนและข้อจำกัด
    คำแนะนำจาก AI อาจไม่แม่นยำหรือทันสมัย — เช่น ข้อมูลหุ้นที่ล้าสมัย
    การอัปโหลดข้อมูลส่วนตัว เช่น รายการเดินบัญชี อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย
    แชตบอตไม่สามารถตรวจสอบบริบทหรือความซับซ้อนของสถานการณ์ได้ดีเท่ามนุษย์
    ผู้ใช้บางรายได้รับคำแนะนำแปลก ๆ เช่น ขายภาพเท้า — ต้องใช้วิจารณญาณ
    การพึ่งพา AI โดยไม่ตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญอาจนำไปสู่การตัดสินใจผิดพลาด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/16/they-had-money-problems-they-turned-to-chatgpt-for-solutions
    💬 “เมื่อเงินขาดมือ คนรุ่นใหม่หันพึ่ง ChatGPT — จากหนี้บัตรเครดิตสู่บ้านหลังแรก ด้วยคำแนะนำจาก AI” ในยุคที่ปัญหาการเงินกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องรับมือกับหนี้สิน ค่าครองชีพ และความไม่มั่นคงทางอาชีพ หลายคนเริ่มหันไปพึ่ง ChatGPT และแชตบอต AI อื่น ๆ เพื่อขอคำแนะนำด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการจัดงบประมาณ การลดหนี้ หรือแม้แต่การลงทุนในตลาดหุ้น Myra Donohue คุณแม่ลูกสองจากแคลิฟอร์เนีย ใช้ ChatGPT เพื่อช่วยจัดการหนี้บัตรเครดิตกว่า $5,000 หลังจากรู้สึกท้อแท้กับการจัดการรายจ่ายด้วยตัวเอง เธอใช้แชตบอตสร้างงบประมาณแบบ zero-based ที่จัดสรรหน้าที่ให้กับทุกดอลลาร์ที่หาได้ และพบว่าคำแนะนำจาก AI แม้จะไม่แปลกใหม่ แต่ก็รวดเร็วและช่วยให้เธอเริ่มต้นได้ทันที Jennifer Allan ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์จากเดลาแวร์ ใช้ ChatGPT เพื่อจัดการหนี้บัตรเครดิต $23,000 ผ่าน “ภารกิจ 30 วัน” ที่เธอขอให้แชตบอตเสนอวิธีหาเงินใหม่ทุกวัน ตั้งแต่ขายแตงโมที่สลักยอดหนี้ ไปจนถึงบริจาคพลาสมา เธอสามารถลดหนี้ได้เกือบครึ่ง และยังใช้ TikTok บันทึกการเดินทางของตัวเอง Kathryn Aguilo ครูอนุบาลจากนิวยอร์ก ใช้ ChatGPT เพื่อวางแผนงานแต่งงานและซื้อบ้าน โดยแชตบอตแนะนำให้ลดค่าใช้จ่าย เช่น หยุดเปิดบาร์แท็บ ใช้เงินสดแทนบัตร และทำของตกแต่งเอง หลังแต่งงาน เธอใช้ AI สร้างระบบติดตามรายจ่ายและแผนชำระเงินกู้บ้าน Alexander Stuart นักบัญชีจากลอสแอนเจลิส ใช้ ChatGPT เป็น “มหาวิทยาลัยฟรี” เพื่อเรียนรู้การลงทุนในหุ้น โดยเริ่มจากเงิน $400 และสามารถเพิ่มเป็น $1,600 ผ่านการซื้อขายรายวัน แม้จะขาดทุนบางครั้ง แต่เขายังใช้ AI เพื่อเรียนรู้และเปรียบเทียบคำแนะนำจากแชตบอตอื่น ๆ เช่น Grok แม้หลายคนจะพบความสำเร็จจากการใช้ AI แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า คำแนะนำจากแชตบอตอาจไม่แม่นยำเสมอไป และควรตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ โดยเฉพาะเมื่อมีการอัปโหลดข้อมูลส่วนตัว เช่น รายการเดินบัญชีหรือหมายเลขประกันสังคม ซึ่งอาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย ✅ ตัวอย่างการใช้ ChatGPT เพื่อแก้ปัญหาการเงิน ➡️ Myra Donohue ใช้แชตบอตสร้างงบประมาณแบบ zero-based เพื่อจัดการหนี้บัตรเครดิต ➡️ Jennifer Allan ใช้ภารกิจ 30 วันจาก ChatGPT เพื่อลดหนี้ $23,000 ได้เกือบครึ่ง ➡️ Kathryn Aguilo วางแผนงานแต่งและซื้อบ้านด้วยคำแนะนำจาก AI ➡️ Alexander Stuart ใช้ ChatGPT เพื่อเรียนรู้การลงทุนในหุ้นและเพิ่มเงินจาก $400 เป็น $1,600 ✅ ข้อมูลจากการสำรวจและแนวโน้ม ➡️ 2 ใน 3 ของผู้ใช้ AI เคยขอคำแนะนำด้านการเงินจากแชตบอต ➡️ 80% ของผู้ที่ทำตามคำแนะนำกล่าวว่าการเงินดีขึ้น ➡️ คนรุ่นใหม่ เช่น Gen Z และ Millennials ใช้ AI ด้านการเงินมากที่สุด ➡️ ChatGPT ถูกใช้เป็นผู้ช่วยด้านงบประมาณ การลงทุน และการวางแผนชีวิต ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ มี prompt เฉพาะสำหรับการเงิน เช่น “ช่วยสร้างงบประมาณตามกฎ 50/30/20” หรือ “วางแผนเกษียณใน 20 ปี”2 ➡️ AI ช่วยให้คนที่ไม่กล้าพูดเรื่องเงินกับคนจริงเปิดใจได้ง่ายขึ้น ➡️ การใช้ AI เพื่อวางแผนการเงินช่วยลดความเครียดและเพิ่มความมั่นใจ ➡️ แชตบอตสามารถวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานและเสนอแผนที่ปรับตามสถานการณ์ ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ คำแนะนำจาก AI อาจไม่แม่นยำหรือทันสมัย — เช่น ข้อมูลหุ้นที่ล้าสมัย ⛔ การอัปโหลดข้อมูลส่วนตัว เช่น รายการเดินบัญชี อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย ⛔ แชตบอตไม่สามารถตรวจสอบบริบทหรือความซับซ้อนของสถานการณ์ได้ดีเท่ามนุษย์ ⛔ ผู้ใช้บางรายได้รับคำแนะนำแปลก ๆ เช่น ขายภาพเท้า — ต้องใช้วิจารณญาณ ⛔ การพึ่งพา AI โดยไม่ตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญอาจนำไปสู่การตัดสินใจผิดพลาด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/16/they-had-money-problems-they-turned-to-chatgpt-for-solutions
    WWW.THESTAR.COM.MY
    They had money problems. They turned to ChatGPT for solutions.
    More people are turning to generative A.I. chatbots for financial advice, whether it's for debt management, better saving strategies or stock picks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Intel ขายหุ้น Altera ลดต้นทุนปี 2025 — พลิกเกมการเงินหลังขาดทุนหนักในยุคก่อน”

    หลังจากเผชิญกับภาวะขาดทุนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ Intel ได้ตัดสินใจขายหุ้น 51% ของธุรกิจชิปแบบปรับแต่งได้ Altera ให้กับบริษัทเอกชน Silver Lake ด้วยมูลค่า 3.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าราคาที่ Intel เคยซื้อไว้ในปี 2015 ถึงครึ่งหนึ่ง การขายครั้งนี้ไม่ใช่แค่การปลดภาระ แต่เป็นการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Lip-Bu Tan

    ผลจากการขายทำให้ Intel ปรับลดเป้าหมายค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปี 2025 ลงเหลือ 16.8 พันล้านดอลลาร์ จากเดิม 17 พันล้านดอลลาร์ โดยยังคงเป้าหมายปี 2026 ไว้ที่ 16 พันล้านดอลลาร์ การลดค่าใช้จ่ายนี้ช่วยให้ราคาหุ้น Intel พุ่งขึ้นเกือบ 6% และสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนที่เคยกังวลกับการขาดทุนสะสมกว่า 18.8 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024

    Altera ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ Intel หวังจะใช้ขยายตลาดด้าน programmable chips รายงานรายได้ 816 ล้านดอลลาร์ในครึ่งปีแรกของ 2025 พร้อมกำไรขั้นต้น 55% และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 356 ล้านดอลลาร์ การขายหุ้นให้ Silver Lake ทำให้ Intel ไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเหล่านี้อีกต่อไป และสามารถโฟกัสกับธุรกิจหลักได้มากขึ้น

    นอกจากนี้ Intel ยังมีการปรับโครงสร้างองค์กร เช่น ลดจำนวนพนักงานลงกว่า 20% และเปลี่ยนแปลงทีมบริหาร พร้อมกับการที่รัฐบาลสหรัฐฯ แปลงเงินสนับสนุนในยุค Biden เป็นหุ้น 10% ในบริษัท ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามในการฟื้นฟูสถานะทางการเงินและความสามารถในการแข่งขันในตลาดชิปที่ร้อนแรงขึ้นทุกวัน

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Intel ขายหุ้น 51% ของ Altera ให้ Silver Lake มูลค่า 3.3 พันล้านดอลลาร์
    ปรับลดเป้าหมายค่าใช้จ่ายปี 2025 เหลือ 16.8 พันล้านดอลลาร์ จากเดิม 17 พันล้าน
    ราคาหุ้น Intel พุ่งขึ้นเกือบ 6% หลังประกาศข่าว
    Altera เคยมีรายได้ 816 ล้านดอลลาร์ในครึ่งปีแรก และกำไรขั้นต้น 55%

    การปรับโครงสร้างองค์กร
    CEO คนใหม่ Lip-Bu Tan เน้นลดต้นทุนและปรับโครงสร้าง
    ลดจำนวนพนักงานลงกว่า 20% ภายในสิ้นปี
    รัฐบาลสหรัฐฯ ถือหุ้น 10% ผ่านการแปลงเงินสนับสนุนเป็นทุน
    เป้าหมายปี 2026 ยังคงไว้ที่ 16 พันล้านดอลลาร์

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Altera เป็นผู้นำด้าน FPGA ซึ่งมีบทบาทสำคัญในตลาด AI และ embedded systems
    Silver Lake เป็นบริษัทลงทุนที่มีประสบการณ์ในการพลิกฟื้นธุรกิจเทคโนโลยี
    การขายหุ้นช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายกว่า 356 ล้านดอลลาร์ต่อปี
    Intel ยังถือหุ้น 49% ใน Altera — มีสิทธิ์ร่วมรับผลประโยชน์ในอนาคต

    คำเตือนและข้อจำกัด
    มูลค่าการขาย Altera ต่ำกว่าราคาที่ Intel เคยซื้อไว้ในปี 2015 ถึงเกือบครึ่ง
    การลดพนักงานอาจกระทบต่อขวัญกำลังใจและความสามารถในการดำเนินงาน
    การพึ่งพาการสนับสนุนจากรัฐบาลอาจมีข้อจำกัดด้านนโยบายในอนาคต
    หาก Intel ไม่สามารถหาลูกค้ารายใหญ่สำหรับเทคโนโลยี 14A ได้ อาจต้องยกเลิกสายการผลิต
    ตลาดชิปยังแข่งขันสูงจากคู่แข่งอย่าง AMD, Nvidia และ TSMC — Intel ต้องเร่งปรับตัว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/15/intel-lowers-full-year-expense-target
    💸 “Intel ขายหุ้น Altera ลดต้นทุนปี 2025 — พลิกเกมการเงินหลังขาดทุนหนักในยุคก่อน” หลังจากเผชิญกับภาวะขาดทุนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ Intel ได้ตัดสินใจขายหุ้น 51% ของธุรกิจชิปแบบปรับแต่งได้ Altera ให้กับบริษัทเอกชน Silver Lake ด้วยมูลค่า 3.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าราคาที่ Intel เคยซื้อไว้ในปี 2015 ถึงครึ่งหนึ่ง การขายครั้งนี้ไม่ใช่แค่การปลดภาระ แต่เป็นการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Lip-Bu Tan ผลจากการขายทำให้ Intel ปรับลดเป้าหมายค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปี 2025 ลงเหลือ 16.8 พันล้านดอลลาร์ จากเดิม 17 พันล้านดอลลาร์ โดยยังคงเป้าหมายปี 2026 ไว้ที่ 16 พันล้านดอลลาร์ การลดค่าใช้จ่ายนี้ช่วยให้ราคาหุ้น Intel พุ่งขึ้นเกือบ 6% และสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนที่เคยกังวลกับการขาดทุนสะสมกว่า 18.8 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 Altera ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ Intel หวังจะใช้ขยายตลาดด้าน programmable chips รายงานรายได้ 816 ล้านดอลลาร์ในครึ่งปีแรกของ 2025 พร้อมกำไรขั้นต้น 55% และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 356 ล้านดอลลาร์ การขายหุ้นให้ Silver Lake ทำให้ Intel ไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเหล่านี้อีกต่อไป และสามารถโฟกัสกับธุรกิจหลักได้มากขึ้น นอกจากนี้ Intel ยังมีการปรับโครงสร้างองค์กร เช่น ลดจำนวนพนักงานลงกว่า 20% และเปลี่ยนแปลงทีมบริหาร พร้อมกับการที่รัฐบาลสหรัฐฯ แปลงเงินสนับสนุนในยุค Biden เป็นหุ้น 10% ในบริษัท ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามในการฟื้นฟูสถานะทางการเงินและความสามารถในการแข่งขันในตลาดชิปที่ร้อนแรงขึ้นทุกวัน ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Intel ขายหุ้น 51% ของ Altera ให้ Silver Lake มูลค่า 3.3 พันล้านดอลลาร์ ➡️ ปรับลดเป้าหมายค่าใช้จ่ายปี 2025 เหลือ 16.8 พันล้านดอลลาร์ จากเดิม 17 พันล้าน ➡️ ราคาหุ้น Intel พุ่งขึ้นเกือบ 6% หลังประกาศข่าว ➡️ Altera เคยมีรายได้ 816 ล้านดอลลาร์ในครึ่งปีแรก และกำไรขั้นต้น 55% ✅ การปรับโครงสร้างองค์กร ➡️ CEO คนใหม่ Lip-Bu Tan เน้นลดต้นทุนและปรับโครงสร้าง ➡️ ลดจำนวนพนักงานลงกว่า 20% ภายในสิ้นปี ➡️ รัฐบาลสหรัฐฯ ถือหุ้น 10% ผ่านการแปลงเงินสนับสนุนเป็นทุน ➡️ เป้าหมายปี 2026 ยังคงไว้ที่ 16 พันล้านดอลลาร์ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Altera เป็นผู้นำด้าน FPGA ซึ่งมีบทบาทสำคัญในตลาด AI และ embedded systems ➡️ Silver Lake เป็นบริษัทลงทุนที่มีประสบการณ์ในการพลิกฟื้นธุรกิจเทคโนโลยี ➡️ การขายหุ้นช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายกว่า 356 ล้านดอลลาร์ต่อปี ➡️ Intel ยังถือหุ้น 49% ใน Altera — มีสิทธิ์ร่วมรับผลประโยชน์ในอนาคต ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ มูลค่าการขาย Altera ต่ำกว่าราคาที่ Intel เคยซื้อไว้ในปี 2015 ถึงเกือบครึ่ง ⛔ การลดพนักงานอาจกระทบต่อขวัญกำลังใจและความสามารถในการดำเนินงาน ⛔ การพึ่งพาการสนับสนุนจากรัฐบาลอาจมีข้อจำกัดด้านนโยบายในอนาคต ⛔ หาก Intel ไม่สามารถหาลูกค้ารายใหญ่สำหรับเทคโนโลยี 14A ได้ อาจต้องยกเลิกสายการผลิต ⛔ ตลาดชิปยังแข่งขันสูงจากคู่แข่งอย่าง AMD, Nvidia และ TSMC — Intel ต้องเร่งปรับตัว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/15/intel-lowers-full-year-expense-target
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Intel trims full-year expense outlook following Altera stake sale
    (Reuters) - Intel said on Monday it has lowered its full-year 2025 adjusted operating expense target to $16.8 billion, from $17 billion earlier, to reflect the deconsolidation of its programmable chip business, Altera.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AI ช่วยชาวไร่เล็กในมาลาวีฟื้นฟูหลังพายุ — เมื่อแชตบอตกลายเป็นผู้แนะนำการเพาะปลูกที่เปลี่ยนชีวิต”

    หลังจากพายุไซโคลน Freddy ถล่มพื้นที่ตอนใต้ของมาลาวีในปี 2023 ชาวไร่เล็กอย่าง Alex Maere สูญเสียไร่ข้าวโพดที่เคยผลิตได้ถึง 850 กิโลกรัมต่อฤดูกาล เหลือเพียง 8 กิโลกรัมจากดินที่ถูกน้ำพัดหายไป เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาหันมาใช้เทคโนโลยีเพื่อความอยู่รอด

    Maere เป็นหนึ่งในชาวไร่หลายพันคนที่เริ่มใช้แชตบอต AI ชื่อ “Ulangizi” ซึ่งพัฒนาโดยองค์กรไม่แสวงกำไร Opportunity International โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลมาลาวี แชตบอตนี้ทำงานผ่าน WhatsApp และรองรับทั้งภาษาอังกฤษและ Chichewa ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นของประเทศ

    Ulangizi ไม่เพียงให้คำแนะนำทั่วไป แต่สามารถวิเคราะห์สภาพดินและเสนอพืชที่เหมาะสม เช่น แนะนำให้ Maere ปลูกมันฝรั่งร่วมกับข้าวโพดและมันสำปะหลัง ซึ่งทำให้เขาสามารถขายผลผลิตได้มากกว่า 800 ดอลลาร์ และนำเงินไปจ่ายค่าเรียนให้ลูก ๆ ได้อย่างไม่ต้องกังวล

    ในระดับประเทศ มาลาวีกำลังเผชิญกับวิกฤตอาหารจากภัยธรรมชาติและผลกระทบของเอลนีโญ ซึ่งส่งผลต่อการเลือกตั้งระดับชาติที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยกว่า 80% ของประชากร 21 ล้านคนพึ่งพาเกษตรกรรมเป็นหลัก และมีอัตราความยากจนสูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

    แม้ AI จะช่วยยกระดับการเกษตรในแอฟริกาได้อย่างมีนัยสำคัญ เช่น การวินิจฉัยโรคพืช การพยากรณ์ภัยแล้ง และการออกแบบปุ๋ย แต่ก็ยังมีอุปสรรค เช่น ความหลากหลายทางภาษา การรู้หนังสือที่ต่ำ และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ยังไม่ทั่วถึงในพื้นที่ชนบท

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Alex Maere สูญเสียไร่จากพายุไซโคลน Freddy และหันมาใช้แชตบอต AI เพื่อฟื้นฟู
    แชตบอต “Ulangizi” พัฒนาโดย Opportunity International และทำงานผ่าน WhatsApp
    รองรับภาษาอังกฤษและ Chichewa — ใช้ได้แม้ผู้ใช้ไม่รู้หนังสือ
    แนะนำให้ปลูกมันฝรั่งร่วมกับพืชเดิม — ทำรายได้กว่า $800

    ผลกระทบในระดับประเทศ
    รัฐบาลมาลาวีสนับสนุนโครงการนี้เพื่อรับมือกับวิกฤตอาหาร
    กว่า 80% ของประชากรพึ่งพาเกษตรกรรม — เป็นประเด็นสำคัญในการเลือกตั้ง
    มาลาวีมีอัตราความยากจนสูง และได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติหลายครั้ง
    โครงการนี้ช่วยให้ชาวไร่เล็กเข้าถึงข้อมูลการเกษตรที่เคยเป็นเรื่องไกลตัว

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    แอฟริกามีฟาร์มขนาดเล็กกว่า 33–50 ล้านแห่ง ผลิตอาหารถึง 70–80% ของภูมิภาค
    การลงทุนในเทคโนโลยีเกษตรในแอฟริกาเพิ่มจาก $10 ล้าน ในปี 2014 เป็น $600 ล้าน ในปี 2022
    AI ช่วยวินิจฉัยโรคพืช ออกแบบปุ๋ย และค้นหาเครื่องมือเกษตรราคาถูก
    การใช้เสียงและภาพในแชตบอตช่วยให้ผู้ใช้ที่ไม่รู้หนังสือสามารถเข้าถึงข้อมูลได้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/15/how-ai-is-helping-some-small-scale-farmers-weather-a-changing-climate
    🌾 “AI ช่วยชาวไร่เล็กในมาลาวีฟื้นฟูหลังพายุ — เมื่อแชตบอตกลายเป็นผู้แนะนำการเพาะปลูกที่เปลี่ยนชีวิต” หลังจากพายุไซโคลน Freddy ถล่มพื้นที่ตอนใต้ของมาลาวีในปี 2023 ชาวไร่เล็กอย่าง Alex Maere สูญเสียไร่ข้าวโพดที่เคยผลิตได้ถึง 850 กิโลกรัมต่อฤดูกาล เหลือเพียง 8 กิโลกรัมจากดินที่ถูกน้ำพัดหายไป เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาหันมาใช้เทคโนโลยีเพื่อความอยู่รอด Maere เป็นหนึ่งในชาวไร่หลายพันคนที่เริ่มใช้แชตบอต AI ชื่อ “Ulangizi” ซึ่งพัฒนาโดยองค์กรไม่แสวงกำไร Opportunity International โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลมาลาวี แชตบอตนี้ทำงานผ่าน WhatsApp และรองรับทั้งภาษาอังกฤษและ Chichewa ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นของประเทศ Ulangizi ไม่เพียงให้คำแนะนำทั่วไป แต่สามารถวิเคราะห์สภาพดินและเสนอพืชที่เหมาะสม เช่น แนะนำให้ Maere ปลูกมันฝรั่งร่วมกับข้าวโพดและมันสำปะหลัง ซึ่งทำให้เขาสามารถขายผลผลิตได้มากกว่า 800 ดอลลาร์ และนำเงินไปจ่ายค่าเรียนให้ลูก ๆ ได้อย่างไม่ต้องกังวล ในระดับประเทศ มาลาวีกำลังเผชิญกับวิกฤตอาหารจากภัยธรรมชาติและผลกระทบของเอลนีโญ ซึ่งส่งผลต่อการเลือกตั้งระดับชาติที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยกว่า 80% ของประชากร 21 ล้านคนพึ่งพาเกษตรกรรมเป็นหลัก และมีอัตราความยากจนสูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก แม้ AI จะช่วยยกระดับการเกษตรในแอฟริกาได้อย่างมีนัยสำคัญ เช่น การวินิจฉัยโรคพืช การพยากรณ์ภัยแล้ง และการออกแบบปุ๋ย แต่ก็ยังมีอุปสรรค เช่น ความหลากหลายทางภาษา การรู้หนังสือที่ต่ำ และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ยังไม่ทั่วถึงในพื้นที่ชนบท ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Alex Maere สูญเสียไร่จากพายุไซโคลน Freddy และหันมาใช้แชตบอต AI เพื่อฟื้นฟู ➡️ แชตบอต “Ulangizi” พัฒนาโดย Opportunity International และทำงานผ่าน WhatsApp ➡️ รองรับภาษาอังกฤษและ Chichewa — ใช้ได้แม้ผู้ใช้ไม่รู้หนังสือ ➡️ แนะนำให้ปลูกมันฝรั่งร่วมกับพืชเดิม — ทำรายได้กว่า $800 ✅ ผลกระทบในระดับประเทศ ➡️ รัฐบาลมาลาวีสนับสนุนโครงการนี้เพื่อรับมือกับวิกฤตอาหาร ➡️ กว่า 80% ของประชากรพึ่งพาเกษตรกรรม — เป็นประเด็นสำคัญในการเลือกตั้ง ➡️ มาลาวีมีอัตราความยากจนสูง และได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติหลายครั้ง ➡️ โครงการนี้ช่วยให้ชาวไร่เล็กเข้าถึงข้อมูลการเกษตรที่เคยเป็นเรื่องไกลตัว ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ แอฟริกามีฟาร์มขนาดเล็กกว่า 33–50 ล้านแห่ง ผลิตอาหารถึง 70–80% ของภูมิภาค ➡️ การลงทุนในเทคโนโลยีเกษตรในแอฟริกาเพิ่มจาก $10 ล้าน ในปี 2014 เป็น $600 ล้าน ในปี 2022 ➡️ AI ช่วยวินิจฉัยโรคพืช ออกแบบปุ๋ย และค้นหาเครื่องมือเกษตรราคาถูก ➡️ การใช้เสียงและภาพในแชตบอตช่วยให้ผู้ใช้ที่ไม่รู้หนังสือสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/15/how-ai-is-helping-some-small-scale-farmers-weather-a-changing-climate
    WWW.THESTAR.COM.MY
    How AI is helping some small-scale farmers weather a changing climate
    Alex Maere survived the destruction of Cyclone Freddy when it tore through southern Malawi in 2023. His farm didn't.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • “SOC ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่คือร่มชูชีพ — ถ้าไม่ออกแบบดีพอ วันตกอาจไม่มีโอกาสแก้ตัว”

    Dan Haagman ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ได้เขียนบทความที่สะท้อนความจริงอันเจ็บปวดของ Security Operations Center (SOC) ในองค์กรยุคใหม่ว่า “เราเชื่อว่า SOC จะช่วยป้องกันทุกอย่างได้ — แต่ความจริงคือมันพังบ่อย และพังเงียบ ๆ”

    เขาเปรียบ SOC กับร่มชูชีพที่องค์กรหวังพึ่งในยามเกิดเหตุ แต่ปัญหาคือ SOC ส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาให้ “ตอบสนอง” มากกว่าคาดการณ์ล่วงหน้า เต็มไปด้วยเครื่องมือที่ซับซ้อน แดชบอร์ดที่ล้น และการแจ้งเตือนที่มากเกินไปจนเกิด “alert fatigue” ซึ่งทำให้ทีมงานมองข้ามสัญญาณสำคัญไปโดยไม่รู้ตัว

    Haagman เสนอว่า SOC ต้องเปลี่ยนจากการ “โยนเครื่องมือใส่ปัญหา” มาเป็นการ “ออกแบบระบบให้เรียบง่ายแต่แข็งแรง” เหมือนระบบรถไฟของสวิตเซอร์แลนด์ที่ไม่ใช่แค่ดูดี แต่ผ่านการทดสอบและฝึกซ้อมอย่างหนัก เขาเน้นว่า “ความซับซ้อนคือศัตรูของความยืดหยุ่น” และการพึ่งพา AI โดยไม่เข้าใจบริบทของระบบก็เป็นความเสี่ยงเช่นกัน

    เขายังเตือนว่า “คุณไม่สามารถเอาความคิดไปจ้างคนอื่นได้” — หมายถึงองค์กรต้องเข้าใจระบบของตัวเองอย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่หวังให้ vendor หรือ AI มาช่วยคิดแทน เพราะการตอบสนองต่อเหตุการณ์ต้องอาศัยความเข้าใจบริบท ความรู้ภายใน และการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง

    สุดท้าย Haagman เสนอว่า SOC ที่ดีต้องมี “muscle memory” เหมือนนักบินที่ฝึกซ้อมการรับมือเหตุฉุกเฉินจนกลายเป็นสัญชาตญาณ ไม่ใช่รอเปิดคู่มือเมื่อเครื่องยนต์ดับกลางอากาศ

    ปัญหาและข้อเสนอจากบทความ
    SOC ส่วนใหญ่ยังเน้นการตอบสนองมากกว่าการคาดการณ์ล่วงหน้า
    Alert fatigue ทำให้ทีมงานมองข้ามสัญญาณสำคัญ
    การออกแบบระบบที่ซับซ้อนเกินไปทำให้ความยืดหยุ่นลดลง
    SOC ต้องเปลี่ยนจากการใช้เครื่องมือมากมาย มาเป็นการออกแบบที่เรียบง่ายแต่แข็งแรง

    แนวคิด “Swiss Engineering” และการฝึกซ้อม
    ระบบที่ดีไม่ใช่แค่มีเครื่องมือเยอะ แต่ต้องผ่านการทดสอบและฝึกซ้อม
    SOC ควรมี “muscle memory” เหมือนนักบิน — ฝึกซ้อมจนตอบสนองได้ทันที
    การตอบสนองต้องมี flow ที่ชัดเจน เช่น “aviate, navigate, communicate”
    การฝึกซ้อมช่วยให้ทีมงานตอบสนองได้แม่นยำในสถานการณ์จริง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Generative AI เริ่มถูกใช้เพื่อช่วยลด alert fatigue โดยคัดกรองข้อมูลก่อนส่งถึงมนุษย์
    SOC ที่ใช้ AI อย่างมีโครงสร้างสามารถลดเวลาในการตรวจจับจาก 1 วันเหลือเพียง 10 วินาที
    การออกแบบระบบที่เน้น context-aware detection ช่วยให้มองเห็นภัยคุกคามที่ซ่อนอยู่ในข้อมูลเล็ก ๆ
    การฝึกซ้อมแบบ live-fire exercise ช่วยให้ทีม SOC เข้าใจช่องโหว่ของตัวเองและปรับปรุงได้จริง



    https://www.csoonline.com/article/4056178/your-soc-is-the-parachute-will-it-open.html
    🪂 “SOC ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่คือร่มชูชีพ — ถ้าไม่ออกแบบดีพอ วันตกอาจไม่มีโอกาสแก้ตัว” Dan Haagman ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ได้เขียนบทความที่สะท้อนความจริงอันเจ็บปวดของ Security Operations Center (SOC) ในองค์กรยุคใหม่ว่า “เราเชื่อว่า SOC จะช่วยป้องกันทุกอย่างได้ — แต่ความจริงคือมันพังบ่อย และพังเงียบ ๆ” เขาเปรียบ SOC กับร่มชูชีพที่องค์กรหวังพึ่งในยามเกิดเหตุ แต่ปัญหาคือ SOC ส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาให้ “ตอบสนอง” มากกว่าคาดการณ์ล่วงหน้า เต็มไปด้วยเครื่องมือที่ซับซ้อน แดชบอร์ดที่ล้น และการแจ้งเตือนที่มากเกินไปจนเกิด “alert fatigue” ซึ่งทำให้ทีมงานมองข้ามสัญญาณสำคัญไปโดยไม่รู้ตัว Haagman เสนอว่า SOC ต้องเปลี่ยนจากการ “โยนเครื่องมือใส่ปัญหา” มาเป็นการ “ออกแบบระบบให้เรียบง่ายแต่แข็งแรง” เหมือนระบบรถไฟของสวิตเซอร์แลนด์ที่ไม่ใช่แค่ดูดี แต่ผ่านการทดสอบและฝึกซ้อมอย่างหนัก เขาเน้นว่า “ความซับซ้อนคือศัตรูของความยืดหยุ่น” และการพึ่งพา AI โดยไม่เข้าใจบริบทของระบบก็เป็นความเสี่ยงเช่นกัน เขายังเตือนว่า “คุณไม่สามารถเอาความคิดไปจ้างคนอื่นได้” — หมายถึงองค์กรต้องเข้าใจระบบของตัวเองอย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่หวังให้ vendor หรือ AI มาช่วยคิดแทน เพราะการตอบสนองต่อเหตุการณ์ต้องอาศัยความเข้าใจบริบท ความรู้ภายใน และการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง สุดท้าย Haagman เสนอว่า SOC ที่ดีต้องมี “muscle memory” เหมือนนักบินที่ฝึกซ้อมการรับมือเหตุฉุกเฉินจนกลายเป็นสัญชาตญาณ ไม่ใช่รอเปิดคู่มือเมื่อเครื่องยนต์ดับกลางอากาศ ✅ ปัญหาและข้อเสนอจากบทความ ➡️ SOC ส่วนใหญ่ยังเน้นการตอบสนองมากกว่าการคาดการณ์ล่วงหน้า ➡️ Alert fatigue ทำให้ทีมงานมองข้ามสัญญาณสำคัญ ➡️ การออกแบบระบบที่ซับซ้อนเกินไปทำให้ความยืดหยุ่นลดลง ➡️ SOC ต้องเปลี่ยนจากการใช้เครื่องมือมากมาย มาเป็นการออกแบบที่เรียบง่ายแต่แข็งแรง ✅ แนวคิด “Swiss Engineering” และการฝึกซ้อม ➡️ ระบบที่ดีไม่ใช่แค่มีเครื่องมือเยอะ แต่ต้องผ่านการทดสอบและฝึกซ้อม ➡️ SOC ควรมี “muscle memory” เหมือนนักบิน — ฝึกซ้อมจนตอบสนองได้ทันที ➡️ การตอบสนองต้องมี flow ที่ชัดเจน เช่น “aviate, navigate, communicate” ➡️ การฝึกซ้อมช่วยให้ทีมงานตอบสนองได้แม่นยำในสถานการณ์จริง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Generative AI เริ่มถูกใช้เพื่อช่วยลด alert fatigue โดยคัดกรองข้อมูลก่อนส่งถึงมนุษย์ ➡️ SOC ที่ใช้ AI อย่างมีโครงสร้างสามารถลดเวลาในการตรวจจับจาก 1 วันเหลือเพียง 10 วินาที ➡️ การออกแบบระบบที่เน้น context-aware detection ช่วยให้มองเห็นภัยคุกคามที่ซ่อนอยู่ในข้อมูลเล็ก ๆ ➡️ การฝึกซ้อมแบบ live-fire exercise ช่วยให้ทีม SOC เข้าใจช่องโหว่ของตัวเองและปรับปรุงได้จริง https://www.csoonline.com/article/4056178/your-soc-is-the-parachute-will-it-open.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Your SOC is the parachute — Will it open?
    From alert fatigue to not relying on AI to know your systems, how to ensure your SOC is ready for current threats.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Villager: เครื่องมือเจาะระบบจากจีนที่ใช้ AI สั่งงานด้วยภาษาคน — ดาวน์โหลดทะลุหมื่นครั้งใน 2 เดือน สะเทือนวงการไซเบอร์”

    Villager คือเครื่องมือเจาะระบบ (pentest tool) ที่ถูกเผยแพร่บน PyPI โดยผู้ใช้ชื่อ “stupidfish001” ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มแข่งขัน CTF จากจีนชื่อ HSCSEC และบริษัท Cyberspike ที่จดทะเบียนในชื่อ Changchun Anshanyuan Technology Co., Ltd. แม้จะถูกนำเสนอว่าเป็นเครื่องมือสำหรับทีม red team แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเตือนว่า Villager อาจกลายเป็น “Cobalt Strike ยุคใหม่” — เครื่องมือที่เริ่มจากการใช้งานอย่างถูกต้อง แต่ถูกนำไปใช้โดยกลุ่มแฮกเกอร์และรัฐชาติในที่สุด

    สิ่งที่ทำให้ Villager น่ากังวลคือความสามารถในการใช้ AI สั่งงานผ่านภาษาธรรมชาติ เช่น “สแกนและเจาะระบบ example.com” แล้วระบบจะจัดการทุกขั้นตอนโดยอัตโนมัติ ตั้งแต่การสร้าง container Kali Linux ไปจนถึงการเลือกเครื่องมือเจาะระบบที่เหมาะสม และปรับเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อมที่ตรวจพบ เช่น WordPress หรือ API ที่เปิดอยู่

    Villager ยังมีฟีเจอร์หลบเลี่ยงการตรวจสอบ เช่น การสร้าง container ชั่วคราวที่ลบตัวเองภายใน 24 ชั่วโมง การสุ่มพอร์ต SSH และการวางแผนงานแบบไม่ทิ้งร่องรอย นอกจากนี้ยังมีการฝังฟีเจอร์จาก AsyncRAT เช่น keylogging, webcam hijacking และการขโมย token Discord ซึ่งเคยปรากฏในเครื่องมือเก่าของ Cyberspike

    Villager ใช้โมเดล AI ชื่อ al-1s-20250421 และเชื่อมต่อกับ DeepSeek ผ่าน API ที่ออกแบบให้เหมือน OpenAI โดยมีการควบคุมผ่าน FastAPI และ GitLab ส่วนตัวของ Cyberspike ซึ่งทำให้สามารถรันคำสั่งใน workflow จริงได้ทันที ปัจจุบันมีการดาวน์โหลดมากกว่า 10,000 ครั้ง และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Villager เป็นเครื่องมือเจาะระบบที่ใช้ AI สั่งงานผ่านภาษาธรรมชาติ
    เผยแพร่บน PyPI โดยผู้ใช้ที่เชื่อมโยงกับกลุ่ม CTF จากจีนและบริษัท Cyberspike
    ดาวน์โหลดมากกว่า 10,000 ครั้งภายใน 2 เดือน — รองรับ Linux, macOS และ Windows
    ใช้ container Kali Linux, DeepSeek AI, LangChain และโมเดล al-1s-20250421

    ความสามารถและฟีเจอร์ของ Villager
    สั่งงานด้วยข้อความธรรมดา เช่น “เจาะระบบ example.com” แล้ว AI จัดการทุกขั้นตอน
    สร้าง container ที่ลบตัวเองภายใน 24 ชั่วโมง — ลดร่องรอยการโจมตี
    ใช้พอร์ต SSH แบบสุ่มและวางแผนงานเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ
    ฝังฟีเจอร์จาก AsyncRAT เช่น keylogging, webcam hijacking และ token theft

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Cobalt Strike เคยเป็นเครื่องมือเจาะระบบที่ถูกนำไปใช้โดยกลุ่ม ransomware และรัฐชาติ
    การเผยแพร่ผ่าน PyPI ทำให้ Villager เข้าถึงง่ายและดูน่าเชื่อถือ
    AI ลดความซับซ้อนของการโจมตี — ผู้ใช้ทั่วไปสามารถรันคำสั่งระดับสูงได้
    การใช้ container และ API ทำให้ Villager รันใน workflow จริงได้ทันที

    https://hackread.com/china-ai-pentest-tool-villager-10k-downloads/
    🧠 “Villager: เครื่องมือเจาะระบบจากจีนที่ใช้ AI สั่งงานด้วยภาษาคน — ดาวน์โหลดทะลุหมื่นครั้งใน 2 เดือน สะเทือนวงการไซเบอร์” Villager คือเครื่องมือเจาะระบบ (pentest tool) ที่ถูกเผยแพร่บน PyPI โดยผู้ใช้ชื่อ “stupidfish001” ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มแข่งขัน CTF จากจีนชื่อ HSCSEC และบริษัท Cyberspike ที่จดทะเบียนในชื่อ Changchun Anshanyuan Technology Co., Ltd. แม้จะถูกนำเสนอว่าเป็นเครื่องมือสำหรับทีม red team แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเตือนว่า Villager อาจกลายเป็น “Cobalt Strike ยุคใหม่” — เครื่องมือที่เริ่มจากการใช้งานอย่างถูกต้อง แต่ถูกนำไปใช้โดยกลุ่มแฮกเกอร์และรัฐชาติในที่สุด สิ่งที่ทำให้ Villager น่ากังวลคือความสามารถในการใช้ AI สั่งงานผ่านภาษาธรรมชาติ เช่น “สแกนและเจาะระบบ example.com” แล้วระบบจะจัดการทุกขั้นตอนโดยอัตโนมัติ ตั้งแต่การสร้าง container Kali Linux ไปจนถึงการเลือกเครื่องมือเจาะระบบที่เหมาะสม และปรับเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อมที่ตรวจพบ เช่น WordPress หรือ API ที่เปิดอยู่ Villager ยังมีฟีเจอร์หลบเลี่ยงการตรวจสอบ เช่น การสร้าง container ชั่วคราวที่ลบตัวเองภายใน 24 ชั่วโมง การสุ่มพอร์ต SSH และการวางแผนงานแบบไม่ทิ้งร่องรอย นอกจากนี้ยังมีการฝังฟีเจอร์จาก AsyncRAT เช่น keylogging, webcam hijacking และการขโมย token Discord ซึ่งเคยปรากฏในเครื่องมือเก่าของ Cyberspike Villager ใช้โมเดล AI ชื่อ al-1s-20250421 และเชื่อมต่อกับ DeepSeek ผ่าน API ที่ออกแบบให้เหมือน OpenAI โดยมีการควบคุมผ่าน FastAPI และ GitLab ส่วนตัวของ Cyberspike ซึ่งทำให้สามารถรันคำสั่งใน workflow จริงได้ทันที ปัจจุบันมีการดาวน์โหลดมากกว่า 10,000 ครั้ง และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Villager เป็นเครื่องมือเจาะระบบที่ใช้ AI สั่งงานผ่านภาษาธรรมชาติ ➡️ เผยแพร่บน PyPI โดยผู้ใช้ที่เชื่อมโยงกับกลุ่ม CTF จากจีนและบริษัท Cyberspike ➡️ ดาวน์โหลดมากกว่า 10,000 ครั้งภายใน 2 เดือน — รองรับ Linux, macOS และ Windows ➡️ ใช้ container Kali Linux, DeepSeek AI, LangChain และโมเดล al-1s-20250421 ✅ ความสามารถและฟีเจอร์ของ Villager ➡️ สั่งงานด้วยข้อความธรรมดา เช่น “เจาะระบบ example.com” แล้ว AI จัดการทุกขั้นตอน ➡️ สร้าง container ที่ลบตัวเองภายใน 24 ชั่วโมง — ลดร่องรอยการโจมตี ➡️ ใช้พอร์ต SSH แบบสุ่มและวางแผนงานเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ➡️ ฝังฟีเจอร์จาก AsyncRAT เช่น keylogging, webcam hijacking และ token theft ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Cobalt Strike เคยเป็นเครื่องมือเจาะระบบที่ถูกนำไปใช้โดยกลุ่ม ransomware และรัฐชาติ ➡️ การเผยแพร่ผ่าน PyPI ทำให้ Villager เข้าถึงง่ายและดูน่าเชื่อถือ ➡️ AI ลดความซับซ้อนของการโจมตี — ผู้ใช้ทั่วไปสามารถรันคำสั่งระดับสูงได้ ➡️ การใช้ container และ API ทำให้ Villager รันใน workflow จริงได้ทันที https://hackread.com/china-ai-pentest-tool-villager-10k-downloads/
    HACKREAD.COM
    China-Linked AI Pentest Tool ‘Villager’ Raises Concern After 10K Downloads
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Kimsuky ใช้ AI สร้างบัตรทหารปลอม — ฟิชชิ่งแนบเนียนระดับ Deepfake เจาะระบบด้วยภาพที่ดู ‘จริงเกินไป’”

    กลุ่มแฮกเกอร์ Kimsuky ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลเกาหลีเหนือกลับมาอีกครั้ง พร้อมเทคนิคใหม่ที่น่ากังวลยิ่งกว่าเดิม โดยใช้ AI สร้างภาพบัตรประจำตัวทหารปลอมที่ดูสมจริงระดับ deepfake เพื่อหลอกเป้าหมายให้เปิดไฟล์มัลแวร์ผ่านอีเมลปลอมที่แอบอ้างว่าเป็นหน่วยงานด้านกลาโหมของเกาหลีใต้

    แคมเปญนี้เริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม 2025 โดยผู้โจมตีส่งอีเมลที่ดูเหมือนเป็นการขอให้ตรวจสอบร่างบัตรทหารใหม่ ภายในแนบไฟล์ ZIP ที่มีภาพบัตรปลอมซึ่งสร้างด้วย AI โดยใช้ ChatGPT หรือโมเดลที่คล้ายกัน ภาพเหล่านี้ผ่านการตรวจสอบด้วยเครื่องมือ deepfake detector และพบว่ามีความเป็นปลอมสูงถึง 98%

    เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ ภายในจะมีสคริปต์ซ่อนอยู่ เช่น batch file และ AutoIt script ที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมจากระยะไกล และติดตั้ง task ปลอมชื่อ HncAutoUpdateTaskMachine ซึ่งแอบทำงานทุก 7 นาทีโดยปลอมเป็นการอัปเดตของ Hancom Office

    เทคนิคนี้เป็นการพัฒนาจากแคมเปญ ClickFix เดิมของ Kimsuky ที่เคยใช้หน้าต่าง CAPTCHA ปลอมเพื่อหลอกให้เหยื่อรันคำสั่ง PowerShell โดยตรง แต่ครั้งนี้ใช้ภาพปลอมที่ดูเหมือนจริงเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น และหลบเลี่ยงการตรวจจับได้ดีกว่าเดิม

    นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือเคยใช้ AI เพื่อสร้างโปรไฟล์ปลอม สมัครงานในบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ โดยใช้ Claude และ ChatGPT สร้างเรซูเม่ ตอบคำถามสัมภาษณ์ และแม้แต่ทำงานจริงหลังได้รับการจ้างงาน

    https://hackread.com/north-korea-kimsuky-group-ai-generated-military-ids/
    🎯 “Kimsuky ใช้ AI สร้างบัตรทหารปลอม — ฟิชชิ่งแนบเนียนระดับ Deepfake เจาะระบบด้วยภาพที่ดู ‘จริงเกินไป’” กลุ่มแฮกเกอร์ Kimsuky ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลเกาหลีเหนือกลับมาอีกครั้ง พร้อมเทคนิคใหม่ที่น่ากังวลยิ่งกว่าเดิม โดยใช้ AI สร้างภาพบัตรประจำตัวทหารปลอมที่ดูสมจริงระดับ deepfake เพื่อหลอกเป้าหมายให้เปิดไฟล์มัลแวร์ผ่านอีเมลปลอมที่แอบอ้างว่าเป็นหน่วยงานด้านกลาโหมของเกาหลีใต้ แคมเปญนี้เริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม 2025 โดยผู้โจมตีส่งอีเมลที่ดูเหมือนเป็นการขอให้ตรวจสอบร่างบัตรทหารใหม่ ภายในแนบไฟล์ ZIP ที่มีภาพบัตรปลอมซึ่งสร้างด้วย AI โดยใช้ ChatGPT หรือโมเดลที่คล้ายกัน ภาพเหล่านี้ผ่านการตรวจสอบด้วยเครื่องมือ deepfake detector และพบว่ามีความเป็นปลอมสูงถึง 98% เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ ภายในจะมีสคริปต์ซ่อนอยู่ เช่น batch file และ AutoIt script ที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมจากระยะไกล และติดตั้ง task ปลอมชื่อ HncAutoUpdateTaskMachine ซึ่งแอบทำงานทุก 7 นาทีโดยปลอมเป็นการอัปเดตของ Hancom Office เทคนิคนี้เป็นการพัฒนาจากแคมเปญ ClickFix เดิมของ Kimsuky ที่เคยใช้หน้าต่าง CAPTCHA ปลอมเพื่อหลอกให้เหยื่อรันคำสั่ง PowerShell โดยตรง แต่ครั้งนี้ใช้ภาพปลอมที่ดูเหมือนจริงเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น และหลบเลี่ยงการตรวจจับได้ดีกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือเคยใช้ AI เพื่อสร้างโปรไฟล์ปลอม สมัครงานในบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ โดยใช้ Claude และ ChatGPT สร้างเรซูเม่ ตอบคำถามสัมภาษณ์ และแม้แต่ทำงานจริงหลังได้รับการจ้างงาน https://hackread.com/north-korea-kimsuky-group-ai-generated-military-ids/
    HACKREAD.COM
    North Korea’s Kimsuky Group Uses AI-Generated Military IDs in New Attack
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อินเทอร์เน็ตดาวเทียมไม่ได้มีแค่ Starlink — เปิดทางเลือกใหม่สำหรับพื้นที่ห่างไกล พร้อมคู่แข่งที่กำลังไล่ตาม”

    Starlink จาก SpaceX ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของอินเทอร์เน็ตดาวเทียมด้วยการใช้ดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) จำนวนมาก ทำให้ได้ความเร็วสูงและ latency ต่ำกว่าระบบเดิมอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทหรือห่างไกลที่ไม่มีโครงสร้างพื้นฐานของอินเทอร์เน็ตแบบสาย อย่างไรก็ตาม แม้ Starlink จะโดดเด่น แต่ก็ไม่ใช่ตัวเลือกเดียวในตลาดนี้

    สองคู่แข่งหลักที่ยังคงอยู่ในสนามคือ Hughesnet และ Viasat ซึ่งใช้ดาวเทียมแบบ geostationary (GEO) ที่อยู่ไกลจากโลกมากกว่า ทำให้มีความครอบคลุมกว้างแต่แลกกับความเร็วและ latency ที่ต่ำกว่า Starlink อย่างเห็นได้ชัด ตัวอย่างเช่น Hughesnet มี latency เฉลี่ย 683 ms และความเร็วดาวน์โหลดเฉลี่ย 47 Mbps ขณะที่ Starlink อยู่ที่ 45 ms และ 104 Mbps

    Viasat ก็มีปัญหาคล้ายกัน แม้จะมีแผน Unleashed ที่โฆษณาว่าความเร็วสูงถึง 150 Mbps แต่การทดสอบจริงได้เพียง 37 Mbps เท่านั้น และ latency อยู่ที่ประมาณ 676 ms ทั้งสองบริษัทยังมีข้อจำกัดเรื่องสัญญาระยะยาว ค่าปรับหากยกเลิกก่อนกำหนด และการลดความเร็วเมื่อใช้เกินโควต้าข้อมูล

    แต่สิ่งที่น่าจับตามองที่สุดคือ Amazon Project Kuiper ซึ่งกำลังพัฒนาเครือข่ายดาวเทียม LEO เช่นเดียวกับ Starlink โดยมีเป้าหมายส่งดาวเทียมกว่า 3,200 ดวงขึ้นสู่วงโคจร และให้ความเร็วสูงถึง 400 Mbps พร้อม latency ต่ำเพียง 20–40 ms หากเปิดให้บริการจริงภายในปี 2025 ก็อาจกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของ Starlink

    ตัวเลือกอินเทอร์เน็ตดาวเทียมในปัจจุบัน
    Starlink ใช้ดาวเทียม LEO ให้ความเร็วสูงและ latency ต่ำ เหมาะกับพื้นที่ห่างไกล
    Hughesnet ใช้ดาวเทียม GEO — ความครอบคลุมกว้างแต่ latency สูงและความเร็วต่ำ
    Viasat ใช้ทั้ง GEO และ HEO — มีแผนหลายระดับแต่ความเร็วจริงต่ำกว่าที่โฆษณา
    Amazon Kuiper กำลังพัฒนาเครือข่าย LEO ที่อาจให้ความเร็วสูงถึง 400 Mbps

    ข้อมูลเปรียบเทียบเบื้องต้น
    Starlink: latency ~45 ms / ความเร็ว ~104 Mbps / ไม่มีสัญญาระยะยาว
    Hughesnet: latency ~683 ms / ความเร็ว ~47 Mbps / มีสัญญาและลดความเร็วเมื่อใช้เกิน
    Viasat: latency ~676 ms / ความเร็วจริง ~37 Mbps / มีสัญญาและลดความเร็วเช่นกัน
    Kuiper: latency ~20–40 ms / ความเร็วเป้าหมาย ~400 Mbps / ยังไม่เปิดเผยราคา

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ดาวเทียม LEO อยู่ใกล้โลก (~500–1,200 กม.) ทำให้ตอบสนองเร็วกว่า GEO (~35,000 กม.)
    Hughesnet และ Viasat กำลังสูญเสียลูกค้าอย่างต่อเนื่องจากการแข่งขันของ Starlink
    Starlink ใช้จรวดรีไซเคิลจาก SpaceX ทำให้ต้นทุนการขยายเครือข่ายต่ำกว่าคู่แข่ง
    Kuiper มีสัญญาให้บริการ Wi-Fi บนเครื่องบิน JetBlue ในปี 2027 — เริ่มเจาะตลาดเฉพาะทาง

    https://www.slashgear.com/1965463/best-starlink-alternatives-satellite-internet/
    🛰️ “อินเทอร์เน็ตดาวเทียมไม่ได้มีแค่ Starlink — เปิดทางเลือกใหม่สำหรับพื้นที่ห่างไกล พร้อมคู่แข่งที่กำลังไล่ตาม” Starlink จาก SpaceX ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของอินเทอร์เน็ตดาวเทียมด้วยการใช้ดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) จำนวนมาก ทำให้ได้ความเร็วสูงและ latency ต่ำกว่าระบบเดิมอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทหรือห่างไกลที่ไม่มีโครงสร้างพื้นฐานของอินเทอร์เน็ตแบบสาย อย่างไรก็ตาม แม้ Starlink จะโดดเด่น แต่ก็ไม่ใช่ตัวเลือกเดียวในตลาดนี้ สองคู่แข่งหลักที่ยังคงอยู่ในสนามคือ Hughesnet และ Viasat ซึ่งใช้ดาวเทียมแบบ geostationary (GEO) ที่อยู่ไกลจากโลกมากกว่า ทำให้มีความครอบคลุมกว้างแต่แลกกับความเร็วและ latency ที่ต่ำกว่า Starlink อย่างเห็นได้ชัด ตัวอย่างเช่น Hughesnet มี latency เฉลี่ย 683 ms และความเร็วดาวน์โหลดเฉลี่ย 47 Mbps ขณะที่ Starlink อยู่ที่ 45 ms และ 104 Mbps Viasat ก็มีปัญหาคล้ายกัน แม้จะมีแผน Unleashed ที่โฆษณาว่าความเร็วสูงถึง 150 Mbps แต่การทดสอบจริงได้เพียง 37 Mbps เท่านั้น และ latency อยู่ที่ประมาณ 676 ms ทั้งสองบริษัทยังมีข้อจำกัดเรื่องสัญญาระยะยาว ค่าปรับหากยกเลิกก่อนกำหนด และการลดความเร็วเมื่อใช้เกินโควต้าข้อมูล แต่สิ่งที่น่าจับตามองที่สุดคือ Amazon Project Kuiper ซึ่งกำลังพัฒนาเครือข่ายดาวเทียม LEO เช่นเดียวกับ Starlink โดยมีเป้าหมายส่งดาวเทียมกว่า 3,200 ดวงขึ้นสู่วงโคจร และให้ความเร็วสูงถึง 400 Mbps พร้อม latency ต่ำเพียง 20–40 ms หากเปิดให้บริการจริงภายในปี 2025 ก็อาจกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของ Starlink ✅ ตัวเลือกอินเทอร์เน็ตดาวเทียมในปัจจุบัน ➡️ Starlink ใช้ดาวเทียม LEO ให้ความเร็วสูงและ latency ต่ำ เหมาะกับพื้นที่ห่างไกล ➡️ Hughesnet ใช้ดาวเทียม GEO — ความครอบคลุมกว้างแต่ latency สูงและความเร็วต่ำ ➡️ Viasat ใช้ทั้ง GEO และ HEO — มีแผนหลายระดับแต่ความเร็วจริงต่ำกว่าที่โฆษณา ➡️ Amazon Kuiper กำลังพัฒนาเครือข่าย LEO ที่อาจให้ความเร็วสูงถึง 400 Mbps ✅ ข้อมูลเปรียบเทียบเบื้องต้น ➡️ Starlink: latency ~45 ms / ความเร็ว ~104 Mbps / ไม่มีสัญญาระยะยาว ➡️ Hughesnet: latency ~683 ms / ความเร็ว ~47 Mbps / มีสัญญาและลดความเร็วเมื่อใช้เกิน ➡️ Viasat: latency ~676 ms / ความเร็วจริง ~37 Mbps / มีสัญญาและลดความเร็วเช่นกัน ➡️ Kuiper: latency ~20–40 ms / ความเร็วเป้าหมาย ~400 Mbps / ยังไม่เปิดเผยราคา ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ดาวเทียม LEO อยู่ใกล้โลก (~500–1,200 กม.) ทำให้ตอบสนองเร็วกว่า GEO (~35,000 กม.) ➡️ Hughesnet และ Viasat กำลังสูญเสียลูกค้าอย่างต่อเนื่องจากการแข่งขันของ Starlink ➡️ Starlink ใช้จรวดรีไซเคิลจาก SpaceX ทำให้ต้นทุนการขยายเครือข่ายต่ำกว่าคู่แข่ง ➡️ Kuiper มีสัญญาให้บริการ Wi-Fi บนเครื่องบิน JetBlue ในปี 2027 — เริ่มเจาะตลาดเฉพาะทาง https://www.slashgear.com/1965463/best-starlink-alternatives-satellite-internet/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    These Are The Best (And Only) Starlink Alternative Options Out There - SlashGear
    Starlink dominates satellite internet, but Hughesnet, Viasat, and Amazon’s upcoming Kuiper offer the few real alternatives worth knowing.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เครื่องทำน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ — ประหยัดพลังงาน ลดค่าไฟ แต่ต้องคิดให้รอบด้านก่อนติดตั้ง”

    การทำน้ำร้อนในบ้านถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ใช้พลังงานมากที่สุด โดยเฉลี่ยแล้วคิดเป็น 18% ของค่าไฟฟ้ารายเดือนในครัวเรือนสหรัฐฯ ด้วยเหตุนี้ เครื่องทำน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Water Heater) จึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

    ระบบนี้ใช้แผงรับแสงบนหลังคาเพื่อเก็บพลังงานจากดวงอาทิตย์ แล้วเปลี่ยนเป็นความร้อนเพื่อเก็บไว้ในถังน้ำร้อน โดยมีทั้งแบบที่ให้ความร้อนโดยตรง และแบบใช้ของเหลวถ่ายเทความร้อน ซึ่งสามารถทำงานได้แม้ในสภาพอากาศหนาวเย็น

    ข้อดีที่โดดเด่นคือการประหยัดค่าไฟในระยะยาว โดยระบบสามารถให้ความร้อนแก่น้ำได้ถึง 80% ของความต้องการในบ้าน และเมื่อรวมกับเครดิตภาษีพลังงานสะอาดของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่คืนเงินได้ถึง 30% ของค่าติดตั้งจนถึงปี 2032 ก็ยิ่งทำให้คุ้มค่ามากขึ้น

    นอกจากนี้ยังมีข้อดีด้านสิ่งแวดล้อม เพราะระบบนี้ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกใด ๆ และใช้พื้นที่หลังคาน้อยกว่าระบบโซลาร์เซลล์ทั่วไป จึงเหมาะกับบ้านขนาดเล็กหรือพื้นที่จำกัด

    อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อจำกัดที่ต้องพิจารณา เช่น ราคาติดตั้งที่สูงกว่าระบบทั่วไปหลายเท่า ความจำเป็นในการมีหลังคาที่รับแสงได้ดี และพื้นที่สำหรับติดตั้งถังน้ำร้อนที่อาจไม่เหมาะกับบ้านขนาดเล็ก รวมถึงความเสี่ยงด้านการกัดกร่อนและการสะสมของแร่ธาตุในระบบที่อาจต้องดูแลในระยะยาว

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    เครื่องทำน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ช่วยลดค่าไฟได้ถึง 80% ของความต้องการน้ำร้อนในบ้าน
    มีเครดิตภาษี 30% จากรัฐบาลกลางสหรัฐฯ สำหรับค่าติดตั้งจนถึงปี 2032
    ระบบสามารถทำงานได้แม้ในสภาพอากาศหนาวเย็น ด้วยการใช้ของเหลวถ่ายเทความร้อน
    ใช้พื้นที่หลังคาน้อยกว่าระบบโซลาร์เซลล์ — เหมาะกับบ้านขนาดเล็ก

    ข้อดีด้านสิ่งแวดล้อมและการใช้งาน
    ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก — ลดคาร์บอนฟุตพรินต์ของครัวเรือน
    แผงรับแสงมีอายุการใช้งานยาวนาน และต้องการการดูแลน้อย
    เหมาะกับผู้ที่ต้องการพลังงานสะอาดและลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล
    เห็นผลทันทีในการลดการใช้พลังงานจากการทำน้ำร้อน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ระบบมีทั้งแบบ active (ใช้ปั๊ม) และ passive (ใช้การพาความร้อนตามธรรมชาติ)
    ค่าใช้จ่ายติดตั้งเฉลี่ยอยู่ที่ $2,000–$4,000 สำหรับบ้านพักอาศัย
    การติดตั้งในพื้นที่ที่มีแดดจัด เช่น แคลิฟอร์เนียหรือฟลอริดา จะคุ้มค่ากว่า
    การบำรุงรักษาโดยทั่วไปมีแค่การเปลี่ยนสารกันแข็งและตรวจสอบระบบปีละครั้ง

    https://www.slashgear.com/1965062/solar-water-heater-in-your-home-pros-and-cons/
    🌞 “เครื่องทำน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ — ประหยัดพลังงาน ลดค่าไฟ แต่ต้องคิดให้รอบด้านก่อนติดตั้ง” การทำน้ำร้อนในบ้านถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ใช้พลังงานมากที่สุด โดยเฉลี่ยแล้วคิดเป็น 18% ของค่าไฟฟ้ารายเดือนในครัวเรือนสหรัฐฯ ด้วยเหตุนี้ เครื่องทำน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Water Heater) จึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ระบบนี้ใช้แผงรับแสงบนหลังคาเพื่อเก็บพลังงานจากดวงอาทิตย์ แล้วเปลี่ยนเป็นความร้อนเพื่อเก็บไว้ในถังน้ำร้อน โดยมีทั้งแบบที่ให้ความร้อนโดยตรง และแบบใช้ของเหลวถ่ายเทความร้อน ซึ่งสามารถทำงานได้แม้ในสภาพอากาศหนาวเย็น ข้อดีที่โดดเด่นคือการประหยัดค่าไฟในระยะยาว โดยระบบสามารถให้ความร้อนแก่น้ำได้ถึง 80% ของความต้องการในบ้าน และเมื่อรวมกับเครดิตภาษีพลังงานสะอาดของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่คืนเงินได้ถึง 30% ของค่าติดตั้งจนถึงปี 2032 ก็ยิ่งทำให้คุ้มค่ามากขึ้น นอกจากนี้ยังมีข้อดีด้านสิ่งแวดล้อม เพราะระบบนี้ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกใด ๆ และใช้พื้นที่หลังคาน้อยกว่าระบบโซลาร์เซลล์ทั่วไป จึงเหมาะกับบ้านขนาดเล็กหรือพื้นที่จำกัด อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อจำกัดที่ต้องพิจารณา เช่น ราคาติดตั้งที่สูงกว่าระบบทั่วไปหลายเท่า ความจำเป็นในการมีหลังคาที่รับแสงได้ดี และพื้นที่สำหรับติดตั้งถังน้ำร้อนที่อาจไม่เหมาะกับบ้านขนาดเล็ก รวมถึงความเสี่ยงด้านการกัดกร่อนและการสะสมของแร่ธาตุในระบบที่อาจต้องดูแลในระยะยาว ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ เครื่องทำน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ช่วยลดค่าไฟได้ถึง 80% ของความต้องการน้ำร้อนในบ้าน ➡️ มีเครดิตภาษี 30% จากรัฐบาลกลางสหรัฐฯ สำหรับค่าติดตั้งจนถึงปี 2032 ➡️ ระบบสามารถทำงานได้แม้ในสภาพอากาศหนาวเย็น ด้วยการใช้ของเหลวถ่ายเทความร้อน ➡️ ใช้พื้นที่หลังคาน้อยกว่าระบบโซลาร์เซลล์ — เหมาะกับบ้านขนาดเล็ก ✅ ข้อดีด้านสิ่งแวดล้อมและการใช้งาน ➡️ ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก — ลดคาร์บอนฟุตพรินต์ของครัวเรือน ➡️ แผงรับแสงมีอายุการใช้งานยาวนาน และต้องการการดูแลน้อย ➡️ เหมาะกับผู้ที่ต้องการพลังงานสะอาดและลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล ➡️ เห็นผลทันทีในการลดการใช้พลังงานจากการทำน้ำร้อน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ระบบมีทั้งแบบ active (ใช้ปั๊ม) และ passive (ใช้การพาความร้อนตามธรรมชาติ) ➡️ ค่าใช้จ่ายติดตั้งเฉลี่ยอยู่ที่ $2,000–$4,000 สำหรับบ้านพักอาศัย ➡️ การติดตั้งในพื้นที่ที่มีแดดจัด เช่น แคลิฟอร์เนียหรือฟลอริดา จะคุ้มค่ากว่า ➡️ การบำรุงรักษาโดยทั่วไปมีแค่การเปลี่ยนสารกันแข็งและตรวจสอบระบบปีละครั้ง https://www.slashgear.com/1965062/solar-water-heater-in-your-home-pros-and-cons/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Solar Water Heater: The Pros And Cons Of Using One In Your Home - SlashGear
    Solar water heaters can provide up to 80% of your hot water needs, but installation costs, roof space, and sunlight exposure determine if it’s worth it.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Canonical ผนึกกำลัง NVIDIA — ติดตั้ง CUDA บน Ubuntu ง่ายแค่คำสั่งเดียว เตรียมเปิดทางนักพัฒนา AI สู่ยุคใหม่”

    Canonical ผู้พัฒนา Ubuntu ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ NVIDIA ในวันที่ 15 กันยายน 2025 โดยจะนำชุดเครื่องมือ CUDA (Compute Unified Device Architecture) เข้ามาอยู่ใน repository ของ Ubuntu โดยตรง ซึ่งหมายความว่า นักพัฒนาไม่ต้องดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ NVIDIA อีกต่อไป แต่สามารถติดตั้ง CUDA ได้ด้วยคำสั่งเดียวผ่านระบบจัดการแพ็กเกจของ Ubuntu

    CUDA เป็นแพลตฟอร์มการประมวลผลแบบขนานที่ใช้ GPU ของ NVIDIA เพื่อเร่งความเร็วในการคำนวณ โดยเฉพาะในงานด้าน AI, machine learning, การจำลองเชิงฟิสิกส์ และการประมวลผลภาพขนาดใหญ่ ซึ่งเดิมทีการติดตั้ง CUDA บน Ubuntu ต้องผ่านหลายขั้นตอนที่ซับซ้อน เช่น การเลือกเวอร์ชันที่เข้ากันได้กับไดรเวอร์ GPU และการตั้งค่า runtime ด้วยตนเอง

    ด้วยการเปลี่ยนแปลงนี้ Canonical จะดูแลการติดตั้งและความเข้ากันได้ของ CUDA กับฮาร์ดแวร์ NVIDIA ที่รองรับทั้งหมด ทำให้ผู้ใช้สามารถประกาศการใช้งาน CUDA runtime ได้โดยไม่ต้องจัดการรายละเอียดเอง ซึ่งจะช่วยลดข้อผิดพลาดและเพิ่มความเร็วในการพัฒนาแอปพลิเคชัน

    แม้ยังไม่มีการระบุวันที่แน่ชัดว่า CUDA จะพร้อมใช้งานใน repository ของ Ubuntu แต่ Canonical ยืนยันว่าจะรองรับทั้งเวอร์ชัน LTS และ interim releases ซึ่งครอบคลุมผู้ใช้ Ubuntu ส่วนใหญ่ทั่วโลก

    ความร่วมมือระหว่าง Canonical และ NVIDIA
    Canonical เตรียมนำ CUDA toolkit เข้า repository ของ Ubuntu โดยตรง
    นักพัฒนาสามารถติดตั้ง CUDA ด้วยคำสั่งเดียวผ่าน APT package manager
    ลดขั้นตอนการติดตั้งที่เคยซับซ้อนจากเว็บไซต์ NVIDIA
    รองรับ GPU-accelerated libraries, debugging tools, C/C++ compiler และ runtime library

    ผลกระทบต่อวงการพัฒนา AI
    CUDA เป็นหัวใจของการประมวลผลแบบขนานในงาน AI และ machine learning
    การติดตั้งแบบ native ช่วยให้การพัฒนาแอปบน Ubuntu เป็นไปอย่างลื่นไหล
    Ubuntu จะจัดการความเข้ากันได้ของ CUDA กับฮาร์ดแวร์ NVIDIA โดยอัตโนมัติ
    รองรับการใช้งานใน data center, edge computing และ cloud infrastructure

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    CUDA เปิดให้ควบคุม thread, memory hierarchy และ kernel ได้อย่างละเอียด
    Ubuntu ใช้ระบบ APT ที่ปลอดภัยและมีการตรวจสอบซัพพลายเชนอย่างเข้มงวด
    NVIDIA GPU ตั้งแต่รุ่น Turing รองรับไดรเวอร์แบบ open-source บน Linux
    AMD ก็มีแนวทางคล้ายกันผ่าน ROCm stack สำหรับการประมวลผลแบบขนาน

    https://9to5linux.com/canonical-to-package-and-distribute-nvidia-cuda-within-ubuntus-repositories
    🚀 “Canonical ผนึกกำลัง NVIDIA — ติดตั้ง CUDA บน Ubuntu ง่ายแค่คำสั่งเดียว เตรียมเปิดทางนักพัฒนา AI สู่ยุคใหม่” Canonical ผู้พัฒนา Ubuntu ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ NVIDIA ในวันที่ 15 กันยายน 2025 โดยจะนำชุดเครื่องมือ CUDA (Compute Unified Device Architecture) เข้ามาอยู่ใน repository ของ Ubuntu โดยตรง ซึ่งหมายความว่า นักพัฒนาไม่ต้องดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ NVIDIA อีกต่อไป แต่สามารถติดตั้ง CUDA ได้ด้วยคำสั่งเดียวผ่านระบบจัดการแพ็กเกจของ Ubuntu CUDA เป็นแพลตฟอร์มการประมวลผลแบบขนานที่ใช้ GPU ของ NVIDIA เพื่อเร่งความเร็วในการคำนวณ โดยเฉพาะในงานด้าน AI, machine learning, การจำลองเชิงฟิสิกส์ และการประมวลผลภาพขนาดใหญ่ ซึ่งเดิมทีการติดตั้ง CUDA บน Ubuntu ต้องผ่านหลายขั้นตอนที่ซับซ้อน เช่น การเลือกเวอร์ชันที่เข้ากันได้กับไดรเวอร์ GPU และการตั้งค่า runtime ด้วยตนเอง ด้วยการเปลี่ยนแปลงนี้ Canonical จะดูแลการติดตั้งและความเข้ากันได้ของ CUDA กับฮาร์ดแวร์ NVIDIA ที่รองรับทั้งหมด ทำให้ผู้ใช้สามารถประกาศการใช้งาน CUDA runtime ได้โดยไม่ต้องจัดการรายละเอียดเอง ซึ่งจะช่วยลดข้อผิดพลาดและเพิ่มความเร็วในการพัฒนาแอปพลิเคชัน แม้ยังไม่มีการระบุวันที่แน่ชัดว่า CUDA จะพร้อมใช้งานใน repository ของ Ubuntu แต่ Canonical ยืนยันว่าจะรองรับทั้งเวอร์ชัน LTS และ interim releases ซึ่งครอบคลุมผู้ใช้ Ubuntu ส่วนใหญ่ทั่วโลก ✅ ความร่วมมือระหว่าง Canonical และ NVIDIA ➡️ Canonical เตรียมนำ CUDA toolkit เข้า repository ของ Ubuntu โดยตรง ➡️ นักพัฒนาสามารถติดตั้ง CUDA ด้วยคำสั่งเดียวผ่าน APT package manager ➡️ ลดขั้นตอนการติดตั้งที่เคยซับซ้อนจากเว็บไซต์ NVIDIA ➡️ รองรับ GPU-accelerated libraries, debugging tools, C/C++ compiler และ runtime library ✅ ผลกระทบต่อวงการพัฒนา AI ➡️ CUDA เป็นหัวใจของการประมวลผลแบบขนานในงาน AI และ machine learning ➡️ การติดตั้งแบบ native ช่วยให้การพัฒนาแอปบน Ubuntu เป็นไปอย่างลื่นไหล ➡️ Ubuntu จะจัดการความเข้ากันได้ของ CUDA กับฮาร์ดแวร์ NVIDIA โดยอัตโนมัติ ➡️ รองรับการใช้งานใน data center, edge computing และ cloud infrastructure ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ CUDA เปิดให้ควบคุม thread, memory hierarchy และ kernel ได้อย่างละเอียด ➡️ Ubuntu ใช้ระบบ APT ที่ปลอดภัยและมีการตรวจสอบซัพพลายเชนอย่างเข้มงวด ➡️ NVIDIA GPU ตั้งแต่รุ่น Turing รองรับไดรเวอร์แบบ open-source บน Linux ➡️ AMD ก็มีแนวทางคล้ายกันผ่าน ROCm stack สำหรับการประมวลผลแบบขนาน https://9to5linux.com/canonical-to-package-and-distribute-nvidia-cuda-within-ubuntus-repositories
    9TO5LINUX.COM
    Canonical to Package and Distribute NVIDIA CUDA within Ubuntu's Repositories - 9to5Linux
    Ubuntu maker Canonical announced that it will package and distribute the NVIDIA CUDA toolkit within Ubuntu’s repositories.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Firefox 143 มาแล้ว! เพิ่มฟีเจอร์ปกป้องความเป็นส่วนตัว พร้อมลูกเล่นใหม่ทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ”

    Mozilla ปล่อย Firefox 143 เวอร์ชันล่าสุดอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 กันยายน 2025 โดยแม้จะเป็นอัปเดตขนาดเล็ก แต่ก็มีฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจหลายอย่าง โดยเฉพาะด้านความเป็นส่วนตัวและการใช้งานที่สะดวกขึ้น ทั้งบนเดสก์ท็อปและ Android

    หนึ่งในฟีเจอร์เด่นคือการขยายระบบ Fingerprinting Protection ด้วยฟังก์ชันใหม่ชื่อ “Suspected Fingerprinters” ซึ่งช่วยป้องกันการติดตามผู้ใช้ผ่านข้อมูลฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ไม่สามารถบล็อกได้โดยตรง โดย Firefox จะรายงานค่าคงที่ของหลายแอตทริบิวต์เพื่อหลอกระบบติดตามให้เข้าใจผิด

    อีกฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาคือการแสดงตัวอย่างกล้องเมื่อเว็บไซต์ร้องขอสิทธิ์ใช้งานกล้อง — มีประโยชน์มากเมื่อผู้ใช้มีหลายกล้องเชื่อมต่อ และต้องการเลือกกล้องที่ถูกต้องก่อนอนุญาต

    สำหรับผู้ใช้โหมด Private Browsing ตอนนี้ Firefox จะถามว่าต้องการเก็บหรือจะลบไฟล์ที่ดาวน์โหลดหลังจากออกจากโหมดหรือไม่ ซึ่งเป็นการเพิ่มการควบคุมข้อมูลส่วนตัวให้ผู้ใช้มากขึ้น

    ฝั่ง Android ก็มีการปรับปรุงหลายจุด เช่น รองรับการเล่นเสียงแบบ xHE-AAC, แสดงความคืบหน้าการดาวน์โหลดแบบเรียลไทม์ พร้อมปุ่ม pause/resume/retry/cancel และสามารถตั้งค่า DNS over HTTPS ได้จากหน้าตั้งค่าโดยตรง

    สำหรับนักพัฒนา Firefox 143 เพิ่มความสามารถในการแสดงข้อความ debug แบบไม่รวมกลุ่ม เพื่อให้เห็นข้อความทั้งหมดอย่างชัดเจน และรองรับ CSS ใหม่ เช่น <color> ใน <input type=color>, การจัดการ grid ที่แม่นยำขึ้น และ pseudo-element ใหม่ ::details-content สำหรับจัดสไตล์เนื้อหาที่ขยาย/ยุบได้

    ฟีเจอร์ใหม่ใน Firefox 143
    เพิ่ม “Suspected Fingerprinters” เพื่อขยายการป้องกันการติดตามแบบ fingerprinting
    แสดงตัวอย่างกล้องในหน้าขอสิทธิ์ใช้งาน — เลือกกล้องได้ก่อนอนุญาต
    ถามผู้ใช้ว่าจะเก็บหรือลบไฟล์ที่ดาวน์โหลดในโหมด Private Browsing
    ลบฟีเจอร์ “Website Advertising Preferences” ออกจากหน้าความเป็นส่วนตัว

    การปรับปรุงบน Android
    รองรับการเล่นเสียงแบบ xHE-AAC
    แสดงความคืบหน้าการดาวน์โหลดแบบเรียลไทม์ พร้อมควบคุมการทำงาน
    ตั้งค่า DNS over HTTPS ได้จากหน้าตั้งค่า
    เปิดเว็บที่เกี่ยวข้องเมื่อแตะ notification หลังปิดหรือรีสตาร์ทแอป

    ฟีเจอร์สำหรับนักพัฒนา
    ปิดการรวมข้อความ debug ที่คล้ายกัน — แสดงข้อความทั้งหมด
    รองรับ CSS <color> ใน <input type=color>
    ปรับปรุงการจัดขนาด grid ให้ตรงกับสเปก CSS Grid
    เพิ่ม ::details-content สำหรับจัดสไตล์เนื้อหาที่ขยาย/ยุบได้

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Fingerprinting คือเทคนิคติดตามผู้ใช้ผ่านค่าฮาร์ดแวร์/ซอฟต์แวร์ เช่น GPU, font, screen size
    xHE-AAC เป็น codec เสียงคุณภาพสูงที่ใช้ในสตรีมมิ่งยุคใหม่ เช่น Netflix และ YouTube
    DNS over HTTPS ช่วยป้องกันการดักฟัง DNS โดย ISP หรือบุคคลที่สาม
    CSS ::details-content ช่วยให้นักพัฒนาออกแบบ UI แบบ accordion ได้ง่ายขึ้น

    https://9to5linux.com/firefox-143-is-now-available-for-download-this-is-whats-new
    🦊 “Firefox 143 มาแล้ว! เพิ่มฟีเจอร์ปกป้องความเป็นส่วนตัว พร้อมลูกเล่นใหม่ทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ” Mozilla ปล่อย Firefox 143 เวอร์ชันล่าสุดอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 กันยายน 2025 โดยแม้จะเป็นอัปเดตขนาดเล็ก แต่ก็มีฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจหลายอย่าง โดยเฉพาะด้านความเป็นส่วนตัวและการใช้งานที่สะดวกขึ้น ทั้งบนเดสก์ท็อปและ Android หนึ่งในฟีเจอร์เด่นคือการขยายระบบ Fingerprinting Protection ด้วยฟังก์ชันใหม่ชื่อ “Suspected Fingerprinters” ซึ่งช่วยป้องกันการติดตามผู้ใช้ผ่านข้อมูลฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ไม่สามารถบล็อกได้โดยตรง โดย Firefox จะรายงานค่าคงที่ของหลายแอตทริบิวต์เพื่อหลอกระบบติดตามให้เข้าใจผิด อีกฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาคือการแสดงตัวอย่างกล้องเมื่อเว็บไซต์ร้องขอสิทธิ์ใช้งานกล้อง — มีประโยชน์มากเมื่อผู้ใช้มีหลายกล้องเชื่อมต่อ และต้องการเลือกกล้องที่ถูกต้องก่อนอนุญาต สำหรับผู้ใช้โหมด Private Browsing ตอนนี้ Firefox จะถามว่าต้องการเก็บหรือจะลบไฟล์ที่ดาวน์โหลดหลังจากออกจากโหมดหรือไม่ ซึ่งเป็นการเพิ่มการควบคุมข้อมูลส่วนตัวให้ผู้ใช้มากขึ้น ฝั่ง Android ก็มีการปรับปรุงหลายจุด เช่น รองรับการเล่นเสียงแบบ xHE-AAC, แสดงความคืบหน้าการดาวน์โหลดแบบเรียลไทม์ พร้อมปุ่ม pause/resume/retry/cancel และสามารถตั้งค่า DNS over HTTPS ได้จากหน้าตั้งค่าโดยตรง สำหรับนักพัฒนา Firefox 143 เพิ่มความสามารถในการแสดงข้อความ debug แบบไม่รวมกลุ่ม เพื่อให้เห็นข้อความทั้งหมดอย่างชัดเจน และรองรับ CSS ใหม่ เช่น <color> ใน <input type=color>, การจัดการ grid ที่แม่นยำขึ้น และ pseudo-element ใหม่ ::details-content สำหรับจัดสไตล์เนื้อหาที่ขยาย/ยุบได้ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Firefox 143 ➡️ เพิ่ม “Suspected Fingerprinters” เพื่อขยายการป้องกันการติดตามแบบ fingerprinting ➡️ แสดงตัวอย่างกล้องในหน้าขอสิทธิ์ใช้งาน — เลือกกล้องได้ก่อนอนุญาต ➡️ ถามผู้ใช้ว่าจะเก็บหรือลบไฟล์ที่ดาวน์โหลดในโหมด Private Browsing ➡️ ลบฟีเจอร์ “Website Advertising Preferences” ออกจากหน้าความเป็นส่วนตัว ✅ การปรับปรุงบน Android ➡️ รองรับการเล่นเสียงแบบ xHE-AAC ➡️ แสดงความคืบหน้าการดาวน์โหลดแบบเรียลไทม์ พร้อมควบคุมการทำงาน ➡️ ตั้งค่า DNS over HTTPS ได้จากหน้าตั้งค่า ➡️ เปิดเว็บที่เกี่ยวข้องเมื่อแตะ notification หลังปิดหรือรีสตาร์ทแอป ✅ ฟีเจอร์สำหรับนักพัฒนา ➡️ ปิดการรวมข้อความ debug ที่คล้ายกัน — แสดงข้อความทั้งหมด ➡️ รองรับ CSS <color> ใน <input type=color> ➡️ ปรับปรุงการจัดขนาด grid ให้ตรงกับสเปก CSS Grid ➡️ เพิ่ม ::details-content สำหรับจัดสไตล์เนื้อหาที่ขยาย/ยุบได้ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Fingerprinting คือเทคนิคติดตามผู้ใช้ผ่านค่าฮาร์ดแวร์/ซอฟต์แวร์ เช่น GPU, font, screen size ➡️ xHE-AAC เป็น codec เสียงคุณภาพสูงที่ใช้ในสตรีมมิ่งยุคใหม่ เช่น Netflix และ YouTube ➡️ DNS over HTTPS ช่วยป้องกันการดักฟัง DNS โดย ISP หรือบุคคลที่สาม ➡️ CSS ::details-content ช่วยให้นักพัฒนาออกแบบ UI แบบ accordion ได้ง่ายขึ้น https://9to5linux.com/firefox-143-is-now-available-for-download-this-is-whats-new
    9TO5LINUX.COM
    Firefox 143 Is Now Available for Download, This Is What's New - 9to5Linux
    Firefox 143 open-source web browser is now available for download with various new features and improvements.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Giada 1.3 อัปเดตใหม่ รองรับการเชื่อมต่อเสียงหลายช่อง — เครื่องมือสาย Loop ที่เล็กแต่ทรงพลังสำหรับนักดนตรีสด”

    Giada 1.3 เวอร์ชันล่าสุดของซอฟต์แวร์ open-source สำหรับการผลิตดนตรีแบบ loop-based ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2025 โดยมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจสำหรับนักดนตรีสายสดและผู้ใช้งานระดับมืออาชีพ โดยเฉพาะการรองรับการเชื่อมต่อเสียงหลายช่องผ่าน JACK Audio Connection Kit ซึ่งช่วยให้สามารถส่งสัญญาณเสียงไปยังอุปกรณ์ภายนอกหรือซอฟต์แวร์อื่นเพื่อการบันทึกแบบ multitrack ได้อย่างยืดหยุ่น

    Giada เป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาให้เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ใช้ได้ทั้งเป็น loop machine, sample player, song editor, live recorder, FX processor และ MIDI controller โดยในเวอร์ชัน 1.3 นี้ยังมีการปรับปรุงหน้าต่าง Plug-in Browser ให้ใช้งานง่ายขึ้น อัปเดตไลบรารี FLTK เป็นเวอร์ชัน 1.4.4 และปรับโครงสร้างโค้ดภายในเพื่อให้ทำงานได้ลื่นไหลและเสถียรมากขึ้น

    ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด Giada 1.3 ได้ทั้งแบบ source tarball และ Flatpak จาก Flathub ซึ่งรองรับการใช้งานบนทุกดิสโทรของ GNU/Linux โดยไม่ต้องติดตั้งอะไรเพิ่มเติม แต่ทีมพัฒนาแนะนำให้ใช้ binary package จาก repository ของดิสโทรเพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุด

    ฟีเจอร์ใหม่ใน Giada 1.3
    รองรับการเชื่อมต่อเสียงหลายช่องผ่าน JACK Audio Connection Kit
    สามารถส่งสัญญาณเสียงไปยังอุปกรณ์ภายนอกหรือซอฟต์แวร์อื่นเพื่อบันทึก multitrack
    ปรับปรุงหน้าต่าง Plug-in Browser ให้สวยงามและใช้งานง่ายขึ้น
    อัปเดต FLTK เป็นเวอร์ชัน 1.4.4 เพื่อรองรับ UI ที่ทันสมัยและเสถียร

    ความสามารถของ Giada
    ใช้เป็น loop machine, sample player, song editor, live recorder, FX processor และ MIDI controller
    รองรับ VST3, LV2 และ MIDI I/O สำหรับการใช้งานแบบมืออาชีพ
    ออกแบบมาเพื่อการแสดงสด — ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพสูง
    รองรับการทำงานแบบ multithreaded เพื่อประสิทธิภาพเสียงที่ดีขึ้น

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Giada เป็นซอฟต์แวร์ open-source ภายใต้ GPL — ใช้งานฟรีและปรับแต่งได้
    Flatpak ช่วยให้ติดตั้ง Giada ได้ง่ายบนทุกดิสโทร Linux โดยไม่ต้องพึ่ง dependency ภายนอก
    JACK เป็นระบบเชื่อมต่อเสียงที่นิยมใน Linux สำหรับงานดนตรีระดับมืออาชีพ
    FLTK เป็นไลบรารี UI ที่เบาและเร็ว เหมาะกับแอปที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

    https://9to5linux.com/giada-1-3-open-source-loop-machine-adds-support-for-multiple-audio-connections
    🎧 “Giada 1.3 อัปเดตใหม่ รองรับการเชื่อมต่อเสียงหลายช่อง — เครื่องมือสาย Loop ที่เล็กแต่ทรงพลังสำหรับนักดนตรีสด” Giada 1.3 เวอร์ชันล่าสุดของซอฟต์แวร์ open-source สำหรับการผลิตดนตรีแบบ loop-based ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2025 โดยมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจสำหรับนักดนตรีสายสดและผู้ใช้งานระดับมืออาชีพ โดยเฉพาะการรองรับการเชื่อมต่อเสียงหลายช่องผ่าน JACK Audio Connection Kit ซึ่งช่วยให้สามารถส่งสัญญาณเสียงไปยังอุปกรณ์ภายนอกหรือซอฟต์แวร์อื่นเพื่อการบันทึกแบบ multitrack ได้อย่างยืดหยุ่น Giada เป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาให้เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ใช้ได้ทั้งเป็น loop machine, sample player, song editor, live recorder, FX processor และ MIDI controller โดยในเวอร์ชัน 1.3 นี้ยังมีการปรับปรุงหน้าต่าง Plug-in Browser ให้ใช้งานง่ายขึ้น อัปเดตไลบรารี FLTK เป็นเวอร์ชัน 1.4.4 และปรับโครงสร้างโค้ดภายในเพื่อให้ทำงานได้ลื่นไหลและเสถียรมากขึ้น ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด Giada 1.3 ได้ทั้งแบบ source tarball และ Flatpak จาก Flathub ซึ่งรองรับการใช้งานบนทุกดิสโทรของ GNU/Linux โดยไม่ต้องติดตั้งอะไรเพิ่มเติม แต่ทีมพัฒนาแนะนำให้ใช้ binary package จาก repository ของดิสโทรเพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุด ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Giada 1.3 ➡️ รองรับการเชื่อมต่อเสียงหลายช่องผ่าน JACK Audio Connection Kit ➡️ สามารถส่งสัญญาณเสียงไปยังอุปกรณ์ภายนอกหรือซอฟต์แวร์อื่นเพื่อบันทึก multitrack ➡️ ปรับปรุงหน้าต่าง Plug-in Browser ให้สวยงามและใช้งานง่ายขึ้น ➡️ อัปเดต FLTK เป็นเวอร์ชัน 1.4.4 เพื่อรองรับ UI ที่ทันสมัยและเสถียร ✅ ความสามารถของ Giada ➡️ ใช้เป็น loop machine, sample player, song editor, live recorder, FX processor และ MIDI controller ➡️ รองรับ VST3, LV2 และ MIDI I/O สำหรับการใช้งานแบบมืออาชีพ ➡️ ออกแบบมาเพื่อการแสดงสด — ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพสูง ➡️ รองรับการทำงานแบบ multithreaded เพื่อประสิทธิภาพเสียงที่ดีขึ้น ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Giada เป็นซอฟต์แวร์ open-source ภายใต้ GPL — ใช้งานฟรีและปรับแต่งได้ ➡️ Flatpak ช่วยให้ติดตั้ง Giada ได้ง่ายบนทุกดิสโทร Linux โดยไม่ต้องพึ่ง dependency ภายนอก ➡️ JACK เป็นระบบเชื่อมต่อเสียงที่นิยมใน Linux สำหรับงานดนตรีระดับมืออาชีพ ➡️ FLTK เป็นไลบรารี UI ที่เบาและเร็ว เหมาะกับแอปที่ต้องการประสิทธิภาพสูง https://9to5linux.com/giada-1-3-open-source-loop-machine-adds-support-for-multiple-audio-connections
    9TO5LINUX.COM
    Giada 1.3 Open-Source Loop Machine Adds Support for Multiple Audio Connections - 9to5Linux
    Giada 1.3 open-source loop machine and music production software is now available for download with support for multiple audio connections.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • “คิดลบซ้ำ ๆ อาจทำให้สมองเสื่อมเร็วขึ้น — งานวิจัยจากจีนชี้ชัด ความเครียดทางใจส่งผลต่อความจำและการตัดสินใจในผู้สูงอายุ”

    ในยุคที่ผู้สูงอายุเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและสังคม งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยแพทย์จีนแห่งหูเป่ย (Hubei University of Chinese Medicine) ได้เปิดเผยความเชื่อมโยงที่น่าตกใจระหว่าง “การคิดลบซ้ำ ๆ” หรือ Repetitive Negative Thinking (RNT) กับการเสื่อมถอยของสมรรถภาพทางปัญญาในผู้สูงอายุ

    การศึกษานี้เก็บข้อมูลจากผู้เข้าร่วม 424 คน อายุ 60 ปีขึ้นไปในเมืองอู่ฮั่น โดยใช้แบบสอบถาม Perseverative Thinking Questionnaire (PTQ) เพื่อวัดระดับการคิดลบ และใช้แบบทดสอบ Montreal Cognitive Assessment (MoCA) เพื่อประเมินความสามารถทางสมอง เช่น ความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจ

    ผลการวิเคราะห์พบว่า ผู้ที่มีคะแนน RNT สูง (กลุ่ม Q3 และ Q4) มีคะแนน MoCA ต่ำกว่ากลุ่มที่มี RNT ต่ำอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะควบคุมปัจจัยอื่น ๆ เช่น อายุ รายได้ การศึกษา และโรคประจำตัวแล้วก็ตาม โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 60–79 ปี และผู้ที่มีการศึกษาระดับมัธยมขึ้นไป ความสัมพันธ์นี้ยิ่งชัดเจน

    นักวิจัยอธิบายว่า การคิดลบซ้ำ ๆ เช่น การกังวลเรื่องอนาคต หรือการครุ่นคิดถึงอดีตที่เจ็บปวด จะกระตุ้นระบบความเครียดในร่างกาย ทำให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงขึ้น เกิดการอักเสบในสมอง และอาจนำไปสู่การสะสมของโปรตีนอะไมลอยด์และเทา ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคอัลไซเมอร์

    นอกจากนี้ยังมีแนวคิด “หนี้สมอง” (Cognitive Debt) ที่อธิบายว่า การใช้ทรัพยากรสมองไปกับความคิดลบอย่างต่อเนื่อง จะลดความสามารถในการจดจำและตัดสินใจในระยะยาว

    ข้อมูลสำคัญจากงานวิจัย
    ศึกษาในผู้สูงอายุ 424 คนในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน
    ใช้แบบสอบถาม PTQ วัดระดับการคิดลบ และ MoCA วัดความสามารถทางสมอง
    ผู้ที่มี RNT สูงมีคะแนน MoCA ต่ำกว่ากลุ่มที่มี RNT ต่ำ
    ความสัมพันธ์ชัดเจนในกลุ่มอายุ 60–79 ปี และผู้มีการศึกษาระดับมัธยมขึ้นไป

    กลไกที่อธิบายผลกระทบ
    การคิดลบซ้ำ ๆ กระตุ้นระบบความเครียด ทำให้คอร์ติซอลสูงขึ้น
    เกิดการอักเสบในสมอง และอาจนำไปสู่การสะสมโปรตีนอะไมลอยด์และเทา
    แนวคิด “หนี้สมอง” อธิบายว่าความคิดลบใช้ทรัพยากรสมองจนหมด
    ส่งผลต่อความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจในระยะยาว

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    งานวิจัยจาก UCL พบว่า RNT เชื่อมโยงกับการเสื่อมของสมองในระยะ 4 ปี
    RNT เป็นอาการร่วมในโรคซึมเศร้า วิตกกังวล PTSD และโรคนอนไม่หลับ
    การลด RNT ด้วย CBT, mindfulness และกิจกรรมทางสังคมช่วยป้องกันสมองเสื่อม
    การตรวจสอบ RNT ควรเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพจิตผู้สูงอายุ

    https://bmcpsychiatry.biomedcentral.com/articles/10.1186/s12888-025-06815-2
    🧠 “คิดลบซ้ำ ๆ อาจทำให้สมองเสื่อมเร็วขึ้น — งานวิจัยจากจีนชี้ชัด ความเครียดทางใจส่งผลต่อความจำและการตัดสินใจในผู้สูงอายุ” ในยุคที่ผู้สูงอายุเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและสังคม งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยแพทย์จีนแห่งหูเป่ย (Hubei University of Chinese Medicine) ได้เปิดเผยความเชื่อมโยงที่น่าตกใจระหว่าง “การคิดลบซ้ำ ๆ” หรือ Repetitive Negative Thinking (RNT) กับการเสื่อมถอยของสมรรถภาพทางปัญญาในผู้สูงอายุ การศึกษานี้เก็บข้อมูลจากผู้เข้าร่วม 424 คน อายุ 60 ปีขึ้นไปในเมืองอู่ฮั่น โดยใช้แบบสอบถาม Perseverative Thinking Questionnaire (PTQ) เพื่อวัดระดับการคิดลบ และใช้แบบทดสอบ Montreal Cognitive Assessment (MoCA) เพื่อประเมินความสามารถทางสมอง เช่น ความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจ ผลการวิเคราะห์พบว่า ผู้ที่มีคะแนน RNT สูง (กลุ่ม Q3 และ Q4) มีคะแนน MoCA ต่ำกว่ากลุ่มที่มี RNT ต่ำอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะควบคุมปัจจัยอื่น ๆ เช่น อายุ รายได้ การศึกษา และโรคประจำตัวแล้วก็ตาม โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 60–79 ปี และผู้ที่มีการศึกษาระดับมัธยมขึ้นไป ความสัมพันธ์นี้ยิ่งชัดเจน นักวิจัยอธิบายว่า การคิดลบซ้ำ ๆ เช่น การกังวลเรื่องอนาคต หรือการครุ่นคิดถึงอดีตที่เจ็บปวด จะกระตุ้นระบบความเครียดในร่างกาย ทำให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงขึ้น เกิดการอักเสบในสมอง และอาจนำไปสู่การสะสมของโปรตีนอะไมลอยด์และเทา ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคอัลไซเมอร์ นอกจากนี้ยังมีแนวคิด “หนี้สมอง” (Cognitive Debt) ที่อธิบายว่า การใช้ทรัพยากรสมองไปกับความคิดลบอย่างต่อเนื่อง จะลดความสามารถในการจดจำและตัดสินใจในระยะยาว ✅ ข้อมูลสำคัญจากงานวิจัย ➡️ ศึกษาในผู้สูงอายุ 424 คนในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ➡️ ใช้แบบสอบถาม PTQ วัดระดับการคิดลบ และ MoCA วัดความสามารถทางสมอง ➡️ ผู้ที่มี RNT สูงมีคะแนน MoCA ต่ำกว่ากลุ่มที่มี RNT ต่ำ ➡️ ความสัมพันธ์ชัดเจนในกลุ่มอายุ 60–79 ปี และผู้มีการศึกษาระดับมัธยมขึ้นไป ✅ กลไกที่อธิบายผลกระทบ ➡️ การคิดลบซ้ำ ๆ กระตุ้นระบบความเครียด ทำให้คอร์ติซอลสูงขึ้น ➡️ เกิดการอักเสบในสมอง และอาจนำไปสู่การสะสมโปรตีนอะไมลอยด์และเทา ➡️ แนวคิด “หนี้สมอง” อธิบายว่าความคิดลบใช้ทรัพยากรสมองจนหมด ➡️ ส่งผลต่อความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจในระยะยาว ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ งานวิจัยจาก UCL พบว่า RNT เชื่อมโยงกับการเสื่อมของสมองในระยะ 4 ปี ➡️ RNT เป็นอาการร่วมในโรคซึมเศร้า วิตกกังวล PTSD และโรคนอนไม่หลับ ➡️ การลด RNT ด้วย CBT, mindfulness และกิจกรรมทางสังคมช่วยป้องกันสมองเสื่อม ➡️ การตรวจสอบ RNT ควรเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพจิตผู้สูงอายุ https://bmcpsychiatry.biomedcentral.com/articles/10.1186/s12888-025-06815-2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts