• เหยื่อ – เคี้ยว ตอนที่ 2 – อิรัก 2
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
ตอนที่ 3 : “เคี้ยว 2”
    อิรัก 2
ในที่สุดชาวอิรัก ก็ทนเห็นประเทศตัวเอง เป็นหุ่นเชิดของอังกฤษต่อไปอีกไม่ไหว จึงเริ่มบีบกษัตริย์ Faisal ให้เจรจากับอังกฤษ ลดอำนาจการปกครองอังกฤษในอิรักลงบ้าง อย่าให้มันออกหน้าออกตาขนาดนี้เลย การเจรจาใช้เวลาอยู่หลายปี ในที่สุด Anglo – Iraqi Treaty ก็คลอดในปี ค.ศ. 1930 Faisal ไม่ได้เป็นคนมาลงนามในสัญญานี้ ส่งใบลาป่วย อ้างว่าไส้ติ่งอักเสบกระทันหัน
    Treaty นี้ ก็ยังให้สิทธิพิเศษแก่คนอังกฤษ ที่เป็นตัวแทนรัฐบาลอังกฤษ และลูกจ้างรัฐบาลอังกฤษ ที่อังกฤษส่งมาทำงานในอิรักเหมือนเดิม ที่ดูเหมือนเปลี่ยนไป คือ ข้อตกลงนี้ระบุว่างานบริหารภายในประเทศ ให้เป็นความรับผิดชอบของกษัตริย์ Faisal ส่วนอังกฤษจะรับผิดชอบ ดูแลปกป้องอิรัก จากการจู่โจมภายนอก (แหม ! มันคลับคล้ายเหมือนสัญญาอะไรหนอ ที่สมันน้อยไปทำไว้กับใครเขาทำนองนี้ เมื่อ 60 กว่าปีก่อน)
    และเพื่อให้อังกฤษสามารถปกป้องอิรักได้เต็มที่ อิรักก็จะต้องให้อังกฤษเช่าสนามบิน โดยไม่คิดค่าเช่า สัญญานี้มีอายุ 25 ปี และจะมีผลต่อเมื่ออิรัก ได้เข้าไปเป็นสมาชิกของสันนิบาตชาติ League of Nations ในฐานะประเทศเอกราช
    อิรักขมักเขม้นทำการบ้าน โดยความหวังที่จะเป็นเอกราช ปลดแอกอังกฤษออกจากบ่า ค.ศ. 1932 สันนิบาตชาติ ซึ่งคุมโดยขาใหญ่ที่ชนะสงครามโลกครั้งที่ 1 (ก็อังกฤษกับฝรั่งเศสนั่นแหละ !) ก็รับอิรักเข้าเป็นสมาชิก คงใช้เวลานานหน่อยกว่าอิรักจะรู้ตัวว่า เขาแค่เปลี่ยนยี่ห้อหม้อต้มเหยื่อเท่านั้นเอง จะหม้อต้มยี่ห้อไหน ก็ผลิตมาจากโรงงานเดียวกัน
    แต่อิรักไม่ใช่ชาติที่จะยอม งอมืออยู่อย่างนั้น พวกเขาเดินหน้า หาทางหักกับอังกฤษต่อไป รัฐบาลอิรักพยายามแข็งข้อกับอังกฤษอยู่หลายรอบ ครั้งสำคัญคือ ค.ศ. 1941 สงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มมาใกล้ตัว สภาอิรักลงมติไม่สนับสนุนอังกฤษ ในการประกาศสงครามกับเยอรมัน !
    อังกฤษเหมือนโดนตีแซกหน้า! ยกทัพเต็มอัตรามาเต็มเมืองอิรัก แล้วปลดรัฐบาลอิรักที่มาจากการ เลือกตั้ง เอานักการเมืองที่ฝักฝ่าย อังกฤษเข้ามาเป็นรัฐบาลแทน กษัตริย์ Faisal ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหนอีก ตอนที่เซ็นสัญญา Anglo-Iraq : Treaty ก็ส่งใบลาป่วยว่าใส้ติ่งอักเสบส่งตัวแทนมา คราวนี้ไม่รู้อะไรอักเสบ
    หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบ ความสงบในอิรักยิ่งหายาก ชาวอิรักต้องการเป็นอิสระจากแอกของอังกฤษ พวกเขาผลัดเปลี่ยนกันต่อต้านและต่อสู้ แต่กำลังอาวุธมันต่างกัน และที่สำคัญหนอนบ่อนไส้ ที่เป็นชาวอิรัก ที่อังกฤษชุบเลี้ยงไว้ให้ทำงาน ยังมีอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญๆ
    แต่ในที่สุดราชวงศ์ Hashemite ที่น่าสงสาร ถูกหลอก ซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็ถูกโค่นในปี ค.ศ. 1958 อังกฤษปล่อยมือจากการชักหุ่น หุ่นไม่มีเชือกชัก ตกพลั่กลงพื้น กษัตริย์ และราชวงศ์ Hashemite ถูกจับติดคุก และถูกตัดสินประหารชีวิตในที่สุด โดยอังกฤษไม่ยื่นมือ ไม่เหลียวมามอง ได้แต่เก็บของ รีบกลับเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ของตนอย่างรีบด่วน อย่างเดียว
    แต่ฉากสุดท้ายนี้ มันน่าคิด อยู่ดี ๆ กษัตริย์ Hussein แห่งจอร์แดน ซึ่งเป็นญาติสนิทของ Faisal และเป็นหุ่นเชิดของอังกฤษเช่นเดียวกัน เกิดประสาทว่าพวกที่ลุกฮือ ไล่ฝรั่งตะวันตกที่เลบานอน จะเลยเถิดเข้ามาถึงจอร์แดนด้วย ขอแรงอิรักส่งกองทัพมาช่วยไล่หน่อยเถิด บรรดาทหารหาญของอิรัก จึงจัดแจงแต่งเครื่องแบบติดอาวุธกองทัพ มุ่งหน้าจะไปจอร์แดน
    แต่แล้วท่านนายพลคนหนึ่ง Colonel Abd as Salaam Arif ก็สั่งให้กองทัพเลี้ยวกลับมาสู่แบกแดด ส่องปืนใหญ่มาที่วังของ Hashemite เป็นการปฏิวัติของทหารอิรักชนิดไม่เสียเลือดเนื้อ ไม่มีผู้ต่อต้าน และไม่มีผู้รู้ตัว ขุนนางอิรัก Nuri as Said ที่เป็นขุนคอยพยักให้อังกฤษถูกจับก่อนเพื่อน ระหว่างที่พยายามจะหนี โดยปลอมตัวเป็นผู้หญิง หลังจากนั้นพวกกษัตริย์และราชวงศ์ก็โดนรวบตัว ชาวอิรักต่างไปชุมนุมอยู่หน้าสถานทูตอังกฤษ ด่าทอ ขว้างปา พวกเขามองว่า อังกฤษกับ Hashemite เป็นตัวแทนของกันและกัน
    เป็นการจบฉากของชาวเกาะผู้ยิ่งใหญ่ในอิรัก ที่ไม่สวยงามตั้งแต่เริ่มต้นวันแรก จนถึงวันสุดท้าย
    ผมจะไม่แปลกใจเลย ถ้าเหตุการณ์รุนแรง ที่กำลังดำเนินอยู่ในอิรักขณะนี้ โดยเฉพาะที่ Mosul ถึงขนาดที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษ มายืนแถลงเมื่อไม่นานมานี้ เลื่อนอันดับภัยจากผู้ก่อการร้าย ในอังกฤษขึ้นสูงถึงระดับรุนแรง (Severe) เนื่องจากเหตุการณ์ในอิรักและซีเรีย มันจะมีรากยาวฝั่งลึก ย้อนไปได้ถึง 100 ปี
    แม้อังกฤษจะเก็บของกลับเกาะไปแล้ว แต่อังกฤษได้ทิ้งพิษร้ายค้างอยู่ในอิรัก มันมาจากแผนการต้ม การเคี้ยวเหยื่อ ตั้งแต่ต้น มันเป็นแผนที่ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่าง เผ่าพันธ์และธรรมเนียมประเพณีทางศาสนา อย่างน่าสงสารของเหยื่อ
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
12 ก.ย. 57
    เหยื่อ – เคี้ยว ตอนที่ 2 – อิรัก 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
ตอนที่ 3 : “เคี้ยว 2” อิรัก 2
ในที่สุดชาวอิรัก ก็ทนเห็นประเทศตัวเอง เป็นหุ่นเชิดของอังกฤษต่อไปอีกไม่ไหว จึงเริ่มบีบกษัตริย์ Faisal ให้เจรจากับอังกฤษ ลดอำนาจการปกครองอังกฤษในอิรักลงบ้าง อย่าให้มันออกหน้าออกตาขนาดนี้เลย การเจรจาใช้เวลาอยู่หลายปี ในที่สุด Anglo – Iraqi Treaty ก็คลอดในปี ค.ศ. 1930 Faisal ไม่ได้เป็นคนมาลงนามในสัญญานี้ ส่งใบลาป่วย อ้างว่าไส้ติ่งอักเสบกระทันหัน Treaty นี้ ก็ยังให้สิทธิพิเศษแก่คนอังกฤษ ที่เป็นตัวแทนรัฐบาลอังกฤษ และลูกจ้างรัฐบาลอังกฤษ ที่อังกฤษส่งมาทำงานในอิรักเหมือนเดิม ที่ดูเหมือนเปลี่ยนไป คือ ข้อตกลงนี้ระบุว่างานบริหารภายในประเทศ ให้เป็นความรับผิดชอบของกษัตริย์ Faisal ส่วนอังกฤษจะรับผิดชอบ ดูแลปกป้องอิรัก จากการจู่โจมภายนอก (แหม ! มันคลับคล้ายเหมือนสัญญาอะไรหนอ ที่สมันน้อยไปทำไว้กับใครเขาทำนองนี้ เมื่อ 60 กว่าปีก่อน) และเพื่อให้อังกฤษสามารถปกป้องอิรักได้เต็มที่ อิรักก็จะต้องให้อังกฤษเช่าสนามบิน โดยไม่คิดค่าเช่า สัญญานี้มีอายุ 25 ปี และจะมีผลต่อเมื่ออิรัก ได้เข้าไปเป็นสมาชิกของสันนิบาตชาติ League of Nations ในฐานะประเทศเอกราช อิรักขมักเขม้นทำการบ้าน โดยความหวังที่จะเป็นเอกราช ปลดแอกอังกฤษออกจากบ่า ค.ศ. 1932 สันนิบาตชาติ ซึ่งคุมโดยขาใหญ่ที่ชนะสงครามโลกครั้งที่ 1 (ก็อังกฤษกับฝรั่งเศสนั่นแหละ !) ก็รับอิรักเข้าเป็นสมาชิก คงใช้เวลานานหน่อยกว่าอิรักจะรู้ตัวว่า เขาแค่เปลี่ยนยี่ห้อหม้อต้มเหยื่อเท่านั้นเอง จะหม้อต้มยี่ห้อไหน ก็ผลิตมาจากโรงงานเดียวกัน แต่อิรักไม่ใช่ชาติที่จะยอม งอมืออยู่อย่างนั้น พวกเขาเดินหน้า หาทางหักกับอังกฤษต่อไป รัฐบาลอิรักพยายามแข็งข้อกับอังกฤษอยู่หลายรอบ ครั้งสำคัญคือ ค.ศ. 1941 สงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มมาใกล้ตัว สภาอิรักลงมติไม่สนับสนุนอังกฤษ ในการประกาศสงครามกับเยอรมัน ! อังกฤษเหมือนโดนตีแซกหน้า! ยกทัพเต็มอัตรามาเต็มเมืองอิรัก แล้วปลดรัฐบาลอิรักที่มาจากการ เลือกตั้ง เอานักการเมืองที่ฝักฝ่าย อังกฤษเข้ามาเป็นรัฐบาลแทน กษัตริย์ Faisal ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหนอีก ตอนที่เซ็นสัญญา Anglo-Iraq : Treaty ก็ส่งใบลาป่วยว่าใส้ติ่งอักเสบส่งตัวแทนมา คราวนี้ไม่รู้อะไรอักเสบ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบ ความสงบในอิรักยิ่งหายาก ชาวอิรักต้องการเป็นอิสระจากแอกของอังกฤษ พวกเขาผลัดเปลี่ยนกันต่อต้านและต่อสู้ แต่กำลังอาวุธมันต่างกัน และที่สำคัญหนอนบ่อนไส้ ที่เป็นชาวอิรัก ที่อังกฤษชุบเลี้ยงไว้ให้ทำงาน ยังมีอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญๆ แต่ในที่สุดราชวงศ์ Hashemite ที่น่าสงสาร ถูกหลอก ซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็ถูกโค่นในปี ค.ศ. 1958 อังกฤษปล่อยมือจากการชักหุ่น หุ่นไม่มีเชือกชัก ตกพลั่กลงพื้น กษัตริย์ และราชวงศ์ Hashemite ถูกจับติดคุก และถูกตัดสินประหารชีวิตในที่สุด โดยอังกฤษไม่ยื่นมือ ไม่เหลียวมามอง ได้แต่เก็บของ รีบกลับเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ของตนอย่างรีบด่วน อย่างเดียว แต่ฉากสุดท้ายนี้ มันน่าคิด อยู่ดี ๆ กษัตริย์ Hussein แห่งจอร์แดน ซึ่งเป็นญาติสนิทของ Faisal และเป็นหุ่นเชิดของอังกฤษเช่นเดียวกัน เกิดประสาทว่าพวกที่ลุกฮือ ไล่ฝรั่งตะวันตกที่เลบานอน จะเลยเถิดเข้ามาถึงจอร์แดนด้วย ขอแรงอิรักส่งกองทัพมาช่วยไล่หน่อยเถิด บรรดาทหารหาญของอิรัก จึงจัดแจงแต่งเครื่องแบบติดอาวุธกองทัพ มุ่งหน้าจะไปจอร์แดน แต่แล้วท่านนายพลคนหนึ่ง Colonel Abd as Salaam Arif ก็สั่งให้กองทัพเลี้ยวกลับมาสู่แบกแดด ส่องปืนใหญ่มาที่วังของ Hashemite เป็นการปฏิวัติของทหารอิรักชนิดไม่เสียเลือดเนื้อ ไม่มีผู้ต่อต้าน และไม่มีผู้รู้ตัว ขุนนางอิรัก Nuri as Said ที่เป็นขุนคอยพยักให้อังกฤษถูกจับก่อนเพื่อน ระหว่างที่พยายามจะหนี โดยปลอมตัวเป็นผู้หญิง หลังจากนั้นพวกกษัตริย์และราชวงศ์ก็โดนรวบตัว ชาวอิรักต่างไปชุมนุมอยู่หน้าสถานทูตอังกฤษ ด่าทอ ขว้างปา พวกเขามองว่า อังกฤษกับ Hashemite เป็นตัวแทนของกันและกัน เป็นการจบฉากของชาวเกาะผู้ยิ่งใหญ่ในอิรัก ที่ไม่สวยงามตั้งแต่เริ่มต้นวันแรก จนถึงวันสุดท้าย ผมจะไม่แปลกใจเลย ถ้าเหตุการณ์รุนแรง ที่กำลังดำเนินอยู่ในอิรักขณะนี้ โดยเฉพาะที่ Mosul ถึงขนาดที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษ มายืนแถลงเมื่อไม่นานมานี้ เลื่อนอันดับภัยจากผู้ก่อการร้าย ในอังกฤษขึ้นสูงถึงระดับรุนแรง (Severe) เนื่องจากเหตุการณ์ในอิรักและซีเรีย มันจะมีรากยาวฝั่งลึก ย้อนไปได้ถึง 100 ปี แม้อังกฤษจะเก็บของกลับเกาะไปแล้ว แต่อังกฤษได้ทิ้งพิษร้ายค้างอยู่ในอิรัก มันมาจากแผนการต้ม การเคี้ยวเหยื่อ ตั้งแต่ต้น มันเป็นแผนที่ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่าง เผ่าพันธ์และธรรมเนียมประเพณีทางศาสนา อย่างน่าสงสารของเหยื่อ สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
12 ก.ย. 57
    0 Comments 0 Shares 24 Views 0 Reviews
  • เหยื่อ – เคี้ยว ตอนที่ 1
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
ตอนที่ 3 : “เคี้ยว 1”
    การแบ่งเค้กตะวันออกกลาง ระหว่างประเทศผู้ชนะสงคราม ดูเหมือนจะยังไม่ลงตัว เดือนเมษายน ค.ศ. 1920 รัฐมนตรีต่างประเทศที่ชนะสงคราม แอบจัดประชุมกันอีกที่ San Remo ประเทศอิตาลี โดยไม่มีผู้แทนของอเมริกาได้รับเชิญให้เข้าประชุมด้วย !

ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ หัวเรือใหญ่บอก อเมริกามาที่หลัง ไม่เกี่ยวกับเรื่องการแบ่งเค้กที่ได้มาจากการทะลายออตโตมานนี่นา เขามาเกี่ยวตรงไหน เราเป็นคนคิดริเริ่มนะ (เอะ ! พูดแบบนี้ เดี๋ยวสวยแน่ อเมริกาเพิ่งเขี้ยวงอกก็จริง แต่เป็นเขี้ยวเล็กและแหลมคม อย่าได้ประมาทเชียว) การประชุมที่ San Remo จึงเป็นการกำหนดและการกำกับ โดย นายกรัฐมนตรีอังกฤษ Lloyd George และประธานาธิบดีฝรั่งเศส Alexander Millerand ซึ่งไว้ใจกันเองมาก ถึงขนาดเดินประกบกันทุกฝีก้าว เข้าใจว่าใครไปเข้าห้องน้ำ อีกคนคงต้องตามไปด้วย
    เพื่อเป็นการปิดปากฝรั่งเศส อังกฤษตัดใจประกาศอย่างเป็นทางการ ต่อหน้าที่ประชุม เรา อังกฤษ ยินดียกหุ้นในบริษัทที่ได้สัมปทานน้ำมันในเมโสโปเตเมีย ให้แก่ฝรั่งเศส มิตรรักร่วมรบ เอาไปเลย 25% ของบริษัท เป็นของขวัญจากเรา แต่เมโสโปเตเมีย ต้องอยู่ในความดูแลของเราอังกฤษ ตกลงตามนี้นะ
    มันเป็นหุ้น 25% ของ Turkish Petroleum Gesellshaft ที่ Deutsche Bank ตั้งขึ้นภายหลังที่ออตโตมานให้ สิทธิ 20 กิโลเมตร 2 ข้างทางรถไฟ (Right of way) ของเส้นทาง Berlin Bagdad ส่วนอีก 75% แน่นอน ชาวเกาะบอก ต้องเป็นของเรา โดยมอบให้ Anglo Persian Oil ที่ไปหลอกต้มมาจาก นาย D’Arcy ผู้น่าสมเพชนั่นแหละ เป็นผู้รับโอนไป
    นี่มันทั้งขยี้เขา แล้วยังขโมยของในบ้านเขาต่ออีกด้วย สันดานแบบนี้ เป็นคนก็คบไม่ได้เลย
    San Remo Agreement เป็นฝีมือวางแผนของคน ที่ได้ชื่อต่อมาว่า เป็นผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในเกาะใหญ่ เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย ในสมัยนั้น เขาคือ Sir Henry Deterding
    นาย Deterding เป็นชาวดัชท์ เขาเป็นอีกคนหนึ่ง นอกเหนือจากกัปตัน Fisher ที่เห็นคุณค่า และอานุภาพของน้ำมัน ว่าจะเป็นทรัพยากรที่จะเป็นอาวุธสำคัญ ในการเปลี่ยนแปลงโลกนี้ !
    นาย Deterding ทำงานให้รัฐบาลดัชท์ ในบริษัท Dutch East Indies ที่เกาะสุมาตรา ซึ่งเป็นอาณานิคมของดัชท์ขณะนั้น สุมาตราก็มีน้ำมันตะเกียง นาย Deterding จึงตั้งบริษัทผลิตน้ำมันตะเกียง จากน้ำมันอินโดนีเซีย ชื่อบริษัท Royal Dutch Oil Company
    เมื่อธุรกิจนำมันของเขาก้าวหน้า มากขึ้น ค.ศ. 1897 นาย Deterding ตัดสินใจควบบริษัท Royal Dutch Oil Company เข้ากับบริษัท Shell Transport & Trading Company ของนาย Marcus Samuel (ซึ่งต่อมาได้เป็น Lord Bearsted) ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการเรือขนส่งสินค้า และเป็นผู้ริเริ่มสร้างแท้งค์บรรจุน้ำมัน การควบรวมบริษัทนี้ ทำให้เกิดเป็นบริษัท Royal Dutch Shell Company ยักษ์ใหญ่ในวงการน้ำมันของอังกฤษ และทำให้อังกฤษผงาดขึ้นมาเป็นผู้ค้าน้ำมันระดับโลก และในที่สุด เป็นคู่แข่งแบบเผ็ดร้อนกับ Standard Oil Group ของตระกูล Rockefeller ในอเมริกา
    ความสำเร็จของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ในกิจการน้ำมัน มาจากการวางแผนและสนับสนุนเกินร้อยของรัฐบาลอังกฤษ ภายใต้แผนการใช้ตัวแทน ให้เข้าไปดำเนินการฝังตัวตามที่ต่าง ๆ เพื่อหาข่าวกรอง และปฎิบัติการลับไปเกือบทุกแห่งในโลก นาย Deterding เองนั้น ภายหลังก็มีข่าวหลุดมาว่า แท้จริงแล้ว เขาสังกัดอยู่ในหน่วยราชการลับของอังกฤษตั้งแต่ต้น ถูกส่งให้ไปทำงานตั้งแต่ที่เกาะสุมาตรา ไม่งั้นมันจะไปควบรวม บริษัทใหญ่อย่างนั้นได้ ง่าย ๆ อย่างไร
    ค.ศ. 1912 ก่อนเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษมีส่วนแบ่งในตลาดน้ำมันโลก เพียง 12 % หลังสงครามโลก ภายหลังจากการล่าเหยื่อ หลอกเหยื่อ ขยี้เหยื่อ จนเหลือแต่ซากแล้ว ค.ศ. 1925 อังกฤษกลายเป็นขาใหญ่ในวงการน้ำมันโลก ที่กำลังจะมาแรง
    ปฎิบัติการ San Remo นาย Deterding ทำงานร่วมกับ Sir John Cadman ซึ่งเป็นตัวแทนของรัฐบาลอังกฤษ เข้าไปดูแล Anglo Persian Oil Company ทั้ง 2 คน เดินสายนอกรอบ ทั้งหว่าน ทั้งล้อมฝรั่งเศส ให้ฝรั่งเศสรับ 25% ของหุ้นใน Turkish Petroleum ไป แทนการเอาเมือง Mosul ฝรั่งเศส เหมือนเด็กได้อมยิ้มไป 1 กล่องในวันเดียว ดีใจเกือบตาย แทนที่จะได้ทั้งกล่องทุกวันไปตลอดชีวิต
    และด้วยอมยิ้ม 1 กล่อง ฝรั่งเศสใจป้ำ ตกลงว่าถ้าขุดน้ำมันเจอจริง และจะต้องวางท่อส่งน้ำมัน ผ่านมาทางซีเรีย ซึ่งฝรั่งเศสได้สิทธิปกครอง ฝรั่งเศสบอกเรายินดีนะ และภาษีอะไรที่ต้องมีเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฝรั่งเศสยกเว้นให้หมด เป็นการตอบแทน เอ้อ ! เซ่อได้สมใจ เคี้ยวนุ่มอร่อยนาน
    อังกฤษมองไกล ต่อไปนี้ ตะวันออกกลาง เค้กทั้งก้อน ไม่ใช่แค่ชิ้นเดียว ต้องไม่พ้นมือเรา
    San Remo Agreement ยังใส่เงื่อนไขไว้ในสัญญาด้วยอีกว่า ต่างชาติอื่นนอกเหนือไปจากนี้ ไม่มีสิทธิมาขุดเจาะ เสาะหาน้ำมันในอาณาบริเวณเมโส โปเตเมีย เขียนแบบนี้ แปลว่า อเมริกาอย่ามาแหยม ! ไม่เชิญเขามาร่วมประชุม ก็หน้าด้านมากพอ แต่นี่ถึงขนาดตัดขาด จากการงานกินเค้ก ในอนาคตด้วยนี่ มันชักส่ออาการตระกรามมากไป
    นอกจากกันอเมริกาออกไปแล้ว San Remo Agreement ยังระบุด้วยว่า ในเรื่องน้ำมันที่โรมาเนีย และที่รัสเซีย ฝรั่งเศสจะต้องให้ความร่วมมือกับอังกฤษ ตามที่อังกฤษจูงอีกด้วย ข้อตกลงแบบนี้เหมือนการปฏิวัติเงียบ เกี่ยวกับน้ำมันในเมโสโปเตเมีย โดยชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อย ฯ เลยทีเดียว
    เมื่อกระทรวงต่างประเทศของอเมริกา รู้เรื่องการวางไม้ขวางของอังกฤษ จึงทำหนังสือประท้วงการตัดสิทธิของ American Standard Oil ออกไปจากสัมปทานในเมโสโปเตเมีย รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ขณะนั้น Lord Curzon ทำหนังสือลงวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 1921 แจ้งไปยังทูตอังกฤษที่ประจำอยู่ในวอชิตัน ให้ไปแจ้งต่ออเมริกาว่า อังกฤษเสียใจจริง ๆ ที่ไม่สามารถจะจัดการให้บริษัทน้ำมันอเมริกัน ได้รับสัมปทานในตะวันออกกลางได้
    เด็ดขาดจริงลูกพี่ ! เขียนได้เด็ด ! แต่จะขาดกันแค่ไหน เห็นจะต้องดูกันต่อไป นั่นมันเรื่อง 100 ปีมาแล้ว
    San Remo Agreement น่าจะเป็นหัวเชื้อ ในการทำสงครามชิงน้ำมัน ในตะวันออกกลางระหว่างอังกฤษกับอเมริกา ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา โดยเหยื่อที่เป็นเจ้าของน้ำมันตัวจริง ในตะวันออกกลางคงยังกำลังงง ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรกับพวกตน และดินแดนของพวกตน และไม่รู้ว่าบัดนี้ยังจะเข้าใจกันมากน้อยแค่ไหน ! ?
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
11 ก.ย. 57
    เหยื่อ – เคี้ยว ตอนที่ 1 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
ตอนที่ 3 : “เคี้ยว 1” การแบ่งเค้กตะวันออกกลาง ระหว่างประเทศผู้ชนะสงคราม ดูเหมือนจะยังไม่ลงตัว เดือนเมษายน ค.ศ. 1920 รัฐมนตรีต่างประเทศที่ชนะสงคราม แอบจัดประชุมกันอีกที่ San Remo ประเทศอิตาลี โดยไม่มีผู้แทนของอเมริกาได้รับเชิญให้เข้าประชุมด้วย !

ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ หัวเรือใหญ่บอก อเมริกามาที่หลัง ไม่เกี่ยวกับเรื่องการแบ่งเค้กที่ได้มาจากการทะลายออตโตมานนี่นา เขามาเกี่ยวตรงไหน เราเป็นคนคิดริเริ่มนะ (เอะ ! พูดแบบนี้ เดี๋ยวสวยแน่ อเมริกาเพิ่งเขี้ยวงอกก็จริง แต่เป็นเขี้ยวเล็กและแหลมคม อย่าได้ประมาทเชียว) การประชุมที่ San Remo จึงเป็นการกำหนดและการกำกับ โดย นายกรัฐมนตรีอังกฤษ Lloyd George และประธานาธิบดีฝรั่งเศส Alexander Millerand ซึ่งไว้ใจกันเองมาก ถึงขนาดเดินประกบกันทุกฝีก้าว เข้าใจว่าใครไปเข้าห้องน้ำ อีกคนคงต้องตามไปด้วย เพื่อเป็นการปิดปากฝรั่งเศส อังกฤษตัดใจประกาศอย่างเป็นทางการ ต่อหน้าที่ประชุม เรา อังกฤษ ยินดียกหุ้นในบริษัทที่ได้สัมปทานน้ำมันในเมโสโปเตเมีย ให้แก่ฝรั่งเศส มิตรรักร่วมรบ เอาไปเลย 25% ของบริษัท เป็นของขวัญจากเรา แต่เมโสโปเตเมีย ต้องอยู่ในความดูแลของเราอังกฤษ ตกลงตามนี้นะ มันเป็นหุ้น 25% ของ Turkish Petroleum Gesellshaft ที่ Deutsche Bank ตั้งขึ้นภายหลังที่ออตโตมานให้ สิทธิ 20 กิโลเมตร 2 ข้างทางรถไฟ (Right of way) ของเส้นทาง Berlin Bagdad ส่วนอีก 75% แน่นอน ชาวเกาะบอก ต้องเป็นของเรา โดยมอบให้ Anglo Persian Oil ที่ไปหลอกต้มมาจาก นาย D’Arcy ผู้น่าสมเพชนั่นแหละ เป็นผู้รับโอนไป นี่มันทั้งขยี้เขา แล้วยังขโมยของในบ้านเขาต่ออีกด้วย สันดานแบบนี้ เป็นคนก็คบไม่ได้เลย San Remo Agreement เป็นฝีมือวางแผนของคน ที่ได้ชื่อต่อมาว่า เป็นผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในเกาะใหญ่ เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย ในสมัยนั้น เขาคือ Sir Henry Deterding นาย Deterding เป็นชาวดัชท์ เขาเป็นอีกคนหนึ่ง นอกเหนือจากกัปตัน Fisher ที่เห็นคุณค่า และอานุภาพของน้ำมัน ว่าจะเป็นทรัพยากรที่จะเป็นอาวุธสำคัญ ในการเปลี่ยนแปลงโลกนี้ ! นาย Deterding ทำงานให้รัฐบาลดัชท์ ในบริษัท Dutch East Indies ที่เกาะสุมาตรา ซึ่งเป็นอาณานิคมของดัชท์ขณะนั้น สุมาตราก็มีน้ำมันตะเกียง นาย Deterding จึงตั้งบริษัทผลิตน้ำมันตะเกียง จากน้ำมันอินโดนีเซีย ชื่อบริษัท Royal Dutch Oil Company เมื่อธุรกิจนำมันของเขาก้าวหน้า มากขึ้น ค.ศ. 1897 นาย Deterding ตัดสินใจควบบริษัท Royal Dutch Oil Company เข้ากับบริษัท Shell Transport & Trading Company ของนาย Marcus Samuel (ซึ่งต่อมาได้เป็น Lord Bearsted) ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการเรือขนส่งสินค้า และเป็นผู้ริเริ่มสร้างแท้งค์บรรจุน้ำมัน การควบรวมบริษัทนี้ ทำให้เกิดเป็นบริษัท Royal Dutch Shell Company ยักษ์ใหญ่ในวงการน้ำมันของอังกฤษ และทำให้อังกฤษผงาดขึ้นมาเป็นผู้ค้าน้ำมันระดับโลก และในที่สุด เป็นคู่แข่งแบบเผ็ดร้อนกับ Standard Oil Group ของตระกูล Rockefeller ในอเมริกา ความสำเร็จของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ในกิจการน้ำมัน มาจากการวางแผนและสนับสนุนเกินร้อยของรัฐบาลอังกฤษ ภายใต้แผนการใช้ตัวแทน ให้เข้าไปดำเนินการฝังตัวตามที่ต่าง ๆ เพื่อหาข่าวกรอง และปฎิบัติการลับไปเกือบทุกแห่งในโลก นาย Deterding เองนั้น ภายหลังก็มีข่าวหลุดมาว่า แท้จริงแล้ว เขาสังกัดอยู่ในหน่วยราชการลับของอังกฤษตั้งแต่ต้น ถูกส่งให้ไปทำงานตั้งแต่ที่เกาะสุมาตรา ไม่งั้นมันจะไปควบรวม บริษัทใหญ่อย่างนั้นได้ ง่าย ๆ อย่างไร ค.ศ. 1912 ก่อนเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษมีส่วนแบ่งในตลาดน้ำมันโลก เพียง 12 % หลังสงครามโลก ภายหลังจากการล่าเหยื่อ หลอกเหยื่อ ขยี้เหยื่อ จนเหลือแต่ซากแล้ว ค.ศ. 1925 อังกฤษกลายเป็นขาใหญ่ในวงการน้ำมันโลก ที่กำลังจะมาแรง ปฎิบัติการ San Remo นาย Deterding ทำงานร่วมกับ Sir John Cadman ซึ่งเป็นตัวแทนของรัฐบาลอังกฤษ เข้าไปดูแล Anglo Persian Oil Company ทั้ง 2 คน เดินสายนอกรอบ ทั้งหว่าน ทั้งล้อมฝรั่งเศส ให้ฝรั่งเศสรับ 25% ของหุ้นใน Turkish Petroleum ไป แทนการเอาเมือง Mosul ฝรั่งเศส เหมือนเด็กได้อมยิ้มไป 1 กล่องในวันเดียว ดีใจเกือบตาย แทนที่จะได้ทั้งกล่องทุกวันไปตลอดชีวิต และด้วยอมยิ้ม 1 กล่อง ฝรั่งเศสใจป้ำ ตกลงว่าถ้าขุดน้ำมันเจอจริง และจะต้องวางท่อส่งน้ำมัน ผ่านมาทางซีเรีย ซึ่งฝรั่งเศสได้สิทธิปกครอง ฝรั่งเศสบอกเรายินดีนะ และภาษีอะไรที่ต้องมีเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฝรั่งเศสยกเว้นให้หมด เป็นการตอบแทน เอ้อ ! เซ่อได้สมใจ เคี้ยวนุ่มอร่อยนาน อังกฤษมองไกล ต่อไปนี้ ตะวันออกกลาง เค้กทั้งก้อน ไม่ใช่แค่ชิ้นเดียว ต้องไม่พ้นมือเรา San Remo Agreement ยังใส่เงื่อนไขไว้ในสัญญาด้วยอีกว่า ต่างชาติอื่นนอกเหนือไปจากนี้ ไม่มีสิทธิมาขุดเจาะ เสาะหาน้ำมันในอาณาบริเวณเมโส โปเตเมีย เขียนแบบนี้ แปลว่า อเมริกาอย่ามาแหยม ! ไม่เชิญเขามาร่วมประชุม ก็หน้าด้านมากพอ แต่นี่ถึงขนาดตัดขาด จากการงานกินเค้ก ในอนาคตด้วยนี่ มันชักส่ออาการตระกรามมากไป นอกจากกันอเมริกาออกไปแล้ว San Remo Agreement ยังระบุด้วยว่า ในเรื่องน้ำมันที่โรมาเนีย และที่รัสเซีย ฝรั่งเศสจะต้องให้ความร่วมมือกับอังกฤษ ตามที่อังกฤษจูงอีกด้วย ข้อตกลงแบบนี้เหมือนการปฏิวัติเงียบ เกี่ยวกับน้ำมันในเมโสโปเตเมีย โดยชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อย ฯ เลยทีเดียว เมื่อกระทรวงต่างประเทศของอเมริกา รู้เรื่องการวางไม้ขวางของอังกฤษ จึงทำหนังสือประท้วงการตัดสิทธิของ American Standard Oil ออกไปจากสัมปทานในเมโสโปเตเมีย รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ขณะนั้น Lord Curzon ทำหนังสือลงวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 1921 แจ้งไปยังทูตอังกฤษที่ประจำอยู่ในวอชิตัน ให้ไปแจ้งต่ออเมริกาว่า อังกฤษเสียใจจริง ๆ ที่ไม่สามารถจะจัดการให้บริษัทน้ำมันอเมริกัน ได้รับสัมปทานในตะวันออกกลางได้ เด็ดขาดจริงลูกพี่ ! เขียนได้เด็ด ! แต่จะขาดกันแค่ไหน เห็นจะต้องดูกันต่อไป นั่นมันเรื่อง 100 ปีมาแล้ว San Remo Agreement น่าจะเป็นหัวเชื้อ ในการทำสงครามชิงน้ำมัน ในตะวันออกกลางระหว่างอังกฤษกับอเมริกา ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา โดยเหยื่อที่เป็นเจ้าของน้ำมันตัวจริง ในตะวันออกกลางคงยังกำลังงง ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรกับพวกตน และดินแดนของพวกตน และไม่รู้ว่าบัดนี้ยังจะเข้าใจกันมากน้อยแค่ไหน ! ? สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
11 ก.ย. 57
    0 Comments 0 Shares 21 Views 0 Reviews
  • พระปิดตาหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี
    พระปิดตาหลวงปู่ยิ้ม เนื้อผงพุทธคุณ ( พบเห็นน้อยมาก) วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี // พระเกจิอาจารย์ยุคเก่าเป็นที่เลื่อมใสศรัทธามาก “หลวงปู่ยิ้ม จันทโชติ” ได้รับยกย่องให้เป็น 1 ใน 5 ชุดเบญจภาคีพระปิดตาของไทย //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ** พุทธคุณเมตตา มหาลาภ โชคลาภ เงินทองคล่องมือ และ แคล้วคลาด ป้องกันภยันตรายช่วยให้การเงินคล่องมือ ซื้อง่ายขายคล่อง คงกระพันชาตรี ป้องกันภัยจากภยันตรายทั้งปวง >>

    ** พระปิดตาเนื้อผง หลวงปู่ยิ้ม จันทโชติ หรือ “หลวงพ่อเฒ่ายิ้ม” อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองบัว พระเกจิชื่อดังแห่งจังหวัดกาญจนบุรี ผู้ทรงคุณวิเศษและมีวิทยาคมแก่กล้าต้นตำรับตะกรุดโลกธาตุอันลือเลื่อง และผู้สร้างพระปิดตา ที่ได้รับยกย่องให้เป็น 1 ใน 5 ชุดเบญจภาคีพระปิดตาของไทย ว่ากันว่า มีดหมอประจำพระองค์กรมหลวงชุมพรฯ ก็เป็นของท่านด้วย พระปิดตาหลวงปู่ยิ้มนั้นท่านสร้างจากผงวิเศษที่ท่านทำเอง โดยใช้เวลารวบรวมมวลสารถึง 3 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2439-2441 ส่วนผสมต้องตรงตามสูตร การสร้างพระปิดตาแบบโบราณอย่างเคร่งครัด ซึ่งโดยส่วนใหญ่ได้จากธรรมชาติ ได้แก่ ผงอิทธิเจ ปถมัง มหาราช ตรีนิสิงเห ว่าน 108 ดอกไม้บูชาพระ ไคลโบสถ์ ขี้ผึ้งจากรังผึ้ง ฯลฯ จากนั้นปลุกเสกจนถึงปี พ.ศ.2445 จึงนำออกมาแจกจ่าย มีทั้ง เนื้อเหลือง เนื้อขาว เนื้อผงเทา >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    พระปิดตาหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี พระปิดตาหลวงปู่ยิ้ม เนื้อผงพุทธคุณ ( พบเห็นน้อยมาก) วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี // พระเกจิอาจารย์ยุคเก่าเป็นที่เลื่อมใสศรัทธามาก “หลวงปู่ยิ้ม จันทโชติ” ได้รับยกย่องให้เป็น 1 ใน 5 ชุดเบญจภาคีพระปิดตาของไทย //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ** พุทธคุณเมตตา มหาลาภ โชคลาภ เงินทองคล่องมือ และ แคล้วคลาด ป้องกันภยันตรายช่วยให้การเงินคล่องมือ ซื้อง่ายขายคล่อง คงกระพันชาตรี ป้องกันภัยจากภยันตรายทั้งปวง >> ** พระปิดตาเนื้อผง หลวงปู่ยิ้ม จันทโชติ หรือ “หลวงพ่อเฒ่ายิ้ม” อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองบัว พระเกจิชื่อดังแห่งจังหวัดกาญจนบุรี ผู้ทรงคุณวิเศษและมีวิทยาคมแก่กล้าต้นตำรับตะกรุดโลกธาตุอันลือเลื่อง และผู้สร้างพระปิดตา ที่ได้รับยกย่องให้เป็น 1 ใน 5 ชุดเบญจภาคีพระปิดตาของไทย ว่ากันว่า มีดหมอประจำพระองค์กรมหลวงชุมพรฯ ก็เป็นของท่านด้วย พระปิดตาหลวงปู่ยิ้มนั้นท่านสร้างจากผงวิเศษที่ท่านทำเอง โดยใช้เวลารวบรวมมวลสารถึง 3 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2439-2441 ส่วนผสมต้องตรงตามสูตร การสร้างพระปิดตาแบบโบราณอย่างเคร่งครัด ซึ่งโดยส่วนใหญ่ได้จากธรรมชาติ ได้แก่ ผงอิทธิเจ ปถมัง มหาราช ตรีนิสิงเห ว่าน 108 ดอกไม้บูชาพระ ไคลโบสถ์ ขี้ผึ้งจากรังผึ้ง ฯลฯ จากนั้นปลุกเสกจนถึงปี พ.ศ.2445 จึงนำออกมาแจกจ่าย มีทั้ง เนื้อเหลือง เนื้อขาว เนื้อผงเทา >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 Comments 0 Shares 34 Views 0 Reviews
  • เหรียญหลวงปู่มั่นหลังหลวงปู่เสาร์ วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร ปี2514
    เหรียญพระอาจารย์มั่นหลังพระอาจารย์เสาร์ วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร ปี2514 //พระดีพิธีใหญ่ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ปลุกเสก เหรียญประสบการณ์ // พระสถาพสวยยมาก เดิมๆๆ พระไม่ถูกใช้ครับ ประสบการณ์สูง พบเห็นน้อย // รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้าน โชคลาภความสาเร็จ เมตตา โชคลาภค้าขาย ทำมาหากินเจริญรุ่งเรืองดีมาก แคล้วคลาด ปลอดภัย กันภูติผีปีศาจ พลิกชะตาร้ายให้กลายเป็นดี หนุนดวงเสริมชะตาให้เจริญรุ่งเรือง >>

    ** หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านเป็น พระอาจารย์ใหญ่สายกรรมฐานพระป่า อดีตเกจิอาจารย์ดังมากๆ ระดับประเทศ (อดีต พระเกจิอาจารย์ดัง 5 แผ่นดิน) มีลูกศิษย์เป็นเกจิอาจารย์ดังมากมายจากอดีต จนถึงปัจจุบัน หากพูดถึงเกจิอาจารย์ดัง พระกรรมฐานพระป่าไม่มีใครไม่รู้จักหลวงปู่มั่น ท่านเป็นอมตะเกจิอาจารย์ของประเทศไทย เหนือคำบรรยาย อัฐิธาตุของหลวงปู่มั่น แปรสภาพเป็นแก้วใส >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงปู่มั่นหลังหลวงปู่เสาร์ วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร ปี2514 เหรียญพระอาจารย์มั่นหลังพระอาจารย์เสาร์ วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร ปี2514 //พระดีพิธีใหญ่ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ปลุกเสก เหรียญประสบการณ์ // พระสถาพสวยยมาก เดิมๆๆ พระไม่ถูกใช้ครับ ประสบการณ์สูง พบเห็นน้อย // รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้าน โชคลาภความสาเร็จ เมตตา โชคลาภค้าขาย ทำมาหากินเจริญรุ่งเรืองดีมาก แคล้วคลาด ปลอดภัย กันภูติผีปีศาจ พลิกชะตาร้ายให้กลายเป็นดี หนุนดวงเสริมชะตาให้เจริญรุ่งเรือง >> ** หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านเป็น พระอาจารย์ใหญ่สายกรรมฐานพระป่า อดีตเกจิอาจารย์ดังมากๆ ระดับประเทศ (อดีต พระเกจิอาจารย์ดัง 5 แผ่นดิน) มีลูกศิษย์เป็นเกจิอาจารย์ดังมากมายจากอดีต จนถึงปัจจุบัน หากพูดถึงเกจิอาจารย์ดัง พระกรรมฐานพระป่าไม่มีใครไม่รู้จักหลวงปู่มั่น ท่านเป็นอมตะเกจิอาจารย์ของประเทศไทย เหนือคำบรรยาย อัฐิธาตุของหลวงปู่มั่น แปรสภาพเป็นแก้วใส >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 27 Views 0 Reviews
  • เนื้อว่านหลวงปู่ทวด รุ่นแรก วัดวาลุการาม วัดคลองทรายใน จ.ยะลา
    เนื้อว่านหลวงปู่ทวด พิมพ์พระรอด รุ่นแรก วัดวาลุการาม วัดคลองทรายใน ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา //พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดยมีพระเกจิอาจารย์สายหลวงพ่อทวดหลายท่าน และ ฤาษีสมพิศ ณาณโสภี จ.ปทุมธานี และฤาษีเกศแก้ว แห่งบ้านโคกกุง จ.หนองบัวลำภู ได้มาร่วมพิธีปลุกเสกที่วัด พิธีพุทธาภิเษกจัดขึ้น ปลุกเสก 19-27 ส.ค 2553 //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //


    ** พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ทั้งคงกระพันชาตรี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ประสบการณ์มากมาย รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** เนื้อว่านหลวงปู่ทวด รุ่นแรก วัดวาลุการาม วัดคลองทรายใน จ.ยะลา พระดี พิธีใหญ่ โดยมีเกจิอาจารย์ดังนั่งปรกอธิฐานจิต ได้แก่ หลวงพ่อหวาน วัดสะบ้าย้อย พ่อท่านพล วัดนาประดู่ พระอาจารย์แดง วัดไร่บางตาวา และ พระสุนทรปริยัติภิธาน เจ้าอาวาสวัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี นอกจากนั้น ได้มี ฤาษีสมพิศ ณาณโสภี จ.ปทุมธานี และฤาษีเกศแก้ว แห่งบ้านโคกกุง จ.หนองบัวลำภู ได้มาร่วมในพิธีปลุกเสกที่วัด พร้อมกันนี้ได้มอบเครื่องรางของขลัง ให้กับประชาชนที่มาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก โดยพิธีพุทธาภิเษกจัดขึ้น ปลุกเสก 19-27 ส.ค 2553 >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    เนื้อว่านหลวงปู่ทวด รุ่นแรก วัดวาลุการาม วัดคลองทรายใน จ.ยะลา เนื้อว่านหลวงปู่ทวด พิมพ์พระรอด รุ่นแรก วัดวาลุการาม วัดคลองทรายใน ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา //พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดยมีพระเกจิอาจารย์สายหลวงพ่อทวดหลายท่าน และ ฤาษีสมพิศ ณาณโสภี จ.ปทุมธานี และฤาษีเกศแก้ว แห่งบ้านโคกกุง จ.หนองบัวลำภู ได้มาร่วมพิธีปลุกเสกที่วัด พิธีพุทธาภิเษกจัดขึ้น ปลุกเสก 19-27 ส.ค 2553 //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ทั้งคงกระพันชาตรี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ประสบการณ์มากมาย รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** เนื้อว่านหลวงปู่ทวด รุ่นแรก วัดวาลุการาม วัดคลองทรายใน จ.ยะลา พระดี พิธีใหญ่ โดยมีเกจิอาจารย์ดังนั่งปรกอธิฐานจิต ได้แก่ หลวงพ่อหวาน วัดสะบ้าย้อย พ่อท่านพล วัดนาประดู่ พระอาจารย์แดง วัดไร่บางตาวา และ พระสุนทรปริยัติภิธาน เจ้าอาวาสวัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี นอกจากนั้น ได้มี ฤาษีสมพิศ ณาณโสภี จ.ปทุมธานี และฤาษีเกศแก้ว แห่งบ้านโคกกุง จ.หนองบัวลำภู ได้มาร่วมในพิธีปลุกเสกที่วัด พร้อมกันนี้ได้มอบเครื่องรางของขลัง ให้กับประชาชนที่มาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก โดยพิธีพุทธาภิเษกจัดขึ้น ปลุกเสก 19-27 ส.ค 2553 >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 Comments 0 Shares 31 Views 0 Reviews
  • เหรียญพระครูพิทักษ์สาธุคุณ วัดเลียบ จ.สงขลา
    เหรียญพระครูพิทักษ์สาธุคุณ วัดเลียบ ต.ชิงโค อำเภอสิงหนคร จ.สงขลา // พระดีพิธีขลัง !! //พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากกครับ // รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณแคล้วคลาดปลอดภัย เมตตามหานิยม ป้องกันภยันตราย เจริญด้วยโชคลาภ ค้าขายดี กลับดวงพลิกชะตา มีความเจริญรุ่งเรือง เจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง และป้องกันคุณไสยต่างๆ กันคุณผี คุณไสยเวท แก้อาถรรพณ์ >>

    ** วัดเลียบ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย สร้างขึ้นเป็นวัดตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2300 ชาวบ้านเรียกวัดท่าออกโดยมีนายศรีพุทธ มาทำสวนอยู่บริเวณนี้ จึงได้ชักชวนชาวบ้านวัดนี้ขึ้นมา ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 20พฤศจิกายน พ.ศ. 2471 เขตวิสุงคามสีมากว้าง 21.20เมตร ยาว 26.60เมตร >>

    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากกครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระครูพิทักษ์สาธุคุณ วัดเลียบ จ.สงขลา เหรียญพระครูพิทักษ์สาธุคุณ วัดเลียบ ต.ชิงโค อำเภอสิงหนคร จ.สงขลา // พระดีพิธีขลัง !! //พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากกครับ // รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณแคล้วคลาดปลอดภัย เมตตามหานิยม ป้องกันภยันตราย เจริญด้วยโชคลาภ ค้าขายดี กลับดวงพลิกชะตา มีความเจริญรุ่งเรือง เจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง และป้องกันคุณไสยต่างๆ กันคุณผี คุณไสยเวท แก้อาถรรพณ์ >> ** วัดเลียบ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย สร้างขึ้นเป็นวัดตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2300 ชาวบ้านเรียกวัดท่าออกโดยมีนายศรีพุทธ มาทำสวนอยู่บริเวณนี้ จึงได้ชักชวนชาวบ้านวัดนี้ขึ้นมา ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 20พฤศจิกายน พ.ศ. 2471 เขตวิสุงคามสีมากว้าง 21.20เมตร ยาว 26.60เมตร >> ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากกครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 31 Views 0 Reviews
  • อาสนธิเดินเรื่องฟ้องรัฐบาลทั้งคณะได้เลยครับ,เรา..ประชาชนสนับสนุนเต็มที่ กรณีนี้มีช่องทางชัดเจนจะยกเลิกได้แม้แต่สนธิสัญญาที่อดีตนายกฯอภิสิทธิ์ลุแก่อำนาจไปเปิดทางที่UN เราก็สามารถยกเลิกทันทีด้วย จับกรณีมันละเมิดยิงไทยตายก่อนที่เด่นชัดอีก,ชนะแน่นอน,หาก กต.ไม่เดินเรื่องตอนนี้ก็ฟ้องดำเนินคดีด้วยเลย,รวมถึงฝ่ายกฎหมายรัฐบาลปัจจุบันด้วยที่เห็นชัดว่าเราได้เปรียบที่จะชนะคดีนี้เกิน100%แต่พากันละเว้นปฏิบัติหน้าที่เพื่ออธิปไตยดินแดนชาติไทยตนเสมือนมีเจตนาร่วมก่อการผิดใน ม.119และ ม.157 ชัดเจนด้วย มูลนิธิยามจัดการคนทรยศแผ่นดินไทยอธิปไตยชาติ ยื่นฟ้องแทนเรา..ประชาชนคนไทยเลยครับ.
    อาสนธิเดินเรื่องฟ้องรัฐบาลทั้งคณะได้เลยครับ,เรา..ประชาชนสนับสนุนเต็มที่ กรณีนี้มีช่องทางชัดเจนจะยกเลิกได้แม้แต่สนธิสัญญาที่อดีตนายกฯอภิสิทธิ์ลุแก่อำนาจไปเปิดทางที่UN เราก็สามารถยกเลิกทันทีด้วย จับกรณีมันละเมิดยิงไทยตายก่อนที่เด่นชัดอีก,ชนะแน่นอน,หาก กต.ไม่เดินเรื่องตอนนี้ก็ฟ้องดำเนินคดีด้วยเลย,รวมถึงฝ่ายกฎหมายรัฐบาลปัจจุบันด้วยที่เห็นชัดว่าเราได้เปรียบที่จะชนะคดีนี้เกิน100%แต่พากันละเว้นปฏิบัติหน้าที่เพื่ออธิปไตยดินแดนชาติไทยตนเสมือนมีเจตนาร่วมก่อการผิดใน ม.119และ ม.157 ชัดเจนด้วย มูลนิธิยามจัดการคนทรยศแผ่นดินไทยอธิปไตยชาติ ยื่นฟ้องแทนเรา..ประชาชนคนไทยเลยครับ.
    Newsstory : สนธิฝากถึงบวรศักดิ์ กฎหมายกะล่อนใช้เก่ง กฎหมายเพื่อชาติเงียบกริบ

    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล
    #บวรศักดิ์
    0 Comments 0 Shares 35 Views 0 0 Reviews
  • “ระบบอุตสาหกรรมกว่า 200,000 จุดเสี่ยงถูกแฮก — รายงานชี้ความประมาทและความสะดวกกลายเป็นภัยไซเบอร์ระดับชาติ”

    หลังจากหลายปีที่มีความพยายามลดความเสี่ยงด้านไซเบอร์ในระบบควบคุมอุตสาหกรรม (ICS/OT) รายงานล่าสุดจาก Bitsight กลับพบว่าแนวโน้มการเปิดเผยระบบต่ออินเทอร์เน็ตกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยในปี 2024 จำนวนอุปกรณ์ที่เข้าถึงได้จากสาธารณะเพิ่มขึ้นจาก 160,000 เป็น 180,000 จุด หรือเพิ่มขึ้น 12% และคาดว่าจะทะลุ 200,000 จุดภายในสิ้นปี 2025

    ระบบเหล่านี้รวมถึงอุปกรณ์ควบคุมโรงงานน้ำ, ระบบอัตโนมัติในอาคาร, และเครื่องวัดระดับถังน้ำมันที่ไม่มีระบบยืนยันตัวตน ซึ่งหลายตัวมีช่องโหว่ระดับ CVSS 10.0 ที่สามารถถูกโจมตีได้ง่าย โดยมัลแวร์ใหม่อย่าง FrostyGoop และ Fuxnet ถูกออกแบบมาเพื่อเจาะระบบ ICS โดยเฉพาะ

    Pedro Umbelino นักวิจัยจาก Bitsight เตือนว่า “นี่ไม่ใช่แค่ความผิดพลาด — แต่มันคือความเสี่ยงเชิงระบบที่ไม่อาจให้อภัยได้” เพราะการเปิดระบบเหล่านี้ต่ออินเทอร์เน็ตมักเกิดจากความสะดวก เช่น การติดตั้งเร็ว, การเข้าถึงจากระยะไกล, หรือการเชื่อมต่อทุกอย่างไว้ในระบบเดียว โดยไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัย

    AI ก็มีบทบาททั้งด้านดีและร้าย — ฝั่งผู้ป้องกันใช้ machine learning เพื่อสแกนและตรวจจับความผิดปกติในระบบ แต่ฝั่งผู้โจมตีก็ใช้ LLM เพื่อสร้างมัลแวร์และหาช่องโหว่ได้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องใช้ทรัพยากรสูง เช่น GPU farm อีกต่อไป

    รายงานแนะนำให้ผู้ดูแลระบบ ICS/OT ดำเนินการทันที เช่น ปิดการเข้าถึงจากสาธารณะ, กำหนดค่าเริ่มต้นของผู้ขายให้ปลอดภัยขึ้น, และร่วมมือกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพราะระบบเหล่านี้ไม่ได้แค่ควบคุมเครื่องจักร — แต่ควบคุม “ความไว้วางใจ” ของสังคม

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    จำนวนระบบ ICS/OT ที่เปิดเผยต่ออินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น 12% ในปี 2024
    คาดว่าจะทะลุ 200,000 จุดภายในสิ้นปี 2025 หากไม่มีการแก้ไข
    ระบบที่เสี่ยงรวมถึงอุปกรณ์ควบคุมโรงงานน้ำ, ระบบอัตโนมัติในอาคาร, และเครื่องวัดถังน้ำมัน
    หลายระบบมีช่องโหว่ระดับ CVSS 10.0 ที่สามารถถูกโจมตีได้ง่าย
    มัลแวร์ใหม่ เช่น FrostyGoop และ Fuxnet ถูกออกแบบมาเพื่อเจาะ ICS โดยเฉพาะ
    AI ช่วยทั้งฝั่งป้องกันและโจมตี โดยลดต้นทุนการค้นหาช่องโหว่
    การเปิดเผยระบบมักเกิดจากความสะดวก เช่น การติดตั้งเร็วและการเข้าถึงจากระยะไกล
    รายงานแนะนำให้ปิดการเข้าถึงสาธารณะและปรับค่าความปลอดภัยของผู้ขาย
    ระบบ ICS/OT ควบคุมมากกว่าเครื่องจักร — มันควบคุมความไว้วางใจของสังคม

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ICS (Industrial Control Systems) คือระบบที่ใช้ควบคุมกระบวนการในโรงงานและโครงสร้างพื้นฐาน
    OT (Operational Technology) คือเทคโนโลยีที่ใช้ในการควบคุมและตรวจสอบอุปกรณ์ทางกายภาพ
    CVSS (Common Vulnerability Scoring System) ใช้ประเมินความรุนแรงของช่องโหว่
    FrostyGoop ใช้โปรโตคอล Modbus TCP เพื่อควบคุมอุปกรณ์ ICS โดยตรง
    ประเทศที่มีอัตราการเปิดเผยสูงสุดต่อจำนวนบริษัทคืออิตาลีและสเปน ส่วนสหรัฐฯ มีจำนวนรวมสูงสุด

    https://www.techradar.com/pro/security/unforgivable-exposure-more-than-200-000-industrial-systems-are-needlessly-exposed-to-the-web-and-hackers-and-theres-no-absolutely-excuse
    🌐 “ระบบอุตสาหกรรมกว่า 200,000 จุดเสี่ยงถูกแฮก — รายงานชี้ความประมาทและความสะดวกกลายเป็นภัยไซเบอร์ระดับชาติ” หลังจากหลายปีที่มีความพยายามลดความเสี่ยงด้านไซเบอร์ในระบบควบคุมอุตสาหกรรม (ICS/OT) รายงานล่าสุดจาก Bitsight กลับพบว่าแนวโน้มการเปิดเผยระบบต่ออินเทอร์เน็ตกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยในปี 2024 จำนวนอุปกรณ์ที่เข้าถึงได้จากสาธารณะเพิ่มขึ้นจาก 160,000 เป็น 180,000 จุด หรือเพิ่มขึ้น 12% และคาดว่าจะทะลุ 200,000 จุดภายในสิ้นปี 2025 ระบบเหล่านี้รวมถึงอุปกรณ์ควบคุมโรงงานน้ำ, ระบบอัตโนมัติในอาคาร, และเครื่องวัดระดับถังน้ำมันที่ไม่มีระบบยืนยันตัวตน ซึ่งหลายตัวมีช่องโหว่ระดับ CVSS 10.0 ที่สามารถถูกโจมตีได้ง่าย โดยมัลแวร์ใหม่อย่าง FrostyGoop และ Fuxnet ถูกออกแบบมาเพื่อเจาะระบบ ICS โดยเฉพาะ Pedro Umbelino นักวิจัยจาก Bitsight เตือนว่า “นี่ไม่ใช่แค่ความผิดพลาด — แต่มันคือความเสี่ยงเชิงระบบที่ไม่อาจให้อภัยได้” เพราะการเปิดระบบเหล่านี้ต่ออินเทอร์เน็ตมักเกิดจากความสะดวก เช่น การติดตั้งเร็ว, การเข้าถึงจากระยะไกล, หรือการเชื่อมต่อทุกอย่างไว้ในระบบเดียว โดยไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัย AI ก็มีบทบาททั้งด้านดีและร้าย — ฝั่งผู้ป้องกันใช้ machine learning เพื่อสแกนและตรวจจับความผิดปกติในระบบ แต่ฝั่งผู้โจมตีก็ใช้ LLM เพื่อสร้างมัลแวร์และหาช่องโหว่ได้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องใช้ทรัพยากรสูง เช่น GPU farm อีกต่อไป รายงานแนะนำให้ผู้ดูแลระบบ ICS/OT ดำเนินการทันที เช่น ปิดการเข้าถึงจากสาธารณะ, กำหนดค่าเริ่มต้นของผู้ขายให้ปลอดภัยขึ้น, และร่วมมือกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพราะระบบเหล่านี้ไม่ได้แค่ควบคุมเครื่องจักร — แต่ควบคุม “ความไว้วางใจ” ของสังคม ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ จำนวนระบบ ICS/OT ที่เปิดเผยต่ออินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น 12% ในปี 2024 ➡️ คาดว่าจะทะลุ 200,000 จุดภายในสิ้นปี 2025 หากไม่มีการแก้ไข ➡️ ระบบที่เสี่ยงรวมถึงอุปกรณ์ควบคุมโรงงานน้ำ, ระบบอัตโนมัติในอาคาร, และเครื่องวัดถังน้ำมัน ➡️ หลายระบบมีช่องโหว่ระดับ CVSS 10.0 ที่สามารถถูกโจมตีได้ง่าย ➡️ มัลแวร์ใหม่ เช่น FrostyGoop และ Fuxnet ถูกออกแบบมาเพื่อเจาะ ICS โดยเฉพาะ ➡️ AI ช่วยทั้งฝั่งป้องกันและโจมตี โดยลดต้นทุนการค้นหาช่องโหว่ ➡️ การเปิดเผยระบบมักเกิดจากความสะดวก เช่น การติดตั้งเร็วและการเข้าถึงจากระยะไกล ➡️ รายงานแนะนำให้ปิดการเข้าถึงสาธารณะและปรับค่าความปลอดภัยของผู้ขาย ➡️ ระบบ ICS/OT ควบคุมมากกว่าเครื่องจักร — มันควบคุมความไว้วางใจของสังคม ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ICS (Industrial Control Systems) คือระบบที่ใช้ควบคุมกระบวนการในโรงงานและโครงสร้างพื้นฐาน ➡️ OT (Operational Technology) คือเทคโนโลยีที่ใช้ในการควบคุมและตรวจสอบอุปกรณ์ทางกายภาพ ➡️ CVSS (Common Vulnerability Scoring System) ใช้ประเมินความรุนแรงของช่องโหว่ ➡️ FrostyGoop ใช้โปรโตคอล Modbus TCP เพื่อควบคุมอุปกรณ์ ICS โดยตรง ➡️ ประเทศที่มีอัตราการเปิดเผยสูงสุดต่อจำนวนบริษัทคืออิตาลีและสเปน ส่วนสหรัฐฯ มีจำนวนรวมสูงสุด https://www.techradar.com/pro/security/unforgivable-exposure-more-than-200-000-industrial-systems-are-needlessly-exposed-to-the-web-and-hackers-and-theres-no-absolutely-excuse
    0 Comments 0 Shares 86 Views 0 Reviews
  • “Samsung เปิดตัว TRUEBench — เครื่องมือวัดประสิทธิภาพ AI ในงานออฟฟิศจริง พร้อมเปิดให้เปรียบเทียบโมเดลบน Hugging Face”

    ในยุคที่ AI กำลังเข้ามาแทนที่งานมนุษย์ในหลายองค์กร คำถามสำคัญคือ “AI ทำงานได้ดีแค่ไหนเมื่อเจอกับงานจริง?” ล่าสุด Samsung ได้เปิดตัว TRUEBench (Trustworthy Real-world Usage Evaluation Benchmark) ซึ่งเป็นระบบทดสอบใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อวัดความสามารถของ AI chatbot และโมเดลภาษาในบริบทการทำงานจริง ไม่ใช่แค่การตอบคำถามแบบห้องเรียน

    TRUEBench ประกอบด้วยชุดทดสอบกว่า 2,485 รายการ ครอบคลุม 10 หมวดงาน เช่น การสรุปเอกสาร, การแปลหลายภาษา, การวิเคราะห์ข้อมูล และการสร้างเนื้อหา โดยรองรับถึง 12 ภาษา และมีความยาวอินพุตตั้งแต่ 8 ตัวอักษรไปจนถึงมากกว่า 20,000 ตัวอักษร เพื่อจำลองทั้งคำสั่งสั้น ๆ และรายงานยาว ๆ ที่พบในชีวิตจริง

    สิ่งที่ทำให้ TRUEBench แตกต่างคือ “ความเข้มงวด” ในการให้คะแนน — หากโมเดลไม่สามารถทำตามเงื่อนไขทั้งหมดได้ จะถือว่า “สอบตก” ไม่มีคะแนนบางส่วนเหมือนระบบอื่น ๆ และเพื่อความแม่นยำ Samsung ใช้ระบบร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI ในการออกแบบเกณฑ์การประเมิน โดยให้ AI ตรวจสอบความขัดแย้งหรือข้อจำกัดที่ไม่จำเป็น ก่อนที่มนุษย์จะปรับแก้และนำไปใช้จริง

    TRUEBench ยังเปิดให้ใช้งานบางส่วนบนแพลตฟอร์ม Hugging Face โดยมี leaderboard สำหรับเปรียบเทียบโมเดลได้สูงสุด 5 ตัว พร้อมเปิดเผยค่าเฉลี่ยความยาวของคำตอบ เพื่อวัดทั้งความแม่นยำและประสิทธิภาพในการตอบสนอง

    แม้จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างมาตรฐานใหม่ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า benchmark ยังเป็นการวัดแบบสังเคราะห์ ไม่สามารถสะท้อนความซับซ้อนของการสื่อสารในที่ทำงานได้ทั้งหมด และอาจยิ่งทำให้ผู้บริหารใช้มันเป็นเครื่องมือในการตัดสินใจแทนมนุษย์มากขึ้น

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Samsung เปิดตัว TRUEBench เพื่อวัดประสิทธิภาพ AI ในงานออฟฟิศจริง
    ประกอบด้วย 2,485 ชุดทดสอบ ครอบคลุม 10 หมวดงาน และ 12 ภาษา
    อินพุตมีความยาวตั้งแต่ 8 ถึง 20,000 ตัวอักษร เพื่อจำลองงานจริง
    ใช้ระบบร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI ในการออกแบบเกณฑ์การประเมิน
    หากโมเดลไม่ผ่านเงื่อนไขทั้งหมด จะถือว่าสอบตก ไม่มีคะแนนบางส่วน
    เปิดให้ใช้งานบางส่วนบน Hugging Face พร้อม leaderboard เปรียบเทียบโมเดล
    เปิดเผยค่าเฉลี่ยความยาวของคำตอบ เพื่อวัดประสิทธิภาพควบคู่กับความแม่นยำ
    TRUEBench มุ่งสร้างมาตรฐานใหม่ในการวัด productivity ของ AI

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Hugging Face เป็นแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สที่นิยมใช้เปรียบเทียบโมเดล AI
    MLPerf เป็น benchmark ที่ใช้วัดประสิทธิภาพ AI ในงาน inference และ training
    การวัด productivity ของ AI ยังเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่มีมาตรฐานกลาง
    การใช้ AI ในงานออฟฟิศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น การสรุปอีเมล, จัดประชุม, วิเคราะห์ข้อมูล
    การออกแบบเกณฑ์ร่วมระหว่างมนุษย์และ AI ช่วยลดอคติและเพิ่มความแม่นยำในการประเมิน

    https://www.techradar.com/pro/security/worried-about-ai-taking-your-job-samsungs-new-tool-will-let-your-boss-track-just-how-well-its-doing
    📊 “Samsung เปิดตัว TRUEBench — เครื่องมือวัดประสิทธิภาพ AI ในงานออฟฟิศจริง พร้อมเปิดให้เปรียบเทียบโมเดลบน Hugging Face” ในยุคที่ AI กำลังเข้ามาแทนที่งานมนุษย์ในหลายองค์กร คำถามสำคัญคือ “AI ทำงานได้ดีแค่ไหนเมื่อเจอกับงานจริง?” ล่าสุด Samsung ได้เปิดตัว TRUEBench (Trustworthy Real-world Usage Evaluation Benchmark) ซึ่งเป็นระบบทดสอบใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อวัดความสามารถของ AI chatbot และโมเดลภาษาในบริบทการทำงานจริง ไม่ใช่แค่การตอบคำถามแบบห้องเรียน TRUEBench ประกอบด้วยชุดทดสอบกว่า 2,485 รายการ ครอบคลุม 10 หมวดงาน เช่น การสรุปเอกสาร, การแปลหลายภาษา, การวิเคราะห์ข้อมูล และการสร้างเนื้อหา โดยรองรับถึง 12 ภาษา และมีความยาวอินพุตตั้งแต่ 8 ตัวอักษรไปจนถึงมากกว่า 20,000 ตัวอักษร เพื่อจำลองทั้งคำสั่งสั้น ๆ และรายงานยาว ๆ ที่พบในชีวิตจริง สิ่งที่ทำให้ TRUEBench แตกต่างคือ “ความเข้มงวด” ในการให้คะแนน — หากโมเดลไม่สามารถทำตามเงื่อนไขทั้งหมดได้ จะถือว่า “สอบตก” ไม่มีคะแนนบางส่วนเหมือนระบบอื่น ๆ และเพื่อความแม่นยำ Samsung ใช้ระบบร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI ในการออกแบบเกณฑ์การประเมิน โดยให้ AI ตรวจสอบความขัดแย้งหรือข้อจำกัดที่ไม่จำเป็น ก่อนที่มนุษย์จะปรับแก้และนำไปใช้จริง TRUEBench ยังเปิดให้ใช้งานบางส่วนบนแพลตฟอร์ม Hugging Face โดยมี leaderboard สำหรับเปรียบเทียบโมเดลได้สูงสุด 5 ตัว พร้อมเปิดเผยค่าเฉลี่ยความยาวของคำตอบ เพื่อวัดทั้งความแม่นยำและประสิทธิภาพในการตอบสนอง แม้จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างมาตรฐานใหม่ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า benchmark ยังเป็นการวัดแบบสังเคราะห์ ไม่สามารถสะท้อนความซับซ้อนของการสื่อสารในที่ทำงานได้ทั้งหมด และอาจยิ่งทำให้ผู้บริหารใช้มันเป็นเครื่องมือในการตัดสินใจแทนมนุษย์มากขึ้น ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Samsung เปิดตัว TRUEBench เพื่อวัดประสิทธิภาพ AI ในงานออฟฟิศจริง ➡️ ประกอบด้วย 2,485 ชุดทดสอบ ครอบคลุม 10 หมวดงาน และ 12 ภาษา ➡️ อินพุตมีความยาวตั้งแต่ 8 ถึง 20,000 ตัวอักษร เพื่อจำลองงานจริง ➡️ ใช้ระบบร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI ในการออกแบบเกณฑ์การประเมิน ➡️ หากโมเดลไม่ผ่านเงื่อนไขทั้งหมด จะถือว่าสอบตก ไม่มีคะแนนบางส่วน ➡️ เปิดให้ใช้งานบางส่วนบน Hugging Face พร้อม leaderboard เปรียบเทียบโมเดล ➡️ เปิดเผยค่าเฉลี่ยความยาวของคำตอบ เพื่อวัดประสิทธิภาพควบคู่กับความแม่นยำ ➡️ TRUEBench มุ่งสร้างมาตรฐานใหม่ในการวัด productivity ของ AI ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Hugging Face เป็นแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สที่นิยมใช้เปรียบเทียบโมเดล AI ➡️ MLPerf เป็น benchmark ที่ใช้วัดประสิทธิภาพ AI ในงาน inference และ training ➡️ การวัด productivity ของ AI ยังเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่มีมาตรฐานกลาง ➡️ การใช้ AI ในงานออฟฟิศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น การสรุปอีเมล, จัดประชุม, วิเคราะห์ข้อมูล ➡️ การออกแบบเกณฑ์ร่วมระหว่างมนุษย์และ AI ช่วยลดอคติและเพิ่มความแม่นยำในการประเมิน https://www.techradar.com/pro/security/worried-about-ai-taking-your-job-samsungs-new-tool-will-let-your-boss-track-just-how-well-its-doing
    0 Comments 0 Shares 76 Views 0 Reviews
  • “J GROUP อ้างเจาะระบบ Dimensional Control Systems — ข้อมูลลูกค้า Boeing, Samsung, Siemens เสี่ยงหลุด”

    กลุ่มแฮกเกอร์หน้าใหม่ชื่อว่า “J GROUP” ได้ออกมาอ้างว่าได้เจาะระบบของบริษัท Dimensional Control Systems (DCS) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ด้านวิศวกรรมคุณภาพที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตระดับโลก โดยมีลูกค้ารายใหญ่ เช่น Boeing, Samsung, Siemens, Volkswagen และ Philips Medical

    แฮกเกอร์ระบุว่าได้ขโมยข้อมูลกว่า 11GB ซึ่งรวมถึงเอกสารภายในที่ละเอียดอ่อน เช่น สถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์, ไฟล์การตั้งค่าระบบ CAE, HPC และ PLM, ข้อมูลเมตาของลูกค้า, สิทธิ์การเข้าถึงของผู้ใช้, รายงานการตรวจสอบ, เอกสารทางกฎหมาย และขั้นตอนการสำรองข้อมูลและสนับสนุนทางเทคนิค

    เพื่อพิสูจน์การโจมตี J GROUP ได้ปล่อยไฟล์ .txt และโฟลเดอร์บีบอัดที่มีตัวอย่างเอกสาร ซึ่งนักวิจัยจาก Cybernews ได้ตรวจสอบแล้วพบว่ามีชื่อพนักงานและรายงานค่าใช้จ่าย แต่ยังไม่สามารถยืนยันความถูกต้องของข้อมูลได้แน่ชัด และเตือนว่าแฮกเกอร์มักนำข้อมูลเก่ามาใช้ใหม่เพื่อสร้างแรงกดดัน

    DCS ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐมิชิแกน ยังไม่ออกมายืนยันหรือปฏิเสธเหตุการณ์นี้อย่างเป็นทางการ แต่หากข้อมูลที่หลุดเป็นของจริง อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า ความมั่นคงของระบบ และสถานะทางกฎหมายของบริษัทอย่างรุนแรง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    J GROUP อ้างว่าเจาะระบบของ Dimensional Control Systems และขโมยข้อมูล 11GB
    ข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์, การตั้งค่าระบบ, เมตาของลูกค้า และเอกสารทางกฎหมาย
    มีการปล่อยไฟล์ตัวอย่างเพื่อพิสูจน์การโจมตี เช่น .txt และโฟลเดอร์บีบอัด
    Cybernews ตรวจสอบแล้วพบชื่อพนักงานและรายงานค่าใช้จ่าย แต่ยังไม่ยืนยันความถูกต้อง
    DCS ยังไม่ออกมายืนยันหรือปฏิเสธเหตุการณ์นี้
    DCS เป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ 3DCS Variation Analyst ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต
    ลูกค้าของ DCS ได้แก่ Boeing, Siemens, Samsung, Volkswagen, Philips Medical ฯลฯ
    หากข้อมูลเป็นของจริง อาจกระทบต่อความมั่นคงของระบบและความเชื่อมั่นของลูกค้า

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    3DCS Variation Analyst ใช้ในการจำลองความคลาดเคลื่อนของชิ้นส่วนก่อนการผลิต
    CAE, HPC และ PLM เป็นระบบที่ใช้ในงานวิศวกรรมขั้นสูงและการจัดการผลิตภัณฑ์
    การโจมตีแบบ ransomware มักใช้การขู่เปิดเผยข้อมูลเพื่อเรียกค่าไถ่
    J GROUP เป็นกลุ่มแฮกเกอร์หน้าใหม่ที่เริ่มปรากฏในต้นปี 2025
    กลุ่มแฮกเกอร์บางกลุ่มเริ่มเปลี่ยนจากการเรียกค่าไถ่เป็นการขายข้อมูลให้ผู้เสนอราคาสูงสุด

    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-claim-to-have-hit-third-part-provider-for-boeing-samsung-and-more
    🧨 “J GROUP อ้างเจาะระบบ Dimensional Control Systems — ข้อมูลลูกค้า Boeing, Samsung, Siemens เสี่ยงหลุด” กลุ่มแฮกเกอร์หน้าใหม่ชื่อว่า “J GROUP” ได้ออกมาอ้างว่าได้เจาะระบบของบริษัท Dimensional Control Systems (DCS) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ด้านวิศวกรรมคุณภาพที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตระดับโลก โดยมีลูกค้ารายใหญ่ เช่น Boeing, Samsung, Siemens, Volkswagen และ Philips Medical แฮกเกอร์ระบุว่าได้ขโมยข้อมูลกว่า 11GB ซึ่งรวมถึงเอกสารภายในที่ละเอียดอ่อน เช่น สถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์, ไฟล์การตั้งค่าระบบ CAE, HPC และ PLM, ข้อมูลเมตาของลูกค้า, สิทธิ์การเข้าถึงของผู้ใช้, รายงานการตรวจสอบ, เอกสารทางกฎหมาย และขั้นตอนการสำรองข้อมูลและสนับสนุนทางเทคนิค เพื่อพิสูจน์การโจมตี J GROUP ได้ปล่อยไฟล์ .txt และโฟลเดอร์บีบอัดที่มีตัวอย่างเอกสาร ซึ่งนักวิจัยจาก Cybernews ได้ตรวจสอบแล้วพบว่ามีชื่อพนักงานและรายงานค่าใช้จ่าย แต่ยังไม่สามารถยืนยันความถูกต้องของข้อมูลได้แน่ชัด และเตือนว่าแฮกเกอร์มักนำข้อมูลเก่ามาใช้ใหม่เพื่อสร้างแรงกดดัน DCS ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐมิชิแกน ยังไม่ออกมายืนยันหรือปฏิเสธเหตุการณ์นี้อย่างเป็นทางการ แต่หากข้อมูลที่หลุดเป็นของจริง อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า ความมั่นคงของระบบ และสถานะทางกฎหมายของบริษัทอย่างรุนแรง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ J GROUP อ้างว่าเจาะระบบของ Dimensional Control Systems และขโมยข้อมูล 11GB ➡️ ข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์, การตั้งค่าระบบ, เมตาของลูกค้า และเอกสารทางกฎหมาย ➡️ มีการปล่อยไฟล์ตัวอย่างเพื่อพิสูจน์การโจมตี เช่น .txt และโฟลเดอร์บีบอัด ➡️ Cybernews ตรวจสอบแล้วพบชื่อพนักงานและรายงานค่าใช้จ่าย แต่ยังไม่ยืนยันความถูกต้อง ➡️ DCS ยังไม่ออกมายืนยันหรือปฏิเสธเหตุการณ์นี้ ➡️ DCS เป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ 3DCS Variation Analyst ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต ➡️ ลูกค้าของ DCS ได้แก่ Boeing, Siemens, Samsung, Volkswagen, Philips Medical ฯลฯ ➡️ หากข้อมูลเป็นของจริง อาจกระทบต่อความมั่นคงของระบบและความเชื่อมั่นของลูกค้า ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ 3DCS Variation Analyst ใช้ในการจำลองความคลาดเคลื่อนของชิ้นส่วนก่อนการผลิต ➡️ CAE, HPC และ PLM เป็นระบบที่ใช้ในงานวิศวกรรมขั้นสูงและการจัดการผลิตภัณฑ์ ➡️ การโจมตีแบบ ransomware มักใช้การขู่เปิดเผยข้อมูลเพื่อเรียกค่าไถ่ ➡️ J GROUP เป็นกลุ่มแฮกเกอร์หน้าใหม่ที่เริ่มปรากฏในต้นปี 2025 ➡️ กลุ่มแฮกเกอร์บางกลุ่มเริ่มเปลี่ยนจากการเรียกค่าไถ่เป็นการขายข้อมูลให้ผู้เสนอราคาสูงสุด https://www.techradar.com/pro/security/hackers-claim-to-have-hit-third-part-provider-for-boeing-samsung-and-more
    0 Comments 0 Shares 67 Views 0 Reviews
  • “Microsoft Defender for Endpoint แจ้งเตือนผิดพลาดเรื่อง BIOS บนเครื่อง Dell — ผู้ดูแลระบบทั่วโลกปวดหัวกับการอัปเดตที่ไม่จำเป็น”

    ในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2025 ผู้ดูแลระบบหลายองค์กรทั่วโลกเริ่มพบปัญหาแปลกจาก Microsoft Defender for Endpoint ซึ่งแจ้งเตือนว่า BIOS บนอุปกรณ์ Dell นั้นล้าสมัยและต้องอัปเดต ทั้งที่จริงแล้วเครื่องเหล่านั้นใช้เวอร์ชันล่าสุดอยู่แล้ว

    Microsoft ยืนยันว่าเป็น “บั๊กในตรรกะของโค้ด” ที่ใช้ตรวจสอบช่องโหว่บนอุปกรณ์ Dell โดยระบบดึงข้อมูล BIOS มาประเมินผิดพลาด ทำให้เกิดการแจ้งเตือนแบบ false positive ซึ่งสร้างความสับสนและภาระงานให้กับทีม IT ที่ต้องตรวจสอบทีละเครื่อง

    ปัญหานี้ถูกติดตามภายใต้รหัส DZ1163521 และแม้ว่า Microsoft จะพัฒนาแพตช์แก้ไขเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้ปล่อยออกมาในระบบจริง ทำให้ผู้ใช้ต้องรอการอัปเดตในรอบถัดไป โดยในระหว่างนี้ ผู้ดูแลระบบต้องตรวจสอบสถานะ BIOS ด้วยตนเองเพื่อแยกแยะว่าเป็นการแจ้งเตือนผิดหรือไม่

    ความผิดพลาดนี้ไม่ได้เกิดจาก BIOS ของ Dell เอง แต่เป็นข้อผิดพลาดในการประมวลผลของ Defender ซึ่งส่งผลกระทบต่อองค์กรที่ใช้ระบบ Microsoft 365 และมีการใช้งาน Defender for Endpoint ในการตรวจสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์

    นักวิเคราะห์เตือนว่า false alert แบบนี้อาจนำไปสู่ “alert fatigue” หรือภาวะที่ผู้ดูแลระบบเริ่มละเลยการแจ้งเตือนจริง เพราะถูกกระตุ้นด้วยข้อมูลผิดพลาดบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นความเสี่ยงต่อการปล่อยให้ภัยคุกคามจริงหลุดรอดไปได้

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Microsoft Defender for Endpoint แจ้งเตือนผิดพลาดว่า BIOS บนอุปกรณ์ Dell ล้าสมัย
    สาเหตุเกิดจากบั๊กในตรรกะของโค้ดที่ใช้ประเมินช่องโหว่
    ปัญหานี้ถูกติดตามภายใต้รหัส DZ1163521
    Microsoft พัฒนาแพตช์แก้ไขแล้ว แต่ยังไม่ได้ปล่อยใช้งานจริง
    ผู้ดูแลระบบต้องตรวจสอบ BIOS ด้วยตนเองเพื่อแยกแยะ false alert
    ปัญหานี้เกิดเฉพาะกับอุปกรณ์ Dell ที่ใช้ Defender for Endpoint
    ไม่ใช่ช่องโหว่ใน BIOS ของ Dell แต่เป็นข้อผิดพลาดในระบบของ Microsoft
    ส่งผลให้เกิดภาระงานและความสับสนในทีม IT
    Microsoft Defender for Endpoint เป็นระบบ XDR ที่ใช้ในองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    BIOS คือระบบพื้นฐานที่ควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์ก่อนเข้าสู่ระบบปฏิบัติการ
    การอัปเดต BIOS มีความสำคัญต่อความปลอดภัยระดับล่างของระบบ
    Alert fatigue เป็นภาวะที่ผู้ดูแลระบบเริ่มละเลยการแจ้งเตือนเพราะเจอ false alert บ่อย
    Defender for Endpoint ใช้ในองค์กรภาครัฐ การเงิน และสาธารณสุขอย่างแพร่หลาย
    การตรวจสอบ BIOS ควรทำผ่านช่องทางของ Dell โดยตรงเพื่อความแม่นยำ

    https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-scrambles-to-fix-annoying-defender-issue-that-demands-users-update-their-devices
    🛠️ “Microsoft Defender for Endpoint แจ้งเตือนผิดพลาดเรื่อง BIOS บนเครื่อง Dell — ผู้ดูแลระบบทั่วโลกปวดหัวกับการอัปเดตที่ไม่จำเป็น” ในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2025 ผู้ดูแลระบบหลายองค์กรทั่วโลกเริ่มพบปัญหาแปลกจาก Microsoft Defender for Endpoint ซึ่งแจ้งเตือนว่า BIOS บนอุปกรณ์ Dell นั้นล้าสมัยและต้องอัปเดต ทั้งที่จริงแล้วเครื่องเหล่านั้นใช้เวอร์ชันล่าสุดอยู่แล้ว Microsoft ยืนยันว่าเป็น “บั๊กในตรรกะของโค้ด” ที่ใช้ตรวจสอบช่องโหว่บนอุปกรณ์ Dell โดยระบบดึงข้อมูล BIOS มาประเมินผิดพลาด ทำให้เกิดการแจ้งเตือนแบบ false positive ซึ่งสร้างความสับสนและภาระงานให้กับทีม IT ที่ต้องตรวจสอบทีละเครื่อง ปัญหานี้ถูกติดตามภายใต้รหัส DZ1163521 และแม้ว่า Microsoft จะพัฒนาแพตช์แก้ไขเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้ปล่อยออกมาในระบบจริง ทำให้ผู้ใช้ต้องรอการอัปเดตในรอบถัดไป โดยในระหว่างนี้ ผู้ดูแลระบบต้องตรวจสอบสถานะ BIOS ด้วยตนเองเพื่อแยกแยะว่าเป็นการแจ้งเตือนผิดหรือไม่ ความผิดพลาดนี้ไม่ได้เกิดจาก BIOS ของ Dell เอง แต่เป็นข้อผิดพลาดในการประมวลผลของ Defender ซึ่งส่งผลกระทบต่อองค์กรที่ใช้ระบบ Microsoft 365 และมีการใช้งาน Defender for Endpoint ในการตรวจสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์ นักวิเคราะห์เตือนว่า false alert แบบนี้อาจนำไปสู่ “alert fatigue” หรือภาวะที่ผู้ดูแลระบบเริ่มละเลยการแจ้งเตือนจริง เพราะถูกกระตุ้นด้วยข้อมูลผิดพลาดบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นความเสี่ยงต่อการปล่อยให้ภัยคุกคามจริงหลุดรอดไปได้ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Microsoft Defender for Endpoint แจ้งเตือนผิดพลาดว่า BIOS บนอุปกรณ์ Dell ล้าสมัย ➡️ สาเหตุเกิดจากบั๊กในตรรกะของโค้ดที่ใช้ประเมินช่องโหว่ ➡️ ปัญหานี้ถูกติดตามภายใต้รหัส DZ1163521 ➡️ Microsoft พัฒนาแพตช์แก้ไขแล้ว แต่ยังไม่ได้ปล่อยใช้งานจริง ➡️ ผู้ดูแลระบบต้องตรวจสอบ BIOS ด้วยตนเองเพื่อแยกแยะ false alert ➡️ ปัญหานี้เกิดเฉพาะกับอุปกรณ์ Dell ที่ใช้ Defender for Endpoint ➡️ ไม่ใช่ช่องโหว่ใน BIOS ของ Dell แต่เป็นข้อผิดพลาดในระบบของ Microsoft ➡️ ส่งผลให้เกิดภาระงานและความสับสนในทีม IT ➡️ Microsoft Defender for Endpoint เป็นระบบ XDR ที่ใช้ในองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ BIOS คือระบบพื้นฐานที่ควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์ก่อนเข้าสู่ระบบปฏิบัติการ ➡️ การอัปเดต BIOS มีความสำคัญต่อความปลอดภัยระดับล่างของระบบ ➡️ Alert fatigue เป็นภาวะที่ผู้ดูแลระบบเริ่มละเลยการแจ้งเตือนเพราะเจอ false alert บ่อย ➡️ Defender for Endpoint ใช้ในองค์กรภาครัฐ การเงิน และสาธารณสุขอย่างแพร่หลาย ➡️ การตรวจสอบ BIOS ควรทำผ่านช่องทางของ Dell โดยตรงเพื่อความแม่นยำ https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-scrambles-to-fix-annoying-defender-issue-that-demands-users-update-their-devices
    0 Comments 0 Shares 71 Views 0 Reviews
  • “DetourDog: มัลแวร์ DNS ที่แอบเปลี่ยนเส้นทางกว่า 30,000 เว็บไซต์ — แพร่ Strela Stealer โดยไม่ให้เหยื่อรู้ตัว”

    นักวิจัยจาก Infoblox ได้เปิดเผยแคมเปญมัลแวร์ขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า “DetourDog” ซึ่งสามารถแอบเปลี่ยนเส้นทางเว็บไซต์กว่า 30,000 แห่ง โดยใช้เทคนิคการโจมตีผ่าน DNS ที่ซับซ้อนและยากต่อการตรวจจับ จุดเด่นของแคมเปญนี้คือการใช้ DNS redirection จากฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ไม่ใช่จากฝั่งผู้ใช้ ทำให้เหยื่อไม่รู้ตัวเลยว่าถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังเว็บไซต์ที่ฝังมัลแวร์

    เมื่อผู้ใช้เข้าเว็บไซต์ที่ถูกติดมัลแวร์ DetourDog จะเปลี่ยนเส้นทางไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่โฮสต์ Strela Stealer ซึ่งเป็นมัลแวร์แบบ modular ที่สามารถขโมยข้อมูลจากหลายแหล่ง เช่น อีเมล Microsoft Outlook, Thunderbird และเบราว์เซอร์ต่าง ๆ โดยใช้เทคนิค drive-by download หรือการโจมตีผ่านช่องโหว่ของเบราว์เซอร์

    DetourDog ยังใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ซับซ้อน เช่น registrar ที่ถูกแฮก DNS provider ที่ถูกควบคุม และโดเมนที่ตั้งค่าผิด เพื่อกระจายมัลแวร์ให้กว้างขึ้น Strela Stealer เองก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2022 และตอนนี้สามารถสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมเพื่ออัปเดตตัวเองและส่งข้อมูลที่ขโมยไปได้แบบ persistent

    แม้จะยังไม่สามารถระบุได้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง แต่คำว่า “strela” แปลว่า “ลูกศร” ในภาษารัสเซียและสลาฟอื่น ๆ ซึ่งอาจเป็นเบาะแสถึงต้นทางของแคมเปญนี้ ขณะนี้ Infoblox ได้แจ้งเตือนเจ้าของโดเมนที่ได้รับผลกระทบและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ขอบเขตของความเสียหายยังไม่ชัดเจน

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    DetourDog เป็นแคมเปญมัลแวร์ที่ใช้ DNS redirection เพื่อเปลี่ยนเส้นทางเว็บไซต์กว่า 30,000 แห่ง
    DNS requests ถูกส่งจากฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ทำให้เหยื่อไม่รู้ตัว
    เหยื่อถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังเว็บไซต์ที่โฮสต์ Strela Stealer
    Strela Stealer เป็นมัลแวร์แบบ modular ที่ขโมยข้อมูลจากอีเมลและเบราว์เซอร์
    ใช้เทคนิค drive-by download และ browser exploit เพื่อแพร่กระจาย
    โครงสร้างมัลแวร์ใช้ registrar, DNS provider และโดเมนที่ถูกควบคุม
    Strela Stealer สามารถสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมเพื่ออัปเดตและส่งข้อมูล
    Infoblox แจ้งเตือนเจ้าของโดเมนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
    คำว่า “strela” แปลว่า “ลูกศร” ในภาษารัสเซีย อาจเป็นเบาะแสถึงต้นทาง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    DNS redirection เป็นเทคนิคที่ใช้เปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้โดยไม่ต้องแก้ไขเนื้อหาเว็บ
    Infostealer เป็นมัลแวร์ที่เน้นขโมยข้อมูล credential และ session
    Drive-by download คือการติดมัลแวร์โดยไม่ต้องคลิกหรือดาวน์โหลดไฟล์
    การโจมตีผ่าน DNS ทำให้ระบบตรวจจับทั่วไปไม่สามารถมองเห็นได้
    Strela Stealer มีความสามารถในการปรับตัวและหลบเลี่ยงการตรวจจับ

    https://www.techradar.com/pro/security/dangerous-dns-malware-infects-over-30-000-websites-so-be-on-your-guard
    🕵️‍♂️ “DetourDog: มัลแวร์ DNS ที่แอบเปลี่ยนเส้นทางกว่า 30,000 เว็บไซต์ — แพร่ Strela Stealer โดยไม่ให้เหยื่อรู้ตัว” นักวิจัยจาก Infoblox ได้เปิดเผยแคมเปญมัลแวร์ขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า “DetourDog” ซึ่งสามารถแอบเปลี่ยนเส้นทางเว็บไซต์กว่า 30,000 แห่ง โดยใช้เทคนิคการโจมตีผ่าน DNS ที่ซับซ้อนและยากต่อการตรวจจับ จุดเด่นของแคมเปญนี้คือการใช้ DNS redirection จากฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ไม่ใช่จากฝั่งผู้ใช้ ทำให้เหยื่อไม่รู้ตัวเลยว่าถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังเว็บไซต์ที่ฝังมัลแวร์ เมื่อผู้ใช้เข้าเว็บไซต์ที่ถูกติดมัลแวร์ DetourDog จะเปลี่ยนเส้นทางไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่โฮสต์ Strela Stealer ซึ่งเป็นมัลแวร์แบบ modular ที่สามารถขโมยข้อมูลจากหลายแหล่ง เช่น อีเมล Microsoft Outlook, Thunderbird และเบราว์เซอร์ต่าง ๆ โดยใช้เทคนิค drive-by download หรือการโจมตีผ่านช่องโหว่ของเบราว์เซอร์ DetourDog ยังใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ซับซ้อน เช่น registrar ที่ถูกแฮก DNS provider ที่ถูกควบคุม และโดเมนที่ตั้งค่าผิด เพื่อกระจายมัลแวร์ให้กว้างขึ้น Strela Stealer เองก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2022 และตอนนี้สามารถสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมเพื่ออัปเดตตัวเองและส่งข้อมูลที่ขโมยไปได้แบบ persistent แม้จะยังไม่สามารถระบุได้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง แต่คำว่า “strela” แปลว่า “ลูกศร” ในภาษารัสเซียและสลาฟอื่น ๆ ซึ่งอาจเป็นเบาะแสถึงต้นทางของแคมเปญนี้ ขณะนี้ Infoblox ได้แจ้งเตือนเจ้าของโดเมนที่ได้รับผลกระทบและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ขอบเขตของความเสียหายยังไม่ชัดเจน ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ DetourDog เป็นแคมเปญมัลแวร์ที่ใช้ DNS redirection เพื่อเปลี่ยนเส้นทางเว็บไซต์กว่า 30,000 แห่ง ➡️ DNS requests ถูกส่งจากฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ทำให้เหยื่อไม่รู้ตัว ➡️ เหยื่อถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังเว็บไซต์ที่โฮสต์ Strela Stealer ➡️ Strela Stealer เป็นมัลแวร์แบบ modular ที่ขโมยข้อมูลจากอีเมลและเบราว์เซอร์ ➡️ ใช้เทคนิค drive-by download และ browser exploit เพื่อแพร่กระจาย ➡️ โครงสร้างมัลแวร์ใช้ registrar, DNS provider และโดเมนที่ถูกควบคุม ➡️ Strela Stealer สามารถสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมเพื่ออัปเดตและส่งข้อมูล ➡️ Infoblox แจ้งเตือนเจ้าของโดเมนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ➡️ คำว่า “strela” แปลว่า “ลูกศร” ในภาษารัสเซีย อาจเป็นเบาะแสถึงต้นทาง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ DNS redirection เป็นเทคนิคที่ใช้เปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้โดยไม่ต้องแก้ไขเนื้อหาเว็บ ➡️ Infostealer เป็นมัลแวร์ที่เน้นขโมยข้อมูล credential และ session ➡️ Drive-by download คือการติดมัลแวร์โดยไม่ต้องคลิกหรือดาวน์โหลดไฟล์ ➡️ การโจมตีผ่าน DNS ทำให้ระบบตรวจจับทั่วไปไม่สามารถมองเห็นได้ ➡️ Strela Stealer มีความสามารถในการปรับตัวและหลบเลี่ยงการตรวจจับ https://www.techradar.com/pro/security/dangerous-dns-malware-infects-over-30-000-websites-so-be-on-your-guard
    WWW.TECHRADAR.COM
    Dangerous DNS malware infects over 30,000 websites - so be on your guard
    DetourDog is using compromised sites to deliver infostealers, experts warn
    0 Comments 0 Shares 74 Views 0 Reviews
  • “DrayTek เตือนช่องโหว่ร้ายแรงในเราเตอร์ Vigor — เสี่ยงถูกแฮกผ่าน WebUI หากไม่อัปเดตเฟิร์มแวร์”

    DrayTek ผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายชื่อดังจากไต้หวัน ได้ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ความปลอดภัยร้ายแรงในเราเตอร์รุ่น Vigor ซึ่งนิยมใช้ในธุรกิจขนาดเล็กและระดับ prosumer โดยช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น CVE-2025-10547 และเกิดจาก “ค่าตัวแปรที่ไม่ได้ถูกกำหนดค่าเริ่มต้น” ในเฟิร์มแวร์ DrayOS ที่ใช้ในอุปกรณ์เหล่านี้

    ช่องโหว่นี้สามารถถูกโจมตีได้ผ่าน WebUI (Web User Interface) โดยผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถส่งคำสั่ง HTTP หรือ HTTPS ที่ถูกปรับแต่งมาเฉพาะเพื่อทำให้เกิดการเสียหายของหน่วยความจำ หรือแม้แต่การรันโค้ดจากระยะไกล (Remote Code Execution - RCE) ซึ่งอาจนำไปสู่การควบคุมอุปกรณ์ทั้งหมด

    แม้ DrayTek จะระบุว่าช่องโหว่นี้จะเกิดขึ้นเฉพาะเมื่อเปิดใช้งาน WebUI หรือ SSL VPN จากภายนอก และมีการตั้งค่า ACL ที่ผิดพลาด แต่ก็เตือนว่าผู้โจมตีที่อยู่ในเครือข่ายภายในก็สามารถใช้ช่องโหว่นี้ได้เช่นกัน หาก WebUI ยังเปิดใช้งานอยู่

    นักวิจัย Pierre-Yves Maes จาก ChapsVision ผู้ค้นพบช่องโหว่นี้ อธิบายว่าเป็นการใช้ค่าตัวแปรที่ไม่ได้กำหนดค่าใน stack ซึ่งสามารถนำไปสู่การเรียกใช้ฟังก์ชัน free() บนหน่วยความจำที่ไม่ได้รับอนุญาต — เทคนิคที่เรียกว่า “arbitrary free” ซึ่งสามารถนำไปสู่การรันโค้ดแปลกปลอมได้

    DrayTek ได้ออกแพตช์เพื่อแก้ไขช่องโหว่นี้แล้ว และแนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดตเฟิร์มแวร์ทันที โดยเฉพาะผู้ที่เปิดใช้งาน WebUI หรือ VPN จากภายนอก ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานว่าช่องโหว่นี้ถูกใช้โจมตีจริงในขณะนี้ แต่ด้วยความนิยมของ Vigor ในกลุ่ม SMB และ prosumer ทำให้มีความเสี่ยงสูงหากไม่รีบดำเนินการ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ช่องโหว่ CVE-2025-10547 เกิดจากค่าตัวแปรที่ไม่ได้กำหนดค่าในเฟิร์มแวร์ DrayOS
    ส่งผลให้เกิด memory corruption, system crash และอาจนำไปสู่ remote code execution
    ช่องโหว่ถูกค้นพบโดย Pierre-Yves Maes จาก ChapsVision
    การโจมตีสามารถทำได้ผ่าน WebUI ด้วยคำสั่ง HTTP/HTTPS ที่ปรับแต่ง
    ส่งผลเฉพาะเมื่อเปิด WebUI หรือ SSL VPN จากภายนอก และ ACL ตั้งค่าผิด
    ผู้โจมตีในเครือข่ายภายในก็สามารถใช้ช่องโหว่นี้ได้ หาก WebUI ยังเปิดอยู่
    DrayTek ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้อัปเดตเฟิร์มแวร์ทันที
    Vigor เป็นเราเตอร์ที่นิยมในกลุ่ม SMB และ prosumer ทำให้มีความเสี่ยงสูง
    ยังไม่มีรายงานการโจมตีจริงในขณะนี้ แต่ควรดำเนินการเชิงป้องกัน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Remote Code Execution (RCE) เป็นหนึ่งในช่องโหว่ที่อันตรายที่สุด เพราะเปิดทางให้ควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกล
    ACL (Access Control List) คือระบบควบคุมสิทธิ์การเข้าถึง ซึ่งหากตั้งค่าผิดอาจเปิดช่องให้โจมตีได้
    WebUI เป็นอินเทอร์เฟซที่ใช้จัดการเราเตอร์ผ่านเว็บเบราว์เซอร์
    การโจมตีผ่าน WebUI มักใช้ในแคมเปญ botnet หรือการขโมยข้อมูล
    SMB มักไม่มีระบบตรวจสอบความปลอดภัยที่เข้มงวด ทำให้ตกเป็นเป้าหมายบ่อย

    https://www.techradar.com/pro/security/draytek-warns-vigor-routers-may-have-serious-security-flaws-heres-what-we-know
    🔐 “DrayTek เตือนช่องโหว่ร้ายแรงในเราเตอร์ Vigor — เสี่ยงถูกแฮกผ่าน WebUI หากไม่อัปเดตเฟิร์มแวร์” DrayTek ผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายชื่อดังจากไต้หวัน ได้ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ความปลอดภัยร้ายแรงในเราเตอร์รุ่น Vigor ซึ่งนิยมใช้ในธุรกิจขนาดเล็กและระดับ prosumer โดยช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น CVE-2025-10547 และเกิดจาก “ค่าตัวแปรที่ไม่ได้ถูกกำหนดค่าเริ่มต้น” ในเฟิร์มแวร์ DrayOS ที่ใช้ในอุปกรณ์เหล่านี้ ช่องโหว่นี้สามารถถูกโจมตีได้ผ่าน WebUI (Web User Interface) โดยผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถส่งคำสั่ง HTTP หรือ HTTPS ที่ถูกปรับแต่งมาเฉพาะเพื่อทำให้เกิดการเสียหายของหน่วยความจำ หรือแม้แต่การรันโค้ดจากระยะไกล (Remote Code Execution - RCE) ซึ่งอาจนำไปสู่การควบคุมอุปกรณ์ทั้งหมด แม้ DrayTek จะระบุว่าช่องโหว่นี้จะเกิดขึ้นเฉพาะเมื่อเปิดใช้งาน WebUI หรือ SSL VPN จากภายนอก และมีการตั้งค่า ACL ที่ผิดพลาด แต่ก็เตือนว่าผู้โจมตีที่อยู่ในเครือข่ายภายในก็สามารถใช้ช่องโหว่นี้ได้เช่นกัน หาก WebUI ยังเปิดใช้งานอยู่ นักวิจัย Pierre-Yves Maes จาก ChapsVision ผู้ค้นพบช่องโหว่นี้ อธิบายว่าเป็นการใช้ค่าตัวแปรที่ไม่ได้กำหนดค่าใน stack ซึ่งสามารถนำไปสู่การเรียกใช้ฟังก์ชัน free() บนหน่วยความจำที่ไม่ได้รับอนุญาต — เทคนิคที่เรียกว่า “arbitrary free” ซึ่งสามารถนำไปสู่การรันโค้ดแปลกปลอมได้ DrayTek ได้ออกแพตช์เพื่อแก้ไขช่องโหว่นี้แล้ว และแนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดตเฟิร์มแวร์ทันที โดยเฉพาะผู้ที่เปิดใช้งาน WebUI หรือ VPN จากภายนอก ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานว่าช่องโหว่นี้ถูกใช้โจมตีจริงในขณะนี้ แต่ด้วยความนิยมของ Vigor ในกลุ่ม SMB และ prosumer ทำให้มีความเสี่ยงสูงหากไม่รีบดำเนินการ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ช่องโหว่ CVE-2025-10547 เกิดจากค่าตัวแปรที่ไม่ได้กำหนดค่าในเฟิร์มแวร์ DrayOS ➡️ ส่งผลให้เกิด memory corruption, system crash และอาจนำไปสู่ remote code execution ➡️ ช่องโหว่ถูกค้นพบโดย Pierre-Yves Maes จาก ChapsVision ➡️ การโจมตีสามารถทำได้ผ่าน WebUI ด้วยคำสั่ง HTTP/HTTPS ที่ปรับแต่ง ➡️ ส่งผลเฉพาะเมื่อเปิด WebUI หรือ SSL VPN จากภายนอก และ ACL ตั้งค่าผิด ➡️ ผู้โจมตีในเครือข่ายภายในก็สามารถใช้ช่องโหว่นี้ได้ หาก WebUI ยังเปิดอยู่ ➡️ DrayTek ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้อัปเดตเฟิร์มแวร์ทันที ➡️ Vigor เป็นเราเตอร์ที่นิยมในกลุ่ม SMB และ prosumer ทำให้มีความเสี่ยงสูง ➡️ ยังไม่มีรายงานการโจมตีจริงในขณะนี้ แต่ควรดำเนินการเชิงป้องกัน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Remote Code Execution (RCE) เป็นหนึ่งในช่องโหว่ที่อันตรายที่สุด เพราะเปิดทางให้ควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกล ➡️ ACL (Access Control List) คือระบบควบคุมสิทธิ์การเข้าถึง ซึ่งหากตั้งค่าผิดอาจเปิดช่องให้โจมตีได้ ➡️ WebUI เป็นอินเทอร์เฟซที่ใช้จัดการเราเตอร์ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ ➡️ การโจมตีผ่าน WebUI มักใช้ในแคมเปญ botnet หรือการขโมยข้อมูล ➡️ SMB มักไม่มีระบบตรวจสอบความปลอดภัยที่เข้มงวด ทำให้ตกเป็นเป้าหมายบ่อย https://www.techradar.com/pro/security/draytek-warns-vigor-routers-may-have-serious-security-flaws-heres-what-we-know
    0 Comments 0 Shares 76 Views 0 Reviews
  • “Jules Tools: Google เปิดตัว CLI และ API สำหรับ AI Coding Agent — เชื่อมต่อเวิร์กโฟลว์นักพัฒนาแบบไร้รอยต่อ”

    หลังจากเปิดตัว “Jules” ไปเมื่อสองเดือนก่อน Google ก็เดินหน้าขยายความสามารถของ AI coding agent ตัวนี้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เปิดตัว “Jules Tools” ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือใหม่ที่ประกอบด้วย CLI (Command-Line Interface) และ API สาธารณะ เพื่อให้ Jules เข้าไปอยู่ในเวิร์กโฟลว์ของนักพัฒนาได้อย่างลื่นไหล

    Jules Tools ถูกออกแบบมาให้ “เบาและเร็ว” โดยสามารถเรียกใช้งาน Jules ได้จากเทอร์มินัลโดยตรง ไม่ต้องสลับไปมาระหว่างเว็บหรือ GitHub อีกต่อไป นักพัฒนาสามารถใช้คำสั่งเพื่อให้ Jules แก้บั๊ก, สร้างโค้ดใหม่, หรือปรับปรุงโมดูลต่าง ๆ ได้แบบ asynchronous — ทำงานเบื้องหลังโดยไม่รบกวนการเขียนโค้ดหลัก

    นอกจากนี้ Google ยังเปิด API ของ Jules ให้ใช้งานได้อย่างเป็นทางการ ซึ่งก่อนหน้านี้ใช้เฉพาะภายในบริษัทเท่านั้น นักพัฒนาสามารถนำ API ไปเชื่อมกับระบบ CI/CD, IDE หรือแม้แต่ Slack เพื่อให้ Jules ทำงานอัตโนมัติเมื่อมี pull request หรือการเปลี่ยนแปลงใน repository

    Jules ใช้โมเดล Gemini 2.5 ซึ่งมีความสามารถในการเข้าใจบริบทของโปรเจกต์ได้ดีขึ้น และสามารถจดจำประวัติการใช้งานของผู้ใช้เพื่อปรับคำแนะนำให้เหมาะสมมากขึ้น ทำให้ Jules กลายเป็นเหมือน “คู่หูโปรแกรมเมอร์” ที่รู้จักสไตล์การเขียนโค้ดของคุณ

    แม้จะมีคู่แข่งในตลาด AI coding agent มากมาย เช่น GitHub Copilot หรือ Claude Code แต่ Jules แตกต่างตรงที่เน้นการทำงานแบบเบื้องหลัง ไม่ต้องโต้ตอบมาก และสามารถปรับแต่งให้เข้ากับเวิร์กโฟลว์ของทีมได้อย่างยืดหยุ่น

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Google เปิดตัว Jules Tools ซึ่งประกอบด้วย CLI และ API สำหรับ AI coding agent Jules
    CLI ช่วยให้เรียกใช้งาน Jules จากเทอร์มินัลได้โดยตรงแบบ asynchronous
    API เปิดให้ใช้งานสาธารณะแล้ว สามารถเชื่อมกับ CI/CD, IDE, Slack ฯลฯ
    Jules ใช้โมเดล Gemini 2.5 ที่เข้าใจบริบทโปรเจกต์และจดจำประวัติผู้ใช้
    นักพัฒนาสามารถใช้ Jules เพื่อแก้บั๊ก, สร้างโค้ด, ปรับปรุงโมดูล ได้แบบไม่ต้องออกจากเทอร์มินัล
    Jules Tools รองรับการติดตั้งผ่าน Python หรือ Node.js และใช้ GitHub token หรือ API key
    สามารถใช้ Jules เพื่อ enforce coding style และลดเวลาในการ review โค้ด
    Jules ทำงานแบบเบื้องหลัง ไม่ต้องโต้ตอบมาก เหมาะกับงานที่มีขอบเขตชัดเจน
    Google มีแผนสร้าง plugin สำหรับ IDE เพิ่มเติมในอนาคต

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Gemini 2.5 เป็นโมเดล AI ที่มีความสามารถด้าน memory และ context tracking สูง
    การทำงานแบบ asynchronous ช่วยลด context switching และเพิ่ม productivity
    การเชื่อมต่อกับ CI/CD pipeline ช่วยให้ Jules ทำงานอัตโนมัติเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงโค้ด
    การใช้ CLI ทำให้ไม่ต้องพึ่งพา IDE ใด IDE หนึ่ง — ใช้งานได้ทุกที่ที่มีเทอร์มินัล
    API ของ Jules สามารถใช้สร้างระบบ automation สำหรับทีม devops ได้

    https://www.techradar.com/pro/googles-ai-coding-agent-jules-is-getting-new-command-line-tools
    🧑‍💻 “Jules Tools: Google เปิดตัว CLI และ API สำหรับ AI Coding Agent — เชื่อมต่อเวิร์กโฟลว์นักพัฒนาแบบไร้รอยต่อ” หลังจากเปิดตัว “Jules” ไปเมื่อสองเดือนก่อน Google ก็เดินหน้าขยายความสามารถของ AI coding agent ตัวนี้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เปิดตัว “Jules Tools” ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือใหม่ที่ประกอบด้วย CLI (Command-Line Interface) และ API สาธารณะ เพื่อให้ Jules เข้าไปอยู่ในเวิร์กโฟลว์ของนักพัฒนาได้อย่างลื่นไหล Jules Tools ถูกออกแบบมาให้ “เบาและเร็ว” โดยสามารถเรียกใช้งาน Jules ได้จากเทอร์มินัลโดยตรง ไม่ต้องสลับไปมาระหว่างเว็บหรือ GitHub อีกต่อไป นักพัฒนาสามารถใช้คำสั่งเพื่อให้ Jules แก้บั๊ก, สร้างโค้ดใหม่, หรือปรับปรุงโมดูลต่าง ๆ ได้แบบ asynchronous — ทำงานเบื้องหลังโดยไม่รบกวนการเขียนโค้ดหลัก นอกจากนี้ Google ยังเปิด API ของ Jules ให้ใช้งานได้อย่างเป็นทางการ ซึ่งก่อนหน้านี้ใช้เฉพาะภายในบริษัทเท่านั้น นักพัฒนาสามารถนำ API ไปเชื่อมกับระบบ CI/CD, IDE หรือแม้แต่ Slack เพื่อให้ Jules ทำงานอัตโนมัติเมื่อมี pull request หรือการเปลี่ยนแปลงใน repository Jules ใช้โมเดล Gemini 2.5 ซึ่งมีความสามารถในการเข้าใจบริบทของโปรเจกต์ได้ดีขึ้น และสามารถจดจำประวัติการใช้งานของผู้ใช้เพื่อปรับคำแนะนำให้เหมาะสมมากขึ้น ทำให้ Jules กลายเป็นเหมือน “คู่หูโปรแกรมเมอร์” ที่รู้จักสไตล์การเขียนโค้ดของคุณ แม้จะมีคู่แข่งในตลาด AI coding agent มากมาย เช่น GitHub Copilot หรือ Claude Code แต่ Jules แตกต่างตรงที่เน้นการทำงานแบบเบื้องหลัง ไม่ต้องโต้ตอบมาก และสามารถปรับแต่งให้เข้ากับเวิร์กโฟลว์ของทีมได้อย่างยืดหยุ่น ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Google เปิดตัว Jules Tools ซึ่งประกอบด้วย CLI และ API สำหรับ AI coding agent Jules ➡️ CLI ช่วยให้เรียกใช้งาน Jules จากเทอร์มินัลได้โดยตรงแบบ asynchronous ➡️ API เปิดให้ใช้งานสาธารณะแล้ว สามารถเชื่อมกับ CI/CD, IDE, Slack ฯลฯ ➡️ Jules ใช้โมเดล Gemini 2.5 ที่เข้าใจบริบทโปรเจกต์และจดจำประวัติผู้ใช้ ➡️ นักพัฒนาสามารถใช้ Jules เพื่อแก้บั๊ก, สร้างโค้ด, ปรับปรุงโมดูล ได้แบบไม่ต้องออกจากเทอร์มินัล ➡️ Jules Tools รองรับการติดตั้งผ่าน Python หรือ Node.js และใช้ GitHub token หรือ API key ➡️ สามารถใช้ Jules เพื่อ enforce coding style และลดเวลาในการ review โค้ด ➡️ Jules ทำงานแบบเบื้องหลัง ไม่ต้องโต้ตอบมาก เหมาะกับงานที่มีขอบเขตชัดเจน ➡️ Google มีแผนสร้าง plugin สำหรับ IDE เพิ่มเติมในอนาคต ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Gemini 2.5 เป็นโมเดล AI ที่มีความสามารถด้าน memory และ context tracking สูง ➡️ การทำงานแบบ asynchronous ช่วยลด context switching และเพิ่ม productivity ➡️ การเชื่อมต่อกับ CI/CD pipeline ช่วยให้ Jules ทำงานอัตโนมัติเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงโค้ด ➡️ การใช้ CLI ทำให้ไม่ต้องพึ่งพา IDE ใด IDE หนึ่ง — ใช้งานได้ทุกที่ที่มีเทอร์มินัล ➡️ API ของ Jules สามารถใช้สร้างระบบ automation สำหรับทีม devops ได้ https://www.techradar.com/pro/googles-ai-coding-agent-jules-is-getting-new-command-line-tools
    WWW.TECHRADAR.COM
    Google's AI coding agent Jules is getting new command line tools
    Google says Jules Tools is a new “lightweight” CLI
    0 Comments 0 Shares 72 Views 0 Reviews
  • “จีนเปิดตัวศูนย์ข้อมูลใต้น้ำเชิงพาณิชย์แห่งแรก — ใช้พลังงานลดลง 90% พร้อมพลังงานหมุนเวียน 95%”

    ในยุคที่ AI และคลาวด์ต้องการพลังงานมหาศาล ศูนย์ข้อมูลกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่กินไฟมากที่สุดแห่งหนึ่ง ล่าสุดบริษัท Highlander จากจีนได้เปิดตัวโครงการศูนย์ข้อมูลใต้น้ำเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลก บริเวณชายฝั่งเซี่ยงไฮ้ โดยจะเริ่มดำเนินการในเดือนตุลาคม 2025

    แนวคิดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ — Microsoft เคยทดลองวางเซิร์ฟเวอร์ใต้น้ำที่สกอตแลนด์ในปี 2018 แต่ไม่ได้นำมาใช้เชิงพาณิชย์ ส่วนจีนเริ่มโครงการแรกที่เกาะไหหลำในปี 2022 และยังดำเนินการอยู่จนถึงปัจจุบัน

    ศูนย์ข้อมูลใต้น้ำของ Highlander ใช้แคปซูลเหล็กเคลือบเกล็ดแก้วเพื่อป้องกันการกัดกร่อนจากน้ำทะเล และเชื่อมต่อกับโครงสร้างเหนือผิวน้ำผ่านลิฟต์สำหรับการบำรุงรักษา โดยใช้พลังงานจากฟาร์มกังหันลมใกล้ชายฝั่ง ทำให้กว่า 95% ของพลังงานทั้งหมดมาจากแหล่งหมุนเวียน

    ข้อได้เปรียบหลักคือการใช้กระแสน้ำทะเลในการระบายความร้อน ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานสำหรับระบบทำความเย็นได้ถึง 90% เมื่อเทียบกับศูนย์ข้อมูลบนบกที่ต้องใช้ระบบปรับอากาศหรือการระเหยน้ำ

    ลูกค้ารายแรกของโครงการนี้คือ China Telecom และบริษัทคอมพิวติ้ง AI ของรัฐ โดยรัฐบาลจีนสนับสนุนโครงการนี้ผ่านเงินอุดหนุนกว่า 40 ล้านหยวนในโครงการที่ไหหลำ และมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ “East Data, West Computing” เพื่อกระจายการประมวลผลทั่วประเทศ

    อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลเตือนว่า การปล่อยความร้อนจากเซิร์ฟเวอร์ใต้น้ำอาจส่งผลต่อระบบนิเวศ เช่น ดึงดูดหรือผลักไสสัตว์น้ำบางชนิด และยังมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เช่น การโจมตีด้วยคลื่นเสียงผ่านน้ำ ซึ่งยังไม่มีการศึกษาครอบคลุมในระดับมหภาค

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Highlander เปิดตัวศูนย์ข้อมูลใต้น้ำเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลกที่เซี่ยงไฮ้
    ใช้แคปซูลเหล็กเคลือบเกล็ดแก้วเพื่อป้องกันการกัดกร่อนจากน้ำทะเล
    เชื่อมต่อกับโครงสร้างเหนือผิวน้ำผ่านลิฟต์สำหรับการบำรุงรักษา
    ใช้พลังงานจากฟาร์มกังหันลมใกล้ชายฝั่ง โดยกว่า 95% มาจากแหล่งหมุนเวียน
    ลดการใช้พลังงานสำหรับระบบทำความเย็นได้ถึง 90%
    ลูกค้ารายแรกคือ China Telecom และบริษัท AI ของรัฐ
    โครงการได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลจีนกว่า 40 ล้านหยวน
    เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ “East Data, West Computing”
    Microsoft เคยทดลองแนวคิดนี้ในปี 2018 แต่ไม่ได้นำมาใช้เชิงพาณิชย์

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ศูนย์ข้อมูลใต้น้ำช่วยลดการใช้พื้นที่บนบกและมีความเสถียรด้านอุณหภูมิ
    การใช้พลังงานหมุนเวียนช่วยลดคาร์บอนฟุตพรินต์ของอุตสาหกรรมดิจิทัล
    การวางเซิร์ฟเวอร์ใกล้ชายฝั่งช่วยลด latency ในการให้บริการ
    Microsoft พบว่าเซิร์ฟเวอร์ใต้น้ำมีอัตราความเสียหายน้อยกว่าบนบก
    การออกแบบแคปซูลต้องคำนึงถึงแรงดันน้ำ ความเค็ม และการสั่นสะเทือน

    https://www.tomshardware.com/desktops/servers/china-to-launch-commercial-underwater-data-center-facility-expected-to-consume-90-percent-less-power-for-cooling
    🌊 “จีนเปิดตัวศูนย์ข้อมูลใต้น้ำเชิงพาณิชย์แห่งแรก — ใช้พลังงานลดลง 90% พร้อมพลังงานหมุนเวียน 95%” ในยุคที่ AI และคลาวด์ต้องการพลังงานมหาศาล ศูนย์ข้อมูลกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่กินไฟมากที่สุดแห่งหนึ่ง ล่าสุดบริษัท Highlander จากจีนได้เปิดตัวโครงการศูนย์ข้อมูลใต้น้ำเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลก บริเวณชายฝั่งเซี่ยงไฮ้ โดยจะเริ่มดำเนินการในเดือนตุลาคม 2025 แนวคิดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ — Microsoft เคยทดลองวางเซิร์ฟเวอร์ใต้น้ำที่สกอตแลนด์ในปี 2018 แต่ไม่ได้นำมาใช้เชิงพาณิชย์ ส่วนจีนเริ่มโครงการแรกที่เกาะไหหลำในปี 2022 และยังดำเนินการอยู่จนถึงปัจจุบัน ศูนย์ข้อมูลใต้น้ำของ Highlander ใช้แคปซูลเหล็กเคลือบเกล็ดแก้วเพื่อป้องกันการกัดกร่อนจากน้ำทะเล และเชื่อมต่อกับโครงสร้างเหนือผิวน้ำผ่านลิฟต์สำหรับการบำรุงรักษา โดยใช้พลังงานจากฟาร์มกังหันลมใกล้ชายฝั่ง ทำให้กว่า 95% ของพลังงานทั้งหมดมาจากแหล่งหมุนเวียน ข้อได้เปรียบหลักคือการใช้กระแสน้ำทะเลในการระบายความร้อน ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานสำหรับระบบทำความเย็นได้ถึง 90% เมื่อเทียบกับศูนย์ข้อมูลบนบกที่ต้องใช้ระบบปรับอากาศหรือการระเหยน้ำ ลูกค้ารายแรกของโครงการนี้คือ China Telecom และบริษัทคอมพิวติ้ง AI ของรัฐ โดยรัฐบาลจีนสนับสนุนโครงการนี้ผ่านเงินอุดหนุนกว่า 40 ล้านหยวนในโครงการที่ไหหลำ และมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ “East Data, West Computing” เพื่อกระจายการประมวลผลทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลเตือนว่า การปล่อยความร้อนจากเซิร์ฟเวอร์ใต้น้ำอาจส่งผลต่อระบบนิเวศ เช่น ดึงดูดหรือผลักไสสัตว์น้ำบางชนิด และยังมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เช่น การโจมตีด้วยคลื่นเสียงผ่านน้ำ ซึ่งยังไม่มีการศึกษาครอบคลุมในระดับมหภาค ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Highlander เปิดตัวศูนย์ข้อมูลใต้น้ำเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลกที่เซี่ยงไฮ้ ➡️ ใช้แคปซูลเหล็กเคลือบเกล็ดแก้วเพื่อป้องกันการกัดกร่อนจากน้ำทะเล ➡️ เชื่อมต่อกับโครงสร้างเหนือผิวน้ำผ่านลิฟต์สำหรับการบำรุงรักษา ➡️ ใช้พลังงานจากฟาร์มกังหันลมใกล้ชายฝั่ง โดยกว่า 95% มาจากแหล่งหมุนเวียน ➡️ ลดการใช้พลังงานสำหรับระบบทำความเย็นได้ถึง 90% ➡️ ลูกค้ารายแรกคือ China Telecom และบริษัท AI ของรัฐ ➡️ โครงการได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลจีนกว่า 40 ล้านหยวน ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ “East Data, West Computing” ➡️ Microsoft เคยทดลองแนวคิดนี้ในปี 2018 แต่ไม่ได้นำมาใช้เชิงพาณิชย์ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ศูนย์ข้อมูลใต้น้ำช่วยลดการใช้พื้นที่บนบกและมีความเสถียรด้านอุณหภูมิ ➡️ การใช้พลังงานหมุนเวียนช่วยลดคาร์บอนฟุตพรินต์ของอุตสาหกรรมดิจิทัล ➡️ การวางเซิร์ฟเวอร์ใกล้ชายฝั่งช่วยลด latency ในการให้บริการ ➡️ Microsoft พบว่าเซิร์ฟเวอร์ใต้น้ำมีอัตราความเสียหายน้อยกว่าบนบก ➡️ การออกแบบแคปซูลต้องคำนึงถึงแรงดันน้ำ ความเค็ม และการสั่นสะเทือน https://www.tomshardware.com/desktops/servers/china-to-launch-commercial-underwater-data-center-facility-expected-to-consume-90-percent-less-power-for-cooling
    0 Comments 0 Shares 73 Views 0 Reviews
  • “BlackRock ทุ่ม $40 พันล้าน ซื้อกิจการศูนย์ข้อมูล Aligned — ขยายพอร์ต AI Infrastructure สู่ 5GW ทั่วอเมริกา”

    ในยุคที่ AI กลายเป็นหัวใจของเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลก็พุ่งทะยานตาม ล่าสุด BlackRock ผ่านบริษัทลูก Global Infrastructure Partners (GIP) ได้ประกาศดีลมูลค่า $40 พันล้านเพื่อเข้าซื้อกิจการ Aligned Data Centers ซึ่งมีศูนย์ข้อมูลรวม 78 แห่ง ครอบคลุม 50 แคมปัสในสหรัฐฯ และอเมริกาใต้ รวมกำลังประมวลผลกว่า 5 กิกะวัตต์

    Aligned เป็นผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลที่เน้นรองรับงาน AI โดยเฉพาะ มีลูกค้าระดับ hyperscale และบริษัท AI อย่าง Lambda และเคยได้รับเงินลงทุนกว่า $12 พันล้านในต้นปีนี้จาก Macquarie Asset Management เพื่อเร่งขยายกิจการ

    ดีลนี้ยังมีผู้ร่วมวงอย่าง MGX บริษัทลงทุนด้าน AI ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Mubadala Investment Co. ซึ่งแสดงความสนใจลงทุนใน Aligned แบบแยกต่างหาก โดย MGX ยังมีบทบาทในโครงการ Stargate — ซูเปอร์คอมพิวเตอร์มูลค่า $500 พันล้านที่ได้รับการสนับสนุนจาก OpenAI, Oracle และ SoftBank

    การเข้าซื้อ Aligned จะทำให้ GIP มีพอร์ตศูนย์ข้อมูล AI ขนาดใหญ่ขึ้น โดยก่อนหน้านี้เคยซื้อกิจการ CyrusOne มูลค่า $15 พันล้านในปี 2021 และยังมีแผนซื้อกิจการบริษัทพลังงาน AES Corp. เพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากการใช้งาน AI

    แม้ดีลยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ถือเป็นหนึ่งในดีลใหญ่ที่สุดของปีนี้ และสะท้อนถึงกระแสการลงทุนที่หลั่งไหลเข้าสู่โครงสร้างพื้นฐาน AI อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็มีความกังวลจากนักวิเคราะห์บางส่วนว่า หากเทคโนโลยี AI ยังไม่สามารถสร้างรายได้ตามที่ตลาดคาดหวัง อาจเกิดฟองสบู่ในภาคโครงสร้างพื้นฐานได้

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    BlackRock ผ่าน GIP เตรียมซื้อกิจการ Aligned Data Centers มูลค่า $40 พันล้าน
    Aligned มีศูนย์ข้อมูล 78 แห่งใน 50 แคมปัส รวมกำลังประมวลผลกว่า 5GW
    ลูกค้าหลักของ Aligned ได้แก่ hyperscale cloud และบริษัท AI เช่น Lambda
    Aligned เคยได้รับเงินลงทุน $12 พันล้านจาก Macquarie ในต้นปีนี้
    MGX บริษัทลงทุนด้าน AI จาก Mubadala สนใจลงทุนใน Aligned แบบแยก
    MGX มีบทบาทในโครงการ Stargate ซูเปอร์คอมพิวเตอร์มูลค่า $500 พันล้าน
    GIP เคยซื้อ CyrusOne มูลค่า $15 พันล้านในปี 2021
    GIP กำลังพิจารณาซื้อกิจการ AES Corp. เพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าจาก AI
    ดีลนี้ถือเป็นหนึ่งในดีลโครงสร้างพื้นฐานที่ใหญ่ที่สุดของปี 2025

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ความต้องการศูนย์ข้อมูล AI เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการเติบโตของโมเดล LLM และการใช้งาน edge AI
    การใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูล AI สูงกว่าศูนย์ข้อมูลทั่วไปหลายเท่า
    โครงการ Stargate มีเป้าหมายสร้างระบบที่รองรับชิป AI กว่า 2 ล้านตัว
    ตลาดโครงสร้างพื้นฐาน AI คาดว่าจะมีมูลค่ารวมกว่า $6.7 ล้านล้านภายในปี 2030
    BlackRock มีมูลค่าตลาดรวมกว่า $189 พันล้าน และถือเป็นผู้จัดการสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในโลก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/blackrock-subsidiary-buys-up-78-data-centers-totaling-5-gigawatts-in-usd40-billion-deal-ai-vendor-aligned-added-to-companys-portfolio
    🏢 “BlackRock ทุ่ม $40 พันล้าน ซื้อกิจการศูนย์ข้อมูล Aligned — ขยายพอร์ต AI Infrastructure สู่ 5GW ทั่วอเมริกา” ในยุคที่ AI กลายเป็นหัวใจของเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลก็พุ่งทะยานตาม ล่าสุด BlackRock ผ่านบริษัทลูก Global Infrastructure Partners (GIP) ได้ประกาศดีลมูลค่า $40 พันล้านเพื่อเข้าซื้อกิจการ Aligned Data Centers ซึ่งมีศูนย์ข้อมูลรวม 78 แห่ง ครอบคลุม 50 แคมปัสในสหรัฐฯ และอเมริกาใต้ รวมกำลังประมวลผลกว่า 5 กิกะวัตต์ Aligned เป็นผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลที่เน้นรองรับงาน AI โดยเฉพาะ มีลูกค้าระดับ hyperscale และบริษัท AI อย่าง Lambda และเคยได้รับเงินลงทุนกว่า $12 พันล้านในต้นปีนี้จาก Macquarie Asset Management เพื่อเร่งขยายกิจการ ดีลนี้ยังมีผู้ร่วมวงอย่าง MGX บริษัทลงทุนด้าน AI ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Mubadala Investment Co. ซึ่งแสดงความสนใจลงทุนใน Aligned แบบแยกต่างหาก โดย MGX ยังมีบทบาทในโครงการ Stargate — ซูเปอร์คอมพิวเตอร์มูลค่า $500 พันล้านที่ได้รับการสนับสนุนจาก OpenAI, Oracle และ SoftBank การเข้าซื้อ Aligned จะทำให้ GIP มีพอร์ตศูนย์ข้อมูล AI ขนาดใหญ่ขึ้น โดยก่อนหน้านี้เคยซื้อกิจการ CyrusOne มูลค่า $15 พันล้านในปี 2021 และยังมีแผนซื้อกิจการบริษัทพลังงาน AES Corp. เพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากการใช้งาน AI แม้ดีลยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ถือเป็นหนึ่งในดีลใหญ่ที่สุดของปีนี้ และสะท้อนถึงกระแสการลงทุนที่หลั่งไหลเข้าสู่โครงสร้างพื้นฐาน AI อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็มีความกังวลจากนักวิเคราะห์บางส่วนว่า หากเทคโนโลยี AI ยังไม่สามารถสร้างรายได้ตามที่ตลาดคาดหวัง อาจเกิดฟองสบู่ในภาคโครงสร้างพื้นฐานได้ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ BlackRock ผ่าน GIP เตรียมซื้อกิจการ Aligned Data Centers มูลค่า $40 พันล้าน ➡️ Aligned มีศูนย์ข้อมูล 78 แห่งใน 50 แคมปัส รวมกำลังประมวลผลกว่า 5GW ➡️ ลูกค้าหลักของ Aligned ได้แก่ hyperscale cloud และบริษัท AI เช่น Lambda ➡️ Aligned เคยได้รับเงินลงทุน $12 พันล้านจาก Macquarie ในต้นปีนี้ ➡️ MGX บริษัทลงทุนด้าน AI จาก Mubadala สนใจลงทุนใน Aligned แบบแยก ➡️ MGX มีบทบาทในโครงการ Stargate ซูเปอร์คอมพิวเตอร์มูลค่า $500 พันล้าน ➡️ GIP เคยซื้อ CyrusOne มูลค่า $15 พันล้านในปี 2021 ➡️ GIP กำลังพิจารณาซื้อกิจการ AES Corp. เพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าจาก AI ➡️ ดีลนี้ถือเป็นหนึ่งในดีลโครงสร้างพื้นฐานที่ใหญ่ที่สุดของปี 2025 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ความต้องการศูนย์ข้อมูล AI เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการเติบโตของโมเดล LLM และการใช้งาน edge AI ➡️ การใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูล AI สูงกว่าศูนย์ข้อมูลทั่วไปหลายเท่า ➡️ โครงการ Stargate มีเป้าหมายสร้างระบบที่รองรับชิป AI กว่า 2 ล้านตัว ➡️ ตลาดโครงสร้างพื้นฐาน AI คาดว่าจะมีมูลค่ารวมกว่า $6.7 ล้านล้านภายในปี 2030 ➡️ BlackRock มีมูลค่าตลาดรวมกว่า $189 พันล้าน และถือเป็นผู้จัดการสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในโลก https://www.tomshardware.com/tech-industry/blackrock-subsidiary-buys-up-78-data-centers-totaling-5-gigawatts-in-usd40-billion-deal-ai-vendor-aligned-added-to-companys-portfolio
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 Reviews
  • “Intel เปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ Nova Lake และ Diamond Rapids — ยุคใหม่ของ CPU ที่เน้น AI, ประสิทธิภาพ และความหนาแน่นของคอร์”

    Intel ยืนยันอย่างเป็นทางการถึงสถาปัตยกรรมใหม่สำหรับ CPU รุ่นถัดไปในปี 2026 โดยแบ่งออกเป็นสองสายหลัก ได้แก่ Nova Lake สำหรับผู้ใช้ทั่วไป และ Diamond Rapids สำหรับเซิร์ฟเวอร์ โดยข้อมูลนี้ปรากฏในเอกสาร ISA Reference ล่าสุดของ Intel ซึ่งช่วยยืนยันข่าวลือก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน

    Nova Lake จะใช้ P-Core แบบใหม่ชื่อว่า Coyote Cove และ E-Core ชื่อ Arctic Wolf ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพต่อคอร์ (IPC) และลดการใช้พลังงาน โดยจะรองรับแพลตฟอร์มใหม่ผ่านซ็อกเก็ต LGA 1954 และมี GPU แบบฝังรุ่นใหม่ที่ใช้ Xe3 tile สำหรับกราฟิกที่ดีขึ้นในโน้ตบุ๊กและเดสก์ท็อป

    Nova Lake-S สำหรับเดสก์ท็อปจะมีจำนวนคอร์สูงสุดถึง 52 คอร์ ขณะที่รุ่น HX สำหรับโน้ตบุ๊กจะมีสูงสุด 28 คอร์ และอาจมีรุ่น Nova Lake-AX สำหรับตลาด APU ที่เคยมีข่าวว่าจะเป็นคู่แข่งกับ AMD Strix Halo แต่ตอนนี้ยังอยู่ในสถานะไม่แน่นอน

    ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ Diamond Rapids จะใช้ P-Core แบบ Panther Cove ซึ่งเน้นการเพิ่มความหนาแน่นของคอร์ โดยอาจมีสูงถึง 192–256 คอร์ แต่จะไม่มีฟีเจอร์ Hyper-Threading (SMT) ในรุ่นแรก ซึ่ง Intel ยืนยันว่าจะนำกลับมาในรุ่น Coral Rapids ที่ตามมา

    นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึง Panther Cove-X ซึ่งอาจเป็นรุ่นประสิทธิภาพสูงสำหรับเวิร์กสเตชัน และ Wildcat Lake ซึ่งจะมาแทน Twin Lake ในกลุ่ม APU ระดับเริ่มต้น โดยใช้ Cougar Cove P-Core และ Darkmont E-Core เช่นเดียวกับ Panther Lake

    ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงยุทธศาสตร์ของ Intel ที่เน้นการขยายจำนวนคอร์ ปรับปรุงสถาปัตยกรรม และเตรียมพร้อมสำหรับยุค AI ที่ต้องการการประมวลผลแบบกระจายและมีประสิทธิภาพสูง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Intel ยืนยันสถาปัตยกรรมใหม่สำหรับ CPU ปี 2026 ได้แก่ Nova Lake และ Diamond Rapids
    Nova Lake ใช้ Coyote Cove P-Core และ Arctic Wolf E-Core
    รองรับซ็อกเก็ตใหม่ LGA 1954 และ GPU แบบ Xe3 tile
    Nova Lake-S มีสูงสุด 52 คอร์ ส่วนรุ่น HX มีสูงสุด 28 คอร์
    Diamond Rapids ใช้ Panther Cove P-Core และเน้นความหนาแน่นของคอร์
    ไม่มี SMT ใน Diamond Rapids แต่จะกลับมาใน Coral Rapids
    มีการกล่าวถึง Panther Cove-X สำหรับเวิร์กสเตชัน และ Wildcat Lake สำหรับ APU ระดับเริ่มต้น
    Wildcat Lake ใช้ Cougar Cove P-Core และ Darkmont E-Core
    Intel เตรียมแข่งขันกับ AMD Zen 6 ทั้งในตลาดผู้ใช้ทั่วไปและเซิร์ฟเวอร์

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Xe3 tile เป็น GPU แบบฝังรุ่นใหม่ที่เน้นประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน
    Panther Lake เป็นรุ่นก่อนหน้า Nova Lake ที่ใช้ Cougar Cove และ Darkmont
    Coral Rapids จะนำ SMT กลับมาเพื่อรองรับงานเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการ multithreading
    APU คือชิปที่รวม CPU และ GPU ไว้ในตัวเดียว เหมาะกับงานที่ต้องการกราฟิกแต่ไม่ใช้การ์ดจอแยก
    การเพิ่มจำนวนคอร์ช่วยให้รองรับงานแบบ parallel ได้ดีขึ้น เช่น AI, simulation, และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-next-gen-nova-lake-and-diamond-rapids-microarchitectures-get-official-confirmation-latest-isa-reference-doc-details-the-p-cores-and-e-cores-upcoming-cpus-will-use
    🧠 “Intel เปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ Nova Lake และ Diamond Rapids — ยุคใหม่ของ CPU ที่เน้น AI, ประสิทธิภาพ และความหนาแน่นของคอร์” Intel ยืนยันอย่างเป็นทางการถึงสถาปัตยกรรมใหม่สำหรับ CPU รุ่นถัดไปในปี 2026 โดยแบ่งออกเป็นสองสายหลัก ได้แก่ Nova Lake สำหรับผู้ใช้ทั่วไป และ Diamond Rapids สำหรับเซิร์ฟเวอร์ โดยข้อมูลนี้ปรากฏในเอกสาร ISA Reference ล่าสุดของ Intel ซึ่งช่วยยืนยันข่าวลือก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน Nova Lake จะใช้ P-Core แบบใหม่ชื่อว่า Coyote Cove และ E-Core ชื่อ Arctic Wolf ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพต่อคอร์ (IPC) และลดการใช้พลังงาน โดยจะรองรับแพลตฟอร์มใหม่ผ่านซ็อกเก็ต LGA 1954 และมี GPU แบบฝังรุ่นใหม่ที่ใช้ Xe3 tile สำหรับกราฟิกที่ดีขึ้นในโน้ตบุ๊กและเดสก์ท็อป Nova Lake-S สำหรับเดสก์ท็อปจะมีจำนวนคอร์สูงสุดถึง 52 คอร์ ขณะที่รุ่น HX สำหรับโน้ตบุ๊กจะมีสูงสุด 28 คอร์ และอาจมีรุ่น Nova Lake-AX สำหรับตลาด APU ที่เคยมีข่าวว่าจะเป็นคู่แข่งกับ AMD Strix Halo แต่ตอนนี้ยังอยู่ในสถานะไม่แน่นอน ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ Diamond Rapids จะใช้ P-Core แบบ Panther Cove ซึ่งเน้นการเพิ่มความหนาแน่นของคอร์ โดยอาจมีสูงถึง 192–256 คอร์ แต่จะไม่มีฟีเจอร์ Hyper-Threading (SMT) ในรุ่นแรก ซึ่ง Intel ยืนยันว่าจะนำกลับมาในรุ่น Coral Rapids ที่ตามมา นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึง Panther Cove-X ซึ่งอาจเป็นรุ่นประสิทธิภาพสูงสำหรับเวิร์กสเตชัน และ Wildcat Lake ซึ่งจะมาแทน Twin Lake ในกลุ่ม APU ระดับเริ่มต้น โดยใช้ Cougar Cove P-Core และ Darkmont E-Core เช่นเดียวกับ Panther Lake ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงยุทธศาสตร์ของ Intel ที่เน้นการขยายจำนวนคอร์ ปรับปรุงสถาปัตยกรรม และเตรียมพร้อมสำหรับยุค AI ที่ต้องการการประมวลผลแบบกระจายและมีประสิทธิภาพสูง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Intel ยืนยันสถาปัตยกรรมใหม่สำหรับ CPU ปี 2026 ได้แก่ Nova Lake และ Diamond Rapids ➡️ Nova Lake ใช้ Coyote Cove P-Core และ Arctic Wolf E-Core ➡️ รองรับซ็อกเก็ตใหม่ LGA 1954 และ GPU แบบ Xe3 tile ➡️ Nova Lake-S มีสูงสุด 52 คอร์ ส่วนรุ่น HX มีสูงสุด 28 คอร์ ➡️ Diamond Rapids ใช้ Panther Cove P-Core และเน้นความหนาแน่นของคอร์ ➡️ ไม่มี SMT ใน Diamond Rapids แต่จะกลับมาใน Coral Rapids ➡️ มีการกล่าวถึง Panther Cove-X สำหรับเวิร์กสเตชัน และ Wildcat Lake สำหรับ APU ระดับเริ่มต้น ➡️ Wildcat Lake ใช้ Cougar Cove P-Core และ Darkmont E-Core ➡️ Intel เตรียมแข่งขันกับ AMD Zen 6 ทั้งในตลาดผู้ใช้ทั่วไปและเซิร์ฟเวอร์ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Xe3 tile เป็น GPU แบบฝังรุ่นใหม่ที่เน้นประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน ➡️ Panther Lake เป็นรุ่นก่อนหน้า Nova Lake ที่ใช้ Cougar Cove และ Darkmont ➡️ Coral Rapids จะนำ SMT กลับมาเพื่อรองรับงานเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการ multithreading ➡️ APU คือชิปที่รวม CPU และ GPU ไว้ในตัวเดียว เหมาะกับงานที่ต้องการกราฟิกแต่ไม่ใช้การ์ดจอแยก ➡️ การเพิ่มจำนวนคอร์ช่วยให้รองรับงานแบบ parallel ได้ดีขึ้น เช่น AI, simulation, และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-next-gen-nova-lake-and-diamond-rapids-microarchitectures-get-official-confirmation-latest-isa-reference-doc-details-the-p-cores-and-e-cores-upcoming-cpus-will-use
    0 Comments 0 Shares 63 Views 0 Reviews
  • “Steam อัปเดตใหม่ รองรับจอย DualSense บน Linux ดีขึ้น — พร้อมอุดช่องโหว่ Unity และปรับปรุงหลายระบบเกม”

    Valve ปล่อยอัปเดต Steam Client เวอร์ชันเสถียรล่าสุดในเดือนตุลาคม 2025 ซึ่งมาพร้อมการปรับปรุงสำคัญหลายด้าน โดยเฉพาะการรองรับจอย DualSense ของ PlayStation บนระบบ Linux ที่เคยมีปัญหาเรื่องการเชื่อมต่อแล้วเกิด crash เมื่อจอยอยู่ในสถานะ idle — ตอนนี้ได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว

    นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มฟีเจอร์รองรับ dual gyros สำหรับ Joycons ของ Nintendo Switch เมื่อใช้งานในโหมด combined ซึ่งช่วยให้การควบคุมเกมมีความแม่นยำและลื่นไหลมากขึ้น โดยเฉพาะในเกมที่ใช้การเคลื่อนไหวเป็นหลัก

    อัปเดตนี้ยังเพิ่มความสามารถในการสลับแท็บในเบราว์เซอร์ภายใน Steam ด้วย CTRL+TAB, ปรับปรุงการแสดงผลแบบ High Contrast ในหน้าค้นหาเกม และเพิ่มประสิทธิภาพการบันทึกวิดีโอเกมที่ใช้ Vulkan rendering

    ที่สำคัญคือ Valve ได้เพิ่มการป้องกันช่องโหว่ CVE-2025-59489 ซึ่งเป็นช่องโหว่ใน Unity engine โดย Steam Client จะบล็อกการเปิดเกมทันทีหากตรวจพบพฤติกรรมที่เข้าข่ายการโจมตีผ่านช่องโหว่นี้

    ฝั่ง Windows ก็มีการเพิ่มระบบตรวจสอบ Secure Boot และ TPM ซึ่งจะแสดงในเมนู Help > System Information และถูกนำไปใช้ใน Steam Hardware Survey เพื่อวิเคราะห์ความปลอดภัยของระบบผู้ใช้

    Steam ยังแก้ไขปัญหาการสตรีมที่คลิกแล้วไม่ทำงาน, ปรับปรุง overlay ในเกมที่ใช้ D3D12 ให้ไม่ crash เมื่อเปิด/ปิดหลายส่วนอย่างรวดเร็ว และแก้ปัญหา SteamVR ที่ suppress การแจ้งเตือนหลังออกจากโหมด VR

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Steam Client อัปเดตใหม่รองรับจอย DualSense บน Linux ได้ดีขึ้น
    แก้ปัญหา crash เมื่อจอยอยู่ในสถานะ idle
    เพิ่มการรองรับ dual gyros สำหรับ Joycons ในโหมด combined
    ปรับปรุงการสลับแท็บในเบราว์เซอร์ด้วย CTRL+TAB
    ปรับปรุงการแสดงผล High Contrast ในหน้าค้นหาเกม
    เพิ่มประสิทธิภาพการบันทึกวิดีโอเกมที่ใช้ Vulkan rendering
    เพิ่มการป้องกันช่องโหว่ CVE-2025-59489 ใน Unity engine
    Steam จะบล็อกการเปิดเกมหากตรวจพบการโจมตีผ่านช่องโหว่
    เพิ่มการตรวจสอบ Secure Boot และ TPM บน Windows
    แก้ปัญหาการสตรีม, overlay D3D12 และ SteamVR ที่ suppress การแจ้งเตือน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    DualSense เป็นจอยของ PlayStation 5 ที่มีระบบ haptic feedback และ adaptive triggers
    Joycons ของ Nintendo Switch มี gyroscope แยกในแต่ละข้าง ซึ่งเมื่อรวมกันจะให้การควบคุมที่แม่นยำ
    Vulkan เป็น API กราฟิกที่ให้ประสิทธิภาพสูงและใช้ทรัพยากรน้อยกว่า DirectX
    CVE-2025-59489 เป็นช่องโหว่ที่เปิดให้แฮกเกอร์ inject โค้ดผ่าน Unity engine
    Secure Boot และ TPM เป็นระบบความปลอดภัยที่ช่วยป้องกันการโจมตีระดับ firmware

    https://9to5linux.com/latest-steam-client-update-improves-support-for-dualsense-controllers-on-linux
    🎮 “Steam อัปเดตใหม่ รองรับจอย DualSense บน Linux ดีขึ้น — พร้อมอุดช่องโหว่ Unity และปรับปรุงหลายระบบเกม” Valve ปล่อยอัปเดต Steam Client เวอร์ชันเสถียรล่าสุดในเดือนตุลาคม 2025 ซึ่งมาพร้อมการปรับปรุงสำคัญหลายด้าน โดยเฉพาะการรองรับจอย DualSense ของ PlayStation บนระบบ Linux ที่เคยมีปัญหาเรื่องการเชื่อมต่อแล้วเกิด crash เมื่อจอยอยู่ในสถานะ idle — ตอนนี้ได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มฟีเจอร์รองรับ dual gyros สำหรับ Joycons ของ Nintendo Switch เมื่อใช้งานในโหมด combined ซึ่งช่วยให้การควบคุมเกมมีความแม่นยำและลื่นไหลมากขึ้น โดยเฉพาะในเกมที่ใช้การเคลื่อนไหวเป็นหลัก อัปเดตนี้ยังเพิ่มความสามารถในการสลับแท็บในเบราว์เซอร์ภายใน Steam ด้วย CTRL+TAB, ปรับปรุงการแสดงผลแบบ High Contrast ในหน้าค้นหาเกม และเพิ่มประสิทธิภาพการบันทึกวิดีโอเกมที่ใช้ Vulkan rendering ที่สำคัญคือ Valve ได้เพิ่มการป้องกันช่องโหว่ CVE-2025-59489 ซึ่งเป็นช่องโหว่ใน Unity engine โดย Steam Client จะบล็อกการเปิดเกมทันทีหากตรวจพบพฤติกรรมที่เข้าข่ายการโจมตีผ่านช่องโหว่นี้ ฝั่ง Windows ก็มีการเพิ่มระบบตรวจสอบ Secure Boot และ TPM ซึ่งจะแสดงในเมนู Help > System Information และถูกนำไปใช้ใน Steam Hardware Survey เพื่อวิเคราะห์ความปลอดภัยของระบบผู้ใช้ Steam ยังแก้ไขปัญหาการสตรีมที่คลิกแล้วไม่ทำงาน, ปรับปรุง overlay ในเกมที่ใช้ D3D12 ให้ไม่ crash เมื่อเปิด/ปิดหลายส่วนอย่างรวดเร็ว และแก้ปัญหา SteamVR ที่ suppress การแจ้งเตือนหลังออกจากโหมด VR ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Steam Client อัปเดตใหม่รองรับจอย DualSense บน Linux ได้ดีขึ้น ➡️ แก้ปัญหา crash เมื่อจอยอยู่ในสถานะ idle ➡️ เพิ่มการรองรับ dual gyros สำหรับ Joycons ในโหมด combined ➡️ ปรับปรุงการสลับแท็บในเบราว์เซอร์ด้วย CTRL+TAB ➡️ ปรับปรุงการแสดงผล High Contrast ในหน้าค้นหาเกม ➡️ เพิ่มประสิทธิภาพการบันทึกวิดีโอเกมที่ใช้ Vulkan rendering ➡️ เพิ่มการป้องกันช่องโหว่ CVE-2025-59489 ใน Unity engine ➡️ Steam จะบล็อกการเปิดเกมหากตรวจพบการโจมตีผ่านช่องโหว่ ➡️ เพิ่มการตรวจสอบ Secure Boot และ TPM บน Windows ➡️ แก้ปัญหาการสตรีม, overlay D3D12 และ SteamVR ที่ suppress การแจ้งเตือน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ DualSense เป็นจอยของ PlayStation 5 ที่มีระบบ haptic feedback และ adaptive triggers ➡️ Joycons ของ Nintendo Switch มี gyroscope แยกในแต่ละข้าง ซึ่งเมื่อรวมกันจะให้การควบคุมที่แม่นยำ ➡️ Vulkan เป็น API กราฟิกที่ให้ประสิทธิภาพสูงและใช้ทรัพยากรน้อยกว่า DirectX ➡️ CVE-2025-59489 เป็นช่องโหว่ที่เปิดให้แฮกเกอร์ inject โค้ดผ่าน Unity engine ➡️ Secure Boot และ TPM เป็นระบบความปลอดภัยที่ช่วยป้องกันการโจมตีระดับ firmware https://9to5linux.com/latest-steam-client-update-improves-support-for-dualsense-controllers-on-linux
    9TO5LINUX.COM
    Latest Steam Client Update Improves Support for DualSense Controllers on Linux - 9to5Linux
    Valve released a new Steam Client stable update that improves support for DualSense controllers on Linux systems and fixes various bugs.
    0 Comments 0 Shares 72 Views 0 Reviews
  • 'สุชาติ ชมกลิ่น' ลั่นไม่ยอม บังคับใช้กฎหมายเต็มที่ สั่งกรมป่าไม้ฟ้องยึดคืนพื้นที่ 'บ้านหนองจาน' คืนจากกัมพูชา
    https://www.thai-tai.tv/news/21754/
    .
    #สุชาติชมกลิ่น #ทวงคืนผืนป่า #บ้านหนองจาน #ชายแดนสระแก้ว #ผู้บุกรุกป่า #กรมป่าไม้ #ความมั่นคง #บังคับใช้กฎหมาย
    'สุชาติ ชมกลิ่น' ลั่นไม่ยอม บังคับใช้กฎหมายเต็มที่ สั่งกรมป่าไม้ฟ้องยึดคืนพื้นที่ 'บ้านหนองจาน' คืนจากกัมพูชา https://www.thai-tai.tv/news/21754/ . #สุชาติชมกลิ่น #ทวงคืนผืนป่า #บ้านหนองจาน #ชายแดนสระแก้ว #ผู้บุกรุกป่า #กรมป่าไม้ #ความมั่นคง #บังคับใช้กฎหมาย
    0 Comments 0 Shares 32 Views 0 Reviews
  • “Litestream v0.5.0 มาแล้ว — สำรอง SQLite แบบ Point-in-Time ได้จริง พร้อมฟอร์แมต LTX ที่เร็วกว่าและฉลาดกว่า”

    หลังจากหลายปีที่ SQLite ถูกมองว่าเหมาะกับงานเล็ก ๆ เท่านั้น เพราะไม่มีระบบสำรองข้อมูลที่ดีพอ ล่าสุด Litestream v0.5.0 ได้เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่เปลี่ยนเกม — รองรับการกู้คืนฐานข้อมูลแบบ Point-in-Time Recovery (PITR) ด้วยฟอร์แมตใหม่ชื่อว่า LTX ซึ่งช่วยให้การสำรองและกู้คืนข้อมูลมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างมาก

    Litestream เป็นโปรแกรมโอเพ่นซอร์สที่ทำงานแบบ sidecar คอยจับการเปลี่ยนแปลงในฐานข้อมูล SQLite แล้วส่งไปเก็บไว้ใน object storage เช่น S3, Google Cloud หรือ Azure โดยไม่ต้องแก้ไขแอปพลิเคชันเดิมเลย และเมื่อเซิร์ฟเวอร์ล่ม ก็สามารถกู้คืนฐานข้อมูลกลับมาได้อย่างรวดเร็ว

    ในเวอร์ชันใหม่ Litestream ได้นำแนวคิดจาก LiteFS ซึ่งเป็นโปรเจกต์พี่น้องที่ใช้ FUSE filesystem มาใช้ โดยเปลี่ยนจากการเก็บข้อมูลแบบ WAL segment ไปเป็น LTX file ที่สามารถบีบอัดและจัดเรียงข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถกู้คืนฐานข้อมูลได้จากไฟล์เพียงไม่กี่ชุด

    ฟอร์แมต LTX ยังช่วยให้ Litestream ไม่ต้องใช้ระบบ “generation” แบบเดิมที่ซับซ้อน เพราะสามารถใช้ transaction ID ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อระบุสถานะของฐานข้อมูลในแต่ละช่วงเวลาได้ทันที

    นอกจากนี้ Litestream v0.5.0 ยังปรับปรุงระบบ replica ให้รองรับ NATS JetStream, ยกเลิกการใช้ CGO เพื่อให้ cross-compile ได้ง่ายขึ้น และเปลี่ยนมาใช้ modernc.org/sqlite แทน go-sqlite3 เพื่อรองรับระบบ build อัตโนมัติที่หลากหลายมากขึ้น

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Litestream v0.5.0 รองรับ Point-in-Time Recovery ด้วยฟอร์แมต LTX
    LTX ช่วยบีบอัดและจัดเรียงข้อมูลแบบ transaction-aware ทำให้กู้คืนได้เร็วขึ้น
    ไม่ต้องใช้ระบบ generation แบบเดิมอีกต่อไป ใช้ transaction ID แทน
    รองรับการสำรองข้อมูลไปยัง S3, Google Cloud, Azure และ NATS JetStream
    ยกเลิก CGO และเปลี่ยนมาใช้ modernc.org/sqlite เพื่อรองรับ cross-compile
    เพิ่มระบบ compaction แบบหลายระดับ: 30 วินาที, 5 นาที, 1 ชั่วโมง
    รองรับการกู้คืนฐานข้อมูลด้วยไฟล์เพียงไม่กี่ชุดโดยไม่ต้องโหลดทั้งฐาน
    ฟีเจอร์ใหม่ในอนาคต: Litestream VFS สำหรับ read-replica แบบทันทีจาก S3

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    SQLite ใช้โครงสร้าง B-tree และจัดเก็บข้อมูลเป็น page ขนาด 4KB
    WAL (Write-Ahead Logging) เป็นระบบที่ SQLite ใช้เพื่อจัดการการเขียนข้อมูล
    LiteFS ใช้ FUSE เพื่อเข้าถึง SQLite โดยตรงและทำ replication แบบ live
    Point-in-Time Recovery เป็นฟีเจอร์ที่นิยมในฐานข้อมูลใหญ่ เช่น PostgreSQL
    modernc.org/sqlite เป็นไลบรารี Go ที่ไม่ต้องใช้ CGO ทำให้ build ได้ง่ายกว่า

    https://fly.io/blog/litestream-v050-is-here/
    🗄️ “Litestream v0.5.0 มาแล้ว — สำรอง SQLite แบบ Point-in-Time ได้จริง พร้อมฟอร์แมต LTX ที่เร็วกว่าและฉลาดกว่า” หลังจากหลายปีที่ SQLite ถูกมองว่าเหมาะกับงานเล็ก ๆ เท่านั้น เพราะไม่มีระบบสำรองข้อมูลที่ดีพอ ล่าสุด Litestream v0.5.0 ได้เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่เปลี่ยนเกม — รองรับการกู้คืนฐานข้อมูลแบบ Point-in-Time Recovery (PITR) ด้วยฟอร์แมตใหม่ชื่อว่า LTX ซึ่งช่วยให้การสำรองและกู้คืนข้อมูลมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างมาก Litestream เป็นโปรแกรมโอเพ่นซอร์สที่ทำงานแบบ sidecar คอยจับการเปลี่ยนแปลงในฐานข้อมูล SQLite แล้วส่งไปเก็บไว้ใน object storage เช่น S3, Google Cloud หรือ Azure โดยไม่ต้องแก้ไขแอปพลิเคชันเดิมเลย และเมื่อเซิร์ฟเวอร์ล่ม ก็สามารถกู้คืนฐานข้อมูลกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ในเวอร์ชันใหม่ Litestream ได้นำแนวคิดจาก LiteFS ซึ่งเป็นโปรเจกต์พี่น้องที่ใช้ FUSE filesystem มาใช้ โดยเปลี่ยนจากการเก็บข้อมูลแบบ WAL segment ไปเป็น LTX file ที่สามารถบีบอัดและจัดเรียงข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถกู้คืนฐานข้อมูลได้จากไฟล์เพียงไม่กี่ชุด ฟอร์แมต LTX ยังช่วยให้ Litestream ไม่ต้องใช้ระบบ “generation” แบบเดิมที่ซับซ้อน เพราะสามารถใช้ transaction ID ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อระบุสถานะของฐานข้อมูลในแต่ละช่วงเวลาได้ทันที นอกจากนี้ Litestream v0.5.0 ยังปรับปรุงระบบ replica ให้รองรับ NATS JetStream, ยกเลิกการใช้ CGO เพื่อให้ cross-compile ได้ง่ายขึ้น และเปลี่ยนมาใช้ modernc.org/sqlite แทน go-sqlite3 เพื่อรองรับระบบ build อัตโนมัติที่หลากหลายมากขึ้น ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Litestream v0.5.0 รองรับ Point-in-Time Recovery ด้วยฟอร์แมต LTX ➡️ LTX ช่วยบีบอัดและจัดเรียงข้อมูลแบบ transaction-aware ทำให้กู้คืนได้เร็วขึ้น ➡️ ไม่ต้องใช้ระบบ generation แบบเดิมอีกต่อไป ใช้ transaction ID แทน ➡️ รองรับการสำรองข้อมูลไปยัง S3, Google Cloud, Azure และ NATS JetStream ➡️ ยกเลิก CGO และเปลี่ยนมาใช้ modernc.org/sqlite เพื่อรองรับ cross-compile ➡️ เพิ่มระบบ compaction แบบหลายระดับ: 30 วินาที, 5 นาที, 1 ชั่วโมง ➡️ รองรับการกู้คืนฐานข้อมูลด้วยไฟล์เพียงไม่กี่ชุดโดยไม่ต้องโหลดทั้งฐาน ➡️ ฟีเจอร์ใหม่ในอนาคต: Litestream VFS สำหรับ read-replica แบบทันทีจาก S3 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ SQLite ใช้โครงสร้าง B-tree และจัดเก็บข้อมูลเป็น page ขนาด 4KB ➡️ WAL (Write-Ahead Logging) เป็นระบบที่ SQLite ใช้เพื่อจัดการการเขียนข้อมูล ➡️ LiteFS ใช้ FUSE เพื่อเข้าถึง SQLite โดยตรงและทำ replication แบบ live ➡️ Point-in-Time Recovery เป็นฟีเจอร์ที่นิยมในฐานข้อมูลใหญ่ เช่น PostgreSQL ➡️ modernc.org/sqlite เป็นไลบรารี Go ที่ไม่ต้องใช้ CGO ทำให้ build ได้ง่ายกว่า https://fly.io/blog/litestream-v050-is-here/
    FLY.IO
    Litestream v0.5.0 is Here
    Same Litestream goodness but better, faster, stronger
    0 Comments 0 Shares 64 Views 0 Reviews
  • โครงสร้างสังคมยุคใหม่ 2-10-68 …ภายใต้ระบอบพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข
    2/10/68
     ภาระหน้าที่ของรัฐ : หนุนช่วยภาคประชาชนและสร้างอาชีพให้กับประชาชน หมดปัญหาความเหลื่อมล้ำ - หมดปัญหาคนยากไร้
     ทั้งนี้เพื่อไม่เกิดปัญหาสังคมที่ครอบครัวแย่งชิงทรัพย์สมบัติกันเมื่อลูกหลานเติบโตขึ้น สายใยความรักแห่งครอบครัวและเครือญาติก็จะมั่นคงยั่งยืนและสุขใจ
     ปัญหาความขัดแย้งลูกจ้าง-นายจ้างก็จะหมดไป
     ปัญหาความโลภความเห็นแก่ตัวของนักการเมืองและส.ส.ก็จะสลายไป
     การเรียน เรียนที่ใจชอบ ที่ไม่ชอบไม่ต้องเสียเวลาเรียน จบแล้วให้อาชีพทำเลย (มีระบบทดสอบความชอบตั้งแต่เตรียมอนุบาล รู้ชัดแล้วแววชอบและทักษะไปทางใหนก็เสริมวิชาไปทางนั้น จัดให้เลย)
     การค้ายาเสบติด และ คอร์รัปชั่น โทษติดคุกและถึงขั้นประหารชีวิต ต้องเฉียบขาด

    1. ก่อนอื่น ลดค่าครองชีพประชาชน สร้างกำลังซื้อ สร้างภาวะหมุนเวียน
    - บ้านพักฟรี สถานที่ประกอบอาชีพฟรี การศึกษาฟรี
    - สนองเครื่องประกอบอาชีพฟรี เป็นรายบุคคล
    - สนองเครื่องประกอบอาชีพฟรี เครื่องมือพัฒนาจัดให้เลย เป็นคณะ นำโดยผู้นำ กรณีเกษตร ควรเป็นคณะ-ควรเป็นชุมชน ที่ดินจะได้ผืนใหญ่ ง่ายต่อเครื่องจักรใหญ่ การเป็นชุมชนการแปรพืชผลเกตรได้หลากหลาย (อาจต้องเสริมผู้จบหลักสูตรทำอาหารและชนม) ซึ่งนำโดยผู้นำและผู้บริหาร
    -สนองเครื่องเทคโนโลยี-ไฮเทค หุ้นส่วน+ภาครัฐ นำโดยผู้นำและผู้บริหาร

     ภาคประชาชน หนุนช่วยรัฐ :
    1.เมื่อปัจจัยพื้นฐานต่างๆในการประกอบอาชีพ ภาครัฐนั้นสนองให้ทั้งหมดแล้ว
    ส่วนภาคประชาชน การหนุนช่วยต่อภาครัฐ นั้น คือ ภาระหน้าที่ เสียภาษีแก่รัฐ (เพื่อรัฐจะได้ช่วยด้านต่างๆได้มากขึ้น) กิจการเล็ก-ใหญ่ล้วนต้องเสียภาษีตามรายได้-ตามยอดขาย โดยผ่านระบบคิวอาร์โค้ต เพื่อให้เงินภาษีไหลเวียนสู่การคลังได้ทันที เพื่อให้ภาครัฐมีกำลังเงินคล่องตัวหมุนเวียน
    # อุทิศเพื่อสังคม : หนุนช่วยภาครัฐในด้านต่างๆ
    # สนับสนุนหนุนช่วยต่อชนรุ่นใหม่ อาชีพเกิดใหม่
    *คำขวัญ คือ ช่วยชาติ ช่วยรัฐ ช่วยคนรุ่นใหม่- สิ่งเกิดใหม่!

    2.ธุรกิจประเภท “เก็งกำไร” จะต้องไม่ให้มี ในประเทศไทย (อย่าเหมือนจีนที่ประสพปัญหาเช่น วิกฤติอสังหาฯ และการศึกษาเอกชน(การเรียนแข่งกันสูงและแพง) เป็นภาระค่าใช้จ่ายสูงมาก ทำให้คนหนุ่มสาวไม่ยอมแต่งงาน ถ้าจะแต่งก็ไม่ยอมมีลูก เป็นผลให้ประชากรประเทศลดลง (ไม่สน ที่รัฐบาลมี นโยบายให้มีลูกสามคน – จากหนึ่งคน)

    *ประเทศไทย ต้องไม่มี ธุรกิจประเภท “เก็งกำไร” เช่น
    - ธุรกิจอสังหาฯ
    - ธุรกิจซื้อขายที่ดิน
    -ธุรกิจตลาดหลักทรัพย์
    -ธุรกิจปล่อยกู้
    -ธุรกิจการธนาคารเอกชน (ยกเว้นภาครัฐ่)
    -ธุรกิจการศึกษาเอกชนทั้งปวง
    • นับตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมหาวิทยาลัยเอกชน อีกทั้ง มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ: รวมทั้งสอนพิเศษ (เป็นหน้าที่โดยรัฐ่เท่านั้น)
    2.1 ธุรกิจอสังหา ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจปล่อยกู้
    พักหนี้ทั้งหมด 3 ปี ภาครัฐจะชดเชยให้แทน

    หมายเหตุ โครงสร้างสังคมยุคใหม่ ที่เขียนมานี้ เป็นเพียง ”รูปแบบโครงสร้างสังคมตัวอย่าง” จึงต้อง ช่วยกันคิด ช่วยกันเขียนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพื่อเป็นเข็มทิศรูปธรรมแก่สังคม เป็นเป้าหมายให้มุ่งไป
    - ซึ่งการเคลื่อนไหวนั้น
    - ต้องมีเข็มทิศรูปธรรมเพื่อเป็นเป้าหมายนำพา และเป็นเป้าหมายของการตั้งพรรคของเราด้วย
    - คือต้อง “มีสามสิ่งนี้พร้อม!” ประเทศไทยเปลี่ยน!
    - 1.พลังของประชาชน (หมอเขียว คปท. คณะรวมพลังแผ่นดิน พันธมิตร=ต่างมีความพร้อม) สิ่งที่1นี้พร้อม
    - 2.เข็มทิศเป้าหมายรูปธรรม (รูปแบบโครงสร้างสังคมยุคใหม่ที่ตกผลึกกันแล้ว) สิ่งที่2นี้พร้อม
    - 3. โฉมหน้า “พรรคการเมืองใหม่หรือยุคใหม่นี้” ตั้งพรรคสำเร็จ คือ สิ่งที่3นี้พร้อม
    -
    อาวุธวิเศษสามสิ่งนี้ จะขาด จะหย่อนสิ่งใดไม่ได้

    การเลือกตั้งปี70ครั้งนี้(ช่วง28มิย.2570}
    ต้องตั้ง “พรรคการเมืองใหม่หรือยุคใหม่”เกิดขึ้นและ ชนะเลือกตั้ง ให้มีทุกจังหวัด ทุกอำเภอ

    A---------------------------------------------
    (คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ : ที่สำคัญ “การเลือกตั้ง”เป็นกระบวนการสำคัญในการปกครองระบอบประชาธิปไตยทางผู้แทน เพื่อกำหนดว่าใครจะเป็นผู้เข้าไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อใช้อำนาจอธิปไตยแทนประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตย อาจกล่าวได้ว่าหากการปกครองใดไม่มีการเลือกตั้งย่อมไม่ใช่การปกครองระบอบประชาธิปไตย
    ประเทศไทยจึงเกิดภาวการณ์ ส.ส.และ นักการเมืองใช้หลากกลวิธีสกปรกแย่งชิงกันเพื่อเอาชนะเลือกตั้ง เพื่อมีสิทธิ์เข้าไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อยึดอำนาจอธิปไตยที่ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตยของบ้านเมือง
    เพื่อยึดอำนาจ เพื่อเข้ากอบโกย

    จึงเป็นกติกาประเทศ ผู้ใดพรรคใดชนะเลือกตั้งก็มีสิทธ์มีอำนาจปกครองประเทศแทนประชาชน
    เจ้าของประเทศ

    a--------------------------------------
    พอดีช่วง28มิย.2570 จะมีการเลือกตั้ง
    จึงเป็นช่วงจังหวะที่ดีที่กระแสเหล่าพรรคการเมืองตกต่ำ
    จึงเป็นโอกาสตั้งพรรคการเมืองของเรา ซึ่งไม่ใช่ความต้องการส่วนตัว “อยากดัง” เลิกมองแบบนี้ได้เลย คำๆนี้ เป็นคำ”บอนไซ อนาคตประเทศ”
    เราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ ต้องมีพรรค “เป็นกองหน้า” พรรคหนึ่งชื่อว่า พรรคการเมืองใหม่หรือพรรคการเมืองยุคใหม่ โดยมีนโยบายรูปธรรมเป็นเป้าหมาย
    การลงสมัครพรรคการเมือง (จึงมีสิทธิ์ลงเลือกตั้ง)
    การลงเลือกตั้ง(จีงจะมีสิทธิคว้าอำนาจทางการเมืองมันเป็นกติกาของบ้านเมือง) ความคิดจึงจะเป็นจริง

    การเคลื่อนไหว “ (หมอเขียว คปท. คณะรวมพลังแผ่นดิน พันธมิตร )สร้างความตื่นตัวของประชาชน
    คือ รูปการที่1 ส่วน (การตั้งพรรคการเมือง) เพื่อมุ่งสู่ยึดอำนาจรัฐ ด้วยรูปแบบตามกติกา “เลือกตั้ง”คือรูปการที่2 ทั้งสองรูปการต้องเดินคู่ขนานกันไป



    a------------------------------------

    ประเทศเนปาล ปัญหาเปราะบางของเขา คือ มีความเหลื่อมล้ำสูง จากการคอรัปชั่นของนักการเมือง คือการลงถนน 20 กว่าปี ของเขาต้องการเปลี่ยนแปลง อันดับแรกก็คือ “กษัตริย์” ที่ปกครองอยู่ ลงถนนกดดันขับไล่ จนกษัตริย์ลาออก ฝูงชนดีใจร้องรำทำเพลงกันเต็มท้องถนนที่จะได้ “ระบอบประชาธิปไตย”กันแล้ว จึงได้ “นักการเมือง -ส.ส.” มา ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าครองอำนาจ ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย ก็แก้ความเหลื่อมล้ำไม่ได้ ด้วยเนปาลพื้นที่ทำเกษตรเป็นป่าเขาเยอะจึงดึงพรรคคอมมิวนิสต์เข้ามา ทั้งเหมาอีดส์ และมาร์กซ์ ทำสงครามรบ ร่วม10ปี มีตายและบาดเจ็บ นายกรัฐมนตรีขณะนั้นลงจับมือกับหัวหน้าพรรคฯออกกฎหมาย “พรรคคอมมิวต์ถูกต้องตามกฎหมาย สมัครเป็นพรรคการเมืองได้ จึงทำให้ประชาชนพากันผิดหวังกันไป ซึ่งปัญหาความเหลื่อมล้ำก็ไม่ได้รับการแก้ไข ขณะเดียวกันก็อัญเชิญกษัตรย์องค์เดิมมาปกครองต่อ อีกทั้งเห็นลูกหลานนักการเมืองใช้ชีวิตหรูหราใส่ชุดแบนด์หรู ออกสื่อโชว์ความสุขสำราญของพวกเขา ประจวบกับเหล่านักการเมืองในสภาผ่านเพิ่มเงินเดือนให้กันเอง ออกภาพสื่อร้องรำเต้นด้วยความดีใจกัน มีการคุมวัยเจนชีไม่ให้เข้าถึง แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ เท่านั้นแหละ การเคลื่อนไหวลงถนนลุกลามไปใหญ่ ถึงแม้ ประกดาศยกเลิกการห้ามดูเน็ตก็เอาไม่อยู่ มีการเผาสภา เผาสถานที่ราชการ เผาบ้านนายกรัฐมนตรี ต่างๆ ไล่ทำร้ายรัฐมนตรีคลัง หนีลงน้ำยังถูกตามไล่ทำร้าย จนทหารออกมาระงับสถานการณ์ แต่เอาไม่อยู่ จนนายพลทับบกต้องออกมาเอง ขอคุยกับผู้นำกลุ่มเจนซี
    ตกลงจะมอบให้“สุศิลา คาร์กี”อดีตประธานศาลฎีกาเนปาล เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการของเนปาล
    จัดให้การเลือกตั้งภายใน 6 เดือน (หลังเลือกตั้งเนปาลก็ยังคงเหมือนเดิม) พรรคการเมืองใหญ่8พรรคยังคงอยู่ : พรรคการเมืองหลัก 8 พรรคของเนปาล รวมถึง พรรคคองเกรสเนปาล (Nepali Congress) พรรคคอมมิวนิสต์เนปาล (รวมลัทธิมาร์กซ์-เลนินิสต์) (CPN-UML) และพรรคคอมมิวนิสต์เนปาล (ลัทธิเหมา) เนปาลจะไม่มีทางเปลี่ยนโฉมได้เลย
    สาเหตุเพราะ ขาดพรรคนำ ขาดเข็มทิศโครงสร้างสังคมเป็นเป้าหมาย ขาดพลังมวลชนที่ตื่นตัวทางทฤษฎี










    โครงสร้างสังคมยุคใหม่ 2-10-68 …ภายใต้ระบอบพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข 2/10/68  ภาระหน้าที่ของรัฐ : หนุนช่วยภาคประชาชนและสร้างอาชีพให้กับประชาชน หมดปัญหาความเหลื่อมล้ำ - หมดปัญหาคนยากไร้  ทั้งนี้เพื่อไม่เกิดปัญหาสังคมที่ครอบครัวแย่งชิงทรัพย์สมบัติกันเมื่อลูกหลานเติบโตขึ้น สายใยความรักแห่งครอบครัวและเครือญาติก็จะมั่นคงยั่งยืนและสุขใจ  ปัญหาความขัดแย้งลูกจ้าง-นายจ้างก็จะหมดไป  ปัญหาความโลภความเห็นแก่ตัวของนักการเมืองและส.ส.ก็จะสลายไป  การเรียน เรียนที่ใจชอบ ที่ไม่ชอบไม่ต้องเสียเวลาเรียน จบแล้วให้อาชีพทำเลย (มีระบบทดสอบความชอบตั้งแต่เตรียมอนุบาล รู้ชัดแล้วแววชอบและทักษะไปทางใหนก็เสริมวิชาไปทางนั้น จัดให้เลย)  การค้ายาเสบติด และ คอร์รัปชั่น โทษติดคุกและถึงขั้นประหารชีวิต ต้องเฉียบขาด 1. ก่อนอื่น ลดค่าครองชีพประชาชน สร้างกำลังซื้อ สร้างภาวะหมุนเวียน - บ้านพักฟรี สถานที่ประกอบอาชีพฟรี การศึกษาฟรี - สนองเครื่องประกอบอาชีพฟรี เป็นรายบุคคล - สนองเครื่องประกอบอาชีพฟรี เครื่องมือพัฒนาจัดให้เลย เป็นคณะ นำโดยผู้นำ กรณีเกษตร ควรเป็นคณะ-ควรเป็นชุมชน ที่ดินจะได้ผืนใหญ่ ง่ายต่อเครื่องจักรใหญ่ การเป็นชุมชนการแปรพืชผลเกตรได้หลากหลาย (อาจต้องเสริมผู้จบหลักสูตรทำอาหารและชนม) ซึ่งนำโดยผู้นำและผู้บริหาร -สนองเครื่องเทคโนโลยี-ไฮเทค หุ้นส่วน+ภาครัฐ นำโดยผู้นำและผู้บริหาร  ภาคประชาชน หนุนช่วยรัฐ : 1.เมื่อปัจจัยพื้นฐานต่างๆในการประกอบอาชีพ ภาครัฐนั้นสนองให้ทั้งหมดแล้ว ส่วนภาคประชาชน การหนุนช่วยต่อภาครัฐ นั้น คือ ภาระหน้าที่ เสียภาษีแก่รัฐ (เพื่อรัฐจะได้ช่วยด้านต่างๆได้มากขึ้น) กิจการเล็ก-ใหญ่ล้วนต้องเสียภาษีตามรายได้-ตามยอดขาย โดยผ่านระบบคิวอาร์โค้ต เพื่อให้เงินภาษีไหลเวียนสู่การคลังได้ทันที เพื่อให้ภาครัฐมีกำลังเงินคล่องตัวหมุนเวียน # อุทิศเพื่อสังคม : หนุนช่วยภาครัฐในด้านต่างๆ # สนับสนุนหนุนช่วยต่อชนรุ่นใหม่ อาชีพเกิดใหม่ *คำขวัญ คือ ช่วยชาติ ช่วยรัฐ ช่วยคนรุ่นใหม่- สิ่งเกิดใหม่! 2.ธุรกิจประเภท “เก็งกำไร” จะต้องไม่ให้มี ในประเทศไทย (อย่าเหมือนจีนที่ประสพปัญหาเช่น วิกฤติอสังหาฯ และการศึกษาเอกชน(การเรียนแข่งกันสูงและแพง) เป็นภาระค่าใช้จ่ายสูงมาก ทำให้คนหนุ่มสาวไม่ยอมแต่งงาน ถ้าจะแต่งก็ไม่ยอมมีลูก เป็นผลให้ประชากรประเทศลดลง (ไม่สน ที่รัฐบาลมี นโยบายให้มีลูกสามคน – จากหนึ่งคน) *ประเทศไทย ต้องไม่มี ธุรกิจประเภท “เก็งกำไร” เช่น - ธุรกิจอสังหาฯ - ธุรกิจซื้อขายที่ดิน -ธุรกิจตลาดหลักทรัพย์ -ธุรกิจปล่อยกู้ -ธุรกิจการธนาคารเอกชน (ยกเว้นภาครัฐ่) -ธุรกิจการศึกษาเอกชนทั้งปวง • นับตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมหาวิทยาลัยเอกชน อีกทั้ง มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ: รวมทั้งสอนพิเศษ (เป็นหน้าที่โดยรัฐ่เท่านั้น) 2.1 ธุรกิจอสังหา ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจปล่อยกู้ พักหนี้ทั้งหมด 3 ปี ภาครัฐจะชดเชยให้แทน หมายเหตุ โครงสร้างสังคมยุคใหม่ ที่เขียนมานี้ เป็นเพียง ”รูปแบบโครงสร้างสังคมตัวอย่าง” จึงต้อง ช่วยกันคิด ช่วยกันเขียนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพื่อเป็นเข็มทิศรูปธรรมแก่สังคม เป็นเป้าหมายให้มุ่งไป - ซึ่งการเคลื่อนไหวนั้น - ต้องมีเข็มทิศรูปธรรมเพื่อเป็นเป้าหมายนำพา และเป็นเป้าหมายของการตั้งพรรคของเราด้วย - คือต้อง “มีสามสิ่งนี้พร้อม!” ประเทศไทยเปลี่ยน! - 1.พลังของประชาชน (หมอเขียว คปท. คณะรวมพลังแผ่นดิน พันธมิตร=ต่างมีความพร้อม) สิ่งที่1นี้พร้อม - 2.เข็มทิศเป้าหมายรูปธรรม (รูปแบบโครงสร้างสังคมยุคใหม่ที่ตกผลึกกันแล้ว) สิ่งที่2นี้พร้อม - 3. โฉมหน้า “พรรคการเมืองใหม่หรือยุคใหม่นี้” ตั้งพรรคสำเร็จ คือ สิ่งที่3นี้พร้อม - อาวุธวิเศษสามสิ่งนี้ จะขาด จะหย่อนสิ่งใดไม่ได้ – การเลือกตั้งปี70ครั้งนี้(ช่วง28มิย.2570} ต้องตั้ง “พรรคการเมืองใหม่หรือยุคใหม่”เกิดขึ้นและ ชนะเลือกตั้ง ให้มีทุกจังหวัด ทุกอำเภอ A--------------------------------------------- (คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ : ที่สำคัญ “การเลือกตั้ง”เป็นกระบวนการสำคัญในการปกครองระบอบประชาธิปไตยทางผู้แทน เพื่อกำหนดว่าใครจะเป็นผู้เข้าไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อใช้อำนาจอธิปไตยแทนประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตย อาจกล่าวได้ว่าหากการปกครองใดไม่มีการเลือกตั้งย่อมไม่ใช่การปกครองระบอบประชาธิปไตย ประเทศไทยจึงเกิดภาวการณ์ ส.ส.และ นักการเมืองใช้หลากกลวิธีสกปรกแย่งชิงกันเพื่อเอาชนะเลือกตั้ง เพื่อมีสิทธิ์เข้าไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อยึดอำนาจอธิปไตยที่ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตยของบ้านเมือง เพื่อยึดอำนาจ เพื่อเข้ากอบโกย จึงเป็นกติกาประเทศ ผู้ใดพรรคใดชนะเลือกตั้งก็มีสิทธ์มีอำนาจปกครองประเทศแทนประชาชน เจ้าของประเทศ a-------------------------------------- พอดีช่วง28มิย.2570 จะมีการเลือกตั้ง จึงเป็นช่วงจังหวะที่ดีที่กระแสเหล่าพรรคการเมืองตกต่ำ จึงเป็นโอกาสตั้งพรรคการเมืองของเรา ซึ่งไม่ใช่ความต้องการส่วนตัว “อยากดัง” เลิกมองแบบนี้ได้เลย คำๆนี้ เป็นคำ”บอนไซ อนาคตประเทศ” เราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ ต้องมีพรรค “เป็นกองหน้า” พรรคหนึ่งชื่อว่า พรรคการเมืองใหม่หรือพรรคการเมืองยุคใหม่ โดยมีนโยบายรูปธรรมเป็นเป้าหมาย การลงสมัครพรรคการเมือง (จึงมีสิทธิ์ลงเลือกตั้ง) การลงเลือกตั้ง(จีงจะมีสิทธิคว้าอำนาจทางการเมืองมันเป็นกติกาของบ้านเมือง) ความคิดจึงจะเป็นจริง การเคลื่อนไหว “ (หมอเขียว คปท. คณะรวมพลังแผ่นดิน พันธมิตร )สร้างความตื่นตัวของประชาชน คือ รูปการที่1 ส่วน (การตั้งพรรคการเมือง) เพื่อมุ่งสู่ยึดอำนาจรัฐ ด้วยรูปแบบตามกติกา “เลือกตั้ง”คือรูปการที่2 ทั้งสองรูปการต้องเดินคู่ขนานกันไป a------------------------------------ ประเทศเนปาล ปัญหาเปราะบางของเขา คือ มีความเหลื่อมล้ำสูง จากการคอรัปชั่นของนักการเมือง คือการลงถนน 20 กว่าปี ของเขาต้องการเปลี่ยนแปลง อันดับแรกก็คือ “กษัตริย์” ที่ปกครองอยู่ ลงถนนกดดันขับไล่ จนกษัตริย์ลาออก ฝูงชนดีใจร้องรำทำเพลงกันเต็มท้องถนนที่จะได้ “ระบอบประชาธิปไตย”กันแล้ว จึงได้ “นักการเมือง -ส.ส.” มา ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าครองอำนาจ ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย ก็แก้ความเหลื่อมล้ำไม่ได้ ด้วยเนปาลพื้นที่ทำเกษตรเป็นป่าเขาเยอะจึงดึงพรรคคอมมิวนิสต์เข้ามา ทั้งเหมาอีดส์ และมาร์กซ์ ทำสงครามรบ ร่วม10ปี มีตายและบาดเจ็บ นายกรัฐมนตรีขณะนั้นลงจับมือกับหัวหน้าพรรคฯออกกฎหมาย “พรรคคอมมิวต์ถูกต้องตามกฎหมาย สมัครเป็นพรรคการเมืองได้ จึงทำให้ประชาชนพากันผิดหวังกันไป ซึ่งปัญหาความเหลื่อมล้ำก็ไม่ได้รับการแก้ไข ขณะเดียวกันก็อัญเชิญกษัตรย์องค์เดิมมาปกครองต่อ อีกทั้งเห็นลูกหลานนักการเมืองใช้ชีวิตหรูหราใส่ชุดแบนด์หรู ออกสื่อโชว์ความสุขสำราญของพวกเขา ประจวบกับเหล่านักการเมืองในสภาผ่านเพิ่มเงินเดือนให้กันเอง ออกภาพสื่อร้องรำเต้นด้วยความดีใจกัน มีการคุมวัยเจนชีไม่ให้เข้าถึง แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ เท่านั้นแหละ การเคลื่อนไหวลงถนนลุกลามไปใหญ่ ถึงแม้ ประกดาศยกเลิกการห้ามดูเน็ตก็เอาไม่อยู่ มีการเผาสภา เผาสถานที่ราชการ เผาบ้านนายกรัฐมนตรี ต่างๆ ไล่ทำร้ายรัฐมนตรีคลัง หนีลงน้ำยังถูกตามไล่ทำร้าย จนทหารออกมาระงับสถานการณ์ แต่เอาไม่อยู่ จนนายพลทับบกต้องออกมาเอง ขอคุยกับผู้นำกลุ่มเจนซี ตกลงจะมอบให้“สุศิลา คาร์กี”อดีตประธานศาลฎีกาเนปาล เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการของเนปาล จัดให้การเลือกตั้งภายใน 6 เดือน (หลังเลือกตั้งเนปาลก็ยังคงเหมือนเดิม) พรรคการเมืองใหญ่8พรรคยังคงอยู่ : พรรคการเมืองหลัก 8 พรรคของเนปาล รวมถึง พรรคคองเกรสเนปาล (Nepali Congress) พรรคคอมมิวนิสต์เนปาล (รวมลัทธิมาร์กซ์-เลนินิสต์) (CPN-UML) และพรรคคอมมิวนิสต์เนปาล (ลัทธิเหมา) เนปาลจะไม่มีทางเปลี่ยนโฉมได้เลย สาเหตุเพราะ ขาดพรรคนำ ขาดเข็มทิศโครงสร้างสังคมเป็นเป้าหมาย ขาดพลังมวลชนที่ตื่นตัวทางทฤษฎี
    0 Comments 0 Shares 80 Views 0 Reviews
  • “Ransomware ยุคใหม่ใช้ AnyDesk และ Splashtop เป็นอาวุธ — แฝงตัวในเครื่ององค์กรแบบถูกกฎหมาย หลบแอนตี้ไวรัสได้เนียนกริบ”

    ในยุคที่การโจมตีไซเบอร์มีความซับซ้อนมากขึ้น กลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้ Ransomware ได้พัฒนาเทคนิคใหม่โดยอาศัยเครื่องมือที่ “ถูกกฎหมาย” อย่าง Remote Access Tools (RATs) เช่น AnyDesk, UltraViewer, RustDesk, Splashtop และ TightVNC เพื่อแฝงตัวในระบบองค์กรโดยไม่ถูกตรวจจับ

    รายงานจาก Seqrite Threat Intelligence ระบุว่า RAT เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อการดูแลระบบ IT และการสนับสนุนทางไกล ซึ่งมักถูก whitelist โดยองค์กร ทำให้แฮกเกอร์สามารถใช้เป็นช่องทางเข้าถึงระบบได้อย่างแนบเนียน โดยไม่ต้องสร้างมัลแวร์ใหม่ให้เสี่ยงถูกตรวจจับ

    ขั้นตอนการโจมตีเริ่มจากการขโมยหรือ brute-force รหัสผ่านเพื่อเข้าระบบ จากนั้นแฮกเกอร์จะ hijack โปรแกรม RAT ที่มีอยู่ หรือแอบติดตั้งใหม่แบบ silent install โดยใช้ไฟล์ที่มีลายเซ็นถูกต้อง ทำให้ระบบไม่สงสัย จากนั้นจะใช้เทคนิค registry run keys, scheduled tasks และ PowerRun เพื่อให้ RAT ทำงานด้วยสิทธิ์ SYSTEM

    เมื่อฝังตัวได้แล้ว แฮกเกอร์จะปิดบริการแอนตี้ไวรัส ลบ log และใช้เครื่องมือ shred file เพื่อทำลายหลักฐาน ก่อนจะปล่อย payload ransomware ที่แฝงมาในรูปแบบ “อัปเดตซอฟต์แวร์” และแพร่กระจายผ่านเครือข่ายโดยใช้ credential reuse หรือ deploy RAT ทั่วองค์กร

    รายงานยังระบุว่า RAT เหล่านี้ถูกใช้ในหลายแคมเปญ ransomware เช่น LockBit, Phobos, Dharma, MedusaLocker, Mallox, Beast, CERBER, GlobeImposter, Mimic, Dyamond, Makop และ RansomHub โดยการใช้ซอฟต์แวร์ที่มีลายเซ็นถูกต้องทำให้การโจมตีดูเหมือนการดูแลระบบตามปกติ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    กลุ่ม ransomware ใช้ Remote Access Tools (RATs) ที่ถูกกฎหมายเพื่อแฝงตัวในระบบ
    เครื่องมือที่ถูกใช้ ได้แก่ AnyDesk, UltraViewer, RustDesk, Splashtop, TightVNC
    RAT เหล่านี้มักถูก whitelist โดยองค์กร ทำให้แฮกเกอร์ใช้ได้โดยไม่ถูกตรวจจับ
    ขั้นตอนโจมตีเริ่มจากการขโมยรหัสผ่าน แล้ว hijack หรือ install RAT แบบเงียบ
    ใช้ registry run keys, scheduled tasks และ PowerRun เพื่อให้ RAT ทำงานด้วยสิทธิ์ SYSTEM
    แฮกเกอร์ปิดแอนตี้ไวรัส ลบ log และ shred file เพื่อทำลายหลักฐาน
    ปล่อย ransomware ผ่าน RAT โดยแฝงเป็นอัปเดตซอฟต์แวร์
    RAT ถูกใช้ในแคมเปญ ransomware หลายกลุ่ม เช่น LockBit, Dharma, MedusaLocker
    การใช้ซอฟต์แวร์ที่มีลายเซ็นถูกต้องช่วยให้การโจมตีดูเหมือนการดูแลระบบปกติ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    RAT ถูกใช้ในงาน IT อย่างถูกต้อง เช่น remote support และการดูแลเซิร์ฟเวอร์
    Silent install มักใช้ flag เช่น /S, /VERYSILENT, /quiet เพื่อไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว
    PowerRun เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้โปรแกรมทำงานด้วยสิทธิ์ SYSTEM โดยไม่ต้อง UAC
    การ whitelist ซอฟต์แวร์โดยไม่ตรวจสอบพฤติกรรม อาจเปิดช่องให้แฮกเกอร์ใช้ได้
    การโจมตีแบบนี้เรียกว่า “living off the land” คือใช้เครื่องมือที่มีอยู่ในระบบเพื่อหลบการตรวจจับ

    https://securityonline.info/ransomware-gangs-weaponize-anydesk-splashtop-and-other-legitimate-rats-to-bypass-security/
    🕵️‍♂️ “Ransomware ยุคใหม่ใช้ AnyDesk และ Splashtop เป็นอาวุธ — แฝงตัวในเครื่ององค์กรแบบถูกกฎหมาย หลบแอนตี้ไวรัสได้เนียนกริบ” ในยุคที่การโจมตีไซเบอร์มีความซับซ้อนมากขึ้น กลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้ Ransomware ได้พัฒนาเทคนิคใหม่โดยอาศัยเครื่องมือที่ “ถูกกฎหมาย” อย่าง Remote Access Tools (RATs) เช่น AnyDesk, UltraViewer, RustDesk, Splashtop และ TightVNC เพื่อแฝงตัวในระบบองค์กรโดยไม่ถูกตรวจจับ รายงานจาก Seqrite Threat Intelligence ระบุว่า RAT เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อการดูแลระบบ IT และการสนับสนุนทางไกล ซึ่งมักถูก whitelist โดยองค์กร ทำให้แฮกเกอร์สามารถใช้เป็นช่องทางเข้าถึงระบบได้อย่างแนบเนียน โดยไม่ต้องสร้างมัลแวร์ใหม่ให้เสี่ยงถูกตรวจจับ ขั้นตอนการโจมตีเริ่มจากการขโมยหรือ brute-force รหัสผ่านเพื่อเข้าระบบ จากนั้นแฮกเกอร์จะ hijack โปรแกรม RAT ที่มีอยู่ หรือแอบติดตั้งใหม่แบบ silent install โดยใช้ไฟล์ที่มีลายเซ็นถูกต้อง ทำให้ระบบไม่สงสัย จากนั้นจะใช้เทคนิค registry run keys, scheduled tasks และ PowerRun เพื่อให้ RAT ทำงานด้วยสิทธิ์ SYSTEM เมื่อฝังตัวได้แล้ว แฮกเกอร์จะปิดบริการแอนตี้ไวรัส ลบ log และใช้เครื่องมือ shred file เพื่อทำลายหลักฐาน ก่อนจะปล่อย payload ransomware ที่แฝงมาในรูปแบบ “อัปเดตซอฟต์แวร์” และแพร่กระจายผ่านเครือข่ายโดยใช้ credential reuse หรือ deploy RAT ทั่วองค์กร รายงานยังระบุว่า RAT เหล่านี้ถูกใช้ในหลายแคมเปญ ransomware เช่น LockBit, Phobos, Dharma, MedusaLocker, Mallox, Beast, CERBER, GlobeImposter, Mimic, Dyamond, Makop และ RansomHub โดยการใช้ซอฟต์แวร์ที่มีลายเซ็นถูกต้องทำให้การโจมตีดูเหมือนการดูแลระบบตามปกติ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ กลุ่ม ransomware ใช้ Remote Access Tools (RATs) ที่ถูกกฎหมายเพื่อแฝงตัวในระบบ ➡️ เครื่องมือที่ถูกใช้ ได้แก่ AnyDesk, UltraViewer, RustDesk, Splashtop, TightVNC ➡️ RAT เหล่านี้มักถูก whitelist โดยองค์กร ทำให้แฮกเกอร์ใช้ได้โดยไม่ถูกตรวจจับ ➡️ ขั้นตอนโจมตีเริ่มจากการขโมยรหัสผ่าน แล้ว hijack หรือ install RAT แบบเงียบ ➡️ ใช้ registry run keys, scheduled tasks และ PowerRun เพื่อให้ RAT ทำงานด้วยสิทธิ์ SYSTEM ➡️ แฮกเกอร์ปิดแอนตี้ไวรัส ลบ log และ shred file เพื่อทำลายหลักฐาน ➡️ ปล่อย ransomware ผ่าน RAT โดยแฝงเป็นอัปเดตซอฟต์แวร์ ➡️ RAT ถูกใช้ในแคมเปญ ransomware หลายกลุ่ม เช่น LockBit, Dharma, MedusaLocker ➡️ การใช้ซอฟต์แวร์ที่มีลายเซ็นถูกต้องช่วยให้การโจมตีดูเหมือนการดูแลระบบปกติ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ RAT ถูกใช้ในงาน IT อย่างถูกต้อง เช่น remote support และการดูแลเซิร์ฟเวอร์ ➡️ Silent install มักใช้ flag เช่น /S, /VERYSILENT, /quiet เพื่อไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว ➡️ PowerRun เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้โปรแกรมทำงานด้วยสิทธิ์ SYSTEM โดยไม่ต้อง UAC ➡️ การ whitelist ซอฟต์แวร์โดยไม่ตรวจสอบพฤติกรรม อาจเปิดช่องให้แฮกเกอร์ใช้ได้ ➡️ การโจมตีแบบนี้เรียกว่า “living off the land” คือใช้เครื่องมือที่มีอยู่ในระบบเพื่อหลบการตรวจจับ https://securityonline.info/ransomware-gangs-weaponize-anydesk-splashtop-and-other-legitimate-rats-to-bypass-security/
    SECURITYONLINE.INFO
    Ransomware Gangs Weaponize AnyDesk, Splashtop, and Other Legitimate RATs to Bypass Security
    Ransomware groups are hijacking legitimate RATs like AnyDesk and Splashtop to gain stealthy persistence, spread laterally, and disable antivirus software in enterprise networks.
    0 Comments 0 Shares 66 Views 0 Reviews
  • “วิวัฒนาการของ iPhone Unlockers — จาก Jailbreak สู่เครื่องมือปลดล็อกแบบปลอดภัยด้วย Dr.Fone”

    ตั้งแต่ iPhone รุ่นแรกเปิดตัวในปี 2007 ผู้ใช้จำนวนมากต่างพยายามหาวิธี “ปลดล็อก” อุปกรณ์เพื่อให้ใช้งานได้อิสระมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งแอปนอก App Store หรือเปลี่ยนเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ แต่ในยุคแรก การปลดล็อกมักต้องพึ่งพา “Jailbreak” ซึ่งแม้จะให้เสรีภาพ แต่ก็เต็มไปด้วยความเสี่ยง เช่น เครื่องไม่เสถียร แบตหมดเร็ว หรือแม้แต่การโดนมัลแวร์

    ต่อมาเกิดการปลดล็อกแบบ SIM Unlock เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนเครือข่ายได้ โดยมีทั้งวิธีขอปลดล็อกจากผู้ให้บริการอย่างถูกต้องตามสัญญา และวิธีใช้ชิปปลอมที่แอบเปลี่ยนการทำงานของ SIM ซึ่งแม้จะสะดวก แต่ก็เสี่ยงต่อการใช้งานไม่เสถียร หรือถูกนำไปใช้ในตลาดมืด

    Apple เองก็เริ่มเปิดทางให้ผู้ใช้สามารถปลดล็อกได้อย่างถูกต้อง เช่น การใช้ iCloud ลบข้อมูลผ่าน “Find My iPhone”, การ Restore ผ่าน iTunes หรือ Finder และการเข้า Recovery Mode เพื่อรีเซ็ตเครื่อง ซึ่งแม้จะปลอดภัย แต่ก็ต้องใช้ Apple ID เดิม และมักทำให้ข้อมูลหายทั้งหมด

    เมื่อระบบรักษาความปลอดภัยของ Apple แข็งแกร่งขึ้น ผู้ใช้ที่ลืมรหัสผ่าน หรือซื้อเครื่องมือสองที่ล็อกอยู่ ก็เริ่มหันไปใช้เครื่องมือจากผู้พัฒนาภายนอก เช่น Dr.Fone – Screen Unlock (iOS) ซึ่งออกแบบมาให้ปลดล็อกได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องพึ่งพาแฮกเกอร์ และรองรับการปลดล็อกหลายรูปแบบ เช่น Face ID, Touch ID, รหัสผ่าน, Apple ID, MDM และแม้แต่ SIM Lock

    Dr.Fone ยังรองรับ iOS ตั้งแต่เวอร์ชัน 7 ถึง 26 รวมถึง iPhone 17 series และสามารถทำงานผ่าน Recovery Mode หรือ DFU Mode โดยมีขั้นตอนที่ชัดเจนและปลอดภัย พร้อมคำแนะนำให้ผู้ใช้สำรองข้อมูลก่อนเริ่มกระบวนการ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    การปลดล็อก iPhone เริ่มจาก Jailbreak ซึ่งเสี่ยงต่อความไม่เสถียรและมัลแวร์
    SIM Unlock มีทั้งแบบขอจากผู้ให้บริการและใช้ชิปปลอม ซึ่งมีข้อจำกัด
    Apple มีวิธีปลดล็อกอย่างเป็นทางการ เช่น iCloud, iTunes/Finder และ Recovery Mode
    เครื่องมือจากภายนอก เช่น Dr.Fone – Screen Unlock (iOS) ช่วยปลดล็อกได้หลายรูปแบบ
    Dr.Fone รองรับ iOS 7–26 และ iPhone 17 series
    สามารถปลดล็อก Face ID, Touch ID, รหัสผ่าน, Apple ID, MDM และ SIM Lock
    ใช้ Recovery Mode หรือ DFU Mode เพื่อเริ่มกระบวนการปลดล็อก
    มีคำแนะนำให้สำรองข้อมูลก่อนเริ่มใช้งานเพื่อความปลอดภัย
    การปลดล็อกผ่าน Dr.Fone เป็นวิธีที่ถูกกฎหมายและไม่ต้องพึ่งพาแฮกเกอร์

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Jailbreaking คือการปรับแต่งระบบ iOS เพื่อให้เข้าถึงฟีเจอร์ที่ถูกจำกัด
    SIM Unlock ช่วยให้ผู้ใช้เปลี่ยนเครือข่ายได้โดยไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่
    Recovery Mode และ DFU Mode เป็นโหมดพิเศษที่ใช้ในการแก้ไขปัญหา iOS
    Dr.Fone เป็นผลิตภัณฑ์จาก Wondershare ที่มีเครื่องมือจัดการข้อมูล iOS ครบวงจร
    การปลดล็อกที่ถูกต้องตามกฎหมายต้องไม่เกี่ยวข้องกับเครื่องที่ถูกขโมยหรือ IMEI ที่ถูกบล็อก

    https://securityonline.info/the-evolution-of-iphone-unlockers-from-jailbreaks-to-secure-recovery-tools/
    📱 “วิวัฒนาการของ iPhone Unlockers — จาก Jailbreak สู่เครื่องมือปลดล็อกแบบปลอดภัยด้วย Dr.Fone” ตั้งแต่ iPhone รุ่นแรกเปิดตัวในปี 2007 ผู้ใช้จำนวนมากต่างพยายามหาวิธี “ปลดล็อก” อุปกรณ์เพื่อให้ใช้งานได้อิสระมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งแอปนอก App Store หรือเปลี่ยนเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ แต่ในยุคแรก การปลดล็อกมักต้องพึ่งพา “Jailbreak” ซึ่งแม้จะให้เสรีภาพ แต่ก็เต็มไปด้วยความเสี่ยง เช่น เครื่องไม่เสถียร แบตหมดเร็ว หรือแม้แต่การโดนมัลแวร์ ต่อมาเกิดการปลดล็อกแบบ SIM Unlock เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนเครือข่ายได้ โดยมีทั้งวิธีขอปลดล็อกจากผู้ให้บริการอย่างถูกต้องตามสัญญา และวิธีใช้ชิปปลอมที่แอบเปลี่ยนการทำงานของ SIM ซึ่งแม้จะสะดวก แต่ก็เสี่ยงต่อการใช้งานไม่เสถียร หรือถูกนำไปใช้ในตลาดมืด Apple เองก็เริ่มเปิดทางให้ผู้ใช้สามารถปลดล็อกได้อย่างถูกต้อง เช่น การใช้ iCloud ลบข้อมูลผ่าน “Find My iPhone”, การ Restore ผ่าน iTunes หรือ Finder และการเข้า Recovery Mode เพื่อรีเซ็ตเครื่อง ซึ่งแม้จะปลอดภัย แต่ก็ต้องใช้ Apple ID เดิม และมักทำให้ข้อมูลหายทั้งหมด เมื่อระบบรักษาความปลอดภัยของ Apple แข็งแกร่งขึ้น ผู้ใช้ที่ลืมรหัสผ่าน หรือซื้อเครื่องมือสองที่ล็อกอยู่ ก็เริ่มหันไปใช้เครื่องมือจากผู้พัฒนาภายนอก เช่น Dr.Fone – Screen Unlock (iOS) ซึ่งออกแบบมาให้ปลดล็อกได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องพึ่งพาแฮกเกอร์ และรองรับการปลดล็อกหลายรูปแบบ เช่น Face ID, Touch ID, รหัสผ่าน, Apple ID, MDM และแม้แต่ SIM Lock Dr.Fone ยังรองรับ iOS ตั้งแต่เวอร์ชัน 7 ถึง 26 รวมถึง iPhone 17 series และสามารถทำงานผ่าน Recovery Mode หรือ DFU Mode โดยมีขั้นตอนที่ชัดเจนและปลอดภัย พร้อมคำแนะนำให้ผู้ใช้สำรองข้อมูลก่อนเริ่มกระบวนการ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ การปลดล็อก iPhone เริ่มจาก Jailbreak ซึ่งเสี่ยงต่อความไม่เสถียรและมัลแวร์ ➡️ SIM Unlock มีทั้งแบบขอจากผู้ให้บริการและใช้ชิปปลอม ซึ่งมีข้อจำกัด ➡️ Apple มีวิธีปลดล็อกอย่างเป็นทางการ เช่น iCloud, iTunes/Finder และ Recovery Mode ➡️ เครื่องมือจากภายนอก เช่น Dr.Fone – Screen Unlock (iOS) ช่วยปลดล็อกได้หลายรูปแบบ ➡️ Dr.Fone รองรับ iOS 7–26 และ iPhone 17 series ➡️ สามารถปลดล็อก Face ID, Touch ID, รหัสผ่าน, Apple ID, MDM และ SIM Lock ➡️ ใช้ Recovery Mode หรือ DFU Mode เพื่อเริ่มกระบวนการปลดล็อก ➡️ มีคำแนะนำให้สำรองข้อมูลก่อนเริ่มใช้งานเพื่อความปลอดภัย ➡️ การปลดล็อกผ่าน Dr.Fone เป็นวิธีที่ถูกกฎหมายและไม่ต้องพึ่งพาแฮกเกอร์ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Jailbreaking คือการปรับแต่งระบบ iOS เพื่อให้เข้าถึงฟีเจอร์ที่ถูกจำกัด ➡️ SIM Unlock ช่วยให้ผู้ใช้เปลี่ยนเครือข่ายได้โดยไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่ ➡️ Recovery Mode และ DFU Mode เป็นโหมดพิเศษที่ใช้ในการแก้ไขปัญหา iOS ➡️ Dr.Fone เป็นผลิตภัณฑ์จาก Wondershare ที่มีเครื่องมือจัดการข้อมูล iOS ครบวงจร ➡️ การปลดล็อกที่ถูกต้องตามกฎหมายต้องไม่เกี่ยวข้องกับเครื่องที่ถูกขโมยหรือ IMEI ที่ถูกบล็อก https://securityonline.info/the-evolution-of-iphone-unlockers-from-jailbreaks-to-secure-recovery-tools/
    SECURITYONLINE.INFO
    The Evolution of iPhone Unlockers: From Jailbreaks to Secure Recovery Tools
    Looking for the best iPhone unlocker? Learn how iPhone unlocking evolved from jailbreak hacks to secure recovery tools like Dr.Fone. Read this guide for a safe and easy unlocking process.
    0 Comments 0 Shares 70 Views 0 Reviews
  • แม่ทัพภาคที่ 1 ส่งหนังสือตอบกลับ ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 5 ของกัมพูชา เร่งให้จัดทำแผนอพยพประชาชนชาวกัมพูชาออกจากชายแดน จ.สระแก้ว ภายใน 7 ต.ค. พร้อมเสนอในการประชุม RBC จึงจะเข้าร่วมประชุมกับกัมพูชาตามคำเชิญ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000094866

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    แม่ทัพภาคที่ 1 ส่งหนังสือตอบกลับ ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 5 ของกัมพูชา เร่งให้จัดทำแผนอพยพประชาชนชาวกัมพูชาออกจากชายแดน จ.สระแก้ว ภายใน 7 ต.ค. พร้อมเสนอในการประชุม RBC จึงจะเข้าร่วมประชุมกับกัมพูชาตามคำเชิญ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000094866 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 Reviews
  • ส่วนตัว สมควรสร้างรั้วกำแพงลวดหนามแบบจีนกั้นกับเวียดหนามเลย หนา สูง คนเวียดนามจะข้ามไปจีนจะลำบาก เอาไม้ เอาบันไดลิงพาดกำแพงรั้วลวดหนามไม่ง่ายหรือต่ออะไรให้สูงกระโดดข้ามมาหรือหย่อนบันไดลิงมาอีกด้านฝั่งเราก็ไม่ง่าย,หากทำต่ำๆไม่สูงอะไรแบบรั้วปกติของไทบ้านประชาชนคนไทย มันแอบลักลอบ แอบโยน แอบยื่นอะไรให้กันก็ง่ายเหมือนเดิม, สร้างแบบ2ใน3ของกำแพงคุกขังนักโทษยิ่งดี ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณมากหรอก,ตัดงบเบี้ยประชุมเบี้ยต่างๆเบิกน้ำมันเบิกอะไรของข้าราชการทั่วประเทศออกก็มีตังเหลือกว่า10,000ล้านบาทแล้วต่อเดือน,ตัดชัตดาวน์เงินประจำตำแหน่งของข้าราชการทั้งหมดทั่วประเทศไทยสัก1ปีแบบวิจัยทดลองดู ให้แต่เงินเดือนข้าราชการเท่านั้นบวกเพิ่มอีก1%ของเงินเดือนปกติก็พอ,เราจะมีเงินไว้สร้างกำแพงถาวรรั้วลวดหนามอย่างดีกว่า30,000ล้านบาทต่อเดือนโน้นเลย.

    ..จริงๆแบบ รูปแบบ การออกแบบรั้วลวดหนามสมควรเผยแผ่ออกสู่ประชาชนได้แล้วว่าเป็นแบบใด,ยิ่งให้ประชาชนลงประชามติเลือกแบบลวดหนามด้วยกันออนไลน์ทางเน็ตทางเว็บทางแอปแบบแอปเป๋าตังผ่านตู้ธนาคารแบบยืนยันตัวตนยิ่งจะดีมาก,1บัตรประชาชนต่อ1กดปุ่มตัวเลือกแบบรั้วลวดหนาม,ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย,ยิ่งทางเว็บของทหารเอง ให้คนไทยมีส่วนร่วมยิ่งดี บอกราคารั้วลวดหนามต่อกม.ให้ชัดเจนด้วย,เช่นแบบนี้เกรดAกม.ละ10ล้าน เกรดBกม.ละ5ล้าน เกรดCกม.ละ2ล้าน เกรดDไทบ้านกม.ละ1ล้าน หรือ1เมตร1,000บาทนั้นเอง.,เรามีแนวจะสร้างเกือบ900กม.ก็สูงสุดที่9,000ล้านบาทถือว่าคุ้มครองชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเราที่ติดแนวพรมแดนไทยกับเขมรทั้งหมดทันที ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินชัดเจนด้วย ไม่ต้องกังวลภัยอันตรายใดๆที่คนเขมร ทหารเขมรจะเข้ามาง่ายๆผ่านช่องทางธรรมชาติก่อนสร้างรั้วอีก,จากนั้นให้ทหารกำหนดห้ามมีประชาชนคนใดครอบครองที่ดินติดกำแพงเป็นฟรีเพื่อเป็นพื้นที่ลาดตะเวนตลอดแนวกำแพงรั้วลวดหนามห่างจากกำแพงรั้วลวดหนามฝั่งไทยคือ50เมตร. ทหารเราสามารถทำถนนไว้ลาดตะเวนติดรั้วลวดหนามเสริมกำลังและเข้าปฏิบัติการรักษาความสงบต่างๆใดๆได้ง่าย,ประชาชนคนไทยใดหมายทำอะไรใดๆไม่ดีก็เข้าพื้นที่เขตหวงห้ามนี้ลำบาก,โดยทหารจะสร้างแนวรั้วกั้นประชาชนแบบไทบ้านๆอีกชั้น,ถ้ามีประชาชนเข้าเขตเดทโซนนี้แสดงว่าคือพวกไม่ดีหมายติดต่อกระทำชั่วกับอีกฝั่งทันที,กล้องเราตรวจจับแม้ทันทีได้ แต่มันก็แค่กล้องไม่สามารถหยุดธุรกรรมกิจกรรมมันทันทีขณะนั้นได้ แม้ตามจับได้ในฝั่งไทยเราแต่เนื้องานทางส่งของให้คนร้ายมันทำสำเร็จกับอีกฝั่งแล้วนั้นเองไม่คุ้มค่ากับผลเสียที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีก.ถ้าอดีตอาจคือตัวจุดฉนวนระเบิดหรือขีปนาวุธเป็นต้นที่ไม่มีล้ำๆแบบปัจจุบันต้องส่งของส่งอะไหล่แบบสมัยๆเก่าๆในอดีตนั้น.,และมีนัยยะที่ดีมากมายต่อทางจิตใจคนติดชายแดนติดเขมรด้วย,สิ้นเปลืองแบบนี้ถือว่าคุ้มค่าและจ่ายครั้งเดียวจบแค่ซ่อมบำรุงรายปีเท่านั้นเอง.,
    ..ปัจจุบันประชาชนไม่เห็นแบบของทหารอะไรเลย,สูง มั่นคงหรือแบบเวียดนามกั้นเขมรมั้ย หรือแบบจีน กั้นเวียดนามมั้ย,หากเราไปลอกเลียนแบบรั้วลวดหนามแบบเมืองผู้ดีชาติตะวันตกบอกเลยแบบนั้นกาก,กระจอก,กับคนสันดานนิสัยเขมรต้องเด็ดขาดสไตล์รั้วแบบเวียดนามหรือแบบจีน จึงเหมาะสมแก่คนสันดานนิสัยแบบเขมร หัวสมองพวกลิ้น2แฉกมันต้องเจอแบบนี้,นี้ไม่รวมที่มันอาจขุดรูใต้ดินใต้กำแพงรั้วลวดหนามเข้าไทยอีกนะ กล้องฝันไปเลยจะเห็นมัน,ระยะฟรี50เมตรจึงพอดี ไม่กินเนื้อที่ที่ดินประชาชนด้วย,ประชาชนยินยอมยกที่ดินฟรีๆให้กองทัพให้ทหารแน่นอนเพราะมันคือความมั่นคงทางอธิปไตยไทยเราทั้งประเทศด้วย.,เราจึงต้องมีเครื่องมือสแกนสิ่งผิดปกติใต้พื้นดินด้วย แบบโพร่งแบบรูใต้เส้นทางถนนตลอดแนวขนานรั้วกำแพงลวดหนามของเรา,ในเขตพื้นที่รับผิดชอบต้องใช้เครื่องสแกนทุกๆเดือนใต้ถนนหนทางเราว่ามันขุดรูขุดอุโมงค์รอดมาด้วยมั้ยเช่นกัน.

    https://youtube.com/watch?v=sJTo0hhGfnA&si=hARi7QFm0aKjk7dL
    ส่วนตัว สมควรสร้างรั้วกำแพงลวดหนามแบบจีนกั้นกับเวียดหนามเลย หนา สูง คนเวียดนามจะข้ามไปจีนจะลำบาก เอาไม้ เอาบันไดลิงพาดกำแพงรั้วลวดหนามไม่ง่ายหรือต่ออะไรให้สูงกระโดดข้ามมาหรือหย่อนบันไดลิงมาอีกด้านฝั่งเราก็ไม่ง่าย,หากทำต่ำๆไม่สูงอะไรแบบรั้วปกติของไทบ้านประชาชนคนไทย มันแอบลักลอบ แอบโยน แอบยื่นอะไรให้กันก็ง่ายเหมือนเดิม, สร้างแบบ2ใน3ของกำแพงคุกขังนักโทษยิ่งดี ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณมากหรอก,ตัดงบเบี้ยประชุมเบี้ยต่างๆเบิกน้ำมันเบิกอะไรของข้าราชการทั่วประเทศออกก็มีตังเหลือกว่า10,000ล้านบาทแล้วต่อเดือน,ตัดชัตดาวน์เงินประจำตำแหน่งของข้าราชการทั้งหมดทั่วประเทศไทยสัก1ปีแบบวิจัยทดลองดู ให้แต่เงินเดือนข้าราชการเท่านั้นบวกเพิ่มอีก1%ของเงินเดือนปกติก็พอ,เราจะมีเงินไว้สร้างกำแพงถาวรรั้วลวดหนามอย่างดีกว่า30,000ล้านบาทต่อเดือนโน้นเลย. ..จริงๆแบบ รูปแบบ การออกแบบรั้วลวดหนามสมควรเผยแผ่ออกสู่ประชาชนได้แล้วว่าเป็นแบบใด,ยิ่งให้ประชาชนลงประชามติเลือกแบบลวดหนามด้วยกันออนไลน์ทางเน็ตทางเว็บทางแอปแบบแอปเป๋าตังผ่านตู้ธนาคารแบบยืนยันตัวตนยิ่งจะดีมาก,1บัตรประชาชนต่อ1กดปุ่มตัวเลือกแบบรั้วลวดหนาม,ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย,ยิ่งทางเว็บของทหารเอง ให้คนไทยมีส่วนร่วมยิ่งดี บอกราคารั้วลวดหนามต่อกม.ให้ชัดเจนด้วย,เช่นแบบนี้เกรดAกม.ละ10ล้าน เกรดBกม.ละ5ล้าน เกรดCกม.ละ2ล้าน เกรดDไทบ้านกม.ละ1ล้าน หรือ1เมตร1,000บาทนั้นเอง.,เรามีแนวจะสร้างเกือบ900กม.ก็สูงสุดที่9,000ล้านบาทถือว่าคุ้มครองชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเราที่ติดแนวพรมแดนไทยกับเขมรทั้งหมดทันที ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินชัดเจนด้วย ไม่ต้องกังวลภัยอันตรายใดๆที่คนเขมร ทหารเขมรจะเข้ามาง่ายๆผ่านช่องทางธรรมชาติก่อนสร้างรั้วอีก,จากนั้นให้ทหารกำหนดห้ามมีประชาชนคนใดครอบครองที่ดินติดกำแพงเป็นฟรีเพื่อเป็นพื้นที่ลาดตะเวนตลอดแนวกำแพงรั้วลวดหนามห่างจากกำแพงรั้วลวดหนามฝั่งไทยคือ50เมตร. ทหารเราสามารถทำถนนไว้ลาดตะเวนติดรั้วลวดหนามเสริมกำลังและเข้าปฏิบัติการรักษาความสงบต่างๆใดๆได้ง่าย,ประชาชนคนไทยใดหมายทำอะไรใดๆไม่ดีก็เข้าพื้นที่เขตหวงห้ามนี้ลำบาก,โดยทหารจะสร้างแนวรั้วกั้นประชาชนแบบไทบ้านๆอีกชั้น,ถ้ามีประชาชนเข้าเขตเดทโซนนี้แสดงว่าคือพวกไม่ดีหมายติดต่อกระทำชั่วกับอีกฝั่งทันที,กล้องเราตรวจจับแม้ทันทีได้ แต่มันก็แค่กล้องไม่สามารถหยุดธุรกรรมกิจกรรมมันทันทีขณะนั้นได้ แม้ตามจับได้ในฝั่งไทยเราแต่เนื้องานทางส่งของให้คนร้ายมันทำสำเร็จกับอีกฝั่งแล้วนั้นเองไม่คุ้มค่ากับผลเสียที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีก.ถ้าอดีตอาจคือตัวจุดฉนวนระเบิดหรือขีปนาวุธเป็นต้นที่ไม่มีล้ำๆแบบปัจจุบันต้องส่งของส่งอะไหล่แบบสมัยๆเก่าๆในอดีตนั้น.,และมีนัยยะที่ดีมากมายต่อทางจิตใจคนติดชายแดนติดเขมรด้วย,สิ้นเปลืองแบบนี้ถือว่าคุ้มค่าและจ่ายครั้งเดียวจบแค่ซ่อมบำรุงรายปีเท่านั้นเอง., ..ปัจจุบันประชาชนไม่เห็นแบบของทหารอะไรเลย,สูง มั่นคงหรือแบบเวียดนามกั้นเขมรมั้ย หรือแบบจีน กั้นเวียดนามมั้ย,หากเราไปลอกเลียนแบบรั้วลวดหนามแบบเมืองผู้ดีชาติตะวันตกบอกเลยแบบนั้นกาก,กระจอก,กับคนสันดานนิสัยเขมรต้องเด็ดขาดสไตล์รั้วแบบเวียดนามหรือแบบจีน จึงเหมาะสมแก่คนสันดานนิสัยแบบเขมร หัวสมองพวกลิ้น2แฉกมันต้องเจอแบบนี้,นี้ไม่รวมที่มันอาจขุดรูใต้ดินใต้กำแพงรั้วลวดหนามเข้าไทยอีกนะ กล้องฝันไปเลยจะเห็นมัน,ระยะฟรี50เมตรจึงพอดี ไม่กินเนื้อที่ที่ดินประชาชนด้วย,ประชาชนยินยอมยกที่ดินฟรีๆให้กองทัพให้ทหารแน่นอนเพราะมันคือความมั่นคงทางอธิปไตยไทยเราทั้งประเทศด้วย.,เราจึงต้องมีเครื่องมือสแกนสิ่งผิดปกติใต้พื้นดินด้วย แบบโพร่งแบบรูใต้เส้นทางถนนตลอดแนวขนานรั้วกำแพงลวดหนามของเรา,ในเขตพื้นที่รับผิดชอบต้องใช้เครื่องสแกนทุกๆเดือนใต้ถนนหนทางเราว่ามันขุดรูขุดอุโมงค์รอดมาด้วยมั้ยเช่นกัน. https://youtube.com/watch?v=sJTo0hhGfnA&si=hARi7QFm0aKjk7dL
    0 Comments 0 Shares 78 Views 0 Reviews
More Results