• ครม.อนุมัติงบประมาณก้อนโตทะลุหมื่นล้านบาท เดินหน้าเตรียมจัดเลือกตั้งและประชามติ พร้อมทุ่มงบอีกกว่า 5 พันล้านบาทให้กองทัพเสริมความมั่นคงจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123893

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ครม.อนุมัติงบประมาณก้อนโตทะลุหมื่นล้านบาท เดินหน้าเตรียมจัดเลือกตั้งและประชามติ พร้อมทุ่มงบอีกกว่า 5 พันล้านบาทให้กองทัพเสริมความมั่นคงจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123893 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    0 Comments 0 Shares 57 Views 0 Reviews
  • สงครามน้ำลายเดือด เพื่อไทยชี้รัฐบาลเก่าทำเงินหมื่นล่ม ภูมิใจไทยสวนกลับ รัฐบาลเพื่อไทยเองที่สั่งเบรกนโยบาย โต้กันไปมาปมประชานิยม ใครกันแน่คือต้นเหตุให้ประชาชนชวดเงิน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123891

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    สงครามน้ำลายเดือด เพื่อไทยชี้รัฐบาลเก่าทำเงินหมื่นล่ม ภูมิใจไทยสวนกลับ รัฐบาลเพื่อไทยเองที่สั่งเบรกนโยบาย โต้กันไปมาปมประชานิยม ใครกันแน่คือต้นเหตุให้ประชาชนชวดเงิน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123891 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 58 Views 0 Reviews
  • สื่อมวลชนกัมพูชาเวอร์ชันภาษาอังกฤษ ส่งเสียงโวยวายต่อท่าทีของ 2 ชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯและจีน ที่นิ่งเฉยไม่มีบทลงโทษใดๆต่อสิ่งที่พวกเขากล่าวหาว่าไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมมามุกเดิม อวดครวญว่าที่กัมพูชาเสมือนโดนลงโทษ ไม่ใช่เป็นฝ่ายผิด แต่เพียงเพราะเป็นประเทศเล็กๆ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123855

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    สื่อมวลชนกัมพูชาเวอร์ชันภาษาอังกฤษ ส่งเสียงโวยวายต่อท่าทีของ 2 ชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯและจีน ที่นิ่งเฉยไม่มีบทลงโทษใดๆต่อสิ่งที่พวกเขากล่าวหาว่าไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมมามุกเดิม อวดครวญว่าที่กัมพูชาเสมือนโดนลงโทษ ไม่ใช่เป็นฝ่ายผิด แต่เพียงเพราะเป็นประเทศเล็กๆ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123855 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 Reviews
  • รายงานฉบับร่างของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ระบุว่า จีนน่าจะมีขีปนาวุธทิ้งตัวขนาดยักษ์ ระดับขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) มากกว่า 100 ลูกเก็บเตรียมพร้อมเอาไว้ในไซโลใต้ดิน 3 แห่งล่าสุด และไม่มีความประสงค์ที่จะเจรจาเรื่องการควบคุมอาวุธ ซึ่งเน้นย้ำถึงความทะเยอทะยานทางทหารที่เพิ่มมากขึ้นของปักกิ่ง ทางด้านโฆษกรัฐบาลจีนแถลงสวนกลับในวันอังคาร (24 ธ.ค.) ว่า ในฐานะที่อเมริกาเป็นผู้มีคลังแสงนิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดยิ่งกว่าชาติอื่นๆ จึงสมควรแสดงตัวเป็นผู้นำด้วยการลดอาวุธประเภทนี้ก่อน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123844

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    รายงานฉบับร่างของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ระบุว่า จีนน่าจะมีขีปนาวุธทิ้งตัวขนาดยักษ์ ระดับขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) มากกว่า 100 ลูกเก็บเตรียมพร้อมเอาไว้ในไซโลใต้ดิน 3 แห่งล่าสุด และไม่มีความประสงค์ที่จะเจรจาเรื่องการควบคุมอาวุธ ซึ่งเน้นย้ำถึงความทะเยอทะยานทางทหารที่เพิ่มมากขึ้นของปักกิ่ง ทางด้านโฆษกรัฐบาลจีนแถลงสวนกลับในวันอังคาร (24 ธ.ค.) ว่า ในฐานะที่อเมริกาเป็นผู้มีคลังแสงนิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดยิ่งกว่าชาติอื่นๆ จึงสมควรแสดงตัวเป็นผู้นำด้วยการลดอาวุธประเภทนี้ก่อน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123844 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 103 Views 0 Reviews
  • กลายเป็นประเด็นร้อนข้ามประเทศ เมื่อ “ฮุนเซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์คลิป “หลวงตาสุจ” ออกมาชี้แจงกรณีคลิปอ้างว่าผู้นำกัมพูชาขอให้ช่วยทำวิดีโอเจรจาหยุดยิงกับไทย โดยยืนยันเป็น “คลิปปลอม” ถูกคนไทยตัดต่อกลั่นแกล้ง พร้อมประกาศความภักดีต่อกัมพูชาแบบสุดทาง ย้ำไม่มีวันหักหลังแผ่นดินเขมร
    .
    เพจเฟซบุ๊ก Samdech Hun Sen of Cambodia ของนายฮุนเซน โพสต์วิดีโอความยาวราว 5 นาที เมื่อเวลา 19.13 น. วันที่ 23 ธ.ค. โดยระบุว่าเป็นคำชี้แจงของ พระมหานรินธร ปสนังโน หรือ “หลวงตาสุจ” ต่อกรณีคลิปเสียง–คลิปวิดีโอที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้ ซึ่งอ้างว่าผู้นำกัมพูชาขอให้หลวงตาช่วยเป็นตัวกลางทำคลิปเจรจายุติการสู้รบกับไทย
    .
    ในคลิปชี้แจง หลวงตาสุจย้ำหลายครั้งถึงความจงรักภักดีต่อกัมพูชา ระบุว่า “ถวายชีวิตให้แผ่นดินเขมรแล้ว” ไม่มีวันคิดร้ายหรือหักหลังประเทศ พร้อมอ้างว่าคลิปก่อนหน้านี้เป็นการตัดต่อจากฝั่งไทย เพื่อใส่ร้ายให้ตนอยู่ในกัมพูชาไม่ได้ และขอความเมตตาจากประชาชนรวมถึงคณะสงฆ์กัมพูชา อย่ามองตนในแง่ร้าย
    .
    การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังคลิปสนทนาระหว่างหลวงตาสุจกับพระในประเทศไทยแพร่สะพัดในโซเชียล ซึ่งมีเนื้อหาพาดพิงถึงสถานการณ์ทหารกัมพูชาขาดเสบียง อ่อนแรง และอ้างว่ามีการร้องขอให้หลวงตาช่วยเป็นตัวกลางเจรจาหยุดยิงกับฝ่ายไทย
    .
    เป็นที่น่าสังเกตว่า คลิปคำชี้แจงนี้ถูกโพสต์โดยนายฮุนเซนด้วยตัวเองโดยตรง ไม่ได้แชร์จากแหล่งอื่น ท่ามกลางกระแสตั้งคำถามว่า เป็นการ “สั่งการให้แก้ข่าว” เพื่อสยบข้อครหาภายในประเทศหรือไม่ หลังมีกระแสชาวเน็ตกัมพูชาบางส่วนตั้งข้อสงสัยว่า หลวงตาสุจอาจเป็นตัวแปรทางการเมืองหรือความมั่นคง
    .
    ก่อนหน้านี้ หลวงตาสุจเป็นพระชาวไทยที่ถูกขับออกจากวัดใน จ.บุรีรัมย์ จากกรณีสร้างความแตกแยก และได้ย้ายไปพำนักในกัมพูชา พร้อมประกาศไม่กลับประเทศไทยอีก โดยได้รับการต้อนรับอย่างเป็นทางการจากผู้นำกัมพูชาเมื่อกลางปีที่ผ่านมา
    .
    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123833
    .
    #News1live #News1 #หลวงตาสุจ #ฮุนเซน #ข่าวชายแดน #สงครามข่าวสาร #การเมืองกัมพูชา #ข่าวต่างประเทศ
    กลายเป็นประเด็นร้อนข้ามประเทศ เมื่อ “ฮุนเซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์คลิป “หลวงตาสุจ” ออกมาชี้แจงกรณีคลิปอ้างว่าผู้นำกัมพูชาขอให้ช่วยทำวิดีโอเจรจาหยุดยิงกับไทย โดยยืนยันเป็น “คลิปปลอม” ถูกคนไทยตัดต่อกลั่นแกล้ง พร้อมประกาศความภักดีต่อกัมพูชาแบบสุดทาง ย้ำไม่มีวันหักหลังแผ่นดินเขมร . เพจเฟซบุ๊ก Samdech Hun Sen of Cambodia ของนายฮุนเซน โพสต์วิดีโอความยาวราว 5 นาที เมื่อเวลา 19.13 น. วันที่ 23 ธ.ค. โดยระบุว่าเป็นคำชี้แจงของ พระมหานรินธร ปสนังโน หรือ “หลวงตาสุจ” ต่อกรณีคลิปเสียง–คลิปวิดีโอที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้ ซึ่งอ้างว่าผู้นำกัมพูชาขอให้หลวงตาช่วยเป็นตัวกลางทำคลิปเจรจายุติการสู้รบกับไทย . ในคลิปชี้แจง หลวงตาสุจย้ำหลายครั้งถึงความจงรักภักดีต่อกัมพูชา ระบุว่า “ถวายชีวิตให้แผ่นดินเขมรแล้ว” ไม่มีวันคิดร้ายหรือหักหลังประเทศ พร้อมอ้างว่าคลิปก่อนหน้านี้เป็นการตัดต่อจากฝั่งไทย เพื่อใส่ร้ายให้ตนอยู่ในกัมพูชาไม่ได้ และขอความเมตตาจากประชาชนรวมถึงคณะสงฆ์กัมพูชา อย่ามองตนในแง่ร้าย . การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังคลิปสนทนาระหว่างหลวงตาสุจกับพระในประเทศไทยแพร่สะพัดในโซเชียล ซึ่งมีเนื้อหาพาดพิงถึงสถานการณ์ทหารกัมพูชาขาดเสบียง อ่อนแรง และอ้างว่ามีการร้องขอให้หลวงตาช่วยเป็นตัวกลางเจรจาหยุดยิงกับฝ่ายไทย . เป็นที่น่าสังเกตว่า คลิปคำชี้แจงนี้ถูกโพสต์โดยนายฮุนเซนด้วยตัวเองโดยตรง ไม่ได้แชร์จากแหล่งอื่น ท่ามกลางกระแสตั้งคำถามว่า เป็นการ “สั่งการให้แก้ข่าว” เพื่อสยบข้อครหาภายในประเทศหรือไม่ หลังมีกระแสชาวเน็ตกัมพูชาบางส่วนตั้งข้อสงสัยว่า หลวงตาสุจอาจเป็นตัวแปรทางการเมืองหรือความมั่นคง . ก่อนหน้านี้ หลวงตาสุจเป็นพระชาวไทยที่ถูกขับออกจากวัดใน จ.บุรีรัมย์ จากกรณีสร้างความแตกแยก และได้ย้ายไปพำนักในกัมพูชา พร้อมประกาศไม่กลับประเทศไทยอีก โดยได้รับการต้อนรับอย่างเป็นทางการจากผู้นำกัมพูชาเมื่อกลางปีที่ผ่านมา . อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123833 . #News1live #News1 #หลวงตาสุจ #ฮุนเซน #ข่าวชายแดน #สงครามข่าวสาร #การเมืองกัมพูชา #ข่าวต่างประเทศ
    Haha
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 111 Views 1 Reviews
  • นายเน เพื่อนของผู้ก่อเหตุยิงหนุ่มขับรถเก๋งเสียชีวิตบนทางด่วน เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เพื่อให้ปากคำ ยืนยันไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ และไม่ได้มีความสนิทสนมกับผู้ก่อเหตุเป็นการส่วนตัว หลังมีบางสื่อนำภาพไปเสนอว่าอยู่ร่วมเหตุการณ์ ทำให้ได้รับความเสียหาย
    .
    นายเน ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้มาหารุ่นพี่ของตน และตนถูกขอให้พาไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านบางใหญ่ โดยยืนยันว่าไม่ได้เจอกันมานานกว่า 2 ปี และไม่ทราบอาชีพหรือพฤติกรรมส่วนตัว หลังดื่มสุราหมดขวดจึงแยกย้ายกัน โดยผู้ก่อเหตุไปส่งตนที่บ้านย่านบางบัวทอง ก่อนขับรถกลับเพียงลำพัง
    กระทั่งเช้าวันถัดมา เมื่อทราบข่าวการยิงเสียชีวิตบนทางด่วน จึงรู้สึกตกใจและรีบเข้าพบตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุแต่อย่างใด
    .
    ขณะเดียวกัน ตำรวจได้นำรถตู้โตโยต้า เวลไฟร์ คันก่อเหตุ มาจอดไว้ที่ สน.ประชาชื่น หลังตรวจพบถูกจอดทิ้งในโรงแรมแห่งหนึ่ง จ.นครปฐม เพื่อตรวจพิสูจน์หลักฐาน โดยพบว่ามีการติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพื่ออำพรางการติดตามของเจ้าหน้าที่
    .
    อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123809
    .
    #News1live #News1 #ยิงบนทางด่วน #คดีอุกฉกรรจ์ #เพื่อนผู้ก่อเหตุ #เวลไฟร์
    นายเน เพื่อนของผู้ก่อเหตุยิงหนุ่มขับรถเก๋งเสียชีวิตบนทางด่วน เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เพื่อให้ปากคำ ยืนยันไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ และไม่ได้มีความสนิทสนมกับผู้ก่อเหตุเป็นการส่วนตัว หลังมีบางสื่อนำภาพไปเสนอว่าอยู่ร่วมเหตุการณ์ ทำให้ได้รับความเสียหาย . นายเน ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้มาหารุ่นพี่ของตน และตนถูกขอให้พาไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านบางใหญ่ โดยยืนยันว่าไม่ได้เจอกันมานานกว่า 2 ปี และไม่ทราบอาชีพหรือพฤติกรรมส่วนตัว หลังดื่มสุราหมดขวดจึงแยกย้ายกัน โดยผู้ก่อเหตุไปส่งตนที่บ้านย่านบางบัวทอง ก่อนขับรถกลับเพียงลำพัง กระทั่งเช้าวันถัดมา เมื่อทราบข่าวการยิงเสียชีวิตบนทางด่วน จึงรู้สึกตกใจและรีบเข้าพบตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุแต่อย่างใด . ขณะเดียวกัน ตำรวจได้นำรถตู้โตโยต้า เวลไฟร์ คันก่อเหตุ มาจอดไว้ที่ สน.ประชาชื่น หลังตรวจพบถูกจอดทิ้งในโรงแรมแห่งหนึ่ง จ.นครปฐม เพื่อตรวจพิสูจน์หลักฐาน โดยพบว่ามีการติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพื่ออำพรางการติดตามของเจ้าหน้าที่ . อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123809 . #News1live #News1 #ยิงบนทางด่วน #คดีอุกฉกรรจ์ #เพื่อนผู้ก่อเหตุ #เวลไฟร์
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 107 Views 0 Reviews
  • ผบก.น.2 เผยคดีสะเทือนขวัญ คนร้ายประกบยิงหนุ่มขับเก๋งเสียชีวิตบนทางด่วน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” หลังพบผู้ก่อเหตุมีหมายจับคดีพยายามฆ่าติดตัวตั้งแต่ปี 2567
    .
    จากเหตุคนร้ายขับรถตู้โตโยต้า เวลไฟร์ สีขาว ประกบยิงรถเก๋งโตโยต้า อัลติส บนทางพิเศษศรีรัช ย่านประชาชื่น เมื่อเช้ามืดวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดตำรวจระบุว่า ผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เบื้องต้นเชื่อเกิดจากเหตุทะเลาะกันขณะขับรถ ก่อนมีการลดกระจกเผชิญหน้ากันที่ด่านเก็บเงิน
    .
    ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนนครบาลร่วมกับตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ตรวจพบรถเวลไฟร์คันก่อเหตุถูกนำไปจอดทิ้งไว้ในโรงแรมแห่งหนึ่ง จ.นครปฐม และได้เข้าอายัดเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์หลักฐาน โดยคาดว่าคนร้ายทิ้งรถแล้วหลบหนีด้วยรถแท็กซี่ มุ่งหน้าเส้นพระประโทน–บ้านแพ้ว
    .
    ตำรวจย้ำกำลังเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ และขอศาลออกหมายจับโดยเร็ว เนื่องจากเป็นบุคคลอันตราย มีประวัติใช้อาวุธปืน และอาจก่อเหตุซ้ำได้
    .
    อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123803
    .
    #News1live #News1 #ยิงบนทางด่วน #คดีอุกฉกรรจ์ #เวลไฟร์ #นครบาล
    ผบก.น.2 เผยคดีสะเทือนขวัญ คนร้ายประกบยิงหนุ่มขับเก๋งเสียชีวิตบนทางด่วน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” หลังพบผู้ก่อเหตุมีหมายจับคดีพยายามฆ่าติดตัวตั้งแต่ปี 2567 . จากเหตุคนร้ายขับรถตู้โตโยต้า เวลไฟร์ สีขาว ประกบยิงรถเก๋งโตโยต้า อัลติส บนทางพิเศษศรีรัช ย่านประชาชื่น เมื่อเช้ามืดวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดตำรวจระบุว่า ผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เบื้องต้นเชื่อเกิดจากเหตุทะเลาะกันขณะขับรถ ก่อนมีการลดกระจกเผชิญหน้ากันที่ด่านเก็บเงิน . ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนนครบาลร่วมกับตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ตรวจพบรถเวลไฟร์คันก่อเหตุถูกนำไปจอดทิ้งไว้ในโรงแรมแห่งหนึ่ง จ.นครปฐม และได้เข้าอายัดเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์หลักฐาน โดยคาดว่าคนร้ายทิ้งรถแล้วหลบหนีด้วยรถแท็กซี่ มุ่งหน้าเส้นพระประโทน–บ้านแพ้ว . ตำรวจย้ำกำลังเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ และขอศาลออกหมายจับโดยเร็ว เนื่องจากเป็นบุคคลอันตราย มีประวัติใช้อาวุธปืน และอาจก่อเหตุซ้ำได้ . อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123803 . #News1live #News1 #ยิงบนทางด่วน #คดีอุกฉกรรจ์ #เวลไฟร์ #นครบาล
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาออกโรงแถลง ย้ำจุดยืนต้องการ “หยุดยิงทันที” เพื่อยุติความสูญเสียของทั้งสองฝ่าย พร้อมเดินหน้าการทูตทุกช่องทาง เปิดรับการไกล่เกลี่ยจากประเทศที่สาม อ้างกัมพูชาตอบรับข้อเสนอหยุดยิงมาแล้วหลายครั้ง แต่ฝ่ายไทยยังไม่ตอบรับ
    .
    สื่อกัมพูชา Kampuchea Thmey Daily รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. นายปรัก สุคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ได้แถลงต่อสื่อมวลชน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติเตโช ภายหลังเดินทางกลับจากการประชุมพิเศษรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งหารือสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและไทย
    .
    นายปรัก สุคน ระบุว่า ท่ามกลางสถานการณ์การปะทะทางอาวุธที่ยังดำเนินอยู่ จุดยืนของกัมพูชาคือการยุติการสู้รบทันที และกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจา เพื่อยุติความทุกข์ทรมานของประชาชน รวมถึงการสูญเสียชีวิต การบาดเจ็บ และความเสียหายต่อทรัพย์สินของทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือพลเรือน
    .
    รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาย้ำว่า กัมพูชามุ่งใช้แนวทางการทูตเป็นหลัก ทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทางทหาร พร้อมเปิดรับความช่วยเหลือจากประเทศที่สามหรือกลไกระหว่างประเทศในการเข้ามาไกล่เกลี่ย หากจะช่วยนำไปสู่การยุติความขัดแย้งอย่างสันติ
    .
    พร้อมกันนี้ นายปรัก สุคน อ้างว่า นับตั้งแต่เกิดการปะทะเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนได้เสนอให้มีการหยุดยิงแล้ว 3 ครั้ง รวมถึงข้อเสนอจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีก 1 ครั้ง ซึ่งกัมพูชาได้ตอบรับทั้งหมด แต่ฝ่ายไทยยังไม่เห็นชอบ
    .
    ทั้งนี้ กัมพูชาได้เสนอแนวทาง 3 ประการต่อที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ได้แก่
    1. ให้มีการหยุดการสู้รบทันที
    2. ให้กองกำลังทั้งสองฝ่ายถอนกลับไปยังที่ตั้งเดิม
    3. แก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธี
    .
    โดยอ้างว่า ที่ประชุมอาเซียนได้เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงและเดินหน้าเจรจา พร้อมเห็นชอบให้มีการจัดการประชุมระหว่างกองทัพกัมพูชา–ไทย ในวันที่ 24 ธันวาคม เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการต่อไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123817
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #หยุดยิง #อาเซียน #การทูต #ข่าวต่างประเทศ
    รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาออกโรงแถลง ย้ำจุดยืนต้องการ “หยุดยิงทันที” เพื่อยุติความสูญเสียของทั้งสองฝ่าย พร้อมเดินหน้าการทูตทุกช่องทาง เปิดรับการไกล่เกลี่ยจากประเทศที่สาม อ้างกัมพูชาตอบรับข้อเสนอหยุดยิงมาแล้วหลายครั้ง แต่ฝ่ายไทยยังไม่ตอบรับ . สื่อกัมพูชา Kampuchea Thmey Daily รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. นายปรัก สุคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ได้แถลงต่อสื่อมวลชน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติเตโช ภายหลังเดินทางกลับจากการประชุมพิเศษรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งหารือสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและไทย . นายปรัก สุคน ระบุว่า ท่ามกลางสถานการณ์การปะทะทางอาวุธที่ยังดำเนินอยู่ จุดยืนของกัมพูชาคือการยุติการสู้รบทันที และกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจา เพื่อยุติความทุกข์ทรมานของประชาชน รวมถึงการสูญเสียชีวิต การบาดเจ็บ และความเสียหายต่อทรัพย์สินของทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือพลเรือน . รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาย้ำว่า กัมพูชามุ่งใช้แนวทางการทูตเป็นหลัก ทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทางทหาร พร้อมเปิดรับความช่วยเหลือจากประเทศที่สามหรือกลไกระหว่างประเทศในการเข้ามาไกล่เกลี่ย หากจะช่วยนำไปสู่การยุติความขัดแย้งอย่างสันติ . พร้อมกันนี้ นายปรัก สุคน อ้างว่า นับตั้งแต่เกิดการปะทะเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนได้เสนอให้มีการหยุดยิงแล้ว 3 ครั้ง รวมถึงข้อเสนอจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีก 1 ครั้ง ซึ่งกัมพูชาได้ตอบรับทั้งหมด แต่ฝ่ายไทยยังไม่เห็นชอบ . ทั้งนี้ กัมพูชาได้เสนอแนวทาง 3 ประการต่อที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ได้แก่ 1. ให้มีการหยุดการสู้รบทันที 2. ให้กองกำลังทั้งสองฝ่ายถอนกลับไปยังที่ตั้งเดิม 3. แก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธี . โดยอ้างว่า ที่ประชุมอาเซียนได้เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงและเดินหน้าเจรจา พร้อมเห็นชอบให้มีการจัดการประชุมระหว่างกองทัพกัมพูชา–ไทย ในวันที่ 24 ธันวาคม เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการต่อไป . อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123817 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #หยุดยิง #อาเซียน #การทูต #ข่าวต่างประเทศ
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 117 Views 0 Reviews
  • “ยึดพื้นที่ได้ ไม่ได้แปลว่าพื้นที่ปลอดภัย” — นี่คือความจริงของสนามรบยุคใหม่ที่ประชาชนควรเข้าใจ
    .
    กองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภาพหลักฐานการตรวจพบกับระเบิดและทุ่นระเบิดจำนวนมากในพื้นที่ “เนิน 350” สะท้อนข้อเท็จจริงสำคัญของการปฏิบัติการทางทหารว่า แม้จะสามารถเข้าควบคุมและยึดพื้นที่เป้าหมายได้แล้ว แต่การรุกคืบต่อไปกลับไม่สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากภัยเงียบที่ซ่อนอยู่ใต้ผืนดิน
    .
    ในทางทหาร ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “ความฝืดในสนามรบ” หมายถึงปัจจัยที่ทำให้การปฏิบัติการชะลอตัว แม้ฝ่ายหนึ่งจะได้เปรียบเชิงพื้นที่แล้วก็ตาม โดยกรณีของเนิน 350 ปัจจัยหลักคือสนามทุ่นระเบิดและกับระเบิดแสวงเครื่องที่ถูกฝังและพรางไว้ทั้งใต้ดินและบนผิวพื้นที่
    .
    แม้พื้นที่จะอยู่ในการควบคุมของฝ่ายเราแล้ว แต่ยังไม่ถือว่าปลอดภัย กำลังพลไม่สามารถเคลื่อนย้าย เสริมกำลัง หรือใช้ยุทโธปกรณ์หนัก เช่น รถถัง ยานเกราะ รวมถึงการลำเลียงเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระ ทุกย่างก้าวต้องหยุดหรือชะลอ เพื่อรอการเข้าพื้นที่ของทหารช่างในการตรวจค้น กู้ และทำลายทุ่นระเบิดอย่างเป็นขั้นตอนและรอบคอบ
    .
    กับระเบิดคือภัยที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่มีอานุภาพร้ายแรงถึงชีวิต เพียงก้าวพลาดเพียงครั้งเดียวอาจหมายถึงการสูญเสียทันที ทำให้การรบต้องดำเนินไปด้วยความระมัดระวังสูงสุด แม้จะเป็นพื้นที่ที่ยึดครองได้แล้วก็ตาม
    .
    ผลที่ตามมาคือ
    – การรุกต้องชะลอลง ไม่สามารถเร่งปฏิบัติการได้
    – การใช้พื้นที่ยังจำกัด ไม่อาจเคลื่อนกำลังหรือยุทโธปกรณ์ได้เต็มที่
    – เพิ่มภาระด้านความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชนในพื้นที่
    ..
    ทั้งนี้ ความล่าช้าในสนามรบไม่ได้สะท้อนถึงความอ่อนแอของกองกำลัง หากแต่เป็นการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์อย่างรับผิดชอบ เพื่อรักษาชีวิตกำลังพล ลดการสูญเสียที่ไม่จำเป็น และควบคุมสถานการณ์อย่างรอบคอบที่สุด
    .
    สนามรบที่เต็มไปด้วยทุ่นระเบิด คือสนามรบที่แม้จะมีชัยเหนือข้าศึกแล้ว ก็ยังไม่อาจประมาทได้ ทุกตารางเมตรอาจแฝงอันตราย และทุกนาทีที่การปฏิบัติการช้าลง คือความพยายามรักษาชีวิตของทหารแนวหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างเสียสละ
    .
    นี่คือความจริงของ “ความฝืดในสนามรบ” ที่สังคมควรรับรู้และทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้
    .
    อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123773
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #เนิน350 #สนามรบ #ความมั่นคง #ข่าววิเคราะห์
    “ยึดพื้นที่ได้ ไม่ได้แปลว่าพื้นที่ปลอดภัย” — นี่คือความจริงของสนามรบยุคใหม่ที่ประชาชนควรเข้าใจ . กองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภาพหลักฐานการตรวจพบกับระเบิดและทุ่นระเบิดจำนวนมากในพื้นที่ “เนิน 350” สะท้อนข้อเท็จจริงสำคัญของการปฏิบัติการทางทหารว่า แม้จะสามารถเข้าควบคุมและยึดพื้นที่เป้าหมายได้แล้ว แต่การรุกคืบต่อไปกลับไม่สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากภัยเงียบที่ซ่อนอยู่ใต้ผืนดิน . ในทางทหาร ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “ความฝืดในสนามรบ” หมายถึงปัจจัยที่ทำให้การปฏิบัติการชะลอตัว แม้ฝ่ายหนึ่งจะได้เปรียบเชิงพื้นที่แล้วก็ตาม โดยกรณีของเนิน 350 ปัจจัยหลักคือสนามทุ่นระเบิดและกับระเบิดแสวงเครื่องที่ถูกฝังและพรางไว้ทั้งใต้ดินและบนผิวพื้นที่ . แม้พื้นที่จะอยู่ในการควบคุมของฝ่ายเราแล้ว แต่ยังไม่ถือว่าปลอดภัย กำลังพลไม่สามารถเคลื่อนย้าย เสริมกำลัง หรือใช้ยุทโธปกรณ์หนัก เช่น รถถัง ยานเกราะ รวมถึงการลำเลียงเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระ ทุกย่างก้าวต้องหยุดหรือชะลอ เพื่อรอการเข้าพื้นที่ของทหารช่างในการตรวจค้น กู้ และทำลายทุ่นระเบิดอย่างเป็นขั้นตอนและรอบคอบ . กับระเบิดคือภัยที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่มีอานุภาพร้ายแรงถึงชีวิต เพียงก้าวพลาดเพียงครั้งเดียวอาจหมายถึงการสูญเสียทันที ทำให้การรบต้องดำเนินไปด้วยความระมัดระวังสูงสุด แม้จะเป็นพื้นที่ที่ยึดครองได้แล้วก็ตาม . ผลที่ตามมาคือ – การรุกต้องชะลอลง ไม่สามารถเร่งปฏิบัติการได้ – การใช้พื้นที่ยังจำกัด ไม่อาจเคลื่อนกำลังหรือยุทโธปกรณ์ได้เต็มที่ – เพิ่มภาระด้านความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชนในพื้นที่ .. ทั้งนี้ ความล่าช้าในสนามรบไม่ได้สะท้อนถึงความอ่อนแอของกองกำลัง หากแต่เป็นการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์อย่างรับผิดชอบ เพื่อรักษาชีวิตกำลังพล ลดการสูญเสียที่ไม่จำเป็น และควบคุมสถานการณ์อย่างรอบคอบที่สุด . สนามรบที่เต็มไปด้วยทุ่นระเบิด คือสนามรบที่แม้จะมีชัยเหนือข้าศึกแล้ว ก็ยังไม่อาจประมาทได้ ทุกตารางเมตรอาจแฝงอันตราย และทุกนาทีที่การปฏิบัติการช้าลง คือความพยายามรักษาชีวิตของทหารแนวหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างเสียสละ . นี่คือความจริงของ “ความฝืดในสนามรบ” ที่สังคมควรรับรู้และทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ . อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123773 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #เนิน350 #สนามรบ #ความมั่นคง #ข่าววิเคราะห์
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 125 Views 0 Reviews
  • จีนปรับกฎ One‑Pedal Driving: ไม่ได้แบน แต่ห้ามตั้งเป็นค่าเริ่มต้น

    จีนประกาศมาตรฐานใหม่ GB 21670‑2025 ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนในวงการรถยนต์ไฟฟ้า เพราะแม้จะมีข่าวลือว่า “จีนแบน One‑Pedal Driving” แต่ความจริงคือ จีนเพียง “ห้ามผู้ผลิตตั้ง One‑Pedal เป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน” ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2027 เป็นต้นไป ผู้ขับยังสามารถเลือกเปิดใช้ได้เหมือนเดิม แต่รัฐต้องการให้ผู้ใช้ตระหนักถึงพฤติกรรมการเบรกมากขึ้น ไม่ใช่พึ่งการหน่วงมอเตอร์เพียงอย่างเดียว

    One‑Pedal Driving เป็นฟีเจอร์ที่ผู้ใช้ EV ชื่นชอบ เพราะช่วยชะลอรถจนหยุดได้โดยไม่ต้องแตะแป้นเบรก ผ่านระบบ Regenerative Braking ที่ดึงพลังงานกลับเข้าแบตเตอรี่ ทำให้เพิ่มระยะทางวิ่งได้จริง อย่างไรก็ตาม งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่า ผู้ขับบางกลุ่ม “ชินกับแรงหน่วงมากเกินไป” จนทำให้ตอบสนองช้าลงในสถานการณ์ที่ต้องเบรกแรงแบบฉุกเฉิน ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่จีนต้องเข้ามากำกับ

    กฎใหม่ยังมีข้อบังคับเพิ่มเติม เช่น ตั้งแต่ปี 2026 รถ EV ที่หน่วงด้วยแรงเกิน 1.3 m/s² ต้องเปิดไฟเบรกอัตโนมัติ เพื่อเตือนรถด้านหลังว่ากำลังชะลออย่างรวดเร็ว ลดความเสี่ยงการชนท้ายในเมืองที่รถ EV มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ รถ EV ทุกคันต้องติดตั้ง ABS เป็นมาตรฐาน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเบรกบนถนนลื่นหรือสถานการณ์ฉุกเฉิน

    ในภาพรวม จีนไม่ได้ต่อต้าน One‑Pedal Driving แต่ต้องการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ในยุคที่รถไฟฟ้ากำลังกลายเป็นยานพาหนะหลักของประเทศ การควบคุมให้ผู้ขับ “เข้าใจระบบ” มากขึ้น ถือเป็นการลดความเสี่ยงเชิงโครงสร้างของการใช้ EV ในระยะยาว และอาจกลายเป็นต้นแบบให้หลายประเทศนำไปปรับใช้ในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สิ่งที่เกิดขึ้นจริงตามกฎใหม่ของจีน
    ไม่ได้แบน One‑Pedal Driving แต่ห้ามตั้งเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน
    ผู้ขับยังเปิดใช้ One‑Pedal ได้ตามปกติในเมนูรถ
    รถที่หน่วงแรงเกิน 1.3 m/s² ต้องเปิดไฟเบรกอัตโนมัติ ตั้งแต่ปี 2026
    รถ EV ทุกคันต้องมี ABS เป็นมาตรฐานความปลอดภัย

    ความเสี่ยงและเหตุผลที่ทำให้จีนต้องออกกฎนี้
    ผู้ขับพึ่งแรงหน่วงมากเกินไป ทำให้ตอบสนองช้าลงในสถานการณ์เบรกฉุกเฉิน
    ความเข้าใจระบบไม่เท่ากัน ผู้ใช้ใหม่อาจไม่รู้ว่าแรงหน่วงเปลี่ยนตามโหมดขับขี่
    เสี่ยงต่อการชนท้าย หากรถชะลอแรงโดยไม่เปิดไฟเบรก (ก่อนมีข้อบังคับใหม่)
    ความแตกต่างของระบบแต่ละค่าย ทำให้พฤติกรรมรถไม่สอดคล้องกันในท้องถนน

    https://www.slashgear.com/2055079/china-one-pedal-driving-ban-explained/
    🚗⚡ จีนปรับกฎ One‑Pedal Driving: ไม่ได้แบน แต่ห้ามตั้งเป็นค่าเริ่มต้น จีนประกาศมาตรฐานใหม่ GB 21670‑2025 ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนในวงการรถยนต์ไฟฟ้า เพราะแม้จะมีข่าวลือว่า “จีนแบน One‑Pedal Driving” แต่ความจริงคือ จีนเพียง “ห้ามผู้ผลิตตั้ง One‑Pedal เป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน” ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2027 เป็นต้นไป ผู้ขับยังสามารถเลือกเปิดใช้ได้เหมือนเดิม แต่รัฐต้องการให้ผู้ใช้ตระหนักถึงพฤติกรรมการเบรกมากขึ้น ไม่ใช่พึ่งการหน่วงมอเตอร์เพียงอย่างเดียว One‑Pedal Driving เป็นฟีเจอร์ที่ผู้ใช้ EV ชื่นชอบ เพราะช่วยชะลอรถจนหยุดได้โดยไม่ต้องแตะแป้นเบรก ผ่านระบบ Regenerative Braking ที่ดึงพลังงานกลับเข้าแบตเตอรี่ ทำให้เพิ่มระยะทางวิ่งได้จริง อย่างไรก็ตาม งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่า ผู้ขับบางกลุ่ม “ชินกับแรงหน่วงมากเกินไป” จนทำให้ตอบสนองช้าลงในสถานการณ์ที่ต้องเบรกแรงแบบฉุกเฉิน ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่จีนต้องเข้ามากำกับ กฎใหม่ยังมีข้อบังคับเพิ่มเติม เช่น ตั้งแต่ปี 2026 รถ EV ที่หน่วงด้วยแรงเกิน 1.3 m/s² ต้องเปิดไฟเบรกอัตโนมัติ เพื่อเตือนรถด้านหลังว่ากำลังชะลออย่างรวดเร็ว ลดความเสี่ยงการชนท้ายในเมืองที่รถ EV มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ รถ EV ทุกคันต้องติดตั้ง ABS เป็นมาตรฐาน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเบรกบนถนนลื่นหรือสถานการณ์ฉุกเฉิน ในภาพรวม จีนไม่ได้ต่อต้าน One‑Pedal Driving แต่ต้องการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ในยุคที่รถไฟฟ้ากำลังกลายเป็นยานพาหนะหลักของประเทศ การควบคุมให้ผู้ขับ “เข้าใจระบบ” มากขึ้น ถือเป็นการลดความเสี่ยงเชิงโครงสร้างของการใช้ EV ในระยะยาว และอาจกลายเป็นต้นแบบให้หลายประเทศนำไปปรับใช้ในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สิ่งที่เกิดขึ้นจริงตามกฎใหม่ของจีน ➡️ ไม่ได้แบน One‑Pedal Driving แต่ห้ามตั้งเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน ➡️ ผู้ขับยังเปิดใช้ One‑Pedal ได้ตามปกติในเมนูรถ ➡️ รถที่หน่วงแรงเกิน 1.3 m/s² ต้องเปิดไฟเบรกอัตโนมัติ ตั้งแต่ปี 2026 ➡️ รถ EV ทุกคันต้องมี ABS เป็นมาตรฐานความปลอดภัย ‼️ ความเสี่ยงและเหตุผลที่ทำให้จีนต้องออกกฎนี้ ⛔ ผู้ขับพึ่งแรงหน่วงมากเกินไป ทำให้ตอบสนองช้าลงในสถานการณ์เบรกฉุกเฉิน ⛔ ความเข้าใจระบบไม่เท่ากัน ผู้ใช้ใหม่อาจไม่รู้ว่าแรงหน่วงเปลี่ยนตามโหมดขับขี่ ⛔ เสี่ยงต่อการชนท้าย หากรถชะลอแรงโดยไม่เปิดไฟเบรก (ก่อนมีข้อบังคับใหม่) ⛔ ความแตกต่างของระบบแต่ละค่าย ทำให้พฤติกรรมรถไม่สอดคล้องกันในท้องถนน https://www.slashgear.com/2055079/china-one-pedal-driving-ban-explained/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Why Is China Banning One-Pedal Driving? - SlashGear
    China isn’t banning one-pedal driving, but new EV rules will stop it from being the default mode due to safety concerns around braking response.
    0 Comments 0 Shares 103 Views 0 Reviews
  • ปลาทุบ…อร่อยกว่าเดิม เพิ่มเติมคือมี 2 รสชาติ ~ แบบดั้งเดิม รสชาติกลมกล่อม และแบบเผ็ด เพิ่มความสนุกในการทาน … ของเข้าใหม่มาไม่เยอะ รีบสั่งก่อนหมดเลยจ้า #ปลาข้าวสาร #ปลาจิ้งจ้างไม่งา #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกฉาบสามรส #ปลากระพงทุบ

    ประกาศจากสมาคมคนชอบของอร่อย
    วันนี้เราขอนำเสนอ…
    ปลากระพงทุบ ที่ทำจากปลาทะเล 100%

    ฟังดูงง ๆ ใช่มั้ย? ใช่ครับ… เราก็งง
    แต่อร่อยดี เลยกิน… แล้วก็กินอีก

    เตือนก่อนนะ
    ใครได้ลองจะหยุดไม่ได้
    ไม่ใช่เพราะอร่อยอย่างเดียว — แต่เพราะว่าเกร๋ จนอยากกินต่อให้รู้ว่าทำไม

    ร้านกินจุ๊บจิ๊บค่ะ พร้อมส่งทั่วไทย กดสั่งเลย แล้วมาทุบความหิวไปด้วยกัน!

    ดูแล้ว ฝากกดติดตามร้านด้วยน้า

    ปลากระพงทุบ ใน TikTok
    https://vt.tiktok.com/ZSrNwrbfa/

    ปลากระพงทุบ ใน Shopee
    https://th.shp.ee/TJpZ2pJ

    เลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง
    1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop
    2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1

    เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ
    ปลาทุบ…อร่อยกว่าเดิม เพิ่มเติมคือมี 2 รสชาติ ~ แบบดั้งเดิม รสชาติกลมกล่อม และแบบเผ็ด เพิ่มความสนุกในการทาน … ของเข้าใหม่มาไม่เยอะ รีบสั่งก่อนหมดเลยจ้า #ปลาข้าวสาร #ปลาจิ้งจ้างไม่งา #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกฉาบสามรส #ปลากระพงทุบ 📢 ประกาศจากสมาคมคนชอบของอร่อย วันนี้เราขอนำเสนอ… ปลากระพงทุบ ที่ทำจากปลาทะเล 100% 🐟💥 ฟังดูงง ๆ ใช่มั้ย? ใช่ครับ… เราก็งง 🤔 แต่อร่อยดี เลยกิน… แล้วก็กินอีก 😳 เตือนก่อนนะ ใครได้ลองจะหยุดไม่ได้ ไม่ใช่เพราะอร่อยอย่างเดียว — แต่เพราะว่าเกร๋ จนอยากกินต่อให้รู้ว่าทำไม 🤪 ร้านกินจุ๊บจิ๊บค่ะ พร้อมส่งทั่วไทย 📦✨ กดสั่งเลย แล้วมาทุบความหิวไปด้วยกัน! ดูแล้ว ฝากกดติดตามร้านด้วยน้า 💛 ปลากระพงทุบ 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSrNwrbfa/ ปลากระพงทุบ 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/TJpZ2pJ เลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง 1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop 2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1 เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ
    0 Comments 0 Shares 90 Views 0 0 Reviews
  • อิตาลีสั่งปรับ Apple เกือบ €100 ล้าน เหตุ ATT สร้างภาระเกินจำเป็นต่อผู้พัฒนาและตลาดโฆษณา

    หน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันของอิตาลี (AGCM) ได้สั่งปรับ Apple เป็นเงิน €98.6 ล้าน จากการบังคับใช้กฎ App Tracking Transparency (ATT) ที่ถูกมองว่า “สร้างภาระเกินสมควร” ต่อผู้พัฒนาแอปและผู้ลงโฆษณา แม้ ATT จะถูกนำเสนอในฐานะฟีเจอร์เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่หน่วยงานกำกับมองว่ากฎนี้ทำให้ Apple ได้เปรียบในตลาดโฆษณาอย่างไม่เป็นธรรม เพราะผู้พัฒนาภายนอกถูกจำกัดการติดตามผู้ใช้ ในขณะที่ Apple ยังสามารถเก็บข้อมูลบางส่วนผ่านระบบของตัวเองได้

    การสอบสวนชี้ว่า ATT ทำให้ผู้พัฒนาต้องเผชิญต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งในด้านการปรับปรุงระบบ การขอความยินยอม และการสูญเสียรายได้จากโฆษณาที่แม่นยำลดลง ขณะเดียวกัน Apple กลับสามารถใช้ข้อมูลภายในระบบของตนเพื่อเสริมความได้เปรียบในตลาดบริการโฆษณา เช่น Apple Search Ads ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วหลังการเปิดตัว ATT จนหลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความเป็นธรรมของกฎนี้

    แม้ Apple จะยืนยันว่า ATT ถูกออกแบบเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่หลายประเทศในยุโรป—including ฝรั่งเศสและเยอรมนี—ก็เริ่มจับตาพฤติกรรมของบริษัทอย่างใกล้ชิด โดยมองว่าการควบคุมข้อมูลผู้ใช้ในระดับแพลตฟอร์มอาจกลายเป็น “อำนาจผูกขาดรูปแบบใหม่” ที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของนักพัฒนาและผู้ลงโฆษณาในวงกว้าง

    การปรับครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงเรื่องของเงิน แต่เป็นสัญญาณว่าหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรปกำลังเริ่มตั้งคำถามต่อโมเดลธุรกิจของ Apple ที่อาศัยความเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มเพื่อกำหนดกฎที่อาจเอื้อประโยชน์ให้ตนเองมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่การตรวจสอบเพิ่มเติมในระดับสหภาพยุโรปในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    อิตาลีสั่งปรับ Apple €98.6 ล้าน
    เหตุผล: ATT สร้างภาระเกินจำเป็นต่อผู้พัฒนา
    มองว่า Apple ได้เปรียบในตลาดโฆษณาอย่างไม่เป็นธรรม

    ผลกระทบต่อผู้พัฒนาและตลาดโฆษณา
    ต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการขอความยินยอมและปรับระบบ
    รายได้โฆษณาลดลงเพราะการติดตามผู้ใช้ทำได้ยากขึ้น

    Apple ยืนยันว่า ATT คือการปกป้องความเป็นส่วนตัว
    แต่หลายประเทศในยุโรปเริ่มตั้งคำถามถึงความโปร่งใส
    Apple Search Ads เติบโตผิดปกติหลัง ATT เปิดตัว

    ความเสี่ยงและประเด็นที่ต้องจับตา
    ความเป็นไปได้ที่จะถูกตรวจสอบเพิ่มเติมในระดับ EU
    ความกังวลว่าแพลตฟอร์มอาจใช้อำนาจควบคุมข้อมูลเพื่อผูกขาด
    ผู้พัฒนาอาจเผชิญต้นทุนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    https://wccftech.com/apples-app-tracking-transparency-att-rules-invite-another-hefty-fine-this-time-from-italy/
    📱💸 อิตาลีสั่งปรับ Apple เกือบ €100 ล้าน เหตุ ATT สร้างภาระเกินจำเป็นต่อผู้พัฒนาและตลาดโฆษณา หน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันของอิตาลี (AGCM) ได้สั่งปรับ Apple เป็นเงิน €98.6 ล้าน จากการบังคับใช้กฎ App Tracking Transparency (ATT) ที่ถูกมองว่า “สร้างภาระเกินสมควร” ต่อผู้พัฒนาแอปและผู้ลงโฆษณา แม้ ATT จะถูกนำเสนอในฐานะฟีเจอร์เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่หน่วยงานกำกับมองว่ากฎนี้ทำให้ Apple ได้เปรียบในตลาดโฆษณาอย่างไม่เป็นธรรม เพราะผู้พัฒนาภายนอกถูกจำกัดการติดตามผู้ใช้ ในขณะที่ Apple ยังสามารถเก็บข้อมูลบางส่วนผ่านระบบของตัวเองได้ การสอบสวนชี้ว่า ATT ทำให้ผู้พัฒนาต้องเผชิญต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งในด้านการปรับปรุงระบบ การขอความยินยอม และการสูญเสียรายได้จากโฆษณาที่แม่นยำลดลง ขณะเดียวกัน Apple กลับสามารถใช้ข้อมูลภายในระบบของตนเพื่อเสริมความได้เปรียบในตลาดบริการโฆษณา เช่น Apple Search Ads ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วหลังการเปิดตัว ATT จนหลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความเป็นธรรมของกฎนี้ แม้ Apple จะยืนยันว่า ATT ถูกออกแบบเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่หลายประเทศในยุโรป—including ฝรั่งเศสและเยอรมนี—ก็เริ่มจับตาพฤติกรรมของบริษัทอย่างใกล้ชิด โดยมองว่าการควบคุมข้อมูลผู้ใช้ในระดับแพลตฟอร์มอาจกลายเป็น “อำนาจผูกขาดรูปแบบใหม่” ที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของนักพัฒนาและผู้ลงโฆษณาในวงกว้าง การปรับครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงเรื่องของเงิน แต่เป็นสัญญาณว่าหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรปกำลังเริ่มตั้งคำถามต่อโมเดลธุรกิจของ Apple ที่อาศัยความเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มเพื่อกำหนดกฎที่อาจเอื้อประโยชน์ให้ตนเองมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่การตรวจสอบเพิ่มเติมในระดับสหภาพยุโรปในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ อิตาลีสั่งปรับ Apple €98.6 ล้าน ➡️ เหตุผล: ATT สร้างภาระเกินจำเป็นต่อผู้พัฒนา ➡️ มองว่า Apple ได้เปรียบในตลาดโฆษณาอย่างไม่เป็นธรรม ✅ ผลกระทบต่อผู้พัฒนาและตลาดโฆษณา ➡️ ต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการขอความยินยอมและปรับระบบ ➡️ รายได้โฆษณาลดลงเพราะการติดตามผู้ใช้ทำได้ยากขึ้น ✅ Apple ยืนยันว่า ATT คือการปกป้องความเป็นส่วนตัว ➡️ แต่หลายประเทศในยุโรปเริ่มตั้งคำถามถึงความโปร่งใส ➡️ Apple Search Ads เติบโตผิดปกติหลัง ATT เปิดตัว ‼️ ความเสี่ยงและประเด็นที่ต้องจับตา ⛔ ความเป็นไปได้ที่จะถูกตรวจสอบเพิ่มเติมในระดับ EU ⛔ ความกังวลว่าแพลตฟอร์มอาจใช้อำนาจควบคุมข้อมูลเพื่อผูกขาด ⛔ ผู้พัฒนาอาจเผชิญต้นทุนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง https://wccftech.com/apples-app-tracking-transparency-att-rules-invite-another-hefty-fine-this-time-from-italy/
    WCCFTECH.COM
    Apple Hit With Another Massive Fine From Italy Over Its Privacy Features
    Hardly a week goes by when Apple is not subject to a new antitrust scrutiny or penalty in one jurisdiction or the other.
    0 Comments 0 Shares 81 Views 0 Reviews
  • Queen Of The World (2025/129)

    หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์เมื่อปี ค.ศ. 2018 ซึ่งในขณะนั้นสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2(ต่อไปจะเขียนว่า ควีนฯ) ยังมีชีวิตอยู่ (พระองค์ท่านสวรรคตเมื่อวันที่ 8/9/2022)

    เมื่ออ่านจบเล่มแล้ว ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าชื่อหนังสือ Queen Of The World ค่อนข้างจะสื่อความหมายได้ตรงตามความต้องการของผู้เขียนเลย

    ถ้าหากต้องการอ่านชีวประวัติของควีนฯ เกิดที่ไหน นิสัยเป็นแบบไหน การเรียน ความรัก ฯลฯ ไม่สามารถหาอ่านได้ในเล่มนี้แน่นอน แต่เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ โดยเน้นเฉพาะการไปเยือนประเทศต่างๆ ทั้งในเครือจักรภพและประเทศอื่นๆ รวมไปถึงการรับรองแขกบ้านแขกเมือง เรื่องนี้ผู้เขียนเน้นย้ำเลยว่านี่คือ “Solf Power” ของประเทศอังกฤษ

    แน่นอนว่าด้วยการที่ควีนฯ ทรงดำรงตำแหน่งประมุขสูงสุดมาตั้งแต่อายุ 26ปี จึงได้มีการไปเยี่ยมเยียนประเทศรอบโลก ได้ผ่านช่วงเวลาที่หนักหนามาตั้งแต่ก่อนรับตำแหน่งที่อังกฤษเกือบล้มลายหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พระเจ้าจอร์จที่ 6 พระราชาของอังกฤษในขณะนั้นและเป็นพระบิดาของควีนฯ สิ้นพระชนม์ด้วยความคิดมากและเสียพระทัย ควีนฯจึงต้องมารับตำแหน่งประมุขสูงสุดทั้งๆที่อายุเพียง26ปี แต่งงานได้ไม่นาน และมีลูกอายุน้อย

    หลังจากครองราชย์ได้ไม่นาน ควีนฯยังต้องประสบพบเจอกับปัญหาแต่ขอแยกเป็นอิสระของประเทศที่อยู่ในเครือจักรภพ ซึ่งเป็นปัญหาคล้ายกับโดมิโนที่เกิดขึ้นต่อเนื่องๆไปเรื่อยๆ จนทั่งเข้าสู่ภาวะเป็นเป็นการพึ่งพาอาศัยกัน ประเทศที่สร้างความกังวลกับควีนฯ ได้แก่สองประเทศใหญ่คือ อินเดีย และประเทศแอฟริกาใต้

    ในเรื่องความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆกับควีนฯ ก็น่าสนใจไม่น้อย ทั้งประเทศอเมริกา ประเทศในทวีปแอฟริกา รวมไปถึงจีนและรัสเซีย ซึ่งควีนฯได้ไปเสด็จเยือนมาทั้งหมดแล้ว มีอีกเรื่องที่น่าใจมากๆคือ เรื่องของเรือยอร์ชพระที่นั่งบริทานเนียของควีนฯ เรือบริทาเนียใช้ในการเดินทางเยือนประเทศต่างๆ นอกจากนั้นยังเป็นที่พักส่วนพระองค์ขณะไปเยือนต่างประเทศ เป็นภัตรคารรับรองประมุขของประเทศนั้นๆ และยังเป็นสถานที่เจรจาทางการเมืองอีกด้วย เรือบริทาเนียก็เปรียบเสมือนประเทศราชของควีนฯเคลื่อนที่ได้

    ท้ายเล่มผู้เขียนเพิ่มเติมเรื่องราวของพระกรณียกิจของ พระสวามีดยุคฟิลิป , เจ้าฟ้าชายชาลส์(กษัตริย์ชาลส์ที่ 3) , เจ้าหญิงไดอานา , เจ้าหญิงแอนน์ , เจ้าชายแอนดรู , เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด รวมไปถึงรุ่นหลานของควีนฯ คือเจ้าชายวิลลียมและเจ้าชายแฮรี่อีกด้วย

    #QueenOfTheWorld #รีวิวหนังสือ
    Queen Of The World (2025/129) หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์เมื่อปี ค.ศ. 2018 ซึ่งในขณะนั้นสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2(ต่อไปจะเขียนว่า ควีนฯ) ยังมีชีวิตอยู่ (พระองค์ท่านสวรรคตเมื่อวันที่ 8/9/2022) เมื่ออ่านจบเล่มแล้ว ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าชื่อหนังสือ Queen Of The World ค่อนข้างจะสื่อความหมายได้ตรงตามความต้องการของผู้เขียนเลย ถ้าหากต้องการอ่านชีวประวัติของควีนฯ เกิดที่ไหน นิสัยเป็นแบบไหน การเรียน ความรัก ฯลฯ ไม่สามารถหาอ่านได้ในเล่มนี้แน่นอน แต่เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ โดยเน้นเฉพาะการไปเยือนประเทศต่างๆ ทั้งในเครือจักรภพและประเทศอื่นๆ รวมไปถึงการรับรองแขกบ้านแขกเมือง เรื่องนี้ผู้เขียนเน้นย้ำเลยว่านี่คือ “Solf Power” ของประเทศอังกฤษ แน่นอนว่าด้วยการที่ควีนฯ ทรงดำรงตำแหน่งประมุขสูงสุดมาตั้งแต่อายุ 26ปี จึงได้มีการไปเยี่ยมเยียนประเทศรอบโลก ได้ผ่านช่วงเวลาที่หนักหนามาตั้งแต่ก่อนรับตำแหน่งที่อังกฤษเกือบล้มลายหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พระเจ้าจอร์จที่ 6 พระราชาของอังกฤษในขณะนั้นและเป็นพระบิดาของควีนฯ สิ้นพระชนม์ด้วยความคิดมากและเสียพระทัย ควีนฯจึงต้องมารับตำแหน่งประมุขสูงสุดทั้งๆที่อายุเพียง26ปี แต่งงานได้ไม่นาน และมีลูกอายุน้อย หลังจากครองราชย์ได้ไม่นาน ควีนฯยังต้องประสบพบเจอกับปัญหาแต่ขอแยกเป็นอิสระของประเทศที่อยู่ในเครือจักรภพ ซึ่งเป็นปัญหาคล้ายกับโดมิโนที่เกิดขึ้นต่อเนื่องๆไปเรื่อยๆ จนทั่งเข้าสู่ภาวะเป็นเป็นการพึ่งพาอาศัยกัน ประเทศที่สร้างความกังวลกับควีนฯ ได้แก่สองประเทศใหญ่คือ อินเดีย และประเทศแอฟริกาใต้ ในเรื่องความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆกับควีนฯ ก็น่าสนใจไม่น้อย ทั้งประเทศอเมริกา ประเทศในทวีปแอฟริกา รวมไปถึงจีนและรัสเซีย ซึ่งควีนฯได้ไปเสด็จเยือนมาทั้งหมดแล้ว มีอีกเรื่องที่น่าใจมากๆคือ เรื่องของเรือยอร์ชพระที่นั่งบริทานเนียของควีนฯ เรือบริทาเนียใช้ในการเดินทางเยือนประเทศต่างๆ นอกจากนั้นยังเป็นที่พักส่วนพระองค์ขณะไปเยือนต่างประเทศ เป็นภัตรคารรับรองประมุขของประเทศนั้นๆ และยังเป็นสถานที่เจรจาทางการเมืองอีกด้วย เรือบริทาเนียก็เปรียบเสมือนประเทศราชของควีนฯเคลื่อนที่ได้ ท้ายเล่มผู้เขียนเพิ่มเติมเรื่องราวของพระกรณียกิจของ พระสวามีดยุคฟิลิป , เจ้าฟ้าชายชาลส์(กษัตริย์ชาลส์ที่ 3) , เจ้าหญิงไดอานา , เจ้าหญิงแอนน์ , เจ้าชายแอนดรู , เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด รวมไปถึงรุ่นหลานของควีนฯ คือเจ้าชายวิลลียมและเจ้าชายแฮรี่อีกด้วย #QueenOfTheWorld #รีวิวหนังสือ
    0 Comments 0 Shares 101 Views 0 Reviews
  • แฮ็กครั้งใหญ่โจมตีหน่วยงานน้ำของโรมาเนีย: คอมพิวเตอร์ 1,000 เครื่องถูกปิดจาก BitLocker ransomware

    การโจมตีครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อโครงสร้างพื้นฐานของโรมาเนีย เมื่อหน่วยงานบริหารจัดการน้ำถูกโจมตีด้วย ransomware ที่เข้ารหัสข้อมูลผ่าน BitLocker ของ Windows ส่งผลให้คอมพิวเตอร์กว่า 1,000 เครื่องใน 10 จาก 11 สำนักงานภูมิภาคต้องหยุดทำงานทันที แม้ระบบควบคุมการจ่ายน้ำจริงจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่ระบบสนับสนุนทั้งหมด เช่น อีเมล เว็บเซอร์วิส ฐานข้อมูล และ GIS กลับถูกทำให้ใช้งานไม่ได้อย่างสิ้นเชิง

    ผู้โจมตีไม่ได้ประกาศตัวว่าเป็นกลุ่มใด แต่ทิ้งข้อความให้หน่วยงานติดต่อกลับภายใน 7 วัน ซึ่งเป็นรูปแบบที่คล้ายกับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานในยุโรปช่วงปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะกรณีเดนมาร์กที่เคยถูกแฮ็กจนแรงดันน้ำผิดปกติและท่อแตกหลายจุดในปี 2024 เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้บ้านเรือนกว่า 500 หลังไม่มีน้ำใช้ชั่วคราว และกลายเป็นสัญญาณเตือนว่าระบบสาธารณูปโภคกำลังกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของสงครามไซเบอร์ยุคใหม่

    หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของโรมาเนีย (DNSC) ระบุว่ายังไม่ทราบช่องทางการโจมตี แต่ยืนยันว่าผู้โจมตีใช้ BitLocker ในการเข้ารหัสข้อมูลแทนที่จะใช้เครื่องมือเฉพาะทางแบบ ransomware กลุ่มอื่น ๆ ซึ่งสะท้อนว่าการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือซับซ้อนเสมอไป ขณะนี้ DNSC และหน่วยข่าวกรองกำลังเร่งกู้ระบบและตรวจสอบความเสียหายเพิ่มเติม

    เหตุการณ์นี้ยังเชื่อมโยงกับแนวโน้มการโจมตีที่หลายประเทศในยุโรปมองว่าเป็น “สงครามลูกผสม” โดยเฉพาะการโจมตีที่เชื่อมโยงกับกลุ่มที่สนับสนุนรัสเซีย เช่น Z‑Pentest และ NoName057(16) ที่เคยโจมตีระบบน้ำและเว็บไซต์ของเดนมาร์ก รวมถึง Fancy Bear ที่ถูกกล่าวหาว่าโจมตีระบบควบคุมการบินของเยอรมนีในปี 2024 ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามถึงความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยไซเบอร์น้อยเกินไป

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ขนาดความเสียหายและผลกระทบ
    คอมพิวเตอร์กว่า 1,000 เครื่องถูกปิดจาก BitLocker ransomware
    ระบบสนับสนุน เช่น อีเมล เว็บเซอร์วิส และฐานข้อมูลหยุดทำงาน

    ระบบน้ำยังทำงานได้ตามปกติ
    ระบบควบคุมการจ่ายน้ำไม่ถูกโจมตีโดยตรง
    การควบคุมยังทำผ่านศูนย์สั่งการและการสื่อสารเสียง

    รูปแบบการโจมตีและการสืบสวน
    ผู้โจมตีไม่ประกาศตัว แต่ทิ้งข้อความให้ติดต่อภายใน 7 วัน
    ใช้ BitLocker ของ Windows ในการเข้ารหัสข้อมูล

    ความเสี่ยงและสัญญาณเตือน
    โครงสร้างพื้นฐานยุโรปกำลังเป็นเป้าหมายของ “สงครามลูกผสม”
    เคยมีกรณีเดนมาร์กถูกโจมตีจนท่อแตกและบ้านเรือนขาดน้ำ
    ความปลอดภัยไซเบอร์ยังเป็นเรื่องที่หลายหน่วยงานให้ความสำคัญต่ำเกินไป

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/1-000-computers-taken-offline-in-romanian-water-management-authority-hack-ransomware-takes-bitlocker-encrypted-systems-down
    🚨 แฮ็กครั้งใหญ่โจมตีหน่วยงานน้ำของโรมาเนีย: คอมพิวเตอร์ 1,000 เครื่องถูกปิดจาก BitLocker ransomware การโจมตีครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อโครงสร้างพื้นฐานของโรมาเนีย เมื่อหน่วยงานบริหารจัดการน้ำถูกโจมตีด้วย ransomware ที่เข้ารหัสข้อมูลผ่าน BitLocker ของ Windows ส่งผลให้คอมพิวเตอร์กว่า 1,000 เครื่องใน 10 จาก 11 สำนักงานภูมิภาคต้องหยุดทำงานทันที แม้ระบบควบคุมการจ่ายน้ำจริงจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่ระบบสนับสนุนทั้งหมด เช่น อีเมล เว็บเซอร์วิส ฐานข้อมูล และ GIS กลับถูกทำให้ใช้งานไม่ได้อย่างสิ้นเชิง ผู้โจมตีไม่ได้ประกาศตัวว่าเป็นกลุ่มใด แต่ทิ้งข้อความให้หน่วยงานติดต่อกลับภายใน 7 วัน ซึ่งเป็นรูปแบบที่คล้ายกับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานในยุโรปช่วงปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะกรณีเดนมาร์กที่เคยถูกแฮ็กจนแรงดันน้ำผิดปกติและท่อแตกหลายจุดในปี 2024 เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้บ้านเรือนกว่า 500 หลังไม่มีน้ำใช้ชั่วคราว และกลายเป็นสัญญาณเตือนว่าระบบสาธารณูปโภคกำลังกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของสงครามไซเบอร์ยุคใหม่ หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของโรมาเนีย (DNSC) ระบุว่ายังไม่ทราบช่องทางการโจมตี แต่ยืนยันว่าผู้โจมตีใช้ BitLocker ในการเข้ารหัสข้อมูลแทนที่จะใช้เครื่องมือเฉพาะทางแบบ ransomware กลุ่มอื่น ๆ ซึ่งสะท้อนว่าการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือซับซ้อนเสมอไป ขณะนี้ DNSC และหน่วยข่าวกรองกำลังเร่งกู้ระบบและตรวจสอบความเสียหายเพิ่มเติม เหตุการณ์นี้ยังเชื่อมโยงกับแนวโน้มการโจมตีที่หลายประเทศในยุโรปมองว่าเป็น “สงครามลูกผสม” โดยเฉพาะการโจมตีที่เชื่อมโยงกับกลุ่มที่สนับสนุนรัสเซีย เช่น Z‑Pentest และ NoName057(16) ที่เคยโจมตีระบบน้ำและเว็บไซต์ของเดนมาร์ก รวมถึง Fancy Bear ที่ถูกกล่าวหาว่าโจมตีระบบควบคุมการบินของเยอรมนีในปี 2024 ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามถึงความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยไซเบอร์น้อยเกินไป 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ขนาดความเสียหายและผลกระทบ ➡️ คอมพิวเตอร์กว่า 1,000 เครื่องถูกปิดจาก BitLocker ransomware ➡️ ระบบสนับสนุน เช่น อีเมล เว็บเซอร์วิส และฐานข้อมูลหยุดทำงาน ✅ ระบบน้ำยังทำงานได้ตามปกติ ➡️ ระบบควบคุมการจ่ายน้ำไม่ถูกโจมตีโดยตรง ➡️ การควบคุมยังทำผ่านศูนย์สั่งการและการสื่อสารเสียง ✅ รูปแบบการโจมตีและการสืบสวน ➡️ ผู้โจมตีไม่ประกาศตัว แต่ทิ้งข้อความให้ติดต่อภายใน 7 วัน ➡️ ใช้ BitLocker ของ Windows ในการเข้ารหัสข้อมูล ‼️ ความเสี่ยงและสัญญาณเตือน ⛔ โครงสร้างพื้นฐานยุโรปกำลังเป็นเป้าหมายของ “สงครามลูกผสม” ⛔ เคยมีกรณีเดนมาร์กถูกโจมตีจนท่อแตกและบ้านเรือนขาดน้ำ ⛔ ความปลอดภัยไซเบอร์ยังเป็นเรื่องที่หลายหน่วยงานให้ความสำคัญต่ำเกินไป https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/1-000-computers-taken-offline-in-romanian-water-management-authority-hack-ransomware-takes-bitlocker-encrypted-systems-down
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    1,000 computers taken offline in Romanian water management authority hack
    No group has claimed the attack yet, and thankfully, water is still flowing in Romania.
    0 Comments 0 Shares 130 Views 0 Reviews
  • จับตาประชุมจีบีซี 24 ธ.ค. ชี้ชะตาหยุดยิงไทย-กัมพูชา ท่ามกลางเสียงปืนที่ชายแดน 'สีหศักดิ์' ลั่น หวังเห็นความจริงใจ ไม่ใช่สันติภาพบนกระดาษ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123465

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    จับตาประชุมจีบีซี 24 ธ.ค. ชี้ชะตาหยุดยิงไทย-กัมพูชา ท่ามกลางเสียงปืนที่ชายแดน 'สีหศักดิ์' ลั่น หวังเห็นความจริงใจ ไม่ใช่สันติภาพบนกระดาษ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123465 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Love
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 208 Views 0 Reviews
  • กรมศุลฯ เคาะแล้ว 1 มกราคม 2569 เริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าออนไลน์ตั้งแต่บาทแรก ยกเลิกเกณฑ์ยกเว้นของราคาไม่เกิน 1,500 บาท หวังสร้างความเป็นธรรมให้ผู้ค้าไทยและเพิ่มรายได้รัฐ คาดกระทบนักช้อปสายพรีออเดอร์ทั่วประเทศ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123463

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    กรมศุลฯ เคาะแล้ว 1 มกราคม 2569 เริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าออนไลน์ตั้งแต่บาทแรก ยกเลิกเกณฑ์ยกเว้นของราคาไม่เกิน 1,500 บาท หวังสร้างความเป็นธรรมให้ผู้ค้าไทยและเพิ่มรายได้รัฐ คาดกระทบนักช้อปสายพรีออเดอร์ทั่วประเทศ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123463 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 212 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันจันทร์(22ธ.ค.) ประกาศสร้างกองเรือรบติดอาวุธหนักชั้นใหม่ของอเมริกา ซึ่งจะตั้งชื่อตามตัวเขาเอง เกียรติยศที่ปกติแล้วจะสงวนไว้สำหรับบรรดาผู้นำอเมริกาที่พ้นจากการดำรงตำแหน่งไปแล้ว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123457

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันจันทร์(22ธ.ค.) ประกาศสร้างกองเรือรบติดอาวุธหนักชั้นใหม่ของอเมริกา ซึ่งจะตั้งชื่อตามตัวเขาเอง เกียรติยศที่ปกติแล้วจะสงวนไว้สำหรับบรรดาผู้นำอเมริกาที่พ้นจากการดำรงตำแหน่งไปแล้ว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123457 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 234 Views 0 Reviews
  • หมดทางไป! ผู้เชี่ยวชาญเขมรชี้อาเซียนล้มเหลวหยุดไฟสู้รบ ไม่เพียงไร้ข้อตกลงหยุดยิงทันที แต่ยังผลักภาระตัดสินใจไปสู่กลไกทวิภาคี GBC เปิดทางให้ไทยคุมเกมการเจรจา ขณะที่กัมพูชาถูกลดบทบาท เสียงเรียกร้องฟื้นข้อตกลงหยุดยิงเดิมถูกเมิน ท่ามกลางผู้พลัดถิ่นนับแสนและคำเตือนว่าหากไร้แรงกดดันจากมหาอำนาจ ความขัดแย้งอาจยืดเยื้อต่อไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123456

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire

    หมดทางไป! ผู้เชี่ยวชาญเขมรชี้อาเซียนล้มเหลวหยุดไฟสู้รบ ไม่เพียงไร้ข้อตกลงหยุดยิงทันที แต่ยังผลักภาระตัดสินใจไปสู่กลไกทวิภาคี GBC เปิดทางให้ไทยคุมเกมการเจรจา ขณะที่กัมพูชาถูกลดบทบาท เสียงเรียกร้องฟื้นข้อตกลงหยุดยิงเดิมถูกเมิน ท่ามกลางผู้พลัดถิ่นนับแสนและคำเตือนว่าหากไร้แรงกดดันจากมหาอำนาจ ความขัดแย้งอาจยืดเยื้อต่อไป . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123456 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 236 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เมื่อวันอาทิตย์(21ธ.ค.) แต่งตั้ง เจฟฟ์ แลนดรีย์ ผู้ว่าการรัฐลุยเซียนา เป็นทูตพิเศษประจำกรีนแลนด์ เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบใหม่จากเดนมาร์กและกรีนแลนด์ ต่อความสนใจของวอชิงตันที่มีต่อเกาะอาร์กติกที่อุดมไปด้วยแร่แห่งนี้ ในขณะที่เจ้าตัวยังเติมเชื้อไฟความโกรธ บอกว่ามีหน้าที่ทำให้กรีนแลนด์ ผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอเมริกา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123455

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เมื่อวันอาทิตย์(21ธ.ค.) แต่งตั้ง เจฟฟ์ แลนดรีย์ ผู้ว่าการรัฐลุยเซียนา เป็นทูตพิเศษประจำกรีนแลนด์ เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบใหม่จากเดนมาร์กและกรีนแลนด์ ต่อความสนใจของวอชิงตันที่มีต่อเกาะอาร์กติกที่อุดมไปด้วยแร่แห่งนี้ ในขณะที่เจ้าตัวยังเติมเชื้อไฟความโกรธ บอกว่ามีหน้าที่ทำให้กรีนแลนด์ ผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอเมริกา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123455 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 237 Views 0 Reviews
  • หน่วยยามฝั่งอเมริกาไล่ล่าเรือบรรทุกน้ำมันในน่านน้ำสากลใกล้เวเนซุเอลา ซึ่งอาจเป็นการสกัดเรือที่ถูกแซงก์ชันครั้งที่ 3 ในช่วงไม่ถึง 1 สัปดาห์ ขณะที่วอชิงตันเพิ่มดีกรีกดดันการากัสหนักขึ้น นักวิเคราะห์เตือนการกระทำทั้งหมดของอเมริกา ซึ่งรวมถึงการระเบิดเรือที่ถูกกล่าวหาลักลอบขนยาเสพติดและการยึดเรือบรรทุกน้ำมันอาจส่งผลต่อราคาพลังงาน บ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ในสายตาประชาคมโลก และสร้างหายนะต่อสิ่งแวดล้อมหากเกิดข้อผิดพลาดทำให้น้ำมันรั่วไหล
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123453

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    หน่วยยามฝั่งอเมริกาไล่ล่าเรือบรรทุกน้ำมันในน่านน้ำสากลใกล้เวเนซุเอลา ซึ่งอาจเป็นการสกัดเรือที่ถูกแซงก์ชันครั้งที่ 3 ในช่วงไม่ถึง 1 สัปดาห์ ขณะที่วอชิงตันเพิ่มดีกรีกดดันการากัสหนักขึ้น นักวิเคราะห์เตือนการกระทำทั้งหมดของอเมริกา ซึ่งรวมถึงการระเบิดเรือที่ถูกกล่าวหาลักลอบขนยาเสพติดและการยึดเรือบรรทุกน้ำมันอาจส่งผลต่อราคาพลังงาน บ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ในสายตาประชาคมโลก และสร้างหายนะต่อสิ่งแวดล้อมหากเกิดข้อผิดพลาดทำให้น้ำมันรั่วไหล . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123453 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 230 Views 0 Reviews
  • ภาคประชาสังคมเกาหลีใต้รวมตัวชุมนุมหน้าสถานทูตกัมพูชาประจำกรุงโซล เรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาแสดงความรับผิดชอบต่อปัญหาเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ พร้อมกดดันรัฐบาลโซลให้ใช้มาตรการตอบโต้ที่จริงจังและเป็นรูปธรรม หลังมีชาวเกาหลีจำนวนมากตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมหลอกลวง
    .
    สื่อท้องถิ่นรายงานว่า กลุ่มแนวร่วมภาคประชาชนและองค์กรกว่า 30 แห่ง ชูป้ายประณามกัมพูชาอย่างรุนแรง พร้อมตั้งคำถามต่อฝ่ายการเมืองเกาหลีใต้ที่เคยเดินทางเยือนกัมพูชา แต่ไม่ได้นำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเข้าสู่การพิจารณาอย่างจริงจัง
    .
    แกนนำการชุมนุมระบุว่า ปัญหาสแกมเมอร์ในกัมพูชาไม่ได้เป็นเพียงอาชญากรรมทั่วไป แต่เป็นโครงข่ายข้ามชาติที่สร้างความเสียหายต่อพลเมืองเกาหลีใต้ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลโซลทบทวนความสัมพันธ์ทางการทูต ความช่วยเหลือระหว่างประเทศ และมาตรการด้านความมั่นคง หากกัมพูชายังไม่แสดงความร่วมมืออย่างชัดเจน
    .
    การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนแรงกดดันทางสังคมที่เพิ่มขึ้นในเกาหลีใต้ ต่อบทบาทของกัมพูชาในปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ และอาจกลายเป็นประเด็นร้อนในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่อไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123199
    .
    #News1live #News1 #เกาหลีใต้ #กัมพูชา #สแกมเมอร์ #อาชญากรรมข้ามชาติ #การทูต
    ภาคประชาสังคมเกาหลีใต้รวมตัวชุมนุมหน้าสถานทูตกัมพูชาประจำกรุงโซล เรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาแสดงความรับผิดชอบต่อปัญหาเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ พร้อมกดดันรัฐบาลโซลให้ใช้มาตรการตอบโต้ที่จริงจังและเป็นรูปธรรม หลังมีชาวเกาหลีจำนวนมากตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมหลอกลวง . สื่อท้องถิ่นรายงานว่า กลุ่มแนวร่วมภาคประชาชนและองค์กรกว่า 30 แห่ง ชูป้ายประณามกัมพูชาอย่างรุนแรง พร้อมตั้งคำถามต่อฝ่ายการเมืองเกาหลีใต้ที่เคยเดินทางเยือนกัมพูชา แต่ไม่ได้นำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเข้าสู่การพิจารณาอย่างจริงจัง . แกนนำการชุมนุมระบุว่า ปัญหาสแกมเมอร์ในกัมพูชาไม่ได้เป็นเพียงอาชญากรรมทั่วไป แต่เป็นโครงข่ายข้ามชาติที่สร้างความเสียหายต่อพลเมืองเกาหลีใต้ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลโซลทบทวนความสัมพันธ์ทางการทูต ความช่วยเหลือระหว่างประเทศ และมาตรการด้านความมั่นคง หากกัมพูชายังไม่แสดงความร่วมมืออย่างชัดเจน . การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนแรงกดดันทางสังคมที่เพิ่มขึ้นในเกาหลีใต้ ต่อบทบาทของกัมพูชาในปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ และอาจกลายเป็นประเด็นร้อนในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่อไป . อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123199 . #News1live #News1 #เกาหลีใต้ #กัมพูชา #สแกมเมอร์ #อาชญากรรมข้ามชาติ #การทูต
    Like
    Love
    3
    0 Comments 0 Shares 286 Views 0 Reviews
  • กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกรณีอากาศยานเฮลิคอปเตอร์แบบ ฮ.ท.212 ของกองทัพบก ประสบเหตุจำเป็นต้องลงฉุกเฉิน ขณะร่อนลง ณ สนามบินสุรินทร์ภักดี จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลาประมาณ 17.19 น. วันที่ 22 ธันวาคม 2568

    จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้กำลังพลประจำอากาศยานได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยรวม 4 นาย เจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมสถานการณ์และให้การช่วยเหลือโดยทันที ไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่แต่อย่างใด

    ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดถูกนำส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน โดยอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และอาการโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย

    ทั้งนี้ สาเหตุของเหตุการณ์อยู่ระหว่างการตรวจสอบโดยคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ตามระเบียบและขั้นตอนของกองทัพบก เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นธรรมในทุกมิติ โดยกองทัพภาคที่ 2 จะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป

    อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123388

    #News1live #News1 #กองทัพภาคที่2 #ฮ.เบลล์212 #สุรินทร์
    กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกรณีอากาศยานเฮลิคอปเตอร์แบบ ฮ.ท.212 ของกองทัพบก ประสบเหตุจำเป็นต้องลงฉุกเฉิน ขณะร่อนลง ณ สนามบินสุรินทร์ภักดี จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลาประมาณ 17.19 น. วันที่ 22 ธันวาคม 2568 จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้กำลังพลประจำอากาศยานได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยรวม 4 นาย เจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมสถานการณ์และให้การช่วยเหลือโดยทันที ไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่แต่อย่างใด ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดถูกนำส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน โดยอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และอาการโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย ทั้งนี้ สาเหตุของเหตุการณ์อยู่ระหว่างการตรวจสอบโดยคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ตามระเบียบและขั้นตอนของกองทัพบก เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นธรรมในทุกมิติ โดยกองทัพภาคที่ 2 จะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123388 #News1live #News1 #กองทัพภาคที่2 #ฮ.เบลล์212 #สุรินทร์
    Like
    Love
    4
    0 Comments 0 Shares 324 Views 0 Reviews
  • ผู้บัญชาการทหารบก สดุดีและเชิดชูเกียรติกำลังพลทุกนาย ที่อุทิศตนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ เพื่อพิทักษ์รักษาอธิปไตย ความมั่นคง และความปลอดภัยของประเทศชาติ พร้อมย้ำให้ผู้บังคับหน่วยทุกระดับดูแลกำลังพลและครอบครัวอย่างดีที่สุด ยึดหลัก “ทุกคนมีคุณค่าเท่าเทียมกัน”

    การกล่าวเน้นย้ำดังกล่าว มีขึ้นในการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ครั้งที่ 3/2569 โดยผู้บัญชาการทหารบกได้แสดงความห่วงใยต่อกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติภารกิจ รวมถึงครอบครัวของผู้เสียสละ พร้อมขอให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ควบคู่กับการดูแลประชาชน และร่วมกันป้องกันไม่ให้วาทกรรมบิดเบือนสร้างความแตกแยกในสังคม

    ทั้งนี้ เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2569 ผู้บัญชาการทหารบกได้อำนวยพรให้กำลังพลและครอบครัวทุกนายประสบความสุข มีสุขภาพแข็งแรง มีกำลังกาย กำลังใจ และความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานตลอดปีใหม่

    อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123390

    #News1live #News1 #กองทัพบก #ผบ.ทบ. #กำลังพล
    ผู้บัญชาการทหารบก สดุดีและเชิดชูเกียรติกำลังพลทุกนาย ที่อุทิศตนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ เพื่อพิทักษ์รักษาอธิปไตย ความมั่นคง และความปลอดภัยของประเทศชาติ พร้อมย้ำให้ผู้บังคับหน่วยทุกระดับดูแลกำลังพลและครอบครัวอย่างดีที่สุด ยึดหลัก “ทุกคนมีคุณค่าเท่าเทียมกัน” การกล่าวเน้นย้ำดังกล่าว มีขึ้นในการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ครั้งที่ 3/2569 โดยผู้บัญชาการทหารบกได้แสดงความห่วงใยต่อกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติภารกิจ รวมถึงครอบครัวของผู้เสียสละ พร้อมขอให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ควบคู่กับการดูแลประชาชน และร่วมกันป้องกันไม่ให้วาทกรรมบิดเบือนสร้างความแตกแยกในสังคม ทั้งนี้ เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2569 ผู้บัญชาการทหารบกได้อำนวยพรให้กำลังพลและครอบครัวทุกนายประสบความสุข มีสุขภาพแข็งแรง มีกำลังกาย กำลังใจ และความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานตลอดปีใหม่ อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123390 #News1live #News1 #กองทัพบก #ผบ.ทบ. #กำลังพล
    Like
    Love
    4
    0 Comments 0 Shares 292 Views 0 Reviews
  • ตำรวจนครบาลเปิดปฏิบัติการทลายโกดังพักรถจักรยานยนต์รายใหญ่ ย่านพุทธมณฑลสาย 2 หลังผู้เสียหายแจ้งความรถจักรยานยนต์ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ ถูกลักขโมย ก่อนสืบสวนพบสัญญาณ GPS ชี้เป้าถึงโกดังดังกล่าว

    เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นพบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย พร้อมรถต้องสงสัยเพิ่มเติมอีก 10 คัน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คาดเป็นรถที่ถูกลักขโมยมาแล้วรอส่งต่อไปขายตามแนวชายแดนเมียนมา

    เบื้องต้นจับกุมชายวัย 36 ปี ทำหน้าที่ดูแลโกดัง ดำเนินคดีในข้อหา “ลักทรัพย์หรือลักของโจร” พร้อมยึดรถของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน ขยายผลหาขบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป

    อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123383

    #News1live #News1 #ตำรวจนครบาล #รถจักรยานยนต์หาย #พุทธมณฑลสาย2 #ชายแดนพม่า
    ตำรวจนครบาลเปิดปฏิบัติการทลายโกดังพักรถจักรยานยนต์รายใหญ่ ย่านพุทธมณฑลสาย 2 หลังผู้เสียหายแจ้งความรถจักรยานยนต์ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ ถูกลักขโมย ก่อนสืบสวนพบสัญญาณ GPS ชี้เป้าถึงโกดังดังกล่าว เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นพบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย พร้อมรถต้องสงสัยเพิ่มเติมอีก 10 คัน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คาดเป็นรถที่ถูกลักขโมยมาแล้วรอส่งต่อไปขายตามแนวชายแดนเมียนมา เบื้องต้นจับกุมชายวัย 36 ปี ทำหน้าที่ดูแลโกดัง ดำเนินคดีในข้อหา “ลักทรัพย์หรือลักของโจร” พร้อมยึดรถของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน ขยายผลหาขบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123383 #News1live #News1 #ตำรวจนครบาล #รถจักรยานยนต์หาย #พุทธมณฑลสาย2 #ชายแดนพม่า
    Like
    Love
    3
    0 Comments 0 Shares 274 Views 0 Reviews
  • “อาจารย์ช้าง” ออกโรงวิจารณ์ระบบการศึกษาไทย หลังพบข้อสอบแข่งขันวิทยาศาสตร์ระดับ ป.5 ใช้เนื้อหาฟิสิกส์ ม.4 ทั้งการแตกแรงเวกเตอร์ กฎของนิวตัน และตรีโกณมิติ ชี้ไม่ใช่ความเก่งของเด็ก แต่คือความล้มเหลวของผู้ใหญ่ที่ออกแบบการวัดผลผิดวัย

    อาจารย์ช้างระบุ ข้อสอบลักษณะนี้ไม่ได้วัดไหวพริบหรือการคิดเชิงวิทยาศาสตร์ แต่กำลังวัดเพียงว่า “ใครมีเงินเรียนพิเศษล่วงหน้าได้มากกว่า” ตอกย้ำความเหลื่อมล้ำ และเปลี่ยนสนามแข่งขันทางปัญญาให้กลายเป็นการแข่งขันทางฐานะครอบครัว

    พร้อมเตือนว่าการออกข้อสอบยากเกินหลักสูตร คือวิธีที่มักง่ายที่สุดของผู้ออกข้อสอบ และกำลังทำลายทั้งความมั่นใจ ความรักในการเรียนรู้ และความเชื่อของเด็กว่า ความพยายามมีความหมาย

    อาจารย์ช้างย้ำว่า การศึกษาที่ดีไม่ใช่ทำให้เด็ก “อึ้ง” แต่ต้องทำให้เด็ก “คิดได้” ในระดับวัยของเขา หากระบบยังยึดติดว่าข้อสอบยากคือเด็กเก่ง สังคมอาจได้ผู้ใหญ่ที่ท่องสูตรได้เร็ว แต่ไม่เข้าใจความยุติธรรมของสังคมในวันข้างหน้า

    อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123397

    #News1live #News1 #การศึกษาไทย #ข้อสอบผิดวัย #ความเหลื่อมล้ำ #เด็กไม่ใช่ปัญหา
    “อาจารย์ช้าง” ออกโรงวิจารณ์ระบบการศึกษาไทย หลังพบข้อสอบแข่งขันวิทยาศาสตร์ระดับ ป.5 ใช้เนื้อหาฟิสิกส์ ม.4 ทั้งการแตกแรงเวกเตอร์ กฎของนิวตัน และตรีโกณมิติ ชี้ไม่ใช่ความเก่งของเด็ก แต่คือความล้มเหลวของผู้ใหญ่ที่ออกแบบการวัดผลผิดวัย อาจารย์ช้างระบุ ข้อสอบลักษณะนี้ไม่ได้วัดไหวพริบหรือการคิดเชิงวิทยาศาสตร์ แต่กำลังวัดเพียงว่า “ใครมีเงินเรียนพิเศษล่วงหน้าได้มากกว่า” ตอกย้ำความเหลื่อมล้ำ และเปลี่ยนสนามแข่งขันทางปัญญาให้กลายเป็นการแข่งขันทางฐานะครอบครัว พร้อมเตือนว่าการออกข้อสอบยากเกินหลักสูตร คือวิธีที่มักง่ายที่สุดของผู้ออกข้อสอบ และกำลังทำลายทั้งความมั่นใจ ความรักในการเรียนรู้ และความเชื่อของเด็กว่า ความพยายามมีความหมาย อาจารย์ช้างย้ำว่า การศึกษาที่ดีไม่ใช่ทำให้เด็ก “อึ้ง” แต่ต้องทำให้เด็ก “คิดได้” ในระดับวัยของเขา หากระบบยังยึดติดว่าข้อสอบยากคือเด็กเก่ง สังคมอาจได้ผู้ใหญ่ที่ท่องสูตรได้เร็ว แต่ไม่เข้าใจความยุติธรรมของสังคมในวันข้างหน้า อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123397 #News1live #News1 #การศึกษาไทย #ข้อสอบผิดวัย #ความเหลื่อมล้ำ #เด็กไม่ใช่ปัญหา
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 306 Views 0 Reviews
More Results