กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้ง ตรวจพบกระสุนปืน ค. ดัดแปลงเป็นกับดักสังหาร ใช้ลวดสะดุดมาประกอบ ในเขตไทยใกล้เนิน 350 ปราสาทตาควาย จ.สุริทร์
.
วันนี้ กองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 68 เวลาประมาณ 11.50 น. กองร้อยอาวุธเบาที่ 1 กองพันทหารราบที่ 27 ตรวจพบการวางกับระเบิดแสวงเครื่องในลักษณะใช้ลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิดประกอบกับการใช้ลวดสะดุดของทหารกัมพูชา ในพื้นที่ทิศตะวันตกของปราสาทตาควาย ห่างจากเนิน 350 ประมาณ 1.7 กิโลเมตร ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ใกล้กับบริเวณแนวการวางลวดหนามป้องกันตนเองในเขตไทย
.
ทั้งนี้ ยุทธวิธีของทหารกัมพูชาสอดคล้องกับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 68 ที่ฝ่ายไทยตรวจพบทหารกัมพูชา ดักซุ่มและตรวจการณ์ฝ่ายไทย บริเวณทิศตะวันตกของเนิน 350 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งต่อมา จากการเข้าตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบการวางทุ่นระเบิด PMN-2 รวม 3 ทุ่น พร้อมลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิด 2 ลูก และตะปูเรือใบจำนวนมาก คาดว่าลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิดดังกล่าวจะถูกเตรียมนำมาใช้ในการวางกับระเบิดแสวงเครื่อง ตามที่ปรากฏ
.
จากกรณีดังกล่าว พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การกระทำและหลักฐานดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน ทั้งในเรื่องการใช้กับระเบิดแสวงเครื่อง เป็นอาวุธลอบโจมตีทหารไทยโดยหวังผลให้เกิดอันตรายถึงชีวิตในดินแดนของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการกระทำยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดระหว่างกัน
.
การกระทำดังกล่าวยังย้อนแย้งกับท่าทีที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือนต่อประชาคมระหว่างประเทศว่าเป็นผู้รักสันติและยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิง ทั้งที่ข้อเท็จจริงและหลักฐานต่าง ๆ ที่พบ ยืนยันได้ว่ากัมพูชาละเมิดข้อตกลง รวมทั้งอนุสัญญาออตตาวามาโดยตลอด
.
นอกจากนี้ โฆษกกองทัพบกยังได้กล่าวอีกว่า จากการที่ฝ่ายกัมพูชามีการใช้ยุทธวิธีวางทุ่นระเบิด เพื่อลอบทำร้ายฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการผ่านกองทัพภาคที่ 2 กำชับให้กำลังพลทุกนายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบ ไม่ประมาท และใช้ชุดทหารช่างเก็บกู้ทุ่นระเบิดเข้าตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงเพื่อความปลอดภัยในการปฏิบัติภารกิจในทุกครั้ง
.
วันนี้ กองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 68 เวลาประมาณ 11.50 น. กองร้อยอาวุธเบาที่ 1 กองพันทหารราบที่ 27 ตรวจพบการวางกับระเบิดแสวงเครื่องในลักษณะใช้ลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิดประกอบกับการใช้ลวดสะดุดของทหารกัมพูชา ในพื้นที่ทิศตะวันตกของปราสาทตาควาย ห่างจากเนิน 350 ประมาณ 1.7 กิโลเมตร ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ใกล้กับบริเวณแนวการวางลวดหนามป้องกันตนเองในเขตไทย
.
ทั้งนี้ ยุทธวิธีของทหารกัมพูชาสอดคล้องกับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 68 ที่ฝ่ายไทยตรวจพบทหารกัมพูชา ดักซุ่มและตรวจการณ์ฝ่ายไทย บริเวณทิศตะวันตกของเนิน 350 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งต่อมา จากการเข้าตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบการวางทุ่นระเบิด PMN-2 รวม 3 ทุ่น พร้อมลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิด 2 ลูก และตะปูเรือใบจำนวนมาก คาดว่าลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิดดังกล่าวจะถูกเตรียมนำมาใช้ในการวางกับระเบิดแสวงเครื่อง ตามที่ปรากฏ
.
จากกรณีดังกล่าว พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การกระทำและหลักฐานดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน ทั้งในเรื่องการใช้กับระเบิดแสวงเครื่อง เป็นอาวุธลอบโจมตีทหารไทยโดยหวังผลให้เกิดอันตรายถึงชีวิตในดินแดนของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการกระทำยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดระหว่างกัน
.
การกระทำดังกล่าวยังย้อนแย้งกับท่าทีที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือนต่อประชาคมระหว่างประเทศว่าเป็นผู้รักสันติและยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิง ทั้งที่ข้อเท็จจริงและหลักฐานต่าง ๆ ที่พบ ยืนยันได้ว่ากัมพูชาละเมิดข้อตกลง รวมทั้งอนุสัญญาออตตาวามาโดยตลอด
.
นอกจากนี้ โฆษกกองทัพบกยังได้กล่าวอีกว่า จากการที่ฝ่ายกัมพูชามีการใช้ยุทธวิธีวางทุ่นระเบิด เพื่อลอบทำร้ายฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการผ่านกองทัพภาคที่ 2 กำชับให้กำลังพลทุกนายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบ ไม่ประมาท และใช้ชุดทหารช่างเก็บกู้ทุ่นระเบิดเข้าตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงเพื่อความปลอดภัยในการปฏิบัติภารกิจในทุกครั้ง
กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้ง ตรวจพบกระสุนปืน ค. ดัดแปลงเป็นกับดักสังหาร ใช้ลวดสะดุดมาประกอบ ในเขตไทยใกล้เนิน 350 ปราสาทตาควาย จ.สุริทร์
.
วันนี้ กองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 68 เวลาประมาณ 11.50 น. กองร้อยอาวุธเบาที่ 1 กองพันทหารราบที่ 27 ตรวจพบการวางกับระเบิดแสวงเครื่องในลักษณะใช้ลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิดประกอบกับการใช้ลวดสะดุดของทหารกัมพูชา ในพื้นที่ทิศตะวันตกของปราสาทตาควาย ห่างจากเนิน 350 ประมาณ 1.7 กิโลเมตร ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ใกล้กับบริเวณแนวการวางลวดหนามป้องกันตนเองในเขตไทย
.
ทั้งนี้ ยุทธวิธีของทหารกัมพูชาสอดคล้องกับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 68 ที่ฝ่ายไทยตรวจพบทหารกัมพูชา ดักซุ่มและตรวจการณ์ฝ่ายไทย บริเวณทิศตะวันตกของเนิน 350 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งต่อมา จากการเข้าตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบการวางทุ่นระเบิด PMN-2 รวม 3 ทุ่น พร้อมลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิด 2 ลูก และตะปูเรือใบจำนวนมาก คาดว่าลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิดดังกล่าวจะถูกเตรียมนำมาใช้ในการวางกับระเบิดแสวงเครื่อง ตามที่ปรากฏ
.
จากกรณีดังกล่าว พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การกระทำและหลักฐานดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน ทั้งในเรื่องการใช้กับระเบิดแสวงเครื่อง เป็นอาวุธลอบโจมตีทหารไทยโดยหวังผลให้เกิดอันตรายถึงชีวิตในดินแดนของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการกระทำยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดระหว่างกัน
.
การกระทำดังกล่าวยังย้อนแย้งกับท่าทีที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือนต่อประชาคมระหว่างประเทศว่าเป็นผู้รักสันติและยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิง ทั้งที่ข้อเท็จจริงและหลักฐานต่าง ๆ ที่พบ ยืนยันได้ว่ากัมพูชาละเมิดข้อตกลง รวมทั้งอนุสัญญาออตตาวามาโดยตลอด
.
นอกจากนี้ โฆษกกองทัพบกยังได้กล่าวอีกว่า จากการที่ฝ่ายกัมพูชามีการใช้ยุทธวิธีวางทุ่นระเบิด เพื่อลอบทำร้ายฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการผ่านกองทัพภาคที่ 2 กำชับให้กำลังพลทุกนายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบ ไม่ประมาท และใช้ชุดทหารช่างเก็บกู้ทุ่นระเบิดเข้าตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงเพื่อความปลอดภัยในการปฏิบัติภารกิจในทุกครั้ง
0 Comments
0 Shares
104 Views
0 Reviews