• ศาลแขวงพระนครใต้ออกหมายจับ “แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” หลังไม่มาศาลตามนัดฟังคำพิพากษาคดีฉ้อโกง โดยถูกฟ้องว่าหลอก “หมอระวีวัฒน์” ให้ร่วมลงทุนซื้อหุ้นกู้มูลค่า 30 ล้านบาท ทั้งที่บริษัทไม่สามารถชำระคืนได้ ศาลชี้มีพฤติการณ์จงใจหลบหนี พร้อมนัดฟังคำพิพากษาใหม่ 26 ธ.ค.นี้

    อ่านต่อ... https://news1live.com/detail/9680000112835

    #แอนจักรพงษ์ #คดีฉ้อโกง #หุ้นกู้ #ศาลแขวงพระนครใต้ #News1live
    ศาลแขวงพระนครใต้ออกหมายจับ “แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” หลังไม่มาศาลตามนัดฟังคำพิพากษาคดีฉ้อโกง โดยถูกฟ้องว่าหลอก “หมอระวีวัฒน์” ให้ร่วมลงทุนซื้อหุ้นกู้มูลค่า 30 ล้านบาท ทั้งที่บริษัทไม่สามารถชำระคืนได้ ศาลชี้มีพฤติการณ์จงใจหลบหนี พร้อมนัดฟังคำพิพากษาใหม่ 26 ธ.ค.นี้ • อ่านต่อ... https://news1live.com/detail/9680000112835 • #แอนจักรพงษ์ #คดีฉ้อโกง #หุ้นกู้ #ศาลแขวงพระนครใต้ #News1live
    0 Comments 0 Shares 48 Views 0 Reviews
  • ศาลแขวงพระนครใต้มีคำพิพากษาจำคุก “ปู มัณฑนา หิมะทองคำ” เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีฉ้อโกงหลอกร่วมลงทุน หลังคู่กรณีฟ้องร้องจากเหตุการณ์ที่สร้างกระแสใหญ่ในโซเชียลและสื่อมวลชนตั้งแต่ปี 2567
    - ทนายความเตรียมหลักทรัพย์ยื่นขอประกันตัว ขณะนี้ศาลกำลังพิจารณา
    - คดีนี้ถูกจับตาอย่างหนัก เพราะเริ่มต้นจากข้อกล่าวหาเรื่อง “กู้ยืมเงิน” ก่อนเปลี่ยนรูปคดีเป็น “ฉ้อโกงร่วมลงทุน”
    - ฝ่ายจำเลยยืนยันเคยได้รับผลกระทบจากการนำเสนอในรายการโทรทัศน์ชื่อดัง จนเกิดความเข้าใจผิดในสังคม

    ศึกคดีดังที่หลายสำนักข่าวเกาะติด รอดูทิศทางหลังศาลมีคำพิพากษาในวันนี้

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000112666

    #ปูมัณฑนา #คดีฉ้อโกง #ศาลแขวงพระนครใต้ #โหนกระแส #ดารา #ข่าวบันเทิง #คดีดัง #News1live #News1
    ศาลแขวงพระนครใต้มีคำพิพากษาจำคุก “ปู มัณฑนา หิมะทองคำ” เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีฉ้อโกงหลอกร่วมลงทุน หลังคู่กรณีฟ้องร้องจากเหตุการณ์ที่สร้างกระแสใหญ่ในโซเชียลและสื่อมวลชนตั้งแต่ปี 2567 - ทนายความเตรียมหลักทรัพย์ยื่นขอประกันตัว ขณะนี้ศาลกำลังพิจารณา - คดีนี้ถูกจับตาอย่างหนัก เพราะเริ่มต้นจากข้อกล่าวหาเรื่อง “กู้ยืมเงิน” ก่อนเปลี่ยนรูปคดีเป็น “ฉ้อโกงร่วมลงทุน” - ฝ่ายจำเลยยืนยันเคยได้รับผลกระทบจากการนำเสนอในรายการโทรทัศน์ชื่อดัง จนเกิดความเข้าใจผิดในสังคม • ศึกคดีดังที่หลายสำนักข่าวเกาะติด รอดูทิศทางหลังศาลมีคำพิพากษาในวันนี้ • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000112666 • #ปูมัณฑนา #คดีฉ้อโกง #ศาลแขวงพระนครใต้ #โหนกระแส #ดารา #ข่าวบันเทิง #คดีดัง #News1live #News1
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • หมวกกันน็อกใบเดียว ใช้ทำร้ายผู้อื่นถึงตายได้

    เหตุอุกอาจทำร้ายร่างกายใจกลางเมือง ขณะที่ นพ.ชเนษฎ์ ศรีสุโข เจ้าของมาลิคลินิกเวชกรรม สาขาสีลม 3 กำลังเดินออกจากคลีนิกหลังเลิกงาน มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน บุกเข้ามารุมทำร้ายด้วยการใช้หมวกกันน็อกรุมตีหลายครั้งจนเลือดอาบ เจ้าตัวพยายามวิ่งหลบหนีหกล้มกลางถนน ก่อนที่จะมีรถยนต์ของชาวบ้านขับผ่านมา คนร้ายจึงขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีแสด ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.28 น. ของวันที่ 25 ม.ค. 2568 นพ.ชเนษฎ์ ได้รับบาดเจ็บ ศีรษะถูกตีด้วยของแข็งจนเลือดอาบ ก่อนแจ้งความกับ ว่าที่ พ.ต.ท.สถิต สะดีวงศ์ พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ และตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ

    เมื่อมีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชน ผู้ก่อเหตุพร้อมด้วยทนายความจึงเข้ามอบตัวสู้คดีและประกันตัวออกไป อ้างว่าหูแว่ว ติดยา ในวันที่ไปศาลแขวงพระนครใต้ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2568 จำเลยพาภรรยา ญาติ และลูกน้อยไปศาลพร้อมทนายความด้วย ตอนแรกจำเลยกล่าวหาว่า นพ.ชเนษฎ์ ไปด่าพ่อ แต่ต่อมาก็อ้างว่าพนักงานคลีนิกไปด่าพ่อ ซึ่ง นพ.ชเนษฎ์ ตั้งข้อสังเกตว่าที่ผ่านมา มีความพยายามใช้ชื่อปลอมร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ให้เข้ามาสอบสวนคลินิก แต่ไม่พบความผิดปกติใดๆ ก่อนจะเกิดเรื่องขึ้น ถึงกระนั้นเหตุการณ์นี้เปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาล ทุกวันนี้ต้องว่าจ้างทีมอารักขามืออาชีพช่วยดูแลความปลอดภัย

    สิ่งที่น่าคิดจากคดีนี้ก็คือ คนร้ายเลือกใช้หมวกกันน็อกเป็นอาวุธทำร้ายร่างกาย นพ.ชเนษฎ์ เปิดเผยว่า บริษัทรักษาความปลอดภัยในไทยหลายแห่งได้แจ้งมาว่า จากคดีดังกล่าวพบว่าหมวกกันน็อกเป็นที่นิยมในหมู่คนร้าย เพราะมีโทษเบาไปถึงศาลแขวง ไม่ใช่ศาลอาญา รวมทั้งหามาเป็นอาวุธได้ง่าย มีการแนะนำให้ตนหาหมวกกันน็อกมาลองทุบแตงโมดู จึงทดลองทุบเอง ที่กลุ่มสืบเสาะและพินิจ กรมคุมประพฤติ กรุงเทพมหานคร 5 ซึ่งเฟซบุ๊กส่วนตัวของ นพ.ชเนษฎ์ นำมาเผยแพร่ พบว่าแตงโมแตก ซึ่งหากทุบจุดสำคัญของศีรษะอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

    ถึงกระนั้น ตามกฎหมายแล้วหมวกกันน็อกไม่ถือว่าเป็นอาวุธ และในทางคดีพบว่าเป็นการทำร้ายร่างกายธรรมดาไม่สาหัส ทำให้คดีทำร้ายร่างกายครั้งนี้ไปถึงแค่ศาลแขวง ไปไม่ถึงศาลอาญา แม้เหตุการณ์นี้จะทำให้ นพ.ชเนษฎ์ บาดเจ็บถึงขั้นเลือดอาบก็ตาม ปัจจุบัน ณ เดือนมกราคม 2568 ประเทศไทยมีรถจักรยานยนต์มากกว่า 22.85 ล้านคัน รถจักรยายยนต์รับจ้างกว่า 1.17 แสนคัน และมีใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์รวมกันกว่า 13.10 ล้านใบ การใช้หมวกกันน็อกเป็นอาวุธทำร้ายร่างกาย ถือเป็นอีกช่องโหว่ทางกฎหมาย ที่พลเมืองดีและสุจริตชนทั้งหลายพึงระวัง

    #Newskit
    หมวกกันน็อกใบเดียว ใช้ทำร้ายผู้อื่นถึงตายได้ เหตุอุกอาจทำร้ายร่างกายใจกลางเมือง ขณะที่ นพ.ชเนษฎ์ ศรีสุโข เจ้าของมาลิคลินิกเวชกรรม สาขาสีลม 3 กำลังเดินออกจากคลีนิกหลังเลิกงาน มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน บุกเข้ามารุมทำร้ายด้วยการใช้หมวกกันน็อกรุมตีหลายครั้งจนเลือดอาบ เจ้าตัวพยายามวิ่งหลบหนีหกล้มกลางถนน ก่อนที่จะมีรถยนต์ของชาวบ้านขับผ่านมา คนร้ายจึงขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีแสด ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.28 น. ของวันที่ 25 ม.ค. 2568 นพ.ชเนษฎ์ ได้รับบาดเจ็บ ศีรษะถูกตีด้วยของแข็งจนเลือดอาบ ก่อนแจ้งความกับ ว่าที่ พ.ต.ท.สถิต สะดีวงศ์ พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ และตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อมีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชน ผู้ก่อเหตุพร้อมด้วยทนายความจึงเข้ามอบตัวสู้คดีและประกันตัวออกไป อ้างว่าหูแว่ว ติดยา ในวันที่ไปศาลแขวงพระนครใต้ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2568 จำเลยพาภรรยา ญาติ และลูกน้อยไปศาลพร้อมทนายความด้วย ตอนแรกจำเลยกล่าวหาว่า นพ.ชเนษฎ์ ไปด่าพ่อ แต่ต่อมาก็อ้างว่าพนักงานคลีนิกไปด่าพ่อ ซึ่ง นพ.ชเนษฎ์ ตั้งข้อสังเกตว่าที่ผ่านมา มีความพยายามใช้ชื่อปลอมร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ให้เข้ามาสอบสวนคลินิก แต่ไม่พบความผิดปกติใดๆ ก่อนจะเกิดเรื่องขึ้น ถึงกระนั้นเหตุการณ์นี้เปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาล ทุกวันนี้ต้องว่าจ้างทีมอารักขามืออาชีพช่วยดูแลความปลอดภัย สิ่งที่น่าคิดจากคดีนี้ก็คือ คนร้ายเลือกใช้หมวกกันน็อกเป็นอาวุธทำร้ายร่างกาย นพ.ชเนษฎ์ เปิดเผยว่า บริษัทรักษาความปลอดภัยในไทยหลายแห่งได้แจ้งมาว่า จากคดีดังกล่าวพบว่าหมวกกันน็อกเป็นที่นิยมในหมู่คนร้าย เพราะมีโทษเบาไปถึงศาลแขวง ไม่ใช่ศาลอาญา รวมทั้งหามาเป็นอาวุธได้ง่าย มีการแนะนำให้ตนหาหมวกกันน็อกมาลองทุบแตงโมดู จึงทดลองทุบเอง ที่กลุ่มสืบเสาะและพินิจ กรมคุมประพฤติ กรุงเทพมหานคร 5 ซึ่งเฟซบุ๊กส่วนตัวของ นพ.ชเนษฎ์ นำมาเผยแพร่ พบว่าแตงโมแตก ซึ่งหากทุบจุดสำคัญของศีรษะอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ถึงกระนั้น ตามกฎหมายแล้วหมวกกันน็อกไม่ถือว่าเป็นอาวุธ และในทางคดีพบว่าเป็นการทำร้ายร่างกายธรรมดาไม่สาหัส ทำให้คดีทำร้ายร่างกายครั้งนี้ไปถึงแค่ศาลแขวง ไปไม่ถึงศาลอาญา แม้เหตุการณ์นี้จะทำให้ นพ.ชเนษฎ์ บาดเจ็บถึงขั้นเลือดอาบก็ตาม ปัจจุบัน ณ เดือนมกราคม 2568 ประเทศไทยมีรถจักรยานยนต์มากกว่า 22.85 ล้านคัน รถจักรยายยนต์รับจ้างกว่า 1.17 แสนคัน และมีใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์รวมกันกว่า 13.10 ล้านใบ การใช้หมวกกันน็อกเป็นอาวุธทำร้ายร่างกาย ถือเป็นอีกช่องโหว่ทางกฎหมาย ที่พลเมืองดีและสุจริตชนทั้งหลายพึงระวัง #Newskit
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 1017 Views 0 Reviews
  • กองปราบยื่นผัดฟ้องคดี ’เชนธนา-อมาโด้’ ฉ้อโกง ไทยยินตัน 79 ล้าน ชี้พฤติการณ์ใช้สัญญาซื้อขายหลอกลวง ส่งมอบสินค้าผลิตภัณฑ์ หลังเจ้าตัวให้การปฏิเสธสู้คดี

    วันนี้ (20 พ.ย.) ที่ศาลแขวงพระนครใต้ ถนนเจริญกรุง พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้ยื่นคำร้องผัดฟ้องผู้ต้องหาครั้งที่ 1 ในคดีที่มีการกล่าวหาบริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัดโดย นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจ ,นายธนาตรัยฉัตร หรือเชน ภูโชคอนันต์ อดีตนักร้องชื่อดัง อายุ 37 ปี น.ส.กาลกัลยา ภูโชคอนันต์ อายุ 34 ปี เป็นผู้ต้องหาที่ 1 - 3 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง

    คำร้องผัดฟ้องระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ย.2567 เวลา 14.00 น.พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1กองบังคับการปราบปราม ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด โดย นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ ในฐานะ กรรมการผู้มีอำนาจ ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวก รวม 3 คน ทราบว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกง" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 341

    พฤติการณ์ของคดี คือ ก่อนเกิดเหตุ บริษัทไทยยินต้น จำกัด ประกอบกิจการนำเข้าสินค้าจากประเทศญี่ปุ่น มาจำหน่ายในประเทศไทย และได้แจ้งจดทะเบียนผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโปรโบโอติก ภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ "ยินตัน บิฟิน่า อีเอ็กซ์" จากคณะกรรมการอาหารและยาตามกฎหมาย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000111751

    #MGROnline #กองปราบ #เชนธนา #อมาโด้
    กองปราบยื่นผัดฟ้องคดี ’เชนธนา-อมาโด้’ ฉ้อโกง ไทยยินตัน 79 ล้าน ชี้พฤติการณ์ใช้สัญญาซื้อขายหลอกลวง ส่งมอบสินค้าผลิตภัณฑ์ หลังเจ้าตัวให้การปฏิเสธสู้คดี • วันนี้ (20 พ.ย.) ที่ศาลแขวงพระนครใต้ ถนนเจริญกรุง พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้ยื่นคำร้องผัดฟ้องผู้ต้องหาครั้งที่ 1 ในคดีที่มีการกล่าวหาบริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัดโดย นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจ ,นายธนาตรัยฉัตร หรือเชน ภูโชคอนันต์ อดีตนักร้องชื่อดัง อายุ 37 ปี น.ส.กาลกัลยา ภูโชคอนันต์ อายุ 34 ปี เป็นผู้ต้องหาที่ 1 - 3 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง • คำร้องผัดฟ้องระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ย.2567 เวลา 14.00 น.พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1กองบังคับการปราบปราม ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด โดย นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ ในฐานะ กรรมการผู้มีอำนาจ ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวก รวม 3 คน ทราบว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกง" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 341 • พฤติการณ์ของคดี คือ ก่อนเกิดเหตุ บริษัทไทยยินต้น จำกัด ประกอบกิจการนำเข้าสินค้าจากประเทศญี่ปุ่น มาจำหน่ายในประเทศไทย และได้แจ้งจดทะเบียนผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโปรโบโอติก ภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ "ยินตัน บิฟิน่า อีเอ็กซ์" จากคณะกรรมการอาหารและยาตามกฎหมาย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000111751 • #MGROnline #กองปราบ #เชนธนา #อมาโด้
    0 Comments 0 Shares 803 Views 0 Reviews