• เรื่องเล่าจาก rootkit ถึง OCR: เมื่อการขโมยรหัสผ่านกลายเป็นการปลอมตัวระดับรัฐ

    การรั่วไหลของข้อมูลที่เรียกว่า “Kim dump” เปิดเผยการทำงานภายในของกลุ่ม Kimsuky ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลเกาหลีเหนือ โดยมีเป้าหมายหลักคือการขโมยข้อมูลรับรอง (credentials) จากระบบของรัฐบาลเกาหลีใต้และไต้หวัน

    ในข้อมูลที่รั่วออกมา มีทั้งประวัติการใช้คำสั่งในเทอร์มินัล, rootkit สำหรับ Linux, โดเมนฟิชชิ่งที่เลียนแบบเว็บไซต์ราชการ, และไฟล์ .key ที่ใช้ในระบบ GPKI (Government Public Key Infrastructure) ของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ยืนยันตัวตนของเจ้าหน้าที่รัฐ

    แฮกเกอร์ใช้ OCR (Optical Character Recognition) เพื่อแปลงเอกสาร PDF ภาษาเกาหลีที่เกี่ยวข้องกับระบบ PKI และ VPN ให้กลายเป็นข้อมูลที่นำไปใช้สร้างเครื่องมือปลอมตัวได้ เช่น การปลอมลายเซ็นดิจิทัล หรือการสร้างระบบยืนยันตัวตนปลอม

    นอกจากนี้ยังพบการใช้ rootkit ที่สามารถซ่อนตัวในระดับ kernel ของ Linux โดยใช้เทคนิค syscall hooking และการสร้าง reverse shell ที่มีการเข้ารหัส ซึ่งทำให้สามารถควบคุมเครื่องเป้าหมายได้โดยไม่ถูกตรวจจับ

    ในฝั่งไต้หวัน แฮกเกอร์พยายามเข้าถึงระบบของสถาบันวิจัยและผู้ให้บริการคลาวด์ โดยเจาะเข้าไปในโฟลเดอร์ .git เพื่อค้นหาคีย์ API และข้อมูลการ deploy ที่อาจหลุดออกมาโดยไม่ตั้งใจ

    สิ่งที่น่าจับตามองคือการใช้โครงสร้างพื้นฐานของจีน เช่น Gitee, Baidu และ Zhihu รวมถึงการตั้งค่าเครื่องในเขตเวลา UTC+9 (เวลาเปียงยาง) ซึ่งบ่งชี้ว่าแฮกเกอร์อาจเป็นคนเกาหลีเหนือที่ทำงานจากในจีน หรือได้รับการสนับสนุนจากโครงสร้างพื้นฐานของจีน

    เป้าหมายหลักของ Kimsuky
    ขโมย credentials และไฟล์ .key จากระบบ GPKI ของเกาหลีใต้
    ใช้ OCR เพื่อวิเคราะห์เอกสารเทคนิคของระบบ PKI และ VPN
    เจาะระบบของไต้หวันผ่านโฟลเดอร์ .git และระบบคลาวด์

    เครื่องมือและเทคนิคที่ใช้
    ใช้ NASM ในการเขียน shellcode สำหรับ Windows
    ใช้ rootkit แบบ vmmisc.ko ที่ซ่อนตัวในระดับ kernel
    ใช้ phishing domain เช่น nid-security[.]com และ spoofed portals เช่น spo.go.kr

    โครงสร้างพื้นฐานและพฤติกรรม
    ใช้เครื่องมือจาก GitHub และ Gitee เช่น TitanLdr, Blacklotus
    ตั้งค่าเครื่องในเขตเวลา UTC+9 และใช้ภาษาเกาหลีในคำสั่ง
    ใช้ภาพและเนื้อหาจากแพลตฟอร์มจีนเพื่อกลมกลืนกับผู้ใช้ใน PRC

    การเจาะระบบของไต้หวัน
    เข้าถึงโดเมนเช่น caa.org[.]tw/.git และ tw.systexcloud[.]com
    ใช้ IP ที่เชื่อมโยงกับสถาบันวิจัยและรัฐบาล เช่น 163.29.3[.]119
    พฤติกรรมบ่งชี้การเตรียมการเจาะระบบ supply chain

    https://dti.domaintools.com/inside-the-kimsuky-leak-how-the-kim-dump-exposed-north-koreas-credential-theft-playbook/
    🎙️ เรื่องเล่าจาก rootkit ถึง OCR: เมื่อการขโมยรหัสผ่านกลายเป็นการปลอมตัวระดับรัฐ การรั่วไหลของข้อมูลที่เรียกว่า “Kim dump” เปิดเผยการทำงานภายในของกลุ่ม Kimsuky ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลเกาหลีเหนือ โดยมีเป้าหมายหลักคือการขโมยข้อมูลรับรอง (credentials) จากระบบของรัฐบาลเกาหลีใต้และไต้หวัน ในข้อมูลที่รั่วออกมา มีทั้งประวัติการใช้คำสั่งในเทอร์มินัล, rootkit สำหรับ Linux, โดเมนฟิชชิ่งที่เลียนแบบเว็บไซต์ราชการ, และไฟล์ .key ที่ใช้ในระบบ GPKI (Government Public Key Infrastructure) ของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ยืนยันตัวตนของเจ้าหน้าที่รัฐ แฮกเกอร์ใช้ OCR (Optical Character Recognition) เพื่อแปลงเอกสาร PDF ภาษาเกาหลีที่เกี่ยวข้องกับระบบ PKI และ VPN ให้กลายเป็นข้อมูลที่นำไปใช้สร้างเครื่องมือปลอมตัวได้ เช่น การปลอมลายเซ็นดิจิทัล หรือการสร้างระบบยืนยันตัวตนปลอม นอกจากนี้ยังพบการใช้ rootkit ที่สามารถซ่อนตัวในระดับ kernel ของ Linux โดยใช้เทคนิค syscall hooking และการสร้าง reverse shell ที่มีการเข้ารหัส ซึ่งทำให้สามารถควบคุมเครื่องเป้าหมายได้โดยไม่ถูกตรวจจับ ในฝั่งไต้หวัน แฮกเกอร์พยายามเข้าถึงระบบของสถาบันวิจัยและผู้ให้บริการคลาวด์ โดยเจาะเข้าไปในโฟลเดอร์ .git เพื่อค้นหาคีย์ API และข้อมูลการ deploy ที่อาจหลุดออกมาโดยไม่ตั้งใจ สิ่งที่น่าจับตามองคือการใช้โครงสร้างพื้นฐานของจีน เช่น Gitee, Baidu และ Zhihu รวมถึงการตั้งค่าเครื่องในเขตเวลา UTC+9 (เวลาเปียงยาง) ซึ่งบ่งชี้ว่าแฮกเกอร์อาจเป็นคนเกาหลีเหนือที่ทำงานจากในจีน หรือได้รับการสนับสนุนจากโครงสร้างพื้นฐานของจีน ✅ เป้าหมายหลักของ Kimsuky ➡️ ขโมย credentials และไฟล์ .key จากระบบ GPKI ของเกาหลีใต้ ➡️ ใช้ OCR เพื่อวิเคราะห์เอกสารเทคนิคของระบบ PKI และ VPN ➡️ เจาะระบบของไต้หวันผ่านโฟลเดอร์ .git และระบบคลาวด์ ✅ เครื่องมือและเทคนิคที่ใช้ ➡️ ใช้ NASM ในการเขียน shellcode สำหรับ Windows ➡️ ใช้ rootkit แบบ vmmisc.ko ที่ซ่อนตัวในระดับ kernel ➡️ ใช้ phishing domain เช่น nid-security[.]com และ spoofed portals เช่น spo.go.kr ✅ โครงสร้างพื้นฐานและพฤติกรรม ➡️ ใช้เครื่องมือจาก GitHub และ Gitee เช่น TitanLdr, Blacklotus ➡️ ตั้งค่าเครื่องในเขตเวลา UTC+9 และใช้ภาษาเกาหลีในคำสั่ง ➡️ ใช้ภาพและเนื้อหาจากแพลตฟอร์มจีนเพื่อกลมกลืนกับผู้ใช้ใน PRC ✅ การเจาะระบบของไต้หวัน ➡️ เข้าถึงโดเมนเช่น caa.org[.]tw/.git และ tw.systexcloud[.]com ➡️ ใช้ IP ที่เชื่อมโยงกับสถาบันวิจัยและรัฐบาล เช่น 163.29.3[.]119 ➡️ พฤติกรรมบ่งชี้การเตรียมการเจาะระบบ supply chain https://dti.domaintools.com/inside-the-kimsuky-leak-how-the-kim-dump-exposed-north-koreas-credential-theft-playbook/
    DTI.DOMAINTOOLS.COM
    Inside the Kimsuky Leak: How the “Kim” Dump Exposed North Korea’s Credential Theft Playbook - DomainTools Investigations | DTI
    A rare and revealing breach attributed to a North Korean-affiliated actor, known only as “Kim” as named by the hackers who dumped the data, has delivered a new insight into Kimsuky (APT43) tactics, techniques, and infrastructure. This actor's operational profile showcases credential-focused intrusions targeting South Korean and Taiwanese networks, with a blending of Chinese-language tooling, infrastructure, and possible logistical support. The “Kim” dump, which includes bash histories, phishing domains, OCR workflows, compiled stagers, and rootkit evidence, reflects a hybrid operation situated between DPRK attribution and Chinese resource utilization.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 252 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อเงินช่วยเหลือกลายเป็นหุ้น – สหรัฐฯ กับแนวคิดถือหุ้นใน Samsung และ Intel

    ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2025 โลกเทคโนโลยีต้องสะเทือน เมื่อมีข่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเจรจากับ Intel เพื่อแลกเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act เป็นหุ้น 10% ในบริษัท ซึ่งถือเป็นแนวทางใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในนโยบายอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ

    ข่าวลือเริ่มลุกลามไปถึง Samsung ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับเงินสนับสนุนกว่า 4.75 พันล้านดอลลาร์จาก CHIPS Act เพื่อสร้างโรงงานในเท็กซัส แม้รัฐบาลเกาหลีใต้จะออกมาปฏิเสธทันทีว่าไม่มีแผนให้สหรัฐฯ เข้าถือหุ้นใน Samsung แต่ความกังวลในแวดวงธุรกิจและการเมืองก็ยังคงอยู่

    แนวคิดนี้มาจากรัฐมนตรีพาณิชย์ Howard Lutnick ซึ่งเสนอว่าหากรัฐบาลสหรัฐฯ ให้เงินสนับสนุนบริษัทเอกชน ก็ควรได้รับผลตอบแทนในรูปแบบหุ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีสิทธิบริหาร แต่สามารถรับเงินปันผลหรือมีสิทธิ์ยับยั้งการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ เช่น การปิดโรงงานหรือการย้ายฐานผลิต

    แม้จะดูเหมือนเป็นการลงทุนเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติ แต่ก็มีคำถามตามมามากมาย เช่น หากรัฐบาลเปลี่ยนชุดบริหาร จะมีผลต่อการถือหุ้นหรือไม่? และจะกระทบต่อความเป็นอิสระของบริษัทหรือเปล่า?

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเจรจากับ Intel เพื่อแลกเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act เป็นหุ้น 10%
    Samsung ได้รับเงินสนับสนุนกว่า $4.75 พันล้านจาก CHIPS Act เพื่อสร้างโรงงานในเท็กซัส
    รัฐบาลเกาหลีใต้ปฏิเสธข่าวลือเรื่องการถือหุ้นของสหรัฐฯ ใน Samsung
    แนวคิดถือหุ้นมาจากรัฐมนตรี Lutnick เพื่อให้เงินสนับสนุนมีผลตอบแทน
    การถือหุ้นอาจไม่มีสิทธิบริหาร แต่สามารถรับเงินปันผลหรือมีสิทธิ์ยับยั้งบางการตัดสินใจ
    CHIPS Act มีงบประมาณรวม $52.7 พันล้านเพื่อสนับสนุนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ
    Intel เป็นผู้รับเงินสนับสนุนรายใหญ่ที่สุด และอาจกลายเป็นบริษัทที่รัฐบาลถือหุ้นมากที่สุด
    การถือหุ้นในบริษัทเทคโนโลยีเป็นแนวทางใหม่ของสหรัฐฯ ที่ไม่เคยใช้มาก่อน
    รัฐบาลเคยถือหุ้นในบริษัทช่วงวิกฤตปี 2008 เช่น General Motors เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ
    การถือหุ้นอาจช่วยให้บริษัทเข้าถึงตลาดสหรัฐฯ ได้ง่ายขึ้น และลดภาษีนำเข้า

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    SoftBank ลงทุน $2 พันล้านใน Intel โดยไม่ขอสิทธิบริหาร
    รัฐบาลสหรัฐฯ เคยเจรจา “golden share” กับ Nippon Steel เพื่อควบคุมการปิดโรงงาน
    CHIPS Act ถูกผลักดันหลัง COVID-19 และสงครามเทคโนโลยีสหรัฐ–จีน
    Intel ประสบปัญหาการแข่งขันจาก TSMC และ Samsung ในด้านเทคโนโลยี
    การถือหุ้นอาจเป็นกลยุทธ์เพื่อเสริมความมั่นคงด้าน AI และการทหาร

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/south-korea-says-there-are-no-plans-for-the-u-s-to-acquire-samsung-shares-denial-comes-amid-talks-about-washington-acquiring-a-10-percent-equity-stake-in-intel-for-chips-act-funds
    🎙️ เมื่อเงินช่วยเหลือกลายเป็นหุ้น – สหรัฐฯ กับแนวคิดถือหุ้นใน Samsung และ Intel ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2025 โลกเทคโนโลยีต้องสะเทือน เมื่อมีข่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเจรจากับ Intel เพื่อแลกเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act เป็นหุ้น 10% ในบริษัท ซึ่งถือเป็นแนวทางใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในนโยบายอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ข่าวลือเริ่มลุกลามไปถึง Samsung ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับเงินสนับสนุนกว่า 4.75 พันล้านดอลลาร์จาก CHIPS Act เพื่อสร้างโรงงานในเท็กซัส แม้รัฐบาลเกาหลีใต้จะออกมาปฏิเสธทันทีว่าไม่มีแผนให้สหรัฐฯ เข้าถือหุ้นใน Samsung แต่ความกังวลในแวดวงธุรกิจและการเมืองก็ยังคงอยู่ แนวคิดนี้มาจากรัฐมนตรีพาณิชย์ Howard Lutnick ซึ่งเสนอว่าหากรัฐบาลสหรัฐฯ ให้เงินสนับสนุนบริษัทเอกชน ก็ควรได้รับผลตอบแทนในรูปแบบหุ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีสิทธิบริหาร แต่สามารถรับเงินปันผลหรือมีสิทธิ์ยับยั้งการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ เช่น การปิดโรงงานหรือการย้ายฐานผลิต แม้จะดูเหมือนเป็นการลงทุนเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติ แต่ก็มีคำถามตามมามากมาย เช่น หากรัฐบาลเปลี่ยนชุดบริหาร จะมีผลต่อการถือหุ้นหรือไม่? และจะกระทบต่อความเป็นอิสระของบริษัทหรือเปล่า? 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเจรจากับ Intel เพื่อแลกเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act เป็นหุ้น 10% ➡️ Samsung ได้รับเงินสนับสนุนกว่า $4.75 พันล้านจาก CHIPS Act เพื่อสร้างโรงงานในเท็กซัส ➡️ รัฐบาลเกาหลีใต้ปฏิเสธข่าวลือเรื่องการถือหุ้นของสหรัฐฯ ใน Samsung ➡️ แนวคิดถือหุ้นมาจากรัฐมนตรี Lutnick เพื่อให้เงินสนับสนุนมีผลตอบแทน ➡️ การถือหุ้นอาจไม่มีสิทธิบริหาร แต่สามารถรับเงินปันผลหรือมีสิทธิ์ยับยั้งบางการตัดสินใจ ➡️ CHIPS Act มีงบประมาณรวม $52.7 พันล้านเพื่อสนับสนุนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ ➡️ Intel เป็นผู้รับเงินสนับสนุนรายใหญ่ที่สุด และอาจกลายเป็นบริษัทที่รัฐบาลถือหุ้นมากที่สุด ➡️ การถือหุ้นในบริษัทเทคโนโลยีเป็นแนวทางใหม่ของสหรัฐฯ ที่ไม่เคยใช้มาก่อน ➡️ รัฐบาลเคยถือหุ้นในบริษัทช่วงวิกฤตปี 2008 เช่น General Motors เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ➡️ การถือหุ้นอาจช่วยให้บริษัทเข้าถึงตลาดสหรัฐฯ ได้ง่ายขึ้น และลดภาษีนำเข้า ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ SoftBank ลงทุน $2 พันล้านใน Intel โดยไม่ขอสิทธิบริหาร ➡️ รัฐบาลสหรัฐฯ เคยเจรจา “golden share” กับ Nippon Steel เพื่อควบคุมการปิดโรงงาน ➡️ CHIPS Act ถูกผลักดันหลัง COVID-19 และสงครามเทคโนโลยีสหรัฐ–จีน ➡️ Intel ประสบปัญหาการแข่งขันจาก TSMC และ Samsung ในด้านเทคโนโลยี ➡️ การถือหุ้นอาจเป็นกลยุทธ์เพื่อเสริมความมั่นคงด้าน AI และการทหาร https://www.tomshardware.com/tech-industry/south-korea-says-there-are-no-plans-for-the-u-s-to-acquire-samsung-shares-denial-comes-amid-talks-about-washington-acquiring-a-10-percent-equity-stake-in-intel-for-chips-act-funds
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 345 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung จับมือ Intel – เกมการเมืองระดับโลกในสนามเซมิคอนดักเตอร์

    ในช่วงที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กำลังกลายเป็นสมรภูมิทางเศรษฐกิจและความมั่นคงระดับชาติ Samsung กำลังพิจารณาลงทุนใน Intel เพื่อสร้างความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์กับรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี Trump

    หลังจาก SoftBank ประกาศลงทุน $2 พันล้านใน Intel เพื่อสนับสนุนการผลิตชิปในสหรัฐฯ Samsung ก็ถูกเปิดเผยว่ากำลังพิจารณาทำแบบเดียวกัน โดยหวังว่าจะได้รับความสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในโครงการโรงงานและการผลิตชิปในประเทศ

    Intel กลายเป็นศูนย์กลางของนโยบาย CHIPS Act ที่รัฐบาล Trump กำลังปรับเปลี่ยนจาก “เงินสนับสนุน” เป็น “การถือหุ้น” โดยมีแผนจะเปลี่ยนเงินช่วยเหลือมูลค่ากว่า $10.9 พันล้านให้กลายเป็นหุ้น 10% ใน Intel ซึ่งจะทำให้รัฐบาลกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด

    Samsung ซึ่งได้รับเงินสนับสนุน $4.75 พันล้านจาก CHIPS Act ก็อาจถูกเสนอให้แลกเงินนั้นกับการถือหุ้นเช่นกัน ซึ่งอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ และยุทธศาสตร์การผลิตของ Samsung ในระดับโลก

    นอกจากนี้ Samsung ยังพิจารณาร่วมมือกับบริษัท Amkor ในด้านการแพ็กเกจชิป ซึ่งเป็นจุดอ่อนของ Samsung เมื่อเทียบกับ TSMC ที่มีโรงงานแพ็กเกจในสหรัฐฯ แล้ว

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Samsung กำลังพิจารณาลงทุนใน Intel เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับรัฐบาล Trump
    Intel ได้รับเงินสนับสนุน $10.9 พันล้านจาก CHIPS Act และอาจถูกเปลี่ยนเป็นหุ้น 10%
    SoftBank ลงทุน $2 พันล้านใน Intel เพื่อสนับสนุนการผลิตชิปในสหรัฐฯ
    Samsung ได้รับเงินสนับสนุน $4.75 พันล้านจาก CHIPS Act
    รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนแนวทางจาก “เงินช่วยเหลือ” เป็น “การถือหุ้น”
    Samsung พิจารณาร่วมมือกับ Amkor เพื่อเสริมความสามารถด้านการแพ็กเกจชิป
    Samsung มีข้อตกลงผลิตชิป AI ให้ Tesla มูลค่า $16.5 พันล้านในรัฐเท็กซัส
    TSMC ประกาศลงทุนเพิ่ม $100 พันล้านในสหรัฐฯ ผ่านการสนับสนุนจากทำเนียบขาว
    การลงทุนใน Intel ถูกมองว่าเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อนโยบายของรัฐบาล Trump
    Samsung หวังใช้การลงทุนนี้เพื่อเสริมบทบาทในตลาดสหรัฐฯ และลดผลกระทบจากภาษี

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาถือหุ้นใน TSMC, Micron และ Samsung เช่นเดียวกับ Intel
    การถือหุ้นโดยรัฐเป็นแนวทางที่ใช้ในจีน, เกาหลีใต้ และไต้หวัน เพื่อเสริมความมั่นคงด้านเทคโนโลยี Samsung ลงทุน $37 พันล้านในโรงงานและศูนย์วิจัยในสหรัฐฯ ภายในปี 2030
    SK hynix ก็ได้รับเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act และอาจถูกเสนอให้แลกเป็นหุ้นเช่นกัน
    การถือหุ้นของรัฐบาลอาจไม่ให้สิทธิ์บริหาร แต่มีผลต่อยุทธศาสตร์และความมั่นคง

    https://wccftech.com/samsung-seeking-to-woo-trump-administration-by-investing-in-intel-after-softbank-says-report/
    🎙️ Samsung จับมือ Intel – เกมการเมืองระดับโลกในสนามเซมิคอนดักเตอร์ ในช่วงที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กำลังกลายเป็นสมรภูมิทางเศรษฐกิจและความมั่นคงระดับชาติ Samsung กำลังพิจารณาลงทุนใน Intel เพื่อสร้างความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์กับรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี Trump หลังจาก SoftBank ประกาศลงทุน $2 พันล้านใน Intel เพื่อสนับสนุนการผลิตชิปในสหรัฐฯ Samsung ก็ถูกเปิดเผยว่ากำลังพิจารณาทำแบบเดียวกัน โดยหวังว่าจะได้รับความสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในโครงการโรงงานและการผลิตชิปในประเทศ Intel กลายเป็นศูนย์กลางของนโยบาย CHIPS Act ที่รัฐบาล Trump กำลังปรับเปลี่ยนจาก “เงินสนับสนุน” เป็น “การถือหุ้น” โดยมีแผนจะเปลี่ยนเงินช่วยเหลือมูลค่ากว่า $10.9 พันล้านให้กลายเป็นหุ้น 10% ใน Intel ซึ่งจะทำให้รัฐบาลกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด Samsung ซึ่งได้รับเงินสนับสนุน $4.75 พันล้านจาก CHIPS Act ก็อาจถูกเสนอให้แลกเงินนั้นกับการถือหุ้นเช่นกัน ซึ่งอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ และยุทธศาสตร์การผลิตของ Samsung ในระดับโลก นอกจากนี้ Samsung ยังพิจารณาร่วมมือกับบริษัท Amkor ในด้านการแพ็กเกจชิป ซึ่งเป็นจุดอ่อนของ Samsung เมื่อเทียบกับ TSMC ที่มีโรงงานแพ็กเกจในสหรัฐฯ แล้ว 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Samsung กำลังพิจารณาลงทุนใน Intel เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับรัฐบาล Trump ➡️ Intel ได้รับเงินสนับสนุน $10.9 พันล้านจาก CHIPS Act และอาจถูกเปลี่ยนเป็นหุ้น 10% ➡️ SoftBank ลงทุน $2 พันล้านใน Intel เพื่อสนับสนุนการผลิตชิปในสหรัฐฯ ➡️ Samsung ได้รับเงินสนับสนุน $4.75 พันล้านจาก CHIPS Act ➡️ รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนแนวทางจาก “เงินช่วยเหลือ” เป็น “การถือหุ้น” ➡️ Samsung พิจารณาร่วมมือกับ Amkor เพื่อเสริมความสามารถด้านการแพ็กเกจชิป ➡️ Samsung มีข้อตกลงผลิตชิป AI ให้ Tesla มูลค่า $16.5 พันล้านในรัฐเท็กซัส ➡️ TSMC ประกาศลงทุนเพิ่ม $100 พันล้านในสหรัฐฯ ผ่านการสนับสนุนจากทำเนียบขาว ➡️ การลงทุนใน Intel ถูกมองว่าเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อนโยบายของรัฐบาล Trump ➡️ Samsung หวังใช้การลงทุนนี้เพื่อเสริมบทบาทในตลาดสหรัฐฯ และลดผลกระทบจากภาษี ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาถือหุ้นใน TSMC, Micron และ Samsung เช่นเดียวกับ Intel ➡️ การถือหุ้นโดยรัฐเป็นแนวทางที่ใช้ในจีน, เกาหลีใต้ และไต้หวัน เพื่อเสริมความมั่นคงด้านเทคโนโลยี ➡️ Samsung ลงทุน $37 พันล้านในโรงงานและศูนย์วิจัยในสหรัฐฯ ภายในปี 2030 ➡️ SK hynix ก็ได้รับเงินสนับสนุนจาก CHIPS Act และอาจถูกเสนอให้แลกเป็นหุ้นเช่นกัน ➡️ การถือหุ้นของรัฐบาลอาจไม่ให้สิทธิ์บริหาร แต่มีผลต่อยุทธศาสตร์และความมั่นคง https://wccftech.com/samsung-seeking-to-woo-trump-administration-by-investing-in-intel-after-softbank-says-report/
    WCCFTECH.COM
    Samsung Seeking To Woo Trump Administration By Investing In Intel After Softbank, Says Report
    Samsung is considering investing in Intel to support U.S. chip production after Softbank's $2 billion investment.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลเกาหลีใต้สั่งปรับและตำหนิ SK Telecom บริษัทมือถือเบอร์หนึ่งของประเทศ หลังปล่อยให้ข้อมูลผู้ใช้งานกว่า 26.96 ล้านรายการรั่วไหล เพราะถูกมัลแวร์เล่นงาน

    เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 ที่ผ่านมา เมื่อ SK Telecom ออกมายอมรับว่า ข้อมูลลูกค้าหลายสิบล้านชิ้นถูกโจมตี ผ่านมัลแวร์ และล่าสุดรัฐบาลเกาหลีใต้ก็สรุปผลสอบสวนว่า → “บริษัทละเลยหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยของข้อมูลอย่างร้ายแรง” → โดยเฉพาะข้อมูลจาก “USIM” ซึ่งก็คือชิประบุตัวตนที่อยู่ในมือถือทุกเครื่อง

    รัฐบาลจึงออกคำสั่งลงโทษหลายข้อ เช่น
    - ปรับเงินสูงสุด 30 ล้านวอน (~22,000 ดอลลาร์)
    - บังคับให้เพิ่มการตรวจสอบความปลอดภัยรายไตรมาส
    - ให้ CEO ดูแล data governance ด้วยตนเอง
    - ต้องเพิ่มทีมงานและงบลงทุนด้าน Cybersecurity

    ทาง SK Telecom ยอมรับความผิด และประกาศมาตรการชดเชย เช่น → แจก ส่วนลดค่าบริการ 50% ตลอดเดือนสิงหาคม ให้ลูกค้า 24 ล้านคน → แจก ซิม USIM ใหม่ฟรีให้กับลูกค้าทั้งหมด 23 ล้านคน (ณ สิ้น มิ.ย. มี 9.39 ล้านคนมาเปลี่ยนแล้ว) → ทุ่มงบ 700 พันล้านวอน (~513 ล้านดอลลาร์) ในช่วง 5 ปีเพื่อปรับปรุงระบบความปลอดภัย → ลดเป้ารายได้ปี 2025 ลงไป 800 พันล้านวอน เพื่อสะท้อนต้นทุนที่ใช้ในการชดเชยและระบบป้องกันใหม่

    ประธานกลุ่ม SK ยังออกมาขอโทษต่อสังคม และรัฐมนตรีวิทยาศาสตร์เกาหลีก็ย้ำว่า

    “เหตุการณ์นี้คือ wake-up call ด้านความมั่นคงไซเบอร์ของทั้งอุตสาหกรรมโทรคมนาคม”

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/04/south-korea-penalises-039negligent039-sk-telecom-over-major-data-leak
    รัฐบาลเกาหลีใต้สั่งปรับและตำหนิ SK Telecom บริษัทมือถือเบอร์หนึ่งของประเทศ หลังปล่อยให้ข้อมูลผู้ใช้งานกว่า 26.96 ล้านรายการรั่วไหล เพราะถูกมัลแวร์เล่นงาน เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 ที่ผ่านมา เมื่อ SK Telecom ออกมายอมรับว่า ข้อมูลลูกค้าหลายสิบล้านชิ้นถูกโจมตี ผ่านมัลแวร์ และล่าสุดรัฐบาลเกาหลีใต้ก็สรุปผลสอบสวนว่า → “บริษัทละเลยหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยของข้อมูลอย่างร้ายแรง” → โดยเฉพาะข้อมูลจาก “USIM” ซึ่งก็คือชิประบุตัวตนที่อยู่ในมือถือทุกเครื่อง 📌 รัฐบาลจึงออกคำสั่งลงโทษหลายข้อ เช่น - ปรับเงินสูงสุด 30 ล้านวอน (~22,000 ดอลลาร์) - บังคับให้เพิ่มการตรวจสอบความปลอดภัยรายไตรมาส - ให้ CEO ดูแล data governance ด้วยตนเอง - ต้องเพิ่มทีมงานและงบลงทุนด้าน Cybersecurity ทาง SK Telecom ยอมรับความผิด และประกาศมาตรการชดเชย เช่น → แจก ส่วนลดค่าบริการ 50% ตลอดเดือนสิงหาคม ให้ลูกค้า 24 ล้านคน → แจก ซิม USIM ใหม่ฟรีให้กับลูกค้าทั้งหมด 23 ล้านคน (ณ สิ้น มิ.ย. มี 9.39 ล้านคนมาเปลี่ยนแล้ว) → ทุ่มงบ 700 พันล้านวอน (~513 ล้านดอลลาร์) ในช่วง 5 ปีเพื่อปรับปรุงระบบความปลอดภัย → ลดเป้ารายได้ปี 2025 ลงไป 800 พันล้านวอน เพื่อสะท้อนต้นทุนที่ใช้ในการชดเชยและระบบป้องกันใหม่ ประธานกลุ่ม SK ยังออกมาขอโทษต่อสังคม และรัฐมนตรีวิทยาศาสตร์เกาหลีก็ย้ำว่า “เหตุการณ์นี้คือ wake-up call ด้านความมั่นคงไซเบอร์ของทั้งอุตสาหกรรมโทรคมนาคม” https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/04/south-korea-penalises-039negligent039-sk-telecom-over-major-data-leak
    WWW.THESTAR.COM.MY
    South Korea penalises 'negligent' SK Telecom over major data leak
    SEOUL (Reuters) -South Korean authorities ordered on Friday SK Telecom to strengthen data security and imposed a fine after the country's biggest mobile carrier was hit by a cyberattack that caused the leak of 26.96 million pieces of user data.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 331 มุมมอง 0 รีวิว
  • Greenpeace ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการผลิตชิป AI ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลภายในปี 2030 โดยการใช้พลังงานในกระบวนการผลิตชิป AI มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นถึงระดับที่สูงกว่าการใช้พลังงานของประเทศไอร์แลนด์

    == ข้อมูลสำคัญในข่าว ==
    การใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น:
    - ในปี 2023 การผลิตชิป AI ใช้พลังงาน 218 GWh ทั่วโลก
    - ในปี 2024 ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็น 984 GWh และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 37,238 GWh ภายในปี 2030

    การพึ่งพาพลังงานฟอสซิล:
    - รัฐบาลเกาหลีใต้อนุมัติโครงการพลังงาน LNG ขนาด 1.05 GW และ 3 GW เพื่อรองรับความต้องการพลังงานของ SK hynix และ Samsung
    - อุตสาหกรรมในไต้หวันกำลังผลักดันการใช้พลังงาน LNG และพลังงานนิวเคลียร์

    ข้อเสนอของ Greenpeace:
    - เรียกร้องให้บริษัทเทคโนโลยี เช่น Nvidia และ AMD ใช้พลังงานหมุนเวียนในกระบวนการผลิต
    - แนะนำให้ลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียน เช่น การสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมและแสงอาทิตย์

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลง:
    - บริษัทเทคโนโลยีควรเร่งเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
    - การพึ่งพาพลังงานฟอสซิลอาจสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของบริษัทในระยะยาว

    การสร้างความร่วมมือ:
    - บริษัท AI ควรร่วมมือกับผู้ผลิตชิปในการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนและลงนามในสัญญาซื้อขายพลังงานระยะยาว (PPA)

    https://www.neowin.net/news/your-demand-for-ai-is-set-to-cause-massive-emissions-in-chip-manufacturing-industry/
    Greenpeace ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการผลิตชิป AI ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลภายในปี 2030 โดยการใช้พลังงานในกระบวนการผลิตชิป AI มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นถึงระดับที่สูงกว่าการใช้พลังงานของประเทศไอร์แลนด์ == ข้อมูลสำคัญในข่าว == ✅ การใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น: - ในปี 2023 การผลิตชิป AI ใช้พลังงาน 218 GWh ทั่วโลก - ในปี 2024 ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็น 984 GWh และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 37,238 GWh ภายในปี 2030 ✅ การพึ่งพาพลังงานฟอสซิล: - รัฐบาลเกาหลีใต้อนุมัติโครงการพลังงาน LNG ขนาด 1.05 GW และ 3 GW เพื่อรองรับความต้องการพลังงานของ SK hynix และ Samsung - อุตสาหกรรมในไต้หวันกำลังผลักดันการใช้พลังงาน LNG และพลังงานนิวเคลียร์ ✅ ข้อเสนอของ Greenpeace: - เรียกร้องให้บริษัทเทคโนโลยี เช่น Nvidia และ AMD ใช้พลังงานหมุนเวียนในกระบวนการผลิต - แนะนำให้ลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียน เช่น การสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมและแสงอาทิตย์ == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ⚠️ ความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลง: - บริษัทเทคโนโลยีควรเร่งเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม - การพึ่งพาพลังงานฟอสซิลอาจสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของบริษัทในระยะยาว ⚠️ การสร้างความร่วมมือ: - บริษัท AI ควรร่วมมือกับผู้ผลิตชิปในการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนและลงนามในสัญญาซื้อขายพลังงานระยะยาว (PPA) https://www.neowin.net/news/your-demand-for-ai-is-set-to-cause-massive-emissions-in-chip-manufacturing-industry/
    WWW.NEOWIN.NET
    Your demand for AI is set to cause massive emissions in chip manufacturing industry
    By 2030, the AI chip manufacturing sector is going to see a massive rise in its emissions, a Greenpeace report says. It's calling on firms to clean up their acts.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหลังเกิดไฟป่าลุกลามหลายสิบจุดทางตอนใต้ของประเทศ โดยล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 ราย และยังมีชาวบ้านที่ต้องทิ้งบ้านเรือนอพยพหนีตายอีกกว่า 1,500 คน

    เมื่อวานนี้ (23 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเกาหลีใต้ยังคงต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการควบคุมไฟป่าที่ปะทุขึ้นในเทศมณฑลซันชอง (Sancheong) ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. ท่ามกลางสภาพอากาศที่มีลมแรง รวมไปถึงไฟป่าจุดอื่นๆ ในอีกอย่างน้อย 3 ภูมิภาคทางตอนใต้ของประเทศ

    สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากไฟป่าแล้วอย่างน้อย 4 ราย โดยเป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 3 นาย และลูกจ้างรัฐอีก 1 คน

    ทางการได้ระดมเจ้าหน้าที่มากกว่า 9,000 คน และเฮลิคอปเตอร์อีก 105 ลำเพื่อช่วยควบคุมไฟป่าที่เผาผลาญบ้านเรือนประชาชนและวัดวาอารามไปแล้วหลายแห่ง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000027783

    #MGROnline #รัฐบาลเกาหลีใต้ #สถานการณ์ฉุกเฉิน #ไฟป่า
    รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหลังเกิดไฟป่าลุกลามหลายสิบจุดทางตอนใต้ของประเทศ โดยล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 ราย และยังมีชาวบ้านที่ต้องทิ้งบ้านเรือนอพยพหนีตายอีกกว่า 1,500 คน • เมื่อวานนี้ (23 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเกาหลีใต้ยังคงต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการควบคุมไฟป่าที่ปะทุขึ้นในเทศมณฑลซันชอง (Sancheong) ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. ท่ามกลางสภาพอากาศที่มีลมแรง รวมไปถึงไฟป่าจุดอื่นๆ ในอีกอย่างน้อย 3 ภูมิภาคทางตอนใต้ของประเทศ • สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากไฟป่าแล้วอย่างน้อย 4 ราย โดยเป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 3 นาย และลูกจ้างรัฐอีก 1 คน • ทางการได้ระดมเจ้าหน้าที่มากกว่า 9,000 คน และเฮลิคอปเตอร์อีก 105 ลำเพื่อช่วยควบคุมไฟป่าที่เผาผลาญบ้านเรือนประชาชนและวัดวาอารามไปแล้วหลายแห่ง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000027783 • #MGROnline #รัฐบาลเกาหลีใต้ #สถานการณ์ฉุกเฉิน #ไฟป่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 484 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าหน้าที่สอบสวนจากสำนักงานปราบปรามการทุจริตของเกาหลีใต้เตรียมขอขยายเวลาหมายจับ รวมทั้งขอให้ตำรวจเข้าจับกุมยุน ซอก-ยอล หลังจากประธานาธิบดีที่กำลังถูกสอบสวนเพื่อถอดถอนผู้นี้ขัดขวางการเข้าควบคุมตัวจากกรณีการประกาศกฎอัยการศึกมาตลอดหนึ่งสัปดาห์
    .
    ยุน อดีตอัยการดาวเด่น ปฏิเสธการไปให้ปากคำและกบดานอยู่ในที่พักประธานาธิบดีท่ามกลางการอารักขาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนับร้อย
    .
    ลี แจ-ซอง รองผู้อำนวยการสำนักงานปราบปรามการทุจริต (ซีไอโอ) เผยว่า กำลังเตรียมยื่นคำร้องต่อศาลให้ขยายหมายจับที่กำลังจะหมดอายุเที่ยงคืนวันจันทร์ (6 ม.ค.) รวมทั้งขอให้ตำรวจเข้าดำเนินการจับกุมยุนแทน ขณะที่ทีมกฎหมายของยุนแย้งว่า ซีไอโอไม่มีอำนาจในการจับกุมประธานาธิบดี
    .
    สัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ต้องล้มเลิกความพยายามเข้าจับกุมยุนด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย หลังเผชิญหน้ากับหน่วยรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดีนับร้อยคนนานนับชั่วโมง
    .
    ทั้งนี้ หากถูกจับกุมและถูกตัดสินว่าผิด ยุนอาจถูกจำคุกหรือรับโทษประหาร จากกรณีการประกาศกฎอัยการศึกช่วงสั้นๆ เมื่อต้นเดือนธันวาคมและนำเกาหลีใต้เข้าสู่วิกฤตการเมืองครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ทว่า ทั้งยุน และผู้สนับสนุนยังคงต่อต้านการจับกุม
    .
    คิม ซู ยอง วัย 62 ปี หนึ่งในแกนนำการชุมนุม ประกาศว่า หน่วยอารักขาจะปกป้องประธานาธิบดี และผู้ชุมนุมจะปกป้องหน่วยอารักขาอีกทอดจนถึงเที่ยงคืนวันจันทร์ รวมทั้งยืนยันว่า ถ้ามีการออกหมายจับใหม่ก็จะมาชุมนุมกันอีก
    .
    นอกจากนั้น เมื่อเช้าวันจันทร์ยังมีสมาชิกสภาจากพรรคพลังประชาชน (พีพีพี) ของยุนไปปรากฏตัวหน้าที่พักประธานาธิบดี
    .
    ทางด้านตำรวจได้ปิดถนนเพื่อป้องกันผู้ประท้วงที่คาดว่าจะรวมพลังกันต่อในวันจันทร์ ขณะที่ผู้ชุมนุมทั้งฝ่ายสนับสนุนและต่อต้านยุนหลายสิบคนปักหลักค้างคืนในวันอาทิตย์ (5 ม.ค.) ท่ามกลางอุณหภูมิติดลบ
    .
    ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ขอออกหมายจับครั้งแรกเนื่องจากยุนไม่ยอมไปให้ปากคำเรื่องการประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งทีมกฎหมายของยุนย้ำว่า หมายจับดังกล่าวผิดกฎหมายและจะดำเนินการทางกฎหมายเพื่อตอบโต้ ขณะที่หัวหน้าหน่วยอารักขาประธานาธิบดีประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่า จะไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่สอบสวนเข้าจับกุมยุน
    .
    ขณะเดียวกัน แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางถึงโซลเมื่อเช้าวันจันทร์เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลเกาหลีใต้ที่รวมถึงชอย ซัง-ม็อก รัฐมนตรีคลังและรักษาการประธานาธิบดี
    .
    บลิงเคนไม่มีกำหนดพบกับยุนที่ถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่ แต่แถลงข่าวร่วมกับโช แต-ยุล รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ และความสนใจของบลิงเคนเปลี่ยนจากประเด็นการเมืองภายในของเกาหลีใต้ เนื่องจากก่อนแถลงข่าวไม่นาน เปียงยางได้ทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป
    .
    อนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ระบุว่า จะเริ่มการพิจารณาคดีถอดถอนยุนในวันอังคารหน้า (14 ม.ค.) ไม่ว่ายุนจะไปปรากฏตัวในศาลหรือไม่ก็ตาม โดยศาลรัฐธรรมนูญมีเวลา 180 วันในการวินิจฉัยว่า จะถอดถอนหรือคืนตำแหน่งให้ยุน
    .
    เอเอฟพีรายงานโดยอ้างอิงจากรายงานของอัยการเกี่ยวกับอดีตรัฐมนตรีกลาโหมว่า ยุนเพิกเฉยต่อการคัดค้านของรัฐมนตรีสำคัญหลายคนก่อนที่จะประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งรายงานนี้อาจเป็นหลักฐานที่ศาลรัฐธรรมนูญรับไว้พิจารณา
    .
    ตามรายงานดังกล่าว นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีต่างประเทศ และรัฐมนตรีคลังในขณะนั้น ต่างแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจและการทูตที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีในคืนที่ยุนประกาศกฎอัยการศึก
    .
    นอกจากนั้น พรรคประชาธิปไตยที่เป็นฝ่ายค้านสำคัญยังเรียกร้องให้ยุบหน่วยอารักขายุน
    .
    อย่างไรก็ดี ทีมกฎหมายของยุนยืนยันว่า จะใช้สิทธิดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดกฎหมายเช่นเดียวกัน โดยเมื่อวันอาทิตย์ ยุน กั๊บ-กึน ทนายความคนหนึ่งในทีม เผยว่า จะยื่นคำร้องคัดค้านผู้อำนวยการซีไอโอที่พยายามเข้าจับกุมยุน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001570
    ..............
    Sondhi X
    เจ้าหน้าที่สอบสวนจากสำนักงานปราบปรามการทุจริตของเกาหลีใต้เตรียมขอขยายเวลาหมายจับ รวมทั้งขอให้ตำรวจเข้าจับกุมยุน ซอก-ยอล หลังจากประธานาธิบดีที่กำลังถูกสอบสวนเพื่อถอดถอนผู้นี้ขัดขวางการเข้าควบคุมตัวจากกรณีการประกาศกฎอัยการศึกมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ . ยุน อดีตอัยการดาวเด่น ปฏิเสธการไปให้ปากคำและกบดานอยู่ในที่พักประธานาธิบดีท่ามกลางการอารักขาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนับร้อย . ลี แจ-ซอง รองผู้อำนวยการสำนักงานปราบปรามการทุจริต (ซีไอโอ) เผยว่า กำลังเตรียมยื่นคำร้องต่อศาลให้ขยายหมายจับที่กำลังจะหมดอายุเที่ยงคืนวันจันทร์ (6 ม.ค.) รวมทั้งขอให้ตำรวจเข้าดำเนินการจับกุมยุนแทน ขณะที่ทีมกฎหมายของยุนแย้งว่า ซีไอโอไม่มีอำนาจในการจับกุมประธานาธิบดี . สัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ต้องล้มเลิกความพยายามเข้าจับกุมยุนด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย หลังเผชิญหน้ากับหน่วยรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดีนับร้อยคนนานนับชั่วโมง . ทั้งนี้ หากถูกจับกุมและถูกตัดสินว่าผิด ยุนอาจถูกจำคุกหรือรับโทษประหาร จากกรณีการประกาศกฎอัยการศึกช่วงสั้นๆ เมื่อต้นเดือนธันวาคมและนำเกาหลีใต้เข้าสู่วิกฤตการเมืองครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ทว่า ทั้งยุน และผู้สนับสนุนยังคงต่อต้านการจับกุม . คิม ซู ยอง วัย 62 ปี หนึ่งในแกนนำการชุมนุม ประกาศว่า หน่วยอารักขาจะปกป้องประธานาธิบดี และผู้ชุมนุมจะปกป้องหน่วยอารักขาอีกทอดจนถึงเที่ยงคืนวันจันทร์ รวมทั้งยืนยันว่า ถ้ามีการออกหมายจับใหม่ก็จะมาชุมนุมกันอีก . นอกจากนั้น เมื่อเช้าวันจันทร์ยังมีสมาชิกสภาจากพรรคพลังประชาชน (พีพีพี) ของยุนไปปรากฏตัวหน้าที่พักประธานาธิบดี . ทางด้านตำรวจได้ปิดถนนเพื่อป้องกันผู้ประท้วงที่คาดว่าจะรวมพลังกันต่อในวันจันทร์ ขณะที่ผู้ชุมนุมทั้งฝ่ายสนับสนุนและต่อต้านยุนหลายสิบคนปักหลักค้างคืนในวันอาทิตย์ (5 ม.ค.) ท่ามกลางอุณหภูมิติดลบ . ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ขอออกหมายจับครั้งแรกเนื่องจากยุนไม่ยอมไปให้ปากคำเรื่องการประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งทีมกฎหมายของยุนย้ำว่า หมายจับดังกล่าวผิดกฎหมายและจะดำเนินการทางกฎหมายเพื่อตอบโต้ ขณะที่หัวหน้าหน่วยอารักขาประธานาธิบดีประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่า จะไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่สอบสวนเข้าจับกุมยุน . ขณะเดียวกัน แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางถึงโซลเมื่อเช้าวันจันทร์เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลเกาหลีใต้ที่รวมถึงชอย ซัง-ม็อก รัฐมนตรีคลังและรักษาการประธานาธิบดี . บลิงเคนไม่มีกำหนดพบกับยุนที่ถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่ แต่แถลงข่าวร่วมกับโช แต-ยุล รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ และความสนใจของบลิงเคนเปลี่ยนจากประเด็นการเมืองภายในของเกาหลีใต้ เนื่องจากก่อนแถลงข่าวไม่นาน เปียงยางได้ทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป . อนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ระบุว่า จะเริ่มการพิจารณาคดีถอดถอนยุนในวันอังคารหน้า (14 ม.ค.) ไม่ว่ายุนจะไปปรากฏตัวในศาลหรือไม่ก็ตาม โดยศาลรัฐธรรมนูญมีเวลา 180 วันในการวินิจฉัยว่า จะถอดถอนหรือคืนตำแหน่งให้ยุน . เอเอฟพีรายงานโดยอ้างอิงจากรายงานของอัยการเกี่ยวกับอดีตรัฐมนตรีกลาโหมว่า ยุนเพิกเฉยต่อการคัดค้านของรัฐมนตรีสำคัญหลายคนก่อนที่จะประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งรายงานนี้อาจเป็นหลักฐานที่ศาลรัฐธรรมนูญรับไว้พิจารณา . ตามรายงานดังกล่าว นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีต่างประเทศ และรัฐมนตรีคลังในขณะนั้น ต่างแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจและการทูตที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีในคืนที่ยุนประกาศกฎอัยการศึก . นอกจากนั้น พรรคประชาธิปไตยที่เป็นฝ่ายค้านสำคัญยังเรียกร้องให้ยุบหน่วยอารักขายุน . อย่างไรก็ดี ทีมกฎหมายของยุนยืนยันว่า จะใช้สิทธิดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดกฎหมายเช่นเดียวกัน โดยเมื่อวันอาทิตย์ ยุน กั๊บ-กึน ทนายความคนหนึ่งในทีม เผยว่า จะยื่นคำร้องคัดค้านผู้อำนวยการซีไอโอที่พยายามเข้าจับกุมยุน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001570 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1575 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าหน้าที่สอบสวนเกาหลีใต้ดึงข้อมูลจากกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินของเที่ยวบินสายการบินเชจู แอร์ ที่ประสบอุบัติเหตุช่วงสิ้นปีสำเร็จแล้ว และคาดว่าจะใช้เวลาราว 2 วันในการแปลงข้อมูลเป็นไฟล์เสียงเพื่อทำการตรวจสอบรายละเอียดต่อไป นอกจากนั้น ยังเตรียมส่งกล่องบันทึกข้อมูลการบินที่ได้รับความเสียหายไปให้คณะกรรมการความปลอดภัยในการขนส่งแห่งชาติของอเมริกา (เอ็นทีเอสบี) ร่วมวิเคราะห์
    .
    ผู้โดยสารทั้ง 175 คน และลูกเรือจำนวน 4 จาก 6 คนของสายการบินเชจู แอร์ เที่ยวบิน 2216 ที่ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ไปยังเกาหลีใต้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (29 ธ.ค.) เสียชีวิตทั้งหมด โดยในจำนวนนี้เป็นผู้โดยสารชาวไทย 2 คน หลังจากที่เครื่องลงจอด ณ จุดหมายปลายทาง คือ ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเกาหลีใต้ ในสภาพที่ล้อไม่กาง ทำให้เครื่องไถลไปชนกับแนวกั้นคอนกรีตที่สุดรันเวย์และเกิดการระเบิดไฟลุกไหม้ทั้งลำ
    .
    สำหรับลูกเรือ 2 คนที่รอดชีวิตนั้นถูกช่วยออกมาจากส่วนหางของเครื่องบินลำนี้ ซึ่งเป็นเครื่องโบอิ้ง 737-800
    .
    รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศจนถึงวันที่ 4 ม.ค. และลดระดับงานฉลองปีใหม่
    .
    ในวันพุธ (1 ม.ค.) กระทรวงคมนาคมแถลงว่า จาก “กล่องดำ” ประจำเครื่องบินทั้ง 2 กล่องซึ่งค้นพบแล้วนั้น เจ้าหน้าที่สอบสวนสามารถดึงข้อมูลออกจากกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินแล้วและจะแปลงเป็นไฟล์เสียงซึ่งคาดว่าอาจใช้เวลาราว 2 วัน พร้อมตั้งความหวังว่า ไฟล์เสียงดังกล่าวจะให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับช่วงไม่กี่นาทีสุดท้ายก่อนที่เครื่องจะประสบอุบัติเหตุ
    .
    สำหรับกล่องดำอีกกล่างหนึ่ง คือ กล่องบันทึกข้อมูลการบินนั้น ทีมสอบสวนลงความเห็นว่า มีความเสียหายจนไม่สามารถดึงข้อมูลออกมาได้ และวางแผนส่งกล่องดำนี้ไปยังอเมริกาเพื่อทำการวิเคราะห์ร่วมกับเอ็นทีเอสบี
    .
    จู จองวาน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคมฝ่ายการบินพลเรือน แถลงว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อีก 2 คนเดินทางถึงเกาหลีใต้เมื่อคืนวันอังคาร (31 ธ.ค.) เพื่อทำงานร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่สอบสวนกว่า 20 คน ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่จากเอ็นทีเอสบี สำนักงานการบินของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ และโบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินของอเมริกา โดยขณะนี้กำลังวางแผนเพื่อเริ่มตรวจสอบซากเครื่องบินด้วยสายตา
    .
    แรกทีเดียวนั้นพวกเจ้าหน้าที่ระบุว่า การบินชนฝูงนกอาจเป็นสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ แต่ต่อมาได้มีการเผยแพร่ความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า จะจัดการสอบสวนแท่งคอนกรีตที่กั้นที่ปลายรันเวย์ซึ่งเครื่องบินพุ่งชนก่อนระเบิด รวมถึงความล้มเหลวของชุดฐานล้อเครื่องบิน หรือปัญหาจากระบบควบคุมอื่นๆ ตลอดจนจะสอบสวนกรณีที่นักบินเร่งรีบลงจอดทันทีหลังจากส่งสัญญาณเหตุฉุกเฉินไปยังหอบังคับการบิน
    .
    พวกผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางอากาศยังตั้งคำถามว่า งานถมคันทางสนามบินที่ออกแบบมาเพื่อรองรับอุปกรณ์นำทางนั้น สร้างใกล้ปลายรันเวย์มากเกินไปหรือไม่
    .
    ขณะเดียวกัน ที่สนามบินมูอัน ผู้คนนับร้อยต่อคิวรอแสดงความเคารพผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินเชจูที่แท่นพิธีที่จัดไว้ให้เมื่อวันพุธ ส่งผลให้เครือข่ายมือถือโอเวอร์โหลด
    .
    เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้ประกาศเตือนความปลอดภัย และขอให้ผู้ที่ต้องการไว้อาลัยเดินทางไปยังสถานที่จัดพิธีรำลึกแห่งอื่นๆ ที่จัดเตรียมไว้ทั่วประเทศ
    .
    สำหรับภายในสนามบินที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตไปปักหลักอยู่นับตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุนั้น มีการจัดพื้นที่พยาบาลฉุกเฉินเพื่อให้น้ำเกลือ เนื่องจากญาติผู้เสียชีวิตหลายคนเครียดจนรับประทานอาหารไม่ได้
    .
    ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เผยว่า ร่างผู้เสียชีวิตได้รับความเสียหาย ทำให้กระบวนการระบุตัวตนล่าช้าและยากลำบากมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่สอบสวนยังคงพยายามป้องกันหลักฐานซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ
    .
    อย่างไรก็ตาม ชอย ซังม็อก รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่เข้าทำงานไม่ทันถึงหนึ่งสัปดาห์ ระบุระหว่างการประชุมหน่วยงานภายในเมื่อวันพุธว่า การระบุอัตลักษณ์ผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการเสร็จสิ้นแล้ว และเจ้าหน้าที่ได้ทยอยส่งร่างผู้เสียชีวิตไปให้ครอบครัวจัดพิธีศพ
    .
    นอกจากนั้น ชอยยังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สอบสวนสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้อย่างเป็นธรรม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000000229
    ..............
    Sondhi X
    เจ้าหน้าที่สอบสวนเกาหลีใต้ดึงข้อมูลจากกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินของเที่ยวบินสายการบินเชจู แอร์ ที่ประสบอุบัติเหตุช่วงสิ้นปีสำเร็จแล้ว และคาดว่าจะใช้เวลาราว 2 วันในการแปลงข้อมูลเป็นไฟล์เสียงเพื่อทำการตรวจสอบรายละเอียดต่อไป นอกจากนั้น ยังเตรียมส่งกล่องบันทึกข้อมูลการบินที่ได้รับความเสียหายไปให้คณะกรรมการความปลอดภัยในการขนส่งแห่งชาติของอเมริกา (เอ็นทีเอสบี) ร่วมวิเคราะห์ . ผู้โดยสารทั้ง 175 คน และลูกเรือจำนวน 4 จาก 6 คนของสายการบินเชจู แอร์ เที่ยวบิน 2216 ที่ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ไปยังเกาหลีใต้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (29 ธ.ค.) เสียชีวิตทั้งหมด โดยในจำนวนนี้เป็นผู้โดยสารชาวไทย 2 คน หลังจากที่เครื่องลงจอด ณ จุดหมายปลายทาง คือ ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเกาหลีใต้ ในสภาพที่ล้อไม่กาง ทำให้เครื่องไถลไปชนกับแนวกั้นคอนกรีตที่สุดรันเวย์และเกิดการระเบิดไฟลุกไหม้ทั้งลำ . สำหรับลูกเรือ 2 คนที่รอดชีวิตนั้นถูกช่วยออกมาจากส่วนหางของเครื่องบินลำนี้ ซึ่งเป็นเครื่องโบอิ้ง 737-800 . รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศจนถึงวันที่ 4 ม.ค. และลดระดับงานฉลองปีใหม่ . ในวันพุธ (1 ม.ค.) กระทรวงคมนาคมแถลงว่า จาก “กล่องดำ” ประจำเครื่องบินทั้ง 2 กล่องซึ่งค้นพบแล้วนั้น เจ้าหน้าที่สอบสวนสามารถดึงข้อมูลออกจากกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินแล้วและจะแปลงเป็นไฟล์เสียงซึ่งคาดว่าอาจใช้เวลาราว 2 วัน พร้อมตั้งความหวังว่า ไฟล์เสียงดังกล่าวจะให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับช่วงไม่กี่นาทีสุดท้ายก่อนที่เครื่องจะประสบอุบัติเหตุ . สำหรับกล่องดำอีกกล่างหนึ่ง คือ กล่องบันทึกข้อมูลการบินนั้น ทีมสอบสวนลงความเห็นว่า มีความเสียหายจนไม่สามารถดึงข้อมูลออกมาได้ และวางแผนส่งกล่องดำนี้ไปยังอเมริกาเพื่อทำการวิเคราะห์ร่วมกับเอ็นทีเอสบี . จู จองวาน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคมฝ่ายการบินพลเรือน แถลงว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อีก 2 คนเดินทางถึงเกาหลีใต้เมื่อคืนวันอังคาร (31 ธ.ค.) เพื่อทำงานร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่สอบสวนกว่า 20 คน ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่จากเอ็นทีเอสบี สำนักงานการบินของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ และโบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินของอเมริกา โดยขณะนี้กำลังวางแผนเพื่อเริ่มตรวจสอบซากเครื่องบินด้วยสายตา . แรกทีเดียวนั้นพวกเจ้าหน้าที่ระบุว่า การบินชนฝูงนกอาจเป็นสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ แต่ต่อมาได้มีการเผยแพร่ความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า จะจัดการสอบสวนแท่งคอนกรีตที่กั้นที่ปลายรันเวย์ซึ่งเครื่องบินพุ่งชนก่อนระเบิด รวมถึงความล้มเหลวของชุดฐานล้อเครื่องบิน หรือปัญหาจากระบบควบคุมอื่นๆ ตลอดจนจะสอบสวนกรณีที่นักบินเร่งรีบลงจอดทันทีหลังจากส่งสัญญาณเหตุฉุกเฉินไปยังหอบังคับการบิน . พวกผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางอากาศยังตั้งคำถามว่า งานถมคันทางสนามบินที่ออกแบบมาเพื่อรองรับอุปกรณ์นำทางนั้น สร้างใกล้ปลายรันเวย์มากเกินไปหรือไม่ . ขณะเดียวกัน ที่สนามบินมูอัน ผู้คนนับร้อยต่อคิวรอแสดงความเคารพผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินเชจูที่แท่นพิธีที่จัดไว้ให้เมื่อวันพุธ ส่งผลให้เครือข่ายมือถือโอเวอร์โหลด . เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้ประกาศเตือนความปลอดภัย และขอให้ผู้ที่ต้องการไว้อาลัยเดินทางไปยังสถานที่จัดพิธีรำลึกแห่งอื่นๆ ที่จัดเตรียมไว้ทั่วประเทศ . สำหรับภายในสนามบินที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตไปปักหลักอยู่นับตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุนั้น มีการจัดพื้นที่พยาบาลฉุกเฉินเพื่อให้น้ำเกลือ เนื่องจากญาติผู้เสียชีวิตหลายคนเครียดจนรับประทานอาหารไม่ได้ . ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เผยว่า ร่างผู้เสียชีวิตได้รับความเสียหาย ทำให้กระบวนการระบุตัวตนล่าช้าและยากลำบากมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่สอบสวนยังคงพยายามป้องกันหลักฐานซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ . อย่างไรก็ตาม ชอย ซังม็อก รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่เข้าทำงานไม่ทันถึงหนึ่งสัปดาห์ ระบุระหว่างการประชุมหน่วยงานภายในเมื่อวันพุธว่า การระบุอัตลักษณ์ผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการเสร็จสิ้นแล้ว และเจ้าหน้าที่ได้ทยอยส่งร่างผู้เสียชีวิตไปให้ครอบครัวจัดพิธีศพ . นอกจากนั้น ชอยยังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สอบสวนสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้อย่างเป็นธรรม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000000229 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1582 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลเกาหลีใต้ได้อนุมัติโครงการ Yongin Semiconductor National Industrial Complex ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกครับ

    โครงการนี้จะมีพื้นที่ 7.28 ตารางกิโลเมตร (ประมาณครึ่งหนึ่งของ Beverly Hills) และจะมีโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ 6 แห่ง, โรงไฟฟ้า 3 แห่ง, และบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง 60 แห่งที่เชี่ยวชาญด้านวัสดุ, ชิ้นส่วน, และอุปกรณ์ที่จำเป็นในการดำเนินงานโรงงาน

    โรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์แห่งแรกใน Yongin คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในปี 2030. โครงการนี้มีเป้าหมายที่จะดึงดูดการลงทุนภาคเอกชนรวม 300 ล้านล้านวอน (ประมาณ 203.75 พันล้านดอลลาร์) และสร้างงานประมาณ 1.6 ล้านตำแหน่ง การก่อสร้างโครงการนี้จะเริ่มในเดือนธันวาคม 2026 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการเดิมถึงสามปีครึ่ง รัฐบาลเกาหลีใต้ได้เร่งกระบวนการเวนคืนที่ดินและขยายโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญเช่น ถนน, น้ำ, และไฟฟ้า

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/south-korea-greenlights-the-worlds-largest-semiconductor-hub-half-the-size-of-beverly-hills-to-house-six-fabs-three-power-plans-and-fab-suppliers
    รัฐบาลเกาหลีใต้ได้อนุมัติโครงการ Yongin Semiconductor National Industrial Complex ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกครับ โครงการนี้จะมีพื้นที่ 7.28 ตารางกิโลเมตร (ประมาณครึ่งหนึ่งของ Beverly Hills) และจะมีโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ 6 แห่ง, โรงไฟฟ้า 3 แห่ง, และบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง 60 แห่งที่เชี่ยวชาญด้านวัสดุ, ชิ้นส่วน, และอุปกรณ์ที่จำเป็นในการดำเนินงานโรงงาน โรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์แห่งแรกใน Yongin คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในปี 2030. โครงการนี้มีเป้าหมายที่จะดึงดูดการลงทุนภาคเอกชนรวม 300 ล้านล้านวอน (ประมาณ 203.75 พันล้านดอลลาร์) และสร้างงานประมาณ 1.6 ล้านตำแหน่ง การก่อสร้างโครงการนี้จะเริ่มในเดือนธันวาคม 2026 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการเดิมถึงสามปีครึ่ง รัฐบาลเกาหลีใต้ได้เร่งกระบวนการเวนคืนที่ดินและขยายโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญเช่น ถนน, น้ำ, และไฟฟ้า https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/south-korea-greenlights-the-worlds-largest-semiconductor-hub-half-the-size-of-beverly-hills-to-house-six-fabs-three-power-plans-and-fab-suppliers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 351 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังพิจารณาสร้างบริษัทผลิตชิปที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลชื่อว่า Korea Semiconductor Manufacturing Company (KSMC) เพื่อแข่งขันกับ TSMC ของไต้หวัน

    การลงทุนที่คาดว่าจะใช้ในการสร้าง KSMC อยู่ที่ประมาณ 13.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจะสร้างผลกำไรทางเศรษฐกิจได้ถึง 208.7 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2045

    ความท้าทายที่สำคัญของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของเกาหลีใต้คือ ช่องว่างทางเทคโนโลยีที่กว้างขึ้นกับคู่แข่งเช่น TSMC และ Intel ซึ่งกำลังปฏิรูปบริษัทในอนาคต การขาดความน่าสนใจในการลงทุน การเติบโตที่อ่อนแอในบริษัท fabless การขาดแคลนบุคลากร และกฎระเบียบที่เข้มงวดของการจ้างงานเช่น ข้อบังคับที่เข้มงวดเกี่ยวกับชั่วโมงการทำงาน และการจ้างงานคนต่างชาติของเกาหลีเอง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/south-korea-mulls-creating-ksmc-contract-chipmaker-to-compete-with-tsmc-requires-a-usd13-9-billion-investment
    รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังพิจารณาสร้างบริษัทผลิตชิปที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลชื่อว่า Korea Semiconductor Manufacturing Company (KSMC) เพื่อแข่งขันกับ TSMC ของไต้หวัน การลงทุนที่คาดว่าจะใช้ในการสร้าง KSMC อยู่ที่ประมาณ 13.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจะสร้างผลกำไรทางเศรษฐกิจได้ถึง 208.7 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2045 ความท้าทายที่สำคัญของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของเกาหลีใต้คือ ช่องว่างทางเทคโนโลยีที่กว้างขึ้นกับคู่แข่งเช่น TSMC และ Intel ซึ่งกำลังปฏิรูปบริษัทในอนาคต การขาดความน่าสนใจในการลงทุน การเติบโตที่อ่อนแอในบริษัท fabless การขาดแคลนบุคลากร และกฎระเบียบที่เข้มงวดของการจ้างงานเช่น ข้อบังคับที่เข้มงวดเกี่ยวกับชั่วโมงการทำงาน และการจ้างงานคนต่างชาติของเกาหลีเอง https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/south-korea-mulls-creating-ksmc-contract-chipmaker-to-compete-with-tsmc-requires-a-usd13-9-billion-investment
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 463 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงกีฬาเกาหลีใต้ประท้วงข้อผิดพลาดระหว่างพิธีเปิดโอลิมปิกปารีส เมื่อเรือของนักกีฬาทีมชาติเกาหลีใต้ถูกเรียกว่าเป็นทีม “เกาหลีเหนือ”

    27 กรกฎาคม 2567-สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ขณะที่ตัวแทนเกาหลีใต้ล่องเรือในแม่น้ำแซนเพื่อเข้าสู่พิธีเปิดเป็นชาติที่ 48 พิธีกรชาวฝรั่งเศสได้ประกาศแนะนำเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า“Republique populaire democratique de Coree” หรือสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ซึ่งหมายถึงประเทศเกาหลีเหนือ

    ความผิดพลาดก่อให้เกิดความไม่พอใจในรัฐบาลเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเทศก้าวหน้าทางวัฒนธรรมและเทคโนโลยีระดับโลกและยังมีข้อขัดแย้งในสงครามกับเกาหลีเหนือตั้งแต่ช่วงระหว่างปี 1950-1953 แม้จะมีการหยุดยิงแต่ไม่ใช่สนธิสัญญาสันติภาพ

    ล่าสุดกระทรวงกีฬาเกาหลีใต้ได้ออกแถลงการณ์ “แสดงความเสียใจต่อการประกาศชื่อระหว่างพิธีเปิดโอลิมปิก 2024 ปารีสเกมส์ ที่ตัวแทนเกาหลีใต้ได้รับการแนะนำตัวว่าเป็นทีมเกาหลีเหนือ”

    นางสาวจาง มีรัน รัฐมนตรีช่วยคนที่ 2 ของกระทรวงกีฬา ซึ่งเคยเป็นแชมป์โลกยกน้ำหนักโอลิมปิกปี 2008 ขอประชุมกับนายโทมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) เพื่อหารือในเรื่องนี้ นอกจากนี้กระทรวงกีฬายังขอให้กระทรวงการต่างประเทศ “ส่งคำประท้วงอย่างรุนแรงไปถึงกระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศส”

    #Thaitimes
    กระทรวงกีฬาเกาหลีใต้ประท้วงข้อผิดพลาดระหว่างพิธีเปิดโอลิมปิกปารีส เมื่อเรือของนักกีฬาทีมชาติเกาหลีใต้ถูกเรียกว่าเป็นทีม “เกาหลีเหนือ” 27 กรกฎาคม 2567-สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ขณะที่ตัวแทนเกาหลีใต้ล่องเรือในแม่น้ำแซนเพื่อเข้าสู่พิธีเปิดเป็นชาติที่ 48 พิธีกรชาวฝรั่งเศสได้ประกาศแนะนำเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า“Republique populaire democratique de Coree” หรือสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ซึ่งหมายถึงประเทศเกาหลีเหนือ ความผิดพลาดก่อให้เกิดความไม่พอใจในรัฐบาลเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเทศก้าวหน้าทางวัฒนธรรมและเทคโนโลยีระดับโลกและยังมีข้อขัดแย้งในสงครามกับเกาหลีเหนือตั้งแต่ช่วงระหว่างปี 1950-1953 แม้จะมีการหยุดยิงแต่ไม่ใช่สนธิสัญญาสันติภาพ ล่าสุดกระทรวงกีฬาเกาหลีใต้ได้ออกแถลงการณ์ “แสดงความเสียใจต่อการประกาศชื่อระหว่างพิธีเปิดโอลิมปิก 2024 ปารีสเกมส์ ที่ตัวแทนเกาหลีใต้ได้รับการแนะนำตัวว่าเป็นทีมเกาหลีเหนือ” นางสาวจาง มีรัน รัฐมนตรีช่วยคนที่ 2 ของกระทรวงกีฬา ซึ่งเคยเป็นแชมป์โลกยกน้ำหนักโอลิมปิกปี 2008 ขอประชุมกับนายโทมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) เพื่อหารือในเรื่องนี้ นอกจากนี้กระทรวงกีฬายังขอให้กระทรวงการต่างประเทศ “ส่งคำประท้วงอย่างรุนแรงไปถึงกระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศส” #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 910 มุมมอง 0 รีวิว