• 🇧🇫 บูร์กินาฟาโซเตรียมถอนใบอนุญาตขุดของบริษัทต่างชาติ และจะพยายามผลิตทองคำของตัวเองให้มากขึ้น

    "เราทราบวิธีการขุดทองคำของเราเอง และฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเราจึงปล่อยให้บริษัทข้ามชาติเข้ามาขุด"
    .
    JUST IN: 🇧🇫 Burkina Faso to withdraw mining permits from foreign companies and will seek to produce more of its own gold.

    "We know how to mine our gold and I don't understand why we're going to let multinationals come and mine it."
    .
    10:35 PM · Oct 5, 2024 · 621.6K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1842589444668621258
    🇧🇫 บูร์กินาฟาโซเตรียมถอนใบอนุญาตขุดของบริษัทต่างชาติ และจะพยายามผลิตทองคำของตัวเองให้มากขึ้น "เราทราบวิธีการขุดทองคำของเราเอง และฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเราจึงปล่อยให้บริษัทข้ามชาติเข้ามาขุด" . JUST IN: 🇧🇫 Burkina Faso to withdraw mining permits from foreign companies and will seek to produce more of its own gold. "We know how to mine our gold and I don't understand why we're going to let multinationals come and mine it." . 10:35 PM · Oct 5, 2024 · 621.6K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1842589444668621258
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร เป็นพระพุทธรูปทองคำแท้ทั้งองค์ หนักถึง 5.5 ตัน เฉพาะมูลค่าทองคำตามที่บันทึกในกินเนสบุ๊คนั้น อยู่ที่ประมาณ 28.5 ล้านปอนด์ ประวัติว่าสร้างเมื่อใดยังไม่แน่ชัด เชื่อกันว่าเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปสำคัญของวัดมหาธาตุ สุโขทัย ดังที่ปรากฏในหลักศิลาจารึกว่า "วัดมหาธาตุ กลางเมืองสุโขทัย มีพิหาร มีพระพุทธรูปทอง มีพระอัฏฐารส มีพระพุทธรูป มีพระพุทธรูปอันใหญ่ มีพระพุทธรูปอันราม" ซึ่งพิจารณาทั้งตามหลักฐานอื่นและเหตุผลประกอบแล้ว พระพุทธรูปองค์นี้ น่าจะเป็นพระพุทธรูปทององค์ดังกล่าว เพราะปริมาณทองคำแท้นี้ รวมถึงขนาดพระพุทธรูปนี้ ย่อมเกินกว่าที่สามัญชนทั่วไปพึงสร้างเป็นสมบัติ ---------------- #หลวงพ่อทองคำ #พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร #วัดไตรมิตร #วัดไตรมิตรวิทยาราม #พระสุโขทัยไตรมิตร #กรุงเทพมหานคร #สุโขทัย #พระพุทธรูปสุโขทัย #พระพุทธรูปทองคำ #goldenbuddha #thegoldenbuddha #phraphutthamahasuwannapatimakon #wattraimit #bangkok #thailand #siampiya
    พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร เป็นพระพุทธรูปทองคำแท้ทั้งองค์ หนักถึง 5.5 ตัน เฉพาะมูลค่าทองคำตามที่บันทึกในกินเนสบุ๊คนั้น อยู่ที่ประมาณ 28.5 ล้านปอนด์ ประวัติว่าสร้างเมื่อใดยังไม่แน่ชัด เชื่อกันว่าเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปสำคัญของวัดมหาธาตุ สุโขทัย ดังที่ปรากฏในหลักศิลาจารึกว่า "วัดมหาธาตุ กลางเมืองสุโขทัย มีพิหาร มีพระพุทธรูปทอง มีพระอัฏฐารส มีพระพุทธรูป มีพระพุทธรูปอันใหญ่ มีพระพุทธรูปอันราม" ซึ่งพิจารณาทั้งตามหลักฐานอื่นและเหตุผลประกอบแล้ว พระพุทธรูปองค์นี้ น่าจะเป็นพระพุทธรูปทององค์ดังกล่าว เพราะปริมาณทองคำแท้นี้ รวมถึงขนาดพระพุทธรูปนี้ ย่อมเกินกว่าที่สามัญชนทั่วไปพึงสร้างเป็นสมบัติ ---------------- #หลวงพ่อทองคำ #พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร #วัดไตรมิตร #วัดไตรมิตรวิทยาราม #พระสุโขทัยไตรมิตร #กรุงเทพมหานคร #สุโขทัย #พระพุทธรูปสุโขทัย #พระพุทธรูปทองคำ #goldenbuddha #thegoldenbuddha #phraphutthamahasuwannapatimakon #wattraimit #bangkok #thailand #siampiya
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 28 0 รีวิว
  • 💥💥ท็อป 5 ประเทศ ที่ธนาคารกลาง
    ซื้อทองคำเข้าเป็นทุนสำรองสะสมมากที่สุด
    (ข้อมูล 8 เดือนแรก ปี 2567)

    🚩1. ตุรเคีย (ตุรกี) จำนวน 52 ตัน
    🚩2. อินเดีย จำนวน 45 ตัน
    🚩3. โปแลนด์ จำนวน 39 ตัน
    🚩4. จีน จำนวน 28 ตัน
    🚩5. สาธารณะรัฐเช็ก จำนวน 15 ตัน

    💥หมายเหตุ: ธนาคารกลางจีน ซื้อทองคำเข้าเป็นทุนสำรอง
    เป็นอันดับ 1 ในปี 2566 จำนวน 224.88 ตัน

    ที่มา : gold.org

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ทองคำ #Gold #thaitimes
    💥💥ท็อป 5 ประเทศ ที่ธนาคารกลาง ซื้อทองคำเข้าเป็นทุนสำรองสะสมมากที่สุด (ข้อมูล 8 เดือนแรก ปี 2567) 🚩1. ตุรเคีย (ตุรกี) จำนวน 52 ตัน 🚩2. อินเดีย จำนวน 45 ตัน 🚩3. โปแลนด์ จำนวน 39 ตัน 🚩4. จีน จำนวน 28 ตัน 🚩5. สาธารณะรัฐเช็ก จำนวน 15 ตัน 💥หมายเหตุ: ธนาคารกลางจีน ซื้อทองคำเข้าเป็นทุนสำรอง เป็นอันดับ 1 ในปี 2566 จำนวน 224.88 ตัน ที่มา : gold.org #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ทองคำ #Gold #thaitimes
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 544 มุมมอง 506 0 รีวิว
  • 💥💥ท็อป 5 ประเทศ ที่ธนาคารกลาง
    ซื้อทองคำเข้าเป็นทุนสำรองสะสมมากที่สุด
    (ข้อมูล 8 เดือนแรก ปี 2567)

    🚩1. ตุรเคีย (ตุรกี) จำนวน 52 ตัน
    🚩2. อินเดีย จำนวน 45 ตัน
    🚩3. โปแลนด์ จำนวน 39 ตัน
    🚩4. จีน จำนวน 28 ตัน
    🚩5. สาธารณะรัฐเช็ก จำนวน 15 ตัน

    💥หมายเหตุ: ธนาคารกลางจีน ซื้อทองคำเข้าเป็นทุนสำรอง
    เป็นอันดับ 1 ในปี 2566 จำนวน 224.88 ตัน

    ที่มา : gold.org

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ทองคำ #Gold #thaitimes
    💥💥ท็อป 5 ประเทศ ที่ธนาคารกลาง ซื้อทองคำเข้าเป็นทุนสำรองสะสมมากที่สุด (ข้อมูล 8 เดือนแรก ปี 2567) 🚩1. ตุรเคีย (ตุรกี) จำนวน 52 ตัน 🚩2. อินเดีย จำนวน 45 ตัน 🚩3. โปแลนด์ จำนวน 39 ตัน 🚩4. จีน จำนวน 28 ตัน 🚩5. สาธารณะรัฐเช็ก จำนวน 15 ตัน 💥หมายเหตุ: ธนาคารกลางจีน ซื้อทองคำเข้าเป็นทุนสำรอง เป็นอันดับ 1 ในปี 2566 จำนวน 224.88 ตัน ที่มา : gold.org #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ทองคำ #Gold #thaitimes
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 458 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤠#โลกของภูมิภาคตะวันตกในสายตาของพระภิกษุถังซัมจั๋ง ตอน 01.🤠

    😎#ออกจากประตูหยก😎

    🥸การเดินทางของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไปทางทิศตะวันตกเพื่อแสวงหาธรรมะนั้นเป็นการกระทำส่วนตัวโดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางการ แต่ด้วยเหตุนี้ มุมมองของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่มีต่อภูมิภาคตะวันตกจึงมีความเป็นพลเรือนมากกว่า เป็นกลางมากกว่า และเป็นจริงมากกว่า🥸

    🥸ต่อไปนี้เชิญท่านมาเผชิญหน้ากับท่ามกลางท้องฟ้าอันเต็มไปด้วยลมและทราย เดินย่ำเหยียบฝ่าหมอกควันทะเลทราย เริ่มต้นเข้าร่วมกับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ในการเดินทางอันน่ามหัศจรรย์ของเขาเพื่อร่างขอบเขตดินแดนของภูมิภาคตะวันตก🥸

    😎ออกจากประตูหยก(玉门)ไปทางทิศตะวันตก 😎

    🥸ในปีคริสตศักราช 629 ภัยพิบัติน้ำแข็งเกิดขึ้นในพื้นที่กวนจง(关中) ราชวงศ์ถัง(唐)ออกคำสั่งให้พระภิกษุและฆราวาสในพื้นที่ คยองกี(Gyeonggi京畿) ย้ายไปยังสถานที่อื่นเพื่อหาอาหารและหลีกเลี่ยงหลบหนีจากความอดอยาก พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ซึ่งแต่เดิมต้องการออกจากด่านทางผ่าน แต่ไม่ได้รับอนุญาตจากราชสำนักจึงใช้โอกาสนี้ออกจากฉางอาน(长安)🥸 เขาเดินทางผ่านหลานโจว(兰州)และเหลียงโจว(凉州) เขาหลีกเลี่ยงการติดตามจัยกุมของทางการโดยการเดินทางเวลากลางคืนและพักเวลากลางวัน ต่อมา พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เสี่ยงภัยเดินทางผ่าน กวัวโจว(瓜州) และ อวี้เหมินกวน(Yumen Pass玉门关) ผ่านหอคอยสัญญาณไฟ 5 แห่งที่มีกองทหารคุ้มกันตามลำดับรายทาง ด้วยความช่วยเหลือจากทหารรักษาชายแดนผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนา พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ข้ามทะเลทรายโกบีด้วยพลังแห่งความศรัทธาและความอุตสาหะอย่างแรงกล้าก่อนจะไปถึงอีหวู(伊吾) และเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ทางตะวันออกของภูมิภาคตะวันตก

    🥸สถานีแรกของการเดินทาง อีหวู(伊吾) ได้มีการส่งมอบการมาถึงอย่างกะทันหันของพระภิกษุให้กับเกาชาง(Gaochang高昌) (ปัจจุบันคือเมืองถูหลู่ฟาน(Turfan 吐鲁番) เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์(Xinjiang Uygur Autonomous Region 新疆维吾尔自治区)) เจ้าเหนือหัวองค์น้อยทางตะวันออกของภูมิภาคตะวันตกในขณะนั้น ซึ่งตั้งอยู่ริมแอ่งถูหลู่ฟาน(Turfan Depression吐鲁番盆地)🥸

    🥸หลังจากได้ยินข่าวว่า พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)มาถึงแล้ว กษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) เสนาบดี และสาวใช้ออกมาจากพระราชวังในเวลากลางคืน ทรงจุดเทียน และเข้าแถวเพื่อต้อนรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เข้าสู่พระราชวังด้วยความเคารพ🥸 หลังจากเห็น พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) แล้ว ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ดีใจมากและบอกกับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ว่า: นับตั้งแต่ฉันรู้ชื่ออาจารย์ ฉันมีความสุขมากจนลืมกินลืมนอน ฉันรู้ว่าพระภิกษุผู้แสวงธรรมจากตะวันออกจะมาคืนนี้ ฉันก็เลยพร้อมกับพระราชินีและเจ้าชายทรงพากันสวดมนต์ตลอดทั้งคืนรอการมาถึงของพระอาจารย์

    พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ถูกจัดให้อยู่ที่สนามหลวงทางพิธีกรรมของศาสนาถัดจากพระราชวังกษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) และจัดขันทีให้ดูแลอาหารและชีวิตประจำวันของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)

    รัฐเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)เป็นนครรัฐที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคตะวันตก และถูกปกครองโดยผู้รอดชีวิตจากราชวงศ์ฮั่น(汉)และเว่ย(魏) ซึ่งเป็นโครงสร้างทางการเมืองที่รวมหู(胡)และฮั่น(汉)เข้าด้วยกัน ในบรรดาพลเมืองนั้น ไม่เพียงแต่สืบเชื้อสายมาจากผู้อพยพชาวฮั่น(汉)เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้คนจากภูมิภาคตะวันตกด้วย เช่น ชาวซ็อกเดียน(Sogdians粟特) ชาวซานซาน(Shanshan鄯善人)และชาวเติร์ก(Turks突厥人) 🥸ก่อนที่ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)จะมาถึง ประเทศนี้ก็ก่อตั้งขึ้นที่นั่นมานานกว่า 100 ปีแล้ว เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่พบว่าข้อมูลจำเพาะของเมืองที่นี่มีความคล้ายคลึงกับเมืองฉางอัน(长安)ในราชวงศ์ซุย(隋)และราชวงศ์ถัง(唐)มาก นอกจากนี้ยังมีรูปของ ดยุคไอแห่งหลู่(鲁哀公)สอดถามขงจื๊อ(孔子)เกี่ยวกับปัญหาการเมืองที่แขวนอยู่ในพระราชวังของอาณาจักร เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)🥸

    😎การต้อนรับด้วยมารยาทอันสูงส่ง😎

    🥸ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)และบิดาของเขาเดินทางไปยังราชวงศ์สุย(隋)ในยุครุ่งเรืองเพื่อเข้าเฝ้าจักรพรรดิสุยหยางตี้(隋炀帝)🥸 เขาไม่เพียงแต่เดินทางไปยังฉางอาน(长安) ล่อหยาง(洛阳) เฝินหยาง(汾阳) เอี้ยนตี้(燕地) ไต้ตี้(代地) และเมืองสำคัญอื่นๆ และได้เห็นวัฒนธรรมฮั่น(汉)ของที่ราบตอนกลางดั้งเดิม แต่เขายังไปเยี่ยมคารวะพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงและผู้มีคุณธรรมอีกมากมาย และเขาก็ชื่นชมที่ราบภาคกลางที่เป็นบ้านเกิดทางวัฒนธรรมของเขาเป็นอย่างมาก แต่ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)รู้สึกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงในอดีตของราชวงศ์ซุย ความฉลาดสามารถของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)นั้นเหนือกว่ามาก

    เมื่อใดก็ตามที่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)บรรยายธรรมแก่ขุนนางของเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ในเต็นท์ใหญ่ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ถือกระถางธูปเพื่อเคลียร์นำทางให้พระภิกษุผู้มีชื่อเสียงด้วยตนเอง เมื่อพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไปที่แท่นธรรมาสน์เพื่อขึ้นเทศนาธรรม กษัตริย์แห่งเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ถึงกับคุกเข่าโน้มตัวลง และทำหน้าที่เป็นบันไดให้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ก้าวขึ้นแท่นธรรมาสน์ การปฏิบัตินี้ไม่สอดคล้องกับประเพณีตะวันออก แต่ก็มีบันทึกไว้ในหนังสือดั้งเดิมของอินเดียบางเรื่อง สิ่งนี้พิสูจน์ได้จากสิ่งแวดล้อมข้วงเคียงว่า เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)คือจุดทางสี่แยกของอารยธรรมตะวันออกและตะวันตก นอกจากนี้ยังอธิบายถึงการบูชาสักการะอย่างสูงสุดต่อ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ของ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)

    พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ยังคัดเลือกพระภิกษุในท้องถิ่นหลายแห่งใน เกาชาง(Gaochang高昌)ให้เป็นนักเรียนและคนรับใช้ นิสัยปกิบัติในการรับลูกศิษย์ไปตลอดทางนี้ กลายเป็นต้นแบบทางประวัติศาสตร์สำหรับทีมอาจารย์และลูกศิษย์ของภิกษุราชวงศ์ถัง(唐)ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องใน "บันทึกการเดินทางสู่ตะวันตก(Journey to the West西游记)" แม้ว่ากษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)แห่งเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)จะชื่นชมพรสวรรค์และการเรียนรู้อย่างลึกซึ้งของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เขาถึงกับมีความคิดหน่วงรั้งพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไว้ที่เกาชาง(Gaochang高昌)ด้วยซ้ำ และขอให้ประทับอยู่ที่นี่ตลอดไป แสดงธรรมสั่งสอนให้ความรู้ความกระจ่างแก่คนทั่วไป จนกระทั่งเป็นพระอาจารย์ระดับชาติของ เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไม่เห็นด้วยเพราะมีตวามเห็นว่าเรื่องธรรมะเป็นเรื่องใหญ่กว่า กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)เห็นว่าพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) มีความมุ่งมั่นดังนั้นเขาจึงจำต้องโยนไพ่ตายทางเลือกสุดท้ายของเขาออกไป: 🥸ถ้าพระคุณท่านไม่ปรารถนาอยู่ในเกาชาง(Gaochang高昌) ข้าพระเจ้าจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากส่งท่านอาจารย์กลับไปทางทิศตะวันออก🥸

    เมื่อต้องเผชิญกับกลยุทธ์ไม้แข็งและไม้อ่อนร่วมกันของ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) กล่าวด้วยท่าทีที่ไม่ถ่อมตัวหรือหยิ่งผยองว่า: 🥸พระองค์สามารถจะเพียงได้รับกระดูกของอาตมาเอาไว้ได้ แต่พระองค์ไม่สามารถหยุดยั้งความตั้งใจของอาตมาที่จะไปทางตะวันตกได้🥸

    😎หนทางเบื้องหน้าอันยาวไกล😎

    🥸ด้วยเหตุนี้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) จึงอดอาหารเป็นเวลาสามวันเพื่อแสดงความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะเดินทางไปดินแดนทางทิศตะวันตก🥸 ในฐานะเป็นอาณาจักรในภูมิภาคตะวันตกที่นับถือศาสนาพุทธ หากมีพระภิกษุที่แสวงหาธรรมะมาอดอยากจนตายภายในดินแดนของตน ชื่อเสียงสู่ภายนอกของเกาชาง(Gaochang高昌)ในภูมิภาคตะวันตกจะเสียหายอย่างมาก และเขาจะพลอยได้รับชื่อเสียงเสื่อมเสียงจากการทำร้ายพระภิกษุที่มีชื่อเสียงด้วย ยิ่งไปกว่านั้นความจริงแล้ว การขัดขวางการเดินทางไปดินแดนทางทิศตะวันตกของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ด้วยเพื่อความปรารถนาอันเห็นแก่ตัวของเขาเองก็เป็นการขัดแย้งกับความตั้งใจเดิมของเขา

    🥸เมื่อเขาคิดมาถึง ณ จุดนี้ กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ก้มหัวให้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เพื่อขอโทษ🥸 ความคิดที่เห็นแก่ตัวของเขาที่มีต่อเกาชาง(Gaochang高昌) ก็ถูกขจัดออกไปในที่สุดด้วยความมุ่งมั่นมีเมตตาที่จะช่วยสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ในเวลาเดียวกันกับขณะที่รู้สึกประทับใจกับความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่จะแสวงหาธรรมะโดยปราศจากสิ่งภายนอกมาบั่นทอนความตั้งใจ กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)และพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ได้สาบานต่อฟ้าดินสัญญาเป็นพี่น้องกัน ภายใต้การอุปถัมภ์จากแม่ของแผ่นดินเจ้าจอมมารดา จาง(张太妃) เพื่อให้พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เดินทางไปถึงอินเดียได้อย่างราบรื่น กษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) ทรงสั่งการให้จัดทีมงานเล็กๆ ประกอบด้วยม้า 30 ตัว พนักงานข้าราชการเกาชาง(Gaochang高昌)1 คน ผู้ติดตามกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ 25 คน และพระภิกษุหนุ่ม 4 รูป เพื่อดูแลเรื่องอาหาร เสื้อผ้า และชีวิตประจำวันของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมหน้ากากและหมวกพิเศษสำหรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)สำหรับการเดินทางผ่านภูเขาและทะเลทรายที่เต็มไปด้วยหิมะ รวมถึงเสื้อคลุมสำหรับพระสงฆ์ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับเขตภูมิอากาศต่างๆ จัดทหารม้าขนนำทองคำ เงิน และผ้าไหมจำนวนมากไว้สำหรับการครั้งนี้ ทำให้มั่นใจได้ว่าพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไม่เพียงแต่จะไม่ต้องทนทุกข์จากความหิวโหยระหว่างทางไปอินเดียเท่านั้น แต่ยังมีเงินเพียงพอที่จะทำทานอีกด้วย ในสิ่งแต่งเคิมเหล่านี้เป็นรายละเอียดด้านที่อ่อนโยนของประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ที่มีต่ออัครสาวก

    🥸นอกจากทรัพย์สินแล้ว เนื่องจากเจ้าผู้ครองแคว้นตะวันตกในขณะนั้น คือ ข่านเตอร์กตะวันตก(西突厥)ได้สมรสกับราชวงศ์เกาชาง(Gaochang高昌) ยังมีจดหมายแสดงความเคารพที่กษัตริย์แห่งเกาชาง(Gaochang高昌)มอบให้กับข่านแห่งเติร์กตะวันตก(西突厥) อธิบายถึงความตั้งใจของ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่จะไปทางดินแดนแคว้นตะวันตกเพื่อแสวงหาธรรมะ🥸 ภายใต้การคุ้มครองของเตอร์กข่านตะวันตก (西突厥) ทุกประเทศในภูมิภาคตะวันตกตลอดเส้นทางให้ความเคารพแก่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) และให้การสนับสนุนทางทหารที่เข้มแข็งและมีควาทปลอดภัยที่สุดสำหรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)และคณะเดินทางของเขา และจดหมายแสดงความเคารพของกษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ถึงพระมหากษัตริย์ของยี่สิบสี่ประเทศในภูมิภาคตะวันตกจะช่วยให้การเดินทางของ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ง่ายและสะดวกขึ้นอย่างมาก

    🥸ในช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ของการอำลาอาณาจักรเกาชาง(Gaochang高昌) บรรดาราชวงศ์และชาวเกาชาง(Gaochang高昌)ก็ออกจากเมืองเพื่อส่งอำลา🥸 พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)สัญญาว่า เมื่อเดินทางผ่านเกาชาง(Gaochang高昌)หลังจากกลับจากการศึกษาในอินเดียจะแสดงเทศนาธรรมอีก จากนั้นเขาก็กล่าวคำอำลากษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ด้วยน้ำตา พวกบรรดาราชวงศ์ เกาชาง(Gaochang高昌)เจ้าหน้าที่และประชาชนชาวพุทธต่างพากันออกจากเมืองส่งเสียงอำลาดังลั่นสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งถิ่น ราวกับว่ามือแห่งโชคชะตาได้ฉีกหัวใจและจิตวิญญาณออกจากร่างกายของชาวเกาชาง(Gaochang高昌) ทำให้พวกเขาสูญเสียสมบัติของชาติไปตลอดกาล

    บรรดาพวกราชวงศ์เกาชาง(Gaochang高昌) ส่งพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ออกไปนอกเมืองหลายสิบลี้ แม้ว่าพระภิกษุสมณเพศจะมองเห็นบรรลุแล้วการจากแยกอำลาในทางโลกแล้วก็ตาม แต่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ผู้ที่มีจิตใจละเอียดอ่อนและยังคงเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ของมนุษย์ก็ยังมีอารมณ์อ่อนไหวมาก เขาขอบคุณต่ออาณาจักรเกาชาง(Gaochang高昌)อย่างสุดซึ้งอีกครั้งสำหรับการสนับสนุนอย่างมีน้ำใจ ราชาแห่งเกาชาง(Gaochang高昌)ยังจับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้าง ร่ำไห้ราวกับสายฝนกล่าวว่า 🥸ในเมื่อพระคุณท่านถือเป็นพี่น้องกัน สัตว์พาหนะต่าง ๆ ในประเทศก็มีเจ้าของคนเดียวกัน แล้วเหตุใดจึงต้องขอบคุณพวกเขาด้วย?🥸

    พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ตอบว่า: 🥸ฉันจะไม่มีวันลืมความเมตตาของเสด็จพี่ตลอดชีวิตของอาตมา ในวันที่อาตมากลับจากนำพระคัมภีร์ทางพุทธศาสนากลับมา อาตมาจะอยู่สอนธรรมะในเกาชาง(Gaochang高昌)เป็นเวลาสามปีเป็นการตอบแทน!🥸

    หลายปีต่อมาในฉางอาน(长安) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เล่าถึงเหตุการณ์อันน่าประทับใจนี้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากให้เหล่าสาวกฟัง มิตรภาพฉันท์พี่น้องที่มีต่อราชาแห่งเกาชาง(Gaochang高昌)ยังคงเกินคำบรรยาย ดูเหมือนราวกับว่าพิธีอำลาที่หรูหราและยิ่งใหญ่นั้นได่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง ตอนนั้นเขาไม่รู้ 🥸นี่ยังจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้พบกับพี่ชายร่วมสาบานของเขา🥸

    🥳โปรดติดตามบทความ#โลกของภูมิภาคตะวันตกในสายตาของพระภิกษุถังซัมจั๋ง ตอน 02.
    #อาณาจักรคาราซาห์และคูชาที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🥳

    🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    🤠#โลกของภูมิภาคตะวันตกในสายตาของพระภิกษุถังซัมจั๋ง ตอน 01.🤠 😎#ออกจากประตูหยก😎 🥸การเดินทางของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไปทางทิศตะวันตกเพื่อแสวงหาธรรมะนั้นเป็นการกระทำส่วนตัวโดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางการ แต่ด้วยเหตุนี้ มุมมองของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่มีต่อภูมิภาคตะวันตกจึงมีความเป็นพลเรือนมากกว่า เป็นกลางมากกว่า และเป็นจริงมากกว่า🥸 🥸ต่อไปนี้เชิญท่านมาเผชิญหน้ากับท่ามกลางท้องฟ้าอันเต็มไปด้วยลมและทราย เดินย่ำเหยียบฝ่าหมอกควันทะเลทราย เริ่มต้นเข้าร่วมกับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ในการเดินทางอันน่ามหัศจรรย์ของเขาเพื่อร่างขอบเขตดินแดนของภูมิภาคตะวันตก🥸 😎ออกจากประตูหยก(玉门)ไปทางทิศตะวันตก 😎 🥸ในปีคริสตศักราช 629 ภัยพิบัติน้ำแข็งเกิดขึ้นในพื้นที่กวนจง(关中) ราชวงศ์ถัง(唐)ออกคำสั่งให้พระภิกษุและฆราวาสในพื้นที่ คยองกี(Gyeonggi京畿) ย้ายไปยังสถานที่อื่นเพื่อหาอาหารและหลีกเลี่ยงหลบหนีจากความอดอยาก พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ซึ่งแต่เดิมต้องการออกจากด่านทางผ่าน แต่ไม่ได้รับอนุญาตจากราชสำนักจึงใช้โอกาสนี้ออกจากฉางอาน(长安)🥸 เขาเดินทางผ่านหลานโจว(兰州)และเหลียงโจว(凉州) เขาหลีกเลี่ยงการติดตามจัยกุมของทางการโดยการเดินทางเวลากลางคืนและพักเวลากลางวัน ต่อมา พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เสี่ยงภัยเดินทางผ่าน กวัวโจว(瓜州) และ อวี้เหมินกวน(Yumen Pass玉门关) ผ่านหอคอยสัญญาณไฟ 5 แห่งที่มีกองทหารคุ้มกันตามลำดับรายทาง ด้วยความช่วยเหลือจากทหารรักษาชายแดนผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนา พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ข้ามทะเลทรายโกบีด้วยพลังแห่งความศรัทธาและความอุตสาหะอย่างแรงกล้าก่อนจะไปถึงอีหวู(伊吾) และเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ทางตะวันออกของภูมิภาคตะวันตก 🥸สถานีแรกของการเดินทาง อีหวู(伊吾) ได้มีการส่งมอบการมาถึงอย่างกะทันหันของพระภิกษุให้กับเกาชาง(Gaochang高昌) (ปัจจุบันคือเมืองถูหลู่ฟาน(Turfan 吐鲁番) เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์(Xinjiang Uygur Autonomous Region 新疆维吾尔自治区)) เจ้าเหนือหัวองค์น้อยทางตะวันออกของภูมิภาคตะวันตกในขณะนั้น ซึ่งตั้งอยู่ริมแอ่งถูหลู่ฟาน(Turfan Depression吐鲁番盆地)🥸 🥸หลังจากได้ยินข่าวว่า พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)มาถึงแล้ว กษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) เสนาบดี และสาวใช้ออกมาจากพระราชวังในเวลากลางคืน ทรงจุดเทียน และเข้าแถวเพื่อต้อนรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เข้าสู่พระราชวังด้วยความเคารพ🥸 หลังจากเห็น พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) แล้ว ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ดีใจมากและบอกกับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ว่า: นับตั้งแต่ฉันรู้ชื่ออาจารย์ ฉันมีความสุขมากจนลืมกินลืมนอน ฉันรู้ว่าพระภิกษุผู้แสวงธรรมจากตะวันออกจะมาคืนนี้ ฉันก็เลยพร้อมกับพระราชินีและเจ้าชายทรงพากันสวดมนต์ตลอดทั้งคืนรอการมาถึงของพระอาจารย์ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ถูกจัดให้อยู่ที่สนามหลวงทางพิธีกรรมของศาสนาถัดจากพระราชวังกษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) และจัดขันทีให้ดูแลอาหารและชีวิตประจำวันของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) รัฐเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)เป็นนครรัฐที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคตะวันตก และถูกปกครองโดยผู้รอดชีวิตจากราชวงศ์ฮั่น(汉)และเว่ย(魏) ซึ่งเป็นโครงสร้างทางการเมืองที่รวมหู(胡)และฮั่น(汉)เข้าด้วยกัน ในบรรดาพลเมืองนั้น ไม่เพียงแต่สืบเชื้อสายมาจากผู้อพยพชาวฮั่น(汉)เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้คนจากภูมิภาคตะวันตกด้วย เช่น ชาวซ็อกเดียน(Sogdians粟特) ชาวซานซาน(Shanshan鄯善人)และชาวเติร์ก(Turks突厥人) 🥸ก่อนที่ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)จะมาถึง ประเทศนี้ก็ก่อตั้งขึ้นที่นั่นมานานกว่า 100 ปีแล้ว เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่พบว่าข้อมูลจำเพาะของเมืองที่นี่มีความคล้ายคลึงกับเมืองฉางอัน(长安)ในราชวงศ์ซุย(隋)และราชวงศ์ถัง(唐)มาก นอกจากนี้ยังมีรูปของ ดยุคไอแห่งหลู่(鲁哀公)สอดถามขงจื๊อ(孔子)เกี่ยวกับปัญหาการเมืองที่แขวนอยู่ในพระราชวังของอาณาจักร เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)🥸 😎การต้อนรับด้วยมารยาทอันสูงส่ง😎 🥸ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)และบิดาของเขาเดินทางไปยังราชวงศ์สุย(隋)ในยุครุ่งเรืองเพื่อเข้าเฝ้าจักรพรรดิสุยหยางตี้(隋炀帝)🥸 เขาไม่เพียงแต่เดินทางไปยังฉางอาน(长安) ล่อหยาง(洛阳) เฝินหยาง(汾阳) เอี้ยนตี้(燕地) ไต้ตี้(代地) และเมืองสำคัญอื่นๆ และได้เห็นวัฒนธรรมฮั่น(汉)ของที่ราบตอนกลางดั้งเดิม แต่เขายังไปเยี่ยมคารวะพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงและผู้มีคุณธรรมอีกมากมาย และเขาก็ชื่นชมที่ราบภาคกลางที่เป็นบ้านเกิดทางวัฒนธรรมของเขาเป็นอย่างมาก แต่ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)รู้สึกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงในอดีตของราชวงศ์ซุย ความฉลาดสามารถของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)นั้นเหนือกว่ามาก เมื่อใดก็ตามที่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)บรรยายธรรมแก่ขุนนางของเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ในเต็นท์ใหญ่ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ถือกระถางธูปเพื่อเคลียร์นำทางให้พระภิกษุผู้มีชื่อเสียงด้วยตนเอง เมื่อพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไปที่แท่นธรรมาสน์เพื่อขึ้นเทศนาธรรม กษัตริย์แห่งเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ถึงกับคุกเข่าโน้มตัวลง และทำหน้าที่เป็นบันไดให้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ก้าวขึ้นแท่นธรรมาสน์ การปฏิบัตินี้ไม่สอดคล้องกับประเพณีตะวันออก แต่ก็มีบันทึกไว้ในหนังสือดั้งเดิมของอินเดียบางเรื่อง สิ่งนี้พิสูจน์ได้จากสิ่งแวดล้อมข้วงเคียงว่า เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)คือจุดทางสี่แยกของอารยธรรมตะวันออกและตะวันตก นอกจากนี้ยังอธิบายถึงการบูชาสักการะอย่างสูงสุดต่อ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ของ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ยังคัดเลือกพระภิกษุในท้องถิ่นหลายแห่งใน เกาชาง(Gaochang高昌)ให้เป็นนักเรียนและคนรับใช้ นิสัยปกิบัติในการรับลูกศิษย์ไปตลอดทางนี้ กลายเป็นต้นแบบทางประวัติศาสตร์สำหรับทีมอาจารย์และลูกศิษย์ของภิกษุราชวงศ์ถัง(唐)ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องใน "บันทึกการเดินทางสู่ตะวันตก(Journey to the West西游记)" แม้ว่ากษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)แห่งเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)จะชื่นชมพรสวรรค์และการเรียนรู้อย่างลึกซึ้งของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เขาถึงกับมีความคิดหน่วงรั้งพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไว้ที่เกาชาง(Gaochang高昌)ด้วยซ้ำ และขอให้ประทับอยู่ที่นี่ตลอดไป แสดงธรรมสั่งสอนให้ความรู้ความกระจ่างแก่คนทั่วไป จนกระทั่งเป็นพระอาจารย์ระดับชาติของ เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไม่เห็นด้วยเพราะมีตวามเห็นว่าเรื่องธรรมะเป็นเรื่องใหญ่กว่า กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)เห็นว่าพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) มีความมุ่งมั่นดังนั้นเขาจึงจำต้องโยนไพ่ตายทางเลือกสุดท้ายของเขาออกไป: 🥸ถ้าพระคุณท่านไม่ปรารถนาอยู่ในเกาชาง(Gaochang高昌) ข้าพระเจ้าจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากส่งท่านอาจารย์กลับไปทางทิศตะวันออก🥸 เมื่อต้องเผชิญกับกลยุทธ์ไม้แข็งและไม้อ่อนร่วมกันของ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) กล่าวด้วยท่าทีที่ไม่ถ่อมตัวหรือหยิ่งผยองว่า: 🥸พระองค์สามารถจะเพียงได้รับกระดูกของอาตมาเอาไว้ได้ แต่พระองค์ไม่สามารถหยุดยั้งความตั้งใจของอาตมาที่จะไปทางตะวันตกได้🥸 😎หนทางเบื้องหน้าอันยาวไกล😎 🥸ด้วยเหตุนี้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) จึงอดอาหารเป็นเวลาสามวันเพื่อแสดงความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะเดินทางไปดินแดนทางทิศตะวันตก🥸 ในฐานะเป็นอาณาจักรในภูมิภาคตะวันตกที่นับถือศาสนาพุทธ หากมีพระภิกษุที่แสวงหาธรรมะมาอดอยากจนตายภายในดินแดนของตน ชื่อเสียงสู่ภายนอกของเกาชาง(Gaochang高昌)ในภูมิภาคตะวันตกจะเสียหายอย่างมาก และเขาจะพลอยได้รับชื่อเสียงเสื่อมเสียงจากการทำร้ายพระภิกษุที่มีชื่อเสียงด้วย ยิ่งไปกว่านั้นความจริงแล้ว การขัดขวางการเดินทางไปดินแดนทางทิศตะวันตกของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ด้วยเพื่อความปรารถนาอันเห็นแก่ตัวของเขาเองก็เป็นการขัดแย้งกับความตั้งใจเดิมของเขา 🥸เมื่อเขาคิดมาถึง ณ จุดนี้ กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ก้มหัวให้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เพื่อขอโทษ🥸 ความคิดที่เห็นแก่ตัวของเขาที่มีต่อเกาชาง(Gaochang高昌) ก็ถูกขจัดออกไปในที่สุดด้วยความมุ่งมั่นมีเมตตาที่จะช่วยสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ในเวลาเดียวกันกับขณะที่รู้สึกประทับใจกับความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่จะแสวงหาธรรมะโดยปราศจากสิ่งภายนอกมาบั่นทอนความตั้งใจ กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)และพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ได้สาบานต่อฟ้าดินสัญญาเป็นพี่น้องกัน ภายใต้การอุปถัมภ์จากแม่ของแผ่นดินเจ้าจอมมารดา จาง(张太妃) เพื่อให้พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เดินทางไปถึงอินเดียได้อย่างราบรื่น กษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) ทรงสั่งการให้จัดทีมงานเล็กๆ ประกอบด้วยม้า 30 ตัว พนักงานข้าราชการเกาชาง(Gaochang高昌)1 คน ผู้ติดตามกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ 25 คน และพระภิกษุหนุ่ม 4 รูป เพื่อดูแลเรื่องอาหาร เสื้อผ้า และชีวิตประจำวันของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมหน้ากากและหมวกพิเศษสำหรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)สำหรับการเดินทางผ่านภูเขาและทะเลทรายที่เต็มไปด้วยหิมะ รวมถึงเสื้อคลุมสำหรับพระสงฆ์ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับเขตภูมิอากาศต่างๆ จัดทหารม้าขนนำทองคำ เงิน และผ้าไหมจำนวนมากไว้สำหรับการครั้งนี้ ทำให้มั่นใจได้ว่าพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไม่เพียงแต่จะไม่ต้องทนทุกข์จากความหิวโหยระหว่างทางไปอินเดียเท่านั้น แต่ยังมีเงินเพียงพอที่จะทำทานอีกด้วย ในสิ่งแต่งเคิมเหล่านี้เป็นรายละเอียดด้านที่อ่อนโยนของประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ที่มีต่ออัครสาวก 🥸นอกจากทรัพย์สินแล้ว เนื่องจากเจ้าผู้ครองแคว้นตะวันตกในขณะนั้น คือ ข่านเตอร์กตะวันตก(西突厥)ได้สมรสกับราชวงศ์เกาชาง(Gaochang高昌) ยังมีจดหมายแสดงความเคารพที่กษัตริย์แห่งเกาชาง(Gaochang高昌)มอบให้กับข่านแห่งเติร์กตะวันตก(西突厥) อธิบายถึงความตั้งใจของ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่จะไปทางดินแดนแคว้นตะวันตกเพื่อแสวงหาธรรมะ🥸 ภายใต้การคุ้มครองของเตอร์กข่านตะวันตก (西突厥) ทุกประเทศในภูมิภาคตะวันตกตลอดเส้นทางให้ความเคารพแก่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) และให้การสนับสนุนทางทหารที่เข้มแข็งและมีควาทปลอดภัยที่สุดสำหรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)และคณะเดินทางของเขา และจดหมายแสดงความเคารพของกษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ถึงพระมหากษัตริย์ของยี่สิบสี่ประเทศในภูมิภาคตะวันตกจะช่วยให้การเดินทางของ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ง่ายและสะดวกขึ้นอย่างมาก 🥸ในช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ของการอำลาอาณาจักรเกาชาง(Gaochang高昌) บรรดาราชวงศ์และชาวเกาชาง(Gaochang高昌)ก็ออกจากเมืองเพื่อส่งอำลา🥸 พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)สัญญาว่า เมื่อเดินทางผ่านเกาชาง(Gaochang高昌)หลังจากกลับจากการศึกษาในอินเดียจะแสดงเทศนาธรรมอีก จากนั้นเขาก็กล่าวคำอำลากษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ด้วยน้ำตา พวกบรรดาราชวงศ์ เกาชาง(Gaochang高昌)เจ้าหน้าที่และประชาชนชาวพุทธต่างพากันออกจากเมืองส่งเสียงอำลาดังลั่นสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งถิ่น ราวกับว่ามือแห่งโชคชะตาได้ฉีกหัวใจและจิตวิญญาณออกจากร่างกายของชาวเกาชาง(Gaochang高昌) ทำให้พวกเขาสูญเสียสมบัติของชาติไปตลอดกาล บรรดาพวกราชวงศ์เกาชาง(Gaochang高昌) ส่งพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ออกไปนอกเมืองหลายสิบลี้ แม้ว่าพระภิกษุสมณเพศจะมองเห็นบรรลุแล้วการจากแยกอำลาในทางโลกแล้วก็ตาม แต่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ผู้ที่มีจิตใจละเอียดอ่อนและยังคงเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ของมนุษย์ก็ยังมีอารมณ์อ่อนไหวมาก เขาขอบคุณต่ออาณาจักรเกาชาง(Gaochang高昌)อย่างสุดซึ้งอีกครั้งสำหรับการสนับสนุนอย่างมีน้ำใจ ราชาแห่งเกาชาง(Gaochang高昌)ยังจับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้าง ร่ำไห้ราวกับสายฝนกล่าวว่า 🥸ในเมื่อพระคุณท่านถือเป็นพี่น้องกัน สัตว์พาหนะต่าง ๆ ในประเทศก็มีเจ้าของคนเดียวกัน แล้วเหตุใดจึงต้องขอบคุณพวกเขาด้วย?🥸 พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ตอบว่า: 🥸ฉันจะไม่มีวันลืมความเมตตาของเสด็จพี่ตลอดชีวิตของอาตมา ในวันที่อาตมากลับจากนำพระคัมภีร์ทางพุทธศาสนากลับมา อาตมาจะอยู่สอนธรรมะในเกาชาง(Gaochang高昌)เป็นเวลาสามปีเป็นการตอบแทน!🥸 หลายปีต่อมาในฉางอาน(长安) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เล่าถึงเหตุการณ์อันน่าประทับใจนี้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากให้เหล่าสาวกฟัง มิตรภาพฉันท์พี่น้องที่มีต่อราชาแห่งเกาชาง(Gaochang高昌)ยังคงเกินคำบรรยาย ดูเหมือนราวกับว่าพิธีอำลาที่หรูหราและยิ่งใหญ่นั้นได่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง ตอนนั้นเขาไม่รู้ 🥸นี่ยังจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้พบกับพี่ชายร่วมสาบานของเขา🥸 🥳โปรดติดตามบทความ#โลกของภูมิภาคตะวันตกในสายตาของพระภิกษุถังซัมจั๋ง ตอน 02. #อาณาจักรคาราซาห์และคูชาที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🥳 🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตัวเรือนและสายนั้นเสร็จสิ้น… เห่าไปตลอดทาง 😮‍💨🤤 เรามี Vacheron Constantin ทรงสี่เหลี่ยมยุค 70 ที่ทำจากทองคำขาว 18k ที่หายากขนาด 32 มม. หน้าปัดสีดำกลมๆ ของภาพ #vacheronconstantin #งานฝีมือ #นาฬิกา #วินเทจ
    ตัวเรือนและสายนั้นเสร็จสิ้น… เห่าไปตลอดทาง 😮‍💨🤤 เรามี Vacheron Constantin ทรงสี่เหลี่ยมยุค 70 ที่ทำจากทองคำขาว 18k ที่หายากขนาด 32 มม. หน้าปัดสีดำกลมๆ ของภาพ #vacheronconstantin #งานฝีมือ #นาฬิกา #วินเทจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • ยิ่งไม่สามารถใช้ดอกเบี้ยสูงตรึงเงินดอลลาร์ได้ ยิ่งเร่งสงครามโลกและสงครามโรคเร็วขึ้น/ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

    ความขัดแย้งกันในเรื่องภูมิรัฐศาสตร์นั้น ต้องพิจารณาในยุคนี้ด้วยว่า นอกจากมาตรการตอบโต้กันทางด้านการเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ สงครรามทุนระหว่างประเทศ สงครามค่าเงิน ถึงขนาดที่เรียกว่าเรื่องนี้อาจมีจุดจบที่ต้องมีฝ่ายใดแพ้หรือฝ่ายใดชนะกันไปข้างหนึ่ง

    โดยเฉพาะสถานภาพของเงินสกุลสหรัฐอเมริกา ก็ไม่สามารถดำรงสถานภาพเป็นเงินสกุลหลักของโลกได้เหมือนเดิมอีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าขายปิโตรเลียมที่ไม่ได้ยึถถือเงินสกุลดอลลาร์ (ปิโตรดอลลาร์)แต่เพียงสกุลเดียวได้เหมือนเดิม แต่ถึงกระนั้นสหรัฐอเมริกาก็เลือกหนทางในการทำให้เกิดการโจมตีแหล่งปิโตรเลียมที่ไม่ใช่พันธมิตรอเมริกาทั่วโลก เพื่อให้ราคาปิโตรเลียมของธุรกิจในเครือสหรัฐอเมริกายังคงดำรงสถานภาพปิโตรดอลลาร์ต่อไป

    อย่างไรก็ตามการเปลี่ยแปลงเงินสกุลหลักของโลกแม้จะมีการเปลี่ยนแปลง แต่ก็ยังมีขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงแบบยืดเยื้อ โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่ยังคงใช้เงินดอลลาร์สหรัฐเป็นเครื่องมือเป็นเงินกู้เข้าแทรกแซงช่วยเหลืออยู่หลายประเทศ โดยสถานภาพของกองทุนการเงินระหว่างประเทศเป็นเจ้าหนี้ของประเทศต่างๆที่มีพันธะผูกพันจำนวน 94 ประเทศ มีมูลค่าหนี้คงค้างกว่า 112 ล้านเหรียญสหรัฐ[1]

    นอกจากนั้นทุนสำรองระหว่างประเทศของทุกประเทศทั่วโลกยังคงเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐอเมริกามากถึงร้อยละ 54.06[2] โดยส่วนใหญ่อยู่ในรูปพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ซึ่งสหรัฐอเมริกาก็กลายเป็นประเทศที่ออกพันธบัตรก่อหนี้มหาศาลมากถึง 35 ล้านล้านเหรียญสหรัฐแล้ว[3] โดยยังไม่เพียงแค่ปัญหาว่าสหรัฐอเมริกาจะมีทางว่าจะชำระหนี้คืนได้อย่างไรเท่านั้น แต่ยังไม่มีแนวโน้มว่าสหรัฐอเมริกาจะหยุดการก่อหนี้เพิ่มขึ้นได้อย่างไร

    การที่สหรัฐอเมริกาก่อหนี้อย่างมหาศาล อีกทั้งธนาคารกลางหลายประเทศเทขายพันธบัตรสหรัฐอเมริกา ส่งผลทำให้ปริมาณอุปทานเงินดอลลาร์สหรัฐล้นระบบเกินความต้องการของอุปสงค์เงินดอลลาร์สหรัฐในตลาดเงิน และทำให้ธนาคารกลางได้เพิ่มสัดส่วนเงินสกุลของคู่ค้าประเทศอื่นๆและทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ

    ปัญหาที่แท้จริงในเรื่องนี้คือปัญหา “ความไม่เชื่อมั่น” ในเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ที่ก่อหนี้ไม่หยุด หรือไม่หยุดการพิมพ์ธนบัตรดอลลาร์ออกมาโดยที่ไม่มีอะไรหนุนหลัง

    ส่งผลทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐเสื่อมค่าลง ทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ข้าวยากหมากแพง และทำให้ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาต้องตัดสินใจเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็นเวลานานในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพื่อดึงเงินจากทั่วโลกให้ยังคงรักษาเงินดอลลาร์สหรัฐให้เป็นที่ต้องการในทุนสำรองระหว่างประเทศต่อไป

    แต่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงของสหรัฐอเมริกา กลับทำให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจอีกด้านหนึ่ง ด้วยเพราะทำให้ธุรกิจเอกชนในสหรัฐอเมริกาประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง หนี้สินครัวเรือน และหนี้สินส่วนบุคคลเพิ่มสูงขึ้น นำไปสู่การก่อหนี้เสีย ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อสถานภาพธนาคารในสหรัฐอเมริกาด้วย

    ปรากฏการณ์เพียงแค่ธนาคารกลางผ่อนปรนลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคาคารกลางลงเท่านั้น เม็ดเงินทั่วโลกก็ได้ทยอยเทขายทรัพย์สินในเงินดอลลาร์สหรัฐไหลไปสู่ทรัพย์สินที่มั่นคงกว่าทันที และทำให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐอ่อนลงฉับพลันและยังมีแนวโน้มว่าจะเสื่อมค่าอย่างต่อเนื่องด้วย

    และนั่นทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐถูกเปลี่ยนมาลงทุนหุ้นในภูมิภาคเอเชีย และทำให้ดัชนีราคาหุ้นเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง ค่าเงินสกุลหลายประเทศในเอเชียจึงแข็งค่าขึ้น

    โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีธนาคารแห่งประเทศไทยใช้นโยบายเพิ่มสัดส่วนทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศติดอันดับโลก ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นเป็นเป้าหมายในการลงทุนไปด้วย ดัชนีราคาหุ้นเพิ่มสูงขึ้นทะยานต่อเนื่อง และค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น หรืออีกนัยหนึ่งคือเงินดอลลาร์ที่กำลังเสื่อมค่าถูกนำมาแปลงสภาพผ่านทุนเคลื่อนย้ายสุทธิเข้าในตลาดหุ้น กองทุน หรือพันธบัตรในเอเชีย ก็ยิ่งทำให้ธนาคารกลางของประเทศที่เป็นเป้าหมายในการลงทุนกลับยิ่งมีเงินดอลลาร์ในทุนสำรองระหว่างประเทศมากขึ้นเพิ่มมากขึ้น ก็ยิ่งทำให้ธนาคารกลางต้องเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินทองคำเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

    ราคาทองคำจึงมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์

    และเมื่อมีแนวโน้มว่าอิสราเอลจะตั้งเป้าโจมตีทำลายแหล่งปิโตรเลียมอิหร่าน ก็ยิ่งทำให้ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติทั่วโลกราคาเพิ่มสูงขึ้น

    อย่างไรก็ตาม ด้วยเพราะธนาคารกลางของหลายประเทศทั่วโลกพยายามจะได้พยายามลดการถือครองพันธบัตร เพื่อหวังจะทำให้การเปลี่ยนสัดส่วนทุนสำรองระหว่างประเทศจากเงินดอลลาร์สหรัฐให้น้อยลง แล้วเปลี่ยนเป็นสกุลเงินอื่นๆ หรือทองคำนั้นให้มากขึ้นนั้น เป็นการคิดพร้อมๆกันของหลายประเทศทั่วโลก จึงทำให้หลายประเทศไม่สามารถจะเปลี่ยนได้ตามใจชอบ

    อย่างไรก็ตามประเทศใดมีทุนสำรองระหว่างประเทศที่มีเงินดอลลาร์สหรัฐมากขึ้นเท่าไหร่ ย่อมเท่ากับว่าประเทศนั้นถือครองทรัพย์สินที่อ่อนค่าลงมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งก็ย่อมทำให้สกุลเงินในประเทศที่มีทรัพย์สินเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐด้อยค่าไปด้วยอยู่ดี

    เมื่อถึงสถานการณ์ที่นโยบายดอกเบี้ยสูงของธนาคารกลางกลายเป็นข้อจำกัด และถูกบีบให้ลดอัตราดอกเบี้ยลง หากสหรัฐอเมริกาจะยังคงสถานภาพเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อไปได้ ก็ต่อเมื่อต้องบีบให้ทุกประเทศทั่วโลกมีความต้องการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาให้มากที่สุด

    สถานการณ์ใกล้ตีบตันแล้ว จึงเหลือหนทางแค่ 2 ทางเท่านั้น

    หนทางที่หนึ่ง คือ “ก่อสงคราม” เพื่อทำให้ประเทศที่มีสงครามต้องสั่งซื้อ สั่งผลิต อาวุธยุทโธปกรณ์จากสหรัฐอเมริกาให้มากขึ้น และเมื่ออาวุธ ยุทโธปกรณ์เหล่านี้ขายในรูปของดอลลาร์สหรัฐ จึงเป็นผลทำให้ประเทศคู่ขัดแย้งมีความต้องการเงินดอลลาร์ศหรัฐมากขึ้น

    การสร้างสถานการณ์เพื่อทำให้เกิดสงครามยังจะเป็นผลทำให้ราคาปิโตรเลียมทั่วโลกราคาสูงขึ้น และทำให้ดึงความมั่งคั่งของโลกมาซื้อทรัพยากรปิโตรเลียมของสหรัฐอเมริกามากขึ้น

    ตัวอย่างสมรภูมิที่เกิดขึ้นระหว่างยูเครน กับรัสเซีย ชี้ชัดว่าสหรัฐอเมริการสามารถทำกำไรอย่างมหาศาลทั้งจากธุรกิจอาวุธ ยุทโธปกรณ์ และธุรกิจน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ รวมถึงการสมรู้ร่วมคิดสนับสนุนอิสราเอลเพื่อก่อสงครามในตะวันออกลาง ก็เพื่อเร่งการซื้ออาวุธ ยุทโธปกรณ์ ให้มากขึ้น

    อย่างไรก็ตามแสนยานุภาพของมหาอำนาจหลายขั้วอยู่ในระดับที่ไม่แพ้กัน ทำให้การก่อสงครามด้วยสหรัฐอเมริกาเป็นลักษณะของการจำกัดพื้นที่ ”ในประเทศอื่นๆ“ และให้มีความยืดเยื้อ และมีเป้าหมายในการทำลายแหล่งปิโตรเลียมที่ไม่ใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ

    หนทางที่สอง “ก่อโรคระบาดใหม่” เพื่อทำให้ทุกประเทศต้องก่อหนี้สินมหาศาลในการช่วยเหลือประชาชน หากล้มละลาย และยังเป็นการดูดความมั่งคั่งเหล่านี้ไปซื้อวัคซีน และยารักษาโรคจากสหรัฐอเมริกาและยุโรป

    หากประเทศเหล่านั้นยากจนเงินไม่เพียงพอ ก็ต้องให้มีการกู้ยืมเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งก็เป็นหนทางในการบีบให้ต้องการเงินดอลลาร์สหรัฐในประเทศนั้นๆอยู่ดี

    และเป็นที่แน่ชัดว่า เมื่อธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินดอลลาร์สหรัฐ ย่อมเท่ากับยอมรับว่าไม่สามารถใช้อัตราดอกเบี้ยสูงในการรักษาการยอมรับเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา “แบบสันติวิธี” ได้นานกว่านี้ได้แล้ว

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากข้อมูลของดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐได้พิสูจน์ว่าสถานการณ์ความขัดแย้งในระดับที่ก่อสงคราม หรือการเกิดโรคระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลทำให้เกิดการก่อหนี้อันมหาศาลของหลายประเทศนั้น ได้ส่งผลดำให้ดัชนีเงินดอลลาร์สูงขึ้นอย่างชัดเจน และยังคงเป็นยุทธวิธีที่ดำรงสถานภาพของเงินดอลลาร์สหรัฐได้[4]

    โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ดัชนีดอลลาร์สหรัฐกำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง[4] สถานการณ์นี้เป็นตัวนบีบเงื่อนไขในรักษาเงินดอลลาร์ “มีเวลาน้อยลง” เรื่อยๆ

    ดังนั้นโลกกำลังเข้าสู่ความเสี่ยงในการเร่งทำสงครามจำกัดพื้นที่แต่ยืดเยื้ออย่างชัดเจนขึ้น โดยมีเป้าหมายในการทำลาายแหล่งปิโตรเลียมของประเทศที่ออกจากการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ

    แต่หากความเสียหายเกิดขึ้นเกินกว่าที่ประเทศที่ถูกอิสราเอลหรือนาโต้จะรับได้ ทั้งต่อประเทศในตะวันออกกลางคู่ขัดแย้งกับอิสราเอล หรือ การทำสงครามรัสเซียกับยูเครนก็ตาม “ความยืดเยื้อ” ในระหว่างประเทศอาจถูกทำให้ยุติ ได้ด้วยการตอบโต้ที่รุนแรงและเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงในการทำสงครามด้วยอาวุธนิวเคลียร์ด้วย

    ซึ่งเชื่อว่าประเทศมหาอำนาจทั่วโลกพยายามยับยั้งชั่งใจไม่ให้สถานการณ์บานปลายไปสู่สงครามที่ใช้อาวุธนิวเคลียร์​

    เพราะหากถึงจุดนั้น ก็เท่ากับสงครามต้อง “หมดยก” และต้องยุติลงด้วยชัยชนะหรือพ่ายแพ้กันไปข้างหนึ่ง และทำให้สงครามเศรษฐกิจที่เพิ่มความต้องการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐต้องยุติลงฉับพลันเช่นกัน

    เมื่อสถานการณ์การเร่งสถานการณ์สงครามมีความเสี่ยงที่ทุกฝ่ายต้องยับยั้งชั่งใจในมิติการก่อสงคราม จึงเหลืออีกหนทางหนึ่งคือ “การก่อโรคระบาด” ที่อาจจะเป็นหนทางสุดท้ายที่ทำให้ทั่วโลกต้องมาหาเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกามาซื้อวัคซีนหรือยารักษาโรคที่มีราคาแพงจากสหรัฐอเมริกา

    ในสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์-เศรษฐกิจเป็นเช่นนี้ ประเทศไทยควรจะมีผู้นำที่มาชี้นำทางความคิดในการเตรียมตัวในการรับมือกับสถานการณสงครามโลก สงครามโรค ในสงครามความโลภทั้งหลาย

    โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมทางด้าน ”ความมั่นคงทางพลังงาน, ความมั่นคงทางอาหาร และความมั่นคงทางยาสมุนไพรเพื่อการพี่งพาตนเอง“

    เอาจริงๆแล้วยังไม่เห็นรัฐบาลเตรียมความพร้อมในเรื่องเหล่านี้เลย

    ด้วยความปรารถนาดี
    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    4 ตุลาคม 2567

    อ้างอิง
    [1] INTERNATIONAL MONETARY FUND, Total IMF Credit Outstanding �Movement From September 01, 2024 to October 01
    https://www.imf.org/external/np/fin/tad/balmov2.aspx?type=TOTAL

    [2] INTERNATIONAL MONETARY FUND, Currency Composition of Official Foreign Exchange Reserve (COFER), World allocated Reserves by Currency for 2023 Q2
    https://data.imf.org/?sk=e6a5f467-c14b-4aa8-9f6d-5a09ec4e62a4

    [3] Peterson G. Foundation, What is the National Debt Today?,
    https://www.pgpf.org/national-debt-clock?gad_source=1&gbraid=0AAAAABdefgYCJ8Ko6Ivna9fcfHx0Y_lqt&gclid=EAIaIQobChMIhbGExczxiAMVyqpLBR2NuhvEEAAYASAAEgJXjvD_BwE

    [4] marketwatch, US Dollar Index(DXY)
    https://www.marketwatch.com/investing/index/dxy
    ยิ่งไม่สามารถใช้ดอกเบี้ยสูงตรึงเงินดอลลาร์ได้ ยิ่งเร่งสงครามโลกและสงครามโรคเร็วขึ้น/ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ความขัดแย้งกันในเรื่องภูมิรัฐศาสตร์นั้น ต้องพิจารณาในยุคนี้ด้วยว่า นอกจากมาตรการตอบโต้กันทางด้านการเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ สงครรามทุนระหว่างประเทศ สงครามค่าเงิน ถึงขนาดที่เรียกว่าเรื่องนี้อาจมีจุดจบที่ต้องมีฝ่ายใดแพ้หรือฝ่ายใดชนะกันไปข้างหนึ่ง โดยเฉพาะสถานภาพของเงินสกุลสหรัฐอเมริกา ก็ไม่สามารถดำรงสถานภาพเป็นเงินสกุลหลักของโลกได้เหมือนเดิมอีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าขายปิโตรเลียมที่ไม่ได้ยึถถือเงินสกุลดอลลาร์ (ปิโตรดอลลาร์)แต่เพียงสกุลเดียวได้เหมือนเดิม แต่ถึงกระนั้นสหรัฐอเมริกาก็เลือกหนทางในการทำให้เกิดการโจมตีแหล่งปิโตรเลียมที่ไม่ใช่พันธมิตรอเมริกาทั่วโลก เพื่อให้ราคาปิโตรเลียมของธุรกิจในเครือสหรัฐอเมริกายังคงดำรงสถานภาพปิโตรดอลลาร์ต่อไป อย่างไรก็ตามการเปลี่ยแปลงเงินสกุลหลักของโลกแม้จะมีการเปลี่ยนแปลง แต่ก็ยังมีขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงแบบยืดเยื้อ โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่ยังคงใช้เงินดอลลาร์สหรัฐเป็นเครื่องมือเป็นเงินกู้เข้าแทรกแซงช่วยเหลืออยู่หลายประเทศ โดยสถานภาพของกองทุนการเงินระหว่างประเทศเป็นเจ้าหนี้ของประเทศต่างๆที่มีพันธะผูกพันจำนวน 94 ประเทศ มีมูลค่าหนี้คงค้างกว่า 112 ล้านเหรียญสหรัฐ[1] นอกจากนั้นทุนสำรองระหว่างประเทศของทุกประเทศทั่วโลกยังคงเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐอเมริกามากถึงร้อยละ 54.06[2] โดยส่วนใหญ่อยู่ในรูปพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ซึ่งสหรัฐอเมริกาก็กลายเป็นประเทศที่ออกพันธบัตรก่อหนี้มหาศาลมากถึง 35 ล้านล้านเหรียญสหรัฐแล้ว[3] โดยยังไม่เพียงแค่ปัญหาว่าสหรัฐอเมริกาจะมีทางว่าจะชำระหนี้คืนได้อย่างไรเท่านั้น แต่ยังไม่มีแนวโน้มว่าสหรัฐอเมริกาจะหยุดการก่อหนี้เพิ่มขึ้นได้อย่างไร การที่สหรัฐอเมริกาก่อหนี้อย่างมหาศาล อีกทั้งธนาคารกลางหลายประเทศเทขายพันธบัตรสหรัฐอเมริกา ส่งผลทำให้ปริมาณอุปทานเงินดอลลาร์สหรัฐล้นระบบเกินความต้องการของอุปสงค์เงินดอลลาร์สหรัฐในตลาดเงิน และทำให้ธนาคารกลางได้เพิ่มสัดส่วนเงินสกุลของคู่ค้าประเทศอื่นๆและทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาที่แท้จริงในเรื่องนี้คือปัญหา “ความไม่เชื่อมั่น” ในเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ที่ก่อหนี้ไม่หยุด หรือไม่หยุดการพิมพ์ธนบัตรดอลลาร์ออกมาโดยที่ไม่มีอะไรหนุนหลัง ส่งผลทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐเสื่อมค่าลง ทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ข้าวยากหมากแพง และทำให้ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาต้องตัดสินใจเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็นเวลานานในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพื่อดึงเงินจากทั่วโลกให้ยังคงรักษาเงินดอลลาร์สหรัฐให้เป็นที่ต้องการในทุนสำรองระหว่างประเทศต่อไป แต่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงของสหรัฐอเมริกา กลับทำให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจอีกด้านหนึ่ง ด้วยเพราะทำให้ธุรกิจเอกชนในสหรัฐอเมริกาประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง หนี้สินครัวเรือน และหนี้สินส่วนบุคคลเพิ่มสูงขึ้น นำไปสู่การก่อหนี้เสีย ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อสถานภาพธนาคารในสหรัฐอเมริกาด้วย ปรากฏการณ์เพียงแค่ธนาคารกลางผ่อนปรนลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคาคารกลางลงเท่านั้น เม็ดเงินทั่วโลกก็ได้ทยอยเทขายทรัพย์สินในเงินดอลลาร์สหรัฐไหลไปสู่ทรัพย์สินที่มั่นคงกว่าทันที และทำให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐอ่อนลงฉับพลันและยังมีแนวโน้มว่าจะเสื่อมค่าอย่างต่อเนื่องด้วย และนั่นทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐถูกเปลี่ยนมาลงทุนหุ้นในภูมิภาคเอเชีย และทำให้ดัชนีราคาหุ้นเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง ค่าเงินสกุลหลายประเทศในเอเชียจึงแข็งค่าขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีธนาคารแห่งประเทศไทยใช้นโยบายเพิ่มสัดส่วนทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศติดอันดับโลก ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นเป็นเป้าหมายในการลงทุนไปด้วย ดัชนีราคาหุ้นเพิ่มสูงขึ้นทะยานต่อเนื่อง และค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น หรืออีกนัยหนึ่งคือเงินดอลลาร์ที่กำลังเสื่อมค่าถูกนำมาแปลงสภาพผ่านทุนเคลื่อนย้ายสุทธิเข้าในตลาดหุ้น กองทุน หรือพันธบัตรในเอเชีย ก็ยิ่งทำให้ธนาคารกลางของประเทศที่เป็นเป้าหมายในการลงทุนกลับยิ่งมีเงินดอลลาร์ในทุนสำรองระหว่างประเทศมากขึ้นเพิ่มมากขึ้น ก็ยิ่งทำให้ธนาคารกลางต้องเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินทองคำเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ราคาทองคำจึงมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และเมื่อมีแนวโน้มว่าอิสราเอลจะตั้งเป้าโจมตีทำลายแหล่งปิโตรเลียมอิหร่าน ก็ยิ่งทำให้ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติทั่วโลกราคาเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ด้วยเพราะธนาคารกลางของหลายประเทศทั่วโลกพยายามจะได้พยายามลดการถือครองพันธบัตร เพื่อหวังจะทำให้การเปลี่ยนสัดส่วนทุนสำรองระหว่างประเทศจากเงินดอลลาร์สหรัฐให้น้อยลง แล้วเปลี่ยนเป็นสกุลเงินอื่นๆ หรือทองคำนั้นให้มากขึ้นนั้น เป็นการคิดพร้อมๆกันของหลายประเทศทั่วโลก จึงทำให้หลายประเทศไม่สามารถจะเปลี่ยนได้ตามใจชอบ อย่างไรก็ตามประเทศใดมีทุนสำรองระหว่างประเทศที่มีเงินดอลลาร์สหรัฐมากขึ้นเท่าไหร่ ย่อมเท่ากับว่าประเทศนั้นถือครองทรัพย์สินที่อ่อนค่าลงมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งก็ย่อมทำให้สกุลเงินในประเทศที่มีทรัพย์สินเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐด้อยค่าไปด้วยอยู่ดี เมื่อถึงสถานการณ์ที่นโยบายดอกเบี้ยสูงของธนาคารกลางกลายเป็นข้อจำกัด และถูกบีบให้ลดอัตราดอกเบี้ยลง หากสหรัฐอเมริกาจะยังคงสถานภาพเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อไปได้ ก็ต่อเมื่อต้องบีบให้ทุกประเทศทั่วโลกมีความต้องการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาให้มากที่สุด สถานการณ์ใกล้ตีบตันแล้ว จึงเหลือหนทางแค่ 2 ทางเท่านั้น หนทางที่หนึ่ง คือ “ก่อสงคราม” เพื่อทำให้ประเทศที่มีสงครามต้องสั่งซื้อ สั่งผลิต อาวุธยุทโธปกรณ์จากสหรัฐอเมริกาให้มากขึ้น และเมื่ออาวุธ ยุทโธปกรณ์เหล่านี้ขายในรูปของดอลลาร์สหรัฐ จึงเป็นผลทำให้ประเทศคู่ขัดแย้งมีความต้องการเงินดอลลาร์ศหรัฐมากขึ้น การสร้างสถานการณ์เพื่อทำให้เกิดสงครามยังจะเป็นผลทำให้ราคาปิโตรเลียมทั่วโลกราคาสูงขึ้น และทำให้ดึงความมั่งคั่งของโลกมาซื้อทรัพยากรปิโตรเลียมของสหรัฐอเมริกามากขึ้น ตัวอย่างสมรภูมิที่เกิดขึ้นระหว่างยูเครน กับรัสเซีย ชี้ชัดว่าสหรัฐอเมริการสามารถทำกำไรอย่างมหาศาลทั้งจากธุรกิจอาวุธ ยุทโธปกรณ์ และธุรกิจน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ รวมถึงการสมรู้ร่วมคิดสนับสนุนอิสราเอลเพื่อก่อสงครามในตะวันออกลาง ก็เพื่อเร่งการซื้ออาวุธ ยุทโธปกรณ์ ให้มากขึ้น อย่างไรก็ตามแสนยานุภาพของมหาอำนาจหลายขั้วอยู่ในระดับที่ไม่แพ้กัน ทำให้การก่อสงครามด้วยสหรัฐอเมริกาเป็นลักษณะของการจำกัดพื้นที่ ”ในประเทศอื่นๆ“ และให้มีความยืดเยื้อ และมีเป้าหมายในการทำลายแหล่งปิโตรเลียมที่ไม่ใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ หนทางที่สอง “ก่อโรคระบาดใหม่” เพื่อทำให้ทุกประเทศต้องก่อหนี้สินมหาศาลในการช่วยเหลือประชาชน หากล้มละลาย และยังเป็นการดูดความมั่งคั่งเหล่านี้ไปซื้อวัคซีน และยารักษาโรคจากสหรัฐอเมริกาและยุโรป หากประเทศเหล่านั้นยากจนเงินไม่เพียงพอ ก็ต้องให้มีการกู้ยืมเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งก็เป็นหนทางในการบีบให้ต้องการเงินดอลลาร์สหรัฐในประเทศนั้นๆอยู่ดี และเป็นที่แน่ชัดว่า เมื่อธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินดอลลาร์สหรัฐ ย่อมเท่ากับยอมรับว่าไม่สามารถใช้อัตราดอกเบี้ยสูงในการรักษาการยอมรับเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา “แบบสันติวิธี” ได้นานกว่านี้ได้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากข้อมูลของดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐได้พิสูจน์ว่าสถานการณ์ความขัดแย้งในระดับที่ก่อสงคราม หรือการเกิดโรคระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลทำให้เกิดการก่อหนี้อันมหาศาลของหลายประเทศนั้น ได้ส่งผลดำให้ดัชนีเงินดอลลาร์สูงขึ้นอย่างชัดเจน และยังคงเป็นยุทธวิธีที่ดำรงสถานภาพของเงินดอลลาร์สหรัฐได้[4] โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ดัชนีดอลลาร์สหรัฐกำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง[4] สถานการณ์นี้เป็นตัวนบีบเงื่อนไขในรักษาเงินดอลลาร์ “มีเวลาน้อยลง” เรื่อยๆ ดังนั้นโลกกำลังเข้าสู่ความเสี่ยงในการเร่งทำสงครามจำกัดพื้นที่แต่ยืดเยื้ออย่างชัดเจนขึ้น โดยมีเป้าหมายในการทำลาายแหล่งปิโตรเลียมของประเทศที่ออกจากการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ แต่หากความเสียหายเกิดขึ้นเกินกว่าที่ประเทศที่ถูกอิสราเอลหรือนาโต้จะรับได้ ทั้งต่อประเทศในตะวันออกกลางคู่ขัดแย้งกับอิสราเอล หรือ การทำสงครามรัสเซียกับยูเครนก็ตาม “ความยืดเยื้อ” ในระหว่างประเทศอาจถูกทำให้ยุติ ได้ด้วยการตอบโต้ที่รุนแรงและเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงในการทำสงครามด้วยอาวุธนิวเคลียร์ด้วย ซึ่งเชื่อว่าประเทศมหาอำนาจทั่วโลกพยายามยับยั้งชั่งใจไม่ให้สถานการณ์บานปลายไปสู่สงครามที่ใช้อาวุธนิวเคลียร์​ เพราะหากถึงจุดนั้น ก็เท่ากับสงครามต้อง “หมดยก” และต้องยุติลงด้วยชัยชนะหรือพ่ายแพ้กันไปข้างหนึ่ง และทำให้สงครามเศรษฐกิจที่เพิ่มความต้องการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐต้องยุติลงฉับพลันเช่นกัน เมื่อสถานการณ์การเร่งสถานการณ์สงครามมีความเสี่ยงที่ทุกฝ่ายต้องยับยั้งชั่งใจในมิติการก่อสงคราม จึงเหลืออีกหนทางหนึ่งคือ “การก่อโรคระบาด” ที่อาจจะเป็นหนทางสุดท้ายที่ทำให้ทั่วโลกต้องมาหาเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกามาซื้อวัคซีนหรือยารักษาโรคที่มีราคาแพงจากสหรัฐอเมริกา ในสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์-เศรษฐกิจเป็นเช่นนี้ ประเทศไทยควรจะมีผู้นำที่มาชี้นำทางความคิดในการเตรียมตัวในการรับมือกับสถานการณสงครามโลก สงครามโรค ในสงครามความโลภทั้งหลาย โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมทางด้าน ”ความมั่นคงทางพลังงาน, ความมั่นคงทางอาหาร และความมั่นคงทางยาสมุนไพรเพื่อการพี่งพาตนเอง“ เอาจริงๆแล้วยังไม่เห็นรัฐบาลเตรียมความพร้อมในเรื่องเหล่านี้เลย ด้วยความปรารถนาดี ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 4 ตุลาคม 2567 อ้างอิง [1] INTERNATIONAL MONETARY FUND, Total IMF Credit Outstanding �Movement From September 01, 2024 to October 01 https://www.imf.org/external/np/fin/tad/balmov2.aspx?type=TOTAL [2] INTERNATIONAL MONETARY FUND, Currency Composition of Official Foreign Exchange Reserve (COFER), World allocated Reserves by Currency for 2023 Q2 https://data.imf.org/?sk=e6a5f467-c14b-4aa8-9f6d-5a09ec4e62a4 [3] Peterson G. Foundation, What is the National Debt Today?, https://www.pgpf.org/national-debt-clock?gad_source=1&gbraid=0AAAAABdefgYCJ8Ko6Ivna9fcfHx0Y_lqt&gclid=EAIaIQobChMIhbGExczxiAMVyqpLBR2NuhvEEAAYASAAEgJXjvD_BwE [4] marketwatch, US Dollar Index(DXY) https://www.marketwatch.com/investing/index/dxy
    Like
    Love
    Yay
    42
    3 ความคิดเห็น 3 การแบ่งปัน 520 มุมมอง 1 รีวิว
  • เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พุทธศักราช 2567 ซึ่งจะมีการเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในวันที่ 27 ตุลาคม 2567 นี้ สถาบันไทยศึกษา ร่วมกับคณะอักษรศาสตร์ ภาควิชาภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ สาขาวิชาการสอนภาษาไทย คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันสุนทรภู่ ดำริจัดโครงการประชุมวิชาการ “พระเสด็จโดยแดนชล” วัฒนธรรมเห่เรือในวรรณคดีและศิลปกรรมไทย เพื่อร่วมเฉลิมฉลองโอกาสมหามงคล และเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมเห่เรือที่มีความสำคัญต่อวรรณคดีและศิลปกรรมของไทย

    คณะผู้จัดงานขอเรียนเชิญร่วมการประชุมวิชาการและพิธีมอบรางวัลการประกวดบทร้อยกรองประเภทกาพย์เห่ ระดับมัธยมศึกษา ในวันที่ 18 ตุลาคม 2567 เวลา 8.30 - 12.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 15 อาคารบรมราชกุมารี คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

    ลงทะเบียนทาง https://forms.gle/UKMzgSJzomVUhZCn7

    --------

    กำหนดการ

    08.30 - 09.00
    ลงทะเบียน

    09.00 - 09.15
    พิธีการ

    09.15 - 09.30
    อาเศียรวาทเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    09.30 - 10.10
    กาพย์เห่เฉลิมพระเกียรติ
    ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ชลดา เรืองรักษ์ลิขิต
    - ราชบัณฑิต สาขาวิชาวรรณกรรมร้อยกรอง ประเภทวิชาวรรณศิลป์ สำนักศิลปกรรม

    10.10 - 10.50
    “พระเสด็จโดยแดนชล” วัฒนธรรมเห่เรือในศิลปกรรมไทย
    ดร.ไพโรจน์ ทองคำสุก
    - ราชบัณฑิต สาขาวิชานาฏกรรมไทย ประเภทวิชาวิจิตรศิลป์ สำนักศิลปกรรม

    10.50 - 11.10
    พักการประชุม

    11.10 – 11.30
    การแสดงเห่เรือ ผลงานผู้ชนะเลิศประกวดบทร้อยกรองประเภทกาพย์เห่ ระดับมัธยมศึกษา

    11.30 - 12.00
    พิธีมอบรางวัลการประกวดบทร้อยกรองประเภทกาพย์เห่ ระดับมัธยมศึกษา

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/o2aBwLn4SrE69GYz/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พุทธศักราช 2567 ซึ่งจะมีการเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในวันที่ 27 ตุลาคม 2567 นี้ สถาบันไทยศึกษา ร่วมกับคณะอักษรศาสตร์ ภาควิชาภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ สาขาวิชาการสอนภาษาไทย คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันสุนทรภู่ ดำริจัดโครงการประชุมวิชาการ “พระเสด็จโดยแดนชล” วัฒนธรรมเห่เรือในวรรณคดีและศิลปกรรมไทย เพื่อร่วมเฉลิมฉลองโอกาสมหามงคล และเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมเห่เรือที่มีความสำคัญต่อวรรณคดีและศิลปกรรมของไทย คณะผู้จัดงานขอเรียนเชิญร่วมการประชุมวิชาการและพิธีมอบรางวัลการประกวดบทร้อยกรองประเภทกาพย์เห่ ระดับมัธยมศึกษา ในวันที่ 18 ตุลาคม 2567 เวลา 8.30 - 12.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 15 อาคารบรมราชกุมารี คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงทะเบียนทาง https://forms.gle/UKMzgSJzomVUhZCn7 -------- กำหนดการ 08.30 - 09.00 ลงทะเบียน 09.00 - 09.15 พิธีการ 09.15 - 09.30 อาเศียรวาทเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 09.30 - 10.10 กาพย์เห่เฉลิมพระเกียรติ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ชลดา เรืองรักษ์ลิขิต - ราชบัณฑิต สาขาวิชาวรรณกรรมร้อยกรอง ประเภทวิชาวรรณศิลป์ สำนักศิลปกรรม 10.10 - 10.50 “พระเสด็จโดยแดนชล” วัฒนธรรมเห่เรือในศิลปกรรมไทย ดร.ไพโรจน์ ทองคำสุก - ราชบัณฑิต สาขาวิชานาฏกรรมไทย ประเภทวิชาวิจิตรศิลป์ สำนักศิลปกรรม 10.50 - 11.10 พักการประชุม 11.10 – 11.30 การแสดงเห่เรือ ผลงานผู้ชนะเลิศประกวดบทร้อยกรองประเภทกาพย์เห่ ระดับมัธยมศึกษา 11.30 - 12.00 พิธีมอบรางวัลการประกวดบทร้อยกรองประเภทกาพย์เห่ ระดับมัธยมศึกษา ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/o2aBwLn4SrE69GYz/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Love
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 631 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายได้ไม่สอดคล้องกับทรัพย์สิน..ที่ปรากฏ

    ยกตัวอย่าง..ปี 2564
    -แจ้งรายได้รวม 325 ล้านบาทเศษ

    -แจ้งต้นทุนขาย 299 ล้านบาทเศษ

    -แจ้งรายจ่ายรวม 320 ล้านบาทเศษ

    -แจ้งมีกำไรสุทธิหลังหักภาษี 3,915,683.87

    ถ้ามองดูผ่านๆบัญชีงบการเงินก็ดูปกติ แต่ถ้าเอาคดีที่เจ้าของบริษัทถูกจับกุมมามาเทียบกับงบการเงิน..โป๊ะแรงส์

    ต้นทุนขาย 299 ล้านบาทเศษที่แจ้งในงบดุลนี้คือ..ทองคำแท้ 96.5%ถึง ทองคำแท้ 99.9%

    แล้วถ้าความจริงแล้วมันคือทองเปอร์เซ็นต์ต่ำที่ต้นทุนจริงๆคือไม่ถึง 299 ล้านบาทเศษ = แจ้งต้นทุนอันเป็นเท็จ

    แจ้งต้นทุนเท็จไปเท่าไหร่ก็เป็นกำไรเท่านั้น

    ยกตัวอย่างเช่นซื้อทองเปอร์เซ็นต์ต่ำมาในราคา 100 ล้านบาท แต่แจ้งต้นทุนเท่าทองคำ96.5% ที่ราคา 300 ล้านบาท ก็จะมีเงินกำไรจากส่วนที่แจ้งเท็จ 200 ล้านบาทที่ผ่านการเสียภาษีแล้ว

    เอ๊ะ งง กำไรเท็จ 200 ล้านมันจะได้มายังไงครับเนี่ย.?
    -ก็เอาทองเปอร์เซ็นต่ำมาขายในราคาทอง 96.5%นั่นไงครับ

    คราวนี้ลองมาดูต้นทุนของนางตั๊ก-นายเบียร์ ที่แจ้งต้นทุนไว้ที่ 299 ล้านบาทเศษ แล้วขายได้ 325 ล้านบาทเศษเท่ากับกำไรประมาณ 8%

    ขายได้ 325 ล้านบาทเศษ มีรายจ่าย 320 ล้านบาทเศษ คิดเป็นค่าต้นทุนทองคำ 299 ล้านบาทที่เหลือเป็นค่าบริหารจัดการ 30 ล้านบาท

    เสียภาษีไป 978,920.97 เหลือกำไรสุทธิ 3.9 ล้านบาทเศษ คิดเป็นกำไรสุทธิ 1.3% ดูเผินๆโคตรสมเหตุสมผลเลยร้านทองมีกำไรสุทธิ 1.3%

    แต่ถ้าสมมุติต้นทุนที่แท้ของทองเปอร์เซ็นต์ต่ำของนางตั๊ก-นายเบีย มันมีต้นทุนจริงๆแค่ 99 ล้านบาทเศษ

    บริษัทเคทูเอ็น โกลด์ ก็จะมีกำไรจริงๆถึง 200 ล้านบาทเศษ ไม่ใช่ 3.9 ล้านตามที่เห็นในบัญชีงบการเงิน

    แล้วนางตั๊ก-นายเบียร์ ไปเอาเงินทุนระดับ 100 ล้านมาจากไหน.?
    -เงินบิ๊ก จ.(ที่ไม่ใช่ จ.โจ๊ก)กับเงินจากเจ้าของเว็บพนันที่เอาเงินมาฟอกผ่านอาหารเสริม ทองคำ แก๊งตั๊ก-เบียร์

    จากการตรวจสอบเจอในตอนนึ้ ตั๊ก-เบียร์ เคยมีชื่อครอบครองรวม 10 บริษัท มีรายได้รวมกัน 18 ล้านเศษ แจ้งขาดทุนรวมกัน 4 ล้านเศษ

    เหลือรายได้ประมาณ 14 ล้าน.? พรีสสส แล้วไปเอาเงินจากไหนมาซื้อรถ-กระเป๋า-บ้าน-ที่ดินมูลค่ารวมเป็นพันล้าน.?

    คำตอบ..เงินที่แจ้งต้นทุนเท็จ เงินที่ฟอกแล้วรับเป็นเงินสดเป็นทองคำแท่งวนลูปกลับมาเป็นเงินนอกบัญชีที่ไม่มีแจ้งไว้ในระบบ..นั่นเอง
    --------
    นางสาว หงส์ลดา เรืองอร่าม (เป็นทอม)คือน้องสาวแท้ๆของนาย เบียร์

    และนางหงส์คือหลัวเก่าของเมียหรั่ง หรือแต่เดิมตอนทำงานกลางคืนใช้ชื่อ..น้องโบนัส

    ทึ่มาของชื่อเมียหรั่ง นางเล่าว่าไปเที่ยวทะเลแล้วมีคนทักว่าคล้ายเมียฝรั่งเลยตั้งชื่อเฟซว่าเมียหรั่ง ถถถ

    พูดง่ายๆก็คือแต่แรกเริ่มที่ร่วมกันออกต้มตุ๋นผู้คนน้องโบนัสมีสถานะเป็นน้องสะไภ้ของนายเบียร์-นางตั๊ก นั่นเอง

    ตอนหน้าจะมาลงรายละเอียดของเมียหรั่งหรือน้องโบนัส-น้องหงส์

    แล้วตามด้วยคู่ของ นุช-เอก บางเตย แล้วแถมด้วยเรื่องของ“ซ้อฝิ่น แก๊งสาวส่งด่วน”หวานใจของ #ทิดหยั่ง

    สวัสดี
    @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    รายได้ไม่สอดคล้องกับทรัพย์สิน..ที่ปรากฏ ยกตัวอย่าง..ปี 2564 -แจ้งรายได้รวม 325 ล้านบาทเศษ -แจ้งต้นทุนขาย 299 ล้านบาทเศษ -แจ้งรายจ่ายรวม 320 ล้านบาทเศษ -แจ้งมีกำไรสุทธิหลังหักภาษี 3,915,683.87 ถ้ามองดูผ่านๆบัญชีงบการเงินก็ดูปกติ แต่ถ้าเอาคดีที่เจ้าของบริษัทถูกจับกุมมามาเทียบกับงบการเงิน..โป๊ะแรงส์ ต้นทุนขาย 299 ล้านบาทเศษที่แจ้งในงบดุลนี้คือ..ทองคำแท้ 96.5%ถึง ทองคำแท้ 99.9% แล้วถ้าความจริงแล้วมันคือทองเปอร์เซ็นต์ต่ำที่ต้นทุนจริงๆคือไม่ถึง 299 ล้านบาทเศษ = แจ้งต้นทุนอันเป็นเท็จ แจ้งต้นทุนเท็จไปเท่าไหร่ก็เป็นกำไรเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่นซื้อทองเปอร์เซ็นต์ต่ำมาในราคา 100 ล้านบาท แต่แจ้งต้นทุนเท่าทองคำ96.5% ที่ราคา 300 ล้านบาท ก็จะมีเงินกำไรจากส่วนที่แจ้งเท็จ 200 ล้านบาทที่ผ่านการเสียภาษีแล้ว เอ๊ะ งง กำไรเท็จ 200 ล้านมันจะได้มายังไงครับเนี่ย.? -ก็เอาทองเปอร์เซ็นต่ำมาขายในราคาทอง 96.5%นั่นไงครับ คราวนี้ลองมาดูต้นทุนของนางตั๊ก-นายเบียร์ ที่แจ้งต้นทุนไว้ที่ 299 ล้านบาทเศษ แล้วขายได้ 325 ล้านบาทเศษเท่ากับกำไรประมาณ 8% ขายได้ 325 ล้านบาทเศษ มีรายจ่าย 320 ล้านบาทเศษ คิดเป็นค่าต้นทุนทองคำ 299 ล้านบาทที่เหลือเป็นค่าบริหารจัดการ 30 ล้านบาท เสียภาษีไป 978,920.97 เหลือกำไรสุทธิ 3.9 ล้านบาทเศษ คิดเป็นกำไรสุทธิ 1.3% ดูเผินๆโคตรสมเหตุสมผลเลยร้านทองมีกำไรสุทธิ 1.3% แต่ถ้าสมมุติต้นทุนที่แท้ของทองเปอร์เซ็นต์ต่ำของนางตั๊ก-นายเบีย มันมีต้นทุนจริงๆแค่ 99 ล้านบาทเศษ บริษัทเคทูเอ็น โกลด์ ก็จะมีกำไรจริงๆถึง 200 ล้านบาทเศษ ไม่ใช่ 3.9 ล้านตามที่เห็นในบัญชีงบการเงิน แล้วนางตั๊ก-นายเบียร์ ไปเอาเงินทุนระดับ 100 ล้านมาจากไหน.? -เงินบิ๊ก จ.(ที่ไม่ใช่ จ.โจ๊ก)กับเงินจากเจ้าของเว็บพนันที่เอาเงินมาฟอกผ่านอาหารเสริม ทองคำ แก๊งตั๊ก-เบียร์ จากการตรวจสอบเจอในตอนนึ้ ตั๊ก-เบียร์ เคยมีชื่อครอบครองรวม 10 บริษัท มีรายได้รวมกัน 18 ล้านเศษ แจ้งขาดทุนรวมกัน 4 ล้านเศษ เหลือรายได้ประมาณ 14 ล้าน.? พรีสสส แล้วไปเอาเงินจากไหนมาซื้อรถ-กระเป๋า-บ้าน-ที่ดินมูลค่ารวมเป็นพันล้าน.? คำตอบ..เงินที่แจ้งต้นทุนเท็จ เงินที่ฟอกแล้วรับเป็นเงินสดเป็นทองคำแท่งวนลูปกลับมาเป็นเงินนอกบัญชีที่ไม่มีแจ้งไว้ในระบบ..นั่นเอง -------- นางสาว หงส์ลดา เรืองอร่าม (เป็นทอม)คือน้องสาวแท้ๆของนาย เบียร์ และนางหงส์คือหลัวเก่าของเมียหรั่ง หรือแต่เดิมตอนทำงานกลางคืนใช้ชื่อ..น้องโบนัส ทึ่มาของชื่อเมียหรั่ง นางเล่าว่าไปเที่ยวทะเลแล้วมีคนทักว่าคล้ายเมียฝรั่งเลยตั้งชื่อเฟซว่าเมียหรั่ง ถถถ พูดง่ายๆก็คือแต่แรกเริ่มที่ร่วมกันออกต้มตุ๋นผู้คนน้องโบนัสมีสถานะเป็นน้องสะไภ้ของนายเบียร์-นางตั๊ก นั่นเอง ตอนหน้าจะมาลงรายละเอียดของเมียหรั่งหรือน้องโบนัส-น้องหงส์ แล้วตามด้วยคู่ของ นุช-เอก บางเตย แล้วแถมด้วยเรื่องของ“ซ้อฝิ่น แก๊งสาวส่งด่วน”หวานใจของ #ทิดหยั่ง สวัสดี @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อวันที่ 3 ต.ค.พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) ได้นำกำลังตำรวจพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นำหมายค้นศาลอาญามีนบุรี เข้าตรวจค้น เป้าหมายจำนวน 2 จุด เพื่อยึดทรัพย์คดีค้าทองคำจากผู้ต้องหาได้แก่ “แม่ตั๊ก-กรกนก สุวรรณบุตร” เจ้าของธุรกิจอาหารเสริมและห้างเพชรทอง เคทูเอ็น ย่านถนนหทัยราษฎร์ และนายกานต์พล หรือป๋าเบียร์ เรืองอร่าม ผู้เป็นสามี

    สำหรับการตรวจค้นทั้ง 2 จุดเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ประกอบด้วยบ้านหลังหนึ่งใน ซอยรามอินทรา 65 แยก 2-4 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบ้านพักของสองผู้ต้องหา และบริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด และ บริษัท ขายทุกอย่าง บายป๋าเบียร์ จำกัด ถ.หทัยราษฎร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ

    โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ ประกอบด้วย 1. รถยนต์ยี่ห้อ PORSCHE รุ่น CAYENNE E-HYBRID COUPE สีส้ม จำนวน 1 คัน 2. รถยนต์ยี่ห้อ MCLAREN สีส้ม จำนวน 1 คัน ราคาราว 30 กว่าล้านบาท 3. รถยนต์ยี่ห้อ LEXUS สีดำ จำนวน 1 คัน 4. รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น TR TRANSFOMER สีเหลือง ดำ จำนวน 1 คัน 5.รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น ALPHARD สีขาว จำนวน 1 คัน และ 6.อายัดบัญชีเงินฝาก และทรัพย์สินรายการอื่นๆ รวมทรัพย์สิน มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท

    @สำนักข่าวอิศรา

    https://www.isranews.org/article/isranews-short-news/132284-isranews-yudsup.html?fbclid=IwY2xjawFrRgFleHRuA2FlbQIxMQABHYolkVUrBtBkDlWZQvi93mEP3GSdKTzMDpB60j0o_Fir4oWnucCe9uzqvw_aem_c0EUIraXw_Mox4ISiNs01w
    เมื่อวันที่ 3 ต.ค.พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) ได้นำกำลังตำรวจพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นำหมายค้นศาลอาญามีนบุรี เข้าตรวจค้น เป้าหมายจำนวน 2 จุด เพื่อยึดทรัพย์คดีค้าทองคำจากผู้ต้องหาได้แก่ “แม่ตั๊ก-กรกนก สุวรรณบุตร” เจ้าของธุรกิจอาหารเสริมและห้างเพชรทอง เคทูเอ็น ย่านถนนหทัยราษฎร์ และนายกานต์พล หรือป๋าเบียร์ เรืองอร่าม ผู้เป็นสามี สำหรับการตรวจค้นทั้ง 2 จุดเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ประกอบด้วยบ้านหลังหนึ่งใน ซอยรามอินทรา 65 แยก 2-4 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบ้านพักของสองผู้ต้องหา และบริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด และ บริษัท ขายทุกอย่าง บายป๋าเบียร์ จำกัด ถ.หทัยราษฎร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ ประกอบด้วย 1. รถยนต์ยี่ห้อ PORSCHE รุ่น CAYENNE E-HYBRID COUPE สีส้ม จำนวน 1 คัน 2. รถยนต์ยี่ห้อ MCLAREN สีส้ม จำนวน 1 คัน ราคาราว 30 กว่าล้านบาท 3. รถยนต์ยี่ห้อ LEXUS สีดำ จำนวน 1 คัน 4. รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น TR TRANSFOMER สีเหลือง ดำ จำนวน 1 คัน 5.รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น ALPHARD สีขาว จำนวน 1 คัน และ 6.อายัดบัญชีเงินฝาก และทรัพย์สินรายการอื่นๆ รวมทรัพย์สิน มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท @สำนักข่าวอิศรา https://www.isranews.org/article/isranews-short-news/132284-isranews-yudsup.html?fbclid=IwY2xjawFrRgFleHRuA2FlbQIxMQABHYolkVUrBtBkDlWZQvi93mEP3GSdKTzMDpB60j0o_Fir4oWnucCe9uzqvw_aem_c0EUIraXw_Mox4ISiNs01w
    WWW.ISRANEWS.ORG
    ปคบ.สนธิกำลัง ปปง.เข้ายึดทรัพย์คดี 'แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์' ค้าทองคำ อายัดรถ-เงินสด รวม 70ล.
    ปคบ.สนธิกำลัง ปปง.เข้ายึดทรัพย์คดี 'แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์' ค้าทองคำ เบื้องต้นยึดรถหรู 30 ล้าน อายัดเงินฝาก ทรัพย์สินอื่นๆรวม 70 ล้าน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหยือกน้ำ ถ้วย หม้อ (โบราณ) ทำไมต้องทำจากทองแดง?

    คนโบราณต้นพบมาหลายพันปีแล้ว แต่..นักวิทยาศาสตร์(สมัยใหม่) เพิ่งจะหาเหตุผลอธิบายได้ว่า Oligodynamic Effect คือ ปรากฎการณ์ ที่ #ไอออนของโลหะบางชนิด เช่น เงิน ทอง ทองแดง และ ปรอท ไปจับกับ "โปรตีน หรือ เอ็มไซม์ของจุลินทรีย์" มีผลทำให้จุลินทรีย์หรือเชื้อโรคไม่สามารถแบ่งตัวเจริญเติบโตได้ และ ตายไปในที่สุด.

    นี่แหละ..คือ คำตอบว่า ชาวบ้าน(ฝาหรั่ง)นิยมใช้ทองแดง นำมาทำภาชนะใส่อาหาร ท่อน้ำประปา มือจับประตู ลูกบิด ชนชั้นกลางเปลี่ยนมาใช้โลหะเงิน และ ชนชั้นสูงโบราณจึงใช้ทองคำมาทำช้อน ส้อม หม้อ ไห จาน ชาม

    พัชรี ว่องไววิทย์
    Sep2ืnd, 2024
    Duluth, Minnesota.
    เหยือกน้ำ ถ้วย หม้อ (โบราณ) ทำไมต้องทำจากทองแดง? คนโบราณต้นพบมาหลายพันปีแล้ว แต่..นักวิทยาศาสตร์(สมัยใหม่) เพิ่งจะหาเหตุผลอธิบายได้ว่า Oligodynamic Effect คือ ปรากฎการณ์ ที่ #ไอออนของโลหะบางชนิด เช่น เงิน ทอง ทองแดง และ ปรอท ไปจับกับ "โปรตีน หรือ เอ็มไซม์ของจุลินทรีย์" มีผลทำให้จุลินทรีย์หรือเชื้อโรคไม่สามารถแบ่งตัวเจริญเติบโตได้ และ ตายไปในที่สุด. นี่แหละ..คือ คำตอบว่า ชาวบ้าน(ฝาหรั่ง)นิยมใช้ทองแดง นำมาทำภาชนะใส่อาหาร ท่อน้ำประปา มือจับประตู ลูกบิด ชนชั้นกลางเปลี่ยนมาใช้โลหะเงิน และ ชนชั้นสูงโบราณจึงใช้ทองคำมาทำช้อน ส้อม หม้อ ไห จาน ชาม พัชรี ว่องไววิทย์ Sep2ืnd, 2024 Duluth, Minnesota.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และ พระพุทธเลิศหล้านภาไลย ภายในพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (ใช้กล้องโทรศัพท์ซูมจากภายนอกพระอุโบสถ) เป็นพระพุทธรูปยืนแบบสมภังค์ ศิลปะรัตนโกสินทร์ ปางห้ามสมุทร สูง ๖ ศอกหล่อด้วยสัมฤทธิ์เป็นแกนในแล้วหุ้มทองคำหนัก ๖๓ ชั่ง ๑๔ ตำลึง ทรงเครื่องต้นจักรพรรดิราชาธิราช พระพุทธรูปมีพระพักตร์เป็นรูปวงรี พระขนงโก่ง พระเนตรเหลือบต่ำ พระนาสิกโด่ง พระโอษฐ์เรียว แย้มสรวล และพระกรรณค่อนข้างยาว มีอุณาโลมบนพระนลาฏ ทรงชฎามงกุฎ ประกอบด้วยกรรเจียกจร พระพุทธรูปแสดงปางห้ามสมุทร หรืออภัย มุทราด้วยพระหัตถ์ทั้งสองข้างยกขึ้นเสมอพระอุระตั้งฝ่าพระหัตถ์ยื่นออกไปช้างหน้า นิ้วพระหัตถ์ยาวเสมอกันทั้ง ๔ นิ้ว องค์พระพุทธรูปครองอุตราสงค์ห่มเฉียงเปิดพระอังสาขวา มีชายอุตราสงค์ซ้อนทบพาดเหนือพระอังสาช้ายปลายจรดพระนาภี เครื่องแต่งพระองค์ ประกอบด้วยกรองศอ อีกทั้งช่อดอกไม้ประดับ ด้านหน้าพระศอ สังวาลเฉวียง พระอังสาทั้งสองข้างประดับด้วยทับทรวงบริเวณ กึ่งกลางพระอุระ ทรงพาหุรัด ทองกร พระธำมรงค์ทุกนิ้วพระหัตถ์ ทรงสายรัดพระองค์ซึ่งมีปั้นเหน่งรูปดอกไม้แปดเหลี่ยมประดับเบื้องหน้า ด้านล่างของปั่นเหน่งมีสุวรรณกระถอบห้อยอยู่เบื้องหน้าของเจียระบาด และอันตรวาสก กับทั้ง มีชายไหว ชายแครงเป็นลายกนกใบเทศซ้อนกันสามชั้น ทรงทองพระบาทและฉลองพระบาทเชิงงอน พระพุทธรูปประทับยืนบนปัทมาสน์ประดับด้วยกลีบบัว และเกสรเหนือฐานแข้งสิงห์จำหลักลายมีสิงห์แบก ครุฑแบกและเทวดาแบก ลดหลั่นกันตามลำดับ พระพุทธปฏิมาองค์นี้สูงจากฐานถึงยอดมงกกุฎ ๓ เมตร กางกั้นด้วยสัปตปฎล สุวรรณฉัตรคันดาน ที่มา : หอสมุดพิกุลศิลปาคาร #พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ #พระพุทธเลิศหล้านภาไลย #พระยืน #ทอง #วัดพระแก้ว #พระบรมมหาราชวัง #grandpalacebangkok #thailand #bangkok
    พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และ พระพุทธเลิศหล้านภาไลย ภายในพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (ใช้กล้องโทรศัพท์ซูมจากภายนอกพระอุโบสถ) เป็นพระพุทธรูปยืนแบบสมภังค์ ศิลปะรัตนโกสินทร์ ปางห้ามสมุทร สูง ๖ ศอกหล่อด้วยสัมฤทธิ์เป็นแกนในแล้วหุ้มทองคำหนัก ๖๓ ชั่ง ๑๔ ตำลึง ทรงเครื่องต้นจักรพรรดิราชาธิราช พระพุทธรูปมีพระพักตร์เป็นรูปวงรี พระขนงโก่ง พระเนตรเหลือบต่ำ พระนาสิกโด่ง พระโอษฐ์เรียว แย้มสรวล และพระกรรณค่อนข้างยาว มีอุณาโลมบนพระนลาฏ ทรงชฎามงกุฎ ประกอบด้วยกรรเจียกจร พระพุทธรูปแสดงปางห้ามสมุทร หรืออภัย มุทราด้วยพระหัตถ์ทั้งสองข้างยกขึ้นเสมอพระอุระตั้งฝ่าพระหัตถ์ยื่นออกไปช้างหน้า นิ้วพระหัตถ์ยาวเสมอกันทั้ง ๔ นิ้ว องค์พระพุทธรูปครองอุตราสงค์ห่มเฉียงเปิดพระอังสาขวา มีชายอุตราสงค์ซ้อนทบพาดเหนือพระอังสาช้ายปลายจรดพระนาภี เครื่องแต่งพระองค์ ประกอบด้วยกรองศอ อีกทั้งช่อดอกไม้ประดับ ด้านหน้าพระศอ สังวาลเฉวียง พระอังสาทั้งสองข้างประดับด้วยทับทรวงบริเวณ กึ่งกลางพระอุระ ทรงพาหุรัด ทองกร พระธำมรงค์ทุกนิ้วพระหัตถ์ ทรงสายรัดพระองค์ซึ่งมีปั้นเหน่งรูปดอกไม้แปดเหลี่ยมประดับเบื้องหน้า ด้านล่างของปั่นเหน่งมีสุวรรณกระถอบห้อยอยู่เบื้องหน้าของเจียระบาด และอันตรวาสก กับทั้ง มีชายไหว ชายแครงเป็นลายกนกใบเทศซ้อนกันสามชั้น ทรงทองพระบาทและฉลองพระบาทเชิงงอน พระพุทธรูปประทับยืนบนปัทมาสน์ประดับด้วยกลีบบัว และเกสรเหนือฐานแข้งสิงห์จำหลักลายมีสิงห์แบก ครุฑแบกและเทวดาแบก ลดหลั่นกันตามลำดับ พระพุทธปฏิมาองค์นี้สูงจากฐานถึงยอดมงกกุฎ ๓ เมตร กางกั้นด้วยสัปตปฎล สุวรรณฉัตรคันดาน ที่มา : หอสมุดพิกุลศิลปาคาร #พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ #พระพุทธเลิศหล้านภาไลย #พระยืน #ทอง #วัดพระแก้ว #พระบรมมหาราชวัง #grandpalacebangkok #thailand #bangkok
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 30 0 รีวิว
  • 1 ตุลาคม 2567-รายงานจากเพจเฟซบุ๊ก สายัณห์ รุจิรโมรา ชี้ประเด็น การ audit การถือครองและการตรวจคุณภาพ (assay)ของจำนวนทองคำในคลังของรัฐบาลสหรัฐที่Fort Knox ตลอดถึงธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับทองคำสำรองทั้งหมดนี้

    “ moneymetals
    50-Year Anniversary of the Notorious “Show Audit” of Fort Knox Gold
    การตรวจสอบปริมาณทองคำสำรองสหรัฐที่ Fort Knox เมื่อ 50 ปีก่อน เป็นเพียงทีวีโชว์ ..."show audit"

    Matthew Cortez. Sept 23, 2024

    เงินเฟ้อเป็นเรื่องคอขาดบาดตายที่ตอนนี้กำลังกระจายไปทั่ว มันสูบความมั่งคั่งของผู้ออมเงินผ่านอำนาจซื้อของ "เงิน" ปีแล้วปีเล่า

    ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางทั่วโลก -ตั้งแต่ซาอุดิอราเบีย ยันถึงจีน และทั้งโลก- ต่างก็แข่งกันซื้อทองคำอย่างเร่งด่วน หลายประเทศเช่นพวกกลุ่ม BRICS ถึงขนาดคิดที่จะเลิกใช้ดอลลาร์ในการค้ากันแล้ว

    และเมื่อสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์เกิดความไม่แน่นอน ทั้งนักลงทุน ธุรกิจเอกชน และหน่วยงานของรัฐบาลต่างก็ถือทองคำเพื่อเป็นการปกป้องตนเองให้พ้นจากอิทธิพลจากเงินเฟ้อ

    จากรายงานที่เรารับรู้มาตลอด ทองคำรีเสิร์ฟของสหรัฐมีอยู่ 8,133 ตัน เกือบทั้งหมดนั้นเก็บรักษาที่คลังของรัฐบาลสหรัฐ (Bullion Depository) ที่ Fort Knox, Kentucky ...คลังนี้ถือเป็นสัญญลักษณ์ของสถานะอำนาจทางการเงินที่แข็งแกร่งของอเมริกาที่มีต่อทั้งโลก

    ทุนสำรองทองคำของสหรัฐนี้ไม่มีการตรวจสอบที่เชื่อถือได้มาตั้งแต่ปี 1974 ...ไม่นานหลังจากที่อเมริกาฉีกสัญญา Bretton Woods ที่ทำให้สถานะการถือครองทองคำของอเมริกาเป็นที่น่าเคลิอบแคลงสงสัย ที่จริงแล้ว การ audit ครั้งที่เกิดก่อนหน้าปี 1974 ก็ไม่น่าเชื่อถือเหมือนกัน

    นี่ก็ครบรอบ 50 ปีแล้วที่ประชาชนยังคงอยู่กับความน่าสงสัย คำถามก็ยังคงอยู่...ทองคำทั้งหมดของอเมริกา ยังอยู่มั้ย?

    ประวัติศาสตร์ของคลัง Bullion Depository ของสหรัฐที่ Kentucky

    ก่อสร้างปี 1936 เพื่อสนับสนุนคำสั่ง ปธน. ที่ 6102 (Executive Order 6102) ของปธน. รูสเวลท์ที่บังคับให้ประชาขนแลกทองคำของตนเป็นเงินกระดาษ ...คลังนี้ถูกเรียกตามสถานที่ตั้งว่า Fort Knox

    U.S. Bullion Depository แห่งนี้อยู่ใจกลางประเทศที่ห่างไกลจากชายฝั่งประเทศ เพื่อความปลอดภัยกรณีที่ถูกรุกราน

    ประตูของคลังแห่งนี้หนาถึง 21 นิ้ว ก่อสร้างด้วยเหล็กกล้าถึง 1,420 ตัน มันถูกออกแบบเป็นการเฉพาะเพื่อเก็บรักษาทองคำนับล้านๆ ออนซ์ (เป็นทองคำแท่งที่หลอมมาจากเหรียญ) ทีได้รับมาจากประชาชนสหรัฐ ตามคำสั่ง 6102 กับทองที่ยึดเข้ามาดื้อ ๆ จากประเทศในยุโรป ที่ถูกทำลายจากสงคราม

    ตั้งแต่เมื่อ 50 ปีมาแล้ว ที่ประชาชนอเมริกันก็แคลงใจว่าในคลังยังมีทองคำอยู่จริงหรือ?

    ตอนนั้นมีหลายทฤษฎีที่เกี่ยวกับทองคำเหล่านี้แพร่กระจายไปทั่ว ...ทฤษฎีหนึ่งที่นักฏหมายคนหนึ่งในวอชิงตันให้สัมภาษณ์สื่อ The National Tattler ว่า ทองคำมูลค่า $20,000 ล้านอันตรธานไปจากคลังของรัฐบาลแห่งนี้ ข่าวนี้แพร่ไปทั่วคองเกรสอย่างรวดเร็ว

    คนอเมริกันจำนวนมากข้องใจกับคลังแห่งนี้ คิดว่าทองคำน่าจะหมดไปแล้ว จากการถูกต่างประเทศแลกคืนตลอดหลายปีก่อนหน้านั้น

    The “Show Audit” of Fort Knox Gold in 1974 Created More Questions

    รัฐบาลแก้เกม โดยจัดให้มีการ "Show Audit" ของ Fort Knox Gold เมื่อวันที่ 23 กันยายน 1974 กระทรวงคลังเปิดห้องเก็บทองคำโชว์ แต่เปิดแค่ 1 ห้องจากทั้งหมด 15 ห้อง ให้นักการเมืองและนักข่าวเข้าชมทองคำอย่างใกล้ชิด เพื่อยืนยันว่ามันยังอยู่ ....ดูยังไง ๆ มันก็เป็นรายการทีวีโชว์ ไม่ใช่ audit ...(ผมจะแชร์ลิ้งค์ คลิปส่วนหนึ่งในคอมเมนท์ครับ)

    รายการโชว์ที่มีคลิปรวมกันประมาณสองชั่วโมง เต็มไปด้วยรอยยิ้มของนักการเมืองและนักข่าว ที่มองดูทองคำแท่งที่กองเต็มรวม..สูงถึงเพดานในห้องเก็บนั้น

    ตลอดช่วงของการเข้าชม กลับไม่มีการตรวจสอบความถูกต้องของ serial# ของทองคำแต่ละแท่ง หรือผลการตรวจสอบความบริสุทธิ์ (assay) หรือแม้แต่หลักฐานความเป็นเจ้าของของรัฐบาลสหรัฐ ....(ตอนนั้นยังมีการรับฝากจากรัฐบาลต่างประเทศอยู่มาก)

    นี่เป็นรายการทีวีที่ออกอากาศปี 1974 มากกว่าจะเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือ..แสดงจำนวนทองคำของสหรัฐในคลัง

    หลายสิบปีหลังจากนั้น มันก็ยังคงอึมครึมอยู่อย่างนั้น Fed ก็ยังพิมพ์เงินต่อไป ...ธนาคารกลางทั่วโลกก็เก็บสะสมทองคำกันต่อไป ....คนอเมริกันก็ยังเซ่อ..ไม่รู้อะไรเหมือนเดิมอยู่ต่อไป

    เมื่อปี 2021 สมาชิกสภา Alex Mooney (WV - R) เสนอออกกฎหมายให้มีการ audit การถือครอง ..การตรวจคุณภาพ (assay) และจำนวนทองคำของรัฐบาลสหรัฐ ตลอดถึงธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับทองคำสำรองทั้งหมดนี้ ...แต่เรื่องก็เงียบไป น่าจะต้องมีการเสนออีกในปีต่อ ๆ ไป

    คลิป "show audit" ผมแปะไว้ที่คอมเมนท์ครับ

    https://www.moneymetals.com/news/2024/09/23/50-year-anniversary-of-the-notorious-show-audit-of-fort-knox-gold-003484

    #Thaitimes
    1 ตุลาคม 2567-รายงานจากเพจเฟซบุ๊ก สายัณห์ รุจิรโมรา ชี้ประเด็น การ audit การถือครองและการตรวจคุณภาพ (assay)ของจำนวนทองคำในคลังของรัฐบาลสหรัฐที่Fort Knox ตลอดถึงธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับทองคำสำรองทั้งหมดนี้ “ moneymetals 50-Year Anniversary of the Notorious “Show Audit” of Fort Knox Gold การตรวจสอบปริมาณทองคำสำรองสหรัฐที่ Fort Knox เมื่อ 50 ปีก่อน เป็นเพียงทีวีโชว์ ..."show audit" Matthew Cortez. Sept 23, 2024 เงินเฟ้อเป็นเรื่องคอขาดบาดตายที่ตอนนี้กำลังกระจายไปทั่ว มันสูบความมั่งคั่งของผู้ออมเงินผ่านอำนาจซื้อของ "เงิน" ปีแล้วปีเล่า ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางทั่วโลก -ตั้งแต่ซาอุดิอราเบีย ยันถึงจีน และทั้งโลก- ต่างก็แข่งกันซื้อทองคำอย่างเร่งด่วน หลายประเทศเช่นพวกกลุ่ม BRICS ถึงขนาดคิดที่จะเลิกใช้ดอลลาร์ในการค้ากันแล้ว และเมื่อสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์เกิดความไม่แน่นอน ทั้งนักลงทุน ธุรกิจเอกชน และหน่วยงานของรัฐบาลต่างก็ถือทองคำเพื่อเป็นการปกป้องตนเองให้พ้นจากอิทธิพลจากเงินเฟ้อ จากรายงานที่เรารับรู้มาตลอด ทองคำรีเสิร์ฟของสหรัฐมีอยู่ 8,133 ตัน เกือบทั้งหมดนั้นเก็บรักษาที่คลังของรัฐบาลสหรัฐ (Bullion Depository) ที่ Fort Knox, Kentucky ...คลังนี้ถือเป็นสัญญลักษณ์ของสถานะอำนาจทางการเงินที่แข็งแกร่งของอเมริกาที่มีต่อทั้งโลก ทุนสำรองทองคำของสหรัฐนี้ไม่มีการตรวจสอบที่เชื่อถือได้มาตั้งแต่ปี 1974 ...ไม่นานหลังจากที่อเมริกาฉีกสัญญา Bretton Woods ที่ทำให้สถานะการถือครองทองคำของอเมริกาเป็นที่น่าเคลิอบแคลงสงสัย ที่จริงแล้ว การ audit ครั้งที่เกิดก่อนหน้าปี 1974 ก็ไม่น่าเชื่อถือเหมือนกัน นี่ก็ครบรอบ 50 ปีแล้วที่ประชาชนยังคงอยู่กับความน่าสงสัย คำถามก็ยังคงอยู่...ทองคำทั้งหมดของอเมริกา ยังอยู่มั้ย? ประวัติศาสตร์ของคลัง Bullion Depository ของสหรัฐที่ Kentucky ก่อสร้างปี 1936 เพื่อสนับสนุนคำสั่ง ปธน. ที่ 6102 (Executive Order 6102) ของปธน. รูสเวลท์ที่บังคับให้ประชาขนแลกทองคำของตนเป็นเงินกระดาษ ...คลังนี้ถูกเรียกตามสถานที่ตั้งว่า Fort Knox U.S. Bullion Depository แห่งนี้อยู่ใจกลางประเทศที่ห่างไกลจากชายฝั่งประเทศ เพื่อความปลอดภัยกรณีที่ถูกรุกราน ประตูของคลังแห่งนี้หนาถึง 21 นิ้ว ก่อสร้างด้วยเหล็กกล้าถึง 1,420 ตัน มันถูกออกแบบเป็นการเฉพาะเพื่อเก็บรักษาทองคำนับล้านๆ ออนซ์ (เป็นทองคำแท่งที่หลอมมาจากเหรียญ) ทีได้รับมาจากประชาชนสหรัฐ ตามคำสั่ง 6102 กับทองที่ยึดเข้ามาดื้อ ๆ จากประเทศในยุโรป ที่ถูกทำลายจากสงคราม ตั้งแต่เมื่อ 50 ปีมาแล้ว ที่ประชาชนอเมริกันก็แคลงใจว่าในคลังยังมีทองคำอยู่จริงหรือ? ตอนนั้นมีหลายทฤษฎีที่เกี่ยวกับทองคำเหล่านี้แพร่กระจายไปทั่ว ...ทฤษฎีหนึ่งที่นักฏหมายคนหนึ่งในวอชิงตันให้สัมภาษณ์สื่อ The National Tattler ว่า ทองคำมูลค่า $20,000 ล้านอันตรธานไปจากคลังของรัฐบาลแห่งนี้ ข่าวนี้แพร่ไปทั่วคองเกรสอย่างรวดเร็ว คนอเมริกันจำนวนมากข้องใจกับคลังแห่งนี้ คิดว่าทองคำน่าจะหมดไปแล้ว จากการถูกต่างประเทศแลกคืนตลอดหลายปีก่อนหน้านั้น The “Show Audit” of Fort Knox Gold in 1974 Created More Questions รัฐบาลแก้เกม โดยจัดให้มีการ "Show Audit" ของ Fort Knox Gold เมื่อวันที่ 23 กันยายน 1974 กระทรวงคลังเปิดห้องเก็บทองคำโชว์ แต่เปิดแค่ 1 ห้องจากทั้งหมด 15 ห้อง ให้นักการเมืองและนักข่าวเข้าชมทองคำอย่างใกล้ชิด เพื่อยืนยันว่ามันยังอยู่ ....ดูยังไง ๆ มันก็เป็นรายการทีวีโชว์ ไม่ใช่ audit ...(ผมจะแชร์ลิ้งค์ คลิปส่วนหนึ่งในคอมเมนท์ครับ) รายการโชว์ที่มีคลิปรวมกันประมาณสองชั่วโมง เต็มไปด้วยรอยยิ้มของนักการเมืองและนักข่าว ที่มองดูทองคำแท่งที่กองเต็มรวม..สูงถึงเพดานในห้องเก็บนั้น ตลอดช่วงของการเข้าชม กลับไม่มีการตรวจสอบความถูกต้องของ serial# ของทองคำแต่ละแท่ง หรือผลการตรวจสอบความบริสุทธิ์ (assay) หรือแม้แต่หลักฐานความเป็นเจ้าของของรัฐบาลสหรัฐ ....(ตอนนั้นยังมีการรับฝากจากรัฐบาลต่างประเทศอยู่มาก) นี่เป็นรายการทีวีที่ออกอากาศปี 1974 มากกว่าจะเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือ..แสดงจำนวนทองคำของสหรัฐในคลัง หลายสิบปีหลังจากนั้น มันก็ยังคงอึมครึมอยู่อย่างนั้น Fed ก็ยังพิมพ์เงินต่อไป ...ธนาคารกลางทั่วโลกก็เก็บสะสมทองคำกันต่อไป ....คนอเมริกันก็ยังเซ่อ..ไม่รู้อะไรเหมือนเดิมอยู่ต่อไป เมื่อปี 2021 สมาชิกสภา Alex Mooney (WV - R) เสนอออกกฎหมายให้มีการ audit การถือครอง ..การตรวจคุณภาพ (assay) และจำนวนทองคำของรัฐบาลสหรัฐ ตลอดถึงธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับทองคำสำรองทั้งหมดนี้ ...แต่เรื่องก็เงียบไป น่าจะต้องมีการเสนออีกในปีต่อ ๆ ไป คลิป "show audit" ผมแปะไว้ที่คอมเมนท์ครับ https://www.moneymetals.com/news/2024/09/23/50-year-anniversary-of-the-notorious-show-audit-of-fort-knox-gold-003484 #Thaitimes
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 532 มุมมอง 1 รีวิว
  • อ่านเอาเรื่อง Ep.77 : ท่อก๊าซไซบีเรีย และมองโกเลียตกกระป๋อง

    ความในตอนนี้เป็นส่วนที่ผมค้นคว้าเพิ่มเติมจากที่ผมได้ชมคลิปยูทูบรายการของคุณสนธิเรื่อง “มองโกเลียเสียค่าโง่“ ครับ

    ในเรื่อง ”มองโกเลียเสียค่าโง่“ นั้น ผมขอสรุปจากที่คุณสนธิเล่าไว้ว่า มองโกเลียซึ่งเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างรัสเซียกับจีนนั้น เขามีแร่ธาตุอยู่ใต้ดินมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ”ทองแดง - copper" ครับ

    ทีนี้ก็มีบริษัทเหมืองแร่ยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ-ออสเตรเลียชื่อว่า “ริโอ ทินโท“ มองเห็นว่าใต้แผ่นดินของมองโกเลียนั้น มีทองแดง, เงิน และทองคำอยู่มหาศาล จึงเข้ามาลงทุนขุดเหมืองที่นี่ในปี 2010

    ตอนแรกๆกิจการก็ไปได้ดีและเริ่มสร้างรายได้ เพราะในปี 2013 บริษัทนี้สามารถส่งทองแดงไปขายให้จีนที่อยู่ใกล้ๆได้และจีนก็ต้องการทองแดงอยู่แล้วด้วย

    แต่พอถึงปี 2018 รัฐบาลมองโกเลียซึ่งถือหุ้นในเหมืองนี้ด้วย 51% ก็สั่งให้บริษัทริโอทินโทนั้นสร้างโรงผลิตไฟฟ้าขึ้นมาใช้ในเหมืองเอง ห้ามซื้อไฟฟ้าจากฝั่งจีน ทั้งๆที่เสาส่งไฟฟ้าของจีนอยู่ห่างจากเหมืองเพียง 100 กม.เท่านั้น

    แน่นอนว่าการที่ต้องสร้างโรงไฟฟ้าเองจะทำให้ต้นทุนธุรกิจเพิ่มขึ้น แต่บริษัทริโอทินโทก็ยอม เพราะเห็นแก่อนาคตทางธุรกิจของตัวเอง

    แต่พอถึงช่วงปี 2023-2024 นายกรัฐมนตรีมองโกเลีย คือ นายโอยุน เออร์ดีน เริ่มได้รับคำเชิญจากรัฐบาลสหรัฐ และได้ไปพบกับนางแอนโทนี บลิงเคน (รมว.ต่างประเทศ) และนางกมลา แฮริส (รอง ปธน.สหรัฐ) หลายครั้ง

    เราไม่รู้หรอกครับว่าเขาคุยอะไรกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ นายโอยุนกลับบ้านมาประกาศว่า มองโกเลียจะหาเพื่อนบ้านใหม่ (Third neighbor) นอกเหนือไปจากจีนและรัสเซีย อันหมายถึงสหรัฐอเมริกานั่นเอง

    ว่าแล้วนายโอยุนก็นำมองโกเลียไปเข้าร่วมวงกับอเมริกาในการแบนจีนกับเขาด้วย โดยสั่งห้ามไม่ให้บริษัทเหมืองแร่ริโอทินโทขายทองแดงให้กับจีน

    ทีนี้ปัญหาใหญ่ก็เกิดขึ้น เพราะริโอทินโทก็บอกว่า “อ้าว…แล้วจะให้ตูขายให้ใครล่ะ? เราขุดทองแดงได้ใกล้ๆกับจีน จีนก็ซื้อเยอะ แถมมองโกเลียก็ไม่มีทางออกทะเล จะให้เราขนทองแดงออกไปขายนอกประเทศยังไงโดยไม่ผ่านจีน?”

    การณ์ในตอนนี้ก็คือ บริษัทริโอทินโทกำลังทบทวนอยู่ว่าจะเอาไงดี ดีไม่ดีอาจจะเลิกทำเหมืองที่นี่แล้วหานักลงทุนรายอื่นๆมาซื้อกิจการแทน

    คุณสนธิเล่าไว้แต่เพียงเท่านี้ครับ ซึ่งผมสนใจเรื่องนี้ต่อ จึงไปค้นคว้าหาข้อมูลมาเล่าเพิ่มเติมในย่อหน้าต่อไปนี้ครับ
    .
    .
    .
    เราทราบกันดีว่า จีนนั้นเป็นประเทศที่ต้องการพลังงานมากๆ และรัสเซียก็มีก๊าซธรรมชาติสำรองใต้แผ่นดินมากมายมหาศาล โดยเฉพาะที่ใต้แผ่นดินไซบีเรียนั้นมีก๊าซอยู่ถึง 40% ของทั้งประเทศรัสเซียเลย

    ในปี 2015 ปธน.สี จิ้นผิง กับ ปธน.ปูติน จับมือและตกลงกันว่าจะสร้างท่อส่งก๊าซจากไซบีเรียวิ่งเข้ามายังจีนครับ

    ตั้งชื่อท่อก๊าซนี้ว่า “พาวเวอร์ ออฟ ไซบีเรีย“ หรือ ”ไซบีเรีย 1” โดยท่อก๊าซนี้จะสามารถส่งก๊าซให้จีนได้สูงสุด 38,000 ล้านลูกบาศก์เมตร (อ่านว่า สามหมื่นแปดพันล้าน)

    แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ภาคอุตสาหกรรมของจีนเติบโตเร็วมาก ก๊าซจากท่อก๊าซไซบีเรีย 1 นั้นไม่เพียงพอเสียแล้ว เพราะเพียงในปี 2024 นี้จีนก็ต้องการก๊าซทะลุไปถึง 4 แสนล้านลบ.ม.แล้วครับ

    ในปี 2021 สองผู้นำนี้จึงมาตกลงกันอีกรอบพร้อมกับเชิญผู้นำมองโกเลียมาร่วมด้วย โดยจะสร้างท่อส่งก๊าซเพิ่มอีก 1 ท่อ ให้ชื่อว่า “ไซบีเรีย 2” ครับ

    ท่อไซบีเรีย 2 นี้มีความยาวถึง 2600 กิโลเมตร วิ่งผ่าน 3 ประเทศคือ รัสเซีย 100 กม. - มองโกเลีย 900 กม. - จีน 1600 กม.ครับ

    คุณผู้อ่านเห็นชื่อมองโกเลียก็รู้สึกตะหงิดๆใจแล้วใช่ไหมครับ
    .
    .
    .
    ตามกำหนดเดิมนั้นท่อไซบีเรีย 2 นี้จะเริ่มสร้างในปี 2024 นี้แหละครับและจะสร้างเสร็จในปี 2030 โน่น แต่เมื่อปรากฏว่าเมื่อไม่นานมานี้ท่านสี จิ้นผิงได้ไปหารือกับปูติน และระบุชัดเจนว่า

    “จีนไม่ต้องการให้ท่อก๊าซไซบีเรีย 2 วิ่งผ่านมองโกเลียอีกต่อไป”

    คาดว่าจีนกังวลอยู่ 2 ประการ

    หนึ่ง… การที่ท่อก๊าซวิ่งผ่านมองโกเลีย มองโกเลียสามารถกำหนดเก็บค่าผ่านทางได้ตามแต่ที่รัฐบาลมองโกลจะเรียก

    สอง… เมื่อมองโกเลียแสดงออกแล้วว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามกับจีน ท่อไซบีเรีย 2 ซึ่งถือเป็นความมั่นคงทางพลังงานของจีนจึงตกอยู่ในอันตราย

    การก่อสร้างท่อไซบีเรีย 2 จึงถูกเปลี่ยนเส้นทางใหม่ ให้ไปวิ่งผ่านประเทศคาซัคสถานแทน ซึ่งเอาจริงๆแล้วทำให้การก่อสร้างง่ายกว่าผ่านมองโกเลีย

    ทีนี้ถ้าถามว่า “มองโกเลียเสียอะไรไปไหม?”

    คำตอบคือ “เสียรายได้เข้าประเทศไปแน่ๆแล้วปีละอย่างน้อย 30 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ยังไม่รวมค่าผ่านทางท่อก๊าซที่จะเสียเพิ่มให้อีก“

    และยังไม่รวมถึงความสัมพันธ์กับจีนที่พังทลายไป ทั้งๆที่ตัวเองต้องพึ่งพาจีนอยู่อีกมากมาย

    ส่วนส้มนั้นก็ไปหล่นใส่มือของคาซัคสถานที่อยู่ดีๆก็ได้เงินเข้าประเทศ

    สำหรับท่านที่ไม่ทราบ ก็ควรได้รู้ว่ามองโกเลียนั้นเป็นประเทศ Land locked country ครับ คือ ไม่มีทางออกทะเล โดนรัสเซียประกบอยู่บนหัว และจีนประกบอยู่ทางใต้

    ทุกวันนี้การค้าการส่งออกนำเข้าสินค้าของมองโกเลียก็อาศัยพึ่งพาถนนและท่าเรือของจีนที่เทียนจินทั้งหมด ท่าเรือนี้เป็นทางออกทะเลเดียวที่มองโกเลียมี เพราะรัสเซียไม่ให้มองโกเลียใช้ท่าเรือแล้ว

    ผู้นำมองโกลนั้น คงไม่เคยได้ยินสุภาษิตฝรั่งที่ว่า Don't bite the hands that feed you หรือ กินบนเรือน ขี้รดหลังคา

    นี่คือความโง่ของผู้นำมองโกลครับ แทนที่จะผูกมิตรกับเพื่อนบ้านที่ต้องอยู่กันไปชั่วฟ้าดินสลาย กลับไปเชื่อฟังชาติห่างไกลที่เพียงหวังจะหลอกใช้เท่านั้น

    นัทแนะ
    อ่านเอาเรื่อง Ep.77 : ท่อก๊าซไซบีเรีย และมองโกเลียตกกระป๋อง ความในตอนนี้เป็นส่วนที่ผมค้นคว้าเพิ่มเติมจากที่ผมได้ชมคลิปยูทูบรายการของคุณสนธิเรื่อง “มองโกเลียเสียค่าโง่“ ครับ ในเรื่อง ”มองโกเลียเสียค่าโง่“ นั้น ผมขอสรุปจากที่คุณสนธิเล่าไว้ว่า มองโกเลียซึ่งเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างรัสเซียกับจีนนั้น เขามีแร่ธาตุอยู่ใต้ดินมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ”ทองแดง - copper" ครับ ทีนี้ก็มีบริษัทเหมืองแร่ยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ-ออสเตรเลียชื่อว่า “ริโอ ทินโท“ มองเห็นว่าใต้แผ่นดินของมองโกเลียนั้น มีทองแดง, เงิน และทองคำอยู่มหาศาล จึงเข้ามาลงทุนขุดเหมืองที่นี่ในปี 2010 ตอนแรกๆกิจการก็ไปได้ดีและเริ่มสร้างรายได้ เพราะในปี 2013 บริษัทนี้สามารถส่งทองแดงไปขายให้จีนที่อยู่ใกล้ๆได้และจีนก็ต้องการทองแดงอยู่แล้วด้วย แต่พอถึงปี 2018 รัฐบาลมองโกเลียซึ่งถือหุ้นในเหมืองนี้ด้วย 51% ก็สั่งให้บริษัทริโอทินโทนั้นสร้างโรงผลิตไฟฟ้าขึ้นมาใช้ในเหมืองเอง ห้ามซื้อไฟฟ้าจากฝั่งจีน ทั้งๆที่เสาส่งไฟฟ้าของจีนอยู่ห่างจากเหมืองเพียง 100 กม.เท่านั้น แน่นอนว่าการที่ต้องสร้างโรงไฟฟ้าเองจะทำให้ต้นทุนธุรกิจเพิ่มขึ้น แต่บริษัทริโอทินโทก็ยอม เพราะเห็นแก่อนาคตทางธุรกิจของตัวเอง แต่พอถึงช่วงปี 2023-2024 นายกรัฐมนตรีมองโกเลีย คือ นายโอยุน เออร์ดีน เริ่มได้รับคำเชิญจากรัฐบาลสหรัฐ และได้ไปพบกับนางแอนโทนี บลิงเคน (รมว.ต่างประเทศ) และนางกมลา แฮริส (รอง ปธน.สหรัฐ) หลายครั้ง เราไม่รู้หรอกครับว่าเขาคุยอะไรกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ นายโอยุนกลับบ้านมาประกาศว่า มองโกเลียจะหาเพื่อนบ้านใหม่ (Third neighbor) นอกเหนือไปจากจีนและรัสเซีย อันหมายถึงสหรัฐอเมริกานั่นเอง ว่าแล้วนายโอยุนก็นำมองโกเลียไปเข้าร่วมวงกับอเมริกาในการแบนจีนกับเขาด้วย โดยสั่งห้ามไม่ให้บริษัทเหมืองแร่ริโอทินโทขายทองแดงให้กับจีน ทีนี้ปัญหาใหญ่ก็เกิดขึ้น เพราะริโอทินโทก็บอกว่า “อ้าว…แล้วจะให้ตูขายให้ใครล่ะ? เราขุดทองแดงได้ใกล้ๆกับจีน จีนก็ซื้อเยอะ แถมมองโกเลียก็ไม่มีทางออกทะเล จะให้เราขนทองแดงออกไปขายนอกประเทศยังไงโดยไม่ผ่านจีน?” การณ์ในตอนนี้ก็คือ บริษัทริโอทินโทกำลังทบทวนอยู่ว่าจะเอาไงดี ดีไม่ดีอาจจะเลิกทำเหมืองที่นี่แล้วหานักลงทุนรายอื่นๆมาซื้อกิจการแทน คุณสนธิเล่าไว้แต่เพียงเท่านี้ครับ ซึ่งผมสนใจเรื่องนี้ต่อ จึงไปค้นคว้าหาข้อมูลมาเล่าเพิ่มเติมในย่อหน้าต่อไปนี้ครับ . . . เราทราบกันดีว่า จีนนั้นเป็นประเทศที่ต้องการพลังงานมากๆ และรัสเซียก็มีก๊าซธรรมชาติสำรองใต้แผ่นดินมากมายมหาศาล โดยเฉพาะที่ใต้แผ่นดินไซบีเรียนั้นมีก๊าซอยู่ถึง 40% ของทั้งประเทศรัสเซียเลย ในปี 2015 ปธน.สี จิ้นผิง กับ ปธน.ปูติน จับมือและตกลงกันว่าจะสร้างท่อส่งก๊าซจากไซบีเรียวิ่งเข้ามายังจีนครับ ตั้งชื่อท่อก๊าซนี้ว่า “พาวเวอร์ ออฟ ไซบีเรีย“ หรือ ”ไซบีเรีย 1” โดยท่อก๊าซนี้จะสามารถส่งก๊าซให้จีนได้สูงสุด 38,000 ล้านลูกบาศก์เมตร (อ่านว่า สามหมื่นแปดพันล้าน) แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ภาคอุตสาหกรรมของจีนเติบโตเร็วมาก ก๊าซจากท่อก๊าซไซบีเรีย 1 นั้นไม่เพียงพอเสียแล้ว เพราะเพียงในปี 2024 นี้จีนก็ต้องการก๊าซทะลุไปถึง 4 แสนล้านลบ.ม.แล้วครับ ในปี 2021 สองผู้นำนี้จึงมาตกลงกันอีกรอบพร้อมกับเชิญผู้นำมองโกเลียมาร่วมด้วย โดยจะสร้างท่อส่งก๊าซเพิ่มอีก 1 ท่อ ให้ชื่อว่า “ไซบีเรีย 2” ครับ ท่อไซบีเรีย 2 นี้มีความยาวถึง 2600 กิโลเมตร วิ่งผ่าน 3 ประเทศคือ รัสเซีย 100 กม. - มองโกเลีย 900 กม. - จีน 1600 กม.ครับ คุณผู้อ่านเห็นชื่อมองโกเลียก็รู้สึกตะหงิดๆใจแล้วใช่ไหมครับ . . . ตามกำหนดเดิมนั้นท่อไซบีเรีย 2 นี้จะเริ่มสร้างในปี 2024 นี้แหละครับและจะสร้างเสร็จในปี 2030 โน่น แต่เมื่อปรากฏว่าเมื่อไม่นานมานี้ท่านสี จิ้นผิงได้ไปหารือกับปูติน และระบุชัดเจนว่า “จีนไม่ต้องการให้ท่อก๊าซไซบีเรีย 2 วิ่งผ่านมองโกเลียอีกต่อไป” คาดว่าจีนกังวลอยู่ 2 ประการ หนึ่ง… การที่ท่อก๊าซวิ่งผ่านมองโกเลีย มองโกเลียสามารถกำหนดเก็บค่าผ่านทางได้ตามแต่ที่รัฐบาลมองโกลจะเรียก สอง… เมื่อมองโกเลียแสดงออกแล้วว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามกับจีน ท่อไซบีเรีย 2 ซึ่งถือเป็นความมั่นคงทางพลังงานของจีนจึงตกอยู่ในอันตราย การก่อสร้างท่อไซบีเรีย 2 จึงถูกเปลี่ยนเส้นทางใหม่ ให้ไปวิ่งผ่านประเทศคาซัคสถานแทน ซึ่งเอาจริงๆแล้วทำให้การก่อสร้างง่ายกว่าผ่านมองโกเลีย ทีนี้ถ้าถามว่า “มองโกเลียเสียอะไรไปไหม?” คำตอบคือ “เสียรายได้เข้าประเทศไปแน่ๆแล้วปีละอย่างน้อย 30 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ยังไม่รวมค่าผ่านทางท่อก๊าซที่จะเสียเพิ่มให้อีก“ และยังไม่รวมถึงความสัมพันธ์กับจีนที่พังทลายไป ทั้งๆที่ตัวเองต้องพึ่งพาจีนอยู่อีกมากมาย ส่วนส้มนั้นก็ไปหล่นใส่มือของคาซัคสถานที่อยู่ดีๆก็ได้เงินเข้าประเทศ สำหรับท่านที่ไม่ทราบ ก็ควรได้รู้ว่ามองโกเลียนั้นเป็นประเทศ Land locked country ครับ คือ ไม่มีทางออกทะเล โดนรัสเซียประกบอยู่บนหัว และจีนประกบอยู่ทางใต้ ทุกวันนี้การค้าการส่งออกนำเข้าสินค้าของมองโกเลียก็อาศัยพึ่งพาถนนและท่าเรือของจีนที่เทียนจินทั้งหมด ท่าเรือนี้เป็นทางออกทะเลเดียวที่มองโกเลียมี เพราะรัสเซียไม่ให้มองโกเลียใช้ท่าเรือแล้ว ผู้นำมองโกลนั้น คงไม่เคยได้ยินสุภาษิตฝรั่งที่ว่า Don't bite the hands that feed you หรือ กินบนเรือน ขี้รดหลังคา นี่คือความโง่ของผู้นำมองโกลครับ แทนที่จะผูกมิตรกับเพื่อนบ้านที่ต้องอยู่กันไปชั่วฟ้าดินสลาย กลับไปเชื่อฟังชาติห่างไกลที่เพียงหวังจะหลอกใช้เท่านั้น นัทแนะ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 249 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องจริงที่น่าสมเพช
    ⭕️⭕️⭕️⭕️⭕️
    คนไทยทุกคน
    ควรอ่าน
    ************
    เดิมที ลิเบียถูกอิตาลียึดครอง ต่อมาอิตาลีแพ้สงครามโลก อังกฤษและฝรั่งเศสเข้ามาปกครองลิเบียโดยแย่งไปจากอิตาลี และได้ขุดน้ำมัน บริษัทของอังกฤษและฝรั่งเศสได้สัมปทานกอบโกยน้ำมันไปจนร่ำรวย ส่วนคนลิเบียแทบไม่ได้อะไรเลย แม้ภายหลังลิเบียได้เอกราช แต่สัมปทานน้ำมันแบบเกือบฟรี ก็ยังอยู่ในมือบริษัทอังกฤษและฝรั่งเศส

    ต่อมา กัดดาฟีเห็นว่าไม่เป็นธรรมจึงทำการปฏิวัติ และยึดสัมปทานน้ำมันคืนมา กัดดาฟีปกครอง ให้ประชาชนทุกอย่าง สวัสดิการดีที่สุดในบรรดาประเทศที่รวยน้ำมัน อาจจะเรียกได้ว่า ดีที่สุดในโลก ประชาชนอยู่ดี กินดี มีความสุขสบายทุกอย่าง ยกเว้นอย่างเดียวคือ ไม่มีประชาธิปไตยแบบตะวันตก ไม่มีการเลือกผู้แทน ไม่มีการเลือกรัฐบาล และผู้นำ

    กลุ่มนักศึกษา ที่นึกฝันว่า ถ้าประเทศลิเบียมีประชาธิปไตยแบบอเมริกา น่าจะทำให้ประชาชนได้สวัสดิการมากกว่าที่กัดดาฟี มีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่ มีความคับข้องใจ แต่ทำอะไรไม่ได้

    จนกัดดาฟี อึดอัดกับคำสั่งอเมริกาและซาอุ ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ในโอเปค (ตอนนั้นยังไม่ใช่โอเปคพลัสอย่างทุกวันนี้) ที่ให้ทุกประเทศในโอเปคต้องขายน้ำมันผูกขาดด้วย petrodollar เท่านั้น กัดดาฟีประกาศจะไม่ทำตาม จะขายน้ำมันด้วยเงินดีนาร์ทองคำ หรือแลกด้วยทองคำ ซึ่งจะเป็นการเริ่มต้นทำลาย petrodollar อเมริกาจึงวางแผนกำจัดกัดดาฟี

    อเมริกาจึงไปยุยงวางแผนให้นักศึกษาก่อการจลาจล ลิเบียสปริง มีอเมริกาโดย CIA ดำเนินการให้ทั้งเงิน อาวุธ และสนับสนุนด้านอื่นๆ กัดดาฟีปราบปรามนักศึกษาที่ก่อการจลาจล สื่อตะวันตกก็พร้อมใจกันประโคมว่า กัดดาฟีเป็นผู้นำเผด็จการเข่นฆ่าประชาชนและนักศึกษา อย่างต่อเนื่อง ใหญ่โต และเป็นระบบ

    พอโหมประโคมโฆษณาชวนเชื่อจนล้างสมองคนทั้งโลกได้ อเมริกาและอังกฤษ ก็ส่งกองกำลังเข้าไปจับกัดดาฟีฆ่า ปล้นเอาทองคำในคลังหลวงของลิเบียไปหมด ยึดสัมปทานน้ำมันให้บริษัทตะวันตกไปร่ำรวยต่อ สวัสดิการทุกอย่างหายไปหมดสิ้น

    อังกฤษ อเมริกา และฝรั่งเศส จัดตั้งคนที่ตนสั่งได้ขึ้นมาแทนกัดดาฟี แต่กองกำลังอื่นๆ ไม่ยอมรับและเริ่มมีการต่อสู้แย่งอำนาจกันรุนแรงขึ้นเรื่อย จนบ้านเมืองพินาศวอดวาย อเมริกา หลังจากฆ่ากัดดาฟีได้ ก็ถอยไปให้อังกฤษกับฝรั่งเศสเจ้านายเดิมเข้ามาจัดการ แต่อังกฤษและฝรั่งเศส ก็ไม่อยากลงทุนส่งทหารไปตายในลิเบีย เพราะสงครามแย่งชิงอำนาจของกองกำลังต่างๆ รบกันรุนแรงมาก ถ้าอังกฤษ ฝรั่งเศส ส่งทหารไป จะต้องใช้เงินจำนวนมาก ทหารจะตายเยอะ และดูว่าไม่น่าจะสำเร็จจึงถอยมาปล่อยให้กองกำลังลิเบียฆ่ากันเองต่อไป จนโอบาม่าออกปากว่า อเมริกาฆ่ากัดดาฟีให้แล้ว พรรคพวกในยุโรปจัดการแย่มากจนลิเบียเละตุ้มเป๊ะไปหมด

    คนลิเบียฆ่ากันตายมากมาย บ้านเมืองพังพินาศ ความยากจนขาดแคลน เกิดทั่วประเทศ คนลิเบียหลายล้านคน ราวหนึ่งในสามต้องหนีตายจากสงครามและความอดอยาก ต้องอพยพเป็นมนุษย์เรือลี้ภัยออกจากลิเบียไปยุโรป เรือล่มจมน้ำตายมากมาย ที่เหลือต้องไปอยู่เป็นพลเมืองชั้นสาม สี่ ห้า อยู่อย่างลำบากยากแค้น ถูกกดขี่ และเกลียดชัง เพราะเป็นคนอิสลามผิวสี ไปอยู่ในหมู่ชาวคริสตผิวขาว เป็นผู้ลี้ภัยที่เจ้าของบ้าน ไม่อยากต้อนรับ

    จนเดี๋ยวนี้ ลิเบียยังรบกันอยู่

    จากเมืองที่เคยเป็นเหมือนสวรรค์ อเมริกาทำให้กลับกลายเป็นนรกได้ ตอนนี้พวกนักศึกษาที่ก่อการจลาจล ลี้ภัย ตกนรกกันอยู่ที่ไหนบ้าง

    แต่อเมริกาทำไม่ได้ ถ้านักศึกษาของลิเบีย (ที่กัดดาฟีใช้เงินจากการขายน้ำมันส่งให้เรียนฟรีทั้งในและต่างประเทศ) ไม่หลงลมและร่วมมือกับ CIA ของอเมริกาก่อการจลาจล

    นักศึกษาที่ออกมาประท้วงก่อการจลาจล ป่านนี้คงรู้สำนึกแล้วว่าไม่น่าทำลายบ้านเมืองตัวเอง ถูกหลอกใช้เป็นเบี้ยในกระดาน พอใช้เสร็จก็ถูกทิ้ง แต่รู้สำนึกตอนนี้ก็สายไปแล้ว ลิเบียกลายเป็นนรกไปทุกหย่อมหญ้าแล้ว

    กบเลือกนายจนทำให้บ้านเมืองฉิบหายวายวอดละครับ
    วันชัย รุจนวงศ์
    20/4/23

    ***************************

    # บทความของ ชัย ราชวัตร เตือนคนไทย

    อุทาหรณ์!! เสรีภาพที่มาพร้อมกับความโง่เขลา"
    ....ชัย ราชวัตร ยกบทความ นศ.ลิเบียถูกอเมริกาชักใยก่อม็อบร่วมโค่นผู้นำจนทำให้ต้องประเทศพัง!!
    .....นายสมชัย กตัญญุตานันท์ หรือ ชัย ราชวัตร การ์ตูนนิสต์ชื่อดังได้โพสต์บทความลงในเฟซบุ๊กโดยเป็นการหยิบเอาบทความเกี่ยวกับเรื่องลิเบีย และเสรีภาพ นำมาให้สังคมการเคลื่อนไหวในประเทศไทยได้เห็นเป็นตัวอย่างว่า..ประชาธิปไตยที่บางคนโหยหา…. ตัวอย่างที่น่าคิด…….
    .....ประเทศลิเบีย เสรีภาพที่มาพร้อมกับความโง่เขลา….ลิเบีย เป็นประเทศหลายชนเผ่า เป็นประเทศล้าหลัง ยากจน ถึงจะมีน้ำมันเยอะ แต่ชาติตะวันตกก็เป็นเจ้าของสัมปทาน ได้ประโยชน์ส่วนใหญ่ไป เหลือทิ้งไว้ให้คนในลิเบียนิดเดียว
    .....กัดดาฟี่ทำการรัฐประหาร แล้วทำการยึดสัมปทานน้ำมันจากชาติตะวันตก เอาน้ำมันเข้ารัฐ ส่งผลให้ลิเบียร่ำรวยมากขึ้น กัดดาฟี่ จึงนำเอาเงินที่ได้มาให้สวัสดิการประชาชนอย่างเต็มที่ทุกคนเรียนฟรี รักษาฟรี มีเงินสนับสนุนให้ ไม่ว่าจะแต่งงานหรือมีลูกและสวัสดิการอื่นๆอีกมากมาย รัฐมีเงินให้ จะสร้างบ้าน จะส่งลูกไปเรียนเมืองนอก รัฐให้ฟรีหมด …..
    .....เกษตรกรไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำ แม้จะเป็นทะเลทราย แต่กัดดาฟี่จัดหาน้ำ และทำท่อส่งน้ำใต้ดินถึงที่ดินทุกแปลงจนประชากรลิเบียมีมาตรฐานคุณภาพชีวิตที่ดีมาก และสูงขึ้นเป็นอันดับต้นๆของโลก… กลุ่มชนเผ่าในประเทศก็เลิกตีกัน เพราะกัดดาฟี ได้จัดการแบ่งผลประโยชน์จากน้ำมันให้อย่างทั่วถึง ….มีความเป็นอยู่อย่างดีมาตลอดหลายสิบปี…..
    .....ถึงประชาชนจะสุขสบาย แต่ก็เริ่มเบื่อกับการปกครองของกัดดาฟี่ มหาอำนาจตะวันตก สหรัฐ กับอังกฤษ เห็นว่าคนลิเบียเริ่มเบื่อกับการปกครองของกัดดาฟี่ จึงได้โอกาสจัดอาหรับสปริง
    .....โดยจัดให้นักศึกษาชาวลิเบียที่ไปเรียนต่างประเทศมา…. มาเป็นแกนนำในการเรียกร้องเสรีภาพ โดยมีอเมริกาและอังกฤษเป็นอีแอบสนับสนุนอยู่ข้างหลัง เกิดม๊อบเกิดจลาจลทั่วประเทศ….. กลุ่มทหารกลุ่มหนึ่งฉวยโอกาสหักหลังกัดดาฟี่ เป็นกบฏต่อรัฐบาล สู้รบกับรัฐบาล ผลสุดท้ายฝ่ายทหารกบฏกับกลุ่มประชาชน นักศึกษาที่เรียกร้องเสรีภาพชนะฝ่ายกัดดาฟี่ ….กัดดาฟี่ตาย
    .....มีข่าวว่านางฮิลลารี่ คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ถึงกับบินไปดูศพของกัดดาฟี่ด้วยตัวเอง พร้อมกับพูดด้วยความสะใจว่า…. ฉันมา ฉันรู้ ฉันเห็นมันตาย …..
    .....กัดดาฟี่ตาย ไม่มีผู้นำที่เป็นคนยึดเหนี่ยวกลุ่มชนไว้ด้วยกัน… กลุ่มชนเผ่าในประเทศแต่ละฝ่ายก็ตั้งตัวเป็นใหญ่ แย่งชิงอำนาจกัน ….เกิดสงครามรบพุ่งกันภายในประเทศตลอดเวลา ….ทีนี้ประชาชนก็อยู่ไม่ได้ ต่างอพยพหนีภัยสงครามกันจ้าละหวั่น ….
    .....ประชากรเกือบหนึ่งในสามของประเทศ ต้องอพยพหนีภัยสงครามไปต่างประเทศ ส่วนคนที่เหลือในประเทศ ก็ต้องประสบชะตากรรม บ้านแตกสาแหรกขาด อดอยาก หิวโหย วันๆ หลบแต่กระสุนและลูกระเบิด…. ผู้ชายถูกเกณฑ์ไปรบ ผู้หญิงถูกบังคับให้บริการทางเพศ ….มีข่าวว่าถูกจับไปขายเป็นทาสทั้งหญิงและชายอย่างลับๆในประเทศเพื่อนบ้าน
    .....ลิเบียจากประเทศที่สงบสุข ประชาชนร่ำรวย มีความสุข ปานอยู่สวรรค์ เพียงพริบตาเดียวที่กัดดาฟีตาย ……ก็กลายเป็นเหมือนตกนรกทั้งเป็น จะโทษใครเล่า ก็ต้องโทษความโง่เขลาเบาปัญญาของตัวเองที่หลงกลชาติมหาอำนาจ
    .....ผ่านมาจะสิบปีแล้ว นรกในลิเบียก็ยังดำเนินต่อไป และไม่มีท่าว่าจะสิ้นสุด แถมดูแล้ว ประเทศลิเบียก็คงจะไม่มีต่อไป คงสิ้นชาติ สิ้นแผ่นดินเป็นแน่แท้
    .....โอ้อนิจจา…เสรีภาพที่มาพร้อมกับความโง่เขลา ประชาชนถูกปั่นหัวว่า…มันหอมหวนแสนหวานปานน้ำผึ้งนั้นมีเฉพาะในฝัน ….แต่บางครั้งมันคือน้ำกรดที่รดลงทำลายประเทศจนสิ้นทรากในพริบตา..มันคือความเป็นจริง
    .....ขออย่าให้ประเทศไทยต้องเป็นอย่างประเทศลิเบียเลย..ถ้าท่านเห็นว่าบทความนี้ควรจะเผยแพร่ไปยังผู้ที่กำลังคิดจะทำให้ประเทศไทยเป็นอย่างประเทศลิเบีย..ขอโปรดแชร์บทความนี้ต่อไปยังเพื่อนของท่านด้วย…
    #เรารักประเทศไทย
    Cr : ชัย ราชวัตร
    เรื่องจริงที่น่าสมเพช ⭕️⭕️⭕️⭕️⭕️ คนไทยทุกคน ควรอ่าน ************ เดิมที ลิเบียถูกอิตาลียึดครอง ต่อมาอิตาลีแพ้สงครามโลก อังกฤษและฝรั่งเศสเข้ามาปกครองลิเบียโดยแย่งไปจากอิตาลี และได้ขุดน้ำมัน บริษัทของอังกฤษและฝรั่งเศสได้สัมปทานกอบโกยน้ำมันไปจนร่ำรวย ส่วนคนลิเบียแทบไม่ได้อะไรเลย แม้ภายหลังลิเบียได้เอกราช แต่สัมปทานน้ำมันแบบเกือบฟรี ก็ยังอยู่ในมือบริษัทอังกฤษและฝรั่งเศส ต่อมา กัดดาฟีเห็นว่าไม่เป็นธรรมจึงทำการปฏิวัติ และยึดสัมปทานน้ำมันคืนมา กัดดาฟีปกครอง ให้ประชาชนทุกอย่าง สวัสดิการดีที่สุดในบรรดาประเทศที่รวยน้ำมัน อาจจะเรียกได้ว่า ดีที่สุดในโลก ประชาชนอยู่ดี กินดี มีความสุขสบายทุกอย่าง ยกเว้นอย่างเดียวคือ ไม่มีประชาธิปไตยแบบตะวันตก ไม่มีการเลือกผู้แทน ไม่มีการเลือกรัฐบาล และผู้นำ กลุ่มนักศึกษา ที่นึกฝันว่า ถ้าประเทศลิเบียมีประชาธิปไตยแบบอเมริกา น่าจะทำให้ประชาชนได้สวัสดิการมากกว่าที่กัดดาฟี มีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่ มีความคับข้องใจ แต่ทำอะไรไม่ได้ จนกัดดาฟี อึดอัดกับคำสั่งอเมริกาและซาอุ ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ในโอเปค (ตอนนั้นยังไม่ใช่โอเปคพลัสอย่างทุกวันนี้) ที่ให้ทุกประเทศในโอเปคต้องขายน้ำมันผูกขาดด้วย petrodollar เท่านั้น กัดดาฟีประกาศจะไม่ทำตาม จะขายน้ำมันด้วยเงินดีนาร์ทองคำ หรือแลกด้วยทองคำ ซึ่งจะเป็นการเริ่มต้นทำลาย petrodollar อเมริกาจึงวางแผนกำจัดกัดดาฟี อเมริกาจึงไปยุยงวางแผนให้นักศึกษาก่อการจลาจล ลิเบียสปริง มีอเมริกาโดย CIA ดำเนินการให้ทั้งเงิน อาวุธ และสนับสนุนด้านอื่นๆ กัดดาฟีปราบปรามนักศึกษาที่ก่อการจลาจล สื่อตะวันตกก็พร้อมใจกันประโคมว่า กัดดาฟีเป็นผู้นำเผด็จการเข่นฆ่าประชาชนและนักศึกษา อย่างต่อเนื่อง ใหญ่โต และเป็นระบบ พอโหมประโคมโฆษณาชวนเชื่อจนล้างสมองคนทั้งโลกได้ อเมริกาและอังกฤษ ก็ส่งกองกำลังเข้าไปจับกัดดาฟีฆ่า ปล้นเอาทองคำในคลังหลวงของลิเบียไปหมด ยึดสัมปทานน้ำมันให้บริษัทตะวันตกไปร่ำรวยต่อ สวัสดิการทุกอย่างหายไปหมดสิ้น อังกฤษ อเมริกา และฝรั่งเศส จัดตั้งคนที่ตนสั่งได้ขึ้นมาแทนกัดดาฟี แต่กองกำลังอื่นๆ ไม่ยอมรับและเริ่มมีการต่อสู้แย่งอำนาจกันรุนแรงขึ้นเรื่อย จนบ้านเมืองพินาศวอดวาย อเมริกา หลังจากฆ่ากัดดาฟีได้ ก็ถอยไปให้อังกฤษกับฝรั่งเศสเจ้านายเดิมเข้ามาจัดการ แต่อังกฤษและฝรั่งเศส ก็ไม่อยากลงทุนส่งทหารไปตายในลิเบีย เพราะสงครามแย่งชิงอำนาจของกองกำลังต่างๆ รบกันรุนแรงมาก ถ้าอังกฤษ ฝรั่งเศส ส่งทหารไป จะต้องใช้เงินจำนวนมาก ทหารจะตายเยอะ และดูว่าไม่น่าจะสำเร็จจึงถอยมาปล่อยให้กองกำลังลิเบียฆ่ากันเองต่อไป จนโอบาม่าออกปากว่า อเมริกาฆ่ากัดดาฟีให้แล้ว พรรคพวกในยุโรปจัดการแย่มากจนลิเบียเละตุ้มเป๊ะไปหมด คนลิเบียฆ่ากันตายมากมาย บ้านเมืองพังพินาศ ความยากจนขาดแคลน เกิดทั่วประเทศ คนลิเบียหลายล้านคน ราวหนึ่งในสามต้องหนีตายจากสงครามและความอดอยาก ต้องอพยพเป็นมนุษย์เรือลี้ภัยออกจากลิเบียไปยุโรป เรือล่มจมน้ำตายมากมาย ที่เหลือต้องไปอยู่เป็นพลเมืองชั้นสาม สี่ ห้า อยู่อย่างลำบากยากแค้น ถูกกดขี่ และเกลียดชัง เพราะเป็นคนอิสลามผิวสี ไปอยู่ในหมู่ชาวคริสตผิวขาว เป็นผู้ลี้ภัยที่เจ้าของบ้าน ไม่อยากต้อนรับ จนเดี๋ยวนี้ ลิเบียยังรบกันอยู่ จากเมืองที่เคยเป็นเหมือนสวรรค์ อเมริกาทำให้กลับกลายเป็นนรกได้ ตอนนี้พวกนักศึกษาที่ก่อการจลาจล ลี้ภัย ตกนรกกันอยู่ที่ไหนบ้าง แต่อเมริกาทำไม่ได้ ถ้านักศึกษาของลิเบีย (ที่กัดดาฟีใช้เงินจากการขายน้ำมันส่งให้เรียนฟรีทั้งในและต่างประเทศ) ไม่หลงลมและร่วมมือกับ CIA ของอเมริกาก่อการจลาจล นักศึกษาที่ออกมาประท้วงก่อการจลาจล ป่านนี้คงรู้สำนึกแล้วว่าไม่น่าทำลายบ้านเมืองตัวเอง ถูกหลอกใช้เป็นเบี้ยในกระดาน พอใช้เสร็จก็ถูกทิ้ง แต่รู้สำนึกตอนนี้ก็สายไปแล้ว ลิเบียกลายเป็นนรกไปทุกหย่อมหญ้าแล้ว กบเลือกนายจนทำให้บ้านเมืองฉิบหายวายวอดละครับ วันชัย รุจนวงศ์ 20/4/23 *************************** # บทความของ ชัย ราชวัตร เตือนคนไทย อุทาหรณ์!! เสรีภาพที่มาพร้อมกับความโง่เขลา" ....ชัย ราชวัตร ยกบทความ นศ.ลิเบียถูกอเมริกาชักใยก่อม็อบร่วมโค่นผู้นำจนทำให้ต้องประเทศพัง!! .....นายสมชัย กตัญญุตานันท์ หรือ ชัย ราชวัตร การ์ตูนนิสต์ชื่อดังได้โพสต์บทความลงในเฟซบุ๊กโดยเป็นการหยิบเอาบทความเกี่ยวกับเรื่องลิเบีย และเสรีภาพ นำมาให้สังคมการเคลื่อนไหวในประเทศไทยได้เห็นเป็นตัวอย่างว่า..ประชาธิปไตยที่บางคนโหยหา…. ตัวอย่างที่น่าคิด……. .....ประเทศลิเบีย เสรีภาพที่มาพร้อมกับความโง่เขลา….ลิเบีย เป็นประเทศหลายชนเผ่า เป็นประเทศล้าหลัง ยากจน ถึงจะมีน้ำมันเยอะ แต่ชาติตะวันตกก็เป็นเจ้าของสัมปทาน ได้ประโยชน์ส่วนใหญ่ไป เหลือทิ้งไว้ให้คนในลิเบียนิดเดียว .....กัดดาฟี่ทำการรัฐประหาร แล้วทำการยึดสัมปทานน้ำมันจากชาติตะวันตก เอาน้ำมันเข้ารัฐ ส่งผลให้ลิเบียร่ำรวยมากขึ้น กัดดาฟี่ จึงนำเอาเงินที่ได้มาให้สวัสดิการประชาชนอย่างเต็มที่ทุกคนเรียนฟรี รักษาฟรี มีเงินสนับสนุนให้ ไม่ว่าจะแต่งงานหรือมีลูกและสวัสดิการอื่นๆอีกมากมาย รัฐมีเงินให้ จะสร้างบ้าน จะส่งลูกไปเรียนเมืองนอก รัฐให้ฟรีหมด ….. .....เกษตรกรไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำ แม้จะเป็นทะเลทราย แต่กัดดาฟี่จัดหาน้ำ และทำท่อส่งน้ำใต้ดินถึงที่ดินทุกแปลงจนประชากรลิเบียมีมาตรฐานคุณภาพชีวิตที่ดีมาก และสูงขึ้นเป็นอันดับต้นๆของโลก… กลุ่มชนเผ่าในประเทศก็เลิกตีกัน เพราะกัดดาฟี ได้จัดการแบ่งผลประโยชน์จากน้ำมันให้อย่างทั่วถึง ….มีความเป็นอยู่อย่างดีมาตลอดหลายสิบปี….. .....ถึงประชาชนจะสุขสบาย แต่ก็เริ่มเบื่อกับการปกครองของกัดดาฟี่ มหาอำนาจตะวันตก สหรัฐ กับอังกฤษ เห็นว่าคนลิเบียเริ่มเบื่อกับการปกครองของกัดดาฟี่ จึงได้โอกาสจัดอาหรับสปริง .....โดยจัดให้นักศึกษาชาวลิเบียที่ไปเรียนต่างประเทศมา…. มาเป็นแกนนำในการเรียกร้องเสรีภาพ โดยมีอเมริกาและอังกฤษเป็นอีแอบสนับสนุนอยู่ข้างหลัง เกิดม๊อบเกิดจลาจลทั่วประเทศ….. กลุ่มทหารกลุ่มหนึ่งฉวยโอกาสหักหลังกัดดาฟี่ เป็นกบฏต่อรัฐบาล สู้รบกับรัฐบาล ผลสุดท้ายฝ่ายทหารกบฏกับกลุ่มประชาชน นักศึกษาที่เรียกร้องเสรีภาพชนะฝ่ายกัดดาฟี่ ….กัดดาฟี่ตาย .....มีข่าวว่านางฮิลลารี่ คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ถึงกับบินไปดูศพของกัดดาฟี่ด้วยตัวเอง พร้อมกับพูดด้วยความสะใจว่า…. ฉันมา ฉันรู้ ฉันเห็นมันตาย ….. .....กัดดาฟี่ตาย ไม่มีผู้นำที่เป็นคนยึดเหนี่ยวกลุ่มชนไว้ด้วยกัน… กลุ่มชนเผ่าในประเทศแต่ละฝ่ายก็ตั้งตัวเป็นใหญ่ แย่งชิงอำนาจกัน ….เกิดสงครามรบพุ่งกันภายในประเทศตลอดเวลา ….ทีนี้ประชาชนก็อยู่ไม่ได้ ต่างอพยพหนีภัยสงครามกันจ้าละหวั่น …. .....ประชากรเกือบหนึ่งในสามของประเทศ ต้องอพยพหนีภัยสงครามไปต่างประเทศ ส่วนคนที่เหลือในประเทศ ก็ต้องประสบชะตากรรม บ้านแตกสาแหรกขาด อดอยาก หิวโหย วันๆ หลบแต่กระสุนและลูกระเบิด…. ผู้ชายถูกเกณฑ์ไปรบ ผู้หญิงถูกบังคับให้บริการทางเพศ ….มีข่าวว่าถูกจับไปขายเป็นทาสทั้งหญิงและชายอย่างลับๆในประเทศเพื่อนบ้าน .....ลิเบียจากประเทศที่สงบสุข ประชาชนร่ำรวย มีความสุข ปานอยู่สวรรค์ เพียงพริบตาเดียวที่กัดดาฟีตาย ……ก็กลายเป็นเหมือนตกนรกทั้งเป็น จะโทษใครเล่า ก็ต้องโทษความโง่เขลาเบาปัญญาของตัวเองที่หลงกลชาติมหาอำนาจ .....ผ่านมาจะสิบปีแล้ว นรกในลิเบียก็ยังดำเนินต่อไป และไม่มีท่าว่าจะสิ้นสุด แถมดูแล้ว ประเทศลิเบียก็คงจะไม่มีต่อไป คงสิ้นชาติ สิ้นแผ่นดินเป็นแน่แท้ .....โอ้อนิจจา…เสรีภาพที่มาพร้อมกับความโง่เขลา ประชาชนถูกปั่นหัวว่า…มันหอมหวนแสนหวานปานน้ำผึ้งนั้นมีเฉพาะในฝัน ….แต่บางครั้งมันคือน้ำกรดที่รดลงทำลายประเทศจนสิ้นทรากในพริบตา..มันคือความเป็นจริง .....ขออย่าให้ประเทศไทยต้องเป็นอย่างประเทศลิเบียเลย..ถ้าท่านเห็นว่าบทความนี้ควรจะเผยแพร่ไปยังผู้ที่กำลังคิดจะทำให้ประเทศไทยเป็นอย่างประเทศลิเบีย..ขอโปรดแชร์บทความนี้ต่อไปยังเพื่อนของท่านด้วย… #เรารักประเทศไทย Cr : ชัย ราชวัตร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถึงเวลาล้างมือในอ่างทองคำ
    ถึงเวลาล้างมือในอ่างทองคำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • #คุยแบบกลางๆอยู่ข้างพี่น้องชาวไทย
    #ทองแม่ตั๊กบทพิสูจน์ธรรมะหรืออธรรม
    สวัสดีครับ แฟนเพจคิงส์โพธิ์แดง
    สำหรับคนที่ตามข่าวนี้ และรู้จักแม่ตั๊ก ก็จะมีมุมมองที่ไม่เหมือนกัน
    โดยสังเกตุได้จาก จะมี 2 ด้าน นั่นเพราะประสบการณ์ของแต่ละคนที่เจอนั้นต่างกัน
    เรื่องนี้ เริ่มตั้งแต่มีข่าวเรื่องคนเอาทองแม่ตั๊ก ซึ่งพี่คิงส์ขออนุญาตแฟนเพจ จะไม่เรียกว่าแม่อีก ขอเรียกชื่อว่า ตั๊ก เป็นอันเข้าใจ ส่วนเหตุผลคือ ไม่ใช่แม่กรรู แต่ก็ไม่ได้หมายถึงการด้อยค่าแต่อย่างใด ยังคงให้เกียรติคนที่รู้จักในฝั่งที่มีประสบการณ์ที่ดี และนับถือกันจริงๆอยู่
    -พี่คิงส์ต้องบอกว่า นี่คือ บทพิสูจน์ทั้งคนที่เป็นคู่กรณี และประชาชนไทย เพราะถือว่าเป็นสิ่งใหม่มาก ที่เรายังไม่เคยเจอเคสแบบนี้
    คำว่าไม่เคยเจอ ไม่ใช่เราไม่เคยเจอทอง ที่ไม่สามารถขายที่ร้านทองได้ แต่เราไม่เคยเจอ การที่่คนรู้จักตั๊ก ในมุมที่ต่างกันสุดขั้ว
    มุมมองที่ 1 เป็นคนที่มีน้ำใจ ช่วยเหลือคน และมีบุญคุณกับคนจำนวนมากมาย
    กับมุมมองที่ 2 เป็นแม่ค้าที่ให้โอกาสลูกทีม ได้ลืมตาอ้าปาก มีน้ำใจจนหลายคนเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้
    มีมุมมองที่ 3 นั่นคือลูกค้าที่เคยรับสินค้าที่มีคุณภาพ ราคาดีและไม่เคยมีปัญหาที่มีความคลุมเคลืออย่างที่เป็นข่าว
    มุมมองที่ 4 คือลูกค้าที่พบประสบการณ์ที่ไม่ดี โดยเฉพาะเรื่องทองไม่ลอกไม่ดำ แต่จำนำไม่ได้
    ซึ่งจากการขุด สืบ ข้อมูลตามสไตล์พี่คิงส์ ได้สอบถามคนที่ผ่านประสบการณ์มาทั้ง 4 มุม
    คำถามว่า ทำไม พี่คิงส์ต้องเริ่มจากจุดนี้
    เพราะถ้าใครจำได้ วันแรก พี่คิงส์เคยโพสเรื่องนี้ไป
    แม่ตั๊ก กามิจ ดอกไม้สีทอง ถ้ายังจำกันได้
    โดยหลังจากโพสไม่นาน มีแฟนเพจคิงส์ที่เป็นด้อมแพนด้านี่แหละ
    ทักมาหลายคนมาก ต่างเล่าประสบการณ์ที่แตกต่างกัน
    พี่คิงส์ จึงลบข้อมูลที่โพสบางส่วน เพื่อหาข้อมูล ว่าเพราะอะไร จึงมีคนออกมาปกป้อง ที่พี่คิงส์ก็มั่นใจว่า เค้าเป็นแฟนเพจพี่คิงส์จริงๆ เพราะมีประวัตคุยแชทกับพี่คิงส์มาก่อนหน้านานแล้ว
    ดังนั้น พี่คิงส์คิดว่า เรามาทำความเข้าใจในธุรกิจของตั๊กก่อน
    1. มีบริษัท จริง มีสินค้าจริง
    2. มีทักษะการสื่อสารที่ดี ใช้โซเชียลชำนาญ ไม่แพ้พิมรี่พาย แต่มีระบบเครือข่ายไดเร็คที่แข็งแกร่งกว่ามาก
    3. สินค้าส่วนใหญ่ไม่มีปัญหา
    4. ปัญหาคือทองที่นำไปขายไม่ได้ อันนี้ชัดเจน
    พอเรามองส่วนนี้ เรามาดูผลจาก 3 ข้อแรกก่อน
    ในสามข้อแรก ตั๊ก ได้นำรายได้จากผลกำไรที่พี่คิงส์สืบแล้วไม่มีอะไรคลุมเคลือ แต่มีรายได้มหาศาลจากการขายจริง และยังเชื่อว่าสืบพิสูจน์ได้
    1. เปิดให้คนที่ไม่มีทุน มาทำธุรกิจ และหลายคน เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้
    2. นำเงินไปทำพีอาร์ ที่เป็น CHR ช่วยเหลือคนจริง และมีจำนวนมากด้วย
    ดังนั้น เฉพาะสองส่วนนี้ เวลาที่ตั๊ก มีปัญหากับมวลชนหรือสื่อ
    จึงมีคนที่เคยได้รับความช่วยเหลือ ออกปกป้องด้วยความบริสุทธิ์ใจ แบบไม่มีการจ้างวานแต่อย่างใด และพี่คิงส์บอกเลยว่า สองกลุ่มนี้ จำนวนมากอย่างที่แฟนเพจอาจจะคาดไม่ถึง
    คราวนี้ เรามาดูผลจากข้อที่ 4 และพิสูจน์ความจริง ใครที่คิดว่า อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คือใกล้จบแล้วพี่คิงส์เตือนไว้ก่อนเลยว่า เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ป่ะ เราไปกันต่อ
    เรื่องของทอง ต้องยอมรับความจริงให้ได้่
    1. ทองที่ตั๊กขาย ไม่ใช่ทอง
    2. บางชิ้น เป็นโลหะ บางชิ้น เป็นกระดาษพ่นโลหะ บางชิ้นเป็นพลาสติกเคลือบโลหะ และบางชิ้น มีส่วนผสมของทองน้อยมากๆจนไม่มีใครสะกัดออกมาเพื่อชั่งน้ำหนักได้แม้แต่เป็นการหลอมก็ตาม และในบางชิ้นที่กล่าวไปแล้ว บางอย่างเป็นของแถมที่ตั๊กเองก็พูดยืนยันว่า เป็นทองคำบริสุทธิ์ 99.99
    3. ในส่วนของดอกไม้สีทอง ได้มีการนำตรวจพิสูจน์แล้วว่า เป็นดอกไม้สีทองที่เคลือบด้วยสารคล้ายฟิล์มสีทอง และพี่คิงส์ก็สืบต่ออีกว่า ดอกไม้สีทองแบบนี้ เหมือนกันเป๊ะๆ มันมาจากไหน ก็ได้ข้อมูลว่า มันคือดอกไม้สำหรับการปักเค้กวันเกิด ที่จีนจำหน่ายผ่านแอพประมาณ 1.2 หยวน
    เราเข้าใจตัวสินค้าที่มีปัญหาก็จะไปต่อกันได้
    คำถามคือ การขายทองที่ไม่แท้นี้ ดำเนินกิจการมานานมากแล้วใช้มั๊ย ก็ต้องบอกว่า นานพอสมควรเลยและส่วนต่างกำไรนั้นก็มหาศาล
    แต่มีจุดสำคัญคือ
    1. ตั๊กจะประกาศซื้อขายแลกเปลี่ยน หมายความว่า ถ้าคุณไม่โอเค ตั๊กยินดีซื้อคืน ในเรทที่หักไปประมาณ 60เปอร์เซ็น+- ซึ่งตั๊กก็ประกาศและทำตามนั้นจริง ไม่มีผลัดผ่อนแต่อย่างใด
    2. กรณีของคน ที่มีปัญหาหนักๆจริงๆ ด้วยความที่ตั๊กมีธุรกิจหลายตัวและสร้างรายได้มหาศาลมาก่อนจับเรื่องทอง การคืนแบบเต็มจำนวน หรือจะมีส่วนในการชดใช้เยียวยาเพิ่มแต่ละรายตามตกลงนั้น ตั๊กก็ยินดีคืนแบบไม่มีผลัดผ่อน แต่อย่างใด
    ดังนั้น จากสองกรณีนี้ จึงจบได้ ไม่มีปัญหาและคนที่โดยเฉพาะรักตั๊กอยู่แล้ว ก็ยิ่งมีมุมมองว่า ตั๊กไม่ได้ผิดอะไรเลย ก็ทำตามที่สัญญา
    ในส่วนที่นำไปขายที่ร้านทองไม่ได้ ตั๊กก็พูดย้ำในไลฟ์เช่นกันว่า ซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ คือที่ตั๊ก ไม่ใช่ที่อื่น
    จึงดูแล้ว ทุกอย่างก็เหมือนจะชัด แต่มันก็ยังไม่ชัด อย่างไรไม่รู้ในสายตาของคนจำนวนไม่น้อยเช่นกัน
    และเราจะเห็นจากข้อมูลข่าวอีกว่า สุดท้าย ตั๊กยินดีที่จะคืนเต็มจำนวนกับทุกราย ซึ่งให้นำของแถมคืนให้ครบ หากไม่คบ จะมีการหักไปบางชิ้นถึงหมื่น ก็กลายเป็นปมกลับมาให้พี่หนุ่มเอง รู้สึกว่าจบแบบนี้ยังไม่โอเค
    ซึ่งพี่คิงส์บอกเลยว่า สุดท้าย ตั๊กก็จะคืนเต็มจำนวนแม้ว่าของแถมจะขาดหายไปก็ตาม ถ้าลูกค้าไม่ยอมจริงๆ
    สุดท้าย ลูกค้าที่ซื้อไป และเกิดความเสียหาย สิ่งที่ต้องการไม่ใช่การเอาเรื่อง สิ่งที่ต้องการจริงๆคือการได้รับการชดใช้ แค่นั้นก็เพียงพอแบบไม่ต้องการติดใจเอาความอีกต่อไป
    ดังนั้น เรื่องนี้จะเป็นตำนานบทใหม่ ที่มีความยากในการแยกว่า สุดท้าย ตั๊กคือธรรมมะ หรืออธรรม
    ถ้าจะมองว่าธรรมมะ ก็ไม่น่าจะนำทองที่ไม่แท้มาจำหน่าย
    ถ้ามองว่าอธรรม ตั๊กก็พร้อมรับจบทุกรายโดยคืนเต็มจำนวน
    ความเสียหายจึงไม่เกิด และพี่คิงส์ก็เชื่อว่าลูกค้าตั๊กเองก็จะไม่ลดด้วย
    จากเหตุหลายปัจจัยที่ประกอบกันที่แจ้งไว้ตั้งแต่ต้น
    นี่แหละ แม้แต่พี่คิงส์ ได้นำเสนอมาถึงจุดนี้
    ก็เชื่อว่าแฟนเพจเอง ก็ยังอึนๆ มึนๆ และไม่สามารถให้ข้อสรุปได้เช่นกัน
    ว่าเราจะเสื่อในสิ่งที่เฮ็ด หรือเราจะเฮ็ดในสิ่งที่เสื่อ
    หรือช่วยตอบพี่คิงส์ใต้โพสได้มั๊ยว่า แฟนเพจคิงคิดว่า
    ตั๊ก คือแบบไหนกันแน่
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คุยแบบกลางๆอยู่ข้างพี่น้องชาวไทย #ทองแม่ตั๊กบทพิสูจน์ธรรมะหรืออธรรม สวัสดีครับ แฟนเพจคิงส์โพธิ์แดง สำหรับคนที่ตามข่าวนี้ และรู้จักแม่ตั๊ก ก็จะมีมุมมองที่ไม่เหมือนกัน โดยสังเกตุได้จาก จะมี 2 ด้าน นั่นเพราะประสบการณ์ของแต่ละคนที่เจอนั้นต่างกัน เรื่องนี้ เริ่มตั้งแต่มีข่าวเรื่องคนเอาทองแม่ตั๊ก ซึ่งพี่คิงส์ขออนุญาตแฟนเพจ จะไม่เรียกว่าแม่อีก ขอเรียกชื่อว่า ตั๊ก เป็นอันเข้าใจ ส่วนเหตุผลคือ ไม่ใช่แม่กรรู แต่ก็ไม่ได้หมายถึงการด้อยค่าแต่อย่างใด ยังคงให้เกียรติคนที่รู้จักในฝั่งที่มีประสบการณ์ที่ดี และนับถือกันจริงๆอยู่ -พี่คิงส์ต้องบอกว่า นี่คือ บทพิสูจน์ทั้งคนที่เป็นคู่กรณี และประชาชนไทย เพราะถือว่าเป็นสิ่งใหม่มาก ที่เรายังไม่เคยเจอเคสแบบนี้ คำว่าไม่เคยเจอ ไม่ใช่เราไม่เคยเจอทอง ที่ไม่สามารถขายที่ร้านทองได้ แต่เราไม่เคยเจอ การที่่คนรู้จักตั๊ก ในมุมที่ต่างกันสุดขั้ว มุมมองที่ 1 เป็นคนที่มีน้ำใจ ช่วยเหลือคน และมีบุญคุณกับคนจำนวนมากมาย กับมุมมองที่ 2 เป็นแม่ค้าที่ให้โอกาสลูกทีม ได้ลืมตาอ้าปาก มีน้ำใจจนหลายคนเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ มีมุมมองที่ 3 นั่นคือลูกค้าที่เคยรับสินค้าที่มีคุณภาพ ราคาดีและไม่เคยมีปัญหาที่มีความคลุมเคลืออย่างที่เป็นข่าว มุมมองที่ 4 คือลูกค้าที่พบประสบการณ์ที่ไม่ดี โดยเฉพาะเรื่องทองไม่ลอกไม่ดำ แต่จำนำไม่ได้ ซึ่งจากการขุด สืบ ข้อมูลตามสไตล์พี่คิงส์ ได้สอบถามคนที่ผ่านประสบการณ์มาทั้ง 4 มุม คำถามว่า ทำไม พี่คิงส์ต้องเริ่มจากจุดนี้ เพราะถ้าใครจำได้ วันแรก พี่คิงส์เคยโพสเรื่องนี้ไป แม่ตั๊ก กามิจ ดอกไม้สีทอง ถ้ายังจำกันได้ โดยหลังจากโพสไม่นาน มีแฟนเพจคิงส์ที่เป็นด้อมแพนด้านี่แหละ ทักมาหลายคนมาก ต่างเล่าประสบการณ์ที่แตกต่างกัน พี่คิงส์ จึงลบข้อมูลที่โพสบางส่วน เพื่อหาข้อมูล ว่าเพราะอะไร จึงมีคนออกมาปกป้อง ที่พี่คิงส์ก็มั่นใจว่า เค้าเป็นแฟนเพจพี่คิงส์จริงๆ เพราะมีประวัตคุยแชทกับพี่คิงส์มาก่อนหน้านานแล้ว ดังนั้น พี่คิงส์คิดว่า เรามาทำความเข้าใจในธุรกิจของตั๊กก่อน 1. มีบริษัท จริง มีสินค้าจริง 2. มีทักษะการสื่อสารที่ดี ใช้โซเชียลชำนาญ ไม่แพ้พิมรี่พาย แต่มีระบบเครือข่ายไดเร็คที่แข็งแกร่งกว่ามาก 3. สินค้าส่วนใหญ่ไม่มีปัญหา 4. ปัญหาคือทองที่นำไปขายไม่ได้ อันนี้ชัดเจน พอเรามองส่วนนี้ เรามาดูผลจาก 3 ข้อแรกก่อน ในสามข้อแรก ตั๊ก ได้นำรายได้จากผลกำไรที่พี่คิงส์สืบแล้วไม่มีอะไรคลุมเคลือ แต่มีรายได้มหาศาลจากการขายจริง และยังเชื่อว่าสืบพิสูจน์ได้ 1. เปิดให้คนที่ไม่มีทุน มาทำธุรกิจ และหลายคน เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ 2. นำเงินไปทำพีอาร์ ที่เป็น CHR ช่วยเหลือคนจริง และมีจำนวนมากด้วย ดังนั้น เฉพาะสองส่วนนี้ เวลาที่ตั๊ก มีปัญหากับมวลชนหรือสื่อ จึงมีคนที่เคยได้รับความช่วยเหลือ ออกปกป้องด้วยความบริสุทธิ์ใจ แบบไม่มีการจ้างวานแต่อย่างใด และพี่คิงส์บอกเลยว่า สองกลุ่มนี้ จำนวนมากอย่างที่แฟนเพจอาจจะคาดไม่ถึง คราวนี้ เรามาดูผลจากข้อที่ 4 และพิสูจน์ความจริง ใครที่คิดว่า อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คือใกล้จบแล้วพี่คิงส์เตือนไว้ก่อนเลยว่า เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ป่ะ เราไปกันต่อ เรื่องของทอง ต้องยอมรับความจริงให้ได้่ 1. ทองที่ตั๊กขาย ไม่ใช่ทอง 2. บางชิ้น เป็นโลหะ บางชิ้น เป็นกระดาษพ่นโลหะ บางชิ้นเป็นพลาสติกเคลือบโลหะ และบางชิ้น มีส่วนผสมของทองน้อยมากๆจนไม่มีใครสะกัดออกมาเพื่อชั่งน้ำหนักได้แม้แต่เป็นการหลอมก็ตาม และในบางชิ้นที่กล่าวไปแล้ว บางอย่างเป็นของแถมที่ตั๊กเองก็พูดยืนยันว่า เป็นทองคำบริสุทธิ์ 99.99 3. ในส่วนของดอกไม้สีทอง ได้มีการนำตรวจพิสูจน์แล้วว่า เป็นดอกไม้สีทองที่เคลือบด้วยสารคล้ายฟิล์มสีทอง และพี่คิงส์ก็สืบต่ออีกว่า ดอกไม้สีทองแบบนี้ เหมือนกันเป๊ะๆ มันมาจากไหน ก็ได้ข้อมูลว่า มันคือดอกไม้สำหรับการปักเค้กวันเกิด ที่จีนจำหน่ายผ่านแอพประมาณ 1.2 หยวน เราเข้าใจตัวสินค้าที่มีปัญหาก็จะไปต่อกันได้ คำถามคือ การขายทองที่ไม่แท้นี้ ดำเนินกิจการมานานมากแล้วใช้มั๊ย ก็ต้องบอกว่า นานพอสมควรเลยและส่วนต่างกำไรนั้นก็มหาศาล แต่มีจุดสำคัญคือ 1. ตั๊กจะประกาศซื้อขายแลกเปลี่ยน หมายความว่า ถ้าคุณไม่โอเค ตั๊กยินดีซื้อคืน ในเรทที่หักไปประมาณ 60เปอร์เซ็น+- ซึ่งตั๊กก็ประกาศและทำตามนั้นจริง ไม่มีผลัดผ่อนแต่อย่างใด 2. กรณีของคน ที่มีปัญหาหนักๆจริงๆ ด้วยความที่ตั๊กมีธุรกิจหลายตัวและสร้างรายได้มหาศาลมาก่อนจับเรื่องทอง การคืนแบบเต็มจำนวน หรือจะมีส่วนในการชดใช้เยียวยาเพิ่มแต่ละรายตามตกลงนั้น ตั๊กก็ยินดีคืนแบบไม่มีผลัดผ่อน แต่อย่างใด ดังนั้น จากสองกรณีนี้ จึงจบได้ ไม่มีปัญหาและคนที่โดยเฉพาะรักตั๊กอยู่แล้ว ก็ยิ่งมีมุมมองว่า ตั๊กไม่ได้ผิดอะไรเลย ก็ทำตามที่สัญญา ในส่วนที่นำไปขายที่ร้านทองไม่ได้ ตั๊กก็พูดย้ำในไลฟ์เช่นกันว่า ซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ คือที่ตั๊ก ไม่ใช่ที่อื่น จึงดูแล้ว ทุกอย่างก็เหมือนจะชัด แต่มันก็ยังไม่ชัด อย่างไรไม่รู้ในสายตาของคนจำนวนไม่น้อยเช่นกัน และเราจะเห็นจากข้อมูลข่าวอีกว่า สุดท้าย ตั๊กยินดีที่จะคืนเต็มจำนวนกับทุกราย ซึ่งให้นำของแถมคืนให้ครบ หากไม่คบ จะมีการหักไปบางชิ้นถึงหมื่น ก็กลายเป็นปมกลับมาให้พี่หนุ่มเอง รู้สึกว่าจบแบบนี้ยังไม่โอเค ซึ่งพี่คิงส์บอกเลยว่า สุดท้าย ตั๊กก็จะคืนเต็มจำนวนแม้ว่าของแถมจะขาดหายไปก็ตาม ถ้าลูกค้าไม่ยอมจริงๆ สุดท้าย ลูกค้าที่ซื้อไป และเกิดความเสียหาย สิ่งที่ต้องการไม่ใช่การเอาเรื่อง สิ่งที่ต้องการจริงๆคือการได้รับการชดใช้ แค่นั้นก็เพียงพอแบบไม่ต้องการติดใจเอาความอีกต่อไป ดังนั้น เรื่องนี้จะเป็นตำนานบทใหม่ ที่มีความยากในการแยกว่า สุดท้าย ตั๊กคือธรรมมะ หรืออธรรม ถ้าจะมองว่าธรรมมะ ก็ไม่น่าจะนำทองที่ไม่แท้มาจำหน่าย ถ้ามองว่าอธรรม ตั๊กก็พร้อมรับจบทุกรายโดยคืนเต็มจำนวน ความเสียหายจึงไม่เกิด และพี่คิงส์ก็เชื่อว่าลูกค้าตั๊กเองก็จะไม่ลดด้วย จากเหตุหลายปัจจัยที่ประกอบกันที่แจ้งไว้ตั้งแต่ต้น นี่แหละ แม้แต่พี่คิงส์ ได้นำเสนอมาถึงจุดนี้ ก็เชื่อว่าแฟนเพจเอง ก็ยังอึนๆ มึนๆ และไม่สามารถให้ข้อสรุปได้เช่นกัน ว่าเราจะเสื่อในสิ่งที่เฮ็ด หรือเราจะเฮ็ดในสิ่งที่เสื่อ หรือช่วยตอบพี่คิงส์ใต้โพสได้มั๊ยว่า แฟนเพจคิงคิดว่า ตั๊ก คือแบบไหนกันแน่ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 849 มุมมอง 1 รีวิว
  • ข้าคือหมูเด้งทองคำ
    ข้าคือหมูเด้งทองคำ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • ##แนวนึ้แพร่หลายขึ้นทุกวัน# #กับดักคนโลภ#
    🎃 พูดให้เข้าใจว่าเป็น พระแท้ และเป็นเนื้อทองคำ แต่ไม่ใช้คำพูดว่าทองคำ ..และปิดท้ายด้วย กระดาษข้อความไม่รับประกัน..
    ...หมดนี่ เป็นล้าน...!! ขาย 7-8 พัน แย่งกันปิดพรึบ.....
    ...อย่างที่เขียนบ่อยๆ มันต้องมีองค์ประกอบ 2 ข้อหลักๆ ที่จะดำเนินคดีฉัอโกงได้ และแน่นหนา คือ ขายในราคาของแท้ และมีการรับประกันชัดเจน ...
    ...ซึ่งคนพวกนี้ก็รู้ช่องว่างนี้..
    🪵 เพจแบบนี้มีมากมาย แต่มีข้อสังเกตุอยู่อย่างนึง มีทีมงานชุดนึง ผู้หญิงสำเนียง นครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี ...แนวทางมาแนวเดียวกัน มีเรื่องราว มีหน้าม้า มีการจัดฉากถ่ายทำ ครบ.


    ##แนวนึ้แพร่หลายขึ้นทุกวัน# #กับดักคนโลภ# 🎃 พูดให้เข้าใจว่าเป็น พระแท้ และเป็นเนื้อทองคำ แต่ไม่ใช้คำพูดว่าทองคำ ..และปิดท้ายด้วย กระดาษข้อความไม่รับประกัน.. ...หมดนี่ เป็นล้าน...!! ขาย 7-8 พัน แย่งกันปิดพรึบ..... ...อย่างที่เขียนบ่อยๆ มันต้องมีองค์ประกอบ 2 ข้อหลักๆ ที่จะดำเนินคดีฉัอโกงได้ และแน่นหนา คือ ขายในราคาของแท้ และมีการรับประกันชัดเจน ... ...ซึ่งคนพวกนี้ก็รู้ช่องว่างนี้.. 🪵 เพจแบบนี้มีมากมาย แต่มีข้อสังเกตุอยู่อย่างนึง มีทีมงานชุดนึง ผู้หญิงสำเนียง นครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี ...แนวทางมาแนวเดียวกัน มีเรื่องราว มีหน้าม้า มีการจัดฉากถ่ายทำ ครบ.
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..แอปนี้กำลังถูกโจมตีจากเดอะแก๊งท่านลอร์ดมั้ยนะ รู้สึกมีปัญหาแล้ว
    ..จริงๆต้องให้เครดิตรัฐฐะชุดนี้นะ,ถ้าไม่ทำก็ไม่แจกหรอก พอดีคุยเป็นนโยบายแล้วเลยเสียไม่ได้,ดันต่อก็คุกทั้งครม.และคณะบริหารเพราะเรื่องที่แฉกันไว้มันตรึม,แบงค์ชาติยิ่งคัดค้านหัวชนฝา บาทคอยน์อินทนนท์มีทองคำค้ำประกันแต่เหรียญคริปโตฯโทเคนนี้ไร้ที่มา&ขาดทุนมาจากไหนมิรู้จะชุบให้มีราคาในไทยก็ว่า,ค่าคอมฯไป&กลับ6%โน้น,สาระพัดอื่นๆอีก,แอปก็ไม่ปลอดภัยแฮ๊กเกอร์ดักข้อมูลประชาชนสบายๆอีกดูดๆสบายๆก็ว่า,ท่านลอร์ดแม้มอบจะจัดการให้คนไทยรับรู้ความเป็นทาสให้รวดเร็วผ่านตังดิจิดัลนี้เพื่ออนาคตจะครองทาสทั้งโลกได้เบ็ดเสร็จผ่านการควบคุมจากตังดิจิดัลนี้ก็ว่า,เจตนาแรกอาจชั่วและเลว,ถูกบีบให้มาทำดีก็ดีต่อประชาชนล่ะ,เยียวยาตรงจุดเหมาะสม สมเหตุสมผลแล้ว แบงค์ชาติและคนอื่นๆก็เห็นด้วยและอนุมัตหากแจกเป็นเงินสด.
    ..อย่าไปห่วงเลยว่าหนี้สาธารณะหนี้ครัวเรือนหนี้สาระพัดใดๆจะมากมายขนาดไหน สุดท้ายใครปกครองมาบริหารต้องรับผิดชอบเต็มๆมีมั้ยโยนขี้ให้คนบริหารหรือรัฐบาลเก่าที่สร้างหนี้เอาไว้มึงต้องมารับผิดชอบด้วย เพราะห่านี้หนีเข้ากรอบเมฆเลย ลอยตัวด้วยที่สร้างความระยำไว้ต่อเนื่องสะสมมาถึงปัจจุบัน.
    ..โดยหน้าที่คือความรับผิดชอบต้องสร้างรายได้และปกป้องประเทศให้ปลอดภัยจากภัยศัตรูรอบด้านและต่างชาติชั่วเลวรอบโลกที่หมายยึดไทย ปล้นจี้ข่มขืนอิสระภาพเสรีแผ่นดินไทย กดขี่อธิปไตยคนไทย,แบบUNสั่งแผ่นดินไทยต้องรับคนพม่ามาเลี้ยงดูบนแผ่นดินไทยนะนี้คือคำสั่งมันว่า.
    ..คนไทยถ้าสร้างกลุ่มจัดตั้งกองทัพภาคประชาชนจริงจัง ยึดอำนาจแบบพันธมิตรเสื้อเหลืองทำไม่เสด็จน้ำ ไม่เด็ดขาดสิ้นซากในอดีตด้วยกำลังใจคนพร้อมสุดเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงได้อาจยึดคืนบ่อน้ำมันคืนมาทั้งประเทศด้วย ได้คืนทรัพยากรมีค่ามากมายกลับคืนทั้งหมดด้วย ไล่ต่างชาติเลวออกไปได้อย่างสบายอีก,แต่หน้าผิดหวังที่ไม่ทำ ต่อยอดจนสุเทพมาทำยึดอำนาจโดยลุงเสียและเสียของด้วย,ทิ้งท้ายไปอนุมัตสัมปทานอ่าวไทยสองแปลงให้ต่างชาติมาทำปิโตรเลียมอีกโน้น บ่อทองคำก็ให้ทำต่ออีก.,เสียของจริงๆไม่นับรวมผูกขาดเมล็ดพันธุ์ความมั่นคงทางอาหารให้แก่เอกชนนะ ประชาชนไม่ยอม พรบ.นั้นจึงตกไป ,พรบ.500กว่าฉบับยุคยึดอำนาจ ไม่รู้เลยว่าไส้ในมันดีจริงต่ออธิปไตยแผ่นดินไทยมั้ย จนลุงได้รับเลือกตั้งอีกสมัย,จนเช่าที่ดิน เช่าคอนโด99ปีมันสำเร็จแก่ต่าวชาติโน้น.,
    ..แจกตังแค่นี้ถือว่าไม่มากอะไรเลย แสนกว่าล้าน เทียบกับอธิปไตยทางทรัพยากรมีค่าที่ถูกโกง&ปล้นไปโดยการสุมหัวกันทั้งนักการเมืองไทยทั้งข้าราชการไทยที่เลวๆชั่วๆสันดานปกติจริตนิสัยตามDNAโคตรวงศ์ตระกูลสืบสันดานกันมาปกติคงไม่แปลกใจนักว่าชาติไทยเราจะมั่นคงในการทำให้ยากจนมั่นคงดักดานยั่งยืนได้ขนาดนี้.
    ..คนไทยยึดคือบ่อน้ำมันบ่อทองคำได้แค่สองอย่างนี้ก่อน มีพลิกฟื้นฟูสู่ความร่ำรวยทุกๆคนอย่างแน่นอน,อเมริกาอนาคตอาจจ่ายUBIคนอเมริกากว่า100,000ถึง300,000$ต่อเดือนโน้น ถ้าตึกWTCตึกแฝดไม่ถล่มนะคนอเมริกาคุยว่าแบบนี้,ตีเป็นเงินไทยคือ40฿:1$เลยแบบอ่อนค่าไว้ก่อน,ก็4,000,000-12,000,000บาทต่อเดือนเลยนะ,ไทยเราขอแค่UBIที่25,000บาทต่อเดือนเองถือว่าน้อยมาก,อัดโครงการเศรษฐกิจสมถะพอเพียงอีก,พึ่งพาตนเองคู่ศีลธรรมทางจิตวิญญาณโคตรๆเลย,อย่างน้อยมีรายรับเข้าทุกๆเดือนอาวุธพร้อมกระสุนพร้อม ทั้งรุกทั้งรับ&ป้องกันได้สบาย ใครจะซื้อหาปลูก&เลี้ยงอะไรเพื่อปากท้องก่อนเหลือแบ่งปันจนขายสร้างตังเข้าตนเองได้หมด,แต่ปัจจุบันคนไทยไม่มีตังจะซื้ออะไรทำแบบที่ว่าได้ไง,ร้องขอผีบ้าจากรัฐบาลจากนักปกครองที่ขลาดโง่ให้เขามายึดครองแหล่งทำตังตนเองแบบบ่อน้ำมันเอบบ่อทองคำเอยได้อย่างง่ายดายถือว่ากาก&กระจอกมากจนถึงปัจจุบันทำให้โมฆะยังไม่ได้ที่ปล้นเราไปเสมือนได้ฟรีๆเลยก็ว่า,
    ..คนไทยจึงเสมือนว่าถูกทำให้ยากจนจึงไม่ผิดไปจากความจริง,รับเศษตังเศษเงินแบบนี้ ซึ่งทุกๆคนไทยเราสมควรร่ำรวยมั่งคั่งกันทุกๆคนนานแล้ว.
    ..แอปนี้กำลังถูกโจมตีจากเดอะแก๊งท่านลอร์ดมั้ยนะ รู้สึกมีปัญหาแล้ว ..จริงๆต้องให้เครดิตรัฐฐะชุดนี้นะ,ถ้าไม่ทำก็ไม่แจกหรอก พอดีคุยเป็นนโยบายแล้วเลยเสียไม่ได้,ดันต่อก็คุกทั้งครม.และคณะบริหารเพราะเรื่องที่แฉกันไว้มันตรึม,แบงค์ชาติยิ่งคัดค้านหัวชนฝา บาทคอยน์อินทนนท์มีทองคำค้ำประกันแต่เหรียญคริปโตฯโทเคนนี้ไร้ที่มา&ขาดทุนมาจากไหนมิรู้จะชุบให้มีราคาในไทยก็ว่า,ค่าคอมฯไป&กลับ6%โน้น,สาระพัดอื่นๆอีก,แอปก็ไม่ปลอดภัยแฮ๊กเกอร์ดักข้อมูลประชาชนสบายๆอีกดูดๆสบายๆก็ว่า,ท่านลอร์ดแม้มอบจะจัดการให้คนไทยรับรู้ความเป็นทาสให้รวดเร็วผ่านตังดิจิดัลนี้เพื่ออนาคตจะครองทาสทั้งโลกได้เบ็ดเสร็จผ่านการควบคุมจากตังดิจิดัลนี้ก็ว่า,เจตนาแรกอาจชั่วและเลว,ถูกบีบให้มาทำดีก็ดีต่อประชาชนล่ะ,เยียวยาตรงจุดเหมาะสม สมเหตุสมผลแล้ว แบงค์ชาติและคนอื่นๆก็เห็นด้วยและอนุมัตหากแจกเป็นเงินสด. ..อย่าไปห่วงเลยว่าหนี้สาธารณะหนี้ครัวเรือนหนี้สาระพัดใดๆจะมากมายขนาดไหน สุดท้ายใครปกครองมาบริหารต้องรับผิดชอบเต็มๆมีมั้ยโยนขี้ให้คนบริหารหรือรัฐบาลเก่าที่สร้างหนี้เอาไว้มึงต้องมารับผิดชอบด้วย เพราะห่านี้หนีเข้ากรอบเมฆเลย ลอยตัวด้วยที่สร้างความระยำไว้ต่อเนื่องสะสมมาถึงปัจจุบัน. ..โดยหน้าที่คือความรับผิดชอบต้องสร้างรายได้และปกป้องประเทศให้ปลอดภัยจากภัยศัตรูรอบด้านและต่างชาติชั่วเลวรอบโลกที่หมายยึดไทย ปล้นจี้ข่มขืนอิสระภาพเสรีแผ่นดินไทย กดขี่อธิปไตยคนไทย,แบบUNสั่งแผ่นดินไทยต้องรับคนพม่ามาเลี้ยงดูบนแผ่นดินไทยนะนี้คือคำสั่งมันว่า. ..คนไทยถ้าสร้างกลุ่มจัดตั้งกองทัพภาคประชาชนจริงจัง ยึดอำนาจแบบพันธมิตรเสื้อเหลืองทำไม่เสด็จน้ำ ไม่เด็ดขาดสิ้นซากในอดีตด้วยกำลังใจคนพร้อมสุดเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงได้อาจยึดคืนบ่อน้ำมันคืนมาทั้งประเทศด้วย ได้คืนทรัพยากรมีค่ามากมายกลับคืนทั้งหมดด้วย ไล่ต่างชาติเลวออกไปได้อย่างสบายอีก,แต่หน้าผิดหวังที่ไม่ทำ ต่อยอดจนสุเทพมาทำยึดอำนาจโดยลุงเสียและเสียของด้วย,ทิ้งท้ายไปอนุมัตสัมปทานอ่าวไทยสองแปลงให้ต่างชาติมาทำปิโตรเลียมอีกโน้น บ่อทองคำก็ให้ทำต่ออีก.,เสียของจริงๆไม่นับรวมผูกขาดเมล็ดพันธุ์ความมั่นคงทางอาหารให้แก่เอกชนนะ ประชาชนไม่ยอม พรบ.นั้นจึงตกไป ,พรบ.500กว่าฉบับยุคยึดอำนาจ ไม่รู้เลยว่าไส้ในมันดีจริงต่ออธิปไตยแผ่นดินไทยมั้ย จนลุงได้รับเลือกตั้งอีกสมัย,จนเช่าที่ดิน เช่าคอนโด99ปีมันสำเร็จแก่ต่าวชาติโน้น., ..แจกตังแค่นี้ถือว่าไม่มากอะไรเลย แสนกว่าล้าน เทียบกับอธิปไตยทางทรัพยากรมีค่าที่ถูกโกง&ปล้นไปโดยการสุมหัวกันทั้งนักการเมืองไทยทั้งข้าราชการไทยที่เลวๆชั่วๆสันดานปกติจริตนิสัยตามDNAโคตรวงศ์ตระกูลสืบสันดานกันมาปกติคงไม่แปลกใจนักว่าชาติไทยเราจะมั่นคงในการทำให้ยากจนมั่นคงดักดานยั่งยืนได้ขนาดนี้. ..คนไทยยึดคือบ่อน้ำมันบ่อทองคำได้แค่สองอย่างนี้ก่อน มีพลิกฟื้นฟูสู่ความร่ำรวยทุกๆคนอย่างแน่นอน,อเมริกาอนาคตอาจจ่ายUBIคนอเมริกากว่า100,000ถึง300,000$ต่อเดือนโน้น ถ้าตึกWTCตึกแฝดไม่ถล่มนะคนอเมริกาคุยว่าแบบนี้,ตีเป็นเงินไทยคือ40฿:1$เลยแบบอ่อนค่าไว้ก่อน,ก็4,000,000-12,000,000บาทต่อเดือนเลยนะ,ไทยเราขอแค่UBIที่25,000บาทต่อเดือนเองถือว่าน้อยมาก,อัดโครงการเศรษฐกิจสมถะพอเพียงอีก,พึ่งพาตนเองคู่ศีลธรรมทางจิตวิญญาณโคตรๆเลย,อย่างน้อยมีรายรับเข้าทุกๆเดือนอาวุธพร้อมกระสุนพร้อม ทั้งรุกทั้งรับ&ป้องกันได้สบาย ใครจะซื้อหาปลูก&เลี้ยงอะไรเพื่อปากท้องก่อนเหลือแบ่งปันจนขายสร้างตังเข้าตนเองได้หมด,แต่ปัจจุบันคนไทยไม่มีตังจะซื้ออะไรทำแบบที่ว่าได้ไง,ร้องขอผีบ้าจากรัฐบาลจากนักปกครองที่ขลาดโง่ให้เขามายึดครองแหล่งทำตังตนเองแบบบ่อน้ำมันเอบบ่อทองคำเอยได้อย่างง่ายดายถือว่ากาก&กระจอกมากจนถึงปัจจุบันทำให้โมฆะยังไม่ได้ที่ปล้นเราไปเสมือนได้ฟรีๆเลยก็ว่า, ..คนไทยจึงเสมือนว่าถูกทำให้ยากจนจึงไม่ผิดไปจากความจริง,รับเศษตังเศษเงินแบบนี้ ซึ่งทุกๆคนไทยเราสมควรร่ำรวยมั่งคั่งกันทุกๆคนนานแล้ว.
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 295 มุมมอง 113 0 รีวิว
  • ..ผลพิสูจน์%ทองออกมาแล้ว.
    ..คนทั่วไป ส่วนใหญ่&เข้าใจง่าย ไม่เล่นวลีคำหรือเลี่ยงบาลีวิธีสร้างคำแบบนักกฎหมายชิงชัยหมายเอาชนะความกัน,จะรับรู้ตรงกันว่า ถ้าไม่ตรงปก ตรงมาตราฐาน ไม่ถึงขั้นถึงเกณฑ์จะมีเนื้อทองจริงก็ตาม ถือว่านั้นคือทองปลอมใช่หรือไม่ในความเข้าใจคนไทบ้านๆเราเข้าใจ,ตามเกณฑ์ก็ขายคืนได้เต็มราคานั้นคือสมมุติตกลงกันไว้ว่านี้คือทองคำจริงผ่านเกณฑ์ยอมรับได้ ว่าจริง ทองจริง,แต่ซื้อเต็มราคาเท่าราคาทองคำจริงที่ว่า แล้วจะเอาไปขายคืนหรือขายต่อจะร้านรับซื้อทองทั่วไทยที่ไหนๆก็ตามกลับบอกว่าได้ราคาน้อยกว่าที่ซื้อมาหรือไม่รับซื้อเลย นี้เขาเรียกว่าทองปลอมทองเก๊ใช่หรือไม่.
    ..ผลพิสูจน์%ทองออกมาแล้ว. ..คนทั่วไป ส่วนใหญ่&เข้าใจง่าย ไม่เล่นวลีคำหรือเลี่ยงบาลีวิธีสร้างคำแบบนักกฎหมายชิงชัยหมายเอาชนะความกัน,จะรับรู้ตรงกันว่า ถ้าไม่ตรงปก ตรงมาตราฐาน ไม่ถึงขั้นถึงเกณฑ์จะมีเนื้อทองจริงก็ตาม ถือว่านั้นคือทองปลอมใช่หรือไม่ในความเข้าใจคนไทบ้านๆเราเข้าใจ,ตามเกณฑ์ก็ขายคืนได้เต็มราคานั้นคือสมมุติตกลงกันไว้ว่านี้คือทองคำจริงผ่านเกณฑ์ยอมรับได้ ว่าจริง ทองจริง,แต่ซื้อเต็มราคาเท่าราคาทองคำจริงที่ว่า แล้วจะเอาไปขายคืนหรือขายต่อจะร้านรับซื้อทองทั่วไทยที่ไหนๆก็ตามกลับบอกว่าได้ราคาน้อยกว่าที่ซื้อมาหรือไม่รับซื้อเลย นี้เขาเรียกว่าทองปลอมทองเก๊ใช่หรือไม่.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 77 0 รีวิว
  • 27-09-67/01 : หมี CNN / "ROCK N ROLL" EP.86 ชื่อตอน "FIRST COME FIRST SERVE ไอ้สัส!" มาก่อนตายห่าก่อน เสี้ยนหนัก จัดให้ อย่าถอยสิ ดีออก? เพิ่งจะเริ่มปารี้ตี้กันอย่างเมามันส์ อียิวหางโผล่ สันดานสตรอเบอแหลไม่เลิก ดูทรงถูกลงแขกยับ ชิงเปิดโต๊ะเจรจา เชิญมรึงไปเจรจากับยมบาลก่อนก็แล้วกัน กูใส่อย่างเดียว! ยิวไม่ตายโลกไม่สงบ โลกตกผลึกแล้ว! ฮาแตก! โลกการละคร "หมูเด้ง" แซงหน้าโพลเลือกตั้งอีทรัมปป์กะอีกมลาบัดซบ ซะงั้น ควายเบื่อดูเหี้ย ดูฮิปโป มันส์กว่าสิน่ะ? เชิญมรึงเล่นละครหลอกควายไปเหอะ แผนเจรจาหยุดยิง มีแต่ควายที่เชื่อ เพราะโลกอาหรับ มุสลิม เค้าไม่มารอมรึงเห่าดอกน่ะ ฆ่าอย่างเดียว ถล่มไม่หยุด ใส่ยับ จนลืมหายใจ สู้กับอียิวเหี้ยสัดนรก ไม่มีคำว่า "พัก" ฆ่ามันจนกว่าจะหมดโลกเท่านั้น อิสราเอล สหรัฐ อังกฤษ NATO มรึงไม่ได้อยู่ในฐานะผู้ต่อรอง มรึงมันแพ้ยับ ไอ้ขี้แพ้ ไอ้กระจอก ไม่มีสิทธิ์ ตั้งธงเปิดโต๊ะเจรจา สงครามจะหยุดหรือไม่ จะหยุดยิงหรือไม่ "อำนาจอยู่ที่ขั้วใหม่หมดทั้งสิ้น" ควายยังโง่ดักดานไม่เลิก! อียิวช็อค! ขั้วใหม่รู้ทัน ดักทางเกลี้ยง กดเหี้ยก่อสงครามเฉพาะจุด คุมพื้นที่ เล่นแค่ระดับภูมิภาค แผนแตกยุโรป แตกตะวันออกลาง กลายเป็นแตกเยรูซาเล็ม แตกยูเครนแทน เหตุเพราะกำลังพลในพื้นที่มีไม่พอ อาวุธไม่ถึง กระแสไม่ได้ โลกเอือมเหี้ยสุดขีด หากเป็นเช่นนี้ต่อไป อเมริกาต้องขายแผ่นดินชดใช้หนี้ อังกฤษต้องแตก เพราะอีสก็อต กับอีไอร์เหนือ ไม่อยู่แบกหนี้ที่มรึงก่อ ส่วนเยรูซาเล็มกลายเป็นสุสานยิวพันธุ์สัดนรก สงครามนุ๊ก ใช้ไม่ได้จริง ได้แต่ขู่ แต่อีกฝ่ายเค้าล้ำหน้าไปไกลแล้ว ยอมรับสภาพไม่ได้ ก็ยื้อกันไปแบบนี้ เข้าทางตรีนขั้วใหม่ เพราะ "เวลา" คืออาวุธชั้นดีที่จะเปลี่ยนโลก ดูภาพให้ชัด ปูติน สีจิ้นผิง ใช้เวลา ถอดหน้ากาก เผยธาตุแท้เหี้ยจนหมดเปลือก จนโลกเทเหี้ยย้ายขั้วกันหมด ศรีธนญชัย 2024 ก็เช่นกัน สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ มันคือภาพเดียวกับที่โลกประสบอยู่ นี่คือการแก้เกมส์ที่ไม่ต้องเอาชีวิตคนทั้งโลกมาเป็นตัวประกัน ขั้วใหม่รอแค่ให้เหี้ยหมดหนทาง บีบให้ใช้นุ๊กก่อน เพื่อที่จะปิดบัญชียาวไป สงครามเป็นแค่เครื่องมือใช้พิสูจน์ผู้ชนะเท่านั้น แต่ผู้ชนะที่แท้จริงคือโลกตามใครต่างหาก? ดังนั้น โลกการละครที่ดูกันอยู่ อียิวเหี้ยได้ใจ อีส้มเน่า อีแดง เหี้ยได้ควาย มันก็แค่ภาพมายา บทถูกล้างบางมันจะมาเร็วกว่าที่คิด จบพศ.นี้ชัวร์! เพราะเหี้ยมันไม่เหลืออะไรจะสู้ได้อีกแล้ว หมดสภาพของจริง สุดท้าย แตกอเมริกา แตกอังกฤษ แตกเยรูซาเล็ม โลกก็กลับคืนสู่ภาวะปกติทันที แล้วสร้างโลกใหม่ขึ้นมา จับตาดูเครือข่ายโซเชี่ยลโลกที่เหี้ย C ควบคุมให้ดีดี ตอนนี้ แสงทำงานได้ผล สื่อเหี้ยตายราบคาบ โซเชี่ยลที่ปั่นเจอตอกหน้าหงาย เพราะผู้คนเริ่มรู้ทัน ส่วนควายก็ยังเป็นควายเหมือนเดิม เปลี่ยนโลกใหม่ ควายก็ยังไม่ตื่น เพราะมัน BORN TO BE กรรมเก่ามันเยอะ ผีบังตา อาร์คติคเริ่มขยับแล้ว ดูทรง ปูตินต้องการชวนเหี้ยกระจายกำลังไม่สิ้นสุด เมื่อกองกำลังมรึงถูกหั่น ถูกแบ่ง ต้องไปทำหน้าที่หลายพื้นที่ มันยังจะเหลือความแข็งแกร่งต่อมุย? นี่แหละ ที่เค้าเรียกว่า "สอนมวย" สหรัฐ อังกฤษ อิสราเอล ถังแตก หมดสภาพ เพราะดอลล่าร์ไม่ทำงาน เดินเกมส์ฆ่า ก็แพ้ยับ เดินเกมส์มั่ว ก็ถูกตบหน้าหงาย คำถามคือ "จุดจบมันอยู่ตรงไหน?" มันเริ่มไปแล้ว ตั้งแต่ BRICS ก่อตั้งสำเร็จ และโลกเทหมดหน้าตัก BRICS ฆ่าดอลล่าร์ ในขณะที่กองทัพรัสเซีย อิหร่าน จีน และชาติพันธมิตรอาหรับ มุสลิม ฆ่าตัวเหี้ย ตัวเป็นๆ เกลื่อนโลก เงินหมด ก็คือหมาไงจ๊ะ? ฝ่ายการเมืองเลบานอนหลบไป ดอกนี้ เฮซบอเลาะห์เข้าควบคุมประเทศเบ็ดเสร็จ ประกาศสงครามโดยตรงกับอิสราเอล ประกาศภาวะฉุกเฉิน ประกาศพร้อมรบเต็มอัตราศึก โดยมีขั้วใหม่ให้ตราประทับ การันตี ชนะชัวร์! รูปแบบการศึกยุคใหม่ ทำให้เหี้ยไปไม่เป็น ยังชักปินยิงแบบหนังคาวบอยอยู่ ขณะที่ขั้วใหม่เน้นส่งยมฑูตบนฟ้ามาเยี่ยม มรึงจะไปชนะเค้าได้ยังไง? ภาพรวมตอนนี้ กองกำลังนับแสนเข้าทางเลบานอน แล้วออกไปไล่ฆ่าอียิวกับขี้ข้า ยึดพื้นที่ ทะลวงด่านเพื่อเชื่อมต่อกับ 3 ฮอ เชื่อมได้เมื่อไหร่คือ "GAME OVER" อียิวถึงได้สู้ตาย แต่ฝีมือมันห่างชั้นกันมากจนเกินไป อาวุธเทียบไม่ติด กระจอกเกินห้ามใจ ผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่เห็น โลกเค้าลงแขกมรึงแล้ว จะเหลือเหรอ? ทำไมอีทรัมปป์ ถึงได้กล้าประกาศล้างเผ่าพันธุ์ยิว คำตอบคือ "หากจะขึ้นเป็น KING แล้วยิวยังอยู่ มรึงจะได้แตกแผ่นดินมั้ยล่ะ?" ตอนนี้ ชื่ออียิวเหี้ยไซออนนิสต์ขายดี เป็นเทน้ำ เทท่า แค่เอ่ยชื่อมา "พร้อมตายโหงได้ทุกเมื่อ" มีแต่คนอยากจะลงแขกมันกันทั้งโลก อีทรัมปป์มันหัวไว ถามว่ามันกลับใจเหรอ? นายทุนเหี้ยสามานย์มีเหรอจะกลับใจ? กูจะเป็น KING จบน่ะ? แสงทำงาน จี้ปมในใจให้เหี้ยกำราบเหี้ย คนดีดีไม่ต้องเปลืองแรงขยี้ อเมริกาไม่แตก อีทรัมปป์ก็ตายห่าชัวร์! โดนยัดข้อหาไป 200 กว่าคดี ต่างกรรม ต่างวาระ มรึงคิดว่าหากมันจะขึ้นเป็นผู้นำ สิ่งแรกที่มันต้องจัดการก่อนคืออะไรล่ะ? ดึงอำนาจเข้าหาตัวเอง เปลี่ยนกฎหมาย ใช้กฎกูแทนไงล่ะ? อเมริกาถูกกำหนดให้แตก โดยอีทรัมปป์นี่แหละ สวรรค์เขียนบทมาเช่นนั้น! ภายในอีทรัมปป์จัดการ ภายนอก ขั้วใหม่จัดอยู่ ชดใช้หนี้ ใครจะจ่าย เอาแผ่นดินไปล่ะกัน จบน่ะ?

    ปล.คุณยายหมุด ออกมาตบไอ้อีตระกละทั้งหลาย หน้าหงาย เงินแผ่นดิน ไม่ใช่เงินมรึง อยากจะแดร๊กกันตัวสั่น 10000 ได้ไป ชีวิตสั้นลงไปอีก 10 ปี ยมบาลจองคิวรอ สะท้อนภาพชัด คนกับควาย หมาหิว กับหมาเฝ้าบ้าน มันคนละสเปซี่จริงหนอ? อเมริกา ยุโรป จะอยู่ต่อยังไง? เมื่อมรึงจำเป็นต้องใช้พลังงาน อาหาร แหล่งแร่ สินค้าอุปโภค บริโภค อะไรที่มรึงผลิตเองไม่ได้ ต้องสั่งนำเข้า แต่เค้าไม่รับดอลล่าร์ ยูโร มรึงต้องจ่ายเป็นหยวน รูเบิล แทน นั่นคือสิ่งที่ทำให้ภาคการเงิน การธนาคาร ตายสนิท เพราะเงินที่พวกมรึงเอามาใช้ล่วงหน้ามันถูกมัดตราสังข์เอาไว้ด้วยหนี้ก้อนมหาศาล ย้อนมาดูคลังไทยกันบ้าง เงินบาทแข็งไม่ใช่เรื่องใหม่ ไม่ใช่เรื่องแปลก มันควรจะแข็งโป๊กมานานแล้ว เพราะความเป็นจริง คลังไทยมีเงินเก็บมหาศาล ทองคำล้นทะลักคลัง แล้วมรึงจะเอาไปเปรียบเทียบกับคลังเน่า ที่ไม่เหลือแม้แต่เศษกรวดเนี่ยน่ะ ใครกำหนดล่ะ 1 USD=35THB กติกาเหี้ยไงล่ะ แค่มรึงตื่น แล้วดูข้อเท็จจริง คลังไทยรวยกว่าคลังอเมริกาเป็น 100 เท่า ความเป็นจริงที่ถูกต้องมันควรจะเป็น 1 THB = 35USD หมายังรู้? แต่นักวิชาเกิน นักเศรษฐกิจเกิน มันแกล้งโง่ไม่รู้ซะงั้น กลัวมันฆ่าเหรอจ๊ะ? ปูติน สีจิ้นผิง ออกตัวอุ้มซะขนาดนี้ มรึงยังต้องกลัวไอ้อีหน้าไหนอีกล่ะ? กองทัพไทยไม่ใช่ขี้ตรีน ธรรมดาซะที่ไหน? หากเอาจริง เหี้ย C ในไทย ตายห่าไปหมดแล้ว แต่เพราะนี่คือ AMAZING THAILAND ศรีธนญชัย 2024 เล่นบทมีแต่ได้ ไม่มีเสียไงล่ะ จะไปงัดกับเหี้ย ต้องดูก่อนว่ามันล้มชัวร์แล้ว มรึงจะได้เห็นยามที่เหี้ยสิ้นเนื้อประดาตัว หมายังไม่แล? ฮาแตก! นี่ไงปชต.ควาย ควายชอบ ฉลองเงิน 10000 เมาปลิ้น ตกคลองเกือบสิ้นชื่อ มรึงเข้าใจยัง? เงิน 10000 อยู่กับคนใช้เป็น จะสร้าง 100000 เงิน 10000 อยู่กับควาย จะเหลือ -10000 สติไม่มี จะเอาปัญญาที่ไหนคิด? กูเห็นเต็ม 2 ตา ในซอยบ้านกูเนี่ย แม่งนั่งทะเลาะกันเองในครอบครัว คนนึงได้ คนนึงไม่ได้ คนนึงได้ก่อน อีกคนได้ทีหลัง ตีกันยับ ด่ากันเละ มรึงคอยดูเหอะ กูพูดไม่มีผิดดอก เมื่อวังวนควาย มันเอาแต่ได้ มันเห็นแก่ตัว ไม่พ้นเรื่องกิเลส ตัณหา ราคะ สนองตัวมัน ได้วันนี้ ก็หมดวันนี้ ไหนล่ะ ต่อยอด กระตุ้นเศรษฐกิจ มรึงรู้ กูก็รู้ ว่าแผนนี้มันชงมาจากเยรูซาเล็ม เป้าหมายเดียวคือ บั่นทองเสถียรภาพแผ่นดินไทย อ้าว..แล้วทหารไม่รู้เหรอ? รู้ยิ่งกว่ารู้ เค้าคำนวณ ควบคุม และมองเกมส์ตลอด กูไบ้ไปแล้วน่ะ คลังไทยมีเงินมหาศาล มากกว่าที่มรึงคิดหลาย 100 เท่า การที่จะทำให้ควายทั้งแผ่นดินตาย และตื่นขึ้นมาได้นั้น มันต้องโดนกับตัวเอง อย่ากังวล เค้ามีตัวเลขรับได้ ทั้งหมดเพื่อแลกกับดอกเดียว "เชือดเหี้ยทั้งแผ่นดิน" ยึดทรัพย์เหี้ยทั้งแผ่นดิน ล้างบางการเมืองเหี้ยทั้งแผ่นดิน เงินแสนล้าน เค้ามีไว้พร้อมแล้ว แต่ใครบอกล่ะว่า จะให้มรึงผลาญง่ายๆ ไม่อยากจะชี้โพรงให้กระรอก เงินที่แจกคือเงินภาษีประชาชน คนเซ็นต์ คนรับผิดชอบ คนอนุมัติ คนเสนอโครงการ โดนหมด ทั้งแพ่ง อาญา มรึงลองนับดูสิ ทั้งพรรคมีกี่ตัว เอามาหาร 2 แสนล้าน ขาดเหลือเท่าไหร่ ตามเก็บกับอีเหลี่ยมเหี้ย ส่วนเงินชดใช้ต้องคืน ดอกนี้ วังจะเข้ามาแบกเอง ประชากรควายมันไม่มีปัญญาเอาเงินมาคืนดอก แค่จะแดร๊กให้รอดไปวันวันยังยาก เรื่องนี้ ทหารเค้าอ่านขาดหมดนานแล้ว ระดับเกจิ กุนซือแผ่นดิน คำว่า "เสียหาย" มันมีหลายระดับ พอรับได้ พอทน ไม่กระทบกระเทือนแผ่นดินระยะยาว คนชนชั้นกลาง ปัญญาชนทั้งหลาย มรึงแบกหนี้แผ่นดินนี้มาช้านานแล้ว เพราะเป็นกลุ่มกำลังสร้างเงินช่วยแผ่นดินจริง มรึงจะได้บุญกุศลคืนแน่ กูการันตี ทำดีย่อมได้ดี ย่อมเหี้ยย่อมต้องได้เหี้ย สัจธรรมตลอดกาล INFINITY+ เชื่อมั่นในหลวงก็พอ ปัญญากูมีเท่านี้ ยังรู้ แล้วเบื้องบนเค้าวางหมากหลายชั้นกว่านั้นเยอะ มรึงคิดว่า "จะเทวดาซะแค่ไหน" ไม่มีดอก เสียเปรียบ แค่ทุกอย่างอยู่ในสายพระเนตรของพ่อท่าน ก็อุ่นใจแล้ว เชื่อกูสิ! กูพูดหลายครั้งแล้วว่า แผ่นดินนี้ คือแผ่นดินทอง มีผู้ดูแล มีคนกำกับ แถมยังมีเทวดา นางฟ้า สิงสถิตอยู่ จะกลัวเหี้ยอะไรอีก? แสงอยู่เต็มพื้นที่ สว่างไสวด้วยพระบารมี!

    หมี CNN(เกมส์สงคราม อย่าดูปลีกย่อย ให้ดูภาพใหญ่ ภาพหลัก ภาพรวม แล้วจะไม่หลงทาง เหี้ยมันสร้างประเด็นได้ทุกวันอยู่แล้ว งานถนัดมัน สงครามไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ขั้วใหม่เค้าพร้อมจริง ถึงกล้าสั่งลุย เพราะประเมินแล้วว่า "ชนะชัวร์ 100%" ระดับปูติน สีจิ้นผิง ใช่เพื่อนเล่นมรึงเหรอ? ไทยและอาเซียน รวมทั้งโลก ก็จะชนะชัวร์เช่นกัน สภาโลกมาแน่ กองทัพโลกโผล่แน่ ไปยิงกันในอวกาศต่อเลย กูชอบ กูจะไปหาเพื่อน E.T นอกโลกซะหน่อย)
    27 กย. 67
    11.30 น.

    https://linevoom.line.me/post/1172741109996921670

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ :
    https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    27-09-67/01 : หมี CNN / "ROCK N ROLL" EP.86 ชื่อตอน "FIRST COME FIRST SERVE ไอ้สัส!" มาก่อนตายห่าก่อน เสี้ยนหนัก จัดให้ อย่าถอยสิ ดีออก? เพิ่งจะเริ่มปารี้ตี้กันอย่างเมามันส์ อียิวหางโผล่ สันดานสตรอเบอแหลไม่เลิก ดูทรงถูกลงแขกยับ ชิงเปิดโต๊ะเจรจา เชิญมรึงไปเจรจากับยมบาลก่อนก็แล้วกัน กูใส่อย่างเดียว! ยิวไม่ตายโลกไม่สงบ โลกตกผลึกแล้ว! ฮาแตก! โลกการละคร "หมูเด้ง" แซงหน้าโพลเลือกตั้งอีทรัมปป์กะอีกมลาบัดซบ ซะงั้น ควายเบื่อดูเหี้ย ดูฮิปโป มันส์กว่าสิน่ะ? เชิญมรึงเล่นละครหลอกควายไปเหอะ แผนเจรจาหยุดยิง มีแต่ควายที่เชื่อ เพราะโลกอาหรับ มุสลิม เค้าไม่มารอมรึงเห่าดอกน่ะ ฆ่าอย่างเดียว ถล่มไม่หยุด ใส่ยับ จนลืมหายใจ สู้กับอียิวเหี้ยสัดนรก ไม่มีคำว่า "พัก" ฆ่ามันจนกว่าจะหมดโลกเท่านั้น อิสราเอล สหรัฐ อังกฤษ NATO มรึงไม่ได้อยู่ในฐานะผู้ต่อรอง มรึงมันแพ้ยับ ไอ้ขี้แพ้ ไอ้กระจอก ไม่มีสิทธิ์ ตั้งธงเปิดโต๊ะเจรจา สงครามจะหยุดหรือไม่ จะหยุดยิงหรือไม่ "อำนาจอยู่ที่ขั้วใหม่หมดทั้งสิ้น" ควายยังโง่ดักดานไม่เลิก! อียิวช็อค! ขั้วใหม่รู้ทัน ดักทางเกลี้ยง กดเหี้ยก่อสงครามเฉพาะจุด คุมพื้นที่ เล่นแค่ระดับภูมิภาค แผนแตกยุโรป แตกตะวันออกลาง กลายเป็นแตกเยรูซาเล็ม แตกยูเครนแทน เหตุเพราะกำลังพลในพื้นที่มีไม่พอ อาวุธไม่ถึง กระแสไม่ได้ โลกเอือมเหี้ยสุดขีด หากเป็นเช่นนี้ต่อไป อเมริกาต้องขายแผ่นดินชดใช้หนี้ อังกฤษต้องแตก เพราะอีสก็อต กับอีไอร์เหนือ ไม่อยู่แบกหนี้ที่มรึงก่อ ส่วนเยรูซาเล็มกลายเป็นสุสานยิวพันธุ์สัดนรก สงครามนุ๊ก ใช้ไม่ได้จริง ได้แต่ขู่ แต่อีกฝ่ายเค้าล้ำหน้าไปไกลแล้ว ยอมรับสภาพไม่ได้ ก็ยื้อกันไปแบบนี้ เข้าทางตรีนขั้วใหม่ เพราะ "เวลา" คืออาวุธชั้นดีที่จะเปลี่ยนโลก ดูภาพให้ชัด ปูติน สีจิ้นผิง ใช้เวลา ถอดหน้ากาก เผยธาตุแท้เหี้ยจนหมดเปลือก จนโลกเทเหี้ยย้ายขั้วกันหมด ศรีธนญชัย 2024 ก็เช่นกัน สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ มันคือภาพเดียวกับที่โลกประสบอยู่ นี่คือการแก้เกมส์ที่ไม่ต้องเอาชีวิตคนทั้งโลกมาเป็นตัวประกัน ขั้วใหม่รอแค่ให้เหี้ยหมดหนทาง บีบให้ใช้นุ๊กก่อน เพื่อที่จะปิดบัญชียาวไป สงครามเป็นแค่เครื่องมือใช้พิสูจน์ผู้ชนะเท่านั้น แต่ผู้ชนะที่แท้จริงคือโลกตามใครต่างหาก? ดังนั้น โลกการละครที่ดูกันอยู่ อียิวเหี้ยได้ใจ อีส้มเน่า อีแดง เหี้ยได้ควาย มันก็แค่ภาพมายา บทถูกล้างบางมันจะมาเร็วกว่าที่คิด จบพศ.นี้ชัวร์! เพราะเหี้ยมันไม่เหลืออะไรจะสู้ได้อีกแล้ว หมดสภาพของจริง สุดท้าย แตกอเมริกา แตกอังกฤษ แตกเยรูซาเล็ม โลกก็กลับคืนสู่ภาวะปกติทันที แล้วสร้างโลกใหม่ขึ้นมา จับตาดูเครือข่ายโซเชี่ยลโลกที่เหี้ย C ควบคุมให้ดีดี ตอนนี้ แสงทำงานได้ผล สื่อเหี้ยตายราบคาบ โซเชี่ยลที่ปั่นเจอตอกหน้าหงาย เพราะผู้คนเริ่มรู้ทัน ส่วนควายก็ยังเป็นควายเหมือนเดิม เปลี่ยนโลกใหม่ ควายก็ยังไม่ตื่น เพราะมัน BORN TO BE กรรมเก่ามันเยอะ ผีบังตา อาร์คติคเริ่มขยับแล้ว ดูทรง ปูตินต้องการชวนเหี้ยกระจายกำลังไม่สิ้นสุด เมื่อกองกำลังมรึงถูกหั่น ถูกแบ่ง ต้องไปทำหน้าที่หลายพื้นที่ มันยังจะเหลือความแข็งแกร่งต่อมุย? นี่แหละ ที่เค้าเรียกว่า "สอนมวย" สหรัฐ อังกฤษ อิสราเอล ถังแตก หมดสภาพ เพราะดอลล่าร์ไม่ทำงาน เดินเกมส์ฆ่า ก็แพ้ยับ เดินเกมส์มั่ว ก็ถูกตบหน้าหงาย คำถามคือ "จุดจบมันอยู่ตรงไหน?" มันเริ่มไปแล้ว ตั้งแต่ BRICS ก่อตั้งสำเร็จ และโลกเทหมดหน้าตัก BRICS ฆ่าดอลล่าร์ ในขณะที่กองทัพรัสเซีย อิหร่าน จีน และชาติพันธมิตรอาหรับ มุสลิม ฆ่าตัวเหี้ย ตัวเป็นๆ เกลื่อนโลก เงินหมด ก็คือหมาไงจ๊ะ? ฝ่ายการเมืองเลบานอนหลบไป ดอกนี้ เฮซบอเลาะห์เข้าควบคุมประเทศเบ็ดเสร็จ ประกาศสงครามโดยตรงกับอิสราเอล ประกาศภาวะฉุกเฉิน ประกาศพร้อมรบเต็มอัตราศึก โดยมีขั้วใหม่ให้ตราประทับ การันตี ชนะชัวร์! รูปแบบการศึกยุคใหม่ ทำให้เหี้ยไปไม่เป็น ยังชักปินยิงแบบหนังคาวบอยอยู่ ขณะที่ขั้วใหม่เน้นส่งยมฑูตบนฟ้ามาเยี่ยม มรึงจะไปชนะเค้าได้ยังไง? ภาพรวมตอนนี้ กองกำลังนับแสนเข้าทางเลบานอน แล้วออกไปไล่ฆ่าอียิวกับขี้ข้า ยึดพื้นที่ ทะลวงด่านเพื่อเชื่อมต่อกับ 3 ฮอ เชื่อมได้เมื่อไหร่คือ "GAME OVER" อียิวถึงได้สู้ตาย แต่ฝีมือมันห่างชั้นกันมากจนเกินไป อาวุธเทียบไม่ติด กระจอกเกินห้ามใจ ผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่เห็น โลกเค้าลงแขกมรึงแล้ว จะเหลือเหรอ? ทำไมอีทรัมปป์ ถึงได้กล้าประกาศล้างเผ่าพันธุ์ยิว คำตอบคือ "หากจะขึ้นเป็น KING แล้วยิวยังอยู่ มรึงจะได้แตกแผ่นดินมั้ยล่ะ?" ตอนนี้ ชื่ออียิวเหี้ยไซออนนิสต์ขายดี เป็นเทน้ำ เทท่า แค่เอ่ยชื่อมา "พร้อมตายโหงได้ทุกเมื่อ" มีแต่คนอยากจะลงแขกมันกันทั้งโลก อีทรัมปป์มันหัวไว ถามว่ามันกลับใจเหรอ? นายทุนเหี้ยสามานย์มีเหรอจะกลับใจ? กูจะเป็น KING จบน่ะ? แสงทำงาน จี้ปมในใจให้เหี้ยกำราบเหี้ย คนดีดีไม่ต้องเปลืองแรงขยี้ อเมริกาไม่แตก อีทรัมปป์ก็ตายห่าชัวร์! โดนยัดข้อหาไป 200 กว่าคดี ต่างกรรม ต่างวาระ มรึงคิดว่าหากมันจะขึ้นเป็นผู้นำ สิ่งแรกที่มันต้องจัดการก่อนคืออะไรล่ะ? ดึงอำนาจเข้าหาตัวเอง เปลี่ยนกฎหมาย ใช้กฎกูแทนไงล่ะ? อเมริกาถูกกำหนดให้แตก โดยอีทรัมปป์นี่แหละ สวรรค์เขียนบทมาเช่นนั้น! ภายในอีทรัมปป์จัดการ ภายนอก ขั้วใหม่จัดอยู่ ชดใช้หนี้ ใครจะจ่าย เอาแผ่นดินไปล่ะกัน จบน่ะ? ปล.คุณยายหมุด ออกมาตบไอ้อีตระกละทั้งหลาย หน้าหงาย เงินแผ่นดิน ไม่ใช่เงินมรึง อยากจะแดร๊กกันตัวสั่น 10000 ได้ไป ชีวิตสั้นลงไปอีก 10 ปี ยมบาลจองคิวรอ สะท้อนภาพชัด คนกับควาย หมาหิว กับหมาเฝ้าบ้าน มันคนละสเปซี่จริงหนอ? อเมริกา ยุโรป จะอยู่ต่อยังไง? เมื่อมรึงจำเป็นต้องใช้พลังงาน อาหาร แหล่งแร่ สินค้าอุปโภค บริโภค อะไรที่มรึงผลิตเองไม่ได้ ต้องสั่งนำเข้า แต่เค้าไม่รับดอลล่าร์ ยูโร มรึงต้องจ่ายเป็นหยวน รูเบิล แทน นั่นคือสิ่งที่ทำให้ภาคการเงิน การธนาคาร ตายสนิท เพราะเงินที่พวกมรึงเอามาใช้ล่วงหน้ามันถูกมัดตราสังข์เอาไว้ด้วยหนี้ก้อนมหาศาล ย้อนมาดูคลังไทยกันบ้าง เงินบาทแข็งไม่ใช่เรื่องใหม่ ไม่ใช่เรื่องแปลก มันควรจะแข็งโป๊กมานานแล้ว เพราะความเป็นจริง คลังไทยมีเงินเก็บมหาศาล ทองคำล้นทะลักคลัง แล้วมรึงจะเอาไปเปรียบเทียบกับคลังเน่า ที่ไม่เหลือแม้แต่เศษกรวดเนี่ยน่ะ ใครกำหนดล่ะ 1 USD=35THB กติกาเหี้ยไงล่ะ แค่มรึงตื่น แล้วดูข้อเท็จจริง คลังไทยรวยกว่าคลังอเมริกาเป็น 100 เท่า ความเป็นจริงที่ถูกต้องมันควรจะเป็น 1 THB = 35USD หมายังรู้? แต่นักวิชาเกิน นักเศรษฐกิจเกิน มันแกล้งโง่ไม่รู้ซะงั้น กลัวมันฆ่าเหรอจ๊ะ? ปูติน สีจิ้นผิง ออกตัวอุ้มซะขนาดนี้ มรึงยังต้องกลัวไอ้อีหน้าไหนอีกล่ะ? กองทัพไทยไม่ใช่ขี้ตรีน ธรรมดาซะที่ไหน? หากเอาจริง เหี้ย C ในไทย ตายห่าไปหมดแล้ว แต่เพราะนี่คือ AMAZING THAILAND ศรีธนญชัย 2024 เล่นบทมีแต่ได้ ไม่มีเสียไงล่ะ จะไปงัดกับเหี้ย ต้องดูก่อนว่ามันล้มชัวร์แล้ว มรึงจะได้เห็นยามที่เหี้ยสิ้นเนื้อประดาตัว หมายังไม่แล? ฮาแตก! นี่ไงปชต.ควาย ควายชอบ ฉลองเงิน 10000 เมาปลิ้น ตกคลองเกือบสิ้นชื่อ มรึงเข้าใจยัง? เงิน 10000 อยู่กับคนใช้เป็น จะสร้าง 100000 เงิน 10000 อยู่กับควาย จะเหลือ -10000 สติไม่มี จะเอาปัญญาที่ไหนคิด? กูเห็นเต็ม 2 ตา ในซอยบ้านกูเนี่ย แม่งนั่งทะเลาะกันเองในครอบครัว คนนึงได้ คนนึงไม่ได้ คนนึงได้ก่อน อีกคนได้ทีหลัง ตีกันยับ ด่ากันเละ มรึงคอยดูเหอะ กูพูดไม่มีผิดดอก เมื่อวังวนควาย มันเอาแต่ได้ มันเห็นแก่ตัว ไม่พ้นเรื่องกิเลส ตัณหา ราคะ สนองตัวมัน ได้วันนี้ ก็หมดวันนี้ ไหนล่ะ ต่อยอด กระตุ้นเศรษฐกิจ มรึงรู้ กูก็รู้ ว่าแผนนี้มันชงมาจากเยรูซาเล็ม เป้าหมายเดียวคือ บั่นทองเสถียรภาพแผ่นดินไทย อ้าว..แล้วทหารไม่รู้เหรอ? รู้ยิ่งกว่ารู้ เค้าคำนวณ ควบคุม และมองเกมส์ตลอด กูไบ้ไปแล้วน่ะ คลังไทยมีเงินมหาศาล มากกว่าที่มรึงคิดหลาย 100 เท่า การที่จะทำให้ควายทั้งแผ่นดินตาย และตื่นขึ้นมาได้นั้น มันต้องโดนกับตัวเอง อย่ากังวล เค้ามีตัวเลขรับได้ ทั้งหมดเพื่อแลกกับดอกเดียว "เชือดเหี้ยทั้งแผ่นดิน" ยึดทรัพย์เหี้ยทั้งแผ่นดิน ล้างบางการเมืองเหี้ยทั้งแผ่นดิน เงินแสนล้าน เค้ามีไว้พร้อมแล้ว แต่ใครบอกล่ะว่า จะให้มรึงผลาญง่ายๆ ไม่อยากจะชี้โพรงให้กระรอก เงินที่แจกคือเงินภาษีประชาชน คนเซ็นต์ คนรับผิดชอบ คนอนุมัติ คนเสนอโครงการ โดนหมด ทั้งแพ่ง อาญา มรึงลองนับดูสิ ทั้งพรรคมีกี่ตัว เอามาหาร 2 แสนล้าน ขาดเหลือเท่าไหร่ ตามเก็บกับอีเหลี่ยมเหี้ย ส่วนเงินชดใช้ต้องคืน ดอกนี้ วังจะเข้ามาแบกเอง ประชากรควายมันไม่มีปัญญาเอาเงินมาคืนดอก แค่จะแดร๊กให้รอดไปวันวันยังยาก เรื่องนี้ ทหารเค้าอ่านขาดหมดนานแล้ว ระดับเกจิ กุนซือแผ่นดิน คำว่า "เสียหาย" มันมีหลายระดับ พอรับได้ พอทน ไม่กระทบกระเทือนแผ่นดินระยะยาว คนชนชั้นกลาง ปัญญาชนทั้งหลาย มรึงแบกหนี้แผ่นดินนี้มาช้านานแล้ว เพราะเป็นกลุ่มกำลังสร้างเงินช่วยแผ่นดินจริง มรึงจะได้บุญกุศลคืนแน่ กูการันตี ทำดีย่อมได้ดี ย่อมเหี้ยย่อมต้องได้เหี้ย สัจธรรมตลอดกาล INFINITY+ เชื่อมั่นในหลวงก็พอ ปัญญากูมีเท่านี้ ยังรู้ แล้วเบื้องบนเค้าวางหมากหลายชั้นกว่านั้นเยอะ มรึงคิดว่า "จะเทวดาซะแค่ไหน" ไม่มีดอก เสียเปรียบ แค่ทุกอย่างอยู่ในสายพระเนตรของพ่อท่าน ก็อุ่นใจแล้ว เชื่อกูสิ! กูพูดหลายครั้งแล้วว่า แผ่นดินนี้ คือแผ่นดินทอง มีผู้ดูแล มีคนกำกับ แถมยังมีเทวดา นางฟ้า สิงสถิตอยู่ จะกลัวเหี้ยอะไรอีก? แสงอยู่เต็มพื้นที่ สว่างไสวด้วยพระบารมี! หมี CNN(เกมส์สงคราม อย่าดูปลีกย่อย ให้ดูภาพใหญ่ ภาพหลัก ภาพรวม แล้วจะไม่หลงทาง เหี้ยมันสร้างประเด็นได้ทุกวันอยู่แล้ว งานถนัดมัน สงครามไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ขั้วใหม่เค้าพร้อมจริง ถึงกล้าสั่งลุย เพราะประเมินแล้วว่า "ชนะชัวร์ 100%" ระดับปูติน สีจิ้นผิง ใช่เพื่อนเล่นมรึงเหรอ? ไทยและอาเซียน รวมทั้งโลก ก็จะชนะชัวร์เช่นกัน สภาโลกมาแน่ กองทัพโลกโผล่แน่ ไปยิงกันในอวกาศต่อเลย กูชอบ กูจะไปหาเพื่อน E.T นอกโลกซะหน่อย) 27 กย. 67 11.30 น. https://linevoom.line.me/post/1172741109996921670 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธุรกิจบาป..

    เรื่องทองคำมันแดงแล้ว ตอนนี้ก็รออยู่ว่าเมื่อไหร่จะถีงคิวเรื่องเพชร ที่เป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจบาปที่แท้

    ก็ได้แต่หวังว่าบรรดาเหยื่อทั้งหลายจะตื่นรู้แล้วรีบเอาเพชรไปตรวจสอบ ซึ่งรับรองว่าไม่ได้มาตราฐานแม้แต่ชิ้นเดียว

    เมื่อไหร่..ที่สรรพากรเข้าตรวจสอบก็จะต้องพบว่าสถานะการเงินมันไม่สอดคล้อง รายรับกับรายจ่ายมันจะสวนทางกัน=อ่วม

    เมื่อไหร่..ที่เป็นคดีฉ้อโกงประชาชน เรื่องก็จะไปถึงหน่วยงาน ปปง.

    ปปง.เข้าตรวจสอบแล้วพบว่ามีเส้นเงินที่วิ่งเข้า-วิ่งออกผ่านบัญชีของสองผัวเมียคู่นี้แบบผิดปกติ=อายัด

    สวัสดึ
    @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    ธุรกิจบาป.. เรื่องทองคำมันแดงแล้ว ตอนนี้ก็รออยู่ว่าเมื่อไหร่จะถีงคิวเรื่องเพชร ที่เป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจบาปที่แท้ ก็ได้แต่หวังว่าบรรดาเหยื่อทั้งหลายจะตื่นรู้แล้วรีบเอาเพชรไปตรวจสอบ ซึ่งรับรองว่าไม่ได้มาตราฐานแม้แต่ชิ้นเดียว เมื่อไหร่..ที่สรรพากรเข้าตรวจสอบก็จะต้องพบว่าสถานะการเงินมันไม่สอดคล้อง รายรับกับรายจ่ายมันจะสวนทางกัน=อ่วม เมื่อไหร่..ที่เป็นคดีฉ้อโกงประชาชน เรื่องก็จะไปถึงหน่วยงาน ปปง. ปปง.เข้าตรวจสอบแล้วพบว่ามีเส้นเงินที่วิ่งเข้า-วิ่งออกผ่านบัญชีของสองผัวเมียคู่นี้แบบผิดปกติ=อายัด สวัสดึ @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทองคำ..

    ทองคำแท้..หมายถึงทองคำที่มีเปอร์เซ็นต์ความบริสุทธิ์สูง ได้แก่..

    ทองคำ 96.5% (23k) หมายความว่ามีธาตุอื่น ๆ เจือปนในขั้นตอนการผลิตไม่เกิน 3.5%

    ทองคำ 99.9% (24k) หมายความว่ามีทองคำบริสุทธิ์อยู่จริงๆ 99.9% ส่วนที่เหลืออีก 0.1% คือส่วนประกอบอื่นๆ

    ปกติแล้วตามมาตรฐานทองคำเมืองไทยจะอยู่ที่ 96.5 % ทองคำ 99.9% ส่วนใหญ่จะเป็นมาตรฐานของราคาทองคำในต่างประเทศ

    ทองคำเปอร์เซ็นต์ต่ำ..หรือที่รู้จักกันในชื่อ ทองเค ทองเขียว หมายถึงทองที่มีเปอร์เซ็นต์ความบริสุทธิ์ต่ำกว่า 96.5% ลงไป หรือมีธาตุอื่น ๆ “ผสมเกินกว่า 3.5%”

    ดังนั้นราคาขายของทองเปอร์เซ็นต์ต่ำจะไม่สูงเทียบเท่ากับทองคำแท้ เนื่องจากความบริสุทธิ์ของทองที่ค่อนข้างต่ำ

    แต่ก็สามารถนำไปขายหรือจำนำที่ร้านทองได้ โดยราคานั้นอาจจะมีการผันผวนตามรูปลักษณ์ภายนอก

    แต่ในกรณีที่ทองมีความบริสุทธิ์ต่ำผสมธาตุอื่นๆมากเกินไปถึงแม้จะเรียกได้ว่าเป็นทองแท้ แต่ทางร้านก็จะไม่รับซื้อ

    สร้อย แหวน จี้ ฯลฯ ส่วนมากจะใช้ทองคำ 96.5% เพราะมันแข็งแรงกว่าทองคำ 99.99% ที่มันนิ่ม

    เราจึงขออนุมานว่า..ร้านเจ๊ตั๊กไม่ได้ขายทอง 99.99%

    ฉะนั้น..การระบุในใบซื้อขาย หรือพูดด้วยวาจาว่าเป็นทองคำแท้ 99.99% แล้วถ้าตรวจออกมาแล้วไม่ใช่ทอง 99.99% = คุก

    ถึงแม้จะรับซื้อคืน #แต่ความผิดสำเร็จแล้ว เพราะตัวเองย่อมรู้แก่ใจดีว่าทองที่จำหน่ายไปนั้นเป็นทองกี่%

    @เล้ง โอภาสี
    ทองคำ.. ทองคำแท้..หมายถึงทองคำที่มีเปอร์เซ็นต์ความบริสุทธิ์สูง ได้แก่.. ทองคำ 96.5% (23k) หมายความว่ามีธาตุอื่น ๆ เจือปนในขั้นตอนการผลิตไม่เกิน 3.5% ทองคำ 99.9% (24k) หมายความว่ามีทองคำบริสุทธิ์อยู่จริงๆ 99.9% ส่วนที่เหลืออีก 0.1% คือส่วนประกอบอื่นๆ ปกติแล้วตามมาตรฐานทองคำเมืองไทยจะอยู่ที่ 96.5 % ทองคำ 99.9% ส่วนใหญ่จะเป็นมาตรฐานของราคาทองคำในต่างประเทศ ทองคำเปอร์เซ็นต์ต่ำ..หรือที่รู้จักกันในชื่อ ทองเค ทองเขียว หมายถึงทองที่มีเปอร์เซ็นต์ความบริสุทธิ์ต่ำกว่า 96.5% ลงไป หรือมีธาตุอื่น ๆ “ผสมเกินกว่า 3.5%” ดังนั้นราคาขายของทองเปอร์เซ็นต์ต่ำจะไม่สูงเทียบเท่ากับทองคำแท้ เนื่องจากความบริสุทธิ์ของทองที่ค่อนข้างต่ำ แต่ก็สามารถนำไปขายหรือจำนำที่ร้านทองได้ โดยราคานั้นอาจจะมีการผันผวนตามรูปลักษณ์ภายนอก แต่ในกรณีที่ทองมีความบริสุทธิ์ต่ำผสมธาตุอื่นๆมากเกินไปถึงแม้จะเรียกได้ว่าเป็นทองแท้ แต่ทางร้านก็จะไม่รับซื้อ สร้อย แหวน จี้ ฯลฯ ส่วนมากจะใช้ทองคำ 96.5% เพราะมันแข็งแรงกว่าทองคำ 99.99% ที่มันนิ่ม เราจึงขออนุมานว่า..ร้านเจ๊ตั๊กไม่ได้ขายทอง 99.99% ฉะนั้น..การระบุในใบซื้อขาย หรือพูดด้วยวาจาว่าเป็นทองคำแท้ 99.99% แล้วถ้าตรวจออกมาแล้วไม่ใช่ทอง 99.99% = คุก ถึงแม้จะรับซื้อคืน #แต่ความผิดสำเร็จแล้ว เพราะตัวเองย่อมรู้แก่ใจดีว่าทองที่จำหน่ายไปนั้นเป็นทองกี่% @เล้ง โอภาสี
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤠#สหรัฐฯ ค่อยๆ เข้ามาแทนที่อังกฤษและกลายเป็นเจ้าโลกได้อย่างไร? #การรื้ออำนาจเจ้าโลกจะมีผลกระทบอะไรบ้าง ตอน 02.🤠

    🤯สาม การพลิกกลับ🤯

    สถานการณ์สงครามโลกที่ไม่ได้เปลี่ยนโครงสร้างโลกทำให้ทางการสหรัฐฯไม่พอใจอย่างมาก หลังจากที่ประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสัน(Woodrow Wilson伍德罗·威尔逊) ลาออกจากตำแหน่ง นโยบายต่างประเทศของรัฐบาลสหรัฐฯ ก็กลับเข้าสู่ลัทธิโดดเดี่ยวอย่างเดิม

    เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 1935 เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดซ้ำในสงครามโลกครั้งที่ 1 สภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกาจึงผ่านกฎหมายความเป็นกลาง ซึ่งกำหนดให้มีการคว่ำบาตร "อาวุธ กระสุน และยุทโธปกรณ์" ไปยังประเทศคู่สงครามทั้งหมด และห้ามเรือค้าขายของสหรัฐฯ จากการขนส่งอาวุธไปยังประเทศคู่สงคราม ขบวนการโดดเดี่ยวในสหรัฐอเมริกาถึงจุดสูงสุด

    ในเวลานี้ ท้องฟ้าเหนือยุโรปเต็มไปด้วยเมฆหมอกแห่งสงคราม นโยบายการโอนอ่อนผ่อนตามของอังกฤษและฝรั่งเศสมีส่วนทำให้เกิดความหยิ่งลำพองของเยอรมนีมีความเป็นฟาสซิสต์มากขึ้น ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1939 นาซีเยอรมนีเปิดการโจมตีแบบสายฟ้าแลบต่อโปแลนด์ และสงครามโลกครั้งที่สองก็ปะทุขึ้น

    ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1940 ฝรั่งเศสซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะมหาอำนาจโดยมีกองทัพที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปยอมจำนน ในเดือนพฤศจิกายนของปีถัดมา ญี่ปุ่นซึ่งเป็นหนึ่งในมหาอำนาจฝ่ายอักษะได้เปิดฉากโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ต่อสหรัฐอเมริกา และลากสหรัฐอเมริกาเข้าสู่วังวนแห่งสงคราม สงครามโลกครั้งที่สองและสงครามโลกครั้งที่ 1 แตกต่างกันออกไป ในเวลานี้ สหรัฐฯมีบทบาทเป็นผู้นำ โดยควบคุมในแอฟริกาเหนือ แนวรบด้านตะวันตก และสนามรบในมหาสมุทรแปซิฟิก

    ในช่วงสงคราม รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ลืมวางแผนสำหรับรูปแบบโลกหลังสงคราม และไม่ต้องการทำผิดพลาดแบบในสงครามโลกครั้งที่ 1 ซ้ำอีก

    สิ่งแรกที่ต้องจัดการคือเรื่องการครอบงำทางการเงินของโลกที่อังกฤษโดยก่อตั้งขึ้นตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรม

    ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1942 ไวท์( White) ซึ่งในขณะนั้นเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ได้เปิดตัวแผนของไวท์( White) ซึ่งเป็นแผนเศรษฐกิจในช่วงสงคราม

    แผนดังกล่าวรวมถึงการจัดตั้งสถาบันสองแห่ง ได้แก่ กองทุนรักษาเสถียรภาพแห่งชาติ (National Stabilization Fund) และธนาคารเพื่อการบูรณะและพัฒนา (Bank for Reconstruction and Development.) ทั้งสองสถาบันนี้เป็นสถาบันก่อนหน้าของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund)และธนาคารโลก (World Bank.)ในอนาคต

    เพื่อป้องกันอิทธิพลอำนาจทางการเงินของสหรัฐอเมริกาหลังสงครามและปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง สหราชอาณาจักรยังเสนอให้จัดตั้งศูนย์หักบัญชีระหว่างประเทศ (international clearing center) ตาม "ลัทธิเคนส์ (Keynesianism)" และออกแบบระบบการเงินที่มีทองคำเป็นหน่วยการชำระหนี้

    อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้สหราชอาณาจักรมีแรงใจมากล้นแต่ไม่มีกำลังกายเพียงพอ และความแข็งแกร่งทางการทหารและเศรษฐกิจทำให้อังกฤษไม่สามารถแข่งขันกับสหรัฐอเมริกาเพื่อครอบงำทางการเงินได้

    เพียงสองปีหลังจากการเสนอแผนของไวท์( White) ทางการสหรัฐฯ ได้จัดการประชุมการเงินและการเงินแห่งสหประชาชาติ (United Nations Monetary and Financial Conference)ที่เบรตตันวูดส์ (Bretton Woods) ทางการสหรัฐฯมีอำนาจเหนือการเจรจาอย่างท่วมท้น และในที่สุดประเทศต่างๆ ก็ลงนามใน "ข้อตกลงเบรตตันวูดส์ (Bretton Woods Agreement)" อันโด่งดัง

    ข้อตกลงดังกล่าวเชื่อมโยงสกุลเงินของประเทศต่างๆ อย่างเป็นทางการกับดอลลาร์สหรัฐ และสร้างระบบมาตรฐานทองคำที่ดอลลาร์สหรัฐเชื่อมโยงกับทองคำ สำนักงานใหญ่ของกองทุนการเงินแห่งชาติ (National Monetary Fund)ตั้งอยู่ในวอชิงตัน (Washington) เห็นได้ชัดว่าระบบเบรตตันวูดส์ (Bretton Woods system)เป็นข้อตกลงที่ลงนามโดยสหรัฐอเมริกาที่มีอำนาจมากที่สุดและเหล่าบริวารอื่น ๆ ในสภาพแวดล้อมสงครามในขณะนั้น

    แม้ว่าอังกฤษไม่เต็มใจที่จะมอบอำนาจทางการเงินของตนให้กับผู้อื่น แต่ความรุ่งโรจน์ของจักรวรรดิที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดินก็สูญสิ้นไปนานแล้ว สหรัฐฯ ขู่ว่าจะปฏิเสธคำขอกู้ยืมของอังกฤษและบังคับให้ทางการอังกฤษยอมรับข้อตกลงดังกล่าว ขณะเดียวกันพวกเขาก็ใช้การล่มสลายของระบบอาณานิคมในอนาคตเป็นข้อแก้ตัวด้วย บังคับให้ฝ่ายอังกฤษละทิ้งระบบจักรวรรดิดั้งเดิมที่ให้การปฏิบัติเระบบสิทธิพิเศษ และใช้เงินปอนด์ที่แปลงสภาพอย่างเสรี

    ในท้ายที่สุด อังกฤษก็ยอมสละอำนาจทางการเงินของตน และสหรัฐฯ ได้ขจัดอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการก้าวไปสู่อำนาจอำนาจของโลก

    🤯4. บทสรุปและการรู้แจ้ง🤯

    อารยธรรมของมนุษย์ดำรงอยู่มานานนับพันปี ในประวัติศาสตร์อันยาวนาน ประเทศที่มีอำนาจเหนือกว่าจำนวนนับไม่ถ้วนได้ถือกำเนิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีระบอบการปกครองใดที่สามารถรักษาความได้เปรียบของตนไว้ได้ตลอดไปในสถานการณ์ระหว่างประเทศที่ซับซ้อน

    ตัวแทนของยุคอาณานิคมตอนต้น - สเปนและโปรตุเกส สเปนใช้ประโยชน์จากยุคแห่งการค้นพบ และยึดครองดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ขนาดใหญ่ในทวีปอเมริกา แต่เขาสูญเสียเรือรบทั้งหมดในการรบทางเรือกับอังกฤษ ผู้ครองอำนาจเจ้าโลกรุ่นแรกจึงจำต้องสละสิทธิทางทะเลแก่สหราชอาณาจักรด้วยประการฉะนี้นี้

    บนพื้นฐานของลัทธิล่าอาณานิคมสเปน อังกฤษได้ก่อตั้งกลุ่มอาณานิคมขึ้น เช่น บริษัทอินเดียตะวันออก และดำเนินกิจกรรมปล้นสะดมขนาดใหญ่ในแอฟริกา เอเชีย และอเมริกา ถือเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการปฏิวัติอุตสาหกรรมในเวลาต่อมา

    ในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สอง บรรดาสุภาพบุรุษผู้สูงศักดิ์ชาวอังกฤษคอยกินบุญเก่าซึ่งมีรายชื่อในสมุดความดีความชอบมุ่งมั่นที่จะรักษาระบบอาณานิคมของตนไว้ โดยไม่สนใจการเพิ่มทวีขึ้นของจิตสำนึกแห่งชาติเผ่าของอาณานิคม และพยายามใช้วิธีการที่ต่ำทรามน่ารังเกียจต่างๆ เพื่อรักษาสถานะที่ว่าอาณาจักรที่ดวงอาทิตย์ไม่เคยตกดินของตนไว้

    ด้วยการผงาดรุ่งเรืองขึ้นของประเทศทุนนิยมเกิดใหม่ และการทำลายล้างเศรษฐกิจของอังกฤษโดยสงครามโลกครั้งที่สอง ในที่สุดอังกฤษก็ถูกบังคับให้สละอำนาจเจ้าโลกของตนในที่สุด สหรัฐฯ ผ่านการปฏิบัติการหลายประการมีการสถาปนาอำนาจนำในหลายแง่มุมซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศตน

    😎ในกระบวนการแย่งชิงอำนาจของอังกฤษโดยสหรัฐอเมริกา การรวมอำนาจทางการเมือง การขยายอาณาเขต การรักษาความสามัคคี และการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นพื้นฐานของการได้รับอำนาจเป็นเจ้าโลก😎

    เมื่อความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและความแข็งแกร่งทางการทหารมีมากกว่าประเทศอื่นๆ มาก การโอนอำนาจก็สามารถเกิดขึ้นได้ในทันที ในช่วงแรกของสงครามโลกครั้งที่สอง การเก็บตัวและสังเกตการณ์อยู่ข้างสนามและการแทรกแซงสงครามในเวลาที่เหมาะสม ล้วนแสดงให้เห็นถึงความเฉียบแหลมทางการเมืองอันยอดเยี่ยมของกลุ่มนักคิดของรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อประเทศในยุโรปไม่สามารถทำได้หากปราศจากการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา การโอนอำนาจเจ้าโลกจะเป็นเรื่องที่สำเร็จแน่นอน

    ในปัจจุบัน ขณะที่การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีครั้งที่สามกำลังจะสิ้นสุดลง และการปฏิวัติอุตสาหกรรมรอบใหม่กำลังจะแตกออก อำนาจของอเมริกาก็มาถึงทางแยกแห่งโชคชะตาเนื่องจากมีเหตุการณ์เป็นตัวเร่งคือเรื่องของการเสริมกำลังทหารและความขัดแย้งภายในของตัวเอง

    สหรัฐฯ ไม่เต็มใจที่จะปล่อยให้จีนดำเนินตามขั้นตอนเดิมพัฒนาในลักษณะที่ไม่สำคัญต่อไป จากยุทธศาสตร์ปิดล้อมด้วย“สายโซ่แห่งดินแดนวงล้อมชั้นแรก” (First Island Chain)รวมกับเครือข่ายพื้นที่แผ่นดินใหญ่ในยุคโอบามา ไปจนถึงสงครามการค้ากับจีนในยุคทรัมป์ และการโจมตีจีนโดยรัฐบริวารในเอเชียในเรื่องต่างๆ จะเห็นได้ว่าความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการรักษาสิ่งที่เรียกว่าอำนาจเป็นใหญ่นั้นเปรียบเสมือนนักรบที่ติดอยู่ในสนามประลอง

    ในยุคแห่งความขัดแย้งครั้งใหญ่นี้ การยืนหยัดบนเส้นทางของตัวเองและระวังการแทรกซึมของกองกำลังศัตรูเป็นหนทางที่จะทำลายแผนการสมรู้ร่วมคิดของสหรัฐฯ และอำนาจเจ้าโลกของสหรัฐฯ

    🤯โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯

    🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    🤠#สหรัฐฯ ค่อยๆ เข้ามาแทนที่อังกฤษและกลายเป็นเจ้าโลกได้อย่างไร? #การรื้ออำนาจเจ้าโลกจะมีผลกระทบอะไรบ้าง ตอน 02.🤠 🤯สาม การพลิกกลับ🤯 สถานการณ์สงครามโลกที่ไม่ได้เปลี่ยนโครงสร้างโลกทำให้ทางการสหรัฐฯไม่พอใจอย่างมาก หลังจากที่ประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสัน(Woodrow Wilson伍德罗·威尔逊) ลาออกจากตำแหน่ง นโยบายต่างประเทศของรัฐบาลสหรัฐฯ ก็กลับเข้าสู่ลัทธิโดดเดี่ยวอย่างเดิม เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 1935 เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดซ้ำในสงครามโลกครั้งที่ 1 สภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกาจึงผ่านกฎหมายความเป็นกลาง ซึ่งกำหนดให้มีการคว่ำบาตร "อาวุธ กระสุน และยุทโธปกรณ์" ไปยังประเทศคู่สงครามทั้งหมด และห้ามเรือค้าขายของสหรัฐฯ จากการขนส่งอาวุธไปยังประเทศคู่สงคราม ขบวนการโดดเดี่ยวในสหรัฐอเมริกาถึงจุดสูงสุด ในเวลานี้ ท้องฟ้าเหนือยุโรปเต็มไปด้วยเมฆหมอกแห่งสงคราม นโยบายการโอนอ่อนผ่อนตามของอังกฤษและฝรั่งเศสมีส่วนทำให้เกิดความหยิ่งลำพองของเยอรมนีมีความเป็นฟาสซิสต์มากขึ้น ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1939 นาซีเยอรมนีเปิดการโจมตีแบบสายฟ้าแลบต่อโปแลนด์ และสงครามโลกครั้งที่สองก็ปะทุขึ้น ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1940 ฝรั่งเศสซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะมหาอำนาจโดยมีกองทัพที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปยอมจำนน ในเดือนพฤศจิกายนของปีถัดมา ญี่ปุ่นซึ่งเป็นหนึ่งในมหาอำนาจฝ่ายอักษะได้เปิดฉากโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ต่อสหรัฐอเมริกา และลากสหรัฐอเมริกาเข้าสู่วังวนแห่งสงคราม สงครามโลกครั้งที่สองและสงครามโลกครั้งที่ 1 แตกต่างกันออกไป ในเวลานี้ สหรัฐฯมีบทบาทเป็นผู้นำ โดยควบคุมในแอฟริกาเหนือ แนวรบด้านตะวันตก และสนามรบในมหาสมุทรแปซิฟิก ในช่วงสงคราม รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ลืมวางแผนสำหรับรูปแบบโลกหลังสงคราม และไม่ต้องการทำผิดพลาดแบบในสงครามโลกครั้งที่ 1 ซ้ำอีก สิ่งแรกที่ต้องจัดการคือเรื่องการครอบงำทางการเงินของโลกที่อังกฤษโดยก่อตั้งขึ้นตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรม ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1942 ไวท์( White) ซึ่งในขณะนั้นเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ได้เปิดตัวแผนของไวท์( White) ซึ่งเป็นแผนเศรษฐกิจในช่วงสงคราม แผนดังกล่าวรวมถึงการจัดตั้งสถาบันสองแห่ง ได้แก่ กองทุนรักษาเสถียรภาพแห่งชาติ (National Stabilization Fund) และธนาคารเพื่อการบูรณะและพัฒนา (Bank for Reconstruction and Development.) ทั้งสองสถาบันนี้เป็นสถาบันก่อนหน้าของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund)และธนาคารโลก (World Bank.)ในอนาคต เพื่อป้องกันอิทธิพลอำนาจทางการเงินของสหรัฐอเมริกาหลังสงครามและปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง สหราชอาณาจักรยังเสนอให้จัดตั้งศูนย์หักบัญชีระหว่างประเทศ (international clearing center) ตาม "ลัทธิเคนส์ (Keynesianism)" และออกแบบระบบการเงินที่มีทองคำเป็นหน่วยการชำระหนี้ อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้สหราชอาณาจักรมีแรงใจมากล้นแต่ไม่มีกำลังกายเพียงพอ และความแข็งแกร่งทางการทหารและเศรษฐกิจทำให้อังกฤษไม่สามารถแข่งขันกับสหรัฐอเมริกาเพื่อครอบงำทางการเงินได้ เพียงสองปีหลังจากการเสนอแผนของไวท์( White) ทางการสหรัฐฯ ได้จัดการประชุมการเงินและการเงินแห่งสหประชาชาติ (United Nations Monetary and Financial Conference)ที่เบรตตันวูดส์ (Bretton Woods) ทางการสหรัฐฯมีอำนาจเหนือการเจรจาอย่างท่วมท้น และในที่สุดประเทศต่างๆ ก็ลงนามใน "ข้อตกลงเบรตตันวูดส์ (Bretton Woods Agreement)" อันโด่งดัง ข้อตกลงดังกล่าวเชื่อมโยงสกุลเงินของประเทศต่างๆ อย่างเป็นทางการกับดอลลาร์สหรัฐ และสร้างระบบมาตรฐานทองคำที่ดอลลาร์สหรัฐเชื่อมโยงกับทองคำ สำนักงานใหญ่ของกองทุนการเงินแห่งชาติ (National Monetary Fund)ตั้งอยู่ในวอชิงตัน (Washington) เห็นได้ชัดว่าระบบเบรตตันวูดส์ (Bretton Woods system)เป็นข้อตกลงที่ลงนามโดยสหรัฐอเมริกาที่มีอำนาจมากที่สุดและเหล่าบริวารอื่น ๆ ในสภาพแวดล้อมสงครามในขณะนั้น แม้ว่าอังกฤษไม่เต็มใจที่จะมอบอำนาจทางการเงินของตนให้กับผู้อื่น แต่ความรุ่งโรจน์ของจักรวรรดิที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดินก็สูญสิ้นไปนานแล้ว สหรัฐฯ ขู่ว่าจะปฏิเสธคำขอกู้ยืมของอังกฤษและบังคับให้ทางการอังกฤษยอมรับข้อตกลงดังกล่าว ขณะเดียวกันพวกเขาก็ใช้การล่มสลายของระบบอาณานิคมในอนาคตเป็นข้อแก้ตัวด้วย บังคับให้ฝ่ายอังกฤษละทิ้งระบบจักรวรรดิดั้งเดิมที่ให้การปฏิบัติเระบบสิทธิพิเศษ และใช้เงินปอนด์ที่แปลงสภาพอย่างเสรี ในท้ายที่สุด อังกฤษก็ยอมสละอำนาจทางการเงินของตน และสหรัฐฯ ได้ขจัดอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการก้าวไปสู่อำนาจอำนาจของโลก 🤯4. บทสรุปและการรู้แจ้ง🤯 อารยธรรมของมนุษย์ดำรงอยู่มานานนับพันปี ในประวัติศาสตร์อันยาวนาน ประเทศที่มีอำนาจเหนือกว่าจำนวนนับไม่ถ้วนได้ถือกำเนิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีระบอบการปกครองใดที่สามารถรักษาความได้เปรียบของตนไว้ได้ตลอดไปในสถานการณ์ระหว่างประเทศที่ซับซ้อน ตัวแทนของยุคอาณานิคมตอนต้น - สเปนและโปรตุเกส สเปนใช้ประโยชน์จากยุคแห่งการค้นพบ และยึดครองดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ขนาดใหญ่ในทวีปอเมริกา แต่เขาสูญเสียเรือรบทั้งหมดในการรบทางเรือกับอังกฤษ ผู้ครองอำนาจเจ้าโลกรุ่นแรกจึงจำต้องสละสิทธิทางทะเลแก่สหราชอาณาจักรด้วยประการฉะนี้นี้ บนพื้นฐานของลัทธิล่าอาณานิคมสเปน อังกฤษได้ก่อตั้งกลุ่มอาณานิคมขึ้น เช่น บริษัทอินเดียตะวันออก และดำเนินกิจกรรมปล้นสะดมขนาดใหญ่ในแอฟริกา เอเชีย และอเมริกา ถือเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการปฏิวัติอุตสาหกรรมในเวลาต่อมา ในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สอง บรรดาสุภาพบุรุษผู้สูงศักดิ์ชาวอังกฤษคอยกินบุญเก่าซึ่งมีรายชื่อในสมุดความดีความชอบมุ่งมั่นที่จะรักษาระบบอาณานิคมของตนไว้ โดยไม่สนใจการเพิ่มทวีขึ้นของจิตสำนึกแห่งชาติเผ่าของอาณานิคม และพยายามใช้วิธีการที่ต่ำทรามน่ารังเกียจต่างๆ เพื่อรักษาสถานะที่ว่าอาณาจักรที่ดวงอาทิตย์ไม่เคยตกดินของตนไว้ ด้วยการผงาดรุ่งเรืองขึ้นของประเทศทุนนิยมเกิดใหม่ และการทำลายล้างเศรษฐกิจของอังกฤษโดยสงครามโลกครั้งที่สอง ในที่สุดอังกฤษก็ถูกบังคับให้สละอำนาจเจ้าโลกของตนในที่สุด สหรัฐฯ ผ่านการปฏิบัติการหลายประการมีการสถาปนาอำนาจนำในหลายแง่มุมซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศตน 😎ในกระบวนการแย่งชิงอำนาจของอังกฤษโดยสหรัฐอเมริกา การรวมอำนาจทางการเมือง การขยายอาณาเขต การรักษาความสามัคคี และการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นพื้นฐานของการได้รับอำนาจเป็นเจ้าโลก😎 เมื่อความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและความแข็งแกร่งทางการทหารมีมากกว่าประเทศอื่นๆ มาก การโอนอำนาจก็สามารถเกิดขึ้นได้ในทันที ในช่วงแรกของสงครามโลกครั้งที่สอง การเก็บตัวและสังเกตการณ์อยู่ข้างสนามและการแทรกแซงสงครามในเวลาที่เหมาะสม ล้วนแสดงให้เห็นถึงความเฉียบแหลมทางการเมืองอันยอดเยี่ยมของกลุ่มนักคิดของรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อประเทศในยุโรปไม่สามารถทำได้หากปราศจากการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา การโอนอำนาจเจ้าโลกจะเป็นเรื่องที่สำเร็จแน่นอน ในปัจจุบัน ขณะที่การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีครั้งที่สามกำลังจะสิ้นสุดลง และการปฏิวัติอุตสาหกรรมรอบใหม่กำลังจะแตกออก อำนาจของอเมริกาก็มาถึงทางแยกแห่งโชคชะตาเนื่องจากมีเหตุการณ์เป็นตัวเร่งคือเรื่องของการเสริมกำลังทหารและความขัดแย้งภายในของตัวเอง สหรัฐฯ ไม่เต็มใจที่จะปล่อยให้จีนดำเนินตามขั้นตอนเดิมพัฒนาในลักษณะที่ไม่สำคัญต่อไป จากยุทธศาสตร์ปิดล้อมด้วย“สายโซ่แห่งดินแดนวงล้อมชั้นแรก” (First Island Chain)รวมกับเครือข่ายพื้นที่แผ่นดินใหญ่ในยุคโอบามา ไปจนถึงสงครามการค้ากับจีนในยุคทรัมป์ และการโจมตีจีนโดยรัฐบริวารในเอเชียในเรื่องต่างๆ จะเห็นได้ว่าความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการรักษาสิ่งที่เรียกว่าอำนาจเป็นใหญ่นั้นเปรียบเสมือนนักรบที่ติดอยู่ในสนามประลอง ในยุคแห่งความขัดแย้งครั้งใหญ่นี้ การยืนหยัดบนเส้นทางของตัวเองและระวังการแทรกซึมของกองกำลังศัตรูเป็นหนทางที่จะทำลายแผนการสมรู้ร่วมคิดของสหรัฐฯ และอำนาจเจ้าโลกของสหรัฐฯ 🤯โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯 🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทุนรวมทองคำ ที่ไม่ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (3)

    มีข้อสังเกตที่น่าสนใจ นอกจากข้อดี-ข้อเสีย จากปัจจัยค่าเงินบาทแข็งค่า แล้วยังปัจจัยอื่น ที่มีผลต่อผลตอบแทนที่เราจะได้รับ เมื่อดูจาก NAV ของกองทุน เช่น

    • ค่าธรรมเนียมกองทุน เช่น ค่าธรรมเนียมการจัดการ ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย
    • ผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก ผลตอบแทนของ Feeder Fund ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก (Master Fund) เป็นหลัก
    • นโยบายการลงทุนของกองทุน แต่ละกองทุนจะมีนโยบายการลงทุนที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจส่งผลต่อผลตอบแทนที่ได้รับ
    • เมื่อค่าเงินบาทแข็ง มักพบว่าหน่วยลงทุนกองทุนรวมต่างประเทศ (Feeder Fund) ที่ไม่ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน มี NAV ลดลง เมื่อเทียบกับกองทุนที่ลงทุนคล้ายกัน แต่มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน เพราะเมื่อค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น หมายความว่าเงินบาทมีค่ามากกว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เมื่อแปลงกลับมูลค่าหน่วยลงทุนส่วนของเรา ที่แฝงอยู่ในหน่วยลงทุนหลักที่ปลายทางต่างประเทศ ซึ่งเป็นสกุลดอลลาร์ มีค่าลดลง เช่น ตอนเริ่มต้นลงทุน สมมุติว่าเราซื้อหน่วยลงทุน 1,000 หน่วย ตอนที่ค่าเงินบาทเท่ากับ 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ และ NAV ของกองทุนอยู่ที่ 35 บาทต่อหน่วย หมายความว่า เงินของเรา 35,000 บาท จะถูกแปลงเป็นเงินดอลลาร์ประมาณ 1,000 ดอลลาร์ เพื่อไปลงทุนใน GLD ETF แต่พอต่อมาหลังจากนั้นสักระยะหนึ่งเกิดค่าเงินบาทแข็งค่า ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเป็น 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่ามูลค่าของทองคำใน GLD ETF จะไม่เปลี่ยนแปลง แต่เมื่อนำเงินกลับมาแปลงเป็นเงินบาท จะได้เงินบาทน้อยลง กลายเป็น 30,000 บาท ทำให้ NAV ของกองทุนลดลงเหลือ 30 บาทต่อหน่วย ทำให้มูลค่าของหน่วยลงทุนของเราลดลง
    กองทุนรวมทองคำ ที่ไม่ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (3) มีข้อสังเกตที่น่าสนใจ นอกจากข้อดี-ข้อเสีย จากปัจจัยค่าเงินบาทแข็งค่า แล้วยังปัจจัยอื่น ที่มีผลต่อผลตอบแทนที่เราจะได้รับ เมื่อดูจาก NAV ของกองทุน เช่น • ค่าธรรมเนียมกองทุน เช่น ค่าธรรมเนียมการจัดการ ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย • ผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก ผลตอบแทนของ Feeder Fund ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก (Master Fund) เป็นหลัก • นโยบายการลงทุนของกองทุน แต่ละกองทุนจะมีนโยบายการลงทุนที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจส่งผลต่อผลตอบแทนที่ได้รับ • เมื่อค่าเงินบาทแข็ง มักพบว่าหน่วยลงทุนกองทุนรวมต่างประเทศ (Feeder Fund) ที่ไม่ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน มี NAV ลดลง เมื่อเทียบกับกองทุนที่ลงทุนคล้ายกัน แต่มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน เพราะเมื่อค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น หมายความว่าเงินบาทมีค่ามากกว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เมื่อแปลงกลับมูลค่าหน่วยลงทุนส่วนของเรา ที่แฝงอยู่ในหน่วยลงทุนหลักที่ปลายทางต่างประเทศ ซึ่งเป็นสกุลดอลลาร์ มีค่าลดลง เช่น ตอนเริ่มต้นลงทุน สมมุติว่าเราซื้อหน่วยลงทุน 1,000 หน่วย ตอนที่ค่าเงินบาทเท่ากับ 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ และ NAV ของกองทุนอยู่ที่ 35 บาทต่อหน่วย หมายความว่า เงินของเรา 35,000 บาท จะถูกแปลงเป็นเงินดอลลาร์ประมาณ 1,000 ดอลลาร์ เพื่อไปลงทุนใน GLD ETF แต่พอต่อมาหลังจากนั้นสักระยะหนึ่งเกิดค่าเงินบาทแข็งค่า ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเป็น 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่ามูลค่าของทองคำใน GLD ETF จะไม่เปลี่ยนแปลง แต่เมื่อนำเงินกลับมาแปลงเป็นเงินบาท จะได้เงินบาทน้อยลง กลายเป็น 30,000 บาท ทำให้ NAV ของกองทุนลดลงเหลือ 30 บาทต่อหน่วย ทำให้มูลค่าของหน่วยลงทุนของเราลดลง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทุนรวมทองคำ ที่ไม่ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (2)

    ข้อดีของการซื้อถัวเฉลี่ยในช่วงค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น เช่น

    1. อาจได้ต้นทุนเฉลี่ยลดลง คือเมื่อซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มในช่วงที่ราคาต่ำ จะช่วยลดต้นทุนเฉลี่ยของหน่วยลงทุนทั้งหมดลง ทำให้ในอนาคตเมื่อราคาฟื้นตัว อาจได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น
    • หลักคิดคือ เมื่อราคาของ Master Fund ฟื้นตัวขึ้น (NAV เพิ่มขึ้น) หน่วยลงทุนที่เราซื้อในราคาต่ำจะให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น แล้วทำให้ผลตอบแทนโดยรวมของพอร์ตการลงทุนดีขึ้น เช่น สมมติว่าซื้อหน่วยลงทุนใน Feeder Fund เมื่อ NAV ของ Master Fund อยู่ที่ $100 และซื้อเพิ่มอีกครั้งเมื่อ NAV ลดลงเหลือ $80 ต้นทุนเฉลี่ยของเราอาจอยู่ที่ประมาณ $90 ซึ่งเมื่อราคาของ Master Fund กลับมาที่ $100 บาทอีกครั้ง ก็จะมีกำไรจากส่วนต่างที่เกิดขึ้น
    • ลดต้นทุนเฉลี่ย หมายถึงการซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มในช่วงที่ราคาต่ำ เพื่อลดต้นทุนเฉลี่ยของการลงทุนทั้งหมด ซึ่งราคาต่ำในที่นี้หมายถึง การที่เราใช้เงินบาทน้อยลงในการแลกเปลี่ยนเป็นดอลลาร์สหรัฐ

    2. เป็นโอกาสในการซื้อในตอนราคาน่าสนใจ คือถ้าเชื่อมั่นในสินทรัพย์ที่กองทุนลงทุนอยู่ เช่น ทองคำ การซื้อในช่วงที่ราคาต่ำอาจเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อในราคาที่น่าสนใจ
    • ราคาน่าสนใจ หรือราคาต่ำ แต่ละคนคิดไม่เหมือนกัน ขึ้นกับหลักคิดของแต่ละคน เช่น บางคนมองกราฟราคา บางคนวางกรอบราคาระยะสั้น-ยาว บางคนก็ศึกษามาเอง บางคนใช้ความเชื่อ บางคนฟังเขามาอีกที

    ข้อเสียของการซื้อถัวเฉลี่ยในช่วงค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น เช่น

    ต้นทุนเฉลี่ยอาจไม่ได้ลดลงจริง คือ กองทุนรวม Feeder Fund จะมีระบบบริหารงานภายใน เพื่อให้มีต้นทุนการดำเนินงานที่ควบคุมได้ เช่น
    • เงินดอลลาร์ที่ใช้หมุนเวียน กองทุน Feeder Fund จำเป็นต้องมีเงินดอลลาร์เพื่อนำไปลงทุนในกองทุนหลัก (Master Fund) ซึ่งมักจะใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เงินก้อนนี้ถือเป็นต้นทุนคงที่ของกองทุน กองทุนจึงต้องบริหารเงินทุนนี้ให้มีต้นทุนที่ไม่ผันผวนนัก
    • อาจไม่ได้รับผลจากค่าเงินบาทแข็งมากนัก นักลงทุนรายย่อยซื้อเพิ่มเข้ามาอีกในจำนวนที่ไม่มากนัก อาจไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนโดยรวมของกองทุนมากเท่าไร คือจริงๆ แล้วกองทุนอาจจ่ายเงินดอลลาร์ออกไป ด้วยต้นทุนเมื่อคิดเป็นเงินบาทแล้วไม่ต่างจากตอนปกติเท่าไรนัก นอกจากนี้ กองทุนอาจมีกลยุทธ์ในการบริหารเงินทุนที่ซับซ้อน เช่น การใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
    กองทุนรวมทองคำ ที่ไม่ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (2) ข้อดีของการซื้อถัวเฉลี่ยในช่วงค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น เช่น 1. อาจได้ต้นทุนเฉลี่ยลดลง คือเมื่อซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มในช่วงที่ราคาต่ำ จะช่วยลดต้นทุนเฉลี่ยของหน่วยลงทุนทั้งหมดลง ทำให้ในอนาคตเมื่อราคาฟื้นตัว อาจได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น • หลักคิดคือ เมื่อราคาของ Master Fund ฟื้นตัวขึ้น (NAV เพิ่มขึ้น) หน่วยลงทุนที่เราซื้อในราคาต่ำจะให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น แล้วทำให้ผลตอบแทนโดยรวมของพอร์ตการลงทุนดีขึ้น เช่น สมมติว่าซื้อหน่วยลงทุนใน Feeder Fund เมื่อ NAV ของ Master Fund อยู่ที่ $100 และซื้อเพิ่มอีกครั้งเมื่อ NAV ลดลงเหลือ $80 ต้นทุนเฉลี่ยของเราอาจอยู่ที่ประมาณ $90 ซึ่งเมื่อราคาของ Master Fund กลับมาที่ $100 บาทอีกครั้ง ก็จะมีกำไรจากส่วนต่างที่เกิดขึ้น • ลดต้นทุนเฉลี่ย หมายถึงการซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มในช่วงที่ราคาต่ำ เพื่อลดต้นทุนเฉลี่ยของการลงทุนทั้งหมด ซึ่งราคาต่ำในที่นี้หมายถึง การที่เราใช้เงินบาทน้อยลงในการแลกเปลี่ยนเป็นดอลลาร์สหรัฐ 2. เป็นโอกาสในการซื้อในตอนราคาน่าสนใจ คือถ้าเชื่อมั่นในสินทรัพย์ที่กองทุนลงทุนอยู่ เช่น ทองคำ การซื้อในช่วงที่ราคาต่ำอาจเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อในราคาที่น่าสนใจ • ราคาน่าสนใจ หรือราคาต่ำ แต่ละคนคิดไม่เหมือนกัน ขึ้นกับหลักคิดของแต่ละคน เช่น บางคนมองกราฟราคา บางคนวางกรอบราคาระยะสั้น-ยาว บางคนก็ศึกษามาเอง บางคนใช้ความเชื่อ บางคนฟังเขามาอีกที ข้อเสียของการซื้อถัวเฉลี่ยในช่วงค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น เช่น ต้นทุนเฉลี่ยอาจไม่ได้ลดลงจริง คือ กองทุนรวม Feeder Fund จะมีระบบบริหารงานภายใน เพื่อให้มีต้นทุนการดำเนินงานที่ควบคุมได้ เช่น • เงินดอลลาร์ที่ใช้หมุนเวียน กองทุน Feeder Fund จำเป็นต้องมีเงินดอลลาร์เพื่อนำไปลงทุนในกองทุนหลัก (Master Fund) ซึ่งมักจะใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เงินก้อนนี้ถือเป็นต้นทุนคงที่ของกองทุน กองทุนจึงต้องบริหารเงินทุนนี้ให้มีต้นทุนที่ไม่ผันผวนนัก • อาจไม่ได้รับผลจากค่าเงินบาทแข็งมากนัก นักลงทุนรายย่อยซื้อเพิ่มเข้ามาอีกในจำนวนที่ไม่มากนัก อาจไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนโดยรวมของกองทุนมากเท่าไร คือจริงๆ แล้วกองทุนอาจจ่ายเงินดอลลาร์ออกไป ด้วยต้นทุนเมื่อคิดเป็นเงินบาทแล้วไม่ต่างจากตอนปกติเท่าไรนัก นอกจากนี้ กองทุนอาจมีกลยุทธ์ในการบริหารเงินทุนที่ซับซ้อน เช่น การใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทุนรวมทองคำ ที่ไม่ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (1)

    คำถาม :
    ถ้ากองทุน feeder fund ที่ไม่ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ลงทุนในกองทุนแม่ GLD ETF เป็นกอง Master Fund แล้วตอนนี้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ถ้าตอนนี้ NAV ของ Feeder Fund ที่ว่านี้ติดลบ ถ้าซื้อถัวไปอีก จะมีข้อดี-เสีย ยังไง

    ทั้งนี้
    • Feeder Fund คือ กองทุนรวมที่ลงทุนในกองทุนหลัก (Master Fund) ในต่างประเทศ
    • Master Fund ในที่นี้คือ GLD ETF ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในทองคำ
    • ค่าเงินบาทแข็งค่า หมายความว่า เงินบาทมีค่ามากขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ
    • NAV ติดลบ: หมายถึง มูลค่าสุทธิของสินทรัพย์ต่อหน่วยลงทุนของกองทุนลดลง

    ตอบ :
    ช่วงที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น นักลงทุนที่ซื้อหน่วยลงทุนในช่วงเวลานั้น อาจไม่ได้รับประโยชน์จากอัตราแลกเปลี่ยนที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะมีปัจจัยภายในของกองทุน เช่น ขนาดของเงินทุนที่กองทุนมีอยู่ กลยุทธ์การบริหารเงินทุน และค่าธรรมเนียมต่างๆ ล้วนมีส่วนสำคัญในการกำหนดผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับ
    กองทุนรวมทองคำ ที่ไม่ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (1) คำถาม : ถ้ากองทุน feeder fund ที่ไม่ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ลงทุนในกองทุนแม่ GLD ETF เป็นกอง Master Fund แล้วตอนนี้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ถ้าตอนนี้ NAV ของ Feeder Fund ที่ว่านี้ติดลบ ถ้าซื้อถัวไปอีก จะมีข้อดี-เสีย ยังไง ทั้งนี้ • Feeder Fund คือ กองทุนรวมที่ลงทุนในกองทุนหลัก (Master Fund) ในต่างประเทศ • Master Fund ในที่นี้คือ GLD ETF ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในทองคำ • ค่าเงินบาทแข็งค่า หมายความว่า เงินบาทมีค่ามากขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ • NAV ติดลบ: หมายถึง มูลค่าสุทธิของสินทรัพย์ต่อหน่วยลงทุนของกองทุนลดลง ตอบ : ช่วงที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น นักลงทุนที่ซื้อหน่วยลงทุนในช่วงเวลานั้น อาจไม่ได้รับประโยชน์จากอัตราแลกเปลี่ยนที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะมีปัจจัยภายในของกองทุน เช่น ขนาดของเงินทุนที่กองทุนมีอยู่ กลยุทธ์การบริหารเงินทุน และค่าธรรมเนียมต่างๆ ล้วนมีส่วนสำคัญในการกำหนดผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥24/09/2567
    ตลาดหุ้นทั่วโลกพุ่งแตะระดับสูงสุด
    เป็นประวัติการณ์ในวันนี้
    หลังจากจีนเปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
    เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจและตลาดหุ้น
    ส่งผลให้หุ้นในเอเชีย รวมทั้งตลาดหุ้นไทย
    และยุโรปพุ่งสูงขึ้น รวมทั้งราคาสินค้าโภคภัณฑ์
    เช่น น้ำมัน, ทองแดง, เหล็ก, และ ทองคำ ราคาดีดตัวขึ้น

    🚩โดยผู้ว่าการธนาคารประชาชนจีน พาน กงเซิง
    ประกาศแผนลดต้นทุนการกู้ยืม และอัดฉีดเงิน
    เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจีนมากขึ้น
    รวมถึงลดภาระการผ่อนชำระเงินกู้ของครัวเรือน

    🚩นอกจากนี้ พานยังกล่าวอีกว่า จีนจะออกเครื่องมือ
    นโยบายการเงินเชิงโครงสร้างเป็นครั้งแรก
    เพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพของตลาดทุน

    ที่มา : Reuters

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #เศรษฐกิจจีน #thaitimes
    💥💥24/09/2567 ตลาดหุ้นทั่วโลกพุ่งแตะระดับสูงสุด เป็นประวัติการณ์ในวันนี้ หลังจากจีนเปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ส่งผลให้หุ้นในเอเชีย รวมทั้งตลาดหุ้นไทย และยุโรปพุ่งสูงขึ้น รวมทั้งราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน, ทองแดง, เหล็ก, และ ทองคำ ราคาดีดตัวขึ้น 🚩โดยผู้ว่าการธนาคารประชาชนจีน พาน กงเซิง ประกาศแผนลดต้นทุนการกู้ยืม และอัดฉีดเงิน เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจีนมากขึ้น รวมถึงลดภาระการผ่อนชำระเงินกู้ของครัวเรือน 🚩นอกจากนี้ พานยังกล่าวอีกว่า จีนจะออกเครื่องมือ นโยบายการเงินเชิงโครงสร้างเป็นครั้งแรก เพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพของตลาดทุน ที่มา : Reuters #หุ้นติดดอย #การลงทุน #เศรษฐกิจจีน #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 761 มุมมอง 0 รีวิว
  • 23-09-67/01 : หมี CNN / คอลัมน์ใหม่ "3 แยกปากหมา" ทุกวันอาทิตย์ ตอนแรก เอาฤกษ์ ลงวันจันทร์เปิดตัว ครั้งต่อไป ติดตามได้ทุกวันอาทิตย์ ไม่สั้น ไม่ยาว กำลังดี CONCEPT คือ "ด่าเหี้ยสบายใจจัง ด่ากี่ครั้งก็ยังเป็นเหี้ย"

    เลบานอน เฮซบอเลาะห์ vs ยิวเหี้ยเสนียดโลก อุบัติขึ้นแล้ว งานนี้ อียิวเสี้ยนจัด หมดมุก ต้องก่อสงครามย้ายบ้านเท่านั้น ไม่มีเหี้ยอะไรจะเสีย เข้าทางตรีนอิหร่าน กูไม่ต้องออกตัวแรง ปล่อยเฮซบอเลาะห์ขยี้ให้เละ แผนยกพลขึ้นบกประจักษ์ชัดแล้ว เรือรบเหี้ยมะกันเอามาแค่โชว์ ป้องกันเหี้ยอะไรไม่ได้เลย มันเองยังเอาตัวไม่รอด เพราะจากนี้ ทั้งเยเมน เฮซบอเลาะห์ โดยเลบานอน จะล่ออียิวด้วยไฮเปอร์โซนิคล้วนๆ ของดีจากเปียงยาง เตหะราน ปักกิ่ง มอสโคว์ มาหมด เลือกแดร๊กได้เลย อยากได้รสไหน? ระเบิดเพจเจอร์ หน่วยข่าวกรองรู้ล่วงหน้าแล้ว แต่ทำไมยังปล่อยให้ระเบิด คำตอบคือ มันทำลาย ฆ่าคนได้เฉพาะจุด โดยไม่เลือก เด็ก สตรี ผู้ใหญ่ การศึก ยอมเสียเบี้ยเพื่อแลกขุน จำเป็นต้องทำ เพราะสิ่งที่ตามมาคือ "มติเอกฉันท์" ความสามัคคีภายในชาติ ขอบคุณที่มรึงจุดไฟให้คนทั้งโลกรวมตัวต่อกันติดหมดแล้ว นี่ต่างหากที่มรึงพลาดอย่างแรง! จะเล่นบทเหี้ยจัญไร แต่ทำได้แค่ฆ่าคนไม่กี่สิบ แต่สิ่งที่มรึงจะโดนจากผลลัพธ์ของการกระทำ ตายเป็นหมื่นชัวร์ หลายคนไม่เข้าใจ เกมส์สงคราม เพื่อผลแพ้ชนะ ทำไมต้องยอมสละชีวิตผู้บริสุทธิ์ เชิญมรึงไปแหกตาดูประวัติศาสตร์โลกย้อนหลัง 3000 ปี นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ ยอมเสียเมืองทั้งเมืองถูกเผาทั้งเป็น เพื่อแลกพันธมิตรใหม่ที่จะเข้ามาช่วยกู้แผ่นดิน ทั้งหมดมันคือการวางหมากที่ชาญฉลาด และเด็ดขาด อย่าลืมว่า มรึงกำลังสู้อยู่กับใคร? มรึงดูเหี้ยก็รู้แล้ว ฆ่าพลเมืองมันเอง 3000 ตัว ทั้งตึกเวิร์ดเทรด เพียงเพื่อมติ ปล่อยงบ 3 แสนล้านเหรียญ เพื่อไปปล้นอิรัก ข้ออ้างฆ่าซัดดัม แท้จริงยึดทองคำ น้ำมัน เค้ามาเพื่อสนองตัณหาให้บริษัทพลังงานยิว ความจริงคือ ตายพันเพื่อแลกรักษาชีวิตคนนับล้าน จำเป็นต้องทำ เป็นแม่ทัพ โลกสวยไม่ได้! ก็เหมือนชาวปาเลสไตน์ ก่อนจะมาถึงวันนี้ เค้ายอมเอาชีวิต 100000 แลกชีวิตอียิวเหี้ยทั้งแผ่นดิน แล้วก็ทำสำเร็จ ทั้งโลกต่อต้านอียิวเสียหมา อีเนรคุณทันยาถูกหมายศาลโลกเป็นอาชญากรโลก ออกนอกแผ่นดินโดนจับทันที นอกจากหนีไปซุกชาติขี้ข้ายิวเท่านั้น ทั้งโลกมุสลิม กำลังจะตัดการค้ากับอิสราเอลทั้งหมด งานนี้ อยู่ได้ อยู่ไป ดีออก!

    ไอ้สัส! อีแขกภาระตะตามไทยเฉย แบนไม่เข้าเกาหลีใต้ จัดหนัก เหยียดกูเหรอ? ถูกอียุ่นปี่เหยียบหัวมาเกือบศตวรรษ พอลืมตาอ้าปากได้ ทำตัวเองเหมือนเป็นเทพเจ้า อินเดียไม่เที่ยว ไทยไม่เอา อีโสมจะเหลือห่าอะไรอีก ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยว สินค้าแบรนด์เกาหลีใต้ ถูกลูกหลงไปเต็มตรีน หันไปใช้ของในชาติกันเอง ไทยใช้จีน ถูกกว่า แจ่มกว่า ทันสมัยกว่า อีแขกใช้ของผลิตในชาติ แบรนด์จีน แต่ MADE IN INDIA แบบนี้ มิน่า ยอดอีส่ำส่อน ถึงได้ร่วงระนาว ซีรีย์ก็ตก ถูกจีนเขมือบแซงหน้า วงการ K-POP ตกต่ำ หมาไม่แล ทั้งหมด มรึงทำตัวเองทั้งสิ้น หากไม่มีดีพอ อย่าริสะเออะเสนอหน้ายึดแท่นผู้นำเอเซีย หมายังอายแทน? ที่มาว่าทำไม อีโสมขาวแก้เกมส์ มาเปิดคอนเสิร์ต K-POP ที่ไทย ถี่ยิบ เอาวงตำนานมาเล่น เพื่อดึงเรตติ้งกลับ แต่สายไปแล้ว แก้วที่มันร้าว ไม่นานก็คงจะแตก! อิทธิ ไม่ได้กล่าวไว้ เดินหมากผิด คิดสั้น คิดจนตัวตาย ถ้าอีโสมขาวไม่เอาอาเซียน มรึงคือโง่ยิ่งกว่าอียุโรป

    หลายคนยังกังวล เงิน 10000 จะได้มุย? บอกตรง "ขอให้ได้ ขอให้ครบ" เพราะมันหมายถึงจะมีคนเป็นหมู่คณะต้องเข้าคุก ตั้งแต่รมต. นายกฯ คนเซ็นต์ คนอนุมัติ ไม่รอด ไปหมดทั้งองคาพยพ ไม่ว่ารัฐบาลเถื่อน จะเล่นแร่แปรวิญญานยังไง ลูกไม้ขนาดไหน ก็ไม่พ้นส้นตรีนทหารดอกน่ะ เค้าอ่านมรึงออกหมดเกลี้ยงทุกรูขุมขน ไม่งั้น มรึงต้องบูชายันต์อี 6 SEASON ไปทำไมกันล่ะ? มันคือเกมส์ เค้าเล่นเกมส์กันอยู่ อย่าอินมาก วัดกันที่ใครอึดกว่ากัน? เพราะเกจิดัง มองออก รู้นานแล้ว ว่ามันจะจบที่ศาลทุกกรณี? ได้ 10000 มา อย่าเพิ่งดีใจ เพราะมรึงอาจจะต้องชดใช้คืน?(หากวังไม่ช่วย) แต่ใครจะสน เงินเข้าปากหมาแล้ว หมามันใช้ทันทีแน่ กระตุ้นเศรษฐกิจเหรอ? ข้ออ้างทั้งนั้น แผนบ่อนทำลายชาติ ตามใบสั่งเยรูซาเล็ม หมายังมองออก แต่คนมองไม่ออก? เชื่อกูเหอะ ของจริง เค้าไม่มาเสียเวลากับละครปาหี่ ทุกอย่างยัดลงศาลไคฟงเชือดอย่างเดียว เป็นไปตามกฎหมายสากลทุกประการ คนชงมีเพี๊ยบ มรึงก็เห็นคาตากันอยู่ อีเกรียงไกรเนี่ย แค่หัวหมู่ทะลวงฟัน ของจริงยังมีตามมาอีกเยอะ รอแค่ใบเสร็จเท่านั้น! คนไทยเห็นแก่ตัว เอาแต่ได้ จริงเหรอ? มรึงลองถามตัวเองดู?

    อาทิตย์หฤโหด อียิวตายคาที่ 190 ลูกระดมยิงแบบลืมหายใจ ตามเมืองสำคัญ เมืองท่า ทั่วประเทศอิสราเอล ชาวยิวมุดลงถ้ำ หลุมหลบภัยกันหมด ไม่ต้องอยู่แล้วบนดิน เหมือนนายใหญ่มรึงเป๊ะเด๊ะ อีสัตว์นรกเลื้อยคลานเรปทีเรี่ยน ไม่ต้องเห็นเดือนเห็นตะวันกันไปเลย! อิรักส่งนักรบช่วยเฮซบอเลาะห์ ดาหน้าถล่มฐานทัพเหี้ยมะกันทั่วตะวันออกกลาง แดร๊กลูกยาวกันอิ่มตลอดสัปดาห์ งานนี้เลือดท่วมแผ่นดินเหี้ยชัวร์! ข้ามวิกแป๊บ : แล้วก็มาตามนัด โปรดเกล้าแล้ว "บิ๊กปู" ผบทบ.คนใหม่ สายวงศ์เทวัญ ยุคเปลี่ยนขั้วอำนาจใหม่ ป๋าเปรมก็สายวงศ์เทวัญเก่า งานนี้ ใบสั่งวังมาเต็ม รอดู อะไรมันส์ๆ กำลังจะมา เด็กเพ่แดงเค้า มองภาพเห็นชัดยังจ๊ะ? เพ่แดงต้องออก เพื่อไปทำหน้าที่ล้างบางเหี้ยสัดนรกในแผ่นดิน ปล่อยน้องเลิฟขึ้นมาควบคุมกองทัพต่อ อ้าว..แล้วไหง รมต.กลาโหมคนใหม่ จะล้างบางทหารผู้จงรักภักดีมิใช่เหรอ? ดีออก เป็นได้แค่ตำแหน่ง แต่อำนาจไม่มี สั่งใครได้ล่ะ? ทหารเค้าฟังมรึงมุย? สรุปแค่ตำแหน่งหัวโขน ไอ้สัส! รมต.สั่งผบทบ.บ่ได้จ๊ะ กระดูกคนละเบอร์? กูบอกเลย สายวงศ์เทวัญขึ้นเนี่ย ประกบวังน่ะจ๊ะ ไม่ต้องให้แปล ดีออก? ให้รู้บ้าง "ฟ้าสูง แผ่นดินต่ำ มันเป็นยังไง" เชิญมรึงเล่นละครปาหี่หลอกควายไปวันวันเหอะ ควายรอ 10000 มรึงรอหนีออกนอก หมายังรู้? ชัดเจนน่ะ กองทัพขยับแล้ว ล้างบางทหารแตงโม ทหารล้มเจ้า ไม่ได้ขึ้น รอโดนเชือด ปลดประจำการทั้งคณะ กลียุคมันจบแล้ว แสงทำงาน เหี้ยอยู่ไม่ได้ จบน่ะ!

    ปล.จริงดิ? ตัวเล่นหลักแพ้ยับ ถึงตาลูกสมุนขี้ข้าชั้นรอง ทั้งอีจิงโจ้ อีแคน อียุ่นปี่ เตรียมถูกบูชายันต์ได้เลย คราวก่อนศึกแปซิฟิค กองเรือเหี้ยจิงโจ้ ยังไม่ทันจะเขยิบ แค่ตงเฟิงหันหัวไปจ่อเรือธง รัศมี 3000 กม. แม่งหยุดเดินเรือทันที มรึงกล้าหน่อยดิ ริจะโตอย่าปอดแหก จีนก็เลยอดไม่ได้โชว์ของเล่นให้โลกดูเต็มตาซักกะที ช่วยมาเป็นเป้าหน่อย ด้านอีแคนยังเสี้ยนไม่เลิก หลังเคยเสือกสะเออะเสนอหน้าจับเจ้าหญิงหัวเว่ยไป จีนกาหัวหมามรึงนานแล้ว งวดนี้ เจอจีนล่อการค้ายับ ไม่ส่ง ไม่สั่ง ไม่คบ อีแคนดิ้นพล่าน ปากดี ดีให้สุดทาง จำไว้ ไอ้กระจอก! แถมยังจะโดนฝ่ายอีทรัมปป์ พรรคช้าง ล่อพรมแดนต่อ เรื่องผู้อพยพ สร้างกำแพงกั้นใหม่ หลังเคยโดยรถบรรทุกจอดปิดถนนข้ามประเทศ ตอนนี้ อีทรัมปป์กลายเป็นเป้าล่อของอียิวเหี้ยไซออนนิสต์ หลังประกาศศึกล้างบาง DEEP STATE แยกอเมริกันคน กับอเมริกันควายออกจากกัน ศึกภายในเละเทะ มรึงไม่ใช่คู่ต่อกรรัสเซีย จีน นานแล้ว มันคนละเลเวล หมาทันที เมื่อปูตินสั่งทดสอบนุ๊กที่อาร์คติค ยิงสด LIVE ให้ทั้งโลกดูเต็มตา รอวัน SHOW TIME เท่านั้น เกมส์จิตวิทยา ทำเอาอียูเครน หมอบหมดแล้ว อีเสี้ยนยากำลังจะถูกปฎิวัติ นกรู้ เตรียมหาบันไดลง แต่ยังไง ปูตินหมายหัวมรึงแล้ว ต้องตายโหงตายห่าเท่านั้น เพราะมรึงสั่งฆ่าชาวดอนบาส และชาวบูชา นีโอนาซีจะถูกฆ่าล้างโคตรเกลี้ยงแผ่นดิน คำไหน คำนั้น นี่คือ "ปูติน" เปิดโลกความจริง ไม่ใช่โซเชี่ยลหน้าฉาก จะบอกว่า "ชาติอาเซียน" ในโซเชี่ยลรบกันจะเป็นจะตาย แต่กองทัพ และฝ่ายความมั่นคง เค้าดีกันเสมอมา ไม่ว่าไทย ขะแมร์ พม่า ลาว เวียดนาม ยกเว้นอีเสือเหลือง(อีแอบ) ที่จ้องเสียบหลังไทยเสมอ เพราะเล่นบทขี้อิจฉา แต่ไม่กล้าชนซึ่งหน้า เพราะรู้ดีว่า ลูกเลิฟจีน รัสเซีย อาเซียนจะไม่แตก เหตุเพราะต่างรู้ดีว่า อาเซียนคือเกราะกำบังให้ทุกชาติสมาชิก หากแตกเมื่อไหร่ เหี้ยมันจะโจมตีแต่ละชาติง่ายดาย ไทยไม่เท่าไหร่ เพราะมีมือ 1 โลกดูแลถึง 2 ประเทศ แล้วชาติอาเซียนอื่นล่ะ? ดังนั้น อย่ามาซ่าส์กับไทย อย่ามาเสี้ยม เพราะในความเป็นจริง จีน รัสเซีย เข้ามาอุ้ม เข้ามาช่วย ชาติอาเซียน มาโดยตลอด ตั้งแต่ยุคโควิท มาจนถึงวันนี้ ใครเป็นใคร ภาพยิ่งชัด ปูตินมาเยือนอาเซียน สีจิ้นผิง เยือนอาเซียน ดูขบวนต้อนรับก็พอแล้ว แตกต่างจากเหี้ยทุกรูขุมขน? เกมส์โลกมรึงแพ้ไปแล้ว ยังหน้าด้านจะก่อสงครามล้มกระดานให้ได้ ไม่ต้องถามต่อน่ะ สงครามจะมีมั้ย? เค้าข้ามจุดนั้นไปนานแล้ว ต้องถามว่า "เหี้ยยังจะเหลือแผ่นดินมั้ยดีกว่า?"

    หมี CNN(บิ๊กแจ๊สตบลุงชาญร่วง ชาวปทุมไม่เอาทั้งอีแดง อีส้ม เบื่อการเมือง มาเลือกกันน้อยกว่าครั้งก่อน แต่เสือกชนะขาด หลอกควายต่อยากแล้วสิน่ะ อีเหลิมฉลอง กูสาแก่ใจนัก เขี่ยอีแดงคาสนามเลือกตั้ง นายกอบจ. ใครว่าไม่สำคัญ งบประมาณทั้งนั้น รากฐานเสียง สนามใหญ่ นี่ไง ปชต. มีไว้หาแดร๊ก ขายเสียงกัน ที่ใดมีควายเยอะ ที่นั่น ปชต.เบ่งบาน ระบบที่เหี้ยยิวสร้าง อย่าหวังว่ามันจะทำให้ชาติใดรอด? ปชต.คือเสนียดโลก จำจงดี!)
    23 กย. 67
    12.50 น.

    https://linevoom.line.me/post/1172707076283787922
    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ :
    https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    23-09-67/01 : หมี CNN / คอลัมน์ใหม่ "3 แยกปากหมา" ทุกวันอาทิตย์ ตอนแรก เอาฤกษ์ ลงวันจันทร์เปิดตัว ครั้งต่อไป ติดตามได้ทุกวันอาทิตย์ ไม่สั้น ไม่ยาว กำลังดี CONCEPT คือ "ด่าเหี้ยสบายใจจัง ด่ากี่ครั้งก็ยังเป็นเหี้ย" เลบานอน เฮซบอเลาะห์ vs ยิวเหี้ยเสนียดโลก อุบัติขึ้นแล้ว งานนี้ อียิวเสี้ยนจัด หมดมุก ต้องก่อสงครามย้ายบ้านเท่านั้น ไม่มีเหี้ยอะไรจะเสีย เข้าทางตรีนอิหร่าน กูไม่ต้องออกตัวแรง ปล่อยเฮซบอเลาะห์ขยี้ให้เละ แผนยกพลขึ้นบกประจักษ์ชัดแล้ว เรือรบเหี้ยมะกันเอามาแค่โชว์ ป้องกันเหี้ยอะไรไม่ได้เลย มันเองยังเอาตัวไม่รอด เพราะจากนี้ ทั้งเยเมน เฮซบอเลาะห์ โดยเลบานอน จะล่ออียิวด้วยไฮเปอร์โซนิคล้วนๆ ของดีจากเปียงยาง เตหะราน ปักกิ่ง มอสโคว์ มาหมด เลือกแดร๊กได้เลย อยากได้รสไหน? ระเบิดเพจเจอร์ หน่วยข่าวกรองรู้ล่วงหน้าแล้ว แต่ทำไมยังปล่อยให้ระเบิด คำตอบคือ มันทำลาย ฆ่าคนได้เฉพาะจุด โดยไม่เลือก เด็ก สตรี ผู้ใหญ่ การศึก ยอมเสียเบี้ยเพื่อแลกขุน จำเป็นต้องทำ เพราะสิ่งที่ตามมาคือ "มติเอกฉันท์" ความสามัคคีภายในชาติ ขอบคุณที่มรึงจุดไฟให้คนทั้งโลกรวมตัวต่อกันติดหมดแล้ว นี่ต่างหากที่มรึงพลาดอย่างแรง! จะเล่นบทเหี้ยจัญไร แต่ทำได้แค่ฆ่าคนไม่กี่สิบ แต่สิ่งที่มรึงจะโดนจากผลลัพธ์ของการกระทำ ตายเป็นหมื่นชัวร์ หลายคนไม่เข้าใจ เกมส์สงคราม เพื่อผลแพ้ชนะ ทำไมต้องยอมสละชีวิตผู้บริสุทธิ์ เชิญมรึงไปแหกตาดูประวัติศาสตร์โลกย้อนหลัง 3000 ปี นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ ยอมเสียเมืองทั้งเมืองถูกเผาทั้งเป็น เพื่อแลกพันธมิตรใหม่ที่จะเข้ามาช่วยกู้แผ่นดิน ทั้งหมดมันคือการวางหมากที่ชาญฉลาด และเด็ดขาด อย่าลืมว่า มรึงกำลังสู้อยู่กับใคร? มรึงดูเหี้ยก็รู้แล้ว ฆ่าพลเมืองมันเอง 3000 ตัว ทั้งตึกเวิร์ดเทรด เพียงเพื่อมติ ปล่อยงบ 3 แสนล้านเหรียญ เพื่อไปปล้นอิรัก ข้ออ้างฆ่าซัดดัม แท้จริงยึดทองคำ น้ำมัน เค้ามาเพื่อสนองตัณหาให้บริษัทพลังงานยิว ความจริงคือ ตายพันเพื่อแลกรักษาชีวิตคนนับล้าน จำเป็นต้องทำ เป็นแม่ทัพ โลกสวยไม่ได้! ก็เหมือนชาวปาเลสไตน์ ก่อนจะมาถึงวันนี้ เค้ายอมเอาชีวิต 100000 แลกชีวิตอียิวเหี้ยทั้งแผ่นดิน แล้วก็ทำสำเร็จ ทั้งโลกต่อต้านอียิวเสียหมา อีเนรคุณทันยาถูกหมายศาลโลกเป็นอาชญากรโลก ออกนอกแผ่นดินโดนจับทันที นอกจากหนีไปซุกชาติขี้ข้ายิวเท่านั้น ทั้งโลกมุสลิม กำลังจะตัดการค้ากับอิสราเอลทั้งหมด งานนี้ อยู่ได้ อยู่ไป ดีออก! ไอ้สัส! อีแขกภาระตะตามไทยเฉย แบนไม่เข้าเกาหลีใต้ จัดหนัก เหยียดกูเหรอ? ถูกอียุ่นปี่เหยียบหัวมาเกือบศตวรรษ พอลืมตาอ้าปากได้ ทำตัวเองเหมือนเป็นเทพเจ้า อินเดียไม่เที่ยว ไทยไม่เอา อีโสมจะเหลือห่าอะไรอีก ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยว สินค้าแบรนด์เกาหลีใต้ ถูกลูกหลงไปเต็มตรีน หันไปใช้ของในชาติกันเอง ไทยใช้จีน ถูกกว่า แจ่มกว่า ทันสมัยกว่า อีแขกใช้ของผลิตในชาติ แบรนด์จีน แต่ MADE IN INDIA แบบนี้ มิน่า ยอดอีส่ำส่อน ถึงได้ร่วงระนาว ซีรีย์ก็ตก ถูกจีนเขมือบแซงหน้า วงการ K-POP ตกต่ำ หมาไม่แล ทั้งหมด มรึงทำตัวเองทั้งสิ้น หากไม่มีดีพอ อย่าริสะเออะเสนอหน้ายึดแท่นผู้นำเอเซีย หมายังอายแทน? ที่มาว่าทำไม อีโสมขาวแก้เกมส์ มาเปิดคอนเสิร์ต K-POP ที่ไทย ถี่ยิบ เอาวงตำนานมาเล่น เพื่อดึงเรตติ้งกลับ แต่สายไปแล้ว แก้วที่มันร้าว ไม่นานก็คงจะแตก! อิทธิ ไม่ได้กล่าวไว้ เดินหมากผิด คิดสั้น คิดจนตัวตาย ถ้าอีโสมขาวไม่เอาอาเซียน มรึงคือโง่ยิ่งกว่าอียุโรป หลายคนยังกังวล เงิน 10000 จะได้มุย? บอกตรง "ขอให้ได้ ขอให้ครบ" เพราะมันหมายถึงจะมีคนเป็นหมู่คณะต้องเข้าคุก ตั้งแต่รมต. นายกฯ คนเซ็นต์ คนอนุมัติ ไม่รอด ไปหมดทั้งองคาพยพ ไม่ว่ารัฐบาลเถื่อน จะเล่นแร่แปรวิญญานยังไง ลูกไม้ขนาดไหน ก็ไม่พ้นส้นตรีนทหารดอกน่ะ เค้าอ่านมรึงออกหมดเกลี้ยงทุกรูขุมขน ไม่งั้น มรึงต้องบูชายันต์อี 6 SEASON ไปทำไมกันล่ะ? มันคือเกมส์ เค้าเล่นเกมส์กันอยู่ อย่าอินมาก วัดกันที่ใครอึดกว่ากัน? เพราะเกจิดัง มองออก รู้นานแล้ว ว่ามันจะจบที่ศาลทุกกรณี? ได้ 10000 มา อย่าเพิ่งดีใจ เพราะมรึงอาจจะต้องชดใช้คืน?(หากวังไม่ช่วย) แต่ใครจะสน เงินเข้าปากหมาแล้ว หมามันใช้ทันทีแน่ กระตุ้นเศรษฐกิจเหรอ? ข้ออ้างทั้งนั้น แผนบ่อนทำลายชาติ ตามใบสั่งเยรูซาเล็ม หมายังมองออก แต่คนมองไม่ออก? เชื่อกูเหอะ ของจริง เค้าไม่มาเสียเวลากับละครปาหี่ ทุกอย่างยัดลงศาลไคฟงเชือดอย่างเดียว เป็นไปตามกฎหมายสากลทุกประการ คนชงมีเพี๊ยบ มรึงก็เห็นคาตากันอยู่ อีเกรียงไกรเนี่ย แค่หัวหมู่ทะลวงฟัน ของจริงยังมีตามมาอีกเยอะ รอแค่ใบเสร็จเท่านั้น! คนไทยเห็นแก่ตัว เอาแต่ได้ จริงเหรอ? มรึงลองถามตัวเองดู? อาทิตย์หฤโหด อียิวตายคาที่ 190 ลูกระดมยิงแบบลืมหายใจ ตามเมืองสำคัญ เมืองท่า ทั่วประเทศอิสราเอล ชาวยิวมุดลงถ้ำ หลุมหลบภัยกันหมด ไม่ต้องอยู่แล้วบนดิน เหมือนนายใหญ่มรึงเป๊ะเด๊ะ อีสัตว์นรกเลื้อยคลานเรปทีเรี่ยน ไม่ต้องเห็นเดือนเห็นตะวันกันไปเลย! อิรักส่งนักรบช่วยเฮซบอเลาะห์ ดาหน้าถล่มฐานทัพเหี้ยมะกันทั่วตะวันออกกลาง แดร๊กลูกยาวกันอิ่มตลอดสัปดาห์ งานนี้เลือดท่วมแผ่นดินเหี้ยชัวร์! ข้ามวิกแป๊บ : แล้วก็มาตามนัด โปรดเกล้าแล้ว "บิ๊กปู" ผบทบ.คนใหม่ สายวงศ์เทวัญ ยุคเปลี่ยนขั้วอำนาจใหม่ ป๋าเปรมก็สายวงศ์เทวัญเก่า งานนี้ ใบสั่งวังมาเต็ม รอดู อะไรมันส์ๆ กำลังจะมา เด็กเพ่แดงเค้า มองภาพเห็นชัดยังจ๊ะ? เพ่แดงต้องออก เพื่อไปทำหน้าที่ล้างบางเหี้ยสัดนรกในแผ่นดิน ปล่อยน้องเลิฟขึ้นมาควบคุมกองทัพต่อ อ้าว..แล้วไหง รมต.กลาโหมคนใหม่ จะล้างบางทหารผู้จงรักภักดีมิใช่เหรอ? ดีออก เป็นได้แค่ตำแหน่ง แต่อำนาจไม่มี สั่งใครได้ล่ะ? ทหารเค้าฟังมรึงมุย? สรุปแค่ตำแหน่งหัวโขน ไอ้สัส! รมต.สั่งผบทบ.บ่ได้จ๊ะ กระดูกคนละเบอร์? กูบอกเลย สายวงศ์เทวัญขึ้นเนี่ย ประกบวังน่ะจ๊ะ ไม่ต้องให้แปล ดีออก? ให้รู้บ้าง "ฟ้าสูง แผ่นดินต่ำ มันเป็นยังไง" เชิญมรึงเล่นละครปาหี่หลอกควายไปวันวันเหอะ ควายรอ 10000 มรึงรอหนีออกนอก หมายังรู้? ชัดเจนน่ะ กองทัพขยับแล้ว ล้างบางทหารแตงโม ทหารล้มเจ้า ไม่ได้ขึ้น รอโดนเชือด ปลดประจำการทั้งคณะ กลียุคมันจบแล้ว แสงทำงาน เหี้ยอยู่ไม่ได้ จบน่ะ! ปล.จริงดิ? ตัวเล่นหลักแพ้ยับ ถึงตาลูกสมุนขี้ข้าชั้นรอง ทั้งอีจิงโจ้ อีแคน อียุ่นปี่ เตรียมถูกบูชายันต์ได้เลย คราวก่อนศึกแปซิฟิค กองเรือเหี้ยจิงโจ้ ยังไม่ทันจะเขยิบ แค่ตงเฟิงหันหัวไปจ่อเรือธง รัศมี 3000 กม. แม่งหยุดเดินเรือทันที มรึงกล้าหน่อยดิ ริจะโตอย่าปอดแหก จีนก็เลยอดไม่ได้โชว์ของเล่นให้โลกดูเต็มตาซักกะที ช่วยมาเป็นเป้าหน่อย ด้านอีแคนยังเสี้ยนไม่เลิก หลังเคยเสือกสะเออะเสนอหน้าจับเจ้าหญิงหัวเว่ยไป จีนกาหัวหมามรึงนานแล้ว งวดนี้ เจอจีนล่อการค้ายับ ไม่ส่ง ไม่สั่ง ไม่คบ อีแคนดิ้นพล่าน ปากดี ดีให้สุดทาง จำไว้ ไอ้กระจอก! แถมยังจะโดนฝ่ายอีทรัมปป์ พรรคช้าง ล่อพรมแดนต่อ เรื่องผู้อพยพ สร้างกำแพงกั้นใหม่ หลังเคยโดยรถบรรทุกจอดปิดถนนข้ามประเทศ ตอนนี้ อีทรัมปป์กลายเป็นเป้าล่อของอียิวเหี้ยไซออนนิสต์ หลังประกาศศึกล้างบาง DEEP STATE แยกอเมริกันคน กับอเมริกันควายออกจากกัน ศึกภายในเละเทะ มรึงไม่ใช่คู่ต่อกรรัสเซีย จีน นานแล้ว มันคนละเลเวล หมาทันที เมื่อปูตินสั่งทดสอบนุ๊กที่อาร์คติค ยิงสด LIVE ให้ทั้งโลกดูเต็มตา รอวัน SHOW TIME เท่านั้น เกมส์จิตวิทยา ทำเอาอียูเครน หมอบหมดแล้ว อีเสี้ยนยากำลังจะถูกปฎิวัติ นกรู้ เตรียมหาบันไดลง แต่ยังไง ปูตินหมายหัวมรึงแล้ว ต้องตายโหงตายห่าเท่านั้น เพราะมรึงสั่งฆ่าชาวดอนบาส และชาวบูชา นีโอนาซีจะถูกฆ่าล้างโคตรเกลี้ยงแผ่นดิน คำไหน คำนั้น นี่คือ "ปูติน" เปิดโลกความจริง ไม่ใช่โซเชี่ยลหน้าฉาก จะบอกว่า "ชาติอาเซียน" ในโซเชี่ยลรบกันจะเป็นจะตาย แต่กองทัพ และฝ่ายความมั่นคง เค้าดีกันเสมอมา ไม่ว่าไทย ขะแมร์ พม่า ลาว เวียดนาม ยกเว้นอีเสือเหลือง(อีแอบ) ที่จ้องเสียบหลังไทยเสมอ เพราะเล่นบทขี้อิจฉา แต่ไม่กล้าชนซึ่งหน้า เพราะรู้ดีว่า ลูกเลิฟจีน รัสเซีย อาเซียนจะไม่แตก เหตุเพราะต่างรู้ดีว่า อาเซียนคือเกราะกำบังให้ทุกชาติสมาชิก หากแตกเมื่อไหร่ เหี้ยมันจะโจมตีแต่ละชาติง่ายดาย ไทยไม่เท่าไหร่ เพราะมีมือ 1 โลกดูแลถึง 2 ประเทศ แล้วชาติอาเซียนอื่นล่ะ? ดังนั้น อย่ามาซ่าส์กับไทย อย่ามาเสี้ยม เพราะในความเป็นจริง จีน รัสเซีย เข้ามาอุ้ม เข้ามาช่วย ชาติอาเซียน มาโดยตลอด ตั้งแต่ยุคโควิท มาจนถึงวันนี้ ใครเป็นใคร ภาพยิ่งชัด ปูตินมาเยือนอาเซียน สีจิ้นผิง เยือนอาเซียน ดูขบวนต้อนรับก็พอแล้ว แตกต่างจากเหี้ยทุกรูขุมขน? เกมส์โลกมรึงแพ้ไปแล้ว ยังหน้าด้านจะก่อสงครามล้มกระดานให้ได้ ไม่ต้องถามต่อน่ะ สงครามจะมีมั้ย? เค้าข้ามจุดนั้นไปนานแล้ว ต้องถามว่า "เหี้ยยังจะเหลือแผ่นดินมั้ยดีกว่า?" หมี CNN(บิ๊กแจ๊สตบลุงชาญร่วง ชาวปทุมไม่เอาทั้งอีแดง อีส้ม เบื่อการเมือง มาเลือกกันน้อยกว่าครั้งก่อน แต่เสือกชนะขาด หลอกควายต่อยากแล้วสิน่ะ อีเหลิมฉลอง กูสาแก่ใจนัก เขี่ยอีแดงคาสนามเลือกตั้ง นายกอบจ. ใครว่าไม่สำคัญ งบประมาณทั้งนั้น รากฐานเสียง สนามใหญ่ นี่ไง ปชต. มีไว้หาแดร๊ก ขายเสียงกัน ที่ใดมีควายเยอะ ที่นั่น ปชต.เบ่งบาน ระบบที่เหี้ยยิวสร้าง อย่าหวังว่ามันจะทำให้ชาติใดรอด? ปชต.คือเสนียดโลก จำจงดี!) 23 กย. 67 12.50 น. https://linevoom.line.me/post/1172707076283787922 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 593 มุมมอง 0 รีวิว
  • #EP2
    เอากันตามตรง ถ้าขายแบบตรงๆ กำไรน้อย..ส่วนที่กำไรชัดเจน คือ 2 สิ่ง คือ ส่วนต่างเปอร์เซ็นต์ทอง กับส่วนต่างของค่าแรงช่างขึ้นงาน (สมมุติจ้างช่างชิ้นละ 200 ก็เก็บ 4-600 เป็นต้น งานตลับแพงกว่านี้ 1500-3000)
    ก็เหมือนร้านขายทองรูปพรรณ ถ้าขายปกติอย่างเดียว กำไรแค่ค่ากำเน็จ และอาจกำไรราคาทองที่เปลี่ยนแปลง ..(แต่อันนี้มันไม่ยั่งยืน สมมุติคุณมี Stock 3 กิโล คุณก็กำไรแค่ 3 กิโลนั้น ..แล้วไงต่อ คุณก็ต้องไปหามาใหม่ 3 กิโล ในราคาตลาด...เพื่อมาขาย ทำธุรกิจต่อ..หรือจะกำไรแล้วเลิกเลย .ก็คงไม่ใช่
    ส่วนที่กำไรจริงๆคือ รับซื้อทองเก่า รับจำนำแล้วขาดส่ง ระยะหลังมีระบบออมทอง มีคนเอาเงินมาฝากไว้ฟรีๆ ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยด้วย..
    วันนี้ข่าวใหญ่ เรื่องซื้อทองในเฟส หรือ Tiktok ไม่ทราบ แล้วเอาไปขาย สรุปขายไม่ได้...อยากบอกว่า ด้วยความที่ผู้เขียนสนิทกับเศรษญีชาวจีนท่านนึง เทคโนโลยีเคลือบทองคำแบบนี้ มีมา 15 ปีแล้ว พร้อมใบ certificate ครบ การันตี Gold 99.9 .(ผู้เขียนได้มา 15 ปีก่อน เป็นแบงค์ Us dollars ทองคำ (แต่ทำโดยจีน)
    ...ออกตัวก่อน ส่วนตัวไม่ได้อ่าน ว่าใครขาย ใครซื้อ และไม่ทราบด้วย และมันไม่ใช่เรื่องใหม่ จึงไม่ได้สนใจ . ,
    ..แต่บอกได้อย่างนึง ถ้าขายเป็นทองแท้ แต่เขาพิสูจน์แล้วไม่ใช่ทองคำ และถ้ามีผู้เสียหายจำนวนมาก ก็โดนคดี ฉัอโกงประชาชน เต็มๆ......ถ้าเคลียร์ได้ก็ดี คดีนี้ แรง....ถ้าความเสียหายมาก บางทีศาลไม่ให้ประกัน...สู้ไปติดไปกันมาเยอะแล้ว คดีนี้...
    พรก อภัยโทษมาในวาระสำคัญ ก็มักไม่ cover คดีแบบนี้ ส่วนใหญ่มักติดยาว..
    #ไม่โลภไม่โดน# #ท่องไว้#
    #EP2 เอากันตามตรง ถ้าขายแบบตรงๆ กำไรน้อย..ส่วนที่กำไรชัดเจน คือ 2 สิ่ง คือ ส่วนต่างเปอร์เซ็นต์ทอง กับส่วนต่างของค่าแรงช่างขึ้นงาน (สมมุติจ้างช่างชิ้นละ 200 ก็เก็บ 4-600 เป็นต้น งานตลับแพงกว่านี้ 1500-3000) ก็เหมือนร้านขายทองรูปพรรณ ถ้าขายปกติอย่างเดียว กำไรแค่ค่ากำเน็จ และอาจกำไรราคาทองที่เปลี่ยนแปลง ..(แต่อันนี้มันไม่ยั่งยืน สมมุติคุณมี Stock 3 กิโล คุณก็กำไรแค่ 3 กิโลนั้น ..แล้วไงต่อ คุณก็ต้องไปหามาใหม่ 3 กิโล ในราคาตลาด...เพื่อมาขาย ทำธุรกิจต่อ..หรือจะกำไรแล้วเลิกเลย .ก็คงไม่ใช่ ส่วนที่กำไรจริงๆคือ รับซื้อทองเก่า รับจำนำแล้วขาดส่ง ระยะหลังมีระบบออมทอง มีคนเอาเงินมาฝากไว้ฟรีๆ ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยด้วย.. วันนี้ข่าวใหญ่ เรื่องซื้อทองในเฟส หรือ Tiktok ไม่ทราบ แล้วเอาไปขาย สรุปขายไม่ได้...อยากบอกว่า ด้วยความที่ผู้เขียนสนิทกับเศรษญีชาวจีนท่านนึง เทคโนโลยีเคลือบทองคำแบบนี้ มีมา 15 ปีแล้ว พร้อมใบ certificate ครบ การันตี Gold 99.9 .(ผู้เขียนได้มา 15 ปีก่อน เป็นแบงค์ Us dollars ทองคำ (แต่ทำโดยจีน) ...ออกตัวก่อน ส่วนตัวไม่ได้อ่าน ว่าใครขาย ใครซื้อ และไม่ทราบด้วย และมันไม่ใช่เรื่องใหม่ จึงไม่ได้สนใจ . , ..แต่บอกได้อย่างนึง ถ้าขายเป็นทองแท้ แต่เขาพิสูจน์แล้วไม่ใช่ทองคำ และถ้ามีผู้เสียหายจำนวนมาก ก็โดนคดี ฉัอโกงประชาชน เต็มๆ......ถ้าเคลียร์ได้ก็ดี คดีนี้ แรง....ถ้าความเสียหายมาก บางทีศาลไม่ให้ประกัน...สู้ไปติดไปกันมาเยอะแล้ว คดีนี้... พรก อภัยโทษมาในวาระสำคัญ ก็มักไม่ cover คดีแบบนี้ ส่วนใหญ่มักติดยาว.. #ไม่โลภไม่โดน# #ท่องไว้#
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • 20 กันยายน 2567 -Highlight จากงาน BOT Symposium 2024 | หนี้: The Economics of Balancing Today and Tomorrow

    ช่วงหนึ่ง ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติบอกว่า ธปท.ไม่จำเป็นต้องปรับลดดอกเบี้ยตาม Fed โดยย้ำว่า นโยบายการเงินในประเทศ ยังอิงอยู่กับปัจจัยในประเทศเป็นหลัก

    รายงานจากเพจ Today Biznews เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ’ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ตอบกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ลดดอกเบี้ย ว่า Fed ลดดอกเบี้ย 0.50% หรือ 50 เบสิสพอยท์ (bps) สำหรับ Fed ถือว่าไม่น้อย

    แต่ในแง่ผลกระทบ มองว่า ตลาดรับรู้ไปแล้วระดับหนึ่ง ทำให้ผลกระทบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดอลลาร์อ่อนค่า ค่าเงินในภูมิภาคและค่าเงินบาทแข็งค่า สะท้อนไปแล้วระดับหนึ่ง

    ส่วนช่องทางที่กระทบเศรษฐกิจไทย หลักๆ คือ กระทบตลาดเงินและค่าเงิน ในแง่ผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ก็มีบ้าง

    แต่โดยรวมผลกระทบต่อเศรษฐกิจไม่ได้มากมายขนาดนั้น เพราะเราเป็นเศรษฐกิจที่พึ่งระบบแบงก์เป็นส่วนใหญ่ ช่องที่เห็นที่กระทบเยอะคือค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์

    อีกอย่างที่ซ้ำเติมคือราคาทองคำที่ทำจุดสูงสุดใหม่ (All Time High) ส่วนหนึ่งก็มาจากดอลลาร์อ่อนค่า ซึ่งค่าเงินไทยมีความสัมพันธ์ (Correlation) กับทองค่อนข้างสูง สูงกว่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค

    ส่วนผลในแง่เศรษฐกิจหลัง Fed ลดดอกเบี้ย สะท้อนว่า Fed ให้ความสำคัญกับ Soft Landing หรือให้ความสำคัญกับการดูแลเรื่องเศรษฐกิจ เทียบกับความเป็นห่วงในด้านเงินเฟ้อ

    ซึ่งในแง่เศรษฐกิจ อาจจะทำให้ไทยสบายใจขึ้นได้หน่อยว่า โอกาส Soft Landing ในสหรัฐจะสูงขึ้น แต่ตัวเลขต่างๆ ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น

    ‘นี่ (การลดดอกเบี้ยของ Fed) ก็เหมือนการซื้อประกัน Make Sure ว่าโอกาสเกิด Hard Landing ให้มันน้อยๆ’

    [ นโยบายอิงกับปัจจัยในประเทศ ]

    ส่วนผลต่อการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศเรา ผู้ว่าฯ บอกว่า นโยบายการเงินของไทย เน้นเรื่องภายในประเทศเป็นหลัก ซึ่งประกอบด้วย 3 ปัจจัยหลัก (ที่แบงก์ชาติบอกอยู่เสมอ) คือ

    1. เศรษฐกิจ: การเติบโตว่าจะเข้าสู่ศักยภาพหรือไม่
    2. เงินเฟ้อ: เงินเฟ้อของเราจะเข้าสู่กรอบเงินเฟ้อหรือไม่
    3. เสถียรภาพทางด้านการเงิน: ซึ่งช่วงหลังให้ความสำคัญ

    ทั้ง 3 ปัจจัย ไม่ได้เห็นอะไรที่จะทำให้ภาพการประเมินแตกต่างจากที่มองเอาไว้ ทั้งเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ มีแต่เสถียรภาพทางด้านการเงิน เริ่มเห็นความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit Risk) เพิ่มสูงขึ้นเยอะ

    แต่ก็ต้องคำนึงถึงภาพรวม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือตอนที่ธนาคารกลางยักษ์ใหญ่ของโลกเตรียมปรับเปลี่ยนนโยบาย ซึ่งจะกระทบภาพรวม และมีนัยต่อประเด็นข้างต้น ทำให้ต้องคำนึงถึง

    ‘การที่เราย้ำว่า เรา Outlook Dependent เป็นการตัดสินใจ หรือกรอบความคิดที่เหมาะสมแล้ว และถูกต้อง เพราะเราเห็นแล้วว่าที่อื่นที่เน้น Data Dependent มันสร้าง noise ต่อตลาดเยอะ’

    ส่วนการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ณ ตอนนี้ยังประชุมตามเดิม (รอบหน้า 16 ต.ค. 2567) ถ้าต้องมีการประชุมเพิ่มเติมพิเศษก็มีได้

    [ ดอกเบี้ยลด หนี้ไม่ลด ]

    เมื่อถามถึงความคาดหวังให้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยเพื่อลดหนี้ครัวเรือน ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ อธิบายว่า สำหรับตัวบน (หนี้) มี 2 ส่วน คือ ผลต่อหนี้เก่า ซึ่งถ้าลดดอกเบี้ย จะทำให้ภาระหนี้ที่ต้องจ่ายบนหนี้เก่าลดลง ส่วนหนี้ใหม่ คำถามคือ ถ้าลดดอกเบี้ยแล้วทำให้สินเชื่อโตเร็วขึ้น ตัวหนี้โดยรวมมันก็จะเพิ่มขึ้น

    ซึ่งการดูตรงนี้ต้องชั่งน้ำหนักทั้ง 2 ส่วน แต่ยังไงแบงก์ชาติก็ไม่ได้อยากเห็นตัวเลขหนี้ต่อจีดีพีโตพุ่งสูงต่อเนื่อง เพราะในแง่ของเสถียรภาพมันคงไม่เหมาะ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากจะให้มันลงเร็ว ลงแรง จนเกินไป เพราะจะมีผลต่อเศรษฐกิจ

    ต้องบอกว่า ภาระหนี้เป็นอะไรที่แบงก์ชาติเป็นห่วง เพราะมีสัดส่วนครัวเรือนไม่น้อยที่มีปัญหาหนี้ แต่อยากฝากไว้ว่า การลดดอกเบี้ย ผลที่ส่งต่อภาระหนี้มันก็ไม่ได้เต็มที่

    หนี้ของเราสัดส่วนไม่น้อยไม่ได้เป็นหนี้ Floating แต่เป็น Fixed Rate และ Fixed Installment พวกนี้ภาระหนี้ไม่ได้ลด ในแง่ที่ต้องจ่ายรายเดือน เพราะฉะนั้น จะไปคาดหวังให้ดอกเบี้ยลงปุ๊ปและภาระหนี้ทุกคนลด ก็ไม่ใช่

    ‘เรื่องของ Fed มันไม่ใช่ว่า Fed ลดแล้วเราต้องลด แต่การที่ Fed ลด อย่างที่บอก มันก็กระทบปัจจัยหลายอย่าง กระทบเรื่องของภาพรวมอะไรต่างๆ กระทบตัวแปรต่างๆ ที่เราต้องคำนึงถึงในการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย’

    ผู้ว่าฯ อธิบายอีกว่า เราไม่เหมือนประเทศที่ fix ค่าเงิน เช่น ฮ่องกง หรือตะวันออกกลาง ที่ fix ค่าเงินกับดอลลาร์ เมื่อ Fed ลดดอกเบี้ย เขาก็ต้องลดดอกเบี้ยไปโดยปริยาย แต่ของเราไม่ใช่แบบนั้น

    [ เงินไหลออกน้อยกว่าปีก่อน ]

    ส่วนผลกระทบต่อค่าเงินบาท แน่นอนว่าแบงก์ชาติไม่ได้อยากเห็นค่าเงินที่ผันผวนขนาดนี้ และค่าความผันผวน (Volatility) ของเราก็สูง และการแข็งค่า โดยเฉพาะช่วงหลัง ก็เกิดขึ้นค่อนข้างเร็ว

    ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) บาทแข็งค่าไป 2.4% แต่ก็ยังมีประเทศที่แข็งค่ามากกว่าเรา เช่น มาเลเซีย ที่ช่วงหลังแข็งค่าค่อนข้างเยอะ

    สำหรับการประเมิน แบงก์ชาติจะดูว่าที่มาของการแข็งค่าคืออะไร 1. ถ้ามาจากปัจจัยเชิงโครงสร้างหรือเชิงปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งในเคสนี้มาจากเรื่องดอลลาร์อ่อนค่าและ Fed ลดดอกเบี้ย ก็เป็นการปรับตามกลไกตลาด

    แต่สิ่งที่ไม่อยากเห็นคือ 2. การเคลื่อนไหวที่เร็วและไม่ได้มาจากปัจจัยเชิงพื้นฐาน เช่น กระแสเงินที่มาจากการเก็งกำไร (Speculated Flow) หรือเงินร้อน (Hot Money) ซึ่งเข้ามาเก็งกำไรและทำให้ความผันผวนเกิดขึ้น โดยที่ไม่สะท้อนเรื่องของพื้นฐาน อันนี้แบงก์ชาติจะ sensitive กว่า

    ซึ่งภาพรวมของเงินทุนในช่วงหลัง การไหลออกน้อยกว่าปีที่แล้วเยอะ (ตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้น) โดยปีก่อน (2566) เงินทุนไหลออก 9,900 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.2 แสนล้านบาท)

    ส่วนปีนี้ (2567) YTD อยู่ที่ 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 7.2 หมื่นล้านบาท) ช่วงหลังเห็นการไหลเข้าค่อนข้างเยอะ จากปัจจัยของโลกและปัจจัยแวดล้อมของเรา เช่น ความชัดเจนด้านการเมือง

    ที่มา https://www.bot.or.th/content/dam/bot/documents/th/news-and-media/speeches/speechgov_20sep2024.pdf
    ชมคลิปได้ที่ https://youtu.be/_z66w8oG260?si=v16T3b9bMjKajLvF

    #Thaitimes
    20 กันยายน 2567 -Highlight จากงาน BOT Symposium 2024 | หนี้: The Economics of Balancing Today and Tomorrow ช่วงหนึ่ง ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติบอกว่า ธปท.ไม่จำเป็นต้องปรับลดดอกเบี้ยตาม Fed โดยย้ำว่า นโยบายการเงินในประเทศ ยังอิงอยู่กับปัจจัยในประเทศเป็นหลัก รายงานจากเพจ Today Biznews เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ’ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ตอบกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ลดดอกเบี้ย ว่า Fed ลดดอกเบี้ย 0.50% หรือ 50 เบสิสพอยท์ (bps) สำหรับ Fed ถือว่าไม่น้อย แต่ในแง่ผลกระทบ มองว่า ตลาดรับรู้ไปแล้วระดับหนึ่ง ทำให้ผลกระทบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดอลลาร์อ่อนค่า ค่าเงินในภูมิภาคและค่าเงินบาทแข็งค่า สะท้อนไปแล้วระดับหนึ่ง ส่วนช่องทางที่กระทบเศรษฐกิจไทย หลักๆ คือ กระทบตลาดเงินและค่าเงิน ในแง่ผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) ก็มีบ้าง แต่โดยรวมผลกระทบต่อเศรษฐกิจไม่ได้มากมายขนาดนั้น เพราะเราเป็นเศรษฐกิจที่พึ่งระบบแบงก์เป็นส่วนใหญ่ ช่องที่เห็นที่กระทบเยอะคือค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ อีกอย่างที่ซ้ำเติมคือราคาทองคำที่ทำจุดสูงสุดใหม่ (All Time High) ส่วนหนึ่งก็มาจากดอลลาร์อ่อนค่า ซึ่งค่าเงินไทยมีความสัมพันธ์ (Correlation) กับทองค่อนข้างสูง สูงกว่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค ส่วนผลในแง่เศรษฐกิจหลัง Fed ลดดอกเบี้ย สะท้อนว่า Fed ให้ความสำคัญกับ Soft Landing หรือให้ความสำคัญกับการดูแลเรื่องเศรษฐกิจ เทียบกับความเป็นห่วงในด้านเงินเฟ้อ ซึ่งในแง่เศรษฐกิจ อาจจะทำให้ไทยสบายใจขึ้นได้หน่อยว่า โอกาส Soft Landing ในสหรัฐจะสูงขึ้น แต่ตัวเลขต่างๆ ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น ‘นี่ (การลดดอกเบี้ยของ Fed) ก็เหมือนการซื้อประกัน Make Sure ว่าโอกาสเกิด Hard Landing ให้มันน้อยๆ’ [ นโยบายอิงกับปัจจัยในประเทศ ] ส่วนผลต่อการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศเรา ผู้ว่าฯ บอกว่า นโยบายการเงินของไทย เน้นเรื่องภายในประเทศเป็นหลัก ซึ่งประกอบด้วย 3 ปัจจัยหลัก (ที่แบงก์ชาติบอกอยู่เสมอ) คือ 1. เศรษฐกิจ: การเติบโตว่าจะเข้าสู่ศักยภาพหรือไม่ 2. เงินเฟ้อ: เงินเฟ้อของเราจะเข้าสู่กรอบเงินเฟ้อหรือไม่ 3. เสถียรภาพทางด้านการเงิน: ซึ่งช่วงหลังให้ความสำคัญ ทั้ง 3 ปัจจัย ไม่ได้เห็นอะไรที่จะทำให้ภาพการประเมินแตกต่างจากที่มองเอาไว้ ทั้งเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ มีแต่เสถียรภาพทางด้านการเงิน เริ่มเห็นความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit Risk) เพิ่มสูงขึ้นเยอะ แต่ก็ต้องคำนึงถึงภาพรวม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือตอนที่ธนาคารกลางยักษ์ใหญ่ของโลกเตรียมปรับเปลี่ยนนโยบาย ซึ่งจะกระทบภาพรวม และมีนัยต่อประเด็นข้างต้น ทำให้ต้องคำนึงถึง ‘การที่เราย้ำว่า เรา Outlook Dependent เป็นการตัดสินใจ หรือกรอบความคิดที่เหมาะสมแล้ว และถูกต้อง เพราะเราเห็นแล้วว่าที่อื่นที่เน้น Data Dependent มันสร้าง noise ต่อตลาดเยอะ’ ส่วนการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ณ ตอนนี้ยังประชุมตามเดิม (รอบหน้า 16 ต.ค. 2567) ถ้าต้องมีการประชุมเพิ่มเติมพิเศษก็มีได้ [ ดอกเบี้ยลด หนี้ไม่ลด ] เมื่อถามถึงความคาดหวังให้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยเพื่อลดหนี้ครัวเรือน ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ อธิบายว่า สำหรับตัวบน (หนี้) มี 2 ส่วน คือ ผลต่อหนี้เก่า ซึ่งถ้าลดดอกเบี้ย จะทำให้ภาระหนี้ที่ต้องจ่ายบนหนี้เก่าลดลง ส่วนหนี้ใหม่ คำถามคือ ถ้าลดดอกเบี้ยแล้วทำให้สินเชื่อโตเร็วขึ้น ตัวหนี้โดยรวมมันก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งการดูตรงนี้ต้องชั่งน้ำหนักทั้ง 2 ส่วน แต่ยังไงแบงก์ชาติก็ไม่ได้อยากเห็นตัวเลขหนี้ต่อจีดีพีโตพุ่งสูงต่อเนื่อง เพราะในแง่ของเสถียรภาพมันคงไม่เหมาะ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากจะให้มันลงเร็ว ลงแรง จนเกินไป เพราะจะมีผลต่อเศรษฐกิจ ต้องบอกว่า ภาระหนี้เป็นอะไรที่แบงก์ชาติเป็นห่วง เพราะมีสัดส่วนครัวเรือนไม่น้อยที่มีปัญหาหนี้ แต่อยากฝากไว้ว่า การลดดอกเบี้ย ผลที่ส่งต่อภาระหนี้มันก็ไม่ได้เต็มที่ หนี้ของเราสัดส่วนไม่น้อยไม่ได้เป็นหนี้ Floating แต่เป็น Fixed Rate และ Fixed Installment พวกนี้ภาระหนี้ไม่ได้ลด ในแง่ที่ต้องจ่ายรายเดือน เพราะฉะนั้น จะไปคาดหวังให้ดอกเบี้ยลงปุ๊ปและภาระหนี้ทุกคนลด ก็ไม่ใช่ ‘เรื่องของ Fed มันไม่ใช่ว่า Fed ลดแล้วเราต้องลด แต่การที่ Fed ลด อย่างที่บอก มันก็กระทบปัจจัยหลายอย่าง กระทบเรื่องของภาพรวมอะไรต่างๆ กระทบตัวแปรต่างๆ ที่เราต้องคำนึงถึงในการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย’ ผู้ว่าฯ อธิบายอีกว่า เราไม่เหมือนประเทศที่ fix ค่าเงิน เช่น ฮ่องกง หรือตะวันออกกลาง ที่ fix ค่าเงินกับดอลลาร์ เมื่อ Fed ลดดอกเบี้ย เขาก็ต้องลดดอกเบี้ยไปโดยปริยาย แต่ของเราไม่ใช่แบบนั้น [ เงินไหลออกน้อยกว่าปีก่อน ] ส่วนผลกระทบต่อค่าเงินบาท แน่นอนว่าแบงก์ชาติไม่ได้อยากเห็นค่าเงินที่ผันผวนขนาดนี้ และค่าความผันผวน (Volatility) ของเราก็สูง และการแข็งค่า โดยเฉพาะช่วงหลัง ก็เกิดขึ้นค่อนข้างเร็ว ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) บาทแข็งค่าไป 2.4% แต่ก็ยังมีประเทศที่แข็งค่ามากกว่าเรา เช่น มาเลเซีย ที่ช่วงหลังแข็งค่าค่อนข้างเยอะ สำหรับการประเมิน แบงก์ชาติจะดูว่าที่มาของการแข็งค่าคืออะไร 1. ถ้ามาจากปัจจัยเชิงโครงสร้างหรือเชิงปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งในเคสนี้มาจากเรื่องดอลลาร์อ่อนค่าและ Fed ลดดอกเบี้ย ก็เป็นการปรับตามกลไกตลาด แต่สิ่งที่ไม่อยากเห็นคือ 2. การเคลื่อนไหวที่เร็วและไม่ได้มาจากปัจจัยเชิงพื้นฐาน เช่น กระแสเงินที่มาจากการเก็งกำไร (Speculated Flow) หรือเงินร้อน (Hot Money) ซึ่งเข้ามาเก็งกำไรและทำให้ความผันผวนเกิดขึ้น โดยที่ไม่สะท้อนเรื่องของพื้นฐาน อันนี้แบงก์ชาติจะ sensitive กว่า ซึ่งภาพรวมของเงินทุนในช่วงหลัง การไหลออกน้อยกว่าปีที่แล้วเยอะ (ตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้น) โดยปีก่อน (2566) เงินทุนไหลออก 9,900 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.2 แสนล้านบาท) ส่วนปีนี้ (2567) YTD อยู่ที่ 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 7.2 หมื่นล้านบาท) ช่วงหลังเห็นการไหลเข้าค่อนข้างเยอะ จากปัจจัยของโลกและปัจจัยแวดล้อมของเรา เช่น ความชัดเจนด้านการเมือง ที่มา https://www.bot.or.th/content/dam/bot/documents/th/news-and-media/speeches/speechgov_20sep2024.pdf ชมคลิปได้ที่ https://youtu.be/_z66w8oG260?si=v16T3b9bMjKajLvF #Thaitimes
    Like
    Yay
    9
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1880 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥ทองคำ : สัญญาซื้อขายทองคำ
    ได้ทำสถิติสูงสุดในวันนี้ ที่ราคา
    2636.75 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ทองคำ
    #สัญญาซื้อขายทองคำ #thaitimes
    🔥🔥ทองคำ : สัญญาซื้อขายทองคำ ได้ทำสถิติสูงสุดในวันนี้ ที่ราคา 2636.75 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ทองคำ #สัญญาซื้อขายทองคำ #thaitimes
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1886 มุมมอง 0 รีวิว
  • ราคาทองคำผันผวนมากกับการลดดอกเบี้ย0.50%

    การตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างรวดเร็ว0.50%ของธนาคารกลางสหรัฐ ส่งผลให้ราคาทองคำผันผวนอย่างมาก

    ในช่วงบ่ายแก่ๆ สัญญาทองคำล่วงหน้าสำหรับการส่งมอบเดือนธันวาคมปิดที่ 2,584.80 ดอลลาร์ ลดลง 11.60 ดอลลาร์ตลอดทั้งวัน

    โลหะมีค่ามีการซื้อขายผันผวนอย่างหนัก เปิดที่ 2,596 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแตะระดับสูงสุดในรอบวัน 2,627.20 ดอลลาร์ ก่อนที่จะร่วงลงมาปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบวันเล็กน้อยที่ 2,572.50 ดอลลาร์

    ล่าสุด ราคาทองคำสปอตซื้อขายที่ 2,578-2,579เหรียญต่อออนซ์

    การเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งนี้เน้นย้ำถึงพันธกรณีสองประการของเฟดในการรักษาอัตราการจ้างงานเต็มที่ในขณะที่ดูแลเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

    ประธานเฟด เจโรม พาวเวลล์แสดงความมั่นใจว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งก่อนมีผลทำให้เงินเฟ้อลดลงอย่างมีประสิทธิผล และเงินเฟ้อจะยังคงเข้าใกล้เป้าหมายที่ต้องการต่อไป

    อัตราดอกเบี้ยกองทุนเฟดใหม่ขณะนี้อยู่ระหว่าง 4.75% ถึง 5% โดยเฟดส่งสัญญาณถึงความตั้งใจที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับปกติที่ประมาณ 3% ในปีหน้า

    ปฏิกิริยาของตลาดต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมีความผันผวนในกลุ่มสินทรัพย์ต่างๆ ดัชนีหุ้นหลักปิดตลาดด้วยการลดลงเล็กน้อยหลังจากที่เพิ่มขึ้นในช่วงแรก

    ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.29% เหลือ 5,618.26 จุด ดัชนี Dow Jones Industrial Average ลดลง 0.25% เหลือ 41,503.10 จุด และดัชนี NASDAQ Composite ลดลง 0.31% เหลือ 17,573.30 จุด ดัชนีดอลลาร์สหรัฐลดลงเล็กน้อย 0.18% เหลือ 100.978 จุด
    ที่มา Kitco
    ราคาทองคำผันผวนมากกับการลดดอกเบี้ย0.50% การตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างรวดเร็ว0.50%ของธนาคารกลางสหรัฐ ส่งผลให้ราคาทองคำผันผวนอย่างมาก ในช่วงบ่ายแก่ๆ สัญญาทองคำล่วงหน้าสำหรับการส่งมอบเดือนธันวาคมปิดที่ 2,584.80 ดอลลาร์ ลดลง 11.60 ดอลลาร์ตลอดทั้งวัน โลหะมีค่ามีการซื้อขายผันผวนอย่างหนัก เปิดที่ 2,596 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแตะระดับสูงสุดในรอบวัน 2,627.20 ดอลลาร์ ก่อนที่จะร่วงลงมาปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบวันเล็กน้อยที่ 2,572.50 ดอลลาร์ ล่าสุด ราคาทองคำสปอตซื้อขายที่ 2,578-2,579เหรียญต่อออนซ์ การเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งนี้เน้นย้ำถึงพันธกรณีสองประการของเฟดในการรักษาอัตราการจ้างงานเต็มที่ในขณะที่ดูแลเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ประธานเฟด เจโรม พาวเวลล์แสดงความมั่นใจว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งก่อนมีผลทำให้เงินเฟ้อลดลงอย่างมีประสิทธิผล และเงินเฟ้อจะยังคงเข้าใกล้เป้าหมายที่ต้องการต่อไป อัตราดอกเบี้ยกองทุนเฟดใหม่ขณะนี้อยู่ระหว่าง 4.75% ถึง 5% โดยเฟดส่งสัญญาณถึงความตั้งใจที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับปกติที่ประมาณ 3% ในปีหน้า ปฏิกิริยาของตลาดต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมีความผันผวนในกลุ่มสินทรัพย์ต่างๆ ดัชนีหุ้นหลักปิดตลาดด้วยการลดลงเล็กน้อยหลังจากที่เพิ่มขึ้นในช่วงแรก ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.29% เหลือ 5,618.26 จุด ดัชนี Dow Jones Industrial Average ลดลง 0.25% เหลือ 41,503.10 จุด และดัชนี NASDAQ Composite ลดลง 0.31% เหลือ 17,573.30 จุด ดัชนีดอลลาร์สหรัฐลดลงเล็กน้อย 0.18% เหลือ 100.978 จุด ที่มา Kitco
    Like
    Sad
    28
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 956 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ก็เป็นซะแบบนี้อะโจ
    ให้สัมภาษณ์ช่องไหนก็ให้พี่คิงส์หาหลักฐานเชิงประจักษ์
    ไม่ได้ตามตัวกันมาง่ายๆนะโจ
    "ประจักษ์..ชัย ไหทองคำ"
    พาลำใยทัวร์คอนเสริฐ
    ก็ต้องขอร้องกันให้มาเป็นหลักฐาน
    อย่าทำให้พี่คิงส์ต้องวุ่นวายแบบนี้อีกนะ
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ก็เป็นซะแบบนี้อะโจ ให้สัมภาษณ์ช่องไหนก็ให้พี่คิงส์หาหลักฐานเชิงประจักษ์ ไม่ได้ตามตัวกันมาง่ายๆนะโจ "ประจักษ์..ชัย ไหทองคำ" พาลำใยทัวร์คอนเสริฐ ก็ต้องขอร้องกันให้มาเป็นหลักฐาน อย่าทำให้พี่คิงส์ต้องวุ่นวายแบบนี้อีกนะ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 977 มุมมอง 0 รีวิว
  • #กับดักคนโลภ# #ทองคำ# พูดจูงใจให้คนคิดว่าเป็นทองคำ มีการใส่ซองแดง เขียนราคา 9 หมื่นแสนนึงหน้าซอง แต่เลี่ยงไม่พูดคำว่า เนื้อทองคำ พระหลักหลายแสน หลักล้านทั้งสิ้น ขาย 1800-1900 แย่งกันปิดเลย ...และเช่นเคย
    อาศัยช่องว่างของกฏหมาย คือ ไม่ได้ขายในราคาของแท้ มีป้ายกำกับชัดเจน ว่า ไม่รับประกัน.
    .... #ไม่โลภไม่โดน#
    ทุนแบบนี้เหรียญละ 50 ชุบทองคำแท้สัก 100 กำไรเละ.
    #กับดักคนโลภ# #ทองคำ# พูดจูงใจให้คนคิดว่าเป็นทองคำ มีการใส่ซองแดง เขียนราคา 9 หมื่นแสนนึงหน้าซอง แต่เลี่ยงไม่พูดคำว่า เนื้อทองคำ พระหลักหลายแสน หลักล้านทั้งสิ้น ขาย 1800-1900 แย่งกันปิดเลย ...และเช่นเคย อาศัยช่องว่างของกฏหมาย คือ ไม่ได้ขายในราคาของแท้ มีป้ายกำกับชัดเจน ว่า ไม่รับประกัน. .... #ไม่โลภไม่โดน# ทุนแบบนี้เหรียญละ 50 ชุบทองคำแท้สัก 100 กำไรเละ.
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ในปี2026/2027

    Martin Armstrong นักการเงิน และนักวิเคราะห์ชื่อดังให้สัมภาษณ์กับFinancial Senseว่าสหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ในปี2026/2027 ซึ่งจะเป็นช่วงไซเกิ้ลของสงครามโลกคร้ังที่ 3ที่จะเกิดขึ้นพอดี

    การผิดนัดชำระหนี้หมายถึงการที่กระทรวงการคลังสหรัฐออกพันธะบัตรแล้วไม่มีคนซื้อ เพราะว่าไม่มั่นใจกับปริมาณหนี้มหาศาลที่สหรัฐแบกรับอยู่ และนโยบายแซงชั่นของรัฐบาลสหรัฐ ทำให้ดอกเบี้ยจะพุ่งสูง ค่าเงินดอลล่าร์จะด้อยค่า จนท้ายที่สุดไม่มีใครต้องการถือครองทรัพย์สินดอลล่าร์อีกต่อไป

    หรืออีกวิธีหนึ่งของการผิดนัดชำระหนี้คือการก่อสงคราม แล้วหยุดจ่ายหนี้ หรือเบี้ยวหนี้ไปเลย

    อาร์มสตรองบอกว่า ความจริงพันธะบัตรสหรัฐมีปัญหาอยู่แล้ว อันเห็นได้จากการที่เจเน็ต เยลเลน รมว คลังสหรัฐบินไปปักกิ่งหลายคร้ังในช่วงที่ผ่านมา เพื่อขอร้องให้รัฐบาลจีนไม่ให้ขายพันธบัตรสหรัฐ หรือให้ซื้อพันธบัตรล็อตใหม่ แต่ถูกทางจีนปฏิเสธ

    ตัวเลขหนี้สาธารณะล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐอยู่ที่$35.2ล้านล้าน เทียบกับขนาดของจีดีพีที่$28ล้านล้าน ในขณะที่มีหนี้นอกงบประมาณที่$70ล้านล้าน ซึ่งเป็นพันธะด้านสวัสดิการสังคมต่างๆที่ต้องจ่ายในอนาคต ลำพังแค่ต้องจ่ายเฉพาะส่วนที่เป็นดอกเบี้ยด้วยการออกพัน
    ธะบัตรมารีไฟแนนซ์ รัฐบาลสหรัฐมีภาระต้องจ่าย$1ล้านล้านต่อปี ซึ่งเป็นการใช้จ่ายที่สูงสุดในงบประมาณ สูงกว่างบของกระทรวงกลาโหมที่800,000กว่าล้านเสียอีก หนี้ส่วนที่เป็นเงินต้นสหรัฐไม่คิดที่จะจ่ายคืนอยู่แล้ว นอกจากนี้รัฐบาลสหรัฐยังขาดดุลงบประมาณปีละ2ล้านล้าน

    หนี้สินทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นกว่า 15 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2023 สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ที่ 313 ล้านล้านดอลลาร์ โดยประมาณ 55% ของการเพิ่มขึ้นนี้มาจากเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว โดยส่วนใหญ่คือสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และเยอรมนี หนี้สินที่ไม่ได้รับการจัดสรร (unfunded liabilities)ในสหรัฐอเมริกามีมูลค่า 72 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 300% ของ GDP ซึ่งอาจดูสูงเกินไปจนกว่าจะหันไปดูสเปนที่มีหนี้ต่อ GDPที่ 500% ฝรั่งเศสที่มีหนี้ต่อ GDP เกือบ 400% หรือเยอรมนีที่มีหนี้ต่อ GDP เกือบ 350%

    งบดุลของประเทศแบบนี้ถือว่าล้มละลายแล้ว หนี้ของประเทศในยุโรปท้ังในงบดุลและนอกงบดุลก็ประสบวิกฤตคล้ายๆกับสหรัฐ ทำให้สหรัฐและยุโรปจับมือกันก่อสงครามกับรัสเซียผ่านตัวแทนยูเครนเพื่อหาทางเบี้ยวหนี้ หรือรีเซ็ตระบบการเงินใหม่เพื่อรักษาสถานภาพเดิมทางอำนาจทางการเงิน

    การยึดเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซียโดยสหรัฐและยุโรปทำให้หลายประเทศทิ้งทรัพย์สินดอลล่าร์ และหันไปถือครองทองคำแทน เพราะเกรงว่าจะถูกยึดเหมือนรัสเซียถ้าดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ไม่ถูกใจวอชิงตัน ทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุดราคาทองคำ2,574เหรียญต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมพุ่งทะลุระดับ2,600เหรียญต่อออนซ์ไปแล้ว

    ธนาคารกลางทั่วโลกก็หันมาตุนทองคำ โดยขายพันธะบัตรสหรัฐออกไปเพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงทางการเงินท่ามกลางความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น การซื้อทองคำของธนาคารกลาง1,136ตันในปี 2022 และ1,037ตันในปี 2023 เป็นปัจจัยที่สำคัญที่มีน้ำหนักมากที่สุดที่ทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงในช่วงที่ผ่านมา ปี2024น่าจะเป็นอีกปีของการสร้างสถิติการซื้อทองคำของธนาคารกลาง

    กลุ่มBRICSมีนโยบายออกจากดอลล่าร์ (de-dollarization) ด้วยการค้าการกันเองผ่านเงินสกุลประจำชาติ และไม่ใช้ดอลล่าร์ รวมท้ังการวางโครงการที่จะเอาทองคำมาหนุนหลังค่าเงินของเงินสกุลร่วมBRICS ที่เรียกกันว่า the Unit โดยใช้ทองคำ40%หนุนหลัง และอีก60%หนุนหลังค่าเงินก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนทั่วโลกเห็นจุดเริ่มต้นของจุดจบของความเป็นเงินสกุลหลักของโลกของดอลล่าร์ที่โดยเนื้อแท้แล้วเป็นเงินกระดาษเปล่าๆที่ไม่มีทรัพย์สินอะไรหนุนหลัง

    อย่างไรก็ดี โดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่าเขาจะเก็บภาษี100%สำหรับประเทศใดก็ตามที่หันหลังให้กับดอลล่าร์ เพื่อที่จะปกป้องดอลล่าร์ให้เป็นเงินสกุลหลักของโลกต่อไป ท่าทีของทรัมป์แม้ว่าจะเป็นการพูดหาเสียงแต่ก็สะท้อนความเข้าใจของทรัมป์ว่าเงินดอลล่าร์กำลังหมดความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งซาอุดิ อาราเบียได้ออกมาให้ข่าวว่าจะขายน้ำมันแลกเงินหยวนของจีน ซึ่งถือว่าเป็นการออกจากเปโตรดอลล่าร์ที่ซาอุฯเป็นผู้ค้ำประกันมาตั้งแต่ปี1974

    สหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ในปี2026/2027 Martin Armstrong นักการเงิน และนักวิเคราะห์ชื่อดังให้สัมภาษณ์กับFinancial Senseว่าสหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ในปี2026/2027 ซึ่งจะเป็นช่วงไซเกิ้ลของสงครามโลกคร้ังที่ 3ที่จะเกิดขึ้นพอดี การผิดนัดชำระหนี้หมายถึงการที่กระทรวงการคลังสหรัฐออกพันธะบัตรแล้วไม่มีคนซื้อ เพราะว่าไม่มั่นใจกับปริมาณหนี้มหาศาลที่สหรัฐแบกรับอยู่ และนโยบายแซงชั่นของรัฐบาลสหรัฐ ทำให้ดอกเบี้ยจะพุ่งสูง ค่าเงินดอลล่าร์จะด้อยค่า จนท้ายที่สุดไม่มีใครต้องการถือครองทรัพย์สินดอลล่าร์อีกต่อไป หรืออีกวิธีหนึ่งของการผิดนัดชำระหนี้คือการก่อสงคราม แล้วหยุดจ่ายหนี้ หรือเบี้ยวหนี้ไปเลย อาร์มสตรองบอกว่า ความจริงพันธะบัตรสหรัฐมีปัญหาอยู่แล้ว อันเห็นได้จากการที่เจเน็ต เยลเลน รมว คลังสหรัฐบินไปปักกิ่งหลายคร้ังในช่วงที่ผ่านมา เพื่อขอร้องให้รัฐบาลจีนไม่ให้ขายพันธบัตรสหรัฐ หรือให้ซื้อพันธบัตรล็อตใหม่ แต่ถูกทางจีนปฏิเสธ ตัวเลขหนี้สาธารณะล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐอยู่ที่$35.2ล้านล้าน เทียบกับขนาดของจีดีพีที่$28ล้านล้าน ในขณะที่มีหนี้นอกงบประมาณที่$70ล้านล้าน ซึ่งเป็นพันธะด้านสวัสดิการสังคมต่างๆที่ต้องจ่ายในอนาคต ลำพังแค่ต้องจ่ายเฉพาะส่วนที่เป็นดอกเบี้ยด้วยการออกพัน ธะบัตรมารีไฟแนนซ์ รัฐบาลสหรัฐมีภาระต้องจ่าย$1ล้านล้านต่อปี ซึ่งเป็นการใช้จ่ายที่สูงสุดในงบประมาณ สูงกว่างบของกระทรวงกลาโหมที่800,000กว่าล้านเสียอีก หนี้ส่วนที่เป็นเงินต้นสหรัฐไม่คิดที่จะจ่ายคืนอยู่แล้ว นอกจากนี้รัฐบาลสหรัฐยังขาดดุลงบประมาณปีละ2ล้านล้าน หนี้สินทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นกว่า 15 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2023 สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ที่ 313 ล้านล้านดอลลาร์ โดยประมาณ 55% ของการเพิ่มขึ้นนี้มาจากเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว โดยส่วนใหญ่คือสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และเยอรมนี หนี้สินที่ไม่ได้รับการจัดสรร (unfunded liabilities)ในสหรัฐอเมริกามีมูลค่า 72 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 300% ของ GDP ซึ่งอาจดูสูงเกินไปจนกว่าจะหันไปดูสเปนที่มีหนี้ต่อ GDPที่ 500% ฝรั่งเศสที่มีหนี้ต่อ GDP เกือบ 400% หรือเยอรมนีที่มีหนี้ต่อ GDP เกือบ 350% งบดุลของประเทศแบบนี้ถือว่าล้มละลายแล้ว หนี้ของประเทศในยุโรปท้ังในงบดุลและนอกงบดุลก็ประสบวิกฤตคล้ายๆกับสหรัฐ ทำให้สหรัฐและยุโรปจับมือกันก่อสงครามกับรัสเซียผ่านตัวแทนยูเครนเพื่อหาทางเบี้ยวหนี้ หรือรีเซ็ตระบบการเงินใหม่เพื่อรักษาสถานภาพเดิมทางอำนาจทางการเงิน การยึดเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซียโดยสหรัฐและยุโรปทำให้หลายประเทศทิ้งทรัพย์สินดอลล่าร์ และหันไปถือครองทองคำแทน เพราะเกรงว่าจะถูกยึดเหมือนรัสเซียถ้าดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ไม่ถูกใจวอชิงตัน ทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุดราคาทองคำ2,574เหรียญต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมพุ่งทะลุระดับ2,600เหรียญต่อออนซ์ไปแล้ว ธนาคารกลางทั่วโลกก็หันมาตุนทองคำ โดยขายพันธะบัตรสหรัฐออกไปเพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงทางการเงินท่ามกลางความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น การซื้อทองคำของธนาคารกลาง1,136ตันในปี 2022 และ1,037ตันในปี 2023 เป็นปัจจัยที่สำคัญที่มีน้ำหนักมากที่สุดที่ทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงในช่วงที่ผ่านมา ปี2024น่าจะเป็นอีกปีของการสร้างสถิติการซื้อทองคำของธนาคารกลาง กลุ่มBRICSมีนโยบายออกจากดอลล่าร์ (de-dollarization) ด้วยการค้าการกันเองผ่านเงินสกุลประจำชาติ และไม่ใช้ดอลล่าร์ รวมท้ังการวางโครงการที่จะเอาทองคำมาหนุนหลังค่าเงินของเงินสกุลร่วมBRICS ที่เรียกกันว่า the Unit โดยใช้ทองคำ40%หนุนหลัง และอีก60%หนุนหลังค่าเงินก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนทั่วโลกเห็นจุดเริ่มต้นของจุดจบของความเป็นเงินสกุลหลักของโลกของดอลล่าร์ที่โดยเนื้อแท้แล้วเป็นเงินกระดาษเปล่าๆที่ไม่มีทรัพย์สินอะไรหนุนหลัง อย่างไรก็ดี โดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่าเขาจะเก็บภาษี100%สำหรับประเทศใดก็ตามที่หันหลังให้กับดอลล่าร์ เพื่อที่จะปกป้องดอลล่าร์ให้เป็นเงินสกุลหลักของโลกต่อไป ท่าทีของทรัมป์แม้ว่าจะเป็นการพูดหาเสียงแต่ก็สะท้อนความเข้าใจของทรัมป์ว่าเงินดอลล่าร์กำลังหมดความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งซาอุดิ อาราเบียได้ออกมาให้ข่าวว่าจะขายน้ำมันแลกเงินหยวนของจีน ซึ่งถือว่าเป็นการออกจากเปโตรดอลล่าร์ที่ซาอุฯเป็นผู้ค้ำประกันมาตั้งแต่ปี1974
    Like
    29
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1305 มุมมอง 0 รีวิว
  • จั๊กจั่น เครื่องรางของจีนโบราณ มีการค้นพบในสุสานหลายแห่ง ของราชวงศ์ในจีน ทำด้วย ทองคำ หยก หลากหลายรูปแบบ.
    จั๊กจั่น เครื่องรางของจีนโบราณ มีการค้นพบในสุสานหลายแห่ง ของราชวงศ์ในจีน ทำด้วย ทองคำ หยก หลากหลายรูปแบบ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ต้องฟูมฟายไปนะคะ ติ่งขา………พี่ปูคมทั้งในฝักและนอกฝักเชียว……!!!

    ตอนเจ็ด………ตำแหน่งที่ได้รับ……ไม่ได้มาจากโชคหรือการจับฉลาก……แต่ด้วยความสามารถและความอุตสาหะล้วนๆ

    ที่ปูตินลังเลนั้น……เขาเพียงแต่ห่วงว่าครอบครัวจะปรับชีวิตและความเป็นอยู่ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะสังคมที่มอสโคว์กับกรุงเซนต์ต่างกันมากมาย
    แต่เมื่อได้คุยกับลุดมิลา เธอและลูกๆไม่มีปัญหาอะไร ไปไหนก็ได้เพราะอำนาจในการตัดสินก็อยู่ที่ช้างเท้าหน้าคือปูตินอยู่แล้ว และตัวเธอเองก็จะได้มีอิสระกับสายตาของแม่สามีไปเสียบ้าง

    สาเหตุก็เพราะรัฐบาลของเยลซินต้องการ”น้ำใหม่”มาแทนที่น้ำเสียที่รวมกันกันเป็นกระจุกอยู่ในเครมลิน เพราะความผิดพลาดในเรื่องการทำสงครามปราบปรามที่ Chechen ในปี 1994 ที่ทุกคนคิดว่า
    วันสองวันก็คงจบ……แต่ที่ไหนได้ มาลากถ่วงยาวมาจนตอนนี้
    รวมทั้งสุขภาพที่ลดถอยของเยลซินเอง ที่เป็นโรคหัวใจกำเริบในตอนต้นปี 1995 ที่ทำให้เขาไม่ได้ปรากฏตัวออกสู่สายตาของประชาชน

    นี่คือเหตุผลที่ปูตินได้เข้ามาเป็นน้ำใหม่ในมอสโคว์ ในเดือนกันยายน 1996 และได้รับบ้านประจำตำแหน่งที่ค่อนข้างหรูหราอยู่ใกล้ๆกับเครมลิน
    เขาได้นำเพื่อนคู่ใจมาช่วยงานด้วยสองคน จากเซนต์ ปีเตอร์เบอร์ก คือ Sergei Chemezov**และ Igor Sechin***

    เจ้านายของเขา ปาเวล ได้มอบหมายงานให้เป็นฝ่ายดูแลอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด จะต้องมีการคัดกรอง บริหารที่ดิน ตึกอาคารกันใหม่ เพราะในยุคของโซเวียต ทุกอย่างเป็นของรัฐบาล แต่ตอนนี้ก่อนที่จะมีการจำหน่าย หรือ จัดสรร ออกโฉนดจะต้องทำการประเมิน
    ซึ่งมันหมายถึงงานที่มากมายมหาศาล เพราะพื้นที่ที่จะต้องดูแลทั้งหมด คือ 78 เขตจังหวัด และ ต่างประเทศ(ในความควบคุมของโซเวียต) อื่นๆ เช่น อาคารที่ตั้งสถานทูต โรงเรียน
    รวมทั้งที่ยูเครน

    เรียกได้ว่า งานนี้ ทำให้ปูตินได้รู้หมดถึงทรัพย์สินของรัสเซียว่าอยู่ที่ไหน และ มีค่าเท่าใด
    และยิ่งค้นไป……เขาได้เห็นความไม่ชอบมาพากลหลายๆอย่าง เช่นพื้นที่สำคัญหลายแห่งถูกปล่อยให้เช่า แม้แต่ทรัพย์สินที่มีในสวิสเซอร์แลนด์ก็เช่นกัน ที่ขายไปในราคาที่เหมือนจะให้ฟรี จากชื่อบริษัท หรือ องค์กรประหลาดๆ
    ยิ่งค้นไปก็เจอว่าเป็นการ”ลักไก่” จากในหมู่ข้าราชการด้วยกัน

    เขาได้ทำรายงานให้กับทางต้นสังกัดให้ทราบเป็นเอกสารอย่างครบถ้วน เพื่อที่จะจัดการกันต่อไป เพราะเขาถือว่า
    หน้าที่ของเขา คือ การรวบรวมเอกสารและข้อมูล
    ส่วนการพิจารณาโทษ……เป็นหน้าที่ของหน่วยที่เกี่ยวข้อง

    แต่การดำเนินการล่าช้าจนเกินเหตุเพราะในช่วงนั้น มีสงครามที่เชเชน ที่มีแม่ทัพผู้อำนวยการ คือ นายพล Alexandr Lebed จอมยะโสคนนั้น
    ที่ได้สร้างผลงานให้อับอายไปทั่ว คือ แทนที่จะสยบเชเชน ดินแดนชายแดนขนาดเล็กแค่นั้น แต่ทำไม่สำเร็จ (สิงหาคม 1996)
    แถมจะยอมเจรจาสงบศึกทำสนธิสัญญาที่เสียเปรียบเข้าไปอีก
    งานนี้ทำให้เกิดกระแสที่เสียหายกับรัฐบาลของเยลซิน
    เหล่าคณะมนตรีเริ่มลุกขึ้นมาทะเลาะกันลั่นสภา
    หลายคนเรียก นายพล Alexandr Lebed ว่าเป็น “Little Napoleon” (คือ ปากดี ทีเหลว) หรือ “ไอ้กองทัพไม่มีน้ำยา”
    กระแสโกรธแค้นของประชาชนเริ่มทวีขึ้น
    จนไม่กี่วันต่อมา เยลซินต้องทำการปลดท่านนายพลออกจากตำแหน่ง

    การปรับเปลี่ยนตำแน่งได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง ปูตินได้ขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการแห่งองค์กรรวม ( Chief of Staff) ที่เทียบเท่ากับ
    อธิบดี ที่ไม่กี่วันต่อมาหลังจากที่ได้รับตำแหน่ง สภาได้ออกกฏหมายใหม่ เพิ่มอำนาจให้กับเขาอีก ในการขยายวงสอบสวนการทุจริต ยักยอก รวมไปถึงการคอร์รัปชั่นที่ทำให้ประเทศสูญเสียรายได้ ไม่ว่าจะเป็น ข้าราชการ, พนักงานลูกจ้าง และการสัมปทานต่างๆ
    งานนี้ ปูตินได้เจอะเจองานช้างเข้าหลายงาน เช่น อดีตนายพล Paval Grachev คนสนิทของเยลซิน ที่ควบคุมกองทัพในคอร์เคซัส ตั้งแต่ปี 1993-1996 ได้นำรถถังและอาวุธต่างๆที่มีมูลค่ากว่า หนึ่งพันล้านดอลล่าร์ ไปให้กับกองทัพของอาร์เมเนี่ยน ในสงครามกับ อาร์เซอร์ไบจาน
    ซึ่งเป็นการกระทำที่ถือว่าขายชาติ เพราะ รัสเซียอยู่ฝ่ายสนับสนุนอาเซอร์ไบจาน

    แต่…ทุกอย่างได้ผ่านไปก่อนที่ปูตินจะก้าวเข้ามา เขาจะไปทำอะไรได้ นอกจากจะต้องเลี้ยงนายพลคนนี้ต่อไป เนื่องจากว่าเป็นนายพลระดับวงในของเยลซที่เปรียบเหมือนตัวอันตราย ถ้าบีบคั้น……
    ก็อาจจะตกไปอยู่ในมือของชาติอื่นที่ต้องการล้วงความลับ
    ดังนั้น จึงต้องใช้วิธีเลี้ยงเอาไว้ แล้วใส่ปลอกคอล่ามโซ่ให้สั้น
    โดยที่เขาใช้วิธีให้สัมภาษณ์กับนักข่าว
    ในเวลาที่ถูกถามถึงเรื่อง
    “นายพล เมอร์ซิเดส” เพราะนายพลคนนี้ชอบใช้รถหรูเกินฐานะ
    ว่า เรื่องการตรวจสอบคอร์รัปชั่นค้าอาวุธกับฝ่ายตรงข้ามนั้นไปถึงไหนแล้ว
    ปูตินตอบเรียบๆว่า “เราได้เอกสารพร้อมทุกอย่างแล้ว ข้อมูลครบ จะส่งขึ้นไปให้ฝ่ายกฎหมายต่อไป”
    นักข่าวถามต่อว่า
    “นายพลเมอร์ซิเดสได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่..??”
    “ก็ไม่มีนะ ไม่มีชื่อของ Gen. Pavel Grachev มาเกี่ยวข้องด้วย “

    นี่คือการทำงานของปูตินที่ต้องรักษาภาพลักษณ์ให้กับเยลซิน
    แต่มืออีกข้างหนึ่งเขาได้จัดการไปตามกฏหมายเอาผิด ใช้เวลาถึงสิบปี ที่ได้เอานายพลและคณะออกจากตำแหน่งได้สำเร็จ (2007)
    หรืองานคอร์รัปชั่นในหน่วยสร้างทางที่เป็นเงินมหาศาลที่มีข้าราชการเกี่ยวข้องทำผิดถึง 260 คน (ในเมษายน ปี 1997)
    หรือใน Stavropol เชือดไปอีก 450 คน (ในกันยายน 1997)

    เรื่องนายพลที่ต้องล่าช้านานขนาดนั้น เพราะปูตินไม่มีอำนาจในบทลงโทษที่เป็นงานส่วนตุลาการ
    เขาทำได้แค่ชี้มูลความผิดพร้อมหลักฐานที่หนาแน่น

    เพราะการทำงานไล่บี้การยักยอกนั้น ทำให้ปูตินต้องเข้าติดต่อกับงานเดิมอีก คือ KGB ที่ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น FSB (แต่อาคารที่ทำงานยังอยู่ที่เดิม) อยู่บ่อยๆ เท่ากับว่าเขาได้กลับไปเยือนบรรยากาศเก่าๆอีกครั้ง

    และจากงานที่ต้องมาดูพื้นที่และทรัพยากรของชาติ ที่เขาได้ทำงานอย่างไหลลื่นนั้น ก็ไม่ใช่ว่าเขาเหนือมนุษย์……
    หากแต่มันเป็นเรื่องบังเอิญอย่างที่สุด ที่เขาเกิดความสนใจในเรื่องเศรษฐศาสตร์ เพราะจากงานที่ทำอยู่ในสภาเทศบาลที่กรุงเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก ในช่วงที่อนาโตลีได้แพ้เลือกตั้ง
    ปูตินเริ่มมีเวลาว่าง เพราะมีหน้าที่เพียงแต่อำนวยความสะดวกให้กับทีมใหม่
    เขาใช้เวลานั้น ไปลงเรียนวิชาบริหารเหมืองแร่และทรัพยากรน้ำมัน ที่ Georgi Plekhanov Mining Institute
    แทนที่จะไปเรียนต่อทางด้านกฎหมาย
    และไม่ได้ไปเรียนคนเดียว เขาเอาเพื่อนรักทั้งสอง Viktor Zubkov กับ Igor Sechin ไปนั่งเรียนกันด้วย

    ปลายปี 1996 (เข้าเรียนกลางปี 1995) ที่ปูตินสามารถส่งแฟ้ม Thesis ที่หนากว่า 250 หน้า ในเรื่องทรัพยากรแร่ธาตุที่เปรียบเสมือนทองคำของประเทศ
    ได้สำเร็จสวยงาม เพราะเขาได้ติวเตอร์คนสำคัญมาช่วย
    นั่นคือ Vladimir Litvenenko ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญเหมืองแร่ ที่ไปค้นคว้าหาตำราจากยุโรปมาแปลให้เป็นภาษารัสเซีย
    เรื่องนี้ ปูตินและเพื่อนๆที่พากันไปเรียนก็ไม่ได้ไปโอ้อวดที่ไหน ตอนนั้นที่ไปลงเรียน ก็เพราะมีเวลาว่าง
    เขาเพียงแต่คิดว่า……ในสายงานทางกฎหมายของเขาควรจะต้องรู้เรื่องทรัพยาการที่เป็นธุรกิจหลักของประเทศให้ดีขึ้น

    และเขาก็ได้ใช้มันจริงๆที่มอสโคว์ เพราะเขาได้รู้ทันเจ้ากรมพลังงานที่มีการเล่นตลกกับใบสัมปทาน……แต่ก็พูดมากไปไม่ได้ เพราะนั่นคือกลุ่มคนในวงในของเยลซิน

    แต่ทีนี้ความไม่เป็นธรรมได้เกิดขึ้นกับคดีของอนาโตลี เจ้านายเก่า
    เพราะหลังจากที่อะนาโตลี ถูกกลุ่มวงในมอสโคว์”เท”จนไม่ได้รับการสนับสนุนเลือกตั้งนั้น เขาได้” โวย” กับเยลซิน
    ที่ได้รับการตอบสนอง คือ เยลซินเอาพวกนั้นออกไปเป็นแผงก็จริง ………แต่คนกลุ่มนั้นก็ไม่ได้ไปไหน หรือ รับโทษอะไร
    ยังวนเวียนเป็นที่ปรึกษาอยู่รอบตัวเยลซินเหมือนเดิม
    แถมอนาโตลี ได้มีศัตรูเพิ่มอย่างออกหน้าออกตาอีกต่างหาก
    การกลั่นแกล้งจึงได้เกิดขึ้น แบบชนิดให้ได้อาย
    เช่นอนาโตลีมีการประชุมกับคณะมนตรีจาก UNESCO
    จู่ๆก็มีตำรวจบุกไปกลางงาน ขอควบคุมตัวไปสอบสวนในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง เขากลายเป็นผู้ต้องหาที่มีหมายจับ
    จนเขาเครียดถึงกับล้มป่วย เข้าโรงพยาบาล
    ครอบครัวต้องการให้แพทย์จากมอสโคว์มารักษา

    ปูตินบินด่วนไปเยี่ยมทันที และจัดการส่งเขาเข้าโรงพยาบาลทหาร จัดการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาพร้อม
    และที่เขาทำมากกว่านั้น มากเกินอำนาจเขาไปอีก คือ จัดเช่าเครื่องบินส่วนตัวจากฟินแลนด์นำตัวเขาออกนอกประเทศไปยังกรุงปารีส
    โดยให้เหล่า KGB นำขบวนรถฉุกเฉินไปยังสนามบิน
    หมายจับอะไรก็ไม่สำคัญทั้งนั้น ทุกอย่างผ่านตลอด พาสปอร์ต
    ประทับตรา ผ่านศุลกากร

    การกล้าทำแบบนี้ ถือว่าเป็นการฉีกกฎหมายทิ้ง และเสี่ยงต่อการเสียอนาคตของปูตินที่กำลังจะไปได้สวย
    แต่……สำหรับอนาโตลีแล้ว ปูตินพร้อมแลกเพื่อที่จะช่วยเหลือตอบแทนผู้ที่เคยมีพระคุณ
    เพราะเขาได้เห็นมาตลอดว่า เรื่องราวนั้นเป็นอย่างไร ในประเทศที่กฎหมายไม่สามารถบังคับใช้อะไรได้ ความผิดของอนาโตลีนั้นเทียบเท่ากับเมล็ดทรายของคนหลายๆคนในเครมลิน

    คนที่ชื่นชมกับความกตัญญูและการกล้าตัดสินใจของปูติน ในครั้งนี้ คือ ท่านประธานธิบดี Boris Yentsin เพราะท่านว่า
    ถ้าเกิดขึ้นกับเรา…จะมีใครที่ไหนที่จะกล้ามาช่วยเราขนาดนี้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย……?!!!

    ปูตินเริ่มเป็นที่จับตามองจากคณะท่านผู้นำ ในวันที่ 21 มีนาคม 1998 เยลซินได้เรียกให้นายกรัฐมนตรี Viktor Chernomydrin
    เข้ามาพบที่บ้านพักส่วนตัว เพื่อที่จะบอกว่า วิคเตอร์ทำหน้าที่นี้มานานถึงห้าปีแล้ว แต่ไม่มีอะไรดีขึ้น ทุกอย่างยังกวาดเข้าไปซุกอยู่ใต้พรม……เขาต้องการคนที่จะมา”ยกพรมขึ้น” แล้ว “กวาดขยะออกให้หมด” เพื่อบ้านจะได้น่าอยู่
    ฉะนั้น……ที่ให้มาพบในครั้งนี้ คือการไล่ออก……

    เยลซินได้เสนอชื่อ Sergei Kiriyenko อดีตนายธนาคารที่เป็นนักการเมืองหนุ่มวัย 35 ปี ต่อสภา……สภาไม่ผ่านทั้งสองครั้ง
    แต่ต่อมา……ด้วยแรงผลักดันของเยลซิน……ก็ผ่านฉลุย
    ส่วนอดีตนายกฯที่ถูกไล่ออกไป ก็ฮึ่มๆ ประกาศว่าเขาจะลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยหน้า จะได้รู้หมู่รู้จ่ากันไป.…

    นายทุนกระเป๋าหนัก Boris Berezovsky ที่สนับสนุนเยลซิน
    เพราะมีผลประโยชน์มหาศาลนั้น เริ่มเข้ามามีบทบาทช่วยเลือก
    เพราะกลุ่มคนวงในเก่าๆเท่าที่เห็น ต่างก็จะเข้ามาขวางทางการค้าของเขาทั้งสิ้น เพราะทุกคนต่างมีเส้นสายในกิจการสารพัดอยู่แล้ว

    ไม่ทันที่ใครจะคิดอ่านทำอะไร กระดานหุ้นรัสเซียตกฮวบ
    หุ้นบริษัทพลังงาน Rosneft ที่รัฐบาลถือหุ้นใหญ่ ตกดิ่ง
    บริษัทลงทุนจากต่างชาติได้พากันถอนหุ้น เงินรูเบิ้ลสูญเสียมูลค่าที่รัฐบาลก็เอาไม่อยู่
    การแทรกแซงจากต่างชาติเริ่มเข้ามา ทั้งจากภาคการเมือง
    และเศรษฐกิจ
    เยลซินเริ่มเห็นแล้วว่า สาเหตุที่เกิดเช่นนั้น เพราะฝีมือของกลุ่มพ่อมดทางการเงิน จากคนรอบตัว (Oligarchs) ของเขาเองที่ส่วนใหญ่แล้ว คือยิว ที่มาปั่นกระแสขาขึ้นให้ แล้วก็ถีบหัว ตบคว่ำ……

    เยลซินเริ่มโดดเดี่ยว เขาต้องหาคนที่จะคอยพิทักษ์ปกป้อง และจะเข้ามาช่วยขจัดเหลือบไรพวกนี้ให้ออกไปให้พ้นจากชาติบ้านเมืองได้ ก็มีอยู่องค์กรเดียว คือ FSB (KGB) ที่เขาไม่ได้สนใจ ใส่ใจดูแลมานานแสนนาน
    ซึ่งเข้าทาง Boris Berezovsky (ยิวหนึ่งใน Oligarchs) ได้เสนอชื่อ ปูติน เพราะเขาเล่าว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยคิดที่จะเปิดบริษัทขายรถยนตร์ในเลนินกราด ได้ไปติดต่อกับปูตินเพื่อขอใบอนุญาตการค้า และได้ยื่นซองใต้โต๊ะให้
    แต่ถูกปฏิเสธ……ไม่รับ……!!!
    เยลซินเห็นด้วย (จากเรื่องของอนาโตลี) เขาบอกว่า……”ตอนแรกเราเห็นว่าปูตินเขาเป็นคนเฉยๆ เพราะเห็นเขาเงียบๆ ไม่ค่อยพูดอะไร แต่เพิ่งรู้เหมือนกัน ว่า เป็นคนที่คมในฝัก”

    นายกรัฐมนตรีคนใหม่หมาดๆ Sergei Kiriyenko ได้รับคำสั่งให้ที่มอสโคว์ เพื่อแจ้งข่าวกับปูติน
    ปูตินจึงไปรอรับท่านนายกฯ ที่สนามบิน ที่เขาคิดว่า เรื่องด่วนแบบนี้ ไม่น่าที่จะเป็นข่าวมงคล
    ทันทีที่ได้พบหน้ากัน ท่านนายกฯ ได้ปรี่เข้ามาจับมือขอแสดงความยินดี พร้อมกับบอกว่า “ดีใจด้วยนะ”
    “ดีใจอะไรหรือครับ..?”
    “ท่านประธานาธิบดีได้ทำการแต่งตั้งและลงนามให้นายเป็นผู้อำนวยการ FSB (KGB) น่ะซิ”

    ปูตินงงนิดหน่อย แต่เขาพอรู้มาบ้างแล้วว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงงานของเขาให้กลับไปอยู่ในสายงานเดิม แต่ไม่คิดว่า จะก้าวขึ้นไปเป็นผู้อำนวยการเลย…
    สิ่งแรกที่เขาทำ นั้นคือ ติดต่อไปยังลุดมิลาที่พาลูกๆไปพักผ่อน
    ที่ชายฝั่งทะเลบอลติด
    ด้วยข้อความที่ส่งแบบสายลับ คือ……
    “ฟังให้ดีนะ……ผมกำลังจะกลับไปในที่ที่ผมจากมา..”
    ลุดมิลาก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ……
    เขาจึงย้ำประโยคเดิมถึงสามครั้ง…ก่อนที่จะวางสายไป

    ลุดมิลาทำท่าเหนื่อยใจ……เธอบอกกับตัวเองว่า
    “ชั้นจะไปรู้เรื่องกับเธอไหม……ก็เปลี่ยนงานมานับสิบครั้งแล้วเนี่ยยย……?!!!

    ~~~ขยายความ

    Sergei Chemezov** เพื่อนรักของปูติน จากสถาบัน KGB
    ต่อมาคือ CEO ของบริษัท Rostec ที่สร้างอาวุธ และยุทโธปกรณ์ให้กับกองทัพของรัสเซีย

    Igor Sechin*** อีกหนึ่งศิษย์ร่วมสถาบัน KGB ปัจจุบัน คือ CEO ของ บริษัทน้ำมันและพลังงาน Rosneft

    ทั้งสองคนได้ถูกทางตะวันตกยึดเรือหรูมูลค่าพันล้านไปในทะเลเมติเตอเรเนียน พร้อมทั้งเป็นบุคคลที่โดนแซงชั่นในธนาคาร
    เมื่อถูกถามถึงความเห็น เขาสองคนหัวเราะ บอกว่า จิ๊บๆ
    แต่รอเขาจะฟ้องกลับเรียกค่าเสียหาย เพราะนั่นคือทรัพย์สินส่วนตัว และไม่ได้ล่วงล้ำในน่านน้ำเพราะมีเอกสารสิทธิ์ และมีการจ่ายค่าการท่าและภาษีอย่างถูกต้อง

    Viktor Zubkov**** เคยเป็นรองนายกรัฐมนตรีเมื่อปูตินเป็นนายกฯ ปัจจุบันนี้เป็นประธานบอร์ดของ บริษัท Gazprom
    คนนี้ก็โดนยึดเรือหรูไป ก็จิ๊บๆอีกเหมือนกัน

    ปูตินมีระบบดูแลคนใกล้ตัวที่ดียิ่ง เขาเลือกคนที่มีความสามารถเข้าไปนั่งในตำแหน่งบริหาร บอกว่า ไม่ต้องคอร์รัปชั่น
    เพราะแค่โบนัสหนึ่งเปอร์เซ็นต์ต่อปี ชาตินี้ก็ใช้ไม่หมด………

    แหม……………ก้อ…แต่ละบริษัทที่เอ่ยมากำไรปีละเป็นแสนล้าน ต่อให้ชาติหน้าชาติโน้นก็ใช้ไม่หมด………!!

    Wiwanda W. Vichit
    ไม่ต้องฟูมฟายไปนะคะ ติ่งขา………พี่ปูคมทั้งในฝักและนอกฝักเชียว……!!! ตอนเจ็ด………ตำแหน่งที่ได้รับ……ไม่ได้มาจากโชคหรือการจับฉลาก……แต่ด้วยความสามารถและความอุตสาหะล้วนๆ ที่ปูตินลังเลนั้น……เขาเพียงแต่ห่วงว่าครอบครัวจะปรับชีวิตและความเป็นอยู่ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะสังคมที่มอสโคว์กับกรุงเซนต์ต่างกันมากมาย แต่เมื่อได้คุยกับลุดมิลา เธอและลูกๆไม่มีปัญหาอะไร ไปไหนก็ได้เพราะอำนาจในการตัดสินก็อยู่ที่ช้างเท้าหน้าคือปูตินอยู่แล้ว และตัวเธอเองก็จะได้มีอิสระกับสายตาของแม่สามีไปเสียบ้าง สาเหตุก็เพราะรัฐบาลของเยลซินต้องการ”น้ำใหม่”มาแทนที่น้ำเสียที่รวมกันกันเป็นกระจุกอยู่ในเครมลิน เพราะความผิดพลาดในเรื่องการทำสงครามปราบปรามที่ Chechen ในปี 1994 ที่ทุกคนคิดว่า วันสองวันก็คงจบ……แต่ที่ไหนได้ มาลากถ่วงยาวมาจนตอนนี้ รวมทั้งสุขภาพที่ลดถอยของเยลซินเอง ที่เป็นโรคหัวใจกำเริบในตอนต้นปี 1995 ที่ทำให้เขาไม่ได้ปรากฏตัวออกสู่สายตาของประชาชน นี่คือเหตุผลที่ปูตินได้เข้ามาเป็นน้ำใหม่ในมอสโคว์ ในเดือนกันยายน 1996 และได้รับบ้านประจำตำแหน่งที่ค่อนข้างหรูหราอยู่ใกล้ๆกับเครมลิน เขาได้นำเพื่อนคู่ใจมาช่วยงานด้วยสองคน จากเซนต์ ปีเตอร์เบอร์ก คือ Sergei Chemezov**และ Igor Sechin*** เจ้านายของเขา ปาเวล ได้มอบหมายงานให้เป็นฝ่ายดูแลอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด จะต้องมีการคัดกรอง บริหารที่ดิน ตึกอาคารกันใหม่ เพราะในยุคของโซเวียต ทุกอย่างเป็นของรัฐบาล แต่ตอนนี้ก่อนที่จะมีการจำหน่าย หรือ จัดสรร ออกโฉนดจะต้องทำการประเมิน ซึ่งมันหมายถึงงานที่มากมายมหาศาล เพราะพื้นที่ที่จะต้องดูแลทั้งหมด คือ 78 เขตจังหวัด และ ต่างประเทศ(ในความควบคุมของโซเวียต) อื่นๆ เช่น อาคารที่ตั้งสถานทูต โรงเรียน รวมทั้งที่ยูเครน เรียกได้ว่า งานนี้ ทำให้ปูตินได้รู้หมดถึงทรัพย์สินของรัสเซียว่าอยู่ที่ไหน และ มีค่าเท่าใด และยิ่งค้นไป……เขาได้เห็นความไม่ชอบมาพากลหลายๆอย่าง เช่นพื้นที่สำคัญหลายแห่งถูกปล่อยให้เช่า แม้แต่ทรัพย์สินที่มีในสวิสเซอร์แลนด์ก็เช่นกัน ที่ขายไปในราคาที่เหมือนจะให้ฟรี จากชื่อบริษัท หรือ องค์กรประหลาดๆ ยิ่งค้นไปก็เจอว่าเป็นการ”ลักไก่” จากในหมู่ข้าราชการด้วยกัน เขาได้ทำรายงานให้กับทางต้นสังกัดให้ทราบเป็นเอกสารอย่างครบถ้วน เพื่อที่จะจัดการกันต่อไป เพราะเขาถือว่า หน้าที่ของเขา คือ การรวบรวมเอกสารและข้อมูล ส่วนการพิจารณาโทษ……เป็นหน้าที่ของหน่วยที่เกี่ยวข้อง แต่การดำเนินการล่าช้าจนเกินเหตุเพราะในช่วงนั้น มีสงครามที่เชเชน ที่มีแม่ทัพผู้อำนวยการ คือ นายพล Alexandr Lebed จอมยะโสคนนั้น ที่ได้สร้างผลงานให้อับอายไปทั่ว คือ แทนที่จะสยบเชเชน ดินแดนชายแดนขนาดเล็กแค่นั้น แต่ทำไม่สำเร็จ (สิงหาคม 1996) แถมจะยอมเจรจาสงบศึกทำสนธิสัญญาที่เสียเปรียบเข้าไปอีก งานนี้ทำให้เกิดกระแสที่เสียหายกับรัฐบาลของเยลซิน เหล่าคณะมนตรีเริ่มลุกขึ้นมาทะเลาะกันลั่นสภา หลายคนเรียก นายพล Alexandr Lebed ว่าเป็น “Little Napoleon” (คือ ปากดี ทีเหลว) หรือ “ไอ้กองทัพไม่มีน้ำยา” กระแสโกรธแค้นของประชาชนเริ่มทวีขึ้น จนไม่กี่วันต่อมา เยลซินต้องทำการปลดท่านนายพลออกจากตำแหน่ง การปรับเปลี่ยนตำแน่งได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง ปูตินได้ขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการแห่งองค์กรรวม ( Chief of Staff) ที่เทียบเท่ากับ อธิบดี ที่ไม่กี่วันต่อมาหลังจากที่ได้รับตำแหน่ง สภาได้ออกกฏหมายใหม่ เพิ่มอำนาจให้กับเขาอีก ในการขยายวงสอบสวนการทุจริต ยักยอก รวมไปถึงการคอร์รัปชั่นที่ทำให้ประเทศสูญเสียรายได้ ไม่ว่าจะเป็น ข้าราชการ, พนักงานลูกจ้าง และการสัมปทานต่างๆ งานนี้ ปูตินได้เจอะเจองานช้างเข้าหลายงาน เช่น อดีตนายพล Paval Grachev คนสนิทของเยลซิน ที่ควบคุมกองทัพในคอร์เคซัส ตั้งแต่ปี 1993-1996 ได้นำรถถังและอาวุธต่างๆที่มีมูลค่ากว่า หนึ่งพันล้านดอลล่าร์ ไปให้กับกองทัพของอาร์เมเนี่ยน ในสงครามกับ อาร์เซอร์ไบจาน ซึ่งเป็นการกระทำที่ถือว่าขายชาติ เพราะ รัสเซียอยู่ฝ่ายสนับสนุนอาเซอร์ไบจาน แต่…ทุกอย่างได้ผ่านไปก่อนที่ปูตินจะก้าวเข้ามา เขาจะไปทำอะไรได้ นอกจากจะต้องเลี้ยงนายพลคนนี้ต่อไป เนื่องจากว่าเป็นนายพลระดับวงในของเยลซที่เปรียบเหมือนตัวอันตราย ถ้าบีบคั้น…… ก็อาจจะตกไปอยู่ในมือของชาติอื่นที่ต้องการล้วงความลับ ดังนั้น จึงต้องใช้วิธีเลี้ยงเอาไว้ แล้วใส่ปลอกคอล่ามโซ่ให้สั้น โดยที่เขาใช้วิธีให้สัมภาษณ์กับนักข่าว ในเวลาที่ถูกถามถึงเรื่อง “นายพล เมอร์ซิเดส” เพราะนายพลคนนี้ชอบใช้รถหรูเกินฐานะ ว่า เรื่องการตรวจสอบคอร์รัปชั่นค้าอาวุธกับฝ่ายตรงข้ามนั้นไปถึงไหนแล้ว ปูตินตอบเรียบๆว่า “เราได้เอกสารพร้อมทุกอย่างแล้ว ข้อมูลครบ จะส่งขึ้นไปให้ฝ่ายกฎหมายต่อไป” นักข่าวถามต่อว่า “นายพลเมอร์ซิเดสได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่..??” “ก็ไม่มีนะ ไม่มีชื่อของ Gen. Pavel Grachev มาเกี่ยวข้องด้วย “ นี่คือการทำงานของปูตินที่ต้องรักษาภาพลักษณ์ให้กับเยลซิน แต่มืออีกข้างหนึ่งเขาได้จัดการไปตามกฏหมายเอาผิด ใช้เวลาถึงสิบปี ที่ได้เอานายพลและคณะออกจากตำแหน่งได้สำเร็จ (2007) หรืองานคอร์รัปชั่นในหน่วยสร้างทางที่เป็นเงินมหาศาลที่มีข้าราชการเกี่ยวข้องทำผิดถึง 260 คน (ในเมษายน ปี 1997) หรือใน Stavropol เชือดไปอีก 450 คน (ในกันยายน 1997) เรื่องนายพลที่ต้องล่าช้านานขนาดนั้น เพราะปูตินไม่มีอำนาจในบทลงโทษที่เป็นงานส่วนตุลาการ เขาทำได้แค่ชี้มูลความผิดพร้อมหลักฐานที่หนาแน่น เพราะการทำงานไล่บี้การยักยอกนั้น ทำให้ปูตินต้องเข้าติดต่อกับงานเดิมอีก คือ KGB ที่ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น FSB (แต่อาคารที่ทำงานยังอยู่ที่เดิม) อยู่บ่อยๆ เท่ากับว่าเขาได้กลับไปเยือนบรรยากาศเก่าๆอีกครั้ง และจากงานที่ต้องมาดูพื้นที่และทรัพยากรของชาติ ที่เขาได้ทำงานอย่างไหลลื่นนั้น ก็ไม่ใช่ว่าเขาเหนือมนุษย์…… หากแต่มันเป็นเรื่องบังเอิญอย่างที่สุด ที่เขาเกิดความสนใจในเรื่องเศรษฐศาสตร์ เพราะจากงานที่ทำอยู่ในสภาเทศบาลที่กรุงเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก ในช่วงที่อนาโตลีได้แพ้เลือกตั้ง ปูตินเริ่มมีเวลาว่าง เพราะมีหน้าที่เพียงแต่อำนวยความสะดวกให้กับทีมใหม่ เขาใช้เวลานั้น ไปลงเรียนวิชาบริหารเหมืองแร่และทรัพยากรน้ำมัน ที่ Georgi Plekhanov Mining Institute แทนที่จะไปเรียนต่อทางด้านกฎหมาย และไม่ได้ไปเรียนคนเดียว เขาเอาเพื่อนรักทั้งสอง Viktor Zubkov กับ Igor Sechin ไปนั่งเรียนกันด้วย ปลายปี 1996 (เข้าเรียนกลางปี 1995) ที่ปูตินสามารถส่งแฟ้ม Thesis ที่หนากว่า 250 หน้า ในเรื่องทรัพยากรแร่ธาตุที่เปรียบเสมือนทองคำของประเทศ ได้สำเร็จสวยงาม เพราะเขาได้ติวเตอร์คนสำคัญมาช่วย นั่นคือ Vladimir Litvenenko ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญเหมืองแร่ ที่ไปค้นคว้าหาตำราจากยุโรปมาแปลให้เป็นภาษารัสเซีย เรื่องนี้ ปูตินและเพื่อนๆที่พากันไปเรียนก็ไม่ได้ไปโอ้อวดที่ไหน ตอนนั้นที่ไปลงเรียน ก็เพราะมีเวลาว่าง เขาเพียงแต่คิดว่า……ในสายงานทางกฎหมายของเขาควรจะต้องรู้เรื่องทรัพยาการที่เป็นธุรกิจหลักของประเทศให้ดีขึ้น และเขาก็ได้ใช้มันจริงๆที่มอสโคว์ เพราะเขาได้รู้ทันเจ้ากรมพลังงานที่มีการเล่นตลกกับใบสัมปทาน……แต่ก็พูดมากไปไม่ได้ เพราะนั่นคือกลุ่มคนในวงในของเยลซิน แต่ทีนี้ความไม่เป็นธรรมได้เกิดขึ้นกับคดีของอนาโตลี เจ้านายเก่า เพราะหลังจากที่อะนาโตลี ถูกกลุ่มวงในมอสโคว์”เท”จนไม่ได้รับการสนับสนุนเลือกตั้งนั้น เขาได้” โวย” กับเยลซิน ที่ได้รับการตอบสนอง คือ เยลซินเอาพวกนั้นออกไปเป็นแผงก็จริง ………แต่คนกลุ่มนั้นก็ไม่ได้ไปไหน หรือ รับโทษอะไร ยังวนเวียนเป็นที่ปรึกษาอยู่รอบตัวเยลซินเหมือนเดิม แถมอนาโตลี ได้มีศัตรูเพิ่มอย่างออกหน้าออกตาอีกต่างหาก การกลั่นแกล้งจึงได้เกิดขึ้น แบบชนิดให้ได้อาย เช่นอนาโตลีมีการประชุมกับคณะมนตรีจาก UNESCO จู่ๆก็มีตำรวจบุกไปกลางงาน ขอควบคุมตัวไปสอบสวนในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง เขากลายเป็นผู้ต้องหาที่มีหมายจับ จนเขาเครียดถึงกับล้มป่วย เข้าโรงพยาบาล ครอบครัวต้องการให้แพทย์จากมอสโคว์มารักษา ปูตินบินด่วนไปเยี่ยมทันที และจัดการส่งเขาเข้าโรงพยาบาลทหาร จัดการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาพร้อม และที่เขาทำมากกว่านั้น มากเกินอำนาจเขาไปอีก คือ จัดเช่าเครื่องบินส่วนตัวจากฟินแลนด์นำตัวเขาออกนอกประเทศไปยังกรุงปารีส โดยให้เหล่า KGB นำขบวนรถฉุกเฉินไปยังสนามบิน หมายจับอะไรก็ไม่สำคัญทั้งนั้น ทุกอย่างผ่านตลอด พาสปอร์ต ประทับตรา ผ่านศุลกากร การกล้าทำแบบนี้ ถือว่าเป็นการฉีกกฎหมายทิ้ง และเสี่ยงต่อการเสียอนาคตของปูตินที่กำลังจะไปได้สวย แต่……สำหรับอนาโตลีแล้ว ปูตินพร้อมแลกเพื่อที่จะช่วยเหลือตอบแทนผู้ที่เคยมีพระคุณ เพราะเขาได้เห็นมาตลอดว่า เรื่องราวนั้นเป็นอย่างไร ในประเทศที่กฎหมายไม่สามารถบังคับใช้อะไรได้ ความผิดของอนาโตลีนั้นเทียบเท่ากับเมล็ดทรายของคนหลายๆคนในเครมลิน คนที่ชื่นชมกับความกตัญญูและการกล้าตัดสินใจของปูติน ในครั้งนี้ คือ ท่านประธานธิบดี Boris Yentsin เพราะท่านว่า ถ้าเกิดขึ้นกับเรา…จะมีใครที่ไหนที่จะกล้ามาช่วยเราขนาดนี้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย……?!!! ปูตินเริ่มเป็นที่จับตามองจากคณะท่านผู้นำ ในวันที่ 21 มีนาคม 1998 เยลซินได้เรียกให้นายกรัฐมนตรี Viktor Chernomydrin เข้ามาพบที่บ้านพักส่วนตัว เพื่อที่จะบอกว่า วิคเตอร์ทำหน้าที่นี้มานานถึงห้าปีแล้ว แต่ไม่มีอะไรดีขึ้น ทุกอย่างยังกวาดเข้าไปซุกอยู่ใต้พรม……เขาต้องการคนที่จะมา”ยกพรมขึ้น” แล้ว “กวาดขยะออกให้หมด” เพื่อบ้านจะได้น่าอยู่ ฉะนั้น……ที่ให้มาพบในครั้งนี้ คือการไล่ออก…… เยลซินได้เสนอชื่อ Sergei Kiriyenko อดีตนายธนาคารที่เป็นนักการเมืองหนุ่มวัย 35 ปี ต่อสภา……สภาไม่ผ่านทั้งสองครั้ง แต่ต่อมา……ด้วยแรงผลักดันของเยลซิน……ก็ผ่านฉลุย ส่วนอดีตนายกฯที่ถูกไล่ออกไป ก็ฮึ่มๆ ประกาศว่าเขาจะลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยหน้า จะได้รู้หมู่รู้จ่ากันไป.… นายทุนกระเป๋าหนัก Boris Berezovsky ที่สนับสนุนเยลซิน เพราะมีผลประโยชน์มหาศาลนั้น เริ่มเข้ามามีบทบาทช่วยเลือก เพราะกลุ่มคนวงในเก่าๆเท่าที่เห็น ต่างก็จะเข้ามาขวางทางการค้าของเขาทั้งสิ้น เพราะทุกคนต่างมีเส้นสายในกิจการสารพัดอยู่แล้ว ไม่ทันที่ใครจะคิดอ่านทำอะไร กระดานหุ้นรัสเซียตกฮวบ หุ้นบริษัทพลังงาน Rosneft ที่รัฐบาลถือหุ้นใหญ่ ตกดิ่ง บริษัทลงทุนจากต่างชาติได้พากันถอนหุ้น เงินรูเบิ้ลสูญเสียมูลค่าที่รัฐบาลก็เอาไม่อยู่ การแทรกแซงจากต่างชาติเริ่มเข้ามา ทั้งจากภาคการเมือง และเศรษฐกิจ เยลซินเริ่มเห็นแล้วว่า สาเหตุที่เกิดเช่นนั้น เพราะฝีมือของกลุ่มพ่อมดทางการเงิน จากคนรอบตัว (Oligarchs) ของเขาเองที่ส่วนใหญ่แล้ว คือยิว ที่มาปั่นกระแสขาขึ้นให้ แล้วก็ถีบหัว ตบคว่ำ…… เยลซินเริ่มโดดเดี่ยว เขาต้องหาคนที่จะคอยพิทักษ์ปกป้อง และจะเข้ามาช่วยขจัดเหลือบไรพวกนี้ให้ออกไปให้พ้นจากชาติบ้านเมืองได้ ก็มีอยู่องค์กรเดียว คือ FSB (KGB) ที่เขาไม่ได้สนใจ ใส่ใจดูแลมานานแสนนาน ซึ่งเข้าทาง Boris Berezovsky (ยิวหนึ่งใน Oligarchs) ได้เสนอชื่อ ปูติน เพราะเขาเล่าว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยคิดที่จะเปิดบริษัทขายรถยนตร์ในเลนินกราด ได้ไปติดต่อกับปูตินเพื่อขอใบอนุญาตการค้า และได้ยื่นซองใต้โต๊ะให้ แต่ถูกปฏิเสธ……ไม่รับ……!!! เยลซินเห็นด้วย (จากเรื่องของอนาโตลี) เขาบอกว่า……”ตอนแรกเราเห็นว่าปูตินเขาเป็นคนเฉยๆ เพราะเห็นเขาเงียบๆ ไม่ค่อยพูดอะไร แต่เพิ่งรู้เหมือนกัน ว่า เป็นคนที่คมในฝัก” นายกรัฐมนตรีคนใหม่หมาดๆ Sergei Kiriyenko ได้รับคำสั่งให้ที่มอสโคว์ เพื่อแจ้งข่าวกับปูติน ปูตินจึงไปรอรับท่านนายกฯ ที่สนามบิน ที่เขาคิดว่า เรื่องด่วนแบบนี้ ไม่น่าที่จะเป็นข่าวมงคล ทันทีที่ได้พบหน้ากัน ท่านนายกฯ ได้ปรี่เข้ามาจับมือขอแสดงความยินดี พร้อมกับบอกว่า “ดีใจด้วยนะ” “ดีใจอะไรหรือครับ..?” “ท่านประธานาธิบดีได้ทำการแต่งตั้งและลงนามให้นายเป็นผู้อำนวยการ FSB (KGB) น่ะซิ” ปูตินงงนิดหน่อย แต่เขาพอรู้มาบ้างแล้วว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงงานของเขาให้กลับไปอยู่ในสายงานเดิม แต่ไม่คิดว่า จะก้าวขึ้นไปเป็นผู้อำนวยการเลย… สิ่งแรกที่เขาทำ นั้นคือ ติดต่อไปยังลุดมิลาที่พาลูกๆไปพักผ่อน ที่ชายฝั่งทะเลบอลติด ด้วยข้อความที่ส่งแบบสายลับ คือ…… “ฟังให้ดีนะ……ผมกำลังจะกลับไปในที่ที่ผมจากมา..” ลุดมิลาก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ…… เขาจึงย้ำประโยคเดิมถึงสามครั้ง…ก่อนที่จะวางสายไป ลุดมิลาทำท่าเหนื่อยใจ……เธอบอกกับตัวเองว่า “ชั้นจะไปรู้เรื่องกับเธอไหม……ก็เปลี่ยนงานมานับสิบครั้งแล้วเนี่ยยย……?!!! ~~~ขยายความ Sergei Chemezov** เพื่อนรักของปูติน จากสถาบัน KGB ต่อมาคือ CEO ของบริษัท Rostec ที่สร้างอาวุธ และยุทโธปกรณ์ให้กับกองทัพของรัสเซีย Igor Sechin*** อีกหนึ่งศิษย์ร่วมสถาบัน KGB ปัจจุบัน คือ CEO ของ บริษัทน้ำมันและพลังงาน Rosneft ทั้งสองคนได้ถูกทางตะวันตกยึดเรือหรูมูลค่าพันล้านไปในทะเลเมติเตอเรเนียน พร้อมทั้งเป็นบุคคลที่โดนแซงชั่นในธนาคาร เมื่อถูกถามถึงความเห็น เขาสองคนหัวเราะ บอกว่า จิ๊บๆ แต่รอเขาจะฟ้องกลับเรียกค่าเสียหาย เพราะนั่นคือทรัพย์สินส่วนตัว และไม่ได้ล่วงล้ำในน่านน้ำเพราะมีเอกสารสิทธิ์ และมีการจ่ายค่าการท่าและภาษีอย่างถูกต้อง Viktor Zubkov**** เคยเป็นรองนายกรัฐมนตรีเมื่อปูตินเป็นนายกฯ ปัจจุบันนี้เป็นประธานบอร์ดของ บริษัท Gazprom คนนี้ก็โดนยึดเรือหรูไป ก็จิ๊บๆอีกเหมือนกัน ปูตินมีระบบดูแลคนใกล้ตัวที่ดียิ่ง เขาเลือกคนที่มีความสามารถเข้าไปนั่งในตำแหน่งบริหาร บอกว่า ไม่ต้องคอร์รัปชั่น เพราะแค่โบนัสหนึ่งเปอร์เซ็นต์ต่อปี ชาตินี้ก็ใช้ไม่หมด……… แหม……………ก้อ…แต่ละบริษัทที่เอ่ยมากำไรปีละเป็นแสนล้าน ต่อให้ชาติหน้าชาติโน้นก็ใช้ไม่หมด………!! Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2750 มุมมอง 0 รีวิว
  • 16-09-67/01 : หมี CNN / หมี CNN / "ตีแสกหน้า" EP.8

    01. ผวาสัส! ไฮเปอร์โซนิคเยเมน ผ่านฉลุย ล่อเป้าใกล้สนามบินเทลอาวีฟ!
    02. อดีต CIA แฉ อเมริกาตอแหล ปชต.พ่อง? ปลุกอเมริกันฆ่ากันเอง ยิวเผ่น
    03. ชักคะเย่อ มรึงร่วง กูล่อ มรึงถอย กูแหย่ รัสเซียปั่นหัวยูเครน ติดกับดักต่อ ดูดเงินอาวุธ กำลังพล NATO ตายห่าเรียบวุธ เอาจนกว่ายุโรปจะยวบเอง
    04. เฮซบอเลาะห์แรง! ถล่มคลังแสงโกลานเละ รัว 6 ฐานทัพ IOF ดับสนิท
    05. อีสวิงกิ้งขายกริฟเพ่นให้ยูเครน มันจะเอาที่ไหนจ่าย รัสเซียเตรียมสอย! เสี้ยนจัดขนาดนี้ อีฟินน์ อีสวิงกิ้ง อีลอนดอน เตรียมย้ายบ้านได้เลย เอาจริง
    06. ยอดขายไม่ตอแหล EV ร่วงเหรอ? ยอดทะลุเป้า รถอียุ่นปี่ ร่วงทุกยี่ห้อ?
    07. อีเบียร์วอนส้นตรีนพญามังกร แค่ 3 ฮอ ยังไม่ผ่าน ดีออก อย่าริเสนอหน้า
    08. เสธ.แดง ลาออก ดีลลับซับซ้อน อีเหลี่ยมเยี่ยวแตก หุบปาก เก็บตัว จ้อง
    09. พิษณุโลกสั่งสอนอีส้มเน่าล้มเจ้า หางโผล่ กระแสตีกลับ อีแดงจ่ายเต็ม
    10. จีนสอนมวย ไต้หวัน แค่เหยื่อล่อเหี้ยมะกันมาตายฟรี เป้าหมายวอชิงตัน
    11. อวสาน TV ดิจิตอล กสทช.จะมีไปทำพ่อง? แดร๊กมาเยอะแล้ว เหี้ยจัญไร
    12. WWIII จะมาก่อน หรือเหี้ยจะตายห่าก่อน? หมดตูดทั้งทวีปแล้ว ฆ่าด้วยปากท้อง ฆ่าด้วยเส้นทางการค้า ฆ่าด้วยโลจิสติค ฆ่าด้วยความเที่ยงธรรม
    13. ไอ้สัส! AMAZING THAILAND "หมูเด้ง" ดังไปทั่วจักรวาล ใครไม่รู้ เชย
    14. พลิกล็อค! กระแสอีส้มเน่าล้มเจ้า แพ้ยับทุกจังหวัด เรตติ้งต่ำตม ตบหน้า 14 ล้าน เสียงควายบัดซบ ยิ่งยุบ ยิ่งเจ๊ง ขายไม่ออก แผน CIA แห้วแดร๊ก
    15. เหี้ย CIA จ๋า มรึงพยายามมากปุยมุย? เสี้ยมอีขะแมร์-ไทย เช้าเย็น ควายยังรู้ ไอ้ที่โพสโซเชี่ยลอ่ะ คนไทย-อีขะแมร์ สาย C ทั้งนั้น ชงเอง ตบเอง ฮา
    16. SU-57 ออกโรงที่ยูเครนแล้ว ยับสิจ๊ะ ตั้งใจโชว์ให้ไอ้อี NATO ดูเต็มตา!
    17. ละครไทยเจ๊งยับ! ดูถูกคนดู หรือนายทุนสั่ง เน่ามาเป็นชาติ เหลือใครดู?
    18. ซอยกู พบ JOHN KIM ไม่ธรรมดา? บอกเลยชุดใหญ่จัดเต็ม ยูเครนเละ
    19. เหี้ย เผยธาตุแท้ เลิกสื่อเสรี การค้าเสรี เพราะสู้เค้าไม่ได้ เก่งแต่กฎหมา
    20. ไทยบาทแข็งโป๊ก แหงสิ! ตุนทองคำไว้เต็มท้องพระคลัง ของจริง จะแข็งกว่านี้อีกเยอะ หากไม่เอาอีเศษกระดาษปลอมมาเทียบ ปลดพันธนาการ

    หมายเหตุ : เกมส์สงคราม ขั้วใหม่ยึดหัวหาด แดร๊กเรียบวุธ ไม่ต้องสงสัย เกมส์การเมือง ขั้วใหม่ชนะใสใส หัวใจปูติน BRICS ขย่มโลกซะอยู่หมัด เกมส์การค้า จีนขยายตลาดไปทั่วโลก เดินสายโลจิสติคครอบจักรวาล เส้นทางสายไหมมาเต็มตรีน พ่วงตะวันออกกลาง แอฟริกา ภาพชัดสัส! เกมส์การเงิน เข้าเป้า ทั้งโลกแห่เทดอลล่าร์หมดเกลี้ยง อุ้มทองคำ หยวน รูเบิล แทน เกมส์สื่อ ชาวโลกเลิกดู TV ลงโซเชี่ยลกันหมด ความจริงปรากฎชัด เพราะทุกคนสามารถเป็นผู้สื่อข่าวได้หมด ไม่ต้องมีช่อง ไม่ต้องมีสังกัด ข้อดี และข้อเสีย ของโซเชี่ยลมีเดีย แฉยับ เหี้ยจนตรอก! (หมายเหตุ 2 : ภาพกุลสตรีไทยยุคใหม่ สวยใสฮาแตก เอามาฝาก มือใหม่ หัดเป็นกลุสตรีไทย มันยากน่ะเนี่ย นอกจากต้องเอาผัวให้มันส์แล้ว ยังต้องลีลาเด็ดในครัวต่อ)

    หมี CNN(จับตากรณีเสธ.แดงลาออก อีเหลี่ยมหุบปาก คือเรื่องเดียวกัน เบื้องหลัง กำลังจะมีพายุเฮอริเคนหลังบ้านเหี้ยส่องหมา ใบเสร็จพร้อม รอศาลไคฟงฟันเท่านั้นเอง เลือกตั้งปาหี่ แค่เอาคืนการเมือง อีแดงต้องล้างบางอีส้ม แล้วค่อยถูกอีเขียวเขมือบทั้งคอกอีกที ทุกอย่างอยู่ในเกมส์ทหาร)
    16 กันยายน 67
    10.54 น.

    ------------------------------------------------------------------------— https://linevoom.line.me/post/1172645897261542391
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ :

    https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u



    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    16-09-67/01 : หมี CNN / หมี CNN / "ตีแสกหน้า" EP.8 01. ผวาสัส! ไฮเปอร์โซนิคเยเมน ผ่านฉลุย ล่อเป้าใกล้สนามบินเทลอาวีฟ! 02. อดีต CIA แฉ อเมริกาตอแหล ปชต.พ่อง? ปลุกอเมริกันฆ่ากันเอง ยิวเผ่น 03. ชักคะเย่อ มรึงร่วง กูล่อ มรึงถอย กูแหย่ รัสเซียปั่นหัวยูเครน ติดกับดักต่อ ดูดเงินอาวุธ กำลังพล NATO ตายห่าเรียบวุธ เอาจนกว่ายุโรปจะยวบเอง 04. เฮซบอเลาะห์แรง! ถล่มคลังแสงโกลานเละ รัว 6 ฐานทัพ IOF ดับสนิท 05. อีสวิงกิ้งขายกริฟเพ่นให้ยูเครน มันจะเอาที่ไหนจ่าย รัสเซียเตรียมสอย! เสี้ยนจัดขนาดนี้ อีฟินน์ อีสวิงกิ้ง อีลอนดอน เตรียมย้ายบ้านได้เลย เอาจริง 06. ยอดขายไม่ตอแหล EV ร่วงเหรอ? ยอดทะลุเป้า รถอียุ่นปี่ ร่วงทุกยี่ห้อ? 07. อีเบียร์วอนส้นตรีนพญามังกร แค่ 3 ฮอ ยังไม่ผ่าน ดีออก อย่าริเสนอหน้า 08. เสธ.แดง ลาออก ดีลลับซับซ้อน อีเหลี่ยมเยี่ยวแตก หุบปาก เก็บตัว จ้อง 09. พิษณุโลกสั่งสอนอีส้มเน่าล้มเจ้า หางโผล่ กระแสตีกลับ อีแดงจ่ายเต็ม 10. จีนสอนมวย ไต้หวัน แค่เหยื่อล่อเหี้ยมะกันมาตายฟรี เป้าหมายวอชิงตัน 11. อวสาน TV ดิจิตอล กสทช.จะมีไปทำพ่อง? แดร๊กมาเยอะแล้ว เหี้ยจัญไร 12. WWIII จะมาก่อน หรือเหี้ยจะตายห่าก่อน? หมดตูดทั้งทวีปแล้ว ฆ่าด้วยปากท้อง ฆ่าด้วยเส้นทางการค้า ฆ่าด้วยโลจิสติค ฆ่าด้วยความเที่ยงธรรม 13. ไอ้สัส! AMAZING THAILAND "หมูเด้ง" ดังไปทั่วจักรวาล ใครไม่รู้ เชย 14. พลิกล็อค! กระแสอีส้มเน่าล้มเจ้า แพ้ยับทุกจังหวัด เรตติ้งต่ำตม ตบหน้า 14 ล้าน เสียงควายบัดซบ ยิ่งยุบ ยิ่งเจ๊ง ขายไม่ออก แผน CIA แห้วแดร๊ก 15. เหี้ย CIA จ๋า มรึงพยายามมากปุยมุย? เสี้ยมอีขะแมร์-ไทย เช้าเย็น ควายยังรู้ ไอ้ที่โพสโซเชี่ยลอ่ะ คนไทย-อีขะแมร์ สาย C ทั้งนั้น ชงเอง ตบเอง ฮา 16. SU-57 ออกโรงที่ยูเครนแล้ว ยับสิจ๊ะ ตั้งใจโชว์ให้ไอ้อี NATO ดูเต็มตา! 17. ละครไทยเจ๊งยับ! ดูถูกคนดู หรือนายทุนสั่ง เน่ามาเป็นชาติ เหลือใครดู? 18. ซอยกู พบ JOHN KIM ไม่ธรรมดา? บอกเลยชุดใหญ่จัดเต็ม ยูเครนเละ 19. เหี้ย เผยธาตุแท้ เลิกสื่อเสรี การค้าเสรี เพราะสู้เค้าไม่ได้ เก่งแต่กฎหมา 20. ไทยบาทแข็งโป๊ก แหงสิ! ตุนทองคำไว้เต็มท้องพระคลัง ของจริง จะแข็งกว่านี้อีกเยอะ หากไม่เอาอีเศษกระดาษปลอมมาเทียบ ปลดพันธนาการ หมายเหตุ : เกมส์สงคราม ขั้วใหม่ยึดหัวหาด แดร๊กเรียบวุธ ไม่ต้องสงสัย เกมส์การเมือง ขั้วใหม่ชนะใสใส หัวใจปูติน BRICS ขย่มโลกซะอยู่หมัด เกมส์การค้า จีนขยายตลาดไปทั่วโลก เดินสายโลจิสติคครอบจักรวาล เส้นทางสายไหมมาเต็มตรีน พ่วงตะวันออกกลาง แอฟริกา ภาพชัดสัส! เกมส์การเงิน เข้าเป้า ทั้งโลกแห่เทดอลล่าร์หมดเกลี้ยง อุ้มทองคำ หยวน รูเบิล แทน เกมส์สื่อ ชาวโลกเลิกดู TV ลงโซเชี่ยลกันหมด ความจริงปรากฎชัด เพราะทุกคนสามารถเป็นผู้สื่อข่าวได้หมด ไม่ต้องมีช่อง ไม่ต้องมีสังกัด ข้อดี และข้อเสีย ของโซเชี่ยลมีเดีย แฉยับ เหี้ยจนตรอก! (หมายเหตุ 2 : ภาพกุลสตรีไทยยุคใหม่ สวยใสฮาแตก เอามาฝาก มือใหม่ หัดเป็นกลุสตรีไทย มันยากน่ะเนี่ย นอกจากต้องเอาผัวให้มันส์แล้ว ยังต้องลีลาเด็ดในครัวต่อ) หมี CNN(จับตากรณีเสธ.แดงลาออก อีเหลี่ยมหุบปาก คือเรื่องเดียวกัน เบื้องหลัง กำลังจะมีพายุเฮอริเคนหลังบ้านเหี้ยส่องหมา ใบเสร็จพร้อม รอศาลไคฟงฟันเท่านั้นเอง เลือกตั้งปาหี่ แค่เอาคืนการเมือง อีแดงต้องล้างบางอีส้ม แล้วค่อยถูกอีเขียวเขมือบทั้งคอกอีกที ทุกอย่างอยู่ในเกมส์ทหาร) 16 กันยายน 67 10.54 น. ------------------------------------------------------------------------— https://linevoom.line.me/post/1172645897261542391 เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 648 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทองคำฟิวเจอร์สสร้างสถิติพุ่งทะลุระดับ2,600เหรียญ

    ในสัปดาห์ประวัติศาสตร์สำหรับตลาดโลหะมีค่า โกลด์ฟิวเจอร์สได้ทำลายสถิติ โดยทะลุระดับ 2,600 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์เป็นครั้งแรก

    ณ เวลา 17.00 น. EDTของวันศุกร์ที่ผ่านมา สัญญาเซื้อขายทองคำสำหรับเดือนธันวาคมอยู่ที่ 2,606.20 ดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นผลตอบแทนสุทธิ 19 ดอลลาร์หรือ 0.73% สำหรับวันนั้น การพุ่งขึ้นนี้ถือเป็นวันที่สองติดต่อกันของการทำลายสถิติสูงสุด โดยจุดสูงสุดระหว่างวันแตะระดับ $2,614.60 อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

    การเพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งของราคาทองคำเกิดขึ้นจากการเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของเมื่อวันศุกร์ที่ 47 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในวันเดียวที่สำคัญที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม การเพิ่มขึ้นอย่างมากของสัปดาห์นี้จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ทางการเงินอย่างไม่ต้องสงสัย ในขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้าก้าวข้ามหลักชัยที่ 2,600 ดอลลาร์

    ในขณะที่ฝุ่นจางหายไปในเหตุการณ์สำคัญนี้ ผู้เข้าร่วมตลาดกำลังมุ่งความสนใจไปที่การประชุมคณะกรรมการตลาดกลางของรัฐบาลกลาง (FOMC) ในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกอย่างกว้างขวางนับตั้งแต่ปี 2020 มีความเห็นพ้องต้องกันระหว่างนักวิเคราะห์ นักเศรษฐศาสตร์ และผู้สังเกตการณ์ตลาดก็คือการลดอัตราดอกเบี้ยนั้นเป็นสิ่งที่แน่นอน

    เวทีสำหรับการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้เกิดขึ้นในวันที่ 20 สิงหาคม เมื่อประธานธนาคารกลางสหรัฐ เจอโรม พาวเวลล์ ส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางมีความพร้อมที่จะลดอัตราดอกเบี้ยในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง จุดยืนของพาวเวลล์สะท้อนจากเจ้าหน้าที่เฟดคนอื่นๆ โดยเน้นย้ำถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นว่าการผ่อนคลายทางการเงินกำลังใกล้เข้ามา

    เมื่อเร็วๆ นี้ นาย Austan Goolsbee ประธานเฟดแห่งชิคาโกเน้นย้ำว่าแนวโน้มระยะยาวทั้งในตลาดแรงงานและข้อมูลเงินเฟ้อ แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วไปสู่นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น Goolsbee เตือนไม่ให้ใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดเป็นเวลานาน โดยอ้างถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับระดับการจ้างงาน

    แม้ว่าความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะมีสูง แต่ประเด็นสำคัญยังคงเป็นประเด็นถกเถียง นักเศรษฐศาสตร์ที่ Fitch คาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดจุดพื้นฐาน 0.25%สองครั้ง หนึ่งครั้งในสัปดาห์หน้าและอีกครั้งในเดือนธันวาคม

    อย่างไรก็ตาม เสียงบางส่วน เช่น Krishna Guha จาก Evercore ISI สนับสนุนการลดดอกเบี้ยพื้นฐาน 0.50%เพื่อปกป้องเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
    ที่มา Kitco
    ทองคำฟิวเจอร์สสร้างสถิติพุ่งทะลุระดับ2,600เหรียญ ในสัปดาห์ประวัติศาสตร์สำหรับตลาดโลหะมีค่า โกลด์ฟิวเจอร์สได้ทำลายสถิติ โดยทะลุระดับ 2,600 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์เป็นครั้งแรก ณ เวลา 17.00 น. EDTของวันศุกร์ที่ผ่านมา สัญญาเซื้อขายทองคำสำหรับเดือนธันวาคมอยู่ที่ 2,606.20 ดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นผลตอบแทนสุทธิ 19 ดอลลาร์หรือ 0.73% สำหรับวันนั้น การพุ่งขึ้นนี้ถือเป็นวันที่สองติดต่อกันของการทำลายสถิติสูงสุด โดยจุดสูงสุดระหว่างวันแตะระดับ $2,614.60 อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การเพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งของราคาทองคำเกิดขึ้นจากการเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของเมื่อวันศุกร์ที่ 47 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในวันเดียวที่สำคัญที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม การเพิ่มขึ้นอย่างมากของสัปดาห์นี้จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ทางการเงินอย่างไม่ต้องสงสัย ในขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้าก้าวข้ามหลักชัยที่ 2,600 ดอลลาร์ ในขณะที่ฝุ่นจางหายไปในเหตุการณ์สำคัญนี้ ผู้เข้าร่วมตลาดกำลังมุ่งความสนใจไปที่การประชุมคณะกรรมการตลาดกลางของรัฐบาลกลาง (FOMC) ในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกอย่างกว้างขวางนับตั้งแต่ปี 2020 มีความเห็นพ้องต้องกันระหว่างนักวิเคราะห์ นักเศรษฐศาสตร์ และผู้สังเกตการณ์ตลาดก็คือการลดอัตราดอกเบี้ยนั้นเป็นสิ่งที่แน่นอน เวทีสำหรับการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้เกิดขึ้นในวันที่ 20 สิงหาคม เมื่อประธานธนาคารกลางสหรัฐ เจอโรม พาวเวลล์ ส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางมีความพร้อมที่จะลดอัตราดอกเบี้ยในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง จุดยืนของพาวเวลล์สะท้อนจากเจ้าหน้าที่เฟดคนอื่นๆ โดยเน้นย้ำถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นว่าการผ่อนคลายทางการเงินกำลังใกล้เข้ามา เมื่อเร็วๆ นี้ นาย Austan Goolsbee ประธานเฟดแห่งชิคาโกเน้นย้ำว่าแนวโน้มระยะยาวทั้งในตลาดแรงงานและข้อมูลเงินเฟ้อ แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วไปสู่นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น Goolsbee เตือนไม่ให้ใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดเป็นเวลานาน โดยอ้างถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับระดับการจ้างงาน แม้ว่าความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะมีสูง แต่ประเด็นสำคัญยังคงเป็นประเด็นถกเถียง นักเศรษฐศาสตร์ที่ Fitch คาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดจุดพื้นฐาน 0.25%สองครั้ง หนึ่งครั้งในสัปดาห์หน้าและอีกครั้งในเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตาม เสียงบางส่วน เช่น Krishna Guha จาก Evercore ISI สนับสนุนการลดดอกเบี้ยพื้นฐาน 0.50%เพื่อปกป้องเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ที่มา Kitco
    Like
    Love
    Haha
    17
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1326 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซาอุฯแอบซื้อทอง160ตันจากสวิตเซอปร์แลนดืตั้งแต่ปี2022

    ซาอุดิ อาระเบียได้เข้าร่วมกับประเทศอื่นๆ ในเอเชียในการมองข้ามความอ่อนไหวต่อราคาทองคำในระยะยาว Jan Nieuwenhuijs แห่งMoney Metals Exchangeรายงานว่า มีหลักฐานบ่งชี้ว่าธนาคารกลางซาอุดิอาระเบียแอบซื้อทองคำจำนวน 160 ตันในสวิตเซอร์แลนด์ตั้งแต่ต้นปี 2565 ซึ่งมีส่วนสนับสนุนตลาดกระทิงของทองคำในปัจจุบัน

    แม้ว่าซาอุดิ อาระเบียจะมีบทบาทสำคัญในการให้กำเนิดมาตรฐานดอลลาร์โลกในช่วงต้นทศวรรษ 1970 แต่คราวนี้พวกเขาอาจกลายเป็นแกนหลักในการยกเลิกเปโตรดอลล่าร์ หรือการขายน้ำมันเป็นเงินสกุลดอลล่าร์อย่างเดียว อันเห็นได้จากการที่ซาอุดิ ได้รับเชิญให้เข้าร่วมกับกลุ่มBRICSซึ่งมีนโยบายต้องการออกจากระบบดอลล่าร์ (de-dollarization)

    จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ความต้องการทองคำของซาอุดิอาระเบียจะลดลงเมื่อราคาทองคำสูงขึ้นและความต้องการเพิ่มขึ้นเมื่อราคาลง ทำให้สร้างความผันผวนในตลาดทองคำ ซึ่งอยู่ภายใต้อิทธิพลของตะวันตกมานานหลายทศวรรษ

    นับตั้งแต่ตะวันตกยึดทรัพย์สินดอลลาร์ของรัสเซียในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ผู้ที่มีความขัดแย้งทางการทูตกับชาติตะวันตกก็เริ่มแลกเปลี่ยนดอลลาร์ของตนเป็นทองคำมากขึ้น

    ซาอุดิอาระเบียเป็นประเทศล่าสุด รองจากจีนและไทย ซึ่งมีสถิติการค้าข้ามพรมแดนที่แสดงว่าซาอุดีอาระเบียเปลี่ยนจากปัจจัยความอ่อนไหวด้านราคามาเป็นปัจจัยขับเคลื่อนราคา


    Trading Economicsรายงานว่า ทองคำสำรองในซาอุดีอาระเบียยังคงไม่เปลี่ยนแปลงที่ 323.07 ตันในไตรมาสแรกของปี 2024 จาก 323.07 ตันในไตรมาสที่สี่ของปี 2023 ทองคำสำรองในซาอุดิอาระเบียเฉลี่ย 263.59 ตันในช่วงปี 2000 ถึงปี 2024 ซึ่งแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 323.07 ตันในไตรมาสแรกของปี 2016 และต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 142.95 ตันในไตรมาสที่สองของปี 2000

    อย่างไรก็ตาม Nieuwenhuijsเชื่อว่า ซาอุดิ อาราเบียมีทองคำสำรองมากกว่าที่ประกาศอย่างเป็นทางการ

    ที่มา https://www.linkedin.com/pulse/saudi-central-bank-caught-secretly-buying-160-tonnes-gold-bv3ue
    ซาอุฯแอบซื้อทอง160ตันจากสวิตเซอปร์แลนดืตั้งแต่ปี2022 ซาอุดิ อาระเบียได้เข้าร่วมกับประเทศอื่นๆ ในเอเชียในการมองข้ามความอ่อนไหวต่อราคาทองคำในระยะยาว Jan Nieuwenhuijs แห่งMoney Metals Exchangeรายงานว่า มีหลักฐานบ่งชี้ว่าธนาคารกลางซาอุดิอาระเบียแอบซื้อทองคำจำนวน 160 ตันในสวิตเซอร์แลนด์ตั้งแต่ต้นปี 2565 ซึ่งมีส่วนสนับสนุนตลาดกระทิงของทองคำในปัจจุบัน แม้ว่าซาอุดิ อาระเบียจะมีบทบาทสำคัญในการให้กำเนิดมาตรฐานดอลลาร์โลกในช่วงต้นทศวรรษ 1970 แต่คราวนี้พวกเขาอาจกลายเป็นแกนหลักในการยกเลิกเปโตรดอลล่าร์ หรือการขายน้ำมันเป็นเงินสกุลดอลล่าร์อย่างเดียว อันเห็นได้จากการที่ซาอุดิ ได้รับเชิญให้เข้าร่วมกับกลุ่มBRICSซึ่งมีนโยบายต้องการออกจากระบบดอลล่าร์ (de-dollarization) จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ความต้องการทองคำของซาอุดิอาระเบียจะลดลงเมื่อราคาทองคำสูงขึ้นและความต้องการเพิ่มขึ้นเมื่อราคาลง ทำให้สร้างความผันผวนในตลาดทองคำ ซึ่งอยู่ภายใต้อิทธิพลของตะวันตกมานานหลายทศวรรษ นับตั้งแต่ตะวันตกยึดทรัพย์สินดอลลาร์ของรัสเซียในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ผู้ที่มีความขัดแย้งทางการทูตกับชาติตะวันตกก็เริ่มแลกเปลี่ยนดอลลาร์ของตนเป็นทองคำมากขึ้น ซาอุดิอาระเบียเป็นประเทศล่าสุด รองจากจีนและไทย ซึ่งมีสถิติการค้าข้ามพรมแดนที่แสดงว่าซาอุดีอาระเบียเปลี่ยนจากปัจจัยความอ่อนไหวด้านราคามาเป็นปัจจัยขับเคลื่อนราคา Trading Economicsรายงานว่า ทองคำสำรองในซาอุดีอาระเบียยังคงไม่เปลี่ยนแปลงที่ 323.07 ตันในไตรมาสแรกของปี 2024 จาก 323.07 ตันในไตรมาสที่สี่ของปี 2023 ทองคำสำรองในซาอุดิอาระเบียเฉลี่ย 263.59 ตันในช่วงปี 2000 ถึงปี 2024 ซึ่งแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 323.07 ตันในไตรมาสแรกของปี 2016 และต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 142.95 ตันในไตรมาสที่สองของปี 2000 อย่างไรก็ตาม Nieuwenhuijsเชื่อว่า ซาอุดิ อาราเบียมีทองคำสำรองมากกว่าที่ประกาศอย่างเป็นทางการ ที่มา https://www.linkedin.com/pulse/saudi-central-bank-caught-secretly-buying-160-tonnes-gold-bv3ue
    WWW.LINKEDIN.COM
    Saudi Central Bank Caught Secretly Buying 160 Tonnes of Gold in Switzerland
    Money Metals Exchange By Jan Nieuwenhuijs The Saudis have joined other Asian countries in ditching their long-term sensitivity to the gold price. Evidence suggests the Saudi central bank has been covertly buying 160 tonnes of gold in Switzerland since early 2022, contributing to the current gold bul
    Like
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1174 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥โดยมุมมอง และความคิดเห็นส่วนตัวของแอดมิน
    แอดมินมองว่า ทองคำ คือ สินทรัพย์ที่มีความเสถียร
    และมั่นคงที่สุดในยุคปัจจุบัน ล่าสุด ทองคำ(สัญญาซื้อขายทองคำ)
    ได้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อวาน 12/09/2567
    ที่ ราคา 2580.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์

    🚩จุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้ทองคำมีความมั่นคง
    และ เสถียรมากที่สุดในโลก ในปัจจุบัน ให้สังเกตจาก
    ค่าเงินดอลลารNสหรัฐ จะแข็งค่า หรือ อ่อนค่าลง
    แทบจะไม่มีผลต่อแนวโน้มของราคาทองคำ
    ที่ปรับตัวสูงขึ้น แม้ราคาทองคำ หรือ สัญญาซื้อขายทองคำ จะผูกติด
    กับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐก็ตาม ในการซื้อขาย
    เช่น ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ก็ตาม
    แต่ราคาทองคำ ยังขยับขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการ
    หรือ Demand ยังคงมีอยู่มาก

    🚩สาเหตุที่ demand หรือความต้องการทองคำในตลาดมีมากขึ้น
    อันเนื่องมาจาก การกำเนิดขึ้นของกลุ่ม BRICS สมาชิกเช่น
    รัสเซีย,จีน,อินเดีย,บราซิล,แอฟริกาใต้ เป็นต้น
    โดยเฉพาะ รัสเซีย,จีน และ อินเดีย คือ 3 ประเทศหลัก
    ที่มีการซื้อทองคำ เข้ามาตุนใน ธนาคารกลางของประเทศ
    มากกว่า 50% ในปัจจุบัน

    🚩ซึ่งกลุ่ม BRICS มีแนวทางที่จะลดการใช้เงินดอลลาร์ลง
    และสามารถใช้เงินสกุลอื่นๆ เพื่อแลกเปลี่ยนระหว่างกัน
    มากขึ้น โดยแนวคิดนี้เกิดขึ้น ภายหลังรัสเซียโดนยึด
    ทรัพย์สินต่างๆที่ฝากไว้ในต่างประเทศ เช่นที่สหรัฐ
    และยุโรป เป็นต้น จากการทำสงครามกับยูเครน

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ทองคำ #สัญญาซื้อขายทองคำ
    #thaitimes
    💥💥โดยมุมมอง และความคิดเห็นส่วนตัวของแอดมิน แอดมินมองว่า ทองคำ คือ สินทรัพย์ที่มีความเสถียร และมั่นคงที่สุดในยุคปัจจุบัน ล่าสุด ทองคำ(สัญญาซื้อขายทองคำ) ได้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อวาน 12/09/2567 ที่ ราคา 2580.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ 🚩จุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้ทองคำมีความมั่นคง และ เสถียรมากที่สุดในโลก ในปัจจุบัน ให้สังเกตจาก ค่าเงินดอลลารNสหรัฐ จะแข็งค่า หรือ อ่อนค่าลง แทบจะไม่มีผลต่อแนวโน้มของราคาทองคำ ที่ปรับตัวสูงขึ้น แม้ราคาทองคำ หรือ สัญญาซื้อขายทองคำ จะผูกติด กับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐก็ตาม ในการซื้อขาย เช่น ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ก็ตาม แต่ราคาทองคำ ยังขยับขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการ หรือ Demand ยังคงมีอยู่มาก 🚩สาเหตุที่ demand หรือความต้องการทองคำในตลาดมีมากขึ้น อันเนื่องมาจาก การกำเนิดขึ้นของกลุ่ม BRICS สมาชิกเช่น รัสเซีย,จีน,อินเดีย,บราซิล,แอฟริกาใต้ เป็นต้น โดยเฉพาะ รัสเซีย,จีน และ อินเดีย คือ 3 ประเทศหลัก ที่มีการซื้อทองคำ เข้ามาตุนใน ธนาคารกลางของประเทศ มากกว่า 50% ในปัจจุบัน 🚩ซึ่งกลุ่ม BRICS มีแนวทางที่จะลดการใช้เงินดอลลาร์ลง และสามารถใช้เงินสกุลอื่นๆ เพื่อแลกเปลี่ยนระหว่างกัน มากขึ้น โดยแนวคิดนี้เกิดขึ้น ภายหลังรัสเซียโดนยึด ทรัพย์สินต่างๆที่ฝากไว้ในต่างประเทศ เช่นที่สหรัฐ และยุโรป เป็นต้น จากการทำสงครามกับยูเครน #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ทองคำ #สัญญาซื้อขายทองคำ #thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1311 มุมมอง 0 รีวิว
  • ท่วมแล้วไปไหน? จับตาอีสาน 7 จังหวัดริมโขง

    อิทธิพลของพายุยางิ ที่อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ แต่ฝนตกทั้งวันอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้มวลน้ำจากประเทศเมียนมา ไหลเข้าท่วมพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยแม่น้ำสายและแม่น้ำรวก เข้าท่วมเขตเทศบาลตำบลแม่สาย ชายแดนไทย-เมียนมา ตามมาด้วยแม่น้ำกก เข้าท่วมเขตเทศบาลนครเชียงราย ข้อมูลสะสม ณ วันที่ 12 ก.ย. จังหวัดเชียงรายได้รับความเสียหายรวม 6 อำเภอ 25 ตำบล 125 หมู่บ้าน 1 เทศบาลนคร (22 ชุมชน) ตลาดชุมชนเศรษฐกิจ 2 แห่ง ร้านค้าและสถานประกอบการ 92 แห่ง ราษฎรได้รับผลกระทบ 51,353 ครัวเรือน เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 2 ราย

    ปลายทางของมวลน้ำทั้งสองสายอยู่ที่อำเภอเชียงแสน โดยแม่น้ำรวกไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่สามเหลี่ยมทองคำ ส่วนแม่น้ำกกไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่สบกก (ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน) แต่การระบายน้ำเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากแม่น้ำโขงมีระดับน้ำที่สูงขึ้น และเข้าท่วมเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว นอกจากนี้ ยังมีมวลน้ำสาขาจาก สปป.ลาว ไหลลงสู่แม่น้ำโขง โดยเฉพาะแม่น้ำทาจากแขวงหลวงน้ำทา ไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว รวมทั้งแขวงหลวงพระบาง แขวงอุดมไซ และแขวงไชยบุรี ยังประสบภัยน้ำท่วมอีกด้วย

    สิ่งที่น่าเป็นห่วงนับจากนี้ คือ 7 จังหวัดภาคอีสานที่อยู่ริมแม่น้ำโขง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) แจ้งเตือนระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ อ.เชียงคาน จ.เลย ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 3.00-3.60 เมตร คาดว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 0.50-1.50 เมตร ในช่วงวันที่ 13-16 ก.ย. อ.เมือง จ.หนองคาย และ อ.เมือง จ.บึงกาฬ ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 3.50-3.90 เมตร และคาดว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 1.50-2.50 เมตรในช่วงวันที่ 13-16 ก.ย. จ.นครพนม จ.มุกดาหาร จ.อำนาจเจริญ และ จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 2.00-2.60 เมตร ยังคงต่ำกว่าตลิ่ง 0.50-1.30 เมตร

    ด้านเทศบาลเมืองหนองคาย ยกระดับการแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมเป็นธงสีแดง (มากกว่า 12 เมตร) สภาวะน้ำอยู่ในเกณฑ์ที่มีความเสี่ยงอันตรายต่อการเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ให้อาศัยอยู่ในสถานที่ปลอดภัยและปฏิบัติตามข้อสั่งการ โดยระดับน้ำยังคงมีระดับสูงขึ้นอย่างช้าๆ ล่าสุดเมื่อเวลา 00.00 น. วันนี้ (13 ก.ย.) ระดับน้ำที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ มีระดับอยู่ที่ 12.82 เมตร สูงกว่าระดับค่าเฉลี่ยของตลิ่งถึง 62 เซนติเมตร

    (ระบบติดตามสถานการณ์แม่น้ำโขง https://monitoring.tnmc-is.org)

    #Newskit #น้ำท่วม #แม่น้ำโขง
    ท่วมแล้วไปไหน? จับตาอีสาน 7 จังหวัดริมโขง อิทธิพลของพายุยางิ ที่อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ แต่ฝนตกทั้งวันอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้มวลน้ำจากประเทศเมียนมา ไหลเข้าท่วมพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยแม่น้ำสายและแม่น้ำรวก เข้าท่วมเขตเทศบาลตำบลแม่สาย ชายแดนไทย-เมียนมา ตามมาด้วยแม่น้ำกก เข้าท่วมเขตเทศบาลนครเชียงราย ข้อมูลสะสม ณ วันที่ 12 ก.ย. จังหวัดเชียงรายได้รับความเสียหายรวม 6 อำเภอ 25 ตำบล 125 หมู่บ้าน 1 เทศบาลนคร (22 ชุมชน) ตลาดชุมชนเศรษฐกิจ 2 แห่ง ร้านค้าและสถานประกอบการ 92 แห่ง ราษฎรได้รับผลกระทบ 51,353 ครัวเรือน เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 2 ราย ปลายทางของมวลน้ำทั้งสองสายอยู่ที่อำเภอเชียงแสน โดยแม่น้ำรวกไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่สามเหลี่ยมทองคำ ส่วนแม่น้ำกกไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่สบกก (ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน) แต่การระบายน้ำเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากแม่น้ำโขงมีระดับน้ำที่สูงขึ้น และเข้าท่วมเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว นอกจากนี้ ยังมีมวลน้ำสาขาจาก สปป.ลาว ไหลลงสู่แม่น้ำโขง โดยเฉพาะแม่น้ำทาจากแขวงหลวงน้ำทา ไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว รวมทั้งแขวงหลวงพระบาง แขวงอุดมไซ และแขวงไชยบุรี ยังประสบภัยน้ำท่วมอีกด้วย สิ่งที่น่าเป็นห่วงนับจากนี้ คือ 7 จังหวัดภาคอีสานที่อยู่ริมแม่น้ำโขง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) แจ้งเตือนระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ อ.เชียงคาน จ.เลย ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 3.00-3.60 เมตร คาดว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 0.50-1.50 เมตร ในช่วงวันที่ 13-16 ก.ย. อ.เมือง จ.หนองคาย และ อ.เมือง จ.บึงกาฬ ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 3.50-3.90 เมตร และคาดว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 1.50-2.50 เมตรในช่วงวันที่ 13-16 ก.ย. จ.นครพนม จ.มุกดาหาร จ.อำนาจเจริญ และ จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 2.00-2.60 เมตร ยังคงต่ำกว่าตลิ่ง 0.50-1.30 เมตร ด้านเทศบาลเมืองหนองคาย ยกระดับการแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมเป็นธงสีแดง (มากกว่า 12 เมตร) สภาวะน้ำอยู่ในเกณฑ์ที่มีความเสี่ยงอันตรายต่อการเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ให้อาศัยอยู่ในสถานที่ปลอดภัยและปฏิบัติตามข้อสั่งการ โดยระดับน้ำยังคงมีระดับสูงขึ้นอย่างช้าๆ ล่าสุดเมื่อเวลา 00.00 น. วันนี้ (13 ก.ย.) ระดับน้ำที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ มีระดับอยู่ที่ 12.82 เมตร สูงกว่าระดับค่าเฉลี่ยของตลิ่งถึง 62 เซนติเมตร (ระบบติดตามสถานการณ์แม่น้ำโขง https://monitoring.tnmc-is.org) #Newskit #น้ำท่วม #แม่น้ำโขง
    Like
    Sad
    7
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 845 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต่อเรื่องพี่ปูอีกนิด…..แค้นนี้………กี่ปีก็ไม่สาย……!!

    อย่าซีเรียสนะคะ มันไม่ได้ร้ายแรงอะไรอย่างที่จั่วหัวไว้หรอก แต่อยากให้อ่านเป็นบทเรียนสำหรับหญิงๆว่า……จะพูดจะจาอะไรต้องระวังให้มากถึงมากที่สุด
    เพราะมันทำให้ใครคนหนึ่งถึงกับตกจากสวรรค์เลยทันที
    ตกเฉยๆก็คงไม่กระไร……แต่นี่เข้าขั้นอับอายและหาทางกลับแทบไม่ได้เลย

    ดิฉันกำลังพูดถึง คู่เชือดคู่เฉือนแห่งปี มาดาม ฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกาและ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย (พูดถึงอีกแล้ว)
    ที่คนทั้งสองศรศิลป์ไม่กินกันตั้งแต่ยังไม่เจอหน้าด้วยซ้ำ เพราะมาดาม คลินตัน
    เธอช่างกระหายสงครามอย่างออกนอกหน้า ไม่ว่าจะมีการสัมภาษณ์ครั้งใด เธอจะต้องพาดพิงถึงการแทรกแซงของรัสเซีย รวมไปถึวการวิจารณ์ปูตินอย่างเปิดเผย
    เมื่อตอนต้นปี 2016 ที่เธอเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครต เพื่อชิงประธานาธิบดี เธอใช้การหาเสียงด้วยการโจมตีอีกฝ่ายหนึ่งในเรื่องของความโหดร้ายในสงครามซีเรีย
    ว่า
    “ปูตินเป็นคนที่ไม่มีหัวจิตหัวใจ เพราะเขาเคยเป็นเคจีบีมาก่อน”

    ซึ่งข้อความนี้……ปูตินได้ออกอากาศให้สัมภาษณ์โต้กลับไปว่า
    “คนที่เป็นผู้นำ เขาไม่ได้ใช้หัวใจในการบริหารประเทศ เขาใช้สมอง!!”

    สื่อเองก็ช่างกระไร……ชอบนักที่จะคอยถาม คอยจี้ให้แต่ละฝ่ายออกมาแสดงความเห็นต่อกัน ทางฝ่ายชายมักจะนิ่งๆ ตอบสั้นๆ
    แต่ฝ่ายหญิงมักจะสาวยืดเสมอ มีทั้งประชดประชัน และ ดิสเครคิต
    จนปูตินเริ่มจะเชื่อแล้วว่า การเดินขบวนที่เกิดขึ้นบ่อยๆในรัสเซีย น่าจะเกิดจากการแทรกแซงจากภายนอกแน่นอน เพราะตั้งแต่หลายปีที่ผ่านมา รัสเซียมีการเดินขบวนบ่อยมาก และฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล เช่นสื่ออิสระหัวรุนแรง อย่าง Anna Politkovskaya**

    หรือ นักการเมือง Boris Nemtsov***
    ปี 2014 ที่รัสเซียได้ขยายเชื่อมกับ ไครเมียได้สำเร็จ เพราะตลอดเวลา 10ปีที่ผ่านมา รัสเซียพยายามที่จะต่อติดกับทั้งยุโรปและตะวันออกกลาง
    มาดามคลินตันก็โวยวาย กล่าวหาว่า นั่นคือการกระทำของฮิตเล่อร์ชัดๆ
    และเธอได้พยายามล็อบบี้ขัดขวางทุกวิถีทาง

    นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เรียกว่าไม่เกรงใจกันแล้ว

    จนเถึงคราวที่มาดามคลินตันลงเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ที่ดูเหมือนว่า
    เส้นทางนี้ไม่มีพลาด ยิ่งมาเจอคู่แข่งขันที่เป็นเจ้าพ่อวงการนางงาม ท่าทางวิปลาส พูดจาไม่มีหูรูด……นาย Donald Trump ที่ไม่เคยมีประสบการณ์การทำงานทางการเมืองมาก่อน
    เธอและครอบครัวมั่นใจเต็มร้อย ว่าประชากรชาวอเมริกันเกือบทั้งประเทศอยู่ฝ่ายเธอ
    ขนาด Chelsea ธิดาสาวคนเดียวของเธอ ยังประกาศเปิดตัวเธอบนเวที พร้อมทั้งต่อด้วยว่า The next President of the United States of America..
    เสียงในโพล……ก็มาแบบนั้นจริงๆ

    แต่ที่เครมลิน……ทุกคนเชียร์ทรัมป์……รวมทั้งมั่นใจกันอย่างเต็มที่ว่า ตำแหน่งประธานาธิบดีจะต้องเป็นนายทรัมป์แน่นอน…

    ไม่กี่อาทิตย์ก่อนที่จะมีการลงคะแนนเสียง……สิ่งประหลาดได้เกิดขึ้นทางสื่อออนไลน์ นั่นคือ Wikileaks ที่ได้มีการเปิดเผยข้อความจากอีเมล์ของ
    มาดามคลินตันที่ติดต่อกับผู้คนต่างๆ กว่าร้อยฉบับ ล้วนแต่เป็นสาระสำคัญยิ่ง
    เช่นการสนับสนุนสงคราม, ด่ายิว, รับสินบน, รับเงินสนับสนุนจากแหล่งที่ไม่สุจริต, รับเงินจากต่างประเทศเพื่อแลกกับผลประโยชน์ (ในสมัยที่นั่งกลาโหม)
    ทั้งหมดนี้...มาจากฝีมือใครก็ไม่รู้……แต่ต้องเป็นมือแฮคระดับเทพเท่านั้นที่จะทำได้

    ผลคือ……คะแนนของมาดามที่ว่านำมาลิ่วๆนั้น ตกฮวบลงอย่างน่าใจหาย
    วินาทีสุดท้ายคะแนนของกลุ่มที่รอการตัดสินใจได้เทไปให้ทางนายทรัมป์จนหมด เขาชนะไปแบบเฉือนกันปลายจมูก……
    อเมริกา ได้นายทรัมป์มาเป็นประธานาธิบดี
    มาดามคลินตัน จุกจนพูดไม่ออก……เพราะมันหมายถึงสิ่งที่ตั้งความหวังมาตลอดชีวิตว่าจะเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศนั้นหายวับไปต่อหน้าต่อตา เพราะอีเมล์จำนวนร้อยฉบับเหล่านั้น มันได้เปิดหน้ากากเธอจนหมดสิ้น……

    วันนั้น……ทางเครมลินได้รอฟังผลการเลือกตั้งเช่นกัน พร้อมเหล้ายาปลาปิ้ง กับแกล้มพร้อม เตรียมฉลองเหมือนจะรู้ว่า รถหมูคว่ำแน่……!!!

    นี่คือการ”เอาคืน” แบบย้อนเกล็ดที่เจ็บแสบที่สุด………ที่ส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นฝีมือของรัสเซีย

    การเอาคืนในระบบปูตินนั้น……มาได้หลายรูปแบบ อย่างที่ยกชื่อมาเป็นตัวอย่างสองคนข้างบน คนแรก

    Anna Politkovskaya อายุ 48 ปีเป็น อเมริกัน-รัสเซีย ทำงานสื่ออิสระในสายของ Human Rights Watch ที่เอาตัวเองเข้าไปคลุกคลีในสนามรบของสงคราม
    Chechen แล้วส่งข่าวรายงานสู่สื่อใหญ่อเมริกา
    เธอได้รับการเตือนแบบเป็นระยะ นับตั้งแต่ถูกวางยาให้ป่วย, คุมขัง แต่ก็ไม่ได้ผล
    ในที่สุด……เธอได้เสียชีวิตจากการถูกลอบสังหารในบริเวณที่พักของเธอเอง
    ในปี 2006
    คาดว่า……ทางรัสเซียคงหมดความอดทนหลังจากที่จับได้ว่า เธอได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับนาย Boris Berezovsky เจ้าพ่อสื่อโทรทัศน์ตัวการสำคัญที่หลบหนีไปอยู่ที่อังกฤษ
    หมายเหตุ เรื่องของนาย Boris นี้ ดิฉันเคยเล่าไปแล้ว...

    คนต่อมาคือนาย Boris Nemtsov ที่เคยเป็นอธิบดี (ในรัฐบาลของ ประธานาธิบดี Yeltzin) ที่ต่อต้านปูตินอย่างเปิดเผย อีกทั้งเขาได้พยายามหาพวกจากฝั่งอเมริกาและอังกฤษเพื่อ ช่วยกระจายข่าวต่อ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ปูตินคือบุคคลที่รวยที่สุดในโลก มีบ้านราคาพันล้านเหรียญ มีเรือสำราญ และอีกสารพัดที่จะมี
    วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2015 สองวันก่อนที่เขาจะขึ้นเวทีการอภิปรายใหญ่เกี่ยวกับความไม่โปร่งใสของรัฐบาล เวลาเที่ยงคืนเศษ เขากับแฟนสาวเดินข้ามสะพานบริเวณหน้าพระราชวังเครมลิน
    มีรถแล่นผ่านไปอย่างช้าๆ แล้วเขาก็ล้มลงไป……สิ้นใจด้วยกระสุนที่ยิงเข้ากลางหลังสี่นัด
    งานนี้เป็นงานดี ฝีมือเนี๊ยบ……เพราะแฟนสาวที่เดินเคลียคลออยู่ข้างๆนั้น ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาโดนยิง คิดว่าสะดุดอะไรล้มลง...ไม่มียินเสียงอะไรทั้งสิ้น

    ฟังแล้วก็ต้องทำใจนะคะ……นี่คือด้านมืดของมนุษย์ มีพระคุณแล้วก็ต้องมีพระเดช แล้วยังต้องมีการเก็บกวาดสิ่งที่เรียกว่าเสี้ยนหนาม กีดขวางทางเดิน
    ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยกล……ก็ใช้แฮ๊คเคอร์

    แต่พี่รัสเซียนี่ เขาเอามาใช้ทุกอย่าง……ระยะหลังนี่ หนักไปทางยาพิษชนิดที่นักเคมีต้องค้นตำราแก้……

    ขนาดเก่งกล้าสารพัด มาเสียเชิงให้เป็นที่ขบขันได้ จากข่าวเรื่องทองคำแท่ง หนักกว่า 3.4 ตัน ร่วงลงมากจากเครื่องบินขณะที่กำลังวิ่งบนลู่ เพื่อที่จะเหินขึ้นฟ้า เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้
    ชาวบ้านอเมริกันเขาว่า
    “โธ่เอ๊ยย……ขนาดขนทองยังเอาเครื่องบินผุๆมาใช้………ไหนคุยว่าสร้างจรวดไง?”

    Wiwanda W. Vichit
    ต่อเรื่องพี่ปูอีกนิด…..แค้นนี้………กี่ปีก็ไม่สาย……!! อย่าซีเรียสนะคะ มันไม่ได้ร้ายแรงอะไรอย่างที่จั่วหัวไว้หรอก แต่อยากให้อ่านเป็นบทเรียนสำหรับหญิงๆว่า……จะพูดจะจาอะไรต้องระวังให้มากถึงมากที่สุด เพราะมันทำให้ใครคนหนึ่งถึงกับตกจากสวรรค์เลยทันที ตกเฉยๆก็คงไม่กระไร……แต่นี่เข้าขั้นอับอายและหาทางกลับแทบไม่ได้เลย ดิฉันกำลังพูดถึง คู่เชือดคู่เฉือนแห่งปี มาดาม ฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกาและ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย (พูดถึงอีกแล้ว) ที่คนทั้งสองศรศิลป์ไม่กินกันตั้งแต่ยังไม่เจอหน้าด้วยซ้ำ เพราะมาดาม คลินตัน เธอช่างกระหายสงครามอย่างออกนอกหน้า ไม่ว่าจะมีการสัมภาษณ์ครั้งใด เธอจะต้องพาดพิงถึงการแทรกแซงของรัสเซีย รวมไปถึวการวิจารณ์ปูตินอย่างเปิดเผย เมื่อตอนต้นปี 2016 ที่เธอเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครต เพื่อชิงประธานาธิบดี เธอใช้การหาเสียงด้วยการโจมตีอีกฝ่ายหนึ่งในเรื่องของความโหดร้ายในสงครามซีเรีย ว่า “ปูตินเป็นคนที่ไม่มีหัวจิตหัวใจ เพราะเขาเคยเป็นเคจีบีมาก่อน” ซึ่งข้อความนี้……ปูตินได้ออกอากาศให้สัมภาษณ์โต้กลับไปว่า “คนที่เป็นผู้นำ เขาไม่ได้ใช้หัวใจในการบริหารประเทศ เขาใช้สมอง!!” สื่อเองก็ช่างกระไร……ชอบนักที่จะคอยถาม คอยจี้ให้แต่ละฝ่ายออกมาแสดงความเห็นต่อกัน ทางฝ่ายชายมักจะนิ่งๆ ตอบสั้นๆ แต่ฝ่ายหญิงมักจะสาวยืดเสมอ มีทั้งประชดประชัน และ ดิสเครคิต จนปูตินเริ่มจะเชื่อแล้วว่า การเดินขบวนที่เกิดขึ้นบ่อยๆในรัสเซีย น่าจะเกิดจากการแทรกแซงจากภายนอกแน่นอน เพราะตั้งแต่หลายปีที่ผ่านมา รัสเซียมีการเดินขบวนบ่อยมาก และฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล เช่นสื่ออิสระหัวรุนแรง อย่าง Anna Politkovskaya** หรือ นักการเมือง Boris Nemtsov*** ปี 2014 ที่รัสเซียได้ขยายเชื่อมกับ ไครเมียได้สำเร็จ เพราะตลอดเวลา 10ปีที่ผ่านมา รัสเซียพยายามที่จะต่อติดกับทั้งยุโรปและตะวันออกกลาง มาดามคลินตันก็โวยวาย กล่าวหาว่า นั่นคือการกระทำของฮิตเล่อร์ชัดๆ และเธอได้พยายามล็อบบี้ขัดขวางทุกวิถีทาง นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เรียกว่าไม่เกรงใจกันแล้ว จนเถึงคราวที่มาดามคลินตันลงเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ที่ดูเหมือนว่า เส้นทางนี้ไม่มีพลาด ยิ่งมาเจอคู่แข่งขันที่เป็นเจ้าพ่อวงการนางงาม ท่าทางวิปลาส พูดจาไม่มีหูรูด……นาย Donald Trump ที่ไม่เคยมีประสบการณ์การทำงานทางการเมืองมาก่อน เธอและครอบครัวมั่นใจเต็มร้อย ว่าประชากรชาวอเมริกันเกือบทั้งประเทศอยู่ฝ่ายเธอ ขนาด Chelsea ธิดาสาวคนเดียวของเธอ ยังประกาศเปิดตัวเธอบนเวที พร้อมทั้งต่อด้วยว่า The next President of the United States of America.. เสียงในโพล……ก็มาแบบนั้นจริงๆ แต่ที่เครมลิน……ทุกคนเชียร์ทรัมป์……รวมทั้งมั่นใจกันอย่างเต็มที่ว่า ตำแหน่งประธานาธิบดีจะต้องเป็นนายทรัมป์แน่นอน… ไม่กี่อาทิตย์ก่อนที่จะมีการลงคะแนนเสียง……สิ่งประหลาดได้เกิดขึ้นทางสื่อออนไลน์ นั่นคือ Wikileaks ที่ได้มีการเปิดเผยข้อความจากอีเมล์ของ มาดามคลินตันที่ติดต่อกับผู้คนต่างๆ กว่าร้อยฉบับ ล้วนแต่เป็นสาระสำคัญยิ่ง เช่นการสนับสนุนสงคราม, ด่ายิว, รับสินบน, รับเงินสนับสนุนจากแหล่งที่ไม่สุจริต, รับเงินจากต่างประเทศเพื่อแลกกับผลประโยชน์ (ในสมัยที่นั่งกลาโหม) ทั้งหมดนี้...มาจากฝีมือใครก็ไม่รู้……แต่ต้องเป็นมือแฮคระดับเทพเท่านั้นที่จะทำได้ ผลคือ……คะแนนของมาดามที่ว่านำมาลิ่วๆนั้น ตกฮวบลงอย่างน่าใจหาย วินาทีสุดท้ายคะแนนของกลุ่มที่รอการตัดสินใจได้เทไปให้ทางนายทรัมป์จนหมด เขาชนะไปแบบเฉือนกันปลายจมูก…… อเมริกา ได้นายทรัมป์มาเป็นประธานาธิบดี มาดามคลินตัน จุกจนพูดไม่ออก……เพราะมันหมายถึงสิ่งที่ตั้งความหวังมาตลอดชีวิตว่าจะเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศนั้นหายวับไปต่อหน้าต่อตา เพราะอีเมล์จำนวนร้อยฉบับเหล่านั้น มันได้เปิดหน้ากากเธอจนหมดสิ้น…… วันนั้น……ทางเครมลินได้รอฟังผลการเลือกตั้งเช่นกัน พร้อมเหล้ายาปลาปิ้ง กับแกล้มพร้อม เตรียมฉลองเหมือนจะรู้ว่า รถหมูคว่ำแน่……!!! นี่คือการ”เอาคืน” แบบย้อนเกล็ดที่เจ็บแสบที่สุด………ที่ส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นฝีมือของรัสเซีย การเอาคืนในระบบปูตินนั้น……มาได้หลายรูปแบบ อย่างที่ยกชื่อมาเป็นตัวอย่างสองคนข้างบน คนแรก Anna Politkovskaya อายุ 48 ปีเป็น อเมริกัน-รัสเซีย ทำงานสื่ออิสระในสายของ Human Rights Watch ที่เอาตัวเองเข้าไปคลุกคลีในสนามรบของสงคราม Chechen แล้วส่งข่าวรายงานสู่สื่อใหญ่อเมริกา เธอได้รับการเตือนแบบเป็นระยะ นับตั้งแต่ถูกวางยาให้ป่วย, คุมขัง แต่ก็ไม่ได้ผล ในที่สุด……เธอได้เสียชีวิตจากการถูกลอบสังหารในบริเวณที่พักของเธอเอง ในปี 2006 คาดว่า……ทางรัสเซียคงหมดความอดทนหลังจากที่จับได้ว่า เธอได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับนาย Boris Berezovsky เจ้าพ่อสื่อโทรทัศน์ตัวการสำคัญที่หลบหนีไปอยู่ที่อังกฤษ หมายเหตุ เรื่องของนาย Boris นี้ ดิฉันเคยเล่าไปแล้ว... คนต่อมาคือนาย Boris Nemtsov ที่เคยเป็นอธิบดี (ในรัฐบาลของ ประธานาธิบดี Yeltzin) ที่ต่อต้านปูตินอย่างเปิดเผย อีกทั้งเขาได้พยายามหาพวกจากฝั่งอเมริกาและอังกฤษเพื่อ ช่วยกระจายข่าวต่อ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ปูตินคือบุคคลที่รวยที่สุดในโลก มีบ้านราคาพันล้านเหรียญ มีเรือสำราญ และอีกสารพัดที่จะมี วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2015 สองวันก่อนที่เขาจะขึ้นเวทีการอภิปรายใหญ่เกี่ยวกับความไม่โปร่งใสของรัฐบาล เวลาเที่ยงคืนเศษ เขากับแฟนสาวเดินข้ามสะพานบริเวณหน้าพระราชวังเครมลิน มีรถแล่นผ่านไปอย่างช้าๆ แล้วเขาก็ล้มลงไป……สิ้นใจด้วยกระสุนที่ยิงเข้ากลางหลังสี่นัด งานนี้เป็นงานดี ฝีมือเนี๊ยบ……เพราะแฟนสาวที่เดินเคลียคลออยู่ข้างๆนั้น ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาโดนยิง คิดว่าสะดุดอะไรล้มลง...ไม่มียินเสียงอะไรทั้งสิ้น ฟังแล้วก็ต้องทำใจนะคะ……นี่คือด้านมืดของมนุษย์ มีพระคุณแล้วก็ต้องมีพระเดช แล้วยังต้องมีการเก็บกวาดสิ่งที่เรียกว่าเสี้ยนหนาม กีดขวางทางเดิน ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยกล……ก็ใช้แฮ๊คเคอร์ แต่พี่รัสเซียนี่ เขาเอามาใช้ทุกอย่าง……ระยะหลังนี่ หนักไปทางยาพิษชนิดที่นักเคมีต้องค้นตำราแก้…… ขนาดเก่งกล้าสารพัด มาเสียเชิงให้เป็นที่ขบขันได้ จากข่าวเรื่องทองคำแท่ง หนักกว่า 3.4 ตัน ร่วงลงมากจากเครื่องบินขณะที่กำลังวิ่งบนลู่ เพื่อที่จะเหินขึ้นฟ้า เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้ ชาวบ้านอเมริกันเขาว่า “โธ่เอ๊ยย……ขนาดขนทองยังเอาเครื่องบินผุๆมาใช้………ไหนคุยว่าสร้างจรวดไง?” Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 530 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพที่เห็นนี้เป็นแบบจำลองของทองคำก้อน WELCOME STRANGER NUGGET
    “Welcome Stranger” เป็นทองคำก้อนที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบมา
    ได้ถูกค้นพบโดย John Deason และ Richard Oates เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 1869 ที่เมือง Moliagul รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย โดยอยู่ลึกลงไปจากพื้นดินไม่ถึง 3 ซม. ทองคำก้อนนี้มีขนาด 61 x 31 ซม. และมีน้ำหนัก 109.60 กก. เมื่อแยกออกจากเมทริกซ์ควอตซ์แล้ว ทองคำก้อนนี้ซึ่งประกอบด้วยทองคำบริสุทธิ์ยังคงมีน้ำหนัก 72 กก.
    ทองคำก้อนนี้ถูกหลอมและแปรรูปเป็นทองแท่ง ซึ่งนำออกเดินทางจากออสเตรเลียไปยังธนาคารแห่งอังกฤษในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ สองสัปดาห์หลังจากการค้นพบ นักสำรวจผู้โชคดีทั้งสองคนได้รับเงินที่ถูกประเมินทองคำที่นำมา เป็นเงินโดยประมาณจำนวน 9,381 ปอนด์อังกฤษ ( ในยุคนั้น)
    ภาพที่เห็นนี้เป็นแบบจำลองของทองคำก้อน WELCOME STRANGER NUGGET “Welcome Stranger” เป็นทองคำก้อนที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบมา ได้ถูกค้นพบโดย John Deason และ Richard Oates เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 1869 ที่เมือง Moliagul รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย โดยอยู่ลึกลงไปจากพื้นดินไม่ถึง 3 ซม. ทองคำก้อนนี้มีขนาด 61 x 31 ซม. และมีน้ำหนัก 109.60 กก. เมื่อแยกออกจากเมทริกซ์ควอตซ์แล้ว ทองคำก้อนนี้ซึ่งประกอบด้วยทองคำบริสุทธิ์ยังคงมีน้ำหนัก 72 กก. ทองคำก้อนนี้ถูกหลอมและแปรรูปเป็นทองแท่ง ซึ่งนำออกเดินทางจากออสเตรเลียไปยังธนาคารแห่งอังกฤษในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ สองสัปดาห์หลังจากการค้นพบ นักสำรวจผู้โชคดีทั้งสองคนได้รับเงินที่ถูกประเมินทองคำที่นำมา เป็นเงินโดยประมาณจำนวน 9,381 ปอนด์อังกฤษ ( ในยุคนั้น)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • THE MALL KORAT x PRIMA หรูหรา เลอค่า ที่สุดแห่งปี

    วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 เวลา 14.00น. เดอะมอลล์โคราช ร่วมกับ PRIMA จัดงานแฟชั่นโชว์ความงดงามของเครื่องประดับชั้นนำสัญชาติไทย เครื่องประดับทองคำบริสุทธิ์ 99.9% (24K) พร้อมเพชรน้ำงามดีไซน์สุดหรู และหัตถศิลป์ทองคำชั้นสูงจาก PRIMA โดยได้รับเกียรติจากเหล่าเซเลบริตี้,นักธุรกิจชื่อดังในจังหวัดนครราชสีมา กว่า 11 ท่าน ให้เกียรติเดินแบบเครื่องประดับ กับ 11 ชุดเครื่องประดับที่รังสรรค์ชิ้นงานสุดประณีต เพื่อส่งมอบชิ้นงานอันทรงคุณค่าในทุกช่วงเวลาพิเศษ รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาทที่มาโชว์บนรันเวย์

    โดยไฮไลท์ภายในงานคุณพรชนก บุญธรรมเจริญ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 ได้สวมใส่ชุดเครื่องเพชร Monarch เดินฟินนาเล่ชุดเครื่องเพชรมูลค่ารวม 10,589,000.- อวดโฉมให้ผู้เข้าร่วมงานได้ชมถึงแรงบันดาลใจหรูหราดุจราชินีแห่ง DIAMOND ด้วยรูปแบบดีไซน์ที่อ่อนหวานงดงามของเพชรรูปทรงหยดน้ำ ผสมผสานรูปแบบลวดลายความเป็นไทยเพิ่มความสง่างามดุจดั่งต้องมนต์

    ทั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ PRIMA ได้นำเครื่องเพชรมูลค่ากว่า 10 ล้านบาทมาร่วมแสดงแฟชั่นโชว์ในครั้งนี้ด้วยให้ชาวโคราชได้ชมและไม่พลาดกับความพิเศษ รวมถึงโปรโมชั่นสุดคุ้มกับโอกาสที่จะได้ครอบครองเป็นเจ้าของเครื่องประดับสุดหรูจาก PRIMA GOLD และ PRIMA DIMOND ที่เคาน์เตอร์ PRIMA GOLD ชั้น 1 เดอะมอลล์โคราช
    THE MALL KORAT x PRIMA หรูหรา เลอค่า ที่สุดแห่งปี วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 เวลา 14.00น. เดอะมอลล์โคราช ร่วมกับ PRIMA จัดงานแฟชั่นโชว์ความงดงามของเครื่องประดับชั้นนำสัญชาติไทย เครื่องประดับทองคำบริสุทธิ์ 99.9% (24K) พร้อมเพชรน้ำงามดีไซน์สุดหรู และหัตถศิลป์ทองคำชั้นสูงจาก PRIMA โดยได้รับเกียรติจากเหล่าเซเลบริตี้,นักธุรกิจชื่อดังในจังหวัดนครราชสีมา กว่า 11 ท่าน ให้เกียรติเดินแบบเครื่องประดับ กับ 11 ชุดเครื่องประดับที่รังสรรค์ชิ้นงานสุดประณีต เพื่อส่งมอบชิ้นงานอันทรงคุณค่าในทุกช่วงเวลาพิเศษ รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาทที่มาโชว์บนรันเวย์ โดยไฮไลท์ภายในงานคุณพรชนก บุญธรรมเจริญ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 ได้สวมใส่ชุดเครื่องเพชร Monarch เดินฟินนาเล่ชุดเครื่องเพชรมูลค่ารวม 10,589,000.- อวดโฉมให้ผู้เข้าร่วมงานได้ชมถึงแรงบันดาลใจหรูหราดุจราชินีแห่ง DIAMOND ด้วยรูปแบบดีไซน์ที่อ่อนหวานงดงามของเพชรรูปทรงหยดน้ำ ผสมผสานรูปแบบลวดลายความเป็นไทยเพิ่มความสง่างามดุจดั่งต้องมนต์ ทั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ PRIMA ได้นำเครื่องเพชรมูลค่ากว่า 10 ล้านบาทมาร่วมแสดงแฟชั่นโชว์ในครั้งนี้ด้วยให้ชาวโคราชได้ชมและไม่พลาดกับความพิเศษ รวมถึงโปรโมชั่นสุดคุ้มกับโอกาสที่จะได้ครอบครองเป็นเจ้าของเครื่องประดับสุดหรูจาก PRIMA GOLD และ PRIMA DIMOND ที่เคาน์เตอร์ PRIMA GOLD ชั้น 1 เดอะมอลล์โคราช
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 358 มุมมอง 0 รีวิว
  • งาน "Prima Luxury VIP Exclusive"
    กับแฟชั่นโชว์เครื่องเพชรและทองคำ รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท

    ในวันเสาร์ 7 ก.ย.2567 ตั้งแต่เวลา 14.00น.เป็นต้นไป
    บริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ชั้น 1 เดอะมอลล์โคราช

    ภายในงานได้รับเกียรติจาก คุณพรชนก บุญธรรมเจริญ
    ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 ร่วมเดินฟินนาเล่ภายในงาน

    พร้อมด้วยคุณปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไปปฏิบัติการ เดอะมอลล์โคราช
    คุณธัชชนัญ บุญประกอบ ผู้บริหาร PRIMA GOLD ร่วมงาน
    งาน "Prima Luxury VIP Exclusive" กับแฟชั่นโชว์เครื่องเพชรและทองคำ รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ในวันเสาร์ 7 ก.ย.2567 ตั้งแต่เวลา 14.00น.เป็นต้นไป บริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ชั้น 1 เดอะมอลล์โคราช ภายในงานได้รับเกียรติจาก คุณพรชนก บุญธรรมเจริญ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 ร่วมเดินฟินนาเล่ภายในงาน พร้อมด้วยคุณปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไปปฏิบัติการ เดอะมอลล์โคราช คุณธัชชนัญ บุญประกอบ ผู้บริหาร PRIMA GOLD ร่วมงาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านเอาเรื่อง Ep.75: มอร์มอน

    เมื่อเช้านี้ระหว่างที่ผมรถติดอยู่แถวๆบ้าน สายตาก็เหลือบไปเห็นฝรั่งวัยหนุ่ม 2 คน ท่าทางดี แต่งตัวเรียบร้อยนั่งอยู่บนรถสองแถวครับ

    จากประสบการณ์นั้น มองปร๊าดเดียวก็รู้ว่าพ่อหนุ่มสองคนนี้เป็นพวกเผยแพร่ศาสนาคริสต์ และผมคิดว่าเป็นนิกายมอร์มอน (Mormon) เพราะการแต่งตัวสไตล์เสื้อเชิ้ตแขนสั้น ผูกไท สะพายกระเป๋าดำและมีป้ายชื่อสีดำอันใหญ่ๆนี่ ดูยังไงก็มอร์มอน

    และน่าจะเป็นชาวอเมริกัน เพราะพวกมอร์มอนนั้นส่วนใหญ่จะเป็นอเมริกัน เพราะนิกายมอร์มอนนั้นกำเนิดในอเมริกาครับ

    ตอนสมัยที่ผมได้ไปเรียนอยู่ที่อเมริกาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ผมเคยเจอวัยรุ่นมอร์มอนมาเคาะประตูบ้านและชวนไปเข้าลัทธิกับเขา ได้ฟังเขาเล่าเรื่องของมอร์มอนแล้วก็สนุกดี

    วันนี้ก็ผมจึงไปค้นคว้าหาเรื่องของพวกมอร์มอนมาเล่าสู่กันฟังสนุกๆครับ
    .
    .
    .
    นิกายมอร์มอนนั้นเกิดขึ้นในช่วงที่อเมริกาเพิ่งจะประกาศอิสรภาพแยกตัวจากอังกฤษใหม่ๆครับ นั่นก็คือ ช่วงประมาณ ค.ศ.1800 โน่น

    ความน่าสนใจของนิกายนี้ ก็คือ ผู้ที่เป็นศาสดาหรือผู้นำสารของพระเจ้านั้นเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นชาวนิวยอร์คชื่อ “โจเซฟ สมิธ” ซึ่งโจเซฟผู้นี้เขาไม่ได้มีการศึกษาอะไร แต่เป็นเด็กที่รักการค้นหาขุดหาสมบัติในสวนหลังบ้าน

    อันนี้เราก็ต้องเข้าใจบริบทในยุคนั้นด้วยนิดนึงครับ เพราะอเมริกานั้นเป็นดินแดนโลกใหม่ ดังนั้นความเชื่อเรื่องการขุดหาสมบัติลึกลับของโจรสลัดหรือขุมทรัพย์โบราณก็ยังแพร่หลายครับ

    วันหนึ่งระหว่างที่เด็กชายโจเซฟวัย 15 ขวบนี้กำลังหาโน่นนี่อยู่ในป่าหลังบ้าน ก็ให้บังเอิญได้ไปพบกับร่างมนุษย์ศักดิ์สิทธิ์สองร่างกำลังลอยอยู่ และบอกกับโจเซฟว่า ร่างหนึ่งคือพระเจ้าและอีกร่างคือพระเยซูบุตรของพระเจ้า

    พระเจ้าบอกกับโจเซฟว่า บรรดานิกายศาสนาคริสต์และศาสนาทั้งหลายที่มีอยู่บนโลกนี้นั้นล้วนแต่เสื่อมโทรมทั้งสิ้น และพระเจ้าได้บอกให้โจเซฟเตรียมตัวที่จะสร้างดินแดนที่วันหนึ่งพระเยซูจะกลับมาพิพากษาคนบาป

    โจเซฟเจอดังนี้แล้ว ก็กลับบ้านมาแต่ก็ไม่ได้คิดจะบอกอะไรใคร ได้แต่เก็บไว้เป็นความลับส่วนตัว

    เวลาผ่านไปอีกสามปี เมื่อโจเซฟอายุได้ 18 ปี ก็ได้มีเทวดาองค์หนึ่งมาปรากฏตัวขึ้นในห้องของโจเซฟ เทวดาบอกกับโจเซฟว่าให้เดินไปที่เนินเขาใกล้ๆบ้านแล้วจะได้พบกับแผ่นทองคำจารึกข้อความสำคัญที่อยากจะให้โจเซฟเอามาเผยแพร่ต่อมนุษย์โลก

    แน่นอนว่าโจเซฟก็ทำตามนั้น และเขาก็ได้พบกับแผ่นทองคำปึกใหญ่ๆจริงๆ บนแผ่นทองคำนั้นจารึกด้วยภาษาฮีบรูโบราณซึ่งโจเซฟอ่านไม่ออก แต่เขาก็เอากลับมาเก็บไว้ที่บ้าน แล้วก็เล่าเรื่องให้พ่อแม่พี่น้องและภรรยาฟัง

    ซึ่งทุกคนก็เชื่อเขาสนิทใจโดยไม่มีข้อโต้แย้งแต่อย่างใด

    แต่ทั้งนี้โจเซฟก็ไม่ได้ให้ใครได้เห็นแผ่นจารึกทองคำนี้เลยนะครับ และเมื่อโจเซฟคิดจะแปลข้อความจากแผ่นทองคำนี้เป็นภาษาอังกฤษ โจเซฟก็จะใช้วิธีขึงผ้าม่านหนาๆใหญ่ๆกั้นระหว่างตัวเขากับคนจดบันทึก (ซึ่งบางทีก็เป็นภรรยาเขาหรือไม่ก็น้องชาย)

    แล้วโจเซฟก็จะใช้เครื่องมือวิเศษที่สามารถมองข้อความบนแผ่นทองคำให้ออกมาเป็นภาษาอังกฤษ โจเซฟก็จะอ่านให้คนจดบันทึกไปเรื่อยๆ ทำอย่างนี้อยู่ราวๆสามเดือน ก็ได้หนังสือขนาดความยาว 800 กว่าหน้า

    เรียกว่า “เดอะบุ๊คออฟมอร์มอน - The Book of Mormon"

    เมื่อโจเซฟตรวจทานหนังสือเล่มนี้เสร็จแล้ว เขาก็จัดการส่งคืนแผ่นทองคำต้นฉบับนี้ให้เทวดาองค์เดิมไป เป็นอันว่าไม่เคยมีใครได้เห็นแผ่นทองคำนี้นอกจากโจเซฟเอง
    .
    .
    .
    ความน่าสนใจก็คือ โจเซฟนั้นเป็นคนที่ไม่ได้รับการศึกษาอะไร แต่สามารถแต่งหนังสือขึ้นความยาว 800 กว่าหน้านี้ได้ก็ถือว่าเก่ง แม้ว่าภายหลังจะมีผู้พบว่า เนื้อหาในหลายๆส่วนนั้นลอกจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ลมาแบบ copy and paste ก็ตามที

    ถ้าเราสังเกตดีๆ โจเซฟเขาไม่ได้ตั้งชื่อหนังสือเขาว่า ”มอร์มอนไบเบิ้ล“ แต่เรียกว่า ”เดอะบุ๊คออฟมอร์มอน“ นะครับ เพราะเขาคิดว่าลัทธิของเขาคือลัทธิใหม่ ไม่ได้เกี่ยวกับไบเบิ้ล

    และในเดอะบุ๊คออฟมอร์มอนนี้ โจเซฟเขาเขียนเล่าไว้ว่า เมื่อราวๆ 600 ปีก่อนสมัยพระเยซูนั้น มีชาวยิวกลุ่มหนึ่งได้หลบหนีออกจากกรุงเยรูซาเล็ม เดินข้ามทะเลทรายและขึ้นเรือรอนแรมมาจนกระทั่งถึงอเมริกา

    ชาวยิวกลุ่มนี้ได้เดินทางเข้ามาพำนักอาศัยอยู่ในแผ่นดินอเมริกาและเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เป็นบรรพบุรุษชาวชนพื้นเมืองอเมริกัน (Native American)

    แน่นอนว่าเมื่อเทคโนโลยีทันสมัยขึ้น การตรวจดีเอ็นเอของชนพื้นเมืองอเมริกันก็พบว่าไม่ได้มีเชื้อสายยิวเลยแม้แต่น้อย

    นอกนั้นในบุ๊คออฟมอร์มอนยังบอกอีกว่า หลังจากที่พระเยซูถูกตรึงกางเขนตายไปนั้น พระองค์ยังได้มาปรากฏตัวอยู่ที่อเมริกาด้วย

    แต่เอาเถิดครับ....ไม่ว่าเรื่องราวจะพิสดารเพียงใด เมื่อโจเซฟประกาศลัทธิใหม่ออกไป ประกอบกับว่าเขาเป็นคนมีวาทศิลป์ดี โน้มน้าวคนได้เก่ง ก็ปรากฏว่ามีผู้เชื่อถือลัทธิมอร์มอนของโจเซฟอยู่หลายพันคน

    และอีกครั้งที่ผมอยากจะขอให้ท่านผู้อ่านนึกภาพว่า นี่คือเหตุการณ์เมื่อ 200 ปีก่อน ที่คนอเมริกันคือชาวยุโรปที่อพยพมาค้นหาโลกใหม่ การที่พวกเขาจะเริ่มต้นกับลัทธิความเชื่อใหม่บนแผ่นดินใหม่ที่ต่างไปจากความเชื่อเดิมที่พวกเขาละทิ้งมา ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
    .
    .
    .
    พ่อหนุ่มโจเซฟในวัย 26 ปีได้ประกาศกับสาวกของตัวเองว่า พระเจ้าได้ขอให้โจเซฟและชาวมอร์มอนสร้างแผ่นดินใหม่ที่เรียกว่า “ไซออน - Zion" เพื่อรอรับการกลับมาของพระเยซู

    ซึ่งการจะทำดั่งนี้ได้ ชาวมอร์มอนทั้งหลายจะต้องเดินทางอพยพไปสร้างเมืองใหม่ขึ้นมา

    ว่าแล้วโจเซฟกับชาวมอร์มอนหลายพันคนก็ออกเดินทางจากนิวยอร์คไปยังรัฐโอไฮโอแล้วก็เริ่มสร้างเมือง แต่สร้างได้สักพักก็โดนชาวเมืองที่เขาอาศัยอยู่เดิมเขาขับไล่ด้วยความที่เป็นพวกลัทธิประหลาด

    โจเซฟและพวกก็อพยพอีกรอบ คราวนี้เดินทางกันต่อมาที่เมืองแจ็คสันวิลล์ รัฐมิสซูรี ทีนี้โจเซฟได้ประกาศว่า ”ที่นี่แหละที่เราจะสร้างเมืองไซออนของเราขึ้นมา เพราะที่นี่อยู่ใกล้กับสวนสวรรค์อีเดนของพระเจ้า“

    จำนวนชาวมอร์มอนเริ่มขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ แถมยังขยันก่อสร้างกันเสียอีก เพราะโจเซฟเขาได้ออกแบบผังเมืองเป็นรูปกริด (Grid) บล็อคๆสี่เหลี่ยมเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม

    ชาวมิสซูรีเดิมเห็นท่าไม่ดี เกรงว่าบ้านเรือนของตัวเองจะโดนพวกมอร์มอนยึดเรียบ ก็เลยขับไล่พวกมอร์มอน แล้วก็เกิดการรบพุ่งกันจริงจังขึ้นจนกระทั่งผู้ว่าการรัฐมิสซูรีต้องประกาศสงครามกันดุเดือด

    พวกมอร์มอนก็จึงต้องย้ายอีก..... คราวนี้ไปอยู่ที่รัฐอิลลินอยส์ ใกล้ๆกับเมืองชิคาโก ทีนี่แหละครับที่โจเซฟชะตาขาด เพราะเมื่อตัวเองเริ่มมีอิทธิพลมากขึ้นก็กำเริบถึงขนาดลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี และเริ่มใช้กำลังทหารของตัวเองไปทำลายโรงพิมพ์ที่ตีพิมพ์บทความต่อต้านพวกมอร์มอน

    ผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์จึงจับตัวโจเซฟและน้องชายมาขังตัวไว้ ปรากฏว่าโดนฝูงชนบุกเข้าไปถึงห้องขัง ยิงโจเซฟตายขณะที่พยายามกระโดดหนีออกจากชั้นสอง

    โจเซฟ สมิธตายในวัยเพียง 34 ปี มีสาวกเป็นชาวมอร์มอนอยู่นับหมื่นคน
    .
    .
    .
    บรรดาชาวมอร์มอนทั้งหลายก็อพยพอีกรอบ คราวนี้ระหกระเหินมุ่งหน้าไปฝั่งตะวันตกเรื่อยๆจนกระทั่งไปถึงดินแดนหุบเขาอันกว้างใหญ่ที่ครอบคลุมรัฐยูท่าห์ รัฐอริโซน่า รัฐโคโลราโด และรัฐแคลิฟอร์เนีย

    เพียงแต่สมัยนั้นยังไม่มีชื่อรัฐเช่นนี้ เพราะดินแดนที่ผมเขียนไปข้างต้นนั้นยังคงเป็นของเม็กซิโกเขา และมีชนพื้นเมืองอเมริกันอาศัยกันอยู่

    พวกมอร์มอนมาถึงปุ๊บ ก็เร่งรีบสร้างเมืองกันทันทีเพราะเขาเชื่อกันว่าใกล้จะถึงวันที่พระเยซูจะมาถึงเต็มแก่

    ทั้งนี้เราก็ต้องยกย่องในความสามารถในทางวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมของพวกมอร์มอน ที่เขาสามารถสร้างเมือง โบสถ์ โรงเรียน โรงเหล็ก เหมืองและระบบระบายน้ำขึ้นมาได้จากดินแดนอันว่างเปล่า

    เมืองของพวกมอร์มอนขยายตัวกันอย่างรวดเร็ว และรูปแบบของเมืองก็ยังคงเป็นแบบกริด (Grid) หรือบล็อคสี่เหลี่ยมๆเป็นระเบียบตามแบบที่โจเซฟ สมิธออกแบบไว้

    พวกมอร์มอนเรียกเมืองของเขาว่า “เดเซเร็ท - Deseret" อันเป็นภาษาโบราณแปลว่า ”รังผึ้ง“ ครับ อันสื่อความหมายถึงความร่วมมือร่วมใจกันชุมชนที่ทำงานร่วมกัน

    ที่เมืองเดเซเร็ทนี้ พวกมอร์มอนเขาเริ่มออกสกุลเงิน ธนบัตร เริ่มออกกฎหมายของตัวเอง มีภาษาเขียนของตัวเอง

    ทีนี้รัฐบาลกลางสหรัฐเริ่มชักจะเหล่สายตามาที่พวกมอร์มอนอีกรอบ เพราะชักจะเริ่มทำทีท่าคล้ายๆจะแยกเป็นประเทศต่างหาก ไม่ขึ้นกับสหรัฐอเมริกาอีกแล้ว

    รัฐบาลก็เลยเรียกผู้นำของมอร์มอนในเวลานั้น คือ นายบริกแฮม ยัง (Brigham Young) ไปคุยด้วยว่าจะเอายังไงกันแน่ นายยังเขาบอกว่า เขาจะยังอยู่กับอเมริกานี่แหละ แต่เขาขอดินแดนทั้งหมดตั้งขึ้นเป็นรัฐใหม่เรียกว่า ”รัฐเดเซเร็ท“

    รัฐบาลอเมริกาไปนั่งดูแล้ว ก็คิดว่าให้ไม่ได้ เพราะดินแดนที่นายยังขอมานั้นกว้างใหญ่ขนาดครอบคลุมถึง 6 รัฐในปัจจุบัน ก็เลยบอกนายยังไปว่าให้ได้แค่พื้นที่เท่ากับรัฐยูท่าในปัจจุบันเท่านั้นแหละ

    จะเอาไม่เอาก็บอกมา

    ซึ่งนายยังก็ยอมตามนั้น รัฐบาลก็เลยตั้งให้นายยังเป็นผู้ว่าการรัฐคนแรกไป

    ทุกวันนี้ถ้าเพื่อนๆคนไหนได้ไปเที่ยวที่เมืองซอลท์เลกซิตี้ รัฐยูท่า ก็จะเห็นระบบการออกแบบบ้านเมืองตามสไตล์ของพวกมอร์มอนครับ เป็นกริดและมีระเบียบเรียบร้อย

    แต่ช้าก่อน....เวรกรรมของพวกมอร์มอนยังไม่หยุดแค่นั้น เพราะยังมีพฤติกรรมหลายๆอย่างของมอร์มอนที่ชนอเมริกันส่วนใหญ่รับไม่ได้ หนึ่งในนั้นคือ “การแต่งงานมีหลายเมีย - Polygamy” เพราะชนอเมริกันนั้นมองว่าการมีเมียหลายๆคนนั้น เป็นหนึ่งในรูปแบบของการใช้แรงงานทาสแบบกลายๆ

    ทีนี้ตามกฎของมอร์มอนในเวลานั้น การแต่งงานมีเมียหลายคนนั้นคือส่วนหนึ่งของการเตรียมตัวไปสู่สรวงสวรรค์ อย่างนายโจเซฟ สมิธนั้นก็มีเมียมากถึง 40 คน ส่วนนายบริกแฮม ยังนั้นมีเมียเยอะถึง 50 กว่าคน

    แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วกฎหมายของพวกมอร์มอนก็ถูกลบทิ้งไปหมดสิ้น ทิ้งไว้แต่ความเชื่อในลัทธิมอร์มอนที่ยังคงเข้มแข็งอยู่

    ที่รัฐยูท่านั้นยังเป็นหนึ่งในรัฐที่ความเป็นมอร์มอนเข้มแข็ง วิทยาลัยสอนศาสนามอร์มอนก็ยังคงมีอยู่ โบสถ์มอร์มอนก็ยังมี

    ทุกวันนี้ที่รัฐนิวยอร์ค ก็ยังคงมีการจัดพิธีเฉลิมฉลองและการแสดงตรงเนินเขา “คูโมรา - Cumorah" ที่โจเซฟ สมิธได้ไปพบกับแผ่นจารึกทองคำอันเป็นกำเนิดของหนังสือเดอะบุ๊คออฟมอร์มอนกันอยู่เลย
    .
    .
    .
    ผมเองก็เคยได้หนังสือมอร์มอนนี้มาเหมือนกัน แต่เสียดายว่าทิ้งไว้ที่อเมริกา ไม่ได้เอากลับมาเมืองไทยด้วย

    อ้อ.... เกร็ดเล็กๆที่อยากแถมไว้ก็คือ ที่อนุสาวรีย์ “วอชิงตัน มอนิวเม้นท์” ที่เป็นรูปแท่งหินสูงใหญ่ ตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตันดีซีน่ะครับ

    ตรงฐานของอนุสาวรีย์นี้สร้างขึ้นจากก้อนอิฐใหญ่ๆที่นำมาจากทุกรัฐทั่วสหรัฐอเมริกา อิฐแต่ละก้อนก็จะมีสลักสัญลักษณ์และชื่อรัฐของเขาเอาไว้

    มีอยู่รัฐหนึ่งที่ไม่ยอมใช้ชื่อรัฐตัวเอง แน่นอนว่าคือ ”รัฐยูท่า“ เพราะเขาใช้ชื่อว่า “เดเซเร็ท - Deseret" แบบดั้งเดิมและสลักเป็นรูปรังผึ้งขนาดใหญ่ และมีดวงตาของพระเจ้ามองลงมายังรังผึ้งของเขาด้วย

    อันเป็นการแสดงออกว่า ”เราคือมอร์มอนนะจ๊ะ“

    .....เอามาเล่าสู่กันฟังครับ เขียนยาวเหยียดไปหน่อยต้องขออภัย.....

    ใครสนใจเรื่องนี้ลองเข้าไปชมตามยูทูบวิดีโอข้างล่างนี้ได้เลยครับ

    https://youtu.be/hUW7j9GmXjI?si=3Mbhr_4mIJ15AoIA
    https://youtu.be/aTMsfOcHiJg?si=700kX_fdK2uUdJPS
    https://youtu.be/vJzRAiqg4zg?si=QhybEsnWh3GXeAgX

    นัทแนะ
    อ่านเอาเรื่อง Ep.75: มอร์มอน เมื่อเช้านี้ระหว่างที่ผมรถติดอยู่แถวๆบ้าน สายตาก็เหลือบไปเห็นฝรั่งวัยหนุ่ม 2 คน ท่าทางดี แต่งตัวเรียบร้อยนั่งอยู่บนรถสองแถวครับ จากประสบการณ์นั้น มองปร๊าดเดียวก็รู้ว่าพ่อหนุ่มสองคนนี้เป็นพวกเผยแพร่ศาสนาคริสต์ และผมคิดว่าเป็นนิกายมอร์มอน (Mormon) เพราะการแต่งตัวสไตล์เสื้อเชิ้ตแขนสั้น ผูกไท สะพายกระเป๋าดำและมีป้ายชื่อสีดำอันใหญ่ๆนี่ ดูยังไงก็มอร์มอน และน่าจะเป็นชาวอเมริกัน เพราะพวกมอร์มอนนั้นส่วนใหญ่จะเป็นอเมริกัน เพราะนิกายมอร์มอนนั้นกำเนิดในอเมริกาครับ ตอนสมัยที่ผมได้ไปเรียนอยู่ที่อเมริกาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ผมเคยเจอวัยรุ่นมอร์มอนมาเคาะประตูบ้านและชวนไปเข้าลัทธิกับเขา ได้ฟังเขาเล่าเรื่องของมอร์มอนแล้วก็สนุกดี วันนี้ก็ผมจึงไปค้นคว้าหาเรื่องของพวกมอร์มอนมาเล่าสู่กันฟังสนุกๆครับ . . . นิกายมอร์มอนนั้นเกิดขึ้นในช่วงที่อเมริกาเพิ่งจะประกาศอิสรภาพแยกตัวจากอังกฤษใหม่ๆครับ นั่นก็คือ ช่วงประมาณ ค.ศ.1800 โน่น ความน่าสนใจของนิกายนี้ ก็คือ ผู้ที่เป็นศาสดาหรือผู้นำสารของพระเจ้านั้นเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นชาวนิวยอร์คชื่อ “โจเซฟ สมิธ” ซึ่งโจเซฟผู้นี้เขาไม่ได้มีการศึกษาอะไร แต่เป็นเด็กที่รักการค้นหาขุดหาสมบัติในสวนหลังบ้าน อันนี้เราก็ต้องเข้าใจบริบทในยุคนั้นด้วยนิดนึงครับ เพราะอเมริกานั้นเป็นดินแดนโลกใหม่ ดังนั้นความเชื่อเรื่องการขุดหาสมบัติลึกลับของโจรสลัดหรือขุมทรัพย์โบราณก็ยังแพร่หลายครับ วันหนึ่งระหว่างที่เด็กชายโจเซฟวัย 15 ขวบนี้กำลังหาโน่นนี่อยู่ในป่าหลังบ้าน ก็ให้บังเอิญได้ไปพบกับร่างมนุษย์ศักดิ์สิทธิ์สองร่างกำลังลอยอยู่ และบอกกับโจเซฟว่า ร่างหนึ่งคือพระเจ้าและอีกร่างคือพระเยซูบุตรของพระเจ้า พระเจ้าบอกกับโจเซฟว่า บรรดานิกายศาสนาคริสต์และศาสนาทั้งหลายที่มีอยู่บนโลกนี้นั้นล้วนแต่เสื่อมโทรมทั้งสิ้น และพระเจ้าได้บอกให้โจเซฟเตรียมตัวที่จะสร้างดินแดนที่วันหนึ่งพระเยซูจะกลับมาพิพากษาคนบาป โจเซฟเจอดังนี้แล้ว ก็กลับบ้านมาแต่ก็ไม่ได้คิดจะบอกอะไรใคร ได้แต่เก็บไว้เป็นความลับส่วนตัว เวลาผ่านไปอีกสามปี เมื่อโจเซฟอายุได้ 18 ปี ก็ได้มีเทวดาองค์หนึ่งมาปรากฏตัวขึ้นในห้องของโจเซฟ เทวดาบอกกับโจเซฟว่าให้เดินไปที่เนินเขาใกล้ๆบ้านแล้วจะได้พบกับแผ่นทองคำจารึกข้อความสำคัญที่อยากจะให้โจเซฟเอามาเผยแพร่ต่อมนุษย์โลก แน่นอนว่าโจเซฟก็ทำตามนั้น และเขาก็ได้พบกับแผ่นทองคำปึกใหญ่ๆจริงๆ บนแผ่นทองคำนั้นจารึกด้วยภาษาฮีบรูโบราณซึ่งโจเซฟอ่านไม่ออก แต่เขาก็เอากลับมาเก็บไว้ที่บ้าน แล้วก็เล่าเรื่องให้พ่อแม่พี่น้องและภรรยาฟัง ซึ่งทุกคนก็เชื่อเขาสนิทใจโดยไม่มีข้อโต้แย้งแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้โจเซฟก็ไม่ได้ให้ใครได้เห็นแผ่นจารึกทองคำนี้เลยนะครับ และเมื่อโจเซฟคิดจะแปลข้อความจากแผ่นทองคำนี้เป็นภาษาอังกฤษ โจเซฟก็จะใช้วิธีขึงผ้าม่านหนาๆใหญ่ๆกั้นระหว่างตัวเขากับคนจดบันทึก (ซึ่งบางทีก็เป็นภรรยาเขาหรือไม่ก็น้องชาย) แล้วโจเซฟก็จะใช้เครื่องมือวิเศษที่สามารถมองข้อความบนแผ่นทองคำให้ออกมาเป็นภาษาอังกฤษ โจเซฟก็จะอ่านให้คนจดบันทึกไปเรื่อยๆ ทำอย่างนี้อยู่ราวๆสามเดือน ก็ได้หนังสือขนาดความยาว 800 กว่าหน้า เรียกว่า “เดอะบุ๊คออฟมอร์มอน - The Book of Mormon" เมื่อโจเซฟตรวจทานหนังสือเล่มนี้เสร็จแล้ว เขาก็จัดการส่งคืนแผ่นทองคำต้นฉบับนี้ให้เทวดาองค์เดิมไป เป็นอันว่าไม่เคยมีใครได้เห็นแผ่นทองคำนี้นอกจากโจเซฟเอง . . . ความน่าสนใจก็คือ โจเซฟนั้นเป็นคนที่ไม่ได้รับการศึกษาอะไร แต่สามารถแต่งหนังสือขึ้นความยาว 800 กว่าหน้านี้ได้ก็ถือว่าเก่ง แม้ว่าภายหลังจะมีผู้พบว่า เนื้อหาในหลายๆส่วนนั้นลอกจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ลมาแบบ copy and paste ก็ตามที ถ้าเราสังเกตดีๆ โจเซฟเขาไม่ได้ตั้งชื่อหนังสือเขาว่า ”มอร์มอนไบเบิ้ล“ แต่เรียกว่า ”เดอะบุ๊คออฟมอร์มอน“ นะครับ เพราะเขาคิดว่าลัทธิของเขาคือลัทธิใหม่ ไม่ได้เกี่ยวกับไบเบิ้ล และในเดอะบุ๊คออฟมอร์มอนนี้ โจเซฟเขาเขียนเล่าไว้ว่า เมื่อราวๆ 600 ปีก่อนสมัยพระเยซูนั้น มีชาวยิวกลุ่มหนึ่งได้หลบหนีออกจากกรุงเยรูซาเล็ม เดินข้ามทะเลทรายและขึ้นเรือรอนแรมมาจนกระทั่งถึงอเมริกา ชาวยิวกลุ่มนี้ได้เดินทางเข้ามาพำนักอาศัยอยู่ในแผ่นดินอเมริกาและเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เป็นบรรพบุรุษชาวชนพื้นเมืองอเมริกัน (Native American) แน่นอนว่าเมื่อเทคโนโลยีทันสมัยขึ้น การตรวจดีเอ็นเอของชนพื้นเมืองอเมริกันก็พบว่าไม่ได้มีเชื้อสายยิวเลยแม้แต่น้อย นอกนั้นในบุ๊คออฟมอร์มอนยังบอกอีกว่า หลังจากที่พระเยซูถูกตรึงกางเขนตายไปนั้น พระองค์ยังได้มาปรากฏตัวอยู่ที่อเมริกาด้วย แต่เอาเถิดครับ....ไม่ว่าเรื่องราวจะพิสดารเพียงใด เมื่อโจเซฟประกาศลัทธิใหม่ออกไป ประกอบกับว่าเขาเป็นคนมีวาทศิลป์ดี โน้มน้าวคนได้เก่ง ก็ปรากฏว่ามีผู้เชื่อถือลัทธิมอร์มอนของโจเซฟอยู่หลายพันคน และอีกครั้งที่ผมอยากจะขอให้ท่านผู้อ่านนึกภาพว่า นี่คือเหตุการณ์เมื่อ 200 ปีก่อน ที่คนอเมริกันคือชาวยุโรปที่อพยพมาค้นหาโลกใหม่ การที่พวกเขาจะเริ่มต้นกับลัทธิความเชื่อใหม่บนแผ่นดินใหม่ที่ต่างไปจากความเชื่อเดิมที่พวกเขาละทิ้งมา ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร . . . พ่อหนุ่มโจเซฟในวัย 26 ปีได้ประกาศกับสาวกของตัวเองว่า พระเจ้าได้ขอให้โจเซฟและชาวมอร์มอนสร้างแผ่นดินใหม่ที่เรียกว่า “ไซออน - Zion" เพื่อรอรับการกลับมาของพระเยซู ซึ่งการจะทำดั่งนี้ได้ ชาวมอร์มอนทั้งหลายจะต้องเดินทางอพยพไปสร้างเมืองใหม่ขึ้นมา ว่าแล้วโจเซฟกับชาวมอร์มอนหลายพันคนก็ออกเดินทางจากนิวยอร์คไปยังรัฐโอไฮโอแล้วก็เริ่มสร้างเมือง แต่สร้างได้สักพักก็โดนชาวเมืองที่เขาอาศัยอยู่เดิมเขาขับไล่ด้วยความที่เป็นพวกลัทธิประหลาด โจเซฟและพวกก็อพยพอีกรอบ คราวนี้เดินทางกันต่อมาที่เมืองแจ็คสันวิลล์ รัฐมิสซูรี ทีนี้โจเซฟได้ประกาศว่า ”ที่นี่แหละที่เราจะสร้างเมืองไซออนของเราขึ้นมา เพราะที่นี่อยู่ใกล้กับสวนสวรรค์อีเดนของพระเจ้า“ จำนวนชาวมอร์มอนเริ่มขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ แถมยังขยันก่อสร้างกันเสียอีก เพราะโจเซฟเขาได้ออกแบบผังเมืองเป็นรูปกริด (Grid) บล็อคๆสี่เหลี่ยมเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม ชาวมิสซูรีเดิมเห็นท่าไม่ดี เกรงว่าบ้านเรือนของตัวเองจะโดนพวกมอร์มอนยึดเรียบ ก็เลยขับไล่พวกมอร์มอน แล้วก็เกิดการรบพุ่งกันจริงจังขึ้นจนกระทั่งผู้ว่าการรัฐมิสซูรีต้องประกาศสงครามกันดุเดือด พวกมอร์มอนก็จึงต้องย้ายอีก..... คราวนี้ไปอยู่ที่รัฐอิลลินอยส์ ใกล้ๆกับเมืองชิคาโก ทีนี่แหละครับที่โจเซฟชะตาขาด เพราะเมื่อตัวเองเริ่มมีอิทธิพลมากขึ้นก็กำเริบถึงขนาดลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี และเริ่มใช้กำลังทหารของตัวเองไปทำลายโรงพิมพ์ที่ตีพิมพ์บทความต่อต้านพวกมอร์มอน ผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์จึงจับตัวโจเซฟและน้องชายมาขังตัวไว้ ปรากฏว่าโดนฝูงชนบุกเข้าไปถึงห้องขัง ยิงโจเซฟตายขณะที่พยายามกระโดดหนีออกจากชั้นสอง โจเซฟ สมิธตายในวัยเพียง 34 ปี มีสาวกเป็นชาวมอร์มอนอยู่นับหมื่นคน . . . บรรดาชาวมอร์มอนทั้งหลายก็อพยพอีกรอบ คราวนี้ระหกระเหินมุ่งหน้าไปฝั่งตะวันตกเรื่อยๆจนกระทั่งไปถึงดินแดนหุบเขาอันกว้างใหญ่ที่ครอบคลุมรัฐยูท่าห์ รัฐอริโซน่า รัฐโคโลราโด และรัฐแคลิฟอร์เนีย เพียงแต่สมัยนั้นยังไม่มีชื่อรัฐเช่นนี้ เพราะดินแดนที่ผมเขียนไปข้างต้นนั้นยังคงเป็นของเม็กซิโกเขา และมีชนพื้นเมืองอเมริกันอาศัยกันอยู่ พวกมอร์มอนมาถึงปุ๊บ ก็เร่งรีบสร้างเมืองกันทันทีเพราะเขาเชื่อกันว่าใกล้จะถึงวันที่พระเยซูจะมาถึงเต็มแก่ ทั้งนี้เราก็ต้องยกย่องในความสามารถในทางวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมของพวกมอร์มอน ที่เขาสามารถสร้างเมือง โบสถ์ โรงเรียน โรงเหล็ก เหมืองและระบบระบายน้ำขึ้นมาได้จากดินแดนอันว่างเปล่า เมืองของพวกมอร์มอนขยายตัวกันอย่างรวดเร็ว และรูปแบบของเมืองก็ยังคงเป็นแบบกริด (Grid) หรือบล็อคสี่เหลี่ยมๆเป็นระเบียบตามแบบที่โจเซฟ สมิธออกแบบไว้ พวกมอร์มอนเรียกเมืองของเขาว่า “เดเซเร็ท - Deseret" อันเป็นภาษาโบราณแปลว่า ”รังผึ้ง“ ครับ อันสื่อความหมายถึงความร่วมมือร่วมใจกันชุมชนที่ทำงานร่วมกัน ที่เมืองเดเซเร็ทนี้ พวกมอร์มอนเขาเริ่มออกสกุลเงิน ธนบัตร เริ่มออกกฎหมายของตัวเอง มีภาษาเขียนของตัวเอง ทีนี้รัฐบาลกลางสหรัฐเริ่มชักจะเหล่สายตามาที่พวกมอร์มอนอีกรอบ เพราะชักจะเริ่มทำทีท่าคล้ายๆจะแยกเป็นประเทศต่างหาก ไม่ขึ้นกับสหรัฐอเมริกาอีกแล้ว รัฐบาลก็เลยเรียกผู้นำของมอร์มอนในเวลานั้น คือ นายบริกแฮม ยัง (Brigham Young) ไปคุยด้วยว่าจะเอายังไงกันแน่ นายยังเขาบอกว่า เขาจะยังอยู่กับอเมริกานี่แหละ แต่เขาขอดินแดนทั้งหมดตั้งขึ้นเป็นรัฐใหม่เรียกว่า ”รัฐเดเซเร็ท“ รัฐบาลอเมริกาไปนั่งดูแล้ว ก็คิดว่าให้ไม่ได้ เพราะดินแดนที่นายยังขอมานั้นกว้างใหญ่ขนาดครอบคลุมถึง 6 รัฐในปัจจุบัน ก็เลยบอกนายยังไปว่าให้ได้แค่พื้นที่เท่ากับรัฐยูท่าในปัจจุบันเท่านั้นแหละ จะเอาไม่เอาก็บอกมา ซึ่งนายยังก็ยอมตามนั้น รัฐบาลก็เลยตั้งให้นายยังเป็นผู้ว่าการรัฐคนแรกไป ทุกวันนี้ถ้าเพื่อนๆคนไหนได้ไปเที่ยวที่เมืองซอลท์เลกซิตี้ รัฐยูท่า ก็จะเห็นระบบการออกแบบบ้านเมืองตามสไตล์ของพวกมอร์มอนครับ เป็นกริดและมีระเบียบเรียบร้อย แต่ช้าก่อน....เวรกรรมของพวกมอร์มอนยังไม่หยุดแค่นั้น เพราะยังมีพฤติกรรมหลายๆอย่างของมอร์มอนที่ชนอเมริกันส่วนใหญ่รับไม่ได้ หนึ่งในนั้นคือ “การแต่งงานมีหลายเมีย - Polygamy” เพราะชนอเมริกันนั้นมองว่าการมีเมียหลายๆคนนั้น เป็นหนึ่งในรูปแบบของการใช้แรงงานทาสแบบกลายๆ ทีนี้ตามกฎของมอร์มอนในเวลานั้น การแต่งงานมีเมียหลายคนนั้นคือส่วนหนึ่งของการเตรียมตัวไปสู่สรวงสวรรค์ อย่างนายโจเซฟ สมิธนั้นก็มีเมียมากถึง 40 คน ส่วนนายบริกแฮม ยังนั้นมีเมียเยอะถึง 50 กว่าคน แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วกฎหมายของพวกมอร์มอนก็ถูกลบทิ้งไปหมดสิ้น ทิ้งไว้แต่ความเชื่อในลัทธิมอร์มอนที่ยังคงเข้มแข็งอยู่ ที่รัฐยูท่านั้นยังเป็นหนึ่งในรัฐที่ความเป็นมอร์มอนเข้มแข็ง วิทยาลัยสอนศาสนามอร์มอนก็ยังคงมีอยู่ โบสถ์มอร์มอนก็ยังมี ทุกวันนี้ที่รัฐนิวยอร์ค ก็ยังคงมีการจัดพิธีเฉลิมฉลองและการแสดงตรงเนินเขา “คูโมรา - Cumorah" ที่โจเซฟ สมิธได้ไปพบกับแผ่นจารึกทองคำอันเป็นกำเนิดของหนังสือเดอะบุ๊คออฟมอร์มอนกันอยู่เลย . . . ผมเองก็เคยได้หนังสือมอร์มอนนี้มาเหมือนกัน แต่เสียดายว่าทิ้งไว้ที่อเมริกา ไม่ได้เอากลับมาเมืองไทยด้วย อ้อ.... เกร็ดเล็กๆที่อยากแถมไว้ก็คือ ที่อนุสาวรีย์ “วอชิงตัน มอนิวเม้นท์” ที่เป็นรูปแท่งหินสูงใหญ่ ตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตันดีซีน่ะครับ ตรงฐานของอนุสาวรีย์นี้สร้างขึ้นจากก้อนอิฐใหญ่ๆที่นำมาจากทุกรัฐทั่วสหรัฐอเมริกา อิฐแต่ละก้อนก็จะมีสลักสัญลักษณ์และชื่อรัฐของเขาเอาไว้ มีอยู่รัฐหนึ่งที่ไม่ยอมใช้ชื่อรัฐตัวเอง แน่นอนว่าคือ ”รัฐยูท่า“ เพราะเขาใช้ชื่อว่า “เดเซเร็ท - Deseret" แบบดั้งเดิมและสลักเป็นรูปรังผึ้งขนาดใหญ่ และมีดวงตาของพระเจ้ามองลงมายังรังผึ้งของเขาด้วย อันเป็นการแสดงออกว่า ”เราคือมอร์มอนนะจ๊ะ“ .....เอามาเล่าสู่กันฟังครับ เขียนยาวเหยียดไปหน่อยต้องขออภัย..... ใครสนใจเรื่องนี้ลองเข้าไปชมตามยูทูบวิดีโอข้างล่างนี้ได้เลยครับ https://youtu.be/hUW7j9GmXjI?si=3Mbhr_4mIJ15AoIA https://youtu.be/aTMsfOcHiJg?si=700kX_fdK2uUdJPS https://youtu.be/vJzRAiqg4zg?si=QhybEsnWh3GXeAgX นัทแนะ
    Like
    2
    6 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3576 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งที่ 2 (30 มิ.ย. 67)
    #สมรภูมิฟ้าทะลายโจรสงครามโรคในสงครามโลก
    ไม่ต้องรอให้ระเบิดลงหลังคาบ้านก่อน แล้วค่อยตื่นรู้! เตรียมตัวให้ดี
    ทองคำ อาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค โดยเฉพาะสมุนไพร อาจารย์ปานเทพ พัวพงพันธ์
    จะมาบอกสิ่งที่พูดไม่ได้ในโซเชียลมีเดีย

    #sondhitalk #sondhix #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิทอล์ค #ควาจริงมีหนึ่งเดียว #สุขภาพ #ปานเทพ #ฟ้าทะลายโจร #สมุนไพรไทย
    ความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งที่ 2 (30 มิ.ย. 67) #สมรภูมิฟ้าทะลายโจรสงครามโรคในสงครามโลก ไม่ต้องรอให้ระเบิดลงหลังคาบ้านก่อน แล้วค่อยตื่นรู้! เตรียมตัวให้ดี ทองคำ อาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค โดยเฉพาะสมุนไพร อาจารย์ปานเทพ พัวพงพันธ์ จะมาบอกสิ่งที่พูดไม่ได้ในโซเชียลมีเดีย #sondhitalk #sondhix #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิทอล์ค #ควาจริงมีหนึ่งเดียว #สุขภาพ #ปานเทพ #ฟ้าทะลายโจร #สมุนไพรไทย
    Like
    Love
    53
    0 ความคิดเห็น 6 การแบ่งปัน 5065 มุมมอง 2882 1 รีวิว
Pages Boosts