• "ซินเนอร์" ป้องแชมป์ ATP ไฟนอลส์ , หวดอิตาเลียนซิวชัยเหนือ "อัลคาราซ" 2 เซตรวด ปิดซีซันตูรินสวยงามหลังคัมแบ็กจากโทษแบน

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109594

    #เทนนิส #ATPFinals #ซินเนอร์ #อัลคาราซ #กีฬาโลก #News1live #News1
    "ซินเนอร์" ป้องแชมป์ ATP ไฟนอลส์ , หวดอิตาเลียนซิวชัยเหนือ "อัลคาราซ" 2 เซตรวด ปิดซีซันตูรินสวยงามหลังคัมแบ็กจากโทษแบน • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109594 • #เทนนิส #ATPFinals #ซินเนอร์ #อัลคาราซ #กีฬาโลก #News1live #News1
    0 Comments 0 Shares 100 Views 0 Reviews
  • งานวิ่งเพื่อสุขภาพ เม็ดเงิน 1,000 ล้านบาท รายได้งามถ้าจับถูกจุด
    .
    งานวิ่ง "Run For Destination 2025" กลายเป็นงานวิ่งทิพย์สุดฉาวในประวัติศาสตร์ ผู้จัดทิ้งนักวิ่งกลางทาง เสี่ยงคดีฉ้อโกง ด่างภาพวงการกีฬาไทย สะเทือนธุรกิจจัดงานวิ่งมูลค่าหลายพันล้านบาทที่กำลังบูม หวั่นกระทบความเชื่อมั่น-ฉุดไทยไกลเป้าหมายสู่เวทีกีฬาโลก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000052125

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    งานวิ่งเพื่อสุขภาพ เม็ดเงิน 1,000 ล้านบาท รายได้งามถ้าจับถูกจุด . งานวิ่ง "Run For Destination 2025" กลายเป็นงานวิ่งทิพย์สุดฉาวในประวัติศาสตร์ ผู้จัดทิ้งนักวิ่งกลางทาง เสี่ยงคดีฉ้อโกง ด่างภาพวงการกีฬาไทย สะเทือนธุรกิจจัดงานวิ่งมูลค่าหลายพันล้านบาทที่กำลังบูม หวั่นกระทบความเชื่อมั่น-ฉุดไทยไกลเป้าหมายสู่เวทีกีฬาโลก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000052125 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 711 Views 0 Reviews
  • ญี่ปุ่น 6 : โชเฮ โอทานิ (Shohei Ohtani)

    วันนี้วันดีปีใหม่ ผมอยากเล่าถึง “โชเฮ โอทานิ” นักเบสบอลมหัศจรรย์ของชาวญี่ปุ่น เอาไว้ให้เป็นแรงบันดาลใจสำหรับคนที่อยากประสบความสำเร็จครับ

    โชเฮ โอทานิ หรือชื่อเล่นที่เรียกว่า “โชไทม์ (Sho-time)” นี้เป็นเด็กหนุ่มอายุ 30 ปีที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในฐานะนักเบสบอลอาชีพ ที่ตอนนี้ไปเล่นให้กับทีมแอลเอ ดอดเจอร์ในสหรัฐฯและพาทีมคว้าแชมป์ 2024 ไปเรียบร้อย

    ความมหัศจรรย์ของโอทานิก็คือ เขาเป็นนักเบสบอลที่เล่นเป็นมือขว้าง (พิทเชอร์) หรือมือตี (พัทเตอร์) ก็ได้ เรียกว่าเป็น Two-way player

    โอทานินั้นไม่ใช่แค่ว่า ”ขว้างลูกได้“ ครับแต่เป็นพิทเชอร์ที่ขว้างลูกได้ดีเลิศ คือ ขว้างได้สปีดถึง 160 กม./ชม. ลูกโค้งซ้าย-ขวา-บน-ล่าง นั้นทำได้หมด

    และในฐานะพัทเตอร์นั้น เขาตีลูกได้แรงและแม่นยำ ตีโฮมรันเป็นว่าเล่น พละกำลังมหาศาลด้วยร่างกายที่สูงใหญ่ถึง 195 ซม.

    โอทานินั้นถนัดทั้งมือซ้ายและขวา กล่าวคือ ขว้างด้วยมือขวา ตีด้วยมือซ้าย

    เมื่อเขามาเล่นเบสบอลในเมเจอร์ลีกที่อเมริกา ในปี 2021 เขาได้รับรางวัลนักกีฬาทรงคุณค่าสูงสุด (MVP) 2 รางวัล คือ ตำแหน่งพิทเชอร์กับตำแหน่งพัทเตอร์ในซีซั่นเดียว

    นักเบสบอลแบบนี้ 100 ปีจะมีสักหนึ่งคน

    สื่ออเมริกันถึงกับบอกว่า โอทานินั้นเหนือกว่าเบ๊บ รูท (Babe Ruth) นักเบสบอลอเมริกันในตำนานที่เป็น Two-way player เช่นกันเสียอีก

    นอกจากความเป็นยอดนักกีฬาแล้วคุณสมบัติที่ทำให้โอทานิโด่งดังในวงการนั้นมี 3 ประการครับ คือ

    หนึ่ง…..ความถ่อมตน (Humility)
    สอง…..ความขยันหมั่นเพียร
    สาม…..ความมุ่งมั่น
    .
    .
    .
    โอทานินั้นเป็นเด็กหนุ่มที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ”ยาคิว โชเนน - yakyu shonen“ แปลว่า ”เด็กที่หายใจเข้าออกเป็นเบสบอลทุกวินาที“ ครับ

    ความลุ่มหลงในเบสบอลของโอทานินั้น เกิดขึ้นตั้งแต่เป็นเด็กชายตัวเปี๊ยกเดียวครับ เพราะพ่อของโอทานิเป็นนักเบสบอลกึ่งอาชีพ ส่วนแม่นั้นเป็นนักแบดมินตันระดับมัธยม

    พ่อของโอทานินั้นสอนเทคนิคการขว้างลูกโดยใช้แรงจากสะโพกและการบิดตัว ทำให้โอทานิน้อยวัย 10 ขวบสามารถขว้างลูกได้เร็วเป็น 100 กม./ชม.เลยเชียว

    เมื่อโอทานิโตขึ้นมาถึงระดับมัธยม เขาก็เข้าไปเล่นเบสบอลในทีมโรงเรียนซึ่งมีโค้ชชื่อ “ซาซากิ”

    โค้ชซาซากินี้เองที่เป็นผู้บ่มเพาะนิสัยความถ่อมตนให้กับโอทานิ

    เมื่อโค้ชซาซากิเห็นฝีมือของโอทานิปร๊าดเดียว เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเด็กหนุ่มคนนี้คือดาวรุ่งคนใหม่ของวงการ

    ดังนั้นหน้าที่ที่โค้ชซาซากิมอบหมายให้เด็กใหม่ที่ชื่อโอทานิทำก็คือ “ล้างห้องน้ำ” ครับ

    เหตุผลของโค้ชก็คือ “ตำแหน่งยืนของ
    พิทเชอร์คือจุดที่สูงสุดในสนามเบสบอล เปรียบได้กับเวที เมื่อคุณไปยืนอยู่บนเวที คุณจะได้รับความสนใจ มีนักข่าวมาสัมภาษณ์และเขียนเรื่องเกี่ยวกับตัวคุณมากที่สุด“

    “The mound is the most elevated place on the field, It’s a stage. If you’re on that stage, you receive the most attention. You get interviewed and written about the most.”

    นี่คือวิธีการสอนความถ่อมตนในสไตล์ของโค้ชซาซากิครับ

    โค้ชยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า

    ”ความสะอาดของห้องน้ำนั้นบอกอะไรเราได้เยอะนะคุณ เวลาคุณไปเดินห้างสรรพสินค้าหรือไปสถานที่ต่างๆแล้วคุณไปเจอห้องน้ำที่สะอาดเอี่ยมน่ะ มันบอกอะไรบางอย่างกับคุณใช่ไหมว่า คนที่ทำงานที่นี่น่ะเป็นคนอย่างไร เขาให้ความสำคัญกับรายละเอียดเพียงใด“
    .
    .
    .
    การฝึกซ้อมของทีมเบสบอลโรงเรียนนี้หนักหนาสาหัสมาก นักเบสบอลวัยรุ่นเหล่านี้จะต้องกินนอนอยู่กับทีมตลอดปี ได้กลับบ้านแค่ปีละ 6 วันเท่านั้น

    ซึ่งนั่นก็ดูเหมือนจะถูกจริตของโอทานิซึ่งมีความสุขกับการซ้อม การแข่ง การล้างห้องน้ำและ ”การกิน“

    โค้ชซาซากิเล่าว่าโอทานิในเวลานั้นตัวเล็กมาก โค้ชจึงให้โอทานิกินอาหารให้เยอะที่สุด เพื่อนร่วมทีมคนไหนกินอาหารเหลือก็ส่งมาให้โอทานิกินต่อ

    กินจนกินไม่ไหวถึงจะเลิกกิน

    กินเสร็จก็ไปออกกำลังกาย ยกเวท จนโอทานิสูงใหญ่เป็นยักษ์ปักหลั่น ร่างกายสมบูรณ์เป็นนักกีฬาระดับโลก
    .
    .
    .
    จนเมื่อโอทานิแข่งเบสบอลในระดับมัธยมปลายทั่วประเทศ หรือ “โคชิเอ็น”

    โอทานิก็มุ่งมั่นชัดเจนว่าอยากจะเล่นเบสบอลอาชีพซี่งเขาก็เริ่มจากลีกญี่ปุ่น จนไปสู่เมเจอร์ลีกในสหรัฐอเมริกา

    กวาดรางวัลและทำลายสถิติมาทุกแห่ง

    แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนในตัวโอทานิเลยก็คือ ความสงบเสงี่ยม พูดน้อยและถ่อมตน

    ไปสัมภาษณ์ที่ไหนก็พูดนิดเดียว บางทีเมื่อไม่มีอะไรจะพูด โอทานิก็พูดสั้นๆเบาๆแค่ว่า ”ขอโทษนะครับ“

    ตอนที่โอทานิเริ่มได้เงินเดือนจากการแข่งอาชีพจากทีมไฟท์เตอร์ในลีกญี่ปุ่น 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐนั้น โอทานิให้แม่เป็นคนจัดการเรื่องเงินทองทั้งหมด

    และบอกแม่ว่าให้โอนเงินใส่บัญชีให้เขาใช้เดือนละ 1,000 ดอลล่าร์ หรือ 34,000 บาทก็พอ ซึ่งเอาจริงๆเขาก็ไม่ค่อยจะได้แตะเงินเท่าไร เพราะเขาใช้ชีวิตอยู่กับการซ้อม การแข่งเบสบอล

    สื่อมวลชนกีฬาของญี่ปุ่นซึ่งชอบขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวของนักกีฬามาแฉนั้น ก็ไม่รู้จะทำอะไรกับโอทานิ เพราะไม่มีอะไรจะให้แฉเลยสักนิด

    เรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัว โอทานิไม่ชอบเปิดเผยเรื่องส่วนตัวกับใคร

    วันๆเอาแต่ออกกำลังกายกับเล่นเบสบอล
    .
    .
    .
    ล่าสุดโอทานิก็สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งเมื่อเซ็นสัญญา 10 ปีด้วยค่าตัว 700 ล้านดอลล่าร์กับทีมแอลเอ ดอดเจอร์

    เป็นสัญญาที่แพงที่สุดประวัติศาสตร์วงการกีฬาโลก

    ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมโอทานิถึงได้กลายเป็นไอดอลของคนญี่ปุ่น

    ….พูดน้อย ถ่อมตน ซ้อมหนัก ผลงานเป็นเลิศ….

    คุณสมบัติที่หาได้ยากยิ่งในยุคที่คนส่วนใหญ่พูดเยอะแต่ไร้ผลงาน


    นัทแนะ
    ญี่ปุ่น 6 : โชเฮ โอทานิ (Shohei Ohtani) วันนี้วันดีปีใหม่ ผมอยากเล่าถึง “โชเฮ โอทานิ” นักเบสบอลมหัศจรรย์ของชาวญี่ปุ่น เอาไว้ให้เป็นแรงบันดาลใจสำหรับคนที่อยากประสบความสำเร็จครับ โชเฮ โอทานิ หรือชื่อเล่นที่เรียกว่า “โชไทม์ (Sho-time)” นี้เป็นเด็กหนุ่มอายุ 30 ปีที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในฐานะนักเบสบอลอาชีพ ที่ตอนนี้ไปเล่นให้กับทีมแอลเอ ดอดเจอร์ในสหรัฐฯและพาทีมคว้าแชมป์ 2024 ไปเรียบร้อย ความมหัศจรรย์ของโอทานิก็คือ เขาเป็นนักเบสบอลที่เล่นเป็นมือขว้าง (พิทเชอร์) หรือมือตี (พัทเตอร์) ก็ได้ เรียกว่าเป็น Two-way player โอทานินั้นไม่ใช่แค่ว่า ”ขว้างลูกได้“ ครับแต่เป็นพิทเชอร์ที่ขว้างลูกได้ดีเลิศ คือ ขว้างได้สปีดถึง 160 กม./ชม. ลูกโค้งซ้าย-ขวา-บน-ล่าง นั้นทำได้หมด และในฐานะพัทเตอร์นั้น เขาตีลูกได้แรงและแม่นยำ ตีโฮมรันเป็นว่าเล่น พละกำลังมหาศาลด้วยร่างกายที่สูงใหญ่ถึง 195 ซม. โอทานินั้นถนัดทั้งมือซ้ายและขวา กล่าวคือ ขว้างด้วยมือขวา ตีด้วยมือซ้าย เมื่อเขามาเล่นเบสบอลในเมเจอร์ลีกที่อเมริกา ในปี 2021 เขาได้รับรางวัลนักกีฬาทรงคุณค่าสูงสุด (MVP) 2 รางวัล คือ ตำแหน่งพิทเชอร์กับตำแหน่งพัทเตอร์ในซีซั่นเดียว นักเบสบอลแบบนี้ 100 ปีจะมีสักหนึ่งคน สื่ออเมริกันถึงกับบอกว่า โอทานินั้นเหนือกว่าเบ๊บ รูท (Babe Ruth) นักเบสบอลอเมริกันในตำนานที่เป็น Two-way player เช่นกันเสียอีก นอกจากความเป็นยอดนักกีฬาแล้วคุณสมบัติที่ทำให้โอทานิโด่งดังในวงการนั้นมี 3 ประการครับ คือ หนึ่ง…..ความถ่อมตน (Humility) สอง…..ความขยันหมั่นเพียร สาม…..ความมุ่งมั่น . . . โอทานินั้นเป็นเด็กหนุ่มที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ”ยาคิว โชเนน - yakyu shonen“ แปลว่า ”เด็กที่หายใจเข้าออกเป็นเบสบอลทุกวินาที“ ครับ ความลุ่มหลงในเบสบอลของโอทานินั้น เกิดขึ้นตั้งแต่เป็นเด็กชายตัวเปี๊ยกเดียวครับ เพราะพ่อของโอทานิเป็นนักเบสบอลกึ่งอาชีพ ส่วนแม่นั้นเป็นนักแบดมินตันระดับมัธยม พ่อของโอทานินั้นสอนเทคนิคการขว้างลูกโดยใช้แรงจากสะโพกและการบิดตัว ทำให้โอทานิน้อยวัย 10 ขวบสามารถขว้างลูกได้เร็วเป็น 100 กม./ชม.เลยเชียว เมื่อโอทานิโตขึ้นมาถึงระดับมัธยม เขาก็เข้าไปเล่นเบสบอลในทีมโรงเรียนซึ่งมีโค้ชชื่อ “ซาซากิ” โค้ชซาซากินี้เองที่เป็นผู้บ่มเพาะนิสัยความถ่อมตนให้กับโอทานิ เมื่อโค้ชซาซากิเห็นฝีมือของโอทานิปร๊าดเดียว เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเด็กหนุ่มคนนี้คือดาวรุ่งคนใหม่ของวงการ ดังนั้นหน้าที่ที่โค้ชซาซากิมอบหมายให้เด็กใหม่ที่ชื่อโอทานิทำก็คือ “ล้างห้องน้ำ” ครับ เหตุผลของโค้ชก็คือ “ตำแหน่งยืนของ พิทเชอร์คือจุดที่สูงสุดในสนามเบสบอล เปรียบได้กับเวที เมื่อคุณไปยืนอยู่บนเวที คุณจะได้รับความสนใจ มีนักข่าวมาสัมภาษณ์และเขียนเรื่องเกี่ยวกับตัวคุณมากที่สุด“ “The mound is the most elevated place on the field, It’s a stage. If you’re on that stage, you receive the most attention. You get interviewed and written about the most.” นี่คือวิธีการสอนความถ่อมตนในสไตล์ของโค้ชซาซากิครับ โค้ชยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า ”ความสะอาดของห้องน้ำนั้นบอกอะไรเราได้เยอะนะคุณ เวลาคุณไปเดินห้างสรรพสินค้าหรือไปสถานที่ต่างๆแล้วคุณไปเจอห้องน้ำที่สะอาดเอี่ยมน่ะ มันบอกอะไรบางอย่างกับคุณใช่ไหมว่า คนที่ทำงานที่นี่น่ะเป็นคนอย่างไร เขาให้ความสำคัญกับรายละเอียดเพียงใด“ . . . การฝึกซ้อมของทีมเบสบอลโรงเรียนนี้หนักหนาสาหัสมาก นักเบสบอลวัยรุ่นเหล่านี้จะต้องกินนอนอยู่กับทีมตลอดปี ได้กลับบ้านแค่ปีละ 6 วันเท่านั้น ซึ่งนั่นก็ดูเหมือนจะถูกจริตของโอทานิซึ่งมีความสุขกับการซ้อม การแข่ง การล้างห้องน้ำและ ”การกิน“ โค้ชซาซากิเล่าว่าโอทานิในเวลานั้นตัวเล็กมาก โค้ชจึงให้โอทานิกินอาหารให้เยอะที่สุด เพื่อนร่วมทีมคนไหนกินอาหารเหลือก็ส่งมาให้โอทานิกินต่อ กินจนกินไม่ไหวถึงจะเลิกกิน กินเสร็จก็ไปออกกำลังกาย ยกเวท จนโอทานิสูงใหญ่เป็นยักษ์ปักหลั่น ร่างกายสมบูรณ์เป็นนักกีฬาระดับโลก . . . จนเมื่อโอทานิแข่งเบสบอลในระดับมัธยมปลายทั่วประเทศ หรือ “โคชิเอ็น” โอทานิก็มุ่งมั่นชัดเจนว่าอยากจะเล่นเบสบอลอาชีพซี่งเขาก็เริ่มจากลีกญี่ปุ่น จนไปสู่เมเจอร์ลีกในสหรัฐอเมริกา กวาดรางวัลและทำลายสถิติมาทุกแห่ง แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนในตัวโอทานิเลยก็คือ ความสงบเสงี่ยม พูดน้อยและถ่อมตน ไปสัมภาษณ์ที่ไหนก็พูดนิดเดียว บางทีเมื่อไม่มีอะไรจะพูด โอทานิก็พูดสั้นๆเบาๆแค่ว่า ”ขอโทษนะครับ“ ตอนที่โอทานิเริ่มได้เงินเดือนจากการแข่งอาชีพจากทีมไฟท์เตอร์ในลีกญี่ปุ่น 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐนั้น โอทานิให้แม่เป็นคนจัดการเรื่องเงินทองทั้งหมด และบอกแม่ว่าให้โอนเงินใส่บัญชีให้เขาใช้เดือนละ 1,000 ดอลล่าร์ หรือ 34,000 บาทก็พอ ซึ่งเอาจริงๆเขาก็ไม่ค่อยจะได้แตะเงินเท่าไร เพราะเขาใช้ชีวิตอยู่กับการซ้อม การแข่งเบสบอล สื่อมวลชนกีฬาของญี่ปุ่นซึ่งชอบขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวของนักกีฬามาแฉนั้น ก็ไม่รู้จะทำอะไรกับโอทานิ เพราะไม่มีอะไรจะให้แฉเลยสักนิด เรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัว โอทานิไม่ชอบเปิดเผยเรื่องส่วนตัวกับใคร วันๆเอาแต่ออกกำลังกายกับเล่นเบสบอล . . . ล่าสุดโอทานิก็สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งเมื่อเซ็นสัญญา 10 ปีด้วยค่าตัว 700 ล้านดอลล่าร์กับทีมแอลเอ ดอดเจอร์ เป็นสัญญาที่แพงที่สุดประวัติศาสตร์วงการกีฬาโลก ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมโอทานิถึงได้กลายเป็นไอดอลของคนญี่ปุ่น ….พูดน้อย ถ่อมตน ซ้อมหนัก ผลงานเป็นเลิศ…. คุณสมบัติที่หาได้ยากยิ่งในยุคที่คนส่วนใหญ่พูดเยอะแต่ไร้ผลงาน นัทแนะ
    0 Comments 0 Shares 1260 Views 0 Reviews
  • บุญหล่นทับ ! "จตุภูมิ ชินวงศ์" นักยกน้ำหนักไทยคนแรกมีสิทธิ์คว้าเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ปี 2016 หลังจากศาลกีฬาโลก ไอโอซีประกาศอย่างเป็นทางการทั้งสามอันดับแชมป์โดนตรวจสอบใช้สารกระตุ้น กลายเป็นข่าวใหญ่สะเทือนวงการยกน้ำหนักโลก

    13 สิงหาคม 2567-รายงานข่าวระบุว่าพล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ประเทศไทยอาจได้รับข่าวดีเกี่ยวกับเรื่องในวงการยกน้ำหนักต่อเนื่อง โดยเวลานี้กำลังมีการยื่นฟ้องเรื่องการใช้สารกระตุ้นในตัวนักยกน้ำหนักจากจีน ส่งผลให้มีการขยับตำแหน่งเหรียญทองในการแข่งขันยกน้ำหนัก รุ่น 77 กก.ชาย ในโอลิมปิกเกมส์ 2016

    ย้อนไปเมื่อแปดปีที่แล้ว นายจตุภูมิ ชินวงศ์ นักยกน้ำหนักของไทยในรุ่นน้ำหนัก 77 กก.ชาย ลงแข่งขัน โอลิมปิกเกมส์ 2016 ณ นครริโอ เดจาเนโร ประเทศบราซิล

    ซึ่งการแข่งขันในวันนั้น นักกีฬาไทยจบที่อันดับ 4
    โดยอันดับ 1 ที่คว้าเหรียญทอง คือ นิยาต ราฮิมอฟ นักยกน้ำหนักจากคาซัคสถาน แต่ปรากฏว่าเจ้าตัวถูกตรวจพบใช้สารกระตุ้น และมีการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลกีฬาโลก

    การสืบสวนมีมาอย่างยาวนาน กระทั่งศาลกีฬาโลกไม่อนุมัติ ยืนยันคำตัดสินเดิมว่า นิยาต ราฮิมอฟ นักยกน้ำหนักจากคาซัคสถาน ใช้สารกระตุ้ก่อนการแข่ง
    ส่งผลให้ลำดับถูกขยับขึ้น โดย หลู่ เสี่ยวจุ่น นักยกน้ำหนักจากจีน ที่จบในอันดับ 2 ถูกขยับขึ้นเป็นอันดับ 1 แทน และ โมฮัมเหม็ด อิฮาบี นักยกน้ำหนักจากอิยิปต์ ถูกขยับขึ้นจากอันดับที่ 3 ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2

    ส่วน จตุภูมิ ชินวงศ์ นักยกน้ำหนักไทยถูกเลื่อนขึ้นจากอันดับ 4 ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 3 แทน

    แต่เรื่องราวยังไม่จบ ล่าสุดมีรายงานว่า โมฮัมเหม็ด อิฮาบี นักยกน้ำหนักอียีปต์ ถูกตรวจพบใช้สารกระตุ้นเช่นกัน ส่งผลให้ “ก็อต” จตุภูมิ ชินวงศ์ ถูกเลื่อนขึ้นมารั้งอันดับ 2

    ล่าสุด สดๆร้อนๆ เมื่อ หลู่ เสี่ยวจุ่น นักยกน้ำหนักจากจีน ที่ถูกขยับมาเป็นอันดับ 1 ถูกตรวจพบใช้สารกระตุ้นอีกเช่นเดียวกันและในขณะนี้ทุกเหรียญที่เขาได้รับถูกยึดหมด และตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงยื่นอุทธรณ์

    ส่งผลให้ “ก็อต” จตุภูมิ ชินวงศ์ นักยกน้ำหนักไทยเรา มีสิทธิ์ที่จะครองเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2016 คนแรกในประวัติศาสตร์

    https://youtu.be/nBu-6mXmvCI?si=an9TRX14jiwbQHIq

    #Thaitimes
    บุญหล่นทับ ! "จตุภูมิ ชินวงศ์" นักยกน้ำหนักไทยคนแรกมีสิทธิ์คว้าเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ปี 2016 หลังจากศาลกีฬาโลก ไอโอซีประกาศอย่างเป็นทางการทั้งสามอันดับแชมป์โดนตรวจสอบใช้สารกระตุ้น กลายเป็นข่าวใหญ่สะเทือนวงการยกน้ำหนักโลก 13 สิงหาคม 2567-รายงานข่าวระบุว่าพล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ประเทศไทยอาจได้รับข่าวดีเกี่ยวกับเรื่องในวงการยกน้ำหนักต่อเนื่อง โดยเวลานี้กำลังมีการยื่นฟ้องเรื่องการใช้สารกระตุ้นในตัวนักยกน้ำหนักจากจีน ส่งผลให้มีการขยับตำแหน่งเหรียญทองในการแข่งขันยกน้ำหนัก รุ่น 77 กก.ชาย ในโอลิมปิกเกมส์ 2016 ย้อนไปเมื่อแปดปีที่แล้ว นายจตุภูมิ ชินวงศ์ นักยกน้ำหนักของไทยในรุ่นน้ำหนัก 77 กก.ชาย ลงแข่งขัน โอลิมปิกเกมส์ 2016 ณ นครริโอ เดจาเนโร ประเทศบราซิล ซึ่งการแข่งขันในวันนั้น นักกีฬาไทยจบที่อันดับ 4 โดยอันดับ 1 ที่คว้าเหรียญทอง คือ นิยาต ราฮิมอฟ นักยกน้ำหนักจากคาซัคสถาน แต่ปรากฏว่าเจ้าตัวถูกตรวจพบใช้สารกระตุ้น และมีการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลกีฬาโลก การสืบสวนมีมาอย่างยาวนาน กระทั่งศาลกีฬาโลกไม่อนุมัติ ยืนยันคำตัดสินเดิมว่า นิยาต ราฮิมอฟ นักยกน้ำหนักจากคาซัคสถาน ใช้สารกระตุ้ก่อนการแข่ง ส่งผลให้ลำดับถูกขยับขึ้น โดย หลู่ เสี่ยวจุ่น นักยกน้ำหนักจากจีน ที่จบในอันดับ 2 ถูกขยับขึ้นเป็นอันดับ 1 แทน และ โมฮัมเหม็ด อิฮาบี นักยกน้ำหนักจากอิยิปต์ ถูกขยับขึ้นจากอันดับที่ 3 ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2 ส่วน จตุภูมิ ชินวงศ์ นักยกน้ำหนักไทยถูกเลื่อนขึ้นจากอันดับ 4 ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 3 แทน แต่เรื่องราวยังไม่จบ ล่าสุดมีรายงานว่า โมฮัมเหม็ด อิฮาบี นักยกน้ำหนักอียีปต์ ถูกตรวจพบใช้สารกระตุ้นเช่นกัน ส่งผลให้ “ก็อต” จตุภูมิ ชินวงศ์ ถูกเลื่อนขึ้นมารั้งอันดับ 2 ล่าสุด สดๆร้อนๆ เมื่อ หลู่ เสี่ยวจุ่น นักยกน้ำหนักจากจีน ที่ถูกขยับมาเป็นอันดับ 1 ถูกตรวจพบใช้สารกระตุ้นอีกเช่นเดียวกันและในขณะนี้ทุกเหรียญที่เขาได้รับถูกยึดหมด และตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงยื่นอุทธรณ์ ส่งผลให้ “ก็อต” จตุภูมิ ชินวงศ์ นักยกน้ำหนักไทยเรา มีสิทธิ์ที่จะครองเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2016 คนแรกในประวัติศาสตร์ https://youtu.be/nBu-6mXmvCI?si=an9TRX14jiwbQHIq #Thaitimes
    0 Comments 0 Shares 654 Views 0 Reviews