• หลังจากสภาผู้แทนราษฎรของอิสราเอลออกกฎหมายสั่งห้ามหน่วยงาน UNRWA ดำเนินกิจกรรมในปาเลสไตน์

    วันนี้อิสราเอลออกประกาศอย่างเป็นทางการ เพื่อยกเลิกข้อตกลงกับ UNRWA

    อิสราเอลประกาศยุติข้อตกลงกับ UNRWA ที่มีมายาวนานหลายทศวรรษ ส่งผลให้หน่วยงานของ UN ไม่สามารถดำเนินการในอิสราเอล กาซา และเวสต์แบงก์ได้อีกต่อไป หากยังฝ่าฝืน จะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายของอิสราเอล

    การเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งนี้ส่งผลให้เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรมอย่างรุนแรงเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า จากเดิมที่รุนแรงมากพออยู่แล้ว
    บริการที่สำคัญอย่างการดูแลสุขภาพ การศึกษา และความช่วยเหลือขั้นพื้นฐานสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์หลายล้านคนต้องหยุดลงทันที

    สหภาพยุโรปและสหประชาชาติทำได้เพียง "การเตือน" ถึงผลที่ตามมาด้านมนุษยธรรมจะทวีความรุนแรงมากขึ้น
    หลังจากสภาผู้แทนราษฎรของอิสราเอลออกกฎหมายสั่งห้ามหน่วยงาน UNRWA ดำเนินกิจกรรมในปาเลสไตน์ วันนี้อิสราเอลออกประกาศอย่างเป็นทางการ เพื่อยกเลิกข้อตกลงกับ UNRWA อิสราเอลประกาศยุติข้อตกลงกับ UNRWA ที่มีมายาวนานหลายทศวรรษ ส่งผลให้หน่วยงานของ UN ไม่สามารถดำเนินการในอิสราเอล กาซา และเวสต์แบงก์ได้อีกต่อไป หากยังฝ่าฝืน จะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายของอิสราเอล การเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งนี้ส่งผลให้เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรมอย่างรุนแรงเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า จากเดิมที่รุนแรงมากพออยู่แล้ว บริการที่สำคัญอย่างการดูแลสุขภาพ การศึกษา และความช่วยเหลือขั้นพื้นฐานสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์หลายล้านคนต้องหยุดลงทันที สหภาพยุโรปและสหประชาชาติทำได้เพียง "การเตือน" ถึงผลที่ตามมาด้านมนุษยธรรมจะทวีความรุนแรงมากขึ้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุณถูกหลอกมาตลอดเกี่ยวกับฟลูออไรด์หรือเปล่า?
    ไม่มีอะไรเทียบได้กับน้ำใสๆ เย็นๆ สักแก้วดับกระหายของคุณ แต่คราวหน้าที่คุณเปิดก๊อกน้ำ คุณอาจต้องการตั้งคำถามว่าจริงหรือไม่ น้ำนั้นเป็นพิษเกินกว่าจะดื่มได้ ถ้าน้ำของคุณมีฟลูออไรด์ผสมอยู่ คำตอบน่าจะเป็น "จริง" แม้ว่า "เจ้าหน้าที่" ด้านสุขภาพออกมาประกาศว่า "ปลอดภัย" และ "เป็นธรรมชาติ" ก็ไม่มีอะไรจะมากไปกว่าความจริงได้
    เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่เราได้รับคำโกหก คำโกหกที่นำไปสู่การเสียชีวิตของชาวอเมริกันหลายแสนคน และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงอีกหลายสิบล้านคน การโกหกนี้เรียกว่า "การผสมฟลูออไรด์" กระบวนการที่เราเชื่อว่าเป็นวิธีการที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการปกป้องฟันจากฟันผุ อันที่จริงแล้วเป็นการฉ้อโกง ในคำพูดของ Dr. Robert Carton อดีตนักวิทยาศาสตร์ของ EPA “ฟลูออไรด์เป็นกรณีที่ใหญ่ที่สุดของการฉ้อโกงทางวิทยาศาสตร์ของศตวรรษนี้ หรือไม่ก็ตลอดกาล”
    “กระบวนการปั่น” เริ่มต้นขึ้น
    ในปี ค.ศ. 1920 การผลิตอะลูมิเนียมซึ่งส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมกระป๋องที่กำลังเฟื่องฟู แต่ก็ยังเป็นผู้ผลิตขยะฟลูออไรด์ที่เป็นพิษรายใหญ่ ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่ใหญ่ที่สุดคือค่าใช้จ่ายในการกำจัดของเสียอันตรายอย่างปลอดภัยซึ่งแพงมาก อุตสาหกรรมนี้จึงได้ทำการตลาดและขายของเสียที่เป็นพิษ (โซเดียมฟลูออไรด์) เพื่อใช้ผลิตเป็นยาฆ่าแมลงและยาฆ่าหนู แต่ทว่าพวกเขาต้องการตลาดที่ใหญ่กว่านั้น... มนุษย์ไง อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็มีอุปสรรคอยู่เล็กน้อย
    ในวารสารสมาคมทันตกรรมอเมริกันวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1944 ADA เตือนว่า “โอกาสที่จะเกิดอันตราย (จากฟลูออไรด์) มีมากกว่าประโยชน์ในทางที่ดี” แต่ในปี 1947 Oscar R. Ewing (ซึ่งเป็นทนายความของ ALCOA มาเป็นเวลานาน) ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทำให้เขารับผิดชอบด้านบริการสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกา และแล้วภายใต้การนำของเขา แคมเปญ "น้ำผสมฟลูออไรด์" ระดับชาติจึงเริ่มต้นขึ้น
    นักยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์สำหรับแคมเปญ "น้ำผสมฟลูออไรด์" ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก Edwin L. Bernays หลานชายของ Sigmund Freud หรือที่รู้จักในชื่อ "เจ้าพ่อแห่งการปั่น" Bernays เป็นผู้บุกเบิกการประยุกต์ใช้ทฤษฎีของ Freud มาใช้กับการโฆษณาและ "ความจริงครึ่งเดียวของรัฐบาล"
    ในหนังสือ "โฆษณาชวนเชื่อ" ของเขา Bernays ได้อ้างว่าความคิดเห็นสาธารณะซึ่งใช้วิทยาศาสตร์บงการเป็นกุญแจสำคัญ เขากล่าวว่า "คนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งมีอิทธิพลควบคุมจิตใจของสาธารณชน" แคมเปญฟลูออไรด์ของรัฐบาลเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่ยั่งยืนที่สุดของเขา
    เทคนิคของเบอร์เนย์นั้นเรียบง่าย แสร้งทำเป็นว่ามีงานวิจัยที่น่าพอใจโดยใช้วลีเช่น "การศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็น ... " หรือ "การวิจัยพิสูจน์แล้ว ... " หรือ "ผู้วิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้พบ ... " (แต่ไม่เคยพูดอ้างอิงถึงสิ่งใดเลย) พูดให้นานพอและดังพอ แล้วในที่สุดผู้คนจะเชื่อมัน หากใครสงสัยหรือซักไซ้เรื่องโกหกนี้ ก็โจมตีหน้าที่การงานและ/หรือสติปัญญาของพวกเขา
    แล้ว "งานศึกษา" ล่ะ?
    ไม่มี "งานศึกษาทางวิทยาศาสตร์" ที่พิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์ปลอดภัยเลยหรือ? ในช่วงทศวรรษที่ 1940 นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า ผู้คนจะมีสุขภาพฟันโดยรวมที่ดีขึ้น (โดยส่วนใหญ่เป็นฟันผุน้อยกว่า) หากพวกเขาอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีฟลูออรีนในระดับที่สูงขึ้นตามธรรมชาติ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ได้เกิดคำถามเรื่อง “การศึกษาวิจัย” และมีความกังวลอย่างมากว่าข้อมูลส่วนใหญ่เป็นเพียงการประดิษฐ์ขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ที่มีความผูกพันกับบริษัทที่มีส่วนได้เสียในการขายฟลูออไรด์ การปั้นแต่งข้อมูลในการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกี่ยวข้องกับสุขภาพ มีบริษัทจำนวนหนึ่งที่จะได้รับผลประโยชน์จากสุขภาพที่ย่ำแย่ของสาธารณชน
    ตรงกันข้ามกับความเห็นส่วนใหญ่ ฟลูออไรด์กลับไม่ได้หยุดฟันผุเลย จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์เป็นพิษต่อระบบประสาทและทำให้เกิดความพิการแต่กำเนิด และโรคกระดูกพรุน ฟลูออไรด์ยังทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ระบบย่อยอาหารและระบบทางเดินหายใจ รวมถึงตับไตและสมอง และอาจนำไปสู่ความบกพร่องทางการเรียนรู้ ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีความบกพร่องในการอ่าน สมาธิสั้น และออทิสติก
    ในปี 2012 นักวิจัยของฮาร์วาร์ดรายงานว่าการศึกษา 26 จาก 27 ชิ้นที่พวกเขาทบทวนพบว่าไอคิวในวัยเด็กลดลงเมื่อความเข้มข้นของฟลูออไรด์เพิ่มขึ้น รายงานปี 2006 จากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติได้ทบทวนการศึกษาหลายร้อยชิ้นที่เชื่อมโยงน้ำดื่มที่มีฟลูออไรด์กับความเสียหายทางระบบประสาท ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ และ … ใช่แล้ว …. โรคมะเร็ง
    ในปี 1955 วารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์รายงานว่าจำนวนผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์เพิ่มขึ้น 400% ในช่วงหลายปีหลังจากที่น้ำในซานฟรานซิสโกเริ่มได้รับการผสมฟลูออไรด์ ต่อมาในปี 1977 สภาคองเกรสได้สั่งให้หน่วยงานบริการสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกาดำเนินการศึกษาในสัตว์เพื่อพิจารณาว่าฟลูออไรด์ทำให้เกิดมะเร็งหรือไม่ หลังจากวิเคราะห์ผลการศึกษาในหนูแล้ว พบว่าหนูที่ดื่มน้ำฟลูออไรด์มีเนื้องอกและมะเร็งเพิ่มขึ้นในเซลล์สความัสในช่องปาก ก่อตัวเป็นรูปแบบที่พบได้ยากของมะเร็งกระดูกที่เรียกว่า osteosarcoma และพบว่ามีเนื้องอกในเซลล์ต่อมไทรอยด์ฟอลลิคูลาร์เพิ่มขึ้น
    การค้นพบที่สำคัญที่สุดคือการเกิดขึ้นของมะเร็งตับรูปแบบที่หายากมาก มะเร็งตับในหนูเพศผู้และเพศเมียที่ได้รับฟลูออไรด์ นอกจากนี้ในปี 1977 ยังแสดงให้เห็นว่าฟลูออไรด์ทำให้เกิดการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งประมาณ 10,000 รายในการศึกษาทางระบาดวิทยาโดย Dr. Dean Burk อดีตหัวหน้าแผนกไซโตเคมี ที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และ Dr. John Yiamouyiannis แม้จะมีการค้นพบในปี 1977 แต่ก็ไม่ได้เต็มใจที่จะเปิดเผยจนกระทั่งปี 1989
    ในปี 2006 ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด นักวิจัยระบุถึงความเชื่อมโยงระหว่างฟลูออไรด์กับ osteosarcoma การศึกษานี้นำโดย Dr. Elise Bassin และตีพิมพ์ออนไลน์ใน Cancer Causes and Control (วารสารทางการของศูนย์ป้องกันมะเร็งฮาร์วาร์ด) พบว่ามีความเชื่อมโยงอย่างมากระหว่างน้ำดื่มที่มีฟลูออไรด์กับ osteocarcoma ซึ่งเป็นมะเร็งกระดูกที่หายากและมักเสียชีวิตในเด็กชาย การศึกษายืนยันโดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) และแผนกสุขภาพของรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งพบอัตราการเกิดมะเร็งกระดูกที่เพิ่มขึ้นในเด็กผู้ชายที่ดื่มน้ำประปาที่มีฟลูออไรด์ ผลการวิจัยยืนยันผลการศึกษาของรัฐบาลก่อนหน้าในปี 1990 ที่เกี่ยวข้องกับหนูที่ได้รับฟลูออไรด์
    แต่ยังมีอีก...
    เมื่อเข้าไปในร่างกายของคุณ ฟลูออไรด์จะทำลายเอนไซม์ของคุณด้วยการเปลี่ยนรูปร่าง ร่างกายของคุณต้องอาศัยเอ็นไซม์หลายพันชนิดเพื่อทำปฏิกิริยาของเซลล์จำนวนมาก ถ้าไม่มีเอ็นไซม์ เราทุกคนคงตายกันหมด เอ็นไซม์เป็นเหมือนกุญแจที่เข้ากับระบบล็อคภายในเซลล์ของคุณ อย่างไรก็ตาม เมื่อฟลูออไรด์ทำลายรูปร่างของ "กุญแจ" มันจะไม่เข้ากับตัวล็อคอีกต่อไป และร่างกายของคุณไม่รู้จักเอ็นไซม์อีกต่อไป เอนไซม์ที่เสียหายเหล่านี้สามารถนำไปสู่การสลายคอลลาเจน ความเสียหายของดีเอ็นเอ ความเสียหายของเนื้อเยื่อ และการกดภูมิคุ้มกัน
    ในช่วงต้นปี 2010 มีเรื่องราวสองเรื่องในอินเดียเปิดเผยว่าเด็ก ๆ ตาบอดและพิการบางส่วน อันเป็นผลมาจากการเติมฟลูออไรด์ลงในน้ำดื่มของพวกเขา และในหมู่บ้าน Gaudiyan ของอินเดีย ประชากรมากกว่าครึ่งมีความผิดปกติของกระดูก ทำให้มีความพิการทางร่างกาย เด็กเกิดมาปกติดี แต่หลังจากที่พวกเขาเริ่มดื่มน้ำที่มีฟลูออไรด์ พวกเขาก็เริ่มมีความพิการที่มือและเท้า
    เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2010 นิตยสาร Time ระบุว่าฟลูออไรด์เป็นหนึ่งใน "สารพิษในครัวเรือน 10 อันดับแรก" และอธิบายว่าฟลูออไรด์ "เป็นพิษต่อระบบประสาทและอาจเกิดเนื้องอกได้หากกลืนเข้าไป" มีการบอกความจริงนี้ในเกือบทุกประเทศในโลก (รวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย) มันผิดกฎหมายที่จะ "ให้ยาขนานใหญ่" กับประชากรทั้งหมดด้วยสารที่ทุกคนยอมรับว่าเป็นพิษ
    ด้วยความจริงที่ว่าฟลูออไรด์สามารถสะสมในร่างกายได้ จึงเป็นเหตุให้กฎหมายแห่งสหรัฐอเมริกาได้กำหนดให้กรมการแพทย์ทหารตั้งค่า "ระดับสารปนเปื้อนสูงสุด" (MCL) สำหรับปริมาณฟลูออไรด์ในแหล่งน้ำสาธารณะตามที่ EPA กำหนด มันทำให้ผมสับสนจากการที่ทันตแพทย์ที่ถูกล้างสมองหลายพันคนประกาศอย่างภาคภูมิใจว่าฟลูออไรด์เป็น "สารอาหารมหัศจรรย์" ที่ป้องกันฟันผุและส่งเสริมสุขภาพฟันและเหงือก ผมขอตั้งคำถามหน่อยนะ สารพิษสะสมและผลิตภัณฑ์จากขยะพิษจะเรียกว่า “สารอาหาร” ได้อย่างไร
    เป็นความโชคร้าย หากคุณต้องใช้ชีวิตในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย หรือแคนาดา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจในระดับสูง (มีความเป็นไปได้มากที่การผสมฟลูออไรด์ในน้ำจะเป็นเรื่องปกติ) หมายความว่ามีการตัดสินใจเกี่ยวกับสุขภาพของคุณโดยที่คุณไม่มีส่วนร่วมในกระบวนการนี้เลย
    จากเกือบ 320 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ประมาณ 72% บริโภคน้ำที่มีฟลูออไรด์อย่างสม่ำเสมอ และจากข้อมูลของ CDC รัฐทั้งหมด 50 รัฐ ได้ผสมฟลูออไรด์ลงในแหล่งน้ำ
    แล้วคุณจะทำอะไรได้บ้าง?
    การกรองแบบ Reverse Osmosis ถือว่ามีประสิทธิภาพในการกำจัดฟลูออไรด์ออกจากน้ำ เกลือฟลูออไรด์จะเข้าไปแทนที่ไอโอดีนซึ่งต่อมไทรอยด์จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน การเสริมไอโอดีนในอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญ การเสริมด้วยอัตราส่วนแมกนีเซียมต่อแคลเซียมสูงจะให้แร่ธาตุที่ช่วยขจัดฟลูออไรด์ นอกจากนี้ วิตามิน K2 ที่สกัดจากเอนไซม์ในถั่วเน่าญี่ปุ่น ยังช่วยป้องกันการกลายเป็นหินปูนฟลูออไรด์ในอวัยวะที่มีเนื้อเยื่ออ่อน เช่น หลอดเลือดแดงและสมอง
    ใช่แล้ว... อีกอย่างที่คุณทำได้คือหยุดใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ คุณเคยอ่านฉลากหรือไม่? ผมแนะนำให้คุณอ่านซะ ในปี 1997 องค์การอาหารและยาได้สั่งให้ผู้ผลิตยาสีฟันเพิ่มคำเตือนเกี่ยวกับพิษจากยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ทั้งหมดที่จำหน่ายในสหรัฐฯ คำเตือนดังกล่าวระบุว่าควรเก็บให้ห่างจากเด็ก ผมสงสัยว่าเพราะเหตุใดกัน อาจเป็นเพราะถ้าเด็กเล็กกินยาสีฟันทั้งหลอด ปริมาณเท่านี้อาจทำให้ถึงตายได้!
    บทสรุป
    ในช่วงต้นปี 2010 มีภูเขาไฟระเบิดขนาดใหญ่ในประเทศไอซ์แลนด์ สัตว์ในไอซ์แลนด์ตอนใต้มีความเสี่ยงที่จะเป็นพิษจากฟลูออไรด์ หากพวกมันสูดดมหรือกลืนกินเถ้าจากการปะทุ พิษจากฟลูออไรด์สามารถนำไปสู่การมีเลือดออกภายใน ความเสียหายของกระดูกในระยะยาว และการสูญเสียฟัน ตามข่าวบีบีซี (19 เมษายน 2010): "ฟลูออไรด์ในเถ้าสร้างกรดในกระเพาะของสัตว์ กัดกร่อนลำไส้และทำให้เลือดออก นอกจากนี้ยังจับกับแคลเซียมในกระแสเลือดและหลังจากได้รับสารหนักในช่วงเวลาหลายวันทำให้กระดูกเปราะบางแม้กระทั่งทำให้ฟันผุ" คนส่วนใหญ่ไม่เคย "เชื่อมโยงจุดต่างๆ" ระหว่างพิษอันน่าสลดใจของสัตว์เหล่านี้อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ทางธรรมชาติ กับพิษของมนุษย์จากการได้รับฟลูออไรด์มากเกินไปในแต่ละวัน
    มีงานศึกษาซึ่งทบทวนโดยคณะผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 500 ชิ้นที่บันทึกถึงผลข้างเคียงของฟลูออไรด์ตั้งแต่มะเร็งไปจนถึงความเสียหายต่อสมอง แต่ถึงกระนั้น เขตเทศบาลต่างๆ ทั่วสหรัฐอเมริกาก็ซื้อผลิตภัณฑ์นี้จริงๆ แล้วหยดลงในแหล่งน้ำสาธารณะ Dr. Charles G. Heyd อดีตประธานของ AMA กล่าวว่า "ผมรู้สึกตกใจที่ได้เห็นการใช้น้ำเป็นพาหนะส่งยา ฟลูออไรด์เป็นสารพิษกัดกร่อนซึ่งจะส่งผลร้ายแรงในระยะยาว ความพยายามใดๆ ที่จะใช้น้ำในลักษณะนี้เป็นสิ่งที่น่าประณาม"
    ระบบมันเสียหายไปแล้ว ระบบการดูแลสุขภาพของเรา อุตสาหกรรมยา รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแล สื่อของเรา และแม้แต่ภาคเทคโนโลยีล้วนได้รับความเสียหาย เรากำลังอยู่ในระหว่างสงครามข้อมูล โดยมีการปกปิดและการเซ็นเซอร์ในระดับสูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ชมตัวอย่างสารคดีชุดใหม่ของเรา: PROPAGANDA EXPOSED! ค้นพบความจริงที่ Big Pharma และ Mainstream Media ไม่ต้องการให้คุณเห็น ดูฟรี 100%… และอาจช่วยชีวิตคุณได้
    https://go.propaganda-exposed.com/?a_bid=f9f117e3...
    ผู้เขียน : Ty Bollinger
    ‼ รวมลิสต์รายชื่อยี่ห้อยาสีฟันที่ไม่มี ❌สารฟลูaaไรด์❌ โดยโค๊ชนาตาลี
    🦷 1. ยาสีฟัน Doctor V (แก้ไข ยี่ห้อนี้มี)
    🦷 2. ยาสีฟัน Grants Of Australia
    🦷 3. ยาสีฟัน Sparkle White (ทุกรุ่น)
    🦷 4. ยาสีฟันเอมไทย (AimThai)
    🦷 5. ยาสีฟันน้ำมันมะพร้าว (Tropicana)
    🦷 6. ยาสีฟันสมุนไพรโครงการหลวง เฮอร์เบิลทูธเพสท์
    🦷 7. ยาสีฟัน Curaprox (Enzycal Zero)
    🦷 8. ยาสีฟัน ยาสีฟันโคโค่เมท (Cocomate toothpaste)
    🦷 9. ยาสีฟันก๊กเลี้ยง (แก้ไข ยี่ห้อนี้มี สังเกตฝากล่องด้านใน)
    🦷 10. ยาสีเด็กฟันคินดี้ ออรัล เจล ออร์แกนิค (Kindee Oral Gel Organic ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 11. ยาสีฟันดอกบัวคู่ (แก้ไข สูตรดั้งเดิม,สูตรเซนซิที,สูตรเกลือสมุนไพร,สูตรเฟรชแอนด์คูล = ไม่มี สูตรเอเวอร์เฟรชและสูตรฟ้าทลายโจร = มี)
    🦷 12. ยาสีฟันสมุนไพรวาซ Wazz
    🦷 13. ยาสีฟันใจฟ้า
    🦷 14. ยาสีฟัน Dentiste (แค่บางรุ่น ควรอ่านฉลากก่อนซื้อ)
    🦷 15. ยาสีฟัน Thieves Young Living
    🦷 16. ยาสีฟัน Mama's Choice สูตรธรรมชาติ
    🦷 17. ยาสีฟันเพียวรีน (Pureen Maternity Toothpaste)
    🦷 18. ยาสีฟันเด็กเพียวรีน Pureen kids (ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 19. ยาสีฟันเด็กเอมไทย กรีน คิดส์ ออร์แกนิค (ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 20. ยาสีฟันเด็ก Mama's Choice (ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 21. ยาสีฟันเด็ก ดอกบัวคู่คิด (ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 22. ยาสีฟันเจสัน Jason Since 1956
    🦷 23. ยาสีฟันซองวิเศษนิยม (มีในร้านสะดวกซื้อ)
    🦷 24. ยาสีฟันสมุนไพรทิพย์นิยม
    🦷 25. ยาสีฟันวันเดอร์สไมล์ (Wonder Smile)
    🦷 26. ยาสีฟันเด็กฟันคินดี้ ออรัล เจล ออร์แกนิค (Kindee Oral Gel Organic ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 27. ยาสีฟันเทโซโร่ เฟรช
    🦷 28. ยาสีฟันไอวิศน์ (IVISN)
    🦷 29. ยาสีฟันนกไทย 5 ดาว 4A สูตรดั้งเดิม
    ขอเพิ่มเติม
    🦷 30.ยาสีฟันคอลบาเด้นท์ (Kolbadent)
    🦷 31. ยาสีฟันพาโรดอนแทกซ์ (Parodontax)
    🦷 32. ยาสีฟันเดนตาเมท (Denta mate)
    🦷 33. เกลือสีฟันทรีออร์คิดส์
    🦷 34. ยาสีฟัน Sante ของอ.สันติ มาะดี(หมอนอกกะลา)
    🦷 35. ยาสีฟันรุ่งอรุณ
    🦷 36. ยาสีฟันไบโอมิเนอรัลส์
    (ยี่ห้อนี้ต้องขอขอบคุณครับดร.(ผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง) ที่มาช่วยกิจกรรมกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ได้เคลื่อนไหวช่วยคนไทยในการจัดกิจกรรม แอดไลน์ด้วย QR Code ในภาพเมื่อท่านแจ้งแอดมินตอนสั่งซื้อว่ามาจากกลุ่ม คนไทยพิทักษ์สิทธิ์ กำไรจะถูกหักเข้ากองทุนสำหรับกิจกรรมกลุ่ม)
    เป็นต้น
    https://youtube.com/shorts/cj_brYDAlBM?si=waEMU4F2I0-CWcny
    ขอบคุณเจ้าของบทความต่างๆ
    คุณถูกหลอกมาตลอดเกี่ยวกับฟลูออไรด์หรือเปล่า? ไม่มีอะไรเทียบได้กับน้ำใสๆ เย็นๆ สักแก้วดับกระหายของคุณ แต่คราวหน้าที่คุณเปิดก๊อกน้ำ คุณอาจต้องการตั้งคำถามว่าจริงหรือไม่ น้ำนั้นเป็นพิษเกินกว่าจะดื่มได้ ถ้าน้ำของคุณมีฟลูออไรด์ผสมอยู่ คำตอบน่าจะเป็น "จริง" แม้ว่า "เจ้าหน้าที่" ด้านสุขภาพออกมาประกาศว่า "ปลอดภัย" และ "เป็นธรรมชาติ" ก็ไม่มีอะไรจะมากไปกว่าความจริงได้ เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่เราได้รับคำโกหก คำโกหกที่นำไปสู่การเสียชีวิตของชาวอเมริกันหลายแสนคน และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงอีกหลายสิบล้านคน การโกหกนี้เรียกว่า "การผสมฟลูออไรด์" กระบวนการที่เราเชื่อว่าเป็นวิธีการที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการปกป้องฟันจากฟันผุ อันที่จริงแล้วเป็นการฉ้อโกง ในคำพูดของ Dr. Robert Carton อดีตนักวิทยาศาสตร์ของ EPA “ฟลูออไรด์เป็นกรณีที่ใหญ่ที่สุดของการฉ้อโกงทางวิทยาศาสตร์ของศตวรรษนี้ หรือไม่ก็ตลอดกาล” “กระบวนการปั่น” เริ่มต้นขึ้น ในปี ค.ศ. 1920 การผลิตอะลูมิเนียมซึ่งส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมกระป๋องที่กำลังเฟื่องฟู แต่ก็ยังเป็นผู้ผลิตขยะฟลูออไรด์ที่เป็นพิษรายใหญ่ ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่ใหญ่ที่สุดคือค่าใช้จ่ายในการกำจัดของเสียอันตรายอย่างปลอดภัยซึ่งแพงมาก อุตสาหกรรมนี้จึงได้ทำการตลาดและขายของเสียที่เป็นพิษ (โซเดียมฟลูออไรด์) เพื่อใช้ผลิตเป็นยาฆ่าแมลงและยาฆ่าหนู แต่ทว่าพวกเขาต้องการตลาดที่ใหญ่กว่านั้น... มนุษย์ไง อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็มีอุปสรรคอยู่เล็กน้อย ในวารสารสมาคมทันตกรรมอเมริกันวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1944 ADA เตือนว่า “โอกาสที่จะเกิดอันตราย (จากฟลูออไรด์) มีมากกว่าประโยชน์ในทางที่ดี” แต่ในปี 1947 Oscar R. Ewing (ซึ่งเป็นทนายความของ ALCOA มาเป็นเวลานาน) ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทำให้เขารับผิดชอบด้านบริการสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกา และแล้วภายใต้การนำของเขา แคมเปญ "น้ำผสมฟลูออไรด์" ระดับชาติจึงเริ่มต้นขึ้น นักยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์สำหรับแคมเปญ "น้ำผสมฟลูออไรด์" ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก Edwin L. Bernays หลานชายของ Sigmund Freud หรือที่รู้จักในชื่อ "เจ้าพ่อแห่งการปั่น" Bernays เป็นผู้บุกเบิกการประยุกต์ใช้ทฤษฎีของ Freud มาใช้กับการโฆษณาและ "ความจริงครึ่งเดียวของรัฐบาล" ในหนังสือ "โฆษณาชวนเชื่อ" ของเขา Bernays ได้อ้างว่าความคิดเห็นสาธารณะซึ่งใช้วิทยาศาสตร์บงการเป็นกุญแจสำคัญ เขากล่าวว่า "คนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งมีอิทธิพลควบคุมจิตใจของสาธารณชน" แคมเปญฟลูออไรด์ของรัฐบาลเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่ยั่งยืนที่สุดของเขา เทคนิคของเบอร์เนย์นั้นเรียบง่าย แสร้งทำเป็นว่ามีงานวิจัยที่น่าพอใจโดยใช้วลีเช่น "การศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็น ... " หรือ "การวิจัยพิสูจน์แล้ว ... " หรือ "ผู้วิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้พบ ... " (แต่ไม่เคยพูดอ้างอิงถึงสิ่งใดเลย) พูดให้นานพอและดังพอ แล้วในที่สุดผู้คนจะเชื่อมัน หากใครสงสัยหรือซักไซ้เรื่องโกหกนี้ ก็โจมตีหน้าที่การงานและ/หรือสติปัญญาของพวกเขา แล้ว "งานศึกษา" ล่ะ? ไม่มี "งานศึกษาทางวิทยาศาสตร์" ที่พิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์ปลอดภัยเลยหรือ? ในช่วงทศวรรษที่ 1940 นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า ผู้คนจะมีสุขภาพฟันโดยรวมที่ดีขึ้น (โดยส่วนใหญ่เป็นฟันผุน้อยกว่า) หากพวกเขาอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีฟลูออรีนในระดับที่สูงขึ้นตามธรรมชาติ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ได้เกิดคำถามเรื่อง “การศึกษาวิจัย” และมีความกังวลอย่างมากว่าข้อมูลส่วนใหญ่เป็นเพียงการประดิษฐ์ขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ที่มีความผูกพันกับบริษัทที่มีส่วนได้เสียในการขายฟลูออไรด์ การปั้นแต่งข้อมูลในการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกี่ยวข้องกับสุขภาพ มีบริษัทจำนวนหนึ่งที่จะได้รับผลประโยชน์จากสุขภาพที่ย่ำแย่ของสาธารณชน ตรงกันข้ามกับความเห็นส่วนใหญ่ ฟลูออไรด์กลับไม่ได้หยุดฟันผุเลย จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์เป็นพิษต่อระบบประสาทและทำให้เกิดความพิการแต่กำเนิด และโรคกระดูกพรุน ฟลูออไรด์ยังทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ระบบย่อยอาหารและระบบทางเดินหายใจ รวมถึงตับไตและสมอง และอาจนำไปสู่ความบกพร่องทางการเรียนรู้ ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีความบกพร่องในการอ่าน สมาธิสั้น และออทิสติก ในปี 2012 นักวิจัยของฮาร์วาร์ดรายงานว่าการศึกษา 26 จาก 27 ชิ้นที่พวกเขาทบทวนพบว่าไอคิวในวัยเด็กลดลงเมื่อความเข้มข้นของฟลูออไรด์เพิ่มขึ้น รายงานปี 2006 จากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติได้ทบทวนการศึกษาหลายร้อยชิ้นที่เชื่อมโยงน้ำดื่มที่มีฟลูออไรด์กับความเสียหายทางระบบประสาท ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ และ … ใช่แล้ว …. โรคมะเร็ง ในปี 1955 วารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์รายงานว่าจำนวนผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์เพิ่มขึ้น 400% ในช่วงหลายปีหลังจากที่น้ำในซานฟรานซิสโกเริ่มได้รับการผสมฟลูออไรด์ ต่อมาในปี 1977 สภาคองเกรสได้สั่งให้หน่วยงานบริการสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกาดำเนินการศึกษาในสัตว์เพื่อพิจารณาว่าฟลูออไรด์ทำให้เกิดมะเร็งหรือไม่ หลังจากวิเคราะห์ผลการศึกษาในหนูแล้ว พบว่าหนูที่ดื่มน้ำฟลูออไรด์มีเนื้องอกและมะเร็งเพิ่มขึ้นในเซลล์สความัสในช่องปาก ก่อตัวเป็นรูปแบบที่พบได้ยากของมะเร็งกระดูกที่เรียกว่า osteosarcoma และพบว่ามีเนื้องอกในเซลล์ต่อมไทรอยด์ฟอลลิคูลาร์เพิ่มขึ้น การค้นพบที่สำคัญที่สุดคือการเกิดขึ้นของมะเร็งตับรูปแบบที่หายากมาก มะเร็งตับในหนูเพศผู้และเพศเมียที่ได้รับฟลูออไรด์ นอกจากนี้ในปี 1977 ยังแสดงให้เห็นว่าฟลูออไรด์ทำให้เกิดการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งประมาณ 10,000 รายในการศึกษาทางระบาดวิทยาโดย Dr. Dean Burk อดีตหัวหน้าแผนกไซโตเคมี ที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และ Dr. John Yiamouyiannis แม้จะมีการค้นพบในปี 1977 แต่ก็ไม่ได้เต็มใจที่จะเปิดเผยจนกระทั่งปี 1989 ในปี 2006 ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด นักวิจัยระบุถึงความเชื่อมโยงระหว่างฟลูออไรด์กับ osteosarcoma การศึกษานี้นำโดย Dr. Elise Bassin และตีพิมพ์ออนไลน์ใน Cancer Causes and Control (วารสารทางการของศูนย์ป้องกันมะเร็งฮาร์วาร์ด) พบว่ามีความเชื่อมโยงอย่างมากระหว่างน้ำดื่มที่มีฟลูออไรด์กับ osteocarcoma ซึ่งเป็นมะเร็งกระดูกที่หายากและมักเสียชีวิตในเด็กชาย การศึกษายืนยันโดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) และแผนกสุขภาพของรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งพบอัตราการเกิดมะเร็งกระดูกที่เพิ่มขึ้นในเด็กผู้ชายที่ดื่มน้ำประปาที่มีฟลูออไรด์ ผลการวิจัยยืนยันผลการศึกษาของรัฐบาลก่อนหน้าในปี 1990 ที่เกี่ยวข้องกับหนูที่ได้รับฟลูออไรด์ แต่ยังมีอีก... เมื่อเข้าไปในร่างกายของคุณ ฟลูออไรด์จะทำลายเอนไซม์ของคุณด้วยการเปลี่ยนรูปร่าง ร่างกายของคุณต้องอาศัยเอ็นไซม์หลายพันชนิดเพื่อทำปฏิกิริยาของเซลล์จำนวนมาก ถ้าไม่มีเอ็นไซม์ เราทุกคนคงตายกันหมด เอ็นไซม์เป็นเหมือนกุญแจที่เข้ากับระบบล็อคภายในเซลล์ของคุณ อย่างไรก็ตาม เมื่อฟลูออไรด์ทำลายรูปร่างของ "กุญแจ" มันจะไม่เข้ากับตัวล็อคอีกต่อไป และร่างกายของคุณไม่รู้จักเอ็นไซม์อีกต่อไป เอนไซม์ที่เสียหายเหล่านี้สามารถนำไปสู่การสลายคอลลาเจน ความเสียหายของดีเอ็นเอ ความเสียหายของเนื้อเยื่อ และการกดภูมิคุ้มกัน ในช่วงต้นปี 2010 มีเรื่องราวสองเรื่องในอินเดียเปิดเผยว่าเด็ก ๆ ตาบอดและพิการบางส่วน อันเป็นผลมาจากการเติมฟลูออไรด์ลงในน้ำดื่มของพวกเขา และในหมู่บ้าน Gaudiyan ของอินเดีย ประชากรมากกว่าครึ่งมีความผิดปกติของกระดูก ทำให้มีความพิการทางร่างกาย เด็กเกิดมาปกติดี แต่หลังจากที่พวกเขาเริ่มดื่มน้ำที่มีฟลูออไรด์ พวกเขาก็เริ่มมีความพิการที่มือและเท้า เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2010 นิตยสาร Time ระบุว่าฟลูออไรด์เป็นหนึ่งใน "สารพิษในครัวเรือน 10 อันดับแรก" และอธิบายว่าฟลูออไรด์ "เป็นพิษต่อระบบประสาทและอาจเกิดเนื้องอกได้หากกลืนเข้าไป" มีการบอกความจริงนี้ในเกือบทุกประเทศในโลก (รวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย) มันผิดกฎหมายที่จะ "ให้ยาขนานใหญ่" กับประชากรทั้งหมดด้วยสารที่ทุกคนยอมรับว่าเป็นพิษ ด้วยความจริงที่ว่าฟลูออไรด์สามารถสะสมในร่างกายได้ จึงเป็นเหตุให้กฎหมายแห่งสหรัฐอเมริกาได้กำหนดให้กรมการแพทย์ทหารตั้งค่า "ระดับสารปนเปื้อนสูงสุด" (MCL) สำหรับปริมาณฟลูออไรด์ในแหล่งน้ำสาธารณะตามที่ EPA กำหนด มันทำให้ผมสับสนจากการที่ทันตแพทย์ที่ถูกล้างสมองหลายพันคนประกาศอย่างภาคภูมิใจว่าฟลูออไรด์เป็น "สารอาหารมหัศจรรย์" ที่ป้องกันฟันผุและส่งเสริมสุขภาพฟันและเหงือก ผมขอตั้งคำถามหน่อยนะ สารพิษสะสมและผลิตภัณฑ์จากขยะพิษจะเรียกว่า “สารอาหาร” ได้อย่างไร เป็นความโชคร้าย หากคุณต้องใช้ชีวิตในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย หรือแคนาดา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจในระดับสูง (มีความเป็นไปได้มากที่การผสมฟลูออไรด์ในน้ำจะเป็นเรื่องปกติ) หมายความว่ามีการตัดสินใจเกี่ยวกับสุขภาพของคุณโดยที่คุณไม่มีส่วนร่วมในกระบวนการนี้เลย จากเกือบ 320 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ประมาณ 72% บริโภคน้ำที่มีฟลูออไรด์อย่างสม่ำเสมอ และจากข้อมูลของ CDC รัฐทั้งหมด 50 รัฐ ได้ผสมฟลูออไรด์ลงในแหล่งน้ำ แล้วคุณจะทำอะไรได้บ้าง? การกรองแบบ Reverse Osmosis ถือว่ามีประสิทธิภาพในการกำจัดฟลูออไรด์ออกจากน้ำ เกลือฟลูออไรด์จะเข้าไปแทนที่ไอโอดีนซึ่งต่อมไทรอยด์จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน การเสริมไอโอดีนในอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญ การเสริมด้วยอัตราส่วนแมกนีเซียมต่อแคลเซียมสูงจะให้แร่ธาตุที่ช่วยขจัดฟลูออไรด์ นอกจากนี้ วิตามิน K2 ที่สกัดจากเอนไซม์ในถั่วเน่าญี่ปุ่น ยังช่วยป้องกันการกลายเป็นหินปูนฟลูออไรด์ในอวัยวะที่มีเนื้อเยื่ออ่อน เช่น หลอดเลือดแดงและสมอง ใช่แล้ว... อีกอย่างที่คุณทำได้คือหยุดใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ คุณเคยอ่านฉลากหรือไม่? ผมแนะนำให้คุณอ่านซะ ในปี 1997 องค์การอาหารและยาได้สั่งให้ผู้ผลิตยาสีฟันเพิ่มคำเตือนเกี่ยวกับพิษจากยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ทั้งหมดที่จำหน่ายในสหรัฐฯ คำเตือนดังกล่าวระบุว่าควรเก็บให้ห่างจากเด็ก ผมสงสัยว่าเพราะเหตุใดกัน อาจเป็นเพราะถ้าเด็กเล็กกินยาสีฟันทั้งหลอด ปริมาณเท่านี้อาจทำให้ถึงตายได้! บทสรุป ในช่วงต้นปี 2010 มีภูเขาไฟระเบิดขนาดใหญ่ในประเทศไอซ์แลนด์ สัตว์ในไอซ์แลนด์ตอนใต้มีความเสี่ยงที่จะเป็นพิษจากฟลูออไรด์ หากพวกมันสูดดมหรือกลืนกินเถ้าจากการปะทุ พิษจากฟลูออไรด์สามารถนำไปสู่การมีเลือดออกภายใน ความเสียหายของกระดูกในระยะยาว และการสูญเสียฟัน ตามข่าวบีบีซี (19 เมษายน 2010): "ฟลูออไรด์ในเถ้าสร้างกรดในกระเพาะของสัตว์ กัดกร่อนลำไส้และทำให้เลือดออก นอกจากนี้ยังจับกับแคลเซียมในกระแสเลือดและหลังจากได้รับสารหนักในช่วงเวลาหลายวันทำให้กระดูกเปราะบางแม้กระทั่งทำให้ฟันผุ" คนส่วนใหญ่ไม่เคย "เชื่อมโยงจุดต่างๆ" ระหว่างพิษอันน่าสลดใจของสัตว์เหล่านี้อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ทางธรรมชาติ กับพิษของมนุษย์จากการได้รับฟลูออไรด์มากเกินไปในแต่ละวัน มีงานศึกษาซึ่งทบทวนโดยคณะผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 500 ชิ้นที่บันทึกถึงผลข้างเคียงของฟลูออไรด์ตั้งแต่มะเร็งไปจนถึงความเสียหายต่อสมอง แต่ถึงกระนั้น เขตเทศบาลต่างๆ ทั่วสหรัฐอเมริกาก็ซื้อผลิตภัณฑ์นี้จริงๆ แล้วหยดลงในแหล่งน้ำสาธารณะ Dr. Charles G. Heyd อดีตประธานของ AMA กล่าวว่า "ผมรู้สึกตกใจที่ได้เห็นการใช้น้ำเป็นพาหนะส่งยา ฟลูออไรด์เป็นสารพิษกัดกร่อนซึ่งจะส่งผลร้ายแรงในระยะยาว ความพยายามใดๆ ที่จะใช้น้ำในลักษณะนี้เป็นสิ่งที่น่าประณาม" ระบบมันเสียหายไปแล้ว ระบบการดูแลสุขภาพของเรา อุตสาหกรรมยา รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแล สื่อของเรา และแม้แต่ภาคเทคโนโลยีล้วนได้รับความเสียหาย เรากำลังอยู่ในระหว่างสงครามข้อมูล โดยมีการปกปิดและการเซ็นเซอร์ในระดับสูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ชมตัวอย่างสารคดีชุดใหม่ของเรา: PROPAGANDA EXPOSED! ค้นพบความจริงที่ Big Pharma และ Mainstream Media ไม่ต้องการให้คุณเห็น ดูฟรี 100%… และอาจช่วยชีวิตคุณได้ https://go.propaganda-exposed.com/?a_bid=f9f117e3... ผู้เขียน : Ty Bollinger ‼ รวมลิสต์รายชื่อยี่ห้อยาสีฟันที่ไม่มี ❌สารฟลูaaไรด์❌ โดยโค๊ชนาตาลี 🦷 1. ยาสีฟัน Doctor V (แก้ไข ยี่ห้อนี้มี) 🦷 2. ยาสีฟัน Grants Of Australia 🦷 3. ยาสีฟัน Sparkle White (ทุกรุ่น) 🦷 4. ยาสีฟันเอมไทย (AimThai) 🦷 5. ยาสีฟันน้ำมันมะพร้าว (Tropicana) 🦷 6. ยาสีฟันสมุนไพรโครงการหลวง เฮอร์เบิลทูธเพสท์ 🦷 7. ยาสีฟัน Curaprox (Enzycal Zero) 🦷 8. ยาสีฟัน ยาสีฟันโคโค่เมท (Cocomate toothpaste) 🦷 9. ยาสีฟันก๊กเลี้ยง (แก้ไข ยี่ห้อนี้มี สังเกตฝากล่องด้านใน) 🦷 10. ยาสีเด็กฟันคินดี้ ออรัล เจล ออร์แกนิค (Kindee Oral Gel Organic ของเด็ก) 👧🧒 🦷 11. ยาสีฟันดอกบัวคู่ (แก้ไข สูตรดั้งเดิม,สูตรเซนซิที,สูตรเกลือสมุนไพร,สูตรเฟรชแอนด์คูล = ไม่มี สูตรเอเวอร์เฟรชและสูตรฟ้าทลายโจร = มี) 🦷 12. ยาสีฟันสมุนไพรวาซ Wazz 🦷 13. ยาสีฟันใจฟ้า 🦷 14. ยาสีฟัน Dentiste (แค่บางรุ่น ควรอ่านฉลากก่อนซื้อ) 🦷 15. ยาสีฟัน Thieves Young Living 🦷 16. ยาสีฟัน Mama's Choice สูตรธรรมชาติ 🦷 17. ยาสีฟันเพียวรีน (Pureen Maternity Toothpaste) 🦷 18. ยาสีฟันเด็กเพียวรีน Pureen kids (ของเด็ก) 👧🧒 🦷 19. ยาสีฟันเด็กเอมไทย กรีน คิดส์ ออร์แกนิค (ของเด็ก) 👧🧒 🦷 20. ยาสีฟันเด็ก Mama's Choice (ของเด็ก) 👧🧒 🦷 21. ยาสีฟันเด็ก ดอกบัวคู่คิด (ของเด็ก) 👧🧒 🦷 22. ยาสีฟันเจสัน Jason Since 1956 🦷 23. ยาสีฟันซองวิเศษนิยม (มีในร้านสะดวกซื้อ) 🦷 24. ยาสีฟันสมุนไพรทิพย์นิยม 🦷 25. ยาสีฟันวันเดอร์สไมล์ (Wonder Smile) 🦷 26. ยาสีฟันเด็กฟันคินดี้ ออรัล เจล ออร์แกนิค (Kindee Oral Gel Organic ของเด็ก) 👧🧒 🦷 27. ยาสีฟันเทโซโร่ เฟรช 🦷 28. ยาสีฟันไอวิศน์ (IVISN) 🦷 29. ยาสีฟันนกไทย 5 ดาว 4A สูตรดั้งเดิม ขอเพิ่มเติม 🦷 30.ยาสีฟันคอลบาเด้นท์ (Kolbadent) 🦷 31. ยาสีฟันพาโรดอนแทกซ์ (Parodontax) 🦷 32. ยาสีฟันเดนตาเมท (Denta mate) 🦷 33. เกลือสีฟันทรีออร์คิดส์ 🦷 34. ยาสีฟัน Sante ของอ.สันติ มาะดี(หมอนอกกะลา) 🦷 35. ยาสีฟันรุ่งอรุณ 🦷 36. ยาสีฟันไบโอมิเนอรัลส์ (ยี่ห้อนี้ต้องขอขอบคุณครับดร.(ผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง) ที่มาช่วยกิจกรรมกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ได้เคลื่อนไหวช่วยคนไทยในการจัดกิจกรรม แอดไลน์ด้วย QR Code ในภาพเมื่อท่านแจ้งแอดมินตอนสั่งซื้อว่ามาจากกลุ่ม คนไทยพิทักษ์สิทธิ์ กำไรจะถูกหักเข้ากองทุนสำหรับกิจกรรมกลุ่ม) เป็นต้น https://youtube.com/shorts/cj_brYDAlBM?si=waEMU4F2I0-CWcny ขอบคุณเจ้าของบทความต่างๆ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 สัญญาณที่บ่งชี้ว่า ร่างกายเรา #เริ่มไม่แข็งแรงอย่างที่เราคิด และ #จำเป็นต้องเริ่มดูแลร่างกาย

    แม้ว่าเราจะรู้สึกว่า #แข็งแรงดี แต่บางครั้งร่างกายก็ส่งสัญญาณบอกเราโดยที่เราอาจไม่สังเกตเห็น สิ่งเหล่านี้เป็น สัญญาณเริ่มต้น ที่บ่งบอกว่าร่างกายของคุณอาจเริ่มเสื่อมลง และ คุณควรเริ่มให้ความสนใจเรื่องการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้นแล้ว

    1. เริ่ม #อ่อนเพลียหรือเหนื่อยง่าย

    หากคุณพบว่า "ตัวเองเหนื่อยง่ายขึ้น" จาก "กิจวัตรที่เคยทำได้โดยไม่เหนื่อย" เช่น การเดินขึ้นบันได การทำงานบ้าน หรือการออกกำลังกาย นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ร่างกายกำลังบอกว่า ระบบหัวใจและหลอดเลือดอาจเริ่มเสื่อมลง

    การเหนื่อยง่ายโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนมักเกิดจากการไหลเวียนของเลือดที่ไม่เพียงพอหรือการทำงานของหัวใจที่อ่อนแอลง การเริ่มใส่ใจในเรื่องการออกกำลังกายและโภชนาการจะช่วยฟื้นฟูระบบหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรงขึ้นได้ (North & Sinclair, 2012).

    2. เริ่ม #ฟื้นฟูร่างกายช้าลง

    ถ้าคุณสังเกตว่า "การบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ" เช่น แผลถลอก รอยฟกช้ำ หรือ "อาการเมื่อยล้าจากการออกกำลังกาย" "ฟื้นตัวช้า กว่าที่เคยเป็น" นั่นเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่า ระบบภูมิคุ้มกันของคุณอาจไม่แข็งแรงเท่าเดิม

    การฟื้นตัวช้าลงบ่งชี้ถึงการเสื่อมของระบบซ่อมแซมร่างกาย คุณอาจต้องเริ่มดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เสริมด้วยวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกาย (Garber et al., 2011).

    3. เริ่ม #มีปัญหาการนอนหลับ

    การนอนหลับเป็นกระบวนการที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง หากคุณเริ่มมีปัญหาการนอน เช่น "การนอนไม่หลับ" "หลับไม่สนิท" หรือ "การตื่นขึ้นมากลางดึกบ่อยๆ" นี่อาจเป็นสัญญาณว่า ร่างกายของคุณอยู่ในสภาวะเครียดมากเกินไป

    โดยเฉพาะแม้ว่าในวันที่คุณไม่มีเรื่องที่ต้องกังวล แต่ก็ยังนอนไม่หลับ นั่นหมายความว่า สภาวะเครียดของคุณ เป็น "ความเครียดทางกาย" ที่อาจมีสาเหตุหลักมาจากสิ่งพิษที่ร่างกายสะสมเริ่มมากพอจนไปรบกวนระบบประสาทของคุณ

    ซึ่ง ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่างๆ เช่น ระบบประสาทและระบบฮอร์โมน การจัดการกับความเครียด และ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการนอน เป็นเรื่องสำคัญในการฟื้นฟูร่างกาย (Lee et al., 2003).

    หากคุณพบว่าร่างกายเริ่มมีสัญญาณเหล่านี้ อาจเป็นเวลาที่ควรเริ่มใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยปรับปรุงโภชนาการ การออกกำลังกาย และการนอนหลับ เพื่อรักษาความแข็งแรงของร่างกายและป้องกันโรคในระยะยาว

    --------

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือ คู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่จะช่วยให้การดูแลสุขภาพร่างกายของคุณ ได้ผลมากขึ้น

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการช่วยขับสารพิษและอนุภาคโลหะหนักที่อาจสะสมในร่างกาย โดยเฉพาะในเนื้อเยื่อและอวัยวะที่สำคัญ เช่น ตับและไต เมื่อสิ่งพิษในร่างกายลดลง ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาทและระบบภูมิคุ้มกัน ก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยลดความเครียดทางกายและส่งเสริมการนอนหลับที่ดีขึ้น

    นอกจากนี้ คลอเรลล่ายังอุดมไปด้วย CGF (Chlorella Growth Factor) ซึ่งช่วยส่งเสริมการซ่อมแซมเซลล์และสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกายหลังจากการใช้งานหนักหรือต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้า ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้น (Merchant, 2001; Yamaguchi et al., 2011).

    #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบที่ช่วยลดอาการอักเสบขนาดเล็กที่เกิดขึ้นจากการใช้งานร่างกายเป็นประจำ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารฟิโคไซยานิน (Phycocyanin) ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ส่งเสริมการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อหลังการออกกำลังกายหรือความเหนื่อยล้า

    อีกทั้งยังมีสารอาหารที่จำเป็นเช่นโปรตีนและวิตามินที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ และช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้รวดเร็วขึ้น (Bermejo et al., 2008; Belay et al., 1993).

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดี ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุข

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 สัญญาณที่บ่งชี้ว่า ร่างกายเรา #เริ่มไม่แข็งแรงอย่างที่เราคิด และ #จำเป็นต้องเริ่มดูแลร่างกาย แม้ว่าเราจะรู้สึกว่า #แข็งแรงดี แต่บางครั้งร่างกายก็ส่งสัญญาณบอกเราโดยที่เราอาจไม่สังเกตเห็น สิ่งเหล่านี้เป็น สัญญาณเริ่มต้น ที่บ่งบอกว่าร่างกายของคุณอาจเริ่มเสื่อมลง และ คุณควรเริ่มให้ความสนใจเรื่องการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้นแล้ว 1. เริ่ม #อ่อนเพลียหรือเหนื่อยง่าย หากคุณพบว่า "ตัวเองเหนื่อยง่ายขึ้น" จาก "กิจวัตรที่เคยทำได้โดยไม่เหนื่อย" เช่น การเดินขึ้นบันได การทำงานบ้าน หรือการออกกำลังกาย นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ร่างกายกำลังบอกว่า ระบบหัวใจและหลอดเลือดอาจเริ่มเสื่อมลง การเหนื่อยง่ายโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนมักเกิดจากการไหลเวียนของเลือดที่ไม่เพียงพอหรือการทำงานของหัวใจที่อ่อนแอลง การเริ่มใส่ใจในเรื่องการออกกำลังกายและโภชนาการจะช่วยฟื้นฟูระบบหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรงขึ้นได้ (North & Sinclair, 2012). 2. เริ่ม #ฟื้นฟูร่างกายช้าลง ถ้าคุณสังเกตว่า "การบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ" เช่น แผลถลอก รอยฟกช้ำ หรือ "อาการเมื่อยล้าจากการออกกำลังกาย" "ฟื้นตัวช้า กว่าที่เคยเป็น" นั่นเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่า ระบบภูมิคุ้มกันของคุณอาจไม่แข็งแรงเท่าเดิม การฟื้นตัวช้าลงบ่งชี้ถึงการเสื่อมของระบบซ่อมแซมร่างกาย คุณอาจต้องเริ่มดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เสริมด้วยวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกาย (Garber et al., 2011). 3. เริ่ม #มีปัญหาการนอนหลับ การนอนหลับเป็นกระบวนการที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง หากคุณเริ่มมีปัญหาการนอน เช่น "การนอนไม่หลับ" "หลับไม่สนิท" หรือ "การตื่นขึ้นมากลางดึกบ่อยๆ" นี่อาจเป็นสัญญาณว่า ร่างกายของคุณอยู่ในสภาวะเครียดมากเกินไป โดยเฉพาะแม้ว่าในวันที่คุณไม่มีเรื่องที่ต้องกังวล แต่ก็ยังนอนไม่หลับ นั่นหมายความว่า สภาวะเครียดของคุณ เป็น "ความเครียดทางกาย" ที่อาจมีสาเหตุหลักมาจากสิ่งพิษที่ร่างกายสะสมเริ่มมากพอจนไปรบกวนระบบประสาทของคุณ ซึ่ง ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่างๆ เช่น ระบบประสาทและระบบฮอร์โมน การจัดการกับความเครียด และ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการนอน เป็นเรื่องสำคัญในการฟื้นฟูร่างกาย (Lee et al., 2003). หากคุณพบว่าร่างกายเริ่มมีสัญญาณเหล่านี้ อาจเป็นเวลาที่ควรเริ่มใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยปรับปรุงโภชนาการ การออกกำลังกาย และการนอนหลับ เพื่อรักษาความแข็งแรงของร่างกายและป้องกันโรคในระยะยาว -------- คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือ คู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่จะช่วยให้การดูแลสุขภาพร่างกายของคุณ ได้ผลมากขึ้น #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการช่วยขับสารพิษและอนุภาคโลหะหนักที่อาจสะสมในร่างกาย โดยเฉพาะในเนื้อเยื่อและอวัยวะที่สำคัญ เช่น ตับและไต เมื่อสิ่งพิษในร่างกายลดลง ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาทและระบบภูมิคุ้มกัน ก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยลดความเครียดทางกายและส่งเสริมการนอนหลับที่ดีขึ้น นอกจากนี้ คลอเรลล่ายังอุดมไปด้วย CGF (Chlorella Growth Factor) ซึ่งช่วยส่งเสริมการซ่อมแซมเซลล์และสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกายหลังจากการใช้งานหนักหรือต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้า ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้น (Merchant, 2001; Yamaguchi et al., 2011). #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบที่ช่วยลดอาการอักเสบขนาดเล็กที่เกิดขึ้นจากการใช้งานร่างกายเป็นประจำ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารฟิโคไซยานิน (Phycocyanin) ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ส่งเสริมการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อหลังการออกกำลังกายหรือความเหนื่อยล้า อีกทั้งยังมีสารอาหารที่จำเป็นเช่นโปรตีนและวิตามินที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ และช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้รวดเร็วขึ้น (Bermejo et al., 2008; Belay et al., 1993). โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดี ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุข #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 สัญญาณที่บ่งชี้ว่า ร่างกายเรา #เริ่มไม่แข็งแรงอย่างที่เราคิด และ #จำเป็นต้องเริ่มดูแลร่างกาย

    แม้ว่าเราจะรู้สึกว่า #แข็งแรงดี แต่บางครั้งร่างกายก็ส่งสัญญาณบอกเราโดยที่เราอาจไม่สังเกตเห็น สิ่งเหล่านี้เป็น สัญญาณเริ่มต้น ที่บ่งบอกว่าร่างกายของคุณอาจเริ่มเสื่อมลง และ คุณควรเริ่มให้ความสนใจเรื่องการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้นแล้ว

    1. เริ่ม #อ่อนเพลียหรือเหนื่อยง่าย

    หากคุณพบว่า "ตัวเองเหนื่อยง่ายขึ้น" จาก "กิจวัตรที่เคยทำได้โดยไม่เหนื่อย" เช่น การเดินขึ้นบันได การทำงานบ้าน หรือการออกกำลังกาย นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ร่างกายกำลังบอกว่า ระบบหัวใจและหลอดเลือดอาจเริ่มเสื่อมลง

    การเหนื่อยง่ายโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนมักเกิดจากการไหลเวียนของเลือดที่ไม่เพียงพอหรือการทำงานของหัวใจที่อ่อนแอลง การเริ่มใส่ใจในเรื่องการออกกำลังกายและโภชนาการจะช่วยฟื้นฟูระบบหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรงขึ้นได้ (North & Sinclair, 2012).

    2. เริ่ม #ฟื้นฟูร่างกายช้าลง

    ถ้าคุณสังเกตว่า "การบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ" เช่น แผลถลอก รอยฟกช้ำ หรือ "อาการเมื่อยล้าจากการออกกำลังกาย" "ฟื้นตัวช้า กว่าที่เคยเป็น" นั่นเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่า ระบบภูมิคุ้มกันของคุณอาจไม่แข็งแรงเท่าเดิม

    การฟื้นตัวช้าลงบ่งชี้ถึงการเสื่อมของระบบซ่อมแซมร่างกาย คุณอาจต้องเริ่มดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เสริมด้วยวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกาย (Garber et al., 2011).

    3. เริ่ม #มีปัญหาการนอนหลับ

    การนอนหลับเป็นกระบวนการที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง หากคุณเริ่มมีปัญหาการนอน เช่น "การนอนไม่หลับ" "หลับไม่สนิท" หรือ "การตื่นขึ้นมากลางดึกบ่อยๆ" นี่อาจเป็นสัญญาณว่า ร่างกายของคุณอยู่ในสภาวะเครียดมากเกินไป

    โดยเฉพาะแม้ว่าในวันที่คุณไม่มีเรื่องที่ต้องกังวล แต่ก็ยังนอนไม่หลับ นั่นหมายความว่า สภาวะเครียดของคุณ เป็น "ความเครียดทางกาย" ที่อาจมีสาเหตุหลักมาจากสิ่งพิษที่ร่างกายสะสมเริ่มมากพอจนไปรบกวนระบบประสาทของคุณ

    ซึ่ง ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่างๆ เช่น ระบบประสาทและระบบฮอร์โมน การจัดการกับความเครียด และ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการนอน เป็นเรื่องสำคัญในการฟื้นฟูร่างกาย (Lee et al., 2003).

    หากคุณพบว่าร่างกายเริ่มมีสัญญาณเหล่านี้ อาจเป็นเวลาที่ควรเริ่มใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยปรับปรุงโภชนาการ การออกกำลังกาย และการนอนหลับ เพื่อรักษาความแข็งแรงของร่างกายและป้องกันโรคในระยะยาว

    --------

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือ คู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่จะช่วยให้การดูแลสุขภาพร่างกายของคุณ ได้ผลมากขึ้น

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการช่วยขับสารพิษและอนุภาคโลหะหนักที่อาจสะสมในร่างกาย โดยเฉพาะในเนื้อเยื่อและอวัยวะที่สำคัญ เช่น ตับและไต เมื่อสิ่งพิษในร่างกายลดลง ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาทและระบบภูมิคุ้มกัน ก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยลดความเครียดทางกายและส่งเสริมการนอนหลับที่ดีขึ้น

    นอกจากนี้ คลอเรลล่ายังอุดมไปด้วย CGF (Chlorella Growth Factor) ซึ่งช่วยส่งเสริมการซ่อมแซมเซลล์และสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกายหลังจากการใช้งานหนักหรือต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้า ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้น (Merchant, 2001; Yamaguchi et al., 2011).

    #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบที่ช่วยลดอาการอักเสบขนาดเล็กที่เกิดขึ้นจากการใช้งานร่างกายเป็นประจำ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารฟิโคไซยานิน (Phycocyanin) ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ส่งเสริมการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อหลังการออกกำลังกายหรือความเหนื่อยล้า

    อีกทั้งยังมีสารอาหารที่จำเป็นเช่นโปรตีนและวิตามินที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ และช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้รวดเร็วขึ้น (Bermejo et al., 2008; Belay et al., 1993).

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดี ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุข

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 สัญญาณที่บ่งชี้ว่า ร่างกายเรา #เริ่มไม่แข็งแรงอย่างที่เราคิด และ #จำเป็นต้องเริ่มดูแลร่างกาย แม้ว่าเราจะรู้สึกว่า #แข็งแรงดี แต่บางครั้งร่างกายก็ส่งสัญญาณบอกเราโดยที่เราอาจไม่สังเกตเห็น สิ่งเหล่านี้เป็น สัญญาณเริ่มต้น ที่บ่งบอกว่าร่างกายของคุณอาจเริ่มเสื่อมลง และ คุณควรเริ่มให้ความสนใจเรื่องการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้นแล้ว 1. เริ่ม #อ่อนเพลียหรือเหนื่อยง่าย หากคุณพบว่า "ตัวเองเหนื่อยง่ายขึ้น" จาก "กิจวัตรที่เคยทำได้โดยไม่เหนื่อย" เช่น การเดินขึ้นบันได การทำงานบ้าน หรือการออกกำลังกาย นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ร่างกายกำลังบอกว่า ระบบหัวใจและหลอดเลือดอาจเริ่มเสื่อมลง การเหนื่อยง่ายโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนมักเกิดจากการไหลเวียนของเลือดที่ไม่เพียงพอหรือการทำงานของหัวใจที่อ่อนแอลง การเริ่มใส่ใจในเรื่องการออกกำลังกายและโภชนาการจะช่วยฟื้นฟูระบบหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรงขึ้นได้ (North & Sinclair, 2012). 2. เริ่ม #ฟื้นฟูร่างกายช้าลง ถ้าคุณสังเกตว่า "การบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ" เช่น แผลถลอก รอยฟกช้ำ หรือ "อาการเมื่อยล้าจากการออกกำลังกาย" "ฟื้นตัวช้า กว่าที่เคยเป็น" นั่นเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่า ระบบภูมิคุ้มกันของคุณอาจไม่แข็งแรงเท่าเดิม การฟื้นตัวช้าลงบ่งชี้ถึงการเสื่อมของระบบซ่อมแซมร่างกาย คุณอาจต้องเริ่มดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เสริมด้วยวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกาย (Garber et al., 2011). 3. เริ่ม #มีปัญหาการนอนหลับ การนอนหลับเป็นกระบวนการที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง หากคุณเริ่มมีปัญหาการนอน เช่น "การนอนไม่หลับ" "หลับไม่สนิท" หรือ "การตื่นขึ้นมากลางดึกบ่อยๆ" นี่อาจเป็นสัญญาณว่า ร่างกายของคุณอยู่ในสภาวะเครียดมากเกินไป โดยเฉพาะแม้ว่าในวันที่คุณไม่มีเรื่องที่ต้องกังวล แต่ก็ยังนอนไม่หลับ นั่นหมายความว่า สภาวะเครียดของคุณ เป็น "ความเครียดทางกาย" ที่อาจมีสาเหตุหลักมาจากสิ่งพิษที่ร่างกายสะสมเริ่มมากพอจนไปรบกวนระบบประสาทของคุณ ซึ่ง ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่างๆ เช่น ระบบประสาทและระบบฮอร์โมน การจัดการกับความเครียด และ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการนอน เป็นเรื่องสำคัญในการฟื้นฟูร่างกาย (Lee et al., 2003). หากคุณพบว่าร่างกายเริ่มมีสัญญาณเหล่านี้ อาจเป็นเวลาที่ควรเริ่มใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยปรับปรุงโภชนาการ การออกกำลังกาย และการนอนหลับ เพื่อรักษาความแข็งแรงของร่างกายและป้องกันโรคในระยะยาว -------- คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือ คู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่จะช่วยให้การดูแลสุขภาพร่างกายของคุณ ได้ผลมากขึ้น #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการช่วยขับสารพิษและอนุภาคโลหะหนักที่อาจสะสมในร่างกาย โดยเฉพาะในเนื้อเยื่อและอวัยวะที่สำคัญ เช่น ตับและไต เมื่อสิ่งพิษในร่างกายลดลง ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาทและระบบภูมิคุ้มกัน ก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยลดความเครียดทางกายและส่งเสริมการนอนหลับที่ดีขึ้น นอกจากนี้ คลอเรลล่ายังอุดมไปด้วย CGF (Chlorella Growth Factor) ซึ่งช่วยส่งเสริมการซ่อมแซมเซลล์และสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกายหลังจากการใช้งานหนักหรือต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้า ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้น (Merchant, 2001; Yamaguchi et al., 2011). #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบที่ช่วยลดอาการอักเสบขนาดเล็กที่เกิดขึ้นจากการใช้งานร่างกายเป็นประจำ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารฟิโคไซยานิน (Phycocyanin) ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ส่งเสริมการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อหลังการออกกำลังกายหรือความเหนื่อยล้า อีกทั้งยังมีสารอาหารที่จำเป็นเช่นโปรตีนและวิตามินที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ และช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้รวดเร็วขึ้น (Bermejo et al., 2008; Belay et al., 1993). โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดี ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุข #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจาะลึกการเดินทางอันลึกลับของทหารผ่านศึกเกษียณอายุราชการของกองทัพสหรัฐฯ ที่เข้ารับการรักษาทางการแพทย์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตและล้ำสมัยในฐานทัพลับ ซึ่งเผยให้เห็นความก้าวหน้าด้านการดูแลสุขภาพ เทคโนโลยี

    https://amg-news.com/breaking-jps-shocking-med-beds-medical-treatment-heres-what-happened-the-intriguing-experience-of-a-retired-us-army-veteran-in-a-secret-base-an-unveiling-of-med-beds/
    เจาะลึกการเดินทางอันลึกลับของทหารผ่านศึกเกษียณอายุราชการของกองทัพสหรัฐฯ ที่เข้ารับการรักษาทางการแพทย์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตและล้ำสมัยในฐานทัพลับ ซึ่งเผยให้เห็นความก้าวหน้าด้านการดูแลสุขภาพ เทคโนโลยี https://amg-news.com/breaking-jps-shocking-med-beds-medical-treatment-heres-what-happened-the-intriguing-experience-of-a-retired-us-army-veteran-in-a-secret-base-an-unveiling-of-med-beds/
    AMG-NEWS.COM
    BREAKING: JP's Shocking Med Beds Medical Treatment Here's What Happened - The Intriguing Experience of a Retired US Army Veteran in a Secret Base: An Unveiling of Med Beds - amg-news.com - American Media Group
    BREAKING: JP's Shocking Med Beds Medical Treatment Here's What Happened - The Intriguing Experience of a Retired US Army Veteran in a Secret Base: An Unveiling of Med Beds
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • ** ขอบคุณบทความจาก คุณเอส @s.supershe **

    " 74% ของสารพิษตกค้างเป็น #สารดูดซึม "

    หมายความว่า​ สารพิษเหล่านี้จะซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อของผักและผลไม้ ทำให้การล้างภายนอกไม่สามารถกำจัดสารออกได้อย่างสมบูรณ์ แม้ว่าการใช้เบกกิ้งโซดา​ จะสามารถลดการตกค้างของสารเคมีบนพื้นผิวของผักผลไม้ได้บ้าง (แค่ได้บ้าง​ ไม่ได้หมายความว่าได้ทั้งหมด)​

    แต่สำหรับ ** #สารที่ซึมเข้าไปในเนื้อของพืช ** #เบกกิ้งโซดา ไม่สามารถช่วยได้ในระดับที่มีประสิทธิภาพ

    -----

    แต่ข่าวดี​ก็คือ ​#คลอเรลล่าที่ปลอดภัย​ สามารถ​จับสาร​พิษ​ ที่ตรวจพบในตัวอย่างองุ่นที่ปรากฏเป็นข่าวได้หลายตัว

    อาทิเช่น​

    1. #Carbendazim (คาร์เบนดาซิม): เป็นสารฆ่าเชื้อรา​ ที่มีผลต่อระบบสืบพันธุ์ คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​มีคุณสมบัติในการจับสารพิษและช่วยขับออกจากร่างกายได้

    2. #Chlorpyrifos (คลอร์ไพริฟอส): ยาฆ่าแมลง​ ที่มีผลต่อระบบประสาท คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​มีความสามารถ​ในการขับสารพิษนี้ออกจากร่างกาย

    ⚠️เป็นสารที่มีความเป็นพิษต่อระบบประสาทอย่างรุนแรง!! ส่งผลกระทบต่อ​ พัฒนาการของสมอง โดยเฉพาะใน **เด็ก และ ทารกในครรภ์**

    3. #Imidacloprid (อิมิดาคลอพริด): ยาฆ่าแมลง​ ที่อาจทำลายระบบประสาทส่วนกลาง คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​สามารถจับสารนี้ได้ในระดับหนึ่ง

    4. #Imazalil (อิมาซาลิล): เป็นสารฆ่า! เชื้อรา​ที่ใช้กันในผลไม้ คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีความสามารถในการช่วยขับสารพิษที่ตกค้างในร่างกายได้

    -----

    📍โดยใช้กลไกที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติทางเคมีและโครงสร้างทางเซลล์ของมัน ซึ่งกลไกหลักๆ มีดังนี้:

    1. #การจับสารพิษด้วยกลุ่มโปรตีนพิเศษ (Metal Binding Protein):

    คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีโปรตีนที่เรียกว่า Metal Binding Protein ซึ่งสามารถจับกับโลหะหนัก​ และ​ สารพิษที่มีอนุภาคเล็กได้ โปรตีนนี้มีคุณสมบัติในการดูดซับสารพิษที่มีโครงสร้างเฉพาะ​ ทำให้สามารถขับสารออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้นผ่านทางระบบขับถ่าย สารพิษอย่าง Carbendazim และ Imidacloprid สามารถถูกจับได้โดยกลไกนี้ เนื่องจากมีการจับกับโปรตีนที่คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ผลิตออกมาเพื่อป้องกันการสะสมของสารพิษ (Shim et al., 2008; Merchant, 2001).

    2. #การดูดซึมผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ (Cell Membrane Absorption):

    คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีเซลล์ผนังที่แข็งแรง​ และ​ มีคุณสมบัติเป็นสารดูดซับที่มีประสิทธิภาพสูง โดยสามารถจับสารพิษที่มีโครงสร้างทางเคมีที่ซับซ้อน เช่น Chlorpyrifos และ Imazalil ได้ การดูดซึมผ่านผนังเซลล์ของคลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ ช่วยขจัดสารพิษเหล่านี้ออกจากกระแสเลือด และทำให้ร่างกายขับออกทางระบบขับถ่ายได้ง่าย (Queiroz et al., 2020; Jeon et al., 2016).

    3. #การกำจัดอนุมูลอิสระและสารพิษในระดับเซลล์ (Detoxification at Cellular Level):

    คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการป้องกันไม่ให้เซลล์ถูกทำลายจากสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย สารพิษอย่าง Chlorpyrifos ที่มีผลต่อระบบประสาทมักสร้างอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งคลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีคุณสมบัติช่วยลดผลกระทบนี้ และช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย (Bermejo et al., 2008; Jeon et al., 2016).

    -----

    ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุข

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    ** ขอบคุณบทความจาก คุณเอส @s.supershe ** " 74% ของสารพิษตกค้างเป็น #สารดูดซึม " หมายความว่า​ สารพิษเหล่านี้จะซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อของผักและผลไม้ ทำให้การล้างภายนอกไม่สามารถกำจัดสารออกได้อย่างสมบูรณ์ แม้ว่าการใช้เบกกิ้งโซดา​ จะสามารถลดการตกค้างของสารเคมีบนพื้นผิวของผักผลไม้ได้บ้าง (แค่ได้บ้าง​ ไม่ได้หมายความว่าได้ทั้งหมด)​ แต่สำหรับ ** #สารที่ซึมเข้าไปในเนื้อของพืช ** #เบกกิ้งโซดา ไม่สามารถช่วยได้ในระดับที่มีประสิทธิภาพ ----- แต่ข่าวดี​ก็คือ ​#คลอเรลล่าที่ปลอดภัย​ สามารถ​จับสาร​พิษ​ ที่ตรวจพบในตัวอย่างองุ่นที่ปรากฏเป็นข่าวได้หลายตัว อาทิเช่น​ 1. #Carbendazim (คาร์เบนดาซิม): เป็นสารฆ่าเชื้อรา​ ที่มีผลต่อระบบสืบพันธุ์ คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​มีคุณสมบัติในการจับสารพิษและช่วยขับออกจากร่างกายได้ 2. #Chlorpyrifos (คลอร์ไพริฟอส): ยาฆ่าแมลง​ ที่มีผลต่อระบบประสาท คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​มีความสามารถ​ในการขับสารพิษนี้ออกจากร่างกาย ⚠️เป็นสารที่มีความเป็นพิษต่อระบบประสาทอย่างรุนแรง!! ส่งผลกระทบต่อ​ พัฒนาการของสมอง โดยเฉพาะใน **เด็ก และ ทารกในครรภ์** 3. #Imidacloprid (อิมิดาคลอพริด): ยาฆ่าแมลง​ ที่อาจทำลายระบบประสาทส่วนกลาง คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​สามารถจับสารนี้ได้ในระดับหนึ่ง 4. #Imazalil (อิมาซาลิล): เป็นสารฆ่า! เชื้อรา​ที่ใช้กันในผลไม้ คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีความสามารถในการช่วยขับสารพิษที่ตกค้างในร่างกายได้ ----- 📍โดยใช้กลไกที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติทางเคมีและโครงสร้างทางเซลล์ของมัน ซึ่งกลไกหลักๆ มีดังนี้: 1. #การจับสารพิษด้วยกลุ่มโปรตีนพิเศษ (Metal Binding Protein): คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีโปรตีนที่เรียกว่า Metal Binding Protein ซึ่งสามารถจับกับโลหะหนัก​ และ​ สารพิษที่มีอนุภาคเล็กได้ โปรตีนนี้มีคุณสมบัติในการดูดซับสารพิษที่มีโครงสร้างเฉพาะ​ ทำให้สามารถขับสารออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้นผ่านทางระบบขับถ่าย สารพิษอย่าง Carbendazim และ Imidacloprid สามารถถูกจับได้โดยกลไกนี้ เนื่องจากมีการจับกับโปรตีนที่คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ผลิตออกมาเพื่อป้องกันการสะสมของสารพิษ (Shim et al., 2008; Merchant, 2001). 2. #การดูดซึมผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ (Cell Membrane Absorption): คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีเซลล์ผนังที่แข็งแรง​ และ​ มีคุณสมบัติเป็นสารดูดซับที่มีประสิทธิภาพสูง โดยสามารถจับสารพิษที่มีโครงสร้างทางเคมีที่ซับซ้อน เช่น Chlorpyrifos และ Imazalil ได้ การดูดซึมผ่านผนังเซลล์ของคลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ ช่วยขจัดสารพิษเหล่านี้ออกจากกระแสเลือด และทำให้ร่างกายขับออกทางระบบขับถ่ายได้ง่าย (Queiroz et al., 2020; Jeon et al., 2016). 3. #การกำจัดอนุมูลอิสระและสารพิษในระดับเซลล์ (Detoxification at Cellular Level): คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการป้องกันไม่ให้เซลล์ถูกทำลายจากสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย สารพิษอย่าง Chlorpyrifos ที่มีผลต่อระบบประสาทมักสร้างอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งคลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีคุณสมบัติช่วยลดผลกระทบนี้ และช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย (Bermejo et al., 2008; Jeon et al., 2016). ----- ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุข #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 337 มุมมอง 0 รีวิว
  • ** ขอบคุณบทความจาก คุณเอส @s.supershe **

    " 74% ของสารพิษตกค้างเป็น #สารดูดซึม "

    หมายความว่า​ สารพิษเหล่านี้จะซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อของผักและผลไม้ ทำให้การล้างภายนอกไม่สามารถกำจัดสารออกได้อย่างสมบูรณ์ แม้ว่าการใช้เบกกิ้งโซดา​ จะสามารถลดการตกค้างของสารเคมีบนพื้นผิวของผักผลไม้ได้บ้าง (แค่ได้บ้าง​ ไม่ได้หมายความว่าได้ทั้งหมด)​

    แต่สำหรับ ** #สารที่ซึมเข้าไปในเนื้อของพืช ** #เบกกิ้งโซดา ไม่สามารถช่วยได้ในระดับที่มีประสิทธิภาพ

    -----

    แต่ข่าวดี​ก็คือ ​#คลอเรลล่าที่ปลอดภัย​ สามารถ​จับสาร​พิษ​ ที่ตรวจพบในตัวอย่างองุ่นที่ปรากฏเป็นข่าวได้หลายตัว

    อาทิเช่น​

    1. #Carbendazim (คาร์เบนดาซิม): เป็นสารฆ่าเชื้อรา​ ที่มีผลต่อระบบสืบพันธุ์ คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​มีคุณสมบัติในการจับสารพิษและช่วยขับออกจากร่างกายได้

    2. #Chlorpyrifos (คลอร์ไพริฟอส): ยาฆ่าแมลง​ ที่มีผลต่อระบบประสาท คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​มีความสามารถ​ในการขับสารพิษนี้ออกจากร่างกาย

    ⚠️เป็นสารที่มีความเป็นพิษต่อระบบประสาทอย่างรุนแรง!! ส่งผลกระทบต่อ​ พัฒนาการของสมอง โดยเฉพาะใน **เด็ก และ ทารกในครรภ์**

    3. #Imidacloprid (อิมิดาคลอพริด): ยาฆ่าแมลง​ ที่อาจทำลายระบบประสาทส่วนกลาง คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​สามารถจับสารนี้ได้ในระดับหนึ่ง

    4. #Imazalil (อิมาซาลิล): เป็นสารฆ่า! เชื้อรา​ที่ใช้กันในผลไม้ คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีความสามารถในการช่วยขับสารพิษที่ตกค้างในร่างกายได้

    -----

    📍โดยใช้กลไกที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติทางเคมีและโครงสร้างทางเซลล์ของมัน ซึ่งกลไกหลักๆ มีดังนี้:

    1. #การจับสารพิษด้วยกลุ่มโปรตีนพิเศษ (Metal Binding Protein):

    คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีโปรตีนที่เรียกว่า Metal Binding Protein ซึ่งสามารถจับกับโลหะหนัก​ และ​ สารพิษที่มีอนุภาคเล็กได้ โปรตีนนี้มีคุณสมบัติในการดูดซับสารพิษที่มีโครงสร้างเฉพาะ​ ทำให้สามารถขับสารออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้นผ่านทางระบบขับถ่าย สารพิษอย่าง Carbendazim และ Imidacloprid สามารถถูกจับได้โดยกลไกนี้ เนื่องจากมีการจับกับโปรตีนที่คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ผลิตออกมาเพื่อป้องกันการสะสมของสารพิษ (Shim et al., 2008; Merchant, 2001).

    2. #การดูดซึมผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ (Cell Membrane Absorption):

    คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีเซลล์ผนังที่แข็งแรง​ และ​ มีคุณสมบัติเป็นสารดูดซับที่มีประสิทธิภาพสูง โดยสามารถจับสารพิษที่มีโครงสร้างทางเคมีที่ซับซ้อน เช่น Chlorpyrifos และ Imazalil ได้ การดูดซึมผ่านผนังเซลล์ของคลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ ช่วยขจัดสารพิษเหล่านี้ออกจากกระแสเลือด และทำให้ร่างกายขับออกทางระบบขับถ่ายได้ง่าย (Queiroz et al., 2020; Jeon et al., 2016).

    3. #การกำจัดอนุมูลอิสระและสารพิษในระดับเซลล์ (Detoxification at Cellular Level):

    คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการป้องกันไม่ให้เซลล์ถูกทำลายจากสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย สารพิษอย่าง Chlorpyrifos ที่มีผลต่อระบบประสาทมักสร้างอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งคลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีคุณสมบัติช่วยลดผลกระทบนี้ และช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย (Bermejo et al., 2008; Jeon et al., 2016).

    -----

    ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุข

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    ** ขอบคุณบทความจาก คุณเอส @s.supershe ** " 74% ของสารพิษตกค้างเป็น #สารดูดซึม " หมายความว่า​ สารพิษเหล่านี้จะซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อของผักและผลไม้ ทำให้การล้างภายนอกไม่สามารถกำจัดสารออกได้อย่างสมบูรณ์ แม้ว่าการใช้เบกกิ้งโซดา​ จะสามารถลดการตกค้างของสารเคมีบนพื้นผิวของผักผลไม้ได้บ้าง (แค่ได้บ้าง​ ไม่ได้หมายความว่าได้ทั้งหมด)​ แต่สำหรับ ** #สารที่ซึมเข้าไปในเนื้อของพืช ** #เบกกิ้งโซดา ไม่สามารถช่วยได้ในระดับที่มีประสิทธิภาพ ----- แต่ข่าวดี​ก็คือ ​#คลอเรลล่าที่ปลอดภัย​ สามารถ​จับสาร​พิษ​ ที่ตรวจพบในตัวอย่างองุ่นที่ปรากฏเป็นข่าวได้หลายตัว อาทิเช่น​ 1. #Carbendazim (คาร์เบนดาซิม): เป็นสารฆ่าเชื้อรา​ ที่มีผลต่อระบบสืบพันธุ์ คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​มีคุณสมบัติในการจับสารพิษและช่วยขับออกจากร่างกายได้ 2. #Chlorpyrifos (คลอร์ไพริฟอส): ยาฆ่าแมลง​ ที่มีผลต่อระบบประสาท คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​มีความสามารถ​ในการขับสารพิษนี้ออกจากร่างกาย ⚠️เป็นสารที่มีความเป็นพิษต่อระบบประสาทอย่างรุนแรง!! ส่งผลกระทบต่อ​ พัฒนาการของสมอง โดยเฉพาะใน **เด็ก และ ทารกในครรภ์** 3. #Imidacloprid (อิมิดาคลอพริด): ยาฆ่าแมลง​ ที่อาจทำลายระบบประสาทส่วนกลาง คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​สามารถจับสารนี้ได้ในระดับหนึ่ง 4. #Imazalil (อิมาซาลิล): เป็นสารฆ่า! เชื้อรา​ที่ใช้กันในผลไม้ คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีความสามารถในการช่วยขับสารพิษที่ตกค้างในร่างกายได้ ----- 📍โดยใช้กลไกที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติทางเคมีและโครงสร้างทางเซลล์ของมัน ซึ่งกลไกหลักๆ มีดังนี้: 1. #การจับสารพิษด้วยกลุ่มโปรตีนพิเศษ (Metal Binding Protein): คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีโปรตีนที่เรียกว่า Metal Binding Protein ซึ่งสามารถจับกับโลหะหนัก​ และ​ สารพิษที่มีอนุภาคเล็กได้ โปรตีนนี้มีคุณสมบัติในการดูดซับสารพิษที่มีโครงสร้างเฉพาะ​ ทำให้สามารถขับสารออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้นผ่านทางระบบขับถ่าย สารพิษอย่าง Carbendazim และ Imidacloprid สามารถถูกจับได้โดยกลไกนี้ เนื่องจากมีการจับกับโปรตีนที่คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ผลิตออกมาเพื่อป้องกันการสะสมของสารพิษ (Shim et al., 2008; Merchant, 2001). 2. #การดูดซึมผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ (Cell Membrane Absorption): คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีเซลล์ผนังที่แข็งแรง​ และ​ มีคุณสมบัติเป็นสารดูดซับที่มีประสิทธิภาพสูง โดยสามารถจับสารพิษที่มีโครงสร้างทางเคมีที่ซับซ้อน เช่น Chlorpyrifos และ Imazalil ได้ การดูดซึมผ่านผนังเซลล์ของคลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ ช่วยขจัดสารพิษเหล่านี้ออกจากกระแสเลือด และทำให้ร่างกายขับออกทางระบบขับถ่ายได้ง่าย (Queiroz et al., 2020; Jeon et al., 2016). 3. #การกำจัดอนุมูลอิสระและสารพิษในระดับเซลล์ (Detoxification at Cellular Level): คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการป้องกันไม่ให้เซลล์ถูกทำลายจากสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย สารพิษอย่าง Chlorpyrifos ที่มีผลต่อระบบประสาทมักสร้างอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งคลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีคุณสมบัติช่วยลดผลกระทบนี้ และช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย (Bermejo et al., 2008; Jeon et al., 2016). ----- ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุข #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 548 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไมกรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงสำคัญต่อการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะ "ในวัย เกษียณ" ?

    #การดูแลสุขภาพ ในวัย #เกษียณ ต้องการการวางแผนและวิธีการที่รอบคอบมากขึ้น เนื่องจากสภาพร่างกายเริ่มเสื่อมถ่อยและภูมิคุ้มกันลดลงตามอายุ (Dorshkind et al., 2009).

    ซึ่ง การเสื่อมถอยของร่างกายนั้น จัดกลุ่มได้เป็น 2 กลุ่ม คือ

    1. "เสื่อม ตามอายุ " ที่เกิดจากเซลล์ ที่ค่อยๆ กลายเป็นเซลล์เสื่อมจากการใช้งาน ตามอายุของร่างกาย (López-Otín et al., 2013).

    2. "เสื่อม เกินอายุ" ที่เกิดจากเซลล์ เสื่อมจาก ผลกระทบของ "สิ่งพิษ" ที่ค่อยๆ เข้ามาฝังอยู่ในร่างกาย แล้วขับออกไม่ได้ ตลอดการใช้ชีวิตที่ผ่านมา ที่คอยรบกวนการทำงานของเซลล์ จนกลายเป็นเซลล์เสื่อม โดยที่ไม่ได้เสื่อมจากอายุงานปกติของเซลล์ (Wang et al., 2019).

    ดังนั้น #การเสื่อมตามอายุ เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นกฏของธรรมชาติ

    แต่ในทางกลับกัน #การเสื่อมเกินอายุ เป็นสิ่งที่เราควรเข้ามาทำงาน เพื่อป้องกันการเสื่อมเพิ่มเติม รวมถึง ลดทอนความเสื่อมที่เกิดขึ้น เท่าที่จะทำได้

    กรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงเป็นกรอบคิดที่สำคัญ ในการป้องกัน และ ลดทอนผลกระทบของ "การเสื่อม เกินอายุ" จากการสะสมสิ่งพิษ ที่คอยรบกวน ทำให้เซลล์ของเราทำงานผิดปกติ จนกลายเป็น "เซลล์เสื่อม" ก่อนอายุงาน (Klaassen & Liu, 1998).

    -------------

    เมื่อรวมผลลัพธ์จากการเสื่อมทั้ง 2 สาเหตุ ทำให้เมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ ผู้สูงอายุหลายคนจึงพบว่า ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนวัยหนุ่มสาว และดูเหมือนจะเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว ในตอนที่อายุมากขึ้น

    นั่นเพราะ ในขณะที่ร่างกายเสื่อมตามอายุ ก็จะมีผลจากความเสื่อมเกินอายุของร่างกายจากการใช้ชีวิตวัยหนุ่มสาว ออกมาชัดเจนมากขึ้น จนบางคนมีผลออกมาในรูป โรคเรื้อรัง รวมถึง อาการเจ็บป่วยที่เป็นผลจากการสะสมสิ่งพิษในร่างกาย (Cosselman et al., 2015).

    การใช้กรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงเป็นแนวทางที่แม่นตรงที่สุด ให้ผู้สูงอายุสามารถกำจัดเหตุที่ส่งผลให้ร่างกายเสื่อมเกินอายุ รวมถึงส่งผลในการ รักษาร่างกายไม่ให้เสื่อมเกินอายุไปมากขึ้นกว่านี้

    -------------

    ** ทำไมการ "สะสาง" จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำก่อน ในวัยเกษียณ? **

    เมื่อเรามองในแง่ของการดูแลสุขภาพ "การสะสาง" นั้นหมายถึง "การกำจัดสิ่งที่ส่งผลเสียต่อร่างกายออกไป" เช่น การกำจัดสิ่งพิษ เคมีที่สะสมในร่างกาย และที่สำคัญคือ "โลหะหนักที่ร่างกายเรารับมาจากสิ่งแวดล้อม ที่เราสัมผัสทุกวันในช่วงชีวิตที่ผ่านมา" ที่ ร่างกายของเรา ไม่มีกลไกการขับออกโดยเฉพาะ (Ghezzi & Sido, 2011).

    การสะสมของสิ่งพิษเหล่านี้ทำให้เซลล์เสื่อมเร็วกว่าอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ในวัยเกษียณ ที่ระบบกำจัดของเสียของร่างกายไม่สามารถทำงานได้ดีดังเดิม" ทำให้ "ยิ่งยาก" ที่จะสะสางสิ่งพิษ ที่ร่างกายไม่สามารถขับออกได้ ที่สะสมมาตั้งแต่วัยหนุ่มสาว (Jaishankar et al., 2014).

    การสะสางด้วยตัวช่วย อย่างเช่น #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย ซึ่งมีคุณสมบัติในการจับและขับพิษโลหะหนัก รวมถึงสิ่งพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย จึงเป็น ทางเลือกที่ "มีโอกาสสะสางสิงพิษที่ฝังอยู่ในร่างกายได้จริง" (Queiroz et al., 2020).

    -------------

    ** ทำไม การสะสาง จึงสามารถช่วยลดความเสี่ยง จากโรคเรื้อรังได้? **

    ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย 3 โรค ของวัยเกษียณ ที่พบในไทย ซึ่งคือ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน มักเกิดจากการสะสมของสิ่งพิษ ที่นำไปสู่การสะสมของไขมันในหลอดเลือดเป็นเวลานาน (Sharma et al., 2011).

    การสะสางพิษโลหะหนักและสิ่งพิษอื่นๆ จึงมีส่วนโดยตรง ในการอักเสบ ซึ่งจะส่งผลให้ การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย อย่างเช่น การทำงานของหัวใจ ดีขึ้น จึงส่งผลให้สามารถลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังได้ (Vaziri & Rodríguez-Iturbe, 2006).

    การสะสางสิ่งพิษออกจากร่างกาย ยังพบว่า ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ซึ่ง จะลดโอกาสในการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิต (Patel & Celermajer, 2006).

    -------------

    ** การ "สะสาง" ส่งผลต่อประสิทธิภาพของการ "สะสม" อย่างไร ? **

    เมื่อร่างกายสะอาด ได้รับการสะสางสิ่งพิษแล้ว "การสะสมสิ่งดีๆ" คือขั้นตอนถัดไปที่สำคัญ

    การสะสมนี้ หมายถึงการให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกาย ป้องกันและฟื้นฟูตัวเองจากการสึกหรอจากการใช้ชีวิตประจำวันได้ (Bermejo et al., 2008).

    เช่น สารอาหารระดับเซลล์ ที่พบใน #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ส่งผลให้ DNA ของเซลล์เสียหาย จากการเผาผลาญของเซลล์เอง และ มีโปรตีนคุณภาพสูง ที่สามารถช่วยฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ รวมถึงเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน (Vazquez et al., 2013).

    นอกจากนี้ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ยังถูกพบว่า ช่วยลดการอักเสบในระดับเซลล์ ช่วยในการฟื้นฟูร่างกายหลังการออกกำลังกาย และให้พลังงานที่จำเป็นในแต่ละวันสำหรับผู้สูงอายุ (Bermejo et al., 2008).

    นั่นจึงเป็นเหตุให้ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    --------

    การใช้ชีวิตในวัยเกษียณ ให้มีความสุขและสุขภาพดี จึงไม่ได้ซับซ้อน แต่ต้องมีกรอบคิดที่ถูกต้อง และ การปฏิบัติตามกรอบคิดได้ อย่างสม่ำเสมอ

    ด้วยกรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" ผู้สูงอายุสามารถลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรัง จึงทำให้มีโอกาส ฟื้นฟูร่างกายให้ยังแข็งแรงได้

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    ทำไมกรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงสำคัญต่อการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะ "ในวัย เกษียณ" ? #การดูแลสุขภาพ ในวัย #เกษียณ ต้องการการวางแผนและวิธีการที่รอบคอบมากขึ้น เนื่องจากสภาพร่างกายเริ่มเสื่อมถ่อยและภูมิคุ้มกันลดลงตามอายุ (Dorshkind et al., 2009). ซึ่ง การเสื่อมถอยของร่างกายนั้น จัดกลุ่มได้เป็น 2 กลุ่ม คือ 1. "เสื่อม ตามอายุ " ที่เกิดจากเซลล์ ที่ค่อยๆ กลายเป็นเซลล์เสื่อมจากการใช้งาน ตามอายุของร่างกาย (López-Otín et al., 2013). 2. "เสื่อม เกินอายุ" ที่เกิดจากเซลล์ เสื่อมจาก ผลกระทบของ "สิ่งพิษ" ที่ค่อยๆ เข้ามาฝังอยู่ในร่างกาย แล้วขับออกไม่ได้ ตลอดการใช้ชีวิตที่ผ่านมา ที่คอยรบกวนการทำงานของเซลล์ จนกลายเป็นเซลล์เสื่อม โดยที่ไม่ได้เสื่อมจากอายุงานปกติของเซลล์ (Wang et al., 2019). ดังนั้น #การเสื่อมตามอายุ เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นกฏของธรรมชาติ แต่ในทางกลับกัน #การเสื่อมเกินอายุ เป็นสิ่งที่เราควรเข้ามาทำงาน เพื่อป้องกันการเสื่อมเพิ่มเติม รวมถึง ลดทอนความเสื่อมที่เกิดขึ้น เท่าที่จะทำได้ กรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงเป็นกรอบคิดที่สำคัญ ในการป้องกัน และ ลดทอนผลกระทบของ "การเสื่อม เกินอายุ" จากการสะสมสิ่งพิษ ที่คอยรบกวน ทำให้เซลล์ของเราทำงานผิดปกติ จนกลายเป็น "เซลล์เสื่อม" ก่อนอายุงาน (Klaassen & Liu, 1998). ------------- เมื่อรวมผลลัพธ์จากการเสื่อมทั้ง 2 สาเหตุ ทำให้เมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ ผู้สูงอายุหลายคนจึงพบว่า ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนวัยหนุ่มสาว และดูเหมือนจะเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว ในตอนที่อายุมากขึ้น นั่นเพราะ ในขณะที่ร่างกายเสื่อมตามอายุ ก็จะมีผลจากความเสื่อมเกินอายุของร่างกายจากการใช้ชีวิตวัยหนุ่มสาว ออกมาชัดเจนมากขึ้น จนบางคนมีผลออกมาในรูป โรคเรื้อรัง รวมถึง อาการเจ็บป่วยที่เป็นผลจากการสะสมสิ่งพิษในร่างกาย (Cosselman et al., 2015). การใช้กรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงเป็นแนวทางที่แม่นตรงที่สุด ให้ผู้สูงอายุสามารถกำจัดเหตุที่ส่งผลให้ร่างกายเสื่อมเกินอายุ รวมถึงส่งผลในการ รักษาร่างกายไม่ให้เสื่อมเกินอายุไปมากขึ้นกว่านี้ ------------- ** ทำไมการ "สะสาง" จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำก่อน ในวัยเกษียณ? ** เมื่อเรามองในแง่ของการดูแลสุขภาพ "การสะสาง" นั้นหมายถึง "การกำจัดสิ่งที่ส่งผลเสียต่อร่างกายออกไป" เช่น การกำจัดสิ่งพิษ เคมีที่สะสมในร่างกาย และที่สำคัญคือ "โลหะหนักที่ร่างกายเรารับมาจากสิ่งแวดล้อม ที่เราสัมผัสทุกวันในช่วงชีวิตที่ผ่านมา" ที่ ร่างกายของเรา ไม่มีกลไกการขับออกโดยเฉพาะ (Ghezzi & Sido, 2011). การสะสมของสิ่งพิษเหล่านี้ทำให้เซลล์เสื่อมเร็วกว่าอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ในวัยเกษียณ ที่ระบบกำจัดของเสียของร่างกายไม่สามารถทำงานได้ดีดังเดิม" ทำให้ "ยิ่งยาก" ที่จะสะสางสิ่งพิษ ที่ร่างกายไม่สามารถขับออกได้ ที่สะสมมาตั้งแต่วัยหนุ่มสาว (Jaishankar et al., 2014). การสะสางด้วยตัวช่วย อย่างเช่น #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย ซึ่งมีคุณสมบัติในการจับและขับพิษโลหะหนัก รวมถึงสิ่งพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย จึงเป็น ทางเลือกที่ "มีโอกาสสะสางสิงพิษที่ฝังอยู่ในร่างกายได้จริง" (Queiroz et al., 2020). ------------- ** ทำไม การสะสาง จึงสามารถช่วยลดความเสี่ยง จากโรคเรื้อรังได้? ** ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย 3 โรค ของวัยเกษียณ ที่พบในไทย ซึ่งคือ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน มักเกิดจากการสะสมของสิ่งพิษ ที่นำไปสู่การสะสมของไขมันในหลอดเลือดเป็นเวลานาน (Sharma et al., 2011). การสะสางพิษโลหะหนักและสิ่งพิษอื่นๆ จึงมีส่วนโดยตรง ในการอักเสบ ซึ่งจะส่งผลให้ การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย อย่างเช่น การทำงานของหัวใจ ดีขึ้น จึงส่งผลให้สามารถลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังได้ (Vaziri & Rodríguez-Iturbe, 2006). การสะสางสิ่งพิษออกจากร่างกาย ยังพบว่า ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ซึ่ง จะลดโอกาสในการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิต (Patel & Celermajer, 2006). ------------- ** การ "สะสาง" ส่งผลต่อประสิทธิภาพของการ "สะสม" อย่างไร ? ** เมื่อร่างกายสะอาด ได้รับการสะสางสิ่งพิษแล้ว "การสะสมสิ่งดีๆ" คือขั้นตอนถัดไปที่สำคัญ การสะสมนี้ หมายถึงการให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกาย ป้องกันและฟื้นฟูตัวเองจากการสึกหรอจากการใช้ชีวิตประจำวันได้ (Bermejo et al., 2008). เช่น สารอาหารระดับเซลล์ ที่พบใน #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ส่งผลให้ DNA ของเซลล์เสียหาย จากการเผาผลาญของเซลล์เอง และ มีโปรตีนคุณภาพสูง ที่สามารถช่วยฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ รวมถึงเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน (Vazquez et al., 2013). นอกจากนี้ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ยังถูกพบว่า ช่วยลดการอักเสบในระดับเซลล์ ช่วยในการฟื้นฟูร่างกายหลังการออกกำลังกาย และให้พลังงานที่จำเป็นในแต่ละวันสำหรับผู้สูงอายุ (Bermejo et al., 2008). นั่นจึงเป็นเหตุให้ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง -------- การใช้ชีวิตในวัยเกษียณ ให้มีความสุขและสุขภาพดี จึงไม่ได้ซับซ้อน แต่ต้องมีกรอบคิดที่ถูกต้อง และ การปฏิบัติตามกรอบคิดได้ อย่างสม่ำเสมอ ด้วยกรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" ผู้สูงอายุสามารถลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรัง จึงทำให้มีโอกาส ฟื้นฟูร่างกายให้ยังแข็งแรงได้ เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 534 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไมกรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงสำคัญต่อการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะ "ในวัย เกษียณ" ?

    #การดูแลสุขภาพ ในวัย #เกษียณ ต้องการการวางแผนและวิธีการที่รอบคอบมากขึ้น เนื่องจากสภาพร่างกายเริ่มเสื่อมถ่อยและภูมิคุ้มกันลดลงตามอายุ (Dorshkind et al., 2009).

    ซึ่ง การเสื่อมถอยของร่างกายนั้น จัดกลุ่มได้เป็น 2 กลุ่ม คือ

    1. "เสื่อม ตามอายุ " ที่เกิดจากเซลล์ ที่ค่อยๆ กลายเป็นเซลล์เสื่อมจากการใช้งาน ตามอายุของร่างกาย (López-Otín et al., 2013).

    2. "เสื่อม เกินอายุ" ที่เกิดจากเซลล์ เสื่อมจาก ผลกระทบของ "สิ่งพิษ" ที่ค่อยๆ เข้ามาฝังอยู่ในร่างกาย แล้วขับออกไม่ได้ ตลอดการใช้ชีวิตที่ผ่านมา ที่คอยรบกวนการทำงานของเซลล์ จนกลายเป็นเซลล์เสื่อม โดยที่ไม่ได้เสื่อมจากอายุงานปกติของเซลล์ (Wang et al., 2019).

    ดังนั้น #การเสื่อมตามอายุ เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นกฏของธรรมชาติ

    แต่ในทางกลับกัน #การเสื่อมเกินอายุ เป็นสิ่งที่เราควรเข้ามาทำงาน เพื่อป้องกันการเสื่อมเพิ่มเติม รวมถึง ลดทอนความเสื่อมที่เกิดขึ้น เท่าที่จะทำได้

    กรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงเป็นกรอบคิดที่สำคัญ ในการป้องกัน และ ลดทอนผลกระทบของ "การเสื่อม เกินอายุ" จากการสะสมสิ่งพิษ ที่คอยรบกวน ทำให้เซลล์ของเราทำงานผิดปกติ จนกลายเป็น "เซลล์เสื่อม" ก่อนอายุงาน (Klaassen & Liu, 1998).

    -------------

    เมื่อรวมผลลัพธ์จากการเสื่อมทั้ง 2 สาเหตุ ทำให้เมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ ผู้สูงอายุหลายคนจึงพบว่า ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนวัยหนุ่มสาว และดูเหมือนจะเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว ในตอนที่อายุมากขึ้น

    นั่นเพราะ ในขณะที่ร่างกายเสื่อมตามอายุ ก็จะมีผลจากความเสื่อมเกินอายุของร่างกายจากการใช้ชีวิตวัยหนุ่มสาว ออกมาชัดเจนมากขึ้น จนบางคนมีผลออกมาในรูป โรคเรื้อรัง รวมถึง อาการเจ็บป่วยที่เป็นผลจากการสะสมสิ่งพิษในร่างกาย (Cosselman et al., 2015).

    การใช้กรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงเป็นแนวทางที่แม่นตรงที่สุด ให้ผู้สูงอายุสามารถกำจัดเหตุที่ส่งผลให้ร่างกายเสื่อมเกินอายุ รวมถึงส่งผลในการ รักษาร่างกายไม่ให้เสื่อมเกินอายุไปมากขึ้นกว่านี้

    -------------

    ** ทำไมการ "สะสาง" จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำก่อน ในวัยเกษียณ? **

    เมื่อเรามองในแง่ของการดูแลสุขภาพ "การสะสาง" นั้นหมายถึง "การกำจัดสิ่งที่ส่งผลเสียต่อร่างกายออกไป" เช่น การกำจัดสิ่งพิษ เคมีที่สะสมในร่างกาย และที่สำคัญคือ "โลหะหนักที่ร่างกายเรารับมาจากสิ่งแวดล้อม ที่เราสัมผัสทุกวันในช่วงชีวิตที่ผ่านมา" ที่ ร่างกายของเรา ไม่มีกลไกการขับออกโดยเฉพาะ (Ghezzi & Sido, 2011).

    การสะสมของสิ่งพิษเหล่านี้ทำให้เซลล์เสื่อมเร็วกว่าอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ในวัยเกษียณ ที่ระบบกำจัดของเสียของร่างกายไม่สามารถทำงานได้ดีดังเดิม" ทำให้ "ยิ่งยาก" ที่จะสะสางสิ่งพิษ ที่ร่างกายไม่สามารถขับออกได้ ที่สะสมมาตั้งแต่วัยหนุ่มสาว (Jaishankar et al., 2014).

    การสะสางด้วยตัวช่วย อย่างเช่น #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย ซึ่งมีคุณสมบัติในการจับและขับพิษโลหะหนัก รวมถึงสิ่งพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย จึงเป็น ทางเลือกที่ "มีโอกาสสะสางสิงพิษที่ฝังอยู่ในร่างกายได้จริง" (Queiroz et al., 2020).

    -------------

    ** ทำไม การสะสาง จึงสามารถช่วยลดความเสี่ยง จากโรคเรื้อรังได้? **

    ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย 3 โรค ของวัยเกษียณ ที่พบในไทย ซึ่งคือ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน มักเกิดจากการสะสมของสิ่งพิษ ที่นำไปสู่การสะสมของไขมันในหลอดเลือดเป็นเวลานาน (Sharma et al., 2011).

    การสะสางพิษโลหะหนักและสิ่งพิษอื่นๆ จึงมีส่วนโดยตรง ในการอักเสบ ซึ่งจะส่งผลให้ การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย อย่างเช่น การทำงานของหัวใจ ดีขึ้น จึงส่งผลให้สามารถลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังได้ (Vaziri & Rodríguez-Iturbe, 2006).

    การสะสางสิ่งพิษออกจากร่างกาย ยังพบว่า ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ซึ่ง จะลดโอกาสในการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิต (Patel & Celermajer, 2006).

    -------------

    ** การ "สะสาง" ส่งผลต่อประสิทธิภาพของการ "สะสม" อย่างไร ? **

    เมื่อร่างกายสะอาด ได้รับการสะสางสิ่งพิษแล้ว "การสะสมสิ่งดีๆ" คือขั้นตอนถัดไปที่สำคัญ

    การสะสมนี้ หมายถึงการให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกาย ป้องกันและฟื้นฟูตัวเองจากการสึกหรอจากการใช้ชีวิตประจำวันได้ (Bermejo et al., 2008).

    เช่น สารอาหารระดับเซลล์ ที่พบใน #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ส่งผลให้ DNA ของเซลล์เสียหาย จากการเผาผลาญของเซลล์เอง และ มีโปรตีนคุณภาพสูง ที่สามารถช่วยฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ รวมถึงเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน (Vazquez et al., 2013).

    นอกจากนี้ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ยังถูกพบว่า ช่วยลดการอักเสบในระดับเซลล์ ช่วยในการฟื้นฟูร่างกายหลังการออกกำลังกาย และให้พลังงานที่จำเป็นในแต่ละวันสำหรับผู้สูงอายุ (Bermejo et al., 2008).

    นั่นจึงเป็นเหตุให้ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    --------

    การใช้ชีวิตในวัยเกษียณ ให้มีความสุขและสุขภาพดี จึงไม่ได้ซับซ้อน แต่ต้องมีกรอบคิดที่ถูกต้อง และ การปฏิบัติตามกรอบคิดได้ อย่างสม่ำเสมอ

    ด้วยกรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" ผู้สูงอายุสามารถลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรัง จึงทำให้มีโอกาส ฟื้นฟูร่างกายให้ยังแข็งแรงได้

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    ทำไมกรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงสำคัญต่อการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะ "ในวัย เกษียณ" ? #การดูแลสุขภาพ ในวัย #เกษียณ ต้องการการวางแผนและวิธีการที่รอบคอบมากขึ้น เนื่องจากสภาพร่างกายเริ่มเสื่อมถ่อยและภูมิคุ้มกันลดลงตามอายุ (Dorshkind et al., 2009). ซึ่ง การเสื่อมถอยของร่างกายนั้น จัดกลุ่มได้เป็น 2 กลุ่ม คือ 1. "เสื่อม ตามอายุ " ที่เกิดจากเซลล์ ที่ค่อยๆ กลายเป็นเซลล์เสื่อมจากการใช้งาน ตามอายุของร่างกาย (López-Otín et al., 2013). 2. "เสื่อม เกินอายุ" ที่เกิดจากเซลล์ เสื่อมจาก ผลกระทบของ "สิ่งพิษ" ที่ค่อยๆ เข้ามาฝังอยู่ในร่างกาย แล้วขับออกไม่ได้ ตลอดการใช้ชีวิตที่ผ่านมา ที่คอยรบกวนการทำงานของเซลล์ จนกลายเป็นเซลล์เสื่อม โดยที่ไม่ได้เสื่อมจากอายุงานปกติของเซลล์ (Wang et al., 2019). ดังนั้น #การเสื่อมตามอายุ เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นกฏของธรรมชาติ แต่ในทางกลับกัน #การเสื่อมเกินอายุ เป็นสิ่งที่เราควรเข้ามาทำงาน เพื่อป้องกันการเสื่อมเพิ่มเติม รวมถึง ลดทอนความเสื่อมที่เกิดขึ้น เท่าที่จะทำได้ กรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงเป็นกรอบคิดที่สำคัญ ในการป้องกัน และ ลดทอนผลกระทบของ "การเสื่อม เกินอายุ" จากการสะสมสิ่งพิษ ที่คอยรบกวน ทำให้เซลล์ของเราทำงานผิดปกติ จนกลายเป็น "เซลล์เสื่อม" ก่อนอายุงาน (Klaassen & Liu, 1998). ------------- เมื่อรวมผลลัพธ์จากการเสื่อมทั้ง 2 สาเหตุ ทำให้เมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ ผู้สูงอายุหลายคนจึงพบว่า ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนวัยหนุ่มสาว และดูเหมือนจะเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว ในตอนที่อายุมากขึ้น นั่นเพราะ ในขณะที่ร่างกายเสื่อมตามอายุ ก็จะมีผลจากความเสื่อมเกินอายุของร่างกายจากการใช้ชีวิตวัยหนุ่มสาว ออกมาชัดเจนมากขึ้น จนบางคนมีผลออกมาในรูป โรคเรื้อรัง รวมถึง อาการเจ็บป่วยที่เป็นผลจากการสะสมสิ่งพิษในร่างกาย (Cosselman et al., 2015). การใช้กรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงเป็นแนวทางที่แม่นตรงที่สุด ให้ผู้สูงอายุสามารถกำจัดเหตุที่ส่งผลให้ร่างกายเสื่อมเกินอายุ รวมถึงส่งผลในการ รักษาร่างกายไม่ให้เสื่อมเกินอายุไปมากขึ้นกว่านี้ ------------- ** ทำไมการ "สะสาง" จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำก่อน ในวัยเกษียณ? ** เมื่อเรามองในแง่ของการดูแลสุขภาพ "การสะสาง" นั้นหมายถึง "การกำจัดสิ่งที่ส่งผลเสียต่อร่างกายออกไป" เช่น การกำจัดสิ่งพิษ เคมีที่สะสมในร่างกาย และที่สำคัญคือ "โลหะหนักที่ร่างกายเรารับมาจากสิ่งแวดล้อม ที่เราสัมผัสทุกวันในช่วงชีวิตที่ผ่านมา" ที่ ร่างกายของเรา ไม่มีกลไกการขับออกโดยเฉพาะ (Ghezzi & Sido, 2011). การสะสมของสิ่งพิษเหล่านี้ทำให้เซลล์เสื่อมเร็วกว่าอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ในวัยเกษียณ ที่ระบบกำจัดของเสียของร่างกายไม่สามารถทำงานได้ดีดังเดิม" ทำให้ "ยิ่งยาก" ที่จะสะสางสิ่งพิษ ที่ร่างกายไม่สามารถขับออกได้ ที่สะสมมาตั้งแต่วัยหนุ่มสาว (Jaishankar et al., 2014). การสะสางด้วยตัวช่วย อย่างเช่น #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย ซึ่งมีคุณสมบัติในการจับและขับพิษโลหะหนัก รวมถึงสิ่งพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย จึงเป็น ทางเลือกที่ "มีโอกาสสะสางสิงพิษที่ฝังอยู่ในร่างกายได้จริง" (Queiroz et al., 2020). ------------- ** ทำไม การสะสาง จึงสามารถช่วยลดความเสี่ยง จากโรคเรื้อรังได้? ** ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย 3 โรค ของวัยเกษียณ ที่พบในไทย ซึ่งคือ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน มักเกิดจากการสะสมของสิ่งพิษ ที่นำไปสู่การสะสมของไขมันในหลอดเลือดเป็นเวลานาน (Sharma et al., 2011). การสะสางพิษโลหะหนักและสิ่งพิษอื่นๆ จึงมีส่วนโดยตรง ในการอักเสบ ซึ่งจะส่งผลให้ การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย อย่างเช่น การทำงานของหัวใจ ดีขึ้น จึงส่งผลให้สามารถลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังได้ (Vaziri & Rodríguez-Iturbe, 2006). การสะสางสิ่งพิษออกจากร่างกาย ยังพบว่า ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ซึ่ง จะลดโอกาสในการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิต (Patel & Celermajer, 2006). ------------- ** การ "สะสาง" ส่งผลต่อประสิทธิภาพของการ "สะสม" อย่างไร ? ** เมื่อร่างกายสะอาด ได้รับการสะสางสิ่งพิษแล้ว "การสะสมสิ่งดีๆ" คือขั้นตอนถัดไปที่สำคัญ การสะสมนี้ หมายถึงการให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกาย ป้องกันและฟื้นฟูตัวเองจากการสึกหรอจากการใช้ชีวิตประจำวันได้ (Bermejo et al., 2008). เช่น สารอาหารระดับเซลล์ ที่พบใน #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ส่งผลให้ DNA ของเซลล์เสียหาย จากการเผาผลาญของเซลล์เอง และ มีโปรตีนคุณภาพสูง ที่สามารถช่วยฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ รวมถึงเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน (Vazquez et al., 2013). นอกจากนี้ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ยังถูกพบว่า ช่วยลดการอักเสบในระดับเซลล์ ช่วยในการฟื้นฟูร่างกายหลังการออกกำลังกาย และให้พลังงานที่จำเป็นในแต่ละวันสำหรับผู้สูงอายุ (Bermejo et al., 2008). นั่นจึงเป็นเหตุให้ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง -------- การใช้ชีวิตในวัยเกษียณ ให้มีความสุขและสุขภาพดี จึงไม่ได้ซับซ้อน แต่ต้องมีกรอบคิดที่ถูกต้อง และ การปฏิบัติตามกรอบคิดได้ อย่างสม่ำเสมอ ด้วยกรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" ผู้สูงอายุสามารถลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรัง จึงทำให้มีโอกาส ฟื้นฟูร่างกายให้ยังแข็งแรงได้ เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 วิธี ดูแล #ระบบหัวใจและหลอดเลือด ใน #วัยเกษียณ

    เมื่อเข้าสู่วัย #เกษียณ "การดูแล ระบบหัวใจและหลอดเลือด" กลายเป็นเรื่องที่ "ต้องให้ความสำคัญ" เนื่องจากอายุที่มากขึ้น รวมถึงความเสื่อมจากการใช้งานร่างกายตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ส่งผลให้ระบบการทำงานของร่างกาย รวมถึง หัวใจและหลอดเลือดทำงาน ได้น้อยลงกว่า ตอนเป็นวัยหนุ่มสาว (North & Sinclair, 2012).

    เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพและลดความเสี่ยง จากโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้สูงอายุสามารถดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของตนเองได้ ด้วย 3 วิธีหลักนี้

    1. #ปรับโภชนาการ

    "การปรับลดพฤติกรรม การรับประทานอาหาร ที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย" มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณ (Estruch et al., 2013).

    ลดการบริโภค ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์: ไขมันเหล่านี้ทำให้หลอดเลือดอุดตันและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ (Mozaffarian et al., 2006).

    บริโภคอาหารที่มีไฟเบอร์สูง: เช่น ผลไม้ ผัก และธัญพืชเต็มเมล็ด ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอลและทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น (Brown et al., 1999).

    อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง: ช่วยป้องกันการอักเสบในระบบหลอดเลือด เช่น สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ผลไม้เบอร์รี่ ผักใบเขียวเข้ม และถั่วเปลือกแข็ง (Vazquez et al., 2013).

    การรับประทานอาหารแบบนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการสะสมไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจตีบและโรคความดันโลหิตสูงในวัยเกษียณ (Mensink et al., 2003).

    2. #ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม

    การเดินเร็ว หรือ ปั่นจักรยาน: เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของหัวใจและเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด การออกกำลังกายสม่ำเสมอ 30 นาทีต่อวัน จะช่วยลดความดันโลหิตและลดระดับคอเลสเตอรอล (Garber et al., 2011).

    การออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน (Strength Training): เช่น ยกน้ำหนัก หรือทำโยคะ ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ (Westcott, 2012).

    การออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายความเครียด: เช่น ไทเก๊ก หรือการฝึกสมาธิ สามารถลดความเครียดและปรับสมดุลของร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพหัวใจโดยตรง (Lee et al., 2003).

    3. เสริม #สารอาหารจากธรรมชาติ

    ในบางกรณี การเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ สามารถช่วยเสริมการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย: สารอาหารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการสะสางสิ่งพิษ ลดการอักเสบในหลอดเลือด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด (Queiroz et al., 2020). คลอเรลล่าที่ปลอดภัยมีโปรตีนที่สามารถจับโลหะหนักได้ ที่ช่วยขับสิ่งพิษโลหะหนักที่อาจส่งผลต่อสุขภาพหลอดเลือด (Shim et al., 2008). ในขณะที่สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ (Bermejo et al., 2008).

    โอเมก้า 3: เป็นสารอาหารที่ช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือดและป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด (Schmidt et al., 2005).

    โคเอนไซม์คิวเท็น (CoQ10): เป็นสารอาหารที่ช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวาย (Rosenfeldt et al., 2007).

    การดูแลระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณนั้น ต้องอาศัยทั้งการปรับวิถีชีวิต การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การทานอาหารที่เหมาะสม รวมถึงการเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงและเสริมสร้างสุขภาพหัวใจในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Mozaffarian et al., 2008).

    --------

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นสารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันและดูแลสุขภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการจับและขับสารพิษโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม ซึ่งสะสมในร่างกายและส่งผลต่อหลอดเลือด (Shim et al., 2008). การกำจัดสารพิษเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงของการอักเสบและเสื่อมสภาพของหลอดเลือด พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง (Merchant, 2001). คลอเรลล่ายังเสริมภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลระบบประสาท และลดความเครียด ซึ่งช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานดีขึ้น (Jeon et al., 2016).

    สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ Phycocyanin ที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเสียหายของเซลล์หลอดเลือด (Bermejo et al., 2008). สไปรูลิน่าช่วยป้องกันการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Vazquez et al., 2013). นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายและปัญหาหลอดเลือดอื่นๆ (Belay et al., 1993).

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 วิธี ดูแล #ระบบหัวใจและหลอดเลือด ใน #วัยเกษียณ เมื่อเข้าสู่วัย #เกษียณ "การดูแล ระบบหัวใจและหลอดเลือด" กลายเป็นเรื่องที่ "ต้องให้ความสำคัญ" เนื่องจากอายุที่มากขึ้น รวมถึงความเสื่อมจากการใช้งานร่างกายตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ส่งผลให้ระบบการทำงานของร่างกาย รวมถึง หัวใจและหลอดเลือดทำงาน ได้น้อยลงกว่า ตอนเป็นวัยหนุ่มสาว (North & Sinclair, 2012). เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพและลดความเสี่ยง จากโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้สูงอายุสามารถดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของตนเองได้ ด้วย 3 วิธีหลักนี้ 1. #ปรับโภชนาการ "การปรับลดพฤติกรรม การรับประทานอาหาร ที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย" มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณ (Estruch et al., 2013). ลดการบริโภค ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์: ไขมันเหล่านี้ทำให้หลอดเลือดอุดตันและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ (Mozaffarian et al., 2006). บริโภคอาหารที่มีไฟเบอร์สูง: เช่น ผลไม้ ผัก และธัญพืชเต็มเมล็ด ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอลและทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น (Brown et al., 1999). อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง: ช่วยป้องกันการอักเสบในระบบหลอดเลือด เช่น สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ผลไม้เบอร์รี่ ผักใบเขียวเข้ม และถั่วเปลือกแข็ง (Vazquez et al., 2013). การรับประทานอาหารแบบนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการสะสมไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจตีบและโรคความดันโลหิตสูงในวัยเกษียณ (Mensink et al., 2003). 2. #ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม การเดินเร็ว หรือ ปั่นจักรยาน: เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของหัวใจและเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด การออกกำลังกายสม่ำเสมอ 30 นาทีต่อวัน จะช่วยลดความดันโลหิตและลดระดับคอเลสเตอรอล (Garber et al., 2011). การออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน (Strength Training): เช่น ยกน้ำหนัก หรือทำโยคะ ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ (Westcott, 2012). การออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายความเครียด: เช่น ไทเก๊ก หรือการฝึกสมาธิ สามารถลดความเครียดและปรับสมดุลของร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพหัวใจโดยตรง (Lee et al., 2003). 3. เสริม #สารอาหารจากธรรมชาติ ในบางกรณี การเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ สามารถช่วยเสริมการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย: สารอาหารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการสะสางสิ่งพิษ ลดการอักเสบในหลอดเลือด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด (Queiroz et al., 2020). คลอเรลล่าที่ปลอดภัยมีโปรตีนที่สามารถจับโลหะหนักได้ ที่ช่วยขับสิ่งพิษโลหะหนักที่อาจส่งผลต่อสุขภาพหลอดเลือด (Shim et al., 2008). ในขณะที่สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ (Bermejo et al., 2008). โอเมก้า 3: เป็นสารอาหารที่ช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือดและป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด (Schmidt et al., 2005). โคเอนไซม์คิวเท็น (CoQ10): เป็นสารอาหารที่ช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวาย (Rosenfeldt et al., 2007). การดูแลระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณนั้น ต้องอาศัยทั้งการปรับวิถีชีวิต การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การทานอาหารที่เหมาะสม รวมถึงการเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงและเสริมสร้างสุขภาพหัวใจในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Mozaffarian et al., 2008). -------- #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นสารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันและดูแลสุขภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการจับและขับสารพิษโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม ซึ่งสะสมในร่างกายและส่งผลต่อหลอดเลือด (Shim et al., 2008). การกำจัดสารพิษเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงของการอักเสบและเสื่อมสภาพของหลอดเลือด พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง (Merchant, 2001). คลอเรลล่ายังเสริมภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลระบบประสาท และลดความเครียด ซึ่งช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานดีขึ้น (Jeon et al., 2016). สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ Phycocyanin ที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเสียหายของเซลล์หลอดเลือด (Bermejo et al., 2008). สไปรูลิน่าช่วยป้องกันการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Vazquez et al., 2013). นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายและปัญหาหลอดเลือดอื่นๆ (Belay et al., 1993). โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 วิธี ดูแล #ระบบหัวใจและหลอดเลือด ใน #วัยเกษียณ

    เมื่อเข้าสู่วัย #เกษียณ "การดูแล ระบบหัวใจและหลอดเลือด" กลายเป็นเรื่องที่ "ต้องให้ความสำคัญ" เนื่องจากอายุที่มากขึ้น รวมถึงความเสื่อมจากการใช้งานร่างกายตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ส่งผลให้ระบบการทำงานของร่างกาย รวมถึง หัวใจและหลอดเลือดทำงาน ได้น้อยลงกว่า ตอนเป็นวัยหนุ่มสาว (North & Sinclair, 2012).

    เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพและลดความเสี่ยง จากโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้สูงอายุสามารถดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของตนเองได้ ด้วย 3 วิธีหลักนี้

    1. #ปรับโภชนาการ

    "การปรับลดพฤติกรรม การรับประทานอาหาร ที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย" มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณ (Estruch et al., 2013).

    ลดการบริโภค ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์: ไขมันเหล่านี้ทำให้หลอดเลือดอุดตันและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ (Mozaffarian et al., 2006).

    บริโภคอาหารที่มีไฟเบอร์สูง: เช่น ผลไม้ ผัก และธัญพืชเต็มเมล็ด ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอลและทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น (Brown et al., 1999).

    อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง: ช่วยป้องกันการอักเสบในระบบหลอดเลือด เช่น สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ผลไม้เบอร์รี่ ผักใบเขียวเข้ม และถั่วเปลือกแข็ง (Vazquez et al., 2013).

    การรับประทานอาหารแบบนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการสะสมไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจตีบและโรคความดันโลหิตสูงในวัยเกษียณ (Mensink et al., 2003).

    2. #ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม

    การเดินเร็ว หรือ ปั่นจักรยาน: เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของหัวใจและเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด การออกกำลังกายสม่ำเสมอ 30 นาทีต่อวัน จะช่วยลดความดันโลหิตและลดระดับคอเลสเตอรอล (Garber et al., 2011).

    การออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน (Strength Training): เช่น ยกน้ำหนัก หรือทำโยคะ ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ (Westcott, 2012).

    การออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายความเครียด: เช่น ไทเก๊ก หรือการฝึกสมาธิ สามารถลดความเครียดและปรับสมดุลของร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพหัวใจโดยตรง (Lee et al., 2003).

    3. เสริม #สารอาหารจากธรรมชาติ

    ในบางกรณี การเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ สามารถช่วยเสริมการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย: สารอาหารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการสะสางสิ่งพิษ ลดการอักเสบในหลอดเลือด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด (Queiroz et al., 2020). คลอเรลล่าที่ปลอดภัยมีโปรตีนที่สามารถจับโลหะหนักได้ ที่ช่วยขับสิ่งพิษโลหะหนักที่อาจส่งผลต่อสุขภาพหลอดเลือด (Shim et al., 2008). ในขณะที่สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ (Bermejo et al., 2008).

    โอเมก้า 3: เป็นสารอาหารที่ช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือดและป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด (Schmidt et al., 2005).

    โคเอนไซม์คิวเท็น (CoQ10): เป็นสารอาหารที่ช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวาย (Rosenfeldt et al., 2007).

    การดูแลระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณนั้น ต้องอาศัยทั้งการปรับวิถีชีวิต การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การทานอาหารที่เหมาะสม รวมถึงการเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงและเสริมสร้างสุขภาพหัวใจในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Mozaffarian et al., 2008).

    --------

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นสารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันและดูแลสุขภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการจับและขับสารพิษโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม ซึ่งสะสมในร่างกายและส่งผลต่อหลอดเลือด (Shim et al., 2008). การกำจัดสารพิษเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงของการอักเสบและเสื่อมสภาพของหลอดเลือด พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง (Merchant, 2001). คลอเรลล่ายังเสริมภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลระบบประสาท และลดความเครียด ซึ่งช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานดีขึ้น (Jeon et al., 2016).

    สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ Phycocyanin ที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเสียหายของเซลล์หลอดเลือด (Bermejo et al., 2008). สไปรูลิน่าช่วยป้องกันการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Vazquez et al., 2013). นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายและปัญหาหลอดเลือดอื่นๆ (Belay et al., 1993).

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 วิธี ดูแล #ระบบหัวใจและหลอดเลือด ใน #วัยเกษียณ เมื่อเข้าสู่วัย #เกษียณ "การดูแล ระบบหัวใจและหลอดเลือด" กลายเป็นเรื่องที่ "ต้องให้ความสำคัญ" เนื่องจากอายุที่มากขึ้น รวมถึงความเสื่อมจากการใช้งานร่างกายตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ส่งผลให้ระบบการทำงานของร่างกาย รวมถึง หัวใจและหลอดเลือดทำงาน ได้น้อยลงกว่า ตอนเป็นวัยหนุ่มสาว (North & Sinclair, 2012). เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพและลดความเสี่ยง จากโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้สูงอายุสามารถดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของตนเองได้ ด้วย 3 วิธีหลักนี้ 1. #ปรับโภชนาการ "การปรับลดพฤติกรรม การรับประทานอาหาร ที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย" มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณ (Estruch et al., 2013). ลดการบริโภค ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์: ไขมันเหล่านี้ทำให้หลอดเลือดอุดตันและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ (Mozaffarian et al., 2006). บริโภคอาหารที่มีไฟเบอร์สูง: เช่น ผลไม้ ผัก และธัญพืชเต็มเมล็ด ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอลและทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น (Brown et al., 1999). อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง: ช่วยป้องกันการอักเสบในระบบหลอดเลือด เช่น สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ผลไม้เบอร์รี่ ผักใบเขียวเข้ม และถั่วเปลือกแข็ง (Vazquez et al., 2013). การรับประทานอาหารแบบนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการสะสมไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจตีบและโรคความดันโลหิตสูงในวัยเกษียณ (Mensink et al., 2003). 2. #ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม การเดินเร็ว หรือ ปั่นจักรยาน: เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของหัวใจและเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด การออกกำลังกายสม่ำเสมอ 30 นาทีต่อวัน จะช่วยลดความดันโลหิตและลดระดับคอเลสเตอรอล (Garber et al., 2011). การออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน (Strength Training): เช่น ยกน้ำหนัก หรือทำโยคะ ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ (Westcott, 2012). การออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายความเครียด: เช่น ไทเก๊ก หรือการฝึกสมาธิ สามารถลดความเครียดและปรับสมดุลของร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพหัวใจโดยตรง (Lee et al., 2003). 3. เสริม #สารอาหารจากธรรมชาติ ในบางกรณี การเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ สามารถช่วยเสริมการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย: สารอาหารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการสะสางสิ่งพิษ ลดการอักเสบในหลอดเลือด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด (Queiroz et al., 2020). คลอเรลล่าที่ปลอดภัยมีโปรตีนที่สามารถจับโลหะหนักได้ ที่ช่วยขับสิ่งพิษโลหะหนักที่อาจส่งผลต่อสุขภาพหลอดเลือด (Shim et al., 2008). ในขณะที่สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ (Bermejo et al., 2008). โอเมก้า 3: เป็นสารอาหารที่ช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือดและป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด (Schmidt et al., 2005). โคเอนไซม์คิวเท็น (CoQ10): เป็นสารอาหารที่ช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวาย (Rosenfeldt et al., 2007). การดูแลระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณนั้น ต้องอาศัยทั้งการปรับวิถีชีวิต การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การทานอาหารที่เหมาะสม รวมถึงการเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงและเสริมสร้างสุขภาพหัวใจในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Mozaffarian et al., 2008). -------- #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นสารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันและดูแลสุขภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการจับและขับสารพิษโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม ซึ่งสะสมในร่างกายและส่งผลต่อหลอดเลือด (Shim et al., 2008). การกำจัดสารพิษเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงของการอักเสบและเสื่อมสภาพของหลอดเลือด พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง (Merchant, 2001). คลอเรลล่ายังเสริมภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลระบบประสาท และลดความเครียด ซึ่งช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานดีขึ้น (Jeon et al., 2016). สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ Phycocyanin ที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเสียหายของเซลล์หลอดเลือด (Bermejo et al., 2008). สไปรูลิน่าช่วยป้องกันการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Vazquez et al., 2013). นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายและปัญหาหลอดเลือดอื่นๆ (Belay et al., 1993). โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 อย่างที่ควรทำ เพื่อให้ "ภูมิคุ้มกัน ยังแข็งแรง" ไม่ป่วยง่าย ในวัยเกษียณ

    **บทความนี้ เกิดจากการนำกรอบคิด "ป้องกัน ก่อนปัญหาเกิด" มาใช้กับเรื่องสุขภาพ เพราะหากปัญหาเกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะระดับวิกฤติ เราจะยอมจ่ายเท่าไรก็ได้ เพื่อรักษาสุขภาพและชีวิตของเรา หรือคนที่เรารักไว้ แต่หาก เราเลือกป้องกัน เราจะสามารถวางแผนป้องกันปัญหา โดยจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด**

    เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ เป็นที่ทราบกันว่า ระบบภูมิคุ้มกัน ย่อมไม่แข็งแรงเท่าวัยหนุ่มสาว จึงทำให้ผู้ที่อยู่ในวัยสูงอายุ ต้องระวังป้องกันสุขภาพของตนเองอย่างมาก ไม่ให้ป่วย

    เพราะ "การป่วย" ในแต่ละครั้ง อาจนำไปสู่ อาการแทรกซ้อน ที่มีโอกาสพัฒนากลายเป็น โรคเรื้อรัง ที่ทำให้ใช้ชีวิตไม่ได้ปกติ และหมดความสุขในชีวิต ในวัยเกษียณ ในที่สุด

    3 ข้อด้านล่างนี้ จึงเป็นแนวทางการปฏิบัติ เพื่อ "รักษา ระบบภูมิคุ้มกัน ให้ยังแข็งแรง" สำหรับคนวัยเกษียณ :

    1. #การรับประทานอาหารที่สมดุล

    การรับประทานอาหารที่สมดุลและครบถ้วนตามหลักโภชนาการเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน วิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินซี, วิตามินดี, สังกะสี และธาตุเหล็ก มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน

    #วิตามินซี พบในผลไม้และผัก เช่น ส้ม มะนาว และบรอกโคลี ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ป้องกันการติดเชื้อ (Carr & Maggini, 2017) #วิตามินดี ซึ่งได้รับจากแสงแดดและอาหาร เช่น ปลาแซลมอนและนม เสริมสร้างความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง (Martineau et al., 2017) #สังกะสี ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพบได้ในถั่ว เมล็ดธัญพืช และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน (Prasad, 2013)

    2. #การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

    การออกกำลังกายไม่เพียงแค่ช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวม แต่ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ การออกกำลังกายปานกลาง เช่น การเดิน วิ่งเบาๆ หรือโยคะ จะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น และช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวในการต่อสู้กับเชื้อโรค

    งานวิจัยพบว่าการออกกำลังกายปานกลาง 30 นาทีต่อวันช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดโอกาสการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้การต่อสู้กับเชื้อโรคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น (Nieman & Wentz, 2019)

    3. #การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ

    การนอนหลับที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ เซลล์ภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้ดีขึ้น และร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองจากความเสียหายที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน

    การนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การขาดการนอนหลับสามารถทำให้ระดับของเซลล์เม็ดเลือดขาวลดลง และทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น งานวิจัยพบว่าผู้ที่นอนหลับไม่เพียงพอมีโอกาสติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัด มากขึ้นถึง 4 เท่า (Besedovsky et al., 2012; Cohen et al., 2009)

    ---------

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่ส่งเสริมให้

    "การปฏิบัติทั้ง 3 ข้อของคุณ ได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น กว่าไม่ได้ทาน"

    โดย คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการสะสางสารพิษ โดยเฉพาะโลหะหนักที่สะสมในร่างกาย ซึ่งช่วยให้ลำไส้สะอาดและสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ถูกขัดขวางจากสารพิษตกค้าง (Shim et al., 2008). การสะสางนี้ยังช่วยลดการกระตุ้นของระบบประสาทที่อาจทำให้นอนหลับยาก ทำให้คุณนอนหลับได้ง่ายขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของการพักผ่อน (Jeon et al., 2016). อีกทั้งยังมีงานวิจัยที่ชี้ชัดว่า คลอเรลล่าที่ปลอดภัย สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างมีนัยสำคัญ (Merchant, 2001).

    ในส่วนของ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีคุณสมบัติในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบระดับเซลล์ ซึ่งส่งผลให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่เสียหายหลังจากการออกกำลังกาย (Vazquez et al., 2013)

    ซึ่ง ทั้งหมดนี้ จะช่วยให้ การปฏิบัติทั้ง 3 ข้อดังกล่าว ของคุณ ได้ผลลัพธ์ มากขึ้น กว่า ไม่ได้ทาน

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 อย่างที่ควรทำ เพื่อให้ "ภูมิคุ้มกัน ยังแข็งแรง" ไม่ป่วยง่าย ในวัยเกษียณ **บทความนี้ เกิดจากการนำกรอบคิด "ป้องกัน ก่อนปัญหาเกิด" มาใช้กับเรื่องสุขภาพ เพราะหากปัญหาเกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะระดับวิกฤติ เราจะยอมจ่ายเท่าไรก็ได้ เพื่อรักษาสุขภาพและชีวิตของเรา หรือคนที่เรารักไว้ แต่หาก เราเลือกป้องกัน เราจะสามารถวางแผนป้องกันปัญหา โดยจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด** เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ เป็นที่ทราบกันว่า ระบบภูมิคุ้มกัน ย่อมไม่แข็งแรงเท่าวัยหนุ่มสาว จึงทำให้ผู้ที่อยู่ในวัยสูงอายุ ต้องระวังป้องกันสุขภาพของตนเองอย่างมาก ไม่ให้ป่วย เพราะ "การป่วย" ในแต่ละครั้ง อาจนำไปสู่ อาการแทรกซ้อน ที่มีโอกาสพัฒนากลายเป็น โรคเรื้อรัง ที่ทำให้ใช้ชีวิตไม่ได้ปกติ และหมดความสุขในชีวิต ในวัยเกษียณ ในที่สุด 3 ข้อด้านล่างนี้ จึงเป็นแนวทางการปฏิบัติ เพื่อ "รักษา ระบบภูมิคุ้มกัน ให้ยังแข็งแรง" สำหรับคนวัยเกษียณ : 1. #การรับประทานอาหารที่สมดุล การรับประทานอาหารที่สมดุลและครบถ้วนตามหลักโภชนาการเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน วิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินซี, วิตามินดี, สังกะสี และธาตุเหล็ก มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน #วิตามินซี พบในผลไม้และผัก เช่น ส้ม มะนาว และบรอกโคลี ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ป้องกันการติดเชื้อ (Carr & Maggini, 2017) #วิตามินดี ซึ่งได้รับจากแสงแดดและอาหาร เช่น ปลาแซลมอนและนม เสริมสร้างความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง (Martineau et al., 2017) #สังกะสี ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพบได้ในถั่ว เมล็ดธัญพืช และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน (Prasad, 2013) 2. #การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายไม่เพียงแค่ช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวม แต่ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ การออกกำลังกายปานกลาง เช่น การเดิน วิ่งเบาๆ หรือโยคะ จะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น และช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวในการต่อสู้กับเชื้อโรค งานวิจัยพบว่าการออกกำลังกายปานกลาง 30 นาทีต่อวันช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดโอกาสการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้การต่อสู้กับเชื้อโรคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น (Nieman & Wentz, 2019) 3. #การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ การนอนหลับที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ เซลล์ภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้ดีขึ้น และร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองจากความเสียหายที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน การนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การขาดการนอนหลับสามารถทำให้ระดับของเซลล์เม็ดเลือดขาวลดลง และทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น งานวิจัยพบว่าผู้ที่นอนหลับไม่เพียงพอมีโอกาสติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัด มากขึ้นถึง 4 เท่า (Besedovsky et al., 2012; Cohen et al., 2009) --------- #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่ส่งเสริมให้ "การปฏิบัติทั้ง 3 ข้อของคุณ ได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น กว่าไม่ได้ทาน" โดย คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการสะสางสารพิษ โดยเฉพาะโลหะหนักที่สะสมในร่างกาย ซึ่งช่วยให้ลำไส้สะอาดและสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ถูกขัดขวางจากสารพิษตกค้าง (Shim et al., 2008). การสะสางนี้ยังช่วยลดการกระตุ้นของระบบประสาทที่อาจทำให้นอนหลับยาก ทำให้คุณนอนหลับได้ง่ายขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของการพักผ่อน (Jeon et al., 2016). อีกทั้งยังมีงานวิจัยที่ชี้ชัดว่า คลอเรลล่าที่ปลอดภัย สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างมีนัยสำคัญ (Merchant, 2001). ในส่วนของ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีคุณสมบัติในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบระดับเซลล์ ซึ่งส่งผลให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่เสียหายหลังจากการออกกำลังกาย (Vazquez et al., 2013) ซึ่ง ทั้งหมดนี้ จะช่วยให้ การปฏิบัติทั้ง 3 ข้อดังกล่าว ของคุณ ได้ผลลัพธ์ มากขึ้น กว่า ไม่ได้ทาน โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 อย่างที่ควรทำ เพื่อให้ "ภูมิคุ้มกัน ยังแข็งแรง" ไม่ป่วยง่าย ในวัยเกษียณ

    **บทความนี้ เกิดจากการนำกรอบคิด "ป้องกัน ก่อนปัญหาเกิด" มาใช้กับเรื่องสุขภาพ เพราะหากปัญหาเกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะระดับวิกฤติ เราจะยอมจ่ายเท่าไรก็ได้ เพื่อรักษาสุขภาพและชีวิตของเรา หรือคนที่เรารักไว้ แต่หาก เราเลือกป้องกัน เราจะสามารถวางแผนป้องกันปัญหา โดยจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด**

    เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ เป็นที่ทราบกันว่า ระบบภูมิคุ้มกัน ย่อมไม่แข็งแรงเท่าวัยหนุ่มสาว จึงทำให้ผู้ที่อยู่ในวัยสูงอายุ ต้องระวังป้องกันสุขภาพของตนเองอย่างมาก ไม่ให้ป่วย

    เพราะ "การป่วย" ในแต่ละครั้ง อาจนำไปสู่ อาการแทรกซ้อน ที่มีโอกาสพัฒนากลายเป็น โรคเรื้อรัง ที่ทำให้ใช้ชีวิตไม่ได้ปกติ และหมดความสุขในชีวิต ในวัยเกษียณ ในที่สุด

    3 ข้อด้านล่างนี้ จึงเป็นแนวทางการปฏิบัติ เพื่อ "รักษา ระบบภูมิคุ้มกัน ให้ยังแข็งแรง" สำหรับคนวัยเกษียณ :

    1. #การรับประทานอาหารที่สมดุล

    การรับประทานอาหารที่สมดุลและครบถ้วนตามหลักโภชนาการเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน วิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินซี, วิตามินดี, สังกะสี และธาตุเหล็ก มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน

    #วิตามินซี พบในผลไม้และผัก เช่น ส้ม มะนาว และบรอกโคลี ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ป้องกันการติดเชื้อ (Carr & Maggini, 2017) #วิตามินดี ซึ่งได้รับจากแสงแดดและอาหาร เช่น ปลาแซลมอนและนม เสริมสร้างความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง (Martineau et al., 2017) #สังกะสี ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพบได้ในถั่ว เมล็ดธัญพืช และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน (Prasad, 2013)

    2. #การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

    การออกกำลังกายไม่เพียงแค่ช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวม แต่ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ การออกกำลังกายปานกลาง เช่น การเดิน วิ่งเบาๆ หรือโยคะ จะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น และช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวในการต่อสู้กับเชื้อโรค

    งานวิจัยพบว่าการออกกำลังกายปานกลาง 30 นาทีต่อวันช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดโอกาสการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้การต่อสู้กับเชื้อโรคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น (Nieman & Wentz, 2019)

    3. #การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ

    การนอนหลับที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ เซลล์ภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้ดีขึ้น และร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองจากความเสียหายที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน

    การนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การขาดการนอนหลับสามารถทำให้ระดับของเซลล์เม็ดเลือดขาวลดลง และทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น งานวิจัยพบว่าผู้ที่นอนหลับไม่เพียงพอมีโอกาสติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัด มากขึ้นถึง 4 เท่า (Besedovsky et al., 2012; Cohen et al., 2009)

    ---------

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่ส่งเสริมให้

    "การปฏิบัติทั้ง 3 ข้อของคุณ ได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น กว่าไม่ได้ทาน"

    โดย คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการสะสางสารพิษ โดยเฉพาะโลหะหนักที่สะสมในร่างกาย ซึ่งช่วยให้ลำไส้สะอาดและสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ถูกขัดขวางจากสารพิษตกค้าง (Shim et al., 2008). การสะสางนี้ยังช่วยลดการกระตุ้นของระบบประสาทที่อาจทำให้นอนหลับยาก ทำให้คุณนอนหลับได้ง่ายขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของการพักผ่อน (Jeon et al., 2016). อีกทั้งยังมีงานวิจัยที่ชี้ชัดว่า คลอเรลล่าที่ปลอดภัย สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างมีนัยสำคัญ (Merchant, 2001).

    ในส่วนของ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีคุณสมบัติในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบระดับเซลล์ ซึ่งส่งผลให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่เสียหายหลังจากการออกกำลังกาย (Vazquez et al., 2013)

    ซึ่ง ทั้งหมดนี้ จะช่วยให้ การปฏิบัติทั้ง 3 ข้อดังกล่าว ของคุณ ได้ผลลัพธ์ มากขึ้น กว่า ไม่ได้ทาน

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 อย่างที่ควรทำ เพื่อให้ "ภูมิคุ้มกัน ยังแข็งแรง" ไม่ป่วยง่าย ในวัยเกษียณ **บทความนี้ เกิดจากการนำกรอบคิด "ป้องกัน ก่อนปัญหาเกิด" มาใช้กับเรื่องสุขภาพ เพราะหากปัญหาเกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะระดับวิกฤติ เราจะยอมจ่ายเท่าไรก็ได้ เพื่อรักษาสุขภาพและชีวิตของเรา หรือคนที่เรารักไว้ แต่หาก เราเลือกป้องกัน เราจะสามารถวางแผนป้องกันปัญหา โดยจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด** เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ เป็นที่ทราบกันว่า ระบบภูมิคุ้มกัน ย่อมไม่แข็งแรงเท่าวัยหนุ่มสาว จึงทำให้ผู้ที่อยู่ในวัยสูงอายุ ต้องระวังป้องกันสุขภาพของตนเองอย่างมาก ไม่ให้ป่วย เพราะ "การป่วย" ในแต่ละครั้ง อาจนำไปสู่ อาการแทรกซ้อน ที่มีโอกาสพัฒนากลายเป็น โรคเรื้อรัง ที่ทำให้ใช้ชีวิตไม่ได้ปกติ และหมดความสุขในชีวิต ในวัยเกษียณ ในที่สุด 3 ข้อด้านล่างนี้ จึงเป็นแนวทางการปฏิบัติ เพื่อ "รักษา ระบบภูมิคุ้มกัน ให้ยังแข็งแรง" สำหรับคนวัยเกษียณ : 1. #การรับประทานอาหารที่สมดุล การรับประทานอาหารที่สมดุลและครบถ้วนตามหลักโภชนาการเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน วิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินซี, วิตามินดี, สังกะสี และธาตุเหล็ก มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน #วิตามินซี พบในผลไม้และผัก เช่น ส้ม มะนาว และบรอกโคลี ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ป้องกันการติดเชื้อ (Carr & Maggini, 2017) #วิตามินดี ซึ่งได้รับจากแสงแดดและอาหาร เช่น ปลาแซลมอนและนม เสริมสร้างความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง (Martineau et al., 2017) #สังกะสี ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพบได้ในถั่ว เมล็ดธัญพืช และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน (Prasad, 2013) 2. #การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายไม่เพียงแค่ช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวม แต่ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ การออกกำลังกายปานกลาง เช่น การเดิน วิ่งเบาๆ หรือโยคะ จะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น และช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวในการต่อสู้กับเชื้อโรค งานวิจัยพบว่าการออกกำลังกายปานกลาง 30 นาทีต่อวันช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดโอกาสการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้การต่อสู้กับเชื้อโรคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น (Nieman & Wentz, 2019) 3. #การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ การนอนหลับที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ เซลล์ภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้ดีขึ้น และร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองจากความเสียหายที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน การนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การขาดการนอนหลับสามารถทำให้ระดับของเซลล์เม็ดเลือดขาวลดลง และทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น งานวิจัยพบว่าผู้ที่นอนหลับไม่เพียงพอมีโอกาสติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัด มากขึ้นถึง 4 เท่า (Besedovsky et al., 2012; Cohen et al., 2009) --------- #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่ส่งเสริมให้ "การปฏิบัติทั้ง 3 ข้อของคุณ ได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น กว่าไม่ได้ทาน" โดย คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการสะสางสารพิษ โดยเฉพาะโลหะหนักที่สะสมในร่างกาย ซึ่งช่วยให้ลำไส้สะอาดและสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ถูกขัดขวางจากสารพิษตกค้าง (Shim et al., 2008). การสะสางนี้ยังช่วยลดการกระตุ้นของระบบประสาทที่อาจทำให้นอนหลับยาก ทำให้คุณนอนหลับได้ง่ายขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของการพักผ่อน (Jeon et al., 2016). อีกทั้งยังมีงานวิจัยที่ชี้ชัดว่า คลอเรลล่าที่ปลอดภัย สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างมีนัยสำคัญ (Merchant, 2001). ในส่วนของ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีคุณสมบัติในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบระดับเซลล์ ซึ่งส่งผลให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่เสียหายหลังจากการออกกำลังกาย (Vazquez et al., 2013) ซึ่ง ทั้งหมดนี้ จะช่วยให้ การปฏิบัติทั้ง 3 ข้อดังกล่าว ของคุณ ได้ผลลัพธ์ มากขึ้น กว่า ไม่ได้ทาน โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • อจ Yupin Deesomsak... ตามที่ “ ทางการสาธารณสุข อย สถาบันวัคซีน และอีกหลายสถาบัน ประกาศว่าวัคซีนมีความปลอดภัยสูงสุดทั้งประเทศไทยมีได้รับผลกระทบรุนแรงเพียงแค่ห้ารายจนกระทั่งถึงต้นปี 2567 และล่าสุดเชิญชวนฉีดวัคซีนต่อประกาศเดือนตุลาคม 2567 ไม่ใช่แต่กลุ่มเปราะบางสูงวัยมีโรคประจำตัวแต่รวมถึงเด็กอายุเกินหกเดือนด้วย “ (ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา) นั้น ตนเองเป็นกลุ่มเปราะบางสูงวัยมีโรคประจำตัวดังกล่าว จะไม่ไปฉีดวัคซีนโควิด ด้วยเหตุผลดังนี้
    1. บุคคล / หน่วยงาน ที่รณรงค์ให้กลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีน
    1.1 ไม่ได้บอกประโยชน์และโทษหรือผลข้างเคียงของวัคซีน
    1.2 ไม่ได้แสดงเจตจำนงค์จะรับผิดชอบด้วยคำพูดและลายลักษณ์อักษรว่าถ้าหลังฉีดวัคซีนเกิดการเจ็บป่วย พิการ เสียชีวิต บุคคล / หน่วยงาน ที่รณรงค์ให้กลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีนจะรับผิดชอบทำการรักษาให้ฟรีและเยียวยาชดเชยให้ กลัวว่าถ้าเกิดผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน
    1.3 ผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนไปเรียกร้องขอความเป็นธรรมตามสิทธิ์ จะถูกปฏิเสธการรักษาและเยียวยาชดเชยโดยกล่าวว่า เกิดขึ้นเพราะแก่และโรคประจำตัวซึ่งก็ไม่ควรรณรงค์ให้ไปฉีดวัคซีน
    1.4 หน่วยงานนี้ให้ไปหาหลักฐานข้อพิสูจน์ว่าการเจ็บป่วย พิการ เสียชีวิตนั้นเกิดจากวัคซีนโควิดจริงซึ่งเป็นเรื่องยากยิ่งสำหรับประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนสูงอายุ มีโรคประจำตัวและเกิดผลข้างเคียงของวัคซีนที่มีความทุกข์มากอยู่แล้วต้องดิ้นรนอย่างหนักในการ เดินทาง ค่าเดินทาง เสียเวลาและเสียเงินจำนวนมากมาจ่ายค่าการพิสูจน์ความจริงว่าผลข้างเคียงเกิดจากวัคซีนโควิด100% ค่าทนายความฯ เพื่อมาหักล้างว่าผลกระทบนั้นไม่ได้เกิดจากความแก่และโรคประจำตัว ราวกับโจทย์และจำเลยในศาล ทั้งที่การพิสูจน์นี้ควรเป็นหน้าที่รับผิดชอบของหน่วยงานนี้ที่มีหน้าที่ช่วยเหลือทำให้ประชาชนมีสุขภาพดี(สาธารณสุข)
    1.5 บอก“ วัคซีนมีความปลอดภัยสูงสุดทั้งประเทศไทยมีได้รับผลกระทบรุนแรงเพียงแค่ห้ารายจนกระทั่งถึงต้นปี 2567” ข้อความนี้เป็นความจริงเชิงประจักษ์หรือไม่ ถ้าไม่เป็นความจริงควรรับผิดชอบอย่างไรที่ทำให้ประชาชนหลงเชื่อผิด ทำให้ตัดสินใจไม่ถูกต้องตามความจริงที่ไปรับการฉีดวัคซีน
    1.4 ตามหลักความเชื่อ10ประการของพระพุทธองค์คือ “ อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา การถือสืบๆกันมา การเล่าลือ การอ้างตำราหรือคัมภีร์ ตรรก การอนุมาน การคิดตรองตามแนวเหตุผล เข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว มองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา” ให้สอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า สิ่งเหล่านั้นเป็นกุศลหรือไม่มีโทษ เมื่อนั้นพึงถือปฏิบัติคือเชื่อและทำตามไปฉีดวัคซีน ใช้หลักง่ายๆข้อหนึ่งคือผู้กล่าวนั้นต้องไม่มีผลประโยชน์ใดๆเกี่ยวกับวัคซีน

    2. มีข้อมูลทางวิชาการมากมายจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านที่กล่าวอย่างต่อเนื่องว่าผลข้างเคียงของmRNA วัคซีนนั้น “ ยิ่งฉีดทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอยิ่งขึ้น มีคนตายและพิการในประเทศไทยหลังจากฉีดรวมทั้งหลักฐานการชันสูตรในวารสารการแพทย์และวิทยาศาสตร์เกี่ยวพันกับกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเป็นหย่อมตายเฉียบพลัน สมองเสื่อม และมะเร็ง เป็นต้น” (ธีระวัฒน์ เหมะจะฑา) ... หน่วยงานนี้ควรศึกษาตรวจสอบผลกระทบของวัคซีนอย่างซื่อสัตย์จริงใจ ประเมินความปลอดภัยให้แน่ใจก่อนจึงรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนโควิดอีก ไม่ใช่กล่าวลอยๆว่าข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของวัคซีนดังกล่าวมาจากแหล่งที่เชื่อถือไม่ได้ เพราะถ้าข้อมูลเหล่านี้เชื่อถือไม่ได้จริงๆหน่วยงานควรดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กล่าวนั้นเพราะสร้างความเสียหาย จะได้มีการพิสูจน์ความจริง
    3. ประสบการณ์ตรงที่เป็นกลุ่มเปราะบางคือสูงอายุมีโรคประจำตัว ฉีดวัคซีนโควิดmRNA4เข็ม เพิ่งติดเชื้อโควิดครั้งแรกเมื่อ3เดือนก่อนเพราะรับเด็กทำงานบ้านมาใหม่ออกนอกบ้านไปรับเชื้อมาแพร่ต่อให้ พบว่าตนเองมีอาการน้อยมาก แค่ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอและไอเล้กน้อย กินฟ้าทะลายโจร5วันและยาฆ่าเชื้อ1ชุด อาการดีขึ้นจนหายเป็นปกติ ตนเองเป็นคนที่รักษาสุขภาพ (กินอาหารสุขภาพ ถ่ายอุจจาระทุกวัน ออกกำลังกายเดินทุกวันวันละ30นาที ตากแดด อยู่ในที่อากาศดี นอนหลับดีเพียงพอ ไม่เครียด ใช้ยาเมื่อจำเป็น ตรวจร่างกายประจำ ควบคุมน้ำตาล ไขมัน ความดันเลือด น้ำหนักและโรคประจำตัว) และรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล ไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย (เช่น กินอาหารสุกร้อน ล้างมือบ่อยๆ ใส่หน้ากาก ไม่ไปที่เสี่ยงคนแออัด ใช้ของใช้ส่วนตน เป็นต้น)ตลอดมา คิดว่า การป้องกันการติดเชื้อที่ดีที่สุดคือการดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรง ควบคุมโรคประจำตัวให้ดีทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันดีและรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล เพราะการกระทำดังกล่าวนี้มีแต่ผลดี นอกจากป้องกันโรคโควิดแล้วยังป้องกันโรคอื่นๆได้ด้วย ประหยัด ยั่งยืนและไม่เกิดผลกระทบใดๆต่อร่างกายและจิตใจตามมา
    อจ Yupin Deesomsak... ตามที่ “ ทางการสาธารณสุข อย สถาบันวัคซีน และอีกหลายสถาบัน ประกาศว่าวัคซีนมีความปลอดภัยสูงสุดทั้งประเทศไทยมีได้รับผลกระทบรุนแรงเพียงแค่ห้ารายจนกระทั่งถึงต้นปี 2567 และล่าสุดเชิญชวนฉีดวัคซีนต่อประกาศเดือนตุลาคม 2567 ไม่ใช่แต่กลุ่มเปราะบางสูงวัยมีโรคประจำตัวแต่รวมถึงเด็กอายุเกินหกเดือนด้วย “ (ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา) นั้น ตนเองเป็นกลุ่มเปราะบางสูงวัยมีโรคประจำตัวดังกล่าว จะไม่ไปฉีดวัคซีนโควิด ด้วยเหตุผลดังนี้ 1. บุคคล / หน่วยงาน ที่รณรงค์ให้กลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีน 1.1 ไม่ได้บอกประโยชน์และโทษหรือผลข้างเคียงของวัคซีน 1.2 ไม่ได้แสดงเจตจำนงค์จะรับผิดชอบด้วยคำพูดและลายลักษณ์อักษรว่าถ้าหลังฉีดวัคซีนเกิดการเจ็บป่วย พิการ เสียชีวิต บุคคล / หน่วยงาน ที่รณรงค์ให้กลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีนจะรับผิดชอบทำการรักษาให้ฟรีและเยียวยาชดเชยให้ กลัวว่าถ้าเกิดผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน 1.3 ผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนไปเรียกร้องขอความเป็นธรรมตามสิทธิ์ จะถูกปฏิเสธการรักษาและเยียวยาชดเชยโดยกล่าวว่า เกิดขึ้นเพราะแก่และโรคประจำตัวซึ่งก็ไม่ควรรณรงค์ให้ไปฉีดวัคซีน 1.4 หน่วยงานนี้ให้ไปหาหลักฐานข้อพิสูจน์ว่าการเจ็บป่วย พิการ เสียชีวิตนั้นเกิดจากวัคซีนโควิดจริงซึ่งเป็นเรื่องยากยิ่งสำหรับประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนสูงอายุ มีโรคประจำตัวและเกิดผลข้างเคียงของวัคซีนที่มีความทุกข์มากอยู่แล้วต้องดิ้นรนอย่างหนักในการ เดินทาง ค่าเดินทาง เสียเวลาและเสียเงินจำนวนมากมาจ่ายค่าการพิสูจน์ความจริงว่าผลข้างเคียงเกิดจากวัคซีนโควิด100% ค่าทนายความฯ เพื่อมาหักล้างว่าผลกระทบนั้นไม่ได้เกิดจากความแก่และโรคประจำตัว ราวกับโจทย์และจำเลยในศาล ทั้งที่การพิสูจน์นี้ควรเป็นหน้าที่รับผิดชอบของหน่วยงานนี้ที่มีหน้าที่ช่วยเหลือทำให้ประชาชนมีสุขภาพดี(สาธารณสุข) 1.5 บอก“ วัคซีนมีความปลอดภัยสูงสุดทั้งประเทศไทยมีได้รับผลกระทบรุนแรงเพียงแค่ห้ารายจนกระทั่งถึงต้นปี 2567” ข้อความนี้เป็นความจริงเชิงประจักษ์หรือไม่ ถ้าไม่เป็นความจริงควรรับผิดชอบอย่างไรที่ทำให้ประชาชนหลงเชื่อผิด ทำให้ตัดสินใจไม่ถูกต้องตามความจริงที่ไปรับการฉีดวัคซีน 1.4 ตามหลักความเชื่อ10ประการของพระพุทธองค์คือ “ อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา การถือสืบๆกันมา การเล่าลือ การอ้างตำราหรือคัมภีร์ ตรรก การอนุมาน การคิดตรองตามแนวเหตุผล เข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว มองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา” ให้สอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า สิ่งเหล่านั้นเป็นกุศลหรือไม่มีโทษ เมื่อนั้นพึงถือปฏิบัติคือเชื่อและทำตามไปฉีดวัคซีน ใช้หลักง่ายๆข้อหนึ่งคือผู้กล่าวนั้นต้องไม่มีผลประโยชน์ใดๆเกี่ยวกับวัคซีน 2. มีข้อมูลทางวิชาการมากมายจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านที่กล่าวอย่างต่อเนื่องว่าผลข้างเคียงของmRNA วัคซีนนั้น “ ยิ่งฉีดทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอยิ่งขึ้น มีคนตายและพิการในประเทศไทยหลังจากฉีดรวมทั้งหลักฐานการชันสูตรในวารสารการแพทย์และวิทยาศาสตร์เกี่ยวพันกับกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเป็นหย่อมตายเฉียบพลัน สมองเสื่อม และมะเร็ง เป็นต้น” (ธีระวัฒน์ เหมะจะฑา) ... หน่วยงานนี้ควรศึกษาตรวจสอบผลกระทบของวัคซีนอย่างซื่อสัตย์จริงใจ ประเมินความปลอดภัยให้แน่ใจก่อนจึงรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนโควิดอีก ไม่ใช่กล่าวลอยๆว่าข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของวัคซีนดังกล่าวมาจากแหล่งที่เชื่อถือไม่ได้ เพราะถ้าข้อมูลเหล่านี้เชื่อถือไม่ได้จริงๆหน่วยงานควรดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กล่าวนั้นเพราะสร้างความเสียหาย จะได้มีการพิสูจน์ความจริง 3. ประสบการณ์ตรงที่เป็นกลุ่มเปราะบางคือสูงอายุมีโรคประจำตัว ฉีดวัคซีนโควิดmRNA4เข็ม เพิ่งติดเชื้อโควิดครั้งแรกเมื่อ3เดือนก่อนเพราะรับเด็กทำงานบ้านมาใหม่ออกนอกบ้านไปรับเชื้อมาแพร่ต่อให้ พบว่าตนเองมีอาการน้อยมาก แค่ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอและไอเล้กน้อย กินฟ้าทะลายโจร5วันและยาฆ่าเชื้อ1ชุด อาการดีขึ้นจนหายเป็นปกติ ตนเองเป็นคนที่รักษาสุขภาพ (กินอาหารสุขภาพ ถ่ายอุจจาระทุกวัน ออกกำลังกายเดินทุกวันวันละ30นาที ตากแดด อยู่ในที่อากาศดี นอนหลับดีเพียงพอ ไม่เครียด ใช้ยาเมื่อจำเป็น ตรวจร่างกายประจำ ควบคุมน้ำตาล ไขมัน ความดันเลือด น้ำหนักและโรคประจำตัว) และรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล ไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย (เช่น กินอาหารสุกร้อน ล้างมือบ่อยๆ ใส่หน้ากาก ไม่ไปที่เสี่ยงคนแออัด ใช้ของใช้ส่วนตน เป็นต้น)ตลอดมา คิดว่า การป้องกันการติดเชื้อที่ดีที่สุดคือการดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรง ควบคุมโรคประจำตัวให้ดีทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันดีและรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล เพราะการกระทำดังกล่าวนี้มีแต่ผลดี นอกจากป้องกันโรคโควิดแล้วยังป้องกันโรคอื่นๆได้ด้วย ประหยัด ยั่งยืนและไม่เกิดผลกระทบใดๆต่อร่างกายและจิตใจตามมา
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 343 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 สัญญาณสำคัญ ที่เตือนว่า มีโอกาส "ติดเตียง"

    การ #ติดเตียง สำหรับผู้สูงอายุนั้น ไม่ใช่แค่ปัญหาด้านร่างกาย ที่เคลื่อนไหวไม่ได้ ต้องมีคนช่วยดูแล

    ...แต่ยัง อาจก่อให้เกิดปัญหาหนักในทางจิตใจ เพราะอาจทำให้รู้สึกได้ว่า ตนเองไม่มีค่า ต้องเป็นภาระของลูกหลานที่ตนรัก ซึ่งอาจก่อให้เกิดภาวะซึมเศร้าตามมา

    ดังนั้น ภาวะ "ติดเตียง" จึงเป็นภาวะ "ที่ต้องระวังป้องกัน ปล่อยให้เกิดไม่ได้" เพราะจะบั่นทอน "ความสุข ในวัยเกษียณ" ของคุณจนหมดสิ้น

    จึงควรต้องจับตาดู 3 สัญญาณ ของร่างกาย เพื่อระวังป้องกัน ดังนี้

    1. ความอ่อนแรงและการเคลื่อนไหวที่ลดลง
    สัญญาณแรกที่ผู้สูงอายุต้องระวังคือการเคลื่อนไหวที่ลดลง ความอ่อนแรงในกล้ามเนื้อทำให้ผู้สูงอายุเริ่มมีปัญหาในการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การลุกจากเตียง การเดิน หรือแม้กระทั่งการนั่งเป็นเวลานาน

    **การอ่อนแรงของกล้ามเนื้อมักมาจากการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ (Sarcopenia) ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายสูญเสียกล้ามเนื้อไปตามอายุ นอกจากนี้ การไม่ออกกำลังกายเป็นประจำ การขาดโปรตีน และโรคเรื้อรัง เช่น โรคข้ออักเสบหรือโรคเบาหวาน ก็สามารถเป็นปัจจัยสำคัญได้**

    2. ปัญหาการทรงตัวและการล้ม
    สัญญาณเตือนที่สองคือปัญหาการทรงตัว ซึ่งทำให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงที่จะล้ม การล้มอาจส่งผลให้เกิดกระดูกหัก หรือบาดเจ็บรุนแรง ทำให้ผู้ป่วยติดเตียงในระยะยาว

    **ปัญหานี้เกิดจากความเสื่อมของระบบประสาทและสมอง รวมถึงปัญหาที่เกี่ยวกับความเสื่อมของกระดูกและข้อต่อ เช่น โรคกระดูกพรุน ซึ่งทำให้กระดูกเปราะและแตกหักง่ายขึ้น การทรงตัวที่ไม่ดีสามารถเกิดจากภาวะหลอดเลือดตีบตันในสมอง หรือภาวะขาดสมดุลในระดับสมองส่วนกลาง**

    3. การกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่อยู่
    ปัญหาการควบคุมระบบขับถ่ายเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกถึงความเสื่อมของระบบประสาทและกล้ามเนื้อในร่างกาย ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการติดเตียงได้

    **สาเหตุของการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่มักเกิดจากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท เช่น โรคพาร์กินสัน หรือโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อในระบบขับถ่ายได้อย่างเต็มที่**

    (ข้อมูลอ้างอิงจาก World Health Organization, National Institutes of Health, และ Mayo Clinic)

    -----------

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่ช่วยป้องกัน สาเหตุที่ก่อให้เกิดสัญญาณ ทั้ง 3 อย่างนี้ มีประสิทธิภาพ

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย เป็นที่รู้จักกันดีในด้านการช่วยกำจัดสารพิษ โดยเฉพาะโลหะหนักจากร่างกาย งานวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่าคลอเรลล่าที่ปลอดภัยมีบทบาทในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและปรับปรุงการทำงานของตับและไตได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเสื่อมถอยของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ (Merchant, 2001), (Jeon et al., 2016). นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยในการลดความเสี่ยงของปัญหาการทรงตัวและการล้มที่มักเกิดจากการสะสมของสารพิษในระบบประสาทและกล้ามเนื้อ (Queiroz et al., 2020).

    สำหรับ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย งานวิจัยชี้ว่ามีสาร Phycocyanin ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ สารนี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อและปัญหาการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการป้องกันภาวะติดเตียง (Bermejo et al., 2008), (Mao et al., 2005). นอกจากนี้ การบริโภคสไปรูลิน่าที่ปลอดภัยยังช่วยส่งเสริมระบบประสาท และป้องกันปัญหาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ซึ่งเป็นผลจากความเสื่อมถอยของระบบประสาท (Belay et al., 1993).

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 สัญญาณสำคัญ ที่เตือนว่า มีโอกาส "ติดเตียง" การ #ติดเตียง สำหรับผู้สูงอายุนั้น ไม่ใช่แค่ปัญหาด้านร่างกาย ที่เคลื่อนไหวไม่ได้ ต้องมีคนช่วยดูแล ...แต่ยัง อาจก่อให้เกิดปัญหาหนักในทางจิตใจ เพราะอาจทำให้รู้สึกได้ว่า ตนเองไม่มีค่า ต้องเป็นภาระของลูกหลานที่ตนรัก ซึ่งอาจก่อให้เกิดภาวะซึมเศร้าตามมา ดังนั้น ภาวะ "ติดเตียง" จึงเป็นภาวะ "ที่ต้องระวังป้องกัน ปล่อยให้เกิดไม่ได้" เพราะจะบั่นทอน "ความสุข ในวัยเกษียณ" ของคุณจนหมดสิ้น จึงควรต้องจับตาดู 3 สัญญาณ ของร่างกาย เพื่อระวังป้องกัน ดังนี้ 1. ความอ่อนแรงและการเคลื่อนไหวที่ลดลง สัญญาณแรกที่ผู้สูงอายุต้องระวังคือการเคลื่อนไหวที่ลดลง ความอ่อนแรงในกล้ามเนื้อทำให้ผู้สูงอายุเริ่มมีปัญหาในการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การลุกจากเตียง การเดิน หรือแม้กระทั่งการนั่งเป็นเวลานาน **การอ่อนแรงของกล้ามเนื้อมักมาจากการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ (Sarcopenia) ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายสูญเสียกล้ามเนื้อไปตามอายุ นอกจากนี้ การไม่ออกกำลังกายเป็นประจำ การขาดโปรตีน และโรคเรื้อรัง เช่น โรคข้ออักเสบหรือโรคเบาหวาน ก็สามารถเป็นปัจจัยสำคัญได้** 2. ปัญหาการทรงตัวและการล้ม สัญญาณเตือนที่สองคือปัญหาการทรงตัว ซึ่งทำให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงที่จะล้ม การล้มอาจส่งผลให้เกิดกระดูกหัก หรือบาดเจ็บรุนแรง ทำให้ผู้ป่วยติดเตียงในระยะยาว **ปัญหานี้เกิดจากความเสื่อมของระบบประสาทและสมอง รวมถึงปัญหาที่เกี่ยวกับความเสื่อมของกระดูกและข้อต่อ เช่น โรคกระดูกพรุน ซึ่งทำให้กระดูกเปราะและแตกหักง่ายขึ้น การทรงตัวที่ไม่ดีสามารถเกิดจากภาวะหลอดเลือดตีบตันในสมอง หรือภาวะขาดสมดุลในระดับสมองส่วนกลาง** 3. การกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่อยู่ ปัญหาการควบคุมระบบขับถ่ายเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกถึงความเสื่อมของระบบประสาทและกล้ามเนื้อในร่างกาย ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการติดเตียงได้ **สาเหตุของการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่มักเกิดจากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท เช่น โรคพาร์กินสัน หรือโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อในระบบขับถ่ายได้อย่างเต็มที่** (ข้อมูลอ้างอิงจาก World Health Organization, National Institutes of Health, และ Mayo Clinic) ----------- #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่ช่วยป้องกัน สาเหตุที่ก่อให้เกิดสัญญาณ ทั้ง 3 อย่างนี้ มีประสิทธิภาพ คลอเรลล่าที่ปลอดภัย เป็นที่รู้จักกันดีในด้านการช่วยกำจัดสารพิษ โดยเฉพาะโลหะหนักจากร่างกาย งานวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่าคลอเรลล่าที่ปลอดภัยมีบทบาทในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและปรับปรุงการทำงานของตับและไตได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเสื่อมถอยของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ (Merchant, 2001), (Jeon et al., 2016). นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยในการลดความเสี่ยงของปัญหาการทรงตัวและการล้มที่มักเกิดจากการสะสมของสารพิษในระบบประสาทและกล้ามเนื้อ (Queiroz et al., 2020). สำหรับ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย งานวิจัยชี้ว่ามีสาร Phycocyanin ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ สารนี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อและปัญหาการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการป้องกันภาวะติดเตียง (Bermejo et al., 2008), (Mao et al., 2005). นอกจากนี้ การบริโภคสไปรูลิน่าที่ปลอดภัยยังช่วยส่งเสริมระบบประสาท และป้องกันปัญหาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ซึ่งเป็นผลจากความเสื่อมถอยของระบบประสาท (Belay et al., 1993). โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 สัญญาณสำคัญ ที่เตือนว่า มีโอกาส "ติดเตียง"

    การ #ติดเตียง สำหรับผู้สูงอายุนั้น ไม่ใช่แค่ปัญหาด้านร่างกาย ที่เคลื่อนไหวไม่ได้ ต้องมีคนช่วยดูแล

    ...แต่ยัง อาจก่อให้เกิดปัญหาหนักในทางจิตใจ เพราะอาจทำให้รู้สึกได้ว่า ตนเองไม่มีค่า ต้องเป็นภาระของลูกหลานที่ตนรัก ซึ่งอาจก่อให้เกิดภาวะซึมเศร้าตามมา

    ดังนั้น ภาวะ "ติดเตียง" จึงเป็นภาวะ "ที่ต้องระวังป้องกัน ปล่อยให้เกิดไม่ได้" เพราะจะบั่นทอน "ความสุข ในวัยเกษียณ" ของคุณจนหมดสิ้น

    จึงควรต้องจับตาดู 3 สัญญาณ ของร่างกาย เพื่อระวังป้องกัน ดังนี้

    1. ความอ่อนแรงและการเคลื่อนไหวที่ลดลง
    สัญญาณแรกที่ผู้สูงอายุต้องระวังคือการเคลื่อนไหวที่ลดลง ความอ่อนแรงในกล้ามเนื้อทำให้ผู้สูงอายุเริ่มมีปัญหาในการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การลุกจากเตียง การเดิน หรือแม้กระทั่งการนั่งเป็นเวลานาน

    **การอ่อนแรงของกล้ามเนื้อมักมาจากการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ (Sarcopenia) ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายสูญเสียกล้ามเนื้อไปตามอายุ นอกจากนี้ การไม่ออกกำลังกายเป็นประจำ การขาดโปรตีน และโรคเรื้อรัง เช่น โรคข้ออักเสบหรือโรคเบาหวาน ก็สามารถเป็นปัจจัยสำคัญได้**

    2. ปัญหาการทรงตัวและการล้ม
    สัญญาณเตือนที่สองคือปัญหาการทรงตัว ซึ่งทำให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงที่จะล้ม การล้มอาจส่งผลให้เกิดกระดูกหัก หรือบาดเจ็บรุนแรง ทำให้ผู้ป่วยติดเตียงในระยะยาว

    **ปัญหานี้เกิดจากความเสื่อมของระบบประสาทและสมอง รวมถึงปัญหาที่เกี่ยวกับความเสื่อมของกระดูกและข้อต่อ เช่น โรคกระดูกพรุน ซึ่งทำให้กระดูกเปราะและแตกหักง่ายขึ้น การทรงตัวที่ไม่ดีสามารถเกิดจากภาวะหลอดเลือดตีบตันในสมอง หรือภาวะขาดสมดุลในระดับสมองส่วนกลาง**

    3. การกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่อยู่
    ปัญหาการควบคุมระบบขับถ่ายเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกถึงความเสื่อมของระบบประสาทและกล้ามเนื้อในร่างกาย ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการติดเตียงได้

    **สาเหตุของการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่มักเกิดจากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท เช่น โรคพาร์กินสัน หรือโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อในระบบขับถ่ายได้อย่างเต็มที่**

    (ข้อมูลอ้างอิงจาก World Health Organization, National Institutes of Health, และ Mayo Clinic)

    -----------

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่ช่วยป้องกัน สาเหตุที่ก่อให้เกิดสัญญาณ ทั้ง 3 อย่างนี้ มีประสิทธิภาพ

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย เป็นที่รู้จักกันดีในด้านการช่วยกำจัดสารพิษ โดยเฉพาะโลหะหนักจากร่างกาย งานวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่าคลอเรลล่าที่ปลอดภัยมีบทบาทในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและปรับปรุงการทำงานของตับและไตได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเสื่อมถอยของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ (Merchant, 2001), (Jeon et al., 2016). นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยในการลดความเสี่ยงของปัญหาการทรงตัวและการล้มที่มักเกิดจากการสะสมของสารพิษในระบบประสาทและกล้ามเนื้อ (Queiroz et al., 2020).

    สำหรับ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย งานวิจัยชี้ว่ามีสาร Phycocyanin ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ สารนี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อและปัญหาการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการป้องกันภาวะติดเตียง (Bermejo et al., 2008), (Mao et al., 2005). นอกจากนี้ การบริโภคสไปรูลิน่าที่ปลอดภัยยังช่วยส่งเสริมระบบประสาท และป้องกันปัญหาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ซึ่งเป็นผลจากความเสื่อมถอยของระบบประสาท (Belay et al., 1993).

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 สัญญาณสำคัญ ที่เตือนว่า มีโอกาส "ติดเตียง" การ #ติดเตียง สำหรับผู้สูงอายุนั้น ไม่ใช่แค่ปัญหาด้านร่างกาย ที่เคลื่อนไหวไม่ได้ ต้องมีคนช่วยดูแล ...แต่ยัง อาจก่อให้เกิดปัญหาหนักในทางจิตใจ เพราะอาจทำให้รู้สึกได้ว่า ตนเองไม่มีค่า ต้องเป็นภาระของลูกหลานที่ตนรัก ซึ่งอาจก่อให้เกิดภาวะซึมเศร้าตามมา ดังนั้น ภาวะ "ติดเตียง" จึงเป็นภาวะ "ที่ต้องระวังป้องกัน ปล่อยให้เกิดไม่ได้" เพราะจะบั่นทอน "ความสุข ในวัยเกษียณ" ของคุณจนหมดสิ้น จึงควรต้องจับตาดู 3 สัญญาณ ของร่างกาย เพื่อระวังป้องกัน ดังนี้ 1. ความอ่อนแรงและการเคลื่อนไหวที่ลดลง สัญญาณแรกที่ผู้สูงอายุต้องระวังคือการเคลื่อนไหวที่ลดลง ความอ่อนแรงในกล้ามเนื้อทำให้ผู้สูงอายุเริ่มมีปัญหาในการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การลุกจากเตียง การเดิน หรือแม้กระทั่งการนั่งเป็นเวลานาน **การอ่อนแรงของกล้ามเนื้อมักมาจากการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ (Sarcopenia) ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายสูญเสียกล้ามเนื้อไปตามอายุ นอกจากนี้ การไม่ออกกำลังกายเป็นประจำ การขาดโปรตีน และโรคเรื้อรัง เช่น โรคข้ออักเสบหรือโรคเบาหวาน ก็สามารถเป็นปัจจัยสำคัญได้** 2. ปัญหาการทรงตัวและการล้ม สัญญาณเตือนที่สองคือปัญหาการทรงตัว ซึ่งทำให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงที่จะล้ม การล้มอาจส่งผลให้เกิดกระดูกหัก หรือบาดเจ็บรุนแรง ทำให้ผู้ป่วยติดเตียงในระยะยาว **ปัญหานี้เกิดจากความเสื่อมของระบบประสาทและสมอง รวมถึงปัญหาที่เกี่ยวกับความเสื่อมของกระดูกและข้อต่อ เช่น โรคกระดูกพรุน ซึ่งทำให้กระดูกเปราะและแตกหักง่ายขึ้น การทรงตัวที่ไม่ดีสามารถเกิดจากภาวะหลอดเลือดตีบตันในสมอง หรือภาวะขาดสมดุลในระดับสมองส่วนกลาง** 3. การกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่อยู่ ปัญหาการควบคุมระบบขับถ่ายเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกถึงความเสื่อมของระบบประสาทและกล้ามเนื้อในร่างกาย ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการติดเตียงได้ **สาเหตุของการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่มักเกิดจากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท เช่น โรคพาร์กินสัน หรือโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อในระบบขับถ่ายได้อย่างเต็มที่** (ข้อมูลอ้างอิงจาก World Health Organization, National Institutes of Health, และ Mayo Clinic) ----------- #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่ช่วยป้องกัน สาเหตุที่ก่อให้เกิดสัญญาณ ทั้ง 3 อย่างนี้ มีประสิทธิภาพ คลอเรลล่าที่ปลอดภัย เป็นที่รู้จักกันดีในด้านการช่วยกำจัดสารพิษ โดยเฉพาะโลหะหนักจากร่างกาย งานวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่าคลอเรลล่าที่ปลอดภัยมีบทบาทในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและปรับปรุงการทำงานของตับและไตได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเสื่อมถอยของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ (Merchant, 2001), (Jeon et al., 2016). นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยในการลดความเสี่ยงของปัญหาการทรงตัวและการล้มที่มักเกิดจากการสะสมของสารพิษในระบบประสาทและกล้ามเนื้อ (Queiroz et al., 2020). สำหรับ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย งานวิจัยชี้ว่ามีสาร Phycocyanin ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ สารนี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อและปัญหาการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการป้องกันภาวะติดเตียง (Bermejo et al., 2008), (Mao et al., 2005). นอกจากนี้ การบริโภคสไปรูลิน่าที่ปลอดภัยยังช่วยส่งเสริมระบบประสาท และป้องกันปัญหาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ซึ่งเป็นผลจากความเสื่อมถอยของระบบประสาท (Belay et al., 1993). โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 โรคพบบ่อยในไทย ที่อาจทำให้ชีวิตเกษียณของคุณ *หมดความสุข*

    เมื่อถึงวัยเกษียณ หลายคนมองไปถึงการใช้ชีวิตที่ปกติ สงบสุข ได้ไปเที่ยว ออกไปเรียนรู้กับคนที่รัก

    ... แต่ในความเป็นจริง โรคเรื้อรังต่างๆ ที่เกิดจากความเสื่อมที่สะสมอยู่ในร่างกายก่อนแล้ว แต่มาแสดงอาการในวัยสูงอายุ! สามารถทำให้ชีวิตที่เราอยากได้นั้น หายไปทันที และ กลับกลายเป็น #ภาระ ให้กับคนที่อยู่ด้วย ให้กับคนรักแทน

    สามโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุหลังเกษียณในประเทศไทย ที่มีผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิต มีดังนี้

    1. #โรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Disease)
    โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของผู้สูงอายุในประเทศไทย และมักเกิดจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ทำให้เกิดการตีบตัน

    **โรคนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอ่อนล้าและหายใจลำบากเท่านั้น แต่ยังทำให้ความสามารถในการทำกิจกรรมประจำวันลดลงอีกด้วย**

    2. #โรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes)
    โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ และมักทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ, โรคไต และปัญหาเส้นประสาท

    **โรคนี้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมพลังงานและการใช้ชีวิตได้ตามปกติ**

    3. #โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension)
    ความดันโลหิตสูงเป็นโรคเรื้อรังที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตเรื้อรัง และโรคหลอดเลือดสมองได้

    **ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงมักรู้สึกเหนื่อยง่าย และอาจไม่สามารถทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานได้ตามปกติ**

    (ข้อมูลอ้างอิงจาก WHO Extranet ,BioMed Central, World Bank)

    -------

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่ช่วยป้องกัน โรคหัวใจ, เบาหวานชนิดที่ 2, และความดันโลหิตสูงได้อย่าง มีประสิทธิภาพ

    เนื่องจาก คลอเรลล่าที่ปลอดภัย ทำหน้าที่สะสางสารพิษโลหะหนักที่สะสมในร่างกาย ซึ่งมีผลกระทบต่อการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตและอินซูลิน การกำจัดสารพิษนี้ช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและควบคุมความดันโลหิต (Shim et al., 2008)

    ส่วน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีสาร Phycocyanin ที่ช่วยลดการอักเสบระดับเซลล์และป้องกันการสะสมไขมันในหลอดเลือด ทำให้ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและเบาหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Puyfoulhoux et al., 2001; Vazquez et al., 2013)

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 โรคพบบ่อยในไทย ที่อาจทำให้ชีวิตเกษียณของคุณ *หมดความสุข* เมื่อถึงวัยเกษียณ หลายคนมองไปถึงการใช้ชีวิตที่ปกติ สงบสุข ได้ไปเที่ยว ออกไปเรียนรู้กับคนที่รัก ... แต่ในความเป็นจริง โรคเรื้อรังต่างๆ ที่เกิดจากความเสื่อมที่สะสมอยู่ในร่างกายก่อนแล้ว แต่มาแสดงอาการในวัยสูงอายุ! สามารถทำให้ชีวิตที่เราอยากได้นั้น หายไปทันที และ กลับกลายเป็น #ภาระ ให้กับคนที่อยู่ด้วย ให้กับคนรักแทน สามโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุหลังเกษียณในประเทศไทย ที่มีผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิต มีดังนี้ 1. #โรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Disease) โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของผู้สูงอายุในประเทศไทย และมักเกิดจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ทำให้เกิดการตีบตัน **โรคนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอ่อนล้าและหายใจลำบากเท่านั้น แต่ยังทำให้ความสามารถในการทำกิจกรรมประจำวันลดลงอีกด้วย** 2. #โรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes) โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ และมักทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ, โรคไต และปัญหาเส้นประสาท **โรคนี้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมพลังงานและการใช้ชีวิตได้ตามปกติ** 3. #โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension) ความดันโลหิตสูงเป็นโรคเรื้อรังที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตเรื้อรัง และโรคหลอดเลือดสมองได้ **ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงมักรู้สึกเหนื่อยง่าย และอาจไม่สามารถทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานได้ตามปกติ** (ข้อมูลอ้างอิงจาก WHO Extranet ,BioMed Central, World Bank) ------- #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่ช่วยป้องกัน โรคหัวใจ, เบาหวานชนิดที่ 2, และความดันโลหิตสูงได้อย่าง มีประสิทธิภาพ เนื่องจาก คลอเรลล่าที่ปลอดภัย ทำหน้าที่สะสางสารพิษโลหะหนักที่สะสมในร่างกาย ซึ่งมีผลกระทบต่อการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตและอินซูลิน การกำจัดสารพิษนี้ช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและควบคุมความดันโลหิต (Shim et al., 2008) ส่วน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีสาร Phycocyanin ที่ช่วยลดการอักเสบระดับเซลล์และป้องกันการสะสมไขมันในหลอดเลือด ทำให้ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและเบาหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Puyfoulhoux et al., 2001; Vazquez et al., 2013) โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 โรคพบบ่อยในไทย ที่อาจทำให้ชีวิตเกษียณของคุณ *หมดความสุข*

    เมื่อถึงวัยเกษียณ หลายคนมองไปถึงการใช้ชีวิตที่ปกติ สงบสุข ได้ไปเที่ยว ออกไปเรียนรู้กับคนที่รัก

    ... แต่ในความเป็นจริง โรคเรื้อรังต่างๆ ที่เกิดจากความเสื่อมที่สะสมอยู่ในร่างกายก่อนแล้ว แต่มาแสดงอาการในวัยสูงอายุ! สามารถทำให้ชีวิตที่เราอยากได้นั้น หายไปทันที และ กลับกลายเป็น #ภาระ ให้กับคนที่อยู่ด้วย ให้กับคนรักแทน

    สามโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุหลังเกษียณในประเทศไทย ที่มีผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิต มีดังนี้

    1. #โรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Disease)
    โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของผู้สูงอายุในประเทศไทย และมักเกิดจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ทำให้เกิดการตีบตัน

    **โรคนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอ่อนล้าและหายใจลำบากเท่านั้น แต่ยังทำให้ความสามารถในการทำกิจกรรมประจำวันลดลงอีกด้วย**

    2. #โรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes)
    โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ และมักทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ, โรคไต และปัญหาเส้นประสาท

    **โรคนี้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมพลังงานและการใช้ชีวิตได้ตามปกติ**

    3. #โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension)
    ความดันโลหิตสูงเป็นโรคเรื้อรังที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตเรื้อรัง และโรคหลอดเลือดสมองได้

    **ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงมักรู้สึกเหนื่อยง่าย และอาจไม่สามารถทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานได้ตามปกติ**

    (ข้อมูลอ้างอิงจาก WHO Extranet ,BioMed Central, World Bank)

    -------

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่ช่วยป้องกัน โรคหัวใจ, เบาหวานชนิดที่ 2, และความดันโลหิตสูงได้อย่าง มีประสิทธิภาพ

    เนื่องจาก คลอเรลล่าที่ปลอดภัย ทำหน้าที่สะสางสารพิษโลหะหนักที่สะสมในร่างกาย ซึ่งมีผลกระทบต่อการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตและอินซูลิน การกำจัดสารพิษนี้ช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและควบคุมความดันโลหิต (Shim et al., 2008)

    ส่วน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีสาร Phycocyanin ที่ช่วยลดการอักเสบระดับเซลล์และป้องกันการสะสมไขมันในหลอดเลือด ทำให้ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและเบาหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Puyfoulhoux et al., 2001; Vazquez et al., 2013)

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 โรคพบบ่อยในไทย ที่อาจทำให้ชีวิตเกษียณของคุณ *หมดความสุข* เมื่อถึงวัยเกษียณ หลายคนมองไปถึงการใช้ชีวิตที่ปกติ สงบสุข ได้ไปเที่ยว ออกไปเรียนรู้กับคนที่รัก ... แต่ในความเป็นจริง โรคเรื้อรังต่างๆ ที่เกิดจากความเสื่อมที่สะสมอยู่ในร่างกายก่อนแล้ว แต่มาแสดงอาการในวัยสูงอายุ! สามารถทำให้ชีวิตที่เราอยากได้นั้น หายไปทันที และ กลับกลายเป็น #ภาระ ให้กับคนที่อยู่ด้วย ให้กับคนรักแทน สามโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุหลังเกษียณในประเทศไทย ที่มีผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิต มีดังนี้ 1. #โรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Disease) โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของผู้สูงอายุในประเทศไทย และมักเกิดจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ทำให้เกิดการตีบตัน **โรคนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอ่อนล้าและหายใจลำบากเท่านั้น แต่ยังทำให้ความสามารถในการทำกิจกรรมประจำวันลดลงอีกด้วย** 2. #โรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes) โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ และมักทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ, โรคไต และปัญหาเส้นประสาท **โรคนี้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมพลังงานและการใช้ชีวิตได้ตามปกติ** 3. #โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension) ความดันโลหิตสูงเป็นโรคเรื้อรังที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตเรื้อรัง และโรคหลอดเลือดสมองได้ **ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงมักรู้สึกเหนื่อยง่าย และอาจไม่สามารถทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานได้ตามปกติ** (ข้อมูลอ้างอิงจาก WHO Extranet ,BioMed Central, World Bank) ------- #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่ช่วยป้องกัน โรคหัวใจ, เบาหวานชนิดที่ 2, และความดันโลหิตสูงได้อย่าง มีประสิทธิภาพ เนื่องจาก คลอเรลล่าที่ปลอดภัย ทำหน้าที่สะสางสารพิษโลหะหนักที่สะสมในร่างกาย ซึ่งมีผลกระทบต่อการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตและอินซูลิน การกำจัดสารพิษนี้ช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและควบคุมความดันโลหิต (Shim et al., 2008) ส่วน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีสาร Phycocyanin ที่ช่วยลดการอักเสบระดับเซลล์และป้องกันการสะสมไขมันในหลอดเลือด ทำให้ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและเบาหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Puyfoulhoux et al., 2001; Vazquez et al., 2013) โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥งบประมาณขาดดุลของสหรัฐฯ พุ่งสูงถึง
    1.8 ล้านล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2567
    หรือประมาณ 60 ล้านล้านบาท
    สูงสุดเป็นอันดับสามในประวัติศาสตร์

    กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า
    ตัวเลขขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นแตะ
    1.833 ล้านล้านดอลลาร์สำหรับปีงบประมาณ 2567
    ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนอกยุคโควิด-19

    โดยเป็นผลจากดอกเบี้ยหนี้ของรัฐบาลกลางที่สูงเกิน
    1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก และรายจ่ายก็เพิ่มขึ้น
    สำหรับโครงการเกษียณอายุของประกันสังคม
    การดูแลสุขภาพ และกองทัพ

    ตัวเลขขาดดุลประจำปีที่สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน เพิ่มขึ้น 8%
    หรือ 138,000 ล้านดอลลาร์ จาก 1.695 ล้านล้านดอลลาร์
    ที่บันทึกไว้ในปีงบประมาณ 2566 นับเป็นตัวเลขขาดดุล
    ของรัฐบาลกลาง ที่ใหญ่เป็นอันดับสามในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ
    รองจากตัวเลขขาดดุลจากการบรรเทาทุกข์จากโรคระบาดที่
    3.132 ล้านล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2563 และ
    2.772 ล้านล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2564

    🚩ปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดการขาดดุลในปีนี้คือ
    ต้นทุนดอกเบี้ยของหนี้กระทรวงการคลังที่เพิ่มขึ้น 29%
    เป็น 1.133 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลมาจาก
    อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและหนี้ที่ต้องชำระเพิ่มขึ้น
    ซึ่งยอดรวมนี้เกินกว่าค่าใช้จ่ายสำหรับโปรแกรม
    ดูแลสุขภาพของเมดิแคร์สำหรับผู้สูงอายุและ
    ค่าใช้จ่ายด้านกลาโหม

    🚩ปัจจัยกระตุ้นอื่นๆ ที่ทำให้รายจ่ายเพิ่มขึ้นในปีงบประมาณ
    ได้แก่ เงินประกันสังคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เป็น
    1.520 ล้านล้านดอลลาร์ เงินประกันสุขภาพเมดิแคร์
    เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เป็น 1.050 ล้านล้านดอลลาร์
    และโครงการทางทหาร เพิ่มขึ้นร้อยละ 6
    เป็น 826 พันล้านดอลลาร์

    ที่มา : Reuters

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #งบประมาณสหรัฐ
    #thaitimes
    💥💥งบประมาณขาดดุลของสหรัฐฯ พุ่งสูงถึง 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2567 หรือประมาณ 60 ล้านล้านบาท สูงสุดเป็นอันดับสามในประวัติศาสตร์ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวเลขขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นแตะ 1.833 ล้านล้านดอลลาร์สำหรับปีงบประมาณ 2567 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนอกยุคโควิด-19 โดยเป็นผลจากดอกเบี้ยหนี้ของรัฐบาลกลางที่สูงเกิน 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก และรายจ่ายก็เพิ่มขึ้น สำหรับโครงการเกษียณอายุของประกันสังคม การดูแลสุขภาพ และกองทัพ ตัวเลขขาดดุลประจำปีที่สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน เพิ่มขึ้น 8% หรือ 138,000 ล้านดอลลาร์ จาก 1.695 ล้านล้านดอลลาร์ ที่บันทึกไว้ในปีงบประมาณ 2566 นับเป็นตัวเลขขาดดุล ของรัฐบาลกลาง ที่ใหญ่เป็นอันดับสามในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ รองจากตัวเลขขาดดุลจากการบรรเทาทุกข์จากโรคระบาดที่ 3.132 ล้านล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2563 และ 2.772 ล้านล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2564 🚩ปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดการขาดดุลในปีนี้คือ ต้นทุนดอกเบี้ยของหนี้กระทรวงการคลังที่เพิ่มขึ้น 29% เป็น 1.133 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลมาจาก อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและหนี้ที่ต้องชำระเพิ่มขึ้น ซึ่งยอดรวมนี้เกินกว่าค่าใช้จ่ายสำหรับโปรแกรม ดูแลสุขภาพของเมดิแคร์สำหรับผู้สูงอายุและ ค่าใช้จ่ายด้านกลาโหม 🚩ปัจจัยกระตุ้นอื่นๆ ที่ทำให้รายจ่ายเพิ่มขึ้นในปีงบประมาณ ได้แก่ เงินประกันสังคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เป็น 1.520 ล้านล้านดอลลาร์ เงินประกันสุขภาพเมดิแคร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เป็น 1.050 ล้านล้านดอลลาร์ และโครงการทางทหาร เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 เป็น 826 พันล้านดอลลาร์ ที่มา : Reuters #หุ้นติดดอย #การลงทุน #งบประมาณสหรัฐ #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 335 มุมมอง 0 รีวิว
  • การหยุดงานประท้วงของอเมริกา: อะไรอยู่เบื้องหลังการประท้วงของภาคอุตสาหกรรม?

    โบอิ้งต่อต้านการเรียกร้องให้เพิ่มค่าจ้าง, เงินบำนาญที่ดีขึ้น, และการสนับสนุนด้านความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ เนื่องจากการหยุดงานประท้วงของพนักงานสหภาพแรงงาน ๓๓,๐๐๐ คนในเวสต์โคสต์เข้าสู่เดือนที่สองแล้ว บริษัทมีแผนจะลดพนักงานลง ๑๐% ท่ามกลางรายได้ที่ลดลง ค่าครองชีพที่สูงขึ้นและเงินเฟ้อเป็นแรงผลักดันให้เกิดการหยุดงานประท้วงและความพยายามจัดตั้งสหภาพแรงงานทั่วสหรัฐอเมริกา, โดยภาคส่วนสำคัญๆเผชิญกับการหยุดชะงักเนื่องจากนายจ้างต่อต้านความต้องการของคนงาน

    ด้วยค่าครองชีพและค่าที่อยู่อาศัยที่สูงขึ้น, อัตราเงินเฟ้อที่ยังคงกัดกินเงินออม, และเศรษฐกิจที่เข้ามามีบทบาทสำคัญก่อนการเลือกตั้งวันที่ ๕ พฤศจิกายน, การผลักดันการจัดตั้งสหภาพแรงงานและการดำเนินการทางอุตสาหกรรมได้กลับมามีบทบาทอีกครั้งในแวดวงการเมืองของอเมริกา, โดยการหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่คุกคามที่จะทำให้ภาคส่วนต่างๆของเศรษฐกิจหยุดชะงัก ท่ามกลางการต่อต้านอย่างแข็งกร้าวของนายจ้างต่อการผลักดันของคนงานเพื่อส่วนแบ่งทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น:

    🔸 เมื่อต้นเดือนนี้, คนงานท่าเรือ ๔๕,๐๐๐ คนทั่วสหรัฐอเมริกาตะวันออกและชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกได้หยุดงานประท้วงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบครึ่งศตวรรษ เนื่องจากสัญญาจ้างแรงงานประมาณ ๒๕,๐๐๐ คนต้องการเงินเดือน, เงินบำนาญ และการดูแลสุขภาพที่ดีขึ้น

    🔸 เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม พนักงาน ๒๐๐,๐๐๐ คนของสหภาพคนงานไปรษณีย์อเมริกันได้จัดงานวันแห่งการดำเนินการแห่งชาติเพื่อเรียกร้องให้มีสภาพการทำงานที่ปลอดภัยกว่า, ค่าจ้างที่ดีกว่า ยุติระบบค่าจ้างสองระดับ, และยุติความพยายามของฝ่ายบริหารที่จะให้พนักงานทำงานน้อยลง

    การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของกำลังแรงงานปกติทั่วไป, ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากการหยุดงานที่ประสบความสำเร็จเมื่อเร็วๆนี้ในอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์, การศึกษา, และยานยนต์
    .
    AMERICA’S STRIKE SPIKE: WHAT’S BEHIND THE SPATE OF INDUSTRIAL ACTION?

    Boeing is resisting demands for wage increases, better pensions, and product safety input as a strike by 33,000 unionized West Coast workers enters its second month. The company plans to cut 10% of its workforce amid falling revenues. Rising living costs and inflation are fueling strikes and unionization efforts across the US, with major sectors facing disruption due to employers' resistance to worker demands.

    With living and housing costs rising, inflation continuing to eat away at savings, and the economy taking center stage in the run-up to the November 5 election, unionization drives and industrial action have returned to the American political scene in a big way, with major strikes threatening to paralyze entire sectors of the economy amid employers’ stubborn resistance to workers’ push for a bigger slice of the economic pie:

    🔸 Earlier this month, a strike by 45,000 dockworkers up and down the US East and Gulf Coasts threatened to disrupt trade for the first time in nearly half a century over a contract covering about 25,000 workers seeking better salaries, pensions and health care.

    🔸 On October 1, 200,000 workers with the American Postal Workers Union held a National Day of Action demanding safer working conditions, better pay, an end to a two-tier wage system, and an end to attempts by management to have fewer employees do more work.

    These actions reflect the growing strength of the blue-collar workforce, inspired by recent successful strikes in publishing, education, and the auto industry.
    .
    5:13 AM · Oct 16, 2024 · 2,035 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1846313593907622121
    การหยุดงานประท้วงของอเมริกา: อะไรอยู่เบื้องหลังการประท้วงของภาคอุตสาหกรรม? โบอิ้งต่อต้านการเรียกร้องให้เพิ่มค่าจ้าง, เงินบำนาญที่ดีขึ้น, และการสนับสนุนด้านความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ เนื่องจากการหยุดงานประท้วงของพนักงานสหภาพแรงงาน ๓๓,๐๐๐ คนในเวสต์โคสต์เข้าสู่เดือนที่สองแล้ว บริษัทมีแผนจะลดพนักงานลง ๑๐% ท่ามกลางรายได้ที่ลดลง ค่าครองชีพที่สูงขึ้นและเงินเฟ้อเป็นแรงผลักดันให้เกิดการหยุดงานประท้วงและความพยายามจัดตั้งสหภาพแรงงานทั่วสหรัฐอเมริกา, โดยภาคส่วนสำคัญๆเผชิญกับการหยุดชะงักเนื่องจากนายจ้างต่อต้านความต้องการของคนงาน ด้วยค่าครองชีพและค่าที่อยู่อาศัยที่สูงขึ้น, อัตราเงินเฟ้อที่ยังคงกัดกินเงินออม, และเศรษฐกิจที่เข้ามามีบทบาทสำคัญก่อนการเลือกตั้งวันที่ ๕ พฤศจิกายน, การผลักดันการจัดตั้งสหภาพแรงงานและการดำเนินการทางอุตสาหกรรมได้กลับมามีบทบาทอีกครั้งในแวดวงการเมืองของอเมริกา, โดยการหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่คุกคามที่จะทำให้ภาคส่วนต่างๆของเศรษฐกิจหยุดชะงัก ท่ามกลางการต่อต้านอย่างแข็งกร้าวของนายจ้างต่อการผลักดันของคนงานเพื่อส่วนแบ่งทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น: 🔸 เมื่อต้นเดือนนี้, คนงานท่าเรือ ๔๕,๐๐๐ คนทั่วสหรัฐอเมริกาตะวันออกและชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกได้หยุดงานประท้วงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบครึ่งศตวรรษ เนื่องจากสัญญาจ้างแรงงานประมาณ ๒๕,๐๐๐ คนต้องการเงินเดือน, เงินบำนาญ และการดูแลสุขภาพที่ดีขึ้น 🔸 เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม พนักงาน ๒๐๐,๐๐๐ คนของสหภาพคนงานไปรษณีย์อเมริกันได้จัดงานวันแห่งการดำเนินการแห่งชาติเพื่อเรียกร้องให้มีสภาพการทำงานที่ปลอดภัยกว่า, ค่าจ้างที่ดีกว่า ยุติระบบค่าจ้างสองระดับ, และยุติความพยายามของฝ่ายบริหารที่จะให้พนักงานทำงานน้อยลง การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของกำลังแรงงานปกติทั่วไป, ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากการหยุดงานที่ประสบความสำเร็จเมื่อเร็วๆนี้ในอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์, การศึกษา, และยานยนต์ . AMERICA’S STRIKE SPIKE: WHAT’S BEHIND THE SPATE OF INDUSTRIAL ACTION? Boeing is resisting demands for wage increases, better pensions, and product safety input as a strike by 33,000 unionized West Coast workers enters its second month. The company plans to cut 10% of its workforce amid falling revenues. Rising living costs and inflation are fueling strikes and unionization efforts across the US, with major sectors facing disruption due to employers' resistance to worker demands. With living and housing costs rising, inflation continuing to eat away at savings, and the economy taking center stage in the run-up to the November 5 election, unionization drives and industrial action have returned to the American political scene in a big way, with major strikes threatening to paralyze entire sectors of the economy amid employers’ stubborn resistance to workers’ push for a bigger slice of the economic pie: 🔸 Earlier this month, a strike by 45,000 dockworkers up and down the US East and Gulf Coasts threatened to disrupt trade for the first time in nearly half a century over a contract covering about 25,000 workers seeking better salaries, pensions and health care. 🔸 On October 1, 200,000 workers with the American Postal Workers Union held a National Day of Action demanding safer working conditions, better pay, an end to a two-tier wage system, and an end to attempts by management to have fewer employees do more work. These actions reflect the growing strength of the blue-collar workforce, inspired by recent successful strikes in publishing, education, and the auto industry. . 5:13 AM · Oct 16, 2024 · 2,035 Views https://x.com/SputnikInt/status/1846313593907622121
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • ; Aimmura-X
    (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอมมูร่าเอ็กซ์ ตราไอยรา แพลนเน็ต)
    ปริมาณ : 60 แคปซูล
    สารสกัดเซซามินมากกว่าสูตรเอมมูร่าโอ 20 เท่า เพื่อการดูแลสุขภาพที่ดีกว่า ผลิตภัณฑ์จากงาที่ไม่ใช่น้ำมันงา งานวิจัยเซซามินต้นฉบับของไทยสิทธิบัตรนานาชาติ รางวัล INTERNATIONAL INNOVATION AWARD 2017

    วิธีการใช้งาน
    รับประทานครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 2 ครั้ง (เช้า - เย็น) ทานก่อนอาหารประมาณ 30 นาที
    ข้อควรระวัง
    ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค

    12-1-02260-1-0004

    สนใจสินค้า
    Line @ : https://lin.ee/Q8QwmKO
    ; Aimmura-X (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอมมูร่าเอ็กซ์ ตราไอยรา แพลนเน็ต) ปริมาณ : 60 แคปซูล สารสกัดเซซามินมากกว่าสูตรเอมมูร่าโอ 20 เท่า เพื่อการดูแลสุขภาพที่ดีกว่า ผลิตภัณฑ์จากงาที่ไม่ใช่น้ำมันงา งานวิจัยเซซามินต้นฉบับของไทยสิทธิบัตรนานาชาติ รางวัล INTERNATIONAL INNOVATION AWARD 2017 วิธีการใช้งาน รับประทานครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 2 ครั้ง (เช้า - เย็น) ทานก่อนอาหารประมาณ 30 นาที ข้อควรระวัง ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค 12-1-02260-1-0004 สนใจสินค้า Line @ : https://lin.ee/Q8QwmKO
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚴การดูแลสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ
    #รักสุขภาพ
    🚴การดูแลสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ #รักสุขภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • กิจกรรม: รวมพลคนบางพลัด

    วันและเวลา: 14 -ตุลาคม 2024
    สถานที่: [ระบุสถานที่จัดงาน]
    เวลา: [ระบุเวลาเริ่มและสิ้นสุด]

    วัตถุประสงค์ของกิจกรรม:

    เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพสูงวัยด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน
    เพื่อบำบัดความไม่สบายตัวด้วยการใช้จอบตุ่มและฟังคลื่นเสียงขันธิเบต
    เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ
    กิจกรรมในวันงาน:

    การบรรยายเรื่องการดูแลสุขภาพสูงวัย:

    เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านในการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ
    เทคนิคการจัดการความไม่สบายตัวในชีวิตประจำวัน
    การทำจอบตุ่ม:

    สอนวิธีการทำจอบตุ่มเพื่อใช้ในการบำบัด
    แจกจอบตุ่มให้ผู้เข้าร่วมที่สนใจนำไปใช้ที่บ้าน
    การบำบัดด้วยคลื่นเสียงขันธิเบต:

    ฟังการบำบัดด้วยคลื่นเสียงขันธิเบต โดยมีผู้เชี่ยวชาญมานำการบำบัด
    เสียงขันธิเบตจะช่วยในการผ่อนคลายและบรรเทาความเครียด
    การเสวนาและแลกเปลี่ยนประสบการณ์:

    ให้ผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพสูงวัย
    กิจกรรมสันทนาการ:

    จัดกิจกรรมสันทนาการ เช่น การร้องเพลง การเต้นรำ หรือการทำสมาธิเพื่อสร้างความสุข
    ปิดท้ายกิจกรรม:

    แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากกิจกรรม
    ให้ผู้เข้าร่วมกลับไปพร้อมกับความรู้ใหม่ ๆ และแรงบันดาลใจในการดูแลสุขภาพสูงวัยในชุมชน
    หมายเหตุ:

    ผู้เข้าร่วมสามารถนำอาหารว่างและเครื่องดื่มมาได้
    ขอแนะนำให้แต่งกายสบาย ๆ เพื่อความสะดวกในกิจกรรม
    กิจกรรม: รวมพลคนบางพลัด วันและเวลา: 14 -ตุลาคม 2024 สถานที่: [ระบุสถานที่จัดงาน] เวลา: [ระบุเวลาเริ่มและสิ้นสุด] วัตถุประสงค์ของกิจกรรม: เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพสูงวัยด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน เพื่อบำบัดความไม่สบายตัวด้วยการใช้จอบตุ่มและฟังคลื่นเสียงขันธิเบต เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ กิจกรรมในวันงาน: การบรรยายเรื่องการดูแลสุขภาพสูงวัย: เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านในการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ เทคนิคการจัดการความไม่สบายตัวในชีวิตประจำวัน การทำจอบตุ่ม: สอนวิธีการทำจอบตุ่มเพื่อใช้ในการบำบัด แจกจอบตุ่มให้ผู้เข้าร่วมที่สนใจนำไปใช้ที่บ้าน การบำบัดด้วยคลื่นเสียงขันธิเบต: ฟังการบำบัดด้วยคลื่นเสียงขันธิเบต โดยมีผู้เชี่ยวชาญมานำการบำบัด เสียงขันธิเบตจะช่วยในการผ่อนคลายและบรรเทาความเครียด การเสวนาและแลกเปลี่ยนประสบการณ์: ให้ผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพสูงวัย กิจกรรมสันทนาการ: จัดกิจกรรมสันทนาการ เช่น การร้องเพลง การเต้นรำ หรือการทำสมาธิเพื่อสร้างความสุข ปิดท้ายกิจกรรม: แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากกิจกรรม ให้ผู้เข้าร่วมกลับไปพร้อมกับความรู้ใหม่ ๆ และแรงบันดาลใจในการดูแลสุขภาพสูงวัยในชุมชน หมายเหตุ: ผู้เข้าร่วมสามารถนำอาหารว่างและเครื่องดื่มมาได้ ขอแนะนำให้แต่งกายสบาย ๆ เพื่อความสะดวกในกิจกรรม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • Jin Wellbeing County : จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้, ปทุมธานี

    คอนโด Jin Wellbeing County ทางเลือกใหม่คอนโดสำหรับผู้สูงอายุ ที่มาพร้อมกับการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการ พร้อมมการดูแลจากแพทย์ พยาบาล 24 ชั่วโมง รองรับผู้สูงวัยอย่างแท้จริงบนถนนพหลโยธิน โซนรังสิต ตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยกรุงเทพรังสิต จ.ปทุมธานี

    ✦ จุดเด่น ✦
    ▸ จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ ทางเลือกใหม่ของการใช้ชีวิต
    ▸โครงการภายใต้การดำเนินงานของกลุ่มธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป หรือ THG ที่มีประสบการณ์ด้านโรงพยาบาล และการดูแลสุขภาพมากกว่า 40 ปี
    ▸โครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ (Jin Wellbeing County) ที่พักอาศัยรูปแบบใหม่ที่มาพร้อมกับการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการ (Integrative Healthcare ) และการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล (Personalized Medicine) ที่เหมาะสำหรับผู้สูงวัย

    นอกจากนี้เพื่อตอบโจทย์ที่อยู่อาศัยของวัยผู้สูงอายุอย่างแท้จริงทางโครงการยังมีบริการทางการแพทย์รองรับด้วย ได้แก่

    (1) การดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐาน ที่ให้บริการแนะนำและการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลด้วยทีมแพทย์และพยาบาลที่มากประสบการณ์ และยังมีการแนะนำโภชนาการสำหรับผู้สูงวัยโดยเฉพาะอีกด้วย
    (2) การดูแลสมดุลร่างกายจากภายใน เป็นการดูแลโดยนักจิตบำบัดที่ช่วยการปรับสมดุลด้านอารมณ์และจิตใจ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัดความเครียดและอาการซึมเศร้า พร้อมกับมีกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยผ่อนคลายจิตใจ
    (3) การดูแลความแข็งแรงและสร้างเสริมสมรรถภาพของร่างกายด้วยการออกกำลังกายอย่างถูกวิธี และเวชศาสตร์ฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายด้านต่างๆที่ถูกออกแบบตามปัญหาแต่ละบุคคล

    ▸ ภายในพื้นที่ 140 ไร่ ประกอบด้วยอาคารที่พักอาศัยแบบ Low Rise 7 ชั้น จำนวน 5 อาคาร โดยแบ่งเป็น Cluster 1 จำนวน 2 อาคาร คือ อาคาร 1-AM และ
    อาคาร 1-C1Cluster 2 จำนวน 3 อาคาร คือ อาคาร 2-AM, อาคาร 2-C1 และอาคาร 2-D1

    ✦ จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ ทางเลือกใหม่ของการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบอย่างครบวงจรแห่งแรกของเมืองไทยในโครงการที่เราอยู่ได้ตลอดไป ✦

    ▸ ที่สุด.. แห่งการใช้ชีวิตในสิ่งแวดล้อมที่ผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบ
    ▸ ที่สุด.. แห่งการออกแบบ Universal Design รองรับผู้สูงวัยอย่างแท้จริง
    ▸ ที่สุดแห่งการดูแลสุขภาพที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้สูงวัย
    ▸ ที่สุด.. แห่งความปลอดภัยในการใช้ชีวิตของผู้พักอาศัย
    ▸ ที่สุด.. แห่งสังคมคุณภาพ ผ่านการให้
    การรับและการแบ่งปัน
    ▸ ที่สุด.. แห่งประสบการณ์ใช้ชีวิตที่เหนือระดับ

    -------------------------------------------
    สนใจสอบถามข้อมูลที่
    โทร.081-822-6553
    รับซื้อ ฝากขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์
    ทุกชนิด “ฟรี” ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้
    พร้อมทั้งทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ
    จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน
    Jin Wellbeing County : จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้, ปทุมธานี คอนโด Jin Wellbeing County ทางเลือกใหม่คอนโดสำหรับผู้สูงอายุ ที่มาพร้อมกับการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการ พร้อมมการดูแลจากแพทย์ พยาบาล 24 ชั่วโมง รองรับผู้สูงวัยอย่างแท้จริงบนถนนพหลโยธิน โซนรังสิต ตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยกรุงเทพรังสิต จ.ปทุมธานี ✦ จุดเด่น ✦ ▸ จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ ทางเลือกใหม่ของการใช้ชีวิต ▸โครงการภายใต้การดำเนินงานของกลุ่มธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป หรือ THG ที่มีประสบการณ์ด้านโรงพยาบาล และการดูแลสุขภาพมากกว่า 40 ปี ▸โครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ (Jin Wellbeing County) ที่พักอาศัยรูปแบบใหม่ที่มาพร้อมกับการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการ (Integrative Healthcare ) และการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล (Personalized Medicine) ที่เหมาะสำหรับผู้สูงวัย นอกจากนี้เพื่อตอบโจทย์ที่อยู่อาศัยของวัยผู้สูงอายุอย่างแท้จริงทางโครงการยังมีบริการทางการแพทย์รองรับด้วย ได้แก่ (1) การดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐาน ที่ให้บริการแนะนำและการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลด้วยทีมแพทย์และพยาบาลที่มากประสบการณ์ และยังมีการแนะนำโภชนาการสำหรับผู้สูงวัยโดยเฉพาะอีกด้วย (2) การดูแลสมดุลร่างกายจากภายใน เป็นการดูแลโดยนักจิตบำบัดที่ช่วยการปรับสมดุลด้านอารมณ์และจิตใจ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัดความเครียดและอาการซึมเศร้า พร้อมกับมีกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยผ่อนคลายจิตใจ (3) การดูแลความแข็งแรงและสร้างเสริมสมรรถภาพของร่างกายด้วยการออกกำลังกายอย่างถูกวิธี และเวชศาสตร์ฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายด้านต่างๆที่ถูกออกแบบตามปัญหาแต่ละบุคคล ▸ ภายในพื้นที่ 140 ไร่ ประกอบด้วยอาคารที่พักอาศัยแบบ Low Rise 7 ชั้น จำนวน 5 อาคาร โดยแบ่งเป็น Cluster 1 จำนวน 2 อาคาร คือ อาคาร 1-AM และ อาคาร 1-C1Cluster 2 จำนวน 3 อาคาร คือ อาคาร 2-AM, อาคาร 2-C1 และอาคาร 2-D1 ✦ จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ ทางเลือกใหม่ของการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบอย่างครบวงจรแห่งแรกของเมืองไทยในโครงการที่เราอยู่ได้ตลอดไป ✦ ▸ ที่สุด.. แห่งการใช้ชีวิตในสิ่งแวดล้อมที่ผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบ ▸ ที่สุด.. แห่งการออกแบบ Universal Design รองรับผู้สูงวัยอย่างแท้จริง ▸ ที่สุดแห่งการดูแลสุขภาพที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้สูงวัย ▸ ที่สุด.. แห่งความปลอดภัยในการใช้ชีวิตของผู้พักอาศัย ▸ ที่สุด.. แห่งสังคมคุณภาพ ผ่านการให้ การรับและการแบ่งปัน ▸ ที่สุด.. แห่งประสบการณ์ใช้ชีวิตที่เหนือระดับ ------------------------------------------- สนใจสอบถามข้อมูลที่ โทร.081-822-6553 รับซื้อ ฝากขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์ ทุกชนิด “ฟรี” ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้ พร้อมทั้งทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 469 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเทศที่มีอัตราโรคอ้วนต่ำที่สุดและมีอายุขัยเฉลี่ยสูงสุดคือประเทศญี่ปุ่น

    ประชากร 4-5% จัดอยู่ในกลุ่มโรคอ้วน ในขณะที่ชาติตะวันตกอาจเกิน 30-40%

    นี้คือ 10 เหตุผลสำคัญที่ทำให้ประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่มีสุขภาพดีที่สุดในโลก:

    1. ระบบการดูแลสุขภาพ
    2. การมีน้ำหนักตัวที่เหมาะสมเป็นมาตรฐานทางสังคม
    3. รับประทานอาหารตามแบบดั้งเดิม
    4. สอนให้รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพตั้งแต่เนิ่นๆ
    5. พวกเขามีวิถีชีวิตที่กระตือรือร้น
    6. ส่งเสริมการกินอย่างมีสติ
    7. รับประทานอาหารในปริมาณที่น้อยลงอย่างมาก
    8. สุขภาพจิตที่สมดุล
    9. ขาดอิทธิพลจากบริษัทอาหารและยา
    10. ญี่ปุ่นส่งเสริมสุขภาพมากกว่าผลกำไร

    เครดิต: @FitFounder
    ประเทศที่มีอัตราโรคอ้วนต่ำที่สุดและมีอายุขัยเฉลี่ยสูงสุดคือประเทศญี่ปุ่น ประชากร 4-5% จัดอยู่ในกลุ่มโรคอ้วน ในขณะที่ชาติตะวันตกอาจเกิน 30-40% นี้คือ 10 เหตุผลสำคัญที่ทำให้ประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่มีสุขภาพดีที่สุดในโลก: 1. ระบบการดูแลสุขภาพ 2. การมีน้ำหนักตัวที่เหมาะสมเป็นมาตรฐานทางสังคม 3. รับประทานอาหารตามแบบดั้งเดิม 4. สอนให้รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพตั้งแต่เนิ่นๆ 5. พวกเขามีวิถีชีวิตที่กระตือรือร้น 6. ส่งเสริมการกินอย่างมีสติ 7. รับประทานอาหารในปริมาณที่น้อยลงอย่างมาก 8. สุขภาพจิตที่สมดุล 9. ขาดอิทธิพลจากบริษัทอาหารและยา 10. ญี่ปุ่นส่งเสริมสุขภาพมากกว่าผลกำไร เครดิต: @FitFounder
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯได้จัดสรรเงินกว่า ๑๗๕,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้แก่ยูเครนในการทำสงคราม, โดยคิดเป็นเงินกว่า ๔๗๙.๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน

    เงินทุนนี้, ซึ่งส่วนใหญ่ใช้สำหรับความช่วยเหลือด้านการทหาร, อาจนำไปลงทุนในประเด็นภายในประเทศ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน, การศึกษา, หรือการดูแลสุขภาพ

    🤣ถึงเวลาแล้วที่ต้องให้ความสำคัญกับความต้องการของสหรัฐฯ มากกว่าความขัดแย้งในต่างประเทศ🤣

    Douglas Macgregor
    .
    The US has committed over $175 billion to Ukraine's war effort, a staggering $479.5 million daily.

    This funding, largely for military aid, could have been invested in domestic issues like infrastructure, education, or healthcare.

    It's time to prioritize America's needs over foreign conflicts.
    .
    5:04 AM · Sep 18, 2024 · 42.4K Views
    https://x.com/DougAMacgregor/status/1836164252140474658
    สหรัฐฯได้จัดสรรเงินกว่า ๑๗๕,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้แก่ยูเครนในการทำสงคราม, โดยคิดเป็นเงินกว่า ๔๗๙.๕ ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน เงินทุนนี้, ซึ่งส่วนใหญ่ใช้สำหรับความช่วยเหลือด้านการทหาร, อาจนำไปลงทุนในประเด็นภายในประเทศ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน, การศึกษา, หรือการดูแลสุขภาพ 🤣ถึงเวลาแล้วที่ต้องให้ความสำคัญกับความต้องการของสหรัฐฯ มากกว่าความขัดแย้งในต่างประเทศ🤣 Douglas Macgregor . The US has committed over $175 billion to Ukraine's war effort, a staggering $479.5 million daily. This funding, largely for military aid, could have been invested in domestic issues like infrastructure, education, or healthcare. It's time to prioritize America's needs over foreign conflicts. . 5:04 AM · Sep 18, 2024 · 42.4K Views https://x.com/DougAMacgregor/status/1836164252140474658
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนประกาศเตรียมเปิดทางให้ "รพ.ทุนต่างชาติ" เข้าประกอบธุรกิจใน 9 เมืองใหญ่/มณฑล
    .
    วันนี้ (8 ก.ย.) มีการเปิดเผยว่ารัฐบาลจีนมีแผนที่จะอนุญาตให้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลที่มีเจ้าของเป็นต่างชาติถือหุ้นทั้งหมด (wholly foreign-owned hospitals) ในเขตเมือง และบางภูมิภาคของจีนได้ โดยข้อมูลดังกล่าวมาจากหนังสือเวียนที่ออกร่วมกันโดย กระทรวงพาณิชย์จีน (商务部), คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (国家卫生健康委) และสำนักงาน อย.ของจีน (国家药监局) ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการขยายโครงการนำร่องสำหรับการเปิดกว้างในภาคการสาธารณสุข
    .
    ประกาศดังกล่าวระบุว่า เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และเร่งการพัฒนาคุณภาพสูงในสาขาที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ในประเทศจีน รวมทั้งเพื่อสามารถตอบสนองความต้องการทางการแพทย์ และการดูแลสุขภาพของประชาชนได้ดีขึ้น จึงมีแผนที่จะดำเนินโครงการนำร่องดังกล่าว
    .
    ทั้งนี้ จากเอกสารทางการที่เพิ่งมีการเปิดเผยในวันนี้ โรงพยาบาลเหล่านี้จะได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการในเมืองปักกิ่ง เทียนจิน เซี่ยงไฮ้ หนานจิง (นานกิง) ซูโจว ฝูโจว กว่างโจว (กวางเจา) เซินเจิ้น และทั่วทั้งเกาะไหหลำ
    .
    .
    อ้างอิง >> https://finance.eastmoney.com/a/202409083178282323.html
    จีนประกาศเตรียมเปิดทางให้ "รพ.ทุนต่างชาติ" เข้าประกอบธุรกิจใน 9 เมืองใหญ่/มณฑล . วันนี้ (8 ก.ย.) มีการเปิดเผยว่ารัฐบาลจีนมีแผนที่จะอนุญาตให้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลที่มีเจ้าของเป็นต่างชาติถือหุ้นทั้งหมด (wholly foreign-owned hospitals) ในเขตเมือง และบางภูมิภาคของจีนได้ โดยข้อมูลดังกล่าวมาจากหนังสือเวียนที่ออกร่วมกันโดย กระทรวงพาณิชย์จีน (商务部), คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (国家卫生健康委) และสำนักงาน อย.ของจีน (国家药监局) ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการขยายโครงการนำร่องสำหรับการเปิดกว้างในภาคการสาธารณสุข . ประกาศดังกล่าวระบุว่า เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และเร่งการพัฒนาคุณภาพสูงในสาขาที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ในประเทศจีน รวมทั้งเพื่อสามารถตอบสนองความต้องการทางการแพทย์ และการดูแลสุขภาพของประชาชนได้ดีขึ้น จึงมีแผนที่จะดำเนินโครงการนำร่องดังกล่าว . ทั้งนี้ จากเอกสารทางการที่เพิ่งมีการเปิดเผยในวันนี้ โรงพยาบาลเหล่านี้จะได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการในเมืองปักกิ่ง เทียนจิน เซี่ยงไฮ้ หนานจิง (นานกิง) ซูโจว ฝูโจว กว่างโจว (กวางเจา) เซินเจิ้น และทั่วทั้งเกาะไหหลำ . . อ้างอิง >> https://finance.eastmoney.com/a/202409083178282323.html
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 769 มุมมอง 0 รีวิว
  • พรรคเดโมแครตเสนอชื่อ กมลา แฮร์ริสและทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตาอย่างเป็นทางการ วอลซ์มีพื้นฐานประสบการณ์เป็นครู เคยสอนที่จีน ทำให้เขาพูดภาษาจีนกลางได้และ ยังเรียกร้องให้มีเงินทุนเพื่อวิจัยการบำบัดด้วยกัญชาทางการแพทย์สำหรับทหารผ่านศึกที่ต่อสู้กับโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญและความเจ็บปวดเรื้อรัง

    7 สิงหาคม 2567-ในแถลงการณ์ พรรคเดโมแครตระบุว่าผู้แทนการประชุมใหญ่ 99 เปอร์เซ็นต์สนับสนุนให้แฮร์ริสลงคะแนนเสียงซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันจันทร์ วอลซ์ "ได้รับการรับรอง" ให้เป็นคู่ตัวแทนในการเลือกตั้งของเธอโดยมินยาน มัวร์ ประธานการประชุมใหญ่

    พรรคยังคงวางแผนที่จะจัด "พิธีการเรียกชื่อ" ในชิคาโกในช่วงปลายเดือนนี้ แม้ว่าจะไม่มีการผูกมัดเหมือนปีที่แล้วก็ตาม

    ขณะทึ่ พรรคเดโมแครตบางคนกลัวว่าการฟ้องร้องอาจทำให้ผู้สมัครของตนต้องออกจากการลงคะแนนเสียง กรณี ความรุนแรงปะทุขึ้นหลังจากที่ตำรวจสังหาร George Floyd ในมินนิอาโปลิสเมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติและความรุนแรงของตำรวจทั่วประเทศ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันออกรายงานในช่วงปลายปี โดยวิพากษ์วิจารณ์การบริหารของวอลซ์ที่ไม่เข้าแทรกแซงอย่างรวดเร็วพอที่จะป้องกันการปล้นสะดมและวางเพลิง

    แม้ว่าแฮร์ริสจะไม่คาดว่าจะชนะคะแนนเสียงเลือกตั้ง 17 เสียงของรัฐโอไฮโอ แต่พรรคยังมีการเลือกตั้งอื่นๆ ตามมา พวกเขากลัวว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับผู้สมัครคนสำคัญอาจส่งผลต่อการแข่งขันที่สูสีเพื่อชิงที่นั่งในวุฒิสภา ซึ่งพรรคจะต้องรักษาโอกาสที่แท้จริงในการรักษาการควบคุมสภาแห่งนั้นของรัฐสภาไว้

    รายงานข่าว Politico ระบุว่า 55 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Tim Walz ผู้ได้รับเลือกจาก Kamala Harris ให้ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี
    ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตาเคยทำงานในกองกำลังป้องกันประเทศและเป็นครูมัธยมศึกษาตอนปลาย ก่อนที่จะเข้าสู่วงการเมืองในช่วงต้นทศวรรษปี 2000

    1.Walz เกิดที่เวสต์พอยต์ เมืองในเนแบรสกาที่มีประชากรเพียง 3,500 คน แต่เขาเติบโตในเมืองที่เล็กกว่าชื่อบิวต์

    2.Walz สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมบิวต์ในปี 1982 “ผมมาจากเมืองที่มีประชากร 400 คน มีเด็ก 24 คนในหนึ่งห้อง ลูกพี่ลูกน้อง 12 คน ทำฟาร์ม มีเรื่องแบบนี้ด้วย”

    3.Walz ยกย่องการเติบโตในชนบทของเขาว่าเป็นจุดเริ่มต้นของค่านิยมของเขา: “เมืองเล็กๆ แห่งนี้มีบริการแบบนั้นและมีโรงเรียนรัฐบาลที่มีครูของรัฐ ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ผมมานั่งอยู่ที่นี่จนถึงทุกวันนี้ เรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นจริงในเมืองเล็กๆ”

    4.Walz เข้าร่วมกองกำลังป้องกันประเทศเมื่ออายุได้ 17 ปี

    5.ในสำนักงานรัฐสภาของเขา Walz ได้จัดแสดงเหรียญ "ท้าทาย" หลายร้อยเหรียญที่เขาสะสมและแลกเปลี่ยนมาหลายปีทั่วโลก

    6.พ่อของ Walz ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงเรียน เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดเมื่อ Walz อายุได้ 19 ปี Walz กล่าวว่าช่วงเวลานี้จุดประกายความคิดของเขาเกี่ยวกับการเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพ: “สัปดาห์สุดท้ายของชีวิตพ่อทำให้แม่ของผมต้องกลับไปทำงานเป็นเวลาสิบปีเพื่อชำระหนี้โรงพยาบาล”

    7.Walz สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาสังคมศาสตร์จาก Chadron State College ในปี 1989 เขาได้รับปริญญาโทสาขาความเป็นผู้นำทางการศึกษาจาก Minnesota State University, Mankato ในปี 2001

    8.หลังจากเรียนจบวิทยาลัย เขาใช้เวลาหนึ่งปีในการสอนที่ประเทศจีน ก่อนจะกลับมาทำงานเต็มเวลาในกองทัพ เขาเดินทางไปประเทศจีนกับกลุ่มครูชาวอเมริกันกลุ่มแรกที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล เพื่อสอนในโรงเรียนมัธยมของจีน

    9.เขายังคงพูดภาษาจีนกลางได้

    10.เขาสอนหนังสือในเขตสงวน Pine Ridge ในเซาท์ดาโคตา “ผมบอกกับผู้คนว่าการจัดการโรงอาหารของโรงเรียนมัธยมมาหลายปีช่วยฝึกให้ผมรับมือกับความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.”

    11.เขาเลื่อนยศเป็นจ่าสิบเอก ก่อนจะเกษียณจากกองพันปืนใหญ่ภาคสนามที่ 1-125 ในปี 2005 เขาทำหน้าที่ทั้งหมด 24 ปี

    12.Walz ได้พบกับ Gwen Whipple ซึ่งเป็นภรรยาในอนาคตของเขา ซึ่งเป็นชาวมินนิโซตาโดยกำเนิด เนื่องจากทั้งคู่เป็นครูโรงเรียนมัธยมในห้องเรียนชั่วคราว สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งกล่าวว่าเธอรู้สึกไม่พอใจที่เขาส่งเสียงดังรบกวนห้องเรียนของเธอ

    13.ในที่สุดทั้งสองก็ย้ายไปที่เมือง Mankato รัฐมินนิโซตา ซึ่งทั้งคู่ทำงานที่โรงเรียนมัธยม Mankato West “Gwen ชอบใช้ชีวิตในมินนิโซตาตอนใต้มาก เราคว้าโอกาสที่จะย้ายไปที่เมือง Mankato และเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยกัน”

    14.Walz สอนภูมิศาสตร์และเป็นโค้ชฟุตบอลในโรงเรียนมัธยม “ฉันไม่รู้ว่าครูภูมิศาสตร์ในโรงเรียนมัธยมทุกคนคาดหวังว่าจะได้อยู่ในตำแหน่งนี้ในสักวันหนึ่งหรือไม่”

    15.เขาเป็นที่ปรึกษาคณะสำหรับกลุ่มพันธมิตรเกย์-กลุ่มแรกของโรงเรียนในปี 1999

    16.Walz วัย 60 ปี ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าดูแก่กว่าวัย Walz ตอบโต้เรื่องนี้ในรายการ X โดยกล่าวว่าเป็นเพราะเขา "ดูแลโรงอาหารมา 20 ปี คุณไม่สามารถออกจากงานนั้นโดยมีผมเต็มหัว เชื่อฉันเถอะ"

    17.เขามีลูกสองคนคือ Hope และ Gus Hope เพิ่งจบการศึกษาจากวิทยาลัยในมอนทานา และ Gus กำลังเรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยมของรัฐในเซนต์พอล

    18.ลูกทั้งสองคนเกิดจากกระบวนการ IVF และการรักษาภาวะมีบุตรยาก: "มีเหตุผลที่เราตั้งชื่อ [ลูกสาวของเรา] ว่า Hope"

    19.งานแรกของ Walz ในแวดวงการเมืองคือเป็นสมาชิกแคมเปญหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของอดีตวุฒิสมาชิกรัฐแมสซาชูเซตส์ John Kerry ในปี 2004 แคมเปญดังกล่าวจ้างเขาให้เป็นผู้ประสานงานแคมเปญระดับมณฑลและผู้ประสานงานระดับมณฑลของทหารผ่านศึกสำหรับเคอร์รี

    20.เขาบอกว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจให้เข้าร่วมแคมเปญของเคอร์รีหลังจากที่เขาพาเด็กนักเรียนมัธยมปลายกลุ่มหนึ่งไปร่วมชุมนุมหาเสียงของจอร์จ ดับเบิลยู บุช และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ซักถามนักเรียนคนหนึ่งของเขาเนื่องจากเขามีสติกเกอร์ของเคอร์รีติดอยู่บนกระเป๋าสตางค์

    21.วอลซ์ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาคองเกรสครั้งแรกในปี 2549 ซึ่งถือเป็นการพลิกกลับสถานการณ์ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรในปีนั้น เขตเลือกตั้งซึ่งเป็นที่ตั้งของทั้งคลินิกเมโยและบริษัทแปรรูปเนื้อฮอร์เมล เคยลงคะแนนเสียงให้กับจอร์จ ดับเบิลยู บุชมาแล้วถึงสองครั้ง

    22.เขาเป็นทหารเกณฑ์ที่มียศสูงสุดที่เคยรับใช้ในสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ และเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต-เกษตรกร-แรงงานของรัฐมินนิโซตาคนที่สี่ที่เป็นตัวแทนของเขตเลือกตั้งของเขา 23.
    Walz เอาชนะ Gil Gutknecht สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกันคนปัจจุบันได้สำเร็จ แม้ว่าเขาจะใช้เงินน้อยกว่าเกือบครึ่งล้านดอลลาร์ก็ตาม

    24.Walz ชนะการเลือกตั้งซ้ำอีก 5 ครั้งในเขตที่ 1 ของมินนิโซตา ซึ่งเป็นเขตชนบทส่วนใหญ่และอนุรักษ์นิยม โดยดำรงตำแหน่งในสภาผู้แทนราษฎรเป็นเวลา 12 ปี

    25.เมื่อ Walz เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร Walz ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานร่วมกับ Paul Hodes สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐนิวแฮมป์เชียร์

    26.เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกอาวุโสของคณะกรรมการกิจการทหารผ่านศึกของสภาผู้แทนราษฎรในปี 2017 โดยเขาเน้นที่ประเด็นต่างๆ เช่น สุขภาพจิตของทหารผ่านศึก การฆ่าตัวตาย และการจัดการความเจ็บปวด นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้มีเงินทุนเพื่อวิจัยการบำบัดด้วยกัญชาทางการแพทย์สำหรับทหารผ่านศึกที่ต่อสู้กับโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญและความเจ็บปวดเรื้อรัง

    27.ร่างกฎหมายมากกว่าครึ่งหนึ่งที่ Walz ร่วมสนับสนุนระหว่างปี 2015-2017 ได้รับการเสนอโดยผู้ที่ไม่ใช่พรรคเดโมแครต

    28.ครั้งหนึ่ง Walz เคยได้รับคะแนน "A" จาก National Rifle Association และการรับรองของกลุ่ม ในปี 2016 นิตยสาร Guns & Ammo ได้รวมเขาไว้ในรายชื่อนักการเมือง 20 อันดับแรกสำหรับผู้เป็นเจ้าของปืน

    29.ต่อมา เขาประณาม NRA และสนับสนุนมาตรการควบคุมปืน เช่น การห้ามใช้อาวุธจู่โจม ในช่วงหาเสียงครั้งแรกเพื่อชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐในปี 2018 NRA ได้ลดระดับคะแนนของเขาลงอย่างสิ้นเชิง "ผมได้รับคะแนน A จาก NRA ตอนนี้ผมได้ F ตลอดเลย และผมก็หลับสบาย"

    30.ไม่นานหลังจากเหตุการณ์ยิงกันที่ลาสเวกัสในปี 2017 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 59 ราย เขาบริจาคเงินบริจาคหาเสียงจาก NRA ให้กับองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ช่วยเหลือครอบครัวของทหารที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะปฏิบัติหน้าที่

    31.Walz เป็นนักล่าตัวยงและเยาะเย้ย JD Vance ที่พูดถึงปืนในขณะที่ "ฉันรับรองได้ว่าเขายิงไก่ฟ้าไม่ได้เหมือนฉัน"

    32.ในปี 2019 Walz ออกจากสภาเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา เขาเอาชนะ Jeff Johnson จากพรรครีพับลิกันไปมากกว่า 11 คะแนน

    33.Walz มักจะปกป้องนโยบายของเขา เช่น ร่างกฎหมายอาหารกลางวันในโรงเรียนทั่วไปที่ลงนามในกฎหมายของรัฐมินนิโซตาเมื่อต้นปีนี้ โดยอ้างว่าเป็นสามัญสำนึก "ช่างเป็นสัตว์ประหลาด! เด็กๆ กินอิ่มและอิ่มท้องเพื่อที่พวกเขาจะได้ไปเรียนรู้ และผู้หญิงก็ตัดสินใจเรื่องการดูแลสุขภาพของตัวเอง" Walz พูดติดตลก

    34.ความรุนแรงปะทุขึ้นหลังจากที่ตำรวจสังหาร George Floyd ในมินนิอาโปลิสเมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติและความรุนแรงของตำรวจทั่วประเทศ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันออกรายงานในช่วงปลายปี โดยวิพากษ์วิจารณ์การบริหารของวอลซ์ที่ไม่เข้าแทรกแซงอย่างรวดเร็วพอที่จะป้องกันการปล้นสะดมและวางเพลิง “ฉันเชื่ออย่างแน่นอนว่าการบริหารของเรา ไม่ว่าจะเป็นกองกำลังป้องกันประเทศ ตำรวจทางหลวง หรือกรมทรัพยากรธรรมชาติ บุคลากรแนวหน้าของเราตอบสนองอย่างมีเกียรติและกล้าหาญ พวกเขาช่วยชีวิตคนไว้ได้” วอลซ์กล่าว “รายงานด้านเดียวที่ออกมาก่อนการเลือกตั้งไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก แต่ถ้ามีคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ ฉันก็จะใช้แน่นอน”

    35.ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา วอลซ์ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เผยแพร่แนวทางการโจมตีล่าสุดของพรรคเดโมแครตต่อบัตรลงคะแนนของพรรครีพับลิกัน เมื่อเขาเรียกทรัมป์และแวนซ์ว่า “คนพวกนี้ประหลาดจริงๆ”

    36.เขาให้สัมภาษณ์กับ POLITICO ในปี 2023 ว่า “เมื่อเราลงแข่งกับพรรครีพับลิกันทั่วไป การแข่งขันของเรามักจะสูสีกันมาก แต่ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า [พรรครีพับลิกันทั่วไป] พวกนี้ประหลาด เมื่อพวกเขาเริ่มลงสมัคร ความแปลกประหลาดของพวกเขาก็ปรากฏขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ได้รับการเสนอชื่อในฝั่งตรงข้าม ฉันไม่คิดว่ามันจะน่าแปลกใจขนาดนั้น”

    37.Walz บอกกับ The New York Times ว่าความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับความแปลกประหลาดนั้นเกี่ยวกับ Trump และ Vance ไม่ใช่พรรครีพับลิกันโดยทั่วไป “และคำว่า ‘แปลกประหลาด’ นั้นเฉพาะตัวเขาเท่านั้น ฉันไม่ได้พูดถึงพรรครีพับลิกันอย่างแน่นอน ฉันไม่ได้พูดถึงคนที่อยู่ในการชุมนุมเหล่านั้น ฉันได้ยินเรื่องนี้มาจากเพื่อนพรรครีพับลิกันของฉัน เพราะว่าคนที่อยู่ในการชุมนุมเหล่านั้นคือคนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากข้อความที่เรากำลังส่งถึง”

    38.เมื่อปีที่แล้ว บารัค โอบามายกย่อง Walz เมื่อพรรคเดโมแครต-เกษตรกร-แรงงานของมินนิโซตาได้ควบคุมคฤหาสน์ของผู้ว่าการ รัฐสภา และวุฒิสภาของรัฐ

    39.Walz พบกับรองผู้ว่าการรัฐ Peggy Flanagan เป็นครั้งแรกเมื่อเขาเข้าร่วม Wellstone Action ซึ่งก่อตั้งขึ้นหลังจากการเสียชีวิตของวุฒิสมาชิก Paul Wellstone ในปี 2002 เพื่อฝึกอบรมผู้จัดงาน นักเคลื่อนไหว และผู้สมัครรับเลือกตั้งที่มีแนวคิดก้าวหน้า “ฉันไปที่นั่นและได้พบกับผู้ฝึกสอนสาวที่ยอดเยี่ยมซึ่งกลายเป็น Peggy Flanagan นั่นคือจุดเริ่มต้นมิตรภาพของเรา”

    40.หลังจากที่รัฐมินนิโซตาประกาศให้กัญชาเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจถูกกฎหมายเมื่อปีที่แล้ว Walz ได้แต่งตั้งเจ้าของร้านขายกัญชาให้เป็นผู้กำกับดูแลกัญชาชั้นนำของรัฐ วันรุ่งขึ้น Erin DuPree ผู้ประกอบการด้านกัญชาได้ลาออกจากตำแหน่งหลังจากที่ Star Tribune รายงานว่าเธอขายผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมายในร้านกัญชาของเธอและถูกยึดภาษีของรัฐบาลกลางและถูกตัดสินจำคุก ต่อมาสำนักงานผู้ตรวจสอบนิติบัญญัติ ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบของรัฐบาลมินนิโซตาที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดได้พบว่าสำนักงานของผู้ว่าการรัฐได้ละเลยขั้นตอนการตรวจสอบประวัติพื้นฐานบางขั้นตอนก่อนที่จะแต่งตั้ง DuPree

    41.ในเดือนธันวาคม 2023 วอลซ์ได้รับเลือกให้เป็นประธานสมาคมผู้ว่าการรัฐของพรรคเดโมแครต ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการปกป้องและเพิ่มส่วนแบ่งของผู้บริหารสูงสุดของพรรคในแต่ละรัฐ “ตอนนี้ฉันเชื่อมั่นอย่างยิ่งแล้วว่าผู้ว่าการรัฐสามารถสร้างความแตกต่างได้ เราเห็นสิ่งนี้ในมินนิโซตา เราเห็นสิ่งนี้ในมิชิแกน เราเห็นสิ่งนี้ในโคโลราโด เราเห็นว่ารัฐทั้งสามแห่งนี้ทำให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้น”

    42.เครื่องดื่มที่เขาเลือกคือ Diet Mountain Dew เขาถูกจับข้อหาเมาแล้วขับในเนแบรสกาในปี 1995 ก่อนที่จะเลิกดื่ม

    43.วอลซ์เป็นนักวิ่งที่เข้าร่วมการแข่งขันหลายรายการในเมืองแฝดของมินนิโซตา: “ฉันพบว่าแม้กระทั่งก่อนเกิดเหตุการณ์ที่กดดันที่สุด หากฉันออกไปวิ่ง ฉันจะสงบและมีสติมากขึ้น”

    44.เขาชอบซ่อมแซม International Scout สีน้ำเงินแบบวินเทจของเขา ซึ่งเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อที่บริษัท International Harvester หยุดผลิตในปี 1980

    45.เขามีป้ายทะเบียนพิเศษที่เขียนว่า “ONE MN” ซึ่งเป็นสโลแกนหาเสียงของเขาในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐ

    46.Walz สัญญากับ Gus ลูกชายของเขาว่าจะเลี้ยงสุนัขหากเขาชนะการเลือกตั้งในปี 2019 เมื่อมีการประกาศผลการเลือกตั้ง Gus ก็อุทานออกมาว่า “ฉันจะเลี้ยงสุนัข!” Walz ทำตามสัญญาโดยรับ Scout ซึ่งเป็นสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ผสมสีดำมาเลี้ยงในช่วงปลายปี

    47.Walz และ Scout มักจะไปเยี่ยมสวนสาธารณะสำหรับสุนัขใน Twin Cities โดยไม่ต้องจูงสายจูงในตอนเช้าทุกวัน

    48.Walz ลงนามในร่างกฎหมายเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อขยายสิทธิในการลงคะแนนเสียงให้กับผู้ที่เคยต้องโทษจำคุกประมาณ 55,000 คน

    49.Walz ได้พบกับเอกอัครราชทูตยูเครนประจำสหรัฐอเมริกาเพื่อลงนามในจดหมายแสดงความเข้าใจซึ่งสร้างความร่วมมือทางการเกษตรระหว่างมินนิโซตาและภูมิภาคทางตอนเหนือของยูเครนที่เรียกว่าเชอร์นิฮิฟ “เมื่อเราขับไล่พวกรัสเซียออกไปแล้ว เราก็จะมีความร่วมมือกัน” Walz กล่าว “มันเป็นการแสดงมิตรภาพที่สำคัญจริงๆ และเป็นการแสดงความสัมพันธ์ที่สำคัญจริงๆ”

    50.ในปี 2023 Walz ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อปกป้องการเข้าถึงการดูแลที่ยืนยันเพศ “ในขณะที่รัฐต่างๆ ทั่วประเทศเคลื่อนไหวเพื่อห้ามการเข้าถึงการดูแลที่ยืนยันเพศ เราต้องการให้ชาวมินนิโซตาที่เป็น LGBTQ รู้ว่าพวกเขาจะยังคงปลอดภัย ได้รับการคุ้มครอง และได้รับการต้อนรับในมินนิโซตาต่อไป” Walz กล่าว

    51.อาหารจานร้อนมันฝรั่งทอดของเขา ซึ่งเป็นอาหารไม่เป็นทางการของมินนิโซตา เป็นแชมป์รายการอาหารจานร้อนของคณะผู้แทนรัฐสภามินนิโซตาถึงสามสมัย เขาชนะในปี 2013, 2014 และ 2016

    52.เขาประกาศตัวเองว่าเป็นนักอ่านนิยายวิทยาศาสตร์แฟนตาซีเมื่อพูดถึงหนังสือ “ผมเพิ่งอ่านซีรีส์ Mortal Engines จบไป ผมอ่านนิยายสำหรับวัยรุ่นหลายเล่มเพราะผมอ่านกับลูกๆ ผมอ่านเล่มนั้นกับ Gus” เขากล่าวในปี 2019 “และผมเพิ่งอ่านเล่มหนึ่งจบซึ่งผมไม่แนะนำให้อ่านเพราะมันน่ากลัวมาก: Command and Control หนังสือเล่มนี้บอกเล่าประวัติศาสตร์คลังอาวุธนิวเคลียร์ของอเมริกา”

    53.เพลงโปรดของเขาโดย Bob Dylan หนึ่งในคนดังที่โด่งดังที่สุดของรัฐมินนิโซตาคือเพลง “Forever Young” ซึ่งมี “ข้อความอมตะจากพ่อถึงลูกชาย” ตามที่ Walz กล่าว

    54.เขามีความสุขกับการได้ดื่มนมไม่อั้นที่งาน Minnesota State Fair มากจนถึงขนาดที่เขาอาสาทำงานที่บูธในปี 2022

    55.Walz เป็นคนมองโลกในแง่ดี แต่เมื่อพูดถึงรัฐบาล เขาพยายามวางแผนรับมือสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด “ผมคิดว่าผู้คนควรคาดหวังให้รัฐบาลมีแนวคิดก้าวหน้าและคาดการณ์ล่วงหน้า” เขากล่าวขณะเข้ารับตำแหน่งในปี 2019 “หลายๆ สิ่งที่ผู้คนมองว่าเป็นอุบัติเหตุหรือโอกาส แท้จริงแล้วเป็นเพียงการวางแผนและคาดการณ์ล่วงหน้าที่ไม่ดี”

    ที่มา : Politico.com

    #Thaitimes
    พรรคเดโมแครตเสนอชื่อ กมลา แฮร์ริสและทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตาอย่างเป็นทางการ วอลซ์มีพื้นฐานประสบการณ์เป็นครู เคยสอนที่จีน ทำให้เขาพูดภาษาจีนกลางได้และ ยังเรียกร้องให้มีเงินทุนเพื่อวิจัยการบำบัดด้วยกัญชาทางการแพทย์สำหรับทหารผ่านศึกที่ต่อสู้กับโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญและความเจ็บปวดเรื้อรัง 7 สิงหาคม 2567-ในแถลงการณ์ พรรคเดโมแครตระบุว่าผู้แทนการประชุมใหญ่ 99 เปอร์เซ็นต์สนับสนุนให้แฮร์ริสลงคะแนนเสียงซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันจันทร์ วอลซ์ "ได้รับการรับรอง" ให้เป็นคู่ตัวแทนในการเลือกตั้งของเธอโดยมินยาน มัวร์ ประธานการประชุมใหญ่ พรรคยังคงวางแผนที่จะจัด "พิธีการเรียกชื่อ" ในชิคาโกในช่วงปลายเดือนนี้ แม้ว่าจะไม่มีการผูกมัดเหมือนปีที่แล้วก็ตาม ขณะทึ่ พรรคเดโมแครตบางคนกลัวว่าการฟ้องร้องอาจทำให้ผู้สมัครของตนต้องออกจากการลงคะแนนเสียง กรณี ความรุนแรงปะทุขึ้นหลังจากที่ตำรวจสังหาร George Floyd ในมินนิอาโปลิสเมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติและความรุนแรงของตำรวจทั่วประเทศ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันออกรายงานในช่วงปลายปี โดยวิพากษ์วิจารณ์การบริหารของวอลซ์ที่ไม่เข้าแทรกแซงอย่างรวดเร็วพอที่จะป้องกันการปล้นสะดมและวางเพลิง แม้ว่าแฮร์ริสจะไม่คาดว่าจะชนะคะแนนเสียงเลือกตั้ง 17 เสียงของรัฐโอไฮโอ แต่พรรคยังมีการเลือกตั้งอื่นๆ ตามมา พวกเขากลัวว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับผู้สมัครคนสำคัญอาจส่งผลต่อการแข่งขันที่สูสีเพื่อชิงที่นั่งในวุฒิสภา ซึ่งพรรคจะต้องรักษาโอกาสที่แท้จริงในการรักษาการควบคุมสภาแห่งนั้นของรัฐสภาไว้ รายงานข่าว Politico ระบุว่า 55 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Tim Walz ผู้ได้รับเลือกจาก Kamala Harris ให้ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตาเคยทำงานในกองกำลังป้องกันประเทศและเป็นครูมัธยมศึกษาตอนปลาย ก่อนที่จะเข้าสู่วงการเมืองในช่วงต้นทศวรรษปี 2000 1.Walz เกิดที่เวสต์พอยต์ เมืองในเนแบรสกาที่มีประชากรเพียง 3,500 คน แต่เขาเติบโตในเมืองที่เล็กกว่าชื่อบิวต์ 2.Walz สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมบิวต์ในปี 1982 “ผมมาจากเมืองที่มีประชากร 400 คน มีเด็ก 24 คนในหนึ่งห้อง ลูกพี่ลูกน้อง 12 คน ทำฟาร์ม มีเรื่องแบบนี้ด้วย” 3.Walz ยกย่องการเติบโตในชนบทของเขาว่าเป็นจุดเริ่มต้นของค่านิยมของเขา: “เมืองเล็กๆ แห่งนี้มีบริการแบบนั้นและมีโรงเรียนรัฐบาลที่มีครูของรัฐ ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ผมมานั่งอยู่ที่นี่จนถึงทุกวันนี้ เรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นจริงในเมืองเล็กๆ” 4.Walz เข้าร่วมกองกำลังป้องกันประเทศเมื่ออายุได้ 17 ปี 5.ในสำนักงานรัฐสภาของเขา Walz ได้จัดแสดงเหรียญ "ท้าทาย" หลายร้อยเหรียญที่เขาสะสมและแลกเปลี่ยนมาหลายปีทั่วโลก 6.พ่อของ Walz ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงเรียน เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดเมื่อ Walz อายุได้ 19 ปี Walz กล่าวว่าช่วงเวลานี้จุดประกายความคิดของเขาเกี่ยวกับการเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพ: “สัปดาห์สุดท้ายของชีวิตพ่อทำให้แม่ของผมต้องกลับไปทำงานเป็นเวลาสิบปีเพื่อชำระหนี้โรงพยาบาล” 7.Walz สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาสังคมศาสตร์จาก Chadron State College ในปี 1989 เขาได้รับปริญญาโทสาขาความเป็นผู้นำทางการศึกษาจาก Minnesota State University, Mankato ในปี 2001 8.หลังจากเรียนจบวิทยาลัย เขาใช้เวลาหนึ่งปีในการสอนที่ประเทศจีน ก่อนจะกลับมาทำงานเต็มเวลาในกองทัพ เขาเดินทางไปประเทศจีนกับกลุ่มครูชาวอเมริกันกลุ่มแรกที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล เพื่อสอนในโรงเรียนมัธยมของจีน 9.เขายังคงพูดภาษาจีนกลางได้ 10.เขาสอนหนังสือในเขตสงวน Pine Ridge ในเซาท์ดาโคตา “ผมบอกกับผู้คนว่าการจัดการโรงอาหารของโรงเรียนมัธยมมาหลายปีช่วยฝึกให้ผมรับมือกับความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.” 11.เขาเลื่อนยศเป็นจ่าสิบเอก ก่อนจะเกษียณจากกองพันปืนใหญ่ภาคสนามที่ 1-125 ในปี 2005 เขาทำหน้าที่ทั้งหมด 24 ปี 12.Walz ได้พบกับ Gwen Whipple ซึ่งเป็นภรรยาในอนาคตของเขา ซึ่งเป็นชาวมินนิโซตาโดยกำเนิด เนื่องจากทั้งคู่เป็นครูโรงเรียนมัธยมในห้องเรียนชั่วคราว สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งกล่าวว่าเธอรู้สึกไม่พอใจที่เขาส่งเสียงดังรบกวนห้องเรียนของเธอ 13.ในที่สุดทั้งสองก็ย้ายไปที่เมือง Mankato รัฐมินนิโซตา ซึ่งทั้งคู่ทำงานที่โรงเรียนมัธยม Mankato West “Gwen ชอบใช้ชีวิตในมินนิโซตาตอนใต้มาก เราคว้าโอกาสที่จะย้ายไปที่เมือง Mankato และเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยกัน” 14.Walz สอนภูมิศาสตร์และเป็นโค้ชฟุตบอลในโรงเรียนมัธยม “ฉันไม่รู้ว่าครูภูมิศาสตร์ในโรงเรียนมัธยมทุกคนคาดหวังว่าจะได้อยู่ในตำแหน่งนี้ในสักวันหนึ่งหรือไม่” 15.เขาเป็นที่ปรึกษาคณะสำหรับกลุ่มพันธมิตรเกย์-กลุ่มแรกของโรงเรียนในปี 1999 16.Walz วัย 60 ปี ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าดูแก่กว่าวัย Walz ตอบโต้เรื่องนี้ในรายการ X โดยกล่าวว่าเป็นเพราะเขา "ดูแลโรงอาหารมา 20 ปี คุณไม่สามารถออกจากงานนั้นโดยมีผมเต็มหัว เชื่อฉันเถอะ" 17.เขามีลูกสองคนคือ Hope และ Gus Hope เพิ่งจบการศึกษาจากวิทยาลัยในมอนทานา และ Gus กำลังเรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยมของรัฐในเซนต์พอล 18.ลูกทั้งสองคนเกิดจากกระบวนการ IVF และการรักษาภาวะมีบุตรยาก: "มีเหตุผลที่เราตั้งชื่อ [ลูกสาวของเรา] ว่า Hope" 19.งานแรกของ Walz ในแวดวงการเมืองคือเป็นสมาชิกแคมเปญหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของอดีตวุฒิสมาชิกรัฐแมสซาชูเซตส์ John Kerry ในปี 2004 แคมเปญดังกล่าวจ้างเขาให้เป็นผู้ประสานงานแคมเปญระดับมณฑลและผู้ประสานงานระดับมณฑลของทหารผ่านศึกสำหรับเคอร์รี 20.เขาบอกว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจให้เข้าร่วมแคมเปญของเคอร์รีหลังจากที่เขาพาเด็กนักเรียนมัธยมปลายกลุ่มหนึ่งไปร่วมชุมนุมหาเสียงของจอร์จ ดับเบิลยู บุช และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ซักถามนักเรียนคนหนึ่งของเขาเนื่องจากเขามีสติกเกอร์ของเคอร์รีติดอยู่บนกระเป๋าสตางค์ 21.วอลซ์ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาคองเกรสครั้งแรกในปี 2549 ซึ่งถือเป็นการพลิกกลับสถานการณ์ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรในปีนั้น เขตเลือกตั้งซึ่งเป็นที่ตั้งของทั้งคลินิกเมโยและบริษัทแปรรูปเนื้อฮอร์เมล เคยลงคะแนนเสียงให้กับจอร์จ ดับเบิลยู บุชมาแล้วถึงสองครั้ง 22.เขาเป็นทหารเกณฑ์ที่มียศสูงสุดที่เคยรับใช้ในสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ และเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต-เกษตรกร-แรงงานของรัฐมินนิโซตาคนที่สี่ที่เป็นตัวแทนของเขตเลือกตั้งของเขา 23. Walz เอาชนะ Gil Gutknecht สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกันคนปัจจุบันได้สำเร็จ แม้ว่าเขาจะใช้เงินน้อยกว่าเกือบครึ่งล้านดอลลาร์ก็ตาม 24.Walz ชนะการเลือกตั้งซ้ำอีก 5 ครั้งในเขตที่ 1 ของมินนิโซตา ซึ่งเป็นเขตชนบทส่วนใหญ่และอนุรักษ์นิยม โดยดำรงตำแหน่งในสภาผู้แทนราษฎรเป็นเวลา 12 ปี 25.เมื่อ Walz เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร Walz ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานร่วมกับ Paul Hodes สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐนิวแฮมป์เชียร์ 26.เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกอาวุโสของคณะกรรมการกิจการทหารผ่านศึกของสภาผู้แทนราษฎรในปี 2017 โดยเขาเน้นที่ประเด็นต่างๆ เช่น สุขภาพจิตของทหารผ่านศึก การฆ่าตัวตาย และการจัดการความเจ็บปวด นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้มีเงินทุนเพื่อวิจัยการบำบัดด้วยกัญชาทางการแพทย์สำหรับทหารผ่านศึกที่ต่อสู้กับโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญและความเจ็บปวดเรื้อรัง 27.ร่างกฎหมายมากกว่าครึ่งหนึ่งที่ Walz ร่วมสนับสนุนระหว่างปี 2015-2017 ได้รับการเสนอโดยผู้ที่ไม่ใช่พรรคเดโมแครต 28.ครั้งหนึ่ง Walz เคยได้รับคะแนน "A" จาก National Rifle Association และการรับรองของกลุ่ม ในปี 2016 นิตยสาร Guns & Ammo ได้รวมเขาไว้ในรายชื่อนักการเมือง 20 อันดับแรกสำหรับผู้เป็นเจ้าของปืน 29.ต่อมา เขาประณาม NRA และสนับสนุนมาตรการควบคุมปืน เช่น การห้ามใช้อาวุธจู่โจม ในช่วงหาเสียงครั้งแรกเพื่อชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐในปี 2018 NRA ได้ลดระดับคะแนนของเขาลงอย่างสิ้นเชิง "ผมได้รับคะแนน A จาก NRA ตอนนี้ผมได้ F ตลอดเลย และผมก็หลับสบาย" 30.ไม่นานหลังจากเหตุการณ์ยิงกันที่ลาสเวกัสในปี 2017 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 59 ราย เขาบริจาคเงินบริจาคหาเสียงจาก NRA ให้กับองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ช่วยเหลือครอบครัวของทหารที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะปฏิบัติหน้าที่ 31.Walz เป็นนักล่าตัวยงและเยาะเย้ย JD Vance ที่พูดถึงปืนในขณะที่ "ฉันรับรองได้ว่าเขายิงไก่ฟ้าไม่ได้เหมือนฉัน" 32.ในปี 2019 Walz ออกจากสภาเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา เขาเอาชนะ Jeff Johnson จากพรรครีพับลิกันไปมากกว่า 11 คะแนน 33.Walz มักจะปกป้องนโยบายของเขา เช่น ร่างกฎหมายอาหารกลางวันในโรงเรียนทั่วไปที่ลงนามในกฎหมายของรัฐมินนิโซตาเมื่อต้นปีนี้ โดยอ้างว่าเป็นสามัญสำนึก "ช่างเป็นสัตว์ประหลาด! เด็กๆ กินอิ่มและอิ่มท้องเพื่อที่พวกเขาจะได้ไปเรียนรู้ และผู้หญิงก็ตัดสินใจเรื่องการดูแลสุขภาพของตัวเอง" Walz พูดติดตลก 34.ความรุนแรงปะทุขึ้นหลังจากที่ตำรวจสังหาร George Floyd ในมินนิอาโปลิสเมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติและความรุนแรงของตำรวจทั่วประเทศ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันออกรายงานในช่วงปลายปี โดยวิพากษ์วิจารณ์การบริหารของวอลซ์ที่ไม่เข้าแทรกแซงอย่างรวดเร็วพอที่จะป้องกันการปล้นสะดมและวางเพลิง “ฉันเชื่ออย่างแน่นอนว่าการบริหารของเรา ไม่ว่าจะเป็นกองกำลังป้องกันประเทศ ตำรวจทางหลวง หรือกรมทรัพยากรธรรมชาติ บุคลากรแนวหน้าของเราตอบสนองอย่างมีเกียรติและกล้าหาญ พวกเขาช่วยชีวิตคนไว้ได้” วอลซ์กล่าว “รายงานด้านเดียวที่ออกมาก่อนการเลือกตั้งไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก แต่ถ้ามีคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ ฉันก็จะใช้แน่นอน” 35.ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา วอลซ์ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เผยแพร่แนวทางการโจมตีล่าสุดของพรรคเดโมแครตต่อบัตรลงคะแนนของพรรครีพับลิกัน เมื่อเขาเรียกทรัมป์และแวนซ์ว่า “คนพวกนี้ประหลาดจริงๆ” 36.เขาให้สัมภาษณ์กับ POLITICO ในปี 2023 ว่า “เมื่อเราลงแข่งกับพรรครีพับลิกันทั่วไป การแข่งขันของเรามักจะสูสีกันมาก แต่ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า [พรรครีพับลิกันทั่วไป] พวกนี้ประหลาด เมื่อพวกเขาเริ่มลงสมัคร ความแปลกประหลาดของพวกเขาก็ปรากฏขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ได้รับการเสนอชื่อในฝั่งตรงข้าม ฉันไม่คิดว่ามันจะน่าแปลกใจขนาดนั้น” 37.Walz บอกกับ The New York Times ว่าความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับความแปลกประหลาดนั้นเกี่ยวกับ Trump และ Vance ไม่ใช่พรรครีพับลิกันโดยทั่วไป “และคำว่า ‘แปลกประหลาด’ นั้นเฉพาะตัวเขาเท่านั้น ฉันไม่ได้พูดถึงพรรครีพับลิกันอย่างแน่นอน ฉันไม่ได้พูดถึงคนที่อยู่ในการชุมนุมเหล่านั้น ฉันได้ยินเรื่องนี้มาจากเพื่อนพรรครีพับลิกันของฉัน เพราะว่าคนที่อยู่ในการชุมนุมเหล่านั้นคือคนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากข้อความที่เรากำลังส่งถึง” 38.เมื่อปีที่แล้ว บารัค โอบามายกย่อง Walz เมื่อพรรคเดโมแครต-เกษตรกร-แรงงานของมินนิโซตาได้ควบคุมคฤหาสน์ของผู้ว่าการ รัฐสภา และวุฒิสภาของรัฐ 39.Walz พบกับรองผู้ว่าการรัฐ Peggy Flanagan เป็นครั้งแรกเมื่อเขาเข้าร่วม Wellstone Action ซึ่งก่อตั้งขึ้นหลังจากการเสียชีวิตของวุฒิสมาชิก Paul Wellstone ในปี 2002 เพื่อฝึกอบรมผู้จัดงาน นักเคลื่อนไหว และผู้สมัครรับเลือกตั้งที่มีแนวคิดก้าวหน้า “ฉันไปที่นั่นและได้พบกับผู้ฝึกสอนสาวที่ยอดเยี่ยมซึ่งกลายเป็น Peggy Flanagan นั่นคือจุดเริ่มต้นมิตรภาพของเรา” 40.หลังจากที่รัฐมินนิโซตาประกาศให้กัญชาเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจถูกกฎหมายเมื่อปีที่แล้ว Walz ได้แต่งตั้งเจ้าของร้านขายกัญชาให้เป็นผู้กำกับดูแลกัญชาชั้นนำของรัฐ วันรุ่งขึ้น Erin DuPree ผู้ประกอบการด้านกัญชาได้ลาออกจากตำแหน่งหลังจากที่ Star Tribune รายงานว่าเธอขายผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมายในร้านกัญชาของเธอและถูกยึดภาษีของรัฐบาลกลางและถูกตัดสินจำคุก ต่อมาสำนักงานผู้ตรวจสอบนิติบัญญัติ ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบของรัฐบาลมินนิโซตาที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดได้พบว่าสำนักงานของผู้ว่าการรัฐได้ละเลยขั้นตอนการตรวจสอบประวัติพื้นฐานบางขั้นตอนก่อนที่จะแต่งตั้ง DuPree 41.ในเดือนธันวาคม 2023 วอลซ์ได้รับเลือกให้เป็นประธานสมาคมผู้ว่าการรัฐของพรรคเดโมแครต ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการปกป้องและเพิ่มส่วนแบ่งของผู้บริหารสูงสุดของพรรคในแต่ละรัฐ “ตอนนี้ฉันเชื่อมั่นอย่างยิ่งแล้วว่าผู้ว่าการรัฐสามารถสร้างความแตกต่างได้ เราเห็นสิ่งนี้ในมินนิโซตา เราเห็นสิ่งนี้ในมิชิแกน เราเห็นสิ่งนี้ในโคโลราโด เราเห็นว่ารัฐทั้งสามแห่งนี้ทำให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้น” 42.เครื่องดื่มที่เขาเลือกคือ Diet Mountain Dew เขาถูกจับข้อหาเมาแล้วขับในเนแบรสกาในปี 1995 ก่อนที่จะเลิกดื่ม 43.วอลซ์เป็นนักวิ่งที่เข้าร่วมการแข่งขันหลายรายการในเมืองแฝดของมินนิโซตา: “ฉันพบว่าแม้กระทั่งก่อนเกิดเหตุการณ์ที่กดดันที่สุด หากฉันออกไปวิ่ง ฉันจะสงบและมีสติมากขึ้น” 44.เขาชอบซ่อมแซม International Scout สีน้ำเงินแบบวินเทจของเขา ซึ่งเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อที่บริษัท International Harvester หยุดผลิตในปี 1980 45.เขามีป้ายทะเบียนพิเศษที่เขียนว่า “ONE MN” ซึ่งเป็นสโลแกนหาเสียงของเขาในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐ 46.Walz สัญญากับ Gus ลูกชายของเขาว่าจะเลี้ยงสุนัขหากเขาชนะการเลือกตั้งในปี 2019 เมื่อมีการประกาศผลการเลือกตั้ง Gus ก็อุทานออกมาว่า “ฉันจะเลี้ยงสุนัข!” Walz ทำตามสัญญาโดยรับ Scout ซึ่งเป็นสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ผสมสีดำมาเลี้ยงในช่วงปลายปี 47.Walz และ Scout มักจะไปเยี่ยมสวนสาธารณะสำหรับสุนัขใน Twin Cities โดยไม่ต้องจูงสายจูงในตอนเช้าทุกวัน 48.Walz ลงนามในร่างกฎหมายเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อขยายสิทธิในการลงคะแนนเสียงให้กับผู้ที่เคยต้องโทษจำคุกประมาณ 55,000 คน 49.Walz ได้พบกับเอกอัครราชทูตยูเครนประจำสหรัฐอเมริกาเพื่อลงนามในจดหมายแสดงความเข้าใจซึ่งสร้างความร่วมมือทางการเกษตรระหว่างมินนิโซตาและภูมิภาคทางตอนเหนือของยูเครนที่เรียกว่าเชอร์นิฮิฟ “เมื่อเราขับไล่พวกรัสเซียออกไปแล้ว เราก็จะมีความร่วมมือกัน” Walz กล่าว “มันเป็นการแสดงมิตรภาพที่สำคัญจริงๆ และเป็นการแสดงความสัมพันธ์ที่สำคัญจริงๆ” 50.ในปี 2023 Walz ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อปกป้องการเข้าถึงการดูแลที่ยืนยันเพศ “ในขณะที่รัฐต่างๆ ทั่วประเทศเคลื่อนไหวเพื่อห้ามการเข้าถึงการดูแลที่ยืนยันเพศ เราต้องการให้ชาวมินนิโซตาที่เป็น LGBTQ รู้ว่าพวกเขาจะยังคงปลอดภัย ได้รับการคุ้มครอง และได้รับการต้อนรับในมินนิโซตาต่อไป” Walz กล่าว 51.อาหารจานร้อนมันฝรั่งทอดของเขา ซึ่งเป็นอาหารไม่เป็นทางการของมินนิโซตา เป็นแชมป์รายการอาหารจานร้อนของคณะผู้แทนรัฐสภามินนิโซตาถึงสามสมัย เขาชนะในปี 2013, 2014 และ 2016 52.เขาประกาศตัวเองว่าเป็นนักอ่านนิยายวิทยาศาสตร์แฟนตาซีเมื่อพูดถึงหนังสือ “ผมเพิ่งอ่านซีรีส์ Mortal Engines จบไป ผมอ่านนิยายสำหรับวัยรุ่นหลายเล่มเพราะผมอ่านกับลูกๆ ผมอ่านเล่มนั้นกับ Gus” เขากล่าวในปี 2019 “และผมเพิ่งอ่านเล่มหนึ่งจบซึ่งผมไม่แนะนำให้อ่านเพราะมันน่ากลัวมาก: Command and Control หนังสือเล่มนี้บอกเล่าประวัติศาสตร์คลังอาวุธนิวเคลียร์ของอเมริกา” 53.เพลงโปรดของเขาโดย Bob Dylan หนึ่งในคนดังที่โด่งดังที่สุดของรัฐมินนิโซตาคือเพลง “Forever Young” ซึ่งมี “ข้อความอมตะจากพ่อถึงลูกชาย” ตามที่ Walz กล่าว 54.เขามีความสุขกับการได้ดื่มนมไม่อั้นที่งาน Minnesota State Fair มากจนถึงขนาดที่เขาอาสาทำงานที่บูธในปี 2022 55.Walz เป็นคนมองโลกในแง่ดี แต่เมื่อพูดถึงรัฐบาล เขาพยายามวางแผนรับมือสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด “ผมคิดว่าผู้คนควรคาดหวังให้รัฐบาลมีแนวคิดก้าวหน้าและคาดการณ์ล่วงหน้า” เขากล่าวขณะเข้ารับตำแหน่งในปี 2019 “หลายๆ สิ่งที่ผู้คนมองว่าเป็นอุบัติเหตุหรือโอกาส แท้จริงแล้วเป็นเพียงการวางแผนและคาดการณ์ล่วงหน้าที่ไม่ดี” ที่มา : Politico.com #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1103 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✅ศาสตร์แพทย์แผนปัจจุบัน
    Detox https://t.me/c/1585233417/283
    ✍️PREVENTION & TREATMENT PROTOCOLS FOR COVID-19
    https://coachtestprep.s3.amazonaws.com/direct-uploads/user-84424/22a5271a-54d6-46bd-88b6-9b3decaeb246/PREVENTION%20and%20TREATMENT%20PROTOCOLS%20FOR%20COVID-19.pdf
    ✍️แนะนำเพิ่มเติมห้องนี้ครับ เกี่ยวกับการรักษาโรคทั้งหลาย แนวทางเลือก
    อยากรู้ข้อมูลอะไร เช่น CDS, MMS, DMSO, Colloidal silver ลอง search หาดูได้เลยครับ ข้อมูลดีๆ เยอะมาก
    https://t.me/naturalhealthknowledge
    ✍️Colloidal Silver (ซิลเวอร์คอลลอยด์)
    https://t.me/Covidtreatment_th/64
    https://www.chaloke.com/forums/topic/cdc-d2210/
    CDC-D2210 Colloidal Silver เพื่อการดูแลสุขภาพ งานวิจัย Silver
    https://scholar.google.co.th/scholar?start=10&q=related:ZV7deZG4n3q35M:scholar.google.com/&hl=en&as_sdt=0,5
    https://t.me/Covidtreatment_th/179
    https://t.me/Covidtreatment_th/295
    กลุ่มไลน์ "แจกฟรีน้ำ ซิลเวอร์ นาโน."
    https://line.me/ti/g2/h9jrbKfMu9VrtwcwXVLSRZZG9vbhm120RrDVRQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
    ✍️การล้างพิษต่างๆ โดย ดร.สมบัติ ประสบเงิน
    https://t.me/Covidtreatment_th/36
    ✍️ยาไอเวอร์เมคติน
    https://t.me/Covidtreatment_th/15
    https://t.me/Covidtreatment_th/40
    https://t.me/Covidtreatment_th/785
    https://www.youtube.com/watch?v=XTTuUa6Di-c
    ไอเวอเมคตินทำงานอย่างไร
    https://youtu.be/XTTuUa6Di-c
    โปรโตคอลการใช้ยาไอเวอร์เมคติน
    https://t.me/Covidtreatment_th/63
    ประสบการณ์คุณลุงโฉลก ในการใช้ยาไอเวอร์เมคตินและโฮมีโอพาธีย์
    https://play.rookon.com/v/KGqKAH
    https://youtu.be/7anX4Uv1hPk
    บทบาทของยาไอเวอร์เม็กติน ต่อไวรัส SARS-Cov-2
    https://t.me/Covidtreatment_th/82
    ไอเวอร์เมคติน : ความเป็นมา
    https://t.me/Covidtreatment_th/83
    งานวิจัยการใช้ Ivermectin รักษาโควิด
    https://c19ivermectin.com
    ✍️บอแร็กซ์
    https://t.me/Covidtreatment_th/24
    https://www.365wecare.com/knowledge_detail.php?ntr_id=72
    เอกสาร pdf
    https://t.me/Covidtreatment_th/69
    https://t.me/Covidtreatment_th/859
    วิธีใช้บอแรกซ์
    https://t.me/Covidtreatment_th/872
    ✍️ กลูตาไธโอน
    https://t.me/Covidtreatment_th/273
    ✍️สรุปงานวิจัยของยา43ชนิด Analysis of 43 COVID early treatments
    c19early.com
    ✍️นัตโตะไคเนส https://t.me/Covidtreatment_th/797
    ✍️โบรมิเลน (อาหารเสริม) มีผลงานวิจัยชัดเจนในการช่วยเรื่องขจัดสไปรส์โปรตีนที่เกิดจากยาฉีด
    https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7523097/?fbclid=IwAR0lSwrVMmJGkBx-tz-XQORdBt6z2OquFjJfHS2kjMrbpbu8u5P7xOQWXUU
    https://palexander.substack.com/p/bromelain-covid-19-mrna-vaccine-injury
    ✍️Chorine Dioxide Solution (CDS)
    https://www.stopworldcontrol.com/cds/
    ✍️ช่องเทเลแกรม ข้อมูลCDS ติดตามข้อมูลอัพเดทได้ทาง
    https://t.me/CDS4UData
    ✍️รวมคลิปเกี่ยวกับ CDS
    https://drive.google.com/drive/mobile/folders/17WvCSyxFMIcjx-I5ML0bTA68Gb28mljk?usp=sharing
    ✍️วิธีทำ CDS ช่องเทเลแกรม ป้องกันรักษาโรค ทางสายกลาง โดย หม่อมโจ้ รุ่งคุณ กิติยากร
    https://t.me/MiddlewayResistance/313
    https://t.me/MiddlewayResistance/1560
    ✍️โรคที่รักษาด้วย CDS ได้
    https://t.me/CDS4UData/14
    ✍️ติดตามความรู้ CDS
    👉ห้อง “CDS ทำเองได้ ใช้เองเป็น”
    https://t.me/CDS_School
    👉ห้อง CDS คลอรีนไดออกไซด์โซลูชัน
    https://t.me/CDS4UData
    👉กลุ่มCOMUSAV
    https://t.me/comusav
    👉 https://t.me/ChlorineDioxideTestimonies
    👉ห้อง Natural Health Knowledge รวบรวมความรู้ด้านสุขภาพต่างๆ ทั้ง CDS, MMS, Colloidal silver, Borax และอื่นๆ เน้นทางเลือกในการรักษาสุขภาพ/รักษาโรค โดยไม่ต้องพึ่งพายาเคมี
    https://t.me/naturalhealthknowledge
    👉ห้องแชทเกี่ยวกับคลอรีนไดออกไซด์ ของต่างประเทศ (ทั้ง MMS & CDS)
    https://t.me/theuniversalantidote
    👉ห้องแชทภาษาสเปน
    https://t.me/joinchat/gj6PrWvxyJlkZjdk
    👉ห้องแชทภาษาอังกฤษ Natural Health Knowledge
    https://t.me/naturalhealthknowledgechat
    ✍️แชร์ประสบการณ์ผู้ใช้ CDS https://t.me/CDS_Thailand
    ช่องทางการเข้าถึง CDS เมื่อทำด้วยตัวเองไม่ได้จริงๆ
    👉สงวนไว้สำหรับผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ ติดต่อ ไอดีไลน์ : JWOV
    👉 จิตอาสาที่ผู้เชียวชาญแนะนำ กลุ่ม "CDSเกรดLabมารักษา"
    https://line.me/ti/g2/7zjtSeoGIl9FS_o30cxE6P9YJqp2p2iuaq1_lQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
    หรือ line id : sjpthai
    👉จิตอาสาอีกท่านที่ผู้เชียวชาญแนะนำกลุ่มไลน์ "คนไทย ต้องรอด"
    https://line.me/ti/g2/WRrkcIigbGrhuzDKtiuW7jyAAneCnPNbFkDovg?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default หรือ https://lin.ee/ic3PIRV
    👉จิตอาสาอีกท่านที่ผู้เชียวชาญแนะนำ line id : jae.pai
    👉สำหรับผู้ที่อยู่อเมริกา ซื้อหาได้จากเว็บไซต์ https://kvlab.com/
    ✅ศาสตร์แพทย์แผนปัจจุบัน Detox https://t.me/c/1585233417/283 ✍️PREVENTION & TREATMENT PROTOCOLS FOR COVID-19 https://coachtestprep.s3.amazonaws.com/direct-uploads/user-84424/22a5271a-54d6-46bd-88b6-9b3decaeb246/PREVENTION%20and%20TREATMENT%20PROTOCOLS%20FOR%20COVID-19.pdf ✍️แนะนำเพิ่มเติมห้องนี้ครับ เกี่ยวกับการรักษาโรคทั้งหลาย แนวทางเลือก อยากรู้ข้อมูลอะไร เช่น CDS, MMS, DMSO, Colloidal silver ลอง search หาดูได้เลยครับ ข้อมูลดีๆ เยอะมาก https://t.me/naturalhealthknowledge ✍️Colloidal Silver (ซิลเวอร์คอลลอยด์) https://t.me/Covidtreatment_th/64 https://www.chaloke.com/forums/topic/cdc-d2210/ CDC-D2210 Colloidal Silver เพื่อการดูแลสุขภาพ งานวิจัย Silver https://scholar.google.co.th/scholar?start=10&q=related:ZV7deZG4n3q35M:scholar.google.com/&hl=en&as_sdt=0,5 https://t.me/Covidtreatment_th/179 https://t.me/Covidtreatment_th/295 กลุ่มไลน์ "แจกฟรีน้ำ ซิลเวอร์ นาโน." https://line.me/ti/g2/h9jrbKfMu9VrtwcwXVLSRZZG9vbhm120RrDVRQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default ✍️การล้างพิษต่างๆ โดย ดร.สมบัติ ประสบเงิน https://t.me/Covidtreatment_th/36 ✍️ยาไอเวอร์เมคติน https://t.me/Covidtreatment_th/15 https://t.me/Covidtreatment_th/40 https://t.me/Covidtreatment_th/785 https://www.youtube.com/watch?v=XTTuUa6Di-c ไอเวอเมคตินทำงานอย่างไร https://youtu.be/XTTuUa6Di-c โปรโตคอลการใช้ยาไอเวอร์เมคติน https://t.me/Covidtreatment_th/63 ประสบการณ์คุณลุงโฉลก ในการใช้ยาไอเวอร์เมคตินและโฮมีโอพาธีย์ https://play.rookon.com/v/KGqKAH https://youtu.be/7anX4Uv1hPk บทบาทของยาไอเวอร์เม็กติน ต่อไวรัส SARS-Cov-2 https://t.me/Covidtreatment_th/82 ไอเวอร์เมคติน : ความเป็นมา https://t.me/Covidtreatment_th/83 งานวิจัยการใช้ Ivermectin รักษาโควิด https://c19ivermectin.com ✍️บอแร็กซ์ https://t.me/Covidtreatment_th/24 https://www.365wecare.com/knowledge_detail.php?ntr_id=72 เอกสาร pdf https://t.me/Covidtreatment_th/69 https://t.me/Covidtreatment_th/859 วิธีใช้บอแรกซ์ https://t.me/Covidtreatment_th/872 ✍️ กลูตาไธโอน https://t.me/Covidtreatment_th/273 ✍️สรุปงานวิจัยของยา43ชนิด Analysis of 43 COVID early treatments c19early.com ✍️นัตโตะไคเนส https://t.me/Covidtreatment_th/797 ✍️โบรมิเลน (อาหารเสริม) มีผลงานวิจัยชัดเจนในการช่วยเรื่องขจัดสไปรส์โปรตีนที่เกิดจากยาฉีด https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7523097/?fbclid=IwAR0lSwrVMmJGkBx-tz-XQORdBt6z2OquFjJfHS2kjMrbpbu8u5P7xOQWXUU https://palexander.substack.com/p/bromelain-covid-19-mrna-vaccine-injury ✍️Chorine Dioxide Solution (CDS) https://www.stopworldcontrol.com/cds/ ✍️ช่องเทเลแกรม ข้อมูลCDS ติดตามข้อมูลอัพเดทได้ทาง https://t.me/CDS4UData ✍️รวมคลิปเกี่ยวกับ CDS https://drive.google.com/drive/mobile/folders/17WvCSyxFMIcjx-I5ML0bTA68Gb28mljk?usp=sharing ✍️วิธีทำ CDS ช่องเทเลแกรม ป้องกันรักษาโรค ทางสายกลาง โดย หม่อมโจ้ รุ่งคุณ กิติยากร https://t.me/MiddlewayResistance/313 https://t.me/MiddlewayResistance/1560 ✍️โรคที่รักษาด้วย CDS ได้ https://t.me/CDS4UData/14 ✍️ติดตามความรู้ CDS 👉ห้อง “CDS ทำเองได้ ใช้เองเป็น” https://t.me/CDS_School 👉ห้อง CDS คลอรีนไดออกไซด์โซลูชัน https://t.me/CDS4UData 👉กลุ่มCOMUSAV https://t.me/comusav 👉 https://t.me/ChlorineDioxideTestimonies 👉ห้อง Natural Health Knowledge รวบรวมความรู้ด้านสุขภาพต่างๆ ทั้ง CDS, MMS, Colloidal silver, Borax และอื่นๆ เน้นทางเลือกในการรักษาสุขภาพ/รักษาโรค โดยไม่ต้องพึ่งพายาเคมี https://t.me/naturalhealthknowledge 👉ห้องแชทเกี่ยวกับคลอรีนไดออกไซด์ ของต่างประเทศ (ทั้ง MMS & CDS) https://t.me/theuniversalantidote 👉ห้องแชทภาษาสเปน https://t.me/joinchat/gj6PrWvxyJlkZjdk 👉ห้องแชทภาษาอังกฤษ Natural Health Knowledge https://t.me/naturalhealthknowledgechat ✍️แชร์ประสบการณ์ผู้ใช้ CDS https://t.me/CDS_Thailand ช่องทางการเข้าถึง CDS เมื่อทำด้วยตัวเองไม่ได้จริงๆ 👉สงวนไว้สำหรับผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ ติดต่อ ไอดีไลน์ : JWOV 👉 จิตอาสาที่ผู้เชียวชาญแนะนำ กลุ่ม "CDSเกรดLabมารักษา" https://line.me/ti/g2/7zjtSeoGIl9FS_o30cxE6P9YJqp2p2iuaq1_lQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default หรือ line id : sjpthai 👉จิตอาสาอีกท่านที่ผู้เชียวชาญแนะนำกลุ่มไลน์ "คนไทย ต้องรอด" https://line.me/ti/g2/WRrkcIigbGrhuzDKtiuW7jyAAneCnPNbFkDovg?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default หรือ https://lin.ee/ic3PIRV 👉จิตอาสาอีกท่านที่ผู้เชียวชาญแนะนำ line id : jae.pai 👉สำหรับผู้ที่อยู่อเมริกา ซื้อหาได้จากเว็บไซต์ https://kvlab.com/
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 713 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลิงก์รวมยาและการดูแลสุขภาพที่ได้ผลดี
    🤝🇹🇭🤝🇹🇭🤝🇹🇭🤝
    เทเลแกรม “รวมศาสตร์การป้องกันและรักษาผลกระทบจากยาฉีด”
    https://t.me/Covidtreatment_th
    กลุ่มไลน์ “ล้างพิษ ยาฉีด”
    https://line.me/ti/g2/wTvY1gxHGpGKCt15sQN1jMHw02XoSC1uXsjUsQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
    🤝🇹🇭🤝🇹🇭🤝🇹🇭🤝

    ✅ศาสตร์แพทย์แผนไทย
    ✍️สมุนไพรรางจืด
    https://youtu.be/cZz-njYEOT0
    ✍️ยาห้าราก (ยาเบญจโลกวิเชียร ยาแก้วห้าดวง หรือยาเพชรสว่าง)
    https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/427/ยาห้าราก-แก้ไข้/
    https://fb.watch/ltfGrggPPh/?mibextid=VUMmCQ
    ✍️ฟ้าทะลายโจรวาระแห่งชาติ และตำรับยาขาว(นาทีที่ 30) และมหาพิกัดตรีผลา (นาทีที่ 44) โดย อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    https://youtu.be/HUw5rKnEB-A
    https://t.me/Covidtreatment_th/163
    ✍️ตำรับป้องกัน(ยาใบมะขาม) และรักษา(ยาขาว) โดย บรมครูแพทย์แผนไทย ครูชุบ แป้นคุ้มญาติ
    https://t.me/Covidtreatment_th/110
    https://youtu.be/PNs04g4pIys
    https://youtu.be/oku1qXZ9YUw
    ✍️ตำรับยาตรีผลา (มหาพิกัด) โดย อาจารย์แพทย์แผนไทยคมสัน ทินกร ณ อยุธยา
    https://www.facebook.com/228893067300037/posts/1363509777171688/
    https://t.me/Covidtreatment_th/276
    ✍️มาทำความรู้จักโกฐจุฬาลัมพา และตำรับยาแก้ไข้จันทน์ลีลา
    https://youtu.be/CFv-8cW_8fo
    ✍️การสุมยาสมุนไพร โดย รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
    https://youtu.be/nf_hPZGG1fU
    ✍️ ตัวอย่างเกร็ดยาต่างๆ วัดคีรีวงก์ จ.ชุมพร https://t.me/Covidtreatment_th/235
    ✍️สมุนไพรต้านมะเร็ง สูตรหมอสมหมาย: https://youtu.be/EhinXIYrEok โทร.0826528992
    ✍️ยาลม 300 จำพวก
    https://youtu.be/dv_Dz-Dkyt4
    https://youtu.be/ivO-KrSLDCg
    https://youtu.be/gzY-SbZnou0
    ✍️พลูคาวหรือผักคาวตอง https://youtu.be/y9Xee_Iopmg
    กลุ่มไลน์ "โลกของผักคาวตอง The World Under QuawTong"
    https://line.me/ti/g2/3HtIskAzcnB88VCmqR6RfleKsUwNq2yo9hzqHw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
    ✍️สมุนไพรแก้หวัด,บำรุงปอด
    https://t.me/Covidtreatment_th/311
    ✍️ยาไทยได้ผลจริง
    https://www.thethaipress.com/202
    #ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญและจิตอาสาจากกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    ลิงก์รวมยาและการดูแลสุขภาพที่ได้ผลดี 🤝🇹🇭🤝🇹🇭🤝🇹🇭🤝 เทเลแกรม “รวมศาสตร์การป้องกันและรักษาผลกระทบจากยาฉีด” https://t.me/Covidtreatment_th กลุ่มไลน์ “ล้างพิษ ยาฉีด” https://line.me/ti/g2/wTvY1gxHGpGKCt15sQN1jMHw02XoSC1uXsjUsQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default 🤝🇹🇭🤝🇹🇭🤝🇹🇭🤝 ✅ศาสตร์แพทย์แผนไทย ✍️สมุนไพรรางจืด https://youtu.be/cZz-njYEOT0 ✍️ยาห้าราก (ยาเบญจโลกวิเชียร ยาแก้วห้าดวง หรือยาเพชรสว่าง) https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/427/ยาห้าราก-แก้ไข้/ https://fb.watch/ltfGrggPPh/?mibextid=VUMmCQ ✍️ฟ้าทะลายโจรวาระแห่งชาติ และตำรับยาขาว(นาทีที่ 30) และมหาพิกัดตรีผลา (นาทีที่ 44) โดย อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://youtu.be/HUw5rKnEB-A https://t.me/Covidtreatment_th/163 ✍️ตำรับป้องกัน(ยาใบมะขาม) และรักษา(ยาขาว) โดย บรมครูแพทย์แผนไทย ครูชุบ แป้นคุ้มญาติ https://t.me/Covidtreatment_th/110 https://youtu.be/PNs04g4pIys https://youtu.be/oku1qXZ9YUw ✍️ตำรับยาตรีผลา (มหาพิกัด) โดย อาจารย์แพทย์แผนไทยคมสัน ทินกร ณ อยุธยา https://www.facebook.com/228893067300037/posts/1363509777171688/ https://t.me/Covidtreatment_th/276 ✍️มาทำความรู้จักโกฐจุฬาลัมพา และตำรับยาแก้ไข้จันทน์ลีลา https://youtu.be/CFv-8cW_8fo ✍️การสุมยาสมุนไพร โดย รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร https://youtu.be/nf_hPZGG1fU ✍️ ตัวอย่างเกร็ดยาต่างๆ วัดคีรีวงก์ จ.ชุมพร https://t.me/Covidtreatment_th/235 ✍️สมุนไพรต้านมะเร็ง สูตรหมอสมหมาย: https://youtu.be/EhinXIYrEok โทร.0826528992 ✍️ยาลม 300 จำพวก https://youtu.be/dv_Dz-Dkyt4 https://youtu.be/ivO-KrSLDCg https://youtu.be/gzY-SbZnou0 ✍️พลูคาวหรือผักคาวตอง https://youtu.be/y9Xee_Iopmg กลุ่มไลน์ "โลกของผักคาวตอง The World Under QuawTong" https://line.me/ti/g2/3HtIskAzcnB88VCmqR6RfleKsUwNq2yo9hzqHw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default ✍️สมุนไพรแก้หวัด,บำรุงปอด https://t.me/Covidtreatment_th/311 ✍️ยาไทยได้ผลจริง https://www.thethaipress.com/202 #ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญและจิตอาสาจากกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2353 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานีฐาน 5G ในจีนพุ่ง เกือบ 4 ล้านแห่งครอบคลุมพื้นที่ 90% แล้ว
    .
    ซินหัว - เมื่อวันอังคาร (23 ก.ค.) กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีนรายงานจำนวนสถานีฐาน 5G ในจีนรวมอยู่ที่เกือบ 3.92 ล้านแห่ง เมื่อนับถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งเพิ่มขึ้น 540,000 แห่ง เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อน และคิดเป็น 33% ของจำนวนสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมดทั่วประเทศ
    .
    รายงานระบุว่าจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ 5G ในจีนรวมอยู่ที่ 927 ล้านราย เมื่อนับถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งเพิ่มขึ้น 105 ล้านราย เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อน และคิดเป็น 52.4% ของจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั้งหมดของจีน ซึ่งรวมอยู่ที่เกือบ 1,780 ล้านเบอร์ เมื่อนับถึงสิ้นเดือนมิถุนายน
    .
    อนึ่ง กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจการสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ของจีน ได้แก่ ไชน่า เทเลคอม (China Telecom) ไชน่า โมบายล์ (China Mobile) ไชน่า ยูนิคอม (China Unicom) และไชน่า บรอดเน็ต (China Broadnet)
    .
    เครือข่าย 5G และการใช้งานเครือข่ายดังกล่าวในเชิงพาณิชย์ของจีนพัฒนาอย่างรวดเร็วตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันเครือข่าย 5G ของจีนครอบคลุมตำบลและเมืองทั่วประเทศ รวมถึงหมู่บ้านมากกว่า 90%
    .
    เทคโนโลยี 5G ได้บูรณาการเข้ากับหลายภาคธุรกิจ เช่น อุตสาหกรรม พลังงาน การทำเหมือง การดูแลสุขภาพ และการศึกษา ตั้งแต่จีนออกใบอนุญาตการใช้งานเครือข่าย 5G เชิงพาณิชย์ครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน พร้อมกับการส่งเสริมและการประยุกต์ใช้ขนานใหญ่
    .
    จีนยังก่อสร้างโรงงาน 5G จำนวน 300 แห่ง และดำเนินโครงการประยุกต์ใช้ 5G พลัสอินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรม มากกว่า 13,000 โครงการ โดยการใช้งานเครือข่าย 5G เชิงพาณิชย์กระตุ้นผลผลิตทางเศรษฐกิจโดยตรงในจีนราว 5.6 ล้านล้านหยวน (ราว 27.83 ล้านล้านบาท) ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา
    .
    ทั้งนี้ จีนจะยังคงเดินหน้าพัฒนา 5G และขยายความครอบคลุมของเครือข่าย 5G สู่สถานที่ต่างๆ เช่น แหล่งวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สถานดูแลสุขภาพ มหาวิทยาลัย ศูนย์กลางการขนส่ง และระบบรถไฟใต้ดิน
    สถานีฐาน 5G ในจีนพุ่ง เกือบ 4 ล้านแห่งครอบคลุมพื้นที่ 90% แล้ว . ซินหัว - เมื่อวันอังคาร (23 ก.ค.) กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีนรายงานจำนวนสถานีฐาน 5G ในจีนรวมอยู่ที่เกือบ 3.92 ล้านแห่ง เมื่อนับถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งเพิ่มขึ้น 540,000 แห่ง เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อน และคิดเป็น 33% ของจำนวนสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมดทั่วประเทศ . รายงานระบุว่าจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ 5G ในจีนรวมอยู่ที่ 927 ล้านราย เมื่อนับถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งเพิ่มขึ้น 105 ล้านราย เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อน และคิดเป็น 52.4% ของจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั้งหมดของจีน ซึ่งรวมอยู่ที่เกือบ 1,780 ล้านเบอร์ เมื่อนับถึงสิ้นเดือนมิถุนายน . อนึ่ง กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจการสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ของจีน ได้แก่ ไชน่า เทเลคอม (China Telecom) ไชน่า โมบายล์ (China Mobile) ไชน่า ยูนิคอม (China Unicom) และไชน่า บรอดเน็ต (China Broadnet) . เครือข่าย 5G และการใช้งานเครือข่ายดังกล่าวในเชิงพาณิชย์ของจีนพัฒนาอย่างรวดเร็วตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันเครือข่าย 5G ของจีนครอบคลุมตำบลและเมืองทั่วประเทศ รวมถึงหมู่บ้านมากกว่า 90% . เทคโนโลยี 5G ได้บูรณาการเข้ากับหลายภาคธุรกิจ เช่น อุตสาหกรรม พลังงาน การทำเหมือง การดูแลสุขภาพ และการศึกษา ตั้งแต่จีนออกใบอนุญาตการใช้งานเครือข่าย 5G เชิงพาณิชย์ครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน พร้อมกับการส่งเสริมและการประยุกต์ใช้ขนานใหญ่ . จีนยังก่อสร้างโรงงาน 5G จำนวน 300 แห่ง และดำเนินโครงการประยุกต์ใช้ 5G พลัสอินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรม มากกว่า 13,000 โครงการ โดยการใช้งานเครือข่าย 5G เชิงพาณิชย์กระตุ้นผลผลิตทางเศรษฐกิจโดยตรงในจีนราว 5.6 ล้านล้านหยวน (ราว 27.83 ล้านล้านบาท) ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา . ทั้งนี้ จีนจะยังคงเดินหน้าพัฒนา 5G และขยายความครอบคลุมของเครือข่าย 5G สู่สถานที่ต่างๆ เช่น แหล่งวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สถานดูแลสุขภาพ มหาวิทยาลัย ศูนย์กลางการขนส่ง และระบบรถไฟใต้ดิน
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 451 มุมมอง 0 รีวิว