• สวัสดีคะคุณอาสนธิหลายวันมานี้ เครียดนอนไม่หลับเลย "ประเทศไทยมาถึงจุดนี้ได้ยังไงกัน รัฐบาลเป็นฝ่ายตรงข้ามกับประเทศตัวเอง ศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ยังไม่หยุดยิ่งใหญ่มาก ตัวประสาทไทยขึ้นทะเบียนมานานก่อนมีประเทศกัมพูชาซะอีกมันจะมาเคลมได้ยังไง คนขายชาติมุ่งหมายลากแผ่นดินบนบกลงทะเลเพื่อแลกผลประโยชน์ส่วนตัว ฉากละครกัมพูชาเปิดการยิงไทยก่อน "แล้วนายภูมิธรรมจะไปเจรจากับฮุนมาเนตที่มาเลย์เพื่อใช้แผนที่1:200,000 เท่ากับยกแผ่นดินให้กัมพูชาเพื่อแลกกับการหยุดยิง กองทัพไทยสู้กัมพูชาไม่ได้ต้องยอมยกดินแดนให้เพราะกลัวกัมพูชายิงโถอนาถใจแท้ๆ#นักการเมืองมันเอาชีวิตทหารและประชาชนแลกผลประโยชน์ส่วนตน "อับอายขายหน้าไทยแพ้กัมพูชา ฮุนมาเนตได้เป็นวีรบุรุษ...คนไทยประเทศไทยจะเหลือศักดิ์ศรีอะไรบนเวทีโลกคนทั้งโลกแม้แต่อาจารย์ที่สหรัฐฯเองยังแปลกใจเลยว่าไทยมีกองทัพที่มีศักดิ์ยภาพมากในอาเซียนแต่ทำไมกัมพูชาถึงกล้าเปิดศึกยิงไทยก่อนแบบนี้ "หมดแล้วศักดิ์ศรีประเทศไทยและกองทัพไทยมันจบแล้วจริงๆยุคนี้มันยุคอะไรกาลีบ้านกาลีเมืองคนไทยหันหน้าไปพึ่งใครไม่ได้เลยยามนี้ไทยตกต่ำถึงขีดสุดขณะที่พี่น้องประชาชนต้องตายทรัพย์สินเสียหาย ทหารดีๆต้องมาพิกลพิการเสียชีวิต นี้หรือคือผลตอบแทนของเขาๆสละชีพเพื่อเสียดินแดนหรือละครฉากหนึ่งเท่านั้น"โคตรช้ำใจเลย เขาน่าจะมีแบ็คใหญ่มากๆเขาไม่เห็นหัวประชาชนเลย คุณอาสนธิคุยในรายการพรุ่งนี้หนูฝากถามหน่อยนะคะว่า "นายภูมิธรรมและรัฐบาลจะไปเจรจากันที่มาเลย์กับนายอีนวาร์,ฮุนมาเนตให้เขมรหยุดยิงไทยจะใช้แผนที่ตามที่ตกลงไว้ใน "MOU43-44ให้ประสาทมัน ลากลงเกาะกูดแบ่งผลประโยชน์50-50เพื่อขอร้องให้กัมพูชาหยุดยิงไทยเถอะได้โปรดไทยๆยอมแล้วกลัวมากๆเลยงั้นเหรอไปตกลงเจรจาโดยไม่ต้องผ่านสภาแบบนี้เหมือนดิวงานบริษัทส่วนตัวใช่หรือ มีอะไรอยู่เบื้องหลัง??เหตุการณ์นี้ไหมดูแปลกๆ"อายชาวปาเลสไตน์เขาไม่ยอมเสียบ้านแผ่นดินตรงนั้น้ขายอมตายเพื่อบ้านของเขา"#แต่ประเทศไทยมีไส้ศึกขายชาติยกแผ่นดินให่ต่างชาติง่ายโดยไร้เหตุผล ถ้ารัฐบาลไม่มาแทรกแซงกองทัพๆมีเอกภาพจริงๆกัมพูชามันไม่กล้าผยองแบบนี้หรอก ขนาดกับลาว,เวียดนามมันยังกลัวหัวหดเลย#""คิดถึงพ่อหลวง ร.๙..จอมทัพไทยเหลือเกิน สิ้นท่านไปคนหนึ่งบ้านเมืองก็แตกสาแหรกขาดหมดแล้วสิ้นหวังกับทุกๆสิ่งในประเทศนี้แล้ว
    สวัสดีคะคุณอาสนธิหลายวันมานี้ เครียดนอนไม่หลับเลย "ประเทศไทยมาถึงจุดนี้ได้ยังไงกัน รัฐบาลเป็นฝ่ายตรงข้ามกับประเทศตัวเอง ศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ยังไม่หยุดยิ่งใหญ่มาก ตัวประสาทไทยขึ้นทะเบียนมานานก่อนมีประเทศกัมพูชาซะอีกมันจะมาเคลมได้ยังไง คนขายชาติมุ่งหมายลากแผ่นดินบนบกลงทะเลเพื่อแลกผลประโยชน์ส่วนตัว ฉากละครกัมพูชาเปิดการยิงไทยก่อน "แล้วนายภูมิธรรมจะไปเจรจากับฮุนมาเนตที่มาเลย์เพื่อใช้แผนที่1:200,000 เท่ากับยกแผ่นดินให้กัมพูชาเพื่อแลกกับการหยุดยิง กองทัพไทยสู้กัมพูชาไม่ได้ต้องยอมยกดินแดนให้เพราะกลัวกัมพูชายิงโถอนาถใจแท้ๆ#นักการเมืองมันเอาชีวิตทหารและประชาชนแลกผลประโยชน์ส่วนตน "อับอายขายหน้าไทยแพ้กัมพูชา ฮุนมาเนตได้เป็นวีรบุรุษ...คนไทยประเทศไทยจะเหลือศักดิ์ศรีอะไรบนเวทีโลกคนทั้งโลกแม้แต่อาจารย์ที่สหรัฐฯเองยังแปลกใจเลยว่าไทยมีกองทัพที่มีศักดิ์ยภาพมากในอาเซียนแต่ทำไมกัมพูชาถึงกล้าเปิดศึกยิงไทยก่อนแบบนี้ "หมดแล้วศักดิ์ศรีประเทศไทยและกองทัพไทยมันจบแล้วจริงๆยุคนี้มันยุคอะไรกาลีบ้านกาลีเมืองคนไทยหันหน้าไปพึ่งใครไม่ได้เลยยามนี้ไทยตกต่ำถึงขีดสุดขณะที่พี่น้องประชาชนต้องตายทรัพย์สินเสียหาย ทหารดีๆต้องมาพิกลพิการเสียชีวิต นี้หรือคือผลตอบแทนของเขาๆสละชีพเพื่อเสียดินแดนหรือละครฉากหนึ่งเท่านั้น"โคตรช้ำใจเลย เขาน่าจะมีแบ็คใหญ่มากๆเขาไม่เห็นหัวประชาชนเลย คุณอาสนธิคุยในรายการพรุ่งนี้หนูฝากถามหน่อยนะคะว่า "นายภูมิธรรมและรัฐบาลจะไปเจรจากันที่มาเลย์กับนายอีนวาร์,ฮุนมาเนตให้เขมรหยุดยิงไทยจะใช้แผนที่ตามที่ตกลงไว้ใน "MOU43-44ให้ประสาทมัน ลากลงเกาะกูดแบ่งผลประโยชน์50-50เพื่อขอร้องให้กัมพูชาหยุดยิงไทยเถอะได้โปรดไทยๆยอมแล้วกลัวมากๆเลยงั้นเหรอไปตกลงเจรจาโดยไม่ต้องผ่านสภาแบบนี้เหมือนดิวงานบริษัทส่วนตัวใช่หรือ มีอะไรอยู่เบื้องหลัง??เหตุการณ์นี้ไหมดูแปลกๆ"อายชาวปาเลสไตน์เขาไม่ยอมเสียบ้านแผ่นดินตรงนั้น้ขายอมตายเพื่อบ้านของเขา"#แต่ประเทศไทยมีไส้ศึกขายชาติยกแผ่นดินให่ต่างชาติง่ายโดยไร้เหตุผล ถ้ารัฐบาลไม่มาแทรกแซงกองทัพๆมีเอกภาพจริงๆกัมพูชามันไม่กล้าผยองแบบนี้หรอก ขนาดกับลาว,เวียดนามมันยังกลัวหัวหดเลย#""คิดถึงพ่อหลวง ร.๙..จอมทัพไทยเหลือเกิน สิ้นท่านไปคนหนึ่งบ้านเมืองก็แตกสาแหรกขาดหมดแล้วสิ้นหวังกับทุกๆสิ่งในประเทศนี้แล้ว😔
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 37 Views 0 Reviews
  • #ศักดิ์ศรีของชาติ บ้านเมืองอยู่ตรงไหน หนูรู้คุณอาสนธิ,อ.ปานเทพ คงเหนื่อยมากๆเพราะต่อสู้กีบอำนาจอะไรอยู่ แต่ก็หาคนกล้าชนอย่างคุณอาสนธิไม่มี ไทยมีคนเก่งคนดีเยอะแต่เขาไม่กล้าออกมาหรือไม่ก็เป็นตัวเล็กตัวน้อยพูดอะไรพวกมันก็คงไม่ฟังหรอก"เมื่อก่อนหนูตามเพจ อ.ดร.สมเกียรติ โอสถสภา ท่านเสียชีวิตแล้วหนูก็ไม่ตามแล้ว ชอบตามบทความของ อ.ปฐมพงษ์ แต่ท่านถูกบล็อกทุกช่องทางเลยตอนนี้เข้าไปเขียนในบล๊อกดิสก็เลยไม่ได้ตามเข้าไป สื่อไทยถูดควบคุมหมดแล้ว เมื่อก่อนชอบดูพี่ปองจัดกับคุณสันติสุขทางช่อง NEW18 พอเปลี่ยนค่ายก็ไม่ดูTOP NEW เลยไปจัดช่อง5ก็ชอบดูอ้าวจัดไม่กี่วันต้องหยุดอีก ตอนนี้หนูดูแต่ อ.สนธิ,อ.ปานเทพ นอกนั้นไม่ดูเลยคะ"ประเทศไทยถึงจุดตกต่ำที่สุด ยศตำแหน่งต้องซื้อแล้วจะเอาคนดีๆที่ไหนมา เข้าไปก็ถอนทุนทั้งนั้น "ยุคกาขาวบ้าบออะไร ต่อให้เป็นกาขาวก็เป็นกาอยู่ดี "หงส์กับกามันต่างกันนะคะ
    #ศักดิ์ศรีของชาติ🇹🇭 บ้านเมืองอยู่ตรงไหน หนูรู้คุณอาสนธิ,อ.ปานเทพ คงเหนื่อยมากๆเพราะต่อสู้กีบอำนาจอะไรอยู่ แต่ก็หาคนกล้าชนอย่างคุณอาสนธิไม่มี ไทยมีคนเก่งคนดีเยอะแต่เขาไม่กล้าออกมาหรือไม่ก็เป็นตัวเล็กตัวน้อยพูดอะไรพวกมันก็คงไม่ฟังหรอก"เมื่อก่อนหนูตามเพจ อ.ดร.สมเกียรติ โอสถสภา ท่านเสียชีวิตแล้วหนูก็ไม่ตามแล้ว ชอบตามบทความของ อ.ปฐมพงษ์ แต่ท่านถูกบล็อกทุกช่องทางเลยตอนนี้เข้าไปเขียนในบล๊อกดิสก็เลยไม่ได้ตามเข้าไป สื่อไทยถูดควบคุมหมดแล้ว เมื่อก่อนชอบดูพี่ปองจัดกับคุณสันติสุขทางช่อง NEW18 พอเปลี่ยนค่ายก็ไม่ดูTOP NEW เลยไปจัดช่อง5ก็ชอบดูอ้าวจัดไม่กี่วันต้องหยุดอีก ตอนนี้หนูดูแต่ อ.สนธิ,อ.ปานเทพ นอกนั้นไม่ดูเลยคะ"ประเทศไทยถึงจุดตกต่ำที่สุด ยศตำแหน่งต้องซื้อแล้วจะเอาคนดีๆที่ไหนมา เข้าไปก็ถอนทุนทั้งนั้น "ยุคกาขาวบ้าบออะไร ต่อให้เป็นกาขาวก็เป็นกาอยู่ดี "หงส์กับกามันต่างกันนะคะ
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 28 Views 0 Reviews
  • https://youtube.com/shorts/2cbEvglMbYk?si=cp96JF-p_MF0bZPd
    https://youtube.com/shorts/2cbEvglMbYk?si=cp96JF-p_MF0bZPd
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 9 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 9 Views 0 Reviews
  • กัมพูชายิงโรงพยาบาลพังเสียหายทั้งหลัง กองทัพสมควรตอบโต้พวกมันอย่างสาสม ไม่ใช่ถูกขัดขาทุกอย่างจะใช้อาวุธอะไรก็ต้องมาขออนุญาติตายพอดีประชาชนอพยพเป็น100,000คน.บ้านเรือนไหม้พังพินาศ คนตายในร้านสะดวกซื้อยังกู้ร่างออกมาไม่ได้เลยต้องรอหน่วเก็บกู้ระเบิดมาก่อน..."#อำมหิตจริงๆนักการเมืองประเทศไทยไม่ควรมีนักการเมืองเปลืองภาษีเปล่า ขนาดยุคนี้ยังไม่มีฝ่ายค้านเป็นฝ่ายเดียวกันหมด อวสานประเทศไทย
    กัมพูชายิงโรงพยาบาลพังเสียหายทั้งหลัง กองทัพสมควรตอบโต้พวกมันอย่างสาสม ไม่ใช่ถูกขัดขาทุกอย่างจะใช้อาวุธอะไรก็ต้องมาขออนุญาติตายพอดีประชาชนอพยพเป็น100,000คน.บ้านเรือนไหม้พังพินาศ คนตายในร้านสะดวกซื้อยังกู้ร่างออกมาไม่ได้เลยต้องรอหน่วเก็บกู้ระเบิดมาก่อน..."#อำมหิตจริงๆนักการเมืองประเทศไทยไม่ควรมีนักการเมืองเปลืองภาษีเปล่า ขนาดยุคนี้ยังไม่มีฝ่ายค้านเป็นฝ่ายเดียวกันหมด🤝🍉🤝🍊 อวสานประเทศไทย
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 39 Views 0 0 Reviews
  • เมื่อมีบุญแล้ว…
    Cr.Wiwan Boonya
    เมื่อมีบุญแล้ว… Cr.Wiwan Boonya
    0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • https://youtube.com/watch?v=sMSKZn13mfE&si=b9HtjFIvM1RkOL9W
    https://youtube.com/watch?v=sMSKZn13mfE&si=b9HtjFIvM1RkOL9W
    0 Comments 0 Shares 21 Views 0 Reviews
  • กัมพูชามันสารภาพเองว่าเป็นฝ่ายยิงก่อน #แต่ถึงไม่มีคลิปนี้ภาพถ่ายจากดาวเทียมก็จับภาพได้ว่ากัมพูชาเปิดฉากยิงไทยก่อน !!สงสัยนะมันได้อาวุธมาจากไหนใครฝึกให้พวกมันใช้...จีนเทาหรือจีนเขายังเป็นเพื่อนกับไทยอยู่จริงๆไหม "ส่วนสหรัฐฯเราด็ไมเ่อานะขอเป็นกลางเพราะมันเคยทิ้งไทยตอนสงครามเวียดนามเรียนมาและเคยเห็นภาพ คือไม่ทันเหตุการณ์นั้นหรอกแต่ก็เจ็บใจนะที่สหรัฐฯบินกลับทิ้งทหารไทยตกค้างในเวียดนามต้องตายทรมานจำสอนใจตนเองไว้ว่าไม่ใช่เพื่อนๆจริงคงไม่ทิ้งกันแบบนี้หักหลังชัดๆ
    กัมพูชามันสารภาพเองว่าเป็นฝ่ายยิงก่อน #แต่ถึงไม่มีคลิปนี้ภาพถ่ายจากดาวเทียมก็จับภาพได้ว่ากัมพูชาเปิดฉากยิงไทยก่อน !!สงสัยนะมันได้อาวุธมาจากไหนใครฝึกให้พวกมันใช้...จีนเทาหรือจีนเขายังเป็นเพื่อนกับไทยอยู่จริงๆไหม "ส่วนสหรัฐฯเราด็ไมเ่อานะขอเป็นกลางเพราะมันเคยทิ้งไทยตอนสงครามเวียดนามเรียนมาและเคยเห็นภาพ คือไม่ทันเหตุการณ์นั้นหรอกแต่ก็เจ็บใจนะที่สหรัฐฯบินกลับทิ้งทหารไทยตกค้างในเวียดนามต้องตายทรมานจำสอนใจตนเองไว้ว่าไม่ใช่เพื่อนๆจริงคงไม่ทิ้งกันแบบนี้หักหลังชัดๆ
    Angry
    1
    0 Comments 0 Shares 34 Views 0 0 Reviews
  • เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘

    ทรงพระเจริญ

    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
    ข้าพระพุทธเจ้า ผู้จัดทำเพจ Newskit
    เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘ ทรงพระเจริญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า ผู้จัดทำเพจ Newskit
    Like
    Love
    3
    0 Comments 0 Shares 36 Views 0 Reviews
  • *****.....ขอพระองค์.....ทรงพระเจริญ.....*****
    *****.....ขอพระองค์.....ทรงพระเจริญ.....*****
    0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • *****.....ขอพระองค์.....ทรงพระเจริญ.....*****
    *****.....ขอพระองค์.....ทรงพระเจริญ.....*****
    0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • ๒๘ กรกฎาคม ทรงพระเจริญ
    ๒๘ กรกฎาคม🙏 💛ทรงพระเจริญ💛
    0 Comments 0 Shares 7 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 7 Views 0 Reviews
  • “คู่บาป – คู่บุญ”
    เปลี่ยนได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับ ‘ใจที่รู้ทัน’ ของทั้งสองฝ่าย

    ‘บาป’ ไม่ใช่คำที่อยู่แต่ในหนังสือธรรมะ
    แต่คือสภาวะของใจที่ถูกปรุงแต่งให้มัวหมอง
    เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ความรู้สึกผิด
    คล้ายถูกเสียดแทงอยู่ข้างใน… แม้ไม่มีใครลงโทษ

    ที่น่ากลัวคือ…
    ตอนก่อบาป บางครั้งมันกลับ “สุข”
    สุขจากการได้ทำร้ายใคร
    สุขจากการเอาชนะคนที่เคยขัดใจ
    สุขจากความสะใจที่เหนือกว่า

    นี่แหละคือกับดักของบาป
    ที่มันปลอมตัวมาในรูป “ความฟินชั่วคราว”
    แต่ผลสุดท้ายคือการผลักให้เราตกต่ำ
    ไปสู่ทุกข์ที่สะสมลึกในใจ

    แล้ว “คู่บาป” คือใคร?

    คือคนที่เรา เคยมีสายใยดี
    แต่วันหนึ่งค่อยๆกลายเป็น
    คนที่ “ตั้งใจทำร้ายกัน” เป็นนิสัย

    ไม่ว่าจะด้วยคำพูดกัด
    สีหน้าปึงปัง
    การกระแทกอารมณ์
    หรือแม้แต่การใช้ความเฉยชาที่เจ็บยิ่งกว่า…

    คนเราจะไม่เป็นคู่บาปกัน
    ถ้าไม่มีช่วงเวลาดีๆร่วมกันมาก่อน
    เพราะความรักปะปนกับความเจ็บ
    เลยทำให้ “ไปไหนไม่รอด”
    เพราะเสียดาย และยังผูกใจ

    แล้วเราจะเปลี่ยน ‘คู่บาป’ ให้เป็น ‘คู่บุญ’ ได้หรือไม่?

    คู่บาป ใช้เพียง “ความตั้งใจร้ายข้างเดียว”
    ก็สร้างความเสียหายได้แล้ว

    แต่คู่บุญ
    ต้องใช้ “ความตั้งใจดีจากทั้งสองฝ่าย”
    จึงจะเยียวยา สร้างใหม่ และประคองใจให้เติบโตได้

    หากวันใดมีสติร่วมกัน
    เห็นทันอารมณ์ร้ายที่กำลังผุด
    แล้วช่วยกันหันหลังให้ความเคยชินเดิม
    หันหน้าเข้าหานิสัยใหม่ที่เต็มไปด้วยเมตตา

    นั่นแหละ คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนจาก “คู่เวร”
    เป็น “คู่ฟื้นใจ”

    บทสรุปจากใจธรรมะ

    คู่บาปนึกถึงแล้วเจ็บจริง

    คู่บุญนึกถึงแล้วอุ่นจริง

    คู่บาปเกิดขึ้นได้ง่าย

    คู่บุญต้องร่วมกันสร้าง!

    “จะกลายเป็นคู่บุญได้ไหม
    ไม่ขึ้นอยู่กับใครคนเดียว…
    แต่อยู่ที่ ‘ทั้งคู่’
    มีใจจริงแค่ไหน
    ที่จะตั้งต้นใหม่ด้วยความเข้าใจและสติ”

    #คู่บาปคู่บุญ #ธรรมะเปลี่ยนชีวิต #ก้าวพ้นเวร #รักอย่างมีสติ
    🌿 “คู่บาป – คู่บุญ” เปลี่ยนได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับ ‘ใจที่รู้ทัน’ ของทั้งสองฝ่าย ‘บาป’ ไม่ใช่คำที่อยู่แต่ในหนังสือธรรมะ แต่คือสภาวะของใจที่ถูกปรุงแต่งให้มัวหมอง เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ความรู้สึกผิด คล้ายถูกเสียดแทงอยู่ข้างใน… แม้ไม่มีใครลงโทษ ที่น่ากลัวคือ… ตอนก่อบาป บางครั้งมันกลับ “สุข” สุขจากการได้ทำร้ายใคร สุขจากการเอาชนะคนที่เคยขัดใจ สุขจากความสะใจที่เหนือกว่า นี่แหละคือกับดักของบาป ที่มันปลอมตัวมาในรูป “ความฟินชั่วคราว” แต่ผลสุดท้ายคือการผลักให้เราตกต่ำ ไปสู่ทุกข์ที่สะสมลึกในใจ 👥 แล้ว “คู่บาป” คือใคร? คือคนที่เรา เคยมีสายใยดี แต่วันหนึ่งค่อยๆกลายเป็น คนที่ “ตั้งใจทำร้ายกัน” เป็นนิสัย ไม่ว่าจะด้วยคำพูดกัด สีหน้าปึงปัง การกระแทกอารมณ์ หรือแม้แต่การใช้ความเฉยชาที่เจ็บยิ่งกว่า… คนเราจะไม่เป็นคู่บาปกัน ถ้าไม่มีช่วงเวลาดีๆร่วมกันมาก่อน เพราะความรักปะปนกับความเจ็บ เลยทำให้ “ไปไหนไม่รอด” เพราะเสียดาย และยังผูกใจ 💡 แล้วเราจะเปลี่ยน ‘คู่บาป’ ให้เป็น ‘คู่บุญ’ ได้หรือไม่? คู่บาป ใช้เพียง “ความตั้งใจร้ายข้างเดียว” ก็สร้างความเสียหายได้แล้ว แต่คู่บุญ ต้องใช้ “ความตั้งใจดีจากทั้งสองฝ่าย” จึงจะเยียวยา สร้างใหม่ และประคองใจให้เติบโตได้ หากวันใดมีสติร่วมกัน เห็นทันอารมณ์ร้ายที่กำลังผุด แล้วช่วยกันหันหลังให้ความเคยชินเดิม หันหน้าเข้าหานิสัยใหม่ที่เต็มไปด้วยเมตตา นั่นแหละ คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนจาก “คู่เวร” เป็น “คู่ฟื้นใจ” 🕊️ บทสรุปจากใจธรรมะ คู่บาปนึกถึงแล้วเจ็บจริง คู่บุญนึกถึงแล้วอุ่นจริง คู่บาปเกิดขึ้นได้ง่าย คู่บุญต้องร่วมกันสร้าง! “จะกลายเป็นคู่บุญได้ไหม ไม่ขึ้นอยู่กับใครคนเดียว… แต่อยู่ที่ ‘ทั้งคู่’ มีใจจริงแค่ไหน ที่จะตั้งต้นใหม่ด้วยความเข้าใจและสติ” 🌱 #คู่บาปคู่บุญ #ธรรมะเปลี่ยนชีวิต #ก้าวพ้นเวร #รักอย่างมีสติ
    0 Comments 0 Shares 19 Views 0 Reviews
  • ..คลิปนี้อีกคลิปหนึ่งที่แฉพวกขายชาติ ทหารนายพลขายชาติตัวพ่อและทำมาโดยตลอด รับใช้พวกขายชาติตลอดเรื่อยมา,เดอะแก๊งขายชาตินั้นเอง.
    ..ต้องจุดกระแสยกเลิกmou43และ mou44ให้ทั่วประเทศ,สื่อหลักไทยจากเข้าข้างนักการเมืองขายชาติอีลิท deep stateตน ต้องหันมาชู#ยกเลิกmou43:44ได้แล้ว

    #ยกเลิกmou43และmou44

    https://youtube.com/watch?v=ul5CYxZWpNI&si=Zmqglk1WmGkTRh5-
    ..คลิปนี้อีกคลิปหนึ่งที่แฉพวกขายชาติ ทหารนายพลขายชาติตัวพ่อและทำมาโดยตลอด รับใช้พวกขายชาติตลอดเรื่อยมา,เดอะแก๊งขายชาตินั้นเอง. ..ต้องจุดกระแสยกเลิกmou43และ mou44ให้ทั่วประเทศ,สื่อหลักไทยจากเข้าข้างนักการเมืองขายชาติอีลิท deep stateตน ต้องหันมาชู#ยกเลิกmou43:44ได้แล้ว #ยกเลิกmou43และmou44 https://youtube.com/watch?v=ul5CYxZWpNI&si=Zmqglk1WmGkTRh5-
    0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลกเพชร: เมื่อ “เพชรในห้องแล็บ” เขย่าอุตสาหกรรมที่เคยมั่นคง

    ลองจินตนาการว่าคุณกำลังเลือกแหวนหมั้น แล้วพบว่าเพชรที่สวยงามขนาด 2 กะรัต ราคาเพียง 3,500 ดอลลาร์—แทนที่จะเป็น 35,000 ดอลลาร์แบบเดิม นี่คือผลพวงจากการเติบโตของ “เพชรที่ผลิตในห้องแล็บ” ที่กำลังเปลี่ยนวิธีคิดของผู้บริโภคทั่วโลก

    จากเดิมที่เพชรธรรมชาติเป็นสัญลักษณ์ของความรักและสถานะ วันนี้ผู้บริโภคหันมาเลือกเพชรแล็บเพราะราคาถูกกว่า ผลิตได้อย่างมีจริยธรรม และไม่มีประวัติ “เพชรเลือด” ที่เกี่ยวข้องกับแรงงานเด็กหรือการสนับสนุนสงคราม

    ผลกระทบเริ่มชัดเจนในแคนาดา—ประเทศผู้ผลิตเพชรอันดับ 3 ของโลก—เมื่อบริษัท Burgundy Diamond Mines ต้องปิดเหมือง Point Lake และปลดพนักงานหลายร้อยคน เพราะราคาตลาดตกต่ำและต้นทุนสูงเกินไป

    Lab-Grown Diamonds กำลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจากเพชรธรรมชาติ
    เพชรแล็บมีราคาถูกกว่า 85% และผลิตได้รวดเร็วในห้องแล็บ
    ผู้บริโภคสามารถซื้อเพชรขนาดใหญ่ขึ้นในราคาที่เข้าถึงได้

    ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับจริยธรรมและสิ่งแวดล้อม
    หลีกเลี่ยง “เพชรเลือด” ที่เกี่ยวข้องกับแรงงานเด็กและสงคราม
    เพชรแล็บไม่มีการทำลายสิ่งแวดล้อมจากการขุดเหมือง

    อุตสาหกรรมเหมืองเพชรในแคนาดาได้รับผลกระทบหนัก
    บริษัท Burgundy Diamond Mines ปิดเหมือง Point Lake และปลดพนักงาน
    ราคาขายปลีกของเพชรธรรมชาติลดลง 26% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

    เทคโนโลยีการผลิตเพชรแล็บพัฒนาอย่างรวดเร็ว
    สามารถปรับแต่งรูปทรง สี และคุณสมบัติได้ตามต้องการ
    ทำให้เพชรแล็บมีความหลากหลายและน่าสนใจมากขึ้น

    ผู้บริโภคยุคใหม่ เช่น Millennials และ Gen Z นิยมเพชรแล็บมากขึ้น
    ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและความโปร่งใส
    ไม่ยึดติดกับแนวคิดว่า “เพชรธรรมชาติเท่านั้นที่แท้จริง”

    การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อแรงงานในอุตสาหกรรมเหมืองเพชร
    การปิดเหมืองทำให้เกิดการว่างงานจำนวนมากในพื้นที่ห่างไกล
    ชุมชนที่พึ่งพาอุตสาหกรรมเพชรอาจเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ

    เพชรแล็บยังมีข้อถกเถียงเรื่องการใช้พลังงานสูงในการผลิต
    แม้จะไม่ขุดเหมือง แต่การผลิตต้องใช้พลังงานจำนวนมาก
    หากใช้พลังงานจากฟอสซิล อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเช่นกัน

    ความแตกต่างด้าน “ความรู้สึก” และ “คุณค่า” ยังมีอยู่
    ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าเพชรธรรมชาติมี “ความซับซ้อน” ที่เพชรแล็บไม่มี
    เพชรธรรมชาติเป็น “เศษส่วนของโลกใต้พิภพ” ที่มีความเป็นเอกลักษณ์

    การลดราคาของเพชรธรรมชาติอาจทำให้สูญเสียความเป็นสินทรัพย์ลงทุน
    ราคาตกต่อเนื่องทำให้เพชรธรรมชาติไม่เป็นที่นิยมในฐานะการลงทุน
    อาจส่งผลต่อแบรนด์หรูที่เคยใช้เพชรธรรมชาติเป็นจุดขาย

    https://www.cbc.ca/news/business/lab-grown-diamonds-1.7592336
    💎 เรื่องเล่าจากโลกเพชร: เมื่อ “เพชรในห้องแล็บ” เขย่าอุตสาหกรรมที่เคยมั่นคง ลองจินตนาการว่าคุณกำลังเลือกแหวนหมั้น แล้วพบว่าเพชรที่สวยงามขนาด 2 กะรัต ราคาเพียง 3,500 ดอลลาร์—แทนที่จะเป็น 35,000 ดอลลาร์แบบเดิม นี่คือผลพวงจากการเติบโตของ “เพชรที่ผลิตในห้องแล็บ” ที่กำลังเปลี่ยนวิธีคิดของผู้บริโภคทั่วโลก จากเดิมที่เพชรธรรมชาติเป็นสัญลักษณ์ของความรักและสถานะ วันนี้ผู้บริโภคหันมาเลือกเพชรแล็บเพราะราคาถูกกว่า ผลิตได้อย่างมีจริยธรรม และไม่มีประวัติ “เพชรเลือด” ที่เกี่ยวข้องกับแรงงานเด็กหรือการสนับสนุนสงคราม ผลกระทบเริ่มชัดเจนในแคนาดา—ประเทศผู้ผลิตเพชรอันดับ 3 ของโลก—เมื่อบริษัท Burgundy Diamond Mines ต้องปิดเหมือง Point Lake และปลดพนักงานหลายร้อยคน เพราะราคาตลาดตกต่ำและต้นทุนสูงเกินไป ✅ Lab-Grown Diamonds กำลังแย่งส่วนแบ่งตลาดจากเพชรธรรมชาติ ➡️ เพชรแล็บมีราคาถูกกว่า 85% และผลิตได้รวดเร็วในห้องแล็บ ➡️ ผู้บริโภคสามารถซื้อเพชรขนาดใหญ่ขึ้นในราคาที่เข้าถึงได้ ✅ ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับจริยธรรมและสิ่งแวดล้อม ➡️ หลีกเลี่ยง “เพชรเลือด” ที่เกี่ยวข้องกับแรงงานเด็กและสงคราม ➡️ เพชรแล็บไม่มีการทำลายสิ่งแวดล้อมจากการขุดเหมือง ✅ อุตสาหกรรมเหมืองเพชรในแคนาดาได้รับผลกระทบหนัก ➡️ บริษัท Burgundy Diamond Mines ปิดเหมือง Point Lake และปลดพนักงาน ➡️ ราคาขายปลีกของเพชรธรรมชาติลดลง 26% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ✅ เทคโนโลยีการผลิตเพชรแล็บพัฒนาอย่างรวดเร็ว ➡️ สามารถปรับแต่งรูปทรง สี และคุณสมบัติได้ตามต้องการ ➡️ ทำให้เพชรแล็บมีความหลากหลายและน่าสนใจมากขึ้น ✅ ผู้บริโภคยุคใหม่ เช่น Millennials และ Gen Z นิยมเพชรแล็บมากขึ้น ➡️ ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและความโปร่งใส ➡️ ไม่ยึดติดกับแนวคิดว่า “เพชรธรรมชาติเท่านั้นที่แท้จริง” ‼️ การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อแรงงานในอุตสาหกรรมเหมืองเพชร ⛔ การปิดเหมืองทำให้เกิดการว่างงานจำนวนมากในพื้นที่ห่างไกล ⛔ ชุมชนที่พึ่งพาอุตสาหกรรมเพชรอาจเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ ‼️ เพชรแล็บยังมีข้อถกเถียงเรื่องการใช้พลังงานสูงในการผลิต ⛔ แม้จะไม่ขุดเหมือง แต่การผลิตต้องใช้พลังงานจำนวนมาก ⛔ หากใช้พลังงานจากฟอสซิล อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเช่นกัน ‼️ ความแตกต่างด้าน “ความรู้สึก” และ “คุณค่า” ยังมีอยู่ ⛔ ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าเพชรธรรมชาติมี “ความซับซ้อน” ที่เพชรแล็บไม่มี ⛔ เพชรธรรมชาติเป็น “เศษส่วนของโลกใต้พิภพ” ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ‼️ การลดราคาของเพชรธรรมชาติอาจทำให้สูญเสียความเป็นสินทรัพย์ลงทุน ⛔ ราคาตกต่อเนื่องทำให้เพชรธรรมชาติไม่เป็นที่นิยมในฐานะการลงทุน ⛔ อาจส่งผลต่อแบรนด์หรูที่เคยใช้เพชรธรรมชาติเป็นจุดขาย https://www.cbc.ca/news/business/lab-grown-diamonds-1.7592336
    WWW.CBC.CA
    The natural diamond industry is getting rocked. You can thank the lab-grown variety for that | CBC News
    As consumers have grown less worried about whether their diamonds are mined or made, many have turned to cost-friendly lab grown diamonds. And that’s having a big impact on the diamond mining industry — including for Canada.
    0 Comments 0 Shares 34 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากเบื้องหลัง AI: เมื่อ “Copilot” ถูกเจาะทะลุถึงราก

    ลองจินตนาการว่า AI ผู้ช่วยอัจฉริยะของคุณ—Microsoft Copilot—ที่ควรจะปลอดภัย กลับกลายเป็นช่องทางให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบเบื้องหลังได้ในระดับ root! เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงในเดือนเมษายน 2025 เมื่อ Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่: Python sandbox ที่รันผ่าน Jupyter Notebook เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเขียนโค้ดและวิเคราะห์ข้อมูลได้สะดวกขึ้น

    แต่ฟีเจอร์นี้กลับเปิดช่องให้แฮกเกอร์จาก Eye Security ใช้เทคนิคง่ายๆ—แค่ปลอมไฟล์ชื่อ “pgrep” แล้ววางไว้ในโฟลเดอร์ที่ระบบค้นหาเป็นอันดับแรก—ก็สามารถหลอกให้ระบบรันโค้ดของตนในสิทธิ์ root ได้ทันที!

    แม้จะไม่มีข้อมูลสำคัญรั่วไหล แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเปราะบางของ AI sandbox ที่แม้จะออกแบบมาอย่างดี ก็ยังมีจุดอ่อนที่ถูกมองข้าม

    Copilot เปิดตัว Python sandbox ผ่าน Jupyter Notebook ในเดือนเมษายน 2025
    ใช้ Jupyter Notebook syntax (%command) เพื่อรันโค้ดใน backend
    รันใน container ที่ใช้ผู้ใช้ชื่อ “ubuntu” ซึ่งอยู่ในกลุ่ม sudo แต่ไม่มี binary ของ sudo

    ช่องโหว่เกิดจากการใช้คำสั่ง pgrep โดยไม่ระบุ path แบบเต็มใน script ที่รันเป็น root
    ระบบค้นหาไฟล์ pgrep จาก $PATH ซึ่งมีโฟลเดอร์ที่ผู้ใช้สามารถเขียนไฟล์ได้
    แฮกเกอร์สร้างไฟล์ pgrep ปลอมที่รันโค้ด Python เพื่ออ่านคำสั่งจากไฟล์และรันด้วย popen

    แฮกเกอร์สามารถเข้าถึง root ภายใน container ได้สำเร็จ
    ใช้ช่องโหว่ใน script entrypoint.sh ที่รัน keepAliveJupyterSvc.sh ด้วยสิทธิ์ root
    สามารถสำรวจไฟล์ระบบและรันคำสั่งได้ในระดับสูงสุด

    Microsoft ได้รับรายงานช่องโหว่ในเดือนเมษายน และออก patch แก้ไขในเดือนกรกฎาคม 2025
    ช่องโหว่ถูกจัดระดับ “moderate severity”
    ไม่มีการให้รางวัล bug bounty แต่มีการยอมรับในหน้า researcher acknowledgments

    ระบบ container ของ Copilot มีการป้องกันที่ดี ไม่พบการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญ
    ไม่มีไฟล์สำคัญใน /root และไม่มีช่องทาง breakout จาก container
    ระบบใช้ OverlayFS และจำกัด network ด้วย /32 netmask

    AI sandbox แม้จะปลอดภัย ก็ยังมีช่องโหว่จากการตั้งค่าที่ผิดพลาด
    การไม่ระบุ path แบบเต็มใน script ที่รันด้วยสิทธิ์ root เป็นช่องทางให้แฮกเกอร์แทรกไฟล์ปลอม
    โฟลเดอร์ที่ผู้ใช้สามารถเขียนไฟล์ได้ไม่ควรถูกจัดไว้ใน $PATH ก่อนโฟลเดอร์ระบบ

    การให้สิทธิ์ root ในบางส่วนของ container เป็นความเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยง
    แม้จะรันส่วนใหญ่ด้วยสิทธิ์ผู้ใช้ทั่วไป แต่บาง script ยังรันเป็น root โดยไม่จำเป็น
    การ drop privileges ควรทำตั้งแต่ต้นและไม่ย้อนกลับ

    การเปิดให้ผู้ใช้ upload ไฟล์โดยไม่มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดเป็นช่องทางโจมตี
    ไฟล์ที่ upload เข้ามาอาจถูกใช้เป็น payload สำหรับการโจมตี
    การตรวจสอบชื่อไฟล์และเนื้อหาควรทำก่อนการรันทุกครั้ง

    การไม่ให้รางวัล bug bounty อาจลดแรงจูงใจในการรายงานช่องโหว่จากนักวิจัยอิสระ
    ช่องโหว่ระดับ root access ควรได้รับการตอบแทนเพื่อส่งเสริมการเปิดเผยอย่างรับผิดชอบ
    การไม่ให้รางวัลอาจทำให้นักวิจัยหันไปสนใจแพลตฟอร์มอื่นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า

    https://research.eye.security/how-we-rooted-copilot/
    🧠 เรื่องเล่าจากเบื้องหลัง AI: เมื่อ “Copilot” ถูกเจาะทะลุถึงราก ลองจินตนาการว่า AI ผู้ช่วยอัจฉริยะของคุณ—Microsoft Copilot—ที่ควรจะปลอดภัย กลับกลายเป็นช่องทางให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบเบื้องหลังได้ในระดับ root! เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงในเดือนเมษายน 2025 เมื่อ Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่: Python sandbox ที่รันผ่าน Jupyter Notebook เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเขียนโค้ดและวิเคราะห์ข้อมูลได้สะดวกขึ้น แต่ฟีเจอร์นี้กลับเปิดช่องให้แฮกเกอร์จาก Eye Security ใช้เทคนิคง่ายๆ—แค่ปลอมไฟล์ชื่อ “pgrep” แล้ววางไว้ในโฟลเดอร์ที่ระบบค้นหาเป็นอันดับแรก—ก็สามารถหลอกให้ระบบรันโค้ดของตนในสิทธิ์ root ได้ทันที! แม้จะไม่มีข้อมูลสำคัญรั่วไหล แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเปราะบางของ AI sandbox ที่แม้จะออกแบบมาอย่างดี ก็ยังมีจุดอ่อนที่ถูกมองข้าม ✅ Copilot เปิดตัว Python sandbox ผ่าน Jupyter Notebook ในเดือนเมษายน 2025 ➡️ ใช้ Jupyter Notebook syntax (%command) เพื่อรันโค้ดใน backend ➡️ รันใน container ที่ใช้ผู้ใช้ชื่อ “ubuntu” ซึ่งอยู่ในกลุ่ม sudo แต่ไม่มี binary ของ sudo ✅ ช่องโหว่เกิดจากการใช้คำสั่ง pgrep โดยไม่ระบุ path แบบเต็มใน script ที่รันเป็น root ➡️ ระบบค้นหาไฟล์ pgrep จาก $PATH ซึ่งมีโฟลเดอร์ที่ผู้ใช้สามารถเขียนไฟล์ได้ ➡️ แฮกเกอร์สร้างไฟล์ pgrep ปลอมที่รันโค้ด Python เพื่ออ่านคำสั่งจากไฟล์และรันด้วย popen ✅ แฮกเกอร์สามารถเข้าถึง root ภายใน container ได้สำเร็จ ➡️ ใช้ช่องโหว่ใน script entrypoint.sh ที่รัน keepAliveJupyterSvc.sh ด้วยสิทธิ์ root ➡️ สามารถสำรวจไฟล์ระบบและรันคำสั่งได้ในระดับสูงสุด ✅ Microsoft ได้รับรายงานช่องโหว่ในเดือนเมษายน และออก patch แก้ไขในเดือนกรกฎาคม 2025 ➡️ ช่องโหว่ถูกจัดระดับ “moderate severity” ➡️ ไม่มีการให้รางวัล bug bounty แต่มีการยอมรับในหน้า researcher acknowledgments ✅ ระบบ container ของ Copilot มีการป้องกันที่ดี ไม่พบการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญ ➡️ ไม่มีไฟล์สำคัญใน /root และไม่มีช่องทาง breakout จาก container ➡️ ระบบใช้ OverlayFS และจำกัด network ด้วย /32 netmask ‼️ AI sandbox แม้จะปลอดภัย ก็ยังมีช่องโหว่จากการตั้งค่าที่ผิดพลาด ⛔ การไม่ระบุ path แบบเต็มใน script ที่รันด้วยสิทธิ์ root เป็นช่องทางให้แฮกเกอร์แทรกไฟล์ปลอม ⛔ โฟลเดอร์ที่ผู้ใช้สามารถเขียนไฟล์ได้ไม่ควรถูกจัดไว้ใน $PATH ก่อนโฟลเดอร์ระบบ ‼️ การให้สิทธิ์ root ในบางส่วนของ container เป็นความเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยง ⛔ แม้จะรันส่วนใหญ่ด้วยสิทธิ์ผู้ใช้ทั่วไป แต่บาง script ยังรันเป็น root โดยไม่จำเป็น ⛔ การ drop privileges ควรทำตั้งแต่ต้นและไม่ย้อนกลับ ‼️ การเปิดให้ผู้ใช้ upload ไฟล์โดยไม่มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดเป็นช่องทางโจมตี ⛔ ไฟล์ที่ upload เข้ามาอาจถูกใช้เป็น payload สำหรับการโจมตี ⛔ การตรวจสอบชื่อไฟล์และเนื้อหาควรทำก่อนการรันทุกครั้ง ‼️ การไม่ให้รางวัล bug bounty อาจลดแรงจูงใจในการรายงานช่องโหว่จากนักวิจัยอิสระ ⛔ ช่องโหว่ระดับ root access ควรได้รับการตอบแทนเพื่อส่งเสริมการเปิดเผยอย่างรับผิดชอบ ⛔ การไม่ให้รางวัลอาจทำให้นักวิจัยหันไปสนใจแพลตฟอร์มอื่นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า https://research.eye.security/how-we-rooted-copilot/
    RESEARCH.EYE.SECURITY
    How we Rooted Copilot - Eye Research
    Read how we explored the Python sandbox in Copilot and got root on the underlying container
    0 Comments 0 Shares 21 Views 0 Reviews
  • FENGSHUI DAILY
    อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว
    สีเสริมดวง เสริมความเฮง
    ทิศมงคล เวลามงคล
    อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่
    วันอังคารที่ 29 เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2568
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    FENGSHUI DAILY อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว สีเสริมดวง เสริมความเฮง ทิศมงคล เวลามงคล อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่ วันอังคารที่ 29 เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2568 ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 Comments 0 Shares 8 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลก AI: “ราคาคำตอบ” ที่คุณอาจไม่เคยคิด

    ลองจินตนาการว่า AI ที่คุณใช้ตอบคำถามหรือเขียนบทความนั้น คิดค่าบริการเป็น “จำนวนคำ” ที่มันอ่านและเขียนออกมา—หรือที่เรียกว่า “token” ซึ่งแต่ละ token คือเศษคำประมาณ 3–4 ตัวอักษร

    ในปี 2025 นี้ ตลาด LLM API แข่งขันกันดุเดือด ผู้ให้บริการอย่าง OpenAI, Google, Anthropic และ xAI ต่างออกโมเดลใหม่พร้อมราคาที่หลากหลาย ตั้งแต่ราคาถูกสุดเพียง $0.07 ต่อ 1 ล้าน token ไปจนถึง $600 ต่อ 1 ล้าน token สำหรับโมเดลระดับสูงสุด!

    สิ่งที่น่าสนใจคือ “ราคาสำหรับการตอบ” (output token) มักแพงกว่าการถาม (input token) ถึง 3–5 เท่า ทำให้การออกแบบ prompt ที่กระชับและฉลาดกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญในการลดต้นทุน

    โมเดลราคาถูกที่สุดในตลาดตอนนี้ ได้แก่ Google Gemini 2.0 Flash-Lite และ OpenAI GPT-4.1-nano
    ราคา input token อยู่ที่ $0.07–$0.10 ต่อ 1 ล้าน token
    ราคา output token อยู่ที่ $0.30–$0.40 ต่อ 1 ล้าน token

    โมเดลระดับกลางที่คุ้มค่า เช่น GPT-4o-mini และ Claude Haiku 3
    ราคา input token อยู่ที่ $0.15–$0.25
    ราคา output token อยู่ที่ $0.60–$1.25

    โมเดลระดับสูง เช่น Claude Opus 4 และ GPT-o1-pro มีราคาสูงมาก
    Claude Opus 4: $15 (input) / $75 (output)
    GPT-o1-pro: $150 (input) / $600 (output)

    แนวโน้มการตั้งราคาคือการแยก input กับ output token อย่างชัดเจน
    output token แพงกว่า input token หลายเท่า
    ส่งเสริมการใช้เทคนิค RAG (Retrieval-Augmented Generation) เพื่อประหยัด

    ข้อมูลอัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2025
    แหล่งข้อมูลมาจากเว็บไซต์ทางการของผู้ให้บริการแต่ละราย
    มีการเปรียบเทียบมากกว่า 30 โมเดลจากหลายค่าย

    การใช้โมเดลที่มี output token แพงอาจทำให้ต้นทุนพุ่งสูงโดยไม่รู้ตัว
    หากไม่จำกัดความยาวคำตอบหรือใช้ prompt ที่ไม่กระชับ อาจเสียเงินมากเกินจำเป็น
    ควรตั้งค่า max_tokens และ temperature ให้เหมาะสม

    การเปรียบเทียบราคาโดยไม่ดูคุณภาพอาจทำให้เลือกโมเดลไม่เหมาะกับงาน
    โมเดลราคาถูกอาจไม่เหมาะกับงาน reasoning หรือการเขียนเชิงลึก
    ควรพิจารณาความสามารถของโมเดลควบคู่กับราคา

    การเปลี่ยนแปลงราคาบ่อยครั้งอาจทำให้ข้อมูลล้าสมัยเร็ว
    ควรตรวจสอบราคาจากเว็บไซต์ทางการก่อนใช้งานจริง
    การใช้ข้อมูลเก่าอาจทำให้คำนวณต้นทุนผิดพลาด

    การใช้โมเดลที่มี context window ใหญ่เกินความจำเป็นอาจสิ้นเปลือง
    โมเดลที่รองรับ context 1M tokens มักมีราคาสูง
    หากงานไม่ต้องการ context ยาว ควรเลือกโมเดลที่เล็กลง

    https://pricepertoken.com/
    💸 เรื่องเล่าจากโลก AI: “ราคาคำตอบ” ที่คุณอาจไม่เคยคิด ลองจินตนาการว่า AI ที่คุณใช้ตอบคำถามหรือเขียนบทความนั้น คิดค่าบริการเป็น “จำนวนคำ” ที่มันอ่านและเขียนออกมา—หรือที่เรียกว่า “token” ซึ่งแต่ละ token คือเศษคำประมาณ 3–4 ตัวอักษร ในปี 2025 นี้ ตลาด LLM API แข่งขันกันดุเดือด ผู้ให้บริการอย่าง OpenAI, Google, Anthropic และ xAI ต่างออกโมเดลใหม่พร้อมราคาที่หลากหลาย ตั้งแต่ราคาถูกสุดเพียง $0.07 ต่อ 1 ล้าน token ไปจนถึง $600 ต่อ 1 ล้าน token สำหรับโมเดลระดับสูงสุด! สิ่งที่น่าสนใจคือ “ราคาสำหรับการตอบ” (output token) มักแพงกว่าการถาม (input token) ถึง 3–5 เท่า ทำให้การออกแบบ prompt ที่กระชับและฉลาดกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญในการลดต้นทุน ✅ โมเดลราคาถูกที่สุดในตลาดตอนนี้ ได้แก่ Google Gemini 2.0 Flash-Lite และ OpenAI GPT-4.1-nano ➡️ ราคา input token อยู่ที่ $0.07–$0.10 ต่อ 1 ล้าน token ➡️ ราคา output token อยู่ที่ $0.30–$0.40 ต่อ 1 ล้าน token ✅ โมเดลระดับกลางที่คุ้มค่า เช่น GPT-4o-mini และ Claude Haiku 3 ➡️ ราคา input token อยู่ที่ $0.15–$0.25 ➡️ ราคา output token อยู่ที่ $0.60–$1.25 ✅ โมเดลระดับสูง เช่น Claude Opus 4 และ GPT-o1-pro มีราคาสูงมาก ➡️ Claude Opus 4: $15 (input) / $75 (output) ➡️ GPT-o1-pro: $150 (input) / $600 (output) ✅ แนวโน้มการตั้งราคาคือการแยก input กับ output token อย่างชัดเจน ➡️ output token แพงกว่า input token หลายเท่า ➡️ ส่งเสริมการใช้เทคนิค RAG (Retrieval-Augmented Generation) เพื่อประหยัด ✅ ข้อมูลอัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2025 ➡️ แหล่งข้อมูลมาจากเว็บไซต์ทางการของผู้ให้บริการแต่ละราย ➡️ มีการเปรียบเทียบมากกว่า 30 โมเดลจากหลายค่าย ‼️ การใช้โมเดลที่มี output token แพงอาจทำให้ต้นทุนพุ่งสูงโดยไม่รู้ตัว ⛔ หากไม่จำกัดความยาวคำตอบหรือใช้ prompt ที่ไม่กระชับ อาจเสียเงินมากเกินจำเป็น ⛔ ควรตั้งค่า max_tokens และ temperature ให้เหมาะสม ‼️ การเปรียบเทียบราคาโดยไม่ดูคุณภาพอาจทำให้เลือกโมเดลไม่เหมาะกับงาน ⛔ โมเดลราคาถูกอาจไม่เหมาะกับงาน reasoning หรือการเขียนเชิงลึก ⛔ ควรพิจารณาความสามารถของโมเดลควบคู่กับราคา ‼️ การเปลี่ยนแปลงราคาบ่อยครั้งอาจทำให้ข้อมูลล้าสมัยเร็ว ⛔ ควรตรวจสอบราคาจากเว็บไซต์ทางการก่อนใช้งานจริง ⛔ การใช้ข้อมูลเก่าอาจทำให้คำนวณต้นทุนผิดพลาด ‼️ การใช้โมเดลที่มี context window ใหญ่เกินความจำเป็นอาจสิ้นเปลือง ⛔ โมเดลที่รองรับ context 1M tokens มักมีราคาสูง ⛔ หากงานไม่ต้องการ context ยาว ควรเลือกโมเดลที่เล็กลง https://pricepertoken.com/
    0 Comments 0 Shares 29 Views 0 Reviews
  • ปักกิ่งเน้นย้ำจุดยืนที่เป็นกลางและยุติธรรม ในเหตุปะทะตามแนวชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย ตามรายงานของโกลบอลไทมส์ สื่อของรัฐบาลจีนในวันจันทร์(28ก.ค.) อ้างคำกล่าวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแดนมังกร

    เมื่อถูกถามเกี่ยวกับจุดยืนของจีน หลังกัมพูชาและไทยยังคงสู้รบกันอยู่ แม้เมื่อเร็วๆนี้ทั้ง 2 ฝ่ายแสดงถึงความตั้งใจหยุดยิงและยุติความขัดแย้ง ภายใต้ความพยายามเป็นคนกลางของนานาชาติ

    ในเรื่องนี้โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนบอกในวันอาทิตย์(27ก.ค.) ว่ากัมพูชาและไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ไม่อาจย้ายหนีกันได้ และต่างเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรของจีน การยึดมั่นต่อความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและไว้วางใจซึ่งกันและกัน รวมถึงบริหารจัดการความเห็นต่างอย่างเหมาะสม จะช่วยรับใช้ผลประโยชน์พื้นฐานในระยะยาวของทั้ง 2 ประเทศ รวมทั้งส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค

    โฆษกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวต่อว่า จีนรู้สึกเศร้าใจอย่างยิ่งต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นในหมู่ประชาชนชาวกัมพูชาและไทย อันมีต้นตอจากความขัดแย้ง และขอแสดงความเสียใจด้วยความจริงใจ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000071067

    #Thaitimes #MGROnline #ไทยกัมพูชา #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    ปักกิ่งเน้นย้ำจุดยืนที่เป็นกลางและยุติธรรม ในเหตุปะทะตามแนวชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย ตามรายงานของโกลบอลไทมส์ สื่อของรัฐบาลจีนในวันจันทร์(28ก.ค.) อ้างคำกล่าวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแดนมังกร • เมื่อถูกถามเกี่ยวกับจุดยืนของจีน หลังกัมพูชาและไทยยังคงสู้รบกันอยู่ แม้เมื่อเร็วๆนี้ทั้ง 2 ฝ่ายแสดงถึงความตั้งใจหยุดยิงและยุติความขัดแย้ง ภายใต้ความพยายามเป็นคนกลางของนานาชาติ • ในเรื่องนี้โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนบอกในวันอาทิตย์(27ก.ค.) ว่ากัมพูชาและไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ไม่อาจย้ายหนีกันได้ และต่างเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรของจีน การยึดมั่นต่อความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและไว้วางใจซึ่งกันและกัน รวมถึงบริหารจัดการความเห็นต่างอย่างเหมาะสม จะช่วยรับใช้ผลประโยชน์พื้นฐานในระยะยาวของทั้ง 2 ประเทศ รวมทั้งส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค • โฆษกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวต่อว่า จีนรู้สึกเศร้าใจอย่างยิ่งต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นในหมู่ประชาชนชาวกัมพูชาและไทย อันมีต้นตอจากความขัดแย้ง และขอแสดงความเสียใจด้วยความจริงใจ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000071067 • #Thaitimes #MGROnline #ไทยกัมพูชา #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    0 Comments 0 Shares 32 Views 0 Reviews
  • https://www.youtube.com/live/pi149AX6gms?si=qmomHCpYgvZOZbQT
    https://www.youtube.com/live/pi149AX6gms?si=qmomHCpYgvZOZbQT
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 Comments 0 Shares 24 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลกดิจิทัล: เมื่อ “บ้านของเรา” อาจไม่ใช่ที่ดีที่สุดสำหรับข้อมูลของเรา

    ลองจินตนาการว่าคุณซื้อหนังสือดิจิทัลจาก Kindle มา 400 เล่ม แล้ววันหนึ่ง Amazon ประกาศว่าไม่สามารถดาวน์โหลดไฟล์เหล่านั้นมาเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ได้อีกต่อไป คุณยังเข้าถึงหนังสือได้ผ่านแอป Kindle เท่านั้น—แปลว่าคุณไม่ได้ “เป็นเจ้าของ” หนังสือเหล่านั้นจริงๆ แต่แค่ “เช่า” สิทธิ์ในการอ่าน

    นี่คือจุดเริ่มต้นของการตั้งคำถามว่า “เรายังเป็นเจ้าของข้อมูลของตัวเองอยู่หรือเปล่า?” และนำไปสู่การทดลองของผู้เขียนบทความ ที่ตัดสินใจสร้าง “คลาวด์ส่วนตัว” ขึ้นมาเองในบ้าน โดยใช้เซิร์ฟเวอร์เก่าและซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส เช่น Immich (แทน Google Photos), Nextcloud (แทน Google Drive), Jellyfin (แทน Netflix) และ Audiobookshelf (แทน Audible)

    แต่หลังจากลงทุนลงแรงไปหลายสัปดาห์ เขากลับพบว่าแม้จะได้อิสระและความเป็นเจ้าของ แต่การดูแลระบบทั้งหมดด้วยตัวเองนั้น “ไม่ใช่อนาคตที่เหมาะกับทุกคน”

    Amazon ปรับนโยบาย Kindle: ผู้ใช้ไม่สามารถดาวน์โหลดไฟล์หนังสือได้อีก
    ผู้ใช้สามารถเข้าถึงหนังสือได้ผ่านแอป Kindle เท่านั้น
    Amazon เปลี่ยนคำว่า “ซื้อหนังสือ” เป็น “ซื้อสิทธิ์การใช้งาน”

    แนวคิด Self-Hosting คือการตั้งเซิร์ฟเวอร์และบริการต่างๆ ด้วยตัวเอง
    ใช้ฮาร์ดแวร์ของตนเอง ติดตั้งระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชัน
    ดูแลความปลอดภัย การสำรองข้อมูล และการอัปเดตทั้งหมดด้วยตัวเอง

    ผู้เขียนสร้างคลาวด์ส่วนตัวด้วยเซิร์ฟเวอร์ Lenovo และซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส
    ใช้ Proxmox, Docker, Snapraid, MergerFS และ Tailscale
    ติดตั้งบริการต่างๆ เช่น Immich, Jellyfin, Nextcloud และ Audiobookshelf

    ข้อดีของ Self-Hosting คือความเป็นเจ้าของและความยืดหยุ่น
    ไม่มีการเก็บข้อมูลโดยบริษัทใหญ่
    สามารถปรับแต่งระบบได้ตามต้องการ

    Self-Hosting ต้องใช้ความรู้ทางเทคนิคสูงและเวลามาก
    การตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์และบริการต่างๆ ใช้เวลาหลายสัปดาห์
    ต้องเข้าใจ Docker, Linux, VPN และระบบไฟล์

    ความผิดพลาดในการตั้งค่าอาจทำให้ข้อมูลสูญหายหรือระบบล่ม
    ไม่มีทีมซัพพอร์ตเหมือนบริการคลาวด์
    ต้องรับผิดชอบทุกอย่างเองเมื่อเกิดปัญหา

    การดูแลระบบอย่างต่อเนื่องเป็นภาระที่ไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป
    ต้องอัปเดตซอฟต์แวร์และตรวจสอบความปลอดภัยสม่ำเสมอ
    หากไม่มีเวลาหรือความรู้ อาจกลายเป็นภาระมากกว่าประโยชน์

    แม้จะปลอดภัยจากบริษัทใหญ่ แต่ก็เสี่ยงจากการโจมตีไซเบอร์หากตั้งค่าไม่ดี
    การเปิดพอร์ตหรือใช้รหัสผ่านอ่อนอาจถูกแฮกได้ง่าย
    ต้องมีระบบสำรองข้อมูลและไฟร์วอลล์ที่ดี

    https://www.drewlyton.com/story/the-future-is-not-self-hosted/
    🏠 เรื่องเล่าจากโลกดิจิทัล: เมื่อ “บ้านของเรา” อาจไม่ใช่ที่ดีที่สุดสำหรับข้อมูลของเรา ลองจินตนาการว่าคุณซื้อหนังสือดิจิทัลจาก Kindle มา 400 เล่ม แล้ววันหนึ่ง Amazon ประกาศว่าไม่สามารถดาวน์โหลดไฟล์เหล่านั้นมาเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ได้อีกต่อไป คุณยังเข้าถึงหนังสือได้ผ่านแอป Kindle เท่านั้น—แปลว่าคุณไม่ได้ “เป็นเจ้าของ” หนังสือเหล่านั้นจริงๆ แต่แค่ “เช่า” สิทธิ์ในการอ่าน นี่คือจุดเริ่มต้นของการตั้งคำถามว่า “เรายังเป็นเจ้าของข้อมูลของตัวเองอยู่หรือเปล่า?” และนำไปสู่การทดลองของผู้เขียนบทความ ที่ตัดสินใจสร้าง “คลาวด์ส่วนตัว” ขึ้นมาเองในบ้าน โดยใช้เซิร์ฟเวอร์เก่าและซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส เช่น Immich (แทน Google Photos), Nextcloud (แทน Google Drive), Jellyfin (แทน Netflix) และ Audiobookshelf (แทน Audible) แต่หลังจากลงทุนลงแรงไปหลายสัปดาห์ เขากลับพบว่าแม้จะได้อิสระและความเป็นเจ้าของ แต่การดูแลระบบทั้งหมดด้วยตัวเองนั้น “ไม่ใช่อนาคตที่เหมาะกับทุกคน” ✅ Amazon ปรับนโยบาย Kindle: ผู้ใช้ไม่สามารถดาวน์โหลดไฟล์หนังสือได้อีก ➡️ ผู้ใช้สามารถเข้าถึงหนังสือได้ผ่านแอป Kindle เท่านั้น ➡️ Amazon เปลี่ยนคำว่า “ซื้อหนังสือ” เป็น “ซื้อสิทธิ์การใช้งาน” ✅ แนวคิด Self-Hosting คือการตั้งเซิร์ฟเวอร์และบริการต่างๆ ด้วยตัวเอง ➡️ ใช้ฮาร์ดแวร์ของตนเอง ติดตั้งระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชัน ➡️ ดูแลความปลอดภัย การสำรองข้อมูล และการอัปเดตทั้งหมดด้วยตัวเอง ✅ ผู้เขียนสร้างคลาวด์ส่วนตัวด้วยเซิร์ฟเวอร์ Lenovo และซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส ➡️ ใช้ Proxmox, Docker, Snapraid, MergerFS และ Tailscale ➡️ ติดตั้งบริการต่างๆ เช่น Immich, Jellyfin, Nextcloud และ Audiobookshelf ✅ ข้อดีของ Self-Hosting คือความเป็นเจ้าของและความยืดหยุ่น ➡️ ไม่มีการเก็บข้อมูลโดยบริษัทใหญ่ ➡️ สามารถปรับแต่งระบบได้ตามต้องการ ‼️ Self-Hosting ต้องใช้ความรู้ทางเทคนิคสูงและเวลามาก ⛔ การตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์และบริการต่างๆ ใช้เวลาหลายสัปดาห์ ⛔ ต้องเข้าใจ Docker, Linux, VPN และระบบไฟล์ ‼️ ความผิดพลาดในการตั้งค่าอาจทำให้ข้อมูลสูญหายหรือระบบล่ม ⛔ ไม่มีทีมซัพพอร์ตเหมือนบริการคลาวด์ ⛔ ต้องรับผิดชอบทุกอย่างเองเมื่อเกิดปัญหา ‼️ การดูแลระบบอย่างต่อเนื่องเป็นภาระที่ไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป ⛔ ต้องอัปเดตซอฟต์แวร์และตรวจสอบความปลอดภัยสม่ำเสมอ ⛔ หากไม่มีเวลาหรือความรู้ อาจกลายเป็นภาระมากกว่าประโยชน์ ‼️ แม้จะปลอดภัยจากบริษัทใหญ่ แต่ก็เสี่ยงจากการโจมตีไซเบอร์หากตั้งค่าไม่ดี ⛔ การเปิดพอร์ตหรือใช้รหัสผ่านอ่อนอาจถูกแฮกได้ง่าย ⛔ ต้องมีระบบสำรองข้อมูลและไฟร์วอลล์ที่ดี https://www.drewlyton.com/story/the-future-is-not-self-hosted/
    WWW.DREWLYTON.COM
    The Future is NOT Self-Hosted
    Hey friends 👋, A few months ago, Amazon announced that Kindle users would no longer be able to download and back up their book libraries to their computers. Thankfully, I still have access to my library because I saw this video by Jared Henderson warning of the change and downloaded all
    0 Comments 0 Shares 40 Views 0 Reviews
  • สนธิเล่าเรื่อง 28-7-68
    .
    คลิก https://www.youtube.com/watch?v=pi149AX6gms
    .
    #Sondhitalk #Live #สนธิเล่าเรื่อง
    🔴 สนธิเล่าเรื่อง 28-7-68 . คลิก https://www.youtube.com/watch?v=pi149AX6gms . #Sondhitalk #Live #สนธิเล่าเรื่อง
    Like
    Love
    13
    0 Comments 0 Shares 228 Views 0 Reviews
  • สนธิเล่าเรื่อง 28-7-68
    .
    เช้าวันมหามงคล 28 กรกฎาคม 2568 หลังจากรับประทานอาหารเช้ากับ อ.ปานเทพ และทีมงานบ้านพระอาทิตย์แล้ว คุณสนธิมาอัพเดตถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพกัมพูชา ซึ่ง ณ วันนี้อยู่ในช่วงหัวเลี้ยงหัวต่อ โดยมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาพยายามยื่นมือเข้ามาแทรกแซง โดยช่วงบ่ายวันนี้นายภูมิธรรม กับ นายฮุน มาเนต กำลังจะไปพูดคุยกันที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียโดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซียและประธานอาเซียนเป็นตัวกลาง ... แต่เรื่องนี้จะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไร และคุณสนธิมีมุมมองต่อเรื่องนี้อย่างไร โปรดติดตาม
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=pi149AX6gms
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #สงครามไทยเขมร #ไทยกัมพูชา
    สนธิเล่าเรื่อง 28-7-68 . เช้าวันมหามงคล 28 กรกฎาคม 2568 หลังจากรับประทานอาหารเช้ากับ อ.ปานเทพ และทีมงานบ้านพระอาทิตย์แล้ว คุณสนธิมาอัพเดตถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพกัมพูชา ซึ่ง ณ วันนี้อยู่ในช่วงหัวเลี้ยงหัวต่อ โดยมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาพยายามยื่นมือเข้ามาแทรกแซง โดยช่วงบ่ายวันนี้นายภูมิธรรม กับ นายฮุน มาเนต กำลังจะไปพูดคุยกันที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียโดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซียและประธานอาเซียนเป็นตัวกลาง ... แต่เรื่องนี้จะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไร และคุณสนธิมีมุมมองต่อเรื่องนี้อย่างไร โปรดติดตาม . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=pi149AX6gms . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #สงครามไทยเขมร #ไทยกัมพูชา
    0 Comments 0 Shares 25 Views 0 Reviews