อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่านิทเทศแห่งทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ
สัทธรรมลำดับที่ : 675
ชื่อบทธรรม :- นิทเทศแห่งทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=675
เนื้อความทั้งหมด :-
--นิทเทศแห่งทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ
--ภิกษุ ท. ! ก็อริยสัจ คือ
#หนทางเป็นเครื่องให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ http://etipitaka.com/read/pali/10/348/?keywords=ทุกฺขนิโรธคามินี+ปฏิปทา+อริยสจฺจํ
นั้นเป็นอย่างไรเล่า ? คือ หนทางอันประกอบด้วยองค์แปด อันประเสริฐนี้เอง,
องค์แปดคือ
ความเห็นชอบ ความดำริชอบ,
วาจาชอบ การงานชอบ อาชีวะชอบ,
ความเพียรชอบ ความระลึกชอบ ความตั้งจิตมั่นชอบ.
--ภิกษุ ท. ! ความเห็นชอบ เป็นอย่างไร ?
+--ภิกษุ ท. !
ความรู้ ในทุกข์
ความรู้ในเหตุให้เกิดทุกข์
ความรู้ใน ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์
ความรู้ในหนทางเป็นเครื่องให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ อันใด,
+--ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า ความเห็นชอบ.
--ภิกษุ ท. ! ความดำริชอบ เป็นอย่างไร ?
+--ภิกษุ ท. !
ความดำริในการออกจากกาม
ความดำริในการ ไม่พยาบาท
ความดำริในการ ไม่เบียดเบียน,
+--ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า ความดำริชอบ.
--ภิกษุ ท. ! วาจาชอบ เป็นอย่างไร ?
+--ภิกษุ ท. !
การเว้นจากการ พูดเท็จ
การเว้นจากการ พูดยุให้แตกกัน
การเว้นจากการ พูดหยาบ
การเว้นจากการ พูดเพ้อเจ้อ,
+--ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า วาจาชอบ.
--ภิกษุ ท. ! การงานชอบ เป็นอย่างไร ?
+--ภิกษุ ท. !
การเว้นจากการฆ่าสัตว์
การเว้นจากการ ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้
การเว้นจากการ ประพฤติผิดในกามทั้งหลาย*--๑ ,
+--ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า การงานชอบ.
[*--๑. คำกล่าวนี้ เป็นคำกล่าวที่เป็นกลางๆทั่วไป.
แต่ในบางกรณีซึ่งมีน้อยมากกล่าวว่า "เว้นจากกรรมอันมิใช่พรหมจรรย์" ก็มี ;
http://etipitaka.com/read/pali/19/11/?keywords=อพฺรหฺมจริยา
เข้าใจว่าเป็นการกล่าวมุ่งหมายบรรพชิต.
(มหาวาร. ส. ๑๙/๑๑/๓๗).
http://etipitaka.com/read/pali/19/11/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97
]
--ภิกษุ ท. ! อาชีวะชอบ เป็นอย่างไร ?
+--ภิกษุ ท. !
อริยสาวกในศาสนานี้ ละมิจฉาชีพ เสีย สำเร็จความเป็นอยู่ด้วยสัมมาชีพ,
+--ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า อาชีวะชอบ.
--ภิกษุ ท. ! ความเพียรชอบ เป็นอย่างไร ?
+--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในศาสนานี้
ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้
เพื่อความไม่บังเกิดขึ้นแห่งอกุศลธรรม ท. อันลามกที่ยังไม่ได้บังเกิด ;
ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้ เพื่อการละเสียซึ่งอกุศลธรรม ท. อันลามกที่บังเกิดขึ้นแล้ว ;
ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้
เพื่อการบังเกิดขึ้นแห่งกุศลธรรม ท. ที่ยังไม่ได้บังเกิด ;
ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้
เพื่อความยั่งยืน ความไม่เลอะเลือน ความงอกงามยิ่งขึ้น
ความไพบูลย์ ความเจริญ ความเต็มรอบ แห่งกุศลธรรม ท. ที่บังเกิดขึ้นแล้ว.
+--ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า ความเพียรชอบ.
--ภิกษุ ท. ! ความระลึกชอบ เป็นอย่างไร ?
+--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในศาสนานี้เป็นผู้มีปรกติพิจารณา เห็นกายในกาย อยู่,
มีความเพียรเครื่องเผากิเลส(บาป) มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม
มีสติ นำความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ;
เป็นผู้มีปรกติพิจารณา เห็นเวทนาในเวทนา ท. อยู่,
มีความเพียรเครื่องเผาบาป มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม
มีสติ นำความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ;
เป็นผู้มีปรกติพิจารณา เห็นจิตในจิต อยู่,
มีความเพียรเครื่องเผาบาป มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม
มีสติ นำความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ;
เป็นผู้มีปรกติพิจารณา เห็นธรรมในธรรม ท. อยู่,
มีความเพียรเครื่องเผาบาป มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม
มีสติ นำความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้.
+--ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า สัมมาสติ.
--ภิกษุ ท. ! ความตั้งจิตมั่นชอบ เป็นอย่างไร ?
+--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในศาสนานี้ เพราะสงัดจากกาม ท. เพราะสงัดจากอกุศลธรรม ท.,
ย่อมเข้าถึง ฌานที่หนึ่ง
อันมีวิตกวิจาร มีปิติและสุข อันเกิดแต่วิเวกแล้วแลอยู่.
เพราะวิตกวิจารรำงับลง,
เธอเข้าถึง ฌานที่สอง
อันเป็นเครื่องผ่องใสแห่งใจในภายในให้สมาธิเป็นธรรมอันเอกผุดขึ้น
ไม่มีวิตกไม่มีวิจาร มีแต่ปิติและสุขอันเกิดแต่สมาธิแล้วแลอยู่.
เพราะปิติจางหายไป,
เธอเป็นผู้เพ่งเฉยอยู่ได้ มีสติ มีความอยู่เป็นปกติสุข และได้เสวยสุขด้วยนามกาย
ย่อมเข้าถึง ฌานที่สาม
อันเป็นฌานที่พระอริยเจ้าทั้งหลายกล่าวสรรเสริญผู้ได้บรรลุ ว่า
“เป็นผู้เฉยอยู่ได้มีสติ มีความอยู่เป็นปกติสุข” แล้วแลอยู่.
เพราะละสุขและทุกข์เสียได้ และเพราะความดับหายแห่งโสมนัสและโทมนัสในกาลก่อน, เธอย่อมเข้าถึง ฌานที่สี่
อันไม่ทุกข์และไม่สุข มีแต่สติอันบริสุทธิ์เพราะอุเบกขา แล้วแลอยู่.
+--ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า สัมมาสมาธิ.
--ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า
#อริยสัจคือหนทางเป็นเครื่องให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์.-
http://etipitaka.com/read/pali/10/350/?keywords=ทุกฺขนิโรธคามินี+ปฏิปทา+อริยสจฺจํ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : -มหา. ที . 10/231/299.
http://etipitaka.com/read/thai/10/231/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%99
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : -มหา. ที . ๑๐/๓๔๘/๒๙๙.
http://etipitaka.com/read/pali/10/348/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%99
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=675 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=48&id=675
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=48
ลำดับสาธยายธรรม : 48 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_48.mp3 อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่านิทเทศแห่งทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ
สัทธรรมลำดับที่ : 675
ชื่อบทธรรม :- นิทเทศแห่งทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=675
เนื้อความทั้งหมด :-
--นิทเทศแห่งทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ
--ภิกษุ ท. ! ก็อริยสัจ คือ #หนทางเป็นเครื่องให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์
http://etipitaka.com/read/pali/10/348/?keywords=ทุกฺขนิโรธคามินี+ปฏิปทา+อริยสจฺจํ
นั้นเป็นอย่างไรเล่า ? คือ หนทางอันประกอบด้วยองค์แปด อันประเสริฐนี้เอง,
องค์แปดคือ
ความเห็นชอบ ความดำริชอบ,
วาจาชอบ การงานชอบ อาชีวะชอบ,
ความเพียรชอบ ความระลึกชอบ ความตั้งจิตมั่นชอบ.
--ภิกษุ ท. ! ความเห็นชอบ เป็นอย่างไร ?
+--ภิกษุ ท. !
ความรู้ ในทุกข์
ความรู้ในเหตุให้เกิดทุกข์
ความรู้ใน ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์
ความรู้ในหนทางเป็นเครื่องให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ อันใด,
+--ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า ความเห็นชอบ.
--ภิกษุ ท. ! ความดำริชอบ เป็นอย่างไร ?
+--ภิกษุ ท. !
ความดำริในการออกจากกาม
ความดำริในการ ไม่พยาบาท
ความดำริในการ ไม่เบียดเบียน,
+--ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า ความดำริชอบ.
--ภิกษุ ท. ! วาจาชอบ เป็นอย่างไร ?
+--ภิกษุ ท. !
การเว้นจากการ พูดเท็จ
การเว้นจากการ พูดยุให้แตกกัน
การเว้นจากการ พูดหยาบ
การเว้นจากการ พูดเพ้อเจ้อ,
+--ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า วาจาชอบ.
--ภิกษุ ท. ! การงานชอบ เป็นอย่างไร ?
+--ภิกษุ ท. !
การเว้นจากการฆ่าสัตว์
การเว้นจากการ ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้
การเว้นจากการ ประพฤติผิดในกามทั้งหลาย*--๑ ,
+--ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า การงานชอบ.
[*--๑. คำกล่าวนี้ เป็นคำกล่าวที่เป็นกลางๆทั่วไป.
แต่ในบางกรณีซึ่งมีน้อยมากกล่าวว่า "เว้นจากกรรมอันมิใช่พรหมจรรย์" ก็มี ;
http://etipitaka.com/read/pali/19/11/?keywords=อพฺรหฺมจริยา
เข้าใจว่าเป็นการกล่าวมุ่งหมายบรรพชิต.
(มหาวาร. ส. ๑๙/๑๑/๓๗).
http://etipitaka.com/read/pali/19/11/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97
]
--ภิกษุ ท. ! อาชีวะชอบ เป็นอย่างไร ?
+--ภิกษุ ท. !
อริยสาวกในศาสนานี้ ละมิจฉาชีพ เสีย สำเร็จความเป็นอยู่ด้วยสัมมาชีพ,
+--ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า อาชีวะชอบ.
--ภิกษุ ท. ! ความเพียรชอบ เป็นอย่างไร ?
+--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในศาสนานี้
ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้
เพื่อความไม่บังเกิดขึ้นแห่งอกุศลธรรม ท. อันลามกที่ยังไม่ได้บังเกิด ;
ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้ เพื่อการละเสียซึ่งอกุศลธรรม ท. อันลามกที่บังเกิดขึ้นแล้ว ;
ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้
เพื่อการบังเกิดขึ้นแห่งกุศลธรรม ท. ที่ยังไม่ได้บังเกิด ;
ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้
เพื่อความยั่งยืน ความไม่เลอะเลือน ความงอกงามยิ่งขึ้น
ความไพบูลย์ ความเจริญ ความเต็มรอบ แห่งกุศลธรรม ท. ที่บังเกิดขึ้นแล้ว.
+--ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า ความเพียรชอบ.
--ภิกษุ ท. ! ความระลึกชอบ เป็นอย่างไร ?
+--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในศาสนานี้เป็นผู้มีปรกติพิจารณา เห็นกายในกาย อยู่,
มีความเพียรเครื่องเผากิเลส(บาป) มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม
มีสติ นำความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ;
เป็นผู้มีปรกติพิจารณา เห็นเวทนาในเวทนา ท. อยู่,
มีความเพียรเครื่องเผาบาป มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม
มีสติ นำความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ;
เป็นผู้มีปรกติพิจารณา เห็นจิตในจิต อยู่,
มีความเพียรเครื่องเผาบาป มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม
มีสติ นำความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ;
เป็นผู้มีปรกติพิจารณา เห็นธรรมในธรรม ท. อยู่,
มีความเพียรเครื่องเผาบาป มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม
มีสติ นำความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้.
+--ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า สัมมาสติ.
--ภิกษุ ท. ! ความตั้งจิตมั่นชอบ เป็นอย่างไร ?
+--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในศาสนานี้ เพราะสงัดจากกาม ท. เพราะสงัดจากอกุศลธรรม ท.,
ย่อมเข้าถึง ฌานที่หนึ่ง
อันมีวิตกวิจาร มีปิติและสุข อันเกิดแต่วิเวกแล้วแลอยู่.
เพราะวิตกวิจารรำงับลง,
เธอเข้าถึง ฌานที่สอง
อันเป็นเครื่องผ่องใสแห่งใจในภายในให้สมาธิเป็นธรรมอันเอกผุดขึ้น
ไม่มีวิตกไม่มีวิจาร มีแต่ปิติและสุขอันเกิดแต่สมาธิแล้วแลอยู่.
เพราะปิติจางหายไป,
เธอเป็นผู้เพ่งเฉยอยู่ได้ มีสติ มีความอยู่เป็นปกติสุข และได้เสวยสุขด้วยนามกาย
ย่อมเข้าถึง ฌานที่สาม
อันเป็นฌานที่พระอริยเจ้าทั้งหลายกล่าวสรรเสริญผู้ได้บรรลุ ว่า
“เป็นผู้เฉยอยู่ได้มีสติ มีความอยู่เป็นปกติสุข” แล้วแลอยู่.
เพราะละสุขและทุกข์เสียได้ และเพราะความดับหายแห่งโสมนัสและโทมนัสในกาลก่อน, เธอย่อมเข้าถึง ฌานที่สี่
อันไม่ทุกข์และไม่สุข มีแต่สติอันบริสุทธิ์เพราะอุเบกขา แล้วแลอยู่.
+--ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า สัมมาสมาธิ.
--ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า #อริยสัจคือหนทางเป็นเครื่องให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์.-
http://etipitaka.com/read/pali/10/350/?keywords=ทุกฺขนิโรธคามินี+ปฏิปทา+อริยสจฺจํ
#ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : -มหา. ที . 10/231/299.
http://etipitaka.com/read/thai/10/231/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%99
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : -มหา. ที . ๑๐/๓๔๘/๒๙๙.
http://etipitaka.com/read/pali/10/348/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%99
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=675
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=48&id=675
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=48
ลำดับสาธยายธรรม : 48 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_48.mp3