• ..ฟังเพลิน,ทำใจสบายๆโล่งๆเน้อ,ผ่อนคลายผ่อนคลาย.
    ..ฟังเพลิน,ทำใจสบายๆโล่งๆเน้อ,ผ่อนคลายผ่อนคลาย.
    0 Comments 0 Shares 13 Views 1 0 Reviews
  • 🔥🦑 ของทะเลแห้งเจ้าเด็ด! อร่อยสะอาด ✅ ราคาน่ารัก ✅ รีวิวแน่นๆ 💬ปลาซิวทอด 🍤 หมึกกะตอย 🦑 กุนเชียงปลา 🐟 และอีกเพียบ!🌊 ส่งตรงจากร้านกินจุ๊บจิ๊บ ‼️📦 พร้อมแพ็ก พร้อมส่งทุกวัน 🚚💨📌 มีขายทั้ง Shopee & TikTok 🛒💯 ร้านเรามีตัวตน เชื่อถือได้ ไม่จกตา!❤️ กดติดตามไว้เลย ของหมดบ่อยมากกกกกกกกกกกกกก!! 🤤🔥🌶️♨️⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้าและเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #ปลาซิวกรอบ #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาข้างเหลือง #กิมสั่วงา
    🔥🦑 ของทะเลแห้งเจ้าเด็ด! อร่อยสะอาด ✅ ราคาน่ารัก ✅ รีวิวแน่นๆ 💬ปลาซิวทอด 🍤 หมึกกะตอย 🦑 กุนเชียงปลา 🐟 และอีกเพียบ!🌊 ส่งตรงจากร้านกินจุ๊บจิ๊บ ‼️📦 พร้อมแพ็ก พร้อมส่งทุกวัน 🚚💨📌 มีขายทั้ง Shopee & TikTok 🛒💯 ร้านเรามีตัวตน เชื่อถือได้ ไม่จกตา!❤️ กดติดตามไว้เลย ของหมดบ่อยมากกกกกกกกกกกกกก!! 🤤🔥🌶️♨️⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้าและเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #ปลาซิวกรอบ #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาข้างเหลือง #กิมสั่วงา
    0 Comments 0 Shares 32 Views 0 Reviews
  • ขอคนเสื้อแดง ด้อมส้ม ตาสว่างเพื่อชาติกันเยอะๆจะได้ไหม ถึงตอนนี้จะมีคนแสดงจุดยีนกันเยอะทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจแล้วว่าเคยเลือกแดงและส้ม สุดท้ายไม่ได้ดั่งหวัง
    ขอคนเสื้อแดง ด้อมส้ม ตาสว่างเพื่อชาติกันเยอะๆจะได้ไหม ถึงตอนนี้จะมีคนแสดงจุดยีนกันเยอะทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจแล้วว่าเคยเลือกแดงและส้ม สุดท้ายไม่ได้ดั่งหวัง
    ยายชาวลำปางวัย 73 แฟนคลับเสื้อแดงมากกว่าทศวรรษ สุดทน..ระเบิดอารมณ์ถล่มไม่ยั้ง เขียนข้อความด่าทั้ง “ฮุนเซน-ฮุนมาเนต-อุ๊งอิ๊งค์-ทักษิณ” แบบไม่มียั้งติดเต็มประตูรั้วหน้าบ้าน หลังดูข่าวความขัดแย้งชายแดนไทยเขมร

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000058258

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 5 Views 0 Reviews
  • วันนี้ก็เกือบจะดิ่งดาวน์ จากการที่คนรอบข้างพูดคำเดิมๆหวังแทงใจดำผมเพื่อกดดันให้ผมอยู่ในกรอบข้อจำกัดของเขา สุดท้ายไม่สามารถทำตามที่คนรอบข้างคาดหวังไว้ แต่เป็นเพราะเปิดฟังคนตื่นธรรมบ่อย เลยไม่แคร์คำพูดคนรอบข้างที ่Toxic ไปเยอะ
    ผมเริ่มเข้าสู่สภาวะหลงผิดหลังโควิดระบาดใหม่ๆ และกลับบ้านไม่ได้กลับหอ ถูกทางครอบครัวห้าม สุดท้ายผมก็ต้องรับวิบากกรรมจากการมีความเห็นผิดจนกลายเป็นหมกมุ่นเรื้อรัง สุดท้ายอยากจะแยกออกจากทางครอบครัว ครอบครัวไม่ใช่ Safe Zone คือจะพยายามฉุดรั้งผมให้ได้เหรอ เป็นห่วงมากเกินไปจนต้องออกอาการ Toxic ใส่ผม ถ้าต้องอยู่ในกรอบ คือ ต้องทำงานที่ทางนั้นคิดว่ามั่นคง เป็นลูกจ้าง หรือ บรรจุเป็นข้าราชการ ไปด้วย ทำธุรกิจสายมู ไปด้วย หัวผมไม่ได้ไปทางมูหรอก และไม่ได้ไปทางมู มา 2 ปี แล้ว เพราะ มู ไปก็ ไม่ได้ช่วยอะไร ดลบันดาลด้วยมู ผมว่าอย่าหาทำ ถ้าจะดลบันดาลต้องให้ตัวเองดลบันดาลพร้อมกับวางเป้าหมายถึงจะทำสำเร็จดังหวังปรารถนา ไม่คาดหวังตัวเองเยอะ
    เพิ่งฟังคนตื่นธรรมมา อุตส่าห์จะไม่คิดตอบสนองต่อคำพูด Toxic ที่ได้รับมาทางโทรศัพท์เมื่อตอนเที่ยง สุดท้ายก็ต้องทำตามที่ผมคิดอยู่ดี
    วันนี้ก็เกือบจะดิ่งดาวน์ จากการที่คนรอบข้างพูดคำเดิมๆหวังแทงใจดำผมเพื่อกดดันให้ผมอยู่ในกรอบข้อจำกัดของเขา สุดท้ายไม่สามารถทำตามที่คนรอบข้างคาดหวังไว้ แต่เป็นเพราะเปิดฟังคนตื่นธรรมบ่อย เลยไม่แคร์คำพูดคนรอบข้างที ่Toxic ไปเยอะ ผมเริ่มเข้าสู่สภาวะหลงผิดหลังโควิดระบาดใหม่ๆ และกลับบ้านไม่ได้กลับหอ ถูกทางครอบครัวห้าม สุดท้ายผมก็ต้องรับวิบากกรรมจากการมีความเห็นผิดจนกลายเป็นหมกมุ่นเรื้อรัง สุดท้ายอยากจะแยกออกจากทางครอบครัว ครอบครัวไม่ใช่ Safe Zone คือจะพยายามฉุดรั้งผมให้ได้เหรอ เป็นห่วงมากเกินไปจนต้องออกอาการ Toxic ใส่ผม ถ้าต้องอยู่ในกรอบ คือ ต้องทำงานที่ทางนั้นคิดว่ามั่นคง เป็นลูกจ้าง หรือ บรรจุเป็นข้าราชการ ไปด้วย ทำธุรกิจสายมู ไปด้วย หัวผมไม่ได้ไปทางมูหรอก และไม่ได้ไปทางมู มา 2 ปี แล้ว เพราะ มู ไปก็ ไม่ได้ช่วยอะไร ดลบันดาลด้วยมู ผมว่าอย่าหาทำ ถ้าจะดลบันดาลต้องให้ตัวเองดลบันดาลพร้อมกับวางเป้าหมายถึงจะทำสำเร็จดังหวังปรารถนา ไม่คาดหวังตัวเองเยอะ เพิ่งฟังคนตื่นธรรมมา อุตส่าห์จะไม่คิดตอบสนองต่อคำพูด Toxic ที่ได้รับมาทางโทรศัพท์เมื่อตอนเที่ยง สุดท้ายก็ต้องทำตามที่ผมคิดอยู่ดี
    0 Comments 0 Shares 31 Views 0 Reviews
  • อิสราเอลเพิ่งทิ้งระเบิดใส่พลเรือนบริเวณวงเวียนดูราบียา ใกล้มัสยิดเอเชีย ในเมืองกาซาทางตะวันตก

    นับตั้งแต่อิหร่านโจมตีตอบโต้อิสราเอล ดูเหมือนว่ากองกำลังอิสราเอลจะถล่มกาซาซึ่งมีแต่พลเรือนหนักขึ้น
    อิสราเอลเพิ่งทิ้งระเบิดใส่พลเรือนบริเวณวงเวียนดูราบียา ใกล้มัสยิดเอเชีย ในเมืองกาซาทางตะวันตก นับตั้งแต่อิหร่านโจมตีตอบโต้อิสราเอล ดูเหมือนว่ากองกำลังอิสราเอลจะถล่มกาซาซึ่งมีแต่พลเรือนหนักขึ้น
    0 Comments 0 Shares 138 Views 8 0 Reviews
  • วิดีโอภาพความละเอียดสูง เผยให้เห็นช่วงเวลาที่ขีปนาวุธจาก Iron dome 2 ลูก พุ่งเข้าสกัดขีปนาวุธจากอิหร่าน 1 ลูก
    วิดีโอภาพความละเอียดสูง เผยให้เห็นช่วงเวลาที่ขีปนาวุธจาก Iron dome 2 ลูก พุ่งเข้าสกัดขีปนาวุธจากอิหร่าน 1 ลูก
    0 Comments 0 Shares 45 Views 6 0 Reviews
  • ช่วงเวลาที่โดร Shahed-136 ของอิหร่าน พุ่งเข้าโจมตีเป้าหมายในอิสราเอลช่วงเย็นวันนี้
    ช่วงเวลาที่โดร Shahed-136 ของอิหร่าน พุ่งเข้าโจมตีเป้าหมายในอิสราเอลช่วงเย็นวันนี้
    0 Comments 0 Shares 46 Views 5 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 5 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าอาการเกิดแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง)
    สัทธรรมลำดับที่ : 293
    ชื่อบทธรรม :- อาการเกิดแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง)ทรงแสดงด้วยฉันทราคะ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=293
    เนื้อความทั้งหมด : -
    --อาการเกิดแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง)(ทรงแสดงด้วยฉันทราคะ)
    --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์ขอโอกาส ขอพระผู้มีพระภาค
    จงทรงแสดงซึ่งความเกิดและความดับไปแห่งทุกข์ แก่ข้าพระองค์เถิด.”
    --คามณิ ! ถ้าเราจะแสดงความเกิดและความดับแห่งทุกข์แก่ท่าน
    ปรารภอดีตกาลนานไกลว่า มันได้มีแล้วอย่างนี้ในอดีตกาล ดังนี้ไซร้,
    ความสงสัยเคลือบแคลงในข้อนั้น ก็จะพึงมีแก่ท่าน.
    ถ้าเราจะแสดงความเกิดและความดับแห่งทุกข์ ปรารภอนาคตกาลนานไกล
    ว่ามันได้มีแล้วอย่างนี้ในอนาคตกาล ดังนี้ไซร้,
    ความสงสัยเคลือบแคลงแม้ในข้อนั้น ก็จะพึงมีแก่ท่าน. เอาละ
    --คามณิ ! เรานั่งอยู่ที่นี่
    6จะแสดงความเกิดและความดับแห่งทุกข์แก่ท่าน
    ผู้นั่งอยู่ที่นี่ด้วยกัน,
    ท่านจงฟัง จงทำในใจให้ดี, เราจะกล่าว.
    --คามณิ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร
    : มีไหม มนุษย์ในหมู่บ้านอุรุเวลกัปปะนี้ ที่ถูกฆ่า ถูกจองจำ ถูกทำให้เสื่อมเสีย
    ถูกติเตียนแล้ว โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส จะเกิดขึ้นแก่ท่าน ?
    “มี พระเจ้าข้า !”
    --คามณิ !
    :มีไหม มนุษย์ในหมู่บ้านอุรุเวลกัปปะนี้ ที่ถูกฆ่า ถูกจองจำ ถูกทำให้เสื่อมเสีย
    ถูกติเตียนแล้ว โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส จะไม่เกิดขึ้นแก่ท่าน ?
    “มี พระเจ้าข้า!”
    --คามณิ ! อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ที่ความโศก (เป็นต้น) เกิดขึ้น
    แก่ท่านเพราะมนุษย์พวกหนึ่ง และไม่เกิดขึ้นแก่ท่านเพราะมนุษย์พวกหนึ่ง ?
    --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เพราะว่า
    +--ฉันทราคะของข้าพระองค์มีอยู่ ในหมู่มนุษย์ที่ทำให้ความโศก (เป็นต้น)
    เกิดขึ้นแก่ข้าพระองค์ และ
    +--ฉันทราคะของข้าพระองค์ไม่มีอยู่ ในหมู่มนุษย์ที่ไม่ทำให้ความโศก (เป็นต้น)
    เกิดขึ้นแก่ข้าพระองค์.
    --คามณิ ! ด้วยธรรมนี้ อันท่านเห็นแล้ว รู้แจ้งแล้ว บรรลุแล้ว หยั่งลงทั่วถึงแล้ว
    อันไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ท่านจงนำไปซึ่งนัยนี้สู่ธรรมในอดีตและอนาคต ว่า
    “ทุกข์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต
    ทุกข์ทั้งหมดนั้นมีฉันทะเป็นมูล มีฉันทะเป็นเหตุ
    เพราะว่า ฉันทะเป็นมูลเหตุแห่งทุกข์ ;
    และทุกข์ใด ๆ อันจะเกิดขึ้นใน อนาคต
    ทุกข์ทั้งหมดนั้นก็มีฉันทะเป็นมูล มีฉันทะเป็นเหตุ
    เพราะว่า #ฉันทะเป็นมูลเหตุแห่งทุกข์,”
    http://etipitaka.com/read/pali/18/405/?keywords=ฉนฺท
    ดังนี้.-

    #ทุกขสมุทัย#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา.สํ. 18/333/627.
    http://etipitaka.com/read/thai/18/333/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%92%E0%B9%97
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก :- สฬา.สํ. ๑๘/๔๐๓/๖๒๗.
    http://etipitaka.com/read/pali/18/403/?keywords=๖๒๗
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=293
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=293
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19
    ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าอาการเกิดแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง) สัทธรรมลำดับที่ : 293 ชื่อบทธรรม :- อาการเกิดแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง)ทรงแสดงด้วยฉันทราคะ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=293 เนื้อความทั้งหมด : - --อาการเกิดแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง)(ทรงแสดงด้วยฉันทราคะ) --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์ขอโอกาส ขอพระผู้มีพระภาค จงทรงแสดงซึ่งความเกิดและความดับไปแห่งทุกข์ แก่ข้าพระองค์เถิด.” --คามณิ ! ถ้าเราจะแสดงความเกิดและความดับแห่งทุกข์แก่ท่าน ปรารภอดีตกาลนานไกลว่า มันได้มีแล้วอย่างนี้ในอดีตกาล ดังนี้ไซร้, ความสงสัยเคลือบแคลงในข้อนั้น ก็จะพึงมีแก่ท่าน. ถ้าเราจะแสดงความเกิดและความดับแห่งทุกข์ ปรารภอนาคตกาลนานไกล ว่ามันได้มีแล้วอย่างนี้ในอนาคตกาล ดังนี้ไซร้, ความสงสัยเคลือบแคลงแม้ในข้อนั้น ก็จะพึงมีแก่ท่าน. เอาละ --คามณิ ! เรานั่งอยู่ที่นี่ 6จะแสดงความเกิดและความดับแห่งทุกข์แก่ท่าน ผู้นั่งอยู่ที่นี่ด้วยกัน, ท่านจงฟัง จงทำในใจให้ดี, เราจะกล่าว. --คามณิ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร : มีไหม มนุษย์ในหมู่บ้านอุรุเวลกัปปะนี้ ที่ถูกฆ่า ถูกจองจำ ถูกทำให้เสื่อมเสีย ถูกติเตียนแล้ว โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส จะเกิดขึ้นแก่ท่าน ? “มี พระเจ้าข้า !” --คามณิ ! :มีไหม มนุษย์ในหมู่บ้านอุรุเวลกัปปะนี้ ที่ถูกฆ่า ถูกจองจำ ถูกทำให้เสื่อมเสีย ถูกติเตียนแล้ว โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส จะไม่เกิดขึ้นแก่ท่าน ? “มี พระเจ้าข้า!” --คามณิ ! อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ที่ความโศก (เป็นต้น) เกิดขึ้น แก่ท่านเพราะมนุษย์พวกหนึ่ง และไม่เกิดขึ้นแก่ท่านเพราะมนุษย์พวกหนึ่ง ? --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เพราะว่า +--ฉันทราคะของข้าพระองค์มีอยู่ ในหมู่มนุษย์ที่ทำให้ความโศก (เป็นต้น) เกิดขึ้นแก่ข้าพระองค์ และ +--ฉันทราคะของข้าพระองค์ไม่มีอยู่ ในหมู่มนุษย์ที่ไม่ทำให้ความโศก (เป็นต้น) เกิดขึ้นแก่ข้าพระองค์. --คามณิ ! ด้วยธรรมนี้ อันท่านเห็นแล้ว รู้แจ้งแล้ว บรรลุแล้ว หยั่งลงทั่วถึงแล้ว อันไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ท่านจงนำไปซึ่งนัยนี้สู่ธรรมในอดีตและอนาคต ว่า “ทุกข์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต ทุกข์ทั้งหมดนั้นมีฉันทะเป็นมูล มีฉันทะเป็นเหตุ เพราะว่า ฉันทะเป็นมูลเหตุแห่งทุกข์ ; และทุกข์ใด ๆ อันจะเกิดขึ้นใน อนาคต ทุกข์ทั้งหมดนั้นก็มีฉันทะเป็นมูล มีฉันทะเป็นเหตุ เพราะว่า #ฉันทะเป็นมูลเหตุแห่งทุกข์,” http://etipitaka.com/read/pali/18/405/?keywords=ฉนฺท ดังนี้.- #ทุกขสมุทัย​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา.สํ. 18/333/627. http://etipitaka.com/read/thai/18/333/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%92%E0%B9%97 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก :- สฬา.สํ. ๑๘/๔๐๓/๖๒๗. http://etipitaka.com/read/pali/18/403/?keywords=๖๒๗ ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=293 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=293 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19 ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อาการเกิดแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง)ทรงแสดงด้วยฉันทราคะ
    -อาการเกิดแห่งความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง) (ทรงแสดงด้วยฉันทราคะ) “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์ขอโอกาส ขอพระผู้มีพระภาค จงทรงแสดงซึ่งความเกิดและความดับไปแห่งทุกข์ แก่ข้าพระองค์เถิด.” คามณิ ! ถ้าเราจะแสดงความเกิดและความดับแห่งทุกข์แก่ท่าน ปรารภอดีตกาลนานไกลว่า มันได้มีแล้วอย่างนี้ในอดีตกาล ดังนี้ไซร้, ความสงสัยเคลือบแคลงในข้อนั้น ก็จะพึงมีแก่ท่าน. ถ้าเราจะแสดงความเกิดและความดับแห่งทุกข์ ปรารภอนาคตกาลนานไกล ว่ามันได้มีแล้วอย่างนี้ในอนาคตกาล ดังนี้ไซร้, ความสงสัยเคลือบแคลงแม้ในข้อนั้น ก็จะพึงมีแก่ท่าน. เอาละ คามณิ ! เรานั่งอยู่ที่นี่ จะแสดงความเกิดและความดับแห่งทุกข์แก่ท่าน ผู้นั่งอยู่ที่นี่ด้วยกัน, ท่านจงฟัง จงทำในใจให้ดี, เราจะกล่าว. คามณิ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร : มีไหม มนุษย์ในหมู่บ้านอุรุเวลกัปปะนี้ ที่ถูกฆ่า ถูกจองจำ ถูกทำให้เสื่อมเสีย ถูกติเตียนแล้ว โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส จะเกิดขึ้นแก่ท่าน ? “มี พระเจ้าข้า !” คามณิ ! มีไหม มนุษย์ในหมู่บ้านอุรุเวลกัปปะนี้ ที่ถูกฆ่า ถูกจองจำ ถูกทำให้เสื่อมเสีย ถูกติเตียนแล้ว โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส จะไม่เกิดขึ้นแก่ท่าน ? “มี พระเจ้าข้า!” คามณิ ! อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ที่ความโศก (เป็นต้น) เกิดขึ้น แก่ท่านเพราะมนุษย์พวกหนึ่ง และไม่เกิดขึ้นแก่ท่านเพราะมนุษย์พวกหนึ่ง ? “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เพราะว่า ฉันทราคะของข้าพระองค์มีอยู่ ในหมู่มนุษย์ที่ทำให้ความโศก (เป็นต้น) เกิดขึ้นแก่ข้าพระองค์ และ ฉันทราคะของข้าพระองค์ไม่มีอยู่ ในหมู่มนุษย์ที่ไม่ทำให้ความโศก (เป็นต้น) เกิดขึ้นแก่ข้าพระองค์. คามณิ ! ด้วยธรรมนี้ อันท่านเห็นแล้ว รู้แจ้งแล้ว บรรลุแล้ว หยั่งลงทั่วถึงแล้ว อันไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ท่านจงนำไปซึ่งนัยนี้สู่ธรรมในอดีตและอนาคต ว่า “ทุกข์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต ทุกข์ทั้งหมดนั้นมีฉันทะเป็นมูล มีฉันทะ เป็นเหตุ เพราะว่า ฉันทะเป็นมูลเหตุแห่งทุกข์ ; และทุกข์ใด ๆ อันจะเกิดขึ้นใน อนาคต ทุกข์ทั้งหมดนั้นก็มีฉันทะเป็นมูล มีฉันทะเป็นเหตุ เพราะว่าฉันทะเป็นมูลเหตุแห่งทุกข์,” ดังนี้.
    0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าอาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่
    สัทธรรมลำดับที่ : 660
    ชื่อบทธรรม : -อาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่(ให้เกิดผลพิเศษอีกนานาประการ)
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=660
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่(ให้เกิดผลพิเศษอีกนานาประการ)
    --ภิกษุ ท. !
    +--ส่วนบุคคล
    เมื่อรู้เมื่อเห็น ซึ่ง ๑.จักษุ ตามที่เป็นจริง.
    เมื่อรู้เมื่อเห็นซึ่ง รูปทั้งหลาย ตามที่เป็นจริง,
    เมื่อรู้เมื่อเห็นซึ่ง จักขุวิญญาณ ตามที่เป็นจริง,
    เมื่อรู้เมื่อเห็น ซึ่ง จักขุสัมผัส ตามที่เป็นจริง,
    เมื่อรู้เมื่อเห็นซึ่งเวทนาอันเกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย
    อันเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม ตามที่เป็นจริงแล้ว ;
    เขาย่อมไม่กำหนัดในจักษุ, ไม่กำหนัดในรูปทั้งหลาย,
    ไม่กำหนัดในจักขุวิญญาณ, ไม่กำหนัดในจักขุสัมผัส, และ
    ไม่กำหนัดในเวทนาอันเกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย
    อันเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม.
    เมื่อบุคคลนั้นไม่กำหนัดแล้ว ไม่ติดพันแล้ว ไม่ลุ่มหลงแล้ว
    ตามเห็นอาทีนวะ (โทษของสิ่งเหล่านั้น) อยู่เนือง ๆ ,
    ปัญจุปาทานขันธ์ทั้งหลาย ย่อมถึงซึ่งความไม่ก่อเกิดต่อไป ;
    และตัณหา อันเป็นเครื่องนำไปสู่ภพใหม่
    อันประกอบอยู่ด้วยความกำหนัดด้วยอำนาจความเพลิน
    เป็นเครื่องทำให้เพลินอย่างยิ่งในอารมณ์นั้น ๆ นั้นอันเขาย่อมละเสียได้ ;
    +--ความกระวนกระวาย (ทรถ) แม้ ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้,
    ความกระวนกระวายแม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้ ;
    +--ความแผดเผา (สนฺตาป) แม้ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้,
    ความแผดเผา แม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้ ;
    +-ความเร่าร้อน (ปริฬาห) แม้ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้,
    ความเร่าร้อน แม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้.

    +--บุคคลนั้นย่อม เสวยซึ่งความสุข อันเป็นไป ทางกายด้วย.
    ซึ่งความสุขอันเป็นไป ทางจิต ด้วย.
    +--เมื่อบุคคลเป็นเช่นนั้นแล้ว
    ทิฏฐิ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาทิฏฐิ ;
    ความดำริของเขา ย่อมเป็นสัมมาสังกัปปะ;
    ความพยายาม ของเขา ย่อมเป็นสัมมาวายามะ;
    สติ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาสติ ;
    สมาธิ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาสมาธิ ;
    ส่วน กายกรรม วจีกรรม และ อาชีวะ
    ของเขา เป็นธรรมบริสุทธิ์อยู่ก่อนแล้วนั่นเทียว.
    ด้วยอาการอย่างนี้ เป็นอันว่า อริยอัฏฐังคิกมรรค นี้
    ของเขานั้น ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ.
    +--เมื่อเขาทำอริยอัฏฐังคิกมรรค ให้เจริญอยู่ด้วยอาการอย่างนี้,
    สติปัฏฐาน แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ;
    สัมมัปปธาน แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ;
    อิทธิบาท แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ;
    อินทรีย์ แม้ทั้ง ๕ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ;
    พละ แม้ทั้ง ๕ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ;
    โพชฌงค์ แม้ทั้ง ๗ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ.

    +--ธรรมทั้งสองคือ #สมถะและวิปัสสนา ของเขานั้น ย่อมเป็นธรรมเคียงคู่กันไป.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/524/?keywords=สมโถ+วิปสฺสนา
    +--บุคคลนั้น ย่อม
    กำหนดรู้ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงกำหนดรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง ;
    ย่อมละ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงละด้วยปัญญาอันยิ่ง ;
    ย่อมทำให้เจริญ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงทำให้เจริญด้วยปัญญาอันยิ่ง;
    ย่อม ทำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่ง.
    --ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงกำหนดรู ้ด้วยปัญญาอันยิ่ง ?
    คำตอบ พึงมีว่า ปัญจุปาทานขันธ์ ทั้งหลาย กล่าวคือ
    อุปาทานขันธ์คือรูป
    อุปาทานขันธ์คือเวทนา
    อุปาทานขันธ์คือสัญญา
    อุปาทานขันธ์คือสังขาร
    อุปาทานขันธ์คือวิญญาณ :
    ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล #ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงกำหนดรู้ ด้วยปัญญาอันยิ่ง.

    --ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงละด้วย ปัญญาอันยิ่ง ?
    คำตอบ พึงมีว่า อวิชชา ด้วย ภวตัณหา ด้วย :
    ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล #ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงละ ด้วยปัญญาอันยิ่ง.

    --ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้เจริญ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ?
    คำตอบ พึงมีว่า สมถะ ด้วย วิปัสสนา ด้วย :
    ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล #ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้เจริญ ด้วยปัญญาอันยิ่ง.

    --ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิ่ง ?
    คำตอบ พึงมีว่า วิชชา ด้วย วิมุตติ ด้วย :
    ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล #ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิ่ง.

    (ในกรณีที่เกี่ยวกับ
    ๒.โสต ๓.ฆาน ๔.ชิวหา ๕.กาย ๖.มโน และ สหคตธรรมแห่งอายตนะมีโสต เป็นต้น
    ก็มีเนื้อความเหมือนกับที่กล่าวแล้วในกรณีแห่ง ๑.จักษุและสหคตธรรมของจักษุ
    ดังที่กล่าวข้างต้นนี้ทุกประการ พึงขยายความเอาเองให้เต็มตามนั้น
    ).-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/395-398/828-831.
    http://etipitaka.com/read/thai/14/395/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92%E0%B9%98
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๕๒๓-๕๒๖/๘๒๘-๘๓๑.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/523/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92%E0%B9%98
    ถึง
    http://etipitaka.com/read/pali/14/526/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%93%E0%B9%91
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=660
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=46&id=660
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=46
    ลำดับสาธยายธรรม : 46 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_46.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าอาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่ สัทธรรมลำดับที่ : 660 ชื่อบทธรรม : -อาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่(ให้เกิดผลพิเศษอีกนานาประการ) https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=660 เนื้อความทั้งหมด :- --อาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่(ให้เกิดผลพิเศษอีกนานาประการ) --ภิกษุ ท. ! +--ส่วนบุคคล เมื่อรู้เมื่อเห็น ซึ่ง ๑.จักษุ ตามที่เป็นจริง. เมื่อรู้เมื่อเห็นซึ่ง รูปทั้งหลาย ตามที่เป็นจริง, เมื่อรู้เมื่อเห็นซึ่ง จักขุวิญญาณ ตามที่เป็นจริง, เมื่อรู้เมื่อเห็น ซึ่ง จักขุสัมผัส ตามที่เป็นจริง, เมื่อรู้เมื่อเห็นซึ่งเวทนาอันเกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย อันเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม ตามที่เป็นจริงแล้ว ; เขาย่อมไม่กำหนัดในจักษุ, ไม่กำหนัดในรูปทั้งหลาย, ไม่กำหนัดในจักขุวิญญาณ, ไม่กำหนัดในจักขุสัมผัส, และ ไม่กำหนัดในเวทนาอันเกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย อันเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม. เมื่อบุคคลนั้นไม่กำหนัดแล้ว ไม่ติดพันแล้ว ไม่ลุ่มหลงแล้ว ตามเห็นอาทีนวะ (โทษของสิ่งเหล่านั้น) อยู่เนือง ๆ , ปัญจุปาทานขันธ์ทั้งหลาย ย่อมถึงซึ่งความไม่ก่อเกิดต่อไป ; และตัณหา อันเป็นเครื่องนำไปสู่ภพใหม่ อันประกอบอยู่ด้วยความกำหนัดด้วยอำนาจความเพลิน เป็นเครื่องทำให้เพลินอย่างยิ่งในอารมณ์นั้น ๆ นั้นอันเขาย่อมละเสียได้ ; +--ความกระวนกระวาย (ทรถ) แม้ ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้, ความกระวนกระวายแม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้ ; +--ความแผดเผา (สนฺตาป) แม้ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้, ความแผดเผา แม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้ ; +-ความเร่าร้อน (ปริฬาห) แม้ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้, ความเร่าร้อน แม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้. +--บุคคลนั้นย่อม เสวยซึ่งความสุข อันเป็นไป ทางกายด้วย. ซึ่งความสุขอันเป็นไป ทางจิต ด้วย. +--เมื่อบุคคลเป็นเช่นนั้นแล้ว ทิฏฐิ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาทิฏฐิ ; ความดำริของเขา ย่อมเป็นสัมมาสังกัปปะ; ความพยายาม ของเขา ย่อมเป็นสัมมาวายามะ; สติ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาสติ ; สมาธิ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาสมาธิ ; ส่วน กายกรรม วจีกรรม และ อาชีวะ ของเขา เป็นธรรมบริสุทธิ์อยู่ก่อนแล้วนั่นเทียว. ด้วยอาการอย่างนี้ เป็นอันว่า อริยอัฏฐังคิกมรรค นี้ ของเขานั้น ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ. +--เมื่อเขาทำอริยอัฏฐังคิกมรรค ให้เจริญอยู่ด้วยอาการอย่างนี้, สติปัฏฐาน แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ; สัมมัปปธาน แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ; อิทธิบาท แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ; อินทรีย์ แม้ทั้ง ๕ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ; พละ แม้ทั้ง ๕ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ; โพชฌงค์ แม้ทั้ง ๗ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ. +--ธรรมทั้งสองคือ #สมถะและวิปัสสนา ของเขานั้น ย่อมเป็นธรรมเคียงคู่กันไป. http://etipitaka.com/read/pali/14/524/?keywords=สมโถ+วิปสฺสนา +--บุคคลนั้น ย่อม กำหนดรู้ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงกำหนดรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง ; ย่อมละ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงละด้วยปัญญาอันยิ่ง ; ย่อมทำให้เจริญ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงทำให้เจริญด้วยปัญญาอันยิ่ง; ย่อม ทำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่ง. --ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงกำหนดรู ้ด้วยปัญญาอันยิ่ง ? คำตอบ พึงมีว่า ปัญจุปาทานขันธ์ ทั้งหลาย กล่าวคือ อุปาทานขันธ์คือรูป อุปาทานขันธ์คือเวทนา อุปาทานขันธ์คือสัญญา อุปาทานขันธ์คือสังขาร อุปาทานขันธ์คือวิญญาณ : ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล #ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงกำหนดรู้ ด้วยปัญญาอันยิ่ง. --ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงละด้วย ปัญญาอันยิ่ง ? คำตอบ พึงมีว่า อวิชชา ด้วย ภวตัณหา ด้วย : ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล #ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงละ ด้วยปัญญาอันยิ่ง. --ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้เจริญ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ? คำตอบ พึงมีว่า สมถะ ด้วย วิปัสสนา ด้วย : ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล #ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้เจริญ ด้วยปัญญาอันยิ่ง. --ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิ่ง ? คำตอบ พึงมีว่า วิชชา ด้วย วิมุตติ ด้วย : ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล #ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิ่ง. (ในกรณีที่เกี่ยวกับ ๒.โสต ๓.ฆาน ๔.ชิวหา ๕.กาย ๖.มโน และ สหคตธรรมแห่งอายตนะมีโสต เป็นต้น ก็มีเนื้อความเหมือนกับที่กล่าวแล้วในกรณีแห่ง ๑.จักษุและสหคตธรรมของจักษุ ดังที่กล่าวข้างต้นนี้ทุกประการ พึงขยายความเอาเองให้เต็มตามนั้น ).- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/395-398/828-831. http://etipitaka.com/read/thai/14/395/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๕๒๓-๕๒๖/๘๒๘-๘๓๑. http://etipitaka.com/read/pali/14/523/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92%E0%B9%98 ถึง http://etipitaka.com/read/pali/14/526/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%93%E0%B9%91 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=660 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=46&id=660 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=46 ลำดับสาธยายธรรม : 46 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_46.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่--ให้เกิดผลพิเศษอีกนานาประการ
    -(ในสูตรถัดไป (๑๘/๒๖๔/๓๘๕) ทรงแสดง ที่เกิดของเวทนาทั้งสาม ว่าได้แก่ “ผัสสะ” แทนที่จะทรงแสดงว่าได้แก่ “กาย” เหมือนที่ทรงแสดงไว้ในสูตรข้างบนนี้, ส่วนเนื้อความนอกนั้น ก็เหมือนกับข้อความแห่งสูตรข้างบนนี้ ทุกประการ). อาการที่ตัณหาไม่นำไปสู่ภพใหม่ ให้เกิดผลพิเศษอีกนานาประการ ภิกษุ ท. ! ....ส่วนบุคคล เมื่อรู้เมื่อเห็น ซึ่ง จักษุ ตามที่เป็นจริง. เมื่อรู้เมื่อเห็น ซึ่ง รูปทั้งหลาย ตามที่เป็นจริง, เมื่อรู้เมื่อเห็นซึ่ง จักขุวิญญาณ ตามที่เป็นจริง, เมื่อรู้เมื่อเห็น ซึ่ง จักขุสัมผัส ตามที่เป็นจริง, เมื่อรู้เมื่อเห็นซึ่งเวทนาอันเกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย อันเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม ตามที่เป็นจริงแล้ว ; เขาย่อมไม่กำหนัดในจักษุ, ไม่กำหนัดในรูปทั้งหลาย, ไม่กำหนัดในจักขุวิญญาณ, ไม่กำหนัดในจักขุสัมผัส, และไม่กำหนัดในเวทนาอันเกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย อันเป็นสุขก็ตาม เป็นทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม. เมื่อบุคคลนั้นไม่กำหนัดแล้ว ไม่ติดพันแล้ว ไม่ลุ่มหลงแล้ว ตามเห็นอาทีนวะ (โทษของสิ่งเหล่านั้น) อยู่เนือง ๆ , ปัญจุปาทานขันธ์ทั้งหลาย ย่อมถึงซึ่งความไม่ก่อเกิดต่อไป ; และตัณหา อัน เป็นเครื่องนำไปสู่ภพใหม่ อันประกอบอยู่ด้วยความกำหนัดด้วยอำนาจความเพลิน เป็นเครื่องทำให้เพลินอย่างยิ่งในอารมณ์นั้น ๆ นั้นอันเขาย่อมละเสียได้ ; ความกระวนกระวาย (ทรถ) แม้ ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้, ความกระวนกระวายแม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้ ; ความแผดเผา (สนฺตาป) แม้ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้, ความแผดเผา แม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้ ; ความเร่าร้อน (ปริฬาห) แม้ทางกาย อันเขาย่อมละเสียได้, ความเร่าร้อน แม้ทางจิต อันเขาย่อมละเสียได้. บุคคลนั้นย่อม เสวยซึ่งความสุข อันเป็นไป ทางกายด้วย. ซึ่งความสุขอันเป็นไป ทางจิต ด้วย. เมื่อบุคคลเป็นเช่นนั้นแล้ว ทิฏฐิ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาทิฏฐิ ; ความดำริของเขา ย่อมเป็นสัมมาสังกัปปะ; ความพยายาม ของเขา ย่อมเป็นสัมมาวายามะ; สติ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาสติ ; สมาธิ ของเขา ย่อมเป็นสัมมาสมาธิ ; ส่วน กายกรรม วจีกรรม และ อาชีวะ ของเขา เป็นธรรมบริสุทธิ์อยู่ก่อนแล้วนั่นเทียว. ด้วยอาการอย่างนี้ เป็นอันว่า อริยอัฏฐังคิกมรรค นี้ ของเขานั้น ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ. เมื่อเขาทำอริยอัฏฐังคิกมรรค ให้เจริญอยู่ด้วยอาการอย่างนี้, สติปัฏฐาน แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ; สัมมัปปธาน แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ; อิทธิบาท แม้ทั้ง ๔ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ; อินทรีย์ แม้ทั้ง ๕ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ; พละ แม้ทั้ง ๕ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ ; โพชฌงค์ แม้ทั้ง ๗ ย่อมถึงซึ่งความเต็มรอบแห่งความเจริญ. ธรรมทั้งสองคือ สมถะ และวิปัสสนา ของเขานั้น ย่อมเป็นธรรมเคียงคู่กันไป. บุคคลนั้น ย่อม กำหนดรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงกำหนดรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง ; ย่อม ละ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงละด้วยปัญญาอันยิ่ง ; ย่อมทำให้เจริญ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงทำให้เจริญด้วยปัญญาอันยิ่ง; ย่อม ทำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิ่ง ซึ่งธรรมทั้งหลายอันบุคคลพึงทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่ง. ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงกำหนดรู ้ด้วยปัญญาอันยิ่ง ? คำตอบ พึงมีว่า ปัญจุปาทานขันธ์ ทั้งหลาย กล่าวคืออุปาทานขันธ์คือรูป อุปาทานขันธ์คือเวทนา อุปาทานขันธ์คือสัญญา อุปาทานขันธ์คือสังขาร อุปาทานขันธ์คือวิญญาณ : ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล ชื่อว่าเป็นธรรม อันบุคคลพึงกำหนดรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง. ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงละด้วย ปัญญาอันยิ่ง ? คำตอบ พึงมีว่า อวิชชา ด้วย ภวตัณหา ด้วย : ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงละด้วยปัญญาอันยิ่ง. ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้เจริญ ด้วยปัญญาอันยิ่ง ? คำตอบ พึงมีว่า สมถะ ด้วย วิปัสสนา ด้วย : ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้เจริญด้วยปัญญาอันยิ่ง. ภิกษุ ท. ! ก็ ธรรมเหล่าไหนเล่า เป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้แจ้ง ด้วยปัญญาอันยิ่ง ? คำตอบ พึงมีว่า วิชชา ด้วย วิมุตติ ด้วย : ธรรมทั้งหลายเหล่านี้แล ชื่อว่าเป็นธรรมอันบุคคลพึงทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่ง. (ในกรณีที่เกี่ยวกับ โสต ฆาน ชิวหา กาย มโน และ สหคตธรรมแห่งอายตนะมีโสตเป็นต้น ก็มีเนื้อความเหมือนกับที่กล่าวแล้วในกรณีแห่ง จักษุและสหคตธรรมของจักษุ ดังที่กล่าวข้างบนนี้ทุกประการ พึงขยายความเอาเองให้เต็มตามนั้น).
    0 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews
  • อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ความ​ประสงค์​สูง​สุด​ มีได้เพราะการปฏิบัติ​ที่ถูกทาง
    สัทธรรมลำดับที่ : 1028
    ชื่อบทธรรม : -ความประสงค์สูงสุด มีได้เพราะสัมมัตตะ(การปฏิบัติ​ที่ถูกทาง)​
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1028
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ความประสงค์สูงสุด มีได้เพราะสัมมัตตะ
    --ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยสัมมัตตะ (การปฏิบัติ​ที่ถูกทาง)​
    http://etipitaka.com/read/pali/24/226/?keywords=สมฺมตฺตะ
    อาราธนา (ความสำเร็จสูงสุดชนิดเป็นที่พอใจของพระอริยเจ้า) ย่อมมี
    มิใช่มีวิราธนา (ความไม่ประสพความสำเร็จฯ).
    ข้อนั้น เป็นอย่าไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. !
    +--สำหรับผู้มีสัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะย่อมมีเพียงพอ ;
    +--สำหรับผู้มีสัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจาย่อมมีเพียงพอ ;
    +--สำหรับผู้มีสัมมาวาจา สัมมากัมมันตะย่อมมีเพียงพอ ;
    +--สำหรับผู้มีสัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะย่อมมีเพียงพอ ;
    +--สำหรับผู้มีสัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะย่อมมีเพียงพอ ;
    +--สำหรับผู้มีสัมมาวายามะ สัมมาสติย่อมมีเพียงพอ ;
    +--สำหรับผู้มีสัมมาสติ สัมมาสมาธิย่อมมีเพียงพอ ;
    +--สำหรับผู้มีสัมมาสมาธิ สัมมาญาณะย่อมมีเพียงพอ ;
    +--สำหรับผู้มีสัมมาญาณะ สัมมาวิมุตติย่อมมีเพียงพอ ;
    --ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล
    : เรียกว่า #เพราะอาศัยสัมมัตตะจึงมีอาราธนา(ความประสงค์)​ มิใช่ มีวิราธนา.-
    http://etipitaka.com/read/pali/24/226/?keywords=อาราธนา

    (ความไม่ประสงค์ (วิราธนา) มีได้เพราะอาศัย มิจฉัตตะ
    http://etipitaka.com/read/pali/24/226/?keywords=มิจฺฉตฺต
    ตรัสไว้โดยนัยตรงกันข้าม ผู้ศึกษาพึงเทียบเคียงได้เอง.
    คำขยายความที่กว้างขวางออกไป
    มีอยู่ในสัทธรรมสูตรลำดับมลำดับถัดไป จากสัทธรรมบทนี้
    http://etipitaka.com/read/pali/24/227/?keywords=สมฺมตฺตะ+มิจฺฉตฺต
    ).
    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. 24/226/104, 103.
    http://etipitaka.com/read/thai/24/182/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%94
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. ๒๔/182/๑๐๔, ๑๐๓.
    http://etipitaka.com/read/pali/24/226/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%94
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1028
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89&id=1028
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89
    ลำดับสาธยายธรรม : 89 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_89.mp3
    อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ความ​ประสงค์​สูง​สุด​ มีได้เพราะการปฏิบัติ​ที่ถูกทาง สัทธรรมลำดับที่ : 1028 ชื่อบทธรรม : -ความประสงค์สูงสุด มีได้เพราะสัมมัตตะ(การปฏิบัติ​ที่ถูกทาง)​ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1028 เนื้อความทั้งหมด :- --ความประสงค์สูงสุด มีได้เพราะสัมมัตตะ --ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยสัมมัตตะ (การปฏิบัติ​ที่ถูกทาง)​ http://etipitaka.com/read/pali/24/226/?keywords=สมฺมตฺตะ อาราธนา (ความสำเร็จสูงสุดชนิดเป็นที่พอใจของพระอริยเจ้า) ย่อมมี มิใช่มีวิราธนา (ความไม่ประสพความสำเร็จฯ). ข้อนั้น เป็นอย่าไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! +--สำหรับผู้มีสัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะย่อมมีเพียงพอ ; +--สำหรับผู้มีสัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจาย่อมมีเพียงพอ ; +--สำหรับผู้มีสัมมาวาจา สัมมากัมมันตะย่อมมีเพียงพอ ; +--สำหรับผู้มีสัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะย่อมมีเพียงพอ ; +--สำหรับผู้มีสัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะย่อมมีเพียงพอ ; +--สำหรับผู้มีสัมมาวายามะ สัมมาสติย่อมมีเพียงพอ ; +--สำหรับผู้มีสัมมาสติ สัมมาสมาธิย่อมมีเพียงพอ ; +--สำหรับผู้มีสัมมาสมาธิ สัมมาญาณะย่อมมีเพียงพอ ; +--สำหรับผู้มีสัมมาญาณะ สัมมาวิมุตติย่อมมีเพียงพอ ; --ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล : เรียกว่า #เพราะอาศัยสัมมัตตะจึงมีอาราธนา(ความประสงค์)​ มิใช่ มีวิราธนา.- http://etipitaka.com/read/pali/24/226/?keywords=อาราธนา (ความไม่ประสงค์ (วิราธนา) มีได้เพราะอาศัย มิจฉัตตะ http://etipitaka.com/read/pali/24/226/?keywords=มิจฺฉตฺต ตรัสไว้โดยนัยตรงกันข้าม ผู้ศึกษาพึงเทียบเคียงได้เอง. คำขยายความที่กว้างขวางออกไป มีอยู่ในสัทธรรมสูตรลำดับมลำดับถัดไป จากสัทธรรมบทนี้ http://etipitaka.com/read/pali/24/227/?keywords=สมฺมตฺตะ+มิจฺฉตฺต ). #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. 24/226/104, 103. http://etipitaka.com/read/thai/24/182/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%94 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. ๒๔/182/๑๐๔, ๑๐๓. http://etipitaka.com/read/pali/24/226/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%94 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1028 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89&id=1028 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89 ลำดับสาธยายธรรม : 89 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_89.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ความประสงค์สูงสุด มีได้เพราะสัมมัตตะ
    -ความประสงค์สูงสุด มีได้เพราะสัมมัตตะ ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยสัมมัตตะ อาราธนา (ความสำเร็จสูงสุดชนิดเป็นที่พอใจของพระอริยเจ้า) ย่อมมี มิใช่มีวิราธนา (ความไม่ประสพความสำเร็จฯ). ข้อนั้น เป็นอย่าไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! สำหรับผู้มีสัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะย่อมมีเพียงพอ ; สำหรับผู้มีสัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจาย่อมมีเพียงพอ ; สำหรับผู้มีสัมมาวาจา สัมมากัมมันตะย่อมมีเพียงพอ ; สำหรับผู้มีสัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะย่อมมีเพียงพอ ; สำหรับผู้มีสัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะย่อมมีเพียงพอ ; สำหรับผู้มีสัมมาวายามะ สัมมาสติย่อมมีเพียงพอ ; สำหรับผู้มีสัมมาสติ สัมมาสมาธิย่อมมีเพียงพอ ; สำหรับผู้มีสัมมาสมาธิ สัมมาญาณะย่อมมีเพียงพอ ; สำหรับผู้มีสัมมาญาณะ สัมมาวิมุตติย่อมมีเพียงพอ ; ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า เพราะอาศัยสัมมัตตะ จึงมีอาราธนา มิใช่มีวิราธนา.
    0 Comments 0 Shares 11 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 4 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 4 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 4 Views 0 Reviews
  • โลกไม่ได้มีเพียงดี-ชั่ว
    Cr.Wiwan Boonya
    โลกไม่ได้มีเพียงดี-ชั่ว Cr.Wiwan Boonya
    0 Comments 0 Shares 3 Views 0 Reviews
  • หนามยอกเอาหนามบ่งคือปัญญา
    เหนือฟ้ายังมีฟ้าสิ้นสงสัย
    หากทักษินกลับมาประเทศไทย
    ต้องเสริมอนุสัยให้บรรเจิดจนลืมตัว

    แสร้งป่วยไม่ติดคุกตามกับดัก
    ฝูงสุนักข์ล้อมส่งสันดาลชั่ว
    วิบากกรรมดำเนินไปไม่รู้ตัว
    สุดซอยชั่วต้องแตกดับสลายไป

    ความไม่รู้ของคนชั่วเป็นจุดตาย
    ว่ากรรมทั้งหลายสุดสิ้นที่ตรงไหน
    เมื่อมืดบอดมองไม่เห็นความเป็นไป
    ก่อนสิ้นใจคงได้คิด "ติดบ่วงกรรม"







    หนามยอกเอาหนามบ่งคือปัญญา เหนือฟ้ายังมีฟ้าสิ้นสงสัย หากทักษินกลับมาประเทศไทย ต้องเสริมอนุสัยให้บรรเจิดจนลืมตัว แสร้งป่วยไม่ติดคุกตามกับดัก ฝูงสุนักข์ล้อมส่งสันดาลชั่ว วิบากกรรมดำเนินไปไม่รู้ตัว สุดซอยชั่วต้องแตกดับสลายไป ความไม่รู้ของคนชั่วเป็นจุดตาย ว่ากรรมทั้งหลายสุดสิ้นที่ตรงไหน เมื่อมืดบอดมองไม่เห็นความเป็นไป ก่อนสิ้นใจคงได้คิด "ติดบ่วงกรรม"
    Newsstory : รู้แล้วจะอึ้ง!!! คนอยู่เบื้องหลัง "ทักษิณ" กลับมาประเทศไทย


    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล
    #รู้แล้วจะอึ้ง #เบื้องหลัง #ทักษิณ
    0 Comments 0 Shares 4 Views 5 0 Reviews
  • 🌪️ เจอคนขี้เสี้ยม…จะวางใจอย่างไรไม่ให้ถูกเผาไปด้วย?

    คำพูดที่เสี้ยมให้คนแตกแยกกัน
    ฟังดูเหมือนลม
    แต่เป็นลมที่พัดไฟในใจให้โหมแรง
    ให้เขาตีกัน
    ให้เราว้าวุ่น
    ให้ทั้งวงแตก!

    😈 คนที่ชอบยุแยง ไม่ได้มีความสุขจริงหรอก
    ต่อให้สะใจที่ทำให้คนแตกกันได้สำเร็จ
    แต่ในใจจริง จะเต็มไปด้วย

    ความร้อนรุ่ม

    ความกระวนกระวาย

    ความฟุ้งซ่าน

    ความคิดพุ่งพล่านไม่หยุด
    ไม่มีความสงบ ไม่มีความเย็นอยู่เลย

    🪶 แต่จะทำอย่างไร ถ้าเราไม่อยากถูกลากเข้าไปในไฟนั้น?

    พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดเจน
    💡 "เมื่อเขาร้ายมา เราให้ดีตอบเป็นขั้วตรงข้าม"

    เขาโกหก → เราพูดความจริง

    เขานินทา → เราสรรเสริญในสิ่งที่ควรสรรเสริญ

    เขายุแยงให้แตก → เราเป็นตัวอย่างของความสมานฉันท์

    ไม่ต้องไปต่อล้อต่อเถียง
    แต่ใช้พลังแห่ง “ของจริง”
    ให้เขาเห็นว่า
    ยังมีมนุษย์ที่คิดดี พูดดี และปรารถนาดี…โดยไม่แฝงมีดในรอยยิ้ม

    🕯️ ความมืดแพ้แสงเสมอ
    แม้ไฟฉายเล็กๆ ยังชนะห้องมืดได้
    แม้แสงดาวที่อยู่ไกลเป็นล้านปีแสง
    ยังส่องมาถึงใจเราได้…แม้ต้องใช้เวลานาน

    ดังนั้น
    แม้เราจะเปลี่ยนเขาไม่ได้ทันที
    แต่ขอเพียงเรา “เป็นของจริง”
    “ดีจริง” และ “นานพอ”
    กุศลย่อมมีกำลังมากกว่าอกุศลเสมอ

    ☀️ ที่สำคัญที่สุด…
    ผลลัพธ์ไม่ได้เกิดกับเขาคนเดียว
    แต่เกิดกับ “ใจของเรา” ทันที
    ใจเราจะไม่ร้อน
    ไม่ขุ่น
    ไม่ตกเป็นเหยื่อของคำพูดลวงโลก

    เราจะได้ "ให้อภัยเป็นทาน"
    และ “ปลดปล่อยใจ” พ้นจากพิษภัยได้ก่อนใคร

    บางครั้ง…คนที่ยุให้เราตีกัน อาจไม่ใช่ศัตรูที่แท้จริง
    แต่เป็นบททดสอบว่า ใจเราเย็นได้แค่ไหน ต่างหาก

    #ธรรมะเข้าใจง่ายแต่ลึก
    #ความดีคือของจริง
    #เจอคนเสี้ยมอย่าตอบโต้ด้วยไฟ
    #กุศลชนะอกุศล
    #จิตเย็นคือชัยชนะที่แท้จริง
    #สายกลางไม่เสแสร้ง
    🌪️ เจอคนขี้เสี้ยม…จะวางใจอย่างไรไม่ให้ถูกเผาไปด้วย? คำพูดที่เสี้ยมให้คนแตกแยกกัน ฟังดูเหมือนลม แต่เป็นลมที่พัดไฟในใจให้โหมแรง ให้เขาตีกัน ให้เราว้าวุ่น ให้ทั้งวงแตก! 😈 คนที่ชอบยุแยง ไม่ได้มีความสุขจริงหรอก ต่อให้สะใจที่ทำให้คนแตกกันได้สำเร็จ แต่ในใจจริง จะเต็มไปด้วย ความร้อนรุ่ม ความกระวนกระวาย ความฟุ้งซ่าน ความคิดพุ่งพล่านไม่หยุด ไม่มีความสงบ ไม่มีความเย็นอยู่เลย 🪶 แต่จะทำอย่างไร ถ้าเราไม่อยากถูกลากเข้าไปในไฟนั้น? พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดเจน 💡 "เมื่อเขาร้ายมา เราให้ดีตอบเป็นขั้วตรงข้าม" เขาโกหก → เราพูดความจริง เขานินทา → เราสรรเสริญในสิ่งที่ควรสรรเสริญ เขายุแยงให้แตก → เราเป็นตัวอย่างของความสมานฉันท์ ไม่ต้องไปต่อล้อต่อเถียง แต่ใช้พลังแห่ง “ของจริง” ให้เขาเห็นว่า ยังมีมนุษย์ที่คิดดี พูดดี และปรารถนาดี…โดยไม่แฝงมีดในรอยยิ้ม 🕯️ ความมืดแพ้แสงเสมอ แม้ไฟฉายเล็กๆ ยังชนะห้องมืดได้ แม้แสงดาวที่อยู่ไกลเป็นล้านปีแสง ยังส่องมาถึงใจเราได้…แม้ต้องใช้เวลานาน ดังนั้น แม้เราจะเปลี่ยนเขาไม่ได้ทันที แต่ขอเพียงเรา “เป็นของจริง” “ดีจริง” และ “นานพอ” กุศลย่อมมีกำลังมากกว่าอกุศลเสมอ ☀️ ที่สำคัญที่สุด… ผลลัพธ์ไม่ได้เกิดกับเขาคนเดียว แต่เกิดกับ “ใจของเรา” ทันที ใจเราจะไม่ร้อน ไม่ขุ่น ไม่ตกเป็นเหยื่อของคำพูดลวงโลก เราจะได้ "ให้อภัยเป็นทาน" และ “ปลดปล่อยใจ” พ้นจากพิษภัยได้ก่อนใคร บางครั้ง…คนที่ยุให้เราตีกัน อาจไม่ใช่ศัตรูที่แท้จริง แต่เป็นบททดสอบว่า ใจเราเย็นได้แค่ไหน ต่างหาก #ธรรมะเข้าใจง่ายแต่ลึก #ความดีคือของจริง #เจอคนเสี้ยมอย่าตอบโต้ด้วยไฟ #กุศลชนะอกุศล #จิตเย็นคือชัยชนะที่แท้จริง #สายกลางไม่เสแสร้ง
    0 Comments 0 Shares 1 Views 0 Reviews
  • ร่วมส่งกำลัง💝ให้เหล่าทหารกล้า🪖รั้วของชาติทุกท่าน... เราจะไม่ยอมเสียแผ่นดินไทย🇹🇭แม้แต่ตารางนิ้วเดียว
    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    #เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
    #saveแม่ทัพภาค2และทหารกล้าทุกนาย
    9:16📱wallpapers ถ้าเพื่อนๆ ชอบก็เอาไปใช้ได้เลยค่ะ
    ร่วมส่งกำลัง💝ให้เหล่าทหารกล้า🪖รั้วของชาติทุกท่าน... เราจะไม่ยอมเสียแผ่นดินไทย🇹🇭แม้แต่ตารางนิ้วเดียว #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่ #saveแม่ทัพภาค2และทหารกล้าทุกนาย 9:16📱wallpapers ถ้าเพื่อนๆ ชอบก็เอาไปใช้ได้เลยค่ะ
    0 Comments 0 Shares 2 Views 0 Reviews