• 22 เมษายน 2568-รายงานบทวิเคราะห์ของ ทนง ขันทอง “ ดอลล่าร์อ่อนค่าสุดในรอบสามปี เพราะกำแพงภาษีกับความขัดแย้งระหว่างทรัมป์กับประธานเฟดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสามปีเมื่อวันจันทร์ ท่ามกลางความวิตกของตลาดเกี่ยวกับสงครามภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงกับประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เจอโรม พาวเวลล์ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ ICE – ซึ่งติดตามค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก – ลดลงมากกว่า 1% มาอยู่ที่ 97.923 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 ดอลลาร์ยังอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำใหม่เมื่อเทียบกับยูโร ปอนด์ เยน และฟรังก์สวิส รวมถึงอ่อนค่าต่อเงินรูเบิล ร่วงต่ำกว่า 80 เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2024ค่าเงินดอลลาร์เผชิญแรงกดดันต่อเนื่องนับตั้งแต่ทรัมป์เปิดตัวภาษีที่เขาเรียกว่า “วันปลดแอก” เมื่อวันที่ 2 เมษายน ซึ่งมุ่งเป้าไปยังพันธมิตรการค้าทั่วโลก ความเชื่อมั่นของตลาดยิ่งสั่นคลอนเมื่อทรัมป์ออกมาโจมตีพาวเวลล์อย่างเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี เรื่องการปรับลดดอกเบี้ยประธานาธิบดีวิจารณ์ประธานเฟดอย่างรุนแรง เรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ย และเตือนว่าอาจปลดพาวเวลล์ได้ “ถ้าผมอยากให้เขาออก เขาก็จะออกไปอย่างรวดเร็ว” ทรัมป์กล่าว โดยแถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากพาวเวลล์เตือนว่าภาษีนั้น “มีแนวโน้มสูงที่จะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างน้อยในระยะสั้น” และส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ลดดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ต่อมา เควิน แฮสเซตต์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ระบุว่ารัฐบาลกำลังศึกษาว่ามีช่องทางทางกฎหมายในการปลดพาวเวลล์ก่อนครบวาระหรือไม่โดนัลด์ เจ. ทรัมป์@realDonaldTrumpเขียนในTruth Socialเมื่อวานนี้ว่า“การเรียกร้องให้มี “การลดดอกเบี้ยล่วงหน้า” กำลังเพิ่มมากขึ้นจากหลายฝ่าย ด้วยต้นทุนพลังงานที่ลดลงอย่างมาก ราคาสินค้าอาหาร (รวมถึงหายนะไข่ของไบเดน!) ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และสิ่งของอื่น ๆ ส่วนใหญ่ที่มีแนวโน้มลดลง จึงแทบไม่มีเงินเฟ้อเลย ด้วยต้นทุนที่ลดลงอย่างราบรื่นเช่นนี้ ซึ่งผมก็ได้ทำนายไว้ล่วงหน้าแล้วว่าเป็นแบบนี้ จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีเงินเฟ้อ แต่เศรษฐกิจอาจจะชะลอตัวลง หากคุณนาย “มาสายตลอด” ซึ่งเป็นผู้แพ้รายใหญ่ ไม่รีบลดอัตราดอกเบี้ยตอนนี้ ยุโรปลดไปแล้วถึงเจ็ดครั้ง พาวเวลล์มักจะ “มาช้าเสมอ” ยกเว้นช่วงเลือกตั้งที่เขาลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยโจ ไบเดนจอมง่วง (และต่อมาคามาลา) ให้ชนะการเลือกตั้ง แล้วมันได้ผลไหมล่ะ?ความขัดแย้งดังกล่าวสร้างความวิตกให้กับนักลงทุน แม้ว่าพาวเวลล์จะยืนยันว่าเขาไม่มีแผนจะลาออกก่อนกำหนด และเน้นย้ำว่าความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เป็น “เรื่องของกฎหมาย”ทรัมป์กลับมาโจมตีพาวเวลล์อีกครั้งในวันจันทร์ โดยโพสต์บน Truth Social เรียกเขาว่า “คุณมาสาย ผู้แพ้รายใหญ่” พร้อมเตือนว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวหากไม่ลดดอกเบี้ยลงอย่างรวดเร็วตลาดหุ้นสหรัฐได้รับผลกระทบอีกระลอก โดยดัชนีดาวโจนส์ แนสแด็ก และ S&P 500 ต่างร่วงลงมากกว่า 3%“นักลงทุนกำลังเผชิญกับแหล่งความกังวลทางมหภาคครั้งใหม่: การคุกคามของทรัมป์ต่อความเป็นอิสระของ Fed” อดัม คริซาฟุลลี ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมจาก Vital Knowledge กล่าวกับ CNBC เมื่อวันจันทร์ความพยายามปลดพาวเวลล์อาจทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างรุนแรง คริชนา กูฮา รองประธาน Evercore ISI กล่าวกับสื่อทรัมป์แต่งตั้งพาวเวลล์เป็นประธาน Fed ในปี 2018 และเขาได้รับการแต่งตั้งอีกครั้งโดยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในปี 2022 โดยวาระของเขาจะดำรงตำแหน่งจนถึงเดือนพฤษภาคม 2026ที่มา RT22/4/2025
    22 เมษายน 2568-รายงานบทวิเคราะห์ของ ทนง ขันทอง “ ดอลล่าร์อ่อนค่าสุดในรอบสามปี เพราะกำแพงภาษีกับความขัดแย้งระหว่างทรัมป์กับประธานเฟดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสามปีเมื่อวันจันทร์ ท่ามกลางความวิตกของตลาดเกี่ยวกับสงครามภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงกับประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เจอโรม พาวเวลล์ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ ICE – ซึ่งติดตามค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก – ลดลงมากกว่า 1% มาอยู่ที่ 97.923 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 ดอลลาร์ยังอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำใหม่เมื่อเทียบกับยูโร ปอนด์ เยน และฟรังก์สวิส รวมถึงอ่อนค่าต่อเงินรูเบิล ร่วงต่ำกว่า 80 เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2024ค่าเงินดอลลาร์เผชิญแรงกดดันต่อเนื่องนับตั้งแต่ทรัมป์เปิดตัวภาษีที่เขาเรียกว่า “วันปลดแอก” เมื่อวันที่ 2 เมษายน ซึ่งมุ่งเป้าไปยังพันธมิตรการค้าทั่วโลก ความเชื่อมั่นของตลาดยิ่งสั่นคลอนเมื่อทรัมป์ออกมาโจมตีพาวเวลล์อย่างเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี เรื่องการปรับลดดอกเบี้ยประธานาธิบดีวิจารณ์ประธานเฟดอย่างรุนแรง เรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ย และเตือนว่าอาจปลดพาวเวลล์ได้ “ถ้าผมอยากให้เขาออก เขาก็จะออกไปอย่างรวดเร็ว” ทรัมป์กล่าว โดยแถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากพาวเวลล์เตือนว่าภาษีนั้น “มีแนวโน้มสูงที่จะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างน้อยในระยะสั้น” และส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ลดดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ต่อมา เควิน แฮสเซตต์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ระบุว่ารัฐบาลกำลังศึกษาว่ามีช่องทางทางกฎหมายในการปลดพาวเวลล์ก่อนครบวาระหรือไม่โดนัลด์ เจ. ทรัมป์@realDonaldTrumpเขียนในTruth Socialเมื่อวานนี้ว่า“การเรียกร้องให้มี “การลดดอกเบี้ยล่วงหน้า” กำลังเพิ่มมากขึ้นจากหลายฝ่าย ด้วยต้นทุนพลังงานที่ลดลงอย่างมาก ราคาสินค้าอาหาร (รวมถึงหายนะไข่ของไบเดน!) ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และสิ่งของอื่น ๆ ส่วนใหญ่ที่มีแนวโน้มลดลง จึงแทบไม่มีเงินเฟ้อเลย ด้วยต้นทุนที่ลดลงอย่างราบรื่นเช่นนี้ ซึ่งผมก็ได้ทำนายไว้ล่วงหน้าแล้วว่าเป็นแบบนี้ จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีเงินเฟ้อ แต่เศรษฐกิจอาจจะชะลอตัวลง หากคุณนาย “มาสายตลอด” ซึ่งเป็นผู้แพ้รายใหญ่ ไม่รีบลดอัตราดอกเบี้ยตอนนี้ ยุโรปลดไปแล้วถึงเจ็ดครั้ง พาวเวลล์มักจะ “มาช้าเสมอ” ยกเว้นช่วงเลือกตั้งที่เขาลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยโจ ไบเดนจอมง่วง (และต่อมาคามาลา) ให้ชนะการเลือกตั้ง แล้วมันได้ผลไหมล่ะ?ความขัดแย้งดังกล่าวสร้างความวิตกให้กับนักลงทุน แม้ว่าพาวเวลล์จะยืนยันว่าเขาไม่มีแผนจะลาออกก่อนกำหนด และเน้นย้ำว่าความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เป็น “เรื่องของกฎหมาย”ทรัมป์กลับมาโจมตีพาวเวลล์อีกครั้งในวันจันทร์ โดยโพสต์บน Truth Social เรียกเขาว่า “คุณมาสาย ผู้แพ้รายใหญ่” พร้อมเตือนว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวหากไม่ลดดอกเบี้ยลงอย่างรวดเร็วตลาดหุ้นสหรัฐได้รับผลกระทบอีกระลอก โดยดัชนีดาวโจนส์ แนสแด็ก และ S&P 500 ต่างร่วงลงมากกว่า 3%“นักลงทุนกำลังเผชิญกับแหล่งความกังวลทางมหภาคครั้งใหม่: การคุกคามของทรัมป์ต่อความเป็นอิสระของ Fed” อดัม คริซาฟุลลี ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมจาก Vital Knowledge กล่าวกับ CNBC เมื่อวันจันทร์ความพยายามปลดพาวเวลล์อาจทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างรุนแรง คริชนา กูฮา รองประธาน Evercore ISI กล่าวกับสื่อทรัมป์แต่งตั้งพาวเวลล์เป็นประธาน Fed ในปี 2018 และเขาได้รับการแต่งตั้งอีกครั้งโดยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในปี 2022 โดยวาระของเขาจะดำรงตำแหน่งจนถึงเดือนพฤษภาคม 2026ที่มา RT22/4/2025
    0 Comments 0 Shares 49 Views 0 Reviews
  • สหรัฐฯมีความตั้งใจได้สิทธิ์การควบคุมเหนือดินแดนที่อยู่ล้อมรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดของยุโรป ส่วนหนึ่งในข้อตกลงสันติภาพที่พวกเขาเป็นคนกลางระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ตามรายงานของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล พร้อมระบุว่าข้อเสนอนี้เป็นส่วนหนึ่งในทางเลือกต่างๆนานาที่ทางวอชิงตันคาดหมายว่าเคียฟจะให้คำตอบกลับมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000037477

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สหรัฐฯมีความตั้งใจได้สิทธิ์การควบคุมเหนือดินแดนที่อยู่ล้อมรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดของยุโรป ส่วนหนึ่งในข้อตกลงสันติภาพที่พวกเขาเป็นคนกลางระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ตามรายงานของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล พร้อมระบุว่าข้อเสนอนี้เป็นส่วนหนึ่งในทางเลือกต่างๆนานาที่ทางวอชิงตันคาดหมายว่าเคียฟจะให้คำตอบกลับมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000037477 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    3
    0 Comments 0 Shares 153 Views 0 Reviews
  • Intel กำลังพัฒนา Nova Lake ซึ่งเป็นซีพียูรุ่นใหม่ที่ถูกขนานนามว่า "Zen 5 killer" โดยมีเป้าหมายเพื่อแข่งขันกับ AMD Ryzen 9000 series อย่างเต็มรูปแบบ Nova Lake-S ซึ่งเป็นรุ่นสำหรับเดสก์ท็อป จะใช้ ซ็อกเก็ต LGA1954 แทนที่ LGA1851 และคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026

    ✅ Nova Lake-S จะใช้ซ็อกเก็ต LGA1954 แทน LGA1851
    - ซ็อกเก็ต LGA1954 มีจำนวนขาเชื่อมต่อ 1,954 ขา ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนหน้า
    - รองรับการออกแบบใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความเสถียรของแรงดันไฟฟ้า

    ✅ Nova Lake-S อาจมีสูงสุดถึง 52 คอร์
    - ประกอบด้วย 16 P-cores, 32 E-cores และ 4 LP E-cores
    - Intel เลิกใช้เทคโนโลยี Hyper-Threading ทำให้มี 52 คอร์ 52 เธรด

    ✅ Intel ยืนยันว่า Nova Lake จะเปิดตัวในปี 2026
    - เดิมทีมีแผนเปิดตัวในปี 2025 แต่ถูกเลื่อนออกไป
    - Panther Lake ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์นำร่องของ Intel 18A จะเปิดตัวก่อนในปี 2025

    ✅ มีการใช้ Interposer สำหรับทดสอบแรงดันไฟฟ้า
    - ช่วยให้สามารถตรวจสอบการส่งพลังงานไปยังซีพียูก่อนการผลิตจริง

    https://www.neowin.net/news/intels-rumored-zen-5-killer-nova-lake-cpus-to-apparently-need-new-lga1954-socket-boards/
    Intel กำลังพัฒนา Nova Lake ซึ่งเป็นซีพียูรุ่นใหม่ที่ถูกขนานนามว่า "Zen 5 killer" โดยมีเป้าหมายเพื่อแข่งขันกับ AMD Ryzen 9000 series อย่างเต็มรูปแบบ Nova Lake-S ซึ่งเป็นรุ่นสำหรับเดสก์ท็อป จะใช้ ซ็อกเก็ต LGA1954 แทนที่ LGA1851 และคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 ✅ Nova Lake-S จะใช้ซ็อกเก็ต LGA1954 แทน LGA1851 - ซ็อกเก็ต LGA1954 มีจำนวนขาเชื่อมต่อ 1,954 ขา ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนหน้า - รองรับการออกแบบใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความเสถียรของแรงดันไฟฟ้า ✅ Nova Lake-S อาจมีสูงสุดถึง 52 คอร์ - ประกอบด้วย 16 P-cores, 32 E-cores และ 4 LP E-cores - Intel เลิกใช้เทคโนโลยี Hyper-Threading ทำให้มี 52 คอร์ 52 เธรด ✅ Intel ยืนยันว่า Nova Lake จะเปิดตัวในปี 2026 - เดิมทีมีแผนเปิดตัวในปี 2025 แต่ถูกเลื่อนออกไป - Panther Lake ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์นำร่องของ Intel 18A จะเปิดตัวก่อนในปี 2025 ✅ มีการใช้ Interposer สำหรับทดสอบแรงดันไฟฟ้า - ช่วยให้สามารถตรวจสอบการส่งพลังงานไปยังซีพียูก่อนการผลิตจริง https://www.neowin.net/news/intels-rumored-zen-5-killer-nova-lake-cpus-to-apparently-need-new-lga1954-socket-boards/
    WWW.NEOWIN.NET
    Intel's rumored "Zen 5 killer" Nova Lake CPUs to apparently need new LGA1954 socket boards
    Intel is apparently working on a new "LGA1954" socket that will be compatible with the company's next gen Nova Lake-S "Ryzen 5 killer" desktop CPUs.
    0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • บทความนี้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธี เปลี่ยนโฟลเดอร์เริ่มต้นสำหรับการบันทึกภาพหน้าจอ บน Windows 10 และ Windows 11 โดยค่าเริ่มต้น Windows จะบันทึกภาพหน้าจอที่ถ่ายด้วย Snipping Tool และ Win + PrintScreen ไว้ในโฟลเดอร์ Pictures > Screenshots แต่หากต้องการเปลี่ยนตำแหน่งบันทึก สามารถทำได้ผ่าน Snipping Tool, File Explorer หรือ Registry Editor

    ✅ เปลี่ยนตำแหน่งบันทึกผ่าน Snipping Tool
    - เปิด Snipping Tool และคลิกปุ่ม สามจุด ที่มุมขวาบน
    - ไปที่ Automatically save original screenshots และเลือก Change เพื่อกำหนดโฟลเดอร์ใหม่
    - สามารถเปลี่ยนตำแหน่งบันทึกของ Screen Recordings ได้ด้วยวิธีเดียวกัน

    ✅ เปลี่ยนตำแหน่งบันทึกผ่าน File Explorer
    - ไปที่ Pictures > Screenshots แล้วคลิกขวาที่โฟลเดอร์ Screenshots
    - เลือก Properties > Location > Move และกำหนดโฟลเดอร์ใหม่
    - Windows จะถามว่าต้องการย้ายไฟล์เก่าหรือไม่

    ✅ เปลี่ยนตำแหน่งบันทึกผ่าน Registry Editor
    - กด Win + R แล้วพิมพ์ regedit เพื่อเปิด Registry Editor
    - ไปที่ Computer\HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Explorer\User Shell Folders
    - ค้นหา {B7BEDE81-DF94-4682-A7D8-57A52620B86F} และเปลี่ยนค่าเป็นตำแหน่งโฟลเดอร์ใหม่

    https://www.neowin.net/guides/how-to-change-the-default-screenshot-folder-in-windows-10-and-11/
    บทความนี้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธี เปลี่ยนโฟลเดอร์เริ่มต้นสำหรับการบันทึกภาพหน้าจอ บน Windows 10 และ Windows 11 โดยค่าเริ่มต้น Windows จะบันทึกภาพหน้าจอที่ถ่ายด้วย Snipping Tool และ Win + PrintScreen ไว้ในโฟลเดอร์ Pictures > Screenshots แต่หากต้องการเปลี่ยนตำแหน่งบันทึก สามารถทำได้ผ่าน Snipping Tool, File Explorer หรือ Registry Editor ✅ เปลี่ยนตำแหน่งบันทึกผ่าน Snipping Tool - เปิด Snipping Tool และคลิกปุ่ม สามจุด ที่มุมขวาบน - ไปที่ Automatically save original screenshots และเลือก Change เพื่อกำหนดโฟลเดอร์ใหม่ - สามารถเปลี่ยนตำแหน่งบันทึกของ Screen Recordings ได้ด้วยวิธีเดียวกัน ✅ เปลี่ยนตำแหน่งบันทึกผ่าน File Explorer - ไปที่ Pictures > Screenshots แล้วคลิกขวาที่โฟลเดอร์ Screenshots - เลือก Properties > Location > Move และกำหนดโฟลเดอร์ใหม่ - Windows จะถามว่าต้องการย้ายไฟล์เก่าหรือไม่ ✅ เปลี่ยนตำแหน่งบันทึกผ่าน Registry Editor - กด Win + R แล้วพิมพ์ regedit เพื่อเปิด Registry Editor - ไปที่ Computer\HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Explorer\User Shell Folders - ค้นหา {B7BEDE81-DF94-4682-A7D8-57A52620B86F} และเปลี่ยนค่าเป็นตำแหน่งโฟลเดอร์ใหม่ https://www.neowin.net/guides/how-to-change-the-default-screenshot-folder-in-windows-10-and-11/
    WWW.NEOWIN.NET
    How to change the default screenshot folder in Windows 10 and 11
    Windows 10 and 11 store screenshots on drive C by default. If that does not sit well with you, here is how to change the default screenshot folder in Windows 10 and 11.
    0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • Nvidia ได้ออก GeForce Hotfix Display Driver เวอร์ชัน 576.15 เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับไดรเวอร์ก่อนหน้า (576.02) ซึ่งมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการรายงานอุณหภูมิ GPU หลังจากที่คอมพิวเตอร์ตื่นจากโหมด Sleep นอกจากนี้ยังแก้ไขปัญหา Modern Standby black screen และข้อผิดพลาดอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ GeForce RTX 50 series

    ✅ แก้ไขปัญหาการรายงานอุณหภูมิ GPU หลังจากตื่นจากโหมด Sleep
    - ผู้ใช้พบว่าอุณหภูมิ GPU ค้างและไม่เปลี่ยนแปลงหลังจากเปิดเครื่องจากโหมด Sleep
    - Nvidia ได้แก้ไขปัญหานี้ในเวอร์ชัน 576.15

    ✅ แก้ไขปัญหา Modern Standby ที่ทำให้เกิดหน้าจอดำ
    - ผู้ใช้โน้ตบุ๊ก RTX 50 series พบว่าหลังจาก Resume จาก Modern Standby อาจเกิดหน้าจอดำ

    ✅ แก้ไขปัญหา Shadow Flickering และ Shader Compilation Crash
    - เกมบางเกมอาจมีปัญหาเงากระพริบหรือเสียหายหลังจากอัปเดตเป็นไดรเวอร์ 576.02
    - Nvidia ได้แก้ไขปัญหานี้ในเวอร์ชัน 576.15

    ✅ ลดความเร็วสัญญาณนาฬิกา GPU ขณะ Idle
    - หลังจากอัปเดตเป็นไดรเวอร์ 576.02 ผู้ใช้พบว่า GPU มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาต่ำลงขณะ Idle

    https://www.neowin.net/news/nvidia-shares-hotfix-driver-for-windows-sleep-temperature-bug-modern-standby-black-screen/
    Nvidia ได้ออก GeForce Hotfix Display Driver เวอร์ชัน 576.15 เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับไดรเวอร์ก่อนหน้า (576.02) ซึ่งมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการรายงานอุณหภูมิ GPU หลังจากที่คอมพิวเตอร์ตื่นจากโหมด Sleep นอกจากนี้ยังแก้ไขปัญหา Modern Standby black screen และข้อผิดพลาดอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ GeForce RTX 50 series ✅ แก้ไขปัญหาการรายงานอุณหภูมิ GPU หลังจากตื่นจากโหมด Sleep - ผู้ใช้พบว่าอุณหภูมิ GPU ค้างและไม่เปลี่ยนแปลงหลังจากเปิดเครื่องจากโหมด Sleep - Nvidia ได้แก้ไขปัญหานี้ในเวอร์ชัน 576.15 ✅ แก้ไขปัญหา Modern Standby ที่ทำให้เกิดหน้าจอดำ - ผู้ใช้โน้ตบุ๊ก RTX 50 series พบว่าหลังจาก Resume จาก Modern Standby อาจเกิดหน้าจอดำ ✅ แก้ไขปัญหา Shadow Flickering และ Shader Compilation Crash - เกมบางเกมอาจมีปัญหาเงากระพริบหรือเสียหายหลังจากอัปเดตเป็นไดรเวอร์ 576.02 - Nvidia ได้แก้ไขปัญหานี้ในเวอร์ชัน 576.15 ✅ ลดความเร็วสัญญาณนาฬิกา GPU ขณะ Idle - หลังจากอัปเดตเป็นไดรเวอร์ 576.02 ผู้ใช้พบว่า GPU มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาต่ำลงขณะ Idle https://www.neowin.net/news/nvidia-shares-hotfix-driver-for-windows-sleep-temperature-bug-modern-standby-black-screen/
    WWW.NEOWIN.NET
    Nvidia shares hotfix driver for Windows Sleep temperature bug, Modern Standby black screen
    Nvidia has released a major hotfix drvier to fix Windows temperature issues related to Sleep, as well as a Modern Standby black screen issue, and more.
    0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • Bluesky ได้เปิดตัวระบบ Blue Check Mark Verification ซึ่งเป็นระบบตรวจสอบบัญชีที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงความน่าเชื่อถือของตนเองได้ โดยระบบนี้มีการเปลี่ยนแปลงจากวิธีเดิมที่ใช้การเชื่อมโยงบัญชีกับโดเมน ซึ่งแม้ว่าจะเป็นแนวทางแบบกระจายศูนย์ แต่ก็มีข้อจำกัดสำหรับผู้ใช้ที่ไม่มีโดเมนเป็นของตนเอง

    ✅ Bluesky เปิดตัวระบบ Blue Check Mark Verification
    - ระบบใหม่นี้ช่วยให้บัญชีที่ได้รับการตรวจสอบสามารถแสดงความน่าเชื่อถือได้ง่ายขึ้น
    - เปลี่ยนจากการใช้โดเมนเป็นหลักไปสู่การตรวจสอบโดยแพลตฟอร์ม

    ✅ ระบบ Trusted Verifiers ช่วยให้บุคคลที่น่าเชื่อถือสามารถออกเครื่องหมายตรวจสอบได้
    - องค์กรที่ได้รับการรับรอง เช่น New York Times สามารถออกเครื่องหมายตรวจสอบให้กับนักข่าวของตนเองได้
    - เครื่องหมายตรวจสอบจาก Trusted Verifiers จะมีลักษณะเป็น scalloped blue checks

    ✅ Bluesky ยังคงสนับสนุนการตรวจสอบบัญชีผ่านโดเมน
    - แม้ว่าจะมีระบบใหม่ แต่ Bluesky ยังคงให้ความสำคัญกับการตรวจสอบบัญชีผ่านโดเมน
    - ปัจจุบันมีบัญชีมากกว่า 270,000 บัญชี ที่ใช้การตรวจสอบผ่านโดเมน

    ✅ ผู้ใช้สามารถเลือกปิดการแสดงผลของเครื่องหมายตรวจสอบได้
    - สามารถปิดการแสดงผลของเครื่องหมายตรวจสอบผ่าน Settings > Moderation > Verification Settings

    https://www.neowin.net/news/bluesky-puts-user-concerns-aside-as-it-launches-blue-check-mark-verification-system/
    Bluesky ได้เปิดตัวระบบ Blue Check Mark Verification ซึ่งเป็นระบบตรวจสอบบัญชีที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงความน่าเชื่อถือของตนเองได้ โดยระบบนี้มีการเปลี่ยนแปลงจากวิธีเดิมที่ใช้การเชื่อมโยงบัญชีกับโดเมน ซึ่งแม้ว่าจะเป็นแนวทางแบบกระจายศูนย์ แต่ก็มีข้อจำกัดสำหรับผู้ใช้ที่ไม่มีโดเมนเป็นของตนเอง ✅ Bluesky เปิดตัวระบบ Blue Check Mark Verification - ระบบใหม่นี้ช่วยให้บัญชีที่ได้รับการตรวจสอบสามารถแสดงความน่าเชื่อถือได้ง่ายขึ้น - เปลี่ยนจากการใช้โดเมนเป็นหลักไปสู่การตรวจสอบโดยแพลตฟอร์ม ✅ ระบบ Trusted Verifiers ช่วยให้บุคคลที่น่าเชื่อถือสามารถออกเครื่องหมายตรวจสอบได้ - องค์กรที่ได้รับการรับรอง เช่น New York Times สามารถออกเครื่องหมายตรวจสอบให้กับนักข่าวของตนเองได้ - เครื่องหมายตรวจสอบจาก Trusted Verifiers จะมีลักษณะเป็น scalloped blue checks ✅ Bluesky ยังคงสนับสนุนการตรวจสอบบัญชีผ่านโดเมน - แม้ว่าจะมีระบบใหม่ แต่ Bluesky ยังคงให้ความสำคัญกับการตรวจสอบบัญชีผ่านโดเมน - ปัจจุบันมีบัญชีมากกว่า 270,000 บัญชี ที่ใช้การตรวจสอบผ่านโดเมน ✅ ผู้ใช้สามารถเลือกปิดการแสดงผลของเครื่องหมายตรวจสอบได้ - สามารถปิดการแสดงผลของเครื่องหมายตรวจสอบผ่าน Settings > Moderation > Verification Settings https://www.neowin.net/news/bluesky-puts-user-concerns-aside-as-it-launches-blue-check-mark-verification-system/
    WWW.NEOWIN.NET
    Bluesky puts user concerns aside as it launches blue check mark verification system
    Bluesky has officially launched the blue check mark system, a relic from platforms like Twitter (now X).
    0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • ASUS ได้ออก แพตช์แก้ไขช่องโหว่ร้ายแรง ในเราเตอร์ที่เปิดใช้งาน AiCloud ซึ่งเป็นบริการคลาวด์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงไฟล์จากระยะไกล ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น CVE-2025-2492 และได้รับคะแนนความรุนแรง 9.2 จาก 10 ตามมาตรฐาน CVSS โดยช่องโหว่เกิดจาก การควบคุมการตรวจสอบสิทธิ์ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงและควบคุมเราเตอร์จากระยะไกลได้

    ✅ ช่องโหว่ CVE-2025-2492 เป็นปัญหาการตรวจสอบสิทธิ์ที่ไม่เหมาะสม
    - ช่องโหว่นี้สามารถถูกใช้โดยผู้โจมตีผ่านคำขอที่ถูกสร้างขึ้นโดยเฉพาะ
    - อาจนำไปสู่การเข้าถึงและควบคุมฟังก์ชันของเราเตอร์โดยไม่ได้รับอนุญาต

    ✅ ASUS ได้ออกแพตช์สำหรับเฟิร์มแวร์หลายรุ่น
    - รุ่นที่ได้รับการแก้ไข ได้แก่ 3.0.0.4_382, 3.0.0.4_386, 3.0.0.4_388 และ 3.0.0.6_102
    - ผู้ใช้ควรอัปเดตเฟิร์มแวร์ทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี

    ✅ แนะนำให้ปิด AiCloud และบริการที่สามารถเข้าถึงจากอินเทอร์เน็ต
    - ASUS แนะนำให้ปิด Remote Access from WAN, Port Forwarding, DDNS, VPN Server, DMZ Port Triggering และ FTP
    - การตั้งค่ารหัสผ่านที่แข็งแกร่งช่วยลดความเสี่ยงในการถูกโจมตี

    ✅ ช่องโหว่นี้อาจนำไปสู่การโจมตีเครือข่ายและการขโมยข้อมูล
    - แม้ ASUS จะไม่เปิดเผยว่าช่องโหว่นี้ถูกใช้ในการโจมตีจริงหรือไม่ แต่มีความเป็นไปได้ที่ผู้โจมตีสามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อเข้าถึงเครือข่าย

    https://www.csoonline.com/article/3966073/asus-patches-critical-router-flaw-that-allows-remote-attacks.html
    ASUS ได้ออก แพตช์แก้ไขช่องโหว่ร้ายแรง ในเราเตอร์ที่เปิดใช้งาน AiCloud ซึ่งเป็นบริการคลาวด์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงไฟล์จากระยะไกล ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น CVE-2025-2492 และได้รับคะแนนความรุนแรง 9.2 จาก 10 ตามมาตรฐาน CVSS โดยช่องโหว่เกิดจาก การควบคุมการตรวจสอบสิทธิ์ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงและควบคุมเราเตอร์จากระยะไกลได้ ✅ ช่องโหว่ CVE-2025-2492 เป็นปัญหาการตรวจสอบสิทธิ์ที่ไม่เหมาะสม - ช่องโหว่นี้สามารถถูกใช้โดยผู้โจมตีผ่านคำขอที่ถูกสร้างขึ้นโดยเฉพาะ - อาจนำไปสู่การเข้าถึงและควบคุมฟังก์ชันของเราเตอร์โดยไม่ได้รับอนุญาต ✅ ASUS ได้ออกแพตช์สำหรับเฟิร์มแวร์หลายรุ่น - รุ่นที่ได้รับการแก้ไข ได้แก่ 3.0.0.4_382, 3.0.0.4_386, 3.0.0.4_388 และ 3.0.0.6_102 - ผู้ใช้ควรอัปเดตเฟิร์มแวร์ทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี ✅ แนะนำให้ปิด AiCloud และบริการที่สามารถเข้าถึงจากอินเทอร์เน็ต - ASUS แนะนำให้ปิด Remote Access from WAN, Port Forwarding, DDNS, VPN Server, DMZ Port Triggering และ FTP - การตั้งค่ารหัสผ่านที่แข็งแกร่งช่วยลดความเสี่ยงในการถูกโจมตี ✅ ช่องโหว่นี้อาจนำไปสู่การโจมตีเครือข่ายและการขโมยข้อมูล - แม้ ASUS จะไม่เปิดเผยว่าช่องโหว่นี้ถูกใช้ในการโจมตีจริงหรือไม่ แต่มีความเป็นไปได้ที่ผู้โจมตีสามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อเข้าถึงเครือข่าย https://www.csoonline.com/article/3966073/asus-patches-critical-router-flaw-that-allows-remote-attacks.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    ASUS patches critical router flaw that allows remote attacks
    Users who cannot apply patches immediately must strengthen router and WiFi authentication to protect against attackers hijacking router functions.
    0 Comments 0 Shares 24 Views 0 Reviews
  • คะแนนนิยมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลับสู่ทำเนียบขาว โดยที่อเมริกันชนจำนวนมากแสดงให้เห็นถึงสัญญาณแห่งความวิตกกังวลเกี่ยวกับความพยายามของผู้นำรายนี้ในการขยายขอบเขตอำนาจประธานาธิบดี จากผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยรอยเตอร์/อิปซอส ที่เผยแพร่ในวันจันทร์(21เม.ย.)
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000037478

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    คะแนนนิยมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลับสู่ทำเนียบขาว โดยที่อเมริกันชนจำนวนมากแสดงให้เห็นถึงสัญญาณแห่งความวิตกกังวลเกี่ยวกับความพยายามของผู้นำรายนี้ในการขยายขอบเขตอำนาจประธานาธิบดี จากผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยรอยเตอร์/อิปซอส ที่เผยแพร่ในวันจันทร์(21เม.ย.) . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000037478 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    4
    0 Comments 0 Shares 150 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงบทบาทของ AI ในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถเปลี่ยนจากการตอบสนองแบบ เชิงรับ ไปสู่การป้องกันแบบ เชิงรุก AI ไม่เพียงแต่ตรวจจับภัยคุกคาม แต่ยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและดำเนินการตอบโต้ได้อย่างรวดเร็ว

    ✅ AI ช่วยให้การตอบสนองต่อภัยคุกคามเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ
    - ใช้ Machine Learning เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมเครือข่ายและตรวจจับความผิดปกติ
    - ลดระยะเวลาการตอบสนองต่อเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย

    ✅ AI ช่วยปรับปรุงการวิเคราะห์เหตุการณ์ด้วย Natural Language Processing (NLP)
    - NLP สามารถช่วยให้ระบบรักษาความปลอดภัยเข้าใจข้อมูลจากบันทึกและรายงาน
    - ระบบ AI ที่ใช้ NLP สามารถลดเวลาการวิเคราะห์เหตุการณ์ลงได้ถึง 60%

    ✅ AI สามารถดำเนินการตอบโต้ภัยคุกคามโดยอัตโนมัติ
    - ระบบสามารถ บล็อก IP ที่น่าสงสัย และ แยกอุปกรณ์ที่ถูกโจมตี โดยไม่ต้องรอการตัดสินใจจากมนุษย์
    - อย่างไรก็ตาม องค์กรส่วนใหญ่ยังต้องการให้มนุษย์มีบทบาทในการตัดสินใจขั้นสุดท้าย

    ✅ AI ถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยชั้นนำ
    - เช่น CrowdStrike Falcon, Microsoft Defender และ Palo Alto Cortex XDR

    https://www.csoonline.com/article/3966034/ai-in-incident-response-from-smoke-alarms-to-predictive-intelligence.html
    บทความนี้กล่าวถึงบทบาทของ AI ในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถเปลี่ยนจากการตอบสนองแบบ เชิงรับ ไปสู่การป้องกันแบบ เชิงรุก AI ไม่เพียงแต่ตรวจจับภัยคุกคาม แต่ยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและดำเนินการตอบโต้ได้อย่างรวดเร็ว ✅ AI ช่วยให้การตอบสนองต่อภัยคุกคามเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ - ใช้ Machine Learning เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมเครือข่ายและตรวจจับความผิดปกติ - ลดระยะเวลาการตอบสนองต่อเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย ✅ AI ช่วยปรับปรุงการวิเคราะห์เหตุการณ์ด้วย Natural Language Processing (NLP) - NLP สามารถช่วยให้ระบบรักษาความปลอดภัยเข้าใจข้อมูลจากบันทึกและรายงาน - ระบบ AI ที่ใช้ NLP สามารถลดเวลาการวิเคราะห์เหตุการณ์ลงได้ถึง 60% ✅ AI สามารถดำเนินการตอบโต้ภัยคุกคามโดยอัตโนมัติ - ระบบสามารถ บล็อก IP ที่น่าสงสัย และ แยกอุปกรณ์ที่ถูกโจมตี โดยไม่ต้องรอการตัดสินใจจากมนุษย์ - อย่างไรก็ตาม องค์กรส่วนใหญ่ยังต้องการให้มนุษย์มีบทบาทในการตัดสินใจขั้นสุดท้าย ✅ AI ถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยชั้นนำ - เช่น CrowdStrike Falcon, Microsoft Defender และ Palo Alto Cortex XDR https://www.csoonline.com/article/3966034/ai-in-incident-response-from-smoke-alarms-to-predictive-intelligence.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    AI in incident response: from smoke alarms to predictive intelligence
    AI is transforming incident response from a reactive scramble to a proactive force, sniffing out threats, decoding chaos, and stepping in just in time to save the day.
    0 Comments 0 Shares 28 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้เปิดเผยความคืบหน้าของ Secure Future Initiative (SFI) ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการปรับปรุงความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และบริการ โดยขณะนี้ 5 จาก 28 เป้าหมาย กำลังจะเสร็จสมบูรณ์ และมี

    ✅ Microsoft กำลังดำเนินการปรับปรุงความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และบริการ
    - SFI เป็นโครงการที่เริ่มต้นในปี 2023 หลังจาก Microsoft เผชิญกับการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่
    - เป้าหมายของโครงการคือการออกแบบ, ทดสอบ และดำเนินการผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด

    ✅ พนักงานกว่า 99% ได้รับการฝึกอบรมด้านความปลอดภัย
    - หลักสูตร Security Foundations และ Trust Code ช่วยเพิ่มความตระหนักด้านความปลอดภัย
    - พนักงานที่ผ่านการฝึกอบรมมีแนวโน้มที่จะตกเป็นเหยื่อของฟิชชิงน้อยลงถึง 50%

    ✅ Microsoft เพิ่มการตรวจจับภัยคุกคามกว่า 200 รายการในโครงสร้างพื้นฐาน
    - การตรวจจับนี้ช่วยให้สามารถระบุพฤติกรรมของผู้โจมตีได้ดีขึ้น
    - ข้อมูลที่ได้รับจะถูกนำไปใช้ใน Microsoft Defender เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน

    ✅ Azure เปิดตัวฟีเจอร์ป้องกันการฉ้อโกงด้วย Multi-Factor Authentication (MFA)
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยป้องกันการเข้าถึงบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต
    - Microsoft ได้บังคับใช้ MFA สำหรับผู้ใช้ Microsoft 365 admin center

    https://www.csoonline.com/article/3966122/microsoft-sfi-update-five-of-28-security-objectives-nearly-complete.html
    Microsoft ได้เปิดเผยความคืบหน้าของ Secure Future Initiative (SFI) ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการปรับปรุงความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และบริการ โดยขณะนี้ 5 จาก 28 เป้าหมาย กำลังจะเสร็จสมบูรณ์ และมี ✅ Microsoft กำลังดำเนินการปรับปรุงความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และบริการ - SFI เป็นโครงการที่เริ่มต้นในปี 2023 หลังจาก Microsoft เผชิญกับการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ - เป้าหมายของโครงการคือการออกแบบ, ทดสอบ และดำเนินการผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ✅ พนักงานกว่า 99% ได้รับการฝึกอบรมด้านความปลอดภัย - หลักสูตร Security Foundations และ Trust Code ช่วยเพิ่มความตระหนักด้านความปลอดภัย - พนักงานที่ผ่านการฝึกอบรมมีแนวโน้มที่จะตกเป็นเหยื่อของฟิชชิงน้อยลงถึง 50% ✅ Microsoft เพิ่มการตรวจจับภัยคุกคามกว่า 200 รายการในโครงสร้างพื้นฐาน - การตรวจจับนี้ช่วยให้สามารถระบุพฤติกรรมของผู้โจมตีได้ดีขึ้น - ข้อมูลที่ได้รับจะถูกนำไปใช้ใน Microsoft Defender เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน ✅ Azure เปิดตัวฟีเจอร์ป้องกันการฉ้อโกงด้วย Multi-Factor Authentication (MFA) - ฟีเจอร์นี้ช่วยป้องกันการเข้าถึงบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต - Microsoft ได้บังคับใช้ MFA สำหรับผู้ใช้ Microsoft 365 admin center https://www.csoonline.com/article/3966122/microsoft-sfi-update-five-of-28-security-objectives-nearly-complete.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Microsoft SFI update: Five of 28 security objectives nearly complete
    Executive “supersatisified” with work so far on project to overhaul company security culture and application design.
    0 Comments 0 Shares 30 Views 0 Reviews
  • Reddit กลับมาออนไลน์อีกครั้งหลังจากเกิดเหตุขัดข้องที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้หลายพันคนทั่วโลก โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และมีผู้ใช้กว่า 112,400 ราย รายงานว่าแพลตฟอร์มไม่สามารถใช้งานได้ ตามข้อมูลจาก Downdetector ซึ่งติดตามสถานะของเว็บไซต์ต่างๆ

    ✅ Reddit ประสบปัญหาขัดข้องที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ทั่วโลก
    - เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และมีผู้ใช้กว่า 112,400 ราย รายงานว่าแพลตฟอร์มไม่สามารถใช้งานได้
    - จำนวนรายงานลดลงเหลือ 2,200 ราย ภายในเวลา 12:01 p.m. ET

    ✅ Reddit ระบุว่าเหตุการณ์นี้ได้รับการแก้ไขแล้ว
    - ทีมงานของ Reddit ได้ตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน
    - แพลตฟอร์มกลับมาออนไลน์และสามารถใช้งานได้ตามปกติ

    ✅ Downdetector เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญในการติดตามเหตุขัดข้องของเว็บไซต์
    - Downdetector รวบรวมข้อมูลจากผู้ใช้และแหล่งข้อมูลอื่นๆ เพื่อรายงานสถานะของแพลตฟอร์มต่างๆ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/22/reddit-down-for-thousands-of-users-worldwide
    Reddit กลับมาออนไลน์อีกครั้งหลังจากเกิดเหตุขัดข้องที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้หลายพันคนทั่วโลก โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และมีผู้ใช้กว่า 112,400 ราย รายงานว่าแพลตฟอร์มไม่สามารถใช้งานได้ ตามข้อมูลจาก Downdetector ซึ่งติดตามสถานะของเว็บไซต์ต่างๆ ✅ Reddit ประสบปัญหาขัดข้องที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ทั่วโลก - เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และมีผู้ใช้กว่า 112,400 ราย รายงานว่าแพลตฟอร์มไม่สามารถใช้งานได้ - จำนวนรายงานลดลงเหลือ 2,200 ราย ภายในเวลา 12:01 p.m. ET ✅ Reddit ระบุว่าเหตุการณ์นี้ได้รับการแก้ไขแล้ว - ทีมงานของ Reddit ได้ตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน - แพลตฟอร์มกลับมาออนไลน์และสามารถใช้งานได้ตามปกติ ✅ Downdetector เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญในการติดตามเหตุขัดข้องของเว็บไซต์ - Downdetector รวบรวมข้อมูลจากผู้ใช้และแหล่งข้อมูลอื่นๆ เพื่อรายงานสถานะของแพลตฟอร์มต่างๆ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/22/reddit-down-for-thousands-of-users-worldwide
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Reddit back up after outage affecting thousands of users worldwide
    (Reuters) -Social media platform Reddit was restored after thousands of users worldwide experienced outages on Monday, according to Downdetector.com.
    0 Comments 0 Shares 27 Views 0 Reviews
  • สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) เตรียมเปิดตัว ระบบฐานข้อมูลข้อความสำหรับนักบิน ภายในเดือนกันยายน 2025 หลังจากที่ระบบเดิมเกิดเหตุขัดข้องหลายครั้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยทางการบิน ระบบใหม่นี้จะช่วยให้การส่งข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ การปิดรันเวย์, ข้อจำกัดทางอากาศ และสถานะไฟนำทาง มีความแม่นยำและรวดเร็วมากขึ้น

    ✅ FAA เตรียมเปิดตัวระบบฐานข้อมูลข้อความนักบินภายในเดือนกันยายน
    - ระบบนี้จะช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Notice to Airmen (NOTAMs) มีความแม่นยำมากขึ้น
    - ลดความเสี่ยงจากเหตุขัดข้องที่เคยเกิดขึ้นในระบบเดิม

    ✅ CGI Federal ได้รับเลือกให้พัฒนาและปรับปรุงระบบ NOTAM
    - ระบบใหม่นี้จะช่วยให้ FAA สามารถส่งข้อมูลให้กับนักบินและเจ้าหน้าที่ควบคุมการบินได้แบบเรียลไทม์
    - คาดว่าจะเปิดตัว NOTAM Modernization Service ภายในเดือนกรกฎาคม

    ✅ FAA ต้องใช้เงินกว่า 354 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการเปลี่ยนระบบ NOTAM
    - ประธานสมาคมผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศแห่งชาติระบุว่า FAA ต้องใช้เงิน 154 ล้านดอลลาร์ เพื่อวิจัยระบบใหม่ และ 354 ล้านดอลลาร์ เพื่อเปลี่ยนระบบเดิม

    ✅ ระบบใหม่จะช่วยลดปัญหาการหยุดชะงักของเที่ยวบิน
    - ในเดือนมกราคม 2023 ระบบ NOTAM ล้มเหลว ส่งผลให้เที่ยวบินกว่า 11,000 เที่ยว ต้องหยุดบินทั่วประเทศ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/22/faa-to-deploy-new-pilot-messaging-database-system-by-september
    สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) เตรียมเปิดตัว ระบบฐานข้อมูลข้อความสำหรับนักบิน ภายในเดือนกันยายน 2025 หลังจากที่ระบบเดิมเกิดเหตุขัดข้องหลายครั้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยทางการบิน ระบบใหม่นี้จะช่วยให้การส่งข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ การปิดรันเวย์, ข้อจำกัดทางอากาศ และสถานะไฟนำทาง มีความแม่นยำและรวดเร็วมากขึ้น ✅ FAA เตรียมเปิดตัวระบบฐานข้อมูลข้อความนักบินภายในเดือนกันยายน - ระบบนี้จะช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Notice to Airmen (NOTAMs) มีความแม่นยำมากขึ้น - ลดความเสี่ยงจากเหตุขัดข้องที่เคยเกิดขึ้นในระบบเดิม ✅ CGI Federal ได้รับเลือกให้พัฒนาและปรับปรุงระบบ NOTAM - ระบบใหม่นี้จะช่วยให้ FAA สามารถส่งข้อมูลให้กับนักบินและเจ้าหน้าที่ควบคุมการบินได้แบบเรียลไทม์ - คาดว่าจะเปิดตัว NOTAM Modernization Service ภายในเดือนกรกฎาคม ✅ FAA ต้องใช้เงินกว่า 354 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการเปลี่ยนระบบ NOTAM - ประธานสมาคมผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศแห่งชาติระบุว่า FAA ต้องใช้เงิน 154 ล้านดอลลาร์ เพื่อวิจัยระบบใหม่ และ 354 ล้านดอลลาร์ เพื่อเปลี่ยนระบบเดิม ✅ ระบบใหม่จะช่วยลดปัญหาการหยุดชะงักของเที่ยวบิน - ในเดือนมกราคม 2023 ระบบ NOTAM ล้มเหลว ส่งผลให้เที่ยวบินกว่า 11,000 เที่ยว ต้องหยุดบินทั่วประเทศ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/22/faa-to-deploy-new-pilot-messaging-database-system-by-september
    WWW.THESTAR.COM.MY
    FAA to deploy new pilot messaging database system by September
    WASHINGTON (Reuters) -The Federal Aviation Administration said on Monday it plans to deploy a new pilot messaging database by September after a series of outages have raised safety concerns.
    0 Comments 0 Shares 32 Views 0 Reviews
  • นักวิจัยในสหรัฐฯ อ้างว่าพวกเขาค้นพบ สีใหม่ที่มนุษย์ไม่เคยเห็นมาก่อน โดยใช้เทคนิค ยิงแสงเลเซอร์ ไปยังเซลล์รับแสงในเรตินาของดวงตาโดยตรง สีใหม่นี้ถูกเรียกว่า "olo" ซึ่งเป็นสี ฟ้า-เขียวที่มีความอิ่มตัวสูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์บางคนยังคงสงสัยเกี่ยวกับความถูกต้องของการค้นพบนี้

    ✅ นักวิจัยใช้เลเซอร์เพื่อกระตุ้นเซลล์รับแสงในเรตินา
    - เทคนิคนี้ช่วยให้สามารถแสดงสีที่อยู่นอกเหนือขอบเขตการมองเห็นตามธรรมชาติของมนุษย์
    - ผู้เข้าร่วมการทดลอง 5 คน รายงานว่าพวกเขาเห็นสีที่ไม่เคยพบมาก่อน

    ✅ สีใหม่นี้ถูกเรียกว่า "olo" และมีความอิ่มตัวสูงเป็นพิเศษ
    - ศาสตราจารย์ Ren Ng จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมทดลอง กล่าวว่า "ภาพที่เห็นนั้นน่าตื่นตาตื่นใจ"

    ✅ นักวิทยาศาสตร์บางคนไม่เชื่อว่านี่เป็นสีใหม่จริงๆ
    - John Barbur นักวิทยาศาสตร์ด้านการมองเห็นจาก University of London ระบุว่า "มันไม่ใช่สีใหม่ แต่เป็นสีเขียวที่มีความอิ่มตัวสูงขึ้น"

    ✅ การค้นพบนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Science Advances
    - งานวิจัยนี้มีชื่อว่า "Novel color via stimulation of individual photoreceptors at population scale"

    https://www.techspot.com/news/107629-researchers-theyve-discovered-new-color-no-human-has.html
    นักวิจัยในสหรัฐฯ อ้างว่าพวกเขาค้นพบ สีใหม่ที่มนุษย์ไม่เคยเห็นมาก่อน โดยใช้เทคนิค ยิงแสงเลเซอร์ ไปยังเซลล์รับแสงในเรตินาของดวงตาโดยตรง สีใหม่นี้ถูกเรียกว่า "olo" ซึ่งเป็นสี ฟ้า-เขียวที่มีความอิ่มตัวสูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์บางคนยังคงสงสัยเกี่ยวกับความถูกต้องของการค้นพบนี้ ✅ นักวิจัยใช้เลเซอร์เพื่อกระตุ้นเซลล์รับแสงในเรตินา - เทคนิคนี้ช่วยให้สามารถแสดงสีที่อยู่นอกเหนือขอบเขตการมองเห็นตามธรรมชาติของมนุษย์ - ผู้เข้าร่วมการทดลอง 5 คน รายงานว่าพวกเขาเห็นสีที่ไม่เคยพบมาก่อน ✅ สีใหม่นี้ถูกเรียกว่า "olo" และมีความอิ่มตัวสูงเป็นพิเศษ - ศาสตราจารย์ Ren Ng จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมทดลอง กล่าวว่า "ภาพที่เห็นนั้นน่าตื่นตาตื่นใจ" ✅ นักวิทยาศาสตร์บางคนไม่เชื่อว่านี่เป็นสีใหม่จริงๆ - John Barbur นักวิทยาศาสตร์ด้านการมองเห็นจาก University of London ระบุว่า "มันไม่ใช่สีใหม่ แต่เป็นสีเขียวที่มีความอิ่มตัวสูงขึ้น" ✅ การค้นพบนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Science Advances - งานวิจัยนี้มีชื่อว่า "Novel color via stimulation of individual photoreceptors at population scale" https://www.techspot.com/news/107629-researchers-theyve-discovered-new-color-no-human-has.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Researchers say they've discovered a new color that no human has ever perceived
    Five individuals participated in the experiment, which involved shooting pulses of visible-wavelength laser light directly into their eyes to stimulate individual photoreceptor cells on the retina. According...
    0 Comments 0 Shares 34 Views 0 Reviews
  • Synology กำลังเปลี่ยนแนวทางการใช้งานฮาร์ดไดรฟ์ใน NAS รุ่นใหม่ โดยจะ บังคับให้ใช้ฮาร์ดไดรฟ์ที่ได้รับการรับรองจาก Synology เท่านั้น สำหรับ NAS รุ่น Plus Series ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ สร้างระบบนิเวศแบบปิด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์

    ✅ Synology จะบังคับใช้ฮาร์ดไดรฟ์ที่ได้รับการรับรองใน NAS รุ่นใหม่
    - NAS รุ่น Plus Series ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไปจะต้องใช้ฮาร์ดไดรฟ์ที่ได้รับการรับรองจาก Synology
    - Synology อ้างว่าการใช้ฮาร์ดไดรฟ์ที่ผ่านการรับรองจะช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพ, ความน่าเชื่อถือ และการสนับสนุนที่ดีขึ้น

    ✅ ฮาร์ดไดรฟ์ที่ได้รับการรับรองมาจากผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น Toshiba และ Seagate
    - แม้ว่าจะเป็นฮาร์ดไดรฟ์ที่ได้รับการรับรองจาก Synology แต่จริงๆ แล้วผลิตโดยบริษัทอื่น

    ✅ NAS รุ่นเก่าที่ยังใช้ฮาร์ดไดรฟ์ทั่วไปจะยังคงทำงานได้
    - NAS รุ่น Plus Series ที่เปิดตัวก่อนปี 2025 จะยังสามารถใช้ฮาร์ดไดรฟ์ทั่วไปได้
    - อย่างไรก็ตาม อาจมีข้อจำกัด เช่น ไม่สามารถสร้าง Storage Pool และไม่ได้รับการสนับสนุนจาก Synology

    ✅ Synology เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ส่งฮาร์ดไดรฟ์ของตนเองไปตรวจสอบ
    - ผู้ใช้สามารถส่งฮาร์ดไดรฟ์ของตนไปให้ Synology ตรวจสอบเพื่อดูว่าผ่านมาตรฐานหรือไม่

    https://www.techspot.com/news/107622-synology-require-branded-hard-drives-future-nas-models.html
    Synology กำลังเปลี่ยนแนวทางการใช้งานฮาร์ดไดรฟ์ใน NAS รุ่นใหม่ โดยจะ บังคับให้ใช้ฮาร์ดไดรฟ์ที่ได้รับการรับรองจาก Synology เท่านั้น สำหรับ NAS รุ่น Plus Series ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ สร้างระบบนิเวศแบบปิด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ ✅ Synology จะบังคับใช้ฮาร์ดไดรฟ์ที่ได้รับการรับรองใน NAS รุ่นใหม่ - NAS รุ่น Plus Series ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไปจะต้องใช้ฮาร์ดไดรฟ์ที่ได้รับการรับรองจาก Synology - Synology อ้างว่าการใช้ฮาร์ดไดรฟ์ที่ผ่านการรับรองจะช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพ, ความน่าเชื่อถือ และการสนับสนุนที่ดีขึ้น ✅ ฮาร์ดไดรฟ์ที่ได้รับการรับรองมาจากผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น Toshiba และ Seagate - แม้ว่าจะเป็นฮาร์ดไดรฟ์ที่ได้รับการรับรองจาก Synology แต่จริงๆ แล้วผลิตโดยบริษัทอื่น ✅ NAS รุ่นเก่าที่ยังใช้ฮาร์ดไดรฟ์ทั่วไปจะยังคงทำงานได้ - NAS รุ่น Plus Series ที่เปิดตัวก่อนปี 2025 จะยังสามารถใช้ฮาร์ดไดรฟ์ทั่วไปได้ - อย่างไรก็ตาม อาจมีข้อจำกัด เช่น ไม่สามารถสร้าง Storage Pool และไม่ได้รับการสนับสนุนจาก Synology ✅ Synology เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ส่งฮาร์ดไดรฟ์ของตนเองไปตรวจสอบ - ผู้ใช้สามารถส่งฮาร์ดไดรฟ์ของตนไปให้ Synology ตรวจสอบเพื่อดูว่าผ่านมาตรฐานหรือไม่ https://www.techspot.com/news/107622-synology-require-branded-hard-drives-future-nas-models.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Synology to require branded hard drives for future NAS models
    The next high-end NAS line from Synology will require the use of the company's branded hard disk drives. The manufacturer announced the change in a recent press...
    0 Comments 0 Shares 32 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึง การเติบโตของ AI แบบโอเพ่นซอร์ส ซึ่งกำลังกลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก คล้ายกับการเติบโตของ Linux แต่เกิดขึ้นเร็วกว่า โดยจุดเริ่มต้นของกระแสนี้มาจากการเปิดตัว DeepSeek บนแพลตฟอร์ม Hugging Face ซึ่งช่วยให้ AI แบบโอเพ่นซอร์สสามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว

    ✅ DeepSeek จุดประกายการเคลื่อนไหวของ AI แบบโอเพ่นซอร์ส
    - DeepSeek เปิดตัวบน Hugging Face และกลายเป็นศูนย์กลางของนักพัฒนาทั่วโลก
    - การเปิดตัวนี้ช่วยให้ AI แบบโอเพ่นซอร์สสามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว

    ✅ Beijing Academy of Artificial Intelligence (BAAI) เปิดตัว OpenSeek เพื่อตอบโต้ DeepSeek
    - OpenSeek เป็นโครงการที่พยายามพัฒนา AI แบบโอเพ่นซอร์สให้ก้าวหน้ากว่า DeepSeek
    - รัฐบาลสหรัฐฯ ตอบโต้ด้วยการขึ้นบัญชีดำ BAAI

    ✅ AI แบบโอเพ่นซอร์สกำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
    - นักพัฒนาทั่วโลกกำลังร่วมมือกันเพื่อปรับปรุงโมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์ส
    - Hugging Face กลายเป็นแพลตฟอร์มสำคัญสำหรับการพัฒนา AI แบบกระจายศูนย์

    ✅ AI แบบโอเพ่นซอร์สอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม
    - คล้ายกับ Linux ที่เริ่มต้นจากกลุ่มนักพัฒนาและกลายเป็นมาตรฐานระดับโลก

    https://www.techspot.com/news/107627-open-source-ai-new-linux-only-faster.html
    บทความนี้กล่าวถึง การเติบโตของ AI แบบโอเพ่นซอร์ส ซึ่งกำลังกลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก คล้ายกับการเติบโตของ Linux แต่เกิดขึ้นเร็วกว่า โดยจุดเริ่มต้นของกระแสนี้มาจากการเปิดตัว DeepSeek บนแพลตฟอร์ม Hugging Face ซึ่งช่วยให้ AI แบบโอเพ่นซอร์สสามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว ✅ DeepSeek จุดประกายการเคลื่อนไหวของ AI แบบโอเพ่นซอร์ส - DeepSeek เปิดตัวบน Hugging Face และกลายเป็นศูนย์กลางของนักพัฒนาทั่วโลก - การเปิดตัวนี้ช่วยให้ AI แบบโอเพ่นซอร์สสามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว ✅ Beijing Academy of Artificial Intelligence (BAAI) เปิดตัว OpenSeek เพื่อตอบโต้ DeepSeek - OpenSeek เป็นโครงการที่พยายามพัฒนา AI แบบโอเพ่นซอร์สให้ก้าวหน้ากว่า DeepSeek - รัฐบาลสหรัฐฯ ตอบโต้ด้วยการขึ้นบัญชีดำ BAAI ✅ AI แบบโอเพ่นซอร์สกำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเทคโนโลยี - นักพัฒนาทั่วโลกกำลังร่วมมือกันเพื่อปรับปรุงโมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์ส - Hugging Face กลายเป็นแพลตฟอร์มสำคัญสำหรับการพัฒนา AI แบบกระจายศูนย์ ✅ AI แบบโอเพ่นซอร์สอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม - คล้ายกับ Linux ที่เริ่มต้นจากกลุ่มนักพัฒนาและกลายเป็นมาตรฐานระดับโลก https://www.techspot.com/news/107627-open-source-ai-new-linux-only-faster.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Open source AI is the new Linux, only faster
    MongoDB Developer Relations head and open-source advocate Matt Asay argues that DeepSeek represents more than just Chinese innovation – it shows how open source reshapes ownership, collaboration,...
    0 Comments 0 Shares 28 Views 0 Reviews
  • Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ได้กล่าวถึงต้นทุนมหาศาลในการดำเนินงานของ ChatGPT โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ใช้ในการประมวลผลคำสั่งของผู้ใช้ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์ต่อปี แม้ว่าจะมีข่าวลือว่าการใช้คำว่า "please" และ "thank you" กับ ChatGPT อาจทำให้ OpenAI ต้องเสียเงินหลายล้านดอลลาร์ แต่ข้อเท็จจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น

    ✅ OpenAI ใช้เงินกว่า 100 ล้านดอลลาร์ต่อปีในการประมวลผลคำสั่งของผู้ใช้
    - ค่าใช้จ่ายนี้รวมถึงค่าไฟฟ้าที่ใช้ในศูนย์ข้อมูล AI
    - การเพิ่มคำว่า "please" และ "thank you" ในข้อความอาจเพิ่มต้นทุน แต่เป็นจำนวนที่น้อยมาก

    ✅ Sam Altman กล่าวว่าต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากความสุภาพเป็นเงินที่ "ใช้ไปอย่างคุ้มค่า"
    - เขาตอบคำถามบน X (Twitter) ว่า "Tens of millions of dollars well spent – you never know."
    - คำพูดนี้ถูกตีความไปต่างๆ นานา แต่จริงๆ แล้วเป็นการแสดงความเห็นเชิงขำขัน

    ✅ ค่าใช้จ่ายต่อโทเค็นของ ChatGPT ต่ำมาก
    - GPT-3.5 Turbo มีต้นทุนประมาณ $0.0015 ต่อ 1,000 โทเค็นสำหรับอินพุต และ $0.002 ต่อ 1,000 โทเค็นสำหรับเอาต์พุต
    - คำว่า "please" และ "thank you" เพิ่มเพียง 2-4 โทเค็น ซึ่งคิดเป็นค่าใช้จ่ายเพียง $0.0000015 ถึง $0.000002 ต่อการสนทนา

    ✅ ค่าใช้จ่ายจริงจากความสุภาพของผู้ใช้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก
    - หากคำนวณตามจำนวนผู้ใช้ ค่าใช้จ่ายจากการใช้คำสุภาพอาจอยู่ที่ $400 ต่อวัน หรือ $146,000 ต่อปี
    - ซึ่งต่ำกว่าตัวเลข "หลายสิบล้านดอลลาร์" ที่ถูกกล่าวถึงในข่าว

    https://www.techspot.com/news/107633-sam-altman-polite-chatgpt-users-burning-millions-openai.html
    Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ได้กล่าวถึงต้นทุนมหาศาลในการดำเนินงานของ ChatGPT โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ใช้ในการประมวลผลคำสั่งของผู้ใช้ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์ต่อปี แม้ว่าจะมีข่าวลือว่าการใช้คำว่า "please" และ "thank you" กับ ChatGPT อาจทำให้ OpenAI ต้องเสียเงินหลายล้านดอลลาร์ แต่ข้อเท็จจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น ✅ OpenAI ใช้เงินกว่า 100 ล้านดอลลาร์ต่อปีในการประมวลผลคำสั่งของผู้ใช้ - ค่าใช้จ่ายนี้รวมถึงค่าไฟฟ้าที่ใช้ในศูนย์ข้อมูล AI - การเพิ่มคำว่า "please" และ "thank you" ในข้อความอาจเพิ่มต้นทุน แต่เป็นจำนวนที่น้อยมาก ✅ Sam Altman กล่าวว่าต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากความสุภาพเป็นเงินที่ "ใช้ไปอย่างคุ้มค่า" - เขาตอบคำถามบน X (Twitter) ว่า "Tens of millions of dollars well spent – you never know." - คำพูดนี้ถูกตีความไปต่างๆ นานา แต่จริงๆ แล้วเป็นการแสดงความเห็นเชิงขำขัน ✅ ค่าใช้จ่ายต่อโทเค็นของ ChatGPT ต่ำมาก - GPT-3.5 Turbo มีต้นทุนประมาณ $0.0015 ต่อ 1,000 โทเค็นสำหรับอินพุต และ $0.002 ต่อ 1,000 โทเค็นสำหรับเอาต์พุต - คำว่า "please" และ "thank you" เพิ่มเพียง 2-4 โทเค็น ซึ่งคิดเป็นค่าใช้จ่ายเพียง $0.0000015 ถึง $0.000002 ต่อการสนทนา ✅ ค่าใช้จ่ายจริงจากความสุภาพของผู้ใช้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก - หากคำนวณตามจำนวนผู้ใช้ ค่าใช้จ่ายจากการใช้คำสุภาพอาจอยู่ที่ $400 ต่อวัน หรือ $146,000 ต่อปี - ซึ่งต่ำกว่าตัวเลข "หลายสิบล้านดอลลาร์" ที่ถูกกล่าวถึงในข่าว https://www.techspot.com/news/107633-sam-altman-polite-chatgpt-users-burning-millions-openai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Sam Altman says polite ChatGPT users are burning millions of OpenAI dollars
    Some shocking headlines involving the costs of being polite to AI chatbots like ChatGPT have circulated over the past few days. A few examples include:
    0 Comments 0 Shares 35 Views 0 Reviews
  • Intel ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับ เทคโนโลยีการผลิต 18A ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ล้ำหน้าที่สุดของบริษัท โดยมีการปรับปรุงด้าน ประสิทธิภาพ, การใช้พลังงาน และความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ เมื่อเทียบกับ Intel 3 เทคโนโลยีนี้ใช้ RibbonFET (GAA) และ PowerVia (BSPDN) ซึ่งช่วยให้การส่งพลังงานมีเสถียรภาพมากขึ้น และลดปัญหา voltage droop ที่เกิดขึ้นในชิปประสิทธิภาพสูง

    ✅ Intel 18A มีการปรับปรุงด้านความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์กว่า 30%
    - ใช้เทคโนโลยี RibbonFET (GAA) และ PowerVia (BSPDN)
    - ช่วยให้สามารถออกแบบชิปที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและใช้พื้นที่น้อยลง

    ✅ Intel 18A มีประสิทธิภาพสูงขึ้น 25% และใช้พลังงานน้อยลง 36%
    - ทดสอบบน Arm core sub-block ที่แรงดันไฟฟ้า 1.1V
    - ช่วยให้สามารถออกแบบชิปที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและประหยัดพลังงาน

    ✅ Intel 18A มีความสามารถในการแข่งขันกับ TSMC N2
    - มีความหนาแน่นของ SRAM เทียบเท่ากับกระบวนการผลิต N2 ของ TSMC
    - แสดงให้เห็นว่า Intel สามารถแข่งขันกับผู้ผลิตชิปชั้นนำของโลกได้

    ✅ Intel 18A จะถูกนำไปใช้ในชิป Panther Lake และ Xeon "Clearwater Forest"
    - คาดว่าจะเริ่มใช้งานในผลิตภัณฑ์จริงภายในปี 2026

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-details-next-gen-18a-fab-tech-significantly-more-performance-lower-power-higher-density
    Intel ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับ เทคโนโลยีการผลิต 18A ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ล้ำหน้าที่สุดของบริษัท โดยมีการปรับปรุงด้าน ประสิทธิภาพ, การใช้พลังงาน และความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ เมื่อเทียบกับ Intel 3 เทคโนโลยีนี้ใช้ RibbonFET (GAA) และ PowerVia (BSPDN) ซึ่งช่วยให้การส่งพลังงานมีเสถียรภาพมากขึ้น และลดปัญหา voltage droop ที่เกิดขึ้นในชิปประสิทธิภาพสูง ✅ Intel 18A มีการปรับปรุงด้านความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์กว่า 30% - ใช้เทคโนโลยี RibbonFET (GAA) และ PowerVia (BSPDN) - ช่วยให้สามารถออกแบบชิปที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและใช้พื้นที่น้อยลง ✅ Intel 18A มีประสิทธิภาพสูงขึ้น 25% และใช้พลังงานน้อยลง 36% - ทดสอบบน Arm core sub-block ที่แรงดันไฟฟ้า 1.1V - ช่วยให้สามารถออกแบบชิปที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและประหยัดพลังงาน ✅ Intel 18A มีความสามารถในการแข่งขันกับ TSMC N2 - มีความหนาแน่นของ SRAM เทียบเท่ากับกระบวนการผลิต N2 ของ TSMC - แสดงให้เห็นว่า Intel สามารถแข่งขันกับผู้ผลิตชิปชั้นนำของโลกได้ ✅ Intel 18A จะถูกนำไปใช้ในชิป Panther Lake และ Xeon "Clearwater Forest" - คาดว่าจะเริ่มใช้งานในผลิตภัณฑ์จริงภายในปี 2026 https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-details-next-gen-18a-fab-tech-significantly-more-performance-lower-power-higher-density
    0 Comments 0 Shares 32 Views 0 Reviews
  • Intel Arc B580 รุ่น 24GB กำลังเป็นประเด็นร้อนในวงการ GPU หลังจากที่บัญชี Bilibili ของ Sparkle ได้เผยข้อมูลเกี่ยวกับการมีอยู่ของรุ่นนี้ พร้อมทั้งระบุช่วงเวลาวางจำหน่ายระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน อย่างไรก็ตาม Sparkle ได้ถอนคำกล่าวอ้างดังกล่าวออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอาจเป็นการจัดการผลกระทบจากการละเมิดข้อตกลง NDA

    ✅ มีข่าวลือเกี่ยวกับ Intel Arc B580 รุ่น 24GB
    - ข้อมูลถูกเผยแพร่โดยบัญชี Bilibili ของ Sparkle และถูกลบออกไปในเวลาต่อมา
    - อาจเป็นการจัดการผลกระทบจากการละเมิดข้อตกลง NDA

    ✅ Intel Arc B580 ใช้ชิป BMG-G21 พร้อมอินเทอร์เฟซ 192-bit
    - มีหน่วยความจำ 24GB โดยใช้โมดูล 16Gb จำนวน 12 ตัวในโหมด Clamshell
    - เพิ่มความจุหน่วยความจำเป็นสองเท่าจาก Arc Pro A60

    ✅ Battlemage เป็นสถาปัตยกรรมที่ล้าหลังกว่า Nvidia และ AMD
    - แม้จะมีหน่วยความจำมากขึ้น แต่ยังคงเป็นรอง Nvidia Blackwell PRO และ AMD Radeon PRO W9000

    ✅ Intel อาจเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมในงาน Computex 2025
    - อาจมีการเปิดตัว Panther Lake เช่นเดียวกับที่ Lunar Lake ถูกเปิดเผยในปีที่ผ่านมา

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/rumors-swirl-about-a-24gb-intel-arc-b580-but-oem-swiftly-strikes-down-claims
    Intel Arc B580 รุ่น 24GB กำลังเป็นประเด็นร้อนในวงการ GPU หลังจากที่บัญชี Bilibili ของ Sparkle ได้เผยข้อมูลเกี่ยวกับการมีอยู่ของรุ่นนี้ พร้อมทั้งระบุช่วงเวลาวางจำหน่ายระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน อย่างไรก็ตาม Sparkle ได้ถอนคำกล่าวอ้างดังกล่าวออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอาจเป็นการจัดการผลกระทบจากการละเมิดข้อตกลง NDA ✅ มีข่าวลือเกี่ยวกับ Intel Arc B580 รุ่น 24GB - ข้อมูลถูกเผยแพร่โดยบัญชี Bilibili ของ Sparkle และถูกลบออกไปในเวลาต่อมา - อาจเป็นการจัดการผลกระทบจากการละเมิดข้อตกลง NDA ✅ Intel Arc B580 ใช้ชิป BMG-G21 พร้อมอินเทอร์เฟซ 192-bit - มีหน่วยความจำ 24GB โดยใช้โมดูล 16Gb จำนวน 12 ตัวในโหมด Clamshell - เพิ่มความจุหน่วยความจำเป็นสองเท่าจาก Arc Pro A60 ✅ Battlemage เป็นสถาปัตยกรรมที่ล้าหลังกว่า Nvidia และ AMD - แม้จะมีหน่วยความจำมากขึ้น แต่ยังคงเป็นรอง Nvidia Blackwell PRO และ AMD Radeon PRO W9000 ✅ Intel อาจเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมในงาน Computex 2025 - อาจมีการเปิดตัว Panther Lake เช่นเดียวกับที่ Lunar Lake ถูกเปิดเผยในปีที่ผ่านมา https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/rumors-swirl-about-a-24gb-intel-arc-b580-but-oem-swiftly-strikes-down-claims
    0 Comments 0 Shares 35 Views 0 Reviews
  • AMD ได้เปิดเผยภาพ die shot ของ Zen 5c ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมซีพียูรุ่นใหม่ที่ใช้ใน EPYC 9005 series โดย Zen 5c มีการออกแบบ single-CCX ที่ช่วยลด latency ในการสื่อสารระหว่างคอร์ และทำให้ทุกคอร์สามารถเข้าถึง L3 cache ได้โดยตรง

    ✅ Zen 5c ใช้การออกแบบ single-CCX เป็นครั้งแรก
    - ช่วยลด latency ในการสื่อสารระหว่างคอร์
    - ทุกคอร์สามารถเข้าถึง L3 cache ได้โดยตรง

    ✅ Zen 5c มีขนาดเล็กลง 25% เมื่อเทียบกับ Zen 5
    - ใช้กระบวนการผลิต 3nm และมีขนาด 5.7mm x 14.83mm
    - Zen 5 มีขนาด 7.4mm x 11.26mm

    ✅ EPYC 9005 series ใช้ Zen 5c สูงสุดถึง 12 CCDs
    - รุ่น EPYC 9565 มี 72 คอร์ และใช้พลังงาน 400W
    - รุ่น EPYC 9965 มี 192 คอร์ และใช้พลังงาน 500W

    ✅ Zen 5c มีประสิทธิภาพเทียบเท่า Zen 5 แต่ใช้พื้นที่น้อยกว่า
    - เป็นคู่แข่งของ Intel E-cores

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-16-core-zen-5c-die-shots-show-long-narrow-ccx-all-16-cores-sharing-a-single-l3-cache
    AMD ได้เปิดเผยภาพ die shot ของ Zen 5c ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมซีพียูรุ่นใหม่ที่ใช้ใน EPYC 9005 series โดย Zen 5c มีการออกแบบ single-CCX ที่ช่วยลด latency ในการสื่อสารระหว่างคอร์ และทำให้ทุกคอร์สามารถเข้าถึง L3 cache ได้โดยตรง ✅ Zen 5c ใช้การออกแบบ single-CCX เป็นครั้งแรก - ช่วยลด latency ในการสื่อสารระหว่างคอร์ - ทุกคอร์สามารถเข้าถึง L3 cache ได้โดยตรง ✅ Zen 5c มีขนาดเล็กลง 25% เมื่อเทียบกับ Zen 5 - ใช้กระบวนการผลิต 3nm และมีขนาด 5.7mm x 14.83mm - Zen 5 มีขนาด 7.4mm x 11.26mm ✅ EPYC 9005 series ใช้ Zen 5c สูงสุดถึง 12 CCDs - รุ่น EPYC 9565 มี 72 คอร์ และใช้พลังงาน 400W - รุ่น EPYC 9965 มี 192 คอร์ และใช้พลังงาน 500W ✅ Zen 5c มีประสิทธิภาพเทียบเท่า Zen 5 แต่ใช้พื้นที่น้อยกว่า - เป็นคู่แข่งของ Intel E-cores https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-16-core-zen-5c-die-shots-show-long-narrow-ccx-all-16-cores-sharing-a-single-l3-cache
    0 Comments 0 Shares 29 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จำกัดการติดต่อด้านการทูตกับจีนให้แคบลงในแทบทุกช่องทาง โดยมีเป้าหมายคือต้องการเจรจาต่อรองโดยตรงกับ สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่าง 2 ชาติที่ลุกลามบานปลายหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ตามรายงานของโพลิติโก เว็บไซต์ข่าวการเมืองสัญชาติอเมริกา อ้างอิงแหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์เอ่ยนาม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000037508

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จำกัดการติดต่อด้านการทูตกับจีนให้แคบลงในแทบทุกช่องทาง โดยมีเป้าหมายคือต้องการเจรจาต่อรองโดยตรงกับ สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่าง 2 ชาติที่ลุกลามบานปลายหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ตามรายงานของโพลิติโก เว็บไซต์ข่าวการเมืองสัญชาติอเมริกา อ้างอิงแหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์เอ่ยนาม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000037508 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 154 Views 0 Reviews
  • Intel ได้เปิดตัว 200S Boost ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Arrow Lake K-series processors ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมผ่านการ โอเวอร์คล็อกหน่วยความจำและ fabric speeds โดยฟีเจอร์นี้ได้รับการรับรองภายใต้ การรับประกันของ Intel ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทให้การรับรองสำหรับการโอเวอร์คล็อกหน่วยความจำ DDR5

    ✅ Intel 200S Boost ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมขึ้น 7%
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้หน่วยความจำ DDR5 สามารถโอเวอร์คล็อกได้สูงสุดถึง DDR5-8000
    - เพิ่มความเร็วของ Next Generation Uncore (NGU/SA Fabric) จาก 2.6 GHz เป็น 3.2 GHz

    ✅ ฟีเจอร์นี้ได้รับการรับรองภายใต้การรับประกันของ Intel
    - เป็นครั้งแรกที่ Intel ให้การรับรองสำหรับการโอเวอร์คล็อกหน่วยความจำ DDR5
    - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งระบบได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเสียหายของชิป

    ✅ 200S Boost จะถูกนำไปใช้ใน BIOS ของเมนบอร์ด Z-Series
    - ฟีเจอร์นี้จะถูกเพิ่มเข้าไปใน BIOS revisions จากผู้ผลิตเมนบอร์ดรายใหญ่
    - คาดว่าจะมีการอัปเดต BIOS จาก OEMs ภายในวันพรุ่งนี้

    ✅ การโอเวอร์คล็อก fabric speeds ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารระหว่างองค์ประกอบของชิป
    - Die-to-Die (D2D) communication fabric ถูกเพิ่มจาก 2.1 GHz เป็น 3.2 GHz
    - ช่วยให้ CPU cores, memory controllers และองค์ประกอบอื่นๆ ทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/we-tested-intels-unreleased-200s-boost-feature-7-percent-higher-gaming-performance-thanks-to-memory-overclocking-now-covered-by-the-warranty
    Intel ได้เปิดตัว 200S Boost ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Arrow Lake K-series processors ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมผ่านการ โอเวอร์คล็อกหน่วยความจำและ fabric speeds โดยฟีเจอร์นี้ได้รับการรับรองภายใต้ การรับประกันของ Intel ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทให้การรับรองสำหรับการโอเวอร์คล็อกหน่วยความจำ DDR5 ✅ Intel 200S Boost ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมขึ้น 7% - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้หน่วยความจำ DDR5 สามารถโอเวอร์คล็อกได้สูงสุดถึง DDR5-8000 - เพิ่มความเร็วของ Next Generation Uncore (NGU/SA Fabric) จาก 2.6 GHz เป็น 3.2 GHz ✅ ฟีเจอร์นี้ได้รับการรับรองภายใต้การรับประกันของ Intel - เป็นครั้งแรกที่ Intel ให้การรับรองสำหรับการโอเวอร์คล็อกหน่วยความจำ DDR5 - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งระบบได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเสียหายของชิป ✅ 200S Boost จะถูกนำไปใช้ใน BIOS ของเมนบอร์ด Z-Series - ฟีเจอร์นี้จะถูกเพิ่มเข้าไปใน BIOS revisions จากผู้ผลิตเมนบอร์ดรายใหญ่ - คาดว่าจะมีการอัปเดต BIOS จาก OEMs ภายในวันพรุ่งนี้ ✅ การโอเวอร์คล็อก fabric speeds ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารระหว่างองค์ประกอบของชิป - Die-to-Die (D2D) communication fabric ถูกเพิ่มจาก 2.1 GHz เป็น 3.2 GHz - ช่วยให้ CPU cores, memory controllers และองค์ประกอบอื่นๆ ทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/we-tested-intels-unreleased-200s-boost-feature-7-percent-higher-gaming-performance-thanks-to-memory-overclocking-now-covered-by-the-warranty
    0 Comments 0 Shares 39 Views 0 Reviews
  • TSMC กำลังเผชิญกับความท้าทายในการควบคุมการส่งออกชิป หลังจากที่บริษัทถูกปรับ 1 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากผลิตชิปให้กับ Huawei ผ่านบริษัทตัวแทน โดย TSMC ยอมรับว่าไม่สามารถรับประกันได้ว่าชิปที่ผลิตจะไม่ถูกส่งไปยังจีน เนื่องจากข้อจำกัดในห่วงโซ่อุปทาน

    ✅ TSMC ถูกปรับ 1 พันล้านดอลลาร์จากการผลิตชิปให้ Huawei ผ่านตัวแทน
    - Huawei ใช้บริษัทตัวแทนในการสั่งผลิตชิปจาก TSMC เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดทางการค้า
    - สหรัฐฯ กำหนดมาตรการคว่ำบาตร Huawei ทำให้ TSMC ต้องเผชิญกับบทลงโทษ

    ✅ TSMC ยอมรับว่าไม่สามารถควบคุมปลายทางของชิปที่ผลิตได้
    - บริษัทระบุว่าเมื่อชิปออกจากโรงงานแล้ว จะไม่สามารถติดตามได้ว่าถูกนำไปใช้ที่ไหน
    - มีความเสี่ยงที่บริษัทตัวแทนจะนำชิปไปขายให้กับ Huawei หรือบริษัทอื่นในจีน

    ✅ TSMC ใช้ GDS file ในการผลิตชิป ซึ่งไม่สามารถระบุผู้พัฒนาได้
    - GDS file เป็นข้อมูลที่ใช้ในการออกแบบและผลิตชิป แต่ไม่ได้ระบุว่าชิปถูกพัฒนาโดยใคร
    - ทำให้ TSMC ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าชิปที่ผลิตจะถูกนำไปใช้โดย Huawei หรือไม่

    ✅ TSMC อาจเผชิญกับมาตรการลงโทษที่เข้มงวดขึ้นในอนาคต
    - สหรัฐฯ อาจเพิ่มข้อจำกัดในการส่งออกชิปเพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/tsmc-says-it-cannot-guarantee-that-its-chips-dont-end-up-in-china
    TSMC กำลังเผชิญกับความท้าทายในการควบคุมการส่งออกชิป หลังจากที่บริษัทถูกปรับ 1 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากผลิตชิปให้กับ Huawei ผ่านบริษัทตัวแทน โดย TSMC ยอมรับว่าไม่สามารถรับประกันได้ว่าชิปที่ผลิตจะไม่ถูกส่งไปยังจีน เนื่องจากข้อจำกัดในห่วงโซ่อุปทาน ✅ TSMC ถูกปรับ 1 พันล้านดอลลาร์จากการผลิตชิปให้ Huawei ผ่านตัวแทน - Huawei ใช้บริษัทตัวแทนในการสั่งผลิตชิปจาก TSMC เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดทางการค้า - สหรัฐฯ กำหนดมาตรการคว่ำบาตร Huawei ทำให้ TSMC ต้องเผชิญกับบทลงโทษ ✅ TSMC ยอมรับว่าไม่สามารถควบคุมปลายทางของชิปที่ผลิตได้ - บริษัทระบุว่าเมื่อชิปออกจากโรงงานแล้ว จะไม่สามารถติดตามได้ว่าถูกนำไปใช้ที่ไหน - มีความเสี่ยงที่บริษัทตัวแทนจะนำชิปไปขายให้กับ Huawei หรือบริษัทอื่นในจีน ✅ TSMC ใช้ GDS file ในการผลิตชิป ซึ่งไม่สามารถระบุผู้พัฒนาได้ - GDS file เป็นข้อมูลที่ใช้ในการออกแบบและผลิตชิป แต่ไม่ได้ระบุว่าชิปถูกพัฒนาโดยใคร - ทำให้ TSMC ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าชิปที่ผลิตจะถูกนำไปใช้โดย Huawei หรือไม่ ✅ TSMC อาจเผชิญกับมาตรการลงโทษที่เข้มงวดขึ้นในอนาคต - สหรัฐฯ อาจเพิ่มข้อจำกัดในการส่งออกชิปเพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร https://www.tomshardware.com/tech-industry/tsmc-says-it-cannot-guarantee-that-its-chips-dont-end-up-in-china
    0 Comments 0 Shares 35 Views 0 Reviews
  • Google Photos ได้เพิ่มฟีเจอร์ Ultra HDR ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มความสดใสของภาพถ่ายได้ แม้จะเป็นภาพที่ถ่ายไปแล้วก่อนหน้านี้ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ภาพมีช่วงสีที่กว้างขึ้นและสามารถปรับระดับความเข้มของ HDR ได้ผ่าน Google Photos Editor

    ✅ Ultra HDR ช่วยเพิ่มความสดใสของภาพถ่ายได้ แม้จะเป็นภาพที่ถ่ายไปแล้ว
    - ผู้ใช้สามารถเพิ่มเอฟเฟกต์ HDR ให้กับภาพที่มีอยู่ในคลังภาพ
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ภาพมีช่วงสีที่กว้างขึ้นและดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

    ✅ สามารถปรับระดับความเข้มของ HDR ได้ผ่าน Google Photos Editor
    - ผู้ใช้สามารถเลือกความเข้มของเอฟเฟกต์ HDR ผ่าน Adjust section ในแอป Google Photos
    - ฟีเจอร์นี้จะมาแทนที่ตัวเลือก HDR Effect ที่มีอยู่เดิม

    ✅ Ultra HDR รองรับการแสดงผลบนหน้าจอ HDR และสามารถปรับให้เข้ากับหน้าจอทั่วไป
    - หากใช้งานบนอุปกรณ์ที่รองรับ HDR จะสามารถเห็นความแตกต่างของสีได้ชัดเจน
    - หากดูบนหน้าจอทั่วไป ภาพจะถูกปรับให้เข้ากับช่วงสีมาตรฐาน

    ✅ ฟีเจอร์นี้เริ่มเปิดให้ใช้งานใน Google Photos เวอร์ชัน 7.24.0.747539053
    - คาดว่าจะทยอยเปิดให้ใช้งานกับผู้ใช้ Android ในช่วงเวลาต่อไป

    https://www.techradar.com/phones/google-photos-is-letting-you-add-ultra-hdr-magic-to-your-images-after-youve-taken-them
    Google Photos ได้เพิ่มฟีเจอร์ Ultra HDR ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มความสดใสของภาพถ่ายได้ แม้จะเป็นภาพที่ถ่ายไปแล้วก่อนหน้านี้ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ภาพมีช่วงสีที่กว้างขึ้นและสามารถปรับระดับความเข้มของ HDR ได้ผ่าน Google Photos Editor ✅ Ultra HDR ช่วยเพิ่มความสดใสของภาพถ่ายได้ แม้จะเป็นภาพที่ถ่ายไปแล้ว - ผู้ใช้สามารถเพิ่มเอฟเฟกต์ HDR ให้กับภาพที่มีอยู่ในคลังภาพ - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ภาพมีช่วงสีที่กว้างขึ้นและดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ✅ สามารถปรับระดับความเข้มของ HDR ได้ผ่าน Google Photos Editor - ผู้ใช้สามารถเลือกความเข้มของเอฟเฟกต์ HDR ผ่าน Adjust section ในแอป Google Photos - ฟีเจอร์นี้จะมาแทนที่ตัวเลือก HDR Effect ที่มีอยู่เดิม ✅ Ultra HDR รองรับการแสดงผลบนหน้าจอ HDR และสามารถปรับให้เข้ากับหน้าจอทั่วไป - หากใช้งานบนอุปกรณ์ที่รองรับ HDR จะสามารถเห็นความแตกต่างของสีได้ชัดเจน - หากดูบนหน้าจอทั่วไป ภาพจะถูกปรับให้เข้ากับช่วงสีมาตรฐาน ✅ ฟีเจอร์นี้เริ่มเปิดให้ใช้งานใน Google Photos เวอร์ชัน 7.24.0.747539053 - คาดว่าจะทยอยเปิดให้ใช้งานกับผู้ใช้ Android ในช่วงเวลาต่อไป https://www.techradar.com/phones/google-photos-is-letting-you-add-ultra-hdr-magic-to-your-images-after-youve-taken-them
    0 Comments 0 Shares 33 Views 0 Reviews
  • Cisco ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยร้ายแรงใน Webex ซึ่งช่วยให้แฮกเกอร์สามารถใช้ Remote Code Execution (RCE) ผ่านลิงก์เชิญประชุมที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น CVE-2024-20236 และได้รับคะแนนความรุนแรง 8.8/10 ตามมาตรฐาน CVSS

    ✅ ช่องโหว่ CVE-2024-20236 เป็นปัญหาการตรวจสอบข้อมูลที่ไม่เพียงพอ
    - ช่องโหว่นี้เกิดขึ้นใน custom URL parser ของแอป Webex
    - ผู้โจมตีสามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อโน้มน้าวให้ผู้ใช้คลิกลิงก์ประชุมที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ

    ✅ ช่องโหว่ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถรันคำสั่งจากระยะไกลได้
    - หากผู้ใช้ดาวน์โหลดไฟล์ที่แนบมากับลิงก์ประชุม อาจทำให้แฮกเกอร์สามารถรันคำสั่งได้ด้วยสิทธิ์ของผู้ใช้

    ✅ Cisco ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่แล้ว
    - ไม่มีวิธีแก้ไขปัญหาชั่วคราว ดังนั้นผู้ใช้ต้องอัปเดต Webex เพื่อป้องกันการโจมตี

    ✅ Cisco ยังแก้ไขช่องโหว่อื่นๆ อีกสองรายการ
    - CVE-2025-20178 (คะแนน 6.0/10) เป็นช่องโหว่ Privilege Escalation ใน Secure Networks Analytics
    - CVE-2025-20150 (คะแนน 5.3/10) เป็นช่องโหว่ใน Nexus Dashboard ที่ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถตรวจสอบบัญชี LDAP ได้

    https://www.techradar.com/pro/security/cisco-webex-security-flaw-could-let-hackers-hijack-your-system-via-a-meeting-invite
    Cisco ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยร้ายแรงใน Webex ซึ่งช่วยให้แฮกเกอร์สามารถใช้ Remote Code Execution (RCE) ผ่านลิงก์เชิญประชุมที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น CVE-2024-20236 และได้รับคะแนนความรุนแรง 8.8/10 ตามมาตรฐาน CVSS ✅ ช่องโหว่ CVE-2024-20236 เป็นปัญหาการตรวจสอบข้อมูลที่ไม่เพียงพอ - ช่องโหว่นี้เกิดขึ้นใน custom URL parser ของแอป Webex - ผู้โจมตีสามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อโน้มน้าวให้ผู้ใช้คลิกลิงก์ประชุมที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ ✅ ช่องโหว่ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถรันคำสั่งจากระยะไกลได้ - หากผู้ใช้ดาวน์โหลดไฟล์ที่แนบมากับลิงก์ประชุม อาจทำให้แฮกเกอร์สามารถรันคำสั่งได้ด้วยสิทธิ์ของผู้ใช้ ✅ Cisco ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่แล้ว - ไม่มีวิธีแก้ไขปัญหาชั่วคราว ดังนั้นผู้ใช้ต้องอัปเดต Webex เพื่อป้องกันการโจมตี ✅ Cisco ยังแก้ไขช่องโหว่อื่นๆ อีกสองรายการ - CVE-2025-20178 (คะแนน 6.0/10) เป็นช่องโหว่ Privilege Escalation ใน Secure Networks Analytics - CVE-2025-20150 (คะแนน 5.3/10) เป็นช่องโหว่ใน Nexus Dashboard ที่ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถตรวจสอบบัญชี LDAP ได้ https://www.techradar.com/pro/security/cisco-webex-security-flaw-could-let-hackers-hijack-your-system-via-a-meeting-invite
    0 Comments 0 Shares 40 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้ออก อัปเดตความปลอดภัยสำหรับ Entra ID ซึ่งส่งผลให้ผู้ใช้จำนวนมากถูกล็อกบัญชีโดยไม่คาดคิด โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเนื่องจากระบบ MACE Credential Revocation ตรวจพบข้อมูลรับรองที่ถูกกล่าวหาว่ารั่วไหล แม้ว่าผู้ใช้บางรายจะใช้รหัสผ่านที่ไม่เคยถูกใช้มาก่อน

    ✅ Microsoft Entra ID อัปเดตระบบตรวจจับข้อมูลรับรองที่รั่วไหล
    - ระบบ MACE Credential Revocation ตรวจพบข้อมูลรับรองที่ถูกกล่าวหาว่ารั่วไหล
    - ผู้ใช้บางรายถูกล็อกบัญชี แม้ว่าจะใช้รหัสผ่านที่ไม่เคยถูกใช้มาก่อน

    ✅ Microsoft ยอมรับว่าเป็นข้อผิดพลาดภายใน
    - บริษัทระบุว่า "เกิดการบันทึกโทเค็นรีเฟรชของผู้ใช้บางส่วนโดยไม่ได้ตั้งใจ"
    - ข้อผิดพลาดนี้ถูกแก้ไขทันที และ Microsoft ได้ดำเนินการเพื่อลบโทเค็นที่ได้รับผลกระทบ

    ✅ ผู้ใช้ได้รับข้อความแจ้งเตือนที่แตกต่างกัน
    - บางรายได้รับ Error Code: 53003 ซึ่งเกี่ยวข้องกับ Conditional Access Policy
    - บางรายได้รับแจ้งว่าเป็นปัญหาจาก การหยุดทำงานของระบบในภูมิภาค แม้ว่าจะไม่มีรายงานการหยุดทำงาน

    ✅ Microsoft กำลังตรวจสอบและให้คำอธิบายเพิ่มเติม
    - TechRadar Pro ได้ติดต่อ Microsoft เพื่อขอคำชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้

    https://www.techradar.com/pro/security/a-microsoft-entra-security-update-is-locking-users-out-of-their-accounts
    Microsoft ได้ออก อัปเดตความปลอดภัยสำหรับ Entra ID ซึ่งส่งผลให้ผู้ใช้จำนวนมากถูกล็อกบัญชีโดยไม่คาดคิด โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเนื่องจากระบบ MACE Credential Revocation ตรวจพบข้อมูลรับรองที่ถูกกล่าวหาว่ารั่วไหล แม้ว่าผู้ใช้บางรายจะใช้รหัสผ่านที่ไม่เคยถูกใช้มาก่อน ✅ Microsoft Entra ID อัปเดตระบบตรวจจับข้อมูลรับรองที่รั่วไหล - ระบบ MACE Credential Revocation ตรวจพบข้อมูลรับรองที่ถูกกล่าวหาว่ารั่วไหล - ผู้ใช้บางรายถูกล็อกบัญชี แม้ว่าจะใช้รหัสผ่านที่ไม่เคยถูกใช้มาก่อน ✅ Microsoft ยอมรับว่าเป็นข้อผิดพลาดภายใน - บริษัทระบุว่า "เกิดการบันทึกโทเค็นรีเฟรชของผู้ใช้บางส่วนโดยไม่ได้ตั้งใจ" - ข้อผิดพลาดนี้ถูกแก้ไขทันที และ Microsoft ได้ดำเนินการเพื่อลบโทเค็นที่ได้รับผลกระทบ ✅ ผู้ใช้ได้รับข้อความแจ้งเตือนที่แตกต่างกัน - บางรายได้รับ Error Code: 53003 ซึ่งเกี่ยวข้องกับ Conditional Access Policy - บางรายได้รับแจ้งว่าเป็นปัญหาจาก การหยุดทำงานของระบบในภูมิภาค แม้ว่าจะไม่มีรายงานการหยุดทำงาน ✅ Microsoft กำลังตรวจสอบและให้คำอธิบายเพิ่มเติม - TechRadar Pro ได้ติดต่อ Microsoft เพื่อขอคำชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ https://www.techradar.com/pro/security/a-microsoft-entra-security-update-is-locking-users-out-of-their-accounts
    0 Comments 0 Shares 32 Views 0 Reviews