• ข่าวนี้เล่าถึงฟีเจอร์ใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวใน Windows 11 ชื่อว่า Windows Recall ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีความสามารถในการบันทึกภาพหน้าจอของทุกกิจกรรมที่ผู้ใช้ทำบนคอมพิวเตอร์ Copilot+ PC เพื่อให้สามารถค้นหากิจกรรมย้อนหลังได้ ฟีเจอร์นี้มีการเลื่อนเปิดตัวหลายครั้งเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย

    Microsoft ได้ประกาศว่าฟีเจอร์ Windows Recall จะเริ่มเปิดตัวในรูปแบบพรีวิวสำหรับผู้ใช้งาน Windows Insiders ใน Release Preview Channel โดยฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหากิจกรรมที่เคยทำบนคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้นผ่านการบันทึกภาพหน้าจออย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้ได้รับเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากผู้ใช้และนักวิจัยด้านความปลอดภัย เนื่องจากมีความเสี่ยงในการบันทึกข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น หมายเลขบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว

    Microsoft ได้พยายามแก้ไขปัญหาโดยเพิ่มมาตรการความปลอดภัย เช่น การให้ผู้ใช้เลือกเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้เอง และการใช้ Windows Hello เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถกรองแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่ไม่ต้องการให้บันทึกภาพหน้าจอ และสามารถลบภาพที่บันทึกไว้ได้

    Windows Recall คืออะไร ฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ที่บันทึกภาพหน้าจอของทุกกิจกรรมบน Copilot+ PC เพื่อช่วยค้นหากิจกรรมย้อนหลัง

    การเปิดตัวในรูปแบบพรีวิว Microsoft เริ่มเปิดตัว Windows Recall ในรูปแบบพรีวิวสำหรับ Windows Insiders ใน Release Preview Channel

    มาตรการความปลอดภัย ผู้ใช้ต้องเลือกเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้เอง และใช้ Windows Hello เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูล

    ความกังวลด้านความปลอดภัย ฟีเจอร์นี้อาจบันทึกข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น หมายเลขบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว

    การตอบรับจากผู้ใช้ ผู้ใช้มีความคิดเห็นที่หลากหลายต่อฟีเจอร์นี้ ตั้งแต่ชื่นชอบไปจนถึงวิจารณ์อย่างหนัก

    https://www.techspot.com/news/107508-windows-recall-finally-nearing-launch-microsoft-suggests.html
    ข่าวนี้เล่าถึงฟีเจอร์ใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวใน Windows 11 ชื่อว่า Windows Recall ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีความสามารถในการบันทึกภาพหน้าจอของทุกกิจกรรมที่ผู้ใช้ทำบนคอมพิวเตอร์ Copilot+ PC เพื่อให้สามารถค้นหากิจกรรมย้อนหลังได้ ฟีเจอร์นี้มีการเลื่อนเปิดตัวหลายครั้งเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย Microsoft ได้ประกาศว่าฟีเจอร์ Windows Recall จะเริ่มเปิดตัวในรูปแบบพรีวิวสำหรับผู้ใช้งาน Windows Insiders ใน Release Preview Channel โดยฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหากิจกรรมที่เคยทำบนคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้นผ่านการบันทึกภาพหน้าจออย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้ได้รับเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากผู้ใช้และนักวิจัยด้านความปลอดภัย เนื่องจากมีความเสี่ยงในการบันทึกข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น หมายเลขบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว Microsoft ได้พยายามแก้ไขปัญหาโดยเพิ่มมาตรการความปลอดภัย เช่น การให้ผู้ใช้เลือกเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้เอง และการใช้ Windows Hello เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถกรองแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่ไม่ต้องการให้บันทึกภาพหน้าจอ และสามารถลบภาพที่บันทึกไว้ได้ ✅ Windows Recall คืออะไร ฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ที่บันทึกภาพหน้าจอของทุกกิจกรรมบน Copilot+ PC เพื่อช่วยค้นหากิจกรรมย้อนหลัง ✅ การเปิดตัวในรูปแบบพรีวิว Microsoft เริ่มเปิดตัว Windows Recall ในรูปแบบพรีวิวสำหรับ Windows Insiders ใน Release Preview Channel ✅ มาตรการความปลอดภัย ผู้ใช้ต้องเลือกเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้เอง และใช้ Windows Hello เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูล ℹ️ ความกังวลด้านความปลอดภัย ฟีเจอร์นี้อาจบันทึกข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น หมายเลขบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว ℹ️ การตอบรับจากผู้ใช้ ผู้ใช้มีความคิดเห็นที่หลากหลายต่อฟีเจอร์นี้ ตั้งแต่ชื่นชอบไปจนถึงวิจารณ์อย่างหนัก https://www.techspot.com/news/107508-windows-recall-finally-nearing-launch-microsoft-suggests.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Windows Recall is finally nearing launch, Microsoft suggests
    Microsoft wrote in a post yesterday that a preview version of Recall is being rolled out to Insiders in the Release Preview Channel on Windows 11, version...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 490 มุมมอง 0 รีวิว
  • Albert Saniger ผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของแอป Nate ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงจากการอ้างว่าแอปของเขาใช้ AI ในการดำเนินการซื้อสินค้าออนไลน์ แต่แท้จริงแล้วกลับใช้แรงงานมนุษย์ในศูนย์บริการลูกค้าในฟิลิปปินส์และโรมาเนีย มาฟังรายละเอียดกันค่ะ:

    Saniger เปิดตัวแอป Nate ในปี 2018 โดยโฆษณาว่าเป็นแอปที่ใช้ AI ในการทำงาน เช่น การกรอกข้อมูลการชำระเงินและการจัดส่งสินค้า รวมถึงการยืนยันการซื้อ แต่จากการสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ พบว่าแอปนี้พึ่งพาแรงงานมนุษย์เป็นหลักในการดำเนินการซื้อสินค้า ซึ่งขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างของ Saniger ที่ว่าแอปนี้ไม่ใช้ "บอทที่โง่เขลา"

    ในปี 2021 Saniger ได้สั่งให้ทีมวิศวกรของเขาพัฒนาบอทเพื่อช่วยดำเนินการซื้อสินค้า แต่บอทเหล่านี้ยังคงทำงานร่วมกับทีมมนุษย์ และไม่ได้เป็น AI ที่ทำงานอัตโนมัติอย่างที่โฆษณาไว้

    แอป Nate ระดมทุนได้กว่า 50 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนตั้งแต่เปิดตัว โดยในปี 2021 ระดมทุนได้ถึง 38 ล้านดอลลาร์ แต่ในปี 2023 บริษัทถูกบังคับให้ขายทรัพย์สินหลังจากหมดเงินทุน ทำให้นักลงทุนสูญเสียเงินเกือบทั้งหมด

    ข้อกล่าวหาต่อ Albert Saniger
    - Saniger ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงจากการอ้างว่าแอป Nate ใช้ AI แต่แท้จริงแล้วใช้แรงงานมนุษย์

    การทำงานของแอป Nate
    - แอป Nate โฆษณาว่าใช้ AI ในการดำเนินการซื้อสินค้า
    - แต่กลับพึ่งพาแรงงานมนุษย์ในศูนย์บริการลูกค้า

    การระดมทุนของ Nate
    - Nate ระดมทุนได้กว่า 50 ล้านดอลลาร์
    - แต่ต้องขายทรัพย์สินในปี 2023 หลังหมดเงินทุน

    ความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือของ AI
    - กรณีนี้อาจทำให้ผู้คนตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของบริษัทที่อ้างว่าใช้ AI

    ผลกระทบต่อนักลงทุน
    - นักลงทุนสูญเสียเงินเกือบทั้งหมดจากการลงทุนใน Nate เนื่องจากข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง

    https://www.techspot.com/news/107510-founder-nate-app-faces-fraud-charge-using-ai.html
    Albert Saniger ผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของแอป Nate ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงจากการอ้างว่าแอปของเขาใช้ AI ในการดำเนินการซื้อสินค้าออนไลน์ แต่แท้จริงแล้วกลับใช้แรงงานมนุษย์ในศูนย์บริการลูกค้าในฟิลิปปินส์และโรมาเนีย มาฟังรายละเอียดกันค่ะ: Saniger เปิดตัวแอป Nate ในปี 2018 โดยโฆษณาว่าเป็นแอปที่ใช้ AI ในการทำงาน เช่น การกรอกข้อมูลการชำระเงินและการจัดส่งสินค้า รวมถึงการยืนยันการซื้อ แต่จากการสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ พบว่าแอปนี้พึ่งพาแรงงานมนุษย์เป็นหลักในการดำเนินการซื้อสินค้า ซึ่งขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างของ Saniger ที่ว่าแอปนี้ไม่ใช้ "บอทที่โง่เขลา" ในปี 2021 Saniger ได้สั่งให้ทีมวิศวกรของเขาพัฒนาบอทเพื่อช่วยดำเนินการซื้อสินค้า แต่บอทเหล่านี้ยังคงทำงานร่วมกับทีมมนุษย์ และไม่ได้เป็น AI ที่ทำงานอัตโนมัติอย่างที่โฆษณาไว้ แอป Nate ระดมทุนได้กว่า 50 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนตั้งแต่เปิดตัว โดยในปี 2021 ระดมทุนได้ถึง 38 ล้านดอลลาร์ แต่ในปี 2023 บริษัทถูกบังคับให้ขายทรัพย์สินหลังจากหมดเงินทุน ทำให้นักลงทุนสูญเสียเงินเกือบทั้งหมด ✅ ข้อกล่าวหาต่อ Albert Saniger - Saniger ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงจากการอ้างว่าแอป Nate ใช้ AI แต่แท้จริงแล้วใช้แรงงานมนุษย์ ✅ การทำงานของแอป Nate - แอป Nate โฆษณาว่าใช้ AI ในการดำเนินการซื้อสินค้า - แต่กลับพึ่งพาแรงงานมนุษย์ในศูนย์บริการลูกค้า ✅ การระดมทุนของ Nate - Nate ระดมทุนได้กว่า 50 ล้านดอลลาร์ - แต่ต้องขายทรัพย์สินในปี 2023 หลังหมดเงินทุน ℹ️ ความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือของ AI - กรณีนี้อาจทำให้ผู้คนตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของบริษัทที่อ้างว่าใช้ AI ℹ️ ผลกระทบต่อนักลงทุน - นักลงทุนสูญเสียเงินเกือบทั้งหมดจากการลงทุนใน Nate เนื่องจากข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง https://www.techspot.com/news/107510-founder-nate-app-faces-fraud-charge-using-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Founder of Nate app faces fraud charge for using "AI" that was really human call center workers
    Saniger launched the Nate app in 2018. It promises to act as a universal shopping cart that simplifies online shopping by enabling users to skip the checkout...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 484 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ลดราคาชุดเครื่องมือ Google Workspace สำหรับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ถึง 71% เพื่อแข่งขันกับ Microsoft ในตลาดซอฟต์แวร์สำหรับรัฐบาล

    Google ได้ประกาศข้อตกลงใหม่ที่มุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าในหน่วยงานรัฐบาล โดยเสนอราคาที่ลดลงอย่างมากสำหรับ Google Workspace Enterprise Plus และ Assured Controls Plus Editions ข้อตกลงนี้จะมีผลจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2025 และคาดว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐบาลได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 3 ปี

    Google ยังเน้นย้ำถึงความปลอดภัยของระบบ โดย Google Workspace ได้รับการรับรอง FedRAMP High ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่สำคัญสำหรับระบบ IT ของรัฐบาล นอกจากนี้ Gemini ซึ่งเป็น AI Assistant ของ Google ก็ได้รับการรับรองนี้เช่นกัน

    การลดราคาครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังผลักดันการรวมศูนย์การจัดซื้อ IT เพื่อประหยัดงบประมาณและลดความซ้ำซ้อน

    การลดราคาครั้งใหญ่ของ Google Workspace
    - Google ลดราคาชุดเครื่องมือ Google Workspace สำหรับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ถึง 71%
    - ข้อตกลงนี้มีผลจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2025

    การรับรองความปลอดภัย
    - Google Workspace และ Gemini ได้รับการรับรอง FedRAMP High
    - การรับรองนี้ช่วยให้มั่นใจว่าระบบมีความปลอดภัยสูง

    เป้าหมายของการลดราคา
    - Google ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าในหน่วยงานรัฐบาล
    - คาดว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐบาลได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์ใน 3 ปี

    ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน
    - การลดราคาครั้งนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้ Microsoft ต้องปรับกลยุทธ์
    - การแข่งขันที่รุนแรงอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในระยะยาว

    ผลกระทบต่อการรวมศูนย์การจัดซื้อ IT
    - การรวมศูนย์การจัดซื้อ IT อาจลดความยืดหยุ่นของหน่วยงานรัฐบาลบางแห่ง
    - อาจเกิดความเสี่ยงหากระบบที่รวมศูนย์มีปัญหาด้านความปลอดภัย

    https://www.techspot.com/news/107516-google-undercuts-microsoft-71-workspace-discount-us-government.html
    Google ลดราคาชุดเครื่องมือ Google Workspace สำหรับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ถึง 71% เพื่อแข่งขันกับ Microsoft ในตลาดซอฟต์แวร์สำหรับรัฐบาล Google ได้ประกาศข้อตกลงใหม่ที่มุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าในหน่วยงานรัฐบาล โดยเสนอราคาที่ลดลงอย่างมากสำหรับ Google Workspace Enterprise Plus และ Assured Controls Plus Editions ข้อตกลงนี้จะมีผลจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2025 และคาดว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐบาลได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 3 ปี Google ยังเน้นย้ำถึงความปลอดภัยของระบบ โดย Google Workspace ได้รับการรับรอง FedRAMP High ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่สำคัญสำหรับระบบ IT ของรัฐบาล นอกจากนี้ Gemini ซึ่งเป็น AI Assistant ของ Google ก็ได้รับการรับรองนี้เช่นกัน การลดราคาครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังผลักดันการรวมศูนย์การจัดซื้อ IT เพื่อประหยัดงบประมาณและลดความซ้ำซ้อน ✅ การลดราคาครั้งใหญ่ของ Google Workspace - Google ลดราคาชุดเครื่องมือ Google Workspace สำหรับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ถึง 71% - ข้อตกลงนี้มีผลจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2025 ✅ การรับรองความปลอดภัย - Google Workspace และ Gemini ได้รับการรับรอง FedRAMP High - การรับรองนี้ช่วยให้มั่นใจว่าระบบมีความปลอดภัยสูง ✅ เป้าหมายของการลดราคา - Google ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าในหน่วยงานรัฐบาล - คาดว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐบาลได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์ใน 3 ปี ℹ️ ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน - การลดราคาครั้งนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้ Microsoft ต้องปรับกลยุทธ์ - การแข่งขันที่รุนแรงอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในระยะยาว ℹ️ ผลกระทบต่อการรวมศูนย์การจัดซื้อ IT - การรวมศูนย์การจัดซื้อ IT อาจลดความยืดหยุ่นของหน่วยงานรัฐบาลบางแห่ง - อาจเกิดความเสี่ยงหากระบบที่รวมศูนย์มีปัญหาด้านความปลอดภัย https://www.techspot.com/news/107516-google-undercuts-microsoft-71-workspace-discount-us-government.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google Workspace undercuts Microsoft offer with 71% discount for US government agencies
    Tony Orlando, GM of specialty sales for Google Public Sector, positioned Workspace as a secure, AI-powered alternative to Microsoft's offerings.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทีมนักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาโฮโลแกรมแบบ 3 มิติที่สามารถสัมผัสได้ โดยใช้วัสดุยืดหยุ่นแทนพื้นผิวแข็งที่เคยใช้ในเทคโนโลยีโฮโลแกรมแบบเดิม การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสัมผัสและโต้ตอบกับโฮโลแกรมได้โดยไม่เกิดอันตรายต่อร่างกาย เช่น การหมุนหรือการบีบโฮโลแกรมเหมือนที่ทำบนหน้าจอสมาร์ทโฟน

    การทดลองพบว่าผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ชื่นชอบการสัมผัสโฮโลแกรมมากกว่าการใช้เมาส์ 3 มิติ เนื่องจากรู้สึกว่าการสัมผัสมีความแม่นยำและเป็นธรรมชาติมากกว่า

    เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา แต่มีศักยภาพในการนำไปใช้ในหลากหลายด้าน เช่น การศึกษาและพิพิธภัณฑ์ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกับวัตถุในรูปแบบใหม่

    ความก้าวหน้าของโฮโลแกรมแบบ 3 มิติ
    - ทีมนักวิทยาศาสตร์พัฒนาโฮโลแกรมแบบ 3 มิติที่สามารถสัมผัสได้
    - ใช้วัสดุยืดหยุ่นแทนพื้นผิวแข็งเพื่อความปลอดภัย

    การทดลองและผลตอบรับ
    - ผู้เข้าร่วมการทดลองชื่นชอบการสัมผัสโฮโลแกรมมากกว่าการใช้เมาส์ 3 มิติ
    - การสัมผัสให้ความรู้สึกแม่นยำและเป็นธรรมชาติมากกว่า

    ศักยภาพในการใช้งาน
    - เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการนำไปใช้ในด้านการศึกษาและพิพิธภัณฑ์
    - ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกับวัตถุในรูปแบบใหม่

    ความท้าทายในการพัฒนา
    - เทคโนโลยียังต้องการการปรับปรุงเพื่อเพิ่มความแม่นยำและความสมบูรณ์ของภาพ

    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    - การใช้งานในวงกว้างอาจต้องมีมาตรการป้องกันเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน

    https://www.techspot.com/news/107514-touchable-3d-holograms-now-reality-world-first-breakthrough.html
    ทีมนักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาโฮโลแกรมแบบ 3 มิติที่สามารถสัมผัสได้ โดยใช้วัสดุยืดหยุ่นแทนพื้นผิวแข็งที่เคยใช้ในเทคโนโลยีโฮโลแกรมแบบเดิม การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสัมผัสและโต้ตอบกับโฮโลแกรมได้โดยไม่เกิดอันตรายต่อร่างกาย เช่น การหมุนหรือการบีบโฮโลแกรมเหมือนที่ทำบนหน้าจอสมาร์ทโฟน การทดลองพบว่าผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ชื่นชอบการสัมผัสโฮโลแกรมมากกว่าการใช้เมาส์ 3 มิติ เนื่องจากรู้สึกว่าการสัมผัสมีความแม่นยำและเป็นธรรมชาติมากกว่า เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา แต่มีศักยภาพในการนำไปใช้ในหลากหลายด้าน เช่น การศึกษาและพิพิธภัณฑ์ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกับวัตถุในรูปแบบใหม่ ✅ ความก้าวหน้าของโฮโลแกรมแบบ 3 มิติ - ทีมนักวิทยาศาสตร์พัฒนาโฮโลแกรมแบบ 3 มิติที่สามารถสัมผัสได้ - ใช้วัสดุยืดหยุ่นแทนพื้นผิวแข็งเพื่อความปลอดภัย ✅ การทดลองและผลตอบรับ - ผู้เข้าร่วมการทดลองชื่นชอบการสัมผัสโฮโลแกรมมากกว่าการใช้เมาส์ 3 มิติ - การสัมผัสให้ความรู้สึกแม่นยำและเป็นธรรมชาติมากกว่า ✅ ศักยภาพในการใช้งาน - เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการนำไปใช้ในด้านการศึกษาและพิพิธภัณฑ์ - ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกับวัตถุในรูปแบบใหม่ ℹ️ ความท้าทายในการพัฒนา - เทคโนโลยียังต้องการการปรับปรุงเพื่อเพิ่มความแม่นยำและความสมบูรณ์ของภาพ ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย - การใช้งานในวงกว้างอาจต้องมีมาตรการป้องกันเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน https://www.techspot.com/news/107514-touchable-3d-holograms-now-reality-world-first-breakthrough.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Touchable 3D holograms are now a reality in world-first breakthrough
    As New Atlas explains, traditional holograms are created using swept volumetric displays. Images are projected at varying heights onto a rigid oscillating surface known as a diffuser...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • John Tucker ผู้ก่อตั้งบริษัท Secure Annex ได้ค้นพบส่วนขยาย Chrome ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงขณะช่วยลูกค้าตรวจสอบความปลอดภัย โดยพบว่ามีส่วนขยายที่ไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store และสามารถดาวน์โหลดได้เฉพาะผ่าน URL โดยตรง ซึ่งเป็นวิธีที่มักใช้โดยผู้ไม่หวังดีเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ

    ส่วนขยายเหล่านี้ขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น แท็บเบราว์เซอร์ คุกกี้ และ API การจัดการ ซึ่งเป็นระดับการเข้าถึงที่สูงผิดปกติ นอกจากนี้ โค้ดของส่วนขยายยังถูกเข้ารหัสอย่างหนักเพื่อป้องกันการตรวจสอบ

    แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าส่วนขยายเหล่านี้ขโมยข้อมูล แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่อาจถูกใช้ในทางที่ผิด Tucker แนะนำให้ผู้ใช้ลบส่วนขยายเหล่านี้ทันที

    การค้นพบเครือข่ายส่วนขยาย Chrome ที่เสี่ยง
    - John Tucker ค้นพบส่วนขยาย Chrome ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงจำนวน 35 รายการ
    - ส่วนขยายบางตัวไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store และต้องดาวน์โหลดผ่าน URL โดยตรง

    สิทธิ์การเข้าถึงที่ผิดปกติ
    - ส่วนขยายเหล่านี้ขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น แท็บเบราว์เซอร์และคุกกี้
    - โค้ดของส่วนขยายถูกเข้ารหัสอย่างหนักเพื่อป้องกันการตรวจสอบ

    คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
    - Tucker แนะนำให้ลบส่วนขยายเหล่านี้ทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    - ส่วนขยายที่ไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store อาจถูกใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ
    - การขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอาจนำไปสู่การละเมิดความเป็นส่วนตัว

    ผลกระทบต่อผู้ใช้
    - ผู้ใช้ที่ติดตั้งส่วนขยายเหล่านี้อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์
    - การเข้ารหัสโค้ดทำให้ยากต่อการตรวจสอบและแก้ไขปัญหา

    https://www.techspot.com/news/107515-researcher-uncovers-network-risky-chrome-extensions-over-4.html
    John Tucker ผู้ก่อตั้งบริษัท Secure Annex ได้ค้นพบส่วนขยาย Chrome ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงขณะช่วยลูกค้าตรวจสอบความปลอดภัย โดยพบว่ามีส่วนขยายที่ไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store และสามารถดาวน์โหลดได้เฉพาะผ่าน URL โดยตรง ซึ่งเป็นวิธีที่มักใช้โดยผู้ไม่หวังดีเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ ส่วนขยายเหล่านี้ขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น แท็บเบราว์เซอร์ คุกกี้ และ API การจัดการ ซึ่งเป็นระดับการเข้าถึงที่สูงผิดปกติ นอกจากนี้ โค้ดของส่วนขยายยังถูกเข้ารหัสอย่างหนักเพื่อป้องกันการตรวจสอบ แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าส่วนขยายเหล่านี้ขโมยข้อมูล แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่อาจถูกใช้ในทางที่ผิด Tucker แนะนำให้ผู้ใช้ลบส่วนขยายเหล่านี้ทันที ✅ การค้นพบเครือข่ายส่วนขยาย Chrome ที่เสี่ยง - John Tucker ค้นพบส่วนขยาย Chrome ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงจำนวน 35 รายการ - ส่วนขยายบางตัวไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store และต้องดาวน์โหลดผ่าน URL โดยตรง ✅ สิทธิ์การเข้าถึงที่ผิดปกติ - ส่วนขยายเหล่านี้ขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น แท็บเบราว์เซอร์และคุกกี้ - โค้ดของส่วนขยายถูกเข้ารหัสอย่างหนักเพื่อป้องกันการตรวจสอบ ✅ คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ - Tucker แนะนำให้ลบส่วนขยายเหล่านี้ทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย - ส่วนขยายที่ไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store อาจถูกใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ - การขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอาจนำไปสู่การละเมิดความเป็นส่วนตัว ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้ - ผู้ใช้ที่ติดตั้งส่วนขยายเหล่านี้อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ - การเข้ารหัสโค้ดทำให้ยากต่อการตรวจสอบและแก้ไขปัญหา https://www.techspot.com/news/107515-researcher-uncovers-network-risky-chrome-extensions-over-4.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Researcher uncovers network of risky Chrome extensions with over 4 million installs
    John Tucker, founder of browser security firm Secure Annex, discovered the suspicious extensions while assisting a client who had installed one or more for security monitoring. The...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • จีนได้เปลี่ยนแปลงกฎการนำเข้าชิป โดยกำหนดให้สถานที่ผลิตแผ่นเวเฟอร์เป็นตัวกำหนดประเทศต้นกำเนิดของชิป ซึ่งหมายความว่าชิปที่ผลิตในไต้หวันจะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า 125% ที่จีนกำหนดสำหรับสินค้าจากสหรัฐฯ ในขณะที่ชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ จะต้องเสียภาษีดังกล่าว

    การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ เช่น Intel, GlobalFoundries และ Texas Instruments ซึ่งผลิตชิปในสหรัฐฯ และต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น ในทางกลับกัน บริษัทในไต้หวัน เช่น TSMC และ UMC ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้

    นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงนี้ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของจีนในการสนับสนุนบริษัทในไต้หวันและจีนเอง รวมถึงการแสดงจุดยืนว่าจีนถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของตน

    การเปลี่ยนแปลงกฎการนำเข้าชิปของจีน
    - กำหนดให้สถานที่ผลิตแผ่นเวเฟอร์เป็นตัวกำหนดประเทศต้นกำเนิดของชิป
    - ชิปที่ผลิตในไต้หวันได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า 125%

    ผลกระทบต่อบริษัทเซมิคอนดักเตอร์
    - บริษัทในสหรัฐฯ เช่น Intel และ Texas Instruments ต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น
    - บริษัทในไต้หวัน เช่น TSMC และ UMC ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้

    จุดยืนของจีน
    - จีนแสดงจุดยืนว่าถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของตน
    - สนับสนุนบริษัทในไต้หวันและจีนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

    ความเสี่ยงต่อบริษัทในสหรัฐฯ
    - บริษัทในสหรัฐฯ อาจต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิตชิปเพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนที่สูงขึ้น
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก

    ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ
    - อาจส่งผลต่อการเจรจาทางการค้าและความร่วมมือในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/chinas-new-semiconductor-rule-spares-taiwan-fabs-punishes-intel-globalfoundries-and-texas-instruments
    จีนได้เปลี่ยนแปลงกฎการนำเข้าชิป โดยกำหนดให้สถานที่ผลิตแผ่นเวเฟอร์เป็นตัวกำหนดประเทศต้นกำเนิดของชิป ซึ่งหมายความว่าชิปที่ผลิตในไต้หวันจะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า 125% ที่จีนกำหนดสำหรับสินค้าจากสหรัฐฯ ในขณะที่ชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ จะต้องเสียภาษีดังกล่าว การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ เช่น Intel, GlobalFoundries และ Texas Instruments ซึ่งผลิตชิปในสหรัฐฯ และต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น ในทางกลับกัน บริษัทในไต้หวัน เช่น TSMC และ UMC ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงนี้ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของจีนในการสนับสนุนบริษัทในไต้หวันและจีนเอง รวมถึงการแสดงจุดยืนว่าจีนถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของตน ✅ การเปลี่ยนแปลงกฎการนำเข้าชิปของจีน - กำหนดให้สถานที่ผลิตแผ่นเวเฟอร์เป็นตัวกำหนดประเทศต้นกำเนิดของชิป - ชิปที่ผลิตในไต้หวันได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า 125% ✅ ผลกระทบต่อบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ - บริษัทในสหรัฐฯ เช่น Intel และ Texas Instruments ต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น - บริษัทในไต้หวัน เช่น TSMC และ UMC ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ ✅ จุดยืนของจีน - จีนแสดงจุดยืนว่าถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของตน - สนับสนุนบริษัทในไต้หวันและจีนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ℹ️ ความเสี่ยงต่อบริษัทในสหรัฐฯ - บริษัทในสหรัฐฯ อาจต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิตชิปเพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนที่สูงขึ้น - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก ℹ️ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ - อาจส่งผลต่อการเจรจาทางการค้าและความร่วมมือในอนาคต https://www.tomshardware.com/tech-industry/chinas-new-semiconductor-rule-spares-taiwan-fabs-punishes-intel-globalfoundries-and-texas-instruments
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • เสียงเริ่มต้นของ Windows 95 ซึ่งมีความยาวเพียง 6 วินาที ได้รับการออกแบบโดย Brian Eno นักดนตรีและโปรดิวเซอร์ชื่อดังในยุค 90 เสียงนี้ไม่ได้เป็นเพียงเสียงแจ้งเตือนว่าคอมพิวเตอร์พร้อมใช้งาน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นยุคใหม่ของการใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล

    Windows 95 เปิดตัวในปี 1995 และเป็นระบบปฏิบัติการที่เปลี่ยนแปลงวงการคอมพิวเตอร์ ด้วยการนำเสนอ Graphical User Interface (GUI) ที่ใช้งานง่าย ทำให้ผู้คนจำนวนมากสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้น

    เสียงนี้ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการสร้าง โดย Eno ได้ออกแบบเสียงนี้บนคอมพิวเตอร์ Mac ซึ่งเป็นคู่แข่งของ Microsoft ในขณะนั้น

    การยกย่องเสียงเริ่มต้นของ Windows 95
    - เสียงนี้ได้รับการบันทึกใน National Recording Registry ของหอสมุดรัฐสภาสหรัฐฯ
    - เป็นการยกย่องความสำคัญทางวัฒนธรรมของเสียง

    การออกแบบเสียงโดย Brian Eno
    - เสียงนี้ถูกออกแบบโดย Brian Eno นักดนตรีชื่อดัง
    - ใช้คอมพิวเตอร์ Mac ในการสร้างเสียง

    ความสำคัญของ Windows 95
    - Windows 95 เปิดตัวในปี 1995 และเปลี่ยนแปลงวงการคอมพิวเตอร์
    - นำเสนอ GUI ที่ใช้งานง่าย ทำให้ผู้คนเข้าถึงเทคโนโลยีได้มากขึ้น

    ความท้าทายในการสร้างเสียง
    - การออกแบบเสียงที่มีความยาวเพียง 6 วินาทีต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์สูง
    - การใช้ Mac ในการสร้างเสียงอาจถูกมองว่าเป็นเรื่องขัดแย้ง

    ผลกระทบต่อวงการเทคโนโลยี
    - Windows 95 เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในวงการคอมพิวเตอร์
    - การบันทึกเสียงนี้ใน National Recording Registry ช่วยเน้นย้ำถึงความสำคัญของเทคโนโลยีในวัฒนธรรม

    https://www.tomshardware.com/software/windows/microsofts-windows-95-startup-sound-has-been-immortalized-in-the-library-of-congress
    เสียงเริ่มต้นของ Windows 95 ซึ่งมีความยาวเพียง 6 วินาที ได้รับการออกแบบโดย Brian Eno นักดนตรีและโปรดิวเซอร์ชื่อดังในยุค 90 เสียงนี้ไม่ได้เป็นเพียงเสียงแจ้งเตือนว่าคอมพิวเตอร์พร้อมใช้งาน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นยุคใหม่ของการใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล Windows 95 เปิดตัวในปี 1995 และเป็นระบบปฏิบัติการที่เปลี่ยนแปลงวงการคอมพิวเตอร์ ด้วยการนำเสนอ Graphical User Interface (GUI) ที่ใช้งานง่าย ทำให้ผู้คนจำนวนมากสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้น เสียงนี้ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการสร้าง โดย Eno ได้ออกแบบเสียงนี้บนคอมพิวเตอร์ Mac ซึ่งเป็นคู่แข่งของ Microsoft ในขณะนั้น ✅ การยกย่องเสียงเริ่มต้นของ Windows 95 - เสียงนี้ได้รับการบันทึกใน National Recording Registry ของหอสมุดรัฐสภาสหรัฐฯ - เป็นการยกย่องความสำคัญทางวัฒนธรรมของเสียง ✅ การออกแบบเสียงโดย Brian Eno - เสียงนี้ถูกออกแบบโดย Brian Eno นักดนตรีชื่อดัง - ใช้คอมพิวเตอร์ Mac ในการสร้างเสียง ✅ ความสำคัญของ Windows 95 - Windows 95 เปิดตัวในปี 1995 และเปลี่ยนแปลงวงการคอมพิวเตอร์ - นำเสนอ GUI ที่ใช้งานง่าย ทำให้ผู้คนเข้าถึงเทคโนโลยีได้มากขึ้น ℹ️ ความท้าทายในการสร้างเสียง - การออกแบบเสียงที่มีความยาวเพียง 6 วินาทีต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์สูง - การใช้ Mac ในการสร้างเสียงอาจถูกมองว่าเป็นเรื่องขัดแย้ง ℹ️ ผลกระทบต่อวงการเทคโนโลยี - Windows 95 เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในวงการคอมพิวเตอร์ - การบันทึกเสียงนี้ใน National Recording Registry ช่วยเน้นย้ำถึงความสำคัญของเทคโนโลยีในวัฒนธรรม https://www.tomshardware.com/software/windows/microsofts-windows-95-startup-sound-has-been-immortalized-in-the-library-of-congress
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Microsoft's Windows 95 startup sound has been immortalized in the Library of Congress
    The National Recording Registry has officially added the Windows 95 startup sound.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • Canva ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Canva AI Assistant ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างภาพ ก๊อบปี้ และไอเดียการออกแบบได้อย่างรวดเร็ว โดยมีการผสานรวมกับฟีเจอร์อื่นๆ เช่น Canva Code ที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างแอปขนาดเล็กแบบโต้ตอบ เช่น แผนที่และเครื่องคิดเลข โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดลึกซึ้ง

    นอกจากนี้ Canva ยังเปิดตัว Canva Sheets ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ผสมผสานระหว่างแอปสเปรดชีตและแอปจัดการโครงการ โดยมีฟีเจอร์ AI อย่าง Magic Insights และ Magic Formulas ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างสูตรได้อย่างง่ายดาย

    การอัปเกรดครั้งนี้ยังรวมถึงฟีเจอร์ Magic Write สำหรับการเติมข้อความ และ Magic Resize ที่ช่วยปรับขนาดภาพให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ

    การเปิดตัว Canva Visual Suite 2.0
    - Canva เปิดตัว Visual Suite 2.0 ซึ่งเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่
    - รวมฟีเจอร์ใหม่ เช่น Canva AI Assistant, Canva Code และ Canva Sheets

    ฟีเจอร์ Canva AI Assistant
    - ช่วยสร้างภาพ ก๊อบปี้ และไอเดียการออกแบบ
    - ผสานรวมกับฟีเจอร์อื่นๆ เช่น Canva Code

    Canva Sheets และฟีเจอร์ AI
    - Canva Sheets ผสมผสานระหว่างแอปสเปรดชีตและแอปจัดการโครงการ
    - มีฟีเจอร์ AI อย่าง Magic Insights และ Magic Formulas

    ฟีเจอร์ Magic Write และ Magic Resize
    - Magic Write ช่วยเติมข้อความ
    - Magic Resize ช่วยปรับขนาดภาพสำหรับโซเชียลมีเดีย

    ความท้าทายในการใช้งาน AI
    - ผู้ใช้ที่ไม่มีประสบการณ์อาจต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ฟีเจอร์ใหม่
    - การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจลดความคิดสร้างสรรค์ของผู้ใช้

    ผลกระทบต่อคู่แข่งในตลาด
    - การอัปเกรดครั้งนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้คู่แข่ง เช่น Adobe ต้องปรับตัว
    - การแข่งขันที่รุนแรงอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในระยะยาว

    https://www.techradar.com/pro/canva-launches-canva-ai-for-coding-photo-editing-and-spreadsheets
    Canva ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Canva AI Assistant ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างภาพ ก๊อบปี้ และไอเดียการออกแบบได้อย่างรวดเร็ว โดยมีการผสานรวมกับฟีเจอร์อื่นๆ เช่น Canva Code ที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างแอปขนาดเล็กแบบโต้ตอบ เช่น แผนที่และเครื่องคิดเลข โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดลึกซึ้ง นอกจากนี้ Canva ยังเปิดตัว Canva Sheets ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ผสมผสานระหว่างแอปสเปรดชีตและแอปจัดการโครงการ โดยมีฟีเจอร์ AI อย่าง Magic Insights และ Magic Formulas ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างสูตรได้อย่างง่ายดาย การอัปเกรดครั้งนี้ยังรวมถึงฟีเจอร์ Magic Write สำหรับการเติมข้อความ และ Magic Resize ที่ช่วยปรับขนาดภาพให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ✅ การเปิดตัว Canva Visual Suite 2.0 - Canva เปิดตัว Visual Suite 2.0 ซึ่งเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ - รวมฟีเจอร์ใหม่ เช่น Canva AI Assistant, Canva Code และ Canva Sheets ✅ ฟีเจอร์ Canva AI Assistant - ช่วยสร้างภาพ ก๊อบปี้ และไอเดียการออกแบบ - ผสานรวมกับฟีเจอร์อื่นๆ เช่น Canva Code ✅ Canva Sheets และฟีเจอร์ AI - Canva Sheets ผสมผสานระหว่างแอปสเปรดชีตและแอปจัดการโครงการ - มีฟีเจอร์ AI อย่าง Magic Insights และ Magic Formulas ✅ ฟีเจอร์ Magic Write และ Magic Resize - Magic Write ช่วยเติมข้อความ - Magic Resize ช่วยปรับขนาดภาพสำหรับโซเชียลมีเดีย ℹ️ ความท้าทายในการใช้งาน AI - ผู้ใช้ที่ไม่มีประสบการณ์อาจต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ฟีเจอร์ใหม่ - การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจลดความคิดสร้างสรรค์ของผู้ใช้ ℹ️ ผลกระทบต่อคู่แข่งในตลาด - การอัปเกรดครั้งนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้คู่แข่ง เช่น Adobe ต้องปรับตัว - การแข่งขันที่รุนแรงอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในระยะยาว https://www.techradar.com/pro/canva-launches-canva-ai-for-coding-photo-editing-and-spreadsheets
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 343 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ วันพระ...
    ยา ทิสํ วปเต พีชํ ตาทิสํ ลภเต ผลํ กลฺยาณการี กลฺยาณํ ปาปการี จ ปาปกํ
    บุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น ผู้ทำกรรมดี ย่อมได้ผลดี ผู้ทำกรรมชั่ว ย่อมได้ผลชั่ว
    วันนี้ วันพระ... ยา ทิสํ วปเต พีชํ ตาทิสํ ลภเต ผลํ กลฺยาณการี กลฺยาณํ ปาปการี จ ปาปกํ บุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น ผู้ทำกรรมดี ย่อมได้ผลดี ผู้ทำกรรมชั่ว ย่อมได้ผลชั่ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้เผยแพร่บทความที่ชื่อว่า "7 Tips to Get the Most Out of Windows 11" โดยมีเป้าหมายเพื่อโน้มน้าวให้ผู้ใช้ Windows 10 อัปเกรดเป็น Windows 11 บทความนี้ชี้ให้เห็นถึงฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น การปรับแต่ง Start Menu, Snap Layouts, Virtual Desktops, Widgets และ Focus Sessions อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์เหล่านี้ถูกวิจารณ์ว่าไม่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ได้มากพอ

    นอกจากนี้ Microsoft ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการอัปเกรด เนื่องจากการสนับสนุน Windows 10 จะสิ้นสุดในเดือนตุลาคม 2025 แต่บทความนี้กลับไม่ได้กล่าวถึงฟีเจอร์ที่สำคัญ เช่น ความปลอดภัยที่ดีขึ้นและประสิทธิภาพที่ราบรื่นกว่าเดิม

    บทความเพื่อกระตุ้นการอัปเกรด
    - Microsoft เผยแพร่บทความ "7 Tips to Get the Most Out of Windows 11"
    - มีเป้าหมายเพื่อโน้มน้าวให้ผู้ใช้ Windows 10 อัปเกรด

    ฟีเจอร์ที่นำเสนอในบทความ
    - การปรับแต่ง Start Menu
    - Snap Layouts และ Virtual Desktops
    - Widgets และ Focus Sessions

    การสิ้นสุดการสนับสนุน Windows 10
    - Microsoft เน้นย้ำว่าการสนับสนุน Windows 10 จะสิ้นสุดในเดือนตุลาคม 2025

    ข้อวิจารณ์ต่อบทความ
    - ฟีเจอร์ที่นำเสนอไม่ได้ดึงดูดความสนใจของผู้ใช้มากพอ
    - บทความไม่ได้กล่าวถึงฟีเจอร์สำคัญ เช่น ความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

    ผลกระทบต่อผู้ใช้ Windows 10
    - ผู้ใช้ต้องตัดสินใจว่าจะอัปเกรดหรือจ่ายเงินเพื่อรักษาการสนับสนุน Windows 10
    - การสิ้นสุดการสนับสนุนอาจสร้างแรงกดดันให้ผู้ใช้ต้องเปลี่ยนระบบปฏิบัติการ

    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-latest-attempt-to-persuade-upgrades-to-windows-11-falls-spectacularly-flat-on-its-face
    Microsoft ได้เผยแพร่บทความที่ชื่อว่า "7 Tips to Get the Most Out of Windows 11" โดยมีเป้าหมายเพื่อโน้มน้าวให้ผู้ใช้ Windows 10 อัปเกรดเป็น Windows 11 บทความนี้ชี้ให้เห็นถึงฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น การปรับแต่ง Start Menu, Snap Layouts, Virtual Desktops, Widgets และ Focus Sessions อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์เหล่านี้ถูกวิจารณ์ว่าไม่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ได้มากพอ นอกจากนี้ Microsoft ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการอัปเกรด เนื่องจากการสนับสนุน Windows 10 จะสิ้นสุดในเดือนตุลาคม 2025 แต่บทความนี้กลับไม่ได้กล่าวถึงฟีเจอร์ที่สำคัญ เช่น ความปลอดภัยที่ดีขึ้นและประสิทธิภาพที่ราบรื่นกว่าเดิม ✅ บทความเพื่อกระตุ้นการอัปเกรด - Microsoft เผยแพร่บทความ "7 Tips to Get the Most Out of Windows 11" - มีเป้าหมายเพื่อโน้มน้าวให้ผู้ใช้ Windows 10 อัปเกรด ✅ ฟีเจอร์ที่นำเสนอในบทความ - การปรับแต่ง Start Menu - Snap Layouts และ Virtual Desktops - Widgets และ Focus Sessions ✅ การสิ้นสุดการสนับสนุน Windows 10 - Microsoft เน้นย้ำว่าการสนับสนุน Windows 10 จะสิ้นสุดในเดือนตุลาคม 2025 ℹ️ ข้อวิจารณ์ต่อบทความ - ฟีเจอร์ที่นำเสนอไม่ได้ดึงดูดความสนใจของผู้ใช้มากพอ - บทความไม่ได้กล่าวถึงฟีเจอร์สำคัญ เช่น ความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้ Windows 10 - ผู้ใช้ต้องตัดสินใจว่าจะอัปเกรดหรือจ่ายเงินเพื่อรักษาการสนับสนุน Windows 10 - การสิ้นสุดการสนับสนุนอาจสร้างแรงกดดันให้ผู้ใช้ต้องเปลี่ยนระบบปฏิบัติการ https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-latest-attempt-to-persuade-upgrades-to-windows-11-falls-spectacularly-flat-on-its-face
    WWW.TECHRADAR.COM
    Microsoft’s latest attempt to persuade upgrades to Windows 11 falls spectacularly flat on its face
    I don’t know what Microsoft’s thinking, but this is the oddest attempt I’ve ever seen to prod folks to upgrade to Windows 11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • การโจมตีแบบ Quishing เกิดขึ้นเมื่ออาชญากรไซเบอร์สร้าง QR Code ปลอมและนำไปติดทับ QR Code จริงในสถานที่ที่มีการชำระเงินแบบไร้สัมผัส เช่น ที่จอดรถและเมนูร้านอาหาร เมื่อผู้ใช้สแกน QR Code ปลอมนี้ พวกเขาจะถูกนำไปยังเว็บไซต์ที่ควบคุมโดยอาชญากร ซึ่งอาจขโมยข้อมูลการเงินหรือปล่อยมัลแวร์เข้าสู่อุปกรณ์ของผู้ใช้

    ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์แนะนำให้ผู้ใช้ระมัดระวังและตรวจสอบ QR Code ก่อนสแกน รวมถึงหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลการเงินกับเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ

    การโจมตีแบบ Quishing คืออะไร
    - การฟิชชิงผ่าน QR Code ที่อาชญากรสร้าง QR Code ปลอม
    - มักเกิดในสถานที่ที่มีการชำระเงินแบบไร้สัมผัส เช่น ที่จอดรถและร้านอาหาร

    ผลกระทบของการโจมตี
    - ผู้ใช้ถูกนำไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ควบคุมโดยอาชญากร
    - ข้อมูลการเงินอาจถูกขโมย หรืออุปกรณ์อาจติดมัลแวร์

    จำนวนเหตุการณ์ที่เพิ่มขึ้น
    - มีรายงานเหตุการณ์มากกว่า 1,300 ครั้งในปี 2024
    - เพิ่มขึ้นอย่างมากจากปี 2019 ที่มีเพียง 100 ครั้ง

    ความเสี่ยงต่อผู้ใช้
    - QR Code ปลอมมักดูเหมือนจริง ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ
    - การโจมตีอาจเกิดขึ้นซ้ำๆ โดยใช้จำนวนเงินเล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจพบ

    คำแนะนำเพื่อความปลอดภัย
    - ตรวจสอบ QR Code ก่อนสแกน และหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลการเงินกับเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
    - ใช้ความระมัดระวังและสังเกตความผิดปกติใน QR Code

    https://www.techradar.com/pro/security/mass-quishing-attacks-linked-to-organized-crime-gangs-across-the-uk
    การโจมตีแบบ Quishing เกิดขึ้นเมื่ออาชญากรไซเบอร์สร้าง QR Code ปลอมและนำไปติดทับ QR Code จริงในสถานที่ที่มีการชำระเงินแบบไร้สัมผัส เช่น ที่จอดรถและเมนูร้านอาหาร เมื่อผู้ใช้สแกน QR Code ปลอมนี้ พวกเขาจะถูกนำไปยังเว็บไซต์ที่ควบคุมโดยอาชญากร ซึ่งอาจขโมยข้อมูลการเงินหรือปล่อยมัลแวร์เข้าสู่อุปกรณ์ของผู้ใช้ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์แนะนำให้ผู้ใช้ระมัดระวังและตรวจสอบ QR Code ก่อนสแกน รวมถึงหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลการเงินกับเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ ✅ การโจมตีแบบ Quishing คืออะไร - การฟิชชิงผ่าน QR Code ที่อาชญากรสร้าง QR Code ปลอม - มักเกิดในสถานที่ที่มีการชำระเงินแบบไร้สัมผัส เช่น ที่จอดรถและร้านอาหาร ✅ ผลกระทบของการโจมตี - ผู้ใช้ถูกนำไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ควบคุมโดยอาชญากร - ข้อมูลการเงินอาจถูกขโมย หรืออุปกรณ์อาจติดมัลแวร์ ✅ จำนวนเหตุการณ์ที่เพิ่มขึ้น - มีรายงานเหตุการณ์มากกว่า 1,300 ครั้งในปี 2024 - เพิ่มขึ้นอย่างมากจากปี 2019 ที่มีเพียง 100 ครั้ง ℹ️ ความเสี่ยงต่อผู้ใช้ - QR Code ปลอมมักดูเหมือนจริง ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ - การโจมตีอาจเกิดขึ้นซ้ำๆ โดยใช้จำนวนเงินเล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจพบ ℹ️ คำแนะนำเพื่อความปลอดภัย - ตรวจสอบ QR Code ก่อนสแกน และหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลการเงินกับเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ - ใช้ความระมัดระวังและสังเกตความผิดปกติใน QR Code https://www.techradar.com/pro/security/mass-quishing-attacks-linked-to-organized-crime-gangs-across-the-uk
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sensata Technologies ได้รายงานเหตุการณ์แรนซัมแวร์ที่เข้ารหัสอุปกรณ์บางส่วนในเครือข่ายของบริษัท การโจมตีนี้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน เช่น การจัดส่ง การรับสินค้า การผลิต และการสนับสนุนอื่นๆ บริษัทได้ดำเนินการตอบสนองทันทีโดยปิดเครือข่ายบางส่วน นำผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

    Sensata ยังระบุว่ามีการสูญเสียไฟล์บางส่วน แต่ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับไฟล์เหล่านั้น ขณะนี้บริษัทกำลังตรวจสอบไฟล์ที่ได้รับผลกระทบและจะดำเนินการเพิ่มเติมตามความเหมาะสม

    แม้ว่าบริษัทจะคาดการณ์ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาสที่สองของปี 2025 แต่ก็ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบทั้งหมดได้

    เหตุการณ์แรนซัมแวร์ที่ Sensata Technologies
    - Sensata ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ที่เข้ารหัสอุปกรณ์บางส่วนในเครือข่าย
    - ส่งผลกระทบต่อการจัดส่ง การรับสินค้า การผลิต และการสนับสนุนอื่นๆ

    การตอบสนองของบริษัท
    - ปิดเครือข่ายบางส่วนและนำผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วย
    - แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเริ่มการตรวจสอบ

    การสูญเสียไฟล์และการตรวจสอบ
    - บริษัทสูญเสียไฟล์บางส่วนและกำลังตรวจสอบไฟล์ที่ได้รับผลกระทบ
    - จะดำเนินการเพิ่มเติมตามความเหมาะสม

    ผลกระทบต่อผลประกอบการ
    - Sensata คาดว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาสที่สองของปี 2025

    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์
    - การโจมตีแรนซัมแวร์อาจทำให้ข้อมูลสำคัญของบริษัทตกอยู่ในความเสี่ยง
    - การสูญเสียไฟล์อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานในระยะยาว

    ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า
    - เหตุการณ์นี้อาจลดความเชื่อมั่นของลูกค้าและคู่ค้าในระบบความปลอดภัยของบริษัท
    - การจัดการเหตุการณ์อย่างโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่น

    https://www.techradar.com/pro/security/top-us-sensor-maker-sensata-hit-by-worrying-ransomware-attack
    Sensata Technologies ได้รายงานเหตุการณ์แรนซัมแวร์ที่เข้ารหัสอุปกรณ์บางส่วนในเครือข่ายของบริษัท การโจมตีนี้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน เช่น การจัดส่ง การรับสินค้า การผลิต และการสนับสนุนอื่นๆ บริษัทได้ดำเนินการตอบสนองทันทีโดยปิดเครือข่ายบางส่วน นำผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง Sensata ยังระบุว่ามีการสูญเสียไฟล์บางส่วน แต่ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับไฟล์เหล่านั้น ขณะนี้บริษัทกำลังตรวจสอบไฟล์ที่ได้รับผลกระทบและจะดำเนินการเพิ่มเติมตามความเหมาะสม แม้ว่าบริษัทจะคาดการณ์ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาสที่สองของปี 2025 แต่ก็ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบทั้งหมดได้ ✅ เหตุการณ์แรนซัมแวร์ที่ Sensata Technologies - Sensata ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ที่เข้ารหัสอุปกรณ์บางส่วนในเครือข่าย - ส่งผลกระทบต่อการจัดส่ง การรับสินค้า การผลิต และการสนับสนุนอื่นๆ ✅ การตอบสนองของบริษัท - ปิดเครือข่ายบางส่วนและนำผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วย - แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเริ่มการตรวจสอบ ✅ การสูญเสียไฟล์และการตรวจสอบ - บริษัทสูญเสียไฟล์บางส่วนและกำลังตรวจสอบไฟล์ที่ได้รับผลกระทบ - จะดำเนินการเพิ่มเติมตามความเหมาะสม ✅ ผลกระทบต่อผลประกอบการ - Sensata คาดว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาสที่สองของปี 2025 ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์ - การโจมตีแรนซัมแวร์อาจทำให้ข้อมูลสำคัญของบริษัทตกอยู่ในความเสี่ยง - การสูญเสียไฟล์อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานในระยะยาว ℹ️ ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า - เหตุการณ์นี้อาจลดความเชื่อมั่นของลูกค้าและคู่ค้าในระบบความปลอดภัยของบริษัท - การจัดการเหตุการณ์อย่างโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่น https://www.techradar.com/pro/security/top-us-sensor-maker-sensata-hit-by-worrying-ransomware-attack
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 333 มุมมอง 0 รีวิว
  • WhatsApp ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เช่น การซูมในวิดีโอคอล การเพิ่มผู้เข้าร่วมในสายสนทนาแบบ 1:1 จากหน้าต่างแชท และการตั้งค่า WhatsApp เป็นแอปเริ่มต้นบน iPhone นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสแกนและส่งเอกสารได้โดยตรงจากแอป รวมถึงการบันทึกวิดีโอสั้นในช่อง (Channels) และการจัดลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือนในกลุ่ม

    อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ที่สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้คือปุ่ม Meta AI ที่ไม่สามารถลบออกได้ และฟีเจอร์ที่แสดงสถานะออนไลน์ของสมาชิกในกลุ่มแบบเรียลไทม์ ซึ่งเพิ่มแรงกดดันให้ผู้ใช้ตอบกลับข้อความอย่างรวดเร็ว

    ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน WhatsApp
    - การซูมในวิดีโอคอล
    - เพิ่มผู้เข้าร่วมในสายสนทนาแบบ 1:1 จากหน้าต่างแชท
    - ตั้งค่า WhatsApp เป็นแอปเริ่มต้นบน iPhone
    - สแกนและส่งเอกสารได้โดยตรงจากแอป
    - บันทึกวิดีโอสั้นในช่อง (Channels)
    - จัดลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือนในกลุ่ม

    ฟีเจอร์ที่สร้างความไม่พอใจ
    - ปุ่ม Meta AI ที่ไม่สามารถลบออกได้
    - การแสดงสถานะออนไลน์ของสมาชิกในกลุ่มแบบเรียลไทม์

    ความเสี่ยงและข้อกังวล
    - ปุ่ม Meta AI ที่ไม่สามารถลบออกอาจสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้
    - การแสดงสถานะออนไลน์อาจเพิ่มแรงกดดันให้ผู้ใช้ตอบกลับข้อความอย่างรวดเร็ว

    ผลกระทบต่อผู้ใช้
    - ผู้ใช้บางส่วนอาจรู้สึกว่าฟีเจอร์ใหม่ไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการ
    - การเปลี่ยนแปลงอาจส่งผลต่อความพึงพอใจและความไว้วางใจในแพลตฟอร์ม

    https://www.techradar.com/computing/software/whatsapp-has-just-dropped-these-9-new-features-including-2-that-im-not-happy-about
    WhatsApp ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เช่น การซูมในวิดีโอคอล การเพิ่มผู้เข้าร่วมในสายสนทนาแบบ 1:1 จากหน้าต่างแชท และการตั้งค่า WhatsApp เป็นแอปเริ่มต้นบน iPhone นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสแกนและส่งเอกสารได้โดยตรงจากแอป รวมถึงการบันทึกวิดีโอสั้นในช่อง (Channels) และการจัดลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือนในกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ที่สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้คือปุ่ม Meta AI ที่ไม่สามารถลบออกได้ และฟีเจอร์ที่แสดงสถานะออนไลน์ของสมาชิกในกลุ่มแบบเรียลไทม์ ซึ่งเพิ่มแรงกดดันให้ผู้ใช้ตอบกลับข้อความอย่างรวดเร็ว ✅ ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน WhatsApp - การซูมในวิดีโอคอล - เพิ่มผู้เข้าร่วมในสายสนทนาแบบ 1:1 จากหน้าต่างแชท - ตั้งค่า WhatsApp เป็นแอปเริ่มต้นบน iPhone - สแกนและส่งเอกสารได้โดยตรงจากแอป - บันทึกวิดีโอสั้นในช่อง (Channels) - จัดลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือนในกลุ่ม ✅ ฟีเจอร์ที่สร้างความไม่พอใจ - ปุ่ม Meta AI ที่ไม่สามารถลบออกได้ - การแสดงสถานะออนไลน์ของสมาชิกในกลุ่มแบบเรียลไทม์ ℹ️ ความเสี่ยงและข้อกังวล - ปุ่ม Meta AI ที่ไม่สามารถลบออกอาจสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้ - การแสดงสถานะออนไลน์อาจเพิ่มแรงกดดันให้ผู้ใช้ตอบกลับข้อความอย่างรวดเร็ว ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้ - ผู้ใช้บางส่วนอาจรู้สึกว่าฟีเจอร์ใหม่ไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการ - การเปลี่ยนแปลงอาจส่งผลต่อความพึงพอใจและความไว้วางใจในแพลตฟอร์ม https://www.techradar.com/computing/software/whatsapp-has-just-dropped-these-9-new-features-including-2-that-im-not-happy-about
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sarah Wynn-Williams อดีตผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสาธารณะของ Meta ได้ให้การต่อหน้าคณะกรรมการวุฒิสภาสหรัฐฯ โดยกล่าวหาว่า Meta และ Zuckerberg พร้อมที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อเข้าถึงตลาดจีนที่มีประชากร 1.4 พันล้านคน รวมถึงการเสนอข้อมูลของผู้ใช้ชาวอเมริกันให้กับรัฐบาลจีน

    Meta ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้ โดยโฆษกของ Meta ระบุว่าข้อกล่าวหานั้น "ไม่เป็นความจริงและห่างไกลจากความเป็นจริง" และยืนยันว่า Meta ไม่ได้ดำเนินการในประเทศจีน

    นอกจากนี้ Wynn-Williams ยังกล่าวว่า Meta มีส่วนช่วยในการพัฒนา AI ของจีนผ่านการเปิดเผยโมเดล Llama AI และยังร่วมมือกับรัฐบาลจีนในการพัฒนาเครื่องมือเซ็นเซอร์

    ข้อกล่าวหาต่อ Mark Zuckerberg และ Meta
    - Sarah Wynn-Williams กล่าวหาว่า Zuckerberg เสนอข้อมูลของผู้ใช้ชาวอเมริกันให้กับรัฐบาลจีน
    - Meta ปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันว่าไม่ได้ดำเนินการในประเทศจีน

    การพัฒนา AI และเครื่องมือเซ็นเซอร์
    - Wynn-Williams อ้างว่า Meta มีส่วนช่วยในการพัฒนา AI ของจีน
    - Meta ถูกกล่าวหาว่าร่วมมือกับรัฐบาลจีนในการพัฒนาเครื่องมือเซ็นเซอร์

    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล
    - การเสนอข้อมูลของผู้ใช้ชาวอเมริกันให้กับรัฐบาลจีนอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูล
    - การเปิดเผยโมเดล AI อาจเพิ่มความสามารถของจีนในด้านเทคโนโลยี

    ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นใน Meta
    - ข้อกล่าวหาเหล่านี้อาจลดความเชื่อมั่นของผู้ใช้และนักลงทุนใน Meta
    - การจัดการข้อกล่าวหาอย่างโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่น

    https://www.techradar.com/pro/security/zuckerberg-offered-us-data-to-china-in-bid-to-enter-market-ex-meta-exec-tells-senate
    Sarah Wynn-Williams อดีตผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสาธารณะของ Meta ได้ให้การต่อหน้าคณะกรรมการวุฒิสภาสหรัฐฯ โดยกล่าวหาว่า Meta และ Zuckerberg พร้อมที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อเข้าถึงตลาดจีนที่มีประชากร 1.4 พันล้านคน รวมถึงการเสนอข้อมูลของผู้ใช้ชาวอเมริกันให้กับรัฐบาลจีน Meta ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้ โดยโฆษกของ Meta ระบุว่าข้อกล่าวหานั้น "ไม่เป็นความจริงและห่างไกลจากความเป็นจริง" และยืนยันว่า Meta ไม่ได้ดำเนินการในประเทศจีน นอกจากนี้ Wynn-Williams ยังกล่าวว่า Meta มีส่วนช่วยในการพัฒนา AI ของจีนผ่านการเปิดเผยโมเดล Llama AI และยังร่วมมือกับรัฐบาลจีนในการพัฒนาเครื่องมือเซ็นเซอร์ ✅ ข้อกล่าวหาต่อ Mark Zuckerberg และ Meta - Sarah Wynn-Williams กล่าวหาว่า Zuckerberg เสนอข้อมูลของผู้ใช้ชาวอเมริกันให้กับรัฐบาลจีน - Meta ปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันว่าไม่ได้ดำเนินการในประเทศจีน ✅ การพัฒนา AI และเครื่องมือเซ็นเซอร์ - Wynn-Williams อ้างว่า Meta มีส่วนช่วยในการพัฒนา AI ของจีน - Meta ถูกกล่าวหาว่าร่วมมือกับรัฐบาลจีนในการพัฒนาเครื่องมือเซ็นเซอร์ ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล - การเสนอข้อมูลของผู้ใช้ชาวอเมริกันให้กับรัฐบาลจีนอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูล - การเปิดเผยโมเดล AI อาจเพิ่มความสามารถของจีนในด้านเทคโนโลยี ℹ️ ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นใน Meta - ข้อกล่าวหาเหล่านี้อาจลดความเชื่อมั่นของผู้ใช้และนักลงทุนใน Meta - การจัดการข้อกล่าวหาอย่างโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่น https://www.techradar.com/pro/security/zuckerberg-offered-us-data-to-china-in-bid-to-enter-market-ex-meta-exec-tells-senate
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 313 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในเดือนธันวาคม 2024 เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนได้ยอมรับอย่างไม่เป็นทางการว่าจีนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีไซเบอร์เหล่านี้ ซึ่งก่อนหน้านี้จีนเคยปฏิเสธข้อกล่าวหา การยอมรับนี้ถูกตีความโดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ว่าเป็นการส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับการสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่อไต้หวัน

    Volt Typhoon เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความสามารถในการเข้าถึงเครือข่ายของสหรัฐฯ เป็นเวลานาน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่สำคัญ การโจมตีเหล่านี้สะท้อนถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งอาจนำไปสู่การตอบโต้ทางไซเบอร์จากทั้งสองฝ่าย

    การยอมรับของจีนเกี่ยวกับ Volt Typhoon
    - เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนยอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีไซเบอร์
    - การยอมรับนี้ถูกตีความว่าเป็นการส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับไต้หวัน

    เป้าหมายของการโจมตี
    - Volt Typhoon มุ่งเป้าหมายไปยังโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ เช่น พลังงาน การสื่อสาร และการขนส่ง

    ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ
    - การโจมตีสะท้อนถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสองประเทศ
    - อาจนำไปสู่การตอบโต้ทางไซเบอร์จากทั้งสองฝ่าย

    ความเสี่ยงต่อโครงสร้างพื้นฐาน
    - การโจมตีไซเบอร์อาจทำให้โครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ เสี่ยงต่อการถูกทำลาย
    - การเข้าถึงเครือข่ายเป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสียหายในระยะยาว

    ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    - ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลต่อการเจรจาทางการค้าและความร่วมมือในอนาคต
    - การตอบโต้ทางไซเบอร์อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อความปลอดภัยในระดับโลก

    https://www.techradar.com/pro/china-admits-behind-closed-doors-it-was-involved-in-volt-typhoon-attacks
    ในเดือนธันวาคม 2024 เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนได้ยอมรับอย่างไม่เป็นทางการว่าจีนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีไซเบอร์เหล่านี้ ซึ่งก่อนหน้านี้จีนเคยปฏิเสธข้อกล่าวหา การยอมรับนี้ถูกตีความโดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ว่าเป็นการส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับการสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่อไต้หวัน Volt Typhoon เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความสามารถในการเข้าถึงเครือข่ายของสหรัฐฯ เป็นเวลานาน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่สำคัญ การโจมตีเหล่านี้สะท้อนถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งอาจนำไปสู่การตอบโต้ทางไซเบอร์จากทั้งสองฝ่าย ✅ การยอมรับของจีนเกี่ยวกับ Volt Typhoon - เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนยอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีไซเบอร์ - การยอมรับนี้ถูกตีความว่าเป็นการส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับไต้หวัน ✅ เป้าหมายของการโจมตี - Volt Typhoon มุ่งเป้าหมายไปยังโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ เช่น พลังงาน การสื่อสาร และการขนส่ง ✅ ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ - การโจมตีสะท้อนถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสองประเทศ - อาจนำไปสู่การตอบโต้ทางไซเบอร์จากทั้งสองฝ่าย ℹ️ ความเสี่ยงต่อโครงสร้างพื้นฐาน - การโจมตีไซเบอร์อาจทำให้โครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ เสี่ยงต่อการถูกทำลาย - การเข้าถึงเครือข่ายเป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสียหายในระยะยาว ℹ️ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ - ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลต่อการเจรจาทางการค้าและความร่วมมือในอนาคต - การตอบโต้ทางไซเบอร์อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อความปลอดภัยในระดับโลก https://www.techradar.com/pro/china-admits-behind-closed-doors-it-was-involved-in-volt-typhoon-attacks
    WWW.TECHRADAR.COM
    China admits behind closed doors it was involved in Volt Typhoon attacks
    Chinese officials have privately claimed responsibility for the intrusions
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Intel เผชิญกับปัญหาด้านประสิทธิภาพของ CPU รุ่นใหม่ เช่น Core Ultra 200S และ Raptor Lake Refresh ซึ่งไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องความไม่เสถียรของ CPU ที่ทำให้ต้องเรียกคืนผลิตภัณฑ์จำนวนมาก ส่งผลให้ผู้บริโภคในจีนหันไปเลือกใช้ CPU ของ AMD ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า เช่น Ryzen 9000 Series และ X3D CPUs

    AMD สามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในจีนได้ถึง 50% ในไตรมาสแรกของปี 2025 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดที่เคยถูกครอบครองโดย Intel

    การสูญเสียส่วนแบ่งตลาดของ Intel
    - Intel สูญเสียส่วนแบ่งตลาดในจีนให้กับ AMD อย่างรวดเร็ว
    - ปัญหาด้านประสิทธิภาพของ CPU รุ่นใหม่ เช่น Core Ultra 200S และ Raptor Lake Refresh

    การเพิ่มขึ้นของ AMD ในตลาดจีน
    - AMD เพิ่มส่วนแบ่งตลาดในจีนได้ถึง 50% ในไตรมาสแรกของปี 2025
    - ผู้บริโภคในจีนเลือกใช้ Ryzen 9000 Series และ X3D CPUs

    ผลกระทบต่อธุรกิจของ Intel
    - การลดลงของยอดขาย CPU ส่งผลต่อยอดขายเมนบอร์ดของ Intel
    - Intel ต้องเผชิญกับความท้าทายในการฟื้นฟูภาพลักษณ์ของแบรนด์

    ความเสี่ยงต่อ Intel
    - ปัญหาด้านความไม่เสถียรของ CPU อาจลดความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
    - การสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในจีนอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจในระดับโลก

    ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด CPU
    - การเพิ่มขึ้นของ AMD อาจสร้างแรงกดดันให้ Intel ต้องปรับปรุงผลิตภัณฑ์
    - การแข่งขันที่รุนแรงอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในระยะยาว

    https://wccftech.com/intel-has-reportedly-started-to-lose-its-ground-in-the-china-cpu-markets/
    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Intel เผชิญกับปัญหาด้านประสิทธิภาพของ CPU รุ่นใหม่ เช่น Core Ultra 200S และ Raptor Lake Refresh ซึ่งไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องความไม่เสถียรของ CPU ที่ทำให้ต้องเรียกคืนผลิตภัณฑ์จำนวนมาก ส่งผลให้ผู้บริโภคในจีนหันไปเลือกใช้ CPU ของ AMD ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า เช่น Ryzen 9000 Series และ X3D CPUs AMD สามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในจีนได้ถึง 50% ในไตรมาสแรกของปี 2025 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดที่เคยถูกครอบครองโดย Intel ✅ การสูญเสียส่วนแบ่งตลาดของ Intel - Intel สูญเสียส่วนแบ่งตลาดในจีนให้กับ AMD อย่างรวดเร็ว - ปัญหาด้านประสิทธิภาพของ CPU รุ่นใหม่ เช่น Core Ultra 200S และ Raptor Lake Refresh ✅ การเพิ่มขึ้นของ AMD ในตลาดจีน - AMD เพิ่มส่วนแบ่งตลาดในจีนได้ถึง 50% ในไตรมาสแรกของปี 2025 - ผู้บริโภคในจีนเลือกใช้ Ryzen 9000 Series และ X3D CPUs ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจของ Intel - การลดลงของยอดขาย CPU ส่งผลต่อยอดขายเมนบอร์ดของ Intel - Intel ต้องเผชิญกับความท้าทายในการฟื้นฟูภาพลักษณ์ของแบรนด์ ℹ️ ความเสี่ยงต่อ Intel - ปัญหาด้านความไม่เสถียรของ CPU อาจลดความเชื่อมั่นของผู้บริโภค - การสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในจีนอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจในระดับโลก ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด CPU - การเพิ่มขึ้นของ AMD อาจสร้างแรงกดดันให้ Intel ต้องปรับปรุงผลิตภัณฑ์ - การแข่งขันที่รุนแรงอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในระยะยาว https://wccftech.com/intel-has-reportedly-started-to-lose-its-ground-in-the-china-cpu-markets/
    WCCFTECH.COM
    Intel Has Reportedly Started To Lose Its Ground In China's CPU Markets; AMD Sees a Massive Rise In Domestic Market Share
    Well, with Intel's sluggish recent-gen CPU performance, it seems like the China markets have started to respond, now prioritizing AMD.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 298 มุมมอง 0 รีวิว
  • เยอรมนี โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Jörg Kukies ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการตอบโต้ทางภาษีที่อาจเกิดขึ้นจาก EU หากการเจรจาระหว่างสองฝ่ายล้มเหลว โดยเฉพาะการพิจารณาภาษีใหม่ในอุตสาหกรรมดิจิทัล เช่น การโฆษณาออนไลน์ ซึ่งเป็นประเด็นที่หลายประเทศใน EU เช่น ไอร์แลนด์และลักเซมเบิร์ก มีความกังวล เนื่องจากเป็นที่ตั้งของบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ

    ในขณะเดียวกัน ฝรั่งเศสได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าทุกมาตรการยังคงอยู่บนโต๊ะ รวมถึงการเก็บภาษีในอุตสาหกรรมดิจิทัล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Meta และ Google

    การเรียกร้องของเยอรมนี
    - เยอรมนีเรียกร้องให้ EU ใช้ความระมัดระวังในการตอบโต้ทางภาษี
    - รัฐมนตรี Jörg Kukies เน้นถึงความสำคัญของการพิจารณาผลกระทบในแต่ละอุตสาหกรรม

    การพิจารณาภาษีในอุตสาหกรรมดิจิทัล
    - ฝรั่งเศสเสนอการเก็บภาษีในอุตสาหกรรมดิจิทัล เช่น การโฆษณาออนไลน์
    - ไอร์แลนด์และลักเซมเบิร์กแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยี

    การลดภาษีชั่วคราว
    - สหรัฐฯ ลดภาษีจาก 20% เหลือ 10% ในช่วง 90 วัน
    - การลดภาษีนี้อาจถูกยกเลิกหาก EU ตอบโต้ทางภาษี

    ความเสี่ยงต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    - การตอบโต้ทางภาษีอาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่าง EU และสหรัฐฯ
    - ความขัดแย้งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

    ผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยี
    - การเก็บภาษีในอุตสาหกรรมดิจิทัลอาจเพิ่มต้นทุนให้กับบริษัทเทคโนโลยี
    - บริษัทในไอร์แลนด์และลักเซมเบิร์กอาจได้รับผลกระทบโดยตรง

    https://wccftech.com/germany-pushes-for-caution-on-tariffs-retaliation/
    เยอรมนี โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Jörg Kukies ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการตอบโต้ทางภาษีที่อาจเกิดขึ้นจาก EU หากการเจรจาระหว่างสองฝ่ายล้มเหลว โดยเฉพาะการพิจารณาภาษีใหม่ในอุตสาหกรรมดิจิทัล เช่น การโฆษณาออนไลน์ ซึ่งเป็นประเด็นที่หลายประเทศใน EU เช่น ไอร์แลนด์และลักเซมเบิร์ก มีความกังวล เนื่องจากเป็นที่ตั้งของบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ ในขณะเดียวกัน ฝรั่งเศสได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าทุกมาตรการยังคงอยู่บนโต๊ะ รวมถึงการเก็บภาษีในอุตสาหกรรมดิจิทัล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Meta และ Google ✅ การเรียกร้องของเยอรมนี - เยอรมนีเรียกร้องให้ EU ใช้ความระมัดระวังในการตอบโต้ทางภาษี - รัฐมนตรี Jörg Kukies เน้นถึงความสำคัญของการพิจารณาผลกระทบในแต่ละอุตสาหกรรม ✅ การพิจารณาภาษีในอุตสาหกรรมดิจิทัล - ฝรั่งเศสเสนอการเก็บภาษีในอุตสาหกรรมดิจิทัล เช่น การโฆษณาออนไลน์ - ไอร์แลนด์และลักเซมเบิร์กแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยี ✅ การลดภาษีชั่วคราว - สหรัฐฯ ลดภาษีจาก 20% เหลือ 10% ในช่วง 90 วัน - การลดภาษีนี้อาจถูกยกเลิกหาก EU ตอบโต้ทางภาษี ℹ️ ความเสี่ยงต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ - การตอบโต้ทางภาษีอาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่าง EU และสหรัฐฯ - ความขัดแย้งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ℹ️ ผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยี - การเก็บภาษีในอุตสาหกรรมดิจิทัลอาจเพิ่มต้นทุนให้กับบริษัทเทคโนโลยี - บริษัทในไอร์แลนด์และลักเซมเบิร์กอาจได้รับผลกระทบโดยตรง https://wccftech.com/germany-pushes-for-caution-on-tariffs-retaliation/
    WCCFTECH.COM
    Germany Pushes for Caution on EU Tariff Retaliation
    In response to proposed retaliation on the tariffs on the EU, Germany has pushed for caution on what actions may be taken.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 416 มุมมอง 0 รีวิว
  • ๗ตระกูล้ก่าแก่
    ๗ตระกูล้ก่าแก่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทิศทั้ง๗แห่งเอเชีย
    ทิศทั้ง๗แห่งเอเชีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก่อนหยุดสงกรานต์นี้ ทางร้านได้ส่งช่างเข้าไปตรวจ - ซ่อมแซม
    #เครื่องอัดยาแคปซูล ที่ รพ.หัวเฉียว #แผนกแพทย์แผนจีน
    เป็นการตรวจงาน-ซ่อมแซม เครื่องจักร ช่วยทาง รพ.

    ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน

    สนใจสินค้าเครื่องไหน สามารถเข้ามาดูที่ร้านได้เลยนะคะ
    เวลาเปิดทำการ :
    จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00
    และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00
    แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7

    #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼‼
    m.me/yonghahheng 👈🏻แชทเลย
    LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า)
    หรือ https://lin.ee/HV4lSKp
    02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    www.yoryonghahheng.com
    E-mail : sales@yoryonghahheng.com
    yonghahheng@gmail.com

    #กระทะสับ #สับผสม #ผสมทำลูกชิ้น #เครื่องทำลูกชิ้น #ปอกเปลือก #ปอกหอม #ปอกกระเทียม #เครื่องปอกเปลือก #เครื่องบด #บดหมู #เครื่องบดพริกแกง #เครื่องบดอาหาร #เครื่องบดโครงไก่ #เครื่องหั่นหมู #เครื่องหั่นพริกแห้ง #เครื่องหั่นพริก #หั่นพริกทอดกรอบ #แหนมหมู #หั่นปลาหมึกกรอบ #หั่นพริกทอดกรอบ #หั่นปลาดุก #สับผัก #หั่นใบไม้ #หั่นใบกะเพรา
    ก่อนหยุดสงกรานต์นี้ ทางร้านได้ส่งช่างเข้าไปตรวจ - ซ่อมแซม #เครื่องอัดยาแคปซูล ที่ รพ.หัวเฉียว #แผนกแพทย์แผนจีน เป็นการตรวจงาน-ซ่อมแซม เครื่องจักร ช่วยทาง รพ. ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน สนใจสินค้าเครื่องไหน สามารถเข้ามาดูที่ร้านได้เลยนะคะ เวลาเปิดทำการ : จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00 แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼‼ m.me/yonghahheng 👈🏻แชทเลย LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือ https://lin.ee/HV4lSKp 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 www.yoryonghahheng.com E-mail : sales@yoryonghahheng.com yonghahheng@gmail.com #กระทะสับ #สับผสม #ผสมทำลูกชิ้น #เครื่องทำลูกชิ้น #ปอกเปลือก #ปอกหอม #ปอกกระเทียม #เครื่องปอกเปลือก #เครื่องบด #บดหมู #เครื่องบดพริกแกง #เครื่องบดอาหาร #เครื่องบดโครงไก่ #เครื่องหั่นหมู #เครื่องหั่นพริกแห้ง #เครื่องหั่นพริก #หั่นพริกทอดกรอบ #แหนมหมู #หั่นปลาหมึกกรอบ #หั่นพริกทอดกรอบ #หั่นปลาดุก #สับผัก #หั่นใบไม้ #หั่นใบกะเพรา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1497 มุมมอง 0 รีวิว
  • เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการ ประกาศแต่งตั้งให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร เป็นนายทหารราชองครักษ์ในพระองค์ และนายตำรวจราชองครักษ์ในพระองค์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000034934

    #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการ ประกาศแต่งตั้งให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร เป็นนายทหารราชองครักษ์ในพระองค์ และนายตำรวจราชองครักษ์ในพระองค์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000034934 #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 826 มุมมอง 0 รีวิว
  • สวัสดีวันสงกรานต์ครับ
    สวัสดีวันสงกรานต์ครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⛩ ญี่ปุ่น โอซาก้า 6 วัน 4 คืน
    ลดทันที 7,000 บาท เหลือเพียง 32,999.-
    เดินทางโดย XJ-แอร์เอเชียเอ็กซ์
    28 เม.ย. - 3 พ.ค. 67 (เหลือ 5 ที่สุดท้ายเท่านั้น)

    ไฮไลต์ทริปนี้
    โอซาก้า - ช้อปปิ้งย่านชินไซบาชิ
    ⛩ ศาลเจ้าเฮอัน
    ลานสกีทสึกะอิเคะ (ไม่รวมค่าอุปกรณ์)
    สัมผัสวัฒนธรรมชงชาแบบญี่ปุ่นแท้ๆ
    เมืองเก่าทาคายาม่า
    🏘 หมู่บ้านชิราคาวาโกะ สุดน่ารัก
    เดินเล่นชมธรรมชาติที่คามิโคจิ
    ถ่ายรูปปราสาทมัตสึโมโตะ (ชมภายนอก)
    เดินเล่นในป่าไผ่อาราชิยามะ
    🛍 ช้อปต่อให้จุใจ Mitsui Outlet + Aeon Mall

    สนใจรีบจองก่อนเต็มน้าาา
    #เที่ยวญี่ปุ่น #โอซาก้า #ชิราคาวาโกะ #โปรทัวร์เด็ด #ทัวร์ญี่ปุ่นราคาดี #เที่ยวกับetravelway

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e91ba3

    ดูทัวร์ญี่ปุ่นทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/a32eb2

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395
    ⛩ ญี่ปุ่น โอซาก้า 6 วัน 4 คืน ✈️ 🔥 ลดทันที 7,000 บาท เหลือเพียง 32,999.- เดินทางโดย XJ-แอร์เอเชียเอ็กซ์ 📆 28 เม.ย. - 3 พ.ค. 67 (เหลือ 5 ที่สุดท้ายเท่านั้น‼️) 📍 ไฮไลต์ทริปนี้ 🎌 โอซาก้า - ช้อปปิ้งย่านชินไซบาชิ ⛩ ศาลเจ้าเฮอัน 🏂 ลานสกีทสึกะอิเคะ (ไม่รวมค่าอุปกรณ์) 🍵 สัมผัสวัฒนธรรมชงชาแบบญี่ปุ่นแท้ๆ 🏯 เมืองเก่าทาคายาม่า 🏘 หมู่บ้านชิราคาวาโกะ สุดน่ารัก 🌿 เดินเล่นชมธรรมชาติที่คามิโคจิ 🏰 ถ่ายรูปปราสาทมัตสึโมโตะ (ชมภายนอก) 🎋 เดินเล่นในป่าไผ่อาราชิยามะ 🛍 ช้อปต่อให้จุใจ Mitsui Outlet + Aeon Mall 📲 สนใจรีบจองก่อนเต็มน้าาา #เที่ยวญี่ปุ่น #โอซาก้า #ชิราคาวาโกะ #โปรทัวร์เด็ด #ทัวร์ญี่ปุ่นราคาดี #เที่ยวกับetravelway ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e91ba3 ดูทัวร์ญี่ปุ่นทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/a32eb2 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 799 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🫰🫰
    🫰🫰
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว