• งานนี้แม้ชัยชนะจะเป็นของโปรสาวอเมริกัน แต่คนไทยก็เหมือนชนะไปกับเธอด้วย เพราะถ้าแอลเจิล หยิน ไม่มีโปรต้อมเป็นลมใต้ปีก ก็อาจไปไม่ถึงดวงดาว

    #ดราม่าฮอนด้าLPGA #แคตดี้ไทยหิ้วสาวมะกัน #แองเจิลหยิน #โปรต้อม #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    งานนี้แม้ชัยชนะจะเป็นของโปรสาวอเมริกัน แต่คนไทยก็เหมือนชนะไปกับเธอด้วย เพราะถ้าแอลเจิล หยิน ไม่มีโปรต้อมเป็นลมใต้ปีก ก็อาจไปไม่ถึงดวงดาว #ดราม่าฮอนด้าLPGA #แคตดี้ไทยหิ้วสาวมะกัน #แองเจิลหยิน #โปรต้อม #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    Like
    Haha
    13
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2727 มุมมอง 77 0 รีวิว
  • ชายชาวฟลอริดา ชื่อ Jonathan Challinger ขับรถ Tesla Cybertruck ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (self-driving) แต่รถกลับชนเข้ากับเสาไฟโดยไม่ได้พยายามชะลอหรือเลี้ยวก่อนชน ขณะที่เขาโพสต์เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้บนสื่อสังคม X เขากลับขอบคุณ Tesla ที่สร้างระบบความปลอดภัยระดับโลก เนื่องจากเขาไม่บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อยจากเหตุการณ์นี้

    Challinger เล่าในโพสต์ว่า รถ Cybertruck ของเขาทำงานผิดพลาด ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการชนขณะที่กำลังวิ่งอยู่ในเลนที่กำลังจะสิ้นสุด ส่งผลให้รถวิ่งข้ามขอบถนนและชนเข้ากับเสาไฟทันที โพสต์นี้ได้รับการรับชมเกือบสองล้านครั้งก่อนที่จะถูกลบออก

    สิ่งที่น่าสนใจคือแม้ว่า Tesla จะมีฟีเจอร์ขับขี่อัตโนมัติที่สามารถนำรถผ่านทางโค้ง สี่แยก การเลี้ยวซ้ายและขวา วงเวียน และทางหลวงได้ แต่ในคู่มือของ Cybertruck ยังคงระบุว่าผู้ขับขี่จะต้องมีความตื่นตัวตลอดเวลาและต้องมีมือจับพวงมาลัยในขณะที่เปิดใช้งานระบบขับขี่อัตโนมัติ

    Elon Musk, ซีอีโอของ Tesla เคยประกาศในเดือนมกราคมว่าบริษัทจะเปิดตัวรถแท็กซี่อัตโนมัติ (robotaxis) ในเมืองออสตินภายในฤดูร้อนปีนี้ และยังวางแผนที่จะขยายระบบขับขี่อัตโนมัติโดยไม่ต้องควบคุม (unsupervised Full Self-Driving) ไปยังรัฐแคลิฟอร์เนียและพื้นที่อื่น ๆ ในสหรัฐอเมริกาภายในสิ้นปี 2025

    แม้ว่าในเหตุการณ์นี้ Challinger จะชี้โทษตัวเองว่าเป็นฝ่ายผิดและเรียกร้องให้ผู้ขับขี่ทุกคนมีความตื่นตัวในการขับขี่อย่างเต็มที่ แต่ก็ยังเป็นข้อเตือนใจให้เห็นว่าระบบขับขี่อัตโนมัติยังไม่สมบูรณ์และยังคงต้องการการเฝ้าระวังจากผู้ขับขี่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/22/tesla-is-safest-in-the-world-says-driver-whose-cybertruck-self-drove-into-pole
    ชายชาวฟลอริดา ชื่อ Jonathan Challinger ขับรถ Tesla Cybertruck ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (self-driving) แต่รถกลับชนเข้ากับเสาไฟโดยไม่ได้พยายามชะลอหรือเลี้ยวก่อนชน ขณะที่เขาโพสต์เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้บนสื่อสังคม X เขากลับขอบคุณ Tesla ที่สร้างระบบความปลอดภัยระดับโลก เนื่องจากเขาไม่บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อยจากเหตุการณ์นี้ Challinger เล่าในโพสต์ว่า รถ Cybertruck ของเขาทำงานผิดพลาด ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการชนขณะที่กำลังวิ่งอยู่ในเลนที่กำลังจะสิ้นสุด ส่งผลให้รถวิ่งข้ามขอบถนนและชนเข้ากับเสาไฟทันที โพสต์นี้ได้รับการรับชมเกือบสองล้านครั้งก่อนที่จะถูกลบออก สิ่งที่น่าสนใจคือแม้ว่า Tesla จะมีฟีเจอร์ขับขี่อัตโนมัติที่สามารถนำรถผ่านทางโค้ง สี่แยก การเลี้ยวซ้ายและขวา วงเวียน และทางหลวงได้ แต่ในคู่มือของ Cybertruck ยังคงระบุว่าผู้ขับขี่จะต้องมีความตื่นตัวตลอดเวลาและต้องมีมือจับพวงมาลัยในขณะที่เปิดใช้งานระบบขับขี่อัตโนมัติ Elon Musk, ซีอีโอของ Tesla เคยประกาศในเดือนมกราคมว่าบริษัทจะเปิดตัวรถแท็กซี่อัตโนมัติ (robotaxis) ในเมืองออสตินภายในฤดูร้อนปีนี้ และยังวางแผนที่จะขยายระบบขับขี่อัตโนมัติโดยไม่ต้องควบคุม (unsupervised Full Self-Driving) ไปยังรัฐแคลิฟอร์เนียและพื้นที่อื่น ๆ ในสหรัฐอเมริกาภายในสิ้นปี 2025 แม้ว่าในเหตุการณ์นี้ Challinger จะชี้โทษตัวเองว่าเป็นฝ่ายผิดและเรียกร้องให้ผู้ขับขี่ทุกคนมีความตื่นตัวในการขับขี่อย่างเต็มที่ แต่ก็ยังเป็นข้อเตือนใจให้เห็นว่าระบบขับขี่อัตโนมัติยังไม่สมบูรณ์และยังคงต้องการการเฝ้าระวังจากผู้ขับขี่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/22/tesla-is-safest-in-the-world-says-driver-whose-cybertruck-self-drove-into-pole
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Tesla is safest in the world, says driver whose Cybertruck self-drove into pole
    The car "made no attempt to slow down or turn until it had already hit the curb,"the man said in a the post, which received nearly two million views and was later deleted.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 584 มุมมอง 0 รีวิว
  • Alibaba Cloud ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านคลาวด์คอมพิวติ้งของ Alibaba Group ได้เปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) รุ่นใหม่ชื่อว่า Animate Anyone 2 โมเดลนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอนิเมชันตัวละครที่เสมือนจริงจากภาพนิ่งและวิดีโอเพียงหนึ่งคลิปได้อย่างง่ายดาย

    Animate Anyone 2 สามารถประมวลผลสัญญาณการเคลื่อนไหวและสัญญาณสิ่งแวดล้อมจากเนื้อหาที่เป็นแหล่งอ้างอิง เช่น วิดีโอต้นฉบับ เพื่อสร้างคลิปใหม่ที่มีความสมจริงสูง เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการสร้างแอนิเมชันตัวละครในอดีตที่ใช้เพียงสัญญาณการเคลื่อนไหวเท่านั้น โมเดลนี้ช่วยให้ตัวละครสามารถแสดงการเคลื่อนไหวที่สมจริงและประสานกับสิ่งแวดล้อมเดิมได้อย่างไม่มีสะดุด

    โมเดลนี้สร้างขึ้นจากเวอร์ชันแรกของ Animate Anyone ที่ประกาศเปิดตัวในปลายปี 2023 ซึ่งเน้นการสร้างวิดีโอตัวละครจากภาพนิ่ง หลังจากนั้น OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT ก็ได้เปิดตัวโมเดล Sora ที่สามารถสร้างวิดีโอจากข้อความได้ ทำให้เกิดการแข่งขันในวงการเทคโนโลยี AI ของบริษัทใหญ่ในจีนและสตาร์ทอัพหลายแห่ง

    นอกจากนี้ Animate Anyone 2 ยังมีความสามารถในการสร้างการโต้ตอบระหว่างตัวละครโดยรักษาความสมเหตุสมผลของการเคลื่อนไหวและความสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมด้วย ทีมวิจัยจาก Tongyi Lab ซึ่งเป็นหน่วยวิจัยและพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ของ Alibaba Cloud ได้นำเสนอผลการศึกษานี้ใน arXiv ซึ่งเป็นแหล่งเก็บข้อมูลงานวิจัยแบบโอเพนซอร์ส

    สิ่งที่น่าสนใจคือ ByteDance บริษัทเจ้าของ TikTok ก็เพิ่งเปิดตัวโมเดลมัลติโมดัลชื่อ OmniHuman-1 ที่สามารถเปลี่ยนภาพและเสียงให้เป็นวิดีโอที่ดูสมจริง การเปิดตัวโมเดลเหล่านี้ทำให้วงการสื่อและโฆษณามีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยเฉพาะในจีนที่โมเดล Sora ยังไม่สามารถใช้งานได้

    เพื่อทดสอบวิธีการของ Animate Anyone 2 ในหลายสถานการณ์ ทีมวิจัยได้เก็บรวบรวมวิดีโอตัวละคร 100,000 คลิปจากอินเทอร์เน็ต ซึ่งรวมถึงหลายประเภทของฉาก การกระทำ และการโต้ตอบระหว่างคนและวัตถุ อย่างไรก็ตาม การใช้โมเดลวีดีโอเจเนอเรชันเหล่านี้ยังมีความเสี่ยงที่จะมีการแพร่กระจายวิดีโอ deepfake เพิ่มขึ้น

    Liang Haisheng ผู้เชี่ยวชาญด้านโฆษณาจากปักกิ่งกล่าวว่า แม้ว่าเครื่องมือสร้างวิดีโอเหล่านี้จะมีประโยชน์ในการทำวิดีโอตัวอย่างเพื่อเสนอไอเดียให้กับลูกค้า แต่พวกมันยังขาดความสามารถในการแสดงอารมณ์และการแสดงหน้าที่ละเอียดอ่อนของมนุษย์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/21/alibaba-cloud-ai-model-animate-anyone-2-simplifies-making-of-lifelike-character-animation
    Alibaba Cloud ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านคลาวด์คอมพิวติ้งของ Alibaba Group ได้เปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) รุ่นใหม่ชื่อว่า Animate Anyone 2 โมเดลนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอนิเมชันตัวละครที่เสมือนจริงจากภาพนิ่งและวิดีโอเพียงหนึ่งคลิปได้อย่างง่ายดาย Animate Anyone 2 สามารถประมวลผลสัญญาณการเคลื่อนไหวและสัญญาณสิ่งแวดล้อมจากเนื้อหาที่เป็นแหล่งอ้างอิง เช่น วิดีโอต้นฉบับ เพื่อสร้างคลิปใหม่ที่มีความสมจริงสูง เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการสร้างแอนิเมชันตัวละครในอดีตที่ใช้เพียงสัญญาณการเคลื่อนไหวเท่านั้น โมเดลนี้ช่วยให้ตัวละครสามารถแสดงการเคลื่อนไหวที่สมจริงและประสานกับสิ่งแวดล้อมเดิมได้อย่างไม่มีสะดุด โมเดลนี้สร้างขึ้นจากเวอร์ชันแรกของ Animate Anyone ที่ประกาศเปิดตัวในปลายปี 2023 ซึ่งเน้นการสร้างวิดีโอตัวละครจากภาพนิ่ง หลังจากนั้น OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT ก็ได้เปิดตัวโมเดล Sora ที่สามารถสร้างวิดีโอจากข้อความได้ ทำให้เกิดการแข่งขันในวงการเทคโนโลยี AI ของบริษัทใหญ่ในจีนและสตาร์ทอัพหลายแห่ง นอกจากนี้ Animate Anyone 2 ยังมีความสามารถในการสร้างการโต้ตอบระหว่างตัวละครโดยรักษาความสมเหตุสมผลของการเคลื่อนไหวและความสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมด้วย ทีมวิจัยจาก Tongyi Lab ซึ่งเป็นหน่วยวิจัยและพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ของ Alibaba Cloud ได้นำเสนอผลการศึกษานี้ใน arXiv ซึ่งเป็นแหล่งเก็บข้อมูลงานวิจัยแบบโอเพนซอร์ส สิ่งที่น่าสนใจคือ ByteDance บริษัทเจ้าของ TikTok ก็เพิ่งเปิดตัวโมเดลมัลติโมดัลชื่อ OmniHuman-1 ที่สามารถเปลี่ยนภาพและเสียงให้เป็นวิดีโอที่ดูสมจริง การเปิดตัวโมเดลเหล่านี้ทำให้วงการสื่อและโฆษณามีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยเฉพาะในจีนที่โมเดล Sora ยังไม่สามารถใช้งานได้ เพื่อทดสอบวิธีการของ Animate Anyone 2 ในหลายสถานการณ์ ทีมวิจัยได้เก็บรวบรวมวิดีโอตัวละคร 100,000 คลิปจากอินเทอร์เน็ต ซึ่งรวมถึงหลายประเภทของฉาก การกระทำ และการโต้ตอบระหว่างคนและวัตถุ อย่างไรก็ตาม การใช้โมเดลวีดีโอเจเนอเรชันเหล่านี้ยังมีความเสี่ยงที่จะมีการแพร่กระจายวิดีโอ deepfake เพิ่มขึ้น Liang Haisheng ผู้เชี่ยวชาญด้านโฆษณาจากปักกิ่งกล่าวว่า แม้ว่าเครื่องมือสร้างวิดีโอเหล่านี้จะมีประโยชน์ในการทำวิดีโอตัวอย่างเพื่อเสนอไอเดียให้กับลูกค้า แต่พวกมันยังขาดความสามารถในการแสดงอารมณ์และการแสดงหน้าที่ละเอียดอ่อนของมนุษย์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/21/alibaba-cloud-ai-model-animate-anyone-2-simplifies-making-of-lifelike-character-animation
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Alibaba Cloud AI model Animate Anyone 2 simplifies making of lifelike character animation
    China appears to have upped the ante in this field of generative AI, which is poised to disrupt the entertainment and advertising industries.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 592 มุมมอง 0 รีวิว
  • Adrian Kingsley-Hughes นักเขียนจาก ZDNET ได้ทดสอบที่ชาร์จราคาถูกที่มีความสามารถ 600W ซึ่งถูกมองว่าเป็นที่ชาร์จประสิทธิภาพสูงที่มีพอร์ตถึง 8 พอร์ต โดยมีราคาประมาณ $99 ซึ่งถูกกว่าที่ชาร์จจาก Ugreen Nexode 300W ที่มีราคา $140 อย่างมาก แต่กลับพบว่ามีปัญหาหลายอย่างเมื่อเริ่มใช้งาน

    ปัญหาแรกที่พบคือการชาร์จไม่สม่ำเสมอ พอร์ต USB-C หนึ่งสามารถชาร์จได้ 140W ในขณะที่พอร์ต 140W อีกพอร์ตไม่สามารถชาร์จได้เกิน 65W และหนึ่งในพอร์ต 100W ก็ไม่ทำงานเลย นอกจากนี้ การเสียบหรือถอดอุปกรณ์จากที่ชาร์จยังทำให้ที่ชาร์จต้องรีบูตใหม่อยู่บ่อยครั้ง

    เมื่อตัดสินใจเปิดที่ชาร์จออกมา Kingsley-Hughes พบว่าในนั้นมีวัสดุคล้ายกับสารทึบน้ำ (thermal compound) แต่มีลักษณะและกลิ่นเหมือนกับสารเคลือบหน้าต่าง ที่หนักมากเกินปกติ ทำให้ที่ชาร์จดูหนักกว่าในความเป็นจริง

    นอกจากนี้ ยังพบว่าการแยกแรงดันไฟฟ้าระหว่างส่วนไฟฟ้าหลักและส่วนแรงดันต่ำในที่ชาร์จไม่เพียงพอ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายด้านความปลอดภัยหากมีการทำงานผิดพลาด ทำให้แรงดันไฟฟ้าหลักถูกส่งออกมา

    เมื่อเปิดที่ชาร์จดู ยังพบว่าการออกแบบภายในไม่ดี และคอนเนกเตอร์ด้านข้างที่ง่ายต่อการเปิดออกมา ทำให้เกิดอันตรายหากที่ชาร์จหล่นจากโต๊ะและทำให้ส่วนแรงดันสูงเผยออกมา

    ข่าวนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเลือกซื้อที่ชาร์จจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรองความปลอดภัย เพื่อป้องกันปัญหาด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น

    https://www.zdnet.com/article/i-opened-up-a-cheap-600w-charger-to-test-its-build-and-found-goo-inside/
    Adrian Kingsley-Hughes นักเขียนจาก ZDNET ได้ทดสอบที่ชาร์จราคาถูกที่มีความสามารถ 600W ซึ่งถูกมองว่าเป็นที่ชาร์จประสิทธิภาพสูงที่มีพอร์ตถึง 8 พอร์ต โดยมีราคาประมาณ $99 ซึ่งถูกกว่าที่ชาร์จจาก Ugreen Nexode 300W ที่มีราคา $140 อย่างมาก แต่กลับพบว่ามีปัญหาหลายอย่างเมื่อเริ่มใช้งาน ปัญหาแรกที่พบคือการชาร์จไม่สม่ำเสมอ พอร์ต USB-C หนึ่งสามารถชาร์จได้ 140W ในขณะที่พอร์ต 140W อีกพอร์ตไม่สามารถชาร์จได้เกิน 65W และหนึ่งในพอร์ต 100W ก็ไม่ทำงานเลย นอกจากนี้ การเสียบหรือถอดอุปกรณ์จากที่ชาร์จยังทำให้ที่ชาร์จต้องรีบูตใหม่อยู่บ่อยครั้ง เมื่อตัดสินใจเปิดที่ชาร์จออกมา Kingsley-Hughes พบว่าในนั้นมีวัสดุคล้ายกับสารทึบน้ำ (thermal compound) แต่มีลักษณะและกลิ่นเหมือนกับสารเคลือบหน้าต่าง ที่หนักมากเกินปกติ ทำให้ที่ชาร์จดูหนักกว่าในความเป็นจริง นอกจากนี้ ยังพบว่าการแยกแรงดันไฟฟ้าระหว่างส่วนไฟฟ้าหลักและส่วนแรงดันต่ำในที่ชาร์จไม่เพียงพอ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายด้านความปลอดภัยหากมีการทำงานผิดพลาด ทำให้แรงดันไฟฟ้าหลักถูกส่งออกมา เมื่อเปิดที่ชาร์จดู ยังพบว่าการออกแบบภายในไม่ดี และคอนเนกเตอร์ด้านข้างที่ง่ายต่อการเปิดออกมา ทำให้เกิดอันตรายหากที่ชาร์จหล่นจากโต๊ะและทำให้ส่วนแรงดันสูงเผยออกมา ข่าวนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเลือกซื้อที่ชาร์จจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรองความปลอดภัย เพื่อป้องกันปัญหาด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น https://www.zdnet.com/article/i-opened-up-a-cheap-600w-charger-to-test-its-build-and-found-goo-inside/
    WWW.ZDNET.COM
    I opened up a cheap 600W charger to test its build, and found 'goo' inside
    Can an off-brand charger compete with the big names? I put it through its paces to find out.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • คอนโดบ้านเจ้าพระยา ชั้น 8 บรรยากาศยามเช้า
    คอนโดบ้านเจ้าพระยา ชั้น 8 บรรยากาศยามเช้า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • Adrian Kingsley-Hughes นักเขียนจาก ZDNET ได้พบว่าแท็บเล็ตราคาถูกอย่าง Blackview Tab 90 กลับทำให้เขาใช้มันมากกว่า iPad Pro ของเขาเสียอีก แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ใช้ในระบบปฏิบัติการ iOS และ iPadOS มาก็ตาม

    Adrian เล่าถึงความประทับใจที่ได้จาก Blackview Tab 90 โดยชี้ให้เห็นถึงความคุ้มค่าของการใช้แท็บเล็ตนี้สำหรับการดูคอนเทนต์และเล่นโซเชียลมีเดีย แม้ว่า Blackview Tab 90 จะมีหน้าจอความละเอียดต่ำกว่า iPad Pro คือ 800 x 1280 พิกเซล แต่กลับพบว่ามันเพียงพอสำหรับการดูวิดีโอจาก YouTube และ Netflix แถมยังรองรับการสตรีมมิ่งเนื้อหาความคมชัดสูง (HD) จากบริการต่างๆ เช่น Netflix, HBO, และ Amazon Prime ด้วย

    แท็บเล็ตรุ่นนี้มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Unisoc Tiger T606 แบบ octa-core, RAM 4GB (สามารถเพิ่มได้ถึง 8GB), และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล 128GB ซึ่งพอเพียงสำหรับการใช้งานทั่วไป นอกจากนี้ แบตเตอรี่ขนาด 8,200mAh ยังสามารถใช้งานได้ถึง 10 ชั่วโมง แต่การชาร์จไฟค่อนข้างช้า โดยใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงในการชาร์จเต็ม

    หนึ่งในเหตุผลที่ Adrian ชอบใช้ Blackview Tab 90 มากกว่า iPad Pro คือความรู้สึกที่แท็บเล็ตรุ่นนี้ให้เมื่อถืออยู่ในมือ โดยที่มีความบางและน้ำหนักเบากว่า แม้ว่าความจริงแล้ว iPad Pro จะบางกว่าถ้าถอดออกจากเคส แต่ Blackview Tab 90 ยังถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการใช้งานในบ้าน เช่น ในครัว โรงรถ หรือห้องทำงาน

    ในราคาประมาณ $150 Blackview Tab 90 ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่มองหาแท็บเล็ตราคาประหยัดและมีฟีเจอร์ที่คุ้มค่า

    https://www.zdnet.com/article/i-use-this-cheap-android-tablet-more-than-my-ipad-pro-and-dont-regret-it/
    Adrian Kingsley-Hughes นักเขียนจาก ZDNET ได้พบว่าแท็บเล็ตราคาถูกอย่าง Blackview Tab 90 กลับทำให้เขาใช้มันมากกว่า iPad Pro ของเขาเสียอีก แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ใช้ในระบบปฏิบัติการ iOS และ iPadOS มาก็ตาม Adrian เล่าถึงความประทับใจที่ได้จาก Blackview Tab 90 โดยชี้ให้เห็นถึงความคุ้มค่าของการใช้แท็บเล็ตนี้สำหรับการดูคอนเทนต์และเล่นโซเชียลมีเดีย แม้ว่า Blackview Tab 90 จะมีหน้าจอความละเอียดต่ำกว่า iPad Pro คือ 800 x 1280 พิกเซล แต่กลับพบว่ามันเพียงพอสำหรับการดูวิดีโอจาก YouTube และ Netflix แถมยังรองรับการสตรีมมิ่งเนื้อหาความคมชัดสูง (HD) จากบริการต่างๆ เช่น Netflix, HBO, และ Amazon Prime ด้วย แท็บเล็ตรุ่นนี้มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Unisoc Tiger T606 แบบ octa-core, RAM 4GB (สามารถเพิ่มได้ถึง 8GB), และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล 128GB ซึ่งพอเพียงสำหรับการใช้งานทั่วไป นอกจากนี้ แบตเตอรี่ขนาด 8,200mAh ยังสามารถใช้งานได้ถึง 10 ชั่วโมง แต่การชาร์จไฟค่อนข้างช้า โดยใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงในการชาร์จเต็ม หนึ่งในเหตุผลที่ Adrian ชอบใช้ Blackview Tab 90 มากกว่า iPad Pro คือความรู้สึกที่แท็บเล็ตรุ่นนี้ให้เมื่อถืออยู่ในมือ โดยที่มีความบางและน้ำหนักเบากว่า แม้ว่าความจริงแล้ว iPad Pro จะบางกว่าถ้าถอดออกจากเคส แต่ Blackview Tab 90 ยังถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการใช้งานในบ้าน เช่น ในครัว โรงรถ หรือห้องทำงาน ในราคาประมาณ $150 Blackview Tab 90 ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่มองหาแท็บเล็ตราคาประหยัดและมีฟีเจอร์ที่คุ้มค่า https://www.zdnet.com/article/i-use-this-cheap-android-tablet-more-than-my-ipad-pro-and-dont-regret-it/
    WWW.ZDNET.COM
    I use this cheap Android tablet more than my iPad Pro - and don't regret it
    Looking for a budget-friendly tablet? The Blackview Tab 90 delivers great entertainment without breaking the bank.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 500 มุมมอง 0 รีวิว
  • Rolls-Royce กำลังมุ่งหน้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าด้วยการเปิดตัวรถรุ่น Black Badge Spectre ซึ่งเป็นรถที่ทรงพลังที่สุดที่แบรนด์เคยพัฒนามา นี่เป็นความก้าวหน้าตามธรรมชาติของผู้ผลิตรถหรูที่มีชื่อเสียงมายาวนาน โดยเน้นที่ความเงียบสงบและการขับขี่ที่นุ่มนวล

    Black Badge Spectre นั้นสร้างต่อยอดจากความสำเร็จของรถ Spectre รุ่นมาตรฐาน ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ Rolls-Royce โดยในปีที่ผ่านมา Spectre รุ่นมาตรฐานเป็นรุ่นที่มีความต้องการมากที่สุดในยุโรป ความนิยมนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มลูกค้า Rolls-Royce ที่กำลังมีอายุน้อยลงและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

    Black Badge Spectre มีการออกแบบที่ผสมผสานความหรูหราแบบดั้งเดิมของ Rolls-Royce เข้ากับความทันสมัยและดุดันมากขึ้น คุณสมบัติเด่น ได้แก่ กระจังหน้าที่ส่องสว่าง Illuminated Pantheon Grille และตัวเลือกสีใหม่ Vapour Violet ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแสงนีออนของวัฒนธรรมคลับในยุค 1980s และ 1990s นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนส่วนประกอบโครเมียมให้เป็นสีเข้ม และสามารถเลือกฝากระโปรงหน้าสี Ice Black เพื่อเพิ่มความโดดเด่นได้

    ภายในรถมีการตกแต่งด้วยลายทอคาร์บอนและล้ออะลูมิเนียมฟอร์จขนาด 23 นิ้วที่มี 5 ซี่ ซึ่งเสริมให้รถดูทันสมัยยิ่งขึ้น นอกเหนือจากการออกแบบที่ดึงดูดสายตาแล้ว Black Badge Spectre ยังมอบประสิทธิภาพการขับขี่ที่เพิ่มขึ้น โดยมีพลังงานสูงถึง 485 กิโลวัตต์ (659 แรงม้า) ที่สามารถเข้าถึงได้ด้วยปุ่ม Infinity บนพวงมาลัย ระบบแชสซีและการควบคุมการเลี้ยวได้รับการปรับปรุงเพื่อลดการโยนตัวของรถขณะเร่งและเบรก

    นอกจากนี้ รถยังมีฟีเจอร์ใหม่ Spirited Mode ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับระบบควบคุมการเร่ง (launch control) ทำให้สามารถเร่งจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 4.1 วินาที ซึ่งเร็วกว่า Spectre รุ่นมาตรฐานถึง 0.3 วินาที โดยสามารถทำได้ด้วยแรงบิดที่เพิ่มขึ้นชั่วคราวถึง 1,075 นิวตันเมตร (Nm)

    แม้ว่า Rolls-Royce จะยังคงไม่เปิดเผยราคาหรือยอดขาย แต่คาดว่าความต้องการของ Black Badge Spectre จะสูงมาก เนื่องจากความสนใจจากลูกค้าตั้งแต่เริ่มเปิดตัวทำให้บริษัทต้องสร้างรถรุ่นนี้ไว้ล่วงหน้าเป็นกลุ่มลับก่อนที่จะมีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ

    ในเรื่องของการชาร์จ แบตเตอรี่ขนาด 120 กิโลวัตต์ชั่วโมงของ Spectre มีความเร็วในการชาร์จสูงสุดที่ 195 กิโลวัตต์ ซึ่งอาจจะดูน้อยเมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ แต่สำหรับกลุ่มลูกค้าของ Rolls-Royce ซึ่งมักมีผู้ช่วยส่วนตัวในการดูแลเรื่องการชาร์จและการบำรุงรักษา จึงไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล

    การเปลี่ยนแปลงสู่รถยนต์ไฟฟ้าของ Rolls-Royce ดูเหมือนจะราบรื่นกว่าแบรนด์รถหรูอื่น ๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการสนับสนุนจาก BMW Group ที่มอบเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนต์ iDrive เวอร์ชันที่ปรับแต่งเฉพาะ

    https://www.techspot.com/news/106888-rolls-royce-goes-bolder-black-badge-spectre-ev.html
    Rolls-Royce กำลังมุ่งหน้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าด้วยการเปิดตัวรถรุ่น Black Badge Spectre ซึ่งเป็นรถที่ทรงพลังที่สุดที่แบรนด์เคยพัฒนามา นี่เป็นความก้าวหน้าตามธรรมชาติของผู้ผลิตรถหรูที่มีชื่อเสียงมายาวนาน โดยเน้นที่ความเงียบสงบและการขับขี่ที่นุ่มนวล Black Badge Spectre นั้นสร้างต่อยอดจากความสำเร็จของรถ Spectre รุ่นมาตรฐาน ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ Rolls-Royce โดยในปีที่ผ่านมา Spectre รุ่นมาตรฐานเป็นรุ่นที่มีความต้องการมากที่สุดในยุโรป ความนิยมนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มลูกค้า Rolls-Royce ที่กำลังมีอายุน้อยลงและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น Black Badge Spectre มีการออกแบบที่ผสมผสานความหรูหราแบบดั้งเดิมของ Rolls-Royce เข้ากับความทันสมัยและดุดันมากขึ้น คุณสมบัติเด่น ได้แก่ กระจังหน้าที่ส่องสว่าง Illuminated Pantheon Grille และตัวเลือกสีใหม่ Vapour Violet ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแสงนีออนของวัฒนธรรมคลับในยุค 1980s และ 1990s นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนส่วนประกอบโครเมียมให้เป็นสีเข้ม และสามารถเลือกฝากระโปรงหน้าสี Ice Black เพื่อเพิ่มความโดดเด่นได้ ภายในรถมีการตกแต่งด้วยลายทอคาร์บอนและล้ออะลูมิเนียมฟอร์จขนาด 23 นิ้วที่มี 5 ซี่ ซึ่งเสริมให้รถดูทันสมัยยิ่งขึ้น นอกเหนือจากการออกแบบที่ดึงดูดสายตาแล้ว Black Badge Spectre ยังมอบประสิทธิภาพการขับขี่ที่เพิ่มขึ้น โดยมีพลังงานสูงถึง 485 กิโลวัตต์ (659 แรงม้า) ที่สามารถเข้าถึงได้ด้วยปุ่ม Infinity บนพวงมาลัย ระบบแชสซีและการควบคุมการเลี้ยวได้รับการปรับปรุงเพื่อลดการโยนตัวของรถขณะเร่งและเบรก นอกจากนี้ รถยังมีฟีเจอร์ใหม่ Spirited Mode ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับระบบควบคุมการเร่ง (launch control) ทำให้สามารถเร่งจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 4.1 วินาที ซึ่งเร็วกว่า Spectre รุ่นมาตรฐานถึง 0.3 วินาที โดยสามารถทำได้ด้วยแรงบิดที่เพิ่มขึ้นชั่วคราวถึง 1,075 นิวตันเมตร (Nm) แม้ว่า Rolls-Royce จะยังคงไม่เปิดเผยราคาหรือยอดขาย แต่คาดว่าความต้องการของ Black Badge Spectre จะสูงมาก เนื่องจากความสนใจจากลูกค้าตั้งแต่เริ่มเปิดตัวทำให้บริษัทต้องสร้างรถรุ่นนี้ไว้ล่วงหน้าเป็นกลุ่มลับก่อนที่จะมีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ ในเรื่องของการชาร์จ แบตเตอรี่ขนาด 120 กิโลวัตต์ชั่วโมงของ Spectre มีความเร็วในการชาร์จสูงสุดที่ 195 กิโลวัตต์ ซึ่งอาจจะดูน้อยเมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ แต่สำหรับกลุ่มลูกค้าของ Rolls-Royce ซึ่งมักมีผู้ช่วยส่วนตัวในการดูแลเรื่องการชาร์จและการบำรุงรักษา จึงไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล การเปลี่ยนแปลงสู่รถยนต์ไฟฟ้าของ Rolls-Royce ดูเหมือนจะราบรื่นกว่าแบรนด์รถหรูอื่น ๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการสนับสนุนจาก BMW Group ที่มอบเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนต์ iDrive เวอร์ชันที่ปรับแต่งเฉพาะ https://www.techspot.com/news/106888-rolls-royce-goes-bolder-black-badge-spectre-ev.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Rolls-Royce goes bolder with the Black Badge Spectre EV
    The Black Badge Spectre builds on the success of the standard Spectre – Rolls-Royce's first electric car – which was reportedly the most requested Rolls-Royce model in...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 519 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 ปี สิ้นดาราสาว “แตงโม-ภัทรธิดา” คดีปริศนาแห่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ยังไร้ข้อสรุป

    ครบ 3 ปี การจากไปของ "แตงโม นิดา" วันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เป็นวันที่แฟนคลับ และประชาชนทั่วประเทศไทย ต้องตกใจและตกตะลึง กับข่าวการเสียชีวิตของ "แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์" นักแสดงสาวชื่อดัง ที่พลัดตกจากเรือสปีดโบ๊ต กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ท่ามกลางปริศนา และข้อกังขามากมาย คดีนี้กลายเป็นหนึ่งในคดี ที่ถูกจับตามองมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ไทย

    ย้อนรอยคืนเกิดเหตุ 24 กุมภาพันธ์ 2565
    ช่วงเย็น แตงโมพร้อมกลุ่มเพื่อน 5 คน ได้แก่ ปอ ตนุภัทร, กระติก อิจศรินทร์, แซน วิศาพัช, จ๊อบ นิทัศน์ และโรเบิร์ต ไพบูลย์ นัดกันไปทานอาหาร ก่อนทั้งหมดลงเรือสปีดโบ๊ต ล่องแม่น้ำเจ้าพระยา

    เวลา 22.32 น. แตงโมตกน้ำบริเวณสะพานพระราม 7 โดยอ้างว่าไปปัสสาวะท้ายเรือ

    หลังจากนั้น 30 นาที กลุ่มเพื่อนที่อยู่บนเรือ อ้างว่าวนเรือกลับมาหา แต่ไม่พบ

    00.20 น. 25 ก.พ. 2565 ทีมกู้ภัยและนักประดาน้ำ เริ่มปฏิบัติการค้นหา

    13.10 น. 26 ก.พ. 2565 พบศพแตงโม ลอยขึ้นใกล้ท่าเรือพิบูลสงคราม 1

    แม้จะพบร่างแล้ว แต่ปริศนาเกี่ยวกับการเสียชีวิต กลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ!

    คำถามที่ยังไม่มีคำตอบในคดีแตงโม
    แม้ว่าตำรวจจะสรุปว่า "แตงโมเสียชีวิต จากอุบัติเหตุพลัดตกน้ำ" แต่สังคมยังคงมีข้อสงสัยมากมาย อาทิ

    บาดแผลที่ต้นขาเกิดจากอะไร?
    แพทย์นิติเวช พบแผลฉกรรจ์ที่ขาซ้าย คาดว่าเกิดจากใบพัดเรือ ทำให้ขาขยับไม่ได้ ซึ่งขัดแย้งกับคำให้การที่อ้างว่า "เธอตกน้ำ และพยายามว่ายน้ำกลับ"

    ทำไมกลุ่มเพื่อน จึงมีคำให้การไม่ตรงกัน?
    แต่ละคนให้ปากคำแตกต่างกัน บางช่วงเวลา ไม่มีหลักฐานแน่ชัด ว่าทำอะไร

    หลักฐานที่สำคัญหายไปไหน?
    เรือลำเกิดเหตุ ถูกทำความสะอาดก่อนตรวจสอบ ส่วนโทรศัพท์มือถือของแตงโม ถูกส่งไปต่างประเทศ แต่ภายหลังมีการกู้ข้อมูลกลับมา

    คลิปและรูปที่ถูกเผยแพร่ เป็นของจริงหรือไม่?
    มีการตั้งข้อสังเกตว่า ภาพที่แตงโมถ่ายก่อนตกน้ำ อาจถูกตัดต่อ

    การดำเนินคดี และคำตัดสิน
    ตลอด 3 ปี ที่ผ่านมา มีการดำเนินคดี กับบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายราย แต่กระบวนการยุติธรรม ยังเต็มไปด้วยข้อกังขา

    ศาลจังหวัดนนทบุรี อนุมัติหมายจับ
    - ปอ ตนุภัทร และโรเบิร์ต ไพบูลย์ ข้อหากระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต
    - กระติก อิจศรินทร์ ให้การเท็จ และละเว้นการแจ้งเหตุ
    - แซน วิศาพัช ถูกตั้งข้อสงสัยว่า เป็นพยานปากสำคัญ ที่ให้ข้อมูลขัดแย้ง

    นางภนิดา แม่ของแตงโม รับเงินชดเชย 2 ล้านบาท
    ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า "แลกเงินกับคดีลูก"

    ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ ในปี 2567
    มีการพบหลักฐานใหม่ ที่อาจทำให้คดีพลิก

    ดราม่าภายในครอบครัว และคนใกล้ชิด
    คดีนี้ไม่เพียงแต่ สร้างความสะเทือนใจต่อสังคม แต่ยังนำไปสู่ความขัดแย้งในครอบครัว
    แม่ของแตงโมถูกวิจารณ์หนัก เพราะยอมรับเงินเยียวยา และดูเหมือนไม่มุ่งหาความจริง
    เพื่อนสนิทแฉกันเอง หลายคนที่เคยสนิทกับแตงโม กลับกลายเป็นคู่กรณีกันในศาล
    ผู้ต้องหาให้สัมภาษณ์โต้แย้งกันเอง ทำให้คดีดูซับซ้อนยิ่งขึ้น

    คดีแตงโม ความยุติธรรมจะมาถึงเมื่อไหร่?
    แม้จะผ่านมา 3 ปี แต่คดีแตงโมยังเป็นปริศนา มีหลายฝ่ายเรียกร้อง ให้มีการรื้อฟื้นคดี และนำตัวผู้กระทำผิดที่แท้จริง มาลงโทษ

    ล่าสุดมีหลักฐานใหม่ ที่ถูกนำมาเปิดเผย เช่น
    คลิปจากมือถือแตงโม ที่อาจระบุได้ว่า เธอไม่ได้อยู่บนเรือ ในช่วงเวลาที่ตกน้ำ
    ข้อมูลจากกลุ่มอิสระ ที่พบข้อผิดพลาด ในการสืบสวนของตำรวจ

    “เวรกรรมกำลังทำงาน” เป็นคำพูดที่หลายคนในโซเชียล ใช้กันมากขึ้น เมื่อเห็นว่า หลายคนที่เคยปกป้องกันในคดีนี้ เริ่มมีปัญหากับกฎหมาย และสังคม

    แตงโมยังคงรอความเป็นธรรม การเสียชีวิตของ "แตงโม นิดา" ไม่ใช่แค่เรื่องของดาราสาวคนหนึ่ง แต่เป็นตัวอย่าง ของปัญหาความยุติธรรมในสังคมไทย ที่ยังต้องการคำตอบ

    สุดท้ายแล้ว "คดีนี้จะถูกปิดไปพร้อมกับความลับ หรือความจริงจะถูกเปิดเผยในที่สุด?"

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241015 ก.พ. 2568

    #แตงโมนิดา #คดีแตงโม #3ปีที่จากไป #ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน #DSI #เปิดโปงความจริง #ลับลวงพราง #แตงโมต้องได้รับความเป็นธรรม
    3 ปี สิ้นดาราสาว “แตงโม-ภัทรธิดา” คดีปริศนาแห่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ยังไร้ข้อสรุป 📅 ครบ 3 ปี การจากไปของ "แตงโม นิดา" วันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เป็นวันที่แฟนคลับ และประชาชนทั่วประเทศไทย ต้องตกใจและตกตะลึง กับข่าวการเสียชีวิตของ "แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์" นักแสดงสาวชื่อดัง ที่พลัดตกจากเรือสปีดโบ๊ต กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ท่ามกลางปริศนา และข้อกังขามากมาย คดีนี้กลายเป็นหนึ่งในคดี ที่ถูกจับตามองมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ไทย ⏳ ย้อนรอยคืนเกิดเหตุ 24 กุมภาพันธ์ 2565 🔹 ช่วงเย็น แตงโมพร้อมกลุ่มเพื่อน 5 คน ได้แก่ ปอ ตนุภัทร, กระติก อิจศรินทร์, แซน วิศาพัช, จ๊อบ นิทัศน์ และโรเบิร์ต ไพบูลย์ นัดกันไปทานอาหาร ก่อนทั้งหมดลงเรือสปีดโบ๊ต ล่องแม่น้ำเจ้าพระยา 🔹 เวลา 22.32 น. แตงโมตกน้ำบริเวณสะพานพระราม 7 โดยอ้างว่าไปปัสสาวะท้ายเรือ 🔹 หลังจากนั้น 30 นาที กลุ่มเพื่อนที่อยู่บนเรือ อ้างว่าวนเรือกลับมาหา แต่ไม่พบ 🔹 00.20 น. 25 ก.พ. 2565 ทีมกู้ภัยและนักประดาน้ำ เริ่มปฏิบัติการค้นหา 🔹 13.10 น. 26 ก.พ. 2565 พบศพแตงโม ลอยขึ้นใกล้ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 🚨 แม้จะพบร่างแล้ว แต่ปริศนาเกี่ยวกับการเสียชีวิต กลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ! 🕵️‍♂️ คำถามที่ยังไม่มีคำตอบในคดีแตงโม แม้ว่าตำรวจจะสรุปว่า "แตงโมเสียชีวิต จากอุบัติเหตุพลัดตกน้ำ" แต่สังคมยังคงมีข้อสงสัยมากมาย อาทิ ❓ บาดแผลที่ต้นขาเกิดจากอะไร? ➡️ แพทย์นิติเวช พบแผลฉกรรจ์ที่ขาซ้าย คาดว่าเกิดจากใบพัดเรือ ทำให้ขาขยับไม่ได้ ซึ่งขัดแย้งกับคำให้การที่อ้างว่า "เธอตกน้ำ และพยายามว่ายน้ำกลับ" ❓ ทำไมกลุ่มเพื่อน จึงมีคำให้การไม่ตรงกัน? ➡️ แต่ละคนให้ปากคำแตกต่างกัน บางช่วงเวลา ไม่มีหลักฐานแน่ชัด ว่าทำอะไร ❓ หลักฐานที่สำคัญหายไปไหน? ➡️ เรือลำเกิดเหตุ ถูกทำความสะอาดก่อนตรวจสอบ ส่วนโทรศัพท์มือถือของแตงโม ถูกส่งไปต่างประเทศ แต่ภายหลังมีการกู้ข้อมูลกลับมา ❓ คลิปและรูปที่ถูกเผยแพร่ เป็นของจริงหรือไม่? ➡️ มีการตั้งข้อสังเกตว่า ภาพที่แตงโมถ่ายก่อนตกน้ำ อาจถูกตัดต่อ 🏛️ การดำเนินคดี และคำตัดสิน 📌 ตลอด 3 ปี ที่ผ่านมา มีการดำเนินคดี กับบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายราย แต่กระบวนการยุติธรรม ยังเต็มไปด้วยข้อกังขา 🔴 ศาลจังหวัดนนทบุรี อนุมัติหมายจับ - ปอ ตนุภัทร และโรเบิร์ต ไพบูลย์ ข้อหากระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต - กระติก อิจศรินทร์ ให้การเท็จ และละเว้นการแจ้งเหตุ - แซน วิศาพัช ถูกตั้งข้อสงสัยว่า เป็นพยานปากสำคัญ ที่ให้ข้อมูลขัดแย้ง 🔴 นางภนิดา แม่ของแตงโม รับเงินชดเชย 2 ล้านบาท ➡️ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า "แลกเงินกับคดีลูก" 🔴 ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ ในปี 2567 ➡️ มีการพบหลักฐานใหม่ ที่อาจทำให้คดีพลิก 💔 ดราม่าภายในครอบครัว และคนใกล้ชิด 😢 คดีนี้ไม่เพียงแต่ สร้างความสะเทือนใจต่อสังคม แต่ยังนำไปสู่ความขัดแย้งในครอบครัว 🔹 แม่ของแตงโมถูกวิจารณ์หนัก เพราะยอมรับเงินเยียวยา และดูเหมือนไม่มุ่งหาความจริง 🔹 เพื่อนสนิทแฉกันเอง หลายคนที่เคยสนิทกับแตงโม กลับกลายเป็นคู่กรณีกันในศาล 🔹 ผู้ต้องหาให้สัมภาษณ์โต้แย้งกันเอง ทำให้คดีดูซับซ้อนยิ่งขึ้น 📌 คดีแตงโม ความยุติธรรมจะมาถึงเมื่อไหร่? ⏳ แม้จะผ่านมา 3 ปี แต่คดีแตงโมยังเป็นปริศนา มีหลายฝ่ายเรียกร้อง ให้มีการรื้อฟื้นคดี และนำตัวผู้กระทำผิดที่แท้จริง มาลงโทษ 🔎 ล่าสุดมีหลักฐานใหม่ ที่ถูกนำมาเปิดเผย เช่น ✅ คลิปจากมือถือแตงโม ที่อาจระบุได้ว่า เธอไม่ได้อยู่บนเรือ ในช่วงเวลาที่ตกน้ำ ✅ ข้อมูลจากกลุ่มอิสระ ที่พบข้อผิดพลาด ในการสืบสวนของตำรวจ 🔥 “เวรกรรมกำลังทำงาน” เป็นคำพูดที่หลายคนในโซเชียล ใช้กันมากขึ้น เมื่อเห็นว่า หลายคนที่เคยปกป้องกันในคดีนี้ เริ่มมีปัญหากับกฎหมาย และสังคม 📢 แตงโมยังคงรอความเป็นธรรม การเสียชีวิตของ "แตงโม นิดา" ไม่ใช่แค่เรื่องของดาราสาวคนหนึ่ง แต่เป็นตัวอย่าง ของปัญหาความยุติธรรมในสังคมไทย ที่ยังต้องการคำตอบ 📍 สุดท้ายแล้ว "คดีนี้จะถูกปิดไปพร้อมกับความลับ หรือความจริงจะถูกเปิดเผยในที่สุด?" 📢 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241015 ก.พ. 2568 🔥 #แตงโมนิดา #คดีแตงโม #3ปีที่จากไป #ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน #DSI #เปิดโปงความจริง #ลับลวงพราง #แตงโมต้องได้รับความเป็นธรรม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1572 มุมมอง 0 รีวิว
  • แนวคิดของ lunar economy ที่เคยเป็นเพียงเรื่องในนิยายวิทยาศาสตร์ กำลังกลายเป็นความจริงที่สามารถจับต้องได้ ประเทศต่าง ๆ และบริษัทเอกชนกำลังแข่งขันกันเพื่อสร้างฐานที่มั่นบนดวงจันทร์และใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่นั่นในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ และพัฒนาความสามารถในการสำรวจอวกาศในอนาคต

    หนึ่งในบริษัทที่เข้าร่วมการแข่งขันนี้คือ Firefly Aerospace บริษัทที่ตั้งอยู่ในรัฐเท็กซัส เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2025 Firefly ได้ทำการปล่อยภารกิจ Blue Ghost 1 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบการส่งมอบจากโลกสู่ดวงจันทร์ ขณะนี้ Blue Ghost กำลังมุ่งหน้าสู่พื้นผิวดวงจันทร์และต้องเผชิญกับภารกิจท้าทายหลายอย่าง เช่น การเข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์ การลงจอดอย่างควบคุมในพื้นที่ Mare Crisium และการรับมือกับสภาพแวดล้อมที่รุนแรง การติดตั้งอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ การเก็บข้อมูลสภาพแวดล้อม และการเจาะและสกัดฝุ่นละอองบนดวงจันทร์อย่างอัตโนมัติ

    ภารกิจของ Firefly นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Commercial Lunar Payload Services (CLPS) ของ NASA ที่มุ่งใช้ความสร้างสรรค์ของภาคเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาการสำรวจอวกาศ ขณะที่ NASA มุ่งเน้นการส่งนักบินอวกาศกลับสู่ดวงจันทร์ผ่านโครงการ Artemis บริษัทเอกชนถูกมอบหมายให้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการส่งมอบสิ่งของและการส่งคืนตัวอย่าง

    Blue Ghost lander บรรทุกอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ 10 ชิ้น รวมถึงคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อตรวจวัดความต้านทานของวงจรต่อรังสีในอวกาศ และกล้องที่ใช้ศึกษาฝุ่นละอองที่ลอยอยู่ นอกจากนี้ lander ยังจะถ่ายภาพปรากฏการณ์ lunar eclipse เพื่อให้มุมมองพิเศษต่อปรากฏการณ์นี้

    ในขณะที่ lunar economy เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ความสนใจจึงหันไปที่การใช้ประโยชน์จากวัสดุบนดวงจันทร์ โดยเฉพาะ Helium-3 ซึ่งเป็นไอโซโทปหายากที่มีประโยชน์ในการฟิวชั่นนิวเคลียร์ คอมพิวเตอร์ควอนตัม และการสร้างภาพทางการแพทย์ Helium-3 นั้นหายากบนโลก แต่เชื่อว่ามีการสะสมอยู่ในดวงจันทร์เนื่องจากลมสุริยะ

    บริษัทอย่าง Interlune กำลังวางแผนภารกิจการขุดเพื่อสกัด Helium-3 จากดวงจันทร์ นักวิจัยยังสำรวจการใช้แร่ธาตุและน้ำบนดวงจันทร์เพื่อผลิตออกซิเจนและไฮโดรเจนสำหรับเชื้อเพลิงจรวด ซึ่งอาจเปิดทางให้มีการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์บนดวงจันทร์อย่างยั่งยืนในอนาคต รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานบนดวงจันทร์ เช่น ถนน ทางรถไฟ และสิ่งก่อสร้างจากคอนกรีต

    ในอนาคต ภาพของ lander ที่เข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์และการสร้างระบบการส่งมอบในอวกาศจะเป็นเรื่องปกติทั่วไป เปิดฉากยุคใหม่ของการสำรวจและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่นอกเหนือจากชั้นบรรยากาศของโลก

    https://www.techspot.com/news/106885-new-space-race-building-sustainable-economy-moon.html
    แนวคิดของ lunar economy ที่เคยเป็นเพียงเรื่องในนิยายวิทยาศาสตร์ กำลังกลายเป็นความจริงที่สามารถจับต้องได้ ประเทศต่าง ๆ และบริษัทเอกชนกำลังแข่งขันกันเพื่อสร้างฐานที่มั่นบนดวงจันทร์และใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่นั่นในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ และพัฒนาความสามารถในการสำรวจอวกาศในอนาคต หนึ่งในบริษัทที่เข้าร่วมการแข่งขันนี้คือ Firefly Aerospace บริษัทที่ตั้งอยู่ในรัฐเท็กซัส เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2025 Firefly ได้ทำการปล่อยภารกิจ Blue Ghost 1 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบการส่งมอบจากโลกสู่ดวงจันทร์ ขณะนี้ Blue Ghost กำลังมุ่งหน้าสู่พื้นผิวดวงจันทร์และต้องเผชิญกับภารกิจท้าทายหลายอย่าง เช่น การเข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์ การลงจอดอย่างควบคุมในพื้นที่ Mare Crisium และการรับมือกับสภาพแวดล้อมที่รุนแรง การติดตั้งอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ การเก็บข้อมูลสภาพแวดล้อม และการเจาะและสกัดฝุ่นละอองบนดวงจันทร์อย่างอัตโนมัติ ภารกิจของ Firefly นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Commercial Lunar Payload Services (CLPS) ของ NASA ที่มุ่งใช้ความสร้างสรรค์ของภาคเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาการสำรวจอวกาศ ขณะที่ NASA มุ่งเน้นการส่งนักบินอวกาศกลับสู่ดวงจันทร์ผ่านโครงการ Artemis บริษัทเอกชนถูกมอบหมายให้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการส่งมอบสิ่งของและการส่งคืนตัวอย่าง Blue Ghost lander บรรทุกอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ 10 ชิ้น รวมถึงคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อตรวจวัดความต้านทานของวงจรต่อรังสีในอวกาศ และกล้องที่ใช้ศึกษาฝุ่นละอองที่ลอยอยู่ นอกจากนี้ lander ยังจะถ่ายภาพปรากฏการณ์ lunar eclipse เพื่อให้มุมมองพิเศษต่อปรากฏการณ์นี้ ในขณะที่ lunar economy เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ความสนใจจึงหันไปที่การใช้ประโยชน์จากวัสดุบนดวงจันทร์ โดยเฉพาะ Helium-3 ซึ่งเป็นไอโซโทปหายากที่มีประโยชน์ในการฟิวชั่นนิวเคลียร์ คอมพิวเตอร์ควอนตัม และการสร้างภาพทางการแพทย์ Helium-3 นั้นหายากบนโลก แต่เชื่อว่ามีการสะสมอยู่ในดวงจันทร์เนื่องจากลมสุริยะ บริษัทอย่าง Interlune กำลังวางแผนภารกิจการขุดเพื่อสกัด Helium-3 จากดวงจันทร์ นักวิจัยยังสำรวจการใช้แร่ธาตุและน้ำบนดวงจันทร์เพื่อผลิตออกซิเจนและไฮโดรเจนสำหรับเชื้อเพลิงจรวด ซึ่งอาจเปิดทางให้มีการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์บนดวงจันทร์อย่างยั่งยืนในอนาคต รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานบนดวงจันทร์ เช่น ถนน ทางรถไฟ และสิ่งก่อสร้างจากคอนกรีต ในอนาคต ภาพของ lander ที่เข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์และการสร้างระบบการส่งมอบในอวกาศจะเป็นเรื่องปกติทั่วไป เปิดฉากยุคใหม่ของการสำรวจและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่นอกเหนือจากชั้นบรรยากาศของโลก https://www.techspot.com/news/106885-new-space-race-building-sustainable-economy-moon.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    The new space race: building a sustainable economy on the moon
    This modern-day lunar gold rush has attracted diverse participants, from established space agencies to innovative private firms. One such company in this space race is the Texas-based...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 669 มุมมอง 0 รีวิว
  • #แทงค์น้ำหาดใหญ่ #ถังน้ำหาดใหญ่ 0815425909
    #แทงค์น้ำหาดใหญ่ #ถังน้ำหาดใหญ่ 0815425909
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 541 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • USAID ออกประกาศ พักงาน/เลิกจ้าง พนักงานทั่วโลก

    บุคลากรที่จ้างโดยตรงของ USAID ทั้งหมด ยกเว้นบุคลากรที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบหน้าที่ที่สำคัญยิ่งต่อภารกิจ ความเป็นผู้นำหลัก และ/หรือโปรแกรมที่กำหนดเป็นพิเศษ จะถูกพักงานเพื่อการบริหารงานทั่วโลก

    ในขณะเดียวกัน USAID กำลังเริ่มดำเนินการลดจำนวนกำลังพล ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อบุคลากรของ USAID ประมาณ 1,600 คนที่ประจำการอยู่ในสหรัฐอเมริกา

    บุคคลที่ได้รับผลกระทบจะได้รับการแจ้งเตือนเฉพาะเจาะจงในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2025 พร้อมคำแนะนำ และข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์และสิทธิ์ของพวกเขา

    บุคลากรที่จำเป็นที่ได้รับการแต่งตั้งซึ่งคาดว่าจะยังคงทำงานต่อไปจะได้รับแจ้งจากผู้นำของหน่วยงานในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2025 ภายในเวลา 17:00 น.

    สำหรับบุคลากรในต่างประเทศ USAID ที่มีแผนจะเดินทางกลับโดยสมัครใจ USAID จะรักษาความปลอดภัยให้กับบุคลากรในต่างประเทศ จนกว่าพวกเขาจะกลับถึงบ้าน เจ้าหน้าที่จะยังคงสามารถเข้าถึงระบบของหน่วยงานและทรัพยากรทางการทูตและทรัพยากรอื่นๆ ได้

    ในสัปดาห์หน้า เราจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการดึงสิ่งของส่วนตัวจากสถานที่ทำงานเดิมของ USAID และส่งคืนอุปกรณ์ที่รัฐบาลออกให้

    จะมีคำแนะนำเพิ่มเติมตามมา และการอัปเดต/ประกาศในอนาคตทั้งหมดจะยังคงมีการสื่อสารผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการของ USAID และโพสต์บน USAID.gov สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบของ USAID ได้
    USAID ออกประกาศ พักงาน/เลิกจ้าง พนักงานทั่วโลก บุคลากรที่จ้างโดยตรงของ USAID ทั้งหมด ยกเว้นบุคลากรที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบหน้าที่ที่สำคัญยิ่งต่อภารกิจ ความเป็นผู้นำหลัก และ/หรือโปรแกรมที่กำหนดเป็นพิเศษ จะถูกพักงานเพื่อการบริหารงานทั่วโลก ในขณะเดียวกัน USAID กำลังเริ่มดำเนินการลดจำนวนกำลังพล ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อบุคลากรของ USAID ประมาณ 1,600 คนที่ประจำการอยู่ในสหรัฐอเมริกา บุคคลที่ได้รับผลกระทบจะได้รับการแจ้งเตือนเฉพาะเจาะจงในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2025 พร้อมคำแนะนำ และข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์และสิทธิ์ของพวกเขา บุคลากรที่จำเป็นที่ได้รับการแต่งตั้งซึ่งคาดว่าจะยังคงทำงานต่อไปจะได้รับแจ้งจากผู้นำของหน่วยงานในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2025 ภายในเวลา 17:00 น. สำหรับบุคลากรในต่างประเทศ USAID ที่มีแผนจะเดินทางกลับโดยสมัครใจ USAID จะรักษาความปลอดภัยให้กับบุคลากรในต่างประเทศ จนกว่าพวกเขาจะกลับถึงบ้าน เจ้าหน้าที่จะยังคงสามารถเข้าถึงระบบของหน่วยงานและทรัพยากรทางการทูตและทรัพยากรอื่นๆ ได้ ในสัปดาห์หน้า เราจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการดึงสิ่งของส่วนตัวจากสถานที่ทำงานเดิมของ USAID และส่งคืนอุปกรณ์ที่รัฐบาลออกให้ จะมีคำแนะนำเพิ่มเติมตามมา และการอัปเดต/ประกาศในอนาคตทั้งหมดจะยังคงมีการสื่อสารผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการของ USAID และโพสต์บน USAID.gov สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบของ USAID ได้
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 317 มุมมอง 0 รีวิว

  • ขำขำ
    ขำขำ
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • พนักงาน USAID ที่กลายเป็นอดีตไปแล้ว กำลังออกจากอาคาร USAID ในวอชิงตัน ดี.ซี. หลังถูกไล่ออก
    พนักงาน USAID ที่กลายเป็นอดีตไปแล้ว กำลังออกจากอาคาร USAID ในวอชิงตัน ดี.ซี. หลังถูกไล่ออก
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชิญเข้าวัง

    #งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์_68
    เชิญเข้าวัง #งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์_68
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • คัดกรองภูมืแพ้ จาก PM 2.5
    คัดกรองภูมืแพ้ จาก PM 2.5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • มอร์นิ่งค่ะ☕️เช้านี้เก็บมะเขือเทศที่สวนมาฝากค่ะ
    มอร์นิ่งค่ะ🍅☕️🥰เช้านี้เก็บมะเขือเทศที่สวนมาฝากค่ะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ประกันสังคมแจงยิบ รักษา-ยาเท่าบัตรทอง : [NEWS UPDATE]

    นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม(สปส.) เผยยืนยัน การรักษาตามสิทธิประกันสังคมไม่ด้อยกว่าบัตรทอง หลังสังคมตั้งข้อสงสัยและเปรียบเทียบสิทธิประกันสังคมกับบัตรทอง โดยประกันสังคมคุ้มครอง 7 กรณี ตั้งแต่เกิดจนวาระสุดท้ายของผู้ประกันตน ได้แก่ เจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และว่างงาน ให้สิทธิการรักษาที่มีคุณภาพครอบคลุมทุกโรค อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกันตนเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่รวดเร็ว ด้านทันตกรรมครอบคลุมการถอนฟัน ผ่าฟันคุด อุดฟัน ขูดหินปูน เบิกฟันเทียม รวมถึงยกระดับการรักษา 5 โรคสำคัญ ได้แก่ หัวใจและหลอดเลือด หลอดเลือดสมอง นิ่วในไตและถุงน้ำดี มะเร็งเต้านม และก้อนเนื้อที่มดลูกและหรือรังไข่ เพิ่มทางเลือกในการรักษาโรคมะเร็ง สิทธิการตรวจสุขภาพ และการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด ซึ่งยังพัฒนาให้ผู้ประกันตนได้สิทธิเพิ่ม ย้ำ ไม่ว่าสิทธิใด คุณภาพในการรักษา รวมถึงยา ต้องเป็นไปตามมาตรฐานและเท่าเทียมกัน

    -1.2 พันคนเอี่ยวฮั้วเลือก สว.

    -ทลายแหล่งกบดานแก็งคอล

    -น้ำลำตะคองลดฮวบ

    -ยังไม่พบไวรัสใหม่ติดคน
    ประกันสังคมแจงยิบ รักษา-ยาเท่าบัตรทอง : [NEWS UPDATE] นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม(สปส.) เผยยืนยัน การรักษาตามสิทธิประกันสังคมไม่ด้อยกว่าบัตรทอง หลังสังคมตั้งข้อสงสัยและเปรียบเทียบสิทธิประกันสังคมกับบัตรทอง โดยประกันสังคมคุ้มครอง 7 กรณี ตั้งแต่เกิดจนวาระสุดท้ายของผู้ประกันตน ได้แก่ เจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และว่างงาน ให้สิทธิการรักษาที่มีคุณภาพครอบคลุมทุกโรค อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกันตนเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่รวดเร็ว ด้านทันตกรรมครอบคลุมการถอนฟัน ผ่าฟันคุด อุดฟัน ขูดหินปูน เบิกฟันเทียม รวมถึงยกระดับการรักษา 5 โรคสำคัญ ได้แก่ หัวใจและหลอดเลือด หลอดเลือดสมอง นิ่วในไตและถุงน้ำดี มะเร็งเต้านม และก้อนเนื้อที่มดลูกและหรือรังไข่ เพิ่มทางเลือกในการรักษาโรคมะเร็ง สิทธิการตรวจสุขภาพ และการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด ซึ่งยังพัฒนาให้ผู้ประกันตนได้สิทธิเพิ่ม ย้ำ ไม่ว่าสิทธิใด คุณภาพในการรักษา รวมถึงยา ต้องเป็นไปตามมาตรฐานและเท่าเทียมกัน -1.2 พันคนเอี่ยวฮั้วเลือก สว. -ทลายแหล่งกบดานแก็งคอล -น้ำลำตะคองลดฮวบ -ยังไม่พบไวรัสใหม่ติดคน
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1468 มุมมอง 54 0 รีวิว
  • จุดประสงค์ให้หายนะไวๆ การเปิดบ่อนฯ จะยึดประเทศนี้ง่ายๆ
    จุดประสงค์ให้หายนะไวๆ การเปิดบ่อนฯ จะยึดประเทศนี้ง่ายๆ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่อาจจะเป็นที่มาของกฎหมาย "สมรสเท่าเทียม" ที่ได้รับอิทธิพลจากภายนอก

    ในยุคของไบเดน สหรัฐอเมริกาใช้แรงกดดันทางการทูตอย่างหนัก เพื่อบังคับให้ไทย กรีซ ลิคเทนสไตน์ และประเทศอื่นๆ เพิ่มเติมสิทธิพิเศษให้กับบุคคลที่ระบุตัวตนว่าเป็น LGBTQIA+ โดยใช้ USAID ทำหน้าที่โฆษณาชวนเชื่อในการ "สนับสนุน" อย่างแข็งขัน

    ฝ่ายเสรีนิยมของอเมริกามีการวางแผนสนับสนุนคนข้ามเพศมาอย่างยาวนาน เช่น โครงการ "Being LGBT in Asia" ของ USAID ที่นำเงินไปลงทุนในองค์กรพัฒนาเอกชน "LGBT" ในเอเชีย ซึ่งมุ่งเน้นส่งเสริมสิทธิพื้นฐานของกลุ่ม LGBT ทั่วทั้งทวีปและในประเทศเป้าหมายเฉพาะ เช่น ไทย จีน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์

    นอกจากนี้ในปี 2014 สถานเอกอัครราชทูตสวีเดนในกรุงเทพฯ ร่วมมือกับ USAID เพื่อยกระดับองค์กรในการแก้ไขปัญหาสิทธิของกลุ่ม LGBT
    นี่อาจจะเป็นที่มาของกฎหมาย "สมรสเท่าเทียม" ที่ได้รับอิทธิพลจากภายนอก ในยุคของไบเดน สหรัฐอเมริกาใช้แรงกดดันทางการทูตอย่างหนัก เพื่อบังคับให้ไทย กรีซ ลิคเทนสไตน์ และประเทศอื่นๆ เพิ่มเติมสิทธิพิเศษให้กับบุคคลที่ระบุตัวตนว่าเป็น LGBTQIA+ โดยใช้ USAID ทำหน้าที่โฆษณาชวนเชื่อในการ "สนับสนุน" อย่างแข็งขัน ฝ่ายเสรีนิยมของอเมริกามีการวางแผนสนับสนุนคนข้ามเพศมาอย่างยาวนาน เช่น โครงการ "Being LGBT in Asia" ของ USAID ที่นำเงินไปลงทุนในองค์กรพัฒนาเอกชน "LGBT" ในเอเชีย ซึ่งมุ่งเน้นส่งเสริมสิทธิพื้นฐานของกลุ่ม LGBT ทั่วทั้งทวีปและในประเทศเป้าหมายเฉพาะ เช่น ไทย จีน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ในปี 2014 สถานเอกอัครราชทูตสวีเดนในกรุงเทพฯ ร่วมมือกับ USAID เพื่อยกระดับองค์กรในการแก้ไขปัญหาสิทธิของกลุ่ม LGBT
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 650 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดีชั่วทำแล้ว
    ไม่แคล้วเวรกรรม
    สัญญายังจำ
    นำให้เจอะเจอ

    มีกรรมผูกพัน
    ผันเวียนบำเรอ
    ยังพาพลั้งเผลอ
    เจอทุกข์เวรกรรม

    สติชำนาญ
    การงานเป็นธรรม
    พระคุณดื่มด่ำ
    นำพาดีแล้ว

    พุทธังธมมัง
    สังฆังดั่งแก้ว
    บ่วงมารคลาดแคล้ว
    แผ้วพานไม่ได้

    มีศีลมีธรรม
    นำมาครองใจ
    ดับเหตุทุกข์หาย
    ได้ดีอาศัย
    ดีชั่วทำแล้ว ไม่แคล้วเวรกรรม สัญญายังจำ นำให้เจอะเจอ มีกรรมผูกพัน ผันเวียนบำเรอ ยังพาพลั้งเผลอ เจอทุกข์เวรกรรม สติชำนาญ การงานเป็นธรรม พระคุณดื่มด่ำ นำพาดีแล้ว พุทธังธมมัง สังฆังดั่งแก้ว บ่วงมารคลาดแคล้ว แผ้วพานไม่ได้ มีศีลมีธรรม นำมาครองใจ ดับเหตุทุกข์หาย ได้ดีอาศัย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 384 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพการต่อสู้ในชาซีฟ ยาร์ (Chasiv Yar)

    ทหารร่มรัสเซียจากกองพลทหารราบที่ 98 กำลังเสี่ยงชีวิตเข้าช่วยเหลือเพื่อนทหารที่ได้รับบาดเจ็บภายในรถที่เสียหาย ขณะเดียวกันโดรน FPV ของยูเครนกำลังพุ่งเข้าโจมตีด้วยเช่นกัน
    ภาพการต่อสู้ในชาซีฟ ยาร์ (Chasiv Yar) ทหารร่มรัสเซียจากกองพลทหารราบที่ 98 กำลังเสี่ยงชีวิตเข้าช่วยเหลือเพื่อนทหารที่ได้รับบาดเจ็บภายในรถที่เสียหาย ขณะเดียวกันโดรน FPV ของยูเครนกำลังพุ่งเข้าโจมตีด้วยเช่นกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว