• จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา เชื่อว่าคำพูดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เกี่ยวกับการดูดกลืนแคนาดาเข้าเป็นรัฐที่ 51 "เป็นของจริง" และมันเกี่ยวข้องกับความมั่นคงด้านทรัพยากรทางธรรมชาติของประเทศ ตามรายงานของสื่อมวลชนอ้างอิงแหล่งข่าวในรัฐบาล
    .
    แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ทรูโด แสดงความคิดเห็นดังกล่าว ระหว่างการประชุมลับกับพวกผู้นำภาคธุรกิจและแกนนำสหภาพแรงงาน เกี่ยวกับแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการตอบโต้ความเคลื่อนไหวของทรัมป์ ที่ขู่รีดภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดา
    .
    ที่ผ่านมา ทรัมป์ ส่งเสียงแนะนำซ้ำๆว่า แคนาดา จะดีกว่าเดิม หากประเทศแห่งนี้ยอมกลายมาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา
    .
    หนังสือพิมพ์โทรอนโตสตาร์ รายงานอ้างคำกล่าวของทรูโดระบุว่า "พวกเขาทราบดีเกี่ยวกับทรัพยากรของเรา สิ่งที่เรามีและพวกเขาต้องการมากๆอยากได้ประโยชน์จากทรัพยากรเหล่านี้" นายกรัฐมนตรีแคนาดากล่าวกับที่ประชุมลับ "แต่ในความคิดของทรัมป์ หนึ่งในหนทางที่ง่ายที่สุดในการทำเช่นนั้น ก็คือดูดกลืนประเทศของเรา และความคิดนี้เป็นของจริง"
    .
    แหล่งข่าวในรัฐบาล ยืนยันว่ารายงานข่าวของโทรอนโตสาตาร์ที่อ้างคำพูดดังกล่าวนั้น "ถูกต้อง"
    .
    แคนาดา ที่กำลังหาทางปัดป้องมาตรการต่างๆนานาของสหรัฐฯ เน้นย้ำว่าพวกเขาเป็นคู่หูที่น่าเชื่อถือ และเป็นผู้จัดหารายใหญ่ด้านน้ำมัน แร่ธาตุและทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ
    .
    ในความเห็นกับพวกผู้สื่อข่าว ทรูโดบอกก่อนหน้านี้ว่า แคนาดาอาจต้องเจอกับความท้าทายทางการเมืองในระยะยาวกับสหรัฐฯ แม้นว่าหากสามารถจัดการหลีกเลี่ยงคำขู่รีดภาษีของทรัมป์ได้ก็ตาม
    .
    ทรัมป์ เมื่อวันจันทร์(3ก.พ.) เผยว่าเขาจะเลื่อนกำหนดมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาออกไป 30 วัน และกับการยอมอ่อนข้อในด้านชายแดนและการจัดการดับอาชญากรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปราบปรามการลักลอบขนยาเฟนทานิล
    .
    ทรูโด บอกว่าความท้าทายในปัจจุบันทันด่วนของออตตาวา ก็คือการโน้มน้าวให้วอชิงตัน เชื่อว่าแคนาดาได้ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้แล้ว ในการต่อสู้กับกระแสไหลบ่าของยาเฟนทานิล จากข้อมูลพบว่าในบรรดายาเฟนทานิลที่ถูกยึดในสหรัฐฯนั้น มีเพียงแค่ 0.2% ที่ข้ามไปจากชายแดนแคนาดา
    .
    ทั้งนี้ ทรูโด บอกกับพวกนักธุรกิจและแกนนำสหภาพแรงงาน ในช่วงต้นของการประชุมเกี่ยวกับแนวทางสร้างความหลากหลายทางการค้าและกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่าถ้าสหรัฐฯกำหนดมาตรการรีดภาษี ทางแคนาดาก็จะตอบโต้แบบเดียวกัน แต่เป้าหมายของแคนาดาคือจะหาทางปลดมาตรการเหล่านี้อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
    .
    ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาทางการค้าของทรัมป์ เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ กล่าวหาแคนาดา กลายมาเป็นแหล่งต้นทางหลักของการลักลอบขนยาปลอดภาษี แต่ขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งประเด็นปัญหาใหญ่ด้านวีซ่าและปล่อยให้คนที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีก่อการร้ายเดินทางเข้าสู่สหรัฐฯ
    .
    ในการส่งออกภาคบริการและสินค้าทั้งหมดของแคนาดา คิดเป็นสัดส่วนถึง 75% ที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ ส่งผลให้พวกเขามีความอ่อนแออย่างมากต่อการคว่ำบาตรใดๆของอเมริกา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000012939
    ..............
    Sondhi X
    จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา เชื่อว่าคำพูดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เกี่ยวกับการดูดกลืนแคนาดาเข้าเป็นรัฐที่ 51 "เป็นของจริง" และมันเกี่ยวข้องกับความมั่นคงด้านทรัพยากรทางธรรมชาติของประเทศ ตามรายงานของสื่อมวลชนอ้างอิงแหล่งข่าวในรัฐบาล . แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ทรูโด แสดงความคิดเห็นดังกล่าว ระหว่างการประชุมลับกับพวกผู้นำภาคธุรกิจและแกนนำสหภาพแรงงาน เกี่ยวกับแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการตอบโต้ความเคลื่อนไหวของทรัมป์ ที่ขู่รีดภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดา . ที่ผ่านมา ทรัมป์ ส่งเสียงแนะนำซ้ำๆว่า แคนาดา จะดีกว่าเดิม หากประเทศแห่งนี้ยอมกลายมาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา . หนังสือพิมพ์โทรอนโตสตาร์ รายงานอ้างคำกล่าวของทรูโดระบุว่า "พวกเขาทราบดีเกี่ยวกับทรัพยากรของเรา สิ่งที่เรามีและพวกเขาต้องการมากๆอยากได้ประโยชน์จากทรัพยากรเหล่านี้" นายกรัฐมนตรีแคนาดากล่าวกับที่ประชุมลับ "แต่ในความคิดของทรัมป์ หนึ่งในหนทางที่ง่ายที่สุดในการทำเช่นนั้น ก็คือดูดกลืนประเทศของเรา และความคิดนี้เป็นของจริง" . แหล่งข่าวในรัฐบาล ยืนยันว่ารายงานข่าวของโทรอนโตสาตาร์ที่อ้างคำพูดดังกล่าวนั้น "ถูกต้อง" . แคนาดา ที่กำลังหาทางปัดป้องมาตรการต่างๆนานาของสหรัฐฯ เน้นย้ำว่าพวกเขาเป็นคู่หูที่น่าเชื่อถือ และเป็นผู้จัดหารายใหญ่ด้านน้ำมัน แร่ธาตุและทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ . ในความเห็นกับพวกผู้สื่อข่าว ทรูโดบอกก่อนหน้านี้ว่า แคนาดาอาจต้องเจอกับความท้าทายทางการเมืองในระยะยาวกับสหรัฐฯ แม้นว่าหากสามารถจัดการหลีกเลี่ยงคำขู่รีดภาษีของทรัมป์ได้ก็ตาม . ทรัมป์ เมื่อวันจันทร์(3ก.พ.) เผยว่าเขาจะเลื่อนกำหนดมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาออกไป 30 วัน และกับการยอมอ่อนข้อในด้านชายแดนและการจัดการดับอาชญากรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปราบปรามการลักลอบขนยาเฟนทานิล . ทรูโด บอกว่าความท้าทายในปัจจุบันทันด่วนของออตตาวา ก็คือการโน้มน้าวให้วอชิงตัน เชื่อว่าแคนาดาได้ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้แล้ว ในการต่อสู้กับกระแสไหลบ่าของยาเฟนทานิล จากข้อมูลพบว่าในบรรดายาเฟนทานิลที่ถูกยึดในสหรัฐฯนั้น มีเพียงแค่ 0.2% ที่ข้ามไปจากชายแดนแคนาดา . ทั้งนี้ ทรูโด บอกกับพวกนักธุรกิจและแกนนำสหภาพแรงงาน ในช่วงต้นของการประชุมเกี่ยวกับแนวทางสร้างความหลากหลายทางการค้าและกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่าถ้าสหรัฐฯกำหนดมาตรการรีดภาษี ทางแคนาดาก็จะตอบโต้แบบเดียวกัน แต่เป้าหมายของแคนาดาคือจะหาทางปลดมาตรการเหล่านี้อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ . ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาทางการค้าของทรัมป์ เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ กล่าวหาแคนาดา กลายมาเป็นแหล่งต้นทางหลักของการลักลอบขนยาปลอดภาษี แต่ขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งประเด็นปัญหาใหญ่ด้านวีซ่าและปล่อยให้คนที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีก่อการร้ายเดินทางเข้าสู่สหรัฐฯ . ในการส่งออกภาคบริการและสินค้าทั้งหมดของแคนาดา คิดเป็นสัดส่วนถึง 75% ที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ ส่งผลให้พวกเขามีความอ่อนแออย่างมากต่อการคว่ำบาตรใดๆของอเมริกา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000012939 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    8
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1891 มุมมอง 0 รีวิว
  • โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประณาม "เห็นแก่ตัวและคิดเข้าข้างตนเอง" ต่อข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐน ที่เสนอขอแร่แร์เอิร์ธจากยูเครน แลกกับความช่วยเหลือทางทหารจากอเมริกา ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแห่งหนึ่งที่เผยแพร่เมื่อวันเสาร์(8ก.พ.)
    .
    แรร์เอิร์ธ เป็นแร่ที่มีองค์ประกอบของธาตุเคมี 17 ชนิดในตารางธาตุ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตสมาร์ทโฟน รถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ และไม่มีอะไรมาแทนที่มันได้
    .
    "ยูเครนกำลังถูกโจมตีและเรากำลังช่วยเหลือพวกเขา โดยไม่ได้ร้องขอให้จ่ายค่าตอบแทน นี่ควรเป็นจุดยืนของทุกคน" โชลซ์กล่าวผ่านสำนักข่าวอาร์เอ็นดี เมื่อถูกถามเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของทรัมป์ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ยูเครนจะให้แร่แรร์เอิร์ธเป็นการแลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ
    .
    ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีเยอรมนีเคยออกมาให้คำจกกัดความข้อเรียกร้องของทรัมป์ มาแล้วรอบหนึ่งว่า "เห็นแก่ตัวมากๆ" หลังเสร็จสิ้นการประชุมซัมมิตสหภาพยุโรปในบรัสเซลส์
    .
    เขาบอกว่าทรัพยากรต่างๆของยูเครนควรถูกใช้เป็นทุนสนับสนุนทุกๆอย่างที่จำเป็นหลังจบสงคราม อย่างเช่นการฟื้นฟูและทำนุบำรุงกองทัพที่เข้มแข็ง "มันจะเป็นการเห็นแก่ตัวอย่างมาก และรับใช้แต่ผลประโยชน์ของตนเอง ในการเรียกร้องบางอย่างจากยูเครนแลกกับความช่วยเหลือ" โชลซ์ระบุ
    .
    ทรัมป์ กล่าวว่าเขาต้องการ "ความเท่าเทียม" จากยูเครน สำหรับความช่วยเหลือทางการเงินที่วอชิงตันมอบให้ และบอกว่า "เราอยากบอกกับยูเครนว่า พวกเขามีแร่แรร์เอิร์ธที่มีค่ามากๆ เรากำลังหาทางตกลงกับยูเครน ข้อตกลงที่พวกเขาจะได้รับคำรับประกันในสิ่งในเราจะมอบให้แก่พวกเขา แลกกับแร่แร์เอิร์ธของพวกเขาและสิ่งอื่นๆ"
    .
    ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกต่อว่า "เราต้องการมีความมั่นคงด้านแร่แรร์เอิร์ธ เรากำลังใส่เงินลงไปหลายแสนล้านดอลลาร์ พวกเขามีแร่แรร์เอิร์ธมหาศาล เและผมต้องการความมั่นคงด้านแร่แรร์เอิร์ธ และพวกเขามีความตั้งใจที่จะทำมัน"
    .
    ในวันศุกร์(7ก.พ.) ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เปิดเผยว่าวอชิงตันและเคียฟกำลังมีแผน "พบปะพูดคุยกัน" หลัง ทรัมป์ หยิบยกความเป็นไปได้ที่จะประชุมร่วมกับเขาในสัปดาห์หน้า
    .
    ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ เซเลนสกี บอกว่ายูเครนพร้อมอ้าแขนต้อนรับการลงทุนจากเหล่าบริษัทสหรัฐฯในแร่แรร์เอิร์ธ หรือโลหะต่างๆที่ถูกใช้อย่างกว้างขวางในงานอิเล็กทรอนิกส์
    .
    ในแผนสันติภาพที่เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน เซเลนสกี เสนอ "ข้อตกลงพิเศษ" กับบรรดาพันธมิตรของประเทศ เปิดทางสำหรับการปกป้องร่วมกันและสำรวจร่วมกันในด้านทรัพยากรทางยุทธศาสตร์ทั้งหลาย อย่างไรก็ตามครั้งนั้น เขาไม่ได้พาดพิงอย่างเจาะจงถึงแร่แรร์เอิร์ธ โดยที่เขาอ้างถึงนั้นมีเพียง ยูเรเนียม, ไทเทเนียม, ลิเธียม, แกรไฟต์ และทรัพยากรทางยุทธศาสตร์มูลค่าสูงอื่นๆ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000012938
    ..............
    Sondhi X
    โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประณาม "เห็นแก่ตัวและคิดเข้าข้างตนเอง" ต่อข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐน ที่เสนอขอแร่แร์เอิร์ธจากยูเครน แลกกับความช่วยเหลือทางทหารจากอเมริกา ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแห่งหนึ่งที่เผยแพร่เมื่อวันเสาร์(8ก.พ.) . แรร์เอิร์ธ เป็นแร่ที่มีองค์ประกอบของธาตุเคมี 17 ชนิดในตารางธาตุ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตสมาร์ทโฟน รถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ และไม่มีอะไรมาแทนที่มันได้ . "ยูเครนกำลังถูกโจมตีและเรากำลังช่วยเหลือพวกเขา โดยไม่ได้ร้องขอให้จ่ายค่าตอบแทน นี่ควรเป็นจุดยืนของทุกคน" โชลซ์กล่าวผ่านสำนักข่าวอาร์เอ็นดี เมื่อถูกถามเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของทรัมป์ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ยูเครนจะให้แร่แรร์เอิร์ธเป็นการแลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ . ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีเยอรมนีเคยออกมาให้คำจกกัดความข้อเรียกร้องของทรัมป์ มาแล้วรอบหนึ่งว่า "เห็นแก่ตัวมากๆ" หลังเสร็จสิ้นการประชุมซัมมิตสหภาพยุโรปในบรัสเซลส์ . เขาบอกว่าทรัพยากรต่างๆของยูเครนควรถูกใช้เป็นทุนสนับสนุนทุกๆอย่างที่จำเป็นหลังจบสงคราม อย่างเช่นการฟื้นฟูและทำนุบำรุงกองทัพที่เข้มแข็ง "มันจะเป็นการเห็นแก่ตัวอย่างมาก และรับใช้แต่ผลประโยชน์ของตนเอง ในการเรียกร้องบางอย่างจากยูเครนแลกกับความช่วยเหลือ" โชลซ์ระบุ . ทรัมป์ กล่าวว่าเขาต้องการ "ความเท่าเทียม" จากยูเครน สำหรับความช่วยเหลือทางการเงินที่วอชิงตันมอบให้ และบอกว่า "เราอยากบอกกับยูเครนว่า พวกเขามีแร่แรร์เอิร์ธที่มีค่ามากๆ เรากำลังหาทางตกลงกับยูเครน ข้อตกลงที่พวกเขาจะได้รับคำรับประกันในสิ่งในเราจะมอบให้แก่พวกเขา แลกกับแร่แร์เอิร์ธของพวกเขาและสิ่งอื่นๆ" . ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกต่อว่า "เราต้องการมีความมั่นคงด้านแร่แรร์เอิร์ธ เรากำลังใส่เงินลงไปหลายแสนล้านดอลลาร์ พวกเขามีแร่แรร์เอิร์ธมหาศาล เและผมต้องการความมั่นคงด้านแร่แรร์เอิร์ธ และพวกเขามีความตั้งใจที่จะทำมัน" . ในวันศุกร์(7ก.พ.) ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เปิดเผยว่าวอชิงตันและเคียฟกำลังมีแผน "พบปะพูดคุยกัน" หลัง ทรัมป์ หยิบยกความเป็นไปได้ที่จะประชุมร่วมกับเขาในสัปดาห์หน้า . ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ เซเลนสกี บอกว่ายูเครนพร้อมอ้าแขนต้อนรับการลงทุนจากเหล่าบริษัทสหรัฐฯในแร่แรร์เอิร์ธ หรือโลหะต่างๆที่ถูกใช้อย่างกว้างขวางในงานอิเล็กทรอนิกส์ . ในแผนสันติภาพที่เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน เซเลนสกี เสนอ "ข้อตกลงพิเศษ" กับบรรดาพันธมิตรของประเทศ เปิดทางสำหรับการปกป้องร่วมกันและสำรวจร่วมกันในด้านทรัพยากรทางยุทธศาสตร์ทั้งหลาย อย่างไรก็ตามครั้งนั้น เขาไม่ได้พาดพิงอย่างเจาะจงถึงแร่แรร์เอิร์ธ โดยที่เขาอ้างถึงนั้นมีเพียง ยูเรเนียม, ไทเทเนียม, ลิเธียม, แกรไฟต์ และทรัพยากรทางยุทธศาสตร์มูลค่าสูงอื่นๆ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000012938 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1924 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไมควรตั้งเป้าหมาย ทำงานให้สนุก ?
    ทำไมควรตั้งเป้าหมาย ทำงานให้สนุก ?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • หลิว จงอี้ มือปราบจีนเทา : Sondhitalk EP279 VDO
    หลิว จงอี้ มือปราบเจ้าหน้าที่ไทย กับกลุ่มอาชญากรฝ่ายจีน
    #sondhi #sondhiapp #sondhitalk #สนธิ #สนธิทอล์ค #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #sondhiX #สนธิเล่าเรื่อง
    หลิว จงอี้ มือปราบจีนเทา : Sondhitalk EP279 VDO หลิว จงอี้ มือปราบเจ้าหน้าที่ไทย กับกลุ่มอาชญากรฝ่ายจีน #sondhi #sondhiapp #sondhitalk #สนธิ #สนธิทอล์ค #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #sondhiX #สนธิเล่าเรื่อง�
    Like
    Love
    Haha
    34
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 4832 มุมมอง 146 1 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • Adrian Kingsley-Hughes นักเขียนและนักวิชาการทางเทคโนโลยีชาวอังกฤษ ได้เดินทางไปกับ SSD ที่ปลอดภัยที่สุดในโลกอย่าง iStorage DiskAshur Pro 3 และรู้สึกผ่อนคลายได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยจุดเด่นที่สำคัญคือการปกป้องข้อมูลทั้งจากการถูกขโมยและจากสิ่งแวดล้อมภายนอก

    ความพิเศษของ DiskAshur Pro 3:
    - ความจุหลากหลาย ตั้งแต่ 500GB จนถึง 16TB ทำให้คุณเลือกได้ตามต้องการ แต่ก็ต้องระวังราคาที่ค่อนข้างสูง
    - มีการเข้ารหัสแบบฮาร์ดแวร์ 256 บิต ที่ช่วยให้ข้อมูลบนไดร์ฟปลอดภัยเสมอ ไม่เหมือนการเข้ารหัสซอฟต์แวร์ทั่วไป และได้รับการรับรองมาตรฐาน FIPS 140-3 Level 3
    - แป้นพิมพ์ที่ใช้รหัสผ่าน 8 ถึง 64 ตัวอักษร เพื่อป้องกันผู้โจมตีไม่ให้ทราบรหัสผ่านจากร่องรอยการใช้งาน
    - มีมาตรการป้องกันการโจมตีแบบ brute-force หากพิมพ์รหัสผ่านผิด 10 ครั้งต่อเนื่อง ไดร์ฟจะล็อกและทำลายข้อมูล
    - สามารถใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ที่มีพอร์ต USB ไม่ว่าจะเป็น Windows, macOS, iPadOS, Linux, Android, ChromeOS, หรือแม้แต่เครื่องพิมพ์, เครื่องมือแพทย์, CCTV และอื่นๆ
    - ภายในจะมีชั้นเรซินที่ป้องกันไม่ให้เข้าถึงชิ้นส่วนภายในได้โดยไม่ทำลาย

    iStorage DiskAshur Pro 3 นั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการการปกป้องข้อมูลอย่างแน่นหนา ทั้งจากการโจมตีทางดิจิทัลและการถูกขโมยทางกายภาพ โดยคุณสามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลที่เก็บไว้บนไดร์ฟนี้จะอยู่ในที่ปลอดภัยเสมอ

    https://www.zdnet.com/article/i-traveled-with-one-of-the-most-secure-ssds-ever-and-never-felt-more-relaxed/
    Adrian Kingsley-Hughes นักเขียนและนักวิชาการทางเทคโนโลยีชาวอังกฤษ ได้เดินทางไปกับ SSD ที่ปลอดภัยที่สุดในโลกอย่าง iStorage DiskAshur Pro 3 และรู้สึกผ่อนคลายได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยจุดเด่นที่สำคัญคือการปกป้องข้อมูลทั้งจากการถูกขโมยและจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ความพิเศษของ DiskAshur Pro 3: - ความจุหลากหลาย ตั้งแต่ 500GB จนถึง 16TB ทำให้คุณเลือกได้ตามต้องการ แต่ก็ต้องระวังราคาที่ค่อนข้างสูง - มีการเข้ารหัสแบบฮาร์ดแวร์ 256 บิต ที่ช่วยให้ข้อมูลบนไดร์ฟปลอดภัยเสมอ ไม่เหมือนการเข้ารหัสซอฟต์แวร์ทั่วไป และได้รับการรับรองมาตรฐาน FIPS 140-3 Level 3 - แป้นพิมพ์ที่ใช้รหัสผ่าน 8 ถึง 64 ตัวอักษร เพื่อป้องกันผู้โจมตีไม่ให้ทราบรหัสผ่านจากร่องรอยการใช้งาน - มีมาตรการป้องกันการโจมตีแบบ brute-force หากพิมพ์รหัสผ่านผิด 10 ครั้งต่อเนื่อง ไดร์ฟจะล็อกและทำลายข้อมูล - สามารถใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ที่มีพอร์ต USB ไม่ว่าจะเป็น Windows, macOS, iPadOS, Linux, Android, ChromeOS, หรือแม้แต่เครื่องพิมพ์, เครื่องมือแพทย์, CCTV และอื่นๆ - ภายในจะมีชั้นเรซินที่ป้องกันไม่ให้เข้าถึงชิ้นส่วนภายในได้โดยไม่ทำลาย iStorage DiskAshur Pro 3 นั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการการปกป้องข้อมูลอย่างแน่นหนา ทั้งจากการโจมตีทางดิจิทัลและการถูกขโมยทางกายภาพ โดยคุณสามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลที่เก็บไว้บนไดร์ฟนี้จะอยู่ในที่ปลอดภัยเสมอ https://www.zdnet.com/article/i-traveled-with-one-of-the-most-secure-ssds-ever-and-never-felt-more-relaxed/
    WWW.ZDNET.COM
    I traveled with one of the most secure SSDs ever - and never felt more relaxed
    The iStorage DiskAshur Pro 3 safeguards your data from both theft and the elements.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 401 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในยุคที่ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและเทคโนโลยี "Digital Twin" หรือ "คู่แฝดดิจิทัล" กลายเป็นทางเลือกใหม่ที่สำคัญสำหรับธุรกิจในการปรับปรุงการดำเนินงาน และสร้างนวัตกรรมที่ล้ำสมัย

    "Digital Twin" คือ การสร้างแบบจำลองดิจิทัลของระบบหรือสภาพแวดล้อมจริง ทำให้องค์กรสามารถทดสอบการเปลี่ยนแปลงและการลงทุนได้ โดยไม่ต้องเสี่ยงที่จะกระทบกระเทือนกระบวนการที่มีอยู่จริง เช่น โรงงานผลิต, ยานพาหนะ, ระบบการผลิต, และแม้แต่ห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด

    ประเภทของ Digital Twin:
    1) Entity Twin: ใช้เพื่อแสดงและปรับปรุงวัตถุที่มีอยู่จริง เช่น เครื่องจักรในโรงงาน
    2) System Twin: ใช้เพื่อทดสอบการทำงานร่วมกันของส่วนประกอบต่างๆ
    3) Process Twin: ใช้เพื่อทดสอบกระบวนการผลิตและการดำเนินงาน

    ประโยชน์ของ Digital Twin:
    - สามารถออกแบบ, ทดสอบ, และปรับปรุงการออกแบบผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการ โดยไม่ต้องหยุดการทำงานจริง
    - ลดเวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ถึง 20%-50% และลดค่าใช้จ่าย
    - สามารถตรวจสอบและปรับปรุงการทำงานของอุปกรณ์ได้แบบเรียลไทม์
    - ช่วยในการวางแผนผังเมืองและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

    ข้อเสียที่อาจเกิดขึ้น:
    - การเริ่มต้นใช้งานต้องลงทุนสูง และอาจไม่เห็นผลตอบแทนทันที
    - ความซับซ้อนในการสร้างและดูแลระบบ Digital Twin
    - ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ที่อาจทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงข้อมูลจริงขององค์กรได้

    ตัวอย่างการใช้งานจริง:
    - Mayo Clinic: ใช้ Digital Twin เพื่อสร้างแบบจำลองผู้ป่วยเพื่อการวินิจฉัยและการรักษา
    - BMW: สร้างแบบจำลองโรงงานเพื่อปรับปรุงการผลิต
    - E.ON: ใช้ Digital Twin เพื่อเก็บข้อมูลและตรวจสอบการทำงานของระบบพลังงาน

    Digital Twin ไม่ใช่แค่แบบจำลองดิจิทัลธรรมดา แต่เป็นเครื่องมือที่สามารถนำเทคโนโลยี AI, Machine Learning, และ Data Analytics มารวมกันเพื่อสร้างภาพรวมของทรัพย์สินและกระบวนการต่างๆ ภายในองค์กร ซึ่งทำให้องค์กรสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลครบถ้วน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

    https://www.zdnet.com/article/digital-twins-are-optimizing-supply-chains-and-more-heres-why-enterprises-should-care/
    ในยุคที่ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและเทคโนโลยี "Digital Twin" หรือ "คู่แฝดดิจิทัล" กลายเป็นทางเลือกใหม่ที่สำคัญสำหรับธุรกิจในการปรับปรุงการดำเนินงาน และสร้างนวัตกรรมที่ล้ำสมัย "Digital Twin" คือ การสร้างแบบจำลองดิจิทัลของระบบหรือสภาพแวดล้อมจริง ทำให้องค์กรสามารถทดสอบการเปลี่ยนแปลงและการลงทุนได้ โดยไม่ต้องเสี่ยงที่จะกระทบกระเทือนกระบวนการที่มีอยู่จริง เช่น โรงงานผลิต, ยานพาหนะ, ระบบการผลิต, และแม้แต่ห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด ประเภทของ Digital Twin: 1) Entity Twin: ใช้เพื่อแสดงและปรับปรุงวัตถุที่มีอยู่จริง เช่น เครื่องจักรในโรงงาน 2) System Twin: ใช้เพื่อทดสอบการทำงานร่วมกันของส่วนประกอบต่างๆ 3) Process Twin: ใช้เพื่อทดสอบกระบวนการผลิตและการดำเนินงาน ประโยชน์ของ Digital Twin: - สามารถออกแบบ, ทดสอบ, และปรับปรุงการออกแบบผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการ โดยไม่ต้องหยุดการทำงานจริง - ลดเวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ถึง 20%-50% และลดค่าใช้จ่าย - สามารถตรวจสอบและปรับปรุงการทำงานของอุปกรณ์ได้แบบเรียลไทม์ - ช่วยในการวางแผนผังเมืองและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ข้อเสียที่อาจเกิดขึ้น: - การเริ่มต้นใช้งานต้องลงทุนสูง และอาจไม่เห็นผลตอบแทนทันที - ความซับซ้อนในการสร้างและดูแลระบบ Digital Twin - ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ที่อาจทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงข้อมูลจริงขององค์กรได้ ตัวอย่างการใช้งานจริง: - Mayo Clinic: ใช้ Digital Twin เพื่อสร้างแบบจำลองผู้ป่วยเพื่อการวินิจฉัยและการรักษา - BMW: สร้างแบบจำลองโรงงานเพื่อปรับปรุงการผลิต - E.ON: ใช้ Digital Twin เพื่อเก็บข้อมูลและตรวจสอบการทำงานของระบบพลังงาน Digital Twin ไม่ใช่แค่แบบจำลองดิจิทัลธรรมดา แต่เป็นเครื่องมือที่สามารถนำเทคโนโลยี AI, Machine Learning, และ Data Analytics มารวมกันเพื่อสร้างภาพรวมของทรัพย์สินและกระบวนการต่างๆ ภายในองค์กร ซึ่งทำให้องค์กรสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลครบถ้วน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน https://www.zdnet.com/article/digital-twins-are-optimizing-supply-chains-and-more-heres-why-enterprises-should-care/
    WWW.ZDNET.COM
    Digital twins are optimizing supply chains and more. Here's why enterprises should care
    Virtual modeling, analytics, and the Internet of Things have created a new way for businesses to use data to improve their operations: the digital twin.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 574 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 155 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในโลกที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว AI กลายเป็นเครื่องมือที่นำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างหลากหลาย และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความสำเร็จของคนธรรมดาที่สามารถทำเงินจาก AI ได้

    เราจะยกตัวอย่างเรื่องราวความสำเร็จของ Cal AI กันครับ เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ Zach Yadegari และ Henry Langmack สองนักเรียนวัย 17 ปี ได้พัฒนาแอปพลิเคชันชื่อ "Cal AI" ที่ใช้เทคโนโลยี GPT ในการตรวจนับแคลอรี่ แอปพลิเคชันนี้สามารถวิเคราะห์รูปภาพและสแกนบาร์โค้ดเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ด้วยความสำเร็จที่น่าทึ่ง แอปพลิเคชันนี้มีผู้ดาวน์โหลดกว่า 1 ล้านครั้งและทำรายได้ต่อปีถึง 12 ล้านดอลลาร์ จากทีมงานเพียง 17 คน

    สิ่งที่ Cal AI ใช้คือสิ่งที่เราเรียกว่า "GPT Wrapper"

    GPT Wrapper คือโปรแกรมที่สร้างอินเตอร์เฟซสำหรับผู้ใช้ที่นำความสามารถของ GPT มาปรับใช้ให้เหมาะสม เพื่อให้การใช้งานของ AI ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชันสำหรับการเขียนบทความหรือการเรียนรู้ภาษา ซึ่งการพัฒนา GPT Wrapper นั้นช่วยลดเวลาที่ใช้ในการเข้าสู่ตลาด และลดค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบ AI ของตนเอง

    ข้อดีและข้อเสียของการพัฒนา GPT Wrapper
    - ข้อดี: มีโครงสร้างพื้นฐานที่สร้างไว้แล้ว, ความรวดเร็วในการเข้าสู่ตลาด, และประหยัดต้นทุนการพัฒนา
    - ข้อเสีย: ข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ, ความยากลำบากในการขยายตัว, และความแตกต่างที่จำกัด

    แนวคิดในการสร้างธุรกิจ ด้วย GPT Wrapper:
    1) การสร้างความเข้าใจในปัญหา: ค้นหาปัญหาที่ผู้คนต้องการแก้ไข และสร้างแอปที่ตอบโจทย์
    2) การสร้างชุมชน: พูดคุยกับผู้ใช้ที่มีศักยภาพเพื่อให้ได้ข้อมูลและความเห็นในการพัฒนาแอป
    3)การตลาดและการเติบโต: สร้างชุมชนออนไลน์เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ และใช้แพลตฟอร์มเช่น TikTok และ Instagram เพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์

    สรุปคือ การสร้างแอปพลิเคชันด้วย AI ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่มีความเข้าใจในปัญหาและนำแนวคิดใหม่ๆ มาปรับใช้ คุณก็สามารถสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้ด้วย AI เหมือนที่ Cal AI ทำ

    https://www.zdnet.com/article/from-zero-to-millions-how-regular-people-are-cashing-in-on-ai/
    ในโลกที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว AI กลายเป็นเครื่องมือที่นำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างหลากหลาย และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความสำเร็จของคนธรรมดาที่สามารถทำเงินจาก AI ได้ เราจะยกตัวอย่างเรื่องราวความสำเร็จของ Cal AI กันครับ เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ Zach Yadegari และ Henry Langmack สองนักเรียนวัย 17 ปี ได้พัฒนาแอปพลิเคชันชื่อ "Cal AI" ที่ใช้เทคโนโลยี GPT ในการตรวจนับแคลอรี่ แอปพลิเคชันนี้สามารถวิเคราะห์รูปภาพและสแกนบาร์โค้ดเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ด้วยความสำเร็จที่น่าทึ่ง แอปพลิเคชันนี้มีผู้ดาวน์โหลดกว่า 1 ล้านครั้งและทำรายได้ต่อปีถึง 12 ล้านดอลลาร์ จากทีมงานเพียง 17 คน สิ่งที่ Cal AI ใช้คือสิ่งที่เราเรียกว่า "GPT Wrapper" GPT Wrapper คือโปรแกรมที่สร้างอินเตอร์เฟซสำหรับผู้ใช้ที่นำความสามารถของ GPT มาปรับใช้ให้เหมาะสม เพื่อให้การใช้งานของ AI ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชันสำหรับการเขียนบทความหรือการเรียนรู้ภาษา ซึ่งการพัฒนา GPT Wrapper นั้นช่วยลดเวลาที่ใช้ในการเข้าสู่ตลาด และลดค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบ AI ของตนเอง ข้อดีและข้อเสียของการพัฒนา GPT Wrapper - ข้อดี: มีโครงสร้างพื้นฐานที่สร้างไว้แล้ว, ความรวดเร็วในการเข้าสู่ตลาด, และประหยัดต้นทุนการพัฒนา - ข้อเสีย: ข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ, ความยากลำบากในการขยายตัว, และความแตกต่างที่จำกัด แนวคิดในการสร้างธุรกิจ ด้วย GPT Wrapper: 1) การสร้างความเข้าใจในปัญหา: ค้นหาปัญหาที่ผู้คนต้องการแก้ไข และสร้างแอปที่ตอบโจทย์ 2) การสร้างชุมชน: พูดคุยกับผู้ใช้ที่มีศักยภาพเพื่อให้ได้ข้อมูลและความเห็นในการพัฒนาแอป 3)การตลาดและการเติบโต: สร้างชุมชนออนไลน์เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ และใช้แพลตฟอร์มเช่น TikTok และ Instagram เพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์ สรุปคือ การสร้างแอปพลิเคชันด้วย AI ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่มีความเข้าใจในปัญหาและนำแนวคิดใหม่ๆ มาปรับใช้ คุณก็สามารถสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้ด้วย AI เหมือนที่ Cal AI ทำ https://www.zdnet.com/article/from-zero-to-millions-how-regular-people-are-cashing-in-on-ai/
    WWW.ZDNET.COM
    From zero to millions? How regular people are cashing in on AI
    Every day people are using AI in ways you wouldn't expect. You can too. Here's how
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 473 มุมมอง 0 รีวิว
  • Europol หน่วยงานตำรวจระหว่างประเทศ ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับความเสี่ยงที่เกิดจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมต่อวงการการเงิน โดยคอมพิวเตอร์ควอนตัมนั้นสามารถทำการคำนวณได้ในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพมากกว่าระบบคอมพิวเตอร์แบบไบนารีที่ใช้กันทั่วไป

    สิ่งที่สำคัญคือคอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถถอดรหัสลับที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันได้อย่างง่ายดาย ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะส่งผลให้ข้อมูลลูกค้าของธนาคารและการสื่อสารต่างๆ ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป รวมถึงกระบวนการยืนยันตัวตนและความไว้วางใจในลายเซ็นดิจิทัลก็จะถูกคุกคามด้วย

    การเตรียมตัวที่แนะนำจากคณะกรรมการนี้คือธนาคารควรเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับมาตรฐานการเข้ารหัสที่อาจจะเปราะบางต่อคอมพิวเตอร์ควอนตัมและต้องวางแผนปรับเปลี่ยนการดำเนินการให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ยังมีการเตือนว่าอาจมีผู้ไม่ประสงค์ดีที่เก็บรวบรวมข้อมูลที่สำคัญไว้เพื่อตั้งใจจะถอดรหัสในอนาคตเมื่อคอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถทำได้

    เชื่อกันว่าในอีก 10-15 ปีข้างหน้า คอมพิวเตอร์ควอนตัมที่สามารถถอดรหัสได้จะเริ่มออกมาใช้กันจริงๆ อย่างไรก็ตาม กฎหมายปัจจุบันของสหภาพยุโรปก็ได้ครอบคลุมเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีการออกกฎหมายใหม่เพิ่มเติม

    นอกจากนั้นยังมีการยกตัวอย่างว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ตั้งเป้าหมายว่าในปี 2035 หน่วยงานของรัฐบาลจะต้องสามารถทนต่อความเสี่ยงจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมได้แล้ว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/07/europol-body-banks-should-prepare-for-quantum-computer-risk-now
    Europol หน่วยงานตำรวจระหว่างประเทศ ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับความเสี่ยงที่เกิดจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมต่อวงการการเงิน โดยคอมพิวเตอร์ควอนตัมนั้นสามารถทำการคำนวณได้ในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพมากกว่าระบบคอมพิวเตอร์แบบไบนารีที่ใช้กันทั่วไป สิ่งที่สำคัญคือคอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถถอดรหัสลับที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันได้อย่างง่ายดาย ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะส่งผลให้ข้อมูลลูกค้าของธนาคารและการสื่อสารต่างๆ ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป รวมถึงกระบวนการยืนยันตัวตนและความไว้วางใจในลายเซ็นดิจิทัลก็จะถูกคุกคามด้วย การเตรียมตัวที่แนะนำจากคณะกรรมการนี้คือธนาคารควรเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับมาตรฐานการเข้ารหัสที่อาจจะเปราะบางต่อคอมพิวเตอร์ควอนตัมและต้องวางแผนปรับเปลี่ยนการดำเนินการให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ยังมีการเตือนว่าอาจมีผู้ไม่ประสงค์ดีที่เก็บรวบรวมข้อมูลที่สำคัญไว้เพื่อตั้งใจจะถอดรหัสในอนาคตเมื่อคอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถทำได้ เชื่อกันว่าในอีก 10-15 ปีข้างหน้า คอมพิวเตอร์ควอนตัมที่สามารถถอดรหัสได้จะเริ่มออกมาใช้กันจริงๆ อย่างไรก็ตาม กฎหมายปัจจุบันของสหภาพยุโรปก็ได้ครอบคลุมเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีการออกกฎหมายใหม่เพิ่มเติม นอกจากนั้นยังมีการยกตัวอย่างว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ตั้งเป้าหมายว่าในปี 2035 หน่วยงานของรัฐบาลจะต้องสามารถทนต่อความเสี่ยงจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมได้แล้ว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/07/europol-body-banks-should-prepare-for-quantum-computer-risk-now
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Europol body: Banks should prepare for quantum computer risk now
    AMSTERDAM (Reuters) - Europe's financial sector should start preparing now for quantum computers to be able to break some forms of encryption widely used to protect sensitive data, a Europol-led body set up to address the issue said on Friday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 330 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้บริหารของ Alibaba ออกมาปฏิเสธรายงานที่ว่าบริษัทมีแผนจะลงทุนใน DeepSeek ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันจากประเทศจีน โดย Yan Qiao รองประธานของ Alibaba ได้โพสต์ใน WeChat ของเธอว่า ข่าวที่ว่า Alibaba จะลงทุนใน DeepSeek นั้นเป็นข่าวลวง

    เนื้อหาหลักของข่าวนี้คือ การที่มีข่าวลือในสื่อจีนว่า Alibaba จะลงทุนเงินถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐใน DeepSeek แต่ทาง Yan Qiao ได้ออกมาบอกว่านี่ไม่เป็นความจริง โดยกล่าวว่า Alibaba เคารพและยินดีในความสำเร็จของ DeepSeek แต่ไม่มีแผนการลงทุนแต่อย่างใด

    สาระน่าสนใจเพิ่มเติมก็คือ ความสำคัญของข่าวนี้อยู่ที่การแพร่กระจายของข้อมูลที่ไม่ถูกต้องในยุคของสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งสามารถสร้างความเข้าใจผิดและนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่ถูกต้องได้ และเราควรจะมีความรอบคอบในการรับข่าวสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการลงทุนทางการเงิน

    การที่ข่าวลือสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วในยุคนี้ทำให้เราต้องมีความรับผิดชอบในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนที่จะเชื่อหรือแบ่งปันต่อไป เพราะแม้แต่ข้อมูลจากแหล่งที่ดูน่าเชื่อถือก็อาจจะไม่ถูกต้องเสมอไป

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/07/alibaba-exec-says-reports-that-it-plans-to-invest-in-deepseek-are-untrue---the-paper
    ผู้บริหารของ Alibaba ออกมาปฏิเสธรายงานที่ว่าบริษัทมีแผนจะลงทุนใน DeepSeek ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันจากประเทศจีน โดย Yan Qiao รองประธานของ Alibaba ได้โพสต์ใน WeChat ของเธอว่า ข่าวที่ว่า Alibaba จะลงทุนใน DeepSeek นั้นเป็นข่าวลวง เนื้อหาหลักของข่าวนี้คือ การที่มีข่าวลือในสื่อจีนว่า Alibaba จะลงทุนเงินถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐใน DeepSeek แต่ทาง Yan Qiao ได้ออกมาบอกว่านี่ไม่เป็นความจริง โดยกล่าวว่า Alibaba เคารพและยินดีในความสำเร็จของ DeepSeek แต่ไม่มีแผนการลงทุนแต่อย่างใด สาระน่าสนใจเพิ่มเติมก็คือ ความสำคัญของข่าวนี้อยู่ที่การแพร่กระจายของข้อมูลที่ไม่ถูกต้องในยุคของสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งสามารถสร้างความเข้าใจผิดและนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่ถูกต้องได้ และเราควรจะมีความรอบคอบในการรับข่าวสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการลงทุนทางการเงิน การที่ข่าวลือสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วในยุคนี้ทำให้เราต้องมีความรับผิดชอบในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนที่จะเชื่อหรือแบ่งปันต่อไป เพราะแม้แต่ข้อมูลจากแหล่งที่ดูน่าเชื่อถือก็อาจจะไม่ถูกต้องเสมอไป https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/07/alibaba-exec-says-reports-that-it-plans-to-invest-in-deepseek-are-untrue---the-paper
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Alibaba exec says reports that it plans to invest in DeepSeek are untrue - The Paper
    SHANGHAI (Reuters) - An Alibaba executive has denied reports that the Chinese e-commerce giant intends to invest in DeepSeek, Chinese news outlet The Paper reported on Friday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 510 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในที่ทำงานส่งผลดีและไม่ดีต่อพนักงานต่างกลุ่มกัน นักวิจัยจาก Stanford University พบว่าพนักงานที่มีทักษะและความสามารถสูงมักจะทำงานได้แย่ลงเมื่อใช้ AI ในการช่วยทำงาน ขณะที่พนักงานที่มีความสามารถน้อยกว่าจะทำงานได้ดีขึ้นและเสร็จงานเร็วขึ้นเมื่อได้รับความช่วยเหลือจาก AI

    การศึกษานี้ยังพบว่าพนักงานที่ใช้ AI จะสามารถแก้ไขปัญหาได้มากขึ้นต่อชั่วโมง แต่คุณภาพของงานที่ทำโดยพนักงานที่มีทักษะสูงจะลดลง อย่างไรก็ตาม ลูกค้าที่ไม่พอใจหรือลูกค้าที่โมโหกลับมีโอกาสน้อยที่จะร้องเรียนเพิ่มเติมเมื่อได้รับการบริการจาก AI แทนที่จะเป็นคนจริง

    หนึ่งในความกังวลเกี่ยวกับ AI คือมันอาจถูกนำมาใช้แทนที่คนงานในหลายงาน และไม่ใช่แค่งานที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เท่านั้น ปี 2024 Morgan Stanley คาดการณ์ว่าการรวม AI กับหุ่นยนต์แบบ "มนุษย์" อาจทำให้คนงานฟาร์มและโรงงานหลายล้านคนต้องตกงานภายในกลางศตวรรษนี้

    นอกจากนี้ ทีมวิจัยจาก University of Oxford กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า AI เช่น ChatGPT อาจทำให้ความต้องการคนทำงานที่มีงานเขียนที่ซ้ำซ้อนน้อยลง แต่จะสร้างงานใหม่ที่ต้องใช้ทักษะที่เสริมกับ AI แทน

    ถึงแม้จะมีความกลัวเกี่ยวกับการสูญเสียงานจำนวนมาก แต่การศึกษานี้เสนอแนวคิดว่าผลกระทบของ AI จะสมดุลมากขึ้นในความเป็นจริง

    นักวิจัยยังกล่าวถึงปัญหาที่เรียกว่า "การหลงผิด" ของ AI ซึ่งหมายถึงการให้คำตอบที่ไม่ถูกต้องหรือไร้สาระตามคำถามที่ส่งเข้ามา แต่ผู้เสนอ AI เชื่อว่าเทคโนโลยีกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและอาจจะทำงานเก่งกว่ามนุษย์ในหลายๆ งานในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

    เป็นเรื่องน่าสนใจว่าในยุคที่ AI กำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็วนี้ เราควรพิจารณาถึงการปรับตัวและการพัฒนาทักษะใหม่ๆ เพื่อให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลกของเรา อย่าลืมว่าการเปลี่ยนแปลงคือโอกาสที่ดีเสมอ!

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/08/ai-helps-some-workers-but-hinders-those-with-skill-know-how---study
    มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในที่ทำงานส่งผลดีและไม่ดีต่อพนักงานต่างกลุ่มกัน นักวิจัยจาก Stanford University พบว่าพนักงานที่มีทักษะและความสามารถสูงมักจะทำงานได้แย่ลงเมื่อใช้ AI ในการช่วยทำงาน ขณะที่พนักงานที่มีความสามารถน้อยกว่าจะทำงานได้ดีขึ้นและเสร็จงานเร็วขึ้นเมื่อได้รับความช่วยเหลือจาก AI การศึกษานี้ยังพบว่าพนักงานที่ใช้ AI จะสามารถแก้ไขปัญหาได้มากขึ้นต่อชั่วโมง แต่คุณภาพของงานที่ทำโดยพนักงานที่มีทักษะสูงจะลดลง อย่างไรก็ตาม ลูกค้าที่ไม่พอใจหรือลูกค้าที่โมโหกลับมีโอกาสน้อยที่จะร้องเรียนเพิ่มเติมเมื่อได้รับการบริการจาก AI แทนที่จะเป็นคนจริง หนึ่งในความกังวลเกี่ยวกับ AI คือมันอาจถูกนำมาใช้แทนที่คนงานในหลายงาน และไม่ใช่แค่งานที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เท่านั้น ปี 2024 Morgan Stanley คาดการณ์ว่าการรวม AI กับหุ่นยนต์แบบ "มนุษย์" อาจทำให้คนงานฟาร์มและโรงงานหลายล้านคนต้องตกงานภายในกลางศตวรรษนี้ นอกจากนี้ ทีมวิจัยจาก University of Oxford กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า AI เช่น ChatGPT อาจทำให้ความต้องการคนทำงานที่มีงานเขียนที่ซ้ำซ้อนน้อยลง แต่จะสร้างงานใหม่ที่ต้องใช้ทักษะที่เสริมกับ AI แทน ถึงแม้จะมีความกลัวเกี่ยวกับการสูญเสียงานจำนวนมาก แต่การศึกษานี้เสนอแนวคิดว่าผลกระทบของ AI จะสมดุลมากขึ้นในความเป็นจริง นักวิจัยยังกล่าวถึงปัญหาที่เรียกว่า "การหลงผิด" ของ AI ซึ่งหมายถึงการให้คำตอบที่ไม่ถูกต้องหรือไร้สาระตามคำถามที่ส่งเข้ามา แต่ผู้เสนอ AI เชื่อว่าเทคโนโลยีกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและอาจจะทำงานเก่งกว่ามนุษย์ในหลายๆ งานในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เป็นเรื่องน่าสนใจว่าในยุคที่ AI กำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็วนี้ เราควรพิจารณาถึงการปรับตัวและการพัฒนาทักษะใหม่ๆ เพื่อให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลกของเรา อย่าลืมว่าการเปลี่ยนแปลงคือโอกาสที่ดีเสมอ! https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/08/ai-helps-some-workers-but-hinders-those-with-skill-know-how---study
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI helps some workers but hinders those with skill, know-how – study
    Experienced and productive employees who use artificial intelligence (AI) on the job often end up diminishing the quality of their work, according to researchers at Stanford University.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 700 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เกี่ยวกับการสร้างบล็อกส่วนตัวเพื่อให้มีพื้นที่และเสรีภาพในการแชร์เนื้อหาของคุณเอง ในยุคที่การใช้โซเชียลมีเดียกำลังเป็นที่นิยม หลายคนอาจสงสัยว่ายังมีความจำเป็นในการสร้างบล็อกส่วนตัวหรือไม่

    Elisabeth Winkler ผู้เขียนบทความกล่าวว่า การมีบล็อกส่วนตัวให้เสรีภาพในการออกแบบและเนื้อหาโดยไม่ถูกจำกัดโดยแนวทางของแพลตฟอร์ม คุณสามารถเผยแพร่เนื้อหาที่มีความยาวได้มากขึ้น และรวบรวมความสนใจของคุณทั้งหมดในหน้าหนึ่ง

    Insa Schniedermeier ผู้ที่เขียนบล็อกเกี่ยวกับสุขภาพสตรี ระบุว่าการมีบล็อกส่วนตัวนั้นมีคุณค่ามาก เพราะให้เสรีภาพในการออกแบบและเนื้อหาโดยไม่มีข้อจำกัด นอกจากนี้ เธอยังแนะนำว่าหากต้องการเริ่มต้นบล็อก ควรถามตัวเองด้วยคำถามเกี่ยวกับแนวคิดก่อน เช่น เรื่องที่อยากเขียน กลุ่มเป้าหมาย บล็อกที่คล้ายกันที่มีอยู่แล้ว และเวลาที่สามารถทุ่มเทให้กับการเขียนบล็อก

    Lina Wöstmann ที่ปรึกษาด้านนโยบายสื่อและแพลตฟอร์มที่ Bitkom ระบุว่าการเลือกหัวข้อที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงความล้มเหลวของบล็อกใหม่ ควรใช้เครื่องมือค้นหาศึกษาคอนเทนต์ที่มีอยู่ และลองเขียนหัวข้อบทความคร่าวๆ เพื่อวัดว่าหัวข้อที่เลือกมีศักยภาพมากน้อยเพียงใด

    การเลือกแพลตฟอร์มสำหรับการเผยแพร่บล็อกก็สำคัญ คุณสามารถเลือกใช้แพลตฟอร์มที่ให้บริการฟรี เช่น Wordpress, Blogger, Tumblr หรือโฮสต์บล็อกด้วยตัวเอง แต่ต้องเตรียมตัวรับมือกับความยากลำบากทางเทคนิคและค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น

    การโปรโมตบล็อกโดยใช้โซเชียลมีเดียเป็นวิธีที่ดี เพื่อดึงดูดความสนใจมาที่เนื้อหาของคุณ Schniedermeier ยังระบุว่าการไม่ใช้โซเชียลมีเดียในการโปรโมตบล็อกเป็นการเสียโอกาส

    การมีบล็อกส่วนตัวนั้นไม่เพียงแต่ให้พื้นที่และเสรีภาพในการแชร์เนื้อหาของคุณเอง แต่ยังเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างเนื้อหาที่ยั่งยืนและเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้งอีกด้วย!

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/08/start-your-own-blog-for-more-space-and-freedom-to-share-your-material
    ข่าวนี้เกี่ยวกับการสร้างบล็อกส่วนตัวเพื่อให้มีพื้นที่และเสรีภาพในการแชร์เนื้อหาของคุณเอง ในยุคที่การใช้โซเชียลมีเดียกำลังเป็นที่นิยม หลายคนอาจสงสัยว่ายังมีความจำเป็นในการสร้างบล็อกส่วนตัวหรือไม่ Elisabeth Winkler ผู้เขียนบทความกล่าวว่า การมีบล็อกส่วนตัวให้เสรีภาพในการออกแบบและเนื้อหาโดยไม่ถูกจำกัดโดยแนวทางของแพลตฟอร์ม คุณสามารถเผยแพร่เนื้อหาที่มีความยาวได้มากขึ้น และรวบรวมความสนใจของคุณทั้งหมดในหน้าหนึ่ง Insa Schniedermeier ผู้ที่เขียนบล็อกเกี่ยวกับสุขภาพสตรี ระบุว่าการมีบล็อกส่วนตัวนั้นมีคุณค่ามาก เพราะให้เสรีภาพในการออกแบบและเนื้อหาโดยไม่มีข้อจำกัด นอกจากนี้ เธอยังแนะนำว่าหากต้องการเริ่มต้นบล็อก ควรถามตัวเองด้วยคำถามเกี่ยวกับแนวคิดก่อน เช่น เรื่องที่อยากเขียน กลุ่มเป้าหมาย บล็อกที่คล้ายกันที่มีอยู่แล้ว และเวลาที่สามารถทุ่มเทให้กับการเขียนบล็อก Lina Wöstmann ที่ปรึกษาด้านนโยบายสื่อและแพลตฟอร์มที่ Bitkom ระบุว่าการเลือกหัวข้อที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงความล้มเหลวของบล็อกใหม่ ควรใช้เครื่องมือค้นหาศึกษาคอนเทนต์ที่มีอยู่ และลองเขียนหัวข้อบทความคร่าวๆ เพื่อวัดว่าหัวข้อที่เลือกมีศักยภาพมากน้อยเพียงใด การเลือกแพลตฟอร์มสำหรับการเผยแพร่บล็อกก็สำคัญ คุณสามารถเลือกใช้แพลตฟอร์มที่ให้บริการฟรี เช่น Wordpress, Blogger, Tumblr หรือโฮสต์บล็อกด้วยตัวเอง แต่ต้องเตรียมตัวรับมือกับความยากลำบากทางเทคนิคและค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น การโปรโมตบล็อกโดยใช้โซเชียลมีเดียเป็นวิธีที่ดี เพื่อดึงดูดความสนใจมาที่เนื้อหาของคุณ Schniedermeier ยังระบุว่าการไม่ใช้โซเชียลมีเดียในการโปรโมตบล็อกเป็นการเสียโอกาส การมีบล็อกส่วนตัวนั้นไม่เพียงแต่ให้พื้นที่และเสรีภาพในการแชร์เนื้อหาของคุณเอง แต่ยังเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างเนื้อหาที่ยั่งยืนและเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้งอีกด้วย! https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/08/start-your-own-blog-for-more-space-and-freedom-to-share-your-material
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Start your own blog for more space and freedom to share your material
    Open the app, select a photo from your gallery, put a filter on it, write a funny caption, and post it. Or express something in 160 characters along with a couple of smart hashtags. It only takes a few taps to share pictures or thoughts on Instagram, X, and other social media platforms.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 615 มุมมอง 0 รีวิว
  • 1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องนี้เป็นเรื่องของการแข่งขันในการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระหว่างบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Amazon, Google, Microsoft และ Meta ในปีนี้มีการคาดการณ์ว่าการลงทุนใน AI ของบริษัทเหล่านี้จะเกิน 320 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่สูงสุดเท่าที่เคยมีมา

    ในบทความนี้กล่าวถึงว่า Amazon ได้ประกาศการลงทุนกว่า 100 พันล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐาน โดยมุ่งเน้นการขยายบริการคลาวด์ Amazon Web Services (AWS) ซึ่งเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับ 77 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 และ 48 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 CEO ของ Amazon, Andy Jassy, อธิบายว่ามีสัญญาณความต้องการที่ชัดเจนในด้าน AI

    Google โดย Alphabet ก็ไม่ได้น้อยหน้า Sundar Pichai CEO ของ Alphabet กล่าวว่าจะลงทุน 75 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 เพื่อทำให้ AI เข้าถึงได้มากขึ้น Microsoft ก็ตั้งเป้าหมายการลงทุน 80 พันล้านดอลลาร์เพื่อขยายแพลตฟอร์ม Azure และ Meta ประกาศจะลงทุนเพิ่มขึ้นหลายพันล้านดอลลาร์ใน AI โดยมีแผนที่จะแก้ไขปัญหาการโฆษณาและปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้

    มีตัวอย่างที่น่าสนใจคือ DeepSeek บริษัทสตาร์ทอัพจากประเทศจีนที่มี AI ที่สามารถเปรียบเทียบกับ Google และ OpenAI ในราคาที่ถูกกว่ามาก แม้จะมีความสงสัยเกี่ยวกับความสามารถและค่าใช้จ่ายของ DeepSeek แต่บริษัทใหญ่ๆ ก็ยังคงยืนหยัดในการลงทุนและการวิจัยในเทคโนโลยี AI ของตน

    ผู้เชี่ยวชาญจาก RBC Capital Markets กล่าวถึงความเป็นไปได้ของ 'AI winter' ที่อาจเกิดขึ้น แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ยังคงมองว่า AI มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงโลก และไม่สามารถหยุดการลงทุนได้

    https://www.techspot.com/news/106700-amazon-google-microsoft-meta-push-ai-spending-new.html
    เรื่องนี้เป็นเรื่องของการแข่งขันในการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระหว่างบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Amazon, Google, Microsoft และ Meta ในปีนี้มีการคาดการณ์ว่าการลงทุนใน AI ของบริษัทเหล่านี้จะเกิน 320 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่สูงสุดเท่าที่เคยมีมา ในบทความนี้กล่าวถึงว่า Amazon ได้ประกาศการลงทุนกว่า 100 พันล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐาน โดยมุ่งเน้นการขยายบริการคลาวด์ Amazon Web Services (AWS) ซึ่งเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับ 77 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 และ 48 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 CEO ของ Amazon, Andy Jassy, อธิบายว่ามีสัญญาณความต้องการที่ชัดเจนในด้าน AI Google โดย Alphabet ก็ไม่ได้น้อยหน้า Sundar Pichai CEO ของ Alphabet กล่าวว่าจะลงทุน 75 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 เพื่อทำให้ AI เข้าถึงได้มากขึ้น Microsoft ก็ตั้งเป้าหมายการลงทุน 80 พันล้านดอลลาร์เพื่อขยายแพลตฟอร์ม Azure และ Meta ประกาศจะลงทุนเพิ่มขึ้นหลายพันล้านดอลลาร์ใน AI โดยมีแผนที่จะแก้ไขปัญหาการโฆษณาและปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ มีตัวอย่างที่น่าสนใจคือ DeepSeek บริษัทสตาร์ทอัพจากประเทศจีนที่มี AI ที่สามารถเปรียบเทียบกับ Google และ OpenAI ในราคาที่ถูกกว่ามาก แม้จะมีความสงสัยเกี่ยวกับความสามารถและค่าใช้จ่ายของ DeepSeek แต่บริษัทใหญ่ๆ ก็ยังคงยืนหยัดในการลงทุนและการวิจัยในเทคโนโลยี AI ของตน ผู้เชี่ยวชาญจาก RBC Capital Markets กล่าวถึงความเป็นไปได้ของ 'AI winter' ที่อาจเกิดขึ้น แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ยังคงมองว่า AI มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงโลก และไม่สามารถหยุดการลงทุนได้ https://www.techspot.com/news/106700-amazon-google-microsoft-meta-push-ai-spending-new.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Amazon, Google, Microsoft, and Meta push AI spending to new heights, set to surpass $320 billion this year
    Amazon has set the bar exceptionally high, announcing an unprecedented investment of over $100 billion in infrastructure, primarily focused on expanding its cloud computing arm, Amazon Web...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 669 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มแฮ็กเกอร์ชาวเกาหลีเหนือที่รู้จักกันในชื่อ "Kimsuky" ได้ใช้เครื่องมือ RDP Wrapper ที่ปรับแต่งขึ้นใหม่เพื่อเข้าถึงเครื่องที่ติดไวรัสได้โดยตรง นี่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของกลยุทธ์การโจมตีของกลุ่มนี้

    กลุ่ม Kimsuky ได้เริ่มต้นการโจมตีโดยการส่งอีเมลฟิชชิ่ง ซึ่งมีไฟล์ลัด (.LNK) ที่เป็นอันตรายและถูกอำพรางให้ดูเหมือนไฟล์ PDF หรือ Word เมื่อเปิดไฟล์ลัดนี้ มันจะเรียกใช้ PowerShell หรือ Mshta เพื่อดึง payload เพิ่มเติมจากเซิร์ฟเวอร์ภายนอก ซึ่งรวมถึง:
    - PebbleDash ซึ่งเป็น backdoor ของ Kimsuky ที่ให้การควบคุมระบบเบื้องต้น
    - เครื่องมือ RDP Wrapper ที่ปรับแต่งใหม่ ซึ่งช่วยให้สามารถเข้าถึง RDP ได้อย่างต่อเนื่องและสามารถหลีกเลี่ยงมาตรการรักษาความปลอดภัยได้
    - เครื่องมือ Proxy ที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงระบบได้แม้ว่า RDP ถูกบล็อก

    เครื่องมือ RDP Wrapper ถูกออกแบบมาเพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชัน Remote Desktop Protocol (RDP) บน Windows รุ่นที่ไม่รองรับ เช่น Windows Home โดยไม่ต้องแก้ไขไฟล์ระบบ Kimsuky ได้ปรับแต่งฟังก์ชันการส่งออกเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับของแอนตี้ไวรัส และเปลี่ยนแปลงการทำงานพอที่จะหลีกเลี่ยงการตรวจจับที่ใช้วิธีการตามลายเซ็น

    ข้อดีหลักของการใช้ RDP Wrapper ที่ปรับแต่งคือการหลีกเลี่ยงการตรวจจับ เนื่องจากการเชื่อมต่อ RDP มักจะถูกมองว่าเป็นการเชื่อมต่อที่ถูกต้อง Kimsuky สามารถหลบหนีการตรวจจับได้นานขึ้น นอกจากนี้ ยังให้การควบคุมระยะไกลที่สะดวกยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับการเข้าถึงผ่าน shell โดยมัลแวร์ และสามารถหลีกเลี่ยงการบล็อกไฟร์วอลล์หรือ NAT ผ่านการ relay ทำให้สามารถเข้าถึง RDP ได้จากภายนอก

    หลังจากที่ Kimsuky สามารถยึดที่มั่นในเครือข่ายได้แล้ว พวกเขาจะปล่อย payload รอง ซึ่งรวมถึง:
    - Keylogger ที่จับการกดแป้นพิมพ์และบันทึกไว้ในไฟล์ข้อความในไดเรกทอรีระบบ
    - Infostealer (forceCopy) ที่ขโมยข้อมูลประจำตัวที่บันทึกไว้ในเว็บเบราว์เซอร์
    - ReflectiveLoader ที่ทำงานบน PowerShell เพื่อเรียกใช้ payload ในหน่วยความจำ

    โดยรวมแล้ว Kimsuky เป็นกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่มีความอันตรายและพัฒนาต่อเนื่อง และเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีการโจมตีทางไซเบอร์มากที่สุดของเกาหลีเหนือที่มุ่งเก็บรวบรวมข้อมูลทางการข่าวกรอง การวิจัยล่าสุดของ ASEC ระบุว่าผู้โจมตีเลือกใช้วิธีการเข้าถึงระยะไกลที่ซ่อนตัวมากขึ้นเพื่อการยึดที่มั่นในเครือข่ายที่ถูกโจมตีให้นานที่สุด

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/kimsuky-hackers-use-new-custom-rdp-wrapper-for-remote-access/
    กลุ่มแฮ็กเกอร์ชาวเกาหลีเหนือที่รู้จักกันในชื่อ "Kimsuky" ได้ใช้เครื่องมือ RDP Wrapper ที่ปรับแต่งขึ้นใหม่เพื่อเข้าถึงเครื่องที่ติดไวรัสได้โดยตรง นี่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของกลยุทธ์การโจมตีของกลุ่มนี้ กลุ่ม Kimsuky ได้เริ่มต้นการโจมตีโดยการส่งอีเมลฟิชชิ่ง ซึ่งมีไฟล์ลัด (.LNK) ที่เป็นอันตรายและถูกอำพรางให้ดูเหมือนไฟล์ PDF หรือ Word เมื่อเปิดไฟล์ลัดนี้ มันจะเรียกใช้ PowerShell หรือ Mshta เพื่อดึง payload เพิ่มเติมจากเซิร์ฟเวอร์ภายนอก ซึ่งรวมถึง: - PebbleDash ซึ่งเป็น backdoor ของ Kimsuky ที่ให้การควบคุมระบบเบื้องต้น - เครื่องมือ RDP Wrapper ที่ปรับแต่งใหม่ ซึ่งช่วยให้สามารถเข้าถึง RDP ได้อย่างต่อเนื่องและสามารถหลีกเลี่ยงมาตรการรักษาความปลอดภัยได้ - เครื่องมือ Proxy ที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงระบบได้แม้ว่า RDP ถูกบล็อก เครื่องมือ RDP Wrapper ถูกออกแบบมาเพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชัน Remote Desktop Protocol (RDP) บน Windows รุ่นที่ไม่รองรับ เช่น Windows Home โดยไม่ต้องแก้ไขไฟล์ระบบ Kimsuky ได้ปรับแต่งฟังก์ชันการส่งออกเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับของแอนตี้ไวรัส และเปลี่ยนแปลงการทำงานพอที่จะหลีกเลี่ยงการตรวจจับที่ใช้วิธีการตามลายเซ็น ข้อดีหลักของการใช้ RDP Wrapper ที่ปรับแต่งคือการหลีกเลี่ยงการตรวจจับ เนื่องจากการเชื่อมต่อ RDP มักจะถูกมองว่าเป็นการเชื่อมต่อที่ถูกต้อง Kimsuky สามารถหลบหนีการตรวจจับได้นานขึ้น นอกจากนี้ ยังให้การควบคุมระยะไกลที่สะดวกยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับการเข้าถึงผ่าน shell โดยมัลแวร์ และสามารถหลีกเลี่ยงการบล็อกไฟร์วอลล์หรือ NAT ผ่านการ relay ทำให้สามารถเข้าถึง RDP ได้จากภายนอก หลังจากที่ Kimsuky สามารถยึดที่มั่นในเครือข่ายได้แล้ว พวกเขาจะปล่อย payload รอง ซึ่งรวมถึง: - Keylogger ที่จับการกดแป้นพิมพ์และบันทึกไว้ในไฟล์ข้อความในไดเรกทอรีระบบ - Infostealer (forceCopy) ที่ขโมยข้อมูลประจำตัวที่บันทึกไว้ในเว็บเบราว์เซอร์ - ReflectiveLoader ที่ทำงานบน PowerShell เพื่อเรียกใช้ payload ในหน่วยความจำ โดยรวมแล้ว Kimsuky เป็นกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่มีความอันตรายและพัฒนาต่อเนื่อง และเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีการโจมตีทางไซเบอร์มากที่สุดของเกาหลีเหนือที่มุ่งเก็บรวบรวมข้อมูลทางการข่าวกรอง การวิจัยล่าสุดของ ASEC ระบุว่าผู้โจมตีเลือกใช้วิธีการเข้าถึงระยะไกลที่ซ่อนตัวมากขึ้นเพื่อการยึดที่มั่นในเครือข่ายที่ถูกโจมตีให้นานที่สุด https://www.bleepingcomputer.com/news/security/kimsuky-hackers-use-new-custom-rdp-wrapper-for-remote-access/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Kimsuky hackers use new custom RDP Wrapper for remote access
    The North Korean hacking group known as Kimsuky was observed in recent attacks using a custom-built RDP Wrapper and proxy tools to directly access infected machines.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 590 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วยให้ยานพาหนะทุกชนิด ประหยัดพลังงานและไปได้ไกลมากขึ้น ติดง่ายใส่ได้ทุกรุ่น สนใจทดสอบสินค้าได้ฟรี ที่line I’d:Aton-p1
    ช่วยให้ยานพาหนะทุกชนิด ประหยัดพลังงานและไปได้ไกลมากขึ้น ติดง่ายใส่ได้ทุกรุ่น สนใจทดสอบสินค้าได้ฟรี ที่line I’d:Aton-p1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูดาวรุ่ง...พยุงดาวร่วง
    สำหรับท่านที่เกิดปีกุน

    เพื่อนอบน้อมยอมรับพลังดาวเทพคุ้มครองดวงชะตา 太歲爺 (ไท้ส่วยเอี๊ย) ผู้เป็นใหญ่ประจำปีนี้ ที่เสด็จมาสถิตซ้อนทับตำแหน่งปีเกิดของคนที่เกิดปีกุน จึงควรน้อมกราบคารวะต้อนรับการเวียนมาของพระองค์ท่านโดยไว หลังวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 22:10 น.นี้ เป็นต้นไป ด้วยการนำตน พร้อมเครื่องบรรณาการเซ่นสรวงไปกราบไหว้ ณ ศาลสถิตที่มีพิธีกรรมอัญเชิญองค์เทพคุ้มครองดวงชะตา 太歲爺 (ไท้ส่วยเอี๊ย) ที่ทรงพระนามว่า “吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง) เพื่อฝากดวงชะตาและขอบารมีต่อองค์เทพท่านให้ได้รับรู้และเมตตา ช่วยคุ้มครองบันดาลสุขผ่อนกระแสพลังปะทะให้คลายลงและปกป้องสยบพลังดาวร้ายให้แคล้วคลาดไป พบแต่ความร่มเย็นราบรื่น ตลอดทั้งปี 2568 นี้

    อีกทั้งควรน้อมอัญเชิญองค์เทพคุ้มครองดวงชะตา 太歲爺 (ไท้ส่วยเอี๊ย) ที่ทรงพระนามว่า “吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง) สักการะเทิดทูนบูชาด้วยการพกพาหรือโหลดภาพเก็บไว้หน้าแรกของโทรศัพท์ติดตัวตลอดเวลา เพื่อช่วยให้จิตใจได้น้อมระลึกถึงและขอบารมีจากองค์เทพท่านแผ่รัศมีคุ้มครองปกป้องปัดเป่าภยันตรายและความเลวร้ายต่างๆที่จะเกิดขึ้นได้ทันท่วงที ที่จะทำให้ได้พบแต่ความสุขตลอดทั้งปี 2568 นี้
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    มูดาวรุ่ง...พยุงดาวร่วง สำหรับท่านที่เกิดปีกุน เพื่อนอบน้อมยอมรับพลังดาวเทพคุ้มครองดวงชะตา 太歲爺 (ไท้ส่วยเอี๊ย) ผู้เป็นใหญ่ประจำปีนี้ ที่เสด็จมาสถิตซ้อนทับตำแหน่งปีเกิดของคนที่เกิดปีกุน จึงควรน้อมกราบคารวะต้อนรับการเวียนมาของพระองค์ท่านโดยไว หลังวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 22:10 น.นี้ เป็นต้นไป ด้วยการนำตน พร้อมเครื่องบรรณาการเซ่นสรวงไปกราบไหว้ ณ ศาลสถิตที่มีพิธีกรรมอัญเชิญองค์เทพคุ้มครองดวงชะตา 太歲爺 (ไท้ส่วยเอี๊ย) ที่ทรงพระนามว่า “吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง) เพื่อฝากดวงชะตาและขอบารมีต่อองค์เทพท่านให้ได้รับรู้และเมตตา ช่วยคุ้มครองบันดาลสุขผ่อนกระแสพลังปะทะให้คลายลงและปกป้องสยบพลังดาวร้ายให้แคล้วคลาดไป พบแต่ความร่มเย็นราบรื่น ตลอดทั้งปี 2568 นี้ อีกทั้งควรน้อมอัญเชิญองค์เทพคุ้มครองดวงชะตา 太歲爺 (ไท้ส่วยเอี๊ย) ที่ทรงพระนามว่า “吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง) สักการะเทิดทูนบูชาด้วยการพกพาหรือโหลดภาพเก็บไว้หน้าแรกของโทรศัพท์ติดตัวตลอดเวลา เพื่อช่วยให้จิตใจได้น้อมระลึกถึงและขอบารมีจากองค์เทพท่านแผ่รัศมีคุ้มครองปกป้องปัดเป่าภยันตรายและความเลวร้ายต่างๆที่จะเกิดขึ้นได้ทันท่วงที ที่จะทำให้ได้พบแต่ความสุขตลอดทั้งปี 2568 นี้ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 453 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทิศต้องห้าม.....ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568

    ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 3 เดือนกุมภาพันธ์ ไปจนถึง วันอังคารที่ 4 เดือนมีนาคม พ.ศ. 2568 สิ่งสำคัญคือ ควรเลี่ยงต่อการกระทบ ทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทาง ดังนี้

    1. ทิศแตกสลาย 月破(ง๊วยผั่ว) ทิศตะวันตก/ใต้ 坤卦(คุงข่วย) ราศี 申(ซิม) ตั้งแต่รัศมี 232.5 ถึง 247.5 องศา

    2. ทิศ 3 อสูร 月三煞(หง่วยซาสั่วะ) ตั้งแต่ทิศตะวันตก/เหนือ 乾卦(เคี้ยงข่วย) รัศมี 315 องศา ถึง ทิศตะวันออก/เหนือ 艮卦(สุ่งข่วย) รัศมี 45 องศา

    3. ทิศ 5 เหลือง 五黃(โหงวอี๊ง) ทิศตะวันออก/เหนือ 艮卦(กึ๊งข่วย) ตั้งแต่รัศมี 22.5 ถึง 67.5 องศา

    ดังนั้นหากกระทบสะเทือนถึงดินที่อัดอั้นด้วยกระแสพลังร้ายอันรุนแรงรอเพียงแค่การปลดปล่อย ด้วยการทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทางดังที่กล่าวไว้ในข้างต้น ส่งผลให้ท่านที่ชะตาตก ชีวิตจะเกิดวิกฤต กลุ้ม วุ่นวาย มากอุปสรรคปัญหา ขัดแย้ง แตกแยก ถูกแทงหลัง ปองร้าย จี้ ปล้น ขโมย เสียทรัพย์อย่างไม่จำเป็น พัวพันเรื่องคดีความจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล หรือเกิดเจ็บป่วย ต้องผ่าตัดรักษาอาการ หรือจะบาดเจ็บจนเลือดตกยางออกจากอุบัติเหตุเภทภัยที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะบุคคลที่เกิดปีวอกพึงระวังเป็นพิเศษ
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ทิศต้องห้าม.....ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 3 เดือนกุมภาพันธ์ ไปจนถึง วันอังคารที่ 4 เดือนมีนาคม พ.ศ. 2568 สิ่งสำคัญคือ ควรเลี่ยงต่อการกระทบ ทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทาง ดังนี้ 1. ทิศแตกสลาย 月破(ง๊วยผั่ว) ทิศตะวันตก/ใต้ 坤卦(คุงข่วย) ราศี 申(ซิม) ตั้งแต่รัศมี 232.5 ถึง 247.5 องศา 2. ทิศ 3 อสูร 月三煞(หง่วยซาสั่วะ) ตั้งแต่ทิศตะวันตก/เหนือ 乾卦(เคี้ยงข่วย) รัศมี 315 องศา ถึง ทิศตะวันออก/เหนือ 艮卦(สุ่งข่วย) รัศมี 45 องศา 3. ทิศ 5 เหลือง 五黃(โหงวอี๊ง) ทิศตะวันออก/เหนือ 艮卦(กึ๊งข่วย) ตั้งแต่รัศมี 22.5 ถึง 67.5 องศา ดังนั้นหากกระทบสะเทือนถึงดินที่อัดอั้นด้วยกระแสพลังร้ายอันรุนแรงรอเพียงแค่การปลดปล่อย ด้วยการทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทางดังที่กล่าวไว้ในข้างต้น ส่งผลให้ท่านที่ชะตาตก ชีวิตจะเกิดวิกฤต กลุ้ม วุ่นวาย มากอุปสรรคปัญหา ขัดแย้ง แตกแยก ถูกแทงหลัง ปองร้าย จี้ ปล้น ขโมย เสียทรัพย์อย่างไม่จำเป็น พัวพันเรื่องคดีความจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล หรือเกิดเจ็บป่วย ต้องผ่าตัดรักษาอาการ หรือจะบาดเจ็บจนเลือดตกยางออกจากอุบัติเหตุเภทภัยที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะบุคคลที่เกิดปีวอกพึงระวังเป็นพิเศษ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 295 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระโพธิสัตว์กวนอิมองค์ใหญ่แห่งเมืองหวุงเต่า
    สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวพุทธที่ประกอบอาชีพประมงในเมืองหวุงเต่า
    ด้วยความศรัทธาและความเชื่อว่าพระโพธิสัตว์กวนอิมจะช่วยคุ้มครองชาวประมงให้ปลอดภัยรอดพ้นจากภัยอันตรายในทะเลอันกว้างใหญ่
    พระโพธิสัตว์กวนอิมองค์ใหญ่แห่งเมืองหวุงเต่า สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวพุทธที่ประกอบอาชีพประมงในเมืองหวุงเต่า ด้วยความศรัทธาและความเชื่อว่าพระโพธิสัตว์กวนอิมจะช่วยคุ้มครองชาวประมงให้ปลอดภัยรอดพ้นจากภัยอันตรายในทะเลอันกว้างใหญ่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 340 มุมมอง 0 รีวิว