รายการ
ค้นพบผู้คนใหม่ๆ สร้างการเชื่อมต่อใหม่ๆ และรู้จักเพื่อนใหม่
- กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อกดถูกใจ แชร์ และแสดงความคิดเห็น!
-
- จีนออกมาประณามความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่สั่งรีดภาษีสินค้านำเข้าจากแดนมังกรในอัตรา 10% เมื่อวานนี้ (2 ก.พ.) โดยกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์จีนประกาศจะยื่นฟ้องต่อองค์การการค้าโลก (World Trade Organization - WTO) เกี่ยวกับคำสั่งรีดภาษีของทรัมป์ และจะมี "มาตรการตอบโต้" นโยบายของสหรัฐฯ ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับในวันอังคารที่ 4 ก.พ.นี้
.
อย่างไรก็ตาม จีนยังส่งสัญญาณเปิดโอกาสสำหรับการเจรจาพูดคุย เพื่อไม่ให้ 2 มหาอำนาจเกิดการกระทบกระทั่งรุนแรงไปกว่าที่เป็นอยู่
.
เมื่อวันเสาร์ (1) ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งเก็บภาษีศุลกากรจากสินค้าแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% และสินค้าจีน 10% โดยชี้ว่าปักกิ่งจำเป็นต้องช่วยสกัดกั้นยาเฟนทานิลซึ่งเป็นสารเสพติดโอปิออยด์ชนิดรุนแรงไม่ให้ไหลเข้าสู่สหรัฐอเมริกา
.
กระทรวงพาณิชย์จีนแถลงว่า คำสั่งของ ทรัมป์ "ถือเป็นการฝ่าฝืนระเบียบการค้าสากลอย่างร้ายแรง" และจีนขอเรียกร้องให้สหรัฐฯ "พูดคุยกันอย่างจริงใจ และยกระดับความร่วมมือกัน"
.
ทั้งนี้ การยื่นฟ้องต่อ WTO จะให้ผลเชิงสัญลักษณ์ว่าจีนนั้นยืนหยัดสนับสนุนระบบการค้าที่อิงกฎเกณฑ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯ ทั้งเดโมแครตและรีพับลิกันยึดถือเรื่อยมา โดยก่อนหน้านี้จีนก็เคยยื่นฟ้องต่อ WTO มาแล้วตอนที่ถูกสหภาพยุโรปสั่งรีดภาษีรถอีวีนำเข้าจีนในอัตราสูงสุด 45%
.
อย่างไรก็ดี การร้องเรียนต่อ WTO ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบหรือเป็นภัยคุกคามใดๆ ต่อสหรัฐฯ เนื่องจากระบบไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของ WTO นั้นแทบจะถูกปิดไปโดยปริยายตั้งแต่ปี 2019 เมื่อ ทรัมป์ ขัดขวางการแต่งตั้งผู้พิพากษาที่จะมาทำหน้าที่พิจารณาคำอุทธรณ์ นอกจากนี้ สหรัฐฯ ตั้งแต่ยุค บารัค โอบามา เป็นต้นมายังกล่าวหาหน่วยงานอุทธรณ์ของ WTO ว่าละเมิดอำนาจของสหรัฐฯ ด้วย
.
เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ออกมาเอ่ยย้ำตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า "ไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้า"
.
ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศจีนก็ออกมาชี้ว่า "เฟนทานิลคือปัญหาของอเมริกา" พร้อมย้ำว่า "ที่ผ่านมาฝ่ายจีนได้มีมาตรการต่อต้านยาเสพติดอย่างจริงจังโดยร่วมมือกับสหรัฐฯ ซึ่งก็ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ"
.
การหารือระหว่าง ทรัมป์ กับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เมื่อเดือนที่แล้วทำให้เจ้าหน้าที่จีนเริ่มมองเห็นสัญญาณที่ดีว่า ทรัมป์ อาจจะมุ่งลดความขัดแย้งกับจีนลงบ้าง ในขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ทั้งสายเดโมแครตและรีพับลิกันยังคงมองจีนเป็นความท้าทายอันดับ 1 ทั้งในด้านนโยบายต่างประเทศและเศรษฐกิจของอเมริกา
.
การที่จีนมียอดการค้าเกินดุลเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2024 ถือเป็นจุดอ่อนของปักกิ่ง การส่งออกในอุตสาหกรรมหลักๆ ของจีน เช่น ยานยนต์ เติบโตรวดเร็วในแง่ของปริมาณมากกว่ามูลค่า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้ผลิตจีนเลือกหันมาใช้วิธีลดราคาสินค้าเพื่อเพิ่มยอดขายในต่างประเทศ ท่ามกลางอุปสงค์ในจีนที่ยังคงซบเซา และด้วยเหตุนี้นักวิเคราะห์จึงเชื่อว่าจีนน่าจะพยายามขอเจรจาเพื่อทำข้อตกลงกับรัฐบาล ทรัมป์ ให้ได้โดยเร็ว เพื่อลดผลกระทบจากมาตรการทางภาษีของสหรัฐฯ
.
ทั้งนี้ จีนยังได้เตรียมความพร้อมรับมือมาตรการรีดภาษีของ ทรัมป์ มานานหลายเดือนด้วยการกระชับความร่วมมือกับประเทศหุ้นส่วน ส่งเสริมการพึ่งพาตนเองในด้านเทคโนโลยีหลักๆ และจัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010797
..................
Sondhi X
จีนออกมาประณามความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่สั่งรีดภาษีสินค้านำเข้าจากแดนมังกรในอัตรา 10% เมื่อวานนี้ (2 ก.พ.) โดยกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์จีนประกาศจะยื่นฟ้องต่อองค์การการค้าโลก (World Trade Organization - WTO) เกี่ยวกับคำสั่งรีดภาษีของทรัมป์ และจะมี "มาตรการตอบโต้" นโยบายของสหรัฐฯ ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับในวันอังคารที่ 4 ก.พ.นี้ . อย่างไรก็ตาม จีนยังส่งสัญญาณเปิดโอกาสสำหรับการเจรจาพูดคุย เพื่อไม่ให้ 2 มหาอำนาจเกิดการกระทบกระทั่งรุนแรงไปกว่าที่เป็นอยู่ . เมื่อวันเสาร์ (1) ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งเก็บภาษีศุลกากรจากสินค้าแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% และสินค้าจีน 10% โดยชี้ว่าปักกิ่งจำเป็นต้องช่วยสกัดกั้นยาเฟนทานิลซึ่งเป็นสารเสพติดโอปิออยด์ชนิดรุนแรงไม่ให้ไหลเข้าสู่สหรัฐอเมริกา . กระทรวงพาณิชย์จีนแถลงว่า คำสั่งของ ทรัมป์ "ถือเป็นการฝ่าฝืนระเบียบการค้าสากลอย่างร้ายแรง" และจีนขอเรียกร้องให้สหรัฐฯ "พูดคุยกันอย่างจริงใจ และยกระดับความร่วมมือกัน" . ทั้งนี้ การยื่นฟ้องต่อ WTO จะให้ผลเชิงสัญลักษณ์ว่าจีนนั้นยืนหยัดสนับสนุนระบบการค้าที่อิงกฎเกณฑ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯ ทั้งเดโมแครตและรีพับลิกันยึดถือเรื่อยมา โดยก่อนหน้านี้จีนก็เคยยื่นฟ้องต่อ WTO มาแล้วตอนที่ถูกสหภาพยุโรปสั่งรีดภาษีรถอีวีนำเข้าจีนในอัตราสูงสุด 45% . อย่างไรก็ดี การร้องเรียนต่อ WTO ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบหรือเป็นภัยคุกคามใดๆ ต่อสหรัฐฯ เนื่องจากระบบไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของ WTO นั้นแทบจะถูกปิดไปโดยปริยายตั้งแต่ปี 2019 เมื่อ ทรัมป์ ขัดขวางการแต่งตั้งผู้พิพากษาที่จะมาทำหน้าที่พิจารณาคำอุทธรณ์ นอกจากนี้ สหรัฐฯ ตั้งแต่ยุค บารัค โอบามา เป็นต้นมายังกล่าวหาหน่วยงานอุทธรณ์ของ WTO ว่าละเมิดอำนาจของสหรัฐฯ ด้วย . เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ออกมาเอ่ยย้ำตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า "ไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้า" . ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศจีนก็ออกมาชี้ว่า "เฟนทานิลคือปัญหาของอเมริกา" พร้อมย้ำว่า "ที่ผ่านมาฝ่ายจีนได้มีมาตรการต่อต้านยาเสพติดอย่างจริงจังโดยร่วมมือกับสหรัฐฯ ซึ่งก็ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ" . การหารือระหว่าง ทรัมป์ กับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เมื่อเดือนที่แล้วทำให้เจ้าหน้าที่จีนเริ่มมองเห็นสัญญาณที่ดีว่า ทรัมป์ อาจจะมุ่งลดความขัดแย้งกับจีนลงบ้าง ในขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ทั้งสายเดโมแครตและรีพับลิกันยังคงมองจีนเป็นความท้าทายอันดับ 1 ทั้งในด้านนโยบายต่างประเทศและเศรษฐกิจของอเมริกา . การที่จีนมียอดการค้าเกินดุลเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2024 ถือเป็นจุดอ่อนของปักกิ่ง การส่งออกในอุตสาหกรรมหลักๆ ของจีน เช่น ยานยนต์ เติบโตรวดเร็วในแง่ของปริมาณมากกว่ามูลค่า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้ผลิตจีนเลือกหันมาใช้วิธีลดราคาสินค้าเพื่อเพิ่มยอดขายในต่างประเทศ ท่ามกลางอุปสงค์ในจีนที่ยังคงซบเซา และด้วยเหตุนี้นักวิเคราะห์จึงเชื่อว่าจีนน่าจะพยายามขอเจรจาเพื่อทำข้อตกลงกับรัฐบาล ทรัมป์ ให้ได้โดยเร็ว เพื่อลดผลกระทบจากมาตรการทางภาษีของสหรัฐฯ . ทั้งนี้ จีนยังได้เตรียมความพร้อมรับมือมาตรการรีดภาษีของ ทรัมป์ มานานหลายเดือนด้วยการกระชับความร่วมมือกับประเทศหุ้นส่วน ส่งเสริมการพึ่งพาตนเองในด้านเทคโนโลยีหลักๆ และจัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010797 .................. Sondhi X - ความเห็นดำริ
คิดพูดทำเสพย์
ทุกข์มีพร้อมเหตุ
สังเกตให้รู้
เหตุดับทุกข์ดับ
จับจิตให้อยู่
ตามดูให้รู้
สู่ธรรมความจริง
กฎหลักไตรลักษณ์
ศักดิ์สิทธิ์แน่จริง
ไม่เอายังสิง
วิ่งวนเวียนว่าย
ชีวียังอยู่
รู้กรรมอาศัย
เลือกเฟ้นทำไป
ให้กุศลได้
แผนงานบรรลุ
กุศโลบาย
คุณงามดีได้
ให้ทุกข์ดับไปความเห็นดำริ คิดพูดทำเสพย์ ทุกข์มีพร้อมเหตุ สังเกตให้รู้ เหตุดับทุกข์ดับ จับจิตให้อยู่ ตามดูให้รู้ สู่ธรรมความจริง กฎหลักไตรลักษณ์ ศักดิ์สิทธิ์แน่จริง ไม่เอายังสิง วิ่งวนเวียนว่าย ชีวียังอยู่ รู้กรรมอาศัย เลือกเฟ้นทำไป ให้กุศลได้ แผนงานบรรลุ กุศโลบาย คุณงามดีได้ ให้ทุกข์ดับไป0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว - แบบการสร้างบ้านเคลื่อนที่(ขนาดเล็ก)อย่างเรียบง่าย
บนฐาน รถเทรลเล่อร์-#HARBOR FREIGHTแบบการสร้างบ้านเคลื่อนที่(ขนาดเล็ก)อย่างเรียบง่าย บนฐาน รถเทรลเล่อร์-#HARBOR FREIGHT0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 7 0 รีวิว - 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
- บทความนี้แนะนำให้เลือกซื้อ Samsung Galaxy S25 รุ่นมาตรฐานแทนรุ่น Plus และ Ultra ในปีนี้ เนื่องจากมีการอัปเกรดฮาร์ดแวร์ที่จำกัด แต่ยังคงมีประสิทธิภาพที่ดีในราคาที่เหมาะสม
Samsung Galaxy S25 มีหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ซึ่งแม้จะไม่คมชัดเท่ารุ่น Plus และ Ultra แต่ยังคงให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าพอใจ นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่ขนาด 4,000mAh และชิป Snapdragon 8 Elite ที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและอายุการใช้งานแบตเตอรี่
กล้องของ Galaxy S25 ยังคงมีปัญหาเรื่องการถ่ายภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวเร็ว แต่มีการปรับปรุงในเรื่องของการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยและการแสดงผลสีผิวมนุษย์ที่แม่นยำขึ้น
ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจใน Galaxy S25 ได้แก่ AI Select ที่ช่วยแนะนำการดำเนินการบนอุปกรณ์ตามข้อมูลที่แสดงบนหน้าจอ และ Now Brief ที่รวมข้อมูลสำคัญไว้ในที่เดียว เช่น การอัปเดตสภาพอากาศและการแนะนำเพลงจาก Spotify
โดยรวมแล้ว Samsung Galaxy S25 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนขนาดกะทัดรัดที่มีประสิทธิภาพและฟีเจอร์ที่ทันสมัยในราคาที่เหมาะสม
https://www.zdnet.com/article/why-im-recommending-the-standard-galaxy-s25-over-the-plus-and-ultra-this-year/บทความนี้แนะนำให้เลือกซื้อ Samsung Galaxy S25 รุ่นมาตรฐานแทนรุ่น Plus และ Ultra ในปีนี้ เนื่องจากมีการอัปเกรดฮาร์ดแวร์ที่จำกัด แต่ยังคงมีประสิทธิภาพที่ดีในราคาที่เหมาะสม Samsung Galaxy S25 มีหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ซึ่งแม้จะไม่คมชัดเท่ารุ่น Plus และ Ultra แต่ยังคงให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าพอใจ นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่ขนาด 4,000mAh และชิป Snapdragon 8 Elite ที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ กล้องของ Galaxy S25 ยังคงมีปัญหาเรื่องการถ่ายภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวเร็ว แต่มีการปรับปรุงในเรื่องของการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยและการแสดงผลสีผิวมนุษย์ที่แม่นยำขึ้น ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจใน Galaxy S25 ได้แก่ AI Select ที่ช่วยแนะนำการดำเนินการบนอุปกรณ์ตามข้อมูลที่แสดงบนหน้าจอ และ Now Brief ที่รวมข้อมูลสำคัญไว้ในที่เดียว เช่น การอัปเดตสภาพอากาศและการแนะนำเพลงจาก Spotify โดยรวมแล้ว Samsung Galaxy S25 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนขนาดกะทัดรัดที่มีประสิทธิภาพและฟีเจอร์ที่ทันสมัยในราคาที่เหมาะสม https://www.zdnet.com/article/why-im-recommending-the-standard-galaxy-s25-over-the-plus-and-ultra-this-year/WWW.ZDNET.COMWhy I'm recommending the standard Galaxy S25 over the Plus and Ultra this yearThe Samsung Galaxy S25 is an incremental upgrade over the Galaxy S24, but it still deserves a spot in your pocket for these reasons.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว - กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน (IRGC) เปิดตัวฐานทัพใต้ดินแห่งใหม่ ตั้งอยู่ที่ไหนสักแห่งตามแนวชายฝั่้งทางใต้ของประเทศ ฐานทัพใหม่นี้ได้รับฉายาว่า "เมืองขีปนาวุธ" เป็นแหล่งซ่อนตัวของรถบรรทุกหลายสิบคนที่ใช้เป็นแท่นยิงขีปนาวุธ อ้างอิงภาพจากคลิปวิดีโอที่เผยแพร่โดยกองทัพอิหร่านเมื่อวันเสาร์(1ก.พ.)
.
ในวิดีโอความยาว 2 นาที พลตรีฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการ IRGC และพลเรือตรีอาลิเรซา ทังซิรี ผู้บัญชาการกองทัพเรือ กำลังตรวจตราเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดิน บริเวณที่แท่นยิงขีปนาวุธเคลื่อนที่ประจำการอยู่
.
ทังซีรี ระบุว่าฐานทัพแห่งนี้เป็นที่ตั้งของขีปนาวุธร่อน Qadr-380 ของอิหร่าน ซึ่งสามารถประจำการและยิงโจมตีได้ภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที ขีปนาวุธนี้มีพิสัยทำการกว่า 1,000 กิโลเมตรและติดตั้งระบบต่อต้านสัญญาณรบกวน เพื่อตอบโต้การทำสงครามอิเล็กทรอนิก ตามรายงานของสำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ
.
ฐานทัพแห่งใหม่ที่อวดโฉมในวันเสาร์(1ก.พ.) ถือเป็นฐานทัพใต้ดินแห่งที่ 3 แล้วในอิหร่าน หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม ทางกองทัพเรือแห่ง IRGC เพิ่้งเปิดตัวฐานทัพใต้ดินอีกแห่ง สำหรับขีปนาวุธต่อต้านเรือ ตามแนวชายฝั่งอ่าวเปอร์เซีย ขณะเดียวกันทางกองทัพอากาศของ IRGC ก็เคยเปิดเผยเกี่ยวกับฐานทัพแบบเดียวกันนี้ เมื่อวันที่ 10 มกราคม แต่ไม่ได้บอกตำแหน่งที่ตั้งอย่างชัดเจน
.
อิหร่าน บอกว่าโครงการขีปนาวุธของพวกเขามีไว้เพื่อป้องปรามบรรดาอริศัตรูอย่างสหรัฐฯและอิสราเอล และระหว่างการตรวจตราเมื่อวันเสาร์(1ก.พ.) ซาลามี เน้นย้ำว่าการเปิดตัวฐานทัพใต้ดินครั้งนี้ มีเจตนาเพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูของเตหะราน คำนวณผิดพลาดจนนำมาซึ่งผลลัพธ์ร้ายแรง
.
ในช่วงต้นเดือนมกราคม อับบาส อารากชี รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน ยกย่องโครงการขีปนาวุธของประเทศ ว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องปรามภัยคุกคามจากต่างชาติ "ผมเคยบอกมาหลายครั้งแล้ว และเชื่อย่างหนักแน่นว่า ถ้าเราไม่มีแสนยานุภาพด้านขีปนาวุธ ก็คงไม่มีใครเจรจากับเรา"
.
อารากชี อ้างว่าสหรัฐฯและพันธมิตรมีแต่จะตอบสนองอย่างแข็งกร้าว แต่แสนยานุภาพด้านขีปนาวุธของอิหร่านจะบีบให้พวกเขาหันหน้ามาใช้หนทางด้านการทูต แทนการเลือกใช้กำลัง ความเห็นของเขามีขค้นตามหลังความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการยิงขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีตอบโต้กันไปมาระหว่าง 2 ชาติ เมื่อปีที่แล้ว
.
อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010796
..................
Sondhi X
กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน (IRGC) เปิดตัวฐานทัพใต้ดินแห่งใหม่ ตั้งอยู่ที่ไหนสักแห่งตามแนวชายฝั่้งทางใต้ของประเทศ ฐานทัพใหม่นี้ได้รับฉายาว่า "เมืองขีปนาวุธ" เป็นแหล่งซ่อนตัวของรถบรรทุกหลายสิบคนที่ใช้เป็นแท่นยิงขีปนาวุธ อ้างอิงภาพจากคลิปวิดีโอที่เผยแพร่โดยกองทัพอิหร่านเมื่อวันเสาร์(1ก.พ.) . ในวิดีโอความยาว 2 นาที พลตรีฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการ IRGC และพลเรือตรีอาลิเรซา ทังซิรี ผู้บัญชาการกองทัพเรือ กำลังตรวจตราเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดิน บริเวณที่แท่นยิงขีปนาวุธเคลื่อนที่ประจำการอยู่ . ทังซีรี ระบุว่าฐานทัพแห่งนี้เป็นที่ตั้งของขีปนาวุธร่อน Qadr-380 ของอิหร่าน ซึ่งสามารถประจำการและยิงโจมตีได้ภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที ขีปนาวุธนี้มีพิสัยทำการกว่า 1,000 กิโลเมตรและติดตั้งระบบต่อต้านสัญญาณรบกวน เพื่อตอบโต้การทำสงครามอิเล็กทรอนิก ตามรายงานของสำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ . ฐานทัพแห่งใหม่ที่อวดโฉมในวันเสาร์(1ก.พ.) ถือเป็นฐานทัพใต้ดินแห่งที่ 3 แล้วในอิหร่าน หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม ทางกองทัพเรือแห่ง IRGC เพิ่้งเปิดตัวฐานทัพใต้ดินอีกแห่ง สำหรับขีปนาวุธต่อต้านเรือ ตามแนวชายฝั่งอ่าวเปอร์เซีย ขณะเดียวกันทางกองทัพอากาศของ IRGC ก็เคยเปิดเผยเกี่ยวกับฐานทัพแบบเดียวกันนี้ เมื่อวันที่ 10 มกราคม แต่ไม่ได้บอกตำแหน่งที่ตั้งอย่างชัดเจน . อิหร่าน บอกว่าโครงการขีปนาวุธของพวกเขามีไว้เพื่อป้องปรามบรรดาอริศัตรูอย่างสหรัฐฯและอิสราเอล และระหว่างการตรวจตราเมื่อวันเสาร์(1ก.พ.) ซาลามี เน้นย้ำว่าการเปิดตัวฐานทัพใต้ดินครั้งนี้ มีเจตนาเพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูของเตหะราน คำนวณผิดพลาดจนนำมาซึ่งผลลัพธ์ร้ายแรง . ในช่วงต้นเดือนมกราคม อับบาส อารากชี รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน ยกย่องโครงการขีปนาวุธของประเทศ ว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องปรามภัยคุกคามจากต่างชาติ "ผมเคยบอกมาหลายครั้งแล้ว และเชื่อย่างหนักแน่นว่า ถ้าเราไม่มีแสนยานุภาพด้านขีปนาวุธ ก็คงไม่มีใครเจรจากับเรา" . อารากชี อ้างว่าสหรัฐฯและพันธมิตรมีแต่จะตอบสนองอย่างแข็งกร้าว แต่แสนยานุภาพด้านขีปนาวุธของอิหร่านจะบีบให้พวกเขาหันหน้ามาใช้หนทางด้านการทูต แทนการเลือกใช้กำลัง ความเห็นของเขามีขค้นตามหลังความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการยิงขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีตอบโต้กันไปมาระหว่าง 2 ชาติ เมื่อปีที่แล้ว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010796 .................. Sondhi X - Grayscale Investments ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์คริปโตที่มีชื่อเสียง เปิดตัวกองทุนที่เน้นการลงทุนใน Dogecoin กองทุนนี้มีชื่อว่า Grayscale Dogecoin Trust และมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึง Dogecoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีความนิยมเพิ่มขึ้น
Dogecoin เริ่มต้นจากการเป็น "memecoin" หรือสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นเพื่อความสนุกสนาน แต่ในปัจจุบันได้กลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้คนที่ไม่ได้รับการบริการจากระบบการเงินแบบดั้งเดิมสามารถเข้าร่วมในระบบการเงินได้ Rayhaneh Sharif-Askary หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์และการวิจัยของ Grayscale กล่าวว่า Dogecoin ช่วยให้กลุ่มคนที่ไม่ได้รับการบริการจากโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแบบดั้งเดิมสามารถเข้าร่วมในระบบการเงินได้
กองทุนนี้ออกแบบมาเพื่อติดตามราคาตลาดของ Dogecoin และเปิดให้สมัครสมาชิกสำหรับนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมทั้งบุคคลและสถาบัน. Dogecoin ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเนื่องจากการสนับสนุนจาก Elon Musk CEO ของ Tesla และบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
นอกจากนี้ Dogecoin ยังเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับแปดของโลก โดยมีมูลค่าตลาดประมาณ 50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
การเปิดตัวกองทุนนี้เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการหาผลตอบแทนจากสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก
https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/01/grayscale-launches-dogecoin-focused-fund-as-altcoin-adoption-picks-up-paceGrayscale Investments ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์คริปโตที่มีชื่อเสียง เปิดตัวกองทุนที่เน้นการลงทุนใน Dogecoin กองทุนนี้มีชื่อว่า Grayscale Dogecoin Trust และมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึง Dogecoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีความนิยมเพิ่มขึ้น Dogecoin เริ่มต้นจากการเป็น "memecoin" หรือสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นเพื่อความสนุกสนาน แต่ในปัจจุบันได้กลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้คนที่ไม่ได้รับการบริการจากระบบการเงินแบบดั้งเดิมสามารถเข้าร่วมในระบบการเงินได้ Rayhaneh Sharif-Askary หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์และการวิจัยของ Grayscale กล่าวว่า Dogecoin ช่วยให้กลุ่มคนที่ไม่ได้รับการบริการจากโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแบบดั้งเดิมสามารถเข้าร่วมในระบบการเงินได้ กองทุนนี้ออกแบบมาเพื่อติดตามราคาตลาดของ Dogecoin และเปิดให้สมัครสมาชิกสำหรับนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมทั้งบุคคลและสถาบัน. Dogecoin ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเนื่องจากการสนับสนุนจาก Elon Musk CEO ของ Tesla และบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก นอกจากนี้ Dogecoin ยังเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับแปดของโลก โดยมีมูลค่าตลาดประมาณ 50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การเปิดตัวกองทุนนี้เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการหาผลตอบแทนจากสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/01/grayscale-launches-dogecoin-focused-fund-as-altcoin-adoption-picks-up-paceWWW.THESTAR.COM.MYGrayscale launches dogecoin-focused fund as altcoin adoption picks up pace(Reuters) - Grayscale Investments said on Friday it was launching an investment fund aimed at dogecoin, as the cryptocurrency asset manager looks to tap into the increasing momentum around alternatives to bitcoin.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว - บทความนี้กล่าวถึงการเติบโตของการใช้งาน passkeys ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนแบบไม่ใช้รหัสผ่านที่ได้รับการยกย่องอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ในปี 2024 ได้ แม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะมีประสิทธิภาพในการทำให้การเข้าสู่ระบบง่ายขึ้นเพียงแค่แตะลายนิ้วมือ แต่หลายบริษัทก็ยังลังเลที่จะนำมาใช้
Andrew Shikiar ซีอีโอและผู้อำนวยการบริหารของ FIDO Alliance ได้กล่าวถึงความเปราะบางของการยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัยต่อการโจมตีแบบฟิชชิ่งที่ซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้โจมตีใช้ AI ในการสร้างอีเมลที่น่าเชื่อถือมากขึ้น ในทางตรงกันข้าม passkeys มีการป้องกันที่แข็งแกร่งต่อภัยคุกคามเหล่านี้ เนื่องจากการแลกเปลี่ยนคีย์เข้ารหัสที่รวดเร็วและเงียบจะไม่เริ่มต้นหากไม่มีเว็บไซต์ที่ถูกต้อง
แม้ว่า passkeys จะมีการนำมาใช้เพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ก็ยังไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีก่อน โดยในปีที่แล้ว Shikiar คาดการณ์ว่าบัญชีที่เปิดใช้งาน passkeys จะถึง 20 พันล้านบัญชีภายในปี 2025 แต่ในช่วงต้นเดือนมกราคม ตัวเลขนี้อยู่ที่เพียง 15 พันล้านบัญชีเท่านั้น
Shikiar แสดงความผิดหวังในความช้าของการนำมาใช้ในอุตสาหกรรมสายการบินและโรงแรม แต่ยังคงมองในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคต โดยเชื่อว่าอุตสาหกรรมการเดินทางและการบริการจะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตในปี 2025 นอกจากนี้ เขายังบอกเป็นนัยถึงการเปิดตัว passkey โดยธนาคารอเมริกันรายใหญ่ในอนาคตอันใกล้
การนำ passkeys มาใช้ยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้น และต้องการประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีขึ้นเพื่อดึงดูดผู้คนให้มาใช้มากขึ้น นอกจากนี้ ความกระตือรือร้นของผู้ให้บริการระบบปฏิบัติการและเบราว์เซอร์ในการโปรโมตบริการ passkey ของตนเองยังทำให้เกิดความสับสนในระบบนิเวศของ passkey
โดยรวมแล้ว passkeys เป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการปรับปรุงความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการยืนยันตัวตน แต่ยังต้องการเวลาและการปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อให้ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย
https://www.techspot.com/news/106609-passkeys-reach-15-billion-accounts-but-fall-short.htmlบทความนี้กล่าวถึงการเติบโตของการใช้งาน passkeys ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนแบบไม่ใช้รหัสผ่านที่ได้รับการยกย่องอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ในปี 2024 ได้ แม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะมีประสิทธิภาพในการทำให้การเข้าสู่ระบบง่ายขึ้นเพียงแค่แตะลายนิ้วมือ แต่หลายบริษัทก็ยังลังเลที่จะนำมาใช้ Andrew Shikiar ซีอีโอและผู้อำนวยการบริหารของ FIDO Alliance ได้กล่าวถึงความเปราะบางของการยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัยต่อการโจมตีแบบฟิชชิ่งที่ซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้โจมตีใช้ AI ในการสร้างอีเมลที่น่าเชื่อถือมากขึ้น ในทางตรงกันข้าม passkeys มีการป้องกันที่แข็งแกร่งต่อภัยคุกคามเหล่านี้ เนื่องจากการแลกเปลี่ยนคีย์เข้ารหัสที่รวดเร็วและเงียบจะไม่เริ่มต้นหากไม่มีเว็บไซต์ที่ถูกต้อง แม้ว่า passkeys จะมีการนำมาใช้เพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ก็ยังไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีก่อน โดยในปีที่แล้ว Shikiar คาดการณ์ว่าบัญชีที่เปิดใช้งาน passkeys จะถึง 20 พันล้านบัญชีภายในปี 2025 แต่ในช่วงต้นเดือนมกราคม ตัวเลขนี้อยู่ที่เพียง 15 พันล้านบัญชีเท่านั้น Shikiar แสดงความผิดหวังในความช้าของการนำมาใช้ในอุตสาหกรรมสายการบินและโรงแรม แต่ยังคงมองในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคต โดยเชื่อว่าอุตสาหกรรมการเดินทางและการบริการจะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตในปี 2025 นอกจากนี้ เขายังบอกเป็นนัยถึงการเปิดตัว passkey โดยธนาคารอเมริกันรายใหญ่ในอนาคตอันใกล้ การนำ passkeys มาใช้ยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้น และต้องการประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีขึ้นเพื่อดึงดูดผู้คนให้มาใช้มากขึ้น นอกจากนี้ ความกระตือรือร้นของผู้ให้บริการระบบปฏิบัติการและเบราว์เซอร์ในการโปรโมตบริการ passkey ของตนเองยังทำให้เกิดความสับสนในระบบนิเวศของ passkey โดยรวมแล้ว passkeys เป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการปรับปรุงความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการยืนยันตัวตน แต่ยังต้องการเวลาและการปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อให้ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย https://www.techspot.com/news/106609-passkeys-reach-15-billion-accounts-but-fall-short.htmlWWW.TECHSPOT.COMPasskeys reach 15 billion accounts but fall short of expectations so farAndrew Shikiar, CEO and Executive Director of the FIDO Alliance has been a vocal advocate for passkeys. PC Mag notes that Shikiar didn't mince words about the...0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว - https://www.youtube.com/live/F805q56OSTk?si=bY3CXg3xNya4UrTH- YouTubeเพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
- "ทรัมป์ฟันฉับ! ตัดงบ USAID ทุบเครือข่าย Soros – สื่อฝ่ายค้านฮังการีสะดุ้ง!"
เนื้อข่าว:
สื่อต่อต้านรัฐบาลฮังการีกำลังร้อนเป็นไฟ หลังอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศจาก USAID และสถานทูตสหรัฐฯ เป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้เงินทุนที่เคยไหลเข้ากลุ่ม NGO และสื่อฮังการีที่เชื่อมโยงกับมหาเศรษฐี George Soros ต้องหยุดชะงัก สะท้อนให้เห็นว่าความ "อิสระ" ของพวกเขาอาจไม่ได้อยู่ที่อุดมการณ์…แต่อยู่ที่งบหนุนจากต่างชาติ
"Soros หมดฤทธิ์! เมื่อเงินหนุนฝ่ายค้านฮังการีถูกตัดขาด"
Balázs Orbán ผู้อำนวยการฝ่ายการเมืองของนายกรัฐมนตรีฮังการี ได้แฉว่าหนึ่งในสื่อฝ่ายค้านรายใหญ่ของประเทศไม่พอใจอย่างหนัก หลังสูญเสียแหล่งทุนสนับสนุนจากสหรัฐฯ พร้อมตั้งคำถามว่า "สื่อที่ต้องพึ่งพาเงินจากรัฐบาลต่างชาติ จะเรียกว่าอิสระได้อย่างไร?"
ด้าน Elon Musk นักธุรกิจพันล้านและที่ปรึกษาคนสนิทของทรัมป์ รีโพสต์ข้อความของ Orbán พร้อมซัดแรงว่า "ฝ่ายซ้ายสุดโต่งของสหรัฐฯ ใช้เงินภาษีของประชาชนเพื่ออุ้มพรรคการเมืองและสื่อฝ่ายซ้ายทั่วโลก!" ทำให้โพสต์นี้กลายเป็นกระแสร้อนในโลกออนไลน์
"เครือข่าย Soros สะเทือน! USAID โดนทรัมป์เชือด"
คำสั่งของทรัมป์ไม่ได้กระทบแค่สื่อฝ่ายค้าน แต่ยังส่งผลไปถึง NGO ฮังการีที่มีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายของ George Soros ซึ่งเป็นผู้ให้ทุนสนับสนุนหลักผ่าน USAID และสถานทูตสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ David Pressman
ก่อนหน้านี้ ในวันเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ สถานทูตสหรัฐฯ ที่บูดาเปสต์เคยประกาศแจกจ่ายงบกว่า 200 ล้านฟอรินต์ (ประมาณ 400,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ให้กับกลุ่มสื่อและ NGO ผ่านโครงการ Free Media Tender ซึ่งขณะนี้ถูกสั่งระงับ สื่อที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ได้แก่ 444, Jelen, G7, Magyar Hang และ Transparency International
Mérték Media Monitor ซึ่งเป็นองค์กรที่ดูแลโครงการนี้ยืนยันว่า "ใช่ โครงการนี้ถูกระงับแล้ว ตอนนี้เราได้แต่รอ ไม่มีการทำสัญญาหรือรับเงินเพิ่มเติม"
"ตัดท่อน้ำเลี้ยง! สื่อและ NGO ในเครือข่าย Soros โดนเท"
การระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศครั้งนี้ถือเป็นหมัดหนักที่โจมตีเครือข่ายของ Soros ซึ่งถูกวิจารณ์ว่ามีบทบาทสำคัญในการใช้เงินทุนเพื่อผลักดันแนวคิดเสรีนิยมทั่วโลก ทรัมป์เคยเตือนหลายครั้งว่า USAID ไม่ได้ทำหน้าที่ช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเครื่องมือแทรกแซงทางการเมืองของฝ่ายซ้าย
"ตัดเงินสนับสนุน = เปิดโปงความจริง!" ฝ่ายสนับสนุนทรัมป์มองว่านี่คือการคืนความโปร่งใสให้กับนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ และลดการใช้เงินภาษีอุ้มกลุ่มการเมืองต่างชาติ ขณะที่ฝ่ายค้านฮังการีและ NGO ที่เคยได้รับทุนต่างออกมาโวยวายว่าการตัดงบนี้คือการทำลาย "ประชาธิปไตย"
อย่างไรก็ตาม คำถามที่ชัดเจนขึ้นก็คือ "ถ้าต้องพึ่งเงิน Soros และรัฐบาลสหรัฐฯ มาตลอด... ยังกล้าเรียกตัวเองว่าสื่ออิสระหรือ?"
.
https://web.facebook.com/share/p/1WpNbXhfxE/"ทรัมป์ฟันฉับ! ตัดงบ USAID ทุบเครือข่าย Soros – สื่อฝ่ายค้านฮังการีสะดุ้ง!" เนื้อข่าว: สื่อต่อต้านรัฐบาลฮังการีกำลังร้อนเป็นไฟ หลังอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศจาก USAID และสถานทูตสหรัฐฯ เป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้เงินทุนที่เคยไหลเข้ากลุ่ม NGO และสื่อฮังการีที่เชื่อมโยงกับมหาเศรษฐี George Soros ต้องหยุดชะงัก สะท้อนให้เห็นว่าความ "อิสระ" ของพวกเขาอาจไม่ได้อยู่ที่อุดมการณ์…แต่อยู่ที่งบหนุนจากต่างชาติ "Soros หมดฤทธิ์! เมื่อเงินหนุนฝ่ายค้านฮังการีถูกตัดขาด" Balázs Orbán ผู้อำนวยการฝ่ายการเมืองของนายกรัฐมนตรีฮังการี ได้แฉว่าหนึ่งในสื่อฝ่ายค้านรายใหญ่ของประเทศไม่พอใจอย่างหนัก หลังสูญเสียแหล่งทุนสนับสนุนจากสหรัฐฯ พร้อมตั้งคำถามว่า "สื่อที่ต้องพึ่งพาเงินจากรัฐบาลต่างชาติ จะเรียกว่าอิสระได้อย่างไร?" ด้าน Elon Musk นักธุรกิจพันล้านและที่ปรึกษาคนสนิทของทรัมป์ รีโพสต์ข้อความของ Orbán พร้อมซัดแรงว่า "ฝ่ายซ้ายสุดโต่งของสหรัฐฯ ใช้เงินภาษีของประชาชนเพื่ออุ้มพรรคการเมืองและสื่อฝ่ายซ้ายทั่วโลก!" ทำให้โพสต์นี้กลายเป็นกระแสร้อนในโลกออนไลน์ "เครือข่าย Soros สะเทือน! USAID โดนทรัมป์เชือด" คำสั่งของทรัมป์ไม่ได้กระทบแค่สื่อฝ่ายค้าน แต่ยังส่งผลไปถึง NGO ฮังการีที่มีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายของ George Soros ซึ่งเป็นผู้ให้ทุนสนับสนุนหลักผ่าน USAID และสถานทูตสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ David Pressman ก่อนหน้านี้ ในวันเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ สถานทูตสหรัฐฯ ที่บูดาเปสต์เคยประกาศแจกจ่ายงบกว่า 200 ล้านฟอรินต์ (ประมาณ 400,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ให้กับกลุ่มสื่อและ NGO ผ่านโครงการ Free Media Tender ซึ่งขณะนี้ถูกสั่งระงับ สื่อที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ได้แก่ 444, Jelen, G7, Magyar Hang และ Transparency International Mérték Media Monitor ซึ่งเป็นองค์กรที่ดูแลโครงการนี้ยืนยันว่า "ใช่ โครงการนี้ถูกระงับแล้ว ตอนนี้เราได้แต่รอ ไม่มีการทำสัญญาหรือรับเงินเพิ่มเติม" "ตัดท่อน้ำเลี้ยง! สื่อและ NGO ในเครือข่าย Soros โดนเท" การระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศครั้งนี้ถือเป็นหมัดหนักที่โจมตีเครือข่ายของ Soros ซึ่งถูกวิจารณ์ว่ามีบทบาทสำคัญในการใช้เงินทุนเพื่อผลักดันแนวคิดเสรีนิยมทั่วโลก ทรัมป์เคยเตือนหลายครั้งว่า USAID ไม่ได้ทำหน้าที่ช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเครื่องมือแทรกแซงทางการเมืองของฝ่ายซ้าย "ตัดเงินสนับสนุน = เปิดโปงความจริง!" ฝ่ายสนับสนุนทรัมป์มองว่านี่คือการคืนความโปร่งใสให้กับนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ และลดการใช้เงินภาษีอุ้มกลุ่มการเมืองต่างชาติ ขณะที่ฝ่ายค้านฮังการีและ NGO ที่เคยได้รับทุนต่างออกมาโวยวายว่าการตัดงบนี้คือการทำลาย "ประชาธิปไตย" อย่างไรก็ตาม คำถามที่ชัดเจนขึ้นก็คือ "ถ้าต้องพึ่งเงิน Soros และรัฐบาลสหรัฐฯ มาตลอด... ยังกล้าเรียกตัวเองว่าสื่ออิสระหรือ?" . https://web.facebook.com/share/p/1WpNbXhfxE/0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว -
- อีลอน มัสก์ โพสต์ข้อความผ่านบัญชี X ของเขาถึงชาวอเมริกัน ว่า:
"คุณรู้หรือไม่ว่า USAID ได้ใช้เงินภาษีของคุณเป็นทุนในการวิจัยอาวุธชีวภาพ ซึ่งรวมถึง COVID-19 ที่คร่าชีวิตผู้คนไปหลายล้านคน"อีลอน มัสก์ โพสต์ข้อความผ่านบัญชี X ของเขาถึงชาวอเมริกัน ว่า: "คุณรู้หรือไม่ว่า USAID ได้ใช้เงินภาษีของคุณเป็นทุนในการวิจัยอาวุธชีวภาพ ซึ่งรวมถึง COVID-19 ที่คร่าชีวิตผู้คนไปหลายล้านคน"0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว - มีการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการสร้างวัสดุนาโนที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรงกว่าที่เคยมีมา นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโตรอนโตได้ใช้การเรียนรู้ของเครื่องเพื่อสร้างวัสดุนาโนที่มีความแข็งแรงเทียบเท่ากับเหล็กกล้าคาร์บอน แต่มีน้ำหนักเบาเหมือนโฟมสไตโรโฟม การพัฒนานี้สามารถมีผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่ยานยนต์ไปจนถึงอวกาศ
ทีมวิจัยนำโดยศาสตราจารย์ Tobin Filleter ได้สร้างวัสดุนาโนที่มีความแข็งแรง น้ำหนักเบา และสามารถปรับแต่งได้ วัสดุเหล่านี้ประกอบด้วยหน่วยย่อยขนาดเล็กเพียงไม่กี่ร้อยนาโนเมตร ซึ่งเล็กมากจนกว่า 100 หน่วยจะเรียงกันได้เพียงความหนาของเส้นผมมนุษย์
นักวิจัยใช้การเพิ่มประสิทธิภาพแบบเบย์เซียน (Bayesian) หลายวัตถุประสงค์เพื่อทำนายรูปทรงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการกระจายความเครียดและปรับปรุงอัตราส่วนความแข็งแรงต่อน้ำหนักของการออกแบบนาโน อัลกอริทึมนี้ต้องการข้อมูลเพียง 400 จุดเท่านั้น ในขณะที่อัลกอริทึมอื่นๆ อาจต้องการมากกว่า 20,000 จุด ทำให้นักวิจัยสามารถทำงานกับชุดข้อมูลที่มีคุณภาพสูงและขนาดเล็กได้
ทีมวิจัยได้สร้างต้นแบบวัสดุนาโนคาร์บอนที่ได้รับการปรับแต่งโดยใช้เครื่องพิมพ์ 3D แบบโพลิเมอไรเซชันสองโฟตอน วัสดุนาโนที่ได้รับการปรับแต่งนี้มีความแข็งแรงมากกว่าการออกแบบที่มีอยู่ถึงสองเท่า โดยสามารถทนต่อความเครียดได้ 2.03 เมกะปาสคาลต่อหนึ่งลูกบาศก์เมตรต่อกิโลกรัมของความหนาแน่น ซึ่งแข็งแรงกว่าที่ไทเทเนียมถึงห้าเท่า
ศาสตราจารย์ Filleter มองเห็นการใช้งานที่เป็นไปได้ในอุตสาหกรรมอวกาศ เช่น การสร้างชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักเบามากสำหรับเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ และยานอวกาศ นักวิจัยคาดว่าการแทนที่ชิ้นส่วนไทเทเนียมบนเครื่องบินด้วยวัสดุใหม่นี้สามารถประหยัดน้ำมันได้ 80 ลิตรต่อปีสำหรับทุกกิโลกรัมของวัสดุที่ถูกแทนที่
การวิจัยนี้เป็นการรวมเอาวิทยาศาสตร์วัสดุ การเรียนรู้ของเครื่อง เคมี และกลศาสตร์เข้าด้วยกัน โดยมีการร่วมมือกับพันธมิตรระหว่างประเทศจากสถาบันเทคโนโลยีคาร์ลสรูเฮในเยอรมนี MIT และมหาวิทยาลัยไรซ์ ขั้นตอนต่อไปคือการปรับปรุงการขยายขนาดของการออกแบบวัสดุเหล่านี้ และสำรวจเมทริกซ์ใหม่ๆ ที่สามารถลดความหนาแน่นของวัสดุในขณะที่ยังคงความแข็งแรงและความแข็งแกร่งสูง
https://www.techspot.com/news/106610-researchers-used-ai-build-groundbreaking-nanomaterials-lighter-stronger.htmlมีการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการสร้างวัสดุนาโนที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรงกว่าที่เคยมีมา นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโตรอนโตได้ใช้การเรียนรู้ของเครื่องเพื่อสร้างวัสดุนาโนที่มีความแข็งแรงเทียบเท่ากับเหล็กกล้าคาร์บอน แต่มีน้ำหนักเบาเหมือนโฟมสไตโรโฟม การพัฒนานี้สามารถมีผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่ยานยนต์ไปจนถึงอวกาศ ทีมวิจัยนำโดยศาสตราจารย์ Tobin Filleter ได้สร้างวัสดุนาโนที่มีความแข็งแรง น้ำหนักเบา และสามารถปรับแต่งได้ วัสดุเหล่านี้ประกอบด้วยหน่วยย่อยขนาดเล็กเพียงไม่กี่ร้อยนาโนเมตร ซึ่งเล็กมากจนกว่า 100 หน่วยจะเรียงกันได้เพียงความหนาของเส้นผมมนุษย์ นักวิจัยใช้การเพิ่มประสิทธิภาพแบบเบย์เซียน (Bayesian) หลายวัตถุประสงค์เพื่อทำนายรูปทรงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการกระจายความเครียดและปรับปรุงอัตราส่วนความแข็งแรงต่อน้ำหนักของการออกแบบนาโน อัลกอริทึมนี้ต้องการข้อมูลเพียง 400 จุดเท่านั้น ในขณะที่อัลกอริทึมอื่นๆ อาจต้องการมากกว่า 20,000 จุด ทำให้นักวิจัยสามารถทำงานกับชุดข้อมูลที่มีคุณภาพสูงและขนาดเล็กได้ ทีมวิจัยได้สร้างต้นแบบวัสดุนาโนคาร์บอนที่ได้รับการปรับแต่งโดยใช้เครื่องพิมพ์ 3D แบบโพลิเมอไรเซชันสองโฟตอน วัสดุนาโนที่ได้รับการปรับแต่งนี้มีความแข็งแรงมากกว่าการออกแบบที่มีอยู่ถึงสองเท่า โดยสามารถทนต่อความเครียดได้ 2.03 เมกะปาสคาลต่อหนึ่งลูกบาศก์เมตรต่อกิโลกรัมของความหนาแน่น ซึ่งแข็งแรงกว่าที่ไทเทเนียมถึงห้าเท่า ศาสตราจารย์ Filleter มองเห็นการใช้งานที่เป็นไปได้ในอุตสาหกรรมอวกาศ เช่น การสร้างชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักเบามากสำหรับเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ และยานอวกาศ นักวิจัยคาดว่าการแทนที่ชิ้นส่วนไทเทเนียมบนเครื่องบินด้วยวัสดุใหม่นี้สามารถประหยัดน้ำมันได้ 80 ลิตรต่อปีสำหรับทุกกิโลกรัมของวัสดุที่ถูกแทนที่ การวิจัยนี้เป็นการรวมเอาวิทยาศาสตร์วัสดุ การเรียนรู้ของเครื่อง เคมี และกลศาสตร์เข้าด้วยกัน โดยมีการร่วมมือกับพันธมิตรระหว่างประเทศจากสถาบันเทคโนโลยีคาร์ลสรูเฮในเยอรมนี MIT และมหาวิทยาลัยไรซ์ ขั้นตอนต่อไปคือการปรับปรุงการขยายขนาดของการออกแบบวัสดุเหล่านี้ และสำรวจเมทริกซ์ใหม่ๆ ที่สามารถลดความหนาแน่นของวัสดุในขณะที่ยังคงความแข็งแรงและความแข็งแกร่งสูง https://www.techspot.com/news/106610-researchers-used-ai-build-groundbreaking-nanomaterials-lighter-stronger.htmlWWW.TECHSPOT.COMResearchers used AI to build groundbreaking nanomaterials lighter and stronger than titaniumThe research team, led by Professor Tobin Filleter, has engineered nanomaterials that offer unprecedented strength, weight, and customizability. These materials are composed of tiny building blocks, or...0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว - WALL CUTTERWALL CUTTER0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 4 0 รีวิว
- มีการเปิดตัวระบบการเก็บข้อมูลถาวรโครงการใหม่ของ PyPI (Python Package Index) ที่เรียกว่า 'Project Archival' ซึ่งช่วยให้ผู้เผยแพร่สามารถเก็บโครงการของตนได้ โดยจะแสดงคำเตือนให้ผู้ใช้ทราบว่าโครงการนั้นจะไม่มีการอัปเดตอีกต่อไป ผู้ใช้ยังคงสามารถดาวน์โหลดโครงการเหล่านี้ได้ แต่จะเห็นคำเตือนเกี่ยวกับสถานะการบำรุงรักษา เพื่อช่วยให้พวกเขาตัดสินใจเกี่ยวกับการพึ่งพาโครงการเหล่านี้ได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้น
ระบบใหม่นี้มีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยของห่วงโซ่อุปทาน เนื่องจากการแฮ็กบัญชีนักพัฒนาและการอัปเดตโครงการที่ถูกทิ้งร้างด้วยโค้ดที่เป็นอันตรายเป็นสถานการณ์ที่พบได้บ่อยในพื้นที่โอเพ่นซอร์ส นอกจากนี้ยังช่วยลดคำขอการสนับสนุนจากผู้ใช้โดยการสื่อสารสถานะของโครงการอย่างชัดเจน
วิธีการทำงานของการเก็บโครงการถาวรคือ ผู้ดูแลโครงการสามารถทำเครื่องหมายโครงการของตนว่าเก็บถาวรได้ เพื่อส่งสัญญาณให้ผู้ใช้ทราบว่าจะไม่มีการอัปเดต แก้ไข หรือบำรุงรักษาอีกต่อไป PyPI แนะนำให้ผู้ดูแลปล่อยเวอร์ชันสุดท้ายก่อนที่จะเก็บถาวรโครงการเพื่อรวมรายละเอียดและคำอธิบายเกี่ยวกับเหตุผลเบื้องหลังการเก็บถาวรโครงการ แม้ว่าจะไม่จำเป็นต้องทำก็ตาม
ระบบใหม่นี้ใช้โมเดล LifecycleStatus ซึ่งพัฒนาขึ้นสำหรับการกักกันโครงการ ซึ่งรวมถึงกลไกของสถานะที่ช่วยให้สามารถเปลี่ยนสถานะต่างๆ ได้ เมื่อเจ้าของโครงการคลิกที่ตัวเลือก 'Archive Project' ในหน้าการตั้งค่า PyPI แพลตฟอร์มจะอัปเดตเมตาดาต้าโดยอัตโนมัติเพื่อสะท้อนสถานะใหม่
การเก็บถาวรของโครงการช่วยให้ผู้ใช้ทราบว่าควรมองหาการพึ่งพาทางเลือกที่มีการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องแทนที่จะพึ่งพาโครงการที่ล้าสมัยและอาจไม่ปลอดภัย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการโจมตีที่มุ่งเป้าไปที่แพ็คเกจที่ถูกทิ้งร้างและการใส่โค้ดที่เป็นอันตรายผ่านการอัปเดต
โดยรวมแล้ว ระบบการเก็บโครงการแบบถาวรใหม่นี้จะช่วยปรับปรุงความโปร่งใสในการบำรุงรักษาโครงการโอเพ่นซอร์ส และให้สัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานะของโครงการ
https://www.bleepingcomputer.com/news/security/pypi-adds-project-archiving-system-to-stop-malicious-updates/มีการเปิดตัวระบบการเก็บข้อมูลถาวรโครงการใหม่ของ PyPI (Python Package Index) ที่เรียกว่า 'Project Archival' ซึ่งช่วยให้ผู้เผยแพร่สามารถเก็บโครงการของตนได้ โดยจะแสดงคำเตือนให้ผู้ใช้ทราบว่าโครงการนั้นจะไม่มีการอัปเดตอีกต่อไป ผู้ใช้ยังคงสามารถดาวน์โหลดโครงการเหล่านี้ได้ แต่จะเห็นคำเตือนเกี่ยวกับสถานะการบำรุงรักษา เพื่อช่วยให้พวกเขาตัดสินใจเกี่ยวกับการพึ่งพาโครงการเหล่านี้ได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้น ระบบใหม่นี้มีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยของห่วงโซ่อุปทาน เนื่องจากการแฮ็กบัญชีนักพัฒนาและการอัปเดตโครงการที่ถูกทิ้งร้างด้วยโค้ดที่เป็นอันตรายเป็นสถานการณ์ที่พบได้บ่อยในพื้นที่โอเพ่นซอร์ส นอกจากนี้ยังช่วยลดคำขอการสนับสนุนจากผู้ใช้โดยการสื่อสารสถานะของโครงการอย่างชัดเจน วิธีการทำงานของการเก็บโครงการถาวรคือ ผู้ดูแลโครงการสามารถทำเครื่องหมายโครงการของตนว่าเก็บถาวรได้ เพื่อส่งสัญญาณให้ผู้ใช้ทราบว่าจะไม่มีการอัปเดต แก้ไข หรือบำรุงรักษาอีกต่อไป PyPI แนะนำให้ผู้ดูแลปล่อยเวอร์ชันสุดท้ายก่อนที่จะเก็บถาวรโครงการเพื่อรวมรายละเอียดและคำอธิบายเกี่ยวกับเหตุผลเบื้องหลังการเก็บถาวรโครงการ แม้ว่าจะไม่จำเป็นต้องทำก็ตาม ระบบใหม่นี้ใช้โมเดล LifecycleStatus ซึ่งพัฒนาขึ้นสำหรับการกักกันโครงการ ซึ่งรวมถึงกลไกของสถานะที่ช่วยให้สามารถเปลี่ยนสถานะต่างๆ ได้ เมื่อเจ้าของโครงการคลิกที่ตัวเลือก 'Archive Project' ในหน้าการตั้งค่า PyPI แพลตฟอร์มจะอัปเดตเมตาดาต้าโดยอัตโนมัติเพื่อสะท้อนสถานะใหม่ การเก็บถาวรของโครงการช่วยให้ผู้ใช้ทราบว่าควรมองหาการพึ่งพาทางเลือกที่มีการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องแทนที่จะพึ่งพาโครงการที่ล้าสมัยและอาจไม่ปลอดภัย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการโจมตีที่มุ่งเป้าไปที่แพ็คเกจที่ถูกทิ้งร้างและการใส่โค้ดที่เป็นอันตรายผ่านการอัปเดต โดยรวมแล้ว ระบบการเก็บโครงการแบบถาวรใหม่นี้จะช่วยปรับปรุงความโปร่งใสในการบำรุงรักษาโครงการโอเพ่นซอร์ส และให้สัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานะของโครงการ https://www.bleepingcomputer.com/news/security/pypi-adds-project-archiving-system-to-stop-malicious-updates/WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COMPyPI adds project archiving system to stop malicious updatesThe Python Package Index (PyPI) has announced the introduction of 'Project Archival,' a new system that allows publishers to archive their projects, indicating to the users that no updates are to be expected.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว - Verbatim และ I-O Data ได้ให้คำมั่นว่าจะยังคงสนับสนุนตลาดสื่อบันทึกข้อมูลแบบออปติคอล หลังจากที่ Sony Japan ประกาศถอนตัวจากตลาด Blu-ray ที่สามารถบันทึกได้ Verbatim ได้ออกแถลงการณ์บนเว็บไซต์ภาษาญี่ปุ่นของตนว่า จะตอบสนองความไว้วางใจของลูกค้าผ่านการจัดหาดิสก์ออปติคอลอย่างต่อเนื่องในตลาดญี่ปุ่น และยังคงขายต่อไป
การประกาศนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Sony ประกาศปิดโรงงานผลิตสื่อบันทึกข้อมูลในญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึง Blu-ray, MiniDiscs และ MiniDV cassettes ที่สามารถบันทึกได้ โรงงานสุดท้ายของ Sony ในญี่ปุ่นจะปิดตัวลงในเดือนนี้ และได้หยุดจัดหาสื่อบันทึก Blu-ray ให้กับผู้บริโภคตั้งแต่ฤดูร้อนที่ผ่านมา
Verbatim ย้ำว่าการจัดหาสื่อบันทึกข้อมูลคุณภาพสูงให้กับลูกค้าชาวญี่ปุ่นเป็น "สิ่งสำคัญอันดับต้น" และจะยังคงให้บริการสื่อบันทึกข้อมูลเหล่านี้ต่อไป แม้ว่าตลาดจะอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
นอกจากนี้ Verbatim ยังได้เปิดตัวฮาร์ดแวร์การอ่าน/เขียนดิสก์ออปติคอลใหม่ เช่น Slimline Blu-ray Writer ที่งาน CES 2025 ซึ่งเป็นเครื่องเขียน 4K ที่สามารถเล่น Ultra HD Blu-ray และใช้พลังงานจากสาย USB
https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/verbatim-pledges-stable-supply-of-optical-disks-after-sony-japans-recordable-blu-ray-exitVerbatim และ I-O Data ได้ให้คำมั่นว่าจะยังคงสนับสนุนตลาดสื่อบันทึกข้อมูลแบบออปติคอล หลังจากที่ Sony Japan ประกาศถอนตัวจากตลาด Blu-ray ที่สามารถบันทึกได้ Verbatim ได้ออกแถลงการณ์บนเว็บไซต์ภาษาญี่ปุ่นของตนว่า จะตอบสนองความไว้วางใจของลูกค้าผ่านการจัดหาดิสก์ออปติคอลอย่างต่อเนื่องในตลาดญี่ปุ่น และยังคงขายต่อไป การประกาศนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Sony ประกาศปิดโรงงานผลิตสื่อบันทึกข้อมูลในญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึง Blu-ray, MiniDiscs และ MiniDV cassettes ที่สามารถบันทึกได้ โรงงานสุดท้ายของ Sony ในญี่ปุ่นจะปิดตัวลงในเดือนนี้ และได้หยุดจัดหาสื่อบันทึก Blu-ray ให้กับผู้บริโภคตั้งแต่ฤดูร้อนที่ผ่านมา Verbatim ย้ำว่าการจัดหาสื่อบันทึกข้อมูลคุณภาพสูงให้กับลูกค้าชาวญี่ปุ่นเป็น "สิ่งสำคัญอันดับต้น" และจะยังคงให้บริการสื่อบันทึกข้อมูลเหล่านี้ต่อไป แม้ว่าตลาดจะอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ นอกจากนี้ Verbatim ยังได้เปิดตัวฮาร์ดแวร์การอ่าน/เขียนดิสก์ออปติคอลใหม่ เช่น Slimline Blu-ray Writer ที่งาน CES 2025 ซึ่งเป็นเครื่องเขียน 4K ที่สามารถเล่น Ultra HD Blu-ray และใช้พลังงานจากสาย USB https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/verbatim-pledges-stable-supply-of-optical-disks-after-sony-japans-recordable-blu-ray-exitWWW.TOMSHARDWARE.COMVerbatim pledges 'stable supply of optical disks' after Sony Japan's recordable Blu-ray exitSays it will continue to supply recordable Blu-ray, DVD, and CDs to the Japan market.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว - บทความนี้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับการ์ดจอ Nvidia RTX 3090 ที่ถูกส่งไปซ่อมที่ NorthridgeFix โดยการ์ดจอนี้มีปัญหาไม่สามารถตรวจจับได้เมื่อเชื่อมต่อกับระบบพีซี เจ้าของการ์ดจอได้แนบโน้ตมาด้วยว่า การ์ดจอนี้ไม่ได้ใช้ในการขุดเหมืองคริปโตเคอเรนซี และถูกเก็บไว้ในที่เก็บเป็นเวลาหลายปี
อย่างไรก็ตาม เมื่อ Alex จาก NorthridgeFix ตรวจสอบการ์ดจอ พบว่าการ์ดจอนี้มีปัญหามากกว่าที่คาดไว้ โดย GPU และชิปหน่วยความจำทั้งหมดหายไป และมีส่วนประกอบอื่นๆ ที่ถูกกระแทกออกไป ทำให้การ์ดจอนี้ไม่สามารถซ่อมแซมได้
Alex คาดว่าลูกค้าน่าจะซื้อการ์ดจอนี้จากผู้ขายที่หลอกลวง โดยผู้ขายอ้างว่าการ์ดจอนี้ถูกใช้ในพีซีสำหรับเล่นเกมและไม่เคยใช้ในการขุดเหมืองคริปโตเคอเรนซี แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับการ์ดจอนี้มากกว่าที่การขุดเหมืองคริปโตเคอเรนซีจะทำได้
บทเรียนที่สำคัญจากเหตุการณ์นี้คือ ผู้ซื้อควรระมัดระวังในการซื้อคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบที่ใช้แล้ว โดยควรเลือกแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เชื่อถือได้และมีนโยบายการคืนสินค้าที่ดี หากเป็นไปได้ ควรซื้อและทดสอบสินค้าด้วยตนเองเพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าอยู่ในสภาพดี
https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-rtx-3090-sent-in-to-repairer-was-missing-the-gpu-and-all-its-memory-chipsบทความนี้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับการ์ดจอ Nvidia RTX 3090 ที่ถูกส่งไปซ่อมที่ NorthridgeFix โดยการ์ดจอนี้มีปัญหาไม่สามารถตรวจจับได้เมื่อเชื่อมต่อกับระบบพีซี เจ้าของการ์ดจอได้แนบโน้ตมาด้วยว่า การ์ดจอนี้ไม่ได้ใช้ในการขุดเหมืองคริปโตเคอเรนซี และถูกเก็บไว้ในที่เก็บเป็นเวลาหลายปี อย่างไรก็ตาม เมื่อ Alex จาก NorthridgeFix ตรวจสอบการ์ดจอ พบว่าการ์ดจอนี้มีปัญหามากกว่าที่คาดไว้ โดย GPU และชิปหน่วยความจำทั้งหมดหายไป และมีส่วนประกอบอื่นๆ ที่ถูกกระแทกออกไป ทำให้การ์ดจอนี้ไม่สามารถซ่อมแซมได้ Alex คาดว่าลูกค้าน่าจะซื้อการ์ดจอนี้จากผู้ขายที่หลอกลวง โดยผู้ขายอ้างว่าการ์ดจอนี้ถูกใช้ในพีซีสำหรับเล่นเกมและไม่เคยใช้ในการขุดเหมืองคริปโตเคอเรนซี แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับการ์ดจอนี้มากกว่าที่การขุดเหมืองคริปโตเคอเรนซีจะทำได้ บทเรียนที่สำคัญจากเหตุการณ์นี้คือ ผู้ซื้อควรระมัดระวังในการซื้อคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบที่ใช้แล้ว โดยควรเลือกแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เชื่อถือได้และมีนโยบายการคืนสินค้าที่ดี หากเป็นไปได้ ควรซื้อและทดสอบสินค้าด้วยตนเองเพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าอยู่ในสภาพดี https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-rtx-3090-sent-in-to-repairer-was-missing-the-gpu-and-all-its-memory-chipsWWW.TOMSHARDWARE.COMNvidia RTX 3090 sent in to repairer was missing the GPU and all its memory chipsThe customer pleaded that 'it wasn't used for mining.'0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว - Intel ประกาศว่าเทคโนโลยี XeSS (Xe Super Sampling) ของตนได้รับการสนับสนุนในเกมมากกว่า 150 เกมแล้ว ซึ่งเป็นการเติบโตที่น่าประทับใจจาก 105 เกมในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา XeSS เป็นเทคโนโลยีการอัปสเกลภาพที่ช่วยให้เกมสามารถแสดงผลที่ความละเอียดและเฟรมเรตสูงขึ้น โดยเฉพาะในระบบที่มีสเปกต่ำถึงกลาง
เกมที่เพิ่มการสนับสนุน XeSS ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ได้แก่ Final Fantasy XVI, Black Myth: Wukong, Spider-Man 2 และ God of War: Ragnarok นอกจากนี้ยังมีเกมเก่าๆ ที่ได้รับการอัปเดตให้รองรับ XeSS เช่น Fortnite, Call of Duty Modern Warfare II และ III, Tekken 8 และ The Finals
อย่างไรก็ตาม การสนับสนุน XeSS 2.0 ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่มีการสร้างเฟรมด้วย AI ยังมีน้อยมาก โดยมีเพียงเกม Marvel Rivals และ F1 2024 ที่รองรับ XeSS 2.0 แต่เกมใหม่ๆ เช่น Assassin's Creed Shadows และ Civilization VII จะเปิดตัวพร้อมกับฟีเจอร์นี้
สำหรับผู้ใช้ Intel ที่ต้องการการอัปสเกลภาพในเกมที่ไม่รองรับ XeSS, AMD ได้ทำให้ FSR (FidelityFX Super Resolution) ของตนสามารถใช้งานร่วมกับสถาปัตยกรรม GPU ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ Intel สามารถใช้ FSR เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแสดงผลได้
โดยรวมแล้ว การที่ Intel ยังคงพัฒนาและขยายการสนับสนุน XeSS เป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีขึ้น และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Intel ในการแข่งขันกับเทคโนโลยีของ AMD และ Nvidia
https://www.tomshardware.com/pc-components/gpu-drivers/intel-heralds-xess-passing-the-150-games-milestone-but-only-two-titles-support-xess-2-0Intel ประกาศว่าเทคโนโลยี XeSS (Xe Super Sampling) ของตนได้รับการสนับสนุนในเกมมากกว่า 150 เกมแล้ว ซึ่งเป็นการเติบโตที่น่าประทับใจจาก 105 เกมในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา XeSS เป็นเทคโนโลยีการอัปสเกลภาพที่ช่วยให้เกมสามารถแสดงผลที่ความละเอียดและเฟรมเรตสูงขึ้น โดยเฉพาะในระบบที่มีสเปกต่ำถึงกลาง เกมที่เพิ่มการสนับสนุน XeSS ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ได้แก่ Final Fantasy XVI, Black Myth: Wukong, Spider-Man 2 และ God of War: Ragnarok นอกจากนี้ยังมีเกมเก่าๆ ที่ได้รับการอัปเดตให้รองรับ XeSS เช่น Fortnite, Call of Duty Modern Warfare II และ III, Tekken 8 และ The Finals อย่างไรก็ตาม การสนับสนุน XeSS 2.0 ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่มีการสร้างเฟรมด้วย AI ยังมีน้อยมาก โดยมีเพียงเกม Marvel Rivals และ F1 2024 ที่รองรับ XeSS 2.0 แต่เกมใหม่ๆ เช่น Assassin's Creed Shadows และ Civilization VII จะเปิดตัวพร้อมกับฟีเจอร์นี้ สำหรับผู้ใช้ Intel ที่ต้องการการอัปสเกลภาพในเกมที่ไม่รองรับ XeSS, AMD ได้ทำให้ FSR (FidelityFX Super Resolution) ของตนสามารถใช้งานร่วมกับสถาปัตยกรรม GPU ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ Intel สามารถใช้ FSR เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแสดงผลได้ โดยรวมแล้ว การที่ Intel ยังคงพัฒนาและขยายการสนับสนุน XeSS เป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีขึ้น และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Intel ในการแข่งขันกับเทคโนโลยีของ AMD และ Nvidia https://www.tomshardware.com/pc-components/gpu-drivers/intel-heralds-xess-passing-the-150-games-milestone-but-only-two-titles-support-xess-2-0WWW.TOMSHARDWARE.COMIntel heralds XeSS passing the 150 games milestone, but only two titles support XeSS 2.0Intel's DLSS/FSR competitor is looking quite healthy.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว - สนธิเล่าเรื่อง 3-2-68
.
เช้าวันจันทร์ วันนี้ คุณสนธิจะมาพูดถึงรากเหง้าปัญหาจีนเทา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ตั้งฐานใหญ่อยู่บริเวณเมียวดี ประเทศพม่า ฝั่งตรงข้ามกับจังหวัดตากของไทย ซึ่งในที่สุดจีนก็ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่าง "นายหลิว จงอี้" ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ และผู้บัญชาการหน่วยสอบสวนทางอาญา มาจัดการด้วยตัวเอง จนเป็นที่มาของวาทะซึ่งมีการส่งต่อกันไปทั่วว่า “ทำไมท่านไม่ดูแลบ้านเมืองของท่านบ้างเลย?” , นอกจากนี้ยังมีการอัพเดตเรื่องความคืบหน้าคดีฉ้อโกงระหว่าง "ทนายตั้ม-มาดามอ้อย" รวมไปถึงเรื่องสัพเพเหระต่างๆ รับรองว่าสนุกสนานแน่นอน
.
คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=F805q56OSTk
.
#สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #จีนเทา #ไทยเทาสนธิเล่าเรื่อง 3-2-68 . เช้าวันจันทร์ วันนี้ คุณสนธิจะมาพูดถึงรากเหง้าปัญหาจีนเทา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ตั้งฐานใหญ่อยู่บริเวณเมียวดี ประเทศพม่า ฝั่งตรงข้ามกับจังหวัดตากของไทย ซึ่งในที่สุดจีนก็ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่าง "นายหลิว จงอี้" ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ และผู้บัญชาการหน่วยสอบสวนทางอาญา มาจัดการด้วยตัวเอง จนเป็นที่มาของวาทะซึ่งมีการส่งต่อกันไปทั่วว่า “ทำไมท่านไม่ดูแลบ้านเมืองของท่านบ้างเลย?” , นอกจากนี้ยังมีการอัพเดตเรื่องความคืบหน้าคดีฉ้อโกงระหว่าง "ทนายตั้ม-มาดามอ้อย" รวมไปถึงเรื่องสัพเพเหระต่างๆ รับรองว่าสนุกสนานแน่นอน . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=F805q56OSTk . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #จีนเทา #ไทยเทา - ลิฟท์ยกของมือหมุนลิฟท์ยกของมือหมุน0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 4 0 รีวิว
- สนธิเล่าเรื่อง 3-2-68
วันนี้ คุณสนธิจะมาพูดถึงรากเหง้าปัญหาจีนเทา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ตั้งฐานใหญ่อยู่บริเวณเมียวดี ประเทศพม่า ซึ่งในที่สุดจีนก็ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่าง มาจัดการด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังมีการอัพเดตเรื่องความคืบหน้าคดีฉ้อโกงระหว่าง "ทนายตั้ม-มาดามอ้อย" รวมไปถึงเรื่องสัพเพเหระต่างๆ รับรองว่าสนุกสนานแน่นอน
https://www.youtube.com/watch?v=F805q56OSTk
#สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #จีนเทา #ไทยเทาสนธิเล่าเรื่อง 3-2-68 วันนี้ คุณสนธิจะมาพูดถึงรากเหง้าปัญหาจีนเทา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ตั้งฐานใหญ่อยู่บริเวณเมียวดี ประเทศพม่า ซึ่งในที่สุดจีนก็ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่าง มาจัดการด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังมีการอัพเดตเรื่องความคืบหน้าคดีฉ้อโกงระหว่าง "ทนายตั้ม-มาดามอ้อย" รวมไปถึงเรื่องสัพเพเหระต่างๆ รับรองว่าสนุกสนานแน่นอน https://www.youtube.com/watch?v=F805q56OSTk #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #จีนเทา #ไทยเทา - Canon อาจจะกลับเข้าสู่ตลาดกล้องคอมแพคอีกครั้งด้วยการเปิดตัว Powershot V1 ซึ่งเป็นการอัปเกรดจากรุ่น Powershot G7 X III ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2019. Canon คาดว่าจะประกาศเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่นี้ในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมปีนี้ โดยมีราคาประมาณ $600-800
กล้อง Powershot V1 คาดว่าจะมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ CMOS ขนาด 24MP ที่มีขนาดใกล้เคียงกับ Micro Four Thirds และเลนส์ซูมออปติคอล 3 เท่า (ประมาณ 16-50 มม.) นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายวิดีโอ 4K พร้อมกับโปรไฟล์สี Canon's C-Log3 และ HDR PQ หน้าจอของกล้องคาดว่าจะมีขนาด 3 นิ้ว แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นหน้าจอแบบคงที่, เอียงได้ หรือแบบ vari-angle
การกลับมาของกล้องคอมแพคในตลาดนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เนื่องจากสมาร์ทโฟนได้เข้ามาแทนที่ตลาดนี้ไปนานแล้ว. อย่างไรก็ตาม กล้องคอมแพคยังคงมีคุณภาพที่ดีและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการกล้องที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่เหมาะสม
นอกจากนี้ Canon ยังได้เปิดตัวกล้อง Powershot V10 สำหรับการถ่ายวิดีโอในปี 2023 และแสดงแนวคิดกล้อง Powershot ที่มีความสามารถในการถ่ายภาพ 360 องศาและ VR การเปิดตัว Powershot V1 จะเป็นการเริ่มต้นใหม่สำหรับกล้องคอมแพคของ Canon และคาดว่าจะได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ใช้
การกลับมาของกล้องคอมแพคในตลาดนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เนื่องจากสมาร์ทโฟนได้เข้ามาแทนที่ตลาดนี้ไปนานแล้ว อย่างไรก็ตาม กล้องคอมแพคยังคงมีคุณภาพที่ดีและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการกล้องที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่เหมาะสม
https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/canon-compact-cameras-tipped-for-a-big-return-with-rumored-powershot-v1-and-i-think-thats-canons-most-exciting-play-for-2025Canon อาจจะกลับเข้าสู่ตลาดกล้องคอมแพคอีกครั้งด้วยการเปิดตัว Powershot V1 ซึ่งเป็นการอัปเกรดจากรุ่น Powershot G7 X III ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2019. Canon คาดว่าจะประกาศเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่นี้ในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมปีนี้ โดยมีราคาประมาณ $600-800 กล้อง Powershot V1 คาดว่าจะมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ CMOS ขนาด 24MP ที่มีขนาดใกล้เคียงกับ Micro Four Thirds และเลนส์ซูมออปติคอล 3 เท่า (ประมาณ 16-50 มม.) นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายวิดีโอ 4K พร้อมกับโปรไฟล์สี Canon's C-Log3 และ HDR PQ หน้าจอของกล้องคาดว่าจะมีขนาด 3 นิ้ว แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นหน้าจอแบบคงที่, เอียงได้ หรือแบบ vari-angle การกลับมาของกล้องคอมแพคในตลาดนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เนื่องจากสมาร์ทโฟนได้เข้ามาแทนที่ตลาดนี้ไปนานแล้ว. อย่างไรก็ตาม กล้องคอมแพคยังคงมีคุณภาพที่ดีและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการกล้องที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่เหมาะสม นอกจากนี้ Canon ยังได้เปิดตัวกล้อง Powershot V10 สำหรับการถ่ายวิดีโอในปี 2023 และแสดงแนวคิดกล้อง Powershot ที่มีความสามารถในการถ่ายภาพ 360 องศาและ VR การเปิดตัว Powershot V1 จะเป็นการเริ่มต้นใหม่สำหรับกล้องคอมแพคของ Canon และคาดว่าจะได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ใช้ การกลับมาของกล้องคอมแพคในตลาดนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เนื่องจากสมาร์ทโฟนได้เข้ามาแทนที่ตลาดนี้ไปนานแล้ว อย่างไรก็ตาม กล้องคอมแพคยังคงมีคุณภาพที่ดีและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการกล้องที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่เหมาะสม https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/canon-compact-cameras-tipped-for-a-big-return-with-rumored-powershot-v1-and-i-think-thats-canons-most-exciting-play-for-20250 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว - World Military and Political (การทหารและการเมืองโลก) เพิ่มวิดีโอแล้ว ข่าวและการเมืองการให้สัมภาษณ์ของเซเลนสกี เกี่ยวกับจำนวนเงินที่เขาได้รับเพียงเจ็ดหมื่นล้าน กำลังกลายเป็นประเด็นใหญ่ในอเมริกา สื่อได้หยิบเรื่องนี้มาขยาย
"จะเกิดอะไรขึ้นหากเงินภาษีของประชาชนสหรัฐ 58% ที่ส่งไปให้เซเลนสกีไม่เคยไปถึงยูเครนด้วยซ้ำ เงินเหล่านั้นไปไหนหมด ซีไอเอตัดเงินทิ้งไปหรือไม่ เจ้าหน้าที่และนายพลของยูเครนนำเงินออกไปใช้ประโยชน์ส่วนตนหรือไม่ ผู้มีอิทธิพลบางคนมีการรับส่วนแบ่งจากเงินจำนวนนี้หรือไม่
หากคำกล่าวอ้างของเซเลนสกีเป็นจริง ว่าเขาได้รับเพียง 75,000 ล้านเหรียญจากเงิน 177,000 ล้านเหรียญที่วอชิงตันส่งไปให้ จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เราจะทำเป็นไม่สนใจต่อไป หรือเราควรจะเรียกร้องคำตอบและความรับผิดชอบ?"การให้สัมภาษณ์ของเซเลนสกี เกี่ยวกับจำนวนเงินที่เขาได้รับเพียงเจ็ดหมื่นล้าน กำลังกลายเป็นประเด็นใหญ่ในอเมริกา สื่อได้หยิบเรื่องนี้มาขยาย "จะเกิดอะไรขึ้นหากเงินภาษีของประชาชนสหรัฐ 58% ที่ส่งไปให้เซเลนสกีไม่เคยไปถึงยูเครนด้วยซ้ำ เงินเหล่านั้นไปไหนหมด ซีไอเอตัดเงินทิ้งไปหรือไม่ เจ้าหน้าที่และนายพลของยูเครนนำเงินออกไปใช้ประโยชน์ส่วนตนหรือไม่ ผู้มีอิทธิพลบางคนมีการรับส่วนแบ่งจากเงินจำนวนนี้หรือไม่ หากคำกล่าวอ้างของเซเลนสกีเป็นจริง ว่าเขาได้รับเพียง 75,000 ล้านเหรียญจากเงิน 177,000 ล้านเหรียญที่วอชิงตันส่งไปให้ จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เราจะทำเป็นไม่สนใจต่อไป หรือเราควรจะเรียกร้องคำตอบและความรับผิดชอบ?"0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 19 0 รีวิว