• 0 Comments 0 Shares 8 Views 0 Reviews
  • Love
    1
    0 Comments 0 Shares 19 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 9 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 5 Views 0 Reviews
  • ติ่งขา….เส้นทางของพี่ปูไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบนะคะ คราวนี้เจอหนามเพียบเลยค่าาาา….

    ตอนสิบเอ็ด.……ผู้นำหน้าใหม่……ที่แทบม้วยเพราะพิษสื่อ…!!!!!

    หลังจากที่พิธีเข้ารับการสาบานตนรับตำแหน่งที่สมเกียรติได้ผ่านไป ปูตินต้องจัดระเบียบครอบครัวใหม่ มาชาและแคทยา
    ธิดาทั้งสอง เข้าเรียนภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส นอกเหนือไปจากเยอรมันที่ใช้เป็นภาษาที่สอง ลุดมิลาลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่ที่ Telekominvest
    อาคันตุกะรายแรกที่มาเยี่ยมประธานาธิบดีคนใหม่ คือ Tony Blair นายกรัฐมนตรีจากอังกฤษ
    ที่ลุดมิลาได้ทำหน้าที่ของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งได้อย่างเต็มภาคภูมิ

    ในส่วนของการแสดงทรัพย์สิน…ปูตินมีอสังหาริมทรัพย์สามแห่ง แห่งหนึ่งคือบ้านพักตามอากาศที่เพิ่งซ่อมเสร็จจากไฟไหม้
    และอีกสองแห่งที่รับมาจากพ่อแม่เขา และ พ่อตา
    เงินในธนาคาร มีอยู่ประมาณ 13,000 ดอลล่าร์ ที่นับว่าพอประมาณ แต่ไม่ใช่ขั้นเศรษฐี

    ด้านบุคลากร ปูตินได้นำเพื่อนฝูง และเพื่อนร่วมงานจากเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก เข้ามาทั้งทีม เช่น Dmitri Medvedev (ต่อมาคือนายกรัฐมนตรี) Aleksei Kudrin (ต่อมาคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง)
    รวมไปถึงทีมจาก FSB
    กลุ่มนี้ เป็นที่รู้จักกันว่า คณะปีเตอร์สเบอร์ก ที่เริ่มจะไม่กินเส้นกับกลุ่มมอสโคว์
    ปูติน……ไม่ไว้ใจกลุ่มมอสโคว์ เพราะพวกนี้ต่างมีที่มาที่ไปไม่ชัดเจน ส่วนใหญ่จะมีธุรกิจแอบแฝงในเบื้องหลัง อีกทั้งมีความสนิทสนมกับกลุ่มทุน
    ส่วนกลุ่มข้าเก่าเต่าเลี้ยงของเยลซิน……เขายังเก็บไว้บางคน เช่น Alexandr Voloshin และ Anatoly Chubais
    ปูตินพูดเสมอว่า “ผมมีเพื่อนเยอะแยะ แต่ที่สนิทจริงๆมีไม่กี่คน
    กลุ่มนี้จะไม่ทิ้งผมไปไหน และผมก็จะไม่ทิ้งเขาเช่นกัน”

    นายกรัฐมนตรีที่เขาเลือก คือ Mikhail Kasyanov

    ทางด้านเศรษฐกิจ……ปูตินปรับระบบภาษี คือ 13% สำหรับประชาชนทั่วไป และ 24% จากธุรกิจห้างร้าน ลดจากเมื่อก่อนที่เคยเก็บ 35% ที่เก็บไม่ค่อยได้เพราะคนเลี่ยงจ่าย
    แต่นโยบายใหม่นี้ ……จะเก็บถึงที่ และเก็บทุกราย
    เริ่มต้นในเดือนมกราคม 2002
    นอกจากนั้น คือการชำระสะสางการใช้จ่ายของรัฐบาล
    กำจัดพวกที่อิงผลประโยชน์ และ สั่งให้กลุ่มจากตะวันตกจัดระเบียบใหม่ในเรื่องค่าแรง
    ในรัฐบาลชองปูตินเป็นผสมผสานระหว่าง ประชาธิปไตยสมัยใหม่กับระบบโซเวียต ที่ขึ้นอยู่กับปูตินว่าเขาจะเอาส่วนไหนมาใช้

    วันที่ 11 พฤษภาคม สี่วันหลังจากที่เขาได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีหมาดๆ งานเก็บกวาดได้เริ่มขึ้น นั่นคือ
    กลุ่ม FSB ได้บุกเข้าไปค้นสำนักพิมพ์ Media-Most
    ต้อนพนักงานทั้งหมดไปรวมตัวกันที่ห้องอาหาร
    เหล่าเจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดเอาเอกสาร เครื่องคอมพิวเตอร์
    และ…ปืนพก(แบบสั่งทำขึ้น ประเภทสวยงาม สำหรับสะสม)
    ที่เป็นของ Vladimir Gusinsky เจ้าของและบรรณาธิการ
    นายกัสซินสกี้ เป็นเจ้าของช่องโทรทัศน์ NTV ซึ่งเป็นช่องเอกชนรายแรกของรัสเซีย
    ไม่ว่าจะเป็นสิ่งพิมพ์ หรือ ช่องทีวี ทั้งสองรายการคือ ไม่โปรปูติน แถมยังทำการ์ตูนล้อเลียน เช่นลักษณะหูกาง ตาโรย ที่ใครๆก็รู้ว่า นั่นคือปูติน
    ที่เขาล้อเลียนหนักข้อเข้าทุกที
    นอกจากเข้าค้นสำนักงานแล้ว หน่วยเก็บภาษีได้ทำการตรวจย้อนหลังสมทบอีก
    FSB ได้ทำการยึดปืนพกกระบอกนั้นไป และ กัสซินสกี้ได้ตกเป็นผู้ต้องหา

    ในช่วงที่เกิดขึ้นเป็นเวลาเดียวกันกับที่ ประธานาธิบดี บิล คลินตัน ได้มาเยี่ยมเยียนเป็นอาคันตุกะพอดี คลินตันได้พยายาม
    ถามถึงเรื่องคดีนี้ (กัสซินสกี้เป็นมหาเศรษฐียิว ที่มีธุรกิจอยู่ในอเมริกาด้วยเช่นกัน)
    แต่ปูตินได้อ้างว่า เขาไม่ทราบเรื่องเพราะในช่วงที่เกิดขึ้น เขาอยู่ที่สเปน

    สาเหตุที่บิล คลินตันไปรัสเซีย คือเรื่องการเจรจาถอยคนละก้าวในเรื่องของนิวเคลียร์ที่ต้องจำกัดจำนวนให้น้อยที่สุด
    แต่ไม่ได้ผลอะไรกับปูติน เพราะมันเป็นการใส่หน้ากากเข้าหากัน เพราะความขัดแย้งในพื้นที่รอบรัสเซียที่งัดกันอยู่ ก็เพราะอเมริกาสนับสนุนอยู่อย่างลับๆ……ใครๆก็รู้
    หลังจากที่คลินตันกลับไป เก้าวันต่อมา……กัสซินสกี้ก็ถูกจับด้วยข้อหามีปืนในครอบครองโดยไม่มีใบอนุญาต

    **กัสซินสกี้ได้มีหลายคดีตามมา จนเขาต้องขอแลกอิสรภาพด้วยการขายหุ้นทุกอย่างคืนให้กับรัฐบาล เมื่อเขาออกไปอยู่ที่สเปน ก็ได้ทำการฟ้องร้องรัฐบาลรัสเซียในเรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชน…คดียาวนานมาเป็นยี่สิบปี ในระหว่างนั้น เขาก็ยังทำธุรกิจหนังสือพิมพ์และช่องทีวีในต่างประเทศ แน่นอนว่า……
    ไม่เป็นมิตรกับรัสเซียและปูติน

    วันที่ 12 สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงของการพักร้อน พักผ่อนหย่อนใจ
    ปูตินและครอบครัวไปยังรีสอร์ตที่ Sochi ชายฝั่งทะเลดำ
    เมื่อไปถึง เขายังไม่ทันได้วางกระเป๋าเสื้อผ้า เสียงโทรศัพท์ด่วนเข้ามา ข่าวร้าย……คือ เรือดำน้ำบรรทุกนิวเคลียร์ “the Kursk”
    ได้เกิดระเบิดขึ้นในขณะที่มีการซ้อมรบที่ Barents Sea, Murmansk
    เรือดำน้ำนิวเคลียร์ เคอร์สค์ ได้สร้างขึ้นในสมัยโซเวียต มาเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี 1994 ที่นับว่าทันสมัยที่สุด สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐอเมริกา (ถ้ามีสงคราม)
    ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า เกิดอะไรขึ้น

    แต่เหตุได้เกิดขึ้นเมื่อตอนที่ปูตินเพิ่งออกจากมอสโคว์ มีการระเบิดขึ้นสองครั้ง เรือจมดิ่งลงก้นสมุทร ลูกเรือ 113 คน เสียชีวิตหมด
    เมื่อปูตินได้ทราบข่าว……ทุกอย่างก็สายไปแล้ว
    อย่างเดียวที่ทำได้ คือ ปิดข่าวไว้ก่อน แล้วส่งทีมไปค้นหา
    เขายังทำตัวปรกติ……เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่รอฟังข่าว
    อย่างใจจดใจจ่อ
    Boris Berezovsky โทรมาหาเขาจากปารีส ถามว่า
    “มาทำอะไรอยู่ในโซชิ…ทำไมไม่กลับไปที่มอสโคว์ หรือไปที่เกิดเหตุ……?”
    มาถึงตอนนี้……ปูตินเริ่มฉุน เพราะไม่ใช่หน้าที่อะไรของนายแบเรซอฟสกี้ ที่เป็นเพียงกลุ่มทุนที่อิงมาตั้งแต่สมัยกอร์บาเชฟ แต่ชอบเสนอหน้าไปทุกสิ่ง ประมาณตัวว่าเป็นนักการเมืองใหญ่ จะสั่งใครก็ได้
    ในตอนนั้น……หลายประเทศเสนอตัวมาช่วยค้นหา แต่แม่ทัพเรือปฏิเสธ เพราะเกรงว่าจะกลายเป็นสอดแนมดูพิมพ์เขียว

    จนบิล คลินตันโทรมาหาปูตินเป็นการส่วนตัว เขาจึงยอมให้มีการช่วยเหลือร่วมมือจาก ทีมอังกฤษและทีมนอร์เวย์ ที่มาช่วยกัน ในวันที่ 21
    ที่ทีมทั้งสองนี้ สามารถเปิดฝาปิดเรือดำน้ำได้ภายใน 6 ชั่วโมง
    ในขณะที่รัสเซียได้พยายามอยู่ถึงเก้าวันยังเปิดไม่ได้
    ทันทีที่ปูตินกลับถึงมอสโคว์……เสียงตำหนิ ก่นด่ามาจากทุกสารทิศ โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวของทหารผู้เสียชีวิต
    ซ้ำร้าย……สื่อตีซ้ำด้วยในเรื่องที่ประธานาธิบดีไม่ได้สนใจกับ
    เรื่องนี้ เพราะกำลังไปสนุกสนานพักร้อนริมชายหาด……
    โดยเฉพาะช่องทีวีของ Boris Berezovsky ที่เป็นฝ่ายประโคมข่าว…

    ปูตินโกรธจัด เพราะข่าวจากสายในกองทัพบอกมาว่า บอริสได้จ้างหน้าม้าที่เป็นผู้หญิงมาอ้างตัวว่าเป็นภรรยาของทหารที่ตาย มาร้องห่มร้องไห้ ด่าปูตินออกอากาศ
    บอริสได้เข้าพบกับปูติน เพื่อแก้ข้อหา พร้อมตะโดนใส่ปูตินว่า
    “นั่นเป็นเรื่องจริง…ไม่ใช่หน้าม้า……ไอ้พวกนั้นมันโกหก……!!”
    วันที่ 22 สิงหาคม……ปูตินได้ไปที่ที่เกิดเหตุ พร้อมพบปะกับเหล่าครอบครัวผู้สูญเสีย ที่อยู่ในสภาพโกรธแค้น
    เขาพยายามเยียวยาด้วยการจ่ายเงินเดือนยาวไปสิบปี
    และจัดหาที่อยู่ให้อย่างสะดวกสะบาย พร้อมสวัสดิการเต็มที่
    แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก
    เมื่อหนึ่งในนั้น……ได้ตะโกนถามเขาว่า
    “ทำไมไม่มาช่วยกู้อย่างทันที ……”
    ปูตินตอบไปอย่างตรงๆว่า……
    “เพราะเราไม่มีเครื่องมืออะไรอย่างนั้นเหลือใช้ในชาติเราไง…”

    ปูตินรู้ดีแก่ใจว่า……ไม่ใช่ความผิดของแม่ทัพเรือ (ที่โบ้ยว่าเป็นความผิดของอเมริกา ) ไม่ใช่ความผิดของหน่วยข่าวกรอง
    แต่ทุกอย่างที่มันเลวร้ายได้ขนาดนี้ เพราะ “สื่อ” ทั้งสิ่งพิมพ์ วิทยุและโทรทัศน์ล้วนๆ ที่มีอำนาจทำลายล้างได้เทียบเท่ากับกองทัพขนาดใหญ่

    วันต่อมา..ปูตินได้ออกแถลงการทางโทรทัศน์ ที่เขาถอดใจพูดออกมาว่า ประเทศชาติได้ผ่านวิกฤติมาทุกรูปแบบ ทั้งในและนอกประเทศ แต่สิ่งที่ซ้ำเติมเรา คือ กลุ่มคนที่แสวงหาผลประโยชน์จากความเดือดร้อนของชาติ โดยการให้ข่าวบิดเบือนสร้างความเจ็บช้ำ แล้วมาทำดีโดยการระดมทุนเพื่อให้ผู้เสียหาย เพื่อเอาการค้ามาอิงร่วม การระดมทุนที่อ้างว่ามีถึงล้านเหรียญ (โดยประมาณ) มันแค่เป็นเศษน้อยนิด จากสิ่งที่เขารีดไปจากเรา ไม่ว่าจะเป็นคฤหาสน์หรูที่เมดิเตอร์เรเนียน ฝั่งฝรั่งเศส และฝั่งสเปน ไปช่วยกันถามหน่อยซิ ว่าเขาเอาเงินจากที่ไหนไปซื้อ……??

    เรื่องนี้……คือการกระทบ Boris Berezovsky โดยตรง เพราะเขาเป็นคนระดมทุนที่ว่า
    จากวันนั้น……ปูตินได้ทำการรุกเอาสมบัติของชาติคืนอย่างเอาจริงเอาจัง
    ยึดหุ้น Aeroflot คืนจากบอริส ที่หนีออกนอกประเทศไป
    ก่อนหนี……เขาได้ลุกลี้ลุกลนขายหุ้นสถานีโทรทัศน์ให้กับ
    Roman Abramovich (ที่คืนให้กับรัฐบาลในต่อมา)
    ส่วนนาย Gusinsky ได้ถูกยึดหุ้นทั้งหมดของ NTV เพราะมีหนี้ติดค้างกับ Gazprom หลังจากที่หนีไปสเปน
    เท่ากับว่า……ช่องทีวีเอกชนทั้งหมดได้ไปอยู่ในความดูแลของรัฐบาลอย่างเรียบร้อย

    วันที่ 11 กันยายน…ปูตินได้เรียกประชุมนักข่าวจาก 48 สำนัก
    ให้เข้ามารับนโยบายของรัฐบาล และจะมีการให้ข่าวในเรื่องการปฎิบัติการทางทหารที่เชเชน…
    ทันทีที่จบการบันทึกภาพการประชุม ……เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้รีบเข้ามารายงานให้เขาเข้าไปดู”อะไรบางอย่าง” โดยด่วนที่หน้าจอมอนิเตอร์ทีวี
    ภาพที่เขาเห็นคือ ภาพของเหตุการณ์ 9/11 ที่นครนิวยอร์ค
    ที่เป็นฝีมือของ Al-Queda ที่มีประวัติแทรกแซงฟาดฟันกับรัสเซียในเชเชนด้วยเช่นกัน
    สิ่งแรกที่ปูตินทำ คือ เขาหันไปถาม Sergei Ivanov ว่า..
    “เราจะช่วยอะไรเขาได้บ้าง…??”
    เขาไม่ได้พูดเฉยๆ ปูตินยกหูไปหาประธานาธิบดีบุชทันที
    และได้พูดกับ นาง Condoleeza Rice (ฝ่ายความมั่นคง)
    เขาได้ยืนยันกับเธอว่า รัสเซียจะยกเลิกเรื่องการซ้อมรบทางฝั่งแปซิฟิค (ที่เพิ่งเริ่มไปเมื่อวาน) และ จะพักเรื่องการเจรจานิวเคลียร์ไปก่อน ทางอเมริกามีอะไรให้เราช่วยได้ ขอให้บอกมาได้เลย ทางเรายินดีให้ความร่วมมือเต็มที่…”

    ทันทีที่วางหูโทรศัพท์ไป.……ความรู้สึกอย่างหนึ่งได้บอกกับ
    เขาว่า………สงครามเย็นได้จบสิ้นลงแล้ว………!!!
    เพราะจากนี้ไป รัสเซียและอเมริกาจะต้องร่วมมือกัน เพราะมีศัตรูคนเดียวกัน
    คือ….กลุ่มผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ (The Terrorists) ที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า……พวกเขาเป็นใคร อยู่ที่ไหน…?!!

    Wiwanda W. Vichit
    ติ่งขา….เส้นทางของพี่ปูไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบนะคะ คราวนี้เจอหนามเพียบเลยค่าาาา…. ตอนสิบเอ็ด.……ผู้นำหน้าใหม่……ที่แทบม้วยเพราะพิษสื่อ…!!!!! หลังจากที่พิธีเข้ารับการสาบานตนรับตำแหน่งที่สมเกียรติได้ผ่านไป ปูตินต้องจัดระเบียบครอบครัวใหม่ มาชาและแคทยา ธิดาทั้งสอง เข้าเรียนภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส นอกเหนือไปจากเยอรมันที่ใช้เป็นภาษาที่สอง ลุดมิลาลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่ที่ Telekominvest อาคันตุกะรายแรกที่มาเยี่ยมประธานาธิบดีคนใหม่ คือ Tony Blair นายกรัฐมนตรีจากอังกฤษ ที่ลุดมิลาได้ทำหน้าที่ของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งได้อย่างเต็มภาคภูมิ ในส่วนของการแสดงทรัพย์สิน…ปูตินมีอสังหาริมทรัพย์สามแห่ง แห่งหนึ่งคือบ้านพักตามอากาศที่เพิ่งซ่อมเสร็จจากไฟไหม้ และอีกสองแห่งที่รับมาจากพ่อแม่เขา และ พ่อตา เงินในธนาคาร มีอยู่ประมาณ 13,000 ดอลล่าร์ ที่นับว่าพอประมาณ แต่ไม่ใช่ขั้นเศรษฐี ด้านบุคลากร ปูตินได้นำเพื่อนฝูง และเพื่อนร่วมงานจากเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก เข้ามาทั้งทีม เช่น Dmitri Medvedev (ต่อมาคือนายกรัฐมนตรี) Aleksei Kudrin (ต่อมาคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง) รวมไปถึงทีมจาก FSB กลุ่มนี้ เป็นที่รู้จักกันว่า คณะปีเตอร์สเบอร์ก ที่เริ่มจะไม่กินเส้นกับกลุ่มมอสโคว์ ปูติน……ไม่ไว้ใจกลุ่มมอสโคว์ เพราะพวกนี้ต่างมีที่มาที่ไปไม่ชัดเจน ส่วนใหญ่จะมีธุรกิจแอบแฝงในเบื้องหลัง อีกทั้งมีความสนิทสนมกับกลุ่มทุน ส่วนกลุ่มข้าเก่าเต่าเลี้ยงของเยลซิน……เขายังเก็บไว้บางคน เช่น Alexandr Voloshin และ Anatoly Chubais ปูตินพูดเสมอว่า “ผมมีเพื่อนเยอะแยะ แต่ที่สนิทจริงๆมีไม่กี่คน กลุ่มนี้จะไม่ทิ้งผมไปไหน และผมก็จะไม่ทิ้งเขาเช่นกัน” นายกรัฐมนตรีที่เขาเลือก คือ Mikhail Kasyanov ทางด้านเศรษฐกิจ……ปูตินปรับระบบภาษี คือ 13% สำหรับประชาชนทั่วไป และ 24% จากธุรกิจห้างร้าน ลดจากเมื่อก่อนที่เคยเก็บ 35% ที่เก็บไม่ค่อยได้เพราะคนเลี่ยงจ่าย แต่นโยบายใหม่นี้ ……จะเก็บถึงที่ และเก็บทุกราย เริ่มต้นในเดือนมกราคม 2002 นอกจากนั้น คือการชำระสะสางการใช้จ่ายของรัฐบาล กำจัดพวกที่อิงผลประโยชน์ และ สั่งให้กลุ่มจากตะวันตกจัดระเบียบใหม่ในเรื่องค่าแรง ในรัฐบาลชองปูตินเป็นผสมผสานระหว่าง ประชาธิปไตยสมัยใหม่กับระบบโซเวียต ที่ขึ้นอยู่กับปูตินว่าเขาจะเอาส่วนไหนมาใช้ วันที่ 11 พฤษภาคม สี่วันหลังจากที่เขาได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีหมาดๆ งานเก็บกวาดได้เริ่มขึ้น นั่นคือ กลุ่ม FSB ได้บุกเข้าไปค้นสำนักพิมพ์ Media-Most ต้อนพนักงานทั้งหมดไปรวมตัวกันที่ห้องอาหาร เหล่าเจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดเอาเอกสาร เครื่องคอมพิวเตอร์ และ…ปืนพก(แบบสั่งทำขึ้น ประเภทสวยงาม สำหรับสะสม) ที่เป็นของ Vladimir Gusinsky เจ้าของและบรรณาธิการ นายกัสซินสกี้ เป็นเจ้าของช่องโทรทัศน์ NTV ซึ่งเป็นช่องเอกชนรายแรกของรัสเซีย ไม่ว่าจะเป็นสิ่งพิมพ์ หรือ ช่องทีวี ทั้งสองรายการคือ ไม่โปรปูติน แถมยังทำการ์ตูนล้อเลียน เช่นลักษณะหูกาง ตาโรย ที่ใครๆก็รู้ว่า นั่นคือปูติน ที่เขาล้อเลียนหนักข้อเข้าทุกที นอกจากเข้าค้นสำนักงานแล้ว หน่วยเก็บภาษีได้ทำการตรวจย้อนหลังสมทบอีก FSB ได้ทำการยึดปืนพกกระบอกนั้นไป และ กัสซินสกี้ได้ตกเป็นผู้ต้องหา ในช่วงที่เกิดขึ้นเป็นเวลาเดียวกันกับที่ ประธานาธิบดี บิล คลินตัน ได้มาเยี่ยมเยียนเป็นอาคันตุกะพอดี คลินตันได้พยายาม ถามถึงเรื่องคดีนี้ (กัสซินสกี้เป็นมหาเศรษฐียิว ที่มีธุรกิจอยู่ในอเมริกาด้วยเช่นกัน) แต่ปูตินได้อ้างว่า เขาไม่ทราบเรื่องเพราะในช่วงที่เกิดขึ้น เขาอยู่ที่สเปน สาเหตุที่บิล คลินตันไปรัสเซีย คือเรื่องการเจรจาถอยคนละก้าวในเรื่องของนิวเคลียร์ที่ต้องจำกัดจำนวนให้น้อยที่สุด แต่ไม่ได้ผลอะไรกับปูติน เพราะมันเป็นการใส่หน้ากากเข้าหากัน เพราะความขัดแย้งในพื้นที่รอบรัสเซียที่งัดกันอยู่ ก็เพราะอเมริกาสนับสนุนอยู่อย่างลับๆ……ใครๆก็รู้ หลังจากที่คลินตันกลับไป เก้าวันต่อมา……กัสซินสกี้ก็ถูกจับด้วยข้อหามีปืนในครอบครองโดยไม่มีใบอนุญาต **กัสซินสกี้ได้มีหลายคดีตามมา จนเขาต้องขอแลกอิสรภาพด้วยการขายหุ้นทุกอย่างคืนให้กับรัฐบาล เมื่อเขาออกไปอยู่ที่สเปน ก็ได้ทำการฟ้องร้องรัฐบาลรัสเซียในเรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชน…คดียาวนานมาเป็นยี่สิบปี ในระหว่างนั้น เขาก็ยังทำธุรกิจหนังสือพิมพ์และช่องทีวีในต่างประเทศ แน่นอนว่า…… ไม่เป็นมิตรกับรัสเซียและปูติน วันที่ 12 สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงของการพักร้อน พักผ่อนหย่อนใจ ปูตินและครอบครัวไปยังรีสอร์ตที่ Sochi ชายฝั่งทะเลดำ เมื่อไปถึง เขายังไม่ทันได้วางกระเป๋าเสื้อผ้า เสียงโทรศัพท์ด่วนเข้ามา ข่าวร้าย……คือ เรือดำน้ำบรรทุกนิวเคลียร์ “the Kursk” ได้เกิดระเบิดขึ้นในขณะที่มีการซ้อมรบที่ Barents Sea, Murmansk เรือดำน้ำนิวเคลียร์ เคอร์สค์ ได้สร้างขึ้นในสมัยโซเวียต มาเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี 1994 ที่นับว่าทันสมัยที่สุด สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐอเมริกา (ถ้ามีสงคราม) ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า เกิดอะไรขึ้น แต่เหตุได้เกิดขึ้นเมื่อตอนที่ปูตินเพิ่งออกจากมอสโคว์ มีการระเบิดขึ้นสองครั้ง เรือจมดิ่งลงก้นสมุทร ลูกเรือ 113 คน เสียชีวิตหมด เมื่อปูตินได้ทราบข่าว……ทุกอย่างก็สายไปแล้ว อย่างเดียวที่ทำได้ คือ ปิดข่าวไว้ก่อน แล้วส่งทีมไปค้นหา เขายังทำตัวปรกติ……เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่รอฟังข่าว อย่างใจจดใจจ่อ Boris Berezovsky โทรมาหาเขาจากปารีส ถามว่า “มาทำอะไรอยู่ในโซชิ…ทำไมไม่กลับไปที่มอสโคว์ หรือไปที่เกิดเหตุ……?” มาถึงตอนนี้……ปูตินเริ่มฉุน เพราะไม่ใช่หน้าที่อะไรของนายแบเรซอฟสกี้ ที่เป็นเพียงกลุ่มทุนที่อิงมาตั้งแต่สมัยกอร์บาเชฟ แต่ชอบเสนอหน้าไปทุกสิ่ง ประมาณตัวว่าเป็นนักการเมืองใหญ่ จะสั่งใครก็ได้ ในตอนนั้น……หลายประเทศเสนอตัวมาช่วยค้นหา แต่แม่ทัพเรือปฏิเสธ เพราะเกรงว่าจะกลายเป็นสอดแนมดูพิมพ์เขียว จนบิล คลินตันโทรมาหาปูตินเป็นการส่วนตัว เขาจึงยอมให้มีการช่วยเหลือร่วมมือจาก ทีมอังกฤษและทีมนอร์เวย์ ที่มาช่วยกัน ในวันที่ 21 ที่ทีมทั้งสองนี้ สามารถเปิดฝาปิดเรือดำน้ำได้ภายใน 6 ชั่วโมง ในขณะที่รัสเซียได้พยายามอยู่ถึงเก้าวันยังเปิดไม่ได้ ทันทีที่ปูตินกลับถึงมอสโคว์……เสียงตำหนิ ก่นด่ามาจากทุกสารทิศ โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวของทหารผู้เสียชีวิต ซ้ำร้าย……สื่อตีซ้ำด้วยในเรื่องที่ประธานาธิบดีไม่ได้สนใจกับ เรื่องนี้ เพราะกำลังไปสนุกสนานพักร้อนริมชายหาด…… โดยเฉพาะช่องทีวีของ Boris Berezovsky ที่เป็นฝ่ายประโคมข่าว… ปูตินโกรธจัด เพราะข่าวจากสายในกองทัพบอกมาว่า บอริสได้จ้างหน้าม้าที่เป็นผู้หญิงมาอ้างตัวว่าเป็นภรรยาของทหารที่ตาย มาร้องห่มร้องไห้ ด่าปูตินออกอากาศ บอริสได้เข้าพบกับปูติน เพื่อแก้ข้อหา พร้อมตะโดนใส่ปูตินว่า “นั่นเป็นเรื่องจริง…ไม่ใช่หน้าม้า……ไอ้พวกนั้นมันโกหก……!!” วันที่ 22 สิงหาคม……ปูตินได้ไปที่ที่เกิดเหตุ พร้อมพบปะกับเหล่าครอบครัวผู้สูญเสีย ที่อยู่ในสภาพโกรธแค้น เขาพยายามเยียวยาด้วยการจ่ายเงินเดือนยาวไปสิบปี และจัดหาที่อยู่ให้อย่างสะดวกสะบาย พร้อมสวัสดิการเต็มที่ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก เมื่อหนึ่งในนั้น……ได้ตะโกนถามเขาว่า “ทำไมไม่มาช่วยกู้อย่างทันที ……” ปูตินตอบไปอย่างตรงๆว่า…… “เพราะเราไม่มีเครื่องมืออะไรอย่างนั้นเหลือใช้ในชาติเราไง…” ปูตินรู้ดีแก่ใจว่า……ไม่ใช่ความผิดของแม่ทัพเรือ (ที่โบ้ยว่าเป็นความผิดของอเมริกา ) ไม่ใช่ความผิดของหน่วยข่าวกรอง แต่ทุกอย่างที่มันเลวร้ายได้ขนาดนี้ เพราะ “สื่อ” ทั้งสิ่งพิมพ์ วิทยุและโทรทัศน์ล้วนๆ ที่มีอำนาจทำลายล้างได้เทียบเท่ากับกองทัพขนาดใหญ่ วันต่อมา..ปูตินได้ออกแถลงการทางโทรทัศน์ ที่เขาถอดใจพูดออกมาว่า ประเทศชาติได้ผ่านวิกฤติมาทุกรูปแบบ ทั้งในและนอกประเทศ แต่สิ่งที่ซ้ำเติมเรา คือ กลุ่มคนที่แสวงหาผลประโยชน์จากความเดือดร้อนของชาติ โดยการให้ข่าวบิดเบือนสร้างความเจ็บช้ำ แล้วมาทำดีโดยการระดมทุนเพื่อให้ผู้เสียหาย เพื่อเอาการค้ามาอิงร่วม การระดมทุนที่อ้างว่ามีถึงล้านเหรียญ (โดยประมาณ) มันแค่เป็นเศษน้อยนิด จากสิ่งที่เขารีดไปจากเรา ไม่ว่าจะเป็นคฤหาสน์หรูที่เมดิเตอร์เรเนียน ฝั่งฝรั่งเศส และฝั่งสเปน ไปช่วยกันถามหน่อยซิ ว่าเขาเอาเงินจากที่ไหนไปซื้อ……?? เรื่องนี้……คือการกระทบ Boris Berezovsky โดยตรง เพราะเขาเป็นคนระดมทุนที่ว่า จากวันนั้น……ปูตินได้ทำการรุกเอาสมบัติของชาติคืนอย่างเอาจริงเอาจัง ยึดหุ้น Aeroflot คืนจากบอริส ที่หนีออกนอกประเทศไป ก่อนหนี……เขาได้ลุกลี้ลุกลนขายหุ้นสถานีโทรทัศน์ให้กับ Roman Abramovich (ที่คืนให้กับรัฐบาลในต่อมา) ส่วนนาย Gusinsky ได้ถูกยึดหุ้นทั้งหมดของ NTV เพราะมีหนี้ติดค้างกับ Gazprom หลังจากที่หนีไปสเปน เท่ากับว่า……ช่องทีวีเอกชนทั้งหมดได้ไปอยู่ในความดูแลของรัฐบาลอย่างเรียบร้อย วันที่ 11 กันยายน…ปูตินได้เรียกประชุมนักข่าวจาก 48 สำนัก ให้เข้ามารับนโยบายของรัฐบาล และจะมีการให้ข่าวในเรื่องการปฎิบัติการทางทหารที่เชเชน… ทันทีที่จบการบันทึกภาพการประชุม ……เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้รีบเข้ามารายงานให้เขาเข้าไปดู”อะไรบางอย่าง” โดยด่วนที่หน้าจอมอนิเตอร์ทีวี ภาพที่เขาเห็นคือ ภาพของเหตุการณ์ 9/11 ที่นครนิวยอร์ค ที่เป็นฝีมือของ Al-Queda ที่มีประวัติแทรกแซงฟาดฟันกับรัสเซียในเชเชนด้วยเช่นกัน สิ่งแรกที่ปูตินทำ คือ เขาหันไปถาม Sergei Ivanov ว่า.. “เราจะช่วยอะไรเขาได้บ้าง…??” เขาไม่ได้พูดเฉยๆ ปูตินยกหูไปหาประธานาธิบดีบุชทันที และได้พูดกับ นาง Condoleeza Rice (ฝ่ายความมั่นคง) เขาได้ยืนยันกับเธอว่า รัสเซียจะยกเลิกเรื่องการซ้อมรบทางฝั่งแปซิฟิค (ที่เพิ่งเริ่มไปเมื่อวาน) และ จะพักเรื่องการเจรจานิวเคลียร์ไปก่อน ทางอเมริกามีอะไรให้เราช่วยได้ ขอให้บอกมาได้เลย ทางเรายินดีให้ความร่วมมือเต็มที่…” ทันทีที่วางหูโทรศัพท์ไป.……ความรู้สึกอย่างหนึ่งได้บอกกับ เขาว่า………สงครามเย็นได้จบสิ้นลงแล้ว………!!! เพราะจากนี้ไป รัสเซียและอเมริกาจะต้องร่วมมือกัน เพราะมีศัตรูคนเดียวกัน คือ….กลุ่มผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ (The Terrorists) ที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า……พวกเขาเป็นใคร อยู่ที่ไหน…?!! Wiwanda W. Vichit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 539 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 5 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • ผาฮี้#3 เชียงราย 2023
    ผาฮี้#3 เชียงราย 2023
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 30 Views 0 Reviews
  • ด้านมืด "กามิน" กับ แก๊งฟอกเงินใน TikTok

    เปิดโปง “ขบวนการกิมจิ๊ ข้ามชาติ”
    ยกทัพต้มตุ๋น ดูดเงินคนไทย

    #sondhitalk #sondhix #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิทอร์ค #แก๊งเกาหลี #กามิน #ฟอกเงิน #tiktok
    0 Comments 0 Shares 25 Views 30340 0 Reviews
  • Like
    1
    0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • Like
    1
    0 Comments 0 Shares 13 Views 0 Reviews
  • โลกเรานี่มันพัฒนาไปไกลจริงๆ ขนาดสุขภัณฑ์ ก็ยังเป็นรุ่นไฟฟ้าเลย แล้วมันใช้ยังไงเนี่ย
    โลกเรานี่มันพัฒนาไปไกลจริงๆ ขนาดสุขภัณฑ์ ก็ยังเป็นรุ่นไฟฟ้าเลย แล้วมันใช้ยังไงเนี่ย
    0 Comments 0 Shares 51 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 5 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 5 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 9 Views 0 Reviews
  • Like
    1
    0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 7 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 8 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 9 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 12 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 10 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 7 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 10 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 10 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 11 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 8 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 11 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 7 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 9 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 8 Views 0 Reviews
  • https://vt.tiktok.com/ZS2X2AVKB/
    https://vt.tiktok.com/ZS2X2AVKB/
    0 Comments 0 Shares 59 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 10 Views 0 Reviews
  • ด้านมืด "กามิน" กับ แก๊งฟอกเงินใน TikTok

    เปิดโปง “ขบวนการกิมจิ๊ ข้ามชาติ”
    ยกทัพต้มตุ๋น ดูดเงินคนไทย

    #sondhitalk #sondhix #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิทอร์ค #แก๊งเกาหลี #กามิน #ฟอกเงิน #tiktok
    0 Comments 0 Shares 26 Views 30340 0 Reviews
  • พรรคประชาชน(พม่า)?! : Sondhitalk EP 260 -200967 (Full)
    - ฉีกหน้ากาก ส.ส.ไทยใจพม่า !?!
    - กามิน ขบวนการกิมจิ๊ดูดเงินไทย
    - โศกนาฏกรรมมลพิษ“นิคมฯ หลักชัยเมืองยาง”

    #สนธิทอล์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #sondhiapp #thaitime #พรรคประชาชน #แก้วตา #ธิษะณา #พม่า #ชาลีกามิน #เกาหลี #มลพิษ #นิคมอุตสาหกรรม #ฟอกเงิน
    0 Comments 0 Shares 13 Views 17376 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 12 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 12 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 13 Views 0 Reviews
  • เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ผู้แจ้งเบาะแสของ NSA เพิ่งเปิดเผยวาระการประชุมระดับโลกอันน่าสะพรึงกลัวที่ซ่อนลึกอยู่ในอลาสก้า เอกสารเผยให้เห็นว่า HAARP ซึ่งพวกเขาอ้างว่าเป็น "การวิจัยทางวิทยาศาสตร์" แท้จริงแล้วเป็นอาวุธที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมและบงการมนุษยชาติในระดับโลก
    https://vk.com/wall545107656_11165

    https://vk.com/wall545107656_7385

    จุดประสงค์อันมืดมนของ HAARP:
    เป็นเวลาหลายปีที่กองทัพได้ปลอมตัว HAARP ให้เป็นสถานีวิจัย โดยปกปิดภารกิจที่แท้จริงจากสาธารณชน ตามข้อมูลที่รั่วไหลของสโนว์เดน HAARP ไม่ใช่การทดลองที่บริสุทธิ์ แต่เป็นอาวุธที่ใช้บงการคนจำนวนมาก โดยกำหนดเป้าหมายไปที่สมองของผู้คน ส่งผลให้ผู้คนเสียชีวิตตามธรรมชาติ เช่น หลอดเลือดสมองแตก หัวใจวาย นี่เป็นมากกว่าทฤษฎีสมคบคิด มันกำลังเกิดขึ้นอยู่ต่อหน้าต่อตาเราตอนนี้

    การควบคุมจิตใจในระดับที่ไม่อาจจินตนาการได้:
    สโนว์เดนเปิดเผยว่า HAARP สามารถควบคุมจิตใจของผู้ที่พูดออกมาได้จากระยะไกล ทำให้ผู้คนกลายเป็นบุคคลที่ไม่มีเหตุผลและ "บ้า" ในสายตาของโลก เป้าหมายของพวกเขาคือ การทำให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยเงียบลง โดยใช้คลื่นความถี่เหล่านี้เพื่อทำให้ฝ่ายตรงข้ามของพวกเขาพังทลายจากภายใน ลองคิดดูสิ—ผู้นำโลก เจ้าพ่อสื่อ และซีอีโอที่คุณเห็นในทีวีเป็นเพียงหุ่นเชิดที่ถูกควบคุมด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมเสียงที่มีอำนาจมากที่สุดบางส่วนเพื่อความจริงจึงเงียบไปในชั่วข้ามคืน

    การป้องกันกรงฟาราเดย์:
    สโนว์เดนได้หลบภัยในกรงฟาราเดย์ โดยตัดคลื่นวิทยุภายนอก ป้องกันตัวเองจากอาวุธควบคุมจิตใจระดับโลกนี้ เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อคุณรู้ความจริงแล้ว คุณก็ตกเป็นเป้าหมาย เทคโนโลยีนี้สามารถทำลายชีวิต ทำให้ผู้ที่กล้าพูดออกมาเสื่อมเสียชื่อเสียง ทำให้พวกเขากลายเป็นเพียง "นักทฤษฎีสมคบคิด" เท่านั้น ซึ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นแล้ว

    หลักฐานที่พิสูจน์การควบคุมของ HAARP:
    เอกสารเหล่านี้ไม่ใช่แค่ข่าวลือ สโนว์เดนได้แชร์อีเมลลับจากเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงที่ยืนยันความจริงอันน่าสยดสยองเบื้องหลังปฏิบัติการของ HAARP นี่ไม่ใช่การคาดเดาอีกต่อไป แต่เป็นข้อเท็จจริง คุณตื่นแล้วหรือไม่ก็โดนหลอก พวกเขาต้องการให้คุณเชื่อง ตาบอด และยอมจำนน ในขณะที่กลุ่มคนชั้นสูงคอยดึงเชือกอยู่เบื้องหลัง

    การเข้าถึงของ HAARP – มากกว่าแค่ในอลาสก้า:
    ไม่ใช่แค่ในอลาสก้าเท่านั้น มีศูนย์ HAARP หลายแห่งทั่วโลก ในสวีเดน รัสเซีย แม้แต่ภายใต้เสาโทรศัพท์มือถือที่บ้าน พวกเขาได้สร้างเครือข่ายทั่วโลกเพื่อควบคุมอย่างเข้มงวด ไม่ใช่แค่อาวุธ แต่เป็นระบบครอบงำ สร้างความโกลาหล ความกลัว และความสับสนไปทั่วโลก ลองดูรูปแบบสภาพอากาศที่แปลกประหลาด ภัยธรรมชาติ และบุคคลสาธารณะที่เสียชีวิตแบบไม่ทันตั้งตัวสิ

    ถึงเวลาลุกขึ้นแล้ว:
    การเปิดเผยของสโนว์เดนได้แสดงให้เราเห็นว่าพายุมาถึงแล้ว ความจริงนั้นมืดมนกว่าที่เราจะจินตนาการได้มาก แต่ตอนนี้คุณรู้แล้ว—คุณจะทำอย่างไรกับความรู้นี้? คุณจะนั่งเฉยๆ และปล่อยให้ชนชั้นนำระดับโลกเข้ามาควบคุม หรือจะสู้กลับ ประเทศของคุณ เสรีภาพของคุณ และชีวิตของคุณอาจขึ้นอยู่กับมัน

    ตื่นได้แล้ว ผู้รักชาติ!
    นี่คือช่วงเวลา ความจริงถูกเปิดเผย และพวกเขาไม่สามารถปิดปากเราทุกคนได้ ร่วมกัน เราสามารถเปิดโปงรัฐบาลเงาและกลไกทางการทหารที่คอยดึงเชือกมาเป็นเวลานานเกินไปได้ ถึงเวลาที่ต้องลงมือทำแล้ว—ก่อนที่มันจะสายเกินไป

    ติดตามช่องของฉัน เพื่อรับข้อมูลอัปเดต👇
    https://t.me/BenjaminFulfordJ ✅️
    เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ผู้แจ้งเบาะแสของ NSA เพิ่งเปิดเผยวาระการประชุมระดับโลกอันน่าสะพรึงกลัวที่ซ่อนลึกอยู่ในอลาสก้า เอกสารเผยให้เห็นว่า HAARP ซึ่งพวกเขาอ้างว่าเป็น "การวิจัยทางวิทยาศาสตร์" แท้จริงแล้วเป็นอาวุธที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมและบงการมนุษยชาติในระดับโลก https://vk.com/wall545107656_11165 https://vk.com/wall545107656_7385 จุดประสงค์อันมืดมนของ HAARP: เป็นเวลาหลายปีที่กองทัพได้ปลอมตัว HAARP ให้เป็นสถานีวิจัย โดยปกปิดภารกิจที่แท้จริงจากสาธารณชน ตามข้อมูลที่รั่วไหลของสโนว์เดน HAARP ไม่ใช่การทดลองที่บริสุทธิ์ แต่เป็นอาวุธที่ใช้บงการคนจำนวนมาก โดยกำหนดเป้าหมายไปที่สมองของผู้คน ส่งผลให้ผู้คนเสียชีวิตตามธรรมชาติ เช่น หลอดเลือดสมองแตก หัวใจวาย นี่เป็นมากกว่าทฤษฎีสมคบคิด มันกำลังเกิดขึ้นอยู่ต่อหน้าต่อตาเราตอนนี้ การควบคุมจิตใจในระดับที่ไม่อาจจินตนาการได้: สโนว์เดนเปิดเผยว่า HAARP สามารถควบคุมจิตใจของผู้ที่พูดออกมาได้จากระยะไกล ทำให้ผู้คนกลายเป็นบุคคลที่ไม่มีเหตุผลและ "บ้า" ในสายตาของโลก เป้าหมายของพวกเขาคือ การทำให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยเงียบลง โดยใช้คลื่นความถี่เหล่านี้เพื่อทำให้ฝ่ายตรงข้ามของพวกเขาพังทลายจากภายใน ลองคิดดูสิ—ผู้นำโลก เจ้าพ่อสื่อ และซีอีโอที่คุณเห็นในทีวีเป็นเพียงหุ่นเชิดที่ถูกควบคุมด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมเสียงที่มีอำนาจมากที่สุดบางส่วนเพื่อความจริงจึงเงียบไปในชั่วข้ามคืน การป้องกันกรงฟาราเดย์: สโนว์เดนได้หลบภัยในกรงฟาราเดย์ โดยตัดคลื่นวิทยุภายนอก ป้องกันตัวเองจากอาวุธควบคุมจิตใจระดับโลกนี้ เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อคุณรู้ความจริงแล้ว คุณก็ตกเป็นเป้าหมาย เทคโนโลยีนี้สามารถทำลายชีวิต ทำให้ผู้ที่กล้าพูดออกมาเสื่อมเสียชื่อเสียง ทำให้พวกเขากลายเป็นเพียง "นักทฤษฎีสมคบคิด" เท่านั้น ซึ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นแล้ว หลักฐานที่พิสูจน์การควบคุมของ HAARP: เอกสารเหล่านี้ไม่ใช่แค่ข่าวลือ สโนว์เดนได้แชร์อีเมลลับจากเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงที่ยืนยันความจริงอันน่าสยดสยองเบื้องหลังปฏิบัติการของ HAARP นี่ไม่ใช่การคาดเดาอีกต่อไป แต่เป็นข้อเท็จจริง คุณตื่นแล้วหรือไม่ก็โดนหลอก พวกเขาต้องการให้คุณเชื่อง ตาบอด และยอมจำนน ในขณะที่กลุ่มคนชั้นสูงคอยดึงเชือกอยู่เบื้องหลัง การเข้าถึงของ HAARP – มากกว่าแค่ในอลาสก้า: ไม่ใช่แค่ในอลาสก้าเท่านั้น มีศูนย์ HAARP หลายแห่งทั่วโลก ในสวีเดน รัสเซีย แม้แต่ภายใต้เสาโทรศัพท์มือถือที่บ้าน พวกเขาได้สร้างเครือข่ายทั่วโลกเพื่อควบคุมอย่างเข้มงวด ไม่ใช่แค่อาวุธ แต่เป็นระบบครอบงำ สร้างความโกลาหล ความกลัว และความสับสนไปทั่วโลก ลองดูรูปแบบสภาพอากาศที่แปลกประหลาด ภัยธรรมชาติ และบุคคลสาธารณะที่เสียชีวิตแบบไม่ทันตั้งตัวสิ ถึงเวลาลุกขึ้นแล้ว: การเปิดเผยของสโนว์เดนได้แสดงให้เราเห็นว่าพายุมาถึงแล้ว ความจริงนั้นมืดมนกว่าที่เราจะจินตนาการได้มาก แต่ตอนนี้คุณรู้แล้ว—คุณจะทำอย่างไรกับความรู้นี้? คุณจะนั่งเฉยๆ และปล่อยให้ชนชั้นนำระดับโลกเข้ามาควบคุม หรือจะสู้กลับ ประเทศของคุณ เสรีภาพของคุณ และชีวิตของคุณอาจขึ้นอยู่กับมัน ตื่นได้แล้ว ผู้รักชาติ! นี่คือช่วงเวลา ความจริงถูกเปิดเผย และพวกเขาไม่สามารถปิดปากเราทุกคนได้ ร่วมกัน เราสามารถเปิดโปงรัฐบาลเงาและกลไกทางการทหารที่คอยดึงเชือกมาเป็นเวลานานเกินไปได้ ถึงเวลาที่ต้องลงมือทำแล้ว—ก่อนที่มันจะสายเกินไป ติดตามช่องของฉัน เพื่อรับข้อมูลอัปเดต👇 https://t.me/BenjaminFulfordJ ✅️
    0 Comments 0 Shares 373 Views 0 Reviews
  • Like
    1
    0 Comments 0 Shares 180 Views 234 0 Reviews
  • การจำลองการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ในลอนดอนด้วยหัวรบ 750 kT เพียงลูกเดียว อังกฤษยังคงเป็นผู้ยุยงหลักในการทำสงครามกับรัสเซียในยูเครน
    การจำลองการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ในลอนดอนด้วยหัวรบ 750 kT เพียงลูกเดียว อังกฤษยังคงเป็นผู้ยุยงหลักในการทำสงครามกับรัสเซียในยูเครน
    Like
    3
    0 Comments 1 Shares 278 Views 269 0 Reviews
  • Hi everybody here, Welcome to be Thaitimes's sociality friend...practical in english together
    Hi everybody here, Welcome to be Thaitimes's sociality friend...practical in english together
    Like
    6
    0 Comments 0 Shares 1018 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 11 Views 0 Reviews
  • ยินดีกับนายกรัฐมนตรีคนล่าสุด คนที่ 31 ของประเทศไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แต่หลังจากนี้น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ขมขื่นของทั้ง “อุ๊งอิ๊งและครอบครัว” ซึ่งก็ถือเป็นความอำมหิตของพ่อที่จะเดินหน้าทางการเมืองด้วยการผลักลูกออกมาเป็นหุ่นเชิด และต่อจากนี้ นายกฯ อุ๊งอิ๊งคงต้องเตรียมตัวเผชิญกับ “นิติสงคราม” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    ส่วนชะตากรรมประเทศไทยในมือ “นายกรัฐมนตรีฟันน้ำนม” จะเป็นอย่างไรต่อไป พรุ่งนี้รอฟัง 9.00 น.

    #สนธิ #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิลิ้ม #Sondhi #Sondhitalk #อุ๊งอิ๊ง #เพื่อไทย #ทักษิณ #บิ๊กป้อม #ธรรมนัส
    0 Comments 0 Shares 10 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 10 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 12 Views 0 Reviews