• 2 Comments 0 Shares 181 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 124 Views 0 Reviews
  • 30/11/67

    สงคราม 16 วัน จีนบุกโจมตีเวียดนาม เมื่อ พ.ศ.2521
    ความจริง ที่ต้องบอกต่อ...ให้ลูกหลาน ทั้งประเทศ ได้รับรู้ไว้
    หลังจากที่สหรัฐอเมริกาพ่ายแพ้สงครามเวียดนาม ทหารเวียดนามได้ยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ อันทันสมัยไว้มากมาย ทั้งเครื่องบินรบ รถถัง ปืนใหญ่ และอาวุธประจำกาย ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงสุดของโลกในขณะนั้น
    ทำให้กองทัพเวียดนามแข็งแกร่งขึ้นเป็นอันดับ 3 ของโลก
    ทหารเวียดนาม จึงมีความกระหายสงครามเป็นอย่างยิ่ง ประกาศยึดลาว กัมพูชา และ ไทยต่อทันที ในเวลาเพียงไม่นาน ทั้งลาวและกัมพูชา ก็ตกเป็นของเวียดนาม
    นายพลโว เหงียนเกี๊ยบ ผู้บัญชาการกองทัพเวียดนามเจ็บแค้นมาก ที่ไทยยอมให้สหรัฐอเมริกา มาตั้งฐานทัพ และใช้เครื่องบินรบ บินขึ้นจากสนามบินอู่ตะเภา และสนามบินใน จ.อุบลราชธานี ขนระเบิดไปถล่มเวียดนามนับหมื่นเที่ยวบิน
    กองทัพเวียดนามขนอาวุธทุกชนิดที่มี รถถังจำนวนมาก มาประชิดชายแดนไทยเป็นแนวยาวหลายร้อยกิโลเมตร นายพลเวียดนามประกาศว่า จะนำทหารเข้าไปกินข้าวที่กรุงเทพฯ ให้ได้ภายใน 3 วัน
    นายกรัฐมนตรีไทยในขณะนั้น คือหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เรียกประชุมด่วน และขอให้ พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งไปยังสหรัฐอเมริกาว่า เรากำลังจะถูกเวียดนามบุก
    สหรัฐอเมริกา ตอบกลับมาว่า ขอให้เราช่วยตัวเอง เพราะสหรัฐเพิ่งถอนทัพจากเวียดนาม ไม่อาจช่วยอะไรได้อีกต่อไป รัฐบาลไทย จึงได้ขอใช้อาวุธ ที่ยังตกค้างอยู่ที่ไทย สหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้ไทยใช้อาวุธของอเมริกัน ที่ตกค้างจากสงครามและฝากเก็บไว้ในดินแดนไทย
    หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ เรียกประชุมผู้นำเหล่าทัพทันที และถามในที่ประชุมว่า ด้วยศักยภาพที่มีอยู่ตอนนี้ เราจะสู้เวียดนามได้กี่วัน .... ผู้บัญชาการทหารของกองทัพไทยตอบว่าประมาณ 4 วัน (มากกว่าที่นายพลเวียดนามบอกไว้ 1 วัน)
    หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ หันไปบอกกับพลเอกชาติชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ว่า.....เราต้องรีบไปจีนด่วนที่สุด....
    หลังจากนั้นไม่นาน ผู้นำไทยก็ได้เข้าพบ “โจวเอินไหล” นายกรัฐมนตรีของจีน ประโยคแรก ที่โจวเอินไหล ทักทายพลเอกชาติชายคือ “เป็นไงบ้างหลานรัก” (พ่อของพลเอกชาติชาย คือ พลเอกผิน เป็นเพื่อนร่วมรบกับโจวเอินไหลในครั้งสงครามเชียงตุง)
    การเชื่อมความสัมพันธ์เป็นไปอย่างชี่นมื่น ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเราไปให้ความสำคัญกับไต้หวันมากกว่าจีนแผ่นดินใหญ่ รับรองไต้หวันเป็นประเทศ แต่โจว เอิน ไหลไม่คิดมาก และ ยังเปิดโอกาสให้ได้พบกับ “เหมาเจ๋อตุง” ประธานพรรคคอมมิวนิสต์ และ “เติ้ง เสี่ยวผิง” รองนายกรัฐมนตรี ผู้ซึ่งได้รับการวางตัวให้เป็นผู้นำจีนรุ่นต่อไป
    เวียดนามวุ่นวายกับลาวและกัมพูชาอยู่ 2 ปี ในเดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2521 เวียดนามยกกำลังพล 400,000 นาย พร้อมอาวุธทันสมัยที่สุดในยุคนั้น เตรียมบุกไทย
    ทางรัฐบาลได้มอบหมายให้ พันเอกชวลิต ยงใจยุทธ เดินทางไปจีน เพื่อขอความช่วยเหลือตามที่ มรว.คึกฤทธิ์ได้กรุยทางไว้
    เสนาธิการทหารของจีนประชุมกันและแนะนำว่า ควรปล่อยให้เวียดนามบุกเข้ายึดกรุงเทพฯ ก่อน แล้วค่อยส่งกองทัพจีนตามไปปลดแอกให้ แต่
    เติ้งเสี่ยวผิง ลุกขึ้นตบโต๊ะในที่ประชุม แล้วกล่าวด้วยเสียงอันดังว่า "ช่วยเหลือมิตร ต้องช่วยให้ทันการณ์"
    เดือนพฤศจิกายน 2521 เติ้งเสี่ยวผิง เดินทางมาดูสถานการณ์ที่ประเทศไทย และรีบกลับไปทันที หลังจากนั้น 2 เดือน ในเดือนมกราคม 2522 กองทัพจีนพร้อมกำลังพล 500,000 นาย รถถัง 5,000 คัน เครื่องบิน 1,200 ลำ ได้เปิดสงครามสั่งสอนเวียดนาม
    กองทัพจีน เข้าตีทางภาคเหนือของเวียดนามอย่างรุนแรง เวียดนามรีบถอนทัพที่ประชิดชายแดนไทย กลับไปรับศึกจีน จีนรุกไปถึงฮานอย จนทหารเวียดนามเสียชีวิตประมาณ 50,000 นาย แต่ทหารจีนก็เสียชีวิตไปไม่น้อยกว่ากัน
    เวียตนามเสียหายหนัก
    ทัพเวียตนามต้องถอยร่นถึงชานเมืองฮานอยโดยใช้เวลาทั้งหมดเพียง 16 วัน จีนจึงหยุดตีเวีนตนาม และถอนทัพกลับ

    ย้อนไปนานกว่านั้น เมื่อครั้งปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาอยุธยาแตกเสียกรุงให้พม่า
    ราชสำนักชิง รีบส่งข้าหลวง ลงเรือสำเภามาดูสถานการณ์ในไทย และ ให้รายงานต่อราชสำนักทางปักกิ่ง อยู่ตลอดเวลา ในบันทึกภาษาจีนเขียนไว้ว่า จักรพรรดิเฉียนหลง ทรงประสงค์จะรู้ข่าวคราว ของสยามถึงขนาดกระวนกระวาย เรียกประชุมกลางดึกหลายครั้ง จะเห็นได้ว่า จักรพรรดิจีนทรงให้ความสำคัญกับสยามเพียงใด
    ในจดหมายเหตุของราชวงศ์ชิงได้บันทึกถึง ครั้งที่จีนยกทัพตีภาคเหนือของพม่าไว้ว่า ขณะที่กองทัพจีนบุกพม่า จักรพรรดิเฉียนหลง ได้ทรงติดต่อกับ “เจิ้งเจา” (สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ) หลายครั้ง ดังนั้น
    ข้อสงสัยที่ว่า จีนยกทัพตีพม่า ก็เพื่อดึงทัพของเนเมียวสีหบดีกลับไป ย่อมจะเป็นจริงเพราะถ้าทัพใหญ่ของพม่า ยังคงอยู่ที่อยุธยา กองทัพพระเจ้าตากฯ ซึ่งมีทหารเพียงหลักพันนายเท่านั้น ย่อมไม่มีทางจะเอาชนะทหารพม่าที่มีเป็นหมื่นเป็นแสนได้เลย และ ชาติไทยก็อาจจะหายไปจากแผนที่โลกในปัจจุบันก็ได้
    ........ ตลอดระยะเวลาเป็นร้อยๆปี ที่ผ่านมา เห็นได้ว่าจีนให้ความสำคัญกับไทยมากๆ ในฐานะมิตรประเทศที่มีความผูกพันอย่างแนบแน่น
    (ประเทศไทยมีคนจีนย้ายถิ่นฐานมาอาศัยมากที่สุดในโลก)
    นี่คือคุณูปการที่ผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายทำเพื่อความอยู่รอดของเมืองไทย ที่คนรุ่นหลังไม่สนใจที่จะเรียนรู้
    ไม่ต้องรบ สยบด้วยการฑูตประเสริฐที่สุด

    ประเทศจีนช่วยเหลือประเทศไทย
    ด้วยความจริงใจ ไม่เคยคาดหวังค่าตอบแทนจากไทย ยกเว้นมิตรภาพ
    ประเทศไทยมีชาวจีนอพยพ
    มาอาศัยมากทีีสุดในโลก
    มากกว่า มาเลเซีย
    มากกว่า สิงคโปร์
    มากกว่า อินโดนีเซีย
    ดังนั้น ไทยจึงเปรียบเสมือนน้องของจีน

    ขอขอบพระคุณ
    ทันตแพทย์ สม สุจีรา ครับ
    ที่ท่านนำสาระดีๆมาให้อ่าน

    ถ่ายทอดโดย
    นายบัวสอน ประชามอญ

    โปรดแชร์ต่อถ้าเห็นว่ามีสาระดี
    30/11/67 สงคราม 16 วัน จีนบุกโจมตีเวียดนาม เมื่อ พ.ศ.2521 ความจริง ที่ต้องบอกต่อ...ให้ลูกหลาน ทั้งประเทศ ได้รับรู้ไว้ หลังจากที่สหรัฐอเมริกาพ่ายแพ้สงครามเวียดนาม ทหารเวียดนามได้ยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ อันทันสมัยไว้มากมาย ทั้งเครื่องบินรบ รถถัง ปืนใหญ่ และอาวุธประจำกาย ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงสุดของโลกในขณะนั้น ทำให้กองทัพเวียดนามแข็งแกร่งขึ้นเป็นอันดับ 3 ของโลก ทหารเวียดนาม จึงมีความกระหายสงครามเป็นอย่างยิ่ง ประกาศยึดลาว กัมพูชา และ ไทยต่อทันที ในเวลาเพียงไม่นาน ทั้งลาวและกัมพูชา ก็ตกเป็นของเวียดนาม นายพลโว เหงียนเกี๊ยบ ผู้บัญชาการกองทัพเวียดนามเจ็บแค้นมาก ที่ไทยยอมให้สหรัฐอเมริกา มาตั้งฐานทัพ และใช้เครื่องบินรบ บินขึ้นจากสนามบินอู่ตะเภา และสนามบินใน จ.อุบลราชธานี ขนระเบิดไปถล่มเวียดนามนับหมื่นเที่ยวบิน กองทัพเวียดนามขนอาวุธทุกชนิดที่มี รถถังจำนวนมาก มาประชิดชายแดนไทยเป็นแนวยาวหลายร้อยกิโลเมตร นายพลเวียดนามประกาศว่า จะนำทหารเข้าไปกินข้าวที่กรุงเทพฯ ให้ได้ภายใน 3 วัน นายกรัฐมนตรีไทยในขณะนั้น คือหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เรียกประชุมด่วน และขอให้ พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งไปยังสหรัฐอเมริกาว่า เรากำลังจะถูกเวียดนามบุก สหรัฐอเมริกา ตอบกลับมาว่า ขอให้เราช่วยตัวเอง เพราะสหรัฐเพิ่งถอนทัพจากเวียดนาม ไม่อาจช่วยอะไรได้อีกต่อไป รัฐบาลไทย จึงได้ขอใช้อาวุธ ที่ยังตกค้างอยู่ที่ไทย สหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้ไทยใช้อาวุธของอเมริกัน ที่ตกค้างจากสงครามและฝากเก็บไว้ในดินแดนไทย หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ เรียกประชุมผู้นำเหล่าทัพทันที และถามในที่ประชุมว่า ด้วยศักยภาพที่มีอยู่ตอนนี้ เราจะสู้เวียดนามได้กี่วัน .... ผู้บัญชาการทหารของกองทัพไทยตอบว่าประมาณ 4 วัน (มากกว่าที่นายพลเวียดนามบอกไว้ 1 วัน) หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ หันไปบอกกับพลเอกชาติชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ว่า.....เราต้องรีบไปจีนด่วนที่สุด.... หลังจากนั้นไม่นาน ผู้นำไทยก็ได้เข้าพบ “โจวเอินไหล” นายกรัฐมนตรีของจีน ประโยคแรก ที่โจวเอินไหล ทักทายพลเอกชาติชายคือ “เป็นไงบ้างหลานรัก” (พ่อของพลเอกชาติชาย คือ พลเอกผิน เป็นเพื่อนร่วมรบกับโจวเอินไหลในครั้งสงครามเชียงตุง) การเชื่อมความสัมพันธ์เป็นไปอย่างชี่นมื่น ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเราไปให้ความสำคัญกับไต้หวันมากกว่าจีนแผ่นดินใหญ่ รับรองไต้หวันเป็นประเทศ แต่โจว เอิน ไหลไม่คิดมาก และ ยังเปิดโอกาสให้ได้พบกับ “เหมาเจ๋อตุง” ประธานพรรคคอมมิวนิสต์ และ “เติ้ง เสี่ยวผิง” รองนายกรัฐมนตรี ผู้ซึ่งได้รับการวางตัวให้เป็นผู้นำจีนรุ่นต่อไป เวียดนามวุ่นวายกับลาวและกัมพูชาอยู่ 2 ปี ในเดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2521 เวียดนามยกกำลังพล 400,000 นาย พร้อมอาวุธทันสมัยที่สุดในยุคนั้น เตรียมบุกไทย ทางรัฐบาลได้มอบหมายให้ พันเอกชวลิต ยงใจยุทธ เดินทางไปจีน เพื่อขอความช่วยเหลือตามที่ มรว.คึกฤทธิ์ได้กรุยทางไว้ เสนาธิการทหารของจีนประชุมกันและแนะนำว่า ควรปล่อยให้เวียดนามบุกเข้ายึดกรุงเทพฯ ก่อน แล้วค่อยส่งกองทัพจีนตามไปปลดแอกให้ แต่ เติ้งเสี่ยวผิง ลุกขึ้นตบโต๊ะในที่ประชุม แล้วกล่าวด้วยเสียงอันดังว่า "ช่วยเหลือมิตร ต้องช่วยให้ทันการณ์" เดือนพฤศจิกายน 2521 เติ้งเสี่ยวผิง เดินทางมาดูสถานการณ์ที่ประเทศไทย และรีบกลับไปทันที หลังจากนั้น 2 เดือน ในเดือนมกราคม 2522 กองทัพจีนพร้อมกำลังพล 500,000 นาย รถถัง 5,000 คัน เครื่องบิน 1,200 ลำ ได้เปิดสงครามสั่งสอนเวียดนาม กองทัพจีน เข้าตีทางภาคเหนือของเวียดนามอย่างรุนแรง เวียดนามรีบถอนทัพที่ประชิดชายแดนไทย กลับไปรับศึกจีน จีนรุกไปถึงฮานอย จนทหารเวียดนามเสียชีวิตประมาณ 50,000 นาย แต่ทหารจีนก็เสียชีวิตไปไม่น้อยกว่ากัน เวียตนามเสียหายหนัก ทัพเวียตนามต้องถอยร่นถึงชานเมืองฮานอยโดยใช้เวลาทั้งหมดเพียง 16 วัน จีนจึงหยุดตีเวีนตนาม และถอนทัพกลับ ย้อนไปนานกว่านั้น เมื่อครั้งปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาอยุธยาแตกเสียกรุงให้พม่า ราชสำนักชิง รีบส่งข้าหลวง ลงเรือสำเภามาดูสถานการณ์ในไทย และ ให้รายงานต่อราชสำนักทางปักกิ่ง อยู่ตลอดเวลา ในบันทึกภาษาจีนเขียนไว้ว่า จักรพรรดิเฉียนหลง ทรงประสงค์จะรู้ข่าวคราว ของสยามถึงขนาดกระวนกระวาย เรียกประชุมกลางดึกหลายครั้ง จะเห็นได้ว่า จักรพรรดิจีนทรงให้ความสำคัญกับสยามเพียงใด ในจดหมายเหตุของราชวงศ์ชิงได้บันทึกถึง ครั้งที่จีนยกทัพตีภาคเหนือของพม่าไว้ว่า ขณะที่กองทัพจีนบุกพม่า จักรพรรดิเฉียนหลง ได้ทรงติดต่อกับ “เจิ้งเจา” (สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ) หลายครั้ง ดังนั้น ข้อสงสัยที่ว่า จีนยกทัพตีพม่า ก็เพื่อดึงทัพของเนเมียวสีหบดีกลับไป ย่อมจะเป็นจริงเพราะถ้าทัพใหญ่ของพม่า ยังคงอยู่ที่อยุธยา กองทัพพระเจ้าตากฯ ซึ่งมีทหารเพียงหลักพันนายเท่านั้น ย่อมไม่มีทางจะเอาชนะทหารพม่าที่มีเป็นหมื่นเป็นแสนได้เลย และ ชาติไทยก็อาจจะหายไปจากแผนที่โลกในปัจจุบันก็ได้ ........ ตลอดระยะเวลาเป็นร้อยๆปี ที่ผ่านมา เห็นได้ว่าจีนให้ความสำคัญกับไทยมากๆ ในฐานะมิตรประเทศที่มีความผูกพันอย่างแนบแน่น (ประเทศไทยมีคนจีนย้ายถิ่นฐานมาอาศัยมากที่สุดในโลก) นี่คือคุณูปการที่ผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายทำเพื่อความอยู่รอดของเมืองไทย ที่คนรุ่นหลังไม่สนใจที่จะเรียนรู้ ไม่ต้องรบ สยบด้วยการฑูตประเสริฐที่สุด ประเทศจีนช่วยเหลือประเทศไทย ด้วยความจริงใจ ไม่เคยคาดหวังค่าตอบแทนจากไทย ยกเว้นมิตรภาพ ประเทศไทยมีชาวจีนอพยพ มาอาศัยมากทีีสุดในโลก มากกว่า มาเลเซีย มากกว่า สิงคโปร์ มากกว่า อินโดนีเซีย ดังนั้น ไทยจึงเปรียบเสมือนน้องของจีน ขอขอบพระคุณ ทันตแพทย์ สม สุจีรา ครับ ที่ท่านนำสาระดีๆมาให้อ่าน ถ่ายทอดโดย นายบัวสอน ประชามอญ โปรดแชร์ต่อถ้าเห็นว่ามีสาระดี
    0 Comments 0 Shares 1631 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 191 Views 0 Reviews
  • Love
    1
    0 Comments 0 Shares 140 Views 0 Reviews
  • Like
    1
    0 Comments 0 Shares 93 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 100 Views 0 Reviews
  • กลุ่มกบฏซีเรียที่อ้างตัวเองว่าเป็นผู้บัญชาการในปฏิบัติการครั้งนี้ เผยแพร่วิดีโอที่ถ่ายจากภายในอาคารของรัฐบาลซีเรียในเมือง Aleppo ที่ยึดได้

    ชายคนนี้ประกาศว่าเป้าหมายต่อไปคือเมืองฮามา (Hama) ซึ่งบ่งบอกว่ากำลังมุ่งหน้าสู่ดามัสกัส ซึ่งเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของซีเรีย
    กลุ่มกบฏซีเรียที่อ้างตัวเองว่าเป็นผู้บัญชาการในปฏิบัติการครั้งนี้ เผยแพร่วิดีโอที่ถ่ายจากภายในอาคารของรัฐบาลซีเรียในเมือง Aleppo ที่ยึดได้ ชายคนนี้ประกาศว่าเป้าหมายต่อไปคือเมืองฮามา (Hama) ซึ่งบ่งบอกว่ากำลังมุ่งหน้าสู่ดามัสกัส ซึ่งเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของซีเรีย
    Angry
    1
    0 Comments 0 Shares 156 Views 0 Reviews
  • 30/1167

    ## น้ำตกเลือด (Blood Falls) ในแอนตาร์กติกา : ปริศนาแห่งขั้วโลกใต้ที่ชวนพิศวง

    ท่ามกลางความเวิ้งว้างว่างเปล่าของทวีปแอนตาร์กติกา ณ ธารน้ำแข็งเทย์เลอร์ (Taylor Glacier) ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาแห้งแล้งแมคเมอร์โด (McMurdo Dry Valleys) มีปรากฏการณ์ธรรมชาติอันน่าพิศวงที่ดึงดูดความสนใจจากนักวิทยาศาสตร์และผู้คนทั่วโลก นั่นคือ **น้ำตกเลือด (Blood Falls)** สายน้ำสีแดงฉานราวกับเลือดที่ไหลทะลักออกมาจากรอยแยกของธารน้ำแข็ง ตัดกับพื้นน้ำแข็งสีขาวโพลน สร้างความตื่นตะลึงและความสงสัยใคร่รู้แก่นักสำรวจขั้วโลกใต้มาเนิ่นนาน ราวกับเป็นฉากในภาพยนตร์สยองขวัญ

    **การค้นพบและความลึกลับ**

    ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1911 กริฟฟิธ เทย์เลอร์ (Griffith Taylor) นักธรณีวิทยาชาวออสเตรเลีย เป็นผู้ค้นพบน้ำตกเลือดเป็นคนแรก ในขณะนั้น ด้วยข้อจำกัดทางวิทยาศาสตร์ เขาสันนิษฐานว่าสีแดงของน้ำตกเกิดจากสาหร่ายสีแดง ซึ่งเป็นสมมติฐานที่ฟังดูสมเหตุสมผลในยุคนั้น แต่ต่อมา นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบความจริงที่น่าทึ่งยิ่งกว่า ซ่อนอยู่ภายใต้ธารน้ำแข็งแห่งนี้

    **ต้นกำเนิดของสีแดง**

    ปัจจุบัน เราทราบแล้วว่าสีแดงเข้มของน้ำตกเลือด เกิดจาก **เหล็กออกไซด์ (iron oxide)** หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ สนิมเหล็ก ซึ่งมีปริมาณมากในน้ำที่ไหลออกมาจากน้ำตก แต่น้ำเหล่านี้ไม่ได้มาจากหิมะหรือน้ำแข็งที่ละลาย หากแต่มีต้นกำเนิดจากทะเลสาบน้ำเค็มใต้ธารน้ำแข็ง ซึ่งถูกกักขังไว้ภายใต้น้ำแข็งมานานกว่า 2 ล้านปี

    ลองนึกภาพทะเลสาบโบราณ ที่ถูกปิดตายจากโลกภายนอก อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก และเป็นที่อยู่อาศัยของจุลินทรีย์ ที่ปรับตัวให้อยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากออกซิเจนและแสงแดด จุลินทรีย์เหล่านี้ ดำรงชีวิตโดยการหายใจโดยใช้ซัลเฟต และมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลง ธาตุเหล็กในน้ำให้กลายเป็นเหล็กออกไซด์ เมื่อน้ำใต้ธารน้ำแข็ง ไหลออกมาสัมผัสกับอากาศ เหล็กออกไซด์ก็จะทำปฏิกิริยากับออกซิเจน เกิดเป็นสีแดงสนิม เหมือนกับที่เราเห็นเหล็กขึ้นสนิมเมื่อโดนน้ำและอากาศ

    **ความสำคัญต่อการศึกษา**

    น้ำตกเลือด ไม่ได้เป็นเพียงปรากฏการณ์ธรรมชาติที่สวยงามแปลกตา แต่ยังเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญ ที่ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ เข้าใจถึง ระบบนิเวศน์โบราณ วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต และ กระบวนการทางธรณีวิทยา

    การศึกษา จุลินทรีย์ ที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมสุดขั้ว เช่น ทะเลสาบใต้ธารน้ำแข็ง อาจเป็นกุญแจสำคัญ ที่ช่วยให้เรา ค้นพบ สิ่งมีชีวิต บนดาวเคราะห์ดวงอื่น เช่น ดาวอังคาร ที่อาจมีสภาพแวดล้อมคล้ายคลึงกัน

    น้ำตกเลือด จึงเป็นเสมือนห้องทดลองทางธรรมชาติ ที่เปิดโอกาสให้นักวิทยาศาสตร์ ศึกษา และ ไขปริศนา เกี่ยวกับ สิ่งมีชีวิต และ วิวัฒนาการ บนโลก และ ในจักรวาล

    **ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ**

    * น้ำตกเลือด มีความเค็ม มากกว่า น้ำทะเล ถึง 4 เท่า ลองจินตนาการถึงรสชาติของมันดูสิครับ
    * อุณหภูมิของน้ำ ใน น้ำตกเลือด อยู่ที่ -5 องศาเซลเซียส แต่ไม่แข็งตัว เนื่องจาก ความเค็ม ที่ทำหน้าที่เหมือนสารป้องกันการแข็งตัว
    * จุลินทรีย์ ที่อาศัยอยู่ใน น้ำตกเลือด สามารถ หายใจ โดยใช้ ซัลเฟต แทน ออกซิเจน ซึ่งเป็น กลไกการปรับตัว ที่น่าทึ่ง สำหรับการดำรงชีวิต ในสภาพแวดล้อม ที่ ไม่มีออกซิเจน
    30/1167 ## น้ำตกเลือด (Blood Falls) ในแอนตาร์กติกา : ปริศนาแห่งขั้วโลกใต้ที่ชวนพิศวง ท่ามกลางความเวิ้งว้างว่างเปล่าของทวีปแอนตาร์กติกา ณ ธารน้ำแข็งเทย์เลอร์ (Taylor Glacier) ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาแห้งแล้งแมคเมอร์โด (McMurdo Dry Valleys) มีปรากฏการณ์ธรรมชาติอันน่าพิศวงที่ดึงดูดความสนใจจากนักวิทยาศาสตร์และผู้คนทั่วโลก นั่นคือ **น้ำตกเลือด (Blood Falls)** สายน้ำสีแดงฉานราวกับเลือดที่ไหลทะลักออกมาจากรอยแยกของธารน้ำแข็ง ตัดกับพื้นน้ำแข็งสีขาวโพลน สร้างความตื่นตะลึงและความสงสัยใคร่รู้แก่นักสำรวจขั้วโลกใต้มาเนิ่นนาน ราวกับเป็นฉากในภาพยนตร์สยองขวัญ **การค้นพบและความลึกลับ** ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1911 กริฟฟิธ เทย์เลอร์ (Griffith Taylor) นักธรณีวิทยาชาวออสเตรเลีย เป็นผู้ค้นพบน้ำตกเลือดเป็นคนแรก ในขณะนั้น ด้วยข้อจำกัดทางวิทยาศาสตร์ เขาสันนิษฐานว่าสีแดงของน้ำตกเกิดจากสาหร่ายสีแดง ซึ่งเป็นสมมติฐานที่ฟังดูสมเหตุสมผลในยุคนั้น แต่ต่อมา นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบความจริงที่น่าทึ่งยิ่งกว่า ซ่อนอยู่ภายใต้ธารน้ำแข็งแห่งนี้ **ต้นกำเนิดของสีแดง** ปัจจุบัน เราทราบแล้วว่าสีแดงเข้มของน้ำตกเลือด เกิดจาก **เหล็กออกไซด์ (iron oxide)** หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ สนิมเหล็ก ซึ่งมีปริมาณมากในน้ำที่ไหลออกมาจากน้ำตก แต่น้ำเหล่านี้ไม่ได้มาจากหิมะหรือน้ำแข็งที่ละลาย หากแต่มีต้นกำเนิดจากทะเลสาบน้ำเค็มใต้ธารน้ำแข็ง ซึ่งถูกกักขังไว้ภายใต้น้ำแข็งมานานกว่า 2 ล้านปี ลองนึกภาพทะเลสาบโบราณ ที่ถูกปิดตายจากโลกภายนอก อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก และเป็นที่อยู่อาศัยของจุลินทรีย์ ที่ปรับตัวให้อยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากออกซิเจนและแสงแดด จุลินทรีย์เหล่านี้ ดำรงชีวิตโดยการหายใจโดยใช้ซัลเฟต และมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลง ธาตุเหล็กในน้ำให้กลายเป็นเหล็กออกไซด์ เมื่อน้ำใต้ธารน้ำแข็ง ไหลออกมาสัมผัสกับอากาศ เหล็กออกไซด์ก็จะทำปฏิกิริยากับออกซิเจน เกิดเป็นสีแดงสนิม เหมือนกับที่เราเห็นเหล็กขึ้นสนิมเมื่อโดนน้ำและอากาศ **ความสำคัญต่อการศึกษา** น้ำตกเลือด ไม่ได้เป็นเพียงปรากฏการณ์ธรรมชาติที่สวยงามแปลกตา แต่ยังเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญ ที่ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ เข้าใจถึง ระบบนิเวศน์โบราณ วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต และ กระบวนการทางธรณีวิทยา การศึกษา จุลินทรีย์ ที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมสุดขั้ว เช่น ทะเลสาบใต้ธารน้ำแข็ง อาจเป็นกุญแจสำคัญ ที่ช่วยให้เรา ค้นพบ สิ่งมีชีวิต บนดาวเคราะห์ดวงอื่น เช่น ดาวอังคาร ที่อาจมีสภาพแวดล้อมคล้ายคลึงกัน น้ำตกเลือด จึงเป็นเสมือนห้องทดลองทางธรรมชาติ ที่เปิดโอกาสให้นักวิทยาศาสตร์ ศึกษา และ ไขปริศนา เกี่ยวกับ สิ่งมีชีวิต และ วิวัฒนาการ บนโลก และ ในจักรวาล **ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ** * น้ำตกเลือด มีความเค็ม มากกว่า น้ำทะเล ถึง 4 เท่า ลองจินตนาการถึงรสชาติของมันดูสิครับ * อุณหภูมิของน้ำ ใน น้ำตกเลือด อยู่ที่ -5 องศาเซลเซียส แต่ไม่แข็งตัว เนื่องจาก ความเค็ม ที่ทำหน้าที่เหมือนสารป้องกันการแข็งตัว * จุลินทรีย์ ที่อาศัยอยู่ใน น้ำตกเลือด สามารถ หายใจ โดยใช้ ซัลเฟต แทน ออกซิเจน ซึ่งเป็น กลไกการปรับตัว ที่น่าทึ่ง สำหรับการดำรงชีวิต ในสภาพแวดล้อม ที่ ไม่มีออกซิเจน
    0 Comments 0 Shares 741 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/aWZ-cM-UCec?si=LCvQVG1493HxsPeF
    https://youtu.be/aWZ-cM-UCec?si=LCvQVG1493HxsPeF
    0 Comments 0 Shares 99 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 96 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 91 Views 0 Reviews
  • ร้านอาหารมังสวิรัติ(เจ)-เชียงใหม่

    ฉันกินมังสวิรัติ กินวันละมื้อ ส่วนมากจะทำกินเอง
    หากไปกินข้าวนอกบ้าน ก็จะไปกินร้านธรรมดา บ้านๆ
    ราคาต้องไม่แพง ไปกินเอง ไม่ต้องให้ใครพาไป

    -ศูนย์อาหารคณะพยาบาลชั้นล่างติดกับหอพัก 1
    https://maps.app.goo.gl/WjtCR3DdsPCzJYao8

    -ชมรมมังสวิรัติเชียงใหม่ ถ.มหิดล
    https://maps.app.goo.gl/EiPPLJGyCThD1BYP8

    -ร้านเจมิ่งขวัญ ตรงข้ามคณะทันตฯ ไส้กรอกข้าว
    https://maps.app.goo.gl/aT3Heik3XkovoLUn7

    -เจไม่จำเจ ป้ายอด ข้าวซอย ข้าวหมูแดง ..เยอะแยะ
    https://maps.app.goo.gl/bDVVsvayJZStzev58

    -เพียรกุศล อาหารเจ(แม่เหียะ)
    https://maps.app.goo.gl/p489tC5EAjPjHARP7

    -กินผัก ข้าวซอยเจ กะหล่ำปลีตุ๋น ขาเห็ดอบวุ้นเส้น
    https://maps.app.goo.gl/kGeQmH6DG3PJnkay7

    -กิ่งหลิว อาหารเจ (หางดง)น้ำพริกอ่องเจ
    https://maps.app.goo.gl/TqMQk5awNHcJqAyn8

    -มูลนิธิร้ศมีธรรม ข่วงสิงห์ ข้าวซอยเจ
    https://maps.app.goo.gl/qSrrvKjaoi42rLjL7

    -เจ ประตูเชียงใหม่ ถนนพระปกเกล้า แกงเขียวหวานเจ ลาบหมูเจ ลูกชิ้นข้าวหมูแดงเจ
    https://maps.app.goo.gl/FczEKepDSWeFn6w16
    ร้านอาหารมังสวิรัติ(เจ)-เชียงใหม่ ฉันกินมังสวิรัติ กินวันละมื้อ ส่วนมากจะทำกินเอง หากไปกินข้าวนอกบ้าน ก็จะไปกินร้านธรรมดา บ้านๆ ราคาต้องไม่แพง ไปกินเอง ไม่ต้องให้ใครพาไป -ศูนย์อาหารคณะพยาบาลชั้นล่างติดกับหอพัก 1 https://maps.app.goo.gl/WjtCR3DdsPCzJYao8 -ชมรมมังสวิรัติเชียงใหม่ ถ.มหิดล https://maps.app.goo.gl/EiPPLJGyCThD1BYP8 -ร้านเจมิ่งขวัญ ตรงข้ามคณะทันตฯ ไส้กรอกข้าว https://maps.app.goo.gl/aT3Heik3XkovoLUn7 -เจไม่จำเจ ป้ายอด ข้าวซอย ข้าวหมูแดง ..เยอะแยะ https://maps.app.goo.gl/bDVVsvayJZStzev58 -เพียรกุศล อาหารเจ(แม่เหียะ) https://maps.app.goo.gl/p489tC5EAjPjHARP7 -กินผัก ข้าวซอยเจ กะหล่ำปลีตุ๋น ขาเห็ดอบวุ้นเส้น https://maps.app.goo.gl/kGeQmH6DG3PJnkay7 -กิ่งหลิว อาหารเจ (หางดง)น้ำพริกอ่องเจ https://maps.app.goo.gl/TqMQk5awNHcJqAyn8 -มูลนิธิร้ศมีธรรม ข่วงสิงห์ ข้าวซอยเจ https://maps.app.goo.gl/qSrrvKjaoi42rLjL7 -เจ ประตูเชียงใหม่ ถนนพระปกเกล้า แกงเขียวหวานเจ ลาบหมูเจ ลูกชิ้นข้าวหมูแดงเจ https://maps.app.goo.gl/FczEKepDSWeFn6w16
    0 Comments 0 Shares 1004 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/NCJPU3R5-Eo?si=FHeLeCz_GQLOHQOe
    https://youtu.be/NCJPU3R5-Eo?si=FHeLeCz_GQLOHQOe
    0 Comments 0 Shares 96 Views 0 Reviews
  • 30/11/67

    RIP Julie Andruews
    30/11/67 RIP Julie Andruews
    0 Comments 0 Shares 155 Views 0 Reviews
  • 30/11/567
    30/11/567
    0 Comments 0 Shares 380 Views 1 0 Reviews
  • 30/11/67
    30/11/67
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 392 Views 2 0 Reviews
  • วิวยามค่ำคืนจากระเบียงห้องพัก grand deluxe river view โรมแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซต์ กรุงเทพ
    วิวยามค่ำคืนจากระเบียงห้องพัก grand deluxe river view โรมแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซต์ กรุงเทพ
    0 Comments 0 Shares 510 Views 10 0 Reviews
  • https://youtu.be/BIHpGz28l7A?si=WQcPvlF-HgP2DwbD
    https://youtu.be/BIHpGz28l7A?si=WQcPvlF-HgP2DwbD
    0 Comments 0 Shares 90 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 91 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 120 Views 0 Reviews
  • 3/11/67

    很神奇的汽车变色龙这个变色龙贴膜是台湾人发明世界专利权在台湾
    人走过去、衣服什么颜色,它就会变成一样的颜色,很神奇!
    รถเปลี่ยนสีได้อย่างน่าทึ่ง มันเป็นแผ่นฟิล์มที่ถูกประดิษฐ์โดยชาวไต้หวัน และได้จดสิทธิบัตรสากลแล้ว
    เพียงแต่คนเดินผ่าน ใส่เสื่ ผ้าสีอะไร รถก็จะเปลี่ยนสี ตามเสื้อผ้า แปลกมาก
    3/11/67 🌿很神奇的汽车变色龙✨这个变色龙贴膜是台湾人发明✨世界专利权在台湾🤩 人走过去、衣服什么颜色,它就会变成一样的颜色,很神奇! รถเปลี่ยนสีได้อย่างน่าทึ่ง มันเป็นแผ่นฟิล์มที่ถูกประดิษฐ์โดยชาวไต้หวัน และได้จดสิทธิบัตรสากลแล้ว เพียงแต่คนเดินผ่าน ใส่เสื่ ผ้าสีอะไร รถก็จะเปลี่ยนสี ตามเสื้อผ้า แปลกมาก
    0 Comments 0 Shares 472 Views 2 0 Reviews
  • อย่าเอาไว้
    อย่าเอาไว้
    "บิ๊กเต่า" เผยพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา "ฟิล์ม รัฐภูมิ" พยายามฉ้อโกง "บอสดิไอคอน" เบื้องต้นขอออกหมายจับ แต่ศาลให้เป็นหมายเรียกแทน เนื่องจากอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี เตรียมแจ้งเพิ่มข้อหาหมิ่นประมาท "หนุ่ม กรรชัย" และกรณีคลิปเสียง รมต.จิราพร ให้เวลา 5 วันมาพบพนักงานสอบสวน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000115282

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    0 Comments 0 Shares 210 Views 0 Reviews
  • “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ลั่นความจริงอาจต้องใช้เวลา! ส่งทนายยื่นหนังสือแสดงความบริสุทธิ์ใจไม่ได้ฉ้อโกง "บอสดิไอคอน"

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000115359

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ลั่นความจริงอาจต้องใช้เวลา! ส่งทนายยื่นหนังสือแสดงความบริสุทธิ์ใจไม่ได้ฉ้อโกง "บอสดิไอคอน" อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000115359 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Wow
    Yay
    19
    0 Comments 0 Shares 1612 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีตุรกีเออร์โดกันเรียกร้องให้เกิดความสามัคคีระหว่างประเทศอิสลาม

    ในขณะที่กลุ่มกบฏซีเรียที่ได้รับการสนับสนุนจากตุรกีและชาติพันธมิตรของพวกเขากำลังบุกยึกเมือง Aleppo ของซีเรียอยู่นั้น

    ประธานาธิบดีเออร์โดกัน กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสุดยอดด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศเรื่อง “อนาคตของฉนวนกาซา” ซึ่งจัดขึ้นในอิสตันบูลโดยมูลนิธิ Diyanet ของตุรกีและมูลนิธิ Al Khair ถึงเหตุการณ์ล่าสุดในฉนวนกาซาและดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญอย่างยิ่งของความสามัคคีและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาติอิสลาม

    “พี่น้องชาวปาเลสไตน์เกือบ 50,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง ถูกสังหารต่อหน้าสาธารณะ ซึ่งเป็นการกระทำจากการโจมตีของอิสราเอลที่มุ่งเป้าไปทำร้ายพลเรือนโดยตรง ทำให้ชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 100,000 คน”

    นอกจากนี้ยังเขาแสดงความเสียใจที่การโจมตีเลบานอนของอิสราเอลส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 3,500 ราย และ "สถานที่ประกอบศาสนกิจ โรงเรียน โรงพยาบาล และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลเรือนทุกด้านล้วนตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของอิสราเอล"

    "พี่น้องของเราที่กำลังเผชิญกับการโจมตีอย่างรุนแรงเหล่านี้ ตุรกีขอแสดงความสามัคคีอย่างเต็มที่กับพี่น้องชาวปาเลสไตน์" ส่วนหนึ่งในคำกล่าวของเออร์โดกัน
    ประธานาธิบดีตุรกีเออร์โดกันเรียกร้องให้เกิดความสามัคคีระหว่างประเทศอิสลาม ในขณะที่กลุ่มกบฏซีเรียที่ได้รับการสนับสนุนจากตุรกีและชาติพันธมิตรของพวกเขากำลังบุกยึกเมือง Aleppo ของซีเรียอยู่นั้น ประธานาธิบดีเออร์โดกัน กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสุดยอดด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศเรื่อง “อนาคตของฉนวนกาซา” ซึ่งจัดขึ้นในอิสตันบูลโดยมูลนิธิ Diyanet ของตุรกีและมูลนิธิ Al Khair ถึงเหตุการณ์ล่าสุดในฉนวนกาซาและดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญอย่างยิ่งของความสามัคคีและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาติอิสลาม “พี่น้องชาวปาเลสไตน์เกือบ 50,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง ถูกสังหารต่อหน้าสาธารณะ ซึ่งเป็นการกระทำจากการโจมตีของอิสราเอลที่มุ่งเป้าไปทำร้ายพลเรือนโดยตรง ทำให้ชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 100,000 คน” นอกจากนี้ยังเขาแสดงความเสียใจที่การโจมตีเลบานอนของอิสราเอลส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 3,500 ราย และ "สถานที่ประกอบศาสนกิจ โรงเรียน โรงพยาบาล และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลเรือนทุกด้านล้วนตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของอิสราเอล" "พี่น้องของเราที่กำลังเผชิญกับการโจมตีอย่างรุนแรงเหล่านี้ ตุรกีขอแสดงความสามัคคีอย่างเต็มที่กับพี่น้องชาวปาเลสไตน์" ส่วนหนึ่งในคำกล่าวของเออร์โดกัน
    Angry
    1
    1 Comments 0 Shares 359 Views 0 Reviews