นักอ่านหนังสือ
อัปเดตล่าสุด
- ครั้งที่ผมยังอยู่ในโรงเรียน ผมพูดกับครูสอนวิชาช่างไม้ว่างานที่ผมทำอยู่นั้น “ดีพอ” แล้ว ท่านพูดกับผมเพียงว่า มีแต่สิ่งสมบูรณ์แบบเท่านั้นที่จะดีพอ และสิ่งที่ดีพอนั้นยังไม่ถือว่าสมบูรณ์แบบ -แฟรงค์ วัย 82 ปีครั้งที่ผมยังอยู่ในโรงเรียน ผมพูดกับครูสอนวิชาช่างไม้ว่างานที่ผมทำอยู่นั้น “ดีพอ” แล้ว ท่านพูดกับผมเพียงว่า มีแต่สิ่งสมบูรณ์แบบเท่านั้นที่จะดีพอ และสิ่งที่ดีพอนั้นยังไม่ถือว่าสมบูรณ์แบบ -แฟรงค์ วัย 82 ปี0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิวกรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อกดถูกใจ แชร์ และแสดงความคิดเห็น!
- เราสามารถคิดได้ทีละเรื่องเท่านั้น ตอนได้ยินประโยคนี้ครั้งแรกฉันนึกสงสัยว่าทำไมฉันถึงไม่เคยนึกถึงสิ่งที่ชัดเจนแจ่มแจ้งแบบนี้ได้มาก่อน ถ้าเราสามารถคิดได้แค่ทีละหนึ่งเรื่องเท่านั้น งั้นเราแค่เลือกความคิดเชิงบวกแทนความคิดเชิงลบก็ได้แล้วไม่ใช่หรือไง คำตอบคือใช่
จากหนังสือ Manifestเราสามารถคิดได้ทีละเรื่องเท่านั้น ตอนได้ยินประโยคนี้ครั้งแรกฉันนึกสงสัยว่าทำไมฉันถึงไม่เคยนึกถึงสิ่งที่ชัดเจนแจ่มแจ้งแบบนี้ได้มาก่อน ถ้าเราสามารถคิดได้แค่ทีละหนึ่งเรื่องเท่านั้น งั้นเราแค่เลือกความคิดเชิงบวกแทนความคิดเชิงลบก็ได้แล้วไม่ใช่หรือไง คำตอบคือใช่ จากหนังสือ Manifest0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว - คนเจน Z คือคนที่เกิดตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2540-2555 หรือคนที่ใน คน วันนี้มีอายุ 10-25 ปีนั้น ถูกนิยามว่าเป็นคนรุ่นที่ “เหงาที่สุดและก็ผูกพันกับสื่อสังคมยุคใหม่ที่เป็นดิจิทัลมากที่สุด พวกเขาน่าจะมีพี่น้องน้อย และเมื่อเติบโตขึ้นก็อาจมีหรือไม่มีคู่ชีวิตซึ่งก็น่าจะมีลูกน้อยมากหรืออาจจะไม่มีเลย ดังนั้นพวกเขาจึงมักจะไม่สามารถพึ่งพาคนอื่นได้มากนักในยามแก่เฒ่า และนั่นทำให้การวางแผนการเงินสำหรับคนเจน Z เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งยวด
จากหนังสือ วิกฤตหุ้นคอนเนอร์แตก
คนเจน Z คือคนที่เกิดตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2540-2555 หรือคนที่ใน คน วันนี้มีอายุ 10-25 ปีนั้น ถูกนิยามว่าเป็นคนรุ่นที่ “เหงาที่สุดและก็ผูกพันกับสื่อสังคมยุคใหม่ที่เป็นดิจิทัลมากที่สุด พวกเขาน่าจะมีพี่น้องน้อย และเมื่อเติบโตขึ้นก็อาจมีหรือไม่มีคู่ชีวิตซึ่งก็น่าจะมีลูกน้อยมากหรืออาจจะไม่มีเลย ดังนั้นพวกเขาจึงมักจะไม่สามารถพึ่งพาคนอื่นได้มากนักในยามแก่เฒ่า และนั่นทำให้การวางแผนการเงินสำหรับคนเจน Z เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งยวด จากหนังสือ วิกฤตหุ้นคอนเนอร์แตก0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว - ชายคนหนึ่งเป็นคนตกปลาที่เก่งมากเขายังเดินออกไปแล้วได้ปลาขนาด 3 ฟุต หลังจากแกะเบ็ดเขาก็โยนปลากับลงทะเลไป หลังจากนั้นเขาเหวี่ยงเบ็ดไปอีกแล้วเขาก็ได้ปลาขนาด 2 ฟุตกลับมาเขาแกะเบ็ดแล้วก็เหวี่ยงปลา 2 ฟุตลงไปในทะเล ต่อมาเขาเหวี่ยงเบ็ดไปอีก 1 รอบและเขาได้ปลาขนาด 1 ฟุตรอบนี้เขาไม่ทิ้งปลาลงไปในทะเลเขาจับปลาตัวนี้กลับบ้าน นักท่องเที่ยวถามเขาว่าทำไมเขาจึงเอาปลาขนาด 1 ฟุตกลับบ้านเขาพูดว่าที่บ้านเขามีจานแค่ขนาด 1 ฟุต ปลาตัวที่ใหญ่กว่านี้ใส่จานเขาไม่ได้
จากหนังสือ Design Your Life
ชายคนหนึ่งเป็นคนตกปลาที่เก่งมากเขายังเดินออกไปแล้วได้ปลาขนาด 3 ฟุต หลังจากแกะเบ็ดเขาก็โยนปลากับลงทะเลไป หลังจากนั้นเขาเหวี่ยงเบ็ดไปอีกแล้วเขาก็ได้ปลาขนาด 2 ฟุตกลับมาเขาแกะเบ็ดแล้วก็เหวี่ยงปลา 2 ฟุตลงไปในทะเล ต่อมาเขาเหวี่ยงเบ็ดไปอีก 1 รอบและเขาได้ปลาขนาด 1 ฟุตรอบนี้เขาไม่ทิ้งปลาลงไปในทะเลเขาจับปลาตัวนี้กลับบ้าน นักท่องเที่ยวถามเขาว่าทำไมเขาจึงเอาปลาขนาด 1 ฟุตกลับบ้านเขาพูดว่าที่บ้านเขามีจานแค่ขนาด 1 ฟุต ปลาตัวที่ใหญ่กว่านี้ใส่จานเขาไม่ได้ จากหนังสือ Design Your Life - มาดูเรื่องของช่างก่อหินสองคนกันครับ คุณเดินเข้าไปหาช่างก่อหินคนแรก และถามว่า “คุณชอบงานที่ทำไหม” เขาเงยหน้าขึ้นมามองคุณและตอบ ว่า “ผมสร้างกำแพงนี้มานานมากแล้ว ช่างเป็นงานที่จืดชืดสิ้นดี แถมฉันยังต้องนั่งหลังขดหลังแข็งทำงานกลางแดดทั้งวัน หินก็โคตรหนักต้องมาแบกทุกวันแบบนี้เล่นเอาหลังแทบหัก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำแพงจะเสร็จก่อนผมตายหรือเปล่า แต่มันคืองานไม่ทำก็ไม่มีกิน” คุณขอบคุณเขาที่สละ เวลาตอบคำถามแล้วเดินต่อไป
จากนั้นคุณเดินเข้าไปหาช่างก่อหินคนที่สองซึ่งอยู่ห่างไปไม่ไกลแล้วถามคำถามเดียวกันว่า “คุณชอบงานที่ทำใหม” เขาเงยหน้าขึ้นมาและตอบว่า “ผมรักงานของผม ผมกำลังสร้างมหาวิหาร จริงอยู่ที่ผมสร้าง กำแพงนี้มานานมากแล้ว แถมหลาย ๆ ครั้งงานก็จืดชืด ผมทำงานท่าม กลางแสงแดดแผดเผาทั้งวัน ต้องยกหินหนัก ๆ วันแล้ววันเล่าจนเหนื่อย แทบขาดใจ ผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ากำแพงจะเสร็จก่อนผมตายหรือเปล่า แต่ผมกำลังสร้างมหาวิหารเชียวนะ"
จากหนังสือ Start With Whyมาดูเรื่องของช่างก่อหินสองคนกันครับ คุณเดินเข้าไปหาช่างก่อหินคนแรก และถามว่า “คุณชอบงานที่ทำไหม” เขาเงยหน้าขึ้นมามองคุณและตอบ ว่า “ผมสร้างกำแพงนี้มานานมากแล้ว ช่างเป็นงานที่จืดชืดสิ้นดี แถมฉันยังต้องนั่งหลังขดหลังแข็งทำงานกลางแดดทั้งวัน หินก็โคตรหนักต้องมาแบกทุกวันแบบนี้เล่นเอาหลังแทบหัก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำแพงจะเสร็จก่อนผมตายหรือเปล่า แต่มันคืองานไม่ทำก็ไม่มีกิน” คุณขอบคุณเขาที่สละ เวลาตอบคำถามแล้วเดินต่อไป จากนั้นคุณเดินเข้าไปหาช่างก่อหินคนที่สองซึ่งอยู่ห่างไปไม่ไกลแล้วถามคำถามเดียวกันว่า “คุณชอบงานที่ทำใหม” เขาเงยหน้าขึ้นมาและตอบว่า “ผมรักงานของผม ผมกำลังสร้างมหาวิหาร จริงอยู่ที่ผมสร้าง กำแพงนี้มานานมากแล้ว แถมหลาย ๆ ครั้งงานก็จืดชืด ผมทำงานท่าม กลางแสงแดดแผดเผาทั้งวัน ต้องยกหินหนัก ๆ วันแล้ววันเล่าจนเหนื่อย แทบขาดใจ ผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ากำแพงจะเสร็จก่อนผมตายหรือเปล่า แต่ผมกำลังสร้างมหาวิหารเชียวนะ" จากหนังสือ Start With Why - ถึงแม้ว่าคนเรามักจะยึดติดกับสถานภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบันแต่ก็มีงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงทำให้เรามีความสุขมากขึ้นได้
ในการทดลองจากหนังสือเรื่อง Freakonomics ของสตีเฟน เลวิทท์ เขาเชิญให้คนมาลองตัดสินใจเรื่องสำคัญในชีวิต (เช่น ลาออกจากงาน หรือจบความสัมพันธ์)ด้วยการโยนเหรียญ
ถ้าได้หัวแปลว่าต้องเปลี่ยน ได้ก้อยแปลว่าไม่ต้องเปลี่ยน
หกเดือนต่อมา คนที่โยนได้หัวและเปลี่ยนแปลงกลับมีความสุขมากกว่า
“คนเรามักจะรู้สึกหวาดระแวงเกินไปเวลาต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญระดับที่เปลี่ยนชีวิต” เลวิทท์เขียนบอกไว้
จากหนังสือ ทำงานกับคนต้องใช้อารมณ์ให้เป็น No Hard Feelingsถึงแม้ว่าคนเรามักจะยึดติดกับสถานภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบันแต่ก็มีงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงทำให้เรามีความสุขมากขึ้นได้ ในการทดลองจากหนังสือเรื่อง Freakonomics ของสตีเฟน เลวิทท์ เขาเชิญให้คนมาลองตัดสินใจเรื่องสำคัญในชีวิต (เช่น ลาออกจากงาน หรือจบความสัมพันธ์)ด้วยการโยนเหรียญ ถ้าได้หัวแปลว่าต้องเปลี่ยน ได้ก้อยแปลว่าไม่ต้องเปลี่ยน หกเดือนต่อมา คนที่โยนได้หัวและเปลี่ยนแปลงกลับมีความสุขมากกว่า “คนเรามักจะรู้สึกหวาดระแวงเกินไปเวลาต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญระดับที่เปลี่ยนชีวิต” เลวิทท์เขียนบอกไว้ จากหนังสือ ทำงานกับคนต้องใช้อารมณ์ให้เป็น No Hard Feelings0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว - สะดวกมาก
ใช้ แอปธนาคาร Scan ได้อย่างรวดเร็ว
สะดวกมาก ใช้ แอปธนาคาร Scan ได้อย่างรวดเร็ว0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว -
-
เรื่องราวเพิ่มเติม