• เที่ยว #จีน #หนานหนิง #หยางซั่ว 🪂🔥
    ธรรมชาติสุดอลังการ ในราคาสุดประหยัด 😍

    🗓 จำนวนวัน 4 วัน 3 คืน
    ✈ GX-จีเอ็กซ์แอร์ไลน์ส
    🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐
    ❌ ทัวร์ไม่เข้าร้านค้ารัฐบาล

    📍 น้ำตกเต๋อเทียน
    📍 นั่งรถไฟด่วน
    📍 เขาหลูยี่ (รวมกระเช้าขึ้น-ลง)
    📍 นั่งบอลลูนชมเมืองหยางซั่ว
    📍 ช้อปปิ้งถนนเวสต์ หรือถนนฝรั่ง
    📍 POP MART

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8
    LINE ID: @etravelway.fire
    https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    ☎️: 021166395

    #ทัวร์จีน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยว #จีน #หนานหนิง #หยางซั่ว 🪂🔥 ธรรมชาติสุดอลังการ ในราคาสุดประหยัด 😍 🗓 จำนวนวัน 4 วัน 3 คืน ✈ GX-จีเอ็กซ์แอร์ไลน์ส 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ ❌ ทัวร์ไม่เข้าร้านค้ารัฐบาล 📍 น้ำตกเต๋อเทียน 📍 นั่งรถไฟด่วน 📍 เขาหลูยี่ (รวมกระเช้าขึ้น-ลง) 📍 นั่งบอลลูนชมเมืองหยางซั่ว 📍 ช้อปปิ้งถนนเวสต์ หรือถนนฝรั่ง 📍 POP MART รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์จีน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 10 0 รีวิว
  • OMG !!! มีคนเจอ socket AM5 ไหม้ เพราะติดตั้ง CPU AMD Ryzen 7 9800X3D ในบนความสันนิษฐานว่า เมนบอร์ดส่งแรงดันไฟฟ้าสูงเกินไป แต่ก็เป็นไปได้ที่เป็นข้อผิดพลาดของผู้ใช้ระหว่างการติดตั้ง
    ระวังกันด้วยครับ
    https://wccf.tech/1fi9j
    OMG !!! มีคนเจอ socket AM5 ไหม้ เพราะติดตั้ง CPU AMD Ryzen 7 9800X3D ในบนความสันนิษฐานว่า เมนบอร์ดส่งแรงดันไฟฟ้าสูงเกินไป แต่ก็เป็นไปได้ที่เป็นข้อผิดพลาดของผู้ใช้ระหว่างการติดตั้ง ระวังกันด้วยครับ https://wccf.tech/1fi9j
    WCCF.TECH
    AMD Ryzen 7 9800X3D CPU & AM5 Motherboard Socket Burns Out, Both Physically Damaged
    AMD's Ryzen 7 9800X3D CPU has witnessed the first case of it burning out along with the AM5 motherboard socket, both completely damaged.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⭕ เจาะใจเสาร์นี้พบกับ
    “พิเชษฐ โตนิติวงศ์” ผู้จัดการไปทั่ว แห่งบริษัทธรรมธุรกิจ
    วิสาหกิจที่คิดและทำเพื่อสังคม
    กับความตั้งใจสร้างระบบอาหารธรรมชาติแท้ที่..อร่อย ปลอดภัย ในราคาที่เป็นธรรม.


    📌 เจาะใจ เสาร์ที่ 16 พฤศจิกายนนี้
    เวลา 21.00 น. ทางช่อง 9 กด 30
    #ธรรมธุรกิจ #ยักษ์กะโจน #เจาะใจ #หนาวพิเชษฐ
    ⭕ เจาะใจเสาร์นี้พบกับ “พิเชษฐ โตนิติวงศ์” ผู้จัดการไปทั่ว แห่งบริษัทธรรมธุรกิจ วิสาหกิจที่คิดและทำเพื่อสังคม กับความตั้งใจสร้างระบบอาหารธรรมชาติแท้ที่..อร่อย ปลอดภัย ในราคาที่เป็นธรรม. 📌 เจาะใจ เสาร์ที่ 16 พฤศจิกายนนี้ เวลา 21.00 น. ทางช่อง 9 กด 30 #ธรรมธุรกิจ #ยักษ์กะโจน #เจาะใจ #หนาวพิเชษฐ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • อำนาจภายใต้การเมืองสีน้ำเงิน
    โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ https://www.facebook.com/surawich.verawan

    การที่อธิบดีกรมที่ดินที่อยู่ภายใต้พรรคภูมิใจไทย ทำหนังสือถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า “คณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินการรถไฟฯ บริเวณแยกเขากระโดงเนื่องจาก รฟท. ไม่มีหลักฐานเป็นที่ข้อยุติว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของ รฟท.จึงเห็นควรยุติเรื่องในกรณีนี้”

    กำลังท้าทายกับกระแสสังคมและกระบวนการยุติธรรมที่เป็นบรรทัดฐานของประเทศ เข้าใจครับว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวแต่งตั้งขึ้นตามคำสั่งของศาลปกครองในคดีที่การรถไฟฯ ฟ้องกรมที่ดิน แต่นัยของคำสั่งนั้นหากอ่านคำพิพากษาของศาลปกครองแล้ว จะพบว่า ศาลต้องการให้ตั้งกรรมการขึ้นมาเพื่อเพิกถอนสิทธิการถือครองที่ดินตามคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ผู้ถือครองที่ดินเขากระโดงจำนวน 37 แปลงฟ้องการรถไฟฯ (คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 8027/2561 และ 842-876/260 ) แต่คำพิพากษาศาลฎีกาชี้ชัดว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯ ซึ่งศาลปกครองหมายรวมถึงแปลงอื่นที่อยู่นอกเหนือแปลงที่นำขึ้นสู่ศาลฎีกาด้วย

    แต่กรมที่ดินซึ่งตั้งกรรมการขึ้นตามคำสั่งศาลปกครองกลับมีมติว่า การรถไฟฯ ไม่มีหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดินเขากระโดงทั้งที่ศาลฎีกาชี้แล้วว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯแม้ว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บอกว่า ไม่ได้สั่งการอะไรกรมที่ดิน แต่คำถามว่า มีใครบ้างที่จะเชื่อ

    อนุทินอ้างว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวที่ตั้งขึ้นตามคำสั่งของศาลปกครองตั้งขึ้นมาก่อนที่พรรคภูมิใจไทยและตัวเองจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย แต่จุดหมายสำคัญก็คือ กรรมการชุดนี้สามารถมีมติได้ในวันที่พรรคภูมิใจไทยมีอำนาจในกระทรวงมหาดไทย และอนุทินมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีและเมื่อไม่นานมานี้อธิบดีกรมที่ดินคนหนึ่งก็ได้ชิงลาออกไป ซึ่งกล่าวขานกันว่า เพราะปมที่ดินเขากระโดงนั่นเอง

    เป็นที่รู้กันว่า ในจำนวนที่ดิน 800 กว่าแปลงในพื้นที่เขากระโดงนั้น ผู้ถือครองรายใหญ่ก็คือ ตระกูลชิดชอบ ไปถามพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ก็รู้เรื่องนี้ดีเพราะเคยอภิปรายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ในสภาฯ เพียงแต่วันนี้ พ.ต.อ.ทวีอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกับพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น แน่นอนถึงตอนนี้พ.ต.อ.ทวีก็ต้องการรักษาสายสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ต่างกับที่เคยหวงแหนสมบัติของชาติในขณะที่เป็นฝ่ายค้าน

    และเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าคนที่อยู่เบื้องหลังพรรคภูมิใจไทยก็คือนายเนวิน ชิดชอบ ที่เป็นเจ้าของพรรคตัวจริงในทางพฤตินัย จะเห็นได้ว่าในงานวันเกิดของนายเนวินนั้นข้าราชการระดับสูงที่อยู่ภายใต้กระทรวงที่พรรคภูมิใจไทยกำกับนั้นจะต้องเข้าไปร่วมงานถึงบุรีรัมย์เพื่อแสดงตัวให้เห็น เพราะเขารู้ว่าใครคือ คนที่ให้คุณให้โทษได้ และในหมู่ข้าราชการก็รู้กันว่า การโยกย้ายตำแหน่งต่างๆ ในกระทรวงของพรรคภูมิใจไทยนั้นคนที่มีบทบาทสำคัญคือใคร

    ก็ต้องรอดูต่อไปว่า ระหว่างอำนาจทางการเมืองกับความยุติธรรมทางกฎหมายที่เป็นขื่อแปของบ้านเมืองอย่างไหนจะศักดิ์สิทธิ์กว่ากัน คำสั่งของกรมที่ดินจะใหญ่กว่าคำพิพากษาของศาลฎีกาไหม

    แต่ต้องยอมรับนะครับว่า การเล่นการเมืองอยู่หลังม่านของคนคนหนึ่งวันนี้นั้นทำให้กระบวนการตรวจสอบคนที่อยู่ในอำนาจทางการเมืองไม่สามารถทำได้ เพราะไม่ได้มีตำแหน่งใดในรัฐบาล หรือแม้แต่เป็นผู้บริหารพรรค เพียงแต่เป็นสมาชิกของพรรคที่สามารถเตะตูดหัวหน้าพรรคได้เท่านั้น ทำให้กลายเป็นช่องโหว่ที่ทำให้ผู้มีอิทธิพลทางการเมืองใช้เป็นเครื่องมือในการเล่นการเมืองอยู่หลังฉาก แต่มีอำนาจสั่งการทุกกระทรวงที่อยู่ภายใต้อำนาจของพรรคที่ข้าราชการทุกคนต้องเกรงใจและหวั่นกลัว

    มาที่เรื่อง สว.นอกจากในวันนี้พรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคอันดับสองในสภาผู้แทนราษฎร แต่เป็นที่รู้กันว่า สว.กว่า 150 คนนั้นอยู่ภายใต้การกำกับของใครที่เรียกว่ากันว่า สว.สีน้ำเงินนั่นเอง แล้วอำนาจที่สำคัญของ สว.ก็คือ การแต่งตั้งองค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ฯลฯ ซึ่งทำให้หากใครจะขึ้นสู่ตำแหน่งดังกล่าวก็จะต้องวิ่งเข้าหาเจ้าของ สว.เพื่อให้ สว.ยกมือให้ หากผ่านการคัดเลือกของคณะกรรมการสรรหาเข้าสู่วุฒิสภามา

    ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าตระหนกและเป็นอันตรายมากหากอำนาจการแต่งตั้งองค์กรอิสระอยู่ในอำนาจของใครบางคนหรือคนเพียงคนเดียวในทางพฤตินัย

    และหากมีการประชุมรัฐสภาคือประชุมร่วมระหว่าง สส. และ สว.เสียงของพรรคภูมิใจไทยและ สว.จะรวมกันเป็นเสียงข้างมากในรัฐสภา และการดำเนินการใดที่จะต้องผ่านรัฐสภาเช่น การแก้รัฐธรรมนูญก็จะตกอยู่ภายใต้การกำกับของเจ้าของสว.ที่จะต้องการให้เป็นไปในทิศทางไหนก็ได้

    วันนี้พรรคภูมิใจไทยแม้ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอันดับสอง แต่ก็มีอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาลไปแล้ว แม้ว่า เราจะเห็นอนุทินนอบน้อมต่ออุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพร้อมจะยืนเป็นวอลเปเปอร์หรือพี่เลี้ยงของอุ๊งอิ๊งค์ตลอดเวลาก็ตาม พรรคภูมิใจไทยจึงขบเหลี่ยมอยู่กับพรรคเพื่อไทยหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกัญชา เรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ รวมถึงการทำประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ เพราะรู้ว่าอย่างไรเสียพรรคเพื่อไทยก็ไม่สามารถสลัดพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาลได้

    แล้วคอยดูว่า กรณีที่ดินเขากระโดง แม้ว่านายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม จากพรรคเพื่อไทยซึ่งกำกับดูแลการรถไฟแห่งประเทศไทยจะแสดงให้เห็นว่า ไม่อาจยอมรับคำสั่งของคณะกรรมการของกรมที่ดินในกรณีที่ดินเขากระโดงได้ แต่ก็ต้องดูว่า สุดท้ายแล้วเป็นเพียงการแสดงออกไปตามบทบาทที่ตัวเองเล่นอยู่ แต่จะรุกไล่เอาจริงเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศจนสุดทางไหม หรือเป็นเพียงการแสดงอำนาจออกมาให้เห็นเพียงเพื่อคะคานแลกเปลี่ยนต่อรองผลประโยชน์กันทางการเมืองเท่านั้นเอง

    อิทธิพลของคนโตแห่งบุรีรัมย์ยังสะท้อนอยู่ในองค์กรอิสระอย่าง กกต. เห็นไหมว่า เมื่อไม่นานอยู่ดีๆ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ก็ออกมาบอกว่า กรณีของพรรคภูมิใจไทยที่ถูกร้องเรียนในลักษณะความผิดที่คล้ายคลึงกับพรรคก้าวไกลที่ถูกศาลวินิจฉัยยุบพรรคนั้น ไม่ได้เป็นความผิดแห่งการยุบพรรคการเมืองเลยไม่เป็นเหตุแห่งการยุบพรรคการเมือง ทั้งที่บอกว่ายังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้นยังไม่มีบทสรุปออกมา จึงไม่ใช่เรื่องที่เลขาธิการ กกต.จะออกมาแถลงชี้นำหรือออกมาแถลงแม้หลายคนจะตั้งคำถามว่า การสอบสวนกรณีดังกล่าวของพรรคภูมิใจไทยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นจะใช้เวลานานมากก็ตาม

    วันนี้เราคงเห็นแล้วว่า สำหรับนักการเมืองแล้วระหว่างผลประโยชน์ของประเทศชาติกับผลประโยชน์ของตัวเองนั้นอย่างไหนสำคัญกว่าในบทบาทของคนที่เข้ามาเล่นการเมือง จะมีคนกี่คนที่เข้ามาเล่นการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของชาติอย่างแท้จริง และมีกฎเกณฑ์กติกาไหนที่จะตรวจสอบนักการเมืองที่มุ่งแต่จะแสวงหาผลประโยชน์เพื่อส่วนตัวและพวกพ้องได้อย่างแท้จริง

    วันนี้เราคงเข้าใจแล้วว่า ทำไมพรรคภูมิใจไทยพรรคสีน้ำเงินจึงเล่นการเมืองเพื่อเป็นรัฐบาลเท่านั้น


    ที่มา https://mgronline.com/daily/detail/9670000109483

    #Thaitimes
    อำนาจภายใต้การเมืองสีน้ำเงิน โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ https://www.facebook.com/surawich.verawan การที่อธิบดีกรมที่ดินที่อยู่ภายใต้พรรคภูมิใจไทย ทำหนังสือถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า “คณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินการรถไฟฯ บริเวณแยกเขากระโดงเนื่องจาก รฟท. ไม่มีหลักฐานเป็นที่ข้อยุติว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของ รฟท.จึงเห็นควรยุติเรื่องในกรณีนี้” กำลังท้าทายกับกระแสสังคมและกระบวนการยุติธรรมที่เป็นบรรทัดฐานของประเทศ เข้าใจครับว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวแต่งตั้งขึ้นตามคำสั่งของศาลปกครองในคดีที่การรถไฟฯ ฟ้องกรมที่ดิน แต่นัยของคำสั่งนั้นหากอ่านคำพิพากษาของศาลปกครองแล้ว จะพบว่า ศาลต้องการให้ตั้งกรรมการขึ้นมาเพื่อเพิกถอนสิทธิการถือครองที่ดินตามคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ผู้ถือครองที่ดินเขากระโดงจำนวน 37 แปลงฟ้องการรถไฟฯ (คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 8027/2561 และ 842-876/260 ) แต่คำพิพากษาศาลฎีกาชี้ชัดว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯ ซึ่งศาลปกครองหมายรวมถึงแปลงอื่นที่อยู่นอกเหนือแปลงที่นำขึ้นสู่ศาลฎีกาด้วย แต่กรมที่ดินซึ่งตั้งกรรมการขึ้นตามคำสั่งศาลปกครองกลับมีมติว่า การรถไฟฯ ไม่มีหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดินเขากระโดงทั้งที่ศาลฎีกาชี้แล้วว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯแม้ว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บอกว่า ไม่ได้สั่งการอะไรกรมที่ดิน แต่คำถามว่า มีใครบ้างที่จะเชื่อ อนุทินอ้างว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวที่ตั้งขึ้นตามคำสั่งของศาลปกครองตั้งขึ้นมาก่อนที่พรรคภูมิใจไทยและตัวเองจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย แต่จุดหมายสำคัญก็คือ กรรมการชุดนี้สามารถมีมติได้ในวันที่พรรคภูมิใจไทยมีอำนาจในกระทรวงมหาดไทย และอนุทินมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีและเมื่อไม่นานมานี้อธิบดีกรมที่ดินคนหนึ่งก็ได้ชิงลาออกไป ซึ่งกล่าวขานกันว่า เพราะปมที่ดินเขากระโดงนั่นเอง เป็นที่รู้กันว่า ในจำนวนที่ดิน 800 กว่าแปลงในพื้นที่เขากระโดงนั้น ผู้ถือครองรายใหญ่ก็คือ ตระกูลชิดชอบ ไปถามพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ก็รู้เรื่องนี้ดีเพราะเคยอภิปรายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ในสภาฯ เพียงแต่วันนี้ พ.ต.อ.ทวีอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกับพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น แน่นอนถึงตอนนี้พ.ต.อ.ทวีก็ต้องการรักษาสายสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ต่างกับที่เคยหวงแหนสมบัติของชาติในขณะที่เป็นฝ่ายค้าน และเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าคนที่อยู่เบื้องหลังพรรคภูมิใจไทยก็คือนายเนวิน ชิดชอบ ที่เป็นเจ้าของพรรคตัวจริงในทางพฤตินัย จะเห็นได้ว่าในงานวันเกิดของนายเนวินนั้นข้าราชการระดับสูงที่อยู่ภายใต้กระทรวงที่พรรคภูมิใจไทยกำกับนั้นจะต้องเข้าไปร่วมงานถึงบุรีรัมย์เพื่อแสดงตัวให้เห็น เพราะเขารู้ว่าใครคือ คนที่ให้คุณให้โทษได้ และในหมู่ข้าราชการก็รู้กันว่า การโยกย้ายตำแหน่งต่างๆ ในกระทรวงของพรรคภูมิใจไทยนั้นคนที่มีบทบาทสำคัญคือใคร ก็ต้องรอดูต่อไปว่า ระหว่างอำนาจทางการเมืองกับความยุติธรรมทางกฎหมายที่เป็นขื่อแปของบ้านเมืองอย่างไหนจะศักดิ์สิทธิ์กว่ากัน คำสั่งของกรมที่ดินจะใหญ่กว่าคำพิพากษาของศาลฎีกาไหม แต่ต้องยอมรับนะครับว่า การเล่นการเมืองอยู่หลังม่านของคนคนหนึ่งวันนี้นั้นทำให้กระบวนการตรวจสอบคนที่อยู่ในอำนาจทางการเมืองไม่สามารถทำได้ เพราะไม่ได้มีตำแหน่งใดในรัฐบาล หรือแม้แต่เป็นผู้บริหารพรรค เพียงแต่เป็นสมาชิกของพรรคที่สามารถเตะตูดหัวหน้าพรรคได้เท่านั้น ทำให้กลายเป็นช่องโหว่ที่ทำให้ผู้มีอิทธิพลทางการเมืองใช้เป็นเครื่องมือในการเล่นการเมืองอยู่หลังฉาก แต่มีอำนาจสั่งการทุกกระทรวงที่อยู่ภายใต้อำนาจของพรรคที่ข้าราชการทุกคนต้องเกรงใจและหวั่นกลัว มาที่เรื่อง สว.นอกจากในวันนี้พรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคอันดับสองในสภาผู้แทนราษฎร แต่เป็นที่รู้กันว่า สว.กว่า 150 คนนั้นอยู่ภายใต้การกำกับของใครที่เรียกว่ากันว่า สว.สีน้ำเงินนั่นเอง แล้วอำนาจที่สำคัญของ สว.ก็คือ การแต่งตั้งองค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ฯลฯ ซึ่งทำให้หากใครจะขึ้นสู่ตำแหน่งดังกล่าวก็จะต้องวิ่งเข้าหาเจ้าของ สว.เพื่อให้ สว.ยกมือให้ หากผ่านการคัดเลือกของคณะกรรมการสรรหาเข้าสู่วุฒิสภามา ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าตระหนกและเป็นอันตรายมากหากอำนาจการแต่งตั้งองค์กรอิสระอยู่ในอำนาจของใครบางคนหรือคนเพียงคนเดียวในทางพฤตินัย และหากมีการประชุมรัฐสภาคือประชุมร่วมระหว่าง สส. และ สว.เสียงของพรรคภูมิใจไทยและ สว.จะรวมกันเป็นเสียงข้างมากในรัฐสภา และการดำเนินการใดที่จะต้องผ่านรัฐสภาเช่น การแก้รัฐธรรมนูญก็จะตกอยู่ภายใต้การกำกับของเจ้าของสว.ที่จะต้องการให้เป็นไปในทิศทางไหนก็ได้ วันนี้พรรคภูมิใจไทยแม้ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอันดับสอง แต่ก็มีอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาลไปแล้ว แม้ว่า เราจะเห็นอนุทินนอบน้อมต่ออุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพร้อมจะยืนเป็นวอลเปเปอร์หรือพี่เลี้ยงของอุ๊งอิ๊งค์ตลอดเวลาก็ตาม พรรคภูมิใจไทยจึงขบเหลี่ยมอยู่กับพรรคเพื่อไทยหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกัญชา เรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ รวมถึงการทำประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ เพราะรู้ว่าอย่างไรเสียพรรคเพื่อไทยก็ไม่สามารถสลัดพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาลได้ แล้วคอยดูว่า กรณีที่ดินเขากระโดง แม้ว่านายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม จากพรรคเพื่อไทยซึ่งกำกับดูแลการรถไฟแห่งประเทศไทยจะแสดงให้เห็นว่า ไม่อาจยอมรับคำสั่งของคณะกรรมการของกรมที่ดินในกรณีที่ดินเขากระโดงได้ แต่ก็ต้องดูว่า สุดท้ายแล้วเป็นเพียงการแสดงออกไปตามบทบาทที่ตัวเองเล่นอยู่ แต่จะรุกไล่เอาจริงเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศจนสุดทางไหม หรือเป็นเพียงการแสดงอำนาจออกมาให้เห็นเพียงเพื่อคะคานแลกเปลี่ยนต่อรองผลประโยชน์กันทางการเมืองเท่านั้นเอง อิทธิพลของคนโตแห่งบุรีรัมย์ยังสะท้อนอยู่ในองค์กรอิสระอย่าง กกต. เห็นไหมว่า เมื่อไม่นานอยู่ดีๆ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ก็ออกมาบอกว่า กรณีของพรรคภูมิใจไทยที่ถูกร้องเรียนในลักษณะความผิดที่คล้ายคลึงกับพรรคก้าวไกลที่ถูกศาลวินิจฉัยยุบพรรคนั้น ไม่ได้เป็นความผิดแห่งการยุบพรรคการเมืองเลยไม่เป็นเหตุแห่งการยุบพรรคการเมือง ทั้งที่บอกว่ายังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้นยังไม่มีบทสรุปออกมา จึงไม่ใช่เรื่องที่เลขาธิการ กกต.จะออกมาแถลงชี้นำหรือออกมาแถลงแม้หลายคนจะตั้งคำถามว่า การสอบสวนกรณีดังกล่าวของพรรคภูมิใจไทยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นจะใช้เวลานานมากก็ตาม วันนี้เราคงเห็นแล้วว่า สำหรับนักการเมืองแล้วระหว่างผลประโยชน์ของประเทศชาติกับผลประโยชน์ของตัวเองนั้นอย่างไหนสำคัญกว่าในบทบาทของคนที่เข้ามาเล่นการเมือง จะมีคนกี่คนที่เข้ามาเล่นการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของชาติอย่างแท้จริง และมีกฎเกณฑ์กติกาไหนที่จะตรวจสอบนักการเมืองที่มุ่งแต่จะแสวงหาผลประโยชน์เพื่อส่วนตัวและพวกพ้องได้อย่างแท้จริง วันนี้เราคงเข้าใจแล้วว่า ทำไมพรรคภูมิใจไทยพรรคสีน้ำเงินจึงเล่นการเมืองเพื่อเป็นรัฐบาลเท่านั้น ที่มา https://mgronline.com/daily/detail/9670000109483 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    อำนาจภายใต้การเมืองสีน้ำเงิน
    การที่อธิบดีกรมที่ดินที่อยู่ภายใต้พรรคภูมิใจไทย ทำหนังสือถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า “คณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินการรถไฟฯ บริเวณแยกเขากระโดงเนื่องจาก รฟท. ไม่มีหลักฐานเป็
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธรรมธุรกิจ คือ …

    วิสาหกิจเพื่อสังคม ที่ธรรมธุรกิจด้านอาหาร สุขภาพ และการท่องเที่ยว เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจพอเพียง โดยคนปลูกธรรมธุรกิจศิษย์ยักษ์กะโจน ต้องปลูกให้พอกินก่อน ไม่ใช่ปลูกเพื่อขายก่อน ต้องใช้น้ำหมักสมุนไพรรสจืดเต็มรอบการผลิต ต้องไม่ซื้อของคนอื่นมาขาย และต้องตั้งราคาที่เป็นธรรม

    เราเป็นคนกลางในการรวบรวมของเหลือกินจากแต่ละบ้าน มาส่งมอบให้คนกินในเมือง ผ่านตลาดนัดธรรมชาติ รถธรรมธุรกิจ การขายส่ง การขายออนไลน์ ร้านอาหารยักษ์กะโจน และยักษ์กะโจนมาร์ท

    เรามีเป้าหมายที่จะขยายร้านยักษ์กะโจนมาร์ท ให้ครบ ๖๙ สาขา ในพื้นที่กรุงเทพ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ที่มี ๖๙ เขต หรือ เขตละสาขายภายในปี ๖๙

    ทุกคนยังสามารถเป็นเจ้าของวิสาหกิจเพื่อสังคมนี้ร่วมกันได้เพียงกดปุ่มซื้อหุ้นธรรมธุรกิจที่ Line @Thamturakit

    https://lin.ee/6U71hZy

    #ซื้อหุ้นอุดหนุนบอกต่อ
    #เงินทองเป็นของมายาข้าวผักปลาสิของจริง
    #ธรรมธุรกิจเพื่อสังคมเพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจพอเพียง
    ธรรมธุรกิจ คือ … วิสาหกิจเพื่อสังคม ที่ธรรมธุรกิจด้านอาหาร สุขภาพ และการท่องเที่ยว เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจพอเพียง โดยคนปลูกธรรมธุรกิจศิษย์ยักษ์กะโจน ต้องปลูกให้พอกินก่อน ไม่ใช่ปลูกเพื่อขายก่อน ต้องใช้น้ำหมักสมุนไพรรสจืดเต็มรอบการผลิต ต้องไม่ซื้อของคนอื่นมาขาย และต้องตั้งราคาที่เป็นธรรม เราเป็นคนกลางในการรวบรวมของเหลือกินจากแต่ละบ้าน มาส่งมอบให้คนกินในเมือง ผ่านตลาดนัดธรรมชาติ รถธรรมธุรกิจ การขายส่ง การขายออนไลน์ ร้านอาหารยักษ์กะโจน และยักษ์กะโจนมาร์ท เรามีเป้าหมายที่จะขยายร้านยักษ์กะโจนมาร์ท ให้ครบ ๖๙ สาขา ในพื้นที่กรุงเทพ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ที่มี ๖๙ เขต หรือ เขตละสาขายภายในปี ๖๙ ทุกคนยังสามารถเป็นเจ้าของวิสาหกิจเพื่อสังคมนี้ร่วมกันได้เพียงกดปุ่มซื้อหุ้นธรรมธุรกิจที่ Line @Thamturakit https://lin.ee/6U71hZy #ซื้อหุ้นอุดหนุนบอกต่อ #เงินทองเป็นของมายาข้าวผักปลาสิของจริง #ธรรมธุรกิจเพื่อสังคมเพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจพอเพียง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นางนวลพรรณ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และคณะ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท
    ถวายพระพรชัยมงคล และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายรถพยาบาล พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อทรงใช้ตามพระราชอัธยาศัย เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล
    เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
    รถพยาบาล พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ดังกล่าว เป็นรถพยาบาลที่สามารถใช้ในการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยในพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ช่วยชีวิต เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ป่วย ให้ได้รับการปฐมพยาบาล และการช่วยชีวิตในขั้นแรกอย่างปลอดภัยตามมาตรฐานสากล

    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida #HMSV
    วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นางนวลพรรณ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และคณะ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายรถพยาบาล พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อทรงใช้ตามพระราชอัธยาศัย เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 รถพยาบาล พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ดังกล่าว เป็นรถพยาบาลที่สามารถใช้ในการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยในพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ช่วยชีวิต เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ป่วย ให้ได้รับการปฐมพยาบาล และการช่วยชีวิตในขั้นแรกอย่างปลอดภัยตามมาตรฐานสากล #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida #HMSV
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฝึกอบรมฟรี 9 หลักสูตร AHRDA จัดเต็มคอร์สรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์
    https://www.facebook.com/pradenrath/posts/1196354778629051
    ฝึกอบรมฟรี 9 หลักสูตร AHRDA จัดเต็มคอร์สรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์ https://www.facebook.com/pradenrath/posts/1196354778629051
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลแพ่งยกฟ้อง "ม.ร.ว.ปรียนันทนา"ฟ้อง"ณัฐพล-สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน" เขียนวิทยานิพนธ์-ทำหนังสือ พาดพิงบรรพบุรุษ เรียก 50 ล้าน ชี้ไม่มีอำนาจฟ้อง

    13 พฤศจิกายน 2567- เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ พ1135/2564 ที่ ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต เป็นโจทก์ฟ้อง ผศ.ดร.ณัฐพล ใจจริง ผู้เขียนวิทยานิพนธ์และหนังสือ เป็นจำเลยที่ 1 รศ.ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี้ด อดีตอาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ เป็นจำเลยที่ 2 นายชัยธวัช ตุลาธน บรรณาธิการหนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ เป็นจำเลยที่ 3 น.ส.อัญชลี มณีโรจน์ บรรณาธิการหนังสือ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี เป็นจำเลยที่ 4 ห้างหุ้นส่วนจำกัดสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ผู้จัดพิมพ์หนังสือทั้ง 2 เล่ม เป็นจำเลยที่ 5 นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เป็นจำเลยที่ 6 ในข้อหา “ละเมิดไขข่าวด้วยข้อความฝ่าฝืนความจริง” และเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท

    กรณีจำเลยเกี่ยวข้องกับวิทยานิพนธ์ การเมืองไทยสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ภายใต้ระเบียบโลกของสหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2491-2500), หนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อและ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี

    ต่อมาเมื่อเดือน มิถุนายน 2566 โจทก์ได้ถอนฟ้อง รศ.ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี้ด

    ศาลแพ่ง พิเคราะห์ประเด็นข้อพิพาทที่ต้องวินิจฉัยประการแรกมีว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งหกร่วมกันรับผิดฐานละเมิดโดยอ้างว่าร่วมกันกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียง เกียรติคุณ ทางทำมาหาได้ และทางเจริญของโจทก์ การกระทำจะเป็นการละเมิดและจำเลยทั้งหกต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ ต่อเมื่อข้อความที่กล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายฝ่าฝืนความจริงและโจทก์ได้รับความเสียหายจากข้อความดังกล่าว ซึ่งหมายถึงเป็นความเสียหายแก่โจทก์ผู้ฟ้องโดยเฉพาะ มิใช่ความเสียหายแก่ผู้อื่นผู้ใด แต่ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์กล่าวว่าเมื่อปี 2552 จนถึงปัจจุบัน จำเลยทั้งหกร่วมกันบิดเบือนข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์โดยนำข้อความอันเป็นเท็จจัดทำเอกสารไขข่าวแพร่หลายสู่สาธารณะเพื่อมุ่งประสงค์กล่าวหาให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์โดยทำเป็นกระบวนการเพื่อใช้ในการปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เริ่มจากจำเลยที่ 1 โดยความเห็นชอบและร่วมมือของจำเลยที่ 2 ปั้นแต่งความเท็จขึ้นใส่ความสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ขณะที่ทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการว่าทรงประพฤติตนไม่สมต่อตำแหน่งหน้าที่ ทั้งการใช้พระราชอำนาจสนับสนุนรับรองการรัฐประหารปี 2490 และการเข้าแทรกแซงการปกครองในสมัยรัฐบาลจอมพล ป.เพื่อปูทางการเมืองที่ราบรื่นให้แก่สถาบันกษัตริย์ โดยเจตนาเพื่อให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการทำวิทยานิพนธ์ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และโจทก์ได้บรรยายฟ้องระบุถึงข้อความอันเป็นเท็จในวิทยานิพนธ์ หน้า 63 วรรคแรก และหน้า 105 วรรคแรก และบรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 นำข้อความอันเป็นเท็จในวิทยานิพนธ์ไปพูดในการเสวนาที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2553 กล่าวหากรมขุนชัยนาทนเรนทรว่าก้าวก่ายรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ด้วยการเข้าไปนั่งเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี อันเป็นความเท็จ และเมื่อปี 2556 จำเลยที่ 1 เขียนหนังสือ ขอฝันใฝ่ในผันอันเหลือเชื่อ : ความเคลื่อนไหวของขบวนการปฏิปักษ์ปฏิวัติสยาม (พ.ศ.2475-2500) เนื้อหาโจมตีให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) ต่อเนื่องจนถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ด้วยความเท็จ และโจทก์บรรยายฟ้องถึงข้อความอันเป็นเท็จ เนื้อหาหน้า 120 -121 และหน้า 124-125 และเมื่อปี 2563 จำเลยที่ 1 เขียนหนังสือ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี กล่าวหาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และมีข้อความโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร หลายแห่ง และโจทก์บรรยายฟ้องข้อความอันเป็นเท็จที่หน้า 60,63,66,73,77และข้อความเท็จใต้ภาพสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร หน้า 69 และโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 แต่งความเท็จใส่ร้ายกล่าวหาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และสถาบันพระมหากษัตริย์ในหนังสือต่างประเทศที่จำหน่ายทั่วโลก ชื่อ “Saying the Unsayable Monarchy and Democracy in Thailand” ใส่ร้ายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรว่ามีส่วนร่วมในการรัฐประหาร ปี 2490 แทรกแซงการเมืองโดยการเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี

    เมื่อข้อความอันเป็นเท็จตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ มิได้กล่าวพาดพิงถึงโจทก์หรือความเป็นอยู่ส่วนตัวของโจทก์และครอบครัว ทั้งเรื่องการรับรองรัฐประหาร ปี 2490 และการเข้าแทรกแซงการเมืองสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็ไม่ปรากฏว่ามีความเกี่ยวข้องกับโจทก์ อันจะทำให้ผู้ที่อ่านข้อความในวิทยานิพนธ์และในหนังสือที่จำเลยที่ 1 เขียนดังกล่าวเข้าใจผิดในตัวโจทก์ ซึ่งโจทก์ก็บรรยายฟ้องว่าการที่จำเลยที่ 1 เขียนข้อความเท็จในวิทยานิพนธ์และหนังสือดังกล่าว ทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดว่าสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร เป็นผู้ไม่นิยมการปกครองระบอบประชาธิปไตย ฝักใฝ่อำนาจทางการเมือง สนับสนุนการรัฐประหาร กระทำการก้าวก่ายการบริหารราชการของรัฐบาล ฟ้องของโจทก์จึงมิได้กล่าวอ้างว่าโจทก์ได้รับความเสียหายจากข้อความดังกล่าว ทั้งการบรรยายฟ้องของโจทก์ที่ระบุว่าสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ได้รับความเสียหาย แต่เมื่อสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ได้สิ้นพระชนม์แล้วก่อนที่จะมีการกระทำอันเป็นละเมิดตามคำฟ้อง จึงเป็นฟ้องที่กล่าวอ้างว่ามีการกระทำละเมิดต่อหรือความเสียหายของผู้ที่ไม่มีสภาพบุคคลแล้ว แม้โจทก์เป็นหลานของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรซึ่งสิ้นพระชนม์แล้วและข้อความกล่าวพาดพิงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร

    แม้หากฟังได้ว่าข้อความดังกล่าวบิดเบือนไม่เป็นความจริงตามที่โจทก์บรรยายฟ้อง และทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ก็ไม่ได้เสียหายต่อโจทก์ทายาทชั้นหลานด้วย เพราะข้อความตามคำบรรยายฟ้องมิได้กล่าวหรือแสดงเรื่องราวที่ไม่ตรงต่อความจริงเกี่ยวกับโจทก์และครอบครัวและไม่ได้สื่อความหมายเกี่ยวกับโจทก์ ซึ่งโจทก์ก็เบิกความตอบทนายจำเลยที่ 1 ถามค้านว่าหนังสือขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี หนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ รวมถึงวิทยานิพนธ์ของจำเลยที่ 1 กล่าวถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ไม่ได้กล่าวถึงโจทก์และทายาทของโจทก์ ข้อเท็จจริงตามข้อความในวิทยานิพนธ์ดังกล่าวจะเป็นความจริงหรือไม่ โจทก์ไม่ทราบเนื่องจากขณะนั้นโจทก์ยังไม่เกิด ดังนั้น เมื่อข้อความที่จำเลยที่ 1 แสดงในวิทยานิพนธ์ ในหนังสือ และที่จำเลยที่ 1 นำไปพูดตามคำฟ้องไม่ได้สื่อความหมายถึงโจทก์ ย่อมไม่อาจทำให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังเข้าใจผิดในตัวโจทก์ซึ่งเป็นทายาทชั้นหลานอันจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงหรือเกียรติคุณ และทางทำมาหาได้หรือทางเจริญ

    ส่วนที่โจทก์เบิกความว่ามีการชุมนุมและอาฆาดมาดร้ายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร โดยมีผู้นำสีแดงมาสาดใส่ที่พระอนุสาวรีย์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรซึ่งประดิษฐานอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุขนั้น เหตุการณ์ตามภาพข่าวและสถานที่เกิดเหตุไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสียหายของโจทก์ ไม่ปรากฏว่าบุคคลผู้ก่อเหตุเป็นใครและการกระทำสืบเนื่องมาจากสาเหตุใด และที่โจทก์เบิกความว่ามีการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนที่ถนนวิภาวดีรังสิตปลุกระดมให้มีการยกเลิกชื่อถนนซึ่งเป็นพระนามของพระเจ้าวงวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ก็มิได้ระบุว่าเป็นการชุมนุมปลุกระดมสืบเนื่องจากข้อความในวิทยานิพนธ์หรือในหนังสือคดีนี้และไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสียหายของโจทก์โดยตรง

    ทั้งการฟ้องเรียกค่าเสียหายของโจทก์ โจทก์เบิกความตอบทนายจำเลยที่ 1 ถามค้านถึงมูลเหตุที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 50,000,000 บาท เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ทรงทำคุณความดีและประโยชน์ให้ประเทศไทยเป็นจำนวนมากมายมหาศาล การฟ้องเรียกค่าเสียหายของโจทก์จึงมิได้มีความสัมพันธ์กับที่โจทก์ระบุในฟ้องว่าโจทก์ได้รับความเสียหาย ดังนั้น โจทก์จึงมิใช่ผู้ได้รับความเสียหายจากข้อความของจำเลยที่ 1 ตามคำฟ้องและไม่ได้ถูกโต้แย้งสิทธิ

    ส่วนที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริงตามคำฟ้องทำให้ราชสกุลรังสิต รวมถึงโจทก์ผู้สืบราชสกุลและเป็นผู้แทนราชสกุลได้รับความเสียหายนั้น เห็นว่า ตามคำฟ้องของโจทก์มิได้ว่าระบุว่าโจทก์ฟ้องคดีนี้โดยได้รับมอบอำนาจจากบุคคลอื่นในราชสกุลรังสิตด้วย ทั้งราชสกุลรังสิตก็ไม่ปรากฏว่ามีสภาพบุคคลตามกฎหมายทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล เมื่อโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายคดีนี้ในฐานะส่วนตัว มิได้เป็นการฟ้องโดยได้รับมอบอำนาจจากบุคคลอื่นด้วย โจทก์จึงมิอาจกล่าวอ้างความเสียหายของราชสกุลรังสิตซึ่งไม่มีสภาพบุคคล ส่วนที่โจทก์ฟ้องและเบิกความว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 ทำให้เกิดความเสื่อมศรัทธาต่อมูลนิธิวิภาวดีรังสิต ที่โจทก์เป็นประธานและมูลนิธิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ซึ่งโจทก์เป็นกรรมการ กระทบต่อการหารายได้โดยการรับบริจาคเงินจากสาธารณชนซึ่งรายได้นำไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสนั้น เมื่อมูลนิธิดังกล่าวมีสภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายต่างหากจากโจทก์ และโจทก์ฟ้องคดีนี้ในฐานะส่วนตัวไม่ได้ฟ้องโดยได้รับมอบอำนาจจากมูลนิธิ

    โจทก์จึงไม่อาจอ้างว่ามูลนิธิดังกล่าว ซึ่งมิได้เป็นคู่ความในคดีนี้ได้รับความเสียหายเพื่อให้มีการใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ เมื่อโจทก์ไม่ได้ถูกโต้แย้งสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง เมื่อฟังว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องแล้ว ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นอื่นต่อไป พิพากษายกฟ้อง

    https://mgronline.com/crime/detail/9670000109449#google_vignette

    #Thaitimes
    ศาลแพ่งยกฟ้อง "ม.ร.ว.ปรียนันทนา"ฟ้อง"ณัฐพล-สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน" เขียนวิทยานิพนธ์-ทำหนังสือ พาดพิงบรรพบุรุษ เรียก 50 ล้าน ชี้ไม่มีอำนาจฟ้อง 13 พฤศจิกายน 2567- เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ พ1135/2564 ที่ ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต เป็นโจทก์ฟ้อง ผศ.ดร.ณัฐพล ใจจริง ผู้เขียนวิทยานิพนธ์และหนังสือ เป็นจำเลยที่ 1 รศ.ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี้ด อดีตอาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ เป็นจำเลยที่ 2 นายชัยธวัช ตุลาธน บรรณาธิการหนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ เป็นจำเลยที่ 3 น.ส.อัญชลี มณีโรจน์ บรรณาธิการหนังสือ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี เป็นจำเลยที่ 4 ห้างหุ้นส่วนจำกัดสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ผู้จัดพิมพ์หนังสือทั้ง 2 เล่ม เป็นจำเลยที่ 5 นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เป็นจำเลยที่ 6 ในข้อหา “ละเมิดไขข่าวด้วยข้อความฝ่าฝืนความจริง” และเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท กรณีจำเลยเกี่ยวข้องกับวิทยานิพนธ์ การเมืองไทยสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ภายใต้ระเบียบโลกของสหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2491-2500), หนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อและ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี ต่อมาเมื่อเดือน มิถุนายน 2566 โจทก์ได้ถอนฟ้อง รศ.ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี้ด ศาลแพ่ง พิเคราะห์ประเด็นข้อพิพาทที่ต้องวินิจฉัยประการแรกมีว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งหกร่วมกันรับผิดฐานละเมิดโดยอ้างว่าร่วมกันกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียง เกียรติคุณ ทางทำมาหาได้ และทางเจริญของโจทก์ การกระทำจะเป็นการละเมิดและจำเลยทั้งหกต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ ต่อเมื่อข้อความที่กล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายฝ่าฝืนความจริงและโจทก์ได้รับความเสียหายจากข้อความดังกล่าว ซึ่งหมายถึงเป็นความเสียหายแก่โจทก์ผู้ฟ้องโดยเฉพาะ มิใช่ความเสียหายแก่ผู้อื่นผู้ใด แต่ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์กล่าวว่าเมื่อปี 2552 จนถึงปัจจุบัน จำเลยทั้งหกร่วมกันบิดเบือนข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์โดยนำข้อความอันเป็นเท็จจัดทำเอกสารไขข่าวแพร่หลายสู่สาธารณะเพื่อมุ่งประสงค์กล่าวหาให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์โดยทำเป็นกระบวนการเพื่อใช้ในการปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เริ่มจากจำเลยที่ 1 โดยความเห็นชอบและร่วมมือของจำเลยที่ 2 ปั้นแต่งความเท็จขึ้นใส่ความสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ขณะที่ทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการว่าทรงประพฤติตนไม่สมต่อตำแหน่งหน้าที่ ทั้งการใช้พระราชอำนาจสนับสนุนรับรองการรัฐประหารปี 2490 และการเข้าแทรกแซงการปกครองในสมัยรัฐบาลจอมพล ป.เพื่อปูทางการเมืองที่ราบรื่นให้แก่สถาบันกษัตริย์ โดยเจตนาเพื่อให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการทำวิทยานิพนธ์ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และโจทก์ได้บรรยายฟ้องระบุถึงข้อความอันเป็นเท็จในวิทยานิพนธ์ หน้า 63 วรรคแรก และหน้า 105 วรรคแรก และบรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 นำข้อความอันเป็นเท็จในวิทยานิพนธ์ไปพูดในการเสวนาที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2553 กล่าวหากรมขุนชัยนาทนเรนทรว่าก้าวก่ายรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ด้วยการเข้าไปนั่งเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี อันเป็นความเท็จ และเมื่อปี 2556 จำเลยที่ 1 เขียนหนังสือ ขอฝันใฝ่ในผันอันเหลือเชื่อ : ความเคลื่อนไหวของขบวนการปฏิปักษ์ปฏิวัติสยาม (พ.ศ.2475-2500) เนื้อหาโจมตีให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) ต่อเนื่องจนถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ด้วยความเท็จ และโจทก์บรรยายฟ้องถึงข้อความอันเป็นเท็จ เนื้อหาหน้า 120 -121 และหน้า 124-125 และเมื่อปี 2563 จำเลยที่ 1 เขียนหนังสือ ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี กล่าวหาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และมีข้อความโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร หลายแห่ง และโจทก์บรรยายฟ้องข้อความอันเป็นเท็จที่หน้า 60,63,66,73,77และข้อความเท็จใต้ภาพสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร หน้า 69 และโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 แต่งความเท็จใส่ร้ายกล่าวหาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และสถาบันพระมหากษัตริย์ในหนังสือต่างประเทศที่จำหน่ายทั่วโลก ชื่อ “Saying the Unsayable Monarchy and Democracy in Thailand” ใส่ร้ายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรว่ามีส่วนร่วมในการรัฐประหาร ปี 2490 แทรกแซงการเมืองโดยการเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อข้อความอันเป็นเท็จตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ มิได้กล่าวพาดพิงถึงโจทก์หรือความเป็นอยู่ส่วนตัวของโจทก์และครอบครัว ทั้งเรื่องการรับรองรัฐประหาร ปี 2490 และการเข้าแทรกแซงการเมืองสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็ไม่ปรากฏว่ามีความเกี่ยวข้องกับโจทก์ อันจะทำให้ผู้ที่อ่านข้อความในวิทยานิพนธ์และในหนังสือที่จำเลยที่ 1 เขียนดังกล่าวเข้าใจผิดในตัวโจทก์ ซึ่งโจทก์ก็บรรยายฟ้องว่าการที่จำเลยที่ 1 เขียนข้อความเท็จในวิทยานิพนธ์และหนังสือดังกล่าว ทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดว่าสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร เป็นผู้ไม่นิยมการปกครองระบอบประชาธิปไตย ฝักใฝ่อำนาจทางการเมือง สนับสนุนการรัฐประหาร กระทำการก้าวก่ายการบริหารราชการของรัฐบาล ฟ้องของโจทก์จึงมิได้กล่าวอ้างว่าโจทก์ได้รับความเสียหายจากข้อความดังกล่าว ทั้งการบรรยายฟ้องของโจทก์ที่ระบุว่าสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ได้รับความเสียหาย แต่เมื่อสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ได้สิ้นพระชนม์แล้วก่อนที่จะมีการกระทำอันเป็นละเมิดตามคำฟ้อง จึงเป็นฟ้องที่กล่าวอ้างว่ามีการกระทำละเมิดต่อหรือความเสียหายของผู้ที่ไม่มีสภาพบุคคลแล้ว แม้โจทก์เป็นหลานของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรซึ่งสิ้นพระชนม์แล้วและข้อความกล่าวพาดพิงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร แม้หากฟังได้ว่าข้อความดังกล่าวบิดเบือนไม่เป็นความจริงตามที่โจทก์บรรยายฟ้อง และทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ก็ไม่ได้เสียหายต่อโจทก์ทายาทชั้นหลานด้วย เพราะข้อความตามคำบรรยายฟ้องมิได้กล่าวหรือแสดงเรื่องราวที่ไม่ตรงต่อความจริงเกี่ยวกับโจทก์และครอบครัวและไม่ได้สื่อความหมายเกี่ยวกับโจทก์ ซึ่งโจทก์ก็เบิกความตอบทนายจำเลยที่ 1 ถามค้านว่าหนังสือขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี หนังสือขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ รวมถึงวิทยานิพนธ์ของจำเลยที่ 1 กล่าวถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ไม่ได้กล่าวถึงโจทก์และทายาทของโจทก์ ข้อเท็จจริงตามข้อความในวิทยานิพนธ์ดังกล่าวจะเป็นความจริงหรือไม่ โจทก์ไม่ทราบเนื่องจากขณะนั้นโจทก์ยังไม่เกิด ดังนั้น เมื่อข้อความที่จำเลยที่ 1 แสดงในวิทยานิพนธ์ ในหนังสือ และที่จำเลยที่ 1 นำไปพูดตามคำฟ้องไม่ได้สื่อความหมายถึงโจทก์ ย่อมไม่อาจทำให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังเข้าใจผิดในตัวโจทก์ซึ่งเป็นทายาทชั้นหลานอันจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงหรือเกียรติคุณ และทางทำมาหาได้หรือทางเจริญ ส่วนที่โจทก์เบิกความว่ามีการชุมนุมและอาฆาดมาดร้ายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร โดยมีผู้นำสีแดงมาสาดใส่ที่พระอนุสาวรีย์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรซึ่งประดิษฐานอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุขนั้น เหตุการณ์ตามภาพข่าวและสถานที่เกิดเหตุไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสียหายของโจทก์ ไม่ปรากฏว่าบุคคลผู้ก่อเหตุเป็นใครและการกระทำสืบเนื่องมาจากสาเหตุใด และที่โจทก์เบิกความว่ามีการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนที่ถนนวิภาวดีรังสิตปลุกระดมให้มีการยกเลิกชื่อถนนซึ่งเป็นพระนามของพระเจ้าวงวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ก็มิได้ระบุว่าเป็นการชุมนุมปลุกระดมสืบเนื่องจากข้อความในวิทยานิพนธ์หรือในหนังสือคดีนี้และไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสียหายของโจทก์โดยตรง ทั้งการฟ้องเรียกค่าเสียหายของโจทก์ โจทก์เบิกความตอบทนายจำเลยที่ 1 ถามค้านถึงมูลเหตุที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 50,000,000 บาท เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ทรงทำคุณความดีและประโยชน์ให้ประเทศไทยเป็นจำนวนมากมายมหาศาล การฟ้องเรียกค่าเสียหายของโจทก์จึงมิได้มีความสัมพันธ์กับที่โจทก์ระบุในฟ้องว่าโจทก์ได้รับความเสียหาย ดังนั้น โจทก์จึงมิใช่ผู้ได้รับความเสียหายจากข้อความของจำเลยที่ 1 ตามคำฟ้องและไม่ได้ถูกโต้แย้งสิทธิ ส่วนที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริงตามคำฟ้องทำให้ราชสกุลรังสิต รวมถึงโจทก์ผู้สืบราชสกุลและเป็นผู้แทนราชสกุลได้รับความเสียหายนั้น เห็นว่า ตามคำฟ้องของโจทก์มิได้ว่าระบุว่าโจทก์ฟ้องคดีนี้โดยได้รับมอบอำนาจจากบุคคลอื่นในราชสกุลรังสิตด้วย ทั้งราชสกุลรังสิตก็ไม่ปรากฏว่ามีสภาพบุคคลตามกฎหมายทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล เมื่อโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายคดีนี้ในฐานะส่วนตัว มิได้เป็นการฟ้องโดยได้รับมอบอำนาจจากบุคคลอื่นด้วย โจทก์จึงมิอาจกล่าวอ้างความเสียหายของราชสกุลรังสิตซึ่งไม่มีสภาพบุคคล ส่วนที่โจทก์ฟ้องและเบิกความว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 ทำให้เกิดความเสื่อมศรัทธาต่อมูลนิธิวิภาวดีรังสิต ที่โจทก์เป็นประธานและมูลนิธิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ซึ่งโจทก์เป็นกรรมการ กระทบต่อการหารายได้โดยการรับบริจาคเงินจากสาธารณชนซึ่งรายได้นำไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสนั้น เมื่อมูลนิธิดังกล่าวมีสภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายต่างหากจากโจทก์ และโจทก์ฟ้องคดีนี้ในฐานะส่วนตัวไม่ได้ฟ้องโดยได้รับมอบอำนาจจากมูลนิธิ โจทก์จึงไม่อาจอ้างว่ามูลนิธิดังกล่าว ซึ่งมิได้เป็นคู่ความในคดีนี้ได้รับความเสียหายเพื่อให้มีการใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ เมื่อโจทก์ไม่ได้ถูกโต้แย้งสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง เมื่อฟังว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องแล้ว ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นอื่นต่อไป พิพากษายกฟ้อง https://mgronline.com/crime/detail/9670000109449#google_vignette #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    ศาลแพ่งยกฟ้อง "ม.ร.ว.ปรียนันทนา" ฟ้อง"ณัฐพล-ฟ้าเดียวกัน" เขียนวิทยานิพนธ์-ทำหนังสือ พาดพิงบรรพบุรุษ ชี้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
    ศาลแพ่งยกฟ้อง ม.ร.ว.ปรียนันทนาฟ้องณัฐพล-สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เขียนวิทยานิพนธ์-ทำหนังสือ พาดพิงบรรพบุรุษ เรียก 50 ล้าน ชี้ไม่มีอำนาจฟ้อง
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯทำพิธีเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่ ในเมืองเรดซิโคโว ใกล้ชายฝั่งบอลติก ทางตอนเหนือของโปแลนด์ อย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้

    ฐานทัพดังกล่าวซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนรัสเซียไม่ถึง 300 กม. เริ่มต้นโครงการมาตั้งแต่ พ.ศ. 2543 เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประเทศสมาชิกในภูมิภาคว่า นาโต (NATO) สามารถรับประกันความปลอดภัยของพวกเขาได้

    แม้ว่าระบบป้องกันทางอากาศที่แน่นอนจะเป็นความลับสุดยอดก็ตาม แต่หลายฝ่ายที่ติดตามเรื่องนี้คาดเดาว่า ที่ฐานทัพแห่งนี้ติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ "Aegis Ashore" จากบริษัท Lockheed Martin ของอเมริกา ซึ่งเป็นระบบต่อต้านขีปนาวุธที่มีชื่อเสียงของกองทัพเรือสหรัฐฯ แต่สำหรับฐานทัพแห่งนี้จะเป็นเวอร์ชันภาคพื้นดิน ซึ่งได้รับการติดตั้งอย่างเป็นทางการที่ฐานทัพแห่งนี้ โดยออกแบบมาเพื่อตรวจจับ ติดตาม และสกัดกั้นขีปนาวุธพิสัยไกลที่บินเข้ามาในทิศทางนี้

    มีรายงานว่า ระบบ "Aegis Ashore" ประกอบด้วยเครื่องยิงขีปนาวุธแนวตั้ง VLS Mk41 จำนวน 3 เครื่องยิง โดยแต่ละเครื่องบรรจุขีปนาวุธ SM-3 block IIA ได้ 8 ลูก รวมเป็น 24 ลูก ความเร็วในการบินของระบบป้องกันขีปนาวุธอยู่ที่ 3.5-5.4 กม./วินาที โดยใช้ระบบเรดาร์ตรวจจับและกำหนดเป้าหมาย AN/SPY-1D(V)

    ระบบขีปนาวุธที่กล่าวมา ยังติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธนอกชั้นบรรยากาศ Mk 142 เอาไว้ด้วย

    และจากระยะการยิงของขีปนาวุธ SM-3 Block IIA ที่เกิน 1,200 กม. จึงไม่สามารถสกัดกั้นขีปนาวุธ เช่น Iskander-M ได้ รวมถึงขีปนาวุธร่อนทุกประเภทที่ระดับความสูงต่ำกว่า 80 กม. เนื่องจากความร้อนทางอากาศพลศาสตร์สูงในชั้นบรรยากาศที่หนาแน่นกว่า

    ด้วยเหตุนี้ จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ฐานทัพแห่งนี้จะติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ Patriot PAC-3 เพิ่มเติมอีก และระบบปืนใหญ่ต่อต้านอากาศยาน Skynex ใกล้กับ Redzikowo เพื่อปกป้องระบบ Aegis Ashore จากขีปนาวุธร่อนระดับต่ำ ขีปนาวุธร่อนความเร็วเหนือเสียง และโดรนโจมตีพลีชีพ สำหรับการตรวจจับด้วยเรดาร์ระยะไกลในทิศทางคาลินินกราด(รัสเซีย) และเบลารุส เรดาร์ RAT-31DL ที่มีระยะตรวจจับประมาณ 500 กม. ที่ระดับความสูงสูง จะถูกติดตั้งใกล้กับ Redzikowo เช่นกัน



    สหรัฐฯทำพิธีเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่ ในเมืองเรดซิโคโว ใกล้ชายฝั่งบอลติก ทางตอนเหนือของโปแลนด์ อย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ ฐานทัพดังกล่าวซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนรัสเซียไม่ถึง 300 กม. เริ่มต้นโครงการมาตั้งแต่ พ.ศ. 2543 เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประเทศสมาชิกในภูมิภาคว่า นาโต (NATO) สามารถรับประกันความปลอดภัยของพวกเขาได้ แม้ว่าระบบป้องกันทางอากาศที่แน่นอนจะเป็นความลับสุดยอดก็ตาม แต่หลายฝ่ายที่ติดตามเรื่องนี้คาดเดาว่า ที่ฐานทัพแห่งนี้ติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ "Aegis Ashore" จากบริษัท Lockheed Martin ของอเมริกา ซึ่งเป็นระบบต่อต้านขีปนาวุธที่มีชื่อเสียงของกองทัพเรือสหรัฐฯ แต่สำหรับฐานทัพแห่งนี้จะเป็นเวอร์ชันภาคพื้นดิน ซึ่งได้รับการติดตั้งอย่างเป็นทางการที่ฐานทัพแห่งนี้ โดยออกแบบมาเพื่อตรวจจับ ติดตาม และสกัดกั้นขีปนาวุธพิสัยไกลที่บินเข้ามาในทิศทางนี้ มีรายงานว่า ระบบ "Aegis Ashore" ประกอบด้วยเครื่องยิงขีปนาวุธแนวตั้ง VLS Mk41 จำนวน 3 เครื่องยิง โดยแต่ละเครื่องบรรจุขีปนาวุธ SM-3 block IIA ได้ 8 ลูก รวมเป็น 24 ลูก ความเร็วในการบินของระบบป้องกันขีปนาวุธอยู่ที่ 3.5-5.4 กม./วินาที โดยใช้ระบบเรดาร์ตรวจจับและกำหนดเป้าหมาย AN/SPY-1D(V) ระบบขีปนาวุธที่กล่าวมา ยังติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธนอกชั้นบรรยากาศ Mk 142 เอาไว้ด้วย และจากระยะการยิงของขีปนาวุธ SM-3 Block IIA ที่เกิน 1,200 กม. จึงไม่สามารถสกัดกั้นขีปนาวุธ เช่น Iskander-M ได้ รวมถึงขีปนาวุธร่อนทุกประเภทที่ระดับความสูงต่ำกว่า 80 กม. เนื่องจากความร้อนทางอากาศพลศาสตร์สูงในชั้นบรรยากาศที่หนาแน่นกว่า ด้วยเหตุนี้ จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ฐานทัพแห่งนี้จะติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ Patriot PAC-3 เพิ่มเติมอีก และระบบปืนใหญ่ต่อต้านอากาศยาน Skynex ใกล้กับ Redzikowo เพื่อปกป้องระบบ Aegis Ashore จากขีปนาวุธร่อนระดับต่ำ ขีปนาวุธร่อนความเร็วเหนือเสียง และโดรนโจมตีพลีชีพ สำหรับการตรวจจับด้วยเรดาร์ระยะไกลในทิศทางคาลินินกราด(รัสเซีย) และเบลารุส เรดาร์ RAT-31DL ที่มีระยะตรวจจับประมาณ 500 กม. ที่ระดับความสูงสูง จะถูกติดตั้งใกล้กับ Redzikowo เช่นกัน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยิปมันให้สัมภาษณ์ 1 ครั้ง แถลงข่าว 1 ครั้งบอกเค้าหิวแสง ส่วนตัวไอ้เด รัฐฉาน ออกรายการเป็นสิบ ไลฟ์สดวันละหลายรอบ หิวงานหิวเงิน หรือหิวตรีน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ยิปมันให้สัมภาษณ์ 1 ครั้ง แถลงข่าว 1 ครั้งบอกเค้าหิวแสง ส่วนตัวไอ้เด รัฐฉาน ออกรายการเป็นสิบ ไลฟ์สดวันละหลายรอบ หิวงานหิวเงิน หรือหิวตรีน #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=wXyjgJ_VQI0
    บทสนทนาโทรจองห้องพักโรงแรม
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาโทรจองห้องพักโรงแรม
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #บทสนทนาภาษาอังกฤษ #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #โรงแรม

    The conversations from the clip :

    Customer: Hello, I’d like to make a reservation for a room with a sea view.
    Receptionist: Of course! When would you like to book the room?
    Customer: I’m planning to stay from Friday to Sunday this week.
    Receptionist: Let me check the availability... Yes, we have a sea view room available for those dates.
    Customer: That’s great! Can I book a room for two people?
    Receptionist: Sure! I’ll reserve a double room for you. Would you prefer a king-sized bed or two single beds?
    Customer: A king-sized bed, please.
    Receptionist: Noted! Is there anything else you’d like to request for your room?
    Customer: Could you also confirm if breakfast is included with the room?
    Receptionist: Yes, breakfast is included for all our guests. It’s served from 7:00 a.m. to 10:00 a.m. daily.
    Customer: That sounds perfect. Is there a specific menu for breakfast?
    Receptionist: Yes, we offer a buffet breakfast with a variety of hot and cold dishes, including eggs, bacon, cereals, fruits, and fresh pastries.
    Customer: That sounds delicious! Also, is there Wi-Fi available in the room?
    Receptionist: Yes, we offer free Wi-Fi in all our rooms and common areas.
    Customer: Perfect. Can I check in early on Friday, around 1:00 p.m.?
    Receptionist: I’ll make a note of that, and we’ll do our best to have the room ready for you by then.
    Customer: Thank you! How much will the total cost be for the weekend?
    Receptionist: The total for the two-night stay with breakfast included will be 10,560 THB.
    Customer: Great, I’ll go ahead and confirm the booking. Thank you for your help!
    Receptionist: You’re very welcome! We look forward to welcoming you this Friday. Enjoy your stay!

    ลูกค้า: สวัสดีค่ะ ฉันต้องการจองห้องที่มีวิวทะเลค่ะ
    พนักงานต้อนรับ: ได้เลยครับ คุณต้องการจองห้องสำหรับวันไหนครับ?
    ลูกค้า: ฉันวางแผนจะพักตั้งแต่วันศุกร์ถึงวันอาทิตย์สัปดาห์นี้ค่ะ
    พนักงานต้อนรับ: ขออนุญาตตรวจสอบห้องว่างก่อนนะครับ... มีห้องที่มีวิวทะเลว่างสำหรับวันที่คุณต้องการครับ
    ลูกค้า: ดีจังเลย! ฉันขอจองห้องสำหรับสองคนได้ไหมคะ?
    พนักงานต้อนรับ: ได้ครับ ผมจะจองห้องแบบดับเบิ้ลให้คุณ คุณต้องการเตียงคิงไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียงครับ?
    ลูกค้า: เตียงคิงไซส์ค่ะ
    พนักงานต้อนรับ: รับทราบครับ มีอะไรเพิ่มเติมที่คุณต้องการสำหรับห้องไหมครับ?
    ลูกค้า: คุณช่วยยืนยันด้วยได้ไหมคะว่าห้องรวมอาหารเช้าด้วย?
    พนักงานต้อนรับ: ใช่ครับ อาหารเช้ารวมสำหรับแขกทุกท่าน เสิร์ฟตั้งแต่ 7:00 น. ถึง 10:00 น. ทุกวันครับ
    ลูกค้า: ฟังดูดีมากค่ะ อาหารเช้ามีเมนูเฉพาะไหมคะ?
    พนักงานต้อนรับ: มีครับ เรามีอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ที่มีทั้งเมนูร้อนและเย็น รวมถึงไข่ เบคอน ซีเรียล ผลไม้ และขนมอบสดใหม่ครับ
    ลูกค้า: น่าอร่อยมากเลย! แล้วในห้องมี Wi-Fi ไหมคะ?
    พนักงานต้อนรับ: มีครับ เรามี Wi-Fi ฟรีในทุกห้องและพื้นที่ส่วนกลางครับ
    ลูกค้า: ดีมากค่ะ ฉันสามารถเช็คอินก่อนเวลาในวันศุกร์ได้ไหมคะ ประมาณบ่ายโมง?
    พนักงานต้อนรับ: ผมจะจดบันทึกไว้ และเราจะพยายามเตรียมห้องให้พร้อมสำหรับคุณภายในเวลานั้นครับ
    ลูกค้า: ขอบคุณค่ะ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับสุดสัปดาห์นี้จะเป็นเท่าไหร่คะ?
    พนักงานต้อนรับ: ค่าใช้จ่ายสำหรับการเข้าพักสองคืนรวมอาหารเช้าจะอยู่ที่ 10,560 บาทครับ
    ลูกค้า: ดีค่ะ ฉันขอยืนยันการจองเลย ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะคะ!
    พนักงานต้อนรับ: ด้วยความยินดีครับ เรารอที่จะต้อนรับคุณในวันศุกร์นี้ ขอให้คุณพักผ่อนอย่างมีความสุขครับ!

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Reservation (เรส-เซอร์-เว-ชั่น) n. แปลว่า การจอง
    Availability (อะ-เว-ละ-บิล-ลิ-ที) n. แปลว่า ความพร้อมใช้งาน
    Double room (ดั๊บ-เบิล รูม) n. แปลว่า ห้องสำหรับสองคน
    King-sized bed (คิง-ไซซด์ เบด) n. แปลว่า เตียงขนาดคิงไซส์
    Single bed (ซิง-เกิล เบด) n. แปลว่า เตียงเดี่ยว
    Confirm (คอน-เฟิร์ม) v. แปลว่า ยืนยัน
    Breakfast (เบรค-ฟาสท์) n. แปลว่า อาหารเช้า
    Buffet (บุ-เฟ่) n. แปลว่า บุฟเฟต์
    Variety (วะ-ไร-เอ-ที) n. แปลว่า ความหลากหลาย
    Dishes (ดิช-เชส) n. แปลว่า จานอาหาร, เมนู
    Wi-Fi (ไว-ไฟ) n. แปลว่า อินเทอร์เน็ตไร้สาย
    Check-in (เช็ค-อิน) n. แปลว่า การเช็คอิน
    Cost (คอสท์) n. แปลว่า ค่าใช้จ่าย
    Total (โท-เทิล) n. แปลว่า ยอดรวม
    Receptionist (รี-เซพ-ชั่น-นิสท์) n. แปลว่า พนักงานต้อนรับ
    https://www.youtube.com/watch?v=wXyjgJ_VQI0 บทสนทนาโทรจองห้องพักโรงแรม (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาโทรจองห้องพักโรงแรม มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #บทสนทนาภาษาอังกฤษ #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #โรงแรม The conversations from the clip : Customer: Hello, I’d like to make a reservation for a room with a sea view. Receptionist: Of course! When would you like to book the room? Customer: I’m planning to stay from Friday to Sunday this week. Receptionist: Let me check the availability... Yes, we have a sea view room available for those dates. Customer: That’s great! Can I book a room for two people? Receptionist: Sure! I’ll reserve a double room for you. Would you prefer a king-sized bed or two single beds? Customer: A king-sized bed, please. Receptionist: Noted! Is there anything else you’d like to request for your room? Customer: Could you also confirm if breakfast is included with the room? Receptionist: Yes, breakfast is included for all our guests. It’s served from 7:00 a.m. to 10:00 a.m. daily. Customer: That sounds perfect. Is there a specific menu for breakfast? Receptionist: Yes, we offer a buffet breakfast with a variety of hot and cold dishes, including eggs, bacon, cereals, fruits, and fresh pastries. Customer: That sounds delicious! Also, is there Wi-Fi available in the room? Receptionist: Yes, we offer free Wi-Fi in all our rooms and common areas. Customer: Perfect. Can I check in early on Friday, around 1:00 p.m.? Receptionist: I’ll make a note of that, and we’ll do our best to have the room ready for you by then. Customer: Thank you! How much will the total cost be for the weekend? Receptionist: The total for the two-night stay with breakfast included will be 10,560 THB. Customer: Great, I’ll go ahead and confirm the booking. Thank you for your help! Receptionist: You’re very welcome! We look forward to welcoming you this Friday. Enjoy your stay! ลูกค้า: สวัสดีค่ะ ฉันต้องการจองห้องที่มีวิวทะเลค่ะ พนักงานต้อนรับ: ได้เลยครับ คุณต้องการจองห้องสำหรับวันไหนครับ? ลูกค้า: ฉันวางแผนจะพักตั้งแต่วันศุกร์ถึงวันอาทิตย์สัปดาห์นี้ค่ะ พนักงานต้อนรับ: ขออนุญาตตรวจสอบห้องว่างก่อนนะครับ... มีห้องที่มีวิวทะเลว่างสำหรับวันที่คุณต้องการครับ ลูกค้า: ดีจังเลย! ฉันขอจองห้องสำหรับสองคนได้ไหมคะ? พนักงานต้อนรับ: ได้ครับ ผมจะจองห้องแบบดับเบิ้ลให้คุณ คุณต้องการเตียงคิงไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียงครับ? ลูกค้า: เตียงคิงไซส์ค่ะ พนักงานต้อนรับ: รับทราบครับ มีอะไรเพิ่มเติมที่คุณต้องการสำหรับห้องไหมครับ? ลูกค้า: คุณช่วยยืนยันด้วยได้ไหมคะว่าห้องรวมอาหารเช้าด้วย? พนักงานต้อนรับ: ใช่ครับ อาหารเช้ารวมสำหรับแขกทุกท่าน เสิร์ฟตั้งแต่ 7:00 น. ถึง 10:00 น. ทุกวันครับ ลูกค้า: ฟังดูดีมากค่ะ อาหารเช้ามีเมนูเฉพาะไหมคะ? พนักงานต้อนรับ: มีครับ เรามีอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ที่มีทั้งเมนูร้อนและเย็น รวมถึงไข่ เบคอน ซีเรียล ผลไม้ และขนมอบสดใหม่ครับ ลูกค้า: น่าอร่อยมากเลย! แล้วในห้องมี Wi-Fi ไหมคะ? พนักงานต้อนรับ: มีครับ เรามี Wi-Fi ฟรีในทุกห้องและพื้นที่ส่วนกลางครับ ลูกค้า: ดีมากค่ะ ฉันสามารถเช็คอินก่อนเวลาในวันศุกร์ได้ไหมคะ ประมาณบ่ายโมง? พนักงานต้อนรับ: ผมจะจดบันทึกไว้ และเราจะพยายามเตรียมห้องให้พร้อมสำหรับคุณภายในเวลานั้นครับ ลูกค้า: ขอบคุณค่ะ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับสุดสัปดาห์นี้จะเป็นเท่าไหร่คะ? พนักงานต้อนรับ: ค่าใช้จ่ายสำหรับการเข้าพักสองคืนรวมอาหารเช้าจะอยู่ที่ 10,560 บาทครับ ลูกค้า: ดีค่ะ ฉันขอยืนยันการจองเลย ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะคะ! พนักงานต้อนรับ: ด้วยความยินดีครับ เรารอที่จะต้อนรับคุณในวันศุกร์นี้ ขอให้คุณพักผ่อนอย่างมีความสุขครับ! Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Reservation (เรส-เซอร์-เว-ชั่น) n. แปลว่า การจอง Availability (อะ-เว-ละ-บิล-ลิ-ที) n. แปลว่า ความพร้อมใช้งาน Double room (ดั๊บ-เบิล รูม) n. แปลว่า ห้องสำหรับสองคน King-sized bed (คิง-ไซซด์ เบด) n. แปลว่า เตียงขนาดคิงไซส์ Single bed (ซิง-เกิล เบด) n. แปลว่า เตียงเดี่ยว Confirm (คอน-เฟิร์ม) v. แปลว่า ยืนยัน Breakfast (เบรค-ฟาสท์) n. แปลว่า อาหารเช้า Buffet (บุ-เฟ่) n. แปลว่า บุฟเฟต์ Variety (วะ-ไร-เอ-ที) n. แปลว่า ความหลากหลาย Dishes (ดิช-เชส) n. แปลว่า จานอาหาร, เมนู Wi-Fi (ไว-ไฟ) n. แปลว่า อินเทอร์เน็ตไร้สาย Check-in (เช็ค-อิน) n. แปลว่า การเช็คอิน Cost (คอสท์) n. แปลว่า ค่าใช้จ่าย Total (โท-เทิล) n. แปลว่า ยอดรวม Receptionist (รี-เซพ-ชั่น-นิสท์) n. แปลว่า พนักงานต้อนรับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเครนอาจเร่งพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ภายในไม่กี่เดือน หากสหรัฐฯภายใต้การบริหารงานของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนความช่วยเหลือทางทหาร ตามที่กล่าวอ้าง จากความเห็นของสถาบันวิจัยแห่งหนึ่ง
    .
    สถาบันวิจัย Centre for Army, Conversion and Disarmament Studies (CACDS) เตือนว่ายูเครนอาจสร้างระเบิดนิวเคลียร์ ที่มีศักยภาพทำลายล้างที่ไม่อาจพรรณาได้ จัดการรัสเซีย โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่เคยใช้ผลิตระเบิดนิวเคลียร์ ลูกที่ถูกหย่อนลงถล่มเมืองนางาซากิของญี่ปุ่น ปี 1945 ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2
    .
    ทางสถาบันวิจัยแห่งนี้ ระบุว่าประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน อาจหันหน้าสู่ "ทางเลือกด้านนิวเคลียร์" หาก ทรัมป์ ปฏิเสธมอบเงินทุนที่จำเป็นในการเดินหน้าป้องกันตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย พร้อมกล่าวอ้างในเอกสารที่ตระเตรียมให้กับกระทรวงกลาโหมยูเครน ว่าเคียฟมีเทคโนโลยีที่สามารถพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ในขั้นพื้นฐานได้อย่างรวดเร็ว
    .
    รายงานของ CACDS สถาบันวิจัยทรงอิทธิพลของยูเครน ระบุว่าเคียฟมีศักยภาพในการสร้างระเบิดนิวเคลียร์ระดับพื้นฐานจากพลูโตเนียม โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่สหรัฐฯเคยใช้กับระเบิด Fat man ซึ่งถูกหย่อนลงถล่มเมืองนางาซากิในปี
    .
    ทั้งนี้ Fat man ระเบิดพลูโตเนียม ถูกหย่อนลงสู่เมืองนางาซากิของญี่ปุ่น ในวันที่ 9 สิงหาคม 1945 ก่อหายนะทำลายล้างที่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ โดยนอกเหนือจากระเบิดในนางาซากิแล้ว ระเบิดนิวเคลียร์อีกลูกที่ถูกหย่อนลงเมืองฮิโรชิมา ช่วยทำให้สงครามโลกครั้งที่ 2 ปิดฉากลง
    .
    โอเลกซี ยิซาค หนึ่งในผู้เขียนรายงาน ระบุว่าระเบิดนิวเคลียร์แบบเดียวกับที่ใช้ถล่มนางาซากิ "เพียงพอที่จะสามารถทำลายฐานทัพอากาศ ศูนย์รวมทางทหาร ที่ตั้งทางอุตสาหกรรมและที่ตั้งทางโลจิสติกส์ ทั่วทั้งรัสเซีย"
    .
    ก่อนหน้านี้พวกเจ้าหน้าที่เคยพากันปฏิเสธว่า เคียฟไม่ได้กำลังพิจารณาติดอาวุธนิวเคลียร์
    .
    เอกสารนี้ถูกเผยแพร่ออกมา ท่ามกลางรายงานข่าวว่าทหารเกาหลีเหนือกำลังเข้ารับการฝึกฝนในรัสเซีย ในความเป็นไปได้ว่าจะเข้าช่วยเหลือรัสเซียสู้รบกับยูเครน ในขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เตรียมส่งทหาร 50,000 นาย เข้าทวงคืนแคว้นคูร์สก์จากการรุกรานของยูเครน
    .
    เกาหลีเหนือกับรัสเซียกระชับความสัมพันธ์กันมากขึ้นนับตั้งแต่มอสโกยกทัพบุกโจมตียูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 โดยเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่มีทหารมากที่สุดในโลก ที่ 1.2 ล้านนาย แต่เกือบทุกคนขาดประสบการณ์ในการสู้รบจริง
    .
    ด้านยูเครนยกทัพบุกรุกเข้าไปในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซียเมื่อเดือนสิงหาคม สร้างเซอร์ไพรส์ให้คนทั้งโลก เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของรัสเซียไปจากสมรภูมิทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งฝ่ายยูเครนกำลังเสียเปรียบอย่างหนัก แต่พวกเขาทำไม่สำเร็จ และตอนนี้ปฏิบัติการในแคว้นคูสค์ของยูเครนก็หยุดชะงัก หลังยึดพื้นที่ขนาดเล็กได้ก่อนหน้านี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109525
    ..............
    Sondhi X
    ยูเครนอาจเร่งพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ภายในไม่กี่เดือน หากสหรัฐฯภายใต้การบริหารงานของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนความช่วยเหลือทางทหาร ตามที่กล่าวอ้าง จากความเห็นของสถาบันวิจัยแห่งหนึ่ง . สถาบันวิจัย Centre for Army, Conversion and Disarmament Studies (CACDS) เตือนว่ายูเครนอาจสร้างระเบิดนิวเคลียร์ ที่มีศักยภาพทำลายล้างที่ไม่อาจพรรณาได้ จัดการรัสเซีย โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่เคยใช้ผลิตระเบิดนิวเคลียร์ ลูกที่ถูกหย่อนลงถล่มเมืองนางาซากิของญี่ปุ่น ปี 1945 ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 . ทางสถาบันวิจัยแห่งนี้ ระบุว่าประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน อาจหันหน้าสู่ "ทางเลือกด้านนิวเคลียร์" หาก ทรัมป์ ปฏิเสธมอบเงินทุนที่จำเป็นในการเดินหน้าป้องกันตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย พร้อมกล่าวอ้างในเอกสารที่ตระเตรียมให้กับกระทรวงกลาโหมยูเครน ว่าเคียฟมีเทคโนโลยีที่สามารถพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ในขั้นพื้นฐานได้อย่างรวดเร็ว . รายงานของ CACDS สถาบันวิจัยทรงอิทธิพลของยูเครน ระบุว่าเคียฟมีศักยภาพในการสร้างระเบิดนิวเคลียร์ระดับพื้นฐานจากพลูโตเนียม โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่สหรัฐฯเคยใช้กับระเบิด Fat man ซึ่งถูกหย่อนลงถล่มเมืองนางาซากิในปี . ทั้งนี้ Fat man ระเบิดพลูโตเนียม ถูกหย่อนลงสู่เมืองนางาซากิของญี่ปุ่น ในวันที่ 9 สิงหาคม 1945 ก่อหายนะทำลายล้างที่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ โดยนอกเหนือจากระเบิดในนางาซากิแล้ว ระเบิดนิวเคลียร์อีกลูกที่ถูกหย่อนลงเมืองฮิโรชิมา ช่วยทำให้สงครามโลกครั้งที่ 2 ปิดฉากลง . โอเลกซี ยิซาค หนึ่งในผู้เขียนรายงาน ระบุว่าระเบิดนิวเคลียร์แบบเดียวกับที่ใช้ถล่มนางาซากิ "เพียงพอที่จะสามารถทำลายฐานทัพอากาศ ศูนย์รวมทางทหาร ที่ตั้งทางอุตสาหกรรมและที่ตั้งทางโลจิสติกส์ ทั่วทั้งรัสเซีย" . ก่อนหน้านี้พวกเจ้าหน้าที่เคยพากันปฏิเสธว่า เคียฟไม่ได้กำลังพิจารณาติดอาวุธนิวเคลียร์ . เอกสารนี้ถูกเผยแพร่ออกมา ท่ามกลางรายงานข่าวว่าทหารเกาหลีเหนือกำลังเข้ารับการฝึกฝนในรัสเซีย ในความเป็นไปได้ว่าจะเข้าช่วยเหลือรัสเซียสู้รบกับยูเครน ในขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เตรียมส่งทหาร 50,000 นาย เข้าทวงคืนแคว้นคูร์สก์จากการรุกรานของยูเครน . เกาหลีเหนือกับรัสเซียกระชับความสัมพันธ์กันมากขึ้นนับตั้งแต่มอสโกยกทัพบุกโจมตียูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 โดยเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่มีทหารมากที่สุดในโลก ที่ 1.2 ล้านนาย แต่เกือบทุกคนขาดประสบการณ์ในการสู้รบจริง . ด้านยูเครนยกทัพบุกรุกเข้าไปในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซียเมื่อเดือนสิงหาคม สร้างเซอร์ไพรส์ให้คนทั้งโลก เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของรัสเซียไปจากสมรภูมิทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งฝ่ายยูเครนกำลังเสียเปรียบอย่างหนัก แต่พวกเขาทำไม่สำเร็จ และตอนนี้ปฏิบัติการในแคว้นคูสค์ของยูเครนก็หยุดชะงัก หลังยึดพื้นที่ขนาดเล็กได้ก่อนหน้านี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109525 .............. Sondhi X
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพเกาหลีใต้เปิดเผยว่าจะทำการซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯและญี่ปุ่น เป็นเวลา 3 วัน ซึ่งจะร่วมด้วย ฝูงบินขับไล่และเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล รวมไปถึงเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ "ยูเอสเอส จอร์จ วอชิงตัน"
    .
    การซ้อมรบร่วมครั้งนี้ที่มีชื่อว่า "ฟรีดอม เอดจ์" คือการตอบโต้ในสิ่งที่ทางกองทัพเกาหลีใต้ ระบุว่าภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ได้ทำการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป ที่เรียกเสียงประณามจากทั้งโซล วอชิงตันและโตเกียว
    .
    นอกจากนี้แล้วมันยังมีขึ้นในขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวอ้างว่าทหารเกาหลีเหนือเริ่มเข้าไปมีส่วนร่วมในปฏิบัติการสู้รบของรัสเซีย ที่กำลังทำศึกสงครามกับยูเครน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    .
    ถ้อยแถลงของเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ ระบุว่าการซ้อมรบครั้งนี้จะรวมถึงฝูงบินขับไล่และอากาศยานลาดตระเวนทางทะเลของเกาหลีใต้และญี่ปุ่น เช่นเดียวกับเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส จอร์จ วอชิงตัน ของสหรัฐฯ
    .
    ทั้งนี้การซ้อมรบไตรภาคีดังกล่าว ถือเป็นหนที่ 2 ในรอบปีนี้ ตามหลังรอบแรกที่จัดขึ้นก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกลางปี หลังจากผู้นำทั้ง 3 ชาติ เห็นพ้องกันระหว่างการประชุมซัมมิตหนึ่งเมื่อปี 2023 เกี่ยวกับการจัดซ้อมรบไตรภาคีเป็นประจำทุกปี
    .
    ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือประณามการซ้อมรบรวมระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯมาช้านาน โดยเรียกมันว่าเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการรุกราน
    .
    เสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ ระบุในถ้อยแถลงด้วยว่า การซ้อมรบไตรภาคีครั้งนี้ จะร่วมไปถึงการฝึกฝนป้องกันขีปนาวุธทางทะเล และการป้องกันทางไซเบอร์
    .
    ก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร(12พ.ย.) กองทัพอากาศสหรัฐฯแถลงว่า พวกเขาจะทำการปลดประจำการเครื่องบิน A-10 ธันเดอร์โบลต์ 2 ในภูมิภาคสำคัญๆ ในนั้นรวมถึงในเกาหลีใต้ ในปีงบประมาณ 2025 ส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์ปรับปรุงให้มีความทันสมัย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109497
    ..............
    Sondhi X
    กองทัพเกาหลีใต้เปิดเผยว่าจะทำการซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯและญี่ปุ่น เป็นเวลา 3 วัน ซึ่งจะร่วมด้วย ฝูงบินขับไล่และเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล รวมไปถึงเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ "ยูเอสเอส จอร์จ วอชิงตัน" . การซ้อมรบร่วมครั้งนี้ที่มีชื่อว่า "ฟรีดอม เอดจ์" คือการตอบโต้ในสิ่งที่ทางกองทัพเกาหลีใต้ ระบุว่าภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ได้ทำการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป ที่เรียกเสียงประณามจากทั้งโซล วอชิงตันและโตเกียว . นอกจากนี้แล้วมันยังมีขึ้นในขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวอ้างว่าทหารเกาหลีเหนือเริ่มเข้าไปมีส่วนร่วมในปฏิบัติการสู้รบของรัสเซีย ที่กำลังทำศึกสงครามกับยูเครน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว . ถ้อยแถลงของเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ ระบุว่าการซ้อมรบครั้งนี้จะรวมถึงฝูงบินขับไล่และอากาศยานลาดตระเวนทางทะเลของเกาหลีใต้และญี่ปุ่น เช่นเดียวกับเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส จอร์จ วอชิงตัน ของสหรัฐฯ . ทั้งนี้การซ้อมรบไตรภาคีดังกล่าว ถือเป็นหนที่ 2 ในรอบปีนี้ ตามหลังรอบแรกที่จัดขึ้นก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกลางปี หลังจากผู้นำทั้ง 3 ชาติ เห็นพ้องกันระหว่างการประชุมซัมมิตหนึ่งเมื่อปี 2023 เกี่ยวกับการจัดซ้อมรบไตรภาคีเป็นประจำทุกปี . ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือประณามการซ้อมรบรวมระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯมาช้านาน โดยเรียกมันว่าเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการรุกราน . เสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ ระบุในถ้อยแถลงด้วยว่า การซ้อมรบไตรภาคีครั้งนี้ จะร่วมไปถึงการฝึกฝนป้องกันขีปนาวุธทางทะเล และการป้องกันทางไซเบอร์ . ก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร(12พ.ย.) กองทัพอากาศสหรัฐฯแถลงว่า พวกเขาจะทำการปลดประจำการเครื่องบิน A-10 ธันเดอร์โบลต์ 2 ในภูมิภาคสำคัญๆ ในนั้นรวมถึงในเกาหลีใต้ ในปีงบประมาณ 2025 ส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์ปรับปรุงให้มีความทันสมัย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109497 .............. Sondhi X
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ความโกรธ”จะทําให้ความชั่วกลายเป็นของทําง่ายขึ้น.…. “ อีกข้อหนึ่ง ซึ่งน่าสนใจที่สุด ความโกรธจะทําให้ความชั่วกลายเป็นของทําง่ายขึ้น คือ ถ้าตามปรกติธรรมดา เราก็รู้อะไรเป็นความชั่ว แล้วก็กลัวความชั่ว ก็ไม่อยากจะทําความชั่ว ฉะนั้น ความชั่วนั้นจึงเป็นสิ่งที่ทํายาก. ยกตัวอย่าง เช่นว่า จะฆ่าพ่อแม่ของตัวเองนี่ มันทําได้แสนยาก แต่ถ้ามันโกรธขึ้นมาแล้ว ความยากนั้นจะกลายเป็นความง่าย ก็มีบาลีว่า “ ยํ กุทฺโธ อุปโรเธติ สุกรํ วิย ทุกฺกรํ ”. สุกรํ วิย ทุกฺกรํ = ที่ทํายากจะกลายเป็นทําง่าย…. เมื่อคนโกรธ เขาต้องการจะประทุษร้าย จะทําชั่ว, สิ่งที่ทํายากก็จะกลายเป็นสิ่งที่ทําง่าย. นี้อย่าเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย ถ้าความจริงข้อนี้มันกระจ่างแจ้งอยู่ในใจแล้ว คนเราจะไม่อาจเกิดความโกรธ หรือทําอะไรด้วยความโกรธ ; ฉะนั้น ควรจะมองเห็นอันตรายของมันอยู่เสมอ”.พุทธทาสภิกขุที่มา : ธรรมบรรยายหัวข้อเรื่อง “การเก็บความโกรธใส่ยุ้งฉาง” เมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๑๘ จากหนังสือชุดธรรมโฆษณ์ เล่มชื่อว่า “ราชภโฏวาท” หน้า ๒๐๐
    “ความโกรธ”จะทําให้ความชั่วกลายเป็นของทําง่ายขึ้น.…. “ อีกข้อหนึ่ง ซึ่งน่าสนใจที่สุด ความโกรธจะทําให้ความชั่วกลายเป็นของทําง่ายขึ้น คือ ถ้าตามปรกติธรรมดา เราก็รู้อะไรเป็นความชั่ว แล้วก็กลัวความชั่ว ก็ไม่อยากจะทําความชั่ว ฉะนั้น ความชั่วนั้นจึงเป็นสิ่งที่ทํายาก. ยกตัวอย่าง เช่นว่า จะฆ่าพ่อแม่ของตัวเองนี่ มันทําได้แสนยาก แต่ถ้ามันโกรธขึ้นมาแล้ว ความยากนั้นจะกลายเป็นความง่าย ก็มีบาลีว่า “ ยํ กุทฺโธ อุปโรเธติ สุกรํ วิย ทุกฺกรํ ”. สุกรํ วิย ทุกฺกรํ = ที่ทํายากจะกลายเป็นทําง่าย…. เมื่อคนโกรธ เขาต้องการจะประทุษร้าย จะทําชั่ว, สิ่งที่ทํายากก็จะกลายเป็นสิ่งที่ทําง่าย. นี้อย่าเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย ถ้าความจริงข้อนี้มันกระจ่างแจ้งอยู่ในใจแล้ว คนเราจะไม่อาจเกิดความโกรธ หรือทําอะไรด้วยความโกรธ ; ฉะนั้น ควรจะมองเห็นอันตรายของมันอยู่เสมอ”.พุทธทาสภิกขุที่มา : ธรรมบรรยายหัวข้อเรื่อง “การเก็บความโกรธใส่ยุ้งฉาง” เมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๑๘ จากหนังสือชุดธรรมโฆษณ์ เล่มชื่อว่า “ราชภโฏวาท” หน้า ๒๐๐
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ ทำการเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่อย่างเป็นทางการ ทางเหนือของโปแลนด์ ความเคลื่อนไหวที่ทางวอร์ซอหาทางสร้างความอุ่นใจแก่พลเมืองว่านาโตการันตีความปลอดภัยของพวกเขา ท่ามกลางความหวั่นวิตก หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา
    .
    ฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเรดซิโคโว ใกล้ชายฝั่งบอลติก ดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ทศวรรษ 2000 และวอร์ซอระบุว่ามันแสดงให้เห็นว่าความเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างโปแลนด์กับวอชิงตันยังคงเหนียวแน่น ไม่ว่าใครจะอยู่ในทำเนียบขาวก็ตาม
    .
    "มันใช้เวลาพักใหญ่ แต่โครงการก่อสร้างนี้พิสูจน์ถึงความแน่วแน่ในเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ" ราโดสลอว์ ซิคอร์สกี รัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ กล่าวในวิดีโอที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์
    .
    ประธานาธิบดีอันด์แซย์ ดูดา ของโปแลนด์ ผู้นำหัวอนุรักษนิยมซึ่งเน้นย้ำความสัมพันธ์อันอบอุ่นกับทรัมป์ เข้าร่วมในพิธีเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่ด้วย ในขณะที่วังเครมลินเรียกความเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่าเป็นความพยายามควบคุมรัสเซีย ด้วยการเคลื่อนย้ายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของอเมริกาเข้ามาใกล้ชายแดนของพวกเขา
    .
    ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน กล่าวว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน คัดค้านแผนการต่างๆ สำหรับฐานขีปนาวุธแห่งนี้ ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 2000 ครั้งที่ จอร์จ ดับเบิลยู.บุช เป็นประธานาธิบดี
    .
    โฆษกรายนี้บอกว่า ปูติน เคยเน้นย้ำในช่วงเวลาดังกล่าว ว่าสหรัฐฯ กำลังโกหก ที่อ้างว่ามันมีจุดประสงค์เพื่อสกัดความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะยิงขีปนาวุธเข้ามา "มันเป็นการยืนยันว่าประธานาธิบดีพูดถูก พวกเขายังคงเดินหน้าแผนการนี้ นี่คือโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำสมัยของอเมริกาบนดินแดนยุโรป ที่หันหน้าเข้าหาเขตแดนของเรา" เปสคอฟกล่าว "มันไม่มีอะไรมากไปกว่าความพยายามควบคุมแสนยานุภาพทางทหารของเรา และแน่นอนว่ามันจะนำมาซึ่้งการใช้มาตรการที่เหมาะสม เพื่อรับประกันความเท่าเทียม"
    .
    อย่างไรก็ตาม เปสคอฟ ไม่ได้ระบุว่ารัสเซียจะใช้มาตรการใดในการตอบโต้
    .
    การเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่อย่างเป็นทางการในโปแลนด์ มีขึ้นหลังจากทรัมป์ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทรัมป์ที่มีต่อนาโตในอดีต ได้ก่อความไม่สบายใจแก่รัฐสมาชิกบางส่วน โดยเขาเคยประกาศกร้าวว่าอเมริกาภายใต้การบริหารงานของเขา จะไม่ปกป้องประเทศต่างๆ ที่ไม่ใช้จ่ายในด้านกลาโหมอย่างเพียงพอ
    .
    กระนั้นก็ตาม โปแลนด์ บอกว่าไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้ใช้จ่ายงบประมาณด้านกลาโหมรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของพันธมิตรทหารแห่งนี้ เมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจ
    .
    ฐานทัพของสหรัฐฯ ในเมืองเรดซิโคโว เป็นส่วนหนึ่งของโล่ป้องกันขีปนาวุธอย่างครอบคลุมของนาโต ที่ได้รับสมญานามว่า "Aegis Ashore" ซึ่งพันธมิตรทหารแห่งนี้อวดอ้างว่าสามารถสกัดขีปนาวุธพิสัยใกล้ไปจนถึงพิสัยปานกลางที่พุ่งเข้ามาได้
    .
    มอสโกเคยตราหน้าฐานทัพแห่งนี้ว่าเป็นภัยคุกคาม ย้อนกลับไปในปี 2007 ตั้งแต่ช่วงที่มันยังอยู่ในขั้นของการวางแผน อย่างไรก็ตาม นาโตอ้างว่าโล่ดังกล่าวมีไว้เพื่อจุดประสงค์ป้องกันตนเองแต่เพียงอย่างเดียว
    .
    แหล่งข่าวด้านการทหารบอกกับรอยเตอร์ว่า ด้วยการติดตั้งระบบนี้ในโปแลนด์ เวลานี้นาโตไม่ใช่แค่สามารถใช้มันสกัดขีปนาวุธที่ยิงออกมาจากตะวันออกกลางเท่านั้น แต่มันยังมีระบบเรดาร์ที่จำเป็นที่้สามารถเปลี่ยนทิศทางเข้าสกัดขีปนาวุธที่ยิงออกมาจากรัสเซียด้วยเช่นกัน
    .
    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของโปแลนด์ระบุในวันจันทร์ (11 พ.ย.) ว่าจำเป็นต้องขยายขอบเขตโล่ป้องกันขีปนาวุธนี้เพิ่มเติม ซึ่งทางวอร์ซอจะมีการพูดคุยหารือกับนาโตและสหรัฐฯ อีกครั้ง
    .
    ทั้งนี้ มีรายงานว่า มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต ได้พบปะหารือกับประธานาธิบดี ดูดา และนายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทัสก์ ของโปแลนด์ ในกรุงวอร์ซอ หลังจากพิธีเปิดฐานทัพในวันพุธ (13 พ.ย.)
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109494
    ..............
    Sondhi X
    สหรัฐฯ ทำการเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่อย่างเป็นทางการ ทางเหนือของโปแลนด์ ความเคลื่อนไหวที่ทางวอร์ซอหาทางสร้างความอุ่นใจแก่พลเมืองว่านาโตการันตีความปลอดภัยของพวกเขา ท่ามกลางความหวั่นวิตก หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา . ฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเรดซิโคโว ใกล้ชายฝั่งบอลติก ดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ทศวรรษ 2000 และวอร์ซอระบุว่ามันแสดงให้เห็นว่าความเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างโปแลนด์กับวอชิงตันยังคงเหนียวแน่น ไม่ว่าใครจะอยู่ในทำเนียบขาวก็ตาม . "มันใช้เวลาพักใหญ่ แต่โครงการก่อสร้างนี้พิสูจน์ถึงความแน่วแน่ในเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ" ราโดสลอว์ ซิคอร์สกี รัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ กล่าวในวิดีโอที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ . ประธานาธิบดีอันด์แซย์ ดูดา ของโปแลนด์ ผู้นำหัวอนุรักษนิยมซึ่งเน้นย้ำความสัมพันธ์อันอบอุ่นกับทรัมป์ เข้าร่วมในพิธีเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่ด้วย ในขณะที่วังเครมลินเรียกความเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่าเป็นความพยายามควบคุมรัสเซีย ด้วยการเคลื่อนย้ายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของอเมริกาเข้ามาใกล้ชายแดนของพวกเขา . ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน กล่าวว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน คัดค้านแผนการต่างๆ สำหรับฐานขีปนาวุธแห่งนี้ ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 2000 ครั้งที่ จอร์จ ดับเบิลยู.บุช เป็นประธานาธิบดี . โฆษกรายนี้บอกว่า ปูติน เคยเน้นย้ำในช่วงเวลาดังกล่าว ว่าสหรัฐฯ กำลังโกหก ที่อ้างว่ามันมีจุดประสงค์เพื่อสกัดความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะยิงขีปนาวุธเข้ามา "มันเป็นการยืนยันว่าประธานาธิบดีพูดถูก พวกเขายังคงเดินหน้าแผนการนี้ นี่คือโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำสมัยของอเมริกาบนดินแดนยุโรป ที่หันหน้าเข้าหาเขตแดนของเรา" เปสคอฟกล่าว "มันไม่มีอะไรมากไปกว่าความพยายามควบคุมแสนยานุภาพทางทหารของเรา และแน่นอนว่ามันจะนำมาซึ่้งการใช้มาตรการที่เหมาะสม เพื่อรับประกันความเท่าเทียม" . อย่างไรก็ตาม เปสคอฟ ไม่ได้ระบุว่ารัสเซียจะใช้มาตรการใดในการตอบโต้ . การเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่อย่างเป็นทางการในโปแลนด์ มีขึ้นหลังจากทรัมป์ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทรัมป์ที่มีต่อนาโตในอดีต ได้ก่อความไม่สบายใจแก่รัฐสมาชิกบางส่วน โดยเขาเคยประกาศกร้าวว่าอเมริกาภายใต้การบริหารงานของเขา จะไม่ปกป้องประเทศต่างๆ ที่ไม่ใช้จ่ายในด้านกลาโหมอย่างเพียงพอ . กระนั้นก็ตาม โปแลนด์ บอกว่าไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้ใช้จ่ายงบประมาณด้านกลาโหมรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของพันธมิตรทหารแห่งนี้ เมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจ . ฐานทัพของสหรัฐฯ ในเมืองเรดซิโคโว เป็นส่วนหนึ่งของโล่ป้องกันขีปนาวุธอย่างครอบคลุมของนาโต ที่ได้รับสมญานามว่า "Aegis Ashore" ซึ่งพันธมิตรทหารแห่งนี้อวดอ้างว่าสามารถสกัดขีปนาวุธพิสัยใกล้ไปจนถึงพิสัยปานกลางที่พุ่งเข้ามาได้ . มอสโกเคยตราหน้าฐานทัพแห่งนี้ว่าเป็นภัยคุกคาม ย้อนกลับไปในปี 2007 ตั้งแต่ช่วงที่มันยังอยู่ในขั้นของการวางแผน อย่างไรก็ตาม นาโตอ้างว่าโล่ดังกล่าวมีไว้เพื่อจุดประสงค์ป้องกันตนเองแต่เพียงอย่างเดียว . แหล่งข่าวด้านการทหารบอกกับรอยเตอร์ว่า ด้วยการติดตั้งระบบนี้ในโปแลนด์ เวลานี้นาโตไม่ใช่แค่สามารถใช้มันสกัดขีปนาวุธที่ยิงออกมาจากตะวันออกกลางเท่านั้น แต่มันยังมีระบบเรดาร์ที่จำเป็นที่้สามารถเปลี่ยนทิศทางเข้าสกัดขีปนาวุธที่ยิงออกมาจากรัสเซียด้วยเช่นกัน . รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของโปแลนด์ระบุในวันจันทร์ (11 พ.ย.) ว่าจำเป็นต้องขยายขอบเขตโล่ป้องกันขีปนาวุธนี้เพิ่มเติม ซึ่งทางวอร์ซอจะมีการพูดคุยหารือกับนาโตและสหรัฐฯ อีกครั้ง . ทั้งนี้ มีรายงานว่า มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต ได้พบปะหารือกับประธานาธิบดี ดูดา และนายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทัสก์ ของโปแลนด์ ในกรุงวอร์ซอ หลังจากพิธีเปิดฐานทัพในวันพุธ (13 พ.ย.) . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109494 .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • อำนาจภายใต้การเมืองสีน้ำเงินบทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณคลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9670000109483
    อำนาจภายใต้การเมืองสีน้ำเงินบทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณคลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9670000109483
    Like
    Sad
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • บรรดาผู้นำประเทศต่างๆจำเป็นต้องตระหนักว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ "จริงจังอย่างมาก" เกี่ยวกับการยุติความขัดแย้งยูเครน จากความเห็นของ อเล็กซานเดอร์ สตับบ์ ประธานาธิบดีโปแลนด์ ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
    .
    ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในขณะที่มีข่าวว่า ทรัมป์ จะแต่งตั้งทูตพิเศษสำหรับเป็นผู้นำในการเจรจาเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งในยูเครน หลังจากเขาเคยประกาศระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าจะยุติสงครามระหว่างมอสโกกับเคียฟภายใน 24 ชั่วโมง ที่กลับเข้าสู่อำนาจ
    .
    ประธานาธิบดีโปแลนด์ ทำนายเหมือนกับหลายคน เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆนานาในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารงานของทรัมป์ หลังจากได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับว่าที่ผู้นำสหรัฐฯเมื่อวันจันทร์(11พ.ย.) ทั้งนี้ สตับบ์ ชี้แนะว่าบรรดาผู้สนับสนุนทั้งหลายของเคียฟ ควรอำนวยความสะดวกแก่การเจรจา ก่อน ทรัมป์ สาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม
    .
    "ผมคิดว่า เราในยุโรปและทั่วทั้งโลก จำเป็นต้องเข้าใจว่า โดนัลด์ ทรัมป์ มีความจริงจังอย่างมากเกี่ยวกับการได้ข้อตกลงสันติภาพ โดยไม่ชักช้าเกินไป" เขากล่าวในวันอังคาร(12พ.ย.) รอบนอกการประชุมภาวะโลกร้อนในอาเซอร์ไบจาน "ตัวผมเองเคยบอกว่า มันมีประตูแห่งโอกาสของการเจรจานี้ ในระหว่างศึกเลือกตั้งและวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง"
    .
    ที่ผ่านมา สตับบ์ เป็นหนึ่งในบุคคลที่ส่งเสียงสนับสนุนเหตุผลของยูเครนอย่างแข็งขัน และเมื่อถูกถามว่า เขาเชื่อหรือไม่ว่า ทรัมป์ จะได้ข้อตกลงที่ยุติธรรมสำหรับยูเครน ทาง สตับบ์ เน้นย้ำว่าในความคิดเห็นของเขา ผลลัพธ์ที่ดีสำหรับยูเครน คือยูเครนได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ อย่างไรก็ตามข้อเรียกร้องนี้ รัสเซีย เรียกมันว่าเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง
    .
    ทรัมป์ กล่าวอ้างระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าเขาจะยุติความขัดแย้งภายใน 24 ชั่วโมง หากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งเลือกเขากลับเข้าสู่อำนาจ ทรัมป์ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของแผนการ แต่สื่อมวลชนบ่งชี้ว่าบางที ทรัมป์อาจถาโถมแรงกดดันใส่ทั้งมอสโกและเคียฟ เพื่อบีบให้ยอมประนีประนอม
    .
    ความเห็นของผู้นำโปแลนด์ มีขึ้นในขณะที่สำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์รายงานในวันพุธ(13พ.ย.) ว่า ทรัมป์ เตรียมแต่งตั้งทูตพิเศษที่จะรับหน้าที่เป็นผู้นำการเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครน หลังจากก่อนหน้านี้ ทรัมป์ เคยเผยว่าเขาจะพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในอนาคตอันใกล้
    .
    "คุณกำลังได้เห็นทูตพิเศษระดับอาวุโสมากๆ บางคนที่มีความน่าเชื่อถืออย่างมาก ผู้ซึ่งจะได้รับมอบหมายให้หนทางออกหนึ่งๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งการแก้ปัญหาอย่างสันติ" แหล่งข่าวซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามเปิดเผยกับฟ็อกซ์นิวส์ พร้อมระบุว่า "คุณกำลังจะได้เห็นสิ่งนี้ ในอนาคตอันใกล้"
    .
    ราว 1 สัปดาห์นับตั้งแต่เขาคว้าชัยชนะเหนือ กมลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์เปิดเผยรายชื่อบุคคลต่างๆเป็นชุดๆ ที่เขามีความตั้งใจเสนอชื่อดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีและที่ปรึกษา ในนั้นรวมถึงกรณีที่เขาเปิดเผยว่าจะแต่งตั้ง สตีเฟน วิตคอฟฟ์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลาง โดยบอกว่า วิตคอฟฟ์ จะส่งเสียงเรียกร้องแบบไม่หยุดสำหรับร้องหาสันติภาพในภูมิภาค
    .
    ทรัมป์ พูดคุยกับ เซเลนสกี ไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน และบอกกับเอ็นบีซีนิวส์ ว่าเขาอยากพูดคุยกับปูตินในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ ปูติน แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ ต่อชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา(7พ.ย.) และบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เขาพร้อมหารือกับว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
    .
    อย่างไรก็ตามวังเครมลินปฏิเสธซ้ำๆเกี่ยวกับคำพูดอวดอ้างว่า ทรัมป์ จะสามารถยุติความขัดแย้งระหว่างมอสโกกับเคียฟอย่างง่ายดาย แม้ ปูติน ชี้ว่าถ้อยแถลงของทรัมป์ในเรื่องนี้ "อย่างน้อยๆ ก็คู่ควรได้รับความสนใจ"
    .
    ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทรัมป์ จะผลักดันทางออกใดในความขัดแย้งนี้ ระหว่างการหาเสียง ว่าที่รองประธานาธิบดีเจ.ดี.แวนซ์ บ่งชี้ว่าอาจมีการประกาศข้อตกลงหยุดยิงและจัดตั้งเขตปลอดทหารหนึ่งๆตามแนวหน้าในปัจจุบัน พร้อมกับไม่ไฟเขียวให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต
    .
    รายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่าบรรดาที่ปรึกษาของทรัมป์ สนับสนุนแนวคิดบางส่วนของแผนนี้ และสนับสนุนให้ว่าที่ประธานาธิบดีนำเสนอมันกับทั้งเซเลนสกีและปูติน
    .
    มอสโก ยืนกรานว่าทางออกใดๆ จำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยการที่ยูเครนยุติปฏิบัติการทางทหารและยอมรับ "ความเป็นจริงด้านดินแดน" ที่ว่าพวกเขาไม่มีวันทวงคืนแคว้นต่างๆที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียได้อีกแล้ว ในนั้นประกอบด้วยแคว้นโดเนตสก์, แคว้นลูฮันสก์, แคว้นเคียร์ซอนและแคว้นซาโปริซเซีย รวมไปถึงแคว้นไครเมีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109496
    ..............
    Sondhi X
    บรรดาผู้นำประเทศต่างๆจำเป็นต้องตระหนักว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ "จริงจังอย่างมาก" เกี่ยวกับการยุติความขัดแย้งยูเครน จากความเห็นของ อเล็กซานเดอร์ สตับบ์ ประธานาธิบดีโปแลนด์ ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก . ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในขณะที่มีข่าวว่า ทรัมป์ จะแต่งตั้งทูตพิเศษสำหรับเป็นผู้นำในการเจรจาเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งในยูเครน หลังจากเขาเคยประกาศระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าจะยุติสงครามระหว่างมอสโกกับเคียฟภายใน 24 ชั่วโมง ที่กลับเข้าสู่อำนาจ . ประธานาธิบดีโปแลนด์ ทำนายเหมือนกับหลายคน เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆนานาในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารงานของทรัมป์ หลังจากได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับว่าที่ผู้นำสหรัฐฯเมื่อวันจันทร์(11พ.ย.) ทั้งนี้ สตับบ์ ชี้แนะว่าบรรดาผู้สนับสนุนทั้งหลายของเคียฟ ควรอำนวยความสะดวกแก่การเจรจา ก่อน ทรัมป์ สาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม . "ผมคิดว่า เราในยุโรปและทั่วทั้งโลก จำเป็นต้องเข้าใจว่า โดนัลด์ ทรัมป์ มีความจริงจังอย่างมากเกี่ยวกับการได้ข้อตกลงสันติภาพ โดยไม่ชักช้าเกินไป" เขากล่าวในวันอังคาร(12พ.ย.) รอบนอกการประชุมภาวะโลกร้อนในอาเซอร์ไบจาน "ตัวผมเองเคยบอกว่า มันมีประตูแห่งโอกาสของการเจรจานี้ ในระหว่างศึกเลือกตั้งและวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง" . ที่ผ่านมา สตับบ์ เป็นหนึ่งในบุคคลที่ส่งเสียงสนับสนุนเหตุผลของยูเครนอย่างแข็งขัน และเมื่อถูกถามว่า เขาเชื่อหรือไม่ว่า ทรัมป์ จะได้ข้อตกลงที่ยุติธรรมสำหรับยูเครน ทาง สตับบ์ เน้นย้ำว่าในความคิดเห็นของเขา ผลลัพธ์ที่ดีสำหรับยูเครน คือยูเครนได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ อย่างไรก็ตามข้อเรียกร้องนี้ รัสเซีย เรียกมันว่าเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง . ทรัมป์ กล่าวอ้างระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าเขาจะยุติความขัดแย้งภายใน 24 ชั่วโมง หากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งเลือกเขากลับเข้าสู่อำนาจ ทรัมป์ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของแผนการ แต่สื่อมวลชนบ่งชี้ว่าบางที ทรัมป์อาจถาโถมแรงกดดันใส่ทั้งมอสโกและเคียฟ เพื่อบีบให้ยอมประนีประนอม . ความเห็นของผู้นำโปแลนด์ มีขึ้นในขณะที่สำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์รายงานในวันพุธ(13พ.ย.) ว่า ทรัมป์ เตรียมแต่งตั้งทูตพิเศษที่จะรับหน้าที่เป็นผู้นำการเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครน หลังจากก่อนหน้านี้ ทรัมป์ เคยเผยว่าเขาจะพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในอนาคตอันใกล้ . "คุณกำลังได้เห็นทูตพิเศษระดับอาวุโสมากๆ บางคนที่มีความน่าเชื่อถืออย่างมาก ผู้ซึ่งจะได้รับมอบหมายให้หนทางออกหนึ่งๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งการแก้ปัญหาอย่างสันติ" แหล่งข่าวซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามเปิดเผยกับฟ็อกซ์นิวส์ พร้อมระบุว่า "คุณกำลังจะได้เห็นสิ่งนี้ ในอนาคตอันใกล้" . ราว 1 สัปดาห์นับตั้งแต่เขาคว้าชัยชนะเหนือ กมลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์เปิดเผยรายชื่อบุคคลต่างๆเป็นชุดๆ ที่เขามีความตั้งใจเสนอชื่อดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีและที่ปรึกษา ในนั้นรวมถึงกรณีที่เขาเปิดเผยว่าจะแต่งตั้ง สตีเฟน วิตคอฟฟ์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลาง โดยบอกว่า วิตคอฟฟ์ จะส่งเสียงเรียกร้องแบบไม่หยุดสำหรับร้องหาสันติภาพในภูมิภาค . ทรัมป์ พูดคุยกับ เซเลนสกี ไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน และบอกกับเอ็นบีซีนิวส์ ว่าเขาอยากพูดคุยกับปูตินในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ ปูติน แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ ต่อชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา(7พ.ย.) และบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เขาพร้อมหารือกับว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ . อย่างไรก็ตามวังเครมลินปฏิเสธซ้ำๆเกี่ยวกับคำพูดอวดอ้างว่า ทรัมป์ จะสามารถยุติความขัดแย้งระหว่างมอสโกกับเคียฟอย่างง่ายดาย แม้ ปูติน ชี้ว่าถ้อยแถลงของทรัมป์ในเรื่องนี้ "อย่างน้อยๆ ก็คู่ควรได้รับความสนใจ" . ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทรัมป์ จะผลักดันทางออกใดในความขัดแย้งนี้ ระหว่างการหาเสียง ว่าที่รองประธานาธิบดีเจ.ดี.แวนซ์ บ่งชี้ว่าอาจมีการประกาศข้อตกลงหยุดยิงและจัดตั้งเขตปลอดทหารหนึ่งๆตามแนวหน้าในปัจจุบัน พร้อมกับไม่ไฟเขียวให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต . รายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่าบรรดาที่ปรึกษาของทรัมป์ สนับสนุนแนวคิดบางส่วนของแผนนี้ และสนับสนุนให้ว่าที่ประธานาธิบดีนำเสนอมันกับทั้งเซเลนสกีและปูติน . มอสโก ยืนกรานว่าทางออกใดๆ จำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยการที่ยูเครนยุติปฏิบัติการทางทหารและยอมรับ "ความเป็นจริงด้านดินแดน" ที่ว่าพวกเขาไม่มีวันทวงคืนแคว้นต่างๆที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียได้อีกแล้ว ในนั้นประกอบด้วยแคว้นโดเนตสก์, แคว้นลูฮันสก์, แคว้นเคียร์ซอนและแคว้นซาโปริซเซีย รวมไปถึงแคว้นไครเมีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109496 .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ตกรางวัล อีลอน มัสก์ แต่งตั้งคุมกระทรวงใหม่ที่รับผิดชอบการปฏิรูปรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเสนอชื่อ พีท เฮกเซธ ผู้ดำเนินรายการของทีวีฟ็อกซ์ นิวส์และอดีตทหารผ่านศึก เป็นรัฐมนตรีกลาโหม ดันแผนล้างบางนายพลสายก้าวหน้าและ “ผู้ทรยศ” ในเพนตากอน
    .
    มัสก์ และ วิเวก รามาสวามี อดีตผู้สมัครเพื่อเป็นตัวแทนรีพับลิกันลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ภายหลังถอนตัวและหันมาสนับสนุนทรัมป์ จะร่วมกันคุมกระทรวงใหม่ที่มีชื่อว่ากระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาลแห่งนี้ โดยมุ่งตัดขั้นตอนระเบียบราชการตลอดจนกฎระเบียบที่ไม่จำเป็น ตลอดจนลดเลิกการใช้จ่ายที่สูญเปล่า และปรับโครงสร้างหน่วยงานของรัฐบาลกลาง
    .
    ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของอเมริกา ประกาศเมื่อวันอังคาร (12 พ.ย) ว่า หน่วยงานใหม่นี้จะทำให้ฝันของพรรครีพับลิกันเป็นจริง รวมทั้งจะเสนอคำแนะนำและแนวทางจากภายนอกรัฐบาล เป็นการส่งสัญญาณว่า บทบาทของมัสก์และรามาสวามีจะอยู่ในลักษณะไม่เป็นทางการ จึงไม่จำเป็นต้องได้รับอนุมัติจากวุฒิสภาเสียก่อน นอกจากนั้นมัสก์ยังสามารถเป็นซีอีโอเทสลา, เอ็กซ์ และสเปซเอ็กซ์ ต่อไปตามปกติ
    .
    กระทรวงใหม่นี้จะทำงานร่วมกับทำเนียบขาวและสำนักบริหารงบประมาณ เพื่อขับเคลื่อนการปรับโครงสร้างและสร้างแนวทางแบบผู้ประกอบการเพื่อทำให้เกิดรัฐบาลแบบที่ไม่เคยเห็นกันมาก่อน โดยที่ภารกิจนี้จะต้องลุล่วงภายในวันที่ 4 ก.ค. 2026 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 250 ปีการลงนามคำประกาศอิสรภาพของอเมริกา
    .
    คาดกันว่า ความเคลื่อนไหวนี้จะส่งให้ธุรกิจของมัสก์ที่นิตยสารฟอร์บส์ยกให้เป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลกและได้ประโยชน์อย่างชัดเจนจากชัยชนะในการเลือกตั้งของทรัมป์ ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นพิเศษจากรัฐบาล รวมทั้งจะมีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้น รวมทั้งส่งผลดีต่อพวกธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และคริปโต
    .
    ในการรณรงค์หาเสียงเป็นประธานาธิบดีของทรัมป์รอบนี้ มีรายงานว่ามัสก์ทุ่มเงินสนับสนุนรวมแล้วเกินหลัก 100 ล้านดอลลาร์ นอกจากนั้นเขายังตระเวนช่วยทรัมป์ปราศรัยหาเสียงอีกด้วย
    .
    สำหรับภารกิจใหม่ที่ทรัมป์อวดอ้างว่า จะมีประสิทธิภาพเทียบเท่า “แมนฮัตตันโปรเจ็กต์” ซึ่งก็คือโครงการพัฒนาระเบิดปรมาณูเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น มัสก์สัญญาจะดำเนินการด้วยความโปร่งใสที่สุด โดยจะรายงานการดำเนินการทั้งหมดทางออนไลน์ พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมให้ข้อเสนอแนะบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์
    .
    ระหว่างปราศรัยช่วยทรัมป์หาเสียงที่ เมดิสันสแควร์การ์เด้น นครนิวยอร์ก เมื่อเดือนที่แล้ว มัสก์ระบุว่า งบประมาณของรัฐบาลกลางควรต้องลดลงอย่างน้อย 2 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่สำนักงบประมาณรัฐสภาประเมินว่า เฉพาะปีงบประมาณปัจจุบันรัฐบาลมีค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ซึ่งรวมถึงการใช้จ่ายทางทหาร รวม 1.9 ล้านล้านดอลลาร์จากค่าใช้จ่ายทั้งหมดของรัฐบาลกลาง 6.75 ล้านล้านดอลลาร์
    .
    นอกจากนั้นชื่อย่อของกระทรวงใหม่คือ DOGE ยังพาดพิงถึงชื่อโดชคอยน์ ซึ่งเป็นคริปโตที่มัสก์สนับสนุน และราคาของมันก็ทะยานขึ้นเกินเท่าตัวนับจากวันเลือกตั้งตามกระแสการคาดหวังในตลาดคริปโตว่า คณะบริหารของทรัมป์จะผ่อนคลายกฎระเบียบในอุตสาหกรรมนี้
    .
    สำหรับรามาสวามี เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทยา และปี 2021 เคยออกหนังสือ “โวค อิงก์” ติเตียนการตัดสินใจของบริษัทใหญ่บางแห่งที่กำหนดกลยุทธ์ธุรกิจโดยอิงกับข้อกังวลเกี่ยวกับความยุติธรรมทางสังคมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    .
    นอกจากมัสก์และรามาสวามีแล้ว เมื่อคืนวันอังคารทรัมป์ยังเสนอชื่อ พีท เฮกเซธ ผู้ดำเนินรายการของ ฟ็อกซ์ นิวส์ เครือข่ายทีวีอนุรักษ์นิยมสุดขั้ว เป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม (เพนตากอน) , จอห์น แรตคลิฟฟ์ อดีตผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติในรัฐบาลทรัมป์ 1.0 เป็นผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ), คริสตี โนเอ็ม ผู้ว่าการรัฐเซาธ์ดาโกตา เป็นรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ, สตีเฟน มิลเลอร์ ผู้เขียนนโยบายผู้อพยพที่มุ่งแบนมุสลิมของทรัมป์ เป็นรองประธานเจ้าหน้าที่ทำงานทำเนียบขาว และไมค์ ฮักคาบี อดีตผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอส์ เป็นเอกอัครราชทูตประจำอิสราเอล
    .
    อย่างไรก็ตาม เฮกเซธ ดูจะเป็นตัวเลือกที่เซอร์ไพรส์ที่สุดในบรรดาสมาชิกคณะบริหารที่ทรัมป์ประกาศออกมาจนถึงขณะนี้ รวมทั้งยังเรียกเสียงประณามจากฝ่ายตรงข้ามบางคน เช่น อดัม สมิธ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากเดโมแครต ที่วิจารณ์ว่า ตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมไม่ใช่งานสำหรับพวกมือใหม่
    .
    ทว่า ทรัมป์ยกย่องเฮกเซธ วัย 44 ปี อดีตทหารผ่านศึกสังกัดกองทหารรักษาดินแดน (เนชั่นแนลการ์ด) ที่เคยไปประจำการในอัฟกานิสถาน อิรัก และกวนตานาโม ว่า เป็นคนทรหด ฉลาด และเชื่อมั่นในนโยบายอเมริกาต้องมาก่อนอย่างแท้จริง และสำทับว่า เฮกเซธจะทำให้กองทัพอเมริกันกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
    .
    คาดหมายกันว่า หากได้รับการรับรองจากวุฒิสมาชิก เฮกเซธจะเป็นอาวุธชั้นดีในการกำจัดบรรดานายพลที่ทรัมป์กล่าวหาว่า ปฏิบัติตามนโยบายเชิงก้าวหน้าด้านความหลากหลายในกองทัพ เป็นต้นว่า การยอมรับชาวเกย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกอนุรักษนิยมคัดค้าน รวมทั้งยังอาจปะทะกับพลอากาศเอกซี.คิว. บราวน์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯคนปัจจุบัน ที่เฮกเซธกล่าวหาว่า รับนโยบายมาจากนักการเมืองฝ่ายซ้าย
    .
    ทั้งนี้ ภายในเพนตากอนกำลังกังวลว่า ทรัมป์ต้องการขุดรากถอนโคนนายทหารและข้าราชการพลเรือนที่เขามองว่าทรยศต่อตัวเขา โดยเมื่อเดือนมิถุนายน เขาให้สัมภาษณ์ฟ็อกซ์นิวส์ว่า จะไล่นายพลที่ “ตื่นรู้” ซึ่งหมายถึงผู้ที่พุ่งความสนใจที่ความยุติธรรมด้านเชื้อชาติและสังคม ทว่า คำนี้ถูกพวกอนุรักษนิยมนำมาใช้เพื่อใส่ร้ายนโยบายเชิงก้าวหน้า
    .
    นอกจากนั้นเฮกเซธยังโจมตีชาติพันธมิตรในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ว่าอ่อนแอ รวมทั้งชี้ว่า จีนกำลังจะครอบงำประเทศเพื่อนบ้านในเอเชีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109487
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ ตกรางวัล อีลอน มัสก์ แต่งตั้งคุมกระทรวงใหม่ที่รับผิดชอบการปฏิรูปรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเสนอชื่อ พีท เฮกเซธ ผู้ดำเนินรายการของทีวีฟ็อกซ์ นิวส์และอดีตทหารผ่านศึก เป็นรัฐมนตรีกลาโหม ดันแผนล้างบางนายพลสายก้าวหน้าและ “ผู้ทรยศ” ในเพนตากอน . มัสก์ และ วิเวก รามาสวามี อดีตผู้สมัครเพื่อเป็นตัวแทนรีพับลิกันลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ภายหลังถอนตัวและหันมาสนับสนุนทรัมป์ จะร่วมกันคุมกระทรวงใหม่ที่มีชื่อว่ากระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาลแห่งนี้ โดยมุ่งตัดขั้นตอนระเบียบราชการตลอดจนกฎระเบียบที่ไม่จำเป็น ตลอดจนลดเลิกการใช้จ่ายที่สูญเปล่า และปรับโครงสร้างหน่วยงานของรัฐบาลกลาง . ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของอเมริกา ประกาศเมื่อวันอังคาร (12 พ.ย) ว่า หน่วยงานใหม่นี้จะทำให้ฝันของพรรครีพับลิกันเป็นจริง รวมทั้งจะเสนอคำแนะนำและแนวทางจากภายนอกรัฐบาล เป็นการส่งสัญญาณว่า บทบาทของมัสก์และรามาสวามีจะอยู่ในลักษณะไม่เป็นทางการ จึงไม่จำเป็นต้องได้รับอนุมัติจากวุฒิสภาเสียก่อน นอกจากนั้นมัสก์ยังสามารถเป็นซีอีโอเทสลา, เอ็กซ์ และสเปซเอ็กซ์ ต่อไปตามปกติ . กระทรวงใหม่นี้จะทำงานร่วมกับทำเนียบขาวและสำนักบริหารงบประมาณ เพื่อขับเคลื่อนการปรับโครงสร้างและสร้างแนวทางแบบผู้ประกอบการเพื่อทำให้เกิดรัฐบาลแบบที่ไม่เคยเห็นกันมาก่อน โดยที่ภารกิจนี้จะต้องลุล่วงภายในวันที่ 4 ก.ค. 2026 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 250 ปีการลงนามคำประกาศอิสรภาพของอเมริกา . คาดกันว่า ความเคลื่อนไหวนี้จะส่งให้ธุรกิจของมัสก์ที่นิตยสารฟอร์บส์ยกให้เป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลกและได้ประโยชน์อย่างชัดเจนจากชัยชนะในการเลือกตั้งของทรัมป์ ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นพิเศษจากรัฐบาล รวมทั้งจะมีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้น รวมทั้งส่งผลดีต่อพวกธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และคริปโต . ในการรณรงค์หาเสียงเป็นประธานาธิบดีของทรัมป์รอบนี้ มีรายงานว่ามัสก์ทุ่มเงินสนับสนุนรวมแล้วเกินหลัก 100 ล้านดอลลาร์ นอกจากนั้นเขายังตระเวนช่วยทรัมป์ปราศรัยหาเสียงอีกด้วย . สำหรับภารกิจใหม่ที่ทรัมป์อวดอ้างว่า จะมีประสิทธิภาพเทียบเท่า “แมนฮัตตันโปรเจ็กต์” ซึ่งก็คือโครงการพัฒนาระเบิดปรมาณูเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น มัสก์สัญญาจะดำเนินการด้วยความโปร่งใสที่สุด โดยจะรายงานการดำเนินการทั้งหมดทางออนไลน์ พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมให้ข้อเสนอแนะบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ . ระหว่างปราศรัยช่วยทรัมป์หาเสียงที่ เมดิสันสแควร์การ์เด้น นครนิวยอร์ก เมื่อเดือนที่แล้ว มัสก์ระบุว่า งบประมาณของรัฐบาลกลางควรต้องลดลงอย่างน้อย 2 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่สำนักงบประมาณรัฐสภาประเมินว่า เฉพาะปีงบประมาณปัจจุบันรัฐบาลมีค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ซึ่งรวมถึงการใช้จ่ายทางทหาร รวม 1.9 ล้านล้านดอลลาร์จากค่าใช้จ่ายทั้งหมดของรัฐบาลกลาง 6.75 ล้านล้านดอลลาร์ . นอกจากนั้นชื่อย่อของกระทรวงใหม่คือ DOGE ยังพาดพิงถึงชื่อโดชคอยน์ ซึ่งเป็นคริปโตที่มัสก์สนับสนุน และราคาของมันก็ทะยานขึ้นเกินเท่าตัวนับจากวันเลือกตั้งตามกระแสการคาดหวังในตลาดคริปโตว่า คณะบริหารของทรัมป์จะผ่อนคลายกฎระเบียบในอุตสาหกรรมนี้ . สำหรับรามาสวามี เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทยา และปี 2021 เคยออกหนังสือ “โวค อิงก์” ติเตียนการตัดสินใจของบริษัทใหญ่บางแห่งที่กำหนดกลยุทธ์ธุรกิจโดยอิงกับข้อกังวลเกี่ยวกับความยุติธรรมทางสังคมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ . นอกจากมัสก์และรามาสวามีแล้ว เมื่อคืนวันอังคารทรัมป์ยังเสนอชื่อ พีท เฮกเซธ ผู้ดำเนินรายการของ ฟ็อกซ์ นิวส์ เครือข่ายทีวีอนุรักษ์นิยมสุดขั้ว เป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม (เพนตากอน) , จอห์น แรตคลิฟฟ์ อดีตผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติในรัฐบาลทรัมป์ 1.0 เป็นผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ), คริสตี โนเอ็ม ผู้ว่าการรัฐเซาธ์ดาโกตา เป็นรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ, สตีเฟน มิลเลอร์ ผู้เขียนนโยบายผู้อพยพที่มุ่งแบนมุสลิมของทรัมป์ เป็นรองประธานเจ้าหน้าที่ทำงานทำเนียบขาว และไมค์ ฮักคาบี อดีตผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอส์ เป็นเอกอัครราชทูตประจำอิสราเอล . อย่างไรก็ตาม เฮกเซธ ดูจะเป็นตัวเลือกที่เซอร์ไพรส์ที่สุดในบรรดาสมาชิกคณะบริหารที่ทรัมป์ประกาศออกมาจนถึงขณะนี้ รวมทั้งยังเรียกเสียงประณามจากฝ่ายตรงข้ามบางคน เช่น อดัม สมิธ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากเดโมแครต ที่วิจารณ์ว่า ตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมไม่ใช่งานสำหรับพวกมือใหม่ . ทว่า ทรัมป์ยกย่องเฮกเซธ วัย 44 ปี อดีตทหารผ่านศึกสังกัดกองทหารรักษาดินแดน (เนชั่นแนลการ์ด) ที่เคยไปประจำการในอัฟกานิสถาน อิรัก และกวนตานาโม ว่า เป็นคนทรหด ฉลาด และเชื่อมั่นในนโยบายอเมริกาต้องมาก่อนอย่างแท้จริง และสำทับว่า เฮกเซธจะทำให้กองทัพอเมริกันกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง . คาดหมายกันว่า หากได้รับการรับรองจากวุฒิสมาชิก เฮกเซธจะเป็นอาวุธชั้นดีในการกำจัดบรรดานายพลที่ทรัมป์กล่าวหาว่า ปฏิบัติตามนโยบายเชิงก้าวหน้าด้านความหลากหลายในกองทัพ เป็นต้นว่า การยอมรับชาวเกย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกอนุรักษนิยมคัดค้าน รวมทั้งยังอาจปะทะกับพลอากาศเอกซี.คิว. บราวน์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯคนปัจจุบัน ที่เฮกเซธกล่าวหาว่า รับนโยบายมาจากนักการเมืองฝ่ายซ้าย . ทั้งนี้ ภายในเพนตากอนกำลังกังวลว่า ทรัมป์ต้องการขุดรากถอนโคนนายทหารและข้าราชการพลเรือนที่เขามองว่าทรยศต่อตัวเขา โดยเมื่อเดือนมิถุนายน เขาให้สัมภาษณ์ฟ็อกซ์นิวส์ว่า จะไล่นายพลที่ “ตื่นรู้” ซึ่งหมายถึงผู้ที่พุ่งความสนใจที่ความยุติธรรมด้านเชื้อชาติและสังคม ทว่า คำนี้ถูกพวกอนุรักษนิยมนำมาใช้เพื่อใส่ร้ายนโยบายเชิงก้าวหน้า . นอกจากนั้นเฮกเซธยังโจมตีชาติพันธมิตรในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ว่าอ่อนแอ รวมทั้งชี้ว่า จีนกำลังจะครอบงำประเทศเพื่อนบ้านในเอเชีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109487 .............. Sondhi X
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • อเมริกาเอาสีข้างเข้าถู ยันอิสราเอลไม่ได้ละเมิดกฎหมายว่าด้วยระดับความช่วยเหลือที่เข้าถึงกาซา แม้หน่วยงานบรรเทาทุกข์มากมายยืนยันว่า ไม่เพียงพอ และยูเอ็นระบุว่า อิสราเอลยังคงปิดกั้นการส่งความช่วยเหลือเข้าสู่ตอนเหนือของกาซาก็ตาม
    .
    ในวันอังคาร (12 พ.ย.) อิสราเอลประกาศเปิดจุดผ่านแดนคิสซูฟิม เพื่อเพิ่มช่องทางการลำเลียงความช่วยเหลือเข้าสู่กาซา ไม่กี่ชั่วโมงก่อนถึงเส้นตายที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำหนดให้รัฐยิวต้องปรับปรุงสถานการณ์ด้านมนุษธรรมในดินแดนดังกล่าว ไม่เช่นนั้นอาจถูกลดความช่วยเหลือทางทหาร
    .
    ทั้งนี้ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รัฐมนตรีต่างประเทศ แอนโทนี บลิงเคน และ รัฐมนตรีกลาโหม ลอยด์ ออสติน ของอเมริกา ได้ส่งจดหมายถึงอิสราเอล โดยกำหนดเส้นตายในวันที่ 13 พ.ย. ให้อิสราเอลปฏิบัติตามกฎหมายอนุญาตความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของอเมริกา
    .
    ในวันอังคาร (12) เมื่อถูกผู้สื่อข่าวสอบถามว่า อิสราเอลปฏิบัติตามที่ข้อเรียกร้องของอเมริกาแล้วหรือยัง เวแดนต์ ปาเทล โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ตอบว่า แม้สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมโดยรวมในกาซายังไม่น่าพอใจ แต่ตามบริบทของจดหมาย อเมริกามองว่า อิสราเอลดำเนินการถูกทางแล้ว จึงไม่ถือว่ามีการละเมิดกฎหมายฉบับดังกล่าวแต่อย่างใด
    .
    คำตอบนี้มีขึ้นแม้เห็นกันอยู่ว่าการดำเนินการของอิสราเอลต่ำกว่าเกณฑ์ที่ระบุในจดหมายอย่างชัดเจน เช่น การอนุญาตให้รถบรรทุกความช่วยเหลือเข้าสู่กาซาวันละอย่างน้อย 350 คัน
    .
    ในวันอังคาร (12) กลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นผู้บริหารดินแดนกาซา ออกมากล่าวหาวอชิงตันว่า เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับอิสราเอลในสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา
    .
    ด้านสำนักงานเพื่อผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ของยูเอ็น (ยูเอ็นอาร์ดับเบิลยูเอ) และองค์กรมนุษยธรรม 8 แห่ง ซึ่งรวมถึงองค์การออกซ์แฟม และ เซฟ เดอะ ชิลเดรน ระบุว่า การดำเนินการของอิสราเอลยังไม่เพียงพอ และสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในกาซาขณะนี้เลวร้ายที่สุดนับจากที่สงครามเริ่มต้นขึ้นในเดือนตุลาคม 2023
    .
    จอยซ์ มาซูยา ผู้อำนวยการสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (โอซีเอชเอ) แถลงต่อคณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็น ว่า โลกกำลังเป็นประจักษ์พยานการกระทำที่เตือนความจำถึงอาชญากรรมระหว่างประเทศที่รุนแรงที่สุด และสำทับว่า รัฐบาลอิสราเอลกำลังปิดกั้นการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่ตอนเหนือของกาซาที่ยังคงมีการสู้รบต่อเนื่อง ขณะที่อาหารและน้ำสำหรับประชาชนราว 75,000 คนลดลงเรื่อยๆ
    .
    หลุยส์ วอเตอริดจ์ เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินของยูเอ็นอาร์ดับเบิลยูเอ สำทับว่า การจัดส่งความช่วยเหลือเข้าสู่กาซาลดลงต่ำสุดต่อเนื่องมาหลายเดือน
    .
    ด้าน ลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น กล่าวย้ำเพียงว่า อิสราเอลจะต้องไม่บังคับย้ายถิ่นฐานหรือใช้นโยบายเพื่อทำให้เกิดความอดอยากในกาซา ซึ่งจะถือว่าละเมิดกฎหมายของอเมริกาและกฎหมายระหว่างประเทศ และเสริมว่า อิสราเอลต้องระงับการห้ามการทำงานของยูเอ็นอาร์ดับเบิลยูเอโดยเร็ว ทว่าไม่มีมาตรการรูปธรรมใดๆ
    .
    การประชุมคณะมนตรีความมั่นคงคราวนี้ จัดขึ้นภายหลังมีรายงานจากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกระบุว่า มีแนวโน้มสูงที่กำลังจะเกิดภาวะอดอยากขึ้นทางตอนเหนือของกาซา ขณะที่อิสราเอลยังคงระดมโจมตีนักรบฮามาสในบริเวณดังกล่าว
    .
    ในส่วนของ แดนนี ดานอน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำยูเอ็น ปฏิเสธเสียงแข็งต่อรายงานของพวกผู้เชี่ยวชาญดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้ที่ประชุมต้องตระหนักถึงความพยายามและความเสี่ยงของทหารอิสราเอลในการยืนหยัดปรับปรุงสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในกาซาท่ามกลางภัยคุกคามจากการถูกโจมตี
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109486
    ..............
    Sondhi X
    อเมริกาเอาสีข้างเข้าถู ยันอิสราเอลไม่ได้ละเมิดกฎหมายว่าด้วยระดับความช่วยเหลือที่เข้าถึงกาซา แม้หน่วยงานบรรเทาทุกข์มากมายยืนยันว่า ไม่เพียงพอ และยูเอ็นระบุว่า อิสราเอลยังคงปิดกั้นการส่งความช่วยเหลือเข้าสู่ตอนเหนือของกาซาก็ตาม . ในวันอังคาร (12 พ.ย.) อิสราเอลประกาศเปิดจุดผ่านแดนคิสซูฟิม เพื่อเพิ่มช่องทางการลำเลียงความช่วยเหลือเข้าสู่กาซา ไม่กี่ชั่วโมงก่อนถึงเส้นตายที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำหนดให้รัฐยิวต้องปรับปรุงสถานการณ์ด้านมนุษธรรมในดินแดนดังกล่าว ไม่เช่นนั้นอาจถูกลดความช่วยเหลือทางทหาร . ทั้งนี้ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รัฐมนตรีต่างประเทศ แอนโทนี บลิงเคน และ รัฐมนตรีกลาโหม ลอยด์ ออสติน ของอเมริกา ได้ส่งจดหมายถึงอิสราเอล โดยกำหนดเส้นตายในวันที่ 13 พ.ย. ให้อิสราเอลปฏิบัติตามกฎหมายอนุญาตความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของอเมริกา . ในวันอังคาร (12) เมื่อถูกผู้สื่อข่าวสอบถามว่า อิสราเอลปฏิบัติตามที่ข้อเรียกร้องของอเมริกาแล้วหรือยัง เวแดนต์ ปาเทล โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ตอบว่า แม้สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมโดยรวมในกาซายังไม่น่าพอใจ แต่ตามบริบทของจดหมาย อเมริกามองว่า อิสราเอลดำเนินการถูกทางแล้ว จึงไม่ถือว่ามีการละเมิดกฎหมายฉบับดังกล่าวแต่อย่างใด . คำตอบนี้มีขึ้นแม้เห็นกันอยู่ว่าการดำเนินการของอิสราเอลต่ำกว่าเกณฑ์ที่ระบุในจดหมายอย่างชัดเจน เช่น การอนุญาตให้รถบรรทุกความช่วยเหลือเข้าสู่กาซาวันละอย่างน้อย 350 คัน . ในวันอังคาร (12) กลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นผู้บริหารดินแดนกาซา ออกมากล่าวหาวอชิงตันว่า เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับอิสราเอลในสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา . ด้านสำนักงานเพื่อผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ของยูเอ็น (ยูเอ็นอาร์ดับเบิลยูเอ) และองค์กรมนุษยธรรม 8 แห่ง ซึ่งรวมถึงองค์การออกซ์แฟม และ เซฟ เดอะ ชิลเดรน ระบุว่า การดำเนินการของอิสราเอลยังไม่เพียงพอ และสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในกาซาขณะนี้เลวร้ายที่สุดนับจากที่สงครามเริ่มต้นขึ้นในเดือนตุลาคม 2023 . จอยซ์ มาซูยา ผู้อำนวยการสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (โอซีเอชเอ) แถลงต่อคณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็น ว่า โลกกำลังเป็นประจักษ์พยานการกระทำที่เตือนความจำถึงอาชญากรรมระหว่างประเทศที่รุนแรงที่สุด และสำทับว่า รัฐบาลอิสราเอลกำลังปิดกั้นการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่ตอนเหนือของกาซาที่ยังคงมีการสู้รบต่อเนื่อง ขณะที่อาหารและน้ำสำหรับประชาชนราว 75,000 คนลดลงเรื่อยๆ . หลุยส์ วอเตอริดจ์ เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินของยูเอ็นอาร์ดับเบิลยูเอ สำทับว่า การจัดส่งความช่วยเหลือเข้าสู่กาซาลดลงต่ำสุดต่อเนื่องมาหลายเดือน . ด้าน ลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น กล่าวย้ำเพียงว่า อิสราเอลจะต้องไม่บังคับย้ายถิ่นฐานหรือใช้นโยบายเพื่อทำให้เกิดความอดอยากในกาซา ซึ่งจะถือว่าละเมิดกฎหมายของอเมริกาและกฎหมายระหว่างประเทศ และเสริมว่า อิสราเอลต้องระงับการห้ามการทำงานของยูเอ็นอาร์ดับเบิลยูเอโดยเร็ว ทว่าไม่มีมาตรการรูปธรรมใดๆ . การประชุมคณะมนตรีความมั่นคงคราวนี้ จัดขึ้นภายหลังมีรายงานจากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกระบุว่า มีแนวโน้มสูงที่กำลังจะเกิดภาวะอดอยากขึ้นทางตอนเหนือของกาซา ขณะที่อิสราเอลยังคงระดมโจมตีนักรบฮามาสในบริเวณดังกล่าว . ในส่วนของ แดนนี ดานอน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำยูเอ็น ปฏิเสธเสียงแข็งต่อรายงานของพวกผู้เชี่ยวชาญดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้ที่ประชุมต้องตระหนักถึงความพยายามและความเสี่ยงของทหารอิสราเอลในการยืนหยัดปรับปรุงสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในกาซาท่ามกลางภัยคุกคามจากการถูกโจมตี . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109486 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚨 เตือนภัยกลโกงจาก Whoscall ปกป้องคุณจากกลโกงมิจฉาชีพ คลิกเลย! 👉 https://community-api-production.whoscall.com/v1/posts/share/7b578efb-834e-4426-aa33-79dedae7bc39
    🚨 เตือนภัยกลโกงจาก Whoscall ปกป้องคุณจากกลโกงมิจฉาชีพ คลิกเลย! 👉 https://community-api-production.whoscall.com/v1/posts/share/7b578efb-834e-4426-aa33-79dedae7bc39
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## มหาเทพ ชี้ MOU44 เป็นโมฆะ ##
    ..
    ..
    เจาะเด็ด เผ็ดลึก แสบสัน ทะลุกึ๋น ทะลวงเซี่ยงจี๊...
    .
    วันอังคาร ที่ 12/11/2567 อาจารย์ ปานเทพ ชี้ ไม่ต้องยกเลิก MOU44 เพราะ เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ต้น...!!!
    ...
    ...
    ผมเดาว่าผมเข้าใจความหมายของ ทนายนกเขา และ อาจารย์ ปานเทพ นะครับ
    .
    เดี๋ยวผมจะ อธิบายเพิ่มเติมเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆนะครับ ยกตัวอย่าง...
    .
    ศักดิ์ของกฎหมายในประเทศไทย ไล่เรียงลำดับลงไปนะครับ คือ
    .
    1.รัฐธรรมนูญ
    2.พระราชบัญญัติ
    3.พระราชกําหนด
    4.พระราชกฎษฎีกา
    5.กฎกระทรวง
    6.ข้อบัญญัติ
    .
    พระราชบัญญัติ จะมีศักดิ์ต่ำกว่า รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ
    .
    และ พระราชกําหนด จะมีศักดิ์ต่ำกว่า พระราชบัญญัติ
    .
    หลักการคือ กฎหมาย ที่มีศักดิ์ต่ำกว่า จะบัญญัติขึ้น โดยมีเนื้อหา ขัด หรือ แย้ง กับ กฎหมายที่มีศักดิ์สูงกว่า ไม่ได้...
    .
    ซึ่งจะมีผลให้ กฎหมายที่บัญญัติขึ้นนั้น...
    .
    "ใช้บังคับไม่ได้...!!!"
    .
    เช่นเดียวกัน...!!!
    .
    เมื่อมี ประกาศ พระบรมราชโองการ ในหลวงรัชกาลที่ 9 "กำหนดเขตไหล่ทวีป ของประเทศไทย ด้านอ่าวไทย"
    .
    ซึ่งประกาศจริง ในวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ.2516 และ ประกาศ ไว้ใน ราชกิจจานุเบกษา ในวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2516
    .
    มีสถานะเป็น พระบรมราชโองการ ซึ่งมีข้อความตอนหนึ่งว่า...
    .
    "สำหรับสิทธิอธิปไตยที่เป็นทะเลอาณาเขต ซึ่งต่อเนื่องกับทะเลอาณาเขตของประเทศใกล้เคียง อันจะถือเป็นจุดเริ่มของเส้นแบ่งเขตไหล่ทวีปนั้น จะเป็นไปตามที่จะได้ตกลงกัน โดยยึดถือมูลฐานแห่งบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเล อาณาเขต และ เขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ.1958"
    .
    ซึ่งหมายความว่า...
    .
    การเจรจาต่างๆ เกี่ยวสิทธิอธิปไตยที่เป็นทะเลอาณาเขต ต้องเจรจาอยู่บน บทบัญญัติว่าด้วย "อนุสัญญาว่าด้วยทะเล กรุงเจนีวา" ซึ่งเป็นการยึดตามกฎหมายสากลระหว่างประเทศ เท่านั้น...!!!
    .
    เพราะฉะนั้น MOU44 ซึ่งเป็นเพียง หนังสือบันทึกความเข้าใจร่วมกัน ที่ยังไม่ได้ผ่านสภาด้วยซ้ำ
    .
    โดยมีนัยยะว่า รับรู้ถึง การขีดเส้นเขตแดนของ กัมพูชา ซึ่งไม่ได้ยึดหลักกฎหมายสากลอะไรเลย...
    .
    เท่ากับว่า มีเนื้อหา ขัด และ แย้ง กับประกาศ พระบรมราชโองการ ในหลวงรัชกาลที่ 9 "กำหนดเขตไหล่ทวีป ของประเทศไทย ด้านอ่าวไทย"
    .
    ดังนั้น MOU44 จึงจะ "ใช้บังคับไม่ได้" เพราะ เป็น "โมฆะ" มาตั้งแต่ต้น...!!!
    .
    มีผลเสมือน ไม่เคยมี MOU44 เกิดขึ้นบนโลกนี้มาก่อนเลยตั้งแต่แรก...!!!
    ....
    ....
    แต่ในการนี้เราคงจะต้อง Action ให้ใหญ่โตครับ ต้องการทำการให้เป็นประเด็นผ่านหน่วยงานของประเทศ ให้เป็นกิจลักษณะ...
    .
    จะได้ไม่โดนกฎหมายปิดปากเหมือนครั้ง ปราสาทเขาพระวิหาร อีก เพราะ กัมพูชาเขาวางเกมส์มาเป็น 10 ปีแล้ว...
    .
    ประเด็นนี้ เผ็ดร้อน ระดับ พริก 1 ล้าน เม็ด...!!!
    .
    ผมเองก็จะคอยติดตาม ข้อมูล หรือ แนวทางของ "สำนักบ้านพระอาทิตย์" ต่อไป ในงาน "ความจริงมีหนึ่งเดียว" ในวันที่ 24 พฤศจิกายน นี้ครับ
    .
    https://youtu.be/3ke7aL9gKi8?si=0iOYA_b8tW80bhBK
    ## มหาเทพ ชี้ MOU44 เป็นโมฆะ ## .. .. เจาะเด็ด เผ็ดลึก แสบสัน ทะลุกึ๋น ทะลวงเซี่ยงจี๊... . วันอังคาร ที่ 12/11/2567 อาจารย์ ปานเทพ ชี้ ไม่ต้องยกเลิก MOU44 เพราะ เป็นโมฆะ มาตั้งแต่ต้น...!!! ... ... ผมเดาว่าผมเข้าใจความหมายของ ทนายนกเขา และ อาจารย์ ปานเทพ นะครับ . เดี๋ยวผมจะ อธิบายเพิ่มเติมเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆนะครับ ยกตัวอย่าง... . ศักดิ์ของกฎหมายในประเทศไทย ไล่เรียงลำดับลงไปนะครับ คือ . 1.รัฐธรรมนูญ 2.พระราชบัญญัติ 3.พระราชกําหนด 4.พระราชกฎษฎีกา 5.กฎกระทรวง 6.ข้อบัญญัติ . พระราชบัญญัติ จะมีศักดิ์ต่ำกว่า รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ . และ พระราชกําหนด จะมีศักดิ์ต่ำกว่า พระราชบัญญัติ . หลักการคือ กฎหมาย ที่มีศักดิ์ต่ำกว่า จะบัญญัติขึ้น โดยมีเนื้อหา ขัด หรือ แย้ง กับ กฎหมายที่มีศักดิ์สูงกว่า ไม่ได้... . ซึ่งจะมีผลให้ กฎหมายที่บัญญัติขึ้นนั้น... . "ใช้บังคับไม่ได้...!!!" . เช่นเดียวกัน...!!! . เมื่อมี ประกาศ พระบรมราชโองการ ในหลวงรัชกาลที่ 9 "กำหนดเขตไหล่ทวีป ของประเทศไทย ด้านอ่าวไทย" . ซึ่งประกาศจริง ในวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ.2516 และ ประกาศ ไว้ใน ราชกิจจานุเบกษา ในวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2516 . มีสถานะเป็น พระบรมราชโองการ ซึ่งมีข้อความตอนหนึ่งว่า... . "สำหรับสิทธิอธิปไตยที่เป็นทะเลอาณาเขต ซึ่งต่อเนื่องกับทะเลอาณาเขตของประเทศใกล้เคียง อันจะถือเป็นจุดเริ่มของเส้นแบ่งเขตไหล่ทวีปนั้น จะเป็นไปตามที่จะได้ตกลงกัน โดยยึดถือมูลฐานแห่งบทบัญญัติของอนุสัญญาว่าด้วยทะเล อาณาเขต และ เขตต่อเนื่อง ซึ่งกระทำ ณ กรุงเจนีวา ลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ.1958" . ซึ่งหมายความว่า... . การเจรจาต่างๆ เกี่ยวสิทธิอธิปไตยที่เป็นทะเลอาณาเขต ต้องเจรจาอยู่บน บทบัญญัติว่าด้วย "อนุสัญญาว่าด้วยทะเล กรุงเจนีวา" ซึ่งเป็นการยึดตามกฎหมายสากลระหว่างประเทศ เท่านั้น...!!! . เพราะฉะนั้น MOU44 ซึ่งเป็นเพียง หนังสือบันทึกความเข้าใจร่วมกัน ที่ยังไม่ได้ผ่านสภาด้วยซ้ำ . โดยมีนัยยะว่า รับรู้ถึง การขีดเส้นเขตแดนของ กัมพูชา ซึ่งไม่ได้ยึดหลักกฎหมายสากลอะไรเลย... . เท่ากับว่า มีเนื้อหา ขัด และ แย้ง กับประกาศ พระบรมราชโองการ ในหลวงรัชกาลที่ 9 "กำหนดเขตไหล่ทวีป ของประเทศไทย ด้านอ่าวไทย" . ดังนั้น MOU44 จึงจะ "ใช้บังคับไม่ได้" เพราะ เป็น "โมฆะ" มาตั้งแต่ต้น...!!! . มีผลเสมือน ไม่เคยมี MOU44 เกิดขึ้นบนโลกนี้มาก่อนเลยตั้งแต่แรก...!!! .... .... แต่ในการนี้เราคงจะต้อง Action ให้ใหญ่โตครับ ต้องการทำการให้เป็นประเด็นผ่านหน่วยงานของประเทศ ให้เป็นกิจลักษณะ... . จะได้ไม่โดนกฎหมายปิดปากเหมือนครั้ง ปราสาทเขาพระวิหาร อีก เพราะ กัมพูชาเขาวางเกมส์มาเป็น 10 ปีแล้ว... . ประเด็นนี้ เผ็ดร้อน ระดับ พริก 1 ล้าน เม็ด...!!! . ผมเองก็จะคอยติดตาม ข้อมูล หรือ แนวทางของ "สำนักบ้านพระอาทิตย์" ต่อไป ในงาน "ความจริงมีหนึ่งเดียว" ในวันที่ 24 พฤศจิกายน นี้ครับ . https://youtu.be/3ke7aL9gKi8?si=0iOYA_b8tW80bhBK
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • ❗️ทรัมป์ประกาศเลือก แมตต์ เกตซ์ เป็นอัยการสูงสุด

    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวเมื่อวันพุธว่า เขาจะเสนอชื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แมตต์ เกตซ์ ให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดของสหรัฐอเมริกา

    ทรัมป์กล่าวในรายการ Truth Social ว่า "ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะประกาศว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แมตต์ เกตซ์, จากฟลอริดา,ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นอัยการสูงสุดของสหรัฐอเมริกา,"

    ทรัมป์อธิบายถึงเกตซ์ว่าเป็น "ทนายความที่มีพรสวรรค์และดื้อรั้น," ซึ่งระหว่างดำรงตำแหน่งในรัฐสภา เขาได้ผลักดันให้มีการปฏิรูปกระทรวงยุติธรรมที่จำเป็นอย่างยิ่ง

    เขายังเน้นย้ำถึง "บทบาทสำคัญของเขาในการเอาชนะเรื่องรัสเซีย, รัสเซีย, ข่าวลวงรัสเซีย, และการเปิดโปงการทุจริตของรัฐบาลที่น่าตกใจและเป็นระบบ รวมถึงการใช้อาวุธ" ในขณะที่อยู่ในคณะกรรมาธิการตุลาการของสภาผู้แทนราษฎร

    “แมตต์จะยุติรัฐบาลที่ใช้อาวุธ, ปกป้องพรมแดนของเรา, ยุบองค์กรอาชญากร และฟื้นคืนศรัทธาและความเชื่อมั่นที่บอบช้ำของชาวอเมริกันที่มีต่อกระทรวงยุติธรรม,” ทรัมป์กล่าว
    .
    ❗️ TRUMP ANNOUNCES MATT GAETZ AS HIS PICK FOR ATTORNEY GENERAL

    President-elect Donald Trump said on Wednesday that he will nominate Congressman Matt Gaetz to serve as US Attorney General.

    "It is my Great Honor to announce that Congressman Matt Gaetz, of Florida, is hereby nominated to be The Attorney General of the United States," Trump said on Truth Social.

    Trump described Gaetz as a "deeply gifted and tenacious attorney," who during his term in Congress has pushed for "desperately needed reform at the Department of Justice."

    He also highlighted his "key role in defeating the Russia, Russia, Russia Hoax, and exposing alarming and systemic Government Corruption and Weaponization" while on the House Judiciary Committee.

    "Matt will end Weaponized Government, protect our Borders, dismantle Criminal Organizations and restore Americans’ badly-shattered Faith and Confidence in the Justice Department," Trump said.
    .
    3:40 AM · Nov 14, 2024 · 3,157 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1856799318692200585
    ❗️ทรัมป์ประกาศเลือก แมตต์ เกตซ์ เป็นอัยการสูงสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวเมื่อวันพุธว่า เขาจะเสนอชื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แมตต์ เกตซ์ ให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดของสหรัฐอเมริกา ทรัมป์กล่าวในรายการ Truth Social ว่า "ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะประกาศว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แมตต์ เกตซ์, จากฟลอริดา,ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นอัยการสูงสุดของสหรัฐอเมริกา," ทรัมป์อธิบายถึงเกตซ์ว่าเป็น "ทนายความที่มีพรสวรรค์และดื้อรั้น," ซึ่งระหว่างดำรงตำแหน่งในรัฐสภา เขาได้ผลักดันให้มีการปฏิรูปกระทรวงยุติธรรมที่จำเป็นอย่างยิ่ง เขายังเน้นย้ำถึง "บทบาทสำคัญของเขาในการเอาชนะเรื่องรัสเซีย, รัสเซีย, ข่าวลวงรัสเซีย, และการเปิดโปงการทุจริตของรัฐบาลที่น่าตกใจและเป็นระบบ รวมถึงการใช้อาวุธ" ในขณะที่อยู่ในคณะกรรมาธิการตุลาการของสภาผู้แทนราษฎร “แมตต์จะยุติรัฐบาลที่ใช้อาวุธ, ปกป้องพรมแดนของเรา, ยุบองค์กรอาชญากร และฟื้นคืนศรัทธาและความเชื่อมั่นที่บอบช้ำของชาวอเมริกันที่มีต่อกระทรวงยุติธรรม,” ทรัมป์กล่าว . ❗️ TRUMP ANNOUNCES MATT GAETZ AS HIS PICK FOR ATTORNEY GENERAL President-elect Donald Trump said on Wednesday that he will nominate Congressman Matt Gaetz to serve as US Attorney General. "It is my Great Honor to announce that Congressman Matt Gaetz, of Florida, is hereby nominated to be The Attorney General of the United States," Trump said on Truth Social. Trump described Gaetz as a "deeply gifted and tenacious attorney," who during his term in Congress has pushed for "desperately needed reform at the Department of Justice." He also highlighted his "key role in defeating the Russia, Russia, Russia Hoax, and exposing alarming and systemic Government Corruption and Weaponization" while on the House Judiciary Committee. "Matt will end Weaponized Government, protect our Borders, dismantle Criminal Organizations and restore Americans’ badly-shattered Faith and Confidence in the Justice Department," Trump said. . 3:40 AM · Nov 14, 2024 · 3,157 Views https://x.com/SputnikInt/status/1856799318692200585
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • FENGSHUI DAILY
    อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว
    สีเสริมดวง เสริมความเฮง
    ทิศมงคล เวลามงคล
    อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่
    วันศุกร์ที่ 15 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2567
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    FENGSHUI DAILY อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว สีเสริมดวง เสริมความเฮง ทิศมงคล เวลามงคล อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่ วันศุกร์ที่ 15 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2567 ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.facebook.com/share/p/1KLotuqhWP/
    https://www.facebook.com/share/p/1KLotuqhWP/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • ❗️ทรัมป์แต่งตั้ง ทัลซี แกบบาร์ด เป็นผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ

    โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพุธว่า เขาได้เลือก ทัลซี แกบบาร์ด อดีตสมาชิกพรรคเดโมแครตเป็นผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติคนต่อไป

    ทรัมป์กล่าวในแถลงการณ์ว่า "ผมยินดีที่จะประกาศว่า พันโททัลซี แกบบาร์ด, อดีตสมาชิกสภาคองเกรส, จะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ,"

    ในแถลงการณ์, ทรัมป์เน้นย้ำถึง "การสนับสนุนอย่างกว้างขวาง" ที่แกบบาร์ดมีต่อทั้งสองพรรค
    .
    ❗️ TRUMP NAMES TULSI GABBARD AS INTENDED DIRECTOR OF NATIONAL INTELLIGENCE

    US President-elect Donald Trump said on Wednesday that he picked former Democrat Tulsi Gabbard to be the next Director of National Intelligence.

    "I am pleased to announce that former Congresswoman, Lieutenant Colonel Tulsi Gabbard, will serve as Director of National Intelligence," Trump said in a statement.

    In the statement, Trump highlighted "broad support" that Gabbard has in both parties.
    .
    3:24 AM · Nov 14, 2024 · 2,507 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1856795206236205494
    ❗️ทรัมป์แต่งตั้ง ทัลซี แกบบาร์ด เป็นผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพุธว่า เขาได้เลือก ทัลซี แกบบาร์ด อดีตสมาชิกพรรคเดโมแครตเป็นผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติคนต่อไป ทรัมป์กล่าวในแถลงการณ์ว่า "ผมยินดีที่จะประกาศว่า พันโททัลซี แกบบาร์ด, อดีตสมาชิกสภาคองเกรส, จะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ," ในแถลงการณ์, ทรัมป์เน้นย้ำถึง "การสนับสนุนอย่างกว้างขวาง" ที่แกบบาร์ดมีต่อทั้งสองพรรค . ❗️ TRUMP NAMES TULSI GABBARD AS INTENDED DIRECTOR OF NATIONAL INTELLIGENCE US President-elect Donald Trump said on Wednesday that he picked former Democrat Tulsi Gabbard to be the next Director of National Intelligence. "I am pleased to announce that former Congresswoman, Lieutenant Colonel Tulsi Gabbard, will serve as Director of National Intelligence," Trump said in a statement. In the statement, Trump highlighted "broad support" that Gabbard has in both parties. . 3:24 AM · Nov 14, 2024 · 2,507 Views https://x.com/SputnikInt/status/1856795206236205494
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts