• ครบรอบ 24 ปี อัลบั้ม เปิดตัวราชา Mandopop 🎆🎆🎆
    06/11/2000 - 06/11/2024

    [ เพื่อนๆชอบเพลงไหนที่สุดในอัลบั้มนี้? ]
    ตอนนั้นรู้จักเจย์แล้วหรือยังน้าา😁

    Jay เป็นอัลบั้มเปิดตัวของJay Chou เปิดตัวเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนปี 2000 โดยค่าย BMG Taiwan

    โดยมีเนื้อเพลงที่เขียนโดยเจย์ ร่วมกับ Vincent Fang และ Vivian Hsu ในทางดนตรี อัลบั้มนี้รวมแนวเพลงยอดนิยม เช่น ป๊อป ฮิปฮอป อาร์แอนด์บี และร่วมสมัยไว้ในอัลบั้มเดียว

    เจย์ ได้รับคําวิจารณ์เชิงบวกอย่างมากจากนักวิจารณ์ดนตรี ได้รับเครดิตย้อนหลังสําหรับการเริ่มต้นยุคใหม่ของเพลง C-Pop และถูกมองว่าเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่มีผลกระทบมากที่สุดจาก Greater China ในศตวรรษที่ 21

    ในเชิงพาณิชย์ อัลบั้มนี้ประสบความสําเร็จ โดยขายได้มากกว่า 250,000 อัลบั้มในไต้หวัน และกลายเป็นอัลบั้มที่มียอดขายสูงสุดติดกันเป็นเวลา 4 เดือน และเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ขายดีที่สุดในปี 2001 ในประเทศ และเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ขายดีที่สุดในไต้หวันในศตวรรษที่ 21

    อัลบั้มนี้ยังได้รับรางวัล IFPI Hong Kong Top Sales Music Award สําหรับ 10 อันดับอัลบั้มภาษาจีนกลางที่ขายดีที่สุดแห่งปีในปี 2001

    1. "Adorable Woman" (可愛女人)
    2. "Perfectionism" (完美主義)
    3. "Starry Mood" (星晴)
    4. "Wife" (娘子)
    5. "Basketball Match" (鬥牛)
    6. "Black Humor" (黑色幽默)
    7. "Istanbul" (伊斯坦堡)
    8. "Ancient Indian Turtledove" (印地安老斑鳩)
    9. "Tornado" (龍捲風)
    10. "Counter-Clockwise Clock" (反方向的鐘)

    Track ที่ 3 และ 6 แต่งเนื้อโดยเจย์

    เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2002 "Starry Mood" ได้รับรางวัล "Outstanding Mandarin Song Award" ในงาน Top Ten Chinese Gold Songs Awards

    "Black Humor" ได้รับรางวัลหนึ่งใน 10 เพลงของจีนในพิธีมอบรางวัล Golden Melody ของมาเลเซียครั้งที่ 1 ซึ่งเจย์ยังได้รับรางวัลนักแต่งเพลงยอดเยี่ยมอีกด้วย

    Cr : รูปชัดๆจาก Jay ms

    #jaychou #周杰伦 #周杰倫
    #เจย์โจว #โจวเจี๋ยหลุน
    #jaychouthailand
    ครบรอบ 24 ปี อัลบั้ม เปิดตัวราชา Mandopop 🎆🎆🎆 06/11/2000 - 06/11/2024 [ เพื่อนๆชอบเพลงไหนที่สุดในอัลบั้มนี้? ] ตอนนั้นรู้จักเจย์แล้วหรือยังน้าา😁 Jay เป็นอัลบั้มเปิดตัวของJay Chou เปิดตัวเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนปี 2000 โดยค่าย BMG Taiwan โดยมีเนื้อเพลงที่เขียนโดยเจย์ ร่วมกับ Vincent Fang และ Vivian Hsu ในทางดนตรี อัลบั้มนี้รวมแนวเพลงยอดนิยม เช่น ป๊อป ฮิปฮอป อาร์แอนด์บี และร่วมสมัยไว้ในอัลบั้มเดียว เจย์ ได้รับคําวิจารณ์เชิงบวกอย่างมากจากนักวิจารณ์ดนตรี ได้รับเครดิตย้อนหลังสําหรับการเริ่มต้นยุคใหม่ของเพลง C-Pop และถูกมองว่าเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่มีผลกระทบมากที่สุดจาก Greater China ในศตวรรษที่ 21 ในเชิงพาณิชย์ อัลบั้มนี้ประสบความสําเร็จ โดยขายได้มากกว่า 250,000 อัลบั้มในไต้หวัน และกลายเป็นอัลบั้มที่มียอดขายสูงสุดติดกันเป็นเวลา 4 เดือน และเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ขายดีที่สุดในปี 2001 ในประเทศ และเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ขายดีที่สุดในไต้หวันในศตวรรษที่ 21 อัลบั้มนี้ยังได้รับรางวัล IFPI Hong Kong Top Sales Music Award สําหรับ 10 อันดับอัลบั้มภาษาจีนกลางที่ขายดีที่สุดแห่งปีในปี 2001 1. "Adorable Woman" (可愛女人) 2. "Perfectionism" (完美主義) 3. "Starry Mood" (星晴) 4. "Wife" (娘子) 5. "Basketball Match" (鬥牛) 6. "Black Humor" (黑色幽默) 7. "Istanbul" (伊斯坦堡) 8. "Ancient Indian Turtledove" (印地安老斑鳩) 9. "Tornado" (龍捲風) 10. "Counter-Clockwise Clock" (反方向的鐘) Track ที่ 3 และ 6 แต่งเนื้อโดยเจย์ เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2002 "Starry Mood" ได้รับรางวัล "Outstanding Mandarin Song Award" ในงาน Top Ten Chinese Gold Songs Awards "Black Humor" ได้รับรางวัลหนึ่งใน 10 เพลงของจีนในพิธีมอบรางวัล Golden Melody ของมาเลเซียครั้งที่ 1 ซึ่งเจย์ยังได้รับรางวัลนักแต่งเพลงยอดเยี่ยมอีกด้วย Cr : รูปชัดๆจาก Jay ms #jaychou #周杰伦 #周杰倫 #เจย์โจว #โจวเจี๋ยหลุน #jaychouthailand
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิธีใช้ CDS กับฝีดาษลิง
    เครดิต : คนไทยต้องรอด
    ฝีดาษวานร คนไทยต้องไม่กลัวจนประสาท
    วิธีใช้ CDS กับฝีดาษลิง เครดิต : คนไทยต้องรอด ฝีดาษวานร คนไทยต้องไม่กลัวจนประสาท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • มารู้จักตัวนี้กัน อยุใน P กับ A
    ⏩เชื้อทริพาโนโซมา (Trypanosoma) เป็นโปรโตซัวที่มีหางยาวช่วยในการเคลื่อนที่
    👉อาศัยอยู่ในเลือดและภายในเซลล์ของคนและสัตว์ มีหลายสายพันธุ์ และมีแมลงเป็นพาหะนำโรค
    📌นาน ๆ ครั้งจะพบผู้ติดเชื้อจากการรับเลือด, การปลูกถ่ายอวัยวะ, และทางมารดาสู่ทารก
    📌เพราะเชื้อทริพาโนโซมาอาศัยอยู่ในเลือด และสามารถผ่านรกไปสู่ทารกในครรภ์ได้ ทารกที่ติดเชื้อแต่กำเนิดมักแท้งหรือเสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก
    💢อาการแบ่งได้เป็น 2 ระยะ
    ✅ระยะที่หนึ่ง
    📌มีต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียงบวมโตอักเสบ แผลจะค่อย ๆ ดีขึ้นเองในเวลาหลายสัปดาห์ ถ้าเป็นเชื้อ T. b. gambiense จะไม่ค่อยพบแผลแบบนี้
    📌หลังรับเชื้อจะเข้าสู่กระแสโลหิต ทำให้มีไข้สูงเป็น ๆ หาย ๆ คล้ายไข้มาลาเรีย
    ⏩ระยะนี้ผู้ป่วยจะอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดตามข้อ เหงื่อออกมากกว่าปกติ ซีด และต่อมน้ำเหลืองโตทั่วไปโดยเฉพาะบริเวณคอ (posterior cervical glands) เรียกว่า Winter-bottom's sign
    ⏩บางรายอาจมีผื่นแดงจาง ๆ ที่ผิวหนังนานเป็นเดือน ถ้าเจาะเลือดจะพบเม็ดเลือดขาวต่ำ
    📌ระยะนี้ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญคือ ❗️กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (myocarditis)
    และ ❗️หน่วยไตอักเสบ (glomerulonephritis)
    ✅ระยะที่สอง เชื้อจะเข้าสู่สมอง
    👉ผู้ป่วยจะปวดศีรษะตลอดเวลา ทานยาอะไรก็ไม่หาย
    ⏩กลางคืนนอนไม่หลับ แต่เซื่องซึม ง่วงเหงาหาวนอนตอนกลางวัน จึงเป็นที่มาของชื่อโรคว่า Sleeping sickness 📌หรือโรคเหงาหลับ
    💢ผู้ป่วยจะมีพฤติกรรมเปลี่ยน อารมณ์แปรปรวน บางรายอาจวุ่นวายสับสน บางรายอาจซึมเศร้า เบื่ออาหาร ผอมลง ม้ามโต
    📌ในเด็กมักพบมี "ชัก"
    ในระยะท้ายสมองจะบวม มีจุดเลือดออกในเนื้อสมอง
    📌พบเซลล์อักเสบทั่วไปในชั้นเยื่อหุ้มสมอง ประสาทรับสัมผัสจะเสียไป การเดินและทรงตัวผิดปกติ หากไม่ได้รับการรักษาผู้ป่วยจะเสียชีวิต
    http://mutualselfcare.org/.../inf.../trypanosomiasis.aspx...
    เครดิต เฟสบุ๊ก ภูสณิตา วิเศษปุณรัตน์
    มารู้จักตัวนี้กัน อยุใน P กับ A ⏩เชื้อทริพาโนโซมา (Trypanosoma) เป็นโปรโตซัวที่มีหางยาวช่วยในการเคลื่อนที่ 👉อาศัยอยู่ในเลือดและภายในเซลล์ของคนและสัตว์ มีหลายสายพันธุ์ และมีแมลงเป็นพาหะนำโรค 📌นาน ๆ ครั้งจะพบผู้ติดเชื้อจากการรับเลือด, การปลูกถ่ายอวัยวะ, และทางมารดาสู่ทารก 📌เพราะเชื้อทริพาโนโซมาอาศัยอยู่ในเลือด และสามารถผ่านรกไปสู่ทารกในครรภ์ได้ ทารกที่ติดเชื้อแต่กำเนิดมักแท้งหรือเสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก 💢อาการแบ่งได้เป็น 2 ระยะ ✅ระยะที่หนึ่ง 📌มีต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียงบวมโตอักเสบ แผลจะค่อย ๆ ดีขึ้นเองในเวลาหลายสัปดาห์ ถ้าเป็นเชื้อ T. b. gambiense จะไม่ค่อยพบแผลแบบนี้ 📌หลังรับเชื้อจะเข้าสู่กระแสโลหิต ทำให้มีไข้สูงเป็น ๆ หาย ๆ คล้ายไข้มาลาเรีย ⏩ระยะนี้ผู้ป่วยจะอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดตามข้อ เหงื่อออกมากกว่าปกติ ซีด และต่อมน้ำเหลืองโตทั่วไปโดยเฉพาะบริเวณคอ (posterior cervical glands) เรียกว่า Winter-bottom's sign ⏩บางรายอาจมีผื่นแดงจาง ๆ ที่ผิวหนังนานเป็นเดือน ถ้าเจาะเลือดจะพบเม็ดเลือดขาวต่ำ 📌ระยะนี้ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญคือ ❗️กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (myocarditis) และ ❗️หน่วยไตอักเสบ (glomerulonephritis) ✅ระยะที่สอง เชื้อจะเข้าสู่สมอง 👉ผู้ป่วยจะปวดศีรษะตลอดเวลา ทานยาอะไรก็ไม่หาย ⏩กลางคืนนอนไม่หลับ แต่เซื่องซึม ง่วงเหงาหาวนอนตอนกลางวัน จึงเป็นที่มาของชื่อโรคว่า Sleeping sickness 📌หรือโรคเหงาหลับ 💢ผู้ป่วยจะมีพฤติกรรมเปลี่ยน อารมณ์แปรปรวน บางรายอาจวุ่นวายสับสน บางรายอาจซึมเศร้า เบื่ออาหาร ผอมลง ม้ามโต 📌ในเด็กมักพบมี "ชัก" ในระยะท้ายสมองจะบวม มีจุดเลือดออกในเนื้อสมอง 📌พบเซลล์อักเสบทั่วไปในชั้นเยื่อหุ้มสมอง ประสาทรับสัมผัสจะเสียไป การเดินและทรงตัวผิดปกติ หากไม่ได้รับการรักษาผู้ป่วยจะเสียชีวิต http://mutualselfcare.org/.../inf.../trypanosomiasis.aspx... เครดิต เฟสบุ๊ก ภูสณิตา วิเศษปุณรัตน์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • โลกร้อนขึ้นเป็นวัฏจักรธรรมชาติ และในภาพรวมกำลังจะเย็นลง
    แต่…
    เราถูกฝังหัวกันมานานว่ามนุษย์เป็นคนทำให้โลกร้อน
    เพื่อนำไปสู่การใช้คาร์บอนเครดิต เพื่อการบีบบังคับนำไปสู่การเป็นทาส
    ไลฟ์สด โลกร้อนลวงโลก โดย อดิเทพ จาวลาห์
    https://www.facebook.com/share/v/JjrAnsFTf9vwcQ4u/
    ชี้แหล่งศึกษาข้อมูล
    https://www.rookon.com/?p=339
    https://www.rookon.com/?p=975
    https://www.rookon.com/?p=1011
    https://www.rookon.com/?p=1076
    https://www.rookon.com/?p=119เก้า ลิงก์นี้ต้องแก้คำว่าเก้าเป็นตัวเลขก่อน FBแบน
    https://www.rookon.com/?p=1147
    https://vt.tiktok.com/ZSFvhkGKK/
    ตอน 1. https://www.tiktok.com/@adit.../video/7361783535104953601...
    ตอน 2.
    https://www.tiktok.com/@adit.../video/7361783574783200513...
    https://vt.tiktok.com/ZSYeFkn5t/ หรือ
    https://fb.watch/s0HF9m7C09/ (ไลฟ์สดกับอ.ทีน่า อ.เกรซ)
    #คลิป 1 🌎 โลกร้อน (เพราะ CO2) เป็นเรื่องหลอกลวง🔥
    https://t.me/awakened_thailand/424
    ✨หลักฐานทางวิทยาศาสตร์จากการขุดเจาะแท่งน้ำแข็งพบว่า อุณหภูมิโลกสูงขึ้นก่อน ☀️ ต่อมาอีก 800 ปี CO2 ถึงจะสูงขึ้นตามมา...แปลว่า CO2 ไม่ใช่สาเหตุของโลกร้อน 😳 แต่อุณหภูมิที่สูงขึ้นต่างหากที่ทำให้ CO2 เพิ่มขึ้น
    สั้นๆ ง่ายๆ หลักฐานทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ชัดแล้ว! โลกร้อนตามวัฏจักรของโลก มันเป็นธรรมชาติ 😎 มนุษย์ไม่ได้ทำให้โลกร้อน แต่เราทำให้โลกสกปรก...ฉะนั้น CO2 ไม่เกี่ยวอะไรเลย
    แยกให้ออก 🧐 โลกร้อน กับ โลกสกปรก มันคือคนละเรื่องกัน เรื่องง่ายๆ เด็กป.4 ยังรู้เรื่อง
    #คลิป 2 🌎 โลกร้อน (เพราะ CO2) เป็นเรื่องหลอกลวง🔥
    https://t.me/awakened_thailand/425
    โลกร้อนขึ้น และเย็นลง เป็นวัฏจักร เป็นธรรมชาติ ไม่เกี่ยวกับ CO2 แม้แต่น้อย
    คำถาม ❓: รู้ได้ไง? 🤔
    ตอบ: เจาะน้ำแข็งลงไปหลายกิโล แล้วดึงแท่งน้ำแข็งขึ้นมาศึกษา (เหมือนศึกษาวงปีของต้นไม้) 😎
    มหาสมุทรกักเก็บ CO2 ไว้เป็นจำนวนมาก 🥵เมื่อโลกร้อนขึ้นเอง ทะเลคือตัวคาย CO2 ออกมาสู่ชั้นบรรยากาศ
    🌎อุณหภูมิโลกสูงขึ้นก่อน ส่งผลให้ CO2 สูงตามมาทีหลัง
    หมายความว่า CO2 ไม่ใช่ "เหตุ" ที่ทำให้โลกร้อน...แต่ CO2 คือ "ผล" จากโลกร้อน👍✨
    ฉะนั้นสรุป CO2 ไม่ใช่สาเหตุของโลกร้อน ✨
    ถาม ❓: แล้วเขาหลอกเราทำไม? ตั้งนานหลายสิบปี 😈
    ตอบ: เขาใช้ CO2 เป็นข้ออ้างในการบังคับเรา เช่น ออกกฎบังคับเรื่อง CO2 เก็บภาษีฟาร์มวัว เพราะต้องการให้ฟาร์มเจ๊ง 😱 นายทุนจะได้เข้ามาฮุบ, เก็บภาษีทุกอย่าง โดยเอาไปผูกกับ CO2 หลอกลวง เพราะจุดประสงค์ของกลุ่มทุนสามานต่างชาติ คือ การควบคุมอาหารแบบเบ็ดเสร็จ 👎
    #คลิป 3 🔥โลกร้อนเพราะ CO2 เป็นเรื่องหลอกลวง 🌎
    https://t.me/awakened_thailand/426
    💸💵💰Dan Pena มหาเศรษฐีอเมริกัน แฉว่า เรื่องโลกร้อน เป็นเรื่องหลอกลวง นักวิทยาศาสตร์ขุดแท่งน้ำแข็งขึ้นมาให้ดู แล้วบอกว่า หลายหมื่นปีก่อน ทุกประเทศบนโลกมันร้อนกว่าตอนนี้เลย! วิทยาศาสตร์ไม่หลอกลวง! มันคือหลักฐาน! มีแต่คนนี่แหละ ที่หลอกลวง เพื่อผลประโยชน์ของพวกพ้องของตนเอง 😡
    โลกร้อนฝรั่งหลอกเรามานานมากแล้ว หลอกเพื่อให้เราเชื่อ และยอมรับ กฎเกณฑ์ใหม่ๆ ที่เขาจะบังคับ เช่น ขึ้นภาษีคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อให้ธุรกิจเราเจ๊ง เป้าหมายคือ เพื่อฮุบทรัพยากรของคนทั้งโลก 😈
    อย่าหลงทาง!! 🐑🐏
    "โลกร้อน" กับ "โลกสกปรก" มันคนละประเด็น
    🌎✨อยากให้โลกสวยใช่มั้ย? ไปไล่ให้บริษัทขายยาเคมี มันเลิกขายเคมีนู่น! เลิกใช้ซะ พวกไกลโฟเซตน่ะ ☠
    #คลิป 4 🔥โลกร้อนเพราะ CO2 เป็นเรื่องหลอกลวง 🌎
    https://t.me/awakened_thailand/444
    คาร์บอนไดออกไซด์ คือ สิ่งจำเป็นสำหรับพืช เป็นอย่างมาก 🍀
    ต่างประเทศใช้อุปกรณ์เพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ สำหรับพืชที่ปลูกในโรงเรือน ทำให้มันแข็งแรงทนทานต่อโรค และแมลง 🍊🍎 ทำให้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติได้ถึง 30%
    คาร์บอนไดออกไซด์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพืช/ต้นไม้
    พืช/ต้นไม้ ก็จำเป็นสำหรับมนุษย์และโลกของเรา
    คาร์บอนไดออกไซด์จึงจำเป็นสำหรับโลกเรา อย่าให้ใครมาหลอกเราว่าคาร์บอนไดออกไซด์ คือ สิ่งไม่ดี หรือ ทำให้โลกร้อน ถ้าคุณเชื่อแบบนั้นคุณกำลังโดนหลอก
    คลิป #5 โลกร้อนเพราะ CO2 เป็นเรื่องหลอกลวง
    https://t.me/awakened_thailand/468
    🌎🔥 ข้อมูลจากนาซ่ายืนยันว่า โลกของเราเขียวขึ้น เพราะมีต้นไม้มากขึ้น 🌳🍀ซึ่งเป็นผลมาจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่สูงขึ้น (ต้นไม้ชอบก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์)
    โลกร้อนขึ้นเองตามธรรมชาติ และเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำทะเลร้อนขึ้น ส่งผลให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ระเหยออกมาจากทะเลมากขึ้น
    คาร์บอนไดออกไซด์ จึงไม่ใช่สาเหตุของโลกร้อนแม้แต่นิดเดียว ✨ ข้อมูลในอดีต เช่น อุณหภูมิ และระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้เป็นแสนๆปี ด้วยการเจาะแท่งน้ำแข็งในบริเวณขั้วโลกขึ้นมาวิเคราะห์ นี่คือวิทยาศาสตร์!
    แต่พวกคุมโลก คุมสื่อ คุมนักการเมือง 😈 ต้องการคุมพฤติกรรมประชากรโลก จึงต้องกุเรื่องแหกตาชาวโลกมาเป็นเวลาหลายสิบปี เตรียมล่วงหน้าไว้ก่อน จนเราๆเชื่อสนิทใจ ว่าคาร์บอนไดออกไซด์คือสิ่งไม่ดี บัดนี้ได้เวลาตื่นจากการหลับใหลมาเป็นเวลานาน อย่าหลงคารมนักการเมือง หรือข่าว ให้ยึดหลักวิทยาศาสตร์ และพิจารณาเอาเอง
    "คาร์บอนไดออกไซด์ คือ ฮีโร่ ที่มาช่วยให้โลกเรามีต้นไม้มากขึ้น" 🌿🌳🌲
    #คลิปไลฟ์สด https://t.me/awakened_thailand/445
    ❗️สาเหตุที่เขาหลอกเราเรื่อง CO2 🌎
    เพราะจะเอามันมาผูกกับระบบเงินดิจิตอล Digital Currency และจะใช้ระบบใหม่นี้ควบคุมพฤติกรรมของเรา เพราะเงินดิจิตอลถูกโปรแกรมได้ เช่น ห้ามใช้นอกรัศมี 4 กิโลเมตร 😱
    การเอาเรื่อง CO2 มาผูกกับเงินดิจิตอลจึงเป็นเรื่องง่ายมาก
    หากเราเชื่อว่าคาร์บอนไดออกไซด์คือสาเหตุที่ทำให้โลกร้อน 🔥และต้องร่วมมือกันลดคาร์บอนไดออกไซด์ลง เขาก็จะใช้ความเชื่อนี้ตั้งกฎเกณฑ์ขึ้นมาใหม่ 👿 เช่น เอาระบบคะแนนคาร์บอนมาใช้กับอาหาร โดยให้เหตุผลว่า ทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่การทำฟาร์มสัตว์ 🐮🐷 ปลูกผัก 🌾ล้วนแต่ผลิต คาร์บอนไดออกไซด์ จึงต้องกำหนดคะแนนไปเลยว่า อาหารจานไหน ต้องใช้คะแนนคาร์บอนเท่าไหร่ในการซื้อ สมมุติว่าเรามีคะแนนไม่พอ เราก็จะไม่สามารถซื้ออาหารนั้นได้แม้ว่าเราจะมีเงินอยู่ในกระเป๋าก็ตาม
    ระบบที่ใช้คะแนนลักษณะนี้ ได้ถูกใช้งานในจีนมาหลายปีแล้ว เรียกว่า Social Credit System ดูคลิปได้ที่นี่:
    https://t.me/awakened_thailand/148
    ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจาก คุณ Patrick Moore ใน Rumble.com
    แกเป็น cofounder และ อดีต ceo ของ Greenpeace ครับ
    Cr.อดิเทพ จาวลาห์ จาก rookon.com
    และคลิปจากเทเลแกรม คนไทยตื่นรู้ https://t.me/awakened_thailand
    โลกร้อนขึ้นเป็นวัฏจักรธรรมชาติ และในภาพรวมกำลังจะเย็นลง แต่… เราถูกฝังหัวกันมานานว่ามนุษย์เป็นคนทำให้โลกร้อน เพื่อนำไปสู่การใช้คาร์บอนเครดิต เพื่อการบีบบังคับนำไปสู่การเป็นทาส ไลฟ์สด โลกร้อนลวงโลก โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.facebook.com/share/v/JjrAnsFTf9vwcQ4u/ ชี้แหล่งศึกษาข้อมูล https://www.rookon.com/?p=339 https://www.rookon.com/?p=975 https://www.rookon.com/?p=1011 https://www.rookon.com/?p=1076 https://www.rookon.com/?p=119เก้า ลิงก์นี้ต้องแก้คำว่าเก้าเป็นตัวเลขก่อน FBแบน https://www.rookon.com/?p=1147 https://vt.tiktok.com/ZSFvhkGKK/ ตอน 1. https://www.tiktok.com/@adit.../video/7361783535104953601... ตอน 2. https://www.tiktok.com/@adit.../video/7361783574783200513... https://vt.tiktok.com/ZSYeFkn5t/ หรือ https://fb.watch/s0HF9m7C09/ (ไลฟ์สดกับอ.ทีน่า อ.เกรซ) #คลิป 1 🌎 โลกร้อน (เพราะ CO2) เป็นเรื่องหลอกลวง🔥 https://t.me/awakened_thailand/424 ✨หลักฐานทางวิทยาศาสตร์จากการขุดเจาะแท่งน้ำแข็งพบว่า อุณหภูมิโลกสูงขึ้นก่อน ☀️ ต่อมาอีก 800 ปี CO2 ถึงจะสูงขึ้นตามมา...แปลว่า CO2 ไม่ใช่สาเหตุของโลกร้อน 😳 แต่อุณหภูมิที่สูงขึ้นต่างหากที่ทำให้ CO2 เพิ่มขึ้น สั้นๆ ง่ายๆ หลักฐานทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ชัดแล้ว! โลกร้อนตามวัฏจักรของโลก มันเป็นธรรมชาติ 😎 มนุษย์ไม่ได้ทำให้โลกร้อน แต่เราทำให้โลกสกปรก...ฉะนั้น CO2 ไม่เกี่ยวอะไรเลย แยกให้ออก 🧐 โลกร้อน กับ โลกสกปรก มันคือคนละเรื่องกัน เรื่องง่ายๆ เด็กป.4 ยังรู้เรื่อง #คลิป 2 🌎 โลกร้อน (เพราะ CO2) เป็นเรื่องหลอกลวง🔥 https://t.me/awakened_thailand/425 โลกร้อนขึ้น และเย็นลง เป็นวัฏจักร เป็นธรรมชาติ ไม่เกี่ยวกับ CO2 แม้แต่น้อย คำถาม ❓: รู้ได้ไง? 🤔 ตอบ: เจาะน้ำแข็งลงไปหลายกิโล แล้วดึงแท่งน้ำแข็งขึ้นมาศึกษา (เหมือนศึกษาวงปีของต้นไม้) 😎 มหาสมุทรกักเก็บ CO2 ไว้เป็นจำนวนมาก 🥵เมื่อโลกร้อนขึ้นเอง ทะเลคือตัวคาย CO2 ออกมาสู่ชั้นบรรยากาศ 🌎อุณหภูมิโลกสูงขึ้นก่อน ส่งผลให้ CO2 สูงตามมาทีหลัง หมายความว่า CO2 ไม่ใช่ "เหตุ" ที่ทำให้โลกร้อน...แต่ CO2 คือ "ผล" จากโลกร้อน👍✨ ฉะนั้นสรุป CO2 ไม่ใช่สาเหตุของโลกร้อน ✨ ถาม ❓: แล้วเขาหลอกเราทำไม? ตั้งนานหลายสิบปี 😈 ตอบ: เขาใช้ CO2 เป็นข้ออ้างในการบังคับเรา เช่น ออกกฎบังคับเรื่อง CO2 เก็บภาษีฟาร์มวัว เพราะต้องการให้ฟาร์มเจ๊ง 😱 นายทุนจะได้เข้ามาฮุบ, เก็บภาษีทุกอย่าง โดยเอาไปผูกกับ CO2 หลอกลวง เพราะจุดประสงค์ของกลุ่มทุนสามานต่างชาติ คือ การควบคุมอาหารแบบเบ็ดเสร็จ 👎 #คลิป 3 🔥โลกร้อนเพราะ CO2 เป็นเรื่องหลอกลวง 🌎 https://t.me/awakened_thailand/426 💸💵💰Dan Pena มหาเศรษฐีอเมริกัน แฉว่า เรื่องโลกร้อน เป็นเรื่องหลอกลวง นักวิทยาศาสตร์ขุดแท่งน้ำแข็งขึ้นมาให้ดู แล้วบอกว่า หลายหมื่นปีก่อน ทุกประเทศบนโลกมันร้อนกว่าตอนนี้เลย! วิทยาศาสตร์ไม่หลอกลวง! มันคือหลักฐาน! มีแต่คนนี่แหละ ที่หลอกลวง เพื่อผลประโยชน์ของพวกพ้องของตนเอง 😡 โลกร้อนฝรั่งหลอกเรามานานมากแล้ว หลอกเพื่อให้เราเชื่อ และยอมรับ กฎเกณฑ์ใหม่ๆ ที่เขาจะบังคับ เช่น ขึ้นภาษีคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อให้ธุรกิจเราเจ๊ง เป้าหมายคือ เพื่อฮุบทรัพยากรของคนทั้งโลก 😈 อย่าหลงทาง!! 🐑🐏 "โลกร้อน" กับ "โลกสกปรก" มันคนละประเด็น 🌎✨อยากให้โลกสวยใช่มั้ย? ไปไล่ให้บริษัทขายยาเคมี มันเลิกขายเคมีนู่น! เลิกใช้ซะ พวกไกลโฟเซตน่ะ ☠ #คลิป 4 🔥โลกร้อนเพราะ CO2 เป็นเรื่องหลอกลวง 🌎 https://t.me/awakened_thailand/444 คาร์บอนไดออกไซด์ คือ สิ่งจำเป็นสำหรับพืช เป็นอย่างมาก 🍀 ต่างประเทศใช้อุปกรณ์เพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ สำหรับพืชที่ปลูกในโรงเรือน ทำให้มันแข็งแรงทนทานต่อโรค และแมลง 🍊🍎 ทำให้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติได้ถึง 30% คาร์บอนไดออกไซด์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพืช/ต้นไม้ พืช/ต้นไม้ ก็จำเป็นสำหรับมนุษย์และโลกของเรา คาร์บอนไดออกไซด์จึงจำเป็นสำหรับโลกเรา อย่าให้ใครมาหลอกเราว่าคาร์บอนไดออกไซด์ คือ สิ่งไม่ดี หรือ ทำให้โลกร้อน ถ้าคุณเชื่อแบบนั้นคุณกำลังโดนหลอก คลิป #5 โลกร้อนเพราะ CO2 เป็นเรื่องหลอกลวง https://t.me/awakened_thailand/468 🌎🔥 ข้อมูลจากนาซ่ายืนยันว่า โลกของเราเขียวขึ้น เพราะมีต้นไม้มากขึ้น 🌳🍀ซึ่งเป็นผลมาจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่สูงขึ้น (ต้นไม้ชอบก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์) โลกร้อนขึ้นเองตามธรรมชาติ และเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำทะเลร้อนขึ้น ส่งผลให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ระเหยออกมาจากทะเลมากขึ้น คาร์บอนไดออกไซด์ จึงไม่ใช่สาเหตุของโลกร้อนแม้แต่นิดเดียว ✨ ข้อมูลในอดีต เช่น อุณหภูมิ และระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้เป็นแสนๆปี ด้วยการเจาะแท่งน้ำแข็งในบริเวณขั้วโลกขึ้นมาวิเคราะห์ นี่คือวิทยาศาสตร์! แต่พวกคุมโลก คุมสื่อ คุมนักการเมือง 😈 ต้องการคุมพฤติกรรมประชากรโลก จึงต้องกุเรื่องแหกตาชาวโลกมาเป็นเวลาหลายสิบปี เตรียมล่วงหน้าไว้ก่อน จนเราๆเชื่อสนิทใจ ว่าคาร์บอนไดออกไซด์คือสิ่งไม่ดี บัดนี้ได้เวลาตื่นจากการหลับใหลมาเป็นเวลานาน อย่าหลงคารมนักการเมือง หรือข่าว ให้ยึดหลักวิทยาศาสตร์ และพิจารณาเอาเอง "คาร์บอนไดออกไซด์ คือ ฮีโร่ ที่มาช่วยให้โลกเรามีต้นไม้มากขึ้น" 🌿🌳🌲 #คลิปไลฟ์สด https://t.me/awakened_thailand/445 ❗️สาเหตุที่เขาหลอกเราเรื่อง CO2 🌎 เพราะจะเอามันมาผูกกับระบบเงินดิจิตอล Digital Currency และจะใช้ระบบใหม่นี้ควบคุมพฤติกรรมของเรา เพราะเงินดิจิตอลถูกโปรแกรมได้ เช่น ห้ามใช้นอกรัศมี 4 กิโลเมตร 😱 การเอาเรื่อง CO2 มาผูกกับเงินดิจิตอลจึงเป็นเรื่องง่ายมาก หากเราเชื่อว่าคาร์บอนไดออกไซด์คือสาเหตุที่ทำให้โลกร้อน 🔥และต้องร่วมมือกันลดคาร์บอนไดออกไซด์ลง เขาก็จะใช้ความเชื่อนี้ตั้งกฎเกณฑ์ขึ้นมาใหม่ 👿 เช่น เอาระบบคะแนนคาร์บอนมาใช้กับอาหาร โดยให้เหตุผลว่า ทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่การทำฟาร์มสัตว์ 🐮🐷 ปลูกผัก 🌾ล้วนแต่ผลิต คาร์บอนไดออกไซด์ จึงต้องกำหนดคะแนนไปเลยว่า อาหารจานไหน ต้องใช้คะแนนคาร์บอนเท่าไหร่ในการซื้อ สมมุติว่าเรามีคะแนนไม่พอ เราก็จะไม่สามารถซื้ออาหารนั้นได้แม้ว่าเราจะมีเงินอยู่ในกระเป๋าก็ตาม ระบบที่ใช้คะแนนลักษณะนี้ ได้ถูกใช้งานในจีนมาหลายปีแล้ว เรียกว่า Social Credit System ดูคลิปได้ที่นี่: https://t.me/awakened_thailand/148 ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจาก คุณ Patrick Moore ใน Rumble.com แกเป็น cofounder และ อดีต ceo ของ Greenpeace ครับ Cr.อดิเทพ จาวลาห์ จาก rookon.com และคลิปจากเทเลแกรม คนไทยตื่นรู้ https://t.me/awakened_thailand
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • จำไว้ให้ขึ้นใจ !!!
    1.อย่าเซ็นต์ค้ำประกันให้ใคร
    2.อย่าเป็นหนี้แทนคนอื่น
    3.อย่าผ่อนอะไรให้ใครโดยใช้ชื่อเรา
    4.อย่าให้ใครยืมเงิน
    😁😊🤗🤔
    ทุกข้อโดนมาหมดแล้วจ้า 4 บ่อยครั้ง
    1 และ 3 เมื่อหลายปีก่อน และโดยเฉพาะ
    ช่วง4ปีที่ผ่านมา 1 2 4 มาพร้อมกันเต็มๆ
    ล้มทั้งยืน หมดดาก สูญเสียทุกอย่าง
    เสียเครดิต และเสียศูนย์ จนถึงทุกวันนี้
    ตอนนี้ยังตั้งศูนย์เพื่อให้เข้าที่อยู่เบย
    บอกเลยว่าจุก สุดจะเข็ดหลาบ 555 ฮ่าาา
    รวย​ จัง​ ชอว์
    มุมิมุมิ.. จุฟๆ
    จำไว้ให้ขึ้นใจ !!! 1.อย่าเซ็นต์ค้ำประกันให้ใคร 2.อย่าเป็นหนี้แทนคนอื่น 3.อย่าผ่อนอะไรให้ใครโดยใช้ชื่อเรา 4.อย่าให้ใครยืมเงิน 😁😊🤗🤔 ทุกข้อโดนมาหมดแล้วจ้า 4 บ่อยครั้ง 1 และ 3 เมื่อหลายปีก่อน และโดยเฉพาะ ช่วง4ปีที่ผ่านมา 1 2 4 มาพร้อมกันเต็มๆ ล้มทั้งยืน หมดดาก สูญเสียทุกอย่าง เสียเครดิต และเสียศูนย์ จนถึงทุกวันนี้ ตอนนี้ยังตั้งศูนย์เพื่อให้เข้าที่อยู่เบย บอกเลยว่าจุก สุดจะเข็ดหลาบ 555 ฮ่าาา รวย​ จัง​ ชอว์ มุมิมุมิ.. จุฟๆ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ศิลปะ ซอฟท์เพาว์เวอร์
    พระพัชนีด้ามจิ้ว หรือ พัดทรง💜💜

    หลายท่านที่ได้ชมพระราชพิธีเมื่อวาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวราราม วันที่ ๒๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๗

    ในระหว่างที่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ประทับในเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ทรงใช้พระพัชนีด้ามจิ้ว ระหว่างประทับหลายท่านน่าจะเห็นว่าลวดลายบนพัดมีความงดงามมาก พัดทรงด้ามนี้ออกแบบและเขียนลาย โดยอาจารย์หทัย บุนนาค

    โดยท่านเคยให้รายละเอียดเกี่ยวกับพัดทรงด้ามนี้ว่า…

    "พัดทรง สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาพัชรสุธาพิมลลักษณ์พระบรมราชินี พัดด้ามไม้ประดับปีกแมลงทับ ตัวพัดทำจากผ้าไหมไทยปิดเงินเปลว เขียนสีเป็นลายเทพยดาอำนวยพร บนพื้นสีครามประกอบลวดลายพรรณพฤกษา แกนพัดและห่วงพัดทำจากเงินกะไหล่ทอง แหวนสำหรับรัดพัดและสายพู่คล้องพัดเป็นไหมสีเขียวมะกอกรับกัน ร้อยสลับกับลูกปัดเงินกะไหล่ทองและลูกปัดพลอยเนื้ออ่อนสีม่วง

    รายชื่อคณะทำงานและช่างฝีมือ

    ช่างเขียนและออกแบบ: นาย หทัย บุนนาค
    ช่างประดับปีกแมลงทับ: นางสาว กัลยากร อัครยากูล

    ช่างทองทำห่วงพัดและแกนพัด : อาจารย์ศุภชัย เสริมสุขเจริญชัย และ อาจารย์จิราพร รอดคุ้ม จากมหาวิทยาลัย เพาะช่าง
    ช่างทำพู่และสายคล้องตลอดจนแหวนรัดพัด: นางสาว เมนาท วรรัตนวัชร

    ช่างประกอบตัวและจับจีบพัด: นายวันชัย เลิศไพบูลย์ผล

    ช่างทำกล่อง: นายวันชัย เลิศไพบูลย์ผลและนายธงชัย ตาลพวง นางสาว กุลธิดา บุนนาค

    ประสานงาน : นายวุฒิกร จินตนสถิตย์"
    เครดิตโดยอาจารย์หทัย บุนนาค(ภาพสุดท้าย)

    🙏🇹🇭💜#ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน #เกร็ดความรู้ #เกร็ดประวัติศาสตร์ #พยุหยาตราทางชลมารค
    #ศิลปะ ซอฟท์เพาว์เวอร์ พระพัชนีด้ามจิ้ว หรือ พัดทรง💜💜 หลายท่านที่ได้ชมพระราชพิธีเมื่อวาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวราราม วันที่ ๒๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๗ ในระหว่างที่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ประทับในเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ทรงใช้พระพัชนีด้ามจิ้ว ระหว่างประทับหลายท่านน่าจะเห็นว่าลวดลายบนพัดมีความงดงามมาก พัดทรงด้ามนี้ออกแบบและเขียนลาย โดยอาจารย์หทัย บุนนาค โดยท่านเคยให้รายละเอียดเกี่ยวกับพัดทรงด้ามนี้ว่า… "พัดทรง สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาพัชรสุธาพิมลลักษณ์พระบรมราชินี พัดด้ามไม้ประดับปีกแมลงทับ ตัวพัดทำจากผ้าไหมไทยปิดเงินเปลว เขียนสีเป็นลายเทพยดาอำนวยพร บนพื้นสีครามประกอบลวดลายพรรณพฤกษา แกนพัดและห่วงพัดทำจากเงินกะไหล่ทอง แหวนสำหรับรัดพัดและสายพู่คล้องพัดเป็นไหมสีเขียวมะกอกรับกัน ร้อยสลับกับลูกปัดเงินกะไหล่ทองและลูกปัดพลอยเนื้ออ่อนสีม่วง รายชื่อคณะทำงานและช่างฝีมือ ช่างเขียนและออกแบบ: นาย หทัย บุนนาค ช่างประดับปีกแมลงทับ: นางสาว กัลยากร อัครยากูล ช่างทองทำห่วงพัดและแกนพัด : อาจารย์ศุภชัย เสริมสุขเจริญชัย และ อาจารย์จิราพร รอดคุ้ม จากมหาวิทยาลัย เพาะช่าง ช่างทำพู่และสายคล้องตลอดจนแหวนรัดพัด: นางสาว เมนาท วรรัตนวัชร ช่างประกอบตัวและจับจีบพัด: นายวันชัย เลิศไพบูลย์ผล ช่างทำกล่อง: นายวันชัย เลิศไพบูลย์ผลและนายธงชัย ตาลพวง นางสาว กุลธิดา บุนนาค ประสานงาน : นายวุฒิกร จินตนสถิตย์" เครดิตโดยอาจารย์หทัย บุนนาค(ภาพสุดท้าย) 🙏🇹🇭💜#ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน #เกร็ดความรู้ #เกร็ดประวัติศาสตร์ #พยุหยาตราทางชลมารค
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • โบราณไม่ได้ว่าไว้ คนล้ม กระทืบซ้ำเลย
    น้ำลดตอผุดสภาวะนี้กําลังเกิดขึ้นกับชีวิตทนายตั้มนายสิทรา เบี้ยบังเกิด หลังโดนอ้อยจตุพร เศรษฐีนีหมื่นล้านแจ้งจับคดีฉ้อโกงและยังจะได้แถมอีกคดีในข้อหาเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว กรณีผู้ออกรายการทีวีและให้สัมภาษณ์สื่อหลายครั้งเรื่องเจ๊อ้อยถูกหวยได้เงินมาหมื่นล้านบาททําให้ครอบครัวเขาเดือดร้อนกระแสสังคมรุมถล่มทนายตั้มเหมือนพายุอุกกาบาตพัดถล่มหัวหมา
    โลกโซเชียลจากการเปลี่ยนชื่อเขาจากทนายตั้มเป็นทนายต้ม จังหวะนี้เองบรรดาเจ้ากรรมนายเวรเก่าเก่าของทนายตั้มก็เฮโลออกมาเปิดโปงความเน่าใน เพื่อล้างแค้นในสิ่งที่ทนายตั้มเคยกระทําไว้กับพวกเขาเริ่มจากคนบนเรือคดีแตงโมคือไฮโซ ปอออกมาพบสื่อในฐานะผู้ประสบภัยจากทนายความโดยระบุว่า
    ทนายตั้มเป็นศาลตั้งต้นของจริง ที่ทําให้ชีวิตเขาและคนบนเรือทุกคนเดือดร้อนแสนสาหัสเมื่อมีการนัดพบกันในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ฝ่ายหนึ่งไฮโซปอลกับโรเบิร์และอีกฝ่ายทนายตั้ม ปรากฏว่าทนายตั้มพอฟังเรื่องราวของแตงโมตกเรือแล้ว
    เสนอแนวทางเอาตัวรอดให้ทั้งสองคนว่าต้องสร้างสตอรี่ให้มีคนผิด ซึ่งคนคนนั้นก็คือแซนด์ ซึ่งอยู่ท้ายเรือใกล้ชิดวินาทีที่แตงโมตกเรือมากกว่าใคร ว่าแล้วทนายตั้มก็เรียกค่าทําคดีสูงลิบซึ่งไฮโซปอลกับโรเบิร์ตปฏิเสธไป
    เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาแต่ปัญหาคือรับไม่ได้กับการสร้างสตอรี่เพื่อโยนคุกให้เพื่อนดื้อๆพอไฮโซปอล์เปิดประเด็นนี้ แซนก็บุกมาที่กองปราบประกาศว่ามาจองกระถินทนายตั้มเพราะเธอเกือบต้องติดคุกติดตารางไปคนเดียว ด้วยการชี้แนะของทนายตั้มซึ่งแซนด์ แทบไม่มีที่ยืนในสังคมพูดอะไรไปก็ไม่มีใครเชื่อ
    ตอนนี้เหตุการณ์คล้ายๆ กันบังเกิดขึ้นกับชีวิตของทนายตั้มบ้างแล้วโดนทัวร์ลงอย่างหนักหน่วง ด้วยดีกรีรุนแรงไม่แพ้กันในส่วนของเจ๊อ้อย จตุพรยังคงสาวไส้เล่ห์เหลี่ยมของทนายตั้มออกมาทีละขด
    โดยเฉพาะเรื่องการแอบอ้างว่ารู้จักกับนักการเมืองใหญ่ที่จะให้โควต้าหวยรัฐบาลถึงขั้นพาคุณอ้อยบินไปพบถึงฮ่องกง เพื่อสร้างเครดิตให้หลงเชื่อนักการเมืองคนนั้นก็คือเสียหนูอนุทินชาญวีรกูล
    ซึ่งเสียหนูก็ยอมรับว่าเจอกับทนายตั้มจริงแต่เจอโดยบังเอิญไม่ได้นัดหมายอะไรกันแจงว่าตัวเองไม่มีทางไปให้โควต้าหวยใครได้ เพราะตอนเจอกันยังไม่ได้เป็นรัฐบาลเลยดอกนี้คือเสี่ยหนูลอยแพทนายตั้มไปแบบไม่มีเยื่อใย
    เพราะก่อนหน้านี้เสี่ยหนูก็เคยใช้บริการทนายตั้มให้ออกมาสู้กับชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ซึ่งผลก็คือทนายตั้มพ่ายแพ้ในสนามโซเชียลจนหลบหน้าหายไปพักใหญ่ ตอนนี้คิงส์โพดำคิดว่า ตั๊มเอ้ย หายหน้าหายตาไปจากโลกเลยก็ได้เด้อ ยาวๆโลด ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ

    โบราณไม่ได้ว่าไว้ คนล้ม กระทืบซ้ำเลย น้ำลดตอผุดสภาวะนี้กําลังเกิดขึ้นกับชีวิตทนายตั้มนายสิทรา เบี้ยบังเกิด หลังโดนอ้อยจตุพร เศรษฐีนีหมื่นล้านแจ้งจับคดีฉ้อโกงและยังจะได้แถมอีกคดีในข้อหาเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว กรณีผู้ออกรายการทีวีและให้สัมภาษณ์สื่อหลายครั้งเรื่องเจ๊อ้อยถูกหวยได้เงินมาหมื่นล้านบาททําให้ครอบครัวเขาเดือดร้อนกระแสสังคมรุมถล่มทนายตั้มเหมือนพายุอุกกาบาตพัดถล่มหัวหมา โลกโซเชียลจากการเปลี่ยนชื่อเขาจากทนายตั้มเป็นทนายต้ม จังหวะนี้เองบรรดาเจ้ากรรมนายเวรเก่าเก่าของทนายตั้มก็เฮโลออกมาเปิดโปงความเน่าใน เพื่อล้างแค้นในสิ่งที่ทนายตั้มเคยกระทําไว้กับพวกเขาเริ่มจากคนบนเรือคดีแตงโมคือไฮโซ ปอออกมาพบสื่อในฐานะผู้ประสบภัยจากทนายความโดยระบุว่า ทนายตั้มเป็นศาลตั้งต้นของจริง ที่ทําให้ชีวิตเขาและคนบนเรือทุกคนเดือดร้อนแสนสาหัสเมื่อมีการนัดพบกันในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ฝ่ายหนึ่งไฮโซปอลกับโรเบิร์และอีกฝ่ายทนายตั้ม ปรากฏว่าทนายตั้มพอฟังเรื่องราวของแตงโมตกเรือแล้ว เสนอแนวทางเอาตัวรอดให้ทั้งสองคนว่าต้องสร้างสตอรี่ให้มีคนผิด ซึ่งคนคนนั้นก็คือแซนด์ ซึ่งอยู่ท้ายเรือใกล้ชิดวินาทีที่แตงโมตกเรือมากกว่าใคร ว่าแล้วทนายตั้มก็เรียกค่าทําคดีสูงลิบซึ่งไฮโซปอลกับโรเบิร์ตปฏิเสธไป เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาแต่ปัญหาคือรับไม่ได้กับการสร้างสตอรี่เพื่อโยนคุกให้เพื่อนดื้อๆพอไฮโซปอล์เปิดประเด็นนี้ แซนก็บุกมาที่กองปราบประกาศว่ามาจองกระถินทนายตั้มเพราะเธอเกือบต้องติดคุกติดตารางไปคนเดียว ด้วยการชี้แนะของทนายตั้มซึ่งแซนด์ แทบไม่มีที่ยืนในสังคมพูดอะไรไปก็ไม่มีใครเชื่อ ตอนนี้เหตุการณ์คล้ายๆ กันบังเกิดขึ้นกับชีวิตของทนายตั้มบ้างแล้วโดนทัวร์ลงอย่างหนักหน่วง ด้วยดีกรีรุนแรงไม่แพ้กันในส่วนของเจ๊อ้อย จตุพรยังคงสาวไส้เล่ห์เหลี่ยมของทนายตั้มออกมาทีละขด โดยเฉพาะเรื่องการแอบอ้างว่ารู้จักกับนักการเมืองใหญ่ที่จะให้โควต้าหวยรัฐบาลถึงขั้นพาคุณอ้อยบินไปพบถึงฮ่องกง เพื่อสร้างเครดิตให้หลงเชื่อนักการเมืองคนนั้นก็คือเสียหนูอนุทินชาญวีรกูล ซึ่งเสียหนูก็ยอมรับว่าเจอกับทนายตั้มจริงแต่เจอโดยบังเอิญไม่ได้นัดหมายอะไรกันแจงว่าตัวเองไม่มีทางไปให้โควต้าหวยใครได้ เพราะตอนเจอกันยังไม่ได้เป็นรัฐบาลเลยดอกนี้คือเสี่ยหนูลอยแพทนายตั้มไปแบบไม่มีเยื่อใย เพราะก่อนหน้านี้เสี่ยหนูก็เคยใช้บริการทนายตั้มให้ออกมาสู้กับชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ซึ่งผลก็คือทนายตั้มพ่ายแพ้ในสนามโซเชียลจนหลบหน้าหายไปพักใหญ่ ตอนนี้คิงส์โพดำคิดว่า ตั๊มเอ้ย หายหน้าหายตาไปจากโลกเลยก็ได้เด้อ ยาวๆโลด ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🛑 การคืนพระ ...มี 2 แบบ คือ พระไม่แท้ กับพระแท้...
    ..พระไม่แท้ ต้องดูว่า คุณซื้อกับใคร ...มีเครดิต มีศักยภาพไหม..ถ้ากรณีมีปัญหา....ตาสี ตาสา จำนวนมหาศาล ไม่เข้าใจเรื่องนี้. ยังเพ้ออยู่ว่าจะขายได้แบบราคาเซียน ถามว่า..จะมีกี่คน กล้าจ่ายเงินกับคุณ ในหลักแสน หลักล้าน (นอกจากเซียน) เพราะถ้าไม่แท้ เขาจะรู้ได้ไง ว่าคุณจะมีเงินคืนเขา..ที่ผ่านมา.มีทั้งอุ้มไปเหยียบก็มาก (แต่ปิดข่าว) ติดคุกก็มี ...กรณีไม่มีเงินคืนเขา...อยากบอกว่า ขายเซียนเถอะ ได้น้อยหน่อย...แต่ปลอดภัย ใช้เงินได้เลย...ขึ้นศาลไป เซียนก็แพ้ เพราะดุลพินิจศาลเห็นว่า เซียนเป็นผู้เชี่ยวชาญ เพราะเป็นอาชีพ คำอ้างต่างๆ ในความผิดพลาดเรื่องเก๊.. จึงฟังไม่ขึ้น....
    ต่อ Ep2
    🛑 การคืนพระ ...มี 2 แบบ คือ พระไม่แท้ กับพระแท้... ..พระไม่แท้ ต้องดูว่า คุณซื้อกับใคร ...มีเครดิต มีศักยภาพไหม..ถ้ากรณีมีปัญหา....ตาสี ตาสา จำนวนมหาศาล ไม่เข้าใจเรื่องนี้. ยังเพ้ออยู่ว่าจะขายได้แบบราคาเซียน ถามว่า..จะมีกี่คน กล้าจ่ายเงินกับคุณ ในหลักแสน หลักล้าน (นอกจากเซียน) เพราะถ้าไม่แท้ เขาจะรู้ได้ไง ว่าคุณจะมีเงินคืนเขา..ที่ผ่านมา.มีทั้งอุ้มไปเหยียบก็มาก (แต่ปิดข่าว) ติดคุกก็มี ...กรณีไม่มีเงินคืนเขา...อยากบอกว่า ขายเซียนเถอะ ได้น้อยหน่อย...แต่ปลอดภัย ใช้เงินได้เลย...ขึ้นศาลไป เซียนก็แพ้ เพราะดุลพินิจศาลเห็นว่า เซียนเป็นผู้เชี่ยวชาญ เพราะเป็นอาชีพ คำอ้างต่างๆ ในความผิดพลาดเรื่องเก๊.. จึงฟังไม่ขึ้น.... ต่อ Ep2
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐสภาอิสราเอลลงมติ ผ่านกฎหมายห้าม UNRWA หน่วยงานของสหประชาชาติที่รับผิดชอบดำเนินงานด้านบรรเทาทุกข์แก่ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ ปฏิบัติงานภายในอิสราเอล และดินแดนยึดครอง ถึงแม้ถูกคัดค้านจากประชาคมระหว่างประเทศ และสร้างความกังวลแม้กระทั่งในหมู่ชาติพันธมิตรตะวันตกของรัฐยิวที่เกรงว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้จะยิ่งโหมกระพือวิกฤตมนุษยธรรมในฉนวนกาซา
    .
    UNRWA ซึ่งมีชื่อเต็มว่า สำนักงานบรรเทาทุกข์และปฏิบัติงานเพื่อผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้แห่งสหประชาชาติ ได้ดำเนินงานในการจัดหาจัดส่งความช่วยเหลือที่จำเป็นต่างๆ ให้แก่ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์มาเป็นเวลากว่า 70 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลากว่า 1 ปีที่อิสราเอลถล่มโจมตีทางอากาศและยกกำลังภาคพื้นดินเข้าไปปฏิบัติงานกวาดล้างในกาซานั้น หน่วยงานแห่งนี้ซึ่งว่าจ้างผู้คนจำนวนนับพันนับหมื่นในกาซา เป็นผู้ที่คอยจัดหาสิ่งของจำเป็นพื้นฐานต่างๆ ให้แก่พลเมืองแทบทั้งหมดในดินแดนแคบๆ ติดชายฝั่งทะเลแห่งนี้ โดยจัดส่งผ่านทางอิสราเอล
    .
    ขณะที่เจ้าหน้าที่อิสราเอลอ้างว่า มีเจ้าหน้าที่ของ UNRWA จำนวนหนึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีภาคใต้อิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ปีที่แล้ว และยังกล่าวหาเจ้าหน้าที่ UNRWA บางคนว่าเป็นสมาชิกฮามาส หรือกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ
    .
    “เจ้าหน้าที่ UNRWA ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมก่อการร้ายต่อต้านอิสราเอลจะต้องถูกเอาตัวมารับผิด” นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล แถลง
    .
    ทางด้าน ฟิลิปเป ลาซซารินี ผู้อำนวยการ UNRWA วิจารณ์การลงมติของรัฐสภาอิสราเอลว่าขัดต่อกฎบัตรสหประชาชาติ และฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศ
    .
    “นี่เป็นอีกครั้งที่มีความพยายามดิสเครดิต UNRWA และลดทอนบทบาทของเราในการมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบริการแก่ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์” ลาซซารินี โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X
    .
    ในส่วนของเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส แถลงในวันจันทร์ (28) ว่า หากมีการปฏิบัติตามกฎหมายที่อิสราเอลผ่านออกมาฉบับนี้ มันก็ “อาจส่งผลต่อเนื่องเป็นความวิบัติหายนะสำหรับพวกผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในดินแดนของปาเลสไตน์ที่ถูกอิสราเอลยึดครอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้”
    .
    เขาระบุว่า ไม่มีใครสามารถปฏิบัติงานแทนที่ UNRWA ได้ พร้อมกับบอกว่าจะรายงานเรื่องนี้ให้สมัชชาใหญ่สหประชาชาติรับทราบ
    .
    ขณะที่หลายหน่วยงานของยูเอ็นแถลงในวันอังคาร (29) ว่า การตัดสินใจเช่นนี้ของอิสราเอลจะส่งผลทำให้มีเด็กๆ ในกาซาล้มตายกันมากขึ้น และหากมีการปฏิบัติตามอย่างเต็มที่จะถือเป็นรูปแบบหนึ่งของการมุ่งลงโทษหมู่แบบไม่มีการจำแนกแยกแยะต่อชาวกาซา ทั้งนี้การมุ่งลงโทษหมู่แก่ประชาชน ถือเป็นรูปแบบหนึ่งของพฤติการณ์อาชญากรรมสงคราม
    .
    “ถ้า UNRWA ไม่สามารถดำเนินงานได้ มันก็น่าจะได้เห็นการล้มครืนของระบบมนุษยธรรมในกาซา” เป็นคำกล่าวของโฆษกกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) เจมส์ เอลเดอร์ ซึ่งได้ปฏิบัติงานอย่างกว้างขวางในกาซานับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ปีที่แล้ว “ดังนั้น การตัดสินเช่นนี้อย่างฉับพลันย่อมหมายความว่ามีการค้นพบวิธีการใหม่ในการเข่นฆ่าเด็กๆ”
    .
    จากข้อมูลของพวกเจ้าหน้าที่สาธารณสุขปาเลสไตน์ระบุว่า มีเด็กๆ มากกว่า 13,300 คนที่ได้รับการระบุอัตลักษณ์และยืนยันว่าถูกฆ่าตายไปในสงครามกาซา โดยจำนวนมากกว่านั้นอีกเชื่อกันว่าเสียชีวิตจากโรคภัยต่างๆ ภายหลังระบบการแพทย์ของดินแดนนี้ล่มสลายและเกิดการขาดแคลนอาหารและน้ำ
    .
    สำนักงานของยูเอ็นแห่งอื่นๆ ก็พูดถึงงานที่ UNRWA ทำอยู่ว่า เป็นสิ่งที่ไม่อาจปล่อยให้ขาดหายไปได้
    .
    ทาริก จาซาเรวิก แห่งองค์การอนามัยโลก (WHO) บอกว่า พวกเจ้าหน้าที่ดูแลสุขภาพที่กำลังช่วยเหลือโครงการให้วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอสำหรับเด็กๆ ในกาซาซึ่งเป็นโครงการที่กำลังดำเนินอยู่ในเวลานี้ ราวหนึ่งในสามคือผู้ที่ทำงานกับ UNRWA เขากล่าวพร้อมกับย้ำว่า UNRWA มีเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขราว 1,000 คนในกาซา
    .
    ส่วน เอมี โป๊ป ผู้อำนวยการขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอพยพ (IOM) แถลงว่า ทางหน่วยงานของเธอสามารถทำงานบรรเทาทุกข์ให้มากขึ้นกว่านี้แก่ชาวปาเลสไตน์ที่ตกอยู่ในวิกฤต ทว่า IOM ไม่สามารถทำงานแทนที่ UNRWA ในกาซาได้แน่นอน
    .
    อนึ่ง การโหวตร่างกฎหมายใหม่ของอิสราเอลคราวนี้ ยังมีขึ้นในวันเดียวกับที่กองกำลังรถถังยิวจู่โจมลึกเข้าไปยังตอนเหนือของกาซา จนทำให้พลเรือนราว 100,000 คนติดอยู่ในพื้นที่สู้รบตามข้อมูลจากหน่วยฉุกเฉินปาเลสไตน์ ขณะที่กองทัพอิสราเอลอ้างว่า พวกเขากำลังปฏิบัติการกวาดล้างพวกนักรบฮามาสไม่ให้รวมกลุ่มกันได้อีก
    .
    ทั้งนี้ สำนักงานบริการฉุกเฉินเพื่อพลเรือนปาเลสไตน์รายงานว่า มีพลเรือนราว 100,000 คนติดอยู่ภายในค่ายผู้ลี้ภัยจาบาเลีย เบตลาฮิยา และเบตฮานูน โดยปราศจากทั้งทีมแพทย์และอาหารน้ำดื่ม และเวลานี้ทางหน่วยงานไม่สามารถดำเนินภารกิจต่อไปได้ เนื่องจากอิสราเอลได้เดินหน้าถล่มพื้นที่ตอนเหนือกาซามาเป็นเวลา 3 สัปดาห์แล้ว
    .
    กองทัพอิสราเอลยังได้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นกลุ่มติดอาวุธ 100 คนภายในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ค่ายผู้ลี้ภัยจาบาเลีย ในขณะที่กลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นผู้บริหารปกครองดินแดนกาซา และบุคลากรทางการแพทย์ยืนยันว่า สถานพยาบาลแห่งนี้ไม่มีกลุ่มติดอาวุธหลบซ่อนอยู่อย่างที่อิสราเอลอ้าง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000104389
    ..............
    Sondhi X
    รัฐสภาอิสราเอลลงมติ ผ่านกฎหมายห้าม UNRWA หน่วยงานของสหประชาชาติที่รับผิดชอบดำเนินงานด้านบรรเทาทุกข์แก่ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ ปฏิบัติงานภายในอิสราเอล และดินแดนยึดครอง ถึงแม้ถูกคัดค้านจากประชาคมระหว่างประเทศ และสร้างความกังวลแม้กระทั่งในหมู่ชาติพันธมิตรตะวันตกของรัฐยิวที่เกรงว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้จะยิ่งโหมกระพือวิกฤตมนุษยธรรมในฉนวนกาซา . UNRWA ซึ่งมีชื่อเต็มว่า สำนักงานบรรเทาทุกข์และปฏิบัติงานเพื่อผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้แห่งสหประชาชาติ ได้ดำเนินงานในการจัดหาจัดส่งความช่วยเหลือที่จำเป็นต่างๆ ให้แก่ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์มาเป็นเวลากว่า 70 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลากว่า 1 ปีที่อิสราเอลถล่มโจมตีทางอากาศและยกกำลังภาคพื้นดินเข้าไปปฏิบัติงานกวาดล้างในกาซานั้น หน่วยงานแห่งนี้ซึ่งว่าจ้างผู้คนจำนวนนับพันนับหมื่นในกาซา เป็นผู้ที่คอยจัดหาสิ่งของจำเป็นพื้นฐานต่างๆ ให้แก่พลเมืองแทบทั้งหมดในดินแดนแคบๆ ติดชายฝั่งทะเลแห่งนี้ โดยจัดส่งผ่านทางอิสราเอล . ขณะที่เจ้าหน้าที่อิสราเอลอ้างว่า มีเจ้าหน้าที่ของ UNRWA จำนวนหนึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีภาคใต้อิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ปีที่แล้ว และยังกล่าวหาเจ้าหน้าที่ UNRWA บางคนว่าเป็นสมาชิกฮามาส หรือกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ . “เจ้าหน้าที่ UNRWA ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมก่อการร้ายต่อต้านอิสราเอลจะต้องถูกเอาตัวมารับผิด” นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล แถลง . ทางด้าน ฟิลิปเป ลาซซารินี ผู้อำนวยการ UNRWA วิจารณ์การลงมติของรัฐสภาอิสราเอลว่าขัดต่อกฎบัตรสหประชาชาติ และฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศ . “นี่เป็นอีกครั้งที่มีความพยายามดิสเครดิต UNRWA และลดทอนบทบาทของเราในการมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบริการแก่ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์” ลาซซารินี โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X . ในส่วนของเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส แถลงในวันจันทร์ (28) ว่า หากมีการปฏิบัติตามกฎหมายที่อิสราเอลผ่านออกมาฉบับนี้ มันก็ “อาจส่งผลต่อเนื่องเป็นความวิบัติหายนะสำหรับพวกผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในดินแดนของปาเลสไตน์ที่ถูกอิสราเอลยึดครอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้” . เขาระบุว่า ไม่มีใครสามารถปฏิบัติงานแทนที่ UNRWA ได้ พร้อมกับบอกว่าจะรายงานเรื่องนี้ให้สมัชชาใหญ่สหประชาชาติรับทราบ . ขณะที่หลายหน่วยงานของยูเอ็นแถลงในวันอังคาร (29) ว่า การตัดสินใจเช่นนี้ของอิสราเอลจะส่งผลทำให้มีเด็กๆ ในกาซาล้มตายกันมากขึ้น และหากมีการปฏิบัติตามอย่างเต็มที่จะถือเป็นรูปแบบหนึ่งของการมุ่งลงโทษหมู่แบบไม่มีการจำแนกแยกแยะต่อชาวกาซา ทั้งนี้การมุ่งลงโทษหมู่แก่ประชาชน ถือเป็นรูปแบบหนึ่งของพฤติการณ์อาชญากรรมสงคราม . “ถ้า UNRWA ไม่สามารถดำเนินงานได้ มันก็น่าจะได้เห็นการล้มครืนของระบบมนุษยธรรมในกาซา” เป็นคำกล่าวของโฆษกกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) เจมส์ เอลเดอร์ ซึ่งได้ปฏิบัติงานอย่างกว้างขวางในกาซานับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ปีที่แล้ว “ดังนั้น การตัดสินเช่นนี้อย่างฉับพลันย่อมหมายความว่ามีการค้นพบวิธีการใหม่ในการเข่นฆ่าเด็กๆ” . จากข้อมูลของพวกเจ้าหน้าที่สาธารณสุขปาเลสไตน์ระบุว่า มีเด็กๆ มากกว่า 13,300 คนที่ได้รับการระบุอัตลักษณ์และยืนยันว่าถูกฆ่าตายไปในสงครามกาซา โดยจำนวนมากกว่านั้นอีกเชื่อกันว่าเสียชีวิตจากโรคภัยต่างๆ ภายหลังระบบการแพทย์ของดินแดนนี้ล่มสลายและเกิดการขาดแคลนอาหารและน้ำ . สำนักงานของยูเอ็นแห่งอื่นๆ ก็พูดถึงงานที่ UNRWA ทำอยู่ว่า เป็นสิ่งที่ไม่อาจปล่อยให้ขาดหายไปได้ . ทาริก จาซาเรวิก แห่งองค์การอนามัยโลก (WHO) บอกว่า พวกเจ้าหน้าที่ดูแลสุขภาพที่กำลังช่วยเหลือโครงการให้วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอสำหรับเด็กๆ ในกาซาซึ่งเป็นโครงการที่กำลังดำเนินอยู่ในเวลานี้ ราวหนึ่งในสามคือผู้ที่ทำงานกับ UNRWA เขากล่าวพร้อมกับย้ำว่า UNRWA มีเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขราว 1,000 คนในกาซา . ส่วน เอมี โป๊ป ผู้อำนวยการขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอพยพ (IOM) แถลงว่า ทางหน่วยงานของเธอสามารถทำงานบรรเทาทุกข์ให้มากขึ้นกว่านี้แก่ชาวปาเลสไตน์ที่ตกอยู่ในวิกฤต ทว่า IOM ไม่สามารถทำงานแทนที่ UNRWA ในกาซาได้แน่นอน . อนึ่ง การโหวตร่างกฎหมายใหม่ของอิสราเอลคราวนี้ ยังมีขึ้นในวันเดียวกับที่กองกำลังรถถังยิวจู่โจมลึกเข้าไปยังตอนเหนือของกาซา จนทำให้พลเรือนราว 100,000 คนติดอยู่ในพื้นที่สู้รบตามข้อมูลจากหน่วยฉุกเฉินปาเลสไตน์ ขณะที่กองทัพอิสราเอลอ้างว่า พวกเขากำลังปฏิบัติการกวาดล้างพวกนักรบฮามาสไม่ให้รวมกลุ่มกันได้อีก . ทั้งนี้ สำนักงานบริการฉุกเฉินเพื่อพลเรือนปาเลสไตน์รายงานว่า มีพลเรือนราว 100,000 คนติดอยู่ภายในค่ายผู้ลี้ภัยจาบาเลีย เบตลาฮิยา และเบตฮานูน โดยปราศจากทั้งทีมแพทย์และอาหารน้ำดื่ม และเวลานี้ทางหน่วยงานไม่สามารถดำเนินภารกิจต่อไปได้ เนื่องจากอิสราเอลได้เดินหน้าถล่มพื้นที่ตอนเหนือกาซามาเป็นเวลา 3 สัปดาห์แล้ว . กองทัพอิสราเอลยังได้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นกลุ่มติดอาวุธ 100 คนภายในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ค่ายผู้ลี้ภัยจาบาเลีย ในขณะที่กลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นผู้บริหารปกครองดินแดนกาซา และบุคลากรทางการแพทย์ยืนยันว่า สถานพยาบาลแห่งนี้ไม่มีกลุ่มติดอาวุธหลบซ่อนอยู่อย่างที่อิสราเอลอ้าง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000104389 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1240 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣️ มาดามอ้อยยันเอง พบเสี่ยหนูจริง แต่ไม่มีคุยเรื่องทำหวยออนไลน์ เชื่อทนายต้มจัดฉากโชว์ความสนิทสนมคนใหญ่คนโตเพื่อสร้างเครดิต
    #7ดอกจิก
    #ทนายต้ม
    #มาดามอ้อย
    #อนุทิน
    ♣️ มาดามอ้อยยันเอง พบเสี่ยหนูจริง แต่ไม่มีคุยเรื่องทำหวยออนไลน์ เชื่อทนายต้มจัดฉากโชว์ความสนิทสนมคนใหญ่คนโตเพื่อสร้างเครดิต #7ดอกจิก #ทนายต้ม #มาดามอ้อย #อนุทิน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อมูลที่สนธิลิ้มทองกุลเปิดโปงพฤติกรรมของทนายตั้ม นายสิทธา เบี้ยบังเกิด ตอกย้ําว่าอ้อยจตุพร ที่โอนเงินสองล้านยูโรหรือเจ็ดสิบเอ็ดล้านบาทเข้าบัญชีชื่อสิทธ์ธาเบี้ยบังเกิด ไม่ใช่การให้โดยเสน่ห์หายอย่างที่ทนายตั้มอ้าง และในเมื่อทนายตั้ม อมเงินก้อนนี้ไปโดยไม่ยอมคืนให้เจ้าของก็เท่ากับมีภาระต้องเสียภาษีอีกมหาศาล
    ถึงขั้นนายสนธิ ท้า ถ้าทนายตั้มมีหลักฐานการจ่ายภาษีจะยอมกราบตีนและไหนๆทนายตั้มอยากแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง สนธิ ลิ้มทองกุลก็จะยื่นหนังสือถึงกรมสรรพากรให้ตรวจสอบการเสียภาษี จากรายได้ก้อนนี้ด้วย จัดหนักให้สุดซอยแบบเดียวกับที่เคยจัดให้ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ตอนที่เปิดศึกกันครั้งที่ผ่านมา หลังรายการจบลงสื่อต่างๆก็นําไปรายงานข่าวกันอย่างคึกคัก แหกพฤติกรรมฉ้อโกงเงิน ไปจากเศรษฐีนีใจบุญที่เคยให้ความรักความเมตตากับทนายตั้มอย่างจริงใจ
    ชาวเน็ตมีความเห็นตรงกันมากว่า เป็นไปไม่ได้หรือไม่เชื่อที่ใครจะให้เงิน71 ล้านด้วยความเสน่หากับคนที่ไม่ใช่ญาติรวมถึงตรรกะว่า ถ้าอ้อย จตุพรให้ด้วยความเสน่หาจริงแล้วจะมาแจ้งจับทนายตั้มทําไม งานนี้ สนธิ ลิ้มทองกุลชนะขาด เครดิตความน่าเชื่อถือต่างกันลิบลับในด้านคดีความ ต้องบอกว่าทนายตั้มงานนี้เหนื่อยแน่เพราะสํานักงานตํารวจแห่งชาติมีคําสั่งให้โอนคดีจาก สภ ปากช่อง มายังกองปราบปรามเรียบร้อยแล้ว และเนื่องจากทนายตั้มใช้วิธีดักคอว่าพลตํารวจตรีจรูญ เกียรติปานแก้ว เหมือนเป็นคู่กรณีกลายๆจะมาคุมสํานวน
    สํานักงานตํารวจแห่งชาติจึงไม่เปิดช่องทางให้ทนายตั้มใช้ประเด็นนี้มาต่อสู้คดี จึงมอบหมายให้บิ๊กหมูพลตํารวจตรีสุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตํารวจสอบสวนกลางรับผิดชอบซึ่งตามประวัติบิ๊กหมูเป็นถึงผู้การกองปราบมาก่อน ลีลาก็ถึงลูกถึงคน ไม่กลัวใครหน้าไหนเหมือนกัน ในสถานการณ์ที่เห็นว่าตัวเองเพลี่ยงพล้ํา ทนายตั้มเลยยกเลิกเกมที่จะไปแจ้งจับใครต่อใครเปลี่ยนวิธีจะไปขอเจรจากับเจ้าของเงินแทน แต่โชคร้ายที่ออกแนวหลอกลวงมันรุนแรงเกินกว่าที่คู่กรณีจะยอมให้อภัยจึงจัดการปิดช่องทางการติดต่อสื่อสารทั้งหมด ทนายตั้มไม่สามารถติดต่อคุณอ้อยได้แล้ว
    การเปิดศึกกับสนธิ ลิ้มทองกุลและการไปบี้เอาเงินจากบอสพอล ทนายตั้มใช้วิธีการอ้างถึงรายการโหนกระแสเหมือนๆกัน เล่นเอาหนุ่มกรรชัยสุดทนพูดตําหนิทนายตั้มตรงๆ ว่าอย่าลากชื่อรายการไปเกี่ยวข้องและหนุ่มกรรชัยต้องรีบโทรเคลียร์กับสนธิลิ้มทองกุลว่ารายการโหนกระแสไม่ได้ตั้งใจจะฟอกขาวให้ทนายตั้ม ซึ่งต่างเข้าใจกันด้วยดี ดูเหลี่ยมไหนทนายตั้มก็รอดยากผู้คนกําลังรุมประณามลามปามไปถึงสังคมทนาย คิงส์ดำบอกเลยว่า ตั้มเอ้ย ซ้อมกินฉี่ไว้ล่วงหน้าได้เลย
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    #สนธิลิ้มทองกุล
    #ทนายตั้ม
    ข้อมูลที่สนธิลิ้มทองกุลเปิดโปงพฤติกรรมของทนายตั้ม นายสิทธา เบี้ยบังเกิด ตอกย้ําว่าอ้อยจตุพร ที่โอนเงินสองล้านยูโรหรือเจ็ดสิบเอ็ดล้านบาทเข้าบัญชีชื่อสิทธ์ธาเบี้ยบังเกิด ไม่ใช่การให้โดยเสน่ห์หายอย่างที่ทนายตั้มอ้าง และในเมื่อทนายตั้ม อมเงินก้อนนี้ไปโดยไม่ยอมคืนให้เจ้าของก็เท่ากับมีภาระต้องเสียภาษีอีกมหาศาล ถึงขั้นนายสนธิ ท้า ถ้าทนายตั้มมีหลักฐานการจ่ายภาษีจะยอมกราบตีนและไหนๆทนายตั้มอยากแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง สนธิ ลิ้มทองกุลก็จะยื่นหนังสือถึงกรมสรรพากรให้ตรวจสอบการเสียภาษี จากรายได้ก้อนนี้ด้วย จัดหนักให้สุดซอยแบบเดียวกับที่เคยจัดให้ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ตอนที่เปิดศึกกันครั้งที่ผ่านมา หลังรายการจบลงสื่อต่างๆก็นําไปรายงานข่าวกันอย่างคึกคัก แหกพฤติกรรมฉ้อโกงเงิน ไปจากเศรษฐีนีใจบุญที่เคยให้ความรักความเมตตากับทนายตั้มอย่างจริงใจ ชาวเน็ตมีความเห็นตรงกันมากว่า เป็นไปไม่ได้หรือไม่เชื่อที่ใครจะให้เงิน71 ล้านด้วยความเสน่หากับคนที่ไม่ใช่ญาติรวมถึงตรรกะว่า ถ้าอ้อย จตุพรให้ด้วยความเสน่หาจริงแล้วจะมาแจ้งจับทนายตั้มทําไม งานนี้ สนธิ ลิ้มทองกุลชนะขาด เครดิตความน่าเชื่อถือต่างกันลิบลับในด้านคดีความ ต้องบอกว่าทนายตั้มงานนี้เหนื่อยแน่เพราะสํานักงานตํารวจแห่งชาติมีคําสั่งให้โอนคดีจาก สภ ปากช่อง มายังกองปราบปรามเรียบร้อยแล้ว และเนื่องจากทนายตั้มใช้วิธีดักคอว่าพลตํารวจตรีจรูญ เกียรติปานแก้ว เหมือนเป็นคู่กรณีกลายๆจะมาคุมสํานวน สํานักงานตํารวจแห่งชาติจึงไม่เปิดช่องทางให้ทนายตั้มใช้ประเด็นนี้มาต่อสู้คดี จึงมอบหมายให้บิ๊กหมูพลตํารวจตรีสุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตํารวจสอบสวนกลางรับผิดชอบซึ่งตามประวัติบิ๊กหมูเป็นถึงผู้การกองปราบมาก่อน ลีลาก็ถึงลูกถึงคน ไม่กลัวใครหน้าไหนเหมือนกัน ในสถานการณ์ที่เห็นว่าตัวเองเพลี่ยงพล้ํา ทนายตั้มเลยยกเลิกเกมที่จะไปแจ้งจับใครต่อใครเปลี่ยนวิธีจะไปขอเจรจากับเจ้าของเงินแทน แต่โชคร้ายที่ออกแนวหลอกลวงมันรุนแรงเกินกว่าที่คู่กรณีจะยอมให้อภัยจึงจัดการปิดช่องทางการติดต่อสื่อสารทั้งหมด ทนายตั้มไม่สามารถติดต่อคุณอ้อยได้แล้ว การเปิดศึกกับสนธิ ลิ้มทองกุลและการไปบี้เอาเงินจากบอสพอล ทนายตั้มใช้วิธีการอ้างถึงรายการโหนกระแสเหมือนๆกัน เล่นเอาหนุ่มกรรชัยสุดทนพูดตําหนิทนายตั้มตรงๆ ว่าอย่าลากชื่อรายการไปเกี่ยวข้องและหนุ่มกรรชัยต้องรีบโทรเคลียร์กับสนธิลิ้มทองกุลว่ารายการโหนกระแสไม่ได้ตั้งใจจะฟอกขาวให้ทนายตั้ม ซึ่งต่างเข้าใจกันด้วยดี ดูเหลี่ยมไหนทนายตั้มก็รอดยากผู้คนกําลังรุมประณามลามปามไปถึงสังคมทนาย คิงส์ดำบอกเลยว่า ตั้มเอ้ย ซ้อมกินฉี่ไว้ล่วงหน้าได้เลย #คิงส์โพธิ์ดำ #สนธิลิ้มทองกุล #ทนายตั้ม
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • เห็นข่าวองุ่นพันธุ์หนึ่งที่นำเข้าจากต่างประเทศ ตรวจพบมีสารตกค้างมากถึง 50 ชนิด
    90% นำเข้าจากจีน ที่เหลือไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้

    ช่วงที่เกิดเหตุกลุ่มฮามาสถล่มอิสราเอล แรงงานชาวไทยต้องกลับประเทศ ลูกค้าคนหนึ่งเล่าว่า น้องชายของเธอก็เคยไปทำงานที่อิสราเอลเหมือนกัน ไปได้ปีกว่าก็กลับไทย ทั้งกลับมาเยี่ยมบ้านช่วงสงกรานต์ และถือโอกาสหาหมอด้วย เนื่องจากเหนื่อยง่าย ป่วยบ่อย และค่ารักษาที่นั่นแพง
    เมื่อน้องชายของเธอเอ็กซเรย์ปอดแล้วพบว่า ปอดหายไปหนึ่งข้าง นั่นเกิดจากการทำงาน น้องชายเธอเล่าให้เธอฟัง ที่นั่นใช้ยาตั้งแต่เพาะเมล็ดพันธุ์ แช่เมล็ดด้วยน้ำยาอะไรสักอย่าง พอพืชเริ่มโตก็ต้องพ่นยาเป็นประจำ เพราะพื้นที่เพาะปลูกแห้งแล้ง ต้องต่อสู้กับธรรมชาติอย่างหนัก จึงจำเป็นต้องฉีดพ่น ทั้งยาฆ่าแมลง ฮอร์โมนบำรุง ขณะที่ทำงานไม่มีเครื่องมือป้องกันสารพิษ หากอยากได้ต้องซื้อเอง แต่แพงมาก เหล่าคนงานไม่ค่อยมีใครกล้ากินพืชที่เพาะปลูก เพราะกลัวสารพิษ
    ถึงแม้ระยะเวลาที่ไปทำงานแค่ปีกว่า สามารถชดใช้คืนค่าตั๋ว ค่าเดินทาง และซื้อบ้าน ซื้อรถได้ครบที่ต้องการ แต่น้องชายก็มีอายุไม่ยืน หลังจากรักษาอยู่หลายเดือนน้องชายเธอก็จากไป ภรรยาน้องชายเสียใจมาก รำพันว่าไม่คุ้มเลยที่เอาชีวิตไปเสี่ยง

    ตอนฉันยังเด็ก ฉันก็ลูกชาวสวนผักคนหนึ่ง ถ้าผักเริ่มมีแมลงก่อกวน จะฉีดพ่นยาทันที ถึงแม้อีกสองวันจะต้องตัดขายแล้วก็ต้องทำ ผักที่ใบสวยย่อมราคาดีกว่าผักที่แคะแกร็น ใบเป็นรู หรือแหว่ง แต่นั่นไม่ได้แปลว่า ผักที่ใบเป็นรู มีรอยแทะแหว่งจะไม่โดนฉีดพ่นยา นั่นน่ะยิ่งหนักใหญ่เลย แต่เมื่อทำได้ดีที่สุดแค่นั้น ก็ต้องขายไปแบบนั้น ถูกกดราคาเช่นนั้นไป อย่าคิดว่าผักมีตำหนิ คือผักที่ปลูกธรรมชาติ ปลอดสารพิษเสมอไป

    แล้วเกี่ยวอะไรกับองุ่น
    ๑. การปลูกพืชผลเชิงพานิชย์ ต้องใช้สารเคมีอยู่แล้ว ถึงแม้ประเทศที่เจริญแล้ว มีเทคโนโลยีล้ำหน้าแล้วก็ยังต้องใช้
    ๒. ถ้า 90% มาจากจีน แล้วที่เหลือไม่สามารถระบุได้ เป็นไปได้หรือ ของนำเข้าจากต่างประเทศมีหรือจะระบุแหล่งที่มาไม่ได้ รู้แต่ไม่บอก หรือบอกไม่ได้มากกว่า และนั่นก็หมายความว่า ใครๆ เขาก็ใช้กัน
    ๓. ขณะที่นำเข้ามาต้องมีการสุ่มตรวจก่อนไม่หรือ แต่นี่กระจายลงมาถึงมือแม่ค้าแล้วค่อยออกข่าวเตือน ดูเหมือนหวังดี แต่จริงๆ กำลังช่วยเหลือผู้ที่นำเข้ามาอยู่หรือไม่ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องขาดทุน แต่องุ่นบนแผงแม่ค้าเน่าหมด เพราะขายไม่ได้
    ๔. นี่คือข่าวประเภท ดิสเครดิต ใช่หรือไม่ จีนโดนไปเต็มๆ

    ช่วงก่อนเข้าเทศกาลกินเจ มีญาติผู้ใหญ่มาเยี่ยมเยือน เอาองุ่นพันธุ์นี้มาฝากด้วย ตั้งหนึ่งลังแน่ะ ฉันไม่ใช่คนชอบกินองุ่น ยังว่ามันอร่อย หวาน กรอบดีจัง แล้วก็ยังอยู่ดี ไม่มีโรคภัยอะไรด้วย

    เห็นข่าวองุ่นพันธุ์หนึ่งที่นำเข้าจากต่างประเทศ ตรวจพบมีสารตกค้างมากถึง 50 ชนิด 90% นำเข้าจากจีน ที่เหลือไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ ช่วงที่เกิดเหตุกลุ่มฮามาสถล่มอิสราเอล แรงงานชาวไทยต้องกลับประเทศ ลูกค้าคนหนึ่งเล่าว่า น้องชายของเธอก็เคยไปทำงานที่อิสราเอลเหมือนกัน ไปได้ปีกว่าก็กลับไทย ทั้งกลับมาเยี่ยมบ้านช่วงสงกรานต์ และถือโอกาสหาหมอด้วย เนื่องจากเหนื่อยง่าย ป่วยบ่อย และค่ารักษาที่นั่นแพง เมื่อน้องชายของเธอเอ็กซเรย์ปอดแล้วพบว่า ปอดหายไปหนึ่งข้าง นั่นเกิดจากการทำงาน น้องชายเธอเล่าให้เธอฟัง ที่นั่นใช้ยาตั้งแต่เพาะเมล็ดพันธุ์ แช่เมล็ดด้วยน้ำยาอะไรสักอย่าง พอพืชเริ่มโตก็ต้องพ่นยาเป็นประจำ เพราะพื้นที่เพาะปลูกแห้งแล้ง ต้องต่อสู้กับธรรมชาติอย่างหนัก จึงจำเป็นต้องฉีดพ่น ทั้งยาฆ่าแมลง ฮอร์โมนบำรุง ขณะที่ทำงานไม่มีเครื่องมือป้องกันสารพิษ หากอยากได้ต้องซื้อเอง แต่แพงมาก เหล่าคนงานไม่ค่อยมีใครกล้ากินพืชที่เพาะปลูก เพราะกลัวสารพิษ ถึงแม้ระยะเวลาที่ไปทำงานแค่ปีกว่า สามารถชดใช้คืนค่าตั๋ว ค่าเดินทาง และซื้อบ้าน ซื้อรถได้ครบที่ต้องการ แต่น้องชายก็มีอายุไม่ยืน หลังจากรักษาอยู่หลายเดือนน้องชายเธอก็จากไป ภรรยาน้องชายเสียใจมาก รำพันว่าไม่คุ้มเลยที่เอาชีวิตไปเสี่ยง ตอนฉันยังเด็ก ฉันก็ลูกชาวสวนผักคนหนึ่ง ถ้าผักเริ่มมีแมลงก่อกวน จะฉีดพ่นยาทันที ถึงแม้อีกสองวันจะต้องตัดขายแล้วก็ต้องทำ ผักที่ใบสวยย่อมราคาดีกว่าผักที่แคะแกร็น ใบเป็นรู หรือแหว่ง แต่นั่นไม่ได้แปลว่า ผักที่ใบเป็นรู มีรอยแทะแหว่งจะไม่โดนฉีดพ่นยา นั่นน่ะยิ่งหนักใหญ่เลย แต่เมื่อทำได้ดีที่สุดแค่นั้น ก็ต้องขายไปแบบนั้น ถูกกดราคาเช่นนั้นไป อย่าคิดว่าผักมีตำหนิ คือผักที่ปลูกธรรมชาติ ปลอดสารพิษเสมอไป แล้วเกี่ยวอะไรกับองุ่น ๑. การปลูกพืชผลเชิงพานิชย์ ต้องใช้สารเคมีอยู่แล้ว ถึงแม้ประเทศที่เจริญแล้ว มีเทคโนโลยีล้ำหน้าแล้วก็ยังต้องใช้ ๒. ถ้า 90% มาจากจีน แล้วที่เหลือไม่สามารถระบุได้ เป็นไปได้หรือ ของนำเข้าจากต่างประเทศมีหรือจะระบุแหล่งที่มาไม่ได้ รู้แต่ไม่บอก หรือบอกไม่ได้มากกว่า และนั่นก็หมายความว่า ใครๆ เขาก็ใช้กัน ๓. ขณะที่นำเข้ามาต้องมีการสุ่มตรวจก่อนไม่หรือ แต่นี่กระจายลงมาถึงมือแม่ค้าแล้วค่อยออกข่าวเตือน ดูเหมือนหวังดี แต่จริงๆ กำลังช่วยเหลือผู้ที่นำเข้ามาอยู่หรือไม่ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องขาดทุน แต่องุ่นบนแผงแม่ค้าเน่าหมด เพราะขายไม่ได้ ๔. นี่คือข่าวประเภท ดิสเครดิต ใช่หรือไม่ จีนโดนไปเต็มๆ ช่วงก่อนเข้าเทศกาลกินเจ มีญาติผู้ใหญ่มาเยี่ยมเยือน เอาองุ่นพันธุ์นี้มาฝากด้วย ตั้งหนึ่งลังแน่ะ ฉันไม่ใช่คนชอบกินองุ่น ยังว่ามันอร่อย หวาน กรอบดีจัง แล้วก็ยังอยู่ดี ไม่มีโรคภัยอะไรด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดาวหางทึ่มองจากจังหวัดเชียงใหม่(ขอบคุณเครดิตรูปภาพจากข่าว)
    ดาวหางทึ่มองจากจังหวัดเชียงใหม่(ขอบคุณเครดิตรูปภาพจากข่าว)
    Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..นี้คือหมากล้างสมองคนไทยคนเกษตรอีกตัว,โยนหินถามทางมานานกว่าสิบๆแล้ว จากธนาคารต้นไม้นั้นเอง ผันมาสู่คาร์บอนเครดิต กัดกินสู่การควบคุมที่ละขั้น&แบบเนียนๆโดยเอาตังมาล่อ,อนาคตจะมีธนาคารนายทุนปล่อยเงินกู้คาร์บอนเครดิตแก่ประชาชนเหมือนกับตังเราเลย เพื่อสร้างสภาพคล่องในการดำรงขีวิตและใช้ชีวิต,คนไทยเรากำลังเอาเชือกมารัดคอตัวเอง เอาโซ่มาผูกขาตนเองให้ไร้อิสระภาพจากการล้างสมองของนักวิชาการรับจ้างหรือหลงผิด พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศคือตัวพ่อจะควบคุมทัังหมดรวมถึงคาร์บอนเครดิตเป็นหนึ่งในบริบทเชื่อมตังดิจิดัลคาร์บอนเครดิตก็ได้ อีลิทเอาคาร์บอนเครดิตส่งมอบให้กันเช่นนายAตั้งธนาคารคาร์บอนเครดิตที่รับมาจากอีลิทให้เครดิตมาสัก100ล้านล้านคาร์บอนเครดิตไว้ปล่อยกู้ให้ประชาชนไปจ่ายเครดิตคาร์บอนในชีวิตประจำวัน เงินเดือนในอนาคคก็จะจ่ายเป็นคาร์บอนเครดิต,จะขายสินค้าเกษตรก็ซื้อหรือจ่ายเป็นคาร์บอนเครดิต,ขึ้นรถลงเรือเดินทางทานอาหารต้องจ่ายเป็นคาร์บอนเครดิต คนไม่มีป่ามีนามีต้นไม้ก็จะกู้หรือดิ้นรนหาคาร์บอนเครดิต,จากนั้นก็มีตลาดหุ้นคาร์บอนเครดิต บริษัทต่างที่เข้าตลาดหุ้นก็ขับเคลื่อนด้วยคาร์บอนเครดิต ปั่นราคากันสไตล์ตลาดsetนี้ล่ะ,ใครร่ำรวยและควบคุมมนุษย์ก็อีลิทนี้ล่ะ ย้ายหมากย้ายตังจากกระเป๋าซ้ายเข้ากระเป๋าขวาเหมือนเดิมแค่เปลี่ยนวิธีเล่น แล้วทั้งหมดถูกควบคุมที่คนเดียวคืออีลิทนั้นล่ะ แต่ทาสรุ่นใหม่คือคนที่ตกหลุมคาร์บอนเครดิตนี้ล่ะ,เขาฉลาดสร้างภาพทางคนเกษตรก่อน เข้าใจง่ายๆว่าจะได้ตัง มุกหาเสียงเดิมๆชวนจากเหยื่อล่อด้วยตัง เหยื่อกระโดดคาบกินอาหารมันเต็มที่ดีใจเหมือนปลาได้น้ำตอนแรก จะอนาถเมื่อนานๆไปเหมือนกบถูกต้มบนหม้อที่เร่งไฟที่ละนิดจนเมื่อรู้ว่าเดือดทนไม่ได้ก็เกือบสุกในพริบตาปิดฝาปรุงทำอาหารอย่สงเชือดนิ่มๆ,อีลิทเขาสนุก เล่นสนุกๆกับมนุษย์เฉยๆ มันไม่มีอะไรทำแค่นั้นเพราะไปเก่งที่จักรวาลอื่นไม่ได้เพราะกากกว่าเขา,เลยหนีมาหลบซ่อนบนโลกเรายึดโลกเรา ตัดแต่งdnaเราจนสนุก ของเล่นมัน,เพราะเราโง่กว่าเขามากเช่นกัน,ทางเดียวคือบรรลุจิตวิญญาณแบบไทยๆเราเป็นเช่นพ่อแม่ครูบาอาจารย์นำทางเรา กษัตริย์ผู้ทรงธรรมนำทางเรา จึงพอต่อกรกันได้และการตื่นรู้ค่าจริงด้วยบนสังคมไทยเราต้องมีก่อนเพื่อจะก่อสามัคคีทั้งประเทศได้ จึงพอเดินร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคทั้งแผ่นดินไทยเราได้,ผู้นำที่กากๆจะมานำไม่ได้ต้องถีบออกไปเพราะศึกนีัสำคัญมาก เราไปด้วยกันหมดนั้นเองในชื่อว่าคนไทยนีัก่อน,ชาติอื่นก็เกินการควบคุมของเราแต่ประสานร่วมมือจับมือกันจริงจังทั้งโลกได้ยิ่งดี,ศัตรูคือมารอีลิทจะถูกสแกนกำจัดได้ง่ายขึ้นบนโลกเราที่พวกมันยึดครองไป,เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆมันคือชีวิตเลยล่ะ แบบฉีดวัคซีนนั้นล่ะตาย&ถูกลดประชากรทัังโลกรวมทั้งไทยด้วยอย่างชัดเจน,มันฆ่าคนไทยและชาวโลกจริงๆ,พันธมิตรอดีตเสื้อเหลืองเองยังพลาด ยังไปพากันฉีดวัคซีน ซึ่งผิดวิสัยมากว่าจะไม่รู้ได้อย่างไร,แถมชี้ชวนไปร่วมรณรงค์การฉีดอีกแม้กั๊กอยู่ในยุคนั้นแต่บริบทแจังเตือนแจ้งต่อต้านการฉีดไร้ความจริงจังอย่างชัดเจนเงียบหมด,จุดยืนว่าคนไทยคนเสื้อเหลืองเราอย่าฉีดนะไม่มีเลย,สันติอโศกเองก็ฉีดกันตรึม จึงน่าผิดหวังในการข่าวแจ้งเตือนมากในยุคๆนั้นเริ่มต้น,เพราะชื่อเสียงมากคนติดตามเยอะจะมีคนรับฟังถึงขั้นเชื่อกันระวังภัยช่วยกันได้ดี,หลังๆจึงค่อยออกมาบอกถึงพิษภัยมันแต่ก็สายเกินไปเพราะฉีดกันครบหมดแล้ว,สุดท้ายอ.ปานเทพจึงค่อยเปิดตัวแรงชัดเจนออกมา,น่าผิดหวังจริงๆหากพูดกันตรง ระดับม.รังสิตการข่าวไม่น่าพลาด ทั้งในและทางต่างประเทศที่เปิดกว้างข้อมูลการแฉพิษภัยของวัคซีน,เพราะทั้งอ.ธีระวัฒน์อ.ปานเทพโดดเด่นจากกัญชาเสรีมาแล้วคนติดตามเยอะมาก ยุคภัยโควิดยังตกใจว่าทำไมไม่ออกมาร่วมต่อต้านภัยจากวัคซีนmRNAนี้ หลังๆจึงเข้าใจว่าติดสัญญารับทุน,ถูกปิดปากสายเนียนๆก็ว่า,แต่ก็ยังดี ที่แอคชั่นในปัจจุบัน ,การผิดพลาดคือความตายของทัังประเทศ องค์ภาเราก็โดน อ.สุจริตบินตรงมาเลยก็ว่า,สายวังการข่าวกากมาก,ไม่น่าผิดพลาดได้เลยด้วยอะไรๆล้ำๆตรึมกว่าคนบ้านนอกชนบท เครื่องมือคนมีความรู้จบสูงๆภาษาต่างชาติภาษาฝรั่งเต็มภูมิเต็มวังรอบด้าน ทหารองค์รักษ์ข่าวกรอกต้องสุดยอดถึงภัยร้ายแรงระดับปกป้องชาติให้พ้นภัยได้ แต่ตกต่ำตกประเมินไร้ประสิทธิภาพมาก,องค์ภาเราเลยโดนด้วย,เพราะพระองค์ท่านกำลังขับเคลื่อนกองทุนแม่ของแผ่นดิน น่าจะไปได้ดีด้วย.ต้องหยุดชะงักเลย.
    ..พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศมันคือภัยความมั่นคงทางอิสระภาพชีวิตคนไทยมาก ไม่ต่างจากพรบ.ปิโตรเลียมเลย,ทาสทางพลังงานนั้น,แต่นี้หนักกว่าเพราะคือกลไกการปกครองประเทศทั้งหมด,อันตรายมาก นัยยะเป็นภัยรอบทิศทาง.
    ..คาร์บอนเครดิตเป็นเดอะแก๊งหนึ่งที่สมคบคิดร่วมสุมหัวกันใหญ่มาก,เอกชนหรือหน่วยงานใด รับงานมาจริงๆต้องถูกกำจัดตัดตอนทั้งหมดทันทีรวมถึงบุคคลด้วยต้องไปวัดเพราะจิตสำนึกรู้ดีรู้ชั่ว รู้ผิดรู้ถูกไม่มีในสันดานจริตจิตมันแล้ว หายนะพิบัติภัยของแผ่นดินเลยนะแต่เดอะแก๊งพวกมันนี้ตั้งใจอย่างเต็มที่ให้บรรลุผลงานตามเป้าหมายมันนั้นเอง.,ภัยต่อชาติต่อคนไทยจะเก็บไว้ทำซากอะไร.
    ..นี้คือหมากล้างสมองคนไทยคนเกษตรอีกตัว,โยนหินถามทางมานานกว่าสิบๆแล้ว จากธนาคารต้นไม้นั้นเอง ผันมาสู่คาร์บอนเครดิต กัดกินสู่การควบคุมที่ละขั้น&แบบเนียนๆโดยเอาตังมาล่อ,อนาคตจะมีธนาคารนายทุนปล่อยเงินกู้คาร์บอนเครดิตแก่ประชาชนเหมือนกับตังเราเลย เพื่อสร้างสภาพคล่องในการดำรงขีวิตและใช้ชีวิต,คนไทยเรากำลังเอาเชือกมารัดคอตัวเอง เอาโซ่มาผูกขาตนเองให้ไร้อิสระภาพจากการล้างสมองของนักวิชาการรับจ้างหรือหลงผิด พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศคือตัวพ่อจะควบคุมทัังหมดรวมถึงคาร์บอนเครดิตเป็นหนึ่งในบริบทเชื่อมตังดิจิดัลคาร์บอนเครดิตก็ได้ อีลิทเอาคาร์บอนเครดิตส่งมอบให้กันเช่นนายAตั้งธนาคารคาร์บอนเครดิตที่รับมาจากอีลิทให้เครดิตมาสัก100ล้านล้านคาร์บอนเครดิตไว้ปล่อยกู้ให้ประชาชนไปจ่ายเครดิตคาร์บอนในชีวิตประจำวัน เงินเดือนในอนาคคก็จะจ่ายเป็นคาร์บอนเครดิต,จะขายสินค้าเกษตรก็ซื้อหรือจ่ายเป็นคาร์บอนเครดิต,ขึ้นรถลงเรือเดินทางทานอาหารต้องจ่ายเป็นคาร์บอนเครดิต คนไม่มีป่ามีนามีต้นไม้ก็จะกู้หรือดิ้นรนหาคาร์บอนเครดิต,จากนั้นก็มีตลาดหุ้นคาร์บอนเครดิต บริษัทต่างที่เข้าตลาดหุ้นก็ขับเคลื่อนด้วยคาร์บอนเครดิต ปั่นราคากันสไตล์ตลาดsetนี้ล่ะ,ใครร่ำรวยและควบคุมมนุษย์ก็อีลิทนี้ล่ะ ย้ายหมากย้ายตังจากกระเป๋าซ้ายเข้ากระเป๋าขวาเหมือนเดิมแค่เปลี่ยนวิธีเล่น แล้วทั้งหมดถูกควบคุมที่คนเดียวคืออีลิทนั้นล่ะ แต่ทาสรุ่นใหม่คือคนที่ตกหลุมคาร์บอนเครดิตนี้ล่ะ,เขาฉลาดสร้างภาพทางคนเกษตรก่อน เข้าใจง่ายๆว่าจะได้ตัง มุกหาเสียงเดิมๆชวนจากเหยื่อล่อด้วยตัง เหยื่อกระโดดคาบกินอาหารมันเต็มที่ดีใจเหมือนปลาได้น้ำตอนแรก จะอนาถเมื่อนานๆไปเหมือนกบถูกต้มบนหม้อที่เร่งไฟที่ละนิดจนเมื่อรู้ว่าเดือดทนไม่ได้ก็เกือบสุกในพริบตาปิดฝาปรุงทำอาหารอย่สงเชือดนิ่มๆ,อีลิทเขาสนุก เล่นสนุกๆกับมนุษย์เฉยๆ มันไม่มีอะไรทำแค่นั้นเพราะไปเก่งที่จักรวาลอื่นไม่ได้เพราะกากกว่าเขา,เลยหนีมาหลบซ่อนบนโลกเรายึดโลกเรา ตัดแต่งdnaเราจนสนุก ของเล่นมัน,เพราะเราโง่กว่าเขามากเช่นกัน,ทางเดียวคือบรรลุจิตวิญญาณแบบไทยๆเราเป็นเช่นพ่อแม่ครูบาอาจารย์นำทางเรา กษัตริย์ผู้ทรงธรรมนำทางเรา จึงพอต่อกรกันได้และการตื่นรู้ค่าจริงด้วยบนสังคมไทยเราต้องมีก่อนเพื่อจะก่อสามัคคีทั้งประเทศได้ จึงพอเดินร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคทั้งแผ่นดินไทยเราได้,ผู้นำที่กากๆจะมานำไม่ได้ต้องถีบออกไปเพราะศึกนีัสำคัญมาก เราไปด้วยกันหมดนั้นเองในชื่อว่าคนไทยนีัก่อน,ชาติอื่นก็เกินการควบคุมของเราแต่ประสานร่วมมือจับมือกันจริงจังทั้งโลกได้ยิ่งดี,ศัตรูคือมารอีลิทจะถูกสแกนกำจัดได้ง่ายขึ้นบนโลกเราที่พวกมันยึดครองไป,เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆมันคือชีวิตเลยล่ะ แบบฉีดวัคซีนนั้นล่ะตาย&ถูกลดประชากรทัังโลกรวมทั้งไทยด้วยอย่างชัดเจน,มันฆ่าคนไทยและชาวโลกจริงๆ,พันธมิตรอดีตเสื้อเหลืองเองยังพลาด ยังไปพากันฉีดวัคซีน ซึ่งผิดวิสัยมากว่าจะไม่รู้ได้อย่างไร,แถมชี้ชวนไปร่วมรณรงค์การฉีดอีกแม้กั๊กอยู่ในยุคนั้นแต่บริบทแจังเตือนแจ้งต่อต้านการฉีดไร้ความจริงจังอย่างชัดเจนเงียบหมด,จุดยืนว่าคนไทยคนเสื้อเหลืองเราอย่าฉีดนะไม่มีเลย,สันติอโศกเองก็ฉีดกันตรึม จึงน่าผิดหวังในการข่าวแจ้งเตือนมากในยุคๆนั้นเริ่มต้น,เพราะชื่อเสียงมากคนติดตามเยอะจะมีคนรับฟังถึงขั้นเชื่อกันระวังภัยช่วยกันได้ดี,หลังๆจึงค่อยออกมาบอกถึงพิษภัยมันแต่ก็สายเกินไปเพราะฉีดกันครบหมดแล้ว,สุดท้ายอ.ปานเทพจึงค่อยเปิดตัวแรงชัดเจนออกมา,น่าผิดหวังจริงๆหากพูดกันตรง ระดับม.รังสิตการข่าวไม่น่าพลาด ทั้งในและทางต่างประเทศที่เปิดกว้างข้อมูลการแฉพิษภัยของวัคซีน,เพราะทั้งอ.ธีระวัฒน์อ.ปานเทพโดดเด่นจากกัญชาเสรีมาแล้วคนติดตามเยอะมาก ยุคภัยโควิดยังตกใจว่าทำไมไม่ออกมาร่วมต่อต้านภัยจากวัคซีนmRNAนี้ หลังๆจึงเข้าใจว่าติดสัญญารับทุน,ถูกปิดปากสายเนียนๆก็ว่า,แต่ก็ยังดี ที่แอคชั่นในปัจจุบัน ,การผิดพลาดคือความตายของทัังประเทศ องค์ภาเราก็โดน อ.สุจริตบินตรงมาเลยก็ว่า,สายวังการข่าวกากมาก,ไม่น่าผิดพลาดได้เลยด้วยอะไรๆล้ำๆตรึมกว่าคนบ้านนอกชนบท เครื่องมือคนมีความรู้จบสูงๆภาษาต่างชาติภาษาฝรั่งเต็มภูมิเต็มวังรอบด้าน ทหารองค์รักษ์ข่าวกรอกต้องสุดยอดถึงภัยร้ายแรงระดับปกป้องชาติให้พ้นภัยได้ แต่ตกต่ำตกประเมินไร้ประสิทธิภาพมาก,องค์ภาเราเลยโดนด้วย,เพราะพระองค์ท่านกำลังขับเคลื่อนกองทุนแม่ของแผ่นดิน น่าจะไปได้ดีด้วย.ต้องหยุดชะงักเลย. ..พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศมันคือภัยความมั่นคงทางอิสระภาพชีวิตคนไทยมาก ไม่ต่างจากพรบ.ปิโตรเลียมเลย,ทาสทางพลังงานนั้น,แต่นี้หนักกว่าเพราะคือกลไกการปกครองประเทศทั้งหมด,อันตรายมาก นัยยะเป็นภัยรอบทิศทาง. ..คาร์บอนเครดิตเป็นเดอะแก๊งหนึ่งที่สมคบคิดร่วมสุมหัวกันใหญ่มาก,เอกชนหรือหน่วยงานใด รับงานมาจริงๆต้องถูกกำจัดตัดตอนทั้งหมดทันทีรวมถึงบุคคลด้วยต้องไปวัดเพราะจิตสำนึกรู้ดีรู้ชั่ว รู้ผิดรู้ถูกไม่มีในสันดานจริตจิตมันแล้ว หายนะพิบัติภัยของแผ่นดินเลยนะแต่เดอะแก๊งพวกมันนี้ตั้งใจอย่างเต็มที่ให้บรรลุผลงานตามเป้าหมายมันนั้นเอง.,ภัยต่อชาติต่อคนไทยจะเก็บไว้ทำซากอะไร.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 389 มุมมอง 245 0 รีวิว
  • ก่อนอื่นทำความเข้าใจก่อน...คดีฟอกเงิน มันต้องมีสารตั้งต้น ว่า ฟอกจากอะไร ทุจริต คอรัปชั่น การพนัน ค้ามนุษย์ หรือสิ่งผิดกฏหมายอื่นๆ ....ไม่ใช่ไม่มีมูลเหตุ แล้วไปแจ้งข้อหาฟอกเงินแก่เขา...
    ..สมัยก่อนมีมานานมากแล้ว จะฟอกในธุรกิจเอกชน ที่เชื่อถือกัน.และมีเครดิตที่ดี เช่นกลุ่มธุรกิจ ที่มีธุรกิจในกงสี หลายๆตัว....ในหลากหลายประเภทธุรกิจ...
    ...แต่แล้วพบว่า สภาพคล่อง ในการเปลี่ยนเป็นเงินสด แบบ "ทันใจ" บางทีก็ทำไม่ได้...เพราะบางประเภทเป็นอสังหา โรงแรม อาบอบนวด และอื่นๆ ซึ่งสภาพคล่องต่ำ...เวลาอยากใช้เงิน.
    ...จนต้องหารูปแบบธุรกิจที่สภาพคล่องดีๆ เปลี่ยนเป็นเงินสด ได้แบบทันอกทันใจยามที่ต้องการ...
    ..เช่น พระเครื่อง เพชร หุ้น รถยนต์ ...และอื่นๆ.......ซึ่งเป็นที่นิยมมากในขณะนี้...
    ..
    ก่อนอื่นทำความเข้าใจก่อน...คดีฟอกเงิน มันต้องมีสารตั้งต้น ว่า ฟอกจากอะไร ทุจริต คอรัปชั่น การพนัน ค้ามนุษย์ หรือสิ่งผิดกฏหมายอื่นๆ ....ไม่ใช่ไม่มีมูลเหตุ แล้วไปแจ้งข้อหาฟอกเงินแก่เขา... ..สมัยก่อนมีมานานมากแล้ว จะฟอกในธุรกิจเอกชน ที่เชื่อถือกัน.และมีเครดิตที่ดี เช่นกลุ่มธุรกิจ ที่มีธุรกิจในกงสี หลายๆตัว....ในหลากหลายประเภทธุรกิจ... ...แต่แล้วพบว่า สภาพคล่อง ในการเปลี่ยนเป็นเงินสด แบบ "ทันใจ" บางทีก็ทำไม่ได้...เพราะบางประเภทเป็นอสังหา โรงแรม อาบอบนวด และอื่นๆ ซึ่งสภาพคล่องต่ำ...เวลาอยากใช้เงิน. ...จนต้องหารูปแบบธุรกิจที่สภาพคล่องดีๆ เปลี่ยนเป็นเงินสด ได้แบบทันอกทันใจยามที่ต้องการ... ..เช่น พระเครื่อง เพชร หุ้น รถยนต์ ...และอื่นๆ.......ซึ่งเป็นที่นิยมมากในขณะนี้... ..
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลงานชิ้นเอก ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

    เป็นหนังสือเกี่ยวกับพุทธศาสนา ที่ดีที่สุดในยุคแผ่นดินรัชกาลที่ ๙

    เป็นหนังสือที่เป็นแรงบันดาลใจ ให้พระไพศาล วิสาโล บวชไม่คิดสึก

    ‘พุทธธรรม’ ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์. (พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)) คือ หนังสือที่พระไพศาลยกย่อง ถึงขั้นที่ว่าถ้ามีหนังสือเพียงเล่มเดียวที่สามารถติดตัวไปได้ในชีวิต ‘พุทธธรรม’ คือ เล่มที่ท่านเลือก...

    “หนังสือเล่มนี้อาตมาอ่านจบช่วงเข้าพรรษาสมัยที่เป็นฆราวาส เมื่อ พ.ศ. 2525 ตั้งใจว่าอ่านให้ได้วันละ 10 หน้า ก็อ่านได้ทุกวัน พรรษาหนึ่งประมาณ 90 กว่าวัน หนังสือมีความหนาประมาณพันกว่าหน้า อ่านตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายก็พอดี เป็นการฝึกความเพียรและวินัยด้วย บางทีเราเดินทางไปต่างจังหวัดก่อนหน้านั้นวันหนึ่งจะต้องอ่านเพิ่มอีก 10 หน้าเพื่อชดเชยกับวันที่ต้องเดินทาง”

    นอกจากความเพียรในการอ่านแล้ว ช่วงนั้นพระไพศาลซึ่งเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่เพิ่งจบมหาวิทยาลัยยังได้รับความเมตตาจากพระราชวรมุนี (สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์) อนุญาตให้เข้าพบเป็นประจำทุกเดือน เพื่อสนทนาธรรมสอบถามข้อสงสัยจากหนังสืออีกด้วย

    “อ่านหนังสือแล้วไปถามท่านเราก็ได้ความกระจ่างเยอะ ถือเป็นความโชคดีในฐานะนักอ่าน ยิ่งได้คุยกับท่านยิ่งรู้ว่า ท่านเป็นผู้มีสติปัญญาล้ำเลิศ ถ้าจัดเรตให้ต้องถือว่าเฟิร์สตเรต อัศจรรย์มาก”

    พุทธธรรมเป็นวรรณกรรมพุทธศาสนา ที่ได้รับการยอมรับว่าแสดงหลักธรรมของพระพุทธศาสนาเถรวาทอย่างซื่อตรงต่อพระ ไตรปิฎกเป็นอย่างยิ่ง นำเสนอหลักการและสาระสำคัญของพระพุทธศาสนาอย่างครบถ้วน และเป็นระบบอย่างชัดเจน พิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2514 ต่อมาในปี พ.ศ. 2525 ผู้เขียนได้ปรับปรุงและขยายความเพิ่มขึ้น จนกลายเป็นหนังสือเล่มใหญ่หนาเป็นพันหน้า

    “อ่านไปก็อดทึ่งคนเขียนไม่ได้ว่าทั้งฉลาดทั้งมีความเพียรสูง ค้นข้อมูลมามากทีเดียวกว่าจะเขียนได้อย่างนี้ คือไม่ใช่แค่สรุปความย่อความเหมือนหนังสือบางเล่ม แต่เป็นการเขียนขึ้นมาใหม่ โดยมีพระไตรปิฎก เป็นพื้นฐาน นำเสนอด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ด้วยวิธีคิดของคนสมัยใหม่ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เราจะไม่เจอแบบนี้ในงานเขียนพระพุทธศาสนา บางทีเคยไปเจอหนังสือเกี่ยวกับสาระพระไตรปิฎก เขียนโดยฆราวาสที่เคยบวชพระมาจะเห็นว่าลีลาสไตล์การเขียนแตกต่างกัน บางทีก็แค่ย่อความมาให้เราดู การย่อความก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ท่านเจ้าประคุณทำได้มากกว่านั้น จึงนำมาเสนอใหม่ ด้วยชนิดที่เรียกว่าสามารถจะสื่อสารกับเราด้วยภาษาของเราได้ และพยายามโยงให้เข้าถึงปัญหาสังคมสมัยใหม่โดยใช้มุมมองแบบพุทธ ซึ่งสมควรแล้วที่คนจะพูดว่าเป็นเล่มที่ดีที่สุดในยุครัชกาลที่ 9 และถือว่าเป็นเล่มที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งของรัตนโกสินทร์”

    อาตมายกให้หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือดีของชีวิต ประการที่หนึ่งเพราะนำเสนอพุทธธรรมอย่างเป็นระบบและรอบด้านที่สุดภายในเล่มเดียว คือมีหลายท่านพูดถึงพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้งแต่พูดเป็นบางแง่ อย่างท่านพุทธทาสก็พูดเป็นบางแง่ เช่น ปฏิจจสมุปบาท อิทัปปัจจยตา แต่เล่มนี้พูดครบทุกแง่อย่างเป็นระบบ ทุกแง่ทุกมุมอยู่ในหนังสือเล่มนี้แล้ว ขอให้ค้นให้เป็น อาตมาเคยพูดนะว่าหนังสือเล่มนี้มี 3 มิติ ทั้งลึก กว้าง ไกล ลึกคือทำให้เราเข้าใจความจริงที่ลึกซึ้งของตัวเอง และทำให้เราเห็นกว้าง เห็นโลกและสังคมได้อย่างกว้าง เล่มนี้จะพูดถึงสังคมสมัยใหม่ไว้พอสมควร ทำให้เราได้เห็นมิติด้านไกล นั่นคือได้เห็นว่าการสอนพุทธศาสนานี้ผ่านการตีความมายังไงบ้าง ประการต่อมาคือใช้ภาษาที่งดงามสละสลวย ภาษาท่านงดงามมาก และสามารถสื่อได้ตรงใจผู้เขียน แม้ว่าเนื้อหาจะลึกซึ้ง คือทุกวันนี้แม้ตัวเองจะอ่านงานท่านเจ้าประคุณมาเยอะ เวลาจะสื่ออะไรบางอย่าง เรารู้สึกว่าเราจนต่อถ้อยคำ ไม่สามารถจะเขียนให้สุดความคิดได้ แต่หนังสือเล่มนี้ท่านเจ้าประคุณสามารถบรรยายให้สุดความคิดได้ อาตมาคิดว่าเป็นแบบอย่างของงานเขียนในทางศาสนาและงานวิชาการได้ คือมีทั้งอรรถและรส อรรถคือเนื้อหา รสคือรสของภาษา”

    ซึ่งพระไพศาลยอมรับว่าได้รับอิทธิพลจากสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต) และท่านพุทธทาส ในการใช้ชีวิตและเขียนหนังสือพอสมควร โดยเฉพาะจากหนังสือพุทธธรรมนั้นมีอิทธิพลต่องานเขียน และการค้นคว้าทางพุทธศาสนาอย่างมาก

    “ถ้ามีเล่มเดียวที่สามารถติดไปได้ในชีวิตก็เล่มนี้แหละ ถึงแม้จะหนักหน่อยก็ตาม อาตมายังรู้สึกเลยนะว่าหนังสือเล่มนี้ทำให้เราภูมิใจที่เป็นคนไทย การที่คุณเป็นคนไทยแล้วได้อ่านหนังสือเล่มนี้ถือว่าโชคดีและคุ้มค่าในการที่ได้เป็นคนไทยแล้ว บางทีเราก็รู้สึกว่าเป็นฝรั่งโชคดีนะ ได้อ่านหนังสือที่ลึกซึ้ง หนังสือเยอะแยะหลากหลาย แต่พุทธธรรมนี่แหละที่ทำให้เราสามารถเป็นที่อิจฉาของฝรั่งได้ เพราะฝรั่งอ่านเล่มนี้ไม่ได้ แต่คนไทยอ่านได้ ฉะนั้นถ้าในแง่ชาวพุทธและในแง่ความเป็นคนไทย หนังสือเล่มนี้จะทำให้เราภูมิใจและรู้สึกโชคดีที่ได้เป็นคนไทย ที่อ่านภาษาไทยออก”

    และถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีหนังสือพุทธธรรมในครอบครอง แต่ยังไม่เคยเปิดอ่าน พระไพศาลบอกว่าเป็นสิ่งที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง เพราะรสชาติของหนังสือเล่มนี้แตกต่างจากหนังสือทั่ว ๆ ไป

    “อ่านแล้วจะทำให้เกิดความพิศวงและความปีติเมื่อได้พบความจริง”
    นั่นคือพุทธธรรม...

    Save เก็บได้เลย... 1360 หน้า อัพเดทล่าสุด เป็นฉบับปรับขยายครับ อ่านวันละ 10 หน้าแป๊บเดี๋ยวก็จบแล้ว
    https://www.watnyanaves.net/uploads/File/books/pdf/buddhadhamma_extended_edition.pdf?fbclid=IwAR1WFAHlZSqoUQa01X13IvZno7o9FgFuHC450ktPmxfQAxLyUtGOl9ndrSY

    ท่านสามารถดาวโหลดเสียงอ่านหนังสือ
    "พุทธธรรม ฉบับปรับขยาย"
    ของ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต))

    เสียงอ่านโดย..พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล

    ได้ที่ Link เสียงอ่าน พุทธธรรม
    http://bit.ly/1nZnfef

    Link สำหรับพุทธธรรม ๒๓ บท ตามนี้ครับ

    ๐๑. ขันธ์5
    http://bit.ly/1qih1Xj

    ๐๒. อายตนะ ๖
    http://bit.ly/1Xq7tVe

    ๐๓.ไตรลักษณ์
    http://bit.ly/1VhCuNd

    ๐๔. ปฏิจสุปบาท
    http://bit.ly/1SYJnj1

    ๐๕. กรรม
    http://bit.ly/20u0M6t

    ๐๖. นิพพาน
    http://bit.ly/1Q2AZKF

    ๐๗. ประเภทนิพพาน
    http://bit.ly/1qIMFOI

    ๐๘. สมถะ-วิปัสสนา
    http://bit.ly/1UUvg1A

    ๐๙. หลักการสำคัญของการบรรลุนิพพาน
    http://bit.ly/1VLTVUU

    ๑๐. บทสรุปเรื่องนิพพาน
    http://bit.ly/23wfOdI

    ๑๑. บทนำมัชฌิมาปฏิปทา
    http://bit.ly/1S4wT9r

    ๑๒. ปรโตโฆสะที่ดี_กัลยาณมิตร
    http://bit.ly/1S0ftIV

    ๑๓. โยนิโสมนสิการ
    http://bit.ly/1RNTVlX

    ๑๔. ปัญญา
    http://bit.ly/1RNU211

    ๑๕. ศีล
    http://bit.ly/23nRiid

    ๑๖. สมาธิ
    http://bit.ly/1MoRbve

    ๑๗. บทสรุปอริยสัจ
    http://bit.ly/1qihTv3

    ๑๘. โสดาบัน
    http://bit.ly/1MoRfeq

    ๑๙. วินัย
    http://bit.ly/1SYK63G

    ๒๐. ปาฏิหาริย์
    http://bit.ly/1VLUY7z

    ๒๑. ปัญหาแรงจูงใจ
    http://bit.ly/1N3oUKE

    ๒๒. ความสุข ๑ ฉบับแบบแผน
    http://bit.ly/1VLV3rJ

    ๒๓. ความสุข ๒ ฉบับประมวลความ
    http://bit.ly/1SYK9g0

    เครดิต Kanlayanatam
    ผลงานชิ้นเอก ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต) เป็นหนังสือเกี่ยวกับพุทธศาสนา ที่ดีที่สุดในยุคแผ่นดินรัชกาลที่ ๙ เป็นหนังสือที่เป็นแรงบันดาลใจ ให้พระไพศาล วิสาโล บวชไม่คิดสึก ‘พุทธธรรม’ ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์. (พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)) คือ หนังสือที่พระไพศาลยกย่อง ถึงขั้นที่ว่าถ้ามีหนังสือเพียงเล่มเดียวที่สามารถติดตัวไปได้ในชีวิต ‘พุทธธรรม’ คือ เล่มที่ท่านเลือก... “หนังสือเล่มนี้อาตมาอ่านจบช่วงเข้าพรรษาสมัยที่เป็นฆราวาส เมื่อ พ.ศ. 2525 ตั้งใจว่าอ่านให้ได้วันละ 10 หน้า ก็อ่านได้ทุกวัน พรรษาหนึ่งประมาณ 90 กว่าวัน หนังสือมีความหนาประมาณพันกว่าหน้า อ่านตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายก็พอดี เป็นการฝึกความเพียรและวินัยด้วย บางทีเราเดินทางไปต่างจังหวัดก่อนหน้านั้นวันหนึ่งจะต้องอ่านเพิ่มอีก 10 หน้าเพื่อชดเชยกับวันที่ต้องเดินทาง” นอกจากความเพียรในการอ่านแล้ว ช่วงนั้นพระไพศาลซึ่งเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่เพิ่งจบมหาวิทยาลัยยังได้รับความเมตตาจากพระราชวรมุนี (สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์) อนุญาตให้เข้าพบเป็นประจำทุกเดือน เพื่อสนทนาธรรมสอบถามข้อสงสัยจากหนังสืออีกด้วย “อ่านหนังสือแล้วไปถามท่านเราก็ได้ความกระจ่างเยอะ ถือเป็นความโชคดีในฐานะนักอ่าน ยิ่งได้คุยกับท่านยิ่งรู้ว่า ท่านเป็นผู้มีสติปัญญาล้ำเลิศ ถ้าจัดเรตให้ต้องถือว่าเฟิร์สตเรต อัศจรรย์มาก” พุทธธรรมเป็นวรรณกรรมพุทธศาสนา ที่ได้รับการยอมรับว่าแสดงหลักธรรมของพระพุทธศาสนาเถรวาทอย่างซื่อตรงต่อพระ ไตรปิฎกเป็นอย่างยิ่ง นำเสนอหลักการและสาระสำคัญของพระพุทธศาสนาอย่างครบถ้วน และเป็นระบบอย่างชัดเจน พิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2514 ต่อมาในปี พ.ศ. 2525 ผู้เขียนได้ปรับปรุงและขยายความเพิ่มขึ้น จนกลายเป็นหนังสือเล่มใหญ่หนาเป็นพันหน้า “อ่านไปก็อดทึ่งคนเขียนไม่ได้ว่าทั้งฉลาดทั้งมีความเพียรสูง ค้นข้อมูลมามากทีเดียวกว่าจะเขียนได้อย่างนี้ คือไม่ใช่แค่สรุปความย่อความเหมือนหนังสือบางเล่ม แต่เป็นการเขียนขึ้นมาใหม่ โดยมีพระไตรปิฎก เป็นพื้นฐาน นำเสนอด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ด้วยวิธีคิดของคนสมัยใหม่ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เราจะไม่เจอแบบนี้ในงานเขียนพระพุทธศาสนา บางทีเคยไปเจอหนังสือเกี่ยวกับสาระพระไตรปิฎก เขียนโดยฆราวาสที่เคยบวชพระมาจะเห็นว่าลีลาสไตล์การเขียนแตกต่างกัน บางทีก็แค่ย่อความมาให้เราดู การย่อความก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ท่านเจ้าประคุณทำได้มากกว่านั้น จึงนำมาเสนอใหม่ ด้วยชนิดที่เรียกว่าสามารถจะสื่อสารกับเราด้วยภาษาของเราได้ และพยายามโยงให้เข้าถึงปัญหาสังคมสมัยใหม่โดยใช้มุมมองแบบพุทธ ซึ่งสมควรแล้วที่คนจะพูดว่าเป็นเล่มที่ดีที่สุดในยุครัชกาลที่ 9 และถือว่าเป็นเล่มที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งของรัตนโกสินทร์” อาตมายกให้หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือดีของชีวิต ประการที่หนึ่งเพราะนำเสนอพุทธธรรมอย่างเป็นระบบและรอบด้านที่สุดภายในเล่มเดียว คือมีหลายท่านพูดถึงพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้งแต่พูดเป็นบางแง่ อย่างท่านพุทธทาสก็พูดเป็นบางแง่ เช่น ปฏิจจสมุปบาท อิทัปปัจจยตา แต่เล่มนี้พูดครบทุกแง่อย่างเป็นระบบ ทุกแง่ทุกมุมอยู่ในหนังสือเล่มนี้แล้ว ขอให้ค้นให้เป็น อาตมาเคยพูดนะว่าหนังสือเล่มนี้มี 3 มิติ ทั้งลึก กว้าง ไกล ลึกคือทำให้เราเข้าใจความจริงที่ลึกซึ้งของตัวเอง และทำให้เราเห็นกว้าง เห็นโลกและสังคมได้อย่างกว้าง เล่มนี้จะพูดถึงสังคมสมัยใหม่ไว้พอสมควร ทำให้เราได้เห็นมิติด้านไกล นั่นคือได้เห็นว่าการสอนพุทธศาสนานี้ผ่านการตีความมายังไงบ้าง ประการต่อมาคือใช้ภาษาที่งดงามสละสลวย ภาษาท่านงดงามมาก และสามารถสื่อได้ตรงใจผู้เขียน แม้ว่าเนื้อหาจะลึกซึ้ง คือทุกวันนี้แม้ตัวเองจะอ่านงานท่านเจ้าประคุณมาเยอะ เวลาจะสื่ออะไรบางอย่าง เรารู้สึกว่าเราจนต่อถ้อยคำ ไม่สามารถจะเขียนให้สุดความคิดได้ แต่หนังสือเล่มนี้ท่านเจ้าประคุณสามารถบรรยายให้สุดความคิดได้ อาตมาคิดว่าเป็นแบบอย่างของงานเขียนในทางศาสนาและงานวิชาการได้ คือมีทั้งอรรถและรส อรรถคือเนื้อหา รสคือรสของภาษา” ซึ่งพระไพศาลยอมรับว่าได้รับอิทธิพลจากสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต) และท่านพุทธทาส ในการใช้ชีวิตและเขียนหนังสือพอสมควร โดยเฉพาะจากหนังสือพุทธธรรมนั้นมีอิทธิพลต่องานเขียน และการค้นคว้าทางพุทธศาสนาอย่างมาก “ถ้ามีเล่มเดียวที่สามารถติดไปได้ในชีวิตก็เล่มนี้แหละ ถึงแม้จะหนักหน่อยก็ตาม อาตมายังรู้สึกเลยนะว่าหนังสือเล่มนี้ทำให้เราภูมิใจที่เป็นคนไทย การที่คุณเป็นคนไทยแล้วได้อ่านหนังสือเล่มนี้ถือว่าโชคดีและคุ้มค่าในการที่ได้เป็นคนไทยแล้ว บางทีเราก็รู้สึกว่าเป็นฝรั่งโชคดีนะ ได้อ่านหนังสือที่ลึกซึ้ง หนังสือเยอะแยะหลากหลาย แต่พุทธธรรมนี่แหละที่ทำให้เราสามารถเป็นที่อิจฉาของฝรั่งได้ เพราะฝรั่งอ่านเล่มนี้ไม่ได้ แต่คนไทยอ่านได้ ฉะนั้นถ้าในแง่ชาวพุทธและในแง่ความเป็นคนไทย หนังสือเล่มนี้จะทำให้เราภูมิใจและรู้สึกโชคดีที่ได้เป็นคนไทย ที่อ่านภาษาไทยออก” และถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีหนังสือพุทธธรรมในครอบครอง แต่ยังไม่เคยเปิดอ่าน พระไพศาลบอกว่าเป็นสิ่งที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง เพราะรสชาติของหนังสือเล่มนี้แตกต่างจากหนังสือทั่ว ๆ ไป “อ่านแล้วจะทำให้เกิดความพิศวงและความปีติเมื่อได้พบความจริง” นั่นคือพุทธธรรม... Save เก็บได้เลย... 1360 หน้า อัพเดทล่าสุด เป็นฉบับปรับขยายครับ อ่านวันละ 10 หน้าแป๊บเดี๋ยวก็จบแล้ว https://www.watnyanaves.net/uploads/File/books/pdf/buddhadhamma_extended_edition.pdf?fbclid=IwAR1WFAHlZSqoUQa01X13IvZno7o9FgFuHC450ktPmxfQAxLyUtGOl9ndrSY ท่านสามารถดาวโหลดเสียงอ่านหนังสือ "พุทธธรรม ฉบับปรับขยาย" ของ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)) เสียงอ่านโดย..พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล ได้ที่ Link เสียงอ่าน พุทธธรรม http://bit.ly/1nZnfef Link สำหรับพุทธธรรม ๒๓ บท ตามนี้ครับ ๐๑. ขันธ์5 http://bit.ly/1qih1Xj ๐๒. อายตนะ ๖ http://bit.ly/1Xq7tVe ๐๓.ไตรลักษณ์ http://bit.ly/1VhCuNd ๐๔. ปฏิจสุปบาท http://bit.ly/1SYJnj1 ๐๕. กรรม http://bit.ly/20u0M6t ๐๖. นิพพาน http://bit.ly/1Q2AZKF ๐๗. ประเภทนิพพาน http://bit.ly/1qIMFOI ๐๘. สมถะ-วิปัสสนา http://bit.ly/1UUvg1A ๐๙. หลักการสำคัญของการบรรลุนิพพาน http://bit.ly/1VLTVUU ๑๐. บทสรุปเรื่องนิพพาน http://bit.ly/23wfOdI ๑๑. บทนำมัชฌิมาปฏิปทา http://bit.ly/1S4wT9r ๑๒. ปรโตโฆสะที่ดี_กัลยาณมิตร http://bit.ly/1S0ftIV ๑๓. โยนิโสมนสิการ http://bit.ly/1RNTVlX ๑๔. ปัญญา http://bit.ly/1RNU211 ๑๕. ศีล http://bit.ly/23nRiid ๑๖. สมาธิ http://bit.ly/1MoRbve ๑๗. บทสรุปอริยสัจ http://bit.ly/1qihTv3 ๑๘. โสดาบัน http://bit.ly/1MoRfeq ๑๙. วินัย http://bit.ly/1SYK63G ๒๐. ปาฏิหาริย์ http://bit.ly/1VLUY7z ๒๑. ปัญหาแรงจูงใจ http://bit.ly/1N3oUKE ๒๒. ความสุข ๑ ฉบับแบบแผน http://bit.ly/1VLV3rJ ๒๓. ความสุข ๒ ฉบับประมวลความ http://bit.ly/1SYK9g0 เครดิต Kanlayanatam
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • #บอสพอลบอสปันเจ็บใจสุดๆ
    บรรดานักตบที่สร้างความหวังและรีดไปหลายตังค์
    นังพัด เป็นโนหนึ่ง ทันที แม่นังปันไปพบที่บ้าน
    แพร็บบบ หกแฉนห้า ปลิวไปในเป๋าตังอิพัดเรียบร้อย
    ข้อสรุป ตอบคำถามว่า ทำไม พัดถึงเป็น โน 1
    - พัดเป็นตัวเชี่ยของทั้งสองฝั่ง
    1. รวบรวม ผสห เกือบเก้าสิบคน แล้วเอาเครดิตมาออกหน้าที่โหนกระแส
    2. เรียกรับค่าตอบแทน จาก ผสห คือ อย่างเห้ ทำท่าเปรย เคสอื่นเค้าให้ร้อยละฉี่ฉิบ อิห่านจิก เค้าเดือดร้อน มาพึ่งเมิง ไปซ้ำเติม ผสห เรียกเค้าอีก อิฉัด
    3. ดิลกับบรรดาบอสๆ อ้างว่าตัวเองช่วยได้ เรียกจากปันและบอสพอลอีก ยี่ฉิบฉามฉิบล้าน อิห่านจิก อารายของเมิง
    4. อ้าง กับ ฝั่งพอล เพื่อรับยอดแรก ต้องเอางบนี้ไปจ่ายพี่หนุ่ม เพื่อให้พี่หนุ่มเขียนคริปแก้ตัว ฟอกให้ขาวให้ และสามารถเคลียกับ อย. สคบ. สตช. ได้ทุกหน่วย
    5. อ้างกับฝั่งพอล เพื่อสร้างทีมไอโอ แก้ข่าว ต้องจ่ายหกแฉนห้าแรก
    6. อ้างกับ ผสห ต้องจ่ายผ่านนาง เพื่อเอาไป เร่งรัดคะดี
    นี่แหละ เรื่องของเรื่อง ทำไม บอสพอลถึงกาหัวไว้ ว่าต้องจัดอินี่ก่อน
    ตอนนี้ พอลส่งทะนวย พร้อมหลักต๋าน ดนคด. กับอิพัดแย้ววว
    เป็นที่แน่นอนว่า พอล ไม่ปล่อยให้ใครไว้ข้างนอกแน่นอน
    และยังมี นักตบ อีก 10 คิว ที่พอล วางงานไว้ทุกราย
    หรืออีกนัยหนึ่ง เชีอดพัดให้อีก 10 ตัวดู ว่าถ้าไม่ช่วยข้าและพวก
    เมิงจะเจอแบบอินี่
    เรียบร้อย โรงเรียน ดิไอค่อน
    #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    #บอสพอลบอสปันเจ็บใจสุดๆ บรรดานักตบที่สร้างความหวังและรีดไปหลายตังค์ นังพัด เป็นโนหนึ่ง ทันที แม่นังปันไปพบที่บ้าน แพร็บบบ หกแฉนห้า ปลิวไปในเป๋าตังอิพัดเรียบร้อย ข้อสรุป ตอบคำถามว่า ทำไม พัดถึงเป็น โน 1 - พัดเป็นตัวเชี่ยของทั้งสองฝั่ง 1. รวบรวม ผสห เกือบเก้าสิบคน แล้วเอาเครดิตมาออกหน้าที่โหนกระแส 2. เรียกรับค่าตอบแทน จาก ผสห คือ อย่างเห้ ทำท่าเปรย เคสอื่นเค้าให้ร้อยละฉี่ฉิบ อิห่านจิก เค้าเดือดร้อน มาพึ่งเมิง ไปซ้ำเติม ผสห เรียกเค้าอีก อิฉัด 3. ดิลกับบรรดาบอสๆ อ้างว่าตัวเองช่วยได้ เรียกจากปันและบอสพอลอีก ยี่ฉิบฉามฉิบล้าน อิห่านจิก อารายของเมิง 4. อ้าง กับ ฝั่งพอล เพื่อรับยอดแรก ต้องเอางบนี้ไปจ่ายพี่หนุ่ม เพื่อให้พี่หนุ่มเขียนคริปแก้ตัว ฟอกให้ขาวให้ และสามารถเคลียกับ อย. สคบ. สตช. ได้ทุกหน่วย 5. อ้างกับฝั่งพอล เพื่อสร้างทีมไอโอ แก้ข่าว ต้องจ่ายหกแฉนห้าแรก 6. อ้างกับ ผสห ต้องจ่ายผ่านนาง เพื่อเอาไป เร่งรัดคะดี นี่แหละ เรื่องของเรื่อง ทำไม บอสพอลถึงกาหัวไว้ ว่าต้องจัดอินี่ก่อน ตอนนี้ พอลส่งทะนวย พร้อมหลักต๋าน ดนคด. กับอิพัดแย้ววว เป็นที่แน่นอนว่า พอล ไม่ปล่อยให้ใครไว้ข้างนอกแน่นอน และยังมี นักตบ อีก 10 คิว ที่พอล วางงานไว้ทุกราย หรืออีกนัยหนึ่ง เชีอดพัดให้อีก 10 ตัวดู ว่าถ้าไม่ช่วยข้าและพวก เมิงจะเจอแบบอินี่ เรียบร้อย โรงเรียน ดิไอค่อน #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    Haha
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 476 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท ทรัพย์สมบูร์การไฟฟ้า จำกัด
    จำหน่ายโคมไฟ+เฟอร์นิเจอร์

    🎉🎉เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน

    🛌 เตียงไม้สองชั้น (ไม้ยางพารา)

    👉โต๊ะเครื่องแป้ง (ไม้ยางพารา)

    👉โต๊ะอาหาร (หน้าโต๊ะหินแกรนิด + ฐานขาทำจากเหล็ก)

    👉โต๊ะน้ำชา

    👉 โต๊ะผู้จัดการ (มีตู้เซฟนิรภัย)

    #ใช้บัตรเครดิตผ่อนได้ ระยะเวลา 6 เดือน ดอกเบี้ย 0%

    สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มหรือสั่งซื้อ

    โทร. 034-112178, 095-801-5779
    Line. SSB5779

    Fackbook/เพจ : ทรัพย์สมบูรณ์การไฟฟ้า

    พิกัดร้าน อยู่ศูนย์กระจายสินค้าKERRY ก่อนถึงสามแยกไฟแดงนาดี(บางปลา)
    บริษัท ทรัพย์สมบูร์การไฟฟ้า จำกัด จำหน่ายโคมไฟ+เฟอร์นิเจอร์ 🎉🎉เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน 🛌 เตียงไม้สองชั้น (ไม้ยางพารา) 👉โต๊ะเครื่องแป้ง (ไม้ยางพารา) 👉โต๊ะอาหาร (หน้าโต๊ะหินแกรนิด + ฐานขาทำจากเหล็ก) 👉โต๊ะน้ำชา 👉 โต๊ะผู้จัดการ (มีตู้เซฟนิรภัย) #ใช้บัตรเครดิตผ่อนได้ ระยะเวลา 6 เดือน ดอกเบี้ย 0% สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มหรือสั่งซื้อ โทร. 034-112178, 095-801-5779 Line. SSB5779 Fackbook/เพจ : ทรัพย์สมบูรณ์การไฟฟ้า พิกัดร้าน อยู่ศูนย์กระจายสินค้าKERRY ก่อนถึงสามแยกไฟแดงนาดี(บางปลา)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 49 0 รีวิว
  • #บอสต๋อยกับควาามจบไม่จ๋วยในวัยบั้นปลาย
    ต๋อย ไตรภพ กับรายการทไวไลท์โชว์ในอดีต เป็นรายการเรทติ้งอันดับหนึ่งประจำสัปดาห์ ที่หลายๆคนเคยได้ยินรุ่นอาเจ็ก อากงเล่าให้ฟัง ย้อนวันวานในอดีต
    ..เอาจริงๆ ต๋อย ไตรภาพ ชีวิตก็พลิกผันไม่น้อย จากช่องสาม สู่ความทะเยอทะยาน ไปยิ่งใหญ่ในไอทีวี เมื่อเกือบจะ 20 ปีที่แล้ว แต่สุดท้า้ย ไอทีวีสถานีถูกยึด กลายเป็น ไทยพีบีเอสใน ปจบ.
    ..วันที่ต๋อย รู้ว่าคสช จะยึดสถานี ต๋อยนัดรวมตัวรายการต่างๆของไอทีวี เพื่อหวังให้รายการตนเองมีพลังที่จะต่อรองกับคสช วันที่นัดรวมตัวครั้งแรก ออกท่าขึงขัง ทำให้ผู้จัดต่างๆ มีความหวัง แต่รอบที่สอง เหมือนหนังคนละม้วน เพราะตัวเองหาทางออกได้ หรือไปได้ข้อตกลงอะไรที่ทำให้ฟิน กลับมาบอกกับมวลหมู่ผู้จัดว่า เค้าจะเอาไปเปิดสารคดี มีประโยชน์ พวกคุณจะไปห้ามเค้าทำไม "อ้าว ไอ่ฉัด"
    ..หลังจากนั้น ต๋อยก็ไปหากินกับรายการอาหาร ครัวคุณต๋อย ที่รังเดิม ทำมาหากินกับการจัดอีเว้นท์ บันเทิงไปตามระบบ
    ...และที่หลายๆคน ไม่ทราบคือ ก่อนที่ เสี่ยตา จะเอาบริษัทเวิร์คพ็อย เข้าตลาดหลักทรัพย์ มีนักข่าวเอาไมค์ไปจ่อถามว่า แล้วบริษัทของต๋อย ไตรภพ ไม่มีแผนจะเอาเข้าตลาดแบบเวิร์คพ็อยหรือ
    ต๋อย ออกแนวหล่ออีกแล้ววว "ผมยังไม่รู้ว่าผมจะเอาเงินของพี่น้องประชาชนไปทำอะไร" ประมาณแขวะเสี่ยตา ตามไสตล์ต๋อย
    และเวลาผ่านไป กับเวิร์คพ็อย ที่โตอย่างหยุดไม่อยู่ แม้จะผ่านมาหลายมรสุม แต่เวิร์คพ็อย กับเป็นทีวีที่มีเรตติ้งสูงแซงช่องหลักๆ
    ..แต่เมื่อตัดภาพมาที่ต๋อยไตรภพ ที่คล้ายกับแผ่นเสียงตกร่อง ของโบราณตกยุค ที่ยังคงฉายวนซ้ำแบบเดิมๆ กับรายการอวย วิธีการสื่อสาร เหมือนทไวไลท์โชว์ เมื่อยี่สิบสามสิบปีที่แล้ว
    ...จนต้องรับผลประโยชน์ ในการสร้างเครดิต ให้กับกลุ่มลูกโซ่เหล่านี้ อวยฉ่ำ อวยเชิด อวยเริศ ยิ่งตอกย้ำความเชื่อถือให้กับพี่น้องประชาชนไทย ในแบรนดิไอค่อน แม้กระทั่ง ให้นำรูปไปใช้ในการทักถึงผู้คน เพื่อชวนมาเข้าสู่วังวน จนเป็นปัญหามาถึงปัจจุบัน
    ได้ทราบมาว่า ตอนละ 6.5 แสน ทำดิล 10 ตอน ต๋อยคงฟินไม่น้อย กับช่วงบั้นปลาย
    ...วันนี้ ต๋อย หมดสภาพแล้ว วิธีการดำเนินรายการแบบที่ต๋อยเคยทำ มันไม่ตรงกับยุคกับสมัยแล้ว จีบปาก จีบคอ อวย นั่นมันเทรนเก่าสมัยอนาล็อค แล้วถ้าสิ่งที่ต๋อยทำ มันเข้าข่ายที่จะต้องโดนหางเลข อันนี้ก็ไม่มีใครช่วยต๋อยได้
    ต๋อยเลือกเอง คงเป็นกรรมของต๋อยที่ก่อไว้กับหลายๆคน ที่คงต้องรับผิดชอบกันไป
    จบแล้ว ต๋อย
    #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    #บอสต๋อยกับควาามจบไม่จ๋วยในวัยบั้นปลาย ต๋อย ไตรภพ กับรายการทไวไลท์โชว์ในอดีต เป็นรายการเรทติ้งอันดับหนึ่งประจำสัปดาห์ ที่หลายๆคนเคยได้ยินรุ่นอาเจ็ก อากงเล่าให้ฟัง ย้อนวันวานในอดีต ..เอาจริงๆ ต๋อย ไตรภาพ ชีวิตก็พลิกผันไม่น้อย จากช่องสาม สู่ความทะเยอทะยาน ไปยิ่งใหญ่ในไอทีวี เมื่อเกือบจะ 20 ปีที่แล้ว แต่สุดท้า้ย ไอทีวีสถานีถูกยึด กลายเป็น ไทยพีบีเอสใน ปจบ. ..วันที่ต๋อย รู้ว่าคสช จะยึดสถานี ต๋อยนัดรวมตัวรายการต่างๆของไอทีวี เพื่อหวังให้รายการตนเองมีพลังที่จะต่อรองกับคสช วันที่นัดรวมตัวครั้งแรก ออกท่าขึงขัง ทำให้ผู้จัดต่างๆ มีความหวัง แต่รอบที่สอง เหมือนหนังคนละม้วน เพราะตัวเองหาทางออกได้ หรือไปได้ข้อตกลงอะไรที่ทำให้ฟิน กลับมาบอกกับมวลหมู่ผู้จัดว่า เค้าจะเอาไปเปิดสารคดี มีประโยชน์ พวกคุณจะไปห้ามเค้าทำไม "อ้าว ไอ่ฉัด" ..หลังจากนั้น ต๋อยก็ไปหากินกับรายการอาหาร ครัวคุณต๋อย ที่รังเดิม ทำมาหากินกับการจัดอีเว้นท์ บันเทิงไปตามระบบ ...และที่หลายๆคน ไม่ทราบคือ ก่อนที่ เสี่ยตา จะเอาบริษัทเวิร์คพ็อย เข้าตลาดหลักทรัพย์ มีนักข่าวเอาไมค์ไปจ่อถามว่า แล้วบริษัทของต๋อย ไตรภพ ไม่มีแผนจะเอาเข้าตลาดแบบเวิร์คพ็อยหรือ ต๋อย ออกแนวหล่ออีกแล้ววว "ผมยังไม่รู้ว่าผมจะเอาเงินของพี่น้องประชาชนไปทำอะไร" ประมาณแขวะเสี่ยตา ตามไสตล์ต๋อย และเวลาผ่านไป กับเวิร์คพ็อย ที่โตอย่างหยุดไม่อยู่ แม้จะผ่านมาหลายมรสุม แต่เวิร์คพ็อย กับเป็นทีวีที่มีเรตติ้งสูงแซงช่องหลักๆ ..แต่เมื่อตัดภาพมาที่ต๋อยไตรภพ ที่คล้ายกับแผ่นเสียงตกร่อง ของโบราณตกยุค ที่ยังคงฉายวนซ้ำแบบเดิมๆ กับรายการอวย วิธีการสื่อสาร เหมือนทไวไลท์โชว์ เมื่อยี่สิบสามสิบปีที่แล้ว ...จนต้องรับผลประโยชน์ ในการสร้างเครดิต ให้กับกลุ่มลูกโซ่เหล่านี้ อวยฉ่ำ อวยเชิด อวยเริศ ยิ่งตอกย้ำความเชื่อถือให้กับพี่น้องประชาชนไทย ในแบรนดิไอค่อน แม้กระทั่ง ให้นำรูปไปใช้ในการทักถึงผู้คน เพื่อชวนมาเข้าสู่วังวน จนเป็นปัญหามาถึงปัจจุบัน ได้ทราบมาว่า ตอนละ 6.5 แสน ทำดิล 10 ตอน ต๋อยคงฟินไม่น้อย กับช่วงบั้นปลาย ...วันนี้ ต๋อย หมดสภาพแล้ว วิธีการดำเนินรายการแบบที่ต๋อยเคยทำ มันไม่ตรงกับยุคกับสมัยแล้ว จีบปาก จีบคอ อวย นั่นมันเทรนเก่าสมัยอนาล็อค แล้วถ้าสิ่งที่ต๋อยทำ มันเข้าข่ายที่จะต้องโดนหางเลข อันนี้ก็ไม่มีใครช่วยต๋อยได้ ต๋อยเลือกเอง คงเป็นกรรมของต๋อยที่ก่อไว้กับหลายๆคน ที่คงต้องรับผิดชอบกันไป จบแล้ว ต๋อย #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    Like
    Love
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 468 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท ทรัพย์สมบูร์การไฟฟ้า จำกัด
    จำหน่ายโคมไฟ+เฟอร์นิเจอร์

    🎉🎉โคมไฟตกแต่งบ้าน

    👉 โคมไฟช่อชุดใหญ่
    👉 โคมไฟห้อย
    👉 โคมไฟกิ่งภายใน
    👉 โคมไฟกิ่งภายนอก
    👉 โคมไฟหัวเสา
    👉 โคมไฟดาวไลท์
    👉 โคมเพดาน
    👉 โคมซาลาเปา
    👉 โคมไฟถาด LED
    👉 โคมโมเดิร์น
    👉 โคมโซล่าเซลส์
    👉ไฟริบบิ้น LED
    👉 พัดลมโซล่าเซลส์

    #ใช้บัตรเครดิตผ่อนได้ ระยะเวลา 6 เดือน ดอกเบี้ย 0%

    สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มหรือสั่งซื้อ

    โทร. 034-112178, 095-801-5779
    Line. SSB5779

    Fackbook/เพจ : ทรัพย์สมบูรณ์การไฟฟ้า

    พิกัดร้าน อยู่ศูนย์กระจายสินค้าKERRY ก่อนถึงสามแยกไฟแดงนาดี(บางปลา)
    บริษัท ทรัพย์สมบูร์การไฟฟ้า จำกัด จำหน่ายโคมไฟ+เฟอร์นิเจอร์ 🎉🎉โคมไฟตกแต่งบ้าน 👉 โคมไฟช่อชุดใหญ่ 👉 โคมไฟห้อย 👉 โคมไฟกิ่งภายใน 👉 โคมไฟกิ่งภายนอก 👉 โคมไฟหัวเสา 👉 โคมไฟดาวไลท์ 👉 โคมเพดาน 👉 โคมซาลาเปา 👉 โคมไฟถาด LED 👉 โคมโมเดิร์น 👉 โคมโซล่าเซลส์ 👉ไฟริบบิ้น LED 👉 พัดลมโซล่าเซลส์ #ใช้บัตรเครดิตผ่อนได้ ระยะเวลา 6 เดือน ดอกเบี้ย 0% สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มหรือสั่งซื้อ โทร. 034-112178, 095-801-5779 Line. SSB5779 Fackbook/เพจ : ทรัพย์สมบูรณ์การไฟฟ้า พิกัดร้าน อยู่ศูนย์กระจายสินค้าKERRY ก่อนถึงสามแยกไฟแดงนาดี(บางปลา)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ กู้เงิน ๒.๒ ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง ๑๒ เดือนที่ผ่านมา เป็นเงินฟรี - เหมือนบัตรเครดิตขนาดยักษ์, ที่ไม่ต้องชำระคืน (🤣ทั้งหมดนั้นคือดอลลาร์กงเต้กที่พิมพ์ออกมา โดยไม่ต้องมีทองค้ำไงล่ะ🤣)

    ในอินเดีย, ทั้งประเทศต้องทำงาน ๖ เดือน จึงจะได้เงินจำนวนนั้น

    ระบบที่ทุจริตนี้คือสาเหตุที่ BRICS และ การลดการใช้เงินดอลลาร์กำลังเกิดขึ้น
    .
    US borrowed $2.2 trillion over the last 12 months. It’s free money - like a giant credit card, which you never have to pay back.

    In India, the entire country must work for 6 months to earn that kind of money.

    This rigged system is why BRICS & de-dollarization are happening.
    .
    11:45 PM · Oct 23, 2024 · 40.9K Views
    https://x.com/Kanthan2030/status/1849129926521446413
    สหรัฐฯ กู้เงิน ๒.๒ ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง ๑๒ เดือนที่ผ่านมา เป็นเงินฟรี - เหมือนบัตรเครดิตขนาดยักษ์, ที่ไม่ต้องชำระคืน (🤣ทั้งหมดนั้นคือดอลลาร์กงเต้กที่พิมพ์ออกมา โดยไม่ต้องมีทองค้ำไงล่ะ🤣) ในอินเดีย, ทั้งประเทศต้องทำงาน ๖ เดือน จึงจะได้เงินจำนวนนั้น ระบบที่ทุจริตนี้คือสาเหตุที่ BRICS และ การลดการใช้เงินดอลลาร์กำลังเกิดขึ้น . US borrowed $2.2 trillion over the last 12 months. It’s free money - like a giant credit card, which you never have to pay back. In India, the entire country must work for 6 months to earn that kind of money. This rigged system is why BRICS & de-dollarization are happening. . 11:45 PM · Oct 23, 2024 · 40.9K Views https://x.com/Kanthan2030/status/1849129926521446413
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทำไมจ่ายบัตรเครดิตถึงคุ้มกว่าจ่ายเงินสด?"
    "ทำไมจ่ายบัตรเครดิตถึงคุ้มกว่าจ่ายเงินสด?"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 3 0 รีวิว
  • 23/ 10/67

    # วันนี้มีบทความข้อคิดดีๆ มาฝากทุกท่านครับ

    #ภาพวาด ปีกัสโซ่
    #ชื่อภาพ "โจร"

    #จิตกรหนุ่มคนหนึ่ง ก่อนที่เขาจะมีชื่อเสียง เขาได้พักอาศัยอยู่ในห้องเก่าๆ แคบๆ แห่งหนึ่ง เขาอาศัยการวาดภาพในการหล่อเลี้ยงชีวิต

    #อยู่มาวันหนึ่ง เศรษฐีคนหนึ่งเดินผ่านมาและเห็นฝีมือการวาดภาพของจิตกร เขารู้สึกพอใจและชอบเป็นอย่างยิ่ง เศรษฐีจึงว่าจ้างให้เขาวาดภาพเหมือนของตัวเองหนึ่งภาพ ตกลงสนทนาราคากันไว้ที่ ๑๐,๐๐๐ เหรียญ

    #เมื่อผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ ภาพวาดของเศรษฐีก็สำเร็จเรียบร้อย เศรษฐีกลับมารับภาพตามเวลาที่กำหนดไว้ แต่ครั้งนี้ เศรษฐีเกิดจิตคิดที่ไม่ดี บอกกับจิตกรหนุ่มว่า “เธอไม่ได้+เป็นจิตกรที่มีชื่อเสียง ฉันให้ราคาตามที่ตกลงกันไว้ไม่ได้หรอก!” เศรษฐีนึกกระหยิ่มในใจ “ภาพนี้ก็เป็นภาพของฉัน หากฉันไม่ซื้อ ใครจะโง่ยอมซื้อวะ? ในเมื่อไม่มีคนซื้อ ฉันจำเป็นต้องจ่ายในราคาที่แพงไปทำไม?” “ฉันให้ราคาภาพนี้แค่ ๓,๐๐๐ เหรียญ จะเอาหรือไม่เอา?”

    #จิตกรหนุ่มตกตะลึง เหมือนโดนไฟฟ้าช็อตเป็นรอบที่สอง เพราะเขาไม่เคยเจอลูกค้าประเภทนี้มาก่อน จึงรู้สึกสับสน ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เขาอ้อนวอนเศรษฐีอยู่เป็นเวลานานสองนาน เพื่อให้เศรษฐียอมจ่ายให้ตามราคาที่ตกลงกันไว้ เขาบอกกับเศรษฐีว่า "คนเราต้องถือสัจจะเป็นที่ตั้ง"!

    “อย่ามาโยกโย้ ฉันให้นายแค่ ๓,๐๐๐ พันเหรียญเท่านั้น!” เศรษฐีคิดว่าตนถือไพ่เหนือกว่า จึงได้ตะคอกกลับไปอีกว่า
    “ฉันบอกนายเป็นครั้งสุดท้าย ๓,๐๐๐ เหรียญ จะขายหรือไม่ขาย?”

    #จิตกรหนุ่มรู้ว่าอ้อนวอนไปก็เปล่าประโยชน์ ประกอบกับความรู้สึกไม่พอใจกับการถูกข่มเหง เขาจึงพูดกับเศรษฐีด้วยเสียงอันดังว่า “ไม่"! ผมไม่ขายรูปแผ่นนี้แล้ว และผมจะไม่ยอมรับความอัปยศที่คุณพยายามเสือกใสมาให้ผมเป็นอันขาด วันนี้คุณเป็นคนผิดสัจจะ วันข้างหน้าผมจะทำให้คุณต้องซื้อภาพนี้ในราคาที่สูงกว่านี้อีก ๒๐๐ เท่า”

    “ตลกล่ะ ๒๐๐ เท่า ก็เท่ากับหกแสนเหรียญเชียวนะ ฉันจะโง่ซื้อภาพของตัวเองในราคาหกแสนเหรียญได้ยังไง?”
    “งั้นผมก็จะรอคุณเป็นคนมาง้อขอซื้อภาพของคุณเองก็แล้วกัน!” พูดเสร็จ ชายหนุ่มก็ถือภาพนั้นเดินกลับเข้าบ้านไป ไม่สนใจชายเศรษฐีแม้แต่น้อย

    #เหตุการณ์ที่จิตกรหนุ่ม ได้เผชิญกับความอัปยศที่เศรษฐียัดเหยียดมาให้ วันรุ่งขึ้น เขาย้ายไปอยู่เมืองอื่นด้วยความสะเทือนใจ

    #เขาตัดสินใจเข้าเรียนศิลปะอย่างเป็นทางการ และเอาจริงเอาจังกับการวาดภาพอย่างเอาเป็นเอาตาย ฟ้าย่อมไม่ทำให้ผู้ทุ่มเทผิดหวัง ผ่านไป ๑๐ กว่าปี เขากลายเป็นจิตกรที่มีชื่อเสียง ในกลุ่มจิตกรที่ติดอันดับมีชื่อของเขาเป็นหนึ่งในนั้น

    #ส่วนเศรษฐีคนนั้นล่ะ? หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นผ่านไปได้ ๒ วัน เขาก็ได้ลืมเรื่องราวนั้นไปและไม่เคยจำมาใส่ใจอีกเลย

    #อยู่มาวันหนึ่ง สหายของเศรษฐีหลายคนต่างพากันมาเยี่ยมเขาที่บ้านโดยไม่ได้นัดหมาย “เกลอเอ๋ย มันเป็นสิ่งประหลาดมาก หลายวันนี้พวกเราได้ไปเยี่ยมชมนิทรรศการการภาพวาดของจิตกรผู้มีชื่อเสียงโด่งดังคนหนึ่ง แต่มีอยู่ภาพหนึ่งที่มีราคาแพงมาก และไม่ยอมให้มีการต่อรองราคาใดๆ ทั้งสิ้น แต่ภาพวาดนั้น เหมือนเกลอยังกะแกะ เกลอรู้ไหมภาพนั่นมีราคาเท่าไหร่? หกแสนเชียวนะภาพนั้นนะ! แต่ที่น่าขันก็คือ #ภาพนั้นมี่ชื่อว่า “โจร”

    #เศรษฐีเหมือนถูกไม้หน้าสามตีกลางแสกหน้า ภาพเหตุการณ์เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วผุดขึ้นมาเหมือนม้วนหนังที่ทำการฉายใหม่อีกครั้ง

    #สิ่งที่เพื่อนของเขาเล่ามา ทำความเสียหายให้เขาเป็นอย่างยิ่ง เขารีบเดินทางไปที่จัดแสดงนิทรรศการภาพวาดแห่งนั้นในทันที พร้อมกับเข้าไปทำการขอโทษจิตกรหนุ่มผู้นั้นด้วยตัวของเขาเอง แถมยังยอมซื้อภาพนั้นกลับบ้านในราคาหกแสนเหรียญโดยไม่ขาดไม่เกินไปแม้แต่สตางค์เดียว

    #เพราะอุดมการณ์ ที่ไม่ยอมแพ้ในครานั้น ทำให้ชายเศรษฐียอมกลับมาก้มหัวให้ในวันนี้ จิตกรหนุ่มผู้นี้มีชื่อว่า "ปิกัสโซ่"

    #ไม่มีใคร สามารถทำร้ายคุณหรือยัดเหยียดความอัปยศอดสูมาให้คุณได้ นอกเสียจากตัวคุณเอง!


    #เครดิต : นุสนธิ์บุคส์
    #ขอบคุณเจ้าของบทความและภาพประกอบ
    23/ 10/67 # วันนี้มีบทความข้อคิดดีๆ มาฝากทุกท่านครับ #ภาพวาด ปีกัสโซ่ #ชื่อภาพ "โจร" #จิตกรหนุ่มคนหนึ่ง ก่อนที่เขาจะมีชื่อเสียง เขาได้พักอาศัยอยู่ในห้องเก่าๆ แคบๆ แห่งหนึ่ง เขาอาศัยการวาดภาพในการหล่อเลี้ยงชีวิต #อยู่มาวันหนึ่ง เศรษฐีคนหนึ่งเดินผ่านมาและเห็นฝีมือการวาดภาพของจิตกร เขารู้สึกพอใจและชอบเป็นอย่างยิ่ง เศรษฐีจึงว่าจ้างให้เขาวาดภาพเหมือนของตัวเองหนึ่งภาพ ตกลงสนทนาราคากันไว้ที่ ๑๐,๐๐๐ เหรียญ #เมื่อผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ ภาพวาดของเศรษฐีก็สำเร็จเรียบร้อย เศรษฐีกลับมารับภาพตามเวลาที่กำหนดไว้ แต่ครั้งนี้ เศรษฐีเกิดจิตคิดที่ไม่ดี บอกกับจิตกรหนุ่มว่า “เธอไม่ได้+เป็นจิตกรที่มีชื่อเสียง ฉันให้ราคาตามที่ตกลงกันไว้ไม่ได้หรอก!” เศรษฐีนึกกระหยิ่มในใจ “ภาพนี้ก็เป็นภาพของฉัน หากฉันไม่ซื้อ ใครจะโง่ยอมซื้อวะ? ในเมื่อไม่มีคนซื้อ ฉันจำเป็นต้องจ่ายในราคาที่แพงไปทำไม?” “ฉันให้ราคาภาพนี้แค่ ๓,๐๐๐ เหรียญ จะเอาหรือไม่เอา?” #จิตกรหนุ่มตกตะลึง เหมือนโดนไฟฟ้าช็อตเป็นรอบที่สอง เพราะเขาไม่เคยเจอลูกค้าประเภทนี้มาก่อน จึงรู้สึกสับสน ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เขาอ้อนวอนเศรษฐีอยู่เป็นเวลานานสองนาน เพื่อให้เศรษฐียอมจ่ายให้ตามราคาที่ตกลงกันไว้ เขาบอกกับเศรษฐีว่า "คนเราต้องถือสัจจะเป็นที่ตั้ง"! “อย่ามาโยกโย้ ฉันให้นายแค่ ๓,๐๐๐ พันเหรียญเท่านั้น!” เศรษฐีคิดว่าตนถือไพ่เหนือกว่า จึงได้ตะคอกกลับไปอีกว่า “ฉันบอกนายเป็นครั้งสุดท้าย ๓,๐๐๐ เหรียญ จะขายหรือไม่ขาย?” #จิตกรหนุ่มรู้ว่าอ้อนวอนไปก็เปล่าประโยชน์ ประกอบกับความรู้สึกไม่พอใจกับการถูกข่มเหง เขาจึงพูดกับเศรษฐีด้วยเสียงอันดังว่า “ไม่"! ผมไม่ขายรูปแผ่นนี้แล้ว และผมจะไม่ยอมรับความอัปยศที่คุณพยายามเสือกใสมาให้ผมเป็นอันขาด วันนี้คุณเป็นคนผิดสัจจะ วันข้างหน้าผมจะทำให้คุณต้องซื้อภาพนี้ในราคาที่สูงกว่านี้อีก ๒๐๐ เท่า” “ตลกล่ะ ๒๐๐ เท่า ก็เท่ากับหกแสนเหรียญเชียวนะ ฉันจะโง่ซื้อภาพของตัวเองในราคาหกแสนเหรียญได้ยังไง?” “งั้นผมก็จะรอคุณเป็นคนมาง้อขอซื้อภาพของคุณเองก็แล้วกัน!” พูดเสร็จ ชายหนุ่มก็ถือภาพนั้นเดินกลับเข้าบ้านไป ไม่สนใจชายเศรษฐีแม้แต่น้อย #เหตุการณ์ที่จิตกรหนุ่ม ได้เผชิญกับความอัปยศที่เศรษฐียัดเหยียดมาให้ วันรุ่งขึ้น เขาย้ายไปอยู่เมืองอื่นด้วยความสะเทือนใจ #เขาตัดสินใจเข้าเรียนศิลปะอย่างเป็นทางการ และเอาจริงเอาจังกับการวาดภาพอย่างเอาเป็นเอาตาย ฟ้าย่อมไม่ทำให้ผู้ทุ่มเทผิดหวัง ผ่านไป ๑๐ กว่าปี เขากลายเป็นจิตกรที่มีชื่อเสียง ในกลุ่มจิตกรที่ติดอันดับมีชื่อของเขาเป็นหนึ่งในนั้น #ส่วนเศรษฐีคนนั้นล่ะ? หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นผ่านไปได้ ๒ วัน เขาก็ได้ลืมเรื่องราวนั้นไปและไม่เคยจำมาใส่ใจอีกเลย #อยู่มาวันหนึ่ง สหายของเศรษฐีหลายคนต่างพากันมาเยี่ยมเขาที่บ้านโดยไม่ได้นัดหมาย “เกลอเอ๋ย มันเป็นสิ่งประหลาดมาก หลายวันนี้พวกเราได้ไปเยี่ยมชมนิทรรศการการภาพวาดของจิตกรผู้มีชื่อเสียงโด่งดังคนหนึ่ง แต่มีอยู่ภาพหนึ่งที่มีราคาแพงมาก และไม่ยอมให้มีการต่อรองราคาใดๆ ทั้งสิ้น แต่ภาพวาดนั้น เหมือนเกลอยังกะแกะ เกลอรู้ไหมภาพนั่นมีราคาเท่าไหร่? หกแสนเชียวนะภาพนั้นนะ! แต่ที่น่าขันก็คือ #ภาพนั้นมี่ชื่อว่า “โจร” #เศรษฐีเหมือนถูกไม้หน้าสามตีกลางแสกหน้า ภาพเหตุการณ์เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วผุดขึ้นมาเหมือนม้วนหนังที่ทำการฉายใหม่อีกครั้ง #สิ่งที่เพื่อนของเขาเล่ามา ทำความเสียหายให้เขาเป็นอย่างยิ่ง เขารีบเดินทางไปที่จัดแสดงนิทรรศการภาพวาดแห่งนั้นในทันที พร้อมกับเข้าไปทำการขอโทษจิตกรหนุ่มผู้นั้นด้วยตัวของเขาเอง แถมยังยอมซื้อภาพนั้นกลับบ้านในราคาหกแสนเหรียญโดยไม่ขาดไม่เกินไปแม้แต่สตางค์เดียว #เพราะอุดมการณ์ ที่ไม่ยอมแพ้ในครานั้น ทำให้ชายเศรษฐียอมกลับมาก้มหัวให้ในวันนี้ จิตกรหนุ่มผู้นี้มีชื่อว่า "ปิกัสโซ่" #ไม่มีใคร สามารถทำร้ายคุณหรือยัดเหยียดความอัปยศอดสูมาให้คุณได้ นอกเสียจากตัวคุณเอง! #เครดิต : นุสนธิ์บุคส์ #ขอบคุณเจ้าของบทความและภาพประกอบ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⇨ ภาพนี้ ... กำลังจะทำให้ประเทศไทยได้หลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงถึงการใช้ธงช้างเผือกเป็นธงชาติสยามที่เก่าแก่ที่สุดในโลกมาจัดแสดงที่ประเทศไทยอย่างถาวรครับ

    ⇨ เพราะล่าสุด หลังจากพยายามติดต่อและพูดคุยกับเจ้าของงานสะสมแผนที่โลกและผังธงโลกคนสำคัญ ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศสและอยู่ที่ปารีส ... ซึ่งเขาได้เห็นภาพนี้ที่ผมส่งไปให้ดู และเขาได้รับรู้ถึงความทุ่มเทและความตั้งใจของผมที่จะเผยแพร่ประวัติศาสตร์ชาติว่าด้วยเรื่องประวัติธงชาติไทยตลอดมา

    ⇨ อย่างน้อยในขณะนี้ เจ้าของผังธงโลกโบราณเขาก็เปิดใจและพร้อมคุยกันในรายละเอียดเรื่องที่จะจบกันที่เท่าไหร่ และทำอย่างไรถึงจะนำงานพิมพ์ธงช้างเผือกที่เก่าแก่ที่สุดในโลกซึ่งพิมพ์ในปี พ.ศ. 2380 ตรงกับรัชกาลที่ 3 นี้ ... ได้มาอยู่ที่ประเทศไทย! ...

    ⇨ ร่วมแรงส่งใจเพื่อความสำเร็จและความสมบูรณ์ของหลักฐานประวัติศาสตร์ชาติไทยกันครับ

    โดย พฦฒิพล ประชุมผล
    ขอบคุณเจ้าของเครดิต🙏

    #สาระดีbypank
    ⇨ ภาพนี้ ... กำลังจะทำให้ประเทศไทยได้หลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงถึงการใช้ธงช้างเผือกเป็นธงชาติสยามที่เก่าแก่ที่สุดในโลกมาจัดแสดงที่ประเทศไทยอย่างถาวรครับ ⇨ เพราะล่าสุด หลังจากพยายามติดต่อและพูดคุยกับเจ้าของงานสะสมแผนที่โลกและผังธงโลกคนสำคัญ ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศสและอยู่ที่ปารีส ... ซึ่งเขาได้เห็นภาพนี้ที่ผมส่งไปให้ดู และเขาได้รับรู้ถึงความทุ่มเทและความตั้งใจของผมที่จะเผยแพร่ประวัติศาสตร์ชาติว่าด้วยเรื่องประวัติธงชาติไทยตลอดมา ⇨ อย่างน้อยในขณะนี้ เจ้าของผังธงโลกโบราณเขาก็เปิดใจและพร้อมคุยกันในรายละเอียดเรื่องที่จะจบกันที่เท่าไหร่ และทำอย่างไรถึงจะนำงานพิมพ์ธงช้างเผือกที่เก่าแก่ที่สุดในโลกซึ่งพิมพ์ในปี พ.ศ. 2380 ตรงกับรัชกาลที่ 3 นี้ ... ได้มาอยู่ที่ประเทศไทย! ... ⇨ ร่วมแรงส่งใจเพื่อความสำเร็จและความสมบูรณ์ของหลักฐานประวัติศาสตร์ชาติไทยกันครับ โดย พฦฒิพล ประชุมผล ขอบคุณเจ้าของเครดิต🙏 #สาระดีbypank
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • จำไว้นะ...
    บ้านจะหลังใหญ่ จะแพงมากแค่ไหน
    แต่ห้องที่เราใช้จริงๆ ก็มีแค่สามห้อง
    คือ ห้องน้ำ ห้องนอน ห้องครัว
    จำเป็นไหมที่บ้านจะต้องใหญ่ ต้องแพงมากๆ
    ถ้าต้องเพิ่มอะไรให้กับบ้าน คงไม่ใช่ขนาด
    หรือราคาที่ต้องเพิ่ม หากแต่ต้องเพิ่มความรัก
    ความใส่ใจและการดูแลกันในครอบครัว
    เพื่อให้ "บ้านเป็นบ้าน""ที่คนในบ้านทุกคน อยากกลับ

    เครดิต FB พื้นที่ใจฟู
    จำไว้นะ... บ้านจะหลังใหญ่ จะแพงมากแค่ไหน แต่ห้องที่เราใช้จริงๆ ก็มีแค่สามห้อง คือ ห้องน้ำ ห้องนอน ห้องครัว จำเป็นไหมที่บ้านจะต้องใหญ่ ต้องแพงมากๆ ถ้าต้องเพิ่มอะไรให้กับบ้าน คงไม่ใช่ขนาด หรือราคาที่ต้องเพิ่ม หากแต่ต้องเพิ่มความรัก ความใส่ใจและการดูแลกันในครอบครัว เพื่อให้ "บ้านเป็นบ้าน""ที่คนในบ้านทุกคน อยากกลับ เครดิต FB พื้นที่ใจฟู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=JzS10wHjUxo
    บทสนทนาการซื้อตั๋วหนังที่โรงหนัง
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาการซื้อตั๋วหนังเรื่อง ธี่หยด 2 ที่โรงหนัง
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #conversations #listeningtest #basiclistening

    The conversations from the clip :
    The conversations from the clip :
    Customer: Hi! I’d like to buy two tickets for Theeyod, please.
    Ticket Seller: Sure! What time would you like? The next showings are at 5:30 PM and 7:30 PM.
    Customer: We’ll take the 7:30 PM show, please.
    Ticket Seller: Great choice! Do you want regular seats or VIP?
    Customer: Hmm, what’s the difference?
    Ticket Seller: VIP seats are more spacious and come with complimentary snacks.
    Customer: That sounds nice, but we’ll go with regular seats this time.
    Ticket Seller: No problem. That’ll be $20 for two tickets. How would you like to pay?
    Customer: I’ll pay by card, please.
    Ticket Seller: Alright. Please insert your card here… Perfect, your payment went through!
    Customer: Great! Are there any good seats left?
    Ticket Seller: Yes, there are! You can choose your seats on this screen.
    Customer: Let’s go with these two in the middle. Is that okay?
    Ticket Seller: Sure! Here are your tickets. Enjoy the movie!
    Customer: Thank you! We’re excited to see Theeyod.
    Ticket Seller: I hope you enjoy it! It’s a real thriller.

    ลูกค้า: สวัสดีค่ะ! ฉันต้องการซื้อบัตรสองใบสำหรับ "ธี่หยด" ค่ะ
    พนักงานขายบัตร: แน่นอน! คุณต้องการเวลาไหนครับ? รอบถัดไปคือ 17:30 น. และ 19:30 น.
    ลูกค้า: เราจะเลือกรอบ 19:30 น. ค่ะ
    พนักงานขายบัตร: เป็นการเลือกที่ดี! คุณต้องการที่นั่งปกติหรือ VIP ครับ?
    ลูกค้า: อืม มีความแตกต่างยังไงบ้าง?
    พนักงานขายบัตร: ที่นั่ง VIP จะกว้างขวางกว่าและมาพร้อมกับขนมขบเคี้ยวฟรี
    ลูกค้า: ฟังดูดี แต่ครั้งนี้เราจะเลือกที่นั่งปกติ
    พนักงานขายบัตร: ไม่มีปัญหาครับ ราคาสำหรับสองใบคือ 20 ดอลลาร์ครับ คุณจะชำระเงินอย่างไรครับ?
    ลูกค้า: ฉันจะชำระด้วยบัตรเครดิตค่ะ
    พนักงานขายบัตร: โอเคครับ กรุณาใส่บัตรของคุณที่นี่... สมบูรณ์แบบ การชำระเงินของคุณเสร็จเรียบร้อยแล้ว!
    ลูกค้า: ดีมาก! ยังมีที่นั่งดี ๆ เหลืออยู่ไหมค่ะ?
    พนักงานขายบัตร: มีครับ คุณสามารถเลือกที่นั่งของคุณบนหน้าจอนี้ได้เลย
    ลูกค้า: เอาที่นั่งสองที่ตรงกลางนี้ได้ไหมค่ะ?
    พนักงานขายบัตร: ได้ครับ! นี่คือบัตรของคุณ ขอให้สนุกกับหนังนะครับ!
    ลูกค้า: ขอบคุณค่ะ! เราตื่นเต้นที่จะดู "ธี่หยด"

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Ticket (ทิค-เก็ท) n. แปลว่า ตั๋ว
    Show (โชว์) n. แปลว่า การแสดง, รอบภาพยนตร์
    VIP (วี-ไอ-พี) adj. แปลว่า พิเศษ, วีไอพี
    Spacious (สเป-เชิส) adj. แปลว่า กว้างขวาง
    Complimentary (คอม-พลิ-เมน-ทา-รี) adj. แปลว่า ที่ให้ฟรี
    Snacks (สแนคส์) n. แปลว่า อาหารว่าง
    Regular (เร็ก-กิว-ลาร์) adj. แปลว่า ปกติ, ทั่วไป
    Seats (ซีทส์) n. แปลว่า ที่นั่ง
    Choice (ชอยส์) n. แปลว่า ตัวเลือก
    Pay (เพย์) v. แปลว่า จ่าย
    Card (คาร์ด) n. แปลว่า บัตรเครดิต/บัตรเดบิต
    Insert (อิน-เซิร์ท) v. แปลว่า ใส่
    Payment (เพย์-เมินท์) n. แปลว่า การชำระเงิน
    Screen (สครีน) n. แปลว่า หน้าจอ
    Thriller (ธริล-เลอร์) n. แปลว่า หนังตื่นเต้น, หนังระทึกขวัญ
    https://www.youtube.com/watch?v=JzS10wHjUxo บทสนทนาการซื้อตั๋วหนังที่โรงหนัง (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาการซื้อตั๋วหนังเรื่อง ธี่หยด 2 ที่โรงหนัง มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #conversations #listeningtest #basiclistening The conversations from the clip : The conversations from the clip : Customer: Hi! I’d like to buy two tickets for Theeyod, please. Ticket Seller: Sure! What time would you like? The next showings are at 5:30 PM and 7:30 PM. Customer: We’ll take the 7:30 PM show, please. Ticket Seller: Great choice! Do you want regular seats or VIP? Customer: Hmm, what’s the difference? Ticket Seller: VIP seats are more spacious and come with complimentary snacks. Customer: That sounds nice, but we’ll go with regular seats this time. Ticket Seller: No problem. That’ll be $20 for two tickets. How would you like to pay? Customer: I’ll pay by card, please. Ticket Seller: Alright. Please insert your card here… Perfect, your payment went through! Customer: Great! Are there any good seats left? Ticket Seller: Yes, there are! You can choose your seats on this screen. Customer: Let’s go with these two in the middle. Is that okay? Ticket Seller: Sure! Here are your tickets. Enjoy the movie! Customer: Thank you! We’re excited to see Theeyod. Ticket Seller: I hope you enjoy it! It’s a real thriller. ลูกค้า: สวัสดีค่ะ! ฉันต้องการซื้อบัตรสองใบสำหรับ "ธี่หยด" ค่ะ พนักงานขายบัตร: แน่นอน! คุณต้องการเวลาไหนครับ? รอบถัดไปคือ 17:30 น. และ 19:30 น. ลูกค้า: เราจะเลือกรอบ 19:30 น. ค่ะ พนักงานขายบัตร: เป็นการเลือกที่ดี! คุณต้องการที่นั่งปกติหรือ VIP ครับ? ลูกค้า: อืม มีความแตกต่างยังไงบ้าง? พนักงานขายบัตร: ที่นั่ง VIP จะกว้างขวางกว่าและมาพร้อมกับขนมขบเคี้ยวฟรี ลูกค้า: ฟังดูดี แต่ครั้งนี้เราจะเลือกที่นั่งปกติ พนักงานขายบัตร: ไม่มีปัญหาครับ ราคาสำหรับสองใบคือ 20 ดอลลาร์ครับ คุณจะชำระเงินอย่างไรครับ? ลูกค้า: ฉันจะชำระด้วยบัตรเครดิตค่ะ พนักงานขายบัตร: โอเคครับ กรุณาใส่บัตรของคุณที่นี่... สมบูรณ์แบบ การชำระเงินของคุณเสร็จเรียบร้อยแล้ว! ลูกค้า: ดีมาก! ยังมีที่นั่งดี ๆ เหลืออยู่ไหมค่ะ? พนักงานขายบัตร: มีครับ คุณสามารถเลือกที่นั่งของคุณบนหน้าจอนี้ได้เลย ลูกค้า: เอาที่นั่งสองที่ตรงกลางนี้ได้ไหมค่ะ? พนักงานขายบัตร: ได้ครับ! นี่คือบัตรของคุณ ขอให้สนุกกับหนังนะครับ! ลูกค้า: ขอบคุณค่ะ! เราตื่นเต้นที่จะดู "ธี่หยด" Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Ticket (ทิค-เก็ท) n. แปลว่า ตั๋ว Show (โชว์) n. แปลว่า การแสดง, รอบภาพยนตร์ VIP (วี-ไอ-พี) adj. แปลว่า พิเศษ, วีไอพี Spacious (สเป-เชิส) adj. แปลว่า กว้างขวาง Complimentary (คอม-พลิ-เมน-ทา-รี) adj. แปลว่า ที่ให้ฟรี Snacks (สแนคส์) n. แปลว่า อาหารว่าง Regular (เร็ก-กิว-ลาร์) adj. แปลว่า ปกติ, ทั่วไป Seats (ซีทส์) n. แปลว่า ที่นั่ง Choice (ชอยส์) n. แปลว่า ตัวเลือก Pay (เพย์) v. แปลว่า จ่าย Card (คาร์ด) n. แปลว่า บัตรเครดิต/บัตรเดบิต Insert (อิน-เซิร์ท) v. แปลว่า ใส่ Payment (เพย์-เมินท์) n. แปลว่า การชำระเงิน Screen (สครีน) n. แปลว่า หน้าจอ Thriller (ธริล-เลอร์) n. แปลว่า หนังตื่นเต้น, หนังระทึกขวัญ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์ ประกอบด้วย

    1. นายชาติพงษ์ จีระพันธุ์ อัยการอาวุโส เป็นประธานกรรมการ
    2.พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นกรรมการ
    3. นายนิรันต์ ยั่งยืน รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคุ้มครองสิทธิ และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน เป็นกรรมการ
    4.นายกฤช เอื้อวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (น.ส.จิราพร สินธุไพร) เป็นกรรมการ
    5. พ.ต.ต.จตุพล บงกชมาศ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นกรรมการ
    6. นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นกรรมการ
    7. นายปวริศ ผุดผ่อง คณะที่ปรึกษาของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการ
    8 นายวิสุทธิ์ ฉัตรานุฉัตร ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและระเบียบกลาง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เลขานุการ

    โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมีหน้าที่และอำนาจ ดังนี้
    ข้อ 1.ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเชิญผู้บริหาร พนักงานเจ้าหน้าที่ในสำนักงาน
    คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำหรือให้ข้อเท็จจริงและมีอำนาจ
    เรียกเอกสารใด ๆ จากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือหน่วยงานใด ๆ เพื่อประกอบ
    การพิจารณา และให้รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อเสนอแนะต่อรองนายกรัฐมนตรี
    (นายประเสริฐ จันทรรวงทอง) และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
    ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้ออกคำสั่ง ในกรณีจำเป็นรองนายกรัฐมนตรี (นายประเสริฐ จันทรรวงทอง)
    อาจมีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาออกไปได้อีกตามที่เห็นสมควร
    ข้อ 2.คณะกรรมการอาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ รวมทั้งผู้ช่วยเลขานุการ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อพิจารณาศึกษาหรือปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่คณะกรรมการมอบหมายก็ได้

    ข้อ 3.ให้คณะกรรมการ และคณะอนุกรรมการที่แต่งตั้งตามคำสั่งนี้ได้รับเบี้ยประชุมและค่าตอบแทนตามที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยให้เบิกจ่ายจากสำนักนายกรัฐมนตรี
    ข้อ 4 ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ได้รับมอบหมาย

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายชาติพงษ์ จีระพันธุ ถูกตั้งขึ้นมาเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เคยเป็นอดีตรองอัยการสูงสุด มีชื่อเสียงเรื่องปราบการทุจริตคอร์รัปชัน มีประสบการณ์มากมาย เคยเป็นรองอธิบดีอัยการคดีพิเศษ ,เเละอธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังเป็นหัวหน้าคณะทำงานที่คุมคดีสำคัญของสำนักงานคดีพิเศษหลายคดี ,คดีนิติบุคคล ฟิลิป มอร์ริส นำเข้าบุหรี่โดยหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร ซึ่งขณะนี้มีกรณีพิพาท ระหว่างประเทศไทยกับประเทศฟิลิปปินส์ ในเรื่องนี้ที่องค์การการค้าโลก หรือดับเบิลยูทีโอ,คดีทุจริตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งเกี่ยวพันถึงคดีทุจริตฟอกเงินเครือข่ายวัดธรรมกาย ,คดีธนาคารกรุงไทย ปล่อยกู้ กลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ,คดีทุจริตการฟอกเงินในโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ,เคยเป็นกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด กรณีสั่งไม่ฟ้องคดีลูกนักธุรกิจชื่อดังขับรถชนคนตาย

    ล่าสุดช่วงที่ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีเคย มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีการเข้าค้นบ้านพักอดีตรองผบ.ตร.ด้วย

    #Thaitimes
    มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์ ประกอบด้วย 1. นายชาติพงษ์ จีระพันธุ์ อัยการอาวุโส เป็นประธานกรรมการ 2.พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นกรรมการ 3. นายนิรันต์ ยั่งยืน รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคุ้มครองสิทธิ และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน เป็นกรรมการ 4.นายกฤช เอื้อวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (น.ส.จิราพร สินธุไพร) เป็นกรรมการ 5. พ.ต.ต.จตุพล บงกชมาศ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นกรรมการ 6. นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นกรรมการ 7. นายปวริศ ผุดผ่อง คณะที่ปรึกษาของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการ 8 นายวิสุทธิ์ ฉัตรานุฉัตร ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและระเบียบกลาง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เลขานุการ โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมีหน้าที่และอำนาจ ดังนี้ ข้อ 1.ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเชิญผู้บริหาร พนักงานเจ้าหน้าที่ในสำนักงาน คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำหรือให้ข้อเท็จจริงและมีอำนาจ เรียกเอกสารใด ๆ จากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือหน่วยงานใด ๆ เพื่อประกอบ การพิจารณา และให้รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อเสนอแนะต่อรองนายกรัฐมนตรี (นายประเสริฐ จันทรรวงทอง) และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้ออกคำสั่ง ในกรณีจำเป็นรองนายกรัฐมนตรี (นายประเสริฐ จันทรรวงทอง) อาจมีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาออกไปได้อีกตามที่เห็นสมควร ข้อ 2.คณะกรรมการอาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ รวมทั้งผู้ช่วยเลขานุการ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อพิจารณาศึกษาหรือปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่คณะกรรมการมอบหมายก็ได้ ข้อ 3.ให้คณะกรรมการ และคณะอนุกรรมการที่แต่งตั้งตามคำสั่งนี้ได้รับเบี้ยประชุมและค่าตอบแทนตามที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยให้เบิกจ่ายจากสำนักนายกรัฐมนตรี ข้อ 4 ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ได้รับมอบหมาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายชาติพงษ์ จีระพันธุ ถูกตั้งขึ้นมาเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เคยเป็นอดีตรองอัยการสูงสุด มีชื่อเสียงเรื่องปราบการทุจริตคอร์รัปชัน มีประสบการณ์มากมาย เคยเป็นรองอธิบดีอัยการคดีพิเศษ ,เเละอธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังเป็นหัวหน้าคณะทำงานที่คุมคดีสำคัญของสำนักงานคดีพิเศษหลายคดี ,คดีนิติบุคคล ฟิลิป มอร์ริส นำเข้าบุหรี่โดยหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร ซึ่งขณะนี้มีกรณีพิพาท ระหว่างประเทศไทยกับประเทศฟิลิปปินส์ ในเรื่องนี้ที่องค์การการค้าโลก หรือดับเบิลยูทีโอ,คดีทุจริตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งเกี่ยวพันถึงคดีทุจริตฟอกเงินเครือข่ายวัดธรรมกาย ,คดีธนาคารกรุงไทย ปล่อยกู้ กลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ,คดีทุจริตการฟอกเงินในโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ,เคยเป็นกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด กรณีสั่งไม่ฟ้องคดีลูกนักธุรกิจชื่อดังขับรถชนคนตาย ล่าสุดช่วงที่ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีเคย มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีการเข้าค้นบ้านพักอดีตรองผบ.ตร.ด้วย #Thaitimes
    สำนักนายกฯ ตั้ง ‘ชาติพงษ์’ อดีตรอง อสส.นั่ง ปธ.สอบข้อเท็จจริงคดี ‘ดิไอคอน’ จ่ายส่วยเทวดาเป็นค่าคุ้มครอง มีอำนาจเรียกสอบ-เอกสาร จาก สคบ.หน่วยงานเกี่ยวข้อง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000099909

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 2.50 เป็นร้อยละ 2.25 ต่อปี โดยให้มีผลทันที

    16 ตุลาคม 2567-รายงานผลการประชุม กนง. ระบุว่า เศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567 ด้านกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้มีแนวโน้มเกิดขึ้นต่อเนื่อง คณะกรรมการฯ เห็นว่าจุดยืนของนโยบายการเงินที่เป็นกลางยังเหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ กรรมการส่วนใหญ่เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปีในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาระหนี้ได้บ้าง โดยไม่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ภายใต้บริบทที่สินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงอยู่ในระดับที่ยังเป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ ขณะที่กรรมการ 2 ท่าน เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมยังสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ และให้น้ำหนักกับการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว รวมถึงการรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินในการรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า

    เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ที่ร้อยละ 2.7 และ 2.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชนซึ่งได้รับแรงส่งเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการส่งออกที่ปรับดีขึ้นตามความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ เศรษฐกิจฟื้นตัวแตกต่างกันในแต่ละภาคส่วน โดยการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมบางกลุ่ม รวมถึง SMEs ยังถูกกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง

    อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2567 และ 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 1.2 ตามลำดับ โดยอัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารสดมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากสภาพอากาศที่ผันผวน และอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากผลของฐาน ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 0.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ โดยอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง อาทิ การแข่งขันด้านราคาที่อยู่ในระดับสูงจากสินค้านำเข้า ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับกรอบเป้าหมาย และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567

    ภาวะการเงินโดยรวมตึงตัวขึ้นบ้าง อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์ สรอ. ปรับแข็งค่า ตามทิศทางนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลักและปัจจัยเฉพาะในประเทศ ด้านต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนผ่านธนาคารพาณิชย์และตลาดตราสารหนี้ยังทรงตัวใกล้เคียงเดิม สินเชื่อโดยรวมชะลอลง โดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจ SMEs กลุ่มธุรกิจที่เผชิญปัญหาเชิงโครงสร้าง รวมทั้งสินเชื่อเช่าซื้อและบัตรเครดิต ด้านคุณภาพสินเชื่อปรับด้อยลง ส่วนหนึ่งมาจากลูกหนี้ที่เคยได้รับความช่วยเหลือทางการเงินในช่วงที่ผ่านมา และธุรกิจ SMEs และครัวเรือนที่รายได้ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่และมีภาระหนี้สูง คณะกรรมการฯ ยังสนับสนุนนโยบายของ ธปท. ที่ให้สถาบันการเงินช่วยเหลือลูกหนี้ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาภาระหนี้ที่ตรงจุดและมีส่วนช่วยกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ ทั้งนี้ ต้องติดตามผลกระทบของคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลงต่อต้นทุนการกู้ยืมและการขยายตัวของสินเชื่อในภาพรวม รวมถึงนัยต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

    ภายใต้กรอบการดำเนินนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน คณะกรรมการฯ เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังควรอยู่ในระดับที่เป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ รวมทั้งไม่ต่ำเกินไปจนนำไปสู่การสะสมความไม่สมดุลทางการเงินในระยะยาว

    ธนาคารแห่งประเทศไทย
    16 ตุลาคม 2567

    #Thaitimes
    คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 2.50 เป็นร้อยละ 2.25 ต่อปี โดยให้มีผลทันที 16 ตุลาคม 2567-รายงานผลการประชุม กนง. ระบุว่า เศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567 ด้านกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้มีแนวโน้มเกิดขึ้นต่อเนื่อง คณะกรรมการฯ เห็นว่าจุดยืนของนโยบายการเงินที่เป็นกลางยังเหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ กรรมการส่วนใหญ่เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปีในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาระหนี้ได้บ้าง โดยไม่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ภายใต้บริบทที่สินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงอยู่ในระดับที่ยังเป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ ขณะที่กรรมการ 2 ท่าน เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมยังสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ และให้น้ำหนักกับการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว รวมถึงการรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินในการรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ที่ร้อยละ 2.7 และ 2.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชนซึ่งได้รับแรงส่งเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการส่งออกที่ปรับดีขึ้นตามความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ เศรษฐกิจฟื้นตัวแตกต่างกันในแต่ละภาคส่วน โดยการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมบางกลุ่ม รวมถึง SMEs ยังถูกกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2567 และ 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 1.2 ตามลำดับ โดยอัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารสดมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากสภาพอากาศที่ผันผวน และอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากผลของฐาน ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 0.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ โดยอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง อาทิ การแข่งขันด้านราคาที่อยู่ในระดับสูงจากสินค้านำเข้า ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับกรอบเป้าหมาย และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567 ภาวะการเงินโดยรวมตึงตัวขึ้นบ้าง อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์ สรอ. ปรับแข็งค่า ตามทิศทางนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลักและปัจจัยเฉพาะในประเทศ ด้านต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนผ่านธนาคารพาณิชย์และตลาดตราสารหนี้ยังทรงตัวใกล้เคียงเดิม สินเชื่อโดยรวมชะลอลง โดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจ SMEs กลุ่มธุรกิจที่เผชิญปัญหาเชิงโครงสร้าง รวมทั้งสินเชื่อเช่าซื้อและบัตรเครดิต ด้านคุณภาพสินเชื่อปรับด้อยลง ส่วนหนึ่งมาจากลูกหนี้ที่เคยได้รับความช่วยเหลือทางการเงินในช่วงที่ผ่านมา และธุรกิจ SMEs และครัวเรือนที่รายได้ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่และมีภาระหนี้สูง คณะกรรมการฯ ยังสนับสนุนนโยบายของ ธปท. ที่ให้สถาบันการเงินช่วยเหลือลูกหนี้ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาภาระหนี้ที่ตรงจุดและมีส่วนช่วยกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ ทั้งนี้ ต้องติดตามผลกระทบของคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลงต่อต้นทุนการกู้ยืมและการขยายตัวของสินเชื่อในภาพรวม รวมถึงนัยต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบการดำเนินนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน คณะกรรมการฯ เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังควรอยู่ในระดับที่เป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ รวมทั้งไม่ต่ำเกินไปจนนำไปสู่การสะสมความไม่สมดุลทางการเงินในระยะยาว ธนาคารแห่งประเทศไทย 16 ตุลาคม 2567 #Thaitimes
    Like
    Love
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 280 มุมมอง 0 รีวิว
  • มติ กนง. 5 ต่อ 2 ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็นร้อยละ 2.25 ต่อปี มีผลทันที
    .
    วันนี้ (16 ต.ค.) นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ระบุว่า คณะกรรมการฯ มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 2.50 เป็นร้อยละ 2.25 ต่อปี โดยให้มีผลทันที
    .
    โดยเห็นว่าเศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไป จะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567 ด้านกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ มีแนวโน้มเกิดขึ้นต่อเนื่อง คณะกรรมการฯ เห็นว่า จุดยืนของนโยบายการเงินที่เป็นกลางยังเหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ กรรมการส่วนใหญ่เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี ในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาระหนี้ได้บ้าง โดยไม่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ ภายใต้บริบทที่สินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงอยู่ในระดับที่ยังเป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ ขณะที่กรรมการ 2 ท่าน เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมยังสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ และให้น้ำหนักกับการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว รวมถึงการรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินในการรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า
    .
    เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ที่ร้อยละ 2.7 และ 2.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลําดับ โดยมีแรงขับเคลื่อนสําคัญมาจากภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งได้รับแรงส่งเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการส่งออกที่ปรับดีขึ้นตามความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ เศรษฐกิจฟื้นตัวแตกต่างกันในแต่ละภาคส่วน โดยการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมบางกลุ่ม รวมถึง SMEs ยังถูกกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง
    .
    อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2567 และ 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 1.2 ตามลําดับ โดยอัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารสดมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากสภาพอากาศที่ผันผวน และอัตราเงินเฟ้อ หมวดพลังงานมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากผลของฐาน ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 0.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลําดับ โดยอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง อาทิ การแข่งขันด้านราคาที่อยู่ในระดับสูงจากสินค้านําเข้า ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับกรอบเป้าหมาย และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567
    .
    ภาวะการเงินโดยรวมตึงตัวขึ้นบ้าง อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับแข็งค่า ตามทิศทางนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลัก และปัจจัยเฉพาะในประเทศ ด้านต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนผ่านธนาคารพาณิชย์และตลาดตราสารหนี้ยังทรงตัวใกล้เคียงเดิม สินเชื่อโดยรวมชะลอลง โดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจ SMEs กลุ่มธุรกิจที่เผชิญปัญหาเชิงโครงสร้าง รวมทั้งสินเชื่อเช่าซื้อและบัตรเครดิต ด้านคุณภาพสินเชื่อปรับน้อยลง ส่วนหนึ่งมาจากลูกหนี้ที่เคยได้รับความช่วยเหลือทางการเงินในช่วงที่ผ่านมา และธุรกิจ SMEs และครัวเรือนที่รายได้ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่และมีภาระหนี้สูง คณะกรรมการฯ ยังสนับสนุน นโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ให้สถาบันการเงินช่วยเหลือลูกหนี้ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาภาระหนี้ที่ตรงจุด และมีส่วนช่วยกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ ทั้งนี้ ต้องติดตามผลกระทบของคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลงต่อต้นทุนการกู้ยืมและการขยายตัวของสินเชื่อในภาพรวม รวมถึงนัยต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
    .
    ภายใต้กรอบการดําเนินนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน คณะกรรมการฯ เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังควรอยู่ในระดับที่เป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ รวมทั้งไม่ต่ำเกินไปจนนําไปสู่การสะสมความไม่สมดุลทางการเงินในระยะยาว
    .............
    Sondhi X
    มติ กนง. 5 ต่อ 2 ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็นร้อยละ 2.25 ต่อปี มีผลทันที . วันนี้ (16 ต.ค.) นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ระบุว่า คณะกรรมการฯ มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 2.50 เป็นร้อยละ 2.25 ต่อปี โดยให้มีผลทันที . โดยเห็นว่าเศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไป จะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567 ด้านกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ มีแนวโน้มเกิดขึ้นต่อเนื่อง คณะกรรมการฯ เห็นว่า จุดยืนของนโยบายการเงินที่เป็นกลางยังเหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ กรรมการส่วนใหญ่เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี ในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาระหนี้ได้บ้าง โดยไม่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ ภายใต้บริบทที่สินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงอยู่ในระดับที่ยังเป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ ขณะที่กรรมการ 2 ท่าน เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมยังสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ และให้น้ำหนักกับการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว รวมถึงการรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินในการรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า . เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ที่ร้อยละ 2.7 และ 2.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลําดับ โดยมีแรงขับเคลื่อนสําคัญมาจากภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งได้รับแรงส่งเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการส่งออกที่ปรับดีขึ้นตามความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ เศรษฐกิจฟื้นตัวแตกต่างกันในแต่ละภาคส่วน โดยการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมบางกลุ่ม รวมถึง SMEs ยังถูกกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง . อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2567 และ 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 1.2 ตามลําดับ โดยอัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารสดมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากสภาพอากาศที่ผันผวน และอัตราเงินเฟ้อ หมวดพลังงานมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากผลของฐาน ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 0.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลําดับ โดยอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง อาทิ การแข่งขันด้านราคาที่อยู่ในระดับสูงจากสินค้านําเข้า ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับกรอบเป้าหมาย และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567 . ภาวะการเงินโดยรวมตึงตัวขึ้นบ้าง อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับแข็งค่า ตามทิศทางนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลัก และปัจจัยเฉพาะในประเทศ ด้านต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนผ่านธนาคารพาณิชย์และตลาดตราสารหนี้ยังทรงตัวใกล้เคียงเดิม สินเชื่อโดยรวมชะลอลง โดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจ SMEs กลุ่มธุรกิจที่เผชิญปัญหาเชิงโครงสร้าง รวมทั้งสินเชื่อเช่าซื้อและบัตรเครดิต ด้านคุณภาพสินเชื่อปรับน้อยลง ส่วนหนึ่งมาจากลูกหนี้ที่เคยได้รับความช่วยเหลือทางการเงินในช่วงที่ผ่านมา และธุรกิจ SMEs และครัวเรือนที่รายได้ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่และมีภาระหนี้สูง คณะกรรมการฯ ยังสนับสนุน นโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ให้สถาบันการเงินช่วยเหลือลูกหนี้ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาภาระหนี้ที่ตรงจุด และมีส่วนช่วยกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ ทั้งนี้ ต้องติดตามผลกระทบของคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลงต่อต้นทุนการกู้ยืมและการขยายตัวของสินเชื่อในภาพรวม รวมถึงนัยต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ . ภายใต้กรอบการดําเนินนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน คณะกรรมการฯ เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังควรอยู่ในระดับที่เป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ รวมทั้งไม่ต่ำเกินไปจนนําไปสู่การสะสมความไม่สมดุลทางการเงินในระยะยาว ............. Sondhi X
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 691 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=dYF-zElTk90
    บทสนทนาที่ร้านกาแฟ
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาที่ร้านกาแฟ
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #conversations #listeningtest #basiclistening

    The conversations from the clip :
    Barista: Hi! Welcome to our café. What can I get for you today?
    Customer: Hi! I’d like a cappuccino, please.
    Barista: Sure! Would you like that hot or iced?
    Customer: I’ll take it hot, please.
    Barista: Great! What size would you like? Small, medium, or large?
    Customer: I’ll go with a medium.
    Barista: Perfect. Would you like any pastries to go with your drink? We have fresh croissants and muffins today.
    Customer: Hmm, I’ll take a chocolate croissant as well.
    Barista: Excellent choice! Is that for here or to go?
    Customer: For here, please.
    Barista: No problem. Your total comes to $7.50.
    Customer: Here’s my card.
    Barista: Thank you! I’ll get your order ready. It should be just a few minutes.
    Customer: Thanks so much!
    Barista: You’re welcome! Enjoy your coffee and pastry.

    บาริสต้า: สวัสดี! ยินดีต้อนรับสู่คาเฟ่ของเรา คุณต้องการอะไรวันนี้ครับ?
    ลูกค้า: สวัสดี! ฉันขอคาปูชิโน่หนึ่งแก้วค่ะ
    บาริสต้า: แน่นอน! คุณต้องการแบบร้อนหรือเย็นครับ?
    ลูกค้า: ขอแบบร้อนค่ะ
    บาริสต้า: เยี่ยมมาก! คุณต้องการขนาดไหนครับ? เล็ก กลาง หรือใหญ่?
    ลูกค้า: ขอขนาดกลางค่ะ
    บาริสต้า: เหมาะเลย! คุณต้องการขนมอบอะไรเพิ่มเติมไหมครับ? วันนี้เรามีครัวซองต์สดและมัฟฟิน
    ลูกค้า: อืม ขอครัวซองต์ช็อกโกแลตด้วยค่ะ
    บาริสต้า: ตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม! นี่จะทานที่นี่หรือเอากลับครับ?
    ลูกค้า: ทานที่นี่ค่ะ
    บาริสต้า: ไม่มีปัญหาครับ ยอดรวมของคุณคือ 7.50 ดอลลาร์ครับ
    ลูกค้า: นี่คือบัตรของฉันค่ะ
    บาริสต้า: ขอบคุณ! ฉันจะเตรียมคำสั่งของคุณให้เรียบร้อย ใช้เวลาสักครู่นะครับ
    ลูกค้า: ขอบคุณมากค่ะ!
    บาริสต้า: ยินดีครับ! ขอให้คุณเพลิดเพลินกับกาแฟและขนมอบนะครับ

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Café (คาเฟ่) n. แปลว่า ร้านกาแฟ
    Cappuccino (คาปูชิโน) n. แปลว่า กาแฟคาปูชิโน
    Hot (ฮอท) adj. แปลว่า ร้อน
    Iced (ไอซ์) adj. แปลว่า เย็น
    Size (ไซส์) n. แปลว่า ขนาด
    Small (สมอล) adj. แปลว่า เล็ก
    Medium (มีเดียม) adj. แปลว่า กลาง
    Large (ลาร์จ) adj. แปลว่า ใหญ่
    Pastries (เพส-ตรีส) n. แปลว่า ขนมอบ
    Croissant (ควอ-ซอง) n. แปลว่า ครัวซองต์
    Muffin (มัฟฟิน) n. แปลว่า มัฟฟิน
    Order (ออร์เดอร์) n. แปลว่า การสั่งซื้อ
    Total (โท-ทัล) n. แปลว่า ยอดรวม
    Card (การ์ด) n. แปลว่า บัตรเครดิต
    Enjoy (เอน-จอย) v. แปลว่า สนุกกับ, เพลิดเพลินกับ
    https://www.youtube.com/watch?v=dYF-zElTk90 บทสนทนาที่ร้านกาแฟ (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาที่ร้านกาแฟ มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #conversations #listeningtest #basiclistening The conversations from the clip : Barista: Hi! Welcome to our café. What can I get for you today? Customer: Hi! I’d like a cappuccino, please. Barista: Sure! Would you like that hot or iced? Customer: I’ll take it hot, please. Barista: Great! What size would you like? Small, medium, or large? Customer: I’ll go with a medium. Barista: Perfect. Would you like any pastries to go with your drink? We have fresh croissants and muffins today. Customer: Hmm, I’ll take a chocolate croissant as well. Barista: Excellent choice! Is that for here or to go? Customer: For here, please. Barista: No problem. Your total comes to $7.50. Customer: Here’s my card. Barista: Thank you! I’ll get your order ready. It should be just a few minutes. Customer: Thanks so much! Barista: You’re welcome! Enjoy your coffee and pastry. บาริสต้า: สวัสดี! ยินดีต้อนรับสู่คาเฟ่ของเรา คุณต้องการอะไรวันนี้ครับ? ลูกค้า: สวัสดี! ฉันขอคาปูชิโน่หนึ่งแก้วค่ะ บาริสต้า: แน่นอน! คุณต้องการแบบร้อนหรือเย็นครับ? ลูกค้า: ขอแบบร้อนค่ะ บาริสต้า: เยี่ยมมาก! คุณต้องการขนาดไหนครับ? เล็ก กลาง หรือใหญ่? ลูกค้า: ขอขนาดกลางค่ะ บาริสต้า: เหมาะเลย! คุณต้องการขนมอบอะไรเพิ่มเติมไหมครับ? วันนี้เรามีครัวซองต์สดและมัฟฟิน ลูกค้า: อืม ขอครัวซองต์ช็อกโกแลตด้วยค่ะ บาริสต้า: ตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม! นี่จะทานที่นี่หรือเอากลับครับ? ลูกค้า: ทานที่นี่ค่ะ บาริสต้า: ไม่มีปัญหาครับ ยอดรวมของคุณคือ 7.50 ดอลลาร์ครับ ลูกค้า: นี่คือบัตรของฉันค่ะ บาริสต้า: ขอบคุณ! ฉันจะเตรียมคำสั่งของคุณให้เรียบร้อย ใช้เวลาสักครู่นะครับ ลูกค้า: ขอบคุณมากค่ะ! บาริสต้า: ยินดีครับ! ขอให้คุณเพลิดเพลินกับกาแฟและขนมอบนะครับ Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Café (คาเฟ่) n. แปลว่า ร้านกาแฟ Cappuccino (คาปูชิโน) n. แปลว่า กาแฟคาปูชิโน Hot (ฮอท) adj. แปลว่า ร้อน Iced (ไอซ์) adj. แปลว่า เย็น Size (ไซส์) n. แปลว่า ขนาด Small (สมอล) adj. แปลว่า เล็ก Medium (มีเดียม) adj. แปลว่า กลาง Large (ลาร์จ) adj. แปลว่า ใหญ่ Pastries (เพส-ตรีส) n. แปลว่า ขนมอบ Croissant (ควอ-ซอง) n. แปลว่า ครัวซองต์ Muffin (มัฟฟิน) n. แปลว่า มัฟฟิน Order (ออร์เดอร์) n. แปลว่า การสั่งซื้อ Total (โท-ทัล) n. แปลว่า ยอดรวม Card (การ์ด) n. แปลว่า บัตรเครดิต Enjoy (เอน-จอย) v. แปลว่า สนุกกับ, เพลิดเพลินกับ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • การบริหาร "เงินให้งอกเงย" สู่เป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ "ไม่จำเป็นต้องซับซ้อน" แค่ปฏิบัติตามกฎง่ายๆ 6 ข้อเท่านั้น! ตอบโจย์ทุกไลฟ์สไตล์ไม่ว่าคุณจะมีรายได้เท่าไหร่ หรือมีการใช้ชีวิตแบบไหน กฎเหล่านี้จะช่วยให้คุณวางแผนการเงินของคุณได้ดีขึ้น

    —————————

    🔥 มาร่วมฟังมุมมองพร้อมเปิดโอกาสการลงทุนของคุณไปกับ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เจ้าของฉายา "Warren Buffett เมืองไทย" ได้ในงาน Follow The Future 2024 - Unravel The New Era พร้อมพบกับวิทยากรระดับประเทศอีกมากมาย อาทิ "ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย" อดีตรองนายกรัฐมนตรี, "บรรยง พงษ์พานิช" นักการเงินชั้นแนวหน้าผู้ผ่านทุกสนามธุรกิจการเงินระดับโลก

    #ห้ามพลาดแล้วพบกันวันที่ 30 พ.ย. 2567 ณ สมาคมราชกรีฑาสโมสร ร่วมพบปะเพื่อนนักลงทุน ทานอาหารเย็นและ Networking 💥 เปิดขายบัตร Early Bird ราคาพิเศษแล้ววันนี้!! รายละเอียดซื้อบัตร ใน Comment

    —————————

    🔵 1) กฎ 30%

    หมายถึงควร "ใช้จ่ายเพียง 30% ของวงเงินบัตรเครดิต" เช่น วงเงิน 100,000 บาท ไม่ควรใช้จ่ายเกิน 30,000 บาท

    —————————

    🔵 2) กฎ 70%

    วางแผนในช่วงเกษียณอายุด้วยการหารายได้ “70% ของรายได้ต่อเดือน” เช่น ปัจจุบันรายได้อยู่ที่ 100,000 บาท ดังนั้นช่วงเกษียณอายุควรหารายได้ทดแทนประมาณ 70% หรือ 70,000 บาท

    —————————

    🔵 3) กฎ 15%

    “ออมอย่างน้อย 15% ของรายได้” เพื่อในช่วงเกษียณอายุ เช่น หากมีรายได้ 100,000 บาท/เดือน ควรออม 15,000 บาท/เดือน

    —————————

    🔵 4) กฎ 4%

    ศึกษาการลงทุนที่หลากหลายรูปแบบ และควรลงทุนอย่างน้อย 4% ในแต่ละประเภทการลงทุน เช่น งบประมาณการลงทุนรวมทั้งหมด 100,000 บาท ควรแบ่งลงทุน 4,000 บาทสำหรับหุ้น 1 ตัว และลงทุนในกองทุน 4,000 บาท เป็นต้น

    —————————

    🔵 5) กฎของ 115

    นอกจากศึกษาการลงทุนแล้ว ควรคำนวณระยะเวลาที่การลงทุนของเราจะได้รับผลตอบแทนเป็น “สามเท่า” ด้วยการใช้เลข 115 หารด้วยอัตราผลตอบแทน เช่น ผลตอบแทน 10% ต่อปี จะได้รับผลตอบสามเท่า เมื่อครบ 11.5 ปี โดยคำนวณจาก 115/10 นั่นเอง

    —————————

    🔵 6) กฎ 24 ชั่วโมง

    ก่อนจะตัดสินใจซื้อของที่มีราคาสูง “ให้รอ 1 วันหรือ 24 ชั่วโมงก่อนค่อยตัดสินใจ” เพื่อให้เราทบทวนว่าสิ่งนั้นจำเป็นกับเรามากน้อยแค่ไหน

    —————————

    การบริหารการเงินที่ยั่งยืน "ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่รายได้ที่คุณมี" แต่ขึ้นอยู่กับวินัยและการวางแผนที่รอบคอบ กฎทั้ง 6 ข้อที่แนะนำ ไม่ว่าคุณจะจัดการรายรับ รายจ่าย การออม หรือการลงทุนอย่างไร ก็สามารถนำไปปรับใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และเป้าหมายทางการเงินของคุณได้ และการวางแผนที่ดีตั้งแต่วันนี้ จะช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงิน ทั้งในปัจจุบันและอนาคตให้ดียิ่งขึ้นอย่างแน่นอน...

    Reference : BusinessTomorrow
    การบริหาร "เงินให้งอกเงย" สู่เป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ "ไม่จำเป็นต้องซับซ้อน" แค่ปฏิบัติตามกฎง่ายๆ 6 ข้อเท่านั้น! ตอบโจย์ทุกไลฟ์สไตล์ไม่ว่าคุณจะมีรายได้เท่าไหร่ หรือมีการใช้ชีวิตแบบไหน กฎเหล่านี้จะช่วยให้คุณวางแผนการเงินของคุณได้ดีขึ้น ————————— 🔥 มาร่วมฟังมุมมองพร้อมเปิดโอกาสการลงทุนของคุณไปกับ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เจ้าของฉายา "Warren Buffett เมืองไทย" ได้ในงาน Follow The Future 2024 - Unravel The New Era พร้อมพบกับวิทยากรระดับประเทศอีกมากมาย อาทิ "ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย" อดีตรองนายกรัฐมนตรี, "บรรยง พงษ์พานิช" นักการเงินชั้นแนวหน้าผู้ผ่านทุกสนามธุรกิจการเงินระดับโลก #ห้ามพลาดแล้วพบกันวันที่ 30 พ.ย. 2567 ณ สมาคมราชกรีฑาสโมสร ร่วมพบปะเพื่อนนักลงทุน ทานอาหารเย็นและ Networking 💥 เปิดขายบัตร Early Bird ราคาพิเศษแล้ววันนี้!! รายละเอียดซื้อบัตร ใน Comment ————————— 🔵 1) กฎ 30% หมายถึงควร "ใช้จ่ายเพียง 30% ของวงเงินบัตรเครดิต" เช่น วงเงิน 100,000 บาท ไม่ควรใช้จ่ายเกิน 30,000 บาท ————————— 🔵 2) กฎ 70% วางแผนในช่วงเกษียณอายุด้วยการหารายได้ “70% ของรายได้ต่อเดือน” เช่น ปัจจุบันรายได้อยู่ที่ 100,000 บาท ดังนั้นช่วงเกษียณอายุควรหารายได้ทดแทนประมาณ 70% หรือ 70,000 บาท ————————— 🔵 3) กฎ 15% “ออมอย่างน้อย 15% ของรายได้” เพื่อในช่วงเกษียณอายุ เช่น หากมีรายได้ 100,000 บาท/เดือน ควรออม 15,000 บาท/เดือน ————————— 🔵 4) กฎ 4% ศึกษาการลงทุนที่หลากหลายรูปแบบ และควรลงทุนอย่างน้อย 4% ในแต่ละประเภทการลงทุน เช่น งบประมาณการลงทุนรวมทั้งหมด 100,000 บาท ควรแบ่งลงทุน 4,000 บาทสำหรับหุ้น 1 ตัว และลงทุนในกองทุน 4,000 บาท เป็นต้น ————————— 🔵 5) กฎของ 115 นอกจากศึกษาการลงทุนแล้ว ควรคำนวณระยะเวลาที่การลงทุนของเราจะได้รับผลตอบแทนเป็น “สามเท่า” ด้วยการใช้เลข 115 หารด้วยอัตราผลตอบแทน เช่น ผลตอบแทน 10% ต่อปี จะได้รับผลตอบสามเท่า เมื่อครบ 11.5 ปี โดยคำนวณจาก 115/10 นั่นเอง ————————— 🔵 6) กฎ 24 ชั่วโมง ก่อนจะตัดสินใจซื้อของที่มีราคาสูง “ให้รอ 1 วันหรือ 24 ชั่วโมงก่อนค่อยตัดสินใจ” เพื่อให้เราทบทวนว่าสิ่งนั้นจำเป็นกับเรามากน้อยแค่ไหน ————————— การบริหารการเงินที่ยั่งยืน "ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่รายได้ที่คุณมี" แต่ขึ้นอยู่กับวินัยและการวางแผนที่รอบคอบ กฎทั้ง 6 ข้อที่แนะนำ ไม่ว่าคุณจะจัดการรายรับ รายจ่าย การออม หรือการลงทุนอย่างไร ก็สามารถนำไปปรับใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และเป้าหมายทางการเงินของคุณได้ และการวางแผนที่ดีตั้งแต่วันนี้ จะช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงิน ทั้งในปัจจุบันและอนาคตให้ดียิ่งขึ้นอย่างแน่นอน... Reference : BusinessTomorrow
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • การบริหาร "เงินให้งอกเงย" สู่เป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ "ไม่จำเป็นต้องซับซ้อน" แค่ปฏิบัติตามกฎง่ายๆ 6 ข้อเท่านั้น! ตอบโจย์ทุกไลฟ์สไตล์ไม่ว่าคุณจะมีรายได้เท่าไหร่ หรือมีการใช้ชีวิตแบบไหน กฎเหล่านี้จะช่วยให้คุณวางแผนการเงินของคุณได้ดีขึ้น

    —————————

    🔥 มาร่วมฟังมุมมองพร้อมเปิดโอกาสการลงทุนของคุณไปกับ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เจ้าของฉายา "Warren Buffett เมืองไทย" ได้ในงาน Follow The Future 2024 - Unravel The New Era พร้อมพบกับวิทยากรระดับประเทศอีกมากมาย อาทิ "ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย" อดีตรองนายกรัฐมนตรี, "บรรยง พงษ์พานิช" นักการเงินชั้นแนวหน้าผู้ผ่านทุกสนามธุรกิจการเงินระดับโลก

    #ห้ามพลาดแล้วพบกันวันที่ 30 พ.ย. 2567 ณ สมาคมราชกรีฑาสโมสร ร่วมพบปะเพื่อนนักลงทุน ทานอาหารเย็นและ Networking 💥 เปิดขายบัตร Early Bird ราคาพิเศษแล้ววันนี้!! รายละเอียดซื้อบัตร ใน Comment

    —————————

    🔵 1) กฎ 30%

    หมายถึงควร "ใช้จ่ายเพียง 30% ของวงเงินบัตรเครดิต" เช่น วงเงิน 100,000 บาท ไม่ควรใช้จ่ายเกิน 30,000 บาท

    —————————

    🔵 2) กฎ 70%

    วางแผนในช่วงเกษียณอายุด้วยการหารายได้ “70% ของรายได้ต่อเดือน” เช่น ปัจจุบันรายได้อยู่ที่ 100,000 บาท ดังนั้นช่วงเกษียณอายุควรหารายได้ทดแทนประมาณ 70% หรือ 70,000 บาท

    —————————

    🔵 3) กฎ 15%

    “ออมอย่างน้อย 15% ของรายได้” เพื่อในช่วงเกษียณอายุ เช่น หากมีรายได้ 100,000 บาท/เดือน ควรออม 15,000 บาท/เดือน

    —————————

    🔵 4) กฎ 4%

    ศึกษาการลงทุนที่หลากหลายรูปแบบ และควรลงทุนอย่างน้อย 4% ในแต่ละประเภทการลงทุน เช่น งบประมาณการลงทุนรวมทั้งหมด 100,000 บาท ควรแบ่งลงทุน 4,000 บาทสำหรับหุ้น 1 ตัว และลงทุนในกองทุน 4,000 บาท เป็นต้น

    —————————

    🔵 5) กฎของ 115

    นอกจากศึกษาการลงทุนแล้ว ควรคำนวณระยะเวลาที่การลงทุนของเราจะได้รับผลตอบแทนเป็น “สามเท่า” ด้วยการใช้เลข 115 หารด้วยอัตราผลตอบแทน เช่น ผลตอบแทน 10% ต่อปี จะได้รับผลตอบสามเท่า เมื่อครบ 11.5 ปี โดยคำนวณจาก 115/10 นั่นเอง

    —————————

    🔵 6) กฎ 24 ชั่วโมง

    ก่อนจะตัดสินใจซื้อของที่มีราคาสูง “ให้รอ 1 วันหรือ 24 ชั่วโมงก่อนค่อยตัดสินใจ” เพื่อให้เราทบทวนว่าสิ่งนั้นจำเป็นกับเรามากน้อยแค่ไหน

    —————————

    การบริหารการเงินที่ยั่งยืน "ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่รายได้ที่คุณมี" แต่ขึ้นอยู่กับวินัยและการวางแผนที่รอบคอบ กฎทั้ง 6 ข้อที่แนะนำ ไม่ว่าคุณจะจัดการรายรับ รายจ่าย การออม หรือการลงทุนอย่างไร ก็สามารถนำไปปรับใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และเป้าหมายทางการเงินของคุณได้ และการวางแผนที่ดีตั้งแต่วันนี้ จะช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงิน ทั้งในปัจจุบันและอนาคตให้ดียิ่งขึ้นอย่างแน่นอน...

    Reference : BusinessTomorrow
    การบริหาร "เงินให้งอกเงย" สู่เป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ "ไม่จำเป็นต้องซับซ้อน" แค่ปฏิบัติตามกฎง่ายๆ 6 ข้อเท่านั้น! ตอบโจย์ทุกไลฟ์สไตล์ไม่ว่าคุณจะมีรายได้เท่าไหร่ หรือมีการใช้ชีวิตแบบไหน กฎเหล่านี้จะช่วยให้คุณวางแผนการเงินของคุณได้ดีขึ้น ————————— 🔥 มาร่วมฟังมุมมองพร้อมเปิดโอกาสการลงทุนของคุณไปกับ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เจ้าของฉายา "Warren Buffett เมืองไทย" ได้ในงาน Follow The Future 2024 - Unravel The New Era พร้อมพบกับวิทยากรระดับประเทศอีกมากมาย อาทิ "ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย" อดีตรองนายกรัฐมนตรี, "บรรยง พงษ์พานิช" นักการเงินชั้นแนวหน้าผู้ผ่านทุกสนามธุรกิจการเงินระดับโลก #ห้ามพลาดแล้วพบกันวันที่ 30 พ.ย. 2567 ณ สมาคมราชกรีฑาสโมสร ร่วมพบปะเพื่อนนักลงทุน ทานอาหารเย็นและ Networking 💥 เปิดขายบัตร Early Bird ราคาพิเศษแล้ววันนี้!! รายละเอียดซื้อบัตร ใน Comment ————————— 🔵 1) กฎ 30% หมายถึงควร "ใช้จ่ายเพียง 30% ของวงเงินบัตรเครดิต" เช่น วงเงิน 100,000 บาท ไม่ควรใช้จ่ายเกิน 30,000 บาท ————————— 🔵 2) กฎ 70% วางแผนในช่วงเกษียณอายุด้วยการหารายได้ “70% ของรายได้ต่อเดือน” เช่น ปัจจุบันรายได้อยู่ที่ 100,000 บาท ดังนั้นช่วงเกษียณอายุควรหารายได้ทดแทนประมาณ 70% หรือ 70,000 บาท ————————— 🔵 3) กฎ 15% “ออมอย่างน้อย 15% ของรายได้” เพื่อในช่วงเกษียณอายุ เช่น หากมีรายได้ 100,000 บาท/เดือน ควรออม 15,000 บาท/เดือน ————————— 🔵 4) กฎ 4% ศึกษาการลงทุนที่หลากหลายรูปแบบ และควรลงทุนอย่างน้อย 4% ในแต่ละประเภทการลงทุน เช่น งบประมาณการลงทุนรวมทั้งหมด 100,000 บาท ควรแบ่งลงทุน 4,000 บาทสำหรับหุ้น 1 ตัว และลงทุนในกองทุน 4,000 บาท เป็นต้น ————————— 🔵 5) กฎของ 115 นอกจากศึกษาการลงทุนแล้ว ควรคำนวณระยะเวลาที่การลงทุนของเราจะได้รับผลตอบแทนเป็น “สามเท่า” ด้วยการใช้เลข 115 หารด้วยอัตราผลตอบแทน เช่น ผลตอบแทน 10% ต่อปี จะได้รับผลตอบสามเท่า เมื่อครบ 11.5 ปี โดยคำนวณจาก 115/10 นั่นเอง ————————— 🔵 6) กฎ 24 ชั่วโมง ก่อนจะตัดสินใจซื้อของที่มีราคาสูง “ให้รอ 1 วันหรือ 24 ชั่วโมงก่อนค่อยตัดสินใจ” เพื่อให้เราทบทวนว่าสิ่งนั้นจำเป็นกับเรามากน้อยแค่ไหน ————————— การบริหารการเงินที่ยั่งยืน "ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่รายได้ที่คุณมี" แต่ขึ้นอยู่กับวินัยและการวางแผนที่รอบคอบ กฎทั้ง 6 ข้อที่แนะนำ ไม่ว่าคุณจะจัดการรายรับ รายจ่าย การออม หรือการลงทุนอย่างไร ก็สามารถนำไปปรับใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และเป้าหมายทางการเงินของคุณได้ และการวางแผนที่ดีตั้งแต่วันนี้ จะช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงิน ทั้งในปัจจุบันและอนาคตให้ดียิ่งขึ้นอย่างแน่นอน... Reference : BusinessTomorrow
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดารามีแต่ได้ เจ้าของบริษัทมีแต่รวย คนซวยคือชาวบ้านกว่า 15 ล้านคน

    กรณีศึกษาความเลวของการใช้คอร์สการตลาดออนไลน์กับกลลวงที่มองไม่เห็น ซึ่งปรากฏบทความที่น่าสนใจเป็นวิทยาทานจากโซเชียลออนไลน์ เนื้อหาระบุว่า

    “ถ้าจะเริ่มเล่นเรื่องที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้ เราต้องเข้าใจก่อนว่ามันไม่ได้มีแค่บริษัทเดียวที่ใช้หลักการเดียวกัน

    แต่ยังมีรายใหญ่ๆอีก 5 บริษัท เพียงแต่มีบริษัทหนึ่งที่ใช้บริการ“ลมใต้ปีก”คนที่เป็นดารามากที่สุด

    1 ใน 5 บริษัท มีเพียง 1 บริษัทที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้ไม่ได้ทำแบบ MLM แต่ใช้วิธีทำแบบเปิดตัวแทน เหมือนธุรกิจตัวแทนทั่วๆไป ส่วนอีก 4 บริษัทนั้นทำแบบ MLM

    เพราะการทำ MLM จะต้องซื้อ license ต่อจากบริษัทคนอื่นมา ซึ่ง สคบ.จะอนุมัติยาก แต่ทั้ง 5 บริษัทนั้นก็ทำหลักการเดียวกัน

    คือ..ยิงแอด-สอนทำการตลาดออนไลน์ ราคาค่าเรียน 98 , 99 , 199 บาท

    #คิดค่าเรียนให้ถูกๆ เพื่อล่อคนให้หลงคิดเอาเองว่า “ทดลองสมัครเรียนดูก็ไม่เสียหายนี่นา เงินแค่นี้เอง“

    เมื่อเราไปสมัครเรียนแล้วบทเรียนแรกที่จะได้รับคำสอนมาคือให้เราตั้งโฆษณาชวนคน โดยให้เราไปถ่ายภาพถือสินค้าแล้วยิ้มอ่อน (คนที่ชวนเราว่ายังไงก็ทำตามเขาเพราะเราทำไม่เป็นนี่)

    แล้วมาตั้งแอดชวนคนเพื่อขายของ เท่ากับงบการตลาดถูกดึงจากบัตรเครดิต/เดบิต ของผู้เรียนเอง ใช้ FB Ads Account ของผู้เรียน

    การทำให้ด้วยเทคนิคนี้ บริษัทสามารถขึ้นแอดได้ ด้วยจำนวน Account มหาศาล แต่ไม่ได้ใช้เงินบริษัทเลย

    เมื่อมีคนทักมา เราจะไม่มีสินค้า ต้นสายคนชวนจะเอาสินค้ามาขายให้เรา 1 ชิ้น เพราะเราต้องมีสินค้าไปคุยกับคนที่ทักมาไง

    ซึ่งคนที่ทักมาหาเราเนี่ย ก็จะมีทั้งลูกค้าจริงๆและ”อวตารเสมือนจริง“ของบริษัททักมาหาเรา ซึ่งเราก็จะคิดเอาเองว่าสินค้ามันขายได้ มันขายง่าย

    บางรายจะโดนล่อให้เปิด member เลย เพราะบริษัทจะตั้งเรตค่าคอมให้เลยที่ 2,500 - 5,000 ถ้าใครมีเงินเยอะก็จะเปิดดีลเลอร์เลย 250,0000 บาท

    ทุกรายที่มาขายสินค้าจะไม่รู้เลยว่าตัวเองต้องจดทะเบียนกับ สคบ. เป็นธุรกิจตลาดขายตรง #อันนี้มันจึงเป็นความผิดข้อแรก

    การเปิด 250,000 บาทมันจะได้ refund 50% เท่ากับเปิดราคานี้เราจะต้องมีกำไร 50% ที่ยังไม่รวมค่าแอด

    เช่น.สินค้าราคา 2,500 บาท เราเปิดดีลเลอร์แล้วจะได้สินค้ามา 100 ชิ้น ราคารวม 250,000 บาทแล้วบริษัทจะต้องจ่ายคืนเปนค่าคอมให้เรา 50% = 125,000 บาท

    ราคาที่เราต้องจ่ายจริงมันควรจะอยู่ที่ 125,000 บาทแต่บริษัทมันให้เราจ่าย 250,000 บาท งงกันไหม.?

    จะอธิบายให้พอเข้าใจแบบคร่าวๆก่อนนะ พวกคุณจะได้รู้ว่าทำไมเจ้าของรวยเวอร์แต่คนอื่นไม่มีใครรวยแถมเป็นหนี้

    สมมติว่า..

    สินค้าราคา 2000 บาท เวลาเราเข้าไปซื้อ จะโดนผลัก vat 7% มาให้ในราคาซื้อเต็ม เท่ากับโดนแล้ว 140 บาทที่เราต้องจ่ายค่า vat

    หลังจากนั้น บริษัทจะต้องจ่ายคืนให้ 50% ก็คือจะจ่าย 1,000 บาท แต่ทีนี้ บริษัทก็จะหักภาษีอีก 3% เป็นค่าภาษีที่บริษัทต้องส่ง

    สรุปได้เงินจริง 970 บาท ตอนที่คืนมา แล้วตัวเองยังถูกไปคำนวณภาษีรายได้อีก เพราะถือเป็นรายได้เข้ามา

    กลายเป็นไปซื้อของเขา มีรายได้ 50% ผลักภาษีกลับเข้าตัวโดนหัก 7% โดน 3% จากค่าคอมครึ่งนึง = 1.5%

    7+1.5+50%(ค่าของ) margin หน้าตักโดนไปแล้ว 58.5% ยังไม่รวมค่ายิงแอดที่ต้องเสียเอง สมมติเสีย 20% ของสินค้า เท่ากับ 78.5% แล้วกำไรเหลือ 12.5%

    แล้วก็ไปตายตรงที่ต้องเสียภาษีค่าคอมมิชชั่น และ ภาษีที่ได้จากการขายของราคาเต็ม 2,000 คือโดนสองต่อแบบจุกๆ

    นี่ยังไม่รวมตอนที่ไปขายของ ถ้าขายในนาม บริษัทก็ต้องขายในราคา 2,000 บาท จะไปบวก vat 7% ก็ไม่ได้ แปลว่าผลัก vat 7% เข้าตัวเองอีก

    ของที่เอามาขายก็แนวเดิมๆ คอลลาเจน กาแฟ ของทั่วๆไป ที่ต้นทุนราคาถูกๆ

    เกมนี้มันเป็นเกมที่ลูกข่ายไม่มีวันรวย ไม่มีวันชนะ มีแต่ความหวังว่าจะรวย และตอนนี้ยิงแอด โดนบวก 7% อีกนะ

    แล้วก็อีกกลยยุทธของบริษัทคือขอการันตรีว่า..“สินค้าต้องขายดีต้องมีคนทัก”

    แต่ความจริงคือบริษัทเขาได้เตรียมหน้าม้า Facebook Account ปลอมไว้แล้ว นักเรียนส่งการบ้านเป็นแอดที่ทำ เขาจะส่งหน้าม้าไปคอมเมนต์ สนใจค่ะ สนใจครับ

    แต่ทักไปแล้วเงียบเป็นป่าช้า

    ทีนี้บริษัทเขาก็จะรอดตัวจากการสอนยิงแอดเพราะว่ามันดูปังไง เพราะมีหน้าม้าทักเยอะ แต่ตัวแทนปิดการขายไม่ได้เอง บริษัทจึงไม่ต้องรับผิดชอบตรงนี้

    นั่นคือ 1 ในหลายๆเหตุผลที่คนนั่งจมกับสินค้า เพราะมันเป็นกลลวงแบบครบวงจร ดิ้นหนีตายได้ทางเดียวคือ "หาเหยื่อคนใหม่" มารับสินค้าจากตัวเองไป

    หาได้ 100 คนถึงจะรอดจากหนี้ 250,000 บาท ไม่มีใครรวยหรอก เพราะเสีย vat 7% 2 รอบ Margin 14% เข้าไปแล้ว มันเป็นกลลวงที่คนส่วนหนึ่งมองไม่เห็น

    เจ้าของบริษัทสบาย เป็นเสือนอนกิน ต้นทุนขายสินค้าก็ไม่มี มีแค่งบสร้างแบรนด์ซึ่งตัวเองได้กำไรคนเดียว

    และตัวเองก็ไม่ต้องทำอะไรปล่อยให้ระบบทำงาน เอาเงินที่ได้มาจากเหยื่อจ่ายภาษีให้ถูกต้อง ทำตัวบริษัทให้ใสสะอาดจนกฏหมายเอื้อมมาไม่ถึง

    ถ้าถามว่าบริษัทได้กำไรปีละเท่าไหร่..บริษัทนี้จ่ายภาษีปีละ 200 กว่าล้านบาท กำไรปีละเท่าไหร่คงคิดเองได้นะ เพราะต้นทุนสินค้า 5%

    และที่มันน่าเศร้าจริงๆคือ เงินกำไรรวมกับเงินที่เสียภาษี มันเป็นเงินของชาวบ้าน ทุกบาท ทุกสตางค์

    เกมนี้จะมีคนถูกฟ้องกันไม่น้อย เพราะจะเอาผิดเจ้าของบริษัทไม่ง่าย เพราะฉลาดสุดๆทำชีวิตตัวเองได้ใสสะอาดสัสๆ ทั้งๆที่โคตรสกปรก

    แล้วคนที่ไปเป็นพยาน คนที่ไปร้องที่นั่นที่นี่ เท่าที่เห็นในข่าว ไม่มีคนที่รู้ข้อมูลเชิงลึกของบริษัทแบบจริงๆแม้แต่คนเดียว

    แค่ลองถามผู้กล้าที่ออกมาปกป้องสิทธิ์ของตัวเองเหล่านั้นว่า มีใครรู้จักตัวการร่วมของบริษัทสักคนไหม ขอเดาว่าไม่มีใครรู้จักผู้ร่วมขบวนการหรอก

    เพราะทุกคนที่เป็นเหยื่อจะนึกถึงแต่หน้าดารากับเจ้าของบริษัทแล้วก็สมัครเข้าร่วมเลย ดังนั้นก็จะเล่นได้แค่แม่ข่ายในข้อหา..ไม่มีใบอนุญาต

    จากการตรวจสอบ ณ ปัจจุบันนี้ ณ นาทีนี้มีคนตกเป็นเหยื่อกลลวงที่มองไม่เห็นแบบนี้มีมากกว่า 15 ล้านคน

    ดารามีแต่ได้ เจ้าของบริษัทมีแต่รวย คนซวยคือชาวบ้านกว่า 15 ล้านคน

    และถ้ามีผู้กล้าออกมาเล่นเรื่องนี้แบบสุดซอย จะช่วยผู้คนให้ตื่นรู้ได้อย่างน้อยๆ 5 ล้านคน ดังนั้นเราขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนเลยที่ออกมาเล่นเรื่องนี้
    ---------

    เอาจริงๆตอนแรกเขียนระบุชื่อบุคคล ชื่อบริษัททั้ง 5 เขียนอธิบายเจาะลึกเอาไว้ละเอียดยิบตามสไตล์เพจเรา

    เรื่องนี้แหล่งข่าวเราเก็บข้อมูลมา 10 กว่าปีแล้ว และเราแอบมั่นใจว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีใครรู้ลึกเท่าแหล่งข่าวเราก็แล้วกันล่ะ

    แต่เราตัดรายละเอียดออกไป เพราะเบื่อมากๆที่จะรบกับพวก #ติ่งกระบือบิน ทึ่พ่ะโง่ชนิดวัวตุยทุยล้มเลย อส.🤣 ปล่อยให้มันเป็นเหยื่อต่อไปสักพัก

    ไอ้ฉิบหาย 😆 แล้วยังไม่ต้องมาดิ้นนะ เพราะยังไม่ได้เอ่ยชื่อบริษัท ถถถ

    สวัสดี
    @ไร้เงา แต่เร้าตรีน”
    ภาพจากออนไลน์

    #Thaitimes
    ดารามีแต่ได้ เจ้าของบริษัทมีแต่รวย คนซวยคือชาวบ้านกว่า 15 ล้านคน กรณีศึกษาความเลวของการใช้คอร์สการตลาดออนไลน์กับกลลวงที่มองไม่เห็น ซึ่งปรากฏบทความที่น่าสนใจเป็นวิทยาทานจากโซเชียลออนไลน์ เนื้อหาระบุว่า “ถ้าจะเริ่มเล่นเรื่องที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้ เราต้องเข้าใจก่อนว่ามันไม่ได้มีแค่บริษัทเดียวที่ใช้หลักการเดียวกัน แต่ยังมีรายใหญ่ๆอีก 5 บริษัท เพียงแต่มีบริษัทหนึ่งที่ใช้บริการ“ลมใต้ปีก”คนที่เป็นดารามากที่สุด 1 ใน 5 บริษัท มีเพียง 1 บริษัทที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้ไม่ได้ทำแบบ MLM แต่ใช้วิธีทำแบบเปิดตัวแทน เหมือนธุรกิจตัวแทนทั่วๆไป ส่วนอีก 4 บริษัทนั้นทำแบบ MLM เพราะการทำ MLM จะต้องซื้อ license ต่อจากบริษัทคนอื่นมา ซึ่ง สคบ.จะอนุมัติยาก แต่ทั้ง 5 บริษัทนั้นก็ทำหลักการเดียวกัน คือ..ยิงแอด-สอนทำการตลาดออนไลน์ ราคาค่าเรียน 98 , 99 , 199 บาท #คิดค่าเรียนให้ถูกๆ เพื่อล่อคนให้หลงคิดเอาเองว่า “ทดลองสมัครเรียนดูก็ไม่เสียหายนี่นา เงินแค่นี้เอง“ เมื่อเราไปสมัครเรียนแล้วบทเรียนแรกที่จะได้รับคำสอนมาคือให้เราตั้งโฆษณาชวนคน โดยให้เราไปถ่ายภาพถือสินค้าแล้วยิ้มอ่อน (คนที่ชวนเราว่ายังไงก็ทำตามเขาเพราะเราทำไม่เป็นนี่) แล้วมาตั้งแอดชวนคนเพื่อขายของ เท่ากับงบการตลาดถูกดึงจากบัตรเครดิต/เดบิต ของผู้เรียนเอง ใช้ FB Ads Account ของผู้เรียน การทำให้ด้วยเทคนิคนี้ บริษัทสามารถขึ้นแอดได้ ด้วยจำนวน Account มหาศาล แต่ไม่ได้ใช้เงินบริษัทเลย เมื่อมีคนทักมา เราจะไม่มีสินค้า ต้นสายคนชวนจะเอาสินค้ามาขายให้เรา 1 ชิ้น เพราะเราต้องมีสินค้าไปคุยกับคนที่ทักมาไง ซึ่งคนที่ทักมาหาเราเนี่ย ก็จะมีทั้งลูกค้าจริงๆและ”อวตารเสมือนจริง“ของบริษัททักมาหาเรา ซึ่งเราก็จะคิดเอาเองว่าสินค้ามันขายได้ มันขายง่าย บางรายจะโดนล่อให้เปิด member เลย เพราะบริษัทจะตั้งเรตค่าคอมให้เลยที่ 2,500 - 5,000 ถ้าใครมีเงินเยอะก็จะเปิดดีลเลอร์เลย 250,0000 บาท ทุกรายที่มาขายสินค้าจะไม่รู้เลยว่าตัวเองต้องจดทะเบียนกับ สคบ. เป็นธุรกิจตลาดขายตรง #อันนี้มันจึงเป็นความผิดข้อแรก การเปิด 250,000 บาทมันจะได้ refund 50% เท่ากับเปิดราคานี้เราจะต้องมีกำไร 50% ที่ยังไม่รวมค่าแอด เช่น.สินค้าราคา 2,500 บาท เราเปิดดีลเลอร์แล้วจะได้สินค้ามา 100 ชิ้น ราคารวม 250,000 บาทแล้วบริษัทจะต้องจ่ายคืนเปนค่าคอมให้เรา 50% = 125,000 บาท ราคาที่เราต้องจ่ายจริงมันควรจะอยู่ที่ 125,000 บาทแต่บริษัทมันให้เราจ่าย 250,000 บาท งงกันไหม.? จะอธิบายให้พอเข้าใจแบบคร่าวๆก่อนนะ พวกคุณจะได้รู้ว่าทำไมเจ้าของรวยเวอร์แต่คนอื่นไม่มีใครรวยแถมเป็นหนี้ สมมติว่า.. สินค้าราคา 2000 บาท เวลาเราเข้าไปซื้อ จะโดนผลัก vat 7% มาให้ในราคาซื้อเต็ม เท่ากับโดนแล้ว 140 บาทที่เราต้องจ่ายค่า vat หลังจากนั้น บริษัทจะต้องจ่ายคืนให้ 50% ก็คือจะจ่าย 1,000 บาท แต่ทีนี้ บริษัทก็จะหักภาษีอีก 3% เป็นค่าภาษีที่บริษัทต้องส่ง สรุปได้เงินจริง 970 บาท ตอนที่คืนมา แล้วตัวเองยังถูกไปคำนวณภาษีรายได้อีก เพราะถือเป็นรายได้เข้ามา กลายเป็นไปซื้อของเขา มีรายได้ 50% ผลักภาษีกลับเข้าตัวโดนหัก 7% โดน 3% จากค่าคอมครึ่งนึง = 1.5% 7+1.5+50%(ค่าของ) margin หน้าตักโดนไปแล้ว 58.5% ยังไม่รวมค่ายิงแอดที่ต้องเสียเอง สมมติเสีย 20% ของสินค้า เท่ากับ 78.5% แล้วกำไรเหลือ 12.5% แล้วก็ไปตายตรงที่ต้องเสียภาษีค่าคอมมิชชั่น และ ภาษีที่ได้จากการขายของราคาเต็ม 2,000 คือโดนสองต่อแบบจุกๆ นี่ยังไม่รวมตอนที่ไปขายของ ถ้าขายในนาม บริษัทก็ต้องขายในราคา 2,000 บาท จะไปบวก vat 7% ก็ไม่ได้ แปลว่าผลัก vat 7% เข้าตัวเองอีก ของที่เอามาขายก็แนวเดิมๆ คอลลาเจน กาแฟ ของทั่วๆไป ที่ต้นทุนราคาถูกๆ เกมนี้มันเป็นเกมที่ลูกข่ายไม่มีวันรวย ไม่มีวันชนะ มีแต่ความหวังว่าจะรวย และตอนนี้ยิงแอด โดนบวก 7% อีกนะ แล้วก็อีกกลยยุทธของบริษัทคือขอการันตรีว่า..“สินค้าต้องขายดีต้องมีคนทัก” แต่ความจริงคือบริษัทเขาได้เตรียมหน้าม้า Facebook Account ปลอมไว้แล้ว นักเรียนส่งการบ้านเป็นแอดที่ทำ เขาจะส่งหน้าม้าไปคอมเมนต์ สนใจค่ะ สนใจครับ แต่ทักไปแล้วเงียบเป็นป่าช้า ทีนี้บริษัทเขาก็จะรอดตัวจากการสอนยิงแอดเพราะว่ามันดูปังไง เพราะมีหน้าม้าทักเยอะ แต่ตัวแทนปิดการขายไม่ได้เอง บริษัทจึงไม่ต้องรับผิดชอบตรงนี้ นั่นคือ 1 ในหลายๆเหตุผลที่คนนั่งจมกับสินค้า เพราะมันเป็นกลลวงแบบครบวงจร ดิ้นหนีตายได้ทางเดียวคือ "หาเหยื่อคนใหม่" มารับสินค้าจากตัวเองไป หาได้ 100 คนถึงจะรอดจากหนี้ 250,000 บาท ไม่มีใครรวยหรอก เพราะเสีย vat 7% 2 รอบ Margin 14% เข้าไปแล้ว มันเป็นกลลวงที่คนส่วนหนึ่งมองไม่เห็น เจ้าของบริษัทสบาย เป็นเสือนอนกิน ต้นทุนขายสินค้าก็ไม่มี มีแค่งบสร้างแบรนด์ซึ่งตัวเองได้กำไรคนเดียว และตัวเองก็ไม่ต้องทำอะไรปล่อยให้ระบบทำงาน เอาเงินที่ได้มาจากเหยื่อจ่ายภาษีให้ถูกต้อง ทำตัวบริษัทให้ใสสะอาดจนกฏหมายเอื้อมมาไม่ถึง ถ้าถามว่าบริษัทได้กำไรปีละเท่าไหร่..บริษัทนี้จ่ายภาษีปีละ 200 กว่าล้านบาท กำไรปีละเท่าไหร่คงคิดเองได้นะ เพราะต้นทุนสินค้า 5% และที่มันน่าเศร้าจริงๆคือ เงินกำไรรวมกับเงินที่เสียภาษี มันเป็นเงินของชาวบ้าน ทุกบาท ทุกสตางค์ เกมนี้จะมีคนถูกฟ้องกันไม่น้อย เพราะจะเอาผิดเจ้าของบริษัทไม่ง่าย เพราะฉลาดสุดๆทำชีวิตตัวเองได้ใสสะอาดสัสๆ ทั้งๆที่โคตรสกปรก แล้วคนที่ไปเป็นพยาน คนที่ไปร้องที่นั่นที่นี่ เท่าที่เห็นในข่าว ไม่มีคนที่รู้ข้อมูลเชิงลึกของบริษัทแบบจริงๆแม้แต่คนเดียว แค่ลองถามผู้กล้าที่ออกมาปกป้องสิทธิ์ของตัวเองเหล่านั้นว่า มีใครรู้จักตัวการร่วมของบริษัทสักคนไหม ขอเดาว่าไม่มีใครรู้จักผู้ร่วมขบวนการหรอก เพราะทุกคนที่เป็นเหยื่อจะนึกถึงแต่หน้าดารากับเจ้าของบริษัทแล้วก็สมัครเข้าร่วมเลย ดังนั้นก็จะเล่นได้แค่แม่ข่ายในข้อหา..ไม่มีใบอนุญาต จากการตรวจสอบ ณ ปัจจุบันนี้ ณ นาทีนี้มีคนตกเป็นเหยื่อกลลวงที่มองไม่เห็นแบบนี้มีมากกว่า 15 ล้านคน ดารามีแต่ได้ เจ้าของบริษัทมีแต่รวย คนซวยคือชาวบ้านกว่า 15 ล้านคน และถ้ามีผู้กล้าออกมาเล่นเรื่องนี้แบบสุดซอย จะช่วยผู้คนให้ตื่นรู้ได้อย่างน้อยๆ 5 ล้านคน ดังนั้นเราขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนเลยที่ออกมาเล่นเรื่องนี้ --------- เอาจริงๆตอนแรกเขียนระบุชื่อบุคคล ชื่อบริษัททั้ง 5 เขียนอธิบายเจาะลึกเอาไว้ละเอียดยิบตามสไตล์เพจเรา เรื่องนี้แหล่งข่าวเราเก็บข้อมูลมา 10 กว่าปีแล้ว และเราแอบมั่นใจว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีใครรู้ลึกเท่าแหล่งข่าวเราก็แล้วกันล่ะ แต่เราตัดรายละเอียดออกไป เพราะเบื่อมากๆที่จะรบกับพวก #ติ่งกระบือบิน ทึ่พ่ะโง่ชนิดวัวตุยทุยล้มเลย อส.🤣 ปล่อยให้มันเป็นเหยื่อต่อไปสักพัก ไอ้ฉิบหาย 😆 แล้วยังไม่ต้องมาดิ้นนะ เพราะยังไม่ได้เอ่ยชื่อบริษัท ถถถ สวัสดี @ไร้เงา แต่เร้าตรีน” ภาพจากออนไลน์ #Thaitimes
    Like
    Love
    Sad
    6
    1 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 576 มุมมอง 0 รีวิว
  • เราโดนหลอกเรื่องอะไรบ้างมาดูกัน
    รับไม่ได้ข้อไหนก็ข้ามไป มันเป็นแค่ข้อมูลความเชื่อของตัวหมอเองครับ ไม่ดรามานะ จากนั้นลองชม2คลิปแนบท้าย

    1.หลอกว่าคนวิวัฒนาการมาจากลิง หลอกว่ากระดูกก้นกบเป็นส่วนที่หางหดลดรูป
    2.หลอกว่ายาฉีdยีuไวรัsเป็นวัkซีuดีเพื่อกันติดหรือติดแล้วจะไม่รุนแรง ติดตามข้อมูลได้ที่ rookon.com
    3.หลอกว่าฟลูออไรด์ดี (Dr.Dean Burk PHD.บอกว่าเป็นสารที่ทำให้คนตายมากที่สุด,เฉพาะปี2006มีผลงานวิจัยความเป็นพิษมากกว่า 180งานวิจัย) ฟังคลิปคุณหมอ นาทีที่ 58 https://youtu.be/AYAJJSOmdJo
    4.หลอกว่าบอแร็กซ์(หรือน้ำประสานทองซึ่งเคยอยู่ในยาไทย)ว่าอันตรายห้ามใช้
    5.หลอกให้เชื่อฟังและอยู่ในการควบคุมด้วยระบบการศึกษา
    6.หลอกให้คนเชื่อว่าการกินอาหารต้องตามหลัก5หมู่
    7.หลอกให้กินยาที่ไม่ทำให้โรคหายและได้โรคเพิ่ม
    8.หลอกว่าคอเลสเตอรอลอันตรายต้องกลัว ต้องกินยาลด https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10213748008611115&id=1732997516
    9.หลอกให้กินไขมันทรานส์ เช่น น้ำมันถั่วเหลืองผ่านกรรมวิธี น้ำมันผลปาล์มผ่านกรรมวิธี เนยขาว มาการีน ครีมเทียม
    10.หลอกให้กินคอลลาเจนเสริมซึ่งมันคือการกินพังผืดไม่จำเป็น
    11.หลอกให้คนติด HIV จะต้องกินยาต้านไวรัส
    12.หลอกให้กินนมสัตว์(ข้ามสายพันธุ์)
    13.หลังจากวัยทารกก็ยังหลอกให้กินนมสัตว์ไปตลอดชีวิต
    👉วันนี้คุณเลิกนมวัวหรือยัง? โดย ศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณ
    https://youtu.be/CDIl9ORkPcU
    👉ช่วงคลิปที่ 1ชม.9นาที อันตรายจากนมวัว โดย อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    https://youtu.be/DHGPSl2dpPc
    👉คลิป นพ.บุญชัย อิศราพิสิษฐ์ เปิดเหตุผลที่ควรหยุดดื่มนมวัว
    https://youtu.be/2gNPslzrJGc
    👉นมวัวดีจริงหรือ
    https://m.youtube.com/watch?fbclid=IwAR3IhxGc1xD5hcN7TRJK51P-a_Xrs3Ws9BgGbwfAfM1sXkIaUiFVJcTyge4&v=4Y0k5UYmPio&feature=youtu.be
    👉นมวัว ปลอดโรคหรือเพิ่มโรค
    https://www.facebook.com/photo.php?fbid=340898489398513&set=a.331355487019480&type=3
    👉จริงหรือ? นมกับความสูง
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=854486941372996&id=100004350947568&mibextid=Nif5oz
    👉จริงหรือ? นมถั่วเหลือง
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=619699778185048&id=100004350947568&mibextid=Nif5oz
    👉จริงหรือ? นมวัวกับฮอร์โมน
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=553799574775069&id=100004350947568&mibextid=Nif5oz
    👉จริงหรือ? นมแพะ
    https://m.facebook.com/photo.php?fbid=529613370527023&id=100004350947568&set=a.331355487019480&mibextid=Nif5oz
    👉นม (ภาษาต่างประเทศ)
    https://www.naturalchild.org/articles/guest/linda_folden_palmer.html
    👉นมวัวกระตุ้นมะเร็ง
    https://vt.tiktok.com/ZS86EmkD6/
    👉3เหตุผลไม่ดีที่อยู่ในนมวัว
    https://www.tiktok.com/@user55682379949092/video/7347855645862841601?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7359944913523705351
    14.เอาเนื้อปลามาแต่งสีหลอกว่าเป็นปูอัด
    15.หลอกว่าเครื่องดื่มที่ใช้สารสังเคราะห์ให้ความหวานแทนน้ำตาลจะสุขภาพดีปลอดภัย
    16.หลอกให้เราใช้แต่เหตุผลให้เลิกจินตนาการบอกว่าเพ้อเจ้อ (จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ คำกล่าวของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์)
    17.หลอกให้ใช้ X-Ray(อันตราย),CT-Scan(อันตรายมาก), mammogram(อันตราย)
    18.หลอกให้เรากินยาลดน้ำมูกเมื่อเป็นหวัด
    19.หลอกให้แบ่งคนทั้งโลกออกจากกันด้วยศาสนาเชื้อชาติเป็นประเทศ
    20.หลอกให้เป็นทาสทางการเงิน
    21.หลอกว่าโลกร้อนเพราะมีคาร์บอนไดออกไซด์มาก เป็นที่มาของคาร์บอนเครดิตเพื่อการควบคุมสู่ความเป็นทาส https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=7401566566593209&id=100002198164704
    22.หลอกว่าประชากรล้นโลกต้องคุมกำเนิด สะกดจิตให้เราคล้อยตามด้วยข้อมูลเมืองที่แออัด ทั้งๆที่โลกมีพื้นที่มากมายและทรัพยากรเพียงพอแค่ต้องบริหารให้ดี
    ✅การลดประชากรโลก
    ✍️ covid 19 roadmap https://t.me/ThaiPitaksithData/1738
    ✍️ ep6 รู้(ทัน)วาระ เห็นความเชื่อมโยงต่างๆในปัจจุบัน https://rumble.com/v1f2lbl-ep6-the-agenda-know-the-outcome-see-the-journey.html
    ✍️ ep7 จำนวนประชากรที่ลดลง ผลจากความตั้งใจ มิใช่แค่เหตุที่เป็นไปโดยธรรมชาติ
    ตอนที่ 1. https://rumble.com/v1g63xr-ep7-1-the-agenda-.html
    ตอนที่ 2. https://rumble.com/v1gwgj7-ep7-2-the-agenda-.html
    ✍️ แม่ชี มีเรียม พูดถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น พระสันตปาปา บิลเกตส์ และการฆาตกรรมหมู่ https://rumble.com/vo2cjl-40420353.html
    ✍️ 10ขั้นตอนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษยชาติ https://rumble.com/vt3c98-10-.html
    ✍️ Dr Judy Makovits เปิดโปง Fauci แหล่งที่มาของviรัส ตั้งแต่พฤษภาคม 2020 https://rumble.com/vo1env-plandemic-dr-judy-makovits-phd-molecular-biologist-may-2020.html
    ✍️ ดร. คอฟแมน - วัkซีuเปลี่ยน DNA มนุษย์ https://rookon.com/read-blog/103
    ✍️ ประเทศไทย กำลังจะเข้าสู่ ฤดู "ใบไม้ร่วง" คำถามคือ ฤดูนี้จะอยู่นานแค่ไหน? https://rookon.com/read-blog/108
    ✍️ จากบทความ Dr. Robert Malone ผู้คิดค้นเทคโนโลยีวรรคซิu mRNA สรุปความโดย ดร.ไพรินทร์ โชติสกุลรัตน์ https://fb.watch/9Yfe6YW5dl/
    ✍️ ดร.โรเบิร์ต มาโลน นักวิจัยผู้คิดค้น mRNA ที่ยังไม่สมบูรณ์ ออกมาเปิดเผยความอันตรายของวัkซีu mRNA https://odysee.com/ChildrenVaccinationWarning:b?r=FcGprKFzZv51EZ9G13RaSbZ9V7hCWD2P
    ✍️WHO Treaty https://rookon.com/read-blog/131
    ✍️ไทม์ไลน์ สู่ทรราช https://rookon.com/read-blog/44
    ✍️มาตรการโควิด ทำให้มีผู้เสียชีวิต เพิ่มมากขึ้น https://rookon.com/read-blog/49
    ✍️ความจริงของโควิด 19 – นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://stopthaicontrol.com/2/ความจริงของโควิด-19-นพ-อรร/
    ✍️เครือข่าย 5G, คลื่นความถี่ และ โkวิd สิบ9 https://docs.google.com/document/d/1KMlPrvr0mNSycUKik_p_dxyaEv-F6K9ZbxWuQF7p0jk/edit?usp=sharing
    ✍️โครงการ Neuralink (โดยอีลอน มัสก์) กับมนุษย์ เวอร์ชั่น 2.0 https://docs.google.com/document/d/1Ey79M2rz_BiI0YpzhKESQBLm-Z2ACYqxSly3dShaJYA/edit?usp=sharing
    ✍️มนุษย์ เวอร์ชั่น 2.0 โดย Dr.Carrie Madej https://docs.google.com/document/d/1Bxh5T9mD9K6ZXTYFM4L3uKg3s87fsnEdfNPWJ3_e4io/edit?usp=sharing
    ✍️มนุษย์ข้ามสายพันธุ์ https://docs.google.com/document/d/1eWJ4Z552HO6SSrPFuMZwLT7HE5rzmYO_r485lLtEnEQ/edit?usp=sharing
    ✍️ความรู้โดยแพทย์ – ทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งต้นที่ “ความกลัว” https://rookon.com/read-blog/16
    ✍️David Icke | โครงสร้างการควบคุมรัฐบาลทั่วโลก https://rookon.com/read-blog/35
    ✍️ ว๊ากเสร็จก่อนที่โkวิdจะระบาด https://rookon.com/read-blog/12
    ✍️ ผู้อยู่เบื้องหลัง โคขวิดและวอซอลวง https://fb.watch/aGglwXBtl5/
    ✍️ปี 1994 อดีตสายลับอังกฤษ MI6 แฉแผนการลดประชากรโลก 😱 โดยองค์กร Club of Rome https://t.me/awakened_thailand/443
    ✍️การลดประชากรโลก ใช่เรื่องจริงไหม? โดย อดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/hu0KszvGnyQ?si=0N09ufqChfFQAbrv
    ✍️ แผนลดประชากรโลก มีจริงหรือไม่ โดย อาจารย์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7414795548814773521?is_from_webapp=1&sender_device=pc
    👉 อาจารย์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กล่าวชัดๆไม่อ้อมค้อม​ว่าวัคซีนโควิดมันคืออาวุธ​ชีวภาพ ใครฉีดให้คนคืออาชญากร​ ใครนิ่งเฉยไม่พูด​อะไรคือ​ ผู้สมรู้ร่วมคิด​ร่วม​กระทำความผิด​
    https://vm.tiktok.com/ZS2XQ5qgB/
    แผนลดประชากรโลก มีจริงหรือไม่
    https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7414795548814773521?is_from_webapp=1&sender_device=pc
    👉การลดประชากรโลก โดยอดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/hu0KszvGnyQ?si=0N09ufqChfFQAbrv
    👉รวมหลักฐานการลดประชากรโลก
    https://www.rookon.com/?p=936
    23.หลอกให้กินอาหารอุตสาหกรรมที่มีสารช่วยให้ตายผ่อนส่ง
    24.หลอกว่ามนุษย์ต่างดาวไร้สาระไม่มีอยู่จริง
    👉มนุษย์ต่างดาว (กิ้งก่า) ต้องการอะไรจากมนุษย์
    https://www.rookon.com/?p=944
    25.หลอกให้เชื่อว่านิพพานเป็นเรื่องยาก
    26.หลอกให้ถอนฟันคุดออก(กรณีที่ไม่ปวดยังใช้ชีวิตได้)
    27.หลอกให้กินเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์
    28.หลอกว่าจะมีภัยพิบัติล้างโลก โลกจะแตก
    29.หลอกว่าภัยพิบัติเป็นฝีมือธรรมชาติทั้งหมดแต่มีเทคโนโลยี HARRP อยู่เบื้องหลัง
    👉เทคโนโลยีการปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ
    https://www.rookon.com/?p=1076
    👉เค้าต้องการคอนโทรลสภาพภูมิอากาศของทั่วโลกภายในปี 2025 โปรแกรมดัดแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีกว่า 150 โปรแกรมจะถูกนำมาใช้ทั่วโลก สารพิษที่มนุษย์สร้างขึ้นมากว่า 49 ชนิด ถูกบรรจุไว้ในถังเพื่อที่จะนำไปพ่นในท้องฟ้า และที่อเมริกาได้ถูกทำการพ่นไปแล้ว ด้วยสารเคมี สารพิษ ไวรัส เชื้อรา แบคทีเรียฯลฯ ที่ได้ระบุไว้ในเอกสารซึ่งได้ทำการผลิตไว้อย่างลับๆโดยสถาบันFort Detrick(สถาบันวิจัยอาวุธเคมีชีวภาพ)💥😣
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=421902230036059&id=100066488568961
    👉มีสารอะไรอยู่ในเคมเทรล
    https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/2
    👉ผลร้ายของเคมเทรล
    https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/75
    https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/1282
    👉HAARP คืออะไร
    https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/524
    https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/728
    👉คลิป Chemtrails WAKE UP!
    https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/812
    👉คำอธิบายหลักการทำงานของ Chembuster: https://www.youtube.com/watch?v=s4SM5PajwSM&t=686s
    👉"Video tutorial on how to build an Orgone Environmental Harmonizer, the so-called Chembuster." - Mirko Kulig: https://www.youtube.com/watch?v=QpGmOd_u0JQ
    👉ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ | Facebook: https://www.facebook.com/airpollution.CAPM/?ref=page_internal
    👉รัฐบาลไทย และอินโดนีเซีย โดนหลอกให้เซ็นสัญญาตกลงให้ปรับสภาพอากาศได้ 3 ปี สัญญานี้เซ็นปี 2020
    แปลว่า เอาอะไรมาพ่นในบ้านเราก็ได้
    https://zerogeoengineering.com/2022/thailand-and-indonesia-have-signed-a-weather-modification-deal-through-2024/
    👉สภาพอากาศถูกควบคุมด้วย เทคโนโลยี HAARP
    By น้องอองซานและอาจารย์ทีน่า
    https://www.tiktok.com/t/ZSLCRfSSw/
    https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/1281
    👉คลิป อ.ศุภวรรณกรีน กล่าวถึงเคมเทรล
    https://vt.tiktok.com/ZSNruWBLK/
    👉รายงาน: ศาสตราจารย์และนักภูมิอากาศวิทยา Dr. #JudithCurry ให้การเป็นพยานภายใต้คำสาบานต่อสภาคองเกรสว่า "การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มนุษย์สร้างขึ้น" เป็นเรื่องหลอกลวงโดยการปลอมแปลงข้อมูลและเยาะเย้ยนักวิทยาศาสตร์ที่กล้าไม่เห็นด้วยกับการค้นพบทางการเมือง!
    https://twitter.com/i/status/1683105847407149056
    👉ตำแหน่งที่ตั้ง HARRP ในโลก
    https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/1302
    👉ไลฟ์สด เทคโนโลยีเพื่อปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ | อดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/zCzdNrbQn0A?si=mLFvv2loaKfbiVOY
    https://www.facebook.com/share/v/nW34YL4HiESsLNZT/

    30. หลอกว่าเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกาะฮาวายเป็นไฟป่าทั้งๆที่ใช้เทคโนโลยี DEW
    👉เกิดอะไรขึ้นที่ฮาวาย?
    https://www.rookon.com/?p=986
    31.หลอกให้รับวัkซีuอันตรายกว่า90ชนิด(ในปัจจุบัน)
    32.หลอกเรื่อง 9-11
    33.หลอกเรื่องนาซาไปถึงดวงจันทร์และดาวอังคาร
    34.หลอกให้กินกาแฟ
    35.หลอกว่ารถที่ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า,แผงโซลาร์เซลล์ ผลิตออกมาเพื่อรักษ์โลก
    36.หลอกว่าน้ำมันปิโตรเลียมและถ่านหิน ทำร้ายโลกและกำลังจะหมดไปจากโลก
    37.หลอกให้กินสัตว์ป่วย เช่น เนื้อโกเบ(วัวกล้ามเนื้อฝ่อ,ฟัวกราส์(ไขมันลงตับห่าน)
    38.หลอกว่าดวงจันทร์เป็นดาวเคราะห์
    39.หลอกให้ผ่าตัดไส้ติ่งออกทั้งๆที่ไม่ได้อักเสบเป็นอันตราย
    40.หลอกว่าถ้าไม่กินอาหารให้ตรงเวลาน้ำย่อยจะออกมาย่อยกระเพาะ
    41.หลอกว่ากินเค็มจะทำให้ไตเสื่อม แต่การกินสัตว์ต่างหากที่ทำร้ายไต
    42.หลอกว่าเรามี Junk DNA
    43.หลอกให้เชื่อว่ามีนรกสวรรค์เพื่อเป็นกับดักให้อยู่ในโฮโลแกรม
    44.หลอกให้เชื่อว่ารัสเซียรังแกยูเครน
    45.หลอกว่าแว่นกันแดด,ครีมกันแดดดีจำเป็นต้องใช้ (ก่อมะเร็ง)
    46.หลอกว่าตาที่ 3 เปิดแล้ว ก็ไม่ต้องปฎิบัติอะไรแล้ว เปิดแล้วจะเห็นผี
    47.หลอกให้ใช้ยาอันตรายจัดการโควิด เช่น ฟาวิพิลาเวียร์ โมนูพิราเวียร์ เรมเดซิเวีย แพคโลวิด ปัดยาดีๆออก เช่น ฟ้าทะลายโจร ไอเวอร์เมคติน ไฮดรอกซีคลอโรควีน CDS บอแรกซ์ เป็นต้น
    48.หลอกว่าความฝันคือเรื่องที่เราคิดมากไปเอง
    49.หลอกว่าเสียงที่ได้ยินในหัว เพราะเป็นโรคประสาท ไบโพล่า หรือซึมเศร้า
    50.หลอกเรื่องไวรัส โkวิd19,HIV,H1N1,EBOLA,SWINE FLU,ZIKA,SARS ว่าเกิดจากธรรมชาติ
    51.หลอกเรื่อง ลิเบีย
    52.เรื่อง เปโตรดอลล่าร์
    53.หลอกเรื่องการค้ามนุษย์ /เด็ก ทรมานเพื่อทำสารอดรีโนโครมเป็นเรื่องเหลวไหล
    54.หลอกว่า LGBTQ เกิดจากธรรมชาติอย่างเดียว
    55.หลอกให้มีการจัดลำดับความวิเศษความเคารพนับถือศรัทธาแต่ละจิตวิญญาณ เช่น สัตว์ คน เทพ เทวดา ศาสดา
    56.หลอกให้ผู้หญิงตรวจแมมโมแกรมประจำปีเพื่อจะป้องกันมะเร็งเต้านม แต่ที่จริงคือจะเป็นมะเร็งจากรังสีไอออไนซ์จากการตรวจ
    57.หลอกว่าการใส่แมสก์ช่วยป้องกันไวรัสได้ นอกจากป้องกันไม่ได้แล้วยังลดออกซิเจนที่จะเข้าร่างกายลง20-30% ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รอบๆตัว จาก 200-600 ppm เมื่อใส่แมสจะขึ้นไปเกือบ1หมื่น มีผลทำร้ายร่างกาย
    👉เพื่อสุขภาพของคนไทย หมอฝากทุกท่านแชร์แหล่งข้อมูลครับ
    ✅ศึกษาข้อมูลหน้ากากอนามัยเพิ่มเติมได้ที่
    1.กลุ่มไลน์ "ความรู้เกี่ยวกับแมสก์ Harmfulmasks"
    https://line.me/ti/g2/Nf-CPF-eldbclG4WH4iEIHyawJGFT76Btq14eQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
    2.เทเลแกรม “HarmfulMasks”
    https://t.me/HarmfulMasks

    58.หลอกให้เราใช้ชุดตรวจโควิดลวงโลก ATK,ct PCR
    ✅ PCR และ ATK ลวงโลก
    👉เรื่องราวของ PCR & Atk ep.2 https://rumble.com/v17e5ad-ep-2-pcr-and-atk.html
    👉PCR พลิกตัวเลขผู้ติดเชื้อเท็จ https://stopthaicontrol.com/sub/pcr-%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%b9%e0%b8%81%e0%b8%99%e0%b8%b3%e0%b9%84%e0%b8%9b%e0%b8%97%e0%b8%b4%e0%b9%89%e0%b8%87%e0%b9%82%e0%b8%94%e0%b8%a2%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%97/
    👉 ไม่ควร ตรวจเชื้อวัวขวิด ทุกรูปแบบเพราะเป็น ผลบวกลวง ลองฟัง คลิป นี้ครับ ฟัง นาที ที่ 29 และ นาที ที่ 38 https://rumble.com/vsssso-48372936.html
    👉และนาทีที่ 15 จากคลิปนี้ https://rumble.com/vw404g-q-and-a-with-dr.-atapol-md.cu..html
    👉ชุดตรวจ ATK ที่เซ็ทผลไว้แล้ว https://t.me/c/1585233417/1124
    👉คลิป สิ่งตกค้างจากการ Swap
    https://www.facebook.com/groups/426084935837716/permalink/433156291797247/
    https://t.me/ThaiPitaksithData/956
    👉ภัยจากการ Swap
    https://www.facebook.com/100002198164704/posts/4571056572977570/?
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4282
    👉 กราฟีนอ๊อกไซด์แฝงในปลายไม้สว็อบ https://t.me/ThaiPitaksithData/1689
    👉คำเตือนชุดตรวจโkวิd- มีโซเดียมเอไซด์ซึ่งอาจเป็นพิษหรือถึงตายได้ ข้อมูล CDC เกี่ยวกับโซเดียมเอไซด์ https://emergency.cdc.gov/agent/sodiumazide/basics/facts.asp
    👉พบเชื้อ ไม่ได้แปลว่า ติดเชื้อ โดย ศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณ https://vt.tiktok.com/ZSLBRvdNY/

    59.หลอกให้กลัวและเชื่อแต่ข้อเสียของกระท่อม กัญชา กัญชง และเห็ดขี้ควาย
    60.หลอกเราว่าโลกกลม แต่โลกแบน มีโดมและกำแพงน้ำแข็งกั้น
    61.หลอกว่าพระพุทธเจ้าประสูติที่เนปาล ตรัสรู้และปรินิพพานที่อินเดีย ติดตามข้อมูลได้ที่เพจ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ที่แผ่นดินไทยไม่ใช่อินเดีย https://www.facebook.com/Thanabodee.Rebirths https://www.youtube.com/@user-sv8tw5sn4b/videos ความจริงคือ ประสูตพระพุทธเจ้าตรัสรู้ที่แผ่นดินไทยไม่ใช่อินเดียโคกโพธิ์ชัย ขอนแก่น แสดงธรรมจักรกัปปวัตนสูตร อิสิปตนมฤคทายวัน วัดพระพุทธบาทน้อย อ.แก่งคอย สระบุรี ปรินิพพาน : วัดพระแท่นดงรัง กาญจนบุรี

    บางทีการค้นหาคำตอบก็เสียเวลา แต่ต้องรู้ไว้บ้างเพื่อการไม่ถูกหลอกทางโลกกายภาพ มันเป็นความรู้ภายนอก แต่เพื่อ....การดำเนินชีวิตแบบทันเกมส์ และไม่ประมาท ไม่ให้ถูกหลอกไปผิดทางส่งผลเสียต่อใจกาย

    ควรจัดสรรเวลาฝึกจิตวิญญาณเชื่อมต่อจิตแท้ในตัวตนคือสิ่งที่ควรทำ นั่นคือความรู้จักตัวเอง ความรู้ภายในที่เราสะสมมา ทั้งหมด รอเราอยู่ ทุกอย่างต้องสมดุล

    https://youtu.be/YkyYWVNvz5M
    https://youtu.be/SKcv6GSm2dw

    #เชื่อมต่อกับจิตเดิมแท้หรือคุรุในตัวเราHS
    #ทุกแบบทดสอบมีมาเพื่อฝึกเกลาจิต
    #เราเลือกลงมาเกิดเพื่อหาประสบการณ์ที่เรากำหนดมา
    #เก็บไว้เป็นจิ๊กซอร์ส่วนตัวไม่ได้ชวนเชื่อ

    เวชหนุ่ม
    เราโดนหลอกเรื่องอะไรบ้างมาดูกัน รับไม่ได้ข้อไหนก็ข้ามไป มันเป็นแค่ข้อมูลความเชื่อของตัวหมอเองครับ ไม่ดรามานะ จากนั้นลองชม2คลิปแนบท้าย 1.หลอกว่าคนวิวัฒนาการมาจากลิง หลอกว่ากระดูกก้นกบเป็นส่วนที่หางหดลดรูป 2.หลอกว่ายาฉีdยีuไวรัsเป็นวัkซีuดีเพื่อกันติดหรือติดแล้วจะไม่รุนแรง ติดตามข้อมูลได้ที่ rookon.com 3.หลอกว่าฟลูออไรด์ดี (Dr.Dean Burk PHD.บอกว่าเป็นสารที่ทำให้คนตายมากที่สุด,เฉพาะปี2006มีผลงานวิจัยความเป็นพิษมากกว่า 180งานวิจัย) ฟังคลิปคุณหมอ นาทีที่ 58 https://youtu.be/AYAJJSOmdJo 4.หลอกว่าบอแร็กซ์(หรือน้ำประสานทองซึ่งเคยอยู่ในยาไทย)ว่าอันตรายห้ามใช้ 5.หลอกให้เชื่อฟังและอยู่ในการควบคุมด้วยระบบการศึกษา 6.หลอกให้คนเชื่อว่าการกินอาหารต้องตามหลัก5หมู่ 7.หลอกให้กินยาที่ไม่ทำให้โรคหายและได้โรคเพิ่ม 8.หลอกว่าคอเลสเตอรอลอันตรายต้องกลัว ต้องกินยาลด https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10213748008611115&id=1732997516 9.หลอกให้กินไขมันทรานส์ เช่น น้ำมันถั่วเหลืองผ่านกรรมวิธี น้ำมันผลปาล์มผ่านกรรมวิธี เนยขาว มาการีน ครีมเทียม 10.หลอกให้กินคอลลาเจนเสริมซึ่งมันคือการกินพังผืดไม่จำเป็น 11.หลอกให้คนติด HIV จะต้องกินยาต้านไวรัส 12.หลอกให้กินนมสัตว์(ข้ามสายพันธุ์) 13.หลังจากวัยทารกก็ยังหลอกให้กินนมสัตว์ไปตลอดชีวิต 👉วันนี้คุณเลิกนมวัวหรือยัง? โดย ศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณ https://youtu.be/CDIl9ORkPcU 👉ช่วงคลิปที่ 1ชม.9นาที อันตรายจากนมวัว โดย อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://youtu.be/DHGPSl2dpPc 👉คลิป นพ.บุญชัย อิศราพิสิษฐ์ เปิดเหตุผลที่ควรหยุดดื่มนมวัว https://youtu.be/2gNPslzrJGc 👉นมวัวดีจริงหรือ https://m.youtube.com/watch?fbclid=IwAR3IhxGc1xD5hcN7TRJK51P-a_Xrs3Ws9BgGbwfAfM1sXkIaUiFVJcTyge4&v=4Y0k5UYmPio&feature=youtu.be 👉นมวัว ปลอดโรคหรือเพิ่มโรค https://www.facebook.com/photo.php?fbid=340898489398513&set=a.331355487019480&type=3 👉จริงหรือ? นมกับความสูง https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=854486941372996&id=100004350947568&mibextid=Nif5oz 👉จริงหรือ? นมถั่วเหลือง https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=619699778185048&id=100004350947568&mibextid=Nif5oz 👉จริงหรือ? นมวัวกับฮอร์โมน https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=553799574775069&id=100004350947568&mibextid=Nif5oz 👉จริงหรือ? นมแพะ https://m.facebook.com/photo.php?fbid=529613370527023&id=100004350947568&set=a.331355487019480&mibextid=Nif5oz 👉นม (ภาษาต่างประเทศ) https://www.naturalchild.org/articles/guest/linda_folden_palmer.html 👉นมวัวกระตุ้นมะเร็ง https://vt.tiktok.com/ZS86EmkD6/ 👉3เหตุผลไม่ดีที่อยู่ในนมวัว https://www.tiktok.com/@user55682379949092/video/7347855645862841601?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7359944913523705351 14.เอาเนื้อปลามาแต่งสีหลอกว่าเป็นปูอัด 15.หลอกว่าเครื่องดื่มที่ใช้สารสังเคราะห์ให้ความหวานแทนน้ำตาลจะสุขภาพดีปลอดภัย 16.หลอกให้เราใช้แต่เหตุผลให้เลิกจินตนาการบอกว่าเพ้อเจ้อ (จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ คำกล่าวของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์) 17.หลอกให้ใช้ X-Ray(อันตราย),CT-Scan(อันตรายมาก), mammogram(อันตราย) 18.หลอกให้เรากินยาลดน้ำมูกเมื่อเป็นหวัด 19.หลอกให้แบ่งคนทั้งโลกออกจากกันด้วยศาสนาเชื้อชาติเป็นประเทศ 20.หลอกให้เป็นทาสทางการเงิน 21.หลอกว่าโลกร้อนเพราะมีคาร์บอนไดออกไซด์มาก เป็นที่มาของคาร์บอนเครดิตเพื่อการควบคุมสู่ความเป็นทาส https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=7401566566593209&id=100002198164704 22.หลอกว่าประชากรล้นโลกต้องคุมกำเนิด สะกดจิตให้เราคล้อยตามด้วยข้อมูลเมืองที่แออัด ทั้งๆที่โลกมีพื้นที่มากมายและทรัพยากรเพียงพอแค่ต้องบริหารให้ดี ✅การลดประชากรโลก ✍️ covid 19 roadmap https://t.me/ThaiPitaksithData/1738 ✍️ ep6 รู้(ทัน)วาระ เห็นความเชื่อมโยงต่างๆในปัจจุบัน https://rumble.com/v1f2lbl-ep6-the-agenda-know-the-outcome-see-the-journey.html ✍️ ep7 จำนวนประชากรที่ลดลง ผลจากความตั้งใจ มิใช่แค่เหตุที่เป็นไปโดยธรรมชาติ ตอนที่ 1. https://rumble.com/v1g63xr-ep7-1-the-agenda-.html ตอนที่ 2. https://rumble.com/v1gwgj7-ep7-2-the-agenda-.html ✍️ แม่ชี มีเรียม พูดถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น พระสันตปาปา บิลเกตส์ และการฆาตกรรมหมู่ https://rumble.com/vo2cjl-40420353.html ✍️ 10ขั้นตอนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษยชาติ https://rumble.com/vt3c98-10-.html ✍️ Dr Judy Makovits เปิดโปง Fauci แหล่งที่มาของviรัส ตั้งแต่พฤษภาคม 2020 https://rumble.com/vo1env-plandemic-dr-judy-makovits-phd-molecular-biologist-may-2020.html ✍️ ดร. คอฟแมน - วัkซีuเปลี่ยน DNA มนุษย์ https://rookon.com/read-blog/103 ✍️ ประเทศไทย กำลังจะเข้าสู่ ฤดู "ใบไม้ร่วง" คำถามคือ ฤดูนี้จะอยู่นานแค่ไหน? https://rookon.com/read-blog/108 ✍️ จากบทความ Dr. Robert Malone ผู้คิดค้นเทคโนโลยีวรรคซิu mRNA สรุปความโดย ดร.ไพรินทร์ โชติสกุลรัตน์ https://fb.watch/9Yfe6YW5dl/ ✍️ ดร.โรเบิร์ต มาโลน นักวิจัยผู้คิดค้น mRNA ที่ยังไม่สมบูรณ์ ออกมาเปิดเผยความอันตรายของวัkซีu mRNA https://odysee.com/ChildrenVaccinationWarning:b?r=FcGprKFzZv51EZ9G13RaSbZ9V7hCWD2P ✍️WHO Treaty https://rookon.com/read-blog/131 ✍️ไทม์ไลน์ สู่ทรราช https://rookon.com/read-blog/44 ✍️มาตรการโควิด ทำให้มีผู้เสียชีวิต เพิ่มมากขึ้น https://rookon.com/read-blog/49 ✍️ความจริงของโควิด 19 – นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://stopthaicontrol.com/2/ความจริงของโควิด-19-นพ-อรร/ ✍️เครือข่าย 5G, คลื่นความถี่ และ โkวิd สิบ9 https://docs.google.com/document/d/1KMlPrvr0mNSycUKik_p_dxyaEv-F6K9ZbxWuQF7p0jk/edit?usp=sharing ✍️โครงการ Neuralink (โดยอีลอน มัสก์) กับมนุษย์ เวอร์ชั่น 2.0 https://docs.google.com/document/d/1Ey79M2rz_BiI0YpzhKESQBLm-Z2ACYqxSly3dShaJYA/edit?usp=sharing ✍️มนุษย์ เวอร์ชั่น 2.0 โดย Dr.Carrie Madej https://docs.google.com/document/d/1Bxh5T9mD9K6ZXTYFM4L3uKg3s87fsnEdfNPWJ3_e4io/edit?usp=sharing ✍️มนุษย์ข้ามสายพันธุ์ https://docs.google.com/document/d/1eWJ4Z552HO6SSrPFuMZwLT7HE5rzmYO_r485lLtEnEQ/edit?usp=sharing ✍️ความรู้โดยแพทย์ – ทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งต้นที่ “ความกลัว” https://rookon.com/read-blog/16 ✍️David Icke | โครงสร้างการควบคุมรัฐบาลทั่วโลก https://rookon.com/read-blog/35 ✍️ ว๊ากเสร็จก่อนที่โkวิdจะระบาด https://rookon.com/read-blog/12 ✍️ ผู้อยู่เบื้องหลัง โคขวิดและวอซอลวง https://fb.watch/aGglwXBtl5/ ✍️ปี 1994 อดีตสายลับอังกฤษ MI6 แฉแผนการลดประชากรโลก 😱 โดยองค์กร Club of Rome https://t.me/awakened_thailand/443 ✍️การลดประชากรโลก ใช่เรื่องจริงไหม? โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/hu0KszvGnyQ?si=0N09ufqChfFQAbrv ✍️ แผนลดประชากรโลก มีจริงหรือไม่ โดย อาจารย์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7414795548814773521?is_from_webapp=1&sender_device=pc 👉 อาจารย์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กล่าวชัดๆไม่อ้อมค้อม​ว่าวัคซีนโควิดมันคืออาวุธ​ชีวภาพ ใครฉีดให้คนคืออาชญากร​ ใครนิ่งเฉยไม่พูด​อะไรคือ​ ผู้สมรู้ร่วมคิด​ร่วม​กระทำความผิด​ https://vm.tiktok.com/ZS2XQ5qgB/ แผนลดประชากรโลก มีจริงหรือไม่ https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7414795548814773521?is_from_webapp=1&sender_device=pc 👉การลดประชากรโลก โดยอดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/hu0KszvGnyQ?si=0N09ufqChfFQAbrv 👉รวมหลักฐานการลดประชากรโลก https://www.rookon.com/?p=936 23.หลอกให้กินอาหารอุตสาหกรรมที่มีสารช่วยให้ตายผ่อนส่ง 24.หลอกว่ามนุษย์ต่างดาวไร้สาระไม่มีอยู่จริง 👉มนุษย์ต่างดาว (กิ้งก่า) ต้องการอะไรจากมนุษย์ https://www.rookon.com/?p=944 25.หลอกให้เชื่อว่านิพพานเป็นเรื่องยาก 26.หลอกให้ถอนฟันคุดออก(กรณีที่ไม่ปวดยังใช้ชีวิตได้) 27.หลอกให้กินเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ 28.หลอกว่าจะมีภัยพิบัติล้างโลก โลกจะแตก 29.หลอกว่าภัยพิบัติเป็นฝีมือธรรมชาติทั้งหมดแต่มีเทคโนโลยี HARRP อยู่เบื้องหลัง 👉เทคโนโลยีการปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ https://www.rookon.com/?p=1076 👉เค้าต้องการคอนโทรลสภาพภูมิอากาศของทั่วโลกภายในปี 2025 โปรแกรมดัดแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีกว่า 150 โปรแกรมจะถูกนำมาใช้ทั่วโลก สารพิษที่มนุษย์สร้างขึ้นมากว่า 49 ชนิด ถูกบรรจุไว้ในถังเพื่อที่จะนำไปพ่นในท้องฟ้า และที่อเมริกาได้ถูกทำการพ่นไปแล้ว ด้วยสารเคมี สารพิษ ไวรัส เชื้อรา แบคทีเรียฯลฯ ที่ได้ระบุไว้ในเอกสารซึ่งได้ทำการผลิตไว้อย่างลับๆโดยสถาบันFort Detrick(สถาบันวิจัยอาวุธเคมีชีวภาพ)💥😣 https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=421902230036059&id=100066488568961 👉มีสารอะไรอยู่ในเคมเทรล https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/2 👉ผลร้ายของเคมเทรล https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/75 https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/1282 👉HAARP คืออะไร https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/524 https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/728 👉คลิป Chemtrails WAKE UP! https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/812 👉คำอธิบายหลักการทำงานของ Chembuster: https://www.youtube.com/watch?v=s4SM5PajwSM&t=686s 👉"Video tutorial on how to build an Orgone Environmental Harmonizer, the so-called Chembuster." - Mirko Kulig: https://www.youtube.com/watch?v=QpGmOd_u0JQ 👉ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ | Facebook: https://www.facebook.com/airpollution.CAPM/?ref=page_internal 👉รัฐบาลไทย และอินโดนีเซีย โดนหลอกให้เซ็นสัญญาตกลงให้ปรับสภาพอากาศได้ 3 ปี สัญญานี้เซ็นปี 2020 แปลว่า เอาอะไรมาพ่นในบ้านเราก็ได้ https://zerogeoengineering.com/2022/thailand-and-indonesia-have-signed-a-weather-modification-deal-through-2024/ 👉สภาพอากาศถูกควบคุมด้วย เทคโนโลยี HAARP By น้องอองซานและอาจารย์ทีน่า https://www.tiktok.com/t/ZSLCRfSSw/ https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/1281 👉คลิป อ.ศุภวรรณกรีน กล่าวถึงเคมเทรล https://vt.tiktok.com/ZSNruWBLK/ 👉รายงาน: ศาสตราจารย์และนักภูมิอากาศวิทยา Dr. #JudithCurry ให้การเป็นพยานภายใต้คำสาบานต่อสภาคองเกรสว่า "การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มนุษย์สร้างขึ้น" เป็นเรื่องหลอกลวงโดยการปลอมแปลงข้อมูลและเยาะเย้ยนักวิทยาศาสตร์ที่กล้าไม่เห็นด้วยกับการค้นพบทางการเมือง! https://twitter.com/i/status/1683105847407149056 👉ตำแหน่งที่ตั้ง HARRP ในโลก https://t.me/chemtrailshaarpthaichat/1302 👉ไลฟ์สด เทคโนโลยีเพื่อปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ | อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/zCzdNrbQn0A?si=mLFvv2loaKfbiVOY https://www.facebook.com/share/v/nW34YL4HiESsLNZT/ 30. หลอกว่าเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกาะฮาวายเป็นไฟป่าทั้งๆที่ใช้เทคโนโลยี DEW 👉เกิดอะไรขึ้นที่ฮาวาย? https://www.rookon.com/?p=986 31.หลอกให้รับวัkซีuอันตรายกว่า90ชนิด(ในปัจจุบัน) 32.หลอกเรื่อง 9-11 33.หลอกเรื่องนาซาไปถึงดวงจันทร์และดาวอังคาร 34.หลอกให้กินกาแฟ 35.หลอกว่ารถที่ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า,แผงโซลาร์เซลล์ ผลิตออกมาเพื่อรักษ์โลก 36.หลอกว่าน้ำมันปิโตรเลียมและถ่านหิน ทำร้ายโลกและกำลังจะหมดไปจากโลก 37.หลอกให้กินสัตว์ป่วย เช่น เนื้อโกเบ(วัวกล้ามเนื้อฝ่อ,ฟัวกราส์(ไขมันลงตับห่าน) 38.หลอกว่าดวงจันทร์เป็นดาวเคราะห์ 39.หลอกให้ผ่าตัดไส้ติ่งออกทั้งๆที่ไม่ได้อักเสบเป็นอันตราย 40.หลอกว่าถ้าไม่กินอาหารให้ตรงเวลาน้ำย่อยจะออกมาย่อยกระเพาะ 41.หลอกว่ากินเค็มจะทำให้ไตเสื่อม แต่การกินสัตว์ต่างหากที่ทำร้ายไต 42.หลอกว่าเรามี Junk DNA 43.หลอกให้เชื่อว่ามีนรกสวรรค์เพื่อเป็นกับดักให้อยู่ในโฮโลแกรม 44.หลอกให้เชื่อว่ารัสเซียรังแกยูเครน 45.หลอกว่าแว่นกันแดด,ครีมกันแดดดีจำเป็นต้องใช้ (ก่อมะเร็ง) 46.หลอกว่าตาที่ 3 เปิดแล้ว ก็ไม่ต้องปฎิบัติอะไรแล้ว เปิดแล้วจะเห็นผี 47.หลอกให้ใช้ยาอันตรายจัดการโควิด เช่น ฟาวิพิลาเวียร์ โมนูพิราเวียร์ เรมเดซิเวีย แพคโลวิด ปัดยาดีๆออก เช่น ฟ้าทะลายโจร ไอเวอร์เมคติน ไฮดรอกซีคลอโรควีน CDS บอแรกซ์ เป็นต้น 48.หลอกว่าความฝันคือเรื่องที่เราคิดมากไปเอง 49.หลอกว่าเสียงที่ได้ยินในหัว เพราะเป็นโรคประสาท ไบโพล่า หรือซึมเศร้า 50.หลอกเรื่องไวรัส โkวิd19,HIV,H1N1,EBOLA,SWINE FLU,ZIKA,SARS ว่าเกิดจากธรรมชาติ 51.หลอกเรื่อง ลิเบีย 52.เรื่อง เปโตรดอลล่าร์ 53.หลอกเรื่องการค้ามนุษย์ /เด็ก ทรมานเพื่อทำสารอดรีโนโครมเป็นเรื่องเหลวไหล 54.หลอกว่า LGBTQ เกิดจากธรรมชาติอย่างเดียว 55.หลอกให้มีการจัดลำดับความวิเศษความเคารพนับถือศรัทธาแต่ละจิตวิญญาณ เช่น สัตว์ คน เทพ เทวดา ศาสดา 56.หลอกให้ผู้หญิงตรวจแมมโมแกรมประจำปีเพื่อจะป้องกันมะเร็งเต้านม แต่ที่จริงคือจะเป็นมะเร็งจากรังสีไอออไนซ์จากการตรวจ 57.หลอกว่าการใส่แมสก์ช่วยป้องกันไวรัสได้ นอกจากป้องกันไม่ได้แล้วยังลดออกซิเจนที่จะเข้าร่างกายลง20-30% ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รอบๆตัว จาก 200-600 ppm เมื่อใส่แมสจะขึ้นไปเกือบ1หมื่น มีผลทำร้ายร่างกาย 👉เพื่อสุขภาพของคนไทย หมอฝากทุกท่านแชร์แหล่งข้อมูลครับ ✅ศึกษาข้อมูลหน้ากากอนามัยเพิ่มเติมได้ที่ 1.กลุ่มไลน์ "ความรู้เกี่ยวกับแมสก์ Harmfulmasks" https://line.me/ti/g2/Nf-CPF-eldbclG4WH4iEIHyawJGFT76Btq14eQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default 2.เทเลแกรม “HarmfulMasks” https://t.me/HarmfulMasks 58.หลอกให้เราใช้ชุดตรวจโควิดลวงโลก ATK,ct PCR ✅ PCR และ ATK ลวงโลก 👉เรื่องราวของ PCR & Atk ep.2 https://rumble.com/v17e5ad-ep-2-pcr-and-atk.html 👉PCR พลิกตัวเลขผู้ติดเชื้อเท็จ https://stopthaicontrol.com/sub/pcr-%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%b9%e0%b8%81%e0%b8%99%e0%b8%b3%e0%b9%84%e0%b8%9b%e0%b8%97%e0%b8%b4%e0%b9%89%e0%b8%87%e0%b9%82%e0%b8%94%e0%b8%a2%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%97/ 👉 ไม่ควร ตรวจเชื้อวัวขวิด ทุกรูปแบบเพราะเป็น ผลบวกลวง ลองฟัง คลิป นี้ครับ ฟัง นาที ที่ 29 และ นาที ที่ 38 https://rumble.com/vsssso-48372936.html 👉และนาทีที่ 15 จากคลิปนี้ https://rumble.com/vw404g-q-and-a-with-dr.-atapol-md.cu..html 👉ชุดตรวจ ATK ที่เซ็ทผลไว้แล้ว https://t.me/c/1585233417/1124 👉คลิป สิ่งตกค้างจากการ Swap https://www.facebook.com/groups/426084935837716/permalink/433156291797247/ https://t.me/ThaiPitaksithData/956 👉ภัยจากการ Swap https://www.facebook.com/100002198164704/posts/4571056572977570/? https://t.me/ThaiPitaksithData/4282 👉 กราฟีนอ๊อกไซด์แฝงในปลายไม้สว็อบ https://t.me/ThaiPitaksithData/1689 👉คำเตือนชุดตรวจโkวิd- มีโซเดียมเอไซด์ซึ่งอาจเป็นพิษหรือถึงตายได้ ข้อมูล CDC เกี่ยวกับโซเดียมเอไซด์ https://emergency.cdc.gov/agent/sodiumazide/basics/facts.asp 👉พบเชื้อ ไม่ได้แปลว่า ติดเชื้อ โดย ศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณ https://vt.tiktok.com/ZSLBRvdNY/ 59.หลอกให้กลัวและเชื่อแต่ข้อเสียของกระท่อม กัญชา กัญชง และเห็ดขี้ควาย 60.หลอกเราว่าโลกกลม แต่โลกแบน มีโดมและกำแพงน้ำแข็งกั้น 61.หลอกว่าพระพุทธเจ้าประสูติที่เนปาล ตรัสรู้และปรินิพพานที่อินเดีย ติดตามข้อมูลได้ที่เพจ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ที่แผ่นดินไทยไม่ใช่อินเดีย https://www.facebook.com/Thanabodee.Rebirths https://www.youtube.com/@user-sv8tw5sn4b/videos ความจริงคือ ประสูตพระพุทธเจ้าตรัสรู้ที่แผ่นดินไทยไม่ใช่อินเดียโคกโพธิ์ชัย ขอนแก่น แสดงธรรมจักรกัปปวัตนสูตร อิสิปตนมฤคทายวัน วัดพระพุทธบาทน้อย อ.แก่งคอย สระบุรี ปรินิพพาน : วัดพระแท่นดงรัง กาญจนบุรี บางทีการค้นหาคำตอบก็เสียเวลา แต่ต้องรู้ไว้บ้างเพื่อการไม่ถูกหลอกทางโลกกายภาพ มันเป็นความรู้ภายนอก แต่เพื่อ....การดำเนินชีวิตแบบทันเกมส์ และไม่ประมาท ไม่ให้ถูกหลอกไปผิดทางส่งผลเสียต่อใจกาย ควรจัดสรรเวลาฝึกจิตวิญญาณเชื่อมต่อจิตแท้ในตัวตนคือสิ่งที่ควรทำ นั่นคือความรู้จักตัวเอง ความรู้ภายในที่เราสะสมมา ทั้งหมด รอเราอยู่ ทุกอย่างต้องสมดุล https://youtu.be/YkyYWVNvz5M https://youtu.be/SKcv6GSm2dw #เชื่อมต่อกับจิตเดิมแท้หรือคุรุในตัวเราHS #ทุกแบบทดสอบมีมาเพื่อฝึกเกลาจิต #เราเลือกลงมาเกิดเพื่อหาประสบการณ์ที่เรากำหนดมา #เก็บไว้เป็นจิ๊กซอร์ส่วนตัวไม่ได้ชวนเชื่อ เวชหนุ่ม
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 912 มุมมอง 0 รีวิว
  • คอร์สการตลาดออนไลน์...กลลวงที่มองไม่เห็น

    ถ้าจะเริ่มเล่นเรื่องที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้ เราต้องเข้าใจก่อนว่ามันไม่ได้มีแค่บริษัทเดียวที่ใช้หลักการเดียวกัน

    แต่ยังมีรายใหญ่ๆอีก 5 บริษัท เพียงแต่มีบริษัทหนึ่งที่ใช้บริการ“ลมใต้ปีก”คนที่เป็นดารามากที่สุด

    1 ใน 5 บริษัท มีเพียง 1 บริษัทที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้ไม่ได้ทำแบบ MLM แต่ใช้วิธีทำแบบเปิดตัวแทน เหมือนธุรกิจตัวแทนทั่วๆไป ส่วนอีก 4 บริษัทนั้นทำแบบ MLM

    เพราะการทำ MLM จะต้องซื้อ license ต่อจากบริษัทคนอื่นมา ซึ่ง สคบ.จะอนุมัติยาก แต่ทั้ง 5 บริษัทนั้นก็ทำหลักการเดียวกัน

    คือ..ยิงแอด-สอนทำการตลาดออนไลน์ ราคาค่าเรียน 98 , 99 , 199 บาท

    #คิดค่าเรียนให้ถูกๆ เพื่อล่อคนให้หลงคิดเอาเองว่า “ทดลองสมัครเรียนดูก็ไม่เสียหายนี่นา เงินแค่นี้เอง“

    เมื่อเราไปสมัครเรียนแล้วบทเรียนแรกที่จะได้รับคำสอนมาคือให้เราตั้งโฆษณาชวนคน โดยให้เราไปถ่ายภาพถือสินค้าแล้วยิ้มอ่อน (คนที่ชวนเราว่ายังไงก็ทำตามเขาเพราะเราทำไม่เป็นนี่)

    แล้วมาตั้งแอดชวนคนเพื่อขายของ เท่ากับงบการตลาดถูกดึงจากบัตรเครดิต/เดบิต ของผู้เรียนเอง ใช้ FB Ads Account ของผู้เรียน

    การทำให้ด้วยเทคนี้ บริษัทสามารถขึ้นแอดได้ ด้วยจำนวน Account มหาศาล แต่ไม่ได้ใช้เงินบริษัทเลย

    เมื่อมีคนทักมา เราจะไม่มีสินค้า ต้นสายคนชวนจะเอาสินค้ามาขายให้เรา 1 ชิ้น เพราะเราต้องมีสินค้าไปคุยกับคนที่ทักมาไง

    ซึ่งคนที่ทักมาหาเราเนี่ย ก็จะมีทั้งลูกค้าจริงๆและ”อวตารเสมือนจริง“ของบริษัททักมาหาเรา ซึ่งเราก็จะคิดเอาเองว่าสินค้ามันขายได้ มันขายง่าย

    บางรายจะโดนล่อให้เปิด member เลย เพราะบริษัทจะตั้งเรตค่าคอมให้เลยที่ 2,500 - 5,000 ถ้าใครมีเงินเยอะก็จะเปิดดีลเลอร์เลย 250,0000 บาท

    ทุกรายที่มาขายสินค้าจะไม่รู้เลยว่าตัวเองต้องจดทะเบียนกับ สคบ. เป็นธุรกิจตลาดขายตรง #อันนี้มันจึงเป็นความผิดข้อแรก

    การเปิด 250,000 บาทมันจะได้ refund 50% เท่ากับเปิดราคานี้เราจะต้องมีกำไร 50% ที่ยังไม่รวมค่าแอด

    เช่น.สินค้าราคา 2,500 บาท เราเปิดดีลเลอร์แล้วจะได้สินค้ามา 100 ชิ้น ราคารวม 250,000 บาทแล้วบริษัทจะต้องจ่ายคืนเปนค่าคอมให้เรา 50% = 125,000 บาท

    ราคาที่เราต้องจ่ายจริงมันควรจะอยู่ที่ 125,000 บาทแต่บริษัทมันให้เราจ่าย 250,000 บาท งงกันไหม.?

    จะอธิบายให้พอเข้าใจแบบคร่าวๆก่อนนะ พวกคุณจะได้รู้ว่าทำไมเจ้าของรวยเวอร์แต่คนอื่นไม่มีใครรวยแถมเป็นหนี้

    สมมติว่า..

    สินค้าราคา 2000 บาท เวลาเราเข้าไปซื้อ จะโดนผลัก vat 7% มาให้ในราคาซื้อเต็ม เท่ากับโดนแล้ว 140 บาทที่เราต้องจ่ายค่า vat

    หลังจากนั้น บริษัทจะต้องจ่ายคืนให้ 50% ก็คือจะจ่าย 1,000 บาท แต่ทีนี้ บริษัทก็จะหักภาษีอีก 3% เป็นค่าภาษีที่บริษัทต้องส่ง

    สรุปได้เงินจริง 970 บาท ตอนที่คืนมา แล้วตัวเองยังถูกไปคำนวณภาษีรายได้อีก เพราะถือเป็นรายได้เข้ามา

    กลายเป็นไปซื้อของเขา มีรายได้ 50% ผลักภาษีกลับเข้าตัวโดนหัก 7% โดน 3% จากค่าคอมครึ่งนึง = 1.5%

    7+1.5+50%(ค่าของ) margin หน้าตักโดนไปแล้ว 58.5% ยังไม่รวมค่ายิงแอดที่ต้องเสียเอง สมมติเสีย 20% ของสินค้า เท่ากับ 78.5% แล้วกำไรเหลือ 12.5%

    แล้วก็ไปตายตรงที่ต้องเสียภาษีค่าคอมมิชชั่น และ ภาษีที่ได้จากการขายของราคาเต็ม 2,000 คือโดนสองต่อแบบจุกๆ

    นี่ยังไม่รวมตอนที่ไปขายของ ถ้าขายในนาม บริษัทก็ต้องขายในราคา 2,000 บาท จะไปบวก vat 7% ก็ไม่ได้ แปลว่าผลัก vat 7% เข้าตัวเองอีก

    ของที่เอามาขายก็แนวเดิมๆ คอลลาเจน กาแฟ ของทั่วๆไป ที่ต้นทุนราคาถูกๆ

    เกมนี้มันเป็นเกมที่ลูกข่ายไม่มีวันรวย ไม่มีวันชนะ มีแต่ความหวังว่าจะรวย และตอนนี้ยิงแอด โดนบวก 7% อีกนะ เพราะต้นทุนสินค้า 5%

    แล้วก็อีกกลยยุทธของบริษัทคือขอการันตรีว่า..“สินค้าต้องขายดีต้องมีคนทัก”

    แต่ความจริงคือบริษัทเขาได้เตรียมหน้าม้า Facebook Account ปลอมไว้แล้ว นักเรียนส่งการบ้านเป็นแอดที่ทำ เขาจะส่งหน้าม้าไปคอมเมนต์ สนใจค่ะ สนใจครับ

    แต่ทักไปแล้วเงียบเป็นป่าช้า

    ทีนี้บริษัทเขาก็จะรอดตัวจากการสอนยิงแอดเพราะว่ามันดูปังไง เพราะมีหน้าม้าทักเยอะ แต่ตัวแทนปิดการขายไม่ได้เอง บริษัทจึงไม่ต้องรับผิดชอบตรงนี้

    นั่นคือ 1 ในหลายๆเหตุผลที่คนนั่งจมกับสินค้า เพราะมันเป็นกลลวงแบบครบวงจร ดิ้นหนีตายได้ทางเดียวคือ "หาเหยื่อคนใหม่" มารับสินค้าจากตัวเองไป

    หาได้ 100 คนถึงจะรอดจากหนี้ 250,000 บาท ไม่มีใครรวยหรอก เพราะเสีย vat 7% 2 รอบ Margin 14% เข้าไปแล้ว มันเป็นกลลวงที่คนส่วนหนึ่งมองไม่เห็น

    เจ้าของบริษัทสบาย เป็นเสือนอนกิน ต้นทุนขายสินค้าก็ไม่มี มีแค่งบสร้างแบรนด์ซึ่งตัวเองได้กำไรคนเดียว

    และตัวเองก็ไม่ต้องทำอะไรปล่อยให้ระบบทำงาน เอาเงินที่ได้มาจากเหยื่อจ่ายภาษีให้ถูกต้อง ทำตัวบริษัทให้ใสสะอาดจนกฏหมายเอื้อมมาไม่ถึง

    ถ้าถามว่าบริษัทได้กำไรปีละเท่าไหร่..บริษัทนี้จ่ายภาษีปีละ 200 กว่าล้านบาท กำไรปีละเท่าไหร่คงคิดเองได้นะ เพราะต้นทุนสินค้า 5%

    และที่มันน่าเศร้าจริงๆคือ เงินกำไรรวมกับเงินที่เสียภาษี มันเป็นเงินของชาวบ้าน ทุกบาท ทุกสตางค์

    เกมนี้จะมีคนถูกฟ้องกันไม่น้อย เพราะจะเอาผิดเจ้าของบริษัทไม่ง่าย เพราะฉลาดสุดๆทำชีวิตตัวเองได้ใสสะอาดสัสๆ ทั้งๆที่โคตรสกปรก

    แล้วคนที่ไปเป็นพยาน คนที่ไปร้องที่นั่นที่นี่ เท่าที่เห็นในข่าว ไม่มีคนที่รู้ข้อมูลเชิงลึกของบริษัทแบบจริงๆแม้แต่คนเดียว

    แค่ลองถามผู้กล้าที่ออกมาปกป้องสิทธิ์ของตัวเองเหล่านั้นว่า มีใครรู้จักตัวการร่วมของบริษัทสักคนไหม ขอเดาว่าไม่มีใครรู้จักผู้ร่วมขบวนการหรอก

    เพราะทุกคนที่เป็นเหยื่อจะนึกถึงแต่หน้าดารากับเจ้าของบริษัทแล้วก็สมัครเข้าร่วมเลย ดังนั้นก็จะเล่นได้แค่แม่ข่ายในข้อหา..ไม่มีใบอนุญาต

    จากการตรวจสอบ ณ ปัจจุบันนี้ ณ นาทีนี้มีคนตกเป็นเหยื่อกลลวงที่มองไม่เห็นแบบนี้มีมากกว่า 15 ล้านคน

    ดารามีแต่ได้ เจ้าของบริษัทมีแต่รวย คนซวยคือชาวบ้านกว่า 15 ล้านคน

    และถ้ามีผู้กล้าออกมาเล่นเรื่องนี้แบบสุดซอย จะช่วยผู้คนให้ตื่นรู้ได้อย่างน้อยๆ 5 ล้านคน ดังนั้นเราขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนเลยที่ออกมาเล่นเรื่องนี้
    ---------

    เอาจริงๆตอนแรกเขียนระบุชื่อบุคคล ชื่อบริษัททั้ง 5 เขียนอธิบายเจาะลึกเอาไว้ละเอียดยิบตามสไตล์เพจเรา

    เรื่องนี้แหล่งข่าวเราเก็บข้อมูลมา 10 กว่าปีแล้ว และเราแอบมั่นใจว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีใครรู้ลึกเท่าแหล่งข่าวเราก็แล้วกันล่ะ

    แต่เราตัดรายละเอียดออกไป เพราะเบื่อมากๆที่จะรบกับพวก #ติ่งกระบือบิน ทึ่พ่ะโง่ชนิดวัวตุยทุยล้มเลย อส.🤣 ปล่อยให้มันเป็นเหยื่อต่อไปสักพัก

    ไอ้ฉิบหาย 😆 แล้วยังไม่ต้องมาดิ้นนะ เพราะยังไม่ได้เอ่ยชื่อบริษัท ถถถ

    สวัสดี
    @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    คอร์สการตลาดออนไลน์...กลลวงที่มองไม่เห็น ถ้าจะเริ่มเล่นเรื่องที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้ เราต้องเข้าใจก่อนว่ามันไม่ได้มีแค่บริษัทเดียวที่ใช้หลักการเดียวกัน แต่ยังมีรายใหญ่ๆอีก 5 บริษัท เพียงแต่มีบริษัทหนึ่งที่ใช้บริการ“ลมใต้ปีก”คนที่เป็นดารามากที่สุด 1 ใน 5 บริษัท มีเพียง 1 บริษัทที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้ไม่ได้ทำแบบ MLM แต่ใช้วิธีทำแบบเปิดตัวแทน เหมือนธุรกิจตัวแทนทั่วๆไป ส่วนอีก 4 บริษัทนั้นทำแบบ MLM เพราะการทำ MLM จะต้องซื้อ license ต่อจากบริษัทคนอื่นมา ซึ่ง สคบ.จะอนุมัติยาก แต่ทั้ง 5 บริษัทนั้นก็ทำหลักการเดียวกัน คือ..ยิงแอด-สอนทำการตลาดออนไลน์ ราคาค่าเรียน 98 , 99 , 199 บาท #คิดค่าเรียนให้ถูกๆ เพื่อล่อคนให้หลงคิดเอาเองว่า “ทดลองสมัครเรียนดูก็ไม่เสียหายนี่นา เงินแค่นี้เอง“ เมื่อเราไปสมัครเรียนแล้วบทเรียนแรกที่จะได้รับคำสอนมาคือให้เราตั้งโฆษณาชวนคน โดยให้เราไปถ่ายภาพถือสินค้าแล้วยิ้มอ่อน (คนที่ชวนเราว่ายังไงก็ทำตามเขาเพราะเราทำไม่เป็นนี่) แล้วมาตั้งแอดชวนคนเพื่อขายของ เท่ากับงบการตลาดถูกดึงจากบัตรเครดิต/เดบิต ของผู้เรียนเอง ใช้ FB Ads Account ของผู้เรียน การทำให้ด้วยเทคนี้ บริษัทสามารถขึ้นแอดได้ ด้วยจำนวน Account มหาศาล แต่ไม่ได้ใช้เงินบริษัทเลย เมื่อมีคนทักมา เราจะไม่มีสินค้า ต้นสายคนชวนจะเอาสินค้ามาขายให้เรา 1 ชิ้น เพราะเราต้องมีสินค้าไปคุยกับคนที่ทักมาไง ซึ่งคนที่ทักมาหาเราเนี่ย ก็จะมีทั้งลูกค้าจริงๆและ”อวตารเสมือนจริง“ของบริษัททักมาหาเรา ซึ่งเราก็จะคิดเอาเองว่าสินค้ามันขายได้ มันขายง่าย บางรายจะโดนล่อให้เปิด member เลย เพราะบริษัทจะตั้งเรตค่าคอมให้เลยที่ 2,500 - 5,000 ถ้าใครมีเงินเยอะก็จะเปิดดีลเลอร์เลย 250,0000 บาท ทุกรายที่มาขายสินค้าจะไม่รู้เลยว่าตัวเองต้องจดทะเบียนกับ สคบ. เป็นธุรกิจตลาดขายตรง #อันนี้มันจึงเป็นความผิดข้อแรก การเปิด 250,000 บาทมันจะได้ refund 50% เท่ากับเปิดราคานี้เราจะต้องมีกำไร 50% ที่ยังไม่รวมค่าแอด เช่น.สินค้าราคา 2,500 บาท เราเปิดดีลเลอร์แล้วจะได้สินค้ามา 100 ชิ้น ราคารวม 250,000 บาทแล้วบริษัทจะต้องจ่ายคืนเปนค่าคอมให้เรา 50% = 125,000 บาท ราคาที่เราต้องจ่ายจริงมันควรจะอยู่ที่ 125,000 บาทแต่บริษัทมันให้เราจ่าย 250,000 บาท งงกันไหม.? จะอธิบายให้พอเข้าใจแบบคร่าวๆก่อนนะ พวกคุณจะได้รู้ว่าทำไมเจ้าของรวยเวอร์แต่คนอื่นไม่มีใครรวยแถมเป็นหนี้ สมมติว่า.. สินค้าราคา 2000 บาท เวลาเราเข้าไปซื้อ จะโดนผลัก vat 7% มาให้ในราคาซื้อเต็ม เท่ากับโดนแล้ว 140 บาทที่เราต้องจ่ายค่า vat หลังจากนั้น บริษัทจะต้องจ่ายคืนให้ 50% ก็คือจะจ่าย 1,000 บาท แต่ทีนี้ บริษัทก็จะหักภาษีอีก 3% เป็นค่าภาษีที่บริษัทต้องส่ง สรุปได้เงินจริง 970 บาท ตอนที่คืนมา แล้วตัวเองยังถูกไปคำนวณภาษีรายได้อีก เพราะถือเป็นรายได้เข้ามา กลายเป็นไปซื้อของเขา มีรายได้ 50% ผลักภาษีกลับเข้าตัวโดนหัก 7% โดน 3% จากค่าคอมครึ่งนึง = 1.5% 7+1.5+50%(ค่าของ) margin หน้าตักโดนไปแล้ว 58.5% ยังไม่รวมค่ายิงแอดที่ต้องเสียเอง สมมติเสีย 20% ของสินค้า เท่ากับ 78.5% แล้วกำไรเหลือ 12.5% แล้วก็ไปตายตรงที่ต้องเสียภาษีค่าคอมมิชชั่น และ ภาษีที่ได้จากการขายของราคาเต็ม 2,000 คือโดนสองต่อแบบจุกๆ นี่ยังไม่รวมตอนที่ไปขายของ ถ้าขายในนาม บริษัทก็ต้องขายในราคา 2,000 บาท จะไปบวก vat 7% ก็ไม่ได้ แปลว่าผลัก vat 7% เข้าตัวเองอีก ของที่เอามาขายก็แนวเดิมๆ คอลลาเจน กาแฟ ของทั่วๆไป ที่ต้นทุนราคาถูกๆ เกมนี้มันเป็นเกมที่ลูกข่ายไม่มีวันรวย ไม่มีวันชนะ มีแต่ความหวังว่าจะรวย และตอนนี้ยิงแอด โดนบวก 7% อีกนะ เพราะต้นทุนสินค้า 5% แล้วก็อีกกลยยุทธของบริษัทคือขอการันตรีว่า..“สินค้าต้องขายดีต้องมีคนทัก” แต่ความจริงคือบริษัทเขาได้เตรียมหน้าม้า Facebook Account ปลอมไว้แล้ว นักเรียนส่งการบ้านเป็นแอดที่ทำ เขาจะส่งหน้าม้าไปคอมเมนต์ สนใจค่ะ สนใจครับ แต่ทักไปแล้วเงียบเป็นป่าช้า ทีนี้บริษัทเขาก็จะรอดตัวจากการสอนยิงแอดเพราะว่ามันดูปังไง เพราะมีหน้าม้าทักเยอะ แต่ตัวแทนปิดการขายไม่ได้เอง บริษัทจึงไม่ต้องรับผิดชอบตรงนี้ นั่นคือ 1 ในหลายๆเหตุผลที่คนนั่งจมกับสินค้า เพราะมันเป็นกลลวงแบบครบวงจร ดิ้นหนีตายได้ทางเดียวคือ "หาเหยื่อคนใหม่" มารับสินค้าจากตัวเองไป หาได้ 100 คนถึงจะรอดจากหนี้ 250,000 บาท ไม่มีใครรวยหรอก เพราะเสีย vat 7% 2 รอบ Margin 14% เข้าไปแล้ว มันเป็นกลลวงที่คนส่วนหนึ่งมองไม่เห็น เจ้าของบริษัทสบาย เป็นเสือนอนกิน ต้นทุนขายสินค้าก็ไม่มี มีแค่งบสร้างแบรนด์ซึ่งตัวเองได้กำไรคนเดียว และตัวเองก็ไม่ต้องทำอะไรปล่อยให้ระบบทำงาน เอาเงินที่ได้มาจากเหยื่อจ่ายภาษีให้ถูกต้อง ทำตัวบริษัทให้ใสสะอาดจนกฏหมายเอื้อมมาไม่ถึง ถ้าถามว่าบริษัทได้กำไรปีละเท่าไหร่..บริษัทนี้จ่ายภาษีปีละ 200 กว่าล้านบาท กำไรปีละเท่าไหร่คงคิดเองได้นะ เพราะต้นทุนสินค้า 5% และที่มันน่าเศร้าจริงๆคือ เงินกำไรรวมกับเงินที่เสียภาษี มันเป็นเงินของชาวบ้าน ทุกบาท ทุกสตางค์ เกมนี้จะมีคนถูกฟ้องกันไม่น้อย เพราะจะเอาผิดเจ้าของบริษัทไม่ง่าย เพราะฉลาดสุดๆทำชีวิตตัวเองได้ใสสะอาดสัสๆ ทั้งๆที่โคตรสกปรก แล้วคนที่ไปเป็นพยาน คนที่ไปร้องที่นั่นที่นี่ เท่าที่เห็นในข่าว ไม่มีคนที่รู้ข้อมูลเชิงลึกของบริษัทแบบจริงๆแม้แต่คนเดียว แค่ลองถามผู้กล้าที่ออกมาปกป้องสิทธิ์ของตัวเองเหล่านั้นว่า มีใครรู้จักตัวการร่วมของบริษัทสักคนไหม ขอเดาว่าไม่มีใครรู้จักผู้ร่วมขบวนการหรอก เพราะทุกคนที่เป็นเหยื่อจะนึกถึงแต่หน้าดารากับเจ้าของบริษัทแล้วก็สมัครเข้าร่วมเลย ดังนั้นก็จะเล่นได้แค่แม่ข่ายในข้อหา..ไม่มีใบอนุญาต จากการตรวจสอบ ณ ปัจจุบันนี้ ณ นาทีนี้มีคนตกเป็นเหยื่อกลลวงที่มองไม่เห็นแบบนี้มีมากกว่า 15 ล้านคน ดารามีแต่ได้ เจ้าของบริษัทมีแต่รวย คนซวยคือชาวบ้านกว่า 15 ล้านคน และถ้ามีผู้กล้าออกมาเล่นเรื่องนี้แบบสุดซอย จะช่วยผู้คนให้ตื่นรู้ได้อย่างน้อยๆ 5 ล้านคน ดังนั้นเราขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนเลยที่ออกมาเล่นเรื่องนี้ --------- เอาจริงๆตอนแรกเขียนระบุชื่อบุคคล ชื่อบริษัททั้ง 5 เขียนอธิบายเจาะลึกเอาไว้ละเอียดยิบตามสไตล์เพจเรา เรื่องนี้แหล่งข่าวเราเก็บข้อมูลมา 10 กว่าปีแล้ว และเราแอบมั่นใจว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีใครรู้ลึกเท่าแหล่งข่าวเราก็แล้วกันล่ะ แต่เราตัดรายละเอียดออกไป เพราะเบื่อมากๆที่จะรบกับพวก #ติ่งกระบือบิน ทึ่พ่ะโง่ชนิดวัวตุยทุยล้มเลย อส.🤣 ปล่อยให้มันเป็นเหยื่อต่อไปสักพัก ไอ้ฉิบหาย 😆 แล้วยังไม่ต้องมาดิ้นนะ เพราะยังไม่ได้เอ่ยชื่อบริษัท ถถถ สวัสดี @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🐢🖤 Morning ฮับ!.. ต้าวน้องหมูดำ 😍

    #aldabratort
    #ทาสเต่า

    📩 สอบถามเพิ่มเติม สนใจเลี้ยงน้อง ที่นี่ส่งจริงทั่วประเทศ วีดีโอคอลมาเช็คเครดิตที่ฟาร์มได้นะคะ ยินดีให้บริการค่ะ 😊🐢❤️🚙💨💨💨

    📞Tel & Line: 090-4949114
    🐢🖤 Morning ฮับ!.. ต้าวน้องหมูดำ 😍 #aldabratort #ทาสเต่า 📩 สอบถามเพิ่มเติม สนใจเลี้ยงน้อง ที่นี่ส่งจริงทั่วประเทศ วีดีโอคอลมาเช็คเครดิตที่ฟาร์มได้นะคะ ยินดีให้บริการค่ะ 😊🐢❤️🚙💨💨💨 📞Tel & Line: 090-4949114
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องน้ำๆ ในความทรงจำ

    เหตุการณ์น้ำท่วมเชียงรายล่าสุดนี้ ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา ราวปี 41-42 ซึ่งเป็นช่วงต่อเนื่องของวิกฤติต้มยำกุ้ง การจะมีงานทำเป็นเรื่องแสนสาหัสมาก วันหนึ่ง กรมฯ ที่ทำเกี่ยวกับเรื่องน้ำ เปิดรับสมัครข้าราชการ 3 อัตรา ข้าพเจ้าซึ่งยังไม่ได้ทำงานเป็นชิ้นเป็นอันหลังจบมา ได้ไปสมัครสอบแข่งขันร่วมกับผู้คนหลากหลายพันคน โดยข้อสอบมีทั้งแบบปรนัยและอัตนัย เมื่อประกาศผลสอบ มีผู้ผ่านข้อเขียนเพียง 6 คน แน่นอนข้าพเจ้าเป็นหนึ่งในนั้น ความหวังมาล้นปรี่ แถมแอบฝันเล็กน้อย คือข้าพเจ้าอยากทำงานที่ได้รับใช้ใกล้ชิดในหลวง ร.9 และรู้ว่าในหลวง ร.9 ให้ความสำคัญกับเรื่องน้ำมาก การได้ทำงานในกรมฯ นี้ จะทำให้ฝันกลางวันของข้าพเจ้า เป็นจริง
    มาถึงตอนนี้ ข้าพเจ้าจำอีก 5 คนที่เหลือไม่ได้แล้ว จำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่ามีผู้หญิงกี่คนผู้ชายกี่คน พวกเราไม่ได้คุยกัน แต่ละคนอยู่ในมุมเงียบของตัวเอง บอกตามตรง ข้าพเจ้าไม่ตื่นเต้นกับการ สัมภาษณ์เลย เพราะก่อนจะมาถึงจุดนี้ ข้าพเจ้าผ่านการสัมภาษณ์มาอย่างโชกโชน อย่าลืมว่ามันเป็นช่วงวิกฤติ งานไม่มี แต่ถ้าส่งจดหมายสมัครงานไปที่ไหน เขาก็เรียกเราไปสัมภาษณ์เสมอ คงจะกลัวเราเหงาและคิดมาก เรื่องการสัมภาษณ์งานในช่วงนั้น สามารถเขียนได้อีกยาว แต่ความรู้สึกของข้าพเจ้าจะเป็นแบบนี้ ไปด้วยความหวัง ออกจากห้องสัมภาษณ์ด้วยความห่อเหี่ยว พ้นประตูบริษัทด้วยใจที่รู้ว่าชีวิตต้องไปต่อ แต่การสัมภาษณ์ที่กรมฯ ในวันนั้น ข้าพเจ้าออกจากห้องสัมภาษณ์ด้วยอาการแบบที่เรียกว่าน้ำท่วมปากระดับน้ำล้นมาถึงจมูกจนสำลักน้ำ
    กรรมการสัมภาษณ์ เป็นสุภาพสตรี 3 ท่าน การสัมภาษณ์เริ่มด้วยบทสนทนาทั่วไป แนะนำตัว การศึกษา ครอบครัว ต่อมาก็เป็นคำตอบในข้อสอบอัตนัย ข้าพเจ้าจำไม่ได้แล้วว่ามีคำถามอะไรบ้าง มีกี่ข้อ แต่จำได้ว่ากรรมการฯ สนใจคำตอบของข้าพเจ้าอยู่สองข้อ ข้อหนึ่งให้อธิบายความสัมพันธ์อะไรสักอย่างของน้ำ ข้าพเจ้าจำไม่ได้แล้ว แต่คำตอบข้อนี้ ในหน้ากระดาษคำตอบว่างๆ ข้าพเจ้าเขียนแค่ สมการคณิตศาสตร์ พร้อมกับคำนิยามตัวแปรแต่ละตัว กรรมการฯ ถามว่า สมการได้มาอย่างไร ข้าพเจ้าอธิบายว่า ข้าพเจ้าสร้างโมเดลคณิตศาสตร์ในกระดาษทด กำหนดตัวแปร สร้างความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ของตัวแปรแต่ละตัว แล้วแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์จนได้ความสัมพันธ์ออกมา กรรมการถามว่า สมการถูกไหม ข้าพเจ้าตอบทันทีว่าไม่แม่นยำ ไม่ใช่เพราะข้าพเจ้าแก้สมการผิด แต่เป็นเพราะมีเวลาจำกัด โมเดลเลยหยาบเกินไป ขาดตัวแปรอีกหลายตัว ถ้ามีเวลามากกว่านี้ ความถูกต้องจะมากขึ้น
    ดูกรรมการจะทึ่ง และทำให้รู้ว่า ข้าพเจ้าเป็นคนเดียวที่ตอบแบบนี้ อันนี้ต้องขอบคุณ นีลส์ โบร์(Niels Bohr) ตอนสอบจบปริญญาเอก โบร์ ส่งกระดาษแผ่นเดียว ที่เขียนสมการคณิตศาสตร์อธิบาย โครงสร้างอะตอม ข้าพเจ้าแค่ยืมวิธีของโบร์มาใช้
    อีกข้อคือทำไมถึงอยากทำงานที่กรมฯ แน่นอนข้าพเจ้าซ่อนความฝันและความจริงไว้ คือ อยากมีงานทำมั่นคง แต่คำตอบของข้าพเจ้ามาจากประสบการณ์ตรง ข้าพเจ้ามักจะไปช่วยเพื่อน ทำนาเกี่ยวข้าวเสมอ ในปีที่น้ำดี ชีวิตมันก็ดีไปด้วย ในทางกลับกัน ถ้าฟ้าฝนไม่ดี เพื่อนของข้าพเจ้า จะขาดโรงเรียน ข้าวยืนต้นตาย เพื่อนต้องไปรับจ้าง บางคนต้องออกจากการศึกษา เพราะต้องติดตามครอบครัวไปขายแรงงานในเมืองใหญ่ น้ำคือชีวิตจริงจริง เมื่อถูกถามว่าทำไมถึงอยากทำงานที่กรมฯ นี้ ข้าพเจ้าสามารถตอบได้ทันทีว่า ต้องการสำรวจแหล่งน้ำ จัดสร้างแหล่งน้ำ วางระบบชลประทาน เพื่อให้พี่น้องคนไทย มีน้ำใช้อย่างทั่วถึง จริงจริงแล้วตอนเจอคำถามครั้งแรก ข้าพเจ้าไม่ได้นึกถึงภาพใหญ่ขนาดนั้น ข้าพเจ้าแค่นึกถึงเพื่อน แค่คิดว่าถ้าเพื่อนมีแหล่งน้ำ เพื่อนก็ไม่ต้องขาดเรียน แล้วก็คิดต่อไปว่า ถ้าหมู่บ้าน ตำบลมีแหล่งน้ำ หลายครอบครัวไม่ต้องอพยพ แล้วมันถึงค่อยเลยเถิดไปถึงการคิดจัดทำแหล่งน้ำและวางระบบเชื่อมโยงระดับประเทศ ซึ่งเป็นคำตอบสุดท้าย ในกระดาษคำตอบ ที่จำได้เพราะ กรรมการฯ บอกว่า งานในตำแหน่งนี้ คือ เจ้าหน้าที่ในห้องปฏิบัติการวัดคุณภาพน้ำ ไม่เกี่ยวอะไรกับที่ข้าพเจ้าบรรยายเลย (กรรมแท้!) อย่างไรก็ตาม กรรมการแจ้งว่า ข้าพเจ้าได้คะแนนในส่วนอัตนัยดีเยี่ยม
    อะไรๆ มักจะเริ่มแบบนี้เสมอ สงบ สันติ คำชื่นชม สำหรับเด็กหนุ่มอายุ 21-22 มันยิ้มไม่หุบ ความฝันความหวังมันอยู่ตรงหน้า แต่แล้วชีวิตมันก็ฟาดเปรี้ยง ดูเหมือนมันจะเริ่มด้วยประโยคแบบ รู้สึกเสียดายและเสียใจ ที่จะ ต้องแจ้งให้ทราบว่า ทั้งสามตำแหน่งมีคนในอยู่แล้ว ข้าพเจ้าจำได้อีกอย่างว่า แม้แต่กรรมการก็รู้สึกแบบไม่อยากจะพูดเหมือนกัน ในส่วนของข้าพเจ้า ก็แบบที่แจ้งให้ทราบมันอยากจะพูดอะไรแต่พูดไม่ออก รู้สึกในหัวมันแบบ โหวงๆ ข้าพเจ้าจำไม่ได้แล้วว่าจบการสัมภาษณ์กันยังไง แต่ดูเหมือนข้าพเจ้าจะยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น แค่เหมือนกับว่า มันรู้อยู่แล้วว่าต้องมีเรื่องแบบนี้ เราโตมาแบบ คนใน เด็กท่าน นายสั่งมา ประมาณนี้ แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีกี่คนที่ได้รับการบอกตรงๆ แบบข้าพเจ้า เอาเข้าจริง ข้าพเจ้ากลับรู้สึกว่า ก็ดีเหมือนกัน คือ ไม่มีอะไรติดค้างว่าทำไมข้าพเจ้าถึงไม่ได้ ออกจะรู้สึกขอบคุณที่กรรมการฯ กล้าหาญพอที่จะแจ้งให้ทราบ ซึ่งไม่มีความจำเป็นต้องบอกก็ได้ เหนือสิ่งอื่นใด ข้าพเจ้ากลับมีความมั่นใจมากขึ้น ว่าข้าพเจ้าก็เป็นคนหนึ่งที่มีศักยภาพ เพียงแค่ว่าโอกาสยังมาไม่ถึง อย่างที่บอก ชีวิตในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง ไม่มีเวลาให้เราอาลัยอาวรณ์ หรือฟูมฟาย เมื่อเดินออกจากกรมฯ ข้าพเจ้าก็ไม่ได้มีความรู้สึกแบบเสียดายแล้ว แค่กลับที่พัก หาอะไรกิน ตี่นมามีลมหายใจ ก็ออกไปท้าทายวิกฤติต่อ เรื่องก็มีเท่านี้

    เครดิตภาพ: ผู้จัดการออนไลน์
    เรื่องน้ำๆ ในความทรงจำ เหตุการณ์น้ำท่วมเชียงรายล่าสุดนี้ ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา ราวปี 41-42 ซึ่งเป็นช่วงต่อเนื่องของวิกฤติต้มยำกุ้ง การจะมีงานทำเป็นเรื่องแสนสาหัสมาก วันหนึ่ง กรมฯ ที่ทำเกี่ยวกับเรื่องน้ำ เปิดรับสมัครข้าราชการ 3 อัตรา ข้าพเจ้าซึ่งยังไม่ได้ทำงานเป็นชิ้นเป็นอันหลังจบมา ได้ไปสมัครสอบแข่งขันร่วมกับผู้คนหลากหลายพันคน โดยข้อสอบมีทั้งแบบปรนัยและอัตนัย เมื่อประกาศผลสอบ มีผู้ผ่านข้อเขียนเพียง 6 คน แน่นอนข้าพเจ้าเป็นหนึ่งในนั้น ความหวังมาล้นปรี่ แถมแอบฝันเล็กน้อย คือข้าพเจ้าอยากทำงานที่ได้รับใช้ใกล้ชิดในหลวง ร.9 และรู้ว่าในหลวง ร.9 ให้ความสำคัญกับเรื่องน้ำมาก การได้ทำงานในกรมฯ นี้ จะทำให้ฝันกลางวันของข้าพเจ้า เป็นจริง มาถึงตอนนี้ ข้าพเจ้าจำอีก 5 คนที่เหลือไม่ได้แล้ว จำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่ามีผู้หญิงกี่คนผู้ชายกี่คน พวกเราไม่ได้คุยกัน แต่ละคนอยู่ในมุมเงียบของตัวเอง บอกตามตรง ข้าพเจ้าไม่ตื่นเต้นกับการ สัมภาษณ์เลย เพราะก่อนจะมาถึงจุดนี้ ข้าพเจ้าผ่านการสัมภาษณ์มาอย่างโชกโชน อย่าลืมว่ามันเป็นช่วงวิกฤติ งานไม่มี แต่ถ้าส่งจดหมายสมัครงานไปที่ไหน เขาก็เรียกเราไปสัมภาษณ์เสมอ คงจะกลัวเราเหงาและคิดมาก เรื่องการสัมภาษณ์งานในช่วงนั้น สามารถเขียนได้อีกยาว แต่ความรู้สึกของข้าพเจ้าจะเป็นแบบนี้ ไปด้วยความหวัง ออกจากห้องสัมภาษณ์ด้วยความห่อเหี่ยว พ้นประตูบริษัทด้วยใจที่รู้ว่าชีวิตต้องไปต่อ แต่การสัมภาษณ์ที่กรมฯ ในวันนั้น ข้าพเจ้าออกจากห้องสัมภาษณ์ด้วยอาการแบบที่เรียกว่าน้ำท่วมปากระดับน้ำล้นมาถึงจมูกจนสำลักน้ำ กรรมการสัมภาษณ์ เป็นสุภาพสตรี 3 ท่าน การสัมภาษณ์เริ่มด้วยบทสนทนาทั่วไป แนะนำตัว การศึกษา ครอบครัว ต่อมาก็เป็นคำตอบในข้อสอบอัตนัย ข้าพเจ้าจำไม่ได้แล้วว่ามีคำถามอะไรบ้าง มีกี่ข้อ แต่จำได้ว่ากรรมการฯ สนใจคำตอบของข้าพเจ้าอยู่สองข้อ ข้อหนึ่งให้อธิบายความสัมพันธ์อะไรสักอย่างของน้ำ ข้าพเจ้าจำไม่ได้แล้ว แต่คำตอบข้อนี้ ในหน้ากระดาษคำตอบว่างๆ ข้าพเจ้าเขียนแค่ สมการคณิตศาสตร์ พร้อมกับคำนิยามตัวแปรแต่ละตัว กรรมการฯ ถามว่า สมการได้มาอย่างไร ข้าพเจ้าอธิบายว่า ข้าพเจ้าสร้างโมเดลคณิตศาสตร์ในกระดาษทด กำหนดตัวแปร สร้างความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ของตัวแปรแต่ละตัว แล้วแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์จนได้ความสัมพันธ์ออกมา กรรมการถามว่า สมการถูกไหม ข้าพเจ้าตอบทันทีว่าไม่แม่นยำ ไม่ใช่เพราะข้าพเจ้าแก้สมการผิด แต่เป็นเพราะมีเวลาจำกัด โมเดลเลยหยาบเกินไป ขาดตัวแปรอีกหลายตัว ถ้ามีเวลามากกว่านี้ ความถูกต้องจะมากขึ้น ดูกรรมการจะทึ่ง และทำให้รู้ว่า ข้าพเจ้าเป็นคนเดียวที่ตอบแบบนี้ อันนี้ต้องขอบคุณ นีลส์ โบร์(Niels Bohr) ตอนสอบจบปริญญาเอก โบร์ ส่งกระดาษแผ่นเดียว ที่เขียนสมการคณิตศาสตร์อธิบาย โครงสร้างอะตอม ข้าพเจ้าแค่ยืมวิธีของโบร์มาใช้ อีกข้อคือทำไมถึงอยากทำงานที่กรมฯ แน่นอนข้าพเจ้าซ่อนความฝันและความจริงไว้ คือ อยากมีงานทำมั่นคง แต่คำตอบของข้าพเจ้ามาจากประสบการณ์ตรง ข้าพเจ้ามักจะไปช่วยเพื่อน ทำนาเกี่ยวข้าวเสมอ ในปีที่น้ำดี ชีวิตมันก็ดีไปด้วย ในทางกลับกัน ถ้าฟ้าฝนไม่ดี เพื่อนของข้าพเจ้า จะขาดโรงเรียน ข้าวยืนต้นตาย เพื่อนต้องไปรับจ้าง บางคนต้องออกจากการศึกษา เพราะต้องติดตามครอบครัวไปขายแรงงานในเมืองใหญ่ น้ำคือชีวิตจริงจริง เมื่อถูกถามว่าทำไมถึงอยากทำงานที่กรมฯ นี้ ข้าพเจ้าสามารถตอบได้ทันทีว่า ต้องการสำรวจแหล่งน้ำ จัดสร้างแหล่งน้ำ วางระบบชลประทาน เพื่อให้พี่น้องคนไทย มีน้ำใช้อย่างทั่วถึง จริงจริงแล้วตอนเจอคำถามครั้งแรก ข้าพเจ้าไม่ได้นึกถึงภาพใหญ่ขนาดนั้น ข้าพเจ้าแค่นึกถึงเพื่อน แค่คิดว่าถ้าเพื่อนมีแหล่งน้ำ เพื่อนก็ไม่ต้องขาดเรียน แล้วก็คิดต่อไปว่า ถ้าหมู่บ้าน ตำบลมีแหล่งน้ำ หลายครอบครัวไม่ต้องอพยพ แล้วมันถึงค่อยเลยเถิดไปถึงการคิดจัดทำแหล่งน้ำและวางระบบเชื่อมโยงระดับประเทศ ซึ่งเป็นคำตอบสุดท้าย ในกระดาษคำตอบ ที่จำได้เพราะ กรรมการฯ บอกว่า งานในตำแหน่งนี้ คือ เจ้าหน้าที่ในห้องปฏิบัติการวัดคุณภาพน้ำ ไม่เกี่ยวอะไรกับที่ข้าพเจ้าบรรยายเลย (กรรมแท้!) อย่างไรก็ตาม กรรมการแจ้งว่า ข้าพเจ้าได้คะแนนในส่วนอัตนัยดีเยี่ยม อะไรๆ มักจะเริ่มแบบนี้เสมอ สงบ สันติ คำชื่นชม สำหรับเด็กหนุ่มอายุ 21-22 มันยิ้มไม่หุบ ความฝันความหวังมันอยู่ตรงหน้า แต่แล้วชีวิตมันก็ฟาดเปรี้ยง ดูเหมือนมันจะเริ่มด้วยประโยคแบบ รู้สึกเสียดายและเสียใจ ที่จะ ต้องแจ้งให้ทราบว่า ทั้งสามตำแหน่งมีคนในอยู่แล้ว ข้าพเจ้าจำได้อีกอย่างว่า แม้แต่กรรมการก็รู้สึกแบบไม่อยากจะพูดเหมือนกัน ในส่วนของข้าพเจ้า ก็แบบที่แจ้งให้ทราบมันอยากจะพูดอะไรแต่พูดไม่ออก รู้สึกในหัวมันแบบ โหวงๆ ข้าพเจ้าจำไม่ได้แล้วว่าจบการสัมภาษณ์กันยังไง แต่ดูเหมือนข้าพเจ้าจะยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น แค่เหมือนกับว่า มันรู้อยู่แล้วว่าต้องมีเรื่องแบบนี้ เราโตมาแบบ คนใน เด็กท่าน นายสั่งมา ประมาณนี้ แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีกี่คนที่ได้รับการบอกตรงๆ แบบข้าพเจ้า เอาเข้าจริง ข้าพเจ้ากลับรู้สึกว่า ก็ดีเหมือนกัน คือ ไม่มีอะไรติดค้างว่าทำไมข้าพเจ้าถึงไม่ได้ ออกจะรู้สึกขอบคุณที่กรรมการฯ กล้าหาญพอที่จะแจ้งให้ทราบ ซึ่งไม่มีความจำเป็นต้องบอกก็ได้ เหนือสิ่งอื่นใด ข้าพเจ้ากลับมีความมั่นใจมากขึ้น ว่าข้าพเจ้าก็เป็นคนหนึ่งที่มีศักยภาพ เพียงแค่ว่าโอกาสยังมาไม่ถึง อย่างที่บอก ชีวิตในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง ไม่มีเวลาให้เราอาลัยอาวรณ์ หรือฟูมฟาย เมื่อเดินออกจากกรมฯ ข้าพเจ้าก็ไม่ได้มีความรู้สึกแบบเสียดายแล้ว แค่กลับที่พัก หาอะไรกิน ตี่นมามีลมหายใจ ก็ออกไปท้าทายวิกฤติต่อ เรื่องก็มีเท่านี้ เครดิตภาพ: ผู้จัดการออนไลน์
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทวิเคราะห์ UGC (User-Generated Content )เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง” โดย ดร.จักรกฤษณ์ สิริริน เจ้าของนามปากกา “นกป่า อุษาคเนย์” อยู่ในวงการสื่อสารมวลชนมา 25 ปี เนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า

    “หากนำทฤษฎี UGC มาจับกับปรากฏการณ์ “หมูเด้ง” ก็จะเห็นได้ว่า กระแสความโด่งดังของ “หมูเด้ง” ตรงตามรูปแบบของการทำ UGC ทุกประการ

    แม้ในตอนเริ่มต้น ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อครั้งที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” จัดประกวดตั้งชื่อ “หมูเด้ง” ในช่วงแรก ที่ชื่อ “หมูเด้ง” ชนะ VOTE “หมูแดง” และ “หมูสับ” ด้วยคะแนน 20,000 กว่า เรียกได้ว่าขาดลอย

    ในช่วงนั้น ยังไม่เกิดกระแส “หมูเด้ง” แต่อย่างใด มิหนำซ้ำ หลังจากได้ชื่อแล้ว ก็เหลือคนสนใจ “หมูเด้ง” น้อยมาก

    เพราะค่าเฉลี่ยความสนใจลูกสัตว์เกิดใหม่ จะมีอยู่เพียงสั้นๆ คือประมาณ 7 วัน ที่ประชาชนให้ความสนใจ ทำให้สื่อมวลชนต้องคอยตามติดในช่วงเวลาหนึ่ง จากนั้นก็จะเริ่มซาลง และเริ่มห่างหาย จนกระแสเงียบไปในที่สุด

    ซึ่งทาง “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ก็อาจมีการนำเสนอลูกสัตว์เกิดใหม่รายอื่นๆ ตามมาอีกเรื่อยๆ พอผลตัดสินการประกวดจบสิ้นลงแล้ว กระแสก็จะกลับไปเงียบอีกครั้ง วนเวียนอยู่เช่นนี้

    ต่างจาก “หมูเด้ง” โดยสิ้นเชิง

    เป็นเพราะว่า “หมูเด้ง” เกิดในยุคที่ทุกคนบนโลกเข้าถึง Social Media โดยเรื่องราวที่น่าสนใจจะไม่จำกัดอยู่ภายในประเทศใดประเทศหนึ่งอีกต่อไป ไม่เหมือนกระแสลูกสัตว์เกิดใหม่ที่ผ่านมาของ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว”

    แต่ทันทีที่ “อรรถพล หนุนดี” หรือ “พี่เบนซ์” เจ้าของ Facebook Fanpage “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ได้เริ่มทำ Content “หมูเด้ง” กระแส “หมูเด้ง” ก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น

    ฐาน “แฟนคลับ” ที่เหนียวแน่น หรือที่เรียกว่า “ลูกเพจ” ดั้งเดิมของ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ที่มีปริมาณมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มี Empathy หรือ “ความผูกพัน” อย่างสูง ยิ่งช่วยต่อยอด Content ในแบบฉบับ UGC ได้เป็นอย่างดี

    ผนวกกับการที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” อยู่ใกล้ศรีราชา จุดที่มีชาวญี่ปุ่นพำนักในเมืองไทยเป็นชุมชน ทำให้มีการแชร์ Content “หมูเด้ง” ต่อๆ กันไปในหมู่ชาวญี่ปุ่น จากเมืองไทยไปญี่ปุ่น และแพร่กระจายไปทั่วโลก

    สำทับด้วยสำนักข่าวตะวันตก ได้แห่กันมาทำข่าว “หมูเด้ง” ติดๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น AP, AFP, BBC, VOA, CNN ก็ยิ่งช่วยสร้าง UGC ให้กับ “หมูเด้ง” จนกลายเป็น Viral ระดับโลกไปแล้ว

    จากความน่ารัก น่าเอ็นดู การสัมผัสได้ถึงการไม่มีผลประโยชน์ใดแอบแฝงใน Content เนื่องจากเป็นลูกสัตว์เกิดใหม่ในสวนสัตว์ที่ค่าเข้าชมไม่ได้มากมายอะไร และการขายสินค้าของสวนสัตว์ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึกต่างๆ ก็ไม่ได้มีราคาค่างวดที่แพงจนจับต้องไม่ได้

    แปลไทยเป็นไทยก็คือ Brand “หมูเด้ง” เป็น Brand บริสุทธิ์ ผนวกกับความทะลึ่ง สะดีดสะดิ้ง น่ารักน่าชัง เมื่อรวมกับบุคลิกดั้งเดิมของ “หมูเด้ง” ที่เป็นลูกฮิปโปแคระที่มีลีลาตลกเป็นพื้นเพอยู่แล้ว ยิ่งเรียกรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความประทับใจได้ไม่ยาก

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรู้สึกลึกๆ ในใจมนุษย์เกี่ยวกับ “ลูกสัตว์” หรือ Baby Animal ทั้งลูกมนุษย์ด้วยกันที่ถือเป็นสัตว์ประเภทหนึ่ง และลูกสัตว์ต่างๆ ที่ดูแล้วให้ความรู้สึกน่ารัก น่าเอ็นดู อยากอุ้ม อยากเลี้ยง ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์เป็นทุนเดิม

    ประกอบกับคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ที่แอบเกรี้ยวกราด น่ารัก น่าหยิก ทำให้เป็น UGC ที่ถูกนำไปต่อยอดได้ง่ายใน “วัฒนธรรมมีม” หรือ Meme Culture

    ยกระดับสู่การเป็น “วัฒนธรรมร่วม” ผ่าน Social Media

    เบื้องหลังความสำเร็จของ UGC “หมูเด้ง” คงต้องยกเครดิตให้ “พี่เบนซ์” ไปเต็มๆ ที่สามารถดึงคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ออกมาเล่าได้อย่างน่ารัก

    พูดอีกแบบก็คือ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” มาถูกที่ ถูกเวลา และเล่นได้ถูกจุด จับจุด อารมณ์ร่วมของผู้คนได้อยู่หมัด สร้างการเชื่อมต่อ และเชื่อมโยงอารมณ์ความรู้สึกของผู้คน เข้ากับ “หมูเด้ง” ได้ตรงจุด

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่เสพ Social Media ที่อยู่ไกลจาก “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ที่ไม่สะดวกเดินทางมาสัมผัสกับ “หมูเด้ง” ได้ด้วยตัวเอง

    ตอบสนองธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความรักสัตว์เป็นทุนเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ลูกสัตว์” น่ารัก ที่ตนไม่สามารถเลี้ยงเอาไว้ในบ้านได้

    จึงสามารถสรุปได้ว่า UGC อยู่เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง”

    https://www.salika.co/2024/10/04/user-generated-content-moodeng/

    #Thaitimes
    บทวิเคราะห์ UGC (User-Generated Content )เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง” โดย ดร.จักรกฤษณ์ สิริริน เจ้าของนามปากกา “นกป่า อุษาคเนย์” อยู่ในวงการสื่อสารมวลชนมา 25 ปี เนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า “หากนำทฤษฎี UGC มาจับกับปรากฏการณ์ “หมูเด้ง” ก็จะเห็นได้ว่า กระแสความโด่งดังของ “หมูเด้ง” ตรงตามรูปแบบของการทำ UGC ทุกประการ แม้ในตอนเริ่มต้น ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อครั้งที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” จัดประกวดตั้งชื่อ “หมูเด้ง” ในช่วงแรก ที่ชื่อ “หมูเด้ง” ชนะ VOTE “หมูแดง” และ “หมูสับ” ด้วยคะแนน 20,000 กว่า เรียกได้ว่าขาดลอย ในช่วงนั้น ยังไม่เกิดกระแส “หมูเด้ง” แต่อย่างใด มิหนำซ้ำ หลังจากได้ชื่อแล้ว ก็เหลือคนสนใจ “หมูเด้ง” น้อยมาก เพราะค่าเฉลี่ยความสนใจลูกสัตว์เกิดใหม่ จะมีอยู่เพียงสั้นๆ คือประมาณ 7 วัน ที่ประชาชนให้ความสนใจ ทำให้สื่อมวลชนต้องคอยตามติดในช่วงเวลาหนึ่ง จากนั้นก็จะเริ่มซาลง และเริ่มห่างหาย จนกระแสเงียบไปในที่สุด ซึ่งทาง “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ก็อาจมีการนำเสนอลูกสัตว์เกิดใหม่รายอื่นๆ ตามมาอีกเรื่อยๆ พอผลตัดสินการประกวดจบสิ้นลงแล้ว กระแสก็จะกลับไปเงียบอีกครั้ง วนเวียนอยู่เช่นนี้ ต่างจาก “หมูเด้ง” โดยสิ้นเชิง เป็นเพราะว่า “หมูเด้ง” เกิดในยุคที่ทุกคนบนโลกเข้าถึง Social Media โดยเรื่องราวที่น่าสนใจจะไม่จำกัดอยู่ภายในประเทศใดประเทศหนึ่งอีกต่อไป ไม่เหมือนกระแสลูกสัตว์เกิดใหม่ที่ผ่านมาของ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” แต่ทันทีที่ “อรรถพล หนุนดี” หรือ “พี่เบนซ์” เจ้าของ Facebook Fanpage “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ได้เริ่มทำ Content “หมูเด้ง” กระแส “หมูเด้ง” ก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น ฐาน “แฟนคลับ” ที่เหนียวแน่น หรือที่เรียกว่า “ลูกเพจ” ดั้งเดิมของ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ที่มีปริมาณมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มี Empathy หรือ “ความผูกพัน” อย่างสูง ยิ่งช่วยต่อยอด Content ในแบบฉบับ UGC ได้เป็นอย่างดี ผนวกกับการที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” อยู่ใกล้ศรีราชา จุดที่มีชาวญี่ปุ่นพำนักในเมืองไทยเป็นชุมชน ทำให้มีการแชร์ Content “หมูเด้ง” ต่อๆ กันไปในหมู่ชาวญี่ปุ่น จากเมืองไทยไปญี่ปุ่น และแพร่กระจายไปทั่วโลก สำทับด้วยสำนักข่าวตะวันตก ได้แห่กันมาทำข่าว “หมูเด้ง” ติดๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น AP, AFP, BBC, VOA, CNN ก็ยิ่งช่วยสร้าง UGC ให้กับ “หมูเด้ง” จนกลายเป็น Viral ระดับโลกไปแล้ว จากความน่ารัก น่าเอ็นดู การสัมผัสได้ถึงการไม่มีผลประโยชน์ใดแอบแฝงใน Content เนื่องจากเป็นลูกสัตว์เกิดใหม่ในสวนสัตว์ที่ค่าเข้าชมไม่ได้มากมายอะไร และการขายสินค้าของสวนสัตว์ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึกต่างๆ ก็ไม่ได้มีราคาค่างวดที่แพงจนจับต้องไม่ได้ แปลไทยเป็นไทยก็คือ Brand “หมูเด้ง” เป็น Brand บริสุทธิ์ ผนวกกับความทะลึ่ง สะดีดสะดิ้ง น่ารักน่าชัง เมื่อรวมกับบุคลิกดั้งเดิมของ “หมูเด้ง” ที่เป็นลูกฮิปโปแคระที่มีลีลาตลกเป็นพื้นเพอยู่แล้ว ยิ่งเรียกรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความประทับใจได้ไม่ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรู้สึกลึกๆ ในใจมนุษย์เกี่ยวกับ “ลูกสัตว์” หรือ Baby Animal ทั้งลูกมนุษย์ด้วยกันที่ถือเป็นสัตว์ประเภทหนึ่ง และลูกสัตว์ต่างๆ ที่ดูแล้วให้ความรู้สึกน่ารัก น่าเอ็นดู อยากอุ้ม อยากเลี้ยง ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์เป็นทุนเดิม ประกอบกับคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ที่แอบเกรี้ยวกราด น่ารัก น่าหยิก ทำให้เป็น UGC ที่ถูกนำไปต่อยอดได้ง่ายใน “วัฒนธรรมมีม” หรือ Meme Culture ยกระดับสู่การเป็น “วัฒนธรรมร่วม” ผ่าน Social Media เบื้องหลังความสำเร็จของ UGC “หมูเด้ง” คงต้องยกเครดิตให้ “พี่เบนซ์” ไปเต็มๆ ที่สามารถดึงคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ออกมาเล่าได้อย่างน่ารัก พูดอีกแบบก็คือ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” มาถูกที่ ถูกเวลา และเล่นได้ถูกจุด จับจุด อารมณ์ร่วมของผู้คนได้อยู่หมัด สร้างการเชื่อมต่อ และเชื่อมโยงอารมณ์ความรู้สึกของผู้คน เข้ากับ “หมูเด้ง” ได้ตรงจุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่เสพ Social Media ที่อยู่ไกลจาก “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ที่ไม่สะดวกเดินทางมาสัมผัสกับ “หมูเด้ง” ได้ด้วยตัวเอง ตอบสนองธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความรักสัตว์เป็นทุนเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ลูกสัตว์” น่ารัก ที่ตนไม่สามารถเลี้ยงเอาไว้ในบ้านได้ จึงสามารถสรุปได้ว่า UGC อยู่เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง” https://www.salika.co/2024/10/04/user-generated-content-moodeng/ #Thaitimes
    WWW.SALIKA.CO
    UGC เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง”
    User-Generated Content (UGC) หมายถึง Story ที่ผู้บริโภค หรือลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมาย สร้างขึ้นมาเอง โดยผู้คนเหล่านั้น จะพูดถึงเรื่องราวที่พวกเขาประทับใจ หรือให้ความสนใจ โดยที่ต้นเรื่องไม่ต้องเสียเงินจ้างแม้แต่บาทเดียว
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 621 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขออภัยนะคะ……ไปเที่ยวมานิดนึง แต่……ในฐานะติ่งอาวุโส ก็ต้องรีบกลับมาประจำที่ค่าาา……พี่ปูเค้ากำลังฮ็อต…!!!

    ตอนยี่สิบสอง……เรื่องการแทรกแซงในยูเครนไม่ใช่เรื่องใหม่……ยังไงก็ต้องเป็นสนามรบ……!!!

    2013 ในระหว่างที่รัสเซียกำลังพุ่งแรงในเรื่องของเศรษฐกิจและการส่งพลังงาน อเมริกาก็เริ่มอึดอัด……เพราะระหว่างสัมพันธภาพดีๆระหว่างรัสเซียกับอเมริกานั้น……ก็แค่ภาพลักษณ์ภายนอกในสำนักข่าวเท่านั้น
    ที่เหลือคือ…การคุมเชิงกันแบบไม่กระพริบตา……
    โชคได้เข้าข้างปูติน……แบบบุญหล่นทับ……ในวันที่ 23 มิถุนายน 2013
    ที่สายการบินแอโรฟลอตได้นำชายอเมริกันคนหนึ่งมาสู่แผ่นดินรัสเซีย
    เขาคนนั้นคือ Edward Snowden ชายวัย 40 ปี ที่เคยเป็นหนึ่งในทีมของบริษัท Dell และ Booz Allen Hamilton ที่เป็นบริษัทที่ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดของ NSA (National Security Agency) หรือ ฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา
    สโนว์เดน……ได้พบกับความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับรัฐบาลสหรัฐ ด้วยหลักฐานหลายๆอย่างที่มีการดักฟังโทรศัพท์ประชาชน และ ควบคุมเพื่อเข้าถึงคอมพิวเตอร์ในทุกที่ ที่ข้ามไปถึง แคนาดา, อังกฤษ, ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์
    เขาได้ข้อมูลไปกระจายใน WikiLeaks และ หนังสือพิมพ์ออนไลน์ เช่น The Guardian, The Washington Post
    และได้หลบหนีไปยังฮ่องกง เพื่อไปพบกับใครบางคนที่สถานกงสุลรัสเซียที่นั่น……
    จากนั้นเขาตั้งใจจะไปที่คิวบา………แต่ทางสหรัฐอเมริกาได้ประกาศอายัดพาสปอร์ตของเขาและมีหมายจับ……นั่นหมายความว่าเขาจะไปที่ไหนไม่ได้ นอกจากจะต้องส่งกลับ หรือ ต้องติดอยู่ที่สนามบินที่ฮ่องกงเพื่อรอการจับกุมตัว

    แต่ทางฮ่องกงได้ส่งเขาขึ้นเครื่องบินไปที่มอสโคว์..…ที่ทางรัฐบาลของปูตินปูพรมแดงรอรับ……ที่หัวหน้าของ FSB ไปรอรับด้วยตัวเองในฐานะแขกผู้มีเกียรติและถือว่าเป็นว่าวีรบุรุษ……

    ปธน. บารัค โอบามา พยายามที่จะติดต่อขอตัว”ผู้ร้าย” กลับไป โดยอ้างว่าสโนว์เดนเป็นคนขายชาติ และเป็นพิษเป็นภัยกับความมั่นคง
    รวมทั้งสัญญาว่า……จะไม่มีการทำร้าย หรือ จับไปทารุณกรรม จะดำเนินคดีตามกฏหมายเท่านั้น……
    ปูตินตอกกลับไปว่า……เขาไม่ได้มีความผิดอะไรในรัสเซีย และ ด้วยสิทธิมนุษยชน เขามีสิทธิที่จะขออยู่ในรัสเซียได้ เพราะมีคุณสมบัติครบถ้วน
    ว่าแล้ว…สโนว์เดนก็ได้รับวีซ่าลี้ภัยให้อยู่ในรัสเซียแบบยาวนาน

    การเปิดเผยความลับของสโนว์เดนนี้ ผู้นำหลายชาติจึงได้ทราบว่า โทรศัพท์ของตัวเองมีการถูกดักฟัง เช่น นางแองเจลา เมอร์เคิล ด้วยระบบ
    SORM (System of Operative-Investigative Measures) ที่อเมริกาได้สร้างเป็นมุ้งคลุมไว้ทั่วเพื่อเป็นสปายทางระบบใยแก้ว

    เมื่อความลับจากสโนว์เดนที่แจกแจงออกมาให้ชาวโลกได้ทราบ
    โอบามายิ่งแค้นปูตินมากขึ้นเป็นทวีคูณ……เขามีกำหนดการที่จะต้องพบกับปูตินในเดือนกันยายน ที่เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก ในการประชุม G20
    แต่…ขอยกเลิก……โดยอ้างกับนักข่าวว่า พบไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะรัสเซียทำตรงกันข้ามทุกอย่าง เช่นการเท่าเทียมทางกลุ่มรักร่วมเพศ,
    การลดขนาดการสร้างอาวุธ, ยกเลิกการรับเลี้ยงดูเด็ก และความวุ่นวายที่ตะวันออกกลาง
    แต่……โอบามาไม่ปริปากในเรื่องการรั่วไหลของความลับที่กำลังเป็นข่าวดังในขณะนั้น…
    ทางฝ่ายโฆษกของรัสเซียได้ออกมาตอบโต้ว่า……ตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดัง……!!!

    ผลจากวิกิลีคส์ ที่เผยแพร่ไปได้สร้างความหวั่นไหวให้กับหลายๆชาติ
    ที่ตอนนี้เริ่มมองเห็นความสำคัญของรัสเซีย เพราะทุกคนเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า……รัฐบาลรัสเซียได้ล่วงรู้ข้อมูลลับไปมากน้อยแค่ไหน
    สายตาทั้งหมดที่มองไปที่สหรัฐอเมริกา……มีแต่ความเคลือบแคลงและหมดความไว้ใจ
    แม้แต่นิตยสาร Forbes ได้ติดตำแหน่งให้ปูตินเป็นบุคคลที่ทรงอานุภาพที่สุดในโลก
    บุคคลที่ทรงอานุภาพ……ได้หันมาโฟกัสที่ยูเครนอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
    เพราะเมื่อปี 2010 ที่ Viktor Yanukovych ได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี
    ได้มีความกลมเกลียวเป็นอันดีกับรัสเซีย แต่พอมาปลายสมัย คือ 2015
    เขาเริ่มเปลี่ยนไป……หันไปซบกับตะวันตก ที่กำลังขยายยุโรปมาจนติดชายขอบ เช่น Moldova, Georgia และ Armenia โดยเริ่มจากลงนามในสนธิสัญญาทางการค้า โดยหวังว่าจะต่อยอดไปจนถึงสมาชิกสภายูโรเปี้ยน

    สำหรับปูติน……การก้าวล่วงมาถึงยูเครน……มันเกินกว่าที่จะรับได้
    เพราะเขามองออกว่า……นั่นคือ สิ่งที่ตะวันตกต้องการมากที่สุด คือ พื้นที่ที่จะจัดตั้งเป็นเขตทหารในนามของนาโต้……
    และทางพลังงาน……ที่จะเข้ามาควบคุมแหล่งทรัพยากร……
    ถ้าเกิดมีสงครามระหว่าง รัสเซียกับอเมริกา (มีความเป็นไปได้สูง)
    ทางตะวันตกแทบไม่ต้องลงแรงรบเลย เพราะ มีพลังงานให้ใช้ไม่มีหมด
    มีการหนุนหลังเรื่องเสบียงจากยุโรปไม่อั้น และ สามารถปิดกั้นทะเลบอลติก……
    ดังนั้น ยูเครนคือกล่องดวงใจ……ที่ต้องเต้นตามจังหวะของรัสเซียเท่านั้น
    ปูตินตั้งใจที่จะสร้างกลุ่ม Eurasian Union ขึ้นมา คือ เป็นการรวมตัวของโลกฝั่งตะวันออก ( ตอนนี้ก็เริ่มแล้ว คือ BRICS)
    แต่หัวใจสำคัญคือ ยูเครนที่ปูตินถือว่า เป็นดินแดน(เก่าแก่)ต้นกำเนิดของรัสเซียจะต้องเป็นพื้นที่ที่ปลอดตะวันตก….โดยเริ่มความเป็น Eurasian Union จากพรมแดนตรงนั้น……
    แต่ไปๆมาๆ…ยูเครนได้หันไปโปรตะวันตกอย่างออกหน้าออกตา
    โดยเฉพาะกับนางฮิลลารี คลินตันที่เคยออกมาเย้ยเยาะว่า (2012)
    “ถ้าคิดว่ายูเครนคือหมูในอวย…ฝันไปเถอะ……”

    ก่อนที่ EU จะรับ Lithuania เข้าไปเป็นสมาชิก อียูได้หันมาเร่งให้ยูเครนรีบเซ็นสัญญาค้าขายกันเสียก่อน เพื่อจะได้เอาไว้เป็นเครดิตว่ามีกิจกรรมกับทางยุโรป
    ปูตินพยายามคัดค้าน และพยายามไปเยี่ยมเยียนบ่อยครั้ง แม้กระทั่งในเดือนกรกฎาคม 2013 ที่เป็นวันสำคัญทางศาสนาร่วมกัน ที่ปูตินได้ย้ำเตือนถึงความเป็นออโธด็อกซ์ที่ผูกพันมาตั้งแต่ ปี 988

    ฝ่ายพ่อค้ายูเครนที่โปรตะวันตก เช่น บริษัท Roshen (ขายขนมทอฟฟี่)
    ปูตินสั่งบอยคอต……ห้ามเข้า
    เขาได้พบกับประธานาธิบดี Yanukovych สองครั้งติดกันในเดือนตุลาคมและ พฤศจิกายน และบอกตรงๆว่า……ยูเครนจะต้องเจอกับอะไรบ้าง หากคิดที่จะหวังไปร่วมกับยุโรป……รวมทั้ง พลังงานทั้งหลายแหล่ จะต้องถูกตัดขาด……
    เมื่อโดนเข้าไปเต็มๆ……ท่าทีของยานุโควิชที่มีต่อยูโรปได้เปลี่ยนไปไม่กล้าที่จะออกความเห็นหรือตัดสินใจ เขาได้บอกกับทางอียูไปตรงๆว่า
    ยูเครนเป็นหนี้รัสเซียอยู่ แสนหกหมื่นล้านเหรียญ ถ้าทางสภายุโรปมีหนทางที่จะช่วยแบ่งเบาภาระตรงนี้ได้ ยูเครนก็จะได้มีโอกาสทำสัญญาทางการค้าด้วย
    สภายุโรปได้ยินจำนวนเงิน………ก็ลมจับ ไม่เสนอหน้ามาชวนอีกเลย

    แต่ก่อนที่จะโดนปูตินอัดเข้าไป ยานุโควิชได้ทำการโฆษณาให้ความหวังกับประชาชนไว้ล่วงหน้าแล้วว่า จะเปิดความสัมพันธ์กับยูโรป และจะพยายามเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในสภาอียู
    แต่เมื่อถึงเวลาการประชุม ที่ลิธัวเนีย ในวันที่ 21 พฤศจิกายน
    ยานุโควิช……ได้ประกาศออกสื่อให้ทราบทั่วกันว่า เขาเปลี่ยนใจแล้ว
    ไม่ขอเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสัมพันธ์ทางพานิชย์กับอียู
    อยู่อย่างนี้เหมือนเดิม…
    ผลคือ……ประชาชนออกมาเดินขบวน แน่นหนาเต็มเมือง
    แต่คราวนี้ไม่ใช่ธงสีส้ม……แต่เป็นธงอียูสีฟ้าที่มีดาวเหลืองเป็นวงกลม

    ยานุโควิช……แทบไม่ต้องแก้ไขอะไรเพราะในเวลานั้นเป็นฤดูหนาวที่ใกล้เทศกาลปลายปี ชุมนุมกันก็ได้แค่เดี๋ยวเดียว เขาบินไปจีน ไปทำสัญญาการค้าขาย (แทนยุโรป) ก่อนไปที่จีน เขาแวะพบกับปูตินเพื่อทำการตกลงกันว่า ทางรัสเซียจะให้เงินอุดหนุนสภาพคล่องหมื่นห้าพันล้านเหรียญ
    และลดราคาก๊าส จาก$400 คิวบิตเมตร เป็น $268
    ที่จะเก็บเป็นความลับไปจนกว่าจะถึงวันที่ 9 มีนาคม 2014 ที่ผู้นำทั้งสองจะมีการพบปะกัน แล้วค่อยประกาศอย่างเป็นทางการ………

    เป็นอันว่า…ในยกนี้ ปูตินได้เอาชนะต่อคำเยาะเย้ยของนางคลินตันไปได้

    ตอนนั้นเป็นช่วงที่ใกล้จะเปิดพิธีกีฬาโอลิมปิกที่ Sochi ประมุขของประเทศต่างๆจะเข้ามาเป็นอาคันตุกะ เขาได้ทำการปล่อยนักโทษการเมือง ให้เป็นอิสระ อย่างเช่น Mikhaïl Khodorkovsky ที่จำคุกมาแล้ว10 ปี
    โดยมีการทำสัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับการเมืองอีก…… และปลดปล่อยกลุ่มสาวห่าม ***** Riot ตามด้วยกลุ่มที่เคยประท้วงอื่นๆ
    สองวันก่อนที่จะมีพิธีเปิด….กลุ่มนักข่าวสามสิบกว่าคนได้ทำการเขียนข่าวในทำนองว่า เป็นการใช้เงินอย่างสิ้นเปลืองเพื่อสนองความต้องการของคนคนเดียว……
    ปูตินให้สัมภาษณ์โต้ว่า……”การทำให้คนรักเรา สรรเสริญเรา ชื่นชมเรา นั้นทำไม่ยากเลย..”
    นักข่าวถามว่า ต้องทำอย่างไร?
    คำตอบคือ……ก็เวลาที่เราลดขนาดกองทัพ…ยกพื้นที่ให้เขา…ขายทรัพยากรให้เขาอย่างถูกๆไงล่ะ ……แค่นั้นเขาก็จะรักเรา ดีกับเราสารพัด…!!
    แต่เมื่อพิธีงานเปิดผ่านไป.……คนที่เคยติ……คนที่เคยต่อต้านกลับมาชื่นชมในผลงานและภาคภูมิใจไปตามๆกัน

    สำหรับปูติน.……มันคือการเรียกศักดิ์ศรีของประเทศกลับคืนมา เฉกเช่นเมื่อครั้ง Yuri Gagarin ขึ้นสู่ห้วงอวกาศ……และกองทัพแดงได้ชัยชนะในสงครามกับนาซี
    ความยิ่งใหญ่ในครั้งนี้…ได้ส่งข้ามไปถึงสหรัฐอเมริกา ที่ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ไม่ได้เข้ามาร่วม เพราะหนึ่งคือความขัดแย้ง
    สองคือ……ความบาดตาบาดใจ…!!!!


    Wiwanda W. Vichit
    ขออภัยนะคะ……ไปเที่ยวมานิดนึง แต่……ในฐานะติ่งอาวุโส ก็ต้องรีบกลับมาประจำที่ค่าาา……พี่ปูเค้ากำลังฮ็อต…!!! ตอนยี่สิบสอง……เรื่องการแทรกแซงในยูเครนไม่ใช่เรื่องใหม่……ยังไงก็ต้องเป็นสนามรบ……!!! 2013 ในระหว่างที่รัสเซียกำลังพุ่งแรงในเรื่องของเศรษฐกิจและการส่งพลังงาน อเมริกาก็เริ่มอึดอัด……เพราะระหว่างสัมพันธภาพดีๆระหว่างรัสเซียกับอเมริกานั้น……ก็แค่ภาพลักษณ์ภายนอกในสำนักข่าวเท่านั้น ที่เหลือคือ…การคุมเชิงกันแบบไม่กระพริบตา…… โชคได้เข้าข้างปูติน……แบบบุญหล่นทับ……ในวันที่ 23 มิถุนายน 2013 ที่สายการบินแอโรฟลอตได้นำชายอเมริกันคนหนึ่งมาสู่แผ่นดินรัสเซีย เขาคนนั้นคือ Edward Snowden ชายวัย 40 ปี ที่เคยเป็นหนึ่งในทีมของบริษัท Dell และ Booz Allen Hamilton ที่เป็นบริษัทที่ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดของ NSA (National Security Agency) หรือ ฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา สโนว์เดน……ได้พบกับความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับรัฐบาลสหรัฐ ด้วยหลักฐานหลายๆอย่างที่มีการดักฟังโทรศัพท์ประชาชน และ ควบคุมเพื่อเข้าถึงคอมพิวเตอร์ในทุกที่ ที่ข้ามไปถึง แคนาดา, อังกฤษ, ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ เขาได้ข้อมูลไปกระจายใน WikiLeaks และ หนังสือพิมพ์ออนไลน์ เช่น The Guardian, The Washington Post และได้หลบหนีไปยังฮ่องกง เพื่อไปพบกับใครบางคนที่สถานกงสุลรัสเซียที่นั่น…… จากนั้นเขาตั้งใจจะไปที่คิวบา………แต่ทางสหรัฐอเมริกาได้ประกาศอายัดพาสปอร์ตของเขาและมีหมายจับ……นั่นหมายความว่าเขาจะไปที่ไหนไม่ได้ นอกจากจะต้องส่งกลับ หรือ ต้องติดอยู่ที่สนามบินที่ฮ่องกงเพื่อรอการจับกุมตัว แต่ทางฮ่องกงได้ส่งเขาขึ้นเครื่องบินไปที่มอสโคว์..…ที่ทางรัฐบาลของปูตินปูพรมแดงรอรับ……ที่หัวหน้าของ FSB ไปรอรับด้วยตัวเองในฐานะแขกผู้มีเกียรติและถือว่าเป็นว่าวีรบุรุษ…… ปธน. บารัค โอบามา พยายามที่จะติดต่อขอตัว”ผู้ร้าย” กลับไป โดยอ้างว่าสโนว์เดนเป็นคนขายชาติ และเป็นพิษเป็นภัยกับความมั่นคง รวมทั้งสัญญาว่า……จะไม่มีการทำร้าย หรือ จับไปทารุณกรรม จะดำเนินคดีตามกฏหมายเท่านั้น…… ปูตินตอกกลับไปว่า……เขาไม่ได้มีความผิดอะไรในรัสเซีย และ ด้วยสิทธิมนุษยชน เขามีสิทธิที่จะขออยู่ในรัสเซียได้ เพราะมีคุณสมบัติครบถ้วน ว่าแล้ว…สโนว์เดนก็ได้รับวีซ่าลี้ภัยให้อยู่ในรัสเซียแบบยาวนาน การเปิดเผยความลับของสโนว์เดนนี้ ผู้นำหลายชาติจึงได้ทราบว่า โทรศัพท์ของตัวเองมีการถูกดักฟัง เช่น นางแองเจลา เมอร์เคิล ด้วยระบบ SORM (System of Operative-Investigative Measures) ที่อเมริกาได้สร้างเป็นมุ้งคลุมไว้ทั่วเพื่อเป็นสปายทางระบบใยแก้ว เมื่อความลับจากสโนว์เดนที่แจกแจงออกมาให้ชาวโลกได้ทราบ โอบามายิ่งแค้นปูตินมากขึ้นเป็นทวีคูณ……เขามีกำหนดการที่จะต้องพบกับปูตินในเดือนกันยายน ที่เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก ในการประชุม G20 แต่…ขอยกเลิก……โดยอ้างกับนักข่าวว่า พบไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะรัสเซียทำตรงกันข้ามทุกอย่าง เช่นการเท่าเทียมทางกลุ่มรักร่วมเพศ, การลดขนาดการสร้างอาวุธ, ยกเลิกการรับเลี้ยงดูเด็ก และความวุ่นวายที่ตะวันออกกลาง แต่……โอบามาไม่ปริปากในเรื่องการรั่วไหลของความลับที่กำลังเป็นข่าวดังในขณะนั้น… ทางฝ่ายโฆษกของรัสเซียได้ออกมาตอบโต้ว่า……ตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดัง……!!! ผลจากวิกิลีคส์ ที่เผยแพร่ไปได้สร้างความหวั่นไหวให้กับหลายๆชาติ ที่ตอนนี้เริ่มมองเห็นความสำคัญของรัสเซีย เพราะทุกคนเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า……รัฐบาลรัสเซียได้ล่วงรู้ข้อมูลลับไปมากน้อยแค่ไหน สายตาทั้งหมดที่มองไปที่สหรัฐอเมริกา……มีแต่ความเคลือบแคลงและหมดความไว้ใจ แม้แต่นิตยสาร Forbes ได้ติดตำแหน่งให้ปูตินเป็นบุคคลที่ทรงอานุภาพที่สุดในโลก บุคคลที่ทรงอานุภาพ……ได้หันมาโฟกัสที่ยูเครนอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เพราะเมื่อปี 2010 ที่ Viktor Yanukovych ได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ได้มีความกลมเกลียวเป็นอันดีกับรัสเซีย แต่พอมาปลายสมัย คือ 2015 เขาเริ่มเปลี่ยนไป……หันไปซบกับตะวันตก ที่กำลังขยายยุโรปมาจนติดชายขอบ เช่น Moldova, Georgia และ Armenia โดยเริ่มจากลงนามในสนธิสัญญาทางการค้า โดยหวังว่าจะต่อยอดไปจนถึงสมาชิกสภายูโรเปี้ยน สำหรับปูติน……การก้าวล่วงมาถึงยูเครน……มันเกินกว่าที่จะรับได้ เพราะเขามองออกว่า……นั่นคือ สิ่งที่ตะวันตกต้องการมากที่สุด คือ พื้นที่ที่จะจัดตั้งเป็นเขตทหารในนามของนาโต้…… และทางพลังงาน……ที่จะเข้ามาควบคุมแหล่งทรัพยากร…… ถ้าเกิดมีสงครามระหว่าง รัสเซียกับอเมริกา (มีความเป็นไปได้สูง) ทางตะวันตกแทบไม่ต้องลงแรงรบเลย เพราะ มีพลังงานให้ใช้ไม่มีหมด มีการหนุนหลังเรื่องเสบียงจากยุโรปไม่อั้น และ สามารถปิดกั้นทะเลบอลติก…… ดังนั้น ยูเครนคือกล่องดวงใจ……ที่ต้องเต้นตามจังหวะของรัสเซียเท่านั้น ปูตินตั้งใจที่จะสร้างกลุ่ม Eurasian Union ขึ้นมา คือ เป็นการรวมตัวของโลกฝั่งตะวันออก ( ตอนนี้ก็เริ่มแล้ว คือ BRICS) แต่หัวใจสำคัญคือ ยูเครนที่ปูตินถือว่า เป็นดินแดน(เก่าแก่)ต้นกำเนิดของรัสเซียจะต้องเป็นพื้นที่ที่ปลอดตะวันตก….โดยเริ่มความเป็น Eurasian Union จากพรมแดนตรงนั้น…… แต่ไปๆมาๆ…ยูเครนได้หันไปโปรตะวันตกอย่างออกหน้าออกตา โดยเฉพาะกับนางฮิลลารี คลินตันที่เคยออกมาเย้ยเยาะว่า (2012) “ถ้าคิดว่ายูเครนคือหมูในอวย…ฝันไปเถอะ……” ก่อนที่ EU จะรับ Lithuania เข้าไปเป็นสมาชิก อียูได้หันมาเร่งให้ยูเครนรีบเซ็นสัญญาค้าขายกันเสียก่อน เพื่อจะได้เอาไว้เป็นเครดิตว่ามีกิจกรรมกับทางยุโรป ปูตินพยายามคัดค้าน และพยายามไปเยี่ยมเยียนบ่อยครั้ง แม้กระทั่งในเดือนกรกฎาคม 2013 ที่เป็นวันสำคัญทางศาสนาร่วมกัน ที่ปูตินได้ย้ำเตือนถึงความเป็นออโธด็อกซ์ที่ผูกพันมาตั้งแต่ ปี 988 ฝ่ายพ่อค้ายูเครนที่โปรตะวันตก เช่น บริษัท Roshen (ขายขนมทอฟฟี่) ปูตินสั่งบอยคอต……ห้ามเข้า เขาได้พบกับประธานาธิบดี Yanukovych สองครั้งติดกันในเดือนตุลาคมและ พฤศจิกายน และบอกตรงๆว่า……ยูเครนจะต้องเจอกับอะไรบ้าง หากคิดที่จะหวังไปร่วมกับยุโรป……รวมทั้ง พลังงานทั้งหลายแหล่ จะต้องถูกตัดขาด…… เมื่อโดนเข้าไปเต็มๆ……ท่าทีของยานุโควิชที่มีต่อยูโรปได้เปลี่ยนไปไม่กล้าที่จะออกความเห็นหรือตัดสินใจ เขาได้บอกกับทางอียูไปตรงๆว่า ยูเครนเป็นหนี้รัสเซียอยู่ แสนหกหมื่นล้านเหรียญ ถ้าทางสภายุโรปมีหนทางที่จะช่วยแบ่งเบาภาระตรงนี้ได้ ยูเครนก็จะได้มีโอกาสทำสัญญาทางการค้าด้วย สภายุโรปได้ยินจำนวนเงิน………ก็ลมจับ ไม่เสนอหน้ามาชวนอีกเลย แต่ก่อนที่จะโดนปูตินอัดเข้าไป ยานุโควิชได้ทำการโฆษณาให้ความหวังกับประชาชนไว้ล่วงหน้าแล้วว่า จะเปิดความสัมพันธ์กับยูโรป และจะพยายามเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในสภาอียู แต่เมื่อถึงเวลาการประชุม ที่ลิธัวเนีย ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ยานุโควิช……ได้ประกาศออกสื่อให้ทราบทั่วกันว่า เขาเปลี่ยนใจแล้ว ไม่ขอเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสัมพันธ์ทางพานิชย์กับอียู อยู่อย่างนี้เหมือนเดิม… ผลคือ……ประชาชนออกมาเดินขบวน แน่นหนาเต็มเมือง แต่คราวนี้ไม่ใช่ธงสีส้ม……แต่เป็นธงอียูสีฟ้าที่มีดาวเหลืองเป็นวงกลม ยานุโควิช……แทบไม่ต้องแก้ไขอะไรเพราะในเวลานั้นเป็นฤดูหนาวที่ใกล้เทศกาลปลายปี ชุมนุมกันก็ได้แค่เดี๋ยวเดียว เขาบินไปจีน ไปทำสัญญาการค้าขาย (แทนยุโรป) ก่อนไปที่จีน เขาแวะพบกับปูตินเพื่อทำการตกลงกันว่า ทางรัสเซียจะให้เงินอุดหนุนสภาพคล่องหมื่นห้าพันล้านเหรียญ และลดราคาก๊าส จาก$400 คิวบิตเมตร เป็น $268 ที่จะเก็บเป็นความลับไปจนกว่าจะถึงวันที่ 9 มีนาคม 2014 ที่ผู้นำทั้งสองจะมีการพบปะกัน แล้วค่อยประกาศอย่างเป็นทางการ……… เป็นอันว่า…ในยกนี้ ปูตินได้เอาชนะต่อคำเยาะเย้ยของนางคลินตันไปได้ ตอนนั้นเป็นช่วงที่ใกล้จะเปิดพิธีกีฬาโอลิมปิกที่ Sochi ประมุขของประเทศต่างๆจะเข้ามาเป็นอาคันตุกะ เขาได้ทำการปล่อยนักโทษการเมือง ให้เป็นอิสระ อย่างเช่น Mikhaïl Khodorkovsky ที่จำคุกมาแล้ว10 ปี โดยมีการทำสัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับการเมืองอีก…… และปลดปล่อยกลุ่มสาวห่าม Pussy Riot ตามด้วยกลุ่มที่เคยประท้วงอื่นๆ สองวันก่อนที่จะมีพิธีเปิด….กลุ่มนักข่าวสามสิบกว่าคนได้ทำการเขียนข่าวในทำนองว่า เป็นการใช้เงินอย่างสิ้นเปลืองเพื่อสนองความต้องการของคนคนเดียว…… ปูตินให้สัมภาษณ์โต้ว่า……”การทำให้คนรักเรา สรรเสริญเรา ชื่นชมเรา นั้นทำไม่ยากเลย..” นักข่าวถามว่า ต้องทำอย่างไร? คำตอบคือ……ก็เวลาที่เราลดขนาดกองทัพ…ยกพื้นที่ให้เขา…ขายทรัพยากรให้เขาอย่างถูกๆไงล่ะ ……แค่นั้นเขาก็จะรักเรา ดีกับเราสารพัด…!! แต่เมื่อพิธีงานเปิดผ่านไป.……คนที่เคยติ……คนที่เคยต่อต้านกลับมาชื่นชมในผลงานและภาคภูมิใจไปตามๆกัน สำหรับปูติน.……มันคือการเรียกศักดิ์ศรีของประเทศกลับคืนมา เฉกเช่นเมื่อครั้ง Yuri Gagarin ขึ้นสู่ห้วงอวกาศ……และกองทัพแดงได้ชัยชนะในสงครามกับนาซี ความยิ่งใหญ่ในครั้งนี้…ได้ส่งข้ามไปถึงสหรัฐอเมริกา ที่ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ไม่ได้เข้ามาร่วม เพราะหนึ่งคือความขัดแย้ง สองคือ……ความบาดตาบาดใจ…!!!! Wiwanda W. Vichit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 355 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่อยากให้รถบัสติดตั้งแก้ส เพื่อป้องกันอุบัติเหตุไฟไหม้ ไม่ยากนะ ทำราคาน้ำมันให้มันถูกต้อง เป็นธรรม สิ ไม่ต้องให้เท่ามาเลเซียก็ได้
    เครดิต:เพจผีเสื้อกระพือปีก
    ไม่อยากให้รถบัสติดตั้งแก้ส เพื่อป้องกันอุบัติเหตุไฟไหม้ ไม่ยากนะ ทำราคาน้ำมันให้มันถูกต้อง เป็นธรรม สิ ไม่ต้องให้เท่ามาเลเซียก็ได้ เครดิต:เพจผีเสื้อกระพือปีก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • งานประธานาธิบดีพี่เค้าก็ทำมาแล้ว……แต่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่พี่ปูเขาทำ………หนักกว่าเป็นสองเท่าค่าาาา ติ่งขาาาาา…!!!!

    ตอนสิบเก้า………เส้นทางที่หวาดเสียวกับการล่มจม……ผ่านมาได้อย่างสวยงามเพราะยึดหลักว่า……ต้องพึ่งตัวเอง………!!!

    หลังจากที่ทุกคนเป็นปลื้มกับความอู้ฟู่อยู่ได้ไม่นาน
    วันที่ 5 กันยายน 2008 เป็นวันที่บริษัทเงินทุนยักษ์ใหญ่สหรัฐอเมริกา Lehman Brothers ล้มละลายพังครืนลงอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ที่ดึงเศรษฐกิจโลกอ่อนยวบไปด้วย
    แม้แต่รัสเซียก็ไม่พ้น น้ำมันราคาตกต่ำกว่า $100 หุ้นร่วงลงติดพื้น
    ภายในสองเดือนของวิกฤติ เงินได้ไหลออกจากประเทศเป็นแสนล้าน เหล่ามหาเศรษฐีชิงกันขายรถหรู ขายเรือสำราญ
    เครื่องบินส่วนตัว
    รัฐบาลถอนเงินจากกองทุนต่างๆมาอุด แต่แทบไม่ได้ช่วยอะไร
    โรงงานปิดรายวัน คนงานไม่ได้รับเงินเดือน
    บารมีของปูตินที่เพิ่งใสสว่างราวดวงตะวัน……หม่นแสงลงอย่างดึงไว้ไม่อยู่
    แปดปี……ที่เขาเป็นประธานาธิบดี เวลามีเหตุร้ายเกิดขึ้น……
    คนที่รับหน้าในชั้นแรกคือ นายกรัฐมนตรี
    ซึ่งมันเป็นตำแหน่งที่เขาดำรงอยู่ในยามนี้ หมายถึงว่า เขาต้องแก้ปัญหานี้ด้วยตัวเองทั้งหมด

    เดือนตุลาคม……เขาเรียกประชุมสภา พร้อมเผชิญหน้ากับฝ่ายค้าน (ฝ่ายซ้าย) ที่หัวหน้าคือ Gennady Zyuganov ที่รอโอกาสที่จะเชือดเขาให้เป็นชิ้นๆได้ทุกเมื่อ หรือ รอโอกาสที่จะขอข้อแลกเปลี่ยนที่เป็นผลบวกกับพรรคของตัวเอง
    แต่ครั้งนี้ Gennady กลับมาแปลก……เขาวางข้อขัดแย้งไว้
    และให้ข้อคิดว่า……
    “เมื่อครั้งที่เกิดเศรษฐกิจล่มสลายในปี 1929 (ตลาดหุ้นอเมริกาพังพินาศ หรือ the Great Depression ล่มต่อเนื่องไปหลายปี
    จนต่อมาประธานาธิบดี Franklin Delano Roosevelt ได้ส่งทีมกู้เศรษฐกิจมารัสเซีย เพื่อดูลาดเลา และ มาดูความเป็นไปของเรา เพราะทางรัสเซียไม่มีผลกระทบอะไร……”
    ปูตินจึงได้สติ……เขาตอบว่า
    “จริงซิ……เพราะเราไม่เอาเงินของเราไปผูกกับตลาดหุ้นบ้าๆนั่น
    และ เราไม่ได้ใช้เงิน หรือ ลงทุนตามเขา……”

    ปูตินและทีมเศรษฐกิจจึงรีบหารือกันในการอุดรอยรั่วเป็นอันดับแรก
    นั่นคือ การที่เงินไหลออกเพราะเหล่าพ่อค้ามหาเศรษฐีทั้งหลายที่เอาเงินไปไว้ตามเกาะต่างๆ และ ธนาคารต่างประเทศ
    และมาฉวยโอกาสโมเมทำเป็นจนตามน้ำในตอนขาลงของสภาพคล่องของประเทศ
    เพราะโรงงานต่างๆกันปิดตัวระนาว…ในช่วงต้นปี 2009

    โดยเฉพาะในเดือนกรกฏาคม ที่เมืองอุตสาหกรรม Pikalevo ที่เป็นโรงงานอะลูมิเนียมส่วนใหญ่ที่มีแรงงานหลายหมื่นคน ที่ไม่ได้จ่ายเงินเดือนพนักงาน ที่กำลังจะเกิดการจลาจลอยู่รอมร่อ
    ปูตินและคณะบุกไปถึงที่……เขาเรียกเหล่าเจ้าของทั้งหมดมาประชุม และเตรียมสัญญามาให้ลงชื่อ……ว่า
    จะต้องจ่ายเงินเดือนพนักงานทุกคนภายใน 24 ชั่วโมง
    ที่เหลือ…ถ้ายังอยากอยู่ในธุรกิจ ต้องเข้ามารับนโยบายจากรัฐถ้าไม่เปิดโรงงาน………รัฐบาลจะเข้ามาบริหารเอง
    หนึ่งในกลุ่มเจ้าของโรงงานนั้น คือ Oleg Deripaska ที่เปรียบเสมือนเพื่อนสนิทของปูตินมาแต่ไหนแต่ไร ที่ปูตินก็ไม่ไว้หน้า
    จิกตัวมาให้เซ็นชื่อ….และทวงปากกาคืนจาก Oleg!!!

    ~~มีวีดีโอบันทึกภาพจากเหตุการณ์จริง แต่ในความเห็นส่วนตัว ดิฉันคิดว่าเป็นการทำโปรประกันดาของปูติน เพื่อลดกระแสกดดันจากภาคประชาชนชาวแรงงานที่ชุมนุมรออยู่
    ข้างนอก ลุ้นว่าจะได้รับเงินเดือนหรือเปล่า…ปูตินคงคุยนอกรอบกับพวกเจ้าของนี้แล้ว เมื่อตกลงกันได้ เลยต้องออกข่าวเรียกคืนเครดิตให้รัฐบาล

    ปูตินที่เหมือนกับทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี และ ประธานาธิบดีในเงา…ใช้เวลาทำงานทั้งหมดเกี่ยวกับสางกิจการเหล่าโรงงานอันเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในรัสเซีย อย่างแร่ Nepheline
    ที่เป็นวัตถุดิบที่สำคัญ ที่โรงงานจะต้องใช้เกิดขาดแคลน
    เขาสั่งขบวนเที่ยวรถไฟด่วน ลำเลียงมาจาก Kola Peninsular
    อัดฉีดเงินช่วยเหลือประชาชน
    และแทนที่เขาจะทำการเปิดตลาดเพื่อที่จะจะดูดเงินจากการค้า
    หรือทำสัญญาซื้อขายแบบยอมเสียเปรียบเพื่อที่จะได้เงินเข้าประเทศกับกลุ่มยุโรปหรืออเมริกา………
    เขาไม่ทำ…………!!!
    ใครต่อใครต่างพากันประหลาดใจ……เพราะถ้าไม่ทำก็มองไม่เห็นทางรอด พวกเขาไม่เข้าใจว่าปูตินจะพาชาติพ้นวิกฤตินี้ไปได้อย่างไร??

    แต่ปูตินเขาเห็นว่า….ที่ประเทศได้รับผลกระทบอย่างแรงเช่นนี้
    เพราะอเมริกาได้เดินหมากผิด (หรืออาจตั้งใจ) ทำให้ใครต่อเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส จนแทบจะสิ้นชาติ
    ฉะนั้น…เขาเลือกที่จะปิดตลาดการค้าทางฝั่งตะวันตก ค้าขายแต่กับกลุ่มเบลารุส และกลุ่มคาซัคสถาน แบบพอให้การเคลื่อนไหวของกระแสเงินไปในทิศทางที่ปลอดภัย และไม่เสียเปรียบ

    กลางปี 2009 ราคาน้ำมันดีดกลับขึ้นมา หุ้นก็ขึ้นตาม
    ทุกอย่างกลับขึ้นมาเป็นเกือบปรกติ
    เมื่อมาถึง 2010 อะไรที่เคยหาย เคยพร่องไป กลับหลั่งไหลเข้ามาเต็มคลังอีกครั้ง ดีเกินหน้ายุโรปและอเมริกาด้วยซ้ำ
    ประสบการณ์ที่เกิดขึ้น……ได้บอกกับปูตินว่า ……
    ถ้ามาถึงเรื่องเงิน…ต้องไม่ฝากอนาคตไว้กับใครเลย ต้องถือเอง
    บริการเอง เอาประโยชน์ของชาติและคนในชาติเป็นหลัก

    จากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของรัสเซียนี้ เมื่อการประชุม WTO (World Trade Organization) จึงได้เชิญรัสเซียเข้าร่วมประชุมด้วย ปูตินตอบรับโดยมีข้อแม้ว่า เขาจะไปเป็นคณะ ไม่ใช่ไปคนเดียว คณะที่ว่านั้น คือ ตัวแทนจากเบลารุส และ คาซัคสถาน
    กรรมาธิการหลายคนไม่เข้าใจ…ว่า ทำไม…?
    ในเมื่อรัสเซียจะต้องทำการซื้อขายกับทางตะวันตกมากกว่า…
    แต่ปูตินยืนยันว่า….จะต้องไปเป็นกลุ่มเท่านั้น…!!
    (เพราะเมื่อตกอับก็ยังอยู่เคียงข้างกัน พอได้โอกาสค้าขาย ก็ต้องไปด้วยกัน…)

    จากนั้น ปูตินจึงหันมาทำงานในเรื่องการก่อสร้างที่ Sochi อย่างเต็มตัว เพราะเขาทุ่มเงินกว่าสามพันล้านหรียญ ที่จะสร้างให้ออกมาสวยงามสมใจ
    นอกจากพื้นที่แข่งสกีแล้ว เขาได้สร้างอีกหลายอาคารสำหรับเป็นที่แข่งขันระหว่างมหาวิทยาลัย และหมู่บ้านนักกีฬาที่ทันสมัย
    รวมทั้งพัฒนาปรับปรุงเส้นทางรถไฟ Baikal-Amur Mainline ที่พาดยาว จาก Moscow ถึง ฝั่งตะวันออก Vladivostok ให้ทันสมัยและเป็นสายท่องเที่ยวที่จะดึงดูดความสนใจ
    เขาทุ่มเทกับเรื่องโอลิมปิกนี้มาก เพราะการก่อสร้างได้ชะงักงันไปในช่วงฝืดเคือง พอกลับมาจับทำต่อ……ก็ต้องงบประมาณการก่อสร้างบานปลาย……
    ที่ปูตินเรียกทุกฝ่ายมารายงานการใช้เงินกันอย่างละเอียด
    และทุกฝ่ายที่ว่ามานั้น……ล้วนแล้วแต่เป็นเพื่อนรักคนสนิทแทบทั้งสิ้น
    ในช่วงนี้คือช่วงที่มีการแฉโพยในเรื่องการคอรัปชั่นของรัฐบาลอย่างหนาหูจากฝ่ายตรงข้าม
    เพราะเป็นการสร้างเมกะโปรเจ็คหลายๆงานพร้อมกัน……
    แต่ปูติน…ยังคงทำเฉยกับข่าวเหล่านี้…
    เพราะในช่วงฤดูร้อนของปี 2010 ที่เกิดไฟป่าขึ้นที่ชายขอบมอสโคว์ ที่เริ่มรุนแรงขึ้น ประชาชนเดือดร้อนจนถึงขนาดตำหนิรัฐบาลออกสื่ออย่างไม่เกรงใจ ในเรื่องการล่าช้าของการดำเนินการดับไฟ และ เรื่องคอรัปชั่นที่กำลังเป็นข่าว เนื่องจากรัฐบาลเมดเวเดฟ กำลังสร้างศูนย์เทคโนโลยี Skolkovo ที่ทันสมัยใหญ่อลังการ ……
    แต่ประชาชนถามถึง……รถดับเพลิง ที่ควรจะมีมากกว่าศูนย์บ้าบออะไรนั่น…
    ปธน. เมดเวเดฟ ยังอยู่ในช่วงพักร้อนที่ทะเลดำ……
    ปูตินเป็นพระเอกอีกแล้ว เขาเตรียมตัวพร้อม ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปกับนักบินที่บินออกไปเป็นฝูงตั๊กแตน บัญชาการดับไฟ โปรยน้ำและสารเคมีติดต่อกันสองวัน……คุมไฟป่าได้อย่างหมดจด………
    คราวนี้……เสียงคะแนนนิยมจากหมู่สาวๆมาแบบถล่มทะลาย
    (เพราะอินเตอร์เน็ต) ทุกคนมองเห็นปูตินวัย 58 เป็นไอดอลที่สุดเซ็กซี่……กลายเป็นชายในฝัน (ซะงั้น)

    ชายในฝันที่ว่านี้…ก็ไม่ใช่เบา……!!!
    วันหนึ่งในการประชุมที่ กรุงเคียฟ เกี่ยวกับเรื่องการรวมทุนของสายการบินยูเครนเข้ากับ United Aviation Co. ของรัสเซีย
    ทุกคนสังเกตเห็นว่า ใบหน้าของปูตินที่ออกในทีวี แน่นไปด้วยเมคอัพ แต่น่าจะเป็นการให้แสง……เลยดูเปลี่ยนไป
    จนนักข่าวแอบมาเม้าท์กันว่า มีรอยช้ำที่ขอบตา……ผมหนาขึ้น…ตีนกาหายไป……หน้าผากตึงขึ้น……หางตาไม่ตก……
    ว้าววววว………นี่ไปศัลย์มาชัดๆ……
    แต่ทุกคนก็ยังชื่นชม เพราะ เขาบอกว่า
    “ใครๆก็อยากได้ผู้นำที่ดูดีด้วยกันทั้งนั้นแหละ……”

    ส่วนประธานาธิบดี เมดเวเดฟ……ที่มีนโยบาย Forward Russia…!! นั้น ก็ทำงานส่วนใหญ่กับการประสานกับประธานาธิบดี บารัค โอบามา เพราะค่อนข้างจะคุยกันรู้เรื่องในเรื่องของนิวเคลียร์เพื่อสันติ…รวมทั้งโปรเจ็คในการค้าขายที่ไม่ค่อยเป็นข่าว นอกจากอ่านแถลงการณ์โน่นนี่

    แต่การเล่นละครก็”ต้องมี”ให้ชาวโลกเห็นว่า ประธานาธิบดีรัสเซียก็มี”ปาก”เหมือนกัน…คือ ในวันตัดสินคดีของอภิมหาเศรษฐีรูปงาม Mikhail Khodorkovsky (หรือที่เคยเรียกย่อว่า MK) ที่ถูกจำคุกเกือบปี
    ก่อนวันขึ้นศาล ปูตินได้โทรศัพท์ออกทีวี ในวันที่ 16 ธันวาคม
    ให้ความเห็นในเรื่องนี้อย่างดุเดือดว่า ……เป็นโจรก็ต้องติดคุก ยิ่งเป็นมหาโจรที่ปล้นทรัพยากรไปจากแผ่นดิน……มันก็ต้องรับโทษให้สาสม เหมือนอย่างนักลงทุนอเมริกัน Bernard Madoff
    ที่ศาลในอเมริกาได้ตัดสินให้จำคุก 150 ปี……”
    ปูตินกล่าวต่อไปด้วยอารมณ์โกรธที่ระงับไม่อยู่……ว่า
    “ไอ้หมอนี่ เป็นคนสั่งการในการสังหารนายกเทศมนตรีเมือง Nefteyugansk (ที่ควบคุมเขตโรงกลั่นน้ำมันของ Yukos ของ MK) และ ผู้หญิงคนหนึ่งในมอสโคว์ที่ไม่ยอมเซ็นโฉนดที่ดินให้……มันกำจัดคนที่ขวางทางทุกคนด้วยวิธีที่ทารุณสุดโหด……”
    การกร้าวของปูตินในฐานะนายกรัฐมนตรีคราวนี้ มันออกจะ”ล้ำ” ไป เพราะแพร่ออกไปทุกมุมโลก

    ต่อมา…เมดเวเดฟ ต้องรีบแก้สถานะการณ์โดยการแสดงเป็นฝ่ายตรงข้ามกับปูติน……เขาไม่เห็นด้วยกับการที่ “ใครคนหนึ่ง”
    จะเที่ยวไปพิพากษาความผิดของใครได้ นอกเหนือไปจากศาลสถิตยุติธรรม
    สรุปว่า MK ได้ถูกตัดสินจำคุก 13 ปี (แต่ติดจริงๆแค่ไม่กี่ปี เพราะต้องยอมซื้ออิสรภาพเพื่อที่จะได้ออกไปนอกประเทศด้วยทรัพย์สินที่มีแทบทั้งหมดในรัสเซีย…)
    จึงจัดได้ว่า…MK ที่มีที่อยู่ทั่วไปในยุโรปและอเมริกา……

    เขาคือ ศัตรูนอกประเทศที่ชัดเจนของปูตินในทุกวันนี้……!!!


    Wiwanda W. Vichit
    งานประธานาธิบดีพี่เค้าก็ทำมาแล้ว……แต่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่พี่ปูเขาทำ………หนักกว่าเป็นสองเท่าค่าาาา ติ่งขาาาาา…!!!! ตอนสิบเก้า………เส้นทางที่หวาดเสียวกับการล่มจม……ผ่านมาได้อย่างสวยงามเพราะยึดหลักว่า……ต้องพึ่งตัวเอง………!!! หลังจากที่ทุกคนเป็นปลื้มกับความอู้ฟู่อยู่ได้ไม่นาน วันที่ 5 กันยายน 2008 เป็นวันที่บริษัทเงินทุนยักษ์ใหญ่สหรัฐอเมริกา Lehman Brothers ล้มละลายพังครืนลงอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ที่ดึงเศรษฐกิจโลกอ่อนยวบไปด้วย แม้แต่รัสเซียก็ไม่พ้น น้ำมันราคาตกต่ำกว่า $100 หุ้นร่วงลงติดพื้น ภายในสองเดือนของวิกฤติ เงินได้ไหลออกจากประเทศเป็นแสนล้าน เหล่ามหาเศรษฐีชิงกันขายรถหรู ขายเรือสำราญ เครื่องบินส่วนตัว รัฐบาลถอนเงินจากกองทุนต่างๆมาอุด แต่แทบไม่ได้ช่วยอะไร โรงงานปิดรายวัน คนงานไม่ได้รับเงินเดือน บารมีของปูตินที่เพิ่งใสสว่างราวดวงตะวัน……หม่นแสงลงอย่างดึงไว้ไม่อยู่ แปดปี……ที่เขาเป็นประธานาธิบดี เวลามีเหตุร้ายเกิดขึ้น…… คนที่รับหน้าในชั้นแรกคือ นายกรัฐมนตรี ซึ่งมันเป็นตำแหน่งที่เขาดำรงอยู่ในยามนี้ หมายถึงว่า เขาต้องแก้ปัญหานี้ด้วยตัวเองทั้งหมด เดือนตุลาคม……เขาเรียกประชุมสภา พร้อมเผชิญหน้ากับฝ่ายค้าน (ฝ่ายซ้าย) ที่หัวหน้าคือ Gennady Zyuganov ที่รอโอกาสที่จะเชือดเขาให้เป็นชิ้นๆได้ทุกเมื่อ หรือ รอโอกาสที่จะขอข้อแลกเปลี่ยนที่เป็นผลบวกกับพรรคของตัวเอง แต่ครั้งนี้ Gennady กลับมาแปลก……เขาวางข้อขัดแย้งไว้ และให้ข้อคิดว่า…… “เมื่อครั้งที่เกิดเศรษฐกิจล่มสลายในปี 1929 (ตลาดหุ้นอเมริกาพังพินาศ หรือ the Great Depression ล่มต่อเนื่องไปหลายปี จนต่อมาประธานาธิบดี Franklin Delano Roosevelt ได้ส่งทีมกู้เศรษฐกิจมารัสเซีย เพื่อดูลาดเลา และ มาดูความเป็นไปของเรา เพราะทางรัสเซียไม่มีผลกระทบอะไร……” ปูตินจึงได้สติ……เขาตอบว่า “จริงซิ……เพราะเราไม่เอาเงินของเราไปผูกกับตลาดหุ้นบ้าๆนั่น และ เราไม่ได้ใช้เงิน หรือ ลงทุนตามเขา……” ปูตินและทีมเศรษฐกิจจึงรีบหารือกันในการอุดรอยรั่วเป็นอันดับแรก นั่นคือ การที่เงินไหลออกเพราะเหล่าพ่อค้ามหาเศรษฐีทั้งหลายที่เอาเงินไปไว้ตามเกาะต่างๆ และ ธนาคารต่างประเทศ และมาฉวยโอกาสโมเมทำเป็นจนตามน้ำในตอนขาลงของสภาพคล่องของประเทศ เพราะโรงงานต่างๆกันปิดตัวระนาว…ในช่วงต้นปี 2009 โดยเฉพาะในเดือนกรกฏาคม ที่เมืองอุตสาหกรรม Pikalevo ที่เป็นโรงงานอะลูมิเนียมส่วนใหญ่ที่มีแรงงานหลายหมื่นคน ที่ไม่ได้จ่ายเงินเดือนพนักงาน ที่กำลังจะเกิดการจลาจลอยู่รอมร่อ ปูตินและคณะบุกไปถึงที่……เขาเรียกเหล่าเจ้าของทั้งหมดมาประชุม และเตรียมสัญญามาให้ลงชื่อ……ว่า จะต้องจ่ายเงินเดือนพนักงานทุกคนภายใน 24 ชั่วโมง ที่เหลือ…ถ้ายังอยากอยู่ในธุรกิจ ต้องเข้ามารับนโยบายจากรัฐถ้าไม่เปิดโรงงาน………รัฐบาลจะเข้ามาบริหารเอง หนึ่งในกลุ่มเจ้าของโรงงานนั้น คือ Oleg Deripaska ที่เปรียบเสมือนเพื่อนสนิทของปูตินมาแต่ไหนแต่ไร ที่ปูตินก็ไม่ไว้หน้า จิกตัวมาให้เซ็นชื่อ….และทวงปากกาคืนจาก Oleg!!! ~~มีวีดีโอบันทึกภาพจากเหตุการณ์จริง แต่ในความเห็นส่วนตัว ดิฉันคิดว่าเป็นการทำโปรประกันดาของปูติน เพื่อลดกระแสกดดันจากภาคประชาชนชาวแรงงานที่ชุมนุมรออยู่ ข้างนอก ลุ้นว่าจะได้รับเงินเดือนหรือเปล่า…ปูตินคงคุยนอกรอบกับพวกเจ้าของนี้แล้ว เมื่อตกลงกันได้ เลยต้องออกข่าวเรียกคืนเครดิตให้รัฐบาล ปูตินที่เหมือนกับทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี และ ประธานาธิบดีในเงา…ใช้เวลาทำงานทั้งหมดเกี่ยวกับสางกิจการเหล่าโรงงานอันเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในรัสเซีย อย่างแร่ Nepheline ที่เป็นวัตถุดิบที่สำคัญ ที่โรงงานจะต้องใช้เกิดขาดแคลน เขาสั่งขบวนเที่ยวรถไฟด่วน ลำเลียงมาจาก Kola Peninsular อัดฉีดเงินช่วยเหลือประชาชน และแทนที่เขาจะทำการเปิดตลาดเพื่อที่จะจะดูดเงินจากการค้า หรือทำสัญญาซื้อขายแบบยอมเสียเปรียบเพื่อที่จะได้เงินเข้าประเทศกับกลุ่มยุโรปหรืออเมริกา……… เขาไม่ทำ…………!!! ใครต่อใครต่างพากันประหลาดใจ……เพราะถ้าไม่ทำก็มองไม่เห็นทางรอด พวกเขาไม่เข้าใจว่าปูตินจะพาชาติพ้นวิกฤตินี้ไปได้อย่างไร?? แต่ปูตินเขาเห็นว่า….ที่ประเทศได้รับผลกระทบอย่างแรงเช่นนี้ เพราะอเมริกาได้เดินหมากผิด (หรืออาจตั้งใจ) ทำให้ใครต่อเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส จนแทบจะสิ้นชาติ ฉะนั้น…เขาเลือกที่จะปิดตลาดการค้าทางฝั่งตะวันตก ค้าขายแต่กับกลุ่มเบลารุส และกลุ่มคาซัคสถาน แบบพอให้การเคลื่อนไหวของกระแสเงินไปในทิศทางที่ปลอดภัย และไม่เสียเปรียบ กลางปี 2009 ราคาน้ำมันดีดกลับขึ้นมา หุ้นก็ขึ้นตาม ทุกอย่างกลับขึ้นมาเป็นเกือบปรกติ เมื่อมาถึง 2010 อะไรที่เคยหาย เคยพร่องไป กลับหลั่งไหลเข้ามาเต็มคลังอีกครั้ง ดีเกินหน้ายุโรปและอเมริกาด้วยซ้ำ ประสบการณ์ที่เกิดขึ้น……ได้บอกกับปูตินว่า …… ถ้ามาถึงเรื่องเงิน…ต้องไม่ฝากอนาคตไว้กับใครเลย ต้องถือเอง บริการเอง เอาประโยชน์ของชาติและคนในชาติเป็นหลัก จากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของรัสเซียนี้ เมื่อการประชุม WTO (World Trade Organization) จึงได้เชิญรัสเซียเข้าร่วมประชุมด้วย ปูตินตอบรับโดยมีข้อแม้ว่า เขาจะไปเป็นคณะ ไม่ใช่ไปคนเดียว คณะที่ว่านั้น คือ ตัวแทนจากเบลารุส และ คาซัคสถาน กรรมาธิการหลายคนไม่เข้าใจ…ว่า ทำไม…? ในเมื่อรัสเซียจะต้องทำการซื้อขายกับทางตะวันตกมากกว่า… แต่ปูตินยืนยันว่า….จะต้องไปเป็นกลุ่มเท่านั้น…!! (เพราะเมื่อตกอับก็ยังอยู่เคียงข้างกัน พอได้โอกาสค้าขาย ก็ต้องไปด้วยกัน…) จากนั้น ปูตินจึงหันมาทำงานในเรื่องการก่อสร้างที่ Sochi อย่างเต็มตัว เพราะเขาทุ่มเงินกว่าสามพันล้านหรียญ ที่จะสร้างให้ออกมาสวยงามสมใจ นอกจากพื้นที่แข่งสกีแล้ว เขาได้สร้างอีกหลายอาคารสำหรับเป็นที่แข่งขันระหว่างมหาวิทยาลัย และหมู่บ้านนักกีฬาที่ทันสมัย รวมทั้งพัฒนาปรับปรุงเส้นทางรถไฟ Baikal-Amur Mainline ที่พาดยาว จาก Moscow ถึง ฝั่งตะวันออก Vladivostok ให้ทันสมัยและเป็นสายท่องเที่ยวที่จะดึงดูดความสนใจ เขาทุ่มเทกับเรื่องโอลิมปิกนี้มาก เพราะการก่อสร้างได้ชะงักงันไปในช่วงฝืดเคือง พอกลับมาจับทำต่อ……ก็ต้องงบประมาณการก่อสร้างบานปลาย…… ที่ปูตินเรียกทุกฝ่ายมารายงานการใช้เงินกันอย่างละเอียด และทุกฝ่ายที่ว่ามานั้น……ล้วนแล้วแต่เป็นเพื่อนรักคนสนิทแทบทั้งสิ้น ในช่วงนี้คือช่วงที่มีการแฉโพยในเรื่องการคอรัปชั่นของรัฐบาลอย่างหนาหูจากฝ่ายตรงข้าม เพราะเป็นการสร้างเมกะโปรเจ็คหลายๆงานพร้อมกัน…… แต่ปูติน…ยังคงทำเฉยกับข่าวเหล่านี้… เพราะในช่วงฤดูร้อนของปี 2010 ที่เกิดไฟป่าขึ้นที่ชายขอบมอสโคว์ ที่เริ่มรุนแรงขึ้น ประชาชนเดือดร้อนจนถึงขนาดตำหนิรัฐบาลออกสื่ออย่างไม่เกรงใจ ในเรื่องการล่าช้าของการดำเนินการดับไฟ และ เรื่องคอรัปชั่นที่กำลังเป็นข่าว เนื่องจากรัฐบาลเมดเวเดฟ กำลังสร้างศูนย์เทคโนโลยี Skolkovo ที่ทันสมัยใหญ่อลังการ …… แต่ประชาชนถามถึง……รถดับเพลิง ที่ควรจะมีมากกว่าศูนย์บ้าบออะไรนั่น… ปธน. เมดเวเดฟ ยังอยู่ในช่วงพักร้อนที่ทะเลดำ…… ปูตินเป็นพระเอกอีกแล้ว เขาเตรียมตัวพร้อม ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปกับนักบินที่บินออกไปเป็นฝูงตั๊กแตน บัญชาการดับไฟ โปรยน้ำและสารเคมีติดต่อกันสองวัน……คุมไฟป่าได้อย่างหมดจด……… คราวนี้……เสียงคะแนนนิยมจากหมู่สาวๆมาแบบถล่มทะลาย (เพราะอินเตอร์เน็ต) ทุกคนมองเห็นปูตินวัย 58 เป็นไอดอลที่สุดเซ็กซี่……กลายเป็นชายในฝัน (ซะงั้น) ชายในฝันที่ว่านี้…ก็ไม่ใช่เบา……!!! วันหนึ่งในการประชุมที่ กรุงเคียฟ เกี่ยวกับเรื่องการรวมทุนของสายการบินยูเครนเข้ากับ United Aviation Co. ของรัสเซีย ทุกคนสังเกตเห็นว่า ใบหน้าของปูตินที่ออกในทีวี แน่นไปด้วยเมคอัพ แต่น่าจะเป็นการให้แสง……เลยดูเปลี่ยนไป จนนักข่าวแอบมาเม้าท์กันว่า มีรอยช้ำที่ขอบตา……ผมหนาขึ้น…ตีนกาหายไป……หน้าผากตึงขึ้น……หางตาไม่ตก…… ว้าววววว………นี่ไปศัลย์มาชัดๆ…… แต่ทุกคนก็ยังชื่นชม เพราะ เขาบอกว่า “ใครๆก็อยากได้ผู้นำที่ดูดีด้วยกันทั้งนั้นแหละ……” ส่วนประธานาธิบดี เมดเวเดฟ……ที่มีนโยบาย Forward Russia…!! นั้น ก็ทำงานส่วนใหญ่กับการประสานกับประธานาธิบดี บารัค โอบามา เพราะค่อนข้างจะคุยกันรู้เรื่องในเรื่องของนิวเคลียร์เพื่อสันติ…รวมทั้งโปรเจ็คในการค้าขายที่ไม่ค่อยเป็นข่าว นอกจากอ่านแถลงการณ์โน่นนี่ แต่การเล่นละครก็”ต้องมี”ให้ชาวโลกเห็นว่า ประธานาธิบดีรัสเซียก็มี”ปาก”เหมือนกัน…คือ ในวันตัดสินคดีของอภิมหาเศรษฐีรูปงาม Mikhail Khodorkovsky (หรือที่เคยเรียกย่อว่า MK) ที่ถูกจำคุกเกือบปี ก่อนวันขึ้นศาล ปูตินได้โทรศัพท์ออกทีวี ในวันที่ 16 ธันวาคม ให้ความเห็นในเรื่องนี้อย่างดุเดือดว่า ……เป็นโจรก็ต้องติดคุก ยิ่งเป็นมหาโจรที่ปล้นทรัพยากรไปจากแผ่นดิน……มันก็ต้องรับโทษให้สาสม เหมือนอย่างนักลงทุนอเมริกัน Bernard Madoff ที่ศาลในอเมริกาได้ตัดสินให้จำคุก 150 ปี……” ปูตินกล่าวต่อไปด้วยอารมณ์โกรธที่ระงับไม่อยู่……ว่า “ไอ้หมอนี่ เป็นคนสั่งการในการสังหารนายกเทศมนตรีเมือง Nefteyugansk (ที่ควบคุมเขตโรงกลั่นน้ำมันของ Yukos ของ MK) และ ผู้หญิงคนหนึ่งในมอสโคว์ที่ไม่ยอมเซ็นโฉนดที่ดินให้……มันกำจัดคนที่ขวางทางทุกคนด้วยวิธีที่ทารุณสุดโหด……” การกร้าวของปูตินในฐานะนายกรัฐมนตรีคราวนี้ มันออกจะ”ล้ำ” ไป เพราะแพร่ออกไปทุกมุมโลก ต่อมา…เมดเวเดฟ ต้องรีบแก้สถานะการณ์โดยการแสดงเป็นฝ่ายตรงข้ามกับปูติน……เขาไม่เห็นด้วยกับการที่ “ใครคนหนึ่ง” จะเที่ยวไปพิพากษาความผิดของใครได้ นอกเหนือไปจากศาลสถิตยุติธรรม สรุปว่า MK ได้ถูกตัดสินจำคุก 13 ปี (แต่ติดจริงๆแค่ไม่กี่ปี เพราะต้องยอมซื้ออิสรภาพเพื่อที่จะได้ออกไปนอกประเทศด้วยทรัพย์สินที่มีแทบทั้งหมดในรัสเซีย…) จึงจัดได้ว่า…MK ที่มีที่อยู่ทั่วไปในยุโรปและอเมริกา…… เขาคือ ศัตรูนอกประเทศที่ชัดเจนของปูตินในทุกวันนี้……!!! Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • #มีอยู่หนึ่งเรื่องที่กามินพูดความจริง
    #มีอยู่หนึ่งเรื่องที่กามิจไม่ผิดที่เราต้องเปิดใจ
    พี่คิงส์ได้สืบค้นข้อมูล และดูคลิปหลายร้อยคลิป
    ได้พบในหลายวาระ ที่กามิจยอมรับว่า น้องแน็กไม่ใช่สเป็ค
    ซึ่งเรื่องนี้ เราต้องให้เครดิต ที่เหวิงพูดความจริง
    เพราะน้องแน๊กไม่ใช่อย่างที่เธอฝันไว้
    1. แน๊ก หล่อเกินไป
    2. แน๊ก สะอาดเกินไป
    3. แน๊ก อาบน้ำทั้งเช้าและก่อนนอน
    4. แน๊ก ไม่ดื่มแอล และไม่เคยเอาแอลเข้าบ้าน
    5. แน๊ก มีความจริงใจเกินไป
    6. แน๊ก มีแต่ธุรกิจและการหารายได้ที่ขาวสะอาดเกินไป
    7. แน๊ก ปฏิเสธ และขอห่างไกลจากการฟอกข้ามชาติ
    8. แน๊ก แปลงฟันทุกวัน จะไม่ยอมกินอาหารเช้าก่อนแปลงฟัน
    9. แน๊ก ไม่ชอบที่จะออกจากบ้านหลังตีสอง
    10. แน๊ก ร่างสะอาดเกินไป ไม่มีร่องรอยของการเป็น ยาคูซ่า
    ดังนั้น เรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องรสนิยมของแต่ละคน
    ที่ไม่มีคำว่าผิด ถ้าเหวิง จะชอบตามไลฟ์สไตล์
    ที่ตรงข้ามกับความเป็นแน็กทุกประการ
    จึงมีเพียงการแสดง ที่แนบเนียน
    จนคนไทยหลงไปหลายเดือน
    มารู้ตัวอีกที เหวิงก็พูดเองว่ามีเอเจนซี่และมันคือการแสดง
    ตั้งแต่ก่อนมาประเทศไทย
    คนไทยก็อย่าเสียใจครับ
    จะให้คนซกมก ซั่วช้า ต..แหล ..ำส่..น ติดการพานัน
    มาชอบผู้ชายไทยดีๆที่เป็นที่รักของคนทั้งประเทศได้อย่างไร
    กามิจไม่ผิด
    แต่ถ้าแน๊ก ซั่วๆ ทำงานดาร์คๆ แดรรกแอลเป็นน้ำ สักลายระบุแก๊v เป็นระดับหัวๆ ที่สามารถดิลกับเงินดาร์คระดับบิ๊กๆได้นะ แล้วถ้ามีที่พำนักที่แดนอาทิตย์อุทัยแถวๆแหล่งปาจิงโกะด้วยนะ รับรอง ถูกจ้าย แน่นอน
    พี่คิงส์คอนเฟริ์ม
    ซึ่งคุณสมบัติที่อิเหม็นต้องการ คนที่เชียร์น้องแน๊กต้องตอบให้ได้ว่า
    คุณคิดว่า น้องแน๊ก ผู้มีคุณสมบัติทั้ง 10 ข้อ จะสามารถปรับตัวเข้าหาน้องเหม็นได้มั๊ย
    คำตอบเสียงเดียวกันคือ ไม่ได้ ถูกต้องมั๊ย
    ดังนั้นเรื่องนี้พี่คิงส์ต้องออกมาปกป้อง ยายโกะแก่ แม่ดอกเดซี่ของลุงผุ้คลั่งรัก และอ.โจผู้จบม.ต้น หวังว่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจของด้อมกามิจนะครับ
    รักพี่คิงส์ไม่ต้องเยอะ รักน้อยๆแต่ให้รักนานๆ
    อิฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #มีอยู่หนึ่งเรื่องที่กามินพูดความจริง #มีอยู่หนึ่งเรื่องที่กามิจไม่ผิดที่เราต้องเปิดใจ พี่คิงส์ได้สืบค้นข้อมูล และดูคลิปหลายร้อยคลิป ได้พบในหลายวาระ ที่กามิจยอมรับว่า น้องแน็กไม่ใช่สเป็ค ซึ่งเรื่องนี้ เราต้องให้เครดิต ที่เหวิงพูดความจริง เพราะน้องแน๊กไม่ใช่อย่างที่เธอฝันไว้ 1. แน๊ก หล่อเกินไป 2. แน๊ก สะอาดเกินไป 3. แน๊ก อาบน้ำทั้งเช้าและก่อนนอน 4. แน๊ก ไม่ดื่มแอล และไม่เคยเอาแอลเข้าบ้าน 5. แน๊ก มีความจริงใจเกินไป 6. แน๊ก มีแต่ธุรกิจและการหารายได้ที่ขาวสะอาดเกินไป 7. แน๊ก ปฏิเสธ และขอห่างไกลจากการฟอกข้ามชาติ 8. แน๊ก แปลงฟันทุกวัน จะไม่ยอมกินอาหารเช้าก่อนแปลงฟัน 9. แน๊ก ไม่ชอบที่จะออกจากบ้านหลังตีสอง 10. แน๊ก ร่างสะอาดเกินไป ไม่มีร่องรอยของการเป็น ยาคูซ่า ดังนั้น เรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องรสนิยมของแต่ละคน ที่ไม่มีคำว่าผิด ถ้าเหวิง จะชอบตามไลฟ์สไตล์ ที่ตรงข้ามกับความเป็นแน็กทุกประการ จึงมีเพียงการแสดง ที่แนบเนียน จนคนไทยหลงไปหลายเดือน มารู้ตัวอีกที เหวิงก็พูดเองว่ามีเอเจนซี่และมันคือการแสดง ตั้งแต่ก่อนมาประเทศไทย คนไทยก็อย่าเสียใจครับ จะให้คนซกมก ซั่วช้า ต..แหล ..ำส่..น ติดการพานัน มาชอบผู้ชายไทยดีๆที่เป็นที่รักของคนทั้งประเทศได้อย่างไร กามิจไม่ผิด แต่ถ้าแน๊ก ซั่วๆ ทำงานดาร์คๆ แดรรกแอลเป็นน้ำ สักลายระบุแก๊v เป็นระดับหัวๆ ที่สามารถดิลกับเงินดาร์คระดับบิ๊กๆได้นะ แล้วถ้ามีที่พำนักที่แดนอาทิตย์อุทัยแถวๆแหล่งปาจิงโกะด้วยนะ รับรอง ถูกจ้าย แน่นอน พี่คิงส์คอนเฟริ์ม ซึ่งคุณสมบัติที่อิเหม็นต้องการ คนที่เชียร์น้องแน๊กต้องตอบให้ได้ว่า คุณคิดว่า น้องแน๊ก ผู้มีคุณสมบัติทั้ง 10 ข้อ จะสามารถปรับตัวเข้าหาน้องเหม็นได้มั๊ย คำตอบเสียงเดียวกันคือ ไม่ได้ ถูกต้องมั๊ย ดังนั้นเรื่องนี้พี่คิงส์ต้องออกมาปกป้อง ยายโกะแก่ แม่ดอกเดซี่ของลุงผุ้คลั่งรัก และอ.โจผู้จบม.ต้น หวังว่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจของด้อมกามิจนะครับ รักพี่คิงส์ไม่ต้องเยอะ รักน้อยๆแต่ให้รักนานๆ อิฉัด #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    8
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1026 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาแล้วววว……ติ่งขา……อาลีนาที่หนูอยากได้……รบเป็นรบ รักเป็นรักนะ พี่ปูเนี่ยยย……!!!

    ตอนสิบแปด……ประวัติศาสตร์ที่ซ้ำแล้วซ้ำอีกเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ……รัสเซียทุบทุกงาน…!!!

    ในที่สุดปูตินแก้ความสงสัยให้กับทุกคน…หลังจากที่พรรคของเขาได้รับคะแนนถล่มทะลายในสภาตอนเลือกตั้งผู้แทนเข้าสภาในปลายปี ว่า…แคนดิเดทที่จะขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป คือ Dmitry Medvedev
    ส่วนตัวเขาจะไปนั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน……
    ซึ่งเป็นแผนงานที่รู้กันเพียงไม่กี่คน……
    แต่ในแวดวงข้างนอก……ไม่มีใครคาดคิดถึงเรื่องนี้ ทุกคนคิดว่า ปูตินจะต้องลงจากอำนาจ ……และ คนที่จะมาเป็นประธานาธิบดี น่าจะเป็นคนใดคนหนึ่ง เช่น Mikhail Fradkov (นายกรัฐมนตรี)

    ฝ่ายตรงข้ามเริ่มขุดคุ้ย โจมตีปูตินด้วยการลงข่าวดิสเครดิตรายวัน เช่นเมื่อ วันที่ 11 เมษายน 2008 สามอาทิตย์ก่อนที่เมดเดเวฟจะขึ้นทำพิธีสาบานตน
    หนังสือพิมพ์รายวันของมอสโคว์ ในคอลัมน์ของ Sergei Topol
    ได้กระแซะด้วยข้อความแบบซุบซิบเล็กๆเพียง 641 คำ……
    แต่มันเหมือนระเบิดลงในสนามข่าว ที่ไตเติ้ลเขียนว่า
    “The Sarkozy Syndrome” หรือ อาการโรคซาร์โกซี่ระบาด
    คือ นาย Nicholas Sarkozy คือประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่มากรัก
    เขาแต่งงาน แล้วหย่า แล้วแต่ง แล้วหย่า ที่เพิ่งหย่าไปกับภรรยาคนที่สาม ประธานาธิบดีปูตินของเรามั่นคงกับภรรยาเดียวมาตลอดการครองตำแหน่งผู้นำ……แต่เมื่อท่านจะไม่ได้เป็นประธานาธิบดีแล้ว……บางอย่างอาจเปลี่ยนไปก็ได้..”

    ข่าวนี้กระเทือนไปทั่ว ทั้งความอยากรู้ของประชาชนและคนในแวดวงการเมือง
    เพราะมันก็คือความจริง……ที่ปูตินได้หย่ากับลุดมิลาไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา……และที่เป็นรู้กันในวงในว่า เขามีแผนที่จะแต่งงานใหม่กับ Alina Kabayeva ยิมนาสติกเหรียญทองที่เป็นขวัญใจของประชาชนในเดือนมิถุนายน
    และได้เข้ามามีบทบาททางการเมืองมาตั้งแต่ปี 2002
    ในช่วงการหาเสียงของ 2007 เธอก็ยังปรากฎตัวในที่ต่างๆพร้อมๆกับกลุ่มแถวหน้าของพรรค

    ตั้งแต่ปี 2000 ที่ปูตินได้เป็นประธานาธิบดี เขาได้เก็บทุกอย่างเกี่ยวกับครอบครัวไว้เป็นความลับ
    ลูกสาวทั้งสองคนได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างส่วนตัว เงียบๆมีหน่วยอารักขาตลอดเวลา ไม่มีการออกข่าวใดๆ
    ทั้งคู่เรียนดนตรีที่ปูตินชอบ คือ ไวโอลินและเปียโน และได้ทำเพลงบรรจุซีดีให้พ่อไว้ฟัง……นั่นคือสิ่งที่ทำให้เขาเพลินเพลินในยามว่าง และก่อนนอน
    ลุดมิลา……ไม่เคยชอบชีวิตของการเป็นจุดสนใจ เธอทำหน้าที่ของสตรีหมายเลขหนึ่งในการเดินทางต่างประเทศกับปูติน
    แต่เมื่อกลับมาอยู่ในรัสเซีย เธอทำงานทางด้านการสอนภาษาให้กับโครงการชาวรัสเซียชนบทที่อยู่ชายแดนของประเทศที่ถูกเฉือนออกไปเมื่อโซเวียตล่มสลาย
    ทั้งคู่ใช้ชีวิตด้วยกันแบบความกลไกของครอบครัวรัสเชี่ยนทั่วไป……แต่นับวันยิ่งห่างเหิน……

    ปูตินตามที่ลุดมิลาเลยปรับทุกข์ให้เพื่อนฟัง คือ มีแอบเจ้าชู้
    เคยพานักข่าวสาวสวยไปทานอาหารกลางวันเมื่อครั้งที่เริ่มฉายแสงในการเมืองมอสโคว์
    แต่…ไม่มีใครกล้าลงในดีเทล เพราะในยุคนั้นท่านผู้นำจะต้องไม่มีเรื่องด่างพล้อยใดๆในชีวิตครอบครัว
    แต่มาถึงยุคที่เป็นข่าว……ตอนนั้นโลกเปลี่ยนไป เพราะผู้นำแต่ละคนล้วนแล้วแต่จี๊ดจ๊าด นอกจากซาร์โกซี่ แล้วยังมี
    บิล คลินตัน ตามด้วยสุดๆคือ Vaclav Havel ประธานาธิบดีแห่ง Czech Republic (ในตำแหน่ง 1993-2003) ที่พอเมียตายปุ๊บ ก็แต่งงานใหม่กับดาราแม่หม้ายที่มีบทหวือหวาโป๊เปลือยในปีต่อมาทันที แล้วเอามาปั้นแต่งให้เป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งท่ามกลางความไม่พอใจของประชาชน……

    หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปของข่าวที่ร้อนแรง ปูตินได้ไปเยือนอิตาลี
    และนักข่าวอิตาเลี่ยนได้ยิงคำถามนี้ขึ้นมา ว่า จริงเท็จประการใด?
    ปูตินที่เคยปิดปากสนิทเลี่ยงที่จะไม่พูดต่อไปไม่ได้ เขาตอบว่า
    “ทุกอย่างที่คุณได้ข่าวมา ไม่ใช่ความจริง ในเรื่องที่ลูกๆผมได้ย้ายไปอยู่ที่เยอรมัน แล้วเรื่องผู้หญิง……ผมไม่ปฏิเสธว่าผมชอบผู้หญิงรัสเซีย เพราะผู้หญิงของเราเก่งกาจและสวยที่สุด..
    เรียกว่า เทียบได้กับสาวๆอิตาเลี่ยนได้เลย……”
    ตอนนี้นักข่าวสาวอิตาเลี่ยนปรบมือแบบถูกอกถูกใจ
    เขาพูดต่อไปว่า…
    “แต่ในเมื่อผมเป็นนักการเมือง ชีวิตก็เหมือนกับอยู่ในบ้านเรือนแก้ว ที่ใครๆก็มองเห็นได้ แต่มันก็ควรที่จะมีขอบเขตของ
    ความเป็นส่วนตัวบ้าง ในตรงนี้…ผมขอ……ขอมีชีวิตส่วนตัวที่เป็นอิสระเหมือนกับคนอื่นๆ…เรามาคุยเรื่องอื่นที่น่าสนใจดีกว่า เช่นสงครามในเชเชน…โอเค๊..!!!”

    ในวันเดียวกันนั้นที่เขากลับไปยังรัสเซีย…หนังสือพิมพ์เจ้ากรรมที่เป็นต้นตอข่าว ได้ประกาศปิดตัวลงเพราะสภาพคล่อง……
    แต่ไม่มีใครเชื่อว่านั่นคือสาเหตุ…!!!!

    ไม่มีใครรู้ว่า ความสัมพันธ์ของปูตินกับอาลีนานั้นลึกซึ้งขนาดไหน แต่ดูได้จากระดับที่เธอก้าวขึ้นมาจากนักยิมเหรียญทองสู่เส้นสายทางการเมืองที่รุ่งขึ้นไปทุกที ในการเข้าเป็นกรรมการบอร์ดในหลายที่ เช่นธนาคาร, สื่อโทรทัศน์และสิ่งพิมพ์
    และเป็นกำลังสำคัญในการประสานงานของกีฬาโอลิมปิคใน Sochi ที่จะมาถึง

    เมื่อ Medvedev ก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี
    ปูตินก็เปรียบเสมือนเติ้งเสี่ยวผิงของจีน ที่เป็นมันสมองทั้งหมดของพรรคในช่วงห้าปีสุดท้ายของการอยู่ในตำแหน่งที่ได้พลิกผันประเทศจีนให้เจริญรุ่งเรืองอย่างที่เห็นในทุกวันนี้

    แต่ก่อนอื่น…ปูนินต้องจัดการกับเรื่องข่าวที่กวนใจก่อน โดยงานแรกของเมดเวเดพที่จะต้องทำคือ ออกกฎหมายเรื่องของการหมิ่นประมาทโดยสื่อที่ทำให้เสี่ยมเสียชื่อเสียง มีการเพิ่มโทษทั้งปรับทั้งจำขั้นสูงสุด

    ในวันที่ 7 สิงหาคม 2008 ที่ประธานาธิบดีคนใหม่หมาดๆเพียงสามอาทิตย์กำลังไปพักผ่อนล่องเรือที่ Volga River ในเขตเมือง Kazan
    ตอนตีหนึ่งของวันที่ 8 เขาได้รับโทรศัพท์ด่วนจากกลาโหมว่า
    Mikhail Saakachvili ประธานาธิบดีสาธารณรัฐ Georgia (โปรตะวันตก) ได้ส่งทหารทำการบุกพื้นที่ทางใต้ คือ South Ossetia ซึ่งอยู่ในเขตของจอร์เจียตามแผนที่ แต่ประกาศตัวเป็นเอกราชไม่ขึ้นกับจอร์เจีย เพราะโปรรัสเซีย
    รวมทั้ง เขต Abkhazia ทางฝั่งทะเลดำก็เช่นกัน ตามแผนที่ว

    เรื่องความขัดแย้งนี้เป็นมานานหลายปีแล้ว แต่มาประทุในตอนนี้เพราะ Mikhail Saakachvili (จะเรียกว่า MS) คิดว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะลงมือเพราะปูตินไม่ได้เป็นปธน. แล้ว
    และเมดเวเดพก็ไม่น่าจะมีน้ำยาอะไร……หนุ่มใสซื่อ ที่
    ฟังแต่เพลงร๊อค
    ทันที่ที่ทราบข่าว…เมดเวเดพรีบติดต่อถึงปูติน แต่เป็นช่วงที่ปูตินได้จากมอสโคว์ไปยังเบจิง เพื่อไปร่วมในงานเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน พร้อมๆกับผู้นำชาติอื่นๆเช่น บุช
    จึงยังติดต่อไม่ได้……เขาไม่กล้าที่จะตัดสินใจอะไรลงไป
    จนทางผู้บัญชาการทหารบกได้โทรมาบอกว่า ตอนนี้ค่ายทหารของเราได้ถูกโจมตีหนัก
    เขาจึงตัดสินใจตอบไปว่า…”ส่งกำลังเข้าบุกเดี๋ยวนี้…!!!”

    กองทัพรัสเซียที่รอฟังคำสั่งมาสองวัน จึงถาโถมเข้าพร้อมกันทั้งบกและอากาศเข้าตีทุกทาง…
    ข่าวได้ถึงปูตินหลังจากที่รัสเซียเคลื่อนทัพสู่จอร์เจีย
    สิ่งแรกคือ.……เขาโกรธ MS แบบหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่บังอาจใช้เวลาที่เขาเดินทางไกล……เข้าดำเนินการ
    และฉุนเมดเวเดฟที่ไม่ทำการวางแผนทำศึก สั่งบุกแบบสั้นๆ
    ปรากฏว่า กองทัพอากาศรัสเซียได้เข้าโจมตีถล่มไปถึงเขตอื่นๆในจอร์เจียเป็นวงกว้างเกินจำเป็น

    ประธานาธิบดีบุชก็ได้ข่าวการโจมตีเช่นกัน (ด้วยความยินดี เพราะอเมริกาอยู่เบื้องหลังในการนี้) รีบมากระซิบปูตินด้วยท่าทางอิ่มเอมใจว่า….เราจะอยู่เคียงข้างพวกเขา
    “พวกเขา” บุชหมายถึง จอร์เจีย……
    ที่รัสเซียรู้อยู่เต็มอกว่า อเมริกาได้อยู่เบื้องหลังของรัฐบาล MS
    มีการฝึกทหารร่วมกัน และ สัญญาในเรื่องเข้าสู่ NATO เพื่อที่จะเข้ามาแทรกแซงรัสเซีย

    แต่สิ่งที่ MS ไม่รู้ว่า การที่เอาอกเอาใจอเมริกาถึงขั้นส่งทหารไปช่วยรบในอิรักนั้น……เสียเปล่า……
    เรื่องที่ อเมริกาหรือนาโต้จะเข้ามาช่วยทำสงครามกับรัสเซียเพื่อจอร์เจียนั้น……เป็นความฝันล้วนๆ
    ในช่วงพิธีเปิดงานใน “ Bird Nest” สเตเดี้ยม……บุชและล่ามได้ขอเลื่อนตัวมานั่งใกล้ๆกับปูติน ทักทายกับตามปรกติ
    บุชเอียงหน้ามากระซิบว่า
    “ผมได้ข่าวมาว่า MS เป็นคนเลือดร้อน คราวนี้ถ้าจะเอาจริง”
    “เหรอ…งั้นก็เหมือนผมเลย เลือดร้อนเหมือนกัน ร้อนระเบิดเลย”
    “ใครบอก……นายเป็นคน “เลือดเย็น” ต่างหาก” บุชประชด……

    วันรุ่งขึ้น ปูตินบินกลับรัสเซีย แต่ไม่ใช่มอสโคว์ เขาไปที่ North Ossetia ที่กองทัพตั้งศูนย์บัญชาการอยู่ และคราวนี้คือการตัดสินใจขั้นเด็ดขาด คือ ยึดคืนดินแดนในส่วนนี้อย่างเด็ดขาด
    ทางจอร์เจียที่หวังว่า นาโต้และอเมริกาจะมาช่วย เพราะเคยได้ให้ความหวังไว้ถึงขั้นมาช่วยฝึกให้ ……ไม่เห็นมา..!!
    เลยต้องร้องขอไป.……
    สิ่งที่อเมริกาทำได้ คือ……จัดเที่ยวบินส่งทหารจอร์เจียสองพันคนที่ไปช่วยในอิรักกลับมา……และเพิ่มอาวุธแถมมาให้อีกนิดหน่อย
    และให้เที่ยวบินนั้น……รับทหารอเมริกันที่มาช่วยฝึกที่ตกค้างอยู่กลับไป.……โดยอ้างว่า……ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในความขัดแย้ง
    กองทัพรัสเซียตีหนักไปถึงยังเมืองหลวง Tbilisi ที่ในที่สุด
    MD ต้องยอมขอเจรจาสงบศึก…
    ผลคือ จอร์เจียต้องรับรองเอกราชของสองเขต South Ossetia
    และ Abkhazia และต้องเอาโทษกับประธานาธิบดี MS
    โดยประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซาร์โกซี่มาเป็นตัวกลางเจรจา
    ในขณะที่คน “เลือดเย็น” กำลังกัดกราม ว่า……
    “มันจะต้องถูกแขวนคอสถานเดียว”

    ซาร์โกซี่รีบค้าน…
    “อย่าถึงขึ้นเอาโทษกับ MS เลย เพราะเขาได้รับเลือกตั้งมา ประชาชนชาวโลกจะคิดอย่างไร?
    ปูตินย้อนทันทีว่า……
    “ก็แล้วไง……อเมริกายังแขวนคอซัดดัม ฮุสเซนได้เลยนี่…!!!”
    แต่ทางฝรั่งเศสได้มีลิ้นเจรจาทางการทูต ได้สยบอารมณ์ของปูตินว่า……
    “แล้วนายอยากจะให้ชื่อมีจดจำในประวัติศาสตร์แบบบุชพ่อ
    บุชลูกหรือ..?!!

    สรุปว่า ดินแดนทั้งสองส่วนนี้ เป็นเอกราชจากจอร์เจีย มีประธานาธิบดีของตัวเอง (แต่ในความสนับสนุนของรัสเซีย) รัสเซียถอนทหารออกจากพื้นที่……
    ทั้งหมดใช้เวลารบเพียง ห้าวัน……(รวมเจรจาด้วย 12 วัน คือ 1-12 สิงหาคม 2008)

    ~~เรื่องราวของจอร์เจีย คือ หนังที่ฉายซ้ำกับยูเครนในตอนนี้ และถ้าอเมริกาได้สร้างตัวอย่างว่าช่วยเหลือจริงจังกับจอร์เจียถึงขึ้นทำสงครามกับรัสเซีย……หลายคนเชื่อว่า ปูตินคงต้องคิดหนักในการยึดไครเมีย……

    ในช่วงปลายปีนั้น ทางอเมริกาได้มีประธานาธิบดีคนใหม่ คือ Barack Obama อันเป็นสิ้นสุดของบุช
    ซึ่งทางเมดเวเดฟ……ได้ออกแถลงการณ์อย่างหนักแน่นว่า
    สงครามในจอร์เจียคือผลพวงของการแทรกแซงของอเมริกาที่พยายามจะเข้ามาตั้งฐานทัพในพื้นที่รอบรัสเซีย และ มันเป็นการผลักดันที่รัสเซียจะต้องตอบโต้ด้วยการสร้างฐานนิวเคลียร์ที่ Kaliningrad

    หลังจากสงครามจอร์เจีย……เศรษฐกิจของรัสเซียบูมขึ้นมาในทุกอย่าง พลังงานราคาขึ้น ส่งออกทุกชนิดตั้งแต่โลหะ อาหารจนถึงเฟอร์นิเจอร์ จนรัสเซียได้จ่ายหนี้ได้หมด รวมทั้งมีเงินในคลังเป็นแสนๆล้าน และเงินคงคลังอีกจำนวนมหาศาล

    แต่นั่นคือ….แสงสว่างก่อนที่พายุมืดคล้ำกำลังจะเข้ามา…ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน….!!!

    Wiwanda W. Vichit
    มาแล้วววว……ติ่งขา……อาลีนาที่หนูอยากได้……รบเป็นรบ รักเป็นรักนะ พี่ปูเนี่ยยย……!!! ตอนสิบแปด……ประวัติศาสตร์ที่ซ้ำแล้วซ้ำอีกเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ……รัสเซียทุบทุกงาน…!!! ในที่สุดปูตินแก้ความสงสัยให้กับทุกคน…หลังจากที่พรรคของเขาได้รับคะแนนถล่มทะลายในสภาตอนเลือกตั้งผู้แทนเข้าสภาในปลายปี ว่า…แคนดิเดทที่จะขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป คือ Dmitry Medvedev ส่วนตัวเขาจะไปนั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน…… ซึ่งเป็นแผนงานที่รู้กันเพียงไม่กี่คน…… แต่ในแวดวงข้างนอก……ไม่มีใครคาดคิดถึงเรื่องนี้ ทุกคนคิดว่า ปูตินจะต้องลงจากอำนาจ ……และ คนที่จะมาเป็นประธานาธิบดี น่าจะเป็นคนใดคนหนึ่ง เช่น Mikhail Fradkov (นายกรัฐมนตรี) ฝ่ายตรงข้ามเริ่มขุดคุ้ย โจมตีปูตินด้วยการลงข่าวดิสเครดิตรายวัน เช่นเมื่อ วันที่ 11 เมษายน 2008 สามอาทิตย์ก่อนที่เมดเดเวฟจะขึ้นทำพิธีสาบานตน หนังสือพิมพ์รายวันของมอสโคว์ ในคอลัมน์ของ Sergei Topol ได้กระแซะด้วยข้อความแบบซุบซิบเล็กๆเพียง 641 คำ…… แต่มันเหมือนระเบิดลงในสนามข่าว ที่ไตเติ้ลเขียนว่า “The Sarkozy Syndrome” หรือ อาการโรคซาร์โกซี่ระบาด คือ นาย Nicholas Sarkozy คือประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่มากรัก เขาแต่งงาน แล้วหย่า แล้วแต่ง แล้วหย่า ที่เพิ่งหย่าไปกับภรรยาคนที่สาม ประธานาธิบดีปูตินของเรามั่นคงกับภรรยาเดียวมาตลอดการครองตำแหน่งผู้นำ……แต่เมื่อท่านจะไม่ได้เป็นประธานาธิบดีแล้ว……บางอย่างอาจเปลี่ยนไปก็ได้..” ข่าวนี้กระเทือนไปทั่ว ทั้งความอยากรู้ของประชาชนและคนในแวดวงการเมือง เพราะมันก็คือความจริง……ที่ปูตินได้หย่ากับลุดมิลาไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา……และที่เป็นรู้กันในวงในว่า เขามีแผนที่จะแต่งงานใหม่กับ Alina Kabayeva ยิมนาสติกเหรียญทองที่เป็นขวัญใจของประชาชนในเดือนมิถุนายน และได้เข้ามามีบทบาททางการเมืองมาตั้งแต่ปี 2002 ในช่วงการหาเสียงของ 2007 เธอก็ยังปรากฎตัวในที่ต่างๆพร้อมๆกับกลุ่มแถวหน้าของพรรค ตั้งแต่ปี 2000 ที่ปูตินได้เป็นประธานาธิบดี เขาได้เก็บทุกอย่างเกี่ยวกับครอบครัวไว้เป็นความลับ ลูกสาวทั้งสองคนได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างส่วนตัว เงียบๆมีหน่วยอารักขาตลอดเวลา ไม่มีการออกข่าวใดๆ ทั้งคู่เรียนดนตรีที่ปูตินชอบ คือ ไวโอลินและเปียโน และได้ทำเพลงบรรจุซีดีให้พ่อไว้ฟัง……นั่นคือสิ่งที่ทำให้เขาเพลินเพลินในยามว่าง และก่อนนอน ลุดมิลา……ไม่เคยชอบชีวิตของการเป็นจุดสนใจ เธอทำหน้าที่ของสตรีหมายเลขหนึ่งในการเดินทางต่างประเทศกับปูติน แต่เมื่อกลับมาอยู่ในรัสเซีย เธอทำงานทางด้านการสอนภาษาให้กับโครงการชาวรัสเซียชนบทที่อยู่ชายแดนของประเทศที่ถูกเฉือนออกไปเมื่อโซเวียตล่มสลาย ทั้งคู่ใช้ชีวิตด้วยกันแบบความกลไกของครอบครัวรัสเชี่ยนทั่วไป……แต่นับวันยิ่งห่างเหิน…… ปูตินตามที่ลุดมิลาเลยปรับทุกข์ให้เพื่อนฟัง คือ มีแอบเจ้าชู้ เคยพานักข่าวสาวสวยไปทานอาหารกลางวันเมื่อครั้งที่เริ่มฉายแสงในการเมืองมอสโคว์ แต่…ไม่มีใครกล้าลงในดีเทล เพราะในยุคนั้นท่านผู้นำจะต้องไม่มีเรื่องด่างพล้อยใดๆในชีวิตครอบครัว แต่มาถึงยุคที่เป็นข่าว……ตอนนั้นโลกเปลี่ยนไป เพราะผู้นำแต่ละคนล้วนแล้วแต่จี๊ดจ๊าด นอกจากซาร์โกซี่ แล้วยังมี บิล คลินตัน ตามด้วยสุดๆคือ Vaclav Havel ประธานาธิบดีแห่ง Czech Republic (ในตำแหน่ง 1993-2003) ที่พอเมียตายปุ๊บ ก็แต่งงานใหม่กับดาราแม่หม้ายที่มีบทหวือหวาโป๊เปลือยในปีต่อมาทันที แล้วเอามาปั้นแต่งให้เป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งท่ามกลางความไม่พอใจของประชาชน…… หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปของข่าวที่ร้อนแรง ปูตินได้ไปเยือนอิตาลี และนักข่าวอิตาเลี่ยนได้ยิงคำถามนี้ขึ้นมา ว่า จริงเท็จประการใด? ปูตินที่เคยปิดปากสนิทเลี่ยงที่จะไม่พูดต่อไปไม่ได้ เขาตอบว่า “ทุกอย่างที่คุณได้ข่าวมา ไม่ใช่ความจริง ในเรื่องที่ลูกๆผมได้ย้ายไปอยู่ที่เยอรมัน แล้วเรื่องผู้หญิง……ผมไม่ปฏิเสธว่าผมชอบผู้หญิงรัสเซีย เพราะผู้หญิงของเราเก่งกาจและสวยที่สุด.. เรียกว่า เทียบได้กับสาวๆอิตาเลี่ยนได้เลย……” ตอนนี้นักข่าวสาวอิตาเลี่ยนปรบมือแบบถูกอกถูกใจ เขาพูดต่อไปว่า… “แต่ในเมื่อผมเป็นนักการเมือง ชีวิตก็เหมือนกับอยู่ในบ้านเรือนแก้ว ที่ใครๆก็มองเห็นได้ แต่มันก็ควรที่จะมีขอบเขตของ ความเป็นส่วนตัวบ้าง ในตรงนี้…ผมขอ……ขอมีชีวิตส่วนตัวที่เป็นอิสระเหมือนกับคนอื่นๆ…เรามาคุยเรื่องอื่นที่น่าสนใจดีกว่า เช่นสงครามในเชเชน…โอเค๊..!!!” ในวันเดียวกันนั้นที่เขากลับไปยังรัสเซีย…หนังสือพิมพ์เจ้ากรรมที่เป็นต้นตอข่าว ได้ประกาศปิดตัวลงเพราะสภาพคล่อง…… แต่ไม่มีใครเชื่อว่านั่นคือสาเหตุ…!!!! ไม่มีใครรู้ว่า ความสัมพันธ์ของปูตินกับอาลีนานั้นลึกซึ้งขนาดไหน แต่ดูได้จากระดับที่เธอก้าวขึ้นมาจากนักยิมเหรียญทองสู่เส้นสายทางการเมืองที่รุ่งขึ้นไปทุกที ในการเข้าเป็นกรรมการบอร์ดในหลายที่ เช่นธนาคาร, สื่อโทรทัศน์และสิ่งพิมพ์ และเป็นกำลังสำคัญในการประสานงานของกีฬาโอลิมปิคใน Sochi ที่จะมาถึง เมื่อ Medvedev ก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ปูตินก็เปรียบเสมือนเติ้งเสี่ยวผิงของจีน ที่เป็นมันสมองทั้งหมดของพรรคในช่วงห้าปีสุดท้ายของการอยู่ในตำแหน่งที่ได้พลิกผันประเทศจีนให้เจริญรุ่งเรืองอย่างที่เห็นในทุกวันนี้ แต่ก่อนอื่น…ปูนินต้องจัดการกับเรื่องข่าวที่กวนใจก่อน โดยงานแรกของเมดเวเดพที่จะต้องทำคือ ออกกฎหมายเรื่องของการหมิ่นประมาทโดยสื่อที่ทำให้เสี่ยมเสียชื่อเสียง มีการเพิ่มโทษทั้งปรับทั้งจำขั้นสูงสุด ในวันที่ 7 สิงหาคม 2008 ที่ประธานาธิบดีคนใหม่หมาดๆเพียงสามอาทิตย์กำลังไปพักผ่อนล่องเรือที่ Volga River ในเขตเมือง Kazan ตอนตีหนึ่งของวันที่ 8 เขาได้รับโทรศัพท์ด่วนจากกลาโหมว่า Mikhail Saakachvili ประธานาธิบดีสาธารณรัฐ Georgia (โปรตะวันตก) ได้ส่งทหารทำการบุกพื้นที่ทางใต้ คือ South Ossetia ซึ่งอยู่ในเขตของจอร์เจียตามแผนที่ แต่ประกาศตัวเป็นเอกราชไม่ขึ้นกับจอร์เจีย เพราะโปรรัสเซีย รวมทั้ง เขต Abkhazia ทางฝั่งทะเลดำก็เช่นกัน ตามแผนที่ว เรื่องความขัดแย้งนี้เป็นมานานหลายปีแล้ว แต่มาประทุในตอนนี้เพราะ Mikhail Saakachvili (จะเรียกว่า MS) คิดว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะลงมือเพราะปูตินไม่ได้เป็นปธน. แล้ว และเมดเวเดพก็ไม่น่าจะมีน้ำยาอะไร……หนุ่มใสซื่อ ที่ ฟังแต่เพลงร๊อค ทันที่ที่ทราบข่าว…เมดเวเดพรีบติดต่อถึงปูติน แต่เป็นช่วงที่ปูตินได้จากมอสโคว์ไปยังเบจิง เพื่อไปร่วมในงานเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน พร้อมๆกับผู้นำชาติอื่นๆเช่น บุช จึงยังติดต่อไม่ได้……เขาไม่กล้าที่จะตัดสินใจอะไรลงไป จนทางผู้บัญชาการทหารบกได้โทรมาบอกว่า ตอนนี้ค่ายทหารของเราได้ถูกโจมตีหนัก เขาจึงตัดสินใจตอบไปว่า…”ส่งกำลังเข้าบุกเดี๋ยวนี้…!!!” กองทัพรัสเซียที่รอฟังคำสั่งมาสองวัน จึงถาโถมเข้าพร้อมกันทั้งบกและอากาศเข้าตีทุกทาง… ข่าวได้ถึงปูตินหลังจากที่รัสเซียเคลื่อนทัพสู่จอร์เจีย สิ่งแรกคือ.……เขาโกรธ MS แบบหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่บังอาจใช้เวลาที่เขาเดินทางไกล……เข้าดำเนินการ และฉุนเมดเวเดฟที่ไม่ทำการวางแผนทำศึก สั่งบุกแบบสั้นๆ ปรากฏว่า กองทัพอากาศรัสเซียได้เข้าโจมตีถล่มไปถึงเขตอื่นๆในจอร์เจียเป็นวงกว้างเกินจำเป็น ประธานาธิบดีบุชก็ได้ข่าวการโจมตีเช่นกัน (ด้วยความยินดี เพราะอเมริกาอยู่เบื้องหลังในการนี้) รีบมากระซิบปูตินด้วยท่าทางอิ่มเอมใจว่า….เราจะอยู่เคียงข้างพวกเขา “พวกเขา” บุชหมายถึง จอร์เจีย…… ที่รัสเซียรู้อยู่เต็มอกว่า อเมริกาได้อยู่เบื้องหลังของรัฐบาล MS มีการฝึกทหารร่วมกัน และ สัญญาในเรื่องเข้าสู่ NATO เพื่อที่จะเข้ามาแทรกแซงรัสเซีย แต่สิ่งที่ MS ไม่รู้ว่า การที่เอาอกเอาใจอเมริกาถึงขั้นส่งทหารไปช่วยรบในอิรักนั้น……เสียเปล่า…… เรื่องที่ อเมริกาหรือนาโต้จะเข้ามาช่วยทำสงครามกับรัสเซียเพื่อจอร์เจียนั้น……เป็นความฝันล้วนๆ ในช่วงพิธีเปิดงานใน “ Bird Nest” สเตเดี้ยม……บุชและล่ามได้ขอเลื่อนตัวมานั่งใกล้ๆกับปูติน ทักทายกับตามปรกติ บุชเอียงหน้ามากระซิบว่า “ผมได้ข่าวมาว่า MS เป็นคนเลือดร้อน คราวนี้ถ้าจะเอาจริง” “เหรอ…งั้นก็เหมือนผมเลย เลือดร้อนเหมือนกัน ร้อนระเบิดเลย” “ใครบอก……นายเป็นคน “เลือดเย็น” ต่างหาก” บุชประชด…… วันรุ่งขึ้น ปูตินบินกลับรัสเซีย แต่ไม่ใช่มอสโคว์ เขาไปที่ North Ossetia ที่กองทัพตั้งศูนย์บัญชาการอยู่ และคราวนี้คือการตัดสินใจขั้นเด็ดขาด คือ ยึดคืนดินแดนในส่วนนี้อย่างเด็ดขาด ทางจอร์เจียที่หวังว่า นาโต้และอเมริกาจะมาช่วย เพราะเคยได้ให้ความหวังไว้ถึงขั้นมาช่วยฝึกให้ ……ไม่เห็นมา..!! เลยต้องร้องขอไป.…… สิ่งที่อเมริกาทำได้ คือ……จัดเที่ยวบินส่งทหารจอร์เจียสองพันคนที่ไปช่วยในอิรักกลับมา……และเพิ่มอาวุธแถมมาให้อีกนิดหน่อย และให้เที่ยวบินนั้น……รับทหารอเมริกันที่มาช่วยฝึกที่ตกค้างอยู่กลับไป.……โดยอ้างว่า……ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในความขัดแย้ง กองทัพรัสเซียตีหนักไปถึงยังเมืองหลวง Tbilisi ที่ในที่สุด MD ต้องยอมขอเจรจาสงบศึก… ผลคือ จอร์เจียต้องรับรองเอกราชของสองเขต South Ossetia และ Abkhazia และต้องเอาโทษกับประธานาธิบดี MS โดยประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซาร์โกซี่มาเป็นตัวกลางเจรจา ในขณะที่คน “เลือดเย็น” กำลังกัดกราม ว่า…… “มันจะต้องถูกแขวนคอสถานเดียว” ซาร์โกซี่รีบค้าน… “อย่าถึงขึ้นเอาโทษกับ MS เลย เพราะเขาได้รับเลือกตั้งมา ประชาชนชาวโลกจะคิดอย่างไร? ปูตินย้อนทันทีว่า…… “ก็แล้วไง……อเมริกายังแขวนคอซัดดัม ฮุสเซนได้เลยนี่…!!!” แต่ทางฝรั่งเศสได้มีลิ้นเจรจาทางการทูต ได้สยบอารมณ์ของปูตินว่า…… “แล้วนายอยากจะให้ชื่อมีจดจำในประวัติศาสตร์แบบบุชพ่อ บุชลูกหรือ..?!! สรุปว่า ดินแดนทั้งสองส่วนนี้ เป็นเอกราชจากจอร์เจีย มีประธานาธิบดีของตัวเอง (แต่ในความสนับสนุนของรัสเซีย) รัสเซียถอนทหารออกจากพื้นที่…… ทั้งหมดใช้เวลารบเพียง ห้าวัน……(รวมเจรจาด้วย 12 วัน คือ 1-12 สิงหาคม 2008) ~~เรื่องราวของจอร์เจีย คือ หนังที่ฉายซ้ำกับยูเครนในตอนนี้ และถ้าอเมริกาได้สร้างตัวอย่างว่าช่วยเหลือจริงจังกับจอร์เจียถึงขึ้นทำสงครามกับรัสเซีย……หลายคนเชื่อว่า ปูตินคงต้องคิดหนักในการยึดไครเมีย…… ในช่วงปลายปีนั้น ทางอเมริกาได้มีประธานาธิบดีคนใหม่ คือ Barack Obama อันเป็นสิ้นสุดของบุช ซึ่งทางเมดเวเดฟ……ได้ออกแถลงการณ์อย่างหนักแน่นว่า สงครามในจอร์เจียคือผลพวงของการแทรกแซงของอเมริกาที่พยายามจะเข้ามาตั้งฐานทัพในพื้นที่รอบรัสเซีย และ มันเป็นการผลักดันที่รัสเซียจะต้องตอบโต้ด้วยการสร้างฐานนิวเคลียร์ที่ Kaliningrad หลังจากสงครามจอร์เจีย……เศรษฐกิจของรัสเซียบูมขึ้นมาในทุกอย่าง พลังงานราคาขึ้น ส่งออกทุกชนิดตั้งแต่โลหะ อาหารจนถึงเฟอร์นิเจอร์ จนรัสเซียได้จ่ายหนี้ได้หมด รวมทั้งมีเงินในคลังเป็นแสนๆล้าน และเงินคงคลังอีกจำนวนมหาศาล แต่นั่นคือ….แสงสว่างก่อนที่พายุมืดคล้ำกำลังจะเข้ามา…ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน….!!! Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว