• มาตรฐานบัสเก่าแก่กลับมามีชีวิตใหม่

    GPIB หรือที่รู้จักกันในชื่อ HP-IB ถูกสร้างขึ้นโดย Hewlett-Packard ในปี 1972 เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์วัดและเครื่องมือในห้องแล็บเข้ากับคอมพิวเตอร์ มันถูกใช้แพร่หลายในเครื่องมืออย่างออสซิลโลสโคป, มัลติมิเตอร์ และเครื่องวิเคราะห์ตรรกะ ต่อมาได้รับการรับรองเป็นมาตรฐาน IEEE 488 ในปี 1975 และถูกใช้งานในคอมพิวเตอร์ Commodore 64 และ Acorn ด้วย

    การเข้าสู่ Linux Kernel
    แม้ว่า GPIB จะถูกแทนที่ด้วยมาตรฐานใหม่อย่าง USB และ Ethernet แต่กลุ่มผู้สนใจฮาร์ดแวร์วินเทจยังคงพัฒนาไดรเวอร์ให้ใช้งานได้ ล่าสุดใน Linux Kernel 6.19 ทีมพัฒนาได้ย้าย GPIB ออกจาก staging tree และเข้าสู่ kernel หลักอย่างเป็นทางการ ทำให้การสนับสนุนอุปกรณ์เก่าเหล่านี้มีความเสถียรและใช้งานได้ง่ายขึ้น

    ความสำคัญต่อวงการวิจัยและการศึกษา
    การที่ GPIB ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการใน Linux หมายความว่าอุปกรณ์วัดเก่า ๆ ที่ยังคงใช้งานอยู่ในห้องแล็บทั่วโลกสามารถเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการสมัยใหม่ได้โดยตรง สิ่งนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องมือใหม่ และยังเป็นการอนุรักษ์เทคโนโลยีที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์

    ข้อจำกัดและความท้าทาย
    แม้จะมีการสนับสนุนแล้ว แต่ GPIB ก็ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่ล้าสมัยเมื่อเทียบกับมาตรฐานปัจจุบัน ความเร็วสูงสุดเพียง 8 MB/s และข้อจำกัดด้านระยะทาง (20 เมตร) ทำให้ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานอุปกรณ์วินเทจ มันยังคงเป็นเครื่องมือที่มีค่า

    สรุปสาระสำคัญ
    การกลับมาของ GPIB
    เปิดตัวครั้งแรกโดย HP ในปี 1972
    ได้รับรองเป็น IEEE 488 ในปี 1975

    การสนับสนุนใน Linux
    เข้าสู่ Linux Kernel 6.19 อย่างเป็นทางการ
    ช่วยให้ใช้งานอุปกรณ์วินเทจได้ง่ายขึ้น

    ความสำคัญ
    ลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องมือใหม่
    อนุรักษ์เทคโนโลยีเก่าแก่ในห้องแล็บ

    ข้อจำกัด
    ความเร็วสูงสุดเพียง 8 MB/s
    ระยะทางจำกัดเพียง 20 เมตร

    https://www.tomshardware.com/peripherals/cables-connectors/53-years-later-bus-standard-launched-by-hp-in-1972-gets-stable-linux-driver-general-purpose-interface-bus-has-blistering-8-mb-s-of-bandwidth
    🖥️ มาตรฐานบัสเก่าแก่กลับมามีชีวิตใหม่ GPIB หรือที่รู้จักกันในชื่อ HP-IB ถูกสร้างขึ้นโดย Hewlett-Packard ในปี 1972 เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์วัดและเครื่องมือในห้องแล็บเข้ากับคอมพิวเตอร์ มันถูกใช้แพร่หลายในเครื่องมืออย่างออสซิลโลสโคป, มัลติมิเตอร์ และเครื่องวิเคราะห์ตรรกะ ต่อมาได้รับการรับรองเป็นมาตรฐาน IEEE 488 ในปี 1975 และถูกใช้งานในคอมพิวเตอร์ Commodore 64 และ Acorn ด้วย ⚙️ การเข้าสู่ Linux Kernel แม้ว่า GPIB จะถูกแทนที่ด้วยมาตรฐานใหม่อย่าง USB และ Ethernet แต่กลุ่มผู้สนใจฮาร์ดแวร์วินเทจยังคงพัฒนาไดรเวอร์ให้ใช้งานได้ ล่าสุดใน Linux Kernel 6.19 ทีมพัฒนาได้ย้าย GPIB ออกจาก staging tree และเข้าสู่ kernel หลักอย่างเป็นทางการ ทำให้การสนับสนุนอุปกรณ์เก่าเหล่านี้มีความเสถียรและใช้งานได้ง่ายขึ้น 🔬 ความสำคัญต่อวงการวิจัยและการศึกษา การที่ GPIB ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการใน Linux หมายความว่าอุปกรณ์วัดเก่า ๆ ที่ยังคงใช้งานอยู่ในห้องแล็บทั่วโลกสามารถเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการสมัยใหม่ได้โดยตรง สิ่งนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องมือใหม่ และยังเป็นการอนุรักษ์เทคโนโลยีที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ⚠️ ข้อจำกัดและความท้าทาย แม้จะมีการสนับสนุนแล้ว แต่ GPIB ก็ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่ล้าสมัยเมื่อเทียบกับมาตรฐานปัจจุบัน ความเร็วสูงสุดเพียง 8 MB/s และข้อจำกัดด้านระยะทาง (20 เมตร) ทำให้ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานอุปกรณ์วินเทจ มันยังคงเป็นเครื่องมือที่มีค่า 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การกลับมาของ GPIB ➡️ เปิดตัวครั้งแรกโดย HP ในปี 1972 ➡️ ได้รับรองเป็น IEEE 488 ในปี 1975 ✅ การสนับสนุนใน Linux ➡️ เข้าสู่ Linux Kernel 6.19 อย่างเป็นทางการ ➡️ ช่วยให้ใช้งานอุปกรณ์วินเทจได้ง่ายขึ้น ✅ ความสำคัญ ➡️ ลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องมือใหม่ ➡️ อนุรักษ์เทคโนโลยีเก่าแก่ในห้องแล็บ ‼️ ข้อจำกัด ⛔ ความเร็วสูงสุดเพียง 8 MB/s ⛔ ระยะทางจำกัดเพียง 20 เมตร https://www.tomshardware.com/peripherals/cables-connectors/53-years-later-bus-standard-launched-by-hp-in-1972-gets-stable-linux-driver-general-purpose-interface-bus-has-blistering-8-mb-s-of-bandwidth
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    53 years later, bus standard launched by HP in 1972 gets stable Linux driver — General Purpose Interface Bus has blistering 8 MB/s of bandwidth
    GPIB was used on vintage lab instruments and similar hardware. It was later adopted by C64 and Acorn computer peripherals under the IEEE 488 banner.
    0 Comments 0 Shares 95 Views 0 Reviews
  • Microservices ไม่ใช่คำตอบเสมอไป

    บทความนี้จาก Twilio พูดถึงการเปลี่ยนแปลงแนวคิดจาก Microservices ไปสู่สถาปัตยกรรมที่เรียบง่ายขึ้น เน้นการลดความซับซ้อนและการจัดการที่ง่ายกว่า โดยชี้ให้เห็นว่าการใช้ microservices ไม่ได้เหมาะสมกับทุกกรณี และบางครั้งอาจสร้างภาระมากกว่าประโยชน์

    บทความอธิบายว่าแม้ microservices จะได้รับความนิยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่การนำไปใช้โดยไม่พิจารณาให้เหมาะสมกับบริบท อาจทำให้ระบบซับซ้อนเกินไป ทั้งในด้านการจัดการ การสื่อสารระหว่างบริการ และการบำรุงรักษา ทีมพัฒนาหลายแห่งพบว่าการแยกบริการออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ทำให้ต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากในการดูแล

    ปัญหาที่เกิดจาก Microservices
    หนึ่งในปัญหาหลักคือการ overhead ของการสื่อสารระหว่างบริการ ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง นอกจากนี้ยังมีความท้าทายในการทำ observability และ debugging เนื่องจากระบบถูกแยกออกเป็นหลายส่วน การ deploy และการจัดการเวอร์ชันก็ซับซ้อนขึ้น ทำให้ทีมต้องใช้เวลาและเครื่องมือมากขึ้นในการควบคุม

    ทางเลือกใหม่: Monolith ที่ปรับปรุงแล้ว
    บทความเสนอว่าในหลายกรณี การใช้ monolith ที่ออกแบบดี อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการและการ deploy ระบบ การรวมโค้ดไว้ในที่เดียวทำให้การตรวจสอบและการแก้ไขง่ายขึ้น อีกทั้งยังลดค่าใช้จ่ายในการดูแลโครงสร้างพื้นฐานที่ซับซ้อนเกินจำเป็น

    บทเรียนสำหรับนักพัฒนา
    สิ่งสำคัญคือการเลือกสถาปัตยกรรมให้เหมาะสมกับขนาดทีมและความต้องการของระบบ ไม่ใช่การตามกระแสเทคโนโลยี Microservices อาจเหมาะกับองค์กรใหญ่ที่มีทีมแยกชัดเจน แต่สำหรับทีมเล็กหรือโปรเจกต์ที่ไม่ซับซ้อน การใช้ monolith ที่ปรับปรุงแล้วอาจเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพมากกว่า

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Microservices ไม่ได้เหมาะกับทุกระบบ
    อาจสร้างความซับซ้อนในการจัดการและบำรุงรักษา
    มี overhead ในการสื่อสารระหว่างบริการ

    ปัญหาที่พบจากการใช้ Microservices
    Observability และ debugging ยากขึ้น
    การ deploy และจัดการเวอร์ชันซับซ้อน

    ทางเลือกใหม่
    Monolith ที่ออกแบบดีสามารถลดความซับซ้อน
    ง่ายต่อการตรวจสอบและแก้ไข

    คำเตือนสำหรับนักพัฒนา
    อย่าเลือกสถาปัตยกรรมเพียงเพราะเป็นกระแส
    หากทีมเล็กหรือระบบไม่ซับซ้อน Microservices อาจเป็นภาระมากกว่าประโยชน์

    https://www.twilio.com/en-us/blog/developers/best-practices/goodbye-microservices
    🏗️ Microservices ไม่ใช่คำตอบเสมอไป บทความนี้จาก Twilio พูดถึงการเปลี่ยนแปลงแนวคิดจาก Microservices ไปสู่สถาปัตยกรรมที่เรียบง่ายขึ้น เน้นการลดความซับซ้อนและการจัดการที่ง่ายกว่า โดยชี้ให้เห็นว่าการใช้ microservices ไม่ได้เหมาะสมกับทุกกรณี และบางครั้งอาจสร้างภาระมากกว่าประโยชน์ บทความอธิบายว่าแม้ microservices จะได้รับความนิยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่การนำไปใช้โดยไม่พิจารณาให้เหมาะสมกับบริบท อาจทำให้ระบบซับซ้อนเกินไป ทั้งในด้านการจัดการ การสื่อสารระหว่างบริการ และการบำรุงรักษา ทีมพัฒนาหลายแห่งพบว่าการแยกบริการออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ทำให้ต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากในการดูแล ⚙️ ปัญหาที่เกิดจาก Microservices หนึ่งในปัญหาหลักคือการ overhead ของการสื่อสารระหว่างบริการ ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง นอกจากนี้ยังมีความท้าทายในการทำ observability และ debugging เนื่องจากระบบถูกแยกออกเป็นหลายส่วน การ deploy และการจัดการเวอร์ชันก็ซับซ้อนขึ้น ทำให้ทีมต้องใช้เวลาและเครื่องมือมากขึ้นในการควบคุม 🌐 ทางเลือกใหม่: Monolith ที่ปรับปรุงแล้ว บทความเสนอว่าในหลายกรณี การใช้ monolith ที่ออกแบบดี อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการและการ deploy ระบบ การรวมโค้ดไว้ในที่เดียวทำให้การตรวจสอบและการแก้ไขง่ายขึ้น อีกทั้งยังลดค่าใช้จ่ายในการดูแลโครงสร้างพื้นฐานที่ซับซ้อนเกินจำเป็น 🔮 บทเรียนสำหรับนักพัฒนา สิ่งสำคัญคือการเลือกสถาปัตยกรรมให้เหมาะสมกับขนาดทีมและความต้องการของระบบ ไม่ใช่การตามกระแสเทคโนโลยี Microservices อาจเหมาะกับองค์กรใหญ่ที่มีทีมแยกชัดเจน แต่สำหรับทีมเล็กหรือโปรเจกต์ที่ไม่ซับซ้อน การใช้ monolith ที่ปรับปรุงแล้วอาจเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพมากกว่า 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Microservices ไม่ได้เหมาะกับทุกระบบ ➡️ อาจสร้างความซับซ้อนในการจัดการและบำรุงรักษา ➡️ มี overhead ในการสื่อสารระหว่างบริการ ✅ ปัญหาที่พบจากการใช้ Microservices ➡️ Observability และ debugging ยากขึ้น ➡️ การ deploy และจัดการเวอร์ชันซับซ้อน ✅ ทางเลือกใหม่ ➡️ Monolith ที่ออกแบบดีสามารถลดความซับซ้อน ➡️ ง่ายต่อการตรวจสอบและแก้ไข ‼️ คำเตือนสำหรับนักพัฒนา ⛔ อย่าเลือกสถาปัตยกรรมเพียงเพราะเป็นกระแส ⛔ หากทีมเล็กหรือระบบไม่ซับซ้อน Microservices อาจเป็นภาระมากกว่าประโยชน์ https://www.twilio.com/en-us/blog/developers/best-practices/goodbye-microservices
    WWW.TWILIO.COM
    Goodbye Microservices
    Discover Twilio’s shift to a single powerful service! Learn cloud communication trends, customer success stories, and how to build scalable apps. Join now!
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251213 #securityonline

    Core Banking System Flaw: ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Fineract
    เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ความปลอดภัยในระบบธนาคารดิจิทัล Apache Fineract ที่ใช้กันทั่วโลก โดยมีช่องโหว่หลักคือ IDOR (Insecure Direct Object Reference) ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเปลี่ยนพารามิเตอร์ เช่น user ID หรือ account number เพื่อเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าคนอื่นได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ นอกจากนี้ยังพบปัญหานโยบายรหัสผ่านที่อ่อนแอ และการเก็บ server key ที่ไม่ถูกป้องกันอย่างเหมาะสม ทีม Apache ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว พร้อมแนะนำให้ผู้ใช้อัปเกรดเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
    https://securityonline.info/core-banking-system-flaw-apache-fineract-idor-risks-authorization-bypass-customer-data-access

    React Patches Two New Flaws: ช่องโหว่ใหม่ใน React Server Components
    หลังจากที่ React เพิ่งแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงไปไม่นาน นักวิจัยก็พบช่องโหว่ใหม่อีกสองรายการ ช่องโหว่แรกคือการโจมตีแบบ DoS ที่สามารถทำให้เซิร์ฟเวอร์หยุดทำงานได้ทันทีด้วยการส่ง request ที่ออกแบบมาเฉพาะ ส่วนอีกช่องโหว่หนึ่งคือการเปิดเผย source code ของ server function ภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง แม้จะไม่ถึงขั้นยึดระบบได้ แต่ก็ถือว่าเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลภายใน ทีม React ได้ออกเวอร์ชันแก้ไขแล้วและแนะนำให้อัปเดตทันที
    https://securityonline.info/react-patches-two-new-flaws-risking-server-crashing-dos-and-source-code-disclosure

    Farewell, Tabs: Google เปิดตัวเบราว์เซอร์ AI ชื่อ Disco
    Google Labs กำลังทดลองเบราว์เซอร์ใหม่ชื่อ Disco ที่ใช้ AI มาช่วยจัดการแท็บและสร้าง web apps แบบโต้ตอบได้ทันที จุดเด่นคือระบบ GenTab ที่สามารถเปลี่ยนข้อมูลจากเว็บให้กลายเป็น Progressive Web Apps เช่น การสร้าง itinerary ที่ผู้ใช้สามารถใช้งานได้เหมือนแอปจริงๆ เบราว์เซอร์นี้ยังอยู่ในช่วงทดสอบบน macOS และเปิดให้ลงชื่อเข้าร่วมใน waitlist เท่านั้น ถือเป็นการทดลองที่อาจเปลี่ยนวิธีการใช้งานเว็บในอนาคต
    https://securityonline.info/farewell-tabs-googles-experimental-disco-browser-generates-web-apps-with-ai

    YouTube TV Plans: สตรีมมิ่งกำลังกลับไปเป็นเคเบิลอีกครั้ง
    YouTube TV ประกาศว่าจะปรับรูปแบบการสมัครสมาชิกใหม่ในปี 2026 โดยเปลี่ยนจากแพ็กเกจรวมทั้งหมดเป็นการเลือก bundle ตามความสนใจ เช่น Sports, News หรือ Family & Entertainment ผู้ใช้สามารถเลือกเฉพาะหมวดที่ต้องการได้ ซึ่งอาจช่วยลดค่าใช้จ่ายสำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายเพื่อคอนเทนต์ที่ไม่ดู อย่างไรก็ตาม หลายคนมองว่านี่คือการย้อนกลับไปสู่โมเดลเคเบิลทีวีในอดีตที่เคยถูกวิจารณ์ว่าไม่ยืดหยุ่น
    https://securityonline.info/youtube-tvs-new-subscription-bundles-is-streaming-becoming-cable-all-over-again

    The “USB-C of AI”: Google เปิดตัว Managed Servers สำหรับ MCP Protocol
    Google ประกาศสนับสนุนเต็มรูปแบบต่อ MCP (Model Context Protocol) ที่ถูกเรียกว่า “USB-C ของ AI” เพราะเป็นมาตรฐานกลางที่ทำให้ AI เชื่อมต่อกับบริการต่างๆ ได้ง่ายขึ้น โดย Google เปิดตัว managed servers ที่รองรับ MCP ทำให้ AI agents สามารถใช้งาน Google Maps, BigQuery และจัดการโครงสร้างพื้นฐานบน Cloud ได้โดยตรงโดยไม่ต้องสร้าง integration เอง นี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ AI สามารถทำงานเชิงปฏิบัติได้จริงและปลอดภัยมากขึ้น
    https://securityonline.info/the-usb-c-of-ai-is-here-google-launches-managed-servers-for-mcp-protocol

    The AI Super-App: Photoshop & Adobe Express รวมพลังกับ ChatGPT
    Adobe กำลังยกระดับการใช้งาน AI โดยการรวม Photoshop และ Adobe Express เข้ากับ ChatGPT ทำให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานด้านการออกแบบและแก้ไขภาพได้ด้วยข้อความ เช่น การปรับแต่งรูปภาพหรือสร้างงานกราฟิกใหม่โดยไม่ต้องเปิดโปรแกรมแยกต่างหาก นี่คือการก้าวสู่ “AI Super-App” ที่รวมเครื่องมือสร้างสรรค์เข้ากับระบบสนทนาอัจฉริยะ เพื่อให้การทำงานด้านครีเอทีฟเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วขึ้น
    https://securityonline.info/the-ai-super-app-rises-photoshop-adobe-express-integrate-into-chatgpt

    The IP Wall Falls: Disney ลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI
    Disney สร้างความฮือฮาด้วยการลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI เพื่อเปิดสิทธิ์ใช้ตัวละครกว่า 200 ตัวในระบบ AI นั่นหมายความว่า AI จะสามารถเข้าถึงและใช้ตัวละครจากจักรวาล Disney ได้อย่างถูกต้องตามลิขสิทธิ์ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกบันเทิงและเทคโนโลยี ที่อาจนำไปสู่การสร้างสรรค์คอนเทนต์ใหม่ๆ ที่ผสมผสานระหว่าง AI และตัวละครที่คนทั่วโลกคุ้นเคย
    https://securityonline.info/the-ip-wall-falls-disney-invests-1b-in-openai-to-license-200-characters-for-ai

    OpenAI Fights Back: เปิดตัว GPT-5.2 ท้าชน Gemini 3 Pro
    OpenAI เปิดตัว GPT-5.2 ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ Gemini 3 Pro ของ Google จุดเด่นคือการปรับปรุงความสามารถในการ reasoning และการทำงานร่วมกับระบบภายนอกได้ดียิ่งขึ้น GPT-5.2 ถูกมองว่าเป็นการตอบโต้เชิงกลยุทธ์ของ OpenAI เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโมเดลภาษา AI ที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด
    https://securityonline.info/openai-fights-back-gpt-5-2-unveiled-to-rival-googles-gemini-3-pro

    Critical React2Shell Vulnerability: ช่องโหว่ใหม่โจมตีบริการ RSC ทั่วโลก
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ร้ายแรงชื่อ React2Shell (CVE-2025-55182) ที่กำลังถูกโจมตีเพิ่มขึ้นทั่วโลก ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อบริการที่ใช้ React Server Components (RSC) โดยผู้โจมตีสามารถใช้ประโยชน์จากมันเพื่อเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้หลายองค์กรต้องเร่งอัปเดตและติดตั้งแพตช์เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายรุนแรง
    https://securityonline.info/critical-react2shell-vulnerability-cve-2025-55182-analysis-surge-in-attacks-targeting-rsc-enabled-services-worldwide
    📌🔐🟣 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟣🔐📌 #รวมข่าวIT #20251213 #securityonline 🛡️ Core Banking System Flaw: ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Fineract เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ความปลอดภัยในระบบธนาคารดิจิทัล Apache Fineract ที่ใช้กันทั่วโลก โดยมีช่องโหว่หลักคือ IDOR (Insecure Direct Object Reference) ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเปลี่ยนพารามิเตอร์ เช่น user ID หรือ account number เพื่อเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าคนอื่นได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ นอกจากนี้ยังพบปัญหานโยบายรหัสผ่านที่อ่อนแอ และการเก็บ server key ที่ไม่ถูกป้องกันอย่างเหมาะสม ทีม Apache ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว พร้อมแนะนำให้ผู้ใช้อัปเกรดเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อความปลอดภัยสูงสุด 🔗 https://securityonline.info/core-banking-system-flaw-apache-fineract-idor-risks-authorization-bypass-customer-data-access ⚠️ React Patches Two New Flaws: ช่องโหว่ใหม่ใน React Server Components หลังจากที่ React เพิ่งแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงไปไม่นาน นักวิจัยก็พบช่องโหว่ใหม่อีกสองรายการ ช่องโหว่แรกคือการโจมตีแบบ DoS ที่สามารถทำให้เซิร์ฟเวอร์หยุดทำงานได้ทันทีด้วยการส่ง request ที่ออกแบบมาเฉพาะ ส่วนอีกช่องโหว่หนึ่งคือการเปิดเผย source code ของ server function ภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง แม้จะไม่ถึงขั้นยึดระบบได้ แต่ก็ถือว่าเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลภายใน ทีม React ได้ออกเวอร์ชันแก้ไขแล้วและแนะนำให้อัปเดตทันที 🔗 https://securityonline.info/react-patches-two-new-flaws-risking-server-crashing-dos-and-source-code-disclosure 🌐 Farewell, Tabs: Google เปิดตัวเบราว์เซอร์ AI ชื่อ Disco Google Labs กำลังทดลองเบราว์เซอร์ใหม่ชื่อ Disco ที่ใช้ AI มาช่วยจัดการแท็บและสร้าง web apps แบบโต้ตอบได้ทันที จุดเด่นคือระบบ GenTab ที่สามารถเปลี่ยนข้อมูลจากเว็บให้กลายเป็น Progressive Web Apps เช่น การสร้าง itinerary ที่ผู้ใช้สามารถใช้งานได้เหมือนแอปจริงๆ เบราว์เซอร์นี้ยังอยู่ในช่วงทดสอบบน macOS และเปิดให้ลงชื่อเข้าร่วมใน waitlist เท่านั้น ถือเป็นการทดลองที่อาจเปลี่ยนวิธีการใช้งานเว็บในอนาคต 🔗 https://securityonline.info/farewell-tabs-googles-experimental-disco-browser-generates-web-apps-with-ai 📺 YouTube TV Plans: สตรีมมิ่งกำลังกลับไปเป็นเคเบิลอีกครั้ง YouTube TV ประกาศว่าจะปรับรูปแบบการสมัครสมาชิกใหม่ในปี 2026 โดยเปลี่ยนจากแพ็กเกจรวมทั้งหมดเป็นการเลือก bundle ตามความสนใจ เช่น Sports, News หรือ Family & Entertainment ผู้ใช้สามารถเลือกเฉพาะหมวดที่ต้องการได้ ซึ่งอาจช่วยลดค่าใช้จ่ายสำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายเพื่อคอนเทนต์ที่ไม่ดู อย่างไรก็ตาม หลายคนมองว่านี่คือการย้อนกลับไปสู่โมเดลเคเบิลทีวีในอดีตที่เคยถูกวิจารณ์ว่าไม่ยืดหยุ่น 🔗 https://securityonline.info/youtube-tvs-new-subscription-bundles-is-streaming-becoming-cable-all-over-again 🔌 The “USB-C of AI”: Google เปิดตัว Managed Servers สำหรับ MCP Protocol Google ประกาศสนับสนุนเต็มรูปแบบต่อ MCP (Model Context Protocol) ที่ถูกเรียกว่า “USB-C ของ AI” เพราะเป็นมาตรฐานกลางที่ทำให้ AI เชื่อมต่อกับบริการต่างๆ ได้ง่ายขึ้น โดย Google เปิดตัว managed servers ที่รองรับ MCP ทำให้ AI agents สามารถใช้งาน Google Maps, BigQuery และจัดการโครงสร้างพื้นฐานบน Cloud ได้โดยตรงโดยไม่ต้องสร้าง integration เอง นี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ AI สามารถทำงานเชิงปฏิบัติได้จริงและปลอดภัยมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/the-usb-c-of-ai-is-here-google-launches-managed-servers-for-mcp-protocol 🎨 The AI Super-App: Photoshop & Adobe Express รวมพลังกับ ChatGPT Adobe กำลังยกระดับการใช้งาน AI โดยการรวม Photoshop และ Adobe Express เข้ากับ ChatGPT ทำให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานด้านการออกแบบและแก้ไขภาพได้ด้วยข้อความ เช่น การปรับแต่งรูปภาพหรือสร้างงานกราฟิกใหม่โดยไม่ต้องเปิดโปรแกรมแยกต่างหาก นี่คือการก้าวสู่ “AI Super-App” ที่รวมเครื่องมือสร้างสรรค์เข้ากับระบบสนทนาอัจฉริยะ เพื่อให้การทำงานด้านครีเอทีฟเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วขึ้น 🔗 https://securityonline.info/the-ai-super-app-rises-photoshop-adobe-express-integrate-into-chatgpt 🏰 The IP Wall Falls: Disney ลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI Disney สร้างความฮือฮาด้วยการลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI เพื่อเปิดสิทธิ์ใช้ตัวละครกว่า 200 ตัวในระบบ AI นั่นหมายความว่า AI จะสามารถเข้าถึงและใช้ตัวละครจากจักรวาล Disney ได้อย่างถูกต้องตามลิขสิทธิ์ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกบันเทิงและเทคโนโลยี ที่อาจนำไปสู่การสร้างสรรค์คอนเทนต์ใหม่ๆ ที่ผสมผสานระหว่าง AI และตัวละครที่คนทั่วโลกคุ้นเคย 🔗 https://securityonline.info/the-ip-wall-falls-disney-invests-1b-in-openai-to-license-200-characters-for-ai 🤖 OpenAI Fights Back: เปิดตัว GPT-5.2 ท้าชน Gemini 3 Pro OpenAI เปิดตัว GPT-5.2 ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ Gemini 3 Pro ของ Google จุดเด่นคือการปรับปรุงความสามารถในการ reasoning และการทำงานร่วมกับระบบภายนอกได้ดียิ่งขึ้น GPT-5.2 ถูกมองว่าเป็นการตอบโต้เชิงกลยุทธ์ของ OpenAI เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโมเดลภาษา AI ที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด 🔗 https://securityonline.info/openai-fights-back-gpt-5-2-unveiled-to-rival-googles-gemini-3-pro 🚨 Critical React2Shell Vulnerability: ช่องโหว่ใหม่โจมตีบริการ RSC ทั่วโลก นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ร้ายแรงชื่อ React2Shell (CVE-2025-55182) ที่กำลังถูกโจมตีเพิ่มขึ้นทั่วโลก ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อบริการที่ใช้ React Server Components (RSC) โดยผู้โจมตีสามารถใช้ประโยชน์จากมันเพื่อเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้หลายองค์กรต้องเร่งอัปเดตและติดตั้งแพตช์เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายรุนแรง 🔗 https://securityonline.info/critical-react2shell-vulnerability-cve-2025-55182-analysis-surge-in-attacks-targeting-rsc-enabled-services-worldwide
    0 Comments 0 Shares 290 Views 0 Reviews
  • ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จิ๋วแต่ทรงพลัง

    Tiiny AI เปิดตัวเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กมากจนสามารถถือได้ด้วยมือเดียว แต่ภายในบรรจุฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังพอจะรองรับโมเดล AI ขนาดมหึมา จุดเด่นคือการออกแบบที่เน้น local-first computing ทำให้สามารถประมวลผลโมเดลได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ภายนอก

    สเปกและความสามารถ
    เครื่องนี้ใช้สถาปัตยกรรมที่รองรับการประมวลผลโมเดล AI ขนาด 120B parameters พร้อมระบบจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพสูง แม้จะมีขนาดเล็ก แต่สามารถทำงานได้ใกล้เคียงกับเซิร์ฟเวอร์ AI ระดับศูนย์ข้อมูล โดยยังคงรักษาความเป็นมิตรต่อผู้ใช้ทั่วไป

    ความหมายต่อวงการ AI
    การมาของ Tiiny AI Supercomputer สะท้อนถึงแนวโน้มการทำให้ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ไม่จำกัดอยู่แค่บริษัทใหญ่หรือศูนย์ข้อมูลขนาดมหึมา แต่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทั่วไป, นักวิจัยอิสระ และสตาร์ทอัพสามารถทดลองโมเดลขนาดใหญ่ได้ด้วยเครื่องที่ตั้งบนโต๊ะทำงาน

    ผลกระทบในอนาคต
    หากเทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาและผลิตในเชิงพาณิชย์อย่างจริงจัง อาจเปลี่ยนโฉมการใช้งาน AI ไปอย่างสิ้นเชิง เพราะจะทำให้การฝึกและรันโมเดลขนาดใหญ่ไม่ต้องพึ่งพา cloud computing เพียงอย่างเดียว แต่สามารถทำได้ในระดับ local ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความเป็นส่วนตัว

    สรุปเป็นหัวข้อ
    Tiiny AI Supercomputer
    ขนาดเล็กที่สุดในโลก
    รองรับโมเดล AI ขนาด 120B parameters

    จุดเด่นด้านเทคโนโลยี
    ออกแบบเพื่อ local-first computing
    ประสิทธิภาพใกล้เคียงเซิร์ฟเวอร์ศูนย์ข้อมูล

    ความหมายต่อวงการ AI
    ทำให้ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
    เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทั่วไปและสตาร์ทอัพ

    ผลกระทบในอนาคต
    ลดการพึ่งพา cloud computing
    เพิ่มความเป็นส่วนตัวและลดค่าใช้จ่าย

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ยังไม่ชัดเจนเรื่องราคาและการวางจำหน่ายจริง
    อาจมีข้อจำกัดด้านการระบายความร้อนและการขยายระบบ
    ต้องพิสูจน์ความเสถียรในการใช้งานระยะยาว

    https://wccftech.com/meet-the-worlds-smallest-supercomputer-a-machine-bold-enough-to-run-120b-ai-models/
    🖥️ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จิ๋วแต่ทรงพลัง Tiiny AI เปิดตัวเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กมากจนสามารถถือได้ด้วยมือเดียว แต่ภายในบรรจุฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังพอจะรองรับโมเดล AI ขนาดมหึมา จุดเด่นคือการออกแบบที่เน้น local-first computing ทำให้สามารถประมวลผลโมเดลได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ภายนอก ⚡ สเปกและความสามารถ เครื่องนี้ใช้สถาปัตยกรรมที่รองรับการประมวลผลโมเดล AI ขนาด 120B parameters พร้อมระบบจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพสูง แม้จะมีขนาดเล็ก แต่สามารถทำงานได้ใกล้เคียงกับเซิร์ฟเวอร์ AI ระดับศูนย์ข้อมูล โดยยังคงรักษาความเป็นมิตรต่อผู้ใช้ทั่วไป 🌍 ความหมายต่อวงการ AI การมาของ Tiiny AI Supercomputer สะท้อนถึงแนวโน้มการทำให้ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ไม่จำกัดอยู่แค่บริษัทใหญ่หรือศูนย์ข้อมูลขนาดมหึมา แต่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทั่วไป, นักวิจัยอิสระ และสตาร์ทอัพสามารถทดลองโมเดลขนาดใหญ่ได้ด้วยเครื่องที่ตั้งบนโต๊ะทำงาน 🔍 ผลกระทบในอนาคต หากเทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาและผลิตในเชิงพาณิชย์อย่างจริงจัง อาจเปลี่ยนโฉมการใช้งาน AI ไปอย่างสิ้นเชิง เพราะจะทำให้การฝึกและรันโมเดลขนาดใหญ่ไม่ต้องพึ่งพา cloud computing เพียงอย่างเดียว แต่สามารถทำได้ในระดับ local ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความเป็นส่วนตัว 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ Tiiny AI Supercomputer ➡️ ขนาดเล็กที่สุดในโลก ➡️ รองรับโมเดล AI ขนาด 120B parameters ✅ จุดเด่นด้านเทคโนโลยี ➡️ ออกแบบเพื่อ local-first computing ➡️ ประสิทธิภาพใกล้เคียงเซิร์ฟเวอร์ศูนย์ข้อมูล ✅ ความหมายต่อวงการ AI ➡️ ทำให้ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ➡️ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทั่วไปและสตาร์ทอัพ ✅ ผลกระทบในอนาคต ➡️ ลดการพึ่งพา cloud computing ➡️ เพิ่มความเป็นส่วนตัวและลดค่าใช้จ่าย ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ยังไม่ชัดเจนเรื่องราคาและการวางจำหน่ายจริง ⛔ อาจมีข้อจำกัดด้านการระบายความร้อนและการขยายระบบ ⛔ ต้องพิสูจน์ความเสถียรในการใช้งานระยะยาว https://wccftech.com/meet-the-worlds-smallest-supercomputer-a-machine-bold-enough-to-run-120b-ai-models/
    WCCFTECH.COM
    Meet the World’s Smallest ‘Supercomputer’ from Tiiny AI; A Machine Bold Enough to Run 120B AI Models Right in the Palm of Your Hand
    Compact AI devices have become mainstream, but Tiiny AI has broken the barriers by introducing the world's smallest AI supercomputer.
    0 Comments 0 Shares 125 Views 0 Reviews
  • รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์เตือนความเสี่ยงการใช้ Cloud Storage

    รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ผ่าน Conference of Swiss Data Protection Officers (Privatim) ได้ออกมาประกาศเตือนเกี่ยวกับการใช้บริการ Cloud Storage โดยเฉพาะกับข้อมูลที่มีความอ่อนไหวของภาครัฐ หลังจากพบว่ามีความเสี่ยงด้าน Data Sovereignty หรือการควบคุมข้อมูลที่อาจสูญเสียไปเมื่อฝากไว้กับผู้ให้บริการคลาวด์ต่างชาติ

    หนึ่งในเหตุผลสำคัญคือการขาดความโปร่งใสของผู้ให้บริการคลาวด์, การไม่มี end-to-end encryption, และความเสี่ยงจากกฎหมายต่างประเทศ เช่น U.S. Cloud Act ที่บังคับให้ผู้ให้บริการในสหรัฐฯ ต้องเปิดเผยข้อมูลเมื่อรัฐบาลร้องขอ ซึ่งทำให้ข้อมูลของหน่วยงานรัฐสวิตเซอร์แลนด์อาจถูกเข้าถึงได้โดยไม่ได้รับอนุญาต

    แม้การใช้คลาวด์จะมีข้อดี เช่น ลดค่าใช้จ่าย, ขยายระบบได้ง่าย, และเข้าถึงเครื่องมือ SaaS ได้สะดวก แต่ Privatim แนะนำว่ารัฐบาลควรใช้คลาวด์เฉพาะกรณีที่สามารถเข้ารหัสข้อมูลเอง และมั่นใจได้ว่าผู้ให้บริการไม่มีสิทธิ์เข้าถึงกุญแจเข้ารหัสนั้น

    สำหรับผู้ใช้ทั่วไป แม้จะไม่ได้ถูกห้ามใช้บริการคลาวด์ แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและการควบคุมข้อมูล ทำให้แนวโน้มการ self-hosting หรือการตั้งเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวเพื่อเก็บข้อมูลและจัดการแอปพลิเคชันต่าง ๆ เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการลดการพึ่งพาบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การประกาศจาก Privatim
    ห้ามใช้ Cloud สำหรับข้อมูลอ่อนไหวของรัฐบาล

    เหตุผลด้านความปลอดภัย
    ขาดความโปร่งใส, ไม่มี end-to-end encryption, เสี่ยงจาก U.S. Cloud Act

    แนวทางแก้ไข
    ใช้คลาวด์ได้หากเข้ารหัสเองและควบคุมกุญแจเข้ารหัส

    แนวโน้มผู้ใช้ทั่วไป
    Self-hosting เริ่มได้รับความนิยมเพื่อควบคุมข้อมูลเอง

    ความเสี่ยงจากการฝากข้อมูลกับคลาวด์ต่างชาติ
    อาจถูกเข้าถึงโดยรัฐบาลหรือบุคคลที่สาม

    การไม่เข้ารหัสข้อมูลอย่างถูกต้อง
    เพิ่มโอกาสที่ข้อมูลรั่วไหลหรือถูกโจมตี

    https://www.slashgear.com/2045674/swiss-government-warning-cloud-storage-security-risk/
    🇨🇭 รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์เตือนความเสี่ยงการใช้ Cloud Storage รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ผ่าน Conference of Swiss Data Protection Officers (Privatim) ได้ออกมาประกาศเตือนเกี่ยวกับการใช้บริการ Cloud Storage โดยเฉพาะกับข้อมูลที่มีความอ่อนไหวของภาครัฐ หลังจากพบว่ามีความเสี่ยงด้าน Data Sovereignty หรือการควบคุมข้อมูลที่อาจสูญเสียไปเมื่อฝากไว้กับผู้ให้บริการคลาวด์ต่างชาติ หนึ่งในเหตุผลสำคัญคือการขาดความโปร่งใสของผู้ให้บริการคลาวด์, การไม่มี end-to-end encryption, และความเสี่ยงจากกฎหมายต่างประเทศ เช่น U.S. Cloud Act ที่บังคับให้ผู้ให้บริการในสหรัฐฯ ต้องเปิดเผยข้อมูลเมื่อรัฐบาลร้องขอ ซึ่งทำให้ข้อมูลของหน่วยงานรัฐสวิตเซอร์แลนด์อาจถูกเข้าถึงได้โดยไม่ได้รับอนุญาต แม้การใช้คลาวด์จะมีข้อดี เช่น ลดค่าใช้จ่าย, ขยายระบบได้ง่าย, และเข้าถึงเครื่องมือ SaaS ได้สะดวก แต่ Privatim แนะนำว่ารัฐบาลควรใช้คลาวด์เฉพาะกรณีที่สามารถเข้ารหัสข้อมูลเอง และมั่นใจได้ว่าผู้ให้บริการไม่มีสิทธิ์เข้าถึงกุญแจเข้ารหัสนั้น สำหรับผู้ใช้ทั่วไป แม้จะไม่ได้ถูกห้ามใช้บริการคลาวด์ แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและการควบคุมข้อมูล ทำให้แนวโน้มการ self-hosting หรือการตั้งเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวเพื่อเก็บข้อมูลและจัดการแอปพลิเคชันต่าง ๆ เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการลดการพึ่งพาบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การประกาศจาก Privatim ➡️ ห้ามใช้ Cloud สำหรับข้อมูลอ่อนไหวของรัฐบาล ✅ เหตุผลด้านความปลอดภัย ➡️ ขาดความโปร่งใส, ไม่มี end-to-end encryption, เสี่ยงจาก U.S. Cloud Act ✅ แนวทางแก้ไข ➡️ ใช้คลาวด์ได้หากเข้ารหัสเองและควบคุมกุญแจเข้ารหัส ✅ แนวโน้มผู้ใช้ทั่วไป ➡️ Self-hosting เริ่มได้รับความนิยมเพื่อควบคุมข้อมูลเอง ‼️ ความเสี่ยงจากการฝากข้อมูลกับคลาวด์ต่างชาติ ⛔ อาจถูกเข้าถึงโดยรัฐบาลหรือบุคคลที่สาม ‼️ การไม่เข้ารหัสข้อมูลอย่างถูกต้อง ⛔ เพิ่มโอกาสที่ข้อมูลรั่วไหลหรือถูกโจมตี https://www.slashgear.com/2045674/swiss-government-warning-cloud-storage-security-risk/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Swiss Government Sounds The Alarm Bell Over Cloud Storage Security Risks - SlashGear
    Swiss data protection officers warn against using US cloud services for sensitive government data. The new resolution cites security risks and the US CLOUD Act.
    0 Comments 0 Shares 88 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251205 #TechRadar

    บอทเน็ต Aisuru ทำสถิติใหม่โจมตี DDoS 29.7 Tbps
    เรื่องนี้เป็นการกลับมาอีกครั้งของบอทเน็ตชื่อ Aisuru ที่ใช้เครื่อง IoT กว่า 4 ล้านเครื่องในการสร้างการโจมตี DDoS ที่แรงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดย Cloudflare รายงานว่าเพียงไตรมาสเดียวก็ต้องรับมือกับการโจมตีมากกว่า 1,300 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งมีความรุนแรงระดับหลาย Tbps เหยื่อที่โดนล่าสุดมีทั้งบริษัทเกม Gcore และ Microsoft ที่เจอการโจมตีบนคลาวด์สูงถึง 15.72 Tbps จุดที่น่ากังวลคือบอทเน็ตนี้ถูกให้บริการเป็น “บริการเช่า” ใครก็สามารถใช้โจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญได้ง่ายๆ
    https://www.techradar.com/pro/security/this-ddos-group-just-smashed-the-previous-record-with-a-29-7-tbps-attack

    Samsung OLED รุ่นใหม่หลุด พร้อมทีวี “The Frame” ขนาดยักษ์ 98 นิ้ว
    มีข้อมูลหลุดจากฐานข้อมูลอะไหล่ของ Samsung ในยุโรป เผยว่าปี 2026 จะมีทีวี OLED รุ่นใหม่หลายรุ่น รวมถึง S99H ที่คาดว่าจะเหนือกว่ารุ่นเรือธง S95F ที่เพิ่งได้รางวัลทีวีแห่งปี และยังมีการเตรียมเปิดตัว “The Frame” ขนาด 98 นิ้ว ซึ่งใหญ่จนแทบจะเรียกว่า “The Mural” ได้เลย นอกจากนี้ยังมีรุ่น S82H และ S83H ที่ใช้แผง WOLED จาก LG Display เพื่อเจาะตลาดราคาย่อมเยา คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน CES 2026
    https://www.techradar.com/televisions/samsungs-next-gen-oled-tvs-leak-including-a-mysterious-new-elite-model

    Microsoft ปิดช่องโหว่ LNK ที่ถูกใช้โจมตีมานานหลายปี
    Microsoft ได้ออกแพตช์ในเดือนพฤศจิกายนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ในไฟล์ .LNK ที่ถูกใช้โจมตีมาตั้งแต่ปี 2017 ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถซ่อนคำสั่งอันตรายในไฟล์ชอร์ตคัต และเมื่อผู้ใช้เปิดดูไฟล์ก็จะไม่เห็นคำสั่งที่แท้จริง ทำให้เกิดการโจมตีแบบ Remote Code Execution ได้ ช่องโหว่นี้ถูกใช้โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐหลายประเทศ เช่น จีน อิหร่าน เกาหลีเหนือ และรัสเซีย หลังจากถูกเตือนหลายครั้ง Microsoft จึงตัดสินใจแก้ไขอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-quietly-patches-lnk-vulnerability-thats-been-weaponized-for-years

    เบราว์เซอร์ AI กำลังเปลี่ยนเกม แต่ความปลอดภัยยังตามไม่ทัน
    เบราว์เซอร์ยุคใหม่อย่าง Edge ที่มี Copilot หรือ Chrome ที่ใส่ Gemini กำลังทำให้การใช้งานสะดวกขึ้นมาก ทั้งการสรุปเนื้อหา แปลภาษา หรือค้นหาข้อมูล แต่ความสะดวกนี้ก็แฝงความเสี่ยง เพราะ AI อาจถูกหลอกด้วยข้อความหรือโค้ดที่ซ่อนอยู่ในหน้าเว็บ แล้วทำงานตามคำสั่งที่เป็นอันตราย เช่น ส่งข้อมูลเข้าสู่มือแฮกเกอร์โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว ปัญหาคือการนำ AI มาใช้ในเบราว์เซอร์เกิดขึ้นเร็วมาก จนมาตรการด้านความปลอดภัยยังไม่ทันตาม ทำให้ผู้เชี่ยวชี้เตือนว่าต้องระวังการโจมตีรูปแบบใหม่ที่แทบไม่มีร่องรอยให้ตรวจจับ
    https://www.techradar.com/pro/ai-browsers-are-rewriting-the-rules-is-your-security-keeping-pace

    บทเรียนจากการวิ่งมาราธอนสู่การทำงานด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้
    Stephanie Schneider เล่าประสบการณ์ว่า การวิ่งมาราธอน 26.2 ไมล์สอนให้เธอเข้าใจความอดทนและการจัดการพลังงาน ซึ่งเหมือนกับการทำงานในโลกไซเบอร์ที่เต็มไปด้วยแรงกดดันและความเหนื่อยล้า เธอเปรียบเทียบว่าเหมือนการเจอ “กำแพง” ตอนวิ่ง ที่ต้องใช้ใจสู้ต่อไป เช่นเดียวกับการทำงานที่ต้องเจอภัยคุกคามใหม่ๆ ทุกวัน การฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง การแบ่งเป้าหมายเป็นขั้นตอนเล็กๆ และการรักษาความสมดุลคือสิ่งที่ทำให้ทั้งนักวิ่งและนักไซเบอร์สามารถไปถึงเส้นชัยได้
    https://www.techradar.com/pro/im-a-marathoner-and-a-cybersecurity-leader-heres-what-26-2-miles-have-taught-me-about-work

    Microsoft ปฏิเสธข่าวลดเป้าหมายยอดขาย AI หลังลูกค้าต้านทาน
    มีรายงานว่าลูกค้าหลายรายลังเลที่จะลงทุนในเครื่องมือ AI ของ Microsoft เพราะราคาสูงและยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่ทาง Microsoft ออกมาปฏิเสธข่าวลือว่ามีการปรับลดเป้าหมายยอดขาย โดยยืนยันว่าความต้องการยังคงแข็งแรง เพียงแต่ลูกค้าบางกลุ่มต้องใช้เวลาในการปรับตัวและวางกลยุทธ์การใช้งานจริง เรื่องนี้สะท้อนว่าการนำ AI เข้ามาในองค์กรไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่ยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมและวิธีทำงานด้วย
    https://www.techradar.com/pro/microsoft-denies-reports-of-lower-ai-sales-targets-as-customers-resist-new-tools

    วิกฤติชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์หนักขึ้น RAM ผู้ผลิตใหญ่เลิกตลาดผู้บริโภค
    ตลาดคอมพิวเตอร์กำลังเจอปัญหาหนัก เมื่อผู้ผลิต RAM รายใหญ่ประกาศเลิกทำตลาดสำหรับผู้ใช้ทั่วไป หันไปเน้นตลาดองค์กรแทน ทำให้เกิดความกังวลว่าราคาชิ้นส่วนจะพุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าราคาซีพียูจะปรับขึ้นอีกด้วย สถานการณ์นี้ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการอัปเกรดหรือประกอบเครื่องใหม่อาจต้องเจอค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นอย่างมาก
    https://www.techradar.com/computing/memory/pc-component-crisis-just-got-worse-as-major-ram-maker-gives-up-on-consumers-and-cpu-price-hikes-are-rumored

    YouTube เตรียมบล็อกผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีในออสเตรเลีย
    ท่ามกลางการถกเถียงเรื่องการแบนโซเชียลมีเดียสำหรับเยาวชนในออสเตรเลีย YouTube ประกาศว่าจะบล็อกการใช้งานสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปี การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลกำลังพิจารณากฎหมายใหม่เพื่อจำกัดการเข้าถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ของเด็กและเยาวชน โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องสุขภาพจิตและความปลอดภัย แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าการบังคับใช้เข้มงวดเกินไปและอาจกระทบต่อเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูล
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/youtube-to-lock-out-under-16s-in-australia-as-controversial-social-media-ban-looms

    รีวิวเครื่องสแกนหนังสือ CZUR ET24 Pro
    เครื่องสแกนหนังสือรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการแปลงหนังสือเป็นไฟล์ดิจิทัล จุดเด่นคือสามารถสแกนได้เร็วและมีฟีเจอร์แก้ไขภาพอัตโนมัติ เช่น การปรับหน้าหนังสือที่โค้งให้ออกมาเรียบ รวมถึงการตรวจจับหน้าที่พลิกอัตโนมัติ เหมาะสำหรับนักวิจัย นักเรียน หรือผู้ที่ต้องการเก็บเอกสารจำนวนมากในรูปแบบดิจิทัล รีวิวชี้ว่าคุณภาพการสแกนคมชัดและใช้งานง่าย แต่ราคาก็ถือว่าสูงพอสมควร
    https://www.techradar.com/computing/czur-et24-pro-book-scanner-review

    ข้อมูลลูกค้า Freedom Mobile ถูกขโมยจากแพลตฟอร์มจัดการบัญชี
    มีการแฮกแพลตฟอร์มจัดการบัญชีของ Freedom Mobile ทำให้ข้อมูลลูกค้าถูกขโมยไป เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมาก เพราะข้อมูลที่รั่วไหลอาจรวมถึงรายละเอียดส่วนตัวและข้อมูลการติดต่อ ปัญหานี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมต้องเผชิญ และตอกย้ำว่าการป้องกันข้อมูลลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องลงทุนอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/security/customer-data-stolen-in-freedom-mobile-account-management-platform-hack

    ChatGPT อาจไม่ปลอดภัยเท่าเดิม หลังศาลสั่งให้ OpenAI ส่งมอบข้อมูลการสนทนา
    เรื่องนี้เริ่มจากการฟ้องร้องของ The New York Times ต่อ OpenAI โดยศาลสหรัฐฯ มีคำสั่งให้บริษัทต้องส่งมอบบันทึกการสนทนากว่า 20 ล้านรายการ เพื่อใช้ตรวจสอบการละเมิดลิขสิทธิ์ แม้ศาลยืนยันว่าจะมีการลบข้อมูลระบุตัวตนเพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัว แต่ OpenAI กลับมองว่าการกระทำนี้บั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้ใช้ เพราะถึงแม้ชื่อจะถูกลบออก แต่รูปแบบการสนทนาก็ยังสามารถบอกอะไรได้มากมาย นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ข้อมูลการแชทถูกบังคับให้เปิดเผย และอาจเป็นสัญญาณของการต่อสู้เรื่องความเป็นส่วนตัวในโลก AI ที่กำลังจะเข้มข้นขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/your-chatgpt-chats-could-be-less-private-than-you-thought-heres-what-a-new-openai-court-ruling-means-for-you

    รัสเซียบล็อก FaceTime และ Roblox เพิ่มเติมในมาตรการควบคุมอินเทอร์เน็ต
    รัฐบาลรัสเซียเดินหน้าจำกัดเสรีภาพดิจิทัลมากขึ้น โดยล่าสุด FaceTime และ Roblox ถูกบล็อกอย่างเป็นทางการ เหตุผลที่อ้างคือการป้องกันการก่อการร้ายและการปกป้องเยาวชน แต่ผู้ใช้จำนวนมากมองว่านี่คือการตัดขาดจากโลกภายนอก เด็กและวัยรุ่นที่เคยใช้ Roblox เพื่อเล่นและสื่อสารได้รับผลกระทบหนัก ขณะเดียวกัน FaceTime ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นช่องทางในการจัดกิจกรรมผิดกฎหมาย ทำให้ผู้คนหันไปใช้แอปที่รัฐสนับสนุนแทน เช่น MAX ซึ่งถูกบังคับติดตั้งในมือถือใหม่ แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องการถูกสอดส่องมากขึ้น
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/roblox-facetime-become-the-last-targets-of-russias-censorship

    Hyundai เปิดตัวหุ่นยนต์อเนกประสงค์ MobED ที่แปลงร่างได้หลากหลาย
    Hyundai กำลังจะวางขายหุ่นยนต์แพลตฟอร์มใหม่ชื่อ MobED ที่สามารถปรับตัวได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง จุดเด่นคือระบบล้อที่หมุนและปรับองศาได้ ทำให้มันเคลื่อนที่บนพื้นขรุขระหรือขึ้นบันไดเล็ก ๆ ได้อย่างมั่นคง ผู้ใช้สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมได้ตามต้องการ เช่น แขนกลสำหรับงานคลังสินค้า รถเข็นกอล์ฟ หรือแม้แต่กล้องถ่ายคอนเทนต์อัตโนมัติ Hyundai ตั้งใจผลิตด้วยมาตรฐานยานยนต์เพื่อให้ใช้งานจริงในโรงงานและชีวิตประจำวัน และยังมีแผนทำเวอร์ชัน Pro ที่ติดเซ็นเซอร์และ Lidar สำหรับการทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/hyundais-charming-autonomous-robot-can-be-everything-from-a-golf-trolley-to-an-e-scooter-and-its-going-on-sale-soon

    ซีอีโอเตือนการลงทุนด้าน AI ต้องมีแผน ไม่ใช่แค่ตามกระแส
    หลายผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีออกมาเตือนว่าการลงทุนใน AI กำลังเสี่ยงจะกลายเป็น “ฟองสบู่” Logitech ชี้ว่าหลายผลิตภัณฑ์ AI เป็นเพียงการสร้างสิ่งที่ไม่ตอบโจทย์จริง Anthropic ก็เตือนว่าการทุ่มเงินมหาศาลโดยไม่คำนวณความเสี่ยงอาจทำให้เกิดผลเสียทางการเงิน ขณะที่ Google และ OpenAI เองก็ยอมรับว่าความตื่นตัวเกินไปอาจทำให้นักลงทุนเจ็บตัวในอนาคต สรุปคือ AI เป็นเครื่องมือทรงพลัง แต่ต้องใช้กลยุทธ์และการวางแผน ไม่ใช่การลงทุนแบบ “YOLO”
    https://www.techradar.com/pro/ceos-are-warning-ai-adoption-and-spending-should-be-more-strategic

    อัปเกรด Raspberry Pi แค่ $10 ได้ทั้ง PCIe และ HDMI คู่
    Waveshare เปิดตัวอะแดปเตอร์ใหม่สำหรับ Raspberry Pi 5 ที่ราคาเพียง $10 แต่เพิ่มความสามารถได้มากมาย ทั้งการเชื่อมต่อ PCIe M.2 สำหรับ SSD และพอร์ต HDMI ขนาดเต็มสองช่อง ทำให้สามารถบูตระบบจาก NVMe SSD ได้โดยตรง และใช้งานเหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก เหมาะสำหรับนักพัฒนาและผู้ที่อยากขยายความสามารถของบอร์ดเล็ก ๆ ให้ทำงานได้ใกล้เคียงเดสก์ท็อป แม้จะรองรับเฉพาะการ์ด M.2 ขนาดเล็ก แต่ถือเป็นการอัปเกรดที่คุ้มค่าและเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานอย่างมาก
    https://www.techradar.com/pro/looking-to-supercharge-your-raspberry-pi-this-adapter-provides-two-full-sized-hdmi-ports-and-a-pcie-connector-and-it-only-costs-usd10

    ธนาคารสหรัฐกว่า 70 แห่งถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Marquis
    มีรายงานว่าธนาคารและสหภาพเครดิตในสหรัฐฯ กว่า 70 แห่งตกเป็นเหยื่อการโจมตีของกลุ่มแฮกเกอร์ Marquis โดยข้อมูลลูกค้าถูกขโมยและถูกนำไปขายในตลาดมืด การโจมตีครั้งนี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อระบบการเงิน เพราะ Marquis มีประวัติการโจมตีองค์กรขนาดใหญ่หลายครั้งแล้ว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าธนาคารต้องเร่งเสริมระบบป้องกันไซเบอร์ และลูกค้าควรตรวจสอบบัญชีของตนเองอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการถูกนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด
    https://www.techradar.com/pro/security/over-70-us-banks-and-credit-unions-affected-by-marquis-ransomware-breach-heres-what-we-know

    ค้นพบแหล่งดินเหนียวที่มีลิเทียมมหาศาลในสหรัฐฯ
    นักวิจัยพบแหล่งดินเหนียวที่มีลิเทียมจำนวนมหาศาลภายในซูเปอร์ภูเขาไฟในสหรัฐฯ คาดว่ามีมูลค่ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ และสามารถใช้ผลิตแบตเตอรี่ได้หลายสิบปี การค้นพบนี้อาจช่วยลดความผันผวนของราคาลิเทียมที่พุ่งสูงในตลาดโลก แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการทำเหมืองในพื้นที่ที่เปราะบาง การค้นพบนี้จึงเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด
    https://www.techradar.com/pro/newly-discovered-usd1-5-billion-lithium-deposit-could-revolutionize-the-tech-industry-but-bad-news-its-inside-a-supervolcano

    Android vs iPhone: ผลสำรวจเผยผู้ใช้ TechRadar ชอบฝั่งไหนมากกว่า
    ผลสำรวจจากผู้อ่าน TechRadar แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ยังคงแบ่งขั้วระหว่าง Android และ iPhone อย่างชัดเจน โดย Android ได้คะแนนนิยมจากผู้ที่ชอบความยืดหยุ่นและราคาที่หลากหลาย ส่วน iPhone ได้คะแนนจากผู้ที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ใช้งานที่เรียบง่ายและการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Apple อื่น ๆ การถกเถียงเรื่อง “ใครดีกว่า” จึงยังคงดำเนินต่อไป และสะท้อนให้เห็นว่าทั้งสองระบบมีจุดแข็งที่แตกต่างกัน
    https://www.techradar.com/phones/android-vs-iphone-heres-what-techradar-readers-prefer

    Nvidia CEO Jensen Huang ผลักดันรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อต้านข้อจำกัดชิป AI
    Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia ออกมาเรียกร้องต่อสภาคองเกรสและรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ทบทวนข้อจำกัดการส่งออกชิป AI และกฎระเบียบระดับรัฐ เขาเตือนว่าการจำกัดมากเกินไปจะทำให้สหรัฐฯ เสียเปรียบในการแข่งขันระดับโลก โดยเฉพาะกับจีนที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว Nvidia ซึ่งเป็นผู้นำตลาดชิป AI มองว่าการเปิดเสรีมากขึ้นจะช่วยให้สหรัฐฯ รักษาความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/nvidia-boss-jensen-huang-steers-trump-congress-against-ai-chip-limits-and-state-level-ai-rules

    Arm64 แรงแซง x86 ในการทดสอบ AWS Lambda ปี 2025
    ผลการทดสอบล่าสุดของ AWS Lambda เผยว่า Arm64 มีประสิทธิภาพเหนือกว่า x86 อย่างชัดเจน โดยทำงานเร็วขึ้นถึง 4-5 เท่า และลดค่าใช้จ่ายลงกว่า 30% การเปลี่ยนมาใช้สถาปัตยกรรม Arm64 จึงถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบคลาวด์ นักพัฒนาที่ใช้ AWS อาจได้ประโยชน์มหาศาลจากการเปลี่ยนแปลงนี้ เพราะสามารถรันงานได้เร็วขึ้นและประหยัดมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/arm64-dominates-aws-lambda-in-2025-rust-4-5x-faster-than-x86-costs-30-less-across-all-workloads

    Google เปิดตัวเครื่องมือสร้าง AI Agent แบบไม่ต้องมีประสบการณ์
    Google เปิดตัว Workspace Studio ให้ธุรกิจทุกระดับสามารถสร้าง AI Agent ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องมีทักษะการเขียนโค้ด ใช้เพียงการพิมพ์คำสั่งธรรมชาติ ระบบนี้ขับเคลื่อนด้วย Gemini 3 ที่มีความสามารถด้านการวิเคราะห์และเข้าใจบริบทอย่างลึกซึ้ง จุดเด่นคือสามารถทำงานร่วมกับทั้งแอปใน Google Workspace และแอปภายนอก เช่น Asana, Jira, Salesforce และ Mailchimp ได้อย่างราบรื่น ผู้ใช้สามารถแบ่งปัน Agent ที่สร้างขึ้นกับทีมได้เหมือนแชร์ไฟล์ใน Google Drive และมีบริษัทอย่าง Kärcher ที่ทดลองใช้แล้วสามารถลดเวลาการทำงานจากหลายชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่นาที ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ธุรกิจทั่วไปเข้าถึง AI ได้ง่ายขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/google-wants-to-help-businesses-build-ai-agents-with-no-prior-experience

    รีวิว Apple Final Cut Pro 2025
    Final Cut Pro เวอร์ชันใหม่ 11.2 ยังคงรักษาจุดแข็งเรื่องการใช้งานที่ลื่นไหลและแนวคิด “Magnetic Timeline” ที่ช่วยให้การตัดต่อรวดเร็วขึ้น แต่ก็ยังมีข้อจำกัดเพราะใช้ได้เฉพาะบน Mac และบางฟีเจอร์รองรับเฉพาะเครื่องที่ใช้ Apple Silicon เท่านั้น จุดเด่นคือมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น “Magnetic Mask” ที่ช่วยเลือกและติดตามวัตถุในวิดีโอได้อัตโนมัติ รวมถึงการทำซับไตเติลอัตโนมัติ แม้จะยังไม่สมบูรณ์สำหรับผู้ใช้ Mac รุ่นเก่า แต่ก็ถือว่า Apple กำลังพยายามไล่ตามคู่แข่งอย่าง Premiere Pro และ Resolve โดยยังคงข้อดีเรื่องการจ่ายครั้งเดียวแล้วได้อัปเดตตลอดชีพ
    https://www.techradar.com/pro/apple-final-cut-pro-review

    รีวิว Antigravity A1 โดรน 360 องศา
    Antigravity A1 เป็นโดรนที่รวมเทคโนโลยีการถ่ายภาพ 360 องศาเข้ากับการบิน ทำให้สามารถเก็บภาพและวิดีโอที่มุมมองรอบทิศได้อย่างสมจริง มาพร้อม FPV Goggles และ Motion Controller ที่ให้ประสบการณ์การบินแบบดื่มด่ำ แต่ก็ทำให้ราคาสูงกว่ากล้องโดรนทั่วไปมาก จุดเด่นคือการถ่ายวิดีโอ 8K และการออกแบบที่ทำให้ตัวโดรน “หายไป” จากภาพด้วยเทคนิคการเย็บภาพ จุดด้อยคือการใช้งานต้องมีผู้ช่วยคอยสังเกตโดรนเพื่อความปลอดภัย และคุณภาพภาพยังไม่เทียบเท่ากล้องโดรนระดับสูงอย่าง DJI Mini 5 Pro แต่ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่ยังไม่มีคู่แข่งโดยตรง
    https://www.techradar.com/cameras/drones/antigravity-a1-review

    Apple ประกาศ 17 แอปยอดเยี่ยมแห่งปี 2025
    Apple เผยรายชื่อผู้ชนะรางวัล App Store Awards ปี 2025 รวมทั้งหมด 17 แอปและเกมที่โดดเด่นในด้านการออกแบบและการใช้ AI ตัวอย่างเช่น Tiimo แอปวางแผนงานที่คว้ารางวัล iPhone App of the Year, Detail แอปตัดต่อวิดีโอด้วย AI สำหรับ iPad และ Essayist แอปช่วยทำบรรณานุกรมสำหรับ Mac ส่วนเกมที่โดดเด่นคือ Pokémon TCG Pocket และ Cyberpunk 2077: Ultimate Edition ที่ถูกยกให้เป็น Mac Game of the Year นอกจากนี้ยังมีรางวัลด้าน Cultural Impact เช่น Be My Eyes ที่ใช้ AI ช่วยผู้พิการทางสายตา ถือเป็นการสะท้อนว่า AI กำลังกลายเป็นหัวใจหลักของแอปยุคใหม่
    https://www.techradar.com/computing/websites-apps/apple-reveals-the-17-must-download-apps-of-2025-the-app-store-award-winners-are-here

    กีตาร์ E Ink เปลี่ยนสีได้
    Cream Guitars เปิดตัว “DaVinci” กีตาร์ไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยี E Ink Prism 3 ทำให้สามารถเปลี่ยนสีและลวดลายบนตัวกีตาร์ได้ตามใจผ่านแอป Bluetooth มีสีให้เลือกผสมถึง 7 สีและแบ่งเป็น 64 ส่วนเพื่อสร้างดีไซน์ที่ไม่ซ้ำใคร นอกจากรูปลักษณ์ที่ล้ำสมัย ยังมาพร้อมปิ๊กอัพ Fishman Fluence ที่ปรับเสียงได้ทั้งแบบซิงเกิลคอยล์และฮัมบัคเกอร์ จุดเด่นคือความสามารถในการปรับโฉมกีตาร์ได้ทันที แต่ราคาก็สูงถึง 3,500 ดอลลาร์ และผลิตเพียง 85 ตัวเท่านั้น กำหนดส่งในปี 2026 ถือเป็นกีตาร์ที่ผสมผสานเทคโนโลยีและดนตรีอย่างแท้จริง
    https://www.techradar.com/audio/this-color-changing-e-ink-guitar-absolutely-rocks-and-i-wish-i-could-afford-it

    รีวิว TerraMaster D4-320U NAS
    เรื่องนี้เล่าถึงอุปกรณ์เสริมสำหรับการจัดเก็บข้อมูล TerraMaster D4-320U ที่ออกแบบมาให้ติดตั้งในตู้แร็ค ใช้งานง่ายเพียงใส่ฮาร์ดดิสก์หรือ SSD แล้วเชื่อมต่อผ่านสาย USB 3.2 ก็สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลได้ทันที จุดเด่นคือรองรับสูงสุดถึง 120TB แต่ไม่มีระบบ RAID ในตัว ทำให้เหมาะสำหรับการขยายพื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่าการใช้งานเป็น NAS หลัก แม้จะมีเสียงพัดลมดังไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและยืดหยุ่นสำหรับธุรกิจหรือผู้ทำงานด้านภาพและวิดีโอที่ต้องการพื้นที่มหาศาล
    https://www.techradar.com/computing/terramaster-d4-320u-nas-review

    เคล็ดลับการใช้ Nano Banana Pro ของ Google
    Google เปิดเผยเทคนิคการเขียน prompt สำหรับเครื่องมือสร้างภาพด้วย AI ที่ชื่อ Nano Banana Pro ซึ่งทำงานบน Gemini 3 โดยมีผู้ใช้แชร์วิธีที่น่าสนใจ 3 แบบ ได้แก่ การเขียน prompt แบบโค้ดกำหนดตัวแปรเพื่อให้ภาพมีความสอดคล้อง การใส่ “ความไม่สมบูรณ์” เช่นแสงรั่วหรือภาพเบลอเล็กน้อยเพื่อให้ดูสมจริง และการเปลี่ยนมุมมองเพื่อให้ภาพมีมิติและเล่าเรื่องได้ลึกขึ้น เทคนิคเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมการสร้างภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพและสมจริงมากขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/3-advanced-strategies-for-making-the-most-of-nano-banana-pro

    สกัดการเข้าถึงเว็บอันตรายเกือบพันล้านครั้งในสหราชอาณาจักร
    หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหราชอาณาจักร (NCSC) รายงานว่าเครื่องมือใหม่ชื่อ “Share and Defend” สามารถบล็อกการเข้าถึงเว็บไซต์อันตรายได้เกือบพันล้านครั้งภายในเวลาไม่ถึงปี ระบบนี้ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันผู้ใช้จากการถูกขโมยข้อมูลหรือเงิน โดยในช่วงเดียวกันยังพบว่าการโจมตี ransomware เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว และการเคลมประกันไซเบอร์พุ่งสูงถึง 230% ทำให้รัฐบาลเตรียมแผนรับมือใหม่เพื่อเสริมความปลอดภัยทางดิจิทัล
    https://www.techradar.com/pro/security/uk-cybercrime-agency-blocks-nearly-1-billion-access-attempts-to-malicious-websites

    งาน PC Gaming Show: Most Wanted
    วันนี้มีการจัดงาน PC Gaming Show: Most Wanted ที่จะนับถอยหลัง 25 เกม PC ที่ถูกคาดหวังมากที่สุดในปี 2026 พร้อมทั้งมีการเปิดตัวตัวอย่างใหม่และเบื้องหลังจากเกมกว่า 50 เรื่อง เช่น Resident Evil Requiem, Lego Batman: Legacy of the Dark Knight และ 007 First Light งานนี้ถ่ายทอดสดผ่านหลายช่องทาง และถือเป็นเวทีใหญ่ที่รวมเกมใหม่ ๆ ที่แฟน ๆ รอคอยไว้มากมาย
    https://www.techradar.com/gaming/gaming-industry/the-pc-gaming-show-most-wanted-airs-today-heres-when-you-can-tune-in-and-what-announcements-you-can-expect

    Ofcom พิจารณามาตรการเพิ่มเติมเกี่ยวกับ VPN หลัง Online Safety Act
    หน่วยงานกำกับดูแลสื่อสารของสหราชอาณาจักร (Ofcom) กำลังเก็บข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ VPN โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนที่ใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบอายุหลังจากกฎหมาย Online Safety Act มีผลบังคับใช้ ขณะนี้ Ofcom ได้ลงทุนกว่า 500,000 ปอนด์ในเครื่องมือเฝ้าระวังอินเทอร์เน็ต และยังตั้งคณะทำงานร่วมกับผู้แทนเด็กเพื่อฟังความคิดเห็นโดยตรง การตัดสินใจว่าจะมีมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่คาดว่าจะออกมาในปีหน้า
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ofcom-weighs-further-action-on-vpns-following-online-safety-act

    ข่าว Samsung เตรียมแก้ปัญหาโฆษณาในมือถือ
    Samsung กำลังพัฒนา One UI 8.5 ที่จะช่วยลดปัญหาโฆษณาที่รบกวนผู้ใช้ในสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะการแจ้งเตือนที่มักจะปรากฏขึ้นบ่อยครั้ง การอัปเดตใหม่นี้ถูกคาดหวังว่าจะทำให้ประสบการณ์ใช้งานราบรื่นขึ้น และช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องเจอกับโฆษณาที่ไม่ต้องการอีกต่อไป ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Galaxy ที่รอคอยการปรับปรุงด้านนี้มานาน
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/your-samsung-phones-ad-nightmare-could-soon-be-over-thanks-to-this-one-ui-8-5-upgrade

    อัปเดต Windows 11 ล่าสุดแก้บั๊ก แต่ยังมีปัญหา
    Microsoft ปล่อยอัปเดตใหม่ของ Windows 11 ที่แก้ไขบั๊กหลายอย่าง แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าผู้ใช้ควรระวัง โดยเฉพาะผู้ที่ใช้โหมดมืด (Dark Mode) เนื่องจากอัปเดตนี้อาจทำให้ระบบแสดงผลผิดพลาด แม้จะช่วยแก้ปัญหาบางอย่าง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่ผู้ใช้จะเจอปัญหาใหม่ จึงควรรอการปรับปรุงเพิ่มเติมก่อนที่จะติดตั้ง
    https://www.techradar.com/computing/windows/latest-windows-11-update-fixes-some-nasty-bugs-but-dont-grab-it-yet-especially-if-you-use-dark-mode

    สหราชอาณาจักรปรับแพลตฟอร์มผู้ใหญ่ 1 ล้านปอนด์
    รัฐบาลอังกฤษออกค่าปรับกว่า 1 ล้านปอนด์ต่อแพลตฟอร์มผู้ใหญ่ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎการตรวจสอบอายุ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเพื่อปกป้องเยาวชนออนไลน์ การบังคับใช้กฎหมายนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของสหราชอาณาจักรในการจัดการกับแพลตฟอร์มที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยทางดิจิทัล
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-issues-gbp1-million-fine-to-adult-platform-for-failing-to-comply-with-age-verification-rules

    iPhone 17 Pro สูญเสียฟีเจอร์กล้องสำคัญ
    Apple ทำให้หลายคนแปลกใจเมื่อ iPhone 17 Pro ถูกตัดฟีเจอร์กล้องที่เคยเป็นจุดขายออกไป โดยบริษัทไม่ได้ให้คำอธิบายชัดเจนว่าทำไมถึงตัดสินใจเช่นนั้น ข่าวนี้สร้างความสงสัยและการถกเถียงในหมู่ผู้ใช้และนักวิเคราะห์ เพราะฟีเจอร์ดังกล่าวเคยเป็นหนึ่งในจุดแข็งของรุ่น Pro
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/phones/the-iphone-17-pro-has-just-lost-a-key-camera-feature-and-apple-wont-explain-why
    📌📡🔵 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔵📡📌 #รวมข่าวIT #20251205 #TechRadar 🛡️ บอทเน็ต Aisuru ทำสถิติใหม่โจมตี DDoS 29.7 Tbps เรื่องนี้เป็นการกลับมาอีกครั้งของบอทเน็ตชื่อ Aisuru ที่ใช้เครื่อง IoT กว่า 4 ล้านเครื่องในการสร้างการโจมตี DDoS ที่แรงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดย Cloudflare รายงานว่าเพียงไตรมาสเดียวก็ต้องรับมือกับการโจมตีมากกว่า 1,300 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งมีความรุนแรงระดับหลาย Tbps เหยื่อที่โดนล่าสุดมีทั้งบริษัทเกม Gcore และ Microsoft ที่เจอการโจมตีบนคลาวด์สูงถึง 15.72 Tbps จุดที่น่ากังวลคือบอทเน็ตนี้ถูกให้บริการเป็น “บริการเช่า” ใครก็สามารถใช้โจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญได้ง่ายๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/this-ddos-group-just-smashed-the-previous-record-with-a-29-7-tbps-attack 📺 Samsung OLED รุ่นใหม่หลุด พร้อมทีวี “The Frame” ขนาดยักษ์ 98 นิ้ว มีข้อมูลหลุดจากฐานข้อมูลอะไหล่ของ Samsung ในยุโรป เผยว่าปี 2026 จะมีทีวี OLED รุ่นใหม่หลายรุ่น รวมถึง S99H ที่คาดว่าจะเหนือกว่ารุ่นเรือธง S95F ที่เพิ่งได้รางวัลทีวีแห่งปี และยังมีการเตรียมเปิดตัว “The Frame” ขนาด 98 นิ้ว ซึ่งใหญ่จนแทบจะเรียกว่า “The Mural” ได้เลย นอกจากนี้ยังมีรุ่น S82H และ S83H ที่ใช้แผง WOLED จาก LG Display เพื่อเจาะตลาดราคาย่อมเยา คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน CES 2026 🔗 https://www.techradar.com/televisions/samsungs-next-gen-oled-tvs-leak-including-a-mysterious-new-elite-model 🔒 Microsoft ปิดช่องโหว่ LNK ที่ถูกใช้โจมตีมานานหลายปี Microsoft ได้ออกแพตช์ในเดือนพฤศจิกายนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ในไฟล์ .LNK ที่ถูกใช้โจมตีมาตั้งแต่ปี 2017 ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถซ่อนคำสั่งอันตรายในไฟล์ชอร์ตคัต และเมื่อผู้ใช้เปิดดูไฟล์ก็จะไม่เห็นคำสั่งที่แท้จริง ทำให้เกิดการโจมตีแบบ Remote Code Execution ได้ ช่องโหว่นี้ถูกใช้โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐหลายประเทศ เช่น จีน อิหร่าน เกาหลีเหนือ และรัสเซีย หลังจากถูกเตือนหลายครั้ง Microsoft จึงตัดสินใจแก้ไขอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-quietly-patches-lnk-vulnerability-thats-been-weaponized-for-years 🌐 เบราว์เซอร์ AI กำลังเปลี่ยนเกม แต่ความปลอดภัยยังตามไม่ทัน เบราว์เซอร์ยุคใหม่อย่าง Edge ที่มี Copilot หรือ Chrome ที่ใส่ Gemini กำลังทำให้การใช้งานสะดวกขึ้นมาก ทั้งการสรุปเนื้อหา แปลภาษา หรือค้นหาข้อมูล แต่ความสะดวกนี้ก็แฝงความเสี่ยง เพราะ AI อาจถูกหลอกด้วยข้อความหรือโค้ดที่ซ่อนอยู่ในหน้าเว็บ แล้วทำงานตามคำสั่งที่เป็นอันตราย เช่น ส่งข้อมูลเข้าสู่มือแฮกเกอร์โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว ปัญหาคือการนำ AI มาใช้ในเบราว์เซอร์เกิดขึ้นเร็วมาก จนมาตรการด้านความปลอดภัยยังไม่ทันตาม ทำให้ผู้เชี่ยวชี้เตือนว่าต้องระวังการโจมตีรูปแบบใหม่ที่แทบไม่มีร่องรอยให้ตรวจจับ 🔗 https://www.techradar.com/pro/ai-browsers-are-rewriting-the-rules-is-your-security-keeping-pace 🏃 บทเรียนจากการวิ่งมาราธอนสู่การทำงานด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ Stephanie Schneider เล่าประสบการณ์ว่า การวิ่งมาราธอน 26.2 ไมล์สอนให้เธอเข้าใจความอดทนและการจัดการพลังงาน ซึ่งเหมือนกับการทำงานในโลกไซเบอร์ที่เต็มไปด้วยแรงกดดันและความเหนื่อยล้า เธอเปรียบเทียบว่าเหมือนการเจอ “กำแพง” ตอนวิ่ง ที่ต้องใช้ใจสู้ต่อไป เช่นเดียวกับการทำงานที่ต้องเจอภัยคุกคามใหม่ๆ ทุกวัน การฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง การแบ่งเป้าหมายเป็นขั้นตอนเล็กๆ และการรักษาความสมดุลคือสิ่งที่ทำให้ทั้งนักวิ่งและนักไซเบอร์สามารถไปถึงเส้นชัยได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/im-a-marathoner-and-a-cybersecurity-leader-heres-what-26-2-miles-have-taught-me-about-work 💼 Microsoft ปฏิเสธข่าวลดเป้าหมายยอดขาย AI หลังลูกค้าต้านทาน มีรายงานว่าลูกค้าหลายรายลังเลที่จะลงทุนในเครื่องมือ AI ของ Microsoft เพราะราคาสูงและยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่ทาง Microsoft ออกมาปฏิเสธข่าวลือว่ามีการปรับลดเป้าหมายยอดขาย โดยยืนยันว่าความต้องการยังคงแข็งแรง เพียงแต่ลูกค้าบางกลุ่มต้องใช้เวลาในการปรับตัวและวางกลยุทธ์การใช้งานจริง เรื่องนี้สะท้อนว่าการนำ AI เข้ามาในองค์กรไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่ยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมและวิธีทำงานด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/microsoft-denies-reports-of-lower-ai-sales-targets-as-customers-resist-new-tools 🖥️ วิกฤติชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์หนักขึ้น RAM ผู้ผลิตใหญ่เลิกตลาดผู้บริโภค ตลาดคอมพิวเตอร์กำลังเจอปัญหาหนัก เมื่อผู้ผลิต RAM รายใหญ่ประกาศเลิกทำตลาดสำหรับผู้ใช้ทั่วไป หันไปเน้นตลาดองค์กรแทน ทำให้เกิดความกังวลว่าราคาชิ้นส่วนจะพุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าราคาซีพียูจะปรับขึ้นอีกด้วย สถานการณ์นี้ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการอัปเกรดหรือประกอบเครื่องใหม่อาจต้องเจอค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นอย่างมาก 🔗 https://www.techradar.com/computing/memory/pc-component-crisis-just-got-worse-as-major-ram-maker-gives-up-on-consumers-and-cpu-price-hikes-are-rumored 📵 YouTube เตรียมบล็อกผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีในออสเตรเลีย ท่ามกลางการถกเถียงเรื่องการแบนโซเชียลมีเดียสำหรับเยาวชนในออสเตรเลีย YouTube ประกาศว่าจะบล็อกการใช้งานสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปี การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลกำลังพิจารณากฎหมายใหม่เพื่อจำกัดการเข้าถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ของเด็กและเยาวชน โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องสุขภาพจิตและความปลอดภัย แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าการบังคับใช้เข้มงวดเกินไปและอาจกระทบต่อเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูล 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/youtube-to-lock-out-under-16s-in-australia-as-controversial-social-media-ban-looms 📚 รีวิวเครื่องสแกนหนังสือ CZUR ET24 Pro เครื่องสแกนหนังสือรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการแปลงหนังสือเป็นไฟล์ดิจิทัล จุดเด่นคือสามารถสแกนได้เร็วและมีฟีเจอร์แก้ไขภาพอัตโนมัติ เช่น การปรับหน้าหนังสือที่โค้งให้ออกมาเรียบ รวมถึงการตรวจจับหน้าที่พลิกอัตโนมัติ เหมาะสำหรับนักวิจัย นักเรียน หรือผู้ที่ต้องการเก็บเอกสารจำนวนมากในรูปแบบดิจิทัล รีวิวชี้ว่าคุณภาพการสแกนคมชัดและใช้งานง่าย แต่ราคาก็ถือว่าสูงพอสมควร 🔗 https://www.techradar.com/computing/czur-et24-pro-book-scanner-review 🔓 ข้อมูลลูกค้า Freedom Mobile ถูกขโมยจากแพลตฟอร์มจัดการบัญชี มีการแฮกแพลตฟอร์มจัดการบัญชีของ Freedom Mobile ทำให้ข้อมูลลูกค้าถูกขโมยไป เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมาก เพราะข้อมูลที่รั่วไหลอาจรวมถึงรายละเอียดส่วนตัวและข้อมูลการติดต่อ ปัญหานี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมต้องเผชิญ และตอกย้ำว่าการป้องกันข้อมูลลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องลงทุนอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/customer-data-stolen-in-freedom-mobile-account-management-platform-hack 🛡️ ChatGPT อาจไม่ปลอดภัยเท่าเดิม หลังศาลสั่งให้ OpenAI ส่งมอบข้อมูลการสนทนา เรื่องนี้เริ่มจากการฟ้องร้องของ The New York Times ต่อ OpenAI โดยศาลสหรัฐฯ มีคำสั่งให้บริษัทต้องส่งมอบบันทึกการสนทนากว่า 20 ล้านรายการ เพื่อใช้ตรวจสอบการละเมิดลิขสิทธิ์ แม้ศาลยืนยันว่าจะมีการลบข้อมูลระบุตัวตนเพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัว แต่ OpenAI กลับมองว่าการกระทำนี้บั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้ใช้ เพราะถึงแม้ชื่อจะถูกลบออก แต่รูปแบบการสนทนาก็ยังสามารถบอกอะไรได้มากมาย นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ข้อมูลการแชทถูกบังคับให้เปิดเผย และอาจเป็นสัญญาณของการต่อสู้เรื่องความเป็นส่วนตัวในโลก AI ที่กำลังจะเข้มข้นขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/your-chatgpt-chats-could-be-less-private-than-you-thought-heres-what-a-new-openai-court-ruling-means-for-you 🚫 รัสเซียบล็อก FaceTime และ Roblox เพิ่มเติมในมาตรการควบคุมอินเทอร์เน็ต รัฐบาลรัสเซียเดินหน้าจำกัดเสรีภาพดิจิทัลมากขึ้น โดยล่าสุด FaceTime และ Roblox ถูกบล็อกอย่างเป็นทางการ เหตุผลที่อ้างคือการป้องกันการก่อการร้ายและการปกป้องเยาวชน แต่ผู้ใช้จำนวนมากมองว่านี่คือการตัดขาดจากโลกภายนอก เด็กและวัยรุ่นที่เคยใช้ Roblox เพื่อเล่นและสื่อสารได้รับผลกระทบหนัก ขณะเดียวกัน FaceTime ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นช่องทางในการจัดกิจกรรมผิดกฎหมาย ทำให้ผู้คนหันไปใช้แอปที่รัฐสนับสนุนแทน เช่น MAX ซึ่งถูกบังคับติดตั้งในมือถือใหม่ แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องการถูกสอดส่องมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/roblox-facetime-become-the-last-targets-of-russias-censorship 🤖 Hyundai เปิดตัวหุ่นยนต์อเนกประสงค์ MobED ที่แปลงร่างได้หลากหลาย Hyundai กำลังจะวางขายหุ่นยนต์แพลตฟอร์มใหม่ชื่อ MobED ที่สามารถปรับตัวได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง จุดเด่นคือระบบล้อที่หมุนและปรับองศาได้ ทำให้มันเคลื่อนที่บนพื้นขรุขระหรือขึ้นบันไดเล็ก ๆ ได้อย่างมั่นคง ผู้ใช้สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมได้ตามต้องการ เช่น แขนกลสำหรับงานคลังสินค้า รถเข็นกอล์ฟ หรือแม้แต่กล้องถ่ายคอนเทนต์อัตโนมัติ Hyundai ตั้งใจผลิตด้วยมาตรฐานยานยนต์เพื่อให้ใช้งานจริงในโรงงานและชีวิตประจำวัน และยังมีแผนทำเวอร์ชัน Pro ที่ติดเซ็นเซอร์และ Lidar สำหรับการทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/hyundais-charming-autonomous-robot-can-be-everything-from-a-golf-trolley-to-an-e-scooter-and-its-going-on-sale-soon 💼 ซีอีโอเตือนการลงทุนด้าน AI ต้องมีแผน ไม่ใช่แค่ตามกระแส หลายผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีออกมาเตือนว่าการลงทุนใน AI กำลังเสี่ยงจะกลายเป็น “ฟองสบู่” Logitech ชี้ว่าหลายผลิตภัณฑ์ AI เป็นเพียงการสร้างสิ่งที่ไม่ตอบโจทย์จริง Anthropic ก็เตือนว่าการทุ่มเงินมหาศาลโดยไม่คำนวณความเสี่ยงอาจทำให้เกิดผลเสียทางการเงิน ขณะที่ Google และ OpenAI เองก็ยอมรับว่าความตื่นตัวเกินไปอาจทำให้นักลงทุนเจ็บตัวในอนาคต สรุปคือ AI เป็นเครื่องมือทรงพลัง แต่ต้องใช้กลยุทธ์และการวางแผน ไม่ใช่การลงทุนแบบ “YOLO” 🔗 https://www.techradar.com/pro/ceos-are-warning-ai-adoption-and-spending-should-be-more-strategic 💻 อัปเกรด Raspberry Pi แค่ $10 ได้ทั้ง PCIe และ HDMI คู่ Waveshare เปิดตัวอะแดปเตอร์ใหม่สำหรับ Raspberry Pi 5 ที่ราคาเพียง $10 แต่เพิ่มความสามารถได้มากมาย ทั้งการเชื่อมต่อ PCIe M.2 สำหรับ SSD และพอร์ต HDMI ขนาดเต็มสองช่อง ทำให้สามารถบูตระบบจาก NVMe SSD ได้โดยตรง และใช้งานเหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก เหมาะสำหรับนักพัฒนาและผู้ที่อยากขยายความสามารถของบอร์ดเล็ก ๆ ให้ทำงานได้ใกล้เคียงเดสก์ท็อป แม้จะรองรับเฉพาะการ์ด M.2 ขนาดเล็ก แต่ถือเป็นการอัปเกรดที่คุ้มค่าและเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานอย่างมาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/looking-to-supercharge-your-raspberry-pi-this-adapter-provides-two-full-sized-hdmi-ports-and-a-pcie-connector-and-it-only-costs-usd10 🏦 ธนาคารสหรัฐกว่า 70 แห่งถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Marquis มีรายงานว่าธนาคารและสหภาพเครดิตในสหรัฐฯ กว่า 70 แห่งตกเป็นเหยื่อการโจมตีของกลุ่มแฮกเกอร์ Marquis โดยข้อมูลลูกค้าถูกขโมยและถูกนำไปขายในตลาดมืด การโจมตีครั้งนี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อระบบการเงิน เพราะ Marquis มีประวัติการโจมตีองค์กรขนาดใหญ่หลายครั้งแล้ว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าธนาคารต้องเร่งเสริมระบบป้องกันไซเบอร์ และลูกค้าควรตรวจสอบบัญชีของตนเองอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการถูกนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/over-70-us-banks-and-credit-unions-affected-by-marquis-ransomware-breach-heres-what-we-know ⚡ ค้นพบแหล่งดินเหนียวที่มีลิเทียมมหาศาลในสหรัฐฯ นักวิจัยพบแหล่งดินเหนียวที่มีลิเทียมจำนวนมหาศาลภายในซูเปอร์ภูเขาไฟในสหรัฐฯ คาดว่ามีมูลค่ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ และสามารถใช้ผลิตแบตเตอรี่ได้หลายสิบปี การค้นพบนี้อาจช่วยลดความผันผวนของราคาลิเทียมที่พุ่งสูงในตลาดโลก แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการทำเหมืองในพื้นที่ที่เปราะบาง การค้นพบนี้จึงเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด 🔗 https://www.techradar.com/pro/newly-discovered-usd1-5-billion-lithium-deposit-could-revolutionize-the-tech-industry-but-bad-news-its-inside-a-supervolcano 📱 Android vs iPhone: ผลสำรวจเผยผู้ใช้ TechRadar ชอบฝั่งไหนมากกว่า ผลสำรวจจากผู้อ่าน TechRadar แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ยังคงแบ่งขั้วระหว่าง Android และ iPhone อย่างชัดเจน โดย Android ได้คะแนนนิยมจากผู้ที่ชอบความยืดหยุ่นและราคาที่หลากหลาย ส่วน iPhone ได้คะแนนจากผู้ที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ใช้งานที่เรียบง่ายและการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Apple อื่น ๆ การถกเถียงเรื่อง “ใครดีกว่า” จึงยังคงดำเนินต่อไป และสะท้อนให้เห็นว่าทั้งสองระบบมีจุดแข็งที่แตกต่างกัน 🔗 https://www.techradar.com/phones/android-vs-iphone-heres-what-techradar-readers-prefer 💽 Nvidia CEO Jensen Huang ผลักดันรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อต้านข้อจำกัดชิป AI Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia ออกมาเรียกร้องต่อสภาคองเกรสและรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ทบทวนข้อจำกัดการส่งออกชิป AI และกฎระเบียบระดับรัฐ เขาเตือนว่าการจำกัดมากเกินไปจะทำให้สหรัฐฯ เสียเปรียบในการแข่งขันระดับโลก โดยเฉพาะกับจีนที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว Nvidia ซึ่งเป็นผู้นำตลาดชิป AI มองว่าการเปิดเสรีมากขึ้นจะช่วยให้สหรัฐฯ รักษาความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/nvidia-boss-jensen-huang-steers-trump-congress-against-ai-chip-limits-and-state-level-ai-rules 🚀 Arm64 แรงแซง x86 ในการทดสอบ AWS Lambda ปี 2025 ผลการทดสอบล่าสุดของ AWS Lambda เผยว่า Arm64 มีประสิทธิภาพเหนือกว่า x86 อย่างชัดเจน โดยทำงานเร็วขึ้นถึง 4-5 เท่า และลดค่าใช้จ่ายลงกว่า 30% การเปลี่ยนมาใช้สถาปัตยกรรม Arm64 จึงถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบคลาวด์ นักพัฒนาที่ใช้ AWS อาจได้ประโยชน์มหาศาลจากการเปลี่ยนแปลงนี้ เพราะสามารถรันงานได้เร็วขึ้นและประหยัดมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/arm64-dominates-aws-lambda-in-2025-rust-4-5x-faster-than-x86-costs-30-less-across-all-workloads 🧑‍💻 Google เปิดตัวเครื่องมือสร้าง AI Agent แบบไม่ต้องมีประสบการณ์ Google เปิดตัว Workspace Studio ให้ธุรกิจทุกระดับสามารถสร้าง AI Agent ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องมีทักษะการเขียนโค้ด ใช้เพียงการพิมพ์คำสั่งธรรมชาติ ระบบนี้ขับเคลื่อนด้วย Gemini 3 ที่มีความสามารถด้านการวิเคราะห์และเข้าใจบริบทอย่างลึกซึ้ง จุดเด่นคือสามารถทำงานร่วมกับทั้งแอปใน Google Workspace และแอปภายนอก เช่น Asana, Jira, Salesforce และ Mailchimp ได้อย่างราบรื่น ผู้ใช้สามารถแบ่งปัน Agent ที่สร้างขึ้นกับทีมได้เหมือนแชร์ไฟล์ใน Google Drive และมีบริษัทอย่าง Kärcher ที่ทดลองใช้แล้วสามารถลดเวลาการทำงานจากหลายชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่นาที ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ธุรกิจทั่วไปเข้าถึง AI ได้ง่ายขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/google-wants-to-help-businesses-build-ai-agents-with-no-prior-experience 🎬 รีวิว Apple Final Cut Pro 2025 Final Cut Pro เวอร์ชันใหม่ 11.2 ยังคงรักษาจุดแข็งเรื่องการใช้งานที่ลื่นไหลและแนวคิด “Magnetic Timeline” ที่ช่วยให้การตัดต่อรวดเร็วขึ้น แต่ก็ยังมีข้อจำกัดเพราะใช้ได้เฉพาะบน Mac และบางฟีเจอร์รองรับเฉพาะเครื่องที่ใช้ Apple Silicon เท่านั้น จุดเด่นคือมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น “Magnetic Mask” ที่ช่วยเลือกและติดตามวัตถุในวิดีโอได้อัตโนมัติ รวมถึงการทำซับไตเติลอัตโนมัติ แม้จะยังไม่สมบูรณ์สำหรับผู้ใช้ Mac รุ่นเก่า แต่ก็ถือว่า Apple กำลังพยายามไล่ตามคู่แข่งอย่าง Premiere Pro และ Resolve โดยยังคงข้อดีเรื่องการจ่ายครั้งเดียวแล้วได้อัปเดตตลอดชีพ 🔗 https://www.techradar.com/pro/apple-final-cut-pro-review 🚁 รีวิว Antigravity A1 โดรน 360 องศา Antigravity A1 เป็นโดรนที่รวมเทคโนโลยีการถ่ายภาพ 360 องศาเข้ากับการบิน ทำให้สามารถเก็บภาพและวิดีโอที่มุมมองรอบทิศได้อย่างสมจริง มาพร้อม FPV Goggles และ Motion Controller ที่ให้ประสบการณ์การบินแบบดื่มด่ำ แต่ก็ทำให้ราคาสูงกว่ากล้องโดรนทั่วไปมาก จุดเด่นคือการถ่ายวิดีโอ 8K และการออกแบบที่ทำให้ตัวโดรน “หายไป” จากภาพด้วยเทคนิคการเย็บภาพ จุดด้อยคือการใช้งานต้องมีผู้ช่วยคอยสังเกตโดรนเพื่อความปลอดภัย และคุณภาพภาพยังไม่เทียบเท่ากล้องโดรนระดับสูงอย่าง DJI Mini 5 Pro แต่ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่ยังไม่มีคู่แข่งโดยตรง 🔗 https://www.techradar.com/cameras/drones/antigravity-a1-review 📱 Apple ประกาศ 17 แอปยอดเยี่ยมแห่งปี 2025 Apple เผยรายชื่อผู้ชนะรางวัล App Store Awards ปี 2025 รวมทั้งหมด 17 แอปและเกมที่โดดเด่นในด้านการออกแบบและการใช้ AI ตัวอย่างเช่น Tiimo แอปวางแผนงานที่คว้ารางวัล iPhone App of the Year, Detail แอปตัดต่อวิดีโอด้วย AI สำหรับ iPad และ Essayist แอปช่วยทำบรรณานุกรมสำหรับ Mac ส่วนเกมที่โดดเด่นคือ Pokémon TCG Pocket และ Cyberpunk 2077: Ultimate Edition ที่ถูกยกให้เป็น Mac Game of the Year นอกจากนี้ยังมีรางวัลด้าน Cultural Impact เช่น Be My Eyes ที่ใช้ AI ช่วยผู้พิการทางสายตา ถือเป็นการสะท้อนว่า AI กำลังกลายเป็นหัวใจหลักของแอปยุคใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/computing/websites-apps/apple-reveals-the-17-must-download-apps-of-2025-the-app-store-award-winners-are-here 🎸 กีตาร์ E Ink เปลี่ยนสีได้ Cream Guitars เปิดตัว “DaVinci” กีตาร์ไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยี E Ink Prism 3 ทำให้สามารถเปลี่ยนสีและลวดลายบนตัวกีตาร์ได้ตามใจผ่านแอป Bluetooth มีสีให้เลือกผสมถึง 7 สีและแบ่งเป็น 64 ส่วนเพื่อสร้างดีไซน์ที่ไม่ซ้ำใคร นอกจากรูปลักษณ์ที่ล้ำสมัย ยังมาพร้อมปิ๊กอัพ Fishman Fluence ที่ปรับเสียงได้ทั้งแบบซิงเกิลคอยล์และฮัมบัคเกอร์ จุดเด่นคือความสามารถในการปรับโฉมกีตาร์ได้ทันที แต่ราคาก็สูงถึง 3,500 ดอลลาร์ และผลิตเพียง 85 ตัวเท่านั้น กำหนดส่งในปี 2026 ถือเป็นกีตาร์ที่ผสมผสานเทคโนโลยีและดนตรีอย่างแท้จริง 🔗 https://www.techradar.com/audio/this-color-changing-e-ink-guitar-absolutely-rocks-and-i-wish-i-could-afford-it 🖥️ รีวิว TerraMaster D4-320U NAS เรื่องนี้เล่าถึงอุปกรณ์เสริมสำหรับการจัดเก็บข้อมูล TerraMaster D4-320U ที่ออกแบบมาให้ติดตั้งในตู้แร็ค ใช้งานง่ายเพียงใส่ฮาร์ดดิสก์หรือ SSD แล้วเชื่อมต่อผ่านสาย USB 3.2 ก็สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลได้ทันที จุดเด่นคือรองรับสูงสุดถึง 120TB แต่ไม่มีระบบ RAID ในตัว ทำให้เหมาะสำหรับการขยายพื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่าการใช้งานเป็น NAS หลัก แม้จะมีเสียงพัดลมดังไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและยืดหยุ่นสำหรับธุรกิจหรือผู้ทำงานด้านภาพและวิดีโอที่ต้องการพื้นที่มหาศาล 🔗 https://www.techradar.com/computing/terramaster-d4-320u-nas-review 🤖 เคล็ดลับการใช้ Nano Banana Pro ของ Google Google เปิดเผยเทคนิคการเขียน prompt สำหรับเครื่องมือสร้างภาพด้วย AI ที่ชื่อ Nano Banana Pro ซึ่งทำงานบน Gemini 3 โดยมีผู้ใช้แชร์วิธีที่น่าสนใจ 3 แบบ ได้แก่ การเขียน prompt แบบโค้ดกำหนดตัวแปรเพื่อให้ภาพมีความสอดคล้อง การใส่ “ความไม่สมบูรณ์” เช่นแสงรั่วหรือภาพเบลอเล็กน้อยเพื่อให้ดูสมจริง และการเปลี่ยนมุมมองเพื่อให้ภาพมีมิติและเล่าเรื่องได้ลึกขึ้น เทคนิคเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมการสร้างภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพและสมจริงมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/3-advanced-strategies-for-making-the-most-of-nano-banana-pro 🔒 สกัดการเข้าถึงเว็บอันตรายเกือบพันล้านครั้งในสหราชอาณาจักร หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหราชอาณาจักร (NCSC) รายงานว่าเครื่องมือใหม่ชื่อ “Share and Defend” สามารถบล็อกการเข้าถึงเว็บไซต์อันตรายได้เกือบพันล้านครั้งภายในเวลาไม่ถึงปี ระบบนี้ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันผู้ใช้จากการถูกขโมยข้อมูลหรือเงิน โดยในช่วงเดียวกันยังพบว่าการโจมตี ransomware เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว และการเคลมประกันไซเบอร์พุ่งสูงถึง 230% ทำให้รัฐบาลเตรียมแผนรับมือใหม่เพื่อเสริมความปลอดภัยทางดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/uk-cybercrime-agency-blocks-nearly-1-billion-access-attempts-to-malicious-websites 🎮 งาน PC Gaming Show: Most Wanted วันนี้มีการจัดงาน PC Gaming Show: Most Wanted ที่จะนับถอยหลัง 25 เกม PC ที่ถูกคาดหวังมากที่สุดในปี 2026 พร้อมทั้งมีการเปิดตัวตัวอย่างใหม่และเบื้องหลังจากเกมกว่า 50 เรื่อง เช่น Resident Evil Requiem, Lego Batman: Legacy of the Dark Knight และ 007 First Light งานนี้ถ่ายทอดสดผ่านหลายช่องทาง และถือเป็นเวทีใหญ่ที่รวมเกมใหม่ ๆ ที่แฟน ๆ รอคอยไว้มากมาย 🔗 https://www.techradar.com/gaming/gaming-industry/the-pc-gaming-show-most-wanted-airs-today-heres-when-you-can-tune-in-and-what-announcements-you-can-expect 🌐 Ofcom พิจารณามาตรการเพิ่มเติมเกี่ยวกับ VPN หลัง Online Safety Act หน่วยงานกำกับดูแลสื่อสารของสหราชอาณาจักร (Ofcom) กำลังเก็บข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ VPN โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนที่ใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบอายุหลังจากกฎหมาย Online Safety Act มีผลบังคับใช้ ขณะนี้ Ofcom ได้ลงทุนกว่า 500,000 ปอนด์ในเครื่องมือเฝ้าระวังอินเทอร์เน็ต และยังตั้งคณะทำงานร่วมกับผู้แทนเด็กเพื่อฟังความคิดเห็นโดยตรง การตัดสินใจว่าจะมีมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่คาดว่าจะออกมาในปีหน้า 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ofcom-weighs-further-action-on-vpns-following-online-safety-act 📱 ข่าว Samsung เตรียมแก้ปัญหาโฆษณาในมือถือ Samsung กำลังพัฒนา One UI 8.5 ที่จะช่วยลดปัญหาโฆษณาที่รบกวนผู้ใช้ในสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะการแจ้งเตือนที่มักจะปรากฏขึ้นบ่อยครั้ง การอัปเดตใหม่นี้ถูกคาดหวังว่าจะทำให้ประสบการณ์ใช้งานราบรื่นขึ้น และช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องเจอกับโฆษณาที่ไม่ต้องการอีกต่อไป ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Galaxy ที่รอคอยการปรับปรุงด้านนี้มานาน 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/your-samsung-phones-ad-nightmare-could-soon-be-over-thanks-to-this-one-ui-8-5-upgrade 💻 อัปเดต Windows 11 ล่าสุดแก้บั๊ก แต่ยังมีปัญหา Microsoft ปล่อยอัปเดตใหม่ของ Windows 11 ที่แก้ไขบั๊กหลายอย่าง แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าผู้ใช้ควรระวัง โดยเฉพาะผู้ที่ใช้โหมดมืด (Dark Mode) เนื่องจากอัปเดตนี้อาจทำให้ระบบแสดงผลผิดพลาด แม้จะช่วยแก้ปัญหาบางอย่าง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่ผู้ใช้จะเจอปัญหาใหม่ จึงควรรอการปรับปรุงเพิ่มเติมก่อนที่จะติดตั้ง 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/latest-windows-11-update-fixes-some-nasty-bugs-but-dont-grab-it-yet-especially-if-you-use-dark-mode ⚖️ สหราชอาณาจักรปรับแพลตฟอร์มผู้ใหญ่ 1 ล้านปอนด์ รัฐบาลอังกฤษออกค่าปรับกว่า 1 ล้านปอนด์ต่อแพลตฟอร์มผู้ใหญ่ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎการตรวจสอบอายุ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเพื่อปกป้องเยาวชนออนไลน์ การบังคับใช้กฎหมายนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของสหราชอาณาจักรในการจัดการกับแพลตฟอร์มที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยทางดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-issues-gbp1-million-fine-to-adult-platform-for-failing-to-comply-with-age-verification-rules 📷 iPhone 17 Pro สูญเสียฟีเจอร์กล้องสำคัญ Apple ทำให้หลายคนแปลกใจเมื่อ iPhone 17 Pro ถูกตัดฟีเจอร์กล้องที่เคยเป็นจุดขายออกไป โดยบริษัทไม่ได้ให้คำอธิบายชัดเจนว่าทำไมถึงตัดสินใจเช่นนั้น ข่าวนี้สร้างความสงสัยและการถกเถียงในหมู่ผู้ใช้และนักวิเคราะห์ เพราะฟีเจอร์ดังกล่าวเคยเป็นหนึ่งในจุดแข็งของรุ่น Pro ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/phones/the-iphone-17-pro-has-just-lost-a-key-camera-feature-and-apple-wont-explain-why
    0 Comments 0 Shares 932 Views 0 Reviews
  • Telegram เตรียมเลิกใช้ SMS Verification

    Telegram ซึ่งปัจจุบันพึ่งพาการส่งรหัสผ่านทาง SMS เพื่อเข้าสู่ระบบ กำลังเปลี่ยนไปใช้ Passkeys ที่เก็บไว้ในอุปกรณ์หรือ Password Manager แทน วิธีนี้จะช่วยลดปัญหาการส่งรหัสที่ล่าช้าในบางประเทศ และลดค่าใช้จ่ายที่ผู้ใช้ต้องจ่ายเพื่อรับรหัสยืนยัน

    ความปลอดภัยที่เหนือกว่า
    Passkeys จะทำงานร่วมกับ Biometric Authentication เช่น Face ID หรือ Fingerprint ทำให้การเข้าสู่ระบบมีความปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้โดยตรง ไม่สามารถถูกดักจับจากระยะไกลเหมือน SMS ที่เสี่ยงต่อการถูก Hijack

    ผลกระทบต่อผู้ใช้ทั่วโลก
    การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ในประเทศที่ระบบ SMS ไม่เสถียร สามารถเข้าสู่ระบบได้อย่างราบรื่นมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ Telegram เคยเรียกเก็บในบางภูมิภาค (ประมาณ $0.1–$1 ต่อการรับรหัส) การใช้ Passkeys จึงเป็นการแก้ปัญหาที่ทั้งปลอดภัยและคุ้มค่า

    แนวโน้มในอนาคต
    Telegram มีประวัติการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่อย่างรวดเร็ว จึงคาดว่าระบบ Passkey Authentication จะถูกนำมาใช้จริงในเวลาไม่นาน และอาจเป็นมาตรฐานใหม่ที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ นำไปปรับใช้ตาม

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    Telegram กำลังพัฒนาระบบ Passkey Authentication
    ปัจจุบันยังใช้ SMS Verification ซึ่งมีปัญหาความล่าช้าและค่าใช้จ่าย
    Passkeys จะทำงานร่วมกับ Face ID หรือ Fingerprint
    คาดว่าจะเปิดตัวเร็ว เนื่องจาก Telegram มักปล่อยฟีเจอร์ใหม่อย่างรวดเร็ว

    คำเตือนจากข่าว
    ผู้ใช้ที่ยังพึ่งพา SMS Verification เสี่ยงต่อการถูก Hijack
    หากไม่ปรับตัวไปใช้ Passkeys อาจยังเจอปัญหาความล่าช้าและค่าใช้จ่าย
    การละเลยการอัปเดตระบบยืนยันตัวตนอาจทำให้บัญชีเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

    https://securityonline.info/no-more-sms-telegram-is-developing-passkey-authentication-for-secure-login/
    🔐 Telegram เตรียมเลิกใช้ SMS Verification Telegram ซึ่งปัจจุบันพึ่งพาการส่งรหัสผ่านทาง SMS เพื่อเข้าสู่ระบบ กำลังเปลี่ยนไปใช้ Passkeys ที่เก็บไว้ในอุปกรณ์หรือ Password Manager แทน วิธีนี้จะช่วยลดปัญหาการส่งรหัสที่ล่าช้าในบางประเทศ และลดค่าใช้จ่ายที่ผู้ใช้ต้องจ่ายเพื่อรับรหัสยืนยัน 📱 ความปลอดภัยที่เหนือกว่า Passkeys จะทำงานร่วมกับ Biometric Authentication เช่น Face ID หรือ Fingerprint ทำให้การเข้าสู่ระบบมีความปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้โดยตรง ไม่สามารถถูกดักจับจากระยะไกลเหมือน SMS ที่เสี่ยงต่อการถูก Hijack 🌍 ผลกระทบต่อผู้ใช้ทั่วโลก การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ในประเทศที่ระบบ SMS ไม่เสถียร สามารถเข้าสู่ระบบได้อย่างราบรื่นมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ Telegram เคยเรียกเก็บในบางภูมิภาค (ประมาณ $0.1–$1 ต่อการรับรหัส) การใช้ Passkeys จึงเป็นการแก้ปัญหาที่ทั้งปลอดภัยและคุ้มค่า 🚀 แนวโน้มในอนาคต Telegram มีประวัติการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่อย่างรวดเร็ว จึงคาดว่าระบบ Passkey Authentication จะถูกนำมาใช้จริงในเวลาไม่นาน และอาจเป็นมาตรฐานใหม่ที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ นำไปปรับใช้ตาม 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ Telegram กำลังพัฒนาระบบ Passkey Authentication ➡️ ปัจจุบันยังใช้ SMS Verification ซึ่งมีปัญหาความล่าช้าและค่าใช้จ่าย ➡️ Passkeys จะทำงานร่วมกับ Face ID หรือ Fingerprint ➡️ คาดว่าจะเปิดตัวเร็ว เนื่องจาก Telegram มักปล่อยฟีเจอร์ใหม่อย่างรวดเร็ว ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ ผู้ใช้ที่ยังพึ่งพา SMS Verification เสี่ยงต่อการถูก Hijack ⛔ หากไม่ปรับตัวไปใช้ Passkeys อาจยังเจอปัญหาความล่าช้าและค่าใช้จ่าย ⛔ การละเลยการอัปเดตระบบยืนยันตัวตนอาจทำให้บัญชีเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต https://securityonline.info/no-more-sms-telegram-is-developing-passkey-authentication-for-secure-login/
    SECURITYONLINE.INFO
    No More SMS: Telegram is Developing Passkey Authentication for Secure Login
    Telegram is developing passkey authentication to replace unreliable SMS codes. The move promises a far more secure login, leveraging biometrics (Face ID/fingerprint).
    0 Comments 0 Shares 117 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251204 #securityonline

    React พบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-55182
    ทีมพัฒนา React ออกประกาศฉุกเฉินหลังพบช่องโหว่ที่มีความรุนแรงสูงสุด (CVSS 10.0) ซึ่งเปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้เกิดจากกระบวนการถอดรหัสข้อมูลที่ส่งจาก client ไปยัง server ใน React Server Components (RSC) ที่ผิดพลาด ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งแฝงเข้ามาและเข้าควบคุมระบบได้ทันที ปัญหานี้กระทบไปถึงเฟรมเวิร์กยอดนิยมอย่าง Next.js, React Router, Waku และอื่น ๆ โดยมีการออกแพตช์แก้ไขแล้วในหลายเวอร์ชัน นักพัฒนาจำเป็นต้องอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกโจมตี
    https://securityonline.info/catastrophic-react-flaw-cve-2025-55182-cvss-10-0-allows-unauthenticated-rce-on-next-js-and-server-components

    WordPress เจอช่องโหว่ CVE-2025-6389 ถูกโจมตีจริงแล้ว
    WordPress ที่ใช้ Sneeit Framework กำลังเผชิญการโจมตีครั้งใหญ่ หลังมีการเปิดเผยช่องโหว่ Remote Code Execution (RCE) ที่ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่นี้เกิดจากฟังก์ชัน sneeit_articles_pagination_callback() ที่เปิดให้ผู้ใช้ส่งข้อมูลเข้ามาโดยไม่ตรวจสอบ ทำให้แฮกเกอร์สามารถเรียกใช้ฟังก์ชัน PHP ใด ๆ ได้ตามใจ ผลคือมีการสร้างบัญชีแอดมินปลอมและฝัง backdoor ลงในระบบทันที มีรายงานว่ามีการพยายามโจมตีมากกว่า 131,000 ครั้งแล้ว หากใครยังใช้เวอร์ชัน 8.3 หรือต่ำกว่า ต้องรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 8.4 โดยด่วน
    https://securityonline.info/critical-wordpress-flaw-cve-2025-6389-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-rce

    Next.js เจอช่องโหว่ CVE-2025-66478 ระดับสูงสุด นักพัฒนา
    Next.js กำลังเจอวิกฤติครั้งใหญ่ เมื่อพบช่องโหว่ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด CVSS 10.0 ซึ่งเปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้ ช่องโหว่นี้เชื่อมโยงกับ React Server Components (CVE-2025-55182) และส่งผลกระทบต่อ Next.js รุ่นใหม่ที่ใช้ App Router โดยตรง เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบคือ Next.js 15.x และ 16.x รวมถึง canary release ของ 14.3.0 ขึ้นไป ทางแก้เดียวคือการอัปเดตไปยังเวอร์ชันที่มีแพตช์ เช่น 15.0.5, 15.1.9 หรือ 16.0.7 หากยังใช้เวอร์ชันที่เสี่ยงอยู่ถือว่าเปิดช่องให้ถูกยึดระบบได้ทันที
    https://securityonline.info/maximum-severity-alert-critical-rce-flaw-hits-next-js-cve-2025-66478-cvss-10-0

    AWS เปิดตัว Frontier Agents: ทีมงาน AI อัตโนมัติ
    ที่งาน re:Invent 2025 AWS สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว “Frontier Agents” ซึ่งเป็น AI ที่ทำงานได้เหมือนทีมงานจริง ๆ สามารถรับภารกิจและทำงานต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องมีคนคอยกำกับตลอดเวลา มีทั้งหมด 3 ตัวหลักคือ Kiro สำหรับงานพัฒนา, Security Agent สำหรับตรวจสอบความปลอดภัย และ DevOps Agent สำหรับแก้ปัญหาระบบที่ล่ม ตัวอย่างเช่น Kiro สามารถรับงานจาก GitHub แล้วแก้บั๊กหรือเพิ่ม test coverage ได้เอง ส่วน Security Agent ก็ช่วยตรวจสอบช่องโหว่ที่เครื่องมือทั่วไปมองไม่เห็น และ DevOps Agent สามารถหาสาเหตุระบบล่มได้ภายใน 15 นาที ซึ่งปกติวิศวกรอาจใช้เวลาหลายชั่วโมง จุดสำคัญคือ AWS ต้องการให้คนทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และปล่อยเวลาไปทำงานเชิงกลยุทธ์แทน
    https://securityonline.info/aws-frontier-agents-autonomous-ai-team-members-take-over-dev-security-and-ops

    AWS S3 Unleashed: ยุคใหม่ของการเก็บข้อมูล AI และ Big Data
    AWS ประกาศอัปเกรดครั้งใหญ่ให้กับ Amazon S3 โดยเพิ่มความสามารถในการเก็บและค้นหาข้อมูลแบบเวกเตอร์ (S3 Vectors) ที่รองรับได้ถึง 20 ล้านล้านเวกเตอร์ และเพิ่มขนาดไฟล์สูงสุดจาก 5 TB เป็น 50 TB ทำให้สามารถเก็บไฟล์ขนาดมหึมา เช่น วิดีโอความละเอียดสูงหรือ dataset สำหรับ AI ได้โดยไม่ต้องแบ่งไฟล์ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุง batch operations ให้เร็วขึ้น 10 เท่า และเพิ่มฟีเจอร์ replication ข้าม region สำหรับ S3 Tables จุดเด่นคือช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 90% และทำให้การสร้างระบบ AI หรือ RAG ง่ายขึ้นมาก หลายองค์กรใหญ่ เช่น BMW และ Twilio ได้เริ่มใช้งานแล้ว
    https://securityonline.info/aws-s3-unleashed-native-vector-storage-50-tb-max-object-size-for-ai-big-data

    Raspberry Pi ขึ้นราคาเพราะกระแส AI
    Raspberry Pi ประกาศขึ้นราคาทันทีสำหรับบางรุ่นของ Pi 4 และ Pi 5 เนื่องจากความต้องการหน่วยความจำทั่วโลกที่พุ่งสูงจากการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น รุ่นที่มีหน่วยความจำมากขึ้นจะขึ้นราคาหนักที่สุด เช่น Pi 5 (16GB) จาก 120 ดอลลาร์เป็น 145 ดอลลาร์ และ Pi 5 (8GB) จาก 80 ดอลลาร์เป็น 95 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม Raspberry Pi ก็เปิดตัวรุ่นใหม่ราคาประหยัดคือ Pi 5 (1GB) ที่ 45 ดอลลาร์ เพื่อให้คนทั่วไปยังเข้าถึงได้ CEO Eben Upton ย้ำว่านี่เป็นการปรับราคาชั่วคราว และเมื่อสถานการณ์หน่วยความจำกลับมาปกติ ราคาจะลดลงอีกครั้ง
    https://securityonline.info/raspberry-pi-price-hike-ai-boom-forces-price-increases-on-pi-4-and-pi-5-models

    Android 16 อัปเดตใหม่: AI สรุปแจ้งเตือนและฟีเจอร์ช่วยเหลือผู้พิการ
    Google ปล่อยอัปเดตใหญ่ครั้งที่สองของ Android 16 โดยเพิ่มฟีเจอร์ AI ที่ช่วยสรุปข้อความแจ้งเตือนยาว ๆ ให้เข้าใจง่ายขึ้น และมี Notification Organizer ที่ช่วยจัดการแจ้งเตือนที่ไม่สำคัญให้อัตโนมัติ ด้านความปลอดภัยก็มีการกรองข้อความเชิญเข้ากลุ่มจากเบอร์แปลก และ Circle to Search สามารถตรวจสอบข้อความหลอกลวงได้ ฟีเจอร์ใหม่ยังรวมถึงการปรับแต่งไอคอน, Dark Theme ที่ครอบคลุมทุกแอป และ parental control ที่ใช้งานง่ายขึ้น ที่สำคัญคือการปรับปรุงด้าน accessibility เช่น TalkBack ที่ใช้ Gemini ช่วยแก้ไขข้อความด้วยเสียง, กล้องที่ให้คำแนะนำเสียงสำหรับผู้พิการทางสายตา, AutoClick สำหรับผู้ใช้เมาส์ และ Expressive Captions ที่บอกอารมณ์ของผู้พูดในวิดีโอ ฟีเจอร์เหล่านี้เริ่มปล่อยให้ Pixel ก่อนและจะขยายไปยังอุปกรณ์อื่นในอนาคต
    https://securityonline.info/android-16-update-ai-notification-summaries-gemini-powered-accessibility-suite

    AWS Nova Forge: แพลตฟอร์มเปิดให้ปรับแต่งโมเดล Nova 2
    AWS เปิดตัว Nova Forge ที่งาน re:Invent 2025 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งโมเดล Nova 2 ได้อย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่ขั้น pre-training ไปจนถึง post-training ทำให้สามารถใส่ความรู้เฉพาะองค์กรเข้าไปในโมเดลโดยตรง ไม่ต้องพึ่งการเชื่อมต่อภายนอกที่อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เสถียร จุดเด่นคือความยืดหยุ่นในการปรับแต่งตามกฎและความรู้ที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา AWS ยังเสริมระบบ guardrails เพื่อให้ลูกค้ากำหนดขอบเขตพฤติกรรมของโมเดลได้เอง นอกจากนี้ Nova Forge ยังสามารถใช้ปรับแต่ง Alexa+ ได้โดยตรง ทำให้บริการสำหรับองค์กรมีความเฉพาะตัวมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับการสร้างโมเดล AI ให้ตอบโจทย์ธุรกิจได้จริง
    https://securityonline.info/aws-nova-forge-open-training-platform-enables-deep-customization-of-nova-2-models

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Vim for Windows (CVE-2025-66476)
    มีการค้นพบช่องโหว่ระดับสูงใน Vim เวอร์ชัน Windows ที่อาจเปิดทางให้ผู้โจมตีรันโค้ดอันตรายได้หากผู้ใช้เปิดไฟล์จากโฟลเดอร์ที่ถูกเจาะแล้ว ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการ path ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังสคริปต์ไว้ในไฟล์ที่ดูเหมือนปกติได้ ผลคือผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกควบคุมเครื่องโดยไม่รู้ตัว นักวิจัยเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตแพตช์ล่าสุดเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/high-severity-vim-for-windows-flaw-cve-2025-66476-risks-arbitrary-code-execution-from-compromised-folders

    แคมเปญ Water Saci ใช้ LLM แปลงมัลแวร์เป็น Python
    นักวิจัยพบการโจมตีใหม่ชื่อ Water Saci ที่ใช้โมเดลภาษาใหญ่ (LLM) ช่วยแปลงโค้ดมัลแวร์เป็น Python เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ จากนั้นแพร่กระจายผ่าน WhatsApp worm โดยส่งลิงก์ปลอมไปยังผู้ใช้ เมื่อเหยื่อคลิกก็จะติด Banking Trojan ที่ขโมยข้อมูลการเงิน จุดน่าสนใจคือการใช้ AI ในการปรับโค้ดให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ทำให้การโจมตียากต่อการตรวจจับมากขึ้น
    https://securityonline.info/water-saci-campaign-uses-llms-to-convert-malware-to-python-spreads-banking-trojan-via-whatsapp-worm

    Synology BeeStation พบช่องโหว่ SQL Injection แบบใหม่
    มีการเปิดเผยช่องโหว่ใน Synology BeeStation ที่สามารถนำไปสู่การเข้าถึงสิทธิ์ root ได้ผ่านเทคนิค “Dirty File Write” ซึ่งเป็นการโจมตี SQL Injection รูปแบบใหม่ นักวิจัยได้เผยแพร่ PoC แล้ว ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้ประโยชน์ได้ทันทีหากผู้ใช้ยังไม่อัปเดตแพตช์ ความร้ายแรงคือสามารถควบคุมระบบทั้งหมดได้โดยตรง Synology แนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกโจมตี
    https://securityonline.info/synology-beestation-flaw-chain-leads-to-root-rce-via-novel-dirty-file-write-sql-injection-poc-available

    Matanbuchus 3.0 เปลี่ยนจาก Downloader ไปสู่ Ransomware
    มัลแวร์ Matanbuchus ได้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 3.0 โดยเปลี่ยนบทบาทจากการเป็น downloader ไปสู่การทำงานเป็น ransomware เต็มรูปแบบ ใช้เทคนิคใหม่อย่าง Protobufs และ Intel QuickAssist เพื่อซ่อนการเข้าถึงและทำงานได้อย่างลับ ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้การโจมตีมีความซับซ้อนและอันตรายมากขึ้น เพราะสามารถเข้ารหัสไฟล์และเรียกค่าไถ่ได้โดยตรง
    https://securityonline.info/matanbuchus-3-0-downloader-pivots-to-ransomware-using-protobufs-and-quickassist-for-stealth-access

    ShadyPanda Spyware แฮ็กผู้ใช้กว่า 4.3 ล้านราย
    มีรายงานว่า ShadyPanda Spyware ใช้ประโยชน์จากการอัปเดตอัตโนมัติของส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่เชื่อถือได้ เพื่อฝังโค้ดอันตรายและเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้โดยตรง ส่งผลให้มีผู้ใช้กว่า 4.3 ล้านรายถูกเจาะข้อมูล การโจมตีนี้อันตรายมากเพราะเกิดขึ้นผ่านช่องทางที่ผู้ใช้เชื่อถืออยู่แล้ว ทำให้ยากต่อการสังเกตหรือป้องกัน
    https://securityonline.info/shadypanda-spyware-hacked-4-3-million-users-by-weaponizing-trusted-browser-extensions-via-auto-updates

    ช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน WordPress ACF Extended
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน Advanced Custom Fields: Extended ที่ถูกใช้งานบนเว็บไซต์กว่าแสนแห่งทั่วโลก ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์สามารถรันโค้ดจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องล็อกอินเข้าระบบ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาสามารถเข้าควบคุมเว็บไซต์ได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยด้านความปลอดภัยที่ค้นพบได้รับเงินรางวัลจากการแจ้งเตือน เนื่องจากความเสี่ยงสูงสุดที่ช่องโหว่นี้สร้างขึ้น ทีมพัฒนาจึงรีบออกแพตช์แก้ไขและแนะนำให้ผู้ดูแลเว็บไซต์รีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดทันทีเพื่อป้องกันการถูกโจมตี
    https://securityonline.info/critical-acf-extended-flaw-cve-2025-13486-cvss-9-8-allows-unauthenticated-rce-on-100k-wordpress-sites

    อินเดียบังคับใช้กฎ SIM-Binding บน WhatsApp และ Telegram
    รัฐบาลอินเดียออกข้อบังคับใหม่ที่เข้มงวดกับแอปแชทชื่อดังอย่าง WhatsApp, Telegram และอีกหลายแพลตฟอร์ม โดยกำหนดให้ผู้ใช้ต้องผูกบัญชีเข้ากับซิมการ์ดที่ออกในอินเดีย และต้องยืนยันตัวตนใหม่ทุก ๆ 6 ชั่วโมง หากไม่มีซิมที่เชื่อมโยงอยู่ บัญชีจะถูกล็อกทันที กฎนี้ถูกออกมาเพื่อป้องกันการใช้เบอร์โทรศัพท์อินเดียไปทำการหลอกลวงหรือฟิชชิ่งจากต่างประเทศ แม้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย แต่ก็สร้างคำถามว่าแพลตฟอร์มต่างชาติที่เน้นความเป็นส่วนตัวจะยอมทำตามหรือไม่
    https://securityonline.info/india-mandates-sim-binding-whatsapp-and-telegram-users-must-re-verify-every-6-hours

    OpenAI ยกเลิกแผนโฆษณา หันมาโฟกัสคุณภาพ ChatGPT รับมือ Gemini
    OpenAI เคยทดลองเพิ่มโฆษณาใน ChatGPT เพื่อหารายได้ แต่ล่าสุดบริษัทตัดสินใจหยุดแผนนี้และหันมาเน้นพัฒนาคุณภาพของ ChatGPT ให้ดียิ่งขึ้น เหตุผลสำคัญคือการมาของ Google Gemini ที่กำลังดึงผู้ใช้จำนวนมากไป ทำให้ Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ประกาศ “red alert” ภายในบริษัท พร้อมสั่งทีมงานเร่งพัฒนาโมเดล reasoning ใหม่ที่คาดว่าจะเหนือกว่า Gemini 3 รวมถึงปรับปรุงด้าน personalization และความเร็วในการใช้งาน เพื่อรักษาฐานผู้ใช้และความสามารถในการแข่งขัน
    https://securityonline.info/red-alert-at-openai-ad-plans-dropped-to-focus-on-chatgpt-quality-amid-gemini-threat

    Let’s Encrypt เตรียมลดอายุใบรับรองเหลือ 45 วันภายในปี 2028
    เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของระบบอินเทอร์เน็ต องค์กร CA/Browser Forum ได้ตกลงให้ลดอายุการใช้งานของใบรับรอง SSL/TLS จากเดิมเกือบ 400 วัน เหลือเพียง 45 วันเท่านั้น โดย Let’s Encrypt ประกาศว่าจะทยอยปรับตามข้อกำหนดนี้จนเสร็จสมบูรณ์ในปี 2028 การเปลี่ยนแปลงนี้หมายความว่าผู้ดูแลระบบต้องมีการต่ออายุใบรับรองบ่อยขึ้น และต้องพึ่งพาการทำงานแบบอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่อาจทำให้เว็บไซต์ล่ม
    https://securityonline.info/security-tightens-lets-encrypt-will-cap-certificate-validity-at-45-days-by-2028

    อัปเดต Windows ทำ Dark Mode พัง ไฟล์ Explorer กระพริบขาว
    ผู้ใช้ Windows 11 ที่ติดตั้งอัปเดต KB5070311 พบปัญหาน่ารำคาญ เมื่อเปิด File Explorer ในโหมดมืด หน้าต่างจะกระพริบเป็นสีขาวสว่างก่อนโหลดข้อมูล ซึ่งสร้างความไม่สบายตาและทำให้ประสบการณ์ใช้งานสะดุด แม้ Microsoft จะระบุว่านี่เป็นเพียงอัปเดตตัวทดลอง แต่ก็ทำให้ผู้ใช้หลายคนผิดหวัง เพราะฟีเจอร์ที่ควรทำให้ใช้งานราบรื่นกลับสร้างปัญหาแทน ตอนนี้ Microsoft กำลังเร่งแก้ไขเพื่อไม่ให้บั๊กนี้หลุดไปถึงเวอร์ชันเสถียร
    https://securityonline.info/microsoft-update-breaks-dark-mode-file-explorer-now-flashes-white-on-launch

    Google Phone App เพิ่มฟีเจอร์ “Call Reason” ให้โทรศัพท์ดูสำคัญขึ้น
    Google เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแอป Phone ที่ชื่อว่า “Call Reason” ผู้โทรสามารถใส่เหตุผลประกอบการโทร เช่น “ด่วนมาก” หรือ “ประชุมสำคัญ” เพื่อให้ผู้รับรู้ทันทีว่าโทรศัพท์นั้นมีความสำคัญแค่ไหน ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาที่หลายคนไม่รับสายจากเบอร์ที่ไม่รู้จัก หรือสายที่ไม่ระบุรายละเอียด การเพิ่มข้อความสั้น ๆ ก่อนโทรช่วยให้ผู้รับตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะรับสายทันทีหรือไม่
    https://securityonline.info/google-phone-app-gets-call-reason-mark-calls-as-urgent-to-ensure-a-pick-up

    AWS Bedrock เปิดตัวครั้งใหญ่ เพิ่ม 18 โมเดล AI และระบบ AgentCore ใหม่
    Amazon Web Services (AWS) ประกาศอัปเดตครั้งใหญ่ให้กับ Bedrock โดยเพิ่มโมเดล AI ใหม่ถึง 18 โมเดลจากหลายบริษัท พร้อมปรับปรุงระบบ AgentCore ที่ช่วยให้การทำงานของ AI มีความปลอดภัยและยืดหยุ่นมากขึ้น จุดเด่นคือการรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่การสร้างคอนเทนต์ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก รวมถึงการเพิ่มระบบความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานในองค์กรขนาดใหญ่
    https://securityonline.info/aws-bedrock-unleashed-18-new-ai-models-agentcore-upgrades-and-enhanced-security

    AWS เปิดตัวชิป Trainium3 เร็วขึ้น 4.4 เท่า สำหรับงาน AI
    AWS เปิดตัวชิปใหม่ Trainium3 ที่ออกแบบมาเพื่อการประมวลผล AI โดยเฉพาะ ชิปนี้ให้ประสิทธิภาพเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 4.4 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และถูกนำไปใช้ในเซิร์ฟเวอร์ EC2 UltraServers จุดเด่นคือการรองรับงาน AI ที่ซับซ้อน เช่น การฝึกโมเดลขนาดใหญ่ และการประมวลผลแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ของ AWS ให้แข่งขันกับผู้ให้บริการรายอื่นได้อย่างแข็งแกร่ง
    https://securityonline.info/aws-unleashes-trainium3-chip-4-4x-faster-ai-performance-for-ec2-ultraservers

    AWS AI Factories นำโครงสร้างพื้นฐาน AI ลงสู่ On-Premises
    AWS เปิดตัวแนวคิด “AI Factories” ที่ช่วยให้องค์กรสามารถนำโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่สมบูรณ์แบบจากระบบคลาวด์มาติดตั้งใช้งานในสถานที่ของตัวเอง (On-Premises) เพื่อรองรับความต้องการด้าน Data Sovereignty หรือการควบคุมข้อมูลให้อยู่ในประเทศหรือองค์กรโดยตรง แนวทางนี้ตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการใช้ AI แต่มีข้อจำกัดด้านกฎหมายหรือความปลอดภัยของข้อมูล
    https://securityonline.info/aws-ai-factories-bringing-full-cloud-ai-infrastructure-on-prem-for-data-sovereignty

    AWS เปิดตัวตระกูลโมเดล Nova 2 รองรับ Multimodal และ Agentic AI
    AWS ประกาศเปิดตัวโมเดลใหม่ในตระกูล Nova 2 ที่สามารถทำงานแบบ Multimodal คือรองรับทั้งข้อความ ภาพ และเสียง พร้อมฟีเจอร์ Agentic Nova Act ที่ช่วยให้ AI สามารถทำงานเชิงรุกได้มากขึ้น เช่น การตัดสินใจอัตโนมัติและการทำงานแทนมนุษย์ในบางกระบวนการ ถือเป็นการยกระดับความสามารถของ AWS ในการแข่งขันกับผู้ให้บริการ AI รายใหญ่ทั่วโลก
    https://securityonline.info/aws-unveils-nova-2-ai-model-family-with-multimodal-omni-agentic-nova-act

    📌🔐🟠 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟠🔐📌 #รวมข่าวIT #20251204 #securityonline 🛡️ React พบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-55182 ทีมพัฒนา React ออกประกาศฉุกเฉินหลังพบช่องโหว่ที่มีความรุนแรงสูงสุด (CVSS 10.0) ซึ่งเปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้เกิดจากกระบวนการถอดรหัสข้อมูลที่ส่งจาก client ไปยัง server ใน React Server Components (RSC) ที่ผิดพลาด ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งแฝงเข้ามาและเข้าควบคุมระบบได้ทันที ปัญหานี้กระทบไปถึงเฟรมเวิร์กยอดนิยมอย่าง Next.js, React Router, Waku และอื่น ๆ โดยมีการออกแพตช์แก้ไขแล้วในหลายเวอร์ชัน นักพัฒนาจำเป็นต้องอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกโจมตี 🔗 https://securityonline.info/catastrophic-react-flaw-cve-2025-55182-cvss-10-0-allows-unauthenticated-rce-on-next-js-and-server-components ⚠️ WordPress เจอช่องโหว่ CVE-2025-6389 ถูกโจมตีจริงแล้ว WordPress ที่ใช้ Sneeit Framework กำลังเผชิญการโจมตีครั้งใหญ่ หลังมีการเปิดเผยช่องโหว่ Remote Code Execution (RCE) ที่ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่นี้เกิดจากฟังก์ชัน sneeit_articles_pagination_callback() ที่เปิดให้ผู้ใช้ส่งข้อมูลเข้ามาโดยไม่ตรวจสอบ ทำให้แฮกเกอร์สามารถเรียกใช้ฟังก์ชัน PHP ใด ๆ ได้ตามใจ ผลคือมีการสร้างบัญชีแอดมินปลอมและฝัง backdoor ลงในระบบทันที มีรายงานว่ามีการพยายามโจมตีมากกว่า 131,000 ครั้งแล้ว หากใครยังใช้เวอร์ชัน 8.3 หรือต่ำกว่า ต้องรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 8.4 โดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/critical-wordpress-flaw-cve-2025-6389-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-rce 🚨 Next.js เจอช่องโหว่ CVE-2025-66478 ระดับสูงสุด นักพัฒนา Next.js กำลังเจอวิกฤติครั้งใหญ่ เมื่อพบช่องโหว่ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด CVSS 10.0 ซึ่งเปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้ ช่องโหว่นี้เชื่อมโยงกับ React Server Components (CVE-2025-55182) และส่งผลกระทบต่อ Next.js รุ่นใหม่ที่ใช้ App Router โดยตรง เวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบคือ Next.js 15.x และ 16.x รวมถึง canary release ของ 14.3.0 ขึ้นไป ทางแก้เดียวคือการอัปเดตไปยังเวอร์ชันที่มีแพตช์ เช่น 15.0.5, 15.1.9 หรือ 16.0.7 หากยังใช้เวอร์ชันที่เสี่ยงอยู่ถือว่าเปิดช่องให้ถูกยึดระบบได้ทันที 🔗 https://securityonline.info/maximum-severity-alert-critical-rce-flaw-hits-next-js-cve-2025-66478-cvss-10-0 🧑‍💻 AWS เปิดตัว Frontier Agents: ทีมงาน AI อัตโนมัติ ที่งาน re:Invent 2025 AWS สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว “Frontier Agents” ซึ่งเป็น AI ที่ทำงานได้เหมือนทีมงานจริง ๆ สามารถรับภารกิจและทำงานต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องมีคนคอยกำกับตลอดเวลา มีทั้งหมด 3 ตัวหลักคือ Kiro สำหรับงานพัฒนา, Security Agent สำหรับตรวจสอบความปลอดภัย และ DevOps Agent สำหรับแก้ปัญหาระบบที่ล่ม ตัวอย่างเช่น Kiro สามารถรับงานจาก GitHub แล้วแก้บั๊กหรือเพิ่ม test coverage ได้เอง ส่วน Security Agent ก็ช่วยตรวจสอบช่องโหว่ที่เครื่องมือทั่วไปมองไม่เห็น และ DevOps Agent สามารถหาสาเหตุระบบล่มได้ภายใน 15 นาที ซึ่งปกติวิศวกรอาจใช้เวลาหลายชั่วโมง จุดสำคัญคือ AWS ต้องการให้คนทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และปล่อยเวลาไปทำงานเชิงกลยุทธ์แทน 🔗 https://securityonline.info/aws-frontier-agents-autonomous-ai-team-members-take-over-dev-security-and-ops 📦 AWS S3 Unleashed: ยุคใหม่ของการเก็บข้อมูล AI และ Big Data AWS ประกาศอัปเกรดครั้งใหญ่ให้กับ Amazon S3 โดยเพิ่มความสามารถในการเก็บและค้นหาข้อมูลแบบเวกเตอร์ (S3 Vectors) ที่รองรับได้ถึง 20 ล้านล้านเวกเตอร์ และเพิ่มขนาดไฟล์สูงสุดจาก 5 TB เป็น 50 TB ทำให้สามารถเก็บไฟล์ขนาดมหึมา เช่น วิดีโอความละเอียดสูงหรือ dataset สำหรับ AI ได้โดยไม่ต้องแบ่งไฟล์ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุง batch operations ให้เร็วขึ้น 10 เท่า และเพิ่มฟีเจอร์ replication ข้าม region สำหรับ S3 Tables จุดเด่นคือช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 90% และทำให้การสร้างระบบ AI หรือ RAG ง่ายขึ้นมาก หลายองค์กรใหญ่ เช่น BMW และ Twilio ได้เริ่มใช้งานแล้ว 🔗 https://securityonline.info/aws-s3-unleashed-native-vector-storage-50-tb-max-object-size-for-ai-big-data 💾 Raspberry Pi ขึ้นราคาเพราะกระแส AI Raspberry Pi ประกาศขึ้นราคาทันทีสำหรับบางรุ่นของ Pi 4 และ Pi 5 เนื่องจากความต้องการหน่วยความจำทั่วโลกที่พุ่งสูงจากการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น รุ่นที่มีหน่วยความจำมากขึ้นจะขึ้นราคาหนักที่สุด เช่น Pi 5 (16GB) จาก 120 ดอลลาร์เป็น 145 ดอลลาร์ และ Pi 5 (8GB) จาก 80 ดอลลาร์เป็น 95 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม Raspberry Pi ก็เปิดตัวรุ่นใหม่ราคาประหยัดคือ Pi 5 (1GB) ที่ 45 ดอลลาร์ เพื่อให้คนทั่วไปยังเข้าถึงได้ CEO Eben Upton ย้ำว่านี่เป็นการปรับราคาชั่วคราว และเมื่อสถานการณ์หน่วยความจำกลับมาปกติ ราคาจะลดลงอีกครั้ง 🔗 https://securityonline.info/raspberry-pi-price-hike-ai-boom-forces-price-increases-on-pi-4-and-pi-5-models 📱 Android 16 อัปเดตใหม่: AI สรุปแจ้งเตือนและฟีเจอร์ช่วยเหลือผู้พิการ Google ปล่อยอัปเดตใหญ่ครั้งที่สองของ Android 16 โดยเพิ่มฟีเจอร์ AI ที่ช่วยสรุปข้อความแจ้งเตือนยาว ๆ ให้เข้าใจง่ายขึ้น และมี Notification Organizer ที่ช่วยจัดการแจ้งเตือนที่ไม่สำคัญให้อัตโนมัติ ด้านความปลอดภัยก็มีการกรองข้อความเชิญเข้ากลุ่มจากเบอร์แปลก และ Circle to Search สามารถตรวจสอบข้อความหลอกลวงได้ ฟีเจอร์ใหม่ยังรวมถึงการปรับแต่งไอคอน, Dark Theme ที่ครอบคลุมทุกแอป และ parental control ที่ใช้งานง่ายขึ้น ที่สำคัญคือการปรับปรุงด้าน accessibility เช่น TalkBack ที่ใช้ Gemini ช่วยแก้ไขข้อความด้วยเสียง, กล้องที่ให้คำแนะนำเสียงสำหรับผู้พิการทางสายตา, AutoClick สำหรับผู้ใช้เมาส์ และ Expressive Captions ที่บอกอารมณ์ของผู้พูดในวิดีโอ ฟีเจอร์เหล่านี้เริ่มปล่อยให้ Pixel ก่อนและจะขยายไปยังอุปกรณ์อื่นในอนาคต 🔗 https://securityonline.info/android-16-update-ai-notification-summaries-gemini-powered-accessibility-suite ⚙️ AWS Nova Forge: แพลตฟอร์มเปิดให้ปรับแต่งโมเดล Nova 2 AWS เปิดตัว Nova Forge ที่งาน re:Invent 2025 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งโมเดล Nova 2 ได้อย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่ขั้น pre-training ไปจนถึง post-training ทำให้สามารถใส่ความรู้เฉพาะองค์กรเข้าไปในโมเดลโดยตรง ไม่ต้องพึ่งการเชื่อมต่อภายนอกที่อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เสถียร จุดเด่นคือความยืดหยุ่นในการปรับแต่งตามกฎและความรู้ที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา AWS ยังเสริมระบบ guardrails เพื่อให้ลูกค้ากำหนดขอบเขตพฤติกรรมของโมเดลได้เอง นอกจากนี้ Nova Forge ยังสามารถใช้ปรับแต่ง Alexa+ ได้โดยตรง ทำให้บริการสำหรับองค์กรมีความเฉพาะตัวมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับการสร้างโมเดล AI ให้ตอบโจทย์ธุรกิจได้จริง 🔗 https://securityonline.info/aws-nova-forge-open-training-platform-enables-deep-customization-of-nova-2-models 🛠️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Vim for Windows (CVE-2025-66476) มีการค้นพบช่องโหว่ระดับสูงใน Vim เวอร์ชัน Windows ที่อาจเปิดทางให้ผู้โจมตีรันโค้ดอันตรายได้หากผู้ใช้เปิดไฟล์จากโฟลเดอร์ที่ถูกเจาะแล้ว ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการ path ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังสคริปต์ไว้ในไฟล์ที่ดูเหมือนปกติได้ ผลคือผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกควบคุมเครื่องโดยไม่รู้ตัว นักวิจัยเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตแพตช์ล่าสุดเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/high-severity-vim-for-windows-flaw-cve-2025-66476-risks-arbitrary-code-execution-from-compromised-folders 🐍 แคมเปญ Water Saci ใช้ LLM แปลงมัลแวร์เป็น Python นักวิจัยพบการโจมตีใหม่ชื่อ Water Saci ที่ใช้โมเดลภาษาใหญ่ (LLM) ช่วยแปลงโค้ดมัลแวร์เป็น Python เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ จากนั้นแพร่กระจายผ่าน WhatsApp worm โดยส่งลิงก์ปลอมไปยังผู้ใช้ เมื่อเหยื่อคลิกก็จะติด Banking Trojan ที่ขโมยข้อมูลการเงิน จุดน่าสนใจคือการใช้ AI ในการปรับโค้ดให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ทำให้การโจมตียากต่อการตรวจจับมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/water-saci-campaign-uses-llms-to-convert-malware-to-python-spreads-banking-trojan-via-whatsapp-worm 🐝 Synology BeeStation พบช่องโหว่ SQL Injection แบบใหม่ มีการเปิดเผยช่องโหว่ใน Synology BeeStation ที่สามารถนำไปสู่การเข้าถึงสิทธิ์ root ได้ผ่านเทคนิค “Dirty File Write” ซึ่งเป็นการโจมตี SQL Injection รูปแบบใหม่ นักวิจัยได้เผยแพร่ PoC แล้ว ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้ประโยชน์ได้ทันทีหากผู้ใช้ยังไม่อัปเดตแพตช์ ความร้ายแรงคือสามารถควบคุมระบบทั้งหมดได้โดยตรง Synology แนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกโจมตี 🔗 https://securityonline.info/synology-beestation-flaw-chain-leads-to-root-rce-via-novel-dirty-file-write-sql-injection-poc-available 🔒 Matanbuchus 3.0 เปลี่ยนจาก Downloader ไปสู่ Ransomware มัลแวร์ Matanbuchus ได้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 3.0 โดยเปลี่ยนบทบาทจากการเป็น downloader ไปสู่การทำงานเป็น ransomware เต็มรูปแบบ ใช้เทคนิคใหม่อย่าง Protobufs และ Intel QuickAssist เพื่อซ่อนการเข้าถึงและทำงานได้อย่างลับ ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้การโจมตีมีความซับซ้อนและอันตรายมากขึ้น เพราะสามารถเข้ารหัสไฟล์และเรียกค่าไถ่ได้โดยตรง 🔗 https://securityonline.info/matanbuchus-3-0-downloader-pivots-to-ransomware-using-protobufs-and-quickassist-for-stealth-access 🕵️ ShadyPanda Spyware แฮ็กผู้ใช้กว่า 4.3 ล้านราย มีรายงานว่า ShadyPanda Spyware ใช้ประโยชน์จากการอัปเดตอัตโนมัติของส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่เชื่อถือได้ เพื่อฝังโค้ดอันตรายและเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้โดยตรง ส่งผลให้มีผู้ใช้กว่า 4.3 ล้านรายถูกเจาะข้อมูล การโจมตีนี้อันตรายมากเพราะเกิดขึ้นผ่านช่องทางที่ผู้ใช้เชื่อถืออยู่แล้ว ทำให้ยากต่อการสังเกตหรือป้องกัน 🔗 https://securityonline.info/shadypanda-spyware-hacked-4-3-million-users-by-weaponizing-trusted-browser-extensions-via-auto-updates 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน WordPress ACF Extended มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน Advanced Custom Fields: Extended ที่ถูกใช้งานบนเว็บไซต์กว่าแสนแห่งทั่วโลก ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์สามารถรันโค้ดจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องล็อกอินเข้าระบบ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาสามารถเข้าควบคุมเว็บไซต์ได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยด้านความปลอดภัยที่ค้นพบได้รับเงินรางวัลจากการแจ้งเตือน เนื่องจากความเสี่ยงสูงสุดที่ช่องโหว่นี้สร้างขึ้น ทีมพัฒนาจึงรีบออกแพตช์แก้ไขและแนะนำให้ผู้ดูแลเว็บไซต์รีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดทันทีเพื่อป้องกันการถูกโจมตี 🔗 https://securityonline.info/critical-acf-extended-flaw-cve-2025-13486-cvss-9-8-allows-unauthenticated-rce-on-100k-wordpress-sites 📱 อินเดียบังคับใช้กฎ SIM-Binding บน WhatsApp และ Telegram รัฐบาลอินเดียออกข้อบังคับใหม่ที่เข้มงวดกับแอปแชทชื่อดังอย่าง WhatsApp, Telegram และอีกหลายแพลตฟอร์ม โดยกำหนดให้ผู้ใช้ต้องผูกบัญชีเข้ากับซิมการ์ดที่ออกในอินเดีย และต้องยืนยันตัวตนใหม่ทุก ๆ 6 ชั่วโมง หากไม่มีซิมที่เชื่อมโยงอยู่ บัญชีจะถูกล็อกทันที กฎนี้ถูกออกมาเพื่อป้องกันการใช้เบอร์โทรศัพท์อินเดียไปทำการหลอกลวงหรือฟิชชิ่งจากต่างประเทศ แม้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย แต่ก็สร้างคำถามว่าแพลตฟอร์มต่างชาติที่เน้นความเป็นส่วนตัวจะยอมทำตามหรือไม่ 🔗 https://securityonline.info/india-mandates-sim-binding-whatsapp-and-telegram-users-must-re-verify-every-6-hours 🚨 OpenAI ยกเลิกแผนโฆษณา หันมาโฟกัสคุณภาพ ChatGPT รับมือ Gemini OpenAI เคยทดลองเพิ่มโฆษณาใน ChatGPT เพื่อหารายได้ แต่ล่าสุดบริษัทตัดสินใจหยุดแผนนี้และหันมาเน้นพัฒนาคุณภาพของ ChatGPT ให้ดียิ่งขึ้น เหตุผลสำคัญคือการมาของ Google Gemini ที่กำลังดึงผู้ใช้จำนวนมากไป ทำให้ Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ประกาศ “red alert” ภายในบริษัท พร้อมสั่งทีมงานเร่งพัฒนาโมเดล reasoning ใหม่ที่คาดว่าจะเหนือกว่า Gemini 3 รวมถึงปรับปรุงด้าน personalization และความเร็วในการใช้งาน เพื่อรักษาฐานผู้ใช้และความสามารถในการแข่งขัน 🔗 https://securityonline.info/red-alert-at-openai-ad-plans-dropped-to-focus-on-chatgpt-quality-amid-gemini-threat 🔒 Let’s Encrypt เตรียมลดอายุใบรับรองเหลือ 45 วันภายในปี 2028 เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของระบบอินเทอร์เน็ต องค์กร CA/Browser Forum ได้ตกลงให้ลดอายุการใช้งานของใบรับรอง SSL/TLS จากเดิมเกือบ 400 วัน เหลือเพียง 45 วันเท่านั้น โดย Let’s Encrypt ประกาศว่าจะทยอยปรับตามข้อกำหนดนี้จนเสร็จสมบูรณ์ในปี 2028 การเปลี่ยนแปลงนี้หมายความว่าผู้ดูแลระบบต้องมีการต่ออายุใบรับรองบ่อยขึ้น และต้องพึ่งพาการทำงานแบบอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่อาจทำให้เว็บไซต์ล่ม 🔗 https://securityonline.info/security-tightens-lets-encrypt-will-cap-certificate-validity-at-45-days-by-2028 💻 อัปเดต Windows ทำ Dark Mode พัง ไฟล์ Explorer กระพริบขาว ผู้ใช้ Windows 11 ที่ติดตั้งอัปเดต KB5070311 พบปัญหาน่ารำคาญ เมื่อเปิด File Explorer ในโหมดมืด หน้าต่างจะกระพริบเป็นสีขาวสว่างก่อนโหลดข้อมูล ซึ่งสร้างความไม่สบายตาและทำให้ประสบการณ์ใช้งานสะดุด แม้ Microsoft จะระบุว่านี่เป็นเพียงอัปเดตตัวทดลอง แต่ก็ทำให้ผู้ใช้หลายคนผิดหวัง เพราะฟีเจอร์ที่ควรทำให้ใช้งานราบรื่นกลับสร้างปัญหาแทน ตอนนี้ Microsoft กำลังเร่งแก้ไขเพื่อไม่ให้บั๊กนี้หลุดไปถึงเวอร์ชันเสถียร 🔗 https://securityonline.info/microsoft-update-breaks-dark-mode-file-explorer-now-flashes-white-on-launch 📞 Google Phone App เพิ่มฟีเจอร์ “Call Reason” ให้โทรศัพท์ดูสำคัญขึ้น Google เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแอป Phone ที่ชื่อว่า “Call Reason” ผู้โทรสามารถใส่เหตุผลประกอบการโทร เช่น “ด่วนมาก” หรือ “ประชุมสำคัญ” เพื่อให้ผู้รับรู้ทันทีว่าโทรศัพท์นั้นมีความสำคัญแค่ไหน ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาที่หลายคนไม่รับสายจากเบอร์ที่ไม่รู้จัก หรือสายที่ไม่ระบุรายละเอียด การเพิ่มข้อความสั้น ๆ ก่อนโทรช่วยให้ผู้รับตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะรับสายทันทีหรือไม่ 🔗 https://securityonline.info/google-phone-app-gets-call-reason-mark-calls-as-urgent-to-ensure-a-pick-up ☁️ AWS Bedrock เปิดตัวครั้งใหญ่ เพิ่ม 18 โมเดล AI และระบบ AgentCore ใหม่ Amazon Web Services (AWS) ประกาศอัปเดตครั้งใหญ่ให้กับ Bedrock โดยเพิ่มโมเดล AI ใหม่ถึง 18 โมเดลจากหลายบริษัท พร้อมปรับปรุงระบบ AgentCore ที่ช่วยให้การทำงานของ AI มีความปลอดภัยและยืดหยุ่นมากขึ้น จุดเด่นคือการรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่การสร้างคอนเทนต์ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก รวมถึงการเพิ่มระบบความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานในองค์กรขนาดใหญ่ 🔗 https://securityonline.info/aws-bedrock-unleashed-18-new-ai-models-agentcore-upgrades-and-enhanced-security ⚡ AWS เปิดตัวชิป Trainium3 เร็วขึ้น 4.4 เท่า สำหรับงาน AI AWS เปิดตัวชิปใหม่ Trainium3 ที่ออกแบบมาเพื่อการประมวลผล AI โดยเฉพาะ ชิปนี้ให้ประสิทธิภาพเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 4.4 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และถูกนำไปใช้ในเซิร์ฟเวอร์ EC2 UltraServers จุดเด่นคือการรองรับงาน AI ที่ซับซ้อน เช่น การฝึกโมเดลขนาดใหญ่ และการประมวลผลแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ของ AWS ให้แข่งขันกับผู้ให้บริการรายอื่นได้อย่างแข็งแกร่ง 🔗 https://securityonline.info/aws-unleashes-trainium3-chip-4-4x-faster-ai-performance-for-ec2-ultraservers 🏭 AWS AI Factories นำโครงสร้างพื้นฐาน AI ลงสู่ On-Premises AWS เปิดตัวแนวคิด “AI Factories” ที่ช่วยให้องค์กรสามารถนำโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่สมบูรณ์แบบจากระบบคลาวด์มาติดตั้งใช้งานในสถานที่ของตัวเอง (On-Premises) เพื่อรองรับความต้องการด้าน Data Sovereignty หรือการควบคุมข้อมูลให้อยู่ในประเทศหรือองค์กรโดยตรง แนวทางนี้ตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการใช้ AI แต่มีข้อจำกัดด้านกฎหมายหรือความปลอดภัยของข้อมูล 🔗 https://securityonline.info/aws-ai-factories-bringing-full-cloud-ai-infrastructure-on-prem-for-data-sovereignty 🤖 AWS เปิดตัวตระกูลโมเดล Nova 2 รองรับ Multimodal และ Agentic AI AWS ประกาศเปิดตัวโมเดลใหม่ในตระกูล Nova 2 ที่สามารถทำงานแบบ Multimodal คือรองรับทั้งข้อความ ภาพ และเสียง พร้อมฟีเจอร์ Agentic Nova Act ที่ช่วยให้ AI สามารถทำงานเชิงรุกได้มากขึ้น เช่น การตัดสินใจอัตโนมัติและการทำงานแทนมนุษย์ในบางกระบวนการ ถือเป็นการยกระดับความสามารถของ AWS ในการแข่งขันกับผู้ให้บริการ AI รายใหญ่ทั่วโลก 🔗 https://securityonline.info/aws-unveils-nova-2-ai-model-family-with-multimodal-omni-agentic-nova-act
    0 Comments 0 Shares 588 Views 0 Reviews
  • “Samsung Galaxy Z TriFold – ทำไมไม่ใช้ Snapdragon 8 Elite Gen 5?”

    Samsung เปิดตัว Galaxy Z TriFold ซึ่งเป็นมือถือพับสามตอนรุ่นแรกของบริษัท แต่กลับไม่ใช้ Snapdragon 8 Elite Gen 5 รุ่นใหม่ล่าสุด โดย Kang Min-seok รองประธานฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์ของ Samsung Mobile Experience ระบุว่า บริษัทต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ “สมบูรณ์แบบและเสร็จสิ้นที่สุด” จึงเลือกใช้ Snapdragon 8 Elite รุ่นก่อนที่มีความเสถียรและผ่านการทดสอบมาแล้ว

    เบื้องหลังการตัดสินใจนี้ยังมีปัจจัยด้านต้นทุน เนื่องจาก TriFold ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 100,000 เครื่อง ทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จาก economies of scale ได้ หากเลือกใช้ Snapdragon 8 Elite Gen 5 ที่มีราคาสูงถึง 280 ดอลลาร์ต่อชิป เทียบกับ Snapdragon 8 Elite รุ่นก่อนที่ราคา 220 ดอลลาร์ การเลือกชิปรุ่นเก่าช่วยประหยัดต้นทุนได้ราว 6 ล้านดอลลาร์

    นอกจากนี้ TriFold ยังมีการลดต้นทุนในด้านอื่น ๆ เช่น การออกเพียงสีเดียว (Crafted Black) และการผลิตจำนวนจำกัดเพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย การเลือกใช้ชิปรุ่นก่อนจึงเป็นการตัดสินใจเชิงธุรกิจที่สอดคล้องกับกลยุทธ์การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีความเสี่ยงสูง

    แม้ Snapdragon 8 Elite รุ่นก่อนยังคงมีประสิทธิภาพสูง แต่ผู้บริโภคที่จ่ายราคาสูงกว่า 2,400 ดอลลาร์อาจคาดหวังสเปกที่ “ล่าสุดและดีที่สุด” ซึ่งทำให้การตัดสินใจของ Samsung ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการลดคุณค่าของผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม

    สรุปเป็นหัวข้อ
    เหตุผลที่ Samsung ให้ไว้
    ต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์และเสถียร
    เลือกชิปที่ผ่านการทดสอบแล้ว

    ปัจจัยด้านต้นทุน
    Snapdragon 8 Elite Gen 5 ราคา ~280 ดอลลาร์ต่อชิป
    Snapdragon 8 Elite รุ่นก่อนราคา ~220 ดอลลาร์
    ประหยัดต้นทุนได้ราว 6 ล้านดอลลาร์

    กลยุทธ์การผลิต
    ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 100,000 เครื่อง
    ออกเพียงสีเดียว Crafted Black
    ลดค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงจากการเปิดตัว

    ข้อควรระวังและเสียงวิจารณ์
    ผู้บริโภคอาจผิดหวังที่ไม่ได้ใช้ชิปรุ่นล่าสุด
    ราคาสูงกว่า 2,400 ดอลลาร์ แต่สเปกไม่ “top-notch”
    อาจกระทบภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์พรีเมียมของ Samsung

    https://wccftech.com/samsung-executive-provides-explanation-why-galaxy-z-trifold-does-not-feature-snapdragon-8-elite-gen-5/
    📱 “Samsung Galaxy Z TriFold – ทำไมไม่ใช้ Snapdragon 8 Elite Gen 5?” Samsung เปิดตัว Galaxy Z TriFold ซึ่งเป็นมือถือพับสามตอนรุ่นแรกของบริษัท แต่กลับไม่ใช้ Snapdragon 8 Elite Gen 5 รุ่นใหม่ล่าสุด โดย Kang Min-seok รองประธานฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์ของ Samsung Mobile Experience ระบุว่า บริษัทต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ “สมบูรณ์แบบและเสร็จสิ้นที่สุด” จึงเลือกใช้ Snapdragon 8 Elite รุ่นก่อนที่มีความเสถียรและผ่านการทดสอบมาแล้ว เบื้องหลังการตัดสินใจนี้ยังมีปัจจัยด้านต้นทุน เนื่องจาก TriFold ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 100,000 เครื่อง ทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จาก economies of scale ได้ หากเลือกใช้ Snapdragon 8 Elite Gen 5 ที่มีราคาสูงถึง 280 ดอลลาร์ต่อชิป เทียบกับ Snapdragon 8 Elite รุ่นก่อนที่ราคา 220 ดอลลาร์ การเลือกชิปรุ่นเก่าช่วยประหยัดต้นทุนได้ราว 6 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ TriFold ยังมีการลดต้นทุนในด้านอื่น ๆ เช่น การออกเพียงสีเดียว (Crafted Black) และการผลิตจำนวนจำกัดเพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย การเลือกใช้ชิปรุ่นก่อนจึงเป็นการตัดสินใจเชิงธุรกิจที่สอดคล้องกับกลยุทธ์การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีความเสี่ยงสูง แม้ Snapdragon 8 Elite รุ่นก่อนยังคงมีประสิทธิภาพสูง แต่ผู้บริโภคที่จ่ายราคาสูงกว่า 2,400 ดอลลาร์อาจคาดหวังสเปกที่ “ล่าสุดและดีที่สุด” ซึ่งทำให้การตัดสินใจของ Samsung ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการลดคุณค่าของผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ เหตุผลที่ Samsung ให้ไว้ ➡️ ต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์และเสถียร ➡️ เลือกชิปที่ผ่านการทดสอบแล้ว ✅ ปัจจัยด้านต้นทุน ➡️ Snapdragon 8 Elite Gen 5 ราคา ~280 ดอลลาร์ต่อชิป ➡️ Snapdragon 8 Elite รุ่นก่อนราคา ~220 ดอลลาร์ ➡️ ประหยัดต้นทุนได้ราว 6 ล้านดอลลาร์ ✅ กลยุทธ์การผลิต ➡️ ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 100,000 เครื่อง ➡️ ออกเพียงสีเดียว Crafted Black ➡️ ลดค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงจากการเปิดตัว ‼️ ข้อควรระวังและเสียงวิจารณ์ ⛔ ผู้บริโภคอาจผิดหวังที่ไม่ได้ใช้ชิปรุ่นล่าสุด ⛔ ราคาสูงกว่า 2,400 ดอลลาร์ แต่สเปกไม่ “top-notch” ⛔ อาจกระทบภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์พรีเมียมของ Samsung https://wccftech.com/samsung-executive-provides-explanation-why-galaxy-z-trifold-does-not-feature-snapdragon-8-elite-gen-5/
    WCCFTECH.COM
    A Samsung Executive Has A Lame Excuse For Not Using The Snapdragon 8 Elite Gen 5 On The Newly Announced Galaxy Z TriFold
    The ridiculously expensive and technologically impressive Galaxy Z TriFold does not ship with a Snapdragon 8 Elite Gen 5, with a Samsung executive explaining why
    0 Comments 0 Shares 185 Views 0 Reviews
  • ขุมทรัพย์ในกองขยะถ่านหิน

    งานวิจัยใหม่เผยว่า “เถ้าถ่านจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน” ในสหรัฐฯ อาจซ่อนแร่ธาตุหายาก (Rare Earth Elements – REEs) มูลค่ากว่า 97 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสามารถนำมาใช้ในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีขั้นสูงได้

    นักธรณีวิทยาจากมหาวิทยาลัยเท็กซัสพบว่า เถ้าถ่านที่เหลือจากการเผาถ่านหิน มีการสะสมของแร่ธาตุหายากมากกว่าถ่านหินดิบถึง 4–10 เท่า เนื่องจากเมื่อเผาไหม้ ส่วนประกอบที่เป็นคาร์บอนและกำมะถันหายไป เหลือเพียงแร่ธาตุที่ไม่เผาไหม้ เช่น ควอตซ์และ REEs ทำให้ความเข้มข้นของแร่ธาตุสูงขึ้นโดยธรรมชาติ

    มูลค่ามหาศาลและศักยภาพการใช้
    การประเมินล่าสุดระบุว่า มูลค่ารวมของ REEs ในเถ้าถ่านสหรัฐฯ อาจสูงถึง 165 พันล้านดอลลาร์ โดยมีส่วนที่สามารถสกัดได้จริงราว 97 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าปริมาณสำรองที่มีอยู่ในประเทศถึง 8 เท่า หากสามารถพัฒนาเทคโนโลยีสกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าจากจีนที่ปัจจุบันครองตลาดกว่า 70%

    ผลพลอยได้ด้านสิ่งแวดล้อม
    การนำเถ้าถ่านมาใช้สกัดแร่ธาตุหายากยังช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม เพราะกองเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลที่ถูกทิ้งไว้ตั้งแต่ทศวรรษ 1950 มักก่อให้เกิดมลพิษต่อดินและน้ำ หากสามารถนำมาใช้ใหม่ได้ จะช่วยลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายในการจัดการกากอุตสาหกรรม

    ทางเลือกอื่น ๆ ที่นักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษา
    นอกจากเถ้าถ่านแล้ว ยังมีการค้นพบแหล่ง REEs จาก ภูเขาไฟที่ดับแล้ว และแม้กระทั่ง พืชบางชนิดที่สามารถสะสมแร่ธาตุหายากในเนื้อเยื่อ ซึ่งอาจนำไปสู่การทำ “phytomining” หรือการทำเหมืองด้วยพืชในอนาคต

    สรุปสาระสำคัญ
    เถ้าถ่านจากโรงไฟฟ้าถ่านหินมีแร่ธาตุหายากเข้มข้น
    ความเข้มข้นสูงกว่าในถ่านหินดิบ 4–10 เท่า
    เกิดจากการเผาไหม้ที่เหลือแร่ธาตุไม่เผาไหม้

    มูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล
    รวมมูลค่า REEs ในเถ้าถ่านราว 165 พันล้านดอลลาร์
    ส่วนที่สกัดได้จริงประมาณ 97 พันล้านดอลลาร์

    ผลดีต่อสิ่งแวดล้อม
    ลดปัญหากองขยะเถ้าถ่านที่ก่อมลพิษ
    ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดการกากอุตสาหกรรม

    ทางเลือกใหม่ในการหา REEs
    ภูเขาไฟที่ดับแล้วอาจเป็นแหล่งใหม่
    พืชบางชนิดสามารถสะสมแร่ธาตุหายากได้

    ความท้าทายและข้อจำกัด
    เทคโนโลยีสกัดยังอยู่ระหว่างการพัฒนา
    ต้องใช้เวลาและการลงทุนสูงก่อนนำไปใช้จริง

    https://www.sciencealert.com/almost-100-billion-worth-of-rare-earth-elements-may-be-buried-in-the-us
    💎 ขุมทรัพย์ในกองขยะถ่านหิน งานวิจัยใหม่เผยว่า “เถ้าถ่านจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน” ในสหรัฐฯ อาจซ่อนแร่ธาตุหายาก (Rare Earth Elements – REEs) มูลค่ากว่า 97 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสามารถนำมาใช้ในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีขั้นสูงได้ นักธรณีวิทยาจากมหาวิทยาลัยเท็กซัสพบว่า เถ้าถ่านที่เหลือจากการเผาถ่านหิน มีการสะสมของแร่ธาตุหายากมากกว่าถ่านหินดิบถึง 4–10 เท่า เนื่องจากเมื่อเผาไหม้ ส่วนประกอบที่เป็นคาร์บอนและกำมะถันหายไป เหลือเพียงแร่ธาตุที่ไม่เผาไหม้ เช่น ควอตซ์และ REEs ทำให้ความเข้มข้นของแร่ธาตุสูงขึ้นโดยธรรมชาติ ⚙️ มูลค่ามหาศาลและศักยภาพการใช้ การประเมินล่าสุดระบุว่า มูลค่ารวมของ REEs ในเถ้าถ่านสหรัฐฯ อาจสูงถึง 165 พันล้านดอลลาร์ โดยมีส่วนที่สามารถสกัดได้จริงราว 97 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าปริมาณสำรองที่มีอยู่ในประเทศถึง 8 เท่า หากสามารถพัฒนาเทคโนโลยีสกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าจากจีนที่ปัจจุบันครองตลาดกว่า 70% 🌱 ผลพลอยได้ด้านสิ่งแวดล้อม การนำเถ้าถ่านมาใช้สกัดแร่ธาตุหายากยังช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม เพราะกองเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลที่ถูกทิ้งไว้ตั้งแต่ทศวรรษ 1950 มักก่อให้เกิดมลพิษต่อดินและน้ำ หากสามารถนำมาใช้ใหม่ได้ จะช่วยลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายในการจัดการกากอุตสาหกรรม 🔮 ทางเลือกอื่น ๆ ที่นักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษา นอกจากเถ้าถ่านแล้ว ยังมีการค้นพบแหล่ง REEs จาก ภูเขาไฟที่ดับแล้ว และแม้กระทั่ง พืชบางชนิดที่สามารถสะสมแร่ธาตุหายากในเนื้อเยื่อ ซึ่งอาจนำไปสู่การทำ “phytomining” หรือการทำเหมืองด้วยพืชในอนาคต 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ เถ้าถ่านจากโรงไฟฟ้าถ่านหินมีแร่ธาตุหายากเข้มข้น ➡️ ความเข้มข้นสูงกว่าในถ่านหินดิบ 4–10 เท่า ➡️ เกิดจากการเผาไหม้ที่เหลือแร่ธาตุไม่เผาไหม้ ✅ มูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล ➡️ รวมมูลค่า REEs ในเถ้าถ่านราว 165 พันล้านดอลลาร์ ➡️ ส่วนที่สกัดได้จริงประมาณ 97 พันล้านดอลลาร์ ✅ ผลดีต่อสิ่งแวดล้อม ➡️ ลดปัญหากองขยะเถ้าถ่านที่ก่อมลพิษ ➡️ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดการกากอุตสาหกรรม ✅ ทางเลือกใหม่ในการหา REEs ➡️ ภูเขาไฟที่ดับแล้วอาจเป็นแหล่งใหม่ ➡️ พืชบางชนิดสามารถสะสมแร่ธาตุหายากได้ ‼️ ความท้าทายและข้อจำกัด ⛔ เทคโนโลยีสกัดยังอยู่ระหว่างการพัฒนา ⛔ ต้องใช้เวลาและการลงทุนสูงก่อนนำไปใช้จริง https://www.sciencealert.com/almost-100-billion-worth-of-rare-earth-elements-may-be-buried-in-the-us
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Almost $100 Billion Worth of Rare Earth Elements May Be Buried in The US
    The waste left over from spent fossil fuel may contain a treasure trove of rare-earth elements worth billions of dollars.
    0 Comments 0 Shares 259 Views 0 Reviews
  • คู่มือเลือก Cloud Security Posture Management (CSPM) Tools

    ในยุคที่องค์กรใช้ Hybrid Multicloud กันมากขึ้น การจัดการความปลอดภัยบนคลาวด์จึงเป็นเรื่องสำคัญ บทความจาก CSO Online อธิบายว่า CSPM (Cloud Security Posture Management) คือเครื่องมือที่ช่วยตรวจสอบและแก้ไขการตั้งค่าที่ผิดพลาดในคลาวด์ เพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลและการโจมตีทางไซเบอร์ โดย CSPM จะทำงานร่วมกับมาตรฐานความปลอดภัย เช่น PCI, SOC2 และช่วยให้องค์กรมั่นใจว่าการตั้งค่าคลาวด์สอดคล้องกับข้อกำหนด.

    สิ่งที่ควรมองหาใน CSPM Tools
    องค์กรควรเลือกเครื่องมือที่สามารถทำงานได้กับทุกแพลตฟอร์มคลาวด์ที่ใช้งาน เช่น AWS, Azure และ Google Cloud รวมถึงต้องมีความสามารถในการ normalize risks เพื่อให้ทีมเข้าใจความเสี่ยงได้ชัดเจน ฟีเจอร์สำคัญที่ควรมี ได้แก่:
    การตรวจจับภัยคุกคามจากหลายแหล่ง
    การป้องกันข้อมูลเชิงลึก (Data Security Integration)
    ระบบแจ้งเตือนและแก้ไขอัตโนมัติ (Automated Remediation)
    การทำงานร่วมกับ DevOps เพื่อฝังความปลอดภัยตั้งแต่ขั้นตอนพัฒนา.

    ประโยชน์และข้อควรระวัง
    CSPM ช่วยให้องค์กรสามารถ ระบุและแก้ไขความเสี่ยงเชิงรุก ก่อนที่แฮกเกอร์จะโจมตี ลดค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหา และทำให้การตรวจสอบตามมาตรฐานเป็นไปโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม หากทีมไม่มีความรู้ด้านคลาวด์เพียงพอ การใช้งาน CSPM อาจไม่เต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งการเลือกเครื่องมือที่รองรับเพียงคลาวด์เดียวอาจทำให้ขาดมุมมองรวมของระบบทั้งหมด.

    ผู้เล่นหลักในตลาด CSPM
    ปัจจุบัน CSPM ไม่ได้เป็นเครื่องมือแยกเดี่ยวอีกต่อไป แต่มักถูกรวมเข้ากับ CNAPP (Cloud-Native Application Protection Platform) หรือ SSE (Secure Service Edge) โดยผู้ให้บริการรายใหญ่ เช่น CrowdStrike, Palo Alto Networks, Wiz, Zscaler และ Tenable ซึ่งช่วยให้การจัดการความปลอดภัยครอบคลุมทั้งแอปพลิเคชัน ข้อมูล และเครือข่าย.

    สรุปสาระสำคัญ
    CSPM คือเครื่องมือจัดการความปลอดภัยบนคลาวด์
    ตรวจสอบและแก้ไขการตั้งค่าที่ผิดพลาด

    ควรเลือกเครื่องมือที่รองรับหลายแพลตฟอร์มคลาวด์
    AWS, Azure, Google Cloud

    ฟีเจอร์สำคัญ: Threat Detection, Data Security, Automated Remediation, DevOps Integration
    ช่วยให้ทีมเข้าใจและแก้ไขความเสี่ยงได้รวดเร็ว

    ประโยชน์: ลดความเสี่ยงเชิงรุก, ลดค่าใช้จ่าย, ตรวจสอบตามมาตรฐานอัตโนมัติ
    เพิ่มความมั่นใจด้าน Compliance

    ผู้เล่นหลัก: CrowdStrike, Palo Alto Networks, Wiz, Zscaler, Tenable
    มักรวม CSPM เข้ากับ CNAPP หรือ SSE

    หากทีมไม่มีความรู้ด้านคลาวด์เพียงพอ CSPM อาจไม่เต็มประสิทธิภาพ
    ต้องมีการฝึกอบรมและความเข้าใจร่วมกันระหว่าง Dev และ Sec

    การเลือกเครื่องมือที่รองรับเพียงคลาวด์เดียวเป็นความเสี่ยง
    อาจขาดการมองภาพรวมของระบบทั้งหมด

    https://www.csoonline.com/article/657138/how-to-choose-the-best-cloud-security-posture-management-tools.html
    ☁️ คู่มือเลือก Cloud Security Posture Management (CSPM) Tools ในยุคที่องค์กรใช้ Hybrid Multicloud กันมากขึ้น การจัดการความปลอดภัยบนคลาวด์จึงเป็นเรื่องสำคัญ บทความจาก CSO Online อธิบายว่า CSPM (Cloud Security Posture Management) คือเครื่องมือที่ช่วยตรวจสอบและแก้ไขการตั้งค่าที่ผิดพลาดในคลาวด์ เพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลและการโจมตีทางไซเบอร์ โดย CSPM จะทำงานร่วมกับมาตรฐานความปลอดภัย เช่น PCI, SOC2 และช่วยให้องค์กรมั่นใจว่าการตั้งค่าคลาวด์สอดคล้องกับข้อกำหนด. 🔎 สิ่งที่ควรมองหาใน CSPM Tools องค์กรควรเลือกเครื่องมือที่สามารถทำงานได้กับทุกแพลตฟอร์มคลาวด์ที่ใช้งาน เช่น AWS, Azure และ Google Cloud รวมถึงต้องมีความสามารถในการ normalize risks เพื่อให้ทีมเข้าใจความเสี่ยงได้ชัดเจน ฟีเจอร์สำคัญที่ควรมี ได้แก่: 🎗️ การตรวจจับภัยคุกคามจากหลายแหล่ง 🎗️ การป้องกันข้อมูลเชิงลึก (Data Security Integration) 🎗️ ระบบแจ้งเตือนและแก้ไขอัตโนมัติ (Automated Remediation) 🎗️ การทำงานร่วมกับ DevOps เพื่อฝังความปลอดภัยตั้งแต่ขั้นตอนพัฒนา. 🛡️ ประโยชน์และข้อควรระวัง CSPM ช่วยให้องค์กรสามารถ ระบุและแก้ไขความเสี่ยงเชิงรุก ก่อนที่แฮกเกอร์จะโจมตี ลดค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหา และทำให้การตรวจสอบตามมาตรฐานเป็นไปโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม หากทีมไม่มีความรู้ด้านคลาวด์เพียงพอ การใช้งาน CSPM อาจไม่เต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งการเลือกเครื่องมือที่รองรับเพียงคลาวด์เดียวอาจทำให้ขาดมุมมองรวมของระบบทั้งหมด. 🏢 ผู้เล่นหลักในตลาด CSPM ปัจจุบัน CSPM ไม่ได้เป็นเครื่องมือแยกเดี่ยวอีกต่อไป แต่มักถูกรวมเข้ากับ CNAPP (Cloud-Native Application Protection Platform) หรือ SSE (Secure Service Edge) โดยผู้ให้บริการรายใหญ่ เช่น CrowdStrike, Palo Alto Networks, Wiz, Zscaler และ Tenable ซึ่งช่วยให้การจัดการความปลอดภัยครอบคลุมทั้งแอปพลิเคชัน ข้อมูล และเครือข่าย. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ CSPM คือเครื่องมือจัดการความปลอดภัยบนคลาวด์ ➡️ ตรวจสอบและแก้ไขการตั้งค่าที่ผิดพลาด ✅ ควรเลือกเครื่องมือที่รองรับหลายแพลตฟอร์มคลาวด์ ➡️ AWS, Azure, Google Cloud ✅ ฟีเจอร์สำคัญ: Threat Detection, Data Security, Automated Remediation, DevOps Integration ➡️ ช่วยให้ทีมเข้าใจและแก้ไขความเสี่ยงได้รวดเร็ว ✅ ประโยชน์: ลดความเสี่ยงเชิงรุก, ลดค่าใช้จ่าย, ตรวจสอบตามมาตรฐานอัตโนมัติ ➡️ เพิ่มความมั่นใจด้าน Compliance ✅ ผู้เล่นหลัก: CrowdStrike, Palo Alto Networks, Wiz, Zscaler, Tenable ➡️ มักรวม CSPM เข้ากับ CNAPP หรือ SSE ‼️ หากทีมไม่มีความรู้ด้านคลาวด์เพียงพอ CSPM อาจไม่เต็มประสิทธิภาพ ⛔ ต้องมีการฝึกอบรมและความเข้าใจร่วมกันระหว่าง Dev และ Sec ‼️ การเลือกเครื่องมือที่รองรับเพียงคลาวด์เดียวเป็นความเสี่ยง ⛔ อาจขาดการมองภาพรวมของระบบทั้งหมด https://www.csoonline.com/article/657138/how-to-choose-the-best-cloud-security-posture-management-tools.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    CSPM buyer’s guide: How to choose the best cloud security posture management tools
    With hybrid multicloud environments becoming prevalent across all industries, it pays to invest in the right CSPM tools to minimize risk, protect cloud assets, and manage compliance.
    0 Comments 0 Shares 273 Views 0 Reviews
  • 🐦‍🔥 Noctua ยืนยันว่า CPU Cooler รุ่นที่รองรับ LGA 1700 และ LGA 1851 จะสามารถใช้งานกับ LGA 1954 ได้ทันที

    ข่าวนี้เล่าถึงการที่ Noctua ยืนยันว่า CPU Cooler รุ่นที่รองรับ LGA 1700 และ LGA 1851 จะสามารถใช้งานกับ LGA 1954 ได้ทันที โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ที่วางแผนจะอัปเกรดไปยังแพลตฟอร์ม Intel Nova Lake ในอนาคต

    Noctua ประกาศว่า Cooler ที่รองรับ LGA 1700 และ LGA 1851 จะสามารถติดตั้งกับ LGA 1954 ได้โดยตรง เนื่องจากซ็อกเก็ตใหม่มีขนาดเท่ากับรุ่นก่อนหน้า (45mm x 37.5mm) ทำให้ไม่ต้องใช้ชุดติดตั้งใหม่หรืออุปกรณ์เสริมใด ๆ การติดตั้งจะเหมือนกับ LGA 1700/1851 ทุกประการ

    ผลดีต่อผู้ใช้
    การยืนยันนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้ใช้ที่ต้องการอัปเกรดไปยัง Intel Nova Lake CPUs โดยไม่ต้องซื้อ Cooler ใหม่ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ที่มีอยู่ยังคงใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ Noctua ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและการสนับสนุนระยะยาว

    การแข่งขันในตลาด
    นอกจาก Noctua แล้ว Thermaltake ก็ได้ประกาศว่า AIO รุ่นใหม่ของตน เช่น MineCube 360 Ultra ARGB จะรองรับ LGA 1954 เช่นกัน แสดงให้เห็นว่าผู้ผลิต Cooler หลายรายกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัว Nova Lake และทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกหลากหลายมากขึ้น

    ความหมายเชิงกลยุทธ์
    การที่ Intel รักษาขนาดซ็อกเก็ตให้เหมือนเดิม เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้ ecosystem ของ Cooler และเมนบอร์ดไม่ต้องปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ ซึ่งต่างจากการเปลี่ยนซ็อกเก็ตในอดีตที่มักสร้างภาระให้ผู้ใช้และผู้ผลิตอุปกรณ์เสริม

    สรุปสาระสำคัญ
    Noctua ยืนยันความเข้ากันได้
    Cooler ที่รองรับ LGA 1700/1851 ใช้งานกับ LGA 1954 ได้ทันที
    ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม

    ผลดีต่อผู้ใช้
    ลดค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดไป Nova Lake
    สร้างความมั่นใจในความทนทานของ Cooler

    การแข่งขันในตลาด
    Thermaltake MineCube 360 Ultra ARGB ก็รองรับ LGA 1954
    ผู้ใช้มีตัวเลือกหลากหลายมากขึ้น

    ความหมายเชิงกลยุทธ์
    Intel รักษาขนาดซ็อกเก็ตเท่าเดิม (45mm x 37.5mm)
    ลดภาระต่อ ecosystem ของ Cooler และเมนบอร์ด

    คำเตือนต่อผู้ใช้
    แม้ Cooler เข้ากันได้ แต่ hotspot ของ CPU อาจเปลี่ยนตำแหน่ง
    ต้องตรวจสอบการกระจายความร้อนจริงเมื่อ Nova Lake เปิดตัว

    https://wccftech.com/noctua-announces-full-lga-1954-compatibility-for-its-existing-lga-1851-cooler-lineup/
    🐦‍🔥 Noctua ยืนยันว่า CPU Cooler รุ่นที่รองรับ LGA 1700 และ LGA 1851 จะสามารถใช้งานกับ LGA 1954 ได้ทันที ข่าวนี้เล่าถึงการที่ Noctua ยืนยันว่า CPU Cooler รุ่นที่รองรับ LGA 1700 และ LGA 1851 จะสามารถใช้งานกับ LGA 1954 ได้ทันที โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ที่วางแผนจะอัปเกรดไปยังแพลตฟอร์ม Intel Nova Lake ในอนาคต Noctua ประกาศว่า Cooler ที่รองรับ LGA 1700 และ LGA 1851 จะสามารถติดตั้งกับ LGA 1954 ได้โดยตรง เนื่องจากซ็อกเก็ตใหม่มีขนาดเท่ากับรุ่นก่อนหน้า (45mm x 37.5mm) ทำให้ไม่ต้องใช้ชุดติดตั้งใหม่หรืออุปกรณ์เสริมใด ๆ การติดตั้งจะเหมือนกับ LGA 1700/1851 ทุกประการ ⚡ ผลดีต่อผู้ใช้ การยืนยันนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้ใช้ที่ต้องการอัปเกรดไปยัง Intel Nova Lake CPUs โดยไม่ต้องซื้อ Cooler ใหม่ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ที่มีอยู่ยังคงใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ Noctua ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและการสนับสนุนระยะยาว 🌍 การแข่งขันในตลาด นอกจาก Noctua แล้ว Thermaltake ก็ได้ประกาศว่า AIO รุ่นใหม่ของตน เช่น MineCube 360 Ultra ARGB จะรองรับ LGA 1954 เช่นกัน แสดงให้เห็นว่าผู้ผลิต Cooler หลายรายกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัว Nova Lake และทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกหลากหลายมากขึ้น 🔒 ความหมายเชิงกลยุทธ์ การที่ Intel รักษาขนาดซ็อกเก็ตให้เหมือนเดิม เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้ ecosystem ของ Cooler และเมนบอร์ดไม่ต้องปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ ซึ่งต่างจากการเปลี่ยนซ็อกเก็ตในอดีตที่มักสร้างภาระให้ผู้ใช้และผู้ผลิตอุปกรณ์เสริม 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Noctua ยืนยันความเข้ากันได้ ➡️ Cooler ที่รองรับ LGA 1700/1851 ใช้งานกับ LGA 1954 ได้ทันที ➡️ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม ✅ ผลดีต่อผู้ใช้ ➡️ ลดค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดไป Nova Lake ➡️ สร้างความมั่นใจในความทนทานของ Cooler ✅ การแข่งขันในตลาด ➡️ Thermaltake MineCube 360 Ultra ARGB ก็รองรับ LGA 1954 ➡️ ผู้ใช้มีตัวเลือกหลากหลายมากขึ้น ✅ ความหมายเชิงกลยุทธ์ ➡️ Intel รักษาขนาดซ็อกเก็ตเท่าเดิม (45mm x 37.5mm) ➡️ ลดภาระต่อ ecosystem ของ Cooler และเมนบอร์ด ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้ ⛔ แม้ Cooler เข้ากันได้ แต่ hotspot ของ CPU อาจเปลี่ยนตำแหน่ง ⛔ ต้องตรวจสอบการกระจายความร้อนจริงเมื่อ Nova Lake เปิดตัว https://wccftech.com/noctua-announces-full-lga-1954-compatibility-for-its-existing-lga-1851-cooler-lineup/
    WCCFTECH.COM
    Noctua Announces Full LGA 1954 Compatibility for Its Existing LGA 1851 Cooler Lineup
    CPU cooler manufacturer Noctua announced that its existing LGA 1700/1851 coolers will be compatible with upcoming LGA 1954 socket.
    0 Comments 0 Shares 202 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar
    #รวมข่าวIT #20251121 #TechRadar

    ปราบปรามบริการโฮสติ้งเถื่อน
    มีการร่วมมือกันระหว่างสหรัฐฯ อังกฤษ และออสเตรเลีย ในการจัดการกับบริษัท Media Land จากรัสเซีย ซึ่งให้บริการโฮสติ้งแบบ “bulletproof” ที่ถูกใช้โดยกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ เช่น Evil Corp และ LockBit เพื่อทำฟิชชิ่ง ปล่อยมัลแวร์ และโจมตี DDoS โครงสร้างพื้นฐานของบริษัทถูกยึด และผู้นำหลักถูกลงโทษทางการเงิน ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าประเทศพันธมิตรจะไม่ปล่อยให้กลุ่มเหล่านี้ทำงานในเงามืดได้อีก
    https://www.techradar.com/pro/security/another-bulletproof-hosting-service-has-been-locked-down-by-global-law-forces

    เน็ตพกพายุคใหม่จาก Netgear
    Netgear เปิดตัว Nighthawk 5G M7 อุปกรณ์ฮอตสปอตที่รองรับ Wi-Fi 7 สามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกันถึง 32 เครื่อง ความเร็วระดับกิกะบิต และยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ราว 10 ชั่วโมง จุดเด่นคือรองรับ global eSIM ใช้งานได้กว่า 140 ประเทศ เหมาะกับคนเดินทางบ่อย ไม่ต้องพึ่งมือถือเป็นฮอตสปอตอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/pro/rip-mobile-hotspots-netgears-new-nighthawk-5g-m7-features-wi-fi-7-connectivity-and-even-global-esim-support

    ความวุ่นวายในทะเลแดงกระทบสายเคเบิลโลก
    ความไม่สงบในทะเลแดงทำให้โครงการวางสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ เช่น 2Africa ของ Meta และ Blue-Raman ของ Google ต้องหยุดชะงัก ส่งผลให้การเชื่อมต่อระหว่างยุโรป เอเชีย และแอฟริกาเกิดความล่าช้า ผู้ให้บริการบางรายเริ่มพิจารณาเส้นทางใหม่บนบกผ่านซาอุดีอาระเบียและอิรัก แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงและซับซ้อนทางการเมือง แต่ก็อาจเป็นทางออกเพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง
    https://www.techradar.com/pro/more-internet-outages-on-the-way-google-and-meta-delay-subsea-cable-plans-due-to-sabotage-fears

    SSD พกพาไร้สายจาก Kingston
    Kingston เปิดตัว Dual Portable SSD ที่ไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อ มาพร้อมหัว USB-A และ USB-C ในตัวเดียว ความเร็วอ่านสูงสุด 1,050MB/s และเขียน 950MB/s มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบาเพียง 13 กรัม แต่จุได้สูงสุดถึง 2TB รองรับหลายระบบปฏิบัติการ เหมาะกับคนที่ต้องการพกข้อมูลไปไหนมาไหนโดยไม่ต้องพกสายให้ยุ่งยาก
    https://www.techradar.com/pro/goodbye-pesky-cables-kingston-reveals-new-wire-free-portable-ssd-offering-up-to-2tb-storage-and-up-to-1-050-mb-s-data-transfers-and-itll-fit-into-even-your-smallest-pocket

    Android จับมือ AirDrop ของ Apple
    สิ่งที่หลายคนไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงก็เกิดแล้ว! Google ประกาศว่า Quick Share ของ Android สามารถทำงานร่วมกับ AirDrop ของ Apple ได้แล้ว เริ่มต้นที่ Pixel 10 ทำให้การส่งไฟล์ระหว่าง Android และ iPhone, iPad, Mac สะดวกขึ้นมาก แม้ยังมีข้อจำกัด เช่น ต้องเปิดโหมด “Everyone for 10 minutes” แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้กำแพงระหว่างสองระบบเริ่มพังลง
    https://www.techradar.com/phones/google-pixel-phones/its-actually-happened-android-now-works-with-apple-airdrop-for-simple-file-sharing-starting-with-the-pixel-10

    ช่องโหว่ในเบราว์เซอร์ AI ของ Perplexity
    มีรายงานว่า Comet AI Browser ของ Perplexity อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมอุปกรณ์ได้ ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการจัดการสิทธิ์และ sandbox ที่ไม่รัดกุม ทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหากไม่อัปเดตหรือใช้มาตรการป้องกันเพิ่มเติม
    https://www.techradar.com/pro/security/perplexitys-comet-ai-browser-may-have-some-concerning-security-flaws-which-could-let-hacker-hijack-your-device

    Twitch ใช้สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันอายุ
    Twitch เริ่มทดสอบระบบ Facial Age Scan ในสหราชอาณาจักร เพื่อยืนยันอายุผู้ใช้งานก่อนเข้าถึงคอนเทนต์ที่จำกัดอายุ แม้จะช่วยป้องกันเด็กเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม แต่ก็มีเสียงวิจารณ์เรื่องความเป็นส่วนตัวและการเก็บข้อมูลชีวมิติว่าจะถูกนำไปใช้อย่างไร
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/twitch-introduces-facial-age-scans-in-the-uk-amid-growing-privacy-concerns

    บริษัทยักษ์ใหญ่ IGT ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์
    บริษัทเกมและการพนันระดับโลก IGT ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ ทำให้ระบบบางส่วนหยุดชะงักและข้อมูลอาจถูกเข้ารหัสหรือขโมยไป เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าธุรกิจบันเทิงและการพนันก็เป็นเป้าหมายสำคัญของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์เช่นกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/gaming-and-gambling-giant-igt-reportedly-hit-by-ransomware-heres-what-we-know

    Google เปิดตัว Nano Banana Pro สำหรับแก้ไขภาพด้วย AI
    Google เปิดตัวเครื่องมือใหม่ชื่อ Nano Banana Pro ที่ใช้พลังของ Gemini 3 Pro ในการแก้ไขภาพขั้นสูง เช่น การปรับรายละเอียด การลบวัตถุ หรือการสร้างองค์ประกอบใหม่ในภาพ ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในด้านการแก้ไขภาพด้วย AI ที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงเทคโนโลยีระดับมืออาชีพได้ง่ายขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/google-launches-nano-banana-pro-a-massive-leap-in-ai-image-editing-powered-by-gemini-3-pro

    ปลั๊กอิน WordPress ยอดนิยมเจอช่องโหว่
    ปลั๊กอิน WordPress ที่มีผู้ติดตั้งมากกว่าล้านครั้งถูกพบว่ามีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ซึ่งอาจเปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลหรือควบคุมเว็บไซต์ได้ เหตุการณ์นี้เตือนให้ผู้ดูแลเว็บไซต์ต้องหมั่นอัปเดตปลั๊กอินและตรวจสอบความปลอดภัยอยู่เสมอ
    https://www.techradar.com/pro/security/wordpress-plugin-with-over-a-million-installs-may-have-a-worrying-security-flaw-heres-what-we-know

    ช่องโหว่ใหม่ใน Fortinet ถูกโจมตีแล้ว
    Fortinet ยอมรับว่าพบ zero-day ช่องโหว่ใหม่ที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว ทำให้ผู้ใช้งานเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยเองก็ยังเป็นเป้าหมายหลักของแฮกเกอร์ และผู้ใช้ควรเร่งอัปเดตแพตช์ทันทีที่มีการปล่อยออกมา
    https://www.techradar.com/pro/security/fortinet-admits-it-found-another-worrying-zero-day-being-exploited-in-attacks

    ที่จับ MagSafe สุดแปลกแต่ใช้ง่าย
    มีการเปิดตัว MagSafe iPhone Grip ที่ดีไซน์แปลกตา แต่กลับใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับผู้ใช้ทุกคน จุดเด่นคือช่วยให้ถือ iPhone ได้มั่นคงขึ้นโดยไม่ต้องใช้เคสหนา ๆ และยังถอดออกได้สะดวก เหมาะกับคนที่อยากได้อุปกรณ์เสริมที่ไม่ซ้ำใคร
    https://www.techradar.com/phones/iphone/this-may-be-the-oddest-yet-most-accessible-magsafe-iphone-grip-ever-made

    กลุ่ม PlushDaemon จากจีนโจมตีซัพพลายเชนโลก
    กลุ่มแฮกเกอร์ PlushDaemon ใช้มัลแวร์ชื่อ SlowStepper ผ่าน implant ที่เรียกว่า EdgeStepper เพื่อเจาะเข้าอุปกรณ์เครือข่ายในหลายประเทศ ถือเป็นการโจมตีซัพพลายเชนที่ซับซ้อนและอันตราย เพราะสามารถกระทบต่อองค์กรทั่วโลกได้พร้อมกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/chinas-plushdaemon-group-uses-edgestepper-implant-to-infect-network-devices-with-slowstepper-malware-in-global-supply-chain-attacks

    แอปช้อปปิ้งสหรัฐฯ ดูดข้อมูลมากกว่าใคร
    รายงานใหม่เผยว่าแอปช้อปปิ้งจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะ Amazon เป็นแอปที่เก็บข้อมูลผู้ใช้มากที่สุด ทั้งข้อมูลส่วนตัวและพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งมากกว่าแอปจากจีนที่หลายคนกังวลกันอยู่แล้ว ทำให้เกิดคำถามเรื่องความเป็นส่วนตัวและการใช้ข้อมูลของผู้บริโภค
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/forget-beijing-its-us-shopping-apps-that-are-sucking-up-your-privacy-and-amazon-is-the-most-data-hungry

    Leica Q3 Monochrom กล้องขาวดำสุดหรู
    Leica เปิดตัว Q3 Monochrom กล้องที่ถ่ายได้เฉพาะภาพขาวดำ ราคาหลายพันดอลลาร์ แต่กลับได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะคุณภาพไฟล์และสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเชิงศิลป์และต้องการความแตกต่างจากกล้องทั่วไป
    https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/leicas-q3-monochrom-costs-thousands-and-only-shoots-black-and-white-but-thats-only-made-me-want-one-more

    รีโมท Google TV รุ่นใหม่ใช้พลังงานจากแสงในบ้าน

    Google เตรียมเปิดตัวอุปกรณ์ Google TV รุ่นใหม่ที่มาพร้อมรีโมทซึ่งสามารถชาร์จพลังงานจากแสงในบ้านได้ ไม่ต้องใช้ถ่านหรือชาร์จสายอีกต่อไป ถือเป็นการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสะดวกสำหรับผู้ใช้ที่ไม่อยากเปลี่ยนถ่านบ่อย ๆ
    https://www.techradar.com/televisions/streaming-devices/your-next-google-tv-device-could-come-with-a-remote-powered-by-indoor-light-and-im-definitely-a-fan

    ซีอีโอ Microsoft ด้าน AI ตอบโต้เสียงวิจารณ์ Windows 11
    ซีอีโอฝ่าย AI ของ Microsoft ออกมาโต้ตอบเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับทิศทางใหม่ของ Windows 11 โดยบอกว่าคำวิจารณ์เหล่านั้น “mind-blowing” และยืนยันว่าการนำ AI เข้ามาในระบบปฏิบัติการจะช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้จะมีผู้ใช้บางส่วนที่ยังไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงนี้
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me

    หลุดไลน์อัพสมาร์ทโฟน Samsung ปี 2026
    มีข้อมูลหลุดเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Samsung ที่จะเปิดตัวในปี 2026 โดยคาดว่าจะมีการอัปเกรดทั้งด้านกล้อง หน้าจอ และประสิทธิภาพการทำงาน รายละเอียดบางส่วนยังไม่แน่ชัด แต่ข่าวนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ที่รอคอยการเปิดตัว
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsungs-2026-smartphone-lineup-just-leaked-heres-what-to-expect-and-when

    รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมท้าทายกฎหมาย AI ของรัฐต่าง ๆ
    ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ มีแผนจะใช้ อำนาจรัฐบาลกลาง เพื่อตรวจสอบและท้าทายกฎหมาย AI ที่ออกโดยรัฐต่าง ๆ เนื่องจากกังวลว่ากฎหมายเหล่านี้อาจขัดแย้งกันและสร้างความยุ่งยากต่อการพัฒนาเทคโนโลยี AI ในระดับประเทศ
    https://www.techradar.com/pro/security/trump-administration-wants-to-use-federal-power-to-challenge-state-ai-laws

    การกลับมาของ VPN ฟรีที่เป็นอันตราย
    มีการพบว่า VPN ฟรีบางตัว ที่เคยถูกแบนเพราะมีพฤติกรรมอันตราย ได้กลับมาอีกครั้งในรูปแบบใหม่ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว การใช้ VPN ที่ไม่น่าเชื่อถืออาจเปิดช่องให้ข้อมูลส่วนตัวถูกขโมยได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/malicious-free-vpn-extension-makes-a-comeback

    iPhone 17 Pro แจกฟรีกับโปร Verizon
    Verizon จัดโปรแรง แจกมือถือฟรี รวมถึง iPhone 17 Pro ให้ลูกค้าเมื่อสมัครแพ็กเกจที่กำหนด ถือเป็นดีลที่ดึงดูดใจมาก แต่ก็มีเงื่อนไขที่ผู้ใช้ต้องตรวจสอบให้ดีว่าเหมาะกับการใช้งานจริงหรือไม่
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me

    ประสบการณ์เล่น Stalker 2: Heart of Chornobyl
    นักเขียนรีวิวเล่าประสบการณ์การเล่นเกม Stalker 2: Heart of Chornobyl บน PS5 ที่ใช้เวลามากกว่า 50 ชั่วโมงในการเอาชีวิตรอดในโลกหลังหายนะ เกมนี้เต็มไปด้วยความท้าทายและบรรยากาศกดดัน แต่ก็สนุกและสมจริงสำหรับแฟนเกมแนว survival
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me

    Microsoft Flex โชว์ทักษะโค้ดของ Copilot
    Microsoft สาธิตความสามารถของ Copilot ในการช่วยเขียนโค้ด แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากผู้ไม่เห็นด้วยกับการใช้ AI ในงานพัฒนาโปรแกรม บางคนมองว่าเป็นการลดคุณค่าของนักพัฒนา แต่ Microsoft ยืนยันว่าเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me

    Nvidia รีบปล่อยแพตช์แก้ปัญหา GPU บน Windows 11
    หลังจากการอัปเดต Windows 11 เดือนตุลาคม ทำให้เกมหลายเกมมีอาการหน่วง Nvidia จึงรีบออกแพตช์แก้ไขเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ GPU ให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ การแก้ไขนี้ช่วยให้ผู้เล่นเกมสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นอีกครั้ง
    https://www.techradar.com/computing/gpu/nvidia-rushes-out-a-gpu-fix-blaming-windows-11s-october-update-for-sluggish-performance-in-games

    Nokia แยกธุรกิจ AI หลังได้ทุนจาก Nvidia
    Nokia ประกาศแยกธุรกิจใหม่ด้าน AI สำหรับเครือข่ายมือถือ โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2026 หลังจากที่ Nvidia ลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี 6G บริษัทตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายลงอย่างมาก และหวังสร้างเครือข่ายมือถือที่ใช้ AI เป็นแกนหลัก พร้อมคาดการณ์การเติบโตของรายได้ต่อปี 6-8% จนถึงปี 2028
    https://www.techradar.com/pro/nokia-is-splitting-off-its-ai-business-weeks-after-usd1bn-nvidia-investment

    หุ่นยนต์ส่งอาหารของ Uber Eats
    Uber Eats จับมือกับบริษัท Starship Technologies เพื่อเริ่มใช้หุ่นยนต์ส่งอาหารในสหราชอาณาจักร โดยเริ่มทดลองที่เมือง Leeds และจะขยายไปยัง Sheffield รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในยุโรปปี 2026 และสหรัฐฯ ปี 2027 หุ่นยนต์เหล่านี้สามารถส่งอาหารได้ภายใน 30 นาทีในระยะทางไม่เกิน 2 ไมล์ ลูกค้าจะไม่สามารถให้ทิปหุ่นยนต์ได้ แต่สามารถให้คะแนนผ่านแอปเหมือนการส่งปกติ ถือเป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของการขนส่งในเมืองยุคอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/uber-eats-will-soon-use-robots-to-deliver-your-takeaway-but-you-cant-tip-them

    ChatGPT Atlas อัปเดตใหญ่ครั้งแรก
    ChatGPT Atlas ได้รับการอัปเดตครั้งสำคัญ โดยเพิ่ม 3 ฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ใช้จะอยากลองใช้ทันที ได้แก่ การปรับปรุงความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล, การทำงานร่วมกับเครื่องมือภายนอกได้ดีขึ้น และการปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานให้ลื่นไหลมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับแพลตฟอร์ม AI ให้ตอบโจทย์การใช้งานจริงมากขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-atlas-just-got-its-first-major-update-3-new-features-youll-want-to-use

    Samsung เพิ่มระบบป้องกันขโมยใน One UI 8.5
    Samsung เตรียมอัปเดต One UI 8.5 ที่จะเพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการโจรกรรมมือถือ เช่น การล็อกเครื่องแม้ถูกรีเซ็ต และระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการพยายามเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวและอุปกรณ์ของตนเอง
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/your-samsung-phone-is-about-to-get-a-big-theft-protection-boost-thanks-to-one-ui-8-5-heres-how

    คนทำงานสายครีเอทีฟชอบ AI แต่ก็มีปัญหา
    รายงานจาก Dropbox พบว่าคนทำงานสายครีเอทีฟใช้เครื่องมือเฉลี่ยถึง 14 ตัว ทำให้เกิดความซับซ้อนและเสียเวลา แม้ว่า 95% ของคนกลุ่มนี้จะใช้ AI เพื่อช่วยงาน เช่น การระดมไอเดีย สรุปการประชุม และค้นหาข้อมูล แต่ AI ยังไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด เพราะบางครั้งไม่เข้าใจบริบทของงานจริง ๆ หากสามารถลดจำนวนเครื่องมือและใช้ AI ที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มเวลาสร้างสรรค์งานได้มากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/creative-workers-love-ai-but-it-is-causing-more-issues-than-expected
    📌📰🔵 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔵📰📌 #รวมข่าวIT #20251121 #TechRadar 🛡️ ปราบปรามบริการโฮสติ้งเถื่อน มีการร่วมมือกันระหว่างสหรัฐฯ อังกฤษ และออสเตรเลีย ในการจัดการกับบริษัท Media Land จากรัสเซีย ซึ่งให้บริการโฮสติ้งแบบ “bulletproof” ที่ถูกใช้โดยกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ เช่น Evil Corp และ LockBit เพื่อทำฟิชชิ่ง ปล่อยมัลแวร์ และโจมตี DDoS โครงสร้างพื้นฐานของบริษัทถูกยึด และผู้นำหลักถูกลงโทษทางการเงิน ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าประเทศพันธมิตรจะไม่ปล่อยให้กลุ่มเหล่านี้ทำงานในเงามืดได้อีก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/another-bulletproof-hosting-service-has-been-locked-down-by-global-law-forces 📶 เน็ตพกพายุคใหม่จาก Netgear Netgear เปิดตัว Nighthawk 5G M7 อุปกรณ์ฮอตสปอตที่รองรับ Wi-Fi 7 สามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกันถึง 32 เครื่อง ความเร็วระดับกิกะบิต และยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ราว 10 ชั่วโมง จุดเด่นคือรองรับ global eSIM ใช้งานได้กว่า 140 ประเทศ เหมาะกับคนเดินทางบ่อย ไม่ต้องพึ่งมือถือเป็นฮอตสปอตอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/rip-mobile-hotspots-netgears-new-nighthawk-5g-m7-features-wi-fi-7-connectivity-and-even-global-esim-support 🌊 ความวุ่นวายในทะเลแดงกระทบสายเคเบิลโลก ความไม่สงบในทะเลแดงทำให้โครงการวางสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ เช่น 2Africa ของ Meta และ Blue-Raman ของ Google ต้องหยุดชะงัก ส่งผลให้การเชื่อมต่อระหว่างยุโรป เอเชีย และแอฟริกาเกิดความล่าช้า ผู้ให้บริการบางรายเริ่มพิจารณาเส้นทางใหม่บนบกผ่านซาอุดีอาระเบียและอิรัก แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงและซับซ้อนทางการเมือง แต่ก็อาจเป็นทางออกเพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง 🔗 https://www.techradar.com/pro/more-internet-outages-on-the-way-google-and-meta-delay-subsea-cable-plans-due-to-sabotage-fears 💾 SSD พกพาไร้สายจาก Kingston Kingston เปิดตัว Dual Portable SSD ที่ไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อ มาพร้อมหัว USB-A และ USB-C ในตัวเดียว ความเร็วอ่านสูงสุด 1,050MB/s และเขียน 950MB/s มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบาเพียง 13 กรัม แต่จุได้สูงสุดถึง 2TB รองรับหลายระบบปฏิบัติการ เหมาะกับคนที่ต้องการพกข้อมูลไปไหนมาไหนโดยไม่ต้องพกสายให้ยุ่งยาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/goodbye-pesky-cables-kingston-reveals-new-wire-free-portable-ssd-offering-up-to-2tb-storage-and-up-to-1-050-mb-s-data-transfers-and-itll-fit-into-even-your-smallest-pocket 🤝 Android จับมือ AirDrop ของ Apple สิ่งที่หลายคนไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงก็เกิดแล้ว! Google ประกาศว่า Quick Share ของ Android สามารถทำงานร่วมกับ AirDrop ของ Apple ได้แล้ว เริ่มต้นที่ Pixel 10 ทำให้การส่งไฟล์ระหว่าง Android และ iPhone, iPad, Mac สะดวกขึ้นมาก แม้ยังมีข้อจำกัด เช่น ต้องเปิดโหมด “Everyone for 10 minutes” แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้กำแพงระหว่างสองระบบเริ่มพังลง 🔗 https://www.techradar.com/phones/google-pixel-phones/its-actually-happened-android-now-works-with-apple-airdrop-for-simple-file-sharing-starting-with-the-pixel-10 ⚠️ ช่องโหว่ในเบราว์เซอร์ AI ของ Perplexity มีรายงานว่า Comet AI Browser ของ Perplexity อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมอุปกรณ์ได้ ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการจัดการสิทธิ์และ sandbox ที่ไม่รัดกุม ทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหากไม่อัปเดตหรือใช้มาตรการป้องกันเพิ่มเติม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/perplexitys-comet-ai-browser-may-have-some-concerning-security-flaws-which-could-let-hacker-hijack-your-device 🧑‍💻 Twitch ใช้สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันอายุ Twitch เริ่มทดสอบระบบ Facial Age Scan ในสหราชอาณาจักร เพื่อยืนยันอายุผู้ใช้งานก่อนเข้าถึงคอนเทนต์ที่จำกัดอายุ แม้จะช่วยป้องกันเด็กเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม แต่ก็มีเสียงวิจารณ์เรื่องความเป็นส่วนตัวและการเก็บข้อมูลชีวมิติว่าจะถูกนำไปใช้อย่างไร 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/twitch-introduces-facial-age-scans-in-the-uk-amid-growing-privacy-concerns 🎰 บริษัทยักษ์ใหญ่ IGT ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ บริษัทเกมและการพนันระดับโลก IGT ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ ทำให้ระบบบางส่วนหยุดชะงักและข้อมูลอาจถูกเข้ารหัสหรือขโมยไป เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าธุรกิจบันเทิงและการพนันก็เป็นเป้าหมายสำคัญของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์เช่นกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/gaming-and-gambling-giant-igt-reportedly-hit-by-ransomware-heres-what-we-know 🖼️ Google เปิดตัว Nano Banana Pro สำหรับแก้ไขภาพด้วย AI Google เปิดตัวเครื่องมือใหม่ชื่อ Nano Banana Pro ที่ใช้พลังของ Gemini 3 Pro ในการแก้ไขภาพขั้นสูง เช่น การปรับรายละเอียด การลบวัตถุ หรือการสร้างองค์ประกอบใหม่ในภาพ ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในด้านการแก้ไขภาพด้วย AI ที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงเทคโนโลยีระดับมืออาชีพได้ง่ายขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/google-launches-nano-banana-pro-a-massive-leap-in-ai-image-editing-powered-by-gemini-3-pro 🔒 ปลั๊กอิน WordPress ยอดนิยมเจอช่องโหว่ ปลั๊กอิน WordPress ที่มีผู้ติดตั้งมากกว่าล้านครั้งถูกพบว่ามีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ซึ่งอาจเปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลหรือควบคุมเว็บไซต์ได้ เหตุการณ์นี้เตือนให้ผู้ดูแลเว็บไซต์ต้องหมั่นอัปเดตปลั๊กอินและตรวจสอบความปลอดภัยอยู่เสมอ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/wordpress-plugin-with-over-a-million-installs-may-have-a-worrying-security-flaw-heres-what-we-know 🛡️ ช่องโหว่ใหม่ใน Fortinet ถูกโจมตีแล้ว Fortinet ยอมรับว่าพบ zero-day ช่องโหว่ใหม่ที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว ทำให้ผู้ใช้งานเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยเองก็ยังเป็นเป้าหมายหลักของแฮกเกอร์ และผู้ใช้ควรเร่งอัปเดตแพตช์ทันทีที่มีการปล่อยออกมา 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/fortinet-admits-it-found-another-worrying-zero-day-being-exploited-in-attacks 📱 ที่จับ MagSafe สุดแปลกแต่ใช้ง่าย มีการเปิดตัว MagSafe iPhone Grip ที่ดีไซน์แปลกตา แต่กลับใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับผู้ใช้ทุกคน จุดเด่นคือช่วยให้ถือ iPhone ได้มั่นคงขึ้นโดยไม่ต้องใช้เคสหนา ๆ และยังถอดออกได้สะดวก เหมาะกับคนที่อยากได้อุปกรณ์เสริมที่ไม่ซ้ำใคร 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/this-may-be-the-oddest-yet-most-accessible-magsafe-iphone-grip-ever-made 🐉 กลุ่ม PlushDaemon จากจีนโจมตีซัพพลายเชนโลก กลุ่มแฮกเกอร์ PlushDaemon ใช้มัลแวร์ชื่อ SlowStepper ผ่าน implant ที่เรียกว่า EdgeStepper เพื่อเจาะเข้าอุปกรณ์เครือข่ายในหลายประเทศ ถือเป็นการโจมตีซัพพลายเชนที่ซับซ้อนและอันตราย เพราะสามารถกระทบต่อองค์กรทั่วโลกได้พร้อมกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/chinas-plushdaemon-group-uses-edgestepper-implant-to-infect-network-devices-with-slowstepper-malware-in-global-supply-chain-attacks 🛍️ แอปช้อปปิ้งสหรัฐฯ ดูดข้อมูลมากกว่าใคร รายงานใหม่เผยว่าแอปช้อปปิ้งจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะ Amazon เป็นแอปที่เก็บข้อมูลผู้ใช้มากที่สุด ทั้งข้อมูลส่วนตัวและพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งมากกว่าแอปจากจีนที่หลายคนกังวลกันอยู่แล้ว ทำให้เกิดคำถามเรื่องความเป็นส่วนตัวและการใช้ข้อมูลของผู้บริโภค 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/forget-beijing-its-us-shopping-apps-that-are-sucking-up-your-privacy-and-amazon-is-the-most-data-hungry 📷 Leica Q3 Monochrom กล้องขาวดำสุดหรู Leica เปิดตัว Q3 Monochrom กล้องที่ถ่ายได้เฉพาะภาพขาวดำ ราคาหลายพันดอลลาร์ แต่กลับได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะคุณภาพไฟล์และสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเชิงศิลป์และต้องการความแตกต่างจากกล้องทั่วไป 🔗 https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/leicas-q3-monochrom-costs-thousands-and-only-shoots-black-and-white-but-thats-only-made-me-want-one-more 📺 รีโมท Google TV รุ่นใหม่ใช้พลังงานจากแสงในบ้าน Google เตรียมเปิดตัวอุปกรณ์ Google TV รุ่นใหม่ที่มาพร้อมรีโมทซึ่งสามารถชาร์จพลังงานจากแสงในบ้านได้ ไม่ต้องใช้ถ่านหรือชาร์จสายอีกต่อไป ถือเป็นการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสะดวกสำหรับผู้ใช้ที่ไม่อยากเปลี่ยนถ่านบ่อย ๆ 🔗 https://www.techradar.com/televisions/streaming-devices/your-next-google-tv-device-could-come-with-a-remote-powered-by-indoor-light-and-im-definitely-a-fan 💻 ซีอีโอ Microsoft ด้าน AI ตอบโต้เสียงวิจารณ์ Windows 11 ซีอีโอฝ่าย AI ของ Microsoft ออกมาโต้ตอบเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับทิศทางใหม่ของ Windows 11 โดยบอกว่าคำวิจารณ์เหล่านั้น “mind-blowing” และยืนยันว่าการนำ AI เข้ามาในระบบปฏิบัติการจะช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้จะมีผู้ใช้บางส่วนที่ยังไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงนี้ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me 📱 หลุดไลน์อัพสมาร์ทโฟน Samsung ปี 2026 มีข้อมูลหลุดเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Samsung ที่จะเปิดตัวในปี 2026 โดยคาดว่าจะมีการอัปเกรดทั้งด้านกล้อง หน้าจอ และประสิทธิภาพการทำงาน รายละเอียดบางส่วนยังไม่แน่ชัด แต่ข่าวนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ที่รอคอยการเปิดตัว 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsungs-2026-smartphone-lineup-just-leaked-heres-what-to-expect-and-when ⚖️ รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมท้าทายกฎหมาย AI ของรัฐต่าง ๆ ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ มีแผนจะใช้ อำนาจรัฐบาลกลาง เพื่อตรวจสอบและท้าทายกฎหมาย AI ที่ออกโดยรัฐต่าง ๆ เนื่องจากกังวลว่ากฎหมายเหล่านี้อาจขัดแย้งกันและสร้างความยุ่งยากต่อการพัฒนาเทคโนโลยี AI ในระดับประเทศ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/trump-administration-wants-to-use-federal-power-to-challenge-state-ai-laws 🌐 การกลับมาของ VPN ฟรีที่เป็นอันตราย มีการพบว่า VPN ฟรีบางตัว ที่เคยถูกแบนเพราะมีพฤติกรรมอันตราย ได้กลับมาอีกครั้งในรูปแบบใหม่ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว การใช้ VPN ที่ไม่น่าเชื่อถืออาจเปิดช่องให้ข้อมูลส่วนตัวถูกขโมยได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/malicious-free-vpn-extension-makes-a-comeback 📱 iPhone 17 Pro แจกฟรีกับโปร Verizon Verizon จัดโปรแรง แจกมือถือฟรี รวมถึง iPhone 17 Pro ให้ลูกค้าเมื่อสมัครแพ็กเกจที่กำหนด ถือเป็นดีลที่ดึงดูดใจมาก แต่ก็มีเงื่อนไขที่ผู้ใช้ต้องตรวจสอบให้ดีว่าเหมาะกับการใช้งานจริงหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me 🎮 ประสบการณ์เล่น Stalker 2: Heart of Chornobyl นักเขียนรีวิวเล่าประสบการณ์การเล่นเกม Stalker 2: Heart of Chornobyl บน PS5 ที่ใช้เวลามากกว่า 50 ชั่วโมงในการเอาชีวิตรอดในโลกหลังหายนะ เกมนี้เต็มไปด้วยความท้าทายและบรรยากาศกดดัน แต่ก็สนุกและสมจริงสำหรับแฟนเกมแนว survival 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me 🖥️ Microsoft Flex โชว์ทักษะโค้ดของ Copilot Microsoft สาธิตความสามารถของ Copilot ในการช่วยเขียนโค้ด แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากผู้ไม่เห็นด้วยกับการใช้ AI ในงานพัฒนาโปรแกรม บางคนมองว่าเป็นการลดคุณค่าของนักพัฒนา แต่ Microsoft ยืนยันว่าเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me 🎮 Nvidia รีบปล่อยแพตช์แก้ปัญหา GPU บน Windows 11 หลังจากการอัปเดต Windows 11 เดือนตุลาคม ทำให้เกมหลายเกมมีอาการหน่วง Nvidia จึงรีบออกแพตช์แก้ไขเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ GPU ให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ การแก้ไขนี้ช่วยให้ผู้เล่นเกมสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นอีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/nvidia-rushes-out-a-gpu-fix-blaming-windows-11s-october-update-for-sluggish-performance-in-games 📡 Nokia แยกธุรกิจ AI หลังได้ทุนจาก Nvidia Nokia ประกาศแยกธุรกิจใหม่ด้าน AI สำหรับเครือข่ายมือถือ โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2026 หลังจากที่ Nvidia ลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี 6G บริษัทตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายลงอย่างมาก และหวังสร้างเครือข่ายมือถือที่ใช้ AI เป็นแกนหลัก พร้อมคาดการณ์การเติบโตของรายได้ต่อปี 6-8% จนถึงปี 2028 🔗 https://www.techradar.com/pro/nokia-is-splitting-off-its-ai-business-weeks-after-usd1bn-nvidia-investment 🛵 หุ่นยนต์ส่งอาหารของ Uber Eats Uber Eats จับมือกับบริษัท Starship Technologies เพื่อเริ่มใช้หุ่นยนต์ส่งอาหารในสหราชอาณาจักร โดยเริ่มทดลองที่เมือง Leeds และจะขยายไปยัง Sheffield รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในยุโรปปี 2026 และสหรัฐฯ ปี 2027 หุ่นยนต์เหล่านี้สามารถส่งอาหารได้ภายใน 30 นาทีในระยะทางไม่เกิน 2 ไมล์ ลูกค้าจะไม่สามารถให้ทิปหุ่นยนต์ได้ แต่สามารถให้คะแนนผ่านแอปเหมือนการส่งปกติ ถือเป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของการขนส่งในเมืองยุคอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/uber-eats-will-soon-use-robots-to-deliver-your-takeaway-but-you-cant-tip-them 🤖 ChatGPT Atlas อัปเดตใหญ่ครั้งแรก ChatGPT Atlas ได้รับการอัปเดตครั้งสำคัญ โดยเพิ่ม 3 ฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ใช้จะอยากลองใช้ทันที ได้แก่ การปรับปรุงความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล, การทำงานร่วมกับเครื่องมือภายนอกได้ดีขึ้น และการปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานให้ลื่นไหลมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับแพลตฟอร์ม AI ให้ตอบโจทย์การใช้งานจริงมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-atlas-just-got-its-first-major-update-3-new-features-youll-want-to-use 🔒 Samsung เพิ่มระบบป้องกันขโมยใน One UI 8.5 Samsung เตรียมอัปเดต One UI 8.5 ที่จะเพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการโจรกรรมมือถือ เช่น การล็อกเครื่องแม้ถูกรีเซ็ต และระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการพยายามเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวและอุปกรณ์ของตนเอง 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/your-samsung-phone-is-about-to-get-a-big-theft-protection-boost-thanks-to-one-ui-8-5-heres-how 🎨 คนทำงานสายครีเอทีฟชอบ AI แต่ก็มีปัญหา รายงานจาก Dropbox พบว่าคนทำงานสายครีเอทีฟใช้เครื่องมือเฉลี่ยถึง 14 ตัว ทำให้เกิดความซับซ้อนและเสียเวลา แม้ว่า 95% ของคนกลุ่มนี้จะใช้ AI เพื่อช่วยงาน เช่น การระดมไอเดีย สรุปการประชุม และค้นหาข้อมูล แต่ AI ยังไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด เพราะบางครั้งไม่เข้าใจบริบทของงานจริง ๆ หากสามารถลดจำนวนเครื่องมือและใช้ AI ที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มเวลาสร้างสรรค์งานได้มากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/creative-workers-love-ai-but-it-is-causing-more-issues-than-expected
    0 Comments 0 Shares 1091 Views 0 Reviews
  • ทำไมกล้องถ่ายภาพความร้อนถึงเป็นอุปกรณ์เสริมที่ดีที่สุดสำหรับสมาร์ทโฟน

    กล้องถ่ายภาพความร้อนที่เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB-C เช่น Thermal Master P1 กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นเครื่องมือวิเคราะห์อุณหภูมิได้ทันที โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เฉพาะทางราคาแพง จุดเด่นคือพกพาสะดวก ใช้งานง่าย และมีแอปพลิเคชันที่ช่วยวัดค่าอุณหภูมิได้อย่างละเอียด

    รายการ 10 การใช้งาน Thermal Camera
    ตรวจสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
    หาจุดร้อนในคอมพิวเตอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อปรับปรุงการระบายความร้อน

    ตรวจสอบเครื่องยนต์รถยนต์
    ดูอุณหภูมิที่ผิดปกติในเครื่องยนต์ เพื่อช่วยวิเคราะห์ปัญหา

    ตรวจสอบการรั่วไหลของความร้อนในบ้าน
    หาจุดที่มีอากาศเย็นรั่วเข้ามา ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน

    ตรวจสอบระบบทำความร้อน (Heating System)
    หาจุดรั่วหรือท่อที่มีปัญหาในระบบทำความร้อน

    ตรวจสอบการรั่วซึมของน้ำและความชื้น
    หาความชื้นสะสมหลังผนังหรือเพดาน ป้องกันเชื้อรา

    ใช้ในการทำอาหารและเบเกอรี่
    ตรวจสอบอุณหภูมิผิวอาหาร น้ำมัน หรือเตาอบ

    ตรวจจับสัตว์และคนในความมืด
    ใช้ดูสัตว์กลางคืน หรือเล่นเกมซ่อนหาในที่มืด

    ใช้ถ่ายภาพเชิงสร้างสรรค์
    ถ่ายภาพวิว เมือง หรือวัตถุในมุมมองความร้อนที่แปลกใหม่

    ใช้เป็นเครื่องมือการศึกษา
    กระตุ้นความสนใจเด็ก ๆ ในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

    ใช้ในงานมืออาชีพ
    ตรวจสอบอาคาร เครื่องจักร หรือระบบไฟฟ้า พร้อมสร้างรายงานจากแอป

    https://www.slashgear.com/2026375/thermal-camera-best-phone-accessory-reasons-why/
    🔥 ทำไมกล้องถ่ายภาพความร้อนถึงเป็นอุปกรณ์เสริมที่ดีที่สุดสำหรับสมาร์ทโฟน กล้องถ่ายภาพความร้อนที่เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB-C เช่น Thermal Master P1 กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นเครื่องมือวิเคราะห์อุณหภูมิได้ทันที โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เฉพาะทางราคาแพง จุดเด่นคือพกพาสะดวก ใช้งานง่าย และมีแอปพลิเคชันที่ช่วยวัดค่าอุณหภูมิได้อย่างละเอียด 📋 รายการ 10 การใช้งาน Thermal Camera ✅ ตรวจสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ➡️ หาจุดร้อนในคอมพิวเตอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อปรับปรุงการระบายความร้อน ✅ ตรวจสอบเครื่องยนต์รถยนต์ ➡️ ดูอุณหภูมิที่ผิดปกติในเครื่องยนต์ เพื่อช่วยวิเคราะห์ปัญหา ✅ ตรวจสอบการรั่วไหลของความร้อนในบ้าน ➡️ หาจุดที่มีอากาศเย็นรั่วเข้ามา ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ✅ ตรวจสอบระบบทำความร้อน (Heating System) ➡️ หาจุดรั่วหรือท่อที่มีปัญหาในระบบทำความร้อน ✅ ตรวจสอบการรั่วซึมของน้ำและความชื้น ➡️ หาความชื้นสะสมหลังผนังหรือเพดาน ป้องกันเชื้อรา ✅ ใช้ในการทำอาหารและเบเกอรี่ ➡️ ตรวจสอบอุณหภูมิผิวอาหาร น้ำมัน หรือเตาอบ ✅ ตรวจจับสัตว์และคนในความมืด ➡️ ใช้ดูสัตว์กลางคืน หรือเล่นเกมซ่อนหาในที่มืด ✅ ใช้ถ่ายภาพเชิงสร้างสรรค์ ➡️ ถ่ายภาพวิว เมือง หรือวัตถุในมุมมองความร้อนที่แปลกใหม่ ✅ ใช้เป็นเครื่องมือการศึกษา ➡️ กระตุ้นความสนใจเด็ก ๆ ในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ✅ ใช้ในงานมืออาชีพ ➡️ ตรวจสอบอาคาร เครื่องจักร หรือระบบไฟฟ้า พร้อมสร้างรายงานจากแอป https://www.slashgear.com/2026375/thermal-camera-best-phone-accessory-reasons-why/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    10 Reasons Why A Thermal Camera Is The Best Accessory For Your Smartphone - SlashGear
    Curious what thermal imaging can actually do on a phone? This guide breaks down the surprising ways a small add-on becomes genuinely practical.
    0 Comments 0 Shares 332 Views 0 Reviews
  • ทำไม Costco และ Home Depot ยังใช้คอมพิวเตอร์ IBM จากยุค 1980

    หลายคนอาจแปลกใจเมื่อเห็นเครื่องคอมพิวเตอร์หน้าตาโบราณในร้าน Costco หรือ Home Depot แต่ความจริงคือบริษัทเหล่านี้ยังคงใช้ IBM AS/400 และ IBM 5250 ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 1988 เพื่อจัดการธุรกรรม, ระบบคลังสินค้า, และการเงินของร้านค้า ระบบเหล่านี้ทำงานบน OS/400 และต่อมาพัฒนามาเป็น IBM i ซึ่งยังคงได้รับการสนับสนุนจาก IBM

    เหตุผลหลักคือ ความปลอดภัย เนื่องจากระบบเหล่านี้ไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยตรงและต้องใช้การเข้าถึงทางกายภาพ ทำให้แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะถูกแฮ็ก อีกทั้งยังมีความ เสถียรสูงมาก โดยมี uptime มากกว่า 99.99% ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องการระบบที่ไม่ล่มบ่อย

    อีกปัจจัยคือ ต้นทุนต่ำและความคุ้มค่า Costco เป็นบริษัทที่ขึ้นชื่อเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่าย โดยจัดสรรงบประมาณเพียง 10% ของรายได้สำหรับการดำเนินงาน การใช้ระบบ IBM รุ่นเก่าจึงช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากเมื่อเทียบกับการลงทุนในระบบใหม่ เช่น Oracle หรือ SAP

    นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างจากภาครัฐ เช่น กองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่เคยใช้คอมพิวเตอร์ IBM Series/1 และแผ่นฟลอปปีดิสก์ 8 นิ้วในการควบคุมระบบอาวุธนิวเคลียร์มานานหลายสิบปี ก่อนจะอัปเดตในปี 2019 เหตุผลก็คล้ายกันคือ ความเชื่อถือได้และความปลอดภัยจากการโจมตีทางไซเบอร์

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เหตุผลที่ยังใช้ IBM รุ่นเก่า
    ความเสถียรสูง (uptime > 99.99%)
    ปลอดภัยจากการถูกแฮ็กเพราะต้องเข้าถึงทางกายภาพ
    ต้นทุนต่ำและคุ้มค่า

    การใช้งานในธุรกิจ
    จัดการธุรกรรม, คลังสินค้า, และการเงิน
    ระบบ IBM AS/400 และ IBM 5250 ยังได้รับการสนับสนุนจาก IBM

    ตัวอย่างจากภาครัฐ
    กองทัพอากาศสหรัฐฯ ใช้ IBM Series/1 กับฟลอปปีดิสก์ 8 นิ้ว
    อัปเดตระบบในปี 2019 หลังใช้งานมานานหลายสิบปี

    คำเตือนและข้อควรพิจารณา
    ระบบเก่าอาจไม่รองรับความต้องการใหม่ ๆ เช่น Big Data หรือ Cloud
    การพึ่งพาเทคโนโลยีโบราณอาจทำให้ยากต่อการหาช่างผู้เชี่ยวชาญ
    หาก IBM ยุติการสนับสนุน อาจกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต

    https://www.slashgear.com/2021823/why-costco-home-depot-still-use-1980s-ibm-computers/
    🖥️ ทำไม Costco และ Home Depot ยังใช้คอมพิวเตอร์ IBM จากยุค 1980 หลายคนอาจแปลกใจเมื่อเห็นเครื่องคอมพิวเตอร์หน้าตาโบราณในร้าน Costco หรือ Home Depot แต่ความจริงคือบริษัทเหล่านี้ยังคงใช้ IBM AS/400 และ IBM 5250 ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 1988 เพื่อจัดการธุรกรรม, ระบบคลังสินค้า, และการเงินของร้านค้า ระบบเหล่านี้ทำงานบน OS/400 และต่อมาพัฒนามาเป็น IBM i ซึ่งยังคงได้รับการสนับสนุนจาก IBM เหตุผลหลักคือ ความปลอดภัย เนื่องจากระบบเหล่านี้ไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยตรงและต้องใช้การเข้าถึงทางกายภาพ ทำให้แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะถูกแฮ็ก อีกทั้งยังมีความ เสถียรสูงมาก โดยมี uptime มากกว่า 99.99% ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องการระบบที่ไม่ล่มบ่อย อีกปัจจัยคือ ต้นทุนต่ำและความคุ้มค่า Costco เป็นบริษัทที่ขึ้นชื่อเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่าย โดยจัดสรรงบประมาณเพียง 10% ของรายได้สำหรับการดำเนินงาน การใช้ระบบ IBM รุ่นเก่าจึงช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากเมื่อเทียบกับการลงทุนในระบบใหม่ เช่น Oracle หรือ SAP นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างจากภาครัฐ เช่น กองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่เคยใช้คอมพิวเตอร์ IBM Series/1 และแผ่นฟลอปปีดิสก์ 8 นิ้วในการควบคุมระบบอาวุธนิวเคลียร์มานานหลายสิบปี ก่อนจะอัปเดตในปี 2019 เหตุผลก็คล้ายกันคือ ความเชื่อถือได้และความปลอดภัยจากการโจมตีทางไซเบอร์ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เหตุผลที่ยังใช้ IBM รุ่นเก่า ➡️ ความเสถียรสูง (uptime > 99.99%) ➡️ ปลอดภัยจากการถูกแฮ็กเพราะต้องเข้าถึงทางกายภาพ ➡️ ต้นทุนต่ำและคุ้มค่า ✅ การใช้งานในธุรกิจ ➡️ จัดการธุรกรรม, คลังสินค้า, และการเงิน ➡️ ระบบ IBM AS/400 และ IBM 5250 ยังได้รับการสนับสนุนจาก IBM ✅ ตัวอย่างจากภาครัฐ ➡️ กองทัพอากาศสหรัฐฯ ใช้ IBM Series/1 กับฟลอปปีดิสก์ 8 นิ้ว ➡️ อัปเดตระบบในปี 2019 หลังใช้งานมานานหลายสิบปี ‼️ คำเตือนและข้อควรพิจารณา ⛔ ระบบเก่าอาจไม่รองรับความต้องการใหม่ ๆ เช่น Big Data หรือ Cloud ⛔ การพึ่งพาเทคโนโลยีโบราณอาจทำให้ยากต่อการหาช่างผู้เชี่ยวชาญ ⛔ หาก IBM ยุติการสนับสนุน อาจกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต https://www.slashgear.com/2021823/why-costco-home-depot-still-use-1980s-ibm-computers/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Costco And Home Depot Still Use IBM Computers From The '80s: Here's Why - SlashGear
    Costco sells some of the most advanced computers on the consumer market today, so you'll be surprised to learn their stores rely on computers from the 1980s.
    0 Comments 0 Shares 256 Views 0 Reviews
  • RustDesk เพิ่มฟีเจอร์ Multi-Scaled Display บน Wayland

    RustDesk ซึ่งเป็นโครงการ remote desktop แบบโอเพนซอร์ส ได้ประกาศอัปเดตสำคัญใน nightly build ล่าสุด โดยเพิ่มการรองรับ multi-scaled display สำหรับผู้ใช้ Linux ที่ใช้ Wayland โดยเฉพาะบน KDE และ GNOME ฟีเจอร์นี้ช่วยแก้ปัญหาที่ผู้ใช้หลายจอที่มีความละเอียดและการปรับสเกลต่างกันมักเจอ เช่น pointer ไม่ตรงตำแหน่งที่คลิกจริง

    ปัญหาที่ถูกแก้ไข
    ก่อนหน้านี้ หากผู้ใช้มีจอ 4K ที่ปรับสเกล 200% และจอ Full HD ที่ปรับสเกล 100% การใช้งาน remote desktop มักจะเกิดปัญหา pointer misalignment ทำให้การทำงานแทบเป็นไปไม่ได้ การอัปเดตครั้งนี้ทำให้ RustDesk กลายเป็น remote desktop ตัวแรกที่รองรับ multi-scaled display บน Wayland ซึ่งคู่แข่งเชิงพาณิชย์อย่าง TeamViewer และ AnyDesk ยังไม่สามารถแก้ไขได้เต็มที่

    ความสำคัญต่อผู้ใช้ Linux
    การแก้ไขนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับผู้ใช้ Linux ที่ทำงานกับหลายจอ เพราะ Wayland เองยังมีความท้าทายในการจัดการ multi-monitor ที่ซับซ้อน RustDesk จึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเสถียรและความปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อมันเป็นโอเพนซอร์สและรองรับหลายแพลตฟอร์มทั้ง Windows, macOS, Android และ iOS

    อนาคตของ RustDesk
    ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ใน nightly build และจะถูกปล่อยในเวอร์ชัน stable หลังจากผ่านการทดสอบแล้ว หาก RustDeskสามารถรักษาความเร็วและความเสถียรได้ ก็อาจกลายเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งของโซลูชันเชิงพาณิชย์ และเป็นตัวเลือกหลักสำหรับองค์กรที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายด้าน remote desktop

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่
    รองรับ multi-scaled display บน Wayland (KDE, GNOME)
    แก้ปัญหา pointer misalignment บนหลายจอ

    ความแตกต่างจากคู่แข่ง
    RustDesk เป็น remote desktop ตัวแรกที่รองรับฟีเจอร์นี้บน Wayland
    TeamViewer และ AnyDesk ยังไม่แก้ไขได้เต็มที่

    ความสำคัญต่อผู้ใช้
    ช่วยให้การทำงานบนหลายจอเสถียรขึ้น
    รองรับ cross-platform และเป็นโอเพนซอร์ส

    คำเตือน
    ฟีเจอร์ยังอยู่ใน nightly build อาจมีบั๊กหรือไม่เสถียร
    ต้องรอการปล่อยใน stable version เพื่อใช้งานจริงในองค์กร
    ผู้ใช้ควรทดสอบก่อนนำไปใช้ในงานสำคัญ

    https://itsfoss.com/news/rustdesk-multi-scaled-display-support/
    🖥️ RustDesk เพิ่มฟีเจอร์ Multi-Scaled Display บน Wayland RustDesk ซึ่งเป็นโครงการ remote desktop แบบโอเพนซอร์ส ได้ประกาศอัปเดตสำคัญใน nightly build ล่าสุด โดยเพิ่มการรองรับ multi-scaled display สำหรับผู้ใช้ Linux ที่ใช้ Wayland โดยเฉพาะบน KDE และ GNOME ฟีเจอร์นี้ช่วยแก้ปัญหาที่ผู้ใช้หลายจอที่มีความละเอียดและการปรับสเกลต่างกันมักเจอ เช่น pointer ไม่ตรงตำแหน่งที่คลิกจริง ⚙️ ปัญหาที่ถูกแก้ไข ก่อนหน้านี้ หากผู้ใช้มีจอ 4K ที่ปรับสเกล 200% และจอ Full HD ที่ปรับสเกล 100% การใช้งาน remote desktop มักจะเกิดปัญหา pointer misalignment ทำให้การทำงานแทบเป็นไปไม่ได้ การอัปเดตครั้งนี้ทำให้ RustDesk กลายเป็น remote desktop ตัวแรกที่รองรับ multi-scaled display บน Wayland ซึ่งคู่แข่งเชิงพาณิชย์อย่าง TeamViewer และ AnyDesk ยังไม่สามารถแก้ไขได้เต็มที่ 🌐 ความสำคัญต่อผู้ใช้ Linux การแก้ไขนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับผู้ใช้ Linux ที่ทำงานกับหลายจอ เพราะ Wayland เองยังมีความท้าทายในการจัดการ multi-monitor ที่ซับซ้อน RustDesk จึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเสถียรและความปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อมันเป็นโอเพนซอร์สและรองรับหลายแพลตฟอร์มทั้ง Windows, macOS, Android และ iOS 🔮 อนาคตของ RustDesk ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ใน nightly build และจะถูกปล่อยในเวอร์ชัน stable หลังจากผ่านการทดสอบแล้ว หาก RustDeskสามารถรักษาความเร็วและความเสถียรได้ ก็อาจกลายเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งของโซลูชันเชิงพาณิชย์ และเป็นตัวเลือกหลักสำหรับองค์กรที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายด้าน remote desktop 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ ➡️ รองรับ multi-scaled display บน Wayland (KDE, GNOME) ➡️ แก้ปัญหา pointer misalignment บนหลายจอ ✅ ความแตกต่างจากคู่แข่ง ➡️ RustDesk เป็น remote desktop ตัวแรกที่รองรับฟีเจอร์นี้บน Wayland ➡️ TeamViewer และ AnyDesk ยังไม่แก้ไขได้เต็มที่ ✅ ความสำคัญต่อผู้ใช้ ➡️ ช่วยให้การทำงานบนหลายจอเสถียรขึ้น ➡️ รองรับ cross-platform และเป็นโอเพนซอร์ส ‼️ คำเตือน ⛔ ฟีเจอร์ยังอยู่ใน nightly build อาจมีบั๊กหรือไม่เสถียร ⛔ ต้องรอการปล่อยใน stable version เพื่อใช้งานจริงในองค์กร ⛔ ผู้ใช้ควรทดสอบก่อนนำไปใช้ในงานสำคัญ https://itsfoss.com/news/rustdesk-multi-scaled-display-support/
    ITSFOSS.COM
    RustDesk Pulls Ahead of TeamViewer, AnyDesk with Wayland Multi-Scaled Display Support
    New nightly build brings support for monitors with different scaling factors.
    0 Comments 0 Shares 195 Views 0 Reviews
  • ตัดโซ่หรือตายซาก ตอนที่ 3 – 4

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ตัดโซ่ หรือ ตายซาก”
    ตอน 3
    แล้วโซ่คล้องคอชาวกรีซล่ะ หน้าตาเป็นอย่างไร สมันน้อยน่าจะรู้จักนะ เพราะเคยต้องใช้อยู่ช่วงนึง แต่อาจจะขนาดเล็กกว่า สั้นกว่า บางคนอาจโตไม่ทัน หรือโตแล้ว แต่ไม่รู้เรื่อง ก็ทำความรู้จักไว้หน่อยก็ดี เผื่อเหตุการณ์เก่า มันจะกลับมาเยี่ยม จะได้รู้จัก รู้ขนาดโซ่ว่า รับไหวไหม ยิ่งมีข่าวกระฉ่อนว่า หนุ่มหน้าใส อดีตผู้เชี่ยวชาญของธนาคารโลก พวกเสือหิวด้วยกัน กำลังเป็นตัวเต็ง จะมาเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย คนใหม่ แทนคนปัจจุบัน ที่กำลังจะหมดวาระในเดือนสิงหาคมนี้ เผื่อแกยังรสนิยมเดิมๆ
    ปี ค.ศ.2010 เสือหิว Troika บอกเราจัดหาเงินให้กรีซได้จำนวน ประมาณบรรทุกรถสิบล้อ 340 คัน ตีว่า บรรทุกได้ คันละ 1 พันล้านยูโร ใครไม่ตกเลข ก็คำนวณเองนะครับ ว่าเป็นเงินเท่าไหร่ ดอกแค่ร้อยละ 5 ถูกจะตาย เงื่อนไขไม่มีอะไรมากมาย ใช้แบบเงื่อนตายเหมือนผูกตราสังข์ ตามแบบฟอร์มของ IMF ที่เรียกว่า SAP หรือ Structural Adjustment Policy ส่วนคนกู้ เรียกสัญญาแบบนี้ว่า แบบ DOA หรือ Dead on Arrival เป็นศพตั้งแต่มาถึงแล้ว คือ ตาย(ห่า) ตั้งแต่กู้ สัญญาแบบนี้ใช้มากว่า 35 ปีแล้วในประเทศแถบละติน อาฟริกา ยุโรปตะวันออกที่เคยเป็นสมาชิกของสหภาพโซเวียต และเอเซีย ตัวอย่างของผู้ที่ใช้สัญญานี้ และเป็นที่รู้จักกันดี ถูกนำมายกเป็นกรณีศึกษาจนแทบจะท่องกันได้คือ ประเทศอาร์เจนตินา
    สัญญาแบบ DOA เป็นอย่างไร ก็แค่ตัดงบใช้จ่ายในบ้านเมืองจนเหี้ยน ซึ่งรวมไปถึงการลดสวัสดิการทาง สังคม การรักษาพยาบาล เบี้ยบำนาญ ลดการจ่ายค่าแรงค่าจ้าง แต่เน้นให้เพิ่มงาน เพิ่มการลงทุน เพิ่มการส่งออก เพิ่มการแข่งขันทางการค้า เพิ่มภาษี และต้องแปรรูปรัฐวิสาหกิจ คือให้รัฐนำออกมาขายเพื่อเอามาใช้หนี้ และลดค่าเงินของประเทศผู้กู้ แต่เนื่องจากกรีซใช้ยูโร ขืนบังคับใช้ข้อนี้ก็ฉิบหายกันหมด เพราะฉนั้น ข้อนี้ เลยกลายเป็นไปเพิ่มการลดค่าใช้จ่ายในประเทศลงแยะๆ แทน
    ผมก็งงนะ ไม่รู้มันเอาส่วนไหนคิด ลดค่าแรง ลดการจ้างงาน แต่ให้เพิ่มงาน เพิ่มการลงทุน แปลว่า ชาวกรีซ นอนผึ่งพุงอยู่กับบ้าน เพราะไม่มีงานทำ ทำไปก็ไม่มีได้ค่าจ้าง เพราะเขาสั่งให้ลด แล้ว”ใคร” มาเพิ่มงาน “ใคร” มาลงทุน ” ใคร” มาซื้อรัฐวิสาหกิจ ที่ไอ้เสือหิวสั่งให้ขาย พอนึกออกนะครับว่า ในที่สุดแล้ว “ใคร” จะเป็นเจ้าของเกาะกรีซอันสวยงาม
    เสือหิว Troika บอกว่า มาตรการนี้ คงใช้ไม่นาน ไม่เกิน 2 ปี กรีซก็คงฟื้นตัว แต่มันตรงกันข้าม นอกจากไม่ฟื้นแล้ว กรีซยิ่งทรุดหนัก ชาวกรีซออกมาประท้วง สื่อกรีซเริ่มออกข่าวด่าไอ้เสือหิว อียู และ IMF บอกว่า ที่ไม่ดีขึ้น เพราะกรีซไม่ยอมปฏิบัติตามเงื่อนไข ไม่ยอมลำบาก ยังอยากสบายด้วยเงินของคนอื่น อันนี้เจ็บมาก ชาวกรีซบอกว่า นี่เป็นการบิดเบือนความจริงที่เลวร้าย รัฐบาลกรีซเดินตามเงื่อนไข DOA อย่างเคร่งครัด งบค่าจ้างตัดทิ้งเป็นพันๆล้านยู โร การรักษาพยาบาลของกรีซ ลดไปถึง 50% ไม่ใช่ชาวกรีซ แข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วย แต่พวกเขาไม่มีเงิน ไปหาหมอ ไปโรงพยาบาลต่างหาก การศึกษาก็เช่นกัน ลดลงไปมากมาย ธุรกิจขนาดเล็กปิดตัวเกือบหมด และอัตราคนว่างงานในปี 2011 ก็ขึ้นพรวด และรายรับของภาษี ก็ลดลงอย่างมากเช่นเดียวกัน มัน DOA จริงๆ
    เสือหิว Troika ยังปากแข็ง ไม่ยอมรับความผิดพลาดในการจ่ายยาของตัวให้แก่คนป่วยชื่อก รีซ จะไปรับได้อย่างไร เขาให้ยาถูกแล้ว เขาตั้งใจให้ยา DOA นี้กับกรีซ กรีซต่างหากเล่า ที่ทำผิดพลาดซ้ำซาก ยอมกินยานี้ (ซ้ำซาก) เอง
    กรีซนึกว่า กินยานี้ครั้งเดียวแล้วทุกอย่าง จะดีขึ้นตามที่ IMF บอก แต่ในที่สุด กรีซก็ต้องขอรับยางวดสอง ในปี 2012 เอะ งวดแรก กินเข้าไปก็ตายแล้ว งวดสองกินแล้วจะเป็นอย่างไร ก็ตายซากละสิครับ
    เงื่อนไขงวดสอง เพิ่มชัดเจนว่า ต้องลดการจ้างงานภาครัฐลงไป 150,000 คน ภายในสิ้นปี 2015 และขายรัฐวิสาหกิจแบบเทกระจาด เรื่องนี้ทำให้มีป้ายขึ้นกลางเมืองใหญ่ของกรีซว่า “A Nation for Sale” มีประเทศขาย ไม่ใช่ขายแค่บ้าน ขายประเทศ ภาวนาอย่าให้มีป้ายแบบนี้ขึ้นในแดนสยามของเราก็แล้วกัน
    ทรัพย์สินที่กรีซขายไป ที่สำคัญ เช่น ท่าเรือ Piraeus ท่าเรือ Thessaloniki ซึ่งเป็นท่าเรือใหญ่ และมีคุณค่า ทั้งทางประวัติศาสตร์ และ เศรษฐกิจ (บางข้อมูลบอกท่าเรือ ทั้ง 2 ยังเจรจากันอยู่ ยังไม่ได้ขายออกไป) บริษัทเทเลคอม OTE สลากกินแบ่งกรีซ ที่ดินหลายแปลง ที่อยู่ในถิ่นดีที่สุดของประเทศ prime area และ postal bank การขายทรัพย์สินของประเทศครั้งใหญ่นี้ ทำให้พรรค Syriza ซึ่งประกาศคัดค้านขายรัฐวิสาหกิจ และการขายทรัพย์สิน ซึ่งได้คะแนนเสียงเพียง 4.6 % ในปี 2009 กระโดดมาเป็น 26.89% ในปี 2012 และได้เป็นรัฐบาลในปี 2015
    ระหว่าง ที่เสือหิว Troika ให้กรีซกินยา DOA งวดสอง อัตราคนว่างงานก็เพิ่มเป็น 22% และกำลังจะเป็น 25% ในไม่ช้า ชาวกรีซที่มีการศึกษาดี และยังอายุน้อย ต่างพากัน ทิ้งประเทศของตน ไปหางานทำที่เยอรมัน ที่เศรษฐกิจกำลังรุ่ง มันเป็นการประชดชีวิตชาวกรีซอย่างน่าเศร้า โลกนี้มันไม่สวยทั้งหมดอย่างที่เราคิด และที่กรีซ ก็คงจะเหลือแต่คนแก่ คนรายได้ต่ำ คนการศึกษาไม่สูง และชาวต่างชาติที่หนีระเบิดรายวันมาแย่งกันกิน
    ##############
    “ตัดโซ่ หรือ ตายซาก”

    ตอน 4
    นักวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์การเมือง บอกว่า กรีซมาถึงจุดวิกฤตินี้ จากการที่มีนักการเมือง หรือรัฐบาลสายตาสั้น มองไม่ได้ไกล ขี้โกง เห็นแก่ประโยชน์พรรคและพวก ทำให้กรีซตกเป็นเหยื่อของระบบ ที่สร้างขี้นมา เพื่อทำให้ประเทศที่อ่อนแอจากปัจจัย ต่างๆ อย่างกรีซ ไม่คิดพึ่งตัวเอง ไม่คิดเปลี่ยนแปลง ไม่คิดปฏิรูป ไม่รู้จักเรียนรู้ เพื่อแก้ไข มักง่าย และในที่สุดก็จะหมดตัว หมดประเทศ หรือ เหลือแต่ซาก
    ส่วนนักวิเคราะห์การเงินบอกว่า อย่าเอะอะไป เรื่องหนี้กรีซ ไม่ใช่เรื่องของหนี้กรีซ เอะ พูดยังไง เราพูดเรื่องเดียวกันหรือเปล่า ครับ นักการเงินบอก ไม่มีใครเขาสนใจประเทศกรีซ ที่เล็กกระจิดริด ถึงจะสวยงามก็เถอะ กรีซจะมีเงินใช้หนี้ไหม กรีซจะอยู่ หรือจะไปจากอียู เขาไม่ได้สนใจ แต่ที่เป็นข่าวกันถี่ ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก พวกเขากลัวมันกระทบกับระบบธนาคาร กลัวนายทุนจะเจ๊ง ไม่ได้กลัวชาวกรีซจะอดตาย ไม่ได้กลัวรัฐบาลกรีซ จะล่ม เข้าใจไหมครับ
    แต่สื่อใหญ่รุ่นเก๋า Dennis Gartman บอกว่า…. กรีซยังอยู่ในอียู เพราะเยอรมันต้องการอย่างนั้น เยอรมันยังไม่อยากเฉดกรีซออกไป เยอรมันต้องการให้ค่าเงินยูโรอ่อน ยูโรอ่อนดีสำหรับการส่งออก คนซื้อจะได้นึกว่าตัวซื้อของได้ถูก เยอรมันเป็นประเทศขายของ ที่ ยามนี้กำลังต้องการขายอย่างยิ่ง ใครขายได้ ต้องรีบขาย Bayer, Thyssenkrupp, Daimler เจ้าพ่อธุรกิจการค้าเยอรมัน ต้องการให้กรีซ ยังอยู่ในอียูทั้งนั้น …
    …..ถ้า ผมเป็นนายกรัฐมนตรีกรีซ ผมคงไม่วิ่งเจรจาให้เหนื่อย ผมคงปล่อยให้กรีซผิดนัดหนี้นานมาแล้ว และกลับไปใช้เงินสกุลของกรีซ และผมก็ลดค่าของกรีซ อุตสาหกรรมทอผ้าของกรีซก็จะกลายเป็นสินค้า ที่ใครๆต้องการเพราะราคาถูกลง กิจการท่องเที่ยวของกรีซ ก็กลับมาฟื้น เพราะใครๆ ก็อยากกลับมาอยู่เกาะสวย ในราคาไม่แพง กิจการเดินเรือของกรีซก็กลับมารุ่งใหม่ ทำไมผมต้องง้อเยอรมันอยู่ข้างเดียว ผมจะบอกกับพวกเจ้าหนี้โหดๆ ว่าเชิญเลย เชิญเอาตูดผมไปเลย อยากทำอะไรก็ทำ แล้วผมก็ออกจากอียู ก็แค่นั้น…
    ความคิดอย่างนาย Gartman ชาวกรีซเกือบทุกคน คงอยากทำอย่างนั้น คิดได้ แต่ไม่รู้ทำได้จริงไหม กรีซมีหนี้ก้อนใหญ่หมึมา เบี้ยวหนี้ก้อนหนี้ ก็กลายเป็นประเทศล้มละลาย คนล้มละลาย จะไปค้าขายกับใครได้ ขายของได้เงินมา เจ้าหนี้ก็คอยมาคว้าไป แต่ไม่ใช่ว่า เรื่องแบบนี้ เล่นไม่ได้เอาเลย อาร์เจนตินา เคยตัดโซ่ แหกคอกออกมา ยอมอด แต่ก็หืดขึ้นคอ กว่าจะยืนตรงได้เหมือนเดิม
    พรรค Syriza คงไม่คิดให้ชาวกรีซอยู่ในเหว และมีโซ่คล้องคอตลอดไป แต่จะเลือกทำด้วยวิธีไหน และเมื่อไหร่ เท่านั้น การตัดสินใจของ Syriza ในช่วงไม่กี่วันนี้ คงต้องตามดูกันทุกยก เพราะมันสามารถ สร้างระดับความสะเทือน เหมือนแผ่นดินไหวในยุโรปได้ ตั้งแต่ 4 ริกเตอร์ ไปจนถึงระดับ 9 ริกเตอร์ และอาจจะตามมา ด้วยอาฟเตอร์ขนาดไหน ถึงไหน และนานเท่าไหร่ และจะต่อด้วยซึนามิหรือไม่ พวกแมงเม่า อย่ามัวแต่เหม่อดูแต่จอบ้านตัวเอง เดี๋ยวปีกจะไหม้ร่วงหลุดเป็นแถวๆ
    ล่าสุดขณะที่ผมกำลังเขียนนิทาน ( 25 มิย.) ข่าวว่า คุณน้องยานิส รัฐมนตรีคลัง ยืนกรานว่า ต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ใหม่ ฝ่ายเจ้าหนี้บอก เราไม่มีความคิดเช่นนั้น ถ้ากรีซไม่มีอะไรใหม่มาเสนอ เช่นจะรัดคอหอยเข้าไปอีกกี่นิ้ว หรือจะมีวิธีชำระหนี้อย่างไร เราก็ไม่มีอะไรพูด แล้วการประชุมระหว่าง รัฐมนตรีคลังของกรีซกับฝ่ายอี ยู 18 คน ที่ สนง อียู กรุงบรัสเซล เมื่อเย็นวันที่ 24 มิย. ก็จบลงอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาประชุมไม่ถึง 1 ชั่วโมง แล้วต่างก็ทำหน้าไร้อารมณ์ เก็บของกลับบ้าน
    ร้อนถึงนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซึ่งข่าวว่า บินด่วนมาบรัสเซล มาคุยต่อกับพวก บิกกี้ของ อียู และคุณนายหน้าเค็มของไอเอมเอฟ ต่ออีก 7 ชั่วโมง แล้วก็กลับไปตอนดึก โดยไม่ให้ข่าว ทั้งหมดนี้ ผมอ่านจากทวิต ของนักข่าวต่างประเทศ ที่ไปเกาะติดสถานการณ์
    แปลว่าอะไรครับ แปลว่า ทั้ง 2 ฝ่ายยังกำไต๋ ไม่แผลมให้อีกฝ่ายรู้ ดูผ่านๆ เหมือนกรีซ กำลังเป็นฝ่ายอาการหนัก แต่สำหรับผม ผมว่า อียูหนักกว่า สำหรับกรีซ เหมือนคนใกล้ตาย หรือตายไปแล้ว จะมีอะไรแย่ไปกว่านี้ได้อีกมาก ถึงมีชิวิตที่เป็นอยู่ก็เลวสุดอยู่แล้ว แต่สำหรับ อียู ยังไม่เคยใกล้ตาย เจียนตาย คราวนี้อาจจะได้รู้จัก
    สมมุติว่า ถ้ากรีซตัดสินใจไม่รับเงินกู้อีกต่อไป หนี้ที่ค้างกันอยู่ ก็ค่อยว่ากัน นี่ไม่ใช่การเบี้ยวหนี้ แต่เป็นการแสดงความไม่ต้องการเป็นหนี้เพิ่ม เอาแค่นี้ จะเรียกเป็นประเทศล้มละลาย หรืออะไรก็แล้วแต่ ความสะเทือนในระบบการเงินในยุโรป ก็น่าจะเกิน 6 ริกเตอร์แล้ว เพราะมันหมายถึง deposits run เงินฝากไหลออกจะเกิดขึ้นแบบของจริง ระบบแบงค์ในกรีซ ไปก่อน หลังจากนั้นก็ลามไปนอกกรีซ ก็ขึ้นกับธนาคารกลางของอียู จะเอาอยู่ไหม สมาชิกอียู ใครจะเป็นผู้กล้าหาญ ถมเงินมาให้ธนาคารกลาง คงเกี่ยงกันอยู่นาน เพราะทั้งเค็ม ทั้งคม กันทั้งนั้น คมเฉือนคม กว่าจะตกลงกันได้ ระหว่างนั้น เลือดยุโรปก็ไหลโกรก
    สมมุติไปอีกทางหนึ่ง ถึงคุณน้องยานิส จะทำหน้าขรึมว่า เจ้าหนี้ต้องตกลงเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ก่อน แต่ นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ประกาศว่า เรายอมให้โซ่รัดคอเราแน่นอีกหน่อย เกี่ยวกับเรื่องเงินบำนาญ ยืดอายุคนรับบำนาญไป อีก 2 ปี ทนไหวน่าลุงและจำนวนที่ต้องจ่ายบำนาญก็จะลดลง
    มี ข่าวว่า เจ้าหนี้ ต้องการรัดคออีกหลายเปลาะ เช่นเรื่อง ขยายฐานเก็บภาษี ไปถึง เรื่อง การซื้อยาและขึ้นอัตรา vat ร้านอาหารและที่พักโรงแรม สำหรับกรีซ ที่เป็นเมืองขายการท่องเที่ยว ขึ้นภาษี 2 รายการนี่ ก็ เปลี่ยนร้านอาหาร เป็นป่าช้า อาจได้ลูกค้ามากกว่า
    ข่าวนี้ทำให้เกิดเสียงแตกในพรรค Syriza เอง พวกเข้มบอกไม่ได้นะ นายกฯ ไปตกลงเองไม่ได้ ต้องเอามาเข้าสภาก่อน และรับรองเลย มติแบบนี้ ไม่ผ่านสภาแน่
    ถ้าเป็นข้อสมมุติตามนี้ ความสะเทือน อาจจะไม่เกิน 4 ริกเตอร์ ในตอนแรก ระหว่างรอเข้าสภา และไม่ว่าสภาจะลงมติอะไร การถอนเงินฝาก ก็จะเกิดขึ้น เหมือนกรณีแรก และความสะเทือนก็จะค่อยๆเพิ่มริกเตอร์ขึ้น ไม่ต่างกว่ากรณีแรก เพียงแต่ใช้เวลานานกว่า
    เห็นไหมครับ ไม่ว่ากรีซจะเล่นบทไหน ก็เกิดผลกระทบกับอียูทั้งสิ้น เพราะมันเป็นการจัดการที่ผิดของอียูเองตั้งแต่ต้น ผลมาจากเหตุ เมื่อมีการเอาเงินก้อนใหญ่ที่ควรใส่ไปที่กรีซ แต่ไปไม่ถึงกรีซ ไปถึงเจ้าหนี้อื่นแทน ถึงเวลากรีซจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ ก็ต้องเบิกเงินกู้ต่อไปเรื่อยๆ อาการของกรีซก็หนักไปเรื่อยๆ จากเงื่อนไข ที่รัดคอ ผูกมือผูกตีน ไม่ให้กระดิก ไม่ต้องจบปริญญาเอกทางเศรษฐศาสตร์จากอังกฤษ ก็พอรู้ว่า ไปต่อสภาพนี้จะเป็นอย่างไร ยิ่งจบมาอย่างคุณน้องยานิส ถึงได้พูดเหมือนท่องมนตร์ว่า ต้องปรับปรุงโครงสร้างหนี้ คือ ลดหนี้ ผ่อนผันเงื่อนไข เพื่อให้กรีซมีโอกาสต้ังหลัก และยืดอายุการชำระออกไปอีก หรือ มีเงินใหม่จากที่อื่น มาล้างหนี้ DOA และเริ่มต้นกระบวนการฟื้นชีวิตชาวกรีซกันใหม่
    จะมีไหมครับ เงินใหม่ จะมาจากไหน
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    27 มิ.ย. 2558
    ตัดโซ่หรือตายซาก ตอนที่ 3 – 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ตัดโซ่ หรือ ตายซาก” ตอน 3 แล้วโซ่คล้องคอชาวกรีซล่ะ หน้าตาเป็นอย่างไร สมันน้อยน่าจะรู้จักนะ เพราะเคยต้องใช้อยู่ช่วงนึง แต่อาจจะขนาดเล็กกว่า สั้นกว่า บางคนอาจโตไม่ทัน หรือโตแล้ว แต่ไม่รู้เรื่อง ก็ทำความรู้จักไว้หน่อยก็ดี เผื่อเหตุการณ์เก่า มันจะกลับมาเยี่ยม จะได้รู้จัก รู้ขนาดโซ่ว่า รับไหวไหม ยิ่งมีข่าวกระฉ่อนว่า หนุ่มหน้าใส อดีตผู้เชี่ยวชาญของธนาคารโลก พวกเสือหิวด้วยกัน กำลังเป็นตัวเต็ง จะมาเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย คนใหม่ แทนคนปัจจุบัน ที่กำลังจะหมดวาระในเดือนสิงหาคมนี้ เผื่อแกยังรสนิยมเดิมๆ ปี ค.ศ.2010 เสือหิว Troika บอกเราจัดหาเงินให้กรีซได้จำนวน ประมาณบรรทุกรถสิบล้อ 340 คัน ตีว่า บรรทุกได้ คันละ 1 พันล้านยูโร ใครไม่ตกเลข ก็คำนวณเองนะครับ ว่าเป็นเงินเท่าไหร่ ดอกแค่ร้อยละ 5 ถูกจะตาย เงื่อนไขไม่มีอะไรมากมาย ใช้แบบเงื่อนตายเหมือนผูกตราสังข์ ตามแบบฟอร์มของ IMF ที่เรียกว่า SAP หรือ Structural Adjustment Policy ส่วนคนกู้ เรียกสัญญาแบบนี้ว่า แบบ DOA หรือ Dead on Arrival เป็นศพตั้งแต่มาถึงแล้ว คือ ตาย(ห่า) ตั้งแต่กู้ สัญญาแบบนี้ใช้มากว่า 35 ปีแล้วในประเทศแถบละติน อาฟริกา ยุโรปตะวันออกที่เคยเป็นสมาชิกของสหภาพโซเวียต และเอเซีย ตัวอย่างของผู้ที่ใช้สัญญานี้ และเป็นที่รู้จักกันดี ถูกนำมายกเป็นกรณีศึกษาจนแทบจะท่องกันได้คือ ประเทศอาร์เจนตินา สัญญาแบบ DOA เป็นอย่างไร ก็แค่ตัดงบใช้จ่ายในบ้านเมืองจนเหี้ยน ซึ่งรวมไปถึงการลดสวัสดิการทาง สังคม การรักษาพยาบาล เบี้ยบำนาญ ลดการจ่ายค่าแรงค่าจ้าง แต่เน้นให้เพิ่มงาน เพิ่มการลงทุน เพิ่มการส่งออก เพิ่มการแข่งขันทางการค้า เพิ่มภาษี และต้องแปรรูปรัฐวิสาหกิจ คือให้รัฐนำออกมาขายเพื่อเอามาใช้หนี้ และลดค่าเงินของประเทศผู้กู้ แต่เนื่องจากกรีซใช้ยูโร ขืนบังคับใช้ข้อนี้ก็ฉิบหายกันหมด เพราะฉนั้น ข้อนี้ เลยกลายเป็นไปเพิ่มการลดค่าใช้จ่ายในประเทศลงแยะๆ แทน ผมก็งงนะ ไม่รู้มันเอาส่วนไหนคิด ลดค่าแรง ลดการจ้างงาน แต่ให้เพิ่มงาน เพิ่มการลงทุน แปลว่า ชาวกรีซ นอนผึ่งพุงอยู่กับบ้าน เพราะไม่มีงานทำ ทำไปก็ไม่มีได้ค่าจ้าง เพราะเขาสั่งให้ลด แล้ว”ใคร” มาเพิ่มงาน “ใคร” มาลงทุน ” ใคร” มาซื้อรัฐวิสาหกิจ ที่ไอ้เสือหิวสั่งให้ขาย พอนึกออกนะครับว่า ในที่สุดแล้ว “ใคร” จะเป็นเจ้าของเกาะกรีซอันสวยงาม เสือหิว Troika บอกว่า มาตรการนี้ คงใช้ไม่นาน ไม่เกิน 2 ปี กรีซก็คงฟื้นตัว แต่มันตรงกันข้าม นอกจากไม่ฟื้นแล้ว กรีซยิ่งทรุดหนัก ชาวกรีซออกมาประท้วง สื่อกรีซเริ่มออกข่าวด่าไอ้เสือหิว อียู และ IMF บอกว่า ที่ไม่ดีขึ้น เพราะกรีซไม่ยอมปฏิบัติตามเงื่อนไข ไม่ยอมลำบาก ยังอยากสบายด้วยเงินของคนอื่น อันนี้เจ็บมาก ชาวกรีซบอกว่า นี่เป็นการบิดเบือนความจริงที่เลวร้าย รัฐบาลกรีซเดินตามเงื่อนไข DOA อย่างเคร่งครัด งบค่าจ้างตัดทิ้งเป็นพันๆล้านยู โร การรักษาพยาบาลของกรีซ ลดไปถึง 50% ไม่ใช่ชาวกรีซ แข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วย แต่พวกเขาไม่มีเงิน ไปหาหมอ ไปโรงพยาบาลต่างหาก การศึกษาก็เช่นกัน ลดลงไปมากมาย ธุรกิจขนาดเล็กปิดตัวเกือบหมด และอัตราคนว่างงานในปี 2011 ก็ขึ้นพรวด และรายรับของภาษี ก็ลดลงอย่างมากเช่นเดียวกัน มัน DOA จริงๆ เสือหิว Troika ยังปากแข็ง ไม่ยอมรับความผิดพลาดในการจ่ายยาของตัวให้แก่คนป่วยชื่อก รีซ จะไปรับได้อย่างไร เขาให้ยาถูกแล้ว เขาตั้งใจให้ยา DOA นี้กับกรีซ กรีซต่างหากเล่า ที่ทำผิดพลาดซ้ำซาก ยอมกินยานี้ (ซ้ำซาก) เอง กรีซนึกว่า กินยานี้ครั้งเดียวแล้วทุกอย่าง จะดีขึ้นตามที่ IMF บอก แต่ในที่สุด กรีซก็ต้องขอรับยางวดสอง ในปี 2012 เอะ งวดแรก กินเข้าไปก็ตายแล้ว งวดสองกินแล้วจะเป็นอย่างไร ก็ตายซากละสิครับ เงื่อนไขงวดสอง เพิ่มชัดเจนว่า ต้องลดการจ้างงานภาครัฐลงไป 150,000 คน ภายในสิ้นปี 2015 และขายรัฐวิสาหกิจแบบเทกระจาด เรื่องนี้ทำให้มีป้ายขึ้นกลางเมืองใหญ่ของกรีซว่า “A Nation for Sale” มีประเทศขาย ไม่ใช่ขายแค่บ้าน ขายประเทศ ภาวนาอย่าให้มีป้ายแบบนี้ขึ้นในแดนสยามของเราก็แล้วกัน ทรัพย์สินที่กรีซขายไป ที่สำคัญ เช่น ท่าเรือ Piraeus ท่าเรือ Thessaloniki ซึ่งเป็นท่าเรือใหญ่ และมีคุณค่า ทั้งทางประวัติศาสตร์ และ เศรษฐกิจ (บางข้อมูลบอกท่าเรือ ทั้ง 2 ยังเจรจากันอยู่ ยังไม่ได้ขายออกไป) บริษัทเทเลคอม OTE สลากกินแบ่งกรีซ ที่ดินหลายแปลง ที่อยู่ในถิ่นดีที่สุดของประเทศ prime area และ postal bank การขายทรัพย์สินของประเทศครั้งใหญ่นี้ ทำให้พรรค Syriza ซึ่งประกาศคัดค้านขายรัฐวิสาหกิจ และการขายทรัพย์สิน ซึ่งได้คะแนนเสียงเพียง 4.6 % ในปี 2009 กระโดดมาเป็น 26.89% ในปี 2012 และได้เป็นรัฐบาลในปี 2015 ระหว่าง ที่เสือหิว Troika ให้กรีซกินยา DOA งวดสอง อัตราคนว่างงานก็เพิ่มเป็น 22% และกำลังจะเป็น 25% ในไม่ช้า ชาวกรีซที่มีการศึกษาดี และยังอายุน้อย ต่างพากัน ทิ้งประเทศของตน ไปหางานทำที่เยอรมัน ที่เศรษฐกิจกำลังรุ่ง มันเป็นการประชดชีวิตชาวกรีซอย่างน่าเศร้า โลกนี้มันไม่สวยทั้งหมดอย่างที่เราคิด และที่กรีซ ก็คงจะเหลือแต่คนแก่ คนรายได้ต่ำ คนการศึกษาไม่สูง และชาวต่างชาติที่หนีระเบิดรายวันมาแย่งกันกิน ############## “ตัดโซ่ หรือ ตายซาก” ตอน 4 นักวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์การเมือง บอกว่า กรีซมาถึงจุดวิกฤตินี้ จากการที่มีนักการเมือง หรือรัฐบาลสายตาสั้น มองไม่ได้ไกล ขี้โกง เห็นแก่ประโยชน์พรรคและพวก ทำให้กรีซตกเป็นเหยื่อของระบบ ที่สร้างขี้นมา เพื่อทำให้ประเทศที่อ่อนแอจากปัจจัย ต่างๆ อย่างกรีซ ไม่คิดพึ่งตัวเอง ไม่คิดเปลี่ยนแปลง ไม่คิดปฏิรูป ไม่รู้จักเรียนรู้ เพื่อแก้ไข มักง่าย และในที่สุดก็จะหมดตัว หมดประเทศ หรือ เหลือแต่ซาก ส่วนนักวิเคราะห์การเงินบอกว่า อย่าเอะอะไป เรื่องหนี้กรีซ ไม่ใช่เรื่องของหนี้กรีซ เอะ พูดยังไง เราพูดเรื่องเดียวกันหรือเปล่า ครับ นักการเงินบอก ไม่มีใครเขาสนใจประเทศกรีซ ที่เล็กกระจิดริด ถึงจะสวยงามก็เถอะ กรีซจะมีเงินใช้หนี้ไหม กรีซจะอยู่ หรือจะไปจากอียู เขาไม่ได้สนใจ แต่ที่เป็นข่าวกันถี่ ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก พวกเขากลัวมันกระทบกับระบบธนาคาร กลัวนายทุนจะเจ๊ง ไม่ได้กลัวชาวกรีซจะอดตาย ไม่ได้กลัวรัฐบาลกรีซ จะล่ม เข้าใจไหมครับ แต่สื่อใหญ่รุ่นเก๋า Dennis Gartman บอกว่า…. กรีซยังอยู่ในอียู เพราะเยอรมันต้องการอย่างนั้น เยอรมันยังไม่อยากเฉดกรีซออกไป เยอรมันต้องการให้ค่าเงินยูโรอ่อน ยูโรอ่อนดีสำหรับการส่งออก คนซื้อจะได้นึกว่าตัวซื้อของได้ถูก เยอรมันเป็นประเทศขายของ ที่ ยามนี้กำลังต้องการขายอย่างยิ่ง ใครขายได้ ต้องรีบขาย Bayer, Thyssenkrupp, Daimler เจ้าพ่อธุรกิจการค้าเยอรมัน ต้องการให้กรีซ ยังอยู่ในอียูทั้งนั้น … …..ถ้า ผมเป็นนายกรัฐมนตรีกรีซ ผมคงไม่วิ่งเจรจาให้เหนื่อย ผมคงปล่อยให้กรีซผิดนัดหนี้นานมาแล้ว และกลับไปใช้เงินสกุลของกรีซ และผมก็ลดค่าของกรีซ อุตสาหกรรมทอผ้าของกรีซก็จะกลายเป็นสินค้า ที่ใครๆต้องการเพราะราคาถูกลง กิจการท่องเที่ยวของกรีซ ก็กลับมาฟื้น เพราะใครๆ ก็อยากกลับมาอยู่เกาะสวย ในราคาไม่แพง กิจการเดินเรือของกรีซก็กลับมารุ่งใหม่ ทำไมผมต้องง้อเยอรมันอยู่ข้างเดียว ผมจะบอกกับพวกเจ้าหนี้โหดๆ ว่าเชิญเลย เชิญเอาตูดผมไปเลย อยากทำอะไรก็ทำ แล้วผมก็ออกจากอียู ก็แค่นั้น… ความคิดอย่างนาย Gartman ชาวกรีซเกือบทุกคน คงอยากทำอย่างนั้น คิดได้ แต่ไม่รู้ทำได้จริงไหม กรีซมีหนี้ก้อนใหญ่หมึมา เบี้ยวหนี้ก้อนหนี้ ก็กลายเป็นประเทศล้มละลาย คนล้มละลาย จะไปค้าขายกับใครได้ ขายของได้เงินมา เจ้าหนี้ก็คอยมาคว้าไป แต่ไม่ใช่ว่า เรื่องแบบนี้ เล่นไม่ได้เอาเลย อาร์เจนตินา เคยตัดโซ่ แหกคอกออกมา ยอมอด แต่ก็หืดขึ้นคอ กว่าจะยืนตรงได้เหมือนเดิม พรรค Syriza คงไม่คิดให้ชาวกรีซอยู่ในเหว และมีโซ่คล้องคอตลอดไป แต่จะเลือกทำด้วยวิธีไหน และเมื่อไหร่ เท่านั้น การตัดสินใจของ Syriza ในช่วงไม่กี่วันนี้ คงต้องตามดูกันทุกยก เพราะมันสามารถ สร้างระดับความสะเทือน เหมือนแผ่นดินไหวในยุโรปได้ ตั้งแต่ 4 ริกเตอร์ ไปจนถึงระดับ 9 ริกเตอร์ และอาจจะตามมา ด้วยอาฟเตอร์ขนาดไหน ถึงไหน และนานเท่าไหร่ และจะต่อด้วยซึนามิหรือไม่ พวกแมงเม่า อย่ามัวแต่เหม่อดูแต่จอบ้านตัวเอง เดี๋ยวปีกจะไหม้ร่วงหลุดเป็นแถวๆ ล่าสุดขณะที่ผมกำลังเขียนนิทาน ( 25 มิย.) ข่าวว่า คุณน้องยานิส รัฐมนตรีคลัง ยืนกรานว่า ต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ใหม่ ฝ่ายเจ้าหนี้บอก เราไม่มีความคิดเช่นนั้น ถ้ากรีซไม่มีอะไรใหม่มาเสนอ เช่นจะรัดคอหอยเข้าไปอีกกี่นิ้ว หรือจะมีวิธีชำระหนี้อย่างไร เราก็ไม่มีอะไรพูด แล้วการประชุมระหว่าง รัฐมนตรีคลังของกรีซกับฝ่ายอี ยู 18 คน ที่ สนง อียู กรุงบรัสเซล เมื่อเย็นวันที่ 24 มิย. ก็จบลงอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาประชุมไม่ถึง 1 ชั่วโมง แล้วต่างก็ทำหน้าไร้อารมณ์ เก็บของกลับบ้าน ร้อนถึงนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซึ่งข่าวว่า บินด่วนมาบรัสเซล มาคุยต่อกับพวก บิกกี้ของ อียู และคุณนายหน้าเค็มของไอเอมเอฟ ต่ออีก 7 ชั่วโมง แล้วก็กลับไปตอนดึก โดยไม่ให้ข่าว ทั้งหมดนี้ ผมอ่านจากทวิต ของนักข่าวต่างประเทศ ที่ไปเกาะติดสถานการณ์ แปลว่าอะไรครับ แปลว่า ทั้ง 2 ฝ่ายยังกำไต๋ ไม่แผลมให้อีกฝ่ายรู้ ดูผ่านๆ เหมือนกรีซ กำลังเป็นฝ่ายอาการหนัก แต่สำหรับผม ผมว่า อียูหนักกว่า สำหรับกรีซ เหมือนคนใกล้ตาย หรือตายไปแล้ว จะมีอะไรแย่ไปกว่านี้ได้อีกมาก ถึงมีชิวิตที่เป็นอยู่ก็เลวสุดอยู่แล้ว แต่สำหรับ อียู ยังไม่เคยใกล้ตาย เจียนตาย คราวนี้อาจจะได้รู้จัก สมมุติว่า ถ้ากรีซตัดสินใจไม่รับเงินกู้อีกต่อไป หนี้ที่ค้างกันอยู่ ก็ค่อยว่ากัน นี่ไม่ใช่การเบี้ยวหนี้ แต่เป็นการแสดงความไม่ต้องการเป็นหนี้เพิ่ม เอาแค่นี้ จะเรียกเป็นประเทศล้มละลาย หรืออะไรก็แล้วแต่ ความสะเทือนในระบบการเงินในยุโรป ก็น่าจะเกิน 6 ริกเตอร์แล้ว เพราะมันหมายถึง deposits run เงินฝากไหลออกจะเกิดขึ้นแบบของจริง ระบบแบงค์ในกรีซ ไปก่อน หลังจากนั้นก็ลามไปนอกกรีซ ก็ขึ้นกับธนาคารกลางของอียู จะเอาอยู่ไหม สมาชิกอียู ใครจะเป็นผู้กล้าหาญ ถมเงินมาให้ธนาคารกลาง คงเกี่ยงกันอยู่นาน เพราะทั้งเค็ม ทั้งคม กันทั้งนั้น คมเฉือนคม กว่าจะตกลงกันได้ ระหว่างนั้น เลือดยุโรปก็ไหลโกรก สมมุติไปอีกทางหนึ่ง ถึงคุณน้องยานิส จะทำหน้าขรึมว่า เจ้าหนี้ต้องตกลงเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ก่อน แต่ นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ประกาศว่า เรายอมให้โซ่รัดคอเราแน่นอีกหน่อย เกี่ยวกับเรื่องเงินบำนาญ ยืดอายุคนรับบำนาญไป อีก 2 ปี ทนไหวน่าลุงและจำนวนที่ต้องจ่ายบำนาญก็จะลดลง มี ข่าวว่า เจ้าหนี้ ต้องการรัดคออีกหลายเปลาะ เช่นเรื่อง ขยายฐานเก็บภาษี ไปถึง เรื่อง การซื้อยาและขึ้นอัตรา vat ร้านอาหารและที่พักโรงแรม สำหรับกรีซ ที่เป็นเมืองขายการท่องเที่ยว ขึ้นภาษี 2 รายการนี่ ก็ เปลี่ยนร้านอาหาร เป็นป่าช้า อาจได้ลูกค้ามากกว่า ข่าวนี้ทำให้เกิดเสียงแตกในพรรค Syriza เอง พวกเข้มบอกไม่ได้นะ นายกฯ ไปตกลงเองไม่ได้ ต้องเอามาเข้าสภาก่อน และรับรองเลย มติแบบนี้ ไม่ผ่านสภาแน่ ถ้าเป็นข้อสมมุติตามนี้ ความสะเทือน อาจจะไม่เกิน 4 ริกเตอร์ ในตอนแรก ระหว่างรอเข้าสภา และไม่ว่าสภาจะลงมติอะไร การถอนเงินฝาก ก็จะเกิดขึ้น เหมือนกรณีแรก และความสะเทือนก็จะค่อยๆเพิ่มริกเตอร์ขึ้น ไม่ต่างกว่ากรณีแรก เพียงแต่ใช้เวลานานกว่า เห็นไหมครับ ไม่ว่ากรีซจะเล่นบทไหน ก็เกิดผลกระทบกับอียูทั้งสิ้น เพราะมันเป็นการจัดการที่ผิดของอียูเองตั้งแต่ต้น ผลมาจากเหตุ เมื่อมีการเอาเงินก้อนใหญ่ที่ควรใส่ไปที่กรีซ แต่ไปไม่ถึงกรีซ ไปถึงเจ้าหนี้อื่นแทน ถึงเวลากรีซจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ ก็ต้องเบิกเงินกู้ต่อไปเรื่อยๆ อาการของกรีซก็หนักไปเรื่อยๆ จากเงื่อนไข ที่รัดคอ ผูกมือผูกตีน ไม่ให้กระดิก ไม่ต้องจบปริญญาเอกทางเศรษฐศาสตร์จากอังกฤษ ก็พอรู้ว่า ไปต่อสภาพนี้จะเป็นอย่างไร ยิ่งจบมาอย่างคุณน้องยานิส ถึงได้พูดเหมือนท่องมนตร์ว่า ต้องปรับปรุงโครงสร้างหนี้ คือ ลดหนี้ ผ่อนผันเงื่อนไข เพื่อให้กรีซมีโอกาสต้ังหลัก และยืดอายุการชำระออกไปอีก หรือ มีเงินใหม่จากที่อื่น มาล้างหนี้ DOA และเริ่มต้นกระบวนการฟื้นชีวิตชาวกรีซกันใหม่ จะมีไหมครับ เงินใหม่ จะมาจากไหน สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 27 มิ.ย. 2558
    0 Comments 0 Shares 966 Views 0 Reviews
  • "Vodafone Germany ปิดประตูอินเทอร์เน็ตเสรี – ลูกค้าเตรียมรับมือกับยุคมืดของการเชื่อมต่อ"

    ลองจินตนาการว่าอินเทอร์เน็ตที่คุณจ่ายเงินเพื่อใช้งานทุกเดือน ไม่ได้เชื่อมต่อกับโลกภายนอกอย่างที่คุณคิด… นี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในเยอรมนี เมื่อ Vodafone Germany ตัดสินใจถอนตัวจากจุดแลกเปลี่ยนข้อมูลสาธารณะ (Internet Exchange Points) และหันไปใช้บริการของบริษัทกลางชื่อ Inter.link แทน

    การเปลี่ยนแปลงนี้อาจดูเหมือนเป็นเรื่องเทคนิค แต่ผลกระทบกลับรุนแรงต่อผู้ใช้งานทั่วไปอย่างเราๆ เพราะมันหมายถึงว่า การเข้าถึงเว็บไซต์ยอดนิยมอย่าง YouTube, Netflix, GitHub หรือแม้แต่เกมออนไลน์ อาจช้าลง กระตุก หรือเข้าไม่ได้เลยในช่วงเวลาสำคัญ

    Vodafone อ้างว่า การเปลี่ยนมาใช้ Inter.link จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพ แต่หลักฐานจาก Deutsche Telekom ซึ่งเคยทำแบบเดียวกันมาก่อน กลับชี้ว่าผู้ใช้งานจะเจอกับ "นรกแห่งการเชื่อมต่อ" ที่เต็มไปด้วยความล่าช้าและการตัดขาดจากบริการสำคัญ

    สิ่งที่น่ากังวลคือ โมเดลใหม่นี้เปลี่ยนอินเทอร์เน็ตจากระบบที่ทุกฝ่ายร่วมมือกัน เป็นระบบที่บริษัทกลางเรียกเก็บเงินจากผู้ให้บริการเนื้อหา หากไม่จ่าย…ลูกค้าก็จะไม่ได้รับบริการที่ดี

    Vodafone Germany เปลี่ยนโครงสร้างการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
    ถอนตัวจากจุดแลกเปลี่ยนข้อมูลสาธารณะ เช่น DE-CIX Frankfurt
    หันไปใช้บริการ Inter.link ซึ่งเป็นบริษัทกลางที่จัดการการเชื่อมต่อ
    อ้างว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความเสถียร

    Inter.link มีนโยบาย "ไม่เชื่อมต่อกับลูกค้าโดยตรง"
    ผู้ให้บริการเนื้อหา เช่น YouTube หรือ Netflix ต้องจ่ายเงินเพื่อเชื่อมต่อกับเครือข่าย Vodafone
    หากไม่จ่าย อาจเกิดการเชื่อมต่อที่ช้า หรือไม่เสถียร

    Deutsche Telekom เคยใช้โมเดลนี้มาก่อน
    ลูกค้าประสบปัญหา GitHub ดาวน์โหลดช้า เกมออนไลน์กระตุก
    VPN กลายเป็นทางออกเดียวที่ช่วยให้ใช้งานได้ตามปกติ

    ทางเลือกใหม่: อินเทอร์เน็ตดาวเทียม
    Starlink ให้บริการที่ไม่ขึ้นกับโครงสร้าง ISP แบบเดิม
    ความเร็วและความเสถียรสูงกว่าในช่วงเวลาที่ Vodafone มีปัญหา

    https://coffee.link/vodafone-germany-is-killing-the-open-internet-one-peering-connection-at-a-time/
    👿 "Vodafone Germany ปิดประตูอินเทอร์เน็ตเสรี – ลูกค้าเตรียมรับมือกับยุคมืดของการเชื่อมต่อ" ลองจินตนาการว่าอินเทอร์เน็ตที่คุณจ่ายเงินเพื่อใช้งานทุกเดือน ไม่ได้เชื่อมต่อกับโลกภายนอกอย่างที่คุณคิด… นี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในเยอรมนี เมื่อ Vodafone Germany ตัดสินใจถอนตัวจากจุดแลกเปลี่ยนข้อมูลสาธารณะ (Internet Exchange Points) และหันไปใช้บริการของบริษัทกลางชื่อ Inter.link แทน การเปลี่ยนแปลงนี้อาจดูเหมือนเป็นเรื่องเทคนิค แต่ผลกระทบกลับรุนแรงต่อผู้ใช้งานทั่วไปอย่างเราๆ เพราะมันหมายถึงว่า การเข้าถึงเว็บไซต์ยอดนิยมอย่าง YouTube, Netflix, GitHub หรือแม้แต่เกมออนไลน์ อาจช้าลง กระตุก หรือเข้าไม่ได้เลยในช่วงเวลาสำคัญ Vodafone อ้างว่า การเปลี่ยนมาใช้ Inter.link จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพ แต่หลักฐานจาก Deutsche Telekom ซึ่งเคยทำแบบเดียวกันมาก่อน กลับชี้ว่าผู้ใช้งานจะเจอกับ "นรกแห่งการเชื่อมต่อ" ที่เต็มไปด้วยความล่าช้าและการตัดขาดจากบริการสำคัญ สิ่งที่น่ากังวลคือ โมเดลใหม่นี้เปลี่ยนอินเทอร์เน็ตจากระบบที่ทุกฝ่ายร่วมมือกัน เป็นระบบที่บริษัทกลางเรียกเก็บเงินจากผู้ให้บริการเนื้อหา หากไม่จ่าย…ลูกค้าก็จะไม่ได้รับบริการที่ดี ✅ Vodafone Germany เปลี่ยนโครงสร้างการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ➡️ ถอนตัวจากจุดแลกเปลี่ยนข้อมูลสาธารณะ เช่น DE-CIX Frankfurt ➡️ หันไปใช้บริการ Inter.link ซึ่งเป็นบริษัทกลางที่จัดการการเชื่อมต่อ ➡️ อ้างว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความเสถียร ✅ Inter.link มีนโยบาย "ไม่เชื่อมต่อกับลูกค้าโดยตรง" ➡️ ผู้ให้บริการเนื้อหา เช่น YouTube หรือ Netflix ต้องจ่ายเงินเพื่อเชื่อมต่อกับเครือข่าย Vodafone ➡️ หากไม่จ่าย อาจเกิดการเชื่อมต่อที่ช้า หรือไม่เสถียร ✅ Deutsche Telekom เคยใช้โมเดลนี้มาก่อน ➡️ ลูกค้าประสบปัญหา GitHub ดาวน์โหลดช้า เกมออนไลน์กระตุก ➡️ VPN กลายเป็นทางออกเดียวที่ช่วยให้ใช้งานได้ตามปกติ ✅ ทางเลือกใหม่: อินเทอร์เน็ตดาวเทียม ➡️ Starlink ให้บริการที่ไม่ขึ้นกับโครงสร้าง ISP แบบเดิม ➡️ ความเร็วและความเสถียรสูงกว่าในช่วงเวลาที่ Vodafone มีปัญหา https://coffee.link/vodafone-germany-is-killing-the-open-internet-one-peering-connection-at-a-time/
    COFFEE.LINK
    Vodafone Germany is changing the open internet — one peering connection at a time
    The telecom giant claims its exit from public internet exchanges will give customers "lower latencies." The evidence suggests they're in for a nightmare.
    0 Comments 0 Shares 245 Views 0 Reviews
  • “ICC ปลดพันธนาการจาก Microsoft 365 – เลือกใช้ Open Desk เพื่ออธิปไตยดิจิทัล”
    ลองจินตนาการว่าองค์กรระดับโลกอย่างศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ตัดสินใจเลิกใช้ Microsoft 365 แล้วหันไปใช้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สของยุโรปแทน…นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในเดือนตุลาคม 2025 ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในภาครัฐของยุโรป

    ICC ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเฮก ได้ประกาศเปลี่ยนมาใช้ “Open Desk” ซึ่งเป็นชุดซอฟต์แวร์สำนักงานแบบโอเพ่นซอร์สที่พัฒนาโดย Zentrum Digitale Souveränität (Zendis) ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงมหาดไทยเยอรมนี โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Digital Commons European Digital Infrastructure Consortium (DC-EDIC) ที่มุ่งเน้นการลดการพึ่งพาบริษัทเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ

    การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ที่ Microsoft ตัดการเข้าถึงอีเมล Outlook ของหัวหน้าอัยการ ICC นาย Karim Khan โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ซึ่งสร้างความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับความปลอดภัยและอธิปไตยของข้อมูล

    นอกจาก ICC แล้ว รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ก็เริ่มทดลองใช้ Open Desk ภายใต้โครงการ “Mijn Bureau” ร่วมกับเทศบาลอัมสเตอร์ดัมและสมาคม VNG เพื่อสร้างระบบทำงานร่วมกันที่ไม่ขึ้นกับบริษัทเอกชนจากต่างประเทศ

    ICC เลิกใช้ Microsoft 365 และเปลี่ยนมาใช้ Open Desk
    เป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่พัฒนาโดย Zendis จากเยอรมนี
    เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ DC-EDIC เพื่ออธิปไตยดิจิทัลของยุโรป

    Microsoft เคยตัดการเข้าถึงอีเมลของหัวหน้าอัยการ ICC
    นาย Karim Khan ถูกตัดออกจากบริการ Outlook โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า
    Microsoft ยืนยันว่าไม่ได้หยุดบริการต่อองค์กร ICC โดยรวม

    ความกังวลเรื่องการพึ่งพาบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น
    โดยเฉพาะหลังจาก Donald Trump กลับมาเป็นประธานาธิบดี
    เกิดแรงผลักดันให้ภาครัฐยุโรปหันมาใช้ซอฟต์แวร์ที่ควบคุมได้เอง

    โครงการ “Mijn Bureau” ในเนเธอร์แลนด์เริ่มทดลองใช้ Open Desk
    ร่วมมือระหว่างรัฐบาลกลาง เมืองอัมสเตอร์ดัม และ VNG
    ใช้สำหรับอีเมลและการทำงานร่วมกันในภาครัฐ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Open Desk เป็นตัวอย่างของแนวคิด “Digital Sovereignty” ที่เน้นการควบคุมข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐาน
    หลายประเทศในยุโรปเริ่มหันมาใช้ LibreOffice, Nextcloud และ Matrix แทนบริการจาก Big Tech
    การใช้โอเพ่นซอร์สช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความโปร่งใสในการทำงานภาครัฐ

    https://www.binnenlandsbestuur.nl/digitaal/internationaal-strafhof-neemt-afscheid-van-microsoft-365
    🏛️ “ICC ปลดพันธนาการจาก Microsoft 365 – เลือกใช้ Open Desk เพื่ออธิปไตยดิจิทัล” ลองจินตนาการว่าองค์กรระดับโลกอย่างศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ตัดสินใจเลิกใช้ Microsoft 365 แล้วหันไปใช้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สของยุโรปแทน…นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในเดือนตุลาคม 2025 ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในภาครัฐของยุโรป ICC ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเฮก ได้ประกาศเปลี่ยนมาใช้ “Open Desk” ซึ่งเป็นชุดซอฟต์แวร์สำนักงานแบบโอเพ่นซอร์สที่พัฒนาโดย Zentrum Digitale Souveränität (Zendis) ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงมหาดไทยเยอรมนี โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Digital Commons European Digital Infrastructure Consortium (DC-EDIC) ที่มุ่งเน้นการลดการพึ่งพาบริษัทเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ที่ Microsoft ตัดการเข้าถึงอีเมล Outlook ของหัวหน้าอัยการ ICC นาย Karim Khan โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ซึ่งสร้างความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับความปลอดภัยและอธิปไตยของข้อมูล นอกจาก ICC แล้ว รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ก็เริ่มทดลองใช้ Open Desk ภายใต้โครงการ “Mijn Bureau” ร่วมกับเทศบาลอัมสเตอร์ดัมและสมาคม VNG เพื่อสร้างระบบทำงานร่วมกันที่ไม่ขึ้นกับบริษัทเอกชนจากต่างประเทศ ✅ ICC เลิกใช้ Microsoft 365 และเปลี่ยนมาใช้ Open Desk ➡️ เป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่พัฒนาโดย Zendis จากเยอรมนี ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ DC-EDIC เพื่ออธิปไตยดิจิทัลของยุโรป ✅ Microsoft เคยตัดการเข้าถึงอีเมลของหัวหน้าอัยการ ICC ➡️ นาย Karim Khan ถูกตัดออกจากบริการ Outlook โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ➡️ Microsoft ยืนยันว่าไม่ได้หยุดบริการต่อองค์กร ICC โดยรวม ✅ ความกังวลเรื่องการพึ่งพาบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ➡️ โดยเฉพาะหลังจาก Donald Trump กลับมาเป็นประธานาธิบดี ➡️ เกิดแรงผลักดันให้ภาครัฐยุโรปหันมาใช้ซอฟต์แวร์ที่ควบคุมได้เอง ✅ โครงการ “Mijn Bureau” ในเนเธอร์แลนด์เริ่มทดลองใช้ Open Desk ➡️ ร่วมมือระหว่างรัฐบาลกลาง เมืองอัมสเตอร์ดัม และ VNG ➡️ ใช้สำหรับอีเมลและการทำงานร่วมกันในภาครัฐ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Open Desk เป็นตัวอย่างของแนวคิด “Digital Sovereignty” ที่เน้นการควบคุมข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐาน ➡️ หลายประเทศในยุโรปเริ่มหันมาใช้ LibreOffice, Nextcloud และ Matrix แทนบริการจาก Big Tech ➡️ การใช้โอเพ่นซอร์สช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความโปร่งใสในการทำงานภาครัฐ https://www.binnenlandsbestuur.nl/digitaal/internationaal-strafhof-neemt-afscheid-van-microsoft-365
    0 Comments 0 Shares 361 Views 0 Reviews
  • “ออกจาก Cloud แล้วรวยขึ้น – เส้นทางของนักพัฒนาที่กล้าท้าทายระบบ”
    Rameerez นักพัฒนาอิสระผู้สร้าง PromptHero และ RailsFast ได้เขียนบทความที่กลายเป็นไวรัล หลังจากเขาตัดสินใจย้ายโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดออกจาก AWS และหันไปใช้เซิร์ฟเวอร์เช่าราคาถูกแทน ผลลัพธ์คือ ลดค่าใช้จ่ายลง 10 เท่า และ เพิ่มประสิทธิภาพระบบขึ้น 2 เท่า โดยไม่ต้องพึ่งพาบริการ Cloud ที่มีราคาแพงและผูกขาด

    เขาเลือกใช้บริการจาก Hetzner ซึ่งให้เซิร์ฟเวอร์ 80-core ในราคาเพียง $190 ต่อเดือน เทียบกับ AWS ที่คิดราคาสูงถึง $2,500–$3,500 ต่อเดือนสำหรับสเปกใกล้เคียงกัน แม้จะมีตัวเลือก Reserved Instances ที่ถูกลง แต่ก็ต้องจ่ายล่วงหน้าถึง $46,000 และติดสัญญา 3 ปี

    Rameerez วิจารณ์ว่า Cloud กลายเป็น “กับดัก” สำหรับบริษัทและนักพัฒนา เพราะมันสร้างความซับซ้อนโดยไม่จำเป็น และทำให้เกิดการพึ่งพาแบบผูกขาด เขาเชื่อว่าหลายคนไม่กล้าออกจาก Cloud เพราะกลัวความยุ่งยาก ทั้งที่ความจริงแล้วการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์เองไม่ยากอย่างที่คิด โดยเฉพาะในยุคที่มี AI อย่าง ChatGPT และ Claude คอยช่วยเหลือ

    เขายังชี้ให้เห็นว่า DevOps และ Cloud Engineers จำนวนมากไม่มี “skin in the game” เพราะพวกเขาไม่ได้จ่ายค่า Cloud ด้วยเงินตัวเอง จึงไม่มีแรงจูงใจในการลดต้นทุนให้บริษัท

    การออกจาก Cloud ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ
    ค่าใช้จ่ายลดลง 10 เท่า
    ประสิทธิภาพระบบเพิ่มขึ้น 2 เท่า
    ไม่มี vendor lock-in หรือข้อผูกมัดระยะยาว

    ทางเลือกใหม่: เซิร์ฟเวอร์เช่าและ VPS
    Hetzner ให้เซิร์ฟเวอร์ 80-core ในราคา $190/เดือน
    VPS 8-core + RAM 32GB ราคาเพียง $50/เดือน
    ซื้อเซิร์ฟเวอร์เองได้ในราคาไม่ถึง $1,000

    ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Cloud
    DevOps หลายคนไม่เคยจ่ายค่า Cloud ด้วยตัวเอง
    Cloud ถูกใช้เพราะ “ดูเท่” และ “ซับซ้อน”
    ความกลัวเรื่องความปลอดภัยและความเสถียรถูกใช้เป็นข้ออ้าง

    การกลับมาของการจัดการเซิร์ฟเวอร์ด้วยตัวเอง
    AI ช่วยให้การตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ง่ายขึ้น
    Cloudflare ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยง
    การเรียนรู้ Linux กลายเป็นทักษะสำคัญในยุคใหม่

    ความเสี่ยงจากการใช้ Cloud โดยไม่เข้าใจ
    ค่าใช้จ่ายสูงเกินจริงโดยไม่จำเป็น
    Vendor lock-in ทำให้ย้ายออกยาก
    ความซับซ้อนที่ไม่จำเป็นต่อธุรกิจขนาดเล็ก
    การใช้เทคโนโลยีเกินความจำเป็น เช่น Kubernetes สำหรับแอปเล็ก

    https://rameerez.com/send-this-article-to-your-friend-who-still-thinks-the-cloud-is-a-good-idea/
    ☁️ “ออกจาก Cloud แล้วรวยขึ้น – เส้นทางของนักพัฒนาที่กล้าท้าทายระบบ” Rameerez นักพัฒนาอิสระผู้สร้าง PromptHero และ RailsFast ได้เขียนบทความที่กลายเป็นไวรัล หลังจากเขาตัดสินใจย้ายโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดออกจาก AWS และหันไปใช้เซิร์ฟเวอร์เช่าราคาถูกแทน ผลลัพธ์คือ ลดค่าใช้จ่ายลง 10 เท่า และ เพิ่มประสิทธิภาพระบบขึ้น 2 เท่า โดยไม่ต้องพึ่งพาบริการ Cloud ที่มีราคาแพงและผูกขาด เขาเลือกใช้บริการจาก Hetzner ซึ่งให้เซิร์ฟเวอร์ 80-core ในราคาเพียง $190 ต่อเดือน เทียบกับ AWS ที่คิดราคาสูงถึง $2,500–$3,500 ต่อเดือนสำหรับสเปกใกล้เคียงกัน แม้จะมีตัวเลือก Reserved Instances ที่ถูกลง แต่ก็ต้องจ่ายล่วงหน้าถึง $46,000 และติดสัญญา 3 ปี Rameerez วิจารณ์ว่า Cloud กลายเป็น “กับดัก” สำหรับบริษัทและนักพัฒนา เพราะมันสร้างความซับซ้อนโดยไม่จำเป็น และทำให้เกิดการพึ่งพาแบบผูกขาด เขาเชื่อว่าหลายคนไม่กล้าออกจาก Cloud เพราะกลัวความยุ่งยาก ทั้งที่ความจริงแล้วการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์เองไม่ยากอย่างที่คิด โดยเฉพาะในยุคที่มี AI อย่าง ChatGPT และ Claude คอยช่วยเหลือ เขายังชี้ให้เห็นว่า DevOps และ Cloud Engineers จำนวนมากไม่มี “skin in the game” เพราะพวกเขาไม่ได้จ่ายค่า Cloud ด้วยเงินตัวเอง จึงไม่มีแรงจูงใจในการลดต้นทุนให้บริษัท ✅ การออกจาก Cloud ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ ➡️ ค่าใช้จ่ายลดลง 10 เท่า ➡️ ประสิทธิภาพระบบเพิ่มขึ้น 2 เท่า ➡️ ไม่มี vendor lock-in หรือข้อผูกมัดระยะยาว ✅ ทางเลือกใหม่: เซิร์ฟเวอร์เช่าและ VPS ➡️ Hetzner ให้เซิร์ฟเวอร์ 80-core ในราคา $190/เดือน ➡️ VPS 8-core + RAM 32GB ราคาเพียง $50/เดือน ➡️ ซื้อเซิร์ฟเวอร์เองได้ในราคาไม่ถึง $1,000 ✅ ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Cloud ➡️ DevOps หลายคนไม่เคยจ่ายค่า Cloud ด้วยตัวเอง ➡️ Cloud ถูกใช้เพราะ “ดูเท่” และ “ซับซ้อน” ➡️ ความกลัวเรื่องความปลอดภัยและความเสถียรถูกใช้เป็นข้ออ้าง ✅ การกลับมาของการจัดการเซิร์ฟเวอร์ด้วยตัวเอง ➡️ AI ช่วยให้การตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ง่ายขึ้น ➡️ Cloudflare ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยง ➡️ การเรียนรู้ Linux กลายเป็นทักษะสำคัญในยุคใหม่ ‼️ ความเสี่ยงจากการใช้ Cloud โดยไม่เข้าใจ ⛔ ค่าใช้จ่ายสูงเกินจริงโดยไม่จำเป็น ⛔ Vendor lock-in ทำให้ย้ายออกยาก ⛔ ความซับซ้อนที่ไม่จำเป็นต่อธุรกิจขนาดเล็ก ⛔ การใช้เทคโนโลยีเกินความจำเป็น เช่น Kubernetes สำหรับแอปเล็ก https://rameerez.com/send-this-article-to-your-friend-who-still-thinks-the-cloud-is-a-good-idea/
    RAMEEREZ.COM
    Send this article to your friend who still thinks the cloud is a good idea
    You've been lied to. You don't need the cloud – you can just run servers and save 10x your AWS costs. It's not that difficult.
    0 Comments 0 Shares 295 Views 0 Reviews
  • หัวข้อข่าว: “จีนเปิดตัวศูนย์ข้อมูลใต้น้ำแห่งแรก – ท้าชน Project Natick ของ Microsoft ด้วยพลังลมและคลื่น”

    จีนประกาศความสำเร็จในการเปิดใช้งานศูนย์ข้อมูลใต้น้ำแห่งแรกในโลกที่ Lin-gang, เซี่ยงไฮ้ ด้วยงบลงทุนกว่า 226 ล้านดอลลาร์ โดยใช้พลังงานลมและระบบทำความเย็นจากธรรมชาติใต้ทะเล พร้อมตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตถึง 500 เมกะวัตต์ในอนาคต.

    ในขณะที่ Microsoft เคยทดลองสร้างศูนย์ข้อมูลใต้น้ำในโครงการ Project Natick ซึ่งถูกยกเลิกไปในปี 2024 จีนกลับเดินหน้าสู่การใช้งานจริง โดยศูนย์ข้อมูลใต้น้ำแห่งนี้ถูกออกแบบให้ใช้พลังงานหมุนเวียนจากลมทะเลถึง 95% และใช้คุณสมบัติของน้ำทะเลในการระบายความร้อนแทนการใช้เครื่องทำความเย็นแบบเดิม

    เฟสแรกของโครงการ Lin-gang ให้กำลังการผลิต 2.3 เมกะวัตต์ และมีแผนขยายถึง 24 เมกะวัตต์ในระยะถัดไป โดยมีหน่วยงานรัฐหนุนหลัง เช่น Shenergy, China Telecom และ CCCC Third Harbor Engineering

    เทคโนโลยีที่ใช้คือการบรรจุเซิร์ฟเวอร์ไว้ในแคปซูลกันน้ำ แล้วนำไปวางไว้ใต้ทะเลลึก 35 เมตร ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานและน้ำจืดในการระบายความร้อน และยังสามารถลดค่า PUE (Power Usage Effectiveness) ให้ต่ำกว่า 1.15 ซึ่งถือว่ามีประสิทธิภาพสูงมาก

    แม้จะมีข้อดีด้านสิ่งแวดล้อมและต้นทุนพลังงาน แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น การบำรุงรักษาที่ยากและต้นทุนสูงเมื่ออุปกรณ์เสียหาย รวมถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่ยังต้องรอการตรวจสอบจากหน่วยงานอิสระ

    จีนเปิดตัวศูนย์ข้อมูลใต้น้ำแห่งแรกที่ Lin-gang, เซี่ยงไฮ้
    ใช้งบลงทุน 226 ล้านดอลลาร์ และเริ่มใช้งานเฟสแรกแล้ว

    ใช้พลังงานลมทะเลถึง 95%
    ลดการพึ่งพาไฟฟ้าจากกริดและลดการใช้น้ำจืด

    ระบบระบายความร้อนใช้คุณสมบัติของน้ำทะเล
    ลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน

    กำลังการผลิตเริ่มต้น 2.3 เมกะวัตต์ และตั้งเป้าขยายถึง 24 เมกะวัตต์
    มีแผนขยายถึง 500 เมกะวัตต์ในอนาคต

    ค่า PUE ต่ำกว่า 1.15
    ดีกว่าค่าเฉลี่ยของศูนย์ข้อมูลทั่วไป

    ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐและบริษัทเทคโนโลยีจีน
    เช่น Shenergy, China Telecom และ CCCC Third Harbor Engineering

    การบำรุงรักษาและอัปเกรดอุปกรณ์ใต้น้ำมีต้นทุนสูง
    ต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายมากในการเข้าถึงแคปซูลใต้น้ำ

    ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมยังไม่มีการตรวจสอบจากหน่วยงานอิสระ
    ต้องรอการประเมินผลกระทบทางทะเลและความร้อนในระยะยาว

    การเข้าถึงและเปลี่ยนอุปกรณ์ทำได้ยากเมื่อแคปซูลถูกปิดผนึกและจมอยู่ใต้ทะเล
    อาจส่งผลต่อความยืดหยุ่นในการอัปเกรดระบบในอนาคต

    https://www.techradar.com/pro/forget-project-natick-china-says-it-has-trumped-microsoft-and-launched-its-first-underwater-data-center
    🌊💻 หัวข้อข่าว: “จีนเปิดตัวศูนย์ข้อมูลใต้น้ำแห่งแรก – ท้าชน Project Natick ของ Microsoft ด้วยพลังลมและคลื่น” จีนประกาศความสำเร็จในการเปิดใช้งานศูนย์ข้อมูลใต้น้ำแห่งแรกในโลกที่ Lin-gang, เซี่ยงไฮ้ ด้วยงบลงทุนกว่า 226 ล้านดอลลาร์ โดยใช้พลังงานลมและระบบทำความเย็นจากธรรมชาติใต้ทะเล พร้อมตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตถึง 500 เมกะวัตต์ในอนาคต. ในขณะที่ Microsoft เคยทดลองสร้างศูนย์ข้อมูลใต้น้ำในโครงการ Project Natick ซึ่งถูกยกเลิกไปในปี 2024 จีนกลับเดินหน้าสู่การใช้งานจริง โดยศูนย์ข้อมูลใต้น้ำแห่งนี้ถูกออกแบบให้ใช้พลังงานหมุนเวียนจากลมทะเลถึง 95% และใช้คุณสมบัติของน้ำทะเลในการระบายความร้อนแทนการใช้เครื่องทำความเย็นแบบเดิม เฟสแรกของโครงการ Lin-gang ให้กำลังการผลิต 2.3 เมกะวัตต์ และมีแผนขยายถึง 24 เมกะวัตต์ในระยะถัดไป โดยมีหน่วยงานรัฐหนุนหลัง เช่น Shenergy, China Telecom และ CCCC Third Harbor Engineering เทคโนโลยีที่ใช้คือการบรรจุเซิร์ฟเวอร์ไว้ในแคปซูลกันน้ำ แล้วนำไปวางไว้ใต้ทะเลลึก 35 เมตร ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานและน้ำจืดในการระบายความร้อน และยังสามารถลดค่า PUE (Power Usage Effectiveness) ให้ต่ำกว่า 1.15 ซึ่งถือว่ามีประสิทธิภาพสูงมาก แม้จะมีข้อดีด้านสิ่งแวดล้อมและต้นทุนพลังงาน แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น การบำรุงรักษาที่ยากและต้นทุนสูงเมื่ออุปกรณ์เสียหาย รวมถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่ยังต้องรอการตรวจสอบจากหน่วยงานอิสระ ✅ จีนเปิดตัวศูนย์ข้อมูลใต้น้ำแห่งแรกที่ Lin-gang, เซี่ยงไฮ้ ➡️ ใช้งบลงทุน 226 ล้านดอลลาร์ และเริ่มใช้งานเฟสแรกแล้ว ✅ ใช้พลังงานลมทะเลถึง 95% ➡️ ลดการพึ่งพาไฟฟ้าจากกริดและลดการใช้น้ำจืด ✅ ระบบระบายความร้อนใช้คุณสมบัติของน้ำทะเล ➡️ ลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน ✅ กำลังการผลิตเริ่มต้น 2.3 เมกะวัตต์ และตั้งเป้าขยายถึง 24 เมกะวัตต์ ➡️ มีแผนขยายถึง 500 เมกะวัตต์ในอนาคต ✅ ค่า PUE ต่ำกว่า 1.15 ➡️ ดีกว่าค่าเฉลี่ยของศูนย์ข้อมูลทั่วไป ✅ ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐและบริษัทเทคโนโลยีจีน ➡️ เช่น Shenergy, China Telecom และ CCCC Third Harbor Engineering ‼️ การบำรุงรักษาและอัปเกรดอุปกรณ์ใต้น้ำมีต้นทุนสูง ⛔ ต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายมากในการเข้าถึงแคปซูลใต้น้ำ ‼️ ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมยังไม่มีการตรวจสอบจากหน่วยงานอิสระ ⛔ ต้องรอการประเมินผลกระทบทางทะเลและความร้อนในระยะยาว ‼️ การเข้าถึงและเปลี่ยนอุปกรณ์ทำได้ยากเมื่อแคปซูลถูกปิดผนึกและจมอยู่ใต้ทะเล ⛔ อาจส่งผลต่อความยืดหยุ่นในการอัปเกรดระบบในอนาคต https://www.techradar.com/pro/forget-project-natick-china-says-it-has-trumped-microsoft-and-launched-its-first-underwater-data-center
    WWW.TECHRADAR.COM
    China’s underwater data center takes computing to new depths
    Offshore wind provides up to 95% of the energy powering the submerged servers
    0 Comments 0 Shares 376 Views 0 Reviews
  • AI ช่วยชีวิตหลังความตาย: จากบิลโรงพยาบาล 195,000 เหลือ 33,000 ดอลลาร์

    ลองจินตนาการว่าคุณเพิ่งสูญเสียคนรักไป แล้วต้องเผชิญกับบิลค่ารักษาพยาบาลที่สูงถึง 195,000 ดอลลาร์สำหรับการดูแลเพียง 4 ชั่วโมงสุดท้ายใน ICU… นั่นคือสิ่งที่ครอบครัวหนึ่งในสหรัฐฯ ต้องเผชิญ แต่พวกเขาไม่ยอมแพ้ และหันไปหา Claude AI เพื่อช่วยตรวจสอบความถูกต้องของบิล และผลลัพธ์ก็พลิกชีวิต: ลดค่าใช้จ่ายลงเหลือเพียง 33,000 ดอลลาร์!

    Claude ไม่ได้แค่ช่วยคำนวณ แต่ยังกลายเป็น “นักสืบบัญชี” ที่ขุดเจอการคิดเงินซ้ำซ้อน การใช้รหัสผิดประเภท และการเรียกเก็บเงินที่ละเมิดข้อบังคับของ Medicare ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะโรงพยาบาลไม่แสดงรายละเอียดชัดเจนตั้งแต่แรก จนต้องใช้ AI เจาะลึกทีละบรรทัด

    เรื่องนี้สะท้อนถึงพลังของ AI ในการปกป้องสิทธิ์ของผู้บริโภค และเตือนให้เราระวังการเรียกเก็บเงินที่ไม่โปร่งใสจากสถานพยาบาล โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เปราะบางที่สุดของชีวิต

    Claude AI ช่วยครอบครัวลดบิลค่ารักษาพยาบาลจาก $195,000 เหลือ $33,000
    ใช้การวิเคราะห์รหัสการเรียกเก็บเงินทางการแพทย์อย่างละเอียด
    พบการคิดเงินซ้ำซ้อน เช่น คิดค่าหัตถการรวม และแยกรายการย่อยซ้ำอีก
    ตรวจพบการใช้รหัสผู้ป่วยในแทนรหัสฉุกเฉิน ซึ่งอาจละเมิดข้อบังคับ
    ช่วยเขียนจดหมายเจรจาและเตือนถึงการดำเนินคดีหรือผลกระทบทางสื่อ

    สาเหตุที่บิลสูงผิดปกติ
    ผู้ป่วยไม่มีประกันสุขภาพในช่วงเวลานั้น
    โรงพยาบาลไม่แสดงรายละเอียดรายการค่าใช้จ่ายอย่างโปร่งใส

    บทบาทของ AI ในการช่วยเหลือด้านการเงินและกฎหมาย
    Claude AI ทำหน้าที่คล้ายผู้ช่วยนักบัญชีและนักกฎหมาย
    ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าใจระบบการเรียกเก็บเงินที่ซับซ้อน
    เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือวิกฤต

    คำเตือนเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินจากโรงพยาบาล
    บางโรงพยาบาลอาจใช้ช่องโหว่ทางระบบเพื่อเรียกเก็บเงินเกินจริง
    การไม่ตรวจสอบบิลอย่างละเอียดอาจทำให้เสียเงินจำนวนมากโดยไม่จำเป็น
    การไม่มีประกันสุขภาพอาจทำให้ต้องจ่ายเงินเต็มจำนวนโดยไม่มีการต่อรอง

    ความเสี่ยงจากการพึ่งพา AI โดยไม่ตรวจสอบ
    AI อาจให้คำแนะนำผิดพลาดหากข้อมูลไม่ครบถ้วน
    ควรใช้ AI เป็นเครื่องมือเสริม ไม่ใช่ตัวแทนการตัดสินใจทั้งหมด

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/grieving-family-uses-ai-chatbot-to-cut-hospital-bill-from-usd195-000-to-usd33-000-family-says-claude-highlighted-duplicative-charges-improper-coding-and-other-violations
    🧠💸 AI ช่วยชีวิตหลังความตาย: จากบิลโรงพยาบาล 195,000 เหลือ 33,000 ดอลลาร์ ลองจินตนาการว่าคุณเพิ่งสูญเสียคนรักไป แล้วต้องเผชิญกับบิลค่ารักษาพยาบาลที่สูงถึง 195,000 ดอลลาร์สำหรับการดูแลเพียง 4 ชั่วโมงสุดท้ายใน ICU… นั่นคือสิ่งที่ครอบครัวหนึ่งในสหรัฐฯ ต้องเผชิญ แต่พวกเขาไม่ยอมแพ้ และหันไปหา Claude AI เพื่อช่วยตรวจสอบความถูกต้องของบิล และผลลัพธ์ก็พลิกชีวิต: ลดค่าใช้จ่ายลงเหลือเพียง 33,000 ดอลลาร์! Claude ไม่ได้แค่ช่วยคำนวณ แต่ยังกลายเป็น “นักสืบบัญชี” ที่ขุดเจอการคิดเงินซ้ำซ้อน การใช้รหัสผิดประเภท และการเรียกเก็บเงินที่ละเมิดข้อบังคับของ Medicare ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะโรงพยาบาลไม่แสดงรายละเอียดชัดเจนตั้งแต่แรก จนต้องใช้ AI เจาะลึกทีละบรรทัด เรื่องนี้สะท้อนถึงพลังของ AI ในการปกป้องสิทธิ์ของผู้บริโภค และเตือนให้เราระวังการเรียกเก็บเงินที่ไม่โปร่งใสจากสถานพยาบาล โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เปราะบางที่สุดของชีวิต ✅ Claude AI ช่วยครอบครัวลดบิลค่ารักษาพยาบาลจาก $195,000 เหลือ $33,000 ➡️ ใช้การวิเคราะห์รหัสการเรียกเก็บเงินทางการแพทย์อย่างละเอียด ➡️ พบการคิดเงินซ้ำซ้อน เช่น คิดค่าหัตถการรวม และแยกรายการย่อยซ้ำอีก ➡️ ตรวจพบการใช้รหัสผู้ป่วยในแทนรหัสฉุกเฉิน ซึ่งอาจละเมิดข้อบังคับ ➡️ ช่วยเขียนจดหมายเจรจาและเตือนถึงการดำเนินคดีหรือผลกระทบทางสื่อ ✅ สาเหตุที่บิลสูงผิดปกติ ➡️ ผู้ป่วยไม่มีประกันสุขภาพในช่วงเวลานั้น ➡️ โรงพยาบาลไม่แสดงรายละเอียดรายการค่าใช้จ่ายอย่างโปร่งใส ✅ บทบาทของ AI ในการช่วยเหลือด้านการเงินและกฎหมาย ➡️ Claude AI ทำหน้าที่คล้ายผู้ช่วยนักบัญชีและนักกฎหมาย ➡️ ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าใจระบบการเรียกเก็บเงินที่ซับซ้อน ➡️ เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือวิกฤต ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินจากโรงพยาบาล ⛔ บางโรงพยาบาลอาจใช้ช่องโหว่ทางระบบเพื่อเรียกเก็บเงินเกินจริง ⛔ การไม่ตรวจสอบบิลอย่างละเอียดอาจทำให้เสียเงินจำนวนมากโดยไม่จำเป็น ⛔ การไม่มีประกันสุขภาพอาจทำให้ต้องจ่ายเงินเต็มจำนวนโดยไม่มีการต่อรอง ‼️ ความเสี่ยงจากการพึ่งพา AI โดยไม่ตรวจสอบ ⛔ AI อาจให้คำแนะนำผิดพลาดหากข้อมูลไม่ครบถ้วน ⛔ ควรใช้ AI เป็นเครื่องมือเสริม ไม่ใช่ตัวแทนการตัดสินใจทั้งหมด https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/grieving-family-uses-ai-chatbot-to-cut-hospital-bill-from-usd195-000-to-usd33-000-family-says-claude-highlighted-duplicative-charges-improper-coding-and-other-violations
    0 Comments 0 Shares 412 Views 0 Reviews
  • “จากคลาวด์สู่เหล็กจริง” – บทเรียน 2 ปีหลังย้ายจาก AWS สู่ Bare Metal

    บริษัท OneUptime เผยเบื้องหลังการย้ายจาก AWS สู่ Bare Metal ที่ช่วยประหยัดกว่า 1.2 ล้านดอลลาร์ต่อปี พร้อมเปิดเผยกลยุทธ์และบทเรียนที่นักพัฒนาและองค์กรควรรู้ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐาน

    สองปีหลังจาก OneUptime ตัดสินใจย้ายโครงสร้างพื้นฐานจาก AWS ไปยังเซิร์ฟเวอร์แบบ Bare Metal บริษัทได้เปิดเผยผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง ทั้งด้านความคุ้มค่า ความเสถียร และความสามารถในการควบคุมระบบอย่างเต็มรูปแบบ

    การย้ายครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการลดค่าใช้จ่าย แต่เป็นการปรับเปลี่ยนแนวคิดการบริหารโครงสร้างพื้นฐาน โดย OneUptime ได้ตอบคำถามจาก Hacker News และ Reddit อย่างตรงไปตรงมา พร้อมเปิดเผยตัวเลขจริงและกลยุทธ์ที่ใช้

    ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ:
    ประหยัดค่าใช้จ่ายจาก AWS ได้กว่า $1.2 ล้านต่อปี เทียบกับเดิมที่ประหยัด $230,000 ต่อปี
    ลด latency ลง 19% ด้วย NVMe และไม่มี “noisy neighbors”
    ใช้ MicroK8s + Ceph ใน production ด้วย uptime 99.993%
    เพิ่ม rack ที่ Frankfurt เพื่อแก้ปัญหา single point of failure
    ใช้ Talos, Tinkerbell, Flux และ Terraform เพื่อจัดการ automation
    ยังคงใช้ AWS สำหรับงานที่ต้องการความยืดหยุ่น เช่น CloudFront และ Glacier

    สรุปเนื้อหาสำคัญ
    ผลลัพธ์หลังย้ายจาก AWS
    ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า $1.2 ล้านต่อปี
    ลด latency ลง 19% ด้วย NVMe
    เพิ่มความเสถียรของระบบด้วย uptime 99.993%
    ขยาย rack ไปยัง Frankfurt เพื่อ redundancy

    กลยุทธ์ด้านเทคนิค
    ใช้ MicroK8s + Ceph ใน production
    เตรียมย้ายไปใช้ Talos เพื่อจัดการ Kubernetes
    ใช้ Tinkerbell PXE boot, Flux และ Terraform สำหรับ automation
    ไม่มีทีม onsite แต่ใช้บริการ remote hands จาก colo provider

    การจัดการต้นทุนและ CapEx
    เซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่: 2× AMD EPYC 9654, 1TB RAM
    วางแผน amortize 5 ปี แต่สามารถใช้งานได้ถึง 7–8 ปี
    มี cold spares และ extended warranty จาก OEM
    สามารถ refresh 40% ของ fleet ทุก 2 ปีโดยยังประหยัดกว่าบิล AWS

    การจัดการความปลอดภัยและ compliance
    ยังคงรักษา SOC 2 Type II และ ISO 27001
    ใช้ Terraform และ Talos config เป็นหลักฐานการเปลี่ยนแปลง
    ใช้รายงานจาก colo provider สำหรับ audit

    การใช้คลาวด์อย่างมีเหตุผล
    ใช้ AWS สำหรับ Glacier, CloudFront และ load testing
    เลือกใช้คลาวด์เมื่อ elasticity สำคัญ
    Bare metal เหมาะกับ workload ที่ steady และ predictable

    คำเตือนสำหรับผู้ที่คิดจะย้าย
    หาก workload มีลักษณะ burst หรือ seasonal ควรอยู่บนคลาวด์
    หากพึ่งพา managed services อย่าง Aurora หรือ Step Functions ควรอยู่บนคลาวด์
    หากไม่มีทีมที่เชี่ยวชาญ Kubernetes, Ceph และ observability อาจไม่เหมาะกับ bare metal
    การย้ายต้องมีการวางแผนด้าน compliance และ audit อย่างรอบคอบ

    https://oneuptime.com/blog/post/2025-10-29-aws-to-bare-metal-two-years-later/view
    🧠💻 “จากคลาวด์สู่เหล็กจริง” – บทเรียน 2 ปีหลังย้ายจาก AWS สู่ Bare Metal บริษัท OneUptime เผยเบื้องหลังการย้ายจาก AWS สู่ Bare Metal ที่ช่วยประหยัดกว่า 1.2 ล้านดอลลาร์ต่อปี พร้อมเปิดเผยกลยุทธ์และบทเรียนที่นักพัฒนาและองค์กรควรรู้ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐาน สองปีหลังจาก OneUptime ตัดสินใจย้ายโครงสร้างพื้นฐานจาก AWS ไปยังเซิร์ฟเวอร์แบบ Bare Metal บริษัทได้เปิดเผยผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง ทั้งด้านความคุ้มค่า ความเสถียร และความสามารถในการควบคุมระบบอย่างเต็มรูปแบบ การย้ายครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการลดค่าใช้จ่าย แต่เป็นการปรับเปลี่ยนแนวคิดการบริหารโครงสร้างพื้นฐาน โดย OneUptime ได้ตอบคำถามจาก Hacker News และ Reddit อย่างตรงไปตรงมา พร้อมเปิดเผยตัวเลขจริงและกลยุทธ์ที่ใช้ ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ: 🎗️ ประหยัดค่าใช้จ่ายจาก AWS ได้กว่า $1.2 ล้านต่อปี เทียบกับเดิมที่ประหยัด $230,000 ต่อปี 🎗️ ลด latency ลง 19% ด้วย NVMe และไม่มี “noisy neighbors” 🎗️ ใช้ MicroK8s + Ceph ใน production ด้วย uptime 99.993% 🎗️ เพิ่ม rack ที่ Frankfurt เพื่อแก้ปัญหา single point of failure 🎗️ ใช้ Talos, Tinkerbell, Flux และ Terraform เพื่อจัดการ automation 🎗️ ยังคงใช้ AWS สำหรับงานที่ต้องการความยืดหยุ่น เช่น CloudFront และ Glacier 📌 สรุปเนื้อหาสำคัญ ✅ ผลลัพธ์หลังย้ายจาก AWS ➡️ ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า $1.2 ล้านต่อปี ➡️ ลด latency ลง 19% ด้วย NVMe ➡️ เพิ่มความเสถียรของระบบด้วย uptime 99.993% ➡️ ขยาย rack ไปยัง Frankfurt เพื่อ redundancy ✅ กลยุทธ์ด้านเทคนิค ➡️ ใช้ MicroK8s + Ceph ใน production ➡️ เตรียมย้ายไปใช้ Talos เพื่อจัดการ Kubernetes ➡️ ใช้ Tinkerbell PXE boot, Flux และ Terraform สำหรับ automation ➡️ ไม่มีทีม onsite แต่ใช้บริการ remote hands จาก colo provider ✅ การจัดการต้นทุนและ CapEx ➡️ เซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่: 2× AMD EPYC 9654, 1TB RAM ➡️ วางแผน amortize 5 ปี แต่สามารถใช้งานได้ถึง 7–8 ปี ➡️ มี cold spares และ extended warranty จาก OEM ➡️ สามารถ refresh 40% ของ fleet ทุก 2 ปีโดยยังประหยัดกว่าบิล AWS ✅ การจัดการความปลอดภัยและ compliance ➡️ ยังคงรักษา SOC 2 Type II และ ISO 27001 ➡️ ใช้ Terraform และ Talos config เป็นหลักฐานการเปลี่ยนแปลง ➡️ ใช้รายงานจาก colo provider สำหรับ audit ✅ การใช้คลาวด์อย่างมีเหตุผล ➡️ ใช้ AWS สำหรับ Glacier, CloudFront และ load testing ➡️ เลือกใช้คลาวด์เมื่อ elasticity สำคัญ ➡️ Bare metal เหมาะกับ workload ที่ steady และ predictable ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ที่คิดจะย้าย ⛔ หาก workload มีลักษณะ burst หรือ seasonal ควรอยู่บนคลาวด์ ⛔ หากพึ่งพา managed services อย่าง Aurora หรือ Step Functions ควรอยู่บนคลาวด์ ⛔ หากไม่มีทีมที่เชี่ยวชาญ Kubernetes, Ceph และ observability อาจไม่เหมาะกับ bare metal ⛔ การย้ายต้องมีการวางแผนด้าน compliance และ audit อย่างรอบคอบ https://oneuptime.com/blog/post/2025-10-29-aws-to-bare-metal-two-years-later/view
    ONEUPTIME.COM
    AWS to Bare Metal Two Years Later: Answering Your Toughest Questions About Leaving AWS
    Two years after our AWS-to-bare-metal migration, we revisit the numbers, share what changed, and address the biggest questions from Hacker News and Reddit.
    0 Comments 0 Shares 354 Views 0 Reviews
  • AI กับสิ่งแวดล้อม: ใช้พลังงานมหาศาล แต่ก็ช่วยโลกได้ใน 5 วิธี

    แม้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะถูกวิจารณ์ว่าใช้พลังงานและน้ำมหาศาล โดยเฉพาะในศูนย์ข้อมูลที่รองรับการประมวลผลขั้นสูง แต่บทความจาก The Star ชี้ให้เห็นว่า AI ก็สามารถเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยลดมลพิษและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในหลายภาคส่วนได้เช่นกัน

    นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญเสนอ 5 วิธีที่ AI สามารถช่วยสิ่งแวดล้อมได้ ตั้งแต่การจัดการพลังงานในอาคาร ไปจนถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตน้ำมันและการจราจร

    สรุป 5 วิธีที่ AI ช่วยสิ่งแวดล้อม

    1️⃣ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร
    วิธีการทำงาน
    AI ปรับแสงสว่าง อุณหภูมิ และการระบายอากาศตามสภาพอากาศและการใช้งานจริง
    คาดว่าช่วยลดการใช้พลังงานในอาคารได้ 10–30%
    ระบบอัตโนมัติช่วยลดการเปิดแอร์หรือฮีตเตอร์เกินความจำเป็น

    คำเตือน
    หากระบบ AI ขัดข้อง อาจทำให้การควบคุมอุณหภูมิผิดพลาด
    ต้องมีการบำรุงรักษาเซ็นเซอร์และระบบควบคุมอย่างสม่ำเสมอ

    2️⃣ จัดการการชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ
    วิธีการทำงาน
    AI กำหนดเวลาชาร์จ EV และสมาร์ตโฟนให้เหมาะกับช่วงที่ไฟฟ้าถูกและสะอาด
    ลดการใช้ไฟฟ้าช่วงพีค และลดการพึ่งพาพลังงานจากฟอสซิล

    คำเตือน
    ต้องมีการเชื่อมต่อกับระบบ grid และข้อมูลราคาพลังงานแบบเรียลไทม์
    หากข้อมูลไม่แม่นยำ อาจชาร์จผิดเวลาและเพิ่มค่าไฟ

    3️⃣ ลดมลพิษจากการผลิตน้ำมันและก๊าซ
    วิธีการทำงาน
    AI วิเคราะห์กระบวนการผลิตเพื่อหาจุดที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด
    ช่วยปรับปรุงกระบวนการให้ปล่อยก๊าซน้อยลง
    ใช้ machine learning เพื่อคาดการณ์และป้องกันการรั่วไหล

    คำเตือน
    ข้อมูลจากอุตสาหกรรมอาจไม่เปิดเผยทั้งหมด ทำให้ AI วิเคราะห์ไม่ครบ
    การพึ่งพา AI โดยไม่มีการตรวจสอบจากมนุษย์อาจเสี่ยงต่อความผิดพลาด

    4️⃣ ควบคุมสัญญาณไฟจราจรเพื่อลดการปล่อยคาร์บอน
    วิธีการทำงาน
    AI วิเคราะห์การจราจรแบบเรียลไทม์เพื่อปรับสัญญาณไฟให้รถติดน้อยลง
    ลดการจอดรอและการเร่งเครื่องที่สิ้นเปลืองพลังงาน
    ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนจากรถยนต์ในเมืองใหญ่

    คำเตือน
    ต้องมีระบบกล้องและเซ็นเซอร์ที่ครอบคลุมทั่วเมือง
    หากระบบล่ม อาจทำให้การจราจรแย่ลงกว่าเดิม

    5️⃣ ตรวจสอบและซ่อมบำรุงระบบ HVAC และอุปกรณ์อื่นๆ
    วิธีการทำงาน
    AI ตรวจจับความผิดปกติในระบบก่อนเกิดความเสียหาย
    ช่วยลดการใช้พลังงานจากอุปกรณ์ที่ทำงานผิดปกติ
    ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมระยะยาว

    คำเตือน
    ต้องมีการติดตั้งเซ็นเซอร์และระบบวิเคราะห์ที่แม่นยำ
    หากไม่ calibrate ระบบอย่างสม่ำเสมอ อาจเกิด false alarm หรือพลาดการแจ้งเตือนจริง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/24/ai-can-help-the-environment-even-though-it-uses-tremendous-energy-here-are-5-ways-how
    🌱 AI กับสิ่งแวดล้อม: ใช้พลังงานมหาศาล แต่ก็ช่วยโลกได้ใน 5 วิธี แม้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะถูกวิจารณ์ว่าใช้พลังงานและน้ำมหาศาล โดยเฉพาะในศูนย์ข้อมูลที่รองรับการประมวลผลขั้นสูง แต่บทความจาก The Star ชี้ให้เห็นว่า AI ก็สามารถเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยลดมลพิษและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในหลายภาคส่วนได้เช่นกัน นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญเสนอ 5 วิธีที่ AI สามารถช่วยสิ่งแวดล้อมได้ ตั้งแต่การจัดการพลังงานในอาคาร ไปจนถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตน้ำมันและการจราจร 🔍 สรุป 5 วิธีที่ AI ช่วยสิ่งแวดล้อม 1️⃣ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร ✅ วิธีการทำงาน ➡️ AI ปรับแสงสว่าง อุณหภูมิ และการระบายอากาศตามสภาพอากาศและการใช้งานจริง ➡️ คาดว่าช่วยลดการใช้พลังงานในอาคารได้ 10–30% ➡️ ระบบอัตโนมัติช่วยลดการเปิดแอร์หรือฮีตเตอร์เกินความจำเป็น ‼️ คำเตือน ⛔ หากระบบ AI ขัดข้อง อาจทำให้การควบคุมอุณหภูมิผิดพลาด ⛔ ต้องมีการบำรุงรักษาเซ็นเซอร์และระบบควบคุมอย่างสม่ำเสมอ 2️⃣ จัดการการชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ✅ วิธีการทำงาน ➡️ AI กำหนดเวลาชาร์จ EV และสมาร์ตโฟนให้เหมาะกับช่วงที่ไฟฟ้าถูกและสะอาด ➡️ ลดการใช้ไฟฟ้าช่วงพีค และลดการพึ่งพาพลังงานจากฟอสซิล ‼️ คำเตือน ⛔ ต้องมีการเชื่อมต่อกับระบบ grid และข้อมูลราคาพลังงานแบบเรียลไทม์ ⛔ หากข้อมูลไม่แม่นยำ อาจชาร์จผิดเวลาและเพิ่มค่าไฟ 3️⃣ ลดมลพิษจากการผลิตน้ำมันและก๊าซ ✅ วิธีการทำงาน ➡️ AI วิเคราะห์กระบวนการผลิตเพื่อหาจุดที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด ➡️ ช่วยปรับปรุงกระบวนการให้ปล่อยก๊าซน้อยลง ➡️ ใช้ machine learning เพื่อคาดการณ์และป้องกันการรั่วไหล ‼️ คำเตือน ⛔ ข้อมูลจากอุตสาหกรรมอาจไม่เปิดเผยทั้งหมด ทำให้ AI วิเคราะห์ไม่ครบ ⛔ การพึ่งพา AI โดยไม่มีการตรวจสอบจากมนุษย์อาจเสี่ยงต่อความผิดพลาด 4️⃣ ควบคุมสัญญาณไฟจราจรเพื่อลดการปล่อยคาร์บอน ✅ วิธีการทำงาน ➡️ AI วิเคราะห์การจราจรแบบเรียลไทม์เพื่อปรับสัญญาณไฟให้รถติดน้อยลง ➡️ ลดการจอดรอและการเร่งเครื่องที่สิ้นเปลืองพลังงาน ➡️ ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนจากรถยนต์ในเมืองใหญ่ ‼️ คำเตือน ⛔ ต้องมีระบบกล้องและเซ็นเซอร์ที่ครอบคลุมทั่วเมือง ⛔ หากระบบล่ม อาจทำให้การจราจรแย่ลงกว่าเดิม 5️⃣ ตรวจสอบและซ่อมบำรุงระบบ HVAC และอุปกรณ์อื่นๆ ✅ วิธีการทำงาน ➡️ AI ตรวจจับความผิดปกติในระบบก่อนเกิดความเสียหาย ➡️ ช่วยลดการใช้พลังงานจากอุปกรณ์ที่ทำงานผิดปกติ ➡️ ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมระยะยาว ‼️ คำเตือน ⛔ ต้องมีการติดตั้งเซ็นเซอร์และระบบวิเคราะห์ที่แม่นยำ ⛔ หากไม่ calibrate ระบบอย่างสม่ำเสมอ อาจเกิด false alarm หรือพลาดการแจ้งเตือนจริง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/24/ai-can-help-the-environment-even-though-it-uses-tremendous-energy-here-are-5-ways-how
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI can help the environment, even though it uses tremendous energy. Here are 5 ways how
    Artificial intelligence has caused concern for its tremendous consumptionof water and power. But scientists are also experimenting with ways that AI can help people and businesses use energy more efficiently and pollute less.
    0 Comments 0 Shares 326 Views 0 Reviews
  • “Idealist.org ลดค่าใช้จ่ายจาก $3,000 เหลือ $55 ต่อเดือน – เปลี่ยนจาก Heroku มาใช้เซิร์ฟเวอร์เดียวกับ Disco!”

    Idealist.org ซึ่งเป็นเว็บไซต์หางานด้าน nonprofit ที่มีผู้ใช้งานหลายล้านคนต่อเดือน เคยใช้ Heroku สำหรับ staging environment โดยเสียค่าใช้จ่ายถึง $500 ต่อ environment และมีทั้งหมด 6 environment รวมแล้วจ่ายถึง $3,000 ต่อเดือน แค่เพื่อการทดสอบก่อนปล่อยจริง!

    ทีมงานจึงทดลองย้าย staging environment ไปยังเซิร์ฟเวอร์เดียวบน Hetzner ราคาเพียง $55 ต่อเดือน โดยใช้เครื่องมือชื่อว่า Disco ซึ่งช่วยให้ยังคง workflow แบบ “git push to deploy” ได้เหมือนเดิม

    Disco ไม่ใช่แค่ docker-compose ธรรมดา แต่ให้ฟีเจอร์แบบ PaaS เช่น deploy อัตโนมัติ, SSL certificate, UI สำหรับดู log และจัดการ environment ได้ง่าย ๆ ทำให้ทีมสามารถสร้าง staging ใหม่ได้ทันทีโดยไม่ต้องขออนุญาตหรือกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย

    ผลลัพธ์คือจากเดิมที่มีแค่ 2 environment (dev และ main) ตอนนี้มีถึง 6 environment บนเซิร์ฟเวอร์เดียว โดยใช้ CPU แค่ ~2% และ RAM 14 GB จาก 32 GB เท่านั้น

    แม้จะต้องจัดการ DNS, CDN และดูแลเซิร์ฟเวอร์เอง แต่ทีมยอมรับได้ เพราะประหยัดงบมหาศาล และได้ความคล่องตัวในการพัฒนาเพิ่มขึ้น

    ปัญหาที่พบจากการใช้ Heroku
    ค่าใช้จ่ายสูงถึง $500 ต่อ staging environment
    ต้องจำกัดจำนวน environment เพราะงบประมาณ
    ระบบ staging กลายเป็นทรัพยากรที่หายากและต้องขออนุญาตก่อนใช้

    แนวทางใหม่ที่ใช้ Disco บนเซิร์ฟเวอร์เดียว
    ใช้ Hetzner CCX33 ราคา $55/เดือน
    ใช้ Disco เพื่อรักษา workflow แบบ git push to deploy
    แชร์ Postgres instance เดียวกันสำหรับ staging ทั้งหมด
    สร้าง environment ใหม่ได้ง่ายและรวดเร็ว
    ใช้ CPU ~2% และ RAM 14 GB จาก 32 GB

    ฟีเจอร์ของ Disco ที่ช่วยให้ใช้งานง่าย
    deploy อัตโนมัติแบบ zero-downtime
    SSL certificate อัตโนมัติสำหรับทุก branch
    UI สำหรับดู log และจัดการ environment
    ไม่ต้องเขียน automation เองเหมือนใช้ VPS แบบดิบ ๆ

    ผลลัพธ์ที่ได้
    ลดค่าใช้จ่ายจาก $3,000 เหลือ $55 ต่อเดือน
    สร้าง staging ได้ทันทีโดยไม่ต้องขออนุญาต
    เพิ่มความคล่องตัวในการพัฒนาและทดสอบ
    เปลี่ยน mindset จาก “staging เป็นของแพง” เป็น “staging เป็นของฟรี”

    ข้อควรระวังและคำเตือน
    ต้องจัดการ DNS และ CDN ด้วยตัวเอง
    ต้องดูแลเรื่อง security และ monitoring ของเซิร์ฟเวอร์
    หากเซิร์ฟเวอร์ล่ม ต้อง reprovision ใหม่เอง
    ต้องปรับ networking ของแอปให้เข้ากับ Docker
    Disco ยังไม่เหมาะกับ workload ที่ต้อง redundancy สูง

    https://disco.cloud/blog/how-idealistorg-replaced-a-3000mo-heroku-bill-with-a-55mo-server/
    💸 “Idealist.org ลดค่าใช้จ่ายจาก $3,000 เหลือ $55 ต่อเดือน – เปลี่ยนจาก Heroku มาใช้เซิร์ฟเวอร์เดียวกับ Disco!” Idealist.org ซึ่งเป็นเว็บไซต์หางานด้าน nonprofit ที่มีผู้ใช้งานหลายล้านคนต่อเดือน เคยใช้ Heroku สำหรับ staging environment โดยเสียค่าใช้จ่ายถึง $500 ต่อ environment และมีทั้งหมด 6 environment รวมแล้วจ่ายถึง $3,000 ต่อเดือน แค่เพื่อการทดสอบก่อนปล่อยจริง! ทีมงานจึงทดลองย้าย staging environment ไปยังเซิร์ฟเวอร์เดียวบน Hetzner ราคาเพียง $55 ต่อเดือน โดยใช้เครื่องมือชื่อว่า Disco ซึ่งช่วยให้ยังคง workflow แบบ “git push to deploy” ได้เหมือนเดิม Disco ไม่ใช่แค่ docker-compose ธรรมดา แต่ให้ฟีเจอร์แบบ PaaS เช่น deploy อัตโนมัติ, SSL certificate, UI สำหรับดู log และจัดการ environment ได้ง่าย ๆ ทำให้ทีมสามารถสร้าง staging ใหม่ได้ทันทีโดยไม่ต้องขออนุญาตหรือกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ผลลัพธ์คือจากเดิมที่มีแค่ 2 environment (dev และ main) ตอนนี้มีถึง 6 environment บนเซิร์ฟเวอร์เดียว โดยใช้ CPU แค่ ~2% และ RAM 14 GB จาก 32 GB เท่านั้น แม้จะต้องจัดการ DNS, CDN และดูแลเซิร์ฟเวอร์เอง แต่ทีมยอมรับได้ เพราะประหยัดงบมหาศาล และได้ความคล่องตัวในการพัฒนาเพิ่มขึ้น ✅ ปัญหาที่พบจากการใช้ Heroku ➡️ ค่าใช้จ่ายสูงถึง $500 ต่อ staging environment ➡️ ต้องจำกัดจำนวน environment เพราะงบประมาณ ➡️ ระบบ staging กลายเป็นทรัพยากรที่หายากและต้องขออนุญาตก่อนใช้ ✅ แนวทางใหม่ที่ใช้ Disco บนเซิร์ฟเวอร์เดียว ➡️ ใช้ Hetzner CCX33 ราคา $55/เดือน ➡️ ใช้ Disco เพื่อรักษา workflow แบบ git push to deploy ➡️ แชร์ Postgres instance เดียวกันสำหรับ staging ทั้งหมด ➡️ สร้าง environment ใหม่ได้ง่ายและรวดเร็ว ➡️ ใช้ CPU ~2% และ RAM 14 GB จาก 32 GB ✅ ฟีเจอร์ของ Disco ที่ช่วยให้ใช้งานง่าย ➡️ deploy อัตโนมัติแบบ zero-downtime ➡️ SSL certificate อัตโนมัติสำหรับทุก branch ➡️ UI สำหรับดู log และจัดการ environment ➡️ ไม่ต้องเขียน automation เองเหมือนใช้ VPS แบบดิบ ๆ ✅ ผลลัพธ์ที่ได้ ➡️ ลดค่าใช้จ่ายจาก $3,000 เหลือ $55 ต่อเดือน ➡️ สร้าง staging ได้ทันทีโดยไม่ต้องขออนุญาต ➡️ เพิ่มความคล่องตัวในการพัฒนาและทดสอบ ➡️ เปลี่ยน mindset จาก “staging เป็นของแพง” เป็น “staging เป็นของฟรี” ‼️ ข้อควรระวังและคำเตือน ⛔ ต้องจัดการ DNS และ CDN ด้วยตัวเอง ⛔ ต้องดูแลเรื่อง security และ monitoring ของเซิร์ฟเวอร์ ⛔ หากเซิร์ฟเวอร์ล่ม ต้อง reprovision ใหม่เอง ⛔ ต้องปรับ networking ของแอปให้เข้ากับ Docker ⛔ Disco ยังไม่เหมาะกับ workload ที่ต้อง redundancy สูง https://disco.cloud/blog/how-idealistorg-replaced-a-3000mo-heroku-bill-with-a-55mo-server/
    DISCO.CLOUD
    How Idealist.org Replaced a $3,000/mo Heroku Bill with a $55/mo Server
    At Disco, we help teams escape expensive PaaS pricing while keeping the developer experience they love. This is the story of how Idealist.org, the world's largest nonprofit job board, tackled a common and expensive challenge: the rising cost of staging environments on Heroku. To give a sense of scale …
    0 Comments 0 Shares 320 Views 0 Reviews
More Results