• เตโชแอร์พอร์ต สนามบินใหม่พนมเปญ

    แม้ท่าอากาศยานนานาชาติเตโช (Techo International Airport หรือ KTI) ทางตอนใต้ของกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา จะเลื่อนเปิดให้บริการออกไป เพราะผู้เชี่ยวชาญประเมินพบว่ามีงานที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่สนามบินแห่งใหม่ซึ่งก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2563 ด้วยงบลงทุนกว่า 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กำลังจะทดแทนท่าอากาศยานนานาชาติพนมเปญ ซึ่งมีอายุกว่า 66 ปี บนพื้นที่ 400 เฮกตาร์ ใจกลางเมืองหลวงของกัมพูชา ด้วยความทันสมัยในฐานะท่าอากาศยานนานาชาติระดับ 4F บนพื้นที่ 2,600 เฮกตาร์ ใหญ่กว่าท่าอากาศยานเดิมกว่า 6 เท่า ซึ่งเฟสแรกรองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 15 ล้านคนต่อปี

    โครงการดังกล่าวเป็นการร่วมทุนระหว่างรัฐบาลกัมพูชา โดยสำนักงานเลขาธิการการบินพลเรือนแห่งรัฐ (SSCA) กับบริษัท โอเวอร์ซีส์ แคมโบเดียน อินเวสต์เมนต์ คอร์ปฯ (OCIC Group) ของมหาเศรษฐีกัมพูชาเชื้อสายจีน ปง เคียวแซ (Pung Kheav Se) ตั้งอยู่ที่จังหวัดกันดาล ห่างจากกรุงพนมเปญไปทางทิศใต้ประมาณ 20 กิโลเมตร มีทางวิ่งหรือรันเวย์ 3 เส้น ยาว 4,000 เมตร ก่อสร้างโดย บริษัทเซี่ยงไฮ้ เป่าเย่ กรุ๊ป คอร์ปฯ รองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ เช่น แอร์บัส A380-800 โบอิ้ง 747-800 พร้อมหอควบคุมการจราจรทางอากาศ (ATC) สูง 118 เมตร

    สถาปัตยกรรมอาคารผู้โดยสาร ออกแบบโดย บริษัทฟอสเตอร์ แอนด์ พาร์ตเนอร์ จากอังกฤษ ก่อสร้างโดยบริษัท ไชน่า คอนสตรัคชัน เติร์ด เอนจิเนียริง บูโร ประเทศจีน ประกอบด้วยอาคารผู้โดยสารส่วนกลาง พร้อมเสารูปทรงแอโรฟอยล์หรือปีกนก ที่อยู่ด้านข้างทั้งสองข้าง มีประตูขึ้นเครื่อง 22 ประตู รองรับเครื่องบินขนาดกลางได้ 40 ลำ หลังคาโดมโครงสร้างเหล็ก สูง 36 เมตร พร้อมตะแกรงกรองแสงธรรมชาติและส่องสว่างในอาคาร ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์กว่า 1,000 แผง และศูนย์กลางระบบผลิตไฟฟ้า (Energy Center) สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าที่ใช้กับระบบปรับอากาศได้ 7,800 กิโลวัตต์ ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ถึง 120 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อปี ลดการปล่อยคาร์บอนลงได้ประมาณ 100,000 ตัน

    ในปี 2567 ท่าอากาศยานนานาชาติพนมเปญ (PNH) มีเที่ยวบินทั้งหมด 41,022 เที่ยวบิน ผู้โดยสารรวม 4,746,000 คน โดยมีเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ สุวรรณภูมิ (BKK) มากที่สุด 88 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ รองลงมาคือกว่างโจว ประเทศจีน (CAN) กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย (KUL) โฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม (SGN) และสิงคโปร์ (SIN) หลังการย้ายสนามบินไปยังสถานที่แห่งใหม่ สนามบินเดิมรัฐบาลกัมพูชาจะเก็บรักษาไว้เป็นทรัพย์สินของรัฐ ภายใต้การดูแลของ SSCA โดยนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนต ยืนยันว่ายังไม่ขายให้แก่ผู้สนใจแต่อย่างใด

    #Newskit
    เตโชแอร์พอร์ต สนามบินใหม่พนมเปญ แม้ท่าอากาศยานนานาชาติเตโช (Techo International Airport หรือ KTI) ทางตอนใต้ของกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา จะเลื่อนเปิดให้บริการออกไป เพราะผู้เชี่ยวชาญประเมินพบว่ามีงานที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่สนามบินแห่งใหม่ซึ่งก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2563 ด้วยงบลงทุนกว่า 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กำลังจะทดแทนท่าอากาศยานนานาชาติพนมเปญ ซึ่งมีอายุกว่า 66 ปี บนพื้นที่ 400 เฮกตาร์ ใจกลางเมืองหลวงของกัมพูชา ด้วยความทันสมัยในฐานะท่าอากาศยานนานาชาติระดับ 4F บนพื้นที่ 2,600 เฮกตาร์ ใหญ่กว่าท่าอากาศยานเดิมกว่า 6 เท่า ซึ่งเฟสแรกรองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 15 ล้านคนต่อปี โครงการดังกล่าวเป็นการร่วมทุนระหว่างรัฐบาลกัมพูชา โดยสำนักงานเลขาธิการการบินพลเรือนแห่งรัฐ (SSCA) กับบริษัท โอเวอร์ซีส์ แคมโบเดียน อินเวสต์เมนต์ คอร์ปฯ (OCIC Group) ของมหาเศรษฐีกัมพูชาเชื้อสายจีน ปง เคียวแซ (Pung Kheav Se) ตั้งอยู่ที่จังหวัดกันดาล ห่างจากกรุงพนมเปญไปทางทิศใต้ประมาณ 20 กิโลเมตร มีทางวิ่งหรือรันเวย์ 3 เส้น ยาว 4,000 เมตร ก่อสร้างโดย บริษัทเซี่ยงไฮ้ เป่าเย่ กรุ๊ป คอร์ปฯ รองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ เช่น แอร์บัส A380-800 โบอิ้ง 747-800 พร้อมหอควบคุมการจราจรทางอากาศ (ATC) สูง 118 เมตร สถาปัตยกรรมอาคารผู้โดยสาร ออกแบบโดย บริษัทฟอสเตอร์ แอนด์ พาร์ตเนอร์ จากอังกฤษ ก่อสร้างโดยบริษัท ไชน่า คอนสตรัคชัน เติร์ด เอนจิเนียริง บูโร ประเทศจีน ประกอบด้วยอาคารผู้โดยสารส่วนกลาง พร้อมเสารูปทรงแอโรฟอยล์หรือปีกนก ที่อยู่ด้านข้างทั้งสองข้าง มีประตูขึ้นเครื่อง 22 ประตู รองรับเครื่องบินขนาดกลางได้ 40 ลำ หลังคาโดมโครงสร้างเหล็ก สูง 36 เมตร พร้อมตะแกรงกรองแสงธรรมชาติและส่องสว่างในอาคาร ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์กว่า 1,000 แผง และศูนย์กลางระบบผลิตไฟฟ้า (Energy Center) สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าที่ใช้กับระบบปรับอากาศได้ 7,800 กิโลวัตต์ ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ถึง 120 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อปี ลดการปล่อยคาร์บอนลงได้ประมาณ 100,000 ตัน ในปี 2567 ท่าอากาศยานนานาชาติพนมเปญ (PNH) มีเที่ยวบินทั้งหมด 41,022 เที่ยวบิน ผู้โดยสารรวม 4,746,000 คน โดยมีเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ สุวรรณภูมิ (BKK) มากที่สุด 88 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ รองลงมาคือกว่างโจว ประเทศจีน (CAN) กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย (KUL) โฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม (SGN) และสิงคโปร์ (SIN) หลังการย้ายสนามบินไปยังสถานที่แห่งใหม่ สนามบินเดิมรัฐบาลกัมพูชาจะเก็บรักษาไว้เป็นทรัพย์สินของรัฐ ภายใต้การดูแลของ SSCA โดยนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนต ยืนยันว่ายังไม่ขายให้แก่ผู้สนใจแต่อย่างใด #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2 มุมมอง 0 รีวิว
  • หินลาพิส แกะเป็นแมงสคารัป...พบเจอในสุสานอียิปต์ ...และพบเจออยู่ในเครื่องประกอบบูชา แะเทวรูป...ผู้เขียนจึงศึกษาถึงหินชนิดนี้มาหลายปีแล้ว...จนระยะ 2_3 ปีหลัง...ให้ความสนใจ จากพลังงานจากหิน...มากกว่าวัตถุมงคล "สมัยนี้" เสียอีก...เพราะหินอยู่ในโลกมาหลายล้านปี ซึมซับเอาพลังของระบบสุริยะ..พระอาทิตย์ พระจันทร์...และอื่นๆ...ไปผูกความเชื่อ กับทางจีน ก็คือ หยก...ทางยุโรปก็คือ เพชรพลอยต่างๆ ...เข้าใจง่ายๆ ก็คือ หินนั่นเอง...แต่มีค่าความแข็ง...และสีสรรแตกต่างกัน..
    หินลาพิส แกะเป็นแมงสคารัป...พบเจอในสุสานอียิปต์ ...และพบเจออยู่ในเครื่องประกอบบูชา แะเทวรูป...ผู้เขียนจึงศึกษาถึงหินชนิดนี้มาหลายปีแล้ว...จนระยะ 2_3 ปีหลัง...ให้ความสนใจ จากพลังงานจากหิน...มากกว่าวัตถุมงคล "สมัยนี้" เสียอีก...เพราะหินอยู่ในโลกมาหลายล้านปี ซึมซับเอาพลังของระบบสุริยะ..พระอาทิตย์ พระจันทร์...และอื่นๆ...ไปผูกความเชื่อ กับทางจีน ก็คือ หยก...ทางยุโรปก็คือ เพชรพลอยต่างๆ ...เข้าใจง่ายๆ ก็คือ หินนั่นเอง...แต่มีค่าความแข็ง...และสีสรรแตกต่างกัน..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เจ้าท่าฯ”ลุยยกระดับปรับปรุงท่าเรือโดยสารแม่น้ำเจ้าพระยาออกแบบ “อารยสถาปัตย์” ส่งเสริมสิทธิเท่าเทียม รองรับบริการทุกกลุ่ม บริหารท่าเรืออัจฉริยะ Smart Pier ด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรมพลังงาน ตั้งเป้าปี 69 เสร็จครบ 29 แห่ง เชื่อม”ล้อ - ราง – เรือ” สะดวกไร้รอยต่อ คาดปี 70 มีผู้ใช้บริการท่าเรือโดยสารเฉลี่ย 53,000 คนต่อวัน

    นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการพัฒนาท่าเรือเป็นสถานีเรือโดยสารอัจฉริยะ (Smart Pier) ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 29 ท่า นั้นปัจจุบันมีการปรับปรุงและแก้ไขในรูปแบบอารยสถาปัตย์แล้วเสร็จ 16 แห่ง อาทิ ท่าเรือกรมเจ้าท่า ท่าเรือสะพานพุทธ ท่าเรือนนทบุรี ท่าเรือท่าช้าง ท่าเรือสาทร ท่าเรือราชินี ท่าเรือบางโพ ท่าเรือพายัพ ท่าเรือเตียน เป็นต้น ยังเหลืออีก 13 แห่ง ที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2569 ตามแผนงานที่วางไว้

    โดยเมื่อเดือนเม.ย. 2568 เพิ่งเปิดให้บริการท่าเรือพระราม 7 อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นอีกท่าเรือที่ปรับปรุงด้วยแนวคิด “ท่าเรือยุคใหม่ สะดวกปลอดภัย เทคโนโลยีก้าวไกล ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ซึ่งถือเป็นท่าเรือที่ได้ร่วมมือกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่มีการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านพลังงาน ติดตั้งโซล่าร์รูฟท็อปบนหลังคาท่าเรือ พร้อมสถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV CHARGER) ให้เป็นท่าเรือ Smart Pier อย่างสมบูรณ์แบบ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000049615

    #MGROnline #ท่าเรืออัจฉริยะ #SmartPier
    “เจ้าท่าฯ”ลุยยกระดับปรับปรุงท่าเรือโดยสารแม่น้ำเจ้าพระยาออกแบบ “อารยสถาปัตย์” ส่งเสริมสิทธิเท่าเทียม รองรับบริการทุกกลุ่ม บริหารท่าเรืออัจฉริยะ Smart Pier ด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรมพลังงาน ตั้งเป้าปี 69 เสร็จครบ 29 แห่ง เชื่อม”ล้อ - ราง – เรือ” สะดวกไร้รอยต่อ คาดปี 70 มีผู้ใช้บริการท่าเรือโดยสารเฉลี่ย 53,000 คนต่อวัน • นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการพัฒนาท่าเรือเป็นสถานีเรือโดยสารอัจฉริยะ (Smart Pier) ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 29 ท่า นั้นปัจจุบันมีการปรับปรุงและแก้ไขในรูปแบบอารยสถาปัตย์แล้วเสร็จ 16 แห่ง อาทิ ท่าเรือกรมเจ้าท่า ท่าเรือสะพานพุทธ ท่าเรือนนทบุรี ท่าเรือท่าช้าง ท่าเรือสาทร ท่าเรือราชินี ท่าเรือบางโพ ท่าเรือพายัพ ท่าเรือเตียน เป็นต้น ยังเหลืออีก 13 แห่ง ที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2569 ตามแผนงานที่วางไว้ • โดยเมื่อเดือนเม.ย. 2568 เพิ่งเปิดให้บริการท่าเรือพระราม 7 อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นอีกท่าเรือที่ปรับปรุงด้วยแนวคิด “ท่าเรือยุคใหม่ สะดวกปลอดภัย เทคโนโลยีก้าวไกล ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ซึ่งถือเป็นท่าเรือที่ได้ร่วมมือกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่มีการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านพลังงาน ติดตั้งโซล่าร์รูฟท็อปบนหลังคาท่าเรือ พร้อมสถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV CHARGER) ให้เป็นท่าเรือ Smart Pier อย่างสมบูรณ์แบบ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000049615 • #MGROnline #ท่าเรืออัจฉริยะ #SmartPier
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google จับมือ TSMC ผลิตชิป Tensor G5 บนกระบวนการ 3nm

    Google กำลังเปลี่ยนพันธมิตรด้านการผลิตชิปจาก Samsung ไปเป็น TSMC โดยมีรายงานว่า ผู้บริหารของ Google ได้เดินทางไปไต้หวันเพื่อเจรจาข้อตกลงที่อาจมีระยะเวลานานถึง 5 ปี ซึ่งจะเริ่มต้นด้วย Tensor G5 ที่ผลิตบนกระบวนการ 3nm

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่าง Google และ TSMC
    ✅ Tensor G4 จะเป็นชิปสุดท้ายที่ผลิตโดย Samsung ก่อนที่ Google จะเปลี่ยนไปใช้ TSMC
    - คาดว่า Pixel 10 จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ Tensor G5

    ✅ TSMC มีความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีเหนือ Samsung โดยเฉพาะในกระบวนการผลิต 3nm
    - Samsung ยังคงมีปัญหาเรื่องอัตราผลผลิต (yield) ในกระบวนการ 3nm GAA

    ✅ Google อาจใช้ชิป Tensor ที่ผลิตโดย TSMC ไปจนถึง Pixel 14
    - ทำให้ สามารถแข่งขันกับ Apple, Qualcomm และ MediaTek ได้ดีขึ้น

    ✅ TSMC เริ่มรับคำสั่งผลิตเวเฟอร์ 2nm แล้ว ซึ่งทำให้บริษัทมีความได้เปรียบในตลาดเซมิคอนดักเตอร์
    - คาดว่า บริษัทต่าง ๆ จะเริ่มใช้กระบวนการ 2nm ในปี 2026

    ✅ แม้ว่า Tensor G5 จะใช้กระบวนการ 3nm รุ่นที่สอง แต่สามารถปรับแต่งให้มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคู่แข่งที่ใช้ 3nm รุ่นที่สาม
    - ช่วยให้ Google สามารถแข่งขันด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงานได้ดีขึ้น

    https://wccftech.com/google-partnership-with-tsmc-for-making-pixel-smartphone-chips-lasting-5-years/
    Google จับมือ TSMC ผลิตชิป Tensor G5 บนกระบวนการ 3nm Google กำลังเปลี่ยนพันธมิตรด้านการผลิตชิปจาก Samsung ไปเป็น TSMC โดยมีรายงานว่า ผู้บริหารของ Google ได้เดินทางไปไต้หวันเพื่อเจรจาข้อตกลงที่อาจมีระยะเวลานานถึง 5 ปี ซึ่งจะเริ่มต้นด้วย Tensor G5 ที่ผลิตบนกระบวนการ 3nm 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่าง Google และ TSMC ✅ Tensor G4 จะเป็นชิปสุดท้ายที่ผลิตโดย Samsung ก่อนที่ Google จะเปลี่ยนไปใช้ TSMC - คาดว่า Pixel 10 จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ Tensor G5 ✅ TSMC มีความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีเหนือ Samsung โดยเฉพาะในกระบวนการผลิต 3nm - Samsung ยังคงมีปัญหาเรื่องอัตราผลผลิต (yield) ในกระบวนการ 3nm GAA ✅ Google อาจใช้ชิป Tensor ที่ผลิตโดย TSMC ไปจนถึง Pixel 14 - ทำให้ สามารถแข่งขันกับ Apple, Qualcomm และ MediaTek ได้ดีขึ้น ✅ TSMC เริ่มรับคำสั่งผลิตเวเฟอร์ 2nm แล้ว ซึ่งทำให้บริษัทมีความได้เปรียบในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ - คาดว่า บริษัทต่าง ๆ จะเริ่มใช้กระบวนการ 2nm ในปี 2026 ✅ แม้ว่า Tensor G5 จะใช้กระบวนการ 3nm รุ่นที่สอง แต่สามารถปรับแต่งให้มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคู่แข่งที่ใช้ 3nm รุ่นที่สาม - ช่วยให้ Google สามารถแข่งขันด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงานได้ดีขึ้น https://wccftech.com/google-partnership-with-tsmc-for-making-pixel-smartphone-chips-lasting-5-years/
    WCCFTECH.COM
    Google Executives Reportedly Visited TSMC To Secure A Chipset Deal For Pixel Smartphones; Partnership May Last An Estimated Five Years, With The Tensor G5 Being The Company’s First 3nm SoC
    A report claims that Google executives recently visited Taiwan to form a partnership for up to 5 years in making Pixel smartphone chipsets
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเทศไทย กับทางเลือก ด้านเทคโนโลยี CPU Processor - RISC-V หรือ ARM ⁉️

    💡 ความสำคัญของ CPU RISC-V ในปัจจุบัน
    RISC-V เป็นสถาปัตยกรรมชุดคำสั่ง (Instruction Set Architecture - ISA) แบบ RISC ที่เป็นโอเพนซอร์ส ภายใต้ใบอนุญาต BSD ซึ่งหมายความว่าใครก็สามารถนำไปพัฒนา ปรับแต่ง หรือผลิตได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายด้านไลเซนส์หรือค่าธรรมเนียม (Royalty Fee) ความสำคัญในปัจจุบันมีดังนี้:

    ✅ ลดต้นทุนการพัฒนา: ไม่มีค่าใช้จ่ายด้านไลเซนส์ ทำให้เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กหรือสตาร์ทอัพ
    ✅ ความยืดหยุ่นสูง: ผู้พัฒนาสามารถปรับแต่งชุดคำสั่งให้เหมาะกับการใช้งานเฉพาะทางได้
    ✅ การสนับสนุนจากบริษัทชั้นนำ: บริษัทใหญ่ เช่น Google, Alibaba, Qualcomm และ Intel ได้ให้ความสนใจและนำ RISC-V ไปใช้งานในผลิตภัณฑ์ของตน
    ✅ การใช้งานที่หลากหลาย: ปัจจุบัน RISC-V ถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์ IoT ระบบฝังตัว และการประมวลผลขั้นสูง

    💡 แนวโน้มการพัฒนาและใช้งานในอนาคต
    RISC-V มีแนวโน้มเติบโตอย่างมากในอนาคต โดยคาดการณ์ว่าจะมีการส่งมอบ RISC-V cores ถึง 80 พันล้านอันภายในปี 2025 แนวโน้มที่น่าสนใจมีดังนี้:
    ✅ การขยายสู่หลากหลายอุตสาหกรรม:
    👉 IoT: ด้วยความประหยัดพลังงานและขนาดเล็ก
    👉 ยานยนต์: ใช้ในระบบควบคุมและเซ็นเซอร์
    👉 AI และคลาวด์: การพัฒนาชิปประสิทธิภาพสูง เช่น SiFive P870
    👉 อุปกรณ์พกพา: เช่น แล็ปท็อปและแท็บเล็ต
    ✅การพัฒนาประสิทธิภาพ: มีการออกแบบ RISC-V cores ที่มีสมรรถนะสูงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อแข่งขันกับสถาปัตยกรรมอื่น เช่น ARM และ x86
    ✅ การสนับสนุนจากชุมชนและรัฐบาล: หลายประเทศเริ่มลงทุนใน RISC-V เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ

    💡 โอกาสของธุรกิจไทยในการพัฒนา ขาย หรือใช้งาน RISC-V ในอนาคต
    ธุรกิจไทยมีโอกาสที่น่าสนใจในการใช้ประโยชน์จาก RISC-V ดังนี้:
    ✅ การพัฒนาฮาร์ดแวร์: สามารถออกแบบและผลิต CPU/MCU โดยไม่มีค่าใช้จ่ายด้านไลเซนส์ และปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะ เช่น IoT หรือยานยนต์
    ✅ การแข่งขันในตลาดโลก: สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ RISC-V เพื่อส่งออกไปยังตลาดสากล
    ✅ การพัฒนาซอฟต์แวร์: สร้างแอปพลิเคชันและระบบที่รองรับ RISC-V
    ✅ ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน: หากได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ธุรกิจไทยสามารถกลายเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียนได้

    💡 รัฐบาลไทยควรซื้อ ARM License หรือทุ่มกับ RISC-V
    การตัดสินใจของรัฐบาลไทยขึ้นอยู่กับเป้าหมายและทรัพยากรที่มีอยู่ โดยสามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้:

    🛍️ การซื้อ ARM License
    ✅ ข้อดี:
    👉 มี ecosystem ที่แข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก
    👉 เอกชนสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เข้ากันได้กับ ARM ได้ทันที
    👉 เหมาะสำหรับการเข้าสู่ตลาดระยะสั้น

    ❌ ข้อเสีย:
    👉 ค่าใช้จ่ายสูงทั้งในส่วนของไลเซนส์และ Royalty Fee
    👉 ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ซึ่งอาจขัดกับนโยบายพึ่งพาตนเอง

    🛍️ การทุ่มกับ RISC-V
    ✅ ข้อดี:
    👉 ไม่มีค่าใช้จ่ายด้านไลเซนส์ ช่วยลดต้นทุน
    👉 สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของไทย
    👉 ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศ
    👉 มีโอกาสเติบโตในระยะยาวและเป็นผู้นำในภูมิภาค

    ❌ ข้อเสีย:
    👉 Ecosystem ยังไม่สมบูรณ์เท่า ARM อาจต้องใช้เวลาในการพัฒนา
    👉 มีความเสี่ยงจากการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่

    💡 ข้อเสนอแนะ
    ⏲️ระยะสั้น : การซื้อ ARM License อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมเพื่อให้เอกชนไทยสามารถแข่งขันในตลาดได้ทันที คล้ายกับที่มาเลเซียทำ
    ⏲️ ระยะยาว: รัฐบาลควรลงทุนใน RISC-V ควบคู่ไปด้วย เพื่อสร้างฐานเทคโนโลยีของตัวเอง ลดการพึ่งพาต่างชาติ และใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นและต้นทุนต่ำของ RISC-V
    ⏲️ แนวทางผสมผสาน: สนับสนุนทั้ง ARM และ RISC-V โดยให้เอกชนเลือกใช้ตามความเหมาะสม พร้อมทั้งส่งเสริมการวิจัย RISC-V ในสถาบันการศึกษาและอุตสาหกรรม

    💡 บทสรุป
    RISC-V มีความสำคัญในปัจจุบันจากความเป็นโอเพนซอร์สและการสนับสนุนจากบริษัทชั้นนำ แนวโน้มในอนาคตแสดงถึงการเติบโตในหลากหลายอุตสาหกรรม ธุรกิจไทยมีโอกาสในการพัฒนาและแข่งขันในตลาดโลกด้วย RISC-V ส่วนรัฐบาลไทยควรพิจารณาทั้ง ARM และ RISC-V โดยเน้น RISC-V ในระยะยาวเพื่อสร้างความยั่งยืนและพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี
    ประเทศไทย กับทางเลือก ด้านเทคโนโลยี CPU Processor - RISC-V หรือ ARM ⁉️ 💡 ความสำคัญของ CPU RISC-V ในปัจจุบัน RISC-V เป็นสถาปัตยกรรมชุดคำสั่ง (Instruction Set Architecture - ISA) แบบ RISC ที่เป็นโอเพนซอร์ส ภายใต้ใบอนุญาต BSD ซึ่งหมายความว่าใครก็สามารถนำไปพัฒนา ปรับแต่ง หรือผลิตได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายด้านไลเซนส์หรือค่าธรรมเนียม (Royalty Fee) ความสำคัญในปัจจุบันมีดังนี้: ✅ ลดต้นทุนการพัฒนา: ไม่มีค่าใช้จ่ายด้านไลเซนส์ ทำให้เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กหรือสตาร์ทอัพ ✅ ความยืดหยุ่นสูง: ผู้พัฒนาสามารถปรับแต่งชุดคำสั่งให้เหมาะกับการใช้งานเฉพาะทางได้ ✅ การสนับสนุนจากบริษัทชั้นนำ: บริษัทใหญ่ เช่น Google, Alibaba, Qualcomm และ Intel ได้ให้ความสนใจและนำ RISC-V ไปใช้งานในผลิตภัณฑ์ของตน ✅ การใช้งานที่หลากหลาย: ปัจจุบัน RISC-V ถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์ IoT ระบบฝังตัว และการประมวลผลขั้นสูง 💡 แนวโน้มการพัฒนาและใช้งานในอนาคต RISC-V มีแนวโน้มเติบโตอย่างมากในอนาคต โดยคาดการณ์ว่าจะมีการส่งมอบ RISC-V cores ถึง 80 พันล้านอันภายในปี 2025 แนวโน้มที่น่าสนใจมีดังนี้: ✅ การขยายสู่หลากหลายอุตสาหกรรม: 👉 IoT: ด้วยความประหยัดพลังงานและขนาดเล็ก 👉 ยานยนต์: ใช้ในระบบควบคุมและเซ็นเซอร์ 👉 AI และคลาวด์: การพัฒนาชิปประสิทธิภาพสูง เช่น SiFive P870 👉 อุปกรณ์พกพา: เช่น แล็ปท็อปและแท็บเล็ต ✅การพัฒนาประสิทธิภาพ: มีการออกแบบ RISC-V cores ที่มีสมรรถนะสูงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อแข่งขันกับสถาปัตยกรรมอื่น เช่น ARM และ x86 ✅ การสนับสนุนจากชุมชนและรัฐบาล: หลายประเทศเริ่มลงทุนใน RISC-V เพื่อลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ 💡 โอกาสของธุรกิจไทยในการพัฒนา ขาย หรือใช้งาน RISC-V ในอนาคต ธุรกิจไทยมีโอกาสที่น่าสนใจในการใช้ประโยชน์จาก RISC-V ดังนี้: ✅ การพัฒนาฮาร์ดแวร์: สามารถออกแบบและผลิต CPU/MCU โดยไม่มีค่าใช้จ่ายด้านไลเซนส์ และปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะ เช่น IoT หรือยานยนต์ ✅ การแข่งขันในตลาดโลก: สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ RISC-V เพื่อส่งออกไปยังตลาดสากล ✅ การพัฒนาซอฟต์แวร์: สร้างแอปพลิเคชันและระบบที่รองรับ RISC-V ✅ ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน: หากได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ธุรกิจไทยสามารถกลายเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียนได้ 💡 รัฐบาลไทยควรซื้อ ARM License หรือทุ่มกับ RISC-V การตัดสินใจของรัฐบาลไทยขึ้นอยู่กับเป้าหมายและทรัพยากรที่มีอยู่ โดยสามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้: 🛍️ การซื้อ ARM License ✅ ข้อดี: 👉 มี ecosystem ที่แข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก 👉 เอกชนสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เข้ากันได้กับ ARM ได้ทันที 👉 เหมาะสำหรับการเข้าสู่ตลาดระยะสั้น ❌ ข้อเสีย: 👉 ค่าใช้จ่ายสูงทั้งในส่วนของไลเซนส์และ Royalty Fee 👉 ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ซึ่งอาจขัดกับนโยบายพึ่งพาตนเอง 🛍️ การทุ่มกับ RISC-V ✅ ข้อดี: 👉 ไม่มีค่าใช้จ่ายด้านไลเซนส์ ช่วยลดต้นทุน 👉 สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของไทย 👉 ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศ 👉 มีโอกาสเติบโตในระยะยาวและเป็นผู้นำในภูมิภาค ❌ ข้อเสีย: 👉 Ecosystem ยังไม่สมบูรณ์เท่า ARM อาจต้องใช้เวลาในการพัฒนา 👉 มีความเสี่ยงจากการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ 💡 ข้อเสนอแนะ ⏲️ระยะสั้น : การซื้อ ARM License อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมเพื่อให้เอกชนไทยสามารถแข่งขันในตลาดได้ทันที คล้ายกับที่มาเลเซียทำ ⏲️ ระยะยาว: รัฐบาลควรลงทุนใน RISC-V ควบคู่ไปด้วย เพื่อสร้างฐานเทคโนโลยีของตัวเอง ลดการพึ่งพาต่างชาติ และใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นและต้นทุนต่ำของ RISC-V ⏲️ แนวทางผสมผสาน: สนับสนุนทั้ง ARM และ RISC-V โดยให้เอกชนเลือกใช้ตามความเหมาะสม พร้อมทั้งส่งเสริมการวิจัย RISC-V ในสถาบันการศึกษาและอุตสาหกรรม 💡 บทสรุป RISC-V มีความสำคัญในปัจจุบันจากความเป็นโอเพนซอร์สและการสนับสนุนจากบริษัทชั้นนำ แนวโน้มในอนาคตแสดงถึงการเติบโตในหลากหลายอุตสาหกรรม ธุรกิจไทยมีโอกาสในการพัฒนาและแข่งขันในตลาดโลกด้วย RISC-V ส่วนรัฐบาลไทยควรพิจารณาทั้ง ARM และ RISC-V โดยเน้น RISC-V ในระยะยาวเพื่อสร้างความยั่งยืนและพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • Dell เปิดตัวระบบระบายความร้อนใหม่สำหรับศูนย์ข้อมูล AI

    Dell เปิดตัวเทคโนโลยี PowerCool Enclosed Rear Door Heat Exchanger (eRDHx) ซึ่งเป็นระบบระบายความร้อนที่สามารถ ลดต้นทุนพลังงานได้ถึง 60% และช่วยให้ศูนย์ข้อมูลสามารถ เพิ่มจำนวนเซิร์ฟเวอร์โดยไม่ต้องเพิ่มการใช้พลังงาน

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับระบบ eRDHx ของ Dell
    ✅ eRDHx เป็นระบบระบายความร้อนแบบปิดที่สามารถจับความร้อนจากอุปกรณ์ IT ได้ 100%
    - ลดการพึ่งพา เครื่องทำความเย็นราคาแพง

    ✅ สามารถทำงานที่อุณหภูมิน้ำสูงกว่าระบบทั่วไป (32-36°C)
    - ช่วยให้ ประหยัดพลังงานและลดต้นทุนการดำเนินงาน

    ✅ รองรับการตรวจจับการรั่วไหลและการตรวจสอบอุณหภูมิแบบเรียลไทม์
    - ทำให้ สามารถป้องกันปัญหาด้านความร้อนก่อนที่จะเกิดขึ้น

    ✅ สามารถทำงานร่วมกับ Dell Integrated Rack Controller เพื่อการจัดการที่เป็นระบบ
    - ช่วยให้ ผู้ดูแลระบบสามารถควบคุมอุณหภูมิของศูนย์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ✅ Dell ระบุว่าระบบนี้ช่วยให้สามารถเพิ่มจำนวนเซิร์ฟเวอร์โดยไม่ต้องเพิ่มการใช้พลังงาน
    - เหมาะสำหรับ ศูนย์ข้อมูลที่ต้องการขยายขีดความสามารถโดยไม่เพิ่มต้นทุนพลังงาน

    ‼️ การเปลี่ยนไปใช้ระบบ eRDHx อาจต้องมีการปรับโครงสร้างศูนย์ข้อมูล
    - ควร ตรวจสอบความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ที่มีอยู่ก่อนติดตั้ง

    https://www.techradar.com/pro/overheating-is-a-big-problem-for-ai-hardware-as-demand-rises-and-dell-thinks-it-might-have-the-answer
    Dell เปิดตัวระบบระบายความร้อนใหม่สำหรับศูนย์ข้อมูล AI Dell เปิดตัวเทคโนโลยี PowerCool Enclosed Rear Door Heat Exchanger (eRDHx) ซึ่งเป็นระบบระบายความร้อนที่สามารถ ลดต้นทุนพลังงานได้ถึง 60% และช่วยให้ศูนย์ข้อมูลสามารถ เพิ่มจำนวนเซิร์ฟเวอร์โดยไม่ต้องเพิ่มการใช้พลังงาน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับระบบ eRDHx ของ Dell ✅ eRDHx เป็นระบบระบายความร้อนแบบปิดที่สามารถจับความร้อนจากอุปกรณ์ IT ได้ 100% - ลดการพึ่งพา เครื่องทำความเย็นราคาแพง ✅ สามารถทำงานที่อุณหภูมิน้ำสูงกว่าระบบทั่วไป (32-36°C) - ช่วยให้ ประหยัดพลังงานและลดต้นทุนการดำเนินงาน ✅ รองรับการตรวจจับการรั่วไหลและการตรวจสอบอุณหภูมิแบบเรียลไทม์ - ทำให้ สามารถป้องกันปัญหาด้านความร้อนก่อนที่จะเกิดขึ้น ✅ สามารถทำงานร่วมกับ Dell Integrated Rack Controller เพื่อการจัดการที่เป็นระบบ - ช่วยให้ ผู้ดูแลระบบสามารถควบคุมอุณหภูมิของศูนย์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ Dell ระบุว่าระบบนี้ช่วยให้สามารถเพิ่มจำนวนเซิร์ฟเวอร์โดยไม่ต้องเพิ่มการใช้พลังงาน - เหมาะสำหรับ ศูนย์ข้อมูลที่ต้องการขยายขีดความสามารถโดยไม่เพิ่มต้นทุนพลังงาน ‼️ การเปลี่ยนไปใช้ระบบ eRDHx อาจต้องมีการปรับโครงสร้างศูนย์ข้อมูล - ควร ตรวจสอบความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ที่มีอยู่ก่อนติดตั้ง https://www.techradar.com/pro/overheating-is-a-big-problem-for-ai-hardware-as-demand-rises-and-dell-thinks-it-might-have-the-answer
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD กำลังเตรียมเปิดตัว RX 10000 Series พร้อมสถาปัตยกรรม RDNA 5

    AMD กำลังเดินหน้าพัฒนา GPU รุ่นใหม่ภายใต้สถาปัตยกรรม RDNA 5 ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 โดยมีการปรับปรุงด้าน Ray Tracing, AI Acceleration และการออกแบบ Compute Unit ใหม่ทั้งหมด

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ RX 10000 Series และ RDNA 5
    ✅ RX 10000 Series อาจใช้กระบวนการผลิต 3nm แทน 5nm ของ RDNA 4
    - ช่วยให้ ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นและลดการใช้พลังงาน

    ✅ AMD อาจนำการออกแบบแบบ Chiplet มาใช้กับทุกโมเดล ไม่ใช่แค่รุ่น Workstation
    - ทำให้ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลได้โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดชิป

    ✅ Ray Tracing จะได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่
    - คาดว่า จะสามารถแข่งขันกับ Nvidia ได้ดีขึ้นในด้านการเรนเดอร์แสงและเงา

    ✅ รองรับ DisplayPort 2.2 และ AI-powered Frame Generation
    - ช่วยให้ การเล่นเกมมีความลื่นไหลมากขึ้น

    ✅ AMD กำลังขยายตลาดไปยัง AI และ Workstation GPU ด้วย Radeon AI Pro R9700
    - มี 32GB GDDR6 และฮาร์ดแวร์เร่งความเร็วสำหรับ AI Inference

    ‼️ RX 10000 Series อาจเปิดตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้
    - คาดว่า จะเปิดตัวกลางถึงปลายปี 2026

    https://computercity.com/hardware/video-cards/the-current-state-of-amd-gpus-and-what-comes-after-rdna-4
    AMD กำลังเตรียมเปิดตัว RX 10000 Series พร้อมสถาปัตยกรรม RDNA 5 AMD กำลังเดินหน้าพัฒนา GPU รุ่นใหม่ภายใต้สถาปัตยกรรม RDNA 5 ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 โดยมีการปรับปรุงด้าน Ray Tracing, AI Acceleration และการออกแบบ Compute Unit ใหม่ทั้งหมด 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ RX 10000 Series และ RDNA 5 ✅ RX 10000 Series อาจใช้กระบวนการผลิต 3nm แทน 5nm ของ RDNA 4 - ช่วยให้ ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นและลดการใช้พลังงาน ✅ AMD อาจนำการออกแบบแบบ Chiplet มาใช้กับทุกโมเดล ไม่ใช่แค่รุ่น Workstation - ทำให้ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลได้โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดชิป ✅ Ray Tracing จะได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ - คาดว่า จะสามารถแข่งขันกับ Nvidia ได้ดีขึ้นในด้านการเรนเดอร์แสงและเงา ✅ รองรับ DisplayPort 2.2 และ AI-powered Frame Generation - ช่วยให้ การเล่นเกมมีความลื่นไหลมากขึ้น ✅ AMD กำลังขยายตลาดไปยัง AI และ Workstation GPU ด้วย Radeon AI Pro R9700 - มี 32GB GDDR6 และฮาร์ดแวร์เร่งความเร็วสำหรับ AI Inference ‼️ RX 10000 Series อาจเปิดตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ - คาดว่า จะเปิดตัวกลางถึงปลายปี 2026 https://computercity.com/hardware/video-cards/the-current-state-of-amd-gpus-and-what-comes-after-rdna-4
    COMPUTERCITY.COM
    The Current State of AMD GPUs and What Comes After RDNA 4
    AMD’s Radeon RX 9000 series, unveiled in 2025, marks the company’s most aggressive push yet into the mid-range and professional GPU markets—leveraging RDNA 4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส่งกำลังใจให้อูกันดา ขออย่าให้เจอนักแจกประชาธิปไตยผู้บ้าคลั่งเข้าแทรกแซง!!

    อูกันดาประกาศการค้นพบแร่ทองคำมากกว่า 31 ล้านเมตริกตัน โดยมีทองคำบริสุทธิ์มากกว่า 320,000 ตัน มูลค่าสูงถึง 12 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

    หากความพยายามในการสกัดแร่ทองคำดำเนินไปได้อย่างราบรื่น อาจทำให้อูกันดากลายเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ของโลกได้ และอาจเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของอูกันดา ดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก และเขย่าตลาดทองคำระหว่างประเทศ

    มีรายงานว่า จีนอาจจะมีโอกาสมากกว่าใคร เนื่องจากอูกันดามีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน โดยในปี 2022 บริษัท Wagagai Gold Mining ของจีนได้รับอนุญาตให้พัฒนาแหล่งพลังงานน้ำมันบางส่วนในประเทศจากรัฐบาลอูกันดา โดยมีการลงทุนในโรงกลั่นมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์
    ส่งกำลังใจให้อูกันดา ขออย่าให้เจอนักแจกประชาธิปไตยผู้บ้าคลั่งเข้าแทรกแซง!! อูกันดาประกาศการค้นพบแร่ทองคำมากกว่า 31 ล้านเมตริกตัน โดยมีทองคำบริสุทธิ์มากกว่า 320,000 ตัน มูลค่าสูงถึง 12 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หากความพยายามในการสกัดแร่ทองคำดำเนินไปได้อย่างราบรื่น อาจทำให้อูกันดากลายเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ของโลกได้ และอาจเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของอูกันดา ดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก และเขย่าตลาดทองคำระหว่างประเทศ มีรายงานว่า จีนอาจจะมีโอกาสมากกว่าใคร เนื่องจากอูกันดามีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน โดยในปี 2022 บริษัท Wagagai Gold Mining ของจีนได้รับอนุญาตให้พัฒนาแหล่งพลังงานน้ำมันบางส่วนในประเทศจากรัฐบาลอูกันดา โดยมีการลงทุนในโรงกลั่นมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel เปิดตัว Core Ultra 200: โปรเซสเซอร์เวิร์กสเตชันราคาประหยัดที่มาพร้อมประสิทธิภาพเหนือคู่แข่ง

    Intel เปิดตัวโปรเซสเซอร์ Core Ultra 200 สำหรับเดสก์ท็อปและแล็ปท็อปเวิร์กสเตชัน โดยชูจุดเด่นด้าน ประสิทธิภาพสูงกว่าคู่แข่งในราคาที่เข้าถึงได้ ซึ่งรวมถึง Core Ultra 200S สำหรับเดสก์ท็อป และ Core Ultra 200HX และ 200H สำหรับแล็ปท็อป

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Core Ultra 200
    ✅ Core Ultra 200S ให้ประสิทธิภาพมัลติเธรดสูงกว่า Ryzen 9 9950X ถึง 13%
    - ทดสอบด้วย Cinebench Multicore 2024

    ✅ ประสิทธิภาพต่อวัตต์ดีกว่า Ryzen 9 9950X ถึง 11% ที่ 125W TDP
    - ช่วยให้ การใช้พลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ รองรับหน่วยความจำ DDR5 EEC สูงสุด 256GB-6400
    - พร้อม WiFi 6E และฟีเจอร์ Intel vPro สำหรับการจัดการระยะไกล

    ✅ Core Ultra 200HX ให้ประสิทธิภาพสูงกว่า Ryzen AI 9 HX 375 ถึง 42% ในงานมัลติเธรด
    - และ สูงกว่า 8% ในงานซิงเกิลเธรด

    ✅ Core Ultra 200H มีแบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 21 ชั่วโมง
    - พร้อม Arc 140T iGPU สำหรับงานมืออาชีพและการเล่นเกม

    ✅ HP ZBook Furey 18 เป็นแล็ปท็อปเวิร์กสเตชันรุ่นแรกที่ใช้ Core Ultra 200HX
    - มีกำหนดวางจำหน่าย มิถุนายน 2025

    https://wccftech.com/intel-entry-level-workstation-desktops-laptops-core-ultra-200-arrow-lake-cpus/
    Intel เปิดตัว Core Ultra 200: โปรเซสเซอร์เวิร์กสเตชันราคาประหยัดที่มาพร้อมประสิทธิภาพเหนือคู่แข่ง Intel เปิดตัวโปรเซสเซอร์ Core Ultra 200 สำหรับเดสก์ท็อปและแล็ปท็อปเวิร์กสเตชัน โดยชูจุดเด่นด้าน ประสิทธิภาพสูงกว่าคู่แข่งในราคาที่เข้าถึงได้ ซึ่งรวมถึง Core Ultra 200S สำหรับเดสก์ท็อป และ Core Ultra 200HX และ 200H สำหรับแล็ปท็อป 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Core Ultra 200 ✅ Core Ultra 200S ให้ประสิทธิภาพมัลติเธรดสูงกว่า Ryzen 9 9950X ถึง 13% - ทดสอบด้วย Cinebench Multicore 2024 ✅ ประสิทธิภาพต่อวัตต์ดีกว่า Ryzen 9 9950X ถึง 11% ที่ 125W TDP - ช่วยให้ การใช้พลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ รองรับหน่วยความจำ DDR5 EEC สูงสุด 256GB-6400 - พร้อม WiFi 6E และฟีเจอร์ Intel vPro สำหรับการจัดการระยะไกล ✅ Core Ultra 200HX ให้ประสิทธิภาพสูงกว่า Ryzen AI 9 HX 375 ถึง 42% ในงานมัลติเธรด - และ สูงกว่า 8% ในงานซิงเกิลเธรด ✅ Core Ultra 200H มีแบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 21 ชั่วโมง - พร้อม Arc 140T iGPU สำหรับงานมืออาชีพและการเล่นเกม ✅ HP ZBook Furey 18 เป็นแล็ปท็อปเวิร์กสเตชันรุ่นแรกที่ใช้ Core Ultra 200HX - มีกำหนดวางจำหน่าย มิถุนายน 2025 https://wccftech.com/intel-entry-level-workstation-desktops-laptops-core-ultra-200-arrow-lake-cpus/
    WCCFTECH.COM
    Intel Announces Entry-Level "Core Ultra 200" Workstation Desktop And Laptop CPUs
    Intel has unveiled a wide range of entry-level workstation solutions for consumers, featuring the Intel Arrow Lake "Core Ultra 200" CPUs.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • Minisforum เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ AI ที่ใช้ชิป Ryzen แทน EPYC – การเปลี่ยนแปลงที่ AMD อาจไม่พอใจ

    Minisforum เปิดตัว MS-S1 Max ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ 2U rackmount ที่ใช้ชิป Ryzen AI Max+ 395 แทนที่จะเป็น EPYC โดยบริษัทอ้างว่า ระบบนี้จะช่วยปฏิวัติการทำงานด้าน AI ในสภาพแวดล้อมคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม แนวทางนี้อาจส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์ของ AMD ในตลาดเซิร์ฟเวอร์

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ MS-S1 Max และผลกระทบต่อ AMD
    ✅ MS-S1 Max ใช้ชิป Ryzen AI Max+ 395 ซึ่งเป็นชิปสำหรับลูกค้า ไม่ใช่เซิร์ฟเวอร์
    - มี กราฟิก Radeon และ NPU สำหรับงาน AI

    ✅ Minisforum อ้างว่าเซิร์ฟเวอร์นี้เหมาะสำหรับมหาวิทยาลัย, ห้องทดลอง และสตาร์ทอัพด้าน AI
    - สามารถ รันโมเดลขนาดใหญ่ เช่น DeepSeek 70B ได้โดยไม่ต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานแบบดั้งเดิม

    ✅ MS-S1 Max มีขนาดเล็กเพียง 3.2 ลิตร และออกแบบให้เป็นระบบ all-in-one
    - ทำให้ มีประสิทธิภาพด้านพลังงานและต้นทุนต่ำกว่าระบบเซิร์ฟเวอร์ทั่วไป

    ✅ AMD อาจต้องตัดสินใจว่าจะยอมรับหรือจำกัดการใช้ Ryzen ในเซิร์ฟเวอร์
    - เนื่องจาก EPYC ได้รับการออกแบบมาเพื่อความน่าเชื่อถือและรองรับงานที่ต้องการความเสถียรสูง

    ✅ Ryzen ไม่มีการรองรับ ECC memory และฟีเจอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์
    - อาจทำให้ ไม่เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเสถียรระยะยาว

    https://www.techradar.com/pro/amd-has-a-problem-chinese-vendor-goes-rogue-and-puts-ryzen-ai-cpus-in-server-racks-instead-of-epyc-processors
    Minisforum เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ AI ที่ใช้ชิป Ryzen แทน EPYC – การเปลี่ยนแปลงที่ AMD อาจไม่พอใจ Minisforum เปิดตัว MS-S1 Max ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ 2U rackmount ที่ใช้ชิป Ryzen AI Max+ 395 แทนที่จะเป็น EPYC โดยบริษัทอ้างว่า ระบบนี้จะช่วยปฏิวัติการทำงานด้าน AI ในสภาพแวดล้อมคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม แนวทางนี้อาจส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์ของ AMD ในตลาดเซิร์ฟเวอร์ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ MS-S1 Max และผลกระทบต่อ AMD ✅ MS-S1 Max ใช้ชิป Ryzen AI Max+ 395 ซึ่งเป็นชิปสำหรับลูกค้า ไม่ใช่เซิร์ฟเวอร์ - มี กราฟิก Radeon และ NPU สำหรับงาน AI ✅ Minisforum อ้างว่าเซิร์ฟเวอร์นี้เหมาะสำหรับมหาวิทยาลัย, ห้องทดลอง และสตาร์ทอัพด้าน AI - สามารถ รันโมเดลขนาดใหญ่ เช่น DeepSeek 70B ได้โดยไม่ต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานแบบดั้งเดิม ✅ MS-S1 Max มีขนาดเล็กเพียง 3.2 ลิตร และออกแบบให้เป็นระบบ all-in-one - ทำให้ มีประสิทธิภาพด้านพลังงานและต้นทุนต่ำกว่าระบบเซิร์ฟเวอร์ทั่วไป ✅ AMD อาจต้องตัดสินใจว่าจะยอมรับหรือจำกัดการใช้ Ryzen ในเซิร์ฟเวอร์ - เนื่องจาก EPYC ได้รับการออกแบบมาเพื่อความน่าเชื่อถือและรองรับงานที่ต้องการความเสถียรสูง ✅ Ryzen ไม่มีการรองรับ ECC memory และฟีเจอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์ - อาจทำให้ ไม่เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเสถียรระยะยาว https://www.techradar.com/pro/amd-has-a-problem-chinese-vendor-goes-rogue-and-puts-ryzen-ai-cpus-in-server-racks-instead-of-epyc-processors
    WWW.TECHRADAR.COM
    This weird little Ryzen rack server could ruin AMD’s carefully planned EPYC business empire
    MS-S1 Max is the AI rebel server AMD didn’t want, but might have to live with
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • Gabe Newell เปิดตัวชิป Brain-Computer Interface รุ่นแรกผ่านบริษัท Starfish Neuroscience

    Starfish Neuroscience บริษัทที่ก่อตั้งโดย Gabe Newell CEO ของ Valve ได้เผยรายละเอียดเกี่ยวกับ ชิป Brain-Computer Interface (BCI) รุ่นแรก ซึ่งมีจุดเด่นคือ ระบบไร้สายและไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ โดยคาดว่าจะเปิดตัว ปลายปี 2025

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับชิป BCI ของ Starfish Neuroscience
    ✅ Starfish BCI เป็นระบบไร้สายและไม่ต้องใช้แบตเตอรี่
    - ใช้พลังงานเพียง 1.1mW ซึ่งต่ำกว่าชิป Neuralink N1 ที่ใช้ 6mW

    ✅ ขนาดเล็กมากเพียง 2x4 มม. และใช้เทคโนโลยี TSMC 55nm
    - สามารถ ฝังในสมองได้โดยมีผลกระทบน้อยที่สุด

    ✅ รองรับการบันทึกและกระตุ้นสัญญาณสมอง
    - มี 32 electrode sites และ 16 ช่องบันทึกข้อมูลที่ความถี่ 18.75kHz

    ✅ สามารถเชื่อมต่อกับหลายส่วนของสมองพร้อมกัน
    - อาจช่วย รักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับหลายพื้นที่ของสมอง เช่น Parkinson’s

    ✅ Starfish กำลังมองหาพันธมิตรเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มเติม
    - รวมถึง ระบบส่งพลังงานไร้สายและอินเทอร์เฟซประสาทแบบฝังตัว

    https://www.tomshardware.com/peripherals/wearable-tech/gabe-newells-brain-computer-interface-startup-to-reveal-first-chips-later-this-year
    Gabe Newell เปิดตัวชิป Brain-Computer Interface รุ่นแรกผ่านบริษัท Starfish Neuroscience Starfish Neuroscience บริษัทที่ก่อตั้งโดย Gabe Newell CEO ของ Valve ได้เผยรายละเอียดเกี่ยวกับ ชิป Brain-Computer Interface (BCI) รุ่นแรก ซึ่งมีจุดเด่นคือ ระบบไร้สายและไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ โดยคาดว่าจะเปิดตัว ปลายปี 2025 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับชิป BCI ของ Starfish Neuroscience ✅ Starfish BCI เป็นระบบไร้สายและไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ - ใช้พลังงานเพียง 1.1mW ซึ่งต่ำกว่าชิป Neuralink N1 ที่ใช้ 6mW ✅ ขนาดเล็กมากเพียง 2x4 มม. และใช้เทคโนโลยี TSMC 55nm - สามารถ ฝังในสมองได้โดยมีผลกระทบน้อยที่สุด ✅ รองรับการบันทึกและกระตุ้นสัญญาณสมอง - มี 32 electrode sites และ 16 ช่องบันทึกข้อมูลที่ความถี่ 18.75kHz ✅ สามารถเชื่อมต่อกับหลายส่วนของสมองพร้อมกัน - อาจช่วย รักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับหลายพื้นที่ของสมอง เช่น Parkinson’s ✅ Starfish กำลังมองหาพันธมิตรเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มเติม - รวมถึง ระบบส่งพลังงานไร้สายและอินเทอร์เฟซประสาทแบบฝังตัว https://www.tomshardware.com/peripherals/wearable-tech/gabe-newells-brain-computer-interface-startup-to-reveal-first-chips-later-this-year
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Gabe Newell’s brain-computer interface startup to reveal first chips later this year
    Starfish aims to roll out a battery-free system which connects to multiple parts of the brain simultaneously.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • งาน Dell Technologies World 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2568 ณ ลาสเวกัส มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชันใหม่ๆ ที่เน้นเทคโนโลยี AI และโครงสร้างพื้นฐานสำหรับองค์กร ดังนี้:
    1️⃣ Dell AI Factory with NVIDIA 2.0
    - อัปเกรดจากเวอร์ชันแรกที่เปิดตัวในปี 2024 เป็นโซลูชันที่รวมโครงสร้างพื้นฐาน AI อันทรงพลังและประหยัดพลังงาน รองรับการประมวลผล AI ในระดับองค์กร
    - รองรับการใช้งาน Large Language Models (LLMs) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีค่าใช้จ่ายในการประมวลผลบน On-Premises ถูกกว่าการใช้ Public Cloud สูงสุดถึง 62%
    - รองรับ GPU สูงสุด 256 ตัวในเซิร์ฟเวอร์ PowerEdge เพื่อประมวลผล AI ขนาดใหญ่
    2️⃣ เซิร์ฟเวอร์ PowerEdge รุ่นใหม่
    - ออกแบบมาเพื่อรองรับการประมวลผล AI โดยเฉพาะ รองรับ NVIDIA GPUs เช่น GB10 และ GB300 รวมถึง RTX Pro Enterprise Server Edition สำหรับงาน AI ในระดับองค์กร
    - มีการปรับปรุงด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงานให้เหมาะสมกับ AI Factories
    3️⃣ Dell Project Lightning
    - ระบบไฟล์แบบ Parallel ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วย Throughput สูงกว่าคู่แข่งถึง 2 เท่า ช่วยเร่งการฝึกอบรม AI และจัดการเวิร์กโหลดที่ซับซ้อน
    - เหมาะสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่น Recommendation Engines และ Semantic Search
    4️⃣ Dell Data Lakehouse Enhancements
    - ปรับปรุงเพื่อลดความซับซ้อนของเวิร์กโฟลว์ AI ช่วยให้สร้างและจัดการชุดข้อมูลที่พร้อมสำหรับ AI ได้ง่ายขึ้น รองรับ use cases เช่น การตรวจจับเจตนาของลูกค้า
    5️⃣ พีซี AI รุ่นใหม่
    - เปิดตัวพีซีเครื่องแรกของโลกที่มาพร้อม Qualcomm AI Accelerator แบบ Discrete เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล AI ที่ Edge
    - Dell Pro Max และ Pro Max Plus รุ่นใหม่ ใช้ชิป Qualcomm แทน NVIDIA เพื่อการประมวลผล AI ที่ Edge อย่างมีประสิทธิภาพ
    6️⃣ Dell Linear Pluggable Optics
    - เทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ช่วยลดการใช้พลังงาน ลด Latency และประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับ High Performance Computing (HPC) และ AI Fabrics
    7️⃣ Dell AI Security and Resiliency Services
    - บริการด้านความปลอดภัยและความยืดหยุ่นสำหรับ AI คาดว่าจะวางจำหน่ายในบางประเทศตั้งแต่มิถุนายน 2568
    8️⃣ จอภาพและอุปกรณ์ใหม่
    - จอ Dell UltraSharp 32 4K Thunderbolt Hub Monitor: จอแรกของโลกที่มี IPS Black Contrast Ratio 3000:1 ได้รับคะแนน 5 ดาวด้าน Eye Comfort
    - จอ Dell 32 Plus 4K QD-OLED Monitor: มาพร้อม 3D Spatial Audio และ Dolby Vision
    - Area-51 Desktop และ Laptop (16 และ 18 นิ้ว): ออกแบบใหม่สำหรับเกมเมอร์ ด้วยเทคโนโลยีระบายความร้อนขั้นสูงและดีไซน์ Sci-Fi
    9️⃣ Dell NativeEdge AI Updates
    - อัปเดตซอฟต์แวร์สำหรับการจัดการ AI ที่ Edge วางจำหน่ายแล้วในบางประเทศ
    ℹ️ℹ️ หมายเหตุ ℹ️ℹ️
    - งานนี้เน้นหนักไปที่ AI และโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง โดยมีการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์อย่าง NVIDIA, AMD, Intel, และ Qualcomm เพื่อเสริมแกร่งโซลูชัน
    - ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่เน้นการใช้งานในระดับองค์กร แต่ก็มีบางส่วน เช่น จอภาพและพีซี Area-51 ที่เจาะกลุ่มผู้บริโภคและเกมเมอร์
    - ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ อาจมีการอัปเดตเพิ่มเติม สามารถติดตามผ่านเว็บไซต์ Dell หรือ session recaps จากงาน

    งาน Dell Technologies World 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2568 ณ ลาสเวกัส มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชันใหม่ๆ ที่เน้นเทคโนโลยี AI และโครงสร้างพื้นฐานสำหรับองค์กร ดังนี้: 1️⃣ Dell AI Factory with NVIDIA 2.0 - อัปเกรดจากเวอร์ชันแรกที่เปิดตัวในปี 2024 เป็นโซลูชันที่รวมโครงสร้างพื้นฐาน AI อันทรงพลังและประหยัดพลังงาน รองรับการประมวลผล AI ในระดับองค์กร - รองรับการใช้งาน Large Language Models (LLMs) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีค่าใช้จ่ายในการประมวลผลบน On-Premises ถูกกว่าการใช้ Public Cloud สูงสุดถึง 62% - รองรับ GPU สูงสุด 256 ตัวในเซิร์ฟเวอร์ PowerEdge เพื่อประมวลผล AI ขนาดใหญ่ 2️⃣ เซิร์ฟเวอร์ PowerEdge รุ่นใหม่ - ออกแบบมาเพื่อรองรับการประมวลผล AI โดยเฉพาะ รองรับ NVIDIA GPUs เช่น GB10 และ GB300 รวมถึง RTX Pro Enterprise Server Edition สำหรับงาน AI ในระดับองค์กร - มีการปรับปรุงด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงานให้เหมาะสมกับ AI Factories 3️⃣ Dell Project Lightning - ระบบไฟล์แบบ Parallel ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วย Throughput สูงกว่าคู่แข่งถึง 2 เท่า ช่วยเร่งการฝึกอบรม AI และจัดการเวิร์กโหลดที่ซับซ้อน - เหมาะสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่น Recommendation Engines และ Semantic Search 4️⃣ Dell Data Lakehouse Enhancements - ปรับปรุงเพื่อลดความซับซ้อนของเวิร์กโฟลว์ AI ช่วยให้สร้างและจัดการชุดข้อมูลที่พร้อมสำหรับ AI ได้ง่ายขึ้น รองรับ use cases เช่น การตรวจจับเจตนาของลูกค้า 5️⃣ พีซี AI รุ่นใหม่ - เปิดตัวพีซีเครื่องแรกของโลกที่มาพร้อม Qualcomm AI Accelerator แบบ Discrete เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล AI ที่ Edge - Dell Pro Max และ Pro Max Plus รุ่นใหม่ ใช้ชิป Qualcomm แทน NVIDIA เพื่อการประมวลผล AI ที่ Edge อย่างมีประสิทธิภาพ 6️⃣ Dell Linear Pluggable Optics - เทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ช่วยลดการใช้พลังงาน ลด Latency และประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับ High Performance Computing (HPC) และ AI Fabrics 7️⃣ Dell AI Security and Resiliency Services - บริการด้านความปลอดภัยและความยืดหยุ่นสำหรับ AI คาดว่าจะวางจำหน่ายในบางประเทศตั้งแต่มิถุนายน 2568 8️⃣ จอภาพและอุปกรณ์ใหม่ - จอ Dell UltraSharp 32 4K Thunderbolt Hub Monitor: จอแรกของโลกที่มี IPS Black Contrast Ratio 3000:1 ได้รับคะแนน 5 ดาวด้าน Eye Comfort - จอ Dell 32 Plus 4K QD-OLED Monitor: มาพร้อม 3D Spatial Audio และ Dolby Vision - Area-51 Desktop และ Laptop (16 และ 18 นิ้ว): ออกแบบใหม่สำหรับเกมเมอร์ ด้วยเทคโนโลยีระบายความร้อนขั้นสูงและดีไซน์ Sci-Fi 9️⃣ Dell NativeEdge AI Updates - อัปเดตซอฟต์แวร์สำหรับการจัดการ AI ที่ Edge วางจำหน่ายแล้วในบางประเทศ ℹ️ℹ️ หมายเหตุ ℹ️ℹ️ - งานนี้เน้นหนักไปที่ AI และโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง โดยมีการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์อย่าง NVIDIA, AMD, Intel, และ Qualcomm เพื่อเสริมแกร่งโซลูชัน - ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่เน้นการใช้งานในระดับองค์กร แต่ก็มีบางส่วน เช่น จอภาพและพีซี Area-51 ที่เจาะกลุ่มผู้บริโภคและเกมเมอร์ - ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ อาจมีการอัปเดตเพิ่มเติม สามารถติดตามผ่านเว็บไซต์ Dell หรือ session recaps จากงาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 209 มุมมอง 0 รีวิว
  • สรุปงาน Computex 2025 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 พฤษภาคม 2568 ณ กรุงไทเป ไต้หวัน ภายใต้ธีม “AI Next” ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เน้น AI, หุ่นยนต์, เทคโนโลยีรุ่นถัดไป และการเคลื่อนที่แห่งอนาคต นี่คือสรุปผลิตภัณฑ์ใหม่เด่นๆ จากงาน:

    1️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก NVIDIA
    • GeForce RTX 50 Series: การ์ดจอรุ่นใหม่ เช่น RTX 5060, 5070 Ti, 5080, และ 5090 เน้นประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกมและงาน AI มีฟีเจอร์ DLSS 4 และ Multi Frame Generation เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด.
    • DGX Spark และ DGX Station: อุปกรณ์สำหรับการวิจัยและพัฒนา AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล AI.
    • NVLink Fusion: เทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐาน AI แบบกึ่งสำเร็จรูป ช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อและประสิทธิภาพสำหรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI.
    • AI Infrastructure: NVIDIA ผลักดันวิสัยทัศน์โรงงาน AI และการพัฒนา agentic AI รวมถึง physical AI สำหรับหุ่นยนต์และโทรคมนาคม.

    2️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Intel
    • Core Ultra 200V Series Processors: ได้รับรางวัล COMPUTEX 2025 Best Choice Award เน้นประสิทธิภาพ AI, ความปลอดภัย และความเร็วสำหรับงานทุกประเภท.
    • Xeon 6 Processors และ Gaudi 3 AI Accelerators: ออกแบบสำหรับศูนย์ข้อมูลสมัยใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่น.
    • Intel Arc Pro B50 และ B60: การ์ดกราฟิกสำหรับงาน AI และเวิร์คสเตชันระดับมืออาชีพ.

    3️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก AMD
    • Radeon RX 9060 XT: การ์ดจอรุ่นใหม่ ใช้สถาปัตยกรรม Navi 44 มีหน่วยความจำ GDDR6 สูงสุด 16GB และเพิ่มประสิทธิภาพ Ray Tracing 2 เท่า ราคาเริ่มต้น 299 ดอลลาร์.
    • Ryzen Threadripper 9000 Series: CPU สำหรับเดสก์ท็อปและเวิร์คสเตชัน รุ่นท็อป Ryzen 9 9995WX มี 96 คอร์ 192 เธรด ความเร็วสูงสุด 5.4GHz.
    • Ryzen AI Max: CPU สำหรับอุปกรณ์พกพา เช่น เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์ เพิ่มประสิทธิภาพและแบตเตอรี่.

    4️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก MSI
    • Claw A8 BZ2EM และ Claw 7 A2HM: เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์รุ่นใหม่ รองรับทั้งโปรเซสเซอร์ Intel และ AMD มีรุ่น Polar Tempest Edition สีขาวพร้อมสตอเรจเพิ่มเป็น 2 เท่า.
    • QD-OLED Monitor และ MEG Vision X AI PC: จอมอนิเตอร์และพีซีที่ผสาน AI เช่น AI Care Sensor และ AI Navigator เพื่อป้องกัน burn-in และปรับแต่งการตั้งค่า.
    • Titan 18 HX Dragon Edition: เดสก์ท็อปพรีเมียมพร้อมจอสัมผัส 13 นิ้วที่ด้านหน้า รองรับ RTX 5090 และ Intel Core Ultra 9 CPU.

    5️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก ASUS
    • ROG Ally X และ ROG Ally 2 (คาดการณ์): เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์รุ่นใหม่ ใช้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Z2 Extreme และอาจมี Windows รุ่นปรับแต่งให้เหมาะกับแฮนด์เฮลด์.
    • ProArt RTX 5080: การ์ดจอสำหรับครีเอเตอร์ มีพอร์ต USB-C และสล็อต M.2 SSD พร้อมดีไซน์ไม้เทียม.
    • ROG Bulwark Dock: ด็อก 7-in-1 สำหรับแฮนด์เฮลด์ รองรับ 4K 144Hz ผ่าน HDMI 2.1.

    6️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก MediaTek
    • AI Solutions: นำเสนอวิสัยทัศน์ “AI for Everyone: From Edge to Cloud” รวมถึง AI ในสมาร์ทโฟน บ้านอัจฉริยะ รถยนต์ และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ผสานกับ NVIDIA สำหรับโซลูชัน AI ครบวงจร.
    • Smart Auto Central และ Hybrid AI Computing: โซลูชันสำหรับยานยนต์และการประมวลผลแบบผสมผสานระหว่าง edge และ cloud.

    7️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Kingston
    • XS1000 และ XS2000 SSD: SSD แบบพกพาดีไซน์ใหม่ เน้นความเร็วและพกพาสะดวก.
    • DataTraveler Exodia S USB Flash Drive: แฟลชไดรฟ์ USB 3.2 Gen 1 ดีไซน์เพรียวบาง ใช้งานง่าย.
    • Future City Showcase: นำเสนอโซลูชันหน่วยความจำสำหรับ AI, หุ่นยนต์, เกมมิ่ง และอุตสาหกรรมการบิน.

    8️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก GIGABYTE
    • AORUS MASTER 16 AI PC: ได้รับรางวัล COMPUTEX 2025 Best Choice Award เน้นประสิทธิภาพ AI.
    • GIGAPOD และ AIOps Platform: โซลูชันซูเปอร์คอมพิวติ้งสำหรับ AI และศูนย์ข้อมูล.
    • BRIX AI Mini-PCs: มินิพีซีที่ใช้ AMD Ryzen 7 PRO และ Intel Core Ultra CPU พร้อม NPU สำหรับ edge computing.

    9️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Supermicro
    • High-Performance Server Architectures: เซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูงและโซลูชันระบายความร้อนด้วยของเหลวสำหรับ AI และ HPC.
    • Green Computing Initiatives: เทคโนโลยีประหยัดพลังงานสำหรับศูนย์ข้อมูล.

    🔟 ผลิตภัณฑ์อื่นๆ
    • Acer Predator Triton 14 AI: แล็ปท็อปเกมมิ่งดีไซน์พรีเมียม ใช้ RTX 50-series และมีสารเคลือบป้องกันรอยนิ้วมือ.
    • Acer PD243Y E: จอมอนิเตอร์พกพาแบบ dual-screen สำหรับการทำงานนอกสถานที่.
    • Cherry MX Honey Switches: สวิตช์คีย์บอร์ดที่ให้ความรู้สึกแบบเมคานิคอลแต่ลดเสียงรบกวน.
    • Phison aiDAPTIV+: โซลูชันสำหรับการฝึก LLM ในสถานที่โดยไม่ต้องใช้ GPU จำนวนมาก เน้นความเป็นส่วนตัวและประหยัดต้นทุน.
    • V-Color Xfinity Manta DDR5 RAM: RAM พร้อมจอ LCD แสดงข้อมูลเช่น ความเร็วและแรงดันไฟ.
    • Thermaltake MineCube 360: ระบบระบายความร้อน AIO พร้อมจอ 720x720 แสดงภาพ Minecraft.

    💯 สรุป 💯
    งาน Computex 2025 เน้นหนักไปที่ AI ในทุกมิติ ตั้งแต่การ์ดจอ, CPU, เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์, แล็ปท็อป, ไปจนถึงโซลูชันสำหรับศูนย์ข้อมูลและ edge computing นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อประสิทธิภาพการเล่นเกม, การประหยัดพลังงาน และอุปกรณ์พกพาที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ผู้ผลิตอย่าง NVIDIA, Intel, AMD, MSI, ASUS, MediaTek และ Kingston ต่างนำเสนอนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคทั่วไปและภาคธุรกิจ
    สรุปงาน Computex 2025 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 พฤษภาคม 2568 ณ กรุงไทเป ไต้หวัน ภายใต้ธีม “AI Next” ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เน้น AI, หุ่นยนต์, เทคโนโลยีรุ่นถัดไป และการเคลื่อนที่แห่งอนาคต นี่คือสรุปผลิตภัณฑ์ใหม่เด่นๆ จากงาน: 1️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก NVIDIA • GeForce RTX 50 Series: การ์ดจอรุ่นใหม่ เช่น RTX 5060, 5070 Ti, 5080, และ 5090 เน้นประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกมและงาน AI มีฟีเจอร์ DLSS 4 และ Multi Frame Generation เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด. • DGX Spark และ DGX Station: อุปกรณ์สำหรับการวิจัยและพัฒนา AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล AI. • NVLink Fusion: เทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐาน AI แบบกึ่งสำเร็จรูป ช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อและประสิทธิภาพสำหรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI. • AI Infrastructure: NVIDIA ผลักดันวิสัยทัศน์โรงงาน AI และการพัฒนา agentic AI รวมถึง physical AI สำหรับหุ่นยนต์และโทรคมนาคม. 2️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Intel • Core Ultra 200V Series Processors: ได้รับรางวัล COMPUTEX 2025 Best Choice Award เน้นประสิทธิภาพ AI, ความปลอดภัย และความเร็วสำหรับงานทุกประเภท. • Xeon 6 Processors และ Gaudi 3 AI Accelerators: ออกแบบสำหรับศูนย์ข้อมูลสมัยใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่น. • Intel Arc Pro B50 และ B60: การ์ดกราฟิกสำหรับงาน AI และเวิร์คสเตชันระดับมืออาชีพ. 3️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก AMD • Radeon RX 9060 XT: การ์ดจอรุ่นใหม่ ใช้สถาปัตยกรรม Navi 44 มีหน่วยความจำ GDDR6 สูงสุด 16GB และเพิ่มประสิทธิภาพ Ray Tracing 2 เท่า ราคาเริ่มต้น 299 ดอลลาร์. • Ryzen Threadripper 9000 Series: CPU สำหรับเดสก์ท็อปและเวิร์คสเตชัน รุ่นท็อป Ryzen 9 9995WX มี 96 คอร์ 192 เธรด ความเร็วสูงสุด 5.4GHz. • Ryzen AI Max: CPU สำหรับอุปกรณ์พกพา เช่น เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์ เพิ่มประสิทธิภาพและแบตเตอรี่. 4️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก MSI • Claw A8 BZ2EM และ Claw 7 A2HM: เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์รุ่นใหม่ รองรับทั้งโปรเซสเซอร์ Intel และ AMD มีรุ่น Polar Tempest Edition สีขาวพร้อมสตอเรจเพิ่มเป็น 2 เท่า. • QD-OLED Monitor และ MEG Vision X AI PC: จอมอนิเตอร์และพีซีที่ผสาน AI เช่น AI Care Sensor และ AI Navigator เพื่อป้องกัน burn-in และปรับแต่งการตั้งค่า. • Titan 18 HX Dragon Edition: เดสก์ท็อปพรีเมียมพร้อมจอสัมผัส 13 นิ้วที่ด้านหน้า รองรับ RTX 5090 และ Intel Core Ultra 9 CPU. 5️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก ASUS • ROG Ally X และ ROG Ally 2 (คาดการณ์): เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์รุ่นใหม่ ใช้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Z2 Extreme และอาจมี Windows รุ่นปรับแต่งให้เหมาะกับแฮนด์เฮลด์. • ProArt RTX 5080: การ์ดจอสำหรับครีเอเตอร์ มีพอร์ต USB-C และสล็อต M.2 SSD พร้อมดีไซน์ไม้เทียม. • ROG Bulwark Dock: ด็อก 7-in-1 สำหรับแฮนด์เฮลด์ รองรับ 4K 144Hz ผ่าน HDMI 2.1. 6️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก MediaTek • AI Solutions: นำเสนอวิสัยทัศน์ “AI for Everyone: From Edge to Cloud” รวมถึง AI ในสมาร์ทโฟน บ้านอัจฉริยะ รถยนต์ และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ผสานกับ NVIDIA สำหรับโซลูชัน AI ครบวงจร. • Smart Auto Central และ Hybrid AI Computing: โซลูชันสำหรับยานยนต์และการประมวลผลแบบผสมผสานระหว่าง edge และ cloud. 7️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Kingston • XS1000 และ XS2000 SSD: SSD แบบพกพาดีไซน์ใหม่ เน้นความเร็วและพกพาสะดวก. • DataTraveler Exodia S USB Flash Drive: แฟลชไดรฟ์ USB 3.2 Gen 1 ดีไซน์เพรียวบาง ใช้งานง่าย. • Future City Showcase: นำเสนอโซลูชันหน่วยความจำสำหรับ AI, หุ่นยนต์, เกมมิ่ง และอุตสาหกรรมการบิน. 8️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก GIGABYTE • AORUS MASTER 16 AI PC: ได้รับรางวัล COMPUTEX 2025 Best Choice Award เน้นประสิทธิภาพ AI. • GIGAPOD และ AIOps Platform: โซลูชันซูเปอร์คอมพิวติ้งสำหรับ AI และศูนย์ข้อมูล. • BRIX AI Mini-PCs: มินิพีซีที่ใช้ AMD Ryzen 7 PRO และ Intel Core Ultra CPU พร้อม NPU สำหรับ edge computing. 9️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Supermicro • High-Performance Server Architectures: เซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูงและโซลูชันระบายความร้อนด้วยของเหลวสำหรับ AI และ HPC. • Green Computing Initiatives: เทคโนโลยีประหยัดพลังงานสำหรับศูนย์ข้อมูล. 🔟 ผลิตภัณฑ์อื่นๆ • Acer Predator Triton 14 AI: แล็ปท็อปเกมมิ่งดีไซน์พรีเมียม ใช้ RTX 50-series และมีสารเคลือบป้องกันรอยนิ้วมือ. • Acer PD243Y E: จอมอนิเตอร์พกพาแบบ dual-screen สำหรับการทำงานนอกสถานที่. • Cherry MX Honey Switches: สวิตช์คีย์บอร์ดที่ให้ความรู้สึกแบบเมคานิคอลแต่ลดเสียงรบกวน. • Phison aiDAPTIV+: โซลูชันสำหรับการฝึก LLM ในสถานที่โดยไม่ต้องใช้ GPU จำนวนมาก เน้นความเป็นส่วนตัวและประหยัดต้นทุน. • V-Color Xfinity Manta DDR5 RAM: RAM พร้อมจอ LCD แสดงข้อมูลเช่น ความเร็วและแรงดันไฟ. • Thermaltake MineCube 360: ระบบระบายความร้อน AIO พร้อมจอ 720x720 แสดงภาพ Minecraft. 💯 สรุป 💯 งาน Computex 2025 เน้นหนักไปที่ AI ในทุกมิติ ตั้งแต่การ์ดจอ, CPU, เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์, แล็ปท็อป, ไปจนถึงโซลูชันสำหรับศูนย์ข้อมูลและ edge computing นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อประสิทธิภาพการเล่นเกม, การประหยัดพลังงาน และอุปกรณ์พกพาที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ผู้ผลิตอย่าง NVIDIA, Intel, AMD, MSI, ASUS, MediaTek และ Kingston ต่างนำเสนอนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคทั่วไปและภาคธุรกิจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 299 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI กำลังผลาญพลังงานมหาศาล: วิดีโอ 5 วินาทีใช้พลังงานเท่ากับไมโครเวฟ 1 ชั่วโมง

    รายงานจาก MIT Technology Review เผยว่า AI กำลังใช้พลังงานและน้ำในปริมาณมหาศาล โดยเฉพาะ การสร้างวิดีโอ AI ที่ใช้พลังงานเทียบเท่ากับการเปิดไมโครเวฟเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมในอนาคต

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการใช้พลังงานของ AI
    ✅ วิดีโอ AI ความยาว 5 วินาทีใช้พลังงานถึง 3.4 ล้านจูล
    - เทียบเท่ากับ การเปิดไมโครเวฟเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง

    ✅ การใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูลเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตั้งแต่ปี 2017
    - คาดว่า AI จะใช้พลังงานถึง 50% ของทั้งหมดภายในปี 2028

    ✅ AI chatbot ใช้พลังงานตั้งแต่ 114 ถึง 6,700 จูลต่อข้อความ
    - ขึ้นอยู่กับ ความซับซ้อนของคำตอบที่สร้างขึ้น

    ✅ ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ต้องใช้น้ำหลายล้านแกลลอนต่อวันเพื่อระบายความร้อน
    - ส่งผลต่อ ทรัพยากรน้ำในพื้นที่ที่มีการใช้งานสูง

    ✅ Microsoft กำลังพิจารณาใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อรองรับความต้องการของ AI
    - เป็นหนึ่งในแนวทาง ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/youll-be-as-annoyed-as-me-when-you-learn-how-much-energy-a-few-seconds-of-ai-video-costs
    AI กำลังผลาญพลังงานมหาศาล: วิดีโอ 5 วินาทีใช้พลังงานเท่ากับไมโครเวฟ 1 ชั่วโมง รายงานจาก MIT Technology Review เผยว่า AI กำลังใช้พลังงานและน้ำในปริมาณมหาศาล โดยเฉพาะ การสร้างวิดีโอ AI ที่ใช้พลังงานเทียบเท่ากับการเปิดไมโครเวฟเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมในอนาคต 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการใช้พลังงานของ AI ✅ วิดีโอ AI ความยาว 5 วินาทีใช้พลังงานถึง 3.4 ล้านจูล - เทียบเท่ากับ การเปิดไมโครเวฟเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ✅ การใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูลเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตั้งแต่ปี 2017 - คาดว่า AI จะใช้พลังงานถึง 50% ของทั้งหมดภายในปี 2028 ✅ AI chatbot ใช้พลังงานตั้งแต่ 114 ถึง 6,700 จูลต่อข้อความ - ขึ้นอยู่กับ ความซับซ้อนของคำตอบที่สร้างขึ้น ✅ ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ต้องใช้น้ำหลายล้านแกลลอนต่อวันเพื่อระบายความร้อน - ส่งผลต่อ ทรัพยากรน้ำในพื้นที่ที่มีการใช้งานสูง ✅ Microsoft กำลังพิจารณาใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อรองรับความต้องการของ AI - เป็นหนึ่งในแนวทาง ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/youll-be-as-annoyed-as-me-when-you-learn-how-much-energy-a-few-seconds-of-ai-video-costs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 รีวิว
  • Crucial เปิดตัว SSD พกพา X10 และ T710 ที่มีความจุสูงและความเร็วระดับ Gen5

    Crucial เปิดตัว SSD รุ่นใหม่ที่งาน Computex 2025 โดยมี Crucial X10 ซึ่งเป็น SSD พกพาขนาดเล็กที่มีความจุสูงถึง 8TB และ Crucial T710 ซึ่งเป็น PCIe Gen5 NVMe SSD ที่มีความเร็วสูงสุดถึง 14,900MB/s

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Crucial X10 และ T710
    ✅ Crucial X10 เป็น SSD พกพาที่มีความจุสูงถึง 8TB
    - ขนาดเล็กเทียบเท่ากับ กองบัตรเครดิต
    - ใช้ SM2322 controller และมี IP65 กันฝุ่นและน้ำ

    ✅ Crucial X10 มีความเร็วอ่านสูงสุด 2,100MB/s
    - เหมาะสำหรับ การสำรองข้อมูลขนาดใหญ่และการเล่นเกม

    ✅ Crucial T710 เป็น PCIe Gen5 NVMe SSD ที่มีความเร็วสูงสุด 14,900MB/s
    - ใช้ Micron G9 NAND และ Silicon Motion SM2508 controller
    - รองรับ AI workloads และเกมระดับสูง

    ✅ Crucial T710 มี IOPS สูงถึง 2.2 ล้านสำหรับการอ่าน และ 2.3 ล้านสำหรับการเขียน
    - สามารถ โหลดโมเดล AI เช่น Llama 2 ได้ภายในเวลาไม่ถึงวินาที

    ✅ Crucial T710 มีประสิทธิภาพพลังงานสูงขึ้น 67% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
    - ช่วยให้ สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระบบที่มีข้อจำกัดด้านพลังงาน

    https://www.techradar.com/pro/i-cant-believe-crucial-managed-to-squeeze-8tb-into-something-barely-bigger-than-a-stack-of-credit-cards
    Crucial เปิดตัว SSD พกพา X10 และ T710 ที่มีความจุสูงและความเร็วระดับ Gen5 Crucial เปิดตัว SSD รุ่นใหม่ที่งาน Computex 2025 โดยมี Crucial X10 ซึ่งเป็น SSD พกพาขนาดเล็กที่มีความจุสูงถึง 8TB และ Crucial T710 ซึ่งเป็น PCIe Gen5 NVMe SSD ที่มีความเร็วสูงสุดถึง 14,900MB/s 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Crucial X10 และ T710 ✅ Crucial X10 เป็น SSD พกพาที่มีความจุสูงถึง 8TB - ขนาดเล็กเทียบเท่ากับ กองบัตรเครดิต - ใช้ SM2322 controller และมี IP65 กันฝุ่นและน้ำ ✅ Crucial X10 มีความเร็วอ่านสูงสุด 2,100MB/s - เหมาะสำหรับ การสำรองข้อมูลขนาดใหญ่และการเล่นเกม ✅ Crucial T710 เป็น PCIe Gen5 NVMe SSD ที่มีความเร็วสูงสุด 14,900MB/s - ใช้ Micron G9 NAND และ Silicon Motion SM2508 controller - รองรับ AI workloads และเกมระดับสูง ✅ Crucial T710 มี IOPS สูงถึง 2.2 ล้านสำหรับการอ่าน และ 2.3 ล้านสำหรับการเขียน - สามารถ โหลดโมเดล AI เช่น Llama 2 ได้ภายในเวลาไม่ถึงวินาที ✅ Crucial T710 มีประสิทธิภาพพลังงานสูงขึ้น 67% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า - ช่วยให้ สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระบบที่มีข้อจำกัดด้านพลังงาน https://www.techradar.com/pro/i-cant-believe-crucial-managed-to-squeeze-8tb-into-something-barely-bigger-than-a-stack-of-credit-cards
    WWW.TECHRADAR.COM
    You won’t believe how tiny this 8TB Crucial SSD is - and yes, it’s real and shipping
    Internal tests show blazing speeds, but real-world performance may fall short
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในขณะสหรัฐกดดันอิหร่านและทั่วโลกไม่ให้มีนิวเคลียร์ แต่กระทรวงพลังงานสหรัฐเพิ่งประกาศข่าวดี สามารถผลิตระเบิดนิวเคลียร์ B61-13 รุ่นใหม่สำเร็จแล้ว

    กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า Pantex ซึ่งเป็นโรงงานถอดประกอบอาวุธนิวเคลียร์แห่งแรกของสหรัฐฯ ตั้งอยู่ในรัฐเท็กซัส สามารถผลิตระเบิดนิวเคลียร์ B61-13 รุ่นใหม่ครั้งแรกเสร็จสิ้นเร็วกว่ากำหนดประมาณ 1 ปี

    ระเบิดนิวเคลียร์ B61-13 ได้รับการพัฒนาจากระเบิดนิวเคลียร์ B61-12 รุ่นก่อนหน้า แต่ให้ผลการทำลายที่สูงกว่า จากแหล่งข่าวระบุว่า พลังระเบิดของระเบิดนิวเคลียร์รุ่นใหม่ B61-13 มากกว่าระเบิดที่ฮิโรชิม่าถึง 24 เท่า และยังมีศักยภาพเพิ่มเติมที่สำคัญในการทำลายเป้าหมายที่แข็งแกร่ง เช่น ศูนย์บัญชาการและควบคุมที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน รวมทั้งเป้าหมายที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ขนาดใหญ่

    ระเบิดนิวเคลียร์ B61-13 ออกแบบมาสำหรับเครื่องบินเจ็ทขั้นสูงและเครื่องบินทิ้งระเบิด B-21 นับเป็นการอัปเกรดครั้งที่หกของซีรีส์ B61 ตั้งแต่ปี 1968

    .

    รายละเอียดข่าว
    https://www.twz.com/air/far-more-powerful-b61-13-guided-nuclear-bomb-variant-joins-u-s-stockpile

    วิดีโอ1
    https://www.youtube.com/watch?v=tpN73mm6_RY
    ในขณะสหรัฐกดดันอิหร่านและทั่วโลกไม่ให้มีนิวเคลียร์ แต่กระทรวงพลังงานสหรัฐเพิ่งประกาศข่าวดี สามารถผลิตระเบิดนิวเคลียร์ B61-13 รุ่นใหม่สำเร็จแล้ว กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า Pantex ซึ่งเป็นโรงงานถอดประกอบอาวุธนิวเคลียร์แห่งแรกของสหรัฐฯ ตั้งอยู่ในรัฐเท็กซัส สามารถผลิตระเบิดนิวเคลียร์ B61-13 รุ่นใหม่ครั้งแรกเสร็จสิ้นเร็วกว่ากำหนดประมาณ 1 ปี ระเบิดนิวเคลียร์ B61-13 ได้รับการพัฒนาจากระเบิดนิวเคลียร์ B61-12 รุ่นก่อนหน้า แต่ให้ผลการทำลายที่สูงกว่า จากแหล่งข่าวระบุว่า พลังระเบิดของระเบิดนิวเคลียร์รุ่นใหม่ B61-13 มากกว่าระเบิดที่ฮิโรชิม่าถึง 24 เท่า และยังมีศักยภาพเพิ่มเติมที่สำคัญในการทำลายเป้าหมายที่แข็งแกร่ง เช่น ศูนย์บัญชาการและควบคุมที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน รวมทั้งเป้าหมายที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ขนาดใหญ่ ระเบิดนิวเคลียร์ B61-13 ออกแบบมาสำหรับเครื่องบินเจ็ทขั้นสูงและเครื่องบินทิ้งระเบิด B-21 นับเป็นการอัปเกรดครั้งที่หกของซีรีส์ B61 ตั้งแต่ปี 1968 . รายละเอียดข่าว https://www.twz.com/air/far-more-powerful-b61-13-guided-nuclear-bomb-variant-joins-u-s-stockpile วิดีโอ1 https://www.youtube.com/watch?v=tpN73mm6_RY
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • RTX 4090 ยังคงเผชิญปัญหาการละลายของขั้วต่อ 16-pin แม้มีมาตรการป้องกัน

    แม้ว่าปัญหาการละลายของขั้วต่อ 16-pin (12VHPWR) บน RTX 4090 จะลดลง แต่ยังคงเกิดขึ้นกับผู้ใช้บางราย ล่าสุด ผู้ใช้ Reddit ได้แชร์ประสบการณ์และแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับปัญหาขั้วต่อ 16-pin บน RTX 4090
    ✅ ผู้ใช้พบว่าขั้วต่อ 16-pin บน RTX 4090 ละลาย แม้จะติดตั้งอย่างถูกต้อง
    - ปัญหานี้ ยังคงเกิดขึ้น แม้ว่าจะมีคำแนะนำจาก Nvidia และผู้ผลิต PSU

    ✅ ผู้ใช้ Reddit พัฒนาแนวทางแก้ไข DIY เช่น การติดตั้งฟิวส์ขนาดเล็กในสายไฟ
    - ฟิวส์จะ ตัดกระแสไฟหากมีการใช้พลังงานมากเกินไป ลดโอกาสเกิดความเสียหาย

    ✅ บางคนเลือกที่จะถอดขั้วต่อออกและเชื่อมสายไฟเข้ากับการ์ดจอโดยตรง
    - วิธีนี้ ช่วยลดความเสี่ยงของการละลาย แต่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญด้านอิเล็กทรอนิกส์

    ✅ มีการเสนอให้ใช้ฟิวส์แบบรีเซ็ตอัตโนมัติแทนฟิวส์ธรรมดา
    - ฟิวส์ประเภทนี้ สามารถกลับมาใช้งานได้เองหลังจากเกิดปัญหา

    ✅ ผู้ใช้บางรายเปลี่ยนไปใช้ขั้วต่อ 8-pin PCIe แทน 16-pin
    - วิธีนี้ ใช้ได้กับบางรุ่น เช่น L40 ที่มีการออกแบบขั้วต่อแบบพิเศษ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/rtx-4090-16-pin-meltdown-victims-resort-to-diy-solutions-to-prevent-further-disaster
    RTX 4090 ยังคงเผชิญปัญหาการละลายของขั้วต่อ 16-pin แม้มีมาตรการป้องกัน แม้ว่าปัญหาการละลายของขั้วต่อ 16-pin (12VHPWR) บน RTX 4090 จะลดลง แต่ยังคงเกิดขึ้นกับผู้ใช้บางราย ล่าสุด ผู้ใช้ Reddit ได้แชร์ประสบการณ์และแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับปัญหาขั้วต่อ 16-pin บน RTX 4090 ✅ ผู้ใช้พบว่าขั้วต่อ 16-pin บน RTX 4090 ละลาย แม้จะติดตั้งอย่างถูกต้อง - ปัญหานี้ ยังคงเกิดขึ้น แม้ว่าจะมีคำแนะนำจาก Nvidia และผู้ผลิต PSU ✅ ผู้ใช้ Reddit พัฒนาแนวทางแก้ไข DIY เช่น การติดตั้งฟิวส์ขนาดเล็กในสายไฟ - ฟิวส์จะ ตัดกระแสไฟหากมีการใช้พลังงานมากเกินไป ลดโอกาสเกิดความเสียหาย ✅ บางคนเลือกที่จะถอดขั้วต่อออกและเชื่อมสายไฟเข้ากับการ์ดจอโดยตรง - วิธีนี้ ช่วยลดความเสี่ยงของการละลาย แต่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญด้านอิเล็กทรอนิกส์ ✅ มีการเสนอให้ใช้ฟิวส์แบบรีเซ็ตอัตโนมัติแทนฟิวส์ธรรมดา - ฟิวส์ประเภทนี้ สามารถกลับมาใช้งานได้เองหลังจากเกิดปัญหา ✅ ผู้ใช้บางรายเปลี่ยนไปใช้ขั้วต่อ 8-pin PCIe แทน 16-pin - วิธีนี้ ใช้ได้กับบางรุ่น เช่น L40 ที่มีการออกแบบขั้วต่อแบบพิเศษ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/rtx-4090-16-pin-meltdown-victims-resort-to-diy-solutions-to-prevent-further-disaster
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    RTX 4090 16-pin meltdown victims resort to DIY solutions to prevent further disaster
    RTX 4090 owners show off their homebrew workarounds for 16-pin meltdowns
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • Realtek เปิดตัวอแดปเตอร์เครือข่าย 10GbE ราคาประหยัดสำหรับเมนบอร์ด

    Realtek เตรียมเปิดตัวชิปเซ็ตเครือข่าย RTL8127 ซึ่งเป็นอแดปเตอร์ 10GbE ที่มีขนาดเล็กและราคาถูก โดยคาดว่าจะ เริ่มวางจำหน่ายในช่วงปลายปี 2025 และจะถูกนำไปใช้ใน เมนบอร์ดระดับสูงและอุปกรณ์เครือข่ายอื่น ๆ

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Realtek RTL8127
    ✅ RTL8127 เป็นชิปเซ็ตเครือข่ายขนาดเล็กเพียง 9mm x 9mm
    - ใช้ อินเทอร์เฟซ PCIe 4.0 x2 และรองรับความเร็ว 2.5Gbps, 5Gbps และ 10Gbps

    ✅ มีการใช้พลังงานต่ำเพียง 1.95W และรองรับโหมดสแตนด์บาย
    - เหมาะสำหรับ โน้ตบุ๊กและอุปกรณ์ที่ต้องการประหยัดพลังงาน

    ✅ รองรับเทคโนโลยี 10GBase-T ซึ่งเคยใช้ในเซิร์ฟเวอร์และเวิร์กสเตชันระดับสูง
    - ช่วยให้ ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงเครือข่ายความเร็วสูงได้ง่ายขึ้น

    ✅ มีฟีเจอร์แก้ไขข้อผิดพลาดระดับฮาร์ดแวร์ (ECC) และตรวจสอบข้อมูล (CRC)
    - เพิ่ม ความเสถียรของการเชื่อมต่อและความถูกต้องของข้อมูล

    ✅ Realtek ตั้งราคาชิปเซ็ตไว้ที่ประมาณ $10
    - ทำให้ เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ผลิตเมนบอร์ด

    ℹ️ℹ️ ลุงก็อยากใช้นะ แต่ Switch ที่รองรับมันแพงมากเลย

    https://www.tomshardware.com/networking/realteks-usd10-tiny-10gbe-network-adapter-is-coming-to-motherboards-later-this-year
    Realtek เปิดตัวอแดปเตอร์เครือข่าย 10GbE ราคาประหยัดสำหรับเมนบอร์ด Realtek เตรียมเปิดตัวชิปเซ็ตเครือข่าย RTL8127 ซึ่งเป็นอแดปเตอร์ 10GbE ที่มีขนาดเล็กและราคาถูก โดยคาดว่าจะ เริ่มวางจำหน่ายในช่วงปลายปี 2025 และจะถูกนำไปใช้ใน เมนบอร์ดระดับสูงและอุปกรณ์เครือข่ายอื่น ๆ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Realtek RTL8127 ✅ RTL8127 เป็นชิปเซ็ตเครือข่ายขนาดเล็กเพียง 9mm x 9mm - ใช้ อินเทอร์เฟซ PCIe 4.0 x2 และรองรับความเร็ว 2.5Gbps, 5Gbps และ 10Gbps ✅ มีการใช้พลังงานต่ำเพียง 1.95W และรองรับโหมดสแตนด์บาย - เหมาะสำหรับ โน้ตบุ๊กและอุปกรณ์ที่ต้องการประหยัดพลังงาน ✅ รองรับเทคโนโลยี 10GBase-T ซึ่งเคยใช้ในเซิร์ฟเวอร์และเวิร์กสเตชันระดับสูง - ช่วยให้ ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงเครือข่ายความเร็วสูงได้ง่ายขึ้น ✅ มีฟีเจอร์แก้ไขข้อผิดพลาดระดับฮาร์ดแวร์ (ECC) และตรวจสอบข้อมูล (CRC) - เพิ่ม ความเสถียรของการเชื่อมต่อและความถูกต้องของข้อมูล ✅ Realtek ตั้งราคาชิปเซ็ตไว้ที่ประมาณ $10 - ทำให้ เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ผลิตเมนบอร์ด ℹ️ℹ️ ลุงก็อยากใช้นะ แต่ Switch ที่รองรับมันแพงมากเลย https://www.tomshardware.com/networking/realteks-usd10-tiny-10gbe-network-adapter-is-coming-to-motherboards-later-this-year
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • CERN ทดสอบการขนส่งอนุภาคปฏิสสารเป็นครั้งแรก

    นักวิจัยจาก CERN (European Organization for Nuclear Research) ได้ทำการทดลอง ขนส่งอนุภาคปฏิสสารเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร โดยใช้ อุปกรณ์กักเก็บพิเศษที่ไม่ต้องใช้พลังงานภายนอก ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการศึกษาปฏิสสารนอกห้องทดลอง

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการทดลองขนส่งปฏิสสาร
    ✅ ปฏิสสารเป็นอนุภาคที่มีคุณสมบัติตรงข้ามกับสสารปกติ
    - พบได้จาก การชนกันของรังสีคอสมิกหรือการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี

    ✅ CERN เป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งบนโลกที่สามารถผลิตปฏิสสารได้เป็นประจำ
    - ใช้ เครื่องเร่งอนุภาคพลังงานสูงเพื่อสร้างปฏิสสารจากการชนกันของอนุภาค

    ✅ นักวิจัยพัฒนาอุปกรณ์กักเก็บปฏิสสารขนาด 2 เมตร
    - สามารถ กักเก็บอนุภาคปฏิสสารได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานภายนอก

    ✅ ทดลองขนส่งอุปกรณ์กักเก็บปฏิสสารเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร
    - หลังจากเดินทาง นักวิจัยยืนยันว่าอนุภาคปฏิสสารยังคงอยู่ในอุปกรณ์

    ✅ การทดลองนี้พิสูจน์ว่าปฏิสสารสามารถขนส่งไปยังห้องทดลองภายนอกได้
    - อาจช่วยให้ สามารถศึกษาปฏิสสารได้แม่นยำขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีการรบกวนน้อยกว่า

    ✅ CERN เตรียมส่งปฏิสสารไปยังมหาวิทยาลัย Heinrich Heine ในเยอรมนี
    - อนุภาคจะเดินทาง เป็นระยะทาง 800 กิโลเมตรเพื่อการทดลองเพิ่มเติม

    https://www.techspot.com/news/108031-cern-researchers-took-few-antimatter-particles-walk-unprecedented.html
    CERN ทดสอบการขนส่งอนุภาคปฏิสสารเป็นครั้งแรก นักวิจัยจาก CERN (European Organization for Nuclear Research) ได้ทำการทดลอง ขนส่งอนุภาคปฏิสสารเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร โดยใช้ อุปกรณ์กักเก็บพิเศษที่ไม่ต้องใช้พลังงานภายนอก ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการศึกษาปฏิสสารนอกห้องทดลอง 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการทดลองขนส่งปฏิสสาร ✅ ปฏิสสารเป็นอนุภาคที่มีคุณสมบัติตรงข้ามกับสสารปกติ - พบได้จาก การชนกันของรังสีคอสมิกหรือการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี ✅ CERN เป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งบนโลกที่สามารถผลิตปฏิสสารได้เป็นประจำ - ใช้ เครื่องเร่งอนุภาคพลังงานสูงเพื่อสร้างปฏิสสารจากการชนกันของอนุภาค ✅ นักวิจัยพัฒนาอุปกรณ์กักเก็บปฏิสสารขนาด 2 เมตร - สามารถ กักเก็บอนุภาคปฏิสสารได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานภายนอก ✅ ทดลองขนส่งอุปกรณ์กักเก็บปฏิสสารเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร - หลังจากเดินทาง นักวิจัยยืนยันว่าอนุภาคปฏิสสารยังคงอยู่ในอุปกรณ์ ✅ การทดลองนี้พิสูจน์ว่าปฏิสสารสามารถขนส่งไปยังห้องทดลองภายนอกได้ - อาจช่วยให้ สามารถศึกษาปฏิสสารได้แม่นยำขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีการรบกวนน้อยกว่า ✅ CERN เตรียมส่งปฏิสสารไปยังมหาวิทยาลัย Heinrich Heine ในเยอรมนี - อนุภาคจะเดินทาง เป็นระยะทาง 800 กิโลเมตรเพื่อการทดลองเพิ่มเติม https://www.techspot.com/news/108031-cern-researchers-took-few-antimatter-particles-walk-unprecedented.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    CERN researchers took a few antimatter particles for a walk in an unprecedented transportation test
    The European Organization for Nuclear Research, better known as CERN, is one of the few places on Earth capable of routinely producing antimatter from high-energy collisions with...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • คอนแทคเลนส์มองเห็นกลางคืน: เทคโนโลยีแห่งอนาคตของแว่นตา

    นักวิจัยจาก University of Science and Technology of China ได้พัฒนา คอนแทคเลนส์ที่สามารถรับรู้แสงอินฟราเรดได้ โดยใช้ นาโนอนุภาคที่เปลี่ยนแสงอินฟราเรดเป็นแสงสีแดง เขียว และน้ำเงิน ทำให้ ผู้ใช้สามารถมองเห็นทั้งแสงธรรมชาติและแสงอินฟราเรดพร้อมกัน

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคอนแทคเลนส์มองเห็นกลางคืน
    ✅ คอนแทคเลนส์สามารถรับรู้แสงอินฟราเรดได้โดยไม่ต้องใช้แหล่งพลังงานภายนอก
    - แตกต่างจาก แว่นตามองกลางคืนทั่วไปที่ต้องใช้แบตเตอรี่

    ✅ เลนส์มีความโปร่งใส ทำให้สามารถมองเห็นแสงธรรมชาติและแสงอินฟราเรดพร้อมกัน
    - ช่วยให้ สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย เช่น หมอกหรือฝุ่น

    ✅ นาโนอนุภาคสามารถเปลี่ยนแสงอินฟราเรดเป็นแสงสีที่มองเห็นได้
    - ทำให้ สามารถตรวจจับวัตถุที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

    ✅ สามารถใช้ในอุตสาหกรรมความปลอดภัยและการช่วยเหลือฉุกเฉิน
    - เช่น การค้นหาผู้สูญหายในสภาพแวดล้อมที่มืดหรือมีควัน

    ✅ เทคโนโลยีนี้อาจช่วยผู้ที่มีภาวะตาบอดสีให้สามารถรับรู้สีได้ดีขึ้น
    - โดย เปลี่ยนแสงที่มองไม่เห็นให้เป็นสีที่สามารถรับรู้ได้

    https://www.techspot.com/news/108030-night-vision-contact-lenses-offer-glimpse-future-eyewear.html
    คอนแทคเลนส์มองเห็นกลางคืน: เทคโนโลยีแห่งอนาคตของแว่นตา นักวิจัยจาก University of Science and Technology of China ได้พัฒนา คอนแทคเลนส์ที่สามารถรับรู้แสงอินฟราเรดได้ โดยใช้ นาโนอนุภาคที่เปลี่ยนแสงอินฟราเรดเป็นแสงสีแดง เขียว และน้ำเงิน ทำให้ ผู้ใช้สามารถมองเห็นทั้งแสงธรรมชาติและแสงอินฟราเรดพร้อมกัน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคอนแทคเลนส์มองเห็นกลางคืน ✅ คอนแทคเลนส์สามารถรับรู้แสงอินฟราเรดได้โดยไม่ต้องใช้แหล่งพลังงานภายนอก - แตกต่างจาก แว่นตามองกลางคืนทั่วไปที่ต้องใช้แบตเตอรี่ ✅ เลนส์มีความโปร่งใส ทำให้สามารถมองเห็นแสงธรรมชาติและแสงอินฟราเรดพร้อมกัน - ช่วยให้ สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย เช่น หมอกหรือฝุ่น ✅ นาโนอนุภาคสามารถเปลี่ยนแสงอินฟราเรดเป็นแสงสีที่มองเห็นได้ - ทำให้ สามารถตรวจจับวัตถุที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ✅ สามารถใช้ในอุตสาหกรรมความปลอดภัยและการช่วยเหลือฉุกเฉิน - เช่น การค้นหาผู้สูญหายในสภาพแวดล้อมที่มืดหรือมีควัน ✅ เทคโนโลยีนี้อาจช่วยผู้ที่มีภาวะตาบอดสีให้สามารถรับรู้สีได้ดีขึ้น - โดย เปลี่ยนแสงที่มองไม่เห็นให้เป็นสีที่สามารถรับรู้ได้ https://www.techspot.com/news/108030-night-vision-contact-lenses-offer-glimpse-future-eyewear.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Night vision contact lenses offer a glimpse into the future of eyewear
    Contact lenses and eyeglasses could one day enable people to see beyond the natural visible light spectrum. Eyewear equipped with this special technology holds promise for enhancing...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • Oracle ทุ่ม 40 พันล้านดอลลาร์ซื้อชิป Nvidia เพื่อขับเคลื่อนศูนย์ข้อมูล AI ของ OpenAI ในสหรัฐฯ

    Oracle เตรียมลงทุนมหาศาลเพื่อซื้อชิป Nvidia GB200 จำนวน 400,000 ตัว เพื่อใช้ใน ศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่ของ OpenAI ใน Abilene, Texas ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ โครงการ Stargate ที่มุ่งเสริมศักยภาพ AI ของสหรัฐฯ

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับดีลระหว่าง Oracle และ Nvidia
    ✅ Oracle จะซื้อชิป Nvidia GB200 มูลค่า 40 พันล้านดอลลาร์
    - เพื่อ ให้บริการเช่าพลังประมวลผลแก่ OpenAI

    ✅ ศูนย์ข้อมูลนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Stargate ที่นำโดยบริษัท AI ชั้นนำของสหรัฐฯ
    - มีเป้าหมาย เพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรม AI ท่ามกลางการแข่งขันระดับโลก

    ✅ ศูนย์ข้อมูลจะเปิดใช้งานเต็มรูปแบบภายในกลางปี 2026
    - Oracle เซ็นสัญญาเช่าพื้นที่เป็นเวลา 15 ปี

    ✅ JPMorgan ให้เงินกู้ 9.6 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนโครงการ
    - เจ้าของพื้นที่ Crusoe และ Blue Owl Capital ลงทุนเพิ่มอีก 5 พันล้านดอลลาร์

    ✅ OpenAI ต้องการลดการพึ่งพา Microsoft เนื่องจากความต้องการพลังงานสูงขึ้น
    - Microsoft ไม่สามารถจัดหาพลังงานให้เพียงพอสำหรับการขยายตัวของ OpenAI

    ✅ Oracle มองว่าโครงการนี้เป็นโอกาสในการแข่งขันกับ Microsoft, Amazon และ Google ในตลาดคลาวด์
    - ช่วยให้ Oracle สามารถขยายขีดความสามารถด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง

    ✅ OpenAI, Oracle และ Nvidia กำลังสร้างศูนย์ข้อมูล AI ขนาดใหญ่ใน UAE
    - คาดว่า เฟสแรกของศูนย์ข้อมูล UAE จะเปิดใช้งานในปี 2026

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/24/oracle-to-buy-40-billion-of-nvidia-chips-for-openai039s-us-data-center-ft-reports
    Oracle ทุ่ม 40 พันล้านดอลลาร์ซื้อชิป Nvidia เพื่อขับเคลื่อนศูนย์ข้อมูล AI ของ OpenAI ในสหรัฐฯ Oracle เตรียมลงทุนมหาศาลเพื่อซื้อชิป Nvidia GB200 จำนวน 400,000 ตัว เพื่อใช้ใน ศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่ของ OpenAI ใน Abilene, Texas ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ โครงการ Stargate ที่มุ่งเสริมศักยภาพ AI ของสหรัฐฯ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับดีลระหว่าง Oracle และ Nvidia ✅ Oracle จะซื้อชิป Nvidia GB200 มูลค่า 40 พันล้านดอลลาร์ - เพื่อ ให้บริการเช่าพลังประมวลผลแก่ OpenAI ✅ ศูนย์ข้อมูลนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Stargate ที่นำโดยบริษัท AI ชั้นนำของสหรัฐฯ - มีเป้าหมาย เพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรม AI ท่ามกลางการแข่งขันระดับโลก ✅ ศูนย์ข้อมูลจะเปิดใช้งานเต็มรูปแบบภายในกลางปี 2026 - Oracle เซ็นสัญญาเช่าพื้นที่เป็นเวลา 15 ปี ✅ JPMorgan ให้เงินกู้ 9.6 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนโครงการ - เจ้าของพื้นที่ Crusoe และ Blue Owl Capital ลงทุนเพิ่มอีก 5 พันล้านดอลลาร์ ✅ OpenAI ต้องการลดการพึ่งพา Microsoft เนื่องจากความต้องการพลังงานสูงขึ้น - Microsoft ไม่สามารถจัดหาพลังงานให้เพียงพอสำหรับการขยายตัวของ OpenAI ✅ Oracle มองว่าโครงการนี้เป็นโอกาสในการแข่งขันกับ Microsoft, Amazon และ Google ในตลาดคลาวด์ - ช่วยให้ Oracle สามารถขยายขีดความสามารถด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง ✅ OpenAI, Oracle และ Nvidia กำลังสร้างศูนย์ข้อมูล AI ขนาดใหญ่ใน UAE - คาดว่า เฟสแรกของศูนย์ข้อมูล UAE จะเปิดใช้งานในปี 2026 https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/24/oracle-to-buy-40-billion-of-nvidia-chips-for-openai039s-us-data-center-ft-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Oracle to buy $40 billion of Nvidia chips for OpenAI's US data center, FT reports
    (Reuters) -Oracle will spend around $40 billion on Nvidia's higher-performance chips to power OpenAI's new U.S. data center, the Financial Times reported on Friday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนส่งเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะไปทดสอบในทะเลทรายของ UAE

    เมือง Shouguang ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตผักของจีน ได้ลงนามข้อตกลงกับ Silal บริษัทเกษตรเทคโนโลยีของ UAE เพื่อสร้าง ศูนย์เกษตรอัจฉริยะขนาด 100,000 ตารางเมตรในทะเลทรายของ UAE โดยใช้ AI และหุ่นยนต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูก

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับโครงการเกษตรอัจฉริยะของจีนใน UAE
    ✅ Shouguang และ Silal ลงทุนร่วมกัน 120 ล้านดีแรห์ม (ประมาณ 32.67 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
    - เป้าหมายคือ เปลี่ยนทะเลทรายให้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่มีประสิทธิภาพสูง

    ✅ ใช้เทคโนโลยี AI และหุ่นยนต์เพื่อควบคุมสภาพอากาศ, ระบบน้ำ และการเก็บเกี่ยว
    - รองรับ การปลูกพืชมากกว่า 10 ชนิด เช่น มะเขือเทศ, แตงกวา, เมลอน และสตรอว์เบอร์รี

    ✅ Abu Dhabi เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมเกษตรที่เหมาะสำหรับการทดสอบระบบขั้นสูง
    - Yang Ming ผู้ก่อตั้งโครงการกล่าวว่า UAE เป็นพื้นที่ทดลองที่สมบูรณ์แบบสำหรับเทคโนโลยีนี้

    ✅ โรงเรือนอัจฉริยะนำเข้าจากจีนและปรับแต่งให้เหมาะกับสภาพอากาศของ UAE
    - รวมถึง โรงเรือนพลังงานแสงอาทิตย์และระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ

    ✅ โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ Belt and Road Initiative ของจีน
    - ส่งเสริม การแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/22/chinas-vegetable-capital-to-test-farming-know-how-in-uaes-harsh-deserts
    จีนส่งเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะไปทดสอบในทะเลทรายของ UAE เมือง Shouguang ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตผักของจีน ได้ลงนามข้อตกลงกับ Silal บริษัทเกษตรเทคโนโลยีของ UAE เพื่อสร้าง ศูนย์เกษตรอัจฉริยะขนาด 100,000 ตารางเมตรในทะเลทรายของ UAE โดยใช้ AI และหุ่นยนต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูก 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับโครงการเกษตรอัจฉริยะของจีนใน UAE ✅ Shouguang และ Silal ลงทุนร่วมกัน 120 ล้านดีแรห์ม (ประมาณ 32.67 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) - เป้าหมายคือ เปลี่ยนทะเลทรายให้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่มีประสิทธิภาพสูง ✅ ใช้เทคโนโลยี AI และหุ่นยนต์เพื่อควบคุมสภาพอากาศ, ระบบน้ำ และการเก็บเกี่ยว - รองรับ การปลูกพืชมากกว่า 10 ชนิด เช่น มะเขือเทศ, แตงกวา, เมลอน และสตรอว์เบอร์รี ✅ Abu Dhabi เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมเกษตรที่เหมาะสำหรับการทดสอบระบบขั้นสูง - Yang Ming ผู้ก่อตั้งโครงการกล่าวว่า UAE เป็นพื้นที่ทดลองที่สมบูรณ์แบบสำหรับเทคโนโลยีนี้ ✅ โรงเรือนอัจฉริยะนำเข้าจากจีนและปรับแต่งให้เหมาะกับสภาพอากาศของ UAE - รวมถึง โรงเรือนพลังงานแสงอาทิตย์และระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ ✅ โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ Belt and Road Initiative ของจีน - ส่งเสริม การแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/22/chinas-vegetable-capital-to-test-farming-know-how-in-uaes-harsh-deserts
    WWW.THESTAR.COM.MY
    China’s ‘vegetable capital’ to test farming know-how in UAE’s harsh deserts
    A prominent Chinese city known for vegetable farming has agreed to build a smart agriculture centre in the UAE.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • RTX 5090: การ์ดจอสุดทรงพลังที่ต้องการฮาร์ดแวร์ระดับสูงเพื่อรองรับ

    NVIDIA เปิดตัว GeForce RTX 5090 ซึ่งเป็นการ์ดจอระดับเรือธงที่มาพร้อมสถาปัตยกรรม Blackwell โดยมี VRAM GDDR7 ขนาด 32GB และใช้พลังงานสูงถึง 575W ทำให้ ต้องการระบบที่มีพลังงานและการระบายความร้อนที่เหมาะสม

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ RTX 5090
    ✅ ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
    - รองรับ Ray Tracing รุ่นที่ 4 และ Tensor Cores รุ่นที่ 5
    - มีฟีเจอร์ DLSS 4 และ Multi-Frame Generation ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม

    ✅ VRAM GDDR7 ขนาด 32GB
    - ช่วยให้ สามารถเล่นเกมระดับ 8K และรองรับงาน AI ได้ดีขึ้น

    ✅ ต้องใช้พลังงานสูงถึง 575W
    - NVIDIA แนะนำให้ใช้ PSU ขนาด 1000W–1200W ที่มีมาตรฐาน 80+ Platinum

    ✅ ใช้ขั้วต่อพลังงานแบบ 16-pin 12V-2×6 PCIe Gen 5
    - ต้องใช้ PSU ที่รองรับหรืออะแดปเตอร์จากแบรนด์ชั้นนำ เช่น Corsair หรือ Seasonic

    ✅ ต้องการระบบระบายความร้อนที่ดี
    - การ์ดจอมีขนาดใหญ่ ต้องใช้เคสแบบ Full Tower หรือ Super Tower
    - แนะนำให้ใช้ ระบบระบายความร้อนแบบ AIO Liquid Cooling

    ✅ รองรับ PCIe 5.0 เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
    - ควรใช้ เมนบอร์ดที่รองรับ เช่น Intel Z790 หรือ AMD X870

    ✅ ต้องใช้ CPU และ RAM ที่ทรงพลังเพื่อป้องกันคอขวด
    - แนะนำให้ใช้ Core i9-14900K หรือ Ryzen 9 9950X พร้อม RAM DDR5 ขนาด 32GB

    ✅ มีปัญหาสต็อกในช่วงแรก แต่คาดว่าจะมีสินค้าพร้อมในไตรมาสที่ 2 ปี 2025
    - NVIDIA แนะนำให้ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้

    ‼️ ต้องใช้ PSU ขนาดใหญ่และระบบระบายความร้อนที่ดี
    - หากระบบไม่รองรับ อาจเกิดปัญหาความร้อนสูงและไฟฟ้าดับ

    ‼️ ต้องใช้เคสที่มีพื้นที่เพียงพอ
    - RTX 5090 มีขนาดใหญ่กว่า RTX 4090 และอาจไม่พอดีกับเคสขนาดเล็ก

    https://computercity.com/hardware/video-cards/is-your-pc-ready-for-the-rtx-5090-specs-power-supply-and-cooling-guide
    RTX 5090: การ์ดจอสุดทรงพลังที่ต้องการฮาร์ดแวร์ระดับสูงเพื่อรองรับ NVIDIA เปิดตัว GeForce RTX 5090 ซึ่งเป็นการ์ดจอระดับเรือธงที่มาพร้อมสถาปัตยกรรม Blackwell โดยมี VRAM GDDR7 ขนาด 32GB และใช้พลังงานสูงถึง 575W ทำให้ ต้องการระบบที่มีพลังงานและการระบายความร้อนที่เหมาะสม 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ RTX 5090 ✅ ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น - รองรับ Ray Tracing รุ่นที่ 4 และ Tensor Cores รุ่นที่ 5 - มีฟีเจอร์ DLSS 4 และ Multi-Frame Generation ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม ✅ VRAM GDDR7 ขนาด 32GB - ช่วยให้ สามารถเล่นเกมระดับ 8K และรองรับงาน AI ได้ดีขึ้น ✅ ต้องใช้พลังงานสูงถึง 575W - NVIDIA แนะนำให้ใช้ PSU ขนาด 1000W–1200W ที่มีมาตรฐาน 80+ Platinum ✅ ใช้ขั้วต่อพลังงานแบบ 16-pin 12V-2×6 PCIe Gen 5 - ต้องใช้ PSU ที่รองรับหรืออะแดปเตอร์จากแบรนด์ชั้นนำ เช่น Corsair หรือ Seasonic ✅ ต้องการระบบระบายความร้อนที่ดี - การ์ดจอมีขนาดใหญ่ ต้องใช้เคสแบบ Full Tower หรือ Super Tower - แนะนำให้ใช้ ระบบระบายความร้อนแบบ AIO Liquid Cooling ✅ รองรับ PCIe 5.0 เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด - ควรใช้ เมนบอร์ดที่รองรับ เช่น Intel Z790 หรือ AMD X870 ✅ ต้องใช้ CPU และ RAM ที่ทรงพลังเพื่อป้องกันคอขวด - แนะนำให้ใช้ Core i9-14900K หรือ Ryzen 9 9950X พร้อม RAM DDR5 ขนาด 32GB ✅ มีปัญหาสต็อกในช่วงแรก แต่คาดว่าจะมีสินค้าพร้อมในไตรมาสที่ 2 ปี 2025 - NVIDIA แนะนำให้ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้ ‼️ ต้องใช้ PSU ขนาดใหญ่และระบบระบายความร้อนที่ดี - หากระบบไม่รองรับ อาจเกิดปัญหาความร้อนสูงและไฟฟ้าดับ ‼️ ต้องใช้เคสที่มีพื้นที่เพียงพอ - RTX 5090 มีขนาดใหญ่กว่า RTX 4090 และอาจไม่พอดีกับเคสขนาดเล็ก https://computercity.com/hardware/video-cards/is-your-pc-ready-for-the-rtx-5090-specs-power-supply-and-cooling-guide
    COMPUTERCITY.COM
    Is Your PC Ready for the RTX 5090? Specs, Power Supply, and Cooling Guide
    The NVIDIA GeForce RTX 5090 is here—and it’s a beast. Launched on January 30, 2025, after its debut at CES, this $1,999 flagship GPU from NVIDIA is built for
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 161 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองเรือทางเหนือ (The Northern Fleet) ของกองทัพเรือรัสเซีย ฝึกซ้อมยิงขีปนาวุธร่อน Kalibr โจมตีเป้าหมายหลอกที่ชายฝั่ง จากเรือดำน้ำ Arkhangelsk (อาร์ฮันเกลสก์) ซึ่งเป็นเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์รุ่นใหม่ล่าสุด

    การฝึกซ้อมดังกล่าว เกิดขึ้นที่น่านน้ำของทะเลแบเรนตส์ (Barents Sea) ที่สนามฝึก Chizh ในภูมิภาค Arkhangelsk โดยมีพิสัยการยิงเกิน 600 กม.
    กองเรือทางเหนือ (The Northern Fleet) ของกองทัพเรือรัสเซีย ฝึกซ้อมยิงขีปนาวุธร่อน Kalibr โจมตีเป้าหมายหลอกที่ชายฝั่ง จากเรือดำน้ำ Arkhangelsk (อาร์ฮันเกลสก์) ซึ่งเป็นเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์รุ่นใหม่ล่าสุด การฝึกซ้อมดังกล่าว เกิดขึ้นที่น่านน้ำของทะเลแบเรนตส์ (Barents Sea) ที่สนามฝึก Chizh ในภูมิภาค Arkhangelsk โดยมีพิสัยการยิงเกิน 600 กม.
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 20 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เสนอร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณขนาดใหญ่ที่เรียกว่า"One Big Beautiful Bill" ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของวาระที่สองของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ร่างกฎหมายยาว 1,116 หน้านี้มีเนื้อหาครอบคลุมหลายด้าน ตั้งแต่การลดภาษี การปรับโครงสร้างสวัสดิการสังคม ไปจนถึงการเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคงสาระสำคัญของร่างกฎหมายนโยบายด้านภาษีแกนหลักของร่างกฎหมายคือการขยายระยะเวลาTax Cuts and Jobs Act (TCJA) ปี 2017 ให้มีผลถาวร ซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่ง นอกจากนี้ยังรวมถึงการยกเลิกภาษีเงินทิปสำหรับพนักงานในอุตสาหกรรมบริการและพนักงานความงาม รวมทั้งการยกเลิกภาษีค่าตอบแทนล่วงเวลา ซึ่งทั้งสองมาตรการนี้จะมีผลชั่วคราวจนถึงสิ้นปี 2028ร่างกฎหมายยังรวมถึงการเพิ่มการหักลดหย่อนภาษีState and Local Tax Deduction (SALT)จาก 10,000 ดอลลาร์ (330,000 บาท) เป็น 40,000 ดอลลาร์ (1.32 ล้านบาท) ต่อครัวเรือนสำหรับรายได้ถึง 500,000 ดอลลาร์ (16.5 ล้านบาท) การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลจากแรงกดดันจากสมาชิกรีพับลิกันในรัฐที่มีภาษีรัฐและท้องถิ่นสูง เช่น นิวยอร์ก และแคลิฟอร์เนีย ซึ่งประชาชนในรัฐเหล่านี้ต้องจ่ายภาษีรัฐและภาษีทรัพย์สินจำนวนมากมาตรการภาษีอื่นๆ ได้แก่ การยกเลิกภาษี 200 ดอลลาร์ (6,600 บาท) สำหรับเครื่องเก็บเสียงปืน การเพิ่มเครดิตภาษีเด็กจาก 2,000 ดอลลาร์เป็น 2,500 ดอลลาร์ (82,500 บาท) และการอนุญาตให้หักลดหย่อนดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์สูงสุด 10,000 ดอลลาร์สำหรับรถที่ประกอบในสหรัฐฯโครงการ "Trump Accounts"ร่างกฎหมายสร้างบัญชีออมทรัพย์สำหรับเด็ก 1,000 ดอลลาร์ (33,000บาท) ที่เรียกว่า"Trump Accounts" (เดิมชื่อ "MAGA Accounts") รัฐบาลกลางจะสมทบ 1,000 ดอลลาร์ให้เด็กที่เกิดระหว่างปี 2024-2028 พ่อแม่สามารถสมทบเพิ่มได้ปีละ 5,000 ดอลลาร์ (165,000 บาท) เงินในบัญชีสามารถใช้สำหรับการศึกษาต่อ การฝึกอาชีพ และการซื้อบ้านหลังแรกเมื่อบุตรอายุครบ 18 ปีการปฏิรูป Medicaid และ SNAPร่างกฎหมายเสนอการปฏิรูป Medicaid ของรัฐบาลไบเดนอย่างถอนรากถอนโคน โดยกำหนดให้ผู้ใหญ่ที่สุขภาพดีอายุ 18-65 ปีที่ไม่มีบุตรต่ำกว่า 7 ปีต้องทำงานเพื่อได้รับสวัสดิการ นอกจากนี้ยังห้ามใช้ Medicaid สำหรับการรักษาเปลี่ยนเพศและตัดงบประมาณสำหรับรัฐที่ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพผิดกฎหมายการปฏิรูปSupplemental Nutrition Assistance Program (SNAP) จะขยายเงื่อนไขการทำงานให้ครอบคลุมผู้ใหญ่อายุ 18-64 ปี และเปลี่ยนการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายระหว่างรัฐบาลกลางกับรัฐต่างๆ โดยในปัจจุบันรัฐบาลกลางรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 100% และค่าดำเนินการ 50% แต่ร่างกฎหมายใหม่จะให้รัฐต่างๆ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 5% และค่าดำเนินการ 75% โปรแกรมนี้ให้ความช่วยเหลือคนอเมริกันกว่า 42 ล้านคนงบประมาณด้านความมั่นคงร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณ 4.65 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.53 ล้านล้านบาท) สำหรับกำแพงชายแดน 4.1 พันล้านดอลลาร์ (135,000 ล้านบาท) สำหรับการจ้างเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ (66,000 ล้านบาท) สำหรับเงินรางวัลจูงใจให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเข้ามาทำงานใหม่และคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปการยุติโครงการพลังงานสะอาดร่างกฎหมายจะยุติเครดิตภาษีสำหรับพลังงานสะอาดหลายรายการ โดยกำหนดให้โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ต้องเริ่มก่อสร้างภายใน 60 วันหลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้และเปิดให้บริการภายในสิ้นปี 2028 ยกเว้นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีเวลาถึงสิ้นปี 2028โอกาสการผ่านกฎหมายและขั้นตอนที่เหลือร่างกฎหมายผ่านคณะกรรมการงบประมาณสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อย 17-16 เสียงในการประชุมวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จากนั้นได้ผ่านการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเกินมาเพียงหนึ่งเสียงหลังจากการประชุมตลอดคืนขั้นตอนต่อไปคือการส่งไปยังคณะกรรมการกฎระเบียบสภาผู้แทนราษฎรในช่วงกลางสัปดาห์เพื่อกำหนดเงื่อนไขการอภิปรายและพิจารณาการแก้ไข ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สภาผู้แทนราษฎร หากผ่านสภาผู้แทนราษฎร จะส่งต่อไปยังวุฒิสภา ซึ่งอาจพบกับความท้าทายเพิ่มเติมเนื่องจากสมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันหลายคนต้องการการแก้ไขเพิ่มเติมร่างกฎหมายนี้การที่ผ่านด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อยในสภาผู้แทนราษฎรแสดงให้เห็นถึงความแตกแยกภายในพรรครีพับลิกัน ทำให้การผ่านในวุฒิสภาอาจมีความท้าทายมากกว่าผู้ได้รับประโยชน์และผู้เสียประโยชน์ผู้ได้รับประโยชน์บริษัทผู้รับเหมาด้านการป้องกันประเทศจะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มงบประมาณอย่างมีนัยสำคัญ RTX Corp (NYSE:RTX) และ Lockheed Martin Corp (NYSE:LMT) ถือเป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรง รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการภาครัฐ เช่น Palantir Technologies (NASDAQ:PLTR) และ Booz Allen Hamilton (NYSE:BAH)ผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่งจะได้รับประโยชน์จากการขยายเวลา TCJA และการเพิ่ม SALT deduction ขีดจำกัด พนักงานในอุตสาหกรรมบริการจะได้รับประโยชน์จากการยกเลิกภาษีเงินทิปและค่าล่วงเวลาผู้เสียประโยชน์บริษัทประกันสุขภาพที่ให้บริการ Medicaid จะเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างมาก UnitedHealth Group (NYSE:UNH), Centene Corp (NYSE:CNC) และ Elevance Health (NYSE:ELV) อาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของจำนวนผู้เอาประกันและความท้าทายในการกำหนดราคาเบี้ยประกันคนอเมริกันรายได้น้อยกว่า 42 ล้านคนที่พึ่งพา SNAP จะได้รับผลกระทบจากการเพิ่มเงื่อนไขการทำงานและการโยกภาระไปยังรัฐต่างๆอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดจะได้รับผลกระทบอย่างมาก หุ้นพลังงานสะอาด ได้แก่ Enphase Energy (NASDAQ:ENPH), First Solar (NASDAQ:FSLR) และ Sunrun (NASDAQ:RUN) ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในวันจันทร์หลังจากข่าวออกมาปฏิกิริยาของตลาดและนักลงทุนความกังวลในตลาดพันธบัตรตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ มูลค่า 28 ล้านล้านดอลลาร์ (924 ล้านล้านบาท) แสดงสัญญาณความไม่สบายใจอย่างชัดเจน พันธบัตรอายุ 30 ปีได้เพิ่มขึ้นประมาณ 0.11% นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 พ.ค. และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2023ด้านนักเศรษฐศาสตร์หัวหน้าของ FWDBONDS ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้ "ดูเหมือนจะทำลายงบประมาณในระยะใกล้เมื่อพิจารณาจากการใช้จ่าย" อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นเนื่องจากคาดการณ์ว่าจะมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติมเพื่อหาเงินทุนสำหรับการขาดดุลงบประมาณความต้องการอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นในการประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปี มูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (528,000 ล้านบาท) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นักลงทุนเรียกร้องอัตราผลตอบแทนสูงกว่า 5% เปรียบเทียบกับ 4.6% ที่เคยเป็นบรรทัดฐานในการประมูลก่อนหน้านี้ สะท้อนความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อความเสี่ยงการลงทุนในหนี้รัฐบาลสหรัฐฯความกลัว "Bond Vigilantes"นักลงทุนแสดงความกังวลต่อการเกิดขึ้นของ "Bond Vigilantes" หรือนักลงทุนที่บังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายโดยการขายหรือขู่ว่าจะขายหนี้ของรัฐบาล ปรากฏการณ์นี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสามารถสร้างความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นได้ผลกระทบที่คาดการณ์หากตลาดไม่พอใจหากตลาดพันธบัตรยังคงแสดงความไม่พอใจต่อร่างกฎหมายนี้ อาจส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยทั่วไปในระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจำนองที่อยู่อาศัยจะปรับตัวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจึงหมายถึงต้นทุนการกู้เงินที่สูงขึ้นสำหรับผู้บริโภคทั่วไปนอกจากนี้ การลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ โดย Moody's เมื่อเร็วๆ นี้ ประกอบกับความกังวลเรื่องการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลกระทบแบบต่อเนื่องไปยังรัฐและท้องถิ่น ดังเช่นกรณีรัฐแมริแลนด์ที่ถูก Moody's ลดอันดับเครดิต Aaa ส่งผลให้ต้นทุนการกู้เงินสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน อาคารโรงเรียน และสาธารณูปโภคของรัฐและท้องถิ่นเพิ่มสูงขึ้นท้ายที่สุด ร่างกฎหมาย "One Big Beautiful Bill" ของทรัมป์จึงเป็นการทดสอบที่สำคัญต่อความสามารถในการสร้างสมดุลระหว่างนโยบายการคลังที่ต้องการและความยั่งยืนทางการเงินในระยะยาว ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีต่อๆ ไป. . https://www.cbsnews.com/news/whats-in-trumps-one-big-beautiful-bill-medicaid-taxes/#
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เสนอร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณขนาดใหญ่ที่เรียกว่า"One Big Beautiful Bill" ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของวาระที่สองของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ร่างกฎหมายยาว 1,116 หน้านี้มีเนื้อหาครอบคลุมหลายด้าน ตั้งแต่การลดภาษี การปรับโครงสร้างสวัสดิการสังคม ไปจนถึงการเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคงสาระสำคัญของร่างกฎหมายนโยบายด้านภาษีแกนหลักของร่างกฎหมายคือการขยายระยะเวลาTax Cuts and Jobs Act (TCJA) ปี 2017 ให้มีผลถาวร ซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่ง นอกจากนี้ยังรวมถึงการยกเลิกภาษีเงินทิปสำหรับพนักงานในอุตสาหกรรมบริการและพนักงานความงาม รวมทั้งการยกเลิกภาษีค่าตอบแทนล่วงเวลา ซึ่งทั้งสองมาตรการนี้จะมีผลชั่วคราวจนถึงสิ้นปี 2028ร่างกฎหมายยังรวมถึงการเพิ่มการหักลดหย่อนภาษีState and Local Tax Deduction (SALT)จาก 10,000 ดอลลาร์ (330,000 บาท) เป็น 40,000 ดอลลาร์ (1.32 ล้านบาท) ต่อครัวเรือนสำหรับรายได้ถึง 500,000 ดอลลาร์ (16.5 ล้านบาท) การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลจากแรงกดดันจากสมาชิกรีพับลิกันในรัฐที่มีภาษีรัฐและท้องถิ่นสูง เช่น นิวยอร์ก และแคลิฟอร์เนีย ซึ่งประชาชนในรัฐเหล่านี้ต้องจ่ายภาษีรัฐและภาษีทรัพย์สินจำนวนมากมาตรการภาษีอื่นๆ ได้แก่ การยกเลิกภาษี 200 ดอลลาร์ (6,600 บาท) สำหรับเครื่องเก็บเสียงปืน การเพิ่มเครดิตภาษีเด็กจาก 2,000 ดอลลาร์เป็น 2,500 ดอลลาร์ (82,500 บาท) และการอนุญาตให้หักลดหย่อนดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์สูงสุด 10,000 ดอลลาร์สำหรับรถที่ประกอบในสหรัฐฯโครงการ "Trump Accounts"ร่างกฎหมายสร้างบัญชีออมทรัพย์สำหรับเด็ก 1,000 ดอลลาร์ (33,000บาท) ที่เรียกว่า"Trump Accounts" (เดิมชื่อ "MAGA Accounts") รัฐบาลกลางจะสมทบ 1,000 ดอลลาร์ให้เด็กที่เกิดระหว่างปี 2024-2028 พ่อแม่สามารถสมทบเพิ่มได้ปีละ 5,000 ดอลลาร์ (165,000 บาท) เงินในบัญชีสามารถใช้สำหรับการศึกษาต่อ การฝึกอาชีพ และการซื้อบ้านหลังแรกเมื่อบุตรอายุครบ 18 ปีการปฏิรูป Medicaid และ SNAPร่างกฎหมายเสนอการปฏิรูป Medicaid ของรัฐบาลไบเดนอย่างถอนรากถอนโคน โดยกำหนดให้ผู้ใหญ่ที่สุขภาพดีอายุ 18-65 ปีที่ไม่มีบุตรต่ำกว่า 7 ปีต้องทำงานเพื่อได้รับสวัสดิการ นอกจากนี้ยังห้ามใช้ Medicaid สำหรับการรักษาเปลี่ยนเพศและตัดงบประมาณสำหรับรัฐที่ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพผิดกฎหมายการปฏิรูปSupplemental Nutrition Assistance Program (SNAP) จะขยายเงื่อนไขการทำงานให้ครอบคลุมผู้ใหญ่อายุ 18-64 ปี และเปลี่ยนการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายระหว่างรัฐบาลกลางกับรัฐต่างๆ โดยในปัจจุบันรัฐบาลกลางรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 100% และค่าดำเนินการ 50% แต่ร่างกฎหมายใหม่จะให้รัฐต่างๆ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 5% และค่าดำเนินการ 75% โปรแกรมนี้ให้ความช่วยเหลือคนอเมริกันกว่า 42 ล้านคนงบประมาณด้านความมั่นคงร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณ 4.65 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.53 ล้านล้านบาท) สำหรับกำแพงชายแดน 4.1 พันล้านดอลลาร์ (135,000 ล้านบาท) สำหรับการจ้างเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ (66,000 ล้านบาท) สำหรับเงินรางวัลจูงใจให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเข้ามาทำงานใหม่และคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปการยุติโครงการพลังงานสะอาดร่างกฎหมายจะยุติเครดิตภาษีสำหรับพลังงานสะอาดหลายรายการ โดยกำหนดให้โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ต้องเริ่มก่อสร้างภายใน 60 วันหลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้และเปิดให้บริการภายในสิ้นปี 2028 ยกเว้นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีเวลาถึงสิ้นปี 2028โอกาสการผ่านกฎหมายและขั้นตอนที่เหลือร่างกฎหมายผ่านคณะกรรมการงบประมาณสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อย 17-16 เสียงในการประชุมวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จากนั้นได้ผ่านการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเกินมาเพียงหนึ่งเสียงหลังจากการประชุมตลอดคืนขั้นตอนต่อไปคือการส่งไปยังคณะกรรมการกฎระเบียบสภาผู้แทนราษฎรในช่วงกลางสัปดาห์เพื่อกำหนดเงื่อนไขการอภิปรายและพิจารณาการแก้ไข ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สภาผู้แทนราษฎร หากผ่านสภาผู้แทนราษฎร จะส่งต่อไปยังวุฒิสภา ซึ่งอาจพบกับความท้าทายเพิ่มเติมเนื่องจากสมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันหลายคนต้องการการแก้ไขเพิ่มเติมร่างกฎหมายนี้การที่ผ่านด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อยในสภาผู้แทนราษฎรแสดงให้เห็นถึงความแตกแยกภายในพรรครีพับลิกัน ทำให้การผ่านในวุฒิสภาอาจมีความท้าทายมากกว่าผู้ได้รับประโยชน์และผู้เสียประโยชน์ผู้ได้รับประโยชน์บริษัทผู้รับเหมาด้านการป้องกันประเทศจะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มงบประมาณอย่างมีนัยสำคัญ RTX Corp (NYSE:RTX) และ Lockheed Martin Corp (NYSE:LMT) ถือเป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรง รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการภาครัฐ เช่น Palantir Technologies (NASDAQ:PLTR) และ Booz Allen Hamilton (NYSE:BAH)ผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่งจะได้รับประโยชน์จากการขยายเวลา TCJA และการเพิ่ม SALT deduction ขีดจำกัด พนักงานในอุตสาหกรรมบริการจะได้รับประโยชน์จากการยกเลิกภาษีเงินทิปและค่าล่วงเวลาผู้เสียประโยชน์บริษัทประกันสุขภาพที่ให้บริการ Medicaid จะเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างมาก UnitedHealth Group (NYSE:UNH), Centene Corp (NYSE:CNC) และ Elevance Health (NYSE:ELV) อาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของจำนวนผู้เอาประกันและความท้าทายในการกำหนดราคาเบี้ยประกันคนอเมริกันรายได้น้อยกว่า 42 ล้านคนที่พึ่งพา SNAP จะได้รับผลกระทบจากการเพิ่มเงื่อนไขการทำงานและการโยกภาระไปยังรัฐต่างๆอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดจะได้รับผลกระทบอย่างมาก หุ้นพลังงานสะอาด ได้แก่ Enphase Energy (NASDAQ:ENPH), First Solar (NASDAQ:FSLR) และ Sunrun (NASDAQ:RUN) ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในวันจันทร์หลังจากข่าวออกมาปฏิกิริยาของตลาดและนักลงทุนความกังวลในตลาดพันธบัตรตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ มูลค่า 28 ล้านล้านดอลลาร์ (924 ล้านล้านบาท) แสดงสัญญาณความไม่สบายใจอย่างชัดเจน พันธบัตรอายุ 30 ปีได้เพิ่มขึ้นประมาณ 0.11% นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 พ.ค. และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2023ด้านนักเศรษฐศาสตร์หัวหน้าของ FWDBONDS ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้ "ดูเหมือนจะทำลายงบประมาณในระยะใกล้เมื่อพิจารณาจากการใช้จ่าย" อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นเนื่องจากคาดการณ์ว่าจะมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติมเพื่อหาเงินทุนสำหรับการขาดดุลงบประมาณความต้องการอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นในการประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปี มูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (528,000 ล้านบาท) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นักลงทุนเรียกร้องอัตราผลตอบแทนสูงกว่า 5% เปรียบเทียบกับ 4.6% ที่เคยเป็นบรรทัดฐานในการประมูลก่อนหน้านี้ สะท้อนความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อความเสี่ยงการลงทุนในหนี้รัฐบาลสหรัฐฯความกลัว "Bond Vigilantes"นักลงทุนแสดงความกังวลต่อการเกิดขึ้นของ "Bond Vigilantes" หรือนักลงทุนที่บังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายโดยการขายหรือขู่ว่าจะขายหนี้ของรัฐบาล ปรากฏการณ์นี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสามารถสร้างความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นได้ผลกระทบที่คาดการณ์หากตลาดไม่พอใจหากตลาดพันธบัตรยังคงแสดงความไม่พอใจต่อร่างกฎหมายนี้ อาจส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยทั่วไปในระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจำนองที่อยู่อาศัยจะปรับตัวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจึงหมายถึงต้นทุนการกู้เงินที่สูงขึ้นสำหรับผู้บริโภคทั่วไปนอกจากนี้ การลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ โดย Moody's เมื่อเร็วๆ นี้ ประกอบกับความกังวลเรื่องการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลกระทบแบบต่อเนื่องไปยังรัฐและท้องถิ่น ดังเช่นกรณีรัฐแมริแลนด์ที่ถูก Moody's ลดอันดับเครดิต Aaa ส่งผลให้ต้นทุนการกู้เงินสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน อาคารโรงเรียน และสาธารณูปโภคของรัฐและท้องถิ่นเพิ่มสูงขึ้นท้ายที่สุด ร่างกฎหมาย "One Big Beautiful Bill" ของทรัมป์จึงเป็นการทดสอบที่สำคัญต่อความสามารถในการสร้างสมดุลระหว่างนโยบายการคลังที่ต้องการและความยั่งยืนทางการเงินในระยะยาว ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีต่อๆ ไป. . https://www.cbsnews.com/news/whats-in-trumps-one-big-beautiful-bill-medicaid-taxes/#
    WWW.CBSNEWS.COM
    What's in Trump's House-passed "one big, beautiful bill"
    Republicans made a number of last-minute changes to the legislation that passed in the lower chamber early Thursday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 360 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts