• ครูอเมริกันลาออก หลังจากทนไม่ไหวที่เด็กใช้ AI ทำการบ้านจนขาดทักษะด้านการอ่านและเขียน

    แฮนนา มาเรีย (Hannah Maria) ครูสอนภาษาอังกฤษของเด็กนักเรียนเกรด 10 โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในอเมริกา ได้โพสต์คลิปที่กลายเป็นไวรัลของเธอ ว่าเธอกำลังจะลาออกหลังจากทำหน้าที่ครูมา 3 ปี

    เธอระบุถึงสาเหตุที่ต้องลาออกว่า เพราะนักเรียนของเธอใช้ AI ในการทำการบ้านมาส่งมากเกินไป

    "เด็กนักเรียนเหล่านี้ไม่สามารถอ่านหนังสือได้คล่องอีกต่อไป พวกเขาไม่สนใจยอมรับฟัง พวกเขาเขียนรายงานโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่าง ChatGPT พวกเขาไม่รู้คณิตศาสตร์ พวกเขาไม่สนใจประวัติศาสตร์"

    “มันเป็นประสบการณ์ที่แย่มาก คนรุ่นนี้เข้าใจยากจริงๆ และฉันยอมรับว่าฉันไม่เหมาะกับอาชีพนี้ ใครก็ตามที่เริ่มต้นอาชีพครูในตอนนี้ฉันชื่นชมคุณ”

    "ปัญญาประดิษฐ์กำลังทำลายการศึกษา”
    “ตัดเทคโนโลยีออกซะ จนกว่าพวกเขาจะเข้ามหาวิทยาลัย" ครูกล่าวคำวิงวอน


    อย่างไรก็ตาม มาเรียระบุว่า ในระหว่างการสอนของเธอยังคงมีเด็กนักเรียนที่ฉลาด ตั้งใจ และมีความสามารถอยู่จำนวนไม่น้อย แต่ที่โพสต์คลิปไป ก็เพื่อสร้างความตระหนักรู้ต่อปัญหาจาก AI ที่กำลังขัดขวางเด็กจากกระบวนการพัฒนาทักษะที่สำคัญในชีวิต อย่างเช่นทักษะการเขียน การอ่าน และการคิดวิเคราะห์
    ครูอเมริกันลาออก หลังจากทนไม่ไหวที่เด็กใช้ AI ทำการบ้านจนขาดทักษะด้านการอ่านและเขียน แฮนนา มาเรีย (Hannah Maria) ครูสอนภาษาอังกฤษของเด็กนักเรียนเกรด 10 โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในอเมริกา ได้โพสต์คลิปที่กลายเป็นไวรัลของเธอ ว่าเธอกำลังจะลาออกหลังจากทำหน้าที่ครูมา 3 ปี เธอระบุถึงสาเหตุที่ต้องลาออกว่า เพราะนักเรียนของเธอใช้ AI ในการทำการบ้านมาส่งมากเกินไป "เด็กนักเรียนเหล่านี้ไม่สามารถอ่านหนังสือได้คล่องอีกต่อไป พวกเขาไม่สนใจยอมรับฟัง พวกเขาเขียนรายงานโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่าง ChatGPT พวกเขาไม่รู้คณิตศาสตร์ พวกเขาไม่สนใจประวัติศาสตร์" “มันเป็นประสบการณ์ที่แย่มาก คนรุ่นนี้เข้าใจยากจริงๆ และฉันยอมรับว่าฉันไม่เหมาะกับอาชีพนี้ ใครก็ตามที่เริ่มต้นอาชีพครูในตอนนี้ฉันชื่นชมคุณ” "ปัญญาประดิษฐ์กำลังทำลายการศึกษา” “ตัดเทคโนโลยีออกซะ จนกว่าพวกเขาจะเข้ามหาวิทยาลัย" ครูกล่าวคำวิงวอน อย่างไรก็ตาม มาเรียระบุว่า ในระหว่างการสอนของเธอยังคงมีเด็กนักเรียนที่ฉลาด ตั้งใจ และมีความสามารถอยู่จำนวนไม่น้อย แต่ที่โพสต์คลิปไป ก็เพื่อสร้างความตระหนักรู้ต่อปัญหาจาก AI ที่กำลังขัดขวางเด็กจากกระบวนการพัฒนาทักษะที่สำคัญในชีวิต อย่างเช่นทักษะการเขียน การอ่าน และการคิดวิเคราะห์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • [Technology] ‘โลกใหม่ ที่ AI ทำงาน แทนคุณได้ทุกอย่าง’ สรุป 10 ไฮไลต์ จาก Google I/O 2025 กับยุคใหม่ของ Agentic AI ที่ฉลาด คิด วิเคราะห์ และทำงานแทนคุณได้ทุกที่..หากคุณคาดหวังว่า Google I/O 2025 จะเป็นเวทีที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ AI ใหม่ๆ อาจจะผิดหวัง เพราะปีนี้ถือเป็นปีที่นำเสนอจุดเปลี่ยนสำคัญของยุคดิจิทัล ที่มีมากกว่าแค่การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ เปรียบเสมือนว่า Google กำลังส่งสัญญาณบางอย่าง เพื่อบอกกับเราว่า “AI ไม่ใช่แค่ผู้ช่วยที่รับคำสั่งไปวันๆ เท่านั้น”.Agentic AI ยังคงเป็นดาวเด่นสำหรับแวดวงเทคโนโลยีในปีนี้ Google เรียกมันว่าเป็นโมเดลที่ฉลาดมากพอจะคิด วิเคราะห์ ประสานงาน และจัดการสิ่งต่างๆ ให้เราได้แบบอัตโนมัติ.และนี่คือ 10 ไฮไลต์สำคัญจากงาน Google I/O 2025 ที่สะท้อนยุคใหม่ของปัญญาประดิษฐ์อย่างชัดเจน อีกทั้งยังตอกย้ำอีกว่าปีนี้ Google เอาจริง!..[ 10 ไฮไลต์สำคัญจากงาน Google I/O 2025 ] .1️⃣ 🌐 Gemini 2.5 Pro และ Flash ก้าวกระโดดของโมเดล AI ที่เร็ว ฉลาด และพร้อมใช้จริง.Google เปิดตัวโมเดลเรือธง Gemini 2.5 Pro ที่ครองอันดับ 1 ทุกหมวดใน LM Arena ซึ่งเป็นสนามประเมินศักยภาพของโมเดลภาษา ตัวเลขบ่งชี้ความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน โดยโมเดลใหม่ได้คะแนน ELO เพิ่มขึ้นกว่า 300 แต้มจาก Gemini รุ่นแรก.จุดเด่นของ 2.5 Pro ไม่ใช่แค่ความเข้าใจภาษาหรือตรรกะที่ลึกซึ้งขึ้น แต่คือความสามารถในการ ‘ใช้เหตุผลหลายขั้น’ และตอบคำถามที่ซับซ้อนได้ใกล้เคียงมนุษย์.ขณะเดียวกัน Google ยังเปิดตัว ‘Gemini 2.5 Flash’ โมเดลเวอร์ชันที่เล็กลงมาหน่อยแต่ยังคงทรงพลัง เหมาะกับงานที่ต้องการความเร็วและต้นทุนต่ำ เช่น Chatbots, Customer Service หรือ Data Analysis แบบเรียลไทม์.ทั้งสองโมเดลนี้จะเปิดให้ใช้งานใน Gemini API ภายในเดือนมิถุนายน และหลังจากนั้นจะถูกนำมาเป็นแกนหลักของการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในผลิตภัณฑ์ของ Google..2️⃣ 🧠 Agent Mode & Project Mariner - Agentic AI ในแบบของ Google.Google เปิดตัว Agent Mode ภายใน Gemini App ซึ่งไม่เพียงตอบคำถาม แต่สามารถทำสิ่งนั้นแทนเราได้จริง เช่น หากคุณต้องการหาอพาร์ตเมนต์ใน Austin สำหรับ 3 คน พร้อมเครื่องซักผ้า และงบไม่เกินคนละ $1,200.Agent Mode จะทำงานโดยการดึงข้อมูลจาก Zillow กรองข้อมูลตามเงื่อนไข แนะนำห้อง นัดดูห้องใน Google Calendar ให้เรียบร้อย.โดยเบื้องหลังความสามารถนี้คือ Project Mariner ซึ่งทำให้ AI มีทักษะในการ ‘ใช้คอมพิวเตอร์ได้เหมือนมนุษย์’ เช่น เปิดเว็บ คลิก กรอกแบบฟอร์ม อีกทั้งยังมีความสามารถในการเรียนรู้จากการเห็นวิธีการทำงานเพียงครั้งเดียวด้วยฟีเจอร์ ‘Teach & Repeat’.นอกจากนี้ Mariner ยังรองรับ Multitasking สูงสุด 10 งานพร้อมกัน และจะเปิดให้ใช้งานช่วงฤดูร้อนนี้ผ่าน Gemini API..3️⃣ 🎥 Google Beam การสื่อสารผ่านวิดีโอที่ ‘เหมือนอยู่ต่อหน้า’ จริงๆ.Google เปิดตัว Google Beam แพลตฟอร์มวิดีโอคอลแบบใหม่ที่ใช้กล้อง 6 ตัวและ AI เพื่อสร้างภาพ 3D เสมือนจริงบนจอ Light-field ที่มีความละเอียดสูง รองรับ 60 fps และ Head Tracking แบบมิลลิเมตร.สิ่งที่น่าทึ่งคือความสามารถในการจับภาพบุคคลจากมุมต่างๆ แล้วนำมาสร้างโมเดลภาพ 3 มิติแบบเรียลไทม์เพื่อใช้ใน Video Call เหมือนกับว่าคู่สนทนาอยู่ตรงหน้า.นอกจากนี้ Google Beam ยังพัฒนาร่วมกับ HP และจะเปิดให้ใช้งานกับลูกค้าชุดแรกภายในปีนี้..4️⃣ 🔊 Gemini Live & Project Astra AI ที่เข้าใจโลกจริงผ่านกล้องและเสียง.หนึ่งในจุดเด่นของ Gemini 2.5 คือความสามารถแบบ Multimodal เข้าใจภาพ เสียง ข้อความ และบริบทพร้อมกัน.Gemini Live เป็นประสบการณ์ใหม่ของ AI ที่ให้คุณพูดคุยกับ AI แบบเรียลไทม์ผ่านเสียง พร้อมใช้กล้องมือถือเพื่อให้ AI เห็นสิ่งเดียวกันกับคุณ เช่น.⭐ ชี้กล้องไปที่หน้าปัดรถ → AI บอกวิธีใช้⭐ แชร์หน้าจอสัมภาษณ์ → AI วิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน⭐ อ่านลายมือจากโน้ต → เปลี่ยนเป็น Checklists ใน Google Keep.ทั้งหมดนี้จะใช้งานได้ผ่าน Android และ iOS โดยจะเชื่อมต่อกับ Maps, Calendar, Tasks ได้เร็วๆ นี้..5️⃣ 🧑‍💻 AI Mode ใน Google Search ค้นหาแบบฉลาด สนทนาได้ พร้อมทำงานแทน.Google Search กลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีผู้ใช้ AI มากที่สุดในโลก โดยมีผู้ใช้กว่า 1.5 พันล้านคนต่อเดือน ที่ได้สัมผัส AI Overviews.แต่ปีนี้ Google ยกระดับอีกขั้นด้วย ‘AI Mode’ แท็บใหม่ใน Google Search ที่ให้คุณพิมพ์คำถามยาว ซับซ้อน หรือพูดผ่านกล้องได้เลย เช่น.“เปรียบเทียบโน้ตบุ๊กที่เหมาะกับงานตัดต่อ ราคาไม่เกิน 50,000 พร้อมร้านที่ไว้ใจได้”“นี่คือประตูหน้าบ้านฉัน มีอะไรผิดปกติมั้ย?” (ใช้กล้อง).นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Search Live สำหรับการค้นหาขณะใช้งานจริง และระบบ Agentic Checkout ที่ช่วยติดตามราคา สั่งซื้ออัตโนมัติ และจ่ายเงินผ่าน Google Pay ได้แบบเรียบง่าย..6️⃣ 💌 Smart Reply ด้วยน้ำเสียงและสำนวนของคุณ ตอบอีเมลให้เหมือนคุณเขียนเอง.Google นำ Gemini มาประยุกต์ใช้กับ Gmail โดยต่อยอดจากฟีเจอร์ Smart Reply ให้กลายเป็น Personalized Smart Reply ตัวอย่าง เพื่อนคุณถามถึงทริป Zion National Park ที่คุณเคยไป Gemini จะไปดึงข้อมูลจากอีเมลเก่า โน้ตใน Google Docs หรือเอกสารการจอง แล้วสร้างคำตอบให้พร้อมใช้น้ำเสียงเดียวกับที่คุณเคยใช้.Gemini จะเรียนรู้ว่าคุณชอบใช้คำทักทายแบบไหน มีสำนวนเฉพาะอะไร และเขียนตอบให้ในแบบที่อ่านแล้วเหมือนคุณจริง ๆ ไม่ใช่แค่คำตอบจาก AI.โดยจะเปิดใช้งานใน Gmail สำหรับผู้ใช้แบบเสียเงินช่วงฤดูร้อนนี้..7️⃣ 🖼️ V3 & Flow สร้างภาพ เสียง และบทพูดด้วย AI อย่างสมจริง.Google เปิดตัวโมเดล V3 ที่รองรับการสร้างเสียง และบทสนทนา จากข้อความธรรมดา เช่น.“นกฮูกแก่กับแบดเจอร์น้อยคุยกันกลางป่า” → ได้ทั้งเสียงสัตว์ เสียงป่า และบทสนทนาจริง.ไม่เพียงเท่านั้น เครื่องมือสร้างสรรค์ใหม่ชื่อ Flow ผสาน Gemini + V3 + Imagine 4 เพื่อให้ผู้สร้างสามารถสร้างวิดีโอแบบมืออาชีพได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นภาพเคลื่อนไหว เสียงพื้นหลัง หรือบทพูดที่น่าดึงดูด..8️⃣ 🕶️ Android XR ระบบปฏิบัติการสำหรับแว่นตาและโลกเสมือน.Google ร่วมกับ Samsung และ Qualcomm เปิดตัว Android XR ระบบปฏิบัติการใหม่สำหรับอุปกรณ์ XR (Extended Reality).Project Muhan ของ Samsung คืออุปกรณ์ XR เครื่องแรกที่ใช้ Android XR ตามมาด้วยแว่นตาอัจฉริยะจาก Gentle Monster และ Warby Parker ซึ่งจะเริ่มเปิดให้นักพัฒนาทดลองภายในปีนี้.เป้าหมายคือสร้างอุปกรณ์ที่เบา ใส่สบาย ใช้งานได้ทั้งวัน เพื่อใช้ดูข้อมูล แปลภาษา รับการแจ้งเตือน หรือใช้ Gemini แบบ AR ได้ทุกที่ที่ต้องการเลย..9️⃣ 🛡️ AI เพื่อมนุษยธรรม Firesat และโดรนช่วยเหลือภัยพิบัติ.Google ใช้ AI เพื่อแก้ปัญหาจริง เช่นการรับมือภัยพิบัติ อย่าง Firesat คือดาวเทียม AI ที่สามารถตรวจจับไฟป่าได้ในพื้นที่ขนาดเท่ากับโรงรถเพียงหลังเดียว และอัปเดตรูปภาพทุก 20 นาที (จากเดิม 12 ชั่วโมง).โครงการร่วมกับ Red Cross, Walmart, และ Wing ใช้โดรนส่งอาหาร ยา และของจำเป็นไปยังพื้นที่ประสบภัยแบบเรียลไทม์ เช่นตอนพายุ Hurricane Helen.นี่คือการยืนยันว่า AI ไม่ได้มาเพื่อแค่แย่งงานคน แต่กำลังช่วยชีวิตคนจริงๆ..🔟 💼 Google AI Ultra แผนสมาชิกพรีเมียมสำหรับคนที่ต้องการ AI ขั้นสูงสุด.Google AI Ultra คือแผนการสมัครสมาชิก AI ระดับพรีเมียมใหม่ของ Google โดยแผนนี้ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ นักพัฒนา และมืออาชีพด้านความคิดสร้างสรรค์ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากความสามารถ AI ขั้นสูงสุดของ Google.สำหรับราคา แผน Google AI Ultra มีค่าใช้จ่าย 249.99 ดอลลาร์ต่อเดือน สำหรับสิ่งที่ผู้สมัครสมาชิก Google AI Ultra จะได้รับ ได้แก่.⭐ สิทธิ์การเข้าถึงโมเดลที่มีความสามารถสูงสุดของ Google ⭐ ขีดจำกัดการใช้งานสูงสุด ⭐ คุณสมบัติพรีเมียมต่างๆ เช่น การเข้าถึง Deep Research ในแอป Gemini ⭐ การสร้างวิดีโอด้วย Veo 2 และการเข้าถึง Veo 3 ก่อนใคร ⭐ พื้นที่เก็บข้อมูล 30TB + YouTube Premium⭐ เครื่องมือสร้างภาพยนตร์ AI ใหม่ Flow สำหรับสร้างวิดีโอระดับ 1080p⭐ การเข้าถึง Project Mariner ซึ่งสามารถจัดการงานที่ใช้เวลานานได้สูงสุด 10 งานพร้อมกัน⭐ NotebookLM เวอร์ชันเต็ม⭐ เข้าถึง Gemini 2.5 Pro ก่อนใคร พร้อม Deep Think Mode⭐ เข้าถึงฟีเจอร์ทดลองก่อนเปิดตัว.เป็นแผนสมาชิกที่น่าสนใจมากๆ หากใครสนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้..📌 Google I/O 2025 คือการยืนยันว่าเราได้ก้าวข้ามยุค ‘AI ที่รอรับคำสั่ง’ มาเป็นยุคของ ‘AI ที่ลงมือทำแทน’ แล้วอย่างแท้จริง ตอนนี้ AI ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีเบื้องหลังอีกต่อไป แต่มันกำลังเข้าไปในอีเมลของคุณ (Smart Reply) อยู่ในกล้องของคุณ (Search Live) คุยกับคุณแบบเห็นภาพจริง (Gemini Live) จองห้อง ดูตาราง เปรียบเทียบราคาแทนคุณ (Agent Mode) ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นแล้ว และกำลังจะมาให้คุณใช้จริงในปี 2025..เขียนและเรียบเรียงโดย ธนพนธ์ หัสกรรัตน์
    [Technology] ‘โลกใหม่ ที่ AI ทำงาน แทนคุณได้ทุกอย่าง’ สรุป 10 ไฮไลต์ จาก Google I/O 2025 กับยุคใหม่ของ Agentic AI ที่ฉลาด คิด วิเคราะห์ และทำงานแทนคุณได้ทุกที่..หากคุณคาดหวังว่า Google I/O 2025 จะเป็นเวทีที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ AI ใหม่ๆ อาจจะผิดหวัง เพราะปีนี้ถือเป็นปีที่นำเสนอจุดเปลี่ยนสำคัญของยุคดิจิทัล ที่มีมากกว่าแค่การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ เปรียบเสมือนว่า Google กำลังส่งสัญญาณบางอย่าง เพื่อบอกกับเราว่า “AI ไม่ใช่แค่ผู้ช่วยที่รับคำสั่งไปวันๆ เท่านั้น”.Agentic AI ยังคงเป็นดาวเด่นสำหรับแวดวงเทคโนโลยีในปีนี้ Google เรียกมันว่าเป็นโมเดลที่ฉลาดมากพอจะคิด วิเคราะห์ ประสานงาน และจัดการสิ่งต่างๆ ให้เราได้แบบอัตโนมัติ.และนี่คือ 10 ไฮไลต์สำคัญจากงาน Google I/O 2025 ที่สะท้อนยุคใหม่ของปัญญาประดิษฐ์อย่างชัดเจน อีกทั้งยังตอกย้ำอีกว่าปีนี้ Google เอาจริง!..[ 10 ไฮไลต์สำคัญจากงาน Google I/O 2025 ] .1️⃣ 🌐 Gemini 2.5 Pro และ Flash ก้าวกระโดดของโมเดล AI ที่เร็ว ฉลาด และพร้อมใช้จริง.Google เปิดตัวโมเดลเรือธง Gemini 2.5 Pro ที่ครองอันดับ 1 ทุกหมวดใน LM Arena ซึ่งเป็นสนามประเมินศักยภาพของโมเดลภาษา ตัวเลขบ่งชี้ความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน โดยโมเดลใหม่ได้คะแนน ELO เพิ่มขึ้นกว่า 300 แต้มจาก Gemini รุ่นแรก.จุดเด่นของ 2.5 Pro ไม่ใช่แค่ความเข้าใจภาษาหรือตรรกะที่ลึกซึ้งขึ้น แต่คือความสามารถในการ ‘ใช้เหตุผลหลายขั้น’ และตอบคำถามที่ซับซ้อนได้ใกล้เคียงมนุษย์.ขณะเดียวกัน Google ยังเปิดตัว ‘Gemini 2.5 Flash’ โมเดลเวอร์ชันที่เล็กลงมาหน่อยแต่ยังคงทรงพลัง เหมาะกับงานที่ต้องการความเร็วและต้นทุนต่ำ เช่น Chatbots, Customer Service หรือ Data Analysis แบบเรียลไทม์.ทั้งสองโมเดลนี้จะเปิดให้ใช้งานใน Gemini API ภายในเดือนมิถุนายน และหลังจากนั้นจะถูกนำมาเป็นแกนหลักของการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในผลิตภัณฑ์ของ Google..2️⃣ 🧠 Agent Mode & Project Mariner - Agentic AI ในแบบของ Google.Google เปิดตัว Agent Mode ภายใน Gemini App ซึ่งไม่เพียงตอบคำถาม แต่สามารถทำสิ่งนั้นแทนเราได้จริง เช่น หากคุณต้องการหาอพาร์ตเมนต์ใน Austin สำหรับ 3 คน พร้อมเครื่องซักผ้า และงบไม่เกินคนละ $1,200.Agent Mode จะทำงานโดยการดึงข้อมูลจาก Zillow กรองข้อมูลตามเงื่อนไข แนะนำห้อง นัดดูห้องใน Google Calendar ให้เรียบร้อย.โดยเบื้องหลังความสามารถนี้คือ Project Mariner ซึ่งทำให้ AI มีทักษะในการ ‘ใช้คอมพิวเตอร์ได้เหมือนมนุษย์’ เช่น เปิดเว็บ คลิก กรอกแบบฟอร์ม อีกทั้งยังมีความสามารถในการเรียนรู้จากการเห็นวิธีการทำงานเพียงครั้งเดียวด้วยฟีเจอร์ ‘Teach & Repeat’.นอกจากนี้ Mariner ยังรองรับ Multitasking สูงสุด 10 งานพร้อมกัน และจะเปิดให้ใช้งานช่วงฤดูร้อนนี้ผ่าน Gemini API..3️⃣ 🎥 Google Beam การสื่อสารผ่านวิดีโอที่ ‘เหมือนอยู่ต่อหน้า’ จริงๆ.Google เปิดตัว Google Beam แพลตฟอร์มวิดีโอคอลแบบใหม่ที่ใช้กล้อง 6 ตัวและ AI เพื่อสร้างภาพ 3D เสมือนจริงบนจอ Light-field ที่มีความละเอียดสูง รองรับ 60 fps และ Head Tracking แบบมิลลิเมตร.สิ่งที่น่าทึ่งคือความสามารถในการจับภาพบุคคลจากมุมต่างๆ แล้วนำมาสร้างโมเดลภาพ 3 มิติแบบเรียลไทม์เพื่อใช้ใน Video Call เหมือนกับว่าคู่สนทนาอยู่ตรงหน้า.นอกจากนี้ Google Beam ยังพัฒนาร่วมกับ HP และจะเปิดให้ใช้งานกับลูกค้าชุดแรกภายในปีนี้..4️⃣ 🔊 Gemini Live & Project Astra AI ที่เข้าใจโลกจริงผ่านกล้องและเสียง.หนึ่งในจุดเด่นของ Gemini 2.5 คือความสามารถแบบ Multimodal เข้าใจภาพ เสียง ข้อความ และบริบทพร้อมกัน.Gemini Live เป็นประสบการณ์ใหม่ของ AI ที่ให้คุณพูดคุยกับ AI แบบเรียลไทม์ผ่านเสียง พร้อมใช้กล้องมือถือเพื่อให้ AI เห็นสิ่งเดียวกันกับคุณ เช่น.⭐ ชี้กล้องไปที่หน้าปัดรถ → AI บอกวิธีใช้⭐ แชร์หน้าจอสัมภาษณ์ → AI วิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน⭐ อ่านลายมือจากโน้ต → เปลี่ยนเป็น Checklists ใน Google Keep.ทั้งหมดนี้จะใช้งานได้ผ่าน Android และ iOS โดยจะเชื่อมต่อกับ Maps, Calendar, Tasks ได้เร็วๆ นี้..5️⃣ 🧑‍💻 AI Mode ใน Google Search ค้นหาแบบฉลาด สนทนาได้ พร้อมทำงานแทน.Google Search กลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีผู้ใช้ AI มากที่สุดในโลก โดยมีผู้ใช้กว่า 1.5 พันล้านคนต่อเดือน ที่ได้สัมผัส AI Overviews.แต่ปีนี้ Google ยกระดับอีกขั้นด้วย ‘AI Mode’ แท็บใหม่ใน Google Search ที่ให้คุณพิมพ์คำถามยาว ซับซ้อน หรือพูดผ่านกล้องได้เลย เช่น.“เปรียบเทียบโน้ตบุ๊กที่เหมาะกับงานตัดต่อ ราคาไม่เกิน 50,000 พร้อมร้านที่ไว้ใจได้”“นี่คือประตูหน้าบ้านฉัน มีอะไรผิดปกติมั้ย?” (ใช้กล้อง).นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Search Live สำหรับการค้นหาขณะใช้งานจริง และระบบ Agentic Checkout ที่ช่วยติดตามราคา สั่งซื้ออัตโนมัติ และจ่ายเงินผ่าน Google Pay ได้แบบเรียบง่าย..6️⃣ 💌 Smart Reply ด้วยน้ำเสียงและสำนวนของคุณ ตอบอีเมลให้เหมือนคุณเขียนเอง.Google นำ Gemini มาประยุกต์ใช้กับ Gmail โดยต่อยอดจากฟีเจอร์ Smart Reply ให้กลายเป็น Personalized Smart Reply ตัวอย่าง เพื่อนคุณถามถึงทริป Zion National Park ที่คุณเคยไป Gemini จะไปดึงข้อมูลจากอีเมลเก่า โน้ตใน Google Docs หรือเอกสารการจอง แล้วสร้างคำตอบให้พร้อมใช้น้ำเสียงเดียวกับที่คุณเคยใช้.Gemini จะเรียนรู้ว่าคุณชอบใช้คำทักทายแบบไหน มีสำนวนเฉพาะอะไร และเขียนตอบให้ในแบบที่อ่านแล้วเหมือนคุณจริง ๆ ไม่ใช่แค่คำตอบจาก AI.โดยจะเปิดใช้งานใน Gmail สำหรับผู้ใช้แบบเสียเงินช่วงฤดูร้อนนี้..7️⃣ 🖼️ V3 & Flow สร้างภาพ เสียง และบทพูดด้วย AI อย่างสมจริง.Google เปิดตัวโมเดล V3 ที่รองรับการสร้างเสียง และบทสนทนา จากข้อความธรรมดา เช่น.“นกฮูกแก่กับแบดเจอร์น้อยคุยกันกลางป่า” → ได้ทั้งเสียงสัตว์ เสียงป่า และบทสนทนาจริง.ไม่เพียงเท่านั้น เครื่องมือสร้างสรรค์ใหม่ชื่อ Flow ผสาน Gemini + V3 + Imagine 4 เพื่อให้ผู้สร้างสามารถสร้างวิดีโอแบบมืออาชีพได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นภาพเคลื่อนไหว เสียงพื้นหลัง หรือบทพูดที่น่าดึงดูด..8️⃣ 🕶️ Android XR ระบบปฏิบัติการสำหรับแว่นตาและโลกเสมือน.Google ร่วมกับ Samsung และ Qualcomm เปิดตัว Android XR ระบบปฏิบัติการใหม่สำหรับอุปกรณ์ XR (Extended Reality).Project Muhan ของ Samsung คืออุปกรณ์ XR เครื่องแรกที่ใช้ Android XR ตามมาด้วยแว่นตาอัจฉริยะจาก Gentle Monster และ Warby Parker ซึ่งจะเริ่มเปิดให้นักพัฒนาทดลองภายในปีนี้.เป้าหมายคือสร้างอุปกรณ์ที่เบา ใส่สบาย ใช้งานได้ทั้งวัน เพื่อใช้ดูข้อมูล แปลภาษา รับการแจ้งเตือน หรือใช้ Gemini แบบ AR ได้ทุกที่ที่ต้องการเลย..9️⃣ 🛡️ AI เพื่อมนุษยธรรม Firesat และโดรนช่วยเหลือภัยพิบัติ.Google ใช้ AI เพื่อแก้ปัญหาจริง เช่นการรับมือภัยพิบัติ อย่าง Firesat คือดาวเทียม AI ที่สามารถตรวจจับไฟป่าได้ในพื้นที่ขนาดเท่ากับโรงรถเพียงหลังเดียว และอัปเดตรูปภาพทุก 20 นาที (จากเดิม 12 ชั่วโมง).โครงการร่วมกับ Red Cross, Walmart, และ Wing ใช้โดรนส่งอาหาร ยา และของจำเป็นไปยังพื้นที่ประสบภัยแบบเรียลไทม์ เช่นตอนพายุ Hurricane Helen.นี่คือการยืนยันว่า AI ไม่ได้มาเพื่อแค่แย่งงานคน แต่กำลังช่วยชีวิตคนจริงๆ..🔟 💼 Google AI Ultra แผนสมาชิกพรีเมียมสำหรับคนที่ต้องการ AI ขั้นสูงสุด.Google AI Ultra คือแผนการสมัครสมาชิก AI ระดับพรีเมียมใหม่ของ Google โดยแผนนี้ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ นักพัฒนา และมืออาชีพด้านความคิดสร้างสรรค์ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากความสามารถ AI ขั้นสูงสุดของ Google.สำหรับราคา แผน Google AI Ultra มีค่าใช้จ่าย 249.99 ดอลลาร์ต่อเดือน สำหรับสิ่งที่ผู้สมัครสมาชิก Google AI Ultra จะได้รับ ได้แก่.⭐ สิทธิ์การเข้าถึงโมเดลที่มีความสามารถสูงสุดของ Google ⭐ ขีดจำกัดการใช้งานสูงสุด ⭐ คุณสมบัติพรีเมียมต่างๆ เช่น การเข้าถึง Deep Research ในแอป Gemini ⭐ การสร้างวิดีโอด้วย Veo 2 และการเข้าถึง Veo 3 ก่อนใคร ⭐ พื้นที่เก็บข้อมูล 30TB + YouTube Premium⭐ เครื่องมือสร้างภาพยนตร์ AI ใหม่ Flow สำหรับสร้างวิดีโอระดับ 1080p⭐ การเข้าถึง Project Mariner ซึ่งสามารถจัดการงานที่ใช้เวลานานได้สูงสุด 10 งานพร้อมกัน⭐ NotebookLM เวอร์ชันเต็ม⭐ เข้าถึง Gemini 2.5 Pro ก่อนใคร พร้อม Deep Think Mode⭐ เข้าถึงฟีเจอร์ทดลองก่อนเปิดตัว.เป็นแผนสมาชิกที่น่าสนใจมากๆ หากใครสนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้..📌 Google I/O 2025 คือการยืนยันว่าเราได้ก้าวข้ามยุค ‘AI ที่รอรับคำสั่ง’ มาเป็นยุคของ ‘AI ที่ลงมือทำแทน’ แล้วอย่างแท้จริง ตอนนี้ AI ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีเบื้องหลังอีกต่อไป แต่มันกำลังเข้าไปในอีเมลของคุณ (Smart Reply) อยู่ในกล้องของคุณ (Search Live) คุยกับคุณแบบเห็นภาพจริง (Gemini Live) จองห้อง ดูตาราง เปรียบเทียบราคาแทนคุณ (Agent Mode) ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นแล้ว และกำลังจะมาให้คุณใช้จริงในปี 2025..เขียนและเรียบเรียงโดย ธนพนธ์ หัสกรรัตน์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 209 มุมมอง 0 รีวิว
  • สรุปประเด็นเด่นจากงาน Google I/O 2025: AI ครองโลก เทคโนโลยีสุดล้ำนำอนาคต

    เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา งาน Google I/O 2025 จัดขึ้นที่ Shoreline Amphitheatre รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมี ซันดาร์ พิชัย CEO ของ Google ขึ้นเวที keynote เปิดตัวนวัตกรรมสุดล้ำที่เน้นหนักไปที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีแห่งอนาคต นี่คือประเด็นสำคัญที่ทุกคนต้องรู้!

    ✅ Gemini 2.5 และ AI Mode ใน Google Search
    - Google เปิดตัว Gemini 2.5 โมเดล AI รุ่นใหม่ที่มาพร้อมประสิทธิภาพสูงขึ้น ความปลอดภัยที่ดีกว่า และความโปร่งใสในการใช้งาน ไฮไลต์เด็ดคือ AI Mode ใน Google Search ที่เปลี่ยนการค้นหาให้เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัว สามารถตอบคำถามเชิงลึก รองรับการสนทนาต่อเนื่อง และมี Deep Search สำหรับงานวิจัยที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เริ่มใช้งานแล้วในสหรัฐอเมริกา

    ✅ Veo 3 และ Flow: การสร้างและตัดต่อวิดีโอด้วย AI
    Google นำเสนอ Veo 3 เครื่องมือสร้างวิดีโอที่สามารถเพิ่มบทสนทนาและเอฟเฟกต์เสียงได้อัตโนมัติ รวมถึง Flow เครื่องมือตัดต่อวิดีโอด้วย AI ที่ช่วยให้การปรับแต่งวิดีโอง่ายและรวดเร็ว เหมาะสำหรับครีเอเตอร์ที่ต้องการงานคุณภาพสูงในเวลาอันสั้น

    ✅ Android XR และแว่นตาอัจฉริยะ
    Google ทุ่มสุดตัวกับ Android XR แพลตฟอร์มสำหรับอุปกรณ์ความจริงผสม (Mixed Reality) พร้อมเผยความคืบหน้าแว่นตาอัจฉริยะที่คาดว่าจะแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด งานนี้แสดงให้เห็นว่า Google พร้อมบุกตลาด XR อย่างจริงจัง

    ✅ Gemini Ultra และการสมัครสมาชิก
    เปิดตัว Gemini Ultra แผนการสมัครสมาชิกระดับพรีเมียม (ราคา $249.99/เดือน เฉพาะสหรัฐฯ) มอบการเข้าถึง AI ระดับสูงสุด รวมถึง Veo 3, Flow และ Gemini 2.5 Pro Deep Think Mode สำหรับการวิเคราะห์เชิงลึก รวมถึงขยายขีดจำกัดการใช้งานเครื่องมืออย่าง NotebookLM และ Whisk (เครื่องมือรีมิกซ์ภาพ)

    ✅ Project Astra และ Jules: ผู้ช่วยและนักพัฒนา AI
    Project Astra ได้รับการอัปเดตให้ฉลาดขึ้น กลายเป็นผู้ช่วย AI สากลที่ผสานรวมกับบริการต่าง ๆ ของ Google ได้อย่างลงตัว ส่วน Jules คือ AI ตัวใหม่สำหรับนักพัฒนา ช่วยเขียนโค้ดแบบไม่ต้องรอ (asynchronous) เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เหล่านักพัฒนาซอฟต์แวร์

    ✅ Google Meet กับการแปลภาษาแบบเรียลไทม์
    Google Meet เพิ่มฟีเจอร์แปลภาษาเสียงแบบเรียลไทม์ ช่วยให้การประชุมข้ามภาษาเป็นเรื่องง่าย สะท้อนความมุ่งมั่นของ Google ในการเชื่อมโยงผู้คนทั่วโลก

    ✅ Project Starline ก้าวสู่ความเป็นจริง
    Google ประกาศขยายความร่วมมือและวาง roadmap สำหรับ Project Starline ระบบสื่อสารแบบโฮโลแกรมที่ให้ประสบการณ์เหมือนเจอตัวจริง คาดว่าจะเริ่มใช้งานในวงกว้างเร็ว ๆ นี้
    วิเคราะห์ทิศทาง

    ℹ️ งาน Google I/O 2025 แสดงให้เห็นว่า Google เดินหน้าเต็มสูบกับ AI โดยเฉพาะ Gemini ที่แทรกซึมในทุกผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การค้นหาไปจนถึงการพัฒนาแอปพลิเคชัน ขณะที่ Android XR และ Project Starline บ่งบอกถึงวิสัยทัศน์ด้านฮาร์ดแวร์ที่พร้อมท้าชนคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม การที่ Google Assistant อาจถูกลดบทบาทเพื่อให้ Gemini ขึ้นมาแทน กลายเป็นประเด็นที่หลายคนจับตา

    งานนี้ไม่เพียงโชว์ศักยภาพด้านเทคโนโลยี แต่ยังสะท้อนว่า Google พร้อมเป็นผู้นำในยุค AI และความจริงผสม ใครที่สนใจนวัตกรรมเหล่านี้ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ io.google
    สรุปประเด็นเด่นจากงาน Google I/O 2025: AI ครองโลก เทคโนโลยีสุดล้ำนำอนาคต เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา งาน Google I/O 2025 จัดขึ้นที่ Shoreline Amphitheatre รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมี ซันดาร์ พิชัย CEO ของ Google ขึ้นเวที keynote เปิดตัวนวัตกรรมสุดล้ำที่เน้นหนักไปที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีแห่งอนาคต นี่คือประเด็นสำคัญที่ทุกคนต้องรู้! ✅ Gemini 2.5 และ AI Mode ใน Google Search - Google เปิดตัว Gemini 2.5 โมเดล AI รุ่นใหม่ที่มาพร้อมประสิทธิภาพสูงขึ้น ความปลอดภัยที่ดีกว่า และความโปร่งใสในการใช้งาน ไฮไลต์เด็ดคือ AI Mode ใน Google Search ที่เปลี่ยนการค้นหาให้เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัว สามารถตอบคำถามเชิงลึก รองรับการสนทนาต่อเนื่อง และมี Deep Search สำหรับงานวิจัยที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เริ่มใช้งานแล้วในสหรัฐอเมริกา ✅ Veo 3 และ Flow: การสร้างและตัดต่อวิดีโอด้วย AI Google นำเสนอ Veo 3 เครื่องมือสร้างวิดีโอที่สามารถเพิ่มบทสนทนาและเอฟเฟกต์เสียงได้อัตโนมัติ รวมถึง Flow เครื่องมือตัดต่อวิดีโอด้วย AI ที่ช่วยให้การปรับแต่งวิดีโอง่ายและรวดเร็ว เหมาะสำหรับครีเอเตอร์ที่ต้องการงานคุณภาพสูงในเวลาอันสั้น ✅ Android XR และแว่นตาอัจฉริยะ Google ทุ่มสุดตัวกับ Android XR แพลตฟอร์มสำหรับอุปกรณ์ความจริงผสม (Mixed Reality) พร้อมเผยความคืบหน้าแว่นตาอัจฉริยะที่คาดว่าจะแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด งานนี้แสดงให้เห็นว่า Google พร้อมบุกตลาด XR อย่างจริงจัง ✅ Gemini Ultra และการสมัครสมาชิก เปิดตัว Gemini Ultra แผนการสมัครสมาชิกระดับพรีเมียม (ราคา $249.99/เดือน เฉพาะสหรัฐฯ) มอบการเข้าถึง AI ระดับสูงสุด รวมถึง Veo 3, Flow และ Gemini 2.5 Pro Deep Think Mode สำหรับการวิเคราะห์เชิงลึก รวมถึงขยายขีดจำกัดการใช้งานเครื่องมืออย่าง NotebookLM และ Whisk (เครื่องมือรีมิกซ์ภาพ) ✅ Project Astra และ Jules: ผู้ช่วยและนักพัฒนา AI Project Astra ได้รับการอัปเดตให้ฉลาดขึ้น กลายเป็นผู้ช่วย AI สากลที่ผสานรวมกับบริการต่าง ๆ ของ Google ได้อย่างลงตัว ส่วน Jules คือ AI ตัวใหม่สำหรับนักพัฒนา ช่วยเขียนโค้ดแบบไม่ต้องรอ (asynchronous) เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เหล่านักพัฒนาซอฟต์แวร์ ✅ Google Meet กับการแปลภาษาแบบเรียลไทม์ Google Meet เพิ่มฟีเจอร์แปลภาษาเสียงแบบเรียลไทม์ ช่วยให้การประชุมข้ามภาษาเป็นเรื่องง่าย สะท้อนความมุ่งมั่นของ Google ในการเชื่อมโยงผู้คนทั่วโลก ✅ Project Starline ก้าวสู่ความเป็นจริง Google ประกาศขยายความร่วมมือและวาง roadmap สำหรับ Project Starline ระบบสื่อสารแบบโฮโลแกรมที่ให้ประสบการณ์เหมือนเจอตัวจริง คาดว่าจะเริ่มใช้งานในวงกว้างเร็ว ๆ นี้ วิเคราะห์ทิศทาง ℹ️ งาน Google I/O 2025 แสดงให้เห็นว่า Google เดินหน้าเต็มสูบกับ AI โดยเฉพาะ Gemini ที่แทรกซึมในทุกผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การค้นหาไปจนถึงการพัฒนาแอปพลิเคชัน ขณะที่ Android XR และ Project Starline บ่งบอกถึงวิสัยทัศน์ด้านฮาร์ดแวร์ที่พร้อมท้าชนคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม การที่ Google Assistant อาจถูกลดบทบาทเพื่อให้ Gemini ขึ้นมาแทน กลายเป็นประเด็นที่หลายคนจับตา งานนี้ไม่เพียงโชว์ศักยภาพด้านเทคโนโลยี แต่ยังสะท้อนว่า Google พร้อมเป็นผู้นำในยุค AI และความจริงผสม ใครที่สนใจนวัตกรรมเหล่านี้ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ io.google
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนกำลังเตรียมการประจำการในสิ่งที่เรียกว่า "อากาศยานบรรทุกโดรน" ลำแรกของโลก มีศักยภาพในการปล่อยฝูงโดรนกามิกาเซที่นำวิถีด้วยปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และขีปนาวุธ โจมตีเป้าหมายระหว่างบินปฏิบัติภารกิจในระดับที่สูงมากๆ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000047343

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    จีนกำลังเตรียมการประจำการในสิ่งที่เรียกว่า "อากาศยานบรรทุกโดรน" ลำแรกของโลก มีศักยภาพในการปล่อยฝูงโดรนกามิกาเซที่นำวิถีด้วยปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และขีปนาวุธ โจมตีเป้าหมายระหว่างบินปฏิบัติภารกิจในระดับที่สูงมากๆ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000047343 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Sad
    15
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 981 มุมมอง 0 รีวิว
  • คำพูดตลกของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม และ “ภรรยาคนที่สอง” ทำให้คนในประเทศเกิดปฏิกิริยาที่หลากหลาย โดยทำให้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียรู้สึกขบขัน แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้คนอื่นๆรู้สึกไม่พอใจเพราะยังคงไว้อาลัยเที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ หลังจากที่รัสเซียถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เครื่องบินตกเมื่อปี 2014 ระหว่างที่อันวาร์เยือนกรุงมอสโก

    อันวาร์อยู่ระหว่างการเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ 4 วันตามคำเชิญของปูติน โดยทั้งสองฝ่ายต่างยกย่องความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในภาคส่วนต่างๆ เช่น อวกาศ ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีดิจิทัล

    แต่คำพูดที่หลุดจากปากของปูตินเองต่างหากที่ดึงดูดความสนใจ

    ในการแถลงข่าวร่วมกันที่กรุงมอสโกเมื่อวันพุธที่14 พ.ค. ผู้นำรัสเซียเล่าว่าพาอันวาร์ชมห้องโถงเซนต์แอนดรูว์อันโอ่อ่าในเครมลิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของบัลลังก์พิธีการ 3 บัลลังก์ที่ราชวงศ์รัสเซียเคยใช้ ผู้นำรัสเซียอธิบายว่าบัลลังก์หนึ่งเป็นของซาร์ และอีกบัลลังก์หนึ่งเป็นของภรรยา จากนั้นจึงถามผู้นำมาเลเซียว่าบัลลังก์ที่สามเป็นของใคร

    “นายกรัฐมนตรีอันวาร์กล่าวโดยไม่คิดอะไรเลยว่า ‘เพื่อภรรยาคนที่สอง’” ปูตินกล่าว ทำให้ผู้ฟังหัวเราะ “ฉันหวังว่าเขาจะไม่โกรธฉันที่พูดแบบนั้น แต่นี่คือคำตอบของมุสลิมแท้ ตัวแทนที่แท้จริงของวัฒนธรรมอิสลาม”

    อันวาร์ซึ่งหัวเราะขณะที่ปูตินเล่าเรื่องนี้ตอบกลับว่า “ผมมีภรรยาคนเดียวเท่านั้น ท่านประธานาธิบดี” และเสริมว่าภายหลังเขาเพิ่งตระหนักว่าบัลลังก์ที่สามนั้นเป็นของพระมารดาของซาร์

    ชาวมาเลเซียรีบล้อเลียนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนี้บนโซเชียลมีเดีย โดยบางคนเสนอว่าควรมีเพลง “Russia Sayang” เป็นเพลงประกอบการเยือนของอันวาร์ ซึ่งเป็นการเล่นคำกับเพลง “Rasa Sayang” ซึ่งเป็นเพลงพื้นบ้านยอดนิยมของชาวมาเลย์ที่แปลว่า “ความรู้สึกรัก”

    “จากรัสเซียด้วยความรัก” ผู้ใช้รายหนึ่งชื่ออัซลัน อับดุลลาห์ เขียน พร้อมเพิ่มอีโมจิหัวเราะในความคิดเห็นบนเฟซบุ๊กของเขา

    อย่างไรก็ตาม ชาวมาเลเซียบางคนก็ไม่ได้รู้สึกขบขัน นักวิจารณ์โต้แย้งว่าความตลกโปกฮานี้ขาดความจริงจัง เนื่องจากรัสเซียมีบทบาทในเหตุโศกนาฏกรรม MH17 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 298 ราย รวมถึงชาวมาเลเซีย 43 ราย เมื่อเครื่องบินถูกขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ Buk ที่ผลิตโดยรัสเซียโจมตีเหนือยูเครนตะวันออกในเดือนกรกฎาคม 2557 ระหว่างการสู้รบระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนมอสโกวและกองกำลังยูเครน

    ผู้ใช้รายหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า “เขาคิดว่าเขาไปมอสโกวเพื่อเรียกร้องคำตอบเกี่ยวกับ MH17 แต่กลับกลายเป็นว่าเขากำลังเล่าเรื่องตลกเกี่ยวกับภรรยาคนที่สองกับปูตินแทน” ผู้ใช้อีกรายเขียนว่า “หัวเราะและเล่าเรื่องตลกในขณะที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจาก MH17 ร้องไห้” ในโพสต์ที่แชร์คลิปการแถลงข่าวที่กลายเป็นไวรัล

    เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คณะกรรมการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ตัดสินว่ารัสเซียต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์เครื่องบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ถูกยิงตก

    คำตัดสินดังกล่าวระบุว่ารัสเซียละเมิดอนุสัญญาชิคาโก ซึ่งห้ามใช้อาวุธโจมตีเครื่องบินพลเรือนขณะบิน และเปิดโอกาสให้รัฐที่ได้รับผลกระทบเรียกร้องค่าชดเชยแทนครอบครัวของผู้เสียชีวิตผ่านกลไกทางกฎหมายระหว่างประเทศ

    เครมลินปฏิเสธคำตัดสินดังกล่าวโดยระบุว่า “ลำเอียง” โดยให้เหตุผลว่ามอสโกไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวน

    ในการแถลงข่าวแยกกับสื่อมาเลเซียในกรุงมอสโก อันวาร์กล่าวว่าปูตินบอกกับเขาว่ารัสเซียเปิดกว้างที่จะให้ความร่วมมือในคดีนี้ แต่เฉพาะกับหน่วยงานสอบสวนที่ถือว่าเป็นกลางเท่านั้น

    “สิ่งที่ฉันยืนยันได้คือเขากล่าวว่าไม่เป็นความจริงที่จะบอกว่าพวกเขาไม่เต็มใจที่จะให้ความร่วมมือ แต่พวกเขาไม่สามารถให้ความร่วมมือกับใครก็ตามที่รัสเซียถือว่าไม่เป็นอิสระ” เขากล่าว

    มาเลเซียซึ่งสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซียในช่วงยุคโซเวียตในทศวรรษ 1960 นำเข้าธัญพืช น้ำมันกลั่น และอาวุธจากรัสเซีย และล่าสุดหันไปหามอสโกเพื่อขอการสนับสนุนในการพยายามเข้าร่วมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่บริกส์

    ที่มา Putin’s ‘second wife’ joke about Anwar draws laughs and backlash in Malaysia
    https://www.scmp.com/week-asia/politics/article/3310606/putins-second-wife-joke-about-malaysias-anwar-draws-laughs-and-anger-amid-mh17-ruling?share=mYixsqD3Gx74oC2WLCVGDbUSw3YQ5trX%2FyBWyU9E0%2F%2FQDIcV%2Ba96vAUpBw3v%2BoxVR4RAImnq9JxgzHKpT4WMZjU%2BOyv%2BvSxYeWul0pVvbj0%3D&utm_campaign=social_share
    คำพูดตลกของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม และ “ภรรยาคนที่สอง” ทำให้คนในประเทศเกิดปฏิกิริยาที่หลากหลาย โดยทำให้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียรู้สึกขบขัน แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้คนอื่นๆรู้สึกไม่พอใจเพราะยังคงไว้อาลัยเที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ หลังจากที่รัสเซียถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เครื่องบินตกเมื่อปี 2014 ระหว่างที่อันวาร์เยือนกรุงมอสโก อันวาร์อยู่ระหว่างการเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ 4 วันตามคำเชิญของปูติน โดยทั้งสองฝ่ายต่างยกย่องความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในภาคส่วนต่างๆ เช่น อวกาศ ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีดิจิทัล แต่คำพูดที่หลุดจากปากของปูตินเองต่างหากที่ดึงดูดความสนใจ ในการแถลงข่าวร่วมกันที่กรุงมอสโกเมื่อวันพุธที่14 พ.ค. ผู้นำรัสเซียเล่าว่าพาอันวาร์ชมห้องโถงเซนต์แอนดรูว์อันโอ่อ่าในเครมลิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของบัลลังก์พิธีการ 3 บัลลังก์ที่ราชวงศ์รัสเซียเคยใช้ ผู้นำรัสเซียอธิบายว่าบัลลังก์หนึ่งเป็นของซาร์ และอีกบัลลังก์หนึ่งเป็นของภรรยา จากนั้นจึงถามผู้นำมาเลเซียว่าบัลลังก์ที่สามเป็นของใคร “นายกรัฐมนตรีอันวาร์กล่าวโดยไม่คิดอะไรเลยว่า ‘เพื่อภรรยาคนที่สอง’” ปูตินกล่าว ทำให้ผู้ฟังหัวเราะ “ฉันหวังว่าเขาจะไม่โกรธฉันที่พูดแบบนั้น แต่นี่คือคำตอบของมุสลิมแท้ ตัวแทนที่แท้จริงของวัฒนธรรมอิสลาม” อันวาร์ซึ่งหัวเราะขณะที่ปูตินเล่าเรื่องนี้ตอบกลับว่า “ผมมีภรรยาคนเดียวเท่านั้น ท่านประธานาธิบดี” และเสริมว่าภายหลังเขาเพิ่งตระหนักว่าบัลลังก์ที่สามนั้นเป็นของพระมารดาของซาร์ ชาวมาเลเซียรีบล้อเลียนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนี้บนโซเชียลมีเดีย โดยบางคนเสนอว่าควรมีเพลง “Russia Sayang” เป็นเพลงประกอบการเยือนของอันวาร์ ซึ่งเป็นการเล่นคำกับเพลง “Rasa Sayang” ซึ่งเป็นเพลงพื้นบ้านยอดนิยมของชาวมาเลย์ที่แปลว่า “ความรู้สึกรัก” “จากรัสเซียด้วยความรัก” ผู้ใช้รายหนึ่งชื่ออัซลัน อับดุลลาห์ เขียน พร้อมเพิ่มอีโมจิหัวเราะในความคิดเห็นบนเฟซบุ๊กของเขา อย่างไรก็ตาม ชาวมาเลเซียบางคนก็ไม่ได้รู้สึกขบขัน นักวิจารณ์โต้แย้งว่าความตลกโปกฮานี้ขาดความจริงจัง เนื่องจากรัสเซียมีบทบาทในเหตุโศกนาฏกรรม MH17 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 298 ราย รวมถึงชาวมาเลเซีย 43 ราย เมื่อเครื่องบินถูกขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ Buk ที่ผลิตโดยรัสเซียโจมตีเหนือยูเครนตะวันออกในเดือนกรกฎาคม 2557 ระหว่างการสู้รบระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนมอสโกวและกองกำลังยูเครน ผู้ใช้รายหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า “เขาคิดว่าเขาไปมอสโกวเพื่อเรียกร้องคำตอบเกี่ยวกับ MH17 แต่กลับกลายเป็นว่าเขากำลังเล่าเรื่องตลกเกี่ยวกับภรรยาคนที่สองกับปูตินแทน” ผู้ใช้อีกรายเขียนว่า “หัวเราะและเล่าเรื่องตลกในขณะที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจาก MH17 ร้องไห้” ในโพสต์ที่แชร์คลิปการแถลงข่าวที่กลายเป็นไวรัล เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คณะกรรมการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ตัดสินว่ารัสเซียต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์เครื่องบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ถูกยิงตก คำตัดสินดังกล่าวระบุว่ารัสเซียละเมิดอนุสัญญาชิคาโก ซึ่งห้ามใช้อาวุธโจมตีเครื่องบินพลเรือนขณะบิน และเปิดโอกาสให้รัฐที่ได้รับผลกระทบเรียกร้องค่าชดเชยแทนครอบครัวของผู้เสียชีวิตผ่านกลไกทางกฎหมายระหว่างประเทศ เครมลินปฏิเสธคำตัดสินดังกล่าวโดยระบุว่า “ลำเอียง” โดยให้เหตุผลว่ามอสโกไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวน ในการแถลงข่าวแยกกับสื่อมาเลเซียในกรุงมอสโก อันวาร์กล่าวว่าปูตินบอกกับเขาว่ารัสเซียเปิดกว้างที่จะให้ความร่วมมือในคดีนี้ แต่เฉพาะกับหน่วยงานสอบสวนที่ถือว่าเป็นกลางเท่านั้น “สิ่งที่ฉันยืนยันได้คือเขากล่าวว่าไม่เป็นความจริงที่จะบอกว่าพวกเขาไม่เต็มใจที่จะให้ความร่วมมือ แต่พวกเขาไม่สามารถให้ความร่วมมือกับใครก็ตามที่รัสเซียถือว่าไม่เป็นอิสระ” เขากล่าว มาเลเซียซึ่งสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซียในช่วงยุคโซเวียตในทศวรรษ 1960 นำเข้าธัญพืช น้ำมันกลั่น และอาวุธจากรัสเซีย และล่าสุดหันไปหามอสโกเพื่อขอการสนับสนุนในการพยายามเข้าร่วมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่บริกส์ ที่มา Putin’s ‘second wife’ joke about Anwar draws laughs and backlash in Malaysia https://www.scmp.com/week-asia/politics/article/3310606/putins-second-wife-joke-about-malaysias-anwar-draws-laughs-and-anger-amid-mh17-ruling?share=mYixsqD3Gx74oC2WLCVGDbUSw3YQ5trX%2FyBWyU9E0%2F%2FQDIcV%2Ba96vAUpBw3v%2BoxVR4RAImnq9JxgzHKpT4WMZjU%2BOyv%2BvSxYeWul0pVvbj0%3D&utm_campaign=social_share
    WWW.SCMP.COM
    Putin’s ‘second wife’ joke about Anwar draws laughs and backlash in Malaysia
    While some social media users were amused by the leaders’ moment of levity, others felt it was inappropriate in light of the MH17 tragedy.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซาอุดีอาระเบีย รับปากในข้อตกลงมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์กับสหรัฐฯ ไล่ตั้งแต่ด้านกลาโหมไปจนถึงปัญญาประดิษฐ์ หลังจากริยาดได้ให้การต้อนรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างหรูหรา ในการเดินทางเยือนแบบรัฐพิธีเป็นครั้งแรก ขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัย 2
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000044811

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ซาอุดีอาระเบีย รับปากในข้อตกลงมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์กับสหรัฐฯ ไล่ตั้งแต่ด้านกลาโหมไปจนถึงปัญญาประดิษฐ์ หลังจากริยาดได้ให้การต้อนรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างหรูหรา ในการเดินทางเยือนแบบรัฐพิธีเป็นครั้งแรก ขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัย 2 . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000044811 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1219 มุมมอง 0 รีวิว
  • **ควอนตัมคอมพิวติ้ง (Quantum Computing)** คือ สาขาหนึ่งของการคำนวณที่ใช้หลักการของ **กลศาสตร์ควอนตัม** เพื่อประมวลผลข้อมูล แทนที่การใช้บิตแบบคลาสสิก (0 หรือ 1) ในคอมพิวเตอร์ทั่วไป ควอนตัมคอมพิวเตอร์ใช้ **คิวบิต (Qubit)** ซึ่งสามารถอยู่ในสถานะ **ซ้อนทับ (Superposition)** และ **纠缠 (Entanglement)** ได้ ทำให้มีความสามารถในการคำนวณที่เร็วกว่าในบางงานเฉพาะทาง

    ### **หลักการสำคัญของควอนตัมคอมพิวติ้ง**
    1. **Superposition (สถานะซ้อนทับ)**
    - คิวบิตสามารถเป็นได้ทั้ง 0 และ 1 ในเวลาเดียวกัน (ต่างจากบิตแบบคลาสสิกที่เป็นได้เพียง 0 หรือ 1)
    - ทำให้ควอนตัมคอมพิวเตอร์ประมวลผลข้อมูลหลายสถานะพร้อมกัน

    2. **Entanglement (การ纠缠)**
    - คิวบิตสามารถเชื่อมโยงกันแม้จะอยู่ห่างไกล การเปลี่ยนแปลงหนึ่งคิวบิตส่งผลต่อคิวบิตที่纠缠กันทันที
    - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคำนวณแบบขนาน

    3. **Quantum Interference (การแทรกสอดควอนตัม)**
    - ใช้เพื่อขยายความน่าจะเป็นของผลลัพธ์ที่ถูกต้องและลดผลลัพธ์ที่ผิด

    ### **ความได้เปรียบของควอนตัมคอมพิวติ้ง**
    - **แก้ปัญหาบางประเภทได้เร็วกว่า** เช่น:
    - **การแยกตัวประกอบจำนวนใหญ่** (สำคัญต่อการ破解การเข้ารหัส RSA) → อัลกอริทึม **Shor's Algorithm**
    - **การค้นหาข้อมูลในฐานข้อมูลขนาดใหญ่** → อัลกอริทึม **Grover's Algorithm**
    - **การจำลองระบบควอนตัม** (เช่น โมเลกุลสำหรับการพัฒนายา)
    - **ปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง (Quantum Machine Learning)**

    ### **ความท้าทาย**
    1. **สัญญาณรบกวนและความผิดพลาด (Noise and Decoherence)**
    - คิวบิตมีความเปราะบางต่อสิ่งรบกวนจากสิ่งแวดล้อม ทำให้สูญเสียสถานะควอนตัม (Quantum Decoherence)
    2. **การแก้ไขข้อผิดพลาด (Quantum Error Correction)**
    - ต้องใช้คิวบิตจำนวนมากเพื่อสร้าง "Logical Qubit" ที่เสถียร
    3. **อุณหภูมิต่ำมาก (Cryogenic Cooling)**
    - ควอนตัมคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ต้องทำงานที่อุณหภูมิใกล้ **ศูนย์สัมบูรณ์ (−273°C)**

    ### **สถานะปัจจุบัน (2024)**
    - **บริษัทชั้นนำ** เช่น Google, IBM, Microsoft, และ startups เช่น Rigetti, IonQ กำลังพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์
    - **IBM** มีระบบ **Quantum Processor** ขนาด **1,000+ คิวบิต** (แต่ยังไม่เสถียรเต็มที่)
    - **Google** อ้างว่าได้บรรลุ **Quantum Supremacy** (แก้ปัญหาที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทำไม่ได้ในเวลาที่สมเหตุสมผล)

    ### **การประยุกต์ใช้ในอนาคต**
    - **การเข้ารหัสและความปลอดภัย** (Post-Quantum Cryptography)
    - **การออกแบบวัสดุใหม่**
    - **การปรับปรุงระบบ logistics และ supply chain**
    - **การพัฒนายาและเคมีควอนตัม**

    ### **สรุป**
    ควอนตัมคอมพิวติ้งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่มีศักยภาพปฏิวัติหลายอุตสาหกรรมในอนาคต อย่างไรก็ตาม ยังต้องแก้ไขปัญหาทางเทคนิคอีกมากก่อนที่จะนำมาใช้อย่างแพร่หลาย

    **ควอนตัมคอมพิวติ้ง (Quantum Computing)** คือ สาขาหนึ่งของการคำนวณที่ใช้หลักการของ **กลศาสตร์ควอนตัม** เพื่อประมวลผลข้อมูล แทนที่การใช้บิตแบบคลาสสิก (0 หรือ 1) ในคอมพิวเตอร์ทั่วไป ควอนตัมคอมพิวเตอร์ใช้ **คิวบิต (Qubit)** ซึ่งสามารถอยู่ในสถานะ **ซ้อนทับ (Superposition)** และ **纠缠 (Entanglement)** ได้ ทำให้มีความสามารถในการคำนวณที่เร็วกว่าในบางงานเฉพาะทาง ### **หลักการสำคัญของควอนตัมคอมพิวติ้ง** 1. **Superposition (สถานะซ้อนทับ)** - คิวบิตสามารถเป็นได้ทั้ง 0 และ 1 ในเวลาเดียวกัน (ต่างจากบิตแบบคลาสสิกที่เป็นได้เพียง 0 หรือ 1) - ทำให้ควอนตัมคอมพิวเตอร์ประมวลผลข้อมูลหลายสถานะพร้อมกัน 2. **Entanglement (การ纠缠)** - คิวบิตสามารถเชื่อมโยงกันแม้จะอยู่ห่างไกล การเปลี่ยนแปลงหนึ่งคิวบิตส่งผลต่อคิวบิตที่纠缠กันทันที - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคำนวณแบบขนาน 3. **Quantum Interference (การแทรกสอดควอนตัม)** - ใช้เพื่อขยายความน่าจะเป็นของผลลัพธ์ที่ถูกต้องและลดผลลัพธ์ที่ผิด ### **ความได้เปรียบของควอนตัมคอมพิวติ้ง** - **แก้ปัญหาบางประเภทได้เร็วกว่า** เช่น: - **การแยกตัวประกอบจำนวนใหญ่** (สำคัญต่อการ破解การเข้ารหัส RSA) → อัลกอริทึม **Shor's Algorithm** - **การค้นหาข้อมูลในฐานข้อมูลขนาดใหญ่** → อัลกอริทึม **Grover's Algorithm** - **การจำลองระบบควอนตัม** (เช่น โมเลกุลสำหรับการพัฒนายา) - **ปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง (Quantum Machine Learning)** ### **ความท้าทาย** 1. **สัญญาณรบกวนและความผิดพลาด (Noise and Decoherence)** - คิวบิตมีความเปราะบางต่อสิ่งรบกวนจากสิ่งแวดล้อม ทำให้สูญเสียสถานะควอนตัม (Quantum Decoherence) 2. **การแก้ไขข้อผิดพลาด (Quantum Error Correction)** - ต้องใช้คิวบิตจำนวนมากเพื่อสร้าง "Logical Qubit" ที่เสถียร 3. **อุณหภูมิต่ำมาก (Cryogenic Cooling)** - ควอนตัมคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ต้องทำงานที่อุณหภูมิใกล้ **ศูนย์สัมบูรณ์ (−273°C)** ### **สถานะปัจจุบัน (2024)** - **บริษัทชั้นนำ** เช่น Google, IBM, Microsoft, และ startups เช่น Rigetti, IonQ กำลังพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์ - **IBM** มีระบบ **Quantum Processor** ขนาด **1,000+ คิวบิต** (แต่ยังไม่เสถียรเต็มที่) - **Google** อ้างว่าได้บรรลุ **Quantum Supremacy** (แก้ปัญหาที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทำไม่ได้ในเวลาที่สมเหตุสมผล) ### **การประยุกต์ใช้ในอนาคต** - **การเข้ารหัสและความปลอดภัย** (Post-Quantum Cryptography) - **การออกแบบวัสดุใหม่** - **การปรับปรุงระบบ logistics และ supply chain** - **การพัฒนายาและเคมีควอนตัม** ### **สรุป** ควอนตัมคอมพิวติ้งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่มีศักยภาพปฏิวัติหลายอุตสาหกรรมในอนาคต อย่างไรก็ตาม ยังต้องแก้ไขปัญหาทางเทคนิคอีกมากก่อนที่จะนำมาใช้อย่างแพร่หลาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กำลังสร้าง ประวัติศาสตร์ใหม่ ด้วยการนำ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยร่างกฎหมาย ซึ่งถือเป็น ประเทศแรกในโลกที่ใช้ AI ในกระบวนการออกกฎหมาย

    รัฐบาล UAE มี กระทรวงที่อุทิศให้กับ AI โดยเฉพาะ ภายใต้ กระทรวงรัฐด้านปัญญาประดิษฐ์ เศรษฐกิจดิจิทัล และการทำงานทางไกล ซึ่งจะใช้ AI ในการ วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล ตั้งแต่กฎหมายที่มีอยู่ ไปจนถึงคำพิพากษาและบริการสาธารณะต่าง ๆ

    ✅ UAE เป็นประเทศแรกที่นำ AI มาใช้ในกระบวนการร่างกฎหมาย
    - ใช้ AI เพื่อ วิเคราะห์ข้อมูลจากกฎหมายที่มีอยู่ คำพิพากษา และบริการสาธารณะ
    - ช่วยให้ กระบวนการร่างกฎหมายมีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ รัฐบาล UAE มีกระทรวงที่อุทิศให้กับ AI โดยเฉพาะ
    - อยู่ภายใต้ กระทรวงรัฐด้านปัญญาประดิษฐ์ เศรษฐกิจดิจิทัล และการทำงานทางไกล
    - เป็น หนึ่งในประเทศที่มีการลงทุนด้าน AI มากที่สุดในโลก

    ✅ AI จะช่วยให้การร่างกฎหมายมีความแม่นยำและสอดคล้องกับข้อมูลจริงมากขึ้น
    - ลด ข้อผิดพลาดในการร่างกฎหมาย
    - ช่วยให้ กฎหมายสามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้ดีขึ้น

    ‼️ การใช้ AI ในกระบวนการออกกฎหมายอาจมีข้อจำกัดด้านความโปร่งใส
    - ต้องมี มาตรการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่า AI ไม่ถูกใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง

    ‼️ AI อาจไม่สามารถเข้าใจบริบททางสังคมและวัฒนธรรมได้อย่างสมบูรณ์
    - กฎหมายต้อง คำนึงถึงปัจจัยทางสังคมที่ AI อาจไม่สามารถวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/ai-will-soon-help-draft-laws-in-this-middle-eastern-country
    สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กำลังสร้าง ประวัติศาสตร์ใหม่ ด้วยการนำ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยร่างกฎหมาย ซึ่งถือเป็น ประเทศแรกในโลกที่ใช้ AI ในกระบวนการออกกฎหมาย รัฐบาล UAE มี กระทรวงที่อุทิศให้กับ AI โดยเฉพาะ ภายใต้ กระทรวงรัฐด้านปัญญาประดิษฐ์ เศรษฐกิจดิจิทัล และการทำงานทางไกล ซึ่งจะใช้ AI ในการ วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล ตั้งแต่กฎหมายที่มีอยู่ ไปจนถึงคำพิพากษาและบริการสาธารณะต่าง ๆ ✅ UAE เป็นประเทศแรกที่นำ AI มาใช้ในกระบวนการร่างกฎหมาย - ใช้ AI เพื่อ วิเคราะห์ข้อมูลจากกฎหมายที่มีอยู่ คำพิพากษา และบริการสาธารณะ - ช่วยให้ กระบวนการร่างกฎหมายมีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ รัฐบาล UAE มีกระทรวงที่อุทิศให้กับ AI โดยเฉพาะ - อยู่ภายใต้ กระทรวงรัฐด้านปัญญาประดิษฐ์ เศรษฐกิจดิจิทัล และการทำงานทางไกล - เป็น หนึ่งในประเทศที่มีการลงทุนด้าน AI มากที่สุดในโลก ✅ AI จะช่วยให้การร่างกฎหมายมีความแม่นยำและสอดคล้องกับข้อมูลจริงมากขึ้น - ลด ข้อผิดพลาดในการร่างกฎหมาย - ช่วยให้ กฎหมายสามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้ดีขึ้น ‼️ การใช้ AI ในกระบวนการออกกฎหมายอาจมีข้อจำกัดด้านความโปร่งใส - ต้องมี มาตรการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่า AI ไม่ถูกใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ‼️ AI อาจไม่สามารถเข้าใจบริบททางสังคมและวัฒนธรรมได้อย่างสมบูรณ์ - กฎหมายต้อง คำนึงถึงปัจจัยทางสังคมที่ AI อาจไม่สามารถวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/ai-will-soon-help-draft-laws-in-this-middle-eastern-country
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI will soon help draft laws in this Middle Eastern country
    In a world first, the United Arab Emirates (UAE) has decided to integrate artificial intelligence into its legislative process. The idea is to modernise the process of drafting, revising and updating legislation, drawing on the advanced analytical capabilities of AI.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • รู้หรือไม่ว่า พวกเรากิน ดื่ม สูด พลาสติคเปรียบเทียบเท่ากับปริมาณของ 1 บัตรเครดิตต่อ 1 อาทิตย์
    ข้อมูลจากงานวิจัยหลายชิ้นบ่งชี้ว่าโดยเฉลี่ยแล้ว มนุษย์อาจได้รับอนุภาคพลาสติกขนาดเล็กในปริมาณเทียบเท่ากับขนาดของบัตรเครดิตหนึ่งใบในทุกๆ สัปดาห์
    อนุภาคพลาสติกเหล่านี้มาจากแหล่งต่างๆ เช่น:
    * น้ำดื่ม: ทั้งน้ำบรรจุขวดและน้ำประปา
    * อาหาร: โดยเฉพาะอาหารทะเล เนื่องจากสัตว์ทะเลอาจกินพลาสติกเข้าไป
    * อากาศ: อนุภาคพลาสติกขนาดเล็กสามารถลอยอยู่ในอากาศและถูกสูดเข้าไป
    * ผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน: เช่น ยาสีฟันที่มีเม็ดบีดส์พลาสติก, เครื่องสำอาง, และฝุ่นจากเสื้อผ้าใยสังเคราะห์
    แม้ว่าผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพของมนุษย์จากการได้รับอนุภาคพลาสติกเหล่านี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษา แต่ก็เป็นเรื่องที่น่ากังวลและกระตุ้นให้เกิดความตระหนักถึงปัญหาขยะพลาสติกและการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม
    คำถามคือ....เราจะแก้ไขหรือทำอะไรได้หรือไม่ คำตอบคือ ไม่ เหตุผล กลับขึ้นไปอ่านข้อความข้างบน ....
    ข้อมูลอ้างอิงจาก ปัญญาประดิษฐ์เจมิไน

    รู้หรือไม่ว่า พวกเรากิน ดื่ม สูด พลาสติคเปรียบเทียบเท่ากับปริมาณของ 1 บัตรเครดิตต่อ 1 อาทิตย์ ข้อมูลจากงานวิจัยหลายชิ้นบ่งชี้ว่าโดยเฉลี่ยแล้ว มนุษย์อาจได้รับอนุภาคพลาสติกขนาดเล็กในปริมาณเทียบเท่ากับขนาดของบัตรเครดิตหนึ่งใบในทุกๆ สัปดาห์ อนุภาคพลาสติกเหล่านี้มาจากแหล่งต่างๆ เช่น: * น้ำดื่ม: ทั้งน้ำบรรจุขวดและน้ำประปา * อาหาร: โดยเฉพาะอาหารทะเล เนื่องจากสัตว์ทะเลอาจกินพลาสติกเข้าไป * อากาศ: อนุภาคพลาสติกขนาดเล็กสามารถลอยอยู่ในอากาศและถูกสูดเข้าไป * ผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน: เช่น ยาสีฟันที่มีเม็ดบีดส์พลาสติก, เครื่องสำอาง, และฝุ่นจากเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ แม้ว่าผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพของมนุษย์จากการได้รับอนุภาคพลาสติกเหล่านี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษา แต่ก็เป็นเรื่องที่น่ากังวลและกระตุ้นให้เกิดความตระหนักถึงปัญหาขยะพลาสติกและการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม คำถามคือ....เราจะแก้ไขหรือทำอะไรได้หรือไม่ คำตอบคือ ไม่ เหตุผล กลับขึ้นไปอ่านข้อความข้างบน .... ข้อมูลอ้างอิงจาก ปัญญาประดิษฐ์เจมิไน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • Han Duck-soo อดีตผู้นำชั่วคราวของเกาหลีใต้และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ประกาศแผนจัดตั้งกระทรวง AI เพื่อผลักดัน นโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ หากเขาได้รับเลือกตั้ง

    แผนดังกล่าวเป็น คำมั่นสัญญาแรกของเขาหลังจากเปิดตัวแคมเปญหาเสียง โดยมีเป้าหมายเพื่อ เพิ่มการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ AI และ จัดตั้งกองทุนมูลค่า 1 ล้านล้านวอน (ประมาณ 716 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3 พันล้านบาท) เพื่อสนับสนุน บุคลากรในประเทศและดึงดูดนักวิทยาศาสตร์จากต่างประเทศ

    ✅ Han Duck-soo วางแผนจัดตั้งกระทรวง AI หากได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี
    - มุ่งเน้น นโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์
    - เป็น คำมั่นสัญญาแรกของเขาหลังจากเปิดตัวแคมเปญหาเสียง

    ✅ เป้าหมายหลักคือการเพิ่มการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ AI
    - เกาหลีใต้ต้องการ แข่งขันกับประเทศชั้นนำด้านเทคโนโลยี AI

    ✅ จัดตั้งกองทุนมูลค่า 1 ล้านล้านวอน (ประมาณ 716 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3 พันล้านบาท)
    - สนับสนุน บุคลากรในประเทศและดึงดูดนักวิทยาศาสตร์จากต่างประเทศ

    ✅ เกาหลีใต้ต้องการไล่ตามประเทศอื่น ๆ ในด้าน AI และเทคโนโลยีขั้นสูง
    - มุ่งเน้น การพัฒนาอุตสาหกรรม AI ให้สามารถแข่งขันในระดับโลก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/south-korea-presidential-hopeful-han-vows-to-create-ai-ministry
    Han Duck-soo อดีตผู้นำชั่วคราวของเกาหลีใต้และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ประกาศแผนจัดตั้งกระทรวง AI เพื่อผลักดัน นโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ หากเขาได้รับเลือกตั้ง แผนดังกล่าวเป็น คำมั่นสัญญาแรกของเขาหลังจากเปิดตัวแคมเปญหาเสียง โดยมีเป้าหมายเพื่อ เพิ่มการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ AI และ จัดตั้งกองทุนมูลค่า 1 ล้านล้านวอน (ประมาณ 716 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3 พันล้านบาท) เพื่อสนับสนุน บุคลากรในประเทศและดึงดูดนักวิทยาศาสตร์จากต่างประเทศ ✅ Han Duck-soo วางแผนจัดตั้งกระทรวง AI หากได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี - มุ่งเน้น นโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ - เป็น คำมั่นสัญญาแรกของเขาหลังจากเปิดตัวแคมเปญหาเสียง ✅ เป้าหมายหลักคือการเพิ่มการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ AI - เกาหลีใต้ต้องการ แข่งขันกับประเทศชั้นนำด้านเทคโนโลยี AI ✅ จัดตั้งกองทุนมูลค่า 1 ล้านล้านวอน (ประมาณ 716 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3 พันล้านบาท) - สนับสนุน บุคลากรในประเทศและดึงดูดนักวิทยาศาสตร์จากต่างประเทศ ✅ เกาหลีใต้ต้องการไล่ตามประเทศอื่น ๆ ในด้าน AI และเทคโนโลยีขั้นสูง - มุ่งเน้น การพัฒนาอุตสาหกรรม AI ให้สามารถแข่งขันในระดับโลก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/south-korea-presidential-hopeful-han-vows-to-create-ai-ministry
    WWW.THESTAR.COM.MY
    South Korea presidential hopeful Han vows to create AI ministry
    The election comes at a critical time for Asia's fourth-largest economy as it faces slowing exports resulting from Donald Trump's sweeping tariffs campaign.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงครามชิป AI ร้อนระอุ จีนดัน Huawei ผลิตชิปสู้ NVIDIA
    .
    ผลกระทบของ "สงครามการค้า" ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ รัฐบาลจีนพยายามผลักดันให้บริษัทไอที และโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของประเทศอย่าง "หัวเว่ย" หันมาเร่งพัฒนา และดำเนินการผลิตชิป AI ขึ้นมาทดแทนชิปจากบริษัทอเมริกันบ้างแล้ว
    .
    ล่าสุดมีข่าวว่า "หัวเว่ย" กำลังเปิดทดสอบชิป AI รุ่น Ascend 910B เพื่อมาแข่งขันกับชิป AI รุ่น H100 ของ NVIDIA โดย "หัวเว่ย" ทยอยนำชิป 910B นี้ไปให้บริษัทไอทีจีนต่าง ๆ ทดลองใช้งานแล้ว
    .
    #บูรพาไม่แพ้ #NVIDIA #Huawei #หัวเว่ย #สงครามการค้า #ชิปAI #AI #ArtificialIntelligence #ปัญญาประดิษฐ์ #Ascend910B
    สงครามชิป AI ร้อนระอุ จีนดัน Huawei ผลิตชิปสู้ NVIDIA . ผลกระทบของ "สงครามการค้า" ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ รัฐบาลจีนพยายามผลักดันให้บริษัทไอที และโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของประเทศอย่าง "หัวเว่ย" หันมาเร่งพัฒนา และดำเนินการผลิตชิป AI ขึ้นมาทดแทนชิปจากบริษัทอเมริกันบ้างแล้ว . ล่าสุดมีข่าวว่า "หัวเว่ย" กำลังเปิดทดสอบชิป AI รุ่น Ascend 910B เพื่อมาแข่งขันกับชิป AI รุ่น H100 ของ NVIDIA โดย "หัวเว่ย" ทยอยนำชิป 910B นี้ไปให้บริษัทไอทีจีนต่าง ๆ ทดลองใช้งานแล้ว . #บูรพาไม่แพ้ #NVIDIA #Huawei #หัวเว่ย #สงครามการค้า #ชิปAI #AI #ArtificialIntelligence #ปัญญาประดิษฐ์ #Ascend910B
    @thedongfangbubai

    สงครามชิป AI ร้อนระอุ จีนดัน Huawei ผลิตชิปสู้ NVIDIA . ผลกระทบของ "สงครามการค้า" ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ รัฐบาลจีนพยายามผลักดันให้บริษัทไอที และโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของประเทศอย่าง "หัวเว่ย" หันมาเร่งพัฒนา และดำเนินการผลิตชิป AI ขึ้นมาทดแทนชิปจากบริษัทอเมริกันบ้างแล้ว . ล่าสุดมีข่าวว่า "หัวเว่ย" กำลังเปิดทดสอบชิป AI รุ่น Ascend 910B เพื่อมาแข่งขันกับชิป AI รุ่น H100 ของ NVIDIA โดย "หัวเว่ย" ทยอยนำชิป 910B นี้ไปให้บริษัทไอทีจีนต่าง ๆ ทดลองใช้งานแล้ว . #บูรพาไม่แพ้ #NVIDIA #Huawei #หัวเว่ย #สงครามการค้า #ชิปAI #AI #ArtificialIntelligence #ปัญญาประดิษฐ์ #Ascend910B

    ♬ original sound - บูรพาไม่แพ้ - บูรพาไม่แพ้
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 460 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงคำเตือนจาก FBI เกี่ยวกับการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีเป้าหมายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ โดยเฉพาะจากกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน FBI ระบุว่ากลุ่มเหล่านี้ใช้ AI ในทุกขั้นตอนของการโจมตี ตั้งแต่การค้นหาช่องโหว่ไปจนถึงการเคลื่อนย้ายภายในระบบ

    ตัวอย่างที่น่าสนใจคือกลุ่ม Volt Typhoon ที่ใช้เราเตอร์รุ่นเก่าเพื่อสร้างเครือข่ายบอตเน็ตสำหรับการโจมตี และกลุ่ม Salt Typhoon ที่เจาะระบบของบริษัทโทรคมนาคมและรัฐบาลสหรัฐฯ โดยใช้ช่องโหว่ที่ไม่ได้รับการแก้ไข

    นอกจากนี้ FBI ยังเตือนถึงการใช้เทคโนโลยี deepfake ในการหลอกลวง เช่น การปลอมตัวเป็นผู้บริหารเพื่อขอการโอนเงินหรือจัดประชุมออนไลน์

    ✅ การใช้ AI ในการโจมตี
    - กลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนใช้ AI ในทุกขั้นตอนของการโจมตี
    - ตัวอย่างเช่น Volt Typhoon และ Salt Typhoon ที่ใช้ช่องโหว่ในอุปกรณ์เก่า

    ✅ เป้าหมายของการโจมตี
    - โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น โทรคมนาคม พลังงาน และน้ำ
    - การเคลื่อนย้ายภายในระบบเพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญ

    ✅ การใช้ deepfake ในการหลอกลวง
    - การปลอมตัวเป็นผู้บริหารเพื่อขอการโอนเงินหรือจัดประชุมออนไลน์
    - การใช้ deepfake เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในข้อความหลอกลวง

    ✅ คำแนะนำจาก FBI
    - ใช้การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน (MFA)
    - ป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาตและจำกัดการเคลื่อนย้ายในระบบ

    https://www.techspot.com/news/107730-fbi-warns-china-using-ai-sharpen-cyberattacks-us.html
    บทความนี้กล่าวถึงคำเตือนจาก FBI เกี่ยวกับการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีเป้าหมายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ โดยเฉพาะจากกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน FBI ระบุว่ากลุ่มเหล่านี้ใช้ AI ในทุกขั้นตอนของการโจมตี ตั้งแต่การค้นหาช่องโหว่ไปจนถึงการเคลื่อนย้ายภายในระบบ ตัวอย่างที่น่าสนใจคือกลุ่ม Volt Typhoon ที่ใช้เราเตอร์รุ่นเก่าเพื่อสร้างเครือข่ายบอตเน็ตสำหรับการโจมตี และกลุ่ม Salt Typhoon ที่เจาะระบบของบริษัทโทรคมนาคมและรัฐบาลสหรัฐฯ โดยใช้ช่องโหว่ที่ไม่ได้รับการแก้ไข นอกจากนี้ FBI ยังเตือนถึงการใช้เทคโนโลยี deepfake ในการหลอกลวง เช่น การปลอมตัวเป็นผู้บริหารเพื่อขอการโอนเงินหรือจัดประชุมออนไลน์ ✅ การใช้ AI ในการโจมตี - กลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนใช้ AI ในทุกขั้นตอนของการโจมตี - ตัวอย่างเช่น Volt Typhoon และ Salt Typhoon ที่ใช้ช่องโหว่ในอุปกรณ์เก่า ✅ เป้าหมายของการโจมตี - โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น โทรคมนาคม พลังงาน และน้ำ - การเคลื่อนย้ายภายในระบบเพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญ ✅ การใช้ deepfake ในการหลอกลวง - การปลอมตัวเป็นผู้บริหารเพื่อขอการโอนเงินหรือจัดประชุมออนไลน์ - การใช้ deepfake เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในข้อความหลอกลวง ✅ คำแนะนำจาก FBI - ใช้การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน (MFA) - ป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาตและจำกัดการเคลื่อนย้ายในระบบ https://www.techspot.com/news/107730-fbi-warns-china-using-ai-sharpen-cyberattacks-us.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    FBI warns China is using AI to sharpen cyberattacks on US infrastructure
    In an interview with The Register, FBI Deputy Assistant Director Cynthia Kaiser explained how Chinese state-backed cyber groups use artificial intelligence at every stage of their attack...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงความสับสนในตลาดงานด้านเทคโนโลยีในปี 2025 ที่เกิดจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของปัญญาประดิษฐ์ (AI) บริษัทต่างๆ พยายามรวม AI เข้ากับการดำเนินงานของตน ส่งผลให้เกิดตำแหน่งงานใหม่ๆ ที่มีชื่อเรียกหลากหลาย เช่น "AI Engineer," "Machine Learning Developer," และ "Data Architect" ซึ่งมักมีคำต่อท้ายอย่าง "Senior," "Associate," หรือ "Specialist" ทำให้ผู้สมัครงานสับสนเกี่ยวกับความแตกต่างของตำแหน่งเหล่านี้

    การวิจัยจากมหาวิทยาลัย Maryland และ LinkUp พบว่าเกือบหนึ่งในสี่ของตำแหน่งงานด้านเทคโนโลยีใหม่ในสหรัฐฯ ต้องการทักษะด้าน AI อย่างไรก็ตาม การขาดมาตรฐานในชื่อตำแหน่งงานทำให้ทั้งผู้สมัครและนายจ้างต้องเผชิญกับความท้าทายในการเชื่อมโยงกัน

    นอกจากนี้ LinkedIn รายงานว่าผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะด้าน AI ได้งานเร็วขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ และตำแหน่งงานด้าน AI และ Machine Learning ที่เคยหายากในอดีต ปัจจุบันกลายเป็นส่วนสำคัญของตลาดงาน

    ✅ การเติบโตของตำแหน่งงานด้าน AI
    - เกือบหนึ่งในสี่ของตำแหน่งงานด้านเทคโนโลยีใหม่ในสหรัฐฯ ต้องการทักษะด้าน AI
    - ตำแหน่งงานด้าน AI และ Machine Learning กลายเป็นส่วนสำคัญของตลาดงาน

    ✅ ความสับสนในชื่อตำแหน่งงาน
    - ชื่อตำแหน่งงานหลากหลาย เช่น "AI Engineer," "Machine Learning Developer," และ "Data Architect"
    - การขาดมาตรฐานทำให้ผู้สมัครและนายจ้างสับสน

    ✅ ความต้องการทักษะด้าน AI
    - ผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะด้าน AI ได้งานเร็วขึ้นถึง 30%
    - นายจ้างพยายามสร้างตำแหน่งงานที่ดึงดูดและยืดหยุ่น

    ✅ การเปลี่ยนแปลงในตลาดงาน
    - ตำแหน่ง Data Scientist กำลังเปลี่ยนไปสู่ AI Engineer ที่ต้องการทักษะการพัฒนาซอฟต์แวร์ขั้นสูง

    https://www.techspot.com/news/107704-ai-boom-scrambles-tech-job-titles-leaving-job.html
    บทความนี้กล่าวถึงความสับสนในตลาดงานด้านเทคโนโลยีในปี 2025 ที่เกิดจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของปัญญาประดิษฐ์ (AI) บริษัทต่างๆ พยายามรวม AI เข้ากับการดำเนินงานของตน ส่งผลให้เกิดตำแหน่งงานใหม่ๆ ที่มีชื่อเรียกหลากหลาย เช่น "AI Engineer," "Machine Learning Developer," และ "Data Architect" ซึ่งมักมีคำต่อท้ายอย่าง "Senior," "Associate," หรือ "Specialist" ทำให้ผู้สมัครงานสับสนเกี่ยวกับความแตกต่างของตำแหน่งเหล่านี้ การวิจัยจากมหาวิทยาลัย Maryland และ LinkUp พบว่าเกือบหนึ่งในสี่ของตำแหน่งงานด้านเทคโนโลยีใหม่ในสหรัฐฯ ต้องการทักษะด้าน AI อย่างไรก็ตาม การขาดมาตรฐานในชื่อตำแหน่งงานทำให้ทั้งผู้สมัครและนายจ้างต้องเผชิญกับความท้าทายในการเชื่อมโยงกัน นอกจากนี้ LinkedIn รายงานว่าผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะด้าน AI ได้งานเร็วขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ และตำแหน่งงานด้าน AI และ Machine Learning ที่เคยหายากในอดีต ปัจจุบันกลายเป็นส่วนสำคัญของตลาดงาน ✅ การเติบโตของตำแหน่งงานด้าน AI - เกือบหนึ่งในสี่ของตำแหน่งงานด้านเทคโนโลยีใหม่ในสหรัฐฯ ต้องการทักษะด้าน AI - ตำแหน่งงานด้าน AI และ Machine Learning กลายเป็นส่วนสำคัญของตลาดงาน ✅ ความสับสนในชื่อตำแหน่งงาน - ชื่อตำแหน่งงานหลากหลาย เช่น "AI Engineer," "Machine Learning Developer," และ "Data Architect" - การขาดมาตรฐานทำให้ผู้สมัครและนายจ้างสับสน ✅ ความต้องการทักษะด้าน AI - ผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะด้าน AI ได้งานเร็วขึ้นถึง 30% - นายจ้างพยายามสร้างตำแหน่งงานที่ดึงดูดและยืดหยุ่น ✅ การเปลี่ยนแปลงในตลาดงาน - ตำแหน่ง Data Scientist กำลังเปลี่ยนไปสู่ AI Engineer ที่ต้องการทักษะการพัฒนาซอฟต์แวร์ขั้นสูง https://www.techspot.com/news/107704-ai-boom-scrambles-tech-job-titles-leaving-job.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    In the race for AI talent, companies create a confusing web of job titles
    Karin Kimbrough, LinkedIn's chief global economist, explained that the tech industry now assigns up to 40 different titles to similar roles, leaving job seekers uncertain about whether...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงข้อจำกัดของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการเข้าใจปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของมนุษย์ แม้ว่า AI จะมีความสามารถในการจดจำวัตถุหรือใบหน้าในภาพนิ่งได้ดี แต่ยังคงมีข้อจำกัดในการอธิบายและตีความปฏิสัมพันธ์ในฉากที่มีการเคลื่อนไหว

    การศึกษาที่นำโดย Leyla Isik ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์การรับรู้จากมหาวิทยาลัย Johns Hopkins ได้ทำการทดลองโดยใช้โมเดล AI กว่า 350 โมเดลที่เชี่ยวชาญด้านวิดีโอ ภาพ หรือภาษา โดยให้ AI วิเคราะห์วิดีโอสั้นๆ ความยาว 3 วินาทีที่แสดงสถานการณ์ทางสังคมต่างๆ พร้อมเปรียบเทียบกับการประเมินของมนุษย์

    ✅ ความสามารถของ AI ในการจดจำ
    - AI มีความสามารถในการจดจำวัตถุและใบหน้าในภาพนิ่งได้ดี
    - ยังมีข้อจำกัดในการตีความปฏิสัมพันธ์ในฉากที่มีการเคลื่อนไหว

    ✅ การทดลองและผลลัพธ์
    - ใช้โมเดล AI กว่า 350 โมเดลในการวิเคราะห์วิดีโอสั้น
    - เปรียบเทียบการประเมินของ AI กับมนุษย์เพื่อหาความแตกต่าง

    ✅ เป้าหมายของการศึกษา
    - เพื่อระบุข้อจำกัดของ AI ในการวิเคราะห์พฤติกรรมทางสังคม
    - เพื่อพัฒนาอัลกอริทึมที่สามารถเข้าใจปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ได้ดีขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/28/ai-understands-many-things-except-for-human-social-interactions
    บทความนี้กล่าวถึงข้อจำกัดของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการเข้าใจปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของมนุษย์ แม้ว่า AI จะมีความสามารถในการจดจำวัตถุหรือใบหน้าในภาพนิ่งได้ดี แต่ยังคงมีข้อจำกัดในการอธิบายและตีความปฏิสัมพันธ์ในฉากที่มีการเคลื่อนไหว การศึกษาที่นำโดย Leyla Isik ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์การรับรู้จากมหาวิทยาลัย Johns Hopkins ได้ทำการทดลองโดยใช้โมเดล AI กว่า 350 โมเดลที่เชี่ยวชาญด้านวิดีโอ ภาพ หรือภาษา โดยให้ AI วิเคราะห์วิดีโอสั้นๆ ความยาว 3 วินาทีที่แสดงสถานการณ์ทางสังคมต่างๆ พร้อมเปรียบเทียบกับการประเมินของมนุษย์ ✅ ความสามารถของ AI ในการจดจำ - AI มีความสามารถในการจดจำวัตถุและใบหน้าในภาพนิ่งได้ดี - ยังมีข้อจำกัดในการตีความปฏิสัมพันธ์ในฉากที่มีการเคลื่อนไหว ✅ การทดลองและผลลัพธ์ - ใช้โมเดล AI กว่า 350 โมเดลในการวิเคราะห์วิดีโอสั้น - เปรียบเทียบการประเมินของ AI กับมนุษย์เพื่อหาความแตกต่าง ✅ เป้าหมายของการศึกษา - เพื่อระบุข้อจำกัดของ AI ในการวิเคราะห์พฤติกรรมทางสังคม - เพื่อพัฒนาอัลกอริทึมที่สามารถเข้าใจปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ได้ดีขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/28/ai-understands-many-things-except-for-human-social-interactions
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI understands many things... except for human social interactions
    Artificial intelligence (AI) continues to advance, yet this technology still struggles to grasp the complexity of human interactions.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • #วันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา "เฉินเยว่" นักศึกษาหญิงผู้พิการทางการได้ยิน จากวิทยาลัยการศึกษาพิเศษ มหาวิทยาลัยศิลปะซีอาน กลายเป็นกระแสโด่งดังในโลกออนไลน์ หลังมีชาวเน็ตจำนวนมากตั้งข้อสงสัยว่าใบหน้าของเธอสวยเกินจริงจนดูเหมือนภาพที่สร้างขึ้นโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI)

    ความงดงามของ “เฉินเย่ว์”สร้างกระแสสงสัยในหมู่ชาวเน็ตจีนว่า “ของจริงหรือ?” “นางสวยเป๊ะราวกับใช้ เอไอ วาด!”

    เรื่องความงามและความอ่อนน้อมของ "เฉินเย่ว์" กลายเป็นหัวข้อที่ชาวเน็ตจีนเข้ามาค้นหาและพูดคุย จนขึ้นแท่น “ฮอตเสิร์ช” อันดับหนึ่ง ในโลกโซเชียลฯแดนมังกร

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/china/detail/9680000037844

    #MGROnline #นักศึกษาหญิง #วิทยาลัยการศึกษาพิเศษ #มหาวิทยาลัยศิลปะซีอาน
    #วันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา "เฉินเยว่" นักศึกษาหญิงผู้พิการทางการได้ยิน จากวิทยาลัยการศึกษาพิเศษ มหาวิทยาลัยศิลปะซีอาน กลายเป็นกระแสโด่งดังในโลกออนไลน์ หลังมีชาวเน็ตจำนวนมากตั้งข้อสงสัยว่าใบหน้าของเธอสวยเกินจริงจนดูเหมือนภาพที่สร้างขึ้นโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) • ความงดงามของ “เฉินเย่ว์”สร้างกระแสสงสัยในหมู่ชาวเน็ตจีนว่า “ของจริงหรือ?” “นางสวยเป๊ะราวกับใช้ เอไอ วาด!” • เรื่องความงามและความอ่อนน้อมของ "เฉินเย่ว์" กลายเป็นหัวข้อที่ชาวเน็ตจีนเข้ามาค้นหาและพูดคุย จนขึ้นแท่น “ฮอตเสิร์ช” อันดับหนึ่ง ในโลกโซเชียลฯแดนมังกร • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/china/detail/9680000037844 • #MGROnline #นักศึกษาหญิง #วิทยาลัยการศึกษาพิเศษ #มหาวิทยาลัยศิลปะซีอาน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 375 มุมมอง 0 รีวิว
  • TSMC ได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า System on Wafer-X ซึ่งช่วยให้สามารถรวมชิปประมวลผลขนาดใหญ่ได้ถึง 16 ตัวในแพ็กเกจเดียว พร้อมทั้งชิปหน่วยความจำและการเชื่อมต่อแบบออปติคัลที่รวดเร็ว เทคโนโลยีนี้ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่ต้องการพลังประมวลผลสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ นอกจากนี้ TSMC ยังประกาศแผนการสร้างโรงงานใหม่ในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา เพื่อรองรับการผลิตชิปที่ใช้เทคโนโลยีนี้

    ✅ System on Wafer-X ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล
    - สามารถรวมชิปประมวลผลขนาดใหญ่ได้ถึง 16 ตัวในแพ็กเกจเดียว
    - รองรับการใช้งานที่ต้องการพลังประมวลผลสูง เช่น AI และการวิเคราะห์ข้อมูล

    ✅ เทคโนโลยี A14 จะเปิดตัวในปี 2028
    - ช่วยเพิ่มความเร็วของชิปได้ถึง 15% หรือประหยัดพลังงานได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับชิป N2

    ✅ แผนการสร้างโรงงานใหม่ในรัฐแอริโซนา
    - TSMC วางแผนสร้างโรงงาน 6 แห่ง รวมถึงโรงงานบรรจุภัณฑ์และศูนย์วิจัยและพัฒนา

    ✅ การแข่งขันในตลาดชิปประมวลผล
    - Intel กำลังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อแข่งขันกับ TSMC

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/24/tsmc-shows-off-new-tech-for-stitching-together-bigger-faster-chips
    TSMC ได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า System on Wafer-X ซึ่งช่วยให้สามารถรวมชิปประมวลผลขนาดใหญ่ได้ถึง 16 ตัวในแพ็กเกจเดียว พร้อมทั้งชิปหน่วยความจำและการเชื่อมต่อแบบออปติคัลที่รวดเร็ว เทคโนโลยีนี้ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่ต้องการพลังประมวลผลสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ นอกจากนี้ TSMC ยังประกาศแผนการสร้างโรงงานใหม่ในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา เพื่อรองรับการผลิตชิปที่ใช้เทคโนโลยีนี้ ✅ System on Wafer-X ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล - สามารถรวมชิปประมวลผลขนาดใหญ่ได้ถึง 16 ตัวในแพ็กเกจเดียว - รองรับการใช้งานที่ต้องการพลังประมวลผลสูง เช่น AI และการวิเคราะห์ข้อมูล ✅ เทคโนโลยี A14 จะเปิดตัวในปี 2028 - ช่วยเพิ่มความเร็วของชิปได้ถึง 15% หรือประหยัดพลังงานได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับชิป N2 ✅ แผนการสร้างโรงงานใหม่ในรัฐแอริโซนา - TSMC วางแผนสร้างโรงงาน 6 แห่ง รวมถึงโรงงานบรรจุภัณฑ์และศูนย์วิจัยและพัฒนา ✅ การแข่งขันในตลาดชิปประมวลผล - Intel กำลังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อแข่งขันกับ TSMC https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/24/tsmc-shows-off-new-tech-for-stitching-together-bigger-faster-chips
    WWW.THESTAR.COM.MY
    TSMC shows off new tech for stitching together bigger, faster chips
    SANTA CLARA, California (Reuters) -Taiwan Semiconductor Manufacturing Co on Wednesday unveiled technology for making faster chips and putting them together in dinner-plate-sized packages that will boost performance needed for artificial intelligence applications.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • Keppel บริษัทด้านการจัดการสินทรัพย์จากสิงคโปร์ ประกาศว่าได้รับเงินลงทุนกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนักลงทุนสถาบันทั่วโลกสำหรับกองทุนหลักของบริษัท ซึ่งรวมถึง Keppel Data Centre Fund III, Keppel Education Asset Fund II และกลยุทธ์การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน

    Christina Tan ซึ่งเป็น CEO ของฝ่ายบริหารกองทุนและ CIO ของ Keppel ระบุว่าการได้รับเงินลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับสินทรัพย์ทางเลือกที่สอดคล้องกับแนวโน้มระดับมหภาค เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน, การขยายตัวของเมือง และ ปัญญาประดิษฐ์ (AI)

    ✅ Keppel ได้รับเงินลงทุนกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
    - เงินลงทุนนี้มาจากนักลงทุนสถาบัน เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ
    - เงินทุนจะถูกนำไปใช้ในกองทุนที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ข้อมูล, การศึกษา และการพัฒนาเมือง

    ✅ Keppel มุ่งเป้าไปที่การบริหารสินทรัพย์มูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ภายในปี 2026
    - บริษัทตั้งเป้าขยายสินทรัพย์ภายใต้การบริหารให้ถึง 200 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ภายในปี 2030

    ✅ การลงทุนสะท้อนถึงแนวโน้มระดับมหภาคที่สำคัญ
    - นักลงทุนให้ความสนใจในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับ AI, พลังงานสะอาด และ การพัฒนาเมือง

    ✅ Keppel ไม่เปิดเผยรายชื่อนักลงทุนที่เข้าร่วมการลงทุนครั้งนี้
    - แม้ว่าจะมีการกล่าวถึงกองทุนบำเหน็จบำนาญและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/21/singapore039s-keppel-gets-15-billion-in-capital-commitments-for-its-funds
    Keppel บริษัทด้านการจัดการสินทรัพย์จากสิงคโปร์ ประกาศว่าได้รับเงินลงทุนกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนักลงทุนสถาบันทั่วโลกสำหรับกองทุนหลักของบริษัท ซึ่งรวมถึง Keppel Data Centre Fund III, Keppel Education Asset Fund II และกลยุทธ์การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน Christina Tan ซึ่งเป็น CEO ของฝ่ายบริหารกองทุนและ CIO ของ Keppel ระบุว่าการได้รับเงินลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับสินทรัพย์ทางเลือกที่สอดคล้องกับแนวโน้มระดับมหภาค เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน, การขยายตัวของเมือง และ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ✅ Keppel ได้รับเงินลงทุนกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ - เงินลงทุนนี้มาจากนักลงทุนสถาบัน เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ - เงินทุนจะถูกนำไปใช้ในกองทุนที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ข้อมูล, การศึกษา และการพัฒนาเมือง ✅ Keppel มุ่งเป้าไปที่การบริหารสินทรัพย์มูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ภายในปี 2026 - บริษัทตั้งเป้าขยายสินทรัพย์ภายใต้การบริหารให้ถึง 200 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ภายในปี 2030 ✅ การลงทุนสะท้อนถึงแนวโน้มระดับมหภาคที่สำคัญ - นักลงทุนให้ความสนใจในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับ AI, พลังงานสะอาด และ การพัฒนาเมือง ✅ Keppel ไม่เปิดเผยรายชื่อนักลงทุนที่เข้าร่วมการลงทุนครั้งนี้ - แม้ว่าจะมีการกล่าวถึงกองทุนบำเหน็จบำนาญและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/21/singapore039s-keppel-gets-15-billion-in-capital-commitments-for-its-funds
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Singapore's Keppel gets $1.5 billion in capital commitments for its funds
    SINGAPORE (Reuters) - Keppel, a Singapore-based manager and operator of assets such as data centres, said on Monday that it has secured close to S$2.0 billion ($1.53 billion) of capital commitments from global institutional investors for its flagship funds.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 341 มุมมอง 0 รีวิว
  • Seagate ได้เผยแพร่รายงานชื่อ "Decarbonizing Data" ซึ่งเน้นถึงความท้าทายด้านความยั่งยืนที่ศูนย์ข้อมูลต้องเผชิญในยุคที่ปริมาณข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในยุคของปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายงานนี้ชี้ให้เห็นว่าความต้องการพลังงานของศูนย์ข้อมูลทั่วโลกอาจเพิ่มขึ้นถึง 165% ภายในปี 2030 เมื่อเทียบกับปี 2023 และยังเน้นถึงความสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน เช่น การใช้ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวและการเพิ่มประสิทธิภาพของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล

    ✅ ความต้องการพลังงานของศูนย์ข้อมูลอาจเพิ่มขึ้นถึง 165% ภายในปี 2030
    - การเพิ่มขึ้นนี้เกิดจากการขยายตัวของธุรกิจและการใช้งาน AI
    - 53.5% ของผู้นำธุรกิจ กังวลเกี่ยวกับการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น

    ✅ Seagate แนะนำเทคโนโลยีที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน
    - เช่น ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวและการใช้ HVAC ที่มีประสิทธิภาพสูง
    - แพลตฟอร์ม HAMR-based Mozaic 3+ ของ Seagate ช่วยลดคาร์บอนต่อเทราไบต์ได้กว่า 70%

    ✅ การยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ
    - 92.2% ของผู้ตอบแบบสอบถาม เห็นด้วยว่าการยืดอายุการใช้งานช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

    ✅ HDD มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า SSD
    - SSD สร้างคาร์บอนสะสมต่อเทราไบต์มากกว่า HDD ถึง 160 เท่า ในช่วงอายุการใช้งาน 5 ปี

    https://www.neowin.net/news/as-millions-of-windows-10-pcs-await-ewaste-dump-seagate-claims-ssds-are-way-worse-than-hdds/
    Seagate ได้เผยแพร่รายงานชื่อ "Decarbonizing Data" ซึ่งเน้นถึงความท้าทายด้านความยั่งยืนที่ศูนย์ข้อมูลต้องเผชิญในยุคที่ปริมาณข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในยุคของปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายงานนี้ชี้ให้เห็นว่าความต้องการพลังงานของศูนย์ข้อมูลทั่วโลกอาจเพิ่มขึ้นถึง 165% ภายในปี 2030 เมื่อเทียบกับปี 2023 และยังเน้นถึงความสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน เช่น การใช้ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวและการเพิ่มประสิทธิภาพของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล ✅ ความต้องการพลังงานของศูนย์ข้อมูลอาจเพิ่มขึ้นถึง 165% ภายในปี 2030 - การเพิ่มขึ้นนี้เกิดจากการขยายตัวของธุรกิจและการใช้งาน AI - 53.5% ของผู้นำธุรกิจ กังวลเกี่ยวกับการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น ✅ Seagate แนะนำเทคโนโลยีที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน - เช่น ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวและการใช้ HVAC ที่มีประสิทธิภาพสูง - แพลตฟอร์ม HAMR-based Mozaic 3+ ของ Seagate ช่วยลดคาร์บอนต่อเทราไบต์ได้กว่า 70% ✅ การยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ - 92.2% ของผู้ตอบแบบสอบถาม เห็นด้วยว่าการยืดอายุการใช้งานช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ✅ HDD มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า SSD - SSD สร้างคาร์บอนสะสมต่อเทราไบต์มากกว่า HDD ถึง 160 เท่า ในช่วงอายุการใช้งาน 5 ปี https://www.neowin.net/news/as-millions-of-windows-10-pcs-await-ewaste-dump-seagate-claims-ssds-are-way-worse-than-hdds/
    WWW.NEOWIN.NET
    As millions of Windows 10 PCs await eWaste dump, Seagate claims SSDs are way worse than HDDs
    Microsoft is ending support for Windows 10 later this year, and that means millions of unsupported PCs will be dumped. Seagate has published a new report considering the e-waste aspect of that.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิธีใช้ GenAI กับ OKRs โดยไม่ปล่อยให้ AI คิดแทนคุณ

    How to Use GenAI with OKRs (Without Letting It Think for You)
    Christina Wodtke
    (ฉบับภาษาอังกฤษ https://lnkd.in/grVpexDy)

    บทความ OKR ล่าสุดของอาจารย์คริสตินา วุดท์เคอ หลังจากหลายเดือนที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นบทความเกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในหลายแง่มุม

    ล่าสุด 18 เม.ย. ก็ได้อ่าน How-to ดีๆ เกี่ยวกับ OKRs และ AI แบบสร้างสรรค์ ในหัวข้อ “วิธีใช้ GenAI กับ OKRs โดยไม่ปล่อยให้ AI คิดแทนคุณ”

    ภาคภาษาไทยของบทความที่ได้รับความช่วยเหลือในการแปลจาก Gemini และปรับแต่งอีกครั้งโดย กลั่นหามาเล่า ศาสตราจารย์พิศิษฐ์ ดร.วสิษฐ์ พรหมบุตร สำหรับผู้ถนัดอ่านภาษาไทย (อ่านรายละเอียดภาษาไทยfดูรายละเอียดได้ที่โพสต์ https://lnkd.in/g68edHvP และใน Comment ใต้โพสต์)

    หากต้องการดูสาระดีๆ เกี่ยวกับ OKR ได้ที่ WWW.10-XCONSULTING.COM
    วิธีใช้ GenAI กับ OKRs โดยไม่ปล่อยให้ AI คิดแทนคุณ How to Use GenAI with OKRs (Without Letting It Think for You) Christina Wodtke (ฉบับภาษาอังกฤษ https://lnkd.in/grVpexDy) บทความ OKR ล่าสุดของอาจารย์คริสตินา วุดท์เคอ หลังจากหลายเดือนที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นบทความเกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในหลายแง่มุม ล่าสุด 18 เม.ย. ก็ได้อ่าน How-to ดีๆ เกี่ยวกับ OKRs และ AI แบบสร้างสรรค์ ในหัวข้อ “วิธีใช้ GenAI กับ OKRs โดยไม่ปล่อยให้ AI คิดแทนคุณ” ภาคภาษาไทยของบทความที่ได้รับความช่วยเหลือในการแปลจาก Gemini และปรับแต่งอีกครั้งโดย กลั่นหามาเล่า ศาสตราจารย์พิศิษฐ์ ดร.วสิษฐ์ พรหมบุตร สำหรับผู้ถนัดอ่านภาษาไทย (อ่านรายละเอียดภาษาไทยfดูรายละเอียดได้ที่โพสต์ https://lnkd.in/g68edHvP และใน Comment ใต้โพสต์) หากต้องการดูสาระดีๆ เกี่ยวกับ OKR ได้ที่ WWW.10-XCONSULTING.COM
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 292 มุมมอง 0 รีวิว
  • บิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ ได้แสดงความเห็นในพอดแคสต์ "People by WTF" ว่า ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในสายงานแพทย์และครู ซึ่งเป็นปัญหาที่มีมานานในหลายประเทศทั่วโลก โดยเขาเชื่อว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานต่างๆ และเปลี่ยนแปลงลักษณะการทำงานในอนาคต

    ✅ AI จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในสายงานแพทย์และครู
    - เกตส์ระบุว่า AI จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัยโรคและลดภาระงานที่ซ้ำซ้อน เช่น การจัดการเอกสาร
    - ตัวอย่างเช่น สตาร์ทอัพด้าน AI อย่าง Suki และ Zephyr AI ได้พัฒนาเครื่องมือที่ช่วยลดภาระงานในโรงพยาบาล

    ✅ AI จะเปลี่ยนแปลงลักษณะการทำงานในสายงานอื่นๆ
    - เกตส์เชื่อว่า AI และหุ่นยนต์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานก่อสร้างและงานบริการ
    - บริษัทเทคโนโลยี เช่น Nvidia กำลังลงทุนในหุ่นยนต์ที่สามารถทำงานในคลังสินค้าและทำความสะอาด

    ✅ AI อาจช่วยให้คนทำงานน้อยลงและเกษียณเร็วขึ้น
    - เกตส์กล่าวว่า AI อาจช่วยลดชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์ และทำให้คนมีเวลาว่างมากขึ้น
    - เขาอ้างถึงนักเศรษฐศาสตร์ John Maynard Keynes ที่เคยคาดการณ์ว่าเทคโนโลยีจะลดชั่วโมงการทำงานลง

    ✅ AI จะช่วยเพิ่มผลิตภาพในอุตสาหกรรมต่างๆ
    - การศึกษาของ McKinsey ระบุว่า AI อาจเพิ่มผลิตภาพในอุตสาหกรรมการแพทย์และเภสัชกรรมได้ถึง $370 พันล้าน

    https://www.techspot.com/news/107603-bill-gates-ai-end-doctor-teacher-shortages-transform.html
    บิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ ได้แสดงความเห็นในพอดแคสต์ "People by WTF" ว่า ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในสายงานแพทย์และครู ซึ่งเป็นปัญหาที่มีมานานในหลายประเทศทั่วโลก โดยเขาเชื่อว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานต่างๆ และเปลี่ยนแปลงลักษณะการทำงานในอนาคต ✅ AI จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในสายงานแพทย์และครู - เกตส์ระบุว่า AI จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัยโรคและลดภาระงานที่ซ้ำซ้อน เช่น การจัดการเอกสาร - ตัวอย่างเช่น สตาร์ทอัพด้าน AI อย่าง Suki และ Zephyr AI ได้พัฒนาเครื่องมือที่ช่วยลดภาระงานในโรงพยาบาล ✅ AI จะเปลี่ยนแปลงลักษณะการทำงานในสายงานอื่นๆ - เกตส์เชื่อว่า AI และหุ่นยนต์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานก่อสร้างและงานบริการ - บริษัทเทคโนโลยี เช่น Nvidia กำลังลงทุนในหุ่นยนต์ที่สามารถทำงานในคลังสินค้าและทำความสะอาด ✅ AI อาจช่วยให้คนทำงานน้อยลงและเกษียณเร็วขึ้น - เกตส์กล่าวว่า AI อาจช่วยลดชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์ และทำให้คนมีเวลาว่างมากขึ้น - เขาอ้างถึงนักเศรษฐศาสตร์ John Maynard Keynes ที่เคยคาดการณ์ว่าเทคโนโลยีจะลดชั่วโมงการทำงานลง ✅ AI จะช่วยเพิ่มผลิตภาพในอุตสาหกรรมต่างๆ - การศึกษาของ McKinsey ระบุว่า AI อาจเพิ่มผลิตภาพในอุตสาหกรรมการแพทย์และเภสัชกรรมได้ถึง $370 พันล้าน https://www.techspot.com/news/107603-bill-gates-ai-end-doctor-teacher-shortages-transform.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Bill Gates says AI will end doctor and teacher shortages, transform the future of work
    "AI will come in and provide medical IQ, and there won't be a shortage," Gates said, pointing to nations like India and those across Africa where the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลเยอรมนีกำลังวางแผนจัดตั้ง "ซูเปอร์กระทรวงไฮเทค" เพื่อส่งเสริมการวิจัยและเทคโนโลยีขั้นสูง พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ นักวิจัยจากสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายงบประมาณของรัฐบาลทรัมป์เข้ามาทำงานในยุโรป

    ✅ การจัดตั้งกระทรวงไฮเทคใหม่
    - กระทรวงใหม่นี้จะดูแลด้าน ปัญญาประดิษฐ์ (AI), ควอนตัมคอมพิวติ้ง, เทคโนโลยีชีวภาพ, การพัฒนาชิป และพลังงานฟิวชัน
    - มีแผนแยกงานวิจัยออกจากกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - เป้าหมายสำคัญคือการสร้าง เครื่องปฏิกรณ์ฟิวชันที่ใช้งานได้จริง ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญของพลังงานสะอาด

    ✅ การเพิ่มงบประมาณสนับสนุนการวิจัย
    - รัฐบาลเยอรมนีให้คำมั่นว่าจะเพิ่มงบประมาณสนับสนุนองค์กรวิจัย ปีละ 3% จนถึงปี 2030
    - นโยบายนี้มีเป้าหมายเพื่อทำให้เยอรมนีเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมระดับโลก

    ✅ โครงการ "1000 Minds" ดึงดูดนักวิจัยจากสหรัฐฯ
    - เยอรมนีเตรียมเปิดโครงการ "1000 Minds" เพื่อดึงดูดนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยจากทั่วโลก โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ
    - นักวิจัยในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับ การตัดงบประมาณครั้งใหญ่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของนักวิทยาศาสตร์ในหลายสาขา
    - มีรายงานว่าบางหน่วยงาน เช่น NOAA (National Oceanic and Atmospheric Administration) ต้องลดงบประมาณจนถึงขั้นให้ นักวิจัยทำงานด้านอื่น เช่น ทำความสะอาดห้องน้ำ

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่อสหรัฐฯ และการแข่งขันด้านเทคโนโลยี
    - การดึงนักวิจัยจากสหรัฐฯ อาจทำให้เกิด การสูญเสียบุคลากรสำคัญ ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของอเมริกา
    - อาจส่งผลต่อการแข่งขันด้าน AI และเทคโนโลยีขั้นสูง ระหว่างยุโรปและสหรัฐฯ

    ℹ️ ความท้าทายในการสร้างเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชัน
    - แม้จะมีเป้าหมายสร้างเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชันที่ใช้งานได้จริง แต่เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นทดลอง และต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล
    - การพัฒนาอาจใช้เวลาหลายสิบปี ก่อนที่จะสามารถนำมาใช้ในระดับอุตสาหกรรมได้

    ℹ️ แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมวิจัยโลก
    - หากเยอรมนีประสบความสำเร็จ อาจทำให้ยุโรปกลายเป็น ศูนย์กลางวิจัยระดับโลก แทนที่สหรัฐฯ
    - ประเทศอื่นๆ อาจต้องปรับนโยบายเพื่อแข่งขันกับเยอรมนีในการดึงดูดนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์

    https://www.techspot.com/news/107547-germany-new-government-planning-super-high-tech-ministry.html
    รัฐบาลเยอรมนีกำลังวางแผนจัดตั้ง "ซูเปอร์กระทรวงไฮเทค" เพื่อส่งเสริมการวิจัยและเทคโนโลยีขั้นสูง พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ นักวิจัยจากสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายงบประมาณของรัฐบาลทรัมป์เข้ามาทำงานในยุโรป ✅ การจัดตั้งกระทรวงไฮเทคใหม่ - กระทรวงใหม่นี้จะดูแลด้าน ปัญญาประดิษฐ์ (AI), ควอนตัมคอมพิวติ้ง, เทคโนโลยีชีวภาพ, การพัฒนาชิป และพลังงานฟิวชัน - มีแผนแยกงานวิจัยออกจากกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพมากขึ้น - เป้าหมายสำคัญคือการสร้าง เครื่องปฏิกรณ์ฟิวชันที่ใช้งานได้จริง ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญของพลังงานสะอาด ✅ การเพิ่มงบประมาณสนับสนุนการวิจัย - รัฐบาลเยอรมนีให้คำมั่นว่าจะเพิ่มงบประมาณสนับสนุนองค์กรวิจัย ปีละ 3% จนถึงปี 2030 - นโยบายนี้มีเป้าหมายเพื่อทำให้เยอรมนีเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมระดับโลก ✅ โครงการ "1000 Minds" ดึงดูดนักวิจัยจากสหรัฐฯ - เยอรมนีเตรียมเปิดโครงการ "1000 Minds" เพื่อดึงดูดนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยจากทั่วโลก โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ - นักวิจัยในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับ การตัดงบประมาณครั้งใหญ่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของนักวิทยาศาสตร์ในหลายสาขา - มีรายงานว่าบางหน่วยงาน เช่น NOAA (National Oceanic and Atmospheric Administration) ต้องลดงบประมาณจนถึงขั้นให้ นักวิจัยทำงานด้านอื่น เช่น ทำความสะอาดห้องน้ำ ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่อสหรัฐฯ และการแข่งขันด้านเทคโนโลยี - การดึงนักวิจัยจากสหรัฐฯ อาจทำให้เกิด การสูญเสียบุคลากรสำคัญ ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของอเมริกา - อาจส่งผลต่อการแข่งขันด้าน AI และเทคโนโลยีขั้นสูง ระหว่างยุโรปและสหรัฐฯ ℹ️ ความท้าทายในการสร้างเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชัน - แม้จะมีเป้าหมายสร้างเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชันที่ใช้งานได้จริง แต่เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นทดลอง และต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล - การพัฒนาอาจใช้เวลาหลายสิบปี ก่อนที่จะสามารถนำมาใช้ในระดับอุตสาหกรรมได้ ℹ️ แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมวิจัยโลก - หากเยอรมนีประสบความสำเร็จ อาจทำให้ยุโรปกลายเป็น ศูนย์กลางวิจัยระดับโลก แทนที่สหรัฐฯ - ประเทศอื่นๆ อาจต้องปรับนโยบายเพื่อแข่งขันกับเยอรมนีในการดึงดูดนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ https://www.techspot.com/news/107547-germany-new-government-planning-super-high-tech-ministry.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New German "super-ministry" hopes to lure US researchers with cutting-edge science agenda
    Germany's three largest political parties have agreed to form a new government, uniting the center-right Christian Democrats and Christian Social Union with the center-left Social Democrats. While...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 342 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram ได้ประกาศว่าจะนำข้อมูลจากโพสต์สาธารณะและการโต้ตอบกับ AI มาฝึกโมเดลปัญญาประดิษฐ์ในสหภาพยุโรป (EU) หลังจากเผชิญกับความกังวลด้านความเป็นส่วนตัวและกฎระเบียบคุ้มครองข้อมูลที่เข้มงวดในภูมิภาคนี้ การเปิดตัวเทคโนโลยี AI ในยุโรปล่าช้าไปจากแผนเดิม เนื่องจากข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแล

    Meta ให้ความมั่นใจกับผู้ใช้ใน EU ว่าจะมีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับข้อมูลที่บริษัทใช้ รวมถึงช่องทางให้ผู้ใช้แสดงความคัดค้านต่อการนำข้อมูลของตนมาใช้ในการฝึก AI อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่เป็นข้อความส่วนตัวและข้อมูลจากบัญชีของผู้ใช้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีจะไม่ถูกนำมาใช้

    การตัดสินใจของ Meta เกิดขึ้นหลังจากเผชิญกับแรงกดดันจากคณะกรรมาธิการยุโรป และกลุ่มสิทธิด้านความเป็นส่วนตัว เช่น NOYB ที่เรียกร้องให้มีการจำกัดการใช้ข้อมูลจากโซเชียลมีเดียในการฝึก AI นอกจากนี้ Meta ยังถูกตรวจสอบโดยหน่วยงานกำกับดูแลข้อมูลของไอร์แลนด์ ซึ่งเคยสั่งให้บริษัทชะลอแผนดังกล่าวเมื่อปีที่แล้ว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/15/meta-to-use-public-posts-ai-interactions-to-train-models-in-eu
    Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram ได้ประกาศว่าจะนำข้อมูลจากโพสต์สาธารณะและการโต้ตอบกับ AI มาฝึกโมเดลปัญญาประดิษฐ์ในสหภาพยุโรป (EU) หลังจากเผชิญกับความกังวลด้านความเป็นส่วนตัวและกฎระเบียบคุ้มครองข้อมูลที่เข้มงวดในภูมิภาคนี้ การเปิดตัวเทคโนโลยี AI ในยุโรปล่าช้าไปจากแผนเดิม เนื่องจากข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแล Meta ให้ความมั่นใจกับผู้ใช้ใน EU ว่าจะมีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับข้อมูลที่บริษัทใช้ รวมถึงช่องทางให้ผู้ใช้แสดงความคัดค้านต่อการนำข้อมูลของตนมาใช้ในการฝึก AI อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่เป็นข้อความส่วนตัวและข้อมูลจากบัญชีของผู้ใช้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีจะไม่ถูกนำมาใช้ การตัดสินใจของ Meta เกิดขึ้นหลังจากเผชิญกับแรงกดดันจากคณะกรรมาธิการยุโรป และกลุ่มสิทธิด้านความเป็นส่วนตัว เช่น NOYB ที่เรียกร้องให้มีการจำกัดการใช้ข้อมูลจากโซเชียลมีเดียในการฝึก AI นอกจากนี้ Meta ยังถูกตรวจสอบโดยหน่วยงานกำกับดูแลข้อมูลของไอร์แลนด์ ซึ่งเคยสั่งให้บริษัทชะลอแผนดังกล่าวเมื่อปีที่แล้ว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/15/meta-to-use-public-posts-ai-interactions-to-train-models-in-eu
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta to use public posts, AI interactions to train models in EU
    (Reuters) -Meta Platforms said on Monday it would use interactions that users have with its AI, as well as public posts and comments shared by adults across its platforms, to train its artificial intelligence models in the European Union.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เรียกร้องความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับเวียดนามในด้านการค้าและห่วงโซ่อุปทาน ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ในขณะเริ่มต้นการเดินทางเยือน 3 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่กรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม

    การเยือนครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ปักกิ่งเผชิญกับอัตราภาษี 145% จากสหรัฐฯ ขณะที่เวียดนามกำลังเจรจาเพื่อลดภาษีของสหรัฐฯ 46% ที่อาจบังคับใช้ในเดือนก.ค. หลังสิ้นสุดการระงับชั่วคราว

    “ทั้งสองฝ่ายควรเสริมความร่วมมือในด้านการผลิตและห่วงโซ่อุปทาน” สี จิ้นผิง ระบุในบทความที่ตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์เญินเซิน (Nhan Dan) ของพรรคคอมมิวนิวสต์เวียดนาม ก่อนการเดินทางเยือนในวันนี้ (14) โดยเขายังเรียกร้องให้มีการค้ามากขึ้นและความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นกับฮานอยในด้านปัญญาประดิษฐ์และเศรษฐกิจสีเขียว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/indochina/detail/9680000035481

    #MGROnline #สีจิ้นผิง
    ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เรียกร้องความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับเวียดนามในด้านการค้าและห่วงโซ่อุปทาน ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ในขณะเริ่มต้นการเดินทางเยือน 3 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่กรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม • การเยือนครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ปักกิ่งเผชิญกับอัตราภาษี 145% จากสหรัฐฯ ขณะที่เวียดนามกำลังเจรจาเพื่อลดภาษีของสหรัฐฯ 46% ที่อาจบังคับใช้ในเดือนก.ค. หลังสิ้นสุดการระงับชั่วคราว • “ทั้งสองฝ่ายควรเสริมความร่วมมือในด้านการผลิตและห่วงโซ่อุปทาน” สี จิ้นผิง ระบุในบทความที่ตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์เญินเซิน (Nhan Dan) ของพรรคคอมมิวนิวสต์เวียดนาม ก่อนการเดินทางเยือนในวันนี้ (14) โดยเขายังเรียกร้องให้มีการค้ามากขึ้นและความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นกับฮานอยในด้านปัญญาประดิษฐ์และเศรษฐกิจสีเขียว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/indochina/detail/9680000035481 • #MGROnline #สีจิ้นผิง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 386 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงผลการวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า การฝึกอบรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพของโมเดล โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐฯ เช่น Carnegie Mellon, Stanford, Harvard และ Princeton ได้ค้นพบปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Catastrophic Overtraining”

    นักวิจัยพบว่าเมื่อโมเดล AI ถูกฝึกอบรมด้วยข้อมูลจำนวนมากเกินไป เช่น การเพิ่มจำนวนโทเค็นจาก 2.3 ล้านล้านเป็น 3 ล้านล้านในโมเดล OLMo-1B ประสิทธิภาพของโมเดลกลับลดลงถึง 3% ในการทดสอบมาตรฐาน เช่น AlpacaEval และ ARC สาเหตุหลักมาจาก “Progressive Sensitivity” ซึ่งทำให้โมเดลมีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เช่น การปรับแต่งหรือการเพิ่มเสียงรบกวน

    นักวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า “Inflection Point” หรือจุดที่การฝึกอบรมเพิ่มเติมเริ่มส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพ มักเกิดขึ้นเมื่อจำนวนโทเค็นเกิน 2.5 ล้านล้านในโมเดลขนาดเล็ก การค้นพบนี้เรียกร้องให้มีการพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการปรับขนาดโมเดล AI โดยเน้นที่กระบวนการฝึกอบรมทั้งหมดแทนที่จะมุ่งเน้นที่การเพิ่มข้อมูลเพียงอย่างเดียว

    ✅ การค้นพบปรากฏการณ์ Catastrophic Overtraining
    - การฝึกอบรม AI มากเกินไปอาจลดประสิทธิภาพของโมเดล
    - Progressive Sensitivity ทำให้โมเดลเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

    ✅ ผลกระทบของการฝึกอบรมเพิ่มเติม
    - โมเดล OLMo-1B ที่ฝึกอบรมด้วยข้อมูล 3 ล้านล้านโทเค็นมีประสิทธิภาพลดลงถึง 3%
    - Inflection Point มักเกิดขึ้นเมื่อจำนวนโทเค็นเกิน 2.5 ล้านล้าน

    ✅ ข้อเสนอแนะจากนักวิจัย
    - ควรพิจารณากระบวนการฝึกอบรมทั้งหมดแทนการเพิ่มข้อมูลเพียงอย่างเดียว
    - การปรับขนาดโมเดล AI ควรคำนึงถึงความสมดุลระหว่างข้อมูลและความเสถียร

    ℹ️ ความเสี่ยงจากการฝึกอบรมมากเกินไป
    - การฝึกอบรมมากเกินไปอาจทำให้โมเดลเปราะบางและลดประสิทธิภาพ
    - การเพิ่มเสียงรบกวนหรือการปรับแต่งอาจส่งผลเสียต่อโมเดลที่ฝึกอบรมมากเกินไป

    ℹ️ คำแนะนำสำหรับนักพัฒนา AI
    - ควรพิจารณาจำนวนข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับการฝึกอบรม
    - การพัฒนาโมเดล AI ควรเน้นที่ความสมดุลระหว่างข้อมูลและความเสถียร

    https://www.techradar.com/pro/catastrophic-overtraining-could-harm-large-language-ai-models-that-are-trained-on-more-data-for-the-sake-of-training
    ข่าวนี้เล่าถึงผลการวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า การฝึกอบรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพของโมเดล โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐฯ เช่น Carnegie Mellon, Stanford, Harvard และ Princeton ได้ค้นพบปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Catastrophic Overtraining” นักวิจัยพบว่าเมื่อโมเดล AI ถูกฝึกอบรมด้วยข้อมูลจำนวนมากเกินไป เช่น การเพิ่มจำนวนโทเค็นจาก 2.3 ล้านล้านเป็น 3 ล้านล้านในโมเดล OLMo-1B ประสิทธิภาพของโมเดลกลับลดลงถึง 3% ในการทดสอบมาตรฐาน เช่น AlpacaEval และ ARC สาเหตุหลักมาจาก “Progressive Sensitivity” ซึ่งทำให้โมเดลมีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เช่น การปรับแต่งหรือการเพิ่มเสียงรบกวน นักวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า “Inflection Point” หรือจุดที่การฝึกอบรมเพิ่มเติมเริ่มส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพ มักเกิดขึ้นเมื่อจำนวนโทเค็นเกิน 2.5 ล้านล้านในโมเดลขนาดเล็ก การค้นพบนี้เรียกร้องให้มีการพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการปรับขนาดโมเดล AI โดยเน้นที่กระบวนการฝึกอบรมทั้งหมดแทนที่จะมุ่งเน้นที่การเพิ่มข้อมูลเพียงอย่างเดียว ✅ การค้นพบปรากฏการณ์ Catastrophic Overtraining - การฝึกอบรม AI มากเกินไปอาจลดประสิทธิภาพของโมเดล - Progressive Sensitivity ทำให้โมเดลเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ✅ ผลกระทบของการฝึกอบรมเพิ่มเติม - โมเดล OLMo-1B ที่ฝึกอบรมด้วยข้อมูล 3 ล้านล้านโทเค็นมีประสิทธิภาพลดลงถึง 3% - Inflection Point มักเกิดขึ้นเมื่อจำนวนโทเค็นเกิน 2.5 ล้านล้าน ✅ ข้อเสนอแนะจากนักวิจัย - ควรพิจารณากระบวนการฝึกอบรมทั้งหมดแทนการเพิ่มข้อมูลเพียงอย่างเดียว - การปรับขนาดโมเดล AI ควรคำนึงถึงความสมดุลระหว่างข้อมูลและความเสถียร ℹ️ ความเสี่ยงจากการฝึกอบรมมากเกินไป - การฝึกอบรมมากเกินไปอาจทำให้โมเดลเปราะบางและลดประสิทธิภาพ - การเพิ่มเสียงรบกวนหรือการปรับแต่งอาจส่งผลเสียต่อโมเดลที่ฝึกอบรมมากเกินไป ℹ️ คำแนะนำสำหรับนักพัฒนา AI - ควรพิจารณาจำนวนข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับการฝึกอบรม - การพัฒนาโมเดล AI ควรเน้นที่ความสมดุลระหว่างข้อมูลและความเสถียร https://www.techradar.com/pro/catastrophic-overtraining-could-harm-large-language-ai-models-that-are-trained-on-more-data-for-the-sake-of-training
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ลดงบประมาณสัญญาจ้างงานกับบริษัทที่ปรึกษาและบริการที่ไม่จำเป็น เช่น Accenture, Booz Allen Hamilton และ Deloitte โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรและมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีที่สำคัญ เช่น อาวุธไฮเปอร์โซนิกและปัญญาประดิษฐ์ (AI)

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม Pete Hegseth ได้ประกาศลดงบประมาณสัญญาจ้างงานมูลค่า 5.1 พันล้านดอลลาร์ โดยระบุว่าสัญญาบางส่วน เช่น การให้คำปรึกษาด้านกระบวนการธุรกิจและบริการ IT ซ้ำซ้อนและสามารถดำเนินการโดยบุคลากรภายในได้ การตัดงบประมาณนี้ยังรวมถึงการลดสัญญาที่เกี่ยวข้องกับโครงการด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

    งบประมาณที่ประหยัดได้จากการลดสัญญาจ้างงานจะถูกนำไปใช้ในโครงการที่สำคัญ เช่น การพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธ อาวุธไฮเปอร์โซนิก และการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านความมั่นคงแห่งชาติ

    ✅ การลดงบประมาณสัญญาจ้างงาน
    - กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ลดงบประมาณสัญญาจ้างงานมูลค่า 5.1 พันล้านดอลลาร์
    - สัญญาที่ถูกลดรวมถึงการให้คำปรึกษาด้านกระบวนการธุรกิจและบริการ IT

    ✅ เป้าหมายของการลดงบประมาณ
    - เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรโดยใช้บุคลากรภายใน
    - มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีสำคัญ เช่น AI และอาวุธไฮเปอร์โซนิก

    ✅ การจัดสรรงบประมาณใหม่
    - งบประมาณที่ประหยัดได้จะถูกนำไปใช้ในโครงการด้านความมั่นคงแห่งชาติ
    - รวมถึงการพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธและโครงสร้างพื้นฐานด้านความมั่นคง

    ℹ️ ความเสี่ยงจากการลดสัญญาจ้างงาน
    - การลดสัญญาอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทที่พึ่งพาสัญญาจากรัฐบาล
    - การเปลี่ยนแปลงอาจทำให้เกิดความล่าช้าในบางโครงการ

    ℹ️ ผลกระทบต่อบุคลากรภายใน
    - บุคลากรภายในอาจต้องรับภาระงานเพิ่มขึ้น
    - การปรับตัวของบุคลากรอาจต้องใช้เวลาและการฝึกอบรมเพิ่มเติม

    https://www.techspot.com/news/107521-pentagon-slashes-51-billion-contracts-accenture-booz-allen.html
    กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ลดงบประมาณสัญญาจ้างงานกับบริษัทที่ปรึกษาและบริการที่ไม่จำเป็น เช่น Accenture, Booz Allen Hamilton และ Deloitte โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรและมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีที่สำคัญ เช่น อาวุธไฮเปอร์โซนิกและปัญญาประดิษฐ์ (AI) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม Pete Hegseth ได้ประกาศลดงบประมาณสัญญาจ้างงานมูลค่า 5.1 พันล้านดอลลาร์ โดยระบุว่าสัญญาบางส่วน เช่น การให้คำปรึกษาด้านกระบวนการธุรกิจและบริการ IT ซ้ำซ้อนและสามารถดำเนินการโดยบุคลากรภายในได้ การตัดงบประมาณนี้ยังรวมถึงการลดสัญญาที่เกี่ยวข้องกับโครงการด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ งบประมาณที่ประหยัดได้จากการลดสัญญาจ้างงานจะถูกนำไปใช้ในโครงการที่สำคัญ เช่น การพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธ อาวุธไฮเปอร์โซนิก และการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านความมั่นคงแห่งชาติ ✅ การลดงบประมาณสัญญาจ้างงาน - กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ลดงบประมาณสัญญาจ้างงานมูลค่า 5.1 พันล้านดอลลาร์ - สัญญาที่ถูกลดรวมถึงการให้คำปรึกษาด้านกระบวนการธุรกิจและบริการ IT ✅ เป้าหมายของการลดงบประมาณ - เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรโดยใช้บุคลากรภายใน - มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีสำคัญ เช่น AI และอาวุธไฮเปอร์โซนิก ✅ การจัดสรรงบประมาณใหม่ - งบประมาณที่ประหยัดได้จะถูกนำไปใช้ในโครงการด้านความมั่นคงแห่งชาติ - รวมถึงการพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธและโครงสร้างพื้นฐานด้านความมั่นคง ℹ️ ความเสี่ยงจากการลดสัญญาจ้างงาน - การลดสัญญาอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทที่พึ่งพาสัญญาจากรัฐบาล - การเปลี่ยนแปลงอาจทำให้เกิดความล่าช้าในบางโครงการ ℹ️ ผลกระทบต่อบุคลากรภายใน - บุคลากรภายในอาจต้องรับภาระงานเพิ่มขึ้น - การปรับตัวของบุคลากรอาจต้องใช้เวลาและการฝึกอบรมเพิ่มเติม https://www.techspot.com/news/107521-pentagon-slashes-51-billion-contracts-accenture-booz-allen.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Pentagon slashes $5.1 billion in contracts with Accenture, Booz Allen, and Deloitte
    United States Defense Secretary Pete Hegseth has cut $5.1 billion in defense contracts for consulting and nonessential services. The move targets redundant agreements, with plans to shift...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 316 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts