• นักวิจัยจาก Sucuri พบว่าผู้โจมตีกำลังใช้ mu-plugins (Must-Use Plugins) ของ WordPress เป็นช่องทางแอบซ่อน โค้ดอันตราย ซึ่งช่วยให้แฮกเกอร์ ฝังมัลแวร์, แสดงโฆษณาสแปม, รีไดเรกต์ผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ปลอม และรันโค้ดระยะไกล โดยที่เจ้าของเว็บไซต์อาจไม่ทันสังเกต

    ✅ mu-plugins ทำงานอย่างไร และทำไมถึงเป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์?
    - mu-plugins เป็นปลั๊กอินที่ เปิดใช้งานโดยอัตโนมัติและไม่สามารถปิดได้จากแผงควบคุม WordPress
    - ปลั๊กอินเหล่านี้มักใช้เพื่อเพิ่มฟีเจอร์ที่จำเป็นสำหรับเว็บไซต์ เช่น การปรับแต่งประสิทธิภาพและการจัดการระบบ

    ✅ ตัวอย่างมัลแวร์ที่ถูกค้นพบ
    - redirect.php: รีไดเรกต์ผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ปลอม
    - index.php: เปิดช่องทางให้รันโค้ดระยะไกลและปล่อยมัลแวร์ลงเครื่องเป้าหมาย
    - custom-js-loader.php: ฉีดโค้ด JavaScript สแปมเข้าไปในหน้าเว็บ

    ✅ เว็บไซต์ถูกแฮกได้อย่างไร?
    - ใช้ปลั๊กอินหรือธีมที่มีช่องโหว่
    - แฮกผ่านรหัสผ่านของแอดมินที่ไม่แข็งแกร่งพอ
    - เซิร์ฟเวอร์โฮสติ้งที่มีการรักษาความปลอดภัยต่ำ

    ✅ แนวทางป้องกันสำหรับผู้ดูแลเว็บไซต์
    - สแกนหาไฟล์อันตรายใน mu-plugins directory
    - ตรวจสอบบัญชีแอดมินที่ถูกสร้างขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต
    - อัปเดต WordPress, ปลั๊กอิน และธีมให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
    - เปลี่ยนรหัสผ่านของแอดมินและเปิดใช้งาน 2FA (Two-Factor Authentication)
    - ติดตั้งปลั๊กอินความปลอดภัยเพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของไฟล์

    https://www.techradar.com/pro/security/a-popular-wordpress-plugin-has-been-hijacked-to-show-malicious-code-spam-images
    นักวิจัยจาก Sucuri พบว่าผู้โจมตีกำลังใช้ mu-plugins (Must-Use Plugins) ของ WordPress เป็นช่องทางแอบซ่อน โค้ดอันตราย ซึ่งช่วยให้แฮกเกอร์ ฝังมัลแวร์, แสดงโฆษณาสแปม, รีไดเรกต์ผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ปลอม และรันโค้ดระยะไกล โดยที่เจ้าของเว็บไซต์อาจไม่ทันสังเกต ✅ mu-plugins ทำงานอย่างไร และทำไมถึงเป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์? - mu-plugins เป็นปลั๊กอินที่ เปิดใช้งานโดยอัตโนมัติและไม่สามารถปิดได้จากแผงควบคุม WordPress - ปลั๊กอินเหล่านี้มักใช้เพื่อเพิ่มฟีเจอร์ที่จำเป็นสำหรับเว็บไซต์ เช่น การปรับแต่งประสิทธิภาพและการจัดการระบบ ✅ ตัวอย่างมัลแวร์ที่ถูกค้นพบ - redirect.php: รีไดเรกต์ผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ปลอม - index.php: เปิดช่องทางให้รันโค้ดระยะไกลและปล่อยมัลแวร์ลงเครื่องเป้าหมาย - custom-js-loader.php: ฉีดโค้ด JavaScript สแปมเข้าไปในหน้าเว็บ ✅ เว็บไซต์ถูกแฮกได้อย่างไร? - ใช้ปลั๊กอินหรือธีมที่มีช่องโหว่ - แฮกผ่านรหัสผ่านของแอดมินที่ไม่แข็งแกร่งพอ - เซิร์ฟเวอร์โฮสติ้งที่มีการรักษาความปลอดภัยต่ำ ✅ แนวทางป้องกันสำหรับผู้ดูแลเว็บไซต์ - สแกนหาไฟล์อันตรายใน mu-plugins directory - ตรวจสอบบัญชีแอดมินที่ถูกสร้างขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต - อัปเดต WordPress, ปลั๊กอิน และธีมให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด - เปลี่ยนรหัสผ่านของแอดมินและเปิดใช้งาน 2FA (Two-Factor Authentication) - ติดตั้งปลั๊กอินความปลอดภัยเพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของไฟล์ https://www.techradar.com/pro/security/a-popular-wordpress-plugin-has-been-hijacked-to-show-malicious-code-spam-images
    WWW.TECHRADAR.COM
    A key WordPress feature has been hijacked to show malicious code, spam images
    A directory hosting essential plugins is a great place to store malware
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • OpenAI เตรียมนำ Deep Reasoning มาให้ผู้ใช้ ChatGPT ฟรี ได้ใช้งานเร็ว ๆ นี้ แต่คำถามคือ ChatGPT Plus ยังคุ้มค่าที่จะสมัครหรือไม่? โดย Graham Barlow นักเขียนจาก TechRadar ชี้ว่า ฟีเจอร์ Deep Reasoning แม้จะเปิดให้ใช้ฟรี แต่ยังมีข้อจำกัดในหลายด้านที่ Plus ให้ประโยชน์มากกว่า

    ✅ Deep Reasoning ทำอะไรได้บ้าง?
    - ช่วยให้ ChatGPT ค้นคว้าและวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึก คล้ายทีมวิจัย
    - สามารถรวบรวม ข้อมูล ประมวลผล และนำเสนอรายงานฉบับสมบูรณ์
    - ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ขอรายงานเกี่ยวกับ การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมเกมในช่วง 3 ปี Deep Reasoning จะค้นคว้าออนไลน์ และสรุปข้อมูลพร้อมตารางและแหล่งที่มา

    ✅ Deep Reasoning เริ่มต้นใน ChatGPT Pro ก่อนย้ายมาสู่ Plus
    - ก่อนหน้านี้ Deep Reasoning อยู่ในแพ็กเกจ ChatGPT Pro ราคา $200 ต่อเดือน
    - ต่อมา OpenAI นำฟีเจอร์นี้มาสู่ ChatGPT Plus ราคา $20 ต่อเดือน
    - ล่าสุดกำลังเตรียมเปิดให้ผู้ใช้ ChatGPT ฟรี ได้ใช้งาน

    ✅ ChatGPT Plus ยังมีข้อได้เปรียบเหนือเวอร์ชันฟรี
    - ข้อจำกัดน้อยลง: แม้ Deep Reasoning จะเปิดให้ใช้ฟรี แต่คาดว่าจะมีการจำกัดการใช้งาน เช่น จำนวนครั้งต่อวัน
    - มีโมเดล AI มากกว่า: Plus ให้เข้าถึง ChatGPT 4o, 4o-mini, 4.5, o1, o3-mini ขณะที่เวอร์ชันฟรีมีแค่ ChatGPT 4- mini
    - การสร้างวิดีโอ Sora: ผู้ใช้ Plus สามารถ ทดลองสร้างวิดีโอ AI ด้วย Sora แต่ต้องสมัคร Pro หากต้องการสร้างวิดีโอแบบไม่มีลายน้ำ
    - Advanced Voice Mode: Plus ให้ใช้ Advanced Voice Mode ได้มากกว่า 15 นาทีต่อเดือน
    - ฟีเจอร์พิเศษ เช่น Projects และ Tasks: ผู้ใช้ Plus สามารถ จัดกลุ่มไฟล์และแชท รวมถึง ตั้งเวลาทำงานล่วงหน้า

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/deep-reasoning-is-coming-to-chatgpt-free-but-i-think-its-still-worth-paying-for-chatgpt-plus
    OpenAI เตรียมนำ Deep Reasoning มาให้ผู้ใช้ ChatGPT ฟรี ได้ใช้งานเร็ว ๆ นี้ แต่คำถามคือ ChatGPT Plus ยังคุ้มค่าที่จะสมัครหรือไม่? โดย Graham Barlow นักเขียนจาก TechRadar ชี้ว่า ฟีเจอร์ Deep Reasoning แม้จะเปิดให้ใช้ฟรี แต่ยังมีข้อจำกัดในหลายด้านที่ Plus ให้ประโยชน์มากกว่า ✅ Deep Reasoning ทำอะไรได้บ้าง? - ช่วยให้ ChatGPT ค้นคว้าและวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึก คล้ายทีมวิจัย - สามารถรวบรวม ข้อมูล ประมวลผล และนำเสนอรายงานฉบับสมบูรณ์ - ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ขอรายงานเกี่ยวกับ การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมเกมในช่วง 3 ปี Deep Reasoning จะค้นคว้าออนไลน์ และสรุปข้อมูลพร้อมตารางและแหล่งที่มา ✅ Deep Reasoning เริ่มต้นใน ChatGPT Pro ก่อนย้ายมาสู่ Plus - ก่อนหน้านี้ Deep Reasoning อยู่ในแพ็กเกจ ChatGPT Pro ราคา $200 ต่อเดือน - ต่อมา OpenAI นำฟีเจอร์นี้มาสู่ ChatGPT Plus ราคา $20 ต่อเดือน - ล่าสุดกำลังเตรียมเปิดให้ผู้ใช้ ChatGPT ฟรี ได้ใช้งาน ✅ ChatGPT Plus ยังมีข้อได้เปรียบเหนือเวอร์ชันฟรี - ข้อจำกัดน้อยลง: แม้ Deep Reasoning จะเปิดให้ใช้ฟรี แต่คาดว่าจะมีการจำกัดการใช้งาน เช่น จำนวนครั้งต่อวัน - มีโมเดล AI มากกว่า: Plus ให้เข้าถึง ChatGPT 4o, 4o-mini, 4.5, o1, o3-mini ขณะที่เวอร์ชันฟรีมีแค่ ChatGPT 4- mini - การสร้างวิดีโอ Sora: ผู้ใช้ Plus สามารถ ทดลองสร้างวิดีโอ AI ด้วย Sora แต่ต้องสมัคร Pro หากต้องการสร้างวิดีโอแบบไม่มีลายน้ำ - Advanced Voice Mode: Plus ให้ใช้ Advanced Voice Mode ได้มากกว่า 15 นาทีต่อเดือน - ฟีเจอร์พิเศษ เช่น Projects และ Tasks: ผู้ใช้ Plus สามารถ จัดกลุ่มไฟล์และแชท รวมถึง ตั้งเวลาทำงานล่วงหน้า https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/deep-reasoning-is-coming-to-chatgpt-free-but-i-think-its-still-worth-paying-for-chatgpt-plus
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • ChatGPT 4o เปิดให้ใช้ฟรีในการสร้างภาพแล้ว โดยสามารถ เปลี่ยนพื้นหลัง, สร้างภาพจากไอเดียใหม่ และปรับอารมณ์ภาพ อย่างไรก็ตาม มีข้อจำกัดสำหรับผู้ใช้ฟรี เช่น สามารถสร้างภาพได้เพียง 3 ครั้งต่อวัน และ ข้อจำกัดในการอัปโหลดรูปภาพเพื่อแก้ไข หากต้องการใช้งานเพิ่มเติม อาจต้องสมัครสมาชิกแบบเสียเงิน

    ✅ การสร้างภาพและแก้ไขพื้นหลัง
    - ChatGPT 4o สามารถ เปลี่ยนพื้นหลังของภาพได้อย่างแม่นยำ โดยตรวจจับวัตถุหลักและสร้างฉากที่เข้ากัน
    - ตัวอย่างเช่น เมื่อนำภาพของ French Bulldog ไปให้ AI และสั่งเปลี่ยนพื้นหลังเป็นชายหาด ChatGPT สามารถสร้างภาพใหม่ได้อย่างสมจริง

    ✅ ใช้ภาพอ้างอิงเพื่อสร้างภาพใหม่
    - ผู้ใช้สามารถให้ ChatGPT ใช้ภาพเดิมเป็นต้นแบบ และสร้างภาพใหม่ตามไอเดียที่ต้องการ
    - ตัวอย่างเช่น เมื่อให้ภาพของสุนัข และสั่งให้มัน แต่งตัวเป็นกบแล้วขี่สเก็ตบอร์ด AI สามารถสร้างภาพตามคำสั่งได้

    ✅ ปรับอารมณ์ของภาพ
    - AI สามารถปรับอารมณ์ของภาพได้ เช่น เปลี่ยนให้ สุนัขที่ดูเศร้าเป็นสุนัขที่ดูมีความสุข โดยใช้เทคนิคการปรับแต่งใบหน้า

    ✅ ข้อจำกัดของผู้ใช้ฟรี
    - OpenAI กำหนดให้ ผู้ใช้ฟรีสามารถสร้างภาพได้เพียง 3 ครั้งต่อวัน
    - นอกจากนี้ มีข้อจำกัดเกี่ยวกับ จำนวนครั้งที่สามารถอัปโหลดภาพเพื่อแก้ไข

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/chatgpt-4os-image-generation-is-now-free-for-everyone-3-ways-to-use-the-new-ai-tool-without-following-the-studio-ghibli-herd
    ChatGPT 4o เปิดให้ใช้ฟรีในการสร้างภาพแล้ว โดยสามารถ เปลี่ยนพื้นหลัง, สร้างภาพจากไอเดียใหม่ และปรับอารมณ์ภาพ อย่างไรก็ตาม มีข้อจำกัดสำหรับผู้ใช้ฟรี เช่น สามารถสร้างภาพได้เพียง 3 ครั้งต่อวัน และ ข้อจำกัดในการอัปโหลดรูปภาพเพื่อแก้ไข หากต้องการใช้งานเพิ่มเติม อาจต้องสมัครสมาชิกแบบเสียเงิน ✅ การสร้างภาพและแก้ไขพื้นหลัง - ChatGPT 4o สามารถ เปลี่ยนพื้นหลังของภาพได้อย่างแม่นยำ โดยตรวจจับวัตถุหลักและสร้างฉากที่เข้ากัน - ตัวอย่างเช่น เมื่อนำภาพของ French Bulldog ไปให้ AI และสั่งเปลี่ยนพื้นหลังเป็นชายหาด ChatGPT สามารถสร้างภาพใหม่ได้อย่างสมจริง ✅ ใช้ภาพอ้างอิงเพื่อสร้างภาพใหม่ - ผู้ใช้สามารถให้ ChatGPT ใช้ภาพเดิมเป็นต้นแบบ และสร้างภาพใหม่ตามไอเดียที่ต้องการ - ตัวอย่างเช่น เมื่อให้ภาพของสุนัข และสั่งให้มัน แต่งตัวเป็นกบแล้วขี่สเก็ตบอร์ด AI สามารถสร้างภาพตามคำสั่งได้ ✅ ปรับอารมณ์ของภาพ - AI สามารถปรับอารมณ์ของภาพได้ เช่น เปลี่ยนให้ สุนัขที่ดูเศร้าเป็นสุนัขที่ดูมีความสุข โดยใช้เทคนิคการปรับแต่งใบหน้า ✅ ข้อจำกัดของผู้ใช้ฟรี - OpenAI กำหนดให้ ผู้ใช้ฟรีสามารถสร้างภาพได้เพียง 3 ครั้งต่อวัน - นอกจากนี้ มีข้อจำกัดเกี่ยวกับ จำนวนครั้งที่สามารถอัปโหลดภาพเพื่อแก้ไข https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/chatgpt-4os-image-generation-is-now-free-for-everyone-3-ways-to-use-the-new-ai-tool-without-following-the-studio-ghibli-herd
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักพัฒนาสร้าง WattWise ซึ่งเป็น เครื่องมือโอเพ่นซอร์ส ที่ช่วยลดการใช้พลังงานของ PC และเซิร์ฟเวอร์ ตามราคาค่าไฟ ระบบนี้ใช้ สมาร์ทปลั๊ก Kasa และปรับความเร็วซีพียู โดยอัตโนมัติ ตามช่วงเวลาที่ค่าไฟแพง นักพัฒนาวางแผนให้ WattWise รองรับสมาร์ทปลั๊กหลายแบรนด์และสามารถควบคุมพลังงานของจีพียูได้ด้วย

    ✅ WattWise ทำงานอย่างไร?
    - ใช้ สมาร์ทปลั๊ก Kasa และ Home Assistant เพื่อติดตามการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์
    - ใช้อัลกอริธึม Proportional-Integral (PI) Controller เพื่อปรับความเร็วซีพียูตาม โหลดของระบบและราคาพลังงาน
    - ตัวอย่างเช่น การลดความเร็ว AMD EPYC จาก 3.7 GHz เหลือ 1.5 GHz สามารถลดการใช้ไฟได้ 225 วัตต์

    ✅ การควบคุมการทำงานของซีพียูและจีพียูแบบอัตโนมัติ
    - แอปสามารถปรับลดความเร็วของ ซีพียูและจีพียู ตามช่วงเวลาที่ค่าไฟสูง
    - นักพัฒนาตั้งเป้าให้ รองรับสมาร์ทปลั๊กหลายตัวและแบรนด์อื่น ๆ นอกเหนือจาก Kasa ในอนาคต

    ✅ ลดต้นทุนค่าไฟสำหรับผู้ใช้เซิร์ฟเวอร์และ Workstation
    - ระบบ สามารถลดค่าไฟฟ้าสำหรับเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ที่ใช้พลังงานสูง
    - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ควบคุมการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์และลดค่าใช้จ่าย

    ✅ โอเพ่นซอร์สภายใต้ MIT License—ทุกคนสามารถใช้ได้ฟรี
    - นักพัฒนาเปิดให้ดาวน์โหลดจาก GitHub และเปิดรับความคิดเห็นเพื่อพัฒนาเพิ่มเติม
    - ปัจจุบันยังมีเฉพาะ Dashboard UI และระบบปรับลดพลังงานกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา

    https://www.tomshardware.com/software/applications/open-source-tool-designed-to-throttle-pc-and-server-performance-based-on-electricity-pricing-lightweight-cli-can-automatically-limit-clocks-during-peak-hours
    นักพัฒนาสร้าง WattWise ซึ่งเป็น เครื่องมือโอเพ่นซอร์ส ที่ช่วยลดการใช้พลังงานของ PC และเซิร์ฟเวอร์ ตามราคาค่าไฟ ระบบนี้ใช้ สมาร์ทปลั๊ก Kasa และปรับความเร็วซีพียู โดยอัตโนมัติ ตามช่วงเวลาที่ค่าไฟแพง นักพัฒนาวางแผนให้ WattWise รองรับสมาร์ทปลั๊กหลายแบรนด์และสามารถควบคุมพลังงานของจีพียูได้ด้วย ✅ WattWise ทำงานอย่างไร? - ใช้ สมาร์ทปลั๊ก Kasa และ Home Assistant เพื่อติดตามการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์ - ใช้อัลกอริธึม Proportional-Integral (PI) Controller เพื่อปรับความเร็วซีพียูตาม โหลดของระบบและราคาพลังงาน - ตัวอย่างเช่น การลดความเร็ว AMD EPYC จาก 3.7 GHz เหลือ 1.5 GHz สามารถลดการใช้ไฟได้ 225 วัตต์ ✅ การควบคุมการทำงานของซีพียูและจีพียูแบบอัตโนมัติ - แอปสามารถปรับลดความเร็วของ ซีพียูและจีพียู ตามช่วงเวลาที่ค่าไฟสูง - นักพัฒนาตั้งเป้าให้ รองรับสมาร์ทปลั๊กหลายตัวและแบรนด์อื่น ๆ นอกเหนือจาก Kasa ในอนาคต ✅ ลดต้นทุนค่าไฟสำหรับผู้ใช้เซิร์ฟเวอร์และ Workstation - ระบบ สามารถลดค่าไฟฟ้าสำหรับเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ที่ใช้พลังงานสูง - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ควบคุมการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์และลดค่าใช้จ่าย ✅ โอเพ่นซอร์สภายใต้ MIT License—ทุกคนสามารถใช้ได้ฟรี - นักพัฒนาเปิดให้ดาวน์โหลดจาก GitHub และเปิดรับความคิดเห็นเพื่อพัฒนาเพิ่มเติม - ปัจจุบันยังมีเฉพาะ Dashboard UI และระบบปรับลดพลังงานกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา https://www.tomshardware.com/software/applications/open-source-tool-designed-to-throttle-pc-and-server-performance-based-on-electricity-pricing-lightweight-cli-can-automatically-limit-clocks-during-peak-hours
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • Large Language Models (LLMs) กำลังกลายเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ขับเคลื่อน AI ในปัจจุบัน แต่เนื่องจากต้นทุนสูงและต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก จึงเกิดแนวทางใหม่ที่เรียกว่า Model Distillation ซึ่งช่วยให้สามารถย่อขนาดโมเดลให้เล็กลง ลดต้นทุน และเพิ่มความเร็วในการทำงาน

    อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโมเดลที่ถูก Distilled จะช่วยให้ LLMs ใช้งานได้ง่ายขึ้น แต่ก็มาพร้อมกับ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่ถ่ายทอดมาจากโมเดลต้นแบบ รวมถึงข้อจำกัดที่อาจทำให้เกิดการสร้างข้อมูลผิดพลาด (Hallucination) มากขึ้น

    Model Distillation ทำงานอย่างไร?
    - นักวิจัย AI ใช้โมเดลที่มีพารามิเตอร์สูงเป็น Teacher Model เพื่อฝึกโมเดลขนาดเล็กที่เรียกว่า Student Model
    - Student Model ถูกออกแบบให้ เลียนแบบพฤติกรรมของ Teacher Model แต่ใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์น้อยลง

    ข้อดีของ Model Distillation
    - ลดต้นทุนการประมวลผล และเพิ่มความเร็วในการทำงาน
    - ทำให้ LLM สามารถทำงานบนอุปกรณ์ที่เล็กลง เช่น มือถือหรือระบบ IoT

    ความเสี่ยงที่ถ่ายทอดมาจาก Teacher Model
    - Model Distillation อาจทำให้ข้อมูลที่ไม่ปลอดภัยจากโมเดลต้นแบบถูกนำมาใช้ซ้ำ
    - ตัวอย่างเช่น DistilGPT-2 ถูกพบว่า รั่วไหลข้อมูลส่วนบุคคล (PII) เช่นเดียวกับ GPT-2 ที่เคยถูกวิจารณ์เรื่องความปลอดภัย
    - นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจาก Model Inversion Attack ซึ่งแฮกเกอร์สามารถย้อนข้อมูลกลับไปหาข้อมูลต้นฉบับ

    ปัญหา Hallucination ในโมเดลที่ถูก Distilled
    - นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า Model Distillation อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดหรือการสร้างข้อมูลที่ไม่มีอยู่จริงมากขึ้น
    - ตัวอย่างหนึ่งคือ WormGPT ซึ่งถูกพัฒนาให้สร้างอีเมล Phishing ที่ดูสมจริง แต่เป็นข้อมูลปลอมทั้งหมด

    การโจมตี Model Extraction
    - แฮกเกอร์สามารถ ใช้ Model Distillation เพื่อลอกเลียนแบบโมเดลต้นฉบับ และปรับแต่งให้สามารถหลีกเลี่ยงมาตรการด้านความปลอดภัย
    - การโจมตีนี้อาจทำให้โมเดลที่ถูกลอกเลียนแบบถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การปลอมแปลงข้อมูลหรือการโจมตีทางไซเบอร์

    อนาคตของ Model Distillation และความปลอดภัย AI
    - นักวิจัยเชื่อว่าอุตสาหกรรม AI ต้องพัฒนา ระบบป้องกันที่เข้มแข็งขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากโมเดลที่ถูก Distilled
    - การพึ่งพา AI Guardrails หรือมาตรการจำกัดการทำงานอาจไม่เพียงพอ จำเป็นต้องออกแบบระบบที่มี การควบคุมความน่าเชื่อถือ โดยรวมตั้งแต่ต้น

    https://www.csoonline.com/article/3951626/llms-are-now-available-in-snack-size-but-digest-with-care.html
    Large Language Models (LLMs) กำลังกลายเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ขับเคลื่อน AI ในปัจจุบัน แต่เนื่องจากต้นทุนสูงและต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก จึงเกิดแนวทางใหม่ที่เรียกว่า Model Distillation ซึ่งช่วยให้สามารถย่อขนาดโมเดลให้เล็กลง ลดต้นทุน และเพิ่มความเร็วในการทำงาน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโมเดลที่ถูก Distilled จะช่วยให้ LLMs ใช้งานได้ง่ายขึ้น แต่ก็มาพร้อมกับ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่ถ่ายทอดมาจากโมเดลต้นแบบ รวมถึงข้อจำกัดที่อาจทำให้เกิดการสร้างข้อมูลผิดพลาด (Hallucination) มากขึ้น Model Distillation ทำงานอย่างไร? - นักวิจัย AI ใช้โมเดลที่มีพารามิเตอร์สูงเป็น Teacher Model เพื่อฝึกโมเดลขนาดเล็กที่เรียกว่า Student Model - Student Model ถูกออกแบบให้ เลียนแบบพฤติกรรมของ Teacher Model แต่ใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์น้อยลง ข้อดีของ Model Distillation - ลดต้นทุนการประมวลผล และเพิ่มความเร็วในการทำงาน - ทำให้ LLM สามารถทำงานบนอุปกรณ์ที่เล็กลง เช่น มือถือหรือระบบ IoT ความเสี่ยงที่ถ่ายทอดมาจาก Teacher Model - Model Distillation อาจทำให้ข้อมูลที่ไม่ปลอดภัยจากโมเดลต้นแบบถูกนำมาใช้ซ้ำ - ตัวอย่างเช่น DistilGPT-2 ถูกพบว่า รั่วไหลข้อมูลส่วนบุคคล (PII) เช่นเดียวกับ GPT-2 ที่เคยถูกวิจารณ์เรื่องความปลอดภัย - นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจาก Model Inversion Attack ซึ่งแฮกเกอร์สามารถย้อนข้อมูลกลับไปหาข้อมูลต้นฉบับ ปัญหา Hallucination ในโมเดลที่ถูก Distilled - นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า Model Distillation อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดหรือการสร้างข้อมูลที่ไม่มีอยู่จริงมากขึ้น - ตัวอย่างหนึ่งคือ WormGPT ซึ่งถูกพัฒนาให้สร้างอีเมล Phishing ที่ดูสมจริง แต่เป็นข้อมูลปลอมทั้งหมด การโจมตี Model Extraction - แฮกเกอร์สามารถ ใช้ Model Distillation เพื่อลอกเลียนแบบโมเดลต้นฉบับ และปรับแต่งให้สามารถหลีกเลี่ยงมาตรการด้านความปลอดภัย - การโจมตีนี้อาจทำให้โมเดลที่ถูกลอกเลียนแบบถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การปลอมแปลงข้อมูลหรือการโจมตีทางไซเบอร์ อนาคตของ Model Distillation และความปลอดภัย AI - นักวิจัยเชื่อว่าอุตสาหกรรม AI ต้องพัฒนา ระบบป้องกันที่เข้มแข็งขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากโมเดลที่ถูก Distilled - การพึ่งพา AI Guardrails หรือมาตรการจำกัดการทำงานอาจไม่เพียงพอ จำเป็นต้องออกแบบระบบที่มี การควบคุมความน่าเชื่อถือ โดยรวมตั้งแต่ต้น https://www.csoonline.com/article/3951626/llms-are-now-available-in-snack-size-but-digest-with-care.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    LLMs are now available in snack size but digest with care
    Distilled models can improve the contextuality and accessibility of LLMs, but can also amplify existing AI risks, including threats to data privacy, integrity, and brand security.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • Garmin ประกาศว่า สมาร์ทวอทช์ fēnix® ของบริษัทกำลังถูกใช้ในภารกิจ Fram2 ซึ่งเป็นการบินสู่อวกาศโดยลูกเรือพลเรือนเต็มรูปแบบที่นำโดย SpaceX ภารกิจนี้เป็นครั้งแรกที่สำรวจขั้วโลกของโลกจากวงโคจร และเน้นศึกษาผลกระทบของอวกาศต่อร่างกายและจิตใจของมนุษย์

    การติดตามข้อมูลด้านสุขภาพในสภาวะอวกาศ
    - สมาร์ทวอทช์ fēnix® กำลังติดตามค่าต่าง ๆ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ, ระดับออกซิเจนในเลือด (Pulse Ox) และ ระดับพลังงานร่างกาย (Body Battery™)
    - ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เข้าใจว่าร่างกายมนุษย์ปรับตัวอย่างไรเมื่ออยู่ในอวกาศ

    ความท้าทายของอุปกรณ์สวมใส่ในอวกาศ
    - Garmin อ้างว่าสมาร์ทวอทช์สามารถทำงานได้ตลอดภารกิจบน แบตเตอรี่เพียงหนึ่งก้อน
    - อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอดูว่าอุปกรณ์จะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพภายใต้สภาวะสุดขั้วหรือไม่

    การสนับสนุนจากสถาบันวิจัยด้านสุขภาพอวกาศ
    - ภารกิจ Fram2 ได้รับการสนับสนุนจาก Translational Research Institute for Space Health (TRISH) ของมหาวิทยาลัย Baylor ซึ่งมุ่งเน้นการเตรียมมนุษย์ให้พร้อมสำหรับการเดินทางสู่อวกาศในอนาคต

    ภารกิจสำคัญของ Fram2
    - นอกเหนือจากการศึกษาด้านสุขภาพ ทีมงานจะ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับขั้วโลกของโลก ซึ่งอาจมีความสำคัญต่อการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

    https://www.neowin.net/news/garmin-tag-teams-with-elon-musks-spacex-to-study-crew-on-fram2-with-its-watches/
    Garmin ประกาศว่า สมาร์ทวอทช์ fēnix® ของบริษัทกำลังถูกใช้ในภารกิจ Fram2 ซึ่งเป็นการบินสู่อวกาศโดยลูกเรือพลเรือนเต็มรูปแบบที่นำโดย SpaceX ภารกิจนี้เป็นครั้งแรกที่สำรวจขั้วโลกของโลกจากวงโคจร และเน้นศึกษาผลกระทบของอวกาศต่อร่างกายและจิตใจของมนุษย์ การติดตามข้อมูลด้านสุขภาพในสภาวะอวกาศ - สมาร์ทวอทช์ fēnix® กำลังติดตามค่าต่าง ๆ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ, ระดับออกซิเจนในเลือด (Pulse Ox) และ ระดับพลังงานร่างกาย (Body Battery™) - ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เข้าใจว่าร่างกายมนุษย์ปรับตัวอย่างไรเมื่ออยู่ในอวกาศ ความท้าทายของอุปกรณ์สวมใส่ในอวกาศ - Garmin อ้างว่าสมาร์ทวอทช์สามารถทำงานได้ตลอดภารกิจบน แบตเตอรี่เพียงหนึ่งก้อน - อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอดูว่าอุปกรณ์จะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพภายใต้สภาวะสุดขั้วหรือไม่ การสนับสนุนจากสถาบันวิจัยด้านสุขภาพอวกาศ - ภารกิจ Fram2 ได้รับการสนับสนุนจาก Translational Research Institute for Space Health (TRISH) ของมหาวิทยาลัย Baylor ซึ่งมุ่งเน้นการเตรียมมนุษย์ให้พร้อมสำหรับการเดินทางสู่อวกาศในอนาคต ภารกิจสำคัญของ Fram2 - นอกเหนือจากการศึกษาด้านสุขภาพ ทีมงานจะ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับขั้วโลกของโลก ซึ่งอาจมีความสำคัญต่อการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ https://www.neowin.net/news/garmin-tag-teams-with-elon-musks-spacex-to-study-crew-on-fram2-with-its-watches/
    WWW.NEOWIN.NET
    Garmin tag teams with Elon Musk's SpaceX to study crew on Fram2 with its watches
    Garmin is using its watches to help scientists understand human health in space better. It is on board with the crew on SpaceX's Fram2 mission.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • พบชื่อบริษัทบริษัทรับเหมาก่อสร้างตึก สตง.ถล่ม โผล่ร่วมกิจการร่วมค้า รับงานสร้างหอพักแพทย์ รพ.ศูนย์การแพทย์ ม.แม่ฟ้าหลวง มูลค่า 468 ล้าน ขณะที่ผู้บริหารมหา’ลัย ยันหลังแผ่นดินไหวไร้ผลกระทบ แต่เร่งเก็บตัวอย่างเหล็ก-คอนกรีต ตรวจซ้ำแล้ว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000031118
    พบชื่อบริษัทบริษัทรับเหมาก่อสร้างตึก สตง.ถล่ม โผล่ร่วมกิจการร่วมค้า รับงานสร้างหอพักแพทย์ รพ.ศูนย์การแพทย์ ม.แม่ฟ้าหลวง มูลค่า 468 ล้าน ขณะที่ผู้บริหารมหา’ลัย ยันหลังแผ่นดินไหวไร้ผลกระทบ แต่เร่งเก็บตัวอย่างเหล็ก-คอนกรีต ตรวจซ้ำแล้ว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000031118
    Sad
    Like
    Angry
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 1 รีวิว
  • นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เผยถึงการนำทีมเข้าตรวจวัสดุก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม เก็บตัวอย่าง 6 ประเภท ทั้งเหล็กกลม เหล็กข้ออ้อย 3 ยี่ห้อ ตรวจพบเหล็ก 2 ขนาด ไม่ได้มาตรฐานคือไซส์ 20 และ 32 มาจากยี่ห้อเดียวกัน เป็นผู้ผลิตที่สั่งหยุดโรงงานเมื่อเดือน ธ.ค. 2567 เตรียมตั้งคณะกรรมการสอบสวนขยายผล โดยการตรวจเหล็กตรวจ 2 ส่วน คือคุณสมบัติด้านการกล และคุณสมบัติทางเคมี ครั้งแรกที่ตรวจตกทางเคมี ล่าสุดที่ตรวจตกทางกล เตรียมลงพื้นที่ตรวจโรงงานซินเคอหยวน จ.ระยอง ที่สั่งปิด หลังพบโรงงานยังมีความเคลื่อนไหว​ อาจลักลอบผลิตเหล็กหรือไม่ และจะเข้าพื้นที่ตึก สตง. พร้อมคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อเก็บตัวอย่างอีกครั้ง โดยจะเก็บแบบชี้เป้าครบทุกประเภท และเก็บในจุดที่สันนิษฐานว่าทำให้ตึกถล่ม ได้ข่าวมีความพยายามวิ่งเต้น ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ถ้าไม่กล้าพูด​ตนจะพูดเอง ปล่อยต่อไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว

    -ยังเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต
    -ทุนจีนสร้างตึกพัวพัน 13 บริษัท
    -วุฒิสภาซ้อมหนีแผ่นดินไหว
    -ไฟเขียวลดค่าไฟ พ.ค.-ส.ค.
    นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เผยถึงการนำทีมเข้าตรวจวัสดุก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม เก็บตัวอย่าง 6 ประเภท ทั้งเหล็กกลม เหล็กข้ออ้อย 3 ยี่ห้อ ตรวจพบเหล็ก 2 ขนาด ไม่ได้มาตรฐานคือไซส์ 20 และ 32 มาจากยี่ห้อเดียวกัน เป็นผู้ผลิตที่สั่งหยุดโรงงานเมื่อเดือน ธ.ค. 2567 เตรียมตั้งคณะกรรมการสอบสวนขยายผล โดยการตรวจเหล็กตรวจ 2 ส่วน คือคุณสมบัติด้านการกล และคุณสมบัติทางเคมี ครั้งแรกที่ตรวจตกทางเคมี ล่าสุดที่ตรวจตกทางกล เตรียมลงพื้นที่ตรวจโรงงานซินเคอหยวน จ.ระยอง ที่สั่งปิด หลังพบโรงงานยังมีความเคลื่อนไหว​ อาจลักลอบผลิตเหล็กหรือไม่ และจะเข้าพื้นที่ตึก สตง. พร้อมคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อเก็บตัวอย่างอีกครั้ง โดยจะเก็บแบบชี้เป้าครบทุกประเภท และเก็บในจุดที่สันนิษฐานว่าทำให้ตึกถล่ม ได้ข่าวมีความพยายามวิ่งเต้น ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ถ้าไม่กล้าพูด​ตนจะพูดเอง ปล่อยต่อไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว -ยังเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต -ทุนจีนสร้างตึกพัวพัน 13 บริษัท -วุฒิสภาซ้อมหนีแผ่นดินไหว -ไฟเขียวลดค่าไฟ พ.ค.-ส.ค.
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 292 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • จีนใช้บริษัทหน้าม้าเพื่อแอบจ้างวิศวกรไต้หวันและดึงความรู้ด้านเซมิคอนดักเตอร์ไปใช้ รัฐบาลไต้หวันตรวจค้นบริษัท กว่า 34 แห่ง และสอบปากคำบุคคล 90 ราย โดยมองว่านี่เป็นภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ วิธีนี้ช่วยให้บริษัทจีนสามารถหลีกเลี่ยงมาตรการตรวจสอบและลักลอบขโมยเทคโนโลยีไปใช้อย่างลับ ๆ

    การปลอมแปลงตัวตนของบริษัทจีน
    - บางบริษัทจีน ปลอมตัวเป็นบริษัทไต้หวัน หรือแสดงตัวว่าเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในต่างประเทศ เช่น Samoa และ Singapore เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการตรวจสอบ

    ตัวอย่างบริษัทที่เกี่ยวข้อง
    - Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) ซึ่งเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ที่รัฐจีนสนับสนุน ใช้ บริษัทลูกในไต้หวัน เพื่อสรรหาพนักงานอย่างลับ ๆ
    - Cloudnix บริษัทผลิตชิปเน็ตเวิร์คจากจีน แอบจ้างพนักงานจาก Intel และ Microsoft และจดทะเบียนเป็นบริษัทสิงคโปร์
    - Shenzhen Torey Microelectronics Technology ดำเนินกิจการอย่างลับ ๆ ในไต้หวันโดยไม่เปิดเผยตัวตน

    มุมมองของรัฐบาลไต้หวัน
    - ไต้หวันมองว่าการกระทำนี้เป็นภัยต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็น “เกราะป้องกันระดับชาติ” ที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ

    ความคล้ายคลึงกับสงครามเทคโนโลยีในอดีต
    - การดึงตัววิศวกรไต้หวันไปทำงานกับบริษัทจีนคล้ายกับยุคสงครามเย็นที่โซเวียตพยายามดึงตัวบุคลากรจากโครงการ Apollo ของสหรัฐฯ

    https://www.computerworld.com/article/3950892/chinese-firms-accused-of-poaching-taiwans-chip-engineers-using-bogus-front-companies.html
    จีนใช้บริษัทหน้าม้าเพื่อแอบจ้างวิศวกรไต้หวันและดึงความรู้ด้านเซมิคอนดักเตอร์ไปใช้ รัฐบาลไต้หวันตรวจค้นบริษัท กว่า 34 แห่ง และสอบปากคำบุคคล 90 ราย โดยมองว่านี่เป็นภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ วิธีนี้ช่วยให้บริษัทจีนสามารถหลีกเลี่ยงมาตรการตรวจสอบและลักลอบขโมยเทคโนโลยีไปใช้อย่างลับ ๆ การปลอมแปลงตัวตนของบริษัทจีน - บางบริษัทจีน ปลอมตัวเป็นบริษัทไต้หวัน หรือแสดงตัวว่าเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในต่างประเทศ เช่น Samoa และ Singapore เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการตรวจสอบ ตัวอย่างบริษัทที่เกี่ยวข้อง - Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) ซึ่งเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ที่รัฐจีนสนับสนุน ใช้ บริษัทลูกในไต้หวัน เพื่อสรรหาพนักงานอย่างลับ ๆ - Cloudnix บริษัทผลิตชิปเน็ตเวิร์คจากจีน แอบจ้างพนักงานจาก Intel และ Microsoft และจดทะเบียนเป็นบริษัทสิงคโปร์ - Shenzhen Torey Microelectronics Technology ดำเนินกิจการอย่างลับ ๆ ในไต้หวันโดยไม่เปิดเผยตัวตน มุมมองของรัฐบาลไต้หวัน - ไต้หวันมองว่าการกระทำนี้เป็นภัยต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็น “เกราะป้องกันระดับชาติ” ที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ ความคล้ายคลึงกับสงครามเทคโนโลยีในอดีต - การดึงตัววิศวกรไต้หวันไปทำงานกับบริษัทจีนคล้ายกับยุคสงครามเย็นที่โซเวียตพยายามดึงตัวบุคลากรจากโครงการ Apollo ของสหรัฐฯ https://www.computerworld.com/article/3950892/chinese-firms-accused-of-poaching-taiwans-chip-engineers-using-bogus-front-companies.html
    WWW.COMPUTERWORLD.COM
    After fake employees, fake enterprises are next hiring threat to corporate data
    In Taiwan, investigators raided businesses they say acted as fronts for Chinese companies to hire away workers with key expertise and industry knowledge.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • อึ้ง!เหล็กตึกสตง. มาจากโรงงานถูกสั่งปิด : [THE-MESSAGE]

    นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เผยถึงการนำทีมเข้าตรวจวัสดุก่อสร้างในจุดที่อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม เก็บตัวอย่าง 6 ประเภท ทั้งเหล็กกลม เหล็กข้ออ้อย 3 ยี่ห้อ ตรวจสอบพบมีเหล็ก 2 ขนาด ไม่ได้มาตรฐานคือไซซ์ 20 และ 32 มาจากยี่ห้อเดียวกัน เป็นผู้ผลิตที่สั่งหยุดโรงงานเมื่อเดือน ธ.ค. 2567 จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนขยายผล เตรียมเข้าพื้นที่พร้อมคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เก็บตัวอย่างอีกครั้ง โดยจะเก็บแบบชี้เป้าให้ครบทุกประเภท และเก็บในจุดที่สันนิษฐานว่าทำให้ตึกถล่ม ยอมรับอึ้งเพราะโรงงานที่ผลิตเหล็กไม่ได้มาตรฐาน เป็นโรงงานที่ไปตรวจและสั่งปิด โดยการตรวจเหล็กจะตรวจ 2 ส่วน คือคุณสมบัติด้านการกล และคุณสมบัติทางเคมี ครั้งแรกที่ตรวจตกทางเคมี ล่าสุดที่ตรวจตกทางกล ได้ข่าวมีความพยายามวิ่งเต้น ข่มขู่เจ้าหน้าที่ เตรียมลงพื้นที่ตรวจโรงงาน ซินเคอหยวน ต.หนองละลอก จ.ระยอง ที่สั่งปิด หลังพบโรงงานยังมีความเคลื่อนไหว​ พบรถบรรทุกขนฝุ่นแดง อาจลักลอบผลิตเหล็กอยู่หรือไม่
    อึ้ง!เหล็กตึกสตง. มาจากโรงงานถูกสั่งปิด : [THE-MESSAGE] นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เผยถึงการนำทีมเข้าตรวจวัสดุก่อสร้างในจุดที่อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม เก็บตัวอย่าง 6 ประเภท ทั้งเหล็กกลม เหล็กข้ออ้อย 3 ยี่ห้อ ตรวจสอบพบมีเหล็ก 2 ขนาด ไม่ได้มาตรฐานคือไซซ์ 20 และ 32 มาจากยี่ห้อเดียวกัน เป็นผู้ผลิตที่สั่งหยุดโรงงานเมื่อเดือน ธ.ค. 2567 จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนขยายผล เตรียมเข้าพื้นที่พร้อมคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เก็บตัวอย่างอีกครั้ง โดยจะเก็บแบบชี้เป้าให้ครบทุกประเภท และเก็บในจุดที่สันนิษฐานว่าทำให้ตึกถล่ม ยอมรับอึ้งเพราะโรงงานที่ผลิตเหล็กไม่ได้มาตรฐาน เป็นโรงงานที่ไปตรวจและสั่งปิด โดยการตรวจเหล็กจะตรวจ 2 ส่วน คือคุณสมบัติด้านการกล และคุณสมบัติทางเคมี ครั้งแรกที่ตรวจตกทางเคมี ล่าสุดที่ตรวจตกทางกล ได้ข่าวมีความพยายามวิ่งเต้น ข่มขู่เจ้าหน้าที่ เตรียมลงพื้นที่ตรวจโรงงาน ซินเคอหยวน ต.หนองละลอก จ.ระยอง ที่สั่งปิด หลังพบโรงงานยังมีความเคลื่อนไหว​ พบรถบรรทุกขนฝุ่นแดง อาจลักลอบผลิตเหล็กอยู่หรือไม่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 299 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • โพสต์ล้อเล่น “วันโกหก” ระวังเจอคุก! รู้ทันกฎหมายก่อนแชร์ ในวันเอพริลฟูลเดย์

    🤡 วันเอพริลฟูลเดย์ วัฒนธรรมตะวันตกที่คนไทยควร “เล่นอย่างมีสติ” เพราะพลาดเพียงนิดเดียว อาจโดนโทษหนักจาก พ.ร.บ.คอมพ์ฯ 😰

    🧠 วันโกหกที่ไม่ควรโกหก ในทุกวันที่ 1 เมษายนของทุกปี ผู้คนทั่วโลกเฉลิมฉลอง “วันเมษาหน้าโง่” หรือที่รู้จักกันในชื่อภาษาอังกฤษว่า April Fool’s Day วันที่คนส่วนใหญ่ มักใช้เล่นมุกล้อขำขัน สร้างเสียงหัวเราะให้คนรอบข้าง...แต่เดี๋ยวก่อน!

    ✋📱 แม้จะดูเหมือนไม่มีพิษภัย แต่ในประเทศไทย การโพสต์หรือแชร์ “ข่าวปลอม” หรือ “ข้อมูลอันเป็นเท็จ” ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม อาจทำให้คุณต้องเผชิญกับ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท 😱

    🎭 วันเอพริลฟูลเดย์ (April Fool's Day) เป็นเทศกาลที่คนในประเทศตะวันตก เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และหลายประเทศในยุโรป เล่นมุกหลอกกันเพื่อความสนุกสนาน ในวันที่ 1 เมษายน

    ตามธรรมเนียม วัตถุประสงค์ของวันนี้ ไม่ใช่การโกหกแบบจริงจัง แต่เป็นการ เล่นมุกขำขัน โดยต้องระมัดระวัง ไม่ให้เกิดผลเสียจริง เช่น ทำให้คนตกใจ เข้าใจผิด หรือเสียหาย

    🌍 ความนิยมของวันโกหก เริ่มตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยสื่อและบุคคลต่าง ๆ จะโพสต์เรื่องหลอกในวันนี้ และเฉลยความจริงในวันถัดมา

    📚 ต้นกำเนิดของวันโกหกจากตะวันตก มีหลายทฤษฎี เกี่ยวกับต้นกำเนิดของ April Fool’s Day

    ยุคกลางของยุโรป เคยมีการฉลองปีใหม่ ในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึง 1 เมษายน เมื่อมีการเปลี่ยนมาใช้วันที่ 1 มกราคมแทน คนที่ยังเฉลิมฉลองในช่วงเดิม จึงถูกมองว่า "โง่" 🤦

    มีการเชื่อมโยงกับเทศกาลโรมันชื่อว่า Hilaria ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม เป็นการเฉลิมฉลองความสนุกสนาน และการแต่งตัวล้อเลียน

    ตำนานแคนเตอร์บรีของชอเซอร์ (ปี ค.ศ. 1392) มีคำบรรยายที่ตีความว่า “32 มีนาคม” ซึ่งก็คือวันที่ 1 เมษายน

    🕰️ ไม่ว่าต้นกำเนิดจะมาจากไหน แต่แน่นอนว่าวันนี้กลายเป็น “วันแห่งการหลอกแบบเบา ๆ” ที่ยังมีอิทธิพลจนถึงปัจจุบัน

    ⚖️ กฎหมายไทยไม่ขำด้วย! รู้จัก พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 แม้ว่าจะเป็นวันล้อเล่น ในวัฒนธรรมตะวันตก แต่ในประเทศไทย การโพสต์ ข้อมูลเท็จ หรือข่าวปลอม ไม่ว่าจะมีเจตนาขำหรือไม่ ก็ถือว่าผิดกฎหมาย!

    📌 พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 ระบุว่า "ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือประเทศชาติ ถือว่ามีความผิด"

    👮‍♂️ โทษหนักมาก! จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ!

    ❗ แม้จะเป็นการล้อเล่น ถ้าทำให้คนตื่นตระหนก หรือเชื่อผิดจริง ก็ถือว่ามีความผิด ตามกฎหมายนี้ได้เช่นกัน

    🧨 ข่าวปลอมที่คิดว่า “เล่นๆ” แต่ผิดจริง! หลายคนอาจเคยเห็นโพสต์ ในวันเอพริลฟูล เช่น

    “รัฐบาลจะล็อกดาวน์ประเทศ!”
    “ธนาคารกำลังจะล้ม”
    “มีเอเลี่ยนบุกกรุงเทพ”

    แม้จะโพสต์แบบขำ ๆ แต่หากไม่มีการระบุชัดเจนว่าเป็น “มุกล้อเล่น” และส่งผลให้คนตื่นตกใจ หรือแชร์ต่อกันเป็นวงกว้าง ก็มีโอกาสโดนแจ้งความจริง!

    📂 ตัวอย่างคดีจริงในไทยจากวันโกหก เคสข่าวลือวัคซีนหมด ผู้โพสต์บอกว่า "วัคซีนโควิดหมดแล้ว!" แต่ประชาชนบางส่วนเชื่อจริง และแห่กันไปโรงพยาบาล ถูกตำรวจเรียกตัว และแจ้งความผิดตามมาตรา 14 พ.ร.บ. คอมฯ

    เคสข่าวปลอมเกี่ยวกับเหตุการณ์ภัยพิบัติ โพสต์ข่าวแผ่นดินไหวรุนแรงในเชียงใหม่ ทำให้คนตกใจกลัว สุดท้ายพบว่า เป็นมุกในวันเอพริลฟูล แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ขำด้วย 😬

    ✅ วิธีโพสต์มุกวันโกหกแบบ “ปลอดภัย” เพื่อไม่ให้เจอปัญหา นี่คือแนวทางการล้อเล่นแบบ “ขำได้ไม่ผิดกฎหมาย

    💡 ต้องมี “คำชี้แจง” ใส่ #มุกวันโกหก หรือ #AprilFools ใช้ emoji อย่าง 🤡😂🃏 เพื่อสื่อความขำขัน เขียนท้ายโพสต์ว่า “เรื่องนี้ไม่จริงนะครับ/ค่ะ เป็นมุกวันโกหก”

    🙅‍♂️ หลีกเลี่ยงประเด็นอ่อนไหว ความมั่นคงของประเทศ เศรษฐกิจ เช่น “ธนาคารล้ม” สุขภาพ เช่น “โรคใหม่ระบาด” เหตุการณ์ร้ายแรง เช่น “มีระเบิดในห้าง”

    🎨 ตัวอย่างมุกล้อเล่นที่ปลอดภัย และสร้างสรรค์
    “วันนี้จะลาออกไปเปิดร้านกาแฟบนดาวอังคารแล้วนะ ☕🚀”
    “Apple จะออก iPhone กลิ่นต้มยำในรุ่นถัดไป 🍜📱”
    “บีทีเอสเปิดให้ขึ้นฟรีตลอดปี ถ้าใส่เสื้อสีม่วงทุกวัน 😆”

    🔍 วิธีตรวจสอบข่าว ก่อนโพสต์หรือแชร์ ก่อนจะแชร์อะไรในวันโกหก อย่าลืมตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่!

    ✅ เช็คยังไง? ดูแหล่งข่าว ตรวจสอบว่าเป็นสื่อชั้นนำที่น่าเชื่อถือ ดูวันที่ข่าว ข่าวเก่าบางข่าวถูกนำมาแชร์ใหม่ ใช้เว็บไซต์ตรวจสอบข่าวปลอม เช่น Anti-Fake News Center

    👤 ความรับผิดชอบของผู้ใช้โซเชียล การใช้โซเชียลมีเดียไม่ใช่แค่ความสนุก แต่คือ “ความรับผิดชอบ” เราทุกคนมีส่วนในการสร้างสังคมออนไลน์ที่ปลอดภัย อย่าแชร์ถ้าไม่แน่ใจ อย่าทำให้คนอื่นตกใจ อย่าล้อในเรื่องที่กระทบสังคม

    ⚠️ ข้อควรระวัง แชร์โพสต์ของคนอื่นก็ผิดได้! แม้ไม่ได้เป็นคนเขียนโพสต์ต้นฉบับ แต่หาก “แชร์” ข้อมูลที่เป็นเท็จ โดยไม่ได้ตรวจสอบก่อน ก็อาจถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ เช่นกัน!

    👩‍⚖️ ถ้าโดนแจ้งความ ให้ติดต่อทนายความทันที อย่าเพิกเฉยต่อหมายเรียก ให้ข้อมูลตามจริง และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่

    🔚 ขำได้...แต่อย่าผิดกฎหมาย! วันเอพริลฟูลเดย์ เป็นวันที่ให้เสียงหัวเราะ แต่ในโลกยุคดิจิทัล การล้อเล่นโดยไม่ระวัง อาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะในประเทศที่มีกฎหมายควบคุม “ข้อมูลเท็จ” อย่างจริงจัง เช่นประเทศไทย

    คิดก่อนโพสต์ แชร์อย่างรับผิดชอบ ล้อเล่นแบบสร้างสรรค์ เพื่อให้วันโกหกยังคงเป็นวันสนุก...โดยไม่ต้องเจอคุก! 🤝✨

    📌 อยากให้วันโกหกเป็นเรื่องขำ...ไม่ใช่เรื่องคุก ขอแค่ “คิดก่อนคลิก แชร์อย่างรู้ทัน” ก็ปลอดภัยทุกฝ่าย 😊

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 011152 เม.ย. 2568

    📌 #วันเอพริลฟูลเดย์ #ข่าวปลอม #โพสต์ล้อเล่น #พรกคอมพ์ #วันโกหก #AprilFools #ล้อเล่นอย่างมีสติ #แชร์อย่างรับผิดชอบ #กฎหมายออนไลน์ #โทษโพสต์เท็จ

    โพสต์ล้อเล่น “วันโกหก” ระวังเจอคุก! รู้ทันกฎหมายก่อนแชร์ ในวันเอพริลฟูลเดย์ 🤡 วันเอพริลฟูลเดย์ วัฒนธรรมตะวันตกที่คนไทยควร “เล่นอย่างมีสติ” เพราะพลาดเพียงนิดเดียว อาจโดนโทษหนักจาก พ.ร.บ.คอมพ์ฯ 😰 🧠 วันโกหกที่ไม่ควรโกหก ในทุกวันที่ 1 เมษายนของทุกปี ผู้คนทั่วโลกเฉลิมฉลอง “วันเมษาหน้าโง่” หรือที่รู้จักกันในชื่อภาษาอังกฤษว่า April Fool’s Day วันที่คนส่วนใหญ่ มักใช้เล่นมุกล้อขำขัน สร้างเสียงหัวเราะให้คนรอบข้าง...แต่เดี๋ยวก่อน! ✋📱 แม้จะดูเหมือนไม่มีพิษภัย แต่ในประเทศไทย การโพสต์หรือแชร์ “ข่าวปลอม” หรือ “ข้อมูลอันเป็นเท็จ” ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม อาจทำให้คุณต้องเผชิญกับ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท 😱 🎭 วันเอพริลฟูลเดย์ (April Fool's Day) เป็นเทศกาลที่คนในประเทศตะวันตก เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และหลายประเทศในยุโรป เล่นมุกหลอกกันเพื่อความสนุกสนาน ในวันที่ 1 เมษายน ตามธรรมเนียม วัตถุประสงค์ของวันนี้ ไม่ใช่การโกหกแบบจริงจัง แต่เป็นการ เล่นมุกขำขัน โดยต้องระมัดระวัง ไม่ให้เกิดผลเสียจริง เช่น ทำให้คนตกใจ เข้าใจผิด หรือเสียหาย 🌍 ความนิยมของวันโกหก เริ่มตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยสื่อและบุคคลต่าง ๆ จะโพสต์เรื่องหลอกในวันนี้ และเฉลยความจริงในวันถัดมา 📚 ต้นกำเนิดของวันโกหกจากตะวันตก มีหลายทฤษฎี เกี่ยวกับต้นกำเนิดของ April Fool’s Day ยุคกลางของยุโรป เคยมีการฉลองปีใหม่ ในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึง 1 เมษายน เมื่อมีการเปลี่ยนมาใช้วันที่ 1 มกราคมแทน คนที่ยังเฉลิมฉลองในช่วงเดิม จึงถูกมองว่า "โง่" 🤦 มีการเชื่อมโยงกับเทศกาลโรมันชื่อว่า Hilaria ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม เป็นการเฉลิมฉลองความสนุกสนาน และการแต่งตัวล้อเลียน ตำนานแคนเตอร์บรีของชอเซอร์ (ปี ค.ศ. 1392) มีคำบรรยายที่ตีความว่า “32 มีนาคม” ซึ่งก็คือวันที่ 1 เมษายน 🕰️ ไม่ว่าต้นกำเนิดจะมาจากไหน แต่แน่นอนว่าวันนี้กลายเป็น “วันแห่งการหลอกแบบเบา ๆ” ที่ยังมีอิทธิพลจนถึงปัจจุบัน ⚖️ กฎหมายไทยไม่ขำด้วย! รู้จัก พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 แม้ว่าจะเป็นวันล้อเล่น ในวัฒนธรรมตะวันตก แต่ในประเทศไทย การโพสต์ ข้อมูลเท็จ หรือข่าวปลอม ไม่ว่าจะมีเจตนาขำหรือไม่ ก็ถือว่าผิดกฎหมาย! 📌 พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 ระบุว่า "ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือประเทศชาติ ถือว่ามีความผิด" 👮‍♂️ โทษหนักมาก! จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ! ❗ แม้จะเป็นการล้อเล่น ถ้าทำให้คนตื่นตระหนก หรือเชื่อผิดจริง ก็ถือว่ามีความผิด ตามกฎหมายนี้ได้เช่นกัน 🧨 ข่าวปลอมที่คิดว่า “เล่นๆ” แต่ผิดจริง! หลายคนอาจเคยเห็นโพสต์ ในวันเอพริลฟูล เช่น “รัฐบาลจะล็อกดาวน์ประเทศ!” “ธนาคารกำลังจะล้ม” “มีเอเลี่ยนบุกกรุงเทพ” แม้จะโพสต์แบบขำ ๆ แต่หากไม่มีการระบุชัดเจนว่าเป็น “มุกล้อเล่น” และส่งผลให้คนตื่นตกใจ หรือแชร์ต่อกันเป็นวงกว้าง ก็มีโอกาสโดนแจ้งความจริง! 📂 ตัวอย่างคดีจริงในไทยจากวันโกหก เคสข่าวลือวัคซีนหมด ผู้โพสต์บอกว่า "วัคซีนโควิดหมดแล้ว!" แต่ประชาชนบางส่วนเชื่อจริง และแห่กันไปโรงพยาบาล ถูกตำรวจเรียกตัว และแจ้งความผิดตามมาตรา 14 พ.ร.บ. คอมฯ เคสข่าวปลอมเกี่ยวกับเหตุการณ์ภัยพิบัติ โพสต์ข่าวแผ่นดินไหวรุนแรงในเชียงใหม่ ทำให้คนตกใจกลัว สุดท้ายพบว่า เป็นมุกในวันเอพริลฟูล แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ขำด้วย 😬 ✅ วิธีโพสต์มุกวันโกหกแบบ “ปลอดภัย” เพื่อไม่ให้เจอปัญหา นี่คือแนวทางการล้อเล่นแบบ “ขำได้ไม่ผิดกฎหมาย 💡 ต้องมี “คำชี้แจง” ใส่ #มุกวันโกหก หรือ #AprilFools ใช้ emoji อย่าง 🤡😂🃏 เพื่อสื่อความขำขัน เขียนท้ายโพสต์ว่า “เรื่องนี้ไม่จริงนะครับ/ค่ะ เป็นมุกวันโกหก” 🙅‍♂️ หลีกเลี่ยงประเด็นอ่อนไหว ความมั่นคงของประเทศ เศรษฐกิจ เช่น “ธนาคารล้ม” สุขภาพ เช่น “โรคใหม่ระบาด” เหตุการณ์ร้ายแรง เช่น “มีระเบิดในห้าง” 🎨 ตัวอย่างมุกล้อเล่นที่ปลอดภัย และสร้างสรรค์ “วันนี้จะลาออกไปเปิดร้านกาแฟบนดาวอังคารแล้วนะ ☕🚀” “Apple จะออก iPhone กลิ่นต้มยำในรุ่นถัดไป 🍜📱” “บีทีเอสเปิดให้ขึ้นฟรีตลอดปี ถ้าใส่เสื้อสีม่วงทุกวัน 😆” 🔍 วิธีตรวจสอบข่าว ก่อนโพสต์หรือแชร์ ก่อนจะแชร์อะไรในวันโกหก อย่าลืมตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่! ✅ เช็คยังไง? ดูแหล่งข่าว ตรวจสอบว่าเป็นสื่อชั้นนำที่น่าเชื่อถือ ดูวันที่ข่าว ข่าวเก่าบางข่าวถูกนำมาแชร์ใหม่ ใช้เว็บไซต์ตรวจสอบข่าวปลอม เช่น Anti-Fake News Center 👤 ความรับผิดชอบของผู้ใช้โซเชียล การใช้โซเชียลมีเดียไม่ใช่แค่ความสนุก แต่คือ “ความรับผิดชอบ” เราทุกคนมีส่วนในการสร้างสังคมออนไลน์ที่ปลอดภัย อย่าแชร์ถ้าไม่แน่ใจ อย่าทำให้คนอื่นตกใจ อย่าล้อในเรื่องที่กระทบสังคม ⚠️ ข้อควรระวัง แชร์โพสต์ของคนอื่นก็ผิดได้! แม้ไม่ได้เป็นคนเขียนโพสต์ต้นฉบับ แต่หาก “แชร์” ข้อมูลที่เป็นเท็จ โดยไม่ได้ตรวจสอบก่อน ก็อาจถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ เช่นกัน! 👩‍⚖️ ถ้าโดนแจ้งความ ให้ติดต่อทนายความทันที อย่าเพิกเฉยต่อหมายเรียก ให้ข้อมูลตามจริง และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ 🔚 ขำได้...แต่อย่าผิดกฎหมาย! วันเอพริลฟูลเดย์ เป็นวันที่ให้เสียงหัวเราะ แต่ในโลกยุคดิจิทัล การล้อเล่นโดยไม่ระวัง อาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะในประเทศที่มีกฎหมายควบคุม “ข้อมูลเท็จ” อย่างจริงจัง เช่นประเทศไทย คิดก่อนโพสต์ แชร์อย่างรับผิดชอบ ล้อเล่นแบบสร้างสรรค์ เพื่อให้วันโกหกยังคงเป็นวันสนุก...โดยไม่ต้องเจอคุก! 🤝✨ 📌 อยากให้วันโกหกเป็นเรื่องขำ...ไม่ใช่เรื่องคุก ขอแค่ “คิดก่อนคลิก แชร์อย่างรู้ทัน” ก็ปลอดภัยทุกฝ่าย 😊 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 011152 เม.ย. 2568 📌 #วันเอพริลฟูลเดย์ #ข่าวปลอม #โพสต์ล้อเล่น #พรกคอมพ์ #วันโกหก #AprilFools #ล้อเล่นอย่างมีสติ #แชร์อย่างรับผิดชอบ #กฎหมายออนไลน์ #โทษโพสต์เท็จ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • โพสต์ล้อเล่น “วันโกหก” ระวังเจอคุก! รู้ทันกฎหมายก่อนแชร์ ในวันเอพริลฟูลเดย์

    🤡 วันเอพริลฟูลเดย์ วัฒนธรรมตะวันตกที่คนไทยควร “เล่นอย่างมีสติ” เพราะพลาดเพียงนิดเดียว อาจโดนโทษหนักจาก พ.ร.บ.คอมพ์ฯ 😰

    🧠 วันโกหกที่ไม่ควรโกหก ในทุกวันที่ 1 เมษายนของทุกปี ผู้คนทั่วโลกเฉลิมฉลอง “วันเมษาหน้าโง่” หรือที่รู้จักกันในชื่อภาษาอังกฤษว่า April Fool’s Day วันที่คนส่วนใหญ่ มักใช้เล่นมุกล้อขำขัน สร้างเสียงหัวเราะให้คนรอบข้าง...แต่เดี๋ยวก่อน!

    ✋📱 แม้จะดูเหมือนไม่มีพิษภัย แต่ในประเทศไทย การโพสต์หรือแชร์ “ข่าวปลอม” หรือ “ข้อมูลอันเป็นเท็จ” ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม อาจทำให้คุณต้องเผชิญกับ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท 😱

    🎭 วันเอพริลฟูลเดย์ (April Fool's Day) เป็นเทศกาลที่คนในประเทศตะวันตก เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และหลายประเทศในยุโรป เล่นมุกหลอกกันเพื่อความสนุกสนาน ในวันที่ 1 เมษายน

    ตามธรรมเนียม วัตถุประสงค์ของวันนี้ ไม่ใช่การโกหกแบบจริงจัง แต่เป็นการ เล่นมุกขำขัน โดยต้องระมัดระวัง ไม่ให้เกิดผลเสียจริง เช่น ทำให้คนตกใจ เข้าใจผิด หรือเสียหาย

    🌍 ความนิยมของวันโกหก เริ่มตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยสื่อและบุคคลต่าง ๆ จะโพสต์เรื่องหลอกในวันนี้ และเฉลยความจริงในวันถัดมา

    📚 ต้นกำเนิดของวันโกหกจากตะวันตก มีหลายทฤษฎี เกี่ยวกับต้นกำเนิดของ April Fool’s Day

    ยุคกลางของยุโรป เคยมีการฉลองปีใหม่ ในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึง 1 เมษายน เมื่อมีการเปลี่ยนมาใช้วันที่ 1 มกราคมแทน คนที่ยังเฉลิมฉลองในช่วงเดิม จึงถูกมองว่า "โง่" 🤦

    มีการเชื่อมโยงกับเทศกาลโรมันชื่อว่า Hilaria ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม เป็นการเฉลิมฉลองความสนุกสนาน และการแต่งตัวล้อเลียน

    ตำนานแคนเตอร์บรีของชอเซอร์ (ปี ค.ศ. 1392) มีคำบรรยายที่ตีความว่า “32 มีนาคม” ซึ่งก็คือวันที่ 1 เมษายน

    🕰️ ไม่ว่าต้นกำเนิดจะมาจากไหน แต่แน่นอนว่าวันนี้กลายเป็น “วันแห่งการหลอกแบบเบา ๆ” ที่ยังมีอิทธิพลจนถึงปัจจุบัน

    ⚖️ กฎหมายไทยไม่ขำด้วย! รู้จัก พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 แม้ว่าจะเป็นวันล้อเล่น ในวัฒนธรรมตะวันตก แต่ในประเทศไทย การโพสต์ ข้อมูลเท็จ หรือข่าวปลอม ไม่ว่าจะมีเจตนาขำหรือไม่ ก็ถือว่าผิดกฎหมาย!

    📌 พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 ระบุว่า "ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือประเทศชาติ ถือว่ามีความผิด"

    👮‍♂️ โทษหนักมาก! จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ!

    ❗ แม้จะเป็นการล้อเล่น ถ้าทำให้คนตื่นตระหนก หรือเชื่อผิดจริง ก็ถือว่ามีความผิด ตามกฎหมายนี้ได้เช่นกัน

    🧨 ข่าวปลอมที่คิดว่า “เล่นๆ” แต่ผิดจริง! หลายคนอาจเคยเห็นโพสต์ ในวันเอพริลฟูล เช่น

    “รัฐบาลจะล็อกดาวน์ประเทศ!”
    “ธนาคารกำลังจะล้ม”
    “มีเอเลี่ยนบุกกรุงเทพ”

    แม้จะโพสต์แบบขำ ๆ แต่หากไม่มีการระบุชัดเจนว่าเป็น “มุกล้อเล่น” และส่งผลให้คนตื่นตกใจ หรือแชร์ต่อกันเป็นวงกว้าง ก็มีโอกาสโดนแจ้งความจริง!

    📂 ตัวอย่างคดีจริงในไทยจากวันโกหก เคสข่าวลือวัคซีนหมด ผู้โพสต์บอกว่า "วัคซีนโควิดหมดแล้ว!" แต่ประชาชนบางส่วนเชื่อจริง และแห่กันไปโรงพยาบาล ถูกตำรวจเรียกตัว และแจ้งความผิดตามมาตรา 14 พ.ร.บ. คอมฯ

    เคสข่าวปลอมเกี่ยวกับเหตุการณ์ภัยพิบัติ โพสต์ข่าวแผ่นดินไหวรุนแรงในเชียงใหม่ ทำให้คนตกใจกลัว สุดท้ายพบว่า เป็นมุกในวันเอพริลฟูล แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ขำด้วย 😬

    ✅ วิธีโพสต์มุกวันโกหกแบบ “ปลอดภัย” เพื่อไม่ให้เจอปัญหา นี่คือแนวทางการล้อเล่นแบบ “ขำได้ไม่ผิดกฎหมาย

    💡 ต้องมี “คำชี้แจง” ใส่ #มุกวันโกหก หรือ #AprilFools ใช้ emoji อย่าง 🤡😂🃏 เพื่อสื่อความขำขัน เขียนท้ายโพสต์ว่า “เรื่องนี้ไม่จริงนะครับ/ค่ะ เป็นมุกวันโกหก”

    🙅‍♂️ หลีกเลี่ยงประเด็นอ่อนไหว ความมั่นคงของประเทศ เศรษฐกิจ เช่น “ธนาคารล้ม” สุขภาพ เช่น “โรคใหม่ระบาด” เหตุการณ์ร้ายแรง เช่น “มีระเบิดในห้าง”

    🎨 ตัวอย่างมุกล้อเล่นที่ปลอดภัย และสร้างสรรค์
    “วันนี้จะลาออกไปเปิดร้านกาแฟบนดาวอังคารแล้วนะ ☕🚀”
    “Apple จะออก iPhone กลิ่นต้มยำในรุ่นถัดไป 🍜📱”
    “บีทีเอสเปิดให้ขึ้นฟรีตลอดปี ถ้าใส่เสื้อสีม่วงทุกวัน 😆”

    🔍 วิธีตรวจสอบข่าว ก่อนโพสต์หรือแชร์ ก่อนจะแชร์อะไรในวันโกหก อย่าลืมตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่!

    ✅ เช็คยังไง? ดูแหล่งข่าว ตรวจสอบว่าเป็นสื่อชั้นนำที่น่าเชื่อถือ ดูวันที่ข่าว ข่าวเก่าบางข่าวถูกนำมาแชร์ใหม่ ใช้เว็บไซต์ตรวจสอบข่าวปลอม เช่น Anti-Fake News Center

    👤 ความรับผิดชอบของผู้ใช้โซเชียล การใช้โซเชียลมีเดียไม่ใช่แค่ความสนุก แต่คือ “ความรับผิดชอบ” เราทุกคนมีส่วนในการสร้างสังคมออนไลน์ที่ปลอดภัย อย่าแชร์ถ้าไม่แน่ใจ อย่าทำให้คนอื่นตกใจ อย่าล้อในเรื่องที่กระทบสังคม

    ⚠️ ข้อควรระวัง แชร์โพสต์ของคนอื่นก็ผิดได้! แม้ไม่ได้เป็นคนเขียนโพสต์ต้นฉบับ แต่หาก “แชร์” ข้อมูลที่เป็นเท็จ โดยไม่ได้ตรวจสอบก่อน ก็อาจถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ เช่นกัน!

    👩‍⚖️ ถ้าโดนแจ้งความ ให้ติดต่อทนายความทันที อย่าเพิกเฉยต่อหมายเรียก ให้ข้อมูลตามจริง และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่

    🔚 ขำได้...แต่อย่าผิดกฎหมาย! วันเอพริลฟูลเดย์ เป็นวันที่ให้เสียงหัวเราะ แต่ในโลกยุคดิจิทัล การล้อเล่นโดยไม่ระวัง อาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะในประเทศที่มีกฎหมายควบคุม “ข้อมูลเท็จ” อย่างจริงจัง เช่นประเทศไทย

    คิดก่อนโพสต์ แชร์อย่างรับผิดชอบ ล้อเล่นแบบสร้างสรรค์ เพื่อให้วันโกหกยังคงเป็นวันสนุก...โดยไม่ต้องเจอคุก! 🤝✨

    📌 อยากให้วันโกหกเป็นเรื่องขำ...ไม่ใช่เรื่องคุก ขอแค่ “คิดก่อนคลิก แชร์อย่างรู้ทัน” ก็ปลอดภัยทุกฝ่าย 😊

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 011152 เม.ย. 2568

    📌 #วันเอพริลฟูลเดย์ #ข่าวปลอม #โพสต์ล้อเล่น #พรกคอมพ์ #วันโกหก #AprilFools #ล้อเล่นอย่างมีสติ #แชร์อย่างรับผิดชอบ #กฎหมายออนไลน์ #โทษโพสต์เท็จ

    โพสต์ล้อเล่น “วันโกหก” ระวังเจอคุก! รู้ทันกฎหมายก่อนแชร์ ในวันเอพริลฟูลเดย์ 🤡 วันเอพริลฟูลเดย์ วัฒนธรรมตะวันตกที่คนไทยควร “เล่นอย่างมีสติ” เพราะพลาดเพียงนิดเดียว อาจโดนโทษหนักจาก พ.ร.บ.คอมพ์ฯ 😰 🧠 วันโกหกที่ไม่ควรโกหก ในทุกวันที่ 1 เมษายนของทุกปี ผู้คนทั่วโลกเฉลิมฉลอง “วันเมษาหน้าโง่” หรือที่รู้จักกันในชื่อภาษาอังกฤษว่า April Fool’s Day วันที่คนส่วนใหญ่ มักใช้เล่นมุกล้อขำขัน สร้างเสียงหัวเราะให้คนรอบข้าง...แต่เดี๋ยวก่อน! ✋📱 แม้จะดูเหมือนไม่มีพิษภัย แต่ในประเทศไทย การโพสต์หรือแชร์ “ข่าวปลอม” หรือ “ข้อมูลอันเป็นเท็จ” ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม อาจทำให้คุณต้องเผชิญกับ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท 😱 🎭 วันเอพริลฟูลเดย์ (April Fool's Day) เป็นเทศกาลที่คนในประเทศตะวันตก เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และหลายประเทศในยุโรป เล่นมุกหลอกกันเพื่อความสนุกสนาน ในวันที่ 1 เมษายน ตามธรรมเนียม วัตถุประสงค์ของวันนี้ ไม่ใช่การโกหกแบบจริงจัง แต่เป็นการ เล่นมุกขำขัน โดยต้องระมัดระวัง ไม่ให้เกิดผลเสียจริง เช่น ทำให้คนตกใจ เข้าใจผิด หรือเสียหาย 🌍 ความนิยมของวันโกหก เริ่มตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยสื่อและบุคคลต่าง ๆ จะโพสต์เรื่องหลอกในวันนี้ และเฉลยความจริงในวันถัดมา 📚 ต้นกำเนิดของวันโกหกจากตะวันตก มีหลายทฤษฎี เกี่ยวกับต้นกำเนิดของ April Fool’s Day ยุคกลางของยุโรป เคยมีการฉลองปีใหม่ ในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึง 1 เมษายน เมื่อมีการเปลี่ยนมาใช้วันที่ 1 มกราคมแทน คนที่ยังเฉลิมฉลองในช่วงเดิม จึงถูกมองว่า "โง่" 🤦 มีการเชื่อมโยงกับเทศกาลโรมันชื่อว่า Hilaria ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม เป็นการเฉลิมฉลองความสนุกสนาน และการแต่งตัวล้อเลียน ตำนานแคนเตอร์บรีของชอเซอร์ (ปี ค.ศ. 1392) มีคำบรรยายที่ตีความว่า “32 มีนาคม” ซึ่งก็คือวันที่ 1 เมษายน 🕰️ ไม่ว่าต้นกำเนิดจะมาจากไหน แต่แน่นอนว่าวันนี้กลายเป็น “วันแห่งการหลอกแบบเบา ๆ” ที่ยังมีอิทธิพลจนถึงปัจจุบัน ⚖️ กฎหมายไทยไม่ขำด้วย! รู้จัก พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 แม้ว่าจะเป็นวันล้อเล่น ในวัฒนธรรมตะวันตก แต่ในประเทศไทย การโพสต์ ข้อมูลเท็จ หรือข่าวปลอม ไม่ว่าจะมีเจตนาขำหรือไม่ ก็ถือว่าผิดกฎหมาย! 📌 พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 ระบุว่า "ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือประเทศชาติ ถือว่ามีความผิด" 👮‍♂️ โทษหนักมาก! จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ! ❗ แม้จะเป็นการล้อเล่น ถ้าทำให้คนตื่นตระหนก หรือเชื่อผิดจริง ก็ถือว่ามีความผิด ตามกฎหมายนี้ได้เช่นกัน 🧨 ข่าวปลอมที่คิดว่า “เล่นๆ” แต่ผิดจริง! หลายคนอาจเคยเห็นโพสต์ ในวันเอพริลฟูล เช่น “รัฐบาลจะล็อกดาวน์ประเทศ!” “ธนาคารกำลังจะล้ม” “มีเอเลี่ยนบุกกรุงเทพ” แม้จะโพสต์แบบขำ ๆ แต่หากไม่มีการระบุชัดเจนว่าเป็น “มุกล้อเล่น” และส่งผลให้คนตื่นตกใจ หรือแชร์ต่อกันเป็นวงกว้าง ก็มีโอกาสโดนแจ้งความจริง! 📂 ตัวอย่างคดีจริงในไทยจากวันโกหก เคสข่าวลือวัคซีนหมด ผู้โพสต์บอกว่า "วัคซีนโควิดหมดแล้ว!" แต่ประชาชนบางส่วนเชื่อจริง และแห่กันไปโรงพยาบาล ถูกตำรวจเรียกตัว และแจ้งความผิดตามมาตรา 14 พ.ร.บ. คอมฯ เคสข่าวปลอมเกี่ยวกับเหตุการณ์ภัยพิบัติ โพสต์ข่าวแผ่นดินไหวรุนแรงในเชียงใหม่ ทำให้คนตกใจกลัว สุดท้ายพบว่า เป็นมุกในวันเอพริลฟูล แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ขำด้วย 😬 ✅ วิธีโพสต์มุกวันโกหกแบบ “ปลอดภัย” เพื่อไม่ให้เจอปัญหา นี่คือแนวทางการล้อเล่นแบบ “ขำได้ไม่ผิดกฎหมาย 💡 ต้องมี “คำชี้แจง” ใส่ #มุกวันโกหก หรือ #AprilFools ใช้ emoji อย่าง 🤡😂🃏 เพื่อสื่อความขำขัน เขียนท้ายโพสต์ว่า “เรื่องนี้ไม่จริงนะครับ/ค่ะ เป็นมุกวันโกหก” 🙅‍♂️ หลีกเลี่ยงประเด็นอ่อนไหว ความมั่นคงของประเทศ เศรษฐกิจ เช่น “ธนาคารล้ม” สุขภาพ เช่น “โรคใหม่ระบาด” เหตุการณ์ร้ายแรง เช่น “มีระเบิดในห้าง” 🎨 ตัวอย่างมุกล้อเล่นที่ปลอดภัย และสร้างสรรค์ “วันนี้จะลาออกไปเปิดร้านกาแฟบนดาวอังคารแล้วนะ ☕🚀” “Apple จะออก iPhone กลิ่นต้มยำในรุ่นถัดไป 🍜📱” “บีทีเอสเปิดให้ขึ้นฟรีตลอดปี ถ้าใส่เสื้อสีม่วงทุกวัน 😆” 🔍 วิธีตรวจสอบข่าว ก่อนโพสต์หรือแชร์ ก่อนจะแชร์อะไรในวันโกหก อย่าลืมตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่! ✅ เช็คยังไง? ดูแหล่งข่าว ตรวจสอบว่าเป็นสื่อชั้นนำที่น่าเชื่อถือ ดูวันที่ข่าว ข่าวเก่าบางข่าวถูกนำมาแชร์ใหม่ ใช้เว็บไซต์ตรวจสอบข่าวปลอม เช่น Anti-Fake News Center 👤 ความรับผิดชอบของผู้ใช้โซเชียล การใช้โซเชียลมีเดียไม่ใช่แค่ความสนุก แต่คือ “ความรับผิดชอบ” เราทุกคนมีส่วนในการสร้างสังคมออนไลน์ที่ปลอดภัย อย่าแชร์ถ้าไม่แน่ใจ อย่าทำให้คนอื่นตกใจ อย่าล้อในเรื่องที่กระทบสังคม ⚠️ ข้อควรระวัง แชร์โพสต์ของคนอื่นก็ผิดได้! แม้ไม่ได้เป็นคนเขียนโพสต์ต้นฉบับ แต่หาก “แชร์” ข้อมูลที่เป็นเท็จ โดยไม่ได้ตรวจสอบก่อน ก็อาจถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ เช่นกัน! 👩‍⚖️ ถ้าโดนแจ้งความ ให้ติดต่อทนายความทันที อย่าเพิกเฉยต่อหมายเรียก ให้ข้อมูลตามจริง และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ 🔚 ขำได้...แต่อย่าผิดกฎหมาย! วันเอพริลฟูลเดย์ เป็นวันที่ให้เสียงหัวเราะ แต่ในโลกยุคดิจิทัล การล้อเล่นโดยไม่ระวัง อาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะในประเทศที่มีกฎหมายควบคุม “ข้อมูลเท็จ” อย่างจริงจัง เช่นประเทศไทย คิดก่อนโพสต์ แชร์อย่างรับผิดชอบ ล้อเล่นแบบสร้างสรรค์ เพื่อให้วันโกหกยังคงเป็นวันสนุก...โดยไม่ต้องเจอคุก! 🤝✨ 📌 อยากให้วันโกหกเป็นเรื่องขำ...ไม่ใช่เรื่องคุก ขอแค่ “คิดก่อนคลิก แชร์อย่างรู้ทัน” ก็ปลอดภัยทุกฝ่าย 😊 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 011152 เม.ย. 2568 📌 #วันเอพริลฟูลเดย์ #ข่าวปลอม #โพสต์ล้อเล่น #พรกคอมพ์ #วันโกหก #AprilFools #ล้อเล่นอย่างมีสติ #แชร์อย่างรับผิดชอบ #กฎหมายออนไลน์ #โทษโพสต์เท็จ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลตรวจเหล็กตึก สตง.ไม่ได้มาตรฐาน! : [NEWS UPDATE]

    น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รมว.อุตสาหกรรม เผยผลการสุ่มตรวจเก็บตัวอย่างเหล็กเส้น 28 ท่อน จากตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ซึ่งถล่มเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา จากเหตุแผ่นดินไหว พบมีทั้งได้และไม่ได้มาตรฐาน โดยเหล็กที่นำมาตรวจสอบ 28 ท่อน 7 ไซส์ ได้มาตรฐาน 15 ท่อน 5 ไซส์ ไม่ได้มาตรฐาน 13 ท่อน 2 ไซส์ คือ ไซส์ 20 มิลลิเมตร และ 32 มิลลิเมตร ซึ่งทั้ง 2 ไซส์ มาจากบริษัทเดียวกัน ที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) ได้สั่งปิดเมื่อเดือน ธ.ค. 2567 เนื่องจากจำหน่ายเหล็กไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งหลังจากนี้จะกลับไปนำตัวอย่างมาตรวจสอบเพิ่ม เพื่อให้มีหลักฐานเพียงพอ ส่วนเหล็กที่ไม่ผ่านมาตรฐานจะตรวจสอบเชิงลึกว่าผลิตระหว่างที่สั่งปิดหรือไม่ เพราะดูจากเหล็กน่าจะประมาณ 5 เดือน หากพบลักลอบนำเหล็กไม่ได้มาตรฐานมาใช้ จะโดนดำเนินคดี ยอมรับการเข้าพื้นที่เพื่อนำตัวอย่างมาตรวจสอบไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร

    -ซ่อมรอยร้าวศูนย์ราชการ

    -ช่วยเต็มที่ทุกสัญชาติ

    -เร่งตรวจรายงานผลนายก

    -ความหวังเริ่มริบหรี่
    ผลตรวจเหล็กตึก สตง.ไม่ได้มาตรฐาน! : [NEWS UPDATE] น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รมว.อุตสาหกรรม เผยผลการสุ่มตรวจเก็บตัวอย่างเหล็กเส้น 28 ท่อน จากตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ซึ่งถล่มเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา จากเหตุแผ่นดินไหว พบมีทั้งได้และไม่ได้มาตรฐาน โดยเหล็กที่นำมาตรวจสอบ 28 ท่อน 7 ไซส์ ได้มาตรฐาน 15 ท่อน 5 ไซส์ ไม่ได้มาตรฐาน 13 ท่อน 2 ไซส์ คือ ไซส์ 20 มิลลิเมตร และ 32 มิลลิเมตร ซึ่งทั้ง 2 ไซส์ มาจากบริษัทเดียวกัน ที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) ได้สั่งปิดเมื่อเดือน ธ.ค. 2567 เนื่องจากจำหน่ายเหล็กไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งหลังจากนี้จะกลับไปนำตัวอย่างมาตรวจสอบเพิ่ม เพื่อให้มีหลักฐานเพียงพอ ส่วนเหล็กที่ไม่ผ่านมาตรฐานจะตรวจสอบเชิงลึกว่าผลิตระหว่างที่สั่งปิดหรือไม่ เพราะดูจากเหล็กน่าจะประมาณ 5 เดือน หากพบลักลอบนำเหล็กไม่ได้มาตรฐานมาใช้ จะโดนดำเนินคดี ยอมรับการเข้าพื้นที่เพื่อนำตัวอย่างมาตรวจสอบไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร -ซ่อมรอยร้าวศูนย์ราชการ -ช่วยเต็มที่ทุกสัญชาติ -เร่งตรวจรายงานผลนายก -ความหวังเริ่มริบหรี่
    Like
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 333 มุมมอง 31 0 รีวิว
  • แฮกเกอร์อ้างว่าสามารถเจาะระบบ Oracle Cloud และขโมยข้อมูลลูกค้ากว่า 6 ล้านรายการ ขณะที่ Oracle ปฏิเสธข้อกล่าวหา นักวิจัยด้านความปลอดภัยหลายแห่งยืนยันว่าข้อมูลที่รั่วไหลเป็นข้อมูลจริง แต่บริษัทกลับยังคงนิ่งเฉยและไม่แจ้งเตือนลูกค้า ข้อมูลเหล่านี้อาจเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการโจมตีทางไซเบอร์เพิ่มเติม

    การใช้ช่องโหว่ Zero-Day:
    - CloudSEK ระบุว่าแฮกเกอร์ใช้ ช่องโหว่ CVE-2021-35587 ในระบบ Oracle Fusion Middleware เพื่อเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน

    ความพยายามปกปิดของ Oracle:
    - Oracle ปฏิเสธว่าไม่มีข้อมูลรั่วไหล และกล่าวว่าข้อมูลที่ถูกเปิดเผยไม่ได้มาจาก Oracle Cloud
    - อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยจาก Hudson Rock และ Trustwave SpiderLabs ยืนยันว่าข้อมูลที่รั่วไหลนั้นเป็นข้อมูลจริง

    ผลกระทบต่อองค์กรที่ได้รับผลกระทบ:
    - รายงานระบุว่าข้อมูลที่หลุดออกไปมี ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน เช่น ชื่อ, อีเมล, หมายเลขโทรศัพท์ และข้อมูลติดต่อส่วนตัว ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงด้านการโจมตีฟิชชิงและอาชญากรรมไซเบอร์

    ความเคลื่อนไหวของชุมชนแฮกเกอร์:
    - Rose87168 ได้โพสต์ตัวอย่างข้อมูลบนเว็บใต้ดินและขอให้กลุ่มแฮกเกอร์ช่วยถอดรหัสรหัสผ่าน เพื่อแลกกับสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลบางส่วน

    https://www.techspot.com/news/107362-oracle-hid-serious-data-breach-customers-now-hacker.html
    แฮกเกอร์อ้างว่าสามารถเจาะระบบ Oracle Cloud และขโมยข้อมูลลูกค้ากว่า 6 ล้านรายการ ขณะที่ Oracle ปฏิเสธข้อกล่าวหา นักวิจัยด้านความปลอดภัยหลายแห่งยืนยันว่าข้อมูลที่รั่วไหลเป็นข้อมูลจริง แต่บริษัทกลับยังคงนิ่งเฉยและไม่แจ้งเตือนลูกค้า ข้อมูลเหล่านี้อาจเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการโจมตีทางไซเบอร์เพิ่มเติม การใช้ช่องโหว่ Zero-Day: - CloudSEK ระบุว่าแฮกเกอร์ใช้ ช่องโหว่ CVE-2021-35587 ในระบบ Oracle Fusion Middleware เพื่อเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน ความพยายามปกปิดของ Oracle: - Oracle ปฏิเสธว่าไม่มีข้อมูลรั่วไหล และกล่าวว่าข้อมูลที่ถูกเปิดเผยไม่ได้มาจาก Oracle Cloud - อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยจาก Hudson Rock และ Trustwave SpiderLabs ยืนยันว่าข้อมูลที่รั่วไหลนั้นเป็นข้อมูลจริง ผลกระทบต่อองค์กรที่ได้รับผลกระทบ: - รายงานระบุว่าข้อมูลที่หลุดออกไปมี ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน เช่น ชื่อ, อีเมล, หมายเลขโทรศัพท์ และข้อมูลติดต่อส่วนตัว ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงด้านการโจมตีฟิชชิงและอาชญากรรมไซเบอร์ ความเคลื่อนไหวของชุมชนแฮกเกอร์: - Rose87168 ได้โพสต์ตัวอย่างข้อมูลบนเว็บใต้ดินและขอให้กลุ่มแฮกเกอร์ช่วยถอดรหัสรหัสผ่าน เพื่อแลกกับสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลบางส่วน https://www.techspot.com/news/107362-oracle-hid-serious-data-breach-customers-now-hacker.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Oracle buried serious data breach from customers, now hacker has it up for sale
    Earlier this month, a threat actor going by Rose87168 claimed to have breached Oracle Cloud's federated SSO servers and exfiltrated around 6 million records, affecting over 144,000...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft เตรียมเปลี่ยนโฉม Blue Screen of Death (BSOD) ใน Windows 11 ให้เป็นหน้าจอข้อผิดพลาดแบบใหม่ที่มีดีไซน์ทันสมัยขึ้น โดยลดองค์ประกอบที่ไม่จำเป็น เช่น อีโมจิและ QR Code และอาจเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีดำ เป้าหมายคือให้ข้อมูลข้อผิดพลาดกระชับขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ใช้กลับไปทำงานได้เร็วขึ้น

    เปลี่ยนดีไซน์ให้ทันสมัยขึ้น
    - หน้าจอข้อผิดพลาดใหม่นี้มีการจัดวางข้อมูลที่กระชับขึ้น โดยยังคง รหัสข้อผิดพลาด (Stop Code) และสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาไว้ แต่ตัดข้อความที่ซับซ้อนออก

    ตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออก
    - ในรูปแบบใหม่ของ BSOD จะไม่มี อีโมจิเครื่องหน้าบึ้ง หรือ QR Code ที่เคยใช้แสดงข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการลดองค์ประกอบที่อาจรบกวนสายตาผู้ใช้

    สีของหน้าจอยังไม่แน่นอน
    - แม้ Microsoft จะแสดงตัวอย่าง หน้าจอสีเขียว แต่มีข้อมูลจาก Windows Latest ระบุว่าเวอร์ชันสุดท้ายอาจใช้ สีดำ แทนสีดั้งเดิม

    ผลกระทบต่อผู้ใช้ทั่วไปและนักพัฒนา
    - การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนแนวทางที่ Microsoft ต้องการให้ Windows 11 มีดีไซน์ที่สอดคล้องกันมากขึ้น และช่วยให้ผู้ใช้สามารถกลับไปทำงานได้เร็วขึ้นหลังเกิดปัญหา

    https://www.techspot.com/news/107360-microsoft-replacing-blue-screen-death-windows-11.html
    Microsoft เตรียมเปลี่ยนโฉม Blue Screen of Death (BSOD) ใน Windows 11 ให้เป็นหน้าจอข้อผิดพลาดแบบใหม่ที่มีดีไซน์ทันสมัยขึ้น โดยลดองค์ประกอบที่ไม่จำเป็น เช่น อีโมจิและ QR Code และอาจเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีดำ เป้าหมายคือให้ข้อมูลข้อผิดพลาดกระชับขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ใช้กลับไปทำงานได้เร็วขึ้น เปลี่ยนดีไซน์ให้ทันสมัยขึ้น - หน้าจอข้อผิดพลาดใหม่นี้มีการจัดวางข้อมูลที่กระชับขึ้น โดยยังคง รหัสข้อผิดพลาด (Stop Code) และสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาไว้ แต่ตัดข้อความที่ซับซ้อนออก ตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออก - ในรูปแบบใหม่ของ BSOD จะไม่มี อีโมจิเครื่องหน้าบึ้ง หรือ QR Code ที่เคยใช้แสดงข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการลดองค์ประกอบที่อาจรบกวนสายตาผู้ใช้ สีของหน้าจอยังไม่แน่นอน - แม้ Microsoft จะแสดงตัวอย่าง หน้าจอสีเขียว แต่มีข้อมูลจาก Windows Latest ระบุว่าเวอร์ชันสุดท้ายอาจใช้ สีดำ แทนสีดั้งเดิม ผลกระทบต่อผู้ใช้ทั่วไปและนักพัฒนา - การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนแนวทางที่ Microsoft ต้องการให้ Windows 11 มีดีไซน์ที่สอดคล้องกันมากขึ้น และช่วยให้ผู้ใช้สามารถกลับไปทำงานได้เร็วขึ้นหลังเกิดปัญหา https://www.techspot.com/news/107360-microsoft-replacing-blue-screen-death-windows-11.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft is replacing the Blue Screen of Death in Windows 11
    Microsoft in a recent Windows Insider blog said the updated user interface additionally supports their goal of getting users back to productivity as fast as possible.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • YouTube ดำเนินมาตรการระงับรายได้ของช่องที่สร้างตัวอย่างภาพยนตร์ปลอม ซึ่งมักใช้ AI สร้างภาพและนักแสดงโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ว่าบางสตูดิโอมองว่าสิ่งนี้ช่วยสร้างกระแสให้ภาพยนตร์จริง แต่สหภาพนักแสดงและองค์กรด้านลิขสิทธิ์ไม่พอใจ โดย YouTube ได้ปิดกั้นการสร้างรายได้ของช่องที่ละเมิดนโยบาย เพื่อรักษามาตรฐานเนื้อหาที่ถูกต้อง

    ตัวอย่างภาพยนตร์ปลอมที่แพร่หลายใน YouTube
    - ตัวอย่างภาพยนตร์ปลอม หรือ "Fan Trailer" มักแสดงภาพนักแสดงดังในบทบาทที่พวกเขาไม่ได้เล่น เช่น Leonardo DiCaprio ใน Squid Game ซีซั่น 3 หรือ Henry Cavill และ Margot Robbie ใน James Bond ซึ่งทำให้หลายคนเข้าใจผิด

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    - แทนที่จะได้รับ การแจ้งเตือนด้านลิขสิทธิ์ ช่องเหล่านี้กลับได้รับการสนับสนุนจากสตูดิโอฮอลลีวูดบางแห่ง เนื่องจากพวกเขามองว่าคลิปเหล่านี้ช่วยสร้างกระแสให้ภาพยนตร์จริง

    ข้อโต้แย้งจากนักแสดงและองค์กรด้านสิทธิ
    - SAG-AFTRA ซึ่งเป็นสหภาพนักแสดงในสหรัฐฯ มองว่าการใช้ AI สร้างตัวอย่างภาพยนตร์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นการ "ลดทอนความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์และให้ผลประโยชน์กับบริษัทเทคโนโลยี"

    การดำเนินการของ YouTube
    - หลังการสอบสวนจาก Deadline YouTube ได้ระงับการสร้างรายได้จากช่อง Screen Culture และ KH Studio สองช่องที่ใหญ่ที่สุดที่ทำตัวอย่างภาพยนตร์ปลอม โดยอ้างว่าเนื้อหาเหล่านี้ละเมิด นโยบายการสร้างรายได้ ที่กำหนดให้เนื้อหาที่ใช้วัตถุดิบจากแหล่งอื่นต้องได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ

    https://www.techspot.com/news/107350-youtube-demonetizes-fake-movie-trailer-channels-after-investigation.html
    YouTube ดำเนินมาตรการระงับรายได้ของช่องที่สร้างตัวอย่างภาพยนตร์ปลอม ซึ่งมักใช้ AI สร้างภาพและนักแสดงโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ว่าบางสตูดิโอมองว่าสิ่งนี้ช่วยสร้างกระแสให้ภาพยนตร์จริง แต่สหภาพนักแสดงและองค์กรด้านลิขสิทธิ์ไม่พอใจ โดย YouTube ได้ปิดกั้นการสร้างรายได้ของช่องที่ละเมิดนโยบาย เพื่อรักษามาตรฐานเนื้อหาที่ถูกต้อง ตัวอย่างภาพยนตร์ปลอมที่แพร่หลายใน YouTube - ตัวอย่างภาพยนตร์ปลอม หรือ "Fan Trailer" มักแสดงภาพนักแสดงดังในบทบาทที่พวกเขาไม่ได้เล่น เช่น Leonardo DiCaprio ใน Squid Game ซีซั่น 3 หรือ Henry Cavill และ Margot Robbie ใน James Bond ซึ่งทำให้หลายคนเข้าใจผิด ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม - แทนที่จะได้รับ การแจ้งเตือนด้านลิขสิทธิ์ ช่องเหล่านี้กลับได้รับการสนับสนุนจากสตูดิโอฮอลลีวูดบางแห่ง เนื่องจากพวกเขามองว่าคลิปเหล่านี้ช่วยสร้างกระแสให้ภาพยนตร์จริง ข้อโต้แย้งจากนักแสดงและองค์กรด้านสิทธิ - SAG-AFTRA ซึ่งเป็นสหภาพนักแสดงในสหรัฐฯ มองว่าการใช้ AI สร้างตัวอย่างภาพยนตร์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นการ "ลดทอนความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์และให้ผลประโยชน์กับบริษัทเทคโนโลยี" การดำเนินการของ YouTube - หลังการสอบสวนจาก Deadline YouTube ได้ระงับการสร้างรายได้จากช่อง Screen Culture และ KH Studio สองช่องที่ใหญ่ที่สุดที่ทำตัวอย่างภาพยนตร์ปลอม โดยอ้างว่าเนื้อหาเหล่านี้ละเมิด นโยบายการสร้างรายได้ ที่กำหนดให้เนื้อหาที่ใช้วัตถุดิบจากแหล่งอื่นต้องได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ https://www.techspot.com/news/107350-youtube-demonetizes-fake-movie-trailer-channels-after-investigation.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    YouTube demonetizes fake movie trailer channels after investigation
    You've likely seen at least one fake trailer, aka fan trailer, on YouTube. There are ones for sequels or new franchise entries that aren't being made (Henry...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตามหาความจริง ตึกถล่มจตุจักร

    แผ่นดินไหวขนาด 8.2 ลึก 10 กิโลเมตร บริเวณเมืองลอยกอ ใกล้เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา เมื่อเวลา 13.20 น. ของวันศุกร์ที่ 28 มี.ค. สั่นสะเทือนมาถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล หนึ่งในนั้นคือโครงการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ สูง 30 ชั้น บนถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร พังถล่มลงมา ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค.มีผู้เสียชีวิตที่เกิดเหตุ 11 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย บาดเจ็บ 18 ราย สูญหายอีกจำนวนมาก

    สังคมตั้งข้อสงสัยไปที่การก่อสร้างอาคารที่ไม่ได้คุณภาพ โครงการนี้ใช้งบประมาณ 2,136 ล้านบาท ผู้รับจ้างคือ กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จํากัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จํากัด ส่วนผู้ควบคุมงานก่อสร้างคือ กิจการร่วมค้าพีเคดับเบิลยู บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จํากัด, บริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนส์ จํากัด และ บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้น จํากัด งบประมาณ 74.653 ล้านบาท

    มีการตรวจสอบบริษัทผู้รับจ้างอย่างไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) พบความผิดปกติตรงที่เมื่อปี 2567 ได้โพสต์ภาพและข่าวการเฉลิมฉลองปิดงานก่อสร้างชั้นดาดฟ้า ในบัญชีโซเชียลมีเดียของบริษัทฯ นำเสนอว่าใช้ระบบโครงสร้างแบบแกนกลางรับแรง และพื้นไร้คาน พอเกิดเหตุได้ลบบทความทิ้ง ไม่นับรวมการตรวจสอบที่ตั้งบริษัท พบว่าเป็นตึกแถวธรรมดาในซอยพุทธบูชา 44 แยก 11 เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ

    ขณะที่ สตง.เจ้าของโครงการ ชี้แจงว่าได้ประสานงานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเร่งตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้น ยืนยีนว่ากระบวนการดำเนินโครงการฯ เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ส่วนการแก้แบบโครงสร้างให้เล็กลงเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เพราะออกแบบให้เสาสี่เหลี่ยมด้านหน้าอาคารสูงสามชั้นมีขนาด 1.40 x 1.40 เมตร ส่วนชั้น 29 ถึงดาดฟ้า เป็นเสากลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.80 เมตร เพื่อรองรับหลังคาตึก เป็นไปตามที่ผู้ออกแบบกำหนดไว้ไม่มีการแก้ไข

    กระทรวงอุตสาหกรรมได้เก็บตัวอย่างเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างไปตรวจสอบที่สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย พบว่ามีเหล็กบางส่วนไม่ได้มาตรฐานมาจากบริษัทที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สั่งปิดไปเมื่อเดือน ธ.ค.2567 เนื่องจากจำหน่ายเหล็กไม่ได้ตามมาตรฐาน

    ถึงบัดนี้นอกจากความรับผิดชอบของผู้รับจ้างแล้ว การค้นหาความจริงถึงสาเหตุตึกถล่มมาจากภัยธรรมชาติหรือการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานยังคงดำเนินต่อไป ตามที่ รมว.มหาดไทยตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่มีวิศวกรใหญ่กรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นประธาน ซึ่งให้เวลาสืบสวนภายใน 7 วัน

    #Newskit
    ตามหาความจริง ตึกถล่มจตุจักร แผ่นดินไหวขนาด 8.2 ลึก 10 กิโลเมตร บริเวณเมืองลอยกอ ใกล้เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา เมื่อเวลา 13.20 น. ของวันศุกร์ที่ 28 มี.ค. สั่นสะเทือนมาถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล หนึ่งในนั้นคือโครงการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ สูง 30 ชั้น บนถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร พังถล่มลงมา ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค.มีผู้เสียชีวิตที่เกิดเหตุ 11 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย บาดเจ็บ 18 ราย สูญหายอีกจำนวนมาก สังคมตั้งข้อสงสัยไปที่การก่อสร้างอาคารที่ไม่ได้คุณภาพ โครงการนี้ใช้งบประมาณ 2,136 ล้านบาท ผู้รับจ้างคือ กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จํากัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จํากัด ส่วนผู้ควบคุมงานก่อสร้างคือ กิจการร่วมค้าพีเคดับเบิลยู บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จํากัด, บริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนส์ จํากัด และ บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้น จํากัด งบประมาณ 74.653 ล้านบาท มีการตรวจสอบบริษัทผู้รับจ้างอย่างไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) พบความผิดปกติตรงที่เมื่อปี 2567 ได้โพสต์ภาพและข่าวการเฉลิมฉลองปิดงานก่อสร้างชั้นดาดฟ้า ในบัญชีโซเชียลมีเดียของบริษัทฯ นำเสนอว่าใช้ระบบโครงสร้างแบบแกนกลางรับแรง และพื้นไร้คาน พอเกิดเหตุได้ลบบทความทิ้ง ไม่นับรวมการตรวจสอบที่ตั้งบริษัท พบว่าเป็นตึกแถวธรรมดาในซอยพุทธบูชา 44 แยก 11 เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ขณะที่ สตง.เจ้าของโครงการ ชี้แจงว่าได้ประสานงานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเร่งตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้น ยืนยีนว่ากระบวนการดำเนินโครงการฯ เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ส่วนการแก้แบบโครงสร้างให้เล็กลงเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เพราะออกแบบให้เสาสี่เหลี่ยมด้านหน้าอาคารสูงสามชั้นมีขนาด 1.40 x 1.40 เมตร ส่วนชั้น 29 ถึงดาดฟ้า เป็นเสากลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.80 เมตร เพื่อรองรับหลังคาตึก เป็นไปตามที่ผู้ออกแบบกำหนดไว้ไม่มีการแก้ไข กระทรวงอุตสาหกรรมได้เก็บตัวอย่างเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างไปตรวจสอบที่สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย พบว่ามีเหล็กบางส่วนไม่ได้มาตรฐานมาจากบริษัทที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สั่งปิดไปเมื่อเดือน ธ.ค.2567 เนื่องจากจำหน่ายเหล็กไม่ได้ตามมาตรฐาน ถึงบัดนี้นอกจากความรับผิดชอบของผู้รับจ้างแล้ว การค้นหาความจริงถึงสาเหตุตึกถล่มมาจากภัยธรรมชาติหรือการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานยังคงดำเนินต่อไป ตามที่ รมว.มหาดไทยตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่มีวิศวกรใหญ่กรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นประธาน ซึ่งให้เวลาสืบสวนภายใน 7 วัน #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลตรวจสอบเหล็กตึก สตง.ถล่ม พบเหล็กไม่ได้มาตรฐาน 2 ไซส์ ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุ-จ่อเก็บตัวอย่างเพิ่ม
    https://www.thai-tai.tv/news/17954/
    ผลตรวจสอบเหล็กตึก สตง.ถล่ม พบเหล็กไม่ได้มาตรฐาน 2 ไซส์ ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุ-จ่อเก็บตัวอย่างเพิ่ม https://www.thai-tai.tv/news/17954/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลทดสอบเหล็กตัวอย่างที่กระทรวงอุตสาหกรรมเก็บจากตึก สตง. ถล่มเบื้องต้นออกมาแล้ว ว่ามีประมาณร้อยละ 10 ไม่ผ่านมาตรฐาน.จากการรายงานของเจษฎา ต้นจำปา แห่งไทยพีบีเอส ระบุว่า เหล็กที่ตกมาตรฐานแรงดึงเป็นเหล็กขนาด 32 มิลลิเมตร และมีเหล็กขนาด 20 มิลลิเมตรที่ตกมาตรฐานในการตรวจสอบมวลต่อเมตรของเหล็ก หรือเรียกว่า “เหล็กเบา” https://web.facebook.com/share/p/1A4cTo5SCt/.ทั้งนี้ สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นผู้ทดสอบคุณภาพเหล็กตัวอย่างดังกล่าว ยังไม่ระบุยี่ห้อของเหล็กที่ตกมาตรฐาน และแจ้งว่าจำเป็นต้องเก็บตัวอย่างเพิ่ม.อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีข้อมูลชัดเจนอยู่แล้วว่า เหล็กส่วนใหญ่ที่กระทรวงอุตสาหกรรมเก็บตัวอย่างไปตรวจนั้นผลิตโดยโรงงานจีนใน จ.ระยอง ซึ่งวันนี้ ชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส. ระยอง พรรคประชาชน โพสต์ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับโรงงานแห่งนี้ https://web.facebook.com/share/p/1XMfNe4zeP/.ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการมีผลงานก่ออุบัติเหตุต่างๆ มาเป็นระยะ ทั้งๆ ที่เป็นการลงทุนที่ได้รับการส่งเสริมจากบีโอไอ และที่สำคัญคือ แม้ว่าจะถูกทางกระทรวงอุตสาหกรรมสั่งปิดโรงงานเนื่องจากตรวจพบว่ามีการผลิตเหล็กไม่เป็นไปตามมาตรฐานแล้ว ในพื้นที่กลับพบว่า โรงงานเหมือนจะยังดำเนินการอย่างคึกคักเป็นปกติ!!!.ภาพโดย : หยา คลองจั่น
    ผลทดสอบเหล็กตัวอย่างที่กระทรวงอุตสาหกรรมเก็บจากตึก สตง. ถล่มเบื้องต้นออกมาแล้ว ว่ามีประมาณร้อยละ 10 ไม่ผ่านมาตรฐาน.จากการรายงานของเจษฎา ต้นจำปา แห่งไทยพีบีเอส ระบุว่า เหล็กที่ตกมาตรฐานแรงดึงเป็นเหล็กขนาด 32 มิลลิเมตร และมีเหล็กขนาด 20 มิลลิเมตรที่ตกมาตรฐานในการตรวจสอบมวลต่อเมตรของเหล็ก หรือเรียกว่า “เหล็กเบา” https://web.facebook.com/share/p/1A4cTo5SCt/.ทั้งนี้ สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นผู้ทดสอบคุณภาพเหล็กตัวอย่างดังกล่าว ยังไม่ระบุยี่ห้อของเหล็กที่ตกมาตรฐาน และแจ้งว่าจำเป็นต้องเก็บตัวอย่างเพิ่ม.อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีข้อมูลชัดเจนอยู่แล้วว่า เหล็กส่วนใหญ่ที่กระทรวงอุตสาหกรรมเก็บตัวอย่างไปตรวจนั้นผลิตโดยโรงงานจีนใน จ.ระยอง ซึ่งวันนี้ ชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส. ระยอง พรรคประชาชน โพสต์ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับโรงงานแห่งนี้ https://web.facebook.com/share/p/1XMfNe4zeP/.ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการมีผลงานก่ออุบัติเหตุต่างๆ มาเป็นระยะ ทั้งๆ ที่เป็นการลงทุนที่ได้รับการส่งเสริมจากบีโอไอ และที่สำคัญคือ แม้ว่าจะถูกทางกระทรวงอุตสาหกรรมสั่งปิดโรงงานเนื่องจากตรวจพบว่ามีการผลิตเหล็กไม่เป็นไปตามมาตรฐานแล้ว ในพื้นที่กลับพบว่า โรงงานเหมือนจะยังดำเนินการอย่างคึกคักเป็นปกติ!!!.ภาพโดย : หยา คลองจั่น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชื่อว่าเพื่อนเพจต้องคุ้นหูคุ้นตากับ ‘คทาหรูอี้’ (หรูอี้/如意 แปลตรงตัวได้ว่า สมดังปรารถนา) บริบทที่เรามักเห็นในนิยาย/ละครจีนบ่อยๆ คือ ฮ่องเต้พระราชทานคทาหรูอี้หยกให้เป็นรางวัลต่อขุนนาง หรือบุรุษสูงศักดิ์มอบคทาหรูอี้ให้สตรีที่ถูกเลือกเป็นภรรยา อย่างเช่นตัวอย่างภาพประกอบยกมาจากละคร <หรูอี้ จอมนางเคียงบัลลังก์> ตอนที่องค์ชายหงอี้ทรงเลือกชิงอิงเป็นพระชายา (รูปประกอบ1 ซ้าย) หรือเป็นวัตถุมงคลเหมาะกับการมอบให้เป็นของขวัญ

    เคยมีคนเขียนถึงคทาหรูอี้มาแล้วบ้าง ด้วยความหมายที่กล่าวถึงข้างต้น และเพื่อนเพจอาจเคยคุ้นกับการที่มีคทาหรูอี้ปรากฏในรูปภาพและรูปปั้นเทพเจ้าจีน และนักบวชนิยมถือคทาหรูอี้ยามสวดมนต์ ว่ากันว่าการใช้คทาหรูอี้เป็นสัญลักษณ์ทางศาสนานั้นได้รับอิทธิพลมาจากอินเดียโบราณ

    แต่วันนี้ Storyฯ มาคุยเกี่ยวกับคทาหรูอี้ในอีกแง่มุมหนึ่ง... เพื่อนเพจเคยสงสัยเหมือน Storyฯ หรือไม่ว่า เข้าใจล่ะว่าชื่อเป็นมงคล แต่คทาหรูอี้ออกจะเทอะทะ... มันไม่มีประโยชน์อื่นนอกจากตั้งโชว์หรือถือไว้เท่ๆ เลยหรือ?

    จากภาพวาดโบราณ (รูปประกอบ 1 ขวา) จะเห็นว่าคทาหรูอี้เป็นของใช้ติดมือของชาวบ้าน โดยเฉพาะผู้แก่ผู้เฒ่า... แสดงว่ามันต้องมีประโยชน์สิน่ะ เพื่อนเพจพอจะเดากันออกหรือไม่?

    จากข้อมูลที่ทางพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้ามรวบรวมได้ คทาหรูอี้มีมาแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (ประมาณปี 206 ก่อนคริสตศักราช - ปีค.ศ. 220) เดิมถูกใช้เป็นไม้เกาหลัง เรียกว่า ‘หรูอี้’ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ‘ไม่ง้อใคร’ (不求人/ปู้ฉิวเหริน) แรกเริ่มมีรูปทรงคล้ายมือ โดยในบันทึกสมัยราชวงศ์ชิง (事物异名录/ซื่ออู้อี้หมิงลู่) ได้เขียนไว้ว่า “หรูอี้นั้นไซร้ เป็นไม้กรงเล็บ”

    นอกจากนี้ ยังมีบทความสมัยราชวงศ์เหนือใต้ว่ามีการใช้คทาหรูอี้เป็นไม้ส่งสัญญาณเคลื่อนทัพในยามศึก นัยว่าเพื่อให้ชนะศึกได้ดังใจหมาย

    คทาหรูอี้กลายเป็นวัตถุประจำตัวที่คนนิยมพกพาเพราะชื่อเป็นมงคลและใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวก็ได้ จึงพัฒนารูปแบบให้สวยงามมากขึ้น ว่ากันว่าในสมัยราชวงศ์เหนือใต้นั้นใช้กันแพร่หลายในหลายแคว้นทั้งในวังและนอกวัง โดยสมัยนั้นนิยมให้ด้ามจับโค้งเป็นทรงกลุ่มดาวจระเข้ ตัวด้ามกลมมนเพื่อให้จับถนัดมือ ทำจากไม้ ไม้ไผ่หรือโลหะ มีใช้กันตั้งแต่ในวังยันชาวบ้านธรรมดานอกวัง ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์ถังจึงทำด้ามจับให้แบนลงและเป็นเส้นตรง โค้งที่ปลายหัว

    นานวันเข้า เมื่อถึงสมัยหมิงและชิง คทาหรูอี้กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในฐานะวัตถุมงคลที่ใช้ประดับบ้านเรือนหรือของขวัญ เป็นหนึ่งในสิ่งที่ควรมีในสินสอดของหมั้นของแต่งงาน จึงมีรูปแบบที่วิจิตรขึ้น รูปทรงที่เราคุ้นตาคือหัวเป็นทรงเห็ดหลินจือ โดยเฉพาะในยุคสมัยชิงนั้น คทาหรูอี้เป็นที่นิยมมากในวัง ไม่ว่าจะในงานราชประเพณี การแต่งตั้งขุนนาง การรับทูตจากต่างแดน ฯลฯ ล้วนต้องมีการถือคทาหรูอี้เพื่อเป็นสัญลักษณ์มงคล

    ปัจจุบันในพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้ามมีการเก็บรักษาคทาหรูอี้โบราณไว้กว่าสองพันชิ้นโดยส่วนใหญ่เป็นของสมัยชิง วัสดุที่ใช้ทำคทาหรูอี้นั้นหลากหลาย มีทั้งหยกชนิดต่างๆ ปะการัง ทองคำ เงิน ทองเหลือง งาช้าง ไม้ไผ่และไม้ชนิดต่างๆ และมีการแกะสลักลวดลายมากมายลงบนคทา

    Storyฯ เคยไปเที่ยวเมื่อนานมากแล้ว จำไม่ได้เลยว่าได้เคยเห็นอะไรในพิพิธภัณฑ์นี้บ้าง เพื่อนเพจท่านใดเคยผ่านตาก็มาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://www.jianshu.com/p/faa99f5d9868
    https://new.qq.com/rain/a/20211210A027EU00
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.mct.gov.cn/whzx/zsdw/ggbwy/202102/t20210210_921534.htm
    https://www.sohu.com/a/508658629_322551
    https://baike.baidu.com/item/如意/254746
    https://new.qq.com/rain/a/20220728A054CG00

    #หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์ #คทาหรูอี้ #วัตถุมงคลจีน #ไม้เกาหลัง
    เชื่อว่าเพื่อนเพจต้องคุ้นหูคุ้นตากับ ‘คทาหรูอี้’ (หรูอี้/如意 แปลตรงตัวได้ว่า สมดังปรารถนา) บริบทที่เรามักเห็นในนิยาย/ละครจีนบ่อยๆ คือ ฮ่องเต้พระราชทานคทาหรูอี้หยกให้เป็นรางวัลต่อขุนนาง หรือบุรุษสูงศักดิ์มอบคทาหรูอี้ให้สตรีที่ถูกเลือกเป็นภรรยา อย่างเช่นตัวอย่างภาพประกอบยกมาจากละคร <หรูอี้ จอมนางเคียงบัลลังก์> ตอนที่องค์ชายหงอี้ทรงเลือกชิงอิงเป็นพระชายา (รูปประกอบ1 ซ้าย) หรือเป็นวัตถุมงคลเหมาะกับการมอบให้เป็นของขวัญ เคยมีคนเขียนถึงคทาหรูอี้มาแล้วบ้าง ด้วยความหมายที่กล่าวถึงข้างต้น และเพื่อนเพจอาจเคยคุ้นกับการที่มีคทาหรูอี้ปรากฏในรูปภาพและรูปปั้นเทพเจ้าจีน และนักบวชนิยมถือคทาหรูอี้ยามสวดมนต์ ว่ากันว่าการใช้คทาหรูอี้เป็นสัญลักษณ์ทางศาสนานั้นได้รับอิทธิพลมาจากอินเดียโบราณ แต่วันนี้ Storyฯ มาคุยเกี่ยวกับคทาหรูอี้ในอีกแง่มุมหนึ่ง... เพื่อนเพจเคยสงสัยเหมือน Storyฯ หรือไม่ว่า เข้าใจล่ะว่าชื่อเป็นมงคล แต่คทาหรูอี้ออกจะเทอะทะ... มันไม่มีประโยชน์อื่นนอกจากตั้งโชว์หรือถือไว้เท่ๆ เลยหรือ? จากภาพวาดโบราณ (รูปประกอบ 1 ขวา) จะเห็นว่าคทาหรูอี้เป็นของใช้ติดมือของชาวบ้าน โดยเฉพาะผู้แก่ผู้เฒ่า... แสดงว่ามันต้องมีประโยชน์สิน่ะ เพื่อนเพจพอจะเดากันออกหรือไม่? จากข้อมูลที่ทางพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้ามรวบรวมได้ คทาหรูอี้มีมาแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (ประมาณปี 206 ก่อนคริสตศักราช - ปีค.ศ. 220) เดิมถูกใช้เป็นไม้เกาหลัง เรียกว่า ‘หรูอี้’ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ‘ไม่ง้อใคร’ (不求人/ปู้ฉิวเหริน) แรกเริ่มมีรูปทรงคล้ายมือ โดยในบันทึกสมัยราชวงศ์ชิง (事物异名录/ซื่ออู้อี้หมิงลู่) ได้เขียนไว้ว่า “หรูอี้นั้นไซร้ เป็นไม้กรงเล็บ” นอกจากนี้ ยังมีบทความสมัยราชวงศ์เหนือใต้ว่ามีการใช้คทาหรูอี้เป็นไม้ส่งสัญญาณเคลื่อนทัพในยามศึก นัยว่าเพื่อให้ชนะศึกได้ดังใจหมาย คทาหรูอี้กลายเป็นวัตถุประจำตัวที่คนนิยมพกพาเพราะชื่อเป็นมงคลและใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวก็ได้ จึงพัฒนารูปแบบให้สวยงามมากขึ้น ว่ากันว่าในสมัยราชวงศ์เหนือใต้นั้นใช้กันแพร่หลายในหลายแคว้นทั้งในวังและนอกวัง โดยสมัยนั้นนิยมให้ด้ามจับโค้งเป็นทรงกลุ่มดาวจระเข้ ตัวด้ามกลมมนเพื่อให้จับถนัดมือ ทำจากไม้ ไม้ไผ่หรือโลหะ มีใช้กันตั้งแต่ในวังยันชาวบ้านธรรมดานอกวัง ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์ถังจึงทำด้ามจับให้แบนลงและเป็นเส้นตรง โค้งที่ปลายหัว นานวันเข้า เมื่อถึงสมัยหมิงและชิง คทาหรูอี้กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในฐานะวัตถุมงคลที่ใช้ประดับบ้านเรือนหรือของขวัญ เป็นหนึ่งในสิ่งที่ควรมีในสินสอดของหมั้นของแต่งงาน จึงมีรูปแบบที่วิจิตรขึ้น รูปทรงที่เราคุ้นตาคือหัวเป็นทรงเห็ดหลินจือ โดยเฉพาะในยุคสมัยชิงนั้น คทาหรูอี้เป็นที่นิยมมากในวัง ไม่ว่าจะในงานราชประเพณี การแต่งตั้งขุนนาง การรับทูตจากต่างแดน ฯลฯ ล้วนต้องมีการถือคทาหรูอี้เพื่อเป็นสัญลักษณ์มงคล ปัจจุบันในพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้ามมีการเก็บรักษาคทาหรูอี้โบราณไว้กว่าสองพันชิ้นโดยส่วนใหญ่เป็นของสมัยชิง วัสดุที่ใช้ทำคทาหรูอี้นั้นหลากหลาย มีทั้งหยกชนิดต่างๆ ปะการัง ทองคำ เงิน ทองเหลือง งาช้าง ไม้ไผ่และไม้ชนิดต่างๆ และมีการแกะสลักลวดลายมากมายลงบนคทา Storyฯ เคยไปเที่ยวเมื่อนานมากแล้ว จำไม่ได้เลยว่าได้เคยเห็นอะไรในพิพิธภัณฑ์นี้บ้าง เพื่อนเพจท่านใดเคยผ่านตาก็มาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.jianshu.com/p/faa99f5d9868 https://new.qq.com/rain/a/20211210A027EU00 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.mct.gov.cn/whzx/zsdw/ggbwy/202102/t20210210_921534.htm https://www.sohu.com/a/508658629_322551 https://baike.baidu.com/item/如意/254746 https://new.qq.com/rain/a/20220728A054CG00 #หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์ #คทาหรูอี้ #วัตถุมงคลจีน #ไม้เกาหลัง
    WWW.JIANSHU.COM
    【如懿传|如懿】年少情深,也可以走到相看两厌
    一出墙头马上,两心相许。山河依旧,唯人兰因絮果。 如懿的一生都把真心付给了自己的少年郎,年少时的扶持,无人之巅的陪伴,病榻前的守护,相比于甄嬛,她更加令人心疼。 执着勇敢是她...
    Like
    1
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดาข้อสอบ ตอบยังไง? ให้แม่นเวอร์! ยอดผู้สมัครสอบ อปท. 438,277 คน รอบแรกบรรจุ 1 ธ.ค. 8,439 คน สถ.โกยค่าสมัครกว่า 188 ล้าน เทคนิคสอบ อปท. 2568 ที่ต้องรู้ 📚🔥

    ✨ Unlock เคล็ดลับสอบติด อปท. พร้อมเจาะลึกเทคนิคเดาข้อสอบแบบมือโปร

    📌 เจาะลึกการสอบ อปท. 2568 ตั้งแต่ขั้นตอนการสอบ รายละเอียดตำแหน่ง เทคนิคการเตรียมตัว ไปจนถึง "เดาข้อสอบ" อย่างไรให้แม่นเวอร์ พร้อมเทคนิคแบบจิตวิทยา ที่จะช่วยให้สอบผ่านได้แบบมืออาชีพ!

    อปท. 2568 ปีทองของคนอยากเป็นข้าราชการ 🎯 ปีนี้ถือเป็นโอกาสทอง ของผู้ที่มีความฝันอยากเป็น "ข้าราชการท้องถิ่น" หรือที่รู้จักกันในชื่อการสอบ อปท. ซึ่งมีผู้สมัครกว่า 438,277 คนทั่วประเทศ 😲

    โดยในรอบแรก จะมีการบรรจุเข้ารับราชการในวันที่ 1 ธันวาคม 2568 จำนวนถึง 8,439 อัตรา และที่น่าจับตาไม่แพ้กันคือ "ค่าสมัครสอบ" ที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถรวบรวมได้กว่า 188 ล้านบาท 💸

    แต่…ด้วยจำนวนผู้สมัครมหาศาล การสอบให้ผ่านจึงไม่ใช่เรื่องง่าย! โดยเฉพาะเมื่อมี "กฎเหล็ก" อย่าง ต้องสอบผ่านวิชาภาษาอังกฤษอย่างน้อย 10 จาก 20 ข้อ ถึงจะผ่านภาค ก 😱

    🤔 อปท. ย่อมาจาก องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุเป็น ข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ภายใต้การดูแลของ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย

    สาเหตุที่คนแห่สมัครกันเยอะ? เพราะ...
    🏢 เป็นงานราชการ มีความมั่นคง
    💰 เงินเดือนและสวัสดิการดี
    📍 ทำงานในพื้นที่บ้านเกิดได้
    ⏳ ขึ้นบัญชีได้นานถึง 2 ปี ขยายได้อีก 30 วัน

    ขั้นตอนสำคัญของการสอบ อปท. 2568 📅
    2 ก.ค. 2568 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ
    19 ก.ค. 2568 สอบภาค ก และ ข
    1 ต.ค. 2568 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ค
    18-19 ต.ค. 2568 สอบสัมภาษณ์ ภาค ค
    31 ต.ค. 2568 ประกาศบัญชีผู้สอบแข่งขันได้
    3-7 พ.ย. 2568 รายงานตัว และเลือกสถานที่
    1 ธ.ค. 2568 บรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการ

    📝 อย่าลืมบันทึกวันสำคัญไว้ให้ดี!

    กลุ่มภาคที่เปิดสอบ และตำแหน่งยอดฮิต 🎯
    🗺️ กลุ่มภาค 10 โซนทั่วประเทศ
    มีตั้งแต่ ภาคเหนือ เขต 1–2, ภาคกลาง เขต 1–3, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1–3, ไปจนถึง ภาคใต้ เขต 1–2 โดยแต่ละพื้นที่เปิดสอบในตำแหน่งต่างกัน ตามอัตราว่าง

    📋 ประเภทของตำแหน่งที่เปิดสอบ
    - ครูผู้ช่วย 👩‍🏫👨‍🏫 ป.ตรี 4 ปี เริ่มต้น 16,560 บาท ป.ตรี 5 ปี เริ่มต้น 17,380 บาท

    - ตำแหน่งประเภททั่วไป วุฒิ ปวช./ปวท./ปวส. เช่น เจ้าพนักงานธุรการ, เจ้าพนักงานการคลัง ฯลฯ เงินเดือนเริ่มต้น 10,340 – 12,730 บาท

    - ตำแหน่งประเภทวิชาการ วุฒิปริญญาตรี เช่น นักวิชาการเงิน, วิศวกรโยธา, นักทรัพยากรบุคคล ฯลฯ เงินเดือนเริ่มต้น 16,600 บาท

    💡 ตำแหน่งยอดฮิตที่มีอัตรารับมากสุดคือ “นักวิชาการตรวจสอบภายใน” ถึง 779 อัตราเลยทีเดียว!

    ✍️ การสอบแบ่งออกเป็น 3 ภาค

    🔸 ภาค ก ความรู้ทั่วไป 100 คะแนน
    - วิเคราะห์เหตุผล 30 คะแนน
    - กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 30 คะแนน
    - ภาษาไทย 20 คะแนน
    - ภาษาอังกฤษ 20 คะแนน ต้องได้อย่างน้อย 10 คะแนน

    🔸 ภาค ข ความรู้เฉพาะตำแหน่ง 100 คะแนน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่สมัคร เช่น
    - นักวิชาการศึกษา → พัฒนาหลักสูตร
    - นักพัฒนาชุมชน → กฎหมายพัฒนาชุมชน
    - นักบัญชี → การเงิน-บัญชี

    🔸 ภาค ค สัมภาษณ์ 100 คะแนน
    - บุคลิกภาพ
    - ทัศนคติ
    - ความสามารถในการสื่อสาร
    - ความเหมาะสมกับตำแหน่ง

    เทคนิคเตรียมสอบ อปท. แบบจับมือทำ 📖
    ✅ วางแผนอ่านหนังสือล่วงหน้า อย่ารอใกล้วันสอบ! ควรวางแผนเตรียมตัว ล่วงหน้าอย่างน้อย 3-4 เดือน แบ่งเวลาอ่านให้ครอบคลุมทั้งภาค ก และ ข

    ✅ อ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ระเบียบราชการท้องถิ่น พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดฯ

    ✅ ฝึกทำข้อสอบเก่า ค้นหาแนวข้อสอบ อปท. จากปีเก่า ๆ มาฝึกให้คล่อง ฝึกทำโจทย์วันละ 20–30 ข้อทุกวัน ✍️

    ✅ ภาษาอังกฤษต้องไม่พลาด เน้น Reading comprehension ศัพท์พื้นฐาน และ Grammar เบื้องต้น ฝึกโจทย์แบบ multiple choice

    🔥 เทคนิคเดาข้อสอบให้แม่นเวอร์! ไม่ต้องงม ไม่ต้องมั่ว 🤖 เมื่อเจอข้อสอบที่ “คิดไม่ออก” หรือ “ไม่มั่นใจ” ใช้เทคนิคเหล่านี้ ช่วยให้เดาอย่างมีหลักการ ได้แม่นยำขึ้น!

    🎯 เทคนิคที่ 1 ตัดตัวเลือกสุดโต่ง ระวังคำว่า “เสมอ”, “ทั้งหมด”, “ไม่มีข้อยกเว้น”, “ห้ามโดยเด็ดขาด” เพราะมักผิด ❌

    🎯 เทคนิคที่ 2 คำที่ให้ความยืดหยุ่นมักจะถูก คำว่า “มักจะ”, “อาจจะ”, “บางครั้ง” มักถูกมากกว่า ✅

    🎯 เทคนิคที่ 3 สแกนคำถาม – คำตอบที่คล้ายกัน ถ้ามีคำจากคำถามโผล่ในคำตอบ = โอกาสถูกสูง!

    🎯 เทคนิคที่ 4 เดาตามแพทเทิร์น ถ้าต้องเดาจริง ๆ → เลือก “ข” หรือ “ค” เพราะมักเป็นตำแหน่งกลางที่ผู้ออกข้อสอบนิยมใช้

    🎯 เทคนิคที่ 5 ตัวเลือกยาวมักถูก เพราะอาจารย์มักใส่รายละเอียดมาก ในคำตอบที่ถูก 📝

    ❌ ข้อห้ามเด็ดขาดในการทำข้อสอบ
    - อย่าทิ้งข้อ – ตอบดีกว่าเว้น!
    - อย่าเปลี่ยนคำตอบไปมา ถ้าไม่มีเหตุผลชัดเจน
    - อย่ามองข้ามคำว่า “ไม่ใช่” หรือ “ยกเว้น” ในคำถาม

    📚 เตรียมตัววันนี้ พรุ่งนี้สอบติด! 🌈 การสอบ อปท. 2568 คือโอกาสครั้งใหญ่ของใครหลายคน และยิ่งมีเทคนิคที่ดี + เตรียมตัวอย่างเป็นระบบ = โอกาส “สอบติด” ก็สูงขึ้นตามไปด้วย! 💪

    ไม่ว่าจะเป็น… วางแผนอ่านหนังสือ ฝึกทำข้อสอบเก่า รู้เทคนิคเดาข้อสอบแบบมีหลักการ ทั้งหมดนี้คืออาวุธสำคัญ ที่ต้องมีในการสอบครั้งนี้!

    ✨ ขอให้โชคดีในการสอบ และได้เป็นข้าราชการในฝัน! ✨

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 311115 มี.ค. 2568

    📌 #สอบอปท2568 #แนวข้อสอบราชการ #เดาข้อสอบแม่นเวอร์ #เทคนิคสอบราชการ #สอบภาคก #สอบภาคข #ภาษาอังกฤษอปท #สอบราชการ2568 #สมัครงานราชการ #สอบสัมภาษณ์อปท
    เดาข้อสอบ ตอบยังไง? ให้แม่นเวอร์! ยอดผู้สมัครสอบ อปท. 438,277 คน รอบแรกบรรจุ 1 ธ.ค. 8,439 คน สถ.โกยค่าสมัครกว่า 188 ล้าน เทคนิคสอบ อปท. 2568 ที่ต้องรู้ 📚🔥 ✨ Unlock เคล็ดลับสอบติด อปท. พร้อมเจาะลึกเทคนิคเดาข้อสอบแบบมือโปร 📌 เจาะลึกการสอบ อปท. 2568 ตั้งแต่ขั้นตอนการสอบ รายละเอียดตำแหน่ง เทคนิคการเตรียมตัว ไปจนถึง "เดาข้อสอบ" อย่างไรให้แม่นเวอร์ พร้อมเทคนิคแบบจิตวิทยา ที่จะช่วยให้สอบผ่านได้แบบมืออาชีพ! อปท. 2568 ปีทองของคนอยากเป็นข้าราชการ 🎯 ปีนี้ถือเป็นโอกาสทอง ของผู้ที่มีความฝันอยากเป็น "ข้าราชการท้องถิ่น" หรือที่รู้จักกันในชื่อการสอบ อปท. ซึ่งมีผู้สมัครกว่า 438,277 คนทั่วประเทศ 😲 โดยในรอบแรก จะมีการบรรจุเข้ารับราชการในวันที่ 1 ธันวาคม 2568 จำนวนถึง 8,439 อัตรา และที่น่าจับตาไม่แพ้กันคือ "ค่าสมัครสอบ" ที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถรวบรวมได้กว่า 188 ล้านบาท 💸 แต่…ด้วยจำนวนผู้สมัครมหาศาล การสอบให้ผ่านจึงไม่ใช่เรื่องง่าย! โดยเฉพาะเมื่อมี "กฎเหล็ก" อย่าง ต้องสอบผ่านวิชาภาษาอังกฤษอย่างน้อย 10 จาก 20 ข้อ ถึงจะผ่านภาค ก 😱 🤔 อปท. ย่อมาจาก องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุเป็น ข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ภายใต้การดูแลของ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย สาเหตุที่คนแห่สมัครกันเยอะ? เพราะ... 🏢 เป็นงานราชการ มีความมั่นคง 💰 เงินเดือนและสวัสดิการดี 📍 ทำงานในพื้นที่บ้านเกิดได้ ⏳ ขึ้นบัญชีได้นานถึง 2 ปี ขยายได้อีก 30 วัน ขั้นตอนสำคัญของการสอบ อปท. 2568 📅 2 ก.ค. 2568 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ 19 ก.ค. 2568 สอบภาค ก และ ข 1 ต.ค. 2568 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ค 18-19 ต.ค. 2568 สอบสัมภาษณ์ ภาค ค 31 ต.ค. 2568 ประกาศบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ 3-7 พ.ย. 2568 รายงานตัว และเลือกสถานที่ 1 ธ.ค. 2568 บรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการ 📝 อย่าลืมบันทึกวันสำคัญไว้ให้ดี! กลุ่มภาคที่เปิดสอบ และตำแหน่งยอดฮิต 🎯 🗺️ กลุ่มภาค 10 โซนทั่วประเทศ มีตั้งแต่ ภาคเหนือ เขต 1–2, ภาคกลาง เขต 1–3, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1–3, ไปจนถึง ภาคใต้ เขต 1–2 โดยแต่ละพื้นที่เปิดสอบในตำแหน่งต่างกัน ตามอัตราว่าง 📋 ประเภทของตำแหน่งที่เปิดสอบ - ครูผู้ช่วย 👩‍🏫👨‍🏫 ป.ตรี 4 ปี เริ่มต้น 16,560 บาท ป.ตรี 5 ปี เริ่มต้น 17,380 บาท - ตำแหน่งประเภททั่วไป วุฒิ ปวช./ปวท./ปวส. เช่น เจ้าพนักงานธุรการ, เจ้าพนักงานการคลัง ฯลฯ เงินเดือนเริ่มต้น 10,340 – 12,730 บาท - ตำแหน่งประเภทวิชาการ วุฒิปริญญาตรี เช่น นักวิชาการเงิน, วิศวกรโยธา, นักทรัพยากรบุคคล ฯลฯ เงินเดือนเริ่มต้น 16,600 บาท 💡 ตำแหน่งยอดฮิตที่มีอัตรารับมากสุดคือ “นักวิชาการตรวจสอบภายใน” ถึง 779 อัตราเลยทีเดียว! ✍️ การสอบแบ่งออกเป็น 3 ภาค 🔸 ภาค ก ความรู้ทั่วไป 100 คะแนน - วิเคราะห์เหตุผล 30 คะแนน - กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 30 คะแนน - ภาษาไทย 20 คะแนน - ภาษาอังกฤษ 20 คะแนน ต้องได้อย่างน้อย 10 คะแนน 🔸 ภาค ข ความรู้เฉพาะตำแหน่ง 100 คะแนน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่สมัคร เช่น - นักวิชาการศึกษา → พัฒนาหลักสูตร - นักพัฒนาชุมชน → กฎหมายพัฒนาชุมชน - นักบัญชี → การเงิน-บัญชี 🔸 ภาค ค สัมภาษณ์ 100 คะแนน - บุคลิกภาพ - ทัศนคติ - ความสามารถในการสื่อสาร - ความเหมาะสมกับตำแหน่ง เทคนิคเตรียมสอบ อปท. แบบจับมือทำ 📖 ✅ วางแผนอ่านหนังสือล่วงหน้า อย่ารอใกล้วันสอบ! ควรวางแผนเตรียมตัว ล่วงหน้าอย่างน้อย 3-4 เดือน แบ่งเวลาอ่านให้ครอบคลุมทั้งภาค ก และ ข ✅ อ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ระเบียบราชการท้องถิ่น พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดฯ ✅ ฝึกทำข้อสอบเก่า ค้นหาแนวข้อสอบ อปท. จากปีเก่า ๆ มาฝึกให้คล่อง ฝึกทำโจทย์วันละ 20–30 ข้อทุกวัน ✍️ ✅ ภาษาอังกฤษต้องไม่พลาด เน้น Reading comprehension ศัพท์พื้นฐาน และ Grammar เบื้องต้น ฝึกโจทย์แบบ multiple choice 🔥 เทคนิคเดาข้อสอบให้แม่นเวอร์! ไม่ต้องงม ไม่ต้องมั่ว 🤖 เมื่อเจอข้อสอบที่ “คิดไม่ออก” หรือ “ไม่มั่นใจ” ใช้เทคนิคเหล่านี้ ช่วยให้เดาอย่างมีหลักการ ได้แม่นยำขึ้น! 🎯 เทคนิคที่ 1 ตัดตัวเลือกสุดโต่ง ระวังคำว่า “เสมอ”, “ทั้งหมด”, “ไม่มีข้อยกเว้น”, “ห้ามโดยเด็ดขาด” เพราะมักผิด ❌ 🎯 เทคนิคที่ 2 คำที่ให้ความยืดหยุ่นมักจะถูก คำว่า “มักจะ”, “อาจจะ”, “บางครั้ง” มักถูกมากกว่า ✅ 🎯 เทคนิคที่ 3 สแกนคำถาม – คำตอบที่คล้ายกัน ถ้ามีคำจากคำถามโผล่ในคำตอบ = โอกาสถูกสูง! 🎯 เทคนิคที่ 4 เดาตามแพทเทิร์น ถ้าต้องเดาจริง ๆ → เลือก “ข” หรือ “ค” เพราะมักเป็นตำแหน่งกลางที่ผู้ออกข้อสอบนิยมใช้ 🎯 เทคนิคที่ 5 ตัวเลือกยาวมักถูก เพราะอาจารย์มักใส่รายละเอียดมาก ในคำตอบที่ถูก 📝 ❌ ข้อห้ามเด็ดขาดในการทำข้อสอบ - อย่าทิ้งข้อ – ตอบดีกว่าเว้น! - อย่าเปลี่ยนคำตอบไปมา ถ้าไม่มีเหตุผลชัดเจน - อย่ามองข้ามคำว่า “ไม่ใช่” หรือ “ยกเว้น” ในคำถาม 📚 เตรียมตัววันนี้ พรุ่งนี้สอบติด! 🌈 การสอบ อปท. 2568 คือโอกาสครั้งใหญ่ของใครหลายคน และยิ่งมีเทคนิคที่ดี + เตรียมตัวอย่างเป็นระบบ = โอกาส “สอบติด” ก็สูงขึ้นตามไปด้วย! 💪 ไม่ว่าจะเป็น… วางแผนอ่านหนังสือ ฝึกทำข้อสอบเก่า รู้เทคนิคเดาข้อสอบแบบมีหลักการ ทั้งหมดนี้คืออาวุธสำคัญ ที่ต้องมีในการสอบครั้งนี้! ✨ ขอให้โชคดีในการสอบ และได้เป็นข้าราชการในฝัน! ✨ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 311115 มี.ค. 2568 📌 #สอบอปท2568 #แนวข้อสอบราชการ #เดาข้อสอบแม่นเวอร์ #เทคนิคสอบราชการ #สอบภาคก #สอบภาคข #ภาษาอังกฤษอปท #สอบราชการ2568 #สมัครงานราชการ #สอบสัมภาษณ์อปท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • “รักมิรู้เริ่มต้นจากที่ใด ถลาลึกตรึงใจสุดคณนา” (ฉิงปู้จื๊อสัวฉี่ อี้หว่างเอ๋อร์เซิ้น / 情不知所起,一往而深)

    ต้อนรับสัปดาห์แห่งความรักกันด้วยอีกหนึ่งวลีสุดฮิตเกี่ยวกับความรัก ที่ Storyฯ เชื่อว่าแฟนนิยายจีนต้องเคยผ่านตายามตัวละครบอกรักกัน (แต่อาจแปลแตกต่างกันบ้างแล้วแต่ผู้แปล)

    ตัวอย่างจากในซีรีส์ก็มี อย่างเช่นในเรื่อง <เจินหวน จอมนางคู่แผ่นดิน> ในฉากที่เหล่ามเหสีชายาและสนมนั่งชมละครงิ้วในวังหลัง นางเอกเมื่อยังเป็นว่านกุ้ยเหรินได้พูดว่า “ในบทประพันธ์ <ศาลาโบตั๋น> มีเขียนไว้ว่า ‘รักมิรู้เริ่มต้นจากที่ใด ถลาลึกตรึงใจสุดคณนา คนเป็นอาจตาย คนตายอาจเป็น’...” (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า)

    ละครเรื่องนี้แฝงบทกวีเลื่องชื่อไว้ในคำสนทนาหลายบท วลีที่กล่าวถึงข้างต้นเป็นวลีจากบทประพันธ์ ‘ศาลาโบตั๋น’ (หมู่ตานถิง / 牡丹亭) (ค.ศ. 1598) ของทังเสียนจู่ นักอักษรและนักประพันธ์บทงิ้วที่เลื่องชื่อในสมัยราชวงศ์หมิง เป็นบทประพันธ์ที่โด่งดังเพราะเป็นเรื่องราวความรักกินใจและเพราะความสละสลวยของภาษา มีทั้งสิ้น 55 ตอน ว่ากันว่า ถ้าแสดงชุดเต็ม ละครงิ้วนี้อาจกินเวลานานถึง 22 ชั่วโมง!

    ปัจจุบัน ‘ศาลาโบตั๋น’ ยังคงเป็นหนึ่งในงิ้วสุดนิยมและได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในสี่ของบทประพันธ์ละครงิ้วโบราณที่ดีที่สุดของจีน ได้รับการแปลไปหลายภาษาเช่น อังกฤษ เยอรมัน ญี่ปุ่น ฯลฯ มีอีกชื่อหนึ่งว่า ‘ฝันคืนวิญญาณ’ (还魂梦)

    ‘ศาลาโบตั๋น’ เป็นเรื่องราวของตู้ลี่เหนียง สตรีลูกขุนนางที่งามเพียบพร้อม วันหนึ่งนางหลับอยู่ในอุทยานในเรือนแล้วฝันว่าได้พบรักกับบัณฑิตหนุ่มนามว่าหลิ่วเมิ่งเหมย เป็นรักที่ตราตรึงใจทำให้นางโหยหาแม้เมื่อตื่นขึ้นมาแล้ว สุดท้ายนางเฝ้ารอแต่ชายในฝันจนตรอมใจตายไป ก่อนตายนางได้ให้คนวาดภาพนางไว้ และสามปีให้หลัง ปรากฏว่ามีบัณฑิตหนุ่มชื่อหลิ่วเมิ่งเหมยเข้าเมืองมาสอบราชบัณฑิต ได้เห็นรูปของนางก็หลงรักและฝันถึง ในฝันนั้นนางบอกเขาว่า หากเขาขุดศพของนางที่ถูกฝังอยู่ในอุทยานขึ้นมา นางจะฟื้นคืนชีพ หลิ่วเมิ่งเหมยทำตามคำบอกของนางก็พบว่าศพของนางยังไม่เน่าเปื่อยและนางก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาจริงๆ เขาทั้งสองจึงครองรักกันต่อไป

    จึงเป็นที่มาของวรรคที่ว่า ‘รักมิรู้เริ่มต้นจากที่ใด ถลาลึกตรึงใจสุดคณนา คนเป็นอาจตาย คนตายอาจเป็น’ และเป็นวลีที่ถูกนำมาใช้บ่อยครั้งเพื่อสะท้อนความหมายของมันว่า รักนั้น บางทีก็หาเหตุผลและจุดเริ่มต้นไม่ได้ คนที่ถลำลงไปในรักสามารถตายเพื่อรักได้ และรักก็สามารถสร้างปาฏิหารย์ให้คนตายฟื้นคืนชีพได้

    เป็นประโยคที่ผ่านตา Storyฯ บ่อยมากจนจำไม่ได้แล้วว่ามีในละครหรือนิยายเรื่องไหนอีกที่กล่าวถึงวลีนี้ เท่าที่พอจะจำได้ ก็มีเรื่อง ‘ความฝันในหอแดง’ หากเพื่อนเพจคุ้นหูคุ้นตาจากซีรีส์หรือนิยายเรื่องอื่นก็เม้นท์มาบอกกันได้นะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพและข้อมูลเรียบเรียงจาก:
    https://new.qq.com/rain/a/20210820A0E6Z100
    https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=e1f2a8e8bf19704ecbbbff47
    https://baike.baidu.com/item/情不知所起一往而深
    https://www.ximalaya.com/ask/q142274?source=m_jump

    #เจินหวน #หมู่ตานถิง #ศาลาโบตั๋น #วลีรักจีน #ทังเสียนจู่
    “รักมิรู้เริ่มต้นจากที่ใด ถลาลึกตรึงใจสุดคณนา” (ฉิงปู้จื๊อสัวฉี่ อี้หว่างเอ๋อร์เซิ้น / 情不知所起,一往而深) ต้อนรับสัปดาห์แห่งความรักกันด้วยอีกหนึ่งวลีสุดฮิตเกี่ยวกับความรัก ที่ Storyฯ เชื่อว่าแฟนนิยายจีนต้องเคยผ่านตายามตัวละครบอกรักกัน (แต่อาจแปลแตกต่างกันบ้างแล้วแต่ผู้แปล) ตัวอย่างจากในซีรีส์ก็มี อย่างเช่นในเรื่อง <เจินหวน จอมนางคู่แผ่นดิน> ในฉากที่เหล่ามเหสีชายาและสนมนั่งชมละครงิ้วในวังหลัง นางเอกเมื่อยังเป็นว่านกุ้ยเหรินได้พูดว่า “ในบทประพันธ์ <ศาลาโบตั๋น> มีเขียนไว้ว่า ‘รักมิรู้เริ่มต้นจากที่ใด ถลาลึกตรึงใจสุดคณนา คนเป็นอาจตาย คนตายอาจเป็น’...” (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า) ละครเรื่องนี้แฝงบทกวีเลื่องชื่อไว้ในคำสนทนาหลายบท วลีที่กล่าวถึงข้างต้นเป็นวลีจากบทประพันธ์ ‘ศาลาโบตั๋น’ (หมู่ตานถิง / 牡丹亭) (ค.ศ. 1598) ของทังเสียนจู่ นักอักษรและนักประพันธ์บทงิ้วที่เลื่องชื่อในสมัยราชวงศ์หมิง เป็นบทประพันธ์ที่โด่งดังเพราะเป็นเรื่องราวความรักกินใจและเพราะความสละสลวยของภาษา มีทั้งสิ้น 55 ตอน ว่ากันว่า ถ้าแสดงชุดเต็ม ละครงิ้วนี้อาจกินเวลานานถึง 22 ชั่วโมง! ปัจจุบัน ‘ศาลาโบตั๋น’ ยังคงเป็นหนึ่งในงิ้วสุดนิยมและได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในสี่ของบทประพันธ์ละครงิ้วโบราณที่ดีที่สุดของจีน ได้รับการแปลไปหลายภาษาเช่น อังกฤษ เยอรมัน ญี่ปุ่น ฯลฯ มีอีกชื่อหนึ่งว่า ‘ฝันคืนวิญญาณ’ (还魂梦) ‘ศาลาโบตั๋น’ เป็นเรื่องราวของตู้ลี่เหนียง สตรีลูกขุนนางที่งามเพียบพร้อม วันหนึ่งนางหลับอยู่ในอุทยานในเรือนแล้วฝันว่าได้พบรักกับบัณฑิตหนุ่มนามว่าหลิ่วเมิ่งเหมย เป็นรักที่ตราตรึงใจทำให้นางโหยหาแม้เมื่อตื่นขึ้นมาแล้ว สุดท้ายนางเฝ้ารอแต่ชายในฝันจนตรอมใจตายไป ก่อนตายนางได้ให้คนวาดภาพนางไว้ และสามปีให้หลัง ปรากฏว่ามีบัณฑิตหนุ่มชื่อหลิ่วเมิ่งเหมยเข้าเมืองมาสอบราชบัณฑิต ได้เห็นรูปของนางก็หลงรักและฝันถึง ในฝันนั้นนางบอกเขาว่า หากเขาขุดศพของนางที่ถูกฝังอยู่ในอุทยานขึ้นมา นางจะฟื้นคืนชีพ หลิ่วเมิ่งเหมยทำตามคำบอกของนางก็พบว่าศพของนางยังไม่เน่าเปื่อยและนางก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาจริงๆ เขาทั้งสองจึงครองรักกันต่อไป จึงเป็นที่มาของวรรคที่ว่า ‘รักมิรู้เริ่มต้นจากที่ใด ถลาลึกตรึงใจสุดคณนา คนเป็นอาจตาย คนตายอาจเป็น’ และเป็นวลีที่ถูกนำมาใช้บ่อยครั้งเพื่อสะท้อนความหมายของมันว่า รักนั้น บางทีก็หาเหตุผลและจุดเริ่มต้นไม่ได้ คนที่ถลำลงไปในรักสามารถตายเพื่อรักได้ และรักก็สามารถสร้างปาฏิหารย์ให้คนตายฟื้นคืนชีพได้ เป็นประโยคที่ผ่านตา Storyฯ บ่อยมากจนจำไม่ได้แล้วว่ามีในละครหรือนิยายเรื่องไหนอีกที่กล่าวถึงวลีนี้ เท่าที่พอจะจำได้ ก็มีเรื่อง ‘ความฝันในหอแดง’ หากเพื่อนเพจคุ้นหูคุ้นตาจากซีรีส์หรือนิยายเรื่องอื่นก็เม้นท์มาบอกกันได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพและข้อมูลเรียบเรียงจาก: https://new.qq.com/rain/a/20210820A0E6Z100 https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=e1f2a8e8bf19704ecbbbff47 https://baike.baidu.com/item/情不知所起一往而深 https://www.ximalaya.com/ask/q142274?source=m_jump #เจินหวน #หมู่ตานถิง #ศาลาโบตั๋น #วลีรักจีน #ทังเสียนจู่
    腾讯网
    腾讯网从2003年创立至今,已经成为集新闻信息,区域垂直生活服务、社会化媒体资讯和产品为一体的互联网媒体平台。腾讯网下设新闻、科技、财经、娱乐、体育、汽车、时尚等多个频道,充分满足用户对不同类型资讯的需求。同时专注不同领域内容,打造精品栏目,并顺应技术发展趋势,推出网络直播等创新形式,改变了用户获取资讯的方式和习惯。
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงนี้ลดราคา สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53

    หนังสือ แผ่นดินไหว และสึนามิ
    (Earthquake and Tsunami)
    จากร้าน ซีเอ็ด ความรู้เกี่ยวกับภัยพิบัติ และการเอาตัวรอด
    จำนวน 221 หน้า
    สำนักพิมพ์ซีเอ็ด หนังสือของผู้เขียน ซื้อช่วงนี้มีโปรโมทชั่น ลด 20% ทุกเล่มครับ

    ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน

    สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ
    นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้

    นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ

    เรียนรู้ข้อมูลของแผ่นดินไหว, แผ่นเปลือกโลก, รอยเลื่อน, มาตรแผ่นดินไหว, คลื่นไหวสะเทือน ฯลฯ

    นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้

    ลองติดตามผลงานดูนะครับ ติชมกันได้นะ มีคำถามอะไรก็ถามได้ ถ้ารู้ก็จะตอบให้ครับ

    อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก

    ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ

    I have a dream.
    ผู้เขียน และเรียบเรียง

    ขอบคุณครับ
    T.M.E.

    คลิกได้ที่นี่
    https://www.se-ed.com/e-book-audio/%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B6%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B4-08ekiskvj2trk5s96wu5
    ช่วงนี้ลดราคา สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 หนังสือ แผ่นดินไหว และสึนามิ (Earthquake and Tsunami) จากร้าน ซีเอ็ด ความรู้เกี่ยวกับภัยพิบัติ และการเอาตัวรอด จำนวน 221 หน้า สำนักพิมพ์ซีเอ็ด หนังสือของผู้เขียน ซื้อช่วงนี้มีโปรโมทชั่น ลด 20% ทุกเล่มครับ ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้ นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ เรียนรู้ข้อมูลของแผ่นดินไหว, แผ่นเปลือกโลก, รอยเลื่อน, มาตรแผ่นดินไหว, คลื่นไหวสะเทือน ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้ ลองติดตามผลงานดูนะครับ ติชมกันได้นะ มีคำถามอะไรก็ถามได้ ถ้ารู้ก็จะตอบให้ครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง ขอบคุณครับ T.M.E. คลิกได้ที่นี่ https://www.se-ed.com/e-book-audio/%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B6%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B4-08ekiskvj2trk5s96wu5
    WWW.SE-ED.COM
    แผ่นดินไหว และสึนามิ (PDF)
    แผ่นดินไหว และสึนามิ เป็นปรากฏการณ์ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ แผ่นดินไหว ในส่วนนี้จะกล่าวถึงปรากฏการณ์ของแผ่นดินไหว, แผ่นเปลือกโลก, รอยเลื่อนที่น่าจับตาของไทย ผู้เขียน T.M.E. เนื้อหาโดยสังเขป : แผ่นดินไหว และสึนามิ (PDF) แผ่นดินไหว และสึนามิ เป็นปรากฏการณ์ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ แผ่นดินไหว ในส่วนนี้จะกล่าวถึงปรากฏการณ์ของแผ่นดินไหว, แผ่นเปลือกโลก, รอยเลื่อนที่น่าจับตาของไทย คลื่นไหวสะเทือน, มาตรวัดแผ่นดินไหว, การเตรียมความพร้อม และวิธีการเอาตัวรอดเมื่อเกิดแผ่นดินไหว ฯลฯ ส่วนในเรื่อง สึนามิ เนื้อหาจะกล่าวถึง เมื่อแผ่นดินไหวทำไมถึงเกิดสึนามิ, ประเภทของคลื่น, เหตุการณ์สึนามิที่สำคัญ, การเอาตัวให้รอดจากภัยสึนามิ ฯลฯ ผู้เขียนพยายามเขียน และเรียบเรียงไม่ให้อ่านยากเกินไป สามารถอ่านได้ทุกเพศทุกวัย เพื่อเป็นความรู้ และให้น่าติดตามอ่านอยู่ตลอดเวลา ข้อมูลหนังสือ : แผ่นดินไหว และสึนามิ (PDF) รหัสสินค้า : 5522840135698 (-ไม่ระบุ) 221 หน้า ชนิดกระดาษ : PDF เดือนปีที่พิมพ์ : --/----
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงนี้ลดราคา สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53

    หนังสือ แผ่นดินไหว และสึนามิ
    (Earthquake and Tsunami)
    จากร้าน ซีเอ็ด ความรู้เกี่ยวกับภัยพิบัติ และการเอาตัวรอด
    จำนวน 221 หน้า
    สำนักพิมพ์ซีเอ็ด หนังสือของผู้เขียน ซื้อช่วงนี้มีโปรโมทชั่น ลด 20% ทุกเล่มครับ

    ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน

    สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ
    นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้

    นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ

    เรียนรู้ข้อมูลของแผ่นดินไหว, แผ่นเปลือกโลก, รอยเลื่อน, มาตรแผ่นดินไหว, คลื่นไหวสะเทือน ฯลฯ

    นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้

    ลองติดตามผลงานดูนะครับ ติชมกันได้นะ มีคำถามอะไรก็ถามได้ ถ้ารู้ก็จะตอบให้ครับ

    อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก

    ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ

    I have a dream.
    ผู้เขียน และเรียบเรียง

    ขอบคุณครับ
    T.M.E.

    คลิกได้ที่นี่
    https://www.se-ed.com/e-book-audio/%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B6%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B4-08ekiskvj2trk5s96wu5
    ช่วงนี้ลดราคา สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 หนังสือ แผ่นดินไหว และสึนามิ (Earthquake and Tsunami) จากร้าน ซีเอ็ด ความรู้เกี่ยวกับภัยพิบัติ และการเอาตัวรอด จำนวน 221 หน้า สำนักพิมพ์ซีเอ็ด หนังสือของผู้เขียน ซื้อช่วงนี้มีโปรโมทชั่น ลด 20% ทุกเล่มครับ ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้ นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ เรียนรู้ข้อมูลของแผ่นดินไหว, แผ่นเปลือกโลก, รอยเลื่อน, มาตรแผ่นดินไหว, คลื่นไหวสะเทือน ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้ ลองติดตามผลงานดูนะครับ ติชมกันได้นะ มีคำถามอะไรก็ถามได้ ถ้ารู้ก็จะตอบให้ครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง ขอบคุณครับ T.M.E. คลิกได้ที่นี่ https://www.se-ed.com/e-book-audio/%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B6%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B4-08ekiskvj2trk5s96wu5
    WWW.SE-ED.COM
    แผ่นดินไหว และสึนามิ (PDF)
    แผ่นดินไหว และสึนามิ เป็นปรากฏการณ์ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ แผ่นดินไหว ในส่วนนี้จะกล่าวถึงปรากฏการณ์ของแผ่นดินไหว, แผ่นเปลือกโลก, รอยเลื่อนที่น่าจับตาของไทย ผู้เขียน T.M.E. เนื้อหาโดยสังเขป : แผ่นดินไหว และสึนามิ (PDF) แผ่นดินไหว และสึนามิ เป็นปรากฏการณ์ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ แผ่นดินไหว ในส่วนนี้จะกล่าวถึงปรากฏการณ์ของแผ่นดินไหว, แผ่นเปลือกโลก, รอยเลื่อนที่น่าจับตาของไทย คลื่นไหวสะเทือน, มาตรวัดแผ่นดินไหว, การเตรียมความพร้อม และวิธีการเอาตัวรอดเมื่อเกิดแผ่นดินไหว ฯลฯ ส่วนในเรื่อง สึนามิ เนื้อหาจะกล่าวถึง เมื่อแผ่นดินไหวทำไมถึงเกิดสึนามิ, ประเภทของคลื่น, เหตุการณ์สึนามิที่สำคัญ, การเอาตัวให้รอดจากภัยสึนามิ ฯลฯ ผู้เขียนพยายามเขียน และเรียบเรียงไม่ให้อ่านยากเกินไป สามารถอ่านได้ทุกเพศทุกวัย เพื่อเป็นความรู้ และให้น่าติดตามอ่านอยู่ตลอดเวลา ข้อมูลหนังสือ : แผ่นดินไหว และสึนามิ (PDF) รหัสสินค้า : 5522840135698 (-ไม่ระบุ) 221 หน้า ชนิดกระดาษ : PDF เดือนปีที่พิมพ์ : --/----
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงนี้ลดราคา สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53

    หนังสือ แผ่นดินไหว และสึนามิ
    (Earthquake and Tsunami)
    จากร้าน meb ความรู้เกี่ยวกับภัยพิบัติ และการเอาตัวรอด
    จำนวน 221 หน้า
    อย่าพลาด!!! ช่วงสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 สำนักพิมพ์ MEB โดยหนังสือผู้เขียนมีโปรโมทชัน ลดขั้นต่ำ 20% ทุกเล่ม ตั้งแต่วันนี้ - 16 เม.ย. 2568 เท่านั้น จากนั้นราคาจะกลับมาราคาเดิม เข้าไปดู และโหลดตัวอย่างอ่านฟรีได้ ขอบคุณที่อุดหนุนครับ หากพลาดพบกันอีกทีก็ปีหน้าน้า

    ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน

    สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ
    นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้

    นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ

    เรียนรู้ข้อมูลของแผ่นดินไหว, แผ่นเปลือกโลก, รอยเลื่อน, มาตรแผ่นดินไหว, คลื่นไหวสะเทือน ฯลฯ

    นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้

    ลองติดตามผลงานดูนะครับ ติชมกันได้นะ มีคำถามอะไรก็ถามได้ ถ้ารู้ก็จะตอบให้ครับ

    อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก

    ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ

    I have a dream.
    ผู้เขียน และเรียบเรียง

    ขอบคุณครับ
    T.M.E.
    http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM4NTEyNCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjU6Ijg4NTMyIjt9
    ช่วงนี้ลดราคา สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 หนังสือ แผ่นดินไหว และสึนามิ (Earthquake and Tsunami) จากร้าน meb ความรู้เกี่ยวกับภัยพิบัติ และการเอาตัวรอด จำนวน 221 หน้า อย่าพลาด!!! ช่วงสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 สำนักพิมพ์ MEB โดยหนังสือผู้เขียนมีโปรโมทชัน ลดขั้นต่ำ 20% ทุกเล่ม ตั้งแต่วันนี้ - 16 เม.ย. 2568 เท่านั้น จากนั้นราคาจะกลับมาราคาเดิม เข้าไปดู และโหลดตัวอย่างอ่านฟรีได้ ขอบคุณที่อุดหนุนครับ หากพลาดพบกันอีกทีก็ปีหน้าน้า ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้ นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ เรียนรู้ข้อมูลของแผ่นดินไหว, แผ่นเปลือกโลก, รอยเลื่อน, มาตรแผ่นดินไหว, คลื่นไหวสะเทือน ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้ ลองติดตามผลงานดูนะครับ ติชมกันได้นะ มีคำถามอะไรก็ถามได้ ถ้ารู้ก็จะตอบให้ครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง ขอบคุณครับ T.M.E. http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM4NTEyNCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjU6Ijg4NTMyIjt9
    WWW.MEBMARKET.COM
    แผ่นดินไหว และสึนามิ:: e-book หนังสือ โดย T.M.E.
    แผ่นดินไหว และสึนามิ:: e-book หนังสือ โดย T.M.E.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts