• SpaceX และ Apple อาจมีข้อพิพาทเกี่ยวกับคลื่นความถี่ดาวเทียม โดย SpaceX พยายาม กดดันหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ ไม่ให้อนุญาตให้ Globalstar (ที่ได้รับเงินสนับสนุนจาก Apple) ขยายการใช้คลื่นความถี่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ บริการฉุกเฉินผ่านดาวเทียมของ iPhone หาก SpaceX ควบคุมตลาดมากเกินไป อาจทำให้บริการดาวเทียม มีราคาแพงขึ้น และเกิดจุดอับสัญญาณ ได้

    ✅ SpaceX เคยเจรจาร่วมมือกับ Apple แต่ล้มเหลว
    - ก่อนหน้านี้ SpaceX และ Apple เคยพูดคุยกันเกี่ยวกับการทำงานร่วมกัน เพื่อสนับสนุนบริการสื่อสารผ่านดาวเทียมของ iPhone
    - อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลง ส่งผลให้ Apple หันไปใช้เครือข่ายดาวเทียมอื่นแทน SpaceX

    ✅ SpaceX ต้องการควบคุมคลื่นความถี่ให้มากที่สุด
    - ดาวเทียมทุกดวงใช้ คลื่นวิทยุส่งสัญญาณมายังโลก ซึ่งต้องมีการจัดสรรเพื่อให้สัญญาณไม่รบกวนกัน
    - หาก SpaceX ได้รับสิทธิ์ควบคุมคลื่นความถี่จำนวนมาก บริษัทอื่นจะ ไม่สามารถให้บริการที่มีคุณภาพ หรืออาจเกิด จุดอับสัญญาณ ในพื้นที่บางแห่ง

    ✅ การแข่งขันอุตสาหกรรมดาวเทียมอาจส่งผลต่อราคาบริการ
    - หาก SpaceX ครอบครองความถี่จำนวนมาก อาจทำให้เกิดสถานการณ์ กึ่งผูกขาด ซึ่งทำให้บริษัทสามารถ ตั้งราคาสูงขึ้นได้

    ✅ บริการ SOS ผ่านดาวเทียมของ iPhone อาจได้รับผลกระทบ
    - Apple ใช้ Globalstar สำหรับ บริการฉุกเฉินผ่านดาวเทียมบน iPhone ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือแม้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
    - หาก SpaceX จำกัดการเข้าถึงคลื่นความถี่ Globalstar อาจ ไม่สามารถให้บริการที่มีคุณภาพ ได้

    https://www.techradar.com/phones/iphone/spacex-and-apple-reported-spat-could-spell-bad-news-for-starlink-and-your-iphones-satellite-communication-features
    SpaceX และ Apple อาจมีข้อพิพาทเกี่ยวกับคลื่นความถี่ดาวเทียม โดย SpaceX พยายาม กดดันหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ ไม่ให้อนุญาตให้ Globalstar (ที่ได้รับเงินสนับสนุนจาก Apple) ขยายการใช้คลื่นความถี่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ บริการฉุกเฉินผ่านดาวเทียมของ iPhone หาก SpaceX ควบคุมตลาดมากเกินไป อาจทำให้บริการดาวเทียม มีราคาแพงขึ้น และเกิดจุดอับสัญญาณ ได้ ✅ SpaceX เคยเจรจาร่วมมือกับ Apple แต่ล้มเหลว - ก่อนหน้านี้ SpaceX และ Apple เคยพูดคุยกันเกี่ยวกับการทำงานร่วมกัน เพื่อสนับสนุนบริการสื่อสารผ่านดาวเทียมของ iPhone - อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลง ส่งผลให้ Apple หันไปใช้เครือข่ายดาวเทียมอื่นแทน SpaceX ✅ SpaceX ต้องการควบคุมคลื่นความถี่ให้มากที่สุด - ดาวเทียมทุกดวงใช้ คลื่นวิทยุส่งสัญญาณมายังโลก ซึ่งต้องมีการจัดสรรเพื่อให้สัญญาณไม่รบกวนกัน - หาก SpaceX ได้รับสิทธิ์ควบคุมคลื่นความถี่จำนวนมาก บริษัทอื่นจะ ไม่สามารถให้บริการที่มีคุณภาพ หรืออาจเกิด จุดอับสัญญาณ ในพื้นที่บางแห่ง ✅ การแข่งขันอุตสาหกรรมดาวเทียมอาจส่งผลต่อราคาบริการ - หาก SpaceX ครอบครองความถี่จำนวนมาก อาจทำให้เกิดสถานการณ์ กึ่งผูกขาด ซึ่งทำให้บริษัทสามารถ ตั้งราคาสูงขึ้นได้ ✅ บริการ SOS ผ่านดาวเทียมของ iPhone อาจได้รับผลกระทบ - Apple ใช้ Globalstar สำหรับ บริการฉุกเฉินผ่านดาวเทียมบน iPhone ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือแม้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ - หาก SpaceX จำกัดการเข้าถึงคลื่นความถี่ Globalstar อาจ ไม่สามารถให้บริการที่มีคุณภาพ ได้ https://www.techradar.com/phones/iphone/spacex-and-apple-reported-spat-could-spell-bad-news-for-starlink-and-your-iphones-satellite-communication-features
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีอารมณ์หลากหลายมาก ตั้งแต่
    วิตก กังวล กลัว ในใจคิดไปถึง Worst-case scenario ว่าจะทำอย่างไรดีถ้าต้องเจอเหตุการณ์ในรูปแบบต่างๆ

    ส่วนตัวรู้สึกว่าโชคดีที่ในอดีตเคยเป็น แอร์โอสเตสมาก่อน ซึ่งอาชีพนี้สอนให้เราเตรียมพร้อมกับการเจอสถานการณ์ฉุกเฉินในหลายรูปแบบอย่างมีสติ

    แม้แต่เพื่อนร่วมอาชีพ ที่อยู่คอนโดสูง
    และเจอภาวะตึกสั่นไหวอย่างรุนแรง
    ก็ยังมีสติพอที่จะหลบเข้าไปอยู่ใต้โต๊ะ
    ตามที่เราถูกสอนมาว่าจะรับมือกับสถานการณ์ แผ่นดินไหวอย่างไร?

    ส่วนตัวโชคดีที่ไม่ได้ติดอยู่ในอาคารสูง
    แต่ติดอยู่ในรถ และติดอยู่ในท้องถนน
    ตัดสินใจกลับมาตั้งหลักที่คอนโด ตอนราวบ่ายสอง (เพราะการจราจรเริ่มติดแล้วตั้งแต่บ่ายสอง )
    จากนั้นก็มารวมพลที่ล้อบบี้คอนโด ในใจก็คาดเดาสถานการณ์ไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจากนั้น แต่ที่แน่แน่ พยายามเซฟแบตเตอรี่มือถือไว้ให้มากที่สุด (ดูข้อมูลแต่ที่จำเป็น/ เลยไม่มีเวลาตอบ LINE กับผู้ที่ส่งความห่วงใยมาในวันแรกครบทุกคน)
    ในใจก็เริ่มคิดว่า ถ้าเกิด after shock และไม่สามารถกลับขึ้นไปนอนคอนโดได้ เราจะไปนอนที่ไหน?

    เพื่อนบ้าน หลายหลายคน ( คิดว่าเกินครึ่ง) เริ่มอพยพออกจากอาคาร
    บ้างก็ไปเช่าโรงแรม ( low rise)
    บ้างก็ไปอยู่บ้านญาติ

    ส่วนตัวก็คิดอยู่ว่า ถ้าคืนนี้ไม่สามารถกลับขึ้นไปไปนอนคอนโดได้ เราจะไปอยู่บ้านใคร ? แต่ไม่ว่าจะไปอยู่บ้านใครมันก็ต้องเดินทาง ประเด็นคือการจราจรเป็นอัมพาต ไม่สามารถพาเราไปถึงจุดหมายได้แน่นอน จึงตัดสินใจไม่ไปไหน รอดูท่าทีอยู่ที่คอนโด สุดท้ายตอนค่ำ ทางคอนโดมีข้อความถึงลูกบ้านว่าสามารถกลับเข้าตึกได้ แต่ลิฟท์ที่ตึกไม่สามารถใช้ได้ จึงต้องเดินขึ้นบันไดหลายสิบชั้น และมีเหตุให้ต้องเดินขึ้นลงอยู่หลายรอบ จึงมีอาการปวดน่องมาก ( เชื่อว่าหลายคน ประสบเหตุการณ์แบบเดียวกัน😅)

    เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
    ✨ ต้องกลับไปออกกำลังกายให้ฟิตกว่านี้ 💪
    ✨มีกระเป๋าพร้อม สำหรับการอพยพแบบฉุกเฉิน เช่น เสื้อผ้า, ไฟฉาย, น้ำขวดเล็ก, ลูกอม สำหรับให้พลังงานเมื่อยามต้องอดอาหาร, Power bank, เป็นต้น (1ชุดไว้ที่บ้าน/ 1 ชุดทิ้งไว้ในรถ)
    ปล. ลองปรับดูว่าอะไรสำคัญกับชีวิตคุณและคิดว่าต้องมีก็จัดสิ่งนั้นไว้
    ข้อแนะนำคือ ชุดที่ไว้ในรถไม่ควรมี Power bank เพราะถ้าเจอแดด อาจจะอันตรายได้)

    จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ เรียนรู้ได้เลยว่า
    มนุษย์เรานั้นตัวเล็กนิดเดียว
    ไม่สามารถสู้กับธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ได้
    เราควรใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อย่างมีสติ และไม่ทำลายโลกให้มากไปกว่านี้
    แม้จะทำไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็พยายามจะทำให้มากขึ้นและมากขึ้น

    ขอบคุณที่เรารอดปลอดภัย
    และขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่สูญเสียทุกคน

    We shall pass this together.🌈💕

    #earthquake
    #savethailand
    #togetherwewin
    #simplytally
    #simplyugo



    จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีอารมณ์หลากหลายมาก ตั้งแต่ วิตก กังวล กลัว ในใจคิดไปถึง Worst-case scenario ว่าจะทำอย่างไรดีถ้าต้องเจอเหตุการณ์ในรูปแบบต่างๆ ส่วนตัวรู้สึกว่าโชคดีที่ในอดีตเคยเป็น แอร์โอสเตสมาก่อน ซึ่งอาชีพนี้สอนให้เราเตรียมพร้อมกับการเจอสถานการณ์ฉุกเฉินในหลายรูปแบบอย่างมีสติ แม้แต่เพื่อนร่วมอาชีพ ที่อยู่คอนโดสูง และเจอภาวะตึกสั่นไหวอย่างรุนแรง ก็ยังมีสติพอที่จะหลบเข้าไปอยู่ใต้โต๊ะ ตามที่เราถูกสอนมาว่าจะรับมือกับสถานการณ์ แผ่นดินไหวอย่างไร? ส่วนตัวโชคดีที่ไม่ได้ติดอยู่ในอาคารสูง แต่ติดอยู่ในรถ และติดอยู่ในท้องถนน ตัดสินใจกลับมาตั้งหลักที่คอนโด ตอนราวบ่ายสอง (เพราะการจราจรเริ่มติดแล้วตั้งแต่บ่ายสอง ) จากนั้นก็มารวมพลที่ล้อบบี้คอนโด ในใจก็คาดเดาสถานการณ์ไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจากนั้น แต่ที่แน่แน่ พยายามเซฟแบตเตอรี่มือถือไว้ให้มากที่สุด (ดูข้อมูลแต่ที่จำเป็น/ เลยไม่มีเวลาตอบ LINE กับผู้ที่ส่งความห่วงใยมาในวันแรกครบทุกคน) ในใจก็เริ่มคิดว่า ถ้าเกิด after shock และไม่สามารถกลับขึ้นไปนอนคอนโดได้ เราจะไปนอนที่ไหน? เพื่อนบ้าน หลายหลายคน ( คิดว่าเกินครึ่ง) เริ่มอพยพออกจากอาคาร บ้างก็ไปเช่าโรงแรม ( low rise) บ้างก็ไปอยู่บ้านญาติ ส่วนตัวก็คิดอยู่ว่า ถ้าคืนนี้ไม่สามารถกลับขึ้นไปไปนอนคอนโดได้ เราจะไปอยู่บ้านใคร ? แต่ไม่ว่าจะไปอยู่บ้านใครมันก็ต้องเดินทาง ประเด็นคือการจราจรเป็นอัมพาต ไม่สามารถพาเราไปถึงจุดหมายได้แน่นอน จึงตัดสินใจไม่ไปไหน รอดูท่าทีอยู่ที่คอนโด สุดท้ายตอนค่ำ ทางคอนโดมีข้อความถึงลูกบ้านว่าสามารถกลับเข้าตึกได้ แต่ลิฟท์ที่ตึกไม่สามารถใช้ได้ จึงต้องเดินขึ้นบันไดหลายสิบชั้น และมีเหตุให้ต้องเดินขึ้นลงอยู่หลายรอบ จึงมีอาการปวดน่องมาก ( เชื่อว่าหลายคน ประสบเหตุการณ์แบบเดียวกัน😅) เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ✨ ต้องกลับไปออกกำลังกายให้ฟิตกว่านี้ 💪 ✨มีกระเป๋าพร้อม สำหรับการอพยพแบบฉุกเฉิน เช่น เสื้อผ้า, ไฟฉาย, น้ำขวดเล็ก, ลูกอม สำหรับให้พลังงานเมื่อยามต้องอดอาหาร, Power bank, เป็นต้น (1ชุดไว้ที่บ้าน/ 1 ชุดทิ้งไว้ในรถ) ปล. ลองปรับดูว่าอะไรสำคัญกับชีวิตคุณและคิดว่าต้องมีก็จัดสิ่งนั้นไว้ ข้อแนะนำคือ ชุดที่ไว้ในรถไม่ควรมี Power bank เพราะถ้าเจอแดด อาจจะอันตรายได้) จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ เรียนรู้ได้เลยว่า มนุษย์เรานั้นตัวเล็กนิดเดียว ไม่สามารถสู้กับธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ได้ เราควรใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อย่างมีสติ และไม่ทำลายโลกให้มากไปกว่านี้ แม้จะทำไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็พยายามจะทำให้มากขึ้นและมากขึ้น ขอบคุณที่เรารอดปลอดภัย และขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่สูญเสียทุกคน We shall pass this together.🌈💕 #earthquake #savethailand #togetherwewin #simplytally #simplyugo
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพวิดีโอความยาว 7 นาที กับเหตุการณ์ที่ปนไปด้วยหลากหลายอารมณ์ทางด้านลบ

    เจ้าหน้าที่สหประชาชาติรายงานพบหลุมศพหมู่ของเจ้าหน้าที่กู้ภัยในเมืองราฟาห์ หลังจากการโจมตีของอิสราเอล จากการตรวจสอบเบื้องต้นมีร่องรอยของการสังหารเจ้าหน้าที่แพทย์ฉุกเฉินและเจ้าหน้าที่กู้ภัยชาวปาเลสไตน์รวม 15 ราย

    เจ้าหน้าที่สภากาชาดปาเลสไตน์ (Palestinian Red Crescent Society - PRCS) และหน่วยป้องกันพลเรือน รายงานว่าศพที่พบในเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้ของกาซา ประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่ของ PRCS 8 ราย เจ้าหน้าที่ป้องกันพลเรือน 6 ​​ราย และเจ้าหน้าที่ UN อีก 1 ราย

    เมื่อ 7 วันก่อนหน้านี้ ขณะที่กองกำลังอิสราเอลเปิดปฏิบัติการรุกคืบครั้งใหม่ เจ้าหน้าที่กู้ภัย PRCS จำนวน 10 ราย และหน่วยป้องกันพลเรือน 6 ​​รายถูกส่งไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ รวมทั้งรถพยาบาลอีก 5 คัน รถดับเพลิง 1 คัน และรถ UN ปิดท้ายขบวน หลังจากนั้นมีรายงานการถูกโจมตีจากกองกำลังอิสราเอลจนขาดการติดต่อไปในที่สุด

    ทางด้านเจ้าหน้าที่กาชาด หลังจากทราบเรื่องการโจมตี ได้พยายามติดต่อกับฝ่ายอิสราเอลเพื่อขอเข้าพื้นที่ เพื่อเข้าไปตรวจสอบแต่ไม่ได้รับอนุยาต จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมา 5 วัน ถึงได้รับอนุญาตจากฝ่ายอิสราเอล

    ผู้รอดชีวิตคนหนึ่งบอกกับทีมเจ้าหน้าที่กาชาดว่า กองกำลังอิสราเอลสังหารเจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้งสองคนขณะอยู่กับรถพยาบาลของพวกเขา

    ศพที่ถูกขุดขึ้นมาจากการฝังกลบแบบลวกๆ สภาพศพยังสวมเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ และสวมถุงมือ และอยู่ในรถที่มีเครื่องหมายกาชาด ซึ่งอยู่ระหว่างทางเข้าไปช่วยเหลือชีวิตพลเรือน
    ภาพวิดีโอความยาว 7 นาที กับเหตุการณ์ที่ปนไปด้วยหลากหลายอารมณ์ทางด้านลบ เจ้าหน้าที่สหประชาชาติรายงานพบหลุมศพหมู่ของเจ้าหน้าที่กู้ภัยในเมืองราฟาห์ หลังจากการโจมตีของอิสราเอล จากการตรวจสอบเบื้องต้นมีร่องรอยของการสังหารเจ้าหน้าที่แพทย์ฉุกเฉินและเจ้าหน้าที่กู้ภัยชาวปาเลสไตน์รวม 15 ราย เจ้าหน้าที่สภากาชาดปาเลสไตน์ (Palestinian Red Crescent Society - PRCS) และหน่วยป้องกันพลเรือน รายงานว่าศพที่พบในเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้ของกาซา ประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่ของ PRCS 8 ราย เจ้าหน้าที่ป้องกันพลเรือน 6 ​​ราย และเจ้าหน้าที่ UN อีก 1 ราย เมื่อ 7 วันก่อนหน้านี้ ขณะที่กองกำลังอิสราเอลเปิดปฏิบัติการรุกคืบครั้งใหม่ เจ้าหน้าที่กู้ภัย PRCS จำนวน 10 ราย และหน่วยป้องกันพลเรือน 6 ​​รายถูกส่งไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ รวมทั้งรถพยาบาลอีก 5 คัน รถดับเพลิง 1 คัน และรถ UN ปิดท้ายขบวน หลังจากนั้นมีรายงานการถูกโจมตีจากกองกำลังอิสราเอลจนขาดการติดต่อไปในที่สุด ทางด้านเจ้าหน้าที่กาชาด หลังจากทราบเรื่องการโจมตี ได้พยายามติดต่อกับฝ่ายอิสราเอลเพื่อขอเข้าพื้นที่ เพื่อเข้าไปตรวจสอบแต่ไม่ได้รับอนุยาต จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมา 5 วัน ถึงได้รับอนุญาตจากฝ่ายอิสราเอล ผู้รอดชีวิตคนหนึ่งบอกกับทีมเจ้าหน้าที่กาชาดว่า กองกำลังอิสราเอลสังหารเจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้งสองคนขณะอยู่กับรถพยาบาลของพวกเขา ศพที่ถูกขุดขึ้นมาจากการฝังกลบแบบลวกๆ สภาพศพยังสวมเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ และสวมถุงมือ และอยู่ในรถที่มีเครื่องหมายกาชาด ซึ่งอยู่ระหว่างทางเข้าไปช่วยเหลือชีวิตพลเรือน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 43 0 รีวิว
  • ถ้าหาก USAID ที่เป็นสำนักงานให้ความช่วยเหลือต่างประเทศของสหรัฐฯ ยังคงปฏิบัติงานอยู่ตามปกติ ไม่ถูกสั่งปลดเจ้าหน้าที่แทบทั้งหมดและกระทั่งสั่งยุบหน่วยงานนี้ไปเลยตามนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ USAID ก็น่าจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการวินิจฉัยกำหนดพื้นที่ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือมากที่สุดภายหลังแผ่นดินไหวใหญ่ในพม่าคราวนี้ รวมทั้งมีบทบาทในการแบ่งปันจัดสรรความช่วยเหลือฉุกเฉินที่ทรงความสำคัญอย่างยิ่งยวด

    เมื่อตอนต้นปี 2021 หลังจากหนึ่งทศวรรษของการปฏิรูปทางการเมืองและทางเศรษฐกิจ พม่าแลดูเหมือนกับว่าในที่สุดแล้วพวกเขาก็กำลังเริ่มต้น Choawalit Chotwattanaphong ที่จะเขย่าพิษตกค้างของการถูกปกครองโดยคณะทหารมานานหลายทศวรรษให้หลุดออกไปได้เสียที ในตอนนั้นการลงทุนจากต่างประเทศกำลังเติบโตขยายตัว และมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนกำลังกระเตื้องดีขึ้นมาอย่างช้าๆ

    อย่างไรก็ตาม ในเดือนกุมภาพันธ์ของปีนั้นเอง คณะทหารก็กลับมายึดอำนาจเอาไว้อีกคำรบหนึ่ง หลังจากขับไล่ [2] รัฐบาลที่ผ่านการเลือกตั้งอย่างเป็นประชาธิปไตยของ อองซานซูจี ออกไปด้วยการทำรัฐประหารยึดอำนาจ เรื่องนี้ได้ผลักไสให้ประเทศนี้หมุนคว้างดำดิ่งลงสู่สงครามกลางเมือง [3] และความพังพินาศทางสังคมและทางเศรษฐกิจ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000030661

    #MGROnline #โดนัลด์ทรัมป์ #USAID
    ถ้าหาก USAID ที่เป็นสำนักงานให้ความช่วยเหลือต่างประเทศของสหรัฐฯ ยังคงปฏิบัติงานอยู่ตามปกติ ไม่ถูกสั่งปลดเจ้าหน้าที่แทบทั้งหมดและกระทั่งสั่งยุบหน่วยงานนี้ไปเลยตามนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ USAID ก็น่าจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการวินิจฉัยกำหนดพื้นที่ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือมากที่สุดภายหลังแผ่นดินไหวใหญ่ในพม่าคราวนี้ รวมทั้งมีบทบาทในการแบ่งปันจัดสรรความช่วยเหลือฉุกเฉินที่ทรงความสำคัญอย่างยิ่งยวด • เมื่อตอนต้นปี 2021 หลังจากหนึ่งทศวรรษของการปฏิรูปทางการเมืองและทางเศรษฐกิจ พม่าแลดูเหมือนกับว่าในที่สุดแล้วพวกเขาก็กำลังเริ่มต้น [1] ที่จะเขย่าพิษตกค้างของการถูกปกครองโดยคณะทหารมานานหลายทศวรรษให้หลุดออกไปได้เสียที ในตอนนั้นการลงทุนจากต่างประเทศกำลังเติบโตขยายตัว และมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนกำลังกระเตื้องดีขึ้นมาอย่างช้าๆ • อย่างไรก็ตาม ในเดือนกุมภาพันธ์ของปีนั้นเอง คณะทหารก็กลับมายึดอำนาจเอาไว้อีกคำรบหนึ่ง หลังจากขับไล่ [2] รัฐบาลที่ผ่านการเลือกตั้งอย่างเป็นประชาธิปไตยของ อองซานซูจี ออกไปด้วยการทำรัฐประหารยึดอำนาจ เรื่องนี้ได้ผลักไสให้ประเทศนี้หมุนคว้างดำดิ่งลงสู่สงครามกลางเมือง [3] และความพังพินาศทางสังคมและทางเศรษฐกิจ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000030661 • #MGROnline #โดนัลด์ทรัมป์ #USAID
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • Space Force ร่วมมือกับ Gravitics สร้างยาน mothership ในวงโคจรเพื่อสำรองดาวเทียมและยานอวกาศ พร้อมตอบโต้ภัยคุกคามในอวกาศเช่นการโจมตีจากรัสเซียหรือจีน ยานนี้มีโมดูลที่ป้องกันรังสีและสภาพแวดล้อม ทำให้สามารถใช้งานได้ทันทีในกรณีฉุกเฉิน ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในเทคโนโลยีด้านการบินและความมั่นคงในอวกาศ

    การตอบโต้ภัยคุกคามในอวกาศ:
    - มีรายงานว่าประเทศอย่างรัสเซียและจีนกำลังพัฒนาเทคโนโลยีต่อต้านดาวเทียม เช่น ระบบโจมตีด้วยอุปกรณ์ kinetic และ non-kinetic รวมถึงการโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดเศษซากในอวกาศที่ส่งผลกระทบต่อระบบอื่น ๆ ในวงโคจร

    ความสำคัญของ mothership:
    - ยานจะถูกออกแบบให้มีโมดูลที่สามารถกักเก็บแบตเตอรี่และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ละเอียดอ่อนไว้ภายใน พร้อมป้องกันรังสีและสภาพแวดล้อมในอวกาศเพื่อใช้งานได้ในกรณีฉุกเฉิน

    แผนการสาธิตภารกิจในอนาคต:
    - แม้ยังไม่มีวันกำหนดแน่นอน บริษัท Gravitics วางแผนการสาธิตภารกิจในปี 2026 พร้อมกับเปิดตัวโมดูลรุ่นใหม่ที่มีพื้นที่กดอากาศขนาดใหญ่ขึ้น.

    ความมุ่งมั่นของบริษัท Gravitics:
    - บริษัทมีแผนพัฒนาโครงสร้างที่รองรับการสร้างพื้นที่อยู่อาศัยในอวกาศในอนาคต โดยเริ่มจากการสร้างโมดูลสำหรับสถานีอวกาศส่วนตัว ซึ่งถือเป็นขั้นตอนแรกสู่เป้าหมายในระยะยาว

    https://www.techspot.com/news/107341-new-space-force-project-aims-counter-threats-orbital.html
    Space Force ร่วมมือกับ Gravitics สร้างยาน mothership ในวงโคจรเพื่อสำรองดาวเทียมและยานอวกาศ พร้อมตอบโต้ภัยคุกคามในอวกาศเช่นการโจมตีจากรัสเซียหรือจีน ยานนี้มีโมดูลที่ป้องกันรังสีและสภาพแวดล้อม ทำให้สามารถใช้งานได้ทันทีในกรณีฉุกเฉิน ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในเทคโนโลยีด้านการบินและความมั่นคงในอวกาศ การตอบโต้ภัยคุกคามในอวกาศ: - มีรายงานว่าประเทศอย่างรัสเซียและจีนกำลังพัฒนาเทคโนโลยีต่อต้านดาวเทียม เช่น ระบบโจมตีด้วยอุปกรณ์ kinetic และ non-kinetic รวมถึงการโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดเศษซากในอวกาศที่ส่งผลกระทบต่อระบบอื่น ๆ ในวงโคจร ความสำคัญของ mothership: - ยานจะถูกออกแบบให้มีโมดูลที่สามารถกักเก็บแบตเตอรี่และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ละเอียดอ่อนไว้ภายใน พร้อมป้องกันรังสีและสภาพแวดล้อมในอวกาศเพื่อใช้งานได้ในกรณีฉุกเฉิน แผนการสาธิตภารกิจในอนาคต: - แม้ยังไม่มีวันกำหนดแน่นอน บริษัท Gravitics วางแผนการสาธิตภารกิจในปี 2026 พร้อมกับเปิดตัวโมดูลรุ่นใหม่ที่มีพื้นที่กดอากาศขนาดใหญ่ขึ้น. ความมุ่งมั่นของบริษัท Gravitics: - บริษัทมีแผนพัฒนาโครงสร้างที่รองรับการสร้างพื้นที่อยู่อาศัยในอวกาศในอนาคต โดยเริ่มจากการสร้างโมดูลสำหรับสถานีอวกาศส่วนตัว ซึ่งถือเป็นขั้นตอนแรกสู่เป้าหมายในระยะยาว https://www.techspot.com/news/107341-new-space-force-project-aims-counter-threats-orbital.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New Space Force project aims to counter threats with orbital mothership
    Reports suggest that countries like Russia and China are developing advanced counter-space capabilities. These include a mix of kinetic, non-kinetic, and cyber tools designed to disable or...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยชาวรัสเซียเดินทางมาถึงเมียนมาที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวแล้ว

    ทางด้านเบลารุสประกาศแผนการส่งทีมช่วยเหลือเดินทางไปยังเมียนมาในวันนี้ด้วยเช่นกัน ตามรายงานของกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของเบลารุส ระบุว่ามินสค์ได้รับคำร้องขอความช่วยเหลือในการรับมือกับเหตุการณ์หลังแผ่นดินไหวในเมียนมา
    ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยชาวรัสเซียเดินทางมาถึงเมียนมาที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวแล้ว ทางด้านเบลารุสประกาศแผนการส่งทีมช่วยเหลือเดินทางไปยังเมียนมาในวันนี้ด้วยเช่นกัน ตามรายงานของกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของเบลารุส ระบุว่ามินสค์ได้รับคำร้องขอความช่วยเหลือในการรับมือกับเหตุการณ์หลังแผ่นดินไหวในเมียนมา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • รายละเอียดเพิ่มเติมในการพบปะกับสื่อมวลชนของเซเลนสกี:

    👉ยูเครนไม่ยอมรับการเป็นหนี้จากการสนับสนุนทางทหารของสหรัฐในนอดีต และสหรัฐได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าความช่วยเหลือในอนาคตจะไม่ฟรีอีกต่อไป

    👉ข้อตกลงแร่ธาตุของสหรัฐไม่หมือนที่เจรจากันไว้ และมันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงในตอนนี้ เงื่อนไขที่ทั้งสองฝ่ายไม่เห็นด้วยร่วมกัน แต่มันกลับถูกนำมาเพิ่มเติมใหม่

    👉ปูตินไม่อยากให้มีการเจรจาเกิดขึ้นกับยูเครน เขากลัวการเจรจาโดยตรงกับผม เขาพยายามหาเหตุผลเพื่อยืดเวลาสงครามออกไป ในความคิดของเขา ยูเครนไม่ได้มีอำนาจอธิปไตย ซึ่งนั่นเป็นความคิดส่วนตัวของเขา

    👉ยูเครนพร้อมเปิดใจให้การเจรจากับรัสเซีย "แต่ไม่ใช่กับปูติน"

    👉หากภายในธุรกิจหรือประชาชนในภูมิภาคใดๆของรัสเซียที่พร้อมจะต่อต้านสงครามและทำงานเพื่อสันติภาพ แจ้งมาที่เรา เราพร้อมที่จะรับฟังและร่วมมือกัน

    👉ฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรพร้อมส่งกองกำลังเข้าสู่ยูเครน เราเป็นสามเหลี่ยมที่จับมือกันอย่างแน่นหนา "ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และยูเครน"

    👉ยูเครนจะมีการแลกเปลี่ยนข่าวกรอง ภาพถ่ายดาวเทียม รวมทั้งได้รับใบอนุญาตจากประเทศในยุโรป ในการผลิตกระสุน ขีปนาวุธ และเทคโนโลยีป้องกันภัยทางอากาศ

    👉สัปดาห์นี้ เคียฟจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฉุกเฉินแบบปิด(ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าร่วมฟัง) ของผู้นำกองทัพจากประเทศต่างๆ ที่พร้อมจะส่งกองกำลังเข้าสู่ยูเครน

    👉ก่อนหน้านี้สหรัฐรับปากจะทำงานร่วมกับซาอุดีอาระเบีย ตุรกี และพันธมิตรในยุโรป เกี่ยวกับวิธีการติดตามการโจมตีของรัสเซียต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน

    👉ยูเครนไม่เห็นด้วยที่จะให้ซาอุดีอาระเบียเข้ามากำกับดูแลโครงสร้างด้านพลังงานของเรา พวกเขาขาดอุปกรณ์ ประสบการณ์ความรู้ทางเทคนิค และความสามารถด้านข่าวกรอง

    👉การติดตามความปลอดภัยในทะเลดำ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และรัฐชายฝั่งทะเลดำ ได้แก่ โรมาเนียและบัลแกเรีย จะเป็นฝ่ายที่ต้องดูแลร่วมกัน
    รายละเอียดเพิ่มเติมในการพบปะกับสื่อมวลชนของเซเลนสกี: 👉ยูเครนไม่ยอมรับการเป็นหนี้จากการสนับสนุนทางทหารของสหรัฐในนอดีต และสหรัฐได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าความช่วยเหลือในอนาคตจะไม่ฟรีอีกต่อไป 👉ข้อตกลงแร่ธาตุของสหรัฐไม่หมือนที่เจรจากันไว้ และมันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงในตอนนี้ เงื่อนไขที่ทั้งสองฝ่ายไม่เห็นด้วยร่วมกัน แต่มันกลับถูกนำมาเพิ่มเติมใหม่ 👉ปูตินไม่อยากให้มีการเจรจาเกิดขึ้นกับยูเครน เขากลัวการเจรจาโดยตรงกับผม เขาพยายามหาเหตุผลเพื่อยืดเวลาสงครามออกไป ในความคิดของเขา ยูเครนไม่ได้มีอำนาจอธิปไตย ซึ่งนั่นเป็นความคิดส่วนตัวของเขา 👉ยูเครนพร้อมเปิดใจให้การเจรจากับรัสเซีย "แต่ไม่ใช่กับปูติน" 👉หากภายในธุรกิจหรือประชาชนในภูมิภาคใดๆของรัสเซียที่พร้อมจะต่อต้านสงครามและทำงานเพื่อสันติภาพ แจ้งมาที่เรา เราพร้อมที่จะรับฟังและร่วมมือกัน 👉ฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรพร้อมส่งกองกำลังเข้าสู่ยูเครน เราเป็นสามเหลี่ยมที่จับมือกันอย่างแน่นหนา "ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และยูเครน" 👉ยูเครนจะมีการแลกเปลี่ยนข่าวกรอง ภาพถ่ายดาวเทียม รวมทั้งได้รับใบอนุญาตจากประเทศในยุโรป ในการผลิตกระสุน ขีปนาวุธ และเทคโนโลยีป้องกันภัยทางอากาศ 👉สัปดาห์นี้ เคียฟจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฉุกเฉินแบบปิด(ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าร่วมฟัง) ของผู้นำกองทัพจากประเทศต่างๆ ที่พร้อมจะส่งกองกำลังเข้าสู่ยูเครน 👉ก่อนหน้านี้สหรัฐรับปากจะทำงานร่วมกับซาอุดีอาระเบีย ตุรกี และพันธมิตรในยุโรป เกี่ยวกับวิธีการติดตามการโจมตีของรัสเซียต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน 👉ยูเครนไม่เห็นด้วยที่จะให้ซาอุดีอาระเบียเข้ามากำกับดูแลโครงสร้างด้านพลังงานของเรา พวกเขาขาดอุปกรณ์ ประสบการณ์ความรู้ทางเทคนิค และความสามารถด้านข่าวกรอง 👉การติดตามความปลอดภัยในทะเลดำ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และรัฐชายฝั่งทะเลดำ ได้แก่ โรมาเนียและบัลแกเรีย จะเป็นฝ่ายที่ต้องดูแลร่วมกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 352 มุมมอง 18 0 รีวิว
  • 🚨 แผ่นดินไหวเขย่าไทย รัฐไร้แผนฉุกเฉินรับมือ ถือโอกาสรีดเงิน เมินน้ำใจเพื่อนร่วมชาติ ขาดระบบขนส่งสาธารณะ รถเมล์ไม่เพียงพอ รอรถไฟฟ้า ประชาชนเดินเท้า ประชาชนรอความช่วยเหลือกลางถนน 🚷

    ✍️ เหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 95 ปี เผยให้เห็นการขาดแผนฉุกเฉินของรัฐ ขนส่งสาธารณะล่มทั่วกรุงเทพฯ ประชาชนไร้ทางเลือก ต้องเดินเท้ากลับบ้าน ฝ่าวิกฤตกลางเมืองหลวง

    🧭 เมื่อภัยธรรมชาติกระชากหน้ากาก "ระบบที่ไร้หัวใจ" บ่ายวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกติจูด จุดศูนย์กลางอยู่ในเมียนมา แต่แรงสั่นสะเทือนไม่ได้หยุดที่พรมแดน 🇲🇲 มันพัดผ่านเข้ามาในไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และภาคเหนืออย่างรุนแรง อาคารสูงโยกเยก 🚨 ผู้คนแตกตื่น วิ่งอพยพลงจากตึก

    แต่อะไรคือสิ่งที่น่าตกใจที่สุด? ไม่ใช่แค่แรงสั่นสะเทือน แต่คือ "ความไร้การเตรียมพร้อม" ของรัฐ และ "การล่มสลาย" ของระบบขนส่งสาธารณะ 🚆🛑

    📌 แผ่นดินไหวคือภัยธรรมชาติ แต่การไร้แผนคือภัยจากรัฐ ไม่มีแผนการ ไม่มีการแจ้งเตือน ไม่มีทางเลือกในการเดินทาง
    คนจำนวนมากออกจากตึก กลับบ้านไม่ได้
    🚇 รถไฟฟ้าหยุด
    🚌 รถเมล์ไม่พอ
    🚕 แท็กซี่แพง 💸
    ประชาชน “เดินเท้า” เป็นกิโลๆ เพื่อหาความปลอดภัย

    “หยุดให้บริการโดยไม่มีแผน คือการทิ้งประชาชนไว้กลางสนามรบ” 🪖

    “นี่ไม่ใช่แค่ระบบขนส่งที่ล่ม แต่คือภาพสะท้อนของการบริหารจัดการ ที่ไม่มีหัวใจ” ❤️‍🩹

    📉 ระบบขนส่งที่ “หยุดก่อนจำเป็น” ทำให้แย่ยิ่งกว่าเดิม 🚆 รถไฟฟ้าหยุดเดินโดยไม่มีกรอบเวลา รถไฟฟ้าทุกสายหยุดเดินรถมากกว่า 10 ชั่วโมง แต่ไม่มีแผนสำรอง ไม่มีการแจ้งเวลาชัดเจน ประชาชน “ไร้ทิศทาง” ผู้คนอพยพล่าช้า ช่วยเหลือทำไม่ได้

    นี่คือการแสดงให้เห็นว่า ระบบขนส่งในประเทศไทย ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อวิกฤต

    🚌 รถเมล์ไม่พอวิ่ง-ไม่พอคน ถึงรัฐบอกจะส่งรถเมล์เพิ่ม แต่ความเป็นจริงคือ... รถติดทำให้รถเข้าไม่ถึง จำนวนเที่ยวไม่พอ ไม่มีการบริหารจัดการแบบคล่องตัว

    🚖 ค่าโดยสารแพงเกินจริง
    🚦 วินมอเตอร์ไซค์
    🚘 แกร็บ
    🛻 แท็กซี่

    ต่างอัพราคาค่าโดยสารสูงกว่าปกติ 2-3 เท่า เพราะ "ดีมานด์พุ่ง" แต่ "ซัพพลายหาย"

    🏃‍♂️ เดินเท้าคือทางเลือกสุดท้าย ของคนไม่มีทางเลือก ในวันที่ขนส่งล่มทั้งเมือง คนหลายหมื่นต้องเดินเท้ากลับบ้าน ระยะทาง 5-10 กิโลเมตร 🚶‍♀️

    ภาพที่เห็น
    - ผู้สูงอายุเดินจับมือกับหลานเล็ก
    - คนทำงานเดินกลับบ้านกลางดึก
    - เด็กนักเรียนที่ตกค้าง ต้องขอความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า

    นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการเดินทาง แต่มันคือการเอาชีวิตรอด ในเมืองหลวงที่ไร้แผน

    ❗ ประเทศไทย "ยังไม่มี" แผนขนส่งฉุกเฉินที่ตอบโจทย์ แม้จะมีกฎหมาย พ.ร.บ. ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 แต่สิ่งที่หายไปคือ

    ✅ ความเร็วในการตอบสนอง
    ✅ ความเข้าใจพฤติกรรมผู้คน
    ✅ ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน

    ภัยพิบัติแผ่นดินไหว ไม่มีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้า รัฐต้องมี "แผนไว้ก่อน" ไม่ใช่ "แผนหลังเกิดเหตุ"

    📊 ถอดบทเรียนจากต่างประเทศ ญี่ปุ่นทำอย่างไร? ญี่ปุ่น 🇯🇵 เผชิญแผ่นดินไหวบ่อย แต่ยังเดินรถไฟฟ้าได้
    เพราะอะไร?

    ✅ ญี่ปุ่นมีระบบเหล่านี้
    - เดินรถไฟด้วยความเร็วต่ำ เมื่อเกิดแผ่นดินไหว
    - แจ้งเตือนล่วงหน้าผ่านแอป-SMS ภายในไม่กี่วินาที
    - วางแผนเส้นทางขนส่งสำรอง
    - ซักซ้อมแผนอพยพทุกปี
    - มีจุดรวมตัวปลอดภัยพร้อมน้ำ อาหาร แพทย์

    ในขณะที่ไทย... ยังใช้เวลามากกว่า 30 นาที ในการแจ้งเตือนจากกรมอุตุ และกว่า 5 ชั่วโมงกว่าข้อความ SMS จะส่งถึงมือถือประชาชน 😓📵

    🧭 แนวทางที่ไทยควรทำ และยังไม่ได้ทำ
    - สร้างระบบแจ้งเตือนภัยแบบ Real-time ไม่ใช่ให้คนไปรู้ข่าวจาก Facebook ก่อน

    - เตรียมเส้นทางขนส่งสำรอง พร้อมแผนขนย้ายมวลชน ไม่ใช่หยุดรถไฟฟ้าแล้วไม่บอกอะไรเลย

    - กำหนดเกณฑ์การปิดระบบขนส่งให้ชัดเจน และสมเหตุสมผล หยุดเดินรถได้ แต่ต้องรู้ว่าเมื่อไหร่จะกลับมา

    - ใช้เทคโนโลยีจัดการจราจรแบบ AI ให้รถฉุกเฉิน-รถช่วยเหลือเดินทางได้ง่ายขึ้น

    - สื่อสารแบบรวมศูนย์ ไม่ใช่หลายหน่วยงานพูดคนละทาง

    💬 เสียงประชาชน เหนื่อย ใจหาย และรู้สึกโดดเดี่ยว
    “ตอนแผ่นดินไหว ตึกสั่น เราวิ่งลงมา แต่พอถึงพื้นดิน กลับไม่มีทางกลับบ้าน”

    “แท็กซี่ไม่รับ รถเมล์ก็ไม่มี ต้องเดินจากอโศกไปบางนา”

    “ถ้ารัฐมีแผนที่ดีกว่านี้ เราคงไม่ต้องเสี่ยงชีวิตแบบนี้”

    🔚 อย่าปล่อยให้ภัยธรรมชาติ กลายเป็นภัยมนุษย์ แผ่นดินไหวครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ความรุนแรงทางธรรมชาติ แต่มันเปิดโปง “ความไร้ระบบ” ของรัฐในการรับมือวิกฤต

    ขนส่งล่ม = ความล้มเหลวของระบบราชการ

    ความเงียบของรัฐ = การทอดทิ้งประชาชน

    🎯 อย่ารอให้เกิดเหตุการณ์ครั้งหน้า เราต้องเตรียมพร้อมให้ดีกว่านี้ ไม่ใช่เพื่อ “ความสะดวก” แต่เพื่อ “ความอยู่รอด” ของคนไทยทุกคน 🛑🇹🇭

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 291636 มี.ค. 2568

    📱 #แผ่นดินไหวเขย่าไทย #รัฐไร้แผน #ขนส่งล่ม #ไม่มีทางกลับบ้าน #รถไฟฟ้าหยุด #ภัยพิบัติ2025 #ต้องเดินเท้า #บริหารล้มเหลว #ข่าวปลอมภัยพิบัติ #ภัยธรรมชาติหรือมนุษย์
    🚨 แผ่นดินไหวเขย่าไทย รัฐไร้แผนฉุกเฉินรับมือ ถือโอกาสรีดเงิน เมินน้ำใจเพื่อนร่วมชาติ ขาดระบบขนส่งสาธารณะ รถเมล์ไม่เพียงพอ รอรถไฟฟ้า ประชาชนเดินเท้า ประชาชนรอความช่วยเหลือกลางถนน 🚷 ✍️ เหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 95 ปี เผยให้เห็นการขาดแผนฉุกเฉินของรัฐ ขนส่งสาธารณะล่มทั่วกรุงเทพฯ ประชาชนไร้ทางเลือก ต้องเดินเท้ากลับบ้าน ฝ่าวิกฤตกลางเมืองหลวง 🧭 เมื่อภัยธรรมชาติกระชากหน้ากาก "ระบบที่ไร้หัวใจ" บ่ายวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกติจูด จุดศูนย์กลางอยู่ในเมียนมา แต่แรงสั่นสะเทือนไม่ได้หยุดที่พรมแดน 🇲🇲 มันพัดผ่านเข้ามาในไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และภาคเหนืออย่างรุนแรง อาคารสูงโยกเยก 🚨 ผู้คนแตกตื่น วิ่งอพยพลงจากตึก แต่อะไรคือสิ่งที่น่าตกใจที่สุด? ไม่ใช่แค่แรงสั่นสะเทือน แต่คือ "ความไร้การเตรียมพร้อม" ของรัฐ และ "การล่มสลาย" ของระบบขนส่งสาธารณะ 🚆🛑 📌 แผ่นดินไหวคือภัยธรรมชาติ แต่การไร้แผนคือภัยจากรัฐ ไม่มีแผนการ ไม่มีการแจ้งเตือน ไม่มีทางเลือกในการเดินทาง คนจำนวนมากออกจากตึก กลับบ้านไม่ได้ 🚇 รถไฟฟ้าหยุด 🚌 รถเมล์ไม่พอ 🚕 แท็กซี่แพง 💸 ประชาชน “เดินเท้า” เป็นกิโลๆ เพื่อหาความปลอดภัย “หยุดให้บริการโดยไม่มีแผน คือการทิ้งประชาชนไว้กลางสนามรบ” 🪖 “นี่ไม่ใช่แค่ระบบขนส่งที่ล่ม แต่คือภาพสะท้อนของการบริหารจัดการ ที่ไม่มีหัวใจ” ❤️‍🩹 📉 ระบบขนส่งที่ “หยุดก่อนจำเป็น” ทำให้แย่ยิ่งกว่าเดิม 🚆 รถไฟฟ้าหยุดเดินโดยไม่มีกรอบเวลา รถไฟฟ้าทุกสายหยุดเดินรถมากกว่า 10 ชั่วโมง แต่ไม่มีแผนสำรอง ไม่มีการแจ้งเวลาชัดเจน ประชาชน “ไร้ทิศทาง” ผู้คนอพยพล่าช้า ช่วยเหลือทำไม่ได้ นี่คือการแสดงให้เห็นว่า ระบบขนส่งในประเทศไทย ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อวิกฤต 🚌 รถเมล์ไม่พอวิ่ง-ไม่พอคน ถึงรัฐบอกจะส่งรถเมล์เพิ่ม แต่ความเป็นจริงคือ... รถติดทำให้รถเข้าไม่ถึง จำนวนเที่ยวไม่พอ ไม่มีการบริหารจัดการแบบคล่องตัว 🚖 ค่าโดยสารแพงเกินจริง 🚦 วินมอเตอร์ไซค์ 🚘 แกร็บ 🛻 แท็กซี่ ต่างอัพราคาค่าโดยสารสูงกว่าปกติ 2-3 เท่า เพราะ "ดีมานด์พุ่ง" แต่ "ซัพพลายหาย" 🏃‍♂️ เดินเท้าคือทางเลือกสุดท้าย ของคนไม่มีทางเลือก ในวันที่ขนส่งล่มทั้งเมือง คนหลายหมื่นต้องเดินเท้ากลับบ้าน ระยะทาง 5-10 กิโลเมตร 🚶‍♀️ ภาพที่เห็น - ผู้สูงอายุเดินจับมือกับหลานเล็ก - คนทำงานเดินกลับบ้านกลางดึก - เด็กนักเรียนที่ตกค้าง ต้องขอความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการเดินทาง แต่มันคือการเอาชีวิตรอด ในเมืองหลวงที่ไร้แผน ❗ ประเทศไทย "ยังไม่มี" แผนขนส่งฉุกเฉินที่ตอบโจทย์ แม้จะมีกฎหมาย พ.ร.บ. ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 แต่สิ่งที่หายไปคือ ✅ ความเร็วในการตอบสนอง ✅ ความเข้าใจพฤติกรรมผู้คน ✅ ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ภัยพิบัติแผ่นดินไหว ไม่มีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้า รัฐต้องมี "แผนไว้ก่อน" ไม่ใช่ "แผนหลังเกิดเหตุ" 📊 ถอดบทเรียนจากต่างประเทศ ญี่ปุ่นทำอย่างไร? ญี่ปุ่น 🇯🇵 เผชิญแผ่นดินไหวบ่อย แต่ยังเดินรถไฟฟ้าได้ เพราะอะไร? ✅ ญี่ปุ่นมีระบบเหล่านี้ - เดินรถไฟด้วยความเร็วต่ำ เมื่อเกิดแผ่นดินไหว - แจ้งเตือนล่วงหน้าผ่านแอป-SMS ภายในไม่กี่วินาที - วางแผนเส้นทางขนส่งสำรอง - ซักซ้อมแผนอพยพทุกปี - มีจุดรวมตัวปลอดภัยพร้อมน้ำ อาหาร แพทย์ ในขณะที่ไทย... ยังใช้เวลามากกว่า 30 นาที ในการแจ้งเตือนจากกรมอุตุ และกว่า 5 ชั่วโมงกว่าข้อความ SMS จะส่งถึงมือถือประชาชน 😓📵 🧭 แนวทางที่ไทยควรทำ และยังไม่ได้ทำ - สร้างระบบแจ้งเตือนภัยแบบ Real-time ไม่ใช่ให้คนไปรู้ข่าวจาก Facebook ก่อน - เตรียมเส้นทางขนส่งสำรอง พร้อมแผนขนย้ายมวลชน ไม่ใช่หยุดรถไฟฟ้าแล้วไม่บอกอะไรเลย - กำหนดเกณฑ์การปิดระบบขนส่งให้ชัดเจน และสมเหตุสมผล หยุดเดินรถได้ แต่ต้องรู้ว่าเมื่อไหร่จะกลับมา - ใช้เทคโนโลยีจัดการจราจรแบบ AI ให้รถฉุกเฉิน-รถช่วยเหลือเดินทางได้ง่ายขึ้น - สื่อสารแบบรวมศูนย์ ไม่ใช่หลายหน่วยงานพูดคนละทาง 💬 เสียงประชาชน เหนื่อย ใจหาย และรู้สึกโดดเดี่ยว “ตอนแผ่นดินไหว ตึกสั่น เราวิ่งลงมา แต่พอถึงพื้นดิน กลับไม่มีทางกลับบ้าน” “แท็กซี่ไม่รับ รถเมล์ก็ไม่มี ต้องเดินจากอโศกไปบางนา” “ถ้ารัฐมีแผนที่ดีกว่านี้ เราคงไม่ต้องเสี่ยงชีวิตแบบนี้” 🔚 อย่าปล่อยให้ภัยธรรมชาติ กลายเป็นภัยมนุษย์ แผ่นดินไหวครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ความรุนแรงทางธรรมชาติ แต่มันเปิดโปง “ความไร้ระบบ” ของรัฐในการรับมือวิกฤต ขนส่งล่ม = ความล้มเหลวของระบบราชการ ความเงียบของรัฐ = การทอดทิ้งประชาชน 🎯 อย่ารอให้เกิดเหตุการณ์ครั้งหน้า เราต้องเตรียมพร้อมให้ดีกว่านี้ ไม่ใช่เพื่อ “ความสะดวก” แต่เพื่อ “ความอยู่รอด” ของคนไทยทุกคน 🛑🇹🇭 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 291636 มี.ค. 2568 📱 #แผ่นดินไหวเขย่าไทย #รัฐไร้แผน #ขนส่งล่ม #ไม่มีทางกลับบ้าน #รถไฟฟ้าหยุด #ภัยพิบัติ2025 #ต้องเดินเท้า #บริหารล้มเหลว #ข่าวปลอมภัยพิบัติ #ภัยธรรมชาติหรือมนุษย์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 301 มุมมอง 0 รีวิว
  • ระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหวที่ดีที่สุดในโลกปัจจุบันคือ **ระบบ Earthquake Early Warning (EEW)** ของญี่ปุ่น ที่มีชื่อว่า **"ระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวล่วงหน้า (緊急地震速報, Kinkyū Jishin Sokuhō)"** ซึ่งดำเนินการโดย **Japan Meteorological Agency (JMA)**

    ### 🔍 **เหตุผลที่ญี่ปุ่นมีระบบที่ดีที่สุด**:
    1. **ความเร็วในการตรวจจับ**:
    - ญี่ปุ่นใช้เครือข่ายเซ็นเซอร์วัดแผ่นดินไหว (Seismometers) จำนวนมากทั่วประเทศ ที่สามารถตรวจจับคลื่นแผ่นดินไหว (คลื่น P) ได้ทันทีและส่งสัญญาณเตือนภายในเวลา **ไม่กี่วินาที** ก่อนที่คลื่นทำลายล้าง (คลื่น S) จะมาถึง
    - ในบางกรณี สามารถแจ้งเตือนได้ **5-30 วินาที** ก่อนเกิดการสั่นสะเทือนรุนแรง

    2. **การบูรณาการกับระบบสาธารณะ**:
    - การแจ้งเตือนถูกส่งไปยัง **โทรศัพท์มือถือทุกเครื่อง** ในพื้นที่เสี่ยงผ่านระบบ **J-Alert**
    - ระบบกระจายเสียงผ่าน **ทีวี วิทยุ และลำโพงฉุกเฉิน**
    - บางเมืองยังเชื่อมกับระบบขนส่ง เช่น **รถไฟชินคันเซน** ที่หยุดทำงานอัตโนมัติเมื่อได้รับสัญญาณเตือน

    3. **ความแม่นยำสูง**:
    - ญี่ปุ่นลงทุนในเทคโนโลยี AI และระบบประมวลผลแบบเรียลไทม์ เพื่อลด **ผลบวกปลอม (False Alarms)** และปรับปรุงความแม่นยำ

    4. **ประสบการณ์กับแผ่นดินไหว**:
    - ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อย จึงมีการพัฒนาระบบมาอย่างต่อเนื่อง เช่น หลังเหตุการณ์ **แผ่นดินไหวใหญ่ฮันชิน (1995)** และ **โทโฮกุ (2011)**

    ### 🌍 **ระบบอื่นๆ ที่น่าสนใจ**:
    - **สหรัฐอเมริกา (ShakeAlert)** – ใช้ในแคลิฟอร์เนีย ออริกอน และวอชิงตัน
    - **เม็กซิโก (SASMEX)** – แจ้งเตือนในเม็กซิโกซิตี้
    - **ไต้หวัน** – มีระบบที่คล้ายญี่ปุ่น แต่ครอบคลุมพื้นที่เล็กกว่า
    - **จีนและอินโดนีเซีย** – กำลังพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ### ⚠️ **ข้อจำกัดของระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว**:
    - **เวลาเตือนสั้นมาก** (มักไม่เกิน 1 นาที)
    - **ไม่สามารถทำนายแผ่นดินไหวได้ล่วงหน้า** แต่แจ้งเตือนเมื่อตรวจพบคลื่นแรกเท่านั้น
    - **ประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับระยะทางจากจุดศูนย์กลาง** (ถ้าอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ อาจได้รับแจ้งเตือนช้าหรือไม่ทัน)

    ### 🚨 **สรุป**:
    ญี่ปุ่นเป็นผู้นำด้านระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหวด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน แต่ละประเทศก็พยายามปรับปรุงระบบของตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อลดความสูญเสียจากภัยพิบัตินี้
    ระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหวที่ดีที่สุดในโลกปัจจุบันคือ **ระบบ Earthquake Early Warning (EEW)** ของญี่ปุ่น ที่มีชื่อว่า **"ระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวล่วงหน้า (緊急地震速報, Kinkyū Jishin Sokuhō)"** ซึ่งดำเนินการโดย **Japan Meteorological Agency (JMA)** ### 🔍 **เหตุผลที่ญี่ปุ่นมีระบบที่ดีที่สุด**: 1. **ความเร็วในการตรวจจับ**: - ญี่ปุ่นใช้เครือข่ายเซ็นเซอร์วัดแผ่นดินไหว (Seismometers) จำนวนมากทั่วประเทศ ที่สามารถตรวจจับคลื่นแผ่นดินไหว (คลื่น P) ได้ทันทีและส่งสัญญาณเตือนภายในเวลา **ไม่กี่วินาที** ก่อนที่คลื่นทำลายล้าง (คลื่น S) จะมาถึง - ในบางกรณี สามารถแจ้งเตือนได้ **5-30 วินาที** ก่อนเกิดการสั่นสะเทือนรุนแรง 2. **การบูรณาการกับระบบสาธารณะ**: - การแจ้งเตือนถูกส่งไปยัง **โทรศัพท์มือถือทุกเครื่อง** ในพื้นที่เสี่ยงผ่านระบบ **J-Alert** - ระบบกระจายเสียงผ่าน **ทีวี วิทยุ และลำโพงฉุกเฉิน** - บางเมืองยังเชื่อมกับระบบขนส่ง เช่น **รถไฟชินคันเซน** ที่หยุดทำงานอัตโนมัติเมื่อได้รับสัญญาณเตือน 3. **ความแม่นยำสูง**: - ญี่ปุ่นลงทุนในเทคโนโลยี AI และระบบประมวลผลแบบเรียลไทม์ เพื่อลด **ผลบวกปลอม (False Alarms)** และปรับปรุงความแม่นยำ 4. **ประสบการณ์กับแผ่นดินไหว**: - ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อย จึงมีการพัฒนาระบบมาอย่างต่อเนื่อง เช่น หลังเหตุการณ์ **แผ่นดินไหวใหญ่ฮันชิน (1995)** และ **โทโฮกุ (2011)** ### 🌍 **ระบบอื่นๆ ที่น่าสนใจ**: - **สหรัฐอเมริกา (ShakeAlert)** – ใช้ในแคลิฟอร์เนีย ออริกอน และวอชิงตัน - **เม็กซิโก (SASMEX)** – แจ้งเตือนในเม็กซิโกซิตี้ - **ไต้หวัน** – มีระบบที่คล้ายญี่ปุ่น แต่ครอบคลุมพื้นที่เล็กกว่า - **จีนและอินโดนีเซีย** – กำลังพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ### ⚠️ **ข้อจำกัดของระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว**: - **เวลาเตือนสั้นมาก** (มักไม่เกิน 1 นาที) - **ไม่สามารถทำนายแผ่นดินไหวได้ล่วงหน้า** แต่แจ้งเตือนเมื่อตรวจพบคลื่นแรกเท่านั้น - **ประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับระยะทางจากจุดศูนย์กลาง** (ถ้าอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ อาจได้รับแจ้งเตือนช้าหรือไม่ทัน) ### 🚨 **สรุป**: ญี่ปุ่นเป็นผู้นำด้านระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหวด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน แต่ละประเทศก็พยายามปรับปรุงระบบของตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อลดความสูญเสียจากภัยพิบัตินี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
  • SME D Bank ห่วงใยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบจาก “เหตุแผ่นดินไหว” ออกมาตรการด่วน พักชำระหนี้เงินต้น-ดอกเบี้ย 12 เดือน คู่เติมทุนฉุกเฉินฟื้นฟูกิจการ
    https://www.thai-tai.tv/news/17934/
    SME D Bank ห่วงใยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบจาก “เหตุแผ่นดินไหว” ออกมาตรการด่วน พักชำระหนี้เงินต้น-ดอกเบี้ย 12 เดือน คู่เติมทุนฉุกเฉินฟื้นฟูกิจการ https://www.thai-tai.tv/news/17934/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้บริหารออริจิ้น โดย นายพีระพงศ์ จรูญเอก (เจ้าของออริจิ้น) , นางสาวอารดา จรูญเอก และนายปิติ จารุกำจร​ เดินทางไปโครงการ​พาร์ค​ ออริจิ้น​ ทองหล่อ ตั้งแต่เมื่อคืน​วาน (28​ มีนาคม​ 2568​)​ เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกค้าในเบื้องต้น​ และนำทีมวิศวกรรวมทั้งทีมงานผู้เชี่ยวชาญวิศวกรรม ร่วมตรวจสอบโครงการ

    ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่างานโครงสร้างยังคงแข็งแรงปกติ

    และวันนี้ทางออริจิ้น​ ได้เร่งตั้ง "ศูนย์ช่วยเหลือลูกค้าฉุกเฉิน​ โทร​ 1498" เพื่ออำนวยความสะดวก และเข้าช่วยเหลือลูกบ้านออริจิ้นในทุกโครงการอย่างทันท่วงที

    โดยตั้งเป้าเข้าตรวจสอบโครงสร้างด้านความปลอดภัยโครงการภายในกรุงเทพและปริมณฑลทั้ง​ 87​ โครงการให้แล้วเสร็จภายใน​วันนี้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000029970

    #MGROnline #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    ผู้บริหารออริจิ้น โดย นายพีระพงศ์ จรูญเอก (เจ้าของออริจิ้น) , นางสาวอารดา จรูญเอก และนายปิติ จารุกำจร​ เดินทางไปโครงการ​พาร์ค​ ออริจิ้น​ ทองหล่อ ตั้งแต่เมื่อคืน​วาน (28​ มีนาคม​ 2568​)​ เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกค้าในเบื้องต้น​ และนำทีมวิศวกรรวมทั้งทีมงานผู้เชี่ยวชาญวิศวกรรม ร่วมตรวจสอบโครงการ • ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่างานโครงสร้างยังคงแข็งแรงปกติ • และวันนี้ทางออริจิ้น​ ได้เร่งตั้ง "ศูนย์ช่วยเหลือลูกค้าฉุกเฉิน​ โทร​ 1498" เพื่ออำนวยความสะดวก และเข้าช่วยเหลือลูกบ้านออริจิ้นในทุกโครงการอย่างทันท่วงที • โดยตั้งเป้าเข้าตรวจสอบโครงสร้างด้านความปลอดภัยโครงการภายในกรุงเทพและปริมณฑลทั้ง​ 87​ โครงการให้แล้วเสร็จภายใน​วันนี้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000029970 • #MGROnline #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพื่อตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของพล.อ.มิน อ่อง ลาย ผู้นำเมียนมา ในการขอความช่วยเหลือต่อนานาชาติหลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ทีมกู้ภัยจีนชุดแรกเดินทางมาถึงเมียนมาพร้อมสิ่งของช่วยเหลือฉุกเฉิน
    เพื่อตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของพล.อ.มิน อ่อง ลาย ผู้นำเมียนมา ในการขอความช่วยเหลือต่อนานาชาติหลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ทีมกู้ภัยจีนชุดแรกเดินทางมาถึงเมียนมาพร้อมสิ่งของช่วยเหลือฉุกเฉิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 4 0 รีวิว
  • สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) คาดการณ์ว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในเมียนมาวันนี้ จะทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 10,000-100,000 ราย และจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเมียนมาทั้งนี้ ดร.โรเจอร์ มัสซัน กล่าวว่า ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวอิงอยู่บนข้อมูลแผ่นดินไหวในอดีต และอยู่บนขนาดและที่ตั้งของเมียนมา และความพร้อมโดยรวมในการรับมือแผ่นดินไหวดร.มัสซันกล่าวว่า การที่แผ่นดินไหวดังกล่าวมีความลึกเพียง 6.2 ไมล์ ได้ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง เนื่องจากคลื่นแผ่นดินไหวไม่มีการกระจายตัวเมื่อเดินทางจากศูนย์กลางขึ้นสู่พื้นดิน ส่งผลให้อาคารต่าง ๆ ได้รับแรงกระทบอย่างเต็มที่นอกจากนี้ การที่อาคารบ้านเรือนของเมียนมาไม่ได้สร้างขึ้นมาให้รองรับแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงเท่ากับในวันนี้ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวว่า มีผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในวันนี้อย่างน้อย 144 ราย และบาดเจ็บ 730 ราย"เราคาดว่าจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก" พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของเมียนมาUSGS รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.7 แมกนิจูดใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์ของเมียนมาในวันนี้ และตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อก 6.4 แมกนิจูดเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ระดับความลึกเพียง 10 กิโลเมตร และใกล้กับรอยเลื่อนสะกาย ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่ยังคงมีพลัง และทอดยาวผ่านตอนกลางของเมียนมานอกจากนี้ แผ่นดินไหวดังกล่าวยังรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงเทพฯ เวียดนาม และมณฑลยูนนานของจีนรัฐบาลทหารของเมียนมาได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศในวันนี้ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนัก และคาดว่าจะมีผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก"เราต้องการให้ประชาคมระหว่างประเทศให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" พลตรีซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลเมียนมา กล่าวต่อผู้สื่อข่าว AFPพลตรีซอ มิน ตุนกล่าวเสริมว่า เมียนมาต้องการได้รับการบริจาคโลหิตสำหรับผู้ที่บาดเจ็บซึ่งเข้ารับการรักษาตัวในมัณฑะเลย์ เนปิดอว์ และสะกายทั้งนี้ การเรียกร้องความช่วยเหลือจากต่างชาติถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลทหารของเมียนมาแทบไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งบ่งชี้ถึงผลกระทบที่รุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว ขณะที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตสะกาย มัณฑะเลย์ เนปืดอว์ พะโค มะเกวย์ และรัฐฉานโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ อินโฟเควสต์
    สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) คาดการณ์ว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในเมียนมาวันนี้ จะทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 10,000-100,000 ราย และจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเมียนมาทั้งนี้ ดร.โรเจอร์ มัสซัน กล่าวว่า ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวอิงอยู่บนข้อมูลแผ่นดินไหวในอดีต และอยู่บนขนาดและที่ตั้งของเมียนมา และความพร้อมโดยรวมในการรับมือแผ่นดินไหวดร.มัสซันกล่าวว่า การที่แผ่นดินไหวดังกล่าวมีความลึกเพียง 6.2 ไมล์ ได้ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง เนื่องจากคลื่นแผ่นดินไหวไม่มีการกระจายตัวเมื่อเดินทางจากศูนย์กลางขึ้นสู่พื้นดิน ส่งผลให้อาคารต่าง ๆ ได้รับแรงกระทบอย่างเต็มที่นอกจากนี้ การที่อาคารบ้านเรือนของเมียนมาไม่ได้สร้างขึ้นมาให้รองรับแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงเท่ากับในวันนี้ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวว่า มีผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในวันนี้อย่างน้อย 144 ราย และบาดเจ็บ 730 ราย"เราคาดว่าจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก" พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของเมียนมาUSGS รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.7 แมกนิจูดใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์ของเมียนมาในวันนี้ และตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อก 6.4 แมกนิจูดเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ระดับความลึกเพียง 10 กิโลเมตร และใกล้กับรอยเลื่อนสะกาย ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่ยังคงมีพลัง และทอดยาวผ่านตอนกลางของเมียนมานอกจากนี้ แผ่นดินไหวดังกล่าวยังรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงเทพฯ เวียดนาม และมณฑลยูนนานของจีนรัฐบาลทหารของเมียนมาได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศในวันนี้ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนัก และคาดว่าจะมีผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก"เราต้องการให้ประชาคมระหว่างประเทศให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" พลตรีซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลเมียนมา กล่าวต่อผู้สื่อข่าว AFPพลตรีซอ มิน ตุนกล่าวเสริมว่า เมียนมาต้องการได้รับการบริจาคโลหิตสำหรับผู้ที่บาดเจ็บซึ่งเข้ารับการรักษาตัวในมัณฑะเลย์ เนปิดอว์ และสะกายทั้งนี้ การเรียกร้องความช่วยเหลือจากต่างชาติถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลทหารของเมียนมาแทบไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งบ่งชี้ถึงผลกระทบที่รุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว ขณะที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตสะกาย มัณฑะเลย์ เนปืดอว์ พะโค มะเกวย์ และรัฐฉานโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ อินโฟเควสต์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 0 รีวิว
  • SpaceX เตรียมสร้างประวัติศาสตร์ด้วยภารกิจ Fram2 ที่พายาน Crew Dragon บินผ่านขั้วโลกทั้งสอง โดยต้องปรับซอฟต์แวร์และเส้นทางใหม่เพื่อความปลอดภัย ภารกิจนี้ยังเพิ่มอินเทอร์เน็ต Starlink บนยานเพื่อรองรับการใช้งานระหว่างการโคจร ถือเป็นก้าวใหม่ที่น่าสนใจในเทคโนโลยีการบินอวกาศ

    ปรับเปลี่ยนเส้นทางบินครั้งสำคัญ:
    - เส้นทางบินของ Fram2 จะพุ่งตรงไปทางใต้ ผ่านฟลอริดา คิวบา ปานามา และทางตะวันตกของเปรูและเอกวาดอร์ ซึ่งเป็นการเบี่ยงเบนจากภารกิจทั่วไปของ SpaceX ที่มักจะมุ่งเน้นไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ทางตะวันออกเฉียงเหนือ.

    ปรับปรุงซอฟต์แวร์และความปลอดภัย:
    - ยาน Crew Dragon ได้รับการปรับซอฟต์แวร์เพื่อให้สามารถลงจอดในน้ำได้อย่างปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน ขณะเดียวกัน Falcon 9 ก็เปลี่ยนการลงจอดใหม่ โดยใช้การเบิร์น "boost-back" สั้น ๆ เพื่อให้ลงจอดในน่านน้ำสากล.

    การสื่อสารในขั้วโลก:
    - SpaceX เพิ่มสถานี Starlink ในยาน Crew Dragon เพื่อให้ลูกเรือสามารถใช้อินเทอร์เน็ตด้วยความเร็ว 1 กิกะบิตต่อวินาทีในระหว่างการโคจรผ่านขั้วโลก.

    ความท้าทายใหม่ที่ต้องเผชิญ:
    - การลงจอดทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ในภารกิจนี้เป็นครั้งแรก เพื่อป้องกันความเสียหายจากอุปกรณ์ที่ติดตั้งในส่วน "trunk" ของยาน นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงชั้นเมฆที่อาจเป็นปัญหาสำหรับเฮลิคอปเตอร์กู้ยาน.

    https://wccftech.com/spacex-spills-the-beans-on-historys-first-astronaut-mission-to-the-earths-poles/
    SpaceX เตรียมสร้างประวัติศาสตร์ด้วยภารกิจ Fram2 ที่พายาน Crew Dragon บินผ่านขั้วโลกทั้งสอง โดยต้องปรับซอฟต์แวร์และเส้นทางใหม่เพื่อความปลอดภัย ภารกิจนี้ยังเพิ่มอินเทอร์เน็ต Starlink บนยานเพื่อรองรับการใช้งานระหว่างการโคจร ถือเป็นก้าวใหม่ที่น่าสนใจในเทคโนโลยีการบินอวกาศ ปรับเปลี่ยนเส้นทางบินครั้งสำคัญ: - เส้นทางบินของ Fram2 จะพุ่งตรงไปทางใต้ ผ่านฟลอริดา คิวบา ปานามา และทางตะวันตกของเปรูและเอกวาดอร์ ซึ่งเป็นการเบี่ยงเบนจากภารกิจทั่วไปของ SpaceX ที่มักจะมุ่งเน้นไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ทางตะวันออกเฉียงเหนือ. ปรับปรุงซอฟต์แวร์และความปลอดภัย: - ยาน Crew Dragon ได้รับการปรับซอฟต์แวร์เพื่อให้สามารถลงจอดในน้ำได้อย่างปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน ขณะเดียวกัน Falcon 9 ก็เปลี่ยนการลงจอดใหม่ โดยใช้การเบิร์น "boost-back" สั้น ๆ เพื่อให้ลงจอดในน่านน้ำสากล. การสื่อสารในขั้วโลก: - SpaceX เพิ่มสถานี Starlink ในยาน Crew Dragon เพื่อให้ลูกเรือสามารถใช้อินเทอร์เน็ตด้วยความเร็ว 1 กิกะบิตต่อวินาทีในระหว่างการโคจรผ่านขั้วโลก. ความท้าทายใหม่ที่ต้องเผชิญ: - การลงจอดทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ในภารกิจนี้เป็นครั้งแรก เพื่อป้องกันความเสียหายจากอุปกรณ์ที่ติดตั้งในส่วน "trunk" ของยาน นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงชั้นเมฆที่อาจเป็นปัญหาสำหรับเฮลิคอปเตอร์กู้ยาน. https://wccftech.com/spacex-spills-the-beans-on-historys-first-astronaut-mission-to-the-earths-poles/
    WCCFTECH.COM
    SpaceX Spills The Beans On History's First Astronaut Mission To The Earth's Poles!
    SpaceX shares details about its historic Fram2 launch to the Earth's poles on coming Monday. Take a look here for more!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในขณะที่สหรัฐและอิสราเอลกำลังร่วมมือกันถล่มเยเมน เลบานอน ซีเรีย และกาซาให้ย่อยยับ

    อีกฟากหนึ่ง! กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของรัสเซีย (EMERCOM) ได้ส่งเครื่องบิน 2 ลำพร้อมทีมกู้ภัยและแพทย์พร้อมสิ่งของช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปที่เมียนมาร์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่ง
    ในขณะที่สหรัฐและอิสราเอลกำลังร่วมมือกันถล่มเยเมน เลบานอน ซีเรีย และกาซาให้ย่อยยับ อีกฟากหนึ่ง! กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของรัสเซีย (EMERCOM) ได้ส่งเครื่องบิน 2 ลำพร้อมทีมกู้ภัยและแพทย์พร้อมสิ่งของช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปที่เมียนมาร์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่ง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • รีโพสต์จากเพจEnvironman 28 มีนาคม 2568 “ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี แผ่นดินไหว แต่เห็นได้ชัดเลยว่าประเทศไทยและรัฐบาลยังไม่ไหว.เหตุการณ์วันนี้ยิ่งสาดส่องสปอตไลท์ในสิ่งที่ชัดอยู่แล้วให้ชัดยิ่งขึ้นไปอีก ว่าเราไม่มีความพร้อมในการรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่รู้ว่าจะถอดกันอีกกี่บทเรียน กว่าที่รัฐจะมีมาตรการเตรียมพร้อมในการรับมือกับเหตุการณ์อะไรแบบนี้ .ใครมีความคิดเห็น มีอะไรจะเพิ่มก็เต็มที่เลยนะ แต่นี่คือสิ่งที่รับรู้ได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้และนี่ไม่ใช่การถอดบทเรียนอะไรทั้งนั้น นี่คือการเล่าระบายล้วน ๆ.⚫️ 1. ประชาชนต้อง Emergency Alert กันเอง.จนถึงตอนนี้ ณ เวลาที่กำลังเขียน (19:52 น.) ข้าพเจ้ายังไม่ได้ SMS จากกระทรวงทบวงกรมใดๆ เลยขอรับ คือเข้าใจว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องปกติที่เกิดขึ้นบ่อย แต่หลังจากท่านนายกออกมาแถลงว่าจะมีการแจ้งเตือนตั้งแต่ช่วงบ่ายสอง ตอนนี้อาฟเตอร์กันไปแล้วไม่รู้กี่ช็อค ก็ยังเงียบกริบ .อีกพาร์ทนึงก็ต้องชมคนไทยที่ใส่ใจโซเชียล ที่ช่วยกันอัพเดท แชร์ข้อมูล คอยรายงานให้ได้ติดตามกัน แต่มันคือช่วงเวลาแบบนี้ไม่ใช่หรอ ที่ประชาชนอย่างเราจะหันไปหวังพึ่งรัฐ ที่ผู้เสียภาษีอย่างเราจะหวังพึ่งคุณภาพชีวิตพื้นฐานที่ควรได้รับ กลายเป็นว่าเราต้องเช็คกันเองว่าเกิดอะไรขึ้น เอาตรงๆ คือผมเป็นคนหนึ่งที่หาแถลงการณ์จากรัฐตอนเกิดเหตุ เพราะบางทีก็กลัวว่าชาวเน็ตบางกลุ่มจะเฟคนิวส์ล่อเอ็นเกจ แต่ก็ต้องผิดหวังต่อไป.⚫️ 2. หน้ามืด นอนน้อยกันทั้งแผ่นดิน.เชื่อแล้วว่าคนไทยทำงานหนักครับ 90% พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘คิดว่าตัวเองไม่สบาย’ ไม่มีใครคิดว่ามันคือแผ่นดินไหวเลย แต่ก็เข้าใจได้ ใครจะไปคิดว่าจะมีแผ่นดินไหวในไทย โดยเฉพาะชาวกทม. คือทุกคนเทไปว่าตัวเองโหมงาน นอนน้อยกันหมด ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แอบเศร้าหน่อย ๆ นะ.ส่วนอีกเรื่องคือ 90% ของคนที่อยู่คอนโดอพาร์ตเม้นตท์ มีสัตว์เลี้ยงที่นิติไม่รู้ แต่จะมารู้ก็วันนี้แหละ ถ้าพูดให้ไม่ติดตลก ผมคิดว่าอยากให้สถานที่คำนึงถึงความเป็น Pet-Friendly ให้มากขึ้น ปัจจุบันมีคนมีสัตว์เลี้ยงเยอะมาก จะด้วยเพื่อแก้เหงาหรือเป็นยุคที่ไม่ค่อยอยากมีลูกหรืออะไรก็ว่าไป แต่ผมเห็นว่าพื้นที่ที่สามารถพาสัตว์ไปร่วมกิจกรรมกับเจ้าของนั้นมีน้อยมาก.⚫️ 3. ระบบขนส่งสาธารณะล่มสลาย.สัญชาตญาณแรกของคนหลังเกิดแผ่นดินไหวคือหาที่ปลอดภัย ซึ่งส่วนมากก็น่าจะนึกถึงบ้าน แต่ระบบขนส่งสาธารณะทั้งหมดดูเหมือนจะไม่เพียงพอ ไม่มีแผนสำรอง ไม่มีโปรโตคอลฉุกเฉิน ไม่มีช่องทางพิเศษ ไม่มีอะไรเลย การจราจรติดแหง็ก ผู้คนติดแหง็ก ไร้ทางออก เกิดอะไรขึ้นก็ไม่บอก จะเดินทางไปไหนก็ไม่ได้ .ญี่ปุ่นเวลาเจอแผ่นดินไหว ประเทศเขาจะสวิตช์เป็นโหมดฉุกเฉินทันที รถไฟฟ้าก็จะมีมาตรการฉุกเฉินในการรับมือ รัฐมีการตกลงกับบริษัทขนส่งเอกชน แท็กซี่ ให้ออกมาช่วยอพยพหรือขนถ่ายคนในช่วงที่รถไฟฟ้าไม่สามารถใช้งานได้ มีการจัดการควบคุมจราจรอย่างเข้มงวดให้คนไม่ติดแหง็กอยู่อย่างนั้น อีกเรื่องคือญี่ปุ่นมีศูนย์พักพิง คือใครที่ยังกลับบ้านไม่ได้ ก็มาพักรอก่อนได้ เอาจริงศูนย์พักพิงญี่ปุ่นคือมีอาหาร มีน้ำ มีอุปกรณ์พื้นฐานให้พร้อม ไม่ปล่อยให้ใครต้องเร่ร่อนอยู่บนถนน.ผมดักไว้ก่อนเลยว่าจะมีคนอ้างว่า ญี่ปุ่นเจอกับแผ่นดินไหวบ่อยจนชิน ของเรานี่แทบจะเป็นครั้งแรกในชีวิตของใครหลายคนเลยนะ จะวิจารณ์ขนาดนั้นก็เกินไป แต่ต้องบอกว่าตอนนี้โลกเรารวนไปหมดแล้ว ปีนี้เราเห็นว่าเกิดภัยพิบัติที่รุนแรงมากมายทั่วโลก อยากลองชวนคนที่แย้งเรื่องทำไมผมถึงเอาเราไปเทียบกับญี่ปุ่น มาแลกเปลี่ยนโต้แย้งเกี่ยวกับการจัดการเหตุฉุกเฉินพื้นฐานของบ้านเรามากกว่า พื้นฐานที่ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็ควรรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวหรือเกิดภัยพิบัติอื่นใดก็ตาม เพราะนี่คือโครงสร้างที่เราต้องมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เราติดท็อป 10 ของประเทศที่จะได้รับผลกระทบจาก Climate Change ซึ่งจะมาในรูปแบบใดบ้างก็ไม่รู้.⚫️ 4. ระบบสาธารณสุขยังเปราะบาง.อันนี้เรามีบทเรียนจากโควิด-19 มาแล้ว แต่เหมือนจะยังถอดบทเรียนกันไม่เสร็จ การอพยพผู้ป่วยในยามฉุกเฉิน หรือโซนที่ให้โรงพยาบาลยังสามารถดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัยในช่วงวิกฤต ตามข่าวยังเห็นโรงพยาบาลเอาคนไข้ออกมาผ่าตัดกลางแจ้งเพราะเป็นเคสด่วนอยู่เลย ซึ่งนี่คือคำถาม นี่คือโจทย์ที่เราเอามาคิดตั้งแต่ตอนนี้จนถึงอนาคตว่าเมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้ เราจะรับมือและจะมีมาตรการอย่างไร .นี่ไม่ใช่การสักแต่ว่าจะด่าก็ด่านะครับ และใครจะหาว่าการเมืองก็เอาเถอะ แต่นี่เห็นได้ชัดเลยว่ารัฐบาลขาดความพร้อมอย่างมากในการรับมือ จริงอยู่ที่เราไม่ได้เจอแผ่นดินไหวเป็นประจำ แต่นั่นก็ยิ่งทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้น่ากลัวมาก ผมคิดว่ายิ่งช่วงเวลาแบบนี้ที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดนี่แหละ ที่จะยิ่งเป็นตัววัดว่าเราโครงสร้างพื้นฐานเราพร้อมแค่ไหน ซึ่งผมคิดว่าไม่มีใครใกล้เคียงกับพร้อมเลย ไม่รู้ทุกคนว่ายังไง.เรื่องความปลอดภัยมันมากับความเชื่อมั่นด้วยนะ วันนี้ในกรุ๊ปแชทก็คือมีเพื่อนๆ พิมพ์มาว่า ‘กูจะมั่นใจโครงสร้างตึกไทยได้มากขนาดไหน’ ซึ่งเป็นตลกร้ายมาก ๆ ที่ตอนนี้เรามีความเชื่อมั่นกับอะไรพวกนี้ต่ำมาก ทั้ง ๆ ที่ควรจะเป็นตรงกันข้าม .วันนี้เป็นวันที่ทุกคนควรจะมีคำถาม เราเคยเจอน้ำท่วม เจอพายุ เจอโควิด แต่เราได้เรียนรู้อะไรจากมันบ้าง ‘หรือเปล่า’ ? ผมเองมีคำว่าทำไมเยอะมาก ทำไมการแจ้งเตือนล่าช้ามาก ทำไมระบบขนส่งสาธารณะและสาธารณสุขถึงไม่พร้อม ทำไมคุณภาพชีวิตของเรามันเปราะบางขนาดนี้ ขออภัยที่ยาวและวนยืดเยื้อ แต่มันคือความอัดอั้นที่อยากแชร์ออกมา.สุดท้ายนี้ เราขอแสดงความเสียใจให้กับผู้ที่สูญเสียจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ด้วยนะครับและขอให้ทุกชีวิตปลอดภัยครับ
    รีโพสต์จากเพจEnvironman 28 มีนาคม 2568 “ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี แผ่นดินไหว แต่เห็นได้ชัดเลยว่าประเทศไทยและรัฐบาลยังไม่ไหว.เหตุการณ์วันนี้ยิ่งสาดส่องสปอตไลท์ในสิ่งที่ชัดอยู่แล้วให้ชัดยิ่งขึ้นไปอีก ว่าเราไม่มีความพร้อมในการรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่รู้ว่าจะถอดกันอีกกี่บทเรียน กว่าที่รัฐจะมีมาตรการเตรียมพร้อมในการรับมือกับเหตุการณ์อะไรแบบนี้ .ใครมีความคิดเห็น มีอะไรจะเพิ่มก็เต็มที่เลยนะ แต่นี่คือสิ่งที่รับรู้ได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้และนี่ไม่ใช่การถอดบทเรียนอะไรทั้งนั้น นี่คือการเล่าระบายล้วน ๆ.⚫️ 1. ประชาชนต้อง Emergency Alert กันเอง.จนถึงตอนนี้ ณ เวลาที่กำลังเขียน (19:52 น.) ข้าพเจ้ายังไม่ได้ SMS จากกระทรวงทบวงกรมใดๆ เลยขอรับ คือเข้าใจว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องปกติที่เกิดขึ้นบ่อย แต่หลังจากท่านนายกออกมาแถลงว่าจะมีการแจ้งเตือนตั้งแต่ช่วงบ่ายสอง ตอนนี้อาฟเตอร์กันไปแล้วไม่รู้กี่ช็อค ก็ยังเงียบกริบ .อีกพาร์ทนึงก็ต้องชมคนไทยที่ใส่ใจโซเชียล ที่ช่วยกันอัพเดท แชร์ข้อมูล คอยรายงานให้ได้ติดตามกัน แต่มันคือช่วงเวลาแบบนี้ไม่ใช่หรอ ที่ประชาชนอย่างเราจะหันไปหวังพึ่งรัฐ ที่ผู้เสียภาษีอย่างเราจะหวังพึ่งคุณภาพชีวิตพื้นฐานที่ควรได้รับ กลายเป็นว่าเราต้องเช็คกันเองว่าเกิดอะไรขึ้น เอาตรงๆ คือผมเป็นคนหนึ่งที่หาแถลงการณ์จากรัฐตอนเกิดเหตุ เพราะบางทีก็กลัวว่าชาวเน็ตบางกลุ่มจะเฟคนิวส์ล่อเอ็นเกจ แต่ก็ต้องผิดหวังต่อไป.⚫️ 2. หน้ามืด นอนน้อยกันทั้งแผ่นดิน.เชื่อแล้วว่าคนไทยทำงานหนักครับ 90% พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘คิดว่าตัวเองไม่สบาย’ ไม่มีใครคิดว่ามันคือแผ่นดินไหวเลย แต่ก็เข้าใจได้ ใครจะไปคิดว่าจะมีแผ่นดินไหวในไทย โดยเฉพาะชาวกทม. คือทุกคนเทไปว่าตัวเองโหมงาน นอนน้อยกันหมด ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แอบเศร้าหน่อย ๆ นะ.ส่วนอีกเรื่องคือ 90% ของคนที่อยู่คอนโดอพาร์ตเม้นตท์ มีสัตว์เลี้ยงที่นิติไม่รู้ แต่จะมารู้ก็วันนี้แหละ ถ้าพูดให้ไม่ติดตลก ผมคิดว่าอยากให้สถานที่คำนึงถึงความเป็น Pet-Friendly ให้มากขึ้น ปัจจุบันมีคนมีสัตว์เลี้ยงเยอะมาก จะด้วยเพื่อแก้เหงาหรือเป็นยุคที่ไม่ค่อยอยากมีลูกหรืออะไรก็ว่าไป แต่ผมเห็นว่าพื้นที่ที่สามารถพาสัตว์ไปร่วมกิจกรรมกับเจ้าของนั้นมีน้อยมาก.⚫️ 3. ระบบขนส่งสาธารณะล่มสลาย.สัญชาตญาณแรกของคนหลังเกิดแผ่นดินไหวคือหาที่ปลอดภัย ซึ่งส่วนมากก็น่าจะนึกถึงบ้าน แต่ระบบขนส่งสาธารณะทั้งหมดดูเหมือนจะไม่เพียงพอ ไม่มีแผนสำรอง ไม่มีโปรโตคอลฉุกเฉิน ไม่มีช่องทางพิเศษ ไม่มีอะไรเลย การจราจรติดแหง็ก ผู้คนติดแหง็ก ไร้ทางออก เกิดอะไรขึ้นก็ไม่บอก จะเดินทางไปไหนก็ไม่ได้ .ญี่ปุ่นเวลาเจอแผ่นดินไหว ประเทศเขาจะสวิตช์เป็นโหมดฉุกเฉินทันที รถไฟฟ้าก็จะมีมาตรการฉุกเฉินในการรับมือ รัฐมีการตกลงกับบริษัทขนส่งเอกชน แท็กซี่ ให้ออกมาช่วยอพยพหรือขนถ่ายคนในช่วงที่รถไฟฟ้าไม่สามารถใช้งานได้ มีการจัดการควบคุมจราจรอย่างเข้มงวดให้คนไม่ติดแหง็กอยู่อย่างนั้น อีกเรื่องคือญี่ปุ่นมีศูนย์พักพิง คือใครที่ยังกลับบ้านไม่ได้ ก็มาพักรอก่อนได้ เอาจริงศูนย์พักพิงญี่ปุ่นคือมีอาหาร มีน้ำ มีอุปกรณ์พื้นฐานให้พร้อม ไม่ปล่อยให้ใครต้องเร่ร่อนอยู่บนถนน.ผมดักไว้ก่อนเลยว่าจะมีคนอ้างว่า ญี่ปุ่นเจอกับแผ่นดินไหวบ่อยจนชิน ของเรานี่แทบจะเป็นครั้งแรกในชีวิตของใครหลายคนเลยนะ จะวิจารณ์ขนาดนั้นก็เกินไป แต่ต้องบอกว่าตอนนี้โลกเรารวนไปหมดแล้ว ปีนี้เราเห็นว่าเกิดภัยพิบัติที่รุนแรงมากมายทั่วโลก อยากลองชวนคนที่แย้งเรื่องทำไมผมถึงเอาเราไปเทียบกับญี่ปุ่น มาแลกเปลี่ยนโต้แย้งเกี่ยวกับการจัดการเหตุฉุกเฉินพื้นฐานของบ้านเรามากกว่า พื้นฐานที่ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็ควรรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวหรือเกิดภัยพิบัติอื่นใดก็ตาม เพราะนี่คือโครงสร้างที่เราต้องมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เราติดท็อป 10 ของประเทศที่จะได้รับผลกระทบจาก Climate Change ซึ่งจะมาในรูปแบบใดบ้างก็ไม่รู้.⚫️ 4. ระบบสาธารณสุขยังเปราะบาง.อันนี้เรามีบทเรียนจากโควิด-19 มาแล้ว แต่เหมือนจะยังถอดบทเรียนกันไม่เสร็จ การอพยพผู้ป่วยในยามฉุกเฉิน หรือโซนที่ให้โรงพยาบาลยังสามารถดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัยในช่วงวิกฤต ตามข่าวยังเห็นโรงพยาบาลเอาคนไข้ออกมาผ่าตัดกลางแจ้งเพราะเป็นเคสด่วนอยู่เลย ซึ่งนี่คือคำถาม นี่คือโจทย์ที่เราเอามาคิดตั้งแต่ตอนนี้จนถึงอนาคตว่าเมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้ เราจะรับมือและจะมีมาตรการอย่างไร .นี่ไม่ใช่การสักแต่ว่าจะด่าก็ด่านะครับ และใครจะหาว่าการเมืองก็เอาเถอะ แต่นี่เห็นได้ชัดเลยว่ารัฐบาลขาดความพร้อมอย่างมากในการรับมือ จริงอยู่ที่เราไม่ได้เจอแผ่นดินไหวเป็นประจำ แต่นั่นก็ยิ่งทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้น่ากลัวมาก ผมคิดว่ายิ่งช่วงเวลาแบบนี้ที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดนี่แหละ ที่จะยิ่งเป็นตัววัดว่าเราโครงสร้างพื้นฐานเราพร้อมแค่ไหน ซึ่งผมคิดว่าไม่มีใครใกล้เคียงกับพร้อมเลย ไม่รู้ทุกคนว่ายังไง.เรื่องความปลอดภัยมันมากับความเชื่อมั่นด้วยนะ วันนี้ในกรุ๊ปแชทก็คือมีเพื่อนๆ พิมพ์มาว่า ‘กูจะมั่นใจโครงสร้างตึกไทยได้มากขนาดไหน’ ซึ่งเป็นตลกร้ายมาก ๆ ที่ตอนนี้เรามีความเชื่อมั่นกับอะไรพวกนี้ต่ำมาก ทั้ง ๆ ที่ควรจะเป็นตรงกันข้าม .วันนี้เป็นวันที่ทุกคนควรจะมีคำถาม เราเคยเจอน้ำท่วม เจอพายุ เจอโควิด แต่เราได้เรียนรู้อะไรจากมันบ้าง ‘หรือเปล่า’ ? ผมเองมีคำว่าทำไมเยอะมาก ทำไมการแจ้งเตือนล่าช้ามาก ทำไมระบบขนส่งสาธารณะและสาธารณสุขถึงไม่พร้อม ทำไมคุณภาพชีวิตของเรามันเปราะบางขนาดนี้ ขออภัยที่ยาวและวนยืดเยื้อ แต่มันคือความอัดอั้นที่อยากแชร์ออกมา.สุดท้ายนี้ เราขอแสดงความเสียใจให้กับผู้ที่สูญเสียจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ด้วยนะครับและขอให้ทุกชีวิตปลอดภัยครับ
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 391 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานจากศูนย์นเรนทร สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เวลา 16.20 น.
    .
    จากสถานการณ์อาคารที่อยู่ระหว่างก่อสร้างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว สพฉ. ได้รับแจ้งจากหัวหน้างานก่อสร้างอาคารดังกล่าวว่า มีคนงานก่อสร้างจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 320 คน ขณะนี้สูญหายจำนวน 70 คน ยังมีคนงานติดอยู่ในช่องลิฟท์ 20 คน สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด
    รายงานจากศูนย์นเรนทร สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เวลา 16.20 น. . จากสถานการณ์อาคารที่อยู่ระหว่างก่อสร้างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว สพฉ. ได้รับแจ้งจากหัวหน้างานก่อสร้างอาคารดังกล่าวว่า มีคนงานก่อสร้างจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 320 คน ขณะนี้สูญหายจำนวน 70 คน ยังมีคนงานติดอยู่ในช่องลิฟท์ 20 คน สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯ ประกาศ กทม. เป็นพื้นที่ฉุกเฉิน เผยมีอาฟเตอร์ช็อกอีกภายใน 2 ชม.
    https://www.thai-tai.tv/news/17889/
    นายกฯ ประกาศ กทม. เป็นพื้นที่ฉุกเฉิน เผยมีอาฟเตอร์ช็อกอีกภายใน 2 ชม. https://www.thai-tai.tv/news/17889/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัจจุบัน **ยังไม่มีวิธีการพยากรณ์แผ่นดินไหวที่แม่นยำและถูกต้อง 100%** ในทางวิทยาศาสตร์ แผ่นดินไหวเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ซับซ้อน และยังไม่มีเทคโนโลยีหรือวิธีการใดที่สามารถทำนายเวลา สถานที่ และขนาดของแผ่นดินไหวได้อย่างแน่นอน

    ### **เหตุผลที่การพยากรณ์แผ่นดินไหวยังทำได้ยาก**
    1. **กระบวนการเกิดแผ่นดินไหวซับซ้อน**
    - แผ่นดินไหวเกิดจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกอย่างฉับพลัน ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความเค้น (stress) การสะสมพลังงาน และความเสียดทานระหว่างหิน
    - การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดขึ้นใต้ดินลึก ทำให้ติดตามและวัดได้ยาก

    2. **ขาดข้อมูลที่เพียงพอ**
    - แม้จะมีเครือข่ายเซ็นเซอร์วัดแผ่นดินไหว (seismometers) และระบบ GPS ติดตามการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก แต่ข้อมูลเหล่านี้มักบอกได้เพียง **"ความเสี่ยง"** ของพื้นที่ ไม่ใช่เวลาที่แน่นอน

    3. **ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าที่ชัดเจน**
    - บางครั้งอาจพบสัญญาณก่อนเกิดแผ่นดินไหว เช่น การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำใต้ดิน หรือการเกิดแผ่นดินไหวเล็กๆ (foreshocks) แต่ก็ไม่เสมอไป และมักไม่สามารถยืนยันได้จนกว่าแผ่นดินไหวใหญ่จะเกิดขึ้น

    ### **ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในการเตือนภัยแผ่นดินไหว**
    แม้จะไม่สามารถพยากรณ์ได้ล่วงหน้า แต่มีระบบที่ช่วย **เตือนภัยก่อนเกิดแผ่นดินไหว (Early Warning System)** เช่น:
    - **ระบบ ShakeAlert (สหรัฐฯ), ระบบ J-Alert (ญี่ปุ่น)**
    - ใช้คลื่นแผ่นดินไหวที่เดินทางเร็วกว่า (คลื่น P) เพื่อส่งสัญญาณเตือนก่อนที่คลื่นทำลาย (คลื่น S) จะมาถึง
    - ช่วยให้มีเวลาเตรียมตัว **เพียงไม่กี่วินาทีถึงนาที**

    - **การประเมินความเสี่ยงระยะยาว**
    - นักวิทยาศาสตร์สามารถระบุ **พื้นที่เสี่ยงสูง** จากประวัติแผ่นดินไหวและรอยเลื่อนมีพลัง เช่น แถบวงแหวนไฟแปซิฟิก (Ring of Fire)

    ### **ข้อสรุป**
    - **ยังไม่มีการพยากรณ์แผ่นดินไหวที่แม่นยำ** ในแง่ของการบอกเวลาและขนาดได้ล่วงหน้า
    - **ระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว (Early Warning)** สามารถช่วยลดความเสียหายได้บ้าง แต่ให้เวลาเตรียมตัวน้อยมาก
    - วิธีที่ดีที่สุดคือ **เตรียมความพร้อม** เช่น รู้จุดปลอดภัยในบ้าน มีชุดฉุกเฉิน และฝึกซ้อม应对แผ่นดินไหว

    หากมีข่าวเกี่ยวกับการทำนายแผ่นดินไหวที่อ้างว่าแม่นยำ ควรตรวจสอบแหล่งที่มาให้ดี เพราะปัจจุบันยังไม่มีเทคโนโลยีที่สามารถทำได้อย่างแน่นอน!
    ปัจจุบัน **ยังไม่มีวิธีการพยากรณ์แผ่นดินไหวที่แม่นยำและถูกต้อง 100%** ในทางวิทยาศาสตร์ แผ่นดินไหวเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ซับซ้อน และยังไม่มีเทคโนโลยีหรือวิธีการใดที่สามารถทำนายเวลา สถานที่ และขนาดของแผ่นดินไหวได้อย่างแน่นอน ### **เหตุผลที่การพยากรณ์แผ่นดินไหวยังทำได้ยาก** 1. **กระบวนการเกิดแผ่นดินไหวซับซ้อน** - แผ่นดินไหวเกิดจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกอย่างฉับพลัน ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความเค้น (stress) การสะสมพลังงาน และความเสียดทานระหว่างหิน - การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดขึ้นใต้ดินลึก ทำให้ติดตามและวัดได้ยาก 2. **ขาดข้อมูลที่เพียงพอ** - แม้จะมีเครือข่ายเซ็นเซอร์วัดแผ่นดินไหว (seismometers) และระบบ GPS ติดตามการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก แต่ข้อมูลเหล่านี้มักบอกได้เพียง **"ความเสี่ยง"** ของพื้นที่ ไม่ใช่เวลาที่แน่นอน 3. **ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าที่ชัดเจน** - บางครั้งอาจพบสัญญาณก่อนเกิดแผ่นดินไหว เช่น การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำใต้ดิน หรือการเกิดแผ่นดินไหวเล็กๆ (foreshocks) แต่ก็ไม่เสมอไป และมักไม่สามารถยืนยันได้จนกว่าแผ่นดินไหวใหญ่จะเกิดขึ้น ### **ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในการเตือนภัยแผ่นดินไหว** แม้จะไม่สามารถพยากรณ์ได้ล่วงหน้า แต่มีระบบที่ช่วย **เตือนภัยก่อนเกิดแผ่นดินไหว (Early Warning System)** เช่น: - **ระบบ ShakeAlert (สหรัฐฯ), ระบบ J-Alert (ญี่ปุ่น)** - ใช้คลื่นแผ่นดินไหวที่เดินทางเร็วกว่า (คลื่น P) เพื่อส่งสัญญาณเตือนก่อนที่คลื่นทำลาย (คลื่น S) จะมาถึง - ช่วยให้มีเวลาเตรียมตัว **เพียงไม่กี่วินาทีถึงนาที** - **การประเมินความเสี่ยงระยะยาว** - นักวิทยาศาสตร์สามารถระบุ **พื้นที่เสี่ยงสูง** จากประวัติแผ่นดินไหวและรอยเลื่อนมีพลัง เช่น แถบวงแหวนไฟแปซิฟิก (Ring of Fire) ### **ข้อสรุป** - **ยังไม่มีการพยากรณ์แผ่นดินไหวที่แม่นยำ** ในแง่ของการบอกเวลาและขนาดได้ล่วงหน้า - **ระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว (Early Warning)** สามารถช่วยลดความเสียหายได้บ้าง แต่ให้เวลาเตรียมตัวน้อยมาก - วิธีที่ดีที่สุดคือ **เตรียมความพร้อม** เช่น รู้จุดปลอดภัยในบ้าน มีชุดฉุกเฉิน และฝึกซ้อม应对แผ่นดินไหว หากมีข่าวเกี่ยวกับการทำนายแผ่นดินไหวที่อ้างว่าแม่นยำ ควรตรวจสอบแหล่งที่มาให้ดี เพราะปัจจุบันยังไม่มีเทคโนโลยีที่สามารถทำได้อย่างแน่นอน!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • 15.04 น.
    รายงานจากศูนย์นเรนทร สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)
    🚨Update!! เหตุการณ์ตึกถล่มบริเวณจตุจักร
    ▪️ผู้บาดเจ็บ 50 ราย นำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงเป็นที่เรียบร้อย
    ▪️ติดอยู่ในซากตึก 1 ราย
    ▪️เสียชีวิต 1 ราย
    ที่มา สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669
    15.04 น. รายงานจากศูนย์นเรนทร สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) 🚨Update!! เหตุการณ์ตึกถล่มบริเวณจตุจักร ▪️ผู้บาดเจ็บ 50 ราย นำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงเป็นที่เรียบร้อย ▪️ติดอยู่ในซากตึก 1 ราย ▪️เสียชีวิต 1 ราย ที่มา สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ระบุ อาคารกำลังก่อสร้างย่านจตุจักร ที่ถล่มลงมา มีคนงาน 50 ราย ติดอยู่ในอาคาร 43 ราย หนีออกมาได้ 7 ราย ศูนย์นเรนทร กำลังเข้าพื้นที่ช่วยเหลือ พร้อมเครือข่ายกู้ชีพ
    สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ระบุ อาคารกำลังก่อสร้างย่านจตุจักร ที่ถล่มลงมา มีคนงาน 50 ราย ติดอยู่ในอาคาร 43 ราย หนีออกมาได้ 7 ราย ศูนย์นเรนทร กำลังเข้าพื้นที่ช่วยเหลือ พร้อมเครือข่ายกู้ชีพ
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚨 Update!!
    ▪️อาคารที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ใกล้สวนจตุจักร ถล่มลงมา ในอาคารมีคนงานประมาณ 50 ราย หนีออกมาได้ 7 ราย ติดในอาคาร 43 ราย ทางศูนย์นเรนทร สพฉ. กำลังเร่งเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือ พร้อมเครือข่ายกู้ชีพ
    ▪️ขณะนี้สัญญาณการสื่อสารมีปัญหาจากแผ่นดินไหว ทาง สพฉ. ได้จัดเตรียมรถสื่อสารของศูนย์นเรนทร สแตนบายสำหรับใช้ในการสื่อสารเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน มีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง
    ที่มา สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669
    🚨 Update!! ▪️อาคารที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ใกล้สวนจตุจักร ถล่มลงมา ในอาคารมีคนงานประมาณ 50 ราย หนีออกมาได้ 7 ราย ติดในอาคาร 43 ราย ทางศูนย์นเรนทร สพฉ. กำลังเร่งเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือ พร้อมเครือข่ายกู้ชีพ ▪️ขณะนี้สัญญาณการสื่อสารมีปัญหาจากแผ่นดินไหว ทาง สพฉ. ได้จัดเตรียมรถสื่อสารของศูนย์นเรนทร สแตนบายสำหรับใช้ในการสื่อสารเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน มีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง ที่มา สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • “แนวรบอีกแนวกำลังเปิดฉากขึ้นเร็วๆนี้ : ตุรกี-อิสราเอล”

    นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูเกรงของอิสราเอล เรียกประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือเรื่องความมั่นคง โดยการประชุมจะเน้นไปที่การ "จำกัด" อิทธิพลของตุรกีในซีเรีย

    การเรียกประชุมฉุกเฉินของอิสราเอล เกิดขึเนหลังจากมีรายงานว่า ซีเรียกำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาขั้นสูงเพื่อมอบดินแดนบางส่วนใกล้เมืองปาลไมรา (Palmyra) ให้ตุรกีตั้งฐานทัพทหารได้

    นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลได้เรียกประชุมฉุกเฉินเพื่อตอบโต้ โดยบอกกับสื่อมวลชนว่าการเผชิญหน้าโดยตรงระหว่างอิสราเอลและตุรกีในซีเรียนั้น “แทบจะแน่นอนแล้ว”

    การประท้วงต่อต้านรัฐบาลตุรกีที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายมองว่าอิสราเอลเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย เนื่องจากการประท้วงลุกลามและรุนแรงเกินกว่าปกติที่ควรจะเป็น และหลายอย่างไม่สมเหตุสมผล
    “แนวรบอีกแนวกำลังเปิดฉากขึ้นเร็วๆนี้ : ตุรกี-อิสราเอล” นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูเกรงของอิสราเอล เรียกประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือเรื่องความมั่นคง โดยการประชุมจะเน้นไปที่การ "จำกัด" อิทธิพลของตุรกีในซีเรีย การเรียกประชุมฉุกเฉินของอิสราเอล เกิดขึเนหลังจากมีรายงานว่า ซีเรียกำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาขั้นสูงเพื่อมอบดินแดนบางส่วนใกล้เมืองปาลไมรา (Palmyra) ให้ตุรกีตั้งฐานทัพทหารได้ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลได้เรียกประชุมฉุกเฉินเพื่อตอบโต้ โดยบอกกับสื่อมวลชนว่าการเผชิญหน้าโดยตรงระหว่างอิสราเอลและตุรกีในซีเรียนั้น “แทบจะแน่นอนแล้ว” การประท้วงต่อต้านรัฐบาลตุรกีที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายมองว่าอิสราเอลเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย เนื่องจากการประท้วงลุกลามและรุนแรงเกินกว่าปกติที่ควรจะเป็น และหลายอย่างไม่สมเหตุสมผล
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหลังเกิดไฟป่าลุกลามหลายสิบจุดทางตอนใต้ของประเทศ โดยล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 ราย และยังมีชาวบ้านที่ต้องทิ้งบ้านเรือนอพยพหนีตายอีกกว่า 1,500 คน

    เมื่อวานนี้ (23 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเกาหลีใต้ยังคงต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการควบคุมไฟป่าที่ปะทุขึ้นในเทศมณฑลซันชอง (Sancheong) ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. ท่ามกลางสภาพอากาศที่มีลมแรง รวมไปถึงไฟป่าจุดอื่นๆ ในอีกอย่างน้อย 3 ภูมิภาคทางตอนใต้ของประเทศ

    สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากไฟป่าแล้วอย่างน้อย 4 ราย โดยเป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 3 นาย และลูกจ้างรัฐอีก 1 คน

    ทางการได้ระดมเจ้าหน้าที่มากกว่า 9,000 คน และเฮลิคอปเตอร์อีก 105 ลำเพื่อช่วยควบคุมไฟป่าที่เผาผลาญบ้านเรือนประชาชนและวัดวาอารามไปแล้วหลายแห่ง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000027783

    #MGROnline #รัฐบาลเกาหลีใต้ #สถานการณ์ฉุกเฉิน #ไฟป่า
    รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหลังเกิดไฟป่าลุกลามหลายสิบจุดทางตอนใต้ของประเทศ โดยล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 ราย และยังมีชาวบ้านที่ต้องทิ้งบ้านเรือนอพยพหนีตายอีกกว่า 1,500 คน • เมื่อวานนี้ (23 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเกาหลีใต้ยังคงต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการควบคุมไฟป่าที่ปะทุขึ้นในเทศมณฑลซันชอง (Sancheong) ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. ท่ามกลางสภาพอากาศที่มีลมแรง รวมไปถึงไฟป่าจุดอื่นๆ ในอีกอย่างน้อย 3 ภูมิภาคทางตอนใต้ของประเทศ • สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากไฟป่าแล้วอย่างน้อย 4 ราย โดยเป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 3 นาย และลูกจ้างรัฐอีก 1 คน • ทางการได้ระดมเจ้าหน้าที่มากกว่า 9,000 คน และเฮลิคอปเตอร์อีก 105 ลำเพื่อช่วยควบคุมไฟป่าที่เผาผลาญบ้านเรือนประชาชนและวัดวาอารามไปแล้วหลายแห่ง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000027783 • #MGROnline #รัฐบาลเกาหลีใต้ #สถานการณ์ฉุกเฉิน #ไฟป่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 277 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องบิน Su-34 ของรัสเซีย ขณะกำลังลงจอดฉุกเฉิน เนื่องจากระบบกางล้อขัดข้อง หลังเดินทางกลับจากปฏิบัติการทิ้งระเบิดในเขตสู้รบที่ภูมิภาคดอนบาส
    เครื่องบิน Su-34 ของรัสเซีย ขณะกำลังลงจอดฉุกเฉิน เนื่องจากระบบกางล้อขัดข้อง หลังเดินทางกลับจากปฏิบัติการทิ้งระเบิดในเขตสู้รบที่ภูมิภาคดอนบาส
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 14 0 รีวิว
Pages Boosts