• รวมข่าวจาก TechRadar ประจำวัน
    #20251115 #techradar

    SanDisk เปิดตัวแฟลชไดรฟ์ 1TB ขนาดจิ๋ว
    SanDisk ออกแฟลชไดรฟ์ USB-C รุ่นใหม่ Extreme Fit ที่มีความจุสูงสุดถึง 1TB แต่ตัวเล็กมากจนสามารถเสียบติดเครื่องไว้ตลอดเวลาโดยไม่เกะกะ เหมาะกับคนที่ใช้โน้ตบุ๊กหรือแท็บเล็ตบ่อย ๆ ต้องการพื้นที่เพิ่มโดยไม่ต้องพกฮาร์ดดิสก์พกพา ความเร็วอ่านสูงสุด 400MB/s ใกล้เคียง SSD ราคาก็จับต้องได้ เริ่มต้นเพียงสิบกว่าดอลลาร์ ไปจนถึงรุ่นท็อป 1TB ราวร้อยดอลลาร์ ถือเป็นการผสมผสานความสะดวกกับประสิทธิภาพในอุปกรณ์เล็ก ๆ

    PNY ยกเลิกดีล Black Friday สะท้อนวิกฤตวงการชิป
    ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายใหญ่ PNY ประกาศหยุดโปรโมชันลดราคาสินค้าจัดเก็บข้อมูลในช่วง Black Friday เพราะต้นทุน NAND และ DRAM พุ่งสูงขึ้นมากจนกระทบตลาด SSD และแฟลชไดรฟ์ สถานการณ์นี้สะท้อนว่าตลาดหน่วยความจำกำลังตึงตัวอย่างหนัก และอาจทำให้การประกอบคอมพิวเตอร์หรืออัปเกรดเครื่องมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นในปีถัดไป

    IBM เปิดตัวชิปควอนตัมใหม่ Nighthawk และ Loon
    IBM ก้าวหน้าอีกขั้นในเส้นทางควอนตัมคอมพิวติ้ง ด้วยการเปิดตัวชิป Nighthawk ที่มี 120 qubits และสามารถทำงานซับซ้อนขึ้นกว่าเดิม 30% พร้อมชิป Loon ที่ทดลองสถาปัตยกรรมใหม่เพื่อรองรับการแก้ไขข้อผิดพลาดในระดับใหญ่ จุดมุ่งหมายคือการทำให้ควอนตัมคอมพิวเตอร์ใช้งานได้จริงในธุรกิจและวิทยาศาสตร์ภายในทศวรรษนี้

    CTO บริษัท Checkout.com ปฏิเสธจ่ายค่าไถ่ไซเบอร์
    บริษัท Checkout.com ถูกกลุ่มแฮ็กเกอร์ ShinyHunters เจาะระบบเก่าและเรียกค่าไถ่ แต่ CTO ตัดสินใจไม่จ่ายเงินให้คนร้าย กลับนำเงินจำนวนดังกล่าวไปบริจาคให้มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon และ Oxford เพื่อสนับสนุนงานวิจัยด้านความปลอดภัยไซเบอร์ แสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่สนับสนุนอาชญากรรมออนไลน์

    ExpressVPN จับมือ Brooklyn Nets มอบดีลพิเศษแฟนบาส
    ExpressVPN กลายเป็นพาร์ทเนอร์ด้านความเป็นส่วนตัวดิจิทัลของทีมบาส NBA Brooklyn Nets พร้อมมอบส่วนลดสูงสุดถึง 73% ให้แฟน ๆ ถือเป็นการนำโลกไซเบอร์กับกีฬาเข้ามาเชื่อมโยงกัน และช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงการป้องกันข้อมูลในราคาที่คุ้มค่า

    Apple เปิดตัว Digital ID จุดประกายกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว
    Apple เพิ่มฟีเจอร์ Digital ID ในแอป Wallet ให้ผู้ใช้แสดงพาสปอร์ตผ่านมือถือที่สนามบินในสหรัฐฯ แม้จะสะดวก แต่หลายฝ่ายกังวลว่าการใช้ข้อมูลอัตลักษณ์ดิจิทัลอาจนำไปสู่การถูกติดตามหรือการละเมิดความเป็นส่วนตัว Apple ยืนยันว่าข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในเครื่องเท่านั้นและใช้การเข้ารหัสขั้นสูง แต่เสียงวิจารณ์ก็ยังดังอยู่

    Intel Panther Lake CPU หลุดผลทดสอบ กราฟิกแรงเกินคาด
    มีข้อมูลหลุดของซีพียู Intel Panther Lake รุ่น Core Ultra X7 358H ที่มาพร้อมกราฟิก Xe3 ในตัว ผลทดสอบออกมาดีกว่า GPU แยกอย่าง RTX 3050 ถึงกว่า 10% ทำให้โน้ตบุ๊กบางเบาและเครื่องเกมพกพาในอนาคตอาจไม่ต้องพึ่งการ์ดจอแยกอีกต่อไป ทั้งแรงและประหยัดพลังงานมากขึ้น

    Akira Ransomware ขยายโจมตี Nutanix VMs
    แรนซัมแวร์ Akira ถูกพบว่าเริ่มโจมตีระบบ Nutanix AHV VM โดยใช้ช่องโหว่ SonicWall และ Veeam เพื่อเข้าถึงและเข้ารหัสไฟล์ ทำให้บริษัทต่าง ๆ เสียหายหนัก ยอดเงินที่คนร้ายรีดไถได้รวมแล้วกว่า 240 ล้านดอลลาร์ หน่วยงานความปลอดภัยเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตระบบและเปิดใช้การยืนยันตัวตนหลายชั้น

    Operation Endgame 3.0 ยึดเซิร์ฟเวอร์อาชญากรรมไซเบอร์
    Europol และหน่วยงานยุโรปเปิดปฏิบัติการ Endgame 3.0 ปราบปรามเครือข่ายมัลแวร์ใหญ่ เช่น Rhadamanthys, VenomRAT และ Elysium ยึดเซิร์ฟเวอร์กว่า 1,000 เครื่อง และโดเมนกว่า 20 แห่ง พร้อมจับผู้ต้องสงสัยหนึ่งราย แม้จะเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากไม่มีการจับกุมต่อเนื่อง เครือข่ายเหล่านี้อาจกลับมาอีก
    📰📌 รวมข่าวจาก TechRadar ประจำวัน 📌 📰 #20251115 #techradar 🗂️ SanDisk เปิดตัวแฟลชไดรฟ์ 1TB ขนาดจิ๋ว SanDisk ออกแฟลชไดรฟ์ USB-C รุ่นใหม่ Extreme Fit ที่มีความจุสูงสุดถึง 1TB แต่ตัวเล็กมากจนสามารถเสียบติดเครื่องไว้ตลอดเวลาโดยไม่เกะกะ เหมาะกับคนที่ใช้โน้ตบุ๊กหรือแท็บเล็ตบ่อย ๆ ต้องการพื้นที่เพิ่มโดยไม่ต้องพกฮาร์ดดิสก์พกพา ความเร็วอ่านสูงสุด 400MB/s ใกล้เคียง SSD ราคาก็จับต้องได้ เริ่มต้นเพียงสิบกว่าดอลลาร์ ไปจนถึงรุ่นท็อป 1TB ราวร้อยดอลลาร์ ถือเป็นการผสมผสานความสะดวกกับประสิทธิภาพในอุปกรณ์เล็ก ๆ 💸 PNY ยกเลิกดีล Black Friday สะท้อนวิกฤตวงการชิป ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายใหญ่ PNY ประกาศหยุดโปรโมชันลดราคาสินค้าจัดเก็บข้อมูลในช่วง Black Friday เพราะต้นทุน NAND และ DRAM พุ่งสูงขึ้นมากจนกระทบตลาด SSD และแฟลชไดรฟ์ สถานการณ์นี้สะท้อนว่าตลาดหน่วยความจำกำลังตึงตัวอย่างหนัก และอาจทำให้การประกอบคอมพิวเตอร์หรืออัปเกรดเครื่องมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นในปีถัดไป ⚛️ IBM เปิดตัวชิปควอนตัมใหม่ Nighthawk และ Loon IBM ก้าวหน้าอีกขั้นในเส้นทางควอนตัมคอมพิวติ้ง ด้วยการเปิดตัวชิป Nighthawk ที่มี 120 qubits และสามารถทำงานซับซ้อนขึ้นกว่าเดิม 30% พร้อมชิป Loon ที่ทดลองสถาปัตยกรรมใหม่เพื่อรองรับการแก้ไขข้อผิดพลาดในระดับใหญ่ จุดมุ่งหมายคือการทำให้ควอนตัมคอมพิวเตอร์ใช้งานได้จริงในธุรกิจและวิทยาศาสตร์ภายในทศวรรษนี้ 🔐 CTO บริษัท Checkout.com ปฏิเสธจ่ายค่าไถ่ไซเบอร์ บริษัท Checkout.com ถูกกลุ่มแฮ็กเกอร์ ShinyHunters เจาะระบบเก่าและเรียกค่าไถ่ แต่ CTO ตัดสินใจไม่จ่ายเงินให้คนร้าย กลับนำเงินจำนวนดังกล่าวไปบริจาคให้มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon และ Oxford เพื่อสนับสนุนงานวิจัยด้านความปลอดภัยไซเบอร์ แสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่สนับสนุนอาชญากรรมออนไลน์ 🏀 ExpressVPN จับมือ Brooklyn Nets มอบดีลพิเศษแฟนบาส ExpressVPN กลายเป็นพาร์ทเนอร์ด้านความเป็นส่วนตัวดิจิทัลของทีมบาส NBA Brooklyn Nets พร้อมมอบส่วนลดสูงสุดถึง 73% ให้แฟน ๆ ถือเป็นการนำโลกไซเบอร์กับกีฬาเข้ามาเชื่อมโยงกัน และช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงการป้องกันข้อมูลในราคาที่คุ้มค่า 🍏 Apple เปิดตัว Digital ID จุดประกายกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว Apple เพิ่มฟีเจอร์ Digital ID ในแอป Wallet ให้ผู้ใช้แสดงพาสปอร์ตผ่านมือถือที่สนามบินในสหรัฐฯ แม้จะสะดวก แต่หลายฝ่ายกังวลว่าการใช้ข้อมูลอัตลักษณ์ดิจิทัลอาจนำไปสู่การถูกติดตามหรือการละเมิดความเป็นส่วนตัว Apple ยืนยันว่าข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในเครื่องเท่านั้นและใช้การเข้ารหัสขั้นสูง แต่เสียงวิจารณ์ก็ยังดังอยู่ 💻 Intel Panther Lake CPU หลุดผลทดสอบ กราฟิกแรงเกินคาด มีข้อมูลหลุดของซีพียู Intel Panther Lake รุ่น Core Ultra X7 358H ที่มาพร้อมกราฟิก Xe3 ในตัว ผลทดสอบออกมาดีกว่า GPU แยกอย่าง RTX 3050 ถึงกว่า 10% ทำให้โน้ตบุ๊กบางเบาและเครื่องเกมพกพาในอนาคตอาจไม่ต้องพึ่งการ์ดจอแยกอีกต่อไป ทั้งแรงและประหยัดพลังงานมากขึ้น 🦠 Akira Ransomware ขยายโจมตี Nutanix VMs แรนซัมแวร์ Akira ถูกพบว่าเริ่มโจมตีระบบ Nutanix AHV VM โดยใช้ช่องโหว่ SonicWall และ Veeam เพื่อเข้าถึงและเข้ารหัสไฟล์ ทำให้บริษัทต่าง ๆ เสียหายหนัก ยอดเงินที่คนร้ายรีดไถได้รวมแล้วกว่า 240 ล้านดอลลาร์ หน่วยงานความปลอดภัยเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตระบบและเปิดใช้การยืนยันตัวตนหลายชั้น 🚔 Operation Endgame 3.0 ยึดเซิร์ฟเวอร์อาชญากรรมไซเบอร์ Europol และหน่วยงานยุโรปเปิดปฏิบัติการ Endgame 3.0 ปราบปรามเครือข่ายมัลแวร์ใหญ่ เช่น Rhadamanthys, VenomRAT และ Elysium ยึดเซิร์ฟเวอร์กว่า 1,000 เครื่อง และโดเมนกว่า 20 แห่ง พร้อมจับผู้ต้องสงสัยหนึ่งราย แม้จะเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากไม่มีการจับกุมต่อเนื่อง เครือข่ายเหล่านี้อาจกลับมาอีก
    0 Comments 0 Shares 60 Views 0 Reviews
  • Tesla Megapack – ทางออกสำหรับศูนย์ข้อมูล AI

    Tesla เปิดตัวการตลาดใหม่สำหรับ Megapack แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับศูนย์ข้อมูล AI ซึ่งมีการใช้พลังงานแบบผันผวนสูง โดยเฉพาะการฝึกโมเดลที่ใช้ GPU นับพันตัวพร้อมกัน ทำให้โหลดไฟฟ้าอาจแกว่งขึ้นลงถึง 90% ภายในเสี้ยววินาที Megapack ถูกออกแบบมาเพื่อดูดซับความผันผวนเหล่านี้และรักษาเสถียรภาพของแรงดันไฟฟ้าและความถี่

    ปัญหาความเสถียรของโครงข่ายไฟฟ้า
    รายงานจาก North American Electric Reliability Corporation (NERC) เตือนว่าศูนย์ข้อมูล AI กำลังสร้างแรงกดดันต่อโครงข่ายไฟฟ้าแบบไม่เคยมีมาก่อน การซิงโครไนซ์ข้อมูลและการ checkpoint ของโมเดลทำให้โหลดไฟฟ้าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งระบบไฟฟ้าแบบเดิมไม่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับ Tesla จึงนำเสนอ Megapack เป็น “buffer” ที่ตอบสนองทันทีโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเชิงกล

    ความคุ้มค่าเชิงเศรษฐศาสตร์
    Tesla อ้างว่า Megapack ให้ “outsized value” โดยสามารถสร้างมูลค่าได้ถึง 50 พันล้านดอลลาร์ต่อกิกะวัตต์ สำหรับระบบที่ทำงาน 2 ชั่วโมงตลอดอายุการใช้งาน 20 ปี จุดเด่นอีกอย่างคือการผลิตและส่งมอบได้รวดเร็ว ซึ่งช่วยตอบโจทย์นักพัฒนา AI ที่กำลังรอคิวเชื่อมต่อไฟฟ้าจำนวนมากในสหรัฐฯ

    คำถามที่ยังค้างคา
    แม้ Megapack จะถูกมองว่าเป็นทางออก แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะถูกบูรณาการเข้ากับโครงสร้างไฟฟ้าเดิมในรูปแบบใด เช่น จะใช้เป็น UPS ภายในศูนย์ข้อมูล หรือเป็น front-of-meter grid support รวมถึงประเด็นด้านค่าใช้จ่ายจริงและการคิดค่าบริการไฟฟ้า (demand charges) ที่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Tesla เปิดตัว Megapack สำหรับศูนย์ข้อมูล AI
    ลดความผันผวนของโหลดไฟฟ้าได้ถึง 90%

    ปัญหาความเสถียรของโครงข่ายไฟฟ้า
    AI workloads ทำให้โหลดไฟฟ้าแกว่งขึ้นลงหลายเมกะวัตต์ในเสี้ยววินาที

    ความคุ้มค่าเชิงเศรษฐศาสตร์
    มูลค่า 50 พันล้านดอลลาร์ต่อกิกะวัตต์ในระบบ 2 ชั่วโมง อายุใช้งาน 20 ปี

    คำถามเรื่องการบูรณาการระบบ
    ยังไม่ชัดว่าจะใช้เป็น UPS หรือ grid support

    ความไม่โปร่งใสด้านต้นทุนจริง
    ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนเรื่อง demand charges และค่าใช้จ่ายรวม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/tesla-targets-ai-data-centers-with-megapack-as-grid-strain-fears-grow
    🔋 Tesla Megapack – ทางออกสำหรับศูนย์ข้อมูล AI Tesla เปิดตัวการตลาดใหม่สำหรับ Megapack แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับศูนย์ข้อมูล AI ซึ่งมีการใช้พลังงานแบบผันผวนสูง โดยเฉพาะการฝึกโมเดลที่ใช้ GPU นับพันตัวพร้อมกัน ทำให้โหลดไฟฟ้าอาจแกว่งขึ้นลงถึง 90% ภายในเสี้ยววินาที Megapack ถูกออกแบบมาเพื่อดูดซับความผันผวนเหล่านี้และรักษาเสถียรภาพของแรงดันไฟฟ้าและความถี่ ⚡ ปัญหาความเสถียรของโครงข่ายไฟฟ้า รายงานจาก North American Electric Reliability Corporation (NERC) เตือนว่าศูนย์ข้อมูล AI กำลังสร้างแรงกดดันต่อโครงข่ายไฟฟ้าแบบไม่เคยมีมาก่อน การซิงโครไนซ์ข้อมูลและการ checkpoint ของโมเดลทำให้โหลดไฟฟ้าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งระบบไฟฟ้าแบบเดิมไม่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับ Tesla จึงนำเสนอ Megapack เป็น “buffer” ที่ตอบสนองทันทีโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเชิงกล 💰 ความคุ้มค่าเชิงเศรษฐศาสตร์ Tesla อ้างว่า Megapack ให้ “outsized value” โดยสามารถสร้างมูลค่าได้ถึง 50 พันล้านดอลลาร์ต่อกิกะวัตต์ สำหรับระบบที่ทำงาน 2 ชั่วโมงตลอดอายุการใช้งาน 20 ปี จุดเด่นอีกอย่างคือการผลิตและส่งมอบได้รวดเร็ว ซึ่งช่วยตอบโจทย์นักพัฒนา AI ที่กำลังรอคิวเชื่อมต่อไฟฟ้าจำนวนมากในสหรัฐฯ 🏗️ คำถามที่ยังค้างคา แม้ Megapack จะถูกมองว่าเป็นทางออก แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะถูกบูรณาการเข้ากับโครงสร้างไฟฟ้าเดิมในรูปแบบใด เช่น จะใช้เป็น UPS ภายในศูนย์ข้อมูล หรือเป็น front-of-meter grid support รวมถึงประเด็นด้านค่าใช้จ่ายจริงและการคิดค่าบริการไฟฟ้า (demand charges) ที่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Tesla เปิดตัว Megapack สำหรับศูนย์ข้อมูล AI ➡️ ลดความผันผวนของโหลดไฟฟ้าได้ถึง 90% ✅ ปัญหาความเสถียรของโครงข่ายไฟฟ้า ➡️ AI workloads ทำให้โหลดไฟฟ้าแกว่งขึ้นลงหลายเมกะวัตต์ในเสี้ยววินาที ✅ ความคุ้มค่าเชิงเศรษฐศาสตร์ ➡️ มูลค่า 50 พันล้านดอลลาร์ต่อกิกะวัตต์ในระบบ 2 ชั่วโมง อายุใช้งาน 20 ปี ‼️ คำถามเรื่องการบูรณาการระบบ ⛔ ยังไม่ชัดว่าจะใช้เป็น UPS หรือ grid support ‼️ความไม่โปร่งใสด้านต้นทุนจริง ⛔ ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนเรื่อง demand charges และค่าใช้จ่ายรวม https://www.tomshardware.com/tech-industry/tesla-targets-ai-data-centers-with-megapack-as-grid-strain-fears-grow
    0 Comments 0 Shares 65 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/doD1nAhtyjw?si=voFQeiwkY-bSyFi2
    ท่องเที่ยวดูเพลินๆ
    #makeawakeคุ้มค่าตื่น
    #ChaingMai
    #Thailand
    https://youtu.be/doD1nAhtyjw?si=voFQeiwkY-bSyFi2 ท่องเที่ยวดูเพลินๆ #makeawakeคุ้มค่าตื่น #ChaingMai #Thailand
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 47 Views 0 Reviews
  • IBM เข้าร่วม OpenSearch Foundation เพื่อผลักดัน AI Search และ RAG

    IBM ประกาศเข้าร่วมเป็นสมาชิกระดับ Premier ของ OpenSearch Software Foundation ซึ่งอยู่ภายใต้ Linux Foundation จุดสำคัญคือการผลักดันเทคโนโลยี retrieval-augmented generation (RAG) ที่กำลังเป็นหัวใจของ AI ยุคใหม่ การเข้าร่วมครั้งนี้ไม่ใช่แค่การจ่ายค่าสมาชิก แต่ IBM ตั้งใจจะนำความเชี่ยวชาญด้าน vector search และ cloud-tested patterns มาเสริมความแข็งแกร่งให้กับ OpenSearch โดยเฉพาะด้าน security, observability และ developer experience

    ในงาน KubeCon + CloudNativeCon North America ปีนี้ IBM ได้ประกาศว่าจะเปิดตัวโครงการโอเพ่นซอร์สใหม่ที่ใช้ OpenSearch ในงาน OpenRAG Summit วันที่ 13 พฤศจิกายน 2025 การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขององค์กรที่ต้องการให้ AI มีรากฐานบนระบบเปิดและโปร่งใส ซึ่งจะช่วยให้การค้นหาและการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    นอกจากนี้ IBM ยังมีการใช้งานจริงผ่าน DataStax บริษัทลูกที่ได้ผสาน JVector เข้ากับ OpenSearch เพื่อรองรับการค้นหาข้อมูลระดับพันล้านเวกเตอร์ได้อย่างรวดเร็วและคุ้มค่า ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าการร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่แค่เชิงสัญลักษณ์ แต่มีผลต่อการใช้งานจริงในองค์กร

    IBM เข้าร่วม OpenSearch Foundation
    เสริมด้าน AI, RAG, vector search

    เปิดตัวโครงการใหม่ใน OpenRAG Summit
    เน้นระบบเปิดและโปร่งใส

    ความท้าทายคือการทำให้ระบบเปิดยังคงปลอดภัย
    หากไม่จัดการดี อาจเกิดช่องโหว่ด้านข้อมูล

    https://itsfoss.com/news/ibm-joins-opensearch-software-foundation/
    🏢 IBM เข้าร่วม OpenSearch Foundation เพื่อผลักดัน AI Search และ RAG IBM ประกาศเข้าร่วมเป็นสมาชิกระดับ Premier ของ OpenSearch Software Foundation ซึ่งอยู่ภายใต้ Linux Foundation จุดสำคัญคือการผลักดันเทคโนโลยี retrieval-augmented generation (RAG) ที่กำลังเป็นหัวใจของ AI ยุคใหม่ การเข้าร่วมครั้งนี้ไม่ใช่แค่การจ่ายค่าสมาชิก แต่ IBM ตั้งใจจะนำความเชี่ยวชาญด้าน vector search และ cloud-tested patterns มาเสริมความแข็งแกร่งให้กับ OpenSearch โดยเฉพาะด้าน security, observability และ developer experience ในงาน KubeCon + CloudNativeCon North America ปีนี้ IBM ได้ประกาศว่าจะเปิดตัวโครงการโอเพ่นซอร์สใหม่ที่ใช้ OpenSearch ในงาน OpenRAG Summit วันที่ 13 พฤศจิกายน 2025 การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขององค์กรที่ต้องการให้ AI มีรากฐานบนระบบเปิดและโปร่งใส ซึ่งจะช่วยให้การค้นหาและการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ IBM ยังมีการใช้งานจริงผ่าน DataStax บริษัทลูกที่ได้ผสาน JVector เข้ากับ OpenSearch เพื่อรองรับการค้นหาข้อมูลระดับพันล้านเวกเตอร์ได้อย่างรวดเร็วและคุ้มค่า ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าการร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่แค่เชิงสัญลักษณ์ แต่มีผลต่อการใช้งานจริงในองค์กร ✅ IBM เข้าร่วม OpenSearch Foundation ➡️ เสริมด้าน AI, RAG, vector search ✅ เปิดตัวโครงการใหม่ใน OpenRAG Summit ➡️ เน้นระบบเปิดและโปร่งใส ‼️ ความท้าทายคือการทำให้ระบบเปิดยังคงปลอดภัย ⛔ หากไม่จัดการดี อาจเกิดช่องโหว่ด้านข้อมูล https://itsfoss.com/news/ibm-joins-opensearch-software-foundation/
    0 Comments 0 Shares 68 Views 0 Reviews
  • หัวข้อข่าว: “โมเดลใหม่ของ Moonshot AI จุดกระแส ‘DeepSeek Moment’ สั่นสะเทือนโลก AI”

    สตาร์ทอัพจีน Moonshot AI ที่มีมูลค่ากว่า 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้รับการสนับสนุนจากยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีอย่าง Alibaba และ Tencent ได้เปิดตัวโมเดล Kimi K2 Thinking ซึ่งเป็นโมเดลโอเพนซอร์สที่สร้างสถิติใหม่ในด้าน reasoning, coding และ agent capabilities

    โมเดลนี้ได้รับความนิยมสูงสุดบนแพลตฟอร์ม Hugging Face และโพสต์เปิดตัวบน X มียอดเข้าชมกว่า 4.5 ล้านครั้ง จุดที่น่าทึ่งคือมีรายงานว่า ค่าใช้จ่ายในการฝึกเพียง 4.6 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถูกกว่ามากเมื่อเทียบกับโมเดลสหรัฐฯ

    Thomas Wolf ผู้ร่วมก่อตั้ง Hugging Face ถึงกับตั้งคำถามว่า “นี่คืออีกหนึ่ง DeepSeek Moment หรือไม่?” หลังจากก่อนหน้านี้โมเดล R1 ของ DeepSeek ได้เขย่าความเชื่อเรื่องความเหนือกว่าของ AI สหรัฐฯ

    Kimi K2 Thinking ทำคะแนน 44.9% ใน Humanity’s Last Exam (ข้อสอบมาตรฐาน LLM กว่า 2,500 ข้อ) ซึ่งสูงกว่า GPT-5 ที่ทำได้ 41.7% และยังชนะใน benchmark สำคัญอย่าง BrowseComp และ Seal-0 ที่ทดสอบความสามารถในการค้นหาข้อมูลจริงบนเว็บ

    นอกจากนี้ ค่าใช้จ่าย API ของ Kimi K2 Thinking ยังถูกกว่าโมเดลของ OpenAI และ Anthropic ถึง 6–10 เท่า นักวิเคราะห์ชี้ว่าแนวโน้มของจีนคือการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อแข่งขันด้วย ความคุ้มค่า (cost-effectiveness) แม้ประสิทธิภาพโดยรวมยังตามหลังโมเดลสหรัฐฯ

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก
    การแข่งขัน AI ระหว่างจีนและสหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนจาก “ใครเก่งกว่า” เป็น “ใครคุ้มค่ากว่า”
    การที่จีนหันมาเน้น ลดต้นทุนการฝึกและใช้งาน อาจทำให้ AI เข้าถึงนักพัฒนาและธุรกิจรายย่อยได้มากขึ้น
    หากแนวโน้มนี้ดำเนินต่อไป อาจเกิดการ เร่งนวัตกรรมด้านสถาปัตยกรรมโมเดลและเทคนิคการฝึก ที่เปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรม AI

    Moonshot AI เปิดตัว Kimi K2 Thinking
    ทำผลงานเหนือ GPT-5 และ Claude Sonnet 4.5 ในหลาย benchmark
    ได้รับความนิยมสูงสุดบน Hugging Face และมีผู้สนใจจำนวนมาก

    จุดเด่นของโมเดล
    ค่าใช้จ่ายในการฝึกเพียง 4.6 ล้านดอลลาร์
    API ถูกกว่าโมเดลสหรัฐฯ ถึง 6–10 เท่า

    ผลกระทบต่อวงการ
    จุดกระแส “DeepSeek Moment” ครั้งใหม่
    ท้าทายความเป็นผู้นำด้าน AI ของสหรัฐฯ

    คำเตือนด้านความเสี่ยง
    แม้ต้นทุนต่ำ แต่ประสิทธิภาพโดยรวมยังตามหลังโมเดลสหรัฐฯ
    การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงอาจทำให้บางบริษัทละเลยการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัย
    หากจีนครองตลาดด้วยโมเดลราคาถูก อาจเกิดความเสี่ยงด้านมาตรฐานและความน่าเชื่อถือของ AI

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/12/why-new-model-of-chinas-moonshot-ai-stirs-deepseek-moment-debate
    🤖 หัวข้อข่าว: “โมเดลใหม่ของ Moonshot AI จุดกระแส ‘DeepSeek Moment’ สั่นสะเทือนโลก AI” สตาร์ทอัพจีน Moonshot AI ที่มีมูลค่ากว่า 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้รับการสนับสนุนจากยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีอย่าง Alibaba และ Tencent ได้เปิดตัวโมเดล Kimi K2 Thinking ซึ่งเป็นโมเดลโอเพนซอร์สที่สร้างสถิติใหม่ในด้าน reasoning, coding และ agent capabilities โมเดลนี้ได้รับความนิยมสูงสุดบนแพลตฟอร์ม Hugging Face และโพสต์เปิดตัวบน X มียอดเข้าชมกว่า 4.5 ล้านครั้ง จุดที่น่าทึ่งคือมีรายงานว่า ค่าใช้จ่ายในการฝึกเพียง 4.6 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถูกกว่ามากเมื่อเทียบกับโมเดลสหรัฐฯ Thomas Wolf ผู้ร่วมก่อตั้ง Hugging Face ถึงกับตั้งคำถามว่า “นี่คืออีกหนึ่ง DeepSeek Moment หรือไม่?” หลังจากก่อนหน้านี้โมเดล R1 ของ DeepSeek ได้เขย่าความเชื่อเรื่องความเหนือกว่าของ AI สหรัฐฯ Kimi K2 Thinking ทำคะแนน 44.9% ใน Humanity’s Last Exam (ข้อสอบมาตรฐาน LLM กว่า 2,500 ข้อ) ซึ่งสูงกว่า GPT-5 ที่ทำได้ 41.7% และยังชนะใน benchmark สำคัญอย่าง BrowseComp และ Seal-0 ที่ทดสอบความสามารถในการค้นหาข้อมูลจริงบนเว็บ นอกจากนี้ ค่าใช้จ่าย API ของ Kimi K2 Thinking ยังถูกกว่าโมเดลของ OpenAI และ Anthropic ถึง 6–10 เท่า นักวิเคราะห์ชี้ว่าแนวโน้มของจีนคือการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อแข่งขันด้วย ความคุ้มค่า (cost-effectiveness) แม้ประสิทธิภาพโดยรวมยังตามหลังโมเดลสหรัฐฯ 🧩 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก 📌 การแข่งขัน AI ระหว่างจีนและสหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนจาก “ใครเก่งกว่า” เป็น “ใครคุ้มค่ากว่า” 📌 การที่จีนหันมาเน้น ลดต้นทุนการฝึกและใช้งาน อาจทำให้ AI เข้าถึงนักพัฒนาและธุรกิจรายย่อยได้มากขึ้น 📌 หากแนวโน้มนี้ดำเนินต่อไป อาจเกิดการ เร่งนวัตกรรมด้านสถาปัตยกรรมโมเดลและเทคนิคการฝึก ที่เปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรม AI ✅ Moonshot AI เปิดตัว Kimi K2 Thinking ➡️ ทำผลงานเหนือ GPT-5 และ Claude Sonnet 4.5 ในหลาย benchmark ➡️ ได้รับความนิยมสูงสุดบน Hugging Face และมีผู้สนใจจำนวนมาก ✅ จุดเด่นของโมเดล ➡️ ค่าใช้จ่ายในการฝึกเพียง 4.6 ล้านดอลลาร์ ➡️ API ถูกกว่าโมเดลสหรัฐฯ ถึง 6–10 เท่า ✅ ผลกระทบต่อวงการ ➡️ จุดกระแส “DeepSeek Moment” ครั้งใหม่ ➡️ ท้าทายความเป็นผู้นำด้าน AI ของสหรัฐฯ ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยง ⛔ แม้ต้นทุนต่ำ แต่ประสิทธิภาพโดยรวมยังตามหลังโมเดลสหรัฐฯ ⛔ การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงอาจทำให้บางบริษัทละเลยการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัย ⛔ หากจีนครองตลาดด้วยโมเดลราคาถูก อาจเกิดความเสี่ยงด้านมาตรฐานและความน่าเชื่อถือของ AI https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/12/why-new-model-of-chinas-moonshot-ai-stirs-deepseek-moment-debate
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Why new model of China's Moonshot AI stirs 'DeepSeek moment' debate
    Kimi K2 Thinking outperforms OpenAI's GPT-5 and Anthropic's Claude Sonnet 4.5, sparking comparisons to DeepSeek's breakthrough.
    0 Comments 0 Shares 138 Views 0 Reviews
  • ข่าวเทคโนโลยี: IronKey แฟลชไดรฟ์สุดแกร่ง ปลอดภัยเหนือกว่า USB ทั่วไป

    ในยุคที่ข้อมูลส่วนตัวและเอกสารสำคัญถูกเก็บไว้ในระบบคลาวด์ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากการถูกลบหรือหายไป หลายคนจึงหันกลับมาใช้ สื่อบันทึกข้อมูลแบบพกพา อย่างแฟลชไดรฟ์อีกครั้ง แต่ไม่ใช่ทุกแฟลชไดรฟ์จะปลอดภัยเท่ากัน — และนี่คือจุดที่ IronKey เข้ามาเป็นตัวเลือกที่แตกต่าง.

    IronKey คืออะไร
    พัฒนาในช่วงต้นปี 2000 โดยบริษัทด้านความปลอดภัยที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก Homeland Security ก่อนถูกซื้อโดย Kingston
    ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานระดับ รัฐบาล, กองทัพ และธุรกิจ ที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด

    จุดเด่นเหนือ USB ทั่วไป
    ใช้ การเข้ารหัสฮาร์ดแวร์ AES 256-bit ในโหมด XTS
    ผ่านมาตรฐาน FIPS 140-2 Level 3 พร้อมชิปจัดการคีย์เข้ารหัสในตัว
    ตรวจจับการพยายามเจาะระบบ หากใส่รหัสผิด 10 ครั้ง สามารถล็อกหรือทำลายข้อมูลอัตโนมัติ
    รองรับรหัสผ่านหรือวลีรหัส (passphrase) ยาวได้ถึง 255 ตัวอักษร

    คุ้มค่าหรือไม่
    ราคาสูงกว่ามาก เช่น 8GB ราคา $77
    หากใช้เก็บไฟล์ทั่วไป เช่น รูปภาพหรือการบ้าน อาจไม่คุ้มค่า
    แต่ถ้าเป็น ข้อมูลลับทางธุรกิจหรือเอกสารสำคัญระดับชาติ ถือว่าคุ้มกับการลงทุนเพื่อความปลอดภัย

    IronKey ถูกออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
    ใช้การเข้ารหัสฮาร์ดแวร์ที่แข็งแกร่ง
    ตรวจจับการเจาะระบบและทำลายข้อมูลอัตโนมัติ

    แตกต่างจาก USB ทั่วไป
    USB ปกติใช้ซอฟต์แวร์เข้ารหัสที่ไม่แข็งแรงเท่า
    IronKey มีชิปเข้ารหัสในตัวและมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง

    การใช้งานที่เหมาะสม
    เหมาะสำหรับรัฐบาล, กองทัพ, ธุรกิจที่ต้องการความปลอดภัย
    ไม่เหมาะกับการใช้งานทั่วไปที่ไม่ต้องการความปลอดภัยสูง

    https://www.slashgear.com/1461667/ronkey-vs-regular-usb-flash-drive-explained/
    🔐 ข่าวเทคโนโลยี: IronKey แฟลชไดรฟ์สุดแกร่ง ปลอดภัยเหนือกว่า USB ทั่วไป ในยุคที่ข้อมูลส่วนตัวและเอกสารสำคัญถูกเก็บไว้ในระบบคลาวด์ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากการถูกลบหรือหายไป หลายคนจึงหันกลับมาใช้ สื่อบันทึกข้อมูลแบบพกพา อย่างแฟลชไดรฟ์อีกครั้ง แต่ไม่ใช่ทุกแฟลชไดรฟ์จะปลอดภัยเท่ากัน — และนี่คือจุดที่ IronKey เข้ามาเป็นตัวเลือกที่แตกต่าง. 🛡️ IronKey คืออะไร 🔰 พัฒนาในช่วงต้นปี 2000 โดยบริษัทด้านความปลอดภัยที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก Homeland Security ก่อนถูกซื้อโดย Kingston 🔰 ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานระดับ รัฐบาล, กองทัพ และธุรกิจ ที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด ⚙️ จุดเด่นเหนือ USB ทั่วไป 🔰 ใช้ การเข้ารหัสฮาร์ดแวร์ AES 256-bit ในโหมด XTS 🔰 ผ่านมาตรฐาน FIPS 140-2 Level 3 พร้อมชิปจัดการคีย์เข้ารหัสในตัว 🔰 ตรวจจับการพยายามเจาะระบบ หากใส่รหัสผิด 10 ครั้ง สามารถล็อกหรือทำลายข้อมูลอัตโนมัติ 🔰 รองรับรหัสผ่านหรือวลีรหัส (passphrase) ยาวได้ถึง 255 ตัวอักษร 💰 คุ้มค่าหรือไม่ 🔰 ราคาสูงกว่ามาก เช่น 8GB ราคา $77 🔰 หากใช้เก็บไฟล์ทั่วไป เช่น รูปภาพหรือการบ้าน อาจไม่คุ้มค่า 🔰 แต่ถ้าเป็น ข้อมูลลับทางธุรกิจหรือเอกสารสำคัญระดับชาติ ถือว่าคุ้มกับการลงทุนเพื่อความปลอดภัย ✅ IronKey ถูกออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุด ➡️ ใช้การเข้ารหัสฮาร์ดแวร์ที่แข็งแกร่ง ➡️ ตรวจจับการเจาะระบบและทำลายข้อมูลอัตโนมัติ ✅ แตกต่างจาก USB ทั่วไป ➡️ USB ปกติใช้ซอฟต์แวร์เข้ารหัสที่ไม่แข็งแรงเท่า ➡️ IronKey มีชิปเข้ารหัสในตัวและมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง ✅ การใช้งานที่เหมาะสม ➡️ เหมาะสำหรับรัฐบาล, กองทัพ, ธุรกิจที่ต้องการความปลอดภัย ➡️ ไม่เหมาะกับการใช้งานทั่วไปที่ไม่ต้องการความปลอดภัยสูง https://www.slashgear.com/1461667/ronkey-vs-regular-usb-flash-drive-explained/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    What Is An IronKey And How Is It Different From Regular Flash Drives? - SlashGear
    If you've shopped for external storage, you might have come across IronKey flash drives. They cost a lot more, but what makes them so special?
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • "Ryzen 5 7500X3D" ชิปเกมมิ่งราคาประหยัด เปิดตัวในพรีบิลด์ Micro Center

    AMD ยังคงเดินเกมรุกในตลาดซีพียูเกมมิ่ง ด้วยการเปิดตัว Ryzen 5 7500X3D ซึ่งเป็นรุ่น X3D ที่ราคาถูกที่สุดในซีรีส์ Ryzen 7000 ณ ตอนนี้ โดยวางจำหน่ายเฉพาะในเครื่องพรีบิลด์ PowerSpec ของ Micro Center เท่านั้น

    รายละเอียดสเปกที่น่าสนใจ
    PowerSpec G528 ราคาเริ่มต้น $899.99 มาพร้อม Ryzen 5 7500X3D, การ์ดจอ RTX 5060 8GB, RAM DDR5-6000 ขนาด 16GB และ SSD 1TB
    หากเพิ่มเงินอีก $100 จะได้ PowerSpec G527 ที่ใช้การ์ดจอ Radeon RX 9060 XT 16GB และ RAM 32GB
    Ryzen 5 7500X3D มี 6 คอร์ 12 เธรด และ L3 Cache 96MB เช่นเดียวกับรุ่น 7600X3D แต่ความเร็วสัญญาณนาฬิกาลดลงเล็กน้อยที่ 4.0 GHz (7600X3D อยู่ที่ 4.1 GHz)
    แม้ความเร็วลดลง แต่ประสิทธิภาพโดยรวมใกล้เคียงกับ 7600X3D ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในงบจำกัด

    บริบทเพิ่มเติมจากภายนอก
    AMD เคยใช้กลยุทธ์เดียวกันกับ Ryzen 5 7600X3D ที่เปิดตัวแบบ exclusive กับ Micro Center ก่อนจะขยายไปทั่วโลกภายหลัง
    การออกชิป X3D ราคาประหยัดช่วยให้ AMD แข่งกับ Intel ในตลาด budget gaming PC ได้ดียิ่งขึ้น
    แม้ AMD เปิดตัวซีรีส์ใหม่ Ryzen 9000 แล้ว แต่ยังคงปล่อยชิปบนแพลตฟอร์ม Zen 3 และ Zen 4 เพื่อรองรับผู้ใช้ที่ไม่อยากเปลี่ยนเมนบอร์ด

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-ryzen-5-7500x3d-debuts-in-micro-center-pre-built-pc-affordable-gaming-cpu-seemingly-exclusive-to-retailer-for-now
    🖥️💡 "Ryzen 5 7500X3D" ชิปเกมมิ่งราคาประหยัด เปิดตัวในพรีบิลด์ Micro Center AMD ยังคงเดินเกมรุกในตลาดซีพียูเกมมิ่ง ด้วยการเปิดตัว Ryzen 5 7500X3D ซึ่งเป็นรุ่น X3D ที่ราคาถูกที่สุดในซีรีส์ Ryzen 7000 ณ ตอนนี้ โดยวางจำหน่ายเฉพาะในเครื่องพรีบิลด์ PowerSpec ของ Micro Center เท่านั้น 🔧 รายละเอียดสเปกที่น่าสนใจ 💠 PowerSpec G528 ราคาเริ่มต้น $899.99 มาพร้อม Ryzen 5 7500X3D, การ์ดจอ RTX 5060 8GB, RAM DDR5-6000 ขนาด 16GB และ SSD 1TB 💠 หากเพิ่มเงินอีก $100 จะได้ PowerSpec G527 ที่ใช้การ์ดจอ Radeon RX 9060 XT 16GB และ RAM 32GB 💠 Ryzen 5 7500X3D มี 6 คอร์ 12 เธรด และ L3 Cache 96MB เช่นเดียวกับรุ่น 7600X3D แต่ความเร็วสัญญาณนาฬิกาลดลงเล็กน้อยที่ 4.0 GHz (7600X3D อยู่ที่ 4.1 GHz) 💠 แม้ความเร็วลดลง แต่ประสิทธิภาพโดยรวมใกล้เคียงกับ 7600X3D ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในงบจำกัด 🌍 บริบทเพิ่มเติมจากภายนอก 💠 AMD เคยใช้กลยุทธ์เดียวกันกับ Ryzen 5 7600X3D ที่เปิดตัวแบบ exclusive กับ Micro Center ก่อนจะขยายไปทั่วโลกภายหลัง 💠 การออกชิป X3D ราคาประหยัดช่วยให้ AMD แข่งกับ Intel ในตลาด budget gaming PC ได้ดียิ่งขึ้น 💠 แม้ AMD เปิดตัวซีรีส์ใหม่ Ryzen 9000 แล้ว แต่ยังคงปล่อยชิปบนแพลตฟอร์ม Zen 3 และ Zen 4 เพื่อรองรับผู้ใช้ที่ไม่อยากเปลี่ยนเมนบอร์ด https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-ryzen-5-7500x3d-debuts-in-micro-center-pre-built-pc-affordable-gaming-cpu-seemingly-exclusive-to-retailer-for-now
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • AMD เร่งเครื่อง AI ด้วยการซื้อ MK1: เสริมพลังการประมวลผลแบบ “Inference & Reasoning” บน Instinct GPU

    AMD ประกาศเข้าซื้อกิจการ MK1 สตาร์ทอัพด้าน AI ที่เชี่ยวชาญการประมวลผลแบบ inference และ reasoning โดยเฉพาะบนสเกลขนาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการแข่งขันกับ NVIDIA ในตลาด AI infrastructure ที่กำลังร้อนแรง

    MK1 ก่อตั้งโดยอดีตทีมงาน Neuralink ของ Elon Musk ได้แก่ Paul Merolla และ Thong Wei Koh ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการออกแบบชิปและการประมวลผลสัญญาณสมอง โดยเทคโนโลยี Flywheel ของ MK1 สามารถให้บริการได้มากกว่า 1 ล้านล้านโทเคนต่อวัน และออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากสถาปัตยกรรมหน่วยความจำของ AMD Instinct GPU

    AMD เข้าซื้อ MK1 เพื่อเสริมกลยุทธ์ AI
    MK1 เชี่ยวชาญด้าน inference และ reasoning สำหรับ AI ขนาดใหญ่
    เทคโนโลยี Flywheel รองรับการประมวลผลมากกว่า 1 ล้านล้านโทเคนต่อวัน

    ทีมงาน MK1 จะเข้าร่วมกลุ่ม AI ของ AMD
    เพื่อพัฒนา software stack ด้าน inference และ enterprise AI
    ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ AI เพื่อจัดการกระบวนการธุรกิจที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    การผสาน MK1 กับ Instinct GPU
    ช่วยให้สามารถ reasoning ได้อย่างแม่นยำ คุ้มค่า และตรวจสอบย้อนกลับได้
    เป็นหัวใจสำคัญของ agentic AI ที่ต้องการการตัดสินใจแบบอัตโนมัติในระดับองค์กร

    AMD เดินหน้าซื้อกิจการต่อเนื่อง
    ก่อนหน้านี้ซื้อ Enosemi (silicon photonics), Brium (AI compiler), และทีมจาก Untether AI
    เสริมความสามารถด้านชิป ระบบ และซอฟต์แวร์เพื่อแข่งกับ NVIDIA

    ดีลใหญ่กับ OpenAI
    AMD ตกลงส่งมอบ compute infrastructure ขนาด 6 กิกะวัตต์ให้ OpenAI
    ใช้ Instinct GPU เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนระบบ AI ขนาดใหญ่

    คำเตือน: การแข่งขันในตลาด AI รุนแรงขึ้น
    NVIDIA ยังครองตลาดด้วย CUDA ecosystem ที่แข็งแกร่ง
    AMD ต้องเร่งสร้าง ecosystem ที่ครบวงจรเพื่อดึงดูดนักพัฒนาและลูกค้าองค์กร

    ความท้าทายด้านการผลิตและทรัพยากร
    การผลิต GPU และระบบ AI ขนาดใหญ่ต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก
    ความเสี่ยงจาก supply chain และต้นทุนอาจกระทบต่อการขยายตัว

    https://wccftech.com/amd-advances-ai-strategy-acquires-mk1-high-speed-inference-reasoning-instinct-gpus/
    🚀 AMD เร่งเครื่อง AI ด้วยการซื้อ MK1: เสริมพลังการประมวลผลแบบ “Inference & Reasoning” บน Instinct GPU AMD ประกาศเข้าซื้อกิจการ MK1 สตาร์ทอัพด้าน AI ที่เชี่ยวชาญการประมวลผลแบบ inference และ reasoning โดยเฉพาะบนสเกลขนาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการแข่งขันกับ NVIDIA ในตลาด AI infrastructure ที่กำลังร้อนแรง MK1 ก่อตั้งโดยอดีตทีมงาน Neuralink ของ Elon Musk ได้แก่ Paul Merolla และ Thong Wei Koh ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการออกแบบชิปและการประมวลผลสัญญาณสมอง โดยเทคโนโลยี Flywheel ของ MK1 สามารถให้บริการได้มากกว่า 1 ล้านล้านโทเคนต่อวัน และออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากสถาปัตยกรรมหน่วยความจำของ AMD Instinct GPU ✅ AMD เข้าซื้อ MK1 เพื่อเสริมกลยุทธ์ AI ➡️ MK1 เชี่ยวชาญด้าน inference และ reasoning สำหรับ AI ขนาดใหญ่ ➡️ เทคโนโลยี Flywheel รองรับการประมวลผลมากกว่า 1 ล้านล้านโทเคนต่อวัน ✅ ทีมงาน MK1 จะเข้าร่วมกลุ่ม AI ของ AMD ➡️ เพื่อพัฒนา software stack ด้าน inference และ enterprise AI ➡️ ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ AI เพื่อจัดการกระบวนการธุรกิจที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ การผสาน MK1 กับ Instinct GPU ➡️ ช่วยให้สามารถ reasoning ได้อย่างแม่นยำ คุ้มค่า และตรวจสอบย้อนกลับได้ ➡️ เป็นหัวใจสำคัญของ agentic AI ที่ต้องการการตัดสินใจแบบอัตโนมัติในระดับองค์กร ✅ AMD เดินหน้าซื้อกิจการต่อเนื่อง ➡️ ก่อนหน้านี้ซื้อ Enosemi (silicon photonics), Brium (AI compiler), และทีมจาก Untether AI ➡️ เสริมความสามารถด้านชิป ระบบ และซอฟต์แวร์เพื่อแข่งกับ NVIDIA ✅ ดีลใหญ่กับ OpenAI ➡️ AMD ตกลงส่งมอบ compute infrastructure ขนาด 6 กิกะวัตต์ให้ OpenAI ➡️ ใช้ Instinct GPU เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนระบบ AI ขนาดใหญ่ ‼️ คำเตือน: การแข่งขันในตลาด AI รุนแรงขึ้น ⛔ NVIDIA ยังครองตลาดด้วย CUDA ecosystem ที่แข็งแกร่ง ⛔ AMD ต้องเร่งสร้าง ecosystem ที่ครบวงจรเพื่อดึงดูดนักพัฒนาและลูกค้าองค์กร ‼️ ความท้าทายด้านการผลิตและทรัพยากร ⛔ การผลิต GPU และระบบ AI ขนาดใหญ่ต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก ⛔ ความเสี่ยงจาก supply chain และต้นทุนอาจกระทบต่อการขยายตัว https://wccftech.com/amd-advances-ai-strategy-acquires-mk1-high-speed-inference-reasoning-instinct-gpus/
    WCCFTECH.COM
    AMD Acquires New AI Startup in Its Bid to Finally Fix Its "CUDA Problem"
    AMD has strengthened its AI strategy with the acquisition of MK1, who bring high-speed inference & Reasoning tech for Instinct GPUs.
    0 Comments 0 Shares 125 Views 0 Reviews
  • ติดโซลาร์ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ! 5 ข้อผิดพลาดที่ควรเลี่ยงก่อนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์

    การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์อาจดูเหมือนเป็นทางออกที่ดีในการลดค่าไฟฟ้า แต่ถ้าไม่วางแผนให้ดี อาจกลายเป็นภาระระยะยาวแทนที่จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า บทความนี้เผย 5 ข้อผิดพลาดที่เจ้าของบ้านมักทำเมื่อพิจารณาติดตั้งโซลาร์ พร้อมเสริมข้อมูลจากแหล่งอื่นเพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ.

    หลายคนเริ่มสนใจโซลาร์เพราะค่าไฟที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ความคิดว่า “ติดแล้วจะไม่ต้องจ่ายค่าไฟอีก” ฟังดูดี แต่ในความเป็นจริง โซลาร์ไม่ใช่พลังงานฟรี และการคืนทุน (ROI) ก็ไม่ได้เกิดขึ้นทันที

    ตัวอย่างเช่น ระบบขนาด 6 กิโลวัตต์อาจช่วยประหยัดได้ประมาณ $1,500 ต่อปี แต่ถ้าคุณลงทุน $29,000 กับระบบขนาด 10 กิโลวัตต์ ก็ต้องใช้เวลาหลายปีถึงจะคุ้มทุน

    ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง
    1️⃣ คิดว่าจะคืนทุนทันที ROI เฉลี่ยของโซลาร์อยู่ที่ประมาณ 10% ต่อปี ต้องใช้เวลาหลายปีถึงจะคุ้มทุน

    2️⃣ ไม่ประเมินการใช้พลังงานของบ้าน บ้านแต่ละหลังมีความต้องการพลังงานต่างกัน ต้องคำนวณจากการใช้ไฟย้อนหลัง 12 เดือน และจำนวนชั่วโมงแสงแดดเฉลี่ยต่อวัน

    3️⃣ ไม่เปรียบเทียบผู้ให้บริการ ราคาติดตั้งแตกต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับบริษัท ขนาดบ้าน จำนวนแผง และบริการหลังการขาย

    4️⃣ ไม่คำนึงถึงค่าบำรุงรักษา แผงโซลาร์ต้องทำความสะอาดและเปลี่ยนอะไหล่ เช่น อินเวอร์เตอร์ทุก 10 ปี

    5️⃣ ไม่เข้าใจระบบ Net Metering การขายไฟฟ้าคืนให้บริษัทไฟฟ้ามีข้อจำกัด เช่น ราคาซื้อคืนต่ำกว่าราคาขาย และอาจมีการจำกัดเครดิต

    การคืนทุนจากโซลาร์
    ROI เฉลี่ยประมาณ 10% ต่อปี
    ระบบขนาด 6kW ประหยัดได้ประมาณ $1,500 ต่อปี
    ระบบขนาด 10kW อาจต้องใช้เวลาหลายปีถึงจะคุ้มทุน

    การประเมินพลังงานที่บ้านต้องใช้
    คำนวณจากการใช้ไฟย้อนหลัง 12 เดือน
    ใช้เครื่องมือเช่น GHI Map เพื่อดูชั่วโมงแสงแดด
    ควรติดตั้งให้ผลิตไฟได้มากกว่าค่าเฉลี่ยรายวัน

    การเลือกผู้ให้บริการติดตั้ง
    เปรียบเทียบราคาและบริการจากหลายบริษัท
    ตรวจสอบว่ามีบริการติดตั้งเองหรือจ้างภายนอก
    พิจารณาเงื่อนไขการรับประกันและแผนบริการ

    ค่าบำรุงรักษา
    อินเวอร์เตอร์อาจต้องเปลี่ยนทุก 10 ปี
    ควรทำความสะอาดแผงปีละ 1 ครั้ง หรือบ่อยกว่านั้นในพื้นที่ฝุ่นเยอะ

    ระบบ Net Metering
    ขายไฟคืนได้เมื่อผลิตเกิน
    บริษัทไฟฟ้าอาจจ่ายน้อยกว่าราคาที่คุณซื้อ
    บางกรณีอาจมีการจำกัดเครดิต

    ความเข้าใจผิดเรื่อง ROI
    คิดว่าจะคืนทุนทันทีหลังติดตั้ง
    มองแค่ค่าไฟลดลงโดยไม่คิดถึงต้นทุน

    การไม่ประเมินความต้องการพลังงาน
    ติดตั้งระบบเล็กเกินไปหรือใหญ่เกินไป
    ไม่วางแผนสำหรับการใช้ไฟในอนาคต

    การละเลยค่าบำรุงรักษา
    ไม่เตรียมงบสำหรับการเปลี่ยนอะไหล่
    ไม่ทำความสะอาดแผงอย่างสม่ำเสมอ

    ความเข้าใจผิดเรื่อง Net Metering
    คิดว่าจะได้เงินคืนเต็มจำนวนจากไฟที่ขาย
    ไม่รู้ว่าบางบริษัทมีการจำกัดเครดิตหรือจ่ายน้อยกว่าราคาซื้อ

    https://www.slashgear.com/2019538/common-mistakes-avoid-considering-solar-panels/
    🌞 ติดโซลาร์ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ! 5 ข้อผิดพลาดที่ควรเลี่ยงก่อนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์อาจดูเหมือนเป็นทางออกที่ดีในการลดค่าไฟฟ้า แต่ถ้าไม่วางแผนให้ดี อาจกลายเป็นภาระระยะยาวแทนที่จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า บทความนี้เผย 5 ข้อผิดพลาดที่เจ้าของบ้านมักทำเมื่อพิจารณาติดตั้งโซลาร์ พร้อมเสริมข้อมูลจากแหล่งอื่นเพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ. หลายคนเริ่มสนใจโซลาร์เพราะค่าไฟที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ความคิดว่า “ติดแล้วจะไม่ต้องจ่ายค่าไฟอีก” ฟังดูดี แต่ในความเป็นจริง โซลาร์ไม่ใช่พลังงานฟรี และการคืนทุน (ROI) ก็ไม่ได้เกิดขึ้นทันที ตัวอย่างเช่น ระบบขนาด 6 กิโลวัตต์อาจช่วยประหยัดได้ประมาณ $1,500 ต่อปี แต่ถ้าคุณลงทุน $29,000 กับระบบขนาด 10 กิโลวัตต์ ก็ต้องใช้เวลาหลายปีถึงจะคุ้มทุน 🛠️ ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง 1️⃣ คิดว่าจะคืนทุนทันที ROI เฉลี่ยของโซลาร์อยู่ที่ประมาณ 10% ต่อปี ต้องใช้เวลาหลายปีถึงจะคุ้มทุน 2️⃣ ไม่ประเมินการใช้พลังงานของบ้าน บ้านแต่ละหลังมีความต้องการพลังงานต่างกัน ต้องคำนวณจากการใช้ไฟย้อนหลัง 12 เดือน และจำนวนชั่วโมงแสงแดดเฉลี่ยต่อวัน 3️⃣ ไม่เปรียบเทียบผู้ให้บริการ ราคาติดตั้งแตกต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับบริษัท ขนาดบ้าน จำนวนแผง และบริการหลังการขาย 4️⃣ ไม่คำนึงถึงค่าบำรุงรักษา แผงโซลาร์ต้องทำความสะอาดและเปลี่ยนอะไหล่ เช่น อินเวอร์เตอร์ทุก 10 ปี 5️⃣ ไม่เข้าใจระบบ Net Metering การขายไฟฟ้าคืนให้บริษัทไฟฟ้ามีข้อจำกัด เช่น ราคาซื้อคืนต่ำกว่าราคาขาย และอาจมีการจำกัดเครดิต ✅ การคืนทุนจากโซลาร์ ➡️ ROI เฉลี่ยประมาณ 10% ต่อปี ➡️ ระบบขนาด 6kW ประหยัดได้ประมาณ $1,500 ต่อปี ➡️ ระบบขนาด 10kW อาจต้องใช้เวลาหลายปีถึงจะคุ้มทุน ✅ การประเมินพลังงานที่บ้านต้องใช้ ➡️ คำนวณจากการใช้ไฟย้อนหลัง 12 เดือน ➡️ ใช้เครื่องมือเช่น GHI Map เพื่อดูชั่วโมงแสงแดด ➡️ ควรติดตั้งให้ผลิตไฟได้มากกว่าค่าเฉลี่ยรายวัน ✅ การเลือกผู้ให้บริการติดตั้ง ➡️ เปรียบเทียบราคาและบริการจากหลายบริษัท ➡️ ตรวจสอบว่ามีบริการติดตั้งเองหรือจ้างภายนอก ➡️ พิจารณาเงื่อนไขการรับประกันและแผนบริการ ✅ ค่าบำรุงรักษา ➡️ อินเวอร์เตอร์อาจต้องเปลี่ยนทุก 10 ปี ➡️ ควรทำความสะอาดแผงปีละ 1 ครั้ง หรือบ่อยกว่านั้นในพื้นที่ฝุ่นเยอะ ✅ ระบบ Net Metering ➡️ ขายไฟคืนได้เมื่อผลิตเกิน ➡️ บริษัทไฟฟ้าอาจจ่ายน้อยกว่าราคาที่คุณซื้อ ➡️ บางกรณีอาจมีการจำกัดเครดิต ‼️ ความเข้าใจผิดเรื่อง ROI ⛔ คิดว่าจะคืนทุนทันทีหลังติดตั้ง ⛔ มองแค่ค่าไฟลดลงโดยไม่คิดถึงต้นทุน ‼️ การไม่ประเมินความต้องการพลังงาน ⛔ ติดตั้งระบบเล็กเกินไปหรือใหญ่เกินไป ⛔ ไม่วางแผนสำหรับการใช้ไฟในอนาคต ‼️ การละเลยค่าบำรุงรักษา ⛔ ไม่เตรียมงบสำหรับการเปลี่ยนอะไหล่ ⛔ ไม่ทำความสะอาดแผงอย่างสม่ำเสมอ ‼️ ความเข้าใจผิดเรื่อง Net Metering ⛔ คิดว่าจะได้เงินคืนเต็มจำนวนจากไฟที่ขาย ⛔ ไม่รู้ว่าบางบริษัทมีการจำกัดเครดิตหรือจ่ายน้อยกว่าราคาซื้อ https://www.slashgear.com/2019538/common-mistakes-avoid-considering-solar-panels/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Common Mistakes To Avoid When Considering Solar Panels For The Home - SlashGear
    Do rooftop solar panels sound like a good deal? They could very well be, assuming you consider all the pros and cons before making your decision.
    0 Comments 0 Shares 141 Views 0 Reviews
  • “ซื้อคอมใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย – 5 ปัจจัยที่ต้องคิดก่อนจ่ายเงิน”

    ลองจินตนาการว่าคุณกำลังจะซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ ไม่ว่าจะเพื่อเรียน ทำงาน หรือเล่นเกม คุณเปิดเว็บดูสเปกแล้วพบว่ามีตัวเลือกมากมายจนตาลาย ทั้งโน้ตบุ๊ก เดสก์ท็อป Chromebook หรือแม้แต่ MacBook

    คุณเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ฉันจะใช้มันทำอะไร?” นั่นคือคำถามแรกที่สำคัญที่สุด เพราะถ้าคุณแค่ใช้พิมพ์งาน ดู Netflix หรือเช็กอีเมล คุณอาจไม่ต้องซื้อเครื่องแพงเลย แต่ถ้าคุณทำงานด้านกราฟิก เล่นเกมหนัก หรือทำวิดีโอ คุณต้องมองหาการ์ดจอแยก RAM เยอะ และ CPU แรง

    จากนั้นคุณต้องถามว่า “จะใช้ที่ไหน?” ถ้าคุณเป็นนักศึกษา โน้ตบุ๊กอาจเหมาะกว่าเพราะพกพาง่าย แต่ถ้าคุณทำงานอยู่บ้าน เดสก์ท็อปอาจคุ้มค่ากว่า

    งบประมาณก็เป็นอีกเรื่องใหญ่ คุณอาจอยากได้ทุกอย่าง แต่ต้องเลือกสิ่งที่จำเป็นจริงๆ เช่น จอภาพสีตรงอาจสำคัญกว่าคีย์บอร์ดไฟ RGB

    สุดท้าย อย่าลืมดูว่าสเปกที่คุณเลือกจะไม่ล้าสมัยเร็วเกินไป และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่คุณมีอยู่แล้ว เช่น กล้องเก่า หรือฮาร์ดดิสก์ภายนอก

    ตั้งเป้าหมายการใช้งานให้ชัดเจน
    ใช้ทำงานทั่วไปหรือเฉพาะทาง เช่น เกม กราฟิก วิดีโอ
    เลือกสเปกตามซอฟต์แวร์ที่ต้องใช้ เช่น MacBook อาจไม่รองรับบางโปรแกรม

    เลือกประเภทเครื่องให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์
    โน้ตบุ๊กพกพาสะดวก แต่แพงและร้อนง่าย
    เดสก์ท็อปแรงกว่า ราคาคุ้มกว่า แต่ไม่เคลื่อนย้ายได้

    วางงบประมาณอย่างมีเหตุผล
    แยกสิ่งที่ “จำเป็น” กับ “อยากได้”
    เลือกสเปกที่ตอบโจทย์มากกว่าความหรูหรา

    ตรวจสอบสเปกให้ไม่ล้าสมัย
    อย่าซื้อรุ่นพื้นฐานที่อัปเกรดไม่ได้ เช่น MacBook Air รุ่น RAM 8GB
    ลงทุนกับ RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลให้เพียงพอในระยะยาว

    ตรวจสอบความเข้ากันได้กับอุปกรณ์เดิม
    อุปกรณ์เก่าอาจใช้พอร์ตที่ไม่มีในเครื่องใหม่
    อาจต้องซื้ออะแดปเตอร์หรือ USB hub เพิ่มเติม

    อย่าซื้อเพราะโปรโมชั่นหรือคำแนะนำที่ไม่ตรงกับความต้องการ
    อาจได้เครื่องที่ไม่เหมาะกับงานของคุณ
    เสียเงินเพิ่มภายหลังเพื่ออัปเกรดหรือซื้อใหม่

    อย่ามองข้ามการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริม
    พอร์ตไม่พออาจทำให้ใช้งานลำบาก
    อุปกรณ์เก่าอาจใช้งานไม่ได้หากไม่มีอะแดปเตอร์

    https://www.slashgear.com/2017583/things-to-consider-when-buying-new-computer-ranked/
    🧠 “ซื้อคอมใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย – 5 ปัจจัยที่ต้องคิดก่อนจ่ายเงิน” ลองจินตนาการว่าคุณกำลังจะซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ ไม่ว่าจะเพื่อเรียน ทำงาน หรือเล่นเกม คุณเปิดเว็บดูสเปกแล้วพบว่ามีตัวเลือกมากมายจนตาลาย ทั้งโน้ตบุ๊ก เดสก์ท็อป Chromebook หรือแม้แต่ MacBook คุณเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ฉันจะใช้มันทำอะไร?” นั่นคือคำถามแรกที่สำคัญที่สุด เพราะถ้าคุณแค่ใช้พิมพ์งาน ดู Netflix หรือเช็กอีเมล คุณอาจไม่ต้องซื้อเครื่องแพงเลย แต่ถ้าคุณทำงานด้านกราฟิก เล่นเกมหนัก หรือทำวิดีโอ คุณต้องมองหาการ์ดจอแยก RAM เยอะ และ CPU แรง จากนั้นคุณต้องถามว่า “จะใช้ที่ไหน?” ถ้าคุณเป็นนักศึกษา โน้ตบุ๊กอาจเหมาะกว่าเพราะพกพาง่าย แต่ถ้าคุณทำงานอยู่บ้าน เดสก์ท็อปอาจคุ้มค่ากว่า งบประมาณก็เป็นอีกเรื่องใหญ่ คุณอาจอยากได้ทุกอย่าง แต่ต้องเลือกสิ่งที่จำเป็นจริงๆ เช่น จอภาพสีตรงอาจสำคัญกว่าคีย์บอร์ดไฟ RGB สุดท้าย อย่าลืมดูว่าสเปกที่คุณเลือกจะไม่ล้าสมัยเร็วเกินไป และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่คุณมีอยู่แล้ว เช่น กล้องเก่า หรือฮาร์ดดิสก์ภายนอก ✅ ตั้งเป้าหมายการใช้งานให้ชัดเจน ➡️ ใช้ทำงานทั่วไปหรือเฉพาะทาง เช่น เกม กราฟิก วิดีโอ ➡️ เลือกสเปกตามซอฟต์แวร์ที่ต้องใช้ เช่น MacBook อาจไม่รองรับบางโปรแกรม ✅ เลือกประเภทเครื่องให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ ➡️ โน้ตบุ๊กพกพาสะดวก แต่แพงและร้อนง่าย ➡️ เดสก์ท็อปแรงกว่า ราคาคุ้มกว่า แต่ไม่เคลื่อนย้ายได้ ✅ วางงบประมาณอย่างมีเหตุผล ➡️ แยกสิ่งที่ “จำเป็น” กับ “อยากได้” ➡️ เลือกสเปกที่ตอบโจทย์มากกว่าความหรูหรา ✅ ตรวจสอบสเปกให้ไม่ล้าสมัย ➡️ อย่าซื้อรุ่นพื้นฐานที่อัปเกรดไม่ได้ เช่น MacBook Air รุ่น RAM 8GB ➡️ ลงทุนกับ RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลให้เพียงพอในระยะยาว ✅ ตรวจสอบความเข้ากันได้กับอุปกรณ์เดิม ➡️ อุปกรณ์เก่าอาจใช้พอร์ตที่ไม่มีในเครื่องใหม่ ➡️ อาจต้องซื้ออะแดปเตอร์หรือ USB hub เพิ่มเติม ‼️ อย่าซื้อเพราะโปรโมชั่นหรือคำแนะนำที่ไม่ตรงกับความต้องการ ⛔ อาจได้เครื่องที่ไม่เหมาะกับงานของคุณ ⛔ เสียเงินเพิ่มภายหลังเพื่ออัปเกรดหรือซื้อใหม่ ‼️ อย่ามองข้ามการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริม ⛔ พอร์ตไม่พออาจทำให้ใช้งานลำบาก ⛔ อุปกรณ์เก่าอาจใช้งานไม่ได้หากไม่มีอะแดปเตอร์ https://www.slashgear.com/2017583/things-to-consider-when-buying-new-computer-ranked/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Things To Consider When Buying A New Computer, Ranked By Importance - SlashGear
    Buying a new computer can be a nerve-wracking experience. With so many things to consider, and so much money potentially on the line, here's where to start.
    0 Comments 0 Shares 140 Views 0 Reviews
  • AYANEO NEXT 2 เปิดตัวแล้ว! เครื่องเกมพกพา Windows สเปกแรงระดับพีซี พร้อม Ryzen AI Max+ 395

    AYANEO เปิดตัวเครื่องเกมพกพารุ่นใหม่ล่าสุด NEXT 2 ที่มาพร้อมขุมพลัง Ryzen AI Max+ 395 ซึ่งเป็น APU ระดับสูงจาก AMD ที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และกราฟิก RDNA 3.5 รุ่น Radeon 8060S ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 4060 ในเครื่องพีซี! นี่คือเครื่องที่สามในตลาดที่ใช้ชิปนี้ ต่อจาก GPD และ OneXPlayer

    จุดเด่นของ AYANEO NEXT 2
    ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows เต็มรูปแบบ
    รองรับ TMR Joysticks ขนาดใหญ่ และ Dual-Mode Triggers ที่ปรับได้ระหว่าง hair trigger และ Hall Effect
    ดีไซน์คล้าย Xbox controller พร้อมปุ่ม ABXY, D-Pad แบบวงกลม และปุ่มเสริม
    ระบบระบายความร้อนแบบ พัดลมคู่
    แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ (built-in) ไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้
    หน้าจอ “Top-tier” แต่ยังไม่เปิดเผยขนาด, ความละเอียด, รีเฟรชเรต หรือชนิดพาเนล

    สเปกหลักของ AYANEO NEXT 2
    ใช้ Ryzen AI Max+ 395 (16-core/32-thread)
    กราฟิก Radeon 8060S iGPU (RDNA 3.5)
    ประสิทธิภาพใกล้เคียง RTX 4060
    คาดว่าเริ่มต้นที่ 32GB RAM / 1TB SSD

    ระบบควบคุมและดีไซน์
    TMR Joysticks ขนาดใหญ่
    Dual-Mode Triggers ปรับได้
    Layout คล้าย Xbox controller

    ระบบระบายความร้อนและแบตเตอรี่
    ใช้พัดลมคู่เพื่อจัดการความร้อน
    แบตเตอรี่ built-in ขนาดใหญ่
    ไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้เหมือน GPD Win 5

    สถานะการเปิดตัว
    ยังไม่เปิดเผยราคาและวันวางจำหน่าย
    คาดว่าจะอยู่ในช่วง $1500+
    เป็นรุ่นที่สามในตลาดที่ใช้ Ryzen AI Max+ 395

    คำเตือนสำหรับผู้สนใจ
    ยังไม่มีข้อมูลเรื่องหน้าจอ เช่น ขนาด, รีเฟรชเรต, ความละเอียด
    ไม่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ อาจกระทบการใช้งานระยะยาว
    ราคาอาจสูงเกิน $1500 ซึ่งต้องพิจารณาคุ้มค่าต่อการใช้งาน

    https://wccftech.com/ayaneo-launches-next-2-a-powerful-windows-handheld-featuring-ryzen-ai-max-395/
    🎮⚡ AYANEO NEXT 2 เปิดตัวแล้ว! เครื่องเกมพกพา Windows สเปกแรงระดับพีซี พร้อม Ryzen AI Max+ 395 AYANEO เปิดตัวเครื่องเกมพกพารุ่นใหม่ล่าสุด NEXT 2 ที่มาพร้อมขุมพลัง Ryzen AI Max+ 395 ซึ่งเป็น APU ระดับสูงจาก AMD ที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และกราฟิก RDNA 3.5 รุ่น Radeon 8060S ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 4060 ในเครื่องพีซี! นี่คือเครื่องที่สามในตลาดที่ใช้ชิปนี้ ต่อจาก GPD และ OneXPlayer 🎮 จุดเด่นของ AYANEO NEXT 2 💠 ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows เต็มรูปแบบ 💠 รองรับ TMR Joysticks ขนาดใหญ่ และ Dual-Mode Triggers ที่ปรับได้ระหว่าง hair trigger และ Hall Effect 💠 ดีไซน์คล้าย Xbox controller พร้อมปุ่ม ABXY, D-Pad แบบวงกลม และปุ่มเสริม 💠 ระบบระบายความร้อนแบบ พัดลมคู่ 💠 แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ (built-in) ไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้ 💠 หน้าจอ “Top-tier” แต่ยังไม่เปิดเผยขนาด, ความละเอียด, รีเฟรชเรต หรือชนิดพาเนล ✅ สเปกหลักของ AYANEO NEXT 2 ➡️ ใช้ Ryzen AI Max+ 395 (16-core/32-thread) ➡️ กราฟิก Radeon 8060S iGPU (RDNA 3.5) ➡️ ประสิทธิภาพใกล้เคียง RTX 4060 ➡️ คาดว่าเริ่มต้นที่ 32GB RAM / 1TB SSD ✅ ระบบควบคุมและดีไซน์ ➡️ TMR Joysticks ขนาดใหญ่ ➡️ Dual-Mode Triggers ปรับได้ ➡️ Layout คล้าย Xbox controller ✅ ระบบระบายความร้อนและแบตเตอรี่ ➡️ ใช้พัดลมคู่เพื่อจัดการความร้อน ➡️ แบตเตอรี่ built-in ขนาดใหญ่ ➡️ ไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้เหมือน GPD Win 5 ✅ สถานะการเปิดตัว ➡️ ยังไม่เปิดเผยราคาและวันวางจำหน่าย ➡️ คาดว่าจะอยู่ในช่วง $1500+ ➡️ เป็นรุ่นที่สามในตลาดที่ใช้ Ryzen AI Max+ 395 ‼️ คำเตือนสำหรับผู้สนใจ ⛔ ยังไม่มีข้อมูลเรื่องหน้าจอ เช่น ขนาด, รีเฟรชเรต, ความละเอียด ⛔ ไม่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ อาจกระทบการใช้งานระยะยาว ⛔ ราคาอาจสูงเกิน $1500 ซึ่งต้องพิจารณาคุ้มค่าต่อการใช้งาน https://wccftech.com/ayaneo-launches-next-2-a-powerful-windows-handheld-featuring-ryzen-ai-max-395/
    WCCFTECH.COM
    The First "Strix Halo" Handheld is Here: AYANEO NEXT 2 Uses AMD's Most Powerful APU Yet
    AYANEO has officially announced its NEXT 2 gaming handheld, featuring the most powerful AMD Strix Halo chip for terrific gaming performance.
    0 Comments 0 Shares 103 Views 0 Reviews
  • Rivian มอบแพ็คเกจค่าตอบแทนสุดอลังการให้ CEO สไตล์ Elon Musk มูลค่าสูงสุดถึง 4.6 พันล้านดอลลาร์

    Rivian ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติอเมริกัน ประกาศมอบแพ็คเกจค่าตอบแทนใหม่ให้กับ CEO RJ Scaringe ซึ่งอาจมีมูลค่าสูงถึง 4.6 พันล้านดอลลาร์ภายใน 10 ปี หากบรรลุเป้าหมายด้านผลประกอบการและราคาหุ้นที่กำหนดไว้ โดยรูปแบบของแพ็คเกจนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากดีลระดับประวัติศาสตร์ของ Elon Musk กับ Tesla

    Rivian กำลังเดินตามรอย Tesla ด้วยการเสนอค่าตอบแทนแบบ “ผลลัพธ์นำหน้า” ให้กับ CEO RJ Scaringe ซึ่งจะได้รับหุ้นตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เช่น รายได้สุทธิที่เพิ่มขึ้น และราคาหุ้นที่ต้องแตะระดับเป้าหมาย โดยดีลนี้มีเงื่อนไขที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าของ Musk เพื่อกระตุ้นการเติบโตของบริษัทในระยะยาว

    การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของคณะกรรมการ Rivian ว่า Scaringe คือผู้นำที่สามารถพาบริษัทไปสู่ความสำเร็จระดับโลกได้ โดยเฉพาะในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด

    แพ็คเกจนี้ยังเป็นสัญญาณว่าโมเดลค่าตอบแทนแบบ Musk อาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับบริษัทเทคโนโลยีที่ต้องการผลักดันผู้บริหารให้สร้างมูลค่าอย่างแท้จริง

    รายละเอียดแพ็คเกจค่าตอบแทนของ Rivian
    มูลค่าสูงสุดถึง 4.6 พันล้านดอลลาร์ภายใน 10 ปี
    ขึ้นอยู่กับการบรรลุเป้าหมายด้านกำไรและราคาหุ้น
    เงื่อนไขเข้าถึงง่ายกว่าดีลของ Elon Musk
    สะท้อนความเชื่อมั่นในตัว CEO RJ Scaringe

    แนวโน้มในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
    โมเดลค่าตอบแทนแบบ Musk อาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่
    บริษัทเทคโนโลยีเริ่มใช้ค่าตอบแทนที่ผูกกับผลลัพธ์ระยะยาว
    กระตุ้นให้ผู้บริหารสร้างมูลค่าแท้จริงให้กับผู้ถือหุ้น

    คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงของแพ็คเกจลักษณะนี้
    หากเป้าหมายไม่บรรลุ ผู้บริหารอาจไม่ได้รับค่าตอบแทนเลย
    อาจสร้างแรงกดดันให้ผู้บริหารเน้นผลระยะสั้นมากเกินไป
    นักลงทุนควรติดตามเงื่อนไขอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินความคุ้มค่า
    การเปรียบเทียบกับดีลของ Musk อาจไม่เหมาะสมในทุกบริบท

    ดีลนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่เป็นกลยุทธ์ที่สะท้อนถึงวิธีคิดใหม่ในการบริหารองค์กรเทคโนโลยีในยุคที่ผลลัพธ์คือทุกสิ่ง.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/08/ev-maker-rivian-gives-ceo-a-musk-style-pay-package-worth-up-to-46-billion
    💰 Rivian มอบแพ็คเกจค่าตอบแทนสุดอลังการให้ CEO สไตล์ Elon Musk มูลค่าสูงสุดถึง 4.6 พันล้านดอลลาร์ Rivian ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติอเมริกัน ประกาศมอบแพ็คเกจค่าตอบแทนใหม่ให้กับ CEO RJ Scaringe ซึ่งอาจมีมูลค่าสูงถึง 4.6 พันล้านดอลลาร์ภายใน 10 ปี หากบรรลุเป้าหมายด้านผลประกอบการและราคาหุ้นที่กำหนดไว้ โดยรูปแบบของแพ็คเกจนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากดีลระดับประวัติศาสตร์ของ Elon Musk กับ Tesla Rivian กำลังเดินตามรอย Tesla ด้วยการเสนอค่าตอบแทนแบบ “ผลลัพธ์นำหน้า” ให้กับ CEO RJ Scaringe ซึ่งจะได้รับหุ้นตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เช่น รายได้สุทธิที่เพิ่มขึ้น และราคาหุ้นที่ต้องแตะระดับเป้าหมาย โดยดีลนี้มีเงื่อนไขที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าของ Musk เพื่อกระตุ้นการเติบโตของบริษัทในระยะยาว การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของคณะกรรมการ Rivian ว่า Scaringe คือผู้นำที่สามารถพาบริษัทไปสู่ความสำเร็จระดับโลกได้ โดยเฉพาะในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด แพ็คเกจนี้ยังเป็นสัญญาณว่าโมเดลค่าตอบแทนแบบ Musk อาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับบริษัทเทคโนโลยีที่ต้องการผลักดันผู้บริหารให้สร้างมูลค่าอย่างแท้จริง ✅ รายละเอียดแพ็คเกจค่าตอบแทนของ Rivian ➡️ มูลค่าสูงสุดถึง 4.6 พันล้านดอลลาร์ภายใน 10 ปี ➡️ ขึ้นอยู่กับการบรรลุเป้าหมายด้านกำไรและราคาหุ้น ➡️ เงื่อนไขเข้าถึงง่ายกว่าดีลของ Elon Musk ➡️ สะท้อนความเชื่อมั่นในตัว CEO RJ Scaringe ✅ แนวโน้มในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ➡️ โมเดลค่าตอบแทนแบบ Musk อาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ ➡️ บริษัทเทคโนโลยีเริ่มใช้ค่าตอบแทนที่ผูกกับผลลัพธ์ระยะยาว ➡️ กระตุ้นให้ผู้บริหารสร้างมูลค่าแท้จริงให้กับผู้ถือหุ้น ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงของแพ็คเกจลักษณะนี้ ⛔ หากเป้าหมายไม่บรรลุ ผู้บริหารอาจไม่ได้รับค่าตอบแทนเลย ⛔ อาจสร้างแรงกดดันให้ผู้บริหารเน้นผลระยะสั้นมากเกินไป ⛔ นักลงทุนควรติดตามเงื่อนไขอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินความคุ้มค่า ⛔ การเปรียบเทียบกับดีลของ Musk อาจไม่เหมาะสมในทุกบริบท ดีลนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่เป็นกลยุทธ์ที่สะท้อนถึงวิธีคิดใหม่ในการบริหารองค์กรเทคโนโลยีในยุคที่ผลลัพธ์คือทุกสิ่ง. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/08/ev-maker-rivian-gives-ceo-a-musk-style-pay-package-worth-up-to-46-billion
    WWW.THESTAR.COM.MY
    EV maker Rivian gives CEO a Musk-style pay package worth up to $4.6 billion
    (Reuters) -Electric pickup and SUV maker Rivian said on Friday it was giving its CEO a pay plan worth as much as $4.6 billion over the next decade, a deal similar to Tesla's record package for CEO Elon Musk, and linked to new profit targets and lower share price milestones than a previous deal.
    0 Comments 0 Shares 101 Views 0 Reviews
  • ชวนทานหอยลายทอดกรอบรสโคเรียสไปซ์ซี่ อาหารทานเล่น ทานกับข้าวก็ได้ ทานหน้าทีวีคืออร่อยเลิศ ถุงเล็กเล็กๆแบบนี้เปิดแป๊บเดียวหมดแน่นอนจ้า ร้านกินจุ๊บจิ๊บ อาหารแห้ง อาหารทะเลแห้ง อาหารทานเล่น … เราสรรหาคุณภาพ ที่ทานได้ทั้งครอบครัว คุ้มค่าคุ้มราคา ยังไงก็ฝากกดติดตามร้านด้วยนะคะ … ร้านกินจุ๊บจิ๊บ ร้านดีดีทางเลือกดีดี สำหรับคนชอบทานของอร่อยค่ะ

    อาหารทานเล่นยอดฮิต … กำลังเป็นที่นิยมมาก ณ จุดนี้… ถามว่าอร่อยกี่โมงก่อนนนน

    หอยลายอบกรอบ รสโคเรียสไปซี่ ความอร่อยลงตัวที่ห้ามไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ .. มีความเผ็ดๆ แต่ไม่มาก เคี้ยวเล่นก็เพลิน ทานกับข้าวก็เลิศ

    ยากได้ความอร่อยแบบนี้ ส่งตรงถึงหน้าบ้าน ต้องร้านเราเลยครับ… กดสั่งซื้อในตะกร้าได้เลยครับ

    ร้านกินจุ๊บจิ๊บ อร่อย สดใหม่ ส่งไว ได้คุณภาพ

    ⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้า
    หอยลายกรอบ รสโคเรียสไปซี่ ใน TikTok
    https://vt.tiktok.com/ZShf94QeQ/

    หอยลายกรอบ รสโคเรียสไปซี่ ใน Shopee
    https://th.shp.ee/sic8iXL

    เลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง
    1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop
    2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_

    เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ

    #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #ปลาซิวกรอบ #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาข้างเหลือง #กิมสั่วงา

    #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ปลากระพงทุบ #หอยลายอบกรอบ #หอยลายกรอบ
    ชวนทานหอยลายทอดกรอบรสโคเรียสไปซ์ซี่ อาหารทานเล่น ทานกับข้าวก็ได้ ทานหน้าทีวีคืออร่อยเลิศ ถุงเล็กเล็กๆแบบนี้เปิดแป๊บเดียวหมดแน่นอนจ้า ร้านกินจุ๊บจิ๊บ อาหารแห้ง อาหารทะเลแห้ง อาหารทานเล่น … เราสรรหาคุณภาพ ที่ทานได้ทั้งครอบครัว คุ้มค่าคุ้มราคา ยังไงก็ฝากกดติดตามร้านด้วยนะคะ … ร้านกินจุ๊บจิ๊บ ร้านดีดีทางเลือกดีดี สำหรับคนชอบทานของอร่อยค่ะ อาหารทานเล่นยอดฮิต … กำลังเป็นที่นิยมมาก ณ จุดนี้… ถามว่าอร่อยกี่โมงก่อนนนน หอยลายอบกรอบ รสโคเรียสไปซี่ ความอร่อยลงตัวที่ห้ามไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ 😁.. มีความเผ็ดๆ แต่ไม่มาก เคี้ยวเล่นก็เพลิน ทานกับข้าวก็เลิศ ยากได้ความอร่อยแบบนี้ ส่งตรงถึงหน้าบ้าน ต้องร้านเราเลยครับ… กดสั่งซื้อในตะกร้าได้เลยครับ 😍ร้านกินจุ๊บจิ๊บ อร่อย สดใหม่ ส่งไว ได้คุณภาพ😍 🌶️♨️⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้า หอยลายกรอบ รสโคเรียสไปซี่ 🐟🐠 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZShf94QeQ/ หอยลายกรอบ รสโคเรียสไปซี่🐠🐟 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/sic8iXL เลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง 1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop 2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_ เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #ปลาซิวกรอบ #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาข้างเหลือง #กิมสั่วงา #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ปลากระพงทุบ #หอยลายอบกรอบ #หอยลายกรอบ
    0 Comments 0 Shares 203 Views 0 0 Reviews
  • “Apple เตรียมเปิดตัว MacBook ราคาประหยัด! ลุยตลาดนักเรียน-ธุรกิจในปี 2026”
    Apple กำลังเปลี่ยนเกมอีกครั้ง — คราวนี้ไม่ใช่ด้วยนวัตกรรมสุดล้ำ แต่ด้วยราคาที่เข้าถึงได้! มีรายงานล่าสุดว่า Apple กำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิตและทดสอบ MacBook รุ่นใหม่ที่มีราคาต่ำกว่า $1,000 โดยมีเป้าหมายเจาะกลุ่มนักเรียน ธุรกิจขนาดเล็ก และผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการโน้ตบุ๊กคุณภาพในราคาคุ้มค่า

    MacBook รุ่นนี้มีโค้ดเนมภายในว่า “J700” และคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 โดยใช้ชิป A18 Pro ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้ใน iPhone 16 Pro พร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 13.6 นิ้ว และโครงสร้างอะลูมิเนียมแบบเดียวกับ MacBook Air แต่ลดสเปกบางส่วนเพื่อควบคุมต้นทุน

    แม้จะไม่มี Thunderbolt แต่ยังคงมีพอร์ต USB 3.2 Gen 2 ที่รองรับความเร็วสูงถึง 10Gb/s พร้อม RAM 12GB และ SSD 256GB ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป เช่น เอกสาร, วิดีโอคอล, และงานออนไลน์

    Apple เคยทดลองขาย MacBook Air M1 ผ่าน Walmart ในราคาต่ำกว่า $700 มาแล้ว และดูเหมือนว่ากลยุทธ์นี้จะถูกนำมาใช้จริงในรุ่นใหม่ เพื่อแข่งขันกับ Chromebook และโน้ตบุ๊ก Windows ราคาประหยัด โดยเฉพาะหลังจาก Microsoft ยุติการสนับสนุน Windows 10 อย่างเป็นทางการ

    Apple เตรียมเปิดตัว MacBook ราคาประหยัดในปี 2026
    โค้ดเนม “J700” อยู่ในขั้นตอนการผลิตและทดสอบ
    คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปี

    สเปกที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมต้นทุน
    ใช้ชิป A18 Pro และหน้าจอ LCD ขนาด 13.6 นิ้ว
    ไม่มี Thunderbolt แต่มี USB 3.2 Gen 2
    RAM 12GB และ SSD 256GB

    กลุ่มเป้าหมายคือผู้ใช้ทั่วไป
    นักเรียน, ธุรกิจขนาดเล็ก, ผู้ใช้งานทั่วไป
    แข่งขันกับ Chromebook และโน้ตบุ๊ก Windows ราคาประหยัด

    กลยุทธ์ต่อยอดจาก MacBook Air M1 ราคาถูก
    เคยขายผ่าน Walmart ในราคาต่ำกว่า $700
    รุ่นใหม่อาจตั้งราคาระหว่าง $599–$699

    คำเตือนด้านข้อจำกัดของรุ่นราคาประหยัด
    ไม่มีคีย์บอร์ดแบบ backlit
    ไม่มี Thunderbolt อาจจำกัดการเชื่อมต่ออุปกรณ์ระดับโปร

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง
    ไม่เหมาะกับงานกราฟิกหรือการตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ
    อาจไม่รองรับแอปที่ต้องใช้พลังประมวลผลสูง

    https://wccftech.com/apples-first-low-cost-macbook-coming-in-h1-2026-early-production-already-underway/
    🍏💻 “Apple เตรียมเปิดตัว MacBook ราคาประหยัด! ลุยตลาดนักเรียน-ธุรกิจในปี 2026” Apple กำลังเปลี่ยนเกมอีกครั้ง — คราวนี้ไม่ใช่ด้วยนวัตกรรมสุดล้ำ แต่ด้วยราคาที่เข้าถึงได้! มีรายงานล่าสุดว่า Apple กำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิตและทดสอบ MacBook รุ่นใหม่ที่มีราคาต่ำกว่า $1,000 โดยมีเป้าหมายเจาะกลุ่มนักเรียน ธุรกิจขนาดเล็ก และผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการโน้ตบุ๊กคุณภาพในราคาคุ้มค่า MacBook รุ่นนี้มีโค้ดเนมภายในว่า “J700” และคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 โดยใช้ชิป A18 Pro ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้ใน iPhone 16 Pro พร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 13.6 นิ้ว และโครงสร้างอะลูมิเนียมแบบเดียวกับ MacBook Air แต่ลดสเปกบางส่วนเพื่อควบคุมต้นทุน แม้จะไม่มี Thunderbolt แต่ยังคงมีพอร์ต USB 3.2 Gen 2 ที่รองรับความเร็วสูงถึง 10Gb/s พร้อม RAM 12GB และ SSD 256GB ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป เช่น เอกสาร, วิดีโอคอล, และงานออนไลน์ Apple เคยทดลองขาย MacBook Air M1 ผ่าน Walmart ในราคาต่ำกว่า $700 มาแล้ว และดูเหมือนว่ากลยุทธ์นี้จะถูกนำมาใช้จริงในรุ่นใหม่ เพื่อแข่งขันกับ Chromebook และโน้ตบุ๊ก Windows ราคาประหยัด โดยเฉพาะหลังจาก Microsoft ยุติการสนับสนุน Windows 10 อย่างเป็นทางการ ✅ Apple เตรียมเปิดตัว MacBook ราคาประหยัดในปี 2026 ➡️ โค้ดเนม “J700” อยู่ในขั้นตอนการผลิตและทดสอบ ➡️ คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปี ✅ สเปกที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมต้นทุน ➡️ ใช้ชิป A18 Pro และหน้าจอ LCD ขนาด 13.6 นิ้ว ➡️ ไม่มี Thunderbolt แต่มี USB 3.2 Gen 2 ➡️ RAM 12GB และ SSD 256GB ✅ กลุ่มเป้าหมายคือผู้ใช้ทั่วไป ➡️ นักเรียน, ธุรกิจขนาดเล็ก, ผู้ใช้งานทั่วไป ➡️ แข่งขันกับ Chromebook และโน้ตบุ๊ก Windows ราคาประหยัด ✅ กลยุทธ์ต่อยอดจาก MacBook Air M1 ราคาถูก ➡️ เคยขายผ่าน Walmart ในราคาต่ำกว่า $700 ➡️ รุ่นใหม่อาจตั้งราคาระหว่าง $599–$699 ‼️ คำเตือนด้านข้อจำกัดของรุ่นราคาประหยัด ⛔ ไม่มีคีย์บอร์ดแบบ backlit ⛔ ไม่มี Thunderbolt อาจจำกัดการเชื่อมต่ออุปกรณ์ระดับโปร ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง ⛔ ไม่เหมาะกับงานกราฟิกหรือการตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ ⛔ อาจไม่รองรับแอปที่ต้องใช้พลังประมวลผลสูง https://wccftech.com/apples-first-low-cost-macbook-coming-in-h1-2026-early-production-already-underway/
    WCCFTECH.COM
    Apple's First Low-Cost MacBook Coming In H1 2026, Early Production Already Underway
    The fact that Apple's low-cost MacBook is already in early production and testing phase bolsters the thesis for its near-imminent launch.
    0 Comments 0 Shares 178 Views 0 Reviews
  • “AMD ส่ง 2 ชิปใหม่ลงสนาม! Ryzen AI MAX+ 388 และ Ryzen 7 9700X3D โผล่ใน PassMark พร้อมสเปกสุดโหด”

    ในโลกของซีพียูที่แข่งขันกันดุเดือด AMD ยังคงเดินหน้าปล่อยหมัดเด็ด ล่าสุดมีการพบข้อมูลของสองชิปใหม่ในฐานข้อมูล PassMark ได้แก่ Ryzen AI MAX+ 388 และ Ryzen 7 9700X3D ซึ่งยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่สเปกที่หลุดออกมานั้นน่าสนใจไม่น้อย

    Ryzen AI MAX+ 388 เป็นสมาชิกใหม่ของตระกูล Strix Halo ที่มาพร้อม 8 คอร์ 16 เธรด ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และมาพร้อม iGPU Radeon 8060S ที่มี 40 Compute Units แบบเดียวกับรุ่นท็อป 395 แต่มีราคาที่คาดว่าจะเข้าถึงง่ายกว่า เหมาะสำหรับสายเกมเมอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพกราฟิกสูงในราคาคุ้มค่า

    ส่วน Ryzen 7 9700X3D เป็นชิปที่ใช้ Zen 6 พร้อมเทคโนโลยี 3D V-Cache ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานที่ต้องใช้แคชจำนวนมาก โดยมีความเร็วที่ถูกระบุไว้ในฐานข้อมูลถึง 5.8GHz — แม้จะดูสูงเกินจริงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง 9800X3D ที่อยู่ที่ 5.2GHz แต่ก็อาจเป็นผลจากการโอเวอร์คล็อกหรือข้อมูลที่ยังไม่แน่นอน

    ทั้งสองรุ่นมีคะแนน PassMark ที่น่าจับตา โดย 9700X3D ทำคะแนนแบบ Single Thread ได้ 4687 และ Multi Thread ได้ 40438 ส่วน 388 ทำได้ 4145 และ 31702 ตามลำดับ ซึ่งถือว่าแรงพอตัวเมื่อเทียบกับรุ่นใกล้เคียง

    AMD Ryzen AI MAX+ 388 โผล่ในฐานข้อมูล PassMark
    ใช้ Zen 5, 8 คอร์ 16 เธรด
    มาพร้อม iGPU Radeon 8060S แบบเดียวกับรุ่นท็อป
    มีแคช L3 ขนาด 32MB และ L2 ขนาด 8MB
    คาดว่า TDP อยู่ที่ 55W เช่นเดียวกับรุ่นอื่นในซีรีส์

    Ryzen 7 9700X3D ใช้ Zen 6 พร้อม 3D V-Cache
    8 คอร์ 16 เธรด ความเร็วสูงถึง 5.8GHz (อาจเป็นผลจากการโอเวอร์คล็อก)
    ยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นรุ่นขายจริงหรือไม่

    คะแนน PassMark ที่น่าจับตา
    9700X3D: ST 4687 / MT 40438
    388: ST 4145 / MT 31702

    คำเตือนด้านความแม่นยำของข้อมูล
    ข้อมูลยังไม่เป็นทางการ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเปิดตัวจริง
    ความเร็ว 5.8GHz ของ 9700X3D อาจไม่ใช่ค่ามาตรฐาน

    คำเตือนสำหรับผู้ที่รอซื้อ
    ยังไม่มีข้อมูลเรื่องราคาและวันวางจำหน่าย
    ควรรอการประกาศอย่างเป็นทางการจาก AMD ที่งาน CES 2026

    https://wccftech.com/amd-ryzen-ai-max-388-ryzen-7-9700x3d-8-core-cpus-spotted-in-passmark/
    🧠🔥 “AMD ส่ง 2 ชิปใหม่ลงสนาม! Ryzen AI MAX+ 388 และ Ryzen 7 9700X3D โผล่ใน PassMark พร้อมสเปกสุดโหด” ในโลกของซีพียูที่แข่งขันกันดุเดือด AMD ยังคงเดินหน้าปล่อยหมัดเด็ด ล่าสุดมีการพบข้อมูลของสองชิปใหม่ในฐานข้อมูล PassMark ได้แก่ Ryzen AI MAX+ 388 และ Ryzen 7 9700X3D ซึ่งยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่สเปกที่หลุดออกมานั้นน่าสนใจไม่น้อย Ryzen AI MAX+ 388 เป็นสมาชิกใหม่ของตระกูล Strix Halo ที่มาพร้อม 8 คอร์ 16 เธรด ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และมาพร้อม iGPU Radeon 8060S ที่มี 40 Compute Units แบบเดียวกับรุ่นท็อป 395 แต่มีราคาที่คาดว่าจะเข้าถึงง่ายกว่า เหมาะสำหรับสายเกมเมอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพกราฟิกสูงในราคาคุ้มค่า ส่วน Ryzen 7 9700X3D เป็นชิปที่ใช้ Zen 6 พร้อมเทคโนโลยี 3D V-Cache ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานที่ต้องใช้แคชจำนวนมาก โดยมีความเร็วที่ถูกระบุไว้ในฐานข้อมูลถึง 5.8GHz — แม้จะดูสูงเกินจริงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง 9800X3D ที่อยู่ที่ 5.2GHz แต่ก็อาจเป็นผลจากการโอเวอร์คล็อกหรือข้อมูลที่ยังไม่แน่นอน ทั้งสองรุ่นมีคะแนน PassMark ที่น่าจับตา โดย 9700X3D ทำคะแนนแบบ Single Thread ได้ 4687 และ Multi Thread ได้ 40438 ส่วน 388 ทำได้ 4145 และ 31702 ตามลำดับ ซึ่งถือว่าแรงพอตัวเมื่อเทียบกับรุ่นใกล้เคียง ✅ AMD Ryzen AI MAX+ 388 โผล่ในฐานข้อมูล PassMark ➡️ ใช้ Zen 5, 8 คอร์ 16 เธรด ➡️ มาพร้อม iGPU Radeon 8060S แบบเดียวกับรุ่นท็อป ➡️ มีแคช L3 ขนาด 32MB และ L2 ขนาด 8MB ➡️ คาดว่า TDP อยู่ที่ 55W เช่นเดียวกับรุ่นอื่นในซีรีส์ ✅ Ryzen 7 9700X3D ใช้ Zen 6 พร้อม 3D V-Cache ➡️ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็วสูงถึง 5.8GHz (อาจเป็นผลจากการโอเวอร์คล็อก) ➡️ ยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นรุ่นขายจริงหรือไม่ ✅ คะแนน PassMark ที่น่าจับตา ➡️ 9700X3D: ST 4687 / MT 40438 ➡️ 388: ST 4145 / MT 31702 ‼️ คำเตือนด้านความแม่นยำของข้อมูล ⛔ ข้อมูลยังไม่เป็นทางการ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเปิดตัวจริง ⛔ ความเร็ว 5.8GHz ของ 9700X3D อาจไม่ใช่ค่ามาตรฐาน ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ที่รอซื้อ ⛔ ยังไม่มีข้อมูลเรื่องราคาและวันวางจำหน่าย ⛔ ควรรอการประกาศอย่างเป็นทางการจาก AMD ที่งาน CES 2026 https://wccftech.com/amd-ryzen-ai-max-388-ryzen-7-9700x3d-8-core-cpus-spotted-in-passmark/
    WCCFTECH.COM
    AMD Ryzen AI MAX+ 388 & Ryzen 7 9700X3D 8-Core CPUs Spotted In PassMark: Value-Oriented Strix Halo With Full Radeon 8060S iGPU
    Two unreleased AMD CPUs have been spotted in PassMark, the Ryzen AI MAX+ 388 & the Ryzen 7 9700X3D, both of which are 8-core.
    0 Comments 0 Shares 137 Views 0 Reviews
  • แอปฟรีที่ควรมีติดเครื่อง Android เครื่องใหม่ทันที!

    หากคุณเพิ่งซื้อสมาร์ทโฟน Android เครื่องใหม่ หรือกำลังมองหาแอปฟรีที่คุ้มค่าและปลอดภัยในการใช้งาน นี่คือ 5 แอปที่ได้รับการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมสาระเสริมที่คุณอาจยังไม่รู้!

    Proton VPN: ปลอดภัยไว้ก่อน
    Proton VPN เป็นหนึ่งใน VPN ฟรีที่น่าเชื่อถือที่สุด เพราะไม่มีโฆษณา ไม่ขายข้อมูล และมีการตรวจสอบจากภายนอกอย่างสม่ำเสมอ
    VPN ฟรีที่ไม่เก็บ log และไม่มีโฆษณา
    ให้ความเร็วและแบนด์วิดธ์ไม่จำกัด
    เหมาะสำหรับการใช้งาน Wi-Fi สาธารณะและปลดล็อกคอนเทนต์
    VPN ไม่สามารถทำให้คุณ “นิรนาม” ได้จริง
    หากต้องการความเป็นส่วนตัวขั้นสูง ควรใช้ Tor Browser แทน

    Vivaldi Browser: เบราว์เซอร์ที่เหนือกว่า Chrome
    Vivaldi เป็นเบราว์เซอร์ที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูง พร้อมฟีเจอร์จัดการแท็บและโน้ตที่เหนือชั้น
    รองรับการจัดการแท็บแบบซ้อน, จดโน้ต, ถ่ายภาพหน้าจอเต็มหน้า
    มีระบบซิงค์ข้อมูลข้ามอุปกรณ์
    มีตัวบล็อกโฆษณาในตัวและแปลภาษาอัตโนมัติ
    หากใช้ Chrome อาจเสี่ยงต่อการถูกติดตามพฤติกรรม
    ควรเปลี่ยนมาใช้เบราว์เซอร์ที่เน้นความเป็นส่วนตัวมากกว่า

    Blip: ส่งไฟล์ข้ามอุปกรณ์แบบไร้รอยต่อ
    Blip คือทางเลือกใหม่ที่เหนือกว่า AirDrop และ Quick Share เพราะรองรับทุกระบบปฏิบัติการ
    ส่งไฟล์ได้ทุกขนาด ข้ามแพลตฟอร์ม Android, iOS, Windows, macOS, Linux
    ไม่ต้องยืนยันการรับไฟล์จากอีกเครื่อง
    รองรับการส่งไฟล์ระยะไกลทั่วโลก
    ไม่มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end
    หลีกเลี่ยงการส่งไฟล์ที่มีข้อมูลอ่อนไหว

    Speedtest by Ookla: ตรวจสอบความเร็วเน็ตแบบมือโปร
    แอปนี้ช่วยให้คุณตรวจสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตได้อย่างแม่นยำ
    วัดความเร็วดาวน์โหลด/อัปโหลด, ping, jitter และ packet loss
    ใช้งานง่าย แค่กดปุ่ม “Go”
    แอปมีโฆษณาและเก็บข้อมูลผู้ใช้
    หากต้องการความเป็นส่วนตัว ควรใช้ LibreSpeed ผ่านเว็บแทน

    Loop Habit Tracker: ตัวช่วยสร้างนิสัยดีๆ
    แอปติดตามนิสัยที่เรียบง่าย ไม่มีโฆษณา และไม่เก็บข้อมูล
    ใช้งานฟรี 100% พร้อมฟีเจอร์ครบ
    สร้างรายการนิสัย, ตั้งเตือน, ดูสถิติความก้าวหน้า
    ข้อมูลเก็บไว้ในเครื่อง ไม่แชร์ออกภายนอก
    แอปติดตามนิสัยบางตัวอาจบังคับให้สมัครสมาชิก
    ระวังแอปที่เก็บข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต

    https://www.slashgear.com/2010815/free-apps-you-should-install-on-any-android-device/
    📱 แอปฟรีที่ควรมีติดเครื่อง Android เครื่องใหม่ทันที! หากคุณเพิ่งซื้อสมาร์ทโฟน Android เครื่องใหม่ หรือกำลังมองหาแอปฟรีที่คุ้มค่าและปลอดภัยในการใช้งาน นี่คือ 5 แอปที่ได้รับการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมสาระเสริมที่คุณอาจยังไม่รู้! 🛡️ Proton VPN: ปลอดภัยไว้ก่อน Proton VPN เป็นหนึ่งใน VPN ฟรีที่น่าเชื่อถือที่สุด เพราะไม่มีโฆษณา ไม่ขายข้อมูล และมีการตรวจสอบจากภายนอกอย่างสม่ำเสมอ ✅ VPN ฟรีที่ไม่เก็บ log และไม่มีโฆษณา ➡️ ให้ความเร็วและแบนด์วิดธ์ไม่จำกัด ➡️ เหมาะสำหรับการใช้งาน Wi-Fi สาธารณะและปลดล็อกคอนเทนต์ ‼️ VPN ไม่สามารถทำให้คุณ “นิรนาม” ได้จริง ⛔ หากต้องการความเป็นส่วนตัวขั้นสูง ควรใช้ Tor Browser แทน 🌐 Vivaldi Browser: เบราว์เซอร์ที่เหนือกว่า Chrome Vivaldi เป็นเบราว์เซอร์ที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูง พร้อมฟีเจอร์จัดการแท็บและโน้ตที่เหนือชั้น ✅ รองรับการจัดการแท็บแบบซ้อน, จดโน้ต, ถ่ายภาพหน้าจอเต็มหน้า ➡️ มีระบบซิงค์ข้อมูลข้ามอุปกรณ์ ➡️ มีตัวบล็อกโฆษณาในตัวและแปลภาษาอัตโนมัติ ‼️ หากใช้ Chrome อาจเสี่ยงต่อการถูกติดตามพฤติกรรม ⛔ ควรเปลี่ยนมาใช้เบราว์เซอร์ที่เน้นความเป็นส่วนตัวมากกว่า 📤 Blip: ส่งไฟล์ข้ามอุปกรณ์แบบไร้รอยต่อ Blip คือทางเลือกใหม่ที่เหนือกว่า AirDrop และ Quick Share เพราะรองรับทุกระบบปฏิบัติการ ✅ ส่งไฟล์ได้ทุกขนาด ข้ามแพลตฟอร์ม Android, iOS, Windows, macOS, Linux ➡️ ไม่ต้องยืนยันการรับไฟล์จากอีกเครื่อง ➡️ รองรับการส่งไฟล์ระยะไกลทั่วโลก ‼️ ไม่มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end ⛔ หลีกเลี่ยงการส่งไฟล์ที่มีข้อมูลอ่อนไหว 📶 Speedtest by Ookla: ตรวจสอบความเร็วเน็ตแบบมือโปร แอปนี้ช่วยให้คุณตรวจสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตได้อย่างแม่นยำ ✅ วัดความเร็วดาวน์โหลด/อัปโหลด, ping, jitter และ packet loss ➡️ ใช้งานง่าย แค่กดปุ่ม “Go” ‼️ แอปมีโฆษณาและเก็บข้อมูลผู้ใช้ ⛔ หากต้องการความเป็นส่วนตัว ควรใช้ LibreSpeed ผ่านเว็บแทน 📊 Loop Habit Tracker: ตัวช่วยสร้างนิสัยดีๆ แอปติดตามนิสัยที่เรียบง่าย ไม่มีโฆษณา และไม่เก็บข้อมูล ✅ ใช้งานฟรี 100% พร้อมฟีเจอร์ครบ ➡️ สร้างรายการนิสัย, ตั้งเตือน, ดูสถิติความก้าวหน้า ➡️ ข้อมูลเก็บไว้ในเครื่อง ไม่แชร์ออกภายนอก ‼️ แอปติดตามนิสัยบางตัวอาจบังคับให้สมัครสมาชิก ⛔ ระวังแอปที่เก็บข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต https://www.slashgear.com/2010815/free-apps-you-should-install-on-any-android-device/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Free Apps You Should Install ASAP On A New Android Device - SlashGear
    Setting up your Android? Don’t waste time digging through the Play Store. These free apps are the ones actually worth keeping.
    0 Comments 0 Shares 189 Views 0 Reviews
  • หัวข้อข่าว: “M5 Pro vs M5 Max – ทำไมแบนด์วิดท์เพิ่ม 275GB/s ถึงคุ้มค่าหลายพันดอลลาร์สำหรับสายวิดีโอและ AI”

    แม้ Apple ยังไม่เปิดตัว M5 Pro และ M5 Max อย่างเป็นทางการ แต่บทวิเคราะห์จาก TechRadar ชี้ว่า ความต่างด้าน “memory bandwidth” ระหว่างสองรุ่นนี้อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่เปลี่ยนเกมสำหรับมืออาชีพด้านวิดีโอและ AI.

    Apple เพิ่งเปิดตัวชิป M5 ซึ่งมี unified memory bandwidth สูงถึง 153GB/s เพิ่มขึ้นเกือบ 30% จาก M4 แต่สิ่งที่น่าจับตาคือเวอร์ชัน “Pro” และ “Max” ที่ยังไม่เปิดตัว แต่มีการคาดการณ์ว่า M5 Pro จะมี bandwidth สูงถึง 275GB/s และ M5 Max อาจทะลุ 550GB/s เลยทีเดียว

    ทำไม bandwidth ถึงสำคัญ? เพราะมันคือ “ท่อส่งข้อมูล” จากหน่วยความจำไปยังหน่วยประมวลผล ถ้าท่อกว้างขึ้น ข้อมูลก็ไหลได้เร็วขึ้น ส่งผลให้การตัดต่อวิดีโอ 8K, การเรนเดอร์ 3D หรือการฝึกโมเดล AI ทำได้เร็วขึ้นและลื่นไหลกว่าเดิม

    แม้ CPU หรือ GPU จะมีพลังมากแค่ไหน แต่ถ้า memory bandwidth ไม่พอ ก็เหมือนรถซุปเปอร์คาร์ที่ติดคอขวดบนถนนแคบๆ

    บทวิเคราะห์ยังชี้ว่า M5 Max อาจมีการเพิ่มช่องทาง memory interface เป็นสองเท่า ทำให้สามารถโหลด asset ขนาดใหญ่แบบเรียลไทม์ได้โดยไม่ต้องรอ cache และยังช่วยลดต้นทุน cloud สำหรับนักพัฒนา AI ที่ต้องการฝึกโมเดลบนเครื่อง

    M5 เพิ่ม memory bandwidth เป็น 153GB/s
    สูงกว่า M4 ประมาณ 30% ช่วยให้แอปตอบสนองเร็วขึ้น

    คาดว่า M5 Pro จะมี bandwidth 275GB/s
    เหมาะกับงานวิดีโอหลายเลเยอร์และการเรนเดอร์ 3D

    M5 Max อาจมี bandwidth สูงถึง 550GB/s
    รองรับงาน AI ที่ต้องการโหลดข้อมูลจำนวนมากแบบเรียลไทม์

    bandwidth สูงช่วยลดเวลาทำงานและต้นทุน cloud
    เช่น การฝึกโมเดล AI บนเครื่องแทนการใช้ cloud

    แนวโน้มการออกแบบชิปเน้น bandwidth มากกว่า clock speed
    เพื่อให้หน่วยประมวลผลทำงานได้เต็มประสิทธิภาพโดยไม่ติดคอขวด

    https://www.techradar.com/pro/the-true-pro-tax-m5-pro-vs-m5-max-why-that-extra-275gb-s-of-memory-bandwidth-is-worth-thousands-of-dollars-for-video-and-ai-workflows
    🚀💾 หัวข้อข่าว: “M5 Pro vs M5 Max – ทำไมแบนด์วิดท์เพิ่ม 275GB/s ถึงคุ้มค่าหลายพันดอลลาร์สำหรับสายวิดีโอและ AI” แม้ Apple ยังไม่เปิดตัว M5 Pro และ M5 Max อย่างเป็นทางการ แต่บทวิเคราะห์จาก TechRadar ชี้ว่า ความต่างด้าน “memory bandwidth” ระหว่างสองรุ่นนี้อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่เปลี่ยนเกมสำหรับมืออาชีพด้านวิดีโอและ AI. Apple เพิ่งเปิดตัวชิป M5 ซึ่งมี unified memory bandwidth สูงถึง 153GB/s เพิ่มขึ้นเกือบ 30% จาก M4 แต่สิ่งที่น่าจับตาคือเวอร์ชัน “Pro” และ “Max” ที่ยังไม่เปิดตัว แต่มีการคาดการณ์ว่า M5 Pro จะมี bandwidth สูงถึง 275GB/s และ M5 Max อาจทะลุ 550GB/s เลยทีเดียว ทำไม bandwidth ถึงสำคัญ? เพราะมันคือ “ท่อส่งข้อมูล” จากหน่วยความจำไปยังหน่วยประมวลผล ถ้าท่อกว้างขึ้น ข้อมูลก็ไหลได้เร็วขึ้น ส่งผลให้การตัดต่อวิดีโอ 8K, การเรนเดอร์ 3D หรือการฝึกโมเดล AI ทำได้เร็วขึ้นและลื่นไหลกว่าเดิม แม้ CPU หรือ GPU จะมีพลังมากแค่ไหน แต่ถ้า memory bandwidth ไม่พอ ก็เหมือนรถซุปเปอร์คาร์ที่ติดคอขวดบนถนนแคบๆ บทวิเคราะห์ยังชี้ว่า M5 Max อาจมีการเพิ่มช่องทาง memory interface เป็นสองเท่า ทำให้สามารถโหลด asset ขนาดใหญ่แบบเรียลไทม์ได้โดยไม่ต้องรอ cache และยังช่วยลดต้นทุน cloud สำหรับนักพัฒนา AI ที่ต้องการฝึกโมเดลบนเครื่อง ✅ M5 เพิ่ม memory bandwidth เป็น 153GB/s ➡️ สูงกว่า M4 ประมาณ 30% ช่วยให้แอปตอบสนองเร็วขึ้น ✅ คาดว่า M5 Pro จะมี bandwidth 275GB/s ➡️ เหมาะกับงานวิดีโอหลายเลเยอร์และการเรนเดอร์ 3D ✅ M5 Max อาจมี bandwidth สูงถึง 550GB/s ➡️ รองรับงาน AI ที่ต้องการโหลดข้อมูลจำนวนมากแบบเรียลไทม์ ✅ bandwidth สูงช่วยลดเวลาทำงานและต้นทุน cloud ➡️ เช่น การฝึกโมเดล AI บนเครื่องแทนการใช้ cloud ✅ แนวโน้มการออกแบบชิปเน้น bandwidth มากกว่า clock speed ➡️ เพื่อให้หน่วยประมวลผลทำงานได้เต็มประสิทธิภาพโดยไม่ติดคอขวด https://www.techradar.com/pro/the-true-pro-tax-m5-pro-vs-m5-max-why-that-extra-275gb-s-of-memory-bandwidth-is-worth-thousands-of-dollars-for-video-and-ai-workflows
    WWW.TECHRADAR.COM
    The next generation of Apple silicon could double memory bandwidth
    Apple hasn't announced the chips yet - but we have an idea of what to expect
    0 Comments 0 Shares 175 Views 0 Reviews
  • มือดีแฉ! Pixel รุ่นไหนโดน Cellebrite เจาะข้อมูลได้ – GrapheneOS คือเกราะป้องกันที่แท้จริง

    มีการเปิดเผยข้อมูลจากการประชุมลับของ Cellebrite บริษัทที่ผลิตเครื่องมือให้ตำรวจใช้เจาะข้อมูลจากสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะ Pixel ของ Google ซึ่งถูกแฮกเกอร์นามว่า “rogueFed” แอบเข้าร่วมประชุมผ่าน Microsoft Teams และนำข้อมูลมาเผยแพร่บนฟอรั่มของ GrapheneOS.

    Pixel 6 ถึง Pixel 9 เสี่ยงโดนเจาะข้อมูล Cellebrite ระบุว่าสามารถดึงข้อมูลจาก Pixel 6, 7, 8 และ 9 ได้ในทุกสถานะของเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นก่อนปลดล็อก (BFU), หลังปลดล็อกครั้งแรก (AFU) หรือแม้แต่ตอนที่เครื่องปลดล็อกแล้ว โดยเฉพาะเมื่อใช้ระบบปฏิบัติการมาตรฐานจาก Google

    GrapheneOS คือเกราะป้องกันที่เหนือกว่า หาก Pixel เหล่านี้ใช้ GrapheneOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่เน้นความปลอดภัยและไม่มีบริการจาก Google จะสามารถป้องกันการเจาะข้อมูลได้เกือบทั้งหมด โดยเฉพาะเวอร์ชันหลังปี 2022 ที่ Cellebrite ไม่สามารถเข้าถึงได้แม้เครื่องจะปลดล็อกแล้วก็ตาม

    eSIM ยังไม่ถูกเจาะ แม้จะเจาะข้อมูลได้บางส่วน แต่ Cellebrite ยังไม่สามารถคัดลอก eSIM จาก Pixel ได้ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้

    Pixel 10 ยังไม่อยู่ในรายการ รุ่นล่าสุดอย่าง Pixel 10 ยังไม่ถูกระบุในตารางของ Cellebrite อาจเพราะยังไม่มีการทดสอบหรือยังไม่รองรับการเจาะข้อมูล

    Pixel 6–9 บนระบบปกติเสี่ยงถูกเจาะข้อมูล
    สามารถถูกดึงข้อมูลได้ในทุกสถานะของเครื่อง

    GrapheneOS ป้องกันการเจาะข้อมูลได้ดีกว่า
    เวอร์ชันหลังปี 2022 ป้องกันได้แม้เครื่องปลดล็อกแล้ว

    ข้อมูลจากการประชุมลับของ Cellebrite ถูกแฉ
    rogueFed แอบเข้าร่วมและเผยแพร่ข้อมูลบนฟอรั่ม

    Pixel 10 ยังไม่ถูกระบุในรายการ
    อาจยังไม่มีการทดสอบหรือยังไม่รองรับการเจาะ

    eSIM ยังไม่สามารถถูกคัดลอกได้
    เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ Pixel

    Pixel ที่ใช้ระบบปฏิบัติการมาตรฐานมีความเสี่ยงสูง
    ข้อมูลสามารถถูกดึงได้แม้ยังไม่ปลดล็อกเครื่อง

    ระบบปลดล็อกแบบ BFU และ AFU ไม่ปลอดภัยพอ
    แม้จะดูปลอดภัย แต่ยังสามารถถูกเจาะได้ในบางกรณี

    การใช้ระบบที่ไม่เน้นความปลอดภัยอาจเปิดช่องให้ถูกละเมิด
    ผู้ใช้ควรพิจารณาเปลี่ยนมาใช้ระบบที่เน้นความปลอดภัยมากขึ้น

    หากคุณใช้ Pixel และห่วงใยเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว การเปลี่ยนมาใช้ GrapheneOS อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าในยุคที่การเจาะข้อมูลกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นทุกวัน

    https://arstechnica.com/gadgets/2025/10/leaker-reveals-which-pixels-are-vulnerable-to-cellebrite-phone-hacking/
    🔓 มือดีแฉ! Pixel รุ่นไหนโดน Cellebrite เจาะข้อมูลได้ – GrapheneOS คือเกราะป้องกันที่แท้จริง มีการเปิดเผยข้อมูลจากการประชุมลับของ Cellebrite บริษัทที่ผลิตเครื่องมือให้ตำรวจใช้เจาะข้อมูลจากสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะ Pixel ของ Google ซึ่งถูกแฮกเกอร์นามว่า “rogueFed” แอบเข้าร่วมประชุมผ่าน Microsoft Teams และนำข้อมูลมาเผยแพร่บนฟอรั่มของ GrapheneOS. 📱 Pixel 6 ถึง Pixel 9 เสี่ยงโดนเจาะข้อมูล Cellebrite ระบุว่าสามารถดึงข้อมูลจาก Pixel 6, 7, 8 และ 9 ได้ในทุกสถานะของเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นก่อนปลดล็อก (BFU), หลังปลดล็อกครั้งแรก (AFU) หรือแม้แต่ตอนที่เครื่องปลดล็อกแล้ว โดยเฉพาะเมื่อใช้ระบบปฏิบัติการมาตรฐานจาก Google 🛡️ GrapheneOS คือเกราะป้องกันที่เหนือกว่า หาก Pixel เหล่านี้ใช้ GrapheneOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่เน้นความปลอดภัยและไม่มีบริการจาก Google จะสามารถป้องกันการเจาะข้อมูลได้เกือบทั้งหมด โดยเฉพาะเวอร์ชันหลังปี 2022 ที่ Cellebrite ไม่สามารถเข้าถึงได้แม้เครื่องจะปลดล็อกแล้วก็ตาม 📶 eSIM ยังไม่ถูกเจาะ แม้จะเจาะข้อมูลได้บางส่วน แต่ Cellebrite ยังไม่สามารถคัดลอก eSIM จาก Pixel ได้ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ 📦 Pixel 10 ยังไม่อยู่ในรายการ รุ่นล่าสุดอย่าง Pixel 10 ยังไม่ถูกระบุในตารางของ Cellebrite อาจเพราะยังไม่มีการทดสอบหรือยังไม่รองรับการเจาะข้อมูล ✅ Pixel 6–9 บนระบบปกติเสี่ยงถูกเจาะข้อมูล ➡️ สามารถถูกดึงข้อมูลได้ในทุกสถานะของเครื่อง ✅ GrapheneOS ป้องกันการเจาะข้อมูลได้ดีกว่า ➡️ เวอร์ชันหลังปี 2022 ป้องกันได้แม้เครื่องปลดล็อกแล้ว ✅ ข้อมูลจากการประชุมลับของ Cellebrite ถูกแฉ ➡️ rogueFed แอบเข้าร่วมและเผยแพร่ข้อมูลบนฟอรั่ม ✅ Pixel 10 ยังไม่ถูกระบุในรายการ ➡️ อาจยังไม่มีการทดสอบหรือยังไม่รองรับการเจาะ ✅ eSIM ยังไม่สามารถถูกคัดลอกได้ ➡️ เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ Pixel ‼️ Pixel ที่ใช้ระบบปฏิบัติการมาตรฐานมีความเสี่ยงสูง ⛔ ข้อมูลสามารถถูกดึงได้แม้ยังไม่ปลดล็อกเครื่อง ‼️ ระบบปลดล็อกแบบ BFU และ AFU ไม่ปลอดภัยพอ ⛔ แม้จะดูปลอดภัย แต่ยังสามารถถูกเจาะได้ในบางกรณี ‼️ การใช้ระบบที่ไม่เน้นความปลอดภัยอาจเปิดช่องให้ถูกละเมิด ⛔ ผู้ใช้ควรพิจารณาเปลี่ยนมาใช้ระบบที่เน้นความปลอดภัยมากขึ้น หากคุณใช้ Pixel และห่วงใยเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว การเปลี่ยนมาใช้ GrapheneOS อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าในยุคที่การเจาะข้อมูลกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นทุกวัน https://arstechnica.com/gadgets/2025/10/leaker-reveals-which-pixels-are-vulnerable-to-cellebrite-phone-hacking/
    ARSTECHNICA.COM
    Leaker reveals which Pixels are vulnerable to Cellebrite phone hacking
    Cellebrite can apparently extract data from most Pixel phones, unless they’re running GrapheneOS.
    0 Comments 0 Shares 154 Views 0 Reviews
  • ชวนเข้าครัวกันค่ะ วันนี้เราจะพาน้องหมึกกระตอยแห้ง เข้าครัวไปทอดน้ำมัน… ใช้ไฟอ่อนถึงปานกลาง คนความร้อนให้ทั่วกะทะ ใช้เวลา 5-6 นาทีก็ได้ทานหมึกกระตอยแห้งทอด… เสิร์ฟใส่จานทานกับข้าวเหนียวข้าวสวยข้าวต้ม … อร่อยคู่ครัวเลยค่ะ… หมึกกระตอยแห้งทอดมีติดครัวไว้ ทานกับอะไรก็อร่อยค่ะ

    เราใช้น้องหมึกสด 5-6 กิโล กว่าจะได้น้องหมึกกะตอยแห้ง 1 กิโลค่ะ

    เราตากให้น้องหมึกแห้งสนิท เพื่อการเก็บรักษาไว้ได้นาน … ตัวน้องหมึกไม่หนัก …ทำให้ลูกค้าได้จำนวนตัวเยอะ คุ้มค่า คุ้มราคาค่ะ

    ⭕️🫶🏻🩷

    น้องหมึกเรา เป็นออแกนิค ไม่มีสารเคมี ไม่ฉีดยา ฟอร์มาลีน ใดๆเลยค่ะ
    ลูกค้ามั่นใจในความสะอาดได้เลย… ความเค็มของน้องหมึก เป็นความเค็มโดยธรรมชาติของอาหารทะเล… ลูกค้าจะสัมผัสลิ้มรสความหนึบๆ ความนัวๆ แซ่บๆ จากเนื้อน้องปลาหมึกล้วนๆเลยค่ะ

    อ่านมาถึงตรงนี้… ลูกค้ากดสั่งไปลองชิมก่อนค่อยเชื่อเรานะคะ..…ทุกถุงบรรจุซีลแน่นไปอย่างดีค่ะ เก็บไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิปกติได้นาน… หยิบน้องหมึกแห้งออกมาทานเมื่อไหร่ก็อร่อยเหาะ

    #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #อร่อยดีบอกต่อ

    ⭕️ น่าทานมากกกกกกค่าาา

    หมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 1 ใน TikTok
    https://vt.tiktok.com/ZSMBnKhbd/

    หมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 1 ใน Shopee
    https://th.shp.ee/o2Uw2jX

    หมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 2 ใน TikTok
    https://vt.tiktok.com/ZSMjD54vQ/

    หมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 2 ใน Shopee
    https://th.shp.ee/pckadhH

    หมึกกะตอยแห้ง 1 กิโล ใน TikTok
    https://vt.tiktok.com/ZSMYV5Nsx/

    หมึกกะตอยแห้ง 1 กิโล ใน Shopee
    https://th.shp.ee/2Xf6uxx

    ลูกค้าสามารถเข้าไปเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง
    1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop
    2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1

    เลือกช้อปได้ตามความชอบ และคูปองความคุ้มของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ

    #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #ปลาซิวกรอบ #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาข้างเหลือง #กิมสั่วงา #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก

    #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาข้างเหลือง #หอยลายอบกรอบ #ปลาข้างเหลือง #ปลาซิวทอดกรอบ #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา

    #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ถุงเย็น #ถุงหูหิ้ว #ถุงร้อน #ถุงพีพีใบใหญ่ #หมึกกระตอย #หมึกกะตอยแห้ง #ถุง #กุนเชียง
    ชวนเข้าครัวกันค่ะ วันนี้เราจะพาน้องหมึกกระตอยแห้ง เข้าครัวไปทอดน้ำมัน… ใช้ไฟอ่อนถึงปานกลาง คนความร้อนให้ทั่วกะทะ ใช้เวลา 5-6 นาทีก็ได้ทานหมึกกระตอยแห้งทอด… เสิร์ฟใส่จานทานกับข้าวเหนียวข้าวสวยข้าวต้ม … อร่อยคู่ครัวเลยค่ะ… หมึกกระตอยแห้งทอดมีติดครัวไว้ ทานกับอะไรก็อร่อยค่ะ เราใช้น้องหมึกสด 5-6 กิโล กว่าจะได้น้องหมึกกะตอยแห้ง 1 กิโลค่ะ เราตากให้น้องหมึกแห้งสนิท เพื่อการเก็บรักษาไว้ได้นาน … ตัวน้องหมึกไม่หนัก …ทำให้ลูกค้าได้จำนวนตัวเยอะ คุ้มค่า คุ้มราคาค่ะ 🐠🐟🤭😍♨️🌶️⭕️✅🐠🐟🫶🏻💋🩷 น้องหมึกเรา เป็นออแกนิค ไม่มีสารเคมี ไม่ฉีดยา ฟอร์มาลีน ใดๆเลยค่ะ ลูกค้ามั่นใจในความสะอาดได้เลย… ความเค็มของน้องหมึก เป็นความเค็มโดยธรรมชาติของอาหารทะเล… ลูกค้าจะสัมผัสลิ้มรสความหนึบๆ ความนัวๆ แซ่บๆ จากเนื้อน้องปลาหมึกล้วนๆเลยค่ะ อ่านมาถึงตรงนี้… ลูกค้ากดสั่งไปลองชิมก่อนค่อยเชื่อเรานะคะ..…ทุกถุงบรรจุซีลแน่นไปอย่างดีค่ะ เก็บไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิปกติได้นาน… หยิบน้องหมึกแห้งออกมาทานเมื่อไหร่ก็อร่อยเหาะ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #อร่อยดีบอกต่อ 🌶️♨️⭕️ น่าทานมากกกกกกค่าาา หมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 1 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSMBnKhbd/ หมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 1 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/o2Uw2jX หมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 2 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSMjD54vQ/ หมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 2 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/pckadhH หมึกกะตอยแห้ง 1 กิโล 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSMYV5Nsx/ หมึกกะตอยแห้ง 1 กิโล 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/2Xf6uxx ❤️ ลูกค้าสามารถเข้าไปเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง 1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop 2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1 เลือกช้อปได้ตามความชอบ และคูปองความคุ้มของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #ปลาซิวกรอบ #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาข้างเหลือง #กิมสั่วงา #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาข้างเหลือง #หอยลายอบกรอบ #ปลาข้างเหลือง #ปลาซิวทอดกรอบ #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ถุงเย็น #ถุงหูหิ้ว #ถุงร้อน #ถุงพีพีใบใหญ่ #หมึกกระตอย #หมึกกะตอยแห้ง #ถุง #กุนเชียง
    0 Comments 0 Shares 410 Views 0 0 Reviews
  • Chewy ครองแชมป์ร้านค้าออนไลน์ที่ลูกค้าพึงพอใจที่สุดในสหรัฐฯ ปี 2025 แซงหน้า Amazon และ eBay

    จากการจัดอันดับของ American Customer Satisfaction Index (ACSI) ประจำปี 2025 Chewy ได้รับคะแนนสูงสุดด้านความพึงพอใจของลูกค้าในหมวดร้านค้าออนไลน์ ด้วยคะแนน 85 แซงหน้า Amazon (83) และ eBay (81) อย่างน่าประทับใจ

    แม้ Amazon จะครองส่วนแบ่งตลาดอีคอมเมิร์ซในแง่ยอดขาย แต่เมื่อพูดถึง “ความพึงพอใจของลูกค้า” กลับเป็น Chewy ที่คว้าอันดับหนึ่งติดต่อกันเป็นปีที่สาม

    ACSI ซึ่งเป็นองค์กรวัดความพึงพอใจระดับประเทศในสหรัฐฯ ใช้แบบสอบถามวิเคราะห์ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่:
    คุณภาพและความน่าเชื่อถือของแอปหรือเว็บไซต์
    ความง่ายในการใช้งานและขั้นตอนชำระเงิน
    ความพร้อมของสินค้าและตัวเลือกการจัดส่ง

    Chewy ได้คะแนนสูงสุดในทุกหมวด โดยเฉพาะด้าน “ประสบการณ์ลูกค้า” เช่น การส่งอีการ์ดวันเกิดให้สัตว์เลี้ยงของลูกค้า หรือการให้บริการแชทสดที่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว

    ผู้เชี่ยวชาญมองว่า “ความใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ” คือสิ่งที่ทำให้ Chewy แตกต่างจากคู่แข่ง แม้จะไม่มีร้านค้าจริง แต่ก็สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้าได้

    ผลการจัดอันดับ ACSI ปี 2025
    Chewy ได้คะแนน 85 (เพิ่มขึ้นจาก 84 ในปี 2024)
    Amazon ได้ 83
    eBay ได้ 81

    ปัจจัยที่ทำให้ Chewy ได้คะแนนสูง
    แอปและเว็บไซต์ใช้งานง่าย
    การจัดส่งรวดเร็วและแม่นยำ
    การบริการลูกค้าแบบ “มีหัวใจ” เช่น ส่งอีการ์ดวันเกิดให้สัตว์เลี้ยง
    คำอธิบายสินค้าและภาพประกอบชัดเจน

    บริบทของตลาดอีคอมเมิร์ซ
    ปี 2024 ยอดขายกว่า 81% ยังมาจากร้านค้าจริง แต่ลดลงจาก 92% เมื่อ 10 ปีก่อน
    คาดว่าอีคอมเมิร์ซจะครอง 27% ของยอดขายค้าปลีกทั้งหมดภายในปี 2027
    ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความสะดวก ความหลากหลาย และราคาที่คุ้มค่า

    https://www.slashgear.com/2008353/best-online-retailer-why-chewy-ranked-number-one/
    🏆🐾 Chewy ครองแชมป์ร้านค้าออนไลน์ที่ลูกค้าพึงพอใจที่สุดในสหรัฐฯ ปี 2025 แซงหน้า Amazon และ eBay จากการจัดอันดับของ American Customer Satisfaction Index (ACSI) ประจำปี 2025 Chewy ได้รับคะแนนสูงสุดด้านความพึงพอใจของลูกค้าในหมวดร้านค้าออนไลน์ ด้วยคะแนน 85 แซงหน้า Amazon (83) และ eBay (81) อย่างน่าประทับใจ แม้ Amazon จะครองส่วนแบ่งตลาดอีคอมเมิร์ซในแง่ยอดขาย แต่เมื่อพูดถึง “ความพึงพอใจของลูกค้า” กลับเป็น Chewy ที่คว้าอันดับหนึ่งติดต่อกันเป็นปีที่สาม ACSI ซึ่งเป็นองค์กรวัดความพึงพอใจระดับประเทศในสหรัฐฯ ใช้แบบสอบถามวิเคราะห์ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่: 🎗️ คุณภาพและความน่าเชื่อถือของแอปหรือเว็บไซต์ 🎗️ ความง่ายในการใช้งานและขั้นตอนชำระเงิน 🎗️ ความพร้อมของสินค้าและตัวเลือกการจัดส่ง Chewy ได้คะแนนสูงสุดในทุกหมวด โดยเฉพาะด้าน “ประสบการณ์ลูกค้า” เช่น การส่งอีการ์ดวันเกิดให้สัตว์เลี้ยงของลูกค้า หรือการให้บริการแชทสดที่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว ผู้เชี่ยวชาญมองว่า “ความใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ” คือสิ่งที่ทำให้ Chewy แตกต่างจากคู่แข่ง แม้จะไม่มีร้านค้าจริง แต่ก็สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้าได้ ✅ ผลการจัดอันดับ ACSI ปี 2025 ➡️ Chewy ได้คะแนน 85 (เพิ่มขึ้นจาก 84 ในปี 2024) ➡️ Amazon ได้ 83 ➡️ eBay ได้ 81 ✅ ปัจจัยที่ทำให้ Chewy ได้คะแนนสูง ➡️ แอปและเว็บไซต์ใช้งานง่าย ➡️ การจัดส่งรวดเร็วและแม่นยำ ➡️ การบริการลูกค้าแบบ “มีหัวใจ” เช่น ส่งอีการ์ดวันเกิดให้สัตว์เลี้ยง ➡️ คำอธิบายสินค้าและภาพประกอบชัดเจน ✅ บริบทของตลาดอีคอมเมิร์ซ ➡️ ปี 2024 ยอดขายกว่า 81% ยังมาจากร้านค้าจริง แต่ลดลงจาก 92% เมื่อ 10 ปีก่อน ➡️ คาดว่าอีคอมเมิร์ซจะครอง 27% ของยอดขายค้าปลีกทั้งหมดภายในปี 2027 ➡️ ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความสะดวก ความหลากหลาย และราคาที่คุ้มค่า https://www.slashgear.com/2008353/best-online-retailer-why-chewy-ranked-number-one/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    This Is Considered The Best Online Retailer In Terms Of Customer Satisfaction - SlashGear
    Chewy takes the crown as the most satisfying online retailer, scoring higher than Amazon and eBay in the latest American Customer Satisfaction Index.
    0 Comments 0 Shares 227 Views 0 Reviews
  • หมึกกะตอยแห้ง…ร้านกินจุ๊บจิ๊บ…ไม่ฉีดสารเคลือบ สะอาด ปลอดภัย…เป็นออแกนิค…ลูกค้่าจะได้รสชาติปลาหมึกแท้ๆ …เค็มธรรมชาติ… ทอดไฟอ่อน คลุกความร้อนให้ทั่ว แป้ปเดียวก็ได้ทานละค่ะ

    เราใช้น้องหมึกสด 5-6 กิโล กว่าจะได้น้องหมึกกะตอยแห้ง 1 กิโลค่ะ

    เราตากให้น้องหมึกแห้งสนิท เพื่อการเก็บรักษาไว้ได้นาน … ตัวน้องหมึกไม่หนัก …ทำให้ลูกค้าได้จำนวนตัวเยอะ คุ้มค่า คุ้มราคาค่ะ

    ⭕️🫶🏻🩷

    น้องหมึกเรา เป็นออแกนิค ไม่มีสารเคมี ไม่ฉีดยา ฟอร์มาลีน ใดๆเลยค่ะ
    ลูกค้ามั่นใจในความสะอาดได้เลย… ความเค็มของน้องหมึก เป็นความเค็มโดยธรรมชาติของอาหารทะเล… ลูกค้าจะสัมผัสลิ้มรสความหนึบๆ ความนัวๆ แซ่บๆ จากเนื้อน้องปลาหมึกล้วนๆเลยค่ะ

    อ่านมาถึงตรงนี้… ลูกค้ากดสั่งไปลองชิมก่อนค่อยเชื่อเรานะคะ..…ทุกถุงบรรจุซีลแน่นไปอย่างดีค่ะ เก็บไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิปกติได้นาน… หยิบน้องหมึกแห้งออกมาทานเมื่อไหร่ก็อร่อยเหาะ

    #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #อร่อยดีบอกต่อ

    ⭕️ น่าทานมากกกกกกค่าาา

    หมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 1 ใน TikTok
    https://vt.tiktok.com/ZSMBnKhbd/

    หมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 1 ใน Shopee
    https://th.shp.ee/o2Uw2jX

    หมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 2 ใน TikTok
    https://vt.tiktok.com/ZSMjD54vQ/

    หมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 2 ใน Shopee
    https://th.shp.ee/pckadhH

    หมึกกะตอยแห้ง 1 กิโล ใน TikTok
    https://vt.tiktok.com/ZSMYV5Nsx/

    หมึกกะตอยแห้ง 1 กิโล ใน Shopee
    https://th.shp.ee/2Xf6uxx

    ลูกค้าสามารถเข้าไปเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง
    1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop
    2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1

    เลือกช้อปได้ตามความชอบ และคูปองความคุ้มของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ



    #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #หมึกกระตอย #หมึกกะตอยแห้ง #ถุง #กุนเชียง #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก

    #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาข้างเหลือง #หอยลายอบกรอบ #ปลาข้างเหลือง #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกกระตอย #หมึกกะตอยตากแห้ง
    หมึกกะตอยแห้ง…ร้านกินจุ๊บจิ๊บ…ไม่ฉีดสารเคลือบ สะอาด ปลอดภัย…เป็นออแกนิค…ลูกค้่าจะได้รสชาติปลาหมึกแท้ๆ …เค็มธรรมชาติ… ทอดไฟอ่อน คลุกความร้อนให้ทั่ว แป้ปเดียวก็ได้ทานละค่ะ เราใช้น้องหมึกสด 5-6 กิโล กว่าจะได้น้องหมึกกะตอยแห้ง 1 กิโลค่ะ เราตากให้น้องหมึกแห้งสนิท เพื่อการเก็บรักษาไว้ได้นาน … ตัวน้องหมึกไม่หนัก …ทำให้ลูกค้าได้จำนวนตัวเยอะ คุ้มค่า คุ้มราคาค่ะ 🐠🐟🤭😍♨️🌶️⭕️✅🐠🐟🫶🏻💋🩷 น้องหมึกเรา เป็นออแกนิค ไม่มีสารเคมี ไม่ฉีดยา ฟอร์มาลีน ใดๆเลยค่ะ ลูกค้ามั่นใจในความสะอาดได้เลย… ความเค็มของน้องหมึก เป็นความเค็มโดยธรรมชาติของอาหารทะเล… ลูกค้าจะสัมผัสลิ้มรสความหนึบๆ ความนัวๆ แซ่บๆ จากเนื้อน้องปลาหมึกล้วนๆเลยค่ะ อ่านมาถึงตรงนี้… ลูกค้ากดสั่งไปลองชิมก่อนค่อยเชื่อเรานะคะ..…ทุกถุงบรรจุซีลแน่นไปอย่างดีค่ะ เก็บไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิปกติได้นาน… หยิบน้องหมึกแห้งออกมาทานเมื่อไหร่ก็อร่อยเหาะ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #อร่อยดีบอกต่อ 🌶️♨️⭕️ น่าทานมากกกกกกค่าาา หมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 1 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSMBnKhbd/ หมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 1 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/o2Uw2jX หมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 2 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSMjD54vQ/ หมึกกะตอยแห้ง 1 แถม 2 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/pckadhH หมึกกะตอยแห้ง 1 กิโล 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSMYV5Nsx/ หมึกกะตอยแห้ง 1 กิโล 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/2Xf6uxx ❤️ ลูกค้าสามารถเข้าไปเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง 1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop 2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1 เลือกช้อปได้ตามความชอบ และคูปองความคุ้มของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #หมึกกระตอย #หมึกกะตอยแห้ง #ถุง #กุนเชียง #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาข้างเหลือง #หอยลายอบกรอบ #ปลาข้างเหลือง #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกกระตอย #หมึกกะตอยตากแห้ง
    0 Comments 0 Shares 422 Views 0 0 Reviews
  • จีนเปิดตัวศูนย์ข้อมูลใต้น้ำพลังงานลมแห่งแรกของโลก!

    จีนสร้างศูนย์ข้อมูลใต้ทะเลลึก 35 เมตรนอกชายฝั่งเซี่ยงไฮ้ ใช้พลังงานลมและน้ำทะเลในการระบายความร้อน ตั้งเป้าเป็นต้นแบบโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ประหยัดพลังงานและลดการใช้พื้นที่บนบก

    ในยุคที่ข้อมูลคือทุกสิ่ง จีนได้เปิดตัวโครงการที่พลิกโฉมวงการไอที: ศูนย์ข้อมูลใต้น้ำพลังงานลมแห่งแรกของโลก ตั้งอยู่ในพื้นที่พิเศษ Lin-gang ทางตอนใต้ของเซี่ยงไฮ้ โครงการนี้มีมูลค่ากว่า 226 ล้านดอลลาร์ และมีเป้าหมายสร้างศูนย์ข้อมูลขนาด 24 เมกะวัตต์ โดยเริ่มต้นแล้วที่ 2.3 เมกะวัตต์

    แนวคิดเบื้องหลังนั้นเรียบง่ายแต่ทรงพลัง: นำเซิร์ฟเวอร์ใส่แคปซูลกันน้ำ วางไว้ใต้ทะเล แล้วปล่อยให้ธรรมชาติช่วยระบายความร้อน ด้วยการใช้พลังงานลมจากทะเลและน้ำทะเลแทนเครื่องทำความเย็นแบบเดิม ทำให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (PUE) ต่ำกว่า 1.15 ซึ่งดีกว่าค่าเฉลี่ยของศูนย์ข้อมูลบนบก

    โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มรัฐวิสาหกิจจีนหลายแห่ง และมีแผนขยายเป็นเวอร์ชัน 500 เมกะวัตต์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังคงอยู่: การซ่อมแซมหรืออัปเกรดฮาร์ดแวร์ในแคปซูลที่มีแรงดันสูงนั้นทั้งแพงและใช้เวลานาน

    แม้ Microsoft เคยทดลองแนวคิดคล้ายกันในโครงการ Natick แต่ก็ยุติไปเพราะต้นทุนและการบำรุงรักษาไม่คุ้มค่า จีนจึงต้องพิสูจน์ว่าแนวทางนี้จะยั่งยืนได้จริงในเชิงพาณิชย์

    จีนเปิดตัวศูนย์ข้อมูลใต้น้ำพลังงานลมแห่งแรกของโลก
    ตั้งอยู่ในพื้นที่ Lin-gang ใกล้เซี่ยงไฮ้
    ลึก 35 เมตรใต้ทะเล ใช้แคปซูลเหล็กเคลือบกันสนิม
    ใช้พลังงานลม 95% และน้ำทะเลในการระบายความร้อน
    PUE ต่ำกว่า 1.15 ดีกว่าค่ามาตรฐานของจีนที่ 1.25

    เป้าหมายและการขยายในอนาคต
    เริ่มต้นที่ 2.3 เมกะวัตต์ ตั้งเป้า 24 เมกะวัตต์
    มีแผนขยายเป็น 500 เมกะวัตต์ในพื้นที่นอกชายฝั่ง

    เทียบกับโครงการ Natick ของ Microsoft
    Natick มีความน่าเชื่อถือสูงถึง 8 เท่า แต่ไม่คุ้มทุน
    ถูกยุติและนำข้อมูลไปใช้ใน Azure

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cnina-deploys-wind-powered-underwater-data-center
    🌊⚡ จีนเปิดตัวศูนย์ข้อมูลใต้น้ำพลังงานลมแห่งแรกของโลก! จีนสร้างศูนย์ข้อมูลใต้ทะเลลึก 35 เมตรนอกชายฝั่งเซี่ยงไฮ้ ใช้พลังงานลมและน้ำทะเลในการระบายความร้อน ตั้งเป้าเป็นต้นแบบโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ประหยัดพลังงานและลดการใช้พื้นที่บนบก ในยุคที่ข้อมูลคือทุกสิ่ง จีนได้เปิดตัวโครงการที่พลิกโฉมวงการไอที: ศูนย์ข้อมูลใต้น้ำพลังงานลมแห่งแรกของโลก ตั้งอยู่ในพื้นที่พิเศษ Lin-gang ทางตอนใต้ของเซี่ยงไฮ้ โครงการนี้มีมูลค่ากว่า 226 ล้านดอลลาร์ และมีเป้าหมายสร้างศูนย์ข้อมูลขนาด 24 เมกะวัตต์ โดยเริ่มต้นแล้วที่ 2.3 เมกะวัตต์ แนวคิดเบื้องหลังนั้นเรียบง่ายแต่ทรงพลัง: นำเซิร์ฟเวอร์ใส่แคปซูลกันน้ำ วางไว้ใต้ทะเล แล้วปล่อยให้ธรรมชาติช่วยระบายความร้อน ด้วยการใช้พลังงานลมจากทะเลและน้ำทะเลแทนเครื่องทำความเย็นแบบเดิม ทำให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (PUE) ต่ำกว่า 1.15 ซึ่งดีกว่าค่าเฉลี่ยของศูนย์ข้อมูลบนบก โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มรัฐวิสาหกิจจีนหลายแห่ง และมีแผนขยายเป็นเวอร์ชัน 500 เมกะวัตต์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังคงอยู่: การซ่อมแซมหรืออัปเกรดฮาร์ดแวร์ในแคปซูลที่มีแรงดันสูงนั้นทั้งแพงและใช้เวลานาน แม้ Microsoft เคยทดลองแนวคิดคล้ายกันในโครงการ Natick แต่ก็ยุติไปเพราะต้นทุนและการบำรุงรักษาไม่คุ้มค่า จีนจึงต้องพิสูจน์ว่าแนวทางนี้จะยั่งยืนได้จริงในเชิงพาณิชย์ ✅ จีนเปิดตัวศูนย์ข้อมูลใต้น้ำพลังงานลมแห่งแรกของโลก ➡️ ตั้งอยู่ในพื้นที่ Lin-gang ใกล้เซี่ยงไฮ้ ➡️ ลึก 35 เมตรใต้ทะเล ใช้แคปซูลเหล็กเคลือบกันสนิม ➡️ ใช้พลังงานลม 95% และน้ำทะเลในการระบายความร้อน ➡️ PUE ต่ำกว่า 1.15 ดีกว่าค่ามาตรฐานของจีนที่ 1.25 ✅ เป้าหมายและการขยายในอนาคต ➡️ เริ่มต้นที่ 2.3 เมกะวัตต์ ตั้งเป้า 24 เมกะวัตต์ ➡️ มีแผนขยายเป็น 500 เมกะวัตต์ในพื้นที่นอกชายฝั่ง ✅ เทียบกับโครงการ Natick ของ Microsoft ➡️ Natick มีความน่าเชื่อถือสูงถึง 8 เท่า แต่ไม่คุ้มทุน ➡️ ถูกยุติและนำข้อมูลไปใช้ใน Azure https://www.tomshardware.com/tech-industry/cnina-deploys-wind-powered-underwater-data-center
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 Reviews
  • “จากคลาวด์สู่เหล็กจริง” – บทเรียน 2 ปีหลังย้ายจาก AWS สู่ Bare Metal

    บริษัท OneUptime เผยเบื้องหลังการย้ายจาก AWS สู่ Bare Metal ที่ช่วยประหยัดกว่า 1.2 ล้านดอลลาร์ต่อปี พร้อมเปิดเผยกลยุทธ์และบทเรียนที่นักพัฒนาและองค์กรควรรู้ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐาน

    สองปีหลังจาก OneUptime ตัดสินใจย้ายโครงสร้างพื้นฐานจาก AWS ไปยังเซิร์ฟเวอร์แบบ Bare Metal บริษัทได้เปิดเผยผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง ทั้งด้านความคุ้มค่า ความเสถียร และความสามารถในการควบคุมระบบอย่างเต็มรูปแบบ

    การย้ายครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการลดค่าใช้จ่าย แต่เป็นการปรับเปลี่ยนแนวคิดการบริหารโครงสร้างพื้นฐาน โดย OneUptime ได้ตอบคำถามจาก Hacker News และ Reddit อย่างตรงไปตรงมา พร้อมเปิดเผยตัวเลขจริงและกลยุทธ์ที่ใช้

    ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ:
    ประหยัดค่าใช้จ่ายจาก AWS ได้กว่า $1.2 ล้านต่อปี เทียบกับเดิมที่ประหยัด $230,000 ต่อปี
    ลด latency ลง 19% ด้วย NVMe และไม่มี “noisy neighbors”
    ใช้ MicroK8s + Ceph ใน production ด้วย uptime 99.993%
    เพิ่ม rack ที่ Frankfurt เพื่อแก้ปัญหา single point of failure
    ใช้ Talos, Tinkerbell, Flux และ Terraform เพื่อจัดการ automation
    ยังคงใช้ AWS สำหรับงานที่ต้องการความยืดหยุ่น เช่น CloudFront และ Glacier

    สรุปเนื้อหาสำคัญ
    ผลลัพธ์หลังย้ายจาก AWS
    ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า $1.2 ล้านต่อปี
    ลด latency ลง 19% ด้วย NVMe
    เพิ่มความเสถียรของระบบด้วย uptime 99.993%
    ขยาย rack ไปยัง Frankfurt เพื่อ redundancy

    กลยุทธ์ด้านเทคนิค
    ใช้ MicroK8s + Ceph ใน production
    เตรียมย้ายไปใช้ Talos เพื่อจัดการ Kubernetes
    ใช้ Tinkerbell PXE boot, Flux และ Terraform สำหรับ automation
    ไม่มีทีม onsite แต่ใช้บริการ remote hands จาก colo provider

    การจัดการต้นทุนและ CapEx
    เซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่: 2× AMD EPYC 9654, 1TB RAM
    วางแผน amortize 5 ปี แต่สามารถใช้งานได้ถึง 7–8 ปี
    มี cold spares และ extended warranty จาก OEM
    สามารถ refresh 40% ของ fleet ทุก 2 ปีโดยยังประหยัดกว่าบิล AWS

    การจัดการความปลอดภัยและ compliance
    ยังคงรักษา SOC 2 Type II และ ISO 27001
    ใช้ Terraform และ Talos config เป็นหลักฐานการเปลี่ยนแปลง
    ใช้รายงานจาก colo provider สำหรับ audit

    การใช้คลาวด์อย่างมีเหตุผล
    ใช้ AWS สำหรับ Glacier, CloudFront และ load testing
    เลือกใช้คลาวด์เมื่อ elasticity สำคัญ
    Bare metal เหมาะกับ workload ที่ steady และ predictable

    คำเตือนสำหรับผู้ที่คิดจะย้าย
    หาก workload มีลักษณะ burst หรือ seasonal ควรอยู่บนคลาวด์
    หากพึ่งพา managed services อย่าง Aurora หรือ Step Functions ควรอยู่บนคลาวด์
    หากไม่มีทีมที่เชี่ยวชาญ Kubernetes, Ceph และ observability อาจไม่เหมาะกับ bare metal
    การย้ายต้องมีการวางแผนด้าน compliance และ audit อย่างรอบคอบ

    https://oneuptime.com/blog/post/2025-10-29-aws-to-bare-metal-two-years-later/view
    🧠💻 “จากคลาวด์สู่เหล็กจริง” – บทเรียน 2 ปีหลังย้ายจาก AWS สู่ Bare Metal บริษัท OneUptime เผยเบื้องหลังการย้ายจาก AWS สู่ Bare Metal ที่ช่วยประหยัดกว่า 1.2 ล้านดอลลาร์ต่อปี พร้อมเปิดเผยกลยุทธ์และบทเรียนที่นักพัฒนาและองค์กรควรรู้ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐาน สองปีหลังจาก OneUptime ตัดสินใจย้ายโครงสร้างพื้นฐานจาก AWS ไปยังเซิร์ฟเวอร์แบบ Bare Metal บริษัทได้เปิดเผยผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง ทั้งด้านความคุ้มค่า ความเสถียร และความสามารถในการควบคุมระบบอย่างเต็มรูปแบบ การย้ายครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการลดค่าใช้จ่าย แต่เป็นการปรับเปลี่ยนแนวคิดการบริหารโครงสร้างพื้นฐาน โดย OneUptime ได้ตอบคำถามจาก Hacker News และ Reddit อย่างตรงไปตรงมา พร้อมเปิดเผยตัวเลขจริงและกลยุทธ์ที่ใช้ ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ: 🎗️ ประหยัดค่าใช้จ่ายจาก AWS ได้กว่า $1.2 ล้านต่อปี เทียบกับเดิมที่ประหยัด $230,000 ต่อปี 🎗️ ลด latency ลง 19% ด้วย NVMe และไม่มี “noisy neighbors” 🎗️ ใช้ MicroK8s + Ceph ใน production ด้วย uptime 99.993% 🎗️ เพิ่ม rack ที่ Frankfurt เพื่อแก้ปัญหา single point of failure 🎗️ ใช้ Talos, Tinkerbell, Flux และ Terraform เพื่อจัดการ automation 🎗️ ยังคงใช้ AWS สำหรับงานที่ต้องการความยืดหยุ่น เช่น CloudFront และ Glacier 📌 สรุปเนื้อหาสำคัญ ✅ ผลลัพธ์หลังย้ายจาก AWS ➡️ ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า $1.2 ล้านต่อปี ➡️ ลด latency ลง 19% ด้วย NVMe ➡️ เพิ่มความเสถียรของระบบด้วย uptime 99.993% ➡️ ขยาย rack ไปยัง Frankfurt เพื่อ redundancy ✅ กลยุทธ์ด้านเทคนิค ➡️ ใช้ MicroK8s + Ceph ใน production ➡️ เตรียมย้ายไปใช้ Talos เพื่อจัดการ Kubernetes ➡️ ใช้ Tinkerbell PXE boot, Flux และ Terraform สำหรับ automation ➡️ ไม่มีทีม onsite แต่ใช้บริการ remote hands จาก colo provider ✅ การจัดการต้นทุนและ CapEx ➡️ เซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่: 2× AMD EPYC 9654, 1TB RAM ➡️ วางแผน amortize 5 ปี แต่สามารถใช้งานได้ถึง 7–8 ปี ➡️ มี cold spares และ extended warranty จาก OEM ➡️ สามารถ refresh 40% ของ fleet ทุก 2 ปีโดยยังประหยัดกว่าบิล AWS ✅ การจัดการความปลอดภัยและ compliance ➡️ ยังคงรักษา SOC 2 Type II และ ISO 27001 ➡️ ใช้ Terraform และ Talos config เป็นหลักฐานการเปลี่ยนแปลง ➡️ ใช้รายงานจาก colo provider สำหรับ audit ✅ การใช้คลาวด์อย่างมีเหตุผล ➡️ ใช้ AWS สำหรับ Glacier, CloudFront และ load testing ➡️ เลือกใช้คลาวด์เมื่อ elasticity สำคัญ ➡️ Bare metal เหมาะกับ workload ที่ steady และ predictable ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ที่คิดจะย้าย ⛔ หาก workload มีลักษณะ burst หรือ seasonal ควรอยู่บนคลาวด์ ⛔ หากพึ่งพา managed services อย่าง Aurora หรือ Step Functions ควรอยู่บนคลาวด์ ⛔ หากไม่มีทีมที่เชี่ยวชาญ Kubernetes, Ceph และ observability อาจไม่เหมาะกับ bare metal ⛔ การย้ายต้องมีการวางแผนด้าน compliance และ audit อย่างรอบคอบ https://oneuptime.com/blog/post/2025-10-29-aws-to-bare-metal-two-years-later/view
    ONEUPTIME.COM
    AWS to Bare Metal Two Years Later: Answering Your Toughest Questions About Leaving AWS
    Two years after our AWS-to-bare-metal migration, we revisit the numbers, share what changed, and address the biggest questions from Hacker News and Reddit.
    0 Comments 0 Shares 251 Views 0 Reviews
  • ปราบใดที่กองทัพไทยยังไม่ปลดปล่อยคนไทยจะระบบปกครองฝรั่ง ประเทศไทยเราจะพังพินาศบนความเป็นทาสฝรั่งตลอดไป ถูกปล้นชิงตลอดเวลาแบบบ่อน้ำมันบ่อทองคำหรือแบบแร่เอิร์ธที่เป็นข่าวอยู่ในปัจจุบัน,ค่าจริงจะปรากฎชัดแบบเวลาปัจจุบันนี้,ยุคอดีตคือบ่อน้ำมัน ยุคปัจจุบันก็แร่เอิร์ธ จากที่หลบซ่อนตัวตนมานาน จะออกมาเปืดเผยตัวตนแต่ละครั้งต้องเป็นของคุ้มค่าต่อมัน แบบยุคบ่อน้ำมันในอดีต,
    ..กองทัพไทยจะนำพาคนไทยทางดีงามหรือชั่วเลว มันคือการเปลี่ยนแปลงตอนนี้เท่านั้น, อนาคตลูกหลานเรามิอาจอยู่ในมือนักการเมืองชั่วเลวแบบในปัจจุบันได้หรือระบบปกครองที่ล่มสลายนี้หรือล้มเหลวโคตรๆ.
    ..เรา..เป็นผู้นำตัวเราเองทั้งทางจิตวิญญาณและล้ำทางวัตถุยุคสมัยสไตล์เราได้ อย่าปล่อยต่างชาติใดๆมากดขี่เราประเทศไทยอีกเลย.,จงนำพาประชาชนออกสู่แสงสว่างทั้งประเทศเถิด.

    https://vm.tiktok.com/ZSHcd9rhgSVap-VGcRK/

    ปราบใดที่กองทัพไทยยังไม่ปลดปล่อยคนไทยจะระบบปกครองฝรั่ง ประเทศไทยเราจะพังพินาศบนความเป็นทาสฝรั่งตลอดไป ถูกปล้นชิงตลอดเวลาแบบบ่อน้ำมันบ่อทองคำหรือแบบแร่เอิร์ธที่เป็นข่าวอยู่ในปัจจุบัน,ค่าจริงจะปรากฎชัดแบบเวลาปัจจุบันนี้,ยุคอดีตคือบ่อน้ำมัน ยุคปัจจุบันก็แร่เอิร์ธ จากที่หลบซ่อนตัวตนมานาน จะออกมาเปืดเผยตัวตนแต่ละครั้งต้องเป็นของคุ้มค่าต่อมัน แบบยุคบ่อน้ำมันในอดีต, ..กองทัพไทยจะนำพาคนไทยทางดีงามหรือชั่วเลว มันคือการเปลี่ยนแปลงตอนนี้เท่านั้น, อนาคตลูกหลานเรามิอาจอยู่ในมือนักการเมืองชั่วเลวแบบในปัจจุบันได้หรือระบบปกครองที่ล่มสลายนี้หรือล้มเหลวโคตรๆ. ..เรา..เป็นผู้นำตัวเราเองทั้งทางจิตวิญญาณและล้ำทางวัตถุยุคสมัยสไตล์เราได้ อย่าปล่อยต่างชาติใดๆมากดขี่เราประเทศไทยอีกเลย.,จงนำพาประชาชนออกสู่แสงสว่างทั้งประเทศเถิด. https://vm.tiktok.com/ZSHcd9rhgSVap-VGcRK/
    0 Comments 0 Shares 142 Views 0 Reviews
  • หัวข้อข่าว: “แฮกพลัง RTX 4090 โน้ตบุ๊กด้วยชุนต์ม็อด ดันทะลุขีดจำกัด แซงหน้า RTX 5090!”

    วันนี้มีเรื่องเล่าจากโลกของเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ ที่ไม่ยอมให้ข้อจำกัดของฮาร์ดแวร์มาขวางความแรง! ผู้ใช้ Reddit นามว่า “u/thatavidreadertrue” ได้ทำการ “ชุนต์ม็อด” กับโน้ตบุ๊ก ASUS ROG Zephyrus M16 ที่ใช้ GPU RTX 4090 เพื่อปลดล็อกพลังที่ซ่อนอยู่ และผลลัพธ์คือ…แรงทะลุเพดาน แซง RTX 5090 ไปแบบไม่เกรงใจ!

    ชุนต์ม็อดคือการปรับแต่งวงจรไฟฟ้า โดยการเพิ่มตัวต้านทานขนาดเล็ก (1 mΩ) เข้าไปคู่ขนานกับตัวเดิม (5 mΩ) ทำให้ GPU เข้าใจผิดว่าตัวเองใช้ไฟน้อยลง ทั้งที่จริงแล้วมันดูดไฟถึง 240W จากเดิมที่จำกัดไว้แค่ 150W! ผลคือ GPU สามารถเร่งความเร็วได้มากขึ้นโดยไม่ถูกจำกัดจากเฟิร์มแวร์

    แม้จะไม่มีการทดสอบเกมจริง แต่ผล Benchmark ก็ชัดเจนว่า RTX 4090 ที่ผ่านการม็อดสามารถแซง RTX 5090 ได้ในหลายการทดสอบ เช่น Solar Bay Extreme ที่ได้คะแนนสูงกว่าถึง 7.6% และเหนือกว่า RTX 4090 รุ่นเดิมถึง 35.5%

    เพื่อรับมือกับความร้อนที่เพิ่มขึ้น เจ้าของเครื่องได้เปลี่ยนวัสดุระบายความร้อนเป็น PTM7950 และ Upsiren UX Pro Ultra พร้อมกับ undervolt GPU ให้ใช้ไฟต่ำลงเพื่อความปลอดภัย

    ที่น่าสนใจคือ โน้ตบุ๊กเครื่องนี้ซื้อจากตลาดมือสองในราคาแค่ $1600! เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้ ถือว่าเป็น “ดีลเทพ” สำหรับสายโมดิฟาย

    การม็อดชุนต์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ GPU
    ลดค่าความต้านทานจาก 5 mΩ เหลือ 0.83 mΩ
    GPU เข้าใจผิดว่าตัวเองใช้ไฟน้อยลง ทำให้เร่งความเร็วได้มากขึ้น
    จาก 150W TGP กลายเป็นการใช้ไฟจริงถึง 240W

    ผล Benchmark แสดงให้เห็นถึงความแรงที่เพิ่มขึ้น
    Solar Bay Extreme สูงกว่า RTX 5090 ถึง 7.6%
    สูงกว่า RTX 4090 รุ่นเดิมถึง 35.5%
    คะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นเกือบ 20% เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม

    การจัดการความร้อนหลังม็อด
    ใช้ PTM7950 และ Upsiren UX Pro Ultra แทนของเดิม
    GPU อยู่ที่ 80–84°C โดยไม่ throttle
    CPU ร้อนถึง 90°C แต่ยังควบคุมได้

    การ undervolt เพื่อความปลอดภัย
    จำกัดแรงดันไฟฟ้าไว้ที่ 800mV ขณะเล่นเกม
    ลดความเสี่ยงจากการเร่งความเร็วเกินขีดจำกัด

    ความคุ้มค่าด้านราคา
    ซื้อเครื่องมือสองในราคา $1600
    หลังม็อดแล้วแรงกว่า RTX 5090 ที่ราคาสูงกว่า

    การม็อดชุนต์มีความเสี่ยงสูง
    อาจทำให้เครื่องเสียหายถาวร หากทำไม่ถูกต้อง
    อุปกรณ์ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้ไฟเกินขีดจำกัด

    ความร้อนที่เพิ่มขึ้นต้องจัดการอย่างเหมาะสม
    หากระบายความร้อนไม่ดี อาจเกิดการ throttle หรือ shutdown
    อุณหภูมิ CPU ที่สูงอาจส่งผลต่ออายุการใช้งาน

    การ undervolt ต้องทำอย่างระมัดระวัง
    หากตั้งค่าผิด อาจทำให้ระบบไม่เสถียรหรือค้าง

    https://www.tomshardware.com/laptops/gaming-laptops/rtx-4090-laptop-gpu-gets-20-percent-performance-boost-after-shunt-mod-consuming-up-to-240w-reduced-resistance-means-it-also-beats-the-mobile-rtx-5090-on-average
    🛠️ หัวข้อข่าว: “แฮกพลัง RTX 4090 โน้ตบุ๊กด้วยชุนต์ม็อด ดันทะลุขีดจำกัด แซงหน้า RTX 5090!” วันนี้มีเรื่องเล่าจากโลกของเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ ที่ไม่ยอมให้ข้อจำกัดของฮาร์ดแวร์มาขวางความแรง! ผู้ใช้ Reddit นามว่า “u/thatavidreadertrue” ได้ทำการ “ชุนต์ม็อด” กับโน้ตบุ๊ก ASUS ROG Zephyrus M16 ที่ใช้ GPU RTX 4090 เพื่อปลดล็อกพลังที่ซ่อนอยู่ และผลลัพธ์คือ…แรงทะลุเพดาน แซง RTX 5090 ไปแบบไม่เกรงใจ! ชุนต์ม็อดคือการปรับแต่งวงจรไฟฟ้า โดยการเพิ่มตัวต้านทานขนาดเล็ก (1 mΩ) เข้าไปคู่ขนานกับตัวเดิม (5 mΩ) ทำให้ GPU เข้าใจผิดว่าตัวเองใช้ไฟน้อยลง ทั้งที่จริงแล้วมันดูดไฟถึง 240W จากเดิมที่จำกัดไว้แค่ 150W! ผลคือ GPU สามารถเร่งความเร็วได้มากขึ้นโดยไม่ถูกจำกัดจากเฟิร์มแวร์ แม้จะไม่มีการทดสอบเกมจริง แต่ผล Benchmark ก็ชัดเจนว่า RTX 4090 ที่ผ่านการม็อดสามารถแซง RTX 5090 ได้ในหลายการทดสอบ เช่น Solar Bay Extreme ที่ได้คะแนนสูงกว่าถึง 7.6% และเหนือกว่า RTX 4090 รุ่นเดิมถึง 35.5% เพื่อรับมือกับความร้อนที่เพิ่มขึ้น เจ้าของเครื่องได้เปลี่ยนวัสดุระบายความร้อนเป็น PTM7950 และ Upsiren UX Pro Ultra พร้อมกับ undervolt GPU ให้ใช้ไฟต่ำลงเพื่อความปลอดภัย ที่น่าสนใจคือ โน้ตบุ๊กเครื่องนี้ซื้อจากตลาดมือสองในราคาแค่ $1600! เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้ ถือว่าเป็น “ดีลเทพ” สำหรับสายโมดิฟาย ✅ การม็อดชุนต์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ GPU ➡️ ลดค่าความต้านทานจาก 5 mΩ เหลือ 0.83 mΩ ➡️ GPU เข้าใจผิดว่าตัวเองใช้ไฟน้อยลง ทำให้เร่งความเร็วได้มากขึ้น ➡️ จาก 150W TGP กลายเป็นการใช้ไฟจริงถึง 240W ✅ ผล Benchmark แสดงให้เห็นถึงความแรงที่เพิ่มขึ้น ➡️ Solar Bay Extreme สูงกว่า RTX 5090 ถึง 7.6% ➡️ สูงกว่า RTX 4090 รุ่นเดิมถึง 35.5% ➡️ คะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นเกือบ 20% เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม ✅ การจัดการความร้อนหลังม็อด ➡️ ใช้ PTM7950 และ Upsiren UX Pro Ultra แทนของเดิม ➡️ GPU อยู่ที่ 80–84°C โดยไม่ throttle ➡️ CPU ร้อนถึง 90°C แต่ยังควบคุมได้ ✅ การ undervolt เพื่อความปลอดภัย ➡️ จำกัดแรงดันไฟฟ้าไว้ที่ 800mV ขณะเล่นเกม ➡️ ลดความเสี่ยงจากการเร่งความเร็วเกินขีดจำกัด ✅ ความคุ้มค่าด้านราคา ➡️ ซื้อเครื่องมือสองในราคา $1600 ➡️ หลังม็อดแล้วแรงกว่า RTX 5090 ที่ราคาสูงกว่า ‼️ การม็อดชุนต์มีความเสี่ยงสูง ⛔ อาจทำให้เครื่องเสียหายถาวร หากทำไม่ถูกต้อง ⛔ อุปกรณ์ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้ไฟเกินขีดจำกัด ‼️ ความร้อนที่เพิ่มขึ้นต้องจัดการอย่างเหมาะสม ⛔ หากระบายความร้อนไม่ดี อาจเกิดการ throttle หรือ shutdown ⛔ อุณหภูมิ CPU ที่สูงอาจส่งผลต่ออายุการใช้งาน ‼️ การ undervolt ต้องทำอย่างระมัดระวัง ⛔ หากตั้งค่าผิด อาจทำให้ระบบไม่เสถียรหรือค้าง https://www.tomshardware.com/laptops/gaming-laptops/rtx-4090-laptop-gpu-gets-20-percent-performance-boost-after-shunt-mod-consuming-up-to-240w-reduced-resistance-means-it-also-beats-the-mobile-rtx-5090-on-average
    0 Comments 0 Shares 178 Views 0 Reviews
More Results