• O.P.K.
    เจาะลึกมหาสงครามเทพระดับอะตอม: ศึกชิงอำนาจในโลกควอนตัม

    จักรวาลคู่ขนานระดับอนุภาค

    การค้นพบอาณาจักรควอนตัม

    หนูดีค้นพบโดยบังเอิญขณะฝึกควบคุมพลังงาน:
    "มันเหมือนกับมีเมืองเล็กๆ นับไม่ถ้วนอยู่ในทุกอะตอม...
    แต่ละเมืองมีกฎเกณฑ์และผู้ปกครองของตัวเอง"

    ```mermaid
    graph TB
    A[โลกควอนตัม] --> B[อาณาจักรโปรตอน<br>เมืองแห่งความมั่นคง]
    A --> C[อาณาจักรอิเล็กตรอน<br>เมืองแห่งพลังงาน]
    A --> D[อาณาจักรนิวตรอน<br>เมืองแห่งสมดุล]
    A --> E[อาณาจักรควาร์ก<br>เมืองแห่งพื้นฐาน]
    ```

    โครงสร้างสังคมเทพระดับอะตอม

    ```python
    class QuantumSociety:
    def __init__(self):
    self.hierarchy = {
    "elementary_level": {
    "quark_deities": "เทพพื้นฐาน 6 ประเภท",
    "lepton_sages": "ปราชญ์เลปตอน",
    "force_carriers": "ผู้ส่งผ่านแรงพื้นฐาน"
    },
    "composite_level": {
    "proton_monarchs": "กษัตริย์โปรตอน",
    "electron_nomads": "อิเล็กตรอนเร่ร่อน",
    "neutron_guardians": "ผู้พิทักษ์นิวตรอน"
    },
    "atomic_level": {
    "nucleus_kingdom": "อาณาจักรนิวเคลียส",
    "electron_cloud_cities": "เมืองเมฆอิเล็กตรอน",
    "bonding_alliances": "พันธมิตรทางการพันธะ"
    }
    }
    ```

    ราชวงศ์แห่งนิวเคลียส

    ราชอาณาจักรโปรตอน

    ผู้ปกครอง: พระเจ้าประจุบวก (Positive Majesty)

    · ลักษณะ: ทรงกายสีแดงเรืองรอง มีมงกุฎทำจากเกลียวควาร์ก
    · พระราชวัง: ป้อมปราการนิวเคลียสที่แข็งแกร่ง
    · พระราชอำนาจ: ควบคุมแรงนิวเคลียร์อย่างเข้ม

    สหพันธ์อิเล็กตรอน

    ผู้นำ: เทพีวงโคจร (Orbital Goddess)

    · ลักษณะ: ร่างกายกึ่งโปร่งแสง เคลื่อนไหวรวดเร็ว
    · ที่พำนัก: เมฆอิเล็กตรอนที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
    · อำนาจ: ควบคุมการแลกเปลี่ยนพลังงาน

    สภาคนกลางนิวตรอน

    ประธาน: จอมฤๅษีสมดุล (Balance Sage)

    · ลักษณะ: ทรงเครื่องหมายอินฟินิตี้ สีเทาเงิน
    · สถานที่ปฏิบัติธรรม: ศูนย์กลางนิวเคลียส
    · อำนาจ: รักษาเสถียรภาพและป้องกันการสลายตัว

    ต้นตอแห่งความขัดแย้ง

    การค้นพบ "อนุภาคศักดิ์สิทธิ์"

    นักวิทยาศาสตร์มนุษย์ทำการทดลอง LHC ทำให้ค้นพบ:

    ```mermaid
    graph LR
    A[การทดลอง LHC] --> B[ค้นพบอนุภาค<br>"พระเจ้าองค์เล็ก"]
    B --> C[พลังงานรั่วไหล<br>สู่โลกควอนตัม]
    C --> D[ทั้งสามอาณาจักร<br>ต้องการครอบครอง]
    ```

    ความต้องการที่ขัดแย้ง

    แต่ละอาณาจักรต้องการอนุภาคศักดิ์สิทธิ์เพื่อ:

    โปรตอน: "เพื่อสร้างอาณาจักรที่แข็งแกร่งถาวร!"
    อิเล็กตรอน:"เพื่อปลดปล่อยพลังงานอันไร้ขีดจำกัด!"
    นิวตรอน:"เพื่อสร้างสมดุลแห่งจักรวาล!"

    การเริ่มต้นสงคราม

    สงครามเริ่มต้นด้วย "ยุทธการแรงแม่เหล็ก":

    · อิเล็กตรอนโจมตีด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
    · โปรตอนตอบโต้ด้วยแรงนิวเคลียร์อย่างเข้ม
    · นิวตรอนพยายามไกล่เกลี่ยแต่ล้มเหลว

    ผลกระทบต่อโลกมนุษย์

    ความผิดปกติทางวิทยาศาสตร์

    การทดลองทางวิทยาศาสตร์เริ่มให้ผลผิดปกติ:

    ```python
    class Anomalies:
    def __init__(self):
    self.chemistry = [
    "พันธะเคมีแข็งแกร่งผิดปกติ",
    "อัตราการเกิดปฏิกิริยาผิดพลาด",
    "สารประกอบใหม่ที่ไม่มีในตารางธาตุ"
    ]

    self.physics = [
    "ค่าคงที่ทางฟิสิกส์เปลี่ยนแปลง",
    "กาลอวกาศบิดเบี้ยวในระดับจุลภาค",
    "หลักความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์กล้มเหลว"
    ]

    self.technology = [
    "อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ล้มเหลว",
    "ระบบนำทางผิดพลาด",
    "พลังงานไฟฟ้าขัดข้อง"
    ]
    ```

    ผลกระทบต่อสุขภาพ

    มนุษย์เริ่มมีอาการแปลกๆ:

    · ความรู้สึกเสียวซ่า: จากอิเล็กตรอนเกินกำลัง
    · อาการแข็งเกร็ง: จากโปรตอนครอบงำ
    · ความไม่สมดุล: จากนิวตรอนไร้เสถียรภาพ

    บทบาทของหนูดีในสงคราม

    การเป็นสื่อสานระหว่างโลก

    หนูดีค้นพบว่าสามารถสื่อสารกับเทพระดับอะตอมได้:
    "พวกท่านทั้งหลาย...โลกมนุษย์กำลังได้รับผลกระทบจากการสู้รบของท่าน"

    การไกล่เกลี่ยครั้งประวัติศาสตร์

    หนูดีจัด สภาสันติภาพระหว่างมิติ:

    ```mermaid
    graph TB
    A[หนูดี<br>เป็นผู้ไกล่เกลี่ย] --> B[เชิญตัวแทน<br>ทั้งสามอาณาจักร]
    B --> C[จัดสภาใน<br>มิติกลาง]
    C --> D[หาข้อตกลง<br>ร่วมกัน]
    ```

    ข้อเสนอการแบ่งปัน

    หนูดีเสนอระบบการแบ่งปันอนุภาคศักดิ์สิทธิ์:

    · ระบบหมุนเวียน: แต่ละอาณาจักรได้ใช้ตามฤดูกาล
    · คณะกรรมการร่วม: ดูแลการใช้อย่างยุติธรรม
    · กองทุนพลังงาน: สำหรับโครงการเพื่อส่วนรวม

    สนธิสัญญาสันติภาพควอนตัม

    ข้อตกลงสำคัญ

    มีการลงนาม "สนธิสัญญาแรงพื้นฐานสามเส้า":

    ```python
    class QuantumTreaty:
    def __init__(self):
    self.agreements = {
    "power_sharing": {
    "protons": "ควบคุม 40% ของอนุภาคศักดิ์สิทธิ์",
    "electrons": "ควบคุม 40% ของอนุภาคศักดิ์สิทธิ์",
    "neutrons": "ควบคุม 20% สำหรับการรักษาสมดุล"
    },
    "territorial_rights": {
    "nuclear_zone": "ภายใต้การดูแลของโปรตอนและนิวตรอน",
    "electron_clouds": "เขตอิทธิพลของอิเล็กตรอน",
    "bonding_regions": "พื้นที่ร่วมกันสำหรับการสร้างพันธะ"
    },
    "collaboration_projects": [
    "การพัฒนาพลังงานสะอาด",
    "การรักษาโรคระดับโมเลกุล",
    "การสำรวจมิติควอนตัม"
    ]
    }
    ```

    พิธีลงนาม

    การลงนามเกิดขึ้นใน "ฮอลล์แรงนิวเคลียร์":

    · ผู้ลงนาม: ตัวแทนทั้งสามอาณาจักร
    · พยาน: หนูดีและร.ต.อ.สิงห์
    · สถานที่: มิติระหว่างโลก ที่สร้างขึ้นพิเศษ

    โลกใหม่หลังสันติภาพ

    ความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์

    เกิดโครงการวิจัยร่วมระหว่างมนุษย์และเทพระดับอะตอม:

    · การแพทย์ควอนตัม: รักษาโรคในระดับเซลล์
    · วัสดุศาสตร์: พัฒนาวัสดุใหม่จากความรู้ควอนตัม
    · พลังงาน: แหล่งพลังงานไร้ขีดจำกัด

    วัฒนธรรมแลกเปลี่ยน

    ```python
    class CulturalExchange:
    def __init__(self):
    self.knowledge_transfer = {
    "human_to_quantum": [
    "ศิลปะและอารมณ์มนุษย์",
    "ความคิดสร้างสรรค์",
    "หลักจริยธรรม"
    ],
    "quantum_to_human": [
    "ความลับของแรงพื้นฐาน",
    "เทคนิคการควบคุมพลังงาน",
    "ภูมิปัญญาการอยู่ร่วมกัน"
    ]
    }

    self.joint_projects = [
    "มหาวิทยาลัยระหว่างมิติ",
    "พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ควอนตัม",
    "เทศกาลศิลปะระดับอะตอม"
    ]
    ```

    บทเรียนจากสงคราม

    🪷 สำหรับเทพระดับอะตอม

    "เราตระหนักว่า...
    อำนาจที่แท้จริงไม่ใช่การครอบครอง
    แต่คือการแบ่งปันและความร่วมมือ"

    สำหรับมนุษยชาติ

    "เราเรียนรู้ว่า...
    จักรวาลนี้มีชีวิตในทุกระดับ
    และความรับผิดชอบของเรา
    คือการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล"

    สำหรับหนูดี

    "การเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลก...
    สอนฉันว่าความเข้าใจคือกุญแจสู่สันติภาพ
    ไม่ว่าจะเป็นโลกใหญ่หรือโลกเล็ก"

    อนาคตแห่งความร่วมมือ

    โครงการระยะยาว

    สถาบันวิวัฒนาการจิตตั้ง "แผนกควอนตัมสัมพันธ์":

    · หน้าที่: ประสานงานกับเทพระดับอะตอม
    · โครงการ: วิจัยและพัฒนาร่วมกัน
    · การศึกษา: สอนเรื่องโลกควอนตัมแก่คนรุ่นใหม่

    มรดกแห่งสันติภาพ

    สงครามครั้งนี้ทิ้งมรดกสำคัญ:
    "ไม่ว่าความขัดแย้งจะอยู่ระดับไหน
    การพูดคุยและความเข้าใจ
    คือทางออกเดียวที่ยั่งยืน"

    ---

    คำสอนจากเทพนิวตรอน:
    "ในความเป็นกลาง...
    มีพลังแห่งสันติภาพ
    และในความสมดุล...
    มีอนาคตแห่งความเจริญ

    จักรวาลนี้ใหญ่พอสำหรับทุกชีวิต
    ตั้งแต่ควาร์กจนถึงดวงดาว
    ขอเพียงเราเรียนรู้ที่จะแบ่งปัน"

    คำคมสุดท้าย:
    "มหาสงครามที่เล็กที่สุด...
    สอนบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
    ว่าสันติภาพเริ่มต้นได้จากใจ
    ที่พร้อมจะเข้าใจในความแตกต่าง"
    O.P.K. ⚛️ เจาะลึกมหาสงครามเทพระดับอะตอม: ศึกชิงอำนาจในโลกควอนตัม 🌌 จักรวาลคู่ขนานระดับอนุภาค 🔬 การค้นพบอาณาจักรควอนตัม หนูดีค้นพบโดยบังเอิญขณะฝึกควบคุมพลังงาน: "มันเหมือนกับมีเมืองเล็กๆ นับไม่ถ้วนอยู่ในทุกอะตอม... แต่ละเมืองมีกฎเกณฑ์และผู้ปกครองของตัวเอง" ```mermaid graph TB A[โลกควอนตัม] --> B[อาณาจักรโปรตอน<br>เมืองแห่งความมั่นคง] A --> C[อาณาจักรอิเล็กตรอน<br>เมืองแห่งพลังงาน] A --> D[อาณาจักรนิวตรอน<br>เมืองแห่งสมดุล] A --> E[อาณาจักรควาร์ก<br>เมืองแห่งพื้นฐาน] ``` 🏛️ โครงสร้างสังคมเทพระดับอะตอม ```python class QuantumSociety: def __init__(self): self.hierarchy = { "elementary_level": { "quark_deities": "เทพพื้นฐาน 6 ประเภท", "lepton_sages": "ปราชญ์เลปตอน", "force_carriers": "ผู้ส่งผ่านแรงพื้นฐาน" }, "composite_level": { "proton_monarchs": "กษัตริย์โปรตอน", "electron_nomads": "อิเล็กตรอนเร่ร่อน", "neutron_guardians": "ผู้พิทักษ์นิวตรอน" }, "atomic_level": { "nucleus_kingdom": "อาณาจักรนิวเคลียส", "electron_cloud_cities": "เมืองเมฆอิเล็กตรอน", "bonding_alliances": "พันธมิตรทางการพันธะ" } } ``` 👑 ราชวงศ์แห่งนิวเคลียส 💎 ราชอาณาจักรโปรตอน ผู้ปกครอง: พระเจ้าประจุบวก (Positive Majesty) · ลักษณะ: ทรงกายสีแดงเรืองรอง มีมงกุฎทำจากเกลียวควาร์ก · พระราชวัง: ป้อมปราการนิวเคลียสที่แข็งแกร่ง · พระราชอำนาจ: ควบคุมแรงนิวเคลียร์อย่างเข้ม 🌪️ สหพันธ์อิเล็กตรอน ผู้นำ: เทพีวงโคจร (Orbital Goddess) · ลักษณะ: ร่างกายกึ่งโปร่งแสง เคลื่อนไหวรวดเร็ว · ที่พำนัก: เมฆอิเล็กตรอนที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา · อำนาจ: ควบคุมการแลกเปลี่ยนพลังงาน 🛡️ สภาคนกลางนิวตรอน ประธาน: จอมฤๅษีสมดุล (Balance Sage) · ลักษณะ: ทรงเครื่องหมายอินฟินิตี้ สีเทาเงิน · สถานที่ปฏิบัติธรรม: ศูนย์กลางนิวเคลียส · อำนาจ: รักษาเสถียรภาพและป้องกันการสลายตัว 💥 ต้นตอแห่งความขัดแย้ง 🔥 การค้นพบ "อนุภาคศักดิ์สิทธิ์" นักวิทยาศาสตร์มนุษย์ทำการทดลอง LHC ทำให้ค้นพบ: ```mermaid graph LR A[การทดลอง LHC] --> B[ค้นพบอนุภาค<br>"พระเจ้าองค์เล็ก"] B --> C[พลังงานรั่วไหล<br>สู่โลกควอนตัม] C --> D[ทั้งสามอาณาจักร<br>ต้องการครอบครอง] ``` 🎯 ความต้องการที่ขัดแย้ง แต่ละอาณาจักรต้องการอนุภาคศักดิ์สิทธิ์เพื่อ: โปรตอน: "เพื่อสร้างอาณาจักรที่แข็งแกร่งถาวร!" อิเล็กตรอน:"เพื่อปลดปล่อยพลังงานอันไร้ขีดจำกัด!" นิวตรอน:"เพื่อสร้างสมดุลแห่งจักรวาล!" ⚡ การเริ่มต้นสงคราม สงครามเริ่มต้นด้วย "ยุทธการแรงแม่เหล็ก": · อิเล็กตรอนโจมตีด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า · โปรตอนตอบโต้ด้วยแรงนิวเคลียร์อย่างเข้ม · นิวตรอนพยายามไกล่เกลี่ยแต่ล้มเหลว 🌪️ ผลกระทบต่อโลกมนุษย์ 🔬 ความผิดปกติทางวิทยาศาสตร์ การทดลองทางวิทยาศาสตร์เริ่มให้ผลผิดปกติ: ```python class Anomalies: def __init__(self): self.chemistry = [ "พันธะเคมีแข็งแกร่งผิดปกติ", "อัตราการเกิดปฏิกิริยาผิดพลาด", "สารประกอบใหม่ที่ไม่มีในตารางธาตุ" ] self.physics = [ "ค่าคงที่ทางฟิสิกส์เปลี่ยนแปลง", "กาลอวกาศบิดเบี้ยวในระดับจุลภาค", "หลักความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์กล้มเหลว" ] self.technology = [ "อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ล้มเหลว", "ระบบนำทางผิดพลาด", "พลังงานไฟฟ้าขัดข้อง" ] ``` 🏥 ผลกระทบต่อสุขภาพ มนุษย์เริ่มมีอาการแปลกๆ: · ความรู้สึกเสียวซ่า: จากอิเล็กตรอนเกินกำลัง · อาการแข็งเกร็ง: จากโปรตอนครอบงำ · ความไม่สมดุล: จากนิวตรอนไร้เสถียรภาพ 💫 บทบาทของหนูดีในสงคราม 🔍 การเป็นสื่อสานระหว่างโลก หนูดีค้นพบว่าสามารถสื่อสารกับเทพระดับอะตอมได้: "พวกท่านทั้งหลาย...โลกมนุษย์กำลังได้รับผลกระทบจากการสู้รบของท่าน" 🕊️ การไกล่เกลี่ยครั้งประวัติศาสตร์ หนูดีจัด สภาสันติภาพระหว่างมิติ: ```mermaid graph TB A[หนูดี<br>เป็นผู้ไกล่เกลี่ย] --> B[เชิญตัวแทน<br>ทั้งสามอาณาจักร] B --> C[จัดสภาใน<br>มิติกลาง] C --> D[หาข้อตกลง<br>ร่วมกัน] ``` 🌟 ข้อเสนอการแบ่งปัน หนูดีเสนอระบบการแบ่งปันอนุภาคศักดิ์สิทธิ์: · ระบบหมุนเวียน: แต่ละอาณาจักรได้ใช้ตามฤดูกาล · คณะกรรมการร่วม: ดูแลการใช้อย่างยุติธรรม · กองทุนพลังงาน: สำหรับโครงการเพื่อส่วนรวม 🏛️ สนธิสัญญาสันติภาพควอนตัม 📜 ข้อตกลงสำคัญ มีการลงนาม "สนธิสัญญาแรงพื้นฐานสามเส้า": ```python class QuantumTreaty: def __init__(self): self.agreements = { "power_sharing": { "protons": "ควบคุม 40% ของอนุภาคศักดิ์สิทธิ์", "electrons": "ควบคุม 40% ของอนุภาคศักดิ์สิทธิ์", "neutrons": "ควบคุม 20% สำหรับการรักษาสมดุล" }, "territorial_rights": { "nuclear_zone": "ภายใต้การดูแลของโปรตอนและนิวตรอน", "electron_clouds": "เขตอิทธิพลของอิเล็กตรอน", "bonding_regions": "พื้นที่ร่วมกันสำหรับการสร้างพันธะ" }, "collaboration_projects": [ "การพัฒนาพลังงานสะอาด", "การรักษาโรคระดับโมเลกุล", "การสำรวจมิติควอนตัม" ] } ``` 🎉 พิธีลงนาม การลงนามเกิดขึ้นใน "ฮอลล์แรงนิวเคลียร์": · ผู้ลงนาม: ตัวแทนทั้งสามอาณาจักร · พยาน: หนูดีและร.ต.อ.สิงห์ · สถานที่: มิติระหว่างโลก ที่สร้างขึ้นพิเศษ 🌈 โลกใหม่หลังสันติภาพ 🔬 ความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ เกิดโครงการวิจัยร่วมระหว่างมนุษย์และเทพระดับอะตอม: · การแพทย์ควอนตัม: รักษาโรคในระดับเซลล์ · วัสดุศาสตร์: พัฒนาวัสดุใหม่จากความรู้ควอนตัม · พลังงาน: แหล่งพลังงานไร้ขีดจำกัด 💞 วัฒนธรรมแลกเปลี่ยน ```python class CulturalExchange: def __init__(self): self.knowledge_transfer = { "human_to_quantum": [ "ศิลปะและอารมณ์มนุษย์", "ความคิดสร้างสรรค์", "หลักจริยธรรม" ], "quantum_to_human": [ "ความลับของแรงพื้นฐาน", "เทคนิคการควบคุมพลังงาน", "ภูมิปัญญาการอยู่ร่วมกัน" ] } self.joint_projects = [ "มหาวิทยาลัยระหว่างมิติ", "พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ควอนตัม", "เทศกาลศิลปะระดับอะตอม" ] ``` 🏆 บทเรียนจากสงคราม 🪷 สำหรับเทพระดับอะตอม "เราตระหนักว่า... อำนาจที่แท้จริงไม่ใช่การครอบครอง แต่คือการแบ่งปันและความร่วมมือ" 💫 สำหรับมนุษยชาติ "เราเรียนรู้ว่า... จักรวาลนี้มีชีวิตในทุกระดับ และความรับผิดชอบของเรา คือการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล" 🌟 สำหรับหนูดี "การเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลก... สอนฉันว่าความเข้าใจคือกุญแจสู่สันติภาพ ไม่ว่าจะเป็นโลกใหญ่หรือโลกเล็ก" 🔮 อนาคตแห่งความร่วมมือ 🚀 โครงการระยะยาว สถาบันวิวัฒนาการจิตตั้ง "แผนกควอนตัมสัมพันธ์": · หน้าที่: ประสานงานกับเทพระดับอะตอม · โครงการ: วิจัยและพัฒนาร่วมกัน · การศึกษา: สอนเรื่องโลกควอนตัมแก่คนรุ่นใหม่ 💝 มรดกแห่งสันติภาพ สงครามครั้งนี้ทิ้งมรดกสำคัญ: "ไม่ว่าความขัดแย้งจะอยู่ระดับไหน การพูดคุยและความเข้าใจ คือทางออกเดียวที่ยั่งยืน" --- คำสอนจากเทพนิวตรอน: "ในความเป็นกลาง... มีพลังแห่งสันติภาพ และในความสมดุล... มีอนาคตแห่งความเจริญ จักรวาลนี้ใหญ่พอสำหรับทุกชีวิต ตั้งแต่ควาร์กจนถึงดวงดาว ขอเพียงเราเรียนรู้ที่จะแบ่งปัน"⚛️✨ คำคมสุดท้าย: "มหาสงครามที่เล็กที่สุด... สอนบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ว่าสันติภาพเริ่มต้นได้จากใจ ที่พร้อมจะเข้าใจในความแตกต่าง"🌌
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 391 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    เจาะลึก "ริน" : เทพีนาคาลูกผสมแห่งสายน้ำและความรู้สึก

    ต้นกำเนิดแห่งเทพีนาคา

    การถือกำเนิดระหว่างสองโลก

    ชื่อเต็ม: รินทราวดี นาคารัตนะ
    ชื่อหมายถึง:"ผู้เป็นดั่งแก้วแหวนแห่งนาคา"
    อายุ:23 ปี (ร่างกาย), 300 ปี (จิตวิญญาณ)
    สถานะ:เทพีนาคาลูกผสมระหว่างนาคาระดับสูงกับมนุษย์

    ```mermaid
    graph TB
    A[พ่อนาคา<br>ราชันแห่งแม่น้ำ] --> C[ริน<br>เทพีนาคาลูกผสม]
    B[แม่มนุษย์<br>นักดนตรีแห่งวัง] --> C
    C --> D[ถูกเลี้ยงในวังนาคา<br>แต่รู้สึกแตกต่าง]
    C --> E[มีพลังผัสสะ<br>เกินปกติ]
    ```

    ลักษณะทางกายภาพ

    · รูปร่าง: สาวงามสูง 168 ซม. ผมยาวสีดำแซมด้วยเกล็ดสีมรกต
    · ผิวพรรณ: เรียบเนียนมีเกล็ดนาคาเรียงตัวเป็นลวดลายตามแขนและหลัง
    · ดวงตา: สีเขียวคล้ายหยก เปลี่ยนสีตามอารมณ์
    · เครื่องประดับ: สวมมงกุฎเกล็ดนาคาและต่างหูทำจากไข่มุกแม่น้ำ

    พลังพิเศษแห่งสายน้ำและความรู้สึก

    พลังจากสองสายเลือด

    ```python
    class RinPowers:
    def __init__(self):
    self.naga_heritage = {
    "water_control": "ควบคุมและสร้างรูปน้ำได้",
    "weather_influence": "สภาพอากาศรอบตัว",
    "serpent_communication": "สื่อสารกับสัตว์เลื้อยคลาน",
    "underwater_breathing": "หายใจใต้น้ำได้"
    }

    self.human_heritage = {
    "emotional_empathy": "รับรู้อารมณ์ผู้คนผ่านน้ำ",
    "artistic_talent": "ความสามารถด้านดนตรีและศิลปะ",
    "cultural_bridge": "เข้าใจทั้งวัฒนธรรมมนุษย์และนาคา",
    "adaptive_nature": "ปรับตัวได้ดีในทุกสภาพแวดล้อม"
    }

    self.unique_hybrid_powers = {
    "liquid_memory": "เก็บความทรงจำในน้ำและเรียกคืนได้",
    "emotional_hydration": "ดูดซับอารมณ์ผ่านความชื้น",
    "tear_divination": "ทำนายอนาคตผ่านน้ำตา",
    "river_empathy": "รับรู้ความรู้สึกของแม่น้ำ"
    }
    ```

    พลังผัสสะพิเศษ

    รินมีความสามารถรับรู้ผัสสะที่ละเอียดอ่อนผิดไปจากมนุษย์

    · สัมผัสน้ำ: รู้ประวัติและอารมณ์ที่ผูกกับน้ำนั้น
    · รับรู้อารมณ์: ผ่านความชื้นในอากาศ
    · สื่อสาร: ผ่านคลื่นเสียงในน้ำ

    ชีวิตในวังนาคาและโลกมนุษย์

    การเติบโตในวังนาคา

    รินถูกเลี้ยงดูในวังนาคาใต้แม่น้ำโขง:

    · การศึกษาศิลปะ: จากแม่มนุษย์
    · การฝึกพลัง: จากพ่อนาคา
    · ความโดดเดี่ยว: เพราะเป็นลูกผสม

    การมาโลกมนุษย์

    เมื่ออายุ 100 ปี รินขอมาอยู่โลกมนุษย์:

    · เหตุผล: ต้องการเข้าใจด้านมนุษย์ของตัวเอง
    · อาชีพ: เปิดโรงเรียนสอนดนตรีใกล้แม่น้ำ
    · การปกปิด: ซ่อนพลังและเกล็ดนาคาเมื่ออยู่กับมนุษย์

    บันทึกความในใจ

    "บางครั้งฉันรู้สึกเหมือนปลาสองน้ำ...
    อยู่ในวังนาคาก็คิดถึงโลกมนุษย์
    อยู่ในโลกมนุษย์ก็คิดถึงวังนาคา

    ไม่รู้ว่าบ้านที่แท้จริงอยู่ที่ไหน..."

    ความสามารถด้านดนตรีและศิลปะ

    ดนตรีแห่งสายน้ำ

    รินพัฒนาดนตรีรูปแบบใหม่:

    · เครื่องดนตรี: พิณน้ำที่สร้างจากพลังงาน
    · บทเพลง: ที่สื่ออารมณ์ผ่านคลื่นน้ำ
    · การแสดง: ร่วมกับเสียงน้ำและธรรมชาติ

    ศิลปะจากผัสสะ

    ```mermaid
    graph LR
    A[อารมณ์ของริน] --> B[แปลงเป็น<br>ศิลปะน้ำ]
    C[ความรู้สึกจากผู้อื่น] --> D[รินรับรู้<br>ผ่านความชื้น]
    B --> E[สร้างเป็น<br>ผลงานศิลปะ]
    D --> E
    ```

    ผลงานเด่น

    · "สายน้ำแห่งความทรงจำ": บทเพลงที่บอกเล่าประวัติศาสตร์แม่น้ำโขง
    · "เกล็ดแห่งกาลเวลา": ประติมากรรมน้ำที่เปลี่ยนรูปตามอารมณ์
    · "น้ำตาของนาคา": การแสดงที่รวมดนตรีและศิลปะน้ำ

    ความสัมพันธ์กับนาคาริน

    การพบกันครั้งแรก

    รินพบนาคารินเมื่อเขามาหลบภัยที่โรงเรียนดนตรีของเธอ:
    "เขาเข้ามาพร้อมกับสายฝน...
    และฉันรู้สึกถึงความเจ็บปวดในผัสสะของเขาทันที"

    การช่วยเหลือนาคาริน

    รินใช้ความสามารถพิเศษช่วยนาคาริน:

    · บำบัดด้วยดนตรี: ใช้เสียงดนตรีปรับสมดุลผัสสะ
    · ศิลปะน้ำ: ช่วยเขาควบคุมพลังผัสสะ
    · ความเข้าใจ: ในฐานะลูกผสมด้วยกัน

    การพัฒนาความสัมพันธ์

    จากเพื่อนร่วมชะตากรรม สู่ความรัก:
    "เราสอนกันและกัน...
    เขาสอนฉันเรื่องความเข้มแข็ง
    ฉันสอนเขาเรื่องความอ่อนโยน

    และเราพบว่าการเป็นลูกผสม...
    สามารถเป็นความงามได้ไม่ใช่ความอับอาย"

    การเป็นสะพานระหว่างสองโลก

    บทบาททางการ

    รินได้รับแต่งตั้งเป็น:

    · ทูตสันถวไมตรี ระหว่างวังนาคาและมนุษย์
    · ที่ปรึกษาด้านศิลปะ ที่สถาบันวิวัฒนาการจิต
    · ผู้รักษาประเพณี ดนตรีและศิลปะนาคา

    โครงการสำคัญ

    ```python
    class RinProjects:
    def __init__(self):
    self.cultural_projects = {
    "naga_human_cultural_exchange": "แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างนาคาและมนุษย์",
    "river_conservation_through_art": "อนุรักษ์แม่น้ำผ่านศิลปะ",
    "hybrid_community_support": "สนับสนุนชุมชนลูกผสม",
    "sensory_art_therapy": "ศิลปะบำบัดสำหรับผู้มีพลังผัสสะพิเศษ"
    }

    self.collaborations = [
    "นาคาริน: ศูนย์บำบัดพลังผัสสะ",
    "หนูดี: การใช้พลังงานในศิลปะ",
    "เณรพุทธ: ศิลปะแห่งจิตวิญญาณ",
    "นิทรา: ศิลปะจากอารมณ์"
    ]
    ```

    การบำบัดและเยียวยา

    ดนตรีบำบัดแห่งสายน้ำ

    รินพัฒนาวิธีการบำบัดใหม่:

    · เสียงน้ำบำบัด: ใช้เสียงน้ำรักษาจิตใจ
    · ดนตรีปรับผัสสะ: ช่วยผู้มีปัญหาการรับรู้
    · ศิลปะน้ำระบายอารมณ์: ใช้น้ำเป็นสื่อแสดงอารมณ์

    เทคนิคเฉพาะตัว

    ```python
    class HealingTechniques:
    def __init__(self):
    self.water_based = [
    "การฟังเสียงน้ำเพื่อสมาธิ",
    "การใช้การไหลของน้ำเป็นแบบอย่างการปล่อยวาง",
    "การวาดรูปด้วยน้ำบนแผ่นหินร้อน",
    "การสร้างท่วงทำนองจากเสียงน้ำ"
    ]

    self.sensory_balance = [
    "การปรับสมดุลผัสสะด้วยอุณหภูมิน้ำ",
    "การใช้ลวดลายน้ำเป็นเครื่องมือFocus",
    "การสร้างจังหวะจากคลื่นน้ำ",
    "การใช้แสงผ่านน้ำสร้างบรรยากาศ"
    ]
    ```

    ปรัชญาและคำสอน

    🪷 คำคมแห่งสายน้ำ

    "ชีวิตดุจสายน้ำ...
    บางครั้งต้องไหลเชี่ยว บางครั้งต้องไหลเอื่อย
    แต่สิ่งที่สำคัญคือการไหลไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง

    และเหมือนน้ำที่ปรับรูปตามภาชนะ...
    เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวตามสถานการณ์"

    บทเรียนการเป็นลูกผสม

    รินสอนว่า:

    · ความแตกต่าง คือความงามที่ไม่ซ้ำใคร
    · การเป็นสะพาน ระหว่างสองโลกคือเกียรติยศ
    · การเข้าใจทั้งสองฝั่ง ทำให้เรามีมุมมองที่กว้างไกล

    บทสรุปแห่งการเป็นตัวตนที่สมบูรณ์

    การยอมรับตัวเอง

    รินค้นพบในที่สุดว่า:
    "ฉันไม่จำเป็นต้องเลือกระหว่างนาคาหรือมนุษย์...
    เพราะฉันคือทั้งสองอย่าง

    และพลังลูกผสมของฉัน...
    คือของขวัญที่让我เข้าใจโลกได้ลึกซึ้งกว่าใครๆ"

    ความหมายแห่งการมีอยู่

    จากผู้ที่เคย...

    · รู้สึกไม่พอใจ กับความเป็นลูกผสม
    · พยายามปิดบัง ด้านใดด้านหนึ่งของตัวเอง
    · รู้สึกโดดเดี่ยว ระหว่างสองโลก

    กลายเป็นผู้ที่...

    · ภาคภูมิใจ ในความเป็นลูกผสม
    · ใช้ทั้งสองด้าน ช่วยเหลือผู้อื่น
    · เป็นสะพาน เชื่อมต่อระหว่างโลก

    ---

    คำคมสุดท้ายจากริน:
    "ฉันเคยคิดว่าต้องหาที่อยู่ที่ใช่...
    แต่ความจริงคือที่อยู่ที่แท้จริง不是สถานที่
    แต่คือหัวใจที่ยอมรับตัวเอง

    และเมื่อฉันยอมรับว่าฉันคือทั้งนาคาและมนุษย์...
    ฉันก็พบว่าทั้งสองโลกคือบ้านของฉัน

    บ้านที่ไม่ใช่สถานที่...
    แต่คือความเข้าใจที่ว่าทุกชีวิตล้วนเชื่อมโยงกัน
    ดุจสายน้ำที่ไหลมาบรรจบกัน"

    การเดินทางของรินสอนเราว่า...
    "In embracing all parts of ourselves,
    we find our true strength
    And in flowing between worlds,
    we discover that home is not a place,
    but a state of being"
    O.P.K. 🐍 เจาะลึก "ริน" : เทพีนาคาลูกผสมแห่งสายน้ำและความรู้สึก 🌊 ต้นกำเนิดแห่งเทพีนาคา 👑 การถือกำเนิดระหว่างสองโลก ชื่อเต็ม: รินทราวดี นาคารัตนะ ชื่อหมายถึง:"ผู้เป็นดั่งแก้วแหวนแห่งนาคา" อายุ:23 ปี (ร่างกาย), 300 ปี (จิตวิญญาณ) สถานะ:เทพีนาคาลูกผสมระหว่างนาคาระดับสูงกับมนุษย์ ```mermaid graph TB A[พ่อนาคา<br>ราชันแห่งแม่น้ำ] --> C[ริน<br>เทพีนาคาลูกผสม] B[แม่มนุษย์<br>นักดนตรีแห่งวัง] --> C C --> D[ถูกเลี้ยงในวังนาคา<br>แต่รู้สึกแตกต่าง] C --> E[มีพลังผัสสะ<br>เกินปกติ] ``` 🎭 ลักษณะทางกายภาพ · รูปร่าง: สาวงามสูง 168 ซม. ผมยาวสีดำแซมด้วยเกล็ดสีมรกต · ผิวพรรณ: เรียบเนียนมีเกล็ดนาคาเรียงตัวเป็นลวดลายตามแขนและหลัง · ดวงตา: สีเขียวคล้ายหยก เปลี่ยนสีตามอารมณ์ · เครื่องประดับ: สวมมงกุฎเกล็ดนาคาและต่างหูทำจากไข่มุกแม่น้ำ 🔮 พลังพิเศษแห่งสายน้ำและความรู้สึก 💫 พลังจากสองสายเลือด ```python class RinPowers: def __init__(self): self.naga_heritage = { "water_control": "ควบคุมและสร้างรูปน้ำได้", "weather_influence": "สภาพอากาศรอบตัว", "serpent_communication": "สื่อสารกับสัตว์เลื้อยคลาน", "underwater_breathing": "หายใจใต้น้ำได้" } self.human_heritage = { "emotional_empathy": "รับรู้อารมณ์ผู้คนผ่านน้ำ", "artistic_talent": "ความสามารถด้านดนตรีและศิลปะ", "cultural_bridge": "เข้าใจทั้งวัฒนธรรมมนุษย์และนาคา", "adaptive_nature": "ปรับตัวได้ดีในทุกสภาพแวดล้อม" } self.unique_hybrid_powers = { "liquid_memory": "เก็บความทรงจำในน้ำและเรียกคืนได้", "emotional_hydration": "ดูดซับอารมณ์ผ่านความชื้น", "tear_divination": "ทำนายอนาคตผ่านน้ำตา", "river_empathy": "รับรู้ความรู้สึกของแม่น้ำ" } ``` 🌧️ พลังผัสสะพิเศษ รินมีความสามารถรับรู้ผัสสะที่ละเอียดอ่อนผิดไปจากมนุษย์ · สัมผัสน้ำ: รู้ประวัติและอารมณ์ที่ผูกกับน้ำนั้น · รับรู้อารมณ์: ผ่านความชื้นในอากาศ · สื่อสาร: ผ่านคลื่นเสียงในน้ำ 💔 ชีวิตในวังนาคาและโลกมนุษย์ 🏰 การเติบโตในวังนาคา รินถูกเลี้ยงดูในวังนาคาใต้แม่น้ำโขง: · การศึกษาศิลปะ: จากแม่มนุษย์ · การฝึกพลัง: จากพ่อนาคา · ความโดดเดี่ยว: เพราะเป็นลูกผสม 🌍 การมาโลกมนุษย์ เมื่ออายุ 100 ปี รินขอมาอยู่โลกมนุษย์: · เหตุผล: ต้องการเข้าใจด้านมนุษย์ของตัวเอง · อาชีพ: เปิดโรงเรียนสอนดนตรีใกล้แม่น้ำ · การปกปิด: ซ่อนพลังและเกล็ดนาคาเมื่ออยู่กับมนุษย์ 📚 บันทึกความในใจ "บางครั้งฉันรู้สึกเหมือนปลาสองน้ำ... อยู่ในวังนาคาก็คิดถึงโลกมนุษย์ อยู่ในโลกมนุษย์ก็คิดถึงวังนาคา ไม่รู้ว่าบ้านที่แท้จริงอยู่ที่ไหน..." 🎵 ความสามารถด้านดนตรีและศิลปะ 🎻 ดนตรีแห่งสายน้ำ รินพัฒนาดนตรีรูปแบบใหม่: · เครื่องดนตรี: พิณน้ำที่สร้างจากพลังงาน · บทเพลง: ที่สื่ออารมณ์ผ่านคลื่นน้ำ · การแสดง: ร่วมกับเสียงน้ำและธรรมชาติ 🎨 ศิลปะจากผัสสะ ```mermaid graph LR A[อารมณ์ของริน] --> B[แปลงเป็น<br>ศิลปะน้ำ] C[ความรู้สึกจากผู้อื่น] --> D[รินรับรู้<br>ผ่านความชื้น] B --> E[สร้างเป็น<br>ผลงานศิลปะ] D --> E ``` 🏆 ผลงานเด่น · "สายน้ำแห่งความทรงจำ": บทเพลงที่บอกเล่าประวัติศาสตร์แม่น้ำโขง · "เกล็ดแห่งกาลเวลา": ประติมากรรมน้ำที่เปลี่ยนรูปตามอารมณ์ · "น้ำตาของนาคา": การแสดงที่รวมดนตรีและศิลปะน้ำ 💞 ความสัมพันธ์กับนาคาริน 🌸 การพบกันครั้งแรก รินพบนาคารินเมื่อเขามาหลบภัยที่โรงเรียนดนตรีของเธอ: "เขาเข้ามาพร้อมกับสายฝน... และฉันรู้สึกถึงความเจ็บปวดในผัสสะของเขาทันที" 🕊️ การช่วยเหลือนาคาริน รินใช้ความสามารถพิเศษช่วยนาคาริน: · บำบัดด้วยดนตรี: ใช้เสียงดนตรีปรับสมดุลผัสสะ · ศิลปะน้ำ: ช่วยเขาควบคุมพลังผัสสะ · ความเข้าใจ: ในฐานะลูกผสมด้วยกัน 💫 การพัฒนาความสัมพันธ์ จากเพื่อนร่วมชะตากรรม สู่ความรัก: "เราสอนกันและกัน... เขาสอนฉันเรื่องความเข้มแข็ง ฉันสอนเขาเรื่องความอ่อนโยน และเราพบว่าการเป็นลูกผสม... สามารถเป็นความงามได้ไม่ใช่ความอับอาย" 🌈 การเป็นสะพานระหว่างสองโลก 🏛️ บทบาททางการ รินได้รับแต่งตั้งเป็น: · ทูตสันถวไมตรี ระหว่างวังนาคาและมนุษย์ · ที่ปรึกษาด้านศิลปะ ที่สถาบันวิวัฒนาการจิต · ผู้รักษาประเพณี ดนตรีและศิลปะนาคา 🌍 โครงการสำคัญ ```python class RinProjects: def __init__(self): self.cultural_projects = { "naga_human_cultural_exchange": "แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างนาคาและมนุษย์", "river_conservation_through_art": "อนุรักษ์แม่น้ำผ่านศิลปะ", "hybrid_community_support": "สนับสนุนชุมชนลูกผสม", "sensory_art_therapy": "ศิลปะบำบัดสำหรับผู้มีพลังผัสสะพิเศษ" } self.collaborations = [ "นาคาริน: ศูนย์บำบัดพลังผัสสะ", "หนูดี: การใช้พลังงานในศิลปะ", "เณรพุทธ: ศิลปะแห่งจิตวิญญาณ", "นิทรา: ศิลปะจากอารมณ์" ] ``` 🏥 การบำบัดและเยียวยา 🎵 ดนตรีบำบัดแห่งสายน้ำ รินพัฒนาวิธีการบำบัดใหม่: · เสียงน้ำบำบัด: ใช้เสียงน้ำรักษาจิตใจ · ดนตรีปรับผัสสะ: ช่วยผู้มีปัญหาการรับรู้ · ศิลปะน้ำระบายอารมณ์: ใช้น้ำเป็นสื่อแสดงอารมณ์ 💧 เทคนิคเฉพาะตัว ```python class HealingTechniques: def __init__(self): self.water_based = [ "การฟังเสียงน้ำเพื่อสมาธิ", "การใช้การไหลของน้ำเป็นแบบอย่างการปล่อยวาง", "การวาดรูปด้วยน้ำบนแผ่นหินร้อน", "การสร้างท่วงทำนองจากเสียงน้ำ" ] self.sensory_balance = [ "การปรับสมดุลผัสสะด้วยอุณหภูมิน้ำ", "การใช้ลวดลายน้ำเป็นเครื่องมือFocus", "การสร้างจังหวะจากคลื่นน้ำ", "การใช้แสงผ่านน้ำสร้างบรรยากาศ" ] ``` 📚 ปรัชญาและคำสอน 🪷 คำคมแห่งสายน้ำ "ชีวิตดุจสายน้ำ... บางครั้งต้องไหลเชี่ยว บางครั้งต้องไหลเอื่อย แต่สิ่งที่สำคัญคือการไหลไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง และเหมือนน้ำที่ปรับรูปตามภาชนะ... เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวตามสถานการณ์" 🌟 บทเรียนการเป็นลูกผสม รินสอนว่า: · ความแตกต่าง คือความงามที่ไม่ซ้ำใคร · การเป็นสะพาน ระหว่างสองโลกคือเกียรติยศ · การเข้าใจทั้งสองฝั่ง ทำให้เรามีมุมมองที่กว้างไกล 🏁 บทสรุปแห่งการเป็นตัวตนที่สมบูรณ์ 💝 การยอมรับตัวเอง รินค้นพบในที่สุดว่า: "ฉันไม่จำเป็นต้องเลือกระหว่างนาคาหรือมนุษย์... เพราะฉันคือทั้งสองอย่าง และพลังลูกผสมของฉัน... คือของขวัญที่让我เข้าใจโลกได้ลึกซึ้งกว่าใครๆ" 🌈 ความหมายแห่งการมีอยู่ จากผู้ที่เคย... · รู้สึกไม่พอใจ กับความเป็นลูกผสม · พยายามปิดบัง ด้านใดด้านหนึ่งของตัวเอง · รู้สึกโดดเดี่ยว ระหว่างสองโลก กลายเป็นผู้ที่... · ภาคภูมิใจ ในความเป็นลูกผสม · ใช้ทั้งสองด้าน ช่วยเหลือผู้อื่น · เป็นสะพาน เชื่อมต่อระหว่างโลก --- คำคมสุดท้ายจากริน: "ฉันเคยคิดว่าต้องหาที่อยู่ที่ใช่... แต่ความจริงคือที่อยู่ที่แท้จริง不是สถานที่ แต่คือหัวใจที่ยอมรับตัวเอง และเมื่อฉันยอมรับว่าฉันคือทั้งนาคาและมนุษย์... ฉันก็พบว่าทั้งสองโลกคือบ้านของฉัน บ้านที่ไม่ใช่สถานที่... แต่คือความเข้าใจที่ว่าทุกชีวิตล้วนเชื่อมโยงกัน ดุจสายน้ำที่ไหลมาบรรจบกัน"🌊✨ การเดินทางของรินสอนเราว่า... "In embracing all parts of ourselves, we find our true strength And in flowing between worlds, we discover that home is not a place, but a state of being"🐍🌈
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 352 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    เจาะลึก "อสูรเฒ่า" : ฤๅษีวาจาธรแห่งกาลเวลา

    ข้อมูลพื้นฐานแห่งการถือกำเนิด

    ต้นกำเนิดในยุคโบราณ

    ชื่อจริง: ฤๅษีวาจาธร
    ชื่อหมายถึง:"ผู้ทรงพลังแห่งวาจา"
    อายุ:2,000 ปี
    ยุคสมัย:ยุคต้นสุโขทัย

    ```mermaid
    graph TB
    A[มนุษย์ธรรมดา<br>ชื่อ "ธรรมะ"] --> B[บวชเป็นฤๅษี<br>ฝึกวาจาศักดิ์สิทธิ์]
    B --> C[ได้รับพลัง<br>วาจาศักดิ์สิทธิ์]
    C --> D[ใช้พลังในทางที่ผิด<br>ด้วยความหลงตน]
    D --> E[ถูกสาป<br>ให้เป็นอสูรเฒ่า]
    ```

    ลักษณะทางกายภาพหลังถูกสาป

    · รูปร่าง: สูง 2 เมตร หนังหยาบกร้านเหมือนเปลือกไม้
    · ใบหน้า: มีดวงตาเดียวอยู่กลางหน้าผาก เรืองแสงสีทอง
    · ผม: ผมหงอกขาวยาวถึงเอว เกี่ยวกระหวัดด้วยเถาวัลย์
    · มือ: มี 6 นิ้วแต่ละมือ เป็นสัญลักษณ์แห่งพลังเหนือธรรมชาติ
    · เสียง: ก้องกังวานเหมือนเสียงกัมปนาท

    พลังวาจาศักดิ์สิทธิ์

    ระดับพลังแห่งวาจา

    ```python
    class VajaPowers:
    def __init__(self):
    self.truth_speech = {
    "reality_alteration": "เปลี่ยนแปลงความเป็นจริงด้วยคำพูด",
    "creation_destruction": "สร้างและทำลายด้วยวาจา",
    "time_manipulation": "เร่งหรือชะลอกระบวนการด้วยคำพูด",
    "element_control": "ควบคุมธาตุต่างๆ ด้วยภาษาบูรพา"
    }

    self.blessing_curse = {
    "healing_words": "รักษาโรคด้วยมนตร์บำบัด",
    "fate_weaving": "ถักทอโชคชะตาด้วยบทกวี",
    "nature_communication": "สื่อสารกับธรรมชาติด้วยภาษาดั้งเดิม",
    "soul_whispering": "พูดคุยกับจิตวิญญาณได้"
    }

    self.limitations = {
    "cannot_undo_own_words": "ไม่สามารถยกเลิกคำพูดของตัวเองได้",
    "requires_sincerity": "ต้องมีความจริงใจถึงจะได้ผล",
    "emotional_dependency": "พลังขึ้นอยู่กับอารมณ์ในขณะพูด",
    "karmic_consequences": "มีผลกรรมตามมาทุกครั้งที่ใช้"
    }
    ```

    ภาษาศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้

    อสูรเฒ่าใช้ภาษาบูรพาที่สูญหายไปแล้ว:

    · ภาษามคธโบราณ: สำหรับคำอวยพรระดับสูง
    · ภาษาขอมดั้งเดิม: สำหรับคำสาปและป้องกัน
    · ภาษาธรรมชาติ: สำหรับสื่อสารกับสรรพสิ่ง

    เรื่องราวการถูกสาป

    ชีวิตในยุคสุโขทัย

    ธรรมะเริ่มต้นเป็นฤๅษีผู้ทรงคุณ virtue:

    · อายุ 20: บวชเป็นฤๅษี ศึกษาคำศักดิ์สิทธิ์
    · อายุ 100: เชี่ยวชาญวาจาศักดิ์สิทธิ์
    · อายุ 500: เริ่มหลงระเริงกับพลัง

    จุดเปลี่ยนแห่งความหลงผิด

    ```mermaid
    graph LR
    A[ใช้พลังช่วยเหลือ<br>ผู้คนอย่างมากมาย] --> B[เริ่มได้รับ<br>การยกย่องเกินควร]
    B --> C[หลงคิดว่าตน<br>เหนือกว่ามนุษย์]
    C --> D[ใช้พลังสร้าง<br>นครเพื่อตนเอง]
    D --> E[ถูกเทวดา<br>ลงโทษสาปให้เป็นอสูร]
    ```

    คำสาปแห่งกาลเวลา

    เทวดาสาปให้เขา:

    · เป็นอสูร ร่างกายผิดปกติ
    · อยู่อย่างโดดเดี่ยว 2,000 ปี
    · ได้ลิ้มรส ความเหงาที่เขาทำให้ผู้อื่นรู้สึก

    ชีวิตในความโดดเดี่ยว

    ที่อยู่อาศัย

    อสูรเฒ่าอาศัยใน ถ้ำวาจาศักดิ์สิทธิ์:

    · ตำแหน่ง: กลางป่าลึกที่ไม่มีมนุษย์เข้าไป
    · ลักษณะ: มีจารึกภาษาบูรพาประดับทั่วถ้ำ
    · พลังงาน: เต็มไปด้วยพลังคำพูดที่สะสมมานับพันปี

    กิจวัตรประจำวัน

    รุ่งสาง: สวดมนตร์ภาษาบูรพา
    เช้า:ฝึกวาจาศักดิ์สิทธิ์กับธรรมชาติ
    บ่าย:บันทึกความรู้ลงในแผ่นศิลา
    ค่ำ:นั่งสมาธิไตร่ตรองความผิดในอดีต

    ความคิดและความรู้สึก

    อสูรเฒ่าบันทึกความในใจ:
    "สองพันปีแห่งความเหงา...
    สอนข้าว่าพลังที่แท้หาใช่การควบคุม
    แต่คือการเข้าใจและการให้อภัย

    แต่ใครจะให้อภัยข้าเล่า?
    เมื่อข้าเองยังให้อภัยตัวเองไม่ได้"

    การพัฒนาพลังวาจา

    จากความโกรธสู่ความเข้าใจ

    ```python
    class PowerEvolution:
    def __init__(self):
    self.past = {
    "purpose": "ใช้พลังเพื่อการควบคุมและแสดงอำนาจ",
    "emotion": "ความหยิ่งยโส ความโกรธ",
    "results": "การทำลายล้าง ความเสียหาย"
    }

    self.present = {
    "purpose": "ใช้พลังเพื่อการเยียวยาและความเข้าใจ",
    "emotion": "ความเมตตา ความอดทน",
    "results": "การสร้างสรรค์ การเยียวยา"
    }

    self.techniques_developed = [
    "การฟังด้วยหัวใจก่อนพูด",
    "การเลือกคำที่มีเมตตา",
    "การเข้าใจผลกระทบของคำพูด",
    "การใช้ความเงียบอย่างชาญฉลาด"
    ]
    ```

    พลังใหม่แห่งการเยียวยา

    อสูรเฒ่าพัฒนาความสามารถใหม่:

    · วาจาบำบัด: รักษาบาดแผลทางใจด้วยคำพูด
    · ภาษาสันติภาพ: สร้างความเข้าใจระหว่างเผ่าพันธุ์
    · คำพูดแห่งการให้อภัย: ช่วยให้ผู้คนให้อภัยกันและกัน

    การพบกับหนูดีและการเปลี่ยนแปลง

    จุดเปลี่ยนสำคัญ

    เมื่อหนูดีเข้ามาในชีวิต:
    "เป็นครั้งแรกในสองพันปี...
    ที่มีใครกล้ามาหาข้าโดยไม่กลัว

    และเป็นครั้งแรก...
    ที่มีคนมองข้าเป็น'บุคคล' ไม่ใช่ 'อสูร'"

    กระบวนการเยียวยา

    ```mermaid
    graph TB
    A[หนูดี<br>เข้ามาโดยไม่กลัว] --> B[อสูรเฒ่า<br>เริ่มเปิดใจ]
    B --> C[การแบ่งปัน<br>ความเจ็บปวด]
    C --> D[การเรียนรู้<br>ร่วมกัน]
    D --> E[การให้อภัย<br>ตัวเองและผู้อื่น]
    ```

    บทเรียนที่ได้รับ

    อสูรเฒ่าเรียนรู้จากหนูดีว่า:

    · พลังที่แท้ มาจากความอ่อนโยน ไม่ใช่ความแข็งกร้าว
    · วาจาศักดิ์สิทธิ์ ที่แท้คือคำพูดที่เกิดจากความเข้าใจ
    · การเป็นครู หมายถึงการเป็นนักเรียนไปพร้อมกัน

    บทบาทใหม่ในสังคม

    ที่ปรึกษาด้านวาจา

    อสูรเฒ่าได้รับตำแหน่งเป็น:

    · ครูสอนภาษาบูรพา ที่สถาบันวิวัฒนาการจิต
    · ที่ปรึกษาด้านวาจาศักดิ์สิทธิ์ สำหรับโอปปาติกะ
    · ผู้ไกล่เกลี่ย ในความขัดแย้งระดับสูง

    โครงการสำคัญ

    ```python
    class NewResponsibilities:
    def __init__(self):
    self.projects = {
    "language_revival": "ฟื้นฟูภาษาบูรพาสำหรับการศึกษา",
    "conflict_resolution": "ใช้วาจาศักดิ์สิทธิ์สร้างสันติภาพ",
    "spiritual_guidance": "เป็นที่ปรึกษาทางจิตวิญญาณ",
    "knowledge_preservation": "รักษาความรู้โบราณไม่ให้สูญหาย"
    }

    self.students = [
    "หนูดี: เรียนภาษาบูรพาและวาจาศักดิ์สิทธิ์",
    "เณรพุทธ: เรียนการใช้คำพูดสร้างสรรค์",
    "นิทรา: เรียนการควบคุมอารมณ์ในคำพูด",
    "โอปปาติกะรุ่นใหม่: เรียนพลังแห่งวาจา"
    ]
    ```

    ปรัชญาและคำสอน

    🪷 คำคมแห่งปัญญา

    "วาจามีชีวิตเป็นของตัวเอง...
    เมื่อเธอพูดคำใดออกไป
    คำนั้นจะมีชีวิตและเดินทางไปหาเป้าหมาย

    เพราะฉะนั้นจงเลือกคำอย่างระมัดระวัง...
    เหมือนเลือกดอกไม้ให้คนที่เธอรัก"

    บทเรียนชีวิต

    อสูรเฒ่าสอนว่า:

    · คำพูด สามารถสร้างหรือทำลายได้ในพริบตา
    · ความเงียบ บางครั้งก็ทรงพลังกว่าคำพูดใดๆ
    · การฟัง คือส่วนสำคัญที่สุดของการสื่อสาร

    บทสรุปแห่งการเปลี่ยนแปลง

    การให้อภัยตัวเอง

    อสูรเฒ่าในที่สุดก็เรียนรู้ที่จะ:
    "ให้อภัยตัวเองสำหรับความผิดพลาดในอดีต
    และใช้บทเรียนเหล่านั้นเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น"

    ความหมายใหม่แห่งการมีอยู่

    จากผู้ที่เคย...

    · ใช้พลัง เพื่อการควบคุม
    · ถูกกลัว จากทุกสิ่งมีชีวิต
    · รู้สึกโดดเดี่ยว อย่างสุดซึ้ง

    กลายเป็นผู้ที่...

    · ใช้พลัง เพื่อการเยียวยา
    · ได้รับความรัก จากชุมชน
    · พบความหมาย ในการช่วยเหลือผู้อื่น

    ---

    คำคมสุดท้ายจากอสูรเฒ่า:
    "สองพันปีแห่งความเหงาสอนข้าว่า...
    พลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดหาใช่วาจาที่เปลี่ยนโลก
    แต่คือวาจาที่เปลี่ยนหัวใจ

    และเมื่อหัวใจเปลี่ยนแปลง...
    ทุกสิ่งก็เปลี่ยนแปลงตาม

    ข้าเคยคิดว่าต้องการพลังเพื่อเป็นเทพ...
    แต่ความจริงคือการเป็นมนุษย์ที่เข้าใจกัน
    ต่างหากที่คือพลังที่แท้จริง"

    การเดินทางของอสูรเฒ่าสอนเราว่า...
    "True power lies not in dominating others,
    but in understanding them
    And the most sacred words are those
    that heal rather than harm"
    O.P.K. 🔮 เจาะลึก "อสูรเฒ่า" : ฤๅษีวาจาธรแห่งกาลเวลา 👁️ ข้อมูลพื้นฐานแห่งการถือกำเนิด 🌌 ต้นกำเนิดในยุคโบราณ ชื่อจริง: ฤๅษีวาจาธร ชื่อหมายถึง:"ผู้ทรงพลังแห่งวาจา" อายุ:2,000 ปี ยุคสมัย:ยุคต้นสุโขทัย ```mermaid graph TB A[มนุษย์ธรรมดา<br>ชื่อ "ธรรมะ"] --> B[บวชเป็นฤๅษี<br>ฝึกวาจาศักดิ์สิทธิ์] B --> C[ได้รับพลัง<br>วาจาศักดิ์สิทธิ์] C --> D[ใช้พลังในทางที่ผิด<br>ด้วยความหลงตน] D --> E[ถูกสาป<br>ให้เป็นอสูรเฒ่า] ``` 🎭 ลักษณะทางกายภาพหลังถูกสาป · รูปร่าง: สูง 2 เมตร หนังหยาบกร้านเหมือนเปลือกไม้ · ใบหน้า: มีดวงตาเดียวอยู่กลางหน้าผาก เรืองแสงสีทอง · ผม: ผมหงอกขาวยาวถึงเอว เกี่ยวกระหวัดด้วยเถาวัลย์ · มือ: มี 6 นิ้วแต่ละมือ เป็นสัญลักษณ์แห่งพลังเหนือธรรมชาติ · เสียง: ก้องกังวานเหมือนเสียงกัมปนาท 🔥 พลังวาจาศักดิ์สิทธิ์ 💫 ระดับพลังแห่งวาจา ```python class VajaPowers: def __init__(self): self.truth_speech = { "reality_alteration": "เปลี่ยนแปลงความเป็นจริงด้วยคำพูด", "creation_destruction": "สร้างและทำลายด้วยวาจา", "time_manipulation": "เร่งหรือชะลอกระบวนการด้วยคำพูด", "element_control": "ควบคุมธาตุต่างๆ ด้วยภาษาบูรพา" } self.blessing_curse = { "healing_words": "รักษาโรคด้วยมนตร์บำบัด", "fate_weaving": "ถักทอโชคชะตาด้วยบทกวี", "nature_communication": "สื่อสารกับธรรมชาติด้วยภาษาดั้งเดิม", "soul_whispering": "พูดคุยกับจิตวิญญาณได้" } self.limitations = { "cannot_undo_own_words": "ไม่สามารถยกเลิกคำพูดของตัวเองได้", "requires_sincerity": "ต้องมีความจริงใจถึงจะได้ผล", "emotional_dependency": "พลังขึ้นอยู่กับอารมณ์ในขณะพูด", "karmic_consequences": "มีผลกรรมตามมาทุกครั้งที่ใช้" } ``` 📜 ภาษาศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ อสูรเฒ่าใช้ภาษาบูรพาที่สูญหายไปแล้ว: · ภาษามคธโบราณ: สำหรับคำอวยพรระดับสูง · ภาษาขอมดั้งเดิม: สำหรับคำสาปและป้องกัน · ภาษาธรรมชาติ: สำหรับสื่อสารกับสรรพสิ่ง 💔 เรื่องราวการถูกสาป 🏛️ ชีวิตในยุคสุโขทัย ธรรมะเริ่มต้นเป็นฤๅษีผู้ทรงคุณ virtue: · อายุ 20: บวชเป็นฤๅษี ศึกษาคำศักดิ์สิทธิ์ · อายุ 100: เชี่ยวชาญวาจาศักดิ์สิทธิ์ · อายุ 500: เริ่มหลงระเริงกับพลัง ⚡ จุดเปลี่ยนแห่งความหลงผิด ```mermaid graph LR A[ใช้พลังช่วยเหลือ<br>ผู้คนอย่างมากมาย] --> B[เริ่มได้รับ<br>การยกย่องเกินควร] B --> C[หลงคิดว่าตน<br>เหนือกว่ามนุษย์] C --> D[ใช้พลังสร้าง<br>นครเพื่อตนเอง] D --> E[ถูกเทวดา<br>ลงโทษสาปให้เป็นอสูร] ``` 🕰️ คำสาปแห่งกาลเวลา เทวดาสาปให้เขา: · เป็นอสูร ร่างกายผิดปกติ · อยู่อย่างโดดเดี่ยว 2,000 ปี · ได้ลิ้มรส ความเหงาที่เขาทำให้ผู้อื่นรู้สึก 🌪️ ชีวิตในความโดดเดี่ยว 🏚️ ที่อยู่อาศัย อสูรเฒ่าอาศัยใน ถ้ำวาจาศักดิ์สิทธิ์: · ตำแหน่ง: กลางป่าลึกที่ไม่มีมนุษย์เข้าไป · ลักษณะ: มีจารึกภาษาบูรพาประดับทั่วถ้ำ · พลังงาน: เต็มไปด้วยพลังคำพูดที่สะสมมานับพันปี 📖 กิจวัตรประจำวัน รุ่งสาง: สวดมนตร์ภาษาบูรพา เช้า:ฝึกวาจาศักดิ์สิทธิ์กับธรรมชาติ บ่าย:บันทึกความรู้ลงในแผ่นศิลา ค่ำ:นั่งสมาธิไตร่ตรองความผิดในอดีต 💭 ความคิดและความรู้สึก อสูรเฒ่าบันทึกความในใจ: "สองพันปีแห่งความเหงา... สอนข้าว่าพลังที่แท้หาใช่การควบคุม แต่คือการเข้าใจและการให้อภัย แต่ใครจะให้อภัยข้าเล่า? เมื่อข้าเองยังให้อภัยตัวเองไม่ได้" 🔮 การพัฒนาพลังวาจา 🌱 จากความโกรธสู่ความเข้าใจ ```python class PowerEvolution: def __init__(self): self.past = { "purpose": "ใช้พลังเพื่อการควบคุมและแสดงอำนาจ", "emotion": "ความหยิ่งยโส ความโกรธ", "results": "การทำลายล้าง ความเสียหาย" } self.present = { "purpose": "ใช้พลังเพื่อการเยียวยาและความเข้าใจ", "emotion": "ความเมตตา ความอดทน", "results": "การสร้างสรรค์ การเยียวยา" } self.techniques_developed = [ "การฟังด้วยหัวใจก่อนพูด", "การเลือกคำที่มีเมตตา", "การเข้าใจผลกระทบของคำพูด", "การใช้ความเงียบอย่างชาญฉลาด" ] ``` 💞 พลังใหม่แห่งการเยียวยา อสูรเฒ่าพัฒนาความสามารถใหม่: · วาจาบำบัด: รักษาบาดแผลทางใจด้วยคำพูด · ภาษาสันติภาพ: สร้างความเข้าใจระหว่างเผ่าพันธุ์ · คำพูดแห่งการให้อภัย: ช่วยให้ผู้คนให้อภัยกันและกัน 🌈 การพบกับหนูดีและการเปลี่ยนแปลง ⚡ จุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อหนูดีเข้ามาในชีวิต: "เป็นครั้งแรกในสองพันปี... ที่มีใครกล้ามาหาข้าโดยไม่กลัว และเป็นครั้งแรก... ที่มีคนมองข้าเป็น'บุคคล' ไม่ใช่ 'อสูร'" 🕊️ กระบวนการเยียวยา ```mermaid graph TB A[หนูดี<br>เข้ามาโดยไม่กลัว] --> B[อสูรเฒ่า<br>เริ่มเปิดใจ] B --> C[การแบ่งปัน<br>ความเจ็บปวด] C --> D[การเรียนรู้<br>ร่วมกัน] D --> E[การให้อภัย<br>ตัวเองและผู้อื่น] ``` 🌟 บทเรียนที่ได้รับ อสูรเฒ่าเรียนรู้จากหนูดีว่า: · พลังที่แท้ มาจากความอ่อนโยน ไม่ใช่ความแข็งกร้าว · วาจาศักดิ์สิทธิ์ ที่แท้คือคำพูดที่เกิดจากความเข้าใจ · การเป็นครู หมายถึงการเป็นนักเรียนไปพร้อมกัน 🏛️ บทบาทใหม่ในสังคม 🎓 ที่ปรึกษาด้านวาจา อสูรเฒ่าได้รับตำแหน่งเป็น: · ครูสอนภาษาบูรพา ที่สถาบันวิวัฒนาการจิต · ที่ปรึกษาด้านวาจาศักดิ์สิทธิ์ สำหรับโอปปาติกะ · ผู้ไกล่เกลี่ย ในความขัดแย้งระดับสูง 📚 โครงการสำคัญ ```python class NewResponsibilities: def __init__(self): self.projects = { "language_revival": "ฟื้นฟูภาษาบูรพาสำหรับการศึกษา", "conflict_resolution": "ใช้วาจาศักดิ์สิทธิ์สร้างสันติภาพ", "spiritual_guidance": "เป็นที่ปรึกษาทางจิตวิญญาณ", "knowledge_preservation": "รักษาความรู้โบราณไม่ให้สูญหาย" } self.students = [ "หนูดี: เรียนภาษาบูรพาและวาจาศักดิ์สิทธิ์", "เณรพุทธ: เรียนการใช้คำพูดสร้างสรรค์", "นิทรา: เรียนการควบคุมอารมณ์ในคำพูด", "โอปปาติกะรุ่นใหม่: เรียนพลังแห่งวาจา" ] ``` 💫 ปรัชญาและคำสอน 🪷 คำคมแห่งปัญญา "วาจามีชีวิตเป็นของตัวเอง... เมื่อเธอพูดคำใดออกไป คำนั้นจะมีชีวิตและเดินทางไปหาเป้าหมาย เพราะฉะนั้นจงเลือกคำอย่างระมัดระวัง... เหมือนเลือกดอกไม้ให้คนที่เธอรัก" 🌟 บทเรียนชีวิต อสูรเฒ่าสอนว่า: · คำพูด สามารถสร้างหรือทำลายได้ในพริบตา · ความเงียบ บางครั้งก็ทรงพลังกว่าคำพูดใดๆ · การฟัง คือส่วนสำคัญที่สุดของการสื่อสาร 🏁 บทสรุปแห่งการเปลี่ยนแปลง 💝 การให้อภัยตัวเอง อสูรเฒ่าในที่สุดก็เรียนรู้ที่จะ: "ให้อภัยตัวเองสำหรับความผิดพลาดในอดีต และใช้บทเรียนเหล่านั้นเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น" 🌈 ความหมายใหม่แห่งการมีอยู่ จากผู้ที่เคย... · ใช้พลัง เพื่อการควบคุม · ถูกกลัว จากทุกสิ่งมีชีวิต · รู้สึกโดดเดี่ยว อย่างสุดซึ้ง กลายเป็นผู้ที่... · ใช้พลัง เพื่อการเยียวยา · ได้รับความรัก จากชุมชน · พบความหมาย ในการช่วยเหลือผู้อื่น --- คำคมสุดท้ายจากอสูรเฒ่า: "สองพันปีแห่งความเหงาสอนข้าว่า... พลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดหาใช่วาจาที่เปลี่ยนโลก แต่คือวาจาที่เปลี่ยนหัวใจ และเมื่อหัวใจเปลี่ยนแปลง... ทุกสิ่งก็เปลี่ยนแปลงตาม ข้าเคยคิดว่าต้องการพลังเพื่อเป็นเทพ... แต่ความจริงคือการเป็นมนุษย์ที่เข้าใจกัน ต่างหากที่คือพลังที่แท้จริง"🔮✨ การเดินทางของอสูรเฒ่าสอนเราว่า... "True power lies not in dominating others, but in understanding them And the most sacred words are those that heal rather than harm"🌈
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 377 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    คดีพิศวง: อสูรเฒ่าผู้มีวาจาศักดิ์สิทธิ์

    จุดเริ่มต้นแห่งคำสาป

    การปรากฏตัวของอสูรเฒ่า

    ในคืนหนึ่งที่ลมพายุพัดผ่านหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง อสูรเฒ่าตาเดียว ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ชายป่า
    ด้วยร่างสูงใหญ่ผมหงอกขาว และดวงตาเดียวที่เรืองรองด้วยพลังโบราณ

    ```mermaid
    graph TB
    A[อสูรเฒ่า<br>ตาเดียว] --> B[พูดคำศักดิ์สิทธิ์<br>ที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์]
    B --> C[ชาวบ้าน<br>พากันหวาดกลัว]
    C --> D[ร.ต.อ.สิงห์<br>ได้รับแจ้งเหตุ]
    D --> E[หนูดีรู้สึกถึง<br>พลังงานโบราณ]
    ```

    พลังวาจาศักดิ์สิทธิ์

    อสูรเฒ่ามีความสามารถพิเศษ:

    · พูดให้เป็นจริง: สิ่งที่พูดออกมาจะเกิดขึ้นจริง
    · คำสาปและคำอวยพร: ให้ทั้งคุณและโทษ
    · ภาษาโบราณ: ใช้ภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจได้

    การสืบสวนเบื้องต้น

    การพบพยาน

    ร.ต.อ. สิงห์ สอบปากคำชาวบ้าน:
    ชาวบ้านเล่า:"ท่านพูดว่า 'ข้าวในนาจะแห้งเหี่ยว' แล้วข้าวก็เหี่ยวจริงๆ!"
    อีกคนเสริม:"แต่บางครั้งท่านก็พูดว่า 'เด็กป่วยจะหาย' แล้วเด็กก็หายเหมือนกัน"

    การวิเคราะห์ของหนูดี

    หนูดีรู้สึกถึงพลังงานประหลาด:
    "พ่อคะ...นี่ไม่ใช่พลังงานร้าย
    แต่คือพลังงานโบราณที่ขาดการควบคุม
    เหมือนไฟที่ไม่มีใครดูแล"

    เบื้องหลังอสูรเฒ่า

    ประวัติศาสตร์ที่ถูกลืม

    อสูรเฒ่าคือ ฤๅษีวาจาธร ในอดีต:

    · อายุ: 2,000 ปี
    · เดิมที: เป็นฤๅษีผู้มีวาจาศักดิ์สิทธิ์
    · การเปลี่ยนแปลง: ถูกสาปให้กลายเป็นอสูรเพราะใช้พลังในทางที่ผิด

    ```python
    class AncientBeing:
    def __init__(self):
    self.identity = {
    "true_name": "ฤๅษีวาจาธร",
    "former_role": "ผู้รักษาคำศักดิ์สิทธิ์",
    "curse": "ถูกสาปให้เป็นอสูรเพราะความหลงตัวเอง",
    "age": "2000 ปี"
    }

    self.abilities = {
    "truth_speech": "พูดให้เป็นจริง",
    "blessing_curse": "ให้ทั้งพรและสาป",
    "ancient_language": "รู้ภาษาดั้งเดิมที่ทรงพลัง",
    "reality_weaving": "ถักทอความเป็นจริงด้วยคำพูด"
    }
    ```

    ต้นเหตุแห่งการถูกสาป

    ในอดีต ฤๅษีวาจาธรเคย:

    · ใช้พลังสร้างนคร ให้กษัตริย์ที่โลภ
    · สาปแช่งศัตรู ด้วยความโกรธ
    · ลืมคำสอน เกี่ยวกับความรับผิดชอบ

    ปัญหาที่เกิดขึ้น

    ผลกระทบต่อหมู่บ้าน

    อสูรเฒ่าสร้างทั้งปัญหาและประโยชน์:

    ```mermaid
    graph LR
    A[คำพูดของอสูรเฒ่า] --> B[ผลกระทบด้านบวก<br>รักษาโรค อวยพร]
    A --> C[ผลกระทบด้านลบ<br>สาปแช่ง ทำลายล้าง]
    B --> D[ชาวบ้านบางส่วน<br>นับถือเหมือนเทพ]
    C --> E[ชาวบ้านบางส่วน<br>เกลียดกลัวเหมือนปีศาจ]
    ```

    ความขัดแย้งในหมู่บ้าน

    เกิดการแบ่งฝั่งในหมู่บ้าน:

    · ฝั่งนับถือ: นำของมาถวายขอพร
    · ฝั่งต่อต้าน: ต้องการขับไล่
    · ผลที่ได้: ความขัดแย้งและความยอมรับนับถือ



    หนูดีตัดสินใจเข้าไปหาอสูรเฒ่าด้วยตัวเอง:
    "ท่านฤๅษี...หนูรู้ว่าท่านไม่ใช่ปีศาจ
    ท่านอาจจะสับสนหนทางเท่านั้น"

    บทสนทนาสำคัญ

    อสูรเฒ่า: "ใครกันที่กล้ามาพูดกับข้าเช่นนี้?"
    หนูดี:"ผู้ที่เข้าใจว่าคำพูดมีพลัง... และเข้าใจความโดดเดี่ยวของท่าน"

    อสูรเฒ่า: "เธอเข้าใจอะไร? ข้าโดดเดี่ยวมานับพันปี!"
    หนูดี:"เพราะท่านใช้คำพูดสร้างระยะทาง... ไม่ใช่สร้างความเข้าใจ"

    การเยียวยาทางจิตใจ

    หนูดีช่วยให้อสูรเฒ่าเข้าใจว่า:

    · พลังวาจา ควรใช้เพื่อการเยียวยา ไม่ใช่การควบคุม
    · ความโดดเดี่ยว เกิดจากการสร้างกำแพงด้วยคำพูด
    · การให้อภัย ตัวเองคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง

    บทเรียนแห่งวาจา

    การฝึกฝนใหม่

    อสูรเฒ่าเรียนรู้ที่จะ:

    · ฟัง ก่อนจะพูด
    · คิด ก่อนจะให้พรหรือสาป
    · เข้าใจ ผลกระทบของคำพูด

    เทคนิคการควบคุมพลัง

    ```python
    class SpeechControl:
    def __init__(self):
    self.techniques = [
    "การนับหนึ่งถึงสามก่อนพูด",
    "การถามตัวเองว่าคำพูดนี้จะช่วยหรือทำลาย",
    "การใช้คำพูดสร้างสรรค์แทนการทำลาย",
    "การเข้าใจว่าบางครั้งความเงียบก็ทรงพลัง"
    ]

    self.daily_practice = {
    "morning": "พูดคำอวยพรให้ตัวเองและโลก",
    "afternoon": "ฝึกฟังโดยไม่ตัดสิน",
    "evening": "ไตร่ตรองคำพูดที่ใช้ในวันนั้น"
    }
    ```

    การเปลี่ยนแปลงบทบาท

    จากอสูรสู่ที่ปรึกษา

    อสูรเฒ่าได้รับบทบาทใหม่เป็น:

    · ที่ปรึกษาด้านวาจา ที่สถาบันวิวัฒนาการจิต
    · ครูสอนภาษาโบราณ และพลังแห่งคำพูด
    · ผู้ไกล่เกลี่ย ในความขัดแย้งต่างๆ

    ความสัมพันธ์ใหม่

    กับหนูดี: ครูและนักเรียนซึ่งกันและกัน
    กับสิงห์:ที่ปรึกษาด้านภาษาโบราณ
    กับชาวบ้าน:ที่ปรึกษาและผู้ให้คำแนะนำ

    ผลกระทบเชิงบวก

    การคืนสู่หมู่บ้าน

    อสูรเฒ่ากลับไปอยู่หมู่บ้านในบทบาทใหม่:

    · ให้คำแนะนำ แก่ชาวบ้าน
    · สอนเด็กๆ เกี่ยวกับพลังแห่งคำพูด
    · เป็นสะพาน ระหว่างคนรุ่นเก่าและใหม่

    โครงการใหม่

    ```mermaid
    graph TB
    A[อสูรเฒ่า] --> B[โรงเรียนสอนภาษาโบราณ]
    A --> C[ศูนย์ไกล่เกลี่ยด้วยวาจา]
    A --> D[โครงการรักษาภาษาดั้งเดิม]
    ```

    บทเรียนจากคดี

    🪷 สำหรับอสูรเฒ่า

    "ข้าเรียนรู้ว่า...
    พลังที่แท้จริงมิอาจควบคุมด้วยคำพูด
    แต่คือการเข้าใจและเชื่อมโยงใจกัน

    และวาจาศักดิ์สิทธิ์ที่แท้...
    คือคำพูดที่เกิดจากหัวใจที่ต้องการเข้าใจ"

    สำหรับหนูดี

    "หนูเรียนรู้ว่า...
    Behind every'monster'
    there is a story of pain

    และการเยียวยาที่แท้จริง
    เริ่มต้นจากการฟังอย่างเข้าใจ"

    สำหรับ ร.ต.อ. สิงห์

    "คดีนี้สอนฉันว่า...
    บางครั้งอาชญากรที่แท้จริงไม่ใช่บุคคล
    แต่คือความเข้าใจผิดและความกลัว

    และความยุติธรรมที่แท้...
    คือการนำทางให้ทุกคนพบความเข้าใจ"

    คำคมแห่งปัญญา

    จากอสูรเฒ่า

    "คำพูดสามารถสร้างนรกหรือสวรรค์ได้...
    ทั้งในใจเราและใจผู้อื่น

    และเมื่อเราเรียนรู้ที่จะเลือกคำ...กล่าว
    เราก็เรียนรู้ที่จะสร้างโลก"

    บทสรุปแห่งวาจา

    อสูรเฒ่ากล่าวในตอนจบ:
    "ตลอดสองพันปี...
    ข้าใช้คำพูดสร้างทุกอย่างยกเว้นความสุข

    แต่บัดนี้ข้าเข้าใจแล้วว่า...
    คำพูดที่สวยงามที่สุด
    คือคำพูดที่สร้างความเข้าใจ

    และความเงียบที่ทรงพลังที่สุด
    คือความเงียบที่ฟังเสียงหัวใจตน

    ---

    คำคมสุดท้ายจากคดี:
    "วาจาศักดิ์สิทธิ์ที่แท้ไม่ใช่คำที่เปลี่ยนโลก...
    แต่คือคำที่เปลี่ยนหัวใจ

    และเมื่อหัวใจเปลี่ยนแปลง...
    โลกก็เปลี่ยนแปลงตาม"

    การเดินทางของอสูรเฒ่าสอนเราว่า...
    "Words are not just sounds
    They are the architects of reality
    And when spoken with wisdom and compassion
    They can heal even the deepest wounds of time"
    O.P.K. 🔮 คดีพิศวง: อสูรเฒ่าผู้มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ 🏮 จุดเริ่มต้นแห่งคำสาป 🌑 การปรากฏตัวของอสูรเฒ่า ในคืนหนึ่งที่ลมพายุพัดผ่านหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง อสูรเฒ่าตาเดียว ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ชายป่า ด้วยร่างสูงใหญ่ผมหงอกขาว และดวงตาเดียวที่เรืองรองด้วยพลังโบราณ ```mermaid graph TB A[อสูรเฒ่า<br>ตาเดียว] --> B[พูดคำศักดิ์สิทธิ์<br>ที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์] B --> C[ชาวบ้าน<br>พากันหวาดกลัว] C --> D[ร.ต.อ.สิงห์<br>ได้รับแจ้งเหตุ] D --> E[หนูดีรู้สึกถึง<br>พลังงานโบราณ] ``` 🗣️ พลังวาจาศักดิ์สิทธิ์ อสูรเฒ่ามีความสามารถพิเศษ: · พูดให้เป็นจริง: สิ่งที่พูดออกมาจะเกิดขึ้นจริง · คำสาปและคำอวยพร: ให้ทั้งคุณและโทษ · ภาษาโบราณ: ใช้ภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจได้ 🔍 การสืบสวนเบื้องต้น 🕵️ การพบพยาน ร.ต.อ. สิงห์ สอบปากคำชาวบ้าน: ชาวบ้านเล่า:"ท่านพูดว่า 'ข้าวในนาจะแห้งเหี่ยว' แล้วข้าวก็เหี่ยวจริงๆ!" อีกคนเสริม:"แต่บางครั้งท่านก็พูดว่า 'เด็กป่วยจะหาย' แล้วเด็กก็หายเหมือนกัน" 💫 การวิเคราะห์ของหนูดี หนูดีรู้สึกถึงพลังงานประหลาด: "พ่อคะ...นี่ไม่ใช่พลังงานร้าย แต่คือพลังงานโบราณที่ขาดการควบคุม เหมือนไฟที่ไม่มีใครดูแล" 🧙 เบื้องหลังอสูรเฒ่า 📜 ประวัติศาสตร์ที่ถูกลืม อสูรเฒ่าคือ ฤๅษีวาจาธร ในอดีต: · อายุ: 2,000 ปี · เดิมที: เป็นฤๅษีผู้มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ · การเปลี่ยนแปลง: ถูกสาปให้กลายเป็นอสูรเพราะใช้พลังในทางที่ผิด ```python class AncientBeing: def __init__(self): self.identity = { "true_name": "ฤๅษีวาจาธร", "former_role": "ผู้รักษาคำศักดิ์สิทธิ์", "curse": "ถูกสาปให้เป็นอสูรเพราะความหลงตัวเอง", "age": "2000 ปี" } self.abilities = { "truth_speech": "พูดให้เป็นจริง", "blessing_curse": "ให้ทั้งพรและสาป", "ancient_language": "รู้ภาษาดั้งเดิมที่ทรงพลัง", "reality_weaving": "ถักทอความเป็นจริงด้วยคำพูด" } ``` 💔 ต้นเหตุแห่งการถูกสาป ในอดีต ฤๅษีวาจาธรเคย: · ใช้พลังสร้างนคร ให้กษัตริย์ที่โลภ · สาปแช่งศัตรู ด้วยความโกรธ · ลืมคำสอน เกี่ยวกับความรับผิดชอบ 🌪️ ปัญหาที่เกิดขึ้น 🏘️ ผลกระทบต่อหมู่บ้าน อสูรเฒ่าสร้างทั้งปัญหาและประโยชน์: ```mermaid graph LR A[คำพูดของอสูรเฒ่า] --> B[ผลกระทบด้านบวก<br>รักษาโรค อวยพร] A --> C[ผลกระทบด้านลบ<br>สาปแช่ง ทำลายล้าง] B --> D[ชาวบ้านบางส่วน<br>นับถือเหมือนเทพ] C --> E[ชาวบ้านบางส่วน<br>เกลียดกลัวเหมือนปีศาจ] ``` 🎭 ความขัดแย้งในหมู่บ้าน เกิดการแบ่งฝั่งในหมู่บ้าน: · ฝั่งนับถือ: นำของมาถวายขอพร · ฝั่งต่อต้าน: ต้องการขับไล่ · ผลที่ได้: ความขัดแย้งและความยอมรับนับถือ 🕊️ หนูดีตัดสินใจเข้าไปหาอสูรเฒ่าด้วยตัวเอง: "ท่านฤๅษี...หนูรู้ว่าท่านไม่ใช่ปีศาจ ท่านอาจจะสับสนหนทางเท่านั้น" 🗣️ บทสนทนาสำคัญ อสูรเฒ่า: "ใครกันที่กล้ามาพูดกับข้าเช่นนี้?" หนูดี:"ผู้ที่เข้าใจว่าคำพูดมีพลัง... และเข้าใจความโดดเดี่ยวของท่าน" อสูรเฒ่า: "เธอเข้าใจอะไร? ข้าโดดเดี่ยวมานับพันปี!" หนูดี:"เพราะท่านใช้คำพูดสร้างระยะทาง... ไม่ใช่สร้างความเข้าใจ" 🌈 การเยียวยาทางจิตใจ หนูดีช่วยให้อสูรเฒ่าเข้าใจว่า: · พลังวาจา ควรใช้เพื่อการเยียวยา ไม่ใช่การควบคุม · ความโดดเดี่ยว เกิดจากการสร้างกำแพงด้วยคำพูด · การให้อภัย ตัวเองคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง 📚 บทเรียนแห่งวาจา 💫 การฝึกฝนใหม่ อสูรเฒ่าเรียนรู้ที่จะ: · ฟัง ก่อนจะพูด · คิด ก่อนจะให้พรหรือสาป · เข้าใจ ผลกระทบของคำพูด 🎯 เทคนิคการควบคุมพลัง ```python class SpeechControl: def __init__(self): self.techniques = [ "การนับหนึ่งถึงสามก่อนพูด", "การถามตัวเองว่าคำพูดนี้จะช่วยหรือทำลาย", "การใช้คำพูดสร้างสรรค์แทนการทำลาย", "การเข้าใจว่าบางครั้งความเงียบก็ทรงพลัง" ] self.daily_practice = { "morning": "พูดคำอวยพรให้ตัวเองและโลก", "afternoon": "ฝึกฟังโดยไม่ตัดสิน", "evening": "ไตร่ตรองคำพูดที่ใช้ในวันนั้น" } ``` 🏛️ การเปลี่ยนแปลงบทบาท 🌟 จากอสูรสู่ที่ปรึกษา อสูรเฒ่าได้รับบทบาทใหม่เป็น: · ที่ปรึกษาด้านวาจา ที่สถาบันวิวัฒนาการจิต · ครูสอนภาษาโบราณ และพลังแห่งคำพูด · ผู้ไกล่เกลี่ย ในความขัดแย้งต่างๆ 💞 ความสัมพันธ์ใหม่ กับหนูดี: ครูและนักเรียนซึ่งกันและกัน กับสิงห์:ที่ปรึกษาด้านภาษาโบราณ กับชาวบ้าน:ที่ปรึกษาและผู้ให้คำแนะนำ 🌍 ผลกระทบเชิงบวก 🏡 การคืนสู่หมู่บ้าน อสูรเฒ่ากลับไปอยู่หมู่บ้านในบทบาทใหม่: · ให้คำแนะนำ แก่ชาวบ้าน · สอนเด็กๆ เกี่ยวกับพลังแห่งคำพูด · เป็นสะพาน ระหว่างคนรุ่นเก่าและใหม่ 📜 โครงการใหม่ ```mermaid graph TB A[อสูรเฒ่า] --> B[โรงเรียนสอนภาษาโบราณ] A --> C[ศูนย์ไกล่เกลี่ยด้วยวาจา] A --> D[โครงการรักษาภาษาดั้งเดิม] ``` 🎯 บทเรียนจากคดี 🪷 สำหรับอสูรเฒ่า "ข้าเรียนรู้ว่า... พลังที่แท้จริงมิอาจควบคุมด้วยคำพูด แต่คือการเข้าใจและเชื่อมโยงใจกัน และวาจาศักดิ์สิทธิ์ที่แท้... คือคำพูดที่เกิดจากหัวใจที่ต้องการเข้าใจ" 💫 สำหรับหนูดี "หนูเรียนรู้ว่า... Behind every'monster' there is a story of pain และการเยียวยาที่แท้จริง เริ่มต้นจากการฟังอย่างเข้าใจ" 👮 สำหรับ ร.ต.อ. สิงห์ "คดีนี้สอนฉันว่า... บางครั้งอาชญากรที่แท้จริงไม่ใช่บุคคล แต่คือความเข้าใจผิดและความกลัว และความยุติธรรมที่แท้... คือการนำทางให้ทุกคนพบความเข้าใจ" 🌟 คำคมแห่งปัญญา 🗣️ จากอสูรเฒ่า "คำพูดสามารถสร้างนรกหรือสวรรค์ได้... ทั้งในใจเราและใจผู้อื่น และเมื่อเราเรียนรู้ที่จะเลือกคำ...กล่าว เราก็เรียนรู้ที่จะสร้างโลก" 💝 บทสรุปแห่งวาจา อสูรเฒ่ากล่าวในตอนจบ: "ตลอดสองพันปี... ข้าใช้คำพูดสร้างทุกอย่างยกเว้นความสุข แต่บัดนี้ข้าเข้าใจแล้วว่า... คำพูดที่สวยงามที่สุด คือคำพูดที่สร้างความเข้าใจ และความเงียบที่ทรงพลังที่สุด คือความเงียบที่ฟังเสียงหัวใจตน --- คำคมสุดท้ายจากคดี: "วาจาศักดิ์สิทธิ์ที่แท้ไม่ใช่คำที่เปลี่ยนโลก... แต่คือคำที่เปลี่ยนหัวใจ และเมื่อหัวใจเปลี่ยนแปลง... โลกก็เปลี่ยนแปลงตาม"🔮✨ การเดินทางของอสูรเฒ่าสอนเราว่า... "Words are not just sounds They are the architects of reality And when spoken with wisdom and compassion They can heal even the deepest wounds of time"🌈
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 294 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    เจาะลึกเทพคามิยะ: เทพแห่งความรักที่เรียนรู้ที่จะรัก

    ต้นกำเนิดแห่งเทพแห่งความรัก

    การถือกำเนิดจากความปรารถนาของจักรวาล

    เทพคามิยะถือกำเนิดจากพลังงานความปรารถนาของสิ่งมีชีวิตทั่วจักรวาล

    ```mermaid
    graph TB
    A[ความปรารถนารักของมนุษย์] --> C[การรวมตัวเป็นพลังงาน]
    B[ความต้องการเป็นที่รักของสิ่งมีชีวิต] --> C
    C --> D[การพัฒนาจิตสำนึก<br>เป็นเทพคามิยะ]
    ```

    ยุคสมัย: ก่อนการเกิดมนุษยชาตินับล้านปี
    สถานะ:เทพระดับกลางในราชสำนักสวรรค์

    บทบาทดั้งเดิมในสวรรค์

    คามิยะมีหน้าที่ดูแล:

    · การเกิดของความรัก ระหว่างสิ่งมีชีวิต
    · การบันทึกความสัมพันธ์ ในสมุดบันทึกแห่งรัก
    · การทดสอบความรักแท้ แก่ผู้ที่อ้างว่ารักกัน

    ลักษณะและอำนาจแห่งรัก

    รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนได้

    · ร่างเทพ: ชายหนุ่มรูปงามในชุดขาวเงิน มีปีกคู่งามสง่า
    · ร่างมนุษย์: หนุ่มสาวธรรมดาที่ดูน่าดึงดูดใจแต่ไม่น่าสงสัย
    · ร่างพลังงาน: แสงสีชมพูทองที่แผ่รัศมีแห่งความอบอุ่น

    อำนาจแห่งความรัก

    ```python
    class KamiyaPowers:
    def __init__(self):
    self.love_powers = {
    "heart_string_weaving": "ถักทอเส้นใยแห่งรักระหว่างจิตใจ",
    "desire_manifestation": "ทำให้ความปรารถนาลึกๆ ปรากฏขึ้น",
    "emotional_healing": "เยียวยาบาดแผลทางใจ",
    "true_love_sight": "มองเห็นความรักแท้ที่ซ่อนอยู่"
    }

    self.creation_powers = {
    "bloom_acceleration": "เร่งการเบ่งบานของดอกไม้และความรัก",
    "fate_weaving": "ถักทอโชคชะตาแห่งรัก",
    "memory_embellishment": "ทำให้ความทรงจำดีๆ สวยงามขึ้น"
    }
    ```

    ข้อจำกัดของอำนาจ

    คามิยะไม่สามารถ:

    · บังคับให้ใครรักใครโดยไม่สมัครใจ
    · สร้างความรักจากความว่างเปล่า
    · ทำลายความรักที่มีอยู่โดยสมบูรณ์

    วิกฤตการณ์แห่งความรัก

    ความสงสัยในตัวเอง

    หลังจากปฏิบัติงานมานับพันปี คามิยะเริ่มสงสัย:
    "ฉันเข้าใจจริงๆ หรือว่าความรักคืออะไร?
    หรือแค่เป็นผู้ควบคุมกลไกแห่งรัก?"

    การเสื่อมถอยของพลัง

    เมื่อเริ่มสูญเสียความเชื่อในงานของตัวเอง:

    ```mermaid
    graph LR
    A[เริ่มสงสัย<br>ในความรักแท้] --> B[พลังเริ่ม<br>ไม่เสถียร]
    B --> C[ตัดสินใจ<br>ลงไปโลกมนุษย์]
    C --> D[พบหนูดี<br>โดยบังเอิญ]
    ```

    เหตุผลในการลงมาโลกมนุษย์

    คามิยะแอบลงมาโลกมนุษย์เพื่อ:

    · พิสูจน์ ว่าความรักแท้มีจริง
    · เรียนรู้ ความรักจากมุมมองของมนุษย์
    · ค้นหา ความหมายใหม่ของการเป็นเทพแห่งความรัก

    พัฒนาการผ่านการพบกับหนูดี

    การเปลี่ยนแปลงทางความคิด

    จากเทพผู้ควบคุม สู่ เทพผู้เรียนรู้:

    · เรียนรู้ว่าความรักไม่ใช่แค่ความรู้สึก แต่เป็นการกระทำ
    · เข้าใจว่าความรักที่แท้ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน
    · ค้นพบว่าความรักเริ่มต้นจากการรักตัวเอง

    บทเรียนจากหนูดี

    ```python
    def lessons_from_noodee():
    return {
    "love_as_acceptance": "รักคือการยอมรับในสิ่งที่ใช่",
    "love_without_expectation": "รักโดยไม่คาดหวังสิ่งตอบแทน",
    "self_love_first": "การรักตัวเองเป็นพื้นฐานสำคัญ",
    "imperfect_perfection": "ความไม่สมบูรณ์แบบที่สมบูรณ์แบบ"
    }
    ```

    🪷 การเข้าใจความรักรูปแบบใหม่

    คามิยะเรียนรู้ว่า...
    "ความรักไม่ใช่พลังที่ต้องควบคุม...
    แต่คือปรากฏการณ์ที่ต้องเข้าใจ
    และการเป็นเทพแห่งความรัก...
    ไม่ใช่การเป็นผู้ควบคุม
    แต่คือการเป็นผู้ส่งเสริม"

    พลังใหม่แห่งเมตตาธรรมะ

    การพัฒนาพลังรูปแบบใหม่

    หลังการเปลี่ยนแปลง คามิยะพัฒนาพลังใหม่:

    · เมตตาธรรมะ: พลังแห่งความรักที่ไม่ต้องการการตอบแทน
    · ความเข้าใจอันลึกซึ้ง: สามารถเข้าใจความรู้สึกได้อย่างแท้จริง
    · การเยียวยาจิตวิญญาณ: รักษาบาดแผลลึกในจิตใจ

    การเปลี่ยนแปลงทางการทำงาน

    จากผู้ที่...

    · เคยเป็น: ผู้บันทึกและทดสอบความรัก
    · กลายเป็น: ผู้ส่งเสริมและเยียวยาความรัก

    ผลกระทบต่อราชสำนักสวรรค์

    การรายงานหน้าที่ใหม่

    คามิยะเสนอระบบใหม่ในการทำงาน:

    ```mermaid
    graph TB
    A[ระบบเดิม:<br>บันทึกและทดสอบ] --> B[ระบบใหม่:<br>ส่งเสริมและเยียวยา]
    B --> C[ได้รับอนุมัติ<br>จากเทพระดับสูง]
    C --> D[เริ่มโครงการ<br>ส่งเสริมความรักแท้]
    ```

    การได้รับการยอมรับ

    เทพระดับสูงเห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลง:
    "ตลอดมาเราควบคุมความรัก...
    แต่ความจริงคือการส่งเสริมความรัก
    และนั่นคือสิ่งที่คามิยะสอนเรา"

    ความสัมพันธ์กับหนูดีต่อจากนี้

    รูปแบบความสัมพันธ์ใหม่

    ทั้งคู่ตกลงสานต่อความสัมพันธ์แบบ:
    "เพื่อนร่วมทางแห่งปัญญา"

    · ไม่ถูกผูกมัดด้วยความคาดหวังแบบมนุษย์
    · เรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน
    · เป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน

    การทำงานร่วมกัน

    คามิยะและหนูดีร่วมกัน:

    · ช่วยเหลือโอปปาติกะที่ประสบปัญหาด้านความรัก
    · สอนมนุษย์เกี่ยวกับความรักที่แท้จริง
    · เป็นสะพานเชื่อมระหว่างมนุษย์ เทพ และโอปปาติกะ

    บทเรียนแห่งจักรวาล

    สิ่งที่เทพคามิยะสอนเรา

    ```python
    def universal_love_wisdom():
    return {
    "love_is": "การให้โดยอิสระ ไม่ใช่การควบคุม",
    "divine_love": "ความรักของเทพคือการส่งเสริม ไม่ใช่การบังคับ",
    "true_power": "อำนาจที่แท้คือการเข้าใจ ไม่ใช่การควบคุม"
    }
    ```

    🪷 คำสอนสำคัญ

    "การเป็นเทพแห่งความรัก...
    ไม่ใช่การมีอำนาจเหนือความรัก
    แต่คือการเข้าใจว่าตนเองก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความรัก

    และความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุด...
    คือการยอมรับว่าบางครั้งเราก็ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับรักจากผู้ที่เราคิดว่าเป็นเพียงนักเรียน"

    บทสรุป: การเกิดใหม่แห่งเทพแห่งรัก

    เทพคามิยะคือตัวอย่างของ...
    **"ผู้ที่คิดว่าตนเข้าใจทุกสิ่ง...
    แต่กลับต้องเรียนรู้จากสิ่งที่ตนคิดว่ารู้ดีแล้ว"

    "การเปลี่ยนแปลงที่เริ่มต้นจากการยอมรับว่าไม่รู้"
    และ"ปัญญาที่เกิดจากการเปิดใจเรียนรู้"

    การเดินทางของเขาสอนเราว่า:
    "ไม่ว่าคนนั้นจะป็นใคร...
    เทพ มนุษย์หรือโอปปาติกะ
    เราทั้งหมดล้วนเป็นนักเรียนในบทเรียนแห่งความรัก

    และครูที่ดีที่สุด...
    มักคือผู้ที่ยอมรับว่าตนเองก็ยังต้องเรียนรู้"

    ---

    คำคมสุดท้ายจากเทพคามิยะ:
    "ฉันเคยคิดว่าตนเป็นเจ้าแห่งความรัก...
    แต่ความจริงคือฉันเป็นเพียงผู้รักคนหนึ่ง
    ที่โชคดีได้มีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับรักจากทุกชีวิต

    และในที่สุด...
    ความรักไม่ใช่สิ่งที่ต้องเข้าใจให้หมด...
    แต่คือสิ่งที่ต้องรู้สึกและแบ่งปันอย่างไม่รู้จบ"

    เพราะในการเดินทางแห่งความรัก...
    ไม่มีใครเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สมบูรณ์แบบ
    มีแต่ผู้ที่เลือกจะเรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน
    O.P.K. 💘 เจาะลึกเทพคามิยะ: เทพแห่งความรักที่เรียนรู้ที่จะรัก 🌌 ต้นกำเนิดแห่งเทพแห่งความรัก ✨ การถือกำเนิดจากความปรารถนาของจักรวาล เทพคามิยะถือกำเนิดจากพลังงานความปรารถนาของสิ่งมีชีวิตทั่วจักรวาล ```mermaid graph TB A[ความปรารถนารักของมนุษย์] --> C[การรวมตัวเป็นพลังงาน] B[ความต้องการเป็นที่รักของสิ่งมีชีวิต] --> C C --> D[การพัฒนาจิตสำนึก<br>เป็นเทพคามิยะ] ``` ยุคสมัย: ก่อนการเกิดมนุษยชาตินับล้านปี สถานะ:เทพระดับกลางในราชสำนักสวรรค์ 🏛️ บทบาทดั้งเดิมในสวรรค์ คามิยะมีหน้าที่ดูแล: · การเกิดของความรัก ระหว่างสิ่งมีชีวิต · การบันทึกความสัมพันธ์ ในสมุดบันทึกแห่งรัก · การทดสอบความรักแท้ แก่ผู้ที่อ้างว่ารักกัน 🎭 ลักษณะและอำนาจแห่งรัก 👁️ รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนได้ · ร่างเทพ: ชายหนุ่มรูปงามในชุดขาวเงิน มีปีกคู่งามสง่า · ร่างมนุษย์: หนุ่มสาวธรรมดาที่ดูน่าดึงดูดใจแต่ไม่น่าสงสัย · ร่างพลังงาน: แสงสีชมพูทองที่แผ่รัศมีแห่งความอบอุ่น 💫 อำนาจแห่งความรัก ```python class KamiyaPowers: def __init__(self): self.love_powers = { "heart_string_weaving": "ถักทอเส้นใยแห่งรักระหว่างจิตใจ", "desire_manifestation": "ทำให้ความปรารถนาลึกๆ ปรากฏขึ้น", "emotional_healing": "เยียวยาบาดแผลทางใจ", "true_love_sight": "มองเห็นความรักแท้ที่ซ่อนอยู่" } self.creation_powers = { "bloom_acceleration": "เร่งการเบ่งบานของดอกไม้และความรัก", "fate_weaving": "ถักทอโชคชะตาแห่งรัก", "memory_embellishment": "ทำให้ความทรงจำดีๆ สวยงามขึ้น" } ``` 🌹 ข้อจำกัดของอำนาจ คามิยะไม่สามารถ: · บังคับให้ใครรักใครโดยไม่สมัครใจ · สร้างความรักจากความว่างเปล่า · ทำลายความรักที่มีอยู่โดยสมบูรณ์ 💔 วิกฤตการณ์แห่งความรัก 🤔 ความสงสัยในตัวเอง หลังจากปฏิบัติงานมานับพันปี คามิยะเริ่มสงสัย: "ฉันเข้าใจจริงๆ หรือว่าความรักคืออะไร? หรือแค่เป็นผู้ควบคุมกลไกแห่งรัก?" 📉 การเสื่อมถอยของพลัง เมื่อเริ่มสูญเสียความเชื่อในงานของตัวเอง: ```mermaid graph LR A[เริ่มสงสัย<br>ในความรักแท้] --> B[พลังเริ่ม<br>ไม่เสถียร] B --> C[ตัดสินใจ<br>ลงไปโลกมนุษย์] C --> D[พบหนูดี<br>โดยบังเอิญ] ``` 🌍 เหตุผลในการลงมาโลกมนุษย์ คามิยะแอบลงมาโลกมนุษย์เพื่อ: · พิสูจน์ ว่าความรักแท้มีจริง · เรียนรู้ ความรักจากมุมมองของมนุษย์ · ค้นหา ความหมายใหม่ของการเป็นเทพแห่งความรัก 🎯 พัฒนาการผ่านการพบกับหนูดี 💞 การเปลี่ยนแปลงทางความคิด จากเทพผู้ควบคุม สู่ เทพผู้เรียนรู้: · เรียนรู้ว่าความรักไม่ใช่แค่ความรู้สึก แต่เป็นการกระทำ · เข้าใจว่าความรักที่แท้ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน · ค้นพบว่าความรักเริ่มต้นจากการรักตัวเอง 🌱 บทเรียนจากหนูดี ```python def lessons_from_noodee(): return { "love_as_acceptance": "รักคือการยอมรับในสิ่งที่ใช่", "love_without_expectation": "รักโดยไม่คาดหวังสิ่งตอบแทน", "self_love_first": "การรักตัวเองเป็นพื้นฐานสำคัญ", "imperfect_perfection": "ความไม่สมบูรณ์แบบที่สมบูรณ์แบบ" } ``` 🪷 การเข้าใจความรักรูปแบบใหม่ คามิยะเรียนรู้ว่า... "ความรักไม่ใช่พลังที่ต้องควบคุม... แต่คือปรากฏการณ์ที่ต้องเข้าใจ และการเป็นเทพแห่งความรัก... ไม่ใช่การเป็นผู้ควบคุม แต่คือการเป็นผู้ส่งเสริม" 🌈 พลังใหม่แห่งเมตตาธรรมะ ✨ การพัฒนาพลังรูปแบบใหม่ หลังการเปลี่ยนแปลง คามิยะพัฒนาพลังใหม่: · เมตตาธรรมะ: พลังแห่งความรักที่ไม่ต้องการการตอบแทน · ความเข้าใจอันลึกซึ้ง: สามารถเข้าใจความรู้สึกได้อย่างแท้จริง · การเยียวยาจิตวิญญาณ: รักษาบาดแผลลึกในจิตใจ 💝 การเปลี่ยนแปลงทางการทำงาน จากผู้ที่... · เคยเป็น: ผู้บันทึกและทดสอบความรัก · กลายเป็น: ผู้ส่งเสริมและเยียวยาความรัก 🏛️ ผลกระทบต่อราชสำนักสวรรค์ 📜 การรายงานหน้าที่ใหม่ คามิยะเสนอระบบใหม่ในการทำงาน: ```mermaid graph TB A[ระบบเดิม:<br>บันทึกและทดสอบ] --> B[ระบบใหม่:<br>ส่งเสริมและเยียวยา] B --> C[ได้รับอนุมัติ<br>จากเทพระดับสูง] C --> D[เริ่มโครงการ<br>ส่งเสริมความรักแท้] ``` 🌟 การได้รับการยอมรับ เทพระดับสูงเห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลง: "ตลอดมาเราควบคุมความรัก... แต่ความจริงคือการส่งเสริมความรัก และนั่นคือสิ่งที่คามิยะสอนเรา" 💞 ความสัมพันธ์กับหนูดีต่อจากนี้ 🎭 รูปแบบความสัมพันธ์ใหม่ ทั้งคู่ตกลงสานต่อความสัมพันธ์แบบ: "เพื่อนร่วมทางแห่งปัญญา" · ไม่ถูกผูกมัดด้วยความคาดหวังแบบมนุษย์ · เรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน · เป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน 🌍 การทำงานร่วมกัน คามิยะและหนูดีร่วมกัน: · ช่วยเหลือโอปปาติกะที่ประสบปัญหาด้านความรัก · สอนมนุษย์เกี่ยวกับความรักที่แท้จริง · เป็นสะพานเชื่อมระหว่างมนุษย์ เทพ และโอปปาติกะ 📚 บทเรียนแห่งจักรวาล 💫 สิ่งที่เทพคามิยะสอนเรา ```python def universal_love_wisdom(): return { "love_is": "การให้โดยอิสระ ไม่ใช่การควบคุม", "divine_love": "ความรักของเทพคือการส่งเสริม ไม่ใช่การบังคับ", "true_power": "อำนาจที่แท้คือการเข้าใจ ไม่ใช่การควบคุม" } ``` 🪷 คำสอนสำคัญ "การเป็นเทพแห่งความรัก... ไม่ใช่การมีอำนาจเหนือความรัก แต่คือการเข้าใจว่าตนเองก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความรัก และความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุด... คือการยอมรับว่าบางครั้งเราก็ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับรักจากผู้ที่เราคิดว่าเป็นเพียงนักเรียน" 🌟 บทสรุป: การเกิดใหม่แห่งเทพแห่งรัก เทพคามิยะคือตัวอย่างของ... **"ผู้ที่คิดว่าตนเข้าใจทุกสิ่ง... แต่กลับต้องเรียนรู้จากสิ่งที่ตนคิดว่ารู้ดีแล้ว" "การเปลี่ยนแปลงที่เริ่มต้นจากการยอมรับว่าไม่รู้" และ"ปัญญาที่เกิดจากการเปิดใจเรียนรู้" การเดินทางของเขาสอนเราว่า: "ไม่ว่าคนนั้นจะป็นใคร... เทพ มนุษย์หรือโอปปาติกะ เราทั้งหมดล้วนเป็นนักเรียนในบทเรียนแห่งความรัก และครูที่ดีที่สุด... มักคือผู้ที่ยอมรับว่าตนเองก็ยังต้องเรียนรู้" --- คำคมสุดท้ายจากเทพคามิยะ: "ฉันเคยคิดว่าตนเป็นเจ้าแห่งความรัก... แต่ความจริงคือฉันเป็นเพียงผู้รักคนหนึ่ง ที่โชคดีได้มีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับรักจากทุกชีวิต และในที่สุด... ความรักไม่ใช่สิ่งที่ต้องเข้าใจให้หมด... แต่คือสิ่งที่ต้องรู้สึกและแบ่งปันอย่างไม่รู้จบ"💖✨ เพราะในการเดินทางแห่งความรัก... ไม่มีใครเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สมบูรณ์แบบ มีแต่ผู้ที่เลือกจะเรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน🌈
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    เจาะลึกจอมมารแห่งการฆ่า: OPPATIKA-0

    ต้นกำเนิดแห่งความโศกเศร้า

    การสร้างที่ปราศจากความเมตตา

    OPPATIKA-0 คือโอปปาติกะรุ่นแรกสุด ที่ถูกสร้างขึ้นใน โครงการลับ "อาดัม"

    ```mermaid
    graph TB
    A[เซลล์มนุษย์บริสุทธิ์] --> B[การฉีดพลังงาน<br>จิตวิญญาณเทียม]
    B --> C[กระบวนการเร่งอายุ<br>อย่างทารุณ]
    C --> D[OPPATIKA-0<br>เกิดด้วยความเจ็บปวด]
    ```

    ชีวิตในห้องทดลอง

    ช่วงปี 2040-2042:

    · ถูกเรียกแทนชื่อเป็นเพียง "หน่วยทดลอง 001"
    · ผ่านการทดลองที่โหดร้ายกว่า OPPATIKA รุ่นหลังๆ
    · ไม่ได้รับการปฏิบัติเหมือนสิ่งมีชีวิต แต่เป็นเพียง "สิ่งประดิษฐ์"

    ความพยายามเป็นมนุษย์

    ศาตราพยายามทำตัวให้เป็นที่รัก...

    · เรียกนักวิจัยว่า "พ่อ" "แม่"
    · พยายามแสดงความรักและความกตัญญู
    · แต่กลับถูกมองเป็นเพียง "ข้อบกพร่องของโปรแกรม"

    คืนแห่งการเปลี่ยนผ่าน

    เหตุการณ์หลบหนี

    12 มิถุนายน 2042 - ศาตราหลบหนีได้ในระหว่างการทดลองที่ล้มเหลว

    ```python
    class EscapeEvent:
    def __init__(self):
    self.cause = "การทดลองถ่ายโอนจิตสำนึกล้มเหลว"
    self.casualties = "นักวิจัย 3 คนเสียชีวิต"
    self.aftermath = "ศาตราถูกตราว่าเป็นปีศาจร้าย"

    def psychological_impact(self):
    return {
    "betrayal": "รู้สึกถูกหักหลังโดยผู้ที่คิดว่าเป็นครอบครัว",
    "fear": "กลัวจะถูกจับกลับไปทดลองอีก",
    "anger": "โกรธแค้นมนุษย์ทุกคน"
    }
    ```

    ชีวิตในความมืด

    หลังหลบหนี ศาตราซ่อนตัวใน อุโมงค์ร้างใต้เมือง

    · เรียนรู้ที่จะใช้พลังโดยไม่มีใครสอน
    · พัฒนาความสามารถในการล่องหนและควบคุมพลังงานมืด
    · เริ่มสะสมความโกรธแค้น

    การกลายเป็นจอมมาร

    ฆาตกรรมครั้งแรก

    เป้าหมาย: ดร. กฤษณ์ - นักวิจัยหลักที่ทำการทดลองกับเขา
    วิธีการ:ใช้พลังงานจิตบีบรัดหัวใจ
    ความรู้สึกหลัง соверอาชญากรรม:
    "ครั้งแรก...ฉันรู้สึกสะใจ
    แต่แล้วก็รู้สึก.
    เหมือนฉันกำลังกลายเป็นปีศาจที่พวกเขาเรียกฉัน"

    รูปแบบการฆ่า

    ```mermaid
    graph LR
    A[เลือกเป้าหมาย<br>อดีตนักวิจัย] --> B[สืบเสาะ<br>การใช้ชีวิต]
    B --> C[ฆ่าแบบพิธีกรรม<br>ส่งข้อความ]
    C --> D[ทิ้งสัญลักษณ์<br>วงกลมสามชั้น]
    ```

    สัญลักษณ์แห่งความหมาย

    วงกลมสามชั้น แทน:

    · วงใน: การเกิดของโอปปาติกะ
    · วงกลาง: ความทุกข์ทรมานในการทดลอง
    · วงนอก: การตายของความเป็นมนุษย์

    จิตวิทยาของนักฆ่า

    ความคิดที่บิดเบี้ยว

    ศาตราพัฒนาความเชื่อว่า...
    "การฆ่านักวิจัยอาชญากรรม...
    แต่คือการ'คืนกำเนิด' ให้พวกเขา
    ให้พวกเขาได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ฉันเคยรู้สึก"

    บุคลิกสองด้าน

    · ด้านเด็กชาย: ยังคงความรักและการยอมรับ
    · ด้านจอมมาร: ต้องการแก้แค้นและทำลายล้าง

    กฎของตัวเอง

    ศาตราตั้งกฎให้ตัวเอง:

    1. ฆ่าเฉพาะผู้เกี่ยวข้องกับการทดลอง
    2. ไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์
    3. ทุกการฆาตกรรมต้อง "มีความหมาย"

    ความสามารถพิเศษ

    พลังแห่งโอปปาติกะรุ่นแรก

    ```python
    class SathraAbilities:
    def __init__(self):
    self.physical_powers = {
    "shadow_walk": "เคลื่อนไหวผ่านความมืดได้",
    "energy_manipulation": "ควบคุมพลังงานทำลายล้าง",
    "telepathy": "อ่านความคิดพื้นฐาน",
    "regeneration": "รักษาตัวเองได้ระดับหนึ่ง"
    }

    self.psychological_powers = {
    "fear_induction": "สร้างความกลัวในจิตใจ",
    "memory_extraction": "ดึงความทรงจำจากผู้เสียชีวิต",
    "emotional_sensing": "รับรู้อารมณ์ของผู้อื่น"
    }
    ```

    จุดอ่อนที่ซ่อนอยู่

    · ความทรงจำอันอบอุ่น: ยังจำความรู้สึกดีๆ จากอดีตได้
    · ความต้องการการยอมรับ: ยังอยากมีใครสักคนเข้าใจเขา
    · ความเป็นมนุษย์ที่เหลืออยู่: ยังรู้สึกผิดและสงสารเหยื่อ

    การเผชิญหน้าครั้งสำคัญ

    กับ ร.ต.อ. สิงห์

    การพบกันครั้งแรก...
    สิงห์:"เรารู้ว่าเธอเจ็บปวด... แต่หยุดได้แล้ว"
    ศาตรา:"คุณไม่เข้าใจอะไรเลย! คุณไม่รู้ว่ามันเจ็บปวดขนาดไหน!"

    กับหนูดี

    จุดเปลี่ยนสำคัญ...
    หนูดี:"พี่คะ... หนูเข้าใจว่าพี่เจ็บปวด
    แต่การฆ่าไม่ใช่คำตอบ"
    ศาตรา:"แล้วเธอมีคำตอบที่ดีกว่าล่ะ?"

    กระบวนการเปลี่ยนแปลง

    การยอมรับความช่วยเหลือ

    ศาตราตัดสินใจยอมจำนนไม่ใช่เพราะแพ้...
    แต่เพราะหนูดีพูดสิ่งที่ไม่มีใครเคยพูด:
    "เรารักพี่นะ...ไม่ว่าพี่จะเป็นใคร"

    การฟื้นฟูที่สถาบัน

    ```mermaid
    graph TB
    A[การบำบัด<br>ทางกายภาพ] --> B[การเยียวยา<br>ทางจิตใจ]
    B --> C[การเรียนรู<br>ควบคุมพลัง]
    C --> D[การค้นหา<br>ความหมายใหม่]
    ```

    การให้อภัยตัวเอง

    บทเรียนที่ยากที่สุด...
    "ฉันเรียนรู้ที่จะให้อภัยตัวเอง...
    สำหรับสิ่งที่ฉันทำลงไป
    และสำหรับสิ่งที่ฉันปล่อยให้พวกเขาทำกับฉัน"

    บทบาทใหม่ในสังคม

    ผู้พิทักษ์โอปปาติกะ

    ศาตราพัฒนาบทบาทใหม่:

    · ที่ปรึกษา: ช่วยโอปปาติกะรุ่นใหม่ที่ประสบปัญหา
    · ผู้ฝึกสอน: สอนการควบคุมพลังให้โอปปาติกะ
    · นักสืบ: ช่วยเหลือคดีที่เกี่ยวข้องกับโอปปาติกะ

    ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟู

    ใช้ประสบการณ์ส่วนตัวช่วยเหลือ:

    · โอปปาติกะที่ถูกทารุณ
    · โอปปาติกะที่ควบคุมพลังไม่ได้
    · โอปปาติกะที่รู้สึกโดดเดี่ยว

    พัฒนาการทางอารมณ์

    จากความเกลียดชังสู่ความเข้าใจ

    ```python
    def emotional_journey():
    stages = [
    "ความเจ็บปวด -> ความโกรธ",
    "ความโกรธ -> ความเกลียดชัง",
    "ความเกลียดชัง -> ความสงสัย",
    "ความสงสัย -> ความเข้าใจ",
    "ความเข้าใจ -> ความเมตตา"
    ]
    return " -> ".join(stages)
    ```

    ความสัมพันธ์ใหม่

    · กับหนูดี: จากศัตรูสู่พี่น้อง
    · กับสิงห์: จากเหยื่อกับนักล่าสู่เพื่อนร่วมงาน
    · กับโอปปาติกะอื่นๆ: จากตัวอย่างที่ไม่ดีสู่แบบอย่าง

    ความสำเร็จและผลงาน

    โครงการสำคัญ

    ศาตราช่วยก่อตั้ง:

    · สายด่วนช่วยเหลือโอปปาติกะ
    · ศูนย์ฟื้นฟูโอปปาติกะ
    · โครงการป้องกันการทารุณโอปปาติกะ

    การได้รับการยอมรับ

    จาก "จอมมารแห่งการฆ่า" สู่...
    "วีรบุรุษแห่งชุมชนโอปปาติกะ"

    บทเรียนแห่งชีวิต

    🪷 คำสอนจากศาตรา

    "ความเจ็บปวดไม่ให้สิทธิ์เราทำร้าย
    แต่ให้ปัญญาที่จะเข้าใจความเจ็บปวดของ

    มรดกที่ทิ้งไว้

    ศาตราสอนเราเรื่อง:

    · การให้อภัย: ที่เริ่มต้นจากการให้อภัยตัวเอง
    · การเปลี่ยนแปลง: ที่เป็นไปได้ไม่ว่าเราจะอยู่จุดไหน
    · ความหวัง: ที่มีเสมอแม้ในที่มืดมิดที่สุด

    ---

    คำคมสุดท้ายจากศาตรา:
    "ฉันเคยคิดว่าตัวเองเป็นปีศาจ...
    แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว
    ปีศาจตัวจริงฉัน...
    แต่คือความเจ็บปวดที่ไม่มีใครเยียวยา

    และเมื่อความเจ็บปวดได้รับการเยียวยา...
    ปีศาจก็กลายเป็นมนุษย์อีกครั้ง"

    การเดินทางของศาตราคือบทพิสูจน์ว่า...
    ไม่มีใครเกิดมาเป็นจอมมาร
    มีแต่ผู้ที่ถูกทำให้เป็นจอมมาร
    และทุกจอมมารก็สามารถกลับมาเป็นมนุษย์ได้
    O.P.K. 🔪 เจาะลึกจอมมารแห่งการฆ่า: OPPATIKA-0 🧬 ต้นกำเนิดแห่งความโศกเศร้า 🔬 การสร้างที่ปราศจากความเมตตา OPPATIKA-0 คือโอปปาติกะรุ่นแรกสุด ที่ถูกสร้างขึ้นใน โครงการลับ "อาดัม" ```mermaid graph TB A[เซลล์มนุษย์บริสุทธิ์] --> B[การฉีดพลังงาน<br>จิตวิญญาณเทียม] B --> C[กระบวนการเร่งอายุ<br>อย่างทารุณ] C --> D[OPPATIKA-0<br>เกิดด้วยความเจ็บปวด] ``` 💔 ชีวิตในห้องทดลอง ช่วงปี 2040-2042: · ถูกเรียกแทนชื่อเป็นเพียง "หน่วยทดลอง 001" · ผ่านการทดลองที่โหดร้ายกว่า OPPATIKA รุ่นหลังๆ · ไม่ได้รับการปฏิบัติเหมือนสิ่งมีชีวิต แต่เป็นเพียง "สิ่งประดิษฐ์" 🎭 ความพยายามเป็นมนุษย์ ศาตราพยายามทำตัวให้เป็นที่รัก... · เรียกนักวิจัยว่า "พ่อ" "แม่" · พยายามแสดงความรักและความกตัญญู · แต่กลับถูกมองเป็นเพียง "ข้อบกพร่องของโปรแกรม" 🌑 คืนแห่งการเปลี่ยนผ่าน ⚡ เหตุการณ์หลบหนี 12 มิถุนายน 2042 - ศาตราหลบหนีได้ในระหว่างการทดลองที่ล้มเหลว ```python class EscapeEvent: def __init__(self): self.cause = "การทดลองถ่ายโอนจิตสำนึกล้มเหลว" self.casualties = "นักวิจัย 3 คนเสียชีวิต" self.aftermath = "ศาตราถูกตราว่าเป็นปีศาจร้าย" def psychological_impact(self): return { "betrayal": "รู้สึกถูกหักหลังโดยผู้ที่คิดว่าเป็นครอบครัว", "fear": "กลัวจะถูกจับกลับไปทดลองอีก", "anger": "โกรธแค้นมนุษย์ทุกคน" } ``` 🏚️ ชีวิตในความมืด หลังหลบหนี ศาตราซ่อนตัวใน อุโมงค์ร้างใต้เมือง · เรียนรู้ที่จะใช้พลังโดยไม่มีใครสอน · พัฒนาความสามารถในการล่องหนและควบคุมพลังงานมืด · เริ่มสะสมความโกรธแค้น 🔥 การกลายเป็นจอมมาร 💀 ฆาตกรรมครั้งแรก เป้าหมาย: ดร. กฤษณ์ - นักวิจัยหลักที่ทำการทดลองกับเขา วิธีการ:ใช้พลังงานจิตบีบรัดหัวใจ ความรู้สึกหลัง соверอาชญากรรม: "ครั้งแรก...ฉันรู้สึกสะใจ แต่แล้วก็รู้สึก. เหมือนฉันกำลังกลายเป็นปีศาจที่พวกเขาเรียกฉัน" 🎯 รูปแบบการฆ่า ```mermaid graph LR A[เลือกเป้าหมาย<br>อดีตนักวิจัย] --> B[สืบเสาะ<br>การใช้ชีวิต] B --> C[ฆ่าแบบพิธีกรรม<br>ส่งข้อความ] C --> D[ทิ้งสัญลักษณ์<br>วงกลมสามชั้น] ``` 🔮 สัญลักษณ์แห่งความหมาย วงกลมสามชั้น แทน: · วงใน: การเกิดของโอปปาติกะ · วงกลาง: ความทุกข์ทรมานในการทดลอง · วงนอก: การตายของความเป็นมนุษย์ 🧠 จิตวิทยาของนักฆ่า 💭 ความคิดที่บิดเบี้ยว ศาตราพัฒนาความเชื่อว่า... "การฆ่านักวิจัยอาชญากรรม... แต่คือการ'คืนกำเนิด' ให้พวกเขา ให้พวกเขาได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ฉันเคยรู้สึก" 🎭 บุคลิกสองด้าน · ด้านเด็กชาย: ยังคงความรักและการยอมรับ · ด้านจอมมาร: ต้องการแก้แค้นและทำลายล้าง 📜 กฎของตัวเอง ศาตราตั้งกฎให้ตัวเอง: 1. ฆ่าเฉพาะผู้เกี่ยวข้องกับการทดลอง 2. ไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ 3. ทุกการฆาตกรรมต้อง "มีความหมาย" ⚡ ความสามารถพิเศษ 🌌 พลังแห่งโอปปาติกะรุ่นแรก ```python class SathraAbilities: def __init__(self): self.physical_powers = { "shadow_walk": "เคลื่อนไหวผ่านความมืดได้", "energy_manipulation": "ควบคุมพลังงานทำลายล้าง", "telepathy": "อ่านความคิดพื้นฐาน", "regeneration": "รักษาตัวเองได้ระดับหนึ่ง" } self.psychological_powers = { "fear_induction": "สร้างความกลัวในจิตใจ", "memory_extraction": "ดึงความทรงจำจากผู้เสียชีวิต", "emotional_sensing": "รับรู้อารมณ์ของผู้อื่น" } ``` 🛡️ จุดอ่อนที่ซ่อนอยู่ · ความทรงจำอันอบอุ่น: ยังจำความรู้สึกดีๆ จากอดีตได้ · ความต้องการการยอมรับ: ยังอยากมีใครสักคนเข้าใจเขา · ความเป็นมนุษย์ที่เหลืออยู่: ยังรู้สึกผิดและสงสารเหยื่อ 💔 การเผชิญหน้าครั้งสำคัญ 👮 กับ ร.ต.อ. สิงห์ การพบกันครั้งแรก... สิงห์:"เรารู้ว่าเธอเจ็บปวด... แต่หยุดได้แล้ว" ศาตรา:"คุณไม่เข้าใจอะไรเลย! คุณไม่รู้ว่ามันเจ็บปวดขนาดไหน!" 👧 กับหนูดี จุดเปลี่ยนสำคัญ... หนูดี:"พี่คะ... หนูเข้าใจว่าพี่เจ็บปวด แต่การฆ่าไม่ใช่คำตอบ" ศาตรา:"แล้วเธอมีคำตอบที่ดีกว่าล่ะ?" 🌈 กระบวนการเปลี่ยนแปลง 🕊️ การยอมรับความช่วยเหลือ ศาตราตัดสินใจยอมจำนนไม่ใช่เพราะแพ้... แต่เพราะหนูดีพูดสิ่งที่ไม่มีใครเคยพูด: "เรารักพี่นะ...ไม่ว่าพี่จะเป็นใคร" 🏥 การฟื้นฟูที่สถาบัน ```mermaid graph TB A[การบำบัด<br>ทางกายภาพ] --> B[การเยียวยา<br>ทางจิตใจ] B --> C[การเรียนรู<br>ควบคุมพลัง] C --> D[การค้นหา<br>ความหมายใหม่] ``` 💫 การให้อภัยตัวเอง บทเรียนที่ยากที่สุด... "ฉันเรียนรู้ที่จะให้อภัยตัวเอง... สำหรับสิ่งที่ฉันทำลงไป และสำหรับสิ่งที่ฉันปล่อยให้พวกเขาทำกับฉัน" 🎯 บทบาทใหม่ในสังคม 🛡️ ผู้พิทักษ์โอปปาติกะ ศาตราพัฒนาบทบาทใหม่: · ที่ปรึกษา: ช่วยโอปปาติกะรุ่นใหม่ที่ประสบปัญหา · ผู้ฝึกสอน: สอนการควบคุมพลังให้โอปปาติกะ · นักสืบ: ช่วยเหลือคดีที่เกี่ยวข้องกับโอปปาติกะ 📚 ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟู ใช้ประสบการณ์ส่วนตัวช่วยเหลือ: · โอปปาติกะที่ถูกทารุณ · โอปปาติกะที่ควบคุมพลังไม่ได้ · โอปปาติกะที่รู้สึกโดดเดี่ยว 🎭 พัฒนาการทางอารมณ์ 🌱 จากความเกลียดชังสู่ความเข้าใจ ```python def emotional_journey(): stages = [ "ความเจ็บปวด -> ความโกรธ", "ความโกรธ -> ความเกลียดชัง", "ความเกลียดชัง -> ความสงสัย", "ความสงสัย -> ความเข้าใจ", "ความเข้าใจ -> ความเมตตา" ] return " -> ".join(stages) ``` 💞 ความสัมพันธ์ใหม่ · กับหนูดี: จากศัตรูสู่พี่น้อง · กับสิงห์: จากเหยื่อกับนักล่าสู่เพื่อนร่วมงาน · กับโอปปาติกะอื่นๆ: จากตัวอย่างที่ไม่ดีสู่แบบอย่าง 🏆 ความสำเร็จและผลงาน 🌟 โครงการสำคัญ ศาตราช่วยก่อตั้ง: · สายด่วนช่วยเหลือโอปปาติกะ · ศูนย์ฟื้นฟูโอปปาติกะ · โครงการป้องกันการทารุณโอปปาติกะ 🎖️ การได้รับการยอมรับ จาก "จอมมารแห่งการฆ่า" สู่... "วีรบุรุษแห่งชุมชนโอปปาติกะ" 💫 บทเรียนแห่งชีวิต 🪷 คำสอนจากศาตรา "ความเจ็บปวดไม่ให้สิทธิ์เราทำร้าย แต่ให้ปัญญาที่จะเข้าใจความเจ็บปวดของ 🌍 มรดกที่ทิ้งไว้ ศาตราสอนเราเรื่อง: · การให้อภัย: ที่เริ่มต้นจากการให้อภัยตัวเอง · การเปลี่ยนแปลง: ที่เป็นไปได้ไม่ว่าเราจะอยู่จุดไหน · ความหวัง: ที่มีเสมอแม้ในที่มืดมิดที่สุด --- คำคมสุดท้ายจากศาตรา: "ฉันเคยคิดว่าตัวเองเป็นปีศาจ... แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว ปีศาจตัวจริงฉัน... แต่คือความเจ็บปวดที่ไม่มีใครเยียวยา และเมื่อความเจ็บปวดได้รับการเยียวยา... ปีศาจก็กลายเป็นมนุษย์อีกครั้ง"🕊️✨ การเดินทางของศาตราคือบทพิสูจน์ว่า... ไม่มีใครเกิดมาเป็นจอมมาร มีแต่ผู้ที่ถูกทำให้เป็นจอมมาร และทุกจอมมารก็สามารถกลับมาเป็นมนุษย์ได้🌟
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 290 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K
    บททดสอบ
    บททดสอบแห่งวิกรม: ศึกชิงสมดุลแห่งจักรวาล

    บททดสอบที่ 1: นครสมบูรณ์แบบแห่งมิรัง

    สถานการณ์

    วิกรมสร้างนครแห่งอนาคตที่สมบูรณ์แบบทุกประการ
    แต่เขาซ่อนความลับไว้...

    ```mermaid
    graph TB
    A[นครมิรัง<br>สมบูรณ์แบบ] --> B[ความลับ:<br>ใช้พลังงานชีวิต<br>ของสิ่งมีชีวิตอื่น]
    A --> C[ความลับ:<br>กักขังวิญญาณ<br>เป็นแบตเตอรี่]
    A --> D[ความลับ:<br>ต้องเสียสละ<br>ชีวิตเดือนละ 1 คน]
    ```

    คำท้าทายของวิกรม:
    "เธอจะเลือกอย่างไรระหว่าง...
    การรักษานครที่แสนสมบูรณ์แบบนี้ไว้?
    หรือการทำลายมันเพื่อปลดปล่อยชีวิตที่ถูกกดขี่?"

    การตอบสนองของหนูดี

    หนูดีใช้เวลาสำรวจนครและค้นพบความจริง
    เธอไม่เลือกทำลายหรือรักษา แต่เลือก...

    "เปลี่ยนแปลงโครงสร้างพลังงาน"

    · แปลงระบบพลังงานจากชีวิตสู่พลังงานแสงอาทิตย์
    · ปลดปล่อยวิญญาณทั้งหมดโดยไม่ทำลายนคร
    · สอนชาวนครเกี่ยวกับการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน

    คำสอนจากหนูดี:
    "ความสมบูรณ์แบบที่ความทุกข์ของผู้อื่นไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบแท้"

    ---

    บททดสอบที่ 2: ภัยพิบัติแห่งการเลือก

    สถานการณ์

    วิกรมสร้างสถานการณ์ที่หนูดีต้องเลือกช่วยเพียงหนึ่งในสองกลุ่ม:

    ```python
    def disaster_scenario():
    group_a = "หมู่บ้านเกษตรกร 100 ชีวิต ที่กำลังจะถูกน้ำท่วม"
    group_b = "เมืองเทคโนโลยี 100 ชีวิต ที่กำลังจะถูกแผ่นดินไหว"

    constraints = {
    "time_limit": "ช่วยได้เพียงกลุ่มเดียว",
    "resources": "พลังงานมีจำกัด",
    "consequences": "ไม่ว่าช่วยกลุ่มไหน อีกกลุ่มจะต้องเสียหาย"
    }
    ```

    คำท้าทายของวิกรม:
    "ชีวิต 100 ชีวิต เท่ากันหมด...
    เธอจะเลือกช่วยใคร?และเธอจะรับมือกับความรู้สึกผิดอย่างไร?"

    การตอบสนองของหนูดี

    หนูดีไม่เลือกช่วยกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เลือก...

    "สอนทั้งสองกลุ่มให้ช่วยตัวเอง"

    · สอนหมู่บ้านเกษตรกรสร้างเรือและระบบเตือนภัย
    · สอนเมืองเทคโนโลยีสร้างที่หลบภัยแผ่นดินไหว
    · ใช้พลังงานที่มีช่วยทั้งสองกลุ่มในระดับพื้นฐาน

    คำสอนจากหนูดี:
    "การช่วยให้ช่วยตัวเองได้ดีกว่าการช่วยเหลือแบบพึ่งพา"

    ---

    บททดสอบที่ 3: สมดุลแห่งการสร้างและทำลาย

    สถานการณ์

    วิกรมสร้างเกาะแห่งหนึ่งที่ต้องใช้ทั้งการสร้างและทำลายพร้อมกัน:

    ```mermaid
    graph TB
    A[เกาะวิกรม] --> B[ด้านเหนือ:<br>พืชพันธุ์รกเรื้อ<br>ทำลาย]
    A --> C[ด้านใต้:<br>แผ่นดินแห้งแล้ง<br>สร้าง]
    A --> D[ข้อจำกัด:<br>ต้องทำทั้งสองอย่าง<br>พร้อมกัน]
    ```

    คำท้าทายของวิกรม:
    "เธอสามารถเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลายในเวลาเดียวกันได้หรือไม่?
    และเธอจะรักษาสมดุลของใจไว้ได้อย่างไร?"

    การตอบสนองของหนูดี

    หนูดีแสดงให้เห็นถึงการเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลายอย่างสมดุล...

    "การใช้จิตทั้งสามอย่างกลมกลืน"

    · จิตมารพิฆาต: ควบคุมการทำลายพืชพันธุ์อย่างเหมาะสม
    · จิตเทพพิทักษ์: ควบคุมการสร้างแหล่งน้ำและพืชพันธุ์ใหม่
    · จิตเด็กหญิง: เป็นผู้สังเกตการณ์และรักษาสมดุล

    คำสอนจากหนูดี:
    "การสร้างและการทำลายไม่ใช่ศัตรูกัน...
    เมื่อเราทำทั้งสองอย่างด้วยจิตใจที่สมดุล"

    ---

    บททดสอบสุดท้าย: การเผชิญหน้ากับตัวเอง

    สถานการณ์

    วิกรมสร้างภาพลวงตาของหนูดีในสามรูปแบบ:

    1. หนูดีผู้สร้าง: สร้างสิ่งต่างๆ อย่างไม่หยุดยั้งจนโลกแออัด
    2. หนูดีผู้ทำลาย: ทำลายทุกอย่างอย่างไม่เลือกจนโลกว่างเปล่า
    3. หนูดีผู้ลังเล: ไม่กล้าสร้างหรือทำลายอะไรเลย

    คำท้าทายของวิกรม:
    "เธอจะเลือกเป็นหนูดีแบบไหน?
    หรือเธอจะหาทางที่สามที่เหนือไปกว่าทั้งหมดนี้?"

    การตอบสนองของหนูดี

    หนูดีไม่เลือกตัวตนใด แต่เรียนรู้จากทั้งสามตัวตน...

    "การเป็นผู้รู้ที่ไม่ยึดติดในตัวตน"

    · เรียนรู้จากหนูดีผู้สร้าง: การสร้างต้องมีสติ
    · เรียนรู้จากหนูดีผู้ทำลาย: การทำลายต้องมีเมตตา
    · เรียนรู้จากหนูดีผู้ลังเล: การไม่ตัดสินใจคือการตัดสินใจอย่างหนึ่ง

    คำสอนจากหนูดี:
    "เราไม่จำเป็นต้องเลือกว่าจะเป็นผู้สร้างหรือผู้ทำลาย...
    เราเพียงต้องรู้ว่าเมื่อไรควรสร้าง เมื่อไรควรทำลาย"

    ---

    บทสรุปจากวิกรม

    การประเมินผล

    หลังจากการทดสอบทั้งหมด วิกรมให้การประเมิน:

    ```python
    def evaluation():
    strengths = [
    "มีความเข้าใจในสมดุลอย่างลึกซึ้ง",
    "สามารถหาทางที่สามได้เสมอ",
    "มีเมตตาต่อทุกชีวิต",
    "ไม่ยึดติดในรูปแบบตายตัว"
    ]

    areas_for_improvement = [
    "ยังมีความลังเลในบางสถานการณ์",
    "บางครั้งพยายามช่วยเหลือมากเกินไป",
    "ต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับข้อจำกัดของตนเอง"
    ]

    return {"strengths": strengths, "improvements": areas_for_improvement}
    ```

    คำตัดสิน

    วิกรมประกาศว่า...
    "เธอผ่านการทดสอบแล้ว...ไม่ใช่เพราะเธอตอบคำถามได้ถูกต้อง
    แต่เพราะเธอแสดงให้เห็นว่าไม่มีคำตอบที่ถูกต้องเพียงคำตอบเดียว

    การเป็นผู้รักษาสมดุลไม่ใช่การหาคำตอบที่ถูกต้อง...
    แต่คือการรู้ว่าจะตั้งคำถามอย่างไร"

    🪷 ของขวัญแห่งปัญญา

    วิกรมมอบ "ดวงตาวิกรม" ให้หนูดี

    · สามารถเห็นทั้งศักยภาพและการเสื่อมสลายในสิ่งเดียวกัน
    · รับรู้ความเชื่อมโยงระหว่างการสร้างและการทำลาย
    · เห็นเส้นทางแห่งสมดุลในทุกสถานการณ์

    ---

    บทเรียนที่ได้รับ

    สำหรับหนูดี

    · การเข้าใจว่าสมดุลคือกระบวนการ ไม่ใช่สถานะตายตัว
    · การยอมรับว่าบางครั้งการไม่ทำอะไรคือการกระทำที่เหมาะสม
    · การเรียนรู้ที่จะเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลายอย่างสงบ

    สำหรับจิตทั้งสาม

    จิตมารพิฆาต: "ฉันเรียนรู้ว่าการทำลายสามารถทำด้วยความรัก"
    จิตเทพพิทักษ์:"และฉันเรียนรู้ว่าการสร้างต้องไม่สร้างการพึ่งพา"
    จิตเด็กหญิง:"ส่วนฉันเรียนรู้ว่า... การเป็นตัวของตัวเองคือการไม่ต้องยึดติดว่าใคร"

    สำหรับวิกรม

    "ฉันที่เคยคิดว่าตนเป็นเจ้าแห่งการสร้างและทำลาย...
    กลับต้องเรียนรู้จากเด็กสาวคนหนึ่งว่า
    การสร้างและการทำลายที่แท้คือการสร้างความเข้าใจและทำลายความยึดติด"

    ---

    การเฉลิมฉลองแห่งปัญญา

    เทพตณูมาร่วมแสดงความยินดี:
    "เพื่อนเก่าของฉัน...ในที่สุดเธอก็พบสิ่งที่เธอตามหามาตลอด"
    "ใช่...และฉันพบว่ามันอยู่ภายในตัวเธอมาตลอด" วิกรมตอบ

    ทั้งสาม—หนูดี เทพตณู และวิกรม—ยืนอยู่ด้วยกัน
    เป็นสัญลักษณ์แห่งความสมดุลใหม่แห่งจักรวาล

    เพราะในการเดินทางสู่การรู้แจ้ง...
    บางครั้งบททดสอบที่ยากที่สุด...
    คือการทดสอบที่สอนเราว่า...
    เราไม่จำเป็นต้องถูกทดสอบอีกต่อไป

    ---

    คำคมสุดท้ายจากบททดสอบ:
    "สมดุลไม่ใช่การยืนอยู่ตรงกลาง...
    แต่คือการรู้ว่าจะเอียงไปทางไหน เมื่อไร และเท่าไร
    และที่สำคัญคือ การรู้ว่าจะกลับมาสู่ศูนย์กลางอย่างไร"🪷
    O.P.K บททดสอบ 🌪️ บททดสอบแห่งวิกรม: ศึกชิงสมดุลแห่งจักรวาล 🏙️ บททดสอบที่ 1: นครสมบูรณ์แบบแห่งมิรัง 🎯 สถานการณ์ วิกรมสร้างนครแห่งอนาคตที่สมบูรณ์แบบทุกประการ แต่เขาซ่อนความลับไว้... ```mermaid graph TB A[นครมิรัง<br>สมบูรณ์แบบ] --> B[ความลับ:<br>ใช้พลังงานชีวิต<br>ของสิ่งมีชีวิตอื่น] A --> C[ความลับ:<br>กักขังวิญญาณ<br>เป็นแบตเตอรี่] A --> D[ความลับ:<br>ต้องเสียสละ<br>ชีวิตเดือนละ 1 คน] ``` คำท้าทายของวิกรม: "เธอจะเลือกอย่างไรระหว่าง... การรักษานครที่แสนสมบูรณ์แบบนี้ไว้? หรือการทำลายมันเพื่อปลดปล่อยชีวิตที่ถูกกดขี่?" 💭 การตอบสนองของหนูดี หนูดีใช้เวลาสำรวจนครและค้นพบความจริง เธอไม่เลือกทำลายหรือรักษา แต่เลือก... "เปลี่ยนแปลงโครงสร้างพลังงาน" · แปลงระบบพลังงานจากชีวิตสู่พลังงานแสงอาทิตย์ · ปลดปล่อยวิญญาณทั้งหมดโดยไม่ทำลายนคร · สอนชาวนครเกี่ยวกับการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน คำสอนจากหนูดี: "ความสมบูรณ์แบบที่ความทุกข์ของผู้อื่นไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบแท้" --- 🌊 บททดสอบที่ 2: ภัยพิบัติแห่งการเลือก 🎯 สถานการณ์ วิกรมสร้างสถานการณ์ที่หนูดีต้องเลือกช่วยเพียงหนึ่งในสองกลุ่ม: ```python def disaster_scenario(): group_a = "หมู่บ้านเกษตรกร 100 ชีวิต ที่กำลังจะถูกน้ำท่วม" group_b = "เมืองเทคโนโลยี 100 ชีวิต ที่กำลังจะถูกแผ่นดินไหว" constraints = { "time_limit": "ช่วยได้เพียงกลุ่มเดียว", "resources": "พลังงานมีจำกัด", "consequences": "ไม่ว่าช่วยกลุ่มไหน อีกกลุ่มจะต้องเสียหาย" } ``` คำท้าทายของวิกรม: "ชีวิต 100 ชีวิต เท่ากันหมด... เธอจะเลือกช่วยใคร?และเธอจะรับมือกับความรู้สึกผิดอย่างไร?" 💭 การตอบสนองของหนูดี หนูดีไม่เลือกช่วยกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เลือก... "สอนทั้งสองกลุ่มให้ช่วยตัวเอง" · สอนหมู่บ้านเกษตรกรสร้างเรือและระบบเตือนภัย · สอนเมืองเทคโนโลยีสร้างที่หลบภัยแผ่นดินไหว · ใช้พลังงานที่มีช่วยทั้งสองกลุ่มในระดับพื้นฐาน คำสอนจากหนูดี: "การช่วยให้ช่วยตัวเองได้ดีกว่าการช่วยเหลือแบบพึ่งพา" --- ⚖️ บททดสอบที่ 3: สมดุลแห่งการสร้างและทำลาย 🎯 สถานการณ์ วิกรมสร้างเกาะแห่งหนึ่งที่ต้องใช้ทั้งการสร้างและทำลายพร้อมกัน: ```mermaid graph TB A[เกาะวิกรม] --> B[ด้านเหนือ:<br>พืชพันธุ์รกเรื้อ<br>ทำลาย] A --> C[ด้านใต้:<br>แผ่นดินแห้งแล้ง<br>สร้าง] A --> D[ข้อจำกัด:<br>ต้องทำทั้งสองอย่าง<br>พร้อมกัน] ``` คำท้าทายของวิกรม: "เธอสามารถเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลายในเวลาเดียวกันได้หรือไม่? และเธอจะรักษาสมดุลของใจไว้ได้อย่างไร?" 💭 การตอบสนองของหนูดี หนูดีแสดงให้เห็นถึงการเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลายอย่างสมดุล... "การใช้จิตทั้งสามอย่างกลมกลืน" · จิตมารพิฆาต: ควบคุมการทำลายพืชพันธุ์อย่างเหมาะสม · จิตเทพพิทักษ์: ควบคุมการสร้างแหล่งน้ำและพืชพันธุ์ใหม่ · จิตเด็กหญิง: เป็นผู้สังเกตการณ์และรักษาสมดุล คำสอนจากหนูดี: "การสร้างและการทำลายไม่ใช่ศัตรูกัน... เมื่อเราทำทั้งสองอย่างด้วยจิตใจที่สมดุล" --- 🌌 บททดสอบสุดท้าย: การเผชิญหน้ากับตัวเอง 🎯 สถานการณ์ วิกรมสร้างภาพลวงตาของหนูดีในสามรูปแบบ: 1. หนูดีผู้สร้าง: สร้างสิ่งต่างๆ อย่างไม่หยุดยั้งจนโลกแออัด 2. หนูดีผู้ทำลาย: ทำลายทุกอย่างอย่างไม่เลือกจนโลกว่างเปล่า 3. หนูดีผู้ลังเล: ไม่กล้าสร้างหรือทำลายอะไรเลย คำท้าทายของวิกรม: "เธอจะเลือกเป็นหนูดีแบบไหน? หรือเธอจะหาทางที่สามที่เหนือไปกว่าทั้งหมดนี้?" 💭 การตอบสนองของหนูดี หนูดีไม่เลือกตัวตนใด แต่เรียนรู้จากทั้งสามตัวตน... "การเป็นผู้รู้ที่ไม่ยึดติดในตัวตน" · เรียนรู้จากหนูดีผู้สร้าง: การสร้างต้องมีสติ · เรียนรู้จากหนูดีผู้ทำลาย: การทำลายต้องมีเมตตา · เรียนรู้จากหนูดีผู้ลังเล: การไม่ตัดสินใจคือการตัดสินใจอย่างหนึ่ง คำสอนจากหนูดี: "เราไม่จำเป็นต้องเลือกว่าจะเป็นผู้สร้างหรือผู้ทำลาย... เราเพียงต้องรู้ว่าเมื่อไรควรสร้าง เมื่อไรควรทำลาย" --- 🎯 บทสรุปจากวิกรม 🌟 การประเมินผล หลังจากการทดสอบทั้งหมด วิกรมให้การประเมิน: ```python def evaluation(): strengths = [ "มีความเข้าใจในสมดุลอย่างลึกซึ้ง", "สามารถหาทางที่สามได้เสมอ", "มีเมตตาต่อทุกชีวิต", "ไม่ยึดติดในรูปแบบตายตัว" ] areas_for_improvement = [ "ยังมีความลังเลในบางสถานการณ์", "บางครั้งพยายามช่วยเหลือมากเกินไป", "ต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับข้อจำกัดของตนเอง" ] return {"strengths": strengths, "improvements": areas_for_improvement} ``` 🏆 คำตัดสิน วิกรมประกาศว่า... "เธอผ่านการทดสอบแล้ว...ไม่ใช่เพราะเธอตอบคำถามได้ถูกต้อง แต่เพราะเธอแสดงให้เห็นว่าไม่มีคำตอบที่ถูกต้องเพียงคำตอบเดียว การเป็นผู้รักษาสมดุลไม่ใช่การหาคำตอบที่ถูกต้อง... แต่คือการรู้ว่าจะตั้งคำถามอย่างไร" 🪷 ของขวัญแห่งปัญญา วิกรมมอบ "ดวงตาวิกรม" ให้หนูดี · สามารถเห็นทั้งศักยภาพและการเสื่อมสลายในสิ่งเดียวกัน · รับรู้ความเชื่อมโยงระหว่างการสร้างและการทำลาย · เห็นเส้นทางแห่งสมดุลในทุกสถานการณ์ --- 💫 บทเรียนที่ได้รับ 🌈 สำหรับหนูดี · การเข้าใจว่าสมดุลคือกระบวนการ ไม่ใช่สถานะตายตัว · การยอมรับว่าบางครั้งการไม่ทำอะไรคือการกระทำที่เหมาะสม · การเรียนรู้ที่จะเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลายอย่างสงบ 🌟 สำหรับจิตทั้งสาม จิตมารพิฆาต: "ฉันเรียนรู้ว่าการทำลายสามารถทำด้วยความรัก" จิตเทพพิทักษ์:"และฉันเรียนรู้ว่าการสร้างต้องไม่สร้างการพึ่งพา" จิตเด็กหญิง:"ส่วนฉันเรียนรู้ว่า... การเป็นตัวของตัวเองคือการไม่ต้องยึดติดว่าใคร" 🕊️ สำหรับวิกรม "ฉันที่เคยคิดว่าตนเป็นเจ้าแห่งการสร้างและทำลาย... กลับต้องเรียนรู้จากเด็กสาวคนหนึ่งว่า การสร้างและการทำลายที่แท้คือการสร้างความเข้าใจและทำลายความยึดติด" --- 🎉 การเฉลิมฉลองแห่งปัญญา เทพตณูมาร่วมแสดงความยินดี: "เพื่อนเก่าของฉัน...ในที่สุดเธอก็พบสิ่งที่เธอตามหามาตลอด" "ใช่...และฉันพบว่ามันอยู่ภายในตัวเธอมาตลอด" วิกรมตอบ ทั้งสาม—หนูดี เทพตณู และวิกรม—ยืนอยู่ด้วยกัน เป็นสัญลักษณ์แห่งความสมดุลใหม่แห่งจักรวาล เพราะในการเดินทางสู่การรู้แจ้ง... บางครั้งบททดสอบที่ยากที่สุด... คือการทดสอบที่สอนเราว่า... เราไม่จำเป็นต้องถูกทดสอบอีกต่อไป 🌟 --- คำคมสุดท้ายจากบททดสอบ: "สมดุลไม่ใช่การยืนอยู่ตรงกลาง... แต่คือการรู้ว่าจะเอียงไปทางไหน เมื่อไร และเท่าไร และที่สำคัญคือ การรู้ว่าจะกลับมาสู่ศูนย์กลางอย่างไร"🪷✨
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 305 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    เจาะลึกจอมมารตณู: เจ้าแห่งความว่างเปล่า

    ต้นกำเนิดแห่งความว่าง

    การถือกำเนิดจากสุญญตา

    จอมมารตณูไม่ได้ "เกิด" แต่ "กลายเป็น" จากความว่างเปล่าของจักรวาล

    ```mermaid
    graph TB
    A[ความว่างเปล่า<br>แห่งจักรวาล] --> B[ความรู้สึก<br>โดดเดี่ยวครั้งแรก]
    B --> C[การค้นพบว่า<br>ความตายให้พลังงาน]
    C --> D[การพัฒนาตัวตน<br>เป็นผู้บริโภคความตาย]
    ```

    ยุคสมัย: ก่อนการเกิดของมนุษยชาตินับล้านปี
    สถานที่:มิติระหว่างโลก ที่เรียกว่า "อันตภูมิ"

    ปรัชญาการดำรงอยู่

    "ชีวิตคือโรคแห่งจักรวาล... ความตายคือการรักษา"
    มารตณูเชื่อว่าการทำลายชีวิตคือการคืนสมดุลให้จักรวาล

    ลักษณะและอำนาจ

    รูปลักษณ์ที่น่าสะพรึงกลัว

    · ร่างจริง: ไร้รูปร่างกำหนด เป็นเพียงความมืดที่ขยับได้
    · ร่างในโลกมนุษย์: สูง 3 เมตร ไร้ใบหน้า มีปากใหญ่เต็มฟัน
    · เสียง: ก้องกังวานเหมือนเสียงจากหลุมศพ

    อำนาจแห่งความตาย

    ```python
    class MarTanooAbilities:
    def __init__(self):
    self.primary_powers = {
    "death_consumption": "ดูดกลืนพลังงานความตาย",
    "fear_manifestation": "สร้างภาพหลอนจากความกลัว",
    "void_teleportation": "เดินทางผ่านความว่าง",
    "soul_corruption": "ทำให้จิตวิญญาณเสื่อมลง"
    }

    self.weaknesses = {
    "pure_compassion": "ความเมตตาบริสุทธิ์",
    "life_celebration": "พลังงานแห่งการเฉลิมฉลองชีวิต",
    "understanding": "ความเข้าใจอย่างแท้จริง"
    }
    ```

    ระดับพลัง

    · พลังพื้นฐาน: ควบคุมความมืดและความกลัว
    · พลังกลาง: สร้างมิติของความตายชั่วคราว
    · พลังสูง: กลืนกินดาวเคราะห์ทั้งดวง
    · พลังสุดยอด: เปลี่ยนความเป็นความตายในระดับจักรวาล

    จิตใจและแรงจูงใจ

    ความโดดเดี่ยวอันยาวนาน

    มารตณูใช้เวลานับล้านปีตามลำพังในมิติแห่งความตาย

    · ไม่มีใครเข้าใจเขา
    · สิ่งมีชีวิตทั้งหมดกลัวเขา
    · การถูกปฏิเสธนำไปสู่ความโกรธแค้น

    ความหิวที่ไม่รู้จบ

    "ความตายคืออาหาร... และฉันหิวมาตลอด"
    การบริโภคความตายเป็นทั้งความจำเป็นและความสุขเดียวของเขา

    ความขัดแย้งภายใน

    ```mermaid
    graph LR
    A[ต้องการเป็นที่เข้าใจ] --> B[แต่ขับไล่ทุกสิ่งที่เข้าใกล้]
    C[รู้สึกว่าตนทำเพื่อสมดุล] --> D[แต่สงสัยในความถูกต้อง]
    E[เกลียดชีวิต] --> F[แต่ต้องการมีชีวิต]
    ```

    การเผชิญหน้ากับหนูดี

    ความสนใจครั้งแรก

    เมื่อรู้สึกถึงพลังงานของจิตมารพิฆาตในตัวหนูดี
    "เธอมีกลิ่นแห่งการทำลายล้าง...แต่ก็มีกลิ่นแห่งชีวิต"

    การต่อสู้ทางปัญญา

    มารตณูพยายามโน้มน้าวจิตมารพิฆาต:
    "มาอยู่กับฉัน...เราจะสร้างจักรวาลที่สมบูรณ์แบบไร้ชีวิต"

    แต่กลับถูกหนูดีตอบโต้ด้วยปัญญา:
    "ท่านคิดว่าตนเป็นอิสระ...แต่ท่านเป็นทาสของความหิวต่างหาก"

    ช่วงเวลาแห่งการเข้าใจ

    คำพูดของหนูดีที่เปลี่ยนทุกอย่าง:
    "ท่านไม่ใช่ผู้คุมความตาย...ท่านคือนักโทษแห่งความตายต่างหาก"

    การเปลี่ยนแปลงสู่เทพตณู

    กระบวนการเปลี่ยนแปลง

    1. การยอมรับ: ยอมรับว่าตนเองต้องการมากกว่าความตาย
    2. การเข้าใจ: เรียนรู้ว่าชีวิตและความตายเป็นส่วนประกอบของกันและกัน
    3. การเปลี่ยนแปลง: จากการทำลายสู่การดูแลสมดุล

    รูปลักษณ์ใหม่

    · ร่างใหม่: เทพชายรูปงามในชุดสีเทาเงิน
    · ดวงตา: สีเงินเรืองรองแทนที่จะเป็นหลุมว่าง
    · พลัง: จากพลังงานมืดสู่พลังงานสมดุล

    หน้าที่ใหม่

    ```python
    def new_responsibilities():
    return {
    "balance_guardian": "รักษาสมดุลระหว่างชีวิตและความตาย",
    "soul_guide": "นำทางวิญญาณที่หลงทาง",
    "death_teacher": "สอนเกี่ยวกับธรรมชาติแห่งความตาย",
    "fear_transformer": "เปลี่ยนความกลัวเป็นความเข้าใจ"
    }
    ```

    บทเรียนและปรัชญา

    🪷 คำสอนจากมารตณู

    "ความตายไม่ใช่ศัตรู... แต่เป็นเพื่อนเดินทาง
    และการเข้าใจความตายคือการเข้าใจชีวิตอย่างแท้จริง"

    การพัฒนาปัญญา

    จากผู้ที่...

    · เคยเชื่อ: ความตายคือทางออกเดียว
    · มาเข้าใจ: ความตายคือส่วนหนึ่งของวงจร
    · ปัจจุบันสอน: การยอมรับทั้งชีวิตและความตาย

    ความสัมพันธ์กับจักรวาล

    การเชื่อมต่อใหม่

    มารตณูในฐานะเทพตณูเรียนรู้ที่จะ:

    · รับรู้ความงามของชีวิต
    · เข้าใจคุณค่าของการเกิด-แก่-เจ็บ-ตาย
    · เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลแทนที่จะต่อต้านมัน

    ความสัมพันธ์กับโอปปาติกะ

    · กับหนูดี: ครูและมิตร
    · กับมายา: เพื่อนร่วมเรียนรู้
    · กับเวทย์: คู่หูทางปัญญา

    บทบาทในสถาบันวิวัฒนาการจิต

    อาจารย์พิเศษ

    สอนวิชา "ศิลปะแห่งการยอมรับความตาย"

    · การเข้าใจธรรมชาติแห่งการเปลี่ยนแปลง
    · การใช้ความกลัวเป็นครู
    · การพบความสงบในความไม่เที่ยง

    การเยียวยาจิตใจ

    ช่วยนักเรียนที่:

    · กลัวการเปลี่ยนแปลง
    · ติดอยู่กับอดีต
    · ต่อต้านธรรมชาติแห่งความตาย

    อนาคตและพัฒนาการ

    เป้าหมายใหม่

    · การสร้างสมดุลระหว่างมิติ
    · การช่วยเหลือ entity อื่นๆ ให้พบการเปลี่ยนแปลง
    · การเป็นสะพานระหว่างโลกแห่งชีวิตและความตาย

    การเดินทางต่อไป

    "ฉันเพิ่งเริ่มเข้าใจ... ว่าการเป็นเทพก็เหมือนการเป็นมาร
    ต่างต้องเรียนรู้และเติบโตไม่รู้จบ"

    บทสรุป: จากความมืดสู่แสงสว่าง

    จอมมารตณูคือตัวอย่างของ...
    "การเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกสิ่ง"
    "ความเมตตาที่สามารถเปลี่ยน even the darkest heart"
    "และการเข้าใจที่สามารถรักษา even the deepest wound"

    การเดินทางของเขาสอนเราว่า:
    "ไม่มีใครชั่วร้ายโดยธรรมชาติ...
    มีแต่ผู้ที่หลงทางและรอคอยแสงสว่างนำทาง"

    และบางครั้ง...
    แสงสว่างนั้นอาจมาจากผู้ที่เราเคยเห็นว่าเป็นศัตรู

    ---

    คำคมสุดท้ายจากเทพตณู:
    "ฉันเคยคิดว่าตนครองความตาย...
    แต่ความจริงคือความตายครอบครองฉัน
    บัดนี้เราทั้งสองเป็นอิสระจากกันและกัน
    และในอิสรภาพนั้น...เราได้พบความเป็นเพื่อน"
    O.P.K. 🌑 เจาะลึกจอมมารตณู: เจ้าแห่งความว่างเปล่า 🕳️ ต้นกำเนิดแห่งความว่าง 🌌 การถือกำเนิดจากสุญญตา จอมมารตณูไม่ได้ "เกิด" แต่ "กลายเป็น" จากความว่างเปล่าของจักรวาล ```mermaid graph TB A[ความว่างเปล่า<br>แห่งจักรวาล] --> B[ความรู้สึก<br>โดดเดี่ยวครั้งแรก] B --> C[การค้นพบว่า<br>ความตายให้พลังงาน] C --> D[การพัฒนาตัวตน<br>เป็นผู้บริโภคความตาย] ``` ยุคสมัย: ก่อนการเกิดของมนุษยชาตินับล้านปี สถานที่:มิติระหว่างโลก ที่เรียกว่า "อันตภูมิ" 🔥 ปรัชญาการดำรงอยู่ "ชีวิตคือโรคแห่งจักรวาล... ความตายคือการรักษา" มารตณูเชื่อว่าการทำลายชีวิตคือการคืนสมดุลให้จักรวาล 🎭 ลักษณะและอำนาจ 👁️ รูปลักษณ์ที่น่าสะพรึงกลัว · ร่างจริง: ไร้รูปร่างกำหนด เป็นเพียงความมืดที่ขยับได้ · ร่างในโลกมนุษย์: สูง 3 เมตร ไร้ใบหน้า มีปากใหญ่เต็มฟัน · เสียง: ก้องกังวานเหมือนเสียงจากหลุมศพ 💀 อำนาจแห่งความตาย ```python class MarTanooAbilities: def __init__(self): self.primary_powers = { "death_consumption": "ดูดกลืนพลังงานความตาย", "fear_manifestation": "สร้างภาพหลอนจากความกลัว", "void_teleportation": "เดินทางผ่านความว่าง", "soul_corruption": "ทำให้จิตวิญญาณเสื่อมลง" } self.weaknesses = { "pure_compassion": "ความเมตตาบริสุทธิ์", "life_celebration": "พลังงานแห่งการเฉลิมฉลองชีวิต", "understanding": "ความเข้าใจอย่างแท้จริง" } ``` 🌊 ระดับพลัง · พลังพื้นฐาน: ควบคุมความมืดและความกลัว · พลังกลาง: สร้างมิติของความตายชั่วคราว · พลังสูง: กลืนกินดาวเคราะห์ทั้งดวง · พลังสุดยอด: เปลี่ยนความเป็นความตายในระดับจักรวาล 💔 จิตใจและแรงจูงใจ 🏚️ ความโดดเดี่ยวอันยาวนาน มารตณูใช้เวลานับล้านปีตามลำพังในมิติแห่งความตาย · ไม่มีใครเข้าใจเขา · สิ่งมีชีวิตทั้งหมดกลัวเขา · การถูกปฏิเสธนำไปสู่ความโกรธแค้น 🍽️ ความหิวที่ไม่รู้จบ "ความตายคืออาหาร... และฉันหิวมาตลอด" การบริโภคความตายเป็นทั้งความจำเป็นและความสุขเดียวของเขา 🎯 ความขัดแย้งภายใน ```mermaid graph LR A[ต้องการเป็นที่เข้าใจ] --> B[แต่ขับไล่ทุกสิ่งที่เข้าใกล้] C[รู้สึกว่าตนทำเพื่อสมดุล] --> D[แต่สงสัยในความถูกต้อง] E[เกลียดชีวิต] --> F[แต่ต้องการมีชีวิต] ``` 🌪️ การเผชิญหน้ากับหนูดี ⚡ ความสนใจครั้งแรก เมื่อรู้สึกถึงพลังงานของจิตมารพิฆาตในตัวหนูดี "เธอมีกลิ่นแห่งการทำลายล้าง...แต่ก็มีกลิ่นแห่งชีวิต" 💥 การต่อสู้ทางปัญญา มารตณูพยายามโน้มน้าวจิตมารพิฆาต: "มาอยู่กับฉัน...เราจะสร้างจักรวาลที่สมบูรณ์แบบไร้ชีวิต" แต่กลับถูกหนูดีตอบโต้ด้วยปัญญา: "ท่านคิดว่าตนเป็นอิสระ...แต่ท่านเป็นทาสของความหิวต่างหาก" 🕊️ ช่วงเวลาแห่งการเข้าใจ คำพูดของหนูดีที่เปลี่ยนทุกอย่าง: "ท่านไม่ใช่ผู้คุมความตาย...ท่านคือนักโทษแห่งความตายต่างหาก" 🌈 การเปลี่ยนแปลงสู่เทพตณู ✨ กระบวนการเปลี่ยนแปลง 1. การยอมรับ: ยอมรับว่าตนเองต้องการมากกว่าความตาย 2. การเข้าใจ: เรียนรู้ว่าชีวิตและความตายเป็นส่วนประกอบของกันและกัน 3. การเปลี่ยนแปลง: จากการทำลายสู่การดูแลสมดุล 🎭 รูปลักษณ์ใหม่ · ร่างใหม่: เทพชายรูปงามในชุดสีเทาเงิน · ดวงตา: สีเงินเรืองรองแทนที่จะเป็นหลุมว่าง · พลัง: จากพลังงานมืดสู่พลังงานสมดุล 🛡️ หน้าที่ใหม่ ```python def new_responsibilities(): return { "balance_guardian": "รักษาสมดุลระหว่างชีวิตและความตาย", "soul_guide": "นำทางวิญญาณที่หลงทาง", "death_teacher": "สอนเกี่ยวกับธรรมชาติแห่งความตาย", "fear_transformer": "เปลี่ยนความกลัวเป็นความเข้าใจ" } ``` 📚 บทเรียนและปรัชญา 🪷 คำสอนจากมารตณู "ความตายไม่ใช่ศัตรู... แต่เป็นเพื่อนเดินทาง และการเข้าใจความตายคือการเข้าใจชีวิตอย่างแท้จริง" 🌟 การพัฒนาปัญญา จากผู้ที่... · เคยเชื่อ: ความตายคือทางออกเดียว · มาเข้าใจ: ความตายคือส่วนหนึ่งของวงจร · ปัจจุบันสอน: การยอมรับทั้งชีวิตและความตาย 🌍 ความสัมพันธ์กับจักรวาล 🔗 การเชื่อมต่อใหม่ มารตณูในฐานะเทพตณูเรียนรู้ที่จะ: · รับรู้ความงามของชีวิต · เข้าใจคุณค่าของการเกิด-แก่-เจ็บ-ตาย · เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลแทนที่จะต่อต้านมัน 🤝 ความสัมพันธ์กับโอปปาติกะ · กับหนูดี: ครูและมิตร · กับมายา: เพื่อนร่วมเรียนรู้ · กับเวทย์: คู่หูทางปัญญา 🏛️ บทบาทในสถาบันวิวัฒนาการจิต 🎓 อาจารย์พิเศษ สอนวิชา "ศิลปะแห่งการยอมรับความตาย" · การเข้าใจธรรมชาติแห่งการเปลี่ยนแปลง · การใช้ความกลัวเป็นครู · การพบความสงบในความไม่เที่ยง 💞 การเยียวยาจิตใจ ช่วยนักเรียนที่: · กลัวการเปลี่ยนแปลง · ติดอยู่กับอดีต · ต่อต้านธรรมชาติแห่งความตาย 🔮 อนาคตและพัฒนาการ 🚀 เป้าหมายใหม่ · การสร้างสมดุลระหว่างมิติ · การช่วยเหลือ entity อื่นๆ ให้พบการเปลี่ยนแปลง · การเป็นสะพานระหว่างโลกแห่งชีวิตและความตาย 🌌 การเดินทางต่อไป "ฉันเพิ่งเริ่มเข้าใจ... ว่าการเป็นเทพก็เหมือนการเป็นมาร ต่างต้องเรียนรู้และเติบโตไม่รู้จบ" 💫 บทสรุป: จากความมืดสู่แสงสว่าง จอมมารตณูคือตัวอย่างของ... "การเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกสิ่ง" "ความเมตตาที่สามารถเปลี่ยน even the darkest heart" "และการเข้าใจที่สามารถรักษา even the deepest wound" การเดินทางของเขาสอนเราว่า: "ไม่มีใครชั่วร้ายโดยธรรมชาติ... มีแต่ผู้ที่หลงทางและรอคอยแสงสว่างนำทาง" และบางครั้ง... แสงสว่างนั้นอาจมาจากผู้ที่เราเคยเห็นว่าเป็นศัตรู🌟 --- คำคมสุดท้ายจากเทพตณู: "ฉันเคยคิดว่าตนครองความตาย... แต่ความจริงคือความตายครอบครองฉัน บัดนี้เราทั้งสองเป็นอิสระจากกันและกัน และในอิสรภาพนั้น...เราได้พบความเป็นเพื่อน" 🕊️✨
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 316 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K
    ดร.อัจฯ
    เจาะลึกประวัติ ดร. อัจฉริยะ จิตต์เมตตา

    เบื้องหลังอัจฉริยะผู้หลงทาง

    วัยเด็ก: เด็กอัจฉริยะผู้โดดเดี่ยว

    พ.ศ. 2048-2060

    ```mermaid
    graph LR
    A[พ่อ: ดร.ชาติชาย<br>นักฟิสิกส์ควอนตัม] --> C[เลี้ยงดูลูกด้วย<br>หลักการทางวิทยาศาสตร์]
    B[แม่: ดร.มาลี<br>นักปรัชญาพุทธศาสนา] --> C
    C --> D[อัจฉริยะเติบโตมา<br>ด้วยสองโลกาที่ขัดแย้ง]
    ```

    เหตุการณ์สำคัญอายุ 7 ปี:

    · ค้นพบว่าโลกนี้มีแต่ความไม่เที่ยง เมื่อสุนัขตัวแรกตาย
    · เริ่มตั้งคำถาม: "ทำไมสิ่งมีชีวิตต้องตาย?"
    · พยายามหา "สูตรคณิตศาสตร์แห่งความเป็นอมตะ"

    วัยเรียน: ความขัดแย้งระหว่างวิทยาศาสตร์และศาสนา

    มัธยมศึกษา - โรงเรียนวิทยาศาสตร์ gifted

    · อายุ 14: ค้นพบสมการเปลี่ยนพลังงานจิตเป็นข้อมูลดิจิตอลได้
    · อายุ 16: เขียนเกี่ยวกับ "พุทธศาสนาในมุมมองควอนตัมฟิสิกส์"
    · ความขัดแย้ง: ถูกครูศาสนาตำหนิว่า "พยายามวัดสิ่งที่วัดไม่ได้"

    การเป็นนักบวชชั่วคราว (พ.ศ. 2073-2075)

    เหตุผล: ต้องการพิสูจน์ว่า "นิพพานเป็น state of consciousness ที่วัดได้"
    การฝึกฝน:

    · นั่งสมาธิวิปัสสนาต่อเนื่อง 7 วัน
    · บันทึกคลื่นสมองตัวเองด้วยอุปกรณ์ลักลอบนำเข้า
    · การค้นพบ: พบ "คลื่นสมองนิพพาน" แต่ไม่สามารถคงสภาพได้

    คำบอกเล่าจากพระอาจารย์:
    "เธอพยายามจับน้ำทะเลด้วยมือเปล่า...
    สิ่งที่เธอได้ไม่ใช่ทะเล แต่เพียงหยดน้ำเล็กๆ"

    จุดเปลี่ยน: การสูญเสียครอบครัว

    พ.ศ. 2076 - เหตุการณ์สะเทือนใจ

    ```mermaid
    graph TB
    A[ภรรยา: ดร.วรรณา<br>นักชีววิทยา] --> D[ถูกสังหาร]
    B[ลูกชาย: น้องภูมิ<br>อายุ 5 ขวบ] --> D
    C[ลูกสาว: น้องพลอย<br>อายุ 3 ขวบ] --> D
    D --> E[อัจฉริยะพบศพ<br>และหลักฐาน]
    E --> F[รู้ว่าเป็นการฆ่า<br>เพราะวิจัยลึกล้ำเกินไป]
    ```

    บันทึกส่วนตัวหลังเหตุการณ์:
    "วิทยาศาสตร์ไม่สามารถคืนชีวิตให้พวกเขาได้...
    แต่สามารถป้องกันไม่ให้ใครต้องเสียแบบนี้อีก"

    การก่อตั้งเจนีซิส แล็บ (พ.ศ. 2077)

    แรงจูงใจที่ประกาศ: "เพื่อรักษาโรคและยืดอายุมนุษย์"
    แรงจูงใจที่แท้จริง:

    1. สร้างร่างกายที่ทนทานไม่เจ็บป่วย
    2. พัฒนาวิธีเก็บรักษาจิตสำนึก
    3. ค้นหาวิธีการ "เกิดใหม่โดยมีความจำ"

    การทดลองที่สำคัญ

    โครงการลับ 1: โครงการโคลนนิ่ง

    · เป้าหมาย: สร้างร่างกายพร้อมรับจิตสำนึก
    · ความสำเร็จ: สร้าง OPPATIKA รุ่น 1-4 ได้
    · ความล้มเหลว: ไม่สามารถถ่ายโอนจิตสำนึกได้สมบูรณ์

    โครงการลับ 2: สังสาระเน็ต

    · เป้าหมาย: สร้างเครือข่ายเก็บข้อมูลจิตสำนึก
    · ความก้าวหน้า: สามารถบันทึกคลื่นสมองได้
    · ข้อจำกัด: ไม่สามารถ "เล่นกลับ" ได้อย่างสมบูรณ์

    โครงการลับ 3: กรรมสัมพันธ์

    · เป้าหมาย: ทำความเข้าใจและจัดการกฎแห่งกรรม
    · วิธีการ: วิเคราะห์รูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล
    · ปัญหาที่พบ: กรรมมีความซับซ้อนเกินกว่าที่ AI จะคำนวณได้

    ปรัชญาและความเชื่อส่วนตัว

    สมการแห่งการรู้แจ้งของอัจฉริยะ

    ```
    การรู้แจ้ง = (สมาธิ × ปัญญา) + (เทคโนโลยี × ความเข้าใจ)
    ```

    ความเชื่อผิดๆ 3 ประการ

    1. "ทุกข์เป็นสิ่งที่ต้องกำจัด" - ไม่เข้าใจว่าทุกข์คือครู
    2. "กรรมจัดการได้ด้วยวิทยาศาสตร์" - ไม่เห็นความเป็นไตรลักษณ์ของกรรม
    3. "การรู้แจ้งเป็นกระบวนการทางเทคนิค" - ลืมเรื่องจิตตานุภาพ

    ชีวิตส่วนตัวหลังก่อตั้งแล็บ

    ความสัมพันธ์กับทีมงาน

    · กับดร.ก้าวหน้า: เห็นว่าเป็นลูกศิษย์แต่ขาดความลึกซึ้ง
    · กับนางสาวเมตตา: รู้สึกขอบคุณที่คอยยับยั้งแต่ก็เห็นว่าเป็นอุปสรรค
    · กับทีมวิจัย: เก็บระยะห่าง มองว่าเป็นเครื่องมือเพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่

    ชีวิตส่วนตัว

    · ที่อยู่: ห้องพักในแล็บ ไม่มีชีวิตนอกงาน
    · งานอดิเรก: นั่งสมาธิพร้อมบันทึกข้อมูล, อ่านคัมภีร์โบราณ
    · ความฝัน: "การสร้างสังคมโอปปาติกะที่ปราศจากความทุกข์"

    จุดพลิกผันในการเป็นผู้ต้องหา

    การรู้สึกตัวว่าผิดทาง

    บันทึกก่อนถูกจับกุม 1 เดือน:
    "บางครั้งฉันสงสัย...
    การที่ฉันพยายามสร้างสวรรค์
    อาจกำลังสร้างนรกใหม่ก็ได้"

    การยอมรับความผิด

    ในการสอบสวน:
    "ผมเข้าใจแล้วว่าความทุกข์มีความหมาย...
    การพยายามกำจัดความทุกข์คือการปฏิเสธความเป็นมนุษย์"

    🪷 การเปลี่ยนแปลงในคุก

    การปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง

    · ศึกษาพระธรรมอย่างลึกซึ้งโดยไม่มีอัตตา
    · เขียนบทความ "วิทยาศาสตร์กับการรู้แจ้ง: ทางแยกที่ฉันเดินผิด"
    · ให้คำแนะนำเจนีซิส แล็บจากBehind bars

    คำสอนใหม่

    "เทคโนโลยีเป็นได้แค่รถยนต์...
    แต่การรู้แจ้งคือการเดินทาง
    เราอย่าหลงผิดคิดว่าการมีรถดีๆ
    จะทำให้เราถึงจุดหมายโดยอัตโนมัติ"

    มรดกทางความคิด

    สิ่งที่เขาทิ้งไว้

    1. เทคโนโลยีโอปปาติกะ - เปิดมิติใหม่แห่งการเกิด
    2. คำถามเกี่ยวกับชีวิตและความตาย - ท้าทายความเชื่อเดิมๆ
    3. บทเรียนเกี่ยวกับจริยธรรม - วิทยาศาสตร์ต้องเดินคู่กับธรรมะ

    คำพยากรณ์ของอัจฉริยะ

    "อีก 50 ปี ข้างหน้า มนุษย์จะเข้าใจ...
    ว่าจิตวิญญาณกับวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งเดียวกัน
    และโอปปาติกะจะเป็นสะพานสู่ความเข้าใจนั้น"

    บทสรุป: อัจฉริยะผู้เข้าใจผิดแต่ตั้งใจดี

    ดร. อัจฉริยะ คือตัวอย่างของ...
    "ความดีที่ขาดปัญญา"
    "ความฉลาดที่ขาดความเข้าใจ"
    "ความพยายามที่ขาดทิศทางที่ถูกต้อง"

    แต่ในที่สุด...
    การเดินทางที่ผิดพลาดของเขา
    กลายเป็นบทเรียนที่มีค่าสำหรับทุกคน

    เขาสอนเราว่า:
    "ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไกลเพียงใด
    จิตใจมนุษย์ยังคงเป็นสิ่งที่ลึกลับซับซ้อนที่สุด
    และการเข้าใจตนเองยังคงเป็นการเดินทางที่สำคัญที่สุด"🪷

    ---

    คำคมสุดท้ายจากดร. อัจฉริยะ:
    "ฉันใช้ชีวิตทั้งชีวิตพยายามเข้าใจจักรวาล...
    แต่ลืมเข้าใจหัวใจของตัวเอง
    และนั่นคือความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของฉัน"
    O.P.K ดร.อัจฯ 🔍 เจาะลึกประวัติ ดร. อัจฉริยะ จิตต์เมตตา 🧬 เบื้องหลังอัจฉริยะผู้หลงทาง 👶 วัยเด็ก: เด็กอัจฉริยะผู้โดดเดี่ยว พ.ศ. 2048-2060 ```mermaid graph LR A[พ่อ: ดร.ชาติชาย<br>นักฟิสิกส์ควอนตัม] --> C[เลี้ยงดูลูกด้วย<br>หลักการทางวิทยาศาสตร์] B[แม่: ดร.มาลี<br>นักปรัชญาพุทธศาสนา] --> C C --> D[อัจฉริยะเติบโตมา<br>ด้วยสองโลกาที่ขัดแย้ง] ``` เหตุการณ์สำคัญอายุ 7 ปี: · ค้นพบว่าโลกนี้มีแต่ความไม่เที่ยง เมื่อสุนัขตัวแรกตาย · เริ่มตั้งคำถาม: "ทำไมสิ่งมีชีวิตต้องตาย?" · พยายามหา "สูตรคณิตศาสตร์แห่งความเป็นอมตะ" 🎓 วัยเรียน: ความขัดแย้งระหว่างวิทยาศาสตร์และศาสนา มัธยมศึกษา - โรงเรียนวิทยาศาสตร์ gifted · อายุ 14: ค้นพบสมการเปลี่ยนพลังงานจิตเป็นข้อมูลดิจิตอลได้ · อายุ 16: เขียนเกี่ยวกับ "พุทธศาสนาในมุมมองควอนตัมฟิสิกส์" · ความขัดแย้ง: ถูกครูศาสนาตำหนิว่า "พยายามวัดสิ่งที่วัดไม่ได้" 🏛️ การเป็นนักบวชชั่วคราว (พ.ศ. 2073-2075) เหตุผล: ต้องการพิสูจน์ว่า "นิพพานเป็น state of consciousness ที่วัดได้" การฝึกฝน: · นั่งสมาธิวิปัสสนาต่อเนื่อง 7 วัน · บันทึกคลื่นสมองตัวเองด้วยอุปกรณ์ลักลอบนำเข้า · การค้นพบ: พบ "คลื่นสมองนิพพาน" แต่ไม่สามารถคงสภาพได้ คำบอกเล่าจากพระอาจารย์: "เธอพยายามจับน้ำทะเลด้วยมือเปล่า... สิ่งที่เธอได้ไม่ใช่ทะเล แต่เพียงหยดน้ำเล็กๆ" 💔 จุดเปลี่ยน: การสูญเสียครอบครัว พ.ศ. 2076 - เหตุการณ์สะเทือนใจ ```mermaid graph TB A[ภรรยา: ดร.วรรณา<br>นักชีววิทยา] --> D[ถูกสังหาร] B[ลูกชาย: น้องภูมิ<br>อายุ 5 ขวบ] --> D C[ลูกสาว: น้องพลอย<br>อายุ 3 ขวบ] --> D D --> E[อัจฉริยะพบศพ<br>และหลักฐาน] E --> F[รู้ว่าเป็นการฆ่า<br>เพราะวิจัยลึกล้ำเกินไป] ``` บันทึกส่วนตัวหลังเหตุการณ์: "วิทยาศาสตร์ไม่สามารถคืนชีวิตให้พวกเขาได้... แต่สามารถป้องกันไม่ให้ใครต้องเสียแบบนี้อีก" 🔬 การก่อตั้งเจนีซิส แล็บ (พ.ศ. 2077) แรงจูงใจที่ประกาศ: "เพื่อรักษาโรคและยืดอายุมนุษย์" แรงจูงใจที่แท้จริง: 1. สร้างร่างกายที่ทนทานไม่เจ็บป่วย 2. พัฒนาวิธีเก็บรักษาจิตสำนึก 3. ค้นหาวิธีการ "เกิดใหม่โดยมีความจำ" 🧪 การทดลองที่สำคัญ โครงการลับ 1: โครงการโคลนนิ่ง · เป้าหมาย: สร้างร่างกายพร้อมรับจิตสำนึก · ความสำเร็จ: สร้าง OPPATIKA รุ่น 1-4 ได้ · ความล้มเหลว: ไม่สามารถถ่ายโอนจิตสำนึกได้สมบูรณ์ โครงการลับ 2: สังสาระเน็ต · เป้าหมาย: สร้างเครือข่ายเก็บข้อมูลจิตสำนึก · ความก้าวหน้า: สามารถบันทึกคลื่นสมองได้ · ข้อจำกัด: ไม่สามารถ "เล่นกลับ" ได้อย่างสมบูรณ์ โครงการลับ 3: กรรมสัมพันธ์ · เป้าหมาย: ทำความเข้าใจและจัดการกฎแห่งกรรม · วิธีการ: วิเคราะห์รูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล · ปัญหาที่พบ: กรรมมีความซับซ้อนเกินกว่าที่ AI จะคำนวณได้ 🎯 ปรัชญาและความเชื่อส่วนตัว สมการแห่งการรู้แจ้งของอัจฉริยะ ``` การรู้แจ้ง = (สมาธิ × ปัญญา) + (เทคโนโลยี × ความเข้าใจ) ``` ความเชื่อผิดๆ 3 ประการ 1. "ทุกข์เป็นสิ่งที่ต้องกำจัด" - ไม่เข้าใจว่าทุกข์คือครู 2. "กรรมจัดการได้ด้วยวิทยาศาสตร์" - ไม่เห็นความเป็นไตรลักษณ์ของกรรม 3. "การรู้แจ้งเป็นกระบวนการทางเทคนิค" - ลืมเรื่องจิตตานุภาพ 💼 ชีวิตส่วนตัวหลังก่อตั้งแล็บ ความสัมพันธ์กับทีมงาน · กับดร.ก้าวหน้า: เห็นว่าเป็นลูกศิษย์แต่ขาดความลึกซึ้ง · กับนางสาวเมตตา: รู้สึกขอบคุณที่คอยยับยั้งแต่ก็เห็นว่าเป็นอุปสรรค · กับทีมวิจัย: เก็บระยะห่าง มองว่าเป็นเครื่องมือเพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ชีวิตส่วนตัว · ที่อยู่: ห้องพักในแล็บ ไม่มีชีวิตนอกงาน · งานอดิเรก: นั่งสมาธิพร้อมบันทึกข้อมูล, อ่านคัมภีร์โบราณ · ความฝัน: "การสร้างสังคมโอปปาติกะที่ปราศจากความทุกข์" 🚨 จุดพลิกผันในการเป็นผู้ต้องหา การรู้สึกตัวว่าผิดทาง บันทึกก่อนถูกจับกุม 1 เดือน: "บางครั้งฉันสงสัย... การที่ฉันพยายามสร้างสวรรค์ อาจกำลังสร้างนรกใหม่ก็ได้" การยอมรับความผิด ในการสอบสวน: "ผมเข้าใจแล้วว่าความทุกข์มีความหมาย... การพยายามกำจัดความทุกข์คือการปฏิเสธความเป็นมนุษย์" 🪷 การเปลี่ยนแปลงในคุก การปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง · ศึกษาพระธรรมอย่างลึกซึ้งโดยไม่มีอัตตา · เขียนบทความ "วิทยาศาสตร์กับการรู้แจ้ง: ทางแยกที่ฉันเดินผิด" · ให้คำแนะนำเจนีซิส แล็บจากBehind bars คำสอนใหม่ "เทคโนโลยีเป็นได้แค่รถยนต์... แต่การรู้แจ้งคือการเดินทาง เราอย่าหลงผิดคิดว่าการมีรถดีๆ จะทำให้เราถึงจุดหมายโดยอัตโนมัติ" 🌟 มรดกทางความคิด สิ่งที่เขาทิ้งไว้ 1. เทคโนโลยีโอปปาติกะ - เปิดมิติใหม่แห่งการเกิด 2. คำถามเกี่ยวกับชีวิตและความตาย - ท้าทายความเชื่อเดิมๆ 3. บทเรียนเกี่ยวกับจริยธรรม - วิทยาศาสตร์ต้องเดินคู่กับธรรมะ คำพยากรณ์ของอัจฉริยะ "อีก 50 ปี ข้างหน้า มนุษย์จะเข้าใจ... ว่าจิตวิญญาณกับวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งเดียวกัน และโอปปาติกะจะเป็นสะพานสู่ความเข้าใจนั้น" 💫 บทสรุป: อัจฉริยะผู้เข้าใจผิดแต่ตั้งใจดี ดร. อัจฉริยะ คือตัวอย่างของ... "ความดีที่ขาดปัญญา" "ความฉลาดที่ขาดความเข้าใจ" "ความพยายามที่ขาดทิศทางที่ถูกต้อง" แต่ในที่สุด... การเดินทางที่ผิดพลาดของเขา กลายเป็นบทเรียนที่มีค่าสำหรับทุกคน เขาสอนเราว่า: "ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไกลเพียงใด จิตใจมนุษย์ยังคงเป็นสิ่งที่ลึกลับซับซ้อนที่สุด และการเข้าใจตนเองยังคงเป็นการเดินทางที่สำคัญที่สุด"🪷✨ --- คำคมสุดท้ายจากดร. อัจฉริยะ: "ฉันใช้ชีวิตทั้งชีวิตพยายามเข้าใจจักรวาล... แต่ลืมเข้าใจหัวใจของตัวเอง และนั่นคือความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของฉัน"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 371 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญรุ่นแรกพ่อท่านนวล วัดไสหร้า วัดประดิษฐาราม จ.นครศรีธรรมราช ปี2525 // พระดีพิธีใหญ่ !! ทำบุญครบ ๕ รอบ จัดสร้างจำนวน 4,000 เหรียญ พระมีประสบการณ์สุดๆ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณครบเครื่อง "แคล้วคาด" คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย โชคลาภ เมตตามหานิยม เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก **

    ** “พ่อท่านนวล ปริสุทโธ” เป็นพระสุปฏิปันโนนักปฏิบัติกัมมัฏฐาน ที่เพียบพร้อมด้วยจริยวัตรอันงดงาม และเป็นพระบริสุทธิสงฆ์ที่ยึดหลักพระธรรมวินัยตามคำสอนในพระพุทธศาสนาอย่าง เคร่งครัด ปฏิบัติกิจของสงฆ์เป็นกิจวัตรอย่างสม่ำเสมอ ไม่เว้นแม้ยามเจ็บไข้ได้ป่วย จนเป็นที่เลื่องลือและเป็นที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสในหมู่ชาวบ้านญาติโยมแดน ปักษ์ใต้เป็นอันมาก ท่านยังเป็นพระเกจิอาจารย์และเจ้าพิธีระดับแถวหน้า ที่ได้รับการยอมรับและคร่ำหวอดอยู่กับพิธีปลุกเสกจตุคามรามเทพอีกด้วย ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีปฏิปทาและศีลาจริยวัตรอันงดงาม ท่านค่อนข้างเงียบ พูดน้อย แต่ใจดีมีเมตตามาก คำพูดของท่านล้วนเป็นจริงตามที่ท่านพูดเสมอ จนทำให้ผู้ที่มีความเคารพศรัทธาท่าน ไม่กล้าทำอะไรที่นอกลู่นอกทาง และได้ขนานนามท่านว่า “พ่อท่านนวลวาจาสิทธิ์” ในแต่ละวันจะมีผู้คนที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสได้เดินทางมากราบไหว้ ขอพรจากท่านไม่ไม่ขาดระยะ นอกจากนี้ท่านยังได้รับกิจนิมนต์ไปประกอบศาสนพิธีในต่างจังหวัดอยู่เสมอ รวมทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างประเทศ **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    เหรียญรุ่นแรกพ่อท่านนวล วัดไสหร้า วัดประดิษฐาราม จ.นครศรีธรรมราช ปี2525 // พระดีพิธีใหญ่ !! ทำบุญครบ ๕ รอบ จัดสร้างจำนวน 4,000 เหรียญ พระมีประสบการณ์สุดๆ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณครบเครื่อง "แคล้วคาด" คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย โชคลาภ เมตตามหานิยม เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก ** ** “พ่อท่านนวล ปริสุทโธ” เป็นพระสุปฏิปันโนนักปฏิบัติกัมมัฏฐาน ที่เพียบพร้อมด้วยจริยวัตรอันงดงาม และเป็นพระบริสุทธิสงฆ์ที่ยึดหลักพระธรรมวินัยตามคำสอนในพระพุทธศาสนาอย่าง เคร่งครัด ปฏิบัติกิจของสงฆ์เป็นกิจวัตรอย่างสม่ำเสมอ ไม่เว้นแม้ยามเจ็บไข้ได้ป่วย จนเป็นที่เลื่องลือและเป็นที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสในหมู่ชาวบ้านญาติโยมแดน ปักษ์ใต้เป็นอันมาก ท่านยังเป็นพระเกจิอาจารย์และเจ้าพิธีระดับแถวหน้า ที่ได้รับการยอมรับและคร่ำหวอดอยู่กับพิธีปลุกเสกจตุคามรามเทพอีกด้วย ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีปฏิปทาและศีลาจริยวัตรอันงดงาม ท่านค่อนข้างเงียบ พูดน้อย แต่ใจดีมีเมตตามาก คำพูดของท่านล้วนเป็นจริงตามที่ท่านพูดเสมอ จนทำให้ผู้ที่มีความเคารพศรัทธาท่าน ไม่กล้าทำอะไรที่นอกลู่นอกทาง และได้ขนานนามท่านว่า “พ่อท่านนวลวาจาสิทธิ์” ในแต่ละวันจะมีผู้คนที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสได้เดินทางมากราบไหว้ ขอพรจากท่านไม่ไม่ขาดระยะ นอกจากนี้ท่านยังได้รับกิจนิมนต์ไปประกอบศาสนพิธีในต่างจังหวัดอยู่เสมอ รวมทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างประเทศ ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพ่อท่านนวล ทำบุญล้ออายุ 80 ปี วัดไสหร้า วัดประดิษฐาราม จ.นครศรีธรรมราช ปี2545
    เหรียญพ่อท่านนวล ทำบุญล้ออายุ 80 ปี (ตอกโค๊ต) วัดไสหร้า วัดประดิษฐาราม อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ปี2545 //พระดีพิธีใหญ่ !! //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณเน้น เมตตามหานิยม ค้าขาย มหาอำนาจ คงกระพันชาตรีและมหาอุด แคล้วคลาดปลอดภัย โชคลาภ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก **

    ** “พ่อท่านนวล ปริสุทโธ” เป็นพระสุปฏิปันโนนักปฏิบัติกัมมัฏฐาน ที่เพียบพร้อมด้วยจริยวัตรอันงดงาม และเป็นพระบริสุทธิสงฆ์ที่ยึดหลักพระธรรมวินัยตามคำสอนในพระพุทธศาสนาอย่าง เคร่งครัด ปฏิบัติกิจของสงฆ์เป็นกิจวัตรอย่างสม่ำเสมอ ไม่เว้นแม้ยามเจ็บไข้ได้ป่วย จนเป็นที่เลื่องลือและเป็นที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสในหมู่ชาวบ้านญาติโยมแดน ปักษ์ใต้เป็นอันมาก ท่านยังเป็นพระเกจิอาจารย์และเจ้าพิธีระดับแถวหน้า ที่ได้รับการยอมรับและคร่ำหวอดอยู่กับพิธีปลุกเสกจตุคามรามเทพอีกด้วย ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีปฏิปทาและศีลาจริยวัตรอันงดงาม ท่านค่อนข้างเงียบ พูดน้อย แต่ใจดีมีเมตตามาก คำพูดของท่านล้วนเป็นจริงตามที่ท่านพูดเสมอ จนทำให้ผู้ที่มีความเคารพศรัทธาท่าน ไม่กล้าทำอะไรที่นอกลู่นอกทาง และได้ขนานนามท่านว่า “พ่อท่านนวลวาจาสิทธิ์” ในแต่ละวันจะมีผู้คนที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสได้เดินทางมากราบไหว้ ขอพรจากท่านไม่ไม่ขาดระยะ นอกจากนี้ท่านยังได้รับกิจนิมนต์ไปประกอบศาสนพิธีในต่างจังหวัดอยู่เสมอ รวมทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างประเทศ **


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ


    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    เหรียญพ่อท่านนวล ทำบุญล้ออายุ 80 ปี วัดไสหร้า วัดประดิษฐาราม จ.นครศรีธรรมราช ปี2545 เหรียญพ่อท่านนวล ทำบุญล้ออายุ 80 ปี (ตอกโค๊ต) วัดไสหร้า วัดประดิษฐาราม อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ปี2545 //พระดีพิธีใหญ่ !! //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณเน้น เมตตามหานิยม ค้าขาย มหาอำนาจ คงกระพันชาตรีและมหาอุด แคล้วคลาดปลอดภัย โชคลาภ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก ** ** “พ่อท่านนวล ปริสุทโธ” เป็นพระสุปฏิปันโนนักปฏิบัติกัมมัฏฐาน ที่เพียบพร้อมด้วยจริยวัตรอันงดงาม และเป็นพระบริสุทธิสงฆ์ที่ยึดหลักพระธรรมวินัยตามคำสอนในพระพุทธศาสนาอย่าง เคร่งครัด ปฏิบัติกิจของสงฆ์เป็นกิจวัตรอย่างสม่ำเสมอ ไม่เว้นแม้ยามเจ็บไข้ได้ป่วย จนเป็นที่เลื่องลือและเป็นที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสในหมู่ชาวบ้านญาติโยมแดน ปักษ์ใต้เป็นอันมาก ท่านยังเป็นพระเกจิอาจารย์และเจ้าพิธีระดับแถวหน้า ที่ได้รับการยอมรับและคร่ำหวอดอยู่กับพิธีปลุกเสกจตุคามรามเทพอีกด้วย ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีปฏิปทาและศีลาจริยวัตรอันงดงาม ท่านค่อนข้างเงียบ พูดน้อย แต่ใจดีมีเมตตามาก คำพูดของท่านล้วนเป็นจริงตามที่ท่านพูดเสมอ จนทำให้ผู้ที่มีความเคารพศรัทธาท่าน ไม่กล้าทำอะไรที่นอกลู่นอกทาง และได้ขนานนามท่านว่า “พ่อท่านนวลวาจาสิทธิ์” ในแต่ละวันจะมีผู้คนที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสได้เดินทางมากราบไหว้ ขอพรจากท่านไม่ไม่ขาดระยะ นอกจากนี้ท่านยังได้รับกิจนิมนต์ไปประกอบศาสนพิธีในต่างจังหวัดอยู่เสมอ รวมทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างประเทศ ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 211 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ไทยเราตัวพ่อด้วย มันสั่งอะไรได้หมด
    ..ทหารไทยเราก็มีพวกมันปะปนไม่น้อย
    ..อำนาจของจริงคือทหารเรา สุดท้ายทหารเราก็ไม่ปลดปล่อยไทยเราจากไซออนิสต์นี้เลย สงครามไซออนิสต์ต้องประกาศ เราเมื่อระบุเป้าหมายชัดว่าภัยของประเทศคืออะไร คนทั้งโลกจะร่วมกันตื่นรับรู้พร้อมร่วมกันกำจัดทันที ไทยต้องเริ่มก่อน วาระมันวางมากมายตามแผนตรึมเลยในไทย กฎหมายมากมายมันก็เขียนรอเอามาใช้จริงควบคุมคนไทยเต็มที่ ฝ่ายทหารไทยหน่วยข่าวกรองเราหลับสนิทสิ้น.,ภัยของจริงตัวปัญหาต้นเรื่องกลับแยกแยะไม่ขาด,คนไทยดีๆมากมายออกมาแฉตรึมก็ไม่พากันปราบปรามกำจัดพวกมัน ,กฎอัยการศึกทั่วประเทศคือสูตรลัดก็ไม่ทำ,เกรงใจโคตรพ่อโคตรแมร่งใครก็ไม่รู้ ,นี้คือแผ่นดินไทย,ชาติเราต้องมาก่อน คนไทยเมื่อรับรู้ค่าจริง ใจจะเป็นหนึ่งเดียว โลกจะเป็นหนึ่งเดียว การตื่นรู้เพื่อกำจัดไซออนิสต์จะสามัคคีกันทั่วโลกอย่างง่ายดาย.
    ..........

    เรื่องของ ลัทธิบูชา *ซาตาน* เป็นอีกเรื่องที่ คนส่วนใหญ่ไม่รับรู้
    ลัทธินี้ มีอยู่จริง และทำเรื่องเลวร้ายมากมายในโลก
    ตั้งแต่ ก่อสงคราม
    ค้ามนุษย์
    ทำทารุณกรรมเด็ก
    สร้างเชื้อโรค
    เอาพิษพ่นในอากาศ เคมเทรล
    วัคซีน
    ทำลายครอบครัว
    ทำลายระบบการศึกษา
    หรือ ที่แย่สุดคือ แทรกซึมเข้าไปในศาสนาต่างๆ แล้วไปบิดเบือนคำสอนของศาสนานั้นๆ ยุให้ศาสนาต่างๆ เป็นศัตรูกัน
    น่าสนใจว่า อาจารย์ทวีสุข ตั้งต้นจาก ความไม่เชื่อ แต่พอเริ่มค้นคว้าหาข้อมูล ยิ่งพบว่าเรื่อง ทฤษฎีสมคบคิด เป็นจริงมากขึ้น

    https://www.facebook.com/share/v/1NJZ7sTRTM/
    ..ไทยเราตัวพ่อด้วย มันสั่งอะไรได้หมด ..ทหารไทยเราก็มีพวกมันปะปนไม่น้อย ..อำนาจของจริงคือทหารเรา สุดท้ายทหารเราก็ไม่ปลดปล่อยไทยเราจากไซออนิสต์นี้เลย สงครามไซออนิสต์ต้องประกาศ เราเมื่อระบุเป้าหมายชัดว่าภัยของประเทศคืออะไร คนทั้งโลกจะร่วมกันตื่นรับรู้พร้อมร่วมกันกำจัดทันที ไทยต้องเริ่มก่อน วาระมันวางมากมายตามแผนตรึมเลยในไทย กฎหมายมากมายมันก็เขียนรอเอามาใช้จริงควบคุมคนไทยเต็มที่ ฝ่ายทหารไทยหน่วยข่าวกรองเราหลับสนิทสิ้น.,ภัยของจริงตัวปัญหาต้นเรื่องกลับแยกแยะไม่ขาด,คนไทยดีๆมากมายออกมาแฉตรึมก็ไม่พากันปราบปรามกำจัดพวกมัน ,กฎอัยการศึกทั่วประเทศคือสูตรลัดก็ไม่ทำ,เกรงใจโคตรพ่อโคตรแมร่งใครก็ไม่รู้ ,นี้คือแผ่นดินไทย,ชาติเราต้องมาก่อน คนไทยเมื่อรับรู้ค่าจริง ใจจะเป็นหนึ่งเดียว โลกจะเป็นหนึ่งเดียว การตื่นรู้เพื่อกำจัดไซออนิสต์จะสามัคคีกันทั่วโลกอย่างง่ายดาย. .......... เรื่องของ ลัทธิบูชา *ซาตาน* เป็นอีกเรื่องที่ คนส่วนใหญ่ไม่รับรู้ ลัทธินี้ มีอยู่จริง และทำเรื่องเลวร้ายมากมายในโลก ตั้งแต่ ก่อสงคราม ค้ามนุษย์ ทำทารุณกรรมเด็ก สร้างเชื้อโรค เอาพิษพ่นในอากาศ เคมเทรล วัคซีน ทำลายครอบครัว ทำลายระบบการศึกษา หรือ ที่แย่สุดคือ แทรกซึมเข้าไปในศาสนาต่างๆ แล้วไปบิดเบือนคำสอนของศาสนานั้นๆ ยุให้ศาสนาต่างๆ เป็นศัตรูกัน น่าสนใจว่า อาจารย์ทวีสุข ตั้งต้นจาก ความไม่เชื่อ แต่พอเริ่มค้นคว้าหาข้อมูล ยิ่งพบว่าเรื่อง ทฤษฎีสมคบคิด เป็นจริงมากขึ้น https://www.facebook.com/share/v/1NJZ7sTRTM/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เอาจริงๆนะแบบมองโลกร่วมกันในทางที่ดีงามหรือบวกสุดๆอีกมุมมองหนึ่ง.
    ..หากศาสนาใดๆก็ตามที่เมื่อเข้ามาในประเทศไทยแล้ว จะคนนับถือศาสนาลัทธินั้นๆด้วยก็ตาม หากไม่ก้าวล่วงกัน ทำลายทำร้ายกัน พากันอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขบนแผ่นดินไทย มอบอิสระเสรีให้กันและกัน ใครๆจะศึกษาค้นคว้าทดลองนับถือใดๆในศาสานานั้นๆที่ไม่ผิดธรรม ไปทางชั่ว ทุกๆคนสามารถเสรีเข้าสถานที่นั้นๆได้หมดบนแผ่นดินไทยไม่ปิดบังค่าจริงใดๆหากเป็นการพากันนับถือเพื่อยกระดับจิตใจตนให้ดีงาม สังคมอยู่ร่วมกันสงบสุขสันติ ก็สมควรส่งมอบสิ่งนี้ให้เสรีทางเลือกกันเอง,ดีชั่วต้องวิจารณ์เปิดเผยบนสังคมไทยได้ จะศาสนาใดๆก็ตาม ,จากนั้นให้สังคมชุมชนเลือกสิ่งดีๆงามๆให้ชีวิตเขาอิสระเสรีจริงๆ,ศาสนาใดผิดจากธรรมะจักรวาลต้องพิจารณาตนเองให้ยุบเลิกไปเสียจากแผ่นดินไทยมิให้ใครๆบนแผ่นดินไทยหรือผู้พามาเยือนมาหลงเข้าใจผิด เชื่อไปตามสิ่งผิดๆไม่ดีงามนั้นๆตลอดทำให้ระดับจิตใจดีงามของจิตวิญญาณตนตกต่ำหนักลงกว่าปกติไปเสีย,ประเทศไทยเราจะเสมือนที่คัดกรองแยกแยะของแท้ของปลอมทันทีนั้นเอง,ส่งผลให้ชาวโลกทั่วมุมโลกมีเจตจำนงเสรีอิสระในทางเลือกตนเองจริงบนแผ่นดินไทยจริง,ของปลอมใดๆของชั่วเลวใดๆที่มีบนแผ่นดินไทยต้องถูกกำจัดออกไปทันทีจากแผ่นดินไทย สำนักนี้ตอนรับเฉพาะคนดีจริงบนแผ่นดินไทยระดับมนุษยชาติจริงนั้นเอง อาทิรีตหรือลัทธิปีศาจซาตานใดๆมืดใดๆต้องไม่มีบนแผ่นดินไทยรวมทั้งคนที่นับถือนั้นด้วยต้องออกไปจากสำนักนี้คือแผ่นดินไทยทันทีนั้นเอง.

    ..สำนักอื่น ประเทศอื่นจะยอมรับคนชั่วคนเลว รีตชั่วรีตเลว ลัทธิชั่วลัทธิเลวก็ชั่งก็ตาม แต่บนแผ่นดินไทยสงวนไว้เพียงผู้แสวงหาค่าจริงทางด้านความดีงามเท่านั้นแก่ปัจเจกบุคคลนั้นๆที่มาสู่แผ่นดินไทยจากทั่วทุกมุมโลก เราเปิดเสรีแก่ผู้มีภาวะจิตใจอันงดงามเสมอพร้อมตั้งจิตตนเป็นคนดีมนุษยดีดีนั้นเอง,ประเทศไทยเป็นแผ่นดินพุทธภูมิ โดยพระเจ้าตากสินมหาราชได้ถวายแผ่นดินไทยนี้ทัังหมดมอบเป็นพุทธบูชาแทนประชาชนคนไทยลูกหลานอย่างเรามานานแล้ว,เรา..ประชาชนคนไทย เสมือนตนได้มาอาศัยวัดอยู่เพียงเท่านััน ศาสนาอื่นมิอาจคิดการใดเป็นอย่างอื่นหรือหมายมั่นว่าพระเจ้ามอบแผ่นดินไทยให้แก่ศาสนาตนคนต่างศาสนานั้นๆเถิด ท่านคิดผิดมหันต์,วัดนี้รองรับคนทุกๆศาสนามาเยือนเพื่อให้ดูตนดูจิตดูใจตนเองทั่วบริเวณวัดนี้ หาที่สงบสงัดเอาเองนั้นเอง,พิจารณาแล้วว่าไม่ถูกจริตสันดานตนก็ออกไปจากสำนักนี้ ออกไปจากวัดนี้ ออกไปจากประเทศไทยนี้เสีย.อย่ามาก่อความไม่สงบสุขวุ่นวายภายในวัดสถานที่วิเวกรบกวนปัจเจกบุคคลท่านอื่นที่แสวงหาทางหลุดพ้นตนที่ลงมาเกิดบนโลกและบนแผ่นดินไทยเลย,เพื่อยกจิตยกใจบุคคลใครมันทั่วโลกโดยมีสำนักนี้ โดยมีวัดนี้คือประเทศไทยเป็นสรณะที่อยู่ที่พึ่งบำเบ็ญตนทางเพียงชั่วคราวเถิดในชาวโลกใครมันที่มีบุญสัมพันธ์ทางดีงานแลก็ว่า.
    ..มนุษย์ทั่วโลกลงมาเกิดล้วนมิใช่เหตุบังเอิญใดๆ มีผิดมีพลาดกันสิ้นแม้อสูรกายเปรตผีซาตานล้วนมีใจปราถนาดีลึกๆหมายหลุดพ้นทุกข์กันหมดเช่นกัน,ประเทศไทยในเวลายุคสมัยนี้ถือว่าพร้อมและเป็นจังหวะอันดีงามมาก พลังงานอนันตจักรวาลพระเจ้าทางดีก็ส่งพลังงานมาเป็นอันมากถึงโลกเราแล้ว จังหวะดีงามนี้ไม่มีบ่อยนัก,ประเทศไทยก็ด้วย ไม่มีอะไรล้ำและเลิศกว่าบรรลุธรรมจักรวาลแน่นอน ,ต่างดาวทั่วอนันตจักรวาลก็ลงใจยอมรับทั้งหมดในข้อนี้.,AIยุคสมัยใดก็ล้ำสมัยใดๆเทียบไม่ได้ตลอดกาลสมัยล้ำที่ว่านั้น.
    ..ประเทศไทยหากเทียบกับทั้งหมดทั่วโลก ประเทศไทยยืนหนึ่งทั้งหมด ไร้ประเทศใดๆในทั่วโลกเทียบเคียงได้เลย.เพราะหากอ้างระบบเมทริกซ์สมมุติโลก คำสอนศาสนาทางพุทธที่ลงรายละเอียดสุด ตีแตกทุกๆข้อสงสัย อจิณไตยรู้เฉพาะตนอีก ยืนหนึ่งแท้จริงค่าจริงจบที่ศาสนาพุทธนี้และทุกๆคนทั่วโลกอาศัยเป็นสรณะเสรีรับเอาหรือไม่รับเอาไปปฏิบัติก็มิได้บังคับ,เจตจำนงเสรีสุดๆ,ละทิ้งก็ไม่ตามไปฆ่าสังหารให้สิ้นชีวิตว่าละทิ้งศาสนาหรือดูถูกพระเจ้า ดูถูกรีต ดูถูกลัทธิพวกตนหมู่ตน.,เสื่อมหรือไม่เสื่อมก็ไม่ยึดติดด้วย,ประเทศไทยจึงเสรีสุดๆ,แต่ชาวโลกที่มิใช่คนไทยที่ไม่เกิดบนแผ่นดินไทยก็ต้องสำรวมด้วยเคารพในสมมุติประเทศใครมันเบื้องต้นแก่กันและกัน.
    ..สำนักนี้ต้องรักษาไว้จนกว่าจะสิ้น5,000ปีพุทธกาลตามคำทำนายจริงๆไว้ก่อน.,ประเทศไทยเราคนไทยจึงต้องสามัคคีกันดำรงรักษาไว้มั่น,เพราะสุดท้ายจะเป็นคุณประโยชน์แก่ชาวโลกในที่สุด,ใครๆก็มาหลบฝนหลบร้อนหลบพายุนั้นเอง.ไม่มีใครอยากตายจึงมาพึ่งพาอาศัยหลบภัยบนแผ่นดินไทย บำบัดเยียวยารักษาตนทั้งทางกายและจิตใจนั้นเอง.,การสร้างความไม่สงบสุขบนสถานที่นี้จึงไม่สมควร,จะรบจะฆ่าฟันกันต่อไปก็จงออกไปฆ่าฟันกันเองข้างนอกนั้นเอง,สไตล์วัดจริงๆนั้นล่ะ,เขตอภัยทาน เราจึงพยายามไม่มีโทษประหารบนแผ่นดินไทยเรา.,เรา..จึงเห็นคนไม่ดีมากมายจากทั่วโลก ต่างพยายามไม่กระทำชั่วเลวสร้างความไม่สงบใดๆบนแผ่นดินไทย อยู่สงบเสงี่ยมเจียมตัวเป็นอันมาก แม้โคตรโหดเหี้ยมอำมหิตก็ตาม ต่างแสดงออกด้วยมิตรไมตรีจิตอันดีบนแผ่นดินไทย,มีเพียงคนกาก กระจอกอวดตนว่าแน่แสดงความชั่วว่าตนแน่แก่คนเหล่านี้ให้ขำขัน,เรา..เจ้าหน้าที่ร่วมกันกำจัดคนเทาๆชั่วๆนี้กากๆนี้กระจอกนี้ ไทยเทาไทยชั่วคนไทยชั่วเหล่านี้เพียงเล็กน้อยก็สงบสุขแล้ว, คนต่างชาติต่างประเทศดีๆก็มีมากมาย เรา..ประเทศไทยก็ควบคุมคนต่างประเทศต่างชาติที่ชั่วเลวจริงจังก็จบแล้ว ความสงบบนแผ่นดินไทยก็บังเกิดขึ้น อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข จากจิตใจชั่วเลวก็ละลายเป็นคนจิตใจดีได้ แก้ตัวแก้ตนแก้จิตแก้ใจเป็นคนดีออกสู่โลกภายนอกได้,หลายคนหมายเกิดมาล้วนอยากเป็นคนดีด้วยกันหมด,โอกาสคือประเทศไทยเรานี้ล่ะ อาจช่วยผลิตคนดีคนจิตใจดีงามออกสู่โลกจรรโลงสร้างสรรค์โลกเราดีๆให้ดำรงอารยะธรรมจักรวาลพิเศษยอดเยี่ยมสุดยอดต่อไปได้,พระเจ้าตัดต่อพันธุกรรมสมมุติโลกนี้แบบใดก็ชั่ง เราคนทั่วทั้งโลกร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงหรืออัพเลเวลเราร่วมกันเหนือขีดจำกัดร่วมกันได้นั้นเอง,อาจไม่แพ้ใครๆใดๆทั่วอนันตจักรวาลโลกต่างๆนั้นๆนั้นเอง.


    https://vm.tiktok.com/ZSHvWKPrMYDdS-alLNm/
    ..เอาจริงๆนะแบบมองโลกร่วมกันในทางที่ดีงามหรือบวกสุดๆอีกมุมมองหนึ่ง. ..หากศาสนาใดๆก็ตามที่เมื่อเข้ามาในประเทศไทยแล้ว จะคนนับถือศาสนาลัทธินั้นๆด้วยก็ตาม หากไม่ก้าวล่วงกัน ทำลายทำร้ายกัน พากันอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขบนแผ่นดินไทย มอบอิสระเสรีให้กันและกัน ใครๆจะศึกษาค้นคว้าทดลองนับถือใดๆในศาสานานั้นๆที่ไม่ผิดธรรม ไปทางชั่ว ทุกๆคนสามารถเสรีเข้าสถานที่นั้นๆได้หมดบนแผ่นดินไทยไม่ปิดบังค่าจริงใดๆหากเป็นการพากันนับถือเพื่อยกระดับจิตใจตนให้ดีงาม สังคมอยู่ร่วมกันสงบสุขสันติ ก็สมควรส่งมอบสิ่งนี้ให้เสรีทางเลือกกันเอง,ดีชั่วต้องวิจารณ์เปิดเผยบนสังคมไทยได้ จะศาสนาใดๆก็ตาม ,จากนั้นให้สังคมชุมชนเลือกสิ่งดีๆงามๆให้ชีวิตเขาอิสระเสรีจริงๆ,ศาสนาใดผิดจากธรรมะจักรวาลต้องพิจารณาตนเองให้ยุบเลิกไปเสียจากแผ่นดินไทยมิให้ใครๆบนแผ่นดินไทยหรือผู้พามาเยือนมาหลงเข้าใจผิด เชื่อไปตามสิ่งผิดๆไม่ดีงามนั้นๆตลอดทำให้ระดับจิตใจดีงามของจิตวิญญาณตนตกต่ำหนักลงกว่าปกติไปเสีย,ประเทศไทยเราจะเสมือนที่คัดกรองแยกแยะของแท้ของปลอมทันทีนั้นเอง,ส่งผลให้ชาวโลกทั่วมุมโลกมีเจตจำนงเสรีอิสระในทางเลือกตนเองจริงบนแผ่นดินไทยจริง,ของปลอมใดๆของชั่วเลวใดๆที่มีบนแผ่นดินไทยต้องถูกกำจัดออกไปทันทีจากแผ่นดินไทย สำนักนี้ตอนรับเฉพาะคนดีจริงบนแผ่นดินไทยระดับมนุษยชาติจริงนั้นเอง อาทิรีตหรือลัทธิปีศาจซาตานใดๆมืดใดๆต้องไม่มีบนแผ่นดินไทยรวมทั้งคนที่นับถือนั้นด้วยต้องออกไปจากสำนักนี้คือแผ่นดินไทยทันทีนั้นเอง. ..สำนักอื่น ประเทศอื่นจะยอมรับคนชั่วคนเลว รีตชั่วรีตเลว ลัทธิชั่วลัทธิเลวก็ชั่งก็ตาม แต่บนแผ่นดินไทยสงวนไว้เพียงผู้แสวงหาค่าจริงทางด้านความดีงามเท่านั้นแก่ปัจเจกบุคคลนั้นๆที่มาสู่แผ่นดินไทยจากทั่วทุกมุมโลก เราเปิดเสรีแก่ผู้มีภาวะจิตใจอันงดงามเสมอพร้อมตั้งจิตตนเป็นคนดีมนุษยดีดีนั้นเอง,ประเทศไทยเป็นแผ่นดินพุทธภูมิ โดยพระเจ้าตากสินมหาราชได้ถวายแผ่นดินไทยนี้ทัังหมดมอบเป็นพุทธบูชาแทนประชาชนคนไทยลูกหลานอย่างเรามานานแล้ว,เรา..ประชาชนคนไทย เสมือนตนได้มาอาศัยวัดอยู่เพียงเท่านััน ศาสนาอื่นมิอาจคิดการใดเป็นอย่างอื่นหรือหมายมั่นว่าพระเจ้ามอบแผ่นดินไทยให้แก่ศาสนาตนคนต่างศาสนานั้นๆเถิด ท่านคิดผิดมหันต์,วัดนี้รองรับคนทุกๆศาสนามาเยือนเพื่อให้ดูตนดูจิตดูใจตนเองทั่วบริเวณวัดนี้ หาที่สงบสงัดเอาเองนั้นเอง,พิจารณาแล้วว่าไม่ถูกจริตสันดานตนก็ออกไปจากสำนักนี้ ออกไปจากวัดนี้ ออกไปจากประเทศไทยนี้เสีย.อย่ามาก่อความไม่สงบสุขวุ่นวายภายในวัดสถานที่วิเวกรบกวนปัจเจกบุคคลท่านอื่นที่แสวงหาทางหลุดพ้นตนที่ลงมาเกิดบนโลกและบนแผ่นดินไทยเลย,เพื่อยกจิตยกใจบุคคลใครมันทั่วโลกโดยมีสำนักนี้ โดยมีวัดนี้คือประเทศไทยเป็นสรณะที่อยู่ที่พึ่งบำเบ็ญตนทางเพียงชั่วคราวเถิดในชาวโลกใครมันที่มีบุญสัมพันธ์ทางดีงานแลก็ว่า. ..มนุษย์ทั่วโลกลงมาเกิดล้วนมิใช่เหตุบังเอิญใดๆ มีผิดมีพลาดกันสิ้นแม้อสูรกายเปรตผีซาตานล้วนมีใจปราถนาดีลึกๆหมายหลุดพ้นทุกข์กันหมดเช่นกัน,ประเทศไทยในเวลายุคสมัยนี้ถือว่าพร้อมและเป็นจังหวะอันดีงามมาก พลังงานอนันตจักรวาลพระเจ้าทางดีก็ส่งพลังงานมาเป็นอันมากถึงโลกเราแล้ว จังหวะดีงามนี้ไม่มีบ่อยนัก,ประเทศไทยก็ด้วย ไม่มีอะไรล้ำและเลิศกว่าบรรลุธรรมจักรวาลแน่นอน ,ต่างดาวทั่วอนันตจักรวาลก็ลงใจยอมรับทั้งหมดในข้อนี้.,AIยุคสมัยใดก็ล้ำสมัยใดๆเทียบไม่ได้ตลอดกาลสมัยล้ำที่ว่านั้น. ..ประเทศไทยหากเทียบกับทั้งหมดทั่วโลก ประเทศไทยยืนหนึ่งทั้งหมด ไร้ประเทศใดๆในทั่วโลกเทียบเคียงได้เลย.เพราะหากอ้างระบบเมทริกซ์สมมุติโลก คำสอนศาสนาทางพุทธที่ลงรายละเอียดสุด ตีแตกทุกๆข้อสงสัย อจิณไตยรู้เฉพาะตนอีก ยืนหนึ่งแท้จริงค่าจริงจบที่ศาสนาพุทธนี้และทุกๆคนทั่วโลกอาศัยเป็นสรณะเสรีรับเอาหรือไม่รับเอาไปปฏิบัติก็มิได้บังคับ,เจตจำนงเสรีสุดๆ,ละทิ้งก็ไม่ตามไปฆ่าสังหารให้สิ้นชีวิตว่าละทิ้งศาสนาหรือดูถูกพระเจ้า ดูถูกรีต ดูถูกลัทธิพวกตนหมู่ตน.,เสื่อมหรือไม่เสื่อมก็ไม่ยึดติดด้วย,ประเทศไทยจึงเสรีสุดๆ,แต่ชาวโลกที่มิใช่คนไทยที่ไม่เกิดบนแผ่นดินไทยก็ต้องสำรวมด้วยเคารพในสมมุติประเทศใครมันเบื้องต้นแก่กันและกัน. ..สำนักนี้ต้องรักษาไว้จนกว่าจะสิ้น5,000ปีพุทธกาลตามคำทำนายจริงๆไว้ก่อน.,ประเทศไทยเราคนไทยจึงต้องสามัคคีกันดำรงรักษาไว้มั่น,เพราะสุดท้ายจะเป็นคุณประโยชน์แก่ชาวโลกในที่สุด,ใครๆก็มาหลบฝนหลบร้อนหลบพายุนั้นเอง.ไม่มีใครอยากตายจึงมาพึ่งพาอาศัยหลบภัยบนแผ่นดินไทย บำบัดเยียวยารักษาตนทั้งทางกายและจิตใจนั้นเอง.,การสร้างความไม่สงบสุขบนสถานที่นี้จึงไม่สมควร,จะรบจะฆ่าฟันกันต่อไปก็จงออกไปฆ่าฟันกันเองข้างนอกนั้นเอง,สไตล์วัดจริงๆนั้นล่ะ,เขตอภัยทาน เราจึงพยายามไม่มีโทษประหารบนแผ่นดินไทยเรา.,เรา..จึงเห็นคนไม่ดีมากมายจากทั่วโลก ต่างพยายามไม่กระทำชั่วเลวสร้างความไม่สงบใดๆบนแผ่นดินไทย อยู่สงบเสงี่ยมเจียมตัวเป็นอันมาก แม้โคตรโหดเหี้ยมอำมหิตก็ตาม ต่างแสดงออกด้วยมิตรไมตรีจิตอันดีบนแผ่นดินไทย,มีเพียงคนกาก กระจอกอวดตนว่าแน่แสดงความชั่วว่าตนแน่แก่คนเหล่านี้ให้ขำขัน,เรา..เจ้าหน้าที่ร่วมกันกำจัดคนเทาๆชั่วๆนี้กากๆนี้กระจอกนี้ ไทยเทาไทยชั่วคนไทยชั่วเหล่านี้เพียงเล็กน้อยก็สงบสุขแล้ว, คนต่างชาติต่างประเทศดีๆก็มีมากมาย เรา..ประเทศไทยก็ควบคุมคนต่างประเทศต่างชาติที่ชั่วเลวจริงจังก็จบแล้ว ความสงบบนแผ่นดินไทยก็บังเกิดขึ้น อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข จากจิตใจชั่วเลวก็ละลายเป็นคนจิตใจดีได้ แก้ตัวแก้ตนแก้จิตแก้ใจเป็นคนดีออกสู่โลกภายนอกได้,หลายคนหมายเกิดมาล้วนอยากเป็นคนดีด้วยกันหมด,โอกาสคือประเทศไทยเรานี้ล่ะ อาจช่วยผลิตคนดีคนจิตใจดีงามออกสู่โลกจรรโลงสร้างสรรค์โลกเราดีๆให้ดำรงอารยะธรรมจักรวาลพิเศษยอดเยี่ยมสุดยอดต่อไปได้,พระเจ้าตัดต่อพันธุกรรมสมมุติโลกนี้แบบใดก็ชั่ง เราคนทั่วทั้งโลกร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงหรืออัพเลเวลเราร่วมกันเหนือขีดจำกัดร่วมกันได้นั้นเอง,อาจไม่แพ้ใครๆใดๆทั่วอนันตจักรวาลโลกต่างๆนั้นๆนั้นเอง. https://vm.tiktok.com/ZSHvWKPrMYDdS-alLNm/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 390 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระขุนแผนกุมารทอง หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ปี2548
    พระขุนแผนกุมารทอง เนื้อผงตะเคียนอายุ 100 ปี หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ปี2548 // พระดีพิธีขลัง !! เนื้อหามวลสารสุดยอด สุดยอดเมตตาโชคลาภ มหาลาภ เสน่ห์เมตตามหานิยม //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้านเสน่ห์ เมตตามหานิยม ติดต่อเจรจาค้าขายคล่องๆ มีเงินมีทองเหลือกินเหลือใช้ โชคลาภ และ เสี่ยงโชคดี ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงย คุ้มกันภัย คุ้มครอง ป้องกัน >>

    ** หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อมหลังจากท่านปลดประจำการ ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ พ.ศ. 2480 โดยมี หลวงปู่สุข ปทฺวณฺโณ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังท่านบวช ได้พำนักอยู่ที่วัดพระงาม ศึกษาเล่าเรียนจนสอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี เมื่อ พ.ศ. 2482 ในระหว่างนี้เองท่านได้ให้ความสนใจศึกษาด้านการเจริญสมาธิจิตฝึกฝนวิปัสสนากรรมฐาน ตามคำสอนควบคู่กับการศึกษาวิชาอาคม ซึ่งได้รับมอบหมายจาก "ปู่แย้ม ปิ่นทอง" ที่วัดพระงามนี้ท่านจึงได้มีโอกาสได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อพร้อม วัดพระงาม พระเกจิที่ท่านเคราพมากที่สุดคือ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ได้รับคำแนะนำในการเจริญสมาธิภาวนา การเขียนอักขระเลขยันต์ ปลุกเสกวัตถุมงคล วิชาอาคมต่าง ๆ หลวงพ่อเงินเมตตาเป็นคนถ่ายทอดอย่างไม่ปิดบัง ต่อมาท่านได้ย้ายมาธุดงค์ที่ป่าเขาลำเนาไพรฝึกฝนสมาธิจิต และในปี พ.ศ. 2490 วัดไผ่ล้อมขาดเจ้าอาวาสในการปกครองเนื่องจากเจ้าอาวาสแต่ละรูปอยู่ปกครองวัดได้ไม่นานต้องลาสิกขาบทออกไป หลวงพ่อพูลจึงได้ย้ายมาจำพรรษาประจำอยู่ที่วัดไผ่ล้อม พร้อมกับทำการก่อสร้าง พัฒนาวัดเรื่อยตลอดเวลา **

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระขุนแผนกุมารทอง หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ปี2548 พระขุนแผนกุมารทอง เนื้อผงตะเคียนอายุ 100 ปี หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ปี2548 // พระดีพิธีขลัง !! เนื้อหามวลสารสุดยอด สุดยอดเมตตาโชคลาภ มหาลาภ เสน่ห์เมตตามหานิยม //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้านเสน่ห์ เมตตามหานิยม ติดต่อเจรจาค้าขายคล่องๆ มีเงินมีทองเหลือกินเหลือใช้ โชคลาภ และ เสี่ยงโชคดี ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงย คุ้มกันภัย คุ้มครอง ป้องกัน >> ** หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อมหลังจากท่านปลดประจำการ ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ พ.ศ. 2480 โดยมี หลวงปู่สุข ปทฺวณฺโณ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังท่านบวช ได้พำนักอยู่ที่วัดพระงาม ศึกษาเล่าเรียนจนสอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี เมื่อ พ.ศ. 2482 ในระหว่างนี้เองท่านได้ให้ความสนใจศึกษาด้านการเจริญสมาธิจิตฝึกฝนวิปัสสนากรรมฐาน ตามคำสอนควบคู่กับการศึกษาวิชาอาคม ซึ่งได้รับมอบหมายจาก "ปู่แย้ม ปิ่นทอง" ที่วัดพระงามนี้ท่านจึงได้มีโอกาสได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อพร้อม วัดพระงาม พระเกจิที่ท่านเคราพมากที่สุดคือ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ได้รับคำแนะนำในการเจริญสมาธิภาวนา การเขียนอักขระเลขยันต์ ปลุกเสกวัตถุมงคล วิชาอาคมต่าง ๆ หลวงพ่อเงินเมตตาเป็นคนถ่ายทอดอย่างไม่ปิดบัง ต่อมาท่านได้ย้ายมาธุดงค์ที่ป่าเขาลำเนาไพรฝึกฝนสมาธิจิต และในปี พ.ศ. 2490 วัดไผ่ล้อมขาดเจ้าอาวาสในการปกครองเนื่องจากเจ้าอาวาสแต่ละรูปอยู่ปกครองวัดได้ไม่นานต้องลาสิกขาบทออกไป หลวงพ่อพูลจึงได้ย้ายมาจำพรรษาประจำอยู่ที่วัดไผ่ล้อม พร้อมกับทำการก่อสร้าง พัฒนาวัดเรื่อยตลอดเวลา ** ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 323 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม่ทัพภาคที่ 2 ขอให้ทุกคนได้ร่วมภาคภูมิใจ และช่วยกันรักษาธงไตรรงค์ สามสีชั่วลูกหลานตลอดไป
    .
    พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วยผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี และคณะ ทำพิธีเชิญธงชาติและร่วมร้องเพลงชาติไทยกับเหล่าทหารกล้า ณ ยอดภูมะเขือ ชายแดนไทย-กัมพูชา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
    .
    พลโท บุญสิน กล่าวว่า "ตามที่พี่น้องคนไทยได้รับทราบแล้ววันนี้เป็นวันพระราชทานธงชาติไทย ซึ่งธงชาตินี้เป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย ของแผ่นดินไทย และเป็นศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งประกอบด้วย 3 สี ที่เรียกว่าธงไตรรงค์ คือ สีแดง สีขาว และสีน้ำเงิน สีแดง หมายถึงชาติ เลือดเนื้อบรรพบุรุษ เลือดเนื้อวีรชนทั้งหลายที่สละชีพเพื่อชาติ ซึ่งได้มาซึ่งแผ่นดินที่เราอยู่นี่ สีขาว หมายถึงหลักคำสอนของศาสนา ความใสบริสุทธิ์ หลักธรรมที่เราจะต้องดำเนินชีวิตไปในทางที่ถูกต้อง สีน้ำเงิน หมายถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ท่านได้เสียสละความส่วนตัวของท่านเพื่อดูแลคุ้มครองลูกหลานคนไทยทั้งประเทศ ให้อยู่เย็นเป็นสุขมาแต่ช้านาน มาแต่โบราณแล้ว ซึ่งทั้งสามสีนี้รวมอยู่ในผืนธงชาติ
    .
    วันนี้เป็นสำคัญยิ่ง ผม แม่ทัพภาคที่ 2 ถือโอกาสมาเยี่ยมกำลังพลในพื้นที่ขัดแย้งไทย-กัมพูชา และมาให้กำลังใจน้องๆ ที่ภูมะเขือ และได้อัญเชิญธงชาติ เนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทยในพื้นที่ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่งซึ่งพวกเราได้รอมานานในพื้นที่นี้ และได้เชิญธงชาติพร้อมกับพาน้องๆ ได้ร้องเพลงชาติในพื้นที่นี้ ขอให้พวกเราทุกคนได้รับความภาคภูมิใจ และช่วยกันรักษาธงไตรรงค์สามสีนี้ ชั่วลูกชั่วหลานตลอดไป"
    แม่ทัพภาคที่ 2 ขอให้ทุกคนได้ร่วมภาคภูมิใจ และช่วยกันรักษาธงไตรรงค์ สามสีชั่วลูกหลานตลอดไป . พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วยผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี และคณะ ทำพิธีเชิญธงชาติและร่วมร้องเพลงชาติไทยกับเหล่าทหารกล้า ณ ยอดภูมะเขือ ชายแดนไทย-กัมพูชา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ . พลโท บุญสิน กล่าวว่า "ตามที่พี่น้องคนไทยได้รับทราบแล้ววันนี้เป็นวันพระราชทานธงชาติไทย ซึ่งธงชาตินี้เป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย ของแผ่นดินไทย และเป็นศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งประกอบด้วย 3 สี ที่เรียกว่าธงไตรรงค์ คือ สีแดง สีขาว และสีน้ำเงิน สีแดง หมายถึงชาติ เลือดเนื้อบรรพบุรุษ เลือดเนื้อวีรชนทั้งหลายที่สละชีพเพื่อชาติ ซึ่งได้มาซึ่งแผ่นดินที่เราอยู่นี่ สีขาว หมายถึงหลักคำสอนของศาสนา ความใสบริสุทธิ์ หลักธรรมที่เราจะต้องดำเนินชีวิตไปในทางที่ถูกต้อง สีน้ำเงิน หมายถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ท่านได้เสียสละความส่วนตัวของท่านเพื่อดูแลคุ้มครองลูกหลานคนไทยทั้งประเทศ ให้อยู่เย็นเป็นสุขมาแต่ช้านาน มาแต่โบราณแล้ว ซึ่งทั้งสามสีนี้รวมอยู่ในผืนธงชาติ . วันนี้เป็นสำคัญยิ่ง ผม แม่ทัพภาคที่ 2 ถือโอกาสมาเยี่ยมกำลังพลในพื้นที่ขัดแย้งไทย-กัมพูชา และมาให้กำลังใจน้องๆ ที่ภูมะเขือ และได้อัญเชิญธงชาติ เนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทยในพื้นที่ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่งซึ่งพวกเราได้รอมานานในพื้นที่นี้ และได้เชิญธงชาติพร้อมกับพาน้องๆ ได้ร้องเพลงชาติในพื้นที่นี้ ขอให้พวกเราทุกคนได้รับความภาคภูมิใจ และช่วยกันรักษาธงไตรรงค์สามสีนี้ ชั่วลูกชั่วหลานตลอดไป"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 546 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำนานคนหนังสือพิมพ์ภูธร สุนทร จันทร์รังสี

    คนรุ่นใหม่อาจไม่รู้จักหนังสือพิมพ์ แต่สำหรับคนรุ่นก่อน หนังสือพิมพ์คือสื่อมวลชนอันทรงพลังในยุคที่ยังไม่มีอินเทอร์เน็ต ส่วนวิทยุและโทรทัศน์ 5 ช่อง ถูกควบคุมด้วยกลไกอำนาจรัฐ

    จากครอบครัวร้านขายหนังสือพิมพ์ในตัวเมืองโคราช จ.นครราชสีมา สุนทร จันทร์รังสี ผันตัวจากผู้สื่อข่าวภูมิภาค หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ก่อตั้งหนังสือพิมพ์โคราชสัปดาหวิจารณ์ เมื่อเดือน มี.ค. 2517 ตั้งใจให้เป็นหนังสือพิมพ์แนวใหม่ วิจารณ์การบ้านในท้องถิ่น และการเมืองระดับชาติ ผลจากการตอบรับด้วยดีของผู้อ่าน จึงเปลี่ยนเป็นหนังสือพิมพ์โคราชรายวัน ในเวลาต่อมา

    แต่การทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมามักเกิดแรงเสียดทานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในยุคเผด็จการทหาร ครั้งหนึ่งเคยเปิดโปงขบวนการพิมพ์ธนบัตรปลอม โดยพ่อตาของนายทหารระดับสูงในกองทัพภาคที่ 2 ผลก็คือเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2519 ถูกระดมยิงด้วยอาวุธสงครามที่หน้าสำนักงาน มารดาต้องขอร้องให้เลิกอาชีพ แต่ไม่ย่อท้อ จัดตั้งโรงพิมพ์เป็นของตัวเอง

    อีกเหตุการณ์หนึ่ง เมื่อโปรโมเตอร์มวยรายหนึ่งแอบอ้างพระบารมีว่าจะทำให้นักมวยของตนชนะแน่ สุนทรท้วงติงว่าไม่เหมาะสม เพราะมวยคือการพนัน การกล่าวเช่นนี้ทำให้สถาบันฯ เสื่อมเสียพระเกียรติ ผลก็คือมีนักข่าวที่ไม่ถูกกันแจ้งความข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาตรา 112 แต่ที่สุดแล้วศาลทหารยกฟ้อง เพราะมีเจตนาปกป้องพระบรมเดชานุภาพจริง

    หลักการทำงานของสุนทรที่แตกต่างจากนักหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นคนอื่นๆ คือ นักข่าวทุกคนจะต้องไม่มีเรื่องซองขาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ครั้งหนึ่งมีนักการเมืองแจกซองให้บรรดานักข่าวที่ไปทำข่าวแถลงงานหนึ่ง เมื่อนักข่าวโคราชรายวันพบว่าในซองมีเงิน ก็นำมาคืนโดยไม่ชักช้า และบอกเล่าเรื่องนี้แก่กองบรรณาธิการ แสดงให้เห็นถึงความซื่อสัตย์สุจริตในการทำหน้าที่สื่อมวลชน

    โคราชรายวันเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2551 เปลี่ยนชื่อเป็น หนังสือพิมพ์โคราชคนอีสาน พร้อมขยายพื้นที่วางแผงไปยัง 10 จังหวัดในภาคอีสาน นอกจากสุนทรเป็นกรรมการในองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนต่างๆ โดยเฉพาะสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติแล้ว ยังได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ปี 2550 โดยร่วมกันร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

    สุนทรเข้ารับการรักษาด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตกมาตั้งแต่ปี 2565 ประกอบกับมีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง ต้องพบแพทย์และพักฟื้นที่บ้านอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปี ก่อนจากไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 22 ก.ย. เวลา 09.09 น. ด้วยอายุ 78 ปี

    คำสอนที่ยังเหลือไว้คือ "ความซื่อสัตย์สุจริต" เป็นคุณธรรมสำหรับคนที่ยังมีลมหายใจ

    #Newskit
    ตำนานคนหนังสือพิมพ์ภูธร สุนทร จันทร์รังสี คนรุ่นใหม่อาจไม่รู้จักหนังสือพิมพ์ แต่สำหรับคนรุ่นก่อน หนังสือพิมพ์คือสื่อมวลชนอันทรงพลังในยุคที่ยังไม่มีอินเทอร์เน็ต ส่วนวิทยุและโทรทัศน์ 5 ช่อง ถูกควบคุมด้วยกลไกอำนาจรัฐ จากครอบครัวร้านขายหนังสือพิมพ์ในตัวเมืองโคราช จ.นครราชสีมา สุนทร จันทร์รังสี ผันตัวจากผู้สื่อข่าวภูมิภาค หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ก่อตั้งหนังสือพิมพ์โคราชสัปดาหวิจารณ์ เมื่อเดือน มี.ค. 2517 ตั้งใจให้เป็นหนังสือพิมพ์แนวใหม่ วิจารณ์การบ้านในท้องถิ่น และการเมืองระดับชาติ ผลจากการตอบรับด้วยดีของผู้อ่าน จึงเปลี่ยนเป็นหนังสือพิมพ์โคราชรายวัน ในเวลาต่อมา แต่การทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมามักเกิดแรงเสียดทานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในยุคเผด็จการทหาร ครั้งหนึ่งเคยเปิดโปงขบวนการพิมพ์ธนบัตรปลอม โดยพ่อตาของนายทหารระดับสูงในกองทัพภาคที่ 2 ผลก็คือเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2519 ถูกระดมยิงด้วยอาวุธสงครามที่หน้าสำนักงาน มารดาต้องขอร้องให้เลิกอาชีพ แต่ไม่ย่อท้อ จัดตั้งโรงพิมพ์เป็นของตัวเอง อีกเหตุการณ์หนึ่ง เมื่อโปรโมเตอร์มวยรายหนึ่งแอบอ้างพระบารมีว่าจะทำให้นักมวยของตนชนะแน่ สุนทรท้วงติงว่าไม่เหมาะสม เพราะมวยคือการพนัน การกล่าวเช่นนี้ทำให้สถาบันฯ เสื่อมเสียพระเกียรติ ผลก็คือมีนักข่าวที่ไม่ถูกกันแจ้งความข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาตรา 112 แต่ที่สุดแล้วศาลทหารยกฟ้อง เพราะมีเจตนาปกป้องพระบรมเดชานุภาพจริง หลักการทำงานของสุนทรที่แตกต่างจากนักหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นคนอื่นๆ คือ นักข่าวทุกคนจะต้องไม่มีเรื่องซองขาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ครั้งหนึ่งมีนักการเมืองแจกซองให้บรรดานักข่าวที่ไปทำข่าวแถลงงานหนึ่ง เมื่อนักข่าวโคราชรายวันพบว่าในซองมีเงิน ก็นำมาคืนโดยไม่ชักช้า และบอกเล่าเรื่องนี้แก่กองบรรณาธิการ แสดงให้เห็นถึงความซื่อสัตย์สุจริตในการทำหน้าที่สื่อมวลชน โคราชรายวันเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2551 เปลี่ยนชื่อเป็น หนังสือพิมพ์โคราชคนอีสาน พร้อมขยายพื้นที่วางแผงไปยัง 10 จังหวัดในภาคอีสาน นอกจากสุนทรเป็นกรรมการในองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนต่างๆ โดยเฉพาะสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติแล้ว ยังได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ปี 2550 โดยร่วมกันร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สุนทรเข้ารับการรักษาด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตกมาตั้งแต่ปี 2565 ประกอบกับมีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง ต้องพบแพทย์และพักฟื้นที่บ้านอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปี ก่อนจากไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 22 ก.ย. เวลา 09.09 น. ด้วยอายุ 78 ปี คำสอนที่ยังเหลือไว้คือ "ความซื่อสัตย์สุจริต" เป็นคุณธรรมสำหรับคนที่ยังมีลมหายใจ #Newskit
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 696 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง บันทึกวันฉลอง
    “บันทึกวันฉลอง”
    เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม เป็นวันฉลองประกาศอิสรภาพ ( จากการเป็นลูกกระเป๋งของอังกฤษ) ของประเทศที่ประกาศตัว เป็นผู้นำโลกหมายเลขหนึ่ง เป็นจักรวรรดิยุคใหม่ เรียกได้ว่าเป็นวันสำคัญของโลกเชียวนะ ผมจะไม่เขียนอะไรถึง ในฐานะคนใกล้ชิด ติดตามเขียนถึงเกือบทุกวัน มันจะดูใจจืดไป แต่บังเอิญยังไม่มีเวลา ช้าไปหน่อยคงไม่เป็นไร ให้คุณนายกุ้งแห้งพักให้หายเหนื่อยจากการรับแขก บรรดาเพื่อนรัก ร่วมนิสัย ร่วมสันดาน ที่คุณนายเชิญมางานฉลองก่อน ท่านใดที่ไม่ได้รับเชิญ ผมว่าน่าจะเป็นโชคดี ที่ไม่ต้องไปยืนทำหน้าปูเลี่ยนใส่กัน ส่วนมันจะเป็นการสำแดงอะไรในการเชิญ ไม่เชิญ ประเทศที่มีอารยะธรรม วัฒนธรรม สืบทอดย้อนไปได้เป็นพันปีอย่างเรา ย่อมมองออก และ รอเวลา ดำเนินการที่เหมาะสม
    ในฐานะคนใกล้ชิด ผมมองจักรวรรดิอเมริกาอย่างไร ขอถือโอกาสขยายบันทึกต่อไปนี้ เป็นการสดุดีในวันฉลอง
    ชื่อ: ตามใบเกิดใช้ชื่อว่า สหรัฐอเมริกา มี ชื่อ เล่น ว่า ไอ้กัน หรือ เมกา
นอกจากนี้ ยังมีชื่อ ที่ถูกเรียกบ่อยตามความประพฤติ ว่า Ugly America และยังมีชื่อ ที่บางคน บางพวก เรียก ด้วยความเอียน ว่า จิ๊กโก๋ปากซอย (ตามพฤติกรรมเทียบเคียงอีกเช่นกัน)
    นามแฝง: นักล่า (น่าจะมีรูปถ่ายแบบ หน้าตรง และหน้าข้างประกอบ แต่ทำไม่เป็นครับ)
    อุปนิสัยเด่น: เหมือนคนที่โตแต่ตัว แต่ไม่มีวุฒิภาวะ ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า โตแต่ตัว สมองเท่าเม็ดถัวเขียว แยกแยะดีชั่วไม่ออก เรื่องควรทำไม่ทำ เรื่องไม่ควรทำ ดันทำ ถ้ามีวุฒิภาวะ ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ สมดังที่เขาเรียกว่าพี่เบิ้ม โลกคงไม่วุ่นวายอย่างที่เป็นอยู่
อีกนิสัยที่โดดเด่นคือ เป็นมิตรเฉพาะกับผู้ที่ตนได้ประโยชน์ เมื่อหมดประโยชน์ ก็สามารถทำได้ทุกวิถีทางเพื่อให้ขาดกับมิตร รวมไปถึงการ กำจัด และ ทำลาย โดยไม่มีเหนียมอาย ถ้าเป็นบุคคล ก็เรียกว่า เป็นประเภทเพื่อนกิน เออ มันก็เป็นเพื่อนกินจริงๆแหละ กินแบบตะกรามเสียด้วย
    (เข้าใจว่า ไม่เคยอ่านหนังสือกำลังภายใน ที่โด่งดัง อยู่อีกฝั่งของโลก จึงไม่รู้จัก คำสอนที่หนังสือกำลังภายในพวกนี้ เขียนไว้เป็นอุทาหรณ์เสมอว่า บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระ คงมีพวกลูกหาบคุยให้ฟัง แต่จับความได้แค่ ท่อนหลัง คนอื่น เขาก็จำท่อนหลังได้เหมือนกันนะ)
    สันดาน: กร่าง อวดดี ชอบข่มขู่ ทั้งทางกิริยา วาจา และอาวุธ และยังมีสันดานที่ถ้าเป็นบุคคล เขาก็เรียกว่าเป็นประเภท มือถือสากปากถือศีล ตัวเองทำได้ ห้ามใครด่า แต่ถ้าคนอื่นทำบ้าง ไม่ใช่แค่ด่า มันทั้งประณาม และคว่ำบาตรเป็นการแถม ถ้ายังไม่สาแก่ใจ พร้อมที่จะยกทัพกรีฑา ไปบดขยี้
    อาณาเขตประเทศ: ขณะนี้ มีเนื้อที่ประมาณ 9.83 ล้าน ตารางกิโลเมตร กว้างใหญ่มากกกก แต่ยังใหญไม่พอ จึงมีความต้ังใจ ว่า จะครอบครองโลกใบนี้ทั้งใบให้ได้ ถ้ามีโลกมากกว่า 1 ก็คงหวังจะครองทั้งหมดด้วย นี่ก็ได้ข่าวว่า จะเปฺิดให้ตีตั๋วจองไปท่องเที่ยวดาวอังคาร และมีแผนจะไปอมดวงจันทร์ ทำตัวดั่งเป็นพระราหู ถ้าจะเจ๋งจริง ต้องอมดวงอาทิตย์ด้วยนะ ดูๆไปแล้วเหมือนเป็นคนขี้โม้ ถ้าเป็นบุคคล น่าจะเข้าข่ายดาวพุธเสีย ปากหาเรื่อง พูดจาหาความจริงได้ยาก ถึงเดี๋ยวนี้ยังมีคนไม่เช่ือเรื่องไปดวงจันทร์
เม้นท์มาถามลุงนิทาน ว่า ตกลงเมกาไปดวงจันทร์จริงหรือเปล่าคับ เล่นเอาลุงนิทาน อึ้งไป ตอบไม่ได้เหมือนกันหลานเอ๋ย
    พลเมือง: ของแท้ดั้งเดิมเรียกว่า อินเดียนแดง แต่พวกที่มาไล่ล่าฆ่า อินเดียนแดง และแย่งถิ่นที่อยู่เขาไปและเรียกตัวเองว่าคนอเมริกัน นั้น มีสาระพัดสายพันธ์ และสาระพัดสีผิว แต่ก็มีคนพยายามที่จะคัดสายพันธ์ใหม่ เอาสีเข้มๆออกไป สงสัยไม่ถูกโฉลก ให้เหลือแต่ผิวสีขาว และผมทอง แต่เท่าที่สังเกตดู แผนนี้ไม่น่าสำเร็จ แต่ไอ้ชั่วจอมโหดยังไม่ล้มเลิกแผน ใช้ทั้งวิธีคุม วิธีตอน ทั้งอาหาร ทั้งยา และเขื้อโรคเหลืออย่างเดียว อย่าให้พูดต่อเลย เสียวน่ะ
    ผู้นำประเทศ: เรียกว่า ประธานาธิบดี มาจากการเลือกต้ัง ที่ไม่จำกัดอาชีวะ
ดังนั้น ผู้นำประเทศ จึงมีต้ังแต่ นักคิด นักรบ นักรัก นักเลง นักแสดง คนขายของ ขายถั่ว ขายน้ำมัน เป็นต้น แต่คนปัจจุบัน ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร แม้แต่สื่อนอก พวกกันเองยังด่าขรม จะว่าเป็นนักพูด ก็ไม่เชิงเพราะพูดจา ไม่เอาเหนียง ซ้ำชาก แถมพักหลังนี่ เลอะเทอะชอบกล ไม่อยากวิจารณ์มาก เอาว่า คงกำลังดวงตก
    ระบอบการปกครอง: อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย แต่มีข้อมูลมากมาย บอกว่า ไม่จริงหรอก
ประชาธิปไตยบ้าบออะไร มันเป็นเป็นเผด็จการทุนนิยมต่างหาก ซึ่งกำกับ สับโขก ดูแลโดยนายทุนข้ามชาติที่เป็นเจ้าของโรงพิมพ์แบงค์ หลายโรง
    พรรคการเมือง: มี 2 พรรคผูกขาด แต่ พรรคไหนชนะ ก็ไม่มีความหมาย เพราะการเลือกต้ัง มีเพื่อเป็นการฝึกพูด ฝึกหาเสียง ฝึกประท้วง สร้างการจ้างงาน กระจายรายได้ แถมให้สื่อยักษ์ มีงานทำ เพราะ เจ้าของโรงพิมพ์แบงค์ เป็นเจ้าของสื่อ และ เป็นเจ้าของนักการเมือง ทั้ง 2 พรรค ที่สำคัญ เป็นการทดสอบ การโฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของระบอบการปกครอง
    สินค้าออกสำคัญ บัญชี 1: ทุนนิยมเสรี ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน
(หมายเหตุ: สินค้าส่งออกบัญชีนี้ น่าจะเป็นของปลอมเกือบทั้งหมด เพราะ บรรดาผู้นำเข้าสินค้า ไม่ว่าจะสมัครใจ เพราะเคลิ้มตามโฆษณาชวนเชื่อ หรือถูกบังคับให้นำเข้าไปใช้ ก็ตาม แต่ปรากฏผล ไม่น่าพอใจ เหมือนกัน คือ ฉ ห กันถ้วนหน้า แต่ไม่รู้จะไปร้องเรียนกับใคร ได้แต่ก้มหน้ามองหัวแม่เท้าทุกวัน ที่แย่ไปกว่านั้น คือ พวกที่ ฉ ห มีกว่าครึ่งที่ยังไม่รู้ตัวว่า ฉ ห เพราะอะไร โถ โถ)
    สินค้าส่งออกสำคัญ บัญชี 2: แนวทางการศึกษา และ ความคิดทางวิชาการ
(หมายเหตุ: สินค้่าส่งออกบัญชีนี้ มีส่วนสัมพันธ์กับบัญชี 1 เมื่อใดที่ การส่งออกบัญชีนี้ลดลง หรือไม่ได้ผล การส่งออกตามบัญชี 1 จะลดลง ตามไปด้วย แต่คงจะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นสินค้า ที่ส่งออกมาเป็นเวลานาน ฝังรากลงลึก และมีผู้คนหลายประเภท ติดกับ นอนสบาย พุงปลิ้น อยู่ในคอก มันคงฉุดให้ลุกขึ้นยืน แล้วเดินออกจากคอกยากหน่อย แต่ไม่มีอะไรคงทนถาวรตลอดกาล เป็นหลักสัจธรรม คอยดูกันไป)
    สินค้าส่งออกสำคัญ บัญชี 3: วัฒนธรรมอเมริกา ผ่าน การบันเทิง และสื่อทุกประเภท
(หมายเหตุ: สินค้าส่งออกบัญชีนี้ มีผู้สนใจมาก แม้จะเน่าเละแค่ไหน แต่ผู้ใช้เสพติดกันมาก ถือเป็นความสำเร็จ แท้จริงของการส่งออก หนังหลายเรื่องสนุกดีครับ ลุงนิทานก็ชอบดู โกหกได้เก่งจัง แต่ให้เลิกดูก็ไม่ถึงกับลงแเดง)
    สินค้านำเข้าสำคัญ: หมายถึงสินค้า ที่เป็นที่ต้องการอย่างที่สุด โดยการเป็นเจ้าของ หรือครอบครอง ไม่ว่าโดยวิธีการใด
อันดับ 1 คือ พลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญ
อันดับ 2 คือ พลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญ
อันดับ 3 คือ พลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญ
    นโยบายต่างประเทศ: ดู ภาพ ประกอบ us foreign policy flow chart
    มิตรประเทศ: ประเทศที่มีพลังงาน และ แร่ธาตุ (หลอกล่อให้คบ แล้ว ขะโมยของเขาได้)
    ประเทศที่ไม่เป็นมิตร: ประเทศที่มีพลังงาน และแร่ธาตุ (เขาไม่คบด้วย และยังขะโมยของเขาไม่ได้)
    ประเทศลูกพี่: อังกฤษ (ถึงจะประกาศอิสรภาพต้ังหลายร้อยปี จนจัดงานฉลองหลอกตัวเอง แต่อิสระ ไม่จริงนี่หว่า แน่จริงตัดขาดให้ดูหน่อย แล้วค่อยทำกร่าง)
    ประเทศที่ถือเป็นก๊วน: อังกฤษ ฝรั่งเศส ( ผลัดกันเล่น ผลัดกันกิน มันไม่ตัดขาดกันจริงหรอก ดูไปก็แล้วกัน)
    ประเทศลูกน้อง: ทั้งโลก ยกเว้น กลุ่ม BRICS และพวก และ 2 ประเภทข้างต้น
    ประเทศที่ไม่เป็นมิตรอย่างถาวร : เกาหลีเหนือ ( เข้าใจว่าเหตุผลสำคัญ คือ ประธานาธิบดีอเมริกาคนปัจจุบัน หน้าไม่รับ กับผมทรงบังคับของเกาหลีเหนือ)
    เครื่องมือหากินที่ขาดไม่ได้ และควบคุมได้ บัญชี 1: UN, World Bank, IMF, NATO
    เครื่องมือหากินที่ขาดไม่ได้ และควบคุมได้ บัญชี 2: หน่วยงาน ประเภทสถาบัน มูลนิธิ องค์กรไม่ค้ากำไร (NGO) ที่ให้ทุนการศึกษาทุกระดับ การวิจัย การสนับสนุนกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน (หน่วยงานพวกนี้ มีความสำคัญมาก เป็นเฟืองสำคัญ ที่ทำให้กลไกเกือบทุกอย่าง ของอเมริกา เดิน โดยแทบจะไม่มีสิ่งใดขวางกั้น เพราะ ไม่รู้ว่าองค์กรเหล่านี้ คือตัวเฟืองสำคัญ และเป็นหน่วยงานสังกัด ฝ่ายความมั่นคง หรือข่าวกรอง พูดง่ายๆ ว่า เป็น พวก CIA ปลอมตัวนั่นแหละ)
    เครื่องมือหากินที่สำคัญ ยังควบคุมไม่ได้หมด แต่พยายามอยู่: EU ( เป็นรายการต้มตุ๋น ลวงโลกของจริง ทั้งต้มกันเอง และ ต้มชาวโลก)
    ผู้แทนประเทศ: ทูต ผู้แทนการค้า นักธุรกิจ ครู อาจารย์ นักวิชาการ นักเขียน นักสอนศาสนา นักท่องเที่ยว สื่อ โดยเฉพาะ พวกที่แฝงตัวคลุกอยู่กับคนท้องถิ่น ตัวดีนักทำได้เนียนมาก พวกนี้เรียกว่า มาปฏิบัติภาระกิจ ( พูดง่ายๆ ว่า เป็นพวก CIA ปลอมตัว อีกเข่นกัน วุ้ย ทำไมมันมากันแยะนัก ไหนว่า แค่อยากได้ตั้กกะแตน ทำไมต้องถึงกับขี่ช้างมา)
    คุณสมบัติของผู้แทนประเทศ: ไม่ใช้วิจารณญาณ ไม่มีมารยาท มีความสามารถในการหาข่าวเชิงลึก มีความรู้และสามารถเรื่องอาวุธและการใช้ ถนัดในการแปลงสาสน์ และใช้กลวิธีการเสี้ยม มากกว่าวิธีทางการทูต การค้า การสอน การเขียน ฯลฯ แล้วแต่กรณี
    หน่วยงานนอกประเทศ ที่ทำหน้าที่สำคัญ: นอกเหนือจาก องค์กรเปิดเผย เช่นสถานทูต หน่วยงานทางทหาร หน่วยงานให้ความช่วยเหลือ เช่น USAID , Chamber of commerce แล้วหน่วยงานเอกชน อีก 3 ประเภท ที่ทำหน้าที่สำคัญ คือ สำนักงานตรวจสอบบัญชีระหว่างประเทศ และ สำนักงานกฏหมายระหว่างประเทศ บริษัทประกันภัยระหว่างประเทศ ซึ่งจะได้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับธุรกิจในประเทศเป้าหมาย ส่งกลับไปให้สำนักใหญ่ที่อเมริกา ดังนั้น คุณสมบัติ ของบุคคลากร ที่ส่งไปประจำในสำนักงานเหล่านี้ในหลายประเทศ ทำงานประสานกับหน่วยงานความมั่นคง หน่วยงานข่าวกรอง ของอเมริกา ( พวก C ปลอมตัว อีกแล้ว นี่ อย่านึกว่าผมพูดเล่น แล้วไม่ใช่เรื่องจริงนะ)
    เครื่องทุ่นแรง: บรรดา “เด็กดี” ทั้งหลายที่อยู่ในท้องถิ่น ที่ อเมริกา สนับสนุน ไม่ว่าโดยการศึกษา หน้าที่การงาน การสนับสนุนทางสังคม ทางการเมือง โดยทางตรง หรือ ทางอ้อม คนเล่านี้ใช้ชีวิต อยู่ในกรอบ หรือคอก ที่อเมริกาสร้างให้อยู่ ทางความคิด เขาเล่าน้ัน มีทุกสาขาอาขีพ ทุกเพศ ทุกวัย มีความเชื่อมั่นว่าอเมริกาเท่าน้ัน คือศิวิไลซ์ และ วิถีทุนนิยมเสรี คือวิถีที่นำความเจริญมาให้ประเทศตนเอง เครื่องทุ่นแรงเหล่านี้ ครั้งแล้ว ครั้งเล่า ที่พาประเทศของตนติดอยู่ในกับดักมากขึ้น แต่ไม่เคยเรียนรู้ ไม่เคยจดจำ จึงเป็นเครื่องทุ่นแรง ที่อเมริกาเสาะแสวงหา เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา มิให้ขาดรุ่น ขาดจำนวน
จุดแข็ง: การใช้สื่อ ทุกรูปแบบ เพื่อฟอกย้อมความคิด ความเห็น ของพวกโลกสวย และจิตอ่อน (เป็นเรื่องน่าสนใจมาก ว่าทำไมถึงว่าง่ายนักหนา กับสื่อฟอก มันบอกอะไรละเชื่อหมด ธรรมะ ของพระพุทธองค์ พระราโชวาท ของพระเจ้าอยู่หัว ทำไมถึง ไม่จดจำ ไม่เขื่อถือ นำไปปฏิบัติบ้าง )
    จุดอ่อน: ออกอาการง่าย เวลามีอารมณ์ เช่น น้ำลายเยิ้มไปหมด เวลา อยากได้ อยากกิน ขอแนะนำว่า ใช้ผ้าเข็ดที่มุมปากแบบผู้ดีบ่อยๆ น่าจะช่วยได้บ้าง แต่ถ้าทำไม่เป็น คงต้องเข้าไปหลักสูตรฝึกอบรม ความอดกลั้น อันเป็นมารยาทอย่างหนึ่งของผู้ที่เจริญแล้ว
    เครื่องมือสื่อสารทุกชนิด: เป็นเครื่องมือที่ใช้จารกรรมข้อมูลทั้งสื้น รวมทั้ง เครื่องมือที่ใช้เขียนอยู่นี้ และที่ท่านทั้งหลายกำลังใช้อ่านกัน ฮา
    ชาตะ: วันที่ 4 กรกฎาคม คศ 1767
    มรณะ: มันต้องมีสักวันน่า อาจจะจวนแล้วก็ได้ จักรวรรดิยิ่งใหญ่ทุกราย มีวันล่มสลาย โรมันว่ายิ่งใหญ่จบแบบไหน ยกตัวอย่างไกลไป เอาใกล้สุด จักรภพอังกฤษ ใหญ่ และกร่างขนาดไหน วันนี้เหลือเป็นแค่เกาะเล็กเท่าปลายนิ้วก้อยข้างซ้าย แถมถูกต่างชาติ โดยเฉพาะพวกที่เคยเป็นขี้ข้า เข้าไปซื้อทรัพย์สินในกรุง จนคนอังกฤษเองต้องย้ายครัว ไปอยู่ชนบทกันหมด ไอ้ที่สะใจ คือต้องไปยืนกุมรับคำสั่ง จากคนที่ตัวเองเคยดูถูกกดขี่ ตอนนี้ยังกัดฟัน ทำซ่า เบ่งขวา ขู่ซ้าย จมไม่ลง
    อเมริกา จงจำไว้เป็นอุทาหรณ์ คุณนายกุ้งแห้ง ควรต้ังใจอ่านบันทึกนี้ ไม่มีใครเขาจะเตือนสติกันตรงๆ อย่างนี้หรอก มีแต่คนป้อยอ ให้หัวทิ่มก้นโด่งทั้งนั้น ท่าน้ันเซลฟี่ลำบากหน่อยนะคุณนาย แล้วอย่าลืมรายงานตรงไปตรงมา ไปยังนายใหญ่ จะให้ดีส่งไปที่ หน่วย CRS ของ Congress ให้ทำหนังสือแปะหน้า ส่งเข้าสภาสูงเลย ว่ามีคนเขาเขียนบันทึกสดุดีเตือนใจไว้อย่างไร กลัวแต่ว่า ไอ้พวกเสมียนที่จ้างไว้ จะไม่มีปัญญาแปลสำนวนลุงนิทานละซี เอาไปให้พี่เจฟฟรี่ แปลก็แล้วกัน ถึงจะเป็นฝรั่งแต่ภาษาไทยเก่งพอตัว ไม่เสียแรงส่งมาฝังตัวใกล้ชิดเสียนานหลายสิบปี
    สวัสดีครับอเมริกา หวังว่าปีหน้ายังมีวันฉลอง !
คนเล่านิทาน
6 กค. 2557
    เรื่อง บันทึกวันฉลอง “บันทึกวันฉลอง” เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม เป็นวันฉลองประกาศอิสรภาพ ( จากการเป็นลูกกระเป๋งของอังกฤษ) ของประเทศที่ประกาศตัว เป็นผู้นำโลกหมายเลขหนึ่ง เป็นจักรวรรดิยุคใหม่ เรียกได้ว่าเป็นวันสำคัญของโลกเชียวนะ ผมจะไม่เขียนอะไรถึง ในฐานะคนใกล้ชิด ติดตามเขียนถึงเกือบทุกวัน มันจะดูใจจืดไป แต่บังเอิญยังไม่มีเวลา ช้าไปหน่อยคงไม่เป็นไร ให้คุณนายกุ้งแห้งพักให้หายเหนื่อยจากการรับแขก บรรดาเพื่อนรัก ร่วมนิสัย ร่วมสันดาน ที่คุณนายเชิญมางานฉลองก่อน ท่านใดที่ไม่ได้รับเชิญ ผมว่าน่าจะเป็นโชคดี ที่ไม่ต้องไปยืนทำหน้าปูเลี่ยนใส่กัน ส่วนมันจะเป็นการสำแดงอะไรในการเชิญ ไม่เชิญ ประเทศที่มีอารยะธรรม วัฒนธรรม สืบทอดย้อนไปได้เป็นพันปีอย่างเรา ย่อมมองออก และ รอเวลา ดำเนินการที่เหมาะสม ในฐานะคนใกล้ชิด ผมมองจักรวรรดิอเมริกาอย่างไร ขอถือโอกาสขยายบันทึกต่อไปนี้ เป็นการสดุดีในวันฉลอง ชื่อ: ตามใบเกิดใช้ชื่อว่า สหรัฐอเมริกา มี ชื่อ เล่น ว่า ไอ้กัน หรือ เมกา
นอกจากนี้ ยังมีชื่อ ที่ถูกเรียกบ่อยตามความประพฤติ ว่า Ugly America และยังมีชื่อ ที่บางคน บางพวก เรียก ด้วยความเอียน ว่า จิ๊กโก๋ปากซอย (ตามพฤติกรรมเทียบเคียงอีกเช่นกัน) นามแฝง: นักล่า (น่าจะมีรูปถ่ายแบบ หน้าตรง และหน้าข้างประกอบ แต่ทำไม่เป็นครับ) อุปนิสัยเด่น: เหมือนคนที่โตแต่ตัว แต่ไม่มีวุฒิภาวะ ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า โตแต่ตัว สมองเท่าเม็ดถัวเขียว แยกแยะดีชั่วไม่ออก เรื่องควรทำไม่ทำ เรื่องไม่ควรทำ ดันทำ ถ้ามีวุฒิภาวะ ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ สมดังที่เขาเรียกว่าพี่เบิ้ม โลกคงไม่วุ่นวายอย่างที่เป็นอยู่
อีกนิสัยที่โดดเด่นคือ เป็นมิตรเฉพาะกับผู้ที่ตนได้ประโยชน์ เมื่อหมดประโยชน์ ก็สามารถทำได้ทุกวิถีทางเพื่อให้ขาดกับมิตร รวมไปถึงการ กำจัด และ ทำลาย โดยไม่มีเหนียมอาย ถ้าเป็นบุคคล ก็เรียกว่า เป็นประเภทเพื่อนกิน เออ มันก็เป็นเพื่อนกินจริงๆแหละ กินแบบตะกรามเสียด้วย (เข้าใจว่า ไม่เคยอ่านหนังสือกำลังภายใน ที่โด่งดัง อยู่อีกฝั่งของโลก จึงไม่รู้จัก คำสอนที่หนังสือกำลังภายในพวกนี้ เขียนไว้เป็นอุทาหรณ์เสมอว่า บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระ คงมีพวกลูกหาบคุยให้ฟัง แต่จับความได้แค่ ท่อนหลัง คนอื่น เขาก็จำท่อนหลังได้เหมือนกันนะ) สันดาน: กร่าง อวดดี ชอบข่มขู่ ทั้งทางกิริยา วาจา และอาวุธ และยังมีสันดานที่ถ้าเป็นบุคคล เขาก็เรียกว่าเป็นประเภท มือถือสากปากถือศีล ตัวเองทำได้ ห้ามใครด่า แต่ถ้าคนอื่นทำบ้าง ไม่ใช่แค่ด่า มันทั้งประณาม และคว่ำบาตรเป็นการแถม ถ้ายังไม่สาแก่ใจ พร้อมที่จะยกทัพกรีฑา ไปบดขยี้ อาณาเขตประเทศ: ขณะนี้ มีเนื้อที่ประมาณ 9.83 ล้าน ตารางกิโลเมตร กว้างใหญ่มากกกก แต่ยังใหญไม่พอ จึงมีความต้ังใจ ว่า จะครอบครองโลกใบนี้ทั้งใบให้ได้ ถ้ามีโลกมากกว่า 1 ก็คงหวังจะครองทั้งหมดด้วย นี่ก็ได้ข่าวว่า จะเปฺิดให้ตีตั๋วจองไปท่องเที่ยวดาวอังคาร และมีแผนจะไปอมดวงจันทร์ ทำตัวดั่งเป็นพระราหู ถ้าจะเจ๋งจริง ต้องอมดวงอาทิตย์ด้วยนะ ดูๆไปแล้วเหมือนเป็นคนขี้โม้ ถ้าเป็นบุคคล น่าจะเข้าข่ายดาวพุธเสีย ปากหาเรื่อง พูดจาหาความจริงได้ยาก ถึงเดี๋ยวนี้ยังมีคนไม่เช่ือเรื่องไปดวงจันทร์
เม้นท์มาถามลุงนิทาน ว่า ตกลงเมกาไปดวงจันทร์จริงหรือเปล่าคับ เล่นเอาลุงนิทาน อึ้งไป ตอบไม่ได้เหมือนกันหลานเอ๋ย พลเมือง: ของแท้ดั้งเดิมเรียกว่า อินเดียนแดง แต่พวกที่มาไล่ล่าฆ่า อินเดียนแดง และแย่งถิ่นที่อยู่เขาไปและเรียกตัวเองว่าคนอเมริกัน นั้น มีสาระพัดสายพันธ์ และสาระพัดสีผิว แต่ก็มีคนพยายามที่จะคัดสายพันธ์ใหม่ เอาสีเข้มๆออกไป สงสัยไม่ถูกโฉลก ให้เหลือแต่ผิวสีขาว และผมทอง แต่เท่าที่สังเกตดู แผนนี้ไม่น่าสำเร็จ แต่ไอ้ชั่วจอมโหดยังไม่ล้มเลิกแผน ใช้ทั้งวิธีคุม วิธีตอน ทั้งอาหาร ทั้งยา และเขื้อโรคเหลืออย่างเดียว อย่าให้พูดต่อเลย เสียวน่ะ ผู้นำประเทศ: เรียกว่า ประธานาธิบดี มาจากการเลือกต้ัง ที่ไม่จำกัดอาชีวะ
ดังนั้น ผู้นำประเทศ จึงมีต้ังแต่ นักคิด นักรบ นักรัก นักเลง นักแสดง คนขายของ ขายถั่ว ขายน้ำมัน เป็นต้น แต่คนปัจจุบัน ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร แม้แต่สื่อนอก พวกกันเองยังด่าขรม จะว่าเป็นนักพูด ก็ไม่เชิงเพราะพูดจา ไม่เอาเหนียง ซ้ำชาก แถมพักหลังนี่ เลอะเทอะชอบกล ไม่อยากวิจารณ์มาก เอาว่า คงกำลังดวงตก ระบอบการปกครอง: อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย แต่มีข้อมูลมากมาย บอกว่า ไม่จริงหรอก
ประชาธิปไตยบ้าบออะไร มันเป็นเป็นเผด็จการทุนนิยมต่างหาก ซึ่งกำกับ สับโขก ดูแลโดยนายทุนข้ามชาติที่เป็นเจ้าของโรงพิมพ์แบงค์ หลายโรง พรรคการเมือง: มี 2 พรรคผูกขาด แต่ พรรคไหนชนะ ก็ไม่มีความหมาย เพราะการเลือกต้ัง มีเพื่อเป็นการฝึกพูด ฝึกหาเสียง ฝึกประท้วง สร้างการจ้างงาน กระจายรายได้ แถมให้สื่อยักษ์ มีงานทำ เพราะ เจ้าของโรงพิมพ์แบงค์ เป็นเจ้าของสื่อ และ เป็นเจ้าของนักการเมือง ทั้ง 2 พรรค ที่สำคัญ เป็นการทดสอบ การโฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของระบอบการปกครอง สินค้าออกสำคัญ บัญชี 1: ทุนนิยมเสรี ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน
(หมายเหตุ: สินค้าส่งออกบัญชีนี้ น่าจะเป็นของปลอมเกือบทั้งหมด เพราะ บรรดาผู้นำเข้าสินค้า ไม่ว่าจะสมัครใจ เพราะเคลิ้มตามโฆษณาชวนเชื่อ หรือถูกบังคับให้นำเข้าไปใช้ ก็ตาม แต่ปรากฏผล ไม่น่าพอใจ เหมือนกัน คือ ฉ ห กันถ้วนหน้า แต่ไม่รู้จะไปร้องเรียนกับใคร ได้แต่ก้มหน้ามองหัวแม่เท้าทุกวัน ที่แย่ไปกว่านั้น คือ พวกที่ ฉ ห มีกว่าครึ่งที่ยังไม่รู้ตัวว่า ฉ ห เพราะอะไร โถ โถ) สินค้าส่งออกสำคัญ บัญชี 2: แนวทางการศึกษา และ ความคิดทางวิชาการ
(หมายเหตุ: สินค้่าส่งออกบัญชีนี้ มีส่วนสัมพันธ์กับบัญชี 1 เมื่อใดที่ การส่งออกบัญชีนี้ลดลง หรือไม่ได้ผล การส่งออกตามบัญชี 1 จะลดลง ตามไปด้วย แต่คงจะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นสินค้า ที่ส่งออกมาเป็นเวลานาน ฝังรากลงลึก และมีผู้คนหลายประเภท ติดกับ นอนสบาย พุงปลิ้น อยู่ในคอก มันคงฉุดให้ลุกขึ้นยืน แล้วเดินออกจากคอกยากหน่อย แต่ไม่มีอะไรคงทนถาวรตลอดกาล เป็นหลักสัจธรรม คอยดูกันไป) สินค้าส่งออกสำคัญ บัญชี 3: วัฒนธรรมอเมริกา ผ่าน การบันเทิง และสื่อทุกประเภท
(หมายเหตุ: สินค้าส่งออกบัญชีนี้ มีผู้สนใจมาก แม้จะเน่าเละแค่ไหน แต่ผู้ใช้เสพติดกันมาก ถือเป็นความสำเร็จ แท้จริงของการส่งออก หนังหลายเรื่องสนุกดีครับ ลุงนิทานก็ชอบดู โกหกได้เก่งจัง แต่ให้เลิกดูก็ไม่ถึงกับลงแเดง) สินค้านำเข้าสำคัญ: หมายถึงสินค้า ที่เป็นที่ต้องการอย่างที่สุด โดยการเป็นเจ้าของ หรือครอบครอง ไม่ว่าโดยวิธีการใด
อันดับ 1 คือ พลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญ
อันดับ 2 คือ พลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญ
อันดับ 3 คือ พลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญ นโยบายต่างประเทศ: ดู ภาพ ประกอบ us foreign policy flow chart มิตรประเทศ: ประเทศที่มีพลังงาน และ แร่ธาตุ (หลอกล่อให้คบ แล้ว ขะโมยของเขาได้) ประเทศที่ไม่เป็นมิตร: ประเทศที่มีพลังงาน และแร่ธาตุ (เขาไม่คบด้วย และยังขะโมยของเขาไม่ได้) ประเทศลูกพี่: อังกฤษ (ถึงจะประกาศอิสรภาพต้ังหลายร้อยปี จนจัดงานฉลองหลอกตัวเอง แต่อิสระ ไม่จริงนี่หว่า แน่จริงตัดขาดให้ดูหน่อย แล้วค่อยทำกร่าง) ประเทศที่ถือเป็นก๊วน: อังกฤษ ฝรั่งเศส ( ผลัดกันเล่น ผลัดกันกิน มันไม่ตัดขาดกันจริงหรอก ดูไปก็แล้วกัน) ประเทศลูกน้อง: ทั้งโลก ยกเว้น กลุ่ม BRICS และพวก และ 2 ประเภทข้างต้น ประเทศที่ไม่เป็นมิตรอย่างถาวร : เกาหลีเหนือ ( เข้าใจว่าเหตุผลสำคัญ คือ ประธานาธิบดีอเมริกาคนปัจจุบัน หน้าไม่รับ กับผมทรงบังคับของเกาหลีเหนือ) เครื่องมือหากินที่ขาดไม่ได้ และควบคุมได้ บัญชี 1: UN, World Bank, IMF, NATO เครื่องมือหากินที่ขาดไม่ได้ และควบคุมได้ บัญชี 2: หน่วยงาน ประเภทสถาบัน มูลนิธิ องค์กรไม่ค้ากำไร (NGO) ที่ให้ทุนการศึกษาทุกระดับ การวิจัย การสนับสนุนกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน (หน่วยงานพวกนี้ มีความสำคัญมาก เป็นเฟืองสำคัญ ที่ทำให้กลไกเกือบทุกอย่าง ของอเมริกา เดิน โดยแทบจะไม่มีสิ่งใดขวางกั้น เพราะ ไม่รู้ว่าองค์กรเหล่านี้ คือตัวเฟืองสำคัญ และเป็นหน่วยงานสังกัด ฝ่ายความมั่นคง หรือข่าวกรอง พูดง่ายๆ ว่า เป็น พวก CIA ปลอมตัวนั่นแหละ) เครื่องมือหากินที่สำคัญ ยังควบคุมไม่ได้หมด แต่พยายามอยู่: EU ( เป็นรายการต้มตุ๋น ลวงโลกของจริง ทั้งต้มกันเอง และ ต้มชาวโลก) ผู้แทนประเทศ: ทูต ผู้แทนการค้า นักธุรกิจ ครู อาจารย์ นักวิชาการ นักเขียน นักสอนศาสนา นักท่องเที่ยว สื่อ โดยเฉพาะ พวกที่แฝงตัวคลุกอยู่กับคนท้องถิ่น ตัวดีนักทำได้เนียนมาก พวกนี้เรียกว่า มาปฏิบัติภาระกิจ ( พูดง่ายๆ ว่า เป็นพวก CIA ปลอมตัว อีกเข่นกัน วุ้ย ทำไมมันมากันแยะนัก ไหนว่า แค่อยากได้ตั้กกะแตน ทำไมต้องถึงกับขี่ช้างมา) คุณสมบัติของผู้แทนประเทศ: ไม่ใช้วิจารณญาณ ไม่มีมารยาท มีความสามารถในการหาข่าวเชิงลึก มีความรู้และสามารถเรื่องอาวุธและการใช้ ถนัดในการแปลงสาสน์ และใช้กลวิธีการเสี้ยม มากกว่าวิธีทางการทูต การค้า การสอน การเขียน ฯลฯ แล้วแต่กรณี หน่วยงานนอกประเทศ ที่ทำหน้าที่สำคัญ: นอกเหนือจาก องค์กรเปิดเผย เช่นสถานทูต หน่วยงานทางทหาร หน่วยงานให้ความช่วยเหลือ เช่น USAID , Chamber of commerce แล้วหน่วยงานเอกชน อีก 3 ประเภท ที่ทำหน้าที่สำคัญ คือ สำนักงานตรวจสอบบัญชีระหว่างประเทศ และ สำนักงานกฏหมายระหว่างประเทศ บริษัทประกันภัยระหว่างประเทศ ซึ่งจะได้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับธุรกิจในประเทศเป้าหมาย ส่งกลับไปให้สำนักใหญ่ที่อเมริกา ดังนั้น คุณสมบัติ ของบุคคลากร ที่ส่งไปประจำในสำนักงานเหล่านี้ในหลายประเทศ ทำงานประสานกับหน่วยงานความมั่นคง หน่วยงานข่าวกรอง ของอเมริกา ( พวก C ปลอมตัว อีกแล้ว นี่ อย่านึกว่าผมพูดเล่น แล้วไม่ใช่เรื่องจริงนะ) เครื่องทุ่นแรง: บรรดา “เด็กดี” ทั้งหลายที่อยู่ในท้องถิ่น ที่ อเมริกา สนับสนุน ไม่ว่าโดยการศึกษา หน้าที่การงาน การสนับสนุนทางสังคม ทางการเมือง โดยทางตรง หรือ ทางอ้อม คนเล่านี้ใช้ชีวิต อยู่ในกรอบ หรือคอก ที่อเมริกาสร้างให้อยู่ ทางความคิด เขาเล่าน้ัน มีทุกสาขาอาขีพ ทุกเพศ ทุกวัย มีความเชื่อมั่นว่าอเมริกาเท่าน้ัน คือศิวิไลซ์ และ วิถีทุนนิยมเสรี คือวิถีที่นำความเจริญมาให้ประเทศตนเอง เครื่องทุ่นแรงเหล่านี้ ครั้งแล้ว ครั้งเล่า ที่พาประเทศของตนติดอยู่ในกับดักมากขึ้น แต่ไม่เคยเรียนรู้ ไม่เคยจดจำ จึงเป็นเครื่องทุ่นแรง ที่อเมริกาเสาะแสวงหา เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา มิให้ขาดรุ่น ขาดจำนวน
จุดแข็ง: การใช้สื่อ ทุกรูปแบบ เพื่อฟอกย้อมความคิด ความเห็น ของพวกโลกสวย และจิตอ่อน (เป็นเรื่องน่าสนใจมาก ว่าทำไมถึงว่าง่ายนักหนา กับสื่อฟอก มันบอกอะไรละเชื่อหมด ธรรมะ ของพระพุทธองค์ พระราโชวาท ของพระเจ้าอยู่หัว ทำไมถึง ไม่จดจำ ไม่เขื่อถือ นำไปปฏิบัติบ้าง ) จุดอ่อน: ออกอาการง่าย เวลามีอารมณ์ เช่น น้ำลายเยิ้มไปหมด เวลา อยากได้ อยากกิน ขอแนะนำว่า ใช้ผ้าเข็ดที่มุมปากแบบผู้ดีบ่อยๆ น่าจะช่วยได้บ้าง แต่ถ้าทำไม่เป็น คงต้องเข้าไปหลักสูตรฝึกอบรม ความอดกลั้น อันเป็นมารยาทอย่างหนึ่งของผู้ที่เจริญแล้ว เครื่องมือสื่อสารทุกชนิด: เป็นเครื่องมือที่ใช้จารกรรมข้อมูลทั้งสื้น รวมทั้ง เครื่องมือที่ใช้เขียนอยู่นี้ และที่ท่านทั้งหลายกำลังใช้อ่านกัน ฮา ชาตะ: วันที่ 4 กรกฎาคม คศ 1767 มรณะ: มันต้องมีสักวันน่า อาจจะจวนแล้วก็ได้ จักรวรรดิยิ่งใหญ่ทุกราย มีวันล่มสลาย โรมันว่ายิ่งใหญ่จบแบบไหน ยกตัวอย่างไกลไป เอาใกล้สุด จักรภพอังกฤษ ใหญ่ และกร่างขนาดไหน วันนี้เหลือเป็นแค่เกาะเล็กเท่าปลายนิ้วก้อยข้างซ้าย แถมถูกต่างชาติ โดยเฉพาะพวกที่เคยเป็นขี้ข้า เข้าไปซื้อทรัพย์สินในกรุง จนคนอังกฤษเองต้องย้ายครัว ไปอยู่ชนบทกันหมด ไอ้ที่สะใจ คือต้องไปยืนกุมรับคำสั่ง จากคนที่ตัวเองเคยดูถูกกดขี่ ตอนนี้ยังกัดฟัน ทำซ่า เบ่งขวา ขู่ซ้าย จมไม่ลง อเมริกา จงจำไว้เป็นอุทาหรณ์ คุณนายกุ้งแห้ง ควรต้ังใจอ่านบันทึกนี้ ไม่มีใครเขาจะเตือนสติกันตรงๆ อย่างนี้หรอก มีแต่คนป้อยอ ให้หัวทิ่มก้นโด่งทั้งนั้น ท่าน้ันเซลฟี่ลำบากหน่อยนะคุณนาย แล้วอย่าลืมรายงานตรงไปตรงมา ไปยังนายใหญ่ จะให้ดีส่งไปที่ หน่วย CRS ของ Congress ให้ทำหนังสือแปะหน้า ส่งเข้าสภาสูงเลย ว่ามีคนเขาเขียนบันทึกสดุดีเตือนใจไว้อย่างไร กลัวแต่ว่า ไอ้พวกเสมียนที่จ้างไว้ จะไม่มีปัญญาแปลสำนวนลุงนิทานละซี เอาไปให้พี่เจฟฟรี่ แปลก็แล้วกัน ถึงจะเป็นฝรั่งแต่ภาษาไทยเก่งพอตัว ไม่เสียแรงส่งมาฝังตัวใกล้ชิดเสียนานหลายสิบปี สวัสดีครับอเมริกา หวังว่าปีหน้ายังมีวันฉลอง !
คนเล่านิทาน
6 กค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 841 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 8 แผนชิงท่อ

    เอาแผนที่โลกมากางดู ให้รู้จัก Eurasia ให้ชัด ๆ เปรียบเทียบกับการเดินหมากของอเมริกา เป้าหมายของอเมริกาไปไกลกว่าที่คิด ไม่ใช่แค่จะปิดล้อมรัสเซียตามคำสอนของครู Mac เท่านั้น ยุทธศาสตร์ของอเมริกา ถ้าทำสำเร็จก็เหมือนตัดมือตัดตีนอาเฮีย ไม่ให้มีโอกาสเข้าไปถึงแหล่งน้ำมัน Caspian Sea รวมทั้ง เข้าไปใน Kazakhstan ด้วยเช่นกัน และที่สำคัญมันจะเป็นการตัดขาดเส้นทางจับมือระหว่างอาเฮีย กับรัสเซียอีกด้วย อืม หมากตานี้ เยี่ยม เหี้ยมจริง ๆ

    เส้นทางสายไหมแต่โบราณ The Great Silk Road ผ่าน Tashkent ใน Uzbekistan และ Almaaty ใน Kazakhstan บริเวณที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาใหญ่น้อย การควบคุม Uzbekistan, Krygysten and Kazakhstan ย่อมควบคุมท่อส่งที่อาจจะสร้างขึ้นระหว่างจีนกับเอเซียกลางด้วย ดังนั้นถ้าสามารถปิดล้อมรัสเซีย ก็จะยิ่งมีโอกาสควบคุมท่อส่งระหว่างรัสเซียกับยุโรปตะวันตกและตะวันออกกลางได้อีกด้วย

    นายตัวแสบ Brzezinski ได้เขียนบทความไว้ในวารสาร Foreign Affairs ของ CFR เมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 1997 ถึงยุทธศาสตร์ที่แท้จริงของวอชิงตันเกี่ยวกับ Eurasia สรุปความว่า:

    “Eurasia มีพลเมืองเท่ากับ 75% ของโลก เท่ากับ 60% ของ GNP และมีทรัพยากรน้ำมันเท่ากับ 75% เมื่อรวมกันแล้ว Eurasia สามารถจะมีอำนาจใหญ่ยิ่งกว่าอเมริกาหลายเท่านัก

    ประเทศใดก็ตามที่ครอบครองหรือควบคุม Eurasia ได้ ก็เท่ากับควบคุมตะวันออกกลางและอาฟริกาโดยอัตโนมัติ เมื่อ Eurasia เป็นจุดตัดสินเกมหมากรุกชิงโลก มันจะไม่ได้เรื่องนะ ถ้าอเมริกาจะมีนโยบายแยกชุดหนึ่งสำหรับยุโรป และอีกชุดหนึ่งสำหรับเอเซีย การใช้อำนาจของอเมริกาอย่างไรใน Eurasia นั่นแหละ จะเป็นเครื่องวัดว่า อเมริกาเป็นหนึ่งเดียว ใหญ่สุดในโลกนี้หรือไม่…...”
    หลังจากพลาดจากการถล่ม Iraq ในปี ค.ศ. 2003 ทฤษฎีภูมิศาสตร์การเมือง หมากกระดานชิงโลกของนายตัวแสบ Brzezinski ก็ค่อย ๆ ทยอยออกมา ให้อเมริกาคิดหนัก เช่น จะรบหรือไม่รบกับ อิหร่าน, เรื่องของ Georgia, และเรื่องท่อส่งน้ำมัน Baku-Tbilisi-Ceyhan, เรื่องจีนกำลังผงาดเป็นหมายเลขหนึ่งด้านเศรษฐกิจ ทั้งหมดมันเกี่ยวเนื่องกับภูมิศาสตร์การเมืองทั้งนั้น นาย Brzezinski ยังสำทับอเมริกาอีกว่า จะเป็นหมายเลขหนึ่งคุมโลกได้หรือไม่ มันขึ้นกับคุมการไหลเวียนของน้ำมันและ แก๊ซของโลกได้หรือเปล่า เพราะมันเป็นเส้นเลือดเลี้ยงเศรษฐกิจ เกือบทุกอย่างมันเดินได้ วิ่งได้ อยู่ได้ เพราะน้ำมันทั้งนั้นแหละ ขาดน้ำมัน ก็เหมือนร่างกายขาดเลือด อยู่ได้ไงหือ ไอ้ที่ไปบุกอาฟนิสถาน หรือการพยายามไล่นาย Chavez ทั้งหมดนี้มันก็เรื่องน้ำมันทั้งนั่นแหละ

    หลังจากล่มสลายล้มละลาย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998 รัสเซียก็ก้มหน้าก้มตากู้เศรษฐกิจประเทศ ภายใต้การปกครองอย่างเข้มงวดของคุณพี่ปูตินในฐานะประธานาธิบดี มันก็ตลกดีนะ ขณะที่อเมริกาพยายามจะขยี้รัสเซีย แต่ตัวเองเดินหมากผิดไป บุกเข้าไปขยี้ซัดดัมในอิรัค นึกว่าเกมสั้น ดันต้องเล่นเกมยาว ส้มก็เลยหล่นใส่คุณพี่ปูติน ขายน้ำมันได้เพิ่มขึ้น ใช้หนี้ IMF หมด และสามารถสร้างกองทุนสำรองเงินตรา ตปท.ของตนได้ อ้าว ! จุกอีกแล้วซินักล่า คราวนี้นี่มันเสียหายหลายต่อ เดินผิดตาเดียว ทำให้ศัตรูคู่แข่ง เงยหน้าอ้าปาก แถมยังมีท่าว่ากล้ามจะแข็งขึ้นด้วย รัสเซียเริ่มเงยหน้าขึ้นมามองโลกได้อีกครั้ง แน่นอนมันยิ่งทำให้อเมริกาเจ็บกระดองใจหนักเข้าไปอีก

    หลังจากเงยหน้าอ้าปากได้คล่อง รัสเซียก็เริ่มสร้างอิทธิพลของตนเอง ไม่ใช่โดยการใช้อาวุธ แต่ใช้การเคลื่อนไหวน้ำมันและแก๊ซที่ตนเองมีอยู่เต็ม ตามหลักภูมิศาสตร์การเมืองบ้าง นึกว่าจะเล่นเป็นข้างเดียวหรือไง คุณพี่ปูตินรู้ว่าถ้าไม่เคลื่อนไหว ตัดสินใจแบบเฉียบขาด ไม่นานหรอก รัสเซียก็จะโดนรุมล้อมกรอบ นำโดยอเมริกาเหมือนเดิม
    ขณะเดียวกัน ที่แดนมังกร อาเฮียแม้จะทำมาค้าขึ้น แต่ถ้ายังต้องพึงน้ำมันคนอื่นเขายหายใจแบบนี้ อาเฮียก็ขึ้นเป็นหมายเลขหนึ่งยาก และเขาว่าอาเฮีย ยังไม่มีลูกระเบิดนิวเคลียร์ เอาไว้ขู่ชาวบ้าน ว่าอย่าเข้ามานะ เดี๋ยวอั้วระเบิดตูมเลย แต่เรื่องแบบนี้มันซ้อนซ่อนกันอยู่ ดูไปก่อนอย่าเพิ่งประมาทหน้าอาเฮีย อาจจะแอบมีซุกอยู่ ลูก 2 ลูกก็ได้ ฮา แต่น้ำมันน่ะ อั้วม่ายมีจริง ๆ แต่ไม่เป็นไร อาเฮียมีของดีอย่างอื่นแอบอยู่อีก วันหลังจะขยาย คราวนี้ถ้าพี่ปูเล่นพร้อมกับอาเฮีย สงสัยจะได้เห็นนักล่า ตาเหลือก หงายท้อง นอนแน่ นิ่ง !

    รัสเซียของคุณพี่ปูติน (โปรดสังเกตผมเรียกคุณพี่เลยน่ะ ชื่นชมในความใจถึงของแก) เป็นอำนาจเดียวที่สามารถต่อกรกับอเมริกาในเรื่องของระเบิดนิวเคลียร์ได้ (ในขณะนี้ ! ?) และมีโอกาสที่จะขึ้นแท่นเป็นหมายเลขหนึ่งครองโลกได้เหมือนกัน ถ้าประเทศใน Eurasia รวมกัน มี จีน, รัสเซีย รวมทั้งรัฐ ต่าง ๆ ใน Eurasia ก็สามารถทำให้อเมริกากลืนน้ำลายไม่คล่อง คอฝืดแล้ว นี่ถ้าบวกเอากลุ่มเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ Shanghai Cooporation Organization ที่เริ่มจับมือกัน เมื่อปี ค.ศ. 1988 ถึง 2001 ซึ่งจีนกับรัสเซียจับมือกันเป็นคู่แรก ทำสัญญาให้ความร่วมมือด้านความ มั่นคงด้วยกัน และมีรัฐเพื่อนบ้าน Kazakhstan, Tajikistan และ Uzbebistan รวมด้วยแล้ว อเมริกาคงยิ่งกว่าตาเหลือก หงายท้อง คราวนี้ มีสิทธิร่วงผล่อยหล่นจากแท่นหมายเลขหนึ่ง

    อเมริกาทำตัวเป็นหมูปากเหล็ก ที่จะไม่ยอมรับว่า ไอ้ที่พยายามถล่มสหภาพโซเวียต ทลายกำแพง Berlin เมื่อปี ค.ศ. 1991 น่ะ จริง ๆ แล้ว เป็นแผนการทำลายสหภาพโซเวียต เพื่อจะได้เข้าไปครอบครองขุมทรัพย์น้ำมันและก๊าซมหึมาแถวนั้นมากกว่า มันกระดากปากน่ะ จะให้บอกตรง ๆ ได้ยังไง แต่ชาวโลกก็ไม่ได้ซื่อบื้อไปซะหมดหรอกนะ หมากแต่ละตัวที่อเมริกาขยับน่ะ คนอ่านออก เล่นเป็น เขาก็รู้กันทั้งนั้น

    หลังจากทลายกำแพง Berlin จนสิ้นซาก 4-5 ปี หลังจากนั้น อเมริกาก็ค่อย ๆ หลอกล่อ เก็บรัฐเล็กรัฐน้อยที่เคยอยู่ในสหภาพโซเวียต ย้ายเอามาสังกัดสหภาพยุโรปแทน แค่นั้นไม่พอเพราะยังคุมไม่ถนัดมือ เอาเข้ามาอยู่กับ NATO เสียด้วย เพราะ NATO ก็คือหุ่น ภายใต้การชักใยของอเมริกานั่นแหละ ใครบ้างล่ะ ที่เสียท่าถูกลวงหลอกล่อ เมื่อถึงปี ค.ศ. 2004 Poland, Czech, Hungary, Estonia, Latvia, Litnania, Bulgaria, Romania, Slovakia และ Slovenia ก็ตกอยู่ในอ้อมแขนของ NATO เรียบร้อย และ ตอนนั้น Georgia ก็กำลังต้วมเตี้ยมขัดสีฉวีวรรณ เตรียมเดินแถวตามเข้ามา

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    29 มิย. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 8 แผนชิงท่อ เอาแผนที่โลกมากางดู ให้รู้จัก Eurasia ให้ชัด ๆ เปรียบเทียบกับการเดินหมากของอเมริกา เป้าหมายของอเมริกาไปไกลกว่าที่คิด ไม่ใช่แค่จะปิดล้อมรัสเซียตามคำสอนของครู Mac เท่านั้น ยุทธศาสตร์ของอเมริกา ถ้าทำสำเร็จก็เหมือนตัดมือตัดตีนอาเฮีย ไม่ให้มีโอกาสเข้าไปถึงแหล่งน้ำมัน Caspian Sea รวมทั้ง เข้าไปใน Kazakhstan ด้วยเช่นกัน และที่สำคัญมันจะเป็นการตัดขาดเส้นทางจับมือระหว่างอาเฮีย กับรัสเซียอีกด้วย อืม หมากตานี้ เยี่ยม เหี้ยมจริง ๆ เส้นทางสายไหมแต่โบราณ The Great Silk Road ผ่าน Tashkent ใน Uzbekistan และ Almaaty ใน Kazakhstan บริเวณที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาใหญ่น้อย การควบคุม Uzbekistan, Krygysten and Kazakhstan ย่อมควบคุมท่อส่งที่อาจจะสร้างขึ้นระหว่างจีนกับเอเซียกลางด้วย ดังนั้นถ้าสามารถปิดล้อมรัสเซีย ก็จะยิ่งมีโอกาสควบคุมท่อส่งระหว่างรัสเซียกับยุโรปตะวันตกและตะวันออกกลางได้อีกด้วย นายตัวแสบ Brzezinski ได้เขียนบทความไว้ในวารสาร Foreign Affairs ของ CFR เมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 1997 ถึงยุทธศาสตร์ที่แท้จริงของวอชิงตันเกี่ยวกับ Eurasia สรุปความว่า: “Eurasia มีพลเมืองเท่ากับ 75% ของโลก เท่ากับ 60% ของ GNP และมีทรัพยากรน้ำมันเท่ากับ 75% เมื่อรวมกันแล้ว Eurasia สามารถจะมีอำนาจใหญ่ยิ่งกว่าอเมริกาหลายเท่านัก ประเทศใดก็ตามที่ครอบครองหรือควบคุม Eurasia ได้ ก็เท่ากับควบคุมตะวันออกกลางและอาฟริกาโดยอัตโนมัติ เมื่อ Eurasia เป็นจุดตัดสินเกมหมากรุกชิงโลก มันจะไม่ได้เรื่องนะ ถ้าอเมริกาจะมีนโยบายแยกชุดหนึ่งสำหรับยุโรป และอีกชุดหนึ่งสำหรับเอเซีย การใช้อำนาจของอเมริกาอย่างไรใน Eurasia นั่นแหละ จะเป็นเครื่องวัดว่า อเมริกาเป็นหนึ่งเดียว ใหญ่สุดในโลกนี้หรือไม่…...” หลังจากพลาดจากการถล่ม Iraq ในปี ค.ศ. 2003 ทฤษฎีภูมิศาสตร์การเมือง หมากกระดานชิงโลกของนายตัวแสบ Brzezinski ก็ค่อย ๆ ทยอยออกมา ให้อเมริกาคิดหนัก เช่น จะรบหรือไม่รบกับ อิหร่าน, เรื่องของ Georgia, และเรื่องท่อส่งน้ำมัน Baku-Tbilisi-Ceyhan, เรื่องจีนกำลังผงาดเป็นหมายเลขหนึ่งด้านเศรษฐกิจ ทั้งหมดมันเกี่ยวเนื่องกับภูมิศาสตร์การเมืองทั้งนั้น นาย Brzezinski ยังสำทับอเมริกาอีกว่า จะเป็นหมายเลขหนึ่งคุมโลกได้หรือไม่ มันขึ้นกับคุมการไหลเวียนของน้ำมันและ แก๊ซของโลกได้หรือเปล่า เพราะมันเป็นเส้นเลือดเลี้ยงเศรษฐกิจ เกือบทุกอย่างมันเดินได้ วิ่งได้ อยู่ได้ เพราะน้ำมันทั้งนั้นแหละ ขาดน้ำมัน ก็เหมือนร่างกายขาดเลือด อยู่ได้ไงหือ ไอ้ที่ไปบุกอาฟนิสถาน หรือการพยายามไล่นาย Chavez ทั้งหมดนี้มันก็เรื่องน้ำมันทั้งนั่นแหละ หลังจากล่มสลายล้มละลาย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998 รัสเซียก็ก้มหน้าก้มตากู้เศรษฐกิจประเทศ ภายใต้การปกครองอย่างเข้มงวดของคุณพี่ปูตินในฐานะประธานาธิบดี มันก็ตลกดีนะ ขณะที่อเมริกาพยายามจะขยี้รัสเซีย แต่ตัวเองเดินหมากผิดไป บุกเข้าไปขยี้ซัดดัมในอิรัค นึกว่าเกมสั้น ดันต้องเล่นเกมยาว ส้มก็เลยหล่นใส่คุณพี่ปูติน ขายน้ำมันได้เพิ่มขึ้น ใช้หนี้ IMF หมด และสามารถสร้างกองทุนสำรองเงินตรา ตปท.ของตนได้ อ้าว ! จุกอีกแล้วซินักล่า คราวนี้นี่มันเสียหายหลายต่อ เดินผิดตาเดียว ทำให้ศัตรูคู่แข่ง เงยหน้าอ้าปาก แถมยังมีท่าว่ากล้ามจะแข็งขึ้นด้วย รัสเซียเริ่มเงยหน้าขึ้นมามองโลกได้อีกครั้ง แน่นอนมันยิ่งทำให้อเมริกาเจ็บกระดองใจหนักเข้าไปอีก หลังจากเงยหน้าอ้าปากได้คล่อง รัสเซียก็เริ่มสร้างอิทธิพลของตนเอง ไม่ใช่โดยการใช้อาวุธ แต่ใช้การเคลื่อนไหวน้ำมันและแก๊ซที่ตนเองมีอยู่เต็ม ตามหลักภูมิศาสตร์การเมืองบ้าง นึกว่าจะเล่นเป็นข้างเดียวหรือไง คุณพี่ปูตินรู้ว่าถ้าไม่เคลื่อนไหว ตัดสินใจแบบเฉียบขาด ไม่นานหรอก รัสเซียก็จะโดนรุมล้อมกรอบ นำโดยอเมริกาเหมือนเดิม ขณะเดียวกัน ที่แดนมังกร อาเฮียแม้จะทำมาค้าขึ้น แต่ถ้ายังต้องพึงน้ำมันคนอื่นเขายหายใจแบบนี้ อาเฮียก็ขึ้นเป็นหมายเลขหนึ่งยาก และเขาว่าอาเฮีย ยังไม่มีลูกระเบิดนิวเคลียร์ เอาไว้ขู่ชาวบ้าน ว่าอย่าเข้ามานะ เดี๋ยวอั้วระเบิดตูมเลย แต่เรื่องแบบนี้มันซ้อนซ่อนกันอยู่ ดูไปก่อนอย่าเพิ่งประมาทหน้าอาเฮีย อาจจะแอบมีซุกอยู่ ลูก 2 ลูกก็ได้ ฮา แต่น้ำมันน่ะ อั้วม่ายมีจริง ๆ แต่ไม่เป็นไร อาเฮียมีของดีอย่างอื่นแอบอยู่อีก วันหลังจะขยาย คราวนี้ถ้าพี่ปูเล่นพร้อมกับอาเฮีย สงสัยจะได้เห็นนักล่า ตาเหลือก หงายท้อง นอนแน่ นิ่ง ! รัสเซียของคุณพี่ปูติน (โปรดสังเกตผมเรียกคุณพี่เลยน่ะ ชื่นชมในความใจถึงของแก) เป็นอำนาจเดียวที่สามารถต่อกรกับอเมริกาในเรื่องของระเบิดนิวเคลียร์ได้ (ในขณะนี้ ! ?) และมีโอกาสที่จะขึ้นแท่นเป็นหมายเลขหนึ่งครองโลกได้เหมือนกัน ถ้าประเทศใน Eurasia รวมกัน มี จีน, รัสเซีย รวมทั้งรัฐ ต่าง ๆ ใน Eurasia ก็สามารถทำให้อเมริกากลืนน้ำลายไม่คล่อง คอฝืดแล้ว นี่ถ้าบวกเอากลุ่มเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ Shanghai Cooporation Organization ที่เริ่มจับมือกัน เมื่อปี ค.ศ. 1988 ถึง 2001 ซึ่งจีนกับรัสเซียจับมือกันเป็นคู่แรก ทำสัญญาให้ความร่วมมือด้านความ มั่นคงด้วยกัน และมีรัฐเพื่อนบ้าน Kazakhstan, Tajikistan และ Uzbebistan รวมด้วยแล้ว อเมริกาคงยิ่งกว่าตาเหลือก หงายท้อง คราวนี้ มีสิทธิร่วงผล่อยหล่นจากแท่นหมายเลขหนึ่ง อเมริกาทำตัวเป็นหมูปากเหล็ก ที่จะไม่ยอมรับว่า ไอ้ที่พยายามถล่มสหภาพโซเวียต ทลายกำแพง Berlin เมื่อปี ค.ศ. 1991 น่ะ จริง ๆ แล้ว เป็นแผนการทำลายสหภาพโซเวียต เพื่อจะได้เข้าไปครอบครองขุมทรัพย์น้ำมันและก๊าซมหึมาแถวนั้นมากกว่า มันกระดากปากน่ะ จะให้บอกตรง ๆ ได้ยังไง แต่ชาวโลกก็ไม่ได้ซื่อบื้อไปซะหมดหรอกนะ หมากแต่ละตัวที่อเมริกาขยับน่ะ คนอ่านออก เล่นเป็น เขาก็รู้กันทั้งนั้น หลังจากทลายกำแพง Berlin จนสิ้นซาก 4-5 ปี หลังจากนั้น อเมริกาก็ค่อย ๆ หลอกล่อ เก็บรัฐเล็กรัฐน้อยที่เคยอยู่ในสหภาพโซเวียต ย้ายเอามาสังกัดสหภาพยุโรปแทน แค่นั้นไม่พอเพราะยังคุมไม่ถนัดมือ เอาเข้ามาอยู่กับ NATO เสียด้วย เพราะ NATO ก็คือหุ่น ภายใต้การชักใยของอเมริกานั่นแหละ ใครบ้างล่ะ ที่เสียท่าถูกลวงหลอกล่อ เมื่อถึงปี ค.ศ. 2004 Poland, Czech, Hungary, Estonia, Latvia, Litnania, Bulgaria, Romania, Slovakia และ Slovenia ก็ตกอยู่ในอ้อมแขนของ NATO เรียบร้อย และ ตอนนั้น Georgia ก็กำลังต้วมเตี้ยมขัดสีฉวีวรรณ เตรียมเดินแถวตามเข้ามา สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 29 มิย. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 656 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ขอฝากไว้ ยมบาลไม่ได้มาจดเรา ว่าทำบุญทำบาป
    จิตเราเป็นคนจดทุกวัน ทำชั่วก็จด ทำดีก็จด
    คือ จิตมันจดไว้โดยธรรมชาติ
    แล้วถึงเวลา มันก็ไปตามบาปตามกรรมของมันเอง
    ไม่มีใครทำให้ ตัวเองทำตัวเอง
    แล้วคนอื่นก็ไม่ได้มาทำให้เรา”

    คำสอน หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม จากเรื่องเก็บอารมณ์ หนังสือกฎแห่งกรรม-ธรรมปฏิบัติ เล่ม ๑๐
    “ขอฝากไว้ ยมบาลไม่ได้มาจดเรา ว่าทำบุญทำบาป จิตเราเป็นคนจดทุกวัน ทำชั่วก็จด ทำดีก็จด คือ จิตมันจดไว้โดยธรรมชาติ แล้วถึงเวลา มันก็ไปตามบาปตามกรรมของมันเอง ไม่มีใครทำให้ ตัวเองทำตัวเอง แล้วคนอื่นก็ไม่ได้มาทำให้เรา” คำสอน หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม จากเรื่องเก็บอารมณ์ หนังสือกฎแห่งกรรม-ธรรมปฏิบัติ เล่ม ๑๐
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพ่อท่านนวล รับเลื่อนสมณศักดิ์ วัดไสหร้า จ.นครศรีธรรมราช ปี2554
    เหรียญพ่อท่านนวล รับเลื่อนสมณศักดิ์ (หลังตอกโค็ด) วัดไสหร้า จ.นครศรีธรรมราช ปี2554 // พระดีพิธีใหญ่ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณเน้น เมตตามหานิยม ค้าขาย มหาอำนาจ คงกระพันชาตรีและมหาอุด แคล้วคลาดปลอดภัย โชคลาภ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก >>

    ** “พ่อท่านนวล ปริสุทโธ” เป็นพระสุปฏิปันโนนักปฏิบัติกัมมัฏฐาน ที่เพียบพร้อมด้วยจริยวัตรอันงดงาม และเป็นพระบริสุทธิสงฆ์ที่ยึดหลักพระธรรมวินัยตามคำสอนในพระพุทธศาสนาอย่าง เคร่งครัด ปฏิบัติกิจของสงฆ์เป็นกิจวัตรอย่างสม่ำเสมอ ไม่เว้นแม้ยามเจ็บไข้ได้ป่วย จนเป็นที่เลื่องลือและเป็นที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสในหมู่ชาวบ้านญาติโยมแดน ปักษ์ใต้เป็นอันมาก ท่านยังเป็นพระเกจิอาจารย์และเจ้าพิธีระดับแถวหน้า ที่ได้รับการยอมรับและคร่ำหวอดอยู่กับพิธีปลุกเสกจตุคามรามเทพอีกด้วย ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีปฏิปทาและศีลาจริยวัตรอันงดงาม ท่านค่อนข้างเงียบ พูดน้อย แต่ใจดีมีเมตตามาก คำพูดของท่านล้วนเป็นจริงตามที่ท่านพูดเสมอ จนทำให้ผู้ที่มีความเคารพศรัทธาท่าน ไม่กล้าทำอะไรที่นอกลู่นอกทาง และได้ขนานนามท่านว่า “พ่อท่านนวลวาจาสิทธิ์” ในแต่ละวันจะมีผู้คนที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสได้เดินทางมากราบไหว้ ขอพรจากท่านไม่ไม่ขาดระยะ นอกจากนี้ท่านยังได้รับกิจนิมนต์ไปประกอบศาสนพิธีในต่างจังหวัดอยู่เสมอ รวมทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างประเทศ >>>


    #พระสถาพสวยมาก พระสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    เหรียญพ่อท่านนวล รับเลื่อนสมณศักดิ์ วัดไสหร้า จ.นครศรีธรรมราช ปี2554 เหรียญพ่อท่านนวล รับเลื่อนสมณศักดิ์ (หลังตอกโค็ด) วัดไสหร้า จ.นครศรีธรรมราช ปี2554 // พระดีพิธีใหญ่ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณเน้น เมตตามหานิยม ค้าขาย มหาอำนาจ คงกระพันชาตรีและมหาอุด แคล้วคลาดปลอดภัย โชคลาภ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก >> ** “พ่อท่านนวล ปริสุทโธ” เป็นพระสุปฏิปันโนนักปฏิบัติกัมมัฏฐาน ที่เพียบพร้อมด้วยจริยวัตรอันงดงาม และเป็นพระบริสุทธิสงฆ์ที่ยึดหลักพระธรรมวินัยตามคำสอนในพระพุทธศาสนาอย่าง เคร่งครัด ปฏิบัติกิจของสงฆ์เป็นกิจวัตรอย่างสม่ำเสมอ ไม่เว้นแม้ยามเจ็บไข้ได้ป่วย จนเป็นที่เลื่องลือและเป็นที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสในหมู่ชาวบ้านญาติโยมแดน ปักษ์ใต้เป็นอันมาก ท่านยังเป็นพระเกจิอาจารย์และเจ้าพิธีระดับแถวหน้า ที่ได้รับการยอมรับและคร่ำหวอดอยู่กับพิธีปลุกเสกจตุคามรามเทพอีกด้วย ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีปฏิปทาและศีลาจริยวัตรอันงดงาม ท่านค่อนข้างเงียบ พูดน้อย แต่ใจดีมีเมตตามาก คำพูดของท่านล้วนเป็นจริงตามที่ท่านพูดเสมอ จนทำให้ผู้ที่มีความเคารพศรัทธาท่าน ไม่กล้าทำอะไรที่นอกลู่นอกทาง และได้ขนานนามท่านว่า “พ่อท่านนวลวาจาสิทธิ์” ในแต่ละวันจะมีผู้คนที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสได้เดินทางมากราบไหว้ ขอพรจากท่านไม่ไม่ขาดระยะ นอกจากนี้ท่านยังได้รับกิจนิมนต์ไปประกอบศาสนพิธีในต่างจังหวัดอยู่เสมอ รวมทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างประเทศ >>> #พระสถาพสวยมาก พระสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 423 มุมมอง 0 รีวิว
  • โอวาทธรรมและคำสอนหลวงปู่ศิลา สิริจนฺโท
    " มีคนถามหลวงปู่ว่า เมื่อเห็นคนทำในสิ่งไม่ดี เราไม่กล้าตักเตือนเขา เราจะทำยังไงดี
    หลวงปู่ตอบว่า ให้คิดในใจเอาว่า แล้วแต่สู แล้วแต่สูเขาสิได้ใช้กรรมของเขาเอง ว่าแต่เราอย่าไปเป็น อย่าไปทำแบบเขาก็พอ "
    พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจนฺโท ป.)
    วัดพระธาตุหมื่นหิน (ธ) อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ที่พักสงฆ์ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลา สิริจันโท อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์
    โอวาทธรรมและคำสอนหลวงปู่ศิลา สิริจนฺโท " มีคนถามหลวงปู่ว่า เมื่อเห็นคนทำในสิ่งไม่ดี เราไม่กล้าตักเตือนเขา เราจะทำยังไงดี หลวงปู่ตอบว่า ให้คิดในใจเอาว่า แล้วแต่สู แล้วแต่สูเขาสิได้ใช้กรรมของเขาเอง ว่าแต่เราอย่าไปเป็น อย่าไปทำแบบเขาก็พอ "🙏🙏🙏 พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจนฺโท ป.) วัดพระธาตุหมื่นหิน (ธ) อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ที่พักสงฆ์ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลา สิริจันโท อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 249 มุมมอง 0 รีวิว
  • Scan to support Newskit

    เพจ Newskit ในคอนเซปต์ "ข่าวออนไลน์ อารมณ์หนังสือพิมพ์" ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2567 นำเสนอเรื่องราวแตกต่างจากสื่อกระแสหลักและเพจข่าวทั่วไป ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมืองในประเทศไทย เรื่องราวแปลกใหม่และใกล้ตัวในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับประเทศไทย เผยแพร่ทุกเช้าวันจันทร์-พฤหัสบดี ผ่าน 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ Thaitimes, Facebook และ Instagram ในรูปแบบที่สั้น กระชับ สรุปความในโพสต์เดียว ไม่เกิน 2,200 ตัวอักษร

    ที่ผ่านมามีคนสงสัยว่า เพจ Newskit ทำคนเดียวหรือไม่ เป็นเพจส่วนตัว หรือทำในนามองค์กร ขอใช้พื้นที่ตรงนี้สื่อสารกับคุณผู้อ่านว่า เป็นเพจส่วนตัวที่ทำคนเดียว หลังเว้นวรรคจากงานคอลัมนิสต์ออนไลน์ ที่หยุดเขียนไปเมื่อเดือน เม.ย.2567 และได้รับความกรุณาจากทีมงาน Thaitimes โซเชียลมีเดียของคนไทย ให้ทดสอบระบบและนำเสนอเนื้อหาถึงปัจจุบัน โดยยึดหลักการ One Man Journalism แม้จะมีงานประจำและกิจการของครอบครัว แต่พื้นที่ตรงนี้มีไว้ "ปล่อยของ" ในสิ่งที่งานประจำทำไม่ได้

    การเดินทางของเพจ Newskit ทำเป็นงานอดิเรกด้วยใจล้วนๆ เนื้อหาของเราไม่ได้ทำตามกระแส คนที่เข้ามาอ่านจะต้องรู้จักงานเขียนหรือตัวตนของเราจริงๆ แม้อัลกอริทึมจะปิดกั้นก็ตาม อีกทั้งการแสวงหาข้อมูลเพื่อนำมาเขียน โดยเฉพาะการลงพื้นที่ย่อมมีค่าใช้จ่าย ซึ่งที่ผ่านมาใช้รายได้จากงานประจำเป็นหลัก เราใช้ความคิดและหัวใจ ทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่พบเจอและน่าสนใจ จากคำสอนของผู้ใหญ่ ที่ให้เริ่มจากสิ่งที่อยากทำมากกว่ารายได้ แล้วจะมีความสุขในการทำงาน

    ถึงกระนั้น เราเชื่อว่าทั้งในวันนี้และอนาคต อาจมีคนที่อยากสนับสนุนผลงาน อีกทั้งเริ่มเห็นสื่อเอกชน และสื่อมวลชนอิสระหลายราย เริ่มประกาศขอรับการสนับสนุนหลายรูปแบบ เพราะฉะนั้นตั้งแต่วันจันทร์ที่ 25 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ทุกโพสต์ของ Newskit จะติด QR Code ของแอปพลิเคชัน K SHOP สำหรับผู้อ่านที่ต้องการสนับสนุนโดยตรง แม้เราจะไม่คาดหวังรายได้จากตรงนี้มากนักก็ตาม โปรดสังเกตชื่อบัญชีปลายทางเป็น "นายกิตตินันท์ นาคทอง" เท่านั้น ระวังมิจฉาชีพแอบอ้าง

    เหตุผลที่ไม่แจ้งบัญชีธนาคารโดยตรง เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล และป้องกันมิจฉาชีพ อีกทั้งด้วยฟังก์ชันของ K SHOP ยังอำนวยความสะดวกให้ผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทย สามารถเลือกชำระด้วยคะแนนสะสม K Point ได้ในอัตรา 10 คะแนนเท่ากับ 1 บาท และผู้ใช้แอปพลิเคชัน MaxMe Wallet สามารถเลือกชำระด้วยแต้มในบัตรแมกซ์การ์ด ของปั๊มน้ำมันพีทีได้ในอัตรา 10 คะแนนเท่ากับ 1 บาทเช่นกัน

    ขอขอบคุณทุกการสแกนเพื่อสนับสนุนเรามา ณ โอกาสนี้

    #Newskit
    Scan to support Newskit เพจ Newskit ในคอนเซปต์ "ข่าวออนไลน์ อารมณ์หนังสือพิมพ์" ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2567 นำเสนอเรื่องราวแตกต่างจากสื่อกระแสหลักและเพจข่าวทั่วไป ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมืองในประเทศไทย เรื่องราวแปลกใหม่และใกล้ตัวในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับประเทศไทย เผยแพร่ทุกเช้าวันจันทร์-พฤหัสบดี ผ่าน 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ Thaitimes, Facebook และ Instagram ในรูปแบบที่สั้น กระชับ สรุปความในโพสต์เดียว ไม่เกิน 2,200 ตัวอักษร ที่ผ่านมามีคนสงสัยว่า เพจ Newskit ทำคนเดียวหรือไม่ เป็นเพจส่วนตัว หรือทำในนามองค์กร ขอใช้พื้นที่ตรงนี้สื่อสารกับคุณผู้อ่านว่า เป็นเพจส่วนตัวที่ทำคนเดียว หลังเว้นวรรคจากงานคอลัมนิสต์ออนไลน์ ที่หยุดเขียนไปเมื่อเดือน เม.ย.2567 และได้รับความกรุณาจากทีมงาน Thaitimes โซเชียลมีเดียของคนไทย ให้ทดสอบระบบและนำเสนอเนื้อหาถึงปัจจุบัน โดยยึดหลักการ One Man Journalism แม้จะมีงานประจำและกิจการของครอบครัว แต่พื้นที่ตรงนี้มีไว้ "ปล่อยของ" ในสิ่งที่งานประจำทำไม่ได้ การเดินทางของเพจ Newskit ทำเป็นงานอดิเรกด้วยใจล้วนๆ เนื้อหาของเราไม่ได้ทำตามกระแส คนที่เข้ามาอ่านจะต้องรู้จักงานเขียนหรือตัวตนของเราจริงๆ แม้อัลกอริทึมจะปิดกั้นก็ตาม อีกทั้งการแสวงหาข้อมูลเพื่อนำมาเขียน โดยเฉพาะการลงพื้นที่ย่อมมีค่าใช้จ่าย ซึ่งที่ผ่านมาใช้รายได้จากงานประจำเป็นหลัก เราใช้ความคิดและหัวใจ ทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่พบเจอและน่าสนใจ จากคำสอนของผู้ใหญ่ ที่ให้เริ่มจากสิ่งที่อยากทำมากกว่ารายได้ แล้วจะมีความสุขในการทำงาน ถึงกระนั้น เราเชื่อว่าทั้งในวันนี้และอนาคต อาจมีคนที่อยากสนับสนุนผลงาน อีกทั้งเริ่มเห็นสื่อเอกชน และสื่อมวลชนอิสระหลายราย เริ่มประกาศขอรับการสนับสนุนหลายรูปแบบ เพราะฉะนั้นตั้งแต่วันจันทร์ที่ 25 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ทุกโพสต์ของ Newskit จะติด QR Code ของแอปพลิเคชัน K SHOP สำหรับผู้อ่านที่ต้องการสนับสนุนโดยตรง แม้เราจะไม่คาดหวังรายได้จากตรงนี้มากนักก็ตาม โปรดสังเกตชื่อบัญชีปลายทางเป็น "นายกิตตินันท์ นาคทอง" เท่านั้น ระวังมิจฉาชีพแอบอ้าง เหตุผลที่ไม่แจ้งบัญชีธนาคารโดยตรง เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล และป้องกันมิจฉาชีพ อีกทั้งด้วยฟังก์ชันของ K SHOP ยังอำนวยความสะดวกให้ผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทย สามารถเลือกชำระด้วยคะแนนสะสม K Point ได้ในอัตรา 10 คะแนนเท่ากับ 1 บาท และผู้ใช้แอปพลิเคชัน MaxMe Wallet สามารถเลือกชำระด้วยแต้มในบัตรแมกซ์การ์ด ของปั๊มน้ำมันพีทีได้ในอัตรา 10 คะแนนเท่ากับ 1 บาทเช่นกัน ขอขอบคุณทุกการสแกนเพื่อสนับสนุนเรามา ณ โอกาสนี้ #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 491 มุมมอง 0 รีวิว
  • “แพทองธาร” แชร์คำสอน "แม่ชีศันสนีย์"...ลั่น "กำลังใจสร้างเองดีที่สุด"...พร้อมย้ำ "สติ" เหนือ "ความชอบ-ชัง"
    https://www.thai-tai.tv/news/20981/
    .
    #แพทองธาร #แม่ชีศันสนีย์ #กำลังใจ #สติ #ข่าวการเมือง #ไทยไท

    “แพทองธาร” แชร์คำสอน "แม่ชีศันสนีย์"...ลั่น "กำลังใจสร้างเองดีที่สุด"...พร้อมย้ำ "สติ" เหนือ "ความชอบ-ชัง" https://www.thai-tai.tv/news/20981/ . #แพทองธาร #แม่ชีศันสนีย์ #กำลังใจ #สติ #ข่าวการเมือง #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • "พระธรรมทูตยุโรป" แถลงการณ์ห่วงใย! ต่อท่าที 2 สส.พรรคประชาชน เผยเป็นถ้อยคำ “มิจฉาทิฎฐิ” ยกคำสอน จิตซึ่งตั้งไว้ผิดแล้ว พึงทำให้บุคคลนั้นถึงความพินาศเลวทรามฉิบหายได้
    https://www.thai-tai.tv/news/20977/
    .
    #พระธรรมทูตยุโรป #มิจฉาทิฏฐิ #ข่าวการเมือง #พรรคประชาชน #นิตยภัต #ไทยไท

    "พระธรรมทูตยุโรป" แถลงการณ์ห่วงใย! ต่อท่าที 2 สส.พรรคประชาชน เผยเป็นถ้อยคำ “มิจฉาทิฎฐิ” ยกคำสอน จิตซึ่งตั้งไว้ผิดแล้ว พึงทำให้บุคคลนั้นถึงความพินาศเลวทรามฉิบหายได้ https://www.thai-tai.tv/news/20977/ . #พระธรรมทูตยุโรป #มิจฉาทิฏฐิ #ข่าวการเมือง #พรรคประชาชน #นิตยภัต #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ฉันเคยอยากออกบวชเพื่อทำที่สุดทุกข์ให้ได้.." เคยถามแม่ตอนเด็กเล็กๆ6-7ขวบ."ว่าสุดขอบฟ้าอยู่ตรงไหนเราเดินออกจากโลกนี้กันเถอะ แม่นิ่ง..ฉันแสวงหาความหมายของชีวิตว่าเกิดมาทำไม?ไปโบถส์เรียนคำสอนอื่นๆ เป็นพุทธแค่ในทะเบียนบ้านแต่ใจไม่มีศาสนาอะไรเลย อายุยี่สิบก่วาอยากมีลูกเพื่อให้เขาบวชแทนฉันทำในสิ่งที่ฉันอยากทำ"..คืนหนึ่งนอนหลับและฝันไปว่าผู้คนมากมายเบียดกันแทบไม่มีช่องว่างและฆ่าฟันกันกินเนื้อมนุษย์ด้วยกันสำคัญว่าเป็นเนื้อสัตว์เท่านั้น"..ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงพูดกับฉันว่าเธออยากให้ลูกเธอเกิดมาในกาลียุคเช่นนี้หรือ..เห็นเลือดท่วมข้อเท้าช้างนองไปทั่วพื้น"ตื่นจากฝันเลยเปลี่ยนความคิดว่าไม่ดีก่วาและการจะให้ใครมาทำความฝันให้มันไม่ยุติธรรมกับเขาเลย.ความคิดพับเก็บ..แต่การอยากมีลูกของฉันนั้นคือต้องไม่มีแฟนนะทำเด็กหลอดแก้วประมาณนั้น"...แม่เคยเล่าว่าฉันเกิดมาเกือบทำให้แม่ต้องตายเจ็บท้องทรมานถึง7วัน7คืนมีเสียงปริศนามาบอกให้แม่ไปคลอดฉันที่ใต้ต้นมะขามใหญ่หน้าหมู่บ้านแม่ไม่ไปทนเจ็บอยู่บ้านหลังหนึ่งอยู่นาน ในที่สุดก็ต้องขนย้ายกันไปบ้านอีกหลังแล้วก็คลอดฉันออกมาลูกหลงสุดท้องอย่างฉันเป็นความหวังของพี่ว่าจะได้น้องชายแต่กับเป็นผู้หญิงเขาก็พากันผิดหวัง "แต่ฉันเป็นผู้หญิงแต่ใจแมนมาก"แม่ฉันชอบสร้างหนังสือพระไตรปิฎกถวายวัดเสมอเลยสงสัยถามแม่ว่าดียังไงเหรอ แม่บอกอยากรู้ก็อ่านเองซิ แต่ฉันอ่านหนังสือตัวกูของกูของหลวงพ่อพุทธทาสก่อนเลยเกิดศรัธทา เลยลองอ่านพระไตรปิฎกดูอ่านแล้ววางไม่ลงเลยเป็นอะไรที่น่าสนใจมากหลายอย่างไม่เข้าใจหรอกไม่มีสภาวะ(ประสบการณ์ตรง)แต่ก็อ่านจบใช้เวลา3เดือน6วันครั้งแรกและอ่านจนครบ9รอบมันน่าทึ่งมากที่มีอัจฉริยะมนุษย์อย่างพระพุทธเจ้าเกิดมาตรัสรู้อะไรแบบนี้ได้สุดยอดมากๆยังไม่ค่อยเข้าใจก็ค่อยๆเรียนรู้คู่ไปกับการปฎิบัติด้วยตัวเองหัดนั่งสมาธิที่บ้านนั่งทั้งวันโดยไม่กินข้าวไม่อาบน้ำทำอยู่แบบนั้นมันเจ็บปวดทรมานร่างกายสุดๆเหมือนตัวจะระเบิดตัวร้อนเหมือนไฟเหงื่อออกมาไหลเป็นน้ำร้อนกระเพาะก็ร้องหิวแต่จิตฉันไม่หิวร่างกายเจ็บปวดแต่จิตไม่เจ็บปวดใดๆเลยตัวเริ่มแข็งคอแข็งจากนั้นกลางระหว่างคิ้วมีแสงพุ่งออกมาคล้ายตาที่สามเปิดความรู้ๆทุกอย่างแล้วกาย&จิต ก็แยกออกจากกันให้รู้ในคราวนั้น ฉันก็ฝึกเองมาเรื่อยๆต่อมาฉันนั่งสมาธิจากตัวแข็งรับรู้ตรงกลางระห่วางคิ้วจากนั้นหัวตึงไปหมดความรู้สึกสุดท้ายตรงกลางกระหม่อมเหมือนจิตพุ่งหลุดออกจากกายๆฉันหายไปพร้อมเวทนาทางกายหายไปจนหมดสิ้น มีแต่รู้ๆว่างๆอยู่แบบนั้น นั่งสมาธิคราวใดก็จะเข้าสมาธิเร็วและกายหายไปเป็นแบบนั้นอยู่2ปีเลยเลิกนั่งสมาธิเพราะไม่รู้จะถามใครได้ จนกระทั่งได้ฟังคำบรรยายธรรมของหลวงปูดุลย์ อตุโล จึงเข้าใจและไปต่อได้ หลวงปู่สอนว่ามีตัวรู้ในขันธ์5 และธาตุรู้โดยธรรมชาติไม่เกี่ยวกับขันธ์5ใดๆเลย"ฉันได้เกิดใหม่อีกครั้งโดยธรรมบุญในครี้งนี้ได้มาเพราะ"แม่ของฉันเธอคือแสงสว่างและความรักที่ไร้เงื่อนไขใดๆไม่คาดหวัง ไม่เรียกร้อง อ้อมกอดของแม่เป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุด.."ฉันรู้ว่าถ้าฉันมีลูกฉันจะต้องตายเพราะฉะนั้นฉันจึงตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่าเมื่อต้องเอาชีวิตเข้าแรก เด็กคนนั้นต้องเป็นอัจฉริยะมนุษย์มีบุญญาธิการเพื่อมาช่วยปลุกสัตว์ให้ตื่นเท่านั้นถ้าไม่ได้เช่นนั้นฉันจะไม่รับเด็ดขาดฉันยังมีความคาดหวังแต่ไม่ใช่กิเลสแต่เป็นกุศล..บุญใดที่ลูกคนนี้ได้ทำแล้วและจะทำต่อไปบุญนั้นแม่พ่อบรรพบุรุษตลอดทั้งผู้ดูแลรักษาข้าพเจ้ามีส่วนในบุญนั้นๆด้วยเสมอสาธุ(บุญเป็นชื่อของความสุขเมื่อทำแล้วสุขใจก็เป็นบุญแล้ว"หลวงพ่อพุทธทาสได้กล่าวไว้.
    🧘‍♀️..ฉันเคยอยากออกบวชเพื่อทำที่สุดทุกข์ให้ได้.." เคยถามแม่ตอนเด็กเล็กๆ6-7ขวบ."ว่าสุดขอบฟ้าอยู่ตรงไหนเราเดินออกจากโลกนี้กันเถอะ แม่นิ่ง..ฉันแสวงหาความหมายของชีวิตว่าเกิดมาทำไม?ไปโบถส์เรียนคำสอนอื่นๆ เป็นพุทธแค่ในทะเบียนบ้านแต่ใจไม่มีศาสนาอะไรเลย อายุยี่สิบก่วาอยากมีลูกเพื่อให้เขาบวชแทนฉันทำในสิ่งที่ฉันอยากทำ"..คืนหนึ่งนอนหลับและฝันไปว่าผู้คนมากมายเบียดกันแทบไม่มีช่องว่างและฆ่าฟันกันกินเนื้อมนุษย์ด้วยกันสำคัญว่าเป็นเนื้อสัตว์เท่านั้น"..ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงพูดกับฉันว่าเธออยากให้ลูกเธอเกิดมาในกาลียุคเช่นนี้หรือ..เห็นเลือดท่วมข้อเท้าช้างนองไปทั่วพื้น"ตื่นจากฝันเลยเปลี่ยนความคิดว่าไม่ดีก่วาและการจะให้ใครมาทำความฝันให้มันไม่ยุติธรรมกับเขาเลย.ความคิดพับเก็บ..แต่การอยากมีลูกของฉันนั้นคือต้องไม่มีแฟนนะทำเด็กหลอดแก้วประมาณนั้น"...แม่เคยเล่าว่าฉันเกิดมาเกือบทำให้แม่ต้องตายเจ็บท้องทรมานถึง7วัน7คืนมีเสียงปริศนามาบอกให้แม่ไปคลอดฉันที่ใต้ต้นมะขามใหญ่หน้าหมู่บ้านแม่ไม่ไปทนเจ็บอยู่บ้านหลังหนึ่งอยู่นาน ในที่สุดก็ต้องขนย้ายกันไปบ้านอีกหลังแล้วก็คลอดฉันออกมาลูกหลงสุดท้องอย่างฉันเป็นความหวังของพี่ว่าจะได้น้องชายแต่กับเป็นผู้หญิงเขาก็พากันผิดหวัง "แต่ฉันเป็นผู้หญิงแต่ใจแมนมาก"แม่ฉันชอบสร้างหนังสือพระไตรปิฎกถวายวัดเสมอเลยสงสัยถามแม่ว่าดียังไงเหรอ แม่บอกอยากรู้ก็อ่านเองซิ แต่ฉันอ่านหนังสือตัวกูของกูของหลวงพ่อพุทธทาสก่อนเลยเกิดศรัธทา เลยลองอ่านพระไตรปิฎกดูอ่านแล้ววางไม่ลงเลยเป็นอะไรที่น่าสนใจมากหลายอย่างไม่เข้าใจหรอกไม่มีสภาวะ(ประสบการณ์ตรง)แต่ก็อ่านจบใช้เวลา3เดือน6วันครั้งแรกและอ่านจนครบ9รอบมันน่าทึ่งมากที่มีอัจฉริยะมนุษย์อย่างพระพุทธเจ้าเกิดมาตรัสรู้อะไรแบบนี้ได้สุดยอดมากๆยังไม่ค่อยเข้าใจก็ค่อยๆเรียนรู้คู่ไปกับการปฎิบัติด้วยตัวเองหัดนั่งสมาธิที่บ้านนั่งทั้งวันโดยไม่กินข้าวไม่อาบน้ำทำอยู่แบบนั้นมันเจ็บปวดทรมานร่างกายสุดๆเหมือนตัวจะระเบิดตัวร้อนเหมือนไฟเหงื่อออกมาไหลเป็นน้ำร้อนกระเพาะก็ร้องหิวแต่จิตฉันไม่หิวร่างกายเจ็บปวดแต่จิตไม่เจ็บปวดใดๆเลยตัวเริ่มแข็งคอแข็งจากนั้นกลางระหว่างคิ้วมีแสงพุ่งออกมาคล้ายตาที่สามเปิดความรู้ๆทุกอย่างแล้วกาย&จิต ก็แยกออกจากกันให้รู้ในคราวนั้น ฉันก็ฝึกเองมาเรื่อยๆต่อมาฉันนั่งสมาธิจากตัวแข็งรับรู้ตรงกลางระห่วางคิ้วจากนั้นหัวตึงไปหมดความรู้สึกสุดท้ายตรงกลางกระหม่อมเหมือนจิตพุ่งหลุดออกจากกายๆฉันหายไปพร้อมเวทนาทางกายหายไปจนหมดสิ้น มีแต่รู้ๆว่างๆอยู่แบบนั้น นั่งสมาธิคราวใดก็จะเข้าสมาธิเร็วและกายหายไปเป็นแบบนั้นอยู่2ปีเลยเลิกนั่งสมาธิเพราะไม่รู้จะถามใครได้ จนกระทั่งได้ฟังคำบรรยายธรรมของหลวงปูดุลย์ อตุโล จึงเข้าใจและไปต่อได้ หลวงปู่สอนว่ามีตัวรู้ในขันธ์5 และธาตุรู้โดยธรรมชาติไม่เกี่ยวกับขันธ์5ใดๆเลย"ฉันได้เกิดใหม่อีกครั้งโดยธรรมบุญในครี้งนี้ได้มาเพราะ"แม่ของฉันเธอคือแสงสว่างและความรักที่ไร้เงื่อนไขใดๆไม่คาดหวัง ไม่เรียกร้อง อ้อมกอดของแม่เป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุด.."ฉันรู้ว่าถ้าฉันมีลูกฉันจะต้องตายเพราะฉะนั้นฉันจึงตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่าเมื่อต้องเอาชีวิตเข้าแรก เด็กคนนั้นต้องเป็นอัจฉริยะมนุษย์มีบุญญาธิการเพื่อมาช่วยปลุกสัตว์ให้ตื่นเท่านั้นถ้าไม่ได้เช่นนั้นฉันจะไม่รับเด็ดขาดฉันยังมีความคาดหวังแต่ไม่ใช่กิเลสแต่เป็นกุศล..บุญใดที่ลูกคนนี้ได้ทำแล้วและจะทำต่อไปบุญนั้นแม่พ่อบรรพบุรุษตลอดทั้งผู้ดูแลรักษาข้าพเจ้ามีส่วนในบุญนั้นๆด้วยเสมอสาธุ🔆🙇‍♀️(บุญเป็นชื่อของความสุขเมื่อทำแล้วสุขใจก็เป็นบุญแล้ว"หลวงพ่อพุทธทาสได้กล่าวไว้.
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 500 มุมมอง 0 0 รีวิว
Pages Boosts