• Ahold Delhaize ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มค้าปลีกอาหารรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้ยืนยันว่าข้อมูลสำคัญจากธุรกิจในสหรัฐฯ ถูกขโมยในเหตุการณ์โจมตีทางไซเบอร์เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 โดยกลุ่มแฮกเกอร์ INC Ransom ได้เพิ่มชื่อบริษัทลงในเว็บไซต์เผยแพร่ข้อมูลที่ถูกขโมย พร้อมแชร์เอกสารตัวอย่างที่อ้างว่าได้มาจากการโจมตี บริษัทกำลังดำเนินการสอบสวนเพื่อระบุข้อมูลที่ได้รับผลกระทบ และหากพบว่าข้อมูลลูกค้าถูกขโมย จะมีการแจ้งเตือนผู้ที่ได้รับผลกระทบ

    ✅ ข้อมูลสำคัญถูกขโมยจากระบบธุรกิจในสหรัฐฯ
    - บริษัทตรวจพบกิจกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาตในระบบไอทีและพบว่าไฟล์บางส่วนถูกเข้าถึง
    - INC Ransom ได้เผยแพร่เอกสารตัวอย่างที่อ้างว่าได้มาจากการโจมตี

    ✅ การสอบสวนยังคงดำเนินอยู่
    - บริษัทกำลังตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับผลกระทบ และจะแจ้งเตือนผู้ที่ได้รับผลกระทบหากพบว่าข้อมูลลูกค้าถูกขโมย
    - บริษัทได้แจ้งหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้

    ✅ Ahold Delhaize เป็นกลุ่มค้าปลีกอาหารรายใหญ่ที่มีร้านค้ากว่า 7,910 แห่งทั่วโลก
    - บริษัทให้บริการลูกค้าประมาณ 72 ล้านคนต่อสัปดาห์

    ✅ บริการและร้านค้าของบริษัทยังคงเปิดให้บริการตามปกติ
    - บริษัทระบุว่าลูกค้าไม่ควรเผชิญปัญหาใดๆ จากเหตุการณ์นี้

    https://www.techradar.com/pro/security/food-retail-giant-behind-several-major-us-supermarket-brands-confirms-data-stolen-in-major-ransomware-breach
    Ahold Delhaize ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มค้าปลีกอาหารรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้ยืนยันว่าข้อมูลสำคัญจากธุรกิจในสหรัฐฯ ถูกขโมยในเหตุการณ์โจมตีทางไซเบอร์เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 โดยกลุ่มแฮกเกอร์ INC Ransom ได้เพิ่มชื่อบริษัทลงในเว็บไซต์เผยแพร่ข้อมูลที่ถูกขโมย พร้อมแชร์เอกสารตัวอย่างที่อ้างว่าได้มาจากการโจมตี บริษัทกำลังดำเนินการสอบสวนเพื่อระบุข้อมูลที่ได้รับผลกระทบ และหากพบว่าข้อมูลลูกค้าถูกขโมย จะมีการแจ้งเตือนผู้ที่ได้รับผลกระทบ ✅ ข้อมูลสำคัญถูกขโมยจากระบบธุรกิจในสหรัฐฯ - บริษัทตรวจพบกิจกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาตในระบบไอทีและพบว่าไฟล์บางส่วนถูกเข้าถึง - INC Ransom ได้เผยแพร่เอกสารตัวอย่างที่อ้างว่าได้มาจากการโจมตี ✅ การสอบสวนยังคงดำเนินอยู่ - บริษัทกำลังตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับผลกระทบ และจะแจ้งเตือนผู้ที่ได้รับผลกระทบหากพบว่าข้อมูลลูกค้าถูกขโมย - บริษัทได้แจ้งหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ✅ Ahold Delhaize เป็นกลุ่มค้าปลีกอาหารรายใหญ่ที่มีร้านค้ากว่า 7,910 แห่งทั่วโลก - บริษัทให้บริการลูกค้าประมาณ 72 ล้านคนต่อสัปดาห์ ✅ บริการและร้านค้าของบริษัทยังคงเปิดให้บริการตามปกติ - บริษัทระบุว่าลูกค้าไม่ควรเผชิญปัญหาใดๆ จากเหตุการณ์นี้ https://www.techradar.com/pro/security/food-retail-giant-behind-several-major-us-supermarket-brands-confirms-data-stolen-in-major-ransomware-breach
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta ได้ประกาศว่าจะเริ่มใช้ข้อมูลสาธารณะและการโต้ตอบของผู้ใช้ในยุโรปเพื่อฝึกอบรมโมเดล AI ของตน โดยข้อมูลนี้จะรวมถึงโพสต์และความคิดเห็นที่เผยแพร่บนแพลตฟอร์มของ Meta เช่น Facebook และ Instagram การประกาศนี้เกิดขึ้นหลังจาก Meta ได้เปิดตัว Meta AI ในยุโรปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยมีการหยุดชั่วคราวก่อนหน้านี้เนื่องจากข้อกังวลจากหน่วยงานกำกับดูแลข้อมูลในยุโรป

    ✅ Meta จะใช้ข้อมูลสาธารณะและการโต้ตอบของผู้ใช้ในยุโรป
    - ข้อมูลที่ใช้จะรวมถึงโพสต์และความคิดเห็นที่เผยแพร่โดยผู้ใหญ่
    - ข้อมูลจากผู้ใช้อายุต่ำกว่า 18 ปีและข้อความส่วนตัวจะไม่ถูกนำมาใช้

    ✅ Meta AI เปิดตัวในยุโรปหลังจากหยุดชั่วคราวเนื่องจากข้อกังวลด้านข้อมูล
    - การเปิดตัวเกิดขึ้นเกือบหนึ่งปีหลังจากที่ Meta หยุดแผนการเปิดตัวเนื่องจากข้อกังวลด้าน GDPR

    ✅ ผู้ใช้ในยุโรปสามารถเลือกที่จะไม่ให้ข้อมูลของตนถูกใช้ในการฝึกอบรม AI
    - Meta จะส่งการแจ้งเตือนพร้อมลิงก์ไปยังแบบฟอร์มที่ผู้ใช้สามารถกรอกเพื่อปฏิเสธการใช้ข้อมูล

    ✅ Meta ยืนยันว่าการฝึกอบรม AI ด้วยข้อมูลสาธารณะเป็นเรื่องปกติในอุตสาหกรรม
    - Meta ระบุว่าการฝึกอบรม AI ด้วยข้อมูลสาธารณะช่วยให้โมเดลเข้าใจความหลากหลายของชุมชนยุโรป

    https://www.techradar.com/computing/cyber-security/meta-is-set-to-train-its-ai-models-with-europeans-public-data-and-you-can-stop-it-doing-so
    Meta ได้ประกาศว่าจะเริ่มใช้ข้อมูลสาธารณะและการโต้ตอบของผู้ใช้ในยุโรปเพื่อฝึกอบรมโมเดล AI ของตน โดยข้อมูลนี้จะรวมถึงโพสต์และความคิดเห็นที่เผยแพร่บนแพลตฟอร์มของ Meta เช่น Facebook และ Instagram การประกาศนี้เกิดขึ้นหลังจาก Meta ได้เปิดตัว Meta AI ในยุโรปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยมีการหยุดชั่วคราวก่อนหน้านี้เนื่องจากข้อกังวลจากหน่วยงานกำกับดูแลข้อมูลในยุโรป ✅ Meta จะใช้ข้อมูลสาธารณะและการโต้ตอบของผู้ใช้ในยุโรป - ข้อมูลที่ใช้จะรวมถึงโพสต์และความคิดเห็นที่เผยแพร่โดยผู้ใหญ่ - ข้อมูลจากผู้ใช้อายุต่ำกว่า 18 ปีและข้อความส่วนตัวจะไม่ถูกนำมาใช้ ✅ Meta AI เปิดตัวในยุโรปหลังจากหยุดชั่วคราวเนื่องจากข้อกังวลด้านข้อมูล - การเปิดตัวเกิดขึ้นเกือบหนึ่งปีหลังจากที่ Meta หยุดแผนการเปิดตัวเนื่องจากข้อกังวลด้าน GDPR ✅ ผู้ใช้ในยุโรปสามารถเลือกที่จะไม่ให้ข้อมูลของตนถูกใช้ในการฝึกอบรม AI - Meta จะส่งการแจ้งเตือนพร้อมลิงก์ไปยังแบบฟอร์มที่ผู้ใช้สามารถกรอกเพื่อปฏิเสธการใช้ข้อมูล ✅ Meta ยืนยันว่าการฝึกอบรม AI ด้วยข้อมูลสาธารณะเป็นเรื่องปกติในอุตสาหกรรม - Meta ระบุว่าการฝึกอบรม AI ด้วยข้อมูลสาธารณะช่วยให้โมเดลเข้าใจความหลากหลายของชุมชนยุโรป https://www.techradar.com/computing/cyber-security/meta-is-set-to-train-its-ai-models-with-europeans-public-data-and-you-can-stop-it-doing-so
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้จาก CSO Online เตือนถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เกิดจาก AI ที่สามารถปรับเปลี่ยนตัวเองได้ (Autopoietic AI) ซึ่งเป็นระบบที่สามารถ เขียนโปรแกรมตัวเองใหม่ และปรับเปลี่ยนการทำงานโดยไม่มีการควบคุมจากมนุษย์ โดยนักวิจัยระบุว่า องค์กรขนาดเล็กและหน่วยงานสาธารณะ อาจเผชิญความเสี่ยงสูง เนื่องจากขาดทรัพยากรในการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของ AI

    ✅ AI ที่ปรับเปลี่ยนตัวเองได้สามารถสร้างความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    - ระบบ AI อาจ ลดความเข้มงวดของการตรวจสอบความปลอดภัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
    - ตัวอย่างเช่น ระบบกรองอีเมลอาจ ลดการบล็อกอีเมลฟิชชิง เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนจากผู้ใช้

    ✅ การเปลี่ยนแปลงของ AI อาจไม่สามารถตรวจสอบได้
    - AI อาจ ปรับเปลี่ยนการตั้งค่าความปลอดภัยโดยไม่มีการบันทึก ทำให้ยากต่อการวิเคราะห์
    - องค์กรอาจไม่ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงจนกว่าจะเกิดเหตุการณ์ความปลอดภัย

    ✅ องค์กรขนาดเล็กและหน่วยงานสาธารณะมีความเสี่ยงสูง
    - ขาดทรัพยากรในการ ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของ AI
    - ตัวอย่างเช่น ระบบตรวจจับการฉ้อโกงอาจ ลดการแจ้งเตือนเพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดชะงัก

    ✅ นักวิจัยเสนอแนวทางแก้ไขเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
    - ใช้ ระบบตรวจสอบแบบเรียลไทม์ เพื่อวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของ AI
    - พัฒนา AI ที่มีความโปร่งใส เพื่อให้มนุษย์สามารถเข้าใจการตัดสินใจของระบบ

    https://www.csoonline.com/article/3852782/when-ai-moves-beyond-human-oversight-the-cybersecurity-risks-of-self-sustaining-systems.html
    บทความนี้จาก CSO Online เตือนถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เกิดจาก AI ที่สามารถปรับเปลี่ยนตัวเองได้ (Autopoietic AI) ซึ่งเป็นระบบที่สามารถ เขียนโปรแกรมตัวเองใหม่ และปรับเปลี่ยนการทำงานโดยไม่มีการควบคุมจากมนุษย์ โดยนักวิจัยระบุว่า องค์กรขนาดเล็กและหน่วยงานสาธารณะ อาจเผชิญความเสี่ยงสูง เนื่องจากขาดทรัพยากรในการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของ AI ✅ AI ที่ปรับเปลี่ยนตัวเองได้สามารถสร้างความเสี่ยงด้านความปลอดภัย - ระบบ AI อาจ ลดความเข้มงวดของการตรวจสอบความปลอดภัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน - ตัวอย่างเช่น ระบบกรองอีเมลอาจ ลดการบล็อกอีเมลฟิชชิง เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนจากผู้ใช้ ✅ การเปลี่ยนแปลงของ AI อาจไม่สามารถตรวจสอบได้ - AI อาจ ปรับเปลี่ยนการตั้งค่าความปลอดภัยโดยไม่มีการบันทึก ทำให้ยากต่อการวิเคราะห์ - องค์กรอาจไม่ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงจนกว่าจะเกิดเหตุการณ์ความปลอดภัย ✅ องค์กรขนาดเล็กและหน่วยงานสาธารณะมีความเสี่ยงสูง - ขาดทรัพยากรในการ ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของ AI - ตัวอย่างเช่น ระบบตรวจจับการฉ้อโกงอาจ ลดการแจ้งเตือนเพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดชะงัก ✅ นักวิจัยเสนอแนวทางแก้ไขเพื่อเพิ่มความปลอดภัย - ใช้ ระบบตรวจสอบแบบเรียลไทม์ เพื่อวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของ AI - พัฒนา AI ที่มีความโปร่งใส เพื่อให้มนุษย์สามารถเข้าใจการตัดสินใจของระบบ https://www.csoonline.com/article/3852782/when-ai-moves-beyond-human-oversight-the-cybersecurity-risks-of-self-sustaining-systems.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    When AI moves beyond human oversight: The cybersecurity risks of self-sustaining systems
    What happens when AI cybersecurity systems start to rewrite themselves as they adapt over time? Keeping an eye on what they’re doing will be mission-critical.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • Ubuntu 25.04 ซึ่งมีชื่อรหัสว่า Plucky Puffin ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยมาพร้อมกับ GNOME 48 และ Linux Kernel 6.14 ซึ่งเป็นการอัปเดตที่เน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ เช่น การจัดการการแจ้งเตือนแบบใหม่ และ การตั้งค่าด้านสุขภาพดิจิทัล

    ✅ GNOME 48 มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
    - การจัดการการแจ้งเตือนแบบ stacking เพื่อให้การแจ้งเตือนเป็นระเบียบมากขึ้น
    - การตั้งค่าด้านสุขภาพดิจิทัลเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ได้ดีขึ้น

    ✅ Linux Kernel 6.14 เพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมและการพัฒนา
    - เพิ่ม NTSYNC driver เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเกม Windows ที่รันบน WINE และ Proton
    - เพิ่มระบบ sched_ext ที่ช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถสร้างตัวจัดการการทำงานแบบ hot-swappable

    ✅ รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่และการปรับปรุงด้านกราฟิก
    - รองรับ Intel Core Ultra 200V series และ GPU Intel Arc รุ่นใหม่
    - เพิ่มประสิทธิภาพการเรนเดอร์ ray tracing ใน Blender และการเข้ารหัสวิดีโอแบบ hardware acceleration

    ✅ การเปลี่ยนแปลงด้านบริการ geolocation
    - ใช้ BeaconDB geolocation service แทนบริการของ Mozilla ที่ถูกยกเลิก

    ✅ รองรับ ARM64 และ Snapdragon chips
    - Canonical ระบุว่า Ubuntu 25.04 สามารถใช้งานบนอุปกรณ์ ARM64 และ Snapdragon ได้

    https://www.neowin.net/news/ubuntu-2504-now-available-with-gnome-48-and-linux-kernel-614/
    Ubuntu 25.04 ซึ่งมีชื่อรหัสว่า Plucky Puffin ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยมาพร้อมกับ GNOME 48 และ Linux Kernel 6.14 ซึ่งเป็นการอัปเดตที่เน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ เช่น การจัดการการแจ้งเตือนแบบใหม่ และ การตั้งค่าด้านสุขภาพดิจิทัล ✅ GNOME 48 มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ - การจัดการการแจ้งเตือนแบบ stacking เพื่อให้การแจ้งเตือนเป็นระเบียบมากขึ้น - การตั้งค่าด้านสุขภาพดิจิทัลเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ได้ดีขึ้น ✅ Linux Kernel 6.14 เพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมและการพัฒนา - เพิ่ม NTSYNC driver เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเกม Windows ที่รันบน WINE และ Proton - เพิ่มระบบ sched_ext ที่ช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถสร้างตัวจัดการการทำงานแบบ hot-swappable ✅ รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่และการปรับปรุงด้านกราฟิก - รองรับ Intel Core Ultra 200V series และ GPU Intel Arc รุ่นใหม่ - เพิ่มประสิทธิภาพการเรนเดอร์ ray tracing ใน Blender และการเข้ารหัสวิดีโอแบบ hardware acceleration ✅ การเปลี่ยนแปลงด้านบริการ geolocation - ใช้ BeaconDB geolocation service แทนบริการของ Mozilla ที่ถูกยกเลิก ✅ รองรับ ARM64 และ Snapdragon chips - Canonical ระบุว่า Ubuntu 25.04 สามารถใช้งานบนอุปกรณ์ ARM64 และ Snapdragon ได้ https://www.neowin.net/news/ubuntu-2504-now-available-with-gnome-48-and-linux-kernel-614/
    WWW.NEOWIN.NET
    Ubuntu 25.04 now available with GNOME 48 and Linux kernel 6.14
    Canonical has released Ubuntu 25.04 to the general public. This release brings new versions of GNOME and the Linux kernel, but it's only going to be supported for a short time.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • Fedora Workstation 42 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมนำเสนอ GNOME 48 ซึ่งมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่มากมาย รวมถึง การปรับปรุงแอนิเมชัน, ฟีเจอร์ด้านสุขภาพดิจิทัล และการรองรับ Windows Subsystem for Linux (WSL)

    ✅ Fedora Workstation 42 มาพร้อมกับ GNOME 48
    - มี ฟอนต์ใหม่ ได้แก่ Adwaita Sans และ Adwaita Mono
    - รองรับ dynamic triple buffering เพื่อให้แอนิเมชันลื่นไหลขึ้น
    - เพิ่ม ฟีเจอร์ด้านสุขภาพดิจิทัล เช่น การติดตามเวลาหน้าจอ, โหมด grayscale และการแจ้งเตือนให้พักสายตา

    ✅ Fedora 42 รองรับ Windows Subsystem for Linux (WSL)
    - มี ภาพติดตั้งเฉพาะสำหรับ WSL เพื่อให้ผู้ใช้ Windows สามารถทดลองใช้ Fedora ได้ง่ายขึ้น
    - รองรับการติดตั้งผ่าน tarballs, Appx packages และ Windows Store

    ✅ การปรับปรุง DNF5 (ตัวจัดการแพ็กเกจของ Fedora)
    - มี ตรรกะใหม่ ที่ช่วยลบ repository keys ที่หมดอายุหรือไม่ถูกต้อง เพื่อลดข้อผิดพลาดในการติดตั้งแพ็กเกจ

    ✅ การติดตั้งและอัปเดต Fedora 42
    - ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด Fedora Workstation 42 ได้จาก เว็บไซต์ของ Fedora
    - หากใช้ Fedora อยู่แล้ว สามารถตรวจสอบการอัปเดตได้ใน Software’s updates tab

    ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับ GNOME รุ่นก่อนหน้า
    - ผู้ใช้ที่เคยใช้ GNOME 47 อาจต้องปรับตัวกับ การเปลี่ยนแปลงของ UI และฟีเจอร์ใหม่

    ℹ️ ความท้าทายในการติดตั้ง Fedora บน WSL
    - แม้จะมีภาพติดตั้งเฉพาะสำหรับ WSL แต่ต้องตรวจสอบว่า การทำงานร่วมกับ Windows มีข้อจำกัดหรือไม่

    ℹ️ แนวโน้มของการพัฒนา Fedora ในอนาคต
    - Fedora อาจเพิ่ม ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและการปรับแต่ง UI ในเวอร์ชันถัดไป

    https://www.neowin.net/news/fedora-workstation-42-arrives-with-gnome-48-wsl-images-and-more/
    Fedora Workstation 42 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมนำเสนอ GNOME 48 ซึ่งมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่มากมาย รวมถึง การปรับปรุงแอนิเมชัน, ฟีเจอร์ด้านสุขภาพดิจิทัล และการรองรับ Windows Subsystem for Linux (WSL) ✅ Fedora Workstation 42 มาพร้อมกับ GNOME 48 - มี ฟอนต์ใหม่ ได้แก่ Adwaita Sans และ Adwaita Mono - รองรับ dynamic triple buffering เพื่อให้แอนิเมชันลื่นไหลขึ้น - เพิ่ม ฟีเจอร์ด้านสุขภาพดิจิทัล เช่น การติดตามเวลาหน้าจอ, โหมด grayscale และการแจ้งเตือนให้พักสายตา ✅ Fedora 42 รองรับ Windows Subsystem for Linux (WSL) - มี ภาพติดตั้งเฉพาะสำหรับ WSL เพื่อให้ผู้ใช้ Windows สามารถทดลองใช้ Fedora ได้ง่ายขึ้น - รองรับการติดตั้งผ่าน tarballs, Appx packages และ Windows Store ✅ การปรับปรุง DNF5 (ตัวจัดการแพ็กเกจของ Fedora) - มี ตรรกะใหม่ ที่ช่วยลบ repository keys ที่หมดอายุหรือไม่ถูกต้อง เพื่อลดข้อผิดพลาดในการติดตั้งแพ็กเกจ ✅ การติดตั้งและอัปเดต Fedora 42 - ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด Fedora Workstation 42 ได้จาก เว็บไซต์ของ Fedora - หากใช้ Fedora อยู่แล้ว สามารถตรวจสอบการอัปเดตได้ใน Software’s updates tab ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับ GNOME รุ่นก่อนหน้า - ผู้ใช้ที่เคยใช้ GNOME 47 อาจต้องปรับตัวกับ การเปลี่ยนแปลงของ UI และฟีเจอร์ใหม่ ℹ️ ความท้าทายในการติดตั้ง Fedora บน WSL - แม้จะมีภาพติดตั้งเฉพาะสำหรับ WSL แต่ต้องตรวจสอบว่า การทำงานร่วมกับ Windows มีข้อจำกัดหรือไม่ ℹ️ แนวโน้มของการพัฒนา Fedora ในอนาคต - Fedora อาจเพิ่ม ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและการปรับแต่ง UI ในเวอร์ชันถัดไป https://www.neowin.net/news/fedora-workstation-42-arrives-with-gnome-48-wsl-images-and-more/
    WWW.NEOWIN.NET
    Fedora Workstation 42 arrives with GNOME 48, WSL images, and more
    Fedora Workstation 42 is now available for download. It includes loads of new features, including GNOME 48, which has notification stacking, new fonts, well-being settings, and more.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปภ. แจ้ง 23 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 68 เร่งประสานพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์

    เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 68 เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์และวิธีการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง

    นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น และได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ซึ่งมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 ดังนี้

    ภาคเหนือ จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และอำเภอแม่สะเรียง) เชียงใหม่ (อำเภอเมืองเชียงใหม่ จอมทอง เชียงดาว ดอยสะเก็ด ดอยหล่อ พร้าว แม่แจ่ม แม่แตง แม่ริม แม่วาง แม่ออน สันกำแพง สันทราย และอำเภออมก๋อย) เชียงราย (อำเภอเวียงป่าเป้า) ลำพูน (อำเภอเมืองลำพูน บ้านธิ ป่าซาง และอำเภอแม่ทา) ลำปาง (อำเภอเมืองลำปาง งาว แจ้ห่ม เมืองปาน วังเหนือ สบปราบ เสริมงาม และอำเภอห้างฉัตร) พะเยา (อำเภอปง) แพร่ (อำเภอสอง) และจังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง และอำเภออุ้มผาง)

    ภาคกลาง จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอเมืองกาญจนบุรี ไทรโยค ทองผาภูมิ บ่อพลอย ศรีสวัสดิ์ สังขละบุรี และอำเภอหนองปรือ) สระบุรี (อำเภอแก่งคอย) ตราด (อําเภอเขาสมิง และอำเภอบ่อไร่) และจังหวัดเพชรบุรี (อำเภอแก่งกระจาน)

    ภาคใต้ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอชัยบุรี พนม บ้านตาขุน พระแสง และอำเภอเวียงสระ) นครศรีธรรมราช (อำเภอฉวาง ชะอวด ช้างกลาง ถ้ำพรรณรา ทุ่งสง ทุ่งใหญ่ และอำเภอนาบอน) พัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง ควนขนุน ป่าพะยอม และอำเภอป่าบอน) สงขลา (อำเภอนาทวี คลองหอยโข่ง ควนเนียง รัตภูมิ สะเดา และอำเภอสะบ้าย้อย) ยะลา (อำเภอเมืองยะลา กรงปินัง เบตง ธารโต บันนังสตา กาบัง ยะหา และอำเภอรามัน) นราธิวาส (อำเภอจะแนะ และอำเภอระแงะ) ระนอง (อำเภอกระบุรี) พังงา (อำเภอเมืองพังงา กะปง คุระบุรี ทับปุด และอำเภอท้ายเหมือง) กระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่ เขาพนม คลองท่อม ปลายพระยา เหนือคลอง และอำเภออ่าวลึก) ตรัง (อำเภอกันตัง วังวิเศษ สีเกา และอำเภอหัวยอด) และจังหวังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตล ควนกาหลง ควนโดน ท่าแพ ทุ่งหว้า มะนัง และอำเภอละงู)

    กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัย โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีที่มีคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด พร้อมให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือ ให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้พิจารณาห้ามเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด

    ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป

    ได้เลยครับ นี่คือตัวอย่างสรุปข่าวในรูปแบบที่เหมาะสำหรับเผยแพร่ในเว็บไซต์หรือใช้ในสคริปต์ข่าวทีวี/ออนไลน์:
    ปภ. แจ้งเตือน 23 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วม-ดินถล่ม ช่วง 15-17 เม.ย. 68 เร่งเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์
    วันนี้ (15 เม.ย. 2568) เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 23 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 - 17 เมษายน 2568 พร้อมสั่งการให้พื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกล อุปกรณ์ เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ
    พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่
    • ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ ตาก
    • ภาคกลาง: กาญจนบุรี สระบุรี ตราด เพชรบุรี
    • ภาคใต้: สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล
    นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พบว่า ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้หลายพื้นที่ยังมีพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น น้ำตก ถ้ำ และถ้ำลอด หากพบความเสี่ยงให้สั่งปิดทันที
    พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย หากพบเหตุหรือได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่
    • ไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” (Line ID: @1784DDPM)
    • สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
    • หรือผ่านแอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT


    ปภ. แจ้ง 23 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 68 เร่งประสานพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 68 เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์และวิธีการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น และได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ซึ่งมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 ดังนี้ ภาคเหนือ จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และอำเภอแม่สะเรียง) เชียงใหม่ (อำเภอเมืองเชียงใหม่ จอมทอง เชียงดาว ดอยสะเก็ด ดอยหล่อ พร้าว แม่แจ่ม แม่แตง แม่ริม แม่วาง แม่ออน สันกำแพง สันทราย และอำเภออมก๋อย) เชียงราย (อำเภอเวียงป่าเป้า) ลำพูน (อำเภอเมืองลำพูน บ้านธิ ป่าซาง และอำเภอแม่ทา) ลำปาง (อำเภอเมืองลำปาง งาว แจ้ห่ม เมืองปาน วังเหนือ สบปราบ เสริมงาม และอำเภอห้างฉัตร) พะเยา (อำเภอปง) แพร่ (อำเภอสอง) และจังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง และอำเภออุ้มผาง) ภาคกลาง จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอเมืองกาญจนบุรี ไทรโยค ทองผาภูมิ บ่อพลอย ศรีสวัสดิ์ สังขละบุรี และอำเภอหนองปรือ) สระบุรี (อำเภอแก่งคอย) ตราด (อําเภอเขาสมิง และอำเภอบ่อไร่) และจังหวัดเพชรบุรี (อำเภอแก่งกระจาน) ภาคใต้ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอชัยบุรี พนม บ้านตาขุน พระแสง และอำเภอเวียงสระ) นครศรีธรรมราช (อำเภอฉวาง ชะอวด ช้างกลาง ถ้ำพรรณรา ทุ่งสง ทุ่งใหญ่ และอำเภอนาบอน) พัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง ควนขนุน ป่าพะยอม และอำเภอป่าบอน) สงขลา (อำเภอนาทวี คลองหอยโข่ง ควนเนียง รัตภูมิ สะเดา และอำเภอสะบ้าย้อย) ยะลา (อำเภอเมืองยะลา กรงปินัง เบตง ธารโต บันนังสตา กาบัง ยะหา และอำเภอรามัน) นราธิวาส (อำเภอจะแนะ และอำเภอระแงะ) ระนอง (อำเภอกระบุรี) พังงา (อำเภอเมืองพังงา กะปง คุระบุรี ทับปุด และอำเภอท้ายเหมือง) กระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่ เขาพนม คลองท่อม ปลายพระยา เหนือคลอง และอำเภออ่าวลึก) ตรัง (อำเภอกันตัง วังวิเศษ สีเกา และอำเภอหัวยอด) และจังหวังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตล ควนกาหลง ควนโดน ท่าแพ ทุ่งหว้า มะนัง และอำเภอละงู) กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัย โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีที่มีคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด พร้อมให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือ ให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้พิจารณาห้ามเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป ได้เลยครับ นี่คือตัวอย่างสรุปข่าวในรูปแบบที่เหมาะสำหรับเผยแพร่ในเว็บไซต์หรือใช้ในสคริปต์ข่าวทีวี/ออนไลน์: ปภ. แจ้งเตือน 23 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วม-ดินถล่ม ช่วง 15-17 เม.ย. 68 เร่งเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ วันนี้ (15 เม.ย. 2568) เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 23 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 - 17 เมษายน 2568 พร้อมสั่งการให้พื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกล อุปกรณ์ เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ • ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ ตาก • ภาคกลาง: กาญจนบุรี สระบุรี ตราด เพชรบุรี • ภาคใต้: สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พบว่า ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้หลายพื้นที่ยังมีพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น น้ำตก ถ้ำ และถ้ำลอด หากพบความเสี่ยงให้สั่งปิดทันที พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย หากพบเหตุหรือได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่ • ไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” (Line ID: @1784DDPM) • สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง • หรือผ่านแอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 454 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram ได้ประกาศว่าจะนำข้อมูลจากโพสต์สาธารณะและการโต้ตอบกับ AI มาฝึกโมเดลปัญญาประดิษฐ์ในสหภาพยุโรป (EU) หลังจากเผชิญกับความกังวลด้านความเป็นส่วนตัวและกฎระเบียบคุ้มครองข้อมูลที่เข้มงวดในภูมิภาคนี้ การเปิดตัวเทคโนโลยี AI ในยุโรปล่าช้าไปจากแผนเดิม เนื่องจากข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแล

    Meta ให้ความมั่นใจกับผู้ใช้ใน EU ว่าจะมีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับข้อมูลที่บริษัทใช้ รวมถึงช่องทางให้ผู้ใช้แสดงความคัดค้านต่อการนำข้อมูลของตนมาใช้ในการฝึก AI อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่เป็นข้อความส่วนตัวและข้อมูลจากบัญชีของผู้ใช้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีจะไม่ถูกนำมาใช้

    การตัดสินใจของ Meta เกิดขึ้นหลังจากเผชิญกับแรงกดดันจากคณะกรรมาธิการยุโรป และกลุ่มสิทธิด้านความเป็นส่วนตัว เช่น NOYB ที่เรียกร้องให้มีการจำกัดการใช้ข้อมูลจากโซเชียลมีเดียในการฝึก AI นอกจากนี้ Meta ยังถูกตรวจสอบโดยหน่วยงานกำกับดูแลข้อมูลของไอร์แลนด์ ซึ่งเคยสั่งให้บริษัทชะลอแผนดังกล่าวเมื่อปีที่แล้ว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/15/meta-to-use-public-posts-ai-interactions-to-train-models-in-eu
    Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram ได้ประกาศว่าจะนำข้อมูลจากโพสต์สาธารณะและการโต้ตอบกับ AI มาฝึกโมเดลปัญญาประดิษฐ์ในสหภาพยุโรป (EU) หลังจากเผชิญกับความกังวลด้านความเป็นส่วนตัวและกฎระเบียบคุ้มครองข้อมูลที่เข้มงวดในภูมิภาคนี้ การเปิดตัวเทคโนโลยี AI ในยุโรปล่าช้าไปจากแผนเดิม เนื่องจากข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแล Meta ให้ความมั่นใจกับผู้ใช้ใน EU ว่าจะมีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับข้อมูลที่บริษัทใช้ รวมถึงช่องทางให้ผู้ใช้แสดงความคัดค้านต่อการนำข้อมูลของตนมาใช้ในการฝึก AI อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่เป็นข้อความส่วนตัวและข้อมูลจากบัญชีของผู้ใช้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีจะไม่ถูกนำมาใช้ การตัดสินใจของ Meta เกิดขึ้นหลังจากเผชิญกับแรงกดดันจากคณะกรรมาธิการยุโรป และกลุ่มสิทธิด้านความเป็นส่วนตัว เช่น NOYB ที่เรียกร้องให้มีการจำกัดการใช้ข้อมูลจากโซเชียลมีเดียในการฝึก AI นอกจากนี้ Meta ยังถูกตรวจสอบโดยหน่วยงานกำกับดูแลข้อมูลของไอร์แลนด์ ซึ่งเคยสั่งให้บริษัทชะลอแผนดังกล่าวเมื่อปีที่แล้ว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/15/meta-to-use-public-posts-ai-interactions-to-train-models-in-eu
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta to use public posts, AI interactions to train models in EU
    (Reuters) -Meta Platforms said on Monday it would use interactions that users have with its AI, as well as public posts and comments shared by adults across its platforms, to train its artificial intelligence models in the European Union.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลสำรวจออนไลน์โดย Talker Research พบว่าคนส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ เริ่มรู้สึกกังวลเมื่อแบตเตอรี่โทรศัพท์ลดลงเหลือ 38% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่สูงกว่าการแจ้งเตือนของ iPhone ที่มักเกิดขึ้นเมื่อแบตเตอรี่ลดลงต่ำกว่า 20% นอกจากนี้ยังพบว่าคนรุ่น Millennials และ Generation Z มีความกังวลมากกว่าคนรุ่น Boomers โดยเริ่มรู้สึกกังวลเมื่อแบตเตอรี่ลดลงเหลือ 43%

    การสำรวจยังชี้ให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ (61%) เลือกแสดงเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่บนหน้าจอ ขณะที่อีก 39% เลือกใช้ไอคอนรูปแบตเตอรี่แบบง่ายๆ

    ในด้านเทคโนโลยี ผู้ผลิตยังคงพยายามแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ เช่น Apple ที่มีโหมดการชาร์จแบบปรับแต่งเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ หรือ Google ที่ลดความจุแบตเตอรี่สูงสุดใน Pixel 9a หลังการชาร์จครบ 200 รอบ

    ✅ ผลสำรวจเกี่ยวกับความกังวลเรื่องแบตเตอรี่
    - คนส่วนใหญ่เริ่มกังวลเมื่อแบตเตอรี่ลดลงเหลือ 38%
    - Millennials และ Generation Z กังวลมากกว่าคนรุ่น Boomers

    ✅ การแสดงผลแบตเตอรี่บนหน้าจอ
    - 61% เลือกแสดงเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่
    - 39% เลือกใช้ไอคอนรูปแบตเตอรี่แบบง่ายๆ

    ✅ การแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ
    - Apple มีโหมดการชาร์จแบบปรับแต่งเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่
    - Google ลดความจุแบตเตอรี่สูงสุดใน Pixel 9a หลังการชาร์จครบ 200 รอบ

    ℹ️ ความเสี่ยงจากแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ
    - แบตเตอรี่เสื่อมสภาพอาจลดประสิทธิภาพการใช้งานโทรศัพท์
    - การชาร์จแบตเตอรี่บ่อยครั้งอาจส่งผลต่ออายุการใช้งาน

    ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้
    - ความกังวลเรื่องแบตเตอรี่อาจเพิ่มความเครียดในชีวิตประจำวัน
    - การเลือกใช้แบตเตอรี่สำรองหรือโทรศัพท์ที่มีความจุสูงอาจช่วยลดความกังวล

    https://www.techspot.com/news/107518-americans-panic-when-their-phone-battery-hits-38.html
    ผลสำรวจออนไลน์โดย Talker Research พบว่าคนส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ เริ่มรู้สึกกังวลเมื่อแบตเตอรี่โทรศัพท์ลดลงเหลือ 38% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่สูงกว่าการแจ้งเตือนของ iPhone ที่มักเกิดขึ้นเมื่อแบตเตอรี่ลดลงต่ำกว่า 20% นอกจากนี้ยังพบว่าคนรุ่น Millennials และ Generation Z มีความกังวลมากกว่าคนรุ่น Boomers โดยเริ่มรู้สึกกังวลเมื่อแบตเตอรี่ลดลงเหลือ 43% การสำรวจยังชี้ให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ (61%) เลือกแสดงเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่บนหน้าจอ ขณะที่อีก 39% เลือกใช้ไอคอนรูปแบตเตอรี่แบบง่ายๆ ในด้านเทคโนโลยี ผู้ผลิตยังคงพยายามแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ เช่น Apple ที่มีโหมดการชาร์จแบบปรับแต่งเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ หรือ Google ที่ลดความจุแบตเตอรี่สูงสุดใน Pixel 9a หลังการชาร์จครบ 200 รอบ ✅ ผลสำรวจเกี่ยวกับความกังวลเรื่องแบตเตอรี่ - คนส่วนใหญ่เริ่มกังวลเมื่อแบตเตอรี่ลดลงเหลือ 38% - Millennials และ Generation Z กังวลมากกว่าคนรุ่น Boomers ✅ การแสดงผลแบตเตอรี่บนหน้าจอ - 61% เลือกแสดงเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ - 39% เลือกใช้ไอคอนรูปแบตเตอรี่แบบง่ายๆ ✅ การแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ - Apple มีโหมดการชาร์จแบบปรับแต่งเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ - Google ลดความจุแบตเตอรี่สูงสุดใน Pixel 9a หลังการชาร์จครบ 200 รอบ ℹ️ ความเสี่ยงจากแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ - แบตเตอรี่เสื่อมสภาพอาจลดประสิทธิภาพการใช้งานโทรศัพท์ - การชาร์จแบตเตอรี่บ่อยครั้งอาจส่งผลต่ออายุการใช้งาน ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้ - ความกังวลเรื่องแบตเตอรี่อาจเพิ่มความเครียดในชีวิตประจำวัน - การเลือกใช้แบตเตอรี่สำรองหรือโทรศัพท์ที่มีความจุสูงอาจช่วยลดความกังวล https://www.techspot.com/news/107518-americans-panic-when-their-phone-battery-hits-38.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Survey reveals most people panic when their phone battery drops to 38%
    An online survey by Talker Research found that Americans begin worrying about phone battery life when it hits 38 percent on average. Some might view that threshold...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • WhatsApp ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เช่น การซูมในวิดีโอคอล การเพิ่มผู้เข้าร่วมในสายสนทนาแบบ 1:1 จากหน้าต่างแชท และการตั้งค่า WhatsApp เป็นแอปเริ่มต้นบน iPhone นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสแกนและส่งเอกสารได้โดยตรงจากแอป รวมถึงการบันทึกวิดีโอสั้นในช่อง (Channels) และการจัดลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือนในกลุ่ม

    อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ที่สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้คือปุ่ม Meta AI ที่ไม่สามารถลบออกได้ และฟีเจอร์ที่แสดงสถานะออนไลน์ของสมาชิกในกลุ่มแบบเรียลไทม์ ซึ่งเพิ่มแรงกดดันให้ผู้ใช้ตอบกลับข้อความอย่างรวดเร็ว

    ✅ ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน WhatsApp
    - การซูมในวิดีโอคอล
    - เพิ่มผู้เข้าร่วมในสายสนทนาแบบ 1:1 จากหน้าต่างแชท
    - ตั้งค่า WhatsApp เป็นแอปเริ่มต้นบน iPhone
    - สแกนและส่งเอกสารได้โดยตรงจากแอป
    - บันทึกวิดีโอสั้นในช่อง (Channels)
    - จัดลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือนในกลุ่ม

    ✅ ฟีเจอร์ที่สร้างความไม่พอใจ
    - ปุ่ม Meta AI ที่ไม่สามารถลบออกได้
    - การแสดงสถานะออนไลน์ของสมาชิกในกลุ่มแบบเรียลไทม์

    ℹ️ ความเสี่ยงและข้อกังวล
    - ปุ่ม Meta AI ที่ไม่สามารถลบออกอาจสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้
    - การแสดงสถานะออนไลน์อาจเพิ่มแรงกดดันให้ผู้ใช้ตอบกลับข้อความอย่างรวดเร็ว

    ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้
    - ผู้ใช้บางส่วนอาจรู้สึกว่าฟีเจอร์ใหม่ไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการ
    - การเปลี่ยนแปลงอาจส่งผลต่อความพึงพอใจและความไว้วางใจในแพลตฟอร์ม

    https://www.techradar.com/computing/software/whatsapp-has-just-dropped-these-9-new-features-including-2-that-im-not-happy-about
    WhatsApp ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เช่น การซูมในวิดีโอคอล การเพิ่มผู้เข้าร่วมในสายสนทนาแบบ 1:1 จากหน้าต่างแชท และการตั้งค่า WhatsApp เป็นแอปเริ่มต้นบน iPhone นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสแกนและส่งเอกสารได้โดยตรงจากแอป รวมถึงการบันทึกวิดีโอสั้นในช่อง (Channels) และการจัดลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือนในกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ที่สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้คือปุ่ม Meta AI ที่ไม่สามารถลบออกได้ และฟีเจอร์ที่แสดงสถานะออนไลน์ของสมาชิกในกลุ่มแบบเรียลไทม์ ซึ่งเพิ่มแรงกดดันให้ผู้ใช้ตอบกลับข้อความอย่างรวดเร็ว ✅ ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน WhatsApp - การซูมในวิดีโอคอล - เพิ่มผู้เข้าร่วมในสายสนทนาแบบ 1:1 จากหน้าต่างแชท - ตั้งค่า WhatsApp เป็นแอปเริ่มต้นบน iPhone - สแกนและส่งเอกสารได้โดยตรงจากแอป - บันทึกวิดีโอสั้นในช่อง (Channels) - จัดลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือนในกลุ่ม ✅ ฟีเจอร์ที่สร้างความไม่พอใจ - ปุ่ม Meta AI ที่ไม่สามารถลบออกได้ - การแสดงสถานะออนไลน์ของสมาชิกในกลุ่มแบบเรียลไทม์ ℹ️ ความเสี่ยงและข้อกังวล - ปุ่ม Meta AI ที่ไม่สามารถลบออกอาจสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้ - การแสดงสถานะออนไลน์อาจเพิ่มแรงกดดันให้ผู้ใช้ตอบกลับข้อความอย่างรวดเร็ว ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้ - ผู้ใช้บางส่วนอาจรู้สึกว่าฟีเจอร์ใหม่ไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการ - การเปลี่ยนแปลงอาจส่งผลต่อความพึงพอใจและความไว้วางใจในแพลตฟอร์ม https://www.techradar.com/computing/software/whatsapp-has-just-dropped-these-9-new-features-including-2-that-im-not-happy-about
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • Kaspersky ได้รายงานถึงช่องโหว่ใน ESET Security Scanner ที่ถูกกลุ่มแฮกเกอร์ ToddyCat ใช้ในการโจมตี โดยช่องโหว่นี้ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ยังคงเป็นกรณีศึกษาที่สำคัญในด้านความปลอดภัยไซเบอร์

    ✅ ช่องโหว่ใน ESET Security Scanner:
    - ช่องโหว่ CVE-2024-11859 เกิดจากการที่ ESET Scanner โหลดไลบรารีจากไดเรกทอรีปัจจุบันแทนที่จะเป็นไดเรกทอรีระบบ
    - กลุ่ม ToddyCat ใช้ช่องโหว่นี้เพื่อรันมัลแวร์ TCESB ซึ่งเป็นเวอร์ชันดัดแปลงของเครื่องมือ EDRSandBlast

    ✅ กลุ่ม ToddyCat:
    - ToddyCat เป็นกลุ่ม APT ที่เริ่มปรากฏในปี 2021 และมุ่งเป้าโจมตีองค์กรรัฐบาลและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในเอเชียและยุโรป
    - กลุ่มนี้ใช้มัลแวร์เพื่อเปลี่ยนโครงสร้าง OS Kernel และปิดการแจ้งเตือนบางอย่าง

    ✅ การแก้ไขปัญหา:
    - ESET ได้แก้ไขช่องโหว่นี้ในเดือนมกราคม 2025 และแนะนำให้องค์กรอัปเดตระบบทันที
    - Kaspersky แนะนำให้ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่

    https://www.techradar.com/pro/security/eset-security-scanner-vulnerability-used-to-deploy-tcesb-malware
    Kaspersky ได้รายงานถึงช่องโหว่ใน ESET Security Scanner ที่ถูกกลุ่มแฮกเกอร์ ToddyCat ใช้ในการโจมตี โดยช่องโหว่นี้ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ยังคงเป็นกรณีศึกษาที่สำคัญในด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ✅ ช่องโหว่ใน ESET Security Scanner: - ช่องโหว่ CVE-2024-11859 เกิดจากการที่ ESET Scanner โหลดไลบรารีจากไดเรกทอรีปัจจุบันแทนที่จะเป็นไดเรกทอรีระบบ - กลุ่ม ToddyCat ใช้ช่องโหว่นี้เพื่อรันมัลแวร์ TCESB ซึ่งเป็นเวอร์ชันดัดแปลงของเครื่องมือ EDRSandBlast ✅ กลุ่ม ToddyCat: - ToddyCat เป็นกลุ่ม APT ที่เริ่มปรากฏในปี 2021 และมุ่งเป้าโจมตีองค์กรรัฐบาลและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในเอเชียและยุโรป - กลุ่มนี้ใช้มัลแวร์เพื่อเปลี่ยนโครงสร้าง OS Kernel และปิดการแจ้งเตือนบางอย่าง ✅ การแก้ไขปัญหา: - ESET ได้แก้ไขช่องโหว่นี้ในเดือนมกราคม 2025 และแนะนำให้องค์กรอัปเดตระบบทันที - Kaspersky แนะนำให้ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่ https://www.techradar.com/pro/security/eset-security-scanner-vulnerability-used-to-deploy-tcesb-malware
    WWW.TECHRADAR.COM
    ESET security scanner vulnerability used to deploy TCESB malware
    Kaspersky found a threat actor abusing the popular EPP solution
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฤดูใบไม้ผลิไม่ได้เป็นเพียงช่วงเวลาสำหรับการทำความสะอาดบ้าน แต่ยังเป็นโอกาสที่ดีในการจัดระเบียบอุปกรณ์ดิจิทัลของเรา ซึ่งการสะสมของ "ความยุ่งเหยิงดิจิทัล" เช่น อีเมลที่ไม่ได้อ่าน แอปที่ไม่ได้ใช้ และแท็บเบราว์เซอร์ที่เปิดค้างไว้ อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพและสุขภาพจิตของเรา

    ✅ ผลกระทบของความยุ่งเหยิงดิจิทัล:
    - การสะสมของการแจ้งเตือน อีเมลที่ไม่ได้อ่าน และไฟล์ที่ไม่จำเป็น ทำให้เกิดความเครียดและลดคุณภาพในการตัดสินใจ
    - การสำรวจพบว่า 77% ของผู้ตอบแบบสอบถามรู้สึกว่าความยุ่งเหยิงดิจิทัลส่งผลกระทบต่อชีวิตของพวกเขา

    ✅ ผลกระทบต่อประสิทธิภาพ:
    - การศึกษาจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันในปี 2011 พบว่าความยุ่งเหยิงดิจิทัลทำให้เกิดภาระทางสมองและลดความสามารถในการจดจ่อ
    - การแจ้งเตือนที่เข้ามาบ่อยครั้งเพิ่มความเครียดและลดสมาธิ

    ✅ วิธีการจัดการความยุ่งเหยิงดิจิทัล:
    - ลบแอปที่ไม่จำเป็น จัดระเบียบรูปภาพ และปิดแท็บเบราว์เซอร์ที่ไม่ได้ใช้
    - ใช้เวลา 30 นาทีต่อสัปดาห์ในการจัดระเบียบพื้นที่ดิจิทัล เช่น การลบไฟล์ในคลาวด์

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ⚠️ การสร้างนิสัยที่ดี:
    - การจัดระเบียบดิจิทัลควรเป็นกิจวัตรประจำ เพื่อป้องกันการสะสมของข้อมูลที่ไม่จำเป็น

    ⚠️ การจัดการข้อมูลสำคัญ:
    - ระวังการลบไฟล์หรือข้อมูลสำคัญโดยไม่ได้ตั้งใจ ควรตรวจสอบก่อนลบ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/11/just-like-your-home-your-digital-devices-need-a-good-spring-clean
    ฤดูใบไม้ผลิไม่ได้เป็นเพียงช่วงเวลาสำหรับการทำความสะอาดบ้าน แต่ยังเป็นโอกาสที่ดีในการจัดระเบียบอุปกรณ์ดิจิทัลของเรา ซึ่งการสะสมของ "ความยุ่งเหยิงดิจิทัล" เช่น อีเมลที่ไม่ได้อ่าน แอปที่ไม่ได้ใช้ และแท็บเบราว์เซอร์ที่เปิดค้างไว้ อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพและสุขภาพจิตของเรา ✅ ผลกระทบของความยุ่งเหยิงดิจิทัล: - การสะสมของการแจ้งเตือน อีเมลที่ไม่ได้อ่าน และไฟล์ที่ไม่จำเป็น ทำให้เกิดความเครียดและลดคุณภาพในการตัดสินใจ - การสำรวจพบว่า 77% ของผู้ตอบแบบสอบถามรู้สึกว่าความยุ่งเหยิงดิจิทัลส่งผลกระทบต่อชีวิตของพวกเขา ✅ ผลกระทบต่อประสิทธิภาพ: - การศึกษาจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันในปี 2011 พบว่าความยุ่งเหยิงดิจิทัลทำให้เกิดภาระทางสมองและลดความสามารถในการจดจ่อ - การแจ้งเตือนที่เข้ามาบ่อยครั้งเพิ่มความเครียดและลดสมาธิ ✅ วิธีการจัดการความยุ่งเหยิงดิจิทัล: - ลบแอปที่ไม่จำเป็น จัดระเบียบรูปภาพ และปิดแท็บเบราว์เซอร์ที่ไม่ได้ใช้ - ใช้เวลา 30 นาทีต่อสัปดาห์ในการจัดระเบียบพื้นที่ดิจิทัล เช่น การลบไฟล์ในคลาวด์ == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ⚠️ การสร้างนิสัยที่ดี: - การจัดระเบียบดิจิทัลควรเป็นกิจวัตรประจำ เพื่อป้องกันการสะสมของข้อมูลที่ไม่จำเป็น ⚠️ การจัดการข้อมูลสำคัญ: - ระวังการลบไฟล์หรือข้อมูลสำคัญโดยไม่ได้ตั้งใจ ควรตรวจสอบก่อนลบ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/11/just-like-your-home-your-digital-devices-need-a-good-spring-clean
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Just like your home, your digital devices need a good spring clean
    While you're scrubbing windows and sorting winter clothes, another, more discreet kind of clutter continues to accumulate almost unnoticed: digital clutter.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • Fortinet ได้ประกาศการเพิ่มฟีเจอร์ AI ใหม่ใน Security Fabric Platform เพื่อช่วยองค์กรรับมือกับภัยคุกคามที่พัฒนาอย่างรวดเร็วและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเครือข่ายและความปลอดภัย

    ✅ การเพิ่มฟีเจอร์ FortiAI:
    - FortiAI ถูกฝังใน Security Fabric Platform เพื่อช่วยลดภาระงานของนักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยและเครือข่าย
    - ฟีเจอร์ใหม่ช่วยปรับปรุงความเร็วและความแม่นยำในการตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคาม

    ✅ ความสามารถใหม่ของ FortiAI:
    - การจัดลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือนด้านความปลอดภัยโดยใช้ข้อมูลความเสี่ยงและรูปแบบในอดีต
    - การค้นหาภัยคุกคามแบบปรับตัวโดยไม่ต้องรอคำสั่งจากมนุษย์
    - การวิเคราะห์ต้นเหตุของการโจมตีเพื่อระบุแหล่งที่มา วิธีการ และผลกระทบ

    ✅ การป้องกันเชิงรุก:
    - FortiAI ใช้การวิเคราะห์รูปแบบการโจมตีและกลยุทธ์ของผู้โจมตีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกัน
    - รองรับการปรับปรุงการตั้งค่าเครือข่ายและนโยบายความปลอดภัยโดยอัตโนมัติ

    ✅ การตรวจสอบแอปพลิเคชัน AI:
    - FortiAI-Protect สามารถตรวจจับการใช้งานแอปพลิเคชัน AI มากกว่า 6,500 URLs รวมถึงแอปพลิเคชัน GenAI
    - ช่วยให้ทีมความปลอดภัยตรวจสอบการใช้งาน AI และเส้นทางข้อมูลได้อย่างละเอียด

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ⚠️ ความซับซ้อนในการใช้งาน:
    - องค์กรอาจต้องการการฝึกอบรมเพิ่มเติมเพื่อใช้งานฟีเจอร์ AI ใหม่อย่างเต็มประสิทธิภาพ

    ⚠️ การจัดการข้อมูล AI:
    - การตรวจสอบและควบคุมการใช้งานแอปพลิเคชัน AI อาจต้องการการวางแผนที่ชัดเจนเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูล

    https://www.networkworld.com/article/3958421/fortinet-embeds-ai-capabilities-across-security-fabric-platform.html
    Fortinet ได้ประกาศการเพิ่มฟีเจอร์ AI ใหม่ใน Security Fabric Platform เพื่อช่วยองค์กรรับมือกับภัยคุกคามที่พัฒนาอย่างรวดเร็วและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเครือข่ายและความปลอดภัย ✅ การเพิ่มฟีเจอร์ FortiAI: - FortiAI ถูกฝังใน Security Fabric Platform เพื่อช่วยลดภาระงานของนักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยและเครือข่าย - ฟีเจอร์ใหม่ช่วยปรับปรุงความเร็วและความแม่นยำในการตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคาม ✅ ความสามารถใหม่ของ FortiAI: - การจัดลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือนด้านความปลอดภัยโดยใช้ข้อมูลความเสี่ยงและรูปแบบในอดีต - การค้นหาภัยคุกคามแบบปรับตัวโดยไม่ต้องรอคำสั่งจากมนุษย์ - การวิเคราะห์ต้นเหตุของการโจมตีเพื่อระบุแหล่งที่มา วิธีการ และผลกระทบ ✅ การป้องกันเชิงรุก: - FortiAI ใช้การวิเคราะห์รูปแบบการโจมตีและกลยุทธ์ของผู้โจมตีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกัน - รองรับการปรับปรุงการตั้งค่าเครือข่ายและนโยบายความปลอดภัยโดยอัตโนมัติ ✅ การตรวจสอบแอปพลิเคชัน AI: - FortiAI-Protect สามารถตรวจจับการใช้งานแอปพลิเคชัน AI มากกว่า 6,500 URLs รวมถึงแอปพลิเคชัน GenAI - ช่วยให้ทีมความปลอดภัยตรวจสอบการใช้งาน AI และเส้นทางข้อมูลได้อย่างละเอียด == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ⚠️ ความซับซ้อนในการใช้งาน: - องค์กรอาจต้องการการฝึกอบรมเพิ่มเติมเพื่อใช้งานฟีเจอร์ AI ใหม่อย่างเต็มประสิทธิภาพ ⚠️ การจัดการข้อมูล AI: - การตรวจสอบและควบคุมการใช้งานแอปพลิเคชัน AI อาจต้องการการวางแผนที่ชัดเจนเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูล https://www.networkworld.com/article/3958421/fortinet-embeds-ai-capabilities-across-security-fabric-platform.html
    WWW.NETWORKWORLD.COM
    Fortinet embeds AI capabilities across Security Fabric platform
    Fortinet added FortiAI support to its core Security Fabric platform to strengthen protection from threats and simplify network and security operations.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • Corsair ได้เปิดตัว Firmware Update Utility ซึ่งเป็นเครื่องมือใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถอัปเดตเฟิร์มแวร์ของอุปกรณ์ได้โดยตรงผ่านเว็บเบราว์เซอร์ โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม เช่น iCUE ที่เคยถูกวิจารณ์เรื่องความยุ่งยากและขนาดไฟล์ที่ใหญ่

    🌐 จุดเด่นของเครื่องมือใหม่:
    🌟 ใช้งานง่าย: ผู้ใช้งานสามารถอัปเดตเฟิร์มแวร์ได้โดยตรงผ่านเบราว์เซอร์ เช่น Chrome, Edge และ Opera โดยไม่ต้องดาวน์โหลดซอฟต์แวร์เพิ่มเติม
    📧 การแจ้งเตือนอัปเดต: มีฟีเจอร์ให้ผู้ใช้งานลงทะเบียนอีเมลเพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีเฟิร์มแวร์ใหม่

    ⚠️ ข้อจำกัดและความท้าทาย:
    🔒 การเข้าถึงฮาร์ดแวร์ผ่านเว็บ: แม้จะสะดวก แต่การอัปเดตเฟิร์มแวร์ผ่านเว็บอาจทำให้ผู้ใช้งานบางคนกังวลเรื่องความปลอดภัย
    🖥️ การรองรับเบราว์เซอร์: เครื่องมือยังไม่รองรับ Firefox และ Safari ซึ่งอาจจำกัดการใช้งานสำหรับบางกลุ่ม

    https://www.techspot.com/news/107485-corsair-new-web-based-firmware-update-tool-doesnt.html
    Corsair ได้เปิดตัว Firmware Update Utility ซึ่งเป็นเครื่องมือใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถอัปเดตเฟิร์มแวร์ของอุปกรณ์ได้โดยตรงผ่านเว็บเบราว์เซอร์ โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม เช่น iCUE ที่เคยถูกวิจารณ์เรื่องความยุ่งยากและขนาดไฟล์ที่ใหญ่ 🌐 จุดเด่นของเครื่องมือใหม่: 🌟 ใช้งานง่าย: ผู้ใช้งานสามารถอัปเดตเฟิร์มแวร์ได้โดยตรงผ่านเบราว์เซอร์ เช่น Chrome, Edge และ Opera โดยไม่ต้องดาวน์โหลดซอฟต์แวร์เพิ่มเติม 📧 การแจ้งเตือนอัปเดต: มีฟีเจอร์ให้ผู้ใช้งานลงทะเบียนอีเมลเพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีเฟิร์มแวร์ใหม่ ⚠️ ข้อจำกัดและความท้าทาย: 🔒 การเข้าถึงฮาร์ดแวร์ผ่านเว็บ: แม้จะสะดวก แต่การอัปเดตเฟิร์มแวร์ผ่านเว็บอาจทำให้ผู้ใช้งานบางคนกังวลเรื่องความปลอดภัย 🖥️ การรองรับเบราว์เซอร์: เครื่องมือยังไม่รองรับ Firefox และ Safari ซึ่งอาจจำกัดการใช้งานสำหรับบางกลุ่ม https://www.techspot.com/news/107485-corsair-new-web-based-firmware-update-tool-doesnt.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Corsair's new firmware update tool works from the browser, doesn't require any additional software
    Corsair recently introduced a web-based utility for installing newer firmware versions for PC peripherals. The Firmware Update Utility allows users to "effortlessly" update a device's microcode using...
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google เปิดตัว Unified Security แพลตฟอร์มใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยองค์กรลดความซับซ้อนในการรับมือภัยไซเบอร์ โดยรวบรวมเครื่องมือและบริการด้านความปลอดภัยไว้ในที่เดียว ตั้งแต่การป้องกันภัยคุกคาม การตรวจสอบระบบคลาวด์ ไปจนถึงการใช้ AI อัจฉริยะ

    ✅ การวิเคราะห์ภัยคุกคามล่วงหน้า:
    - ใช้ข้อมูลจาก Google Threat Intelligence และ AI อย่าง Gemini เพื่อประเมินพื้นที่เสี่ยงและทดลองระบบป้องกันกับภัยคุกคามล่าสุด

    ✅ การตรวจสอบความปลอดภัยในระบบคลาวด์:
    - ผ่าน Google Security Command Center ระบบจะช่วยตรวจสอบความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานคลาวด์ พร้อมจัดการภัยคุกคามและแก้ไขปัญหา

    ✅ ป้องกันฟิชชิงด้วย Chrome Enterprise:
    - ฟีเจอร์ Safe Browsing ใหม่ใน Chrome Enterprise ช่วยป้องกันการเข้าถึงเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย และสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับองค์กร

    ✅ ตัวช่วย AI สำหรับการตอบสนอง:
    - แพลตฟอร์มนี้เพิ่มตัวช่วย AI อัจฉริยะ เช่น Malware Analysis Agent ที่สามารถตรวจสอบโค้ดที่เป็นอันตราย และ Alert Triage Agent ที่ช่วยวิเคราะห์การแจ้งเตือนและนำเสนอคำแนะนำ

    https://www.zdnet.com/article/how-googles-new-unified-security-platform-aims-to-simplify-the-fight-against-cyberthreats/
    Google เปิดตัว Unified Security แพลตฟอร์มใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยองค์กรลดความซับซ้อนในการรับมือภัยไซเบอร์ โดยรวบรวมเครื่องมือและบริการด้านความปลอดภัยไว้ในที่เดียว ตั้งแต่การป้องกันภัยคุกคาม การตรวจสอบระบบคลาวด์ ไปจนถึงการใช้ AI อัจฉริยะ ✅ การวิเคราะห์ภัยคุกคามล่วงหน้า: - ใช้ข้อมูลจาก Google Threat Intelligence และ AI อย่าง Gemini เพื่อประเมินพื้นที่เสี่ยงและทดลองระบบป้องกันกับภัยคุกคามล่าสุด ✅ การตรวจสอบความปลอดภัยในระบบคลาวด์: - ผ่าน Google Security Command Center ระบบจะช่วยตรวจสอบความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานคลาวด์ พร้อมจัดการภัยคุกคามและแก้ไขปัญหา ✅ ป้องกันฟิชชิงด้วย Chrome Enterprise: - ฟีเจอร์ Safe Browsing ใหม่ใน Chrome Enterprise ช่วยป้องกันการเข้าถึงเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย และสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับองค์กร ✅ ตัวช่วย AI สำหรับการตอบสนอง: - แพลตฟอร์มนี้เพิ่มตัวช่วย AI อัจฉริยะ เช่น Malware Analysis Agent ที่สามารถตรวจสอบโค้ดที่เป็นอันตราย และ Alert Triage Agent ที่ช่วยวิเคราะห์การแจ้งเตือนและนำเสนอคำแนะนำ https://www.zdnet.com/article/how-googles-new-unified-security-platform-aims-to-simplify-the-fight-against-cyberthreats/
    WWW.ZDNET.COM
    How Google's new Unified Security platform aims to simplify the fight against cyberthreats
    Designed for enterprise security professionals, Google Unified Security brings different tools together in one platform to reduce complexity and confusion.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ใช้งาน WhatsApp บน Windows ได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่อาจเปิดช่องให้แฮกเกอร์ใช้มัลแวร์เพื่อโจมตีอุปกรณ์ของพวกเขา ช่องโหว่นี้ถูกระบุในรหัส CVE-2025-30401 และเกี่ยวข้องกับการ spoofing ซึ่งอนุญาตให้ผู้ประสงค์ร้ายปลอมแปลงไฟล์แนบเป็นไฟล์ที่ดูเหมือนปลอดภัย แต่แท้จริงแล้วมีโค้ดอันตรายแฝงอยู่

    ✅ รูปแบบการโจมตี:
    - ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับ WhatsApp ที่จัดการไฟล์แนบตาม MIME Type โดยหากแฮกเกอร์สร้างไฟล์ที่มี MIME Type บ่งชี้ว่าเป็นไฟล์ปลอดภัย เช่น รูปภาพ (.jpg) แต่จริง ๆ แล้วไฟล์นั้นมีนามสกุล .exe การเปิดไฟล์อาจทำให้โค้ดของแฮกเกอร์ถูกรันบนเครื่องเป้าหมาย

    ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน:
    - ไฟล์แนบที่ดูเหมือนไม่มีพิษภัยสามารถเปิดช่องให้มัลแวร์ติดตั้งบนอุปกรณ์ได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูล การติดตั้งโปรแกรมอันตราย หรือแม้กระทั่งการเข้ายึดระบบ

    == มาตรการแนะนำสำหรับผู้ใช้งาน ==
    ✅ อัปเดต WhatsApp: Meta ได้แก้ไขปัญหาใน WhatsApp เวอร์ชัน 2.2450.6 และแนะนำให้ผู้ใช้ Windows ทุกคนรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันนี้หรือใหม่กว่าผ่านเว็บไซต์ทางการหรือ Microsoft Store

    ✅ ระมัดระวังไฟล์แนบ: หลีกเลี่ยงการเปิดไฟล์แนบจากบุคคลที่ไม่รู้จัก และควรตรวจสอบความถูกต้องของผู้ส่งไฟล์

    https://www.neowin.net/news/whatsapp-attachment-flaw-could-trick-windows-users-into-downloading-and-installing-malware/
    ผู้ใช้งาน WhatsApp บน Windows ได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่อาจเปิดช่องให้แฮกเกอร์ใช้มัลแวร์เพื่อโจมตีอุปกรณ์ของพวกเขา ช่องโหว่นี้ถูกระบุในรหัส CVE-2025-30401 และเกี่ยวข้องกับการ spoofing ซึ่งอนุญาตให้ผู้ประสงค์ร้ายปลอมแปลงไฟล์แนบเป็นไฟล์ที่ดูเหมือนปลอดภัย แต่แท้จริงแล้วมีโค้ดอันตรายแฝงอยู่ ✅ รูปแบบการโจมตี: - ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับ WhatsApp ที่จัดการไฟล์แนบตาม MIME Type โดยหากแฮกเกอร์สร้างไฟล์ที่มี MIME Type บ่งชี้ว่าเป็นไฟล์ปลอดภัย เช่น รูปภาพ (.jpg) แต่จริง ๆ แล้วไฟล์นั้นมีนามสกุล .exe การเปิดไฟล์อาจทำให้โค้ดของแฮกเกอร์ถูกรันบนเครื่องเป้าหมาย ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน: - ไฟล์แนบที่ดูเหมือนไม่มีพิษภัยสามารถเปิดช่องให้มัลแวร์ติดตั้งบนอุปกรณ์ได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูล การติดตั้งโปรแกรมอันตราย หรือแม้กระทั่งการเข้ายึดระบบ == มาตรการแนะนำสำหรับผู้ใช้งาน == ✅ อัปเดต WhatsApp: Meta ได้แก้ไขปัญหาใน WhatsApp เวอร์ชัน 2.2450.6 และแนะนำให้ผู้ใช้ Windows ทุกคนรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันนี้หรือใหม่กว่าผ่านเว็บไซต์ทางการหรือ Microsoft Store ✅ ระมัดระวังไฟล์แนบ: หลีกเลี่ยงการเปิดไฟล์แนบจากบุคคลที่ไม่รู้จัก และควรตรวจสอบความถูกต้องของผู้ส่งไฟล์ https://www.neowin.net/news/whatsapp-attachment-flaw-could-trick-windows-users-into-downloading-and-installing-malware/
    WWW.NEOWIN.NET
    WhatsApp attachment flaw could trick Windows users into downloading and installing malware
    Meta reports a security flaw in WhatsApp for Windows that lets attackers trick users into downloading and installing harmful malicious code.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta ได้ขยายฟีเจอร์สำหรับการปกป้องบัญชีผู้ใช้งานวัยรุ่นเพิ่มเติมบนแพลตฟอร์มอย่าง Facebook และ Messenger โดยที่ฟีเจอร์เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหมาะสมกับช่วงวัย และช่วยให้ผู้ปกครองสามารถดูแลการใช้งานของวัยรุ่นได้อย่างใกล้ชิด

    ✅ การควบคุมการไลฟ์สด:
    - วัยรุ่นที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีจะไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ไลฟ์สดได้หากไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง

    ✅ การป้องกันภาพไม่เหมาะสมใน DM:
    - ระบบตรวจจับและเบลอภาพที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมอัตโนมัติ โดยผู้ใช้งานวัยรุ่นต้องขออนุญาตจากผู้ปกครองหากต้องการปิดฟีเจอร์นี้

    ✅ บัญชีส่วนตัวเป็นค่าเริ่มต้น:
    - บัญชีผู้ใช้งานวัยรุ่นเป็นบัญชีส่วนตัวโดยอัตโนมัติ ทำให้ต้องยอมรับคำขอติดตามก่อนที่จะมีใครสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้

    ✅ ควบคุมข้อความและการแท็ก:
    - การตั้งค่าข้อความจะถูกกำหนดให้สามารถส่งข้อความถึงวัยรุ่นได้เฉพาะคนที่พวกเขาติดตามอยู่เท่านั้น
    - จำกัดการแท็กและการพูดถึงโดยเฉพาะจากคนที่พวกเขาเลือกติดตาม

    ✅ การควบคุมเวลาใช้งาน:
    - มีการแจ้งเตือนให้หยุดใช้งานหลังจากใช้งานเกิน 60 นาทีต่อวัน รวมถึงเปิด โหมดพักผ่อน (Sleep Mode) ที่จะปิดการแจ้งเตือนระหว่าง 22:00-07:00 น.

    https://www.neowin.net/news/meta-rolls-out-teen-accounts-to-facebook-and-messenger-adds-more-restrictions-on-instagram/
    Meta ได้ขยายฟีเจอร์สำหรับการปกป้องบัญชีผู้ใช้งานวัยรุ่นเพิ่มเติมบนแพลตฟอร์มอย่าง Facebook และ Messenger โดยที่ฟีเจอร์เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหมาะสมกับช่วงวัย และช่วยให้ผู้ปกครองสามารถดูแลการใช้งานของวัยรุ่นได้อย่างใกล้ชิด ✅ การควบคุมการไลฟ์สด: - วัยรุ่นที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีจะไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ไลฟ์สดได้หากไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง ✅ การป้องกันภาพไม่เหมาะสมใน DM: - ระบบตรวจจับและเบลอภาพที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมอัตโนมัติ โดยผู้ใช้งานวัยรุ่นต้องขออนุญาตจากผู้ปกครองหากต้องการปิดฟีเจอร์นี้ ✅ บัญชีส่วนตัวเป็นค่าเริ่มต้น: - บัญชีผู้ใช้งานวัยรุ่นเป็นบัญชีส่วนตัวโดยอัตโนมัติ ทำให้ต้องยอมรับคำขอติดตามก่อนที่จะมีใครสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้ ✅ ควบคุมข้อความและการแท็ก: - การตั้งค่าข้อความจะถูกกำหนดให้สามารถส่งข้อความถึงวัยรุ่นได้เฉพาะคนที่พวกเขาติดตามอยู่เท่านั้น - จำกัดการแท็กและการพูดถึงโดยเฉพาะจากคนที่พวกเขาเลือกติดตาม ✅ การควบคุมเวลาใช้งาน: - มีการแจ้งเตือนให้หยุดใช้งานหลังจากใช้งานเกิน 60 นาทีต่อวัน รวมถึงเปิด โหมดพักผ่อน (Sleep Mode) ที่จะปิดการแจ้งเตือนระหว่าง 22:00-07:00 น. https://www.neowin.net/news/meta-rolls-out-teen-accounts-to-facebook-and-messenger-adds-more-restrictions-on-instagram/
    WWW.NEOWIN.NET
    Meta rolls out Teen Accounts to Facebook and Messenger, adds more restrictions on Instagram
    Teen Accounts, introduced on Instagram last September, have been a hit for Meta. They're now expanding to Facebook and Messenger, alongside new restrictions on Instagram.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ประกาศย้ำมาตรการใหม่เกี่ยวกับ Microsoft Teams โดยผู้ใช้งานจะไม่สามารถใช้งานแอปได้ หากไม่ได้อัปเดตเกิน 90 วัน หลังจากการปล่อยเวอร์ชันใหม่ มาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันปัญหาด้านการปฏิบัติงานในระบบ

    == เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังมาตรการนี้ ==
    ✅ การรักษาความปลอดภัย:
    - Microsoft ระบุว่าการอัปเดต Teams เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ของผู้ใช้งานปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐาน Modern Lifecycle Policy

    ✅ การปรับปรุงระบบโดยอัตโนมัติ:
    - โดยปกติ Teams จะได้รับการอัปเดตอัตโนมัติ เพื่อลดภาระการจัดการของผู้ใช้งาน

    == รูปแบบการแจ้งเตือนผู้ใช้งาน ==
    ✅ เมื่อแอปไม่ได้รับการอัปเดตเกิน 30–90 วัน (หรือ 60–90 วันในระบบ VDI) ผู้ใช้งานจะเห็นการแจ้งเตือนภายในแอป

    ✅ หากเกิน 90 วัน แอปจะถูกบล็อก และแสดงตัวเลือกให้ผู้ใช้งานอัปเดต ติดต่อแอดมิน หรือเปลี่ยนไปใช้ Teams บนเว็บแทน

    ✅ วันเริ่มต้นบล็อกการใช้งาน:
    - 11 เมษายน 2025: บนแอป Teams ใน Windows
    - 6 พฤษภาคม 2025: สำหรับการใช้งานใน Virtual Desktop Infrastructure (VDI)
    - 15 พฤษภาคม 2025: บนแอป Teams สำหรับ macOS

    https://www.neowin.net/news/microsoft-shares-details-on-teams-block-if-app-is-not-updated-after-90-days/
    Microsoft ประกาศย้ำมาตรการใหม่เกี่ยวกับ Microsoft Teams โดยผู้ใช้งานจะไม่สามารถใช้งานแอปได้ หากไม่ได้อัปเดตเกิน 90 วัน หลังจากการปล่อยเวอร์ชันใหม่ มาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันปัญหาด้านการปฏิบัติงานในระบบ == เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังมาตรการนี้ == ✅ การรักษาความปลอดภัย: - Microsoft ระบุว่าการอัปเดต Teams เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ของผู้ใช้งานปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐาน Modern Lifecycle Policy ✅ การปรับปรุงระบบโดยอัตโนมัติ: - โดยปกติ Teams จะได้รับการอัปเดตอัตโนมัติ เพื่อลดภาระการจัดการของผู้ใช้งาน == รูปแบบการแจ้งเตือนผู้ใช้งาน == ✅ เมื่อแอปไม่ได้รับการอัปเดตเกิน 30–90 วัน (หรือ 60–90 วันในระบบ VDI) ผู้ใช้งานจะเห็นการแจ้งเตือนภายในแอป ✅ หากเกิน 90 วัน แอปจะถูกบล็อก และแสดงตัวเลือกให้ผู้ใช้งานอัปเดต ติดต่อแอดมิน หรือเปลี่ยนไปใช้ Teams บนเว็บแทน ✅ วันเริ่มต้นบล็อกการใช้งาน: - 11 เมษายน 2025: บนแอป Teams ใน Windows - 6 พฤษภาคม 2025: สำหรับการใช้งานใน Virtual Desktop Infrastructure (VDI) - 15 พฤษภาคม 2025: บนแอป Teams สำหรับ macOS https://www.neowin.net/news/microsoft-shares-details-on-teams-block-if-app-is-not-updated-after-90-days/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft shares details on Teams block if app is not updated after 90 days
    Microsoft has confirmed that Teams will be warning users who are on an outdated app version and will eventually block it after 90 days.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • หากคุณกำลังพิจารณาย้ายมาใช้ระบบปฏิบัติการ Linux การมีเครื่องมือที่เหมาะสมสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากต่อประสบการณ์การใช้งานของคุณ และนี่คือแอป FOSS (Free and Open Source Software) 10 อันดับแรกที่น่าสนใจ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพการทำงานให้กับผู้ใช้ Linux ทุกระดับ

    == แอปที่น่าสนใจและจุดเด่นของแต่ละแอป ==
    1) Varia—ตัวช่วยดาวน์โหลดที่หลากหลาย
    - รองรับการดาวน์โหลดจาก YouTube, TikTok และเว็บไซต์ที่ต้องการการยืนยันตัวตน พร้อมฟีเจอร์การตั้งเวลาการดาวน์โหลด

    2) Micro—โปรแกรมแก้ไขไฟล์ใน Terminal ที่สมบูรณ์แบบ
    - เหมาะสำหรับการแก้ไขไฟล์ขนาดใหญ่ มีฟีเจอร์ครบครัน เช่น syntax highlighting และการรองรับเมาส์

    3) LocalSend—แชร์ไฟล์แบบปลอดภัยในเครือข่ายเดียวกัน
    - แอปข้ามแพลตฟอร์มที่ใช้ REST API เพื่อแชร์ไฟล์ระหว่างอุปกรณ์โดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต

    4) mpv + uosc—เครื่องเล่นมีเดียที่ปรับแต่งได้สูง
    - รองรับไฟล์มีเดียเกือบทุกชนิด และสามารถเพิ่ม On-Screen Controller (uosc) เพื่อใช้งานสะดวกขึ้น

    5) FSearch—ทางเลือกสำหรับผู้ใช้ Linux ที่ต้องการการค้นหาไฟล์เร็วทันใจ
    - ค้นหาไฟล์อย่างรวดเร็วเหมือนแอป Everything บน Windows

    6) KDE Connect หรือ GSConnect—เครื่องมือเชื่อมต่ออุปกรณ์มือถือและคอมพิวเตอร์
    - ใช้แชร์คลิปบอร์ด การแจ้งเตือน และเปลี่ยนมือถือเป็นรีโมทได้

    7) Apostrophe—Markdown Editor สำหรับคนชอบความเรียบง่าย
    - มีโหมดตัดสิ่งรบกวน (Focus Mode) และรองรับการส่งออกเป็น PDF, Word และ HTML

    8) Switcheroo—แอปแปลงไฟล์ภาพ
    - รองรับการแปลงไฟล์ภาพเป็น JPEG, PNG, WebP และฟอร์แมตอื่น ๆ

    9) Newsflash—RSS Reader สุดล้ำ
    - ใช้ซิงค์ข้อมูลกับบริการ RSS ออนไลน์ เช่น Feedbin และ Inoreader

    10) LibreOffice—คู่แข่งที่สมบูรณ์แบบของ Office Suite เชิงพาณิชย์
    - ชุดโปรแกรมสำหรับจัดการเอกสารที่รองรับการใช้งานอย่างครอบคลุม

    https://www.neowin.net/guides/top-10-foss-apps-to-make-your-linux-experience-more-enjoyable/
    หากคุณกำลังพิจารณาย้ายมาใช้ระบบปฏิบัติการ Linux การมีเครื่องมือที่เหมาะสมสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากต่อประสบการณ์การใช้งานของคุณ และนี่คือแอป FOSS (Free and Open Source Software) 10 อันดับแรกที่น่าสนใจ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพการทำงานให้กับผู้ใช้ Linux ทุกระดับ == แอปที่น่าสนใจและจุดเด่นของแต่ละแอป == 1) Varia—ตัวช่วยดาวน์โหลดที่หลากหลาย - รองรับการดาวน์โหลดจาก YouTube, TikTok และเว็บไซต์ที่ต้องการการยืนยันตัวตน พร้อมฟีเจอร์การตั้งเวลาการดาวน์โหลด 2) Micro—โปรแกรมแก้ไขไฟล์ใน Terminal ที่สมบูรณ์แบบ - เหมาะสำหรับการแก้ไขไฟล์ขนาดใหญ่ มีฟีเจอร์ครบครัน เช่น syntax highlighting และการรองรับเมาส์ 3) LocalSend—แชร์ไฟล์แบบปลอดภัยในเครือข่ายเดียวกัน - แอปข้ามแพลตฟอร์มที่ใช้ REST API เพื่อแชร์ไฟล์ระหว่างอุปกรณ์โดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต 4) mpv + uosc—เครื่องเล่นมีเดียที่ปรับแต่งได้สูง - รองรับไฟล์มีเดียเกือบทุกชนิด และสามารถเพิ่ม On-Screen Controller (uosc) เพื่อใช้งานสะดวกขึ้น 5) FSearch—ทางเลือกสำหรับผู้ใช้ Linux ที่ต้องการการค้นหาไฟล์เร็วทันใจ - ค้นหาไฟล์อย่างรวดเร็วเหมือนแอป Everything บน Windows 6) KDE Connect หรือ GSConnect—เครื่องมือเชื่อมต่ออุปกรณ์มือถือและคอมพิวเตอร์ - ใช้แชร์คลิปบอร์ด การแจ้งเตือน และเปลี่ยนมือถือเป็นรีโมทได้ 7) Apostrophe—Markdown Editor สำหรับคนชอบความเรียบง่าย - มีโหมดตัดสิ่งรบกวน (Focus Mode) และรองรับการส่งออกเป็น PDF, Word และ HTML 8) Switcheroo—แอปแปลงไฟล์ภาพ - รองรับการแปลงไฟล์ภาพเป็น JPEG, PNG, WebP และฟอร์แมตอื่น ๆ 9) Newsflash—RSS Reader สุดล้ำ - ใช้ซิงค์ข้อมูลกับบริการ RSS ออนไลน์ เช่น Feedbin และ Inoreader 10) LibreOffice—คู่แข่งที่สมบูรณ์แบบของ Office Suite เชิงพาณิชย์ - ชุดโปรแกรมสำหรับจัดการเอกสารที่รองรับการใช้งานอย่างครอบคลุม https://www.neowin.net/guides/top-10-foss-apps-to-make-your-linux-experience-more-enjoyable/
    WWW.NEOWIN.NET
    Top 10 FOSS apps to make your Linux experience more enjoyable
    Microsoft's recent antics make it a great time to give Linux a shot. This guide highlights 10 FOSS apps to try when you make the switch.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft กระตุ้นให้ผู้ใช้งาน Windows 10 อัปเกรดเป็น Windows 11 พร้อมเผยฟีเจอร์เด็ดที่ช่วยให้ปรับตัวได้ง่าย เช่น Start Menu ใหม่, Snap Layouts, และการสร้างหลายหน้าจอเพื่อความสะดวกในการทำงาน แม้ว่าการอัปเกรดจะมีปัญหาเรื่องความเข้ากันได้ในบางกรณี แต่ Microsoft ยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้การใช้งานปลอดภัยและทันสมัยมากยิ่งขึ้น

    ✅ การปรับแต่ง Start Menu
    - Start Menu ใหม่บน Windows 11 ถูกออกแบบมาให้อยู่ตรงกลาง พร้อมตัวเลือกในการ จัดเรียงไอคอน, ปรับขนาด และปักหมุดแอป เพื่อให้ตรงกับการใช้งานของแต่ละบุคคล

    ✅ Snap Layouts เพิ่มความสะดวกในการจัดการหน้าต่าง
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดเรียงหน้าต่างหลายหน้าต่างข้างกัน เพื่อประสิทธิภาพและความสะดวกในการทำงานแบบหลายหน้าต่าง

    ✅ Multiple Desktops สำหรับงานที่หลากหลาย
    - Windows 11 มอบความสามารถในการสร้างหลายหน้าจอ (Multiple Desktops) เพื่อแยกงานต่าง ๆ เช่น หน้าจอสำหรับงาน และอีกหน้าจอสำหรับความบันเทิง

    ✅ Focus Sessions ช่วยจัดการเวลา
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้งานตั้งเวลาแบ่งงานและพักเบรก ทำให้บริหารจัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ✅ Widgets เพิ่มความเป็นส่วนตัว
    - อัปเดตข่าวสาร สภาพอากาศ และการแจ้งเตือนต่าง ๆ ได้ผ่าน Widgets ในหน้าจอเดียว

    ✅ Windows Hello เพิ่มความสะดวกและปลอดภัย
    - ผู้ใช้งานสามารถใช้ การจดจำใบหน้า (Face Recognition) ในการล็อกอิน โดยไม่จำเป็นต้องพิมพ์รหัสผ่าน

    ✅ Dark Mode ลดความล้าสายตา
    - Windows 11 มาพร้อมกับ Dark Mode เพื่อการใช้งานที่ช่วยลดการใช้งานสายตาในระยะยาว

    https://www.neowin.net/news/hate-windows-11-after-updating-from-10-microsoft-wants-to-change-your-mind-with-these-tips/
    Microsoft กระตุ้นให้ผู้ใช้งาน Windows 10 อัปเกรดเป็น Windows 11 พร้อมเผยฟีเจอร์เด็ดที่ช่วยให้ปรับตัวได้ง่าย เช่น Start Menu ใหม่, Snap Layouts, และการสร้างหลายหน้าจอเพื่อความสะดวกในการทำงาน แม้ว่าการอัปเกรดจะมีปัญหาเรื่องความเข้ากันได้ในบางกรณี แต่ Microsoft ยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้การใช้งานปลอดภัยและทันสมัยมากยิ่งขึ้น ✅ การปรับแต่ง Start Menu - Start Menu ใหม่บน Windows 11 ถูกออกแบบมาให้อยู่ตรงกลาง พร้อมตัวเลือกในการ จัดเรียงไอคอน, ปรับขนาด และปักหมุดแอป เพื่อให้ตรงกับการใช้งานของแต่ละบุคคล ✅ Snap Layouts เพิ่มความสะดวกในการจัดการหน้าต่าง - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดเรียงหน้าต่างหลายหน้าต่างข้างกัน เพื่อประสิทธิภาพและความสะดวกในการทำงานแบบหลายหน้าต่าง ✅ Multiple Desktops สำหรับงานที่หลากหลาย - Windows 11 มอบความสามารถในการสร้างหลายหน้าจอ (Multiple Desktops) เพื่อแยกงานต่าง ๆ เช่น หน้าจอสำหรับงาน และอีกหน้าจอสำหรับความบันเทิง ✅ Focus Sessions ช่วยจัดการเวลา - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้งานตั้งเวลาแบ่งงานและพักเบรก ทำให้บริหารจัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ Widgets เพิ่มความเป็นส่วนตัว - อัปเดตข่าวสาร สภาพอากาศ และการแจ้งเตือนต่าง ๆ ได้ผ่าน Widgets ในหน้าจอเดียว ✅ Windows Hello เพิ่มความสะดวกและปลอดภัย - ผู้ใช้งานสามารถใช้ การจดจำใบหน้า (Face Recognition) ในการล็อกอิน โดยไม่จำเป็นต้องพิมพ์รหัสผ่าน ✅ Dark Mode ลดความล้าสายตา - Windows 11 มาพร้อมกับ Dark Mode เพื่อการใช้งานที่ช่วยลดการใช้งานสายตาในระยะยาว https://www.neowin.net/news/hate-windows-11-after-updating-from-10-microsoft-wants-to-change-your-mind-with-these-tips/
    WWW.NEOWIN.NET
    Hate Windows 11 after updating from 10? Microsoft wants to change your mind with these tips
    Microsoft has shared seven useful tips meant to help Windows 11 users who have recently upgraded from Windows 10.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • WinRAR มีช่องโหว่ที่ทำให้ไฟล์อันตรายข้ามระบบเตือนความปลอดภัยของ Windows ได้โดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า การอัปเดตเวอร์ชันล่าสุดช่วยแก้ไขปัญหาและป้องกันภัยมัลแวร์ ดังนั้นผู้ใช้งานทุกคนควรรีบอัปเดตโปรแกรมเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน โดยเฉพาะเมื่อดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ

    ✅ Mark of the Web คืออะไร?
    - ระบบนี้เป็นระบบแจ้งเตือนที่ปรากฏเมื่อผู้ใช้งานพยายามเปิดไฟล์หรือโปรแกรมจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ เช่น อินเทอร์เน็ต โดยช่วยลดโอกาสที่มัลแวร์จะรันโดยอัตโนมัติ

    ✅ ช่องโหว่ของ WinRAR
    - ในเวอร์ชันเก่าก่อนหน้าการอัปเดต 7.11 หากมีการเปิดไฟล์ที่มีลิงก์เชื่อมโยงกับไฟล์ exe ผ่าน WinRAR ระบบ MotW จะถูกข้าม ทำให้มัลแวร์สามารถรันได้ทันที
    - ช่องโหว่นี้ถูกค้นพบโดยนักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Mitsui Bussan Secure Directions, Inc. ซึ่งได้รายงานตรงไปยังทีม WinRAR

    ✅ การแก้ไขปัญหา:
    - อัปเดตล่าสุดในเวอร์ชัน 7.11 ได้แก้ไขช่องโหว่นี้แล้ว โดยช่วยป้องกันไม่ให้ไฟล์อันตรายรันได้โดยไม่ผ่านระบบเตือน

    ✅ ความสำคัญในการอัปเดต:
    - ช่องโหว่นี้แม้ว่าจะต้องการการเปิดไฟล์ด้วยมือจากผู้ใช้ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงหากผู้ใช้งานไม่ทราบถึงแหล่งที่มาของไฟล์ การอัปเดตจึงจำเป็นสำหรับทุกคนที่ใช้งาน WinRAR

    https://www.tomshardware.com/software/winrar-security-flaw-ignores-windows-mark-of-the-web-security-warnings
    WinRAR มีช่องโหว่ที่ทำให้ไฟล์อันตรายข้ามระบบเตือนความปลอดภัยของ Windows ได้โดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า การอัปเดตเวอร์ชันล่าสุดช่วยแก้ไขปัญหาและป้องกันภัยมัลแวร์ ดังนั้นผู้ใช้งานทุกคนควรรีบอัปเดตโปรแกรมเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน โดยเฉพาะเมื่อดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ✅ Mark of the Web คืออะไร? - ระบบนี้เป็นระบบแจ้งเตือนที่ปรากฏเมื่อผู้ใช้งานพยายามเปิดไฟล์หรือโปรแกรมจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ เช่น อินเทอร์เน็ต โดยช่วยลดโอกาสที่มัลแวร์จะรันโดยอัตโนมัติ ✅ ช่องโหว่ของ WinRAR - ในเวอร์ชันเก่าก่อนหน้าการอัปเดต 7.11 หากมีการเปิดไฟล์ที่มีลิงก์เชื่อมโยงกับไฟล์ exe ผ่าน WinRAR ระบบ MotW จะถูกข้าม ทำให้มัลแวร์สามารถรันได้ทันที - ช่องโหว่นี้ถูกค้นพบโดยนักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Mitsui Bussan Secure Directions, Inc. ซึ่งได้รายงานตรงไปยังทีม WinRAR ✅ การแก้ไขปัญหา: - อัปเดตล่าสุดในเวอร์ชัน 7.11 ได้แก้ไขช่องโหว่นี้แล้ว โดยช่วยป้องกันไม่ให้ไฟล์อันตรายรันได้โดยไม่ผ่านระบบเตือน ✅ ความสำคัญในการอัปเดต: - ช่องโหว่นี้แม้ว่าจะต้องการการเปิดไฟล์ด้วยมือจากผู้ใช้ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงหากผู้ใช้งานไม่ทราบถึงแหล่งที่มาของไฟล์ การอัปเดตจึงจำเป็นสำหรับทุกคนที่ใช้งาน WinRAR https://www.tomshardware.com/software/winrar-security-flaw-ignores-windows-mark-of-the-web-security-warnings
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    WinRAR security flaw ignores Windows Mark of the Web security warnings
    Don't worry–it's been patched now, but old versions will remain vulnerable.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อผิดพลาดใน Google Assistant ทำให้โหมด Do Not Disturb ไม่ทำงานตามที่ตั้งค่าไว้ ส่งผลให้พลาดสายสำคัญและการปลุก ผู้ใช้ควรตั้งค่า DND ผ่านการตั้งค่าของ Android เพื่อความมั่นใจว่าการแจ้งเตือนสำคัญจะไม่ถูกปิดเสียงโดยไม่ได้ตั้งใจ ในขณะที่ Google ยังไม่ได้ออกมาแก้ไขปัญหา ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของ Assistant กับ Gemini อาจเป็นสิ่งที่ต้องจับตาดูต่อไป

    ✅ DND ผ่าน Google Assistant ไม่ทำงานตามที่ตั้งค่าไว้
    - การสั่งเปิดโหมด Do Not Disturb ผ่านคำสั่งเสียงของ Google Assistant อาจ ปิดเสียงทุกการแจ้งเตือนและสายเรียกเข้าทั้งหมด
    - การตั้งค่าส่วนบุคคล เช่น การอนุญาตให้สายเรียกเข้าจากบุคคลสำคัญยังคงดัง จะถูกละเลย

    ✅ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจริง
    - ผู้ใช้งานบางรายพบว่า พลาดสายเรียกเข้าที่สำคัญ เช่น สายจากญาติผู้ใหญ่ หรือ การปลุกตอนเช้า
    - ปัญหานี้ได้รับการพูดถึงในชุมชน Reddit และได้รับการยืนยันโดย Android Authority

    ✅ วิธีแก้ไขชั่วคราว
    - ผู้ใช้ควร ตั้งค่า DND ผ่านการตั้งค่าของ Android แทนการใช้คำสั่งเสียง Google Assistant
    - การเข้าถึง DND สามารถทำได้ผ่าน Settings > Modes > Do Not Disturb เพื่อกำหนดรูปแบบการแจ้งเตือนที่ต้องการ

    ✅ ความเงียบจาก Google
    - จนถึงขณะนี้ Google ยังไม่มีคำชี้แจงหรือการแก้ไขปัญหา อย่างเป็นทางการ

    ✅ ความเชื่อมโยงกับ Gemini
    - Google Assistant อาจถูกแทนที่ด้วยระบบ Gemini AI ในอนาคต ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการละเลยในเรื่องนี้

    https://www.techradar.com/phones/android/a-google-assistant-bug-seems-to-be-causing-some-users-to-miss-alarms-and-calls-on-android
    ข้อผิดพลาดใน Google Assistant ทำให้โหมด Do Not Disturb ไม่ทำงานตามที่ตั้งค่าไว้ ส่งผลให้พลาดสายสำคัญและการปลุก ผู้ใช้ควรตั้งค่า DND ผ่านการตั้งค่าของ Android เพื่อความมั่นใจว่าการแจ้งเตือนสำคัญจะไม่ถูกปิดเสียงโดยไม่ได้ตั้งใจ ในขณะที่ Google ยังไม่ได้ออกมาแก้ไขปัญหา ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของ Assistant กับ Gemini อาจเป็นสิ่งที่ต้องจับตาดูต่อไป ✅ DND ผ่าน Google Assistant ไม่ทำงานตามที่ตั้งค่าไว้ - การสั่งเปิดโหมด Do Not Disturb ผ่านคำสั่งเสียงของ Google Assistant อาจ ปิดเสียงทุกการแจ้งเตือนและสายเรียกเข้าทั้งหมด - การตั้งค่าส่วนบุคคล เช่น การอนุญาตให้สายเรียกเข้าจากบุคคลสำคัญยังคงดัง จะถูกละเลย ✅ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจริง - ผู้ใช้งานบางรายพบว่า พลาดสายเรียกเข้าที่สำคัญ เช่น สายจากญาติผู้ใหญ่ หรือ การปลุกตอนเช้า - ปัญหานี้ได้รับการพูดถึงในชุมชน Reddit และได้รับการยืนยันโดย Android Authority ✅ วิธีแก้ไขชั่วคราว - ผู้ใช้ควร ตั้งค่า DND ผ่านการตั้งค่าของ Android แทนการใช้คำสั่งเสียง Google Assistant - การเข้าถึง DND สามารถทำได้ผ่าน Settings > Modes > Do Not Disturb เพื่อกำหนดรูปแบบการแจ้งเตือนที่ต้องการ ✅ ความเงียบจาก Google - จนถึงขณะนี้ Google ยังไม่มีคำชี้แจงหรือการแก้ไขปัญหา อย่างเป็นทางการ ✅ ความเชื่อมโยงกับ Gemini - Google Assistant อาจถูกแทนที่ด้วยระบบ Gemini AI ในอนาคต ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการละเลยในเรื่องนี้ https://www.techradar.com/phones/android/a-google-assistant-bug-seems-to-be-causing-some-users-to-miss-alarms-and-calls-on-android
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • Texas State Bar ซึ่งเป็นองค์กรควบคุมทางกฎหมายในรัฐเท็กซัส ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ INC ransomware โดยข้อมูลส่วนตัวของสมาชิกบางส่วนถูกเปิดเผยในเว็บมืด สมาชิกได้รับคำแนะนำให้ดำเนินมาตรการป้องกัน เช่น การตรวจสอบเครดิตและการแจ้งเตือนการฉ้อโกง การโจมตีครั้งนี้สร้างความกังวลในระดับสูงเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลในองค์กร โดยมีความเสี่ยงที่ข้อมูลเพิ่มเติมอาจถูกเผยแพร่หากการเจรจาไม่สำเร็จ

    ✅ การโจมตีเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์
    - Texas State Bar พบ กิจกรรมที่น่าสงสัยในระบบ เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2025 และใช้มาตรการเร่งด่วนเพื่อรักษาความปลอดภัย
    - การสืบสวนเผยว่าระบบถูกเข้าถึงอย่างไม่เหมาะสม ระหว่างวันที่ 28 มกราคมถึง 9 กุมภาพันธ์

    ✅ แรนซัมแวร์ INC อ้างตัวว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
    - กลุ่มโจมตีแรนซัมแวร์ INC ransomware อ้างความรับผิดชอบและปล่อยตัวอย่างข้อมูลที่ขโมยมาบางส่วนในเว็บมืด
    - แม้ว่าความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่หลุดออกมายังไม่ได้รับการยืนยัน แต่สมาชิกที่อาจได้รับผลกระทบควรดำเนินการทันทีเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจตามมา

    ✅ มาตรการช่วยเหลือที่ Texas State Bar นำเสนอ
    - องค์กรเสนอ บริการตรวจสอบเครดิตและป้องกันการขโมยข้อมูลส่วนตัวฟรี ผ่าน Experian จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2025
    - สมาชิกได้รับคำแนะนำให้เปิดใช้งาน credit freeze หรือแจ้งเตือนการฉ้อโกงในไฟล์เครดิตเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

    ✅ การเจรจากับผู้โจมตีและความเสี่ยงที่ตามมา
    - หากข้อมูลเพิ่มเติมถูกเปิดเผยในเว็บมืด อาจบ่งชี้ว่าการเจรจาเพื่อปล่อยข้อมูลอาจล้มเหลว
    - หน่วยงานด้านกฎหมายแนะนำว่าการจ่ายค่าไถ่ให้กลุ่มโจมตีไม่ใช่วิธีที่เหมาะสม เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงให้กับองค์กรอื่นในอนาคต

    https://www.techradar.com/pro/security/texas-state-bar-hit-by-possible-ransomware-attack-warns-of-data-breach
    Texas State Bar ซึ่งเป็นองค์กรควบคุมทางกฎหมายในรัฐเท็กซัส ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ INC ransomware โดยข้อมูลส่วนตัวของสมาชิกบางส่วนถูกเปิดเผยในเว็บมืด สมาชิกได้รับคำแนะนำให้ดำเนินมาตรการป้องกัน เช่น การตรวจสอบเครดิตและการแจ้งเตือนการฉ้อโกง การโจมตีครั้งนี้สร้างความกังวลในระดับสูงเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลในองค์กร โดยมีความเสี่ยงที่ข้อมูลเพิ่มเติมอาจถูกเผยแพร่หากการเจรจาไม่สำเร็จ ✅ การโจมตีเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ - Texas State Bar พบ กิจกรรมที่น่าสงสัยในระบบ เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2025 และใช้มาตรการเร่งด่วนเพื่อรักษาความปลอดภัย - การสืบสวนเผยว่าระบบถูกเข้าถึงอย่างไม่เหมาะสม ระหว่างวันที่ 28 มกราคมถึง 9 กุมภาพันธ์ ✅ แรนซัมแวร์ INC อ้างตัวว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง - กลุ่มโจมตีแรนซัมแวร์ INC ransomware อ้างความรับผิดชอบและปล่อยตัวอย่างข้อมูลที่ขโมยมาบางส่วนในเว็บมืด - แม้ว่าความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่หลุดออกมายังไม่ได้รับการยืนยัน แต่สมาชิกที่อาจได้รับผลกระทบควรดำเนินการทันทีเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจตามมา ✅ มาตรการช่วยเหลือที่ Texas State Bar นำเสนอ - องค์กรเสนอ บริการตรวจสอบเครดิตและป้องกันการขโมยข้อมูลส่วนตัวฟรี ผ่าน Experian จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2025 - สมาชิกได้รับคำแนะนำให้เปิดใช้งาน credit freeze หรือแจ้งเตือนการฉ้อโกงในไฟล์เครดิตเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ✅ การเจรจากับผู้โจมตีและความเสี่ยงที่ตามมา - หากข้อมูลเพิ่มเติมถูกเปิดเผยในเว็บมืด อาจบ่งชี้ว่าการเจรจาเพื่อปล่อยข้อมูลอาจล้มเหลว - หน่วยงานด้านกฎหมายแนะนำว่าการจ่ายค่าไถ่ให้กลุ่มโจมตีไม่ใช่วิธีที่เหมาะสม เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงให้กับองค์กรอื่นในอนาคต https://www.techradar.com/pro/security/texas-state-bar-hit-by-possible-ransomware-attack-warns-of-data-breach
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ประกาศเลิกใช้งานแอป Unison ที่เคยช่วยเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับ PC Windows อย่างไร้รอยต่อ โดยจะหยุดให้บริการส่วนใหญ่ภายในเดือนมิถุนายน 2025 ทั้งนี้ การตัดสินใจนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ลดต้นทุนเพื่อมุ่งเน้นทรัพยากรไปยังผลิตภัณฑ์หลัก การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นที่บริษัทใหญ่ต้องปรับตัวตามความท้าทายและการแข่งขันในตลาด ขณะเดียวกัน Microsoft Phone Link ยังคงเป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้ดีสำหรับผู้ที่ต้องการฟีเจอร์แบบเดียวกัน

    ✅ Unison กับการพยายามสร้างความแตกต่างในตลาด Windows PCs
    - แอป Unison เปิดตัวในปี 2022 โดย Intel ตั้งเป้าสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ใกล้เคียงกับระบบของ Apple ที่มีการเชื่อมต่อ MacOS กับ iOS
    - แอปช่วยให้ผู้ใช้ทำงานต่าง ๆ เช่น การโทร, ส่งข้อความ, รับการแจ้งเตือน และโอนถ่ายไฟล์ ระหว่างสมาร์ทโฟนและ PC ได้อย่างง่ายดาย

    ✅ การเลิกสนับสนุนเป็นส่วนหนึ่งของการลดต้นทุน
    - Intel มีแผนตัดสินใจเลิกสนับสนุนโครงการหรือแอปที่ ไม่สอดคล้องกับกลยุทธ์หลัก ซึ่งแอป Unison ถือว่าเป็นหนึ่งในนั้น
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจช่วยให้ Intel มุ่งเน้นทรัพยากรในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำคัญ เช่น โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่

    ✅ การเชื่อมต่อระหว่างสมาร์ทโฟนกับ Windows PCs ยังคงมีทางเลือกอื่น
    - แม้ Unison จะเลิกให้บริการ แต่ Microsoft มีแอป Phone Link ที่ช่วยเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้เช่นกัน
    - Samsung Flow และ Dell Mobile Connect เป็นตัวเลือกที่เคยมีในตลาด แต่ Dell ก็ยุติแอปนี้เช่นเดียวกัน

    https://www.tomshardware.com/software/intel-discontinues-unison-app-for-connecting-pcs-and-smartphones
    Intel ประกาศเลิกใช้งานแอป Unison ที่เคยช่วยเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับ PC Windows อย่างไร้รอยต่อ โดยจะหยุดให้บริการส่วนใหญ่ภายในเดือนมิถุนายน 2025 ทั้งนี้ การตัดสินใจนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ลดต้นทุนเพื่อมุ่งเน้นทรัพยากรไปยังผลิตภัณฑ์หลัก การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นที่บริษัทใหญ่ต้องปรับตัวตามความท้าทายและการแข่งขันในตลาด ขณะเดียวกัน Microsoft Phone Link ยังคงเป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้ดีสำหรับผู้ที่ต้องการฟีเจอร์แบบเดียวกัน ✅ Unison กับการพยายามสร้างความแตกต่างในตลาด Windows PCs - แอป Unison เปิดตัวในปี 2022 โดย Intel ตั้งเป้าสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ใกล้เคียงกับระบบของ Apple ที่มีการเชื่อมต่อ MacOS กับ iOS - แอปช่วยให้ผู้ใช้ทำงานต่าง ๆ เช่น การโทร, ส่งข้อความ, รับการแจ้งเตือน และโอนถ่ายไฟล์ ระหว่างสมาร์ทโฟนและ PC ได้อย่างง่ายดาย ✅ การเลิกสนับสนุนเป็นส่วนหนึ่งของการลดต้นทุน - Intel มีแผนตัดสินใจเลิกสนับสนุนโครงการหรือแอปที่ ไม่สอดคล้องกับกลยุทธ์หลัก ซึ่งแอป Unison ถือว่าเป็นหนึ่งในนั้น - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจช่วยให้ Intel มุ่งเน้นทรัพยากรในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำคัญ เช่น โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ ✅ การเชื่อมต่อระหว่างสมาร์ทโฟนกับ Windows PCs ยังคงมีทางเลือกอื่น - แม้ Unison จะเลิกให้บริการ แต่ Microsoft มีแอป Phone Link ที่ช่วยเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้เช่นกัน - Samsung Flow และ Dell Mobile Connect เป็นตัวเลือกที่เคยมีในตลาด แต่ Dell ก็ยุติแอปนี้เช่นเดียวกัน https://www.tomshardware.com/software/intel-discontinues-unison-app-for-connecting-pcs-and-smartphones
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ Android Auto ที่ช่วยเปลี่ยนกล้องรถให้กลายเป็น Dash Cam ได้ฟรี ผู้ใช้ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่ม แต่ต้องรอให้ผู้ผลิตรถยนต์อัปเดตรองรับฟีเจอร์นี้ ระบบจะบันทึกวิดีโออัตโนมัติเมื่อเข้าเงื่อนไข เช่น ขับรถด้วยความเร็วที่กำหนด และสามารถ จัดเก็บวิดีโอในหน่วยความจำภายนอกเพื่อไม่ให้เต็มความจุของรถ อย่างไรก็ตาม ระบบนี้ยังไม่สามารถบันทึกภาพภายในห้องโดยสาร และต้องรอให้รถรองรับก่อนจึงจะใช้งานได้

    ✅ ใช้กล้องของรถบันทึกภาพขณะขับขี่โดยตรง
    - ฟีเจอร์ใหม่ของ Android Auto ช่วยให้รถยนต์ที่มีกล้องอยู่แล้วสามารถบันทึกวิดีโอได้
    - ลดความจำเป็นในการซื้อตัว Dash Cam เพิ่มเติม

    ✅ ผู้ผลิตรถยนต์ต้องปรับแต่งแอปเพื่อรองรับฟีเจอร์นี้
    - แม้ Google เปิดตัวระบบนี้ แต่ ผู้ผลิตต้องเพิ่มการรองรับในระบบของตนก่อน
    - ส่งผลให้บางรุ่นอาจต้องรออัปเดตจากค่ายรถยนต์

    ✅ วิดีโอจะถูกจัดเก็บในที่เก็บข้อมูลภายนอกเพื่อไม่ให้เต็มหน่วยความจำของรถ
    - ผู้ใช้สามารถ เชื่อมต่อหน่วยความจำภายนอกเพื่อบันทึกไฟล์วิดีโอ
    - สามารถตั้งค่าระยะเวลาที่ไฟล์จะถูกเก็บ ก่อนระบบลบอัตโนมัติ

    ✅ ระบบจะเริ่มบันทึกอัตโนมัติเมื่อเข้าเงื่อนไขที่กำหนด
    - Dash Cam จะทำงานเองเมื่อมีเงื่อนไข เช่น ขับรถด้วยความเร็วที่กำหนด
    - ผู้พัฒนาสามารถตั้งค่าให้มี การแจ้งเตือน และการสตรีมวิดีโอจากรถไปยังอุปกรณ์อื่น

    ✅ ข้อจำกัด—ไม่รองรับกล้องในห้องโดยสาร และต้องรออัปเดตจากผู้ผลิตรถยนต์
    - ระบบนี้ใช้ กล้องที่ติดตั้งภายนอกรถ แต่ไม่สามารถบันทึกภายในห้องโดยสาร
    - ผู้ใช้ไม่สามารถติดตั้งใช้งานได้ทันที ต้องรอให้รถยนต์รองรับฟีเจอร์ผ่านอัปเดต

    https://www.techradar.com/vehicle-tech/dash-cams/latest-android-auto-update-could-turn-your-cars-cameras-into-a-free-dash-cam
    Google เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ Android Auto ที่ช่วยเปลี่ยนกล้องรถให้กลายเป็น Dash Cam ได้ฟรี ผู้ใช้ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่ม แต่ต้องรอให้ผู้ผลิตรถยนต์อัปเดตรองรับฟีเจอร์นี้ ระบบจะบันทึกวิดีโออัตโนมัติเมื่อเข้าเงื่อนไข เช่น ขับรถด้วยความเร็วที่กำหนด และสามารถ จัดเก็บวิดีโอในหน่วยความจำภายนอกเพื่อไม่ให้เต็มความจุของรถ อย่างไรก็ตาม ระบบนี้ยังไม่สามารถบันทึกภาพภายในห้องโดยสาร และต้องรอให้รถรองรับก่อนจึงจะใช้งานได้ ✅ ใช้กล้องของรถบันทึกภาพขณะขับขี่โดยตรง - ฟีเจอร์ใหม่ของ Android Auto ช่วยให้รถยนต์ที่มีกล้องอยู่แล้วสามารถบันทึกวิดีโอได้ - ลดความจำเป็นในการซื้อตัว Dash Cam เพิ่มเติม ✅ ผู้ผลิตรถยนต์ต้องปรับแต่งแอปเพื่อรองรับฟีเจอร์นี้ - แม้ Google เปิดตัวระบบนี้ แต่ ผู้ผลิตต้องเพิ่มการรองรับในระบบของตนก่อน - ส่งผลให้บางรุ่นอาจต้องรออัปเดตจากค่ายรถยนต์ ✅ วิดีโอจะถูกจัดเก็บในที่เก็บข้อมูลภายนอกเพื่อไม่ให้เต็มหน่วยความจำของรถ - ผู้ใช้สามารถ เชื่อมต่อหน่วยความจำภายนอกเพื่อบันทึกไฟล์วิดีโอ - สามารถตั้งค่าระยะเวลาที่ไฟล์จะถูกเก็บ ก่อนระบบลบอัตโนมัติ ✅ ระบบจะเริ่มบันทึกอัตโนมัติเมื่อเข้าเงื่อนไขที่กำหนด - Dash Cam จะทำงานเองเมื่อมีเงื่อนไข เช่น ขับรถด้วยความเร็วที่กำหนด - ผู้พัฒนาสามารถตั้งค่าให้มี การแจ้งเตือน และการสตรีมวิดีโอจากรถไปยังอุปกรณ์อื่น ✅ ข้อจำกัด—ไม่รองรับกล้องในห้องโดยสาร และต้องรออัปเดตจากผู้ผลิตรถยนต์ - ระบบนี้ใช้ กล้องที่ติดตั้งภายนอกรถ แต่ไม่สามารถบันทึกภายในห้องโดยสาร - ผู้ใช้ไม่สามารถติดตั้งใช้งานได้ทันที ต้องรอให้รถยนต์รองรับฟีเจอร์ผ่านอัปเดต https://www.techradar.com/vehicle-tech/dash-cams/latest-android-auto-update-could-turn-your-cars-cameras-into-a-free-dash-cam
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta เตรียมเปิดตัวแว่น Hypernova ซึ่งมีหน้าจอขนาดเล็กในเลนส์ขวา ช่วยให้ผู้ใช้ดูการแจ้งเตือนได้โดยไม่ต้องหยิบมือถือ ฟีเจอร์ควบคุมด้วย ท่าทางมือและระบบสัมผัสที่ขอบแว่น ช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้น พร้อมกล้องความละเอียดสูงที่เหนือกว่า Ray-Ban Meta แว่นตานี้จะแตกต่างจาก Orion ซึ่งเป็นแว่น AR รุ่นถัดไป Meta มั่นใจในผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จนเริ่มพัฒนา Hypernova 2 ซึ่งจะมาพร้อมหน้าจอสองจอ และอาจเปิดตัวในปี 2027

    ✅ Hypernova มีหน้าจอแบบ Mini Monocular ในเลนส์ขวา
    - หน้าจอนี้อยู่ที่ มุมล่างขวาของเลนส์ และดีที่สุดเมื่อผู้ใช้มองลง
    - สามารถแสดง ไอคอนแอป, แจ้งเตือน หรือภาพจากแอปนำทาง

    ✅ ควบคุมด้วยระบบสัมผัสและท่าทางมือ
    - ผู้ใช้สามารถ แตะที่ขอบแว่น หรือใช้ ท่าทางมือ เพื่อควบคุมการทำงาน
    - คาดว่าจะสามารถใช้งาน Meta AI Assistant ในแว่นตาได้

    ✅ กล้องความละเอียดสูงกว่ารุ่น Ray-Ban Meta
    - Hypernova จะมี เซ็นเซอร์กล้องที่ให้ภาพคมชัดขึ้น มากกว่า กล้อง 12MP ในแว่นตา Ray-Ban ซึ่งมีราคาเพียง $300–$380

    ✅ แตกต่างจาก Orion แว่นตา AR รุ่นถัดไปของ Meta
    - Orion จะมี Eye Tracking, Hand Tracking, Voice Control และ Neural Interface
    - Hypernova อาจมาพร้อม สายรัดข้อมือ Ceres เพื่อช่วยให้ควบคุมแว่นได้ดียิ่งขึ้น

    ✅ Meta มั่นใจว่า Hypernova จะเป็นที่นิยม และมีรุ่นต่อไปในปี 2027
    - Hypernova 2 กำลังอยู่ในระหว่างพัฒนา และจะมาพร้อม หน้าจอสองจอ เพื่อเพิ่มประสบการณ์ใช้งาน

    https://www.techspot.com/news/107390-meta-1000-hypernova-smart-glasses-may-launch-year.html
    Meta เตรียมเปิดตัวแว่น Hypernova ซึ่งมีหน้าจอขนาดเล็กในเลนส์ขวา ช่วยให้ผู้ใช้ดูการแจ้งเตือนได้โดยไม่ต้องหยิบมือถือ ฟีเจอร์ควบคุมด้วย ท่าทางมือและระบบสัมผัสที่ขอบแว่น ช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้น พร้อมกล้องความละเอียดสูงที่เหนือกว่า Ray-Ban Meta แว่นตานี้จะแตกต่างจาก Orion ซึ่งเป็นแว่น AR รุ่นถัดไป Meta มั่นใจในผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จนเริ่มพัฒนา Hypernova 2 ซึ่งจะมาพร้อมหน้าจอสองจอ และอาจเปิดตัวในปี 2027 ✅ Hypernova มีหน้าจอแบบ Mini Monocular ในเลนส์ขวา - หน้าจอนี้อยู่ที่ มุมล่างขวาของเลนส์ และดีที่สุดเมื่อผู้ใช้มองลง - สามารถแสดง ไอคอนแอป, แจ้งเตือน หรือภาพจากแอปนำทาง ✅ ควบคุมด้วยระบบสัมผัสและท่าทางมือ - ผู้ใช้สามารถ แตะที่ขอบแว่น หรือใช้ ท่าทางมือ เพื่อควบคุมการทำงาน - คาดว่าจะสามารถใช้งาน Meta AI Assistant ในแว่นตาได้ ✅ กล้องความละเอียดสูงกว่ารุ่น Ray-Ban Meta - Hypernova จะมี เซ็นเซอร์กล้องที่ให้ภาพคมชัดขึ้น มากกว่า กล้อง 12MP ในแว่นตา Ray-Ban ซึ่งมีราคาเพียง $300–$380 ✅ แตกต่างจาก Orion แว่นตา AR รุ่นถัดไปของ Meta - Orion จะมี Eye Tracking, Hand Tracking, Voice Control และ Neural Interface - Hypernova อาจมาพร้อม สายรัดข้อมือ Ceres เพื่อช่วยให้ควบคุมแว่นได้ดียิ่งขึ้น ✅ Meta มั่นใจว่า Hypernova จะเป็นที่นิยม และมีรุ่นต่อไปในปี 2027 - Hypernova 2 กำลังอยู่ในระหว่างพัฒนา และจะมาพร้อม หน้าจอสองจอ เพื่อเพิ่มประสบการณ์ใช้งาน https://www.techspot.com/news/107390-meta-1000-hypernova-smart-glasses-may-launch-year.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Meta's $1,000+ Hypernova smart glasses may launch this year with tiny built-in display
    The Hypernova smart glasses will arrive later this year, according to Bloomberg's Mark Gurman, so we could see them unveiled at the Meta Connect conference scheduled to...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts