• มาลองใช้ Copilot ซึ่งเป็น AI จาก Microsoft บนมือถือกันครับ https://youtu.be/MGB0Cb6SadA #microsoft #copilot #บนมืถือ #สร้างภาพ
    มาลองใช้ Copilot ซึ่งเป็น AI จาก Microsoft บนมือถือกันครับ https://youtu.be/MGB0Cb6SadA #microsoft #copilot #บนมืถือ #สร้างภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวร้ายของผู้ใช้งานในองค์กร Microsoft ได้เปลี่ยนการตั้งค่าให้การเก็บข้อมูลจาก Word และ Excel เพื่อฝึก AI อัตโนมัติ Microsoft จะสามารถใช้เนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น เช่น บทความ นวนิยาย หรือผลงานอื่น ๆ เพื่อฝึก AI โดยไม่ได้รับความยินยอมอย่างชัดเจน โดยการปิดฟีเจอร์ "Optional Connected Experiences" บน Windows PC ต้องทำตามขั้นตอนดังนี้:
    1) เปิดโปรแกรม Word หรือ Excel
    2)ไปที่เมนู File
    3)เลือก Options
    4)คลิกที่ Trust Center
    5)เลือก Trust Center Settings
    6)คลิกที่ Privacy Options
    7)ไปที่ Privacy Settings
    8) ยกเลิกการเลือกกล่อง Optional Connected Experiences

    เฮ้อ... Microsoft จะโดน EU ฟ้องแน่นอน และผลคือต้องปิด Feature นี้เป็นค่าอัตโนมัติในภูมิภาคยุโรปเท่านั้น ฟันธง!!

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/microsoft-word-and-excel-ai-data-scraping-slyly-switched-to-opt-in-by-default-the-opt-out-toggle-is-not-that-easy-to-find
    ข่าวร้ายของผู้ใช้งานในองค์กร Microsoft ได้เปลี่ยนการตั้งค่าให้การเก็บข้อมูลจาก Word และ Excel เพื่อฝึก AI อัตโนมัติ Microsoft จะสามารถใช้เนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น เช่น บทความ นวนิยาย หรือผลงานอื่น ๆ เพื่อฝึก AI โดยไม่ได้รับความยินยอมอย่างชัดเจน โดยการปิดฟีเจอร์ "Optional Connected Experiences" บน Windows PC ต้องทำตามขั้นตอนดังนี้: 1) เปิดโปรแกรม Word หรือ Excel 2)ไปที่เมนู File 3)เลือก Options 4)คลิกที่ Trust Center 5)เลือก Trust Center Settings 6)คลิกที่ Privacy Options 7)ไปที่ Privacy Settings 8) ยกเลิกการเลือกกล่อง Optional Connected Experiences เฮ้อ... Microsoft จะโดน EU ฟ้องแน่นอน และผลคือต้องปิด Feature นี้เป็นค่าอัตโนมัติในภูมิภาคยุโรปเท่านั้น ฟันธง!! https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/microsoft-word-and-excel-ai-data-scraping-slyly-switched-to-opt-in-by-default-the-opt-out-toggle-is-not-that-easy-to-find
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft เปิดตัวคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปใหม่ "Windows 365 Link" เป็นคอมพิวเตอร์ที่ทำงานผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเท่านั้น โดยจะต้องใช้บริการ Windows 365 ควบคู่กันไป มี RAM 8GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 64GB แต่ยังไม่เปิดเผยโปรเซสเซอร์ที่ใช้ มีพอร์ต DisplayPort, HDMI, USB-A, USB-C, Ethernet และรองรับ WiFi 6E

    ลุงว่ากลุ่มเป้าหมายมันแปลกๆ สักหน่อย ถ้าเป็น Laptop ราคาถูกใช้ในการเดินทาง แล้วไว้ต่อ Internet ไปใช้ Windows 365 น่าจะเวิร์กกว่ามาก

    https://wccf.tech/1fjki
    Microsoft เปิดตัวคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปใหม่ "Windows 365 Link" เป็นคอมพิวเตอร์ที่ทำงานผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเท่านั้น โดยจะต้องใช้บริการ Windows 365 ควบคู่กันไป มี RAM 8GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 64GB แต่ยังไม่เปิดเผยโปรเซสเซอร์ที่ใช้ มีพอร์ต DisplayPort, HDMI, USB-A, USB-C, Ethernet และรองรับ WiFi 6E ลุงว่ากลุ่มเป้าหมายมันแปลกๆ สักหน่อย ถ้าเป็น Laptop ราคาถูกใช้ในการเดินทาง แล้วไว้ต่อ Internet ไปใช้ Windows 365 น่าจะเวิร์กกว่ามาก https://wccf.tech/1fjki
    WCCF.TECH
    Microsoft's New "Windows 365 Link" Desktop PC Is Very Similar To The M4 Mac mini In Terms Of Design, But It Hardly Matches The Performance
    Microsoft announced its latest Windows 360 Link PC which features a similar design of the new M4 Mac mini, but performance is nowhere near.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 206 มุมมอง 0 รีวิว
  • Bitcoin ทะยานแตะ $95,000! จ่อทุบสถิติ $100,000 📌หลัง BlackRock เปิดซื้อขายออปชัน ขณะทองคำพุ่ง $2,650 รับบทสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางตลาดผันผวน
    👉ตลาดสินทรัพย์ผันผวนหนักเมื่อวานนี้ 20 พ.ย.67 แต่ บิตคอยน์ทำสถิติใหม่ที่ 95,000 ดอลลาร์ ก่อนปรับฐานมาที่ 94,424 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.26% ได้แรงหนุนจากการเปิดซื้อขายออปชันของกองทุน IBIT จาก BlackRock มูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์ พร้อมข่าว MicroStrategy เพิ่มการลงทุนและข่าวลือการเจรจากับ Microsoft
    👉ขณะที่ตลาดรับข่าวดีจากความเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะแต่งตั้งผู้สนับสนุนคริปโตเป็นประธาน ก.ล.ต. ด้านนักวิเคราะห์คาดราคาอาจพุ่งถึง 120,000 ดอลลาร์ในไม่กี่เดือน ส่วนทองคำปรับตัวขึ้น 0.71% แตะ 2,649.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ #imctnews รายงาน
    Bitcoin ทะยานแตะ $95,000! จ่อทุบสถิติ $100,000 📌หลัง BlackRock เปิดซื้อขายออปชัน ขณะทองคำพุ่ง $2,650 รับบทสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางตลาดผันผวน 👉ตลาดสินทรัพย์ผันผวนหนักเมื่อวานนี้ 20 พ.ย.67 แต่ บิตคอยน์ทำสถิติใหม่ที่ 95,000 ดอลลาร์ ก่อนปรับฐานมาที่ 94,424 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.26% ได้แรงหนุนจากการเปิดซื้อขายออปชันของกองทุน IBIT จาก BlackRock มูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์ พร้อมข่าว MicroStrategy เพิ่มการลงทุนและข่าวลือการเจรจากับ Microsoft 👉ขณะที่ตลาดรับข่าวดีจากความเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะแต่งตั้งผู้สนับสนุนคริปโตเป็นประธาน ก.ล.ต. ด้านนักวิเคราะห์คาดราคาอาจพุ่งถึง 120,000 ดอลลาร์ในไม่กี่เดือน ส่วนทองคำปรับตัวขึ้น 0.71% แตะ 2,649.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ #imctnews รายงาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 252 มุมมอง 0 รีวิว
  • จำหน่ายซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ microsoft office 365 ใครสนใจติดตั้งทักแชทมาได้เลย
    จำหน่ายซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ microsoft office 365 ใครสนใจติดตั้งทักแชทมาได้เลย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องราวของบัญชี Microsoft ที่ควรรู้ https://youtu.be/mo-O1MwIO6Y
    เรื่องราวของบัญชี Microsoft ที่ควรรู้ https://youtu.be/mo-O1MwIO6Y
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft มีบริการ Copilot ช่วยแต่งจดหมายได้หลากหลายภาษา และแต่ได้ดีด้วย เพียงแค่ปรับแต่งเล็กๆน้อยๆให้เป็นแบบฉบับของตัวคุณ เฉพาะกับผลิตภัณฑ์ลายเซนท์ของแท้เท่านั้น💸💳

    #เผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สู่สังคม
    #ตัวแทนพลังบุญ
    #ที่ปรึกษาประกันชีวิตและประกันวินาศภัย
    #ประกันชีวิตควบการลงทุน
    #ที่ปรึกษาการลงทุน
    #ประสบการณ์ด้านการประกันกว่า20ปี
    #ThaiTimes😍
    Microsoft มีบริการ Copilot ช่วยแต่งจดหมายได้หลากหลายภาษา และแต่ได้ดีด้วย เพียงแค่ปรับแต่งเล็กๆน้อยๆให้เป็นแบบฉบับของตัวคุณ เฉพาะกับผลิตภัณฑ์ลายเซนท์ของแท้เท่านั้น💸💳 #เผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สู่สังคม #ตัวแทนพลังบุญ #ที่ปรึกษาประกันชีวิตและประกันวินาศภัย #ประกันชีวิตควบการลงทุน #ที่ปรึกษาการลงทุน #ประสบการณ์ด้านการประกันกว่า20ปี #ThaiTimes😍
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 410 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อชิพ CPU มือถือแรงและดีกว่า CPU คอมพิวเตอร์
    แน่นอนว่า Apple สมองไหลมาอยู่ Qualcomm ไม่ต้องพูดถึงว่าแรงกว่า CPU M2 ของ Apple หรือไม่?

    ปัจจุบัน Microsoft หันมาผลิต OS ที่สนับสนุน ARM CPU แล้ว บางบริษัทนำชิพเหล่านี้เอาไปใส่ในโน๊ตบุ๊คขายเป็นรุ่น Top แล้ว กระแส AI มาแรง Hardware ที่สนับสนุน AI ออกมาขายในเชิงพาณิชน์แล้ว

    #เผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สู่สังคม
    #ตัวแทนพลังบุญ
    #ที่ปรึกษาประกันชีวิตและประกันวินาศภัย
    #ประกันชีวิตควบการลงทุน
    #ที่ปรึกษาการลงทุน
    #ประสบการณ์ด้านการประกันกว่า20ปี
    #ThaiTimes
    เมื่อชิพ CPU มือถือแรงและดีกว่า CPU คอมพิวเตอร์ แน่นอนว่า Apple สมองไหลมาอยู่ Qualcomm ไม่ต้องพูดถึงว่าแรงกว่า CPU M2 ของ Apple หรือไม่? ปัจจุบัน Microsoft หันมาผลิต OS ที่สนับสนุน ARM CPU แล้ว บางบริษัทนำชิพเหล่านี้เอาไปใส่ในโน๊ตบุ๊คขายเป็นรุ่น Top แล้ว กระแส AI มาแรง Hardware ที่สนับสนุน AI ออกมาขายในเชิงพาณิชน์แล้ว #เผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สู่สังคม #ตัวแทนพลังบุญ #ที่ปรึกษาประกันชีวิตและประกันวินาศภัย #ประกันชีวิตควบการลงทุน #ที่ปรึกษาการลงทุน #ประสบการณ์ด้านการประกันกว่า20ปี #ThaiTimes
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 443 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรียนรู้การ Upload File ขึ้น OneDrive ได้ที่นี่ https://youtu.be/Q07Jn0R1iqI #onedrive #microsoft365
    เรียนรู้การ Upload File ขึ้น OneDrive ได้ที่นี่ https://youtu.be/Q07Jn0R1iqI #onedrive #microsoft365
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทุกวันนี้แค่เรียนรู้ และใช้เทคโนโลยีให้เป็นชีวิตก็สบายขึ้น https://youtu.be/w3qZEjuMIDk #microsoft365
    ทุกวันนี้แค่เรียนรู้ และใช้เทคโนโลยีให้เป็นชีวิตก็สบายขึ้น https://youtu.be/w3qZEjuMIDk #microsoft365
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาทำความรู้จัก Microsoft Designer กันดีกว่า https://youtu.be/zmVL-GcvWcU #microsoftdesigner
    มาทำความรู้จัก Microsoft Designer กันดีกว่า https://youtu.be/zmVL-GcvWcU #microsoftdesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • เลือดย่อมเข้มกว่าน้ำ

    หลังจากที่สหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้นักเรียนชาวจีนไปเรียนที่สหรัฐอเมริกาอีกต่อไป และไม่อนุญาตให้ชาวจีนไปเรียนในสถาบันวิจัยสำคัญๆ ในสหรัฐฯ อีกต่อไป สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นประเทศไฮเทคของโลกอย่างสหราชอาณาจักร ก็ตัดสินใจไม่อนุญาตอีกต่อไป ภาษาจีนเพื่อศึกษาความรู้ไฮเทคในสถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยของอังกฤษ

    ขณะนี้มีนักเรียนเกือบ 1,000 คนเข้ามาเรียนในสหราชอาณาจักรแล้ว และถูกจำกัดให้ออกจาก สหราชอาณาจักรภายในหนึ่งเดือน และกล่าวว่าเมื่อถูกไล่ออกจากโรงเรียนโดยรัฐบาลสหรัฐฯ สหราชอาณาจักรจะจำกัดไม่ให้นักเรียนเหล่านี้เข้าสหราชอาณาจักร

    บังเอิญญี่ปุ่นได้ประกาศข้อจำกัดที่เข้มงวดสำหรับนักเรียนชาวจีนจากการลงทะเบียนในวิชาที่มีเทคโนโลยีสูงของญี่ปุ่น ขับไล่นักเรียนชาวจีน 1,500 คนในโรงเรียน และนักเรียนชาวจีนที่มีประวัติการปฏิเสธวีซ่าจากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นยังได้ติดตามและปฏิเสธที่จะให้วีซ่าเข้าประเทศแก่บุคคลเหล่านี้

    ในเวลาเดียวกัน กระทรวงศึกษาธิการของแคนาดาได้ประกาศขับไล่นักศึกษาชาวจีน 900 คน

    ออสเตรเลียขับไล่นักศึกษาชาวจีน 2,200 คน; นิวซีแลนด์ขับไล่นักเรียนชาวจีน 1,300 คน

    กระทรวงศึกษาธิการของฝรั่งเศสและเยอรมนีประกาศว่า การสมัครนักเรียนจีนเพื่อศึกษาต่อต่างประเทศจะต้องดำเนินการตามบทบัญญัติการทบทวนอย่างเข้มงวดของสหรัฐอเมริกา

    จนถึงตอนนี้ มากกว่า 80% ของนักเรียนจีน 600,000 คนที่ต้องการสมัครเรียนต่อต่างประเทศจะถูกปฏิเสธวีซ่า นี่เป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวมากที่เกี่ยวข้องกับแผนพัฒนาในอนาคตของจีน

    ไบเดนสาบานที่จะป้องกันไม่ให้จีนมีอำนาจมากกว่าสหรัฐฯ

    เวลานี้เป็นช่วงของกระแสนักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าหัวกะทิหลั่งไหลกลับสู่มาตุภูมิบ้านเกิด

    1. มหาเศรษฐี หลี่ ไค ฟู่ (李开复) เป็นคนนำหน้า ทิ้งกรีนการ์ดกลับสู่ประเทศจีน ทำให้สหรัฐฯเสียหายถึง 1 แสน 3 หมื่น ล้านเหรียญ พร้อมทั้งประกาศว่าจะออกจากตลาดสหรัฐฯตลอดไป โดยบริษัทใหญ่ที่ทำการวิจัยถอนตัวออกจากหุบเขาซิลิคอน (ซิลิคอนแวลลีย์ 硅谷)ของสหรัฐฯ นำเงินทุนของบริษัท 95 % พร้อมทั้งเทคโนโลยีทั้งหมดกลับสู่ประเทศจีน การกระทำเช่นนี้ยังเป็นการชักจูงแบบโดมิโนให้คนเชื้อชาติจีนชั้นนำทยอยกลับประเทศมากขึ้นเรื่อยๆพร้อมทั้งนำเงินทุนกลับประเทศ มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    2. หยิ่น จื้อ หย๋าว (尹志尧) เทพแห่ง ซิลิคอนแวลลี่ย์ แม้ว่าทางสหรัฐฯจะเสนอเงินทองเงื่อนไขที่ดีเลิศเพียงใดก็มิอาจยับยั้งให้เขาที่มีความตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะกลับสู่ประเทศจีนได้ เขาถูกขนานนามว่า เป็นหนึ่งในคนเชื้อชาติจีนที่มีความสามารถอย่างยอดเยี่ยมคนหนึ่ง เป็นคนจีนที่ทางสหรัฐฯไม่อยากให้จากไปอย่างยิ่ง เขาไม่เพียงแค่นำพานักวิทยาศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมทางด้านไมโครชิพ 30 กว่าคน กลับไปด้วย เมื่อกลับถึงประเทศจีนแล้วเขายังเป็นผู้นำกลุ่มเอาชนะการผูกขาดทางเทคโนโลยี โดยสามารถสร้าง 5 nm Etching machine ได้สำเร็จ เปิดตำนานไมโครชิพขึ้นมาใหม่

    3. เสิ่น เซี่ยง หยาง ( 沈向洋 ) ทำงานทางด้าน microsoft ผ่านไป 23 ปี ก็กลับสู่มาตุภูมิ เขาเป็นคนจีนที่อยู่ในระดับชั้นสูงสุดของงานทางด้านนี้ผู้นำทางด้าน AI Microsoft การกลับประเทศของเขาถึงกลับทำให้ประเทศหรัฐฯสั่นคลอนแม้แต่ Bill Gates ยังรู้สึกเสียดาย ปัจจุบันเขาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย ต้าชิง สร้างบุคลากรทางด้าน AI ให้กับประเทศจีน

    4. เซี่ย เสี่ยว เกา ( 谢小高 ) ศึกษาและทำงานที่ต่างประเทศ 30 กว่าปี สุดท้ายยอมสละทิ้งตำแหน่งอาจารย์ของมหาวิทยาลัย Harvard มาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง เขาเป็นคนจีนที่ใด้รับรางวัลโนเบลคนหนึ่ง เป็นบุคคลผู้นำระหว่างประเทศทางด้านชีววิทยา ฟิสิกส์ เคมี การวิจัยพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ สหรัฐฯใช้เงินรางวัลถึง 40 ล้านเหรียญก็ไม่สามารถรั้งเข้าไว้ได้ หลังกลับประเทศเขาก็เริ่มเสนอการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเกี่ยวการวิจัยหลายรายการ นำพานักเรียนสู่การวิจัยที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง นักวิทยาศาสตร์จีนที่เก่งๆจำนวนมากทะยอยกลับประเทศจีนไม่ขาดสาย จะเป็นผลดีต่อประเทศเร็วขึ้น

    Cr: Boonchu Chung (羅文娟)
    จีนปฏิรูปการศึกษาต่อทันทีหลังคุมโควิด19ได้เบ็ดเสร็จแล้ว

    - ห้ามการสอบข้อเขียนในเด็กเล็ก, ลดการสอบต่างๆ, ลดการบ้าน, ให้บริษัทกวดวิชาเอกชนเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร, เลิกการมีห้องเรียนพิเศษสำหรับเด็กอัจฉริยะ, ลดเวลาการเล่มเกมของเด็ก, ปรับให้ครูไปรับตำแหน่งในร.ร. อื่นๆทุก 6 ปีป้องกันครูที่มีความรู้ความสามารถกระจุกตัวอยู่ในร.ร.บางแห่ง
    การปฏิรูปการศึกษาที่จีน

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดิฉันทึ่งกับการแก้ปัญหาเรื่องการศึกษาของเด็กและเยาวชนในประเทศจีนเป็นอย่างมาก หลังจากติดตามข่าวคราวมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนมีมาตรการทางด้านการศึกษามาโดยตลอด เพียงแต่มาสะดุดช่วงเกิดโรคระบาดโควิด-19 ที่ทำให้ต้องไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

    เมื่อโรคระบาดโควิด-19 ในจีนได้รับการบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในเวลาอันรวดเร็ว สถานการณ์ดีขึ้น รัฐบาลจีนก็เดินหน้าปฏิรูปการศึกษาต่อทันที

    ล่าสุดกระทรวงศึกษาธิการของจีนประกาศห้ามการสอบข้อเขียนสำหรับเด็กที่มีอายุ 6-7 ปี เพราะการสอบที่มากเกินไปส่งผลให้นักเรียนต้องรับภาระหนักและอยู่ภายใต้ความกดดัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตใจและร่างกายอย่างมาก

    กฎระเบียบใหม่ยังจำกัดการสอบในชั้นปีอื่น ๆ ของการศึกษาภาคบังคับ ไม่ให้เกินภาคการศึกษาละ 1 ครั้ง และห้ามท้องถิ่นจัดสอบระดับภูมิภาค หรือระหว่างโรงเรียน สำหรับชั้นประถมศึกษาทั้งหมด

    ส่วนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่ยังไม่จบการศึกษา ห้ามโรงเรียนจัดสอบย่อยรายสัปดาห์ สอบย่อยรายวิชา รวมถึงสอบรายเดือน และห้ามเลี่ยงไปเปิดการสอบในชื่ออื่น ๆ ด้วย

    ถือเป็นการเดินหน้าแผนปฏิรูปการศึกษาเพื่อลดความกดดันต่อนักเรียน และพ่อแม่ในระบบโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูง

    ที่ผ่านมาระบบการศึกษาของจีนมุ่งเน้นที่ผลสอบ กำหนดให้นักเรียนต้องเข้าสอบตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนตั้งแต่ปีแรก ไปจนถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัยสำหรับนักเรียนอายุ 18 ปี ที่เรียกกันในภาษาจีนว่า “เกาเข่า” ทำให้เกิดการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ประมาณว่าถ้าพลาดไปเพียงคะแนนเดียว ก็สามารถชี้ขาดอนาคตได้ ทำให้เกิดการแข่งขันกันอย่างหนัก และแย่งกันกวดวิชาสุดฤทธิ์

    และนั่นหมายความว่าเมื่อกระทรวงศึกษาของจีนประกาศปฏิรูปการศึกษาในทุกระดับ ก็ต้องรวมถึงแนวทางการจัดการโรงเรียนกวดวิชาด้วย โดยเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จีนได้สั่งให้บรรดาบริษัทกวดวิชาของเอกชนทั้งหมดแปลงเป็นองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร โดยให้สถาบันติวเตอร์เหล่านี้สอนบทเรียนได้เฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์วันละ 1 ชั่วโมง และห้ามสอนวิชาหลัก

    นี่ยังไม่นับรวมถึงนโยบายเรื่องครูในสถานศึกษา ที่ต้องให้สลับปรับเปลี่ยนกันไปรับตำแหน่งในโรงเรียนต่าง ๆ ทุก 6 ปี เพื่อป้องกันไม่ให้ครูที่มีความรู้ความสามารถกระจุกอยู่ในโรงเรียนระดับหัวกะทิบางแห่งเท่านั้น

    ที่สำคัญกว่านั้น ยังได้ออกตำเตือนไม่ให้โรงเรียนต่าง ๆ สร้างห้องเรียนพิเศษสำหรับเด็กที่มีพรสวรรค์ ประเภทห้องกิ๊ฟ(อัจฉริยะ) หรือห้องพิเศษใด ๆ

    และถ้าจำกันได้ เมื่อต้นปีกระทรวงศึกษาธิการบ้านเขาก็สั่งห้ามครูให้การบ้านแบบข้อเขียนสำหรับนักเรียนเกรด 1-2 รวมทั้งจำกัดการให้การบ้านนักเรียนมัธยมต้น ไม่ให้เกินวันละ 1.5 ชั่วโมง

    งานนี้เรียกว่าจีน “ยกเครื่อง” ปฏิรูปการศึกษาใหม่กันเลยทีเดียว โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้ได้

    เลิกการสอบข้อเขียนในเด็กเล็ก

    ลดการบ้านเด็ก

    ละ ไม่ให้มีห้องเรียนพิเศษ

    คุมร.ร.กวดวิชาไม่ให้แสวงผลกำไร

    ห้ามร.ร.จัดอันดับคะแนนสอบ

    ปรับครูทุก 6 ปี

    ล่าสุดทางการเมืองเซี่ยงไฮ้ประกาศยกเลิกการสอบปลายภาควิชาภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา เพื่อลดภาระของนักเรียนและผู้ปกครอง ตามเสียงเรียกร้องเพื่อลดการให้ความสำคัญกับการเรียนภาษาอังกฤษในโรงเรียนรัฐบาล หลังจากนี้นักเรียนประถมจะสอบปลายภาคเฉพาะวิชาภาษาจีนและคณิตศาสตร์ ส่วนวิชาอื่นรวมทั้งภาษาอังกฤษจะวัดผลจากการประเมินของครูผู้สอน โดยไม่มีคะแนนสอบ

    นี่ยังไม่นับเรื่องที่จีนออกกฎหมายบังคับให้เด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เล่นเกมได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แค่ระหว่างเวลา 20.00-21.00 น. เฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ในช่วงเปิดภาคเรียนเท่านั้น ส่วนช่วงปิดเทอม เด็กจะได้รับอนุญาตให้เล่นเกมออนไลน์ได้นานขึ้น แต่ยังจำกัดวันละ 60 นาที เป็นกฎใหม่ที่มีความพยายามเพื่อควบคุมพฤติกรรมเด็กติดเกมของจีน ที่ส่งผลต่อการศึกษาและชีวิตประจำวันของเด็กอย่างมาก

    ที่รวบรวมเรื่อง “ทึ่ง” เหล่านี้ขึ้นมา ก็เพราะ “อึ้ง” กับประเด็นปัญหาที่เหมือนในบ้านเราที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งยังไม่ได้รับการชำระสะสาง แม้จะผ่านการปฏิรูปการศึกษาครั้งแรกตั้งแต่ปี 2542 และปัญหาเหล่านี้ก็ยังดำรงอยู่

    ภาพที่สะท้อนชัดในบ้านเขาก็คือ การจัดการที่เด็ดขาด ลงมือทำทันที และแก้ปัญหาที่มีลักษณะโดมิโน่และส่งผลสัมพันธ์กันในเวลาที่ไล่เลี่ยแบบสอดรับกัน แม้จะยังไม่เห็นผล แต่สิ่งเหล่านี้คือข้อเรียกร้องที่เกิดขึ้นในบ้านเรามาตลอด

    และถ้าเรายังแก้ปัญหาทีละอย่าง เงื้อง่าทีละเรื่อง สุดท้ายก็แก้ปัญหาไม่ได้ซะที

    เล่าสู่กันฟังเฉย ๆ ไม่ได้คิดไม่ได้ฝันว่าจะเกิดขึ้นในบ้านเรา
    #ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน
    เลือดย่อมเข้มกว่าน้ำ หลังจากที่สหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้นักเรียนชาวจีนไปเรียนที่สหรัฐอเมริกาอีกต่อไป และไม่อนุญาตให้ชาวจีนไปเรียนในสถาบันวิจัยสำคัญๆ ในสหรัฐฯ อีกต่อไป สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นประเทศไฮเทคของโลกอย่างสหราชอาณาจักร ก็ตัดสินใจไม่อนุญาตอีกต่อไป ภาษาจีนเพื่อศึกษาความรู้ไฮเทคในสถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยของอังกฤษ ขณะนี้มีนักเรียนเกือบ 1,000 คนเข้ามาเรียนในสหราชอาณาจักรแล้ว และถูกจำกัดให้ออกจาก สหราชอาณาจักรภายในหนึ่งเดือน และกล่าวว่าเมื่อถูกไล่ออกจากโรงเรียนโดยรัฐบาลสหรัฐฯ สหราชอาณาจักรจะจำกัดไม่ให้นักเรียนเหล่านี้เข้าสหราชอาณาจักร บังเอิญญี่ปุ่นได้ประกาศข้อจำกัดที่เข้มงวดสำหรับนักเรียนชาวจีนจากการลงทะเบียนในวิชาที่มีเทคโนโลยีสูงของญี่ปุ่น ขับไล่นักเรียนชาวจีน 1,500 คนในโรงเรียน และนักเรียนชาวจีนที่มีประวัติการปฏิเสธวีซ่าจากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นยังได้ติดตามและปฏิเสธที่จะให้วีซ่าเข้าประเทศแก่บุคคลเหล่านี้ ในเวลาเดียวกัน กระทรวงศึกษาธิการของแคนาดาได้ประกาศขับไล่นักศึกษาชาวจีน 900 คน ออสเตรเลียขับไล่นักศึกษาชาวจีน 2,200 คน; นิวซีแลนด์ขับไล่นักเรียนชาวจีน 1,300 คน กระทรวงศึกษาธิการของฝรั่งเศสและเยอรมนีประกาศว่า การสมัครนักเรียนจีนเพื่อศึกษาต่อต่างประเทศจะต้องดำเนินการตามบทบัญญัติการทบทวนอย่างเข้มงวดของสหรัฐอเมริกา จนถึงตอนนี้ มากกว่า 80% ของนักเรียนจีน 600,000 คนที่ต้องการสมัครเรียนต่อต่างประเทศจะถูกปฏิเสธวีซ่า นี่เป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวมากที่เกี่ยวข้องกับแผนพัฒนาในอนาคตของจีน ไบเดนสาบานที่จะป้องกันไม่ให้จีนมีอำนาจมากกว่าสหรัฐฯ เวลานี้เป็นช่วงของกระแสนักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าหัวกะทิหลั่งไหลกลับสู่มาตุภูมิบ้านเกิด 1. มหาเศรษฐี หลี่ ไค ฟู่ (李开复) เป็นคนนำหน้า ทิ้งกรีนการ์ดกลับสู่ประเทศจีน ทำให้สหรัฐฯเสียหายถึง 1 แสน 3 หมื่น ล้านเหรียญ พร้อมทั้งประกาศว่าจะออกจากตลาดสหรัฐฯตลอดไป โดยบริษัทใหญ่ที่ทำการวิจัยถอนตัวออกจากหุบเขาซิลิคอน (ซิลิคอนแวลลีย์ 硅谷)ของสหรัฐฯ นำเงินทุนของบริษัท 95 % พร้อมทั้งเทคโนโลยีทั้งหมดกลับสู่ประเทศจีน การกระทำเช่นนี้ยังเป็นการชักจูงแบบโดมิโนให้คนเชื้อชาติจีนชั้นนำทยอยกลับประเทศมากขึ้นเรื่อยๆพร้อมทั้งนำเงินทุนกลับประเทศ มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง 2. หยิ่น จื้อ หย๋าว (尹志尧) เทพแห่ง ซิลิคอนแวลลี่ย์ แม้ว่าทางสหรัฐฯจะเสนอเงินทองเงื่อนไขที่ดีเลิศเพียงใดก็มิอาจยับยั้งให้เขาที่มีความตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะกลับสู่ประเทศจีนได้ เขาถูกขนานนามว่า เป็นหนึ่งในคนเชื้อชาติจีนที่มีความสามารถอย่างยอดเยี่ยมคนหนึ่ง เป็นคนจีนที่ทางสหรัฐฯไม่อยากให้จากไปอย่างยิ่ง เขาไม่เพียงแค่นำพานักวิทยาศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมทางด้านไมโครชิพ 30 กว่าคน กลับไปด้วย เมื่อกลับถึงประเทศจีนแล้วเขายังเป็นผู้นำกลุ่มเอาชนะการผูกขาดทางเทคโนโลยี โดยสามารถสร้าง 5 nm Etching machine ได้สำเร็จ เปิดตำนานไมโครชิพขึ้นมาใหม่ 3. เสิ่น เซี่ยง หยาง ( 沈向洋 ) ทำงานทางด้าน microsoft ผ่านไป 23 ปี ก็กลับสู่มาตุภูมิ เขาเป็นคนจีนที่อยู่ในระดับชั้นสูงสุดของงานทางด้านนี้ผู้นำทางด้าน AI Microsoft การกลับประเทศของเขาถึงกลับทำให้ประเทศหรัฐฯสั่นคลอนแม้แต่ Bill Gates ยังรู้สึกเสียดาย ปัจจุบันเขาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย ต้าชิง สร้างบุคลากรทางด้าน AI ให้กับประเทศจีน 4. เซี่ย เสี่ยว เกา ( 谢小高 ) ศึกษาและทำงานที่ต่างประเทศ 30 กว่าปี สุดท้ายยอมสละทิ้งตำแหน่งอาจารย์ของมหาวิทยาลัย Harvard มาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง เขาเป็นคนจีนที่ใด้รับรางวัลโนเบลคนหนึ่ง เป็นบุคคลผู้นำระหว่างประเทศทางด้านชีววิทยา ฟิสิกส์ เคมี การวิจัยพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ สหรัฐฯใช้เงินรางวัลถึง 40 ล้านเหรียญก็ไม่สามารถรั้งเข้าไว้ได้ หลังกลับประเทศเขาก็เริ่มเสนอการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเกี่ยวการวิจัยหลายรายการ นำพานักเรียนสู่การวิจัยที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง นักวิทยาศาสตร์จีนที่เก่งๆจำนวนมากทะยอยกลับประเทศจีนไม่ขาดสาย จะเป็นผลดีต่อประเทศเร็วขึ้น Cr: Boonchu Chung (羅文娟) จีนปฏิรูปการศึกษาต่อทันทีหลังคุมโควิด19ได้เบ็ดเสร็จแล้ว - ห้ามการสอบข้อเขียนในเด็กเล็ก, ลดการสอบต่างๆ, ลดการบ้าน, ให้บริษัทกวดวิชาเอกชนเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร, เลิกการมีห้องเรียนพิเศษสำหรับเด็กอัจฉริยะ, ลดเวลาการเล่มเกมของเด็ก, ปรับให้ครูไปรับตำแหน่งในร.ร. อื่นๆทุก 6 ปีป้องกันครูที่มีความรู้ความสามารถกระจุกตัวอยู่ในร.ร.บางแห่ง การปฏิรูปการศึกษาที่จีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดิฉันทึ่งกับการแก้ปัญหาเรื่องการศึกษาของเด็กและเยาวชนในประเทศจีนเป็นอย่างมาก หลังจากติดตามข่าวคราวมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนมีมาตรการทางด้านการศึกษามาโดยตลอด เพียงแต่มาสะดุดช่วงเกิดโรคระบาดโควิด-19 ที่ทำให้ต้องไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เมื่อโรคระบาดโควิด-19 ในจีนได้รับการบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในเวลาอันรวดเร็ว สถานการณ์ดีขึ้น รัฐบาลจีนก็เดินหน้าปฏิรูปการศึกษาต่อทันที ล่าสุดกระทรวงศึกษาธิการของจีนประกาศห้ามการสอบข้อเขียนสำหรับเด็กที่มีอายุ 6-7 ปี เพราะการสอบที่มากเกินไปส่งผลให้นักเรียนต้องรับภาระหนักและอยู่ภายใต้ความกดดัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตใจและร่างกายอย่างมาก กฎระเบียบใหม่ยังจำกัดการสอบในชั้นปีอื่น ๆ ของการศึกษาภาคบังคับ ไม่ให้เกินภาคการศึกษาละ 1 ครั้ง และห้ามท้องถิ่นจัดสอบระดับภูมิภาค หรือระหว่างโรงเรียน สำหรับชั้นประถมศึกษาทั้งหมด ส่วนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่ยังไม่จบการศึกษา ห้ามโรงเรียนจัดสอบย่อยรายสัปดาห์ สอบย่อยรายวิชา รวมถึงสอบรายเดือน และห้ามเลี่ยงไปเปิดการสอบในชื่ออื่น ๆ ด้วย ถือเป็นการเดินหน้าแผนปฏิรูปการศึกษาเพื่อลดความกดดันต่อนักเรียน และพ่อแม่ในระบบโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูง ที่ผ่านมาระบบการศึกษาของจีนมุ่งเน้นที่ผลสอบ กำหนดให้นักเรียนต้องเข้าสอบตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนตั้งแต่ปีแรก ไปจนถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัยสำหรับนักเรียนอายุ 18 ปี ที่เรียกกันในภาษาจีนว่า “เกาเข่า” ทำให้เกิดการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ประมาณว่าถ้าพลาดไปเพียงคะแนนเดียว ก็สามารถชี้ขาดอนาคตได้ ทำให้เกิดการแข่งขันกันอย่างหนัก และแย่งกันกวดวิชาสุดฤทธิ์ และนั่นหมายความว่าเมื่อกระทรวงศึกษาของจีนประกาศปฏิรูปการศึกษาในทุกระดับ ก็ต้องรวมถึงแนวทางการจัดการโรงเรียนกวดวิชาด้วย โดยเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จีนได้สั่งให้บรรดาบริษัทกวดวิชาของเอกชนทั้งหมดแปลงเป็นองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร โดยให้สถาบันติวเตอร์เหล่านี้สอนบทเรียนได้เฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์วันละ 1 ชั่วโมง และห้ามสอนวิชาหลัก นี่ยังไม่นับรวมถึงนโยบายเรื่องครูในสถานศึกษา ที่ต้องให้สลับปรับเปลี่ยนกันไปรับตำแหน่งในโรงเรียนต่าง ๆ ทุก 6 ปี เพื่อป้องกันไม่ให้ครูที่มีความรู้ความสามารถกระจุกอยู่ในโรงเรียนระดับหัวกะทิบางแห่งเท่านั้น ที่สำคัญกว่านั้น ยังได้ออกตำเตือนไม่ให้โรงเรียนต่าง ๆ สร้างห้องเรียนพิเศษสำหรับเด็กที่มีพรสวรรค์ ประเภทห้องกิ๊ฟ(อัจฉริยะ) หรือห้องพิเศษใด ๆ และถ้าจำกันได้ เมื่อต้นปีกระทรวงศึกษาธิการบ้านเขาก็สั่งห้ามครูให้การบ้านแบบข้อเขียนสำหรับนักเรียนเกรด 1-2 รวมทั้งจำกัดการให้การบ้านนักเรียนมัธยมต้น ไม่ให้เกินวันละ 1.5 ชั่วโมง งานนี้เรียกว่าจีน “ยกเครื่อง” ปฏิรูปการศึกษาใหม่กันเลยทีเดียว โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้ได้ เลิกการสอบข้อเขียนในเด็กเล็ก ลดการบ้านเด็ก ละ ไม่ให้มีห้องเรียนพิเศษ คุมร.ร.กวดวิชาไม่ให้แสวงผลกำไร ห้ามร.ร.จัดอันดับคะแนนสอบ ปรับครูทุก 6 ปี ล่าสุดทางการเมืองเซี่ยงไฮ้ประกาศยกเลิกการสอบปลายภาควิชาภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา เพื่อลดภาระของนักเรียนและผู้ปกครอง ตามเสียงเรียกร้องเพื่อลดการให้ความสำคัญกับการเรียนภาษาอังกฤษในโรงเรียนรัฐบาล หลังจากนี้นักเรียนประถมจะสอบปลายภาคเฉพาะวิชาภาษาจีนและคณิตศาสตร์ ส่วนวิชาอื่นรวมทั้งภาษาอังกฤษจะวัดผลจากการประเมินของครูผู้สอน โดยไม่มีคะแนนสอบ นี่ยังไม่นับเรื่องที่จีนออกกฎหมายบังคับให้เด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เล่นเกมได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แค่ระหว่างเวลา 20.00-21.00 น. เฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ในช่วงเปิดภาคเรียนเท่านั้น ส่วนช่วงปิดเทอม เด็กจะได้รับอนุญาตให้เล่นเกมออนไลน์ได้นานขึ้น แต่ยังจำกัดวันละ 60 นาที เป็นกฎใหม่ที่มีความพยายามเพื่อควบคุมพฤติกรรมเด็กติดเกมของจีน ที่ส่งผลต่อการศึกษาและชีวิตประจำวันของเด็กอย่างมาก ที่รวบรวมเรื่อง “ทึ่ง” เหล่านี้ขึ้นมา ก็เพราะ “อึ้ง” กับประเด็นปัญหาที่เหมือนในบ้านเราที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งยังไม่ได้รับการชำระสะสาง แม้จะผ่านการปฏิรูปการศึกษาครั้งแรกตั้งแต่ปี 2542 และปัญหาเหล่านี้ก็ยังดำรงอยู่ ภาพที่สะท้อนชัดในบ้านเขาก็คือ การจัดการที่เด็ดขาด ลงมือทำทันที และแก้ปัญหาที่มีลักษณะโดมิโน่และส่งผลสัมพันธ์กันในเวลาที่ไล่เลี่ยแบบสอดรับกัน แม้จะยังไม่เห็นผล แต่สิ่งเหล่านี้คือข้อเรียกร้องที่เกิดขึ้นในบ้านเรามาตลอด และถ้าเรายังแก้ปัญหาทีละอย่าง เงื้อง่าทีละเรื่อง สุดท้ายก็แก้ปัญหาไม่ได้ซะที เล่าสู่กันฟังเฉย ๆ ไม่ได้คิดไม่ได้ฝันว่าจะเกิดขึ้นในบ้านเรา #ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 276 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนกำลังพลิกเกมส์สงครามชิป ในอนาคตเราอาจจะเห็น nvidia ปรับตัวไม่ทันก็ได้
    ควอนตัมชิปเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจมากในปัจจุบันครับ 🌟

    ควอนตัมคอมพิวเตอร์ (Quantum Computer) คืออะไร? ให้ผมมาสายใจคร่าวๆ ให้คุณเข้าใจกันดีก่อนครับ:

    ควอนตัมคอมพิวเตอร์คืออะไร?
    ควอนตัมคอมพิวเตอร์เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ปรากฏการณ์เชิงควอนตัมในการประมวลผลข้อมูล ซึ่งทำให้มีความสามารถในการประมวลผลที่เร็วกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปอย่างมหาศาล
    ควอนตัมคอมพิวเตอร์ใช้คุณสมบัติของอะตอม (atom) ในการประมวลผล ซึ่งทำให้มีความเร็วในการคำนวณที่น่าทึ่ง
    การพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์
    บริษัทใหญ่หลายราย รวมถึง Google, Microsoft, และ IBM ได้ลงทุนในการพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์
    ควอนตัมคอมพิวเตอร์ยังคงเป็นพื้นที่ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว แม้ว่ามันจะความก้าวหน้าทางด้านนวัตกรรมที่ค่อนข้างปิดเงียบในโลกของเทคโนโลยี
    เมื่อควอนตัมคอมพิวเตอร์เกิดขึ้นจริง ๆ แล้ว มันจะเปลี่ยนแปลงโลกอย่างมหาศาล และเราอาจจะไม่สามารถจินตนาการถึงขีดจำกัดของประสิทธิภาพของมันได้ครับ! 😊
    จีนกำลังพลิกเกมส์สงครามชิป ในอนาคตเราอาจจะเห็น nvidia ปรับตัวไม่ทันก็ได้ ควอนตัมชิปเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจมากในปัจจุบันครับ 🌟 ควอนตัมคอมพิวเตอร์ (Quantum Computer) คืออะไร? ให้ผมมาสายใจคร่าวๆ ให้คุณเข้าใจกันดีก่อนครับ: ควอนตัมคอมพิวเตอร์คืออะไร? ควอนตัมคอมพิวเตอร์เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ปรากฏการณ์เชิงควอนตัมในการประมวลผลข้อมูล ซึ่งทำให้มีความสามารถในการประมวลผลที่เร็วกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปอย่างมหาศาล ควอนตัมคอมพิวเตอร์ใช้คุณสมบัติของอะตอม (atom) ในการประมวลผล ซึ่งทำให้มีความเร็วในการคำนวณที่น่าทึ่ง การพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์ บริษัทใหญ่หลายราย รวมถึง Google, Microsoft, และ IBM ได้ลงทุนในการพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์ ควอนตัมคอมพิวเตอร์ยังคงเป็นพื้นที่ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว แม้ว่ามันจะความก้าวหน้าทางด้านนวัตกรรมที่ค่อนข้างปิดเงียบในโลกของเทคโนโลยี เมื่อควอนตัมคอมพิวเตอร์เกิดขึ้นจริง ๆ แล้ว มันจะเปลี่ยนแปลงโลกอย่างมหาศาล และเราอาจจะไม่สามารถจินตนาการถึงขีดจำกัดของประสิทธิภาพของมันได้ครับ! 😊
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำหรับวันนี้ นายTechTips ก็มีข่าวสารวงการไอทีมานำเสนออีกเเล้วครับ
    วันนี้อาจจะเป็นข่าวแปลกๆเกี่ยวกับการลงทุนใหม่ของมหาเศรษฐีไอทีบื่อดังที่สุดของโลกนี้ คุณ Bill Gates นั่นเอง

    Bill Gates ลงทุนในสตาร์ตอัปพัฒนาอาหารวัวเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจาก ‘เรอวัว’
    บิลล์ เกตส์ (Bill Gates) มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้ง Microsoft ลงทุนใน Rumin8 สตาร์ตอัปสัญชาติออสเตรเลียที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซมีเทนจากการเรอของวัว

    Rumin8 ตั้งอยู่ในเมืองเพิร์ท เน้นการพัฒนาอาหารวัวทำจากสาหร่ายแดง ที่จะช่วยลดก๊าซมีเทน โดยได้เงินระดมทุนไปกว่า 12 ล้านเหรียญ (ราว 393 ล้านบาท) จาก Breakthrough Energy Ventures กลุ่มองค์กรด้านพลังงานสะอาดที่เกตส์ก่อตั้งขึ้นในปี 2015

    ก๊าซมีเทนเป็นก๊าซเรือนกระจก โดยสัตว์อย่างวัว แพะ และกวาง จะปล่อยมีเทนเวลาที่กระเพาะกำลังย่อยใยอาหารจากพืช ในรูปแบบของการเรอหรือผายลม ซึ่งนักวิจัยจากหลายมหาวิทยาลัยพบว่าการให้วัวกินสาหร่ายจะช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนได้อย่างมาก

    กว่าครึ่งของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในโลกนั้นมาจากการทำเกษตรกรรม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นก๊าซมีเทน มีการพบว่าโมเลกุลของมีเทนมีศักยภาพในการเพิ่มอุณหภูมิของสภาพบรรยากาศโลกมากกว่าโมเลกุลของคาร์บอนไดออกไซด์

    นักวิทยาศาสตร์พบว่าในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา มีเทนเพิ่มอุณหภูมิโลกมากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ระหว่าง 28 ถึง 34 เท่าเลยทีเดียว

    นี่คงเป็นตัวอย่างของคำว่าการเเก้ปัญหาแบบนอกกรอบเเต่ได้ผลจริงๆเลยทีเดียว
    หากใครมีคำถามฝากถามผ่าน นายTechTips มาได้เลยนะครับ
    #TechTips
    สำหรับวันนี้ นายTechTips ก็มีข่าวสารวงการไอทีมานำเสนออีกเเล้วครับ วันนี้อาจจะเป็นข่าวแปลกๆเกี่ยวกับการลงทุนใหม่ของมหาเศรษฐีไอทีบื่อดังที่สุดของโลกนี้ คุณ Bill Gates นั่นเอง Bill Gates ลงทุนในสตาร์ตอัปพัฒนาอาหารวัวเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจาก ‘เรอวัว’ บิลล์ เกตส์ (Bill Gates) มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้ง Microsoft ลงทุนใน Rumin8 สตาร์ตอัปสัญชาติออสเตรเลียที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซมีเทนจากการเรอของวัว Rumin8 ตั้งอยู่ในเมืองเพิร์ท เน้นการพัฒนาอาหารวัวทำจากสาหร่ายแดง ที่จะช่วยลดก๊าซมีเทน โดยได้เงินระดมทุนไปกว่า 12 ล้านเหรียญ (ราว 393 ล้านบาท) จาก Breakthrough Energy Ventures กลุ่มองค์กรด้านพลังงานสะอาดที่เกตส์ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 ก๊าซมีเทนเป็นก๊าซเรือนกระจก โดยสัตว์อย่างวัว แพะ และกวาง จะปล่อยมีเทนเวลาที่กระเพาะกำลังย่อยใยอาหารจากพืช ในรูปแบบของการเรอหรือผายลม ซึ่งนักวิจัยจากหลายมหาวิทยาลัยพบว่าการให้วัวกินสาหร่ายจะช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนได้อย่างมาก กว่าครึ่งของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในโลกนั้นมาจากการทำเกษตรกรรม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นก๊าซมีเทน มีการพบว่าโมเลกุลของมีเทนมีศักยภาพในการเพิ่มอุณหภูมิของสภาพบรรยากาศโลกมากกว่าโมเลกุลของคาร์บอนไดออกไซด์ นักวิทยาศาสตร์พบว่าในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา มีเทนเพิ่มอุณหภูมิโลกมากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ระหว่าง 28 ถึง 34 เท่าเลยทีเดียว นี่คงเป็นตัวอย่างของคำว่าการเเก้ปัญหาแบบนอกกรอบเเต่ได้ผลจริงๆเลยทีเดียว หากใครมีคำถามฝากถามผ่าน นายTechTips มาได้เลยนะครับ #TechTips
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 533 มุมมอง 0 รีวิว
  • Colin Huang Zheng เจ้าของแพลตฟอร์ม TEMUวัย44ปีได้รับการจัดอันดับจากBloomberg Billionaires Index เป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน ด้วยทรัพย์สินมูลค่า 48,600 ล้านเหรียญสหรัฐ เขาแซงหน้าจง ซานซาน ราชาแห่งน้ำดื่มบรรจุขวดของประเทศ ซึ่งครองอันดับหนึ่งมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2021

    Colin Huang Zheng เกิดในปี 1980 ที่เมืองหางโจวซึ่งเป็นฐานที่มั่นสำคัญของอาลีบาบา Colin Huang Zheng เติบโตมาในยุคที่จีนกำลังเปิดประเทศและปฏิรูปเศรษฐกิจ ด้วยความสามารถทางวิชาการที่โดดเด่น เขาได้รับทุนการศึกษาให้ไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา หลังจบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสัน เคยฝึกงานที่ Microsoft ในปักกิ่งและซีแอตเทิล ก่อนที่จะเริ่มต้นอาชีพการงานที่ Google ในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2003

    ในปี 2006 Colin Huang Zheng ตัดสินใจกลับมาจีนเพื่อเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง หลังจากทดลองทำธุรกิจหลายรูปแบบ ตั้งบริษัทเกมออนไลน์ Xinyoudi และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Ouku.com ขึ้นมา โคลิน หวงเคยล้มป่วยในช่วงหนึ่ง ผู้ประกอบการหนุ่มคนนี้อยู่บ้านเป็นเวลาหนึ่งปีเพื่อคิดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป ในที่สุดเขาก็พบโอกาสครั้งสำคัญในปี 2015 ด้วยการก่อตั้ง Pinduoduo แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่นำเสนอแนวคิด "ซื้อร่วมกัน" ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถรวมกลุ่มกันเพื่อซื้อสินค้าในราคาที่ถูกลง แนวคิดนี้ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวจีนที่ชื่นชอบการต่อรองราคา แต่ยังสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สนุกสนานและมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของเขาสูงถึง 71,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงต้นปี 2021 แต่ก็เจอวิกฤตช่วงโควิด-19ระบาดเศรษฐกิจโลกหยุดชะงัก ทรัพย์สินของเขาพังทลายลงอย่างรวดเร็วพอๆ กับที่สร้างได้ โดยร่วงลง 87 เปอร์เซ็นต์ภายในเวลาประมาณหนึ่งปี แต่น่าประหลาดใจ PDD Holdings ของ Huang กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง แม้ว่าจะไม่ใหญ่เท่าเมื่อก่อน แต่ก็มั่นคง โดยการขยายกิจการออกนอกประเทศจีนภายใต้ชื่อแบรนด์ Temu ช่วยรับมือกับเศรษฐกิจภายในประเทศที่อ่อนแออย่างต่อเนื่อง

    ความสำเร็จของ Pinduoduo เป็นไปอย่างรวดเร็วและน่าทึ่ง ภายในเวลาเพียง 3 ปี บริษัทสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการเติบโตที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทอินเตอร์เน็ตจีน ปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือการใช้เทคโนโลยี AI และ Big data อย่างชาญฉลาด ทำให้แพลตฟอร์มสามารถนำเสนอสินค้าและโปรโมชั่นที่ตรงใจผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ การเติบโตอย่างโดดเด่นของหวงได้รับแรงหนุนจากพฤติกรรมการจับจ่ายที่เปลี่ยนไปของจีน หลังจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ของประเทศกลายเป็นภาวะชะลอตัวที่ยาวนาน นอกจากนี้ เขายังเป็นเจ้าพ่อเทคโนโลยีคนแรกที่ครองอันดับความมั่งคั่งสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี หลังจากที่รัฐบาลกดดันธุรกิจเอกชนจนทำให้คู่แข่งอย่างกลุ่มอาลีบาบาของแจ็ค หม่า ลดอิทธิพลทางเศรษฐกิจการตลาดลง

    #Thaitimes
    Colin Huang Zheng เจ้าของแพลตฟอร์ม TEMUวัย44ปีได้รับการจัดอันดับจากBloomberg Billionaires Index เป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน ด้วยทรัพย์สินมูลค่า 48,600 ล้านเหรียญสหรัฐ เขาแซงหน้าจง ซานซาน ราชาแห่งน้ำดื่มบรรจุขวดของประเทศ ซึ่งครองอันดับหนึ่งมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2021 Colin Huang Zheng เกิดในปี 1980 ที่เมืองหางโจวซึ่งเป็นฐานที่มั่นสำคัญของอาลีบาบา Colin Huang Zheng เติบโตมาในยุคที่จีนกำลังเปิดประเทศและปฏิรูปเศรษฐกิจ ด้วยความสามารถทางวิชาการที่โดดเด่น เขาได้รับทุนการศึกษาให้ไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา หลังจบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสัน เคยฝึกงานที่ Microsoft ในปักกิ่งและซีแอตเทิล ก่อนที่จะเริ่มต้นอาชีพการงานที่ Google ในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2003 ในปี 2006 Colin Huang Zheng ตัดสินใจกลับมาจีนเพื่อเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง หลังจากทดลองทำธุรกิจหลายรูปแบบ ตั้งบริษัทเกมออนไลน์ Xinyoudi และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Ouku.com ขึ้นมา โคลิน หวงเคยล้มป่วยในช่วงหนึ่ง ผู้ประกอบการหนุ่มคนนี้อยู่บ้านเป็นเวลาหนึ่งปีเพื่อคิดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป ในที่สุดเขาก็พบโอกาสครั้งสำคัญในปี 2015 ด้วยการก่อตั้ง Pinduoduo แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่นำเสนอแนวคิด "ซื้อร่วมกัน" ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถรวมกลุ่มกันเพื่อซื้อสินค้าในราคาที่ถูกลง แนวคิดนี้ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวจีนที่ชื่นชอบการต่อรองราคา แต่ยังสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สนุกสนานและมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของเขาสูงถึง 71,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงต้นปี 2021 แต่ก็เจอวิกฤตช่วงโควิด-19ระบาดเศรษฐกิจโลกหยุดชะงัก ทรัพย์สินของเขาพังทลายลงอย่างรวดเร็วพอๆ กับที่สร้างได้ โดยร่วงลง 87 เปอร์เซ็นต์ภายในเวลาประมาณหนึ่งปี แต่น่าประหลาดใจ PDD Holdings ของ Huang กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง แม้ว่าจะไม่ใหญ่เท่าเมื่อก่อน แต่ก็มั่นคง โดยการขยายกิจการออกนอกประเทศจีนภายใต้ชื่อแบรนด์ Temu ช่วยรับมือกับเศรษฐกิจภายในประเทศที่อ่อนแออย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จของ Pinduoduo เป็นไปอย่างรวดเร็วและน่าทึ่ง ภายในเวลาเพียง 3 ปี บริษัทสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการเติบโตที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทอินเตอร์เน็ตจีน ปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือการใช้เทคโนโลยี AI และ Big data อย่างชาญฉลาด ทำให้แพลตฟอร์มสามารถนำเสนอสินค้าและโปรโมชั่นที่ตรงใจผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ การเติบโตอย่างโดดเด่นของหวงได้รับแรงหนุนจากพฤติกรรมการจับจ่ายที่เปลี่ยนไปของจีน หลังจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ของประเทศกลายเป็นภาวะชะลอตัวที่ยาวนาน นอกจากนี้ เขายังเป็นเจ้าพ่อเทคโนโลยีคนแรกที่ครองอันดับความมั่งคั่งสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี หลังจากที่รัฐบาลกดดันธุรกิจเอกชนจนทำให้คู่แข่งอย่างกลุ่มอาลีบาบาของแจ็ค หม่า ลดอิทธิพลทางเศรษฐกิจการตลาดลง #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 589 มุมมอง 0 รีวิว
  • #MicrosoftTeam
    🤩🙃บ่อยครั้งเมื่อใช้ Microsoft Team ในการประชุมจะมี Pop Up ขึ้นมาแจ้งว่ามีคนต้องการเข้าร่วมในห้องประชุม ทำให้เป็นที่รำคาญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ตั้งใจประชุมอยู่ วิธีการง่ายๆที่ลดความรำคาญนี้ได้คือเมื่อมี Pop Up ขึ้นมาให้มองดีๆแล้วไปกดที่รูปกระดิ่ง (อย่ากดปิด Pop Up) หลังจากนี้จะไม่มี Pop Up ขึ้นมารบกวนอีกเลย😇😅😄😁
    #MicrosoftTeam 🤩🙃บ่อยครั้งเมื่อใช้ Microsoft Team ในการประชุมจะมี Pop Up ขึ้นมาแจ้งว่ามีคนต้องการเข้าร่วมในห้องประชุม ทำให้เป็นที่รำคาญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ตั้งใจประชุมอยู่ วิธีการง่ายๆที่ลดความรำคาญนี้ได้คือเมื่อมี Pop Up ขึ้นมาให้มองดีๆแล้วไปกดที่รูปกระดิ่ง (อย่ากดปิด Pop Up) หลังจากนี้จะไม่มี Pop Up ขึ้นมารบกวนอีกเลย😇😅😄😁
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • “แอร์เอเชียต้องการคำตอบและค่าชดเชย”

    เหตุการณ์ Microsoft outage ที่บริษัทเอกชนและภาคธุรกิจสำคัญ อาทิ สายการบิน ธนาคาร สื่อมวลชน และโรงพยาบาลในหลายประเทศ ได้รับผลกระทบจากปัญหาไอทีขัดข้องทั่วโลก จากระบบปฎิบัติการ Windows ซึ่งเชื่อมโยงกับระบบของ CrowdStrike บริษัทเทคโนโลยีความปลอดภัยทางไซเบอร์ของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันศุกร์ (19 ก.ค.) ที่ผ่านมา

    แม้ปัญหาดังกล่าวจะได้รับการคลี่คลาย แต่ภาคธุรกิจและสังคมยังคงตั้งคำถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงความรับผิดชอบจาก Microsoft และ CrowdStrike สองบริษัทด้านไอทีของสหรัฐอเมริกา

    หนึ่งในนั้นคือ โทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแคปิตอล เอ ผู้ก่อตั้งสายการบินแอร์เอเชีย ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศมาเลเซีย โพสต์ข้อความผ่าน Linkedin ระบุว่า เป็นเรื่องดีที่ CrowdStrike ขอโทษ แต่จะรอฟังจาก Microsoft ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทำให้สายการบินสูญเสียรายได้หลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

    แต่ที่สำคัญกว่านั้น ความล้มเหลวของระบบได้ก่อให้เกิดความวุ่นวายมากมายในชีวิตของผู้คนอย่างไร

    "บริษัทเทคโนโลยีไม่ค่อยมีความเห็นอกเห็นใจ สิ่งที่เราเจอในช่วงโควิด-19 พวกเขาไม่มีความเห็นอกเห็นใจ ตอนนี้พวกเขามีปัญหาที่พวกเขาคาดหวังให้เราทุกคนเข้าใจ ฉันจะไม่ทำแบบนั้น สายการบินต้องการคำตอบและค่าชดเชย แต่สิ่งสำคัญคือ เราจะเรียนรู้และเติบโตจากสิ่งนี้" โทนี่ ระบุ

    แอร์เอเชียเป็นหนึ่งในสายการบินทั่วโลกที่ประสบปัญหาเหตุขัดข้องด้านไอที ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานทุกสนามบิน หนึ่งในนั้นคืออาคารผู้โดยสาร 2 (KLIA2) ท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย สายการบินต้องใช้ระบบแมนวล (Manual) ในการบริหารจัดการทั้งหมด ตั้งแต่การเช็กอิน การพิมพ์บัตรโดยสาร และโหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่อง

    โทนี่ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้นึกถึงเมื่อ 23 ปีที่แล้ว ทุกอย่างทำด้วยระบบแมนวล แต่ก็ภูมิใจที่ทำให้การยกเลิกเที่ยวบินลดเหลือน้อยที่สุด เนื่องจากความคล่องตัวในการเปลี่ยนไปใช้ระบบแมนวล แม้ว่าการให้บริการจะมีความล่าช้าไปบ้าง แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะนำพาผู้โดยสารทุกคนไปยังจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัยที่สุด

    อนึ่ง สายการบินแอร์เอเชียกลับมาใช้ระบบออนไลน์ในการปฎิบัติงาน รวมทั้งการเช็กอินออนไลน์แก่ผู้โดยสาร ตั้งแต่บ่ายวันเสาร์ (20 ก.ค.) ที่ผ่านมา

    #Newskit #AirAsia #TonyFernandes
    “แอร์เอเชียต้องการคำตอบและค่าชดเชย” เหตุการณ์ Microsoft outage ที่บริษัทเอกชนและภาคธุรกิจสำคัญ อาทิ สายการบิน ธนาคาร สื่อมวลชน และโรงพยาบาลในหลายประเทศ ได้รับผลกระทบจากปัญหาไอทีขัดข้องทั่วโลก จากระบบปฎิบัติการ Windows ซึ่งเชื่อมโยงกับระบบของ CrowdStrike บริษัทเทคโนโลยีความปลอดภัยทางไซเบอร์ของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันศุกร์ (19 ก.ค.) ที่ผ่านมา แม้ปัญหาดังกล่าวจะได้รับการคลี่คลาย แต่ภาคธุรกิจและสังคมยังคงตั้งคำถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงความรับผิดชอบจาก Microsoft และ CrowdStrike สองบริษัทด้านไอทีของสหรัฐอเมริกา หนึ่งในนั้นคือ โทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแคปิตอล เอ ผู้ก่อตั้งสายการบินแอร์เอเชีย ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศมาเลเซีย โพสต์ข้อความผ่าน Linkedin ระบุว่า เป็นเรื่องดีที่ CrowdStrike ขอโทษ แต่จะรอฟังจาก Microsoft ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทำให้สายการบินสูญเสียรายได้หลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ที่สำคัญกว่านั้น ความล้มเหลวของระบบได้ก่อให้เกิดความวุ่นวายมากมายในชีวิตของผู้คนอย่างไร "บริษัทเทคโนโลยีไม่ค่อยมีความเห็นอกเห็นใจ สิ่งที่เราเจอในช่วงโควิด-19 พวกเขาไม่มีความเห็นอกเห็นใจ ตอนนี้พวกเขามีปัญหาที่พวกเขาคาดหวังให้เราทุกคนเข้าใจ ฉันจะไม่ทำแบบนั้น สายการบินต้องการคำตอบและค่าชดเชย แต่สิ่งสำคัญคือ เราจะเรียนรู้และเติบโตจากสิ่งนี้" โทนี่ ระบุ แอร์เอเชียเป็นหนึ่งในสายการบินทั่วโลกที่ประสบปัญหาเหตุขัดข้องด้านไอที ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานทุกสนามบิน หนึ่งในนั้นคืออาคารผู้โดยสาร 2 (KLIA2) ท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย สายการบินต้องใช้ระบบแมนวล (Manual) ในการบริหารจัดการทั้งหมด ตั้งแต่การเช็กอิน การพิมพ์บัตรโดยสาร และโหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่อง โทนี่ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้นึกถึงเมื่อ 23 ปีที่แล้ว ทุกอย่างทำด้วยระบบแมนวล แต่ก็ภูมิใจที่ทำให้การยกเลิกเที่ยวบินลดเหลือน้อยที่สุด เนื่องจากความคล่องตัวในการเปลี่ยนไปใช้ระบบแมนวล แม้ว่าการให้บริการจะมีความล่าช้าไปบ้าง แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะนำพาผู้โดยสารทุกคนไปยังจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัยที่สุด อนึ่ง สายการบินแอร์เอเชียกลับมาใช้ระบบออนไลน์ในการปฎิบัติงาน รวมทั้งการเช็กอินออนไลน์แก่ผู้โดยสาร ตั้งแต่บ่ายวันเสาร์ (20 ก.ค.) ที่ผ่านมา #Newskit #AirAsia #TonyFernandes
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 714 มุมมอง 0 รีวิว
  • การล่มของระบบ Microsoft Windows จีนไม่เดือดร้อนเพราะมีระบบคอมพิวเตอร์ตัวเองที่ "ปลอดภัยและควบคุมเอง" ทำให้โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ ตั้งแต่สายการบินไปจนถึงธนาคาร ส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบ

    20 กรกฏาคม 2567-รายงานจากสื่อเซ้าท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 19 กรกฏาคม ไม่มีรายงานความล้มเหลวของโครงสร้างพื้นฐานในจีนแผ่นดินใหญ่หลังจากโลกปั่นป่วนจากการล่มของไมโครซอฟต์ ขณะที่สนามบินหลายแห่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตั้งแต่ฮ่องกงไปจนถึงออสเตรเลีย ต่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่สนามบินนานาชาติในกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้เปิดให้บริการตามปกติ

    อย่างไรก็ตาม แต่พนักงานบริษัทต่างประเทศในเซี่ยงไฮ้ เปิดเผยกับเซ้าท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ว่า สำนักงานของเธอเริ่มประสบกับปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ขัดข้องเมื่อบ่ายวันศุกร์ และเกือบทุกคนได้รับผลกระทบ หน้าจอแล็ปท็อปของพนักงานค้างอยู่บนหน้าจอสีฟ้าพร้อมข้อความ "กำลังกู้คืน" ดูเหมือนว่า Windows จะโหลดไม่ถูกต้อง”

    จากนั้นฝ่ายสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทก็สั่งให้ทุกคนปิดคอมพิวเตอร์ รอคำแนะนำเพิ่มเติม และใช้แอปมือถือสำหรับการส่งข้อความโต้ตอบแบบทันที งานบัญชีของพนักงานก็ล่าช้าเนื่องจากการหยุดทำงาน “รายงาน [ทางการเงิน] ของเดือนนี้จะล่าช้า” เจ้าหน้าที่กล่าว

    พนักงานจากบริษัทต่างประเทศอีกแห่งหนึ่งรายงานว่าประสบปัญหาหน้าจอสีฟ้าเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. แม้ว่าพนักงานบางคนสามารถรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ได้ในภายหลัง แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัทได้ ซึ่งแสดงข้อผิดพลาด “502 Bad Gateway” บริษัทบอกกับพนักงานว่า “การสนับสนุนด้านไอทีทั่วโลกได้เปิดใช้งานการตอบสนองในระดับสูงสุดเพื่อแก้ไขปัญหา” ตามที่พนักงานรายดังกล่าวระบุ

    บน Xiaohongshu ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีนที่มีลักษณะคล้ายอินสตาแกรม ผู้ใช้หลายคนบ่นเกี่ยวกับความยากลำบากในการเช็คอินในเชนโรงแรมระดับนานาชาติ เช่น Sheraton, Marriott และ Hyatt ในเมืองต่างๆ ของจีน

    ขณะที่บริการสาธารณะของจีนส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบ เว็บไซต์ของจีนและช่องทางโซเชียลมีเดียของ Microsoft จึงไม่ออกประกาศฉุกเฉินใดๆ Microsoft ไม่ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นทันทีเมื่อวันศุกร์

    การที่ภูมิคุ้มกันของจีนต่อการล่มของไมโครซอฟต์ขัดข้อง แสดงให้เห็นว่าจีนลดการพึ่งพาผู้ให้บริการจากต่างประเทศ เช่น Microsoft และบริษัทแอนตี้ไวรัส CrowdStrike ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนได้ออกแคมเปญทั่วทั้งหน่วยงานรัฐบาลและผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานหลักเพื่อแทนที่ฮาร์ดแวร์และระบบจากต่างประเทศด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ภายในประเทศจีน

    การล่มของไมโครซอฟต์มีสาเหตุมาจากการอัปเดตซอฟต์แวร์จาก CrowdStrike ยักษ์ใหญ่ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบที่ใช้ Windows ทั่วโลก George Kurtz ซีอีโอของ CrowdStrike ยืนยันเมื่อเช้าวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ว่าบริษัทของเขากำลังเร่งแก้ไขปัญหา

    แต่ในจีนมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากการล่มของ Microsoft ในประเทศจีน ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศนี้มีความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายของระบบคอมพิวเตอร์ที่ "ปลอดภัยและควบคุมได้" ตามที่พนักงานรัฐบาลจีนคนหนึ่งกล่าว

    ใน Weibo ชาวเน็ตชาวจีนแซวว่า Microsoft “ให้วันหยุดครึ่งวันแก่พวกเขา” ผู้แสดงความคิดเห็นคนหนึ่งกล่าวว่า “บริษัทของเราเพิ่งเปลี่ยนมาใช้คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ที่มีระบบ HarmonyOS ดังนั้นเราจึงไม่สามารถเข้าร่วมสนุกกับไมโครซอฟต์ของคุณได้”

    ที่มา :https://www.scmp.com/tech/big-tech/article/3271171/microsoft-outage-leaves-china-largely-untouched-tech-self-sufficiency-campaign-pays
    การล่มของระบบ Microsoft Windows จีนไม่เดือดร้อนเพราะมีระบบคอมพิวเตอร์ตัวเองที่ "ปลอดภัยและควบคุมเอง" ทำให้โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ ตั้งแต่สายการบินไปจนถึงธนาคาร ส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบ 20 กรกฏาคม 2567-รายงานจากสื่อเซ้าท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 19 กรกฏาคม ไม่มีรายงานความล้มเหลวของโครงสร้างพื้นฐานในจีนแผ่นดินใหญ่หลังจากโลกปั่นป่วนจากการล่มของไมโครซอฟต์ ขณะที่สนามบินหลายแห่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตั้งแต่ฮ่องกงไปจนถึงออสเตรเลีย ต่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่สนามบินนานาชาติในกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้เปิดให้บริการตามปกติ อย่างไรก็ตาม แต่พนักงานบริษัทต่างประเทศในเซี่ยงไฮ้ เปิดเผยกับเซ้าท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ว่า สำนักงานของเธอเริ่มประสบกับปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ขัดข้องเมื่อบ่ายวันศุกร์ และเกือบทุกคนได้รับผลกระทบ หน้าจอแล็ปท็อปของพนักงานค้างอยู่บนหน้าจอสีฟ้าพร้อมข้อความ "กำลังกู้คืน" ดูเหมือนว่า Windows จะโหลดไม่ถูกต้อง” จากนั้นฝ่ายสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทก็สั่งให้ทุกคนปิดคอมพิวเตอร์ รอคำแนะนำเพิ่มเติม และใช้แอปมือถือสำหรับการส่งข้อความโต้ตอบแบบทันที งานบัญชีของพนักงานก็ล่าช้าเนื่องจากการหยุดทำงาน “รายงาน [ทางการเงิน] ของเดือนนี้จะล่าช้า” เจ้าหน้าที่กล่าว พนักงานจากบริษัทต่างประเทศอีกแห่งหนึ่งรายงานว่าประสบปัญหาหน้าจอสีฟ้าเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. แม้ว่าพนักงานบางคนสามารถรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ได้ในภายหลัง แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัทได้ ซึ่งแสดงข้อผิดพลาด “502 Bad Gateway” บริษัทบอกกับพนักงานว่า “การสนับสนุนด้านไอทีทั่วโลกได้เปิดใช้งานการตอบสนองในระดับสูงสุดเพื่อแก้ไขปัญหา” ตามที่พนักงานรายดังกล่าวระบุ บน Xiaohongshu ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีนที่มีลักษณะคล้ายอินสตาแกรม ผู้ใช้หลายคนบ่นเกี่ยวกับความยากลำบากในการเช็คอินในเชนโรงแรมระดับนานาชาติ เช่น Sheraton, Marriott และ Hyatt ในเมืองต่างๆ ของจีน ขณะที่บริการสาธารณะของจีนส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบ เว็บไซต์ของจีนและช่องทางโซเชียลมีเดียของ Microsoft จึงไม่ออกประกาศฉุกเฉินใดๆ Microsoft ไม่ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นทันทีเมื่อวันศุกร์ การที่ภูมิคุ้มกันของจีนต่อการล่มของไมโครซอฟต์ขัดข้อง แสดงให้เห็นว่าจีนลดการพึ่งพาผู้ให้บริการจากต่างประเทศ เช่น Microsoft และบริษัทแอนตี้ไวรัส CrowdStrike ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนได้ออกแคมเปญทั่วทั้งหน่วยงานรัฐบาลและผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานหลักเพื่อแทนที่ฮาร์ดแวร์และระบบจากต่างประเทศด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ภายในประเทศจีน การล่มของไมโครซอฟต์มีสาเหตุมาจากการอัปเดตซอฟต์แวร์จาก CrowdStrike ยักษ์ใหญ่ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบที่ใช้ Windows ทั่วโลก George Kurtz ซีอีโอของ CrowdStrike ยืนยันเมื่อเช้าวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ว่าบริษัทของเขากำลังเร่งแก้ไขปัญหา แต่ในจีนมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากการล่มของ Microsoft ในประเทศจีน ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศนี้มีความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายของระบบคอมพิวเตอร์ที่ "ปลอดภัยและควบคุมได้" ตามที่พนักงานรัฐบาลจีนคนหนึ่งกล่าว ใน Weibo ชาวเน็ตชาวจีนแซวว่า Microsoft “ให้วันหยุดครึ่งวันแก่พวกเขา” ผู้แสดงความคิดเห็นคนหนึ่งกล่าวว่า “บริษัทของเราเพิ่งเปลี่ยนมาใช้คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ที่มีระบบ HarmonyOS ดังนั้นเราจึงไม่สามารถเข้าร่วมสนุกกับไมโครซอฟต์ของคุณได้” ที่มา :https://www.scmp.com/tech/big-tech/article/3271171/microsoft-outage-leaves-china-largely-untouched-tech-self-sufficiency-campaign-pays
    WWW.SCMP.COM
    China escapes Microsoft outage, thanks to Beijing’s tech self-sufficiency drive
    The Microsoft Windows outage that affected foreign businesses and luxury hotels in China on Friday left the country’s key infrastructure unaffected.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 474 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ถูกชาวโลก ประณามการบล็อกบัญชีผู้ใช้ชาวปาเลส
    Palestinian Digital Rights Coalition และกลุ่มอื่นๆ จากเอกวาดอร์ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น เป็นต้น กล่าวว่า การกระทำล่าสุดของบริษัทในการบล็อกอีเมลและบัญชี Skype ของผู้ใช้ชาวปาเลสเป็น "การก่อกวนอย่างไม่ยุติธรรมซึ่งส่งผลกระทบร้ายแรงต่อชีวิตประจำวันของพวกเขาในช่วงของการรุกราน"
    “ไม่เพียงแต่เป็นการละเมิดศีลธรรมพื้นฐานของมนุษย์เท่านั้น แต่ยังเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานอีกด้วย การเข้าถึงเทคโนโลยีและการสื่อสารถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง ซึ่งข้อมูลและการเชื่อมต่ออาจหมายถึงความแตกต่างระหว่างชีวิตและความเป็นความตาย” กลุ่มดังกล่าวระบุในแถลงการณ์โดยอ้างถึงเหตุการณ์ในกาซา
    “การที่ไมโครซอฟต์ปิดกั้นบริการต่างๆ ของตนนั้นเท่ากับเป็นการปิดกั้นโอกาสทางสังคม อาชีพ และการเงินของชาวปาเลสในช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยากและความหายนะอันยิ่งใหญ่ การตัดสินใจของไมโครซอฟต์ในการจำกัดบริการต่างๆ ของตนไว้สำหรับชาวปาเลสในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าวิตกกังวลอย่างยิ่งและไม่สามารถหาเหตุผลมาอธิบายได้”
    ชาวปาเลสที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศกล่าวหาว่าไมโครซอฟต์ปิดบัญชีอีเมลของพวกเขาโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า พวกเขายังกล่าวอีกว่าไมโครซอฟต์ยังขัดขวางไม่ให้พวกเขาใช้แพลตฟอร์มวิดีโอ Skype เพื่อติดต่อกับญาติพี่น้องในกาซาอีกด้วย
    .
    #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews
    #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง
    -------------------------------
    สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    Microsoft ถูกชาวโลก ประณามการบล็อกบัญชีผู้ใช้ชาวปาเลส Palestinian Digital Rights Coalition และกลุ่มอื่นๆ จากเอกวาดอร์ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น เป็นต้น กล่าวว่า การกระทำล่าสุดของบริษัทในการบล็อกอีเมลและบัญชี Skype ของผู้ใช้ชาวปาเลสเป็น "การก่อกวนอย่างไม่ยุติธรรมซึ่งส่งผลกระทบร้ายแรงต่อชีวิตประจำวันของพวกเขาในช่วงของการรุกราน" “ไม่เพียงแต่เป็นการละเมิดศีลธรรมพื้นฐานของมนุษย์เท่านั้น แต่ยังเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานอีกด้วย การเข้าถึงเทคโนโลยีและการสื่อสารถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง ซึ่งข้อมูลและการเชื่อมต่ออาจหมายถึงความแตกต่างระหว่างชีวิตและความเป็นความตาย” กลุ่มดังกล่าวระบุในแถลงการณ์โดยอ้างถึงเหตุการณ์ในกาซา “การที่ไมโครซอฟต์ปิดกั้นบริการต่างๆ ของตนนั้นเท่ากับเป็นการปิดกั้นโอกาสทางสังคม อาชีพ และการเงินของชาวปาเลสในช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยากและความหายนะอันยิ่งใหญ่ การตัดสินใจของไมโครซอฟต์ในการจำกัดบริการต่างๆ ของตนไว้สำหรับชาวปาเลสในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าวิตกกังวลอย่างยิ่งและไม่สามารถหาเหตุผลมาอธิบายได้” ชาวปาเลสที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศกล่าวหาว่าไมโครซอฟต์ปิดบัญชีอีเมลของพวกเขาโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า พวกเขายังกล่าวอีกว่าไมโครซอฟต์ยังขัดขวางไม่ให้พวกเขาใช้แพลตฟอร์มวิดีโอ Skype เพื่อติดต่อกับญาติพี่น้องในกาซาอีกด้วย . #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง ------------------------------- สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 512 มุมมอง 0 รีวิว