• Part 1 : The Beats and William S. Burroughs

    บีทเจนเนอเรชั่น คือ กลุ่มคนหนุ่ม-สาว ในยุคต้น 1960s ที่เกี่ยวข้องแวะกันด้วยอิทธิพลทางความคิดต้านกระแสสังคม พวกเขายืนอยู่บนเส้นแบ่งของแนวคิดแบบองค์รวมของสังคมอเมริกันอุดมคติแบบ แฟร้งคลิน ดีลาโน่ รูทส์เวลท์ และ สังคมที่นิยมความเป็นปัจเจกบุคคลแบบสุดโต่งในช่วงเวลานั้น ตัวตนขวกเขาถูกแสดงผ่านผลงานการเขียน หลากหลายรูปแบบ เซ็กซ์ ดนตรี และ ศิลปะ พวกเขาเชื่อกันเองว่าในกลุ่มพวกเขามีอยู่เพียงหลักร้อยคน ซึ่งอันที่จริง จำนวนที่แท้จริงของกลุ่ม บีทส์ นั้นไม่ปรากฏเป็นตัวเลขที่ชัดเจนนัก



    นอแมน เมลเลอร์ ผู้อุปถัมภ์ค้ำจุน ความมีตัวตนของ บีทส์ กล่าวไว้อย่างสวยงามมากว่า บีทส์นั้นคือผู้กล้าหาญที่จะแสดงถึงความเป็นตัวของตัวเอง ในยุคที่ทุกกระแสสังคมถูกจับจ้องโดยรัฐบาลสหรัฐ พวกเขาคือคนที่อยู่นอกกฏระเบียบของสังคม งานเขียนของพวกเขาสะท้อนสิ่งที่ประชาชนยุคนั้นมองไม่เห็นหรือแกล้งมองไม่เห็น ซึ่งครอบคลุมเรื่องการเมือง วัฒนธรรม และ การแสวงหาทางจิตวิญญาณ โดยที่พวกเขานั้นไม่อิงแอบกับตรรกะภายนอก ไม่ว่าจะเป็น เรื่องทุนนิยมเรื่องสังคมนิยม แต่เป็นการค้นพบสิ่งใหม่ด้วยตัวเอง ผลงานของพวกเขาจึงเป็นดั่งการเบิกทางให้กับผู้ที่จะค้นพบสิ่งใหม่ๆในยุคต่อๆมา



    แจ็ค คูโรแวค

    แอลลัน กินเบิร์ค

    วิลเลี่ยม เอส. เบอร์โรส์



    สามศาสดาแถวหน้า บีทเจนเนอเรชั่น



    วิลเลี่ยม เอส. เบอร์โรส์ “อัจฉริยะ รุนแรง บ้าคลั่ง”

    .

    .

    วิลเลี่ยม “บิล” เอส. เบอร์โรส์ อายุมากกว่าเพื่อนอีกสองคน และ ผลงานของเขาประสบความสำเร็จช้ากว่าอีกสองคนมาก แต่เป็นการประสบความสำเร็จที่ยาวนานและยั่งยืนที่สุด บิล เกิดในปี ค.ศ. 1914 ในเซนหลุยส์ มิสซูรี่ ปู่ของเขาร่ำรวยจากกว่าเป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องบวกเลขเครื่องแรกของโลก แม้ครอบครัวของบิลจะไม่รวยเท่ากับรุ่นปู่แต่บอกได้ว่าเป็นครอบครัวที่มีฐานะดีมากๆครอบครัวหนึ่งในเวลานั้น เมื่ออายุได้ 15 ปี ตามกระแสในยุคนั้น ครอบครัวส่งบิลได้เรียนในโรงเรียน “บ้านไร่” โรงเรียนประจำที่อยู่ในรัฐตะวันตกอเมริกา ซึ่งเขาถูกส่งไปอยู่ถึงรัฐนิวแม็กซิโก - โรงเรียนประจำลอสอลาโมสแรนช์สกูล เนื่องจากบิลเป็นคนที่เกลียดกิจกรรมภายนอกห้องเรียนอยู่เป็นทุนเดิน เขาแทบจะเข้ากับที่นั่นไม่ได้ ยกเว้นเสียแต่กีฬาชนิดหนึ่งของโรงเรียนที่เขาชื่นชอบเป็นพิเศษนั่นก็คือ กีฬายิงปืนนั่นเอง

    .

    ที่นั่นบิลได้มีประสบการณ์เกี่ยวกับสารเสพติดเป็นครั้งแรกนั่นก็คือ คลอรอลไฮเดรต ยาระงับประสาท และเป็นที่รู้กันว่า บิลเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากการเสพเกินขนาด พอเรียนต่อไม่ได้จึงต้องย้ายไปเข้าโรงเรียนเอกชนเพื่อเก็บเกรดไว้ไปต่อที่ฮาร์วาร์ด ซึ่งก็ทันตอนอายุ 18 พอดี พอเข้าไปได้ บิลก็ไม่ได้สนใจเล่าเรียนเท่าไหร่ แต่มักพบว่าไปซ่อนตัวอยู่ในห้องสมุดของมหาวิทยาลัย ที่นั่นเขาได้อ่านวรรณกรรมภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสอย่างจุใจ พอเรียนจบตอนอายุ 21 ปีพอดี บิลขอพ่อแม่ออกเดินทางท่องเที่ยวทั่วยุโรป และ ก็ได้เมียเป็นแม่หม้าย ชาวยิวอายุ 35 ปี จาก ยูโกสลาเวีย นัยว่าตัวเขานั้นอยากเป็นฮีโร่ ปกป้องผู้หญิงคนหนึ่งจากลัทธิเผด็จการที่เริ่มก่อตัวในยุโรปในขณะนั้น ซึ่งก็อยู่กินกับเขาเกือบ 9 ปีในนิวยอร์ค กระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงในปี 1945

    .

    หลังจากกลับมาถึงสหรัฐอเมริกา บิลเลือกจะที่กลับไปสู่แวดวงการศึกษาโดยเข้าเรียนในระดับปริญญาโทอีกครั้งที่ ฮาร์วาร์ด โดยแรงจูงใจในครั้งนี้คือการได้ใกล้ชิดกับเพื่อนชายของเขา เคลส์ แอลวินส์ ที่นั่นเอง ทั้งสองคนได้ร่วมกันผลิตงานเขียนเสียดสี เกี่้ยวกับการจมลงของเรือไททานิคโดยใช้ชื่อว่า "แสงสะท้อนสุดท้ายของยามพลบค่ำ" ซึ่งพวกเขาไม่ประสบความสำเร็จในการหาสำนักพิมพ์ที่จะรับซื้องานเขียนดังกล่าวได้ โดยนิตยสาร Esquire ตอบกลับมาว่า มันไม่มีเนื้อหาอะไรลึกซึ้งพอที่จะให้พวกเขานำไปตีพิมพ์ได้ แต่อย่างไรก็ตาม งานเขียนนี้กลับมาปรากฏในนิยายเรื่อง "โนวา เอ็กซ์เพรส"ของบิลในเวลาต่อมา

    .

    บิลเลือกที่จะทิ้งการเรียนปริญญาโทไปแบบครึ่งๆกลางๆ และ กลับไปอยู่ที่ เซนหลุยส์ มิสซูรี่ เพื่อจะไปเป็นลูกศิษย์ของ อัลเฟรด คอซิบสกี้ นักอรรถศาสตร์ ผู้เสนอแนวคิดว่า "คำพูดต่างๆนั้นสูญเสียความหมายที่แท้จริง" และ จากนี้ต่อไปตลอดชีวิต บิลก็ทุ่มเทความคิดให้กับการค้นหาความหมายที่แท้จริงของคำศัพท์แต่ละคำที่เขาเล็งเห็นว่าถูกใช้อย่างผิดๆโดยมนุษย์
    .
    "ผมขอเสนอทฤษฎีอย่างกว้างๆว่า คำศัพท์ของมนุษย์เราจริงๆแล้วคือ ไวรัส แต่มนุษย์เราจะไม่ได้ทราบว่ามันเป็นไวรัส ก็เพราะว่าเราเป็นพาหะที่ค่อนข้างเสถียร ซึ่ง ไอ้ไวรัสนี่ไม่มีหน้าที่อะไรนอกจาก ทำสำเนาให้ตัวเอง และส่งต่อจากมนุษย์คนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งหรือหลายๆคน..."
    .
    หลังเหตุการณ์ประกาศสงครามกับฝ่ายอักษะ บิลถูกหมายเกณฑ์ให้เป็นทหาร แต่แม่ของบิลช่วยเขาหลีกเลี่ยงการเป็นทหารโดยการส่งเขาเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวช และให้การรับรองว่าเขาป่วยทางจิตและไม่เหมาะสมกับการรับใช้ชาติ ช่วงเวลาดังกล่าว บิลเดินทางออกจาก เซนหลุยส์ มิสซูรี่ สู่เมืองชิคาโก้ และหาเลี้ยงชีพโดยการรับจ้างกำจัดสัตว์ไม่พึงประสงค์ (อาชีพนี้ทำให้เขาได้เข้าไปสัมผัสมุมมืดในสังคมเมืองใหญ่ ที่เขาเคยแต่เพียงอ่านจากในหนังสือเท่านั้น พอเป็นแบบนี้มันทำให้บิลมีความรู้สึกว่า สิ่งที่เขาพบเจอนั้นคือของแท้) นอกจากนี้ยังได้รับเงินอุดหนุนจากทางบ้านเป็นค่ากินอยู่อีกเดือนละ 200 เหรียญ เป็นอยู่อย่างนี้อีกประมาณแปดเดือนเศษ กระทั่งเขาได้เจอเพื่อนเก่าจาก เซนหลุยส์ มิสซูรี่ นั่นก็คือ ลูเชี่ยน คารร์ และ เดวิท แคมเมอเรอร์ ที่ชิคาโก้ (ในเวลาต่อมา คารร์ก็ปลิดชีพ แคมเมอเรอร์ ที่นิวยอร์ค)
    .
    คารร์ มาแวะเพียงชั่วคราว และ มุ่งหน้าสู่นิวยอร์คเพื่อจะกลับไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และ บิล กับ แคมเมอเรอร์ก็ตามไปสมทบในที่สุด ซึ่งที่นี่เองเป็นที่ ที่ บิลได้พบกับเพื่อนที่จะข้องเกี่ยวกับตัวเขาเองไปอีกครึ่งศตวรรษ เขาคนนั้นคือ แอลลัน กินเบิร์ค - และ แอลลันก็แนะนำพวกเขาให้รู้จักกับ แจ็ค คูโรแวค , อีดี้ ปาร์คเกอร์ (แฟนสาวของแจ็ค) และ โจแอน โวมเมอร์ (ภรรยาของบิลในเวลาต่อมา) แอลลัน กับ แจ็ค ร่วมกันผลิตงานเขียนด้วยกันเป็นครั้งแรก มีชื่อว่า "และฮิปโปโดนต้มในบ่อของมันเอง" ซึ่งก็ไม่ได้ถูกสำนักพิมพ์ใดๆนำไปตีพิมพ์ ขณะเดียวกัน บิลก็เริ่มเบนเข็มสู่อีกช่าวของชีวิต เขาเริ่มเป็นแมงดาข้างถนนย่านไทม์สแควร์ ขายของอีหยิบ ขายมอร์ฟีนแบบเข็มฉีดเข้าเส้น และ ปล้นจี้คนด้วยปืนพกในสถานีรถไฟใต้ดินในยามค่ำคืน คนที่เป็นผู้ชักชวนบิลสู่เส้นทางสายนี้คือ เฮอเบิร์ท ฮังค์คี ซึ่งอยู่ในสายอาชีพ ปล้นชิงทรัพย์ ลักเล็กขโมยน้อย มาแต่เดิม อีกด้านหนึ่ง บิลก็แนะนำ เฮอเบิร์ทให้รู้กจักกับพวกกลุ่มเพื่อนของเขาใน มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และ รวมกลุ่มกันอยู่แบบชุมชนเล็กในอพาร์ทเม็นท์ใกล้ๆ มหาวิทยาลัย นั่นแหละ
    .
    โจแอน โวมเมอร์ นักศึกษาสาวคณะวารสารศาสตร์ เริ่มคบหาเชิงชู้สาวกับ บิล ทั้งๆที่ใครๆในกลุ่มก็ทราบดีว่าบิลมีรสนิยมทางเพศแบบโฮโมเซ็กซ์ชั่ล แต่เธอให้เห็นผลว่า "บิลเก่งเรื่องบนเตียง แบบที่แมงดาควรเป็น" - สองคนนี้อยู่กินกันแบบสามีภรรยา และเสพยาหนักทั้งคู่ กระทั่งวันหนึ่งก็ถูกตำรวจบุกจับถึงอพาร์ทเม็นท์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สองคนยังหาเวลาไปเขียนบทละครสั้น เกี่ยวกับเรื่องรสนิยมทางเพศ อยู่ด้วยกันอยู่หลายเรื่อง ซึ่งในเวลาต่อมา บิลก็เอาไปยัดใส่ในวรรณกรรมของเขาทีละเรื่อง ทีละเรื่อง ไม่นานหลังจากห้วงเวลาในรั้วมหาวิทยาลัย โวมเมอร์กับบิล ร่วมกันซื้อไร่ขนาด 99 เอเคอร์ ในเมือง นิวเวเวอรี่ รัฐเท็กซัส และ โวมเมอร์ก็ให้กำเนิดลูกชายของบิลหนึ่งคน สองผัวเมียมองหาธุรกิจทำและในที่สุดก็ชักชวน ฮังค์คี ให้มาอยู่ด้วยกันที่ไร่ และไม่นานเกินรอผลผลิตหลักจากไร่ของสองผัวเมีย คือ กัญชา
    .
    เพื่อนที่เริ่มมีชื่อเสียงมาก ก็ได้แวะเวียนมาเยี่ยมสองผัวเมีย ไม่ว่าจะเป็น อัลแลน รวมไปถึง นีล แคซซิดี้ (คู่ขาเพศชายของอัลแลน) นีลทำหน้าที่หลักคือขนกัญชาของบิลไปขายในนิวยอร์ค ส่วน อัลแลนส่งกัญชาของสองผัวเมียไปขายผ่านเส้นสายของเหล่าพาณิชย์นาวี ที่เขามีแต่เดิม เป็นแผนธุรกิจฟังดูดีใช่ไหม? แต่เอาจริง แม่งเจ๊งไม่เป็นท่า เพราะค่าใช้จ่ายของแต่ละคนมันสูงมาก เนื่องจาก สองผัวเมียนักเสพ ต้องคอยส่งส่วยให้ตำรวจท้องถิ่นตลอด ราคาขายส่งที่ควรจะเป็นมันถีบสูงไปถึงร้อยเหรียญ ในที่สุดสองผัวเมียและอีกหนึ่งนักปลูกเพื่อนผัว ก็ต้องระเห็ดไปอยู่ที่ นิวออร์ลีนส์ แต่แค่พักเดียวยังไม่ทันได้ทำอะไรจริงจัง ตำรวจก็เข้าจับกุมพวกเขาถึงบ้าน ซ้ำร้ายนอกจากกัญชาที่ปลูกไว้เสพด้วย ขายด้วยแล้ว ก็เจอยาเสพติดอีกหลายประเภทในบ้านของสองผัวเมีย แต่โชคดีพวกนี้รู้จักทนายเก่ง ทนายก็ทำให้คดีหลุดด้วยช่องโหว่ทางกฏหมาย แต่ก็แนะนำว่า สองผัวเมียควรออกไปอยู่นอกประเทศสักพักจะเป็นการดีที่สุด
    .
    ในปี 1950 บิลเขียนจดหมายหาอัลแลน จากที่ประเทศแม็กซิโก แจ้งว่าเขาเขียนหนังสือเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขา ใกล้เสร็จแล้ว หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า "ไอ้ขี้ยา" - Junkie. ในวันที่ 6 กันยายน ปีเดียวกันนั้นเอง เล่ากันว่า บิลและโวมเมอร์กำลังเมากันได้ที่ จากการเสพและดื่ม โวมเมอร์เริ่มต้นก่อนด้วยการท้าทายฝีมือการแม่นปืนของบิล ซึ่งเธอเอาแก้วน้ำวางไว้เหนือหัว และ บิลก็ชักปืนสั้นขึ้นยิงแก้วนั้น แต่เล็งพลาด กระสุนเลยพุ่งเข้ากลางหน้าผากโวมเมอร์ ปลิดชีพภรรยาคู่เสพทันที และ ปิดบทบาทสามี ที่ บิลไม่ค่อยเต็มใจนัก
    .
    .
    to be continued...
    Part 1 : The Beats and William S. Burroughs บีทเจนเนอเรชั่น คือ กลุ่มคนหนุ่ม-สาว ในยุคต้น 1960s ที่เกี่ยวข้องแวะกันด้วยอิทธิพลทางความคิดต้านกระแสสังคม พวกเขายืนอยู่บนเส้นแบ่งของแนวคิดแบบองค์รวมของสังคมอเมริกันอุดมคติแบบ แฟร้งคลิน ดีลาโน่ รูทส์เวลท์ และ สังคมที่นิยมความเป็นปัจเจกบุคคลแบบสุดโต่งในช่วงเวลานั้น ตัวตนขวกเขาถูกแสดงผ่านผลงานการเขียน หลากหลายรูปแบบ เซ็กซ์ ดนตรี และ ศิลปะ พวกเขาเชื่อกันเองว่าในกลุ่มพวกเขามีอยู่เพียงหลักร้อยคน ซึ่งอันที่จริง จำนวนที่แท้จริงของกลุ่ม บีทส์ นั้นไม่ปรากฏเป็นตัวเลขที่ชัดเจนนัก นอแมน เมลเลอร์ ผู้อุปถัมภ์ค้ำจุน ความมีตัวตนของ บีทส์ กล่าวไว้อย่างสวยงามมากว่า บีทส์นั้นคือผู้กล้าหาญที่จะแสดงถึงความเป็นตัวของตัวเอง ในยุคที่ทุกกระแสสังคมถูกจับจ้องโดยรัฐบาลสหรัฐ พวกเขาคือคนที่อยู่นอกกฏระเบียบของสังคม งานเขียนของพวกเขาสะท้อนสิ่งที่ประชาชนยุคนั้นมองไม่เห็นหรือแกล้งมองไม่เห็น ซึ่งครอบคลุมเรื่องการเมือง วัฒนธรรม และ การแสวงหาทางจิตวิญญาณ โดยที่พวกเขานั้นไม่อิงแอบกับตรรกะภายนอก ไม่ว่าจะเป็น เรื่องทุนนิยมเรื่องสังคมนิยม แต่เป็นการค้นพบสิ่งใหม่ด้วยตัวเอง ผลงานของพวกเขาจึงเป็นดั่งการเบิกทางให้กับผู้ที่จะค้นพบสิ่งใหม่ๆในยุคต่อๆมา แจ็ค คูโรแวค แอลลัน กินเบิร์ค วิลเลี่ยม เอส. เบอร์โรส์ สามศาสดาแถวหน้า บีทเจนเนอเรชั่น วิลเลี่ยม เอส. เบอร์โรส์ “อัจฉริยะ รุนแรง บ้าคลั่ง” . . วิลเลี่ยม “บิล” เอส. เบอร์โรส์ อายุมากกว่าเพื่อนอีกสองคน และ ผลงานของเขาประสบความสำเร็จช้ากว่าอีกสองคนมาก แต่เป็นการประสบความสำเร็จที่ยาวนานและยั่งยืนที่สุด บิล เกิดในปี ค.ศ. 1914 ในเซนหลุยส์ มิสซูรี่ ปู่ของเขาร่ำรวยจากกว่าเป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องบวกเลขเครื่องแรกของโลก แม้ครอบครัวของบิลจะไม่รวยเท่ากับรุ่นปู่แต่บอกได้ว่าเป็นครอบครัวที่มีฐานะดีมากๆครอบครัวหนึ่งในเวลานั้น เมื่ออายุได้ 15 ปี ตามกระแสในยุคนั้น ครอบครัวส่งบิลได้เรียนในโรงเรียน “บ้านไร่” โรงเรียนประจำที่อยู่ในรัฐตะวันตกอเมริกา ซึ่งเขาถูกส่งไปอยู่ถึงรัฐนิวแม็กซิโก - โรงเรียนประจำลอสอลาโมสแรนช์สกูล เนื่องจากบิลเป็นคนที่เกลียดกิจกรรมภายนอกห้องเรียนอยู่เป็นทุนเดิน เขาแทบจะเข้ากับที่นั่นไม่ได้ ยกเว้นเสียแต่กีฬาชนิดหนึ่งของโรงเรียนที่เขาชื่นชอบเป็นพิเศษนั่นก็คือ กีฬายิงปืนนั่นเอง . ที่นั่นบิลได้มีประสบการณ์เกี่ยวกับสารเสพติดเป็นครั้งแรกนั่นก็คือ คลอรอลไฮเดรต ยาระงับประสาท และเป็นที่รู้กันว่า บิลเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากการเสพเกินขนาด พอเรียนต่อไม่ได้จึงต้องย้ายไปเข้าโรงเรียนเอกชนเพื่อเก็บเกรดไว้ไปต่อที่ฮาร์วาร์ด ซึ่งก็ทันตอนอายุ 18 พอดี พอเข้าไปได้ บิลก็ไม่ได้สนใจเล่าเรียนเท่าไหร่ แต่มักพบว่าไปซ่อนตัวอยู่ในห้องสมุดของมหาวิทยาลัย ที่นั่นเขาได้อ่านวรรณกรรมภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสอย่างจุใจ พอเรียนจบตอนอายุ 21 ปีพอดี บิลขอพ่อแม่ออกเดินทางท่องเที่ยวทั่วยุโรป และ ก็ได้เมียเป็นแม่หม้าย ชาวยิวอายุ 35 ปี จาก ยูโกสลาเวีย นัยว่าตัวเขานั้นอยากเป็นฮีโร่ ปกป้องผู้หญิงคนหนึ่งจากลัทธิเผด็จการที่เริ่มก่อตัวในยุโรปในขณะนั้น ซึ่งก็อยู่กินกับเขาเกือบ 9 ปีในนิวยอร์ค กระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงในปี 1945 . หลังจากกลับมาถึงสหรัฐอเมริกา บิลเลือกจะที่กลับไปสู่แวดวงการศึกษาโดยเข้าเรียนในระดับปริญญาโทอีกครั้งที่ ฮาร์วาร์ด โดยแรงจูงใจในครั้งนี้คือการได้ใกล้ชิดกับเพื่อนชายของเขา เคลส์ แอลวินส์ ที่นั่นเอง ทั้งสองคนได้ร่วมกันผลิตงานเขียนเสียดสี เกี่้ยวกับการจมลงของเรือไททานิคโดยใช้ชื่อว่า "แสงสะท้อนสุดท้ายของยามพลบค่ำ" ซึ่งพวกเขาไม่ประสบความสำเร็จในการหาสำนักพิมพ์ที่จะรับซื้องานเขียนดังกล่าวได้ โดยนิตยสาร Esquire ตอบกลับมาว่า มันไม่มีเนื้อหาอะไรลึกซึ้งพอที่จะให้พวกเขานำไปตีพิมพ์ได้ แต่อย่างไรก็ตาม งานเขียนนี้กลับมาปรากฏในนิยายเรื่อง "โนวา เอ็กซ์เพรส"ของบิลในเวลาต่อมา . บิลเลือกที่จะทิ้งการเรียนปริญญาโทไปแบบครึ่งๆกลางๆ และ กลับไปอยู่ที่ เซนหลุยส์ มิสซูรี่ เพื่อจะไปเป็นลูกศิษย์ของ อัลเฟรด คอซิบสกี้ นักอรรถศาสตร์ ผู้เสนอแนวคิดว่า "คำพูดต่างๆนั้นสูญเสียความหมายที่แท้จริง" และ จากนี้ต่อไปตลอดชีวิต บิลก็ทุ่มเทความคิดให้กับการค้นหาความหมายที่แท้จริงของคำศัพท์แต่ละคำที่เขาเล็งเห็นว่าถูกใช้อย่างผิดๆโดยมนุษย์ . "ผมขอเสนอทฤษฎีอย่างกว้างๆว่า คำศัพท์ของมนุษย์เราจริงๆแล้วคือ ไวรัส แต่มนุษย์เราจะไม่ได้ทราบว่ามันเป็นไวรัส ก็เพราะว่าเราเป็นพาหะที่ค่อนข้างเสถียร ซึ่ง ไอ้ไวรัสนี่ไม่มีหน้าที่อะไรนอกจาก ทำสำเนาให้ตัวเอง และส่งต่อจากมนุษย์คนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งหรือหลายๆคน..." . หลังเหตุการณ์ประกาศสงครามกับฝ่ายอักษะ บิลถูกหมายเกณฑ์ให้เป็นทหาร แต่แม่ของบิลช่วยเขาหลีกเลี่ยงการเป็นทหารโดยการส่งเขาเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวช และให้การรับรองว่าเขาป่วยทางจิตและไม่เหมาะสมกับการรับใช้ชาติ ช่วงเวลาดังกล่าว บิลเดินทางออกจาก เซนหลุยส์ มิสซูรี่ สู่เมืองชิคาโก้ และหาเลี้ยงชีพโดยการรับจ้างกำจัดสัตว์ไม่พึงประสงค์ (อาชีพนี้ทำให้เขาได้เข้าไปสัมผัสมุมมืดในสังคมเมืองใหญ่ ที่เขาเคยแต่เพียงอ่านจากในหนังสือเท่านั้น พอเป็นแบบนี้มันทำให้บิลมีความรู้สึกว่า สิ่งที่เขาพบเจอนั้นคือของแท้) นอกจากนี้ยังได้รับเงินอุดหนุนจากทางบ้านเป็นค่ากินอยู่อีกเดือนละ 200 เหรียญ เป็นอยู่อย่างนี้อีกประมาณแปดเดือนเศษ กระทั่งเขาได้เจอเพื่อนเก่าจาก เซนหลุยส์ มิสซูรี่ นั่นก็คือ ลูเชี่ยน คารร์ และ เดวิท แคมเมอเรอร์ ที่ชิคาโก้ (ในเวลาต่อมา คารร์ก็ปลิดชีพ แคมเมอเรอร์ ที่นิวยอร์ค) . คารร์ มาแวะเพียงชั่วคราว และ มุ่งหน้าสู่นิวยอร์คเพื่อจะกลับไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และ บิล กับ แคมเมอเรอร์ก็ตามไปสมทบในที่สุด ซึ่งที่นี่เองเป็นที่ ที่ บิลได้พบกับเพื่อนที่จะข้องเกี่ยวกับตัวเขาเองไปอีกครึ่งศตวรรษ เขาคนนั้นคือ แอลลัน กินเบิร์ค - และ แอลลันก็แนะนำพวกเขาให้รู้จักกับ แจ็ค คูโรแวค , อีดี้ ปาร์คเกอร์ (แฟนสาวของแจ็ค) และ โจแอน โวมเมอร์ (ภรรยาของบิลในเวลาต่อมา) แอลลัน กับ แจ็ค ร่วมกันผลิตงานเขียนด้วยกันเป็นครั้งแรก มีชื่อว่า "และฮิปโปโดนต้มในบ่อของมันเอง" ซึ่งก็ไม่ได้ถูกสำนักพิมพ์ใดๆนำไปตีพิมพ์ ขณะเดียวกัน บิลก็เริ่มเบนเข็มสู่อีกช่าวของชีวิต เขาเริ่มเป็นแมงดาข้างถนนย่านไทม์สแควร์ ขายของอีหยิบ ขายมอร์ฟีนแบบเข็มฉีดเข้าเส้น และ ปล้นจี้คนด้วยปืนพกในสถานีรถไฟใต้ดินในยามค่ำคืน คนที่เป็นผู้ชักชวนบิลสู่เส้นทางสายนี้คือ เฮอเบิร์ท ฮังค์คี ซึ่งอยู่ในสายอาชีพ ปล้นชิงทรัพย์ ลักเล็กขโมยน้อย มาแต่เดิม อีกด้านหนึ่ง บิลก็แนะนำ เฮอเบิร์ทให้รู้กจักกับพวกกลุ่มเพื่อนของเขาใน มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และ รวมกลุ่มกันอยู่แบบชุมชนเล็กในอพาร์ทเม็นท์ใกล้ๆ มหาวิทยาลัย นั่นแหละ . โจแอน โวมเมอร์ นักศึกษาสาวคณะวารสารศาสตร์ เริ่มคบหาเชิงชู้สาวกับ บิล ทั้งๆที่ใครๆในกลุ่มก็ทราบดีว่าบิลมีรสนิยมทางเพศแบบโฮโมเซ็กซ์ชั่ล แต่เธอให้เห็นผลว่า "บิลเก่งเรื่องบนเตียง แบบที่แมงดาควรเป็น" - สองคนนี้อยู่กินกันแบบสามีภรรยา และเสพยาหนักทั้งคู่ กระทั่งวันหนึ่งก็ถูกตำรวจบุกจับถึงอพาร์ทเม็นท์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สองคนยังหาเวลาไปเขียนบทละครสั้น เกี่ยวกับเรื่องรสนิยมทางเพศ อยู่ด้วยกันอยู่หลายเรื่อง ซึ่งในเวลาต่อมา บิลก็เอาไปยัดใส่ในวรรณกรรมของเขาทีละเรื่อง ทีละเรื่อง ไม่นานหลังจากห้วงเวลาในรั้วมหาวิทยาลัย โวมเมอร์กับบิล ร่วมกันซื้อไร่ขนาด 99 เอเคอร์ ในเมือง นิวเวเวอรี่ รัฐเท็กซัส และ โวมเมอร์ก็ให้กำเนิดลูกชายของบิลหนึ่งคน สองผัวเมียมองหาธุรกิจทำและในที่สุดก็ชักชวน ฮังค์คี ให้มาอยู่ด้วยกันที่ไร่ และไม่นานเกินรอผลผลิตหลักจากไร่ของสองผัวเมีย คือ กัญชา . เพื่อนที่เริ่มมีชื่อเสียงมาก ก็ได้แวะเวียนมาเยี่ยมสองผัวเมีย ไม่ว่าจะเป็น อัลแลน รวมไปถึง นีล แคซซิดี้ (คู่ขาเพศชายของอัลแลน) นีลทำหน้าที่หลักคือขนกัญชาของบิลไปขายในนิวยอร์ค ส่วน อัลแลนส่งกัญชาของสองผัวเมียไปขายผ่านเส้นสายของเหล่าพาณิชย์นาวี ที่เขามีแต่เดิม เป็นแผนธุรกิจฟังดูดีใช่ไหม? แต่เอาจริง แม่งเจ๊งไม่เป็นท่า เพราะค่าใช้จ่ายของแต่ละคนมันสูงมาก เนื่องจาก สองผัวเมียนักเสพ ต้องคอยส่งส่วยให้ตำรวจท้องถิ่นตลอด ราคาขายส่งที่ควรจะเป็นมันถีบสูงไปถึงร้อยเหรียญ ในที่สุดสองผัวเมียและอีกหนึ่งนักปลูกเพื่อนผัว ก็ต้องระเห็ดไปอยู่ที่ นิวออร์ลีนส์ แต่แค่พักเดียวยังไม่ทันได้ทำอะไรจริงจัง ตำรวจก็เข้าจับกุมพวกเขาถึงบ้าน ซ้ำร้ายนอกจากกัญชาที่ปลูกไว้เสพด้วย ขายด้วยแล้ว ก็เจอยาเสพติดอีกหลายประเภทในบ้านของสองผัวเมีย แต่โชคดีพวกนี้รู้จักทนายเก่ง ทนายก็ทำให้คดีหลุดด้วยช่องโหว่ทางกฏหมาย แต่ก็แนะนำว่า สองผัวเมียควรออกไปอยู่นอกประเทศสักพักจะเป็นการดีที่สุด . ในปี 1950 บิลเขียนจดหมายหาอัลแลน จากที่ประเทศแม็กซิโก แจ้งว่าเขาเขียนหนังสือเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขา ใกล้เสร็จแล้ว หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า "ไอ้ขี้ยา" - Junkie. ในวันที่ 6 กันยายน ปีเดียวกันนั้นเอง เล่ากันว่า บิลและโวมเมอร์กำลังเมากันได้ที่ จากการเสพและดื่ม โวมเมอร์เริ่มต้นก่อนด้วยการท้าทายฝีมือการแม่นปืนของบิล ซึ่งเธอเอาแก้วน้ำวางไว้เหนือหัว และ บิลก็ชักปืนสั้นขึ้นยิงแก้วนั้น แต่เล็งพลาด กระสุนเลยพุ่งเข้ากลางหน้าผากโวมเมอร์ ปลิดชีพภรรยาคู่เสพทันที และ ปิดบทบาทสามี ที่ บิลไม่ค่อยเต็มใจนัก . . to be continued...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🗼ทัวร์อเมริกา 10 วัน 7 คืน🗼
    ✈️บินภายใน 1 เที่ยว จากวอชิงตัน ดี.ซี. สู่เมืองโตรอนโต

    อเมริกาตะวันออก นิวยอร์ค & แคนาดา : ไทม์สแควร์ - นิวยอร์ค - ตึกเอ็มไพร์สเตท - วอชิงตัน ดี.ซี. - สถาบันสมิธโซเนียน - น้ำตกไนแองการา (ฝั่งอเมริกา & แคนาดา) - ล่องเรือน้ำตกไนแองการ่า - Skylon Tower - ช้อปปิ้ง Outlet At Niagara - CN Tower

    📍 ช่วงวันเดินทาง : ม.ค.- ต.ค.68
    ⭕️ราคาเริ่มต้น : 189,000
    📢 ระดับทัวร์ : ทัวร์คุณภาพระดับสูง
    📢 รหัสทัวร์ : Z10261
    🏢 โรงแรม : ⭐️⭐️⭐️⭐️
    ✈️ สายการบิน : BR-อีวีเอ แอร์

    ✔️Travel License: 11/11450
    ✔️โอนบัญชีชื่อ บริษัท วีอาร์ เอเจนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด เท่านั้น

    ดูทัวร์อเมริกาทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/7c505d

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์อเมริกา #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk
    🗼ทัวร์อเมริกา 10 วัน 7 คืน🗼 ✈️บินภายใน 1 เที่ยว จากวอชิงตัน ดี.ซี. สู่เมืองโตรอนโต อเมริกาตะวันออก นิวยอร์ค & แคนาดา : ไทม์สแควร์ - นิวยอร์ค - ตึกเอ็มไพร์สเตท - วอชิงตัน ดี.ซี. - สถาบันสมิธโซเนียน - น้ำตกไนแองการา (ฝั่งอเมริกา & แคนาดา) - ล่องเรือน้ำตกไนแองการ่า - Skylon Tower - ช้อปปิ้ง Outlet At Niagara - CN Tower 📍 ช่วงวันเดินทาง : ม.ค.- ต.ค.68 ⭕️ราคาเริ่มต้น : 189,000 📢 ระดับทัวร์ : ทัวร์คุณภาพระดับสูง 📢 รหัสทัวร์ : Z10261 🏢 โรงแรม : ⭐️⭐️⭐️⭐️ ✈️ สายการบิน : BR-อีวีเอ แอร์ ✔️Travel License: 11/11450 ✔️โอนบัญชีชื่อ บริษัท วีอาร์ เอเจนซี ทราเวล แอนด์ เทรด จำกัด เท่านั้น ดูทัวร์อเมริกาทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/7c505d LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์อเมริกา #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 388 มุมมอง 0 รีวิว
  • จับกระแสคอนเสิร์ต เคานต์ดาวน์ 2025

    คืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 หลายสถานที่ได้เปิดเผยศิลปินที่จะมาสร้างความสุขก่อนเข้าสู่ศักราชใหม่ ปีนี้ยังคงประชันกันระหว่างไอคอนสยาม ที่คว้าศิลปินระดับโลก ลิซ่า ลลิสา มโนบาล มาโชว์พิเศษริมแม่น้ำเจ้าพระยา กับเซ็นทรัลเวิลด์ ที่ประกาศเป็นไทม์สแควร์ออฟเอเชีย

    เมื่อดูรายชื่อศิลปินคืนวันที่ 31 ธ.ค. 2567 พบว่ามีศิลปินปรากฎทั้งเวทีไอคอนสยามและเซ็นทรัลเวิลด์ ได้แก่ นนท์ ธนนท์ จำเริญ, Jeff Satur หรือวรกมล ชาเตอร์, เกิร์ลกรุ๊ปสาว 4EVE, พีพี-บิวกิ้น แต่บางคนเลือกแสดงเวทีเดียว เช่น เป๊ก ผลิตโชค อายนบุตร เวทีไอคอนสยาม หรือเซ็นทรัลเวิลด์ก็มี ซี-นุนิว, ไอซ์ พาริส อินทรโกมาลย์สุต

    สำหรับศิลปินที่รับงานคืนส่งท้ายปีเก่ามากที่สุด 3 งาน ได้แก่ ยัวร์บอยทีเจ (URBOYTJ) จิรายุทธ ผโลประการ มีทั้งเซ็นทรัลเวิลด์ เมกาบางนา และร้าน ROUTE 66 RCA, อิ๊งค์ วรันธร เปานิล มีทั้งวันแบงค็อก เมกาบางนา และเอ็มควอเทียร์ หรือวงโนวันเอลส์ (No One Else) มีทั้งเดอะมอลล์ท่าพระ เอ็มควอเทียร์ และร้านมอนติคาโล เลียบด่วนฯ

    นอกนั้นยังคงรับ 1-2 งาน เช่น ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ป PIXXIE เริ่มต้นที่เซ็นทรัลเวิลด์ ต่อด้วย 23.00 น. ที่ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต หรือจะเป็น ปาล์มมี่ อีฟ ปานเจริญ เริ่มต้น 19.00 น. ที่สยามพารากอน ต่อด้วย 23.00 น. ที่ซีคอนสแควร์ และวงทรีแมนดาวน์ เริ่มต้น 20.20 น. ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ต่อด้วย 23.00 น. ที่เมกาบางนา เป็นต้น

    แต่ก็มีศิลปินบางคนเลือกแสดงเฉพาะสถานบันเทิง เช่น แว่นใหญ่ หรือโอฬาร ชูใจ ที่ย่านสุขุมวิท และวง ZEAL ระบุว่าผับบาร์แห่งหนึ่งใน กทม.

    ต่างจังหวัด เช่น งานเคานต์ดาวน์ จ.พะเยา มีทั้ง หญิงลี ศรีจุมพล, วงวัชราวลี และวง Jetseter หรือจะเป็น กบ ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี และบอย อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี ไปที่เซ็นทรัล เชียงใหม่, เจ เจตริน วรรธนะสิน และเจ้านาย-เจ้าขุน ไปห้างบลูพอร์ต หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์, โจอี้บอย อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต ไปเมืองพัทยา จ.ชลบุรี

    ส่วนศิลปินลูกทุ่ง จ๊ะ นงผณี มหาดไทย ปีนี้รับสองงาน ได้แก่ 19.00 น. ตลาดต้นไทร แบริ่ง กทม. ต่อด้วยเซ็นทรัล อยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ด้าน ลำไย ไหทองคำ หรือสุพรรณษา เวชกามา ปีนี้มีเฉพาะที่หอโหวดร้อยเอ็ด และศิลปินหนุ่ม เบิ้ล ปทุมราช หรืออาทิตย์ สมน้อย ขอกลับไปเคานต์ดาวน์ที่บ้านเกิด อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ

    ส่วนวงหมอลำอีสานนครศิลป์ นกน้อย อุไรพร จัดแสดงที่วัดทักษิณชลธาน อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด และหมอลำประถมบันเทิงศิลป์ จัดแสดงที่บ้านหนองบัว อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ

    #Newskit
    จับกระแสคอนเสิร์ต เคานต์ดาวน์ 2025 คืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 หลายสถานที่ได้เปิดเผยศิลปินที่จะมาสร้างความสุขก่อนเข้าสู่ศักราชใหม่ ปีนี้ยังคงประชันกันระหว่างไอคอนสยาม ที่คว้าศิลปินระดับโลก ลิซ่า ลลิสา มโนบาล มาโชว์พิเศษริมแม่น้ำเจ้าพระยา กับเซ็นทรัลเวิลด์ ที่ประกาศเป็นไทม์สแควร์ออฟเอเชีย เมื่อดูรายชื่อศิลปินคืนวันที่ 31 ธ.ค. 2567 พบว่ามีศิลปินปรากฎทั้งเวทีไอคอนสยามและเซ็นทรัลเวิลด์ ได้แก่ นนท์ ธนนท์ จำเริญ, Jeff Satur หรือวรกมล ชาเตอร์, เกิร์ลกรุ๊ปสาว 4EVE, พีพี-บิวกิ้น แต่บางคนเลือกแสดงเวทีเดียว เช่น เป๊ก ผลิตโชค อายนบุตร เวทีไอคอนสยาม หรือเซ็นทรัลเวิลด์ก็มี ซี-นุนิว, ไอซ์ พาริส อินทรโกมาลย์สุต สำหรับศิลปินที่รับงานคืนส่งท้ายปีเก่ามากที่สุด 3 งาน ได้แก่ ยัวร์บอยทีเจ (URBOYTJ) จิรายุทธ ผโลประการ มีทั้งเซ็นทรัลเวิลด์ เมกาบางนา และร้าน ROUTE 66 RCA, อิ๊งค์ วรันธร เปานิล มีทั้งวันแบงค็อก เมกาบางนา และเอ็มควอเทียร์ หรือวงโนวันเอลส์ (No One Else) มีทั้งเดอะมอลล์ท่าพระ เอ็มควอเทียร์ และร้านมอนติคาโล เลียบด่วนฯ นอกนั้นยังคงรับ 1-2 งาน เช่น ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ป PIXXIE เริ่มต้นที่เซ็นทรัลเวิลด์ ต่อด้วย 23.00 น. ที่ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต หรือจะเป็น ปาล์มมี่ อีฟ ปานเจริญ เริ่มต้น 19.00 น. ที่สยามพารากอน ต่อด้วย 23.00 น. ที่ซีคอนสแควร์ และวงทรีแมนดาวน์ เริ่มต้น 20.20 น. ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ต่อด้วย 23.00 น. ที่เมกาบางนา เป็นต้น แต่ก็มีศิลปินบางคนเลือกแสดงเฉพาะสถานบันเทิง เช่น แว่นใหญ่ หรือโอฬาร ชูใจ ที่ย่านสุขุมวิท และวง ZEAL ระบุว่าผับบาร์แห่งหนึ่งใน กทม. ต่างจังหวัด เช่น งานเคานต์ดาวน์ จ.พะเยา มีทั้ง หญิงลี ศรีจุมพล, วงวัชราวลี และวง Jetseter หรือจะเป็น กบ ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี และบอย อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี ไปที่เซ็นทรัล เชียงใหม่, เจ เจตริน วรรธนะสิน และเจ้านาย-เจ้าขุน ไปห้างบลูพอร์ต หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์, โจอี้บอย อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต ไปเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ส่วนศิลปินลูกทุ่ง จ๊ะ นงผณี มหาดไทย ปีนี้รับสองงาน ได้แก่ 19.00 น. ตลาดต้นไทร แบริ่ง กทม. ต่อด้วยเซ็นทรัล อยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ด้าน ลำไย ไหทองคำ หรือสุพรรณษา เวชกามา ปีนี้มีเฉพาะที่หอโหวดร้อยเอ็ด และศิลปินหนุ่ม เบิ้ล ปทุมราช หรืออาทิตย์ สมน้อย ขอกลับไปเคานต์ดาวน์ที่บ้านเกิด อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ ส่วนวงหมอลำอีสานนครศิลป์ นกน้อย อุไรพร จัดแสดงที่วัดทักษิณชลธาน อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด และหมอลำประถมบันเทิงศิลป์ จัดแสดงที่บ้านหนองบัว อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 917 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศึกชิงเคานต์ดาวน์ 2025 เทศกาลความสุขรอบกรุงฯ

    เทศกาลเคานต์ดาวน์ปีใหม่ 2025 ในวันที่ 31 ธ.ค. 2567 มีหลายสถานที่ประกาศความพร้อมจัดงานนับถอยหลังสู่ศักราชใหม่ ในกรุงเทพมหานคร งาน Amazing Thailand Countdown 2025 จัดขึ้นที่สวนนาคราภิรมย์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จัดแสดงแสง สี เสียง และสื่อประสมบนพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม

    จุดใหญ่ที่สุดก็คือลานริเวอร์พาร์ค ไอคอนสยาม กับการแสดงพลุรักษ์โลกที่ยาวถึง 1,400 เมตร ยาวที่สุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายใต้แนวคิด “Celebrating the Everlasting Legacy of Siam เฉลิมฉลองมรดกไทยอันรุ่งโรจน์นิรันดร์” ไฮไลต์คือการแสดงจาก ลิซ่า ลลิษา มโนบาล นอกนั้นเป็นคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง 3 วัน 29 ถึง 31 ธ.ค. 2567 อาทิ เว่ยเจ๋อหมิง (30 ธ.ค.), เป็ก ผลิตโชค, นนท์ ธนนท์, PROXIE, 4EVE, BUS because of you I shine แต่ยังไม่ประกาศไลน์อัพออกมาว่าใครมาวันไหนบ้าง

    ด้านเซ็นทรัลเวิลด์ ที่พรีเซนต์ว่าเป็นไทม์สแควร์ออฟเอเชีย ประกาศไลน์อัพศิลปินคืนวันส่งท้ายปี อาทิ บิวกิ้น-พีพี, Jaylerr, Ice Paris, ซี-นุนิว, PROXIE, PiXXiE, 4EVE, นนท์ ธนนท์, URBOYTJ, BUS because of you I shine, Three Man Down และ Tattoo Colour และเผยโฉม โอปอล สุชาตา Miss Universe Thailand 2024 รองอันดับ 3 Miss Universe ถ่ายทอดสดทางช่อง 3 แต่พบว่ามีหลายศิลปินที่จะได้เจอทั้งไอคอนสยามและเซ็นทรัลเวิลด์ แต่ยังไม่ได้ระบุว่าวันเดียวกันหรือคนละวัน

    ส่วนศูนย์การค้าอื่นๆ อาทิ สยามพารากอน มีศิลปินที่คอนเฟิร์มแล้วคือ PALMY เอ็มควอเทียร์ที่คอนเฟิร์มแล้วมี Bowkylion, No One Else และ Ink Waruntorn โครงการวัน แบงค็อก มี The Toys, Ling & Orm, Jeff Satur, Ink Waruntorn, Bowkylion, Daou & Offroad, และ BUS โครงการเอเชียทีค มี BIG ASS, COCKTAIL, GETSUNOVA พร้อมการแสดงพิเศษจากศิลปิน OneN’Only จากญี่ปุ่น Calypso และ Siam Fantasy และการแสดงพลุริมแม่น้ำเจ้าพระยาในธีม “Chao Phraya Jump Up!

    ออกไปยังชานเมือง ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ มี FOOL STEP, SILLY FOOLS, TILLY BIRDS, และ PALMY เมกาบางนา มี THREE MAN DOWN, POTATO, URBOY TJ, INK - WARUNTORN, JOEY - PHUWASIT, วง ATLAS และ D GERRARD ถ่ายทอดสดทางช่องเวิร์คพอยต์ 23 และฟิวเจอร์พาร์ครังสิต เวลา 21.00 น. YOUR MOOD, 22.00 น. LYKN, 23.00 น. PIXXIE และ 23.50 น. BUS because of you I shine

    ส่วนศูนย์การค้าเซ็นทรัลในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ เซ็นทรัล เวสต์เกต จ.นนทบุรี พบกับ โอ๊ต ปราโมทย์, เซ็นทรัล ศาลายา จ.นครปฐม พบกับ EBOLA และเซ็นทรัล มหาชัย จ.สมุทรสาคร พบกับ The Richman Toy

    #Newskit
    ศึกชิงเคานต์ดาวน์ 2025 เทศกาลความสุขรอบกรุงฯ เทศกาลเคานต์ดาวน์ปีใหม่ 2025 ในวันที่ 31 ธ.ค. 2567 มีหลายสถานที่ประกาศความพร้อมจัดงานนับถอยหลังสู่ศักราชใหม่ ในกรุงเทพมหานคร งาน Amazing Thailand Countdown 2025 จัดขึ้นที่สวนนาคราภิรมย์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จัดแสดงแสง สี เสียง และสื่อประสมบนพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม จุดใหญ่ที่สุดก็คือลานริเวอร์พาร์ค ไอคอนสยาม กับการแสดงพลุรักษ์โลกที่ยาวถึง 1,400 เมตร ยาวที่สุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายใต้แนวคิด “Celebrating the Everlasting Legacy of Siam เฉลิมฉลองมรดกไทยอันรุ่งโรจน์นิรันดร์” ไฮไลต์คือการแสดงจาก ลิซ่า ลลิษา มโนบาล นอกนั้นเป็นคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง 3 วัน 29 ถึง 31 ธ.ค. 2567 อาทิ เว่ยเจ๋อหมิง (30 ธ.ค.), เป็ก ผลิตโชค, นนท์ ธนนท์, PROXIE, 4EVE, BUS because of you I shine แต่ยังไม่ประกาศไลน์อัพออกมาว่าใครมาวันไหนบ้าง ด้านเซ็นทรัลเวิลด์ ที่พรีเซนต์ว่าเป็นไทม์สแควร์ออฟเอเชีย ประกาศไลน์อัพศิลปินคืนวันส่งท้ายปี อาทิ บิวกิ้น-พีพี, Jaylerr, Ice Paris, ซี-นุนิว, PROXIE, PiXXiE, 4EVE, นนท์ ธนนท์, URBOYTJ, BUS because of you I shine, Three Man Down และ Tattoo Colour และเผยโฉม โอปอล สุชาตา Miss Universe Thailand 2024 รองอันดับ 3 Miss Universe ถ่ายทอดสดทางช่อง 3 แต่พบว่ามีหลายศิลปินที่จะได้เจอทั้งไอคอนสยามและเซ็นทรัลเวิลด์ แต่ยังไม่ได้ระบุว่าวันเดียวกันหรือคนละวัน ส่วนศูนย์การค้าอื่นๆ อาทิ สยามพารากอน มีศิลปินที่คอนเฟิร์มแล้วคือ PALMY เอ็มควอเทียร์ที่คอนเฟิร์มแล้วมี Bowkylion, No One Else และ Ink Waruntorn โครงการวัน แบงค็อก มี The Toys, Ling & Orm, Jeff Satur, Ink Waruntorn, Bowkylion, Daou & Offroad, และ BUS โครงการเอเชียทีค มี BIG ASS, COCKTAIL, GETSUNOVA พร้อมการแสดงพิเศษจากศิลปิน OneN’Only จากญี่ปุ่น Calypso และ Siam Fantasy และการแสดงพลุริมแม่น้ำเจ้าพระยาในธีม “Chao Phraya Jump Up! ออกไปยังชานเมือง ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ มี FOOL STEP, SILLY FOOLS, TILLY BIRDS, และ PALMY เมกาบางนา มี THREE MAN DOWN, POTATO, URBOY TJ, INK - WARUNTORN, JOEY - PHUWASIT, วง ATLAS และ D GERRARD ถ่ายทอดสดทางช่องเวิร์คพอยต์ 23 และฟิวเจอร์พาร์ครังสิต เวลา 21.00 น. YOUR MOOD, 22.00 น. LYKN, 23.00 น. PIXXIE และ 23.50 น. BUS because of you I shine ส่วนศูนย์การค้าเซ็นทรัลในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ เซ็นทรัล เวสต์เกต จ.นนทบุรี พบกับ โอ๊ต ปราโมทย์, เซ็นทรัล ศาลายา จ.นครปฐม พบกับ EBOLA และเซ็นทรัล มหาชัย จ.สมุทรสาคร พบกับ The Richman Toy #Newskit
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 722 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชายคนหนึ่งพยายามจุดไฟเผาตัวเองระหว่างการชุมนุมที่กรุงวอชิงตันเรียกร้องอเมริกายุติการช่วยเหลืออิสราเอลเมื่อวันเสาร์ (5 ต.ค.) นอกจากนั้น ยังมีผู้คนหลายหมื่นชุมนุมตามเมืองใหญ่ๆ หลายแห่งทั่วโลก เรียกร้องให้ยุติสงครามนองเลือดในกาซาที่กำลังจะครบรอบ 1 ปี ในวันจันทร์ (7 ต.ค.) รวมทั้งการสู้รบที่กำลังลุกลามไปในตะวันออกกลาง
    .
    ที่กรุงลอนดอน ผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ราว 40,000 คนเดินขบวนไปตามถนนใจกลางเมือง ขณะที่มีผู้ประท้วงจำนวนหลายพันคนรวมตัวกันในหลายเมืองหลวงของยุโรปอย่าง ปารีส โรม มาดริด เมืองหลวงของเอเชียอย่าง มะนิลา จาการ์ตา เมืองใหญ่ๆ ในออสเตรเลียอย่างซิดนีย์ เมืองใหญ่ในแอฟริกา อย่างเคป ทาวน์ ของแอฟริกาใต้ และเมืองหลวงของอเมริกาใต้อย่างบัวโนสไอเรส ตลอดจนหลายเมืองของสหรัฐฯ อย่างนิวยอร์กซิตี้ และกรุงวอชิงตัน โดยที่เมืองหลวงสหรัฐฯ นั้นมีการชุมนุมใกล้ทำเนียบขาวเพื่อประท้วงที่อเมริกายังคงให้การสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลทั้งในกาซาและเลบานอน
    .
    การสู้รบนองเลือดและการเข่นฆ่าพลเรือนกันอย่างไม่คำนึงถึงกฎเกณฑ์ทางมนุษยธรรมครั้งล่าสุดนี้ เปิดฉากขึ้นด้วยการสู้รบขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ซึ่งปะทุจากเหตุการณ์กลุ่มนักรบฮามาสบุกข้ามแดนเข้าไปโจมตีทางใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ปีที่แล้ว สังหารเหยื่อ 1,200 คน และจับตัวประกันราว 250 คนกลับไปคุมขังในกาซา แล้วอิสราเอลตอบโต้ทันทีด้วยการเปิดปฏิบัติการถล่มโจมตีทางอากาศและการใช้กำลังทหารรุกทางภาคพื้นดินในดินแดนฉนวนกาซา ทำให้มีผู้เสียชีวิตจนถึงขณะนี้เกือบ 42,000 คน รวมทั้งมีชาวปาเลสไตน์เกือบ 2.3 ล้านคนต้องทิ้งบ้านเรือน ตลอดจนถูกกองทหารรัฐยิวสั่งอพยพโยกย้ายไปเรื่อยๆ ไม่หยุดหย่อน นำไปสู่วิกฤตความอดอยาก และหลายฝ่ายตั้งข้อกล่าวหาอิสราเอลว่ามีพฤติการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ จากนั้นกองทหารอิสราเอลยังปฏิบัติการกวาดล้างในระดับที่เบาบางลงมาในเขตเวสต์แบงก์ และล่าสุดในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐยิวได้เปิดการโจมตีทางอากาศ ตลอดจนส่งกำลังภาคพื้นดินบุกเข้าไปในเลบานอน
    .
    ในวันเสาร์ ที่กรุงวอชิงตัน ผู้ประท้วงที่โกรธแค้นกว่าพันคนชุมนุมหน้าทำเนียบขาว เรียกร้องให้อเมริกายุติการช่วยเหลือทางทหารและด้านอื่นๆ แก่อิสราเอล หลายคนชูธงปาเลสไตน์และเลบานอน
    .
    หลังจากการชุมนุมผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง มีชายผู้หนึ่งได้เข้าไปยังบริเวณที่มีการชุมนุม และพยายามจุดไฟเผาตัวเอง เขาประสบความสำเร็จในการจุดไฟให้เผาไหม้แขนซ้ายของตัวเอง ก่อนถูกผู้คนที่อยู่ใกล้ๆ และตำรวจเข้าไปช่วยดับไฟได้ทันและนำส่งโรงพยาบาล โดยมีอาการบาดเจ็บที่ตำรวจระบุว่า ไม่มีอันตรายถึงชีวิต
    .
    ที่นิวยอร์ก คนนับพันชุมนุมกันที่ย่านไทม์สแควร์ บางคนถือรูปผู้เสียชีวิตในการโจมตีกาซาของอิสราเอล นอกจากนี้ ยังมีผู้ประท้วงในลอสแองเจลิสเรียกร้องให้ยุติ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ในกาซา
    .
    สำหรับที่ลอนดอน แอ็กเนส คอรี หนึ่งในผู้เข้าร่วมประท้วงที่นี่บอกว่า รัฐบาลอิสราเอลไม่รับฟังความหวังดีจากทั่วโลก แต่กลับเดินหน้ากระทำการป่าเถื่อนโหดร้ายในกาซา และขยายไปยังเลบานอนและเยเมน นอกจากนั้นยังอาจลามไปถึงอิหร่าน ขณะที่รัฐบาลอังกฤษป่าวประกาศว่า ไม่เห็นด้วย ทว่า ยังคงป้อนอาวุธให้อิสราเอลเช่นเดิม
    .
    อย่างไรก็ดี มีกลุ่มต่อต้านการประท้วงยืนโบกธงชาติอิสราเอลในบางจุดที่ขบวนผู้สนับสนุนปาเลสไตน์เดินขบวนผ่าน และตำรวจเผยว่า มีผู้ถูกจับกุม 15 คน แต่ไม่ได้ระบุสาเหตุการจับกุม และไม่ได้ระบุว่า ผู้ถูกจับเป็นฝ่ายใด
    .
    ที่โรม อิตาลี ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่ฝูงชนหลังมีการปะทะกับตำรวจ รายงานระบุว่า ผู้ประท้วงราว 6,000 คนฝ่าฝืนคำสั่งห้ามเดินขบวนในย่านใจกลางเมืองก่อนถึงวันครบรอบ 1 ปีการโจมตีอิสราเอลของฮามาส
    .
    ที่เบอร์ลิน ผู้ประท้วงราว 1,000 คนโบกธงปาเลสไตน์ พร้อมตะโกน “1 ปีของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” และมีการปะทะกับตำรวจ นอกจากนั้นยังมีการชุมนุมของกลุ่มประท้วงกระแสต่อต้านชาวยิวที่กำลังปะทุขึ้นในเยอรมนี
    .
    ในฝรั่งเศส ผู้คนหลายพันออกมาเดินขบวนในกรุงปารีส ลียง ตูลุส บอร์กโด และสตาร์สบูร์ก เพื่อแดสงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์
    .
    ที่กรุงมาดริด ผู้คนราว 5,000 คนเข้าร่วมการประท้วงเพื่อแสดงความเห็นอกเห็นใจชาวปาเลสไตน์ โดยถือป้ายเขียนข้อความอย่างเช่น “บอยคอตต์อิสราเอล”
    .
    ที่มะนิลา นักเคลื่อนไหวปะทะกับตำรวจปราบจลาจล หลังถูกห้ามไม่ให้ชุมนุมหน้าสถานเอกอัครราชทูตอเมริกาเพื่อแสดงการคัดค้านที่วอชิงตันสนับสนุนอิสราเอล
    .
    ที่จาการ์ตา ผู้สนับสนุนปาเลสไตน์อย่างน้อย 1,000 คนชุมนุมใกล้สถานเอกอัครราชทูตอเมริกาเมื่อเช้าวันอาทิตย์ (6 ต.ค.) เรียกร้องให้วอชิงตันยุติการจัดหาอาวุธให้อิสราเอล
    .
    รายงานยังคาดว่า จะยังคงมีการชุมนุมต่อต้านสงครามกาซาในหลายเมืองในวันอาทิตย์ (6 ต.ค.)
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000095168
    ..............
    Sondhi X
    ชายคนหนึ่งพยายามจุดไฟเผาตัวเองระหว่างการชุมนุมที่กรุงวอชิงตันเรียกร้องอเมริกายุติการช่วยเหลืออิสราเอลเมื่อวันเสาร์ (5 ต.ค.) นอกจากนั้น ยังมีผู้คนหลายหมื่นชุมนุมตามเมืองใหญ่ๆ หลายแห่งทั่วโลก เรียกร้องให้ยุติสงครามนองเลือดในกาซาที่กำลังจะครบรอบ 1 ปี ในวันจันทร์ (7 ต.ค.) รวมทั้งการสู้รบที่กำลังลุกลามไปในตะวันออกกลาง . ที่กรุงลอนดอน ผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ราว 40,000 คนเดินขบวนไปตามถนนใจกลางเมือง ขณะที่มีผู้ประท้วงจำนวนหลายพันคนรวมตัวกันในหลายเมืองหลวงของยุโรปอย่าง ปารีส โรม มาดริด เมืองหลวงของเอเชียอย่าง มะนิลา จาการ์ตา เมืองใหญ่ๆ ในออสเตรเลียอย่างซิดนีย์ เมืองใหญ่ในแอฟริกา อย่างเคป ทาวน์ ของแอฟริกาใต้ และเมืองหลวงของอเมริกาใต้อย่างบัวโนสไอเรส ตลอดจนหลายเมืองของสหรัฐฯ อย่างนิวยอร์กซิตี้ และกรุงวอชิงตัน โดยที่เมืองหลวงสหรัฐฯ นั้นมีการชุมนุมใกล้ทำเนียบขาวเพื่อประท้วงที่อเมริกายังคงให้การสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลทั้งในกาซาและเลบานอน . การสู้รบนองเลือดและการเข่นฆ่าพลเรือนกันอย่างไม่คำนึงถึงกฎเกณฑ์ทางมนุษยธรรมครั้งล่าสุดนี้ เปิดฉากขึ้นด้วยการสู้รบขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ซึ่งปะทุจากเหตุการณ์กลุ่มนักรบฮามาสบุกข้ามแดนเข้าไปโจมตีทางใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ปีที่แล้ว สังหารเหยื่อ 1,200 คน และจับตัวประกันราว 250 คนกลับไปคุมขังในกาซา แล้วอิสราเอลตอบโต้ทันทีด้วยการเปิดปฏิบัติการถล่มโจมตีทางอากาศและการใช้กำลังทหารรุกทางภาคพื้นดินในดินแดนฉนวนกาซา ทำให้มีผู้เสียชีวิตจนถึงขณะนี้เกือบ 42,000 คน รวมทั้งมีชาวปาเลสไตน์เกือบ 2.3 ล้านคนต้องทิ้งบ้านเรือน ตลอดจนถูกกองทหารรัฐยิวสั่งอพยพโยกย้ายไปเรื่อยๆ ไม่หยุดหย่อน นำไปสู่วิกฤตความอดอยาก และหลายฝ่ายตั้งข้อกล่าวหาอิสราเอลว่ามีพฤติการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ จากนั้นกองทหารอิสราเอลยังปฏิบัติการกวาดล้างในระดับที่เบาบางลงมาในเขตเวสต์แบงก์ และล่าสุดในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐยิวได้เปิดการโจมตีทางอากาศ ตลอดจนส่งกำลังภาคพื้นดินบุกเข้าไปในเลบานอน . ในวันเสาร์ ที่กรุงวอชิงตัน ผู้ประท้วงที่โกรธแค้นกว่าพันคนชุมนุมหน้าทำเนียบขาว เรียกร้องให้อเมริกายุติการช่วยเหลือทางทหารและด้านอื่นๆ แก่อิสราเอล หลายคนชูธงปาเลสไตน์และเลบานอน . หลังจากการชุมนุมผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง มีชายผู้หนึ่งได้เข้าไปยังบริเวณที่มีการชุมนุม และพยายามจุดไฟเผาตัวเอง เขาประสบความสำเร็จในการจุดไฟให้เผาไหม้แขนซ้ายของตัวเอง ก่อนถูกผู้คนที่อยู่ใกล้ๆ และตำรวจเข้าไปช่วยดับไฟได้ทันและนำส่งโรงพยาบาล โดยมีอาการบาดเจ็บที่ตำรวจระบุว่า ไม่มีอันตรายถึงชีวิต . ที่นิวยอร์ก คนนับพันชุมนุมกันที่ย่านไทม์สแควร์ บางคนถือรูปผู้เสียชีวิตในการโจมตีกาซาของอิสราเอล นอกจากนี้ ยังมีผู้ประท้วงในลอสแองเจลิสเรียกร้องให้ยุติ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ในกาซา . สำหรับที่ลอนดอน แอ็กเนส คอรี หนึ่งในผู้เข้าร่วมประท้วงที่นี่บอกว่า รัฐบาลอิสราเอลไม่รับฟังความหวังดีจากทั่วโลก แต่กลับเดินหน้ากระทำการป่าเถื่อนโหดร้ายในกาซา และขยายไปยังเลบานอนและเยเมน นอกจากนั้นยังอาจลามไปถึงอิหร่าน ขณะที่รัฐบาลอังกฤษป่าวประกาศว่า ไม่เห็นด้วย ทว่า ยังคงป้อนอาวุธให้อิสราเอลเช่นเดิม . อย่างไรก็ดี มีกลุ่มต่อต้านการประท้วงยืนโบกธงชาติอิสราเอลในบางจุดที่ขบวนผู้สนับสนุนปาเลสไตน์เดินขบวนผ่าน และตำรวจเผยว่า มีผู้ถูกจับกุม 15 คน แต่ไม่ได้ระบุสาเหตุการจับกุม และไม่ได้ระบุว่า ผู้ถูกจับเป็นฝ่ายใด . ที่โรม อิตาลี ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่ฝูงชนหลังมีการปะทะกับตำรวจ รายงานระบุว่า ผู้ประท้วงราว 6,000 คนฝ่าฝืนคำสั่งห้ามเดินขบวนในย่านใจกลางเมืองก่อนถึงวันครบรอบ 1 ปีการโจมตีอิสราเอลของฮามาส . ที่เบอร์ลิน ผู้ประท้วงราว 1,000 คนโบกธงปาเลสไตน์ พร้อมตะโกน “1 ปีของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” และมีการปะทะกับตำรวจ นอกจากนั้นยังมีการชุมนุมของกลุ่มประท้วงกระแสต่อต้านชาวยิวที่กำลังปะทุขึ้นในเยอรมนี . ในฝรั่งเศส ผู้คนหลายพันออกมาเดินขบวนในกรุงปารีส ลียง ตูลุส บอร์กโด และสตาร์สบูร์ก เพื่อแดสงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ . ที่กรุงมาดริด ผู้คนราว 5,000 คนเข้าร่วมการประท้วงเพื่อแสดงความเห็นอกเห็นใจชาวปาเลสไตน์ โดยถือป้ายเขียนข้อความอย่างเช่น “บอยคอตต์อิสราเอล” . ที่มะนิลา นักเคลื่อนไหวปะทะกับตำรวจปราบจลาจล หลังถูกห้ามไม่ให้ชุมนุมหน้าสถานเอกอัครราชทูตอเมริกาเพื่อแสดงการคัดค้านที่วอชิงตันสนับสนุนอิสราเอล . ที่จาการ์ตา ผู้สนับสนุนปาเลสไตน์อย่างน้อย 1,000 คนชุมนุมใกล้สถานเอกอัครราชทูตอเมริกาเมื่อเช้าวันอาทิตย์ (6 ต.ค.) เรียกร้องให้วอชิงตันยุติการจัดหาอาวุธให้อิสราเอล . รายงานยังคาดว่า จะยังคงมีการชุมนุมต่อต้านสงครามกาซาในหลายเมืองในวันอาทิตย์ (6 ต.ค.) . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000095168 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    Love
    16
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1596 มุมมอง 0 รีวิว