• อิสราเอลขู่เปิดการถล่มโจมตีขึ้นใหม่ในกาซา หากไม่มีการปล่อยตัวประกันภายในวันเสาร์ (15 ก.พ.) ขณะที่ฮามาสยันยังยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิง และโทษรัฐยิวเป็นฝ่ายบ่อนทำลายข้อตกลง ขณะในอีกด้านหนึ่ง ทรัมป์ยังคงยืนกรานอ้างลอยๆ ว่า อเมริกามีอำนาจและจะเข้ายึดครองฉนวนกาซา รวมทั้งย้ายชาวปาเลสไตน์ออกไปเป็นการถาวร แม้ล่าสุดถูกคัดค้านจากกษัตริย์จอร์แดนซึ่งเดินทางไปเยือนทำเนียบขาว ส่วนอียิปต์เตรียมเสนอแผนระดมพันธมิตรในตะวันออกกลางฟื้นฟูกาซาร่วมกับวอชิงตัน โดยที่ไม่มีการโยกย้ายชาวปาเลสไตน์หนีไปไหน
    .
    ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงล่าสุดที่ดำเนินมาหลายอาทิตย์แล้ว ตัวประกันอิสราเอลจะได้รับการปล่อยตัวทุกสัปดาห์ แลกกับนักโทษปาเลสไตน์ โดยนับจากวันที่ 19 ม.ค. มีการปล่อยตัวประกันแล้ว 16 คน จาก 33 คนตามข้อตกลงหยุดยิงเฟสแรกที่กินเวลา 42 วัน และอิสราเอลปล่อยนักโทษปาเลสไตน์หลายร้อยคนเป็นการแลกเปลี่ยน ทว่า ข้อตกลงนี้กำลังสั่นคลอนอย่างหนักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
    .
    เมื่อวันอังคาร (11) นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ยื่นคำขาดว่า ถ้าฮามาสไม่ปล่อยตัวประกันภายในเที่ยงวันเสาร์ จะถือว่าข้อตกลงหยุดยิงสิ้นสุดลง และกองทัพอิสราเอลจะกลับไปโจมตีกาซาอย่างหนักหน่วงจนกว่าฮามาสแพ้ราบคาบ
    .
    เนทันยาฮูเสริมว่า สั่งการให้กองทัพระดมทหารเตรียมพร้อมทั้งภายในและรอบๆ กาซาแล้ว และหลังจากนั้นไม่นานกองทัพอิสราเอลแถลงว่า ได้ส่งกำลังไปเพิ่มทางใต้ของประเทศ ซึ่งรวมถึงการเรียกทหารกองหนุนเข้าประจำการ ขณะที่ครอบครัวตัวประกันพากันชุมนุมหน้าสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิง
    .
    ก่อนหน้านี้ เมื่อวันจันทร์ (10) กองกำลัง เอซเซดีน อัล-กัสซัม ซึ่งเป็นส่วนกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฮามาส ประกาศจะเลื่อนการปล่อยตัวประกันชุดต่อไปที่เดิมกำหนดไว้ในวันเสาร์นี้ โดยกล่าวหาอิสราเอลละเมิดข้อตกลงทั้งในส่วนความช่วยเหลือ และการเสียชีวิตของชาวกาซา 3 คนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่สำทับว่า พร้อมปล่อยตัวประกันตามกำหนด หากอิสราเอลปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงหยุดยิง
    .
    ทว่า อิสราเอลยืนยันว่า ไม่ได้ขัดขวางการให้ความช่วยเหลือ และที่ต้องยิงชาวกาซาทั้งสามคน เนื่องจากคนเหล่านั้นละเมิดคำเตือนไม่ให้เข้าใกล้กองทหารอิสราเอล
    .
    ด้าน อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องให้ฮามาสปล่อยตัวประกันตามแผน และหลีกเลี่ยงการฟื้นการสู้รบในกาซา
    .
    ทว่า กบฏฮูตีที่เป็นพันธมิตรของฮามาส และโจมตีอิสราเอลหลายครั้งเพื่อแสดงการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์นั้น ประกาศว่า พร้อมเข้าแทรกแซงทางทหารทุกเมื่อหากกาซาถูกโจมตีอีก
    .
    ขณะเดียวกัน แม้เนทันยาฮูไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ฮามาสต้องปล่อยตัวประกันทั้งหมด 76 คนที่ยังถูกคุมขังอยู่ในกาซา หรือแค่ 3 คนภายใต้ข้อตกลงเดิม แต่เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีคลังสายเหยี่ยว เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี “เปิดขุมนรก” ถ้าตัวประกันอิสราเอลทั้งหมดไม่ได้รับอิสรภาพภายในวันเสาร์ รวมทั้งให้อิสราเอลเข้ายึดครองฉนวนกาซาเบ็ดเสร็จ และยุติการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทั้งหมด
    .
    ภายหลังการยื่นคำขาดของเนทันยาฮู ทางฮามาสได้ออกคำแถลงยืนยันว่า ยังคงยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิง และกล่าวหาอิสราเอลเป็นฝ่ายบ่อนทำลายข้อตกลง
    .
    การขู่ยุติการหยุดยิงของเนทันยาฮู เป็นการตอกย้ำคำแถลงก่อนหน้านี้ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ให้ฮามาสปล่อยตัวประกันอิสราเอลทั้งหมดภายในเที่ยงวันเสาร์ ไม่เช่นนั้นจะประกาศให้ยุติข้อตกลงหยุดยิง และฮามาสจะต้องเผชิญ “นรก” ที่เลวร้ายกว่าที่เคยเป็นมา
    .
    ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำคำขู่นี้อีก ระหว่างให้การต้อนรับกษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดนเมื่อวันอังคาร รวมทั้งอ้างอีกครั้งหนึ่งว่า อเมริกามีอำนาจและจะเข้าครอบครองและฟื้นฟูฉนวนกาซา และอพยพชาวปาเลสไตน์กว่า 2 ล้านคนออกจากดินแดนดังกล่าวเป็นการถาวร พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า จะมีดินแดนบางส่วนในจอร์แดน อียิปต์ และประเทศอื่นๆ ที่พร้อมให้ชาวปาเลสไตน์เหล่านั้นย้ายไปตั้งถิ่นฐาน
    .
    ทว่า กษัตริย์อับดุลเลาะห์ย้ำจุดยืนของจอร์แดนและชาติอาหรับทั้งหมดในการคัดค้านการบังคับย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ และเสริมว่า อียิปต์กำลังร่างแผนการที่ประเทศต่างๆ ในตะวันออกกลางจะร่วมฟื้นฟูกาซากับอเมริกา ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศอียิปต์แถลงในเวลาต่อมาว่า ไคโรจะเสนอวิสัยทัศน์ที่ครอบคลุมสำหรับการฟื้นฟูกาซาโดยที่รับประกันว่า ชาวปาเลสไตน์จะได้อยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนต่อไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000014305
    ..............
    Sondhi X
    อิสราเอลขู่เปิดการถล่มโจมตีขึ้นใหม่ในกาซา หากไม่มีการปล่อยตัวประกันภายในวันเสาร์ (15 ก.พ.) ขณะที่ฮามาสยันยังยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิง และโทษรัฐยิวเป็นฝ่ายบ่อนทำลายข้อตกลง ขณะในอีกด้านหนึ่ง ทรัมป์ยังคงยืนกรานอ้างลอยๆ ว่า อเมริกามีอำนาจและจะเข้ายึดครองฉนวนกาซา รวมทั้งย้ายชาวปาเลสไตน์ออกไปเป็นการถาวร แม้ล่าสุดถูกคัดค้านจากกษัตริย์จอร์แดนซึ่งเดินทางไปเยือนทำเนียบขาว ส่วนอียิปต์เตรียมเสนอแผนระดมพันธมิตรในตะวันออกกลางฟื้นฟูกาซาร่วมกับวอชิงตัน โดยที่ไม่มีการโยกย้ายชาวปาเลสไตน์หนีไปไหน . ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงล่าสุดที่ดำเนินมาหลายอาทิตย์แล้ว ตัวประกันอิสราเอลจะได้รับการปล่อยตัวทุกสัปดาห์ แลกกับนักโทษปาเลสไตน์ โดยนับจากวันที่ 19 ม.ค. มีการปล่อยตัวประกันแล้ว 16 คน จาก 33 คนตามข้อตกลงหยุดยิงเฟสแรกที่กินเวลา 42 วัน และอิสราเอลปล่อยนักโทษปาเลสไตน์หลายร้อยคนเป็นการแลกเปลี่ยน ทว่า ข้อตกลงนี้กำลังสั่นคลอนอย่างหนักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา . เมื่อวันอังคาร (11) นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ยื่นคำขาดว่า ถ้าฮามาสไม่ปล่อยตัวประกันภายในเที่ยงวันเสาร์ จะถือว่าข้อตกลงหยุดยิงสิ้นสุดลง และกองทัพอิสราเอลจะกลับไปโจมตีกาซาอย่างหนักหน่วงจนกว่าฮามาสแพ้ราบคาบ . เนทันยาฮูเสริมว่า สั่งการให้กองทัพระดมทหารเตรียมพร้อมทั้งภายในและรอบๆ กาซาแล้ว และหลังจากนั้นไม่นานกองทัพอิสราเอลแถลงว่า ได้ส่งกำลังไปเพิ่มทางใต้ของประเทศ ซึ่งรวมถึงการเรียกทหารกองหนุนเข้าประจำการ ขณะที่ครอบครัวตัวประกันพากันชุมนุมหน้าสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิง . ก่อนหน้านี้ เมื่อวันจันทร์ (10) กองกำลัง เอซเซดีน อัล-กัสซัม ซึ่งเป็นส่วนกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฮามาส ประกาศจะเลื่อนการปล่อยตัวประกันชุดต่อไปที่เดิมกำหนดไว้ในวันเสาร์นี้ โดยกล่าวหาอิสราเอลละเมิดข้อตกลงทั้งในส่วนความช่วยเหลือ และการเสียชีวิตของชาวกาซา 3 คนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่สำทับว่า พร้อมปล่อยตัวประกันตามกำหนด หากอิสราเอลปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงหยุดยิง . ทว่า อิสราเอลยืนยันว่า ไม่ได้ขัดขวางการให้ความช่วยเหลือ และที่ต้องยิงชาวกาซาทั้งสามคน เนื่องจากคนเหล่านั้นละเมิดคำเตือนไม่ให้เข้าใกล้กองทหารอิสราเอล . ด้าน อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องให้ฮามาสปล่อยตัวประกันตามแผน และหลีกเลี่ยงการฟื้นการสู้รบในกาซา . ทว่า กบฏฮูตีที่เป็นพันธมิตรของฮามาส และโจมตีอิสราเอลหลายครั้งเพื่อแสดงการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์นั้น ประกาศว่า พร้อมเข้าแทรกแซงทางทหารทุกเมื่อหากกาซาถูกโจมตีอีก . ขณะเดียวกัน แม้เนทันยาฮูไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ฮามาสต้องปล่อยตัวประกันทั้งหมด 76 คนที่ยังถูกคุมขังอยู่ในกาซา หรือแค่ 3 คนภายใต้ข้อตกลงเดิม แต่เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีคลังสายเหยี่ยว เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี “เปิดขุมนรก” ถ้าตัวประกันอิสราเอลทั้งหมดไม่ได้รับอิสรภาพภายในวันเสาร์ รวมทั้งให้อิสราเอลเข้ายึดครองฉนวนกาซาเบ็ดเสร็จ และยุติการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทั้งหมด . ภายหลังการยื่นคำขาดของเนทันยาฮู ทางฮามาสได้ออกคำแถลงยืนยันว่า ยังคงยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิง และกล่าวหาอิสราเอลเป็นฝ่ายบ่อนทำลายข้อตกลง . การขู่ยุติการหยุดยิงของเนทันยาฮู เป็นการตอกย้ำคำแถลงก่อนหน้านี้ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ให้ฮามาสปล่อยตัวประกันอิสราเอลทั้งหมดภายในเที่ยงวันเสาร์ ไม่เช่นนั้นจะประกาศให้ยุติข้อตกลงหยุดยิง และฮามาสจะต้องเผชิญ “นรก” ที่เลวร้ายกว่าที่เคยเป็นมา . ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำคำขู่นี้อีก ระหว่างให้การต้อนรับกษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดนเมื่อวันอังคาร รวมทั้งอ้างอีกครั้งหนึ่งว่า อเมริกามีอำนาจและจะเข้าครอบครองและฟื้นฟูฉนวนกาซา และอพยพชาวปาเลสไตน์กว่า 2 ล้านคนออกจากดินแดนดังกล่าวเป็นการถาวร พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า จะมีดินแดนบางส่วนในจอร์แดน อียิปต์ และประเทศอื่นๆ ที่พร้อมให้ชาวปาเลสไตน์เหล่านั้นย้ายไปตั้งถิ่นฐาน . ทว่า กษัตริย์อับดุลเลาะห์ย้ำจุดยืนของจอร์แดนและชาติอาหรับทั้งหมดในการคัดค้านการบังคับย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ และเสริมว่า อียิปต์กำลังร่างแผนการที่ประเทศต่างๆ ในตะวันออกกลางจะร่วมฟื้นฟูกาซากับอเมริกา ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศอียิปต์แถลงในเวลาต่อมาว่า ไคโรจะเสนอวิสัยทัศน์ที่ครอบคลุมสำหรับการฟื้นฟูกาซาโดยที่รับประกันว่า ชาวปาเลสไตน์จะได้อยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนต่อไป . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000014305 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    Love
    Haha
    Yay
    Sad
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2042 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุชาวปาเลสไตน์จะไม่ได้รับสิทธิ์กลับสู่ฉนวนกาซา ภายใต้ข้อเสนอของเขาเกี่ยวกับแผนพัฒนาฉนวนแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ สวนทางกลับพวกเจ้าหน้าที่ของเขาเอง ที่เคยออกมากลบกระแสความกังวล ด้วยการบอกว่าชาวกาซาจะถูกโยกย้ายถิ่นฐานเป็นการชั่วคราวเท่านั้น
    .
    ในบทตอนหนึ่งระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่วฟ็อกซ์นิวส์ ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์(10ก.พ.) ทรัมป์ระบุด้วยว่า เขาเชื่อว่าจะสามารถทำข้อตกลงกับจอร์แดนและอียิปต์ ในการอ้าแขนรับชาวปาเลสไตน์ผู้พลัดถิ่น โดยสหรัฐฯจะมอบเงินแก่ทั้ง 2 ประเทศ หลายหมื่นหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี
    .
    เมื่อถามว่าชาวปาเลสไตน์จะได้รับสิทธิ์ในการกลับสู่กาซาหรือไม่ ทรัมป์บอกกับฟ็อกซ์นิวส์ว่า "ไม่ พวกเขาไม่ได้รับ เพราะพวกเขาจะมีบ้านที่ดีกว่านั้นมาก" เขากล่าว "ผมกำลังพูดถึงการสร้างสถานที่ถาวรแก่พวกเขา" และมันอาจต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าที่กาซาจะกลับมาเป็นถิ่นฐานที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อีกครั้ง
    .
    ในถ้อยแถลงสุดช็อคเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ตามหลังพบปะกับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ในวอชิงตัน ประธานธิบดีทรัมป์เสนอโยกย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ 2.2 ล้านคนของกาซา และบอกว่าสหรัฐฯจะเข้าควบคุมฉนวนริมทะเลแห่งนี้ แล้วฟื้นฟูพัฒนามันให้เป็น "ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง"
    .
    พวกชาวบ้านกาซาปฏิเสธอย่างกว้างขวางต่อคำชี้แนะใดๆให้ออกจากฉนวนแห่งนี้ เช่นเดียวกับองค์การปาเลสไตน์และกลุ่มนักรบฮามาสที่ควบคุมกาซา
    .
    ซามี อาบู ซูฮรี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาส บอกว่าถ้อยแถลงของทรัมป์ ที่บอกว่าชาวปาเลสไตน์จะไม่อาจกลับสู่ฉนวนกาซานั้น เป็นสิ่งที่ไร้ความรับผิดชอบ "เราเน้นย้ำว่าแผนลักษณะดังกล่าวอาจโหมกระพือเปลวไฟในภูมิภาค" เขาบอกกับรอยเตอร์ในวันจันทร์(10ก.พ.)
    .
    ในส่วนของ เนทันยาฮู ซึ่งชื่นชมข้อเสนอของทรัมป์ แสดงท่าทีต่างออกไปจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าชาวปาเลสไตน์จะได้รับอนุญาตให้กลับสู่กาซา "พวกเขาสามารถเดินทางออกไป แล้วจากนั้นก็กลับเข้ามา พวกเขาสามารถโยกย้ายและกลับเข้ามา แต่คุณจำเป็นต้องฟื้นฟูสร้างกาซาขึ้นมาใหม่" เขากล่าว
    .
    มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ผู้ซึ่งจะออกเดินทางในสัปดาห์นี้ สำหรับการเยือนตะวันออกกลางเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ระบุในวันพฤหัสบดี(6ก.พ.) ว่าชาวปาเลสไตน์จะจำเป็นต้องพักอาศัยอยู่ที่ไหนสักแห่งเป็นการชั่วคราว ระหว่างการสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ แต่เขาไม่ตัดความเป็นไปได้โดยสิ้นเชิงต่อการโยกย้านถิ่นฐานอย่างถาวร
    .
    ความเห็นของทรัมป์ มีขึ้นในขณะที่ข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางที่ทางอิสราเอลกับฮามาสเห็นพ้องกันเมื่อเดือนที่แล้ว กำลังเสี่ยงพังครืนลง หลังจากฮามาสแถลงในวันจันทร์(10ก.พ.) ว่าพวกเขาจะหยุดปล่อยตัวประกันอิสราเอล โดยกล่าวหาฝ่ายอิสราเอลละเมิดข้อตกลง
    .
    บรรดาประเทศเพื่อนบ้านอาหรับของอิสราเอล ในนั้นรวมถึงอียิปต์และจอร์แดน ระบุว่าแผนการใดๆในการโยกย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากแผ่นดินของตนเองจะบ่อนทำลายเสถียรภาพ ในขณะที่พวกวิพากษ์วิจารณ์หลายคนเรียกคำชี้แนะของทรัมป์ เทียบเท่ากับเป็นการกวาดล้างเผ่าพันธุ์
    .
    รูบิโอ ได้พบปะกับ บาดร์ อับเดลัตตี รัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์ในกรุงวอชิงตัน ในวันจันทร์(10ก.พ.) ซึ่งทางกระทรวงต่างประเทศอียิปต์ เผยว่าทาง อับเดลัตตี ได้บอกกับ รูบิโอ ไปว่า บรรดาชาติอาหรับสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ กรณีที่ปฏิเสธแผนของทรัมป์ ในขณะที่ไคโรยังแสดงความกังวลด้วยว่าชาวปาเลสไตน์อาจถูกบีบให้ข้ามชายแดนอียิปต์ที่ติดกับฉนวนกาซา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013546
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุชาวปาเลสไตน์จะไม่ได้รับสิทธิ์กลับสู่ฉนวนกาซา ภายใต้ข้อเสนอของเขาเกี่ยวกับแผนพัฒนาฉนวนแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ สวนทางกลับพวกเจ้าหน้าที่ของเขาเอง ที่เคยออกมากลบกระแสความกังวล ด้วยการบอกว่าชาวกาซาจะถูกโยกย้ายถิ่นฐานเป็นการชั่วคราวเท่านั้น . ในบทตอนหนึ่งระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่วฟ็อกซ์นิวส์ ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์(10ก.พ.) ทรัมป์ระบุด้วยว่า เขาเชื่อว่าจะสามารถทำข้อตกลงกับจอร์แดนและอียิปต์ ในการอ้าแขนรับชาวปาเลสไตน์ผู้พลัดถิ่น โดยสหรัฐฯจะมอบเงินแก่ทั้ง 2 ประเทศ หลายหมื่นหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี . เมื่อถามว่าชาวปาเลสไตน์จะได้รับสิทธิ์ในการกลับสู่กาซาหรือไม่ ทรัมป์บอกกับฟ็อกซ์นิวส์ว่า "ไม่ พวกเขาไม่ได้รับ เพราะพวกเขาจะมีบ้านที่ดีกว่านั้นมาก" เขากล่าว "ผมกำลังพูดถึงการสร้างสถานที่ถาวรแก่พวกเขา" และมันอาจต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าที่กาซาจะกลับมาเป็นถิ่นฐานที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อีกครั้ง . ในถ้อยแถลงสุดช็อคเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ตามหลังพบปะกับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ในวอชิงตัน ประธานธิบดีทรัมป์เสนอโยกย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ 2.2 ล้านคนของกาซา และบอกว่าสหรัฐฯจะเข้าควบคุมฉนวนริมทะเลแห่งนี้ แล้วฟื้นฟูพัฒนามันให้เป็น "ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง" . พวกชาวบ้านกาซาปฏิเสธอย่างกว้างขวางต่อคำชี้แนะใดๆให้ออกจากฉนวนแห่งนี้ เช่นเดียวกับองค์การปาเลสไตน์และกลุ่มนักรบฮามาสที่ควบคุมกาซา . ซามี อาบู ซูฮรี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาส บอกว่าถ้อยแถลงของทรัมป์ ที่บอกว่าชาวปาเลสไตน์จะไม่อาจกลับสู่ฉนวนกาซานั้น เป็นสิ่งที่ไร้ความรับผิดชอบ "เราเน้นย้ำว่าแผนลักษณะดังกล่าวอาจโหมกระพือเปลวไฟในภูมิภาค" เขาบอกกับรอยเตอร์ในวันจันทร์(10ก.พ.) . ในส่วนของ เนทันยาฮู ซึ่งชื่นชมข้อเสนอของทรัมป์ แสดงท่าทีต่างออกไปจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าชาวปาเลสไตน์จะได้รับอนุญาตให้กลับสู่กาซา "พวกเขาสามารถเดินทางออกไป แล้วจากนั้นก็กลับเข้ามา พวกเขาสามารถโยกย้ายและกลับเข้ามา แต่คุณจำเป็นต้องฟื้นฟูสร้างกาซาขึ้นมาใหม่" เขากล่าว . มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ผู้ซึ่งจะออกเดินทางในสัปดาห์นี้ สำหรับการเยือนตะวันออกกลางเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ระบุในวันพฤหัสบดี(6ก.พ.) ว่าชาวปาเลสไตน์จะจำเป็นต้องพักอาศัยอยู่ที่ไหนสักแห่งเป็นการชั่วคราว ระหว่างการสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ แต่เขาไม่ตัดความเป็นไปได้โดยสิ้นเชิงต่อการโยกย้านถิ่นฐานอย่างถาวร . ความเห็นของทรัมป์ มีขึ้นในขณะที่ข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางที่ทางอิสราเอลกับฮามาสเห็นพ้องกันเมื่อเดือนที่แล้ว กำลังเสี่ยงพังครืนลง หลังจากฮามาสแถลงในวันจันทร์(10ก.พ.) ว่าพวกเขาจะหยุดปล่อยตัวประกันอิสราเอล โดยกล่าวหาฝ่ายอิสราเอลละเมิดข้อตกลง . บรรดาประเทศเพื่อนบ้านอาหรับของอิสราเอล ในนั้นรวมถึงอียิปต์และจอร์แดน ระบุว่าแผนการใดๆในการโยกย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากแผ่นดินของตนเองจะบ่อนทำลายเสถียรภาพ ในขณะที่พวกวิพากษ์วิจารณ์หลายคนเรียกคำชี้แนะของทรัมป์ เทียบเท่ากับเป็นการกวาดล้างเผ่าพันธุ์ . รูบิโอ ได้พบปะกับ บาดร์ อับเดลัตตี รัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์ในกรุงวอชิงตัน ในวันจันทร์(10ก.พ.) ซึ่งทางกระทรวงต่างประเทศอียิปต์ เผยว่าทาง อับเดลัตตี ได้บอกกับ รูบิโอ ไปว่า บรรดาชาติอาหรับสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ กรณีที่ปฏิเสธแผนของทรัมป์ ในขณะที่ไคโรยังแสดงความกังวลด้วยว่าชาวปาเลสไตน์อาจถูกบีบให้ข้ามชายแดนอียิปต์ที่ติดกับฉนวนกาซา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013546 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    Sad
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1639 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ประกาศยังมุ่งมั่นที่จะซื้อดินแดนกาซามาครอบครอง ถึงแม้เจอเสียงประณามคัดค้านตั้งแต่ชาวปาเลสไตน์ ไปถึงชาติอาหรับ โลกมุสลิม และกระทั่งพวกประเทศตะวันตก เพียงแต่อาจปรับเปลี่ยนแผนไปบ้าง โดยอาจแบ่งสรรพื้นที่บางส่วนให้ประเทศในตะวันออกกลางเข้าไปเป็นผู้ฟื้นฟูบูรณะ รวมถึงอาจรับชาวปาเลสไตน์ลี้ภัยในอเมริกาแต่ต้องพิจารณาเป็นกรณีไป ขณะที่ทางด้านเนทันยาฮู ก็ถูกจวกแหลก หลังปล่อยมุกเสนอไอเดียให้จัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ขึ้นในซาอุดีอาระเบีย
    .
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์เมื่อวันอาทิตย์ (9 ก.พ.) ขณะอยู่บนเครื่องบินประจำตำแหน่ง “แอร์ ฟอร์ซ วัน” มุ่งหน้าไปชมการแข่งขันชิงแชมป์ซูเปอร์โบลในเทิอวนิวออร์ลีนส์ โดยย้ำว่าตัวเขายังคงมีความมุ่งมั่นเข้าซื้อและครอบครองฉนวนกาซา เพื่อให้มั่นใจว่าพวกนักรบฮามาสจะไม่ย้อนกลับไปอีก แต่อาจจะเปิดโอกาสให้ประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลางเข้าร่วมการบูรณะฟื้นฟูดินแดนแห่งนี้ที่ถูกทำลายยับเยินในสงคราม
    .
    ก่อนหน้านี้ ระหว่างแถลงไอเดียเรื่องนี้ครั้งแรกสุดในสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์บรรยายแผนการอพยพชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาเป็นการถาวร โดยให้ไปตั้งรกรากในประเทศอาหรับอื่นๆ อย่างอียิปต์และจอร์แดน เพื่อที่อเมริกาจะเข้าไปครอบครองดินแดนชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแห่งนี้ เพื่อสร้างให้เป็น “ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง” ทว่าในวันอาทิตย์ เขาบอกว่า อาจอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์บางส่วนเดินทางไปตั้งรกรากในอเมริกา แต่สำทับว่า จะต้องพิจารณาเป็นกรณีไป
    .
    การเสนอไอเดียทั้งหมดของทรัมป์ ยังไม่ได้ให้รายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตของชาวปาเลสไตน์ที่ต้องเผชิญการถล่มโจมตีทิ้งระเบิดจากอิสราเอลมานานกว่า 15 เดือน นับจากวันที่ 7 ต.ค. 2023 ที่นักรบฮามาสแอบข้ามแดนเข้าไปโจมตีอิสราเอลและเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามกาซาที่ทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 48,181 คน
    .
    นอกจากนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่า อเมริกาจะอ้างสิทธิ์อะไรในการเข้าไปยึดกาซา
    .
    เอซซาต เอล ราชก์ สมาชิกสายการเมืองของกลุ่มฮามาส ประณามแผนการของทรัมป์โดยระบุว่า กาซาไม่ใช่โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีไว้ซื้อขาย แต่เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง และปาเลสไตน์จะทำลายแผนการบังคับย้ายถิ่นฐานของผู้นำสหรัฐฯ
    .
    ขณะที่ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถือเป็นบิ๊กรายหนึ่งในโลกอาหรับและตะวันออกกลาง รวมทั้งบรรดาผู้นำทั่วโลกก็คัดค้านแผนการของทรัมป์ กษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่สองแห่งจอร์แดน เตรียมเตือนทรัมป์ระหว่างเยือนวอชิงตันในวันอังคาร (11) ว่า แผนการเช่นนี้จะปลุกเร้าให้ลัทธิหัวรุนแรงแพร่ขยายไปทั่วตะวันออกกลาง และสั่นคลอนสันติภาพระหว่างจอร์แดนกับอิสราเอล
    .
    ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอันของตุรกี และนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์แห่งเยอรมนี เป็นผู้นำโลกสองคนล่าสุดที่ประณามแผนการของทรัมป์เมื่อวันอาทิตย์ (9) ที่ผ่านมา โดยแอร์โดอันบอกว่า ไม่มีใครมีอำนาจย้ายประชาชนในกาซาออกจากบ้านเกิดเมืองนอน และเสริมว่า กาซา เวสต์แบงก์ และเยรูซาเลมตะวันออกเป็นของชาวปาเลสไตน์
    .
    ด้านชอลซ์โจมตีแผนการของทรัมป์ว่าเป็น “กรณีสุดอื้อฉาว” และสำทับว่า การบังคับประชาชนย้ายถิ่นฐานเป็นสิ่งที่รับไม่ได้และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
    .
    ขณะที่ตะวันออกกลางเดือดเป็นฟื้นเป็นไฟกับข้อเสนอของทรัมป์ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ดูจะเป็นผู้นำระดับชาติเพียงคนเดียวที่เชิดชูแผนการของประมุขทำเนียบขาวในการซื้อกาซาและย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากดินแดนดังกล่าวว่า เป็นแนวทางที่สร้างสรรค์ และเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ที่แตกต่างออกไปจากกรอบเดิมอย่างชัดเจนและเป็นสิ่งที่ดีขึ้นสำหรับอิสราเอล
    .
    นอกจากนั้นเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เขายังอยู่ในกรุงวอชิงตัน เนทันยาฮูได้ให้สัมภาษณ์สื่อทีวีโปรอิสราเอลในสหรัฐฯ โดยที่ผู้สื่อข่าวได้พูดผิด เรียกเป็น "รัฐซาอุดีอาระเบีย" แทนที่จะเป็น "รัฐปาเลสไตน์" เนทันยาฮูก็แก้ไขให้โดยบอกว่า "รัฐปาเลสไตน์" จากนั้นเขาก็กล่าวต่อเป็นเชิงปล่อยมุกตลกด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า "เว้นแต่เสียว่าคุณต้องการให้รัฐปาเลสไตน์อยู่ในซาอุดีอาระเบีย พวกเขามีดินแดนมากมาย"
    .
    ปรากฏว่าเรื่องนี้ บรรดาชาติอาหรับและโลกมุสลิมไม่ได้ขำด้วย โดยที่อียิปต์และจอร์แดนออกมาประณามคำพูดเช่นนี้ของเนทันยาฮู ไคโรนั้นถึงขั้นมองความคิดนี้ว่าเป็นการ "ละเมิดอธิปไตยของซาอุดีอาระเบียโดยตรง" ทีเดียว
    .
    ด้านซาอุดีอาระเบียเอง บอกว่าพวกเขารู้สึกนับถือเป็นอย่างยิ่งต่อรัฐพี่น้องทั้ง 2 ที่รุดออกมาปฏิเสธความคิดเห็นของเนทันยาฮู และกล่าวต่อไปว่า "แนวคิดหัวรุนแรงซึ่งมุ่งที่การยึดครองนี้ ไม่ได้ตระหนักและเข้าถึงว่าดินแดนปาเลสไตน์มีความหมายกับประชาชนพี่น้องปาเลสไตน์มากแค่ไหน เช่นเดียวกับความเกี่ยวข้องกันทั้งในแง่มโนธรรม ประวัติศาสตร์และทางกฎหมาย กับดินแดนแห่งนี้" ถ้อยแถลงระบุ
    .
    ขณะที่อาเหม็ด อาบูล เกอิต ผู้นำกลุ่มสันนิบาตอาหรับ วิจารณ์ว่า ไอเดียของผู้นำยิวเป็นแค่ความเพ้อฝันหรือภาพลวงตาเท่านั้น
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013540
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์ประกาศยังมุ่งมั่นที่จะซื้อดินแดนกาซามาครอบครอง ถึงแม้เจอเสียงประณามคัดค้านตั้งแต่ชาวปาเลสไตน์ ไปถึงชาติอาหรับ โลกมุสลิม และกระทั่งพวกประเทศตะวันตก เพียงแต่อาจปรับเปลี่ยนแผนไปบ้าง โดยอาจแบ่งสรรพื้นที่บางส่วนให้ประเทศในตะวันออกกลางเข้าไปเป็นผู้ฟื้นฟูบูรณะ รวมถึงอาจรับชาวปาเลสไตน์ลี้ภัยในอเมริกาแต่ต้องพิจารณาเป็นกรณีไป ขณะที่ทางด้านเนทันยาฮู ก็ถูกจวกแหลก หลังปล่อยมุกเสนอไอเดียให้จัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ขึ้นในซาอุดีอาระเบีย . ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์เมื่อวันอาทิตย์ (9 ก.พ.) ขณะอยู่บนเครื่องบินประจำตำแหน่ง “แอร์ ฟอร์ซ วัน” มุ่งหน้าไปชมการแข่งขันชิงแชมป์ซูเปอร์โบลในเทิอวนิวออร์ลีนส์ โดยย้ำว่าตัวเขายังคงมีความมุ่งมั่นเข้าซื้อและครอบครองฉนวนกาซา เพื่อให้มั่นใจว่าพวกนักรบฮามาสจะไม่ย้อนกลับไปอีก แต่อาจจะเปิดโอกาสให้ประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลางเข้าร่วมการบูรณะฟื้นฟูดินแดนแห่งนี้ที่ถูกทำลายยับเยินในสงคราม . ก่อนหน้านี้ ระหว่างแถลงไอเดียเรื่องนี้ครั้งแรกสุดในสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์บรรยายแผนการอพยพชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาเป็นการถาวร โดยให้ไปตั้งรกรากในประเทศอาหรับอื่นๆ อย่างอียิปต์และจอร์แดน เพื่อที่อเมริกาจะเข้าไปครอบครองดินแดนชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแห่งนี้ เพื่อสร้างให้เป็น “ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง” ทว่าในวันอาทิตย์ เขาบอกว่า อาจอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์บางส่วนเดินทางไปตั้งรกรากในอเมริกา แต่สำทับว่า จะต้องพิจารณาเป็นกรณีไป . การเสนอไอเดียทั้งหมดของทรัมป์ ยังไม่ได้ให้รายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตของชาวปาเลสไตน์ที่ต้องเผชิญการถล่มโจมตีทิ้งระเบิดจากอิสราเอลมานานกว่า 15 เดือน นับจากวันที่ 7 ต.ค. 2023 ที่นักรบฮามาสแอบข้ามแดนเข้าไปโจมตีอิสราเอลและเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามกาซาที่ทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 48,181 คน . นอกจากนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่า อเมริกาจะอ้างสิทธิ์อะไรในการเข้าไปยึดกาซา . เอซซาต เอล ราชก์ สมาชิกสายการเมืองของกลุ่มฮามาส ประณามแผนการของทรัมป์โดยระบุว่า กาซาไม่ใช่โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีไว้ซื้อขาย แต่เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง และปาเลสไตน์จะทำลายแผนการบังคับย้ายถิ่นฐานของผู้นำสหรัฐฯ . ขณะที่ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถือเป็นบิ๊กรายหนึ่งในโลกอาหรับและตะวันออกกลาง รวมทั้งบรรดาผู้นำทั่วโลกก็คัดค้านแผนการของทรัมป์ กษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่สองแห่งจอร์แดน เตรียมเตือนทรัมป์ระหว่างเยือนวอชิงตันในวันอังคาร (11) ว่า แผนการเช่นนี้จะปลุกเร้าให้ลัทธิหัวรุนแรงแพร่ขยายไปทั่วตะวันออกกลาง และสั่นคลอนสันติภาพระหว่างจอร์แดนกับอิสราเอล . ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอันของตุรกี และนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์แห่งเยอรมนี เป็นผู้นำโลกสองคนล่าสุดที่ประณามแผนการของทรัมป์เมื่อวันอาทิตย์ (9) ที่ผ่านมา โดยแอร์โดอันบอกว่า ไม่มีใครมีอำนาจย้ายประชาชนในกาซาออกจากบ้านเกิดเมืองนอน และเสริมว่า กาซา เวสต์แบงก์ และเยรูซาเลมตะวันออกเป็นของชาวปาเลสไตน์ . ด้านชอลซ์โจมตีแผนการของทรัมป์ว่าเป็น “กรณีสุดอื้อฉาว” และสำทับว่า การบังคับประชาชนย้ายถิ่นฐานเป็นสิ่งที่รับไม่ได้และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ . ขณะที่ตะวันออกกลางเดือดเป็นฟื้นเป็นไฟกับข้อเสนอของทรัมป์ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ดูจะเป็นผู้นำระดับชาติเพียงคนเดียวที่เชิดชูแผนการของประมุขทำเนียบขาวในการซื้อกาซาและย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากดินแดนดังกล่าวว่า เป็นแนวทางที่สร้างสรรค์ และเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ที่แตกต่างออกไปจากกรอบเดิมอย่างชัดเจนและเป็นสิ่งที่ดีขึ้นสำหรับอิสราเอล . นอกจากนั้นเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เขายังอยู่ในกรุงวอชิงตัน เนทันยาฮูได้ให้สัมภาษณ์สื่อทีวีโปรอิสราเอลในสหรัฐฯ โดยที่ผู้สื่อข่าวได้พูดผิด เรียกเป็น "รัฐซาอุดีอาระเบีย" แทนที่จะเป็น "รัฐปาเลสไตน์" เนทันยาฮูก็แก้ไขให้โดยบอกว่า "รัฐปาเลสไตน์" จากนั้นเขาก็กล่าวต่อเป็นเชิงปล่อยมุกตลกด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า "เว้นแต่เสียว่าคุณต้องการให้รัฐปาเลสไตน์อยู่ในซาอุดีอาระเบีย พวกเขามีดินแดนมากมาย" . ปรากฏว่าเรื่องนี้ บรรดาชาติอาหรับและโลกมุสลิมไม่ได้ขำด้วย โดยที่อียิปต์และจอร์แดนออกมาประณามคำพูดเช่นนี้ของเนทันยาฮู ไคโรนั้นถึงขั้นมองความคิดนี้ว่าเป็นการ "ละเมิดอธิปไตยของซาอุดีอาระเบียโดยตรง" ทีเดียว . ด้านซาอุดีอาระเบียเอง บอกว่าพวกเขารู้สึกนับถือเป็นอย่างยิ่งต่อรัฐพี่น้องทั้ง 2 ที่รุดออกมาปฏิเสธความคิดเห็นของเนทันยาฮู และกล่าวต่อไปว่า "แนวคิดหัวรุนแรงซึ่งมุ่งที่การยึดครองนี้ ไม่ได้ตระหนักและเข้าถึงว่าดินแดนปาเลสไตน์มีความหมายกับประชาชนพี่น้องปาเลสไตน์มากแค่ไหน เช่นเดียวกับความเกี่ยวข้องกันทั้งในแง่มโนธรรม ประวัติศาสตร์และทางกฎหมาย กับดินแดนแห่งนี้" ถ้อยแถลงระบุ . ขณะที่อาเหม็ด อาบูล เกอิต ผู้นำกลุ่มสันนิบาตอาหรับ วิจารณ์ว่า ไอเดียของผู้นำยิวเป็นแค่ความเพ้อฝันหรือภาพลวงตาเท่านั้น . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013540 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1653 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซาอุดีอาระเบีย ยืนยันปฏิเสธโดยสิ้นเชิงต่อความคิดเห็นของ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เกี่ยวกับการโยกย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซา แล้วให้สถาปนาความเป็นรัฐในดินแดนของซาอุดีอาระเบีย กระทรวงการต่างประเทศริยาด ตอบโต้ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่
    .
    พวกเจ้าหน้าที่อิสราเอลพากันออกมาบ่งชี้เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ในดินแดนของซาอุดีอาระเบีย ในขณะที่ เนทันยาฮู ดูเหมือนพูดติดตลกในลักษณะเดียวกัน ระหว่างตอบคำถามของผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่อง 14 ซึ่งเป็นสำนักข่าวโปรเนทันยาอู ที่เรียกผิดเป็น "รัฐซาอุดีฯ" แทน "รัฐปาเลสไตน์" ก่อนพูดแก้ไขด้วยตนเองในทันที
    .
    "รัฐปาเลสไตน์" เนทันยาฮู แก้ไขคำพูดของผู้สัมภาษณ์ แต่บอกต่อว่า "เว้นแต่เสียว่าคุณต้องการให้รัฐปาเลสไตน์อยู่ในซาอุดีอาระเบีย พวกเขามีดินแดนมากมาย" นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวไปยิ้มไป ระหว่างการให้สัมภาษณ์ในวอชิงตัน
    .
    ในส่วนถ้อยแถลงตอบโต้ของซาอุดีอาระเบีย ได้พาดพิงชื่อเนทันยาฮู แต่ไม่ได้กล่าวอ้างตรงๆถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับการสถาปนาความเป็นรับปาเลสไตน์ในดินแดนซาอุดีอาระเบีย
    .
    ความเคลื่อนไหวของซาอุดีอาระเบีย มีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมง อียิปต์และจอร์แดนก็ออกมาประณามคำชี้แนะของอิสราเอลเช่นกัน โดยที่ไคโรถึงขั้นมองความคิดนี้ว่าเป็นการ "ละเมิดอธิปไตยของซาอุดีอาระเบียโดยตรง"
    .
    ซาอุดีอาระเบีย บอกว่าพวกเขารู้สึกนับถือเป็นอย่างยิ่งต่อรัฐพี่น้องทั้ง 2 ที่รุดออกมาปฏิเสธความคิดเห็นของเนทันยาฮู "แนวคิดหัวรุนแรงแห่งการยึดครองนี้ ไม่ได้ตระหนักและเข้าถึงว่าดินแดนปาเลสไตน์มีความหมายกับประชาชนพี่น้องปาเลสไตน์มากแค่ไหน เช่นดียวกับความเกี่ยวข้องกันทั้งในแง่มโนธรรม ประวัติศาสตร์และทางกฎหมาย กับดินแดนแห่งนี้" ถ้อยแถลงระบุ
    .
    ประเด็นโต้เถียงเกี่ยวกับชะตากรรมของชาวปาเลสไตน์ในกาซา ถูกโหมกระพือขึ้นจากข้อเสนอสุดช็อคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร(4ก.พ.) ที่บอกว่าอเมริกา "จะควบคุมฉนวนกาซา" ผ่านการส่งมอบโดยอิสราเอล และจะสร้างดินแดนแห่งนี้ให้เห็น "ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง" หลังจากโยกย้ายชาวปาเลสไตน์ไปที่ไหนสักแห่ง
    .
    ข้อเสนอดังกล่าวของทรัมป์ เรียกเสียงประณามในวงกว้างจากบรรดชาติอาหรับ ในขณะที่ความคิดของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกิดจึ้นระหว่างข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางในสงครามกาซา ดินแดนที่อิสราเอลสู้รบกับพวกนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ที่ควบคุมฉนวนแคบๆแห่งนี้
    .
    ทรัมป์ อ้างว่าซาอุดีอาระเบียไม่ได้เรียกร้องให้สถาปนารัฐปาเลสไตน์ เป็นเงื่อนไขในการคืนสัมพันธ์อันเป็นปกติกับอิสราเอล แต่ริยาดรุดออกมาตอบโต้คำกล่าวอ้างของเขา พร้อมยืนยันว่าพวกเขาจะไม่สถาปนาความสัมพันธ์กับอิสราเอล หากปราศจากการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์
    .
    พวกเจ้าหน้าที่กาซาระบุว่าสงครามได้สังหารชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 47,000 นาย จากประชากรทั้งหมดเกือบ 2 ล้านคนในกาซา โดยอิสราเอลเปิดฉากรุกรานดินแดนแห่งนี้ หลังจากกลุ่มมือปืนที่นำโดยฮามาส บุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอลแบบสายฟ้าแลบ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 สังหารผู้คนไปราวๆ 1,200 ราย และจับตัวประกันไปมากกว่า 250 คน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013147
    ..............
    Sondhi X
    ซาอุดีอาระเบีย ยืนยันปฏิเสธโดยสิ้นเชิงต่อความคิดเห็นของ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เกี่ยวกับการโยกย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซา แล้วให้สถาปนาความเป็นรัฐในดินแดนของซาอุดีอาระเบีย กระทรวงการต่างประเทศริยาด ตอบโต้ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ . พวกเจ้าหน้าที่อิสราเอลพากันออกมาบ่งชี้เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ในดินแดนของซาอุดีอาระเบีย ในขณะที่ เนทันยาฮู ดูเหมือนพูดติดตลกในลักษณะเดียวกัน ระหว่างตอบคำถามของผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่อง 14 ซึ่งเป็นสำนักข่าวโปรเนทันยาอู ที่เรียกผิดเป็น "รัฐซาอุดีฯ" แทน "รัฐปาเลสไตน์" ก่อนพูดแก้ไขด้วยตนเองในทันที . "รัฐปาเลสไตน์" เนทันยาฮู แก้ไขคำพูดของผู้สัมภาษณ์ แต่บอกต่อว่า "เว้นแต่เสียว่าคุณต้องการให้รัฐปาเลสไตน์อยู่ในซาอุดีอาระเบีย พวกเขามีดินแดนมากมาย" นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวไปยิ้มไป ระหว่างการให้สัมภาษณ์ในวอชิงตัน . ในส่วนถ้อยแถลงตอบโต้ของซาอุดีอาระเบีย ได้พาดพิงชื่อเนทันยาฮู แต่ไม่ได้กล่าวอ้างตรงๆถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับการสถาปนาความเป็นรับปาเลสไตน์ในดินแดนซาอุดีอาระเบีย . ความเคลื่อนไหวของซาอุดีอาระเบีย มีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมง อียิปต์และจอร์แดนก็ออกมาประณามคำชี้แนะของอิสราเอลเช่นกัน โดยที่ไคโรถึงขั้นมองความคิดนี้ว่าเป็นการ "ละเมิดอธิปไตยของซาอุดีอาระเบียโดยตรง" . ซาอุดีอาระเบีย บอกว่าพวกเขารู้สึกนับถือเป็นอย่างยิ่งต่อรัฐพี่น้องทั้ง 2 ที่รุดออกมาปฏิเสธความคิดเห็นของเนทันยาฮู "แนวคิดหัวรุนแรงแห่งการยึดครองนี้ ไม่ได้ตระหนักและเข้าถึงว่าดินแดนปาเลสไตน์มีความหมายกับประชาชนพี่น้องปาเลสไตน์มากแค่ไหน เช่นดียวกับความเกี่ยวข้องกันทั้งในแง่มโนธรรม ประวัติศาสตร์และทางกฎหมาย กับดินแดนแห่งนี้" ถ้อยแถลงระบุ . ประเด็นโต้เถียงเกี่ยวกับชะตากรรมของชาวปาเลสไตน์ในกาซา ถูกโหมกระพือขึ้นจากข้อเสนอสุดช็อคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร(4ก.พ.) ที่บอกว่าอเมริกา "จะควบคุมฉนวนกาซา" ผ่านการส่งมอบโดยอิสราเอล และจะสร้างดินแดนแห่งนี้ให้เห็น "ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง" หลังจากโยกย้ายชาวปาเลสไตน์ไปที่ไหนสักแห่ง . ข้อเสนอดังกล่าวของทรัมป์ เรียกเสียงประณามในวงกว้างจากบรรดชาติอาหรับ ในขณะที่ความคิดของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกิดจึ้นระหว่างข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางในสงครามกาซา ดินแดนที่อิสราเอลสู้รบกับพวกนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ที่ควบคุมฉนวนแคบๆแห่งนี้ . ทรัมป์ อ้างว่าซาอุดีอาระเบียไม่ได้เรียกร้องให้สถาปนารัฐปาเลสไตน์ เป็นเงื่อนไขในการคืนสัมพันธ์อันเป็นปกติกับอิสราเอล แต่ริยาดรุดออกมาตอบโต้คำกล่าวอ้างของเขา พร้อมยืนยันว่าพวกเขาจะไม่สถาปนาความสัมพันธ์กับอิสราเอล หากปราศจากการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ . พวกเจ้าหน้าที่กาซาระบุว่าสงครามได้สังหารชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 47,000 นาย จากประชากรทั้งหมดเกือบ 2 ล้านคนในกาซา โดยอิสราเอลเปิดฉากรุกรานดินแดนแห่งนี้ หลังจากกลุ่มมือปืนที่นำโดยฮามาส บุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอลแบบสายฟ้าแลบ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 สังหารผู้คนไปราวๆ 1,200 ราย และจับตัวประกันไปมากกว่า 250 คน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013147 .............. Sondhi X
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1384 มุมมอง 0 รีวิว
  • อียิปต์ปฏิเสธแผนการอพยพชาวปาเลสไตน์ของทรัมป์ โดยระบุว่า การบังคับที่เกิดจากความไม่สมัครใจของพลเมืองเพื่อย้ายถิ่นฐานพวกเขา นั่นเป็น "อาชญากรรมสงคราม"

    กระทรวงต่างประเทศอียิปต์ประกาศปฏิเสธการอพยพชาวปาเลสไตน์ออกจากดินแดนของตนไม่ว่าจะระยะสั้นหรือระยะยาว โดยยืนยันว่ากาซาต้องมีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเอง

    ไคโรเตือนว่าการอพยพโดยถูกบังคับเป็นอาชญากรรมสงคราม และยืนกรานว่าต้องใช้วิธีแก้ไขปัญหาแบบสองรัฐเพื่อยุติความไม่มั่นคง
    อียิปต์ปฏิเสธแผนการอพยพชาวปาเลสไตน์ของทรัมป์ โดยระบุว่า การบังคับที่เกิดจากความไม่สมัครใจของพลเมืองเพื่อย้ายถิ่นฐานพวกเขา นั่นเป็น "อาชญากรรมสงคราม" กระทรวงต่างประเทศอียิปต์ประกาศปฏิเสธการอพยพชาวปาเลสไตน์ออกจากดินแดนของตนไม่ว่าจะระยะสั้นหรือระยะยาว โดยยืนยันว่ากาซาต้องมีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเอง ไคโรเตือนว่าการอพยพโดยถูกบังคับเป็นอาชญากรรมสงคราม และยืนกรานว่าต้องใช้วิธีแก้ไขปัญหาแบบสองรัฐเพื่อยุติความไม่มั่นคง
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาบู มูฮัมหมัด อัล-โจลานี ผู้นำกลุ่มก่อการร้าย HTS และเป็นผู้นำของซีเรีย โพสต์ภาพร่วมกับผู้ช่วยคนสนิทของเขา "มะห์มุด ฟาธี" (ขวามือ) ซึ่งเป็นผู้ก่อการร้ายชาวอียิปต์จากกลุ่มภราดรภาพมุสลิม และถูกศาลอียิปต์ตัดสินว่ามีความผิดฐานฆาตกรรมอัยการสูงสุดของอียิปต์ ฮิชาม บารากัต ในเหตุวางระเบิดรถยนต์ในกรุงไคโรเมื่อปี 2558
    อาบู มูฮัมหมัด อัล-โจลานี ผู้นำกลุ่มก่อการร้าย HTS และเป็นผู้นำของซีเรีย โพสต์ภาพร่วมกับผู้ช่วยคนสนิทของเขา "มะห์มุด ฟาธี" (ขวามือ) ซึ่งเป็นผู้ก่อการร้ายชาวอียิปต์จากกลุ่มภราดรภาพมุสลิม และถูกศาลอียิปต์ตัดสินว่ามีความผิดฐานฆาตกรรมอัยการสูงสุดของอียิปต์ ฮิชาม บารากัต ในเหตุวางระเบิดรถยนต์ในกรุงไคโรเมื่อปี 2558
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ประเทศเล็กคุมประเทศใหญ่"

    ในการประชุมร่วมสองฝ่ายระหว่าง ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัลซิซี แห่งอียิปต์ กับเฮอร์ซี ฮาเลวี ผู้บัญชาการกองกำลังอิสราเอล ในกรุงไคโร

    มีรายงานว่าอิสราเอลรับประกันว่าจะให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองระบอบการปกครองของซีซีในกรณีที่เกิดการลุกฮือต่อต้านเกิดขึ้นในอียิปต์

    อิสราเอลเห็นว่ารัฐบาลอียิปต์ชุดปัจจุบันเป็นระบอบการปกครองที่ยังอ่อนแอ แต่ "เป็นมิตร" ซึ่งไม่เป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอลโดยตรง จำเป็นต้องได้รับการปกป้อง
    "ประเทศเล็กคุมประเทศใหญ่" ในการประชุมร่วมสองฝ่ายระหว่าง ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัลซิซี แห่งอียิปต์ กับเฮอร์ซี ฮาเลวี ผู้บัญชาการกองกำลังอิสราเอล ในกรุงไคโร มีรายงานว่าอิสราเอลรับประกันว่าจะให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองระบอบการปกครองของซีซีในกรณีที่เกิดการลุกฮือต่อต้านเกิดขึ้นในอียิปต์ อิสราเอลเห็นว่ารัฐบาลอียิปต์ชุดปัจจุบันเป็นระบอบการปกครองที่ยังอ่อนแอ แต่ "เป็นมิตร" ซึ่งไม่เป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอลโดยตรง จำเป็นต้องได้รับการปกป้อง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 256 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยว #อียิปต์ #ไคโร #กีซา #อเล็กซานเดรีย 🇪🇬🔥
    สัมผัสความยิ่งใหญ่ของ #พีระมิด 7วัน 5คืน 🎉😲

    🗓 จำนวนวัน 7 วัน 5 คืน
    ✈ G9-แอร์อาระเบีย
    🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐

    📍 มหาพีระมิดกีซา
    📍 มหาสฟิงซ์
    📍 พิพิธภัณฑ์อารยธรรมอียิปต์แห่งชาติ
    📍 มัสยิด โมฮัมหมัด อาลี ปาชา
    📍 ตลาดข่าน เอล คาลิลี่
    📍 สุสานใต้ดินแห่งอเล็กซานเดรีย
    📍 เสาปอมเปย์
    📍 ห้องสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย
    📍 ป้อมปราการซิทาเดล

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8
    LINE ID: @etravelway.fire
    https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    ☎️: 021166395

    #ทัวร์อียิปต์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยว #อียิปต์ #ไคโร #กีซา #อเล็กซานเดรีย 🇪🇬🔥 สัมผัสความยิ่งใหญ่ของ #พีระมิด 7วัน 5คืน 🎉😲 🗓 จำนวนวัน 7 วัน 5 คืน ✈ G9-แอร์อาระเบีย 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 มหาพีระมิดกีซา 📍 มหาสฟิงซ์ 📍 พิพิธภัณฑ์อารยธรรมอียิปต์แห่งชาติ 📍 มัสยิด โมฮัมหมัด อาลี ปาชา 📍 ตลาดข่าน เอล คาลิลี่ 📍 สุสานใต้ดินแห่งอเล็กซานเดรีย 📍 เสาปอมเปย์ 📍 ห้องสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย 📍 ป้อมปราการซิทาเดล รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์อียิปต์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 716 มุมมอง 19 0 รีวิว
  • นิทานเรื่อง “Château Christophe”
    ตอนที่ 1
    เป็นเวลากว่า 6 ชั่วโมงที่สถานกงสุลอเมริกัน ที่เมือง Benghazi ประเทศลิเบีย ถูกโจมตีและถูกยึดได้ในที่สุด ในคืนวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2012 หลังจากการโจมตีและสู้รบสิ้นสุดลง ร่างของฑูตอเมริกัน นาย Christopher J. Stevens ถูกลากออกมาจากซากตึกที่ไหม้และพังทลายอยู่ในบริเวณของสถานกงสุล เขาเป็นฑูตอเมริกันคนแรกที่ถูกสังหารโดยกองทัพต่างชาติในรอบ 30 ปี การตายของเขาถูกนำไปเป็นประเด็นทางการเมือง สาเหตุและการบุกโจมตีสถานกงสุ ลถูกบิดเบือน การตายของฑูต Stevens มีการสอบสวน วิเคราะห์ บอกเล่า เขียนเป็นหนังสือ สาระพัดเรื่อง ความจริงเป็นอย่างไร ยังไม่มีใครปริปากพูดออกมาตรง ๆ มันเป็นเรื่องน่าคิด น่าติดตาม เพราะมันจะเป็นทั้งใบเสร็จและอุทาหรณ์ในหลาย ๆ เรื่องให้แก่เรา
    เช้าวันที่ 11 กันยายน นาย Stevens ฑูตอเมริกันประจำประเทศลิเบีย นั่งทานอาหารเช้ากับชายคนหนึ่ง ชื่อ Habib Budaker ที่สถานกงสุลเมือง Benghazi
    นี่เป็นครั้งแรกที่นาย Stevens กลับมาเมือง Benghazi หลังจากรับตำแหน่งฑูต เมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2011 และใช้เวลาปฎิบัติหน้าที่ “ฑูต” ทำงานอยู่รอบ ๆ ตัวเมืองนอกสถานฑูตที่เมือง Tripoli แต่เมื่อนาย Bubaker ไปรับเขาที่สนามบิน Benghazi เช้าวันที่ 10 นาย Stevens บอกกับ Budaker ว่า “ผมตื่นเต้นที่ได้กลับมา” Budaker รู้จักฑูต Stevens มากว่า 1 ปีแล้ว โดยการแนะนำตัวเองกับนาย Stevens เมื่อเดือนเมษายน 2011 หลังจากการปฎิวัติของชาวลิเบียเริ่มเกิดขึ้นได้สัก 2 เดือน นาย Stevens ก็ถูกส่งให้มาที่ Bengazi ในฐานะตัวแทนของอเมริกาสำหรับรัฐบาลผสมที่เกิดจากการปฏิวัติ อเมริกาได้เลือกข้างเรียบร้อยแล้ว ว่าจะอยู่กับฝ่ายไหนในสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ และ Stevens ได้รับการมอบหมายให้มาสร้างสัมพันธ์กับประชาชนที่อเมริกาคาดว่า ในที่สุดจะเป็นฝ่ายปกครองประเทศ
    Bubakar เป็นเจ้าของโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษในเมือง และเสนอตัวเป็นล่ามให้แก่ Stevens นาย Stevens เองพูดภาษาอารบิคได้ แต่เขาอยากใช้สำนวนภาษาการฑูตซึ่งชัดเจนกว่าในการเจรจาที่เป็นทางการ เขาจึงเลือกที่จะพูดภาษาอังกฤษ ขณะเดียวกัน Bubaker เป็นผู้พา Stevens เข้ารู้จักองค์กรภาคธุรกิจและทำหน้าที่เป็นเหมือนมือขวาของ Stevens ตลอดเวลาการสู้รบ ตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนของสงคราม เขานับตัวเองว่าเป็นเพื่อนของ Stevens หลาย ๆ คน ก็คิดอย่างนั้น เพราะ Stevens เป็นคนประเภทคบเป็นเพื่อนง่าย
    Stevens ตั้งใจจะอยู่ที่ Benghazi เพียง 5 วัน เขามีประชุมวันจันทร์ที่ในเมือง และจะมีอีกหลายนัดนอกบริเวณกงสุลในวันพุธ ส่วนวันพฤหัส ดูเหมือนจะเป็นวันสำคัญที่สุดของการมา Benghazi เขาตั้งใจจะส่งมอบ “Benghazi Mission” ให้กับชาวลิเบีย และบริเวณกงสุลอเมริกันจะเรียกชื่อใหม่ว่า “An American Space” โดยจะมีการสอนภาษาอังกฤษให้ชาวพื้นเมือง รวมทั้งการเข้าไปใช้อินเตอร์เน็ท การฉายภาพยนต์และมีห้องสมุด โดยฝ่ายอเมริกาจะจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ หนังสือ และอุปกรณ์จำเป็นต่าง ๆ สนับสนุน และมอบให้เป็นสมบัติของคนพื้นเมือง ให้คนพื้นเมืองดูแลเอง Stevens หวังว่า “An American Spece” นี้ จะเป็นตัวอย่างของการเป็นหุ้นส่วนของ 2 ประเทศ หากได้มีการร่วมมือกัน
    Stevens มีความรู้สึกผูกพันธ์กับ Benghazi เมืองซึ่งชาวเมืองแสดงการต่อต้าน Qaddafi เป็นครั้งแรก เพราะเขาอยู่กับชาวเมืองตลอดเวลาของการต่อต้านนั้น ระหว่างการปฏิวัติ เขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ตามถนน พูดคุย คลุกคลี และสำรวจเมือง Benghazi และผู้คน นาย Nathan tek เจ้าหน้าที่สถานฑูต รุ่นหนุ่มที่อยู่กับ Stevens มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 บอกว่า Stevens ชอบที่จะสำรวจเมืองอย่าง โดยไม่ต้องมีหน่วยคุ้มกันตัวโตถือปืนเดินตามประกบ เขาบอกว่า การที่เรามีเพื่อนมาก และเขาเห็นเราเป็นแขกของเขานั้นแหละสำคัญที่สุด
    ซึ่งชาว Benghazi โดยทั่วไปก็แสดงความเป็นมิตร แม้ในช่วงเดือนกันยายนนั้นเอง จะมีทหารเดินอยู่เต็มเมือง Stevens ก็เพียงแค่ปรับเปลี่ยนตารางของเขา เขาเอาบอดี้การ์ดมาด้วย 2 คนจาก Tripoli รวมกับอีก 3 คนจากหน่วยความมั่นคงที่ประจำที่ Benghazi อยู่แล้ว เขายกเลิกการวิ่งตอนเช้านอกบริเวณกงสุล และจัดให้การนัดพบทุกรายการอยู่ในบริเวณกงสุล อเมริกาได้ตั้งสถานกงสุลตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2011 หลังจากโรงแรมที่พวกเขาเคยพักถูก ระเบิดถล่ม เขาเช่าวิลล่า 3 หลัง บริเวณติดต่อกัน ทุบกำแพงระหว่างวิลล่าทิ้ง และล้อมบริเวณ 3 วิลล่า เสียใหม่เป็นบริเวณเดียว ทำให้เป็นตึกเตี้ย ๆ 4 หลัง อยู่ท่ามกลางเถาต้นองุ่นและต้นฝรั่ง เพื่อนร่วมงานล้อเลียน Stevens ว่าสถานที่นี้น่าจะเรียกว่า “Château Christophe” แบบโรงผลิตไวน์มีชื่อ
    Château Christophe ถึงแม้จะเป็นเพียงสถานที่ชั่วคราว แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีการป้องกันอย่างเหมาะสม สถานที่กว้าง 300 หลา และลึก 300 หลา ทำให้ตัวตึกอยู่ลึกเข้ามาจากรั้วมากพอที่จะป้องกันการจู่โจมจากด้านนอก รั้วทุกด้านสูง 9 ฟุต และมีลวดหนามไฟฟ้ากั้นสูงไปจากรั้วอีก 3 ฟุต มีแผ่นเหล็กปลดลงมา ไว้ปิดกั้นไม่ให้รถวิ่งเข้ามาได้ และมีแท่งคอนกรีตกั้นทั้งภายในภายนอก สำหรับป้องกันการใช้รถวิ่งชน มีจอและกล้องคอยเฝ้า (monitor) ดูแลความปลอดภัยรอบบริเวณ ส่วนในบริเวณชั้นใน มีแผ่นเหล็กสำหรับปลดมาปิดกั้นและล็อคได้อีกชั้นหนึ่ง เพื่อสามารถเปลี่ยนให้ภายในตึก นี้กลายเป็นห้องนิรภัย และภายในห้องนี้ ยังมีห้องเล็ก หลบซ่อนอยู่อีก ห้องเล็กนี้มีอาหาร น้ำ และเครื่องเวชภัณฑ์ โดยมองจากข้างนอกไม่มีทางเห็น
    Château Christophe ถือว่ามีการดูแลที่ปลอดภัย เพียงพอสำหรับการปฎิบัติงานของคนระดับฑูตอเมริกัน Benghazi ต่างหากที่ยังไม่ปลอดภัย รัฐบาลลิเบียยังต้องจัดให้มีกำลังตำรวจที่เหมาะสม ความรุนแรงในเมืองมีอยู่ตลอดหน้าร้อน รวมทั้งบางส่วนยังมีเป้าหมายต่อต้านชาวตะวันตก จริง ๆ แล้ว Stevens ได้แจ้งไปทางวอชิงตันในเช้าวันที่ 11 นั้น เพื่อเตือนความจำเรื่องการไม่มีกฎหมายใช้บังคับที่ Benghazi ถึงอย่างนั้นตัวเมืองก็ดูสงบพอสมควรเมื่อ Stevens มาถึงและเขาคิดว่ามันคงจะเป็นเช่นนั้นต่อไป
    Bubaker อยู่กับ Stevens ตลอดการประชุมต่าง ๆ ในตอนเช้า บ่าย 3 โมง เขาเช็คตารางของวันพุธ ซึ่งแน่นเต็ม นัดสุดท้ายของ Stevens วันนั้น คือ กาแฟกับนักการฑูตตุรกี ซึ่งเสร็จประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง Stevens เดินไปส่งแขกที่ประตูหน้า ซึ่งมีกองกำลังรักษาความปลอดภัย ซึ่งจ้างมาจากกองทหารที่ 17th of February Martyrs Brigade ซึ่งเป็นมิตรกับชาวอเมริกัน
    ประมาณ 700 ไมล์ไปทางตะวันออก ฝูงชนกำลังล้อมสถานฑูตสหรัฐที่กรุงไคโร ด้วยความเคียดแค้นจากวิดีโอ ซึ่งมีเนื้อความละเมิดพระศาสดามูฮะหมัด แต่ทาง Benghazi ยังเงียบสงบ ถนนหน้า Château Christophe ว่างเปล่า
    Stevens เดินกลับมาที่ห้องของเขาที่ตึกกลาง ประมาณ 3 ทุ่ม 40 นาที เขาได้ยินเสียงปืนดัง เสียงปืนดังแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับอาหรับยามค่ำคืน เสียงปืนดัง บางทีก็หมายถึงการฉลอง Stevens เคยบอกกับน้องชาย และเคยพูดตลกกับ Bubaker เวลาเขาได้ยินเสียงปืนว่า สงสัยวันนี้มีงานแต่งงานนะ แต่วันนี้จอควบคุมความปลอดภัยของกงสุล เห็นกลุ่มคนกำลังปีนเข้ามาที่ประตูหน้า
    คนเล่านิทาน
    7 มิย. 57
    นิทานเรื่อง “Château Christophe” ตอนที่ 1 เป็นเวลากว่า 6 ชั่วโมงที่สถานกงสุลอเมริกัน ที่เมือง Benghazi ประเทศลิเบีย ถูกโจมตีและถูกยึดได้ในที่สุด ในคืนวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2012 หลังจากการโจมตีและสู้รบสิ้นสุดลง ร่างของฑูตอเมริกัน นาย Christopher J. Stevens ถูกลากออกมาจากซากตึกที่ไหม้และพังทลายอยู่ในบริเวณของสถานกงสุล เขาเป็นฑูตอเมริกันคนแรกที่ถูกสังหารโดยกองทัพต่างชาติในรอบ 30 ปี การตายของเขาถูกนำไปเป็นประเด็นทางการเมือง สาเหตุและการบุกโจมตีสถานกงสุ ลถูกบิดเบือน การตายของฑูต Stevens มีการสอบสวน วิเคราะห์ บอกเล่า เขียนเป็นหนังสือ สาระพัดเรื่อง ความจริงเป็นอย่างไร ยังไม่มีใครปริปากพูดออกมาตรง ๆ มันเป็นเรื่องน่าคิด น่าติดตาม เพราะมันจะเป็นทั้งใบเสร็จและอุทาหรณ์ในหลาย ๆ เรื่องให้แก่เรา เช้าวันที่ 11 กันยายน นาย Stevens ฑูตอเมริกันประจำประเทศลิเบีย นั่งทานอาหารเช้ากับชายคนหนึ่ง ชื่อ Habib Budaker ที่สถานกงสุลเมือง Benghazi นี่เป็นครั้งแรกที่นาย Stevens กลับมาเมือง Benghazi หลังจากรับตำแหน่งฑูต เมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2011 และใช้เวลาปฎิบัติหน้าที่ “ฑูต” ทำงานอยู่รอบ ๆ ตัวเมืองนอกสถานฑูตที่เมือง Tripoli แต่เมื่อนาย Bubaker ไปรับเขาที่สนามบิน Benghazi เช้าวันที่ 10 นาย Stevens บอกกับ Budaker ว่า “ผมตื่นเต้นที่ได้กลับมา” Budaker รู้จักฑูต Stevens มากว่า 1 ปีแล้ว โดยการแนะนำตัวเองกับนาย Stevens เมื่อเดือนเมษายน 2011 หลังจากการปฎิวัติของชาวลิเบียเริ่มเกิดขึ้นได้สัก 2 เดือน นาย Stevens ก็ถูกส่งให้มาที่ Bengazi ในฐานะตัวแทนของอเมริกาสำหรับรัฐบาลผสมที่เกิดจากการปฏิวัติ อเมริกาได้เลือกข้างเรียบร้อยแล้ว ว่าจะอยู่กับฝ่ายไหนในสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ และ Stevens ได้รับการมอบหมายให้มาสร้างสัมพันธ์กับประชาชนที่อเมริกาคาดว่า ในที่สุดจะเป็นฝ่ายปกครองประเทศ Bubakar เป็นเจ้าของโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษในเมือง และเสนอตัวเป็นล่ามให้แก่ Stevens นาย Stevens เองพูดภาษาอารบิคได้ แต่เขาอยากใช้สำนวนภาษาการฑูตซึ่งชัดเจนกว่าในการเจรจาที่เป็นทางการ เขาจึงเลือกที่จะพูดภาษาอังกฤษ ขณะเดียวกัน Bubaker เป็นผู้พา Stevens เข้ารู้จักองค์กรภาคธุรกิจและทำหน้าที่เป็นเหมือนมือขวาของ Stevens ตลอดเวลาการสู้รบ ตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนของสงคราม เขานับตัวเองว่าเป็นเพื่อนของ Stevens หลาย ๆ คน ก็คิดอย่างนั้น เพราะ Stevens เป็นคนประเภทคบเป็นเพื่อนง่าย Stevens ตั้งใจจะอยู่ที่ Benghazi เพียง 5 วัน เขามีประชุมวันจันทร์ที่ในเมือง และจะมีอีกหลายนัดนอกบริเวณกงสุลในวันพุธ ส่วนวันพฤหัส ดูเหมือนจะเป็นวันสำคัญที่สุดของการมา Benghazi เขาตั้งใจจะส่งมอบ “Benghazi Mission” ให้กับชาวลิเบีย และบริเวณกงสุลอเมริกันจะเรียกชื่อใหม่ว่า “An American Space” โดยจะมีการสอนภาษาอังกฤษให้ชาวพื้นเมือง รวมทั้งการเข้าไปใช้อินเตอร์เน็ท การฉายภาพยนต์และมีห้องสมุด โดยฝ่ายอเมริกาจะจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ หนังสือ และอุปกรณ์จำเป็นต่าง ๆ สนับสนุน และมอบให้เป็นสมบัติของคนพื้นเมือง ให้คนพื้นเมืองดูแลเอง Stevens หวังว่า “An American Spece” นี้ จะเป็นตัวอย่างของการเป็นหุ้นส่วนของ 2 ประเทศ หากได้มีการร่วมมือกัน Stevens มีความรู้สึกผูกพันธ์กับ Benghazi เมืองซึ่งชาวเมืองแสดงการต่อต้าน Qaddafi เป็นครั้งแรก เพราะเขาอยู่กับชาวเมืองตลอดเวลาของการต่อต้านนั้น ระหว่างการปฏิวัติ เขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ตามถนน พูดคุย คลุกคลี และสำรวจเมือง Benghazi และผู้คน นาย Nathan tek เจ้าหน้าที่สถานฑูต รุ่นหนุ่มที่อยู่กับ Stevens มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 บอกว่า Stevens ชอบที่จะสำรวจเมืองอย่าง โดยไม่ต้องมีหน่วยคุ้มกันตัวโตถือปืนเดินตามประกบ เขาบอกว่า การที่เรามีเพื่อนมาก และเขาเห็นเราเป็นแขกของเขานั้นแหละสำคัญที่สุด ซึ่งชาว Benghazi โดยทั่วไปก็แสดงความเป็นมิตร แม้ในช่วงเดือนกันยายนนั้นเอง จะมีทหารเดินอยู่เต็มเมือง Stevens ก็เพียงแค่ปรับเปลี่ยนตารางของเขา เขาเอาบอดี้การ์ดมาด้วย 2 คนจาก Tripoli รวมกับอีก 3 คนจากหน่วยความมั่นคงที่ประจำที่ Benghazi อยู่แล้ว เขายกเลิกการวิ่งตอนเช้านอกบริเวณกงสุล และจัดให้การนัดพบทุกรายการอยู่ในบริเวณกงสุล อเมริกาได้ตั้งสถานกงสุลตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2011 หลังจากโรงแรมที่พวกเขาเคยพักถูก ระเบิดถล่ม เขาเช่าวิลล่า 3 หลัง บริเวณติดต่อกัน ทุบกำแพงระหว่างวิลล่าทิ้ง และล้อมบริเวณ 3 วิลล่า เสียใหม่เป็นบริเวณเดียว ทำให้เป็นตึกเตี้ย ๆ 4 หลัง อยู่ท่ามกลางเถาต้นองุ่นและต้นฝรั่ง เพื่อนร่วมงานล้อเลียน Stevens ว่าสถานที่นี้น่าจะเรียกว่า “Château Christophe” แบบโรงผลิตไวน์มีชื่อ Château Christophe ถึงแม้จะเป็นเพียงสถานที่ชั่วคราว แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีการป้องกันอย่างเหมาะสม สถานที่กว้าง 300 หลา และลึก 300 หลา ทำให้ตัวตึกอยู่ลึกเข้ามาจากรั้วมากพอที่จะป้องกันการจู่โจมจากด้านนอก รั้วทุกด้านสูง 9 ฟุต และมีลวดหนามไฟฟ้ากั้นสูงไปจากรั้วอีก 3 ฟุต มีแผ่นเหล็กปลดลงมา ไว้ปิดกั้นไม่ให้รถวิ่งเข้ามาได้ และมีแท่งคอนกรีตกั้นทั้งภายในภายนอก สำหรับป้องกันการใช้รถวิ่งชน มีจอและกล้องคอยเฝ้า (monitor) ดูแลความปลอดภัยรอบบริเวณ ส่วนในบริเวณชั้นใน มีแผ่นเหล็กสำหรับปลดมาปิดกั้นและล็อคได้อีกชั้นหนึ่ง เพื่อสามารถเปลี่ยนให้ภายในตึก นี้กลายเป็นห้องนิรภัย และภายในห้องนี้ ยังมีห้องเล็ก หลบซ่อนอยู่อีก ห้องเล็กนี้มีอาหาร น้ำ และเครื่องเวชภัณฑ์ โดยมองจากข้างนอกไม่มีทางเห็น Château Christophe ถือว่ามีการดูแลที่ปลอดภัย เพียงพอสำหรับการปฎิบัติงานของคนระดับฑูตอเมริกัน Benghazi ต่างหากที่ยังไม่ปลอดภัย รัฐบาลลิเบียยังต้องจัดให้มีกำลังตำรวจที่เหมาะสม ความรุนแรงในเมืองมีอยู่ตลอดหน้าร้อน รวมทั้งบางส่วนยังมีเป้าหมายต่อต้านชาวตะวันตก จริง ๆ แล้ว Stevens ได้แจ้งไปทางวอชิงตันในเช้าวันที่ 11 นั้น เพื่อเตือนความจำเรื่องการไม่มีกฎหมายใช้บังคับที่ Benghazi ถึงอย่างนั้นตัวเมืองก็ดูสงบพอสมควรเมื่อ Stevens มาถึงและเขาคิดว่ามันคงจะเป็นเช่นนั้นต่อไป Bubaker อยู่กับ Stevens ตลอดการประชุมต่าง ๆ ในตอนเช้า บ่าย 3 โมง เขาเช็คตารางของวันพุธ ซึ่งแน่นเต็ม นัดสุดท้ายของ Stevens วันนั้น คือ กาแฟกับนักการฑูตตุรกี ซึ่งเสร็จประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง Stevens เดินไปส่งแขกที่ประตูหน้า ซึ่งมีกองกำลังรักษาความปลอดภัย ซึ่งจ้างมาจากกองทหารที่ 17th of February Martyrs Brigade ซึ่งเป็นมิตรกับชาวอเมริกัน ประมาณ 700 ไมล์ไปทางตะวันออก ฝูงชนกำลังล้อมสถานฑูตสหรัฐที่กรุงไคโร ด้วยความเคียดแค้นจากวิดีโอ ซึ่งมีเนื้อความละเมิดพระศาสดามูฮะหมัด แต่ทาง Benghazi ยังเงียบสงบ ถนนหน้า Château Christophe ว่างเปล่า Stevens เดินกลับมาที่ห้องของเขาที่ตึกกลาง ประมาณ 3 ทุ่ม 40 นาที เขาได้ยินเสียงปืนดัง เสียงปืนดังแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับอาหรับยามค่ำคืน เสียงปืนดัง บางทีก็หมายถึงการฉลอง Stevens เคยบอกกับน้องชาย และเคยพูดตลกกับ Bubaker เวลาเขาได้ยินเสียงปืนว่า สงสัยวันนี้มีงานแต่งงานนะ แต่วันนี้จอควบคุมความปลอดภัยของกงสุล เห็นกลุ่มคนกำลังปีนเข้ามาที่ประตูหน้า คนเล่านิทาน 7 มิย. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 821 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าเอลไม่ยอมประนีประนอมข้อเสนอที่ผู้ไกล่เกลี่ยเสนอในระหว่างการเจรจาหยุดโจมตีที่กรุงไคโรเมื่อวันอาทิตย์
    ข้อเสนอดังกล่าวรวมถึงทางเลือกอื่นนอกเหนือจากการมีกองกำลังเอลอยู่ในบริเวณฟิลาเดลเฟียและบริเวณเน็ตซาริม แต่แหล่งข่าวจากอียิปต์กล่าวว่าเอลไม่ยอมรับข้อเสนอเหล่านี้
    แหล่งข่าวเสริมว่า เอลยังแสดงความสงวนท่าทีต่อผู้ถูกคุมขังชาวปาเลสหลายรายที่กลุ่มผู้ปกป้องดินแดนปาเลสเรียกร้องให้ปล่อยตัว และเรียกร้องให้กองทัพของพวกเขาออกจากกาซาหากพวกเขาได้รับการปล่อยตัวเชลยแล้ว
    .
    #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews
    #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง
    -------------------------------
    สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าเอลไม่ยอมประนีประนอมข้อเสนอที่ผู้ไกล่เกลี่ยเสนอในระหว่างการเจรจาหยุดโจมตีที่กรุงไคโรเมื่อวันอาทิตย์ ข้อเสนอดังกล่าวรวมถึงทางเลือกอื่นนอกเหนือจากการมีกองกำลังเอลอยู่ในบริเวณฟิลาเดลเฟียและบริเวณเน็ตซาริม แต่แหล่งข่าวจากอียิปต์กล่าวว่าเอลไม่ยอมรับข้อเสนอเหล่านี้ แหล่งข่าวเสริมว่า เอลยังแสดงความสงวนท่าทีต่อผู้ถูกคุมขังชาวปาเลสหลายรายที่กลุ่มผู้ปกป้องดินแดนปาเลสเรียกร้องให้ปล่อยตัว และเรียกร้องให้กองทัพของพวกเขาออกจากกาซาหากพวกเขาได้รับการปล่อยตัวเชลยแล้ว . #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง ------------------------------- สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 828 มุมมอง 0 รีวิว